สธ.สั่งเฝ้าระวังโรคระบาดช่วงน้ำท่วม ห่วง
ปชช.เครียดซึมเศร้า-เสี่ยงฆ่าตัวตายพุ่ง
สธ.สั่งเฝ้าระวังโรคระบาดช่วงน้ำท่วม
พร้อมซื้อเครื่องกรองน้ำ 1,000 เครื่อง เรือท้องแบน
100 ลำออกช่วยชาวบ้าน เฝ้าระวัง 23 รพ.ภาคกลางเสี่ยงน้ำทะลัก
เตรียมสำรองยา 5 แสนชุดรับมือ
ขณะที่ชาวบ้านเครียดซึมเศร้า-เสี่ยงฆ่าตัวตายพุ่ง...
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข
เปิดเผยภายหลังร่วมทีมนายกรัฐมนตรี
ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
ที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี
และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดสิงห์บุรี
ว่า จุดวิกฤติของสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้
อยู่ที่จังหวัดในภาคกลาง
คาดว่าสถานการณ์จะคงอยู่ต่อไปอีก 1-2 เดือน
จะต้องให้การดูแลผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข
ได้ปรับแผนเพื่อให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่
และต้องเฝ้าระวังโรคระบาด
รวมทั้งปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญคือป้องกันการฆ่าตัวตาย
เนื่องจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
และสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข
โดยเฉพาะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
(รพ.สต.) ก็ถูกน้ำท่วมมากถึง 304 แห่ง
บางแห่งน้ำท่วมสูง 3 เมตร เช่นที่ รพ.สต.บางหลวงโดด
อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา รมว.สาธารณสุข
กล่าวว่าได้ให้วอร์รูมป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
ของกระทรวงฯจัดซื้อเสื้อชูชีพให้เจ้าหน้าที่
และ อสม.ใส่ออกปฏิบัติงานทางเรืออีก 2,000 ตัว
จัดซื้อเรื้อท้องแบนเพิ่ม 100 ลำ เตียงสนามเพื่อใช้ในกรณีที่ รพ.สต.
ไม่สามารถให้บริการในสถานที่ตั้งได้
จำนวน 1,000 ชุด และเปลสนามใช้สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเรื้อรัง
ผู้สูงอายุ ผู้พิการที่ช่วยตัวเองไม่ได้ หรือผู้ป่วยฉุกเฉินจากบ้าน
เพื่อลงเรือนำไปส่งที่โรงพยาบาล จำนวน 1,000 ชุด
และจัดซื้อเครื่องกรองน้ำสะอาดใช้ในบ้านเรือน อีก 1,000 ชุด
ติดตั้งที่บ้านของอาสาสมัครสาธารณสุขหรือ อสม.
เพื่อผลิตน้ำสะอาดปลอดภัยให้ผู้ประสบภัยในหมู่บ้าน
จะเร่งจัดส่งไปพื้นที่โดยเร็วที่สุด
นายวิทยา กล่าวว่า สำหรับ อสม. จะให้ออกดูแลประชาชน
ที่อยู่ในภาวะน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง
แต่ละคนจะรับผิดชอบดูแลคนละ 10-15 หลังคาเรือน
กระทรวงสาธารณสุขได้ผลิตกระเป๋าเป้
บรรจุยาสามัญประจำบ้านและยาที่ใช้ในกรณีที่ป่วยฉุกเฉินได้แก่
ปวดศีรษะ ท้องเสีย ยาแก้แพ้ ชุดทำแผลปลอดเชื้อ
รวมทั้งหมด 17 รายการ รวมคู่มือการแนะนำการดูแลสุขภาพกาย
และสุขภาพจิต เพื่อให้ อสม.ใช้ออกปฏิบัติงาน
ขณะนี้แจกไปแล้ว 10,000 ชุด
เช่น ที่จังหวัดสิงห์บุรีวันนี้ได้นำมามอบ อสม. 200 ชุด
พบว่าใช้ง่าย พกพาสะดวก ได้สั่งผลิตเพิ่มอีก 100,000 ชุด
สำหรับผลกระทบของน้ำท่วม นายวิทยา กล่าวว่า
ในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์
โรงพยาบาลทั่วไป ขณะนี้มีได้รับผลกระทบเพียง 2 แห่ง
คือที่บ้านแพรกและมหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ยังให้บริการได้
ขณะนี้มีอีก 23 แห่ง ได้ให้เฝ้าระวังป้องกันเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง
ได้แก่ รพ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน รพ.บางมูลนาก
รพ.บางระกำ รพ.บางกระทุ่ม รพ.โกรกพระ รพ.ชุมแสง
รพ.อินทร์บุรี รพ.สิงห์บุรี รพ.สรรพยา รพ.อ่างทอง
รพ.บางไทร รพ.บางบาล รพ.ผักไห่ รพ.บางปะอิน รพ.เสนา
รพ.ท่าเรือ รพ.พระนั่งเกล้า รพ.บางใหญ่ รพ.บางกรวย รพ.บางเลน
รพ.เจ้าพระยายมราช รพ.บ้านหมี่ และรพ.ท่าวุ้ง ทั้งนี้
เสนอให้อธิบดีกรมชลประทานเสริมพนังกั้นน้ำด้านคลองระพีพัฒน์
เพื่อรับน้ำจาก เขื่อนพระราม 6 ซึ่งจะรับน้ำได้ 1.8 ล้านลูกบาศก์เมตร
ตลอด 30 กิโลเมตรผ่านทางวอร์รูมของฯพณฯ นายกรัฐมนตรีส่งต่อ ศอส.ต่อ ไป
ด้านนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข
กล่าวภายหลังเดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อบต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
และที่อบต.ซุ่มเส้า อ.เพ็ญ และที่สมาคมไร่อ้อย อ.กุมภาวาปี จ.อุดรธานี
ว่า จากการตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
สิ่งที่เป็นห่วงคือเรื่องขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูลต่างๆ
พบว่ามีจำนวนมาก ซึ่งจะเพิ่มความสกปรกน้ำท่วม
ทำให้น้ำเน่าเสียเร็วขึ้น อาจก่อให้เกิดโรคระบาดตามมา
เช่น โรคตาแดง โรคอุจจาระร่วง ตามมา ทำให้ยากต่อการควบคุม
ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและกรมอนามัย
เร่งดำเนินการแก้ไข ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น
โดยแจกถุงดำให้ประชาชนใส่ขยะให้เพียงพอในแต่ละครอบครัว
และจัดที่รองรับขยะเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี
เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของสัตว์นำโรค โดยเฉพาะหนูและแมลงวัน
รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังมีพื้นที่ประสบภัย 23 จังหวัด
ประกอบด้วยภาคเหนือ 6 จังหวัด ภาคกลาง 13 จังหวัด
แ
ละภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด
กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่
ออกให้บริการตรวจรักษาฟรีอย่างต่อเนื่อง
จนถึงวันนี้ออกไปแล้ว 3,186 ครั้ง มีผู้เจ็บป่วย 4 แสนกว่าราย
ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า เพราะต้องเดินลุยน้ำทุกวัน
รองลงมาคือไข้หวัด ไม่มีรายใดอาการรุนแรง
โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขน้ำท่วมของกระทรวงสาธารณสุข
ได้จัดส่งยารักษาโรคเบื้องต้น ลงพื้นที่แจกให้ผู้ประสบภัยทุกครัวเรือน
รวมเกือบ 1 ล้าน 4 แสนชุด วันนี้ส่งเพิ่มอีก 41,000 ชุด
ให้ 4 จังหวัด ได้แก่ลพบุรี 10,000 ชุด พระนครศรีอยุธยา 20,000 ชุด
ฉะเชิงเทรา 6,000 ชุด และร้อยเอ็ด 5,000 ชุด
และสำรองยาไว้ที่ส่วนกลางอีก 5 แสนชุด พร้อมสนับสนุนให้จังหวัดทันที
ส่วนผลกระทบด้านสุขภาพจิต รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า
ผลการตรวจประเมินสุขภาพจิตล่าสุด
พบผู้ที่มีความเครียดสูง 1,520 ราย มีอาการซึมเศร้า 3,239 ราย
มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 389 ราย
และต้องติดตามดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ 554 ราย
โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบการดูแล 3 รูปแบบคือ
1.จัดทีมสุขภาพจิต ร่วมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาโรคทางกาย
ขณะนี้กระจายบริการตามจุดอพยพประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วมหนักจนอยู่ไม่ได้
2.หน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการตามหมู่บ้าน
และ 3.ทีมเยี่ยมบ้านชนิดเคาะประตูบ้าน
เยี่ยมดูอาการผู้ที่เสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพจิตง่ายเช่นผู้ป่วยจิตเวช
ผู้สูงอายุที่ไม่มีคนดูแล ผู้ป่วยโรคประจำตัว
และมีสายด่วนเปิดให้บริการปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ทางหมายเลข 1323 ฟรี
โดย ทีมข่าวการศึกษา
2 ตุลาคม 2554, 14:30 น.