อำเภอเกาะคาสั่งเตือน 4 ตำบล เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน


28 กย. 2554 11:21 น.

นายธรรมรักษ์ เชียงพรม นายกอบต. ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำแม่ยาว ยังคงไหลเชี่ยวกรากและระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนได้สั่งกำชับให้ชาวบ้าน ไหล่หิน หมู่ 2 และ บ้านไหล่หินตะวันตก หมู่ 6 ให้เฝ้าระวังน้ำที่ยังไหลเชี่ยวกรากและอาจจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนเรือนราษฎรได้ทุกเวลาหากยังมีผนตกลงมาอีก ประกอบกับอ่างเก็บน้ำแม่ยาว หมู่ที่ 1 ในพื้นที่ ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ที่มีพื้นที่ติดต่อกับ อ.เกาะคา จ.ลำปาง น้ำยังไหลเข้าอ่างอย่างต่อเนื่องและน้ำอาจจะล้นสปริงเวย์ไหลทะลักออกมาอย่างหนักต่อเนื่อง ส่วนถนน ทางเข้าหมู่บ้าน ไหล่หิน ที่ถูกน้ำป่า ไหลหลากกัดเซาะ ถนน ขาด มีความยาวกว่า 30 เมตรนั้น ล่าสุด น้ำ ยังกัดเซาถนนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถนนจุดนี้ขาดขยายวงกว้างเพิ่มออกเป็น 60 เมตร

เบื้องต้น ทางอบต.ไหล่หิน เร่งประชุมและรีบรายงาน ให้ทาง อ.เกาะคา จ.ลำปางรับทราบข้อมูลเพื่อที่เร่งเข้าไปซ่อมแซม และจะได้จัดหางบประมาณ เข้ามาซ่อมถนน ต่อไป เพราะชาวบ้านไม่สามารถใช้ถนนเส้นดังกล่าวได้ ขณะเดียวกันทางนายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ นายอำเภอเกาะคา จ.ลำปาง ได้ประกาศแจ้งเตือน ให้ชาวบ้าน ใน 4 ตำบล คือ ต.ไหล่หิน ต.ท่าผา ต.ใหม่พัฒนา ต.เกาะคา ที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้ ลำน้ำแม่ยาวที่ไหลผ่าน เตรียมพร้อมรับมือ น้ำท่วมฉับพลัน แล้ว

แพร่คลิปโกลาหล!!

ผู้คนวิ่งหนีตายภัยแผ่นดินไหว

เขย่าอนุสาวรีย์วอชิงตัน

เดลิเมล์/เอ็นบีซี - ทางการสหรัฐฯเผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดของยอดอนุสาวรีย์วอชิงตัน ขณะที่เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.8 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่าน เป็นภาพนักท่องเที่ยวที่อยู่ในความตื่นตระหนกวิ่งหนีตายกันอลหม่านผ่านบันไดแคบๆจากด้านบนของอนุสาวรีย์ที่สูงกว่า500ฟุต วิดีโอที่เผยแพร่โดยสำนักงานอุทยานแห่งชาติเป็นภาพเหตุการณ์อันตื่นตระหนกและโกลาหลบริเวณยอดของอนุสาวรีย์วอชิงตันระหว่างเกิดแผ่นดินไหวเขย่าเมืองหลวงแห่งนี้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม

กล้องวงจรปิด 3 ตัว สามารถแสดงให้เห็นว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เขย่าขวัญนักท่องเที่ยวได้มากแค่ไหน และความรุนแรงของมันยังทำให้เศษซากและชิ้นส่วนเล็กๆน้อยๆร่วงลงมาจากโครงสร้างด้านบนของอนุสาวรีย์ ขณะเดียวกันก็ได้เห็นภาพเหล่าผู้ปกครองเข้าฉวยลูกหลานและพากันวิ่งลงบันไดไปอย่างโกลาหล ทั้งนี้สภาพของทางขึ้นลงของยอดอนุสาวรีย์นั้นเป็นเพียงบันไดแคบๆและมีเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้น แผ่นดินไหวระดับ 5.8 แม้มีศูนย์กลางในเมืองมิเนรัล ในมลรัฐเวอร์จิเนีย ห่างจากกรุงวอชิงตัน ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 139 กิโลเมตร แต่ความรุนแรงของมันก็เพียงพอสำหรับก่อความเสียหายแก่อนุสาวรีย์แห่งนี้ที่ยังต้องปิดปรับปรุงต่อไปอย่างไม่มีกำหนด

จากการตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวได้ก่อรอยร้าวหลายจุดใกล้ด้านบนของอนุสาวรีย์สูง 555 ฟุตแห่งนี้ และหลายวันต่อมาเฮอร์ริเคนไอรีนก็ซ้ำเติมอนุสาวรีย์ด้วยลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก อันทำให้น้ำเจิ่งนองภายในตัวอนุสาวรีย์และเกิดรอยแตกเพิ่ม ในวิดีโอมีคนตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่อนุสาวรีย์ซึ่งอยู่ด้านบนหนีเอาตัวรอดลงมาก่อนนักท่องเที่ยว แต่ทางสำนักงานอุทยานแห่งชาติชี้แจงการกระทำของเธอว่า "เธอปฏิบัติตามระเบียบการด้วยการนำทางนักท่องเที่ยวไปยังประตูฉุกเฉิน จากนั้นก็กลับมาเพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดลงจากอนุสาวรีย์"

จำได้ว่า

อ.อุบล ท่าน

บอกว่า

ให้จับตาดู อเมริกา

ไว้นะคะ

พายุไห่ถางอ่อนกำลังแต่ไทยยังมีฝนตกหนักและลมแรงหลายพื้นที่




อิทธิพลของพายุดีเปรสชัน“ไห่ถาง” ยังคงทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีลมแรง...

พยากรณ์อากาศประจำวัน ที่ 28 กันยายน 2554

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. พายุดีเปรสชัน“ไห่ถาง” (Haitang) ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทยแล้ว แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีลมแรง

จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น ในบริเวณจังหวัดลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 28- 29 กันยายน 2554

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลกอุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีลมแรงส่วนมากบริเวณ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
28 กันยายน 2554, 05:36 น

ขอขอบคุณ เเละ อนุโมทนาบุญบทความที่มีประโยชน์ มากๆ ค่ะจาก

(หนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 116 กรกฎาคม 2553 โดย นพ. แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)


http://www.mannature.com/view.asp?ID=121

 

“กินน้อย ตายยาก

กินมาก ตายง่าย

ขี้เกียจ (ออกกำลังกาย) อายุสั้น ขยันอายุยืน

อารมณ์ดีอายุยาว

อารมณ์เน่าอายุสั้น”   


          ในตอนที่แล้วผมได้พูดถึงเรื่องอาหารค้างไว้เกี่ยวกับเรื่องการจำกัดปริมาณอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานลดลง ร้อยละ ๓๐-๔๐ วิถีชีวิตของพระภิกษุในพุทธศาสนาที่รับประทานอาหารวันละมื้อ การรับประทานอาหารน้อยกลับเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งงานวิจัยทางการแพทย์พบว่า จะช่วยให้อายุยืนขึ้นและป้องกันโรคเส้นเลือดตีบตัน โรคมะเร็งได้       

       ปัจจุบันนี้มีทฤษฎีที่อธิบายขบวนการที่ร่างกายชราภาพลง รวมทั้งการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ทฤษฎีที่เชื่อถือและนำมาอธิบายกันมากก็คือ ทฤษฎีที่ว่าด้วยสารอนุมูลอิสระ ที่เรารับเข้าไปในร่างกายจากอาหาร และสิ่งแวดล้อม แล้วก่อให้เกิดปฏิกิริยา ที่เรียกว่า Oxidative stress ซึ่งมันพัฒนาไปทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย การอักเสบที่เกิดขึ้นจะเป็นแบบเรื้อรังและไม่รุนแรงจนชัดเจนแบบที่เรามีเหงือกอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน แต่เป็นการอักเสบแบบน้อยๆ แต่ดำรงอยู่ตลอดเวลา เป็นการอักเสบในระดับเซลล์ซึ่งจะทำให้มีสารเคมีที่ทำให้อักเสบเกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันเราสามารถเจาะเลือดตรวจดูได้
       
       สารอาหารบางชนิด เช่นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน แบบโอเมก้า ๖ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันทานตะวัน ไขมันเหล่านี้เมื่อรับประทานเข้าไปมากๆ ร่างกายก็จะเปลี่ยนเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบขึ้นได้ ดังนั้น ปัจจุบันจึงหลีกเลี่ยงมาใช้ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หรือไขมันเชิงซ้อนแบบโอเมก้า ๓ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันงาสกัดเย็น น้ำมันคาร์โนล่า ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
       
       ขบวนการอักเสบเป็นตัวทำให้เราเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ถ้าอักเสบที่หลอดเลือดหัวใจ ก็ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบตัน ที่สมองก็เช่นกัน ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต และสมองเสื่อม ถ้าการอักเสบเกิดที่ตับอ่อนก็ทำให้เกิดโรคเบาหวานขึ้น โรคข้อเสื่อม โรคสมองเสื่อม โรคกระดูกบาง ทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และทำให้ร่างกายชราภาพลงเร็วกว่าปกติ       

      การที่เรารับประทานอาหารมาก จะทำให้ร่างกายได้รับสารอนุมูลอิสระและสารก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกายมากขึ้น เราจะชราภาพลงเร็วกว่าที่ควร และเกิดโรคเรื้อรังต่างๆตามมา ดังนั้น ปัจจุบันแพทย์ทางด้านชะลอความชรา จึงมักจะให้กินวิตามินบางตัว และอาหารเสริมที่ต้านอนุมูลอิสระทุกวัน เพื่อลดการอักเสบในร่างกาย การจำกัดอาหารโดยไม่ให้ขาดสารอาหารที่จำเป็น จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการอักเสบได้
     
       งานวิจัยทางการแพทย์ในปัจจุบันพบว่า ในกลุ่มคนที่ฝึกการจำกัดพลังงานจากอาหารลง (Carolic Restriction) ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบลงได้ และพบว่าการออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถลดการอักเสบในร่างกายลงได้ด้วย       

       ผู้เขียนชอบคำพระที่ท่านเตือนเกี่ยวกับอายุสั้น อายุยืน ข้อความง่ายๆ แต่มีความหมายดี จำไว้ใช้ปฏิบัติได้ ท่านบอกว่า “กินน้อย ตายยาก กินมาก ตายง่าย ขี้เกียจ (ออกกำลังกาย) อายุสั้น ขยันอายุยืน อารมณ์ดีอายุยาว อารมณ์เน่าอายุสั้น”   
    
       ประเทศญี่ปุ่นมีประชาการที่อายุถึง ๑๐๐ ปีมากที่สุดในโลก มีประมาณ ๒๘,๓๙๕ คน เป็นเพศหญิง ร้อยละ ๘๕ อายุมากที่สุดอยู่ที่ ๑๑๓ ปี ในประเทศไทยเราก็มีคนอายุยืนมากเหมือนกัน พบว่ามีคนอายุถึง ๑๐๐ ปี มี ๔,๐๐๐ กว่าคน คนอายุมากกว่า ๖๐ ปีมี ๖.๘ ล้านคน คนเหล่านี้ ร้อยละ ๖๙ มีโรคเรื้อรังเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง ข้อเสื่อมข้ออักเสบ ปวดหลัง
       
       ผู้เขียนพบว่า มีผู้สูงอายุท่านหนึ่ง ซึ่งรู้จักกันทั่วไปในหมู่นักนิยมพระเครื่อง เพราะเป็นคนแรกที่สร้างเหรียญจตุคามรามเทพ คือ ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจเก่า ซึ่งเสียชีวิตเมื่ออายุ ๑๐๘ ปี ท่านเป็นตัวอย่างของคนอายุยืนที่กินอาหารน้อย ลูกหลานของท่านเล่าว่า
       
       “ท่านเป็นคนสมถะ มักน้อย และสันโดษ พอใจเท่าที่ตัวเองมี เห็นได้ชัดจากเรื่องบ้าน ใครจะนึกว่า นายตำรวจ ระดับผู้บังคับบัญชาจะมีบ้านหลังเล็กๆ ที่พออยู่ได้ การใช้ปัจจัย ๔ ของคุณตา สะท้อนถึงความพอดีของท่านได้อย่างดี อย่างเรื่องอาหาร คุณตาจะทานน้อยมาก น้อยจนลูกสาวบ่นว่า พ่อทานน้อยจนคนทำไม่มีกำลังใจทำให้ ถามท่านว่าทำไมถึงทานน้อย คุณตาบอกว่า กินเท่าที่อิ่ม เท่าที่พอ ท่านถือว่า อาหารคือยา ไม่ใช่สิ่งบำรุงบำเรอ ในวัย ๑๐๐ ปีของท่าน ท่านจะระวังมากที่สุดคือการกิน เพราะถ้าท้องไส้ไม่ดี ระบบในร่างกายทุกอย่างก็รวนเรไปด้วย”
       
       ฉะนั้น ท่านผู้อ่านที่อยากจะมีอายุยืนก็จะต้องฝึกการกินอาหารให้น้อยลงนะครับ แต่ต้องระวังอย่าให้ขาดสารอาหาร แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ


(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 116 กรกฎาคม 2553 โดย นพ. แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)
 

อ่างเก็บน้ำแม่ยาว จ.ลำปาง ไหลเอ่อล้นสปิลล์เวย์ เข้าท่วมบ้านประชาชนแล้ว กว่า 100 หลังคาเรือน

นายสุวิทย์ เล็กคำแหง นายอำเภอห้างฉัตร จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้ น้ำก้อนใหญ่ ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำแม่ยาว พื้นที่ ต.เมืองยาว ทำให้น้ำไหลเอ่อล้นสปิลเวย์ (Spill Way)

จากนั้น น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้าน หมู่ที่ 1 ต.เมืองยาว หลายหลังคาเรือน ส่วนน้ำแม่ยาว ยังส่งผลกระทบ ทำให้เกิดน้ำท่วมในเขตพื้นที่ ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา ทำ 4 หมู่บ้าน ของ ต.ไหล่หิน คือ หมู่ที่ 1 บ้านข้าวซ้อน หมู่ที่ 2 บ้านไหล่หิน หมู่ 4 บ้านมะกอก หมู่ที่ 6 บ้านไหล่หินตะวันตก มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมแล้ว กว่า 100 หลังคาเรือน ส่วนระดับน้ำยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


INN ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 27 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 15:03 น.

หลังประตูน้ำ บางโฉม-ศรีพัง มวลน้ำใหญ่ไหลอ่วม อยุธยาอย่างหนัก โรงพยาบาลขนคนไข้หนีโกลาหล ขณะพระสงฆ์และนักเรียน ลอยคอฝ่าน้ำหนี

จ.พระนครศรีอยุธยา วิกฤติหนัก แม่น้ำทุกสาย ไหลบ่าทะลักเข้าโจมตีทุกพื้นที่ ส่วนเรื่องที่แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลทะลักสร้างความเดือดร้อน ในพื้นที่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.พระนครศรีอยุธยา หนักกว่าเดิม

ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี น้ำล้นทะลักเข้าท่วม อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง พระสงฆ์ นักเรียน ลอยคอฝ่าน้ำ ล่าสุด ประตูระบายน้ำบางโฉม-ศรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ท่วมบ้านหมี่ จ.ลพบุรี

ขณะนี้ มวลน้ำก้อนใหญ่ ไหลบ่าตรงแม่น้ำลพบุรี เข้าท่วมโรงพยาบาลบ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ขนคนไข้หนีโกลาหล ระดมทหารป้องกันโรงพยาบาลแต่ยังไหลเข้าท่วม สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อ.มหาราช อ.บางปะหัน ที่ แม่น้ำลพบุรี ไหลผ่าน ที่สำคัญน้ำกำลังไหลบ่าข้ามถนน บ้านแพรก ลพบุรี สูงเกือบ 40 ซ.ม. รถเล็กให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวจะดีสุด

หลังประตูน้ำ บางโฉม-ศรีพัง มวลน้ำใหญ่ไหลอ่วม อยุธยาอย่างหนัก โรงพยาบาลขนคนไข้หนีโกลาหล ขณะพระสงฆ์และนักเรียน ลอยคอฝ่าน้ำหนี

จ.พระนครศรีอยุธยา วิกฤติหนัก แม่น้ำทุกสาย ไหลบ่าทะลักเข้าโจมตีทุกพื้นที่ ส่วนเรื่องที่แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลทะลักสร้างความเดือดร้อน ในพื้นที่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.พระนครศรีอยุธยา หนักกว่าเดิม

ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี น้ำล้นทะลักเข้าท่วม อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง พระสงฆ์ นักเรียน ลอยคอฝ่าน้ำ ล่าสุด ประตูระบายน้ำบางโฉม-ศรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ท่วมบ้านหมี่ จ.ลพบุรี

ขณะนี้ มวลน้ำก้อนใหญ่ ไหลบ่าตรงแม่น้ำลพบุรี เข้าท่วมโรงพยาบาลบ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ขนคนไข้หนีโกลาหล ระดมทหารป้องกันโรงพยาบาลแต่ยังไหลเข้าท่วม สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อ.มหาราช อ.บางปะหัน ที่ แม่น้ำลพบุรี ไหลผ่าน ที่สำคัญน้ำกำลังไหลบ่าข้ามถนน บ้านแพรก ลพบุรี สูงเกือบ 40 ซ.ม. รถเล็กให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวจะดีสุด

 

       มหาสารคาม - อ่างเก็บน้ำ 8 แห่งในมหาสารคามเกินปริมาณกักเก็บ เนื่องจากปริมาณฝนสะสมในพื้นที่ ด้านสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีอยู่ในระดับวิกฤต บางช่วงล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหาย
       
       นายวรรัตน์ ประวาลปัทมกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกต่อเนื่องในจังหวัดมหาสารคาม ส่งผลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 8 แห่ง ระดับน้ำเก็บกักเกิน 100% คือ อ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง อ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน อ.เมือง อ่างเก็บน้ำหนองแกดำ อ.แกดำ อ่างเก็บน้ำห้วยขอนสัก อ.โกสุมพิสัย อ่างเก็บน้ำหนองบัว อ.กันทรวิชัย อ่างเก็บน้ำหนองไฮ อ่างเก็บน้ำห้วยจอกขวาง และอ่างเก็บน้ำฮองซองแมว อวาปีปทุม
       
      ภาพรวมปริมาณเก็บกักอยูที่ร้อยละ 88.13 ของปริมาณความจุอ่างทั้งหมด 81.20 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยทางชลประทานต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อรองรับน้ำฝนจากพายุไห่ถางที่จะตกลงมาในอีก 1-2 วันนี้
       
      ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำขณะนี้วัดที่สถานีโกสุมพิสัย อ.โกสุมพิสัย ระดับน้ำล้นตลิ่ง 5 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำชีวัดที่สถานีบ้านดินดำ อ.เมือง ระดับเหลืออีกเพียง 37 เซนติเมตรก็จะถึงระดับตลิ่ง
       
      โดยจะต้องเฝ้าระวังระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์จะปล่อยน้ำลงสู่ลำน้ำชีวันละ 26-30 ล้านลูกบาศก์เมตร

เกิด ดับ

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

กดจากลิงค์นี้ค่ะ  http://audio.palungjit.com/f67/เกิด-ดับ-7086.html

เเผ่นดินไหวทั่วโลก

MAP

5.1

2011/09/27 12:08:22

34.413

23.677

19.1

CRETE, GREECE

10-degree Map Centered at 35°N,25°E


 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

seismologist.

Magnitude	5.2
Date-Time	Monday, September 26, 2011 at 06:21:18 UTC Monday, September 26, 2011 at 05:21:18 PM at epicenter Time of Earthquake in other Time Zones
Location	11.335°S, 166.379°E
Depth	110.1 km (68.4 miles)
Region	SANTA CRUZ ISLANDS
Distances	90 km (55 miles) SE of Lata, Santa Cruz Islands, Solomon Isl. 472 km (293 miles) N of Luganville, Espiritu Santo, Vanuatu 734 km (456 miles) ESE of HONIARA, Guadalcanal, Solomon Islands 2270 km (1410 miles) NE of BRISBANE, Queensland, Australia
Location Uncertainty	horizontal +/- 17.4 km (10.8 miles); depth +/- 9.8 km (6.1 miles)
Parameters	NST= 82, Nph=104, Dmin=734.7 km, Rmss=0.74 sec, Gp= 68°, M-type=body wave magnitude (Mb), Version=6
Source	Magnitude: USGS NEIC (WDCS-D) Location: USGS NEIC (WDCS-D)
Event ID	usc00060dl

• Did you feel it? Report shaking and damage at your location. You can also view a map displaying accumulated data from your report and others.

Earthquake Maps

อุทยานฯ พิมายกันเต็มที่น้ำท่วมตัวปราสาท

นครราชสีมา 28 ก.ย.- เขื่อนลำตะคอง-ลำพระเพลิงรับปริมาณน้ำใกล้เต็มพิกัดต้องเร่งพร่องออกและกระทบพื้นที่ลุ่มบางส่วน ขณะที่อุทยานฯ พิมายระดมกระสอบทรายกว่า 3,000 ใบ ทำแนวกั้นน้ำ หวั่นกระทบตัวปราสาทเสียหายหนักเหมือนปีก่อน

นายดุสิต ทุมมากรณ์ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ปีนี้อุทยานฯ วางแนวทางป้องกันน้ำท่วมไว้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนปีที่ผ่านมา โดยนำกระสอบทรายกว่า 3,000 ใบ มาทำเป็นแนวกั้นและตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมตัวปราสาทหินพิมาย เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปีที่ผ่านมาได้รับความเสียหายอย่างหนัก และขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซมที่คืบหน้าไปแล้ว 20 เปอร์เซ็นต์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วานนี้จากอิทธิพลของพายุไห่ถาง ส่งผลให้น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมาเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ล่าสุด (28 ก.ย.) มีปริมาณน้ำรวม 99.92 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 91.14 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 110 ล้าน ลบ.ม. หากฝนตกต่อเนื่องอีก 1-2 วัน คาดว่าน้ำจะล้นเขื่อน ขณะที่เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำรวมร้อยละ 91.59 ของความจุ ซึ่งทั้ง 2 เขื่อน ได้เร่งระบายน้ำลงใต้เขื่อนวันละ 2 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้คลองส่งน้ำใต้เขื่อนมีน้ำเต็มคลองและเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มบางส่วนแล้ว

นอกจากนี้ เขื่อนพิมาย อ.พิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากตัวเมืองนครราชสีมา และจาก อ.ปักธงชัย ได้ระดมเจ้าหน้าที่ช่วยกันผลักดันผักตบชวา และสิ่งปฏิกูลที่กีดขวางทางน้ำออก เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำมูล โดยเขื่อนได้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน ส่วนไทรงาม แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.พิมาย ที่อยู่ติดกับเขื่อนพิมายปริมาณน้ำในลำมูลได้ไหลเข้าท่วมทั้งหมดแล้ว ไม่สามารถท่องเที่ยวได้.-สำนักข่าวไทย

ทะลักท่วมเมืองเชียงใหม่หลายจุด

น้ำปิงสูงกว่า 4.40 เมตร เริ่มล้นตลิ่งทะลักท่วมพื้นที่ต่ำในตัวเมืองหลายจุด ชลประทานขาดสุงสุดถึง 4.50 เมตร ค่ำวันนี้ เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ

28 ก.ย.54 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำปิงล้นตลิ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ล่าสุดว่า เมื่อเวลา 13.00 น.(วันที่ 28 ก.ย.) ระดับน้ำปิงที่จุด P1 สะพานนวรัฐ มีปริมาณสูงกว่า 4.40 เมตร ปริมาณน้ำ 614 ลบ.ม./วินาที เกินจุดวิกฤตที่ 3.70 เมตร ปริมาณน้ำ 440 ลบ.ม./วินาทีแล้ว

ทั้งนี้ ส่งผลให้น้ำเริ่มละลักเข้าท่วมพื้นที่หลายจุดในเขตตัวเมือง โดยเฉพาะถนนเชียงใหม่ - ลำพูน ใกล้ห้างริมปิง ซุปเปอร์มาเก็ตสาขานวรัฐ รวมทั้งชุมชนป่าพร้าวนอก บริเวณโรงแรมรติล้านนา ถนนช้างคลาน สะพานภาค 5 และถนนเจริญประเทศ บริเวณโรงเรียนพระหฤทัย ขณะที่หมู่บ้านเวียงทองน้ำยังไม่ไหลเข้าท่วม แต่ชาวบ้านได้นำกระสอบทรายมาปิดกั้นบริเวณหน้าบ้าน และขนสิ่งของไว้บนที่สูงแล้ว

ด้านสำนักชลประทานที่ 1 แจ้งว่า ระดับแม่น่ำปิงที่จุด P 67 บ้านแม่แตอ.สันทราย ยังมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้ ( 28 ก.ย.) ระดับน้ำที่จุด P 1 สะพานนวรัฐ น่าจะสูงสุดที่ระดับ 4.50 เมตร จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำและอาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิง ขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง

เผยไร้ระบบเตือนภัยทำชาว บ้านไม่ทันตั้งตัว ผบ.ทบ.มอบเงินส่วยตัวช่วยเหลือเบื้องต้น

ความคืบหน้าเหตุการณ์น้ำป่าพัดถล่มหมู่บ้านก๋ายน้อย หมู่ 2 ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ .เชียงใหม่ ล่าสุดทีมค้นหาที่ประกอบด้วยชุดปฏิบัติการค้นหาจากกองพันพัฒนาที่ 3 กองพันทหาร ปืนใหญ่ที่ 7 , กองพันสัตว์ต่าง และ ตชด.ภาค 3 ได้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย คือ นายจรัส อินทรัตน์ อายุ 48 ปี นางแสงจันทร์ อินทรัตน์ อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา และ นางพัฒน์ อินทรัตน์ อายุ 34 ปี โดยพบศพติดอยู่ในกองเศษไม้ที่พังเสียหายจากการถูกน้ำป่าพัดติดอยู่กับตอม่อสะพาน ห่างจากจุด ที่บ้านตั้งอยู่ราว 200 เมตร ส่วนนายจรัส อินทรัตน์ อายุ 56 ปี และ ด.ญ.มัลลิกา อินทรัตน์ อายุ 9 ปี ลูกสาวของนายจรัส เจ้าหน้าที่ยังไม่พบและกำลังเร่งค้นหา

นายสังวร ผางมาลี ผู้ใหญ่บ้านก๋ายน้อย ผู้รอดชีวิตเล่าเหตุการณ์ว่า หลังมีฝนตกหนัก ตลอดทั่งคืนระดับน้ำในลำห่วยก๋ายน้อยที่ไหลผ่านหมู่บ้านได้เพิ้มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ตนจึงตื่นขึ้นและวิ่งออกมาสำรวจนอกบ้าน ซึ่งหลังจากวิ่งออกบ้านได้ไม่ถึงนาทีน้ำป่าได้พัดเอาบ้าน ของตนเองหายไปกับกระแสน้ำทั้งหลัง ขณะที่บ้านของนายจรัสหลบหนีออกจากบ้านไม่ทันทำให้เสีย ชีวิตทั้งครอบครัว สำหรับเหตุการณ์น้ำป่าที่เกิดขึ้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หลังเกิดเหตุ พ.อ.ธรรมศักดิ์ สุขวัฒนา รอง ผบ.มทบ.33 เดินทางเข้าพื้นที่เป็นตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยเงินที่ มอบดังกล่าวเป็นเงินส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนการช่วยเหลือ มทบ.33 จะจัดกำลังเข้ามาสนับ สนุนชุดเดิมเพื่อค้นหาผู้สูญหายและฟื้นฟูสภาพความเสียหาย รวมทั้งจัดหน่วยพยาบาลเข้าดูแลผู้ ประสบภัย

อย่างไรก็ตาม รายงานแจ้งว่า หมู่บ้านก๋ายน้อยตั้งอยู่ริมลำห้วยและอยู่ติดกับเชิงเขาซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยง น้ำป่าและดินถล่ม แต่หมุ่บ้านแห่งนี้ไม่มีระบบเตือนภัยติดตั้งแต่อย่างใด จึงอาจเป็นสาเหตุให้ชาว บ้านไม่ทันตั้งตัว ขณะที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำให้ระบบไฟฟ้าและโทรศัพท์พื้นฐานไม่สามารถใช้ การได้จนทำให้การติดต่อประสานงานเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก


"ศอส."เผยยังมีน้ำท่วมใน 21 จว. เตือนเขื่อนสิริกิติ์ ป่าสักชลสิทธิ์ แควน้อย วิกฤต

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 21 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา นครนายก และปราจีนบุรี รวม 144 อำเภอ 1,085 ตำบล 8,206 หมู่บ้าน

ขณะเดียวกัน ราษฎรเดือดร้อน 579,313 ครัวเรือน 1,874,586 คน ผู้เสียชีวิต 173 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 6,157,916 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยง สัตว์น้ำ บ่อปลา 90,242 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบ 6,937,065 ตัว น้ำท่วม" target="blank_"> น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ รวม 119 สาย แยกเป็น ทางหลวง 37 สาย ใน 10 จังหวัด ทางหลวงชนบท 82 สาย ใน 17 จังหวัด

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด คือ ที่ลุ่มน้ำปิงมีน้ำล้นตลิ่งที่ อ.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และคาดว่า จะล้นตลิ่งที่ อ.หางดง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และ อ.เมือง อ.ป่าซาง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน อ.จอมทอง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ตามลำดับ

ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 4,308 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,661 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,217 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ 9 จังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

“สถานการณ์น้ำในเขื่อนยังอยู่ในภาวะวิกฤตที่เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำ 99 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนแควน้อยมีปริมาณน้ำ 95 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 135 เปอร์เซ็นต์ แม้อิทธิพลของพายุหมุนเขตร้อนไห่ถางจะอ่อนกำลังลง แต่ยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและพายุลมแรงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มใกล้ทางน้ำไหลผ่านใน 28 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก” รมว.มหาดไทย กล่าว และว่า ขณะนี่มีคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 - 4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในวันที่ 28 - 29 ก.ย. และขอให้จังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมรับสถานการณ์และเฝ้าระวังผลกระทบ จากอิทธิพลช่วงแรกของพายุเนสาดที่จะทำให้เกิดภาวะฝนตกหนักในวันที่ 29 ก.ย.

ด้านนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดรายการพิเศษ“รวมพลังไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” โดยเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และได้จัดตั้งคณะกรรมการกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ได้อนุมัติเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยให้ ปภ.นำไปจัดหาเรือพายขนาดเล็ก จำนวน 5,000 ลำ เพื่อสนับสนุนให้จังหวัดที่ประสบอุทกภัยใช้ในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขัง

อย่างไรก็ตาม ปภ.ได้ดำเนินการจัดหาเรือเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลจึงได้จัดพิธีปล่อยคาราวานสิ่งของและเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี โดยในเบื้องต้นจะดำเนินการจัดส่งเรือให้แก่พื้นที่ประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี อุทัยธานี อ่างทอง และชัยนาท จังหวัดละ 500 ลำ รวม 2,000 ลำ สำหรับเรือที่เหลืออีก 3,000 ลำ ปภ.จะได้ดำเนินการส่งมอบในระยะต่อไป

กทม. เปิด"เฟซบุ๊ค-ทวิตเตอร์"แจ้งเหตุน้ำท่วม

นายสัญญา ชีนิมิต ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงมาตรการรับมือน้ำท่วมในกทม.โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออก อาทิ มีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก ว่า หากมีปริมาณน้ำเข้ามาในพื้นที่ กทม.จะมีแผนรับน้ำโดยเร่งระบายผ่านคลองประเวศ คลองแสนแสบ เพื่อเข้าอุโมงค์ระบายน้ำ จากนั้นเข้าสถานีสูบน้ำที่พระโขนง เร่งระบายผ่านเขตลาดกระบังออกสู่ริมทะเลที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งบริเวณนั้นจะมีแนวระบายน้ำของกรมชลประทานเสริมอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยระบายน้ำอีกทั้งหนึ่งได้ แต่หากมีปริมาณน้ำเข้ามาจริง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งเขตที่เกี่ยวข้องเตรียมการไว้แล้ว โดยมีแผนอพยพประชาชนไปยังในจุดที่กทม.ที่เตรียมไว้

นายสัญญา กล่าวต่อว่า ส่วนปริมาณน้ำที่จะเข้ามาทางแม่น้ำเจ้าพระยา กทม.ได้สร้างแนวป้องมีระดับสูงอยู่ที่ 2.50 เมตร ซึ่งที่ผ่านมากทม.เคยมีระดับน้ำสูงสุดเมื่อปี 2553 ประมาณ 2.10 เมตร ดังนั้น ไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่น เพราะกทม.จะทำหน้าที่เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยแนวทางที่เตรียมไว้หากมีปริมาณน้ำล้นเข้ามาในระบบ ก็จะมีเครื่องสูบน้ำเสริมเข้าไปดำเนินการ และเปิดประตูระบายน้ำเสริม รวมทั้งมีหน่วยเบสท์คอยดูประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกทม.ได้เตรียมความพร้อมไว้นานแล้ว

นายสัญญา กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังมีศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมที่เป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถแจ้งมาได้ที่เฟซบุ๊ค “ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร” หรือ ทางทวิตเตอร์ ที่ @BKK_BEST หากเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกทม.ก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ แต่ถ้าเป็นพื้นที่ของเอกชนก็จะประสานงานเพื่อแจ้งให้มีการเข้าไปแก้ไขปัญหาได้ ทั้งนี้ คาดว่าหากมีปริมาณน้ำเหนืออย่างเดียว โดยไม่มีฝนเข้ามาเพิ่มเติม กทม.น่าจะรับมือได้

ประตูน้ำพังซัดคอสะพานเชียงรากขาด สิงห์บุรี-ชัยนาทงัดข้อกันอีก



วันที่ 28 ก.ย. สถานการณ์น้ำจังหวัดสิงห์บุรี หลังจากที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีพังลง ทำให้กระแสน้ำไหลผ่านหมู่บ้านเชียงราก สะพานเชียงรากที่ถนนอินทร์บุรี–ตากฟ้า หมู่ที่ 5 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ทางหลวงหมายเลข 1 สำนักงานบำรุงทางสิงหบุรี ได้ประกาศปิดเส้นทาง ห้ามรถทุกชนิดใช้เส้นทางนี้โดยเด็ดขาดแล้ว ความยาวประมาณ 30 เมตร ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของสะพาน ทำให้สะพานคลองเชียงราก บริเวณหลักกม. ที่ 5 ในพื้นที่ ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี คอสะพานที่มีปัญหาอยู่แล้วได้ขาดลงไม่สามารถทนกับกระแสน้ำที่แรงและเชี่ยวกรากที่มาจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรีได้ โดยได้ปิดเส้นทางตั้งแต่ทางแยกต่างระดับถนนสายเอเชียขาขึ้น ซึ่งเส้นทางนี้จะเดินทางไป อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก ทำให้ชาวบ้านที่อยู่อีกฝั่งสะพานไม่สามารถเดินทางมาที่ อ.อินทร์บุรีได้ ผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์จะต้องอ้อมไปที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ระยะทางเกือบ 100 กิโลเมตร และไม่สามารถที่จะใช้เรือข้ามได้ เนื่องจากเกรงอันตราย ประชาชน 300 กว่าครัวเรือนใน ต.ทองเอน ได้รับความลำบากมาก และยังพบว่าที่คอสะพานบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3 ซึ่งเป็นสะพานแรกก็เริ่มมีปัญหาแล้วเช่นกัน

ที่ประตูระบายน้ำบางระจัน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชัณสูตร หมู่ที่ 8 ตำบลโพชนไก่ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้นำชาวบ้านประมาณ 500 คนไปเรียกร้องข้อเสนอให้นายปรีชา พันธุ์วา ผู้อำนวยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชัณสูตร นำเรื่องไปแจ้งผู้บริหารของกรมชลประทานให้ลดระดับการปล่อยน้ำลงแม่น้ำน้อยลง จากเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ประตูกั้นน้ำบรมธาตุ จ.ชัยนาท ได้ยกระดับพานประตูระบายน้ำเข้าแม่น้ำน้อยมากขึ้นทำให้ประชาชนที่หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 10 ต.โพชนไก่ และประชาชนใน อ.สรรบุรี จ.ชัยนาท ที่อยู่เหนือประตูระบายน้ำบางระจันเดือดร้อน น้ำไหลข้ามถนนสองฝั่งแม่น้ำน้อยสูงกว่า 10 เซนติเมตร ท่วมบ้านเรือนประชาชน

โดยนายพายัพ ปราศรัยกล่าวหาผู้บริหารของกรมชลประทานว่าทำงานเอาใจนักการเมือง ไม่ยอมปล่อยน้ำไปทางประตูน้ำพลเทพ ที่มีระดับน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนต่างกันถึง 3.10 เมตร แต่กลับมาปล่อยเข้าแม่น้ำน้อยแทน ซึ่งหากประตูระบายน้ำบางระจันยกบานประตูขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่เหนือประตูระบายน้ำก็จะทำให้ประชาชนที่อยู่ท้ายประตูระบายน้ำในพื้นที่ อ.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน และอ.ท่าช้าง ต้องได้รับผลกระทบ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหา ชลประทานต้องลดปริมาณการปล่อยน้ำลงในแม่น้ำน้อย และไปเพิ่มที่อื่นแทน โดยนายพายัพต้องการให้ผอ.โครงการส่งน้ำฯ นำเรื่องไปแจ้งผู้บริหารและมาแจ้งผลให้ประชาชนได้ทราบภายในวันที่ 29 ก.ย. หากไม่ได้รับคำตอบ จะพาประชาชนไปปิดสำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท

พิษน้ำท่วมคร่าชีวิตแล้ว 173 คน พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 6 ล้านไร่ เตือนน้ำปิงล้นตลิ่ง

วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 16:07:48

เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมศูนย์สนับสนุน การอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 21 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา นครนายก และปราจีนบุรี รวม 144 อำเภอ 1,085 ตำบล 8,206 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 579,313 ครัวเรือน 1,874,586 คน ผู้เสียชีวิต 173 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 6,157,916 ไร่

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากและระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลุ่มน้ำปิงมีน้ำล้นตลิงที่อำเภอสันทราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และคาดว่าจะล้นตลิ่งที่อำเภอหางดงและอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง อำเภอป่าซาง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน อำเภอจอมทอง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ตามลำดับ

ลุ่มน้ำเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 4,308 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,661 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,217 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ 9 จังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ชาวบ้านผวา หลังพบระเบิด 5ลูกซุกถังขยะย่านวิภาวดีฯ



ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เก็บขยะได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องว่า พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดซุกซ่อนอยู่ในกองขยะ ที่บริเวณปากซอยวิภาวดี 64 ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พบว่ามีระเบิดจำนวน 5ลูกซุกซ่อนอยู่ในถุงขยะสีดำจริง ซึ่งทั้งหมดเป็นระเบิดที่ใช้ประกอบเอฟเฟกต์การแสดงหรือการฝึก

โดยมี 3ลูกที่ยังใช้การได้ ส่วนอีก 2ลูกนั้นใช้การไม่ได้แล้ว จึงได้เก็บกู็วัตถุต้องสงสัยทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ดีทางตำรวจได้เผยว่า แม้ระเบิดดังกล่าวไม่ใช่ระเบิดสังหาร แต่หากไปจับ หรือแตะต้องโดยไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะส่งผลให้ได้รับอันตรายต่อชีวิตได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานและลายนิ้วมือแฝงที่อยู่กับวัตถุทั้งหมด เพื่อหาบุคคลที่นำวัตถุดังกล่าวมาทิ้ง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป



Mthai News

กินแคนตาลูป ปนเปื้อนลิสเทอเรีย ตาย 13 ติดเชื้อ 72 คน



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ(ซีดีซี) แจ้งว่า พบผู้เสียชีวิต 13 คน หลังจากกินแคนตาลูป ที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียลิสเทอเรีย และยังตรวจพบมีผู้ติดเชื้ออีก 72 ราย

โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ รายงานว่า ได้รับรายงานจาก 18 รัฐทั่วสหรัฐว่า พบผู้ติดเชื้อลิสเทอเรียสายพันธุ์หนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา และรายงานยืนยันผู้เสียชีวิตล่าสุดในรัฐแคนซัส มิสซูรี เนบราสก้า และเท็กซัส

ด้านสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) แจ้งว่าพบเชื้อลิสเทอเรีย โมโนไซโตจีเนสในตัวอย่างแคนตาลูปจากฟาร์มเจนเซนในเมืองเดนเวอร์ ทางฟาร์มเผยว่าได้เรียกคืนแคนตาลูปร็อกกี้ฟอร์ด เมื่อวันที่ 14 กันยายน เอฟดีเอแนะนำประชาชนเลี่ยงการบริโภคแคนตาลูปที่ถูกเรียกคืน

เชื้อลิสเทอเรียเป็นเชื้อโรคที่สามารถเติบโตได้ดีในอุณหภูมิห้องและแม้แต่อุณหภูมิของตู้เย็น โดยเอฟดีเอและซีดีซีแนะนำให้ประชาชนที่ซื้อแคนตาลูปดังกล่าวไว้ ให้ทิ้งโดยทันที และทำความสะอาดพื้นผิวและสิ่งของที่เคยถูกแคนตาลูปชนิดนี้สัมผัส เนื่องจากแบคทีเรียลิสเทอเรียมักเกาะอยู่บนผิวผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ง่าย

Mthai News

ชาวจีนวิตกความปลอดภัยรถไฟใต้ดินหลังเกิดอุบัติเหตุ



หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกันที่สถานีรถไฟใต้ดินในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวานนี้ก็ทำให้ชาวจีนที่ต้องใช้บริการของรถไฟใต้ดินเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของรถไฟใต้ดิน

อุบัติเหตุรถไฟพุ่งชนรถไฟอีกขบวนที่จอดอยู่บนเส้นทางรถไฟใต้ดินสาย 10 กึ่งกลางระหว่างสถานีอี๋หยวนและสถานีเหล่าซีเหมินใจกลางนครเซี่ยงไฮ้เมื่อเวลา 14.51 น.ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บไป 271 คนซึ่งสาเหตุเกิดจากระบบสัญญาณอัตโนมัติขัดข้องและต้องปิดให้บริการสถานีรถไฟบนเส้นทางสาย 10 ทั้งหมดในวันนี้ ขณะที่การรถไฟก็ประชาชนไปใช้บริการจนส่งทางอื่นแทน

ชาวเซี่ยงไฮ้ต่างก็ออกมาแสดงความรู้สึกวิตกกังวลต่อความปลอดภัยของระบบรถไฟไต้ดินหลังเกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องปรับปรุงระบบสัญญาณโดยเร็ว และหวังว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก

ทั้งนี้จีนได้ขยายเครือข่ายเส้นทางรถไฟใต้ดินในนครเซี่ยงไฮ้มากกว่า 7 เท่าในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาคิดเป็นระยะ 453 กิโลเมตรเพื่อรองรับกับการเติบโตของจำนวนประชากรและความต้องการของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงการจัดเวิร์ลด์เอ็กซ์โปเมื่อปีที่แล้ว

สำหรับเส้นทางสาย 10 ที่เกิดอุบัติเหตุนี้เพิ่งให้บริการเมื่อปีที่แล้วและก็เกิดระบบขัดข้องถึง 2 ครั้งในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาซึ่งทำให้คนเริ่มกังวลเกี่ยวกับความถี่ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

ยอดผู้เสียชีวิตไต้ฝุ่น"เนสาด"เพิ่มเป็น 18 คน



ไต้ฝุ่น"เนสาด" ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 คนสูญหาย 35 คน ล่าสุดกำลังเคลื่อนตัว คาด พัดถล่มเกาะไหหลำของจีนพรุ่งนี้

ในวันนี้ชาวฟิลิปปินส์ในกรุงมะนิลาเร่งเก็บกวาดทำความสะอาดซากความเสียหายของไต้ฝุ่นเนสาดที่พัดถล่มเมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนเกาะลูซอน และเร่งซ่อมแซมถนน 61 เส้นทางที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมและดินถล่ม รายงานระบุว่า ในวันนี้ประชาชนบนเกาะลูซอนกว่า 1 ล้านคนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมทั้งบางพื้นที่ในกรุงมะนิลาและจังหวัดรอบนอกอีก 7 แห่ง และพื้นที่บางส่วนบนเกาะลูซอนยังต้องจมอยู่ใต้น้ำสูงเกือบเอว หลังจากที่รัฐบาลระบายน้ำจากเขื่อน 4 แห่งในจังหวัดบูลากัน ที่อยู่ในระดับวิกฤตออกมา การระบายน้ำดังกล่าวทำให้น้ำไหลทะลักเข้ามาทางเหนือกรุงมะนิลา ซึ่งที่กรุงมะนิลาเองเมื่อวานนี้ ส่วนหนึ่งก็ได้รับความเสียหายจากคลื่นสูงเท่าต้นมะพร้าวจากอ่าวมะนิลาที่พัดผ่านกำแพงกั้นน้ำทะเลยาว 20 เมตรเข้ามายังพื้นที่อาศัยและถนนในเมืองหลวง ชาวบ้านบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่พบเห็นน้ำท่วมมากถึงขนาดนี้

ทั้งนี้ฟิลิปปินส์ต้องเตรียมรับมือกับพายุโซนร้อนอีกหนึ่งลูกที่กำลังก่อตัวนอกมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกเฉียงเหนือฟิลิปปินส์และคาดว่าจะพัดถล่มเกาะลูซอนอีกภายในสัปดาห์นี้ ส่วนไต้ฝุ่นเนสาดตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะไหหลำของจีน คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งพรุ่งนี้
 

ภาพแผนที่แสดงศักยภาพการเกิดน้ำท่วมโดย NASA (24 ชั่วโมง)



ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 IR1

 

น้ำทะลักเข้าท่วม ตลาดพิจิตรแล้ว ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 28 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 14:30 น. น้ำเข้าท่วมตลาดพิจิตร แล้ว จ่อท่วมสนามกีฬา มูลค่า 200 ล้านบาท ด้าน นายก อบจ. เร่งนำกระสอบทราย ป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ สถานการณ์น้ำ ล่าสุด ว่า เข้าท่วมตลาดราชรถ ซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือของเทศบาลเมืองพิจิตร และน้ำก็กำลังจะไหลเข้าท่วม วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร โรงเรียนพิจิตรวิทยาคม สนามกีฬาจังหวัดพิจิตร ที่เพิ่งสร้างเสร็จ มูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ล่าสุด เทศบาลเมืองพิจิตร และ นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร ได้ระดมคนงานเร่งนำกระสอบทราย ก่อกั้นเป็นแนวกำแพง เพื่อป้องกันรักษาพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่ราชการดังกล่าวไว้แล้ว แต่ถ้ามีฝนตกซ้ำลงมา ก็คงอยากที่จะรอดพ้นจากการถูกน้ำท่วมใหญ่ ในเขตชุมชนเมือง อย่างแน่นนอน Link : น้ำทะลักเข้าท่วมตลาดพิจิตรแล้ว

ดินสไลด์ ปิดเส้นทาง อ.เมืองปาน ลำปาง

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 28 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 14:31 น.




น้ำป่าหลาก ท่วม ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง กว่า 50 หลังคาเรือน ดินสไลด์ ปิดเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน

จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง นานหลายชั่วโมง ส่งผลให้ น้ำป่าจากเทือกเขาบนยอดดอย อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ทำให้มีน้ำป่าไหลหลาก ลงสู่ ลำห้วยแม่มอญ ส่วนน้ำป่านั้นได้ไหลหลากเอ่อล้นเข้าท่วม เขตพื้นที่ ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ส่งผลให้ หมู่ที่ 2 บ้านศรีดอนมูล และหมู่ที่ 5 บ้านหลวง ต.แจ้ซ้อน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้ว กว่า
50 หลังคาเรือน ความสูงของน้ำ กว่า 60 เซนติเมตร ขณะที่ หมู่ที่ 1 บ้านแม่แจ๋ม และหมู่ที่ 10 บ้านปางต้นงุ้น มีดินสไลด์ทางเข้าหมู่บ้าน หลายจุดดินสไลด์ ปิดทับเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านทั้ง 2 แห่ง มีต้นไม้ใหญ่ ล้มลงมาขวางทางถนน ล่าสุด นายสมยศ รู้ชั้น นายก อบต.แจ้ซ้อน พร้อมเจ้าหน้าที่ ออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กันอย่างเร่งด่วนแล้ว

13 เขตกทม.เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

28 กย. 2554 16:37 น.

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) : สทอภ. หรือ GISTDA หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เผยภาพจากดาวเทียม แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันในช่วง 3-5 วันที่จะถึงนี้ ใน 13 เขตของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ หนอง ค้างพลู ทุ่งสองห้อง สายไหม คลองถนน อนุสาวรีย์ จระเข้บัว ลาดพร้าว คลองกุ่ม คลองจั่น หัวหมาก สะพานสูง คลองสองต้นนุ่น ลาดกระบัง และบริเวณปริมณฑล ได้แก่ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรปราการ และจ.ฉะเชิงเทรา จึงเตือนประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม และหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรที่มีน้ำท่วมขัง รวมทั้งติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วม และระดับน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน ตลอดจนเตรียมย้ายที่อยู่ชั่วคราว

.เชียงใหม่

ศูนย์ อุทกวิทยา และบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน แจ้งเตือนชาวเชียงใหม่ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิงให้เตรียมตัวรับมือน้ำที่จะ ล้นตลิ่งในช่วงบ่ายวันนี้ จากฝนตกและน้ำป่าที่ไหลหลากลงมา

(28 ก.ย.) สถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงใหม่ส่อเค้าวิกฤติ หลังจากที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทั้งจังหวัด โดยเฉพาะทางตอนบนของแม่น้ำปิง เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในหลายจุด ล่าสุดเช้ามืดวันนี้ที่ได้เกิดน้ำป่าถล่มอำเภอแม่แตง พัดบ้านเรือนหายไำป 4 หลัง และมีผู้สูญหายไป 5 คน และขณะที่น้ำป่าได้ไหลลงแม่น้ำแม่แตง และแม่น้ำปิง ทำให้ทั้งน้ำป่าและน้ำฝนที่ตกลงมาทำให้แม่น้ำปิงทางตอนบน ที่อำเภอเชียงดาว เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง

ขณะเดียวกันปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทาง ศูนย์อุทกวิทยา และบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน เปิดเผยว่า ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำปิงทางตอนบน ณ จุดวัดระดับน้ำ พี 67 ที่บ้านแม่แต อำเภอสันทราย เพิ่มระดับขึ้นสูงถึง 4.0 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 406 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับวิกฤติแล้ว โดยปริมาณน้ำจะไหลผ่านถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ณ จุดวัดระดับน้ำ พี 1 เชิงสะพานนวรัฐ ในอีกประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำที่ตัวเมืองอยู่ที่ 3.46 เมตร ใกล้จุดวิกฤติที่ 3.70 เมตร คาดว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ปริมาณน้ำจะเพิ่มระดับขึ้นสูงกว่าจุดวิกฤติ และเอ่อล้นตลิ่งขึ้นได้ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ต้องเร่งประกาศเตือนพี่น้องประชาชนริมแม่น้ำให้เตรียม รับมือ

พื้นที่ที่คาดว่าน้ำจะท่วม



 

  อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณอาริยา

รู้สึกว่า เกือบทั่วประเทศไทยแล้วนะคะ

ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

ข่าวบุญใหญ่ พระมหาเมตตา ของ

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอาจารย์อุบลค่ะ ช่างเป็นบุญใหญ่ของเราทุกคน ที่ได้มีโอกาสอ่าน ในกระทู้ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ของคุณ เบาหวิว  อาริยากราบขออนุญาติท่านอาจารย์อุบลขอนำมาลงที่กระทู้นี้

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ได้ชี้เเนะเป็นห่วงทุกคนทั่วโลกตลอดเวลาให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติด้วยการปฎิบัติบูชาบุญที่บริสุทธิ์ ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

กรุณาอ่านทุกความเห็นที่ 312 , 319 , 320 ค่ะ

บุญที่บริสุทธิ์ เเละ เรื่องจิตเข้าสู่ฌาน

------------------------------------------------------------

นับจากวันนี้ไป

(วันนี้ 28 ก.ย.54)

อีก 9 วัน

เสด็จพ่อ

ท่านท้าวเวสสุวรรณ

จะเสด็จมา

ประทับ

ณ

บ้านสวนพีระมิด

(ปกติท่านก็อยู่ทุกขณะ

อยู่แล้วแต่หลายคนก็

ไม่เห็นองค์ท่าน

แต่

คราวนี้ทุกคนที่มา

จะได้เห็นท่าน)

คือ

วันศุกร์

ที่ 7 ต.ค.54

เสด็จพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ

จะเสด็จมา

เราจะรับเสด็จ

พระองค์

ท่าน

ส่วนวันเสาร์

ที่ 15 ต.ค.54

ค่าย 10

จะมีพิธีบวงสรวง

เห็นไหม

ค่าย 10 ธรรมดาที่ไหน

อุส่าห์อุบไว้ตั้งนาน

แต่

วันนี้เสด็จพ่อฯ

บอกว่า ท่านต้องรีบ

มาช่วยลูกหลาน

ของท่าน

ที่

ป่วย...ทุกข์

จน...เสี่ยงภัย...ฯลฯ

ให้ทัน

ก่อน

วันเข้าค่าย 10

นี้ให้ได้

ท่านรอ อ.อุบล

ไปอัญเชิญท่านมา

หลายวันแล้ว

แต่

ฝนตกบ้าง

ติดงานอื่นบ้าง

วันนี้

โอกาสดี

ปลอดโปร่ง เลยได้

ไปชมบารมีท่าน

ซึ่งปั้นเสร็จ

99 %

แล้ว

เหลือแค่

ตกแต่งสีสันสวยงาม

เท่านั้นเอง

ท่านประสงค์

จะเสด็จมาอารักขา

พระพุทธเจ้า

และ

ปัดเป่า

ทุกข์โศกโรคภัย

ให้พวกเรา

คราวนี้หละ

จะได้ยลพระพักตร์

กันทุกคนแบบ

ชัด ชัด

ทันทีที่ก้าวเข้ามา

ณ

บ้านสวนพีระมิด

วันนี้

อ.อุบล ให้ช่าง

มาดูสถานที่สร้างพระ

ชำระหนี้แผ่นดิน

และ

สถานที่ประทับ

เสด็จพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ

และ

งานอื่นๆ ที่ต้องสร้าง

กรุณาอ่านทุกความเห็นที่ 312 , 319 , 320 ค่ะ

วันพุธที่ 28 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 17:11 น.

รมว.มท. สรุปสถานการณ์ น้ำท่วมล่าสุด เสียชีวิตทั้งหมด 173 ราย สูญหาย 2 ราย เดือดร้อนกว่า 1.8 ล้านคน

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 21 จังหวัด (จ.สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา นครนายก และ จ.ปราจีนบุรี) 144 อาเภอ 1,085 ตาบล 8,206 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 579,313 ครัวเรือน 1,874,586 คน มีผู้เสียชีวิต 173 ราย สูญหาย 2 คน

วันพุธที่ 28 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 20:13 น.

เกิดเหตุแผ่นดินแยก บริเวณบ้านดินดำ ม.3 ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน ระยะทางกว่า 1 ก.ม. ส่งผลให้ วัดเก่าแก่ บันไดนาค ทรุด

นายอุดม จันตาใหม่ นายอำเภอเมืองปาน จ.ลำปาง และ นายสมยศ รู้ชั้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน ได้รุดตรวจสอบแผ่นดินที่เกิดแยกตัวยาว ซึ่งคาดว่ามีความยาวกว่า 1 กิโลเมตรแล้ว เขตบ้านดินดำ ม.3 ต.แจ้ซ้อน หลังจากล่าสุดในวันนี้พื้นที่ ต.แจ้ซ้อน ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ประกอบกับลำห้วยแม่มอญ ได้มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นจนล้นตลิ่ง จึงทำให้ฐานดินของเนินเขา ที่มีบ้าน และวัดพระธาตุดอยเต่าคำ วัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ด้านบน เกิดทรุดตัว และแยกตัวยาวอย่างต่อเนื่อง และได้ส่งผลกระทบทำให้บันไดนาคที่เก่าแก่ของวัดพระธาตุดอยเต่าคำ ที่มีจำนวน 60 ขั้นบันได ได้เกิดรอยแยกออกจากกัน จำนวน 6 จุด โดยจุดที่เสียหายอย่างหนักสุด คือ ตัวบันไดนาค ได้เกิดแตกและแยกตัวออกจากกันแล้ว และต่อไปคาดว่า จะเกิดหักพังเสียหายอีกอย่างแน่นอน

วันพุธที่ 28 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 20:49 น.

สถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงใหม่ ล่าสุด น้ำปิง เอ่อล้นทะลักท่วมเขตเศรษฐกิจ ย่านไนท์บาซาร์ และ จนท.ได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าในบางจุดแล้ว

ระดับน้ำปิงยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ บริเวณไนท์บาซาร์ และถนนช้างคลาน ตลอดสายแล้ว ขณะที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.เชียงใหม่ ได้ตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วมหลายจุด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน โดยเริ่มดับกระแสไฟแล้วที่บริเวณสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ย่านป่าแดด และเตรียมดับไฟ บ้านป่าพร้าวนอก และบริเวณไนท์บาซาร์ หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ด้าน นายปรีชา แย้มเยื้อน หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์และประมวลสถิติ ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ระดับน้ำที่จุด พี1 บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ สูงเฉลี่ย 11 ซ.ม.ต่อชั่วโมง หากใน 3 ช.ม. นี้ ยังเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้ระดับน้ำสูงถึง 4.93 เมตร เหมือนกับเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2548 ขณะนี้ได้ประกาศเตือนภัยทั่วเมืองเชียงใหม่ แล้ว เนื่องจากน้ำทางตอนเหนือ ยังไม่ลดลงแต่อย่างใด

 

ระวังระดับน้ำในลำน้ำกวง ของสำนักชลประทานที่ 1
พื้นที่โดนผลกระทบ สันทราย ดอยสะเก็ด สันกำแพง สารภี และ ลำพูน

http://www.cm108.com/bbb/index.php?/topic/45898-adhaoeaeoadhcnadhneoaaaoeoac-eoeazaaaadh-noe/

ประกาศเฝ้า

สถานการณน้ำท่วม เชียงใหม่

http://www.cm108.com/bbb/index.php?/topic/45898-adhaoeaeoadhcnadhneoaaaoeoac-eoeazaaaadh-noe/

http://13.in.th:8000/9325.m3u
ฟังรายงานสภาวะการณ์ปัจจุบัน คุณเก่งและคุณเดือน

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.38 เมตร

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 3.85 เมตร เกินระดับวิกฤติที่ 3.70 เมตร

11.00 น.

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.53 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 15 ซม.

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 4.04 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 19 ซม.

12.00 น.

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.56 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ซม.

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 4.22 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 18 ซม.

13.00 น.

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.60 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 ซม.

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 4.40 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 18 ซม.
ความเร็วของกระแสน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

- ถนนเจริญประเทศตลอดสายเริ่มมีน้ำท่วมถนนประมาณ 10 ซม.
- สะพานนวรัฐ รถติดมาก รวมถึงถนนรอบๆบริเวณน้ำปิง

13.15 น. - ถนนหน้าโรงเรียนเชียงใหม่คริสต์เตียนมีน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถผ่านได้
- ถนนช้างคลานจะไปออกเชิงสะพานภาค 5 น้ำท่วมสูงระดับเอว รถผ่านไม่ได้
- ถนนช้างคลานตลอดสาย เริ่มมีน้ำท่วมบนถนน

14.00 น.

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.65 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 ซม.

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 4.52 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 12 ซม.
ความเร็วของกระแสน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

- ซอยโรงพยาบาลลานนา โรงเรียนโปลิ น้ำท่วมถนนประมาณเข่า ระมัดระวังด้วย
- หน้าขนส่งหนองหอยน้ำท่วมถนนประมาณ 20 ซม.
- ถนนช้างคลาน น้ำเริ่มท่วมถนนมากขึ้น รถเล็กควรเลี่ยงเส้นทาง

15.00 น.

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.69 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 ซม.

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 4.63 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 11 ซม.
ความเร็วของกระแสน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

16.00 น.

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.75 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 6 ซม.

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 4.68 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 ซม.
ความเร็วของกระแสน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

17.00 น.

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.77 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 2 ซม.

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 4.73 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 ซม.
ความเร็วของกระแสน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

18.00 น.

P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย 4.82 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 ซม.

P1 สะพานนวรัฐ อ. เมือง 4.77 เมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 ซม.
ความเร็วของกระแสน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


19.00 น.
วัดที่จุด P.1 อยู่ที่ 4.81 เมตร
ที่จุดแม่แต P67 วัดได้ที่ 4.85 เมตร
ยังมีการเพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

20.00 น.
P1 สะพานนวรัฐ 4.81 เมตร
P67 แม่แต 4.86 เมตร (เพิ่มขึ้น 1 ซม.)


20.50 น.
หมู่บ้านเวียงทอง และถนนเจริญประเทศ ถนนช้างคลานบางส่วน ได้มีการตัดกระแสไฟฟ้าแล้ว

20.50 น.
ที่หมู่บ้านแม่กวงใต้ และแม่กวงเหนือ ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
น้ำจากฝายได้ทะลักเข้าหมู่บ้าน สูงประมาณ 30 ซม.

20.55 น.
ถนนมหิดล หน้าสหพัตนพิบูลถึงแยกหนองหอย มีน้ำขึ้นบนผิวถนนประมาณ 30 ซม.

20.55 น.
ประชาชนที่ถูกน้ำท่วม ได้นำรถยนต์มาจอดบนไหล่ทางของถนนมหิดลจำนวนหลายสิบคัน

21.00 น. ระดับน้ำ
P67 แม่แต วัดได้ที่ 4.90 เมตร (เพิ่มขึ้น 4 ซม. จากเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา)
P1 สะำพานนวรัฐ วัดได้ที่ 4.84 (เพิ่มขึ้น 3 ซม. จากเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา)

21.10 น.
ระดับน้ำท่วมถนนช้างคลาน จากสี่แยกแสงตะวัน ถึงโรงเรียนวชิรวิทย์ ระดับหน้าแข้ง แต่น้ำไหลแรง
-- ที่กำแพงดินใต้ จากสะพานแม่ข่า ถึงสี่แยกถนนประชาสัมพันธ์ มีการปิดถนน เนื่องจากปรมาณน้ำบนถนนมีมาก รถผ่านลำบาก

21.20 น.
น้ำที่ท่วมใน หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ และหมู่บ้านเวียงทอง ได้ไหลล้นทะลักขึ้นบนผิวจราจร ถนนมหิดลแล้ว โดยท่วมขึ้นบนถนน 2 ช่องทางด้วยกัน

21.40 น.
ใต้สะพานป่าตันฝั่งตะวันตก น้ำจากแม่น้ำปิงขึ้นสูงแล้ว รถผ่านไม่ได้
เจ้าหน้าที่ ได้ทำการปิดถนนไม่ให้รถลอดแล้ว



22.00 น. ระดับน้ำ
P67 แม่แต วัดได้ที่ 4.90 เมตร (ทรงตัว)
P1 สะพานนวรัฐ วัดได้ที่ 4.84 เมตร (ทรงตัว)

22.59 น.
--- โค้งร้านลุงรัตน์ไก่อบฟาง น้ำท่วมถนนมหิดล รถวิ่งได้ช่องทางเดียว คือช่องทางด้านขวา
--- ถนนเจริญเมือง หน้าเจริญเมืองพลาซ่า น้ำท่วมขังแล้ว

23.00 น. ระดับน้ำ
P67 แม่แต วัดได้ที่ 4.90 เมตร
P1 สะพานนวรัฐ วัดได้ที่ 4.89 เมตร

เวลา 00:10 น. สะพานนวรัฐ ภาพจากล้องวงจรปิดสำหรับเช็คระดับน้ำของชลประทาน

http://www.cm108.com/bbb/index.php?/topic/45888-update-esodhaoalieoocnoe/page__st__150

กู้ภัยน้ำท่วม
053-234-444 บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเชียงใหม่
ลองติดต่อสอบถามดูค่ะ

พยากรณ์อากาศประจำวัน
วันพุธ ที่ 28 กันยายน พ.ศ.2554
ออกประกาศเวลา 18.00 น.

สภาวะอากาศเมื่อเวลา 16.00 น.

ข้อมูลและสถานการณ์น้ำ

       ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่อ่วม! วันเดียวเจอน้ำท่วมหนัก 3 จุด อ.แม่แตง น้ำป่าทะลัก-ดินถล่มตาย 5 จนท.ค้นพาเจอครบแล้ว ส่วนที่ อ.สันทราย น้ำป่าบวกน้ำล้นอ่างเก็บน้ำไหลท่วม 3 ตำบล พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 1,200 ไร่ ด้านชาวบ้านหวั่นอ่างเก็บน้ำแตก ด้านตัวเมืองเชียงใหม่โดนส่งท้ายหลังแม่น้ำปิงเพิ่มปริมาณเลยจุดวิกฤตไหลทะลักท่วมหลายพื้นที่แล้ว ผู้ว่าฯ สั่งการทุกฝ่ายพยายามรักษาพื้นที่ ศก.ให้ได้ ลุ้นคืนนี้หากระดับน้ำยังไม่หยุดเพิ่ม “กาดหลวง-ไนท์บาซาร์” โดนแน่
       
       สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเกิดเหตุขึ้นหลายจุดในวันนี้ (28 ก.ย.) ปรากฏว่า ในพื้นที่ อ.สันทรายและอ. แม่แตง สถานกาณณ์เริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ แม่น้ำปิงได้เริ่มไหลทะลักข้าท่วมในพื้นที่แล้ว
       
       ในช่วงบ่ายวันนี้แม่น้ำปิงได้เริ่มไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว โดยเฉพาะที่บริเวณจุดวัดน้ำ P1 สะพานนวรัตน์ และบริเวณถนนช้างคลานบางส่วนที่มีน้ำไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีรายงานว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่จุดวัดน้ำ P67 แม่แต เหนือตัวเมืองเชียงใหม่ เพิ่มสูงกว่าระดับวิกฤติ ประกอบกับน้ำจากลำน้ำสาขาอื่นๆ ได้ไหลสมทบลงสู่แม่น้ำปิง ทำให้เทศบาลนครเชียงใหม่ต้องออกประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเตรียมการรับเหตุน้ำท่วม ส่วนโรงเรียนหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณจุดเสี่ยงก็ได้หยุดทำการเรียนการสอนและให้นักเรียนเดินทางวงกลับบ้านตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา
      
       ขณะเดียวกัน หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เดินทางเข้าตรวจสอบสถานการณ์ที่บริเวณจุดวัดน้ำ P1 สะพานนวรัตน์แล้วในช่วงบ่ายวันนี้ โดยนายคมสัน สุวรรณอัมภา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ได้รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดว่า จากการประเมินสถานการณ์คาดว่าปริมาณน้ำปิงที่ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่จะเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงเวลาประมาณ 15.00-16.00 น.และจะเริ่มลดระดับลง ในช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น.ในกรณีที่ไม่มีน้ำจากต้นน้ำไหลเข้ามาเพิ่มเติมอีก
       
       ส่วนกรณีที่น้ำจะไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจอย่างไนท์บาซาร์หรือตลาดวโรรสนั้น หากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับ 4.70 ม. ขึ้นไปแล้ว ก็จะไหลเข้าท่วมพื้นที่สำคัญอย่างแน่นอน ซึ่งภายหลังรับฟังข้อมูลต่างๆ แล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามรักษาพื้นที่สำคัญของตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ให้น้ำเข้าท่วมขังให้ได้มากที่สุด
       
       ด้าน นายชาตรี เชื้อมโนชาญ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ระบุว่า เทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำการเสริมแนวผนังกระสอบทรายตามที่ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารจัดการน้ำภาคเหนือตอนบนได้ประสานให้เร่งดำเนินการตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยในขณะนี้ตั้งเป้าที่จะป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่สำคัญ 3 จุด ได้แก่บริเวณถนนสันป่าข่อย ตลาดวโรรสและไนท์บาซาร์ โดยแนวผนังกระสอบทรายสามารถป้องกันน้ำได้สูงสุดที่ 4.70 ม.
       
       ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.แม่แฝก และ ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย ซึ่งน้ำป่าและน้ำที่ล้นจากอ่างเก็บน้ำห้วยแก้วและอ่างเก็บน้ำแม่แฝกได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนมากกว่า 200 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมเสียหายนั้น ทาง อ.สันทรายได้เร่งระดมความช่วยเหลือต่างๆ รวมทั้งระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและทหารเข้าไปในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเร่งเปิดประตูระบายน้ำทั้งที่ฝายแม่แฝกและบริเวณคลองชลประทานเพื่อระบายน้ำในพื้นที่ลงสู่แม่น้ำกวง ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว
     
       ขณะที่ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และเยี่ยมเยือนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
     
       นายวิจิตร หลังสัน นายอำเภอสันทรายระบุว่า ความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้อยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ต.แม่แฝก ต.แม่แฝกใหม่ และ ต.หนองหาร รวม 14 หมู่บ้าน 300 ครัวเรือน ขณะที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 1,200 ไร่ ทั้งนี้ ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดจากประชาชนไม่สามารถเก็บสิ่งของต่างๆ ได้ทันเนื่องจากน้ำไหลเข้าท่วมอย่างฉับพลัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือผู้สูญหาย มีเพียงผู้บาดเจ็บจำนวน 1 รายเนื่องจากถูกงูกัด
       
       ส่วนกรณีที่ประชาชนวิตกว่า อ่างเก็บน้ำห้วยแก้วอาจจะแตกนั้น นายวิจิตร กล่าวว่า เป็นผลมาจากการที่น้ำได้ล้นทะลักออกจากอ่างเข้าท่วมในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ประกอบกับอ่างดังกล่าวเป็นอ่างดิน ทำให้ประชาชนบางส่วนหวั่นเกรงว่าอ่างอาจจะแกได้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าอ่างเก็บน้ำยังคงอยู่ในสภาพปกติ แต่ได้สั่งการให้เฝ้าระวังตรวจสอบอย่างต่อเนื่องแล้วเพื่อความไม่ประมาท
       
       ด้านเหตุน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ที่บ้านก๋ายน้อย ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวม 5 รายนั้น มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมดแล้ว
       
       โดย นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล นายอำเภอแม่แตง ระบุว่า ผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย ที่เจ้าหน้าที่ค้นพบ ประกอบด้วย นายจำรัส อินทรัตน์, นางแสงทอง อินทรัตน์, นางพัฒน์ อินทรัตน์ และ ด.ญ.มัลลิกา อินทรัตน์ เหลือเพียง นายสุนทร อินทรัตน์ สามีของนางพัฒน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงทำการค้นหาต่อไป ซึ่งล่าสุด นายคมสัน สุวรรณอัมภา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ค้นพบศพผู้เสียชีวิตรายที่ 5 แล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นนายสุนทร หรือไม่
       
       ด้านสถานการณ์ล่าสุด ในพื้นที่นั้น นายอนุพงษ์ กล่าวว่า ระดับน้ำในพื้นที่ได้ลดลงแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าทำการตรวจสอบสภาพความเสียหาย ซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนเสียหายทั้งหลังจำนวน 4 หลัง รวมทั้งเข้าให้การช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เสาไฟฟ้าล้มพังเสียหายจำนวนมาก ทำให้ระบบไฟฟ้าและโทรศัพท์พื้นฐานในพื้นที่ยังไม่สามารถใช้การได้
       
       หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ว่า ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูในแต่ละพื้นที่แล้ว โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลในพื้นที่ที่ประสบเหตุอุทกภัยทั้ง 4 จุด คือ อ.ฝาง อ.แม่แตง อ.สันทราย และตัวเมืองเชียงใหม่ โดยแต่ละจุดจะประสานการทำงานร่วมกันจังหวัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทราบผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์แล้วเมื่อช่วงเช่าที่ผ่านมา
       
       ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.แม่แตง และ อ.สันทราย เริ่มลดระดับความรุนแรงลงแล้ว คาดว่า จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในไม่ช้า ส่วนในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามรักษาพื้นที่สำคัญภายในตัวเมืองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ส่วนการแก้ไขปัญหาจะยึดกรอบ 2P 2R เป็นหลักในการดำเนินการ


ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 28 กันยายน 2554 18:02 น.
 

คนเรามักไม่ค่อยคิดถึง

สิ่งที่ตนมีอยู่   

แต่

มักจะคิดถึงสิ่งที่ตนไม่มี"

"สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของคนเรา

คือ ชีวิต และเราจะเป็นเจ้าของชีวิตได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น"

...คุณจะไม่มีวันได้สิ่งที่คุณพอใจ... จนกว่าคุณจะได้เรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่คุณมี...

...อย่าปล่อยให้ชีวิตเป็นไปอย่างไร้จุดหมาย...  ผู้ที่มีชีวิตอยู่แต่ไม่ยอมต่อสู้ชีวิต คือ... ศพเดินได้...

...อุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุดของความสำเร็จ

ก็คือ...

การล้มเลิกกลางคัน...

13 เขตกทม.

เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

28 กย. 2554 16:37 น.

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) : สทอภ. หรือ GISTDA หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เผยภาพจากดาวเทียม แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันในช่วง 3-5 วันที่จะถึงนี้ ใน 13 เขตของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ หนองค้างพลู ทุ่งสองห้อง สายไหม คลองถนน อนุสาวรีย์ จระเข้บัว ลาดพร้าว คลองกุ่ม คลองจั่น หัวหมาก สะพานสูง คลองสองต้นนุ่น ลาดกระบัง และบริเวณปริมณฑล ได้แก่ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรปราการ และจ.ฉะเชิงเทรา

จึงเตือนประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม และหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรที่มีน้ำท่วมขัง รวมทั้งติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วม และระดับน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน ตลอดจนเตรียมย้ายที่อยู่ชั่วคราว

พื้นที่น้ำท่วม ณ.เวลาปัจจุบัน....ภาพรวมทั้งประเทศ

น้ำท่วมเวลาปัจจุบัน....สีฟ้า
คาดว่าจะท่วม..........สีแดง


Thailand Flood Monitoring System

.ข้อมูลจาก Facebook Warroom Falkman

http://board.palungjit.com/f178/warroom-เตือนภัยระดับ-1-เฝ้าระวัง-13-เขต-กทม-เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-307739.html

พื้นที่....จ.สิงห์บุรี (เอาไวู้ดูเป็นข้อมูล...ความแรงของกระแสน้ำ)








วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 16:23 น. ข่าวสดออนไลน์


ประตูน้ำพังซัดคอสะพานเชียงรากขาด สิงห์บุรี-ชัยนาทงัดข้อกันอีก

วันที่ 28 ก.ย. สถานการณ์น้ำจังหวัดสิงห์บุรี หลังจากที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีพังลง ทำให้กระแสน้ำไหลผ่านหมู่บ้านเชียงราก สะพานเชียงรากที่ถนนอินทร์บุรี–ตากฟ้า หมู่ที่ 5 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ทางหลวงหมายเลข 1

สำนักงานบำรุงทางสิงหบุรี ได้ประกาศปิดเส้นทาง ห้ามรถทุกชนิดใช้เส้นทางนี้โดยเด็ดขาดแล้ว ความยาวประมาณ 30 เมตร ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของสะพาน ทำให้สะพานคลองเชียงราก บริเวณหลักกม. ที่ 5 ในพื้นที่ ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี

คอสะพานที่มีปัญหาอยู่แล้วได้ขาดลงไม่สามารถทนกับกระแสน้ำที่แรงและเชี่ยวกรากที่มาจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรีได้

โดยได้ปิดเส้นทางตั้งแต่ทางแยกต่างระดับถนนสายเอเชียขาขึ้น ซึ่งเส้นทางนี้จะเดินทางไป อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก ทำให้ชาวบ้านที่อยู่อีกฝั่งสะพานไม่สามารถเดินทางมาที่ อ.อินทร์บุรีได้ ผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์จะต้องอ้อมไปที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ระยะทางเกือบ 100 กิโลเมตร และไม่สามารถที่จะใช้เรือข้ามได้ เนื่องจากเกรงอันตราย

ประชาชน 300 กว่าครัวเรือนใน ต.ทองเอน ได้รับความลำบากมาก และยังพบว่าที่คอสะพานบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3 ซึ่งเป็นสะพานแรกก็เริ่มมีปัญหาแล้วเช่นกัน

ที่ประตูระบายน้ำบางระจัน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชัณสูตร หมู่ที่ 8 ตำบลโพชนไก่ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้นำชาวบ้านประมาณ 500 คนไปเรียกร้องข้อเสนอให้นายปรีชา พันธุ์วา ผู้อำนวยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชัณสูตร นำเรื่องไปแจ้งผู้บริหารของกรมชลประทานให้ลดระดับการปล่อยน้ำลงแม่น้ำน้อยลง จากเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ประตูกั้นน้ำบรมธาตุ จ.ชัยนาท ได้ยกระดับพานประตูระบายน้ำเข้าแม่น้ำน้อยมากขึ้นทำให้ประชาชนที่หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 10 ต.โพชนไก่ และประชาชนใน อ.สรรบุรี จ.ชัยนาท ที่อยู่เหนือประตูระบายน้ำบางระจันเดือดร้อน น้ำไหลข้ามถนนสองฝั่งแม่น้ำน้อยสูงกว่า 10 เซนติเมตร ท่วมบ้านเรือนประชาชน

โดยนายพายัพ ปราศรัยกล่าวหาผู้บริหารของกรมชลประทานว่าทำงานเอาใจนักการเมือง ไม่ยอมปล่อยน้ำไปทางประตูน้ำพลเทพ ที่มีระดับน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนต่างกันถึง 3.10 เมตร แต่กลับมาปล่อยเข้าแม่น้ำน้อยแทน ซึ่งหากประตูระบายน้ำบางระจันยกบานประตูขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่เหนือประตูระบายน้ำก็จะทำให้ประชาชนที่อยู่ท้ายประตูระบายน้ำในพื้นที่ อ.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน และอ.ท่าช้าง ต้องได้รับผลกระทบ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหา ชลประทานต้องลดปริมาณการปล่อยน้ำลงในแม่น้ำน้อย และไปเพิ่มที่อื่นแทน โดยนายพายัพต้องการให้ผอ.โครงการส่งน้ำฯ นำเรื่องไปแจ้งผู้บริหารและมาแจ้งผลให้ประชาชนได้ทราบภายในวันที่ 29 ก.ย. หากไม่ได้รับคำตอบ จะพาประชาชนไปปิดสำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท
 

--------------

เตือน10อ.เชียงใหม่-ลำพูน รับมือน้ำล้นตลิ่ง 
  
28 กย. 2554 18:14 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) แจ้งว่า ในวันที่ 28 - 29 ก.ย.นี้ จะเกิดน้ำล้นตลิ่งในบริเวณสองฝั่งลุ่มน้ำแม่กวง ได้แก่ อ.ดอยสะเก็ด อ.สันทราย อ.สันกำแพง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ อ.เมืองลำพูน อ.แม่ทา อ.สารภี อ.บ้านโฮ่ง อ.เวียงหนองร่อง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ นอกคันกั้นน้ำ และริมแม่น้ำสาขาเฝ้าระวังรับสถานการณ์น้ำท่วม ควรเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติต่อไป

ชลประทานแจงน้ำปิงจะขึ้นสูงสุด4.90ม.เที่ยงคืนนี้ 
  

28 กย. 2554 19:14 น.

นายวินัย พงษ์จินดา ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 กล่าวว่า คาดว่าระดับแม่น้ำปิงที่ จุด P1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จะถึงจุดสูงสุดที่ 4.90 เมตร ในเวลาเที่ยงคืนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่เพิ่มขึ้นหลายจุด รวมทั้งที่ตลาดต้นลำไยย่านเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งของจ.เชียงใหม่ จากนั้นน้ำปิงจะเริ่มทรงตัวและในเวลาใกล้รุ่งเช้าของวันที่ 29 กันยายนจะเริ่มลดระดับลง

ส่วนระดับน้ำปิงตอนเหนือที่อ.เชียงดาว ยังมีปริมาณสูงอยู่เพราะมีในตกในพื้นที่ก่อนหน้านี้จึงมีน้ำสะสมอยู่มาก แต่น้ำแม่แตงเริ่มทรงตัวแล้ว คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ซ้ำอีกเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ (29 กันยายน) ระดับน้ำในแม่น้ำปิงจะเริ่มลดลง แต่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 - 2 วันจึงจะกลับสู่ภาวะปกติและต่ำกว่าจุดวิกฤติที่ 3.70 เมตร ณ จุด P1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง


<< back  next >>


 ลำพูนเตือนปปช.รับมือน้ำกวงหนุนคืนนี้


28 กย. 2554 18:55 น.

นายสกล หาญพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.ลำพูน เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.ลำพูน ในวันที่ 28 ก.ย. ตลอดทั้งวัน น้ำในลำน้ำแม่ทามีระดับสูงขึ้น ณ สถานีวัดน้ำ P.77 บ้านแม่สะป๊วด ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน เท่ากับ 4.10 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับวิกฤต
เนื่องจากปริมาณฝนตกในพื้นที่ตอนเหนือของ จ.ลำพูน มีปริมาณมากและตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน จากการตรวจวัดที่สถานี P.76 บ้านแม่แต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ มีระดับน้ำอยู่ที่ระดับวิกฤต โดยวัดระดับน้ำได้ 4.20 เมตร ปริมาณน้ำ 440 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าปริมาณน้ำดังกล่าวจะเข้าสู่ จ.ลำพูนภายในค่ำคืนวันนี้
จังหวัดได้วางแผนการระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำปิง น้ำแม่กวง และน้ำแม่ทา พร้อมด้วยฝายหนองสลีกซึ่งปริมาณน้ำที่ระบายปัจจุบัน 476 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลุ่มต่ำใกล้ลำน้ำ ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เนื่องจากสภาวะฝนตกหนักด้านเหนือของจังหวัดลำพูน ให้เตรียมเก็บทรัพย์สิน สิ่งของต่าง ๆ ไว้ในที่ปลอดภัย และระมัดระวังเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลันด้วย

--------------------

สุดอั้น! เชียงใหม่ประกาศเตรียมพร้อมสถานการณ์ฉุกเฉิน

น้ำปิงทะลักไนท์บาซาร์

50-70ซม. 
  



28 กย. 2554 19:00 น.

นายสิทธิพร เตชะจงจินตนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทเชียงใหม่ไนท์บาซาร์ จำกัด เปิดช่วงเย็น วันนี้ว่า ขณะนี้น้ำปิงได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว โดยอยู่ระดับไม่ต่ำกว่า 50-70เซ็นติเมตร และมีสภาพน้ำที่ขุ่นแดง ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าในย่านไนท์บาซาร์ทั้งร้านค้าที่เป็นรถเข็น และร้านค้าในศูนย์การค้าต่างๆ ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 7-8 แห่งต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว และแม้ว่าบางแห่งจะไม่มีการปิดให้บริการ แต่ก็คาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาในพื้นที่อย่างลำบาก เพราะสภาพน้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ในวันแรกที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นนี้ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียโอกาสทางการค้าไปไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนความเสียหายทางทรัพย์สินยังไม่มี เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว 

สะพานในอินเดีย ได้ขาดเป็นสองท่อนเนื่องจากน้ำท่วม ใกล้ๆ เมือง Jajpur ประมาณ 130 กิโลเมตร (81 ไมล์) ทางเหนือของ Bhubameshwar. อพยพคนมากกว่า 120,000 คนไปแล้ว แต่ หลายหมื่อนคนยังคงถูกปล่อยเกาะ ฮอ.ของทหารอากาศช่วยส่งอาหารให้และเรือกว่า 370 ลำช่วยลำเลียงคน

Outlook Photogallery



 

วันพุธที่ผ่านมา 28 กันยายน ตึกที่อินเดียถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน และบาดเจ็บอีก 27 คน ทีเมืองนิวเดลลี สาเหตุเกิดจากขุดดินรอบๆ เพื่อแก้ไขโครงสร้าง

India: Delhi building collapse kills seven, 27 injured, bridges collapse kills 3

4 ทุ่มคืนนี้ เมืองเชียงใหม่อ่วมอีกรอบ คาดน้ำระลอกใหม่เข้าถึงแน่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กันยายน 2554 16:04 น.

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - น้ำปิงตอนเหนือกลับมาเพิ่มระดับอีกครั้ง คาด ทะลักเข้าถึงสถานีวัดระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ 4 ทุ่มคืนนี้ (29 ก.ย.) ทำพื้นที่ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น หลังย่านเศรษฐกิจจมบาดาลมาแล้ว

รายงานข่าวจากศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน แจ้งถึงระดับน้ำในแม่น้ำปิง วันนี้ (29 ก.ย.) ว่า ระดับน้ำปิงบริเวณสถานี P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ หลังจากที่ทยอยลดระดับลงมาตั้งแต่คืนที่ผ่านมา โดยล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วัดได้ 4.65 เมตร ปริมาณน้ำ 538 ลบ.ม./วินาที

มวลน้ำระลอกนี้ จะทะลักเข้ามาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ หรือบริเวณสถานีวัดระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ ที่ถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มคืนนี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ขยายวงกว้างมากขึ้น

จากเดิมตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่น้ำปิงเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่เขต ต.หนองหอย ต.ป่าแดด สะพานนวรัฐไปตามถนนสันป่าข่อย ถึงตลาดหนองหอย ถนนเจริญประเทศ สะพานเม็งราย ไนท์บาซาร์ ถนนช้างคลานตลอดสาย จนถึงบ้านป่าพร้าวนอก หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ รวมถึงถนนประชาสัมพันธ์ ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ (29 ก.ย.) น้ำปิงได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สำนักงานร้านค้า รวมถึงพื้นที่ “เวียงกุมกาม” โบราณสถานชื่อดัง ฯลฯ ที่อยู่ด้านในถนนวงแหวนรอบกลางของเมืองเชียงใหม่

เจ้าหน้าที่ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน ประเมินว่า มวลน้ำระลอกใหม่ที่จะทะลักเข้าท่วมเมืองเชียงใหม่คืนนี้นั้น แม้ว่าระดับน้ำจะไม่สูงกว่าเวลาประมาณ 04.00 น.วันนี้(29 ก.ย.) ที่วัดระดับน้ำ ณ สถานี P1 ได้ถึง 4.94 เมตรก็ตาม แต่จะทำให้พื้นที่ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

ผู้ว่าฯแถลงความเสียหายกว่า 200 ล้านพร้อมเร่งฟื้นฟูให้เสร็จภายใน 7 วัน

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ระบุภาพรวมความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลายอำเภอ ว่าไม่ต่ำกว่า 240 ล้านบาท ทั้งในด้าน ตัวอาคารสถานที่ สะพาน สิ่งสาธารณูปโภค รวมถึงพื้นที่เขตอำเภอเมือง และเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมิน อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทำการช่วยเหลือประชาชน และเร่งฟื้นฟูให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อรับผลกระทบและความกังวล เตรียมพร้อมก่อนจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของเชียงใหม่
ขณะที่สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ได้รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 24-27 ก.ย.ที่ผ่านมาของเชียงใหม่ ว่าที่ อ.ฝาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 135 ราย เสียชีวิต 2 ราย อ.สันทราย มีผู้บาดเจ็บ 9 ราย ถูกงูกัด 1 ราย และที่ อ.แม่แตง มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 20 ราย

เวียตนามน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน ระดับน้ำขึ้นกว่า 70 ซม และโรงเรียนส่วนมากปิดตัวลง




 

อัพเดตสถานการณ์น้ำท่วม 29 กันยายน 54

16.15 น. ลำปาง : ผู้ว่าฯ ประกาศเขตภัยพิบัติ ใน 7 อำเภอ คือ อ.เมือง , อ.เถิน , อ.ห้างฉัตร , อ.เมืองปาน , อ.งาว , อ.วังเหนือ และ อ.เกาะคา
16.05 น. ศสอ. : เตือน อาจมีสถานการณ์น้ำหลากที่ ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ บ้านแม่สาย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมถึงต้องเฝ้าระวังติดตามการเคลื่อนตัวของพายุไต้ฝุ่นเนสาด ที่จะเข้าอ่าวตังเกี๋ย วันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.)
14.47 น. น้ำจากคลองรังสิต ทะลักเข้าพื้นที่กรุงเทพแล้ว
น้ำเหนือไหล่บ่าจาก คลองรังสิตไหล่บ่าข้ามกระสอบทราย เข้าพื้นที่ริมถนนโลคัลโรดแล้ว ระดมเจ้าหน้าที่จำนวน 40 นาย และทหารจากปตอ.พัน 7 จำนวน60 นาย มาช่วยเหลือในการป้องกันน้ำเข้าท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร
12.39 น. ตาก : เขื่อนภูมิพลใกล้ล้น รับน้ำได้อีกแค่ 7.76 เปอร์เซ็นต์ ประชาชนที่อาศัยอยู่ใต้เขื่อน เริ่มกังวลในความมั่นคงของเขื่อนภูมิพล ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เตรียมจัดซ้อมแผนอพยพและเตือนภัยประชาชนที่อาศัยบริเวณใต้เขื่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
11.24 น. เตือน 9 จังหวัดฝนตกหนัก 29-30 ก.ย.
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตือน 9 จังหวัด ในภาคตะวันออกและภาคใต้ ประกอบด้วย นครนายก จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก 29-30 กันยายนนี้
11.00 น. กาฬสินธุ์ : น้ำจากลำน้ำพานและปาวหลงทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 80 หลังคาเรือน นายอำเภอเมืองเร่งอพยพชาวบ้านมาอาศัยในที่สูง
09.31 น. ชัยนาท : ชัยนาทยังท่วมหนัก ฝนตกต่อเนื่อง ทำน้ำระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีพื้นที่ จ.ชัยนาท รับผลกระทบหนัก รวมทั้งสิ้น 8 อำเภอ
09.20 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย พายุเนสาด ฉบับที่ 1
เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (29 ก.ย. 54) พายุไต้ฝุ่นเนสาด (NESAT) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยในวันที่ 30 ก.ย. 54 ขอให้ติดตามข่าวจาก กรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น สำหรับคลื่นลมในทะเล
อันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
09.00 น. เชียงใหม่ : จ.เชียงใหม่ยังวิกฤติแม่น้ำปิงยังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ และขยายวงกว้าง ทั้งย่านถนนเจริญประเทศ ถนนช้างคลาน ย่านการค้าตลาดไนน์บาร์ซ่า ระดับน้ำบางจุดสูงเกือบ 2 เมตร สูงในรอบ 110 ปี
 

พบ วาฬจำนวนมาก เกยตื้น ตามชายฝั่งในอังกฤษ



MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานการเกยตื้นของวาฬตัวล่าสุดในเขตแฮมเบอร์ เอสตรอรี่ ห่างจากชายฝั่งไปราว 731 เมตร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยังคงสงสัยว่าเพราะอะไรถึงพบวาฬเกยตื้นตามชายฝั่งในอังกฤษจำนวนมาก รวมทั้งวาฬเซซึ่งพบการเกยตื้นน้อยมาก

โดยก่อนหน้านี้เคยมีวาฬตัวยาว 10 เมตร ลอยอยู่ในบริเวณน้ำตื้นในหมู่บ้านสเคฟฟิ่ง ทางตะวันออกของมืองยอร์คเชียร ซึ่งพวกนักอนุรักษ์สำรวจพบว่าวาฬที่ขึ้นมาเกยตื้นกว่า 95 เปอร์เซ็นต์เป็นตัวเมีย

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวาฬ บางคนเชื่อว่ามันอาจจะเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในมหาสมุทรอาร์กติกซึ่งมีอุณหภูมิต่ำลง ไหลลงสู่ทะเลเหนือ ซึ่งโดยปกติแล้วอุณหภูมิของน้ำจะสูงกว่านี้

ในส่วนของวาฬเซ ซึ่งแอนดี้ กิบสัน จาก องค์กรสงวนสัตว์ป่าในยอร์คเชียร กล่าวหลังจากมีการพบวาฬเซเกยตื้น ว่าโอกาสที่จะพบวาฬเซเกยตื้นนั้นเป็นไปได้น้อยมาก ในเวลา 20 ปีที่ผ่านมาพบวาฬเซเกยตื้นในสหราชอาณาจักรเพียง 3 ตัวเท่านั้น และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องน่าเศร้าที่พบวาฬเซเกยตื้นแต่อย่างน้อยก็น่าจะนำมาเป็นบทเรียนได้

นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆนี้ วาฬฟิน ซึ่งเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับวาฬเซ เกยตื้นที่ย่าน อิมมิงแฮม ทางตอนเหนือของเมืองลินคอล์นเชีย และยังพบวาฬซากวาฬตัวอื่นๆที่ปากแม่น้ำด้วย

ทหารเร่งวางหินขวางน้ำเชี่ยวประตูบางโฉมศรีสิงห์บุรี

29 กย. 2554 16:20 น.


เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่บริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี มีทหารช่างพัฒนา กว่า 100 นาย ระดมก้อนหินมาเทเพื่อที่จะบรรจุในตู้กล่องเหล็กจำนวนมาก โดยจะลำเลียงใส่โป๊ะขนไปวางลงบริเวณน้ำที่ไหลเชียว เพื่อเป็นการลดความแรงของน้ำ ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี เพื่อลดแรงดันที่หลากไปท่วม จ.ลพบุรี ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เนื่องจากระดับน้ำใน จ.ลพบุรี ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทางด้าน นายมนตรี ตันตระกูล วิศวกรใหญ่ควบคุมการก่อสร้างกรมชลประทาน ที่เดินทางลงพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมการที่จะลดความรุนแรงของน้ำจากประตูระบายน้ำจริง โดยจะนำกำลังทหารช่างพัฒนา จากกองทัพบก กว่า 100 นาย ระดมก้อนหินที่บรรจุในกล่องเหล็ก กว่า 1,000 กล่อง โดยจะลำเลียงใส่โป๊ะขนไปวางลงบริเวณน้ำที่ไหลเชี่ยวเพื่อเป็นการลดความแรงของน้ำ ทั้งนี้จะทำความเข้าใจกับชาวบ้านตำบลชีน้ำร้ายก่อนว่า ไม่ได้ปิดไม่ให้น้ำไหลแต่จะลดความแรงของกระแสน้ำ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เย็นวันเดียวกันนี้เป็นต้นไป

จีนช่วยผลิตเรือพลาสติกช่วยน้ำท่วม

วันพฤหัสบดี ที่ 29 กันยายน 2554 เวลา 16:21 น



รัฐบาลประสานจีนช่วยผลิตเรือพลาสติกช่วยผู้ประสบภัย เล็งเพิ่มงบให้ ปภ.จัดหาเครื่องมือ

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำ ว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้งเป็นการเฉพาะหน้าด้วยการขอความร่วมมือจากกองทัพ เข้าไปช่วยเหลือดูแลประชาชน รวมทั้งได้ประสานงานกับทางรัฐบาลจีนให้ช่วยผลิตเรือพลาสติกเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย ส่วนประชาชนที่ได้รับเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาทไปแล้ว แต่น้ำยังท่วมขังอยู่เกิน 7 วัน และมาโดนพายุซ้ำอีกก็ยังมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลืออีก ไม่ใช่ได้รับครั้งเดียวแล้วจบ เพราะอุทกภัยครั้งนี้เกิดขึ้นซ้ำซ้อน มีพายุเข้าหลายลูกติดต่อกัน โดยรัฐบาลจะพิจารณาข้อมูลไม่ให้มีปัญหาซ้ำซ้อน โดยใช้ข้อมูลภาพถ่ายทางดาวเทียมเป็นหลักฐานการเบิกจ่าย

นอกจากนั้นยังมีให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาระยะยาวด้วยการตั้งคณะกรรมการบูรณาการแผนงานบริหารจัดการน้ำที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยเป็นประธาน คณะกรรมการฯเพื่อทำหน้าที่ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยว่าจ้างนักวิชาการศึกษาเส้นทางระบายน้ำเพื่อใช้เป็นข้อมูลและแนวทางที่มีจะเป็นแผนแก้ไขปัญหาน้ำของประเทศต่อไป นอกจากนั้นรัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มงบประมาณให้กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อให้ในการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติและบรรเทาสาธารณะภัย อันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน.

พายุไต้ฝุ่น "เนสาด" เข้าจีนแล้ว ทางการพร้อมรับมือ

 

ภาพถ่ายอินฟาเรด พายุไต้ฝุ่นเนสาด ที่เคลื่อนตัวในทะเลจีนใต้ เมื่อวันอังคารก่อนที่จะเข้าถึงจีนแล้ววันนี้ (ภาพจากสถาบันศีกษาดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา)   เอเยนซี - เนสาด พายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุด ซึ่งพัดถล่มจีนของปีนี้ ได้โหมซัดมณฑลไห่หนัน หรือไหหลำของจีนแล้ว ทางการท้องถิ่นได้เตรียมการอพยพฉุกเฉิน และระงับเที่ยวบินรวมทั้งบริการโดยสารต่างๆ แถบชายฝั่ง อีกทั้งประกาศหยุดเรียน รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อตอนบ่ายเวลา 14.30 น.ของวันที่ 29 ก.ย. นี้ พายุไต้ฝุ่นได้ขึ้นฝั่งจีนที่ตำบลเหวินเถียน เขตเมืองเหวินฉาง ซึ่งอยู่ห่างจากไหโข่วเมืองเอกของไหหลำ 70 กม. ด้วยความเร็ว 42 เมตร/วินาที โดยทางการท้องถิ่นได้เตรียมการอพยพฉุกเฉิน และระงับเที่ยวบินรวมทั้งบริการโดยสารต่างๆ แถบชายฝั่ง อีกทั้งประกาศหยุดเรียน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากไต้ฝุ่นลูกนี้ ซึ่งเป็นลูกที่ 17 ที่พัดเข้าจีนในปีนี้ และเป็นพายุลูกที่มีความรุนแรงมากที่สุด รายงานข่าวกล่าวว่า เรือเฟอรรี่ ที่ให้บริการแถบช่องแคบเฉวียงโจว ก็ได้ถูกระงับไป ตั้งแต่วันพุธ ขณะที่บริการรถไฟ หยุดให้บริการตอนเช้าวันพฤหัสฯ ไปก่อนแล้ว ด้านรถโดยสารต่างๆ ก็หยุดจำหน่ายตั๋ว และขอให้ผู้โดยสารผลัดแผนการเดินทางไปอีก 2 วัน ที่สนามบินเม่ยหลาน ในไห่โข่ว ต้องระงับเที่ยวบินของวันพฤหัสฯ 49 เที่ยวบิน อีกทั้งยกเลิกเที่ยวบิน 18 สายในเมืองซานย่า นาย เฉินเฉิง รองผู้ว่าการไห่หนัน ได้สั่งให้เรือประมงทุกลำกลับเข้าฝั่ง และชาวประมงเตรียมพร้อมเข้าอยู่ในที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ในเมืองเหวินฉาง ซึ่งเป็นจุดที่พายุเนสาด พัดขึ้นฝั่ง มีเรือประมง 2,600 ลำ และประชาชนผู้อยู่อาศัยราว 31,323 คน ได้ถูกอพยพไปชั่วคราวแล้ว หลังจากที่ในฟิลิปปินส์ ผลของพายุลูกนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 คน สภาพบ้านเมืองเหวินฉาง และไหโข่ว มณฑลไห่หนัน (หรือไหหลำ) เมื่อไต้ฝุ่นเนสาดพัดจู่โจมชายฝั่งทะเลเหวินฉาง ซึ่งอยู่ห่างจากไหโข่ว 70 กม. เมื่อวัน 14.30 น. วันที่ 29 ก.ย.2554 ด้วยความเร็ว 42 เมตร/วินาที (ภาพซินหวา)

ไต้ฝุ่นเนสาดซัดคลื่นชายฝั่งทะเลเหวินฉางปั่นคลั่งพุ่งตัวสูงเสียดฟ้า

ไต้ฝุ่นเนสาดซัดกระหน้ำเมืองเหวินฉางจนต้นไม้ใหญ่หลายต้นล้มระเนระนาดตามถนน

ไต้ฝุ่นเนสาดซัดกระหน้ำเมืองเหวินฉางจนต้นไม้ใหญ่หลายต้นล้มระเนระนาดตามถนน

ไต้ฝุ่นเนสาดจู่โจมไหโข่ว ผู้คนวิ่งหาหลบพายุกันจ้าละหวั่น สิ่งของถูกพัดปลิวว่อนกระจัดกระจาย

พายุล้มต้นไม้ใหญ่ในไหโข่ว

ป้ายโฆษณาริมถนนในไห่โข่วถูกพัดพัง

เมืองซานย่า ชายหาดท่องเที่ยวดังของไห่หนัน ท่ามกลางไต้ฝุ่นเนสาดซัดกระหน่ำ

น้ำคลองรังสิต ทะลักท่วมเขตดอนเมือง
 

 
 
สถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุดน้ำจากคลองรังสิต จังหวัดปทุมธานี ทะลักเข้าเขตดอนเมือง เจ้าหน้าที่เทศกิจและทหาร เร่งนำกระสอบทรายทำพนังกั้น
ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งถนนสายซ่อมสร้าง หมู่ 5 ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนรังสิต-ปทุมธานี และถนนติวานนท์ ไปปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการปิดถนนขาออกจากรังสิตให้รถวิ่งสวนทางในฝั่งขา เข้ารังสิต

นาง รุ่งฤดี นวลจันทร์ ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่าระดับน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อท่วมขึ้นมามากตั้งแต่เช้า ซึ่งระดับน้ำได้เอ่อขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน และเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน น้ำได้ท่วมเข้าในบ้านอย่างรวดเร็ว
ล่า สุดน้ำจากคลองรังสิต ล้นแนวพนังกั้นน้ำเข้าสู่ถนนเลียบทางรถไฟตรงหมู่บ้านเมืองเอก เป็นแนวยาวกว่า 400 เมตร เขตดอนเมืองต้องระดมเจ้าหน้าที่เทศกิจและทหารจาก ปตอ.พัน 7 ร่วม 100 นาย มาช่วยกันเสริมแนวคันน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมในเขตเศรษฐกิจของ ดอนเมือง

“ไต้ฝุ่นเนสาด” จ่อคิวถล่มภาคกลางเวียดนามพรุ่งนี้

เวียดนามเน็ต - ศูนย์พยากรณ์อุตุนิยมวิทยา (HFC) เตือน ไต้ฝุ่นเนสาด คาดว่า จะเข้าพัดถล่มเวียดนามตั้งแต่จังหวัดกว่างนิงห์ ภาคเหนือไปจนถึงจังหวัดเหงะอาน ภาคกลาง ในช่วงบ่ายพรุ่งนี้ (30 ก.ย.)

ผู้อำนวยการศูนย์ ระบุว่า ความเร็วลมของไต้ฝุ่นเนสาดอยู่ที่ 149 กม.ต่อ ชม.เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 20-25 กม.ต่อ ชม.และว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะถึงเกาะไหหลำของจีนวันนี้ ก่อนเคลื่อนตัวมายังจังหวัดทางชายฝั่งของเวียดนามในวันรุ่งขึ้น

“เนสาด” พายุลูกที่ 5 ของปี 2554 คาดว่า อิทธิพลของพายุลูกนี้จะทำให้เกิดคลื่นสูงในทะเลและฝนตกหนักเป็นปริมาณสูง 300 มม.ในหลายจังหวัดชายฝั่งภาคกลางของเวียดนาม

“พายุจะส่งผลกระทบต่อเมืองและจังหวัดหลายแห่งในภาคเหนือ รวมทั้งกรุงฮานอย คาดว่าปริมาณฝนตกเฉลี่ยระหว่าง 50-300 มม.” นายเล แถ่งห์ หาย ผู้อำนวยการศูนย์ HFC กล่าว

ขณะเดียวกัน ไต้ฝุ่นนาลแก ที่ก่อตัวอยู่นอกชายฝั่งฟิลิปปินส์กำลังเคลื่อนมายังเวียดนามอีกลูกหนึ่ง

“พายุนาลแก คาดว่า จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ และคาดว่า จะเข้ามายังบริเวณทะเลตะวันออกในวันอาทิตย์” นายหาย กล่าว

นายฮว่าง จุง หาย รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ออกคำสั่งไปยังเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศให้เตรียมรับมือกับสภาพอากาศเลวร้ายที่ กำลังจะเกิดขึ้น

ในข้อความด่วนที่ถูกส่งไปยังกระทรวง หน่วยงาน และท้องที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง วานนี้ ระบุให้คณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัดและเมืองตั้งแต่จ.กว่างนิงห์ ไปจนถึง จ.ฝูเอียน ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายฝั่ง ประมง และเจ้าของเรือ เพื่อตรวจสอบจำนวนเรือที่ยังอยู่ในทะเลและให้คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย

ส่วนจังหวัดตั้งแต่ จ.กว่างนิงห์ ไปจนถึง จ.ห่าติ๋งห์ ได้รับคำสั่งให้ควบคุมบรรดาเรือต่างๆ อย่างเข้มงวด และตรวจสอบแนวป้องกันพายุ อ่างเก็บน้ำ และโครงการก่อสร้างต่างๆ เพื่อป้องกันทั้งประชาชนและทรัพย์สินไม่ให้ได้รับความเสียหาย นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้ช่วยเหลือประชาชนดูแลความแข็งแรงของอาคารบ้านเรือน โรงเรียน และโรงพยาบาล และช่วยอพยพยประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยหากจำเป็น

ในการประชุมวาระเร่งด่วนของคณะกรรมาธิการควบคุมป้องกันพายุและน้ำ ท่วมแห่งชาติ วานนี้ (28 ก.ย.) ได้หารือถึงมาตรการรับมือกับพายุไต้ฝุ่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายฝั่งรายงานว่ามีเรือมากกว่า 30,000 ลำ และลูกเรืออีกกว่า 145,000 คน อยู่ในทะเลตอนนี้ ได้รับคำสั่งให้กลับเข้าฝั่งหรือทอดสมอในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว

สำหรับพายุไต้ฝุ่นไห่ถาง ที่พัดถล่มเวียดนามล่าสุดนี้ ส่งผลให้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดในภาคกลางช่วง 3 วันที่ผ่านมา และพายุลูกนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 128 หลัง และพื้นที่ทางการเกษตรมากกว่า 30,000 ไร่จมอยู่ใต้น้ำ.

การระบายในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล มีผลดีทำให้สามารถที่จะรองรับน้ำเหนือลงมาได้อีก ซึ่งช่วยให้น้ำจากภาคเหนือ และภาคกลางจะสามารถลดระดับลงได้

นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ได้พาทีมข่าวช่อง 3 ไปตรวจสอบการผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล ซึ่งได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน และจนถึงวันนี้ผ่านไปแล้ว 12 วัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเขตพื้นที่ กทม.ไม่ได้รับผลกระทบ และที่สำคัญยังสามารถรับน้ำเหนือที่จะลงมาได้อีก 2,800-3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ประกอบกับน้ำทะเลหนุนน้อย การระบายน้ำจึงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการผลักดันน้ำจะดำเนินการจนถึงวันที่ 2 ตุลาคม และจะประเมินระดับน้ำทะเลหนุนอีกครั้ง เพราะช่วงเดือนตุลาคม น้ำจะหนุนสูง 3 ช่วง คือวันที่ 1-3 ตุลาคม, 14-17 ตุลาคม, 28-31 ตุลาคม

อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีบอกการผลักดันน้ำจะเห็นผลดีในจุดของคลองลัดโพธิ์ ที่สามารถช่วยระบายน้ำออกสู่ทะเลได้มากกว่าปกติ ไม่น้อยกว่าวันละ 5 ล้านลูกบาศ์กเมตร ซึ่งจะทำให้น้ำเหนือลดระดับลงได้เร็วขึ้น จึงขอให้ผู้ประสบภัยสบายใจได้ว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้เร่งผลักดันน้ำวันละ 2 รอบ

ขอบคุณ และ  อนุโมทนา

กับความเอาใจใส่

อัพเดทข้อมูล ทุกวัน

ของ คุณอารียา ค่ะ

เป็นการย่อโลก

ให้แคบลง

ทุกอย่าง

หาได้ ในเวปฯ บ้านสวนฯ

สาธุในธรรมทานค่ะ

นี่เป็นการ

เตือน

มนุษย์ว่า

มนุษย์ ไม่มีวัน

เหนือ

ธรรมชาติได้

เปิดบทสวดมนต์นี้ทิ้งไว้ กำหนดจิตที่เเผนที่ประเทศไทย 

ขออนุโมทนาบุญ เเละ ขอบคุณ จากกระทู้Pray For Thailand ป้องกันพายุเนสาดอภิมหามหึมาลูกใหญ่กลืนไทยได้ทั้งประเทศ

เปิดบทสวดมนต์นี้ทิ้งไว้ กำหนดจิตที่เเผนที่ประเทศไทย

ส่งพลังเเห่งความรักเเละเมตตา

กำหนดจิตเป็นเเสงสว่างสีทองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ

สร้างเป็นเกราะกำเเพงกั้นเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะปลอดภัยเเน่นอนด้วยศรัทธาค่ะ

ตอนนี้ประเทศไทยน้ำท่วมหนักการที่มีพายุเข้า

จะทำให้เกิดความสูญเสียมากกว่าที่พวกเราคิดไม่ต่างจากซึนามิครั้งใหญ่

ตอนนี้ยังพอมีเวลาเหลือ ขอให้ใช้เวลาที่เหลือทำเท่าที่เราจะทำได้นะคะ

ไม่เชื่อไม่เป็นไร ถือว่า ฟังบทสวดมนต์เพราะๆ สร้างบารมีให้ตัวเองได้บุญมหาศาลนะคะ

จากกระทู้Pray For Thailand ป้องกันพายุเนสาดอภิมหามหึมาลูกใหญ่กลืนไทยได้ทั้งประเทศ
 

ทางเดียวที่จะยุติ

ปัญหาน้ำท่วมเดี๋ยวนี้ทันที

คือ คนที่เคยปรามาสพระเจ้าอยู่หัว

ต้องสำนึก กลับใจ ขอขมา

มิฉะนั้นไม่ว่าจะทำอย่างไร

ก็ไม่มีทางรอดค่ะ

เพราะนี่

คือการสั่งสอน

จากพระแม่คงคาค่ะ

อ.อุบล

ได้รับการสื่อมาเช่นนี้

เชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้

แต่ถ้าเชื่อ แล้วทำตาม

น้ำจะลดลงทันที

ทันตา

พระแม่คงคาจึงจะอภัย

แต่ถ้ามีคนไม่เชื่อ

มีคนปรามาส

ชาติไทยต้องยอมรับ

ชะตากรรม

แต่คนที่มีศีลธรรม

จะรอด จะปลอดภัย ให้เห็น

เป็นอัศจรรย์ จงคอยดู

        ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ วันที่ 2 หลายจุดยังไม่บรรเทา ทุกหน่วยงานเร่งระดมกำลังทำกระสอบทรายพร้อมออกแจกถุงยังชีพ-น้ำดื่ม-อาหารกล่อง ขณะที่น้ำยังท่วมต่อเนื่องหลายพื้นที่ แถมลามเข้า ถ.มหิดล ด้วย ส่วนที่ชุมชนป่าพร้าวนอกน้ำยังท่วมหนักในชุมชน น้ำสูงท่วมคอ ชาวบ้านต้องหนีน้ำไปอยู่ชั้น 2 แกนนำชุมชนระบุมีแต่เรือที่ใช้สัญจรได้ ระทึก! ต้องลุ้นต่อคืนนี้หลังมวลน้ำก้อนใหม่จ่อเข้ามาเพิ่ม ด้าน สสจ.ตั้งศูนย์บริการเคลื่อนที่เชิงสะพานป่าแดด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่พร้อมออกปฏิบัติการ เล็งจัดพยาบาลจิตเวชประจำศูนย์ หลังพบจบน้ำท่วมชาวบ้านมีแนวโน้มหดหู่-ซึมเศร้า

       สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงบ่ายวันนี้ (29 ก.ย.) แม้ว่าในพื้นที่หลายจุดปริมาณจะค่อยๆ ลดลง แต่ยังคงมีพื้นที่หลายจุดทั่วเขตตัวเมืองเชียงใหม่ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งประชาชนในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงต้องติดตามปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงต่อไปอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากที่ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบนได้แจ้งว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่สถานี P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กลับเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

       

       โดยมวลน้ำระลอกนี้จะเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ที่บริเวณสถานีวัดระดับน้ำ P1 สะพานนวรัฐ ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00-22.00 น.ของคืนนี้เป็นต้นไป และแม้ว่าศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบนจะประเมิน ว่า มวลน้ำระลอกใหม่นี้จะไม่ทำให้ปริมาณน้ำในเมืองเชียงใหม่เพิ่มสูงมากไปกว่าระดับน้ำที่จุด P1 เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันนี้ ซึ่งมีระดับน้ำอยู่ที่ 4.94 ม.ก็ตาม แต่ปริมาณน้ำระลอกใหม่ดังกล่าวจะยังส่งผลให้ในหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมขังบ้านเรือนต่อไป รวมทั้งอาจขยายวงกว้างออกไปสู่พื้นที่อื่นๆ อีกด้วย
       
       ทั้งนี้ เทศบาลนครเชียงใหม่ได้จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือขึ้นภายในบริเวณสถานฌาปนกิจหายยา โดยมีกำลังจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 ค่ายกาวิละ และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32, เจ้าหน้าที่จากองค์กรป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยในจุดดังกล่าวมีการนำทรายมาบรรจุลงกระสอบเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนและนำไปใช้ป้องกันภัยน้ำท่วมตามจุดต่างๆ รวมทั้งมีการระดมถุงยังชีพ น้ำดื่ม และอาหารกล่องเพื่อนำออกไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน       
       
       ขณะที่พื้นที่หลายจุดของเมืองเชียงใหม่ยังคงมีน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว โดยน้ำยังคงท่วมขังในบริเวณถนนช้างคลานตลอดทั้งสาย เช่นเดียวกับถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนบริเวณย่านหนองหอย และ ถ.สันป่าข่อยจนถึงบริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่ โดยน้ำจากถนนช้างคลานที่ท่วมต่อเนื่องมาจนถึงบริเวณสะพานป่าแดดและหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ได้ไหลท่วมต่อเนื่องมาถึงถนนมหิดลบริเวณทางเข้าหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ส่วนน้ำบริเวณย่านหนองหอยได้ไหลท่วมเข้าไปถึงหมู่บ้านการเคหะและหมู่บ้านเอื้ออาทรที่อยู่ใกล้เคียงกัน โดยมีส่วนหนึ่งทะลักออกมาท่วมถนนมหิดลบริเวณทางเข้าการเคหะด้วย
       
      นอกจากนี้ น้ำอีกส่วนหนึ่งยังได้ไหลเข้าท่วมเส้นทางรถไฟและถนนเลียบทางรถไฟบริเวณข้างโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยม และไหลท่วมจุดกลับรถใต้สะพานยกระดับทั้งสองฝั่ง โดยฝั่งโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยมน้ำได้ท่วมไปจนถึงเชิงสะพานข้ามแยกดอนจั่นแล้ว ซึ่งปริมาณน้ำที่ไหลต่อเนื่องจากหลายพื้นที่ได้ส่งผลให้ หลายจุดของ ถ.มหิดลกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมขังเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง
       
       ด้านชุมชนต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่หลายแห่งยังคงได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนป่าพร้าวนอกซึ่งเป็นจุดที่น้ำไหลเข้าท่วมอย่างหนัก โดยน้ำได้ท่วมมาถึงบริเวณเชิงสะพานป่าแดด ประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในชุมชนและหมู่บ้านในพื้นที่ดังกล่าวบางส่วนต้องเดินทางลุยน้ำซึ่งสูงถึงประมาณ 1.50 ม.ออกมาหาซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็น หรือออกมาขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งได้ระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลืออยู่ที่เชิงสะพานป่าแดด
       
       ขณะเดียวกัน เรือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหาร ตำรวจตระเวนชายแดนและเทศบาลได้นำถุงยังชีพ น้ำดื่ม และอาหารกล่องเข้าไปแจกจ่ายให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งทำหน้าที่รับส่งประชาชนที่ต้องการเข้า-ออกในพื้นที่ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วย หรือจำเป็นต้องอพยพโยกย้าย โดยเฉพาะภายในหมู่บ้านเวียงทองและหมู่บ้านอุ่นเรือนซึ่งถูกน้ำท่วมอย่างหนัก มีประชาชนหลายครอบครัวไม่สามารถออกจากบ้านได้ ต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้านซึ่งน้ำยังท่วมไม่ถึง
       
       นายสุริยา สุริยะธำรงกุล อดีตประธานชุมชนป่าพร้าวนอก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่นั้นค่อนข้างหนัก มีประชาชนกว่า 400 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งจากน้ำท่วมขังสูง ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มและไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสิ้นเชิง ต้องใช้เรือเป็นพาหนะหลักในการเดินทางเข้าออกเพียงอย่างเดียว
      
       ด้าน นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนของสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ว่า ได้เตรียมที่จะเปิดศูนย์บริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ขึ้นที่บริเวณเชิงสะพานป่าแดดในวันนี้ เนื่องจากถือเป็นจุดที่มีความเสียหายมากที่สุด โดยในเย็นวันนี้จุดดังกล่าวจะมีแพทย์และพยาบาลเข้าประจำการและพร้อมให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ประชาชนในพื้นที่
       
       ขณะเดียวกัน ได้ประสานกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ จัดตั้งชุดเคลื่อนที่อีก 3 ชุด สำหรับเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่อื่นๆ หากมีการร้องขอ รวมทั้งกำลังพิจารณาถึงการตั้งศูนย์บริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ในจุดอื่นๆ ของตัวเมืองเชียงใหม่ด้วย
       
       นพ.วัฒนา กล่าวต่อไปว่า ได้มีการประสานเพื่อขนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลที่อยู่ในจุดที่ถูกน้ำทมท่วมหนัก ได้แก่ รพ.เซ็นทรัลเมมโมเรียล รพ.ราชเวช และ รพ.แม่และเด็กแล้ว โดยได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยัง รพ.นครพิงค์ และ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ แทน ขณะเดียวกัน ยังได้เตรียมรับมือโรคและอาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่จะมาพร้อมกับเหตุน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นภัยจากกระแสไฟฟ้าช็อต ภัยจากแมลงและสัตว์มีพิษ โรคผิวหนังและโรคทางเดินอาหาร โดยเตรียมที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังสุขภาพและมาขอรับการรักษาพยาบาลจากศูนย์บริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ได้
       
       นอกจากนี้ ยังจัดให้มีพยาบาลจิตเวชเข้าประจำการในศูนย์ดังกล่าว เนื่องจากการศึกษา พบว่าภายหลังจากเกิดเหตุน้ำท่วมแล้ว 7 วัน ผู้ประสบภัยจะมีแนวโน้มเกิดความหดหู่ซึมเศร้า จึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในเรื่องสภาพจิตใจภายหลังน้ำท่วมด้วย

 

2 กูรูแนะวิธีรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบพร้อม ระบุคนกรุงเสี่ยงเจอ “สตรอม เสิร์ช” ชี้ต้องนำเรื่องนี้เป็น “วาระแห่งชาติ” ระบุ กทม. สมุทรปราการ ยังไม้พ้นวิกฤตเหตุเพราะพายุ 2 ลูกกำลังจ่อคิวเข้ามาถล่มซ้ำ ชี้ปัญหาน้ำท่วมภาคกลางเหตุเพราะการจัดการเรื่องน้ำล้มเหลว ฟันธงวิธีแก้ปัญหาระยะยาวต้องทำ “แก้มลิง”ทั่วทุกภาคของประเทศเท่านั้น

เหตุการณ์น้ำท่วม ดินถล่มที่ทำเอาคนไทยค่อนประเทศได้รับความลำบากในการดำรงชีพอยู่ในขณะนี้ เป็นปัญหาที่หน่วยงานที่รับผิดชอบได้พยายามเข้ามาแก้ไขแต่ปัญหานี้ก็ยังจะ เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกในปีต่อๆไป

เตือน กทม.จะจมบาดาล

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บอกกับ “ผู้จัดการรายสัปดาห์”ว่ามาจนถึงวันนี้ปัญหาภัยพิบัติโดยเฉพาะวิกฤตการณ์น้ำ ท่วมจะยังคงมีต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนเนื่องจากในระยะนี้ไปจนถึงปลายเดือน พฤศจิกายนจะยังคงมีพายุที่คาดว่าจะมีความรุนแรงพัดเข้ามาในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้อย่างต่อเนื่องซึ่งคาดว่าพายุทั้งสองลูกนี้ จะมีโอกาสเข้าถล่มกรุงเทพฯมากที่สุด

“เดือน ต.ค.- พ.ย.นี้เราจะต้องระวังพื้นที่กรุงเทพฯให้มากเพราะปริมาณน้ำที่จะทะลักเข้ามา จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจุบันเขื่อนที่ใช้กักเก็บน้ำทั่วประเทศมีปริมาณน้ำ เกินอัตรากักเก็บแล้ว ซึ่งปัญหานี้เกิดจากการปล่อยปริมาณน้ำที่น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณ น้ำฝนที่ตกลงมาหนำซ้ำการกักเก็บน้ำในเขื่อนก็กักเก็บมากเกินไป พอปริมาณน้ำในเขื่อนเกินการกักเก็บก็ปล่อยน้ำออกมาพร้อมกันอย่างนี้ร้อยทั้ง ร้อยน้ำก็ต้องท่วมแน่นอน”

ที่ผ่านมาได้มีการศึกษาติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติมาโดยตลอด พบว่า ภัยพิบัติที่จะกระทบ กทม.และปริมณฑล มีอยู่ 2 ประเภท คือ ภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว และภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง ซึ่งเกิดจากสภาวะโลกร้อน โดยภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นภัยที่รุนแรงและมีผลกระทบต่อมนุษย์จำนวนมาก ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ 13 รอย และจากการศึกษาพบว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ รอยเลื่อนทั้งหมดเกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ซึ่งการเกิดรอยร้าวดังกล่าวทำให้อาคารที่โครงสร้างไม่แข็งแรงใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีโอกาสถล่มลงมาได้

อย่างไรก็ตามในขณะที่พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงในพื้นที่ กทม.อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากรอยเลื่อน 2 รอย คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี หากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นมาอีก เชื่อว่าจะส่งผลให้เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์แตก และทำให้น้ำปริมาณกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตรไหลทะลักเข้าสู่ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม และ กทม.

สำหรับภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง เนื่องจากสภาวะโลกร้อนขึ้นนั้น จากสถิติไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าพายุที่เกิดในมหาสมุทรอินเดียจะมีแรงลมสูงมาก ถึงขนาดเป็นไซโคลน แต่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้ว คือ พายุไซโคลนนาร์กีส ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อขึ้นฝั่งในลุ่มน้ำอิระวดีในพม่า แรงลมสูงสุดถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความรุนแรงถึงระดับ 4 ซึ่งในอนาคตโอกาสที่เราอาจจะประสบกับพายุที่รุนแรงอย่างนี้ได้อีก

“ขอทำนายว่าในเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีพายุขนาดใหญ่พัดถล่มประเทศไทย ทางด้านอ่าวไทย ไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เพชรบุรี เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงฤดูฝน อยู่ระหว่างช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าประเทศไทย จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าช่วงดังกล่าวมีพายุพัดถล่มประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง อย่างเช่น พายุไต้ฝุ่นเกย์ พายุไต้ฝุ่นลินดา ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนก็เกิดขึ้นในช่วงนี้ซึ่ง อาจทำให้เกิดปรากฏการณ์ สตรอม เสิร์ช (Storm Search) หรือน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงบริเวณปากอ่าวเจ้าพระยา และเข้าท่วมพื้นที่ กทม. โดยกว่าจะไหลย้อนกลับสู่ทะเลต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์ และหากท่วมเหนือคลองประปา จะทำให้ประชาชนไม่มีน้ำในการอุปโภคบริโภค”

ทุกภาคทำ “แก้มลิง”
ช่วยแก้ปัญหาระยะยาว

สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในระยะยาว อย่างเช่นน้ำท่วมขังบริเวณภาคเหนือตอนบนและตอนล่างทุกจังหวัดควรจะลงมือทำ แก้มลิงตามโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้พร้อมๆกันทุกๆพื้นที่เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมแล้วยังสามารถ แก้ปัญหาภัยแล้งได้ซึ่งหากทุกจังหวัดนำเอาพื้นที่ที่ว่างเปล่า ห้วย คลอง บึง จัดการขุดลอกให้ลึกลงไป 3 เมตรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน

“ตัวอย่างบึงบรเพ็ดน่าจะมีการขุดลอกในหน้าแล้งเพื่อในหน้าฝนจะสามารถ รองรับปริมาณน้ำได้มากช่วยให้น้ำท่วมขังน้อยหรือบางพื้นที่จะแก้ไขปัญหาน้ำ ท่วมได้ แต่ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ริเริ่มโครงการและดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะจะมาหวังว่าจะสร้างเขื่อนเพิ่มเติมคงจะทำไม่ได้และไม่ทันกับการแก้ไข ปัญหาที่สำคัญการทำโครงการแก้มลิงใช้งบประมาณน้อยกว่าการสร้างเขื่อนและไม่ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนด้วย”

แนะรัฐต้องบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ

“ปัญหาภัยพิบัติซึ่งมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกๆปีนี้เป็นปัญหาสำคัญ มากและต้องแก้ไขกันแบบจริงจังเพราะเมื่อถึงเวลาหน้าฝนน้ำจะท่วมขังในหลาย พื้นที่อย่างที่เราเห็นกันอยู่ และรัฐบาลรวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดการกับปัยหาน้ำมากมายมหาศาลโดย ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าไม่ได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เราต้องยอมรับว่า มีการบริหารจัดการน้ำอย่างไม่ถูกต้องและไม่มีการวางแผนกันไว้ล่วงหน้า พอเกิดเหตุการณ์แล้วมาบอกว่าจะไม่ให้น้ำท่วมที่นั่นที่นี่บอกตรงๆว่ามันเป็น ไปไม่ได้” ปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทานบอกและว่า เราต้องทำการศึกษาสภาพภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ให้เป็นระบบแล้วนำมากางช่วย กันแก้ปัญหาในระยะยาวเพราะที่ผ่านมาพอน้ำท่วมทีก็หารือกันทีพอน้ำลดทุกคนก็ ลืมแล้วแผนการที่วางไว้ในปีก่อนก็ถูกเก็บในลิ้นชักเช่นเดิม

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยาวนั้นได้เคยเสนอไปแล้ว 2 รูปแบบ แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนนำไปทำ คือ การต่อสู้กับน้ำ ซึ่งเราจะต้องดูพื้นที่ที่สามารถแก้ไขได้ อย่างเช่นพื้นที่ กทม.แก้มาจนสามารถพูดได้ว่าแก้ได้ดี แต่ในพื้นที่ภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มเป็นจุดรองรับน้ำจากภาคเหนือ เป็นแอ่งกระทะขนาดใหฯเมื่อเราสู้ไม่ได้เราก็ต้องถอย เช่นอพยพชาวบ้านที่ไปตั้งถิ่นฐานขวางทางน้ำออกไปอยู่ในพื้นที่ไม่เสี่ยง เพราะแม้จะมีการเตรียมการอย่างดี แต่เวลาน้ำหลากก็ต้องอพยพหนีบางคนสูญเสียทรัพย์สินถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว ฉะนั้นแล้วหากต้องการจะแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จรัฐบาลจะต้องทำความเข้าใจกับชาว บ้านแล้วหาพื้นที่ที่ปลอดภัยทดแทน

ในระดับที่สอง เราต้องสอนให้ประชาชนรู้จักปรับตัวให้เข้ากับภัยพิบัติ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางในทุกจังหวัดเมื่อหน้าฝนจะประสบปัญหาน้ำท่วมแต่ถ้า เรารู้จักปรับสภาพ เช่น การทำนา หน้าแล้งก็ควรปรับพื้นที่ใพาะปลูกให้สูงขึ้นในขระเดียวกันก็ทำคู คลองที่สามารถระบายน้ำออกไปสู่พื้นที่ลุ่มอื่นๆ ซึ่งลักษณะนี้จะเหมือนการทำแก้มลิงแต่เป็นแก้มลิงที่สามารถเพาะปลูกได้ด้วย

“หากรัฐบาลไม่จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ เชื่อว่าเมืองไทยเราจะประสบปัญหาน้ำท่วม แผ่นดินทรุดอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆและคาดว่าในปีต่อๆไปจังหวัดในแถบภาคกลาง ทั้งหมด จังหวัดในภาคอีส่าน เช่น อุบลราชธานี ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ก็ยังคงประสบปัญหานี้ไม่รู้จักจบสิ้นและอาจจะรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” อดีตอธิบดีกรมชลประทานกล่าวสรุป

ปทุมธานี - คลองรังสิตเอ่อล้นฝั่งท่วมถนนซ่อมสร้างจราจรติดขัด

29 กย. 2554 11:23 น.

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 29 ก.ย.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งถนนสายซ่อมสร้าง ม.5 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนรังสิต-ปทุมธานี และถนนติวานนท์ เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กม.ทำ ให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการปิดถนนขาออกจากรังสิตให้รถวิ่งสวนทางในฝั่งขา เข้ารังสิต ทำให้เกิดการติดขัดยาวหลายกิโลเมตร

นางรุ่งฤดี นวลจันทร์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/7 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ระดับน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อท่วมขึ้นมามากตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ซึ่งระดับน้ำได้เอ่อขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน และเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน น้ำได้ท่วมเข้าในบ้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำก็เคยเอ่อท่วมขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งและเพิ่งลดลงไปจนปกติ เมื่อประมาณ10 วัน ที่ผ่านมา ที่สำคัญตอนนี้นอกจากถูกน้ำท่วมเข้าบ้านแล้ว ยังต้องมาเดือดร้อนเพราะรถที่วิ่งลุยน้ำผ่านไปมาทำให้คลื่นซัดเข้าบ้านสร้าง ความเสียหายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

---------------

อพยพชาวบ้านกาฬสินธุ์หลังน้ำทะลักท่วมบ้านกว่า80หลัง

29 กย. 2554 10:40 น.

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 54 น้ำจากลำน้ำพานและปาวหลงทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 80 หลังคาเรือน นายอำเภอเมืองเร่งอพยพชาวบ้านมาอาศัยในที่สูง ขณะที่ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง พร้อมฉีดวัคซีน แจกยาถ่ายพยาธิและยาบำรุง ให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพสัตว์ในช่วงวิกฤติน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างล่าสุดน้ำจากลำน้ำพาน ปาวหลง ที่ได้รับอิทธิพลจากการเร่งระบายน้ำของเขื่อนลำปาววันละกว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อรักษาสภาพตัวอ่างเก็บน้ำซึงเป็นเขื่อนดินทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม 2 หมู่บ้านใน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีบ้านเรือนของราษฎรกว่า 80 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม. และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ด.ต.สมคิด นันทสมบูรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำพาน ได้อพยพชาวบ้านทั้งหมดมาอาศัยยังบริเวณที่พักที่ปลอดภัยแล้ว

ตาก - ผวา!เขื่อนภูมิพลน้ำใกล้ล้นจ่อซ้อมแผนอพยพ

ข่าวภูมิภาค วันพฤหัสบดีที่ 29 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 11:29 น.




เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก น้ำใกล้ล้น ชาวบ้านผวา ผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมซ้อมแผนอพยพประชาชน


สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำ เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก วานนี้ มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากถึง 117 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ เพราะภาคเหนือตอนบน เกิดภาวะน้ำท่วมจากพายุไห่ถาง ซึ่งน้ำส่วนใหญ่จะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ทำให้ขณะนี้ เขื่อนภูมิพล มีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 12,418 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็น 92.24 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่าง ซึ่งจะเหลืออีก 7.76 เปอร์เซ็นต์ น้ำจะล้นอ่าง วันนี้ เขื่อนภูมิพล จะระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง วันละ 28.5 ล้านลูกบาศก์เมตร และแม่น้ำวัง มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น เพราะเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง เร่งระบายน้ำเช่นกัน ทำให้มีน้ำลงสูแม่น้ำปิง สมทบอีก วันละ 33.6 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมแล้วมีน้ำไหลลงสูงลุ่มเจ้าพระยา รวม 62.1 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากยังมีน้ำไหลเข้าเขื่อนภูมิพล มากเกินกำหนด ทางเขื่อนจะต้องระบายน้ำเพิ่มอีก
และจากที่น้ำใกล้ล้นอ่างเก็บน้ำ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใต้เขื่อน เริ่มกังวลในความมั่นคงของเขื่อนภูมิพล

ด้าน นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก จึงเตรียมประสานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อำเภอสามเงา จัดซ้อมแผนอพยพและเตือนภัยประชาชนที่อาศัยบริเวณใต้เขื่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

บุรีรัมย์เตือนเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก

ข่าวภูมิภาค วันพฤหัสบดีที่ 29 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 11:08 น.

สสจ.บุรีรัมย์ แจ้งเตือนประชาชน เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้เลือดออก หลังจากมีฝนตกชุกและมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ พบ ผู้ป่วยแล้วกว่า 281 ราย


น.พ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาแจ้งเตือนประชาชน ให้เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้เลือดออก หลังจากมีฝนตกชุกและมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ซึ่งเอื้อต่อการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ที่จะเป็นพาหนะนำเชื้อโรคไข้เลือดออก มาแพร่ระบาดสู่คน ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ได้มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก เข้ารับการตรวจรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ แล้ว จำนวน 281 ราย โดยอำเภอที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ อ.เมือง ละหานทราย ห้วยราช แคนดง และ อ.บ้านด่าน ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มอายุระหว่าง 5 - 14 ปี

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด และทั้งยังกำชับให้ สาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ ร่วมกับ อสม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกฉีดพ่นหมอกควัน และหยอดทรายอะเบท ตามภาชนะกักเก็บน้ำ เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้ง ออกรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนถึงวิธีแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก อย่างต่อเนื่อง

---------------------------------------

ประกาศเตือนภัย
"พายุ “เนสาด”"
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 29 กันยายน 2554

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (29 ก.ย. 54) พายุไต้ฝุ่น“เนสาด” (NESAT) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน

มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.1 องศาตะวันออก หรือห่างจากเกาะไหหลำ ด้านตะวันออกประมาณ 100 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ชม. และเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กม./ชม. คาดว่าพายุนี้ จะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยในวันที่ 30 ก.ย. 54 ขอให้ติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป

ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น สำหรับคลื่นลมในทะเล
อันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง


ประกาศ ณ วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 11.30 น.



สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ภาพสะเทือนใจ..แม่ผู้เสียสละกับภัยพิบัติในญี่ปุ่น

นี่คือเรื่องราวของแม่ผู้เสียสละ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในช่วงเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุน โดยหลังจากเหตุแผ่นดินไหวสงบลง หน่วยกู้ภัยก็มาถึงบ้านของหญิงสาวรายหนึ่งที่พังยับไม่เหลือซาก พวกเขาพบร่างของหญิงสาวที่เสียชีวิตแล้วผ่านรอยแตกของซากปรักหักพัง แต่ท่าทางของศพเธอดูค่อนข้างแปลก โดยเธออยู่ในท่าคุกเข่าคล้ายท่าทางกราบไหว้ ส่วนช่วงลำตัวเอนไปทางด้านหน้า สองมือของเธอกำลังประคองอะไรบางอย่างอยู่ ซากที่หักพังของบ้านกระแทกเข้าที่หลังและศีรษะของเธอ

หัวหน้าหน่วยกู้ภัยได้ยื่นมือผ่านรอยแยกแคบๆ ของกำแพงเพื่อที่จะเอื้อมไปยังร่างของหญิงสาวด้วยความลำบากเป็นอย่างมาก เขาหวังเพียงแต่ว่าหญิงสาวคนนั้นจะยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม ร่างของหญิงสาวที่เย็นและแข็งทื่อบ่งบอกให้เขารู้ว่าเธอเสียชีวิตแล้วอย่างแน่นอน

หัวหน้าหน่วยกู้ภัย และลูกทีมที่เหลือออกมาจากบ้านหลังนั้น และเริ่มค้นหาตามบ้านที่กลายเป็นซากหักพังหลังถัดไป แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้หัวหน้าหน่วยกู้ภัยเดินกลับไปยังบ้านหลังที่พบศพหญิงสาวที่เสียชีวิตไปแล้วอีกครั้ง เขาคุกเข่าลงและยื่นมือผ่านเข้าไปในรอยแยกเพื่อค้นหาพื้นที่ว่างเล็กๆ ใต้ศพของเธอ ซึ่งทันใดนั้น เขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น

เด็ก! ตรงนี้มีเด็ก!

ลูกทีมทั้งหมดต่างก็แห่เข้ามาช่วยกันยกซากปรักหักพังที่อยู่รอบๆ ตัวหญิงสาวที่เสียชีวิตแล้วออกอย่างระมัดระวัง พวกเขาพบร่างเด็กชายวัย 3 เดือนในผ้าห่มลายดอกไม้ภายใต้ร่างของผู้เป็นแม่ที่เสียชีวิตแล้ว ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอเสียสละจนถึงที่สุดเพื่อที่จะปกป้องลูกชายของเธอ เมื่อบ้านของเธอเริ่มพังลงมา เธอใช้ร่างกายของเธอเป็นที่กำบังให้กับลูกชายของเธอ หน่วยกู้ภัยอุ้มตัวลูกชายของเธอขึ้นมา และพบว่าเด็กยังนอนหลับอยู่อย่างปลอดภัย

แพทย์ได้รุดมายังที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วและได้ตรวจเช็คร่างของเด็กชาย โดยหลังจากเปิดผ้าห่มที่ห่อหุ้มร่างของเด็กชายออก เขาก็พบโทรศัพท์มือถือข้างในผ้าห่ม ซึ่งมีข้อความปรากฏบนหน้าจอว่า

ถ้าเธอมีชีวิตรอด เธอต้องจำเอาไว้นะว่าฉันรักเธอ

โทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวถูกส่งต่อไปรอบๆ จากมือหนึ่งไปสู่อีกมือ ซึ่งทุกคนที่ได้อ่านข้อความดังกล่าวต่างก็ต้องเสียน้ำตา

ถ้าเธอมีชีวิตรอด เธอต้องจำเอาไว้นะว่าฉันรักเธอ นี่แหละคือความรักของแม่ที่มีแต่ลูกของเธอ !!

---------------------

สุดยอด    แม่คือผู้ให้และเสียสละ
ด้วยบุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน อันจะมีผลประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ข้าพเจ้าขออุทิศให้แก่ คุณแม่ท่านนี้(ในภาพ)ขอเธอจงมาโมทนา และได้รับประโยชน์ และความสุข เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาล
บัดเดี๋ยวนี้เถิด

ศอส.รับ น้ำในเขื่อนใหญ่วิกฤต - ปภ.เตือนพื้นที่เสี่ยงทางน้ำระวังฝนหนัก

ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม เผย 23 จว.ยังอ่วมหนัก รับน้ำในเขื่อนสุดวิกฤต ด้านอธิบดี ปภ.เตือนพื้นที่เสี่ยงภัยทางน้ำผ่าน 42 จว.พร้อมรับมือฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน

วันนี้ (29 ก.ย.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายพระนาย สุวรรณรัฐ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) แถลงว่ายังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 23 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก และปราจีนบุรี รวม 163 อำเภอ 1,195 ตำบล 8,942 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 614,876 ครัวเรือน 1,934,812 คน ผู้เสียชีวิต180 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 6,157,916 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยง สัตว์น้ำ บ่อปลา 90,242 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบ 6,937,065 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ รวม 122 สาย แยกเป็น ทางหลวง 36 สาย ใน 9 จังหวัด ทางหลวงชนบท 86 สาย ใน 18 จังหวัด

“สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ 92เปอร์เซ็นต์ เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 99 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนแควน้อย มีปริมาณน้ำ 94 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 135 เปอร์เซ็นต์” นายพระนายกล่าว

ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ( ปภ.) กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ รวม 42 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี สกลนคร เลย หนองบัวลำภู นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ นครราชสีมา แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และสตูล เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในช่วงวันที่ 29 ก.ย. - 3 ต.ค.
 

น้ำหลากท่วม อ.สารภีเชียงใหม่ ขนย้ายข้าวของไม่ทัน

30 กย. 2554 11:08 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงใหม่ว่า หลังจากมีน้ำเริ่มมทะลักเข้าท่วมในต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้และกลางดึกที่ ผ่านมา ส่งผลให้ชาวบ้านหลาย 100 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ตชด.333 ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เรือท้องแบน ออกไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้ รับความเดือดร้อน ทั้งการขนย้านสิ่งของและช่วยชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านออกมาไม่ได้
ตชด.รายหนึ่ง กล่าวว่า ได้นำเรือท้องแบนออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน ขนย้ายสิ่งของออกมา แต่บางจุดก็ไม่สามารถเข้าถึง และขนย้ายได้ทัน ทำให้บ้านเรือนหลายหลังถูกน้ำท่วม ทรัพย์สินเสียหาย บางจุดน้ำท่วมมิดหลังคา
นางอัมพร ผ่องผิว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 274/30 หมู่บ้านธนโชค หมู่ 1 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า น้ำท่วมเริ่มเข้าตั้งแต่เวลา 03.00 น. ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ต้องเกาะกาละมังลอยคอออกมา ย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงไม่ทัน เพื่อนบ้านหลายหลังได้รับความเสียหาน นอกจากนี้ มีรถยนต์จมน้ำจำนวน มาก เพราะย้ายหนีน้ำไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ไม่คาดคิดว่าน้ำจะท่วมสูงขนาดนี้ ก่อนหน้านี้น้ำท่วมสูงก็แค่ระดับหัวเข่า แต่ครั้งนี้น้ำมาเร็วและท่วมสูงมาก ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งประสบครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้มีตชด.มาช่วยเหลือ และเทศบาลตำบลหนองผึ้ง เอาข้าวมาแจก

--------------------

เชียงใหม่ - หมู่บ้านในต.สันทรายน้อยจมน้ำ 3 พันหลัง

30 กย. 2554 10:54 น.

นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กล่าว่วา ในพื้นที่ถูกน้ำล้นสปริงเวย์ของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ทะลักเข้า มาท่วมหมู่บ้าน ต.สันทรายน้อย ไม่ต่ำกว่า 2-3 พันหลังคาเรือน ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ โดยมีระดับสูงตั้ง 30 ซม. - 1.40 เมตร โดยพื้นที่ที่หนักที่สุดอยู่ที่หลังวัดสันทรายมูล และหมู่บ้านไทยสันทราย จำนวน 300-400 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 1.40 เมตร ทั้งนี้ในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านจัดวสรร ประมาณ 5-6 แห่ง เช่น หมู่บ้านกล้วยไม้ หมู่บ้านเชียงใหม่การ์เด้นท์ หมู่บ้านพิมุกต์หลายเฟสและ หมู่บ้านลากูน่า ส่วนสาเหตุที่เจอน้ำท่วมครั้งนี้ เกิดจากน้ำล้นสปริงเวย์จากเขื่อนแม่กวงอุดมธารา และพนังกั้นดิน ของต.เมืองเลน และต.สันนาเม็ง เกิดพังลงมา และมีต้นใหญ่ล้มในแม่น้ำกวง คาดในปีนี้หนักกว่าปี 2548 ขณะนี้ได้ระดมนำกระสอบทราย และอาหาร เข้าส่งให้ชาวบ้านที่ไม่สามารถออกมานอกพื้นที่ได้
รายงานข่าวแจ้งว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่สามารถย้ายสิ่งของได้ทัน เนื่องจากน้ำเข้ามาเร็วมากและมีบางส่วนได้นำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ขึ้นไปจอดบนถนนวงแหวนรอบสองได้ทัน ขณะนี้ไดมีกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ ต.สันทรายน้อย ทำอาหาร เร่งแจกจ่ายเข้าไปในพื้นที่ที่น้ำลึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนบรรยากาศในพื้นที่เขต อ.เมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะในโซนการค้าสำคัญญ และเศรษฐกิจ เช่น ตลาดเมืองใหม่ ตลาดวโรรส ตลาดต้นลำไย ระดับน้ำ ได้ลดลงหมดแล้ว พ่อค้าแม่ค้าได้นำสินค้ามาวางขายตามปกติ ส่วนในพื้นที่เส้นโรงเรียนปรินส์รอยแยลวิทยาลัย และโรงเรียนดาราวิทยาลัย ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สามารถสัญจรไปมาได้

-----------------------

เชียงใหม่ - ระดับน้ำปิงลดลงชั่วโมงละ 4-5 ซม.

30 กย. 2554 10:54 น.

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเชียงใหม่เริ่มทรงตัว โดยระดับน้ำที่จุดตรวจวัดสะพานนวรัฐลดลง 4-5 ซม.ต่อชั่วโมง คาดว่าภายในเวลา 19.00 น. ระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่า 4 เมตร และภายใน 2 วันจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ ตอนนี้ทุกผ่ายทั้งทางจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทหาร ก็ได้เร่งใหความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ฟื้นฟูและเร่งเยียวยา ทั้งนี้เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับักท่องเที่ยวในเทศกาลลอยกระทงและมหกรรมพืชสวนโลกฯ ที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้
ขณะนี้ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างชาติในเชียงใหม่แต่ก็ไม่ได้หวั่นวิตกกับเหตุการณ์น้ำท่วมทีเกิดขึ้น ยังคงอยู่เที่ยวต่อ และก็มีเดินทางมาเที่ยวเพิ่มแม้ว่ารถไฟจะมีการหยุดเดินรถ รถโดยสาร รถทัวร์บางส่วนให้บริการไม่ได้ แต่ในส่วนของเครื่องบินยังให้บริการได้ตามปกติ
ด้านนายคมสัน สุวรรณอัมภา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังจวัดเชีย ใหม่ กล่าวว่า ระดับน้ำปิงตอนนี้อยู่ที่ 4.60 เมตร ลดลงจากระดับสูงสุดที่ 4.86 เมตร เมื่อเวลา 01.00 น.และมีแนวโน้มจะลดลงต่ออนื่อง ส่วนพื้นที่เศรษฐกิจที่ได้รับความเดือดร้อนระดับน้ำท่วมก็เริ่มลดปริมาณลงเช่นกัน โดยบริเวณถนนช้างคลานและไนท์บาซ่าระดับน้ำท่วมลดเหลือ 30 เซนติเมตร ตอนนี้น้ำได้ระบายต่อไปยังอ.สารภี แล้ว

ฝนถล่มเขื่อนดินกั้นวัดบัวทองน้ำทะลักท่วม



เกิดฝนตกหนักลมพัดแรงในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นมาก และล้นเขื่อนดินกั้นรอบวัดบัวทอง หมู่ 1 ต.บ้านปทุม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ทำให้น้ำเข้าท่วมวัดภายในพริบตา พระในวัดจำนวน 16 รูป
ต่างช่วยกันเก็บข้าวของลอยน้ำเต็มรอบวัด ต่อมา นายสุชิน แย้มชุด รองนายก อบต.บ้านปทุม และ นายวิรัช ต้นยาง กำนัน ได้นำชาวบ้านมาช่วยกั้นเสริมกระสอบทรายคันกั้นน้ำรอบที่ 2 ของวัดเอาไว้ หากสู้น้ำไม่ไหว น้ำก็จะ
ไหลเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน และเมื่อน้ำเข้าท่วม พระในวัดช่วยกันเก็บของใช้ที่จมน้ำขึ้นมาไม่ทัน รวมทั้ง ห้องน้ำที่พระใช้ ก็ถูกน้ำท่วมไปครึ่งห้อง ไม่สามารถใช้การได้

ซึ่ง รอง นายก อบต. และกำนัน ได้กล่าวว่า จำเป็นต้องปล่อยให้น้ำท่วมก่อน แล้วมาเสริมแนวเขื่อนดินที่พังลงไป ได้ใช้กระสอบทรายตั้งแนวใหม่ และเริ่มสูบน้ำออก คาดว่าในวันพรุ่งนี้น้ำน่าจะแห้ง

รพ.ท่าวุ้ง ลำพูน ย้าย ผู้ป่วยหนักไป รพ.สิงห์บุรี หลังน้ำท่วมสูงต่อเนื่อง

สถานการณ์น้ำท่วม จ.ลำพูน ส่งผลให้อาคารผู้ป่วย ที่พักแพทย์และพยาบาล ของโรงพยาบาลท่าวุ้ง ขณะนี้ ถูกน้ำท่วมแล้ว 4 หลัง รวมทั้งอาคารโรงอาหาร อาคารเก็บเสบียงของแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยด้วย ซึ่งคาดว่า จะมีเพียงพอแค่ 3 วันเท่านั้น ทั้งนี้ จากระดับน้ำที่มี

------------

น้ำท่วมเชียงใหม่เริ่มลดระดับแล้ว คาดลดต่อเนื่อง ด้านสารภีรับต่อเริ่มเจอน้ำเอ่อท่วมแล้ว
 

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - น้ำท่วมเชียงใหม่วันที่ 3 มีแนวโน้มดีขึ้น หลังคืนที่ผ่านมามวลน้ำระลอกใหม่เข้าแต่ระดับน้ำไม่เพิ่มเท่าวันแรก ส่วนเช้าวันที่ 3 ปริมาณน้ำเริ่มลด ศูนย์อุทกวิทยาฯ คาดน้ำลดระดับต่อเนื่อง ด้านผู้ว่าฯ ระบุหลังน้ำลดเตรียมเร่งฟื้นฟู มั่นใจน้ำท่วมไม่กระทบท่องเที่ยว ส่วนสารภีเริ่มมีน้ำเอ่อล้นเข้าพื้นที่แล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ในวันนี้ (30 ก.ย.) น้ำที่ท่วมขังในหลายจุดได้เริ่มลดระดับลงแล้ว หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาปริมาณน้ำได้กลับเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่มวลน้ำระลอกใหม่เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงกลางคืน

อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำเมื่อคืนที่ผ่านมายังคงเป็นไปตามการคาดการศูนย์อุทกวิทยาและบริหาร น้ำภาคเหนือตอนบน ที่ระบุว่าแม้จะมีมวลน้ำก้อนใหม่ปริมาณมากเข้าสู่ตัวเมืองเมื่อคืนวานนี้ แต่ระดับน้ำในแม่น้ำปิงจะไม่สูงมากไปกว่า 4.90 เมตร ซึ่งเป็นระดับน้ำที่สูงที่สุดที่วัดได้ ณ จุดวัดน้ำ P.1 สะพานนวรัฐ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อวันที่ 28 ก.ย. เป็นต้นมา โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาปริมาณน้ำได้เพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 4.87 ม. เมื่อเวลา 23.00 น. ก่อนจะลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับระดับน้ำที่จุดวัดน้ำ P.67 บ้านแม่แต อ.สันทราย ซึ่งเพิ่มระดับขึ้นสูงสุดที่ 4.76 ม. เมื่อเวลา 19.00 น. ก่อนจะลดระดับลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันโดยล่าสุดในเช้าวันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.ระดับน้ำที่จุดวัดน้ำ P.67 อยู่ที่ 3.83 ม. ส่วนที่จุดวัดน้ำ P.1 ระดับน้ำอยู่ที่ 4.54 ม.

ทั้งนี้ ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบนระบุว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ประกอบกับพื้นที่ต้นน้ำไม่มีรายงานฝนตกหรือปริมาณน้ำเพิ่มสูง คาดว่าในวันนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงจะลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงค่ำวันนี้

ด้าน หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มคลี่คลายลงแล้ว โดยระดับน้ำในแม่น้ำปิงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าสถานการณ์น้ำน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยนั้น ทางจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังเร่งให้ความช่วย เหลืออย่างเต็มที่ในทุกด้านแล้ว และเมื่อน้ำลดลงหมดแล้วก็จะเข้าไปทำการช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพความเสียหายต่างๆ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวด้วยว่า แม้จะเกิดน้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่มั่นใจว่าไม่ได้กระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด เนื่องจากน้ำท่วมเฉพาะจุดที่อยู่สองฝั่งริมแม่น้ำปิงเท่านั้น แต่ไม่กระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าในช่วงที่เกิดน้ำท่วมยังคงมีนักท่องเที่ยวพำนักอยู่ใน จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ไม่มีการยกเลิกการเดินทาง ตลอดจนยังคงมีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามปกติด้วย เป็นการสะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่มีต่อจังหวัด เชียงใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า แม้สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่มีแนวโน้มคลี่คลายลงไป แต่พบว่าในพื้นที่หลายตำบลของอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ที่อยู่ทางใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำปิงที่เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมแล้วหลายตำบล ตั้งแต่วานนี้ เช่น ตำบลหนองผึ้ง ตำบลดอนแก้ว ตำบลสันทราย ตำบลท่าวังตาล เป็นต้น เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่รับน้ำต่อจากเมืองเชียงใหม่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว

เชียงใหม่-ระดมแจกจ่ายอาหาร-น้ำให้ชาวบ้านกุมกาม
 

เชียงใหม่-ระดมแจกจ่ายอาหาร-น้ำให้ชาวบ้านกุมกาม
 

วันศุกร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

กำนัน ตำบลท่าวังตาล ระดมเจ้าหน้าที่ช่วยแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มให้ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 ม.ไม่สามารถเดินทางออกจากหมู่บ้านได้
นางวิมล รัก ตนซื่อ กำนันตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และสมาชิกเทศบาลตำบลท่าวังตาล ช่วยกันลำเลียงอาหารและน้ำดื่มใส่เรือท้องแบนนำเข้าไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบ ภัยน้ำท่วมในพื้นที่รับผิดชอบ 4 หมู่บ้าน รวมกว่า 100 หลังคาเรือน โดยมีชาวบ้านเดินออกมารับอาหารและน้ำดื่ม บางรายอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เรือไม่สามารถเข้าไปได้ต้องใช้วิธีนำอาหารและน้ำดื่มใส่ถุงห้อยไว้ตามรั้ว บ้านให้คนในบ้านออกมารับเอง

อย่างไร ก็ตาม บางพื้นที่ของตำบลท่าวังตาลซึ่งเป็นที่ตั้งของโบราณสถานเวียงกุมกาม ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถคลื่อนย้ายทรัพย์สินมีค่า ออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์และรถจักรยานยนต์จมอยู่ใต้น้ำกว่า 100 คัน โดยเฉพาะที่บ้านช้างค้ำ หมู่ 11 น้ำสูงเกือบ 2 เมตร ผู้ที่อยู่อาศัยบ้านชั้นเดียวไม่สามารถนอนได้ ต้องขนข้าวของออกมานอนบ้านญาติในพื้นที่ปลอดภัย


 

Shar
รูปที่เกี่ยวข้อง»

ประกาศเตือนภัย
"พายุ “เนสาด”"
ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 30 กันยายน 2554

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30 ก.ย. 54) พายุโซนร้อน “เนสาด” (NESAT) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย

มีศูนย์กลาง อยู่ห่างประมาณ 120 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 21.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.3 องศาตะวันออก
มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณเมืองฮาลองของประเทศเวียดนาม ในบ่ายวันนี้ และจะอ่อนกำลังลงอีก พายุลูกนี้ส่งผลทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนเพิ่มขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้

ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง

ทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 30 กันยายน -1 ตุลาคม นี้ไว้ด้วย


ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 11.30 น.
 

ผบ.ทบ.สั่งทหารดูแล 13 เขต กทม.เสี่ยงน้ำท่วม

ผู้ บัญชาการทหารบกสั่งการทหารคอยช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 13 เขตของ กทม.ที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมแนะประชาชนอย่าตื่นตระหนก
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก บอกว่า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำที่กำลังจะเข้าท่วม 13 เขตในกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด โดยกำชับให้กำลังพลแต่ละพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น

แต่ ขอให้อย่าตื่นตะหนกกับสถานการณ์น้ำท่วม และขอให้ยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น จะได้หาแนวทางแก้ไข และคนไทยจะได้เข้มแข็งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ จะเป็นบทเรียนในการหาแนวทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

-----------------------

กรมชลฯเตือน"ลพบุรี-อยุธยา"น้ำสูงราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก

กรมชลฯเตือนลพบุรี-อยุธยาน้ำจะสูงขึ้นอีก ในพื้นที่ลุ่มต่ำตอนบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาจรดคันคลองชัยนาท-ป่าสัก

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ - ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำส่วนหนึ่งไหลหลากลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำในเขตจังหวัดลพบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำตอนบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาจรดคันคลองชัยนาท-ป่าสัก ตั้งแต่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ถึงอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ขณะนี้มีปริมาณน้ำเต็มพื้นที่แล้ว ซึ่งปริมาณน้ำส่วนหนึ่งเริ่มไหลข้ามถนนสายสิงห์บุรี-ลพบุรี และไหลผ่านประตูระบายน้ำวัดมณีชลขัณฑ์เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่างฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาจรดคันคลองชัยนาทป่าสัก ตั้งแต่อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ถึงอำเภอท่าเรือ และอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น

ลักษณะดังกล่าว จะทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณตอนบน ได้แก่ ทุ่งท่าวุ้ง ทุ่งบางขาม มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20 - 30 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่าง คือ ทุ่งมหาราช ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี อำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ และอำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี , ทุ่งภูเขาทอง – บางปะหัน ในเขตอำเภอมหาราช อำเภอบางปะหัน อำเภอบ้านแพรก อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นวันละประมาณ 40 – 50 เซนติเมตร

ทั้งนี้ คาดว่าระดับน้ำจะสูงสุดในช่วงวันที่ 3 – 4 ตุลาคม 2554 โดยมีความลึกเฉลี่ยของน้ำในทุ่งประมาณ ๒ เมตร ส่วนในพื้นที่ลุ่มต่ำมากๆ อาจมีระดับน้ำลึกสูงสุดประมาณ ๓ - ๔ เมตร และจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ที่สถานี S.5 อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ กรมชลประทาน ได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ในเขตจังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมการป้องกันและขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นบนที่สูงหรือที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม พร้อมทั้ง ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาด้วย

พิจิตร-ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำท่วม
 

ตากใกล้วิกฤติระบายน้ำออกจากเขื่อนภูมิพล

ข่าวภูมิภาค วันศุกร์ที่ 30 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 11:24 น.




น้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก อย่างต่อเนื่อง อีก 7 % น้ำล้นเขื่อน เพิ่มการระบายน้ำออก
ผู้สื่อข่าวรายงานถึง สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำ เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ที่รองรับน้ำจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ซึ่งขณะนี้ น้ำจาก จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน ต่างไหลทลักลงแม่น้ำปิงตอนบนลงสู่เขื่อนภูมิพลเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวานนี้มีน้ำไหลเข้าจำนวน 122 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน มีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 12,512 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็น 92.74 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่าง ซึ่งจะเหลืออีก 950 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ อีกประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ น้ำก็จะล้นอ่าง หรือ อีกประมาณ 7 วันเท่านั้น ทำให้วันนี้เขื่อนภูมิพล อั้นไม่ไหว จากที่ระบายวันละ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องเพิ่มเป็นวันละ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะมีน้ำไหลเข้ามากหากยังระบายน้อย อาจจะเกิดปัญหาน้ำล้น ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ ขณะที่ น้ำจากแม่น้ำวังไหลลงมาสมทบที่แม่น้ำปิงอีก วันละ 33 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำลงสู่ลุ่มเจ้าพระยารวม 74 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขออนุโมทนาบุญสำหรับธรรมทานในทุก ๆ เรื่องที่ทรายได้อ่านค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

คุณอาริยา  รัตนพรศิริ

โดยเฉพาะเรื่องคุณแม่ที่ยอมเสียสละชีวิตตัวเอง

เพื่อปกป้องลูกน้อย วัย 3 เดือน คนนั้น

อ่านแล้วน้ำตาคลอเบ้าเลยค่ะ

เลยเรียกพี่ภู ซึ่งทำงานสังกัดกองเดียวกับทรายได้อ่านด้วย

ต่างคนก็ต่างสลดใจพร้อมเห็นใจ

และยกย่องคุณแม่คนนี้ด้วยนะค่ะ

กราบขอขมาต่อเสด็จตาท้าวเวสสุวรรณเจ้าค่ะ

และอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์

ที่ทรายได้ละเมิดให้พี่ในที่ทำงานได้อ่านธรรมทานเรื่องนี้ด้วยเจ้าค่ะ

แต่พี่คนดังกล่าวมีความเชื่อและศรัทธาในพระพุทธองค์เจ้าค่ะ

สุดท้าย ขอบารมีของพระพุทธองค์นำทางเบิกบุญที่ลูกได้ทำมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะเกิดจากบุญใดก็ตาม ลูกขอให้ถึงแก่คุณแม่คนดังกล่าวด้วยเทอญฯ

ไต้ฝุ่นเนสาดกำลังหมุนคว้างในส่วนตะวันออกของทะเลจีนใต้ ห่างจากเกาะไหหลำเพียงประมาณ 300 เมตรในภาพดาวเทียม MTSAT เวลา 17 น.วันพุธ 28 ก.ย.นี้ ไต้ฝุ่นชื่อเขมรยังคงรักษาความแรงระดับ C1 คงเส้นคงวาตั้งแต่จากฟิลิปินส์ในตอนเช้าตรู่วันอังคาร 27 ก.ย. และอิงตามแผนที่กับข้อมูลของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม เนสาดกำลังจะทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นเวลา 4-5 วันในภาคเหนือ ขณะเคลื่อนเข้าสู่ตอนเหนือสุดของลาวซึ่งเป็นเขตป่าเขาต้นน้ำและภาคเหนือของไทยเป็นเป้าหมายที่อยู่ติดกัน. -- ภาพ: NCHMF Vietnam.


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ยิ่งเดินทางไกลก็ยิ่งเพิ่มขนาดใหญ่โตขึ้น นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋งสั่งการในวันพุธ 28 ก.ย. ให้ 5 จังหวัดชายฝั่งอ่าวตังเกี๋ยตั้งแต่กว๋างนีง (Quang Ninh) ฝูเอียน (Phu Yen) จนถึง จ.แทงฮว้า (Thanh Hoa) ให้เตรียมรับมือกับพายุลูกใหญ่ที่สุดและรุนแรงที่สุด ที่กำลังจะเคลื่อนเข้าฝั่งสุดสัปดาห์นี้
       
วันพุธที่ผ่านมาไต้ฝุ่นเนสาดยังอยู่ห่างจากเกาะไหหลำไปทางทิศตะวันออกเกือบ 300 กม. แต่จะเริ่มส่งอิทธิพลทำให้ฝนตกในจังหวัดชายฝั่งภาคเหนือเวียดนามตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป ขณะเคลื่อนตัวผ่านไหหลำ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม ออกพยากรณ์ในบ่ายวันเดียวกัน
       
ภาพถ่ายดาวเทียม MTSAT ที่เผยแพร่โดยสำนักพยากรณ์อากาศแห่งต่างๆ ในย่านเอเชียแปซิฟิก ได้เผยให้เห็นไต้ฝุ่นลูกมหึมา กำลังพัดไอน้ำเป็นวนคว้างอยู่ตอนบนของทะเลจีนใต้ ขนาดของมันใหญ่โตมหึมาสามารถครอบคลุมประเทศไทยและลาวได้ทั้งประเทศ
       
อย่างไรก็ตาม เนสาดไม่ได้พัดตรงเข้าไทย หากกำลังพัดเฉียงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือตามที่หลายสำนักพยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้า และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเข้าถึงฝั่งเวียดนาม ก่อนจะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันเมื่อเข้าถึงภาคเหนือของลาวในคืนวันเสาร์ 1 ต.ต. ทั้งนี้อิงตามข้อมูลของศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ เวียดนาม
       
อิทธิพลของดีเปรสชันจะทำให้เกิดฝนตกหนักกินอาณาบริเวณกว้างครอบคลุมแขวงหัวพัน ผ่งสาลี อุดมไซ หลวงพระบาง เชียงขวาง เวียงจันทน์ ไซยะบูลีกับแขวงบ่อแก้ว ซึ่งหมายความว่าจังหวัดภาคเหนือตอนบนของไทยทั้งหมด จะได้รับอิทธิพลจากดีเปรสชั่นลูกนี้เช่นเดียวกัน
       
เนสาดยังคงความเร็วลมใกล้สูญกลางเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 (C1) ในวันพุธนี้ขณะหมุนคว้างอยู่ในทะเลจีนใต้ ก่อนหน้านั้นเคยมีความแรงเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 และอ่อนกำลังลงเมื่อพัดเข้าสู่เกาะลูซอนในฟิลิปปินส์ เวลาเช้าตรู่วันอังคาร ทิ้งความเสียหายไว้ข้างหลังมากมายสุดคณานับ
       
“เนสาดเป็นลูกที่ 5 เคลื่อนตัวเร็ว และเป็นไต้ฝุ่นลูกรุนแรงที่สุดที่พัดเข้าเวียดนามในปีนี้” ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ กล่าว
       
ไต้ฝุ่นเนสาดกำลังจะทำให้เกิดฝนตกหนักในภาคเหนือเวียดนามวัดได้ตั้งแต่ 100-200 มิลลิเมตร ตลอดเวลา 4-5 วันข้างหน้า และกำลังจะนำมวลอากาศหนาวเย็นเข้าปกคลุมตลอดพื้นที่อีกด้วย ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติเวียดนามกล่าว
       
นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งการให้ทางการจังหวัดต่างๆ เตรียมรับมือพายุลูกนี้ในระดับสูงสุด และ ให้เรือประมงทุกลำในย่านอ่าวตังเกี๋ยต้องเข้าฝั่งหรือหลบหาที่กำบังคลื่นลมแรงที่มีอันตรายยิ่ง สำนักข่าวซเวินจี๊รายงาน

ฮ่องกงเผชิญกับอิทธิพลของไต้ฝุ่น "เนสาด"ที่พัดผ่านในวันนี้ ( 29 ก.ย.) ทำให้ต้องปิดเกาะเพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนที่ฟิลิปปินส์แม้พายุจะพัดออกไปนานแล้ว แต่หลายพื้นที่ยังเผชิญกับน้ำท่วมหนัก และ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 39 คน

 เมืองแคนดาบา เมืองชนบทในฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบหนักจากอิทธิพลของพายุ "เนสาด" ที่พัดถล่มเมื่อต้นสัปดาห์ ซึ่งแม้พายุจะพัดออกไปแล้ว แต่น้ำในแม่น้ำที่ท่วมสูงยังไม่ลดระดับลงบางพื้นที่ระดับน้ำสูงถึง 4.60 เมตร ทำให้ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความยากลำบาก บ้านเรือน และ พื้นที่เพาะปลูกจมอยู่ใต้น้ำ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือยางออกไปอพยพชาวบ้านสู่ที่ปลอดภัย
 
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่น "เนสาด" เพิ่มสูงเป็น 39 คนแล้ว และ ยังมีผู้สูญหายอีก 31 คน คาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายจากพายุเนสาดไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท
 
นอกจากนี้ฟิลิปปินส์ยังเผชิญกับพายุลูกใหม่ที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก และ เพิ่มความรุนแรงจนกลายเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่า จะพัฒนาจนกลายเป็นไต้ฝุ่นขณะพัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเกาะลูซอนในวันที่ 2 ต.ค.นี้ ทำให้ทางการประกาศให้ชาวบ้านเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุ และ ให้อพยพตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากทางการยอมรับว่า ไม่มีทรัพยากรเพียงพอจะออกไปช่วยเหลือประชาชนในภายหลัง
 
ขณะนี้พายุ "เนสาด" พัดขึ้นไปทางเกาะไหหลำ และ ผ่านเกาะฮ่องกง ทำให้ทางการเกาะฮ่องกงตัดสินใจปิดสถานที่ราชการ โรงเรียน และ ตลาดหลักทรัพย์ และมีธุรกิจร้านค้าอีกหลายร้านที่ปิดทำการเนื่องจากเกรงจะได้รับผลกระทบจากพายุ เที่ยวบินล่าช้า หรือ ยกเลิกรวม 40 เที่ยวบิน นอกจากนี้ยังปิดบริการเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะไปยังมาเก๊า และ จีน รวมทั้งเกาะต่าง ๆ ในฮ่องกงอีกด้วย
 
โดยมีรายงานว่า กระแสลมแรงทำให้กระจกหน้าต่างธนาคารฮั่งเสงตกลงมาแตก แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ โดยแรงลมยังทำให้ต้นไม้หักโค่น และ ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากพายุ "เนสาด" ที่พัดผ่านฮ่องกง แต่มีรายงานผู้บาดเจ็บ 2 คนที่ถูกสิ่งของตกใส่

Thaipbs
Thu, 29/09/2011 - 19:

เอเยนซี - เนสาด พายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุด ซึ่งพัดถล่มจีนของปีนี้ ได้โหมซัดมณฑลไห่หนัน หรือไหหลำของจีนแล้ว ทางการท้องถิ่นได้เตรียมการอพยพฉุกเฉิน และระงับเที่ยวบินรวมทั้งบริการโดยสารต่างๆ แถบชายฝั่ง อีกทั้งประกาศหยุดเรียน
       
รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อตอนบ่ายเวลา 14.30 น.ของวันที่ 29 ก.ย. นี้ พายุไต้ฝุ่นได้ขึ้นฝั่งจีนที่ตำบลเหวินเถียน เขตเมืองเหวินฉาง ซึ่งอยู่ห่างจากไหโข่วเมืองเอกของไหหลำ 70 กม. ด้วยความเร็ว 42 เมตร/วินาที โดยทางการท้องถิ่นได้เตรียมการอพยพฉุกเฉิน และระงับเที่ยวบินรวมทั้งบริการโดยสารต่างๆ แถบชายฝั่ง อีกทั้งประกาศหยุดเรียน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากไต้ฝุ่นลูกนี้ ซึ่งเป็นลูกที่ 17 ที่พัดเข้าจีนในปีนี้ และเป็นพายุลูกที่มีความรุนแรงมากที่สุด
       
รายงานข่าวกล่าวว่า เรือเฟอรรี่ ที่ให้บริการแถบช่องแคบเฉวียงโจว ก็ได้ถูกระงับไป ตั้งแต่วันพุธ ขณะที่บริการรถไฟ หยุดให้บริการตอนเช้าวันพฤหัสฯ ไปก่อนแล้ว ด้านรถโดยสารต่างๆ ก็หยุดจำหน่ายตั๋ว และขอให้ผู้โดยสารผลัดแผนการเดินทางไปอีก 2 วัน
       
ที่สนามบินเม่ยหลาน ในไห่โข่ว ต้องระงับเที่ยวบินของวันพฤหัสฯ 49 เที่ยวบิน อีกทั้งยกเลิกเที่ยวบิน 18 สายในเมืองซานย่า
       
นาย เฉินเฉิง รองผู้ว่าการไห่หนัน ได้สั่งให้เรือประมงทุกลำกลับเข้าฝั่ง และชาวประมงเตรียมพร้อมเข้าอยู่ในที่ปลอดภัย
       
ทั้งนี้ ในเมืองเหวินฉาง ซึ่งเป็นจุดที่พายุเนสาด พัดขึ้นฝั่ง มีเรือประมง 2,600 ลำ และประชาชนผู้อยู่อาศัยราว 31,323 คน ได้ถูกอพยพไปชั่วคราวแล้ว หลังจากที่ในฟิลิปปินส์ ผลของพายุลูกนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 คน

สถานการณ์น้ำในจังหวัดอ่างทอง กระแสน้ำยังได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆของจังหวัด สร้างความเสียหายเพิ่มมากขึ้น โดยตอนนี้น้ำจากทุ่งอินทประมูลได้ไหลลงสู่ทุ่งลำท่าแดงจนเต็มพื้นที่ล้อมเขตเทศบาลเมืองอ่างทองซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ บ้านเรือนประชาชนใน ต.เทวราช ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ถูกน้ำท่วม ทางจังหวัด ทำการผันน้ำลงคลองชลประทานเพื่อให้น้ำในทุ่งลำท่าแดงออกกระจายไปสู่ทุ่งศาลาแดง ทุ่งจำปาหล่อ ทุ่งคลองวัว

ส่วนที่บริเวณวัดขุนอินทประมูลที่ถนนหนองฉางขาดทำให้น้ำจากทุ่งอินทประมูลไหลทะลักเข้าท่วมตัววัดตอนนี้ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องขนกระสอบทรายลงเรือไปทำการกั้นบริเวณรอบๆองค์พระนอน ที่น้ำเหลืออีกไม่ถึง 30 ซ.ม.ก็จะไหลเข้าฐานองค์พระแล้ว

นอกจากนั้นบริเวณวัดขุนอิทประมูลก็ยังถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากเส้นทางสายอินทประมูล-ไชโย

สำหรับวัดขุนอินทประมูล นั้นอยู่ในเขต ต.อินทประมูล อ.เมือง จ.อ่างทอง เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีชื่อว่า พระศรีเมืองทอง มีความยาววัดจากปลายพระเมาลีถึงปลายพระบาทได้ 50 เมตร องค์พระนอนมีพุทธลักษณะที่งดงาม


เนชั่นทันข่าว 29 กย. 2554 22:23 น.
 

-------------------------------------------------------------------