ชาวอ่างทองยังอ่วม ถูกน้ำท่วมอย่างหนักหลายพื้นที่ ที่ อ.ไชโย ถูกฝูงปลิงดูดเลือดอาละวาด จนไม่กล้าลุยน้ำไปเกี่ยวข้าว ขณะที่ อ.เมือง น้ำเริ่มเน่าเหม็น ไม่มีห้องน้ำใช้...
25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ จ.อ่างทอง ยังคงมีระดับทรงตัว แต่พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำยังคงถูกน้ำท่วมจมบาดาล สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนจำนวนมาก ส่วนพื้นที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม ก็ต้องเหน็ดเหนื่อยในการป้องกันไม่ให้น้ำท่วม รวมทั้งต้องจัดเวรยาม ตรวจตราแนวคันกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้ผู้ไม่หวังดีแอบมารื้อทำลาย ด้านแม่น้ำน้อย ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากก้อนน้ำจำนวนมากจาก จ.สิงห์บุรี ที่ไหลผ่านหูช้าง ประตูระบายน้ำพระงาม อ.พรหมบุรี ยังคงไหลทะลักลงมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา กระแสน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่และบ้านเรือนริมถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี ช่วง ม.2 ต.ราชสถิตย์ อย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนต้องรีบอพยพเด็ก คนชรา และคนพิการ หนีตายขึ้นมาอยู่บนถนน รวมทั้งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น
มีรายงานด้วยว่า หลังกระแสน้ำไหลทะลักลงมาเต็มพื้นที่ ปรากฏว่า มีฝูงปลิงดูดเลือดที่ไหลมากับน้ำ ได้ออกอาละวาดกัดกินเลือดของผู้ที่ถูกน้ำท่วม รวมทั้งชาวนาที่ลุยน้ำเกี่ยวข้าวซึ่งกำลังจะถูกน้ำท่วมแล้วจำนวนหลายสิบราย จนเป็นที่หวาดผวาไม่กล้าเดินลุยลงน้ำ
ล่าสุดนายประทีป นาคโมรา อายุ 39 ปี ชาวนาหมู่ 6 ต.ไชโย อ.ไชโย พร้อมคนในครอบครัว ต้องนำเรือลงไปพายเพื่อเก็บเกี่ยวข้าวที่กำลังจะถูกน้ำท่วมอย่างทุลักทุเล โดยนายประทีปเผยว่า ตนต้องรีบเกี่ยวข้าวเพื่อหนีน้ำ แต่ระดับน้ำในนาข้าวสูงจนรถเกี่ยวข้าวไม่สามารถลงไปเก็บเกี่ยวได้ และพวกตนก็ไม่กล้าลุยน้ำลงไปเกี่ยวข้าว เนื่องจากกลัวฝูงปลิงดูดเลือดจำนวนมากที่มากับน้ำ เพราะอาจถูกดูดเลือดได้รับอันตราย จึงจำเป็นต้องยอมพายเรือเกี่ยวข้าวทั้งที่ไม่สะดวก แต่ก็มีความปลอดภัย ไม่ต้องถูกฝูงปลิงดูดเลือดแต่ยังหวั่นว่าฝูงปลิงจะแพร่ขยายพันธุ์มากมาย
นอกจากฝูงปลิงที่มากับน้ำ และอาละวาดกันหนักแล้ว ผู้ประสบอุทกภัยยังต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัส เมื่อห้องส้วมที่มีในบ้านเรือน ถูกน้ำท่วมจมมิดไม่สามารถใช้งานได้ นายประคอง โพธิ์เจริญ อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ไชโย อ.ไชโย เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านม.7 ต.ไชโย ที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ต่างต้องทนความทุกข์หนักหนาสาหัส เพราะไร้ส้วมที่ใช้ถ่ายทุกข์ หลังน้ำท่วมจมมิดทั้งหมู่บ้านมาหลายวันแล้ว ทั้งผู้ที่ต้องไปอาศัยอยู่บนถนน รวมทั้งที่ยังสามารถอยู่ในบ้านได้ ต้องใช้วิธีถ่ายใส่ถุงแล้วโยนทิ้งลงน้ำ บางคนซึ่งไม่มีที่อยู่ ต้องปีนขึ้นไปถ่ายทุกข์บนต้นไม้ ทำให้เป็นห่วงลูกหลานที่เป็นผู้หญิง ต้องลำบากมาก ตนเคยร้องขอความช่วยเหลือไปแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ รับทราบปัญหา แต่กลับบอกว่ายังไม่มีส้วมลอยน้ำให้บรรเทาทุกข์ได้ พวกตนจึงต้องช่วยตัวเองต่อไป
ส่วนสภาพน้ำท่วมขังที่ม.10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง สภาพน้ำเริ่มมีสีดำลอยเป็นฝ้า และส่งกลิ่นเหม็น หลังน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมมานานกว่าสิบวัน มีระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร จนทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว เริ่มได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องเดินลุยน้ำที่เน่าเสียแล้ว บางรายที่ห่วงบ้าน ไม่ยอมย้ายออกไปอาศัยเต็นท์ของทางการด้านนอก ต้องทนอาบน้ำที่มีสีดำเพราะเริ่มเน่าเสีย รวมทั้งต้องทนอยู่อย่างลำบาก ถึงแม้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะนำยากันยุงและยาแก้น้ำกัดเท้าไปแจก แต่ก็ได้ไม่ทั่วถึง ทำให้ผู้ประสบภัยต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการล้างน้ำสะอาด ขณะที่มีหลายรายที่เริ่มป่วยด้วยอาการเครียด ส่วนบางคนต้องขึ้นไปอาศัยนอนบนแทงก์น้ำประปาหมู่บ้าน เนื่องจากพักอาศัยภายในบ้านไม่ได้ และช่วงนี้มีฝนตกชุก ต้องทนความลำบากอย่างน่าเวทนา