กระสุนเจาะอก-เลือดสาด 2 นิคมลุยเสริมคันสู้เต็มที่
กทม.มาแปลกจัดพิธีไล่น้ำ
ชาวอยุธยาเจอวิกฤติอุทกภัยอย่างหนักสุดทน
ถึงกับยกพวกดวลปืนกันปางตาย
หลังฝ่ายที่ถูกน้ำท่วม
บุกรื้อคันดิน อีกฝ่ายกลัว
น้ำทะลักเข้านาข้าวนับหมื่นไร่
เลยเปิดฉาก โต้เถียง สุดท้ายใช้ลูกปืนตัดสินปัญหา
นายอำเภอต้องระดมตำรวจหย่าศึก ขณะที่นิคอุตสาหกรรม
2 แห่ง เร่งเสริมคันกั้นป้องกันเต็มที่
หลังน้ำจ่อเพิ่มสูงขึ้นหวั่นพินาศกว่า 6 หมื่นล้าน
หลายจังหวัดยังทุกข์ระทมน้ำทะลักไม่หยุด
กทม.เตรียมจัดพิธีไล่น้ำ ณ ศาลหลักเมือง
ด้านนายกฯเรียกประชุม รมต.หารือแก้น้ำท่วม
อุทกภัยครั้งใหญ่ยังคงขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
หลายจังหวัดอยู่ในขั้นวิกฤติรุนแรง
โดยเฉพาะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
น้ำทะลักเข้านิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร
เสียหายย่อยยับ ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ
และนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค (บ้านหว้า)
และนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน
อยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมอย่างมาก
เนื่องจากน้ำจ่อรอบทิศ
จนต้องเร่งเสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น
ส่วนที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
ช่วงเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 6 ต.ค.
ได้มีชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมบ้าน
และนาข้าวริมถนนสายนครหลวง-ภาชี
พากันไปพังคันดินกั้นน้ำบริเวณสี่แยกโคกมะลิ
หมู่ 4 ต.นครหลวง หลังจากแม่น้ำป่าสัก
ทะลักเข้าท่วมอย่างหนัก
แต่ถูกชาวบ้านอีกกลุ่มซึ่งมีอาชีพทำนา
เข้าขัดขวางจนเกิดการโต้เถียงกัน
ระหว่างนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้ชักปืนยิงขึ้นฟ้า
และยิงใส่กัน เป็นเหตุให้นายณัฐพล ภาคเกศรี
อายุ 20 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ถูกน้ำท่วม
โดนกระสุนปืนเจาะหน้าอกขวาทะลุหลัง
และแขนขวาอาการสาหัส
ถูกส่งไปรักษาที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราช
ก่อนส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์พระนครศรีอยุธยา
หลังเกิดเหตุนายธนยศ ปานขาว
นายอำเภอนครหลวง พ.ต.อ.พงศ์พล พงษ์พิลา
ผกก.สภ.นครหลวง นำกำลังไประงับเหตุ
พร้อมเจรจาหาข้อยุติ
ซึ่งกลุ่มชาวบ้าน
ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ต้องการให้มีการระบายน้ำ
ออกจากพื้นที่
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
แต่กลุ่มชาวนาอ้างว่า
หากปล่อยให้มีการพังคันดินกั้นน้ำ
จะทำให้น้ำไหลทะลัก
ลงคลองชลประทานเข้าท่วมนา
ข้าวได้รับความเสียหายนับหมื่นไร่
ในที่สุดชาวบ้านที่รื้อคันกั้นน้ำ
ยอมล่าถอยออกไป
หลังตกลงกันได้เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน
ได้นำกระสอบทรายและรถตักมาเสริมคันดิน
ที่พังทลาย ขณะที่ พ.ต.อ.พงศ์พล
ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาตัวคน
ที่ใช้ปืนยิงนายณัฐพล มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่
รพ.ศูนย์พระนครศรีอยุธยา พบนายณัฐพล
พักฟื้นอยู่ชั้นที่ 4 โดยนายณัฐพลเล่าเหตุการณ์ว่า
พวกตนและชาวบ้านหมู่ 1และหมู่ 2
ต.นครหลวง กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก
เพราะน้ำท่วมนาข้าวมาหลายวันแล้ว
จึงตกลงกันว่าจะมาขอความกรุณา
ให้เปิดคันกั้นน้ำ และก่อนเปิดคันกั้นน้ำ
ก็ไปแจ้งตำรวจ สภ.นครหลวงแล้ว
แต่ก็มีชาวบ้านอีกฝั่งไม่อยากให้เปิด
เพราะกลัวน้ำท่วมนาข้าว
จนเกิดเหตุปะทะและมีเสียงปืนดังหลายนัด
ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บที่อกและแขนขวา
หลังเกิดเหตุพ่อรีบพาส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตามตนอายุแค่ 20 ปีเท่านั้น
ที่มาก็เพราะเป็นห่วงชาวบ้านที่เดือดร้อน
แต่ก็ต้องมารับเคราะห์กรรม
Credit : Thairath
