เชียงใหม่ - น้ำป่าทะลักท่วมแม่แจ่ม สถานที่ราชการจม-สั่งปิดโรงเรียน


3 ตค. 2554 09:41 น.

หลังมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ล่าสุดในเวลา 04.00 น. น้ำป่าจากเทือกเขาได้ไหลลงสู่แม่น้ำแจ่มส่งผลให้แม่น้ำแจ่มที่ไหลผ่านตัวอำเภอได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่สองฝั่งของแม่น้ำ โดยระดับน้ำที่สูงเกือบ 1 เมตร ได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรใน ต.ช่างเคิ่ง และ ต.ท่าผา เบื้องต้นมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 200 หลังคาเรือน ทำให้ประชาชนต่างเร่งขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำกันอย่างโกลาหล

นอกจากนี้น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมสถานที่ราชการหลายแห่ง ทั้งที่ว่าการอำเภอ สำนักงานสาธารณะสุขอำเภอและสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่แจ่ม เช่นเดียวกับที่โรงเรียนแม่แจ่ม ที่ถูกน้ำท่วมจนต้องประกาศปิดโรงเรียนและให้นักเรียนกลับบ้านทันทีเพราะเกรงว่าระดับน้ำอาจจะเพิ่มสูงขึ้น
ว่าที่ ร.ต.อดิศักดิ์ ดวงจินดา ปลัดอำเภอรักษาราชการแทนนายอำเภอแม่แจ่ม เปิดเผยว่า จนถึงช่วงสายระดับน้ำเริ่มทรงตัวและลดระดับลงอย่างช้า ๆ โดยคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีก น้ำที่ท่วมขังจะลดแห้งลงจนเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงบ่ายของวันนี้ อย่างไรก็ตามทางอำเภอได้ประสานไปยัง อบต. ตำบลอื่น เพื่อสำรวจความเสียหาย แต่คาดว่านอกจากสองตำบลนี้แล้ว พื้นที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่บนดอยสูง

ลำปางอัมพาตน้ำท่วมปิดถนนเข้าเมือง

ตัวเมืองลำปางอัมพาต น้ำท่วมปิดถนนเส้นทางเข้าเมืองรถเล็กสัญจรไม่ได้ ขณะที่ 6 อำเภอยังเผชิญอุทกภัยหนัก

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ลำปางในวันที่ 3 ต.ค. พบว่ามี พื้นที่อย่างน้อย 6 อำเภอของจังหวัดประกอบด้วย อ.เกาะคา เสริมงาม ห้างฉัตร งาว สบปราบและเมือง ต้องประสบภัยอุทกภัยหลังจากที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่

ทั้งนี้โดยเฉพาะในเขตอ.เมืองลำปางโดยเฉพาะตำบลตำบลพิชัย ตำบลพระบาท และเขตตัวเมืองลำปางน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้ถนนหลายที่มุ่งสู่ตัวเมืองลำปางเป็นอัมพาตรถเล็กไม่สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้ในถนนสายหลักโดยเฉพาะบริเวณแยกสนามบิน สี่แยกศรีชุมและประตูชัยมีน้ำสูงถึง 1 เมตร ส่วนเส้นทางไปยังจังหวัดแพร่บริเวณกิ่วพระเจ้า เขตพื้นที่ตำบลพระบาท ถนนได้ถูกดินสไลน์ปิดเส้นทางจราจรรถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้

นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 จังหวัดลำปาง กล่าวว่า ได้ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าช่วยเหลือราษฎรที่ประสบน้ำท่วมแล้วโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ อ.เมืองลำปางหลายชุมชนจมน้ำและน้ำป่ากำลังไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ส่วนที่พื้นที่ที่เหลือกำลังรอรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และต้องเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนกรณีผู้ที่ประสบภัยขณะนี้ในพื้นที่อ.เสริม น้ำป่าจากอ่างเก็บน้ำแม่เลียงพัฒนากำลังเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านต้องอพยพมายังที่ปลอดภัยซึ่งชาวบ้านเตรียมรับมือไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ อ.เกาะคาและห้างฉัตรแม้ว่าจะมีปริมาณน้ำที่ลดลงถนนหลายรถยนต์สายสามารถแล่นผ่านได้หลังจากเมื่อวานนี้น้ำได้ท่วมบ้านเรือนกว่า 300 เรือนจมน้ำ แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเนื่องจากในวันนี้ฝนจะยังคงตกลงมาอีกจึงขอให้ราษฎรที่อยู่ในพื้นเสี่ยงภัยเฝ้าระวังจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ด้วย

ขณะที่ นายนิมิต จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองลำปาง ได้นำเรือท้องแบนและเครื่องสูญน้ำเร่งระบายน้ำที่ไหลท่วมผิดจราจรเพื่อให้รถยนต์สามารถแล่นผ่านไปมาได้ ซึ่งขณะนี้ยังคงมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ

นายสุรพล ตันสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครลำปาง เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำป่าจากดอยพระบาทและแม่น้ำสาขาได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ตำบลพิชัย ตำบลพระบาทและเขตเมืองเขตเทศบาลนครลำปางทำให้เกิดน้ำท่วมขังและท่วมบริเวณผิวจราจรทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้จึงได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 17 เครื่องเข้าประจำจุดน้ำท่วมเพื่อลดปริมาณน้ำที่ล้นเอ่อ ส่งผลให้การจราจรในเขตเมืองติดขัดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะในเขตหมู่บ้านสุขสวัสดิ์ราษฎรได้ติดค้างอยู่ในบ้านเรือนจำนวนมากเจ้าหน้าทื่ได้ให้การช่วยเหลือ

ตากสั่งเตรียมอพยพหลังเขื่อนภูมิพลใกล้ล้น

03 ตุลาคม 2554 เวลา 09:23 น.

ผู้ว่าฯตาก สั่งเตรียมพร้อมอพยพราษฎร หลังเขื่อนภูมิพลมีระดับน้ำ 94.64% ของความจุ พร้อมระบายน้ำเพิ่มเป็น 52ล้านลูกบาศก์เมตร


เมื่อวันที่ 3 ต.ค. นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอ.สามเงา และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตาก และ อบต.บ้านนา เตรียมเรือและสถานที่รองรับในการอพยพชาวบ้านในหลายหมู่บ้านของ ต.บ้านนา อ.สามเงา ที่อยู่บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เพราะขณะนี้พบว่าระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นจนน้ำเริ่มเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร โดยเฉพาะบ้านหินลาด บ้านนาไฮ และบ้านอูมวาบ รวมทั้งบ้านสันป่าป๋วย ที่อาศัยอยู่ข้างอ่างเก็บน้ำ เพราะปีนี้น้ำได้มีปริมาณมากเป็นประวัติการณ์ นับเป็นวิกฤตที่อาจจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ได้

ส่วนสถานการณ์น้ำภายในเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 257.66 เมตร จากระดับกักเก็บสูงสุด 260 เมตร คงเหลืออีก 2 เมตรเศษน้ำก็จะเต็ม โดยมีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 12,741 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 94.64%ของความจุอ่าง เหลืออีกเพียง 5.36% น้ำจะล้นอ่าง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 ต.ค. มีน้ำไหลเข้า 117 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำเพิ่มจาก 45 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นวันละ 52 ล้านลูกบาศก์เมตรเพราะน้ำไหลเข้ายังมีระดับที่สูง ในขณะที่น้ำจากแม่น้ำวังที่ไหลมาสมทบใต้เขื่อนในลำน้ำปิง อ.บ้านตาก อีกวันละ 42 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมกันวันละ 94 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยน้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่ลุ่มเจ้าพระยาผ่าน จ.กำแพงเพชร ซึ่งจะส่งผลกระทบกับอำเภอที่อยู่ริมแม่น้ำปิง รวมทั้งเทศบาลเมืองกำแพงเพชรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ตากสั่งเตรียมอพยพหลังเขื่อนภูมิพลใกล้ล้น

03 ตุลาคม 2554 เวลา 09:23 น.

ผู้ว่าฯตาก สั่งเตรียมพร้อมอพยพราษฎร หลังเขื่อนภูมิพลมีระดับน้ำ 94.64% ของความจุ พร้อมระบายน้ำเพิ่มเป็น 52ล้านลูกบาศก์เมตร


เมื่อวันที่ 3 ต.ค. นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอ.สามเงา และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตาก และ อบต.บ้านนา เตรียมเรือและสถานที่รองรับในการอพยพชาวบ้านในหลายหมู่บ้านของ ต.บ้านนา อ.สามเงา ที่อยู่บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เพราะขณะนี้พบว่าระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นจนน้ำเริ่มเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร โดยเฉพาะบ้านหินลาด บ้านนาไฮ และบ้านอูมวาบ รวมทั้งบ้านสันป่าป๋วย ที่อาศัยอยู่ข้างอ่างเก็บน้ำ เพราะปีนี้น้ำได้มีปริมาณมากเป็นประวัติการณ์ นับเป็นวิกฤตที่อาจจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ได้

ส่วนสถานการณ์น้ำภายในเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 257.66 เมตร จากระดับกักเก็บสูงสุด 260 เมตร คงเหลืออีก 2 เมตรเศษน้ำก็จะเต็ม โดยมีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 12,741 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 94.64%ของความจุอ่าง เหลืออีกเพียง 5.36% น้ำจะล้นอ่าง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 ต.ค. มีน้ำไหลเข้า 117 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำเพิ่มจาก 45 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นวันละ 52 ล้านลูกบาศก์เมตรเพราะน้ำไหลเข้ายังมีระดับที่สูง ในขณะที่น้ำจากแม่น้ำวังที่ไหลมาสมทบใต้เขื่อนในลำน้ำปิง อ.บ้านตาก อีกวันละ 42 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมกันวันละ 94 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยน้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่ลุ่มเจ้าพระยาผ่าน จ.กำแพงเพชร ซึ่งจะส่งผลกระทบกับอำเภอที่อยู่ริมแม่น้ำปิง รวมทั้งเทศบาลเมืองกำแพงเพชรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คำต่อคำ ศ.ดร.เทพพนม เมืองแมน

ฟันธง!มนุษย์ต่างดาวเตือนมนุษย์รับภัยพิบัติ 2012

ดร.นายแพทย์เทพพนม : เอ็ดดี้มาจาก ทางช้างเผือก

เป็นชื่อที่ทางนาซ่าเขาเรียก

ปี 2542-2543 มีการติดต่อกันตลอด ตอนนี้ก็ยังมีการติดต่อกับเขาอยู่

เขามาเตือนในหลายๆอย่าง และหลายๆอย่างมันก็เป็นจริงขึ้นมา

เขาบอกว่าเขาอยู่มิติที่ 3 ถ้าเขาอยู่มิติที่ 6 เขาสามารถหยุดเวลาได้

เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตสำหรับโลกนี้

ผมเคยทดสอบกับเขาหลายอย่าง เช่น

เหตุการณ์ที่เกิดภัยพิบัติทางภาคใต้

เขาก็ยังมาทำให้เห็นภาพบนท้องฟ้าแล้วเอากล้องถ่าย

ตอนที่ 2 เขาบอกว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ให้ระวังแผ่นดินไหวใต้น้ำ

คนจะตาย อันนั้นเขาบอก 4 กุมภาพันธ์ แต่มันเกิด 6 ธันวาคม สึนามิ 2547

เขาบอกมาตั้งแต่ต้นปี เขาบอกว่ามันจะเกิดขึ้น

แต่ผมว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

เขาบอกว่าเขาสามารถมองเห็นอนาคต

ล่าสุดมีการติดต่อกันแทบทุกเดือน

เขาบอกให้ระวังการเกิดแผ่นดินไหวที่ไทย

โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ให้ระวังการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่อาจจะทำให้

เขื่อนใหญ่ที่สุดของเราแตกคือ เขื่อนศรีนครินทร์ 3 เดือน

นับจากเดือน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม

ให้ระวังการเกิดภัยพิบัติใหญ่ในประเทศไทย

แต่ว่าเรื่องแผ่นดินไหวมันบอกล่วงหน้าไม่ได้

เพราะว่าอยู่ดีๆมันก็เกิด เขาบอกเขารู้ล่วงหน้า

ปีนี้ให้ระวัง แต่ปีหน้ายิ่งจะมีมากกว่าในปีนี้

เขาบอกว่ามนุษย์ต่างดาวเดินทางมายังโลกนี้ตั้งเยอะ

จนถึงปัจจุบันสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกอื่น

เขาก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้

เรื่องอาวุธต่างๆ แล้วก็ได้รับการเตือนภัยพิบัติ

แม่เหล็กจะมีการกลับตัวอะไรอย่างนี้

ตอนนี้ก็มีนักวิทยาศาสตร์มาอยู่ในเมืองไทย

นักวิทยาศาสตร์เขาบอกว่าพ่อของเขา

ได้สร้าง UFO ให้ฮิตเลอร์ เขาบอกว่าฮิตเลอร์ไม่ได้ฆ่าตัวตาย

เขามีข้อมูลอะไรต่างเยอะเลย

คุณนพดล : ย้อนข้อมูลไปเมื่อปี 2542

จากข้อมูลที่อาจารย์สอบถามมนุษย์ต่างดาว

มีอยู่ 1 ประเด็นก็คือ เรื่องภัยพิบัติทางภาคใต้

ดร.นายแพทย์เทพพนม : ปัจจุบันยังมีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว

เตือนประเทศไทยเรื่องของแผ่นดินไหวหลัง 3 เดือน

เขาเตือนให้ระวัง

เขาบอกว่าอันนั้นอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้

เขาบอกว่ามนุษย์นี้ก็มีส่วนทำให้กำหนดการเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้

คุณนพดล : จากข้อมูลที่ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์เทพนม

บอกสิ่งที่เขาเตือนคือ

1.เรื่องของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้น

2.แกนแม่เหล็กจะมีการสลับขั้วและพายุสุริยะที่จะเกิดขึ้น ในปี 2012

ดร.นายแพทย์เทพพนม : การยิงภาพให้เห็นเรียกว่า

เลเซอร์ ยูเอสซี ให้ระวังพายุงวงช้าง มันดูดน้ำขึ้นไปสูง

อีกข้างเป็นคลื่นยักษ์ เขาบอกว่าถ้าเกิดพายุงวงช้าง

ให้ระวังว่าอาจจะตามมาด้วยคลื่นยักษ์

พายุหมุนมันม้วนน้ำทะเลขึ้นสูงขนาดยอดมะพร้าวแล้ววิ่งเข้าฝั่ง

และจะดึงน้ำจำนวนมหาศาลเข้ามา ตอนนี้ให้ระวัง

ที่เคยถามก็เจอบ่อย ยังไม่ทำอันตรายมาก

อย่างน้ำท่วมเขาก็บอกล่วงหน้าว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ทางภาคใต้

คุณนพดล : แล้วทำไมอาจารย์ไม่เอาข้อมูลพวกนี้มาเผยแพร่

ดร.นายแพทย์เทพพนม : ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นจริงแค่ไหน

แล้วผมก็ไม่อยากให้คนว่าผม แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริง

แล้วผมถามเขาว่าน้ำพวกนี้มาจากไหน

มาจากน้ำทะเลเหรอ เขาบอกว่ามาจากท้องฟ้า

ก็ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ผมก็ฟังหูไว้หู

แต่ถ้าจะเกิดอันตราย

ผมก็มีหน่วยงานแพทย์เคลื่อนที่

แล้วเราก็ไปรักษาประชาชนร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือส่วนภูมิภาค

ปลายเดือนนี้ก็จะไปที่นครศรีธรรมราช

คุณนพดล : อาจารย์ ดร.สมิทธ เชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่าครับ

ดร.สมิทธ : ผมเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว แต่ยังไม่เคยเจอด้วยตัวเอง

ดร.นายแพทย์เทพพนม : ตอนนี้ก็มีหลายกลุ่มที่เขาไปดูที่ เชียงใหม่

เชียงราย เขากะลา นครสวรรค์ ที่ยานเขามา

การประชุมมีคนไทยร่วมทั้งหมด 3 คน

ให้ไปประชุมกับเขาด้วย ในระยะเวลา 3 เดือน ที่มหาวิทยาลัยสุรนารี

ผมถามว่าทำไมมาประชุมที่เมืองไทยล่ะ

เขาบอกว่ามี 2 ปาระเทศที่มีประตูมิติมากที่สุดคือ

ไทยแลนด์และชิลี เขาบอกว่าที่ชิลีก็ประชุมมาแล้ว

ทีนี้ก็มาประชุมที่ไทยว่าอยู่ที่ไหน เขาเก็บเป็นความลับ

เขาไม่บอกว่ามันอยู่ที่ไหน

คุณนพดล : มีข่าวจากองค์การนาซ่าว่าจะมีการเกิดดาวเคราะห์ยักษ์

พุ่งชนโลกในเดือนพฤศจิกายนนี้ มีโอกาสมากแค่ไหน

ดร.นายแพทย์เทพพนม : ดาวอังคารนี้มีแอสเตอร์ลอยเยอะเป็นล้านๆดวง

มีโครงการ NEO ผมพยามที่ศึกษาพวก 7 ดวงดาวที่วิ่งมาทางโลก

แล้ว เขาบอกว่ามันจะมีมาหลายดวงเหมือนกัน

แต่ดวงหนึ่งเขาบอกว่าจะยาวประมาณ 1 กิโลเมตรกว่า

ถ้าเข้ามาใกล้โลกจะทำไง เพราะวิธีกำจัดมันลำบาก

แต่บางคนบอกว่ามันง่ายมากก็เอาจรวดหัวนิวเคลียร์ยิงซิ ไม่ได้ซิ

ถ้าเอาจรวดหัวนิวเคลียร์ยิงมันก็จะแตกเป็นล้านชิ้น และวิ่งเข้าสู่โลก

โลกก็จะแย่ ในประเทศมหาอำนาจ ในจีน รัสเซีย สหรัฐ เขาก็คอยดูอยู่

ว่ามันจะมาจริงในเดือนนั้นๆหรือเปล่า ผมไม่รู้ เขาบอกว่าจะมีมา

พวกฝรั่งเขาก็คอยดูอยู่ ฝรั่งเขาก็ทดลองอะไรเยอะแยะ

ยกตัวอย่าง โครงการฮาฟ ที่ยิงกระแสไฟฟ้าต่างๆทั่วขั้วโลก

ทำให้อากาศต่างๆเปลี่ยนแปลง

ผมเคยเป็นประธานที่ปรึกษาฝนหลวง

ตอนนั้นผมเคยไปขอเงินสหรัฐให้ช่วย ได้ 200 กว่าล้าน

ซื้อเครื่องบิน คือของอเมริกาจะสูงกว่าหมื่นฟุต

แล้วในหลวงก็ให้พิสูจน์ ผมก็คอยวัดน้ำฝน

นาซาบอกว่ายานมนุษย์ต่างดาวใช้ธาตุที่ 115 ที่ไม่มีในโลกนี้

เตาปฏิกรณ์ปรมาณู แต่บางพวกเขาบอกไม่ได้ใช้ เขาใช้บังคับด้วยจิต

จนบินมาตกที่เมืองไทยที่สันกำแพงลำ 1958 อันนี้มีเรคคอร์ด

อยู่ในทำเนียบขาวด้วย เราเตือนประชาชนให้มีสติ ไม่ให้ตื่นตกใจกลัว

เพราะกลัวจะทำอะไรไม่ได้ มีภัยพิบัติ มีฝนตกหนักแล้วเราจะต้องทำยังไง

หน่วยงานราชการอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหน่วยงานของเอกชน เข้ามาช่วยด้วย

คุณนพดล : ผมขอถามอาจารย์เป็นประเด็นสุดท้ายแล้วกัน

อาจารย์เชื่อเรื่องของปี 2012 ไหมครับ

ดร.นายแพทย์เทพพนม : เขาก็ทำนายกันเยอะนะว่าจะเกิดขึ้นจริง หรือเปล่า

ในฐานะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ผมก็ยังไม่เชื่อนะ ว่ามันจะเกิด

แต่ผมว่าเราต้องเตรียมคนเอาไว้ ถ้ามันเกิดเราจะทำยังไง อย่างเช่น

ในกรุงเทพฯมันไหว 6-7 ริกเตอร์แล้วตึกพังลงมาสักร้อยตึกมันก็แย่แล้ว

ที่มา : board.palungjit.com/f178/คำต่อคำ-ศ-ดร-เทพพนม-เมืองแมน-ฟันธง-มนุษย์ต่างดาวเตือนมนุษย์รับภัยพิบัติ-2012-a-308390.html

ฉันทนาหนีตายน้ำจ่อถล่มนิคมอุตฯ

สาวฉันทนาหนีตายเร่งขนของหลังน้ำมาจ่อถล่มจมนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ในเขตนครหลวง

น้ำท่วมหลากตามทุ่งนาในเขต อ.มหาราช ได้บ่าข้ามทุ่งในในเขต ต.บ้านขล้อ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ในระดับความสูง 3 เมตร จนมาถึงถนนบ้านขล้อ-บางพระครูที่เป็นคันกั้นน้ำสูง 3 เมตรเศษ กั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ม.4 ต.บางพระครู อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่ยังมีน้ำหลากจากแม่น้ำป่าสักมาทางต.บางพระครู น้ำท่วมจากแม่น้ำลพบุรีมาจาก ต.ทางกลาง อ.บางปะหัน และจากคลองบางพระครู ที่เชื่อมแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี พบว่าน้ำทุกด้านไหลมาจ่อล้อมนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครทั้ง 360 องศาพร้อมที่จะจ่อถล่มเข้าท่วมในนิคมได้ทุกขณะ

ฉันทนาหนีน้ำท่วมจ่อถล่มนิคมอุตฯ
อย่างไรก็ตามโชคดีที่มีการเสริมคันกั้นน้ำตลอด 24 ชม.ซึ่งขณะนี้มีการนำแบ็คโฮขนาดใหญ่กว่า 20 คัน เร่งเสริมทำคันล้อมตลอดเวลาอย่างไรก็ตามพบว่ามีชาวบ้านจาก ต.บางเพลิง อ.บางปะหันที่อยู่ในเขตติดต่อนิคมอุตสาหกรรมได้เข้ามาช่วยเหลือเสริมแนวกระสอบทรายด้วยเช่นกัน

ผลของน้ำที่เข้ามาล้อมรอบนิคมทั้ง 360 องศา พบว่าชุมชนสาวโรงงานที่อยู่รอบนิคม ฯ โดยเฉพาะในเขต ม.4 ต.บางพระครูอ.นครหลวง ถูกน้ำท่วมกะทันหันทำให้สาวโรงงานจำนวนมากแตกตื่นขนย้ายข้าวของใช้ในห้อง ทั้งตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างอลหม่าน โดยนำสิ่งของบรรทุกใส่แพที่สร้างแบบง่ายๆ และค่อยๆเลื่อนออกจากหอพักผ่านน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ออกมายังถนนใหญ่หน้านิคม ฯ อย่างน่าสงสารเพราะเป็นการขนย้ายออกมาอย่างไม่มีจุดหมาย ว่าจะขนไปที่ไหนต่อหรือจะนำไปเก็บที่ไหนเพียงแต่ขนออกมาจากที่น้ำท่วมและนำมากองริมถนนใหญ่เท่านั้น

นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ที่รับผิดชอบปัญหาน้ำท่วมในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายวิทยาผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ ต.บ้านขล้อ ,ต.บางเพลิง ของ อ.บางปะหัน และ ต.บางพระครู อ.นครหลวงโดยเฉพาะถนนคันกั้นน้ำสายบ้านขล้อ-บางระครู ที่ถูกน้ำบ่าข้ามถนนหลายจุด
โดยทางจังหวัดเร่งทำงานเพิ่มเสริมความสูงของถนนกว่า 10 กม.ตลอดเวลา
 

เตือน16-17ต.ค.น้ำทะเลหนุนสูงกทม.-นนท์-ปทุมรับมือ
 

----------------------------------------------------------

สถานการณ์น้ำท่วมสิงห์บุรียังอ่วม-เร่งซ่อมบางโฉมศรี

3 ตค. 2554 16:23 น.

ไต้ฝุ่น 2 ลูกถล่มฟิลิปปินส์ ดับ 59 คน ติดค้างหลังคาบ้านจำนวนมาก

น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของฟิลิปปินส์เริ่มลดลงอย่างช้าๆ หลังไต้ฝุ่น 2 ลูกพัดกระหน่ำ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตแล้ว 59 คน

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ประชาชนจำนวนมากยังคงติดอยู่บนหลังคาบ้านเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเร่งระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเรือเข้าช่วยเหลือเพื่อนำตัวลงมา

ด้านนายกเทศมนตรีเมืองกาลัมพิต ทางเหนือของกรุงมะนิลา ที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุดกล่าววันนี้ว่า ยังไม่สามารถเข้าถึงหมู่บ้านอย่างน้อย 15 แห่งได้ และว่า ศูนย์ผู้อพยพขณะนี้มีสภาพแออัดและไม่สามารถรองรับผู้อพยพได้อีก

เกาะไหหลำเตรียมรับมือพายุนาลแกพัดขึ้นฝั่งพรุ่งนี้

3 ตค. 2554 16:29 น.


 

น้ำท่วมกระทบสัตว์ในสวนสัตว์สะออน หิวโซ ต้องพายเรือให้อาหาร

กาฬสินธุ์- ปัญหาน้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังทรงตัว สาเหตุน้ำเขื่อนลำปาวยังเกินพิกัด ขณะที่สัตว์ป่าในสวนสัตว์สะออน หิวโหย เจ้าหน้าที่ต้องพายเรือให้อาหาร เตือนพื้นที่น้ำท่วมขังให้ระวังโรคระบาด

สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังทรงตัว ถึงแม้เขื่อนลำปาวได้เร่งปล่อยให้การระบายน้ำลงแม่น้ำปาวถึงวันละ 30 ล้าน ลบ.ม.เพื่อทำการพร่องน้ำที่เกินพิกัด และรักษาสภาพตัวเขื่อน ล่าสุด ปริมาณน้ำเขื่อนลำปาว มีปริมาณอยู่ที่ 2,006 ล้าน ลบ.ม.ยังส่งผลให้หมู่บ้านท้ายเขื่อนกว่า 1,500 หลังคาเรือน พื้นที่รอยต่อ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สหัสขันธ์ อ.หนองกุงศรี อ.ห้วยเม็ก ยังมีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

นอกจากนี้ น้ำเขื่อนที่เพิ่มสูงได้เริ่มส่งผลกระทบให้กับสัตว์ป่า ในสวนสะออน ซึ่งเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาและอนุรักษ์สัตว์ป่าลำปาว ต้องพายเรือเพื่อนำอาหารไปเลี้ยง ลิง ชะนี ซึ่งถูกน้ำท่วมจนกลายเป็นเกาะกลางขนาดใหญ่ และได้ส่งผลให้ วัวแดง เริ่มขาดแคลนหญ้าที่ใช้เป็นอาหาร

ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เตือนประชาชนให้ระวังปัญหาโรคระบาดโดยเฉพาะตาแดง ท้องร่วง ทั้งนี้ ยังได้จัดหน่วยแพทย์ พอ.สว.กาฬสินธุ์ เข้าดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่แล้ว

อ.ป่าซางระทมน้ำทาท่วมหนักกว่าในรอบ 48 ปี

3 ตค. 2554

----------------------

ประกาศเตือนภัย "พายุ “นาลแก”" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 03 ตุลาคม 2554

เมื่อเวลา 1530 น. วันนี้(3 ต.ค.) พายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 360กิโลเมตร ทางตะวันออก ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ ละติจูด 17.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 5 ตุลาคม นี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ประกาศ ณ วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ออกประกาศ เวลา 15.30 น. สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

เกิดฝนตกหนักวัดปริมาณได้ถึง 66 มิลลิเมตร ส่งผลทำให้น้ำป่าทะลักท่วมที่นาและผิวถนนถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย คาดว่าจะมีฝนตกหนักต่อไปอีก

นายพีรัตน์ เรืองสุกใส หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “เนสาด” (NESAT) บริเวณประเทศเวียดนามตอนบนได้สลายตัวแล้ว แต่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

สำหรับในตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เกิดฝนตกหนัก ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของเมื่อเย็นวานจนถึงเช้าวันนี้ ( 2 ต.ค.54 ) สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 66.2 มม.และคาดว่าฝนยังคงจะมีอีกต่อไปในระยะนี้

จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังภัยจากน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลันและดินภูเขาถล่ม และให้ติดตามการพยากรณ์อากาศของสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะประกาศเตือนทางสถานีวิทยุต่างๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทุกต้นชั่วโมงตลอดไป จนกว่าจะผ่านภาวะฝนตกหนักในระยะนี้

จากฝนที่ตกหนัก ได้ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยสายต่างๆ ในพื้นที่บ้านกุงไม้สัก ต.ปางหมู เข้าท่วมผิวถนนทางเข้าบ้านกุงไม้สัก และน้ำได้กัดเซาะผิวถนนเสียหายไปหลายจุด นอกจากนั้นปริมาณน้ำในแม่น้ำปาย ซึ่งไหลมาจากอำเภอปาย ผ่าน อำเภอปางมะผ้า เข้าสู่เขตอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พบว่าได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่จะไหลบ่าเข้าท่วม บ้านเรือนของราษฎรที่อาศัยอยู่สองข้างฝั่งแม่น้ำสายดังกล่าวในเร็วๆ นี้


 

เกิดพายุทอร์นาโดพัดถล่มในเมือง Duduza ทางตอนใต้อัฟริกา เสียหายอย่างหนัก

โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย บ้านเรือนโดนพัดถล่มทำลายกว่าพันหลัง และประชาชนอีกนับร้อยได้รับบาดเจ็บ และไร้ที่อยู่อาศัย

 
 

ด่วน! สั่งอพยพชาวดอยเต่า หวั่นเขื่อนผากั๊บแตก

 

ดอยเต่าวิกฤติ ออกประกาศให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่ หลังเกรงว่าเขื่อนผากั๊บจะแตก เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากเกินกำหนด ด้านชาวอำเภอฮอดระทมทุกข์หนัก น้ำท่วมถนนเข้าออกอำเภอ ชาวบ้านแห่กักตุนอาหาร หวั่นไม่มีอะไรประทังชีวิต...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า ขณะนี้ทางอำเภอดอยเต่าได้ออกประกาศอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เขื่อนผากั๊บ ออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนมีปริมาณมาก จนไม่สามารถกักเก็บไว้ได้ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจึงเร่งแจ้งชาวบ้านให้อพยพไปอยู่ในเหนือเขื่อน หรือขึ้นไปอยู่ในพื้นที่สูง เพื่อป้องกันเขื่อนที่อาจแตกได้

เช่น เดียวกับที่ อ.ฮอด ถนนเข้าออกอำเภอถูกน้ำท่วมสูง ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ประชาชนต้องถูกตัดขาดจากภายนอก ร้านสะดวกซื้อในอำเภอ สินค้าขายหมดเกลี้ยง หลังชาวบ้านแห่ซื้อสินค้ากักตุน เพราะเกรงจะขาดแคลนอาหาร.

น้ำทะลักท่วมรันเวย์ลำปางเครื่องขึ้น-ลงไม่ได้



พิษฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำทะลักท่วมรันเวย์สนามบินลำปาง จนเครื่องบินขึ้นลงไม่ได้ ขณะที่ตัวเมืองจมแล้วหลายจุด ด้าน ปภ.สรุป 25 จังหวัดประสบภัย ยอดตายพุ่งไม่หยุดแตะ 212 ศพ...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 25 จังหวัด ได้แก่ 1. สุโขทัย 2. พิจิตร 3. พิษณุโลก 4. นครสวรรค์ 5. อุทัยธานี 6. ชัยนาท 7. สิงห์บุรี 8. อ่างทอง 9. พระนครศรีอยุธยา 10. ลพบุรี 11. สระบุรี 12. สุพรรณบุรี 13. นครปฐม 14. ปทุมธานี 15. นนทบุรี 16. อุบลราชธานี 17. ขอนแก่น 18. ศรีสะเกษ 19. สุรินทร์ 20. ฉะเชิงเทรา 21. นครนายก 22. ปราจีนบุรี 23. เชียงใหม่ 24. ยโสธร และ 25. ร้อยเอ็ด รวม 179 อำเภอ 1,240 ตำบล 10,703 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 746,999 ครัวเรือน 2,420,868 คน มีผู้เสียชีวิตสะสมมาตั้งแต่เมื่อครั้งพายุนกเตนจนถึงล่าสุดรวม 212 คน สูญหาย 2 คน

วันเดียวกัน มีรายงานจากพื้นที่ จ.ลำปาง ว่า จากฝนที่ยังตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าจากดอยพระบาทประกอบกับน้ำที่ระบายไม่ทัน และน้ำจากคลองชลประทานท่วมเขตเทศบาลเมืองลำปางในหลายจุด นอกจากนั้น ยังไหลบ่าบริเวณรันเวย์ของสนามบินลำปาง ทำให้เครื่องบินไม่สามารถขึ้นลงได้.

 

กรมอุตุฯ นิวซีแลนด์ ออกคำเตือนทั่วประเทศให้เฝ้าระวังเจอกับลมพายุทอร์นาโด และสภาพอากาศที่เลวร้ายล่าสุด



Motorists nationwide are being advised to take care as bad weather grips the country


MetService has advised that a strong moist northerly flow will affect northern and central New Zealand through to Tuesday and heavy rain has already been causing problems in Nelson.



As a result police and councils have issued a raft of warnings.
Thunderstorms, strong winds, heavy rain and the risk of a tornado have been forecast for Auckland and Auckland Transport is warning motorists to take care when travelling especially as winds are expected to reach 110km/h at times tonight.


There is a thunderstorm watch for Bay of Plenty, Coromandel Peninsula, Taranaki, Taumarunui, Waikato and Waitomo.
The MetService weather radar has detected severe thunderstorms near North Taranaki.

Residents in New Plymouth, Waitara, Bell Block, Motunui, Lepperton, Stratford, Inglewood, Midhirst, Tarata and Egmont Village are being warned to prepare for thunderstorms accompanied by very heavy rain, damaging wind gusts

ห้ามเดินเรือใน น.เจ้าพระยา-ป่าสัก ม้าเหล็กขึ้นเหนือหยุด 19 ขบวน
 

เจ้าท่าประกาศห้ามเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก ด้านรถไฟประกาศงดเดินรถสายเหนือ 19 ขบวน ส่วนรถไฟสายอีสานยังเดินรถปกติแต่วิ่งช้าลง...

วันที่ 3 ต.ค. นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้ประกาศห้ามเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก บริเวณเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เวลา 12.00 น.วันนี้ ถึงวันที่ 7 ต.ค.นี้ และจะมีการทบทวนประกาศดังกล่าวให้สอดคล้องกับระดับน้ำอีกครั้ง สาเหตุที่ต้องสั่งห้ามเดินเรือ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นแม่น้ำแคบๆ หากเดินเรือจะก่อให้เกิดคลื่น ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับกระสอบทราย และบ้านเรือนของชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม การห้ามเดินเรือนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือมากนัก เพราะปัจจุบันมีการเดินเรือน้อยมาก เนื่องจากระดับน้ำสูง เรือไม่สามารถลอดใต้สะพานได้ แต่ก็ต้องประกาศห้ามอย่างเป็นทางการ เพื่อไม่ให้มีการเดินเรือได้เลย โดยพบว่า หากเกิดคลื่นสูงเพียง 10-20 ซม. ก็จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแล้ว

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า วันนี้ได้งดเดินรถสายเหนือจำนวน 19 ขบวน สำหรับเส้นทางที่ให้บริการเป็นช่วงระยะสั้น คือ กรุงเทพฯ-ลพบุรี และช่วงท่าแค-นครสวรรค์-พิษณุโลก-เด่นชัย ส่วนเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ คงเดินรถตามปกติแต่วิ่งช้าสำหรับเส้นทางรถไฟที่ถูกน้ำท่วม ได้แก่ 1. สถานีลพบุรี- ท่าแค ระดับน้ำเหนือสันราง 62 ซม. 2. สถานีปากน้ำโพ-บึงบอระเพ็ด ระดับน้ำเหนือสันราง 17 ซม. 3. สถานีบึงบอระเพ็ด-ทับกฤช ระดับน้ำเหนือสันราง 11 ซม. 4. สถานีทับกฤช-คลองปลากด ระดับน้ำเหนือสันราง 11 ซม. 5. สถานีทับกฤช-คลองปลากด ระดับน้ำเหนือสันราง 9 ซม. 6. สถานีทับกฤช-คลองปลากด ระดับน้ำเหนือสันราง 9 ซม. 7. สถานีทับกฤช-คลองปลากด ระดับน้ำเหนือสันราง 19 ซม. 8. สถานีแม่ทะ –หนองวัวเฒ่า ระดับน้ำเหนือสันราง 13 ซม. และ 9. สถานีกลางดง – ปางอโศก ระดับน้ำเหนือสันราง 10 ซม.

นักวิจัยยุ่นเผย พบรูโหว่โอโซนที่ขั้วโลกเหนือเป็นครั้งแรก

วันที่ 03/10/2554 15:30



ทีมนักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น และนานาชาติ เปิดเผยว่า พบรูโหว่ของชั้นโอโซนที่ขั้วโลกเหนือ และมีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับรูโหว่ที่ขั้วโลกใต้...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า พบ รูโหว่ของชั้นโอโซน ที่ขั้วโลกเหนือหรืออาร์กติกเป็นครั้งแรก โดยขนาดของรูที่พบนั้น มีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับที่พบในพื้นที่แอนตาร์กติก หรือขั้วโลกใต้

สภาบันศึกษาวิจัยสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นร่วมกับนักวิจัยจากต่างประเทศอีก 8 ชาติ ได้ร่วมกันศึกษาเรื่องความหนาแน่นของชั้นโอโซน โดยใช้ดาวเทียมและบอลลูนในการสังเกตการณ์ จนพบเรื่องดังกล่าว พวกเขาเผยว่า ความเร็วในการสร้างโอโซนตามธรรมชาติของโลกลดลงในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. และส่งผลกระทบต่อชั้นโอโซนกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ในภูมิภาคอาร์กติก พร้อมทั้งระบุว่า พวกเขาคือนักวิจัยกลุ่มแรกของโลกที่ยืนยันว่า ชั้นโอโซน ที่ถูกทำลายที่ขั้วโลกเหนือ มีปริมาณเกือบเท่ากับปริมาณโอโซนที่เสียไปในขั้วโลกใต้

อนึ่ง นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การสูญเสียของโอโซนมีสาเหตุมาจากก๊าซคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน หรือสารซีเอฟซี ซึ่งนานาชาติพยายามหามาตรการต่างๆ มาเพื่อลดการปล่อยสารตัวนี้สู่ธรรมชาติ

นายฮิเดอากิ นากาจิมา กล่าวว่า โอโซนมีหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้รังสีอัลตราไวโอเลตผ่านเข้าสู่โลกมากจนเกินไป และหากโอโซนถูกทำลายไปเรื่อย ก็จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคแถบสแกนดิเนเวีย และรัสเซีย

เกิดน้ำท่วมหนักที่แอลจีเรีย เสียชีวิตแล้ว 10 ราย สูญหายอีก 2 ราย และบ้านเรือนยังเสียหายอีกนับร้อย



 
 

ดินสไลด์ทับบ้านพัง 2 หลัง เจ้าของรอดหวุดหวิด

วันที่ 03/10/2554 15:52





ฝนตกหนักต่อเนื่อง ดินชุ่มน้ำ สไลด์ตัวทับบ้านพัง 2 หลังบริเวณหาดป่าตอง ภูเก็ต เจ้าของนอนอยู่หลังบ้านรอดหวุดหวิด แต่ก็ต้องเย็บถึง 40 เข็ม ปภ.ภูเก็ตสั่งเฝ้าระวังพื้นที่อันตรายหวั่นเกิดดินสไลด์ ...

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 3 ต.ค. ศูนย์วิทยุป่าตอง มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุดินถล่มทับบ้านพังมีคนติดอยู่ภายใน บริเวณบ้านมอญ ถ.พิศิษฐ์กรณีย์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงพร้อมด้วยนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และนายพูนศักดิ์ นาคเสนา ปลัดเทศบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ปลูกเรียงรายอยู่ริมถนนเป็นจำนวนมาก พบบ้านเลขที่ 47 ถ.พิศิษฐ์กรณีย์ ต.ป่าตอง ถูกดินสไลด์จากเนินเขาลงมาทับด้านหลังบ้านเสียหาย โดยมีนายวิษณุ หยิดสัว อายุ 38 ปี เจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บ มีแผลฉีกขาดที่บริเวณศีรษะขณะนอนหลับอยู่หลังบ้าน เนื่องจากถูกรถ จยย.ที่จอดอยู่ล้มทับไปพร้อมกับดินถล่ม จากนั้นชาวบ้านได้ช่วยกันนำส่ง รพ.ป่าตอง โดยแพทย์ได้เย็บแผลกว่า 40 เข็ม และให้นอนพักรักษาตัวที่ รพ.เพื่อรอดูอาการข้างเคียง ซึ่งยังมีบ้านปูนชั้นเดียวไม่มีเลขที่อยู่ด้านหลังบ้านดังกล่าวด้านหน้าพังเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เทศบาลเมืองป่าตองจึงได้นำเชือกมากั้นบริเวณดินถล่ม ไม่อนุญาตให้ผ่านหรือเข้าไป เกรงว่าอาจเกิดดินถล่มซ้ำ ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นราว 1 แสนบาท สาเหตุคาดว่าดินชุ่มน้ำ หลังฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดินไม่สามารถรับปริมาณน้ำฝนได้ ทำให้ดินสไลด์และถล่มลงมา ซึ่งบริเวณ ถ.พิศิษฐ์กรณีย์ ถ.นาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เป็นหนึ่งในจุดอันตรายที่เสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์หรือดินถล่ม

นายตรี อัครเดชา ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับ จ.ภูเก็ต เป็นอีกพื้นที่ที่มีแนวโน้มเสี่ยงภัยดินสไลด์และดินถล่ม จากการรวบรวมข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า มีมากกว่า 30 จุดกระจายไปทั่วทั้งจังหวัด จุดสำคัญ และเสี่ยงที่จะเกิดดินสไลด์และดินถล่มสูง จำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เป็นพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่น คือ พื้นที่บนเนินเขาชุมชนนาใน ถ. 50 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เนื่องจากจุดนี้ข้างบนมีการก่อสร้างจำนวนมาก รวมทั้งมีการตัดถนนบนไหล่เขา การขุดถมดิน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเสี่ยงที่จะต้องเฝ้าระวัง นอกจากนั้นยังมีจุดบริเวณภูเขาถนนบายพาส ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งข้างบนมีร่องรอยการทำเหมืองรูโบราณ กับยังมีการสร้างฝายและเขื่อนอยู่ด้านบน โอกาสที่ดินรับน้ำไม่ไหวมีมาก และมีโอกาสที่จะสไลด์หรือถล่มลงมาได้ จุดสุดท้าย คือ ชุมชนน้ำตกกะทู้ อ.กะทู้ เนื่องจากมีการสร้างฝ่ายและเขื่อนข้างบนจำนวนมาก รวมทั้งทางน้ำถูกแปรสภาพถูกถม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวเร่งที่จะทำให้เกิดดินสไลด์ดินถล่มได้ รวมทั้งถ้าหากในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีฝนตกหนักติดต่อกันนานเป็นสัปดาห์ และโอกาสที่จะมีดินสไลด์ดินถล่มเพิ่มขึ้นมีสูง เนื่องจากปัจจุบันนี้การก่อสร้างบนที่สูงและการเปิดหน้าดิน การขุดตักหน้าดินยังมีอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าปัญหานี้จะยังคงมีต่อไปตราบใดที่ยังไม่หยุดการก่อสร้างบนที่ราบเชิงเขา ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุสำคัญ

ผวจ.ภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันที่ดีที่สุด คือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการควบคุมดูแล เรื่องการก่อสร้างบนที่ราบเชิงเขา นอกจากนั้นยังมีเรื่องการจัดตั้งหมู่บ้านเครือข่ายวัดปริมาณน้ำฝน การจัดตั้งหมู่บ้านเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัย และการจัดตั้งสถานีส่งสัญญาณเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยป้องกันภัยได้ในระดับหนึ่ง โดยใช้ประชาชนในพื้นที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังป้องกันเหตุต่างๆ.

เกิดเหตุเครื่องบินขนาดเล็กตกที่ฟาร์ม ทางตอนใต้บราซิล เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ดับทันที 4 ราย ไร้ผู้รอดชีวิต




Location of Sunday"s crash in Brazil

Four people were killed on Saturday evening when a small plane crashed into a farm in southern Brazil during bad weather, police said on Sunday. There were no survivors.

The accident happened at around 8.30 p.m. local time when a Beechcraft Bonanza aircraft crashed into a farm in Maraba Paulista, a municipality in the southern state of Sao Paulo. Police said the aircraft exploded upon impact.

The four people on board the aircraft were identified as a 51-year-old pilot, his 12-year-old son, his 19-year-old daughter, and a 23-year-old woman who was not a family member. They were heading to an airport in Campinas.

Police said the small aircraft went down during heavy rains although it was not immediately known if it caused the accident. Investigators arrived at the scene on Sunday to determine the cause of the crash, which caused no casualties on the ground.
 

อุตุฯ เตือน"นาลแก"ขึ้นเวียดนาม ส่งผลฝนตกหนักในไทย 3-8 ต.ค.นี้

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือนว่า พายุโซนร้อนนาลแกที่จะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในประเทศไทย ตั้งแต่เย็นวันนี้ (3 ต.ค.) ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 8 ตุลาคม ในเขตภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือตอนล่างที่ จ.สุโขทัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน

โดยคาดว่า พายุลูกนี้จะอ่อนกำลังลงเมื่อขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม แต่ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้เกิดฝนตกหนักจะไม่สลายตัว และอาจมีการก่อตัวของพายุดีเปรสชั่นขึ้นอีกลูก จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
                           --------------------

ฝนตกหนัก!! ไฟดับทั่วเมืองแม่ฮ่องสอน

จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม ทำให้ระบบจำหน่ายแรงสูงที่จ่ายไฟจาก อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้ามายัง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ ทำให้ไฟฟ้าดับในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย อ.สบเมย และอ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน จุดที่ชำรุดอยู่ระหว่างกิโลเมตรที่ 4-10 ทางหลวงหมายเลข 108 บริเวณอุทยานแห่งชาติออบหลวง ซึ่งล่าสุดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.แม่ฮ่องสอน ได้จ่ายกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์ดีเซลของโรงจักรแม่สะเรียง ให้กับ อ.แม่สะเรียง ในเขตเทศบาลตำบลแม่สะเรียงบางส่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น

ส่วนพื้นที่ อ.ขุนยวม ไม่สามารถรับไฟฟ้าจาก จ.แม่ฮ่องสอนได้ เนื่องจากต้นไม้ล้มทำให้ระบบจำหน่ายชำรุดบริเวณทางเข้าบ้านป่าลาน โดยขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.แม่ฮ่องสอน ได้เร่งแก้ไข เพื่อให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ

กู้ 18 ศพเหตุบินเล็กตกที่สุมาตรา

เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัย ของอินโดนีเซีย สามารถกู้ศพจากเหตุเครื่องบินเล็กตกในป่าลึก บนเกาะสุมาตรา ได้ครบทั้ง 18 ศพแล้ววันนี้ หลังเกิดเหตุ 3 วัน ขณะที่ครอบครัวของผู้เคราะห์ร้าย ต่างตำหนิปฏิบัติการที่ล่าช้าของรัฐบาล ด้านหัวหน้าทีมค้นหาและกู้ภัย กล่าวว่า ได้ส่งศพทั้งหมดไปยังโรงพยาบาล เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ส่วนมากเสียชีวิตในเครื่อง

----------------------------------------------------

ปิดชั่วคราวประตูน้ำเขื่อนกิ่วลม-กิ่วคอหมา หวั่นซ้ำเติมน้ำท่วมลำปาง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เขื่อนกิ่วลม-กิ่วคอหมา ปิดประตูระบายน้ำ 6 บานรวด ลดผลกระทบซ้ำเติมน้ำท่วมลำปาง

นายชัยประเสริฐ เนตรอนงค์ผู้อำนวยการ โครงการส่งน้ำฯ กิ่วลม-กิ่วคอหมา จ.ลำปาง เปดเผยว่า ตั้งแต่ 09.00 น.วันนี้ (3 ต.ค.) โครงการส่งน้ำฯ กิ่วลม-กิ่วคอหมา ได้ปิดบายระบายเขื่อนกิ่วลมทั้งหมด 6 บานแล้ว เพื่อบรรเทาเหตุการณ์น้ำป่าจากดอยพระบาทไหลเข้าท่วมตัวเมืองลำปาง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงจึงจะเปิดประตูระบายน้ำอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองลำปาง ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมมากในหลายจุดซึ่ง สนง.ปภ.ลำปาง เร่งนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือประชาชน และยังได้นำน้ำดื่มและข้าวกล่องเข้าแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยในหลายชุมชนแล้ว

อ่างทองจมบาดาล พ่อค้าขึ้นราคาเรือ ซ้ำเติมชาวบ้าน

วันที่ 03/10/2554 16:27





อ่างทองจมบาดาล หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดสิ้นเชิง ผู้เฒ่าอยู่บ้านคนเดียวถูกน้ำท่วมหมดตัว ปลานับแสนหลุดไปกับน้ำ เรือแจกไม่ทั่วถึง พ่อค้าหน้าเลือดซ้ำเติมหนัก ฉวยโอกาสขึ้นราคาเรือแพงลิ่ว...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำยังคงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลทะลักจาก จ.ลพบุรี ตลบหลังเข้าท่วมพื้นที่ ต.ตรีณรงค์ ต.จรเข้ร้อง และ ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จมมิดน้ำ และกระแสน้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ ต.ตลาดกรวด ต.บ้านรี อ.เมืองอ่างทอง ด้านฝั่งตะวันออกจมบาดาลอย่างรวดเร็ว และกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากยังไหลต่อเนื่อง จนไปสมทบกับกระแสน้ำที่ไหลท่วมย้อนขึ้นมาจาก อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บางจุดลึกถึง 4 เมตร และยังท่วมขยายวงกว้างออกไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประชาชนในหมู่บ้านโพธิ์ลาว บ้านท้ายตาล บ้านกระทุ่มราย อ.เมือง บ้านโกรกกราก บ้านหางบาง บ้านสวนมะม่วง ต่อเนื่องไปจนถึงบ้านป่า ต.ตรีณรงค์ อ.ไชโย ถูกน้ำท่วมลึก ถนนภายในหมู่บ้านทุกสายถูกน้ำท่วมจมมิด จึงถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง การสัญจรไปมาต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และมีประชาชนไร้ที่อยู่จำนวนมาก

นายประมวล เปี่ยมศิริ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/5 หมู่ 3 ต.บ้านรี อ.เมือง จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่บ้านตามลำพังเพียงคนเดียว เมื่อคืนตอนตีสอง ได้มีกระแสน้ำไหลเข้าท่วมบ้านของตนอย่างรวดเร็ว จนมีระดับสูงเกือบสองเมตร ทำให้ตนไม่สามารถขนทรัพย์สินของมีค่าออกมาได้ แม้แต่ฟูกที่นอนยังจมน้ำหมด ไม่เฉพาะแต่บ้านพักเท่านั้น บ่อปลาที่เลี้ยงไว้นับแสนตัว ก็ถูกน้ำท่วมจนปลาหลุดไปกับสายน้ำทั้งหมด นอกจากนั้น สวนไม้ผลของตนก็ถูกน้ำท่วมจมมิด น้ำท่วมครั้งนี้กระแสน้ำมาเร็วและแรงมาก จนตั้งตัวไม่ทันทำอะไรไม่ถูก ยังโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ แต่คงหมดเนื้อหมดตัว เพราะข้าวของโดนน้ำท่วมเสียหายหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากถูกกระแสน้ำ ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยทั้งสองฝั่งอย่างหนัก ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ และยังถูกกระแสน้ำที่ไหลทะลักจากประตูระบายน้ำเขื่อนพระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี รวมทั้งมวลน้ำก้อนใหญ่จาก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี และน้ำจาก อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ไหลทะลักเข้าถล่มซ้ำ จนทำให้พื้นที่ จ.อ่างทอง ทั้งด้านฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ถูกน้ำท่วมในระดับสูงทุกพื้นที่ และถนนภายในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมจนรถยนต์ และรถ จยย.สัญจรไปมาไม่ได้ ชาวบ้านต้องหันมาใช้เรือเป็นพาหนะแทน แต่เรือที่ทางราชการที่นำมาแจกจ่าย มีจำนวนไม่เพียงพอ แต่ละบ้านจึงจำเป็นต้องหาซื้อเรือมาใช้เป็นพาหนะเอง ทำให้เรือขาดแคลนอย่างหนัก พ่อค้าหน้าเลือดฉวยโอกาสขึ้นราคาสูงกว่า 1 เท่าตัว แต่ผู้ประสบภัยยังต้องจำใจยอมซื้อ เพราะดีกว่าไม่มีเรือใช้.

ฝนถล่มสุรินทร์ทำน้ำท่วมถนนกว่า5กม.

ข่าวภูมิภาค วันจันทร์ที่ 3 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 12:32 น.




เกิดฝนถล่ม จ.สุรินทร์ ทำน้ำท่วมขังถนนหลวง ตั้งแต่สี่แยกหนองเต่า ไปจนถึงบ้านกระทม ระยะทางกว่า 5 ก.ม.


ดร.พันธุ์ศักดิ์ สัตยเทวา ผู้อำนวยการแขวงการทางสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก หลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์ เป็นเหตุให้ทางหลวงแผ่นดิน ได้รับความเสียหายพอสมควร ทั้งนี้ ได้กำชับให้หมวดการทางสุรินทร์ เฝ้าระวังน้ำท่วมถนนทางหลวง ตลอด 24 ช.ม. พร้อมเตรียมเครื่องจักรออกทำงานได้ทันที เพื่อบรรเทาความทุกข์ของพี่น้องประชาชน และในขณะนี้ ได้มีน้ำท่วมขังถนนหลวง ตั้งแต่สี่แยกหนองเต่า ไปจนถึงบ้านกระทม ระยะทางกว่า 5 ก.ม. สาเหตุของปัญหา นอกจากปริมาณน้ำฝนที่ตกตลอดทั้งคืน และอยู่ในระหว่างการแก้ปัญหา ให้ระดับน้ำในท้องถนนลดลง สู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด ปัญหาที่เป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆ คือ การถมที่ดินที่มีระดับสูงมากขึ้น ทั้งในเขตเมือง ตำบล หมู่บ้าน สองข้างทางนอกเขตทางหลวง ทำให้ขวางทางระบายน้ำของทางหลวง จึงขอความร่วมมือจากประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใส่ใจในเรื่องของการถมที่ดิน นอกเขตทางหลวงด้วย

 

เสริมคันกั้นน้ำปทุมฯป้องกันมธ.-นวนครท่วม
 

กรมชลฯเร่งระบายน้ำผ่านเจ้าพระยาตะวันตกเตือนนครปฐมรับมือน้ำท่วม ปทุมฯเร่งเสริมคันกั้นน้ำป้องกันน้ำทวมธรรมศาสตร์ รังสิต-นิคมนวนคร

นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่าขณะนี้กรมชลประทานได้ระบายน้ำผ่านเจ้าพระยาตะวันตกเพิ่มขึ้น โดยระบายผ่านประตูระบายน้ำ(ปตร.) พลเทพไปแล้ว 400 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ต่อวินาทีในขณะที่ความสามารถของลำนำรับได้เพียง 300 ลบ.ม. ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ปริมาณน้ำดังกล่าวจะส่งผลกระทบอ.บางเลน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะบางเลน ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่วนการระบายน้ำที่ปตร.บรมธาตุ ผ่านแม่น้ำน้อย สามารถระบายได้ประมาณ 169 ลบ.ม.ต่อวินาที จากความสามารถรับน้ำของลำน้ำอยู่ที่ 230 ลบ.ม.ต่อวินาที เนื่องจากอาจกระทบกับคันกั้นน้ำจะเป็นผลให้ปริมาณน้ำไปตลบหลังพื้นที่ จังหวัด อ่างทอง และสิงห์บุรี ทั้งจังหวัดอาจจะจมได้

เสริมคันกั้นน้ำปทุมฯป้องกันธรรมศาสตร์-นิคมนวนครท่วม

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ต.ค. เกิดเหตุแนวกระสอบทรายที่กั้นถนนปทุม-เชียงราก พัง ในเขต ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลังระดับสูงขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในพื้นที่ ต้องเร่งเสริมแนวคันกั้นด้วยดิน เสริมทับแนวคันกระสอบทรายเพิ่มความแข็งแรง

นายชาญ พวงเพ็ชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต. เร่งประชุมประสานนำรถดินเสริมแนวคันดินในถนนเส้นทางดังกล่าว โดยเสริมดินทับแนวกระสอบทรายเดิม ทำแนวกั้นในถนนเส้นทางดังกล่าวเป็นคันดิน เสริมสูงขึ้นอีก 30-50 ซม. เพิ่มความแข็งแรงในการรับปริมาณน้ำที่คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่านี้ เพราะถนนเส้นดังกล่าว กั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ไม่ให้เข้าท่วมพื้นที่ด้านหลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นิคมอุตสาหกรรมนวนคร เมืองเศรษฐกิจ อ.คลองหลวง และอ.ธัญบุรี
ขณะที่ ชาวบ้านริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำที่เอ่อเข้าท่วมย่านรังสิตได้เร่งกรอกกระสอบทรายเสริมประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ บริเวณตลาดรังสิต และเสริมริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เขต ต.บางพูน ต.หลักหก และ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง ป้องกันน้ำเข้าพื้นที่เขต กทม.

จากนั้น นายชาญ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อบจ.ปทุมธานี ได้นำข้าวสาร และยาฆ่าเชื้อป้องกันโรคทางน้ำแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ริมแม่ น้ำเจ้าพระยาและถูกน้ำท่วม เขตพื้นที่ ต.เชียงรากใหญ่ ต.เชียงรากน้อย ต.บ้านปทุม ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี รวมจำนวนกว่า 1,000 หลังคาเรือน ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วม โดยบางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตรทำให้ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะ

เตือน11จังหวัดเหนือ-อีสานระวังดินถล่ม

ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ออกประกาศเมื่อวันที่ 3 ต.ค. โดยรุบว่า จากอิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ที่แผ่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนเพิ่มและตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะใน 11 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในระยะ 1-2 วันนี้ ให้ระวังดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก
ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

 

อยุธยา-น้ำท่วมวัด พระสงฆ์ต้องฉันอาหารริมถนนกลาง



สถานการณ์น้ำบริเวณถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ยังเพิ่มสูงขึ้นถึง 40 ซม. หมวดการทางต้องประกาศห้ามรถเล็กผ่านเส้นทางดังกล่าว ขณะที่พระสงฆ์วัดมหาราชหน้าวัว ต้องลุยน้ำบิณฑบาตและฉันอาหารบนถนน ท่ามกลางน้ำท่วม

ถนนสายโพธิ์พระยา–ท่าเรือ ตั้งแต่ ตำบลบ้านขวาง ไปจนถึง ตำบลเจ้าปลุก อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำจากแม่น้ำลพบุรีไหลลงสู่ทุ่งหนองหม้อ ท่วมผิวการจราจร ยาวกว่า 3 กิโลเมตร แม้จะทำแนวป้องกันน้ำท่วมแล้ว แต่ไม่สามารถป้องกันได้ ล่าสุด น้ำที่ท่วมถนนสูงกว่า 40 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ ทางหมวดการทางอ่างทอง ต้องประกาศเตือนรถเล็กให้เลี่ยงไปใช้ถนนสายบางปะหัน–มหาราช แทนเส้นทางดังกล่าว ส่วนถนนสายโพธิ์พระยา–ท่าเรือ ส่วนเส้นทางหลักที่จะมุ่งหน้าจากจังหวัดอ่างทองไปอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ สระบุรี ถูกน้ำท่วมทั้งหมด

สำหรับประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพขึ้นมาอาศัยอยู่บนถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ บางส่วนที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม รวมถึงพระสงฆ์วัดมหาราชหน้าวัว (ใหม่) ต้องขนย้ายเครื่องอัฐบริขาร และฉันอาหารบริเวณริมถนนที่มีน้ำท่วม

เวียดนามเตือนภัยเฝ้าระวังไต้ฝุ่น “นาลแก”

วีเอ็นเอ - นายฮว่าง จุง ฮาย รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามสั่งการให้จังหวัดและเมืองต่างๆ ในภาคกลางของประเทศ เฝ้าระวังและเตรียมมาตรการรับมือกับไต้ฝุ่นนาลแกที่กำลังมุ่งหน้ามายังเวียดนาม

ไต้ฝุ่นนาลแก เป็นพายุลูกที่ 6 ที่กำลังจะเข้าพัดถล่มเวียดนามในปีนี้ และกำลังมุ่งหน้ามายังภาคกลางของประเทศ ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันพายุและน้ำท่วนในกรุงฮานอย วานนี้ รองนายกฯ ได้เรียกร้องให้กระทรวง หน่วยงาน และท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องระมัดระวังไต้ฝุ่นและน้ำท่วม และไม่อนุญาตให้เรือประมงออกนอกฝั่ง

ส่วนคณะกรรมการกลางป้องกันพายุและน้ำท่วม และคณะกรรมการค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังจังหวัดและเมืองชายฝั่ง ตั้งแต่ จ.แท็งห์ฮวา จนถึงจ.ฝูเอียน และหน่วยงานที่เกี่ยวคำ ได้รับคำสั่งให้เตรียมความพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นนาลแก

ส่วนพายุเนสาด ที่เข้าพัดถล่มจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. อิทธิพลของพายุทำให้บ้านเรือนเสียหาย 293 หลัง พื้นที่ปลูกข้าวใน จ.กว่างนิงห์ เกือบ 10,625 ไร่ จมอยู่ใต้น้ำ และนาข้าวในเมืองท่าหายฟ่องอีก 62,000 ไร่ ได้รับความเสียหาย

เหตุน้ำท่วมในพื้นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขงทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 8 คน เป็นเด็ก 5 คน และบ้านเรือนประชาชนกว่า 13,400 หลัง จมน้ำ และพื้นที่ปลูกข้าวราว 26,500 ไร่ ได้รับความเสียหาย

“แม่แจ่ม” น้ำป่าหลากหลายหมู่บ้านจมบาดาล

เชียงใหม่ - น้ำป่าหลากท่วมหลายหมู่บ้านในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ กลางดึกที่ผ่านมาหลังฝนตกหนัก ส่งผลหลายหมู่บ้านจมน้ำ จนท.ต้องเร่งช่วยชาวบ้านขนของหนีจ้าละหวั่น

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าช่วงกลางดึกคืนวานนี้(2 ต.ค.54) ฝนที่ตกอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะที่มีที่ตั้งอยู่ติดกับลำน้ำแม่แจ่ม ได้แก่ บ้านพร้าวหนุ่ม และบ้านแพม ต.ช่างเคิ่ง บ้านท่าผา และบ้านยางหลวง ต.ท่าผา

ทั้งนี้จุดที่น้ำท่วมหนักสุดอยู่ในพื้นที่บ้านแพม ซึ่งบางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร และบ้านท่าผา ที่น้ำท่วมสูง 2 เมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าให้ความช่วยเหลือในการขนย้ายข้าวของและทรัพย์สินที่จำเป็นแล้ว
 

สกลนคร - เขื่อนน้ำอูน สกลฯ เกินระดับกักเก็บแล้ว

ข่าวภูมิภาค วันจันทร์ที่ 3 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 10:42 น.

เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร เกินระดับกักเก็บแล้ว ต้องปล่อยน้ำไหลผ่าน 3 อำเภอ ทางการเตือนประชาชนแล้ว

เขื่อนน้ำอูน อ.พังโคน จ.สกลนคร พื้นที่และน้ำจากลำน้ำสาขา ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูพาน โดยระดับน้ำของเขื่อนปัจจุบันอยู่ที่ 564 ล้านลูกบาศก์เมตร เกินระดับเก็บกัก 108% ทำให้น้ำเกินความจุ ส่วนหนึ่งล้นลงช่องระบายฉุกเฉิน หรือ ปากกระโถนเขื่อน ซึ่งถือว่าปริมาณน้ำที่เกินมา ไม่เป็นอันตรายกับตัวเขื่อน แต่เป็นการระบายตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยน้ำที่ล้นออกมาจะไหลลงไปตามลำน้ำอูน ก่อนไหลผ่านพื้นที่ อ.พังโคน อ.พันนานิคม และ อ.เมือง ซึ่งขอให้ประชาชน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำหลากในระยะนี้ด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ระบายน้ำส่วนหนึ่งลงทางคลองส่งน้ำสายใหญ่ ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เพื่อระบายน้ำออกตามระบบคลองชลประทาน เฉลี่ยวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อพร่องน้ำ ทำให้มีพื้นที่สามารถรับน้ำได้อีก หากมีพายุ หรือ ฝนตกหนักลงมาในระยะนี้

น้ำเซาะต้นจามจุรีอายุกว่า 200 ปีโค่น ลิงแสมโกสัมพีนับพันหนีตาย

มหาสารคาม-ระดับน้ำในแม่น้ำชีที่ อ.โกสุมพิสัย เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง เอ่อเข้าท่วมวนอุทยานโกสัมพี ส่งผลลิงแสมกว่า 1,000 ตัว ไม่มีที่อยู่และแหล่งอาหารตามธรรมชาติ ขณะเดียวกันกระแสน้ำได้กัดเซาะต้นจามจุรีอายุกว่า 200 ปีหักโค่น ฝูงลิงแสมต้องหนีตายจ้าละหวั่น

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีที่ไหลผ่าน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ว่าล่าสุดวันนี้ผ3 ต.ค. ) ยังคงอยู่ในระดับวิกฤต โดยระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน เฉลี่ยวันละ 5 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้สูงกว่าระดับตลิ่งอยู่ที่ 33 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายในวงกว้าง

ขณะเดียวกัน ที่วนอุทยานโกสัมพี อ.โกสุมพิสัย ซึ่งเป็นที่อยู่ของลิงแสมกว่า 1,000 ตัว บนพื้นที่ 125 ไร่ ถูกน้ำท่วมขังทั้งหมด โดยจุดที่ลึกที่สุดภายในวนอุทยานคาดว่าลึกไม่ต่ำกว่า 5 เมตร

อีกทั้งน้ำจากแม่น้ำชีที่เอ่อล้นขึ้นมา ได้กัดเซาะต้นจามจุรีขนาดใหญ่ อายุกว่า 200 ปี หักโค่นลงมาด้วย ทำให้ฝูงลิงแสมต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น มาอาศัยอยู่บนถนนด้านหน้า และด้านข้างวนอุทยานที่ยังไม่ถูกน้ำท่วมแทน ซึ่งลิงทั้งหมดขาดแคลนแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เนื่องจากต้นกระเบา ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของลิง อยู่ภายในวนอุทยานที่ถูกน้ำท่วม

โดยคาดว่าต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ลิงแสมทั้งหมดจะเข้าไปใช้ชีวิตภายในวนอุทยานได้ดังเดิม

อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลตำบลหัวขวาง ได้นำอาหารและผลไม้มาเลี้ยงลิง เนื่องจากมีค่าอาหารประจำเดือน ๆ ละ 4,000 บาท จากการจัดงานประเพณีบุญพาข้าวลิง ที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของลิงได้อีกทางหนึ่ง

+เมื่อวานนี้

วันอาทิตย์ 2 ต.ค.54

มีทหารอากาศจากกองบิน 2 ลพบุรี

มาทำบุญกับบ้านสวนพีระมิด

กันทั้งครอบครัว เอาหลาน

อายุขวบกว่ามาด้วย

นำแหวนทองคำ

มาร่วมสร้างพระ 1 วง

หนักประมาณ ครึ่ง สลึง

(หนึ่งเฟื้อง)

เขาบอกว่า

ภรรยาเขาศรัทธา อ.อุบล มาก

และทำตามทุกอย่าง

ได้ผลทุกอย่าง

เขาเป็นทหาร

ที่ออกไปช่วยประชาชน

เคยลงพื้นที่กับ ดร.สมิธ ดร.สิรภพ

คุณปราโมทย์ ไม้กลัด

แล้วไปบอกชาวบ้านว่า

บริเวณนั้น บริเวณนี้ของลพบุรี

น้ำจะท่วม ตอนนั้น

ไม่มีใครเชื่อเลย

มาวันนี้ ท่วม ทุกที่

ที่ท่านทั้งหลายบอกไว้จริง

ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มป่วย

เป็นโรคน้ำกัดเท้า

จะช่วยยังไงครับ อ.อุบล

ครั้งแรก

อ.อุบล คิดว่า

 จะให้เอาน้ำพีระมิดไปแจก

(เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณแทรกมาเลย)

ไม่ต้อง ไม่ต้อง

แจกน้ำพีระมิด มันไม่ทันกินหรอก

ไอ้คนเอาไปแจก มันก็ต้องลำบาก

ไปหาขวดอีก แล้วมันจะว่ายน้ำ

ไปแจกได้ทุกบ้านไหม

แล้วส่วนคนที่ได้น้ำพีระมิดไป

เดี๋ยวพอน้ำหมดจะทำยังไง

แล้วเสด็จพ่อจะให้ทำยังไงเจ้าคะ

โง่อีก

เจ้าค่ะ

ก็รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ไงล่า

ลูกเอ้ย ยิ่งแจก ยิ่งขลัง

ไม่ต้องระวังว่าจะหมด

ไม่ต้องกลัวว่า จะไม่ทั่วถึง

แจกไปทางโทรศัพท์

ทางกระดาษ ทางเอกสาร

ให้เป็นทานไปสิลูก

เจ้าค่ะเสด็จพ่อ

ลูกจะบอกให้เขาไปช่วย

คนที่กำลังเดือดร้อน

เรื่องน้ำกัดเท้า

ไม่ใช่แค่น้ำกัดเท้าลูก

พ่อจะช่วยทุกเรื่อง

ที่ไม่ผิดศีลธรรม

ยกเว้นคนที่มันไม่เชื่อ

คนที่มันปรามาสลูกพ่อ

คนที่มันโง่ มันบาปหนา มันไม่มีปัญญา

อันนี้พ่อจะปล่อยให้มันช่วยตัวมันเอง

ให้มันเก่งของมันไป

แล้วน้ำยังจะมาอีกมากมาย

เพราะคนบาปมันไม่สำนึก

คนไหนใช้รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

ได้ผล มันต้องบอกต่อ

อีกวันละ 9 คน

หรือ

ทุกครั้ง ทุกเรื่อง ที่ได้ผล

ต้องบอกต่อ อย่างน้อย เรื่องละ

9 คน มันจึงจะใช้รหัสนี้ได้อีกต่อไป

ถ้ามันใช้ได้ผลแล้ว

มันเงียบ เก็บไว้ใช้คนเดียว

มันจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป

เพราะ

พวกนี้ ใจมันแคบ เห็นแก่ตัว

เสด็จพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ

ทรงเมตตา ให้ช่วยผู้ประสบภัย

น้ำท่วม หรือ ทุกอย่าง

สุดแล้วแต่ว่า

ใครจะมีบุญ หรือ มีกรรม

นำรหัสนี้ไปใช้

เพราะ

ให้ใช้ฟรี ไม่เสียกะตัง

ถ้ายังไม่ลอง

ก็ จง รับกรรมกันไปเต๊อะ

กราบพระบาท

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

เจ้าค่ะที่เมตตาลูกหลาน

เสมอมา

พวกเราทุกคน

ที่ได้เข้ามาอ่านข้อความนี้

อย่าลืมเผยแพร่

รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วยนะ

ฟรี

ใช้ได้ 24 ชม.

แต่สำหรับ

คนที่ปรามาส อ.อุบล

คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี

รหัสนี้ไม่ได้ผล

จ้า

อ้อ

แล้วก็คนที่

ปรามาสท้าวเวสสุวรรณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์

พระพุทธเจ้า

พระเจ้าอยู่หัว

รหัสนี้ก็ไม่ได้ผลเหมือนกัน

เน๊อ ขอบอก

สังเวยน้ำท่วม

จีนสั่งเรือประมง 27,000 กลับฝั่งผวาพายุ"นาลเก"

 ผวจ.สุพรรณฯสั่งระบายน้ำลงท่าจีนเต็มพิกัด

เตือนอย่ากินสัตว์ตายจากน้ำท่วม หวั่นติดแบคทีเรียร้าย

เขื่อนภูมิพลสุดกลั้น เตือนอีก5วันน้ำท่วมกำแพงเพชร

4 ตุลาคม 2554, 00:40 น.

 

ผวจ.กำแพงเพชรเตือน อีกวันน้ำท่วมกำแพงเพชร เพราะเขื่อนภูมิพลสุดกลั้น คราวนี้ท่วมสูงกว่าครั้งที่ผ่านมาอีกๆ ไม่ต่ำกว่า 60 เซนติเมตร ฝากถึงประชาชนให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงอย่างเร่งด่วน...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2554 นายวันชัย สุทิน ผู้ว่าราชการจังหวัด

กำแพงเพชร ได้เชิญเจ้าหน้าที่ชลประทาน เจ้าหน้าที่สำนักงาน

อุตุนิยมวิทยากำแพงเพชร นายอำเภอโกสัมพีนคร นายอำเภอเมือง

นายอำเภอคลองขลุง และนายอำเภอขาณุวรลักษบุรี รวมทั้งนายก

เทศมนตรีเมืองกำแพงเพชรมาร่วมประชุม เนื่องจากขณะนี้ทาง

เขื่อนภูมิพลได้ระบายน้ำออกมาลงแม่น้ำปิงจำนวนมาก ทำให้ระดับ

น้ำในแม่น้ำปิงช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดกำแพงเพชรมีระดับเพิ่มสูงขึ้น

อย่างรวดเร็ว

 

       ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเขื่อน

ภูมิพลว่า จำเป็นต้องระบายน้ำลงแม่น้ำปิง โดยที่ผ่านมาระบายแค่

40 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นมาเป็น 60 ล้านลูกบาศก์เมตร

ส่วนในวันที่ 4 ตุลาคม จะระบายจากเขื่อนเพิ่มเป็น 80 ล้าน

ลูกบาศก์เมตร ประกอบกับไม่สามารถคุมน้ำที่ไหลมา

จากแม่น้ำวังที่จะมารวมกับกับแม่น้ำปิงที่ จ.ตากได้

และทางกรมอุตุยังบอกว่าจะมีฝนตกลงมาอีกในเขต

ภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งปริมาณน้ำจำนวนดังกล่าว

จะส่งผลกระทบกับพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอที่อยู่ริมแม่น้ำปิง

จึงได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ ริมแม่น้ำปิง

ให้รีบจัดการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน เครื่องมือทางการเกษตร

สัตว์เลี้ยงและคนให้อยู่ในที่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน

เพราะนับจากวันนี้เป็นต้นไปอีก 5 วัน คือ ประมาณวันที่

8 ต.ค. น้ำในแม่น้ำปิงจะขึ้นสูงสุด และจะล้นตลิ่งเข้าท่วม

ตลอดแนวแม่น้ำปิงยาวกว่า 100 กิโลเมตรอย่างแน่นอน

นับตั้งแต่วันนี้ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 30 ซม.

และจะท่วมสูงมากกว่าเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านอีก

60 ซม.เป็นอย่างน้อย

 

        นายวันชัย กล่าวด้วยว่า การท่วมครั้งนี้เป็นการท่วมแบบ

แช่ขัง ที่จะกินเวลานาน จึงขอให้เตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค

ไว้ให้พร้อมด้วย ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทุกอำเภอเตรียมพร้อมในการ

ช่วยเหลืออพยพประชาชน สั่งให้ทุกโรงเรียนหลังจากสอบแล้วให้

รีบประกาศปิดทันที ให้รักษาป้องกันสถานที่ราชการ

โดยเฉพาะโรงพยาบาลต้องดูแลเป็นพิเศษ

ที่สำคัญต้องดูแลประชาชนอย่าให้เกิดอันตราย

จากการจมน้ำเสียชีวิต รวมไปถึงถนนสายต่างๆต้องป้องกันให้

รถยนต์สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วน น้ำจำนวนมหาศาลก้อนนี้

จะไปรวมกองอยู่ที่จังหวัดนครสรรค์ โดยคงสร้างปัญหาให้กับ

จังหวัดในภาคกลางเพิ่มอีกจำนวนมาก จึงขอให้ชาวจังหวัด

นครสวรรค์รับมือกับมวลน้ำก้อนใหญ่นี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

แน่นอน

Credit : Thairath

 น้ำท่วมโกสัมพีทำลิงกว่าพันตัวขาดอาหาร

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 4 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 01:07 น.

 นครสวรรค์ผวา!ข่าวลือจระเข้หลุดเกือบ100

ชาวนครสวรรค์ผวาหนักหลังประสบภาวะน้ำท่วมแล้ว

ยังต้องผวากับข่าวลือข่าวจระเข้จากฟาร์มต่างๆ

หลุดออกมาไม่น้อยกว่า 100 ตัว วอน จนท.เร่งล่า 

หลังจากที่น้ำท่วมมานานนับเดือน ที่จังหวัดนครสวรรค์

และมีข่าวว่า จระเข้ที่หลุดจากฟาร์มต่างๆ

เริ่มหิวโหยลอยคอออกหาอาหารตามใต้ถุนบ้าน

ตามแม่น้ำลำคลอง ล่าสุดชาวบ้าน ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์

โดยมีชาวบ้านที่ออกหาปลาได้พบจระเข้ไม่ต่ำกว่า 3 ตัว

ที่ลอยตัวบนผิวน้ำ บริเวณ หมู่ 4 ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 

นายสมหมาย เดชสำลี อายุ 45 ปี อยู่ ม.4 ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์

เล่าว่า ชาวบ้านที่ ต.แควใหญ่ ต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา

ไม่มีใครกล้าออกจากบ้านยามค่ำคืน หลังจากทราบข่าวว่า

มีจระเข้หลายตัวหลุดมาจากฟาร์มแห่งหนึ่งจนล่าสุด

ตนได้ออกหาปลากับเพื่อนๆ ตามแม่น้ำน่าน

และพบกับจระเข้ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 3 ตัวว่ายน้ำมาใกล้เรือ

จึงได้ใช้หม้อแบตเตอรี่รถยนต์ช็อตเข้าที่ตัวจระเข้เพื่อให้มันสลบ

แต่มันก็ไม่สลบ และได้ว่ายน้ำหลบหนีไปทั้ง 3 ตัว

คาดว่ายังมีจระเข้ที่ยังหลบหนีอีกหลายตัว

หวั่นทำอันตรายต่อคนนายสมหมาย เล่าด้วยว่า

เวลานี้ชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดผวา

หลังทราบข่าวจระเข้หลุดจากฟาร์มมาหลบซ่อนตัวอยู่ตามใต้ถุนบ้าน

และตามโพรงหญ้าจำนวนหลายตัว

ทราบข่าวมาว่าตั้งแต่น้ำท่วมมีชาวบ้านสามารถจับจระเข้ได้แล้ว 5-6 ตัว

และคาดว่าน้ำท่วมครั้งนี้

น่าจะมีจระเข้หลุดไม่น้อยกว่า 100 ตัว

เวลานี้จระเข้ได้หิว อาศัยตามแม่น้ำลำคลอง 

ใต้ถุนบ้านใครบ้างก็ไม่รู้ ทางที่ดีทางจังหวัดน่าจะประกาศเตือนภัยชาวบ้าน

และจัดชุดไล่ล่า เพื่อให้ชาวบ้านได้อยู่อย่างสบายใจ

Credit : Innnews

 คุณภาพน้ำ ยม-เจ้าพระยา-ท่าจีน-บางปะกง วิกฤตหนัก

4 ตุลาคม 2554, 03:00น.

คุณภาพน้ำ 4 สายหลัก ”ยม – เจ้าพระยา – ท่าจีน – บางปะกง”

วิกฤติหนัก เริ่มเข้าสู่ภาวะเสื่อมโทรม

หลังหลายจังหวัดประสบปัญหาน้ำท่วมขังมาเป็นเวลานาน...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.นายอนุพันธ์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการคุณภาพน้ำ

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เปิดเผยว่า หลังจากหลายจังหวัดประสบปัญหาน้ำท่วมขัง

ตั้งแต่ทางตอนเหนือลงมา พบว่าคุณภาพของแม่น้ำ 4

สายหลักเริ่มอยู่ในระดับวิกฤติแล้ว โดยที่แม่น้ำยม

ถือว่าอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม ตั้งแต่บริเวณ อ.โพทะเล

อ.สามง่าม จ.พิจิตร มีค่าออกซิเจนละลาย 3-4 มิลลิกรัมต่อลิตร

 

ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ช่วงจ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง

ลงมาถึง กทม.ค่าดีโอ 1-2 มิลลิกรัมต่อลิตร ส่วนแม่น้ำท่าจีน

ตั้งแต่สถานีหันคา สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี อ.บางเลน

อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และกระทุ่มแบน

มีค่าดีโอตั้งแต่ 0.2-2 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งถือว่าเกณฑ์ที่วิกฤติมาก

ขณะที่ แม่น้ำบางปะกงอยู่ที่ 1.6 มิลลิกรัมต่อลิตร 

“ ที่ผ่านมาทาง คพ.ได้จัดเตรียมหัวเชื้อน้ำหมักชีวภาพ

เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ท้องถิ่นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง

เพื่อใช้ในช่วงเวลาหลังน้ำลด โดยการฉีดลงไปในน้ำเอาไว้เบื้องต้นแล้

ว แต่เนื่องจากปีนี้น้ำท่วมหนักปริมาณน้ำแผ่กระจายขยายวงไปมาก

เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา ก็กินเข้าไปถึงพื้นที่ จ.ลพบุรี

จนทำให้ไม่สามารถประเมินขอบเขตน้ำท่วมขังได้ชัด เจน 

โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง

พระนครศรีอยุธยา ทาง คพ.ได้ลงไปเก็บตัวอย่างคุณภาพน้ำเพื่อเฝ้าระวังแล้ว

และอยู่ในขั้นตอนการระดมน้ำสกัดชีวภาพ

ไปแจกจ่ายซึ่งจะใช้อัตราส่วน 1 ลิตรผสมน้ำ 200 ลิตร

รวมทั้งประสานขอความร่วมมือในการจัดหาลูกอีเอ็มบอล

ไปโยนทิ้งในพื้นที่น้ำลดลง โดยจุลินทรีย์ในก้อนอีเอ็มบอลจะกินของเสีย

และทำให้คุณภาพน้ำกลับสู่ภาวะปกติได้

อย่างไรก็ตาม แต่หากมีน้ำมาเติม

และไหลเข้าออกตลอดเวลาก็ทำให้ภาวะน้ำเน่าเสียบรรเทาลงได้“ นายอนุพันธ์ ระบุ

Credit : Thairath

ลุยสร้างบ้านพักถาวร ให้ชาวบ้านน้ำปาด

4 ตุลาคม, 01:00 น.

อ่างเก็บน้ำห้วยหลวงอุดรฯ เร่งระบายน้ำรับพายุลูกใหม่

4 ตุลาคม, 03:45 น.

ทหารอากาศ ที่มาจาก

กองบิน 2 ลพบุรี

กับภรรยา + ลูก + หลาน

ที่บอกว่า ภรรยาเขาดูรายการ

อ.อุบล มานานมาก เขาเชื่อถือศรัทธา

และทำตามทุกอย่าง ได้ผลทุกอย่าง

อ.อุบล

เลยถามว่า แล้วคุณน่ะ

เชื่อรึเปล่า ศรัทธาไหม แล้วคุณ

ได้ผลอะไรกะเขาไม๊

เชื่ออซีครับ

ศรัทธาเกินร้อยครับ

ตัวผมเอง เหมือนไม่มีอะไรมาก

มีแต่ปวดๆ หนักๆ ไหล่

มาวันแรกก็ใช้แรงกาย

มันรู้สึกเบา โล่ง หายไปเลย

ตอนแรกผมก็คิดว่า

อาจเป็นเพราะผมมาออกกำลังกาย

ได้เสียเหงื่อ ก็เลยหาย

แต่ดูคนอื่น

ที่มาแต่ละคน ก็หายเหมือนกัน

คราวนี้ อ.อุบล

เลยถามว่า

น้ำท่วมลพบุรีหนักขนาดนี้

บ้านคุณท่วมไหม

(จะดูว่าศรัทธาจริงป่าว)

ไม่ท่วมครับ อ.

แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่า

ถ้าน้ำมามากกว่านี้ บ้านผม

จะรอดไหม

แล้วคุณมีพีระมิดจำลอง

ของบ้านสวนพีระมิด

แล้วหรือยังล่ะ

ยังครับ

ว่าแล้วก็ไปบูชา

1 องค์

ลองดูนะ

แต่ต้องบูชาด้วยศรัทธา

แล้วใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

ได้ผลต้องเผยแพร่

ถ้าไม่บอกต่อ

ก็อดใช้อีกต่อไปนะ

เอ้ย ไม่ใช่ อดใช่

ใช้ได้ แต่ ไม่ได้ผล

แล้วไงส่งข่าวด้วยนะ

อ.อุบล ครับ

เมื่อวาน ดร.สิรภพ

โทร.หาผม

ให้บอกชาวลพบุรีว่า

น้ำจะมาอีก

ระลอกใหญ่กว่าเดิม

ใหญ่ขนาดไหน

ขนาดที่เรียกว่า

ให้คิดเอาเองว่า น้ำที่ท่วม

ลพบุรี

อยู่ขณะนี้ แค่ขั้นอนุบาล

แต่

ที่กำลังจะมา

มีทั้ง

ขั้นประถม  ขั้นมัธยม

และ

ขั้นมหาวิทยาลัย

ซึ่ง อ.อุบล

บอกไว้ก่อนแล้ว

แฟนผม ทั้งจด ทั้งจำ

ที่ อ.อุบล บอกครับ

ที่ ทีม ดร.สมิธ

ดร.สิรภพ + คุณปราโมทย์ ไม้กลัด

ไปบอกนะ อ. ไม่มีใครเชื่อเลย

อ้อ

มีที่หนึ่ง ที่เชื่อ

คือ ผอ.เทคนิคละโว้

เขาขนคอม อุปกรณ์สำคัญ

ทางการศึกษาขึ้นชั้นบนหมดเลย

ที่นั่นเขาเลยรอด คือ ไม่เสียหายมาก

ของสำคัญเขารักษาไว้ได้

แต่ที่อื่น ไม่มีใครทำเลยครับ

จ้า

อ.อุบล ทำรายการ

เตือนภัยมา ตั้งแต่ปี 50

ถึงวันนี้ ก็มีทั้งคนเชื่อ ไม่เชื่อ

แต่ที่อัศจรรย์

คือ ฝรั่ง เชื่อ อ.อุบล

มากกว่าคนไทย

และ เขาจำได้ทุกเรื่อง ที่ อ.อุบล

บอก เตือนภัยไว้

วันนี้

มีฝรั่งที่เคยมาบ้านสวนฯ

เขาชื่อ ออสการ์

เขาพูดกับภรรยาเขาว่า

เห็นไหม

ที่ อุบล บอกไว้

มันเกิดแล้ว เกิดเร็วกว่า

ที่ ชี บอกอีก จริงทุกอย่างเลย

บังเอิญ

ตาฝรั่งคนนี้ แกเชื่อ

อ.อุบล มาก

เพราะแกป่วย หมอนัดผ่า

แต่ภรรยาแกพามาบ้านสวนฯ

กลับไปตรวจ ไม่ต้องผ่า

แกเลยอดเสียตังค์

ไอ้ที่เสียไปแล้ว

7 หมื่นกว่า ค่าตรวจ

เพราะแกอยากมีหลักฐาน

ว่าแกเป็นอะไร ก่อนมาบ้านสวน

แล้วจะได้พิสูจน์อย่าง

นักวิทยาศาสตร์

ที่ไม่ใช่แค่พูด เชื่อ จะได้เอาไว้

ใช้อ้างอิง

เออ

แกรอบคอบเนาะ

แต่ ต้องจ่าย ค่ารอบคอบ

70,000 กว่า

แต่แกก็บอกว่าคุ้มค่า

และ

แกก็เห็นภรรยา

แกหายทุกโรค ทั้งที่อยู่กันมา

หลายสิบปี ต้องพาเข้า รพ.

ดึกๆ ดื่นๆ แกเห็นว่า

หายจริง

แม่ยายก็หาย

ปกติ จ่ายค่ารักษาแม่ยาย

ทุกเดือน เดือนละ 3-4 พันบาท

แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องจ่าย

แกก็เลย

เชื่อ มากกว่าคนไทย

ที่ได้ผลเหมือนแก

บางคนพาญาติพี่น้อง

เพื่อนฝูงมา หายทุกคน

รวมทั้งตัวเอง

แต่พอหายแล้ว

ก็ลืม

คิดว่าตัวเองเก่งเอง

เบื้องบนท่านก็เลย

จัดน้ำมาสั่งสอนคนพวกนี้

โดยเฉพาะ

ที่ลพบุรี ท่านบอก

คนไม่ดี มันมีมาก ปากมันไม่ดี

ใจมันไม่ดี การกระทำ

มันไม่ดี

ดังนั้น

ทำให้คนดีๆ ที่ลพบุรี

ต้องเจอกรรมนี้ไปด้วย

เรียกว่า

อยู่ปะปน กับคนซวย

มันก็ต้องพลอยซวย

แล้วก็อีกหลายแห่ง

หลายที่ ที่น้ำท่วม และ ยังไม่ท่วม

เดี๋ยว คนชั่ว ที่ไม่เชื่อคำสอน

พระพุทธเจ้า

ไม่เคารพนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ปรามาส จาบจ้วงล่วงเกิน

พระเจ้าอยู่หัว

และ

ผู้บริสุทธิ์

ต้องเจอหนังตัวอย่าง

มาเตือนซะหน่อย

ยิ่งซ่าส์ ยิ่งเจอ

จงคอยดู

อยากจะรู้

คนเก่ง มันจะเก่งกว่าตู

ให้มันรู้ไป

อาริยาขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลที่เมตตาคอยเตือนชี้เเนะผู้คนทั่วโลกตลอดเวลา ทั้งๆที่ท่านมีภารกิจมากมาย ช่างเป็นบุญใหญ่ของเราที่ได้รับคำชี้เเนะตลอดเวลา อาริยาขออนุญาติท่านอาจารย์เผยเเพร่ต่อให้กับเเม่ชีที่วัดมงคลประสิทธิ์เเละท่านอื่นๆด้วยค่ะ็ เพราะตอนนี้วัดน้ำท่วมถึงโบสถ์บันไดที่ ขั้นที่ 5 เเล้ว (ทั้งหมดมี 7 ขั้น)  ได้เรียนท่านให้ท่านจำรหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย ท่านรีบจดด้วยความศรัทราเเละบอกต่อๆ กันในอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ เเละขอให้ท่านที่ได้รับกำลังใจเข้มเเข็ง สู้ต่อไป  เช้านี้ท่านก็มีโอกาสนั่งเรือออกมาซื้ออาหารไปถวายพระเเละชีอีก ค่ะ  

อ.อุบล ทำรายการ

เตือนภัยมา ตั้งแต่ปี 50

ถึงวันนี้ ก็มีทั้งคนเชื่อ ไม่เชื่อ

 แต่ที่อัศจรรย์

คือ ฝรั่ง เชื่อ อ.อุบล

มากกว่าคนไทย

และ เขาจำได้ทุกเรื่อง ที่ อ.อุบล

บอก เตือนภัยไว้

วันนี้

มีฝรั่งที่เคยมาบ้านสวนฯ

เขาชื่อ ออสการ์

เขาพูดกับภรรยาเขาว่า

เห็นไหม

ที่ อุบล บอกไว้

มันเกิดแล้ว เกิดเร็วกว่า

           ที่ ชี บอกอีก จริงทุกอย่างเลย                

แล้วก็อีกหลายแห่ง

หลายที่ ที่น้ำท่วม และ ยังไม่ท่วม

เดี๋ยว คนชั่ว ที่ไม่เชื่อคำสอน

พระพุทธเจ้า

ไม่เคารพนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ปรามาส จาบจ้วงล่วงเกิน

พระเจ้าอยู่หัว

และ

ผู้บริสุทธิ์

ต้องเจอหนังตัวอย่าง

มาเตือนซะหน่อย

“น้ำมูล”บุรีรัมย์สูงต่อเนื่อง ล้นท่วมนาข้าว 2 อำเภอแล้ว 5,000 ไร่

บุรีรัมย์ - น้ำมูลเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 10 - 20 ซม. ล่าสุดล้นฝั่งเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรใน 2 อำเภอ คูเมืองและพุทไธสง 5,000 ไร่ ได้รับความเสียหายสิ้นเชิงแล้วกว่า 500 ไร่ ขณะท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ ( 3 ต.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ยังมีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นวันละ 10 - 20 เซนติเมตร (ซม.) มานานร่วมสัปดาห์แล้ว หลังน้ำเหนือจากจังหวัดนครราชสีมา และน้ำในลำน้ำธรรมชาติ ได้ไหลมาสมทบรวมกับน้ำในลำน้ำมูล ประกอบกับที่ผ่านมาได้รับอิทธิพลจากพายุ ไห่ถาง เนสาด และนาลแกทำให้ฝนตกชุกในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ล่าสุดน้ำได้ล้นตลิ่ง เข้าท่วมนาข้าวที่กำลังออกรวงของเกษตรกร ในเขตพื้นที่อำเภอพุทไธสง และ อ.คูเมืองรวม 3 ตำบล แล้ว ร่วม 5,000 ไร่ เสียหายไปแล้วกว่า 500 ไร่ แต่ยังไม่ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร

กรณีดังกล่าวทางจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีพื้นที่ติดลำน้ำมูลได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ติดลำน้ำมูล ได้เตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายสิ่งของมีค่า สัตว์เลี้ยงขึ้นสู่ที่สูงเพื่อรับสถานการณ์น้ำที่อาจจะล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายได้

ด้านนายเดือน บุณครอบ นายกองค์การบริหารส่วนตำบ้านแพ อ.คูเมือง กล่าวว่า น้ำมูลได้ไหลเอ่อเข้าท่วมไร่นาของเกษตรกรที่ติดลำน้ำมูลใน 4 หมู่บ้านแล้วกว่า 1,000 ไร่ มานานร่วมสัปดาห์แล้ว ล่าสุดได้รับความเสียหายแล้วกว่า 200 ไร่ ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องวันละ 10 - 20 เซนติเมตร ทางองค์การบริหารส่วนตำบลได้แจ้งเตือนประชาชนติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความสูญเสียจากภาวะน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นดังกล่าวด้วย

ผวจ.สุพรรณฯสั่งระบายน้ำลงท่าจีนเต็มพิกัด

ผวจ.สุพรรณบุรี เผย เตรียมรับมือน้ำจาก จ.ชัยนาท ที่จะไหลเข้าแม่น้ำท่าจีน คาดว่าน้ำจะมาถึง อ.สามชุก ประมาณเย็น 4 ต.ค. โดยเตรียมรับมือด้วยการผันน้ำออกสู่คลองคู่ขนานกับแม่น้ำท่าจีน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน 2 ริมฝั่ง แต่ชาวบ้านต้องพร้อมหนีขึ้นที่สูง...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2554 นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการ จ.สุพรรณบุรี เผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนช่วงตั้งแต่ อ.เดิมบางนางบวช ลงมา ระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการระบายน้ำของประตูระบายน้ำพลเทพ จ.ชัยนาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตกลงกันระหว่างประชาชนของ จ.ชัยนาท กับ จ.สุพรรณบุรี ว่าจะระบายน้ำเข้าสู่แม่น้ำท่าจีน 210 - 225 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่วันก่อนได้ระบายออกมาสูงถึง 320 ลบ.ม.ต่อวินาที เต็มความสามารถการระบายน้ำของประตูพลเทพ ปรากฏว่าล่าสุดน้ำไหลทะลักลงมาถึง 340 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็นการทะลักของน้ำที่เกินขีดความสามารถของประตูระบายน้ำพลเทพ เนื่องจากเหนือประตูระบายน้ำพลเทพถูกน้ำจาก 2 ฝั่งของประตูระบายน้ำไหลรวมลงมาด้วย คาดว่าน้ำทั้งหมดนี้จะมาถึง อ.สามชุก ประมาณช่วงเย็นของวันที่ 4 ต.ค.และจะลงมาถึง อ.ศรีประจันต์ อ.เมืองสุพรรณบุรี อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง ตามลำดับ

ผวจ.สุพรรณบุรี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้จังหวัดกำลังวางแผนแก้ไขด้วยการเตรียมผันน้ำออกสู่คลองคู่ขนานกับแม่น้ำท่าจีน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน 2 ริมฝั่งท่าจีนอยู่ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่อยู่ 2 ริมฝั่งท่าจีนต้องเตรียมความพร้อมในการอพยพไว้ด้วย โดยเฉพาะชาวบ้านในเขต อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง และเขตอ.เมืองสุพรรณบุรี บางส่วนที่เป็นพื้นที่ลุ่มที่ปัจจุบันก็ถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว นอกจากนี้ตนยังได้ทำเรื่องขอยกเว้นหลักเกณฑ์การดำเนินการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมตามปกติไปยังกระทรวงมหาดไทยต่อไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้จังหวัดสามารถดำเนินการผันน้ำออกไปยังคลองซอยและคลองคู่ขนานต่างๆได้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้าน 2 ริมฝั่งท่าจีนต้องทุกข์หนักไปกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งในเขต อ.บางปลาม้า เช่น ต.จรเข้ใหญ่ และที่อ.สองพี่น้อง เริ่มประสบปัญหาแล้ว

ไทยรัฐออนไลน์

น้ำเจ้าพระยาสูง2ม. เร่งเสริมคันกั้น หวั่นท่วมเมืองเอก-รังสิต






ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 2 เมตร ชาวบ้านช่วยกันกั้นกระสอบทรายเพิ่ม หวั่นน้ำท่วมหมู่บ้านเมืองเอก-มหาวิทยาลัยรังสิต...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขต ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลังระดับน้ำสูงขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ในพื้นที่ ต้องเร่งเสริมดินแนวคันกั้นทับแนวกระสอบทราย ถนนเส้นทาง เพิ่มความแข็งแรงเพื่อกั้นน้ำที่มีปริมาณมากจนล้นคันกั้น และเสริมแนวคันดินเพิ่มอีก 30-50 ซม. เพื่อรับมือน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเป็นถนนเลียบแม่น้ำ ที่ระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งล้นแนวคันดินเดิม หลายพื้นที่น้ำไหลทะลักเข้าท่วม ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกบ้าน ชาวบ้านบางรายทำแพไม้ไผ่เตรียมเคลื่อนย้ายข้าวของหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉุกเฉิน

ส่วนเส้นทาง ถ.ซ้อมสร้าง ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี วันนี้ปริมาณน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนี่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น บวกกับต้องรับน้ำจากประตูระบายน้ำรังสิต ที่เร่งสูบน้ำตลอด 24 ชม. ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งปิดกั้นถนนและนำหินคลุกมาลงกั้นบริเวณเลนกลับรถ ไม่ให้น้ำข้ามไปยังอีกฝั่งถนน ป้องกันไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านรังสิตซิตี้ (แฟลตปลาทอง) ส่วนอีกฝั่งเจ้าหน้าที่ระดมคนงานช่วยกันทำแนวกั้นกระสอบทราย ไม่ให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านเมืองเอกและมหาวิทยาลัยรังสิต โดยวันนี้ได้เสริมแนวกั้นสูงกว่าเดิม 2 เมตร และให้ชาวบ้านช่วยกันตรวจตราดูระดับน้ำในเวลากลางคืนด้วย.

เชียงใหม่อ่วม! น้ำป่าทะลัก เร่งขนคนออกจากเขื่อน





น้ำป่าทะลักและดินสไลด์ในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง เป็นเหตุให้น้ำในลำน้ำแจ่ม ลำน้ำแม่น้ำกลาง ลำน้ำแม่หาด และลำน้ำสายอื่นมีระดับสูงขึ้น เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนพื้นที่ลุ่มน้ำและถนน...

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดน้ำป่าทะลักและดินสไลด์ในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง เป็นเหตุให้น้ำในลำน้ำแจ่ม ลำน้ำแม่น้ำกลาง ลำน้ำแม่หาด และลำน้ำสายอื่นๆ มีระดับสูงขึ้น เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนพื้นที่ลุ่มน้ำและถนน ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา โรงเรียนในเขตอำเภอฮอด อำเภอดอยเต่าหลายโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนได้สั่งปิดโรงเรียนเนื่องจากครูมาทำการสอนไม่ได้ นอกจากนี้ที่อำเภอดอยเต่า เขื่อนผากั๊บหรือเขื่อนแม่ตูบ ซึ่งเป็นเขื่อนดิน ตั้งอยู่ในเขตหมู่ที่ 5 ต.ดอยเต่า อ.ดอยเต่า กั้นลำน้ำแม่ตูบ ขณะนี้มีปริมาณน้ำมาก ใกล้จะเกินความจุของเขื่อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ซึ่งอยู่ใต้เขื่อน ได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนลูกบ้านที่ปลูกบ้านอยู่บริเวณคลองส่งน้ำ ให้รีบเก็บข้าวของเครื่องใช้และสัตว์เลี้ยงโดยด่วน เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะล้นเขื่อน และเขื่อนอาจจะแตก ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้อพยพมาอยู่ที่วัดบ้านฉิมพลี ซึ่งเป็นที่สูงและปลอดภัยจากน้ำท่วมแล้ว

ส่วนที่อำเภอฮอด เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ไปสังเกตการณ์บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแม่แจ่ม ถนนหมายเลข 108 เชียงใหม่ - ฮอด จากหัวสะพานไปตลาดเทศบาลฮอด ต.หางดง อ. ฮอด น้ำป่าจากลำน้ำแม่แจ่มได้ไหลเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านและป้อมยามตำรวจฮอดตามริมถนน สูงประมาณ 2.50 เมตร ทำให้รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถข้ามผ่านไปได้และน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีมวลน้ำจำนวนหนึ่งจากอำเภอแม่แจ่มกำลังไหลมาสมทบ

นายสิทธิชัย ตรีศีลสัตย์ ปลัดฝ่ายป้องกัน อ.ฮอด กล่าวว่า จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นในเขตอำเภอฮอด มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมประมาณ 500 หลัง และได้รายงานให้ ผวจ.เชียงใหม่ทราบแล้ว ขณะนี้ทางอำเภอได้ระดมกำลังทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าช่วยเหลือ โดยเฉพาะอาหารและน้ำดื่ม ส่วนรถยนต์ที่จะเดินทางไป อ.ดอยเต่า อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ไม่สามารถผ่านไปได้ เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลากจากดอยสูง ท่วมถนนและสะพานอย่างหนัก ประกอบกับน้ำแม่แจ่มหนุน จึงทำให้น้ำท่วมถนนเป็นบริเวณกว้าง จาก กม.ที่ 4 ถึงกม.ที่ 9 เป็นช่วงๆ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางไว้ไม่ให้รถผ่าน กลัวเกิดอันตรายจากน้ำป่าพัดและดินสไลด์ ส่วนผู้ที่จะเดินทางจาก อ.ฮอด ไปเชียงใหม่ ขณะนี้ก็ไม่สามารถไปได้เช่นเดียวกัน ขณะนี้ชาวอำเภอฮอดถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ส่วนที่อำเภอแม่แจ่มก็ถูกตัดขาดเช่นเดียวกัน เนื่องจากเกิดดินสไลด์และต้นไม้โค่นล้มปิดเส้นทางบริเวณดอยอินทนนท์ อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่.

ไทยรัฐออนไลน์

น้ำท่วมทะลักท่าพระจันทร์ จนท. เร่งเสริมกระสอบทรายกั้นทางน้ำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ตุลาคม 2554 20:16 น.




น้ำท่วมบริเวณท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร น้ำยังคงท่วมบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชน ทำให้การสัญจรเป็นไปด้วยความลำบาก แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งแก้ปัญหาด้วยการทำทางเดินด้วยไม้ยกสูงขึ้น เพื่อให้การสัญจรสะดวกขึ้น
       
       วันนี้ (3 ต.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณท่าพระจันทร์ ท่าเตียนและท่าช้าง น้ำได้เอ่อเข้าท่วมช่อง เดินเท้าบริเวณที่ขายอาหาร พระเครื่องและร้านค้าต่างๆ สูงประมาณเกือบถึงหัวเข่า ชาวบ้านต้องลุยน้ำอย่างทุลักทุเล แต่ชาวบ้านชินกับสภาพน้ำเอ่อท่วมดังกล่าว เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว เชื่อว่าหากน้ำทะเลไม่หนุนสูงขึ้น คงจะ ไม่ลำบากไปมากกว่านี้และทุกปีก็เจอสภาพน้ำเช่นนี้เป็นประจำ
       
       แม้ว่าขณะนี้ระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้น แต่เชื่อว่าทางกทม.จะสามารถรับมือได้ และมั่นใจว่าในช่วงที่อิทธิพลพายุนาลแกที่จะเข้าประเทศไทยระหว่างวันที่ 4-5 ตุลาคมนี้ จะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้เช่นกัน ใน ส่วนแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณท่าราชวรดิฐ สโมสรทหารเรือนั้น ผู้ว่าฯกทม.สั่งเสริมแนว กระสอบทรายให้สูงขึ้นจากแนวป้องกันน้ำท่วม ถาวรอีก 30 ซม.เพื่อไม่ให้คลื่นน้ำเอ่อล้นเข้า เขตพระราชฐาน ทำให้แนวป้องกันบริเวณดังกล่าวมีความสูงตลอดแนว 2.80 เมตร พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยประตูระบายน้ำท่าราชวรดิฐ ซึ่งควบคุมการระบาย น้ำพื้นที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง ท่าเตียน ท่าช้างและท่าพระจันทร์ ไม่ให้เกิดน้ำท่วมขัง
       
       ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้รับมอบเรือจากตัวแทน หจก.ไทยพิพัฒน์ อิมปอร์ต จำนวน 10 ลำ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

มหาสารคาม - น้ำท่วมโกสัมพีทำลิงกว่าพันตัวขาดอาหาร

น้ำท่วมโกสัมพีทำลิงกว่าพันตัวขาดอาหาร

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีที่ไหลผ่าน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ยังคงอยู่ในระดับวิกฤต โดยระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น
ทุกวัน เฉลี่ยวันละ 5 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้สูงกว่าระดับตลิ่งอยู่ที่ 33 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายในวงกว้างขณะเดียวกัน ที่วนอุทยานโกสัมพี อ.โกสุมพิสัย ซึ่งเป็นที่อยู่ของลิงแสมกว่า 1,000 ตัว
บนพื้นที่ 125 ไร่ ถูกน้ำท่วมขังทั้งหมด โดยจุดที่ลึกที่สุดภายในวนอุทยานความลึกอยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 5 เมตร
อีกทั้งน้ำจากแม่น้ำชีที่เอ่อล้นขึ้นมา ได้กัดเซาะต้นจามจุรีขนาดใหญ่ อายุกว่า 200 ปี หักโค่นลงมาด้วย ทำให้ฝูงลิงแสมต้องหนีตายกระจัดกระจายไปอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่นตามกำแพงวัด ตามบ้น ยอดต้นไม้ ตามถนน ด้านหน้า และด้านข้างวนอุทยานที่ยังไม่ถูกน้ำท่วมแทน ซึ่งลิงทั้งหมดขาดแคลนแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เนื่องจากต้นกระเบา ที่เป็นแหล่งอาหารของลิง อยู่ภายในวนอุทยานที่ถูกน้ำท่วม โดยคาดว่าต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ลิงแสมทั้งหมดจะเข้าไปใช้ชีวิตภายในวนอุทยานได้ดังเดิมอย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลตำบลหัวขวาง ได้นำอาหารและผลไม้มาเลี้ยงลิง เนื่องจากมีค่าอาหารประจำเดือน ๆ ละ 4,000 บาท จากการจัดงานประเพณีบุญพาข้าวลิง ที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของลิงได้อีกทางหนึ่ง นายศิริพรรณ ขุ่มด้วง นายอำเภอโกสุมพิสัย อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ได้ให้ทางเทศบาลตำบลหัวขวางเป็นหน่วยที่รับผิดชอบ ทางเทศบาลตำบลหัวขวาง ได้นำอาหารและผลไม้มาเลี้ยงลิง เนื่องจากมีค่าอาหารประจำเดือน ๆ ละ 4,000 บาท และในช่วงที่น้ำเริ่มท่วมเข้าวนอุทยานโกสัมพีในช่วงแรก ได้เพิ่มค่าอาหารป็น 5,500 บาท
และล่าสุดทางอำเภอได้สั่งให้เทศบาลตำบลหัวขวางได้มาเบิกค่าใช้จ่ายให้กับลิงเป็น 10,000 บาท เพื่อให้ลิงได้มี
อาหารกิน

สถานการณ์น้ำท่วม เหนือ-กลางวิกฤตต่อเนื่อง



ชาวบ้านหัวข่วง ตำบลสองแคว อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ที่อาศัยอยู่ติดกับแม่น้ำปิง ต้องรื้อบ้านออก เนื่องจากน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นและกัดเซาะตลิ่งยาว 500 เมตร หากปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูง คาดว่าชาวบ้านต้องรื้อบ้านเพิ่มอีกหลายหลัง ส่วนในพื้นที่ตำบลสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง น้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ประกอบกับฝายชะลอน้ำขาดหลายแห่ง

เช่นเดียวกับชาวบ้านท่าข้ามตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ต้องพายเรือเข้ามาตรวจข้าวของที่ทิ้งไว้ภายในบ้าน เพราะนอกจากถูกน้ำท่วมสูงแล้ว ยังมีพายุฝนพัดทำให้คลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าตัวบ้านจนหน้าต่างและฝาบ้านพัง ล่าสุดน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นและต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา

ส่วนที่จังหวัดอุดรธานี อิทธิพลของพายุเนสาดส่งผลให้เกิดฝนตกอย่างหนักในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ถนนบางจุดถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก ขณะที่เทศบาลเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังลงสู่ลำห้วยต่างๆ ในเขตรอบนอกเทศบาล เพื่อป้องกันน้ำท่วมในย่านใจกลางเศรษฐกิจ

ด้านองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี เร่งผันน้ำจากแม่น้ำมูล บริเวณแก่งตะนะ อำเภอสิรินธร ลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อช่วยลดระดับน้ำที่ท่วมขังพื้นที่ราบลุ่มในเขตอำเภอเมือง, อำเภอวารินชำราบ และอำเภอตาลสุม และยังเป็นการเตรียมรับมือกับมวลน้ำเหนือจากจังหวัดขอนแก่นที่คาดว่าจะไหลบ่ามาสมทบในอีก 2 สัปดาห์

ส่วนฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องส่งผลให้อ่างเก็บน้ำ 10 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม มีปริมาณน้ำสูงเกินกว่าระดับกักเก็บปกติ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำ โดยเฉพาะอ่างเลิงจาน ลงสู่แม่น้ำชี เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม

เช่นเดียวกับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญ 4 แห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดมีปริมาณน้ำกักเก็บเกินร้อยละ 93 ของความจุอ่าง ขณะที่จังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศให้พื้นที่อีก 12 อำเภอ รวมทั้งหมด 18 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัย เพื่อเร่งจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือชาวบ้าน

สถานการณ์อุทกภัยจังหวัดปราจีนบุรีมีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 7 อำเภอ 62 ตำบล 685 หมู่บ้าน 22 ชุมชน ผู้ได้รับความเดือดร้อน 11,067 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 51,358 ไร่ ส่วนอำเภอบ้านสร้าง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และสูงกว่าระดับวิกฤต 0.78 เมตร ทำให้ถนนที่เชื่อมต่อกับตัวจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทราถูกกระแสน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่ตั้งอยู่บริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำ ชาวบ้านต้องเร่งเก็บข้าวของมากางเต็นท์พักอาศัยอยู่ริมถนน

ส่วนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ชาวบ้านในชุมชนวัดศาลาแดงเหนือ ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก กว่า 100 หลังคาเรือน ต้องพายเรือออกมารับถุงยังชีพที่ทางจังหวัดนำมาแจก เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร สร้างความลำบากให้กับชาวบ้านมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากเขื่อนขนาดใหญ่ 26 เขื่อน จากทั้งหมด 33 เขื่อน มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ขณะที่หลายแห่งปริมาณน้ำเริ่มล้นเขื่อนแล้ว โดยที่เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีปริมาณน้ำมากถึงร้อยละ 94, เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำมากถึงร้อยละ 99 ส่วนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก มีปริมาณน้ำมากถึงร้อยละ 95, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาณน้ำเกินความจุอยู่ที่ร้อยละ 136 ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งระบายน้ำออกเต็มที่

ส่วน พายุไต้ฝุ่นนาลแก ที่พัดถล่มประเทศฟิลิปปินส์ แม้ว่าจะลดระดับความรุนแรงลงแล้ว แต่เส้นทางของพายุลูกนี้ยังไม่ชัดเจน โดยกลุ่มนักวิชาการและกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า พายุนี้น่าจะพัดขึ้นฝั่งที่เกาะไหหลำ ประเทศจีน ในเส้นทางเดียวกับพายุเนสาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยไม่มากนัก

อยุธยาท่วมวัดไชย3ม.-คันกั้นน้ำวัดสะแกพัง

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 4 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 07:36 น.








อยุธยาอ่วมหนัก น้ำท่วมวัดไชยวัฒนาราม สูง 3 เมตร ประชาชนขนของหนีวุ่น ขณะ ปทุมธานียังวิกฤต พบแนวคันกั้นน้ำ วัดสะแก พัง ทำน้ำทะลักล้นท่วม

แนวคันกั้นน้ำรอบวัดสะแก ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นคันดินสูง 2 เมตร หน้าวัดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา สาเหตุจากฝนตกตลอดทั้งคืน ทำให้คันดินอ่อนตัวประจวบกับลูกคลื่นจากเรือบรรทุก ที่วิ่งส่งสินค้าตลอดคืน ทำให้ลูกคลื่นน้ำแรง ตีแนวคันดินพังลงไปน้ำทะลักเข้า ท่วมในรอบวัดสูงกว่า 1 เมตร และสิ่งของภายในวัด พระในวัดยังไม่ทันเก็บข้าวของก็จมน้ำหายไปแล้ว ทำให้ชาวบ้านแตกตื่น เนื่องจากมีเสียงประกาศให้ชาวบ้านออกมาช่วยกันเสริมคันแนวกั้นน้ำ ไม่อย่างนั้นพื้นที่ชั้นในจมแน่

นอกจากนี้ กองทรายที่ทาง อบต.สามโคก นำมากองเพื่อให้ชาวบ้านได้ช่วยกันบรรจุทรายใส่กระสอบเตรียมหนุนแนวบนถนนสายสามโคก สายในตลอดเส้นทาง ก็จมน้ำไปด้วย ทำให้ชาวบ้าน ต้องลงไปช่วยงมกระสอบทรายเรียงตัวส่งเป็นทางขึ้นมาจากน้ำสูงถึงเอว และที่คอสะพานข้ามคลองสามโคกได้ถูกน้ำกัดเซาะ น้ำทะลักเข้าคลองทำให้ชาวบ้าน ต้องช่วยกันนำกระสอบทรายมาถม ทำให้ น้ำหยุดไหลได้สำเร็จ ส่วนกระสอบทรายจมน้ำนั้น ทำให้ชาวบ้านต้องลงไปงมกระสอบทรายขึ้นมาใส่รถ เพื่อนำไปเสริมแนวคันกั้นน้ำตลอดเส้นทางที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มสูงกว่า 10 ซ.ม. ส่วนเจ้าหน้าที่ อบต. ไม่มีผู้สั่งการ เนื่องจาก ตัวนายกฯ หมดวาระลง จะออกมาช่วยเหลือชาวบ้านไม่ได้ ก็กลัวฝ่ายตรงข้ามจะร้องเรียน จึงมีแต่ เจ้าหน้าที่ อบต. เพียง 2 คน ออกมาช่วยกันป้อง


 

อุตุฯ ประกาศเตือนภัยพายุ “นาลแก” ฉบับ 2 จ่อถล่ม อีสาน ตะวันออก ภาคกลางอ่วมซ้ำ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 3 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน พายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร ทางตะวันออก ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

ทั้งนี้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก

ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ด้านนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
 
เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์ปัญหาอุทกภัย ณ ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ที่กรมชลประทาน สามเสน ว่า สถานการณ์น้ำในวันนี้ยังคงมีปริมาณน้ำค้างอยู่ในหลายพื้นที่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปริมาณน้ำที่จะมาเพิ่มเติมจากอิทธิพลของพายุเนสาด และนาลแก ทำให้ปริมาณน้ำที่ จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 4,398 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่มีปริมาณไหลผ่าน 4,362 ลบ.ม./วินาที

โดยจากการตรวจสอบภาพจากดาวเทียมกรมชลฯ ได้ประเมินปริมาณก้อนน้ำที่อยู่เหนือ จ.นครสวรรค์

ขึ้นไปคาดว่าจะมีอยู่ประมาณ 3,700 ล้านลูกบาศ์กเมตร จึงได้กำชับกรมชลประทานในการเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ผ่าน อ.บางไทร ในช่วงที่น้ำทะเลจะหนุนสูงในช่วงระหว่างวันที่ 16-17 ต.ค.นี้ พร้อมทั้งแจ้งเตือนกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงได้แก่ นนทบุรี และปทุมธานี เพื่อรับมือสถานการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น
 
ขณะที่นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหาร ว่า
 
ที่ประชุมได้กำชับให้ติดตามสถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้ำที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนป่าสักมีปริมาณค่อนข้างสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบใน จ.ปทุมธานี และเขตมีนบุรี เขตหนองจอก ที่อยู่ทางด้านฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ แต่ยังยืนยันว่ากรุงเทพฯ ยังสามารถรับมือได้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำที่มีการคาดการณ์ล่าสุดพบว่าน้ำฝนมีปริมาณ 1,867 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 37.8% ซึ่งลดลงจากในช่วงสัปดาห์ก่อนที่มีปริมาณ 40-50% แต่ใน 7 วันข้างหน้า ปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มขึ้นเป็น 60-70% จึงต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด. 
 

ขอร่วมอนุโมทนาบุญทุกบุญและทุกท่านที่ได้นำความเคลื่อนไหวของน้ำมาบอกค่ะ  สาธุ  สาธุ  สาธุ

คลิป ทอร์นาโด ถล่มเมืองในแอฟริกาใต้

MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศ เผยภาพคลิปวิดีโอจากช่างภาพสมัครเล่น ระหว่างที่พายุทอร์นาโดได้พัดผ่านเมืองดูดูซา เมืองเล็กๆทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 ต.ค.)
ส่งผลให้เด็กชายวัย 8 ขวบเสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 166 คน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 150 หลังผู้คนไร้ที่อยู่อาศัยจำนวนมากต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์อเนกประสงค์ของเมือง ล่าสุดมีการประกาศให้เมืองดูดูซาเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว
ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า ไม่เคยเห็นพายุทอร์นาโดมาก่อนในชีวิต และรู้สึกกลัวมาก ขณะที่พรรคฝ่ายค้านของแอฟริกาใต้ เรียกร้องให้มีการสอบสวนการก่อสร้างบ้านที่ไม่ได้มาตรฐาน

เกาะ Tavalu นิวซีแลนด์ ในทะเลแปซิฟิก ขาดน้ำจืด นักวิชาการบอกว่ามาจากผลของลาญินญ่า


NZ helps Tuvalu with fresh water emergency

6:33 PM Monday Oct 3, 2011


Expand
New Zealand defence forces are heading to Tuvalu to help with a water crisis. Photo / NASA



A New Zealand team has been sent to help in Tuvalu as the Pacific Island nation struggles with a water shortage.
Tuvalu, which has a population of less than 11,000, declared a state of emergency last week following water shortages in the capital Funafuti and a number of outer islands.
A New Zealand Defence Force Hercules arrived in the country this afternoon to deliver Red Cross workers and supplies, including two desalination units, as well as water containers.
Foreign Minister Murray McCully said Wellington-based High Commissioner Gareth Smith and another Foreign Affairs Ministry staff member had also travelled to Tuvalu and would stay to see what other help was needed.
"New Zealand will be working with partners and other donors to consider the best medium- to long-term response options,"" he said.
Mr McCully said in a statement that water is scarce in the capital, Funafuti, as well as in a number of outlying islands.
Mr McCully said New Zealand"s defence services were flying today to Tuvalu armed with supplies including two desalination units. The New Zealand Red Cross is also contributing supplies and people to help.

Tuvalu officials could not be immediately reached by The Associated Press.
Less than 11,000 people live on Tuvalu"s series of low-lying coral atolls.

ตากตั้งวอร์รูมเกาะติดน้ำเขื่อนภูมิพล

04 ตุลาคม 2554 เวลา 14:06 น.

กฟผ.ตากตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลอย่างใกล้ชิด ยันสามารถรับน้ำได้อีก 721.96 ล้านลบ.ม.


นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก กล่าวว่า ได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ผ่านไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเสียงตามสายประจำหมู่บ้าน เพื่อทำความเข้าใจให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิง ในพื้นที่อ.สามเงา อ.บ้านตาก และอ.เมืองตาก ว่าอย่าได้ตื่นตระหนักกับปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้น จากการที่เขื่อนภูมิพลเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งทางเขื่อนฯยืนยันว่า ยังสามารถบริหารจัดการได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อน อีกทั้งผู้บริหารของเขื่อนภูมิพลยังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเขื่อนภูมิพลยังมั่นคงแข็งแรง

นอกจากนี้ มีรายงานว่าระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลอยู่ที่ 257.66 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำสูงกว่าปีที่ผ่านมา 25.04 เมตร (หรือมากกว่าปีที่แล้วในวันเดียวกันถึง 6127.68 ล้านลูกบาศก์เมตร ) มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลถึง 117.69 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งสิ้น 12,694.25 ล้านลูกบาศก์ คิดเป็น 94.30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลยังสามารถรับน้ำได้อีก 721.96 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 5.36 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำ 24 ชั่วโมง วันละประมาณ 46 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรักษาระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ อัตราการไหลประมาณ 480 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอัตราการไหลของแม่น้ำวังประมาณ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมแล้วลำน้ำปิงมีอัตราการไหล 1,080 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งลำน้ำปิงสามารถรับน้ำได้ในอัตรา 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ประกาศ!! รถไฟสายเหนือหยุดวิ่งทุกขบวน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

4 ตุลาคม 2554 14:36 น

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกาศหยุดเดินรถสายเหนือทุกขบวน เนื่องจากพบว่า มีน้ำท่วมรางรถไฟยาวกว่า 12 กิโลเมตร รวมถึงระดับน้ำยังเอ่อท่วมสถานีรถไฟด้วย อย่างไรก็ตาม ขบวนรถไฟท้องถิ่นยังวิ่งให้บริการตามปกติ คือ ช่วงพิษณุโลก-ชุมแสง-เด่นชัย

น้ำทะลัก รพ.บางปะหัน วอนช่วยเหลือด่วน

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 4 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 14:37 น.

น้ำทะลัก ท่วมโรงพยาบาลบางปะหัน จ.อยุธยา อย่างรวดเร็ว วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายคนไข้ด่วน ล่าสุด น้ำทะลักท่วมสูงกว่าครึ่งเมตร ผู้ป่วยหนัก รอการอพยพกว่า 20 ราย รมว.สธ. สั่งระดมกำลังช่วยเหลือด่วน

น.ส.สุภัชชา โลหิตไทย พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลบางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ น้ำได้ทะลักเข้าโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลโกลาหลกับการเร่งย้ายคนไข้ออกจากโรงพยาบาลด่วน น้ำได้ทะลักอย่างรวดเร็ว สูงผิดปกติ ทางโรงพยาบาลไม่มี เรือขนย้ายคนไข้ วอน ขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานทุกหน่วยงาน ที่มีเรือท้องแบนติดเครื่อง ช่วยย้ายคนไข้หนีน้ำด้วย มีทั้งคนไข้หนัก จำนวนหลายราย น้ำไหลเชี่ยวมาก และสูงอย่างรวดเร็ว เกรงว่า คนไข้ จะไม่ได้รับความปลอดภัย

ล่าสุด ขณะนี้ ทหารได้เข้าพื้นที่ช่วยเหลือขนย้ายผู้ป่วยหนักออกไปแแล้ว 2 ราย และส่งต่อไปที่ ร.พ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะมีแผนการอพยพผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งในอาคารผู้ป่วยใน มีผู้ป่วยที่รอการอพยพอีกกว่า 20 ราย ทาง ร.พ. ได้มีการออกจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนบริเวณพื้นที่สูง ด้านนอกโรงพยาบาล จนถึงขณะนี้ ระดับน้ำท่วมสูง กว่า 50 ซ.ม.แล้ว

ด้าน นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้รับผิดชอบปัญหาน้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ตามคำสั่งของ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีแม่น้ำลพบุรี ทะลักน้ำท่วม ร.พ.บางปะหัน ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานความเดือดร้อนจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้ว ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยการเร่งทำสะพานไม้ข้ามไปยัง ร.พ. เพื่อเข้าขนย้ายผู้ป่วย

อ่างเก็บน้ำสุรินทร์เร่งระบายรับฝนหนัก

04 ตุลาคม 2554 เวลา 14:35 น.


ชลประทานสุรินทร์เร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ 18 แห่งเตรียมรับมือฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุ"นาลแก"


นายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุรินทร์ กล่าวว่า จากการที่เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้มีปริมาณกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 18 แห่งของจังหวัดสุรินทร์ มีปริมาณสูงถึง 142 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณกักเก็บ 145 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 97%ของควมจุชลประทานสุรินทร์จึงได้เร่งดำเนินการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งวันละ 23 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรองรับน้ำใหม่ที่จะเกิดจากอิทธิพลของพายุนาลแก

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามพายุอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดทั้งแจ้งเตือนไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขอให้ราษฎรหน้าอ่างและท้ายอ่างเก็บน้ำ ทั้งหมดเฝ้าระวังในช่วงที่เกิดฝนตกหนัก เนื่องจากอาจเกิดอุทกภัยซึ่งจะทำให้ราษฏรได้รับความเสียหายได้

ฝนซัดต่อเนื่องทำดินสไลด์ลงน้ำโขงที่อำเภอสังคม

หนองคาย - ฝนที่ตกลงต่อเนื่องทำให้เกิดดินสไลด์ ยุ้งข้าวและเล้าไก่ชาวบ้านที่อำเภอสังคมพังลงในแม่น้ำโขง ขณะที่ถนนสายหนองคาย-สังคม ผิวจราจรเริ่มแยกตัว เสี่ยงันตราย

สำหรับเหตุกาณ์ตลิ่งแม่น้ำโขงพังครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา ประมาณ 01.00 น.วันที่ 4 ต.ค. 54 ได้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นที่หลังบ้านของนางเพชรศรี นันทะ อายุ 62 ปี ตั้งอู่เลขที่ 79 บ้านปากโส หมู่ 2 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง จนกระทั่งรุ่งเช้าพื้นดินหายไปในแม่น้ำโขงกว้างกว่า 30 เมตร ยาวกว่า 20 เมตร ลึกเกืบ 10 เมตร

ส่วนยุ้งข้าวขนาดเสา 9 ต้น เล้าไก่และไก่ในเล้า 40 กว่าตัว ตลอดจนศาลาริมโขง ผลไม้หลายชนิดจมหายไปในแม่น้ำโขงทั้งหมด

นางเชรศรี นันทะ เจ้าของบ้านกล่าวว่า ฝนได้ตกลงมาและหนักเป็นตั้งแต่บ่ายของวันที่ 2 ตุลาคม 2554 จนกลางดึก ซึ่งตนพร้อมลูกรวม 3 คน ได้นอนพักผ่อนภายในบ้านตามปกติ จนกระทั่งตอนตี 1 ตนได้ยินเสียงดินถล่มเสียงดังสนั่นแต่ไม่กล้าออกมาดูเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย พอรุ่งเช้าตนเดินออกมาดูก็พบความเสียหายดังกล่าว เื้บื้องต้นทางอำเภอสังคมได้นำข้าวสารมามอบให้ 1 กระสอบ

นอกจากนี้ ถนนสายหนองคาย-อำเภอสังคม ทางหลวงแผ่นดิน สาย 211 ที่บริเวณภูผาเดือนซึ่งเป็นพื้นที่ขึ้น-ลงเขาที่มีความคดเคี้ยวและิอยู่ริมฝั่งแม่น้โขง ได้ปรากฏรอยแยกของผิวจราจรจนถึงเส้นแบ่งผิวจราจร เป็นทางยาวกว่า 30 เมตร ผิวจราจรเริ่มบวมนิ่ม และเกิดดินภูเขาสไลด์ลงมาที่ผิวจราจรด้วย ดังนั้นผู้ใช้เส้นทางนี้ต้องใช้ความระมัดระัวังเป็นพิเศษ

Description:

A massive part of a glacier the size of 12 football fields in the Swiss Alps could break off, local authorities warned, after the discovery of an enormous crevasse in the glacier. Swiss authorities have formed a crisis team to monitor the situation and blocked all hiking trails close to the Giesen glacier located at an altitude of 2,800 metres, below the north face of the Jungfrau peak in the Bernese alps. Christian Abbuehl, who is heading the crisis team at the Lauterbrunnen commune, confirmed that the size of ice that risks breaking off to be about 12 football fields. "But we do not know how thick the ice is, so we do not know the volume of water that could be generated if it melts," he said. The large crack was discovered about a month ago, and prompted the Lauterbrunnen commune to issue a warning. "A crevasse has been discovered at the Giesen glacier, which is found on the northeast side under the Jungfrau, leading to small pieces of ice falling off," said the commune. "We cannot rule out that a large amount of ice could break off in the direction of Trimmleten-Sandbach," it added. Abbuehl said the situation remains unchanged from the September warning, but noted that it could improve as the temperature falls. While it has been unseasonably warm in early October, the weather is expected to turn by Friday, with snowfall expected in the Alps. "At the moment, the danger is not so great as it is going to get colder. For the population there is also no immediate danger," noted Abbuehl. "But we are observing the situation on a daily basis and we have closed off the hiking paths around the site," he added. It is not uncommon for parts of glaciers to break off. At the same time, a cold front could also cause glaciers to form from melting snow.

ก้อนน้ำแข็งใหญ่

กว่า 12 เท่าของสนามฟุตบอลแตกออกมา มันไม่ปกติมาก และไม่รู้เลยว่าน้ำแข็งหนาขนาดนี้ แตกมาได้อย่างไร และไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า จำนวนน้ำมหาศาลแค่ไหนจะมาจากการละลายของน้ำแข็งนี้ Swiss Alps

เตือน! อีก 2 วัน พายุกระหน่ำไทย

นักวิชาการหน่วยศึกษาพิบัติ ภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ หวั่นไทยพบวิกฤตมหาวาตภัยหนัก 54 จากลานีญาที่ต่อเนื่องจากปี 53 ทำให้ร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพาดผ่านหลายพื้นที่ ซ้ำยังพบพายุโซนร้อนลูกใหม่ ที่กำลังจะพัดเข้าภาคอีสานของไทยใน 1-2 วันนี้

วันนี้ (4 ต.ค.) เวลา 13.30 น.ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล เจ้า หน้าที่หน่วยศึกษาพิบัติภัย และข้อสนเทศเชิงพื้นที่ จุฬาฯ กล่าวถึงสภาพการแปรปรวนของภูมิอากาศแบบผกผันของไทยที่เกิดขึ้นอย่างหนักในปี 2554 ว่า สภาวะฝนตกเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก จากการศึกษาแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาชั้นนำของ โลก พบว่า ในอนาคตสภาพการแปรปรวนของภูมิอากาศจะแปรปรวนมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าภายในห้วงระยะเวลากว่า 2 เดือนเศษ พื้นที่กว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศตั้งแต่ภาคเหนือ และภาคกลาง โดยเฉพาะในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากำลังเผชิญน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี และในเร็วๆ นี้ พายุโซนร้อน NalGae กำลังจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

"ล่าสุด จากข้อมูลที่พบในแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ ทำให้เห็นว่า กำลังจะมีพายุโซนร้อน NalGae ซึ่งมีจุดศูนย์กลางปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบน มีทิศทางพัดผ่านเข้ามาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยจะพัดเข้าประเทศเวียดนามก่อนในช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.) และจะพัดเข้าประเทศไทยประมาณวันที่ 6-7 ต.ค.ซึ่งจะก่อให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เพราะเขื่อนเก็บน้ำต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ปริ่มเต็มเกือบทั้งหมด และมีคำเตือนให้ระวังดินถล่มในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นพายุจะอ่อนกำลังลงประมาณวันที่ 9 ต.ค.ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรีบวางแผนเตรียมการรับมือ และมีการเตือนภัยให้ทันท่วงที” ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าว

ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์น้ำปี 2554 เกิดวิกฤตหนักภายหลังจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่ต้นปีมีกำลังแรงมากกว่าปกติ อันเนื่องจากอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานีญาที่ต่อเนื่องจากปี 53 ทำให้ร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพาดผ่านหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา อีกทั้งได้รับปริมาณน้ำฝนเพิ่มเติมจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนไหหม่า พายุนกเตน และล่าสุด กับพายุ NalGae เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ซ้ำเติมปัญหาน้ำท่วมที่หนักอยู่แล้วให้รุนแรงมากขึ้น กว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา

“จากการศึกษาเรื่องพายุที่มีจุดกำเนิดในทะเลจีนใต้ กับปรากฏการณ์ลานีญาของปี 2554 พบว่า มีข้อมูลบ่งชี้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมของภาคใต้จากนี้ไป 2-4 เดือน (ต.ค.-ม.ค.) น่าเป็นห่วงมาก มีแนวโน้มสูงที่ภาคใต้และอำเภอหาดใหญ่จะเผชิญฝนตกหนักจากลานีญา เหมือนในปี 2518, 2531, 2543 และอาจจะมีพายุพัดถล่มเหมือนปี 2505 ที่แหลมตะลุมพุก, 2532 พายุเกย์ที่ชุมพร และปลายปีที่แล้ว 2553 รวมทั้งเรื่องดินถล่มก็เป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้และอาจจะเป็น “มหาอุทกภัยปี 54” ของภาคใต้อีกปีหนึ่ง” ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าว

ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวเสริมว่า ผลงานทางวิชาการเหล่านี้อยากให้ไปถึงมือผู้บริหาร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เนื่องจากนักวิชาการมีข้อมูลจริงที่มีประโยชน์พร้อมสรรพ และอยากให้รัฐลงทุนไปกับการแก้ปัญหานี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพียงว่าการมีพิบัติภัยเกิดขึ้นกลายเป็นข้ออ้างให้มีโครงการใหม่ๆ แล้วยิ่งไปซ้ำเติมพิบัติภัย ซึ่งเห็นว่าไม่ควร

* หมายเหตุ : ลานีญา เป็นปรากฏการณ์ที่ตรงข้ามกับเอลนีโญ กล่าวคือ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกกลางและตะวันออกมี ค่าต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ เนื่องจากลมค้า (trade wind) ตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดอยู่เป็นประจำในแปซิฟิกเขตร้อนทางซีกโลกใต้ (ละติจูด 0.03 องศาใต้) มีกำลังแรงกว่าปกติ จึงพัดพาผิวน้ำทะเลที่อุ่นจากแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออก (บริเวณฝั่งเอกวาดอร์ เปรู และชิลีตอนเหนือ) ไปสะสมอยู่ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันตก (บริเวณชายฝั่งอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย) มากยิ่งขึ้น จึงทำให้ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันตกซึ่งแต่เดิมมีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลและระดับ น้ำทะเลสูงกว่าทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออกอยู่แล้ว กลับยิ่งมีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลและระดับน้ำทะเลสูงกว่าทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวัน ออกมากยิ่งขึ้นไปอีก มีผลทำให้ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันตกมีปริมาณฝนมากขึ้น ขณะที่ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออกจะมีความแห้งแล้งรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ปรากฏการณ์ลานีญาจะเกิดโดยเฉลี่ย 5-6 ปี ต่อครั้ง และแต่ละครั้งกินเวลานานประมาณ 1 ปี

เสด็จพ่อ

ท่านท้าวเวสสุวรรณ

ให้รีบเผยแพร่

รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

ช่วยลดภัยพิบัติ

กับผู้นับถือพระพุทธเจ้า

ท้าวเวสสุวรรณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์

พระเจ้าอยู่หัว

อ.อุบล

บ้านสวนพีระมิด

ไม่ได้เสียสตังค์

เชื่อก็ช่วย ไม่เชื่อก็ไม่ช่วย

รีบเผยแพร่นะจ๊ะ

ถ้าอยากช่วยพี่น้อง

ชาวไทย

เตือน! อีก 2 วัน พายุกระหน่ำไทย

นักวิชาการหน่วยศึกษาพิบัติ ภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ หวั่นไทยพบวิกฤตมหาวาตภัยหนัก 54 จากลานีญาที่ต่อเนื่องจากปี 53 ทำให้ร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพาดผ่านหลายพื้นที่ ซ้ำยังพบพายุโซนร้อนลูกใหม่ ที่กำลังจะพัดเข้าภาคอีสานของไทยใน 1-2 วันนี้

วันนี้ (4 ต.ค.) เวลา 13.30 น.ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล เจ้า หน้าที่หน่วยศึกษาพิบัติภัย และข้อสนเทศเชิงพื้นที่ จุฬาฯ กล่าวถึงสภาพการแปรปรวนของภูมิอากาศแบบผกผันของไทยที่เกิดขึ้นอย่างหนักในปี 2554 ว่า สภาวะฝนตกเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก จากการศึกษาแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาชั้นนำของ โลก พบว่า ในอนาคตสภาพการแปรปรวนของภูมิอากาศจะแปรปรวนมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าภายในห้วงระยะเวลากว่า 2 เดือนเศษ พื้นที่กว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศตั้งแต่ภาคเหนือ และภาคกลาง โดยเฉพาะในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากำลังเผชิญน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี และในเร็วๆ นี้ พายุโซนร้อน NalGae กำลังจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

"ล่าสุด จากข้อมูลที่พบในแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ ทำให้เห็นว่า กำลังจะมีพายุโซนร้อน NalGae ซึ่งมีจุดศูนย์กลางปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบน มีทิศทางพัดผ่านเข้ามาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยจะพัดเข้าประเทศเวียดนามก่อนในช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.) และจะพัดเข้าประเทศไทยประมาณวันที่ 6-7 ต.ค.ซึ่งจะก่อให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เพราะเขื่อนเก็บน้ำต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ปริ่มเต็มเกือบทั้งหมด และมีคำเตือนให้ระวังดินถล่มในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นพายุจะอ่อนกำลังลงประมาณวันที่ 9 ต.ค.ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรีบวางแผนเตรียมการรับมือ และมีการเตือนภัยให้ทันท่วงที” ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าว

ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์น้ำปี 2554 เกิดวิกฤตหนักภายหลังจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่ต้นปีมีกำลังแรงมากกว่าปกติ อันเนื่องจากอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานีญาที่ต่อเนื่องจากปี 53 ทำให้ร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพาดผ่านหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา อีกทั้งได้รับปริมาณน้ำฝนเพิ่มเติมจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนไหหม่า พายุนกเตน และล่าสุด กับพายุ NalGae เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ซ้ำเติมปัญหาน้ำท่วมที่หนักอยู่แล้วให้รุนแรงมากขึ้น กว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา

“จากการศึกษาเรื่องพายุที่มีจุดกำเนิดในทะเลจีนใต้ กับปรากฏการณ์ลานีญาของปี 2554 พบว่า มีข้อมูลบ่งชี้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมของภาคใต้จากนี้ไป 2-4 เดือน (ต.ค.-ม.ค.) น่าเป็นห่วงมาก มีแนวโน้มสูงที่ภาคใต้และอำเภอหาดใหญ่จะเผชิญฝนตกหนักจากลานีญา เหมือนในปี 2518, 2531, 2543 และอาจจะมีพายุพัดถล่มเหมือนปี 2505 ที่แหลมตะลุมพุก, 2532 พายุเกย์ที่ชุมพร และปลายปีที่แล้ว 2553 รวมทั้งเรื่องดินถล่มก็เป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้และอาจจะเป็น “มหาอุทกภัยปี 54” ของภาคใต้อีกปีหนึ่ง” ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าว

ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวเสริมว่า ผลงานทางวิชาการเหล่านี้อยากให้ไปถึงมือผู้บริหาร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เนื่องจากนักวิชาการมีข้อมูลจริงที่มีประโยชน์พร้อมสรรพ และอยากให้รัฐลงทุนไปกับการแก้ปัญหานี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพียงว่าการมีพิบัติภัยเกิดขึ้นกลายเป็นข้ออ้างให้มีโครงการใหม่ๆ แล้วยิ่งไปซ้ำเติมพิบัติภัย ซึ่งเห็นว่าไม่ควร

* หมายเหตุ : ลานีญา เป็นปรากฏการณ์ที่ตรงข้ามกับเอลนีโญ กล่าวคือ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกกลางและตะวันออกมี ค่าต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ เนื่องจากลมค้า (trade wind) ตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดอยู่เป็นประจำในแปซิฟิกเขตร้อนทางซีกโลกใต้ (ละติจูด 0.03 องศาใต้) มีกำลังแรงกว่าปกติ จึงพัดพาผิวน้ำทะเลที่อุ่นจากแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออก (บริเวณฝั่งเอกวาดอร์ เปรู และชิลีตอนเหนือ) ไปสะสมอยู่ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันตก (บริเวณชายฝั่งอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย) มากยิ่งขึ้น จึงทำให้ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันตกซึ่งแต่เดิมมีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลและระดับ น้ำทะเลสูงกว่าทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออกอยู่แล้ว กลับยิ่งมีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลและระดับน้ำทะเลสูงกว่าทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวัน ออกมากยิ่งขึ้นไปอีก มีผลทำให้ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันตกมีปริมาณฝนมากขึ้น ขณะที่ทางแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออกจะมีความแห้งแล้งรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ปรากฏการณ์ลานีญาจะเกิดโดยเฉลี่ย 5-6 ปี ต่อครั้ง และแต่ละครั้งกินเวลานานประมาณ 1 ปี

ประกาศเตือนภัย "พายุ “นาลแก”" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 04 ตุลาคม 2554

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (4 ต.ค.) พายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ ละติจูด 18.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่งใน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ออกประกาศ เวลา 15.30 น. สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

1. หนองค้างพลู
2. ทุ่งสองห้อง
3. สายไหม
4. คลองถนน
5. อนุสาวรีย์
6. จระเข้บัว
7. ลาดพร้าว
8. คลองกุ่ม
9. คลองจั่น
10. หัวหมาก
11. สะพานสูง
12. คลองสองต้นนุ่น
13. ลาดกระบัง

และบริเวณปริมณฑล ได้แก่
จ.นนทบุรี
จ.นครปฐม
จ.สมุทรปราการ
และจ.ฉะเชิงเทรา

อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

 เขื่อนภูมิพลผันน้ำลงแม่น้ำปิง100ลบม.

อั้นไม่อยู่!!! เขื่อนภูมิพล

ผันน้ำลงแม่น้ำปิงแล้ว 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน 

คาดถึง นครสวรรค์ อีก 4 วันข้างหน้า

       นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต

ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก กล่าวว่า 
ขณะนี้ เขื่อนภูมิพล มีความจำเป็น

ต้องเปิดประตูระบายน้ำเพื่อผันน้ำ

ออกจากเขื่อน เนื่องจาก ขณะนี้ปริมาณน้ำ
ในเขื่อนเกินกว่าที่เขื่อนจะรองรับได้

ประกอบกับนำจากลำน้ำปิงที่ท่วมในพื้นที่

จ.เชียงใหม่ เมื่อ 3 วันก่อนไหล
เข้ามาเติมน้ำเหนือเขื่อน ทำให้ขณะนี้

เขื่อนภูมิพลต้องผันน้ำออกจากเขื่อน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวัน 

หรือ 500 ลูกบาศก์เมตร ต่อ วินาที

ซึ่งมวลน้ำที่ถูกปล่อยออกจากเขื่อนภูมิพล

ที่ปล่อยสู่แม่น้ำปิง จะส่งผลกระทบในพื้นที่ต่างๆ

โดยในช่วง 2.00 น. มวลน้ำจะผ่านในพื้นที่

อ.สามเงา จ.ตาก เวลา 8.00 น. มวลน้ำจะผ่าน

ในพื้นที่ อ.บ้านตาก 

ซึ่งตรงจุดนี้น่าเป็นห่วงเพราะ มีลำน้ำ 2 สาย

คือ แม่น้ำปิงและแม่น้ำวัง มาบรรจบกัน

และในช่วงเวลา 16.00 น. 
มวลน้ำจะไหลผ่านในพื้นที่ อ.เมือง

จะส่งผลให้น้ำที่ไหลผ่านในพื้นที่ต่างๆ

จะส่งผลให้ริมแม่น้ำปิงเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร

และมวลน้ำดังกล่าวจะถึงนครสวรรค์ในอีก 4 วันข้างหน้า

สำหรับการผันน้ำออกจากเขื่อนภูมิพลนั้น 
จะดำเนินการเปิดประตูระบายน้ำไปอีกกี่วัน

คงต้องมีการร่วมหารือ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ส่วนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่น้ำจะไหลผ่านขณะนี้

ส่วนราชการในพื้นที่มีแผนเตรียมอพยพไว้แล้ว

หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสูงขึ้น 

Credit : Innnews

ทุกข์ซ้ำหลังน้ำลด

ขณะนี้แม้จะเข้าสู่ช่วงปลายฝน

แต่พายุยังเกิดต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าจะลดลง

เกิดน้ำท่วมขัง ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย

ทำให้ราคาอาหารสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ราคาข้าวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มสูงขึ้น

หากรัฐบาลไม่มีมาตรการควบคุมราคาสินค้าอย่างชัดเจนและได้ผล

เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

ขณะเดียวกันนโยบายภาครัฐยังคง

เน้นหนักไปในเรื่องประชานิยม

ซึ่งในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินในคลัง

จนต้องกู้เงินจากแหล่งต่างๆ

มาโปะงบประมาณที่อาจบานปลายจากโครงการ

ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างภาษี

ทั้งบ้านหลังแรก รถยนต์คันแรก หรือแม้แต่เรื่องกองทุนน้ำมัน

ทุกข์ซ้ำหลังน้ำลด : บทบรรณาธิการ

       มีรายงานจากศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

สำรวจความเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงาน

อยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศ

30 แห่ง จำนวน 63 คน

เรื่อง “ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจไทย 3 และ 6 เดือนข้างหน้า”

โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 26-30 กันยายน

ที่ผ่านมา พบว่า ดัชนีเศรษฐกิจไทยในอีก 3 เดือนข้าง

หน้าจะอยู่ที่ 47.46 ลดลงจากการสำรวจก่อนหน้านี้อยู่ที่

62.11 อีกทั้งดัชนียังอยู่ต่ำกว่า 50 ตัวเลขดังกล่าว

นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เศรษฐกิจใน 3 เดือนข้างหน้าจะแย่ลง

ที่น่าสนใจคือ ดัชนีคาดการณ์ในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่

45.14 ต่ำกว่าดัชนีใน 3 เดือนแรก วิเคราะห์กันว่า

เศรษฐกิจจะทรุดอย่างต่อเนื่อง

พิษน้ำท่วม ทำพื้นที่นาดำน้ำแล้วกว่า 8 ล้านไร่

 อพยพหนีน้ำเรือล่มดับ 3 ศพ

 

น้ำท่วมสูงอยู่บ้านเสี่ยงแน่ 5 ชีวิตนั่งเรืออพยพไปอยู่บ้านญาติ

แต่เรือล่มกลางน้ำดับ 3 ศพ เด็ก 2 คนรอด

       เมื่อเวลา 19.00  น. วันที่ 4 ต.ค. ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จันตะนะ 

ร้อยเวร สภ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี

ได้รับแจ้งมีเหตุเรือล่มจมน้ำมีผู้สูญหาย

บริเวณกลางทุ่งนาหมู่ 5 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง

จึงรีบไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนา

ที่ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3  เมตร 

ใกล้กับหมู่บ้านประชาวิลเลจ

พบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี

กำลังช่วยกันค้นหาร่างผู้สูญหาย 3 ราย 

ทราบชื่อมีนายเฉลียว อินคง อายุ 44  ปี 

ชาวบ้านหมู่ 5 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง

นางสายเพ็ญ ตระการจันทร์  อายุ 40  ปี ชาวสกลนคร

และนายสมปอง  ตระการจันทร์ อายุ  41  ปี 

สามีนางสายเพ็ญ  และมีผู้รอดชีวิต 2 ราย

หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลบ้านสร้าง

คือ ด.ช.ภาสกร  เกษพิรา  อายุ 2 ขวบ

หลานของนางสายเพ็ญ 

และด.ช.ธีรวัฒน์ ตระการจันทร์ อายุ  14 ปี

เป็นลูกของนายสมปองและนางสายเพ็ญ

มีอาการสำลักน้ำ แพทย์ช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว

ส่วนผู้สูญหายหน่วยกู้ภัยได้นำชุดประดาน้ำ

ทำการค้นหาประมาณ 2 ชั่วโมง 

จึงพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน จมอยู่ภายในน้ำไม่ห่างกันนัก  

     จากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมด

พักอาศัยอยู่หมู่บ้านประชาวิลเลจ แต่ถูกน้ำท่วมบ้าน

เกรงว่าในตอนกลางคืนจะไม่ปลอดภัย

จึงได้พากันอพยพขึ้นเรือติดเครื่องยนต์

เพื่อจะไปพักอาศัยที่บ้านญาติอีกแห่งหนึ่ง

โดยมีนายเฉลียวเป็นคนขับเรือ

เมื่อเรือออกมาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 100 เมตร

เนื่องจากเรือมีขาดเล็ก และบรรทุกผู้โดยสารหลายคน

คาดว่าเกินน้ำหนัก และน้ำได้ไหลเข้าเรืออย่างรวดเร็ว

นายเฉลียว พยายามจะนำเรือกลับเข้าฝั่ง

แต่ไม่ทันเพราะเรือได้จมลงอย่างรวดเร็ว

ระหว่างนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์และได้ยินเสียงร้อง

จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือเด็กทั้งสองคนไว้ได้

ส่วนอีก 3 คนจมหายไปกับกระแสน้ำลึกเกือบ 3 เมตร 

 คาร์บอมบ์ถล่มที่ทำการรัฐบาลโซมาเลีย-ตายอื้อ 70 ศพ

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 02:27 น

น้ำเอ่อท่วมถนนเข้าเมืองปทุมฯ 

5 ตค. 2554 00:47 น. 

 Credit : breakingnews

งูหลามยาว 6 เมตร หนีน้ำท่วมนอนขวางถนน

Credit : Thairath

"เขื่อนภูมิพล" น้ำทะลัก 9 โมงน้ำถึงเมืองตาก

• 5 ตุลาคม 2554, 10:15 น.

 เขื่อนภูมิพลน้ำทะลัก เปิดบานประตูฉุกเฉินระบายน้ำออก

ผู้ว่าฯสั่งเตรียมเรือและสถานที่รองรับ

อพยพชาวบ้านใต้เขื่อนออกจากบ้านเรือน

คาด 09.00 น. น้ำถึงอำเภอเมืองตาก...

     เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 54 ผู้สื่อข่าวจังหวัดตากรายงานว่า

สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก

เมื่อตอนเที่ยงคืนที่ผ่านมา เขื่อนภูมิพลได้เปิดประตูน้ำฉุกเฉิน

เพื่อระบายน้ำเหนือที่ทะลักเข้าอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก

ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 97.58 เปอร์เซ็นต์

หรือความจุ 13,137 ล้านลูกบาศก์เมตร

เขื่อนภูมิพลต้องเปิดประตูระบายน้ำล้นทั้งสองบาน

จะทำให้มีน้ำลงสู่แม่น้ำปิง เพิ่มจากปกติ 60 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

เป็น 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แ

ละน้ำจากแม่น้ำวังที่ไหลมาสมทบใต้เขื่อน ในลำน้ำปิง

อ.บ้านตาก อีกวันละ 58 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทำให้มีน้ำไหลผ่านตาก กำแพงเพชร สู่ลุ่มเจ้าพระยา

จำนวน 158 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้

อ.สามเงา อ.บ้านตาก อ.เมืองตาก และ อ.วังเจ้า จะมีน้ำท่วมสูง

ในขณะที่เมื่อวานนี้มีน้ำไหลเข้ามากที่สุด

เป็นประวัติการณ์ 289 ล้านลูกบาศก์เมตร

ซึ่งจากการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพล

และจากแม่น้ำวังทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิง

สูงถึงวินาทีละ 1,833 ลูกบาศก์เมตร

ในขณะที่สามารถรับได้แค่ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทางด้านนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก

ได้สั่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

อ.สามเงา บ้านตาก เมืองตาก และวังเจ้า

เตรียมเรือและสถานที่รองรับในการอพยพชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน

ที่อยู่บริเวณใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล

ที่ระดับน้ำขึ้นสูงจนเริ่มท่วมบ้านเรือนราษฎร ในอำเภอบ้านตากแล้ว

ส่วน อ.เมืองตาก คาดว่าประมาณ 09.00 น. น้ำจะไปถึง.

 

นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา เผย ในพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 80 % แจ้งเตือน 120 หมู่บ้าน ใน 21 ตำบล พร้อมอพยพ หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น

นายเผด็จ แนบเนียน นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ ในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา ถือว่ารุนแรง มีพื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วมประมาณ 80 % ของพื้นที่แล้ว

โดยเฉพาะใน ต.ลุมพลี และ ต.คลองตะเคียน ปริมาณน้ำสูงกว่า 1 เมตรแล้ว และขณะที่ทางจังหวัดได้แจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ทุกนายเตรียมความพร้อมในการอพยพประชาชนเอาไว้แล้ว ซึ่งตามตำบลต่างๆ จะมีจุดอพยพที่ทางจังหวัดกำหนดไว้อยู่แล้ว

ซึ่งได้แจ้งเตือนประชาชนชน 120 หมู่บ้าน ใน 21 ตำบล ของอำเภอพระนครศรีอยุธยา ให้เก็บสิ่งของต่างๆ ขึ้นที่สูง และเตรียมพร้อมในการรับมือน้ำที่จะท่วมสูงขึ้น และพร้อมรับสถานการณ์ที่จะอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะขณะนี้ สถานการณ์น้ำในแม่น้ำลพบุรี ยังคงมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


INN ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 4 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 18:58 น.

-----------------------------------------------------------

พิษพายุ"นาลแก" ภูเก็ตเจอฝนหนัก รพ.ป่าตองจมน้ำ



จ.ภูเก็ต ถูกพิษ "นาลแก" ทำฝนตกหนักถล่มจนหาดป่าตองจมบาดาล โดย รพ.ป่าตองหนักสุด แต่รับมือไหว เหตุเคยโดนถล่มมาก่อนหน้านี้ ผวจ.สั่งเฝ้าระวังจุดอันตรายดินสไลด์-ถล่ม 24 ชั่วโมง...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 ต.ค.2554 ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาตั้งช่วงค่ำวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากผลกระทบพายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณอ่าวตังเกี๋ยอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กม.ทางทิศตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ส่งผลให้หลายพื้นที่ใน จ.ภูเก็ตเกิดน้ำท่วมขังสูงฉับพลันราว 1 เมตร เช่น บริเวณ ถ.ใสน้ำเย็น ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เช่น รถจยย. รถเก๋ง โดยเฉพาะภายใน รพ.ป่าตองมีน้ำท่วมขังสูง เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่อาจสูงขึ้นท่วมเครื่องปั่นไฟ และเครื่องสำรองไฟที่ติดตั้งอยู่ใต้ถุน รพ.ตลอดเวลา เพราะมีการย้ายจุดติดตั้งก่อนหน้านี้



สาเหตุที่ต้องย้ายเนื่องจากเคยถูกน้ำท่วมเมื่อเดือน ก.ย.2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เครื่องสำรองไฟฟ้าได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ต้องลำเลียงผู้ป่วยและสัมภาระต่างๆด้วยเรือไฟเบอร์หนีน้ำ รวมไปถึงโลงศพที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาให้แก่ผู้เสียชีวิตไร้ญาติไป ไว้บนที่สูง ขณะที่เทศบาลเมืองป่าตองได้ใช้รถตรวจการณ์ และรถดับเพลิงออกประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชน-นักท่องเที่ยวได้รับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ถ้าฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังเพิ่มขึ้น



นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต ได้สั่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เสี่ยงกับน้ำท่วมขัง ดินสไลด์และดินถล่ม เช่น เทศบาลเมืองป่าตอง อบต.กมลา อ.กะทู้ ให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตลอด 24 ชม.โดยขณะนี้ภาคใต้ฝั่งอันดามันจะมีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงาและภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันตกความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3เมตร




โดย: ทีมข่าวภูมิภาค

5 ตุลาคม 2554, 14:22 น.

น้ำท่วมนิคมฯสหรัตนนคร อ่วม! 46 โรงงานจมน้ำกว่า 2ม.

สถานการณ์น้ำท่วมในพระนครศรีอยุธยาวิกฤต ส่งผลกระทบนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ซึ่งโรงงานขนาดใหญ่46ราย ต้องจมน้ำกว่า2เมตร



เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.)ได้เกิดน้ำทะลักจากคันกั้นแม่น้ำลพบุรี เข้าท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่ ต.บางพระครู อ.นครหลวง อย่างรวดเร็ว นิคมนี้มีโรงงานขนาดใหญ่ประมาณ 46 โรงงานตั้งอยู่ภายใน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ล่าสุดเช้านี้ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เมตรแล้ว

ด้านนายธีรเดช รติชน ผู้บริหารโครงการนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่านิคมฯ ต้องเร่งเสริมคันดินสูง 2 เมตร ความยาว 30 กิโลเมตร รอบพื้นที่โดยเร่งใช้เครื่องจักรและรถขนดินเข้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากน้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นิคมฯ ได้เตรียมแผนรับมือน้ำท่วมไว้ จะเริ่มจากการอุดท่อลอดน้ำภายในนิคมฯ ทั้งหมด ปิดสะพานคลองชลประทานที่เข้ามาภายในนิคมฯ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากภายนอกเข้ามา ปิดประตูน้ำในวงรัศมี และเสริมคันดินบริเวณรอบนิคมฯ ระยะทาง 30 กิโลเมตร

รวมทั้งจะแจ้งเรื่องไปยังผู้ประกอบการทุกรายที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมฯ ให้รับทราบสถานการณ์ และประสานไปยัง กนอ.เพื่อประสานความช่วยเหลือ

เรื่อง 4 ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม



1.พึงเอาไว้ว่าอย่าทำการสตาร์ทรถ หรือบิดกุญแจให้ไฟออนโดยเด็ดขาด จากนั้นเดินไปเปิดฝากระโปรงรถและปลดขั้วแบตเตอรี่ทันที โดยจะปลดขั้วใดขั้วหนึ่งหรือจะปลดทั้ง ขั้วบวกขั้วลบก็ได้ (จริงๆถ้าคุณคาดว่าน้ำจะท่วมสูงถึงห้องเครื่องให้เตรียมปลดขั้วแบตเตอรี่ เอาไว้ล่วงหน้าก่อนจะเป็นการดีที่สุด) เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟเข้าไปเลี้ยงระบบต่างๆของรถ รวมถึงเครื่องยนต์

2.เปิดประตูออกทุกบาน ให้ลมโกรก หรือถ้ามีแดดให้จอดตากแดด จากนั้นถอดเบาะนั่ง พรม ผ้าต่างๆ ที่อยู่ภายในรถออกมาซักทันที เพราะถ้าทิ้งเอาไว้นาน ความเหม็นอับจะมาเยือน

3.เริ่มเข้าสู่กระบวนการทางเทคนิคที่พอจะทำได้เอง คือ ปลดทุกอย่างที่เป็นขั้วไฟฟ้า โดยเฉพาะขั้วสายไฟภายในห้องเครื่อง ทั้งตัว ECUและ รีเรย์ต่างๆ จากนั้นฉีดสเปรย์ไล่ความชื้น หรือใช้ไดร์เป่าผม เป่าให้แห้ง

4.ถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ (ต้องรีบเอาน้ำออกจากระบบให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันสนิมจับ) รวมถึงเปลี่ยนกรองอากาศ ซึ่งประเด็นนี้ใครทำเองได้ก็ทำเลย เพราะยิ่งจัดการเร็วโอกาสที่สนิมจะมาเยือนก็น้อยตามไปด้วย แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องเข้าศูนย์บริการหรืออู่ ซึ่งจะมีขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายที่ถูกต้องและละเอียดมาก

อย่างไรก็ตามการที่รถสุดรักของคุณจะฟื้นกลับมาดีดั่งเดิมได้ขนาดไหน ขึ้นอยู่กับเวลาที่จมอยู่ใต้น้ำ หรือความสามารถในการนำกลับมาดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว รวมถึงประเภทของรถ กล่าวคือถ้ารถยิ่งมีระบบไฟฟ้าซับซ้อน ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายมากตามไปด้วย โดยฝ่ายเทคนิค โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย บอกว่า ถ้ารถจมบาดาลอยู่ 1-2 วัน โอกาสแก้สภาพกลับมาเหมือนเดิมได้เกิน 90% แต่ถ้านานกว่านั้น ECUเข้าขั้นโคม่า ชิ้นส่วนไฟฟ้าต่างๆจะโดนความชื้น สนิมเริ่มกิน รวมถึงขี้เกลือต่างๆเริ่มจับตัว ดังนั้นเปอร์เซ็นที่จะคืนสภาพก็จะลดลงตามวันเวลาที่แช่น้ำ

ในส่วนของราคาค่าซ่อม ขึ้นอยู่กับสภาพการและประเภทรถตามที่กล่าวไปข้างบน และน่าจะอยู่ระดับ 50,000-100,000 บาท (แต่ถ้าโอเวอร์ฮอล์เกินนี้แน่นอน) ซึ่งใครทำประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือมีกรมธรรม์ครอบคลุมอุทกภัยเอาไว้น่าจะใจชื้นได้บ้าง

เรื่อง 4 ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม



1.พึงเอาไว้ว่าอย่าทำการสตาร์ทรถ หรือบิดกุญแจให้ไฟออนโดยเด็ดขาด จากนั้นเดินไปเปิดฝากระโปรงรถและปลดขั้วแบตเตอรี่ทันที โดยจะปลดขั้วใดขั้วหนึ่งหรือจะปลดทั้ง ขั้วบวกขั้วลบก็ได้ (จริงๆถ้าคุณคาดว่าน้ำจะท่วมสูงถึงห้องเครื่องให้เตรียมปลดขั้วแบตเตอรี่ เอาไว้ล่วงหน้าก่อนจะเป็นการดีที่สุด) เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟเข้าไปเลี้ยงระบบต่างๆของรถ รวมถึงเครื่องยนต์

2.เปิดประตูออกทุกบาน ให้ลมโกรก หรือถ้ามีแดดให้จอดตากแดด จากนั้นถอดเบาะนั่ง พรม ผ้าต่างๆ ที่อยู่ภายในรถออกมาซักทันที เพราะถ้าทิ้งเอาไว้นาน ความเหม็นอับจะมาเยือน

3.เริ่มเข้าสู่กระบวนการทางเทคนิคที่พอจะทำได้เอง คือ ปลดทุกอย่างที่เป็นขั้วไฟฟ้า โดยเฉพาะขั้วสายไฟภายในห้องเครื่อง ทั้งตัว ECUและ รีเรย์ต่างๆ จากนั้นฉีดสเปรย์ไล่ความชื้น หรือใช้ไดร์เป่าผม เป่าให้แห้ง

4.ถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ (ต้องรีบเอาน้ำออกจากระบบให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันสนิมจับ) รวมถึงเปลี่ยนกรองอากาศ ซึ่งประเด็นนี้ใครทำเองได้ก็ทำเลย เพราะยิ่งจัดการเร็วโอกาสที่สนิมจะมาเยือนก็น้อยตามไปด้วย แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องเข้าศูนย์บริการหรืออู่ ซึ่งจะมีขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายที่ถูกต้องและละเอียดมาก

อย่างไรก็ตามการที่รถสุดรักของคุณจะฟื้นกลับมาดีดั่งเดิมได้ขนาดไหน ขึ้นอยู่กับเวลาที่จมอยู่ใต้น้ำ หรือความสามารถในการนำกลับมาดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว รวมถึงประเภทของรถ กล่าวคือถ้ารถยิ่งมีระบบไฟฟ้าซับซ้อน ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายมากตามไปด้วย โดยฝ่ายเทคนิค โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย บอกว่า ถ้ารถจมบาดาลอยู่ 1-2 วัน โอกาสแก้สภาพกลับมาเหมือนเดิมได้เกิน 90% แต่ถ้านานกว่านั้น ECUเข้าขั้นโคม่า ชิ้นส่วนไฟฟ้าต่างๆจะโดนความชื้น สนิมเริ่มกิน รวมถึงขี้เกลือต่างๆเริ่มจับตัว ดังนั้นเปอร์เซ็นที่จะคืนสภาพก็จะลดลงตามวันเวลาที่แช่น้ำ

ในส่วนของราคาค่าซ่อม ขึ้นอยู่กับสภาพการและประเภทรถตามที่กล่าวไปข้างบน และน่าจะอยู่ระดับ 50,000-100,000 บาท (แต่ถ้าโอเวอร์ฮอล์เกินนี้แน่นอน) ซึ่งใครทำประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือมีกรมธรรม์ครอบคลุมอุทกภัยเอาไว้น่าจะใจชื้นได้บ้าง

นอภ.บ้านตาก ชี้น้ำท่วมสูงในรอบ40ปี-เร่งเสริมแนวกั้นหวั่นน้ำวังหนุนซ้ำ

5 ตค. 2554 12:11 น.

นายธานินทร์ วิชิตะกุล นายอำเภอบ้านตาก จ.ตาก เปิดเผยว่า หลังจากเขื่อนภูมิพลที่อำเภอสามเงา ได้เปิดประตูเพื่อระบายน้ำออกมาเพราะน้ำในเขื่อนเต็มความจุอ่าง ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งแม่น้ำปิงไหลเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบ้านตากตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันนี้ (5 ต.ค.) เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 20 หมู่บ้านจากทั้งหมด 43 หมู่บ้านใน 4 ตำบล ขณะนี้อำเภอกำลังเฝ้าระวังและรอรายงานเพิ่มเติมจากจ.ลำปาง เกี่ยวกับระดับน้ำในแม่น้ำวังว่าจะเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ หากแม่น้ำวังมีระดับสูงขึ้นน้ำจะล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมในตำบลแม่สะริดเพิ่มเติมอีกจุดหนึ่ง
ทั้งนี้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เร่งระดมทำแนวกำแพงกระสอบทรายในพื้นที่ริ่มตลิ่งและจุดเสี่ยงเพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมเพิ่มเติม แต่การดำเนินการค่อนข้างมีปัญหาเพราะกระสอบทรายเริ่มขาดแคลนทำให้อำเภอต้องจัดซื้อมาเพิ่มเติม ซึ่งแนวกระสอบทรายที่ทำเป็นแนวไว้สามารถป้องกันระดับน้ำได้ที่ 1 เมตร แต่ยังต้องเสริมขึ้นเพิ่มเติมอีกเพื่อความปลอดภัยเพราะเกรงว่าน้ำจากแม่น้ำวังอาจไหลมาหนุนเพิ่ม
นายธานินทร์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่ามีระดับสูงมากในรอบ 40 ปี ที่เขื่อนภูมิพลมีการปล่อยน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาแม้อยู่ในช่วงฤดูน้ำหลากและมีการปล่อยน้ำมาระดับน้ำก็จะปริ่มตลิ่งเท่านั้น แต่ครั้งนี้ระดับน้ำสูงมากจนส่งผลให้การระบายน้ำจากคูคลองในหลายพื้นที่ลงสู่แม่น้ำปิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะเดียวกันน้ำปิงยังไหลย้อนเข้ามาในคูคลองจนไหลท่วมพื้นที่อีกหลายจุดทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำแนวกระสอบทรายเพิ่ม

"คาดว่าหากแม่น้ำวังไม่มีน้ำไหลลงมาหนุนเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เขื่อนภูมิพลแจ้งว่าน้ำจะท่วมอยู่ประมาณ 2 - 3 วันแล้วลดระดับลง แต่ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายธานินทร์กล่าว

ทางการสวิสเตือนเสี่ยงภัย หลังค้นพบขนาดของธารน้ำแข็งขนาดกว่า 12 สนามฟุตบอลในเทือกเขาสวิสเกิดรอยแยกขึ้น คาดจะเกิดการแตกตัวพังถล่ม

Swiss authorities have formed a crisis team to monitor the situation and blocked all hiking trails close to the Giesen glacier located at an altitude of 2,800 metres, below the north face of the Jungfrau peak in the Bernese alps.

Christian Abbuehl, who is heading the crisis team at the Lauterbrunnen commune, confirmed that the size of ice that risks breaking off to be about 12 football fields.

"But we do not know how thick the ice is, so we do not know the volume of water that could be generated if it melts," he said.

The large crack was discovered about a month ago, and prompted the Lauterbrunnen commune to issue a warning.

"A crevasse has been discovered at the Giesen glacier, which is found on the northeast side under the Jungfrau, leading to small pieces of ice falling off," said the commune.

"We cannot rule out that a large amount of ice could break off in the direction of Trimmleten-Sandbach," it added. Read More
 

พระนครศรีอยุธยา - น้ำหลังวัดไชยวัฒนารามสูงท่วมโรงไม้ คนงานลอยคอนำไม้ออก

5 ตค. 2554 13:23 น.

เมื่อเวลา 10.00 น. ระดับใน จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีระดับสูงขึ้นและเอ่อล้นเข้าพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะระดับน้ำด้านหลังวัดไชยวัฒนารามสูงขึ้นจนเข้าท่วมโรงไม้ซุ้มคงศรี ม.13 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ไม้แปรรูป และเฟอร์นิเจอร์รวมทั้งบ้านน๊อคดาวน์จำนวนมากลอยน้ำ คนงานจำนวนมากต้องลอยคอเกาะไม้ เพื่อนำไม้ออกจากโรงงาน นายถนัด อุดตะมะ อายุ 39 ปี เจ้าของโรงไม้ดังกล่าว เปิดเผยว่าโกดังเก็บไม้ของตนได้มีการสร้างคันดินสูงกว่า 1.50 เมตรล้อมรอบเนื้อที่กว่า 2 ไร่ จนกระทั่งระดับน้ำที่เอ่อมาจากทางวัดไชยวัฒนาราม ได้พังแนวป้องกันเมื่อช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน ทำให้คนงานที่หลับนอนอยู่ภายในต้องลอยคอออกมา และยังมีไม้จำนวนมากลอยออกมาด้วย ซึ่งจะต้องเก็บไม้เพื่อย้ายไปที่สูง เพื่อไม่ให้ไม้ลอยน้ำไป
รอบเกาะเมืองเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ยังคงเร่งถมคันดินป้องกัน โดยว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา ได้ประชุมประชาชนในเขตที่ มรภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อยืนยันว่าจะพยายามรักษาเกาะเมืองเอาไว้ให้ได้ และไม่เคยพูดว่าอีกกี่ชั่วโมงน้ำจะทะลัก ซึ่งขณะนี้ป้องกันเต็มที่ ยกเว้นบางชุมชนรอบนอกที่น้ำท่วมหนักแล้ว เช่นชุมชนวังแก้ว ต.ท่าวาสุกรี ชาวบ้านได้ตั้งคันดินล้อม แต่น้ำล้นจนเขื่อนพัง ชาวบ้านต้องลอยเรือนำลูกหลานออกจากหมู่บ้าน

สมุทรสาคร - มหาชัยเตรียมรับมือน้ำท่วม หลังประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน

5 ตค. 2554 13:36 น.

ชลประทานมหาชัย-เตรียมรับมือแบกรับน้ำท่วม หลังประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน พ่อเมืองประสานเรือตังเก รอผนึกผันน้ำลงปากอ่าว
นายกุลวัชร หงส์คู นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร พร้อมด้วย ผอ.โครงการชลประทานสมุทรสาคร ล่องเรือลงพื้นที่เพื่อความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดและอื่นๆ หลังนายจุลภัทร แสงจันทร์ ผวจ.ออกประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ (ฉุกเฉิน) อ้างผลข้างเคียงพายุโชนร้อน “นาลแก” มรสุมทะเลจีนใต้ที่ศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตร ขณะพายุเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก และจะเคลื่อนที่ขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 5 ตุลาคม 54 ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มีฝนตกชุกมากพิเศษและทั่วทุกภาค อย่างไรก็ตามจึงออกแจ้งเตือนชาวสมุทรสาครระวังผลกระทบน้ำท่วมฉับพลันได้ และในระยะ 2 วันนี้ คาดว่าจะมีน้ำเหนือไหลบ่ามาตามแม่น้ำท่าจีน ผลจากเหตุระบายน้ำบางส่วนจังหวัดและกรุงเทพฯ ซึ่งสอดคล้องปรากฎการณ์ทะเลหนุนทุกปีราวต้นเดือน ต.ค.นี้
“สำหรับการลงเรือล่องสำรวจฝั่งท่าจีน และมหาชัยในครั้งนี้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานราชการและเกี่ยวข้อง เตรียมตัวป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ไปถึงเดือนพฤศจิกายน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 3 อำเภอ ดูแลรับผิดชอบตลิ่ง ตลอดจนติดตามรายงานผลใกล้ชิดเป็นระยะๆ" นายกุลวัชร กล่าว

นายกุลวัชร กล่าวว่า ในการจัดเตรียมกระสอบทราย อุปกรณ์ต่างๆ พร้อมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยคอยแก้ปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ให้ชาวบ้านให้ความร่วมมือเฝ้าฟังรายงานสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป พร้อมกันนี้ในส่วนผนังเขื่อนด้านหลังตาดสดมหาชัย ที่ยังคาราคาซัง 500 เมตร จึงมีรอยต่อรูรั่ว พบ 27 จุด นำกระสอบทรายลงอุดเพื่อการป้องกันและบรรเทาน้ำทะลักฉับพลัน นอกจากนี้ประกบด้วยเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง คอยเฝ้าระวังระหว่าง กรมชลประทาน (เจ้าของเขื่อน) เพื่อดูแลสิ่งของสาธารณะและบ้านเรือน หากทะเลหนุนสูงจะได้ไม่รับความเสียหายหรือหาก หรือหากรุนแรงก็รับผลกระทบน้อยที่สุด รวมทั้งแนวผนังเขื่อนที่ฝั่ง ต.ท่าฉลอม จำนวน 500 เมตร ยังไม่แล้วเสร็จ สกัดกั้นแนวด้วยกระสอบทรายขนาบข้างบ้านเรือนประชาชนไว้ให้ซึ่งล่าสุดยังไม่น่าห่วง พร้อมกันนี้ยังได้ประสานเรือประมงคอบสมทบออกเร่งผลักดันท่าจีนลงสู่อ่าว ทั้งนี้สามารถเพิ่มเติมฟังสถานการณ์น้ำได้ที่ 034 424-981 ตลอด 24 ชั่วโมง และ สนง.ชลประทานจังหวัด 034-881175, 034-839037 ต่อ 11 จึงแจ้งทราบทั่วกัน

อ่างทอง - น้ำตลบหลังหลายตำบลในอ.ไชโยจม-จนท.ช่วยหมูทุลักทุเล

5 ตค. 2554 13:54 น.

สถานการน้ำท่วมในจังหวัดอ่างทองยังหนัก โดยเฉพาะ ต.ชัยฤทธิ์ ต.ตรีณรงค์,จระเข้ร้อง ต.ชัยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ขณะนี้น้ำตลบหลังมาจาก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี และ อ.บ้านแพรก จ.อยุธยา บ่าท่วมเต็มพื้นที่ฝั่งตะวันออก ของ อ.ไชโย เกินขีดที่จะเสริมคันป้องกันเพราะระดับน้ำท่วมทันทีกว่า 2 เมตร เดินเข้าไปไม่ได้ใช้เรืออย่างเดียว ทำให้ราษฎรเดือดร้อนหลายพันคนเดือนร้อนอย่างหนัก บางหมู่บ้านต้องติดอยู่ภายในขาดการติดต่อเนื่องจากอยู่ห่างจากถนนกว่า 3 กม. ประชาชนจำนวนมากต่างอพยพตัวเองและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ถนน โดยเฉพาะที่สายเอเชีย
เหตุการณ์ระทึกก็เกิดขึ้นเมื่อผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยวีอาร์ จังหวัดอ่างทองกำลังช่วยขนย้ายประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้านออกมาอยู่บนถนนนาย วิเชียร มาสะอาด อายุ 54 ปี ก็เข้ามาขอความช่วยเหลือบอกว่าให้เข้าไปช่วยเหลือแม่หมู่ที่ติดอยู่เกาะกลางน้ำในบริเวณหมู่ที่ 1 ต.ตรีณรงค์ และกำลังจะจมน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมด้วยนักข่าวของสำนักข่าวไทยจึงขึ้นเรือออกไปช่วยเหลือพร้อมกับทหารจากร.31 พัน 3 รอ. จ.ลพบุรี ในที่เกิดเหตุพบแม่หมู่จำนวน 3 ตัว ถูกล่ามด้วยเชือกอยู่กับหลักไม้จมอยู่ในน้ำเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทหารจากร.31 พัน 3 รอ.ได้ช่วยกันจับหมูเพื่อจะนำขึ้นเรือแต่ด้วยหมูที่มีน้ำหนักเกือบ 200 ก.ก. พยายามดิ้นด้วยความตกใจทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างตกน้ำกันไปตามๆกัน ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงจะจับแม่หมูผูกขาขึ้นเรือได้อย่างทุรักทุเล
นายวิเชียร กล่าวว่า น้ำได้ทะลักมาจาก อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านแพรกเร็วมาก ตนและภรรยาได้มาปลูกเพิงเลี้ยงหมู่อยู่ตรงนี้หลายปี พอน้ำท่วมตนไม่รู้จะทำอย่างไรถนนก็ไปไม่ได้น้ำลึกมากที่นอนตน หมูก็กำลังจะจมน้ำ ตนติดอยู่ตรงนี้นานกว่า 3 วัน พอมีคนพายเรือมาตนจึงขออาศัยไปขึ้นฝั่งและเห็นนักข่าวกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเข้าไปช่วยเหลือ หากไม่เจอคืนนี้หมูและตนคงจะจมน้ำตายแน่นอน

เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในแม่น้ำอีสต์มหานครนิวยอร์ก เหยื่อดับคาที่ 1 ราย

เรือของหน่วยกู้ภัยค้นหาเหยื่ออุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในแม่น้ำอีสต์

เอเอฟพี - เกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 206 ลำหนึ่งตกในแม่น้ำอีสต์ ย่านแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่นักบิน และผู้โดยสารอีก 4 รายได้รับความช่วยเหลือแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์กเผยว่า หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตผู้โดยสาร 3 คน และนักบิน 1 นาย หลังเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวตกลงในแม่น้ำอีสต์ ทว่า ผู้โดยสารอีก 1 รายเสียชีวิตคาที่

ด้านไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กระบุว่า ผู้โดยสารคู่หนึ่งเป็นชาวอังกฤษ ซึ่งอาศัยอยู่ในโปรตุเกส และอีก 2 คนอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย แต่ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าพวกเขาเป็นชาวออสเตรเลียนหรือไม่

"นอกเหนือจากนั้น ทางเรายังไม่สามารถบอกอะไรเพิ่มเติมได้อีกจริงๆ" บลูมเบิร์กเสริม

สถานีโทรทัศน์เอ็นวาย1 รายงานว่า ผู้ที่รอดชีวิต 2 รายมีอาการเข้าขั้นวิกฤต 1 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีกรายต้องทำการรักษาในที่เกิดเหตุ

แดน สวีนนีย์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้สถานีเอ็นวาย 1 ฟังว่า เฮลิคอปเตอร์กำลังมุ่งหน้าไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์บริเวณใกล้เคียง แต่กลับดิ่งลงแม่น้ำใกล้กับถนนสาย 34 ไม่ไกลจากอาคารสำนักงานของสหประชาชาติ

นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กยังชี้ว่า เร็วเกินไปที่จะระบุถึงสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง เนื่องจากขณะเกิดเหตุ สภาพอากาศ และท้องฟ้าแจ่มใส รวมถึงกระแสลมก็ไม่รุนแรง

กทม.เร่งระบายน้ำเต็มที่ ไม่หวั่นอยุธยาทะลัก ลอกคลองเคลียร์ทางน้ำแล้ว

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:18:05 น.
Share

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม สำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักการระบายน้ำเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.วันนี้ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดวัดที่ปากคลองตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาวัดได้ 1.81 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ประตูระบายน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,731 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำสูงสุดของวันนี้จะขึ้นอีกครั้งในเวลาประมาณ 14.45 น.


นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่ กทม.ยังอยู่ในภาวะที่ยังรับมือน้ำได้ จึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งวิตกกังวล ขอให้ติดตามข่าวสารเรื่องน้ำอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะพื้นที่ริมน้ำ ส่วนน้ำที่ไหลเข้ามาในปริมาณมากที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่าจะกระทบต่อ กทม. หรือไม่นั้น นายเจตน์กล่าวว่า มีความกังวล แต่หลังจากการคำนวณแล้วยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ กทม.สามารถดูแลได้อยู่ ส่วนการป้องกันเพิ่มเติมขณะนี้สำนักการระบายน้ำได้เร่งดำเนินการระบายน้ำเต็มที่และได้ดำเนินการขุดลอกคลองและกำจัดวัชพืชแล้วในคลองต่างๆ เพื่อไม่ให้กีดขวางทางน้ำไหล

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 บินสำรวจน้ำท่วม 3 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง พบ จ.พิษณุโลก และ สุโขทัย น้ำท่วมเต็มทุกพื้นที่ แผ่กระจายเป็นวงกว้าง

พล.ต.ท.อาจินต์ โชติวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เปิดเผยว่า ทางตำรวจภูธรภาค 6 ได้นำคณะนายตำรวจขึ้นเฮลิปคอปเตอร์บินสำรวจเส้นทางน้ำและสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งประกอบไปด้วย จ.พิษณุโลก สุโขทัย และตาก

พบว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และ จ.สุโขทัย มีน้ำท่วมเต็มทุกพื้นที่ แผ่กระจายเป็นบริเวณกว้าง จากนั้นคณะยังได้บินไปตรวจสอบเขื่อนภูมิพล จ.ตาก หลังมีข่าวว่า เขื่อนเก็บกักเริ่มเต็มอ่าง หวั่นเกรงว่าอาจส่งผลกระทบกับพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางได้

พล.ต.ท.อาจินต์ กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.ตาก ยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยจากการรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล ก็คลายความกังวลใจ เนื่องจากทางฝ่ายปกครอง ตชด. ตำรวจ และประชาชน มาร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่เขื่อน ประกอบกับทางเขื่อนภูมิพลมีการบริหารจัดการน้ำ มีการปล่อยน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนพื้นที่ท้ายน้ำ

โดยเวลานี้ มีปริมาณน้ำในเขื่อนเก็บกักไว้ 94 % ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกเหนือเขื่อนได้อีก พร้อมกันนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่สำรวจแนวหลังเขื่อน เพื่อวางมาตรการความปลอดภัยตัวสันเขื่อน หลังรับปริมาณน้ำมากเช่นปัจจุบัน ซึ่งทางเขื่อนได้ยืนยันว่าจะไม่มีเขื่อนแตกแน่นอน


INN ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 4 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 18:1

ดอยพระบาทดินสไลด์-อ่างพัง น้ำทะลักท่วมเมืองลำปาง

ลำปาง - ดอยพระบาทลำปางใกล้วัดสามัคคีบุญญาราม เกิดดินสไลด์เป็นวงกว้าง หลังน้ำป่าทะลักลงจากภูเขาติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินกั้นอ่างเก็บน้ำของวัดพังทลาย เจ้าหน้าที่เร่งทำคันดินใหม่เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง

นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องจักร เข้าทำการซ่อมแซมและทำคันดินขนาดกว้างกว่า 8 เมตร ยาว 20 เมตร สูงประมาณ 4 เมตร ตั้งแต่วานนี้ (4 ต.ค.) เพื่อกั้นน้ำในอ่างเก็บน้ำจำนวนสองแห่ง ในพื้นที่ของวัดสามัคคีบูญญาราม หรือที่ชาวบ้านรู้จักคือ วัดหลวงปู่หลวง ตั้งอยู่ที่บ้านหัวทุ่ง ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ได้พังทลายไป หลังน้ำป่าจากดอยพระบาทไหลทะลักลงมาจากภูเขาจำนวนมาก จนทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ใต้อ่างได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำท่วมสูง โดยมีพระครูสังฆรักษ์ชายแดน เจ้าอาวาสคอยดูแลและให้คำแนะนำ

ทั้งนี้ ด้วยปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหลายวัน ดินบนภูเขาอุ้มน้ำไว้ไม่ไหวจนทำให้ในวันนี้ดินบริเวณภูเขาดอยพระบาท ซึ่งอยู่บริเวณหลังวัดสามัคคีบุญญาราม เกิดสไลด์เป็นวงกว้าง ซึ่งสามารถมองเห็นเป็นดินที่ปราศจากต้นไม้ในระยะไกลและมีแนวโน้มว่าจะขยายวงกว้างออกไปอีกหากฝนยังคงตกหนักต่อ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางไหลของน้ำที่ลงมาสู่อ่างเก็บน้ำที่วัดทำไว้เพื่อเก็บกักน้ำจำนวน 2 อ่าง และได้พังทลายไปบางส่วนแล้ว

สำหรับการทำคันกั้นน้ำตลอดช่วงบ่ายของวันนี้ นอกจากจะมีการทำคันกั้นน้ำเดิมที่พังทลายแต่เพิ่มขนาดและความสูงเพิ่มขึ้นแล้วยังจะมีการขุดร่องระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีก เพื่อเป็นการชะลอความเร็วและช่วยระบายน้ำเพื่อป้องกันการพังทลายของขอบอ่างด้วย

เร่งอพยพคนเมืองอุทัยหนีน้ำท่วม-เผยบางครอบครัวยังไม่ยอมออกจากบ้าน

อุทัยธานี - สถานการณ์น้ำท่วมอุทัยธานีทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง หลังน้ำเหนือไหลบ่าเพิ่ม ล่าสุดระดับน้ำเพิ่มสูงอีก 10-20 ซม. จำเป็นต้องเร่งอพยพคนที่ยังติดค้างและไม่ยอมออกจากบ้าน หลังอยู่กันไม่ได้แล้ว

วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในจังหวัดอุทัยธานีว่า จากสถานการณ์น้ำทางภาคเหนือยังไหลบ่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้พื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานีได้รับผลกระทบหนักและทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 10-20 เซนติเมตร โดยเฉพาะตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง ซึ่งยังมีอีกหลายครอบครัวแม้น้ำจะท่วมสูงเกินชั้น 2 ของบ้านแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมอพยพออกมาและยังติดค้างอยู่ ขณะที่กระแสน้ำไหลเชี่ยว จนอาจเกิดอันตรายได้

ล่าสุด นางจุฑาภัค หนองไผ่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเทโพ ต้องนำกำลังพลจากกองพันทหารช่างที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ และ อปพร.นำเรือท้องแบนเร่งเข้าไปอพยพชาวบ้านที่ยังติดค้างอยู่จำนวนหลายครอบครัวออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ขณะเดียวกันยังมีบางครอบครัวยังไม่ยอมอพยพออกมาเพราะห่วงสมบัติ เช่น ครอบครัวของนายสิทธ์ มาดสิงห์ ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลเกาะเทโพ พร้อมภรรยา และหลานอีก 2 คน แม้น้ำจะท่วมยังไม่ถึงชั้น 2 ทั้งยังมีกองวัชพืชหนากว่า 1.5 เมตร จำนวนมหาศาล (ต้นขนุ่นในพื้นที่หลายร้อยไร่) ถูกพัดและลอยมาประชิดบ้าน ซึ่งหากมีแรงลมพายุเข้ามาคาดว่าถึงแม้บ้านจะแข็งแรงอย่างไรต้องพังแน่ และกองวัชพืชดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่อผลหมากรากไม้ ต้นมะพร้าว ต้นยูคาลิปตัสจำนวนมากที่อยู่ใกล้จากบ้านห่างออกไปถึง 100 เมตร จนพังราบเป็นหน้ากองไปแล้ว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้พยายามเกลี้ยกล่อมครอบครัวดังกล่าวอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ยอมอพยพออกมา แม้หลานชายและหลานสาวทั้ง 2 แม้จะมีความกลัวอย่างมากก็ตาม แต่ก็บอกว่าถ้าปู่ไม่ออกไป ก็จะไม่ยอมออกเช่นกัน และขณะนี้ได้พยายามติดต่อลูกหลานที่อยู่กรุงเทพฯ ให้รีบกลับมาเกลี้ยกล่อมอีกทางหนึ่งแล้ว
 

เวียดนามอพยพคนครึ่งแสนหนีไต้ฝุ่นนาลแก

ภาพวันที่ 2 ต.ค.2554 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรจนเกือบมิดหลังในเขตคอมมูนเติ่นหวา (Tan Hoa) จ.กว๋างบี่ง (Quang Binh) ในภาคกลางตนบนอันเป็นผลงานของพายุโซนร้อนเนสาด (Nasat) ซึ่งแม้จะอ่อนตัวลงจนกลายเป็นหย่อมความกดอากาศแล้วก็ตาม ยังทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาถึง 3 วัน ทางการเวียดนามเตรียมรับมือกับพายุนาแก (Nalgae) เต็มอัตราขณะเคลื่อนเข้าใกล้ฝั่งในวันพุธ 5 ต.ค.ศกนี้. -- AFP PHOTO.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการได้อพยพราษฎรกว่า 54,000 คนใน จ.เหงะอาน (Nghe An) ออกจากพื้นที่เสี่ยงในวันอังคาร 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมรับการเข้าฝั่งของไต้ฝุ่นนาลแก (Nalgae) ที่จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและดีเปรสชั่นในบ่ายวันพุธ 5 ต.ค.ศกนี้ เรือประมงอีกกว่า 30,000 ลำในทะเลจีนใต้ ได้รับคำเตือนให้หาที่กำบังคลื่นลมที่เกิดจากอิทธิพลของพายุ

ใน จ.แทงฮว้า (Thanh Hoa) ที่อยู่สูงขึ้นไป มีการเตรียมการกู้ภัยไว้พร้อม ขณะที่ทหารออกช่วยชาวนาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวให้พ้นจากลมฝนจนนาทีสุดท้ายในวันอังคารนี้ สำนักข่าวซเวินจี๊ ภาษาเวียดนามกล่าว

ทางการ จ.ห่าตี๋ง (Ha Tinh) ได้แจ้งเตือนไปยังเรือประมงกว่า 3,800 ลำ กับลูกเรือ 13,000 คน ให้เข้าฝั่ง และมีการอพยพราษฎรกว่า 27,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยง

หลายท้องถิ่นเตรียมรับมือกับเหตุน้ำท่วมฉับพลัน เพราะถึงแม้ว่าพายุจะอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว แต่ดีเปรสชั่นที่ตามมายังจะทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานนับวัน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอยออกพยากรณ์ในบ่ายวันอังคาร ขณะพายุลูกนี้เคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ สองวันมานี้ทางการได้แจ้งเตือนเรือประมงทั้งหมด 34,000 ลำ กับลูกเรือกว่า 154,000 คน ที่กำลังอยู่ในทะเลจีนใต้ให้รีบเข้าหาที่กำบังคลื่นลมแรงจากพายุ

ในวันพุธนี้พายุ จะยังอยู่ห่างจากชายฝั่ง จ.เหงะอาน-กว๋างบี่ง ราว 100 กม.ด้วยลมแรงระดับ 8-10 แต่ภายใน 48-72 ชั่วโมงถัดไปจะอ่อนตัวลงอีกกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งจะยังทำให้เกิดฝนตกคลุมบริเวณกว้าง ศูนย์อุตุนิยมวิทยากล่าว

สัปดาห์ที่แล้วหลังพายุโซนร้อนเนสาด (Nesat) อ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำในภาคเหนือ ได้ทำให้เกิดฝนตกติดต่อกันเป็นเวลาอีก 3 วัน สร้างความเสียหายแก่พืชผลการเกษตรในหลายจังหวัดเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายใน จ.กว๋างบี่ง ที่อยู่ใต้ลงไป

ช่วงเดียวกันนี้หลายจังหวัดในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงทางภาคใต้กำลังประสบอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี พบผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย รวมทั้งเด็กๆ 5 คน นาข้าวเสียหายกว่า 5,000 เฮกตาร์ (กว่า 31,000 ไร่) บ้านเรือนราษฎรกว่า 20,500 หลังคาจมน้ำ

จ.อานซยาง (An Giang) และ จ.โด่งท้าป (Dong Thap) เสียหายหนักที่สุดจากอุทกภัยใหญ่ครั้งนี้ เตื่อยแจ๋กล่าว.
 

กำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ส่งผลให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกชุกและฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 5 - 8 ต.ค.

ปภ.เตือน19จว.อีสาน เสี่ยงท่วมฉับพลันน้ำป่าหลาก 5-8 ต.ค.นี้

5 ตค. 2554 12:05 น.

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจติดตามภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า พายุโซนร้อนนาลแก ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว และคาดจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่อน

อนุโมทนาบุญกับคุณแมวนะค่ะ

ดิฉันก็คิดเหมือนกันค่ะว่าถึงเวลาธรรมชาติเอาคืนแล้วจริงๆเพราะดูข่าวแล้ว

ทั่วทั่งประเทศเรามีแต่น้ำเต็มไปหมดประเทศจะเป็นทะเลน้ำจากฟ้าแล้วและด้านแผ่นดินไหวตอนนี้แถบหมู่เกาะอัดามันเกิดแผ่นดินไหวขนาดกลางเกือบทุกวัน(เช็คจากเว็ปสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว)ค่ะภัยเข้าใก้ลตัวทุกวันๆนะค่ะมีสติ ใช้ชีวิตไม่ประมาทกันนะค่ะ ทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับสลายไป