ReadyPlanet.com


ธรรมชาติ....เอาคืน.!!!


 

ตอนนี้

แผ่นดินไหว ทุก ๆ วัน

วันละหลาย ๆ ครั้ง

และที่ผ่านมา 3 วันนี้

10 - 11 - 12 พฤษภาคม 2554

ประมาณ 4 - 5 - 6 ริกเตอร์

รายละเอียด

เชิญอ่าน เพื่อ

เตรียมพร้อม...นะเจ้าคะ

*************************************

12 พค. 2554 06:25 น.

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.2 ริกเตอร์

ในเมืองลอร์กา ทางภาคใต้ของสเปน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน

เจ็บ 270 คน

อาคารเก่าแก่ บ้านเรือนพังถล่ม

ขณะที่ผู้นำสเปนสั่งการให้ส่งทหาร

และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ค้นหา

ผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

***************************************

12 พค. 2554 15:17 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

แจ้งว่าเมื่อเวลา 14.41 น.

แผ่นดินไหวในทะเล 4.9 ริกเตอร์

บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซีย ความลึก 45 กม.

ไม่มีผลกระทบต่อไทย

 



ผู้ตั้งกระทู้ แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-12 19:50:41


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 [22] 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 2101 (1574366)

อ่างทองยังอ่วม! โจรซ้ำเติมทุกข์ รมยาสลบลักทรัพย์




อ่างทองยังจมบาดาลทั้งเมือง คนร้ายรมยาสลบลักทรัพย์ผู้ประสบภัย ไก่กว่า 1.5 หมื่นตัวจมน้ำตาย ขณะที่น้ำพัดพาสารเคมีและน้ำเน่าลงคลองทำปลาลอยตาย ชาวบ้านจับมาทำอาหาร...

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ จ.อ่างทอง ถึงแม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังทรงตัว แต่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งสองฝั่งในพื้นที่ อ.ไชโย อ.เมือง และ อ.ป่าโมก ต้องทนต่อสู้กับความทุกข์ ขาดรายได้ เนื่องจากไม่สามารถประกอบอาชีพที่เคยทำ และยังเรื่องอาหาร เรื่องที่พักอาศัย ซึ่งถูกน้ำท่วมจมมิดต้องออกมาอาศัยนอนตามริมถนน ส่วนที่แม่น้ำน้อยระดับน้ำยังคงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่สร้างความเสียหายขยายวงกว้างออกไปอีก นอกจากนั้น กระแสน้ำที่ไหลทะลักมาจากประตูระบายน้ำพระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ที่ยังไม่ได้ซ่อมเพราะความขัดแย้งของประชาชน จ.สิงห์บุรี ได้ไหลบ่าลงมาท่วมในพื้นที่ จ.อ่างทอง ตั้งแต่ อ.ไชโย โพธิ์ทอง และ วิเศษชัยชาญ อย่างรวดเร็ว และมีระดับสูงขึ้นตลอดเวลาเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยไม่มีทางป้องกันได้

ล่าสุด พบว่ามีวายร้ายตัวแสบออกมาซ้ำเติมผู้ประสบภัยแล้ว โดยนายบุญสม ศรีบุปผา ชาวบ้านหมู่ 3 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า ต.โผงเผง รวม 10 หมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมมานานร่วม 2 เดือนคนที่อาศัยอยู่ในบ้านไม่ได้ก็ต้องออกมาพักอยู่ริมถนนแต่ปรากฏว่า มีคนร้ายออกโจรกรรมทรัพย์สินโดยใช้วิธีรมยาสลบ โดยการโรยสารเคมีบางอย่างลงไปในกองไฟเมื่อเจ้าของทรัพย์สูดดมเข้าไปฤทธิ์ยาจะกดประสาท ทำให้หมดสติ พอตื่นขึ้นมา จึงพบว่าเงินที่เก็บซ่อนไว้ถูกลักสูญหายไปแล้วทำให้พวกตนหวาดผวา จึงได้ร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและตำรวจ ให้ช่วยจับกุมตัวมาดำเนินคดี จนขณะนี้พอได้เค้าของคนร้ายแก๊งนี้แล้ว ขณะเดียวกันที่ ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ก็มีวายร้ายแก๊งมิจฉาชีพออกอาละวาดลักทรัพย์สินของผู้ประสบภัยที่ขนย้ายหนีน้ำออกมาวางไว้บนถนนเช่นกัน ซึ่งนายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง เร่งจับกุมคนร้ายโดยเร็ว พร้อมทั้งให้เพิ่มความเข้มและความถี่ในการออกตรวจตราด้วย

ที่คลองชลประทานริมถนนสายบ้านบางพลับ-บ้านไชโย บริเวณหน้าวัดป่ามุนี ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง มีชาวบ้านกว่า 100 คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นำฉมวกออกมาไล่แทงปลาเบญจพรรณที่ลอยหัวริมคลองซึ่งกำลังถูกน้ำไหลบ่าลงมาจนล้นคลอง สภาพน้ำมีสีดำและมีกลิ่นเหม็นเหมือนสารเคมีปราบศัตรูพืชหรือยาฆ่าแมลง แต่ละคนได้ปลาไปประกอบอาหารจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่ากระแสน้ำที่ไหลบ่าลงมาได้พักพาสารเคมีจากนาข้าว และพื้นที่การเกษตร รวมทั้งน้ำเน่าที่ขังอยู่ตามแหล่งน้ำต่างๆลงมาด้วย จึงทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง จนปลาต้องลอยหัวขึ้นมาหายใจ จึงถูกจับไปทำอาหาร บางรายได้ปลามาก จึงนำออกไปขายสร้างรายได้อย่างงาม


ขณะเดียวกัน ที่ฟาร์มไก่เนื้อของนางอำไพ จุนเจิม เลขที่ 53 หมู่ 2 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะคันดินที่ล้อมไว้ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ไก่จำนวน 1.5 หมื่นตัว จมน้ำตายและไหลไปกับกระแสน้ำจนหมด นางอำไพเปิดเผยว่า ได้สร้างคันดินล้อมรอบโรงเรือนเพื่อป้องกันไก่จำนวนดังกล่าว เนื่องจากไม่รู้จะขนย้ายไปไว้ที่ไหน แต่กระแสน้ำไหลแรงจึงกัดเซาะคันดินจนพังทลายเข้าท่วมทันทีโดยไม่สามารถช่วยเหลือได้ ทำให้ไก่ของตน 1.5 หมื่นตัว มูลค่า 5 แสนบาท จมน้ำตายหมด ขณะเดียวกันเกษตรกรที่เลี้ยงตะพาบน้ำในพื้นที่ ต.คลองขนาก ต.บางจัก ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ที่กำลังถูกน้ำไหลเข้าท่วม ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการซื้อตาข่ายมาล้อมบ่อตะพาบให้สูงขึ้น และขอให้ทางการช่วยทำคันดินกั้นน้ำไว้ เพื่อป้องกันความเสียหาย

นายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดอ่างทองว่า วันนี้เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณการระบายน้ำ ลดลง 9 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนประตูน้ำบางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ระบายน้ำเท่าเดิม 188.14 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะนี้จังหวัดอ่างทองถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก 3 ตำบล 62 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัยเพิ่มขึ้นกว่า 614 ครัวเรือน จำนวน 8,293 คน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย คือ นางนันทพัฒน์ เรืองรัตน์ อายุ 44 ปี อยู่หมู่ที่ 1 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย ตกน้ำเสียชีวิต และ นางสุภาพร นรสิงห์ อายุ 63 ปี อยู่ถนนเทศบาล 5 ต.บางแก้ว อ.เมือง เสียชีวิตจากถูกกระแสไฟฟ้าดูดขณะทำอาหารในบ้านที่ถูกน้ำท่วม ด้านการช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัย วันนี้นายวิศิษฐ์ คชสิทธิ์ และคณะ ตัวแทนจากบริษัทในเครือทัสโก้กรุ๊ป จ.สมุทรปราการ นำสิ่งของบริจาคมอบให้จังหวัดอ่างทอง จำนวน 500 ชุด และบริษัท สหฟาร์ม นำไก่ทอดสุก 1 ตัน มามอบให้แก่ผู้ประสบภัยในจังหวัดอ่างทอง.



ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
23 กันยายน 2554, 18:12 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-24 14:49:56


ความคิดเห็นที่ 2102 (1574367)

น้ำในแม่น้ำบางขามทะลักลพบุรีคันดินเอาไม่อยู่ ท่วมพื้นที่นาปี

รายงานข่าวจากจังหวัดลพบุรีแจ้งว่าน้ำในแม่น้ำบางขาม ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลบ่ามาจากประตูน้ำบางโฉมศรี เข้าท่วมใหญ่ 4 ตำบลฝั่งตะวันตกของอำเภอบ้านหมี่ ตำบลบางพึ่ง ตำบลมหาสอน ตำบลบางขาม ตำบลบ้านชี ขณะนี้คันดินที่ประชาชนกั้นบนถนนสายบ้านหมี่ -บางงา ทางหลวงหมายเลข 3028 คันดินที่กั้นพังทลายหมดตลอดกว่า 10 ก.ม. น้ำไหลบ่าเข้าท่วมนาที่กำลังแตกก่อยังไม่สามารถเกี่ยวได้ และบางแปลงก็เกี่ยวได้บ้าง จึงรีบใช้รถเกี่ยวหนีน้ำอย่างเร่งรีบ
นายนพพร ชัยพิชิต ผู้ อำนวยกา สำนักชลประทานที่ 10 กล่าวว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทะลักเข้ามาในแม่น้ำบางขาม จะสูงขึ้น เพราะน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ ยังเพิ่มขึ้นมาตลอด และในรอบ 50 ปี น้ำปีนี้มากที่สุด ฉะนั้นพื้นที่ ตำบลหนองเต่า ตำบลสนามแจง และเขตเทศบาลเมืองบ้านหมี่ ต้องเฝ้าระวังอย่างมาก เพราะน้ำไหลมาจากทางเหนือยังไม่มีที่ท่าจะลดลงเลย ขณะนี้น้ำในแม่น้ำบางขามไหลบ่าเข้าท่วมหลายตำบลในเขตอำเภอท่าวุ้งแล้ว และขณะนี้ได้สั่งให้เปิดประตูน้ำที่มโนรมย์ เพื่อระบายน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก เพราะปัจจุบันน้ำในคลองลดลงไปกว่า 80-90 .ซ.ม.อีกทั้งในทุ่งตะวันออกน้ำก็ลดลงแล้วเป็นการช่วยระบายน้ำในแม่น้ำเจ้า พระยา
นายกิตติศักดิ์ ศุภพงษ์ กำนันตำบลบ้านชี กล่าวว่าคันกั้นน้ำบน ถนนสายบ้านหมี่- บางงา พัง หมดยาวกว่า 15 ก.ม. ทำท่าจะท่วมใหญ่อีกหลายหมู่บ้าน เพราะไม่อยู่ ไม่มีใครต้องการที่จะปล่อยให้น้ำท่วมในพื้นที่นาน การที่คันดินพังเพราะน้ำแรงมาก อีกทั้งชาวบ้านหวั่นว่าน้ำจะทำให้บ้านพัง เมื่อคตันดินพังก็เท่ากับระบายน้ำใน 4 ตำบลลงบ้าง
รายงานข่าวแจ้งว่า น้ำที่ไหลบ่าเข้าในเขตอำเภอบ้านหมี่ จะมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ซึ่งเป็นการบอกเล่าของคนในชลประทาน มีเสียงร่ำลือกันว่า ตลาดเทศบาลเมืองบ้านหมี่ ตำบลสนามแจง ตำบลหนองเต่า กว่า 5,000 หลังคา เรือน พื้นที่ทำนากว่า 6 หมื่นไร่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวจะท่วมทั้งหมด และพื้นที่ดังกล่าวน้ำไม่เคยท่วมเลยสักปี แต่ ปีนี้ จะต้องเฝ้าระวังน้ำจะเข้าท่วมใหญ่


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-24 14:54:58


ความคิดเห็นที่ 2103 (1574368)

สุรินทร์ประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัย 2 อำเภอ


นายอำนวย จันทรัฐ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยถึง สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและฝายชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดสุรินทร์ ทั้ง 18 แห่ง มีปริมาณน้ำวัดได้ 127.21 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ ร้อยละ 87.68 ของความจุทั้งหมด ซึ่งในขณะนี้ลำน้ำชี ระดับน้ำล้นตลิ่ง 1.20 เมตร และมีน้ำท่วมขังในนาข้าวบริเวณที่ลุ่มริมลำน้ำชีน้อย ในพื้นที่ตำบลสวาย ตำบลคอโค อำเภอเมืองสุรินทร์เล็กน้อย ส่วนแม่น้ำมูล ระดับน้ำล้นตลิ่ง 0.30 เมตร น้ำได้เอ่อล้นท่วมขังในพื้นที่การเกษตรที่อยู่บริเวณที่ลุ่มติดริมน้ำแม่น้ำมูล มีน้ำท่วมขังในนาข้าว ได้รับความเสียหายบางส่วน ห้วยลำพอก อำเภอศีขรภูมิ ปริมาณน้ำปัจจุบันวัดได้ 8.36 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 74.70 พบว่ามีน้ำท่วมขังในนาข้าวบริเวณที่ลุ่มติดห้วยลำพอก เนื่องจากมีการระบายน้ำออกจากห้วยลำพอก
สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว อำเภอรัตนบุรี ปริมาณน้ำวัดได้ 6.16 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 125.37 น้ำล้นตลิ่ง 1.25 เมตร มีน้ำท่วมขังในนาข้าวบริเวณที่ลุ่มติดอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว ส่วนห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ระดับน้ำล้นตลิ่ง 0.93 เมตร มีน้ำท่วมขังนาข้าวเล็กน้อย ซึ่งเป็นที่ลุ่มติดลำห้วยทับทัน ในพื้นที่ตำบลสำโรงทาบและตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ
ขณะนี้จังหวัดสุรินทร์ มีอำเภอที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยจำนวน 2 อำเภอ 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน พื้นที่นาข้าว ได้รับความเสียหาย 350 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 130 คน 60 ครัวเรือน โดยอำเภอท่าตูมมีพื้นที่ประสบภัยได้แก่ หมู่ 8 ตำบลบะ พื้นที่นาข้าวเสียหาย 200 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 30 คน 30 ครัวเรือน รวมพื้นที่ประสบภัย 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน และอำเภอสำโรงทาบมีพื้นที่ประสบภัย ได้แก่ หมู่ 7 , 8 ตำบลสำโรงทาบ และ หมู่ 8 ตำบลเกาะแก้ว นาข้าวได้รับความเสียหาย 150 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 30 ครัวเรือน 100 คน รวมพื้นที่ประสบภัย 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน
ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำเรือท้องแบนจำนวน 13 ลำ พร้อมเครื่องยนต์เรือจำนวน 3 เครื่อง ประจำจุดอำเภอท่าตูม จำนวน 6 ลำ อำเภอชุมพลบุรี จำนวน 6 ลำ และตำบลสวาย อำเภอเมืองสุรินทร์ 1 ลำ เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ ได้ขอรับการสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา จำนวน 5 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ 2 เครื่อง ไว้ประจำที่สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย joyguang1 : เมื่อวานนี้ เมื่อ 08:55 PM
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-24 14:55:47


ความคิดเห็นที่ 2104 (1574369)

ธารน้ำแข็ง Greenlandic ที่กรีนแลนด์ ละลายเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้



Greenlandic glacier melting faster than expected

An international team of scientists has discovered that warming in the Arctic region has triggered the accelerated melting of a Greenlandic glacier. Presented in The Cryosphere journal, the findings reveal that the overall mass loss of the Mittivakkat Glacier for 2011 has amounted to 2.45 metres, 0.29 metres higher than what was recorded in 2010. The study was funded in part by the INTERACT ("International network for terrestrial research and monitoring in the Arctic") project, which has clinched EUR 7.3 million under Research Infrastructures of the EU"s Seventh Framework Programme (FP7).

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-24 15:02:21


ความคิดเห็นที่ 2105 (1574370)

กาฬสินธุ์ - น้ำเขื่อนลำปาววิกฤต 10 หมู่บ้านถูกตัดขาด

23 กย. 2554 17:11 น.

ปัญหาน้ำเขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ วิกฤต 10 หมู่บ้าน 3 อำเภอในเขตรอยต่อถนนถูกตัดขาด สาเหตุน้ำเขื่อนลำปาวเกินปริมาณกักเก็บ ขณะที่พื้นที่ราบลุ่มอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่นาข้าวเพิ่มขึ้น
สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ วิกฤตหนักภายหลังพบว่าเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจนเกินระดับกักเก็บที่ 1,980 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 2,015 ล้าน ลบ.ม. ทำให้เขื่อนต้องเพิ่มการระบายน้ำมากถึงวันละ 18 ล้าน ลบ.ม.เพื่อรักษาสภาพของตัวเขื่อน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะที่บ้านดอนสนวน ต.หลุบ แม่น้ำปาวหลงได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรแล้วกว่า 2 พันไร่
ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมบริเวณท้ายเขื่อนลำปาว ด้าน อ.สหัสขันธ์ อ.หนองกุงศรี และอ.ห้วยเม็ก บ้านเรือนประชาชนในเขตรอยต่อวิกฤตหนัก 10 หมู่บ้านถนนถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถสัญจรได้ โดยเฉพาะที่บ้านหนองสรวง บ้านเสาเล้า บ้านโนนแหลมทอง กว่า 300 ครอบครัว เกิดน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านไว้ในที่ปลอดภัยทั้งนี้คาดว่าระดับน้ำยังคงสูงขึ้น ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องระมัดระวัง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-24 15:02:56


ความคิดเห็นที่ 2106 (1574372)
ขอนแก่น-น้ำชี น้ำพองทะลักท่วมนาข้าวเสียหายกว่าหมื่นไร่




น้ำชีและน้ำพองไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ปลูกข้าวในอำเภอเมืองขอนแก่น เสียหายแล้วกว่า 10,000 ไร่ จังหวัดเร่งประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำเพื่อหาแนวทางรองรับมวลน้ำ หลังเขื่อนอุบลรัตน์สามารถรองรับน้ำได้อีกเพียง 170.06 ล้านลูกบาศก์เมตร

สถานการณ์น้ำชี และลำน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ปริมาณน้ำจากลำน้ำทั้ง 2 สาย เริ่มไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าว โดยเฉพาะบริเวณบ้านบึงเนียม และบ้านบึงสว่าง ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากทั้งสองหมู่บ้านเป็นแหล่งรับน้ำจากลำน้ำพองที่ปล่อยมาจากเขื่อนอุบลรัตน์ และลำน้ำชีที่ไหลมาประจบกัน ประกอบกับปริมาณน้ำในลำน้ำมีปริมาณมาก ทำให้ทะลักเข้าท่วมที่นา และพื้นที่การเกษตร เสียหายไปกว่า 10,000 ไร่

ด้านจังหวัดขอนแก่น ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับทราบพื้นที่เสี่ยงภัย หลังพบว่าเขื่อนอุบลรัตน์ สามารถรองรับน้ำได้อีกเพียง 170.06 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น


นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ในช่วงวันที่ 22-24 กันยายน นี้ หลังมีประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังถูกน้ำท่วม 4 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอชนบท,แวงใหญ่,แวงน้อย,มัญจาคีรี และอำเภอเมืองบางแห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากมวลน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ และ จังหวัดเลย ทำให้พื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก คาดว่าอีกไม่นานมวลน้ำที่ไหลมาจากอำเภอดังกล่าว จะเข้าท่วมอำเภอเมืองในไม่ช้านี้

ด้านเขื่อนอุบลรัตน์ได้ แจ้งถึงสภาพน้ำในเขื่อน ณ ปัจจุบัน ( 23 กันยายน 2554)  มีปริมาณน้ำในอ่าง 2,261.24 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำได้อีกเพียง 170.06 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนอุบลรัตน์มีระดับกักเก็บน้ำสูงสุดที่ 182 เมตร ระดับน้ำทะเลสูงสุด (รทก.)


ขณะนี้น้ำมีประมาณสูงสุดระดับเหนือเขื่อนที่ 181.49 เมตร(รทก) คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ 91.95 เปอร์เซ็นต์ คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างในครึ่งหลังของเดือนกันยายน –เดือนตุลาคม 2554 ประมาณ 1,200-1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้น้ำล้นเขื่อนอุบลรัตน์ และหากต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน และพื้นที่การเกษตรด้วย


ดังนั้นจึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ไขและวิธีการจัดการบริหารน้ำ เพื่อให้สามารถรองรับกับมวลน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังจะไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเลยด้วย และให้เฝ้าตรวจสอบสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ตลอดเวลาและประกอบกับการหาวิธีบริหารจัดการน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์เพื่อไม่ให้น้ำล้นเขื่อน และส่งผลกระทบกับประชาชนและการเกษตรของประชาชนด้วย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-24 15:08:44


ความคิดเห็นที่ 2107 (1574426)
สรุปรายงานสถานการณ์ประจำวัน
วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๔

สถานการณ์ปัจจุบัน
จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งสิ้น ๕๖ จังหวัดที่พื้นที่ยังคงประสบอุทกภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง ๒๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ชัยภูมิ ยโสธร ขอนแก่น อำนาจเจริญ ฉะเชิงเทรา นครนายก และจังหวัดปราจีนบุรี

สถานการณ์น้ำ
ลุ่มน้ำปิง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำมาก ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
ลุ่มน้ำน่าน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ อำเภอเมือง อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มทรงตัว อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำยังไม่ล้นเนื่องจากมีการเสริมแนวคันกั้นดินแล้วมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เล็กน้อยอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ลุ่มน้ำยม อำเภอสามง่าม อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ระดับน้ำล้นตลิ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานและแต่มีแนวโน้มทรงตัว อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำล้นตลิ่ง (๔.๐๑ เมตร) ระดับน้ำมีแนวโน้มทรงตัว
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มทรงตัว อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาทระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ลุ่มน้ำสะแกกรัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ระดับน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มทรงตัว
ลุ่มน้ำป่าสัก อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระดับน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ลุ่มน้ำปราจีนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ระดับน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อำเภอกบินทร์บุรี
จังหวัดปราจีนบุรี ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มลดลง

ลุ่มน้ำชี กิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวงอำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น อำเภอเมือง อำเภอราศีไศล อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ อำเภอเมือง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธรจังหวัดสุรินทร์
ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มลดลง

ลุ่มน้ำมูล อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมือง อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอพิมาย จังหวัดนคราชสีมาระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สถานการณ์อื่นๆ
เมื่อเวลา ๖.๐๗ น.แผ่นดินไหวในทะเล ๖.๑ ริกเตอร์ที่ละติจูด ๑๕.๖๑ องศาใต้ ลองจิจูด ๑๗๕.๐๕ องศาตะวันตก บริเวณหมู่เกาะ Tonga ความลึก ๕ กิโลเมตรไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

คาดการณ์และแจ้งเตือนภัยในวันที่ ๒๓ – ๒๔ กันยายน ๒๕๕๔


จากการติดตามสภาพและลักษณะอากาศในช่วงวันดังกล่าว พบว่ามีกลุ่มเมฆปกคลุมกระจายเกือบทั่วและปกคลุมหนาแน่นในบางแห่งโดยเฉพาะภาค กลาง ภาคตะวันออกเฉียงใต้และภาคตะวันออก เนื่องจากมีร่องสุมพาดผ่านตอนกลางของประเทศประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ยังคงมีกำลัง จึงทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจตกต่อเนื่องหรือตกในห้วงเวลาไม่นานนัก อย่างไรก็ตามจากสภาพน้ำที่สะสมอยู่แล้วรวมกับฝนที่จะตกมาเพิ่มจะทำให้เกิด น้ำท่วมหรือดินถล่มในพื้นที่ที่ยัง ไม่เคยเกิดหรือเพิ่มความรุนแรงในพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติอยู่แล้ว ศูนย์เตือนภัยพิบัติจึงขอประกาศแจ้งดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังจากภาวะน้ำท่วมขังฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง
ลุ่มน้ำชายฝั่งภาคตะวันออก อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
พื้นที่เฝ้าระวังภัยจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง
ลุ่มน้ำภาคตะวันออก
ลุ่มน้ำชายฝั่งภาคตะวันออก อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
แม่น้ำตราด - จังหวัดตราด แม่น้ำจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
แม่น้ำนครนายก – จังหวัดนครนายก
ลำตะคอง - อำเภอเมือง อำเภอขามทะเลสอ (ท้ายเขื่อนลำตะคอง) จังหวัดนครราชสีมา
ลุ่มน้ำชี อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

พื้นที่เสี่ยงภัยจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง ที่อาจมีระดับน้ำล้นตลิ่งสูงขึ้นเพิ่มขึ้น
ลุ่มน้ำมูล อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีษะเกษ
ลำน้ำชี - อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์
ลำน้ำพอง - อำเภอลำน้ำพอง (บริเวณท้ายเขื่อนอุบลรัตน์) จังหวัดขอนแก่น
ลำปลายมาศ - อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
ลุ่มน้ำชี ลำปาว - อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์

พื้นที่อันตรายจากน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง เนื่องจากระดับน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำสาขาจะเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่จังหวัด นครสวรรค์ สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี อ่างทอง สุพรรณบุรี สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรีและกรุงเทพมหานครที่ ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงขอแจ้งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานอกแนวคันกันน้ำและ ริมแม่น้ำสาขาเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเสริมแนวป้องกันริมน้ำให้สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 00:45:22


ความคิดเห็นที่ 2108 (1574427)
ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยน้ำท่วมอุทัยธานี


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ก.ย. นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดอุทัยธานี นำทีมเพื่อเพื่อน ป.ป.ร.12 สถาบันพระปกเกล้า ,พลตรีอิทธิศักดิ์ นาควิสุทธิ์ ,นักธุรกิจจากกรุงเทพฯ ,รองมิสไทยแลนด์เวิลล์ และดารานักแสดง นำถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด ไปมอบแก่ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เพื่อบรรเทาทุกเนื่องจากประสบกับสภาวะน้ำท่วมและเป็นการแสดงน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ช่วยเหลือเจือจานกันในยามคับขัน

พร้อมนี้ได้นำเรือพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 20 ลำ/ชุด ไปมอบแก่นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการออกช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยอย่างหนักอยู่ในขณะนี้

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ระดับยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะในพื้นที่ ลุ่มต่ำ เขตตำบลเกาะเทโพ ตำบลน้ำซึม ตำบลท่าซุง ตำบลสะแกกรัง น้ำท่วมมาตั้งแต่ 29 สิงหาคม 2554 รวมถึงเทศบาลเมืองอุทัยธานี ซึ่งท่วมมาตั้งแต่ 14 กันยายน 2554 พบระดับน้ำท่วมปัจจุบันบางจุดท่วมสูง 3-4 เมตร อย่างไม่เคยมีมาก่อน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 11,000 ครอบครัว


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 00:54:23


ความคิดเห็นที่ 2109 (1574428)
ชาววัดสิงห์ ชัยนาท
พังกระสอบทรายกว่า 450 ม.


เมื่อเวลา 13.00 น. ชาวบ้าน จากเทศบาลตำบลวัดสิงห์ ตำบลมะขามเฒ่า ต.หาดท่าเสา ต.นางลือ ต.เขาท่าพระ และชาวบ้านจากจังหวัดอุทัยธานี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมกว่า 500 คน ปิดถนนสายวัดสิงห์ - อุทัยธานี ขอเจรจากับเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ อ.เมืองชัยนาท มีประตูระบายน้ำพลเทพที่ปิดกั้นแม่น้ำท่าจีนไม่ให้ไหลเข้าแม่น้ำท่าจีนไปจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งชาวบ้านเห็นความแตกต่างกันมากสำหรับพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งที่ประตูกั้นน้ำอยู่ อีกทั้งไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมาเจรจา จึงช่วยกันลงมือรื้อกระสอบทรายที่บริเวณคันกั้นน้ำ2ซ้ายพลเทพฝั่งขวา พังทลายไปยาวกว่า 450 เมตร น้ำไหลเข้าท่วมโรงเรียนรัฐเขื่อนพลเทพและโครงการบำรุงรักษาพลเทพ และไหลลงแม่น้ำท่าจีน

นางกุ้ง ตัวแทนชาวบ้านจากเทศบาลตำบลวัดสิงห์ที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมในตลาดวัดสิงห์ กล่าวว่า น้ำท่วมอำเภอวัดสิงห์มาเป็นแรมเดือนเราทนไม่ไหว มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำแล้ว 3 คน น้ำประปาไม่ไหลน้ำดื่มไม่มี อาหารเครื่องยังชีพไปไม่ถึง เด็กป่วยด้วยโรคจากน้ำ บ้านที่มีสองชั้นก็อาศัยชั้นสองพักได้ แต่ที่เป็นบ้านชั้นเดียวก็มิดหลังคา ที่มาวันนี้เพราะทนไม่ไหวแล้ว เพื่อต้องการให้เขาช่วยเปิดเขื่อนช่วยชาววัดสิงห์บ้าง

ทางด้านนายวรชัย บำรุงผล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ว่า ทางโครงการได้เปิดประตูระบายน้ำให้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่พอใจ การทลายกระสอบทรายครั้งนี้จะส่งผลให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน จะไปผ่านประตูระบายน้ำ ท่าโบสถ์ ประตูระบายสามชุก และประตูระบายโพธิ์พระยา กว่าจะไปถึงตัวจังหวัดสุพรรณบุรี


คาดว่าภายใน 2 วันจะยังไม่ส่งผลกระทบหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม หลังจากนั้นหากยังไม่สามารถซ่อมแซมคันที่พังได้อาจส่งผลกระทบในวงกว้างแต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ ขณะนี้รอคำสั่งจากทางต้นสังกัดว่าจะให้ทำการซ่อมแซมคันกั้นน้ำหรือไม่ ถ้าซ่อมต้องใช้กำลังคนไม่ต่ำกว่า 400 คน ระดมทำงานกันจึงจะสามารถกันน้ำได้สำเร็จ



เนชั่นทันข่าว 24 กย. 2554 17:27 น.
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 00:55:12


ความคิดเห็นที่ 2110 (1574429)
 
นครสวรรค์-ชาวบ้านตะเคียนเลื่อนกว่า 1,700 ครัวเรือนขาดน้ำดื่ม



ระดับน้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,200 ลบ.ม./วินาที ในขณะที่ชาวบ้าน ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ กว่า 1,700 ครัวเรือนเดือดร้อนอย่างหนัก ระบบประปาหมู่บ้านเสียหายไม่สามารถใช้การได้ ทำให้ชาวบ้านขาดน้ำดื่มมาหลายอาทิตย์แล้ว

ที่จังหวัดนครสวรรค์ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,200 ลบ.ม./วินาที สูงกว่าระดับตลิ่ง 40 เซนติเมตร แม่น้ำน่านมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,538 ลบ.ม./วินาที แม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,188 ลบ.ม./วินาที

ล่าสุดจังหวัดนครสวรรค์มีน้ำท่วมขังรวม 10 อำเภอ 67 ตำบล 496 หมู่บ้าน 49,506 ครัวเรือน 156,727 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 645,328 ไร่ เสียชีวิตแล้ว 19 คน ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดนครสวรรค์ประกาศเตือนให้พื้นที่ใกล้เขาบริเวณอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ระวังน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากที่ผ่านมามีฝนตกชุกเป็นเวลานาน

ในส่วนของชาวบ้าน ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้ รวม 12 หมู่บ้านกว่า 1,700 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขาดน้ำดื่ม เนื่องจากระบบประปาหมู่บ้าน อุปกรณ์มอเตอร์ได้รับความเสียหายไม่สามารถใช้การได้ ทำให้ชาวบ้านต้องขาดน้ำดื่มมาหลายอาทิตย์แล้ว

นายสงกา พันธศรี กำนันตำบลตะเคียนเลื่อน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า ชาวบ้าน ต.ตะเคียนเลื่อนต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมสูงและวิกฤตมากกว่าทุกปี ถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ซึ่งมีอาชีพทำนา ไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติ


ซึ่งจากการสำรวจพบว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นเกือบ 100% แล้ว รวมทั้งหมด 12 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,700 ครัวเรือน ที่สำคัญตอนนี้ระบบประปาหมู่บ้านตั้งแต่หมู่ที่ 2 ถึงหมู่ที่ 10 ไม่สามารถใช้งานได้เลย เนื่องจากอุปกรณ์มอเตอร์ถูกน้ำท่วมไปหมดแล้วและไม่สามารถซ่อมแซมแก้ไขได้ ทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนอย่างหนักขาดน้ำมาหลายอาทิตย์แล้ว


ครอบครัวข่าว 3 วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 00:55:56


ความคิดเห็นที่ 2111 (1574430)
 
 
 
น้ำท่วมเทศบาลเมืองชัยภูมิ
 ยังอ่วม

เทศบาลเมืองชัยภูมิ ยังอ่วม น้ำท่วมนานกว่า 1 สัปดาห์ แล้ว เสียหายหนักกว่า 250 หลังคาเรือน

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังมีชาวบ้านเดือดร้อนหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ชุมชนหนองสังข์ เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ยังคงได้รับผลกระทบจากลำน้ำชี ที่ทะลักเข้าท่วมขัง ในพื้นที่มายาวนานต่อเนื่องกว่า 1 สัปดาห์แล้ว

ซี่งมีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมเสียหายหนักกว่า 250 หลังคาเรือน ยังคงถูกน้ำท่วมขัง อยู่ในพื้นที่สูงกว่า 80 ซ.ม. - 2.5 เมตร และมีบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหายหนัก ที่ถูกท่วมจนมิดหลังคากว่า 30 หลัง และมีบ้านเรือนราษฎรถูกกระแสน้ำพัดหายไปทั้งหลัง กว่า 7 หลังคาเรือน และขณะนี้น้ำยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และน่าจะคงท่วมขังยาวไปต่อเนื่องอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน จากนี้ไป


INN ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 20:16 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 00:56:33


ความคิดเห็นที่ 2112 (1574431)
น้ำท่วมพิจิตรอ่วม-ยอดตาย 30 สูงสุดในประเทศ



หลายอำเภอใน จ.พิจิตร ยังประสบปัญหาน้ำท่วมต่อเนื่อง บางจุดน้ำสูงกว่า 2 เมตร ถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ล่าสุด ผู้ว่าฯ พิจิตร เผยช่วง 2 เดือนน้ำท่วม คนตาย30 รายแล้ว สูงที่สุดในประเทศ

จากสถานการณ์น้ำท่วมของ จ.พิจิตร ขณะนี้แม่น้ำน่าน ยังคงเอ่อล้นสูงกว่าตลิ่ง ประมาณ 1 เมตร ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมหลายตำบล เขต อ.เมืองพิจิตร และ อ.ตะพานหิน รวมถึง อ.บางมูลนาก โดยเฉพาะ อ.เมืองพิจิตร ต.ป่ามะคาบ น้ำท่วมเกือบทุกตารางนิ้ว ถนนสามเส้นทางที่ใช้เข้าออกหมู่บ้านก็ถูกน้ำท่วมอย่างสิ้นเชิง รวมถึง ต.ท่าฬ่อ บ้าน วัด โรงเรียน และถนนเข้าหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมตัดขาดจากโลกภายนอก หมู่บ้านเอื้ออาทร 280 หลังคาเรือน ตั้งอยู่ในเขต ต.ปากทาง อ.เมือง จ.พิจิตร น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ทำให้อาศัยอยู่ได้เฉพาะชั้น 2 ของบ้านเท่านั้น

ส่วนอำเภอ อ.ตะพานหิน ถนนชมฐีระเวช หน้า ร.พ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ซึ่งเป็นเส้นทางไปยัง อ.ทับคล้อ และ ถนนสายตะพานหิน-บางมูลนาก ก็ถูกน้ำท่วม รถเล็กสัญจรไปมาไม่ได้ รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านและนักเรียน ถ้าจะเข้าเมืองต้องบรรทุกใส่รถอีแต๋น รถอีโก้ง ที่มาคอยรับจ้าง โดยเก็บค่าบริการครั้งละ 20-30 บาท จึงทำให้ชาวพิจิตรในขณะนี้ยังคงเดือดร้อน เพราะน้ำยังคงมีปริมาณมาก ทั้งลุ่มน้ำน่าน และลุ่มน้ำยม ที่ยังไม่มีแนวโน้มว่า น้ำจะลดลง แถมในช่วงกลางคืนก็จะมีฝนตกหนัก ทำให้เขตชุมชนเมืองเกือบทุกแห่งก็หนีไม่พ้นถูกน้ำท่วมเช่นเดียวกับพื้นที่รอบนอกดังกล่าว


สถานการณ์ล่าสุด นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ในวันนี้ ได้มีคนพิจิตรตกน้ำตาย รายล่าสุดเป็นชาย อีก 1 ราย ซึ่งรวมแล้ว ในช่วงน้ำท่วม 2 เดือน ที่ผ่านมา มีคนพิจิตร ตกน้ำตายไปแล้ว 30 ราย สูงที่สุดในประเทศ



INN ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 20:35 น

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 00:57:04


ความคิดเห็นที่ 2113 (1574432)
สุดยื้อคันกั้นน้ำชัยนาทแตก!ทะลักท่วม


 
ผอ.ชลประทานที่ 12 เผย คันกั้นน้ำแตก ยาว 20 ม. น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านเป็นบริเวณกว้าง ให้ ปชช. ขนของหนีขึ้นที่สูง

นายฎรงค์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท แจ้งว่า ตามที่ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คันกั้นน้ำที่หมู่บ้านคะนน ต.คุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ไม่สามารถรับแรงดันน้ำได้ และเกิดชำรุดเสียหาย มีความยาวประมาณ 20 เมตร อัตราการไหลประมาณ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณ ต.ธรรมมูล ต.คุ้งสำเภา ต.หางน้ำสาคร ต.เสือโฮก ต.ลุก ต.หาดอาษา ต.เขาแก้ว และ ต.โพนางดำออก ใน จ.ชัยนาท ต.ชีน้ำร้าย จ.สิงห์บุรี ซึ่งปริมาณน้ำที่ไหลมาจะสมทบกับทางระบายน้ำล้นของเขื่อนเจ้าพระยา และปริมาณน้ำดังกล่าวไหลมารวมกับปริมาณน้ำที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ที่ขาดอยู่ก่อนแล้ว โดยได้ส่งผลกระทบพื้นที่ตั้งแต่ อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อ.ไชโย จ.อ่างทอง และ อ.มหาราช อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ให้ป้องกันและเสริมกระสอบทรายนที่ลุ่มต่ำ พร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นบนที่สูง หรือที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา



INN ข่าวภูมิภาค วันศุกร์ที่ 23 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 18:25 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:05:01


ความคิดเห็นที่ 2114 (1574433)
เชียงใหม่-น้ำป่าไหลหลากที่ อ.ฝาง เด็กเสียชีวิต 2 ราย

เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาบ้านเรือนได้รับผลกระทบกว่า 100 หลังคาเรือน ขณะที่มีเด็กวัย 3 ขวบ และ 8 เดือน เสียชีวิตพบศพแล้วเช้านี้

เมื่อเวลา 24 นาฬิกาของคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่บ้านเปียงกอก หมู่ที่ 6 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังจากที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน โดยน้ำป่าจากดอยผ้าห่มปก สมทบกับน้ำจากน้ำแม่ใจ เอ่อล้นตลิ่ง และไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน กว่า 100 หลังคาเรือนในช่วงกลางดึก ชาวบ้านกำลังหลับนอน ทำให้ชาวบ้านต้องหนีตายกันท่ามกลางความมืด

เบื้องต้นในจำนวนนี้บ้านเรือนที่พังเสียหายมีอยู่ 5 หลัง และมีเด็กเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 2 คน วัย 3 ขวบ กับ 8 เดือน ซึ่งตอนเช้านี้พบศพแล้วถูกน้ำพัดจมน้ำเสียชีวิต ขณะนี้ทางอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำลังเข้าไปสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือต่อไป



ครอบครัวข่าว 3 วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:05:49


ความคิดเห็นที่ 2115 (1574435)
บุรีรัมย์อ่วมน้ำจากโคราชทะลักท่วม


ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ เผย ชาว อ.แคนดง กว่า 500 ครอบครัว ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำก้อนใหญ่เมืองโคราช บ่อปลา นาข้าว ถนน เสียหายหนัก เตรียมสำรวจข้อมูลเสนอจังหวัด

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาน้ำจากฝ่ายน้ำล้น บ้านหนองกระทุ่ม-กาละโก ที่เอ่อทะลักเข้าท่วมถนน บ้านเรือน และพืชไร่ของเกษตรกร เขตพื้นที่ อ.แคนดง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน กว่า 500 ครัวเรือน


ซึ่งจากการรายงาน พบว่าเป็นมวลน้ำก้อนแรกที่ถูกปล่อยจาก อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ไหลมารวมกับน้ำในฝายน้ำล้น ทำให้ปริมาณน้ำหนุนสูงและเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วม เขตเทศบาลแคนดง อย่างฉับพลัน เบื้องต้น มีบ่อปลาเสียหาย 7 บ่อ พืชไร่ สวนยาง นาข้าว ถูกน้ำท่วมขัง อีกกว่า 200 ไร่ ส่วนถนนและบ้านเรือนราษฎร กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจของทางอำเภอ เพื่อเสนอรายงานจังหวัดพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการต่อไป

ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ทางอำเภอและเทศบาล เร่งซ่อมแซมคันดินที่ชำรุด และนำกระสอบทรายไปถมคันฝายให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันมวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.นครราชสีมา ทะลักท่วมซ้ำอีกระลอก พร้อมทั้งได้สั่งให้อำเภอต่าง ๆ เตรียมความพร้อมรับมือ ซึ่งล่าสุด ขณะนี้ น้ำที่ท่วมขังในเขตเทศบาลแคนดง ได้ลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:06:35


ความคิดเห็นที่ 2116 (1574436)
 
ลำปางวิกฤติ! ขนของหนีน้ำป่ากลางดึก


จ.ลำปาง วิกฤติ ชาวบ้านขนของหนีน้ำป่ากลางดึก นาข้าวเสียหาย 300 ไร่ นายก อบต.แจ้ซ้อน ให้ชาวบ้านเฝ้าระวัง พร้อมสั่ง จนท. สำรวจความเสียหายแล้ว

เกิดเหตุน้ำป่า จากลำห้วยแม่มอญ ไหลหลาก เอ่อล้น เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ใน 2 หมู่บ้าน ของ ต.แจ้ซ้อ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง คือ หมู่ที่ 2 บ้านศรีดอนมูล และหมู่ที่ 5 บ้านหลวง หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางดึกจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้ น้ำแม่มอญ ไหลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวน 30 หลังคาเรือน น้ำป่าระดับน้ำ สูงกว่า 50 เซนติเมตร น้ำยังไหลเข้าท่วม โรงเรียนบ้านหลวง ได้รับความเสียหาย

ขณะที่ ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ต้องตื่นมา ในช่วงกลางดึก รีบขนย้ายของ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือทางการเกษตร ไว้บนที่สูง เพื่อหนีน้ำป่า ซึ่งชาวบ้านบางราย ก็เก็บของหนีไม่ทันบ้าง ส่วน นาข้าว ก็ถูกน้ำป่าพัดเสียหายเบื้องต้นแล้ว 300ไร่ ล่าสุด ขณะนี้ฝนในพื้นที่ก็หยุดตกแล้ว แต่ท้องฟ้ายังมืดครึ้ม


ด้าน นายก อบต.แจ้ซ้อน สั่งชาวบ้านเฝ้าระวัง และส่งเจ้าหน้าที่ ออกสำรวจความเสียหายในจุดอื่นๆ แล้ว [/size][/color]



INN ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 11:57 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:07:24


ความคิดเห็นที่ 2117 (1574437)
 
น้ำล้นแนวกระสอบทรายกั้นตลิ่งท่วมถนนทางเข้าตัวเมืองอุบลฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำในแม่น้ำมูลน้อยได้เอ่อท่วมกระสอบทรายที่กั้นถนนทางหลวงชนบท อบ.3058 เชื่อมต่อถนนสรรพสิทธิประสงค์ เป็นถนนที่เข้าตัวเมืองอุบลราชธานี น้ำท่วมยาวกว่า 300 เมตร ระดับน้ำสูงจากผิวถนน 50 เซนติเมตร กรมทางหลวงได้ให้ประชาชนที่จะเข้าตัวเมืองอุบลราชธานีได้ไปใช้เส้นทางรอบเมืองเข้าเส้นสี่แยกไฟแดงยโสธรถนนแจ้งสนิทแทนเส้นทางหลวงชนบทแทน

เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากใช้เส้นทางหลวงชนบทอาจทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายและอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ขณะที่น้ำมูลในตัวเมืองอุบลราชธานีระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากวานนี้ 8 เซนติเมตร ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 2.16 เมตร เป็นน้ำท่วมขัง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำโขงได้เริ่มลดระดับลงต่ำโดยลดลงจากวานนี้ 6 เซนติเมตร

ขณะที่ชาวบ้านทัพไทย ตำบลแจระแม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี น้ำมูลได้เอ่อท่วมทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากชาวบ้านได้คาดการณ์ผิดว่าน้ำจะไม่ท่วมสูงจึงทำให้ไม่ได้เตรียมตัวขนย้าย ทำขนของหนีน้ำท่วมไม่ทันข้าวของเสียหายเนื่องจากเก็บของหนีน้ำไม่ทัน ขณะที่ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี ณ ปัจจุบันมีพื้นที่ถูกน้ำท่วม จำนวน 4 อำเภอ ได้แก่เภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอโขงเจียม อำเภอตาลสุ่ม มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจำนวน 3,999 ครัวเรือน

โดยแยกเป็นอำเภอเมืองอุบลราชธานี เทศบาลนครอุบลราชธานี 1,851 ครัวเรือน 6,898 คน อพยพ 569 ครัวเรือน 1,289 คน ตำบลแจระแม อพยพ 392 ครัวเรือน 1,718 คน อำเภอวารินชำราบ เทศบาลเมืองวารินชำราบ 1,595 ครัวเรือน 5,528 คน อพยพ 535 ครัวเรือน 1,991 คน อำเภอโขงเจียม อพยพ 115 ครัวเรือน 380 คน อำเภอตาลสุม 46 ครัวเรือน 135 คน อพยพ 15 ครัวเรือน 49 คน



เนชั่นทันข่าว 24 กย. 2554 13:20 น.
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:08:01


ความคิดเห็นที่ 2118 (1574438)
อยุธยา-น้ำทะลักท่วมหมู่บ้านจมเป็นเมืองบาดาล 700 หลังคาเรือน




หมู่บ้านในพื้นที่รับน้ำ 700 หลังคาเรือน ในทุ่งอำเภอผักไห่ ถูกน้ำเจ้าพระทะลักเข้าท่วมสูงในรอบ 20 ปี คืนเดียวขนของหนีไม่ทันกลายเป็นเมืองบาดาล ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

ชาวบ้านกว่า 700 หลังคาเรือน ในตำบลกุฏี อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดี่ยวที่อยู่ในพื้นที่รับน้ำยอมเสียสละปล่อยให้บ้านถูกน้ำท่วมสูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 20 ปีก็ว่าได้ น้ำทั้งหมดถูกระบายปล่อยล้นเข้ามาทุกด้าน ยังทุ่งรับน้ำของทุ่งผักไห่ น้ำที่พังมาจากประตูระบายน้ำจากคลองตานึ่งโจมตีเข้ามาซ้ำ ภายในระยะเวลาเพียง 2 วันระดับน้ำสูงขึ้นมาชนิดที่เรียกว่าเก็บของหนีน้ำไม่ทัน ต้องปล่อยจมทิ้งน้ำ เราตระเวนนั่งเรือไปรอบหมู่บ้านพบว่ามีสภาพไม่ต่างจากหมู่บ้านร้าง ไม่มีผู้คนมากนัก บ้านหลังขนาดใหญ่ถูกปิดประตูหน้าต่าง เงียบสนิท สอบถามไปได้ความว่าบรรดาลุกหลานหนีออกจากหมู่บ้านไปกว่าครึ่ง บางบ้านทิ้งไว้แต่คนแก่เฝ้าบ้านดูแลทรัพย์สิน ทำให้เก็บของไม่ทัน

อย่างบ้านของคุณลุงสมใจ แจ่มกระจ่้าง อายุ 68 ปี และบ้านของอาจารย์บุญเสริม เพ็งพงษ์ อายุ 54 ปี ซึ่งมีบ้านติดกันเป็นบ้างไม้สักทรงไทยโบราณ มีสภาพไม่แตกต่างกัน ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านจมน้ำได้รับความเสียหาย ไม่รู้จะเก็บไว้มุมไหนเพราะภายในบ้านถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ จนต้องทำใจต้องปล่อยทิ้งได้รับความเสียหาย

นอกจากชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนจากน้ำที่สูงขึ้นแล้ว สัตว์เลื้อยคลานหลายประเภทเข้ามาก่อกวน งู และตัวตะกวดไม่มีแหล่้งอาหารหากิน เที่ยวว่ายน้ำเข้ามาในบ้านหาเศษอาหารกิน สร้างความหวาดกลัวแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

หมู่บ้านตำบลกุฏี ในขณะนี้ไม่ต่างไปจากเมืองบาดาล ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นหมู่บ้านมีสภาพเป็นเกาะอยู่กลางพื้นที่รับน้ำ ถนนทุกเส้นทุกสายที่เชื่อมต่อเข้าหมู่บ้านจมน้ำทั้งหมด การเดินทางเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว ขณะที่กองพันทหารม้า ที่2 ที่ 5 และที่ 20 รักษาพระองค์ นำรถ จีเอ็มซี ขนาดใหญ่ วิ่งฝ่าน้ำลึกรับส่งชาวบ้านเข้าออก แต่การขับรถก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากไม่ได้มีการทำจุดสังเกตุไหล่ถนนไว้ ในเวลากลางคืนจึงไม่สามารถวิ่งรับส่งชาวบ้านได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:08:38


ความคิดเห็นที่ 2119 (1574439)
 
อ่างทองเดือนร้อนหนัก 7 อ.จม-ตายแล้ว 3 ราย

ผู้ว่าฯอ่างทอง สรุป ชาวบ้านเดือนร้อนหนัก 7 อำเภอ 18,121 ครัวเรือน เสียชีวิตรวม 3 ราย มอบเงินช่วยเหลือแล้ว 423 ครัวเรือน ยังเฝ้าระวังแม่น้ำน้อยไหลทะลัก

นายวิศว ศะศิสมิต ผู้ว่าฯอ่างทอง เปิดเผย กับสำนักข่าว ไอ.เอ็.เอ็น. เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดล่าสุด มีพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งหมด 7 อำเภอ รวม 69 ตำบล 373 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 49,713 ราย 18,121 ครัวเรือน อพยพ 417 คน เสียชีวิตแล้วจำนวน 3 ราย

โดยรายล่าสุด เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน เป็นเด็กนักเรียน พลัดตกน้ำ ส่วนพื้นที่การเกษตรเสียหาย 703,703 ไร่ เกษตรกร 496 ราย ส่วนใหญ่เป็น บ่อปลา และกระชังปลา จำนวน 108 บ่อ 1,074 ตัว แปลงหญ้าเสียหาย 16 ไร่ ถนนคันกั้นน้ำ 83 สาย สะพาน 1 แห่ง วัด 62 วัด โรงเรียน 34 โรง สถานที่ราชการ 21 แห่ง


ขณะที่การให้ความช่วยเหลือเป็นไปค่อนข้างลำบาก เนื่องจากพื้นที่เข้าถึงยาก ขณะเดียวกัน พบประชาชนบางส่วน เริ่มมีภาวะเครียด ซึ่งทางสาธาณสุขจังหวัด ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนตลอด

ด้านปัญหาอาชญากรรม เกิดขึ้น 2 ครั้ง แต่เป็นลักษณะการขโมยทรัพย์สินกันของลูกหลาน โดยเป็นการขโมยเงินที่ได้รับจากการช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐบาล ครัวเรือนละ 5 พันบาท ซึ่งในจังหวัดได้ให้เงินช่วยเหลือดังกล่าวไปแล้ว จำนวน 423 ครัวเรือน ยังเหลืออีกกว่าหมื่นครัวเรือนที่ยังไม่ได้รับ ส่วนการเฝ้าระวังในช่วงนี้คือ ระดับน้ำจากแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงมีระดับน้ำท่วมสูง ส่วนสถานการณ์นั้นเชื่อว่า อีกนานกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ



INN ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 15:03 น.

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:09:07


ความคิดเห็นที่ 2120 (1574440)
 
 
แม่น้ำโขง เอ่อเข้าท่วมอุบลฯแล้ว


 

แม่น้ำโขง ปริมาณเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ไหลเอ่อเข้าท่วมหลายชุมชน ในเขตเทศบาลตำบลบ้านด่าน จ.อุบลฯ แล้ว

นายณัฐพล ผลดี นายกเทศมนตรีตำบลบ้านด่าน อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้ น้ำในแม่น้ำโขงมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไหลเอ่อเข้าท่วมหลายชุมชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านด่าน ที่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง เทศบาลได้จัดเต็นท์ที่พักชั่วคราวและนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ แจ้งเตือนสถานการณ์และระดับน้ำ ตลอดทุก 2 ชั่วโมง

สำหรับระดับน้ำโขง ที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดสูงกว่าตลิ่ง 2 เมตรเศษ ส่วน น้ำมูลที่ฝั่งวารินชำราบ สูงกว่าตลิ่ง 2 เมตรเศษ

ล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วม ปริมาณแม่น้ำมูล ยังคงเอ่อล้น ไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูล อ.วารินชำราบ ทำให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์ ต้องนำน้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายให้ผู้อพยพใช้ วันละ 2 รอบ ขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุข ส่งแพทย์และพยาบาลตรวจอาการป่วยของผู้อพยพ โดยเฉพาะเด็กและคนชรา

โดยพบว่า ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคไข้ตัวร้อน เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รวมทั้ง โรคน้ำกัดเท้า และโรคเครียด จากบ้านถูกน้ำท่วมเป็นเวลานาน และช่วงนี้มีคนป่วยมารับการตรวจรักษาจากอาการป่วยด้วยโรคต่าง ๆ วันละกว่า 150 คน



INN ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 15:36 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:09:58


ความคิดเห็นที่ 2121 (1574441)
 
ผจว.ชัยนาท สั่งเร่งซ่อมคันกั้นน้ำที่รั่ว

ผู้ว่าฯ ชัยนาท สั่ง ชลประทานจังหวัด ประสานทหาร เร่งซ่อมคันกั้นน้ำที่รั่ว บริเวณ ตำบลธรรมมูล แล้ว

นายพงพัฒน์ วงศ์ตระกูล นายอำเภอเมืองชัยนาท กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ ว่า ในขณะนี้คันกั้นน้ำ บริเวณตำบลธรรมมูล อ.เมืองชัยนาท ถนนสายเก่าชัยนาท-มโนรมย์ เส้น 304 ที่ได้เกิดรั่ว มีความกว้างประมาณ 5-6 เมตร แต่ไม่ได้แตก หรือพังทลายลง ซึ่งทำให้กระแสน้ำพุ่งทะลุเข้าทุ่งบึงบัว โดยขณะที่ทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ได้ลงตรวจพื้นที่ และสั่งการให้ทางชลประทานจังหวัด เร่งเข้าไปแก้ไขโดยด่วนแล้ว แต่ติดอุปสรรคตรงบริเวณดังกล่าวเป็นทางแคบ จึงไม่สามารถนำรถแบ็คโฮ หรือเครื่องจักรหนัก เข้าไปจุดที่คันดินรั่วได้ จึงต้องประสานทางทหารให้เดินเท้าแบกเครื่องมือเข้าไปซ่อมแทน

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น มีปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมทุ่ง และไหลไปยังบริเวณภูเขา ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีบ้านเรือนประชาชน ประมาณ 3-4 หลังคาเรือน ที่อยู่ริมเขา และไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก

ทั้งนี้ เมื่อ 2-3 วันก่อน คันกั้นน้ำบริเวณบ้านดักคะนน ต.ธรรมมูล อ.เมืองชัยนาท ได้ถูกน้ำกัดเซาะจนพัง เสียหายกว่า 5 เมตร ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วม 4 ตำบล มาแล้ว



INN ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 18:11 น.



 
น้ำปาวเริ่มทะลัก นอภ.เมืองกาฬสินธุ์ ระดมชาวบ้านกั้นน้ำ

บ้านท่าสีดา ตำบลลำพาน นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ดาบตำรวจสมคิด นันทสมบูรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำพาน ระดมชาวบ้านกว่า 50 คน ช่วยกันนำกระสอบทรายไปขวางกั้นรองน้ำหลังพบว่าปัญหาการระบายน้ำของเขื่อนลำปาวส่งผลให้ ลำน้ำพาน ซึ่งเป็นลำน้ำสายรองในแม่น้ำปาวหนุนสูงซึ่งได้เริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรได้รับความเสียหายแล้วกว่า 2 พันไร่

ดต.สมคิด นันทสมบูรณ์ นายเทศมนตรีตำบลลำพาน เกรงว่า การระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นของเขื่อนลำปาวอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่แห่งนี้ซึ่งในอดีตเมื่อปี 2544 เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่และน้ำจำนวนนี้ยังจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทั้งนี้การปิดกั้นแม่น้ำเป็นเพียงการชะลอที่จะต้องดูปริมาณฝนซึ่งหากตกลงมาไม่เกิน 1 สัปดาห์บ้านเรือนกว่า 500 หลังคาเรือนก็จะถูกน้ำท่วมทันที

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในภาพรวมในพื้นที่ราบลุ่มฝั่งแม่น้ำชีและแม่น้ำปาวยังคงขยายวงกว้างและจากปัญหาน้ำเขื่อนมากกว่าปริมาณกักเก็บที่ 2,024 ล้าน ลบ.ม.ก็ยังคงทำให้พื้นที่ทายน้ำด้านอำเภอเมือง อำเภอหนองกุงศรี อำเภอห้วยเม็ก มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูง 2 เมตรมากกว่า 250 หลังคาเรือนซึ่งในขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยังคงเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 01:10:42


ความคิดเห็นที่ 2122 (1574478)

 

ขออนุญาติลงขัอมูล จากเว๊ปเขากะลา เเละ พลังจิต ค่ะขอขอบคุณข้อมลูจาก 

http://ufokaokala.com/index.php?topic=4622.msg36844;boardseen#new

ข้อมลูจาก Kornkarn Bhamarapravati (อ.ไก่)ฝากให้ Hammurabi  ลงข้อมูลให้สมาชิกทุกท่านทราบ

 

                      การระเบิดระดับ M-X Class ก้อนมหึมา และยาวนาน 10 โมง ถึง 3 ทุ่ม

รู้แล้ว่า...ทำไม...โอบามา ผู้นำโลก และคนของ NASA จึงหยุดพักร้อน...ยาว...ช่วงนี้





     
แจ้งเพื่อทราบ สำคัญถึงขนาดหลวงปู่ใหญ่โทรมาแจ้ง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
หลวงปู่ใหญ่ อดีตวิศวกรปัจจุบันเป็นภิกษุมีหน้าที่เตือนผู้มีบุญเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้มีผู้อยู่รอดปลอดภัยก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงนี้ไปได้ โทรมาวันนี้ แจ้งว่าข่าวจากนาซ่าคือ โอบาม่า ควีนอลิซะเบธ และผู้นำ (เยอรมันมั้ง) ตอนนี้อยู่ที่โคโรลาโด จริงๆ คือไปซ่อนในถ้ำใต้ดิน สามวัน หลบรังสีเอ็กซ์จากดวงอาทิตย์ที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้และอีกสามวันข้างหน้า เสนอให้งดกิจกรรมเต้นท์สามวัน เพื่อใส่ยาแดง เลียแผล รักษาน้ำกัดเท้า และหลบภัยพายุรังสี
     
กระแสรัก จากต่างมิติบอกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า... อย่าตกเป็นเครื่องมือของ dark cabal ที่ครอบจิตเราให้อยู่ในความกลัว ฮอลีวู๊ดเอย คำทำนาย (เมื่อครั้งโลกอยู่ในพลังงานเก่าเอย) รักจะทำให้มนุษยรอด

 

เครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ภาคประชาชน PS-EMC

ท่านที่ได้อ่านแล้วโปรดพิจารณาสภาวะปัจจุบันของจิตใจท่านด้วยครับ

 

                                       โอบาม่า ถูกทหารสั่งให้ไปบังเกอร์ใต้ดินและต่อไปคือ โอบาม่าจะไปโคโลราโด้ กับครอบครัว  พวก สภาผู้แทนของอเมริกา อังกฤษ และ สหประชาชาติ ต่างก็ไปพักร้อนกันในช่วงนั้น ประธานาธิบดีเยอรมันก็ไม่มีกำหนดการไปไหนเลย(ว่าง) ในช่วงนั้น

ไม่ใช่แค่โอบาม่าจะไปที่โคโลราโด้ ในวันที่ 27 กันยานี้ นาซ่าและพรรคพวกมากมาย ก็จะไปคอนเฟอร์เร้นท์กันสุดสัปดาห์นั้น ที่เมืองเดนเวอร์ รวมทั้ง มีการประชุมทางวิชาการ


และ มันก็เหมือนตลก น่าสนใจที่ดาวหางอิลินินจะเรียงตัวกันวันที่ 27 ซึ่งตรงกับวันอังคารที่โอบาม่าอยู่ที่เดนเวอร์ และยิ่งไปกว่านั้น คอนเฟอร์เร้นท์ต่างๆ ก็เริ่มหลังจากวันที่ 26 กันยา ซึ่งแทนที่จะเป็นวันพฤหัส-ศุกร์
และ จุดหนึ่งคือ เมื่อผู้นำโลกต่างๆ และผู้บริหารระดับสูง และ ผู้ที่ปกครองโลกอยู่ทั้งหมดเริ่มไปซ่อนพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเรากำลังจ้องๆ ดูอยู่

สหประชาชาติ มีช่วงว่างไม่ได้ทำอะไรเลยตั้งแต่ 23 กันยา ถึง 10 ตุลาคม 11

รัฐสภาของอังกฤษ ก็พักผ่อนกัน 15 กันยาถึง 10 ตุลาคม 11

สภาคองเกรสของอเมริกา
ก็ไปพักผ่อนกันตั้งแต่ 25 กันยา ถึง 2 ตุลาคม 11

ประธานาธิบดีเยอรมัน
ก็ไม่มีแผนที่จะทำอะไรเลย (ว่าง) หลัง 25 กันยายน 11

และเรื่องที่เกี่ยวกันคือ หลายๆ กลุ่มจะไปคอนเฟอร์เร้นกันที่โคโลราโด้ เมืองที่มีเมืองใต้ดินที่ใหญ่และลึกที่สุดในโลก(ดูในลีสเอาว่ามีอะไรบ้าง) ข้างบน

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman อ่านข้อความ
World Leaders Will Be In Recess During Elenin Alignment on September 26-27, 2011
Sunday, Sep 18 2011

I have yet to confirm that Obama is being ordered by the military to an underground bunker for DEFCON 1 and “Cocked Pistol” exercise – slash – fear porn as stated at the bottom of the page. The reason for my suspicion is recently learning the European Times story where this information comes from is actually a Sorcha Faal article, Faal is well known for being a disinformation operation.
Now, Obama will be in Colorado with his family – which probably is more troublesome, why are they leaving home in DC to meet him there, while skipping out on other campaign stops?

Also the U.N, U.K. and U.S. Congress are all on vacation at that time.

Germany’s President has an empty schedule.

And not only is Obama in Colorado on Sept 27 so is NASA, and there will be a whole plethora of interesting conferences taking place that weekend in Denver – including the Homeland Security Symposium.

Now that sounds like fun! Interesting to note that comet Elenin alignment date is Sept 27 which is the Tuesday Obama is in Denver, in addition most of the conferences below start on Monday 26th. Instead of going Thur-Sun which is the normal schedule for most conferences.

At one point it was said that when world leaders, top CEO’s and the ruling elite all start to go in hiding at once that it was time to get concerned….hmmmm.
by Gregg Prescott, M.S.


in5d | in5d.com | Esoteric, Spiritual and Metaphysical Database
Welcome to Maya 2012 | www.maya12-21-2012.com|
World Leaders Will Be In Recess During Elenin Alignment on September 26-27, 2011 | in5d Alternative News | in5d.com |In a strange coincidence of anomalies, many world leaders and politicians will be in recess during the next alignment with ‘Comet’ Elenin.


The United Nations has an empty schedule from September 23rd through October 10th, 2011.


The UK Parliament is in recess from September 15th through October 10th, 2011.


The United States Congress is on vacation from September 25th through October 2nd, 2011.


Germany’s President’s schedule is empty after September 25, 2011.

In a related story, there are many scheduled conferences in Colorado, where one of the world’s largest Deep Underground Military Bunkers (D.U.M.B.s) is located:

2011 ACEEE National Conference on Energy Efficiency as a ResourceSeptember 25, 2011 – September 27, 2011

Hyatt Regency Denver Tech Center
Denver, CO

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 15:46:26


ความคิดเห็นที่ 2123 (1574484)
ประกาศศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เรื่อง เฝ้าระวังฝนตกหนัก

ในวันที่ ๒๘ – ๒๙ กันยายน ๒๕๕๔ จะมีฝนตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดหนองคาย จังหวัดสกลนคร จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดเลย จึงขอให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระมัดระวังในพื้นที่เฝ้าระวัง และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติต่อไป

ออกประกาศเวลา ๑๑.๓๐ น. วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๔
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 15:57:57


ความคิดเห็นที่ 2124 (1574485)

Pic_204394

 

ชาวอ่างทองยังอ่วม ถูกน้ำท่วมอย่างหนักหลายพื้นที่ ที่ อ.ไชโย ถูกฝูงปลิงดูดเลือดอาละวาด จนไม่กล้าลุยน้ำไปเกี่ยวข้าว ขณะที่ อ.เมือง น้ำเริ่มเน่าเหม็น ไม่มีห้องน้ำใช้...

 

25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ จ.อ่างทอง ยังคงมีระดับทรงตัว แต่พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำยังคงถูกน้ำท่วมจมบาดาล สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนจำนวนมาก ส่วนพื้นที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม ก็ต้องเหน็ดเหนื่อยในการป้องกันไม่ให้น้ำท่วม รวมทั้งต้องจัดเวรยาม ตรวจตราแนวคันกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้ผู้ไม่หวังดีแอบมารื้อทำลาย ด้านแม่น้ำน้อย ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากก้อนน้ำจำนวนมากจาก จ.สิงห์บุรี ที่ไหลผ่านหูช้าง ประตูระบายน้ำพระงาม อ.พรหมบุรี ยังคงไหลทะลักลงมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา กระแสน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่และบ้านเรือนริมถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี ช่วง ม.2 ต.ราชสถิตย์ อย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนต้องรีบอพยพเด็ก คนชรา และคนพิการ หนีตายขึ้นมาอยู่บนถนน รวมทั้งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น

มีรายงานด้วยว่า หลังกระแสน้ำไหลทะลักลงมาเต็มพื้นที่ ปรากฏว่า มีฝูงปลิงดูดเลือดที่ไหลมากับน้ำ ได้ออกอาละวาดกัดกินเลือดของผู้ที่ถูกน้ำท่วม รวมทั้งชาวนาที่ลุยน้ำเกี่ยวข้าวซึ่งกำลังจะถูกน้ำท่วมแล้วจำนวนหลายสิบราย จนเป็นที่หวาดผวาไม่กล้าเดินลุยลงน้ำ

ล่าสุดนายประทีป นาคโมรา อายุ 39 ปี ชาวนาหมู่ 6 ต.ไชโย อ.ไชโย พร้อมคนในครอบครัว ต้องนำเรือลงไปพายเพื่อเก็บเกี่ยวข้าวที่กำลังจะถูกน้ำท่วมอย่างทุลักทุเล โดยนายประทีปเผยว่า ตนต้องรีบเกี่ยวข้าวเพื่อหนีน้ำ แต่ระดับน้ำในนาข้าวสูงจนรถเกี่ยวข้าวไม่สามารถลงไปเก็บเกี่ยวได้ และพวกตนก็ไม่กล้าลุยน้ำลงไปเกี่ยวข้าว เนื่องจากกลัวฝูงปลิงดูดเลือดจำนวนมากที่มากับน้ำ เพราะอาจถูกดูดเลือดได้รับอันตราย จึงจำเป็นต้องยอมพายเรือเกี่ยวข้าวทั้งที่ไม่สะดวก แต่ก็มีความปลอดภัย ไม่ต้องถูกฝูงปลิงดูดเลือดแต่ยังหวั่นว่าฝูงปลิงจะแพร่ขยายพันธุ์มากมาย

 


นอกจากฝูงปลิงที่มากับน้ำ และอาละวาดกันหนักแล้ว ผู้ประสบอุทกภัยยังต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัส เมื่อห้องส้วมที่มีในบ้านเรือน ถูกน้ำท่วมจมมิดไม่สามารถใช้งานได้ นายประคอง โพธิ์เจริญ อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ไชโย อ.ไชโย เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านม.7 ต.ไชโย ที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ต่างต้องทนความทุกข์หนักหนาสาหัส เพราะไร้ส้วมที่ใช้ถ่ายทุกข์ หลังน้ำท่วมจมมิดทั้งหมู่บ้านมาหลายวันแล้ว ทั้งผู้ที่ต้องไปอาศัยอยู่บนถนน รวมทั้งที่ยังสามารถอยู่ในบ้านได้ ต้องใช้วิธีถ่ายใส่ถุงแล้วโยนทิ้งลงน้ำ บางคนซึ่งไม่มีที่อยู่ ต้องปีนขึ้นไปถ่ายทุกข์บนต้นไม้ ทำให้เป็นห่วงลูกหลานที่เป็นผู้หญิง ต้องลำบากมาก ตนเคยร้องขอความช่วยเหลือไปแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ รับทราบปัญหา แต่กลับบอกว่ายังไม่มีส้วมลอยน้ำให้บรรเทาทุกข์ได้ พวกตนจึงต้องช่วยตัวเองต่อไป

ส่วนสภาพน้ำท่วมขังที่ม.10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง สภาพน้ำเริ่มมีสีดำลอยเป็นฝ้า และส่งกลิ่นเหม็น หลังน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมมานานกว่าสิบวัน มีระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร จนทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว เริ่มได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องเดินลุยน้ำที่เน่าเสียแล้ว บางรายที่ห่วงบ้าน ไม่ยอมย้ายออกไปอาศัยเต็นท์ของทางการด้านนอก ต้องทนอาบน้ำที่มีสีดำเพราะเริ่มเน่าเสีย รวมทั้งต้องทนอยู่อย่างลำบาก ถึงแม้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะนำยากันยุงและยาแก้น้ำกัดเท้าไปแจก แต่ก็ได้ไม่ทั่วถึง ทำให้ผู้ประสบภัยต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการล้างน้ำสะอาด ขณะที่มีหลายรายที่เริ่มป่วยด้วยอาการเครียด ส่วนบางคนต้องขึ้นไปอาศัยนอนบนแทงก์น้ำประปาหมู่บ้าน เนื่องจากพักอาศัยภายในบ้านไม่ได้ และช่วงนี้มีฝนตกชุก ต้องทนความลำบากอย่างน่าเวทนา

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 16:00:56


ความคิดเห็นที่ 2125 (1574486)

Pic_204367

 

หลังฝนตกต่อเนื่องไม่หยุด ทำให้ระดับน้ำของแม่น้ำท่าจีน สุพรรณบุรี เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร หน่วยงานราชการเร่งช่วยเหลือ...

 

25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีฝนตกตลอด ขณะที่น้ำเหนือ มีการระบายออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้แนวกำแพงกั้นน้ำหลายจุด แนวกำแพงสูงกว่า 1 เมตร ไม่เพียงพอต่อการกั้นน้ำที่ล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมอยู่เดิมและเริ่มทรงตัว กลับมีระดับเพิ่มมากขึ้น จนบางจุดท่วมขึ้นชั้น 2 ของบ้าน ต้องขนข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น

ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ. และทีม ปภ.สุพรรณบุรี ต้องระดมกำลังคน เรือท้องแบน และรถบรรทุก เข้าไปช่วยชาวบ้านขนของหนีน้ำ พร้อมกับเตือนให้ประชาชนเตรียมความพร้อม เนื่องจากคาดว่า แม่น้ำท่าจีนมีแนวโน้มจะเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก แม้ที่ผ่านมา น้ำจะล้นทะลักเข้าสู่พื้นที่ทางการเกษตรในเขต อ.บางปลาม้าและ อ.สองพี่น้อง ซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม จนมีระดับสูงเกินกว่า 1 เมตรแล้วก็ตาม ขณะที่ในตัวเมืองสุพรรณบุรีที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ มีการเตรียมกระสอบทรายวางเสริมบนแนวกำแพงเขื่อนถาวรเพิ่มอีก ส่วนปัญหาน้ำเน่าเสีย ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปลาในอุทยานมัจฉาแห่งชาติ และใกล้เคียง ที่มีอยู่อย่างหนาแน่น ต้องลอยตัวหาอากาศหายใจ และทยอยตายอย่างต่อเนื่อง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 16:02:16


ความคิดเห็นที่ 2126 (1574487)
 
Pic_204362

 

เครื่องบินขนาดเล็กของประเทศเนปาลตก ขณะบินพานักท่องเที่ยวไปชมเทือกเขาเอเวอเรสต์ ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องเสียชีวิต 18 คน และรอดชีวิตเพียงรายเดียวเท่านั้น...

 

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 25 ก.ย. ว่า เครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก "บีชคราฟต์ 1900ดี" ของสายการบินพุทธะ แอร์ ของประเทศ เนปาล ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยวจำนวน 16 ชีวิต และลูกเรืออีก 3 คน เพื่อเดินทางไปชมทิวทัศน์ของเทือกเขาเอเวอเรสต์ ประสบอุบัติเหตุ ตกในหมู่บ้านไบสันคุนอาระยัน ในเขตลาลิตะปัวร์ ทางตอนใต้ของกรุงกาฐมาณฑุ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยถูกส่งเข้าไปในพื้นที่แล้ว

มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า เครื่องบินลำดังกล่าวตกบนหลังคาของบ้านหลังหนึ่ง และร่างผู้เสียชีวิตค่อยถูกทยอยนำออกมา มีชายหนึ่งคนรอดชีวิต ซึ่งขณะนี้ เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่นแล้ว เขายังบอกอีกว่า ในตอนที่เคร่ืองบินตก พื้นที่แถบภูเขามีหมอกลงหนามาก ทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี

เจ้าหน้าที่กู้ภัยของสนามบินกาฐมาณฑุเปิดเผยว่า เครื่องบินลำดังกล่าวติดต่อเข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 7.31 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อไปนานหลายชั่วโมง จนในที่สุดจึงทราบว่าเครื่องประสบอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ ผู้โดยสารบนเคร่ืองเป็นลูกเรือชาวเนปาล 3 คน นักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดีย 10 คน จากเนปาล 1 คน และจากประเทศอื่นๆ อีก 5 คน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 16:03:47


ความคิดเห็นที่ 2127 (1574488)
 
Pic_204271

 

น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน 2 ฝั่งห้วยแม่ใจ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ กลืน 2 ชีวิตหนูน้อย ถูกน้ำพัดห่างจากบ้านไป 1 กม.เป็นศพคนน้องอายุ 9 เดือน ส่วนคนพี่อายุ 2ปี 6 เดือนน้ำพัดไปติดกระท่อมกลางนา พ่อแม่ญาติพี่น้องเมื่อเห็นศพเสียใจร้องไห้ระงมก่อน จนท.ให้ญาตินำไปทำพิธีตามประเพณีต่อไป...

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 54 พ.ต.ท.ภูดิศ ศิลาเกษ พงส.สภ.ฝาง เชียงใหม่ รับแจ้งจากนายวิศณุกร เอกะวัน จนท.ป้องกัน อบต.โป่งน้ำร้อนร่วมกับ จนท.ฝ่ายปกครอง อส. อปพร.ซึ่งออกค้นหาศพ 2 ชีวิตหนูน้อยที่ถูกน้ำป่าพัดไปโดยศพแรกพบห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.เป็นศพของด.ช.ครีม ขำอรุณ อายุ 9 เดือน สภาพศพเปลือยกายไม่มีสิ่งห่อหุ้มเนื่องจากถูกกระแสน้ำพัดพาไป ต่อมา จนท.พบศพที่ 2 ซึ่งเป็นศพของ ด.ช. พีร์ ขำอรุณ อายุ 2 ขวบ 9 เดือนซึ่งเป็นพี่ชายไหลมาติดค้างอยู่บริเวณกระท่อมกลางทุ่งนาสภาพศพเปลือย กายเช่นกัน หลังพบศพหนูน้อยทั้ง 2 จนท.กู้ภัยหงส์ฟ้านำออกมาจากที่เกิดเหตุส่งแพทย์ รพ.ฝางชันสูตรศพที่วัดเปียงกอก ม.6 ต.โป่งน้ำร้อนท่ามกลางเสียงร้องระงมของพ่อแม่ และญาตพี่น้องของหนูน้อยทั้ง 2 ก่อนจะมอบให้ญาตนำไปจัดการตามประเพณี

นางแพรวพรรณ ขำอรุณ อายุ 19 ปี ชาวบ้าน ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง สุพรรณบุรี แม่ของหนูน้อยให้การว่าตน และสามีรวมทั้งลูกน้อยทั้ง 2 นอนอยู่ในโรงหอมในหมู่บ้านเปียงกอก ม.6 ขณะน้ำป่าทะลักเข้ามาในที่พักตนตกใจและลืมลูกน้อยทั้ง 2 พอนึกขึ้นมาได้ไฟฟ้าดับตนก็พยายามควานหาลูกน้อยก็ไม่พบ จนมาพบเป็นศพ ส่วน นายขิ่น กอหลิ่ง อายุ 24 ปี สามีได้ขนของออกไปก่อนก็กลับเข้ามาไม่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 16:07:10


ความคิดเห็นที่ 2128 (1574490)

Pic_204233

 

รัฐบาลญี่ปุ่นมีคำสั่งให้ทำการตรวจสอบข้าว ที่ปลูกในจังหวัดฟุกุชิมา ทั้งหมด หลังพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสี...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีคำสั่งให้ทำการตรวจสอบ "ข้าว" ที่ปลูกในพื้นที่ใกล้เคียงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ทันที หลังจากที่พบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสีในข้าว โดยเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นทำการตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าว มากกว่า 400 จุด ในจังหวัดฟุกุชิมา เพื่อตรวจสอบการปนเปื้อน

จากการตรวจสอบตัวอย่างข้าวซึ่งยังไม่ได้ทำการเก็บเกี่ยว ปรากฏว่าพบปริมาณการปนเปื้อนของสารในระดับ 500 เบคเคอเรล ต่อกิโลกรัม แม้ว่าปริมาณรังสีที่พบยังถือว่าอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัยต่อการบริโภค ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น แต่ที่ผ่านมาปริมาณการปนเปื้อนในข้าวสูงสุดที่เคยพบคือ 136 เบคเคอเรล ต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุภัยพิบัติ จนทำให้เกิดกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลเป็นต้นมา รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ทำการตรวจสอบหาการปนเปื้อนรังสีในพืชพัก และปลา มาตลอด รวมถึงมีบางประเทศที่ยกเลิกการนำเข้าอาหารบางอย่างของญี่ปุ่น เนื่องจากกังวลถึงปัญหาการปนเปื้อนอีกด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 16:09:16


ความคิดเห็นที่ 2129 (1574491)

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก http://board.palungjit.com/f178/ทำไมผู้รอดจากภัยพิบัติจึงเรียกว่าเป็นผู้มีความดี-306347.html

ทำไมผู้รอดจากภัยพิบัติ (โดยไม่เสียสติ)
นั้นจึงเรียกว่าเป็นผู้มีความดี หรือเป็นผู้มีบุญ

หลายท่านคิดว่าคนที่รอดนั้นน่าจะเป็นเพราะมีบาปกรรมเสียมากกว่า เพราะโลกในสมัยหลังยุคภัยพิบัติต่อมานั้นคงไม่น่าอยู่อาศัย..

อันนี้เป็นคำถามหรือความสงสัยอันหนึ่งที่ผู้เขียนอยากนำมาตอบ พอดีได้โอกาสอ่านข้อความที่คุณ kananun  ได้ตอบไว้ในกระทู้หนึ่งอ่านแล้วเกิดความประทับใจ  เห็นว่าชี้แจงไว้ได้อย่างดียิ่ง จึงขออนุญาตคัดลอกนำมาเผยแพร่ เมื่ออ่านแล้วช่วยคลายความสงสัยเรื่องที่ว่า...
ทำไมผู้รอดจากภัยพิบัติโดยไม่เสียสตินั้นจึงเรียกว่าเป็นผู้มีความดี หรือเป็นผู้มีบุญ

สาธุครับ...

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kananun

พวกที่รอดจากภัยพิบัติ จากกลียุคสู่ยุคแห่งศานตินั้น

เรียกว่าเป็นผู้ที่ใช้บุญมาเพื่อยังประโยชน์
สืบต่อพระบวรพุทธศาสนาให้ดำรงต่อไป จนครบ 5000 ปีครับ

กรรมที่ชำระล้างโลกในครั้งนี้นั้นมีตระแกรงร่อนที่ถี่ละเอียดมาก

เหลือแต่ผู้ที่เป็นสัมมาทิฐิและมีจิตเมตตาอย่างแท้จริง
มีหน้าที่ตามที่ได้อธิฐานจิตมาเพื่องานส่วนรวมเท่านั้นที่จะรอดจากภัยพิบัติไปได้

เมื่อผ่านพ้นภัยพิบัติไปได้ ได้สติ คิดทบทวน เหตุแห่งมหาวิบัติอันเกิดจาก ทิฐิวิบัติเป็นปฐม
อาศัยความโลภในวัตตุ ทุนนิยมล่าอาณานิคม กอบโกยทรัพยากรโลกด้วยความหลงในแรงโมหะ
ครั้นผู้ใดขัดขืนขัดขวางก็สร้างกระแสแห่งความแตกแยกเกลียดชังจนเกิดความโกรธแค้น
ประหัตประหารกันด้วยปัญญาแห่งอวิชชา วาจา สื่อ จนถึง ศาตราวุธ อย่างไร้ความปราณี
สิ้นในเมตตาจากจิตใจคน จนโลกหมุนเคลื่อนสู่การทำลายล้างอย่างสมบูรณ์

มีเพียงผู้มีเมตตาจิตอันบริสุทธิ์ ชนผู้มีศานติวิหารแห่งจิตใจ
อันไม่ได้หมายถึง ชาติใด เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ใด หรือศาสนาใด
เป็นเพียงผู้เข้าถึงเมตตาแห่งหัวใจอย่างแท้จริง ที่จะพึงรอดจากภัยพิบัติไปได้

สู่ยุคที่ชนทั้งหลายมีทิฐิธรรมอันประกอบไปด้วยเมตตาต่อทุกสรรพสิ่งอย่างแท้จริง
ปราศจากศัตรู ปราศจากการทำลายล้าง
ปราศจากความโกรธ ความเกลียดชังลง

มีแต่เมตตาความรัก ความเห็นอกเห็นใจกัน
การเอื้อเฟื้อ เจือจาน แบ่งปัน ให้โดยปราศจากเงื่อนไข
ทั้งต่อมนุษย์ด้วยกันก็ดี ต่อสัตว์ทั้งหลายก็ดี
ต่อผืนดิน ผืนน้ำ ผืนฟ้า และเหล่าพืชพฤกษ์ไพรทั้งหลาย

ที่สุดมนุษย์ก็เข้าใจในภาษาเดียวกัน ภาษาสัตว์ ภาษาที่สื่อด้วยหัวใจ
หัวใจแห่งเมตตา อันเป็นภาษาสากลแห่งจักรวาล และภพทั้งปวง

เมื่อจิตของมวลมนุษย์ละเอียดอ่อนปราณีตอีกครั้ง
ก็ย่อมน้อมเข้าสู่ธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โดยง่าย

เมื่อนั้นโลกก็ปรากฏ ความเจริญในธรรม เจริญด้วยธรรม
บริสุทธิ์ไปด้วยทิฐิอันวิสุทธิ

มากไปด้วยพระอริยะเจ้า พระสุปฏิปันโน พระโพธิสัตว์
แผ่นดินก็รุ่งเรืองในธรรม คล้ายดั่งสมัยพุทธกาลอีกครั้ง
พระบรมสารีริกธาตุก็ปรากฏฉัพพรรณรังษีอัศจรรย์ ในทุกวันพระ วันโกน
ให้ผู้คนได้กราบไหว้สักการะ ปฏิบัติบูชา จนมั่นคงในพระรัตนไตร

เมื่อมีผู้ปฏิบัติบูชามาก เข้าถึงธรรมมาก
ผืนดิน ผืนน้ำ ก็กลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่น ร่มเย็นในทุกผืนแผ่นดินธรรม

จนธรรมขยายออกไปด้วยเมตตา อันไม่มีประมาณ
แม้ไม่เพียงในโลกนี้ แต่ยังภพอื่น ภูมิอื่น
และไปยังทั่วจักรวาลอันประกอบไปด้วย อุตรทวีป อนุอุตรทวีปทั้งหลายก็พลอยปรากฏพบเห็นกันรับผลอานิสงค์แห่งเมตตาอันไม่มีประมาณ

แผ่นดินแห่งศานติดำรงเป็น
อาณาจักรแห่งสัมมาทิฐิ 1000 ปี

กระทั่งกิเลสตัณหาอุปทานมาบังใจ จนลืมเลือนซึ่งความเมตตา
ความเสื่อมในธรรม ในจิตใจผู้คนก็ค่อยๆปรากฏขึ้นไปเรื่อย
จนถึง กาลสิ้นพระศาสนา ในปีที่ 5000


บุญคือความสุข ความอิ่มใจ ความยินดีในธรรม

ให้เมตตาธรรม รักษาใจเราเอาไว้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 16:14:30


ความคิดเห็นที่ 2130 (1574504)




เครือข่ายเพื่อนเตือนภัย แห่งประเทศไทยได้แบ่งปันลิงก์


เรื่อง "ดีเปรสชันเขตร้อน HAITANG (ไห่ถาง / 21W) ฉบับที่ 4 (25/09/54)

Tropical Depression HAITANG (21W) # 4 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง "ดีเปรสชันเขตร้อน HAITANG (ไห่ถาง/21W) ” ฉบับที่ 4
ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 07.00น.
ประจำวันที่ 25 กันยายน 2554 ออกประกาศเวลา 10.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 25 กันยายน 2554 / 09.00 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 2 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 1 ลูก
1) Tropical Depression HAITANG (21W,16.8N 113.0E,30kts) : เมื่อเวลา 07.00น.(25ก.ย.54)ดีเปรสชันเขตร้อน HAITANG (ไห่ถาง/21W) ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมใกล้ชายฝั่งประเทศเวียตนามตอนบน ล่าสุด อยู่ที่ละติจูด 16.8องศาเหนือ ลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวัน ออกจากเเมืองเว้ ประเทศเวียตนาม ห่ างประมาณ 602 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 7 นอต(13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา อย่างช้าๆ . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 30 นอต(56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 40นอต(74กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1000 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 3 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา.... / คาด ช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้านี้ ดีเปรสชันเขตร้อน HAITANG (ไห่ถาง/21W) จะเริ่มเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนที่จะพัฒนาเป็นพายุโซนร้อน ในอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า หรือช่วงประมาณ 19.00น.(25ก.ย.54) เป็นต้นไป จากนั้นจะเคลื่อนตัวเข้าใก้ลปลายเกาะไหหนานในช่วง 26-27 ก.ย. 54 นี้ จากนั้นจะเลยเข้าสู่ประเทศเวียตนาม ลาว ในระยะต่อไป : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )


2) Typhoon NESAT (20W,16.7N 130.0E,65kts) : เมื่อเวลา 07.00น.วันนี้(25ก.ย.2554) พายุโซนร้อน NESAT (เนสาต/20W) ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมกลางทะเลฟิลิปปินส์ หรือทางด้านตะวันออกของฟิลิิปินส์ ได ..ติดตามประกาศของ ไต้ฝุ่น NESAT (เนสาต/20W) ระดับ 1 : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

3) Tropical Disturbance 99W (15.0N 145.8E,15kts) : เมื่อเวลา 7.00น.วันนี้(25ก.ย.2554) หย่อมความกดอากาศต่ำ 99W ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมกลางทะเลเเปซิฟิค อยู่ที่ละติจูด 15.0องศาเหนือ ลองจิจูด 145.8 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากเกาะกวม ห่ างประมาณ - กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 5 นอต(9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 15 นอต(28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 25นอต(46กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1010 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา.... / คาด ช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้านี้ หรือช่วง 26-27 ก.ย.54 นี้ หย่อมความกดอากาศต่ำ 99W จะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกโดยส่วนใหญ่.มี ีเเนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอีก 72-96 ชั่วโมงข้างหน้านรี้ หรือช่วง 28-29 ก.ย.54 นี้ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

<เพิ่มเติม/ความเห็น> … ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ ดีเปรสชันเขตร้อน HAITANG (ไห่ถาง/21W) บริเวณใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นมีคลื่นสูง 2-3 เมตร โดย ดีเปรสชันเขตร้อน HAITANG (ไห่ถาง/21W) เเนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าไทย 70% โดยเฉพาะภาคอีสานตอนบน ช่วง 28-29 ก.ย.54 นี ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกชุกหนาเเน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาหลายพื้นที่ จึงขอให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด สำหรับ ไต้ฝุ่น NESAT (เนสาต/20W) ระดับ 1 มีเเนวโน้มมุ่งหน้าไปยังเกาะลูซอน ประเทศฟิลิิปินส์ ช่วง 27 ก.ย.54 นี้ จากนั้นจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ มุ่งหน้่าไปยังประเทศจีนตอนใต้ ในระยะต่อไป ยังไม่มีเเนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าไทย ... เเต่ก็ยังไม่ได้เเปลว่าจะไม่เข้าประเทศไทย ร้อยเปอร์เซนต์นะครับ เเต่ยังน้อย ต้องดูกันยาวๆ /สำหรับวงสีเขียวคือบริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 19:09:01


ความคิดเห็นที่ 2131 (1574507)
 
เหรียญด้านที่ 3
 
เหรียญ 1 เหรียญจะมีสองด้าน

คือหัว กับ ก้อย..

ทำไมต้องเป็นหัวกับก้อย

จะเป็นกลางกับก้อยไม่ได้หรือไงนะ

ไม่ได้หรอก เพราะว่ามันเป็นส่วนสุดทั้งสองด้านไง

ไม่เป็นด้านนี้ก็จะต้องเป็นอีกด้านหนึ่งเสมอ

ที่จะวางได้อย่างสบายๆ

แต่ถึงอย่างไร...มันก็มีด้านที่สามนะ

ด้านที่เล็กและแคบ..และทำให้ตั้งอยู่ได้ยากน่ะ

เปรียบเหมือนชีวิตของคนเรา

ที่ก้าวเดินไปสุดขั้วของแต่ละด้าน

ไม่สุขก็ทุกข์ ไม่ทุกข์ก็สุข

ถ้าเดินในทางสายกลางอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านสอน

เวลาทุกข์ก็คงจะไม่ทุกข์มากนัก

เวลาสุขก็คงจะไม่หลงระเริงดีใจไปกันมันเช่นกัน

สุขกับทุกข์มีค่าไม่แตกต่างกันนัก

สุขทำให้คนสำลักกับมัน แล้วก็โงหัวไม่ขึ้น

และแม้ทุกข์จะทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด

แต่ในความเจ็บปวดนั้น

ทำให้เรามีสติยั้งคิด และหาทางที่จะไปให้พ้นจากมัน

การจะพ้นทุกข์จึงจะต้องรู้ทุกข์เสียก่อน

การจะวางเหรียญบนด้านที่สาม

ที่เล็กและแคบ เป็นเรื่องยาก ต้องใช้ความพยายาม

ต้องใช้ความตั้งใจมากฉันใด

การจะเดินบนทางสายกลางก็ต้องใช้ความสามารถดุจเดียวกันฉันนั้น

บางทีการอยู่บนด้านที่สามที่สูงขึ้นกว่าสองด้านที่แบนราบ

อาจทำให้มองเห็นอะไรๆได้ชัดเจนขึ้น

มากกว่าที่เห็นและเป็นอยู่ก็ได้นะ

หรือคุณว่าไง...
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 19:25:54


ความคิดเห็นที่ 2132 (1574528)

Pic_204405

 

น้ำจากบึงบอระเพ็ดไหลเข้าท่วมรางรถไฟที่ จ.นครสวรรค์ 2 จุด ระหว่างสถานีปากน้ำโพ-บึงบอระเพ็ด และสถานีทับกฤษ-คลองปลากด สูง 10 ซม. ทำรถไฟล่าช้ากว่ากำหนด 1-3 ชั่วโมง เล็งปิดบริการ หากน้ำท่วมสูงเกิน 15 ซม. ...

วันที่ 25 ก.ย. ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รางรถไฟสายเหนือระหว่างสถานีรถไฟปากน้ำโพ-สถานีรถไฟบึงบอระเพ็ด และระหว่างสถานีทับกฤษ-คลองปลากด ถูกน้ำจากบึงบอระเพ็ดไหลเข้าท่วมรางสูง 10 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาว 300-500 เมตรทั้ง 2 จุด ส่งผลให้ขบวนรถไฟทั้งรถโดยสารและรถขนส่งสินค้าทุกขบวน ต้องใช้ความเร็วต่ำได้เพียง 5 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น จึงส่งผลให้การเดินทางล่าช้าไปกว่ากำหนดอย่างน้อย 1–3 ชั่วโมง

นายประสิทธ์ สุขกลาง หัวหน้าสถานีรถไฟนครสวรรค์ กล่าวว่า น้ำจากบึงบอระเพ็ดได้ไหลเข้าท่วมทางรถไฟสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสูงถึง 10 เซนติเมตรแล้ว โดยจุดน้ำท่วมรางจะมีอยู่ 2 จุด ซึ่งเป็นระหว่างสถานีรถไฟปากน้ำโพ-สถานีรถไฟบึงบอระเพ็ด และระหว่างสถานีทับกฤษ-คลองปลากด เป็นระยะทางยาว 300-500 เมตร ทำให้รถไฟใช้ความเร็วได้เพียง 5 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งคาดว่าน้ำอาจจะท่วมรางรถไฟสูงถึง 15 เซนติเมตรอย่างแน่นอน ทางการรถไฟจึงปรับทางหนุนรางหนีน้ำและลงหินใหม่ให้สูงขึ้น หากน้ำท่วมยังคงเกิน 15 เซนติเมตร ก็จะปิดการเดินรถไฟทันที เนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก ในส่วนของผู้โดยสารช่วงนี้ก็ได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน แต่ส่วนใหญ่ก็ยอมรับได้อยู่.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 21:14:43


ความคิดเห็นที่ 2133 (1574544)

 

ขอลงข่าวคลายเครียดค่ะ

"เจ้าบู" น้องหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน วัย 5 ขวบตัวนี้มีแฟนคลับจากทั่วทุกมุมโลกเกือบ 2 ล้านคน

 เดลิเมล์ - "เจ้าบู" น้องหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน วัย 5 ขวบตัวนี้มีแฟนคลับจากทั่วทุกมุมโลกเกือบ 2 ล้านคน ทั้งที่ไม่ใช่ดารา นักแสดง หรือนักร้องเพลงป๊อบ แต่เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ผู้ชนะหัวใจของผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะสาวๆ บนเว็บไซต์สังคมออนไลน์ยอดนิยม "เฟซบุ๊ก" นับตั้งแต่มีการตั้งแฟนเพจเมื่อปี 2009 เป็นต้นมา
       
       สาวผู้เป็นเจ้าของบูน้องหมาผู้น่ารักตัวนี้นั้นไม่ได้เปิดเผยตัวตน หรือที่อยู่ โดยบอกเพียงแต่ว่าอยู่ในสหรัฐฯ และใช้นามแฝงว่า เจ.เอช.ลี เธอเผยว่าร่วมตั้งแฟนเพจเจ้าบูให้หมู่เพื่อน เพราะพวกเขาชอบดูรูปเจ้าบูในโพสต่างๆ
       
       สำหรับรูปลักษณ์ที่แตกต่างๆ ไปจากปอมเมอเรเนียนตัวอื่นๆ ที่ขนฟูยาวนั้นเกิดจากอุบัติเหตุ เมื่อขนของเจ้าบูเป็นสังกะตังจนต้องตัดทิ้ง เพราะช่างตัดขนสุนัขบอกว่าไม่สามารถสางมันออกได้ แต่นั่นก็ทำให้ลีได้พบกับความน่ารัก ที่แปลกใหม่ในรูปแบบของเจ้าบู
       
       ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าบูยังมีโฟโต้บุคเป็นของตัวเองวางขาย โดยเป็นการรวบรวมภาพกิจวัตรประจำวัน ตั้งแต่ตื่น กิน เล่น ท่องเที่ยว สำรวจโลกกว้าง และนอน ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นหนังสือขายดีทีเดียว

 
       

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-25 21:44:41


ความคิดเห็นที่ 2134 (1574565)
ปากน้ำโพ นครสวรรค์
น้ำยังท่วมหนัก



สถานการ์น้ำท่วมที่นครสวรรค์ ยังไม่ลด เมื่อวันนี้ 25 ก.ย.ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่ศูนย์นาวา เพิ่มขึ้นอีก 4 ซม.ระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่ศูนย์นที เพิ่มสูงขึ้น 5 ซม.แม่น้ำเจ้าพระยาที่หน้าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นอีก2 ซม. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,236 ลบม./วินาที เพิ่มขึ้นจากเดิม 36 ลบม.น้ำมีความสูง 26.62 เมตร/รทก. ระดับน้ำสูงกว่าสันพนังกั้นน้ำของเทศบาล 42 ซม. ซึ่งทางเทศบาลนครนครสวรรค์ใช้กระสอบทรายเทินพนังกั้นน้ำไว้เพื่อลดความแรงของกระแสน้ำและให้น้ำบางส่วนไหลเข้ามาอยู่ระหว่างพนังกั้นน้ำกับคันแนวหินคลุกที่ทำไว้สูงประมาณ4 เมตร เพื่อใช้ลดแรงดันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา

ส่วนการช่วยเหลือประชาชนทุกหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนต่างพยายามกันเต็มที่เพื่อนำข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรคและน้ำดื่มออกแจกจ่ายผู้ประสบภัย โดย พล.ต.ต.ชฎิลพรหมไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์แบ่งข้าวสารอาหารแห้งที่รับบริจาคมาให้กับ 6สภ.เพื่อนำไปแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบภัย ได้แก่ สภ.พยุหะคีรี สภ.โกรกพระสภ.บางม่วง สภ.หนองปลิง สภ.เมือง สภ.เก้าเลี้ยว

ส่วนเทศบาลนครนครสวรรค์ประกาศงดแจกกระสอบทราย เนื่องจากกระสอบทรายขาดตลาดที่จัดเตรียมไว้แจกจ่ายไปหมดแล้วและที่มีอยู่ต้องเตรียมไว้ป้องกันน้ำในจุดต่างๆของตัวตลาดปากน้ำโพและตัวเมืองนครสวรรค์ที่ อ.ชุมแสง พบตกน้ำตายอีก 1

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 25 กันยายนนี้ พ.ต.ท.วันชัย วัฒนพงษ์สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ชุมแสงได้รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพคนตายลอยน้ำขึ้นอืดอยู่กลางทุ่งนา หมู่ 1ต.ท่าไม้ อ.ชุมแสง จึงไปตรวจสอบ ทราบต่อมาว่าผู้ตกน้ำตายชื่อนางสาวพยงค์โสพิศ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 6 ต.ท่าไม้ อ.ชุมแสง

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่านางสาวพยงค์เดินทางออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 21กันยายนที่ผผ่านมาเพื่อไปรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมครัวเรือนละ5,000 บาท แล้วหายตัวไปเลย จนมาพบอีกครั้งก็กลายเป็นศพจมน้ำตายคาดว่าหลังจากที่รับเงินแล้วนางสาวพยงค์ได้ออกไปดูนาของตนเองที่ถูกน้ำท่วมและอาจเดินลุยน้ำพลาดตกลงไปในร่องน้ำจนจมน้ำตายดังกล่าว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 00:10:50


ความคิดเห็นที่ 2135 (1574566)
 
 
น้ำท่วมบางระกำยังวิกฤติ
ผู้ว่าฯเร่งช่วย


ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ลงเรือพระราชทานนำถุงยังชีพออกให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยที่ถูกตัดขาดในพื้นที่ อ.บางระกำ

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนางปิยธิดา เรืองจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด และคณะกรรมการเหล่ากาชาดได้ลำเลียงถุงยังชีพลงเรือพระราชทาน จำนวน 3 ลำ ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานมาประจำ ณ อำเภอบางระกำ เพื่อใช้ในสำหรับการช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่

และเรือมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก นำไปแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยในหมู่ที่ 15 ตำบลบางระกำ ซึ่งถูกน้ำท่วมตัดขาดจากภายนอก โดยหมู่บ้านดังกล่าว มีราษฎรอาศัยอยู่กว่า 200 ครัวเรือน

สำหรับบางพื้นที่ของตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ ถูกน้ำท่วมตัดขาดจากโลกภายนอกนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ซึ่งชาวบ้านต้องใช้เรือพายเป็นพาหนะในการสัญจรไปมาจนกว่าปริมาณน้ำจะลดลง คาดว่า จะท่วมยาวไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน


สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมของอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ปริมาณน้ำยังทรงตัวอยู่ พื้นที่หลายหมู่บ้านยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากถูกน้ำท่วมสูงจนรถยนต์หรือรถประเภทอื่นๆ ไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ
 
 


INN ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 25 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 19:07 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 00:13:16


ความคิดเห็นที่ 2136 (1574568)
 
อยุธยา-น้ำท่วมศาลากลางเก่า



น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลล้นเข้าท่วมศูนย์ราชการเ่ก่า และตลาดสดอำเภอบางปะอิน จมน้ำต้องปิดตาย ส่วนอำเภอบางบาล ยังอ่วม นายกเทศมนตรีบางบาล จัดแข่งเรือเพื่อให้ชาวบ้านคลายเครียดกลางน้ำหลาก

น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และ แม่น้ำป่าสัก ไหลบ่ามารวมกันที่หน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นน้ำก้อนใหญ่ไหลบ่าผ่านอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทะลักเข้าท่วมบริเวณศูนย์ราชการเก่าของอำเภอบางปะอิน ทำให้ห้องประชุมของตำรวจภูธรบางปะอิน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบางปะอินจมน้ำ

นอกจากนี้ยังไหลเข้าท่วมตลาดสดอำเภอบางปะอินต้องปิดตลาด ไม่มีชาวบ้านเข้าไปจับจ่ายซื้อของ ทั้งที่ทางสำนักงานเทศบาลตำบลปราสาททอง ได้สร้างสะพานเชื่อมรอบตลาดก็ตาม และขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่อำเภอบางบาล ซึ่งถูกน้ำท่วมมานานหลายเดือน พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านยังสุงขึ้นอีก นายชูเกียรติ บุญมี นายเทศมนตรีบางบาล ได้จัดการแข่งขันเรือพายพื้นบ้านหลายประเภท เพื่อให้ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมนำเรือออกมาพายแข่งขันล่ารางวัล ที่ บริเวณบ่อปลาพระราชทาน หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลบางบาล พบว่าได้รับความสนใจจากชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมและไม่ถูกน้ำท่วม เดินทางมาร่วมชม และเชียร์เรือที่เข้าแข่งขันกันเป็นที่สนุกสนาน คลายเครียดไปได้บ้างหลังถูกน้ำท่วมมานานนับเดือน



ครอบครัวข่าว 3 วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 00:14:53


ความคิดเห็นที่ 2137 (1574570)
 
จับตาสถานการณ์น้ำ หลังอุตุคาดฝนหนัก 25-27ก.ย.

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวม ว่า ไม่ควรประมาทต่อสถานการณ์น้ำท่วมเนื่องจากแม้ขณะนี้จะอยู่ในช่วงน้ำทะเลลง แต่จากพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่รายงานว่า ระหว่างช่วงวันที่ 25-27 ก.ย.54 ร่องมรสุมจะยังคงพาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย

ซึ่งจะทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่รวมถึงอาจจะมีผลต่อเนื่องไปตลอดเดือนตุลาคม 2554 จึงต้องติดตามสถานการณ์เพื่อเฝ้าระวังและวางแผนบริหารจัดการน้ำได้อย่างทันท่วงที


ส่วนการจ่ายเงินชดเชยพื้นที่การเกษตรเสียหายนั้น กระทรวงเกษตรฯโดยกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เสนอของบประมาณไปที่สำนักงบประมาณ ในวงเงิน 1,500 ล้านบาท และได้เร่งสำรวจความเสียหายโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้าช่วยทำให้ขณะนี้การจ่ายเงินโดยผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น



เนชั่นทันข่าว 25 กย. 2554 10:33 น.

---------------------------------------------

 

 
 
ผู้ว่าฯศรีสะเกษสั่งเฝ้าระวัง “น้ำมูล” ท่วมฉับพลัน-พร้อมอพยพ 3 อำเภอชายแดนเสี่ยง

        ศรีสะเกษ - ลุ่มน้ำสำคัญ ทั้ง แม่มูล-อ่างเก็บน้ำศรีสะเกษทุกแห่ง เต็มปริ่มล้นตลิ่ง ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ สั่งเฝ้าระวังทะลักท่วมฉับพลันพร้อมเสริมคันดินรับมือ ล่าสุด ท่วมพื้นที่เกษตรใน 11 อำเภอ 51 ตำบล 243 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบ 22,951 ครัวเรือน ส่วน 3 อำเภอชายแดนไทย-เขมร พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำป่าและดินโคลนถล่ม เตรียมพร้อมอพยพชาวบ้านตลอดเวลา
       
       วันนี้ (25 ก.ย.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมของ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นมี 11 อำเภอ 243 หมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยส่วนใหญ่กระทบพื้นที่ทางการเกษตรในที่ลุ่มเป็นแอ่งรองรับน้ำ แต่ยังไม่กระทบบ้านเรือนราษฎร ซึ่งปัจจุบันถือว่ายังอยู่ในขั้นไม่รุนแรง หากไม่มีปริมาณน้ำเหนือหรือร่องความกดอากาศต่ำหรือลมมรสุมมาเพิ่มเติม ที่อาจจะทำให้ระบายน้ำออกได้ทัน
       
       อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อ่างเก็บน้ำทุกแห่งของ จ.ศรีสะเกษ มีปริมาณน้ำเต็มความจุหมดแล้ว และลุ่มน้ำสำคัญๆ เช่น แม่น้ำมูล ปริ่มล้นตลิ่ง หมายถึงต้องอยู่ในขั้นเฝ้าระวังตลอดเวลา หากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทุกวัน อ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่ต้องทยอยพร่องน้ำ และสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มวลน้ำเหนือที่จะเคลื่อนตัวมาจาก จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ไหลผ่าน จ.ศรีสะเกษ ไปยัง จ.อุบลราชธานี และ ไหลลงแม่น้ำโขง ซึ่งขณะนี้ได้มีการเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันโดยเสริมคันดินตามริมแม่น้ำมูล เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้น้ำไหลเข้าพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย เนื่องจาก จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานีเป็นช่วงปลายน้ำ
       

      ทางด้าน นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีร่องความกดอากาศต่ำเกิดฝนตกมาอย่างต่อเนื่องพื้นที่ประสบอุทกภัยจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้ มี 11 อำเภอ 51 ตำบล 243 หมู่บ้าน มีผู้ที่ได้รับความเดือนร้อน หรือได้รับผลกระทบ จำนวน 22,951 ครัวเรือน เพิ่มขึ้นจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีเพียง 11 อำเภอ 15 ตำบล 85 หมู่บ้าน 2,613 ครัวเรือน 13,065 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยส่วนใหญ่เป็นการท่วมพื้นที่ทำการเกษตร ส่วนถนนเสียหายเป็นบางเส้นทาง หนักสุดมี 3 เส้นทาง
       
       อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วม จ.ศรีสะเกษ ปีนี้ มีโอกาสรุนแรงมากกว่านี้ เนื่องจาก จ.ศรีสะเกษ จากสถิติเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา จะเริ่มเดือน ก.ย.-ต.ค.และท่วมสูงสุดประมาณกลางเดือน ต.ค.แล้วจะค่อยๆ ลดลง
       

       สำหรับพื้นที่ตามที่ราบเชิงเขา โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำป่าไหลหลากและพื้นที่ดินโคลนถล่ม เช่น อ.กันทรลักษ์, ขุนหาญ และ ภูสิงห์ นั้น หากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นพร้อมอพยพชาวบ้านได้ทันที โดยได้มีการซ้อมแผนอพยพในหมู่บ้านแล้ว พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุกแห่ง ซึ่งในระดับ จ.ศรีสะเกษ ได้เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักร ที่จำเป็นในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมให้การสนับสนุนพื้นที่ที่เกิดเหตุได้ทันที



ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2554 13:31 น

------------------------------------------------------

ร้อยเอ็ด-น้ำท่วมฉับพลันบ้านดินดำ อ.จังหาร



 


 


น้ำชีทลายแนวกระสอบทรายป้องกันหมู่บ้านทะลักท่วมเข้าท่วมบ้านดินดำ อำเภอจังหาร โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็ก วัด และนาข้าวจมน้ำเดือดร้อนหนัก


เวลา 15.00 น. วันนี้ น้ำชีก้อนใหญ่จากจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ไหลทะลักถึงพื้นที่อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด แล้ว หนักสุดที่บ้านดินดำ หมู่ 9 ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวล้นตลิ่งบ่าเข้าทำลายแนวกระสอบทรายที่นักเรียน และชาวบ้านระดมกำลังกันทำป้องกันไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำจำนวนมหึมาไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน จำนวน 129 หลัง ท่วมโรงเรียนดินดำบัวรองวิทยา

ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 80-100 ซ.ม.ชาวบ้านต้องพากันขนของหนีน้ำอาศัยที่สูงบนพนังกั้นน้ำ หนักสุดศูนย์พัฒนาเด็กบ้านดินดำ และวัดบ้านดินดำ น้ำท่วมสูง 1-1.50 เมตร ต้องปิดศูนย์ฯ พระต้องจำวัดบนกุฎิ บิณฑบาตรต้องลุยน้ำและพายเรือ ส่วนทายกทายิกาสงสารนั่งเรือถวายภัตตาหารถึงกุฎิ


นายวิรัตน์ แวดอุดม นักการภารโรงโรงเรียนดินดำบัวรองวิทยา เปิดเผยว่า น้ำชีที่ไหลเชี่ยวล้นตลิ่งไหลบ่าทลายแนวกระสอบทรายป้องกันลำน้ำชีเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างรวดเร็วในช่วงบ่าย แม้ชาวบ้านระดมกำลังต้านแต่สู้ไม่ไหวเลยต้องปล่อย มีน้ำท่วมบ้านเรือนหมดทั้ง 129 หลังคาเรือน โดยเฉพาะโรงเรียนดินดำบัวรองวิทยาเวลาแค่ 30 นาที ท่วมหมดทั้งโรงเรียน


นาข้าวที่กำลังสุกเก็บเกี่ยวไม่ทันจมน้ำเสียหายสิ้นเชิงประมาณ 700 ไร่ ได้อพยพสิ่งของ ยานพาหนะ และชาวบ้านขึ้นที่สูงบนพนังกั้นน้ำ ขณะนี้น้ำเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1 เมตร เป็น 1.50 เมตรแล้ว และนับวันสูงขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าน้ำจะท่วมประมาณ 1-2 เดือน เนื่องจากน้ำชีจากจังหวัดมหาสารคามเพิ่งมาถึงบ้านดินดำ เตือนหมู่บ้านต่อไปจากบ้านดินดำเตรียมรับมือน้ำท่วมแน่ใน 1-2 วันนี้


ด้านนาง ยุพิน รู้ยืนยง อายุ 58 ปี บ่นอุบปลูกข้าว 16 ไร่ ลงทุน 40,000 บาท จมน้ำเก็บเกี่ยวไม่ทันเสียหายสิ้นเชิงสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 00:18:15


ความคิดเห็นที่ 2138 (1574572)
น้ำท่วมนาข้าวสุพรรณบุรีเป็นทะเลสาบ

 

 

สถานการณ์น้ำในเขตเทศบาลเมือง จ.สุพรรณบุรี เริ่มกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือในพื้นที่เกษตรรอบนอกที่นายังเป็นทะเลสาบอยู่


สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุพรรณบุรี ขณะนี้เริ่มคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ อาทิ ในเขตเทศบาลเมือง ช่วงตลาดสดที่ตั้งอยู่ใน อ.เมือง ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ 1 - 2 สัปดาห์ มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนเอ่อสูงขึ้น และไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมือง

โดยเฉพาะในตลาดสด ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม ไม่ให้ไหลเข้าท่วมร้านค้าและบ้านเรือน ทางเทศบาล มีการระดมเครื่องสูบน้ำมาทำการสูบระบายออกจากพื้นที่ จนขณะนี้ สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่กระสอบทรายที่วางไว้เป็นแนวกั้นยังคงอยู่

ในขณะที่พื้นที่รอบนอกเขต อ.เมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนประชาชน ที่ส่วนมากประกอบอาชีพทำนานั้น จะสังเกตได้ว่า ระดับน้ำยังคงท่วมพื้นที่นาข้าวอย่าง เช่น ถนนเส้นเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี นาข้าวของเกษตรกรที่ขณะนี้มีลักษณะเหมือนคูคลองและทะเลสาบ เนื่องจากปริมาณน้ำยังคงท่วมขังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง



------------------------------

 

กาฬสินธุ์วิกฤติ สถาบันอาชีวะเร่งช่วยเหลือ


น้ำท่วมกาฬสินธุ์ วิกฤติหนัก 8 อำเภอ บ้านเรือนกว่า 1,500 หลัง จมบาดาลสูง 2 เมตร สถาบันอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วยเหลือน้ำท่วม

ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาธิการ ดร.วิบูลย์ แช่มชื่น ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายสมใจ เชาว์พานิช ประธานกรรมการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันปล่อยคาราวาน "กระทรวงศึกษาธิการร่วมใจช่วยภัยน้ำท่วม" จังหวัดกาฬสินธุ์


โดยโครงการนี้ ได้รับความร่วมมือจาก คณะครูอาจารย์ทุกสาขาวิชาชีพ ในสังกัดอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด 111 สถาบันการศึกษา ภายใต้รหัส คนพันธ์อา กว่า 2,000 คน จะเข้าไปช่วยกันซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน และสิ่งสาธารณูปโภค ภายในบ้านให้กับประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้ง 18 อำเภอ โดยจะนำรถโมบายเคลื่อนที่ พร้อมกับถุงยังชีพ น้ำดื่ม เข้าช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน ซึ่งในวันนี้ได้จัดถุงยังชีพเข้าช่วยเหลือจำนวน 5 พันชุด

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ความร่วมมือของคณะครูอาจารย์ ในสังกัดอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นการช่วยเหลือภายใต้แนวคิดจิตสาธารณะ ซึ่ง คนพันธ์อา เคยทำงานช่วยเหลือมาแล้วเมื่อครั้ง สึนามิ ซึ่งปัญหาน้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ทวีความรุนแรงมีบ้านเรือนประชาชนอย่างน้อย 500 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูง 2 เมตร ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งคนพันธุ์อา จะทำหน้าที่ช่วยเหลือฟื้นฟูตามกำลังของนักเรียน



INN ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 25 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 15:26 น.

---------------------------------------------------

ผู้ว่าฯลพบุรี สั่งเตรียมรับมือน้ำท่วม


ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี สั่งเตรียมพร้อมรับน้ำท่วม คาดอีก 2-3 วัน จมบาดาลแน่ หากหยุดมวลน้ำประตูบางโฉมศรี ไม่ได้ ทหารเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้บอกกับชาวบ้านในทุกพื้นที่ให้เตรียมความพร้อม ในการอพยพตลอดเวลา เพราะทางจังหวัดลพบุรี ไม่มีอำนาจที่จะเข้าไปทำอะไรได้ เนื่องจากประตูน้ำบางโฉมศรี อยู่ในเขตจังหวัดสิงห์บุรี จึงไม่สามารถเข้าไปซ้อมหรือแก้ไขประตูน้ำบางโฉมศรี ได้ พร้อมกับได้เตรียมสั่งให้ให้เจ้าหน้าที่ตั้งคันดิน เตรียมรอมตัวอำเภอบ้านหมี่ และตลาดเทศบาลเมืองบ้านหมี่ เพราะน้ำน่าจะถึงและท่วมตัวอำเภอบ้านหมี่ ในอีกไม่กี่วันนี้อย่างแน่นอน

ด้าน นางอำภาภร ชาวบ้านในตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ ได้ขอวอนทางส่วนราชการที่มีอำนาจ ช่วยสั่งให้ทางชลประทาน ช่วยชะลอน้ำหรือแก้ไขประตูน้ำบางโฉมศรี เพื่อลดจำนวนน้ำที่จะลงมาในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ และจังหวัดลพบุรีด้วย เนื่องจากขณะนี้พื้นที่นาจำนวน 1,600,000 ไร่ ก็กำลังจะจมน้ำหมด หากน้ำยังมาบ้านก็อยู่ไม่ได้ ถนนที่ใช้เป็นที่พักชั่วคราว ก็กำลังจะถูกน้ำท่วมแล้ว จะให้ชาวบ้านไปอยู่ที่ไหน ข้าวก็เสีย บ้านก็ไม่มีอยู่จึงขอวอนให้ช่วยด้วยก่อนที่ชาวบ้านที่นี้จะตายกันหมด

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด ยังได้ส่งกำลังทหารจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ต้องใช้เรือท้องแบบขนาดใหญ่ ทยอยข้นย้ายฝูงวัว กว่า 30 ตัว ของชาวบ้าย ฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากไปไว้ในที่ปลอดภัย หลังติดเกาะอยู่นานกว่า 4 วัน


 

----------------------------------------------------------

 

ฝนถล่มหนัก-แผ่นดินไหวซ้ำ” ทำเจดีย์พระธาตุดอยกองมูทรุดเอียง


        แม่ฮ่องสอน - องค์เจดีย์วัดพระธาตุดอยกองมู สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน อายุร่วม 140 ปี ทรุดเอียงระนาว หลังฝนถล่มแม่ฮ่องสอนหนักต่อเนื่อง แถมแผ่นดินไหวซ้ำหลายครั้ง 
       
       พระครูสังฆรักษ์ทองสุข ศรัทธาธิโก รองเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู กล่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้เจดีย์องค์เล็ก ที่มีอายุประมาณ 140 ปี สร้างเมื่อ พ.ศ.2417 โดย “พระยาสิงหนาทราชา” เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรกภายในบรรจุพระโมคคัลลา เป็นที่นิยมสักการะของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ที่ตั้งอยู่เคียงข้างองค์ใหญ่ ได้ทรุดเอียงไปประมาณ 20% ส่วนเจดีย์ขนาดเล็ก ที่ตั้งเป็นแถวรั้วรอบเจดีย์องค์ใหญ่และองค์เล็กอีกทอดหนึ่ง ก็ทรุดเอียงไปประมาณ 40%
       
       สำหรับสาเหตุที่พระธาตุองค์เล็กเกิดการทรุดเอียงคือ 1. การก่อสร้างองค์เจดีย์สมัยก่อนไม่มีฐานรองรับ 2.เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือนกรกฏาคม และต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา และ 3.เกิดจากผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศพม่า รวมถึงกรณีแผ่นไหวที่เกิดขึ้นที่ตำบลผาบ่อง อ.เมือง แม่ฮ่องสอน
       
      ขณะนี้คณะกรรมการวัดฯ และเจ้าหน้าที่โบราญสถานอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้เข้ามาสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลรายงานให้เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอนทราบ เพือดำเนินการบูรณะซ่อมแซมแล้ว
       
       สำหรับองค์พระธาตุ ที่เกิดการทรุดเอียงครั้งนี้ เป็นองค์พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนยอดดอยสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,500 ฟุต พระธาตุเจดีย์มีอยู่ 2 องค์ตั้งอยู่เคียงคู่กัน โดยเจดีย์องค์ใหญ่ตั้งตรง ส่วนองค์พระธาตุองค์เล็กพบว่าทรุดเอียงไปด้านขวาประมาณ 20% สามารถเห็นด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน
       
       นอกจากนี้ ยังพบว่า บริเวณรอบเจดีย์ทั้งสององค์พระธาตุเกิดดินสไลด์ ทำให้เจดีย์ขนาดเล็กที่ตั้งเป็นรั้วล้อมรอบเจดีย์องค์ใหญ่ทั้งสองเกิดทรุดตัวเอียงไปประมาณ 40% เป็นแถวยาว



ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2554 17:45 น.

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 00:21:19


ความคิดเห็นที่ 2139 (1574595)

ขอบคุณทุกๆข่าวคราวความเคลื่อนไหว

และ บทความดีๆจากคุณ อาริยา ด้วยนะคะ

แต่อ่าน กระทู้ 2122 แล้วก็ น่ากลัว จัง

ไม่รู้ว่า รังสีเอ๊กซ์ที่ว่านี้

นอกจากจะส่งผลทางด้านจิตใจแล้ว

จะส่งผลอย่างไรกับร่า่งกายบ้างนะคะ..เนี่ย..

 

แล้วก็ไม่รู้จะทำให้เกิดภัยพิบัติระดับบิ๊กๆให้สะเทือนใจ

รึเปล่า..หนอ


โอ้วว...ผู้นำระดับโลกส่วนใหญ่

เล่นพร้อมใจกันหลบภัยยาว..ขนาดนี้

ก็น่าคิดเหมือนกันนะเนี่ย..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 06:07:57


ความคิดเห็นที่ 2140 (1574778)

26/09 สธ.เตือนผู้ประสบภัย ระวังอย่าให้น้ำเข้าตา หวั่นเกิดการระบาดของโรคตาแดง



นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยห้ามนำน้ำที่ท่วมขังมาใช้ในการอุปโภคบริโภคเด็ดขาด หากไม่ผ่านกระบวนการกรองน้ำด้วยสารส้มและต้มให้สุกก่อน เนื่องจากคุณภาพน้ำที่ท่วมขณะนี้หลายพื้นที่สกปรกมากเนื่องจากก่อนหน้านี้ประชาชนมักถ่ายของเสียกับกระแสน้ำโดยไม่มีการจัดเก็บให้ดี ซึ่งขณะนี้เกรงว่าอาจจะมีการระบาดของโรคตาแดงได้ง่ายขึ้น เพราะเชื้อโรคจะติดมากับนิ้วมือที่สัมผัสน้ำ เมื่อเข้าสู่ตาโดยการขยี้ ก็จะเกิดโรคทันที
 

จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 21 กันยายน ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคตาแดงแล้ว 1,746 คน โดย 3 จังหวัดแรกที่พบผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ มหาสารคาม สำหรับการป้องกันโรคตาแดง คือกรณีน้ำที่ท่วมขังกระเด็นเข้าตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด และไม่ควรใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยตาแดง เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว และให้ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดบ่อยๆ ซึ่งจะสามารถลดการติดเชื้อได้ หากมีอาการเจ็บตา ตาแดง มีขี้ตามาก ควรรีบไปพบแพทย์ที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หรือสถานีอนามัยที่อยู่ใกล้ทันที ไม่ควรซื้อยามาหยอดตารักษาเอง เนื่องจากอาจไม่ได้ผลและอาจทำให้การอักเสบรุนแรง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:10:12


ความคิดเห็นที่ 2141 (1574779)

น้ำท่วมทำถนนพังยับกว่า 7.2 พันล้าน



พิษน้ำท่วมระห่ำหนัก ทำถนนทางหลวง-ทางหลวงชนบทเสียหายกว่า 959 สายทาง เสียหายยับรวมกว่า 7.2 พันล้านบาท ด้าน ทล.-ทช. เปิดสายด่วน 1586 และ 1146 ให้บริการประชาชน พร้อมนำรถ 6 ล้อ 10 ล้อให้บริการขนของฟรี

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากปัญหาอุทกภัยระหว่างวันที่ 30 ก.ค.- 26 ก.ย.2554 พบว่ามีถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของถนนทางหลวงที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยใน 17 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 417 สายทาง โดยเป็นถนนที่ประชาชนยังสามารถสัญจรผ่านไปได้จำนวน 385 สายทาง และเป็นถนนที่ประชาชนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 32 สายทาง ซึ่งความเสียหายทั้งหมดนี้ กรมทางหลวงได้มีการประเมินว่าเสียหายรวมกว่า 3,100.457 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้แขวงการทางทั่วประเทศเข้าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนและต้องการให้กรมทางหลวงช่วยขนสิ่งของเพื่อหนีน้ำท่วม ก็สามารถประสานกับแขวงการทางในทุกพื้นที่ได้เลย

ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) เปิดเผยว่า ส่วนถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยระหว่างวันที่ 28 ก.ค.- 26 ก.ย.นี้ พบว่ามีถนนทางหลวงชนบทที่ได้รับความเสียหายรวมกว่า 478 สายทาง จากทั้งหมด 57 จังหวัด โดยเป็นถนนทางหลวงชนบทที่การจราจรผ่านได้ 469 สายทาง ผ่านไม่ได้ 73 สายทาง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 4,170 ล้านบาท

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ทางกรมทางหลวงชนบทได้สั่งการให้สำนักทางหลวงชนบททั่วประเทศให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในภูมิภาคที่ได้รับความเดือดร้อนตลอดเวลา โดยพื้นที่ไหนหากประชาชนต้องการให้ทางหลวงชนบทช่วยขนสิ่งของจากน้ำท่วม สามารถโทรสายด่วนมาที่ 1146 โดยทางหลวงชนบทจะส่งรถ 10 ล้อ รถ 6 ล้อ ไปบริการทันที นอกจากนั้นในบางพื้นที่ทางหลวงชนบทยังได้ส่งเจ้าหน้าที่นำน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่าย และหากพื้นที่ใดน้ำลด ทางหลวงชนบทก็จะเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมแซมและปรับปรุงให้ถนนทางหลวงชนบทสามารถใช้งานได้ตามปกติเร็วที่สุด


ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
26 กันยายน 2554, 20:15 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:11:28


ความคิดเห็นที่ 2142 (1574780)

ประกาศเตือนภัย
"พายุหมุนเขตร้อน “ไห่ถาง”"
ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 26 กันยายน 2554

เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (26 ก.ย. 54) พายุโซนร้อน “ไห่ถาง” (Haitang) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองดานัง ประเทศเวียดนามในคืนนี้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นลำดับ และจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันที่ 27 กันยายน 2554 ลักษณะเช่นนี้ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและ อ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นทำให้บริเวณด้านตะวันออกและตอนล่างของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีลมแรง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่ม และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
วันที่ 27-28 กันยายน 2554 ในบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27- 29 กันยายน 2554

ประกาศ ณ วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 22.30 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:12:46


ความคิดเห็นที่ 2143 (1574781)
 
เกิดน้ำท่วมฉับพลันทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้ประชาชนกว่า 30,000 ครัวเรือนต้องไร้ที่อยู่อาศัย

เกิดน้ำท่วมฉับพลันในจังหวัดมากินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้ประชาชน 34,491 ครัวเรือนต้องไร้ที่อยู่อาศัยและมีรายงานเด็กชาย วัย 13 ปี จมน้ำเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระดับสูงกล่าวว่า ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยขณะนี้ไม่เพียงพอที่จะรองรับผู้ประสบภัยได้ทั้งหมด โดยมีบางส่วนต้องตั้งเต็นท์เองริมถนนหลวงซึ่งเป็นพื้นที่แห่งเดียวที่น้ำไม่ท่วม และระดับน้ำในหลายเมืองของจังหวัดมากินดาเนายังคงเพิ่มสูงขึ้น เมือง 16 แห่งที่ตั้งอยู่ในที่ลุ่มต่ำจมอยู่ใต้กระแสน้ำ

รายงานระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวนอกจากเผชิญกับฝนตกหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาแล้ว ยังเกิดปัญหาผักตบชวาปิดขวางทางไหลของน้ำในแม่น้ำและทะเลสาบ ทำให้น้ำล้นตลิ่ง ทางการท้องถิ่นได้ขอความร่วมมือไปยังกรมโยธาธิการและทางหลวงให้เร่งดำเนินการกำจัดผักตบชวาเหล่านี้.



สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ 24 กันยายน 2554

-----------------------------------------

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:17:58


ความคิดเห็นที่ 2144 (1574782)
 
โรคมือเท้าปากระบาดเวียดนามตายแล้ว 106 คน

โรคมือเท้าปาก ระบาดหนักทั่วเวียดนาม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 106 ราย และ ติดเชื้ออีกกว่า 52,000 คน

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม เปิดเผยว่า โรคมือเท้าปาก (HFMD) ซึ่งเกิดจากเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 (EV71) ยังคงระบาดอยู่ในเมือง และจังหวัดต่าง ๆ ของเวียดนาม 61 แห่ง จาก 63 แห่ง ส่งผลให้ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ 52,320 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๆ ถึง 5 เท่า โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และมีผู้เสียชีวิต 106 คน

โดยอาการที่พบเห็นได้บ่อยในผู้ป่วยโรคนี้คือ มีไข้ เจ็บคอ มีตุ่มพองตามฝ่ามือและส้นเท้า ในบางกรณีอาจอยู่เหนือความควบคุมของแพทย์ เนื่องจากโรคนี้จะลุกลามอย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ภายในระยะเวลา 24-72 ชั่วโมง นับตั้งแต่เริ่มแสดงอาการครั้งแรก


ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ระบุว่า โรคมือเท้าปาก จะทวีความซับซ้อนยิ่งขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจาก ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน หรือ ยาสำหรับรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อผ่านทางระบบย่อยอาหาร หรือ จากการสัมผัสโดยตรง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อัตราการติดเชื้อมีสูงมาก

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม กำลังร่วมมือกับ องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ (USCDC) เพื่อควบคุมโรคดังกล่าว



INN ข่าวต่างประเทศ วันเสาร์ที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 07:38 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:18:28


ความคิดเห็นที่ 2145 (1574784)
พายุโซนร้อนลูกที่ 20 จ่อถล่มฟิลิปปินส์


เตือนภัย พายุโซนร้อน ลูกที่ 20 จ่อถล่มตอนเหนือของฟิลิปปินส์ 27 กันยายน นี้

ศูนย์เตือนภัย กองทัพเรือและกองทัพอากาศสหรัฐฯ ประกาศเตือน พายุโซนร้อน ลูกที่ 20 คาดการณ์ว่า จะเคลื่อนตัวพัดถล่มทางตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ และจะทวีกำลังลมเป็นพายุไต้ฝุ่น ในวันที่ 27 กันยายนนี้ โดยคาดว่า จะมีกำลังถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจจะทวีความแรงลมเพิ่มขึ้น เมื่อพัดขึ้นฝั่ง

ซึ่งอิทธิพลของพายุโซนร้อนดังกล่าว อาจส่งผลให้ เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม สัญญาณโทรศัพท์ขัดข้อง บ้านเรือนที่มีโครงสร้างขนาดเล็กได้รับความเสียหาย ต้นไม้หักโค่นและดินถล่ม พร้อมแนะนำให้มีการอพยพประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งไปอยู่ในพื้นที่ ที่ปลอดภัย



INN ข่าวต่างประเทศ วันเสาร์ที่ 24 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 07:39 น.
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:19:14


ความคิดเห็นที่ 2146 (1574786)
 
พายุไห่ถางมุ่งหน้าขึ้นฝั่งภาคกลางเวียดนาม

       เตื่อยแจ๋ - เมื่อเวลาประมาณ 01.30 นาฬิกาของวันที่ 25 ก.ย.พายุดีเปรสชันเขตร้อน ในทะเลตะวันออก ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 4 หรือ พายุโซนร้อนไห่ถาง (Hai Tang) อยู่ห่างจากชายฝั่ง จ.กว๋างจิ และ จ.กว๋างหงาย ในภาคกลางของเวียดนาม ราว 430 กม.
       
      ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่า ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางวัดได้ 62-74 กม.ต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรงสูงสุดที่ 75-88 กม.ต่อชั่วโมง คาดว่า พายุจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 10 กม.ต่อชั่วโมง ในอีก 24 ชม.ข้างหน้า
       
       ในเวลาประมาณ 1.00 นาฬิกา ของวันที่ 26 ก.ย.ศูนย์กลางพายุจะอยู่ห่างไปทางตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือราว 200 กม.จาก จ.กว๋างบิ่งห์ และ จ.กว๋างนาม ด้วยความเร็วลมสูงสุดที่ 75-88 กม.ต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรงสูงสุดที่ 89-102 กม.ต่อชั่วโมง
       
       นอกจากนั้น กระแสลมแรงจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะพัดปกคลุมเหนือพื้นที่ทางตอนใต้ของทะเลตะวันออก รวมทั้งทะเลบริเวณหมู่เกาะเจื่องซา (สแปร็ตลีย์) ชายฝั่งภาคกลางของเวียดนาม ระหว่าง จ.บิ่งทวน ไปถึง จ.ก่าเมา และอ่าวไทย คาดว่า จะมีกระแสลมแรงประมาณ 75-88 กม.ต่อชั่วโมง รวมทั้งพายุฝนและคลื่นลมแรง
       
       ส่วนชายฝั่งตั้งแต่ จ.ห่าติ๋งห์ ไปจนถึง จ.กว๋างนาม จะมีกระแสลมแรงตั้งแต่ 39-49 กม.ต่อชั่วโมง ไปจนถึง 103-117 กม.ต่อชั่วโมง ในวันที่ 26 ก.ย.นี้
       คณะกรรมการป้องกันและควบคุมน้ำท่วมใน จ.กว๋างหงาย มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในทุกระดับเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันรับมือกับพายุที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันเคลื่อนย้ายเรือประมงออกจากบริเวณอันตรายโดยเร็วที่สุด

       
       เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีเรือประมงประมาณ 204 ลำ และชาวประมงประมาณ 3,249 คน กำลังหาปลาอยู่นอกชายฝั่ง จ.กว๋างหงาย



ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2554 20:07 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:20:09


ความคิดเห็นที่ 2147 (1574787)
สถานการณ์น้ำท่วมในอินเดีย มียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 60 คน



ภุพเนศวร 26 ก.ย.- เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐโอริสสาของอินเดียกล่าวว่า มีประชาชนเสียชีวิต 60 คน และอีก 4 ล้านคนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในภาคตะวันออกของประเทศ

รัฐมนตรีกระทรวงการบริหารจัดการภัยพิบัติอินเดียกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม 2 ระลอกภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ อุทกภัยนับแต่เมื่อต้นเดือนนี้ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 60 คน พื้นที่ชายฝั่งกำลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยในรัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือ มีประชาชนเสียชีวิตไป 28 คน เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในรัฐโอริสสากล่าวว่า ประชาชนราว 150,000 คนในพื้นที่ราบต่ำต้องอพยพเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และมีการส่งเฮลิคอปเตอร์ 5 ลำนำอาหารไปหย่อนในพื้นที่ประสบภัย และคาดว่าจะมีอีก 2 ลำเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าวเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการเปิดศูนย์บรรเทาทุกข์อีก 260 แห่ง ช่วยในการจัดหาอาหารและสิ่งบรรเทาทุกข์อื่น ๆ.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:21:01


ความคิดเห็นที่ 2148 (1574789)
ฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนกว่าแสนหนีภัย
ไต้ฝุ่นเนสาด



ฟิลิปปินส์ 26 ก.ย.-ทางการฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนกว่า 100,000 คน ที่อยู่แถบชายฝั่งตะวันออกของประเทศ หนีภัยพายุไต้ฝุ่นเนสาด

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า พายุไต้ฝุ่นเนสาดจะเคลื่อนเข้าถล่มพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเกาะลูซอนในเช้าวันพรุ่งนี้ ด้วยความเร็วลมใกล้จุดศูนย์กลาง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความแรงลมสูงสุด 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง และจะยิ่งมีกำลังแรงขึ้นก่อนขึ้นฝั่ง อิทธิพลของพายุจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และสตอร์ม เซิร์จ ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้งที่กรุงมะนิลา ซึ่งมีประชากรมากกว่า 48 ล้านคน

ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากกว่า 100,000 คน ใน 5 เมืองออกนอกพื้นที่ ขณะเดียวกัน วันนี้เที่ยวบินในประเทศจำนวนมากยังถูกยกเลิก ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนในกรุงมะนิลาชั่วคราวเพื่อเตรียมรับมือกับพายุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:22:33


ความคิดเห็นที่ 2149 (1574791)

.

ลาวท่วมสาหัส 4 ระลอก ตาย 30 อีก 430,000 คนเดือดร้อน


จากนายคำเมิง พงทะดี เจ้าแขวงเวียงจันทน์ต้อนรับนายทองสิง ทำมะวงกับคณะที่ไปสำรวจสภาพน้ำท่วมในแขวงเวียงจันทน์วันที่ 20 ก.ย.2554 นายกรัฐมนตรีของลาวยังนั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจอุทกภัยที่กินอาณาบริเวณกว้างในเขตที่ราบเมืองทุละคม เมืองเวียงคำ และเมืองโพนโฮง กับอาณาบริเวณรอบนอกของนครเวียงจันทน์ด้วย สื่อของทางการกล่าว.-- ภาพ: เวียงจันทน์ใหม่.


ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ปีนี้ลาวประสบอุทกภัยหนักหน่วงที่สุด พายุ 2 ลูก กับฝนที่ตกหนักติดต่อกันตลอด 3 เดือน ทำให้เกิดน้ำท่วมถึง 4 ระลอก เหนือจรดใต้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 30 คน อีก 429,954 คน ได้รับผลกระทบโดยตรง ในขณะที่รัฐบาลกำลังระดมความเหลือช่วยเหลือราษฎรในแขวงเวียงจันทน์ ซึ่งน้ำท่วมมาตั้งแต่สัปดาห์กลางเดือนนี้
       
อุทกภัยครอบคลุม 96 เมือง (อำเภอ) ใน 12 แขวง (จังหวัด) รวมราษฎรได้รับผลกระทบโดยตรง 1,790 ครัวเรือน พื้นที่ทำการผลิต 64,472 เฮกตาร์ (กว่า 4 แสนไร่) ถูกน้ำท่วม เส้นทางคมนาคมเสียหายรวม 323 สาย สะพานถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย 42 แห่ง
       
นอกจากนั้น ยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล ระบบไฟฟ้า น้ำประปา แหล่งท่องเที่ยว แหล่งพื้นฐานด้านอุตสาหกรรมและการค้า สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นกัน หนังสือพิมพ์ “กองทัพประชาชน” รายงานตัวเลขทั้งหมดนี้จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีประจำเดือน ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 22-23 ก.ย.ที่ผ่านมา ในนครเวียงจันทน์
       
รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงกับหน่วยงานต่างๆ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายให้คืนสู่สภาพปรกติโดยเร็วหนังสือพิมพ์ของกระทรวงป้องกันประเทศ กล่าว
       
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ระดมการช่วยเหลือให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยรวมเป็นเงินเกือบ 1,000 ล้านกีบ (กว่า 3.7 ล้านบาท) นอกจากนั้น ยังมีความช่วยเหลือจากภาคเอกชน สถานทูตบางประเทศ รวมทั้งองค์การระหว่างเทศและองค์การเพื่อการกุศลต่างๆ อีกจำนวนมาก
       
ฝนที่ตกหนักจากพายุไห่หม่าในปลายเดือน มิ.ย.ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรง น้ำป่าไหลหลาก ดินเลื่อนและดินถล่ม ใน 4 แขวงภาคกลางกับภาคเหนือ โชคดีที่ทีราษฎรอาศัยอยู่เบาบางในเขตที่เกิดภัยพิบัติ
       
เพียงข้ามสัปดาห์พายุนกเต็นได้พัดเข้าทำให้เกิดในตกและน้ำท่วมใหญ่อีกระลอก ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสาขาแม่น้ำโขงต่างๆ เอ่อขึ้นสูงตั้งแต่แขวง เชียงขวาง ไซยะบูลี เวียงจันทน์ และนครเวียงจันทน์ ขอลิคำไซ และ คำม่วน ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเพิ่มระดับขึ้นสูงในเวลาต่อมา ส่งผลกระทบรายทาง และเกิดน้ำท่วมสาหัสที่สุดในหลายเมืองของแขวงจำปาสักที่อยู่ตอนใต้สุดของแม่น้ำสายสำคัญนี้
       
ยังเกิดฝนตกต่อเนื่อง ติดต่อกันมาไม่หยุดและตกหนักติดต่อกันในช่วงวันที่ 17 ก.ย.ในแขวงเวียงจันทน์กับแขวงเชียงขวาง ซึ่งเป็นเขตป่าต้นน้ำ ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำสาขาสูงขึ้นไม่หยุด ปัจจุบันยังคงเกิดน้ำท่วมกินบริเวณกว้างในหลายเมืองของแขวงเวียงจันทน์ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.เป็นต้นมา สาหัสที่สุดในเขตเมืองทุละคม ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่
       
สัปดาห์ที่แล้ว นายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์สำรวจอาณาบริเวณน้ำท่วม และเยี่ยมเยือน แจกจ่ายส่งของบรรเทาทุกข์และมอบเงินเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยกว่า 1,300 หลังคาเรือน หนังสือพิมพ์ของทางการนครเวียงจันทน์กล่าว
       
ทางการในท้องถิ่น กล่าวว่า การปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนน้ำงึมเป็นปริมาณมากในช่วงที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในแขวงเวียงจันทน์ขณะนี้ แต่สัปดาห์ที่แล้วเจ้าหน้าที่บริษัทผลิตไฟฟ้าลาวจำกัด ได้ออกแถลงว่าน้ำจากเขื่อนไม่ได้เป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในขณะนี้
       
ช่วงที่ผ่านมาสื่อของทางการได้รายงานข่าวและตีพิมพ์ภาพถนนทางเข้าเขื่อนน้ำงึมที่ได้รับความเสียหายหนักจากฝนตกหนักเช่นกัน โดยถนนช่วงไหล่เขาถูกตัดขาดไปช่วงหนึ่งจากดินเกิดดินถล่ม



ปีนี้สาหัส 4 ระลอก
เวียงจันทน์ใหม่


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:23:19


ความคิดเห็นที่ 2150 (1574794)
จับชีพจรเขื่อนน้ำงึม
เวียงจันทน์ใหม่


เขื่อนน้ำงึม (1) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองหลวงในแขวงเวียงจันทน์ ใช้งานมานานกว่า 30 ปี และเพิ่งจะซ่อมบำรุงหน่วยปันไฟหน่วยที่ 3 แล้วเสร็จในเดือนนี้ ต้องรับงานหนักอีกรอบ ไม่ต่างกับในช่วงเดือน ส.ค.2551 ซึ่งฝนตกหนักทำให้น้ำในอ่างขึ้นสูงเปี่ยมๆ สันเขื่อน ต้องปล่อยออกไปปริมาณมาก เขื่อนแห่งนี้ตกเป็นจำเลยสังคมอีกครั้งหนึ่งในเดือน ก.ย.นี้ แต่ทางเข้าเขื่อนก็ได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน เดือนที่แล้วถนนในช่วงไหล่เขาถูกปิดตายเนื่องจากดินถล่มลง และเพิ่งจะซ่อมแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนนี้ในภาพจาก “เวียงจันทน์ใหม่”
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:25:03


ความคิดเห็นที่ 2151 (1574795)

ประกาศเตือนภัย
"พายุหมุนเขตร้อน “ไห่ถาง”"
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 26 กันยายน 2554


เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (26 ก.ย. 54) พายุโซนร้อน “ไห่ถาง” (Haitang) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 310 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองดานัง ประเทศเวียดนามในคืนนี้ (26 ก.ย. 54) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นลำดับ และจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันที่ 27 กันยายน 2554

ลักษณะเช่นนี้ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นทำให้บริเวณด้านตะวันออกและตอนล่างของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีลมแรง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่ม และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

วันที่ 26 กันยายน 2554 ในบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 27-28 กันยายน 2554 ในบริเวณจังหวัดนครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 26- 29 กันยายน 2554

ประกาศ ณ วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 15.30 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:26:51


ความคิดเห็นที่ 2152 (1574796)

วันนี้ออสเตรเลีย เผชิญคลื่นความร้อน



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:28:54


ความคิดเห็นที่ 2153 (1574797)

เขื่อนภูมิพลกักเก็บน้ำแล้วกว่า 90%

26 กย. 2554 16:25 น.



นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพลมีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 12,189 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 90.54 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง สามารถรับน้ำได้อีก 1,273 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 9.46 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง วันละประมาณ 28.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้การระบายน้ำต้องดูกันวันต่อวัน เนื่องจากยังมีน้ำไหลเข้าในปริมาณ มากกว่าระบายออก รวมทั้งต้องเฝ้าระวังหากมีพายุพัดเข้ามาในบริเวณภาคเหนือ ทางเขื่อนก็ต้องระบายเพิ่มมากกว่านี้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 กันยายน มีน้ำไหลเข้าทั้งสิ้น 78 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ น้ำจากแม่น้ำวังที่ไหลบรรจบกับแม่น้ำปิงอีกวันละประมาณ 27.5 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงมีน้ำในลำน้ำปิงไหลสู่ลุ่มเจ้าพระยาวันละ 56 ล้านลูกบาศก์เมตร และสำหรับปีนี้ ฤดูฝนที่ยังไม่หมด ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้า 8,000 ล้าน ลบ.ม. และหากหมดฝนนี้คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 9,000 ล้าน ลบ.ม. ถือว่าเป็นสถิติน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำสูงมากตั้งแต่สร้างเขื่อนมา สำหรับการระบายน้ำในช่วงนี้เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกมากกว่าปกติทั้งพื้นที่เหนือเขื่อน และพื้นที่ท้ายเขื่อน แต่การระบายน้ำต้องประสานกับกรมชลประทานอย่างต่อเนื่อง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:29:41


ความคิดเห็นที่ 2154 (1574798)

กรมชลฯ สยบข่าว เขื่อนป่าสักแตก แม้น้ำเต็ม 130%

กันยายน 26, 2011



กรมชลประทานปฏิเสธ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แตก แม้รับน้ำเข้าอ่างถึง 130% แต่ต้องเร่งพร่องน้ำรอน้ำเหนือ ทำให้ท้ายเขื่อน 2 ฝั่งน้ำป่าสัก เขตจังหวัดสระบุรีและอยุธยา เตรียมพร้อมติดตามสถานการณ์
วันนี้ 26 ก.ย. มีรายงานว่า ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ เวลา 06.00 น. วันที่ 26 ก.ย. 2554 โดยที่จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,254 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา 18 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 43 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท 3,697 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดลงจากวันที่ 25 ก.ย. 2554 จำนวน 6 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนสูงกว่าระดับตลิ่ง 1 เมตร ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงกว่าตลิ่ง 1.50 เซนติเมตร
ส่วนที่ จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,920 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดลงจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2554 15 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.28 เมตร ด้าน จ.อ่างทอง มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,575 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดลงจากวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา 17 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 25 เซนติเมตร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,294 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพิ่มขึ้นจากวันที่ 25 ก.ย. 2554 จำนวน 14 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 58 เซนติเมตร ส่วนที่คลองบางหลวง (คลองโผงเผง) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 984 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพิ่มขึ้นจากวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา 17 ลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 2.40 เมตร ด้านคลองบางบาล มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 344 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดลงจากวันที่ 25 ก.ย. 2554 จำนวน 6 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.48 เมตร และที่ อ.บางไทร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,213 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพิ่มขึ้นจากวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา 43 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 90 เซนติเมตร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังคงมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เขื่อนป่าสักฯ มีน้ำเต็มความจุของอ่างเก็บน้ำ โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่างจำนวน 1,035 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 130 ของความจุอ่างทั้งหมด ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำจำนวนมากไหลล้นเขื่อนลงไปเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำป่าสักเป็นบริเวณกว้าง และเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับปริมาณฝนที่จะตกหนักลงมาอีกตลอดในช่วงสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันในระยะนี้ยังอยู่ในช่วงที่น้ำทะเลไม่หนุนสูง จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะทำการพร่องน้ำออกจากเขื่อน เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำที่จะไหลหลากลงมาอีก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนในเขต จ.สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะยังคงเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำป่าสักในเขต จ.สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาด้วย
ทั้งนี้ กรมชลประทานขอยืนยันว่าเขื่อนป่าสักฯ ถึงแม้ว่าจะรับน้ำจนเกินความจุที่สามารถเก็บกักได้ก็ตาม แต่ตัวเขื่อนและอาคารประกอบยังมีความมั่นคงแข็งแรงดี และยังสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากกรมชลประทานมีการตรวจวัดพฤติกรรมและความปลอดภัยเขื่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นว่า เขื่อนจะไม่มีการพังทลายลงมาตามที่เป็นข่าวลือแต่อย่างใด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:30:30


ความคิดเห็นที่ 2155 (1574799)

สุพรรณบุรีท่วมเพิ่มแน่ ผู้ว่าฯ สั่งเติมแนวกั้นรับมือน้ำท่าจีน



ผวจ.สุพรรณบุรีสั่งเตรียมรับมือน้ำเหนือ ให้ระบายน้ำที่ถูกส่งลงมา ออกไปตามคลองสาขาของแม่น้ำท่าจีน ไปสู่พื้นที่ที่ไม่มีปัญหาทางด้านการเกษตร ขณะที่เร่งเสริมกำแพงเขตเศรษฐกิจ ด้าน ผู้การฯ สุพรรณฯ สั่งจัด ตร. ลงเรือไว้คอยไล่จับโจร เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับชาวบ้าน…

ที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายประภัตร โพธสุธน อดีต สส.สุพรรณบุรี นายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พร้อมชาวสุพรรณหลายร้อยคน ไปเปิดการเจรจากับชาวจ.ชัยนาท ที่ออกมาเรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ ลงสู่แม่น้ำท่าจีนมาทาง จ.สุพรรณบุรี เต็มพิกัด อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 280 ลบ.ม./วินาที ซึ่งในที่สุดก็ตกลงกันได้ด้วยดีด้วยความพอใจทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะมีการเปิดประตูระบายน้ำเข้าสู่ จ.สุพรรณบุรีเพิ่มจาก 190 ลบ.ม./วินาที เป็น 210 ลบ.ม./วินาที ซึ่งถือเป็นการแบ่งปันความเดือดร้อนของประชาชน 2 จังหวัดที่พอเหมาะพอควร

ล่าสุด นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการ จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า จากข้อตกลงดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ได้มีการเตรียมการเพื่อรองรับให้เกิดผลกระทบกับประชาชนใน จ.สุพรรณบุรี น้อยที่สุด ด้วยการระบายน้ำที่ถูกส่งลงมาออกไปตามคลองสาขาของแม่น้ำท่าจีน ไปสู่พื้นที่ที่ไม่มีปัญหาทางด้านการเกษตรแล้ว โดยเฉพาะในคลองสาขา ได้มีการระดมเครื่องมือเข้าไปดำเนินการขุดลอกคลอง เก็บสิ่งกีดขวางทางเดินของน้ำออก เพื่อให้น้ำระบายต่อไปได้อย่างสะดวก โดยนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ. สั่งการให้ทีมช่าง จากกองพัฒนาชนบทออกไปดำเนินการแล้ว

นายสมศักย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเตรียมความพร้อมรองรับไว้เต็มพิกัด แต่การระบายน้ำลงมาครั้งนี้ ก็จะเกิดผลกระทบแน่นอน มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่สภาพพื้นที่ โดยเฉพาะ 2 ริมฝั่งท่าจีน ที่น้ำยังคงท่วมบ้านเรือนของราษฎรอยู่ อาจจะถูกน้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น ที่ อ.บางปลาม้า อ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นที่ลุ่มและมีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่ากลางอำเภอ ถึงเวลานี้ชาวบ้านก็ยังคงต้องทนทุกข์กับสภาพน้ำท่วมขังอยู่ ในส่วนพื้นที่เศรษฐกิจที่แม่น้ำท่าจีนไหลผ่ากลางตลาดทั้ง 6 อำเภอ ทุกแห่งเร่งเริ่มระดมเพิ่มกำแพงกระสอบทรายขึ้นอีก เช่นที่ อ.ศรีประจันต์ นายพรชัย จิ๋วเจริญ นายกเทศมนตรี เร่งป้องกันตลาดเก่าบ้านท่านเจ้าคุณ สถานที่ท่องเที่ยวดังที่อยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีนเต็มพิกัด ขณะเดียวกัน ตนได้ร่วมกับ อบจ.สุพรรณบุรี ออกไปเยียวยาชาวบ้านในเบื้องต้นอย่างต่อเนื่อง โดยออกไปดูแลกันถึงบ้าน เพื่อไม่ให้ประชาชนเครียดมากจนเกินไป

ด้าน พล.ต.ต.วีระ บุตรโพธิ์ ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี เผยว่า เนื่องจากขณะนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งหลายรายไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้เพราะบ้านถูกน้ำท่วมสูง ต้องอพยพออกมานอนอยู่บนถนน แต่มีความรู้สึกเป็นห่วงบ้าน เพราะมีคนแปลกหน้าพายเรือเข้ามาในละแวกบ้านบ่อยครั้ง ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 อำเภอ ที่มีพื้นที่รับผิดชอบเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร กว่า 200 นาย ตลอด 24 ชั่วโมง โดยปรับเปลี่ยนจากสายตรวจ จยย. มาเป็นสายตรวจทางน้ำ ซึ่งได้ขอความร่วมมือไปยัง สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุพรรณบุรี ให้จัดเรือท้องแบนติดเครื่องมาใช้ในการออกปฏิบัติการเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยแล้ว

ส่วน พ.ต.อ.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า เย็นวันก่อน (25 ก.ย.) ขณะที่ร.ต.ท.บุญถิ่น พุ่มอ่ำ รอง สวป.กับพวกตรวจพื้นที่ รับแจ้งมีรถต้องสงสัยจอดอยู่หน้าร้านรีไซเคิลอิเล็คทริค เลขที่ 9/2 หมู่ 3 ต.สนามชัย อ.เมืองสุพรรณบุรี มีชาย 3 คน กำลังขนทรัพย์สินใส่ท้ายรถยนต์กระบะมาสดา หมายเลขทะเบียน บว 69 นครสวรรค์ แต่ถูกใช้เทปกาวปิดบังไว้ จึงรุดไปตรวจสอบ ถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายเห็นตำรวจ จึงรีบขับรถหลบหนี โดยมี 1 คนวิ่งหลบหนี จึงไล่ติดตามมาทางถนนสุพรรณบุรี – ชัยนาท ถึง ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ รถคนร้ายยางล้อแตกเสียหลัก ตกข้างทาง จึงเข้าตรวจสอบ พบนายสมศักดิ์ วงษ์เนตร อายุ 56ปี อยู่ 83/1 หมู่ 15 ต.แม่เลย์ อ.แม่วงค์ จ.สครสวรรค์ และนายวินัย แจ้งเนตร์ อายุ 51 ปี อยู่ 168/1 หมู่ 3 ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร พร้อมของกลาง ตู้เชื่อมโลหะ แท่นตัดโลหะ เลื่อย และเครื่องมือก่อสร้างอื่นที่ขโมยมาจากร้านรีไซเคิลอิเล็คทริค เต็มกระบะท้าย รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท สอบสวน ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ที่บ้านถูกน้ำท่วม จึงออกมาตระเวนลักอุปกรณ์ก่อสร้าง เพื่อไปรับเหมาซ่อมแซมบ้านให้กับชาวบ้านหลังน้ำลด จึงควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.รัชชาติ สุขสวัสดิ์ ร้อยเวร ดำเนินคดี พร้อมออกติดตามจับกุมตัวนายเอก ไม่ทราบนามสกุล ที่วิ่งหลบหนีไปได้ เพื่อมาดำเนินคดีอีกคน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:31:39


ความคิดเห็นที่ 2156 (1574800)

ชัยนาทยังวิกฤติน้ำท่วม

ขยายวงกว้าง

นายปรีชา ทองคำ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท เปิดเผยกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ล่าสุด พื้นที่น้ำท่วมขยายเป็นวงกว้าง ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอมโนรมย์ ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ น้ำได้เพิ่มระดับขึ้นทุกวัน ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ยังมีน้ำมวลใหญ่จากนครสวรรค์ ลงมาอีกระลอก ส่งผลให้วิกฤติทั้งจังหวัด โดยเฉพาะอำเภอที่อยู่ติดริมแม่น้ำ ล่าสุด พบมีผู้ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 65,000 คน โดยในวันนี้ รมช.สาธารณสุข ลงพื้นที่ ช่วยเหลือประชาชน นำถุงยังชีพแจกจ่ายให้ประชาชน และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการ ขณะเดียวกัน ยังพบว่า มีประชาชนอีกบางส่วน ที่ยังติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมหนัก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:32:36


ความคิดเห็นที่ 2157 (1574802)

.สถาณการณ์น้ำท่วมลพบุรีกลางตัวเมือง...ในส่วนที่คุณอาจยังไม่ได้รับทราบ

Posted by ทะรี , ผู้อ่าน : 902 , 12:27:36 น.
หมวด : นักข่าวอาสา

ข่าวน้ำท่วมช่วงวันสองวันนี้ สถานการณ์น้ำในจังหวัดลพบุรี
ดูเป็นข่าวที่น่าสนใจและน่าติดตามเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ
ที่ประสบมาก่อน...



น้ำที่ท่วมและบากมาจากชัยนาท สิงห์บุรี
เข้าสู่ลพบุรีส่งผลกระทบต่อ อำเภอบ้านหมี่ ท่าวุ้ง
และพื้นที่ในละแวกนั้นๆ ทำให้เราได้เห็นความเดือดร้อน
ทุกข์ยากลำบากผ่านหนังสือพิมพ์และสื่อโทรทัศน์...


วัดเชิงท่า ก่อนน้ำเข้า 3 ภาพ (อาทิตย์ 18 กันยายน 2554)




อีกมุมหนึ่งของใจกลางเมืองลพบุรีที่ห่าจากศาลพระกาฬเพียง 800 เมตร
และอีกหลายแห่งในกลางใจเมืองลพบุรี
ก็ได้รับผลกระทบจากนำ้ท่วมในครั้งนี้เช่นกัน
แน่นอนว่าความเดือดร้อนจากภัยนี้คงมีทั้งเหมือน
และแตกต่างจากส่วนของอำเภอด้านนอก


การเกาะติดสถานการณ์ข่าวที่ง่ายและรวดเร็วที่เราทำได้
เราเลือกการนำเสนอภาพกับข้อมูลสั้นๆ
มาบอกเล่าสู่กันครับ

ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "น้ำมาเร็วมาก"

เช้าวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2554
วัดเชิงท่า ตั้งอยู่ติดแม่น้ำลพบุรีใกล้โรงเรียนวินิตศึกษา
น้ำทำท่าเริ่มเอ่อคลิ่งเข้าสู่ลานวัด มีการเตรียมกระสอบทราย
เพื่อป้องกันสูงประมาณ 60 เซนติเมตรเพื่อป้องกันศาลาภายในวัด
ตกช่วงบ่ายน้ำได้ท่วมลานวัดตามความคาดหมาย...ในระดับครึ่งหัวเข่า


วันรุ่งขึ้น..สายๆน้ำได้ท่วมแนวกระสอบทรายและเกินกำลังในการป้องกัน
เวลานี้น้ำท่วมพื้นศาลาชั้ล่างแล้ว (จันทร์ 26/9/54 : 09.00 น.)


น้ำเข้าท่วมวัดเชิงท่า เกินการป้องกันในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
2ภาพ เช้า 26 กันยายน 2554




เช้าวันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2554 เช่นกัน
ถนนพระธรรมญาณ (ถนนทางไปวัดสำราญ)
ถนนเส้นนี้ตัดผ่านและถมคลองบางปรี
วันนี้น้ำี่เอ่อท้นจากแม่นำ้ลพบุรีได้ขึ้นมาตามร่องน้ำเดิมในอดีตเมื่อ
สามสี่สิบปีที่เคยเป็นเส้นทางของเขา ทำให้บ้านทีอยู่บริเวณนี้ถูกน้ำท่วม
บางหลังเดินลุยเข้าไปสูงระดับเอวเลยทีเดียว
แนวคลองบางปรีและเส้นทางนำ้ในอดีตที่บางท่านจิตนาการไม่ออก
สร้างภาพให้เราเริ่มเห็นชัดเจนขึ้น

ตลองบางปรี่ช่วงถนนพระธรรมญาณตัดผ่าน 3 ภาพ







บริเวณโรงฆ่าสัตว์เก่าก็มีถนนตัดขวางคลองบางปรี่
เช่นเดียวกับถนนพระธรรมญาณ
นำ้ก็ท่วมพื้นชั้นล่างของตัวบ้านเช่นกัน


บ้านที่อยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำลพบุรีเช่น วัดพรหมมาศตร์ วัดโพธิ์ระหัต
บางขันหมากบางคู้ วัดสนามไชย (ถนนลพบุรี-สิงห์บุรี)
น้ำท่วมสูงระดับหัวเช่าจนถึงงระดับหลังคาบ้าน
สัตว์เลี้ยงสิ่งของเครื่องใช้ต้องนำมาอยู่บนริมถนนอีกเส้นหนึ่งคือบ้านเรือนที่อยู่ติดแม่น้ำลพบุรีไปทางโพธิ์เ้ก้าต้น
วัดนางหนู วัดยาง ตะลุงบ้านแพรก (เส้นลพบุรี-อยุธยาสายมหาราช )
น้ำก็ท่วมในระดับเช่นเดียวกันกับสายสิงห์บุรี

ใครมีญาติ-มิตรสหาย อย่าลืมส่งข่าวคราวไปให้กำลังใจกันครับ ...
ในตัวเมืองก็เผชิญกับน้ำท่วมครั้งนี้เช่นกัน แต่เราอาจคาดไม่ถึงครับ...

http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-ช่วงนี้ถึงธันวาคม-2011-a-288866-507.html

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:33:27


ความคิดเห็นที่ 2158 (1574805)

พุชง สุบังจาย่า มาเลเซีย เกิดหลุมยุบ ลึกถึง 6 เมตร 4.5m X 4.5m

Policemen standing guard beside the sinkhole in Jalan TK 5/1, Taman Kinrara, Puchong, last night.

SUBANG JAYA: A portion of the road leading to houses and shoplots in Section 5, Taman Kinrara, off Batu 9, Jalan Puchong, collapsed yesterday, leaving a six-metre deep and 4.5-metre wide sinkhole.

The incident happened at 2pm. The earth in the middle of the road suddenly caved in, leaving a hole deep enough to fit four cars.

Luckily, no road users fell into the hole, located near several apartments,

Serdang police chief Superintendent Abdul Razak Elias said police were notified about the sinkhole at Jalan TK 5/1 by residents, before several officers cordoned off the area.

"We decided to close the road pending investigations and repair works by the Subang Jaya Municipal Council."

A check at the scene showed policemen and officers from municipal council inspecting the sinkhole.

They said the problem was most probably caused by underground waterways.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:40:38


ความคิดเห็นที่ 2159 (1574808)

รินทร์อ่วม!! ประกาศพื้นที่อุทกภัยแล้ว 2 อำเภอ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กันยายน 2554 19:51 น.


       นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งในขณะนี้ จ.สุรินทร์ มีพื้นที่ที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว จำนวน 2 อำเภอ 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 8 ต.บะ อ.ท่าตูม และ หมู่ที่ 7 และ 8 ต.สำโรงทาบ หมู่ที่ 8 ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 60 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายแล้ว 350 ไร่
        จ.สุรินทร์ มีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเกิดอุทกภัยสูง จำนวน 146 หมู่บ้าน และสำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ได้คาดการณ์ว่า นาข้าวจะได้รับความเสียหายอีกประมาณ 21,769 ไร่ มันสำปะหลัง เสียหาย 22,956 ไร่ ซึ่ง ปภ.สุรินทร์ ได้แจ้งเกิดอุทกภัย ในพื้นที่ 5 อำเภอ คาดว่า นาข้าวได้รับความเสียหาย มีดังนี้ อ.ท่าตูม 4,581 ไร่, อ.สังขะ 5,250 ไร่, อ.สำโรงทาบ 1,238 ไร่, อ.รัตนบุรี 2,000 ไร่, อ.ชุมพลบุรี 8,700 ไร่ และ อ.กาบเชิง คาดว่า มันสำปะหลังจะได้รับความเสียหาย 22,956 ไร่
        ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถประเมินสถานการณ์ และติดตามการให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์

-----------------

สถานการณ์น้ำท่วมในอินเดีย มียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 60 คน

รัฐมนตรีกระทรวงการบริหารจัดการภัยพิบัติอินเดียกล่าวว่า มีประชาชนเสียชีวิต 60 คน และอีก 4 ล้านคนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในภาคตะวันออกของประเทศ พื้นที่ชายฝั่งกำลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยในรัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือ มีประชาชนเสียชีวิตไป 28 คน เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในรัฐโอริสสากล่าวว่า ประชาชนราว 150,000 คนในพื้นที่ราบต่ำต้องอพยพเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และมีการส่งเฮลิคอปเตอร์ 5 ลำนำอาหารไปหย่อนในพื้นที่ประสบภัย และคาดว่าจะมีอีก 2 ลำเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าวเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการเปิดศูนย์บรรเทาทุกข์อีก 260 แห่ง ช่วยในการจัดหาอาหารและสิ่งบรรเทาทุกข์อื่น ๆ


รัฐพิหารของอินเดียเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่



พื้นที่รัฐพิหารทางภาคตะวันออกของอินเดียเผชิญกับน้ำท่วมใหญ่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งออกช่วยเหลือประชาชน

ฝนตกหนักในช่วงปลายฤดูมรสุม ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในรัฐพิหาร ทางภาคตะวันออกของอินเดียตั้งแต่เมื่อวานนี้ สร้างความยากลำบากในการดำรงชีวิตของชาวบ้าน นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยน้ำปริมาณมหาศาลออกจากเขื่อนกั้นแม่น้ำที่เอ่อล้น ทำให้บ้านเรือนและรถราของประชาชน จมอยู่ใต้น้ำ

เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างตามที่ต่างๆ และช่วยประชาชนที่ต้องปีนหนีน้ำขึ้นบนหลังคาบ้านได้อย่างน้อย 38 คน ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน

นอกจากบ้านเรือนแล้ว พื้นที่การเกษตรยังเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่าน้ำท่วมเกิดจากการบริหารจัดการน้ำไม่ดี และจนถึงปัจจุบันยังไม่เริ่มระบายน้ำออกจากพื้นที่ ขณะที่ฝนยังคงตกต่อเนื่องฤดูมรสุมในปีนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของอินเดีย รวมทั้งทางตอนใต้ของปากีสถาน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:51:32


ความคิดเห็นที่ 2160 (1574809)
สรุปรายงานสถานการณ์ประจำวัน

วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๔

สถานการณ์ปัจจุบัน
จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งสิ้น ๕๖ จังหวัดที่พื้นที่ยังคงประสบอุทกภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง ๒๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ชัยภูมิ ยโสธร ขอนแก่น อำนาจเจริญ ฉะเชิงเทรา นครนายก และจังหวัดปราจีนบุรี
สถานการณ์น้ำ
ลุ่มน้ำปิง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำมาก ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
ลุ่มน้ำน่าน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ อำเภอเมือง อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มทรงตัว อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำยังไม่ล้นเนื่องจากมีการเสริมแนวคันกั้นดินแล้วมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ลุ่มน้ำยม อำเภอสามง่าม ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำล้นตลิ่ง (๔.๐๑ เมตร) ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มทรงตัว
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มทรงตัว อำเภอเมือง (๐.๔๒ เมตร) จังหวัดนครสวรรค์ ระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ลุ่มน้ำสะแกกรัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ระดับน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ลุ่มน้ำป่าสัก อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ระดับน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มทรงตัว
ลุ่มน้ำปราจีนบุรี อำเภอเมือง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ระดับน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ลุ่มน้ำบางปะกง แม่น้ำนครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ระดับน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ลุ่มน้ำชี กิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวงอำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น อำเภอเมือง อำเภอราศีไศล อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อำเภอเมือง บ้าน อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มลดลง
ลุ่มน้ำมูล อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมือง อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ อำเภอกระสัง
จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น


สถานการณ์อื่นๆ
เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๒๑.๓๐ น. ของ เกิดน้ำป่าไหลหลากบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีรายงานผู้เสียชีวิตจวน ๒ คน เป็นเด็กอายุ ๓ ขวบ และ ๘ เดือน ขณะนี้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่พบว่าปริมาณฝนอยู่ในระดับปกติ (๓๖.๘ มิลลิเมตร) และเจ้าที่อุทยานไม่สามารถออกมาจากอุทยานฯ ได้จำนวน ๕ คน

ประกาศศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เรื่อง เฝ้าระวังอุทกภัยและดินถล่ม

ตามที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ประเมินสภาวะอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ และสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้พิจารณาแล้วเห็นว่า ปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องอยู่ ทำให้หลายพื้นที่ยังคงประสบอุทกภัยและสถานการณ์ยังไม่บรรเทาลง ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์
จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดตราด จังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร

ภาคเหนือ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอำนาจเจริญโดยเฉพาะ อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอไพรบึง อำเภอเมือง
อำเภอราศรีไศล และอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษอำเภอเขื่องใน อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ อำเภอทุ่งศรีอุดม อำเภอน้ำยืน และอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง

ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครนายก และกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง
ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด เป็นพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม
ภาคใต้ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดพังงา จังหวัด กระบี่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล อาจจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในระยะ ๑ – ๒ วันนี้ โดยเฉพาะจังหวัดระนอง และจังหวัดพังงา
จึงประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ทราบทั่วกัน และติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ออกประกาศเวลา ๑๒.๓๐ น. วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๔
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:58:02


ความคิดเห็นที่ 2161 (1574810)
ประกาศศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เรื่อง เฝ้าระวังอุทกภัยและดินถล่ม

ตามที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ประเมินสภาวะอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ และสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้ ณ เวลา ๑๘.๐๐ น. พิจารณาแล้วพบว่า พื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่เสี่ยงภัยดังที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ประกาศเตือนไปแล้วก่อนหน้านี้ (เวลา ๑๒.๓๐ น.) สถานการณ์ยังไม่บรรเทาลง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่ยังคงประสบอุทกภัยและเป็นพื้นที่เฝ้าระวังต่อไป
ภาคเหนือ ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจังหวัดตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอำนาจเจริญโดยเฉพาะ อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอไพรบึง อำเภอเมือง
อำเภอราศรีไศล และอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเขื่องใน อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ อำเภอทุ่งศรีอุดม อำเภอน้ำยืน และอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง

ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ จะยังคงต้องอยู่ในสภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ต่อไปอีกเนื่องจากอิทธิพลจากการระบายน้ำของเขื่อนและฝนที่ยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนจังหวัดอ่างทอง จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ยังเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง
ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม
ภาคใต้ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดพังงา จังหวัดกระบี่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล อาจจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มต่อไป โดยเฉพาะจังหวัดระนอง จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต
จึงประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ทราบทั่วกัน และติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ออกประกาศเวลา ๒๑.๐๐ น. วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๔
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:58:58


ความคิดเห็นที่ 2162 (1574811)
ประกาศศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เรื่อง เฝ้าระวังอุทกภัยและดินถล่ม

ตามที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ประเมินสภาวะอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ และสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้ ณ เวลา ๑๘.๐๐ น. พิจารณาแล้วพบว่า พื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่เสี่ยงภัยดังที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ประกาศเตือนไปแล้วก่อนหน้านี้ (เวลา ๑๒.๓๐ น.) สถานการณ์ยังไม่บรรเทาลง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่ยังคงประสบอุทกภัยและเป็นพื้นที่เฝ้าระวังต่อไป
ภาคเหนือ ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจังหวัดตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอำนาจเจริญโดยเฉพาะ อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอไพรบึง อำเภอเมือง
อำเภอราศรีไศล และอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเขื่องใน อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ อำเภอทุ่งศรีอุดม อำเภอน้ำยืน และอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง

ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ จะยังคงต้องอยู่ในสภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ต่อไปอีกเนื่องจากอิทธิพลจากการระบายน้ำของเขื่อนและฝนที่ยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนจังหวัดอ่างทอง จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ยังเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง
ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม
ภาคใต้ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดพังงา จังหวัดกระบี่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล อาจจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มต่อไป โดยเฉพาะจังหวัดระนอง จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต
จึงประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ทราบทั่วกัน และติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ออกประกาศเวลา ๒๑.๐๐ น. วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๔

คาดการณ์และแจ้งเตือนภัยวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๔


จากการติดตามสภาพและลักษณะอากาศในช่วงวันดังกล่าว พบว่ามีร่องสุมพาดผ่านตอนกลางของประเทศ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งได้พัฒนาเป็นพายุดีเปรสชันประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลัง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงใต้ตอนล่างและภาคตะวันออกงมีฝนตกชุกหรือหนักมากในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตามจากสภาพน้ำที่สะสมอยู่แล้วรวมกับฝนที่จะตกมาเพิ่มจะทำให้เกิดน้ำท่วมหรือดินถล่มในพื้นที่ที่ยัง ไม่เคยเกิดหรือเพิ่มความรุนแรงในพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติอยู่แล้ว ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจึงขอประกาศแจ้งดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังจากภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม
ภาคเหนือ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
ภาคตะวันออก อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ อำเภอแหลมสิงห์
อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก

กิ่งอำเภอ เขาชะเมา จังหวัดระยอง อำเภอประจัตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
ภาคใต้ อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง
พื้นที่เฝ้าระวังภัยจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง
ลุ่มน้ำภาคตะวันออก แม่น้ำตราด - จังหวัดตราด แม่น้ำจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
ลุ่มน้ำมูล ลำตะคอง - อำเภอเมือง อำเภอขามทะเลสอ (ท้ายเขื่อนลำตะคอง) จังหวัดนครราชสีมา
ลุ่มน้ำชี อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
พื้นที่เฝ้าระวังจากภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณนอกแนวคันกันน้ำ
พื้นที่เสี่ยงภัยจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง ที่อาจมีระดับน้ำล้นตลิ่งสูงขึ้นเพิ่มขึ้น
ลุ่มน้ำมูล อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีษะเกษ
ลำน้ำชี - อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์
ลำน้ำพอง - อำเภอลำน้ำพอง (บริเวณท้ายเขื่อนอุบลรัตน์) จังหวัดขอนแก่น
ลำปลายมาศ - อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
ลุ่มน้ำชี ลำปาว - อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
ลุ่มน้ำภาคตะวันออก แม่น้ำนครนายก – อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
ลุ่มน้ำป่าสัก อำเภอแก่งคอย อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี โดยเฉพาะพื้นที่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
พื้นที่เสี่ยงภัยจากภาวะน้ำท่วม
ลุ่มน้ำมูล อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอไพรบึง อำเภอเมือง และอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ
อำเภอเขื่องใน อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ และอำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ลุ่มน้ำภาคตะวันออก อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก
พื้นที่อันตรายจากน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี อ่างทอง สุพรรณบุรี สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรีสถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น


__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 23:58:59


ความคิดเห็นที่ 2163 (1574947)

อ่างเก็บน้ำ 8 แห่งมหาสารคามล้น ซ้ำระดับน้ำแม่น้ำชีวิกฤต

 

มหาสารคาม - อ่างเก็บน้ำ 8 แห่งในมหาสารคามเกินปริมาณกักเก็บ เนื่องจากปริมาณฝนสะสมในพื้นที่ ด้านสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีอยู่ในระดับวิกฤต บางช่วงล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหาย

นายวรรัตน์ ประวาลปัทมกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกต่อเนื่องในจังหวัดมหาสารคาม ส่งผลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 8 แห่ง ระดับน้ำเก็บกักเกิน 100% คือ อ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง อ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน อ.เมือง อ่างเก็บน้ำหนองแกดำ อ.แกดำ อ่างเก็บน้ำห้วยขอนสัก อ.โกสุมพิสัย อ่างเก็บน้ำหนองบัว อ.กันทรวิชัย อ่างเก็บน้ำหนองไฮ อ่างเก็บน้ำห้วยจอกขวาง และอ่างเก็บน้ำฮองซองแมว อวาปีปทุม

ภาพรวมปริมาณเก็บกักอยูที่ร้อยละ 88.13 ของปริมาณความจุอ่างทั้งหมด 81.20 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยทางชลประทานต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อรองรับน้ำฝนจากพายุไห่ถางที่จะตกลงมาในอีก 1-2 วันนี้

ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำขณะนี้วัดที่สถานีโกสุมพิสัย อ.โกสุมพิสัย ระดับน้ำล้นตลิ่ง 5 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำชีวัดที่สถานีบ้านดินดำ อ.เมือง ระดับเหลืออีกเพียง 37 เซนติเมตรก็จะถึงระดับตลิ่ง

โดยจะต้องเฝ้าระวังระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์จะปล่อยน้ำลงสู่ลำน้ำชีวันละ 26-30 ล้านลูกบาศก์เมตร

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 18:54:23


ความคิดเห็นที่ 2164 (1574949)

ประกาศเตือนภัย
"พายุ “ไห่ถาง”"
ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 27 กันยายน 2554
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 ก.ย. 54) พายุดีเปรสชัน“ไห่ถาง” (Haitang) บริเวณเมืองเว้ ชายฝั่งประเทศเวียดนาม มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.5 องศาตะวันออก หรือทางด้านตะวันออกของจังหวัดมุกดาหาร ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ
55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงอีกและ
จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยใน วันนี้ (27ก.ย.54) บริเวณจังหวัดมุกดาหารและอำนาจเจริญ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง
ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีลมแรง
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
วันที่ 27 กันยายน 2554 ในบริเวณจังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 28 กันยายน 2554 ในบริเวณจังหวัดลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือ
ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27- 29 กันยายน 2554

ประกาศ ณ วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 11.30 น.



สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:00:38


ความคิดเห็นที่ 2165 (1574950)

นครราชสีมาเร่งระบายน้ำเขื่อนลำพระเพลิงรอรับมือมรสุม

27 กย. 2554 15:14 น.

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ต่างเร่งพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำเพื่อเตรียมรับมือกับมรสุมช่วงปลายฤดูฝน ที่คาดว่าจะมีไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ได้เร่งระบายน้ำผ่านลำคลองธรรมชาติและคลองส่งน้ำชลประทานวันละ 1.9 ล้าน ลบ.ม. แต่ไร่นาของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ตูม อ.ปักธงชัย ซึ่งอยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงก็ถูกน้ำท่วมบางส่วนเช่นกัน
นายจำลอง พินิจการ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง กล่าวว่า จำเป็นต้องเร่งพร่องน้ำออกจากอ่างฯ เพื่อเตรียมรองรับน้ำใหม่ที่อาจจะไหลลงมาสู่อ่างเก็บน้ำ ในช่วงที่จะมีมรสุมพัดผ่านตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งหากไม่เร่งทำการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำแล้ว หากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียวและเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เกินกว่า 100 มิลลิเมตรแล้วก็อาจจะทำให้ปริมาณน้ำไหลบ่าลงสู่อ่างเก็บน้ำจำนวนมากจนล้นช่องระบายน้ำหรือสปรินเวย์ลงสู่พื้นที่ด้านล่าง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนใต้อ่างเก็บน้ำได้
ด้านชาวบ้านบ้านใหม่ป่าตะแบก หมู่ที่ 7 ต.ตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ที่อาศัยอยู่ติดกับลำน้ำลำพระเพลิง ใต้เขื่อนลำพระเพลิง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องประสบเหตุอุทกภัยอย่างหนักในปีที่ผ่านมา ต่างเร่งหาทางป้องกันน้ำท่วม อย่างเช่นนายรัตน์ ตริตรอง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 11/1 บ้านใหม่ป่าตะแบก หมู่ที่ 7 ต.ตูม อ.ปักธงชัย ก่อกำแพงล้อมสูงกว่า 1 เมตรรอบบ้านพักที่อยู่ติดลำน้ำ เพราะเกรงว่าหากน้ำล้นเขื่อนจะทะลักเข้าท่วมบ้านได้รับความเสียหายเหมือนปีที่ผ่านมาได้

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:01:42


ความคิดเห็นที่ 2166 (1574951)

เตือนระนอง-พังงา ระวังดินถล่ม-น้ำป่าใน 1-2 วันนี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กันยายน 2554 11:43 น.

กรมทรัพยากรธรณี ประกาศเตือน จ.ระนอง และ จ.พังงา ให้เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในช่วง 1-2 วันนี้

โดยที่ จ.ระนอง ให้ระวังที่ อ.สุขสำราญ อ.เมืองระนอง อ.กระบุรี อ.กะเปอร์ อ.ละอุ่น ส่วนที่ จ.พังงา ให้ระวัง อ.คุระบุรี อ.กะปง และ อ.ตะกั่วป่า เนื่องจากหลายพื้นที่มีฝนตกหนัก และปริมาณน้ำฝนมากกว่า 200 มิลลิเมตร และเริ่มมีน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่ โดยกำชับให้อาสาสมัครเครือข่ายเตรียมพร้อมเฝ้าระวังภัย และวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ให้กับประชาชนในหมู่บ้านทราบโดยเร็ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:03:12


ความคิดเห็นที่ 2167 (1574952)

แม่น้ำทุกสายไหลถล่มอยุธยาอ่วมเป็นประวัติการณ์

แม่น้ำเจ้าพระยายังคงไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ฝั่งตะวันตกของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้นทุกอำเภอ ตั้งแต่อำเภอผักไผ่ บางบาล เสนา บางไทร บางปะอิน และกำลังไหลเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางซ้าย ซึ่งมีเขตติดต่อกับจังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งอำเภอพระนครศรีอยุธยา

ส่วนพื้นที่ฝั่งตะวันออกของจังหวัด ตั้งแต่ประตูระบายน้ำคลองโฉมศรี ที่อำเภออินบุรี จังหวัดสิงห์บุรี แตกน้ำทะลักท่วมอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ขณะนี้น้ำจากบ้านหมี่ได้ไหลบ่าลงแม่นำลพบุรีเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านจมน้ำอย่างรวดเร็วต้องขนของหนีกันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะโรงพยาบาลบ้านแพรก อำเภอบ้านแพรก ได้รับความเสียหายอย่างหนัก คันกั้นน้ำทีทางโรงพยาบาลป้องกันไว้ไม่สามารถรับน้ำได้ ทะลักท่วมตัวโรงพยายาบาล ต้องระดมทหารจากจังหวัดทหารบกสระบุรี ขนกระสอบทรายวางแนวป้องกันตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่วนคนไข้ ได้ขนย้ายออกไปก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง มาจนถึงขณะนี้สามารถบล๊อคน้ำไม่ให้ท่วมตัวโรงพยาบลไว้ได้ แต่ส่วนอื่นจมน้ำหมด นอกจากนี้น้ำจากแม่น้ำลพบุรียังไหลเอ่อท่วมถนนสายอยุธยา บ้านแพรก ลพบุรี ระดับน้ำสูงเป็นช่วง ๆ บางช่วงรถวิ่งได้เพียงช่องจราจรเดียว ขอแนะนำรถยนต์ขนาดเล็กที่ไม่ชำนาญทางให้หลีกเลี่ยงเป็นการดีที่สุด

กระแสน้ำที่ท่วมไหลบ่าถนนยังได้ทะลักล้นคันคลองชลประทานในโครงการชลประทานบ้านแพรก คันคลองขาดหลายจุด ขณะนี้น้ำก้อนใหญ่กำลังไหลทะลักกัดเซาะคันคลองชลประทานลงไปท่วมทุ่งข้าวนาปีของอำเภอมหาราช บ้านแพรก หลายหมื่นไร่ กำลังจะจมน้ำได้รับความเสียหาย

และน้ำก้อนนี้จากแม่น้ำลพบุรีกำลังไหลท่วมบ้านเรือนในเขตพื้นที่อำเภอมหาราช อำเภอบางปะหัน ทะลักลงคลองบางพระครูที่ อำเภอนครหลวง ท่วมบ้านเรือนประชาชนริมคลองในพื้นที่ของอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ระบายน้ำลงมาต่อเนื่องด้วยความเร็วน้ำกว่า 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มาสมทบกับน้ำที่ระบายมาจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ทางคลองชัยนาทป่าสัก ด้วยความเร็วน้ำ 280 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลงมายังเขื่อนพระราม 6 ที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้ชาวบ้าน 3 อำเภอท่าเรือ นครหลวง และพระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมสูงได้รับความเดือดร้อนกันอย่างทั่วหน้า รวมทั้ง วัด โรงเรียนริมแม่น้ำทั้งหมด

โดยเฉพะวัดคลองน้ำชา อำเภอนครหลวง เป็นวัดเก่าแก่ก่อสร้างตามแบบสถาปัตย์จีนประยุค ถูกน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลท่วมมิดกำแพงวัด และบริเวณวัดเต็มพื้นที่ ทำให้บรรยากาศการทำบุญประเพณีวันสารทไทย ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ แทบจะไม่มีคนมาทำบุญ ทำให้บุญวันสารทไทยปีนี้เงียบเหงาทุกวัน พระต้องมานั่งพายเรือรับส่งชาวบ้านด้วยความสงสารเห็นไม่มีเรือพายเข้าออกต้องลอยคอออกจากบ้านไปทำงานและรับส่งคนทำบุญในเช้าวันนี้ ขณะเดียวกันตลาดเช้าในหมู่บ้านดีมีดอรัญญิกก็ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านลุยน้ำจับจ่ายสินค้าอย่างที่เห็น

        

        คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
Name:	5.jpg
Views:	5
Size:	40.1 KB
ID:	1692659

   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
Name:	11.jpg
Views:	5
Size:	41.8 KB
ID:	1692663     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:04:14


ความคิดเห็นที่ 2168 (1574953)

ท่วมกาฬสินธุ์วิกฤติ!เขื่อนลำปาวปล่อยน้ำ

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 27 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 11:27 น.

น้ำท่วม จ.กาฬสินธุ์ ยังวิกฤติต่อเนื่อง เขื่อนลำปาว รับน้ำไม่ไหว ปล่อยลงแม่น้ำ 3 อำเภอ อ่วมหนัก น้ำสูงกว่า 2 ม.

จากการติดตามปัญหาน้ำท่วมที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังคงวิกฤติ ถึงแม้ฝนได้เริ่มหยุดต กแต่ก็ยังพบว่ามีน้ำไหลบ่าจากเทือกเขาภูพานลงเขื่อนลำปาว อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ไหลทะลักล้นอาคารปั่นน้ำสปิลล์เวย์เก่าที่เพิ่งจะปิดใช้ และส่งผลให้มีการระบายลงแม่น้ำปาว มากถึงวันละ 23 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และล่าสุดปริมาณน้ำก็ยังคงที่อยู่ที่ 2,550 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ยังเกินปริมาณกักเก็บถึง 70 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังทำให้พื้นท้ายน้ำด้าน อ.สหัสขันธ์ อ.หนองกุงศรี และ อ.ห้วยเม็ก มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร อยู่อีก 1,500 หลังคาเรือน

ขณะที่พื้นที่ราบลุ่ม อิทธิพลจากแม่น้ำชี น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนด้าน อ.ร่องคำ อีก 500 หลังคาเรือน ที่คาดว่า หากฝนไม่ตก ระดับน้ำคงจะลดลงเรื่อยๆ

นอกจากนี้มีรายงานว่า ที่สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าลำปาว (สวนสะออน) เจ้าหน้าที่ต้องย้ายสัตว์ป่าทุกชนิดหนีน้ำ เนื่องจากน้ำเขื่อนหนุนสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องสั่งปิดสวนสัตว์อย่างไม่มีกำหนด ทั้งนี้ สวนสัตว์แห่งนี้ยัง
มีฝูงวัวแดงที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย และยังต้องการหญ้าที่ใช้เป็นอาหาร

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:07:25


ความคิดเห็นที่ 2169 (1574954)

พระเพลิงเร่งระบายน้ำรับมือมรสุม

27 กันยายน 2554 เวลา 10:59 น.
|เปิดอ่าน 30 | ความคิดเห็น 1

เขื่อนลำพระเพลิง เร่งระบายน้ำออก เพื่อเตรียมรับมือมวลน้ำก้อนใหม่จากมรสุมช่วงปลายก.ย.-ต้นต.ค.

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. สถานการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำพื้นที่จังหวัดนครราชสีมามีปริมาณน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 87 % ของความจุทั้งหมด โดยทุกแห่งได้เร่งพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำก้อนใหม่ที่จะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำจากอิทธิพลของของมรสุมในช่วงนี้ไปจนถึงกลางเดือนต.ค.

ทั้งนี้อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ปริมาณน้ำกักเก็บภายในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 93.670 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด 109.63 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 85.44 % ของความจุ ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลพระเพลิง ต้องเร่งทำการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำทางประตูระบายน้ำเต็มพิกัดวันละ 1.9 ล้าน ลบ.ม. พร้อมกับแบ่งปริมาณน้ำส่วนหนึ่งให้ไหลลงสู่คลองส่งน้ำของโครงการชลประทาน และอีกส่วนหนึ่งให้ไหลลงสู่คลองธรรมชาติ เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำและไม่ให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสายใดสายหนึ่งเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ไร่นา และบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ

อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำที่ถูกระบายออกจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงอย่างต่อเนื่องบางส่วนในลำคลองธรรมชาติที่เรียกว่าลำน้ำลำพระเพลิง ได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ตูม อ.ปักธงชัย ซึ่งเป็นตำบลที่อยู่ด้านท้ายของอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความเสียหายมากนักเนื่องจากต้นข้าวส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงที่ต้องการน้ำปริมาณมา

นายจำลอง พินิจการ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ระบุว่า ขณะนี้ทางอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีความจำเป็นที่จะเร่งทำการพร่องน้ำออกจากอ่างฯ เพื่อเตรียมการรองรับมวลน้ำก้อนใหม่ที่อาจจะไหลลงมาสู่อ่างเก็บน้ำ ในช่วงที่จะมีมรสุมพัดผ่านเข้ามาในพื้นที่ของจังหวัด ซึ่งหากไม่เร่งทำการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำแล้ว หากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียวและเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เกินกว่า 100 มิลลิเมตรแล้วก็อาจจะทำให้ปริมาณน้ำไหลบ่าลงสู่อ่างเก็บน้ำจำนวนมากจนล้นช่องระบายน้ำลงสู่พื้นที่ด้านล่างสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้


เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:08:12


ความคิดเห็นที่ 2170 (1574955)

ปทุมธานีอ่วม!บ้านริมน้ำท่วมซ้ำสอง

27 กันยายน 2554 เวลา 09:16 น. |เปิดอ่าน 477 | ความคิดเห็น 5

น้ำเจ้าพระยาปทุมธานีเพิ่มสูงขึ้นท่วมบ้านริมน้ำซ้ำรอบสองชาวบ้านพายเรือโฟมพาสุนัขปัสสาวะบนบกด้าน ผู้ว่าฯเผยปทุมธานีได้รับผลกระทบน้ำท่วมทั้งสิ้น 54 ตำบล 23,000 ครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนี้เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลทำให้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต อ.เมือง และ อ.สามโคก เป็นรอบที่สอง หลังระดับน้ำลดลงไปเมื่อ 2-3 วันที่ก่อน แต่วันนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เจ้าหน้าที่ของแต่ละพื้นที่ ต้องเสริมแนวคันกระสอบทรายกั้นน้ำเพิ่มอีก เตรียมรับมือกับปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เกรงว่าจะมีการปล่อยระบายน้ำ เพิ่มมากขึ้น หลายพื้นที่วันนี้เร่งกรอกกระสอบทรายเพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ ส่วนในคลองซอยย่อยในเขตอ.สามโคก จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถตักผักตบชวา และเศษวัชพืชที่มีจำนวนมากในคลองและอยู่ใกล้ริมประตูระบายน้ำ ตักออกเพื่อให้น้ำสามารถระบายได้อย่างสะดวก ไม่ตันบริเวณประตูระบายน้ำ

นางสมบัติ บุบผา อายุ 54 ปี ชาวบ้าน ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี พายเรือโฟมพาสุนัขชื่อเจ้าบ๊อบบี้ สุนัขพันธ์บางแก้วผสม อายุกว่า 10 ปี ออกมาปล่อยให้ขึ้นไปปัสสวะบนบก จากนั้นเมื่อมันทำกิจธุระเสร็จเรียบร้อย ก็จะส่งเสียงครางเรียกนางสมบัติฯ ให้พายเรือออกมารับไปบ้าน ซึ่งทั้งสุนัข และคน ต้องอยู่รวมกันบนบ้านพักชั้น 2 หลังระดับน้ำเข้าท่วมบ้านพักที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ หมู่ 1 – หมู่ 4 ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับความเดือดร้อนอีกหลายครัวเรือน เนื่องจากพื้นที่ใน ต.ท้ายเกาะ เป็นเขตพื้นที่รอยต่อจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนน้ำท่วมสูงมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ต้องใช้เรือในการเข้าออกเท่านั้น หลายบ้านที่มีเด็กเล็กต้องคอยระมัดระวังดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องพายเรือไปรับส่งเนื่องจากช่วงนี้หลายโรงเรียนยังคงเปิดเรียน

ด้าน นาย พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปทุมธานี แบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนแรกเป้นความเสียหายสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คือเขต อ.เมือง และอำเภอสามโคก โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเรือนที่พักอาศัยของประชาชน อีกส่วนหนึ่งคือความเสียหายในพื้นที่อื่นๆอีก 5 อำเภอ คือ โดยเฉพาะในเขต อ.หนองเสือ ที่รับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มาตามคลองระพีพัฒน์ ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร รวมทั้งเลือกสวนไร่นา โดยทางเกษตรจังหวัดปทุมธานี ประมวลความเสียหายแล้วมีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายแล้ว 27000 ไร่ ส่วนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี รวบรวมได้รับข้อมูลความเสียหายจากอำเภอต่างๆแล้ว 54 ตำบล 324 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือนร้อนประมาณ 23,000 ครอบครัว ซึ่งเราก็ได้เข้าไปแก้ไขให้ความช่วยเหลือตลอดมา

ส่วน การป้องกันน้ำละลอกใหม่ที่จะไหลลงมานั้นคาดว่าคงเบาแล้ว เพราะเราได้ทำคันกั้นน้ำและวางกระสอบทราบ ไว้ตลอดแนวแล้ว ซึ่งสถานการณ์ก็คงเบาลงไปเรื่อยๆ เพราะว่าน้ำท่วมทั้งลพบุรีและที่อื่นๆนั้น น้ำส่วนหนึ่งก็กระจายลงทุ่งไป ที่เหลือลงมาถึงเราก็คงไม่มากและเรามีคนกั้นน้ำแล้ว ซึ่งในชั้นในนั้นน้ำคงไม่มีจะมีผลกระทบบ้างก็ประชาชนที่อยู่รอบนอก ซึ่งเราก็ต้องช่วยเหลือดูแลอย่างดีต่อไป

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:09:16


ความคิดเห็นที่ 2171 (1574956)

อุตรดิตถ์เจอน้ำป่าอีก!ทะลัก2ชุมชนอ.น้ำปาดสูง1ม.


27 กย. 2554 10:17 น.

เวลา 07.30 น. ร.ต.อ.สุชาติ ชมสา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลน้ำปาด อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ได้ระดมกำลัง อปพร. หน่วยกู้ชีกู้ภัย จำนวนกว่า 100 นาย เข้าช่วยเหลือผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วย ออกจากชุมชนบ้านลุ่มและชุมชนห้วยสร้อย หลังน้ำป่าจากภูเขาได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ร้านค้าอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันได้ใช้หอกระจายข่าวประกาศให้ชาวบ้านเก็บสิ่งของไว้ที่สูง และออกจากบ้านเรือน หวั่นเกิดดินโคลนถล่ม เทศบาลตำบลน้ำปาด ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไว้ตั้งแต่เกิดเหตุดินโคลนถล่มที่ ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาดต่อเนื่องจากจนถึงปัจจุบัน เมื่อมีเหตุการณ์น้ำไหลหลากเข้าเขตเทศบาลจึงได้แจ้งเตือนประชาชนได้ทันท่วงที จึงทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ แต่มีกำแพงบ้านของชาวบ้านที่ถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ไหลมากับน้ำกระแทกพังเสียหายจำนวน 5 หลังคา ร้านค้าย่านเศรษฐกิจของ อ.น้ำปาดถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตรกว่า 40 หลังคา แต่น้ำไหลมาไวและลดลงอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นยังคงเฝ้าระวังแม้ระดับน้ำจะลด และจัดเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย ขณะที่ทางจังหวัดแจ้งเตือนจะมีฝนตกหนักต่อไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:10:05


ความคิดเห็นที่ 2172 (1574958)



ลูกไฟตกจากฟ้า เผาบ้านไปสองหลังที่อาเจนติน่า และเกิดขึั้นในซีแอตเทิล

ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิต อีก 6 คนบาดเจ็บ ที่อาเจนติน่า หลังจากถูกอุกาบาตหล่นจากฟ้า



Alejandro Sack
Something unusual apparently occured here in my country Argentina. Two houses blew up due to what the neighbours of that urban area describe as a red ball of fire coming down from the sky. This happened today at 2.15 am local time (GMT Buenos Aires: -3.00). The "shock wave" of the explosion extended to a couple of blocks from impact zone. Some neighbours said that before they heard the explosion a blightning light turn the night into day. A strong hyphothesis is a meteor impact, although the remains of the houses are just now being gathered and no crater has been found yet. The authorities say that there"s a specific igneous spot, and no fire has been put out cos there was none. I´m posting an image of, apparently, the object that hit the houses. Sorry for my english


Mystery explosion and Esteban Echeverría, "a ball of fire fell from heaven"

One woman died and six others were injured in the incident. A neighbor said the outbreak was caused by a burning object that fell from the sky and completely destroyed a house and several cars. "It was a tremor," he said. Are the causes of the accident.

The incident occurred minutes before 2 am, in a building located on the intersection of Luis Vernet and Los Andes, a town of Monte Grande, of Esteban Echeverría. The causes of the explosion are still unknown, but locals say they witnessed the fact that "a ball of fire fell from heaven." "He began to feel much smell like gunpowder," recalled one person who lives in the area told C5N. "There is no explanation for what happened," said Cayetano, a local resident, told Radio 10, then adding, "a neighbor ran because he saw a fireball falling blue." The commander of the local fire department, Guillermo Pérez, remarked that still do not know the cause of the incident, but acknowledged that the first version is aimed at an "object that fell from heaven." "I heard that version, but I can not say at first. Must be bound to expertise to really see what happened, "he said in a statement to Radio 10. Perez confirmed that two trade houses and" were completely destroyed. "In fact, a woman who was trapped under the rubble lost life while six others were rescued and were taken for care at a local hospital, told C5N firefighters who work on site.

The victim is one of the people who lived in the building where the explosion was generated. As the injured, three belong to that house and three adjoining the house, hit by the blast. All the injured were out of danger, said C5N. According to the story of neighbors, the outbreak was felt even in adjoining towns like Ezeiza and Temperley, south of Buenos Aires

http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-ช่วงนี้ถึงธันวาคม-2011-a-288866-508.html

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:11:54


ความคิดเห็นที่ 2173 (1574959)

ภาพประทับใจ!!แม่สิงโตเสี่ยงชีวิตช่วยลูกน้อยที่ตกหน้าผา

 

เดลิเมล์ -แม่สิงโตผู้ห้าวหาญเสี่ยงชีวิตปีนหน้าผาชันลงไปช่วยลูกน้อยอย่างไม่เกรงกลัวความตายภาพน่าประทับใจที่ช่างภาพสัตว์ป่ารายหนึ่งถ่ายไว้ได้ที่ประเทศเคนยาและถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนเมื่อวันจันทร์(26)

แม่สิงโตพร้อมกับสิงโตตัวอื่นๆอีก 3 ตัว รุดมายังริมหน้าผาทันทีเมื่อเห็นลูกน้อยร้องครวญครางหลังตกลงไปสู่เหวลึกเบื้องหลังจากนั้นเหล่าฝูงสิงโตตัวเมียพยายามไต่ลงไปแต่ด้วยความชันของหน้าผาทำให้พวกมันต้องล่าถอยกลับมา

 

 

อย่างไรก็ตามแม่ของเจ้าสิงโตน้อยไม่ยอมแพ้ ใช้พลังแห่งกรงเล็บจิกลงไปบนพื้นดินเพื่อยึดติดกับขอบหน้าผาที่ไม่แข็งแรงนักและก้าวลงไปจนถึงตัวลูกของมัน ก่อนใช้เขี้ยวคาบลูกน้อย และปีนขึ้นมาอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ระหว่างความพยายามช่วยเหลือนัน หากพลาดพลั้งแม้แต่ก้าวเดียว ก็หมายถึงความตายที่เฝ้ารออยู่ที่ก้นหน้าผา

ภาพความช่วยเหลืออันน่าประทับใจนี้ถ่ายไว้ได้ที่เขตป่าสงวนมาไซมารา ประเทศเคนย่า โดยฝีมือของนายฌอง ฟรองซัวส์ ลาร์กอต ช่างภาพสัตว์ป่า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:16:27


ความคิดเห็นที่ 2174 (1574960)

กรมอุตุประกาศเตือนภัยพายุไห่ถาง กระทบหลายจว.

 

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย"พายุหมุนเขตร้อน “ไห่ถาง”" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 27 กันยายน 2554

เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (27 ก.ย. 54) พายุโซนร้อน “ไห่ถาง” (Haitang) ได้เคลื่อนขึ้นชายฝั่งเมืองเว้ ประเทศเวียดนามและได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว มีศูนย์กลางที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.5 องศาตะวันออก หรืออยู่ทางด้านตะวันออกของจังหวัดมุกดาหาร ประมาณ 300 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ

คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงอีกอย่างรวดเร็วเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและเคลื่อนสู่ประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันนี้ (27ก.ย.54) ลักษณะเช่นนี้ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นทำให้บริเวณด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีลมแรง

จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

วันที่ 27-28 กันยายน 2554 ในบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27- 29 กันยายน 2554

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:31:55


ความคิดเห็นที่ 2175 (1574962)

ขอบคุณ

คุณอารียาค่ะ

ที่นำเรื่องภัยน้ำท่วม

และภัยทุกรูปแบบ ทั่วโลก

มาให้เห็นเป็นธรรมทาน

ย่อโลกใบนี้ให้แคบลง

ทุกอย่างหาได้

ในเวปไซด์

บ้านสวนฯ

 

ทั้งหมด

เป็นหนังตัวอย่าง

ปี 55 ฉายจริง

แต่

หนังตัวอย่าง

ก็จะฉายก่อนหนังจริง

ไม่นานนัก

 

ให้พวกเรา

กลับไปอ่าน กระทู้

ความเห็นเก่าๆ

กันบ้างนะจ๊ะ

 

อ.อุบล

ขี้เกียจฉายหนังซ้ำแล้ว

ตอนนี้ต้องเร่งรีบ

ทั้งพายทั้งแจว

แล้วนะจ๊ะ

 

(เร่งสร้างบุญ หนี กรรม หนีน้ำ หนีภัยพิบัติ หนีสารพัด ฯลฯ)

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:33:27


ความคิดเห็นที่ 2176 (1574963)

 ผู้คนหลายร้อยคนในเเคลิฟอร์เนีย เเละ อีก3 เมืองใกลัเคียงเห็น UFO บนท้องฟ้า

 

UFO SEEN ACROSS 3 STATES BY HUNDREDS OF PEOPLE. - YouTube

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:34:36


ความคิดเห็นที่ 2177 (1574968)

Pic_204931

 

น้ำป่าจากเขาใหญ่ ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตามลำคลองเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี สะพานข้ามคลองขาด 3 แห่ง ขณะที่รถยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้ถูกน้ำพัดหายไป 1 คัน ...

วันที่ 27 ก.ย เมื่อเวลา 04.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีน้ำป่าไหลบ่าจากเขาใหญ่ลงมาตามลำคลองน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จากนั้นน้ำป่าได้ไหลซัดเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำ หมู่ที่ 11 บ้านปากคลอง ต.มวกเหล็ก สระบุรี จำนวน 9 หลัง ข้าวของเสียหายลอยไปกับสายน้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระแสน้ำยังพัดเอาสะพานข้ามคลองขาด 3 แห่ง และกัดเซาะถนนสายวังม่วง – บ้านปากคลองได้รับความเสียหาย

 



นอกจากนี้ กระแสน้ำยังได้พัดเอารถกระบะนิสสัน ทะเบียน บจ 3447 กรุงเทพมหานคร ของสิบเอกสมคิด สิทธิมงคล อายุ 50 ปี ที่จอดไว้ข้างทางเข้าบ้านริมคลองหายไป ยังหาไม่พบ เนื่องจากระแสน้ำเชี่ยวมาก สิบเอกสมคิด เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนได้ตกหนักตลอดทั้งคืน กระทั่งมีชาวบ้านได้บอกว่ามีน้ำป่าไหลมา แต่ตนเองก็ไม่ได้ออกมาดูเพราะค่ำมืด กระทั่งเช้าตนออกมาเพื่อจะมาขับรถไปตลาด ปรากฏว่ารถของตนเองหายไปกับสายน้ำป่า ซึ่งจุดที่ตนจอดรถไว้มีน้ำท่วมสูง

ด้านนายมนตรี ปานอยู่ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นสมาชิก อบต.มวกเหล็ก และมีบ้านอยู่ข้างคลอง เผยถึงนาทีระทึกที่น้ำป่าไหลบ่ามาว่า ขณะที่ตนนอนอยู่บนบ้าน ซึ่งบ้านเป็นบ้านสองชั้น ได้ยินเสียงน้ำป่าไหลบ่ามาอย่างแรง ท่อนซุงที่ไหลมากับน้ำได้กระแทกเข้าที่ประตูบ้าน และเมื่อเปิดหน้าต่างดู ก็เห็นว่าน้ำป่าก้อนใหญ่ไหลมาอย่างน่ากลัว จึงได้ตะโกนบอกภรรยาและครอบครัว ให้ช่วยกันรีบขนของเท่าที่จำเป็นออกจากบ้าน พร้อมตะโกนบอกลูกบ้านที่อยู่ใกล้กันให้รีบขนของหนี ซึ่งเส้นทางของน้ำตกเจ็ดสาวน้อยนั้น เป็นน้ำที่ได้รับน้ำมาจากเขาใหญ่ ล่าสุดยังไม่มีหน่วยงานรัฐเข้ามาดูแลแม้แต่คนเดียว.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:40:57


ความคิดเห็นที่ 2178 (1574969)

Pic_204927

 

ชาวนาเมืองสุพรรณ เร่งลอยคอเกี่ยวข้าว หลังมีข้อตกลงเปิดประตูระบายน้ำพลเทพ ระบายน้ำจากชัยนาทเข้าสู่แม่น้ำท่าจีนของสุพรรณบุรี ขณะที่น้ำในแม่น้ำท่าจีนระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง ...

วันที่ 26 ก.ย. ที่จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีข้อตกลงเปิดประตูระบายน้ำพลเทพ ระบายน้ำจาก จ.ชัยนาท เข้าสู่แม่น้ำท่าจีนของ จ.สุพรรณบุรี 210 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนของชาว จ.ชัยนาท ทำให้ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนที่เจอกับน้ำฝนมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนต้องมีการเร่งเปิดเส้นทางระบายน้ำไปสู่คลองสาขา เพื่อกระจายลงสู่ทุ่งนาที่มีการเก็บเกี่ยวแล้ว ขณะที่พื้นที่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว ชาวนาถึงขั้นต้องลอยคอเกี่ยวข้าว เพราะน้ำก้อนใหญ่กำลังไหลบ่าลงมา

 



ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี ได้สั่งการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งวางแนวทางแก้ไขให้เกิดผลกระทบกับชาวสุพรรณบุรีน้อยที่สุด สำหรับพื้นที่เศรษฐกิจของทั้ง 6 อำเภอที่แม่น้ำท่าจีนไหลผ่ากลางเมือง นายสมศักย์ ได้กำชับให้ทุกแห่งระดมวางกระสอบทรายเป็นเขื่อนป้องกันน้ำให้หนาแน่นเพิ่มมากขึ้นหลายชั้น เพื่อป้องกันความแรงของน้ำพัดแนวกระสอบทรายพัง

 



สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนล่าสุด ไล่ลงมาตั้งแต่ อ.เดิมบางนางบวช ที่เป็นเขตติดต่อกับ จ.ชัยนาท ระดับน้ำเพิ่มสูงจากตลิ่ง 12 ซม. ที่ อ.สามชุก ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าระดับแนวเขื่อนกั้นน้ำหน้าอำเภอ 13 ซม. อ.ศรีประจันต์ ระดับน้ำอยู่เหนือระดับถนนหน้าที่ว่าการอำเภอ 33 ซม. อ.เมืองสุพรรณบุรี ระดับน้ำท้ายเขื่อนโพธิ์พระยา 6.07 เมตร ระดับน้ำบริเวณโรงน้ำแข็งสุพรรณบุรีอยู่ต่ำกว่าสันเขื่อนป้องกันน้ำท่วม 64 ซม. เพิ่มขึ้น 5 ซม. อ.บางปลาม้า ระดับน้ำอยู่เหนือระดับถนนหน้าอำเภอ 28 ซม. เพิ่มขึ้น 5 ซม. อ.สองพี่น้อง ระดับน้ำอยู่เหนือระดับถนนตลาดบางลี่ 73 ซม. อ.อู่ทอง ระดับน้ำในคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง เพิ่มสูงขึ้นท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรแล้ว อ.ดอนเจดีย์ ระดับน้ำในแม่น้ำท่าคอยเพิ่มขึ้น 5 ซม. เอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรสูง 24-40 ซม. ที่ อ.ด่านช้าง ซึ่งมีฝนตกหนักในพื้นที่ น้ำไหลหลากลงสู่ที่ต่ำ ทำให้ถนนชำรุดเสียหายหลายสาย และตั้งแต่เกิดปัญหาน้ำท่วมมามีผู้เสียชีวิตที่ อ.สองพี่น้อง อ.เมืองสุพรรณบุรี และ อ.เดิมบางนางบวช อำเภอละ 1 คน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:46:36


ความคิดเห็นที่ 2179 (1574970)
 
Pic_204837

 

รฟท. แจ้งหยุดเดินรถไฟขบวนสายเหนือ ทั้งขาขึ้นและขาล่อง เนื่องจากมีน้ำท่วมขังรางรถไฟ ระหว่างสถานีปากน้ำโพกับสถานีบึงบอระเพ็ด แนะนำผู้ต้องการเดินทาง ตรวจสอบข้อมูล...

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ฝ่ายประชาสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 27 ก.ย. 2554 รถไฟสายเหนือทั้งขบวนขึ้น-ล่องต้องหยุดให้บริการ เนื่องจากมีน้ำท่วมขังรางรถไฟช่วงสถานีปากน้ำโพกับสถานีบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ โดยแนะนำให้ผู้ที่ต้องการเดินทาง ตรวจสอบข้อมูลก่อนการเดินทางเป็นระยะๆ และยินดีคืนตั๋วแก่ผู้ที่ต้องการยกเลิกการเดินทางเต็มจำนวน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:47:29


ความคิดเห็นที่ 2180 (1574972)
 
Pic_204830

 

คนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสตูล เริ่มกินเจถวายในหลวง โดยเช้าวันนี้แห่กันไปจับจ่ายซื้ออาหารเจคึกคัก ขณะที่พ่อค้าแม่ค้า พร้อมใจกันไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า เพื่อช่วยเหลือผู้ถือศีลกินเจด้วยกัน...

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าศาลเจ้าโป้เจ้เก้ง อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายอาหารเจในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ โดยประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างพากันออกมาหาซื้ออาหารรับประทานกัน ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกลงมาตลอดก็ตาม สำหรับการจำหน่ายอาหารเจในปีนี้ ทางพ่อค้าแม่ค้ายังคงขายในราคาเดิม ไม่ได้ปรับขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากต้องการช่วยเหลือผู้ที่ถือศีลกินเจด้วยกัน โดยแม่ค้าบอกว่า ปีนี้อาหารเจยังขายราคาเท่าเดิม เช่น ก๋วยเตี่ยวผัดเจ ข้าวผัดเจ จะขายห่อละ 20 บาท แกงถุงละ 20 บาท ขนมหมั่นโถลูกละ 3 บาท ซึ่งเป็นราคาเดิมเท่ากับเมื่อปีที่ผ่านมา

สำหรับประเพณีถือศีลกินเจพระกิ๋วอ๋องของ จ.สตูล จะถือศีลกินเจในวันที่ 27 ก.ย.-5 ต.ค.54 โดยปีนี้จะมีการจัดยิ่งใหญ่ โดยทุกคืนจะมีการแสดงอภินิหารของร่างทรง และการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะที่ศาลเจ้าโป้เจ้เก้ง อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สตูล จะได้รับความนิยมจากคนไทยเชื้อสายจีนและจีนปีนัง ในมาเลเซียและสิงคโปร์ มักจะเลื่อมใสในเรื่องของการรักษาโรค ปีนี้จึงมีนักท่องเที่ยวร่วมกินเจมากเป็นพิเศษ ประกอบกับชนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ ตั้งใจจะถือศีลกินเจ รักษาศีลภาวนาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:48:50


ความคิดเห็นที่ 2181 (1574974)
 
Pic_204771

 

ฝนตกหนักเมื่อช่วงเย็นส่งผลให้น้ำท่วมถนนหลายสายในพื้นที่โคราช รวมถึงสถานีรถไฟน้ำไหลผ่านทางด้วยกระแสที่แรง สูงกว่าทางรถไฟประมาณ 10-15 ซม.รถไฟไม่สามารถผ่านไปได้ อีกทั้งยังซัดหินใต้รางหาย 2 ช่วง...

เมื่อวันที่ 21.30 น. วันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานที่ จ.นครราชสีมา สถานการณ์ฝนตกอย่างหนักในเขต อ.ปากช่อง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. นานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขัง ขณะที่ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ หน้าโรงเรียนวัดกลางดง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ช่วงเสาโทรเลข 168/7-8 ระหว่างสถานีรถไฟกลางดง-สถานีรถไฟปางอโศก มีน้ำไหลผ่านทางด้วยกระแสที่แรง สูงกว่าทางรถไฟประมาณ 10-15 ซม.รถไฟไม่สามารถผ่านไปได้ ส่วนทางรถไฟช่วงระหว่าง สถานีรถไฟซับม่วง ถึงสถานีจันทึก ต.จันทึก ระหว่างเสาโทรเลขที่ 188/6-7 ช่วงทางผ่านเข้าค่ายทหารซับม่วง น้ำไหลผ่านทาง พัดเอาหินใต้รางรถไฟหายไป 2 ช่วงๆ ละ 30 เมตร และ 20 เมตร ทำให้รางรถไฟแขวนหินหายไปมีความลึกถึงประมาณ 2 เมตร

นายธานินทร์ วิภาตะจิตร ผช.สารวัตรบำรุงทาง ได้นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจพร้อมซ่อมในเบื้องต้น และได้ขอกำลังจาก จ.นครราชสีมา จัดหินมาซ่อมทางจำนวน 12 โบกี้ โดยมีรถซ่อมทางชนิดอัดหินใส่รางรถไฟประจำอยู่ที่สถานีรถไฟปากช่องจะรีบดำเนินการซ่อมให้เสร็จโดยเร็ว โดยทำการซ่อมทั้งคืน และฝนก็ยังตกเป็นอุปสรรคแต่ไม่มาก ส่วนการเดินรถไฟต้องไปใช้เส้นชุมทางแก่งคอย-บัวใหญ่ แทน ทั้งขาขึ้นและขาล่อง.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:50:02


ความคิดเห็นที่ 2182 (1574978)
 
Pic_204635

 

เทศบาลเมืองปราจีนบุรี เร่งวางแนวกระสอบตลอดทั้งวัน พร้อมจัดเวรยามเพื่อดูแลแนวกระสอบทราย เพื่อป้องกันชาวบ้านที่ไม่หวังดีพังแนวกั้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี ด้านนายกเล็กเมืองปราจีน ระบุ ไม่นึกว่าปีนี้น้ำจะมามากขนาดนี้ วอนชาวบ้านอย่ารื้อกระสอบทราย หวั่นน้ำทะลักเข้าตัวเมือง...

หลังจากที่มีฝนตกอย่างหนักในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมทั้งในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ส่งผลให้ปริมาณน้ำจากเขาใหญ่ได้ไหลบ่าลงสู่พื้นที่อำเภอประจันตคามและพื้นที่อำเภอเมืองปราจีนบุรี ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีมีปริมาณสูงขึ้นกว่า 30 ซ.ม. และสูงกว่าผิวถนนในเขตเทศบาลประมาณ 80 – 100 ซ.ม. จนทำให้ถนนในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรีถูกน้ำท่วมขัง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลเมืองปราจีนบุรี นายบุญเกื้อ พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรีได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่วางแนวกระสอบทรายสูงกว่า 70 ซ.ม. เป็นระยะทางยาวกว่า 10 ก.ม. ตลอดแนวแม่น้ำปราจีนบุรีตลอดทั้งวัน พร้อมสูบน้ำจากด้านในที่ถูกน้ำท่วม เพื่อให้พื้นที่เขตเศรษฐกิจชั้นในอยู่ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนั้นทางเทศบาลเมืองปราจีนบุรีได้จัดเวรยามเพื่อดูแลแนวกระสอบทราย เพื่อป้องกันชาวบ้านที่ไม่หวังดีพังแนวกั้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี

นายบุญเกื้อ กล่าวว่า ปีนี้ระดับน้ำสูงมาก ซึ่งมีระดับน้ำสูงกว่าทุกปีและยังสูงกว่าปี 2538 ที่มีน้ำท่วมสูงสุดถึง 30 ซ.ม. เราไม่นึกว่าปีนี้น้ำจะมามากขนาดนี้ และที่มีปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือชาวบ้านมาดึงกระสอบทรายที่กั้นน้ำไว้เป็นระยะทางกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าเมือง จึงขอให้ไว้ใจทางเทศบาลสักวันสองวัน อย่ามาดึงกระสอบทรายที่กั้นน้ำแม่น้ำไว้ อีกสองสามวันน้ำก็จะมาอีก ก็ขอความร่วมมือดึกๆอย่ามาดึงกระสอบทรายที่กั้นน้ำไว้ออก

นายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี กล่าวอีกว่า ด้านสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี โดยเฉพาะที่ชุมชนตลาดเก่ากบินทร์ บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 2.02 เมตร อำเภอศรีมหาโพธิ น้ำเอ่อล้นตลิ่งกว่า 30 ซ.ม. ทำให้ถนนในเขตตำบลหาดยางถูกน้ำท่วม แต่รถยังสามารถสัญจรไปมาได้ อำเภอบ้านสร้าง ซึ่งเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ทางปลายน้ำ ที่ถูกน้ำจากพื้นที่ต่างอำเภอในจังหวัดปราจีนบุรีไหลลงสู่พื้นที่ และยังมีน้ำจากภาคกลางผันเข้ามาทางคลองระพีพัฒน์และคลองรังสิต น้ำจากจังหวัดนครนายกไหลไปรวมที่อำเภอบ้านสร้าง ทำให้ชาวบ้านถูกน้ำท่วมหนัก แต่ชาวบ้านไม่ได้รับเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท แม้แต่รายเดียว เนื่องจากทางราชการวินิจฉัยว่าเป็นเหตุน้ำท่วมปกติ

ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างจังหวัดนครนายก พบว่า ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล มีความจุ 224 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อน 221 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 94.20 % ส่วนอ่างเก็บน้ำ 7 อ่าง มีปริมาณเต็มทุกอ่าง และจากการที่ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ได้แก่ อำเภอปาก 7 ตำบล 31 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 939 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 4,576.50 ไร่ ประมง 109 บ่อ สะพาน 1 แห่ง ฝาย 1 แห่ง วัด 6 แห่ง สถานที่ราชการ 1 แห่ง อำเภอเมืองนครนายก 12 ตำบล 81 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 6,226 ครัวเรือน อำเภอบ้านนา 10 ตำบล 116 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 9,500 ครัวเรือน และอำเภอองครักษ์ 11 ตำบล 102 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 8,238 ครัวเรือน จังหวัดนครนายกได้ให้ความช่วยเหลือแจกถุงยังชีพ จำนวน 54,594 ถุง เรือท้องแบน 512 ลำ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท ในรอบแรก ครั้งที่ 1 รวม 2,822 ครัวเรือน ประกอบด้วย อ.ปากพลี 77 ครัวเรือน อ.เมือง 35 ครัวเรือน อ.องครักษ์ 2,710 ครัวเรือน ครั้งที่ 1 รวม 1,542 ครัวเรือน อ.เมือง 79 ครัวเรือน อ.บ้านนา 1,463 ครัวเรือน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 20:05:12


ความคิดเห็นที่ 2183 (1574979)
 
Pic_204752

 

ศาลพิพากษาจำคุก 5 สมาชิกแก๊งค้าสุนัข โดยไม่รอลงอาญา เหตุเป็นการทำในลักษณะเชิงธุรกิจการค้า ที่ไม่ได้นึกถึงผลกระทบต่อสังคม อีกทั้งมีจำเลยบางรายมีการกระทำผิดซ้ำ ด้านทนาย เตรียมยื่นอุทธรณ์...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 กันยายน 2554 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีการลักลอบค้าสุนัขข้ามชาติ หลังจาก นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.นครพนม ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าสกัดตรวจยึด จับกุมแก๊งค้าสุนัขข้ามชาติ ขณะลำเลียงขนส่งสุนัขใส่รถบรรทุก เตรียมลงเรือในเขตพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย มี 1.นายนพดล ไชยวังราษฎร์ อายุ 40 ปี ชาว ต.ท่าแร่ จ.สกลนคร 2.นายมนตรี พันกลาง อายุ 37 ปี ชาว อ.บ้านแพง จ.นครพนม 3. นายพาน อายุ 35 ปี ชาวเวียดนาม 4. นายอนุสรณ์ บุพศิริ อายุ 37 ปี และ 5. นายวีรวัฒน์ สวัสดี อายุ 22 ปี ชาว ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม พร้อมของกลางสุนัขจำนวน 1,260 ตัว รถบรรทุก 6 ล้ออีกจำนวน 4 คัน

เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2554 โดยทางตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการ ฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม ส่วนสุนัขของกลางได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม รอการตัดสินคดี

ล่าสุดวันนี้ ทางด้าน นายบัญญัติ ตังกบดี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครพนม ได้มีการอ่านคำพิพากษาตัดสินคดีของศาลจังหวัดนครพนม แยกเป็น 4 คดี มี 1. คดีที่มีนายนายนพดล ไชยวังรษฎร์ อายุ 40 ปี ชาว ต.ท่าแร่ จ.สกลนคร เป็นจำเลย มีการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานค้าสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 4 เดือน ฐานเคลื่อนย้ายสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 4 เดือน ฐานกระทำทารุณสัตว์ (สุนัข) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 10 วัน ฐานครอบครอง (สุนัข) ไม่จัดการให้สัตว์ได้รับการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ปรับตัวละ 40 บาท รวม 450 ตัว เป็นเงิน 18,000 บาท รวมบทลงโทษทั้งหมด 8 เดือน 10 วัน แต่รับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เหลือจำคุก 4 เดือน 5 วัน ปรับเหลือ 9,000 บาท

2.คดีที่มี จำเลย 2 คน คือ นายมนตรี พันกลาง อายุ 37 ปี ชาว อ.บ้านแพง จ.นครพนม 3. นายพาน อายุ 35 ปี ชาวเวียดนาม มีการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานค้าสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 4 เดือน ฐานเคลื่อนย้ายสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 4 เดือน ฐานกระทำทารุณสัตว์ (สุนัข) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 10 วัน ฐานครอบครอง (สุนัข) ไม่จัดการให้สัตว์ได้รับการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ปรับตัวละ 40 บาท รวม 560 ตัว เป็นเงิน 22,400 บาท แต่รับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เหลือจำคุก 4 เดือน 5 วัน ปรับเหลือ 11,200 บาท

3. คดีอาญาที่มี นายวีรวัฒน์ สวัสดี อายุ 22 ปี ชาว ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เป็นจำเลย มีการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานค้าสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 4 เดือน ฐานเคลื่อนย้ายสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 4 เดือน ฐานกระทำทารุณสัตว์ (สุนัข) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 10 วัน ฐานครอบครอง (สุนัข) ไม่จัดการให้สัตว์ได้รับการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ปรับตัวละ 40 บาท รวม 300 ตัว เป็นเงิน 12,000 บาท แต่รับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เหลือจำคุก 4 เดือน 5 วัน ปรับเหลือ 6,000 บาท

คดีที่ 4 คดีที่มี นายอนุสรณ์ บุพศิริ อายุ 37 ปี เป็นจำเลย ซึ่งมีการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานค้าสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 4 เดือน ฐานเคลื่อนย้ายสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 4 เดือน ฐานกระทำทารุณสัตว์ (สุนัข) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 10 วัน ฐานครอบครอง (สุนัข) ไม่จัดการให้สัตว์ได้รับการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ปรับตัวละ 40 บาท รวมจำนวน 400 ตัว เป็นเงิน 16,000 บาท รวมบทลงโทษทั้งหมด 8 เดือน 10 วัน แต่รับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เหลือจำคุก 4 เดือน 5 วัน ปรับเหลือ 8,000 บาท โดยการตัดสินคดีครั้งนี้ไม่รอลงอาญาเนื่องจากทางศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการทำในลักษณะเชิงธุรกิจการค้า ที่ไม่ได้นึกถึงผลกระทบต่อสังคม อีกทั้งมีจำเลยบางรายพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำ 

เบื้องต้นทางทนายความของจำเลยทั้ง 5 ราย ได้มีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ขอประกันตัวออกไป ตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนที่ปัญหาตามมาคือ สุนัขของกลางที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม ที่รอดชีวิตเหลือจำนวน 770 ตัว ตายสะสมรวม 440 ตัว ยังต้องให้การดูแลเลี้ยงดู ไปจนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด ซึ่งขณะนี้มียอดการบริจาคผ่านกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ที่ 22 ล้านบาท ใช้ไปแล้วประมาณ 4 ล้าน บาท ในการเลี้ยงดู และปรับปรุงสถานที่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตกวันละประมาณ 50,000 บาท ที่ต้องเลี้ยงดูไปตลอดหากไม่มีใครมาติดต่อขอรับคืน และหากเจ้าของสุนัขที่ต้องการติดต่อรับสุนัขกลับไปเลี้ยงสามารถนำหลักฐานมายืนยันขอรับไปเลี้ยงได้

ทางด้าน นายบัญญัติ ตังกบดี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ในการพิจาณาคดีครั้งนี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมอย่างละเอียด ที่มีการสืบสวน สืบเสาะหาข้อมูลหลักฐาน อย่างชัดเจน และพบว่ามีหลักฐานในการกระทำความผิดชัดเจน แตกต่างจากการพิจารณาตัดสินคดีการค้าสุนัขเมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการรอลงอาญาแก่จำเลย แต่ในครั้งนี้ จากหลักฐานพบว่ามีการกระทำผิดในจำนวนสุนัขมาก อีกทั้งในลักษณะเชิงธุรกิจการค้า ที่ไม่ได้นึกถึงผลกระทบต่อสังคม และถือว่าทารุณโหดร้าย ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย ที่มีการจับกุมเพิ่มเติม กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินในครั้งต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 20:06:43


ความคิดเห็นที่ 2184 (1574980)

Pic_204883

 

 

พายุไต้ฝุ่น เนซาต เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์แล้ว ทำให้เกิดฝนตก น้ำท่วมหนัก รวมถึงดินถล่มในหลายพื้นที่ และล่าสุดรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย โดยหนึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กทารกวัยเพียง 1 ขวบเท่านั้น...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่า พายุไต้ฝุ่น "เนซาต" ความเร็วลม 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ทางตอนเหนือกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ บนเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแล้ว ทำให้เกิดฝนตกและน้ำท่วมสูง ต้นไม้หักโค่นทับบ้านเรือนเสียหาย และมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย และสูญหายอีก 4 รายทั่วประเทศ

เมื่อเช้าวันอังคาร (ตามเวลาท้องถิ่น) ไต้ฝุ่นเคลื่อนตัวเขาสู่พื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของเกาะลูซอน ซึ่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก อิทธิพลของไต้ฝุ่น ยังทำให้เกิดดินถล่มในจังหวัดอิซาเบลา และออโรราทางตะวันออกของประเทศ ต่อมาจึงได้เคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ ได้มีคำสั่งอพยพผู้คนกว่าแสนคน ออกนอกพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ ทำให้โรงเรียนและสำนักงานหลายแห่ง ต้องปิดทำการ รวมถึงตลาดซื้อขายหุ้น ก็ต้องปิดชั่วคราวด้วยเช่นกัน

เกิดปัญหาไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ในเกาะหลัก "ลูซอน" รวมถึงกรุงมะนิลาด้วย ทำให้หน่วยงานต่างๆ เช่น ศูนย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาล รวมถึงโรงแรม ต้องหันมาใช้เคร่ืองปั่นไฟแทน

สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 7 ราย โดยรายแรกเป็นเด็กทารกวัยเพียง 1 ขวบ พลัดตกลงไปในแม่น้ำที่จังหวัด คาตันวาเนสในภาคกลาง ส่วนแม่และลูกซึ่งอาศัยอยู่ย่านชานเมืองคาลูคาน ถูกเศษซากของบ้านที่พังลงมาจากต้นไม้โค่นทับเสียชีวิตทั้งคู่ ขณะที่มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิต 4 ราย ที่ชานเมืองวาเลนซูเอลา โดยสาเหตุการเสียชีวิต มาจากการถูกกำแพงบ้านถล่มลงมาทับ

อีกด้านหนึ่ง มีชาวประมงสูญหาย 4 ราย ขณะนำเรือออกหาปลาที่ชายฝั่งทางตะวันออก ทั้งๆ ที่มีพายุจนเกิดอับปาง ทั้งที่พยากรณ์อากาศประกาศเตือนแล้วว่า อาจมีคลื่นสูงถึง 4 เมตร ก่อตัวขึ้นในทะเลได้ ส่วนลูกเรือคนอื่นอีกกว่า 50 ชีวิต ได้รับการช่วยเหลือแล้ว

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า พายุจะเคลื่อนตัวไปยังทะเลจีนใต้ ในช่วงดึกวันพุธ หรือ เช้าวันพฤหัสบดี และเคลื่อนตัวต่อไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศจีน

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 20:08:25


ความคิดเห็นที่ 2185 (1574983)

 

 
Pic_204786

 

Photo : Caters News

หนูน้อยมะกัน วัย 3 ขวบ ป่วยประหลาด มีอาการกินสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร โปรดปรานหลอดไฟ ก้อนอิฐ กรวดหิน และแท่งไม้ หวั่นอันตรายถึงชีวิต...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 27 ก.ย. ถึงอาการป่วยประหลาดของหนูน้อย นาตาลี เฮย์เฮิร์สท์ วัย 3 ขวบ ซึ่งเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะชอบรับประทานวัตถุแปลกประหลาดมากกว่าอาหารปกติ โดยเธอจะแอบรื้อหลอดไฟในห้องนอนมาทาน รวมไปถึงก้อนอิฐที่เธอเคี้ยวอย่างอเร็ดอร่อยราวกับเป็นขนมปังบิสกิต ขณะที่ก้อนหินและท่อนไม้ จัดเป็นเมนูโปรดปรานอันโอชะของเธอ

ด้าน คอลลีน คุณแม่วัย 31 ปี จากรัฐอินเดียนา ของสหรัฐฯ ผู้วิตกกังวลอย่างมากต่อเรื่องดังกล่าว และไม่เคยนิ่งนอนใจเลย เผยว่าต้องคอยระวังไม่ให้ลูกนำสิ่งของแปลกปลอมเข้าปากอยู่ตลอดเวลา "อาการดังกล่าวของลูก เรียกว่า พิกา (Pica) หรือ อาการกินสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร แต่เดี๋ยวนี้เธอไม่ค่อยทานจำพวกแก้วเท่าไหร่แล้ว หลังจากที่มันทำให้เธอเจ็บปวดและทรมาน แต่เธอยังพยายามกินก้อนหินและแท่งไม้ที่เจอในสวนหลังบ้าน นอกจากนี้เธอยังกินก้อนอิฐได้เหมือนกับที่คนทั่วไปกินคุ๊กกี้ช็อกโกแลตชิพอีกด้วย เธอรู้ว่ามันอันตรายต่อตัวเธอเอง แต่มันเป็นเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมความอยากของเด็กวัย 3 ขวบได้"

คอลลีน ยังเปิดใจถึงครั้งแรกที่รับรู้ว่าลูกมีอาการผิดปกติซึ่งเกือบทำเธอเสียชีวิตด้วยว่า "ฉันพาลูกสาวเข้านอนและกลับลงไปล้างจานในครัวต่อ สักพักลูกเดินเข้ามาในมือมีวัตถุแปลกๆ 2 ชิ้น ปากของเธอเต็มไปด้วยเลือด ฉันรู้ว่ากิดอะไรขึ้นและรีบพาไปหาหมอทันที"

ทั้งนี้ หลังจากรับรู้ถึงอาการแปลกประหลาดของลูก คอลลีน แทบไม่ละสายของจากลูกเลยตลอด 24 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ดีคุณแม่ยังสาวผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งยอมรับว่าสิ่งที่กังวลใจมากที่สุดคือ วันหนึ่งลูกอาจจะหยิบอะไรเข้าปากอีก และเป็นสิ่งที่อันตรายถึงชีวิต โดยที่เธอไม่เห็นและไม่อาจช่วยเหลือลูกได้ทันเวลานั่นเอง.

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 20:16:39


ความคิดเห็นที่ 2186 (1574986)
 
Pic_204960

 

การรถไฟฯ เร่งซ่อม-เสริมเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมสายเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ สั่งเจ้าหน้าที่ตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม. ในจุดที่ยังมีน้ำท่วมขัง ขณะที่ขบวนสายเหนือยังปิดให้บริการบางขบวน สอบถามเพิ่มเติม โทร.1690 ...

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 ก.ย. นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า เส้นทางรถไฟทุกสาย โดยเฉพาะสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ ยังสามารถเดินรถผ่านได้ทุกเส้นทางตามปกติ แต่มีการชะลอรถช่วงสายเหนือ เส้นทางวิ่งระหว่างปากน้ำโพ-บึงบอระเพ็ด เนื่องจากมีน้ำท่วมสันรางสูงกว่าวันก่อนถึง 17 เซนติเมตร แต่รถยังสามารถแล่นผ่านได้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการยกหมอนรางขึ้นอีก 15 เซนติเมตรแล้ว

ส่วนเส้นทางสถานีซับม่วง-จันทึก ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งทางขาดตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 26 ก.ย.นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบทำให้รถไฟต้องหยุดวิ่ง โดยรถไฟยังสามารถวิ่งได้ตามปกติ แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางวิ่ง จากเดิมวิ่งผ่านไปยังเส้นทางนครราชสีมา เป็นเส้นทาง อ.ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี แทน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถซ่อมทางที่ขาดได้แล้วเสร็จ และเปิดวิ่งได้ตามปกติในวันนี้

ขณะที่นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟฯ แจ้งว่า ตามที่การรถไฟฯประกาศเร่งซ่อมเสริมเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้สามารถเดินรถผ่านได้ทุกเส้นทาง แต่ในบางพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังในหลายพื้นที่ ได้แก่ ช่วงสถานีลพบุรี ที่มีระดับน้ำท่วมสูง, ช่วงช่วงสถานีปากน้ำโพ-บึงบอระเพ็ด และ ช่วงสถานีพิจิตร – ท่าฬ่อ โดยเมื่อเวลา 17.30 น. ได้รับแจ้งจากฝ่ายเกี่ยวข้องถึงสถานการณ์ในเส้นทางสายเหนือว่าสถานการณ์น้ำยังน่าเป็นห่วงอยู่ การรถไฟฯ จึงได้ประกาศงดเดินขบวนรถสายเหนือ ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 11 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพ เวลา 18.๐๐ น. ,ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 1 (ด่วนนครพิงค์)กรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพ เวลา 18.10 น. ,ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพ เวลา 19.35 น. และ ขบวนรถเร็วที่ 105 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพ เวลา 19.50 น.

หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ฯ เพิ่มเติมว่า ขอให้ประชาชนที่เดินทางโดยสารรถไฟในขณะนี้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง  สำหรับผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางได้สามารถติดต่อขอรับเงินค่าโดยสารคืนได้เต็มราคาที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง ทั้งนี้ ขอให้ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขสถานการณ์ทางเว็บไซด์ของการรถไฟฯ ที่  WWW.RAILWAY.CO.TH  หรือ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 20:18:59


ความคิดเห็นที่ 2187 (1574991)

 

 

ทั้งหมด

เป็นหนังตัวอย่าง

ปี 55 ฉายจริง

แต่

หนังตัวอย่าง

ก็จะฉายก่อนหนังจริง

ไม่นานนัก

 

ให้พวกเรา

กลับไปอ่าน กระทู้

ความเห็นเก่าๆ

กันบ้างนะจ๊ะ

 

อ.อุบล

ขี้เกียจฉายหนังซ้ำแล้ว

ตอนนี้ต้องเร่งรีบ

ทั้งพายทั้งแจว

แล้วนะจ๊ะ

 

(เร่งสร้างบุญ หนี กรรม หนีน้ำ หนีภัยพิบัติ หนีสารพัด ฯลฯ)

--------------------

อาริยา ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลในความเมตตาชี้เเนะลูกๆทั่วโลกให้ รอดปลอดภัย  เร่งสร้างบุญ หนี กรรม หนีน้ำ หนีภัยพิบัติ หนีสารพัด ฯลฯ

ลูกขอตั้งใจน้อมรับปฎิบัติเเละขอน้อมนำคำสอนชี้เเนะที่ท่านอาจารย์เมตตาได้เร่งสร้างความดีเเละช่วยเหลือเมตตาผู้คนรอบข้างค่ะ 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 20:43:42


ความคิดเห็นที่ 2188 (1575004)
อัพเดตสถานการณ์น้ำท่วม 27 กันยายน 54



18.20 น. ตราด - นายฉลอง พันธุนาคิน  หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ กช.4 น้ำตกคลองพลู  อ.เกาะช้าง จ.ตราด  กล่าวว่า ได้ประกาศปิดการท่องเที่ยว ภายในบริเวณน้ำตกคลองพลูชั่วคราวก่อน เพราะอาจจะมีการเกิดกระแสน้ำป่าไหลหลาก จากบนภูเขา ลงมาสู่ด้านล่างโดยฉับพลัน  ในช่วงที่มีฝนตกลงมาติดต่อกันหลายวัน

14.30 น. อุตุประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 5 พายุไห่ถาง

เมื่อ เวลา 10.00 น. วันนี้ (27 ก.ย. 54) พายุดีเปรสชัน“ไห่ถาง” (Haitang) บริเวณเมืองเว้ ชายฝั่งประเทศเวียดนาม มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.5 องศาตะวันออก หรือทางด้านตะวันออกของจังหวัดมุกดาหาร ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงอีกและจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียง เหนือของประเทศไทยในวันนี้ (27ก.ย.54) บริเวณจังหวัดมุกดาหารและอำนาจเจริญ

ลักษณะ เช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีลมแรง

จึง ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
- วันที่ 27 กันยายน 2554 ในบริเวณจังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
- วันที่ 28 กันยายน 2554 ในบริเวณจังหวัดลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27- 29 กันยายน 2554

14.20 น. อยุธยา : วิกฤตหนักแม่น้ำทุกสายไหลบ่าถล่มบ้านเรือน วัดโรงเรียน ถนน จมน้ำ ส่วนคลองชลประทานขาดทะลักท่วมทุ่งข้าวนาปี

13.30 น. ปทุมธานี : บ้าน 4 หลัง ในหมู่บ้านชวนอยู่ ถ.เลียบคลองแปด ม.8 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทรุดตัว และพบอีก 8 หลัง มีรอยร้าว ประกาศเป็นเขตพื้นที่เสี่ยงภัย ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด

11.00 น. เชียงใหม่ : เกิดเหตุดินถล่ม ในพื้นที่หมู่ 5 บ้านม่อนเงาะ ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 3-4 จุด 3-4 จุด ปิดเส้นทางสัญจรโดยแต่ละจุดยาว 50-60 เมตร สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักมากตลอดทั้งคืน ดินจึงอ่อนตัวและทรุดลงมา ถือเป็นเหตุการณ์ดินถล่มหนักที่สุดในรอบ 20 ปี

10.30 น. อ่างทอง : น้ำทะลักใต้ถนนเข้าชุมชนศาลากลางอ่างทอง
นายฉัตรชัย เย็นทรวง ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองอ่างทอง ระดมกำลังสามล้อเครื่องขนกระสอบทรายจากถนนใหญ่เข้ามาในซอยบ้านรอซึ่งติดอยู่ กับศาลากลางจังหวัดอ่างทอง เพื่ออุดน้ำทะลักลอดใต้ถนนคอนกรีตไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนและมุ่งหน้าสู่ ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง

09.15 น. ลพบุรี – น้ำท่วม หนัก 3  อำเภอ คือ อ.เมือง อ.ท่าวุ้น และ อ.บ้านหมี่ สูงเฉลี่ยกว่า 1 เมตรครึ่ง และไม่สามารถระบายออกได้ โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นวันละ 10-40 ซ.ม.

09.05 น. กทม. - ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำแล้ว

09.00 น. นครสวรรค์ - น้ำท่วมรางรถไฟปากน้ำโพธิ์ ถึงบึงบอระเพด ข.9 กรุงเทพ-เชียงใหม่ สูง 25 ซ.ม. จึงปิดให้บริการแต่คาดว่าจะเปิดให้ใช้ได้ตามปกติ ภายในเวลาเที่ยงวันนี้ (27 ก.ย.)

08.55 น. อุตุฯเตือนฉบับ 4
พายุ โซนร้อน “ไห่ถาง” (Haitang) มีศูนย์กลางที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.5 องศาตะวันออก หรืออยู่ทางด้านตะวันออกของจังหวัดมุกดาหาร ประมาณ 300 กิโลเมตร ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลัง แรงขึ้นทำให้บริเวณด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีลม แรง

 

Mthai News


 


 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 21:18:31


ความคิดเห็นที่ 2189 (1575010)

 

 

ขออนุญาติลงภาพที่มีคุณค่าค่ะ.......พอดีเพื่อนส่งภาพมาให้

ทำให้เราได้มีโอกาสย้อนกลับมาพิจารณาตนเองจริงๆกับคำพูด ความคิด พฤติกรรม ที่ตนเองอาจทำให้หลายๆคนเสียใจ ทุกข์ใจ กับเรา ขอขอบพระคุณ เเละ ขออนุโมทนาบุญกับเพื่อนท่านนี้เเละทุกท่านที่ทำให้เราได้เกิดปัญญา ที่จะเริ่มคิดเเละขอโทษอโหสิกรรมกันด้วยความเมตตากรุณาให้กัน สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 21:35:24


ความคิดเห็นที่ 2190 (1575017)

 

 

 

เปิดจอกว้างเต็มตา
พายุ 2 ลูกซิ่งเข้าเวียดนาม
ลาว-ไทยมีสิทธิ์เละอีก


พา ยุซิ่ง -- ไห่ตัง (Haitang) พายุโซนร้อนที่ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้กำลังเคลื่อนเข้าใกล้ฝั่งภาคกลาง เวียดนามในวันจันทร์ (26 ก.ย.) ก่อนจะเงยหัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พายุลูกนี้เปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวถึง 4 ครั้งก่อนพัดเข้าถึงฝั่งภาคกลางตอนบนเช้าวันอังคาร (27 ก.ย.) นี้ และ อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่นทำให้ฝนตกกระจายเป็นวงกว้างครอบคลุมพื้นที่ 3-4 จังหวัด รวมทั้งในดินแดนลาวด้วย ขณะเดียวกันไต่ฝุ่นเนสาต (Nesat) ที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ได้พัดเข้าเกาะลูซอนทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ในวันอังคารนี้และกำลังเคลื่อน ตัวเข้าทะเลจีนใต้ตามกันไปติดๆ ผ่านเกาะไหหลำ-กรุงฮานอย ทิศทางเดียวกับพายุไห่หม่าในเดือน มิ.ย. ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักระลอกแรกในภาคเหนือของลาวและไทย. -- ภาพ: NCHMF Vietnam.


พายุไห่ตังเพิ่งผ่านไป ไต้ฝุ่นลูกใหม่ล่าสุดชื่อภาษาเขมรกำลังเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันอังคาร (27 ก.ย.) นี้มุ่งสู่เกาะไหหลำ เข้าภาคเหนือเวียดนามซึ่งจะกลายเป็นพายุโซนร้อนและดีเปรสชั้นตามลำดับ ไต้ฝุ่นเนสาดเคลื่อนไปในเส้นทางเดียวกับไต้ฝุ่นไห่หม่าในปลายเดือนย มิ.ย.ปีนี้ ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักในแขวงภาคเหนือกับภาคกกลางของลาวและจังหวัดในภาคเหนือ ตอนบนของไทย และทำให้เกิดอุทกภัยติดตามมาระลอกแรก หรือฝันร้ายกำลังวจะมาเยือนอีกครั้ง? -- ภาพ: NCHMF Vietnam.



ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- พายุโซนร้อนไห่ตังพัดเข้าถึงฝั่งเวียดนามเช้าวันอังคาร 27 ก.ย.นี้ แม้จะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น แต่กำลังทำให้เกิดฝนตกกินบริเวณกว้างครอบคลุมถึงแขวงภาคกลางของลาว แต่นี่ก็เป็นเสมือนการ "เผาหลอก" เพราะงานเผาจริงกำลังจะมาถึงในอีก 3 วันข้างหน้า เมื่อไต้ฝุ่นเนสาดเคลื่อนเข้าถึงฝั่งทางภาคเหนือ
       
อิทธิพลพายุไห่ตังทำให้เกิดฝนตกในจังหวัดภาคกลางเวียดนามมา 2 วันแล้ว และกำลังตกหนักในเช้าวันนี้ใน จ.กว๋างบี่ง (Quang Binh) กว๋างจิ (Quang Tri) กับ เถื่อเทียนเหว (Thua Thien Hue) กับ ลมพัดด้วยความเร็วระดับ 6 (29-49 กม./ชม) ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางเวียดนามกล่าว
       
ดีเปรสชั่นลูกนี้กำลังเคลื่อนตัวช้าๆ 20 กม./ชม. ในแนวตะวันตกเฉียงเหนือและจะกลายสภาพเป็นร่องความกดอากาศต่ำ เมื่อเข้าสู่บริเวณชายแดนลาวและจีนในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
       
ตามรายงานของศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ เวียดนาม พายุโซนร้อนไห่ตัง ซึ่งก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้สัปดาห์ที่แล้ว ได้เปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวถึง 4 ครั้งก่อนหน้านี้ จากเดิมที่คาดว่าจะพัดเข้าบริเวณ จ.เถื่อเทียนเหว ซึ่งทำให้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ของลาว ออกแจ้งเตือนในวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้ประชาชนในแขวงภาคกลางเตรียมรับมือกับพายุลูกนี้ แม้เชื่อว่าจะมีไม่รุนแรงเท่าพายุไห่หม่ากับนกเต็นก็ตาม
       
ช่วง 3 เดือนมานี้ลาวเจอน้ำท่วมถึง 4 ระลอก และ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 30 ราย นาข้าวกับพื้นที่การเกษตรเสียหายนับแสนไร่ ส่งผลกระทบต่อราษฎรราว 430,000 ในใน 12 แขวง (จังหวัด) เหนือจรดใต้ ถนนเสียหายนับร้อยสายและสะพานเสียหายหรือถูกทำลายหลายแห่ง สื่อของทางการกล่าว
       
ไต้ฝุ่นเนสาดซึ่งตั้งชื่อตามอุปกรณ์หาปลาชนิดหนึ่งในกัมพูชา ได้พัดเข้าทางตอนเหนือของเกาะลูซูซอนในเช้าวันอังคารนี้ และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งสู่เกาะไหหลำของจีนและกรุงฮานอยเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะเข้าถึงฝั่งในวันที่ 30 ก.ย.ศกนี้ และ จะค่อยๆ อ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อนกับดีเปรสชั่นในที่สุด
       
อิงตามข้อมูลของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ไต่ฝุ่นเนสาดกำลังเคลื่อนตัวในทิศทางเดียวกับพายุไห่หม่าในปลายเดือน มิ.ย. ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักในแขวงภาคเหนือของลาว และ เริ่มต้นอุทกภัยครั้งใหญ่ในปีนี้
       
ในวันอังคารนี้ไต้ฝุ่นระดับ 4 ที่อ่อนกำลังลงเป็นระดับ 1 ได้สร้างความเสียหายแก่ภาคเหนือฟิลิปปินส์สาหัสอีกครั้ง ทางการได้อพยพผู้คนกว่า 100,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ ไปยังที่ปลอดภัย ไต้ฝุ่นลูกล่าสุดนี้ทำให้เกิดฝนตกหนักกินบริเวณกว้างตั้งแต่ปลายสุดของหมู่ เกาะลงไปจนถึงกรุงมะนิลาเมืองหลวง
       
ทางการกำลังเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์สตาร์ รายงานในเว็บไซต์.

 
อิทธิฤทธิ์รุนแรง
 


เรือสินค้าถูกกไต้ฝุ่นเนสาดซัดเข้าเกยตื้นที่บริเวณ ท่าเรือนาโซตัสทางตอนเหนือของกรุงมะนิลาในวันจันทร์ 27 ก.ย.2554 ไต้ฝุ่นทรงพลังลูกนี้พัดเข้าเกาะลูซอนผ่านเขตนาข้าวของฟิลิปปินส์และทำให้ การจราจรในเมืองหลวงมะนิลาเป็นอัมพาตไปหลายชั่วโมงในวันเดียวกัน ไต้ฝุ่นเนสาดกำลังบ่ายหน้าเข้าทะเลจีนใต้และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแบบ เดียวกันไต้ฝุ่นไห่หม่าในปลายเดือน มิ.ย. คาดว่าจะถึงเกาะไหหลำกับจังหวัดภาตเหนือเวียดนามในอีก 3 วันข้างหน้า ลาวภาคเหนือเป็นด่านถัดไป. --REUTERS/Romeo Ranoco.


คนงานก่อสร้างในบริเวณใกล้เคียงมองดูเรือสินค้าที่ ถูกไต้ฝุ่นเนซัตซัดเข้าเกยตื้นที่บริเวณท่าเรือนาโซตัสทางตอนเหนือของกรุง มะนิลาในวันจันทร์ 27 ก.ย.2554 ไต้ฝุ่นทรงพลังลูกนี้พัดเข้าเกาะลูซอนผ่านเขตนาข้าวของฟิลิปปินส์และทำให้ การจราจรในเมืองหลวงมะนิลาเป็นอัมพาต ไต้ฝุ่นชื่อเขมรกำลังบ่ายหน้าเข้าทะเลจีนใต้และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน แบบเดียวกันไต้ฝุ่นไห่หม่าในปลายเดือน มิ.ย. คาดว่าจะถึงเกาะไหหลำกับจังหวัดภาตเหนือเวียดนามในอีก 3 วันข้างหน้า. --REUTERS/Romeo Ranoco.


ชายผู้นี้พยายามเข็นจักรยานไปตามถนนโรฮาส (Roxas Boulevard) กรุงมะนิลาในวันอังคาร (27 ก.ย.) นี้ท่ามกลางฝนโปรยปราย ไต้ฝุ่นเนสาดพัดเข้าทางตอนเหนือของเกาะลูซอนตอนเช้าตรู่วันเดียวกัน ส่งผลกระทบวงกว้างลงไปจนถึงเมืองหลวง น้ำท่วมสูงได้ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตอยู่หลายชั่วโมง. -- AFP PHOTO/Ted Aljibe.


ภายใต้หลังแห่งธรรมชาติ อภิมหาอำนาจก็ไม่ได้รับการยกเว้น สถานทูตสหรัฐฯ ในย่านใจกลางกรุงมะนิลาก็จมน้ำเช่นกันไต้ฝุ่นเนสาดพัดเข้าทางตอนเหนือของ เกาะลูซอนตอนเช้าตรู่วันอังคาร 27 ก.ย. ทำให้เกิดฝนตกหนักไปจนถึงเมืองหลวง น้ำท่วมสูง การจราจรเป็นอัมพาต. --REUTERS/Romeo Ranoco.


ยวดยานต่างๆ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ไปตามถนนสายสำคัญในกรุงมะนิลาตอนเช้าตรู่วันอังคาร 27 ก.ย.นี้ ไต้ฝุ่นเนสาดผ่านไปแล้วและกำลังมุ่งหน่าสู่ภาคเหนือเวียดนามและลาวภาคเหนือ ซึ่งคาดว่าจะเข้าถึงฝั่งในอีกไม่เกิน 3 วันข้างหน้า ในขณะที่ทางการลาวยังคงเยียวยาน้ำท่วมถึง 4 ระลอกที่ผ่านมา. -- AFP PHOTO/Ted Aljibe.


ยวดยานต่างๆ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ไปตามถนนสายสำคัญในกรุงมะนิลาตอนเช้าตรู่วันอังคาร 27 ก.ย.นี้ ไต้ฝุ่นเนสาดผ่านไปแล้วและกำลังมุ่งหน่าสู่ภาคเหนือเวียดนามและลาวภาคเหนือ ซึ่งคาดว่าจะเข้าถึงฝั่งในอีกไม่เกิน 3 วันข้างหน้า ในขณะที่ทางการลาวยังคงเยียวยาน้ำท่วมถึง 4 ระลอกที่ผ่านมา. -- AFP PHOTO/Ted Aljibe.


 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 21:47:44


ความคิดเห็นที่ 2191 (1575022)

อ.อุบล

เคยบอกแล้วว่า

พระแม่ธรณี พระแม่คงคง

พระพิรุณ พระเพลิง พระพราย

ทรงพิโรธโกรธแค้น

ชาวไทย

ที่

ไม่รักกัน

ไม่รักสถาบันชาติ

สถาบันศาสนา พระมหากษัตริย์

 

พระเจ้าอยู่หัว

ขอครั้งหลังนี้ ที่ท่าน้ำศิริราช

ขอแลกพระชนม์ พระวรกาย

เพื่อชาวไทย พ้นภัยจากน้ำ

 

ด้วยพระองค์

ทรงทราบล่วงหน้า

ด้วยราชญาณ การหยั่งรู้

ว่า

ประเทศไทย

จะพบภัยใหญ่ จากน้ำ

พระองค์ไม่อาจทนดู

ทนเห็นได้

 

แต่

สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน

ไม่ทรงยินยอม

ให้พระองค์ทรงทำเช่นนั้น

 

ด้วยไม่ใช่การ

ช่วย ให้ คนชั่ว กลับตัว กลับใจ

พระองค์จะต้องปล่อยไป

ตามวิบากกรรม

 

ถ้าไทย

อยากพ้นทุกข์

มีทางเดียว คือ ต้องหันมา

รักสามัคคีกัน

 

รักสถาบัน

ชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ภัยพิบัติจึงจะบันเทา

 

ถ้าไม่เชื่อ

ก็ไม่เป็นไร เชิญจาบจ้วง

ล่วงเกินในหลวงไป

ตามอัธยาศัย

แล้วก็

รับชะตากรรมกันไป

อ.อุบล

คงช่วยได้แค่นี้

 

คนไหนที่เปลี่ยน

กลับลำทันที

ก็จะรอดปลอดภัย

ทั้งภัยจากน้ำ ภัยจากเคราะห์กรรม

ใด ใด จะพิสูจน์ได้ ในบัดดล

 

เชิญเลือก

ทางเดินชีวิต แต่ละผู้ แต่ละคน

กันเอาเองนะจ๊ะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 21:59:17


ความคิดเห็นที่ 2192 (1575025)

 

เชียงใหม่เกิดดินถล่มหนักสุดในรอบ20ปี


เกิดดินถล่มสไลด์ปิดทับเส้นทาง 4 จุด ใน จ.เชียงใหม่ คาด ใช้เวลา 3 วัน จะเปิดเส้นทางได้ ชาวบ้านระบุ หนักสุดในรอบ 20 ปี

อิทธิพลของพายุไห่ถาง ส่งผลให้ จ.เชียงใหม่ ยังคงมีฝนตกเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ล่าสุดได้รับรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีเหตุดินถล่มจากภูเขาสไลด์ลงมาปิดทับเส้นทางบ้านม่อนเงาะ หมู่ 5 ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ส่งผลให้ไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรผ่านไป - มาได้

นายดวง คำวุฒิ นายก อบต.เมืองก๋าย เปิดเผยว่า ได้เกิดดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางประมาณ 3 - 4 จุด กินพื้นที่ 50 - 60 เมตร ทาง อบต. ได้ประสานไปยัง อบจ.เชียงใหม่ ให้ช่วยนำเครื่องจักร และรถแบคโฮเขามาช่วยเหลือแล้ว คาดว่าอาจต้องใช้เวลา 2 - 3 วัน จึงจะสามารถเปิดใช้เส้นทางได้ตามปกติ

ทั้งนี้ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมคณะ จะได้เดินทางไปสำรวจความเสียหาย และเร่งช่วยเหลือในช่วงบ่ายวันนี้ โดยชาวบ้านระบุว่า เหตุการณ์ดินถล่มครั้งนี้ หนักที่สุดในรอบ 20 ปี


INN

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 22:05:27


ความคิดเห็นที่ 2193 (1575043)

อ่างเก็บน้ำแม่เกี๋ยงอั้นไม่อยู่ ต้องระบายน้ำออกส่งผลถนนขาด 1 ท่วม 3 หมู่บ้าน

 

กระแสน้ำที่ไหลมาด้วยความแรงทำให้ถนนที่ข้ามจากบ้าน สันติสุข ไปยังบ้านมะกอกพังทลายทันที

 

ลำปาง -อ่างเก็บน้ำแม่เกี๋ยง รับน้ำฝนที่ตกอย่างหนักไม่ไหว ต้องปล่อยทิ้งส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วม 3 หมู่บ้านในอำเภอเกาะคา เบื้องต้นถนนในหมู่บ้านหมู่ 2 สันติสุข ขาดไปแล้ว 1 สาย

สายวันนี้ (27ก.ย.) นายนำชัย บุญเรือง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านไหล่หิน ม.2 ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ในหมู่บ้าน รวม 3 หมู่บ้านซึ่งอยู่ติดกัน ประกอบด้วย บ้านสันติสุข บ้านข้าวซ้อน และบ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งน้ำในแม่น้ำแม่ยาวล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านเกือบ50 หลังคาเรือน และเนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลมาด้วยความแรง ทำให้ถนนที่ข้ามจากบ้าน สันติสุข ไปยังบ้านมะกอกพังทลายทันที ชาวบ้านต้องใช้เส้นทางอื่นในการสัญจรข้ามหมู่บ้าน

นายนำชัย กล่าวว่า จากที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก เมื่อคืนนี้ ทำให้อ่างเก็บน้ำแม่ยาว อ.ห้างฉัตร เก็บน้ำไว้ไม่ไหว หากไม่เร่งระบายน้ำออกจากอ่างจะทำให้อ่างพังได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยน้ำออกจากอ่างในเช้ามืดที่ผ่านมา และเนื่องจากอำเภอเกาะคาเป็นเส้นทางที่น้ำแม่ยาวไหลผ่าน ประกอบกับยังมีแม่น้ำสาขา คือ แม่น้ำแม่ฮวก แม่น้ำแม่เหิน และแม่น้ำแม่เถา ไหลมาสมทบ ทำให้น้ำเพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสายของวันนี้น้ำได้ไหลมาถึงหมู่บ้านทั้ง3แห่งและล้นทะลักเข้าท่วมทันที

เช้ามืดวันนี้ ทันทีที่ตนได้รับการประสานจากอ่างเก็บน้ำแม่ยาว ว่า จะมีการระบายน้ำออกตนได้ประกาศเตือนชาวบ้านที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำให้ได้รับทราบแล้ว แต่เนื่องจากยังมืดจึงทำให้ชาวบ้านเก็บข้าวของไม่หมด บ้านเรือนบางแห่งที่อยู่ในที่ลุ่มติดแม่น้ำก็ถูกน้ำท่วม รวม 3 หมู่บ้าน ประมาณ 50 หลังคาเรือน ซึ่งขณะนี้น้ำจากแม่น้ำต่างๆ ยังคงไหลลงมาสมทบไม่ขาดสาย จึงได้แจ้งเตือนชาวบ้านให้เฝ้าระวังและเก็บของไว้บนที่สูงทั้งหมด

ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ติดริมตลิ่ง บ้านเรือนบางหลังน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50 ซม.ทำให้ข้าวของเครื่องใช้จมน้ำทั้งหมด เนื่องจากเป็นบ้านชั้นเดียวติดดิน บางส่วนได้นำอุปกรณ์จอบ เสียมมาขุดร่องระบายน้ำซึ่งไหลทะลักเข้ามาทางท่อระบายน้ำจากแม่น้ำเข้าสู่บ้านเรือน กลับลงสู่แม่น้ำอีกครั้งพร้อมนำกระสอบทรายมาปิดทับท่อระบายน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับเข้าบ้านเรือน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 00:13:33


ความคิดเห็นที่ 2194 (1575044)

“ไห่ถาง” ถล่มเมืองช้างฝนตกต่อเนื่อง - “น้ำมูล” ทะลักท่วมบ้าน นาข้าวหลายพื้นที่

สุรินทร์- อิทธิพลพายุ “ไห่ถาง” ถล่มเมืองช้างฝนตกต่อเนื่องทั้งจังหวัด แม่น้ำมูล-น้ำชี ล้นตลิ่งทะลักท่วมบ้านเรือน นาข้าวหลายพื้นที่ ล่าสุด อ.ชุมพลบุรี นาข้าวหอมมะลิ จมกว่า 3,500 ไร่ ท่วมบ้านเรือน ปชช.59 หมู่บ้าน ขณะผู้ว่าฯ สุรินทร์ ประชุมด่วนรับมือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลของพายุ “ไห่ถาง” เคลื่อนเข้าภาคอีสานตอนล่างและปกคลุมพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ทำให้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตลอดทั้งวันนี้ และเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มแม่น้ำมูล และแม่น้ำชี ใน อ.ชุมพลบุรี, อ.ท่าตูม และ อ.รัตนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำจากปริมาณน้ำฝนตกในพื้นที่ และรับมวลน้ำเหนือที่ไหลมาจาก จ.นครราชสีมา และ จ. บุรีรัมย์ รวมทั้งลำพลับพลา ไหลมาจาก อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ลงสู่แม่น้ำมูล

ทำให้มีปริมาณน้ำหนุนสูงอย่างต่อเนื่องและล้นตลิ่งไหล เข้าท่วมนาข้าวหอมมะลิที่กำลังออกรวง ในพื้นที่ 8 ตำบล ของ อ. ชุมพลบุรี เป็นบริเวณกว้างกว่า 3,500 ไร่ และ ท่วมบ้านเรือนอีก 59 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

ด้าน นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เรียกประชุม ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์เป็นการเร่งด่วน ที่ห้องประชุมจอมสุรินทร์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งล่าสุดทางจังหวัดสุรินทร์ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว จำนวน 2 อำเภอ 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 8 ต.บะ อ.ท่าตูม และ หมู่ที่ 7, 8 ต.สำโรงทาบ, หมู่ที่ 8 ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ ราษฎร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 60 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายแล้ว 350 ไร่ โดย จ.สุรินทร์มีพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัยสูง จำนวน 146 หมู่บ้าน

ขณะที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ คาดการณ์ว่า นาข้าวจะได้รับความเสียหายอีกประมาณ 21,769 ไร่ มันสำปะหลังเสียหาย 22,956 ไร่ โดยพื้นที่ อ.ท่าตูม คาดว่า นาข้าวจะได้รับความเสียหาย 4,581 ไร่, อ.สังขะ คาดว่า นาข้าวได้รับความเสียหาย 5,250 ไร่, อ.สำโรงทาบ คาดว่า นาข้าวได้รับความเสียหาย 1,238 ไร่, อ.รัตนบุรี คาดว่า นาข้าวได้รับความเสียหาย 2,000 ไร่, อ.ชุมพลบุรี คาดว่า นาข้าวได้รับความเสียหาย 8,700 ไร่ และ อ.กาบเชิง คาดว่ามันสำปะหลังจะได้รับความเสียหาย 22,956 ไร่

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯสุรินทร์ ได้มอบหมายให้ปลัดจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์, สำนักงานชลประทานจังหวัดสุรินทร์ และ อุตุนิยมวิทยาจังหวัดสุรินทร์ ร่วมประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ปัญหาน้ำท่วมทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น ณ ห้องประชุมเล็ก ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้สามารถประเมินสถานการณ์และติดตามการให้การช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็วทันเหตุการณ์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 00:18:45


ความคิดเห็นที่ 2195 (1575045)

สกัดไม่อยู่ เวียดนามคาดปี 54 เงินเฟ้อทะลุ 18%

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กันยายน 2554 17:15 น.





แม่ค้าชาวเวียดนามนั่งนับเงินที่หาได้จากการขายของริมถนนในกรุงฮานอย อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นตลอดทุกเดือนส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตประจำวันของคนยากจนในประเทศ ล่าสุดรัฐบาลตั้งเป้ารักษาระดับอัตราเงินเฟ้อให้คงอยู่ที่ 18% ในปี 2554 นี้ .-- AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.

       
เอเอฟพี - เวียดนามตั้งเป้าควบคุมอัตราเงินเฟ้อตลอดปี 2554 ให้อยู่ที่ 18% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศพุ่งขึ้นเร็วที่สุดมากกว่าประเทศใดๆ ในเอเชีย อันเนื่องมาจากราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น
       
       เว็บไซต์ของรัฐบาล รายงานว่า นายกรัฐมนตรี เหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ร้องขอให้หน่วยงานรัฐบาลต่างๆ ใช้มาตรการรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อให้คงอยู่ที่ 18% ในปี 2554 นี้
       
       นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.ทางการมีเป้าหมายให้อัตราเงินเฟ้อมีค่าเฉลี่ยอยู่ประมาณ 15% ตลอดปี 2554 แต่ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปที่ 23% ซึ่งทั้ง IMF และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ต่างคาดการณ์ว่า เวียดนามจะมีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในรอบปีที่ 19%
       
       สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม ระบุว่า ในเดือน ก.ย.ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 22.4%
       
       ก่อนหน้านี้ ในเดือน ก.พ.รัฐบาลเวียดนามพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หลังจากราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้นแตะตัวเลขสองหลัก เงินทุนสำรองระหว่างประเทศผันผวน และค่าเงินอ่อนตัวลง มาตรการหลายอย่างถูกนำมาใช้ รวมทั้งการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย การตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐ และออกคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์รักษาการเติบโตการให้สินเชื่อ หรือกู้ยืมต่ำกว่า 20%
       
       การเติบโตทางเศรษฐกิจผ่อนลงเล็กน้อยที่ 5.76% เทียบปีต่อปี ในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปี 2554 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 ที่เติบโต 6.54% แต่ทางการยังคงตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2554 ไว้ที่ประมาณ 6%

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 00:19:43


ความคิดเห็นที่ 2196 (1575121)
น้ำทะลักอ่างเก็บน้ำ 2 แห่งอ.สันทรายท่วมถนน

นายคมสัน สุวรรณอัมพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาส่งผลน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยแก้วและอ่างเก็บน้ำแม่แฝก โดยน้ำทั้ง 2 อ่างได้เอ่อเข้าท่วมในพื้นที่บ้านร่มหลวง หมู่ 6-8 ต.แม่แฝกใหม่ และต.แม่เจดีย์ครัว ได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ เส้นทางเชื่อมต่อไปยังอ.พร้าว รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากน้ำได้เอ่อท่วมกว่า 30-40 เซนติเมตรเหนือผิวถนน ใช้ได้เฉพาะรถกระบะสูงเท่านั้น ซึ่งได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นจราจรบางส่วนแล้ว
ทั้งนี้ ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้อ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง เร่งออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยบริเวณท้ายน้ำ เพราะน้ำที่ไหลมานั้นค่อนข้างแรงและมาปริมาณมาก โดยเฉพาะบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว ที่เป็นอ่างดิน เกรงว่าอาจจะเกิดการพังทลายลงมาสมทบกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราdด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามีประชาชนที่ต้องอพยพมาเท่าใด เพราะบ้านเรือนอยู่ห่างกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 12:42:36


ความคิดเห็นที่ 2197 (1575122)

อยุธยา-ตลาดท่าเรือจมน้ำ พระติดเกาะไร้อาหาร

วันพุธ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

เขื่อนป่าสักปล่อยน้ำล้นท่วมตลาดท่าเรืออ่วม ต้องใช้เรือเครื่องวิ่งแทนรถ พบพระสงฆ์ 17 รูป ไร้อาหารร้องผ่านครอบครัวข่าว 3 นำถุงยังชีพลงเรือถวายถึงมือเจ้าอาวาสแล้ว และจะส่งถุงยังชีพช่วยชุมชนรอบวัดอีกระลอกคลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
Name:	13.jpg
Views:	2
Size:	37.2 KB
ID:	1694445

เงินบริจาคของประชาชน ครอบครัวข่าว 3 ได้นำไปซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค นำมาจัดตั้งเป็นคลังอาหารอยู่ที่ หอประชุมวิทยาลัยการอาชีพเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแรงน้ำใจจากกลุ่มอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู อาสาสมัครพุทธไธสวรรค์ อาสาสมัครอยุธยารวมใจ กองทัพอากกาศ กองทัพบก คณะนักศึกษาอาจารย์ วิทยาลัยการอาชีพเสนา ผนึกกำลังบรรจุเป็นถุงยังชีพเพื่อนำไปมอบช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ล่าสุด ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพระที่วัดหนองแห้ว อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ด้วยกันทั้งหมดจำนวน 17 รูป วัดถูกน้ำท่วม ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถหุงหาอาหารใส่บาตรได้มากนัก และพระสงฆ์ขาดแคลนเรือที่จะออกบิณฑบาต พระต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ต้องการบิณฑบาตอาหารเป็นการรบกวนชาวบ้านจึงได้หุงข้าวฉันกันเอง แต่ขาดแคลนข้าวสารอาหารแห้ง

ทันที่ที่ครอบครัวข่าว 3 ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ ได้นำกำลังอาสาสมัครกู้ภัยอยุธยารวมใจ นำถุงยังชีพขึ้นเรือฝ่าน้ำเชี่ยวไปมอบให้กับพระสมคิด สุกะธรรมโม เจ้าอาวาสวัดหนองแห้ว นำไปประกอบอาหารไว้ฉันท์แทนการออกบิณฑบาตช่วงน้ำท่วม

ในขณะเดียวกันพบว่า ตลาดอำเภอท่าเรือ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญของอำเภอถูกน้ำจากเขื่อนป่าสักทะลักเข้าท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ภายในตลาดจมมิดสามารถนำเรื่อติดเครื่องยนต์วิ่งผ่านได้อย่างสบาย ธุรกิจทุกชนิดแทบจะหยุดขาย บรรดาร้านค้าต้องช่วยตัวเองนำอิฐบ๊อคมาก่อเป็นกำแพงป้องกันน้ำสูง มีความเสี่ยงกำแพงคอนกรีตจะพังเหมือนกับตลาดเสนา และในขณะนี้พบเพียงธนาคารพาณิชย์เท่านั้นที่ยังเปิดดำเนินการกลางน้ำท่วมสูง

ส่วนศูนย์ราชการเทศบาล ดับเพลิงของอำเภอท่าเรือและตลาดสด จมน้ำไปทั้งหมดแทบมิดหลังคา

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 12:43:29


ความคิดเห็นที่ 2198 (1575123)

เชียงใหม่-น้ำจ่อท่วมเทศบาลนครเชียงใหม่บ่ายนี้
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
Name:	4.jpg
Views:	2
Size:	19.2 KB
ID:	1694473
วันพุธ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554


ศูนย์อุทกวิทยา และบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน แจ้งเตือนชาวเชียงใหม่ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิงให้เตรียมตัวรับมือน้ำที่จะล้นตลิ่งในช่วงบ่ายวันนี้ จากฝนตกและน้ำป่าที่ไหลหลากลงมา

(28 ก.ย.) สถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงใหม่ส่อเค้าวิกฤติ หลังจากที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทั้งจังหวัด โดยเฉพาะทางตอนบนของแม่น้ำปิง เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในหลายจุด ล่าสุดเช้ามืดวันนี้ที่ได้เกิดน้ำป่าถล่มอำเภอแม่แตง พัดบ้านเรือนหายไำป 4 หลัง และมีผู้สูญหายไป 5 คน และขณะที่น้ำป่าได้ไหลลงแม่น้ำแม่แตง และแม่น้ำปิง ทำให้ทั้งน้ำป่าและน้ำฝนที่ตกลงมาทำให้แม่น้ำปิงทางตอนบน ที่อำเภอเชียงดาว เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง


ขณะเดียวกันปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางศูนย์อุทกวิทยา และบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน เปิดเผยว่า ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำปิงทางตอนบน ณ จุดวัดระดับน้ำ พี 67 ที่บ้านแม่แต อำเภอสันทราย เพิ่มระดับขึ้นสูงถึง 4.0 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 406 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับวิกฤติแล้ว โดยปริมาณน้ำจะไหลผ่านถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ณ จุดวัดระดับน้ำ พี 1 เชิงสะพานนวรัฐ ในอีกประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำที่ตัวเมืองอยู่ที่ 3.46 เมตร ใกล้จุดวิกฤติที่ 3.70 เมตร คาดว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ปริมาณน้ำจะเพิ่มระดับขึ้นสูงกว่าจุดวิกฤติ และเอ่อล้นตลิ่งขึ้นได้ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ต้องเร่งประกาศเตือนพี่น้องประชาชนริมแม่น้ำให้เตรียมรับมือ

ด่วน !!! ล่าสุด


น้ำปิงที่จุด P67 แม่แตง มีระดับน้ำเท่ากับ 4.53 เมตร เกินระดับวิกฤติแล้ว (4.00เมตร) และยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้น้ำปิงที่สะพานนวรัฐเท่ากับ 4.04 เมตร เกินจุดวิกฤติแล้ว (3.70 เมตร) ข้อมูล ณ เวลา 11.00 น. ... มีการคาดหมายว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงสุดถึง 4.50 เมตร ...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 12:45:35


ความคิดเห็นที่ 2199 (1575124)

ฝนตกหนักน้ำป่าเทือกเขาพระนารายณ์ ไหลท่วมอ.กะเปอร์

28 กย. 2554 11:24 น.


ระนอง - อิทธิพลพายุหมุนเขตร้อนไห่ถาง ทำให้ฝนตกหนักน้ำป่าจากเทือกเขาพระนารายณ์ ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ อ.กะเปอร์ ท่วมสวนปาล์มกว่าพันไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากอิทธิพลพายุหมุนเขตร้อนไห่ถาง ทำให้ฝนตกหนักในเขตพื้นที่ จ.ระนอง ส่งผลให้ให้น้ำป่าจากเทือกเขาพระนารายณ์ ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง และถนนเพชรเกษมสายระนอง-พังงา จำนวนหลายจุดตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2554 ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 28 ก.ย. 2554 พบว่า บ้านเรือนประชาชนและปาล์มน้ำมันจำนวนหลายพันไร่ยังถูกน้ำท่วมขัง

ดาบตำรวจ อนุมาทย์ ปัตเมฆ หัวหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงจังหวัดระนอง ได้เข้าอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ใช้รถสัญจรไปมา พร้อมทั้งกล่าวว่า ขอฝากไปถึงผู้ที่ใช้รถที่ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมสาย อ.กะเปอร์ มุ่งหน้าจังหวัดพังงา ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากถนนหลายจุดมีท่วมท่วมขังขังกว่า 20-30 เซนติเมตร หากขับโดยไม่ระมัดระวังอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้

นางสำลี จันทร์นาค อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.8 บ้านชิมี ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ กล่าวว่า น้ำเริ่มมามากตั้งแต่ช่วงเช้าและยังคงมากอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งขณะน้ำป่าไหลมานั้นตนเองและลูกสาวออกไปตลาด พอกลับมาน้ำก็ท่วมแล้ว ยังเข้าบ้านไม่ได้ อีกทั้งสวนปาล์มน้ำมันที่อยู่ปากทางเข้าบ้านทั้งของตนเองและเพื่อนรวมมากกว่า 2 พันไร่ ก็ถูกน้ำท่วมขังเช่นกัน เมื่อเข้าบ้านไม่ได้ก็ยังไม่รู้ว่าในบ้านมีอะไรเสียหายบ้างคงต้องรอให้น้ำลด จนสามารถเดินเข้าไปสำรวจความเสียหายได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 12:47:10


ความคิดเห็นที่ 2200 (1575125)

น้ำท่วมกาฬสินธุ์ตาแดงระบาด ไข้เลือดออกตาย2

28 กย. 2554 11:31 น.


สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยฝนชุกเกิดโรคตาแดงและโรคไข้เลือดออกระบาดเสียชีวิตแล้ว 2 ราย สาเหตุเกิดจากภาวะน้ำท่วม

นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหาฝนชุกน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดโรคตาแดงระบาดทั่วทั้งจังหวัด โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอกุฉินาราย์ อำเภอกมลาไสย พบผู้ป่วยโรคตาแดงจำนวน 758 ราย ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่มากับน้ำท่วมประชาชนควรป้องกัน หากพบว่ามีญาติเป็นโรคตาแดงควรหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกันและต้องรีบนำไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เนื่องจากหากปล่อยไว้นานจะทำให้ตาอักเสบและตาบอดได้ สำหรับโรคไข้เลือดออกขณะนี้ซึ่งทุกพื้นที่มีน้ำท่วมขัง พบผู้ป่วยแล้ว 612 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 คน ประชาชนควรร่วมกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งควรที่จะกำจัดบริเวณน้ำท่วมขังหรือเติมทรายอะเบทลงในถังน้ำเพื่อการป้องกัน

ทั้งนี้การเฝ้าระวังโรคหากมีอาการตัวร้อนไข้สูง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีหากรับประทานยาลดไข้ไม่หายควรสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคไข้เลือดออกจากนั้นก็ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการเจาะเลือดขณะที่สุขภาพจะต้องรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่กับการดื่มน้ำที่สะอาดและหมั่นออกกำลังกายเพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากโรคภัยไข้เจ็บเป็นการเบื้องต้น

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 12:48:03



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 [22] 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.