บุรีรัมย์อ่วมหลังลำน้ำมูลทะลัก

แม่น้ำมูล ทะลักท่วม หมู่บ้านเลี้ยงช้าง ต.ท่าม่วง

อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แล้ว เดือดร้อนหนัก วอน รัฐช่วย

         สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.บุรีรัมย์

ยังคงขยายวงกว้าง ล่าสุดน้ำในลำน้ำมูล

ได้เอ่อทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านป่าทาม

บ้านทวนเงิน และป่าสาธารณประโยชน์

ต.ท่าม่วง อ.สตึก ซึ่งเป็นป่าอาหารช้าง

ทำให้ส่งผลกระทบต่อเจ้าของหรือควาญช้าง

ต้องนำช้างออกไปเดินเร่ร่อน

เพื่อหาเงินซื้ออาหารเลี้ยงช้าง

ขณะที่บางรายไปเกี่ยวหญ้ากลางทุ่งนา

มาเลี้ยงช้าง หากไม่เช่นนั้น

จะต้องยอมซื้อหญ้า

เพื่อให้ช้างกินวันละ 2,000 บาท

ซึ่งสร้างความเดือดร้อน

ให้ผู้เลี้ยงช้างเป็นอย่างมาก

เนื่องจากผลกระทบดังกล่าว

ชาวบ้านจึงเรียกร้องให้รัฐบาล

ได้เข้ามาช่วยเหลือ

โดยการสร้างควาญช้าง

ในเขตพื้นที่จังหวัด หรือ จัดให้ช้าง

ได้ไปบริการนักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

เพื่อให้ทั้งคนและช้างอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน

Credit : INN

 โรคฉี่หนูลำปางระบาดชาวบ้านดับแล้ว1

ลำปาง พบชาวบ้านเป็นโรคฉี่หนูตายแล้ว 1 หลังน้ำท่วมหนัก

         น.พ.ศิริชัย ภัทรนุภาพร นายแพทย์สาธารณสุข

จังหวัดลำปาง ออกมาเปิดเผยว่า น้ำท่วมที่ผ่านมา

ช่วงต้นเดือน ตุลาคม 2554 ปรากฏว่า

ได้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย จากโรคฉี่หนู

คือชาย วัย 26 ปี ชาวบ้าน

ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง เสียชีวิต

ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม

จากการสอบสวนอาการ ทราบว่า

ชายคนดังกล่าว ได้เหยียบย่ำพื้นน้ำ

โดยไม่สวมรองเท้า หลังจากนั้น

มีอาการเป็นไข้ได้ 2 วัน

และซื้อยามารับประทานเอง

แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงไปหาหมอที่ ร.พ.เถิน

จากนั้นได้ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่

ร.พ.ศูนย์ลำปาง และได้เสียชีวิตลง

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา 

       อย่างไรก็ตาม การระบาดโรคฉี่หนู

ในพื้นที่ จ.ลำปาง ก็พบผู้ป่วยแล้ว

ประมาณ 50 ราย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่

อ.เกาะคา อ.เมืองปาน ด้าน สาธารณสุข

จ.ลำปาง ออกมาเตือนประชาชน

และเกษตรกรว่า ในช่วงที่น้ำท่วมช่วงนี้

เตือนประชาชนเกษตรกร

ที่เดินย่ำน้ำในแปลงนาด้วยเท้าเปล่า

เป็นเวลานาน หรือหากเท้ามีบาดแผล

อาจะมีโอกาสเสี่ยง

เป็นโรคฉี่หนูทางที่ดีควรหารองเท้าบู้ทมาส่วมใส่

Credit : INN

  อุทัยจระเข้หลุดฟาร์ม 100 ตัว

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

     นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ เป็นประธานประชุม

ความร่วมมือระหว่างกรมอุทยาน

แห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)

กับคณะสัตวแพทยศาสตร์ 6 สถาบัน

ชมรมสัตวแพทย์สัตว์ป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เพื่อช่วยเหลือประชาชน

ที่ประสบเหตุสัตว์ป่าพลัดหลง จากอุทกภัย 

         ในที่ประชุมครั้งนี้ตัวแทนจาก

กรมประมงกล่าวว่า ได้รับรายงานว่า

จ.อุทัยธานี มีจระเข้หลุดออกมาจากฟาร์ม

ซึ่งในฟาร์มมีจระเข้ประมาณ 100 ตัว

เจ้าหน้าที่กรมประมง

ได้ส่งเรือและทีมเข้าไปตามจับแล้ว 

Credit : Matichon

จระเข้กว่า 100 ตัวได้หลุดออกจากฟาร์มอ.บางไทรเร่งตามจับ

ที่หน้าศูนย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นและทะลักเข้าบริเวณ

ด้านในที่ผู้อพยพเข้ามาอาศัย

ขณะที่จระเข้กว่า 100 ตัว

ได้หลุดออกจากฟาร์ม

ที่หมู่ 1 ของอำเภอบางไทร

เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการจับ 

         อยุธยา (11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ที่หน้าศูนย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ (11)

ปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นและทะลักเข้า

บริเวณด้านในที่ผู้อพยพ เข้ามาพักอาศัยอยู่ 

        ก่อนหน้านี้ จังหวัดได้นำกระสอบทราย

มากั้นไว้ และต่อมา กำลังพลได้นำหินคลุก

มาเสริมให้สูงขึ้น เพราะเกรงว่า

จะมีผลกระทบต่อผู้อพยพซ้ำอีก

          นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งจากประมง

จังหวัดอยุธยา ว่า มีจระเข้กว่า 100 ตัว

ได้หลุดออกจากฟาร์มที่หมู่ 1

ของอำเภอบางไทร เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการจับอยู่

  ตะลึง!!ภาพก้อนเมฆรูปแผนที่ประเทศไทย 

 

จู่ๆเมฆบนท้องฟ้าก็ไหลมารวมกันเว้นช่องว่างเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย

จนหลายๆคนที่พบเห็นต่างก็วิจารณ์กันต่างๆนาๆ

ใครจะเชื่อยังไงดูแล้วก็คิดเองนะครับ

Credit : Sanook

ภาพประทับใจและซึ้งมาก

คุณตาที่นั่งขอทานอยู่ ท่านเอาตังค์ทั้งหมดที่มีในแก้วบริจาคให้กับน้องที่เดินสายรับบริจาค

เรามาร่วมอนุโมทนา กับคุณตาท่านนี้กันค่ะ

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำความดีได้

ขอให้ท่านมีความสุข

เทศบาลนครปากเกร็ด งดแจ้งเตือนสถานการณ์ฉุกเฉินด้วยการจุดพลุสี 5 นัด ป้องกันสับสน

เพื่อป้องกันความสับสนในการแจ้งข่าวสารสถานการณ์ฉุกเฉิน เทศบาลนครปากเกร็ดจึงของดการแจ้งเตือนสถานการณ์ฉุกเฉินด้วยพลุสี 5 นัดตามที่ประกาศไว้
โดยขอให้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครปากเกร็ด ติดตามการแจ้งเตือนสถานการณ์ฉุกเฉินจากจังหวัดนนทบุรี ต่อไป

ระทึก! บ้านไม้ถล่มทั้งหลัง เหตุน้ำท่วมหนัก โชคดีไร้เจ็บ-ตาย

พิษน้ำท่วมหนักบ้านไม้สภาพเก่ายกพื้นสูงเกิดทรุดพังถล่มลงมา จมน้ำลึกราว 1 เมตร โชคดีไร้เจ็บ-ตาย เจ้าของบ้านเผย ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังโครมจึงออกมาดูถึงรู้ว่าบ้านได้พังถล่มลงมา


12/10/2011
05:12 น.

ช้างก็เดือดร้อน ควาญพาเดินตามถนนหนีน้ำท่วม

สภาพช้าง 2 เชือกที่ควาญนำออกมาเดินตามถนน เพื่อหนีสภาพน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่อยุธยา โดยควาญช้างเผยตอนนี้ที่ตลาดน้ำบางช้างน้ำได้ท่วมสูงประมาณ 4-5 เมตร


12/10/2011
04:00 น.

ผู้ว่าปากน้ำ มั่นใจขุดคลองรับมือน้ำท่วม เสร็จตามกำหนด

ผู้ว่าปากน้ำ ตรวจความคืบหน้าขุดคลอง 3 สาย รับมือน้ำท่วมตามบัญชานายกรัฐมนตรี มั่นใจเสร็จทันกำหนด ก่อนที่ กทม. จะผันน้ำลงมา


12/10/2011
04:00 น.

ชาวนนท์แตกตื่น! มือดีจุดพลุป่วน ส่งสัญญาณบอกเหตุ

นนทบุรีป่วน หลังมือดีจุดพลุหลอกส่งสัญญาณบอกเหตุหากมีแนวพนังกั้นน้ำจุดใดพังลงมา ทำเอาชาวบ้านแตกตื่นโทร.ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุ ศูนย์นนท์ ของตำรวจภูธรสายแทบไหม้


12/10/2011
02:23 น.

จ่อจมน้ำ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ่อใช้เฮลิคอปเตอร์ย้ายคนไข้

รพ.สวรรค์ประชารักษ์ น้ำที่ท่วมขังยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดผู้ป่วยนอนรักษาขณะนี้ อยู่ที่ 490 คน ด้าน รพ.ปทุมธานีเปิดแผนรับมือ เตรียมย้ายผู้ป่วยหนัก 28 ราย ส่งต่อไป นครสวรรค์


12/10/2011
02:22 น.

ชาว อ.สามโคก ฮือปิดถนน ฉุนถูกปล่อยให้เป็นพื้นที่รับน้ำ

ชาว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 2 หมู่บ้าน ฮือปิดถนนประท้วง ไม่พอใจทางการสั่งบล็อกน้ำ จะปล่อยให้พื้นที่น้ำท่วมเพื่อป้องกัน กทม.


12/10/2011
02:22 น.

สุพรรณวิกฤต น้ำเหนือถล่มใกล้พ้นเขื่อนป้องกันแล้ว

6 อำเภอ สุพรรณบุรี จมบาดาล น้ำเหนือถล่มใกล้พ้นเขื่อนป้องกันแล้ว ชาวบ้านสุดช้ำไร้ห้องน้ำปลดทุกข์ วอนเร่งช่วย


12/10/2011
01:41 น.

ชาวปทุมฯแห่นำรถจอดบนที่สูง หนีน้ำท่วมแล้ว

ชาวปทุมธานีสู้น้ำท่วมสุดฤทธิ์ แม้จะไหลทะลักเข้ามาทุกทิศทุกทาง โวยหน่วยราชการไม่ให้ความช่วยเหลือ ขณะที่ชาวบ้านไม่ประมาทแห่นำรถยนต์ไปจอดบนที่สูงแล้ว

12/10/2011
01:41 น.

ศปภ. เผยพื้นที่ กทม.ชั้นในรอดจากน้ำท่วม

"วิม รุ่งวัฒนจินดา" เผย "ปู ยิ่งลักษณ์" บินตรวจพื้นที่กรุงเก่า เน้นพื้นที่ห่างไกล เปรยเป็นห่วงเรื่องเสบียงเข้าไม่ถึงมือชาวบ้าน ด้าน ศปภ.สั่งเจ้าหน้าที่ขุดคลอง 5 แห่ง เร่งระบายน้ำออก

12/10/2011
00:13 น.

น้ำท่วมหายนะ ปรับเป้าจีดีพี อาจต้องกู้ฟื้นฟู

นายกรัฐมนตรี ห่วงขนคนออกจากพื้นที่น้ำท่วม สั่ง สศช.ปรับเป้าจีดีพี กุมขมับคลอง กทม.มีปัญหาระบายยาก วอนประชาชนอย่าพังคันกั้นน้ำป้องกันกรุงเทพ


11/10/2011
22:52 น.

"กลาโหม" ส่งทหารทำแนวป้องกันน้ำท่วม สนามบินสุวรรณภูมิ

ยุทธศักดิ์ รมว.กลาโหม รับส่งหน่วยทหารเร่งทำแนวป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ ฝั่งตะวันออก กทม. รวมไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิด้วย


11/10/2011
22:29 น.

ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เปิดพื้นที่จอดรถปชช.หนีน้ำท่วม

ศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศบางไทรประกาศปิดทำการ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

น้ำท่วมพื้นที่มีนบุรี 2 ใน 3


สำรวจปัจจัยเสี่ยงน้ำท่วมสูงเขตมีนบุรี พื้นที่ที่กรุงเทพมหานคร โดยขณะนี้พื้นที่น้ำท่วมในเขตมีนบุรีส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นอกคันกันน้ำ ประชาชนกว่า 37 ครัวเรือนอาจเดือดร้อน

ยายจำรัส สวมมาลา ชาวบ้านชุมชนลำพุทรา ยืนกรานไม่ยอมย้ายที่พักหากระดับน้ำท่วมสูงถึงชั้น 2 ซึ่งขณะนี้บ้านยายจำรัสไม่สามารถใช้ห้องน้ำและพื้นที่ทำขนมต้องยกสูง นอกจากบ้านยายจำรัสแล้ว ยังมีชุมชน ตาลีเพลส สุธาธร สุวรรณภูมิ กว่า 1000 ครัวเรือนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสูงประมาณ 80-1เมตร ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา


ผู้นำชุมชนได้ร้องขอควารมช่วยเหลือผ่านทางผู้สื่อข่าว วอยซ์ทีวี ว่าสิ่งที่ชุมชนต้องการมากที่สุดคือ ห้องส้วมลอยน้ำ และอยากให้เจ้าหน้าที่สูงน้ำจากพื้นถนน เพราะขณะนี้รถ 2 แถวและมอเตอร์ไซครับจ้างไม่สามารถให้บริการได้ ทำให้ชาวบ้านต้องเดินเท้าไกลระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร

เขตมีนบุรีเป็นพื้นที่ที่กรุงเทพมหานครประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมสูง โดยมี 37 ชุมชนอยู่นอกคันดินกั้นน้ำที่สร้างเมื่อปี 2526 เริ่มสร้างที่ริมคลองสามวา ผ่านถนนหทัยราษฎร์ ถนนนิมิตรใหม่ ร่มเกล้า ไปถึงมอเตอร์เวย์ลาดกระบัง ยังกว่า25 กิโลเมตร แต่ขณะนี้น้ำจากคลองแสนแสบและคลองสามวาได้ท่วมคันดินที่สูง50-60 เซนติเมตรกลายเป็นบึงอย่างที่เห็น โดยพื้นที่เขตมีนบุรีมีน้ำท่วมคิดเป็น 2 ใน 3พื้นที่ทั้งหมด สร้างความเสียหาย 1,472 ไร่
ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาข้าว ประมงน้ำจืด โดยมีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 208 ราย

ส่วนการให้ความช่วยเหลือทางสำนักงานเขตมีนบุรีขึ้นตรงกับกรมชลประทานคุม ประตูระบาย 2 แห่ง คือ ประตูระบายน้ำแสนแสบ และประตูระบายน้ำลำบึงขวาง โดยระบายน้ำจากเขตหนองจอก มีนบุรี คองสามว่าไปสมุทรปราการผ่านคลองด่านสู่อ่าวไทย ขณะนี้ทางสำนักงานเขตมีนบุรีกังวลใจกับมวลน้ำระลอกใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งทางสำนักงานเตรียมพร้อมรับมือช่วยเหลือประชาชนทันที

Produced by VoiceTV

ในที่สุดพระนครศรีอยุธยาก็พ่ายแพ้ต่อภัยธรรมชาติอย่างราบคาบเปรียบเสมือนกับการเสียกรุงอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้อริราชศัตรูไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นมวลน้ำมหาศาล ที่มาจ่อเลาะเลียบค่ายอยู่นานนับเดือนถาโถมทะลักเข้าตัวเมืองเศรษฐกิจชั้นใน ที่หลายฝ่ายพยายามปกป้องรักษากันอย่างสุดความสามารถ

 กว่า 2 เดือนแล้วที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องรับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ในช่วงแรกยังเป็นเพียงอำเภอรอบนอก ไม่ว่าจะเป็น อ.บางบาล อ.เสนา อ.บางไทร อ.ผักไห่ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากทุกปียามหน้าฝน มีความพยายามทุกวิถีทางที่จะปกป้องพื้นที่ชั้นในของเมืองซึ่งเป็นเกาะกลางโดยถูกโอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักไม่ให้เข้าท่วมแต่เหมือนพระเจ้าจะไม่เข้าข้าง ท้ายที่สุดพลังของพระแม่คงคาที่ไม่มีอะไรจะมาปิดกั้นได้เข้าท่วมจนเกือบเต็มพื้นที่มากกว่าร้อยละ 90 วันนี้คนไทยทุกคนต้องมีพลังใจและความสามัคคีสู้กับภัยธรรมชาติที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งยากที่จะเอาชนะได้

(โพสต์ทูเดย์ 10 ต.ค. 2554 )

"สุขุมพันธุ์"สั่งเปิด78โรงเรียนกทม.รองรับผู้ประสบภัย



กทม.เปิด โรงเรียนสังกัดกทม. 78 แห่ง และโรงเรียนฝึกอาชีพกทม. 10 แห่ง เตรียมพร้อมรองรับกรณีผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพื้นที่จุดเสี่ยงนอกแนวป้องกัน น้ำท่วม 27 ชุมชน และฝั่งตะวันออก

ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เร่งขนหนังสือนับแสนเล่มหนีน้ำ!
 

กทม.วอนอย่าตื่น 15 จุดเสี่ยงยันเอาอยู่ เตือนคลองรังสิต 1-6 ขนของขึ้นสูง

โฆษก กทม.เผย อาจมีฝนชุกอีก ย้ำ จุดอ่อน 15 จุดเสี่ยงน้ำท่วมเฉพาะฝนตกหนักเท่านั้น หากปริมาณน้ำฝนที่ตกไม่เกิน 60 มม.ต่อชั่วโมงมั่นใจรับมือได้ ขณะที่กรมชลประทานประกาศเตือนชาวรังสิตคลอง 26 เตรียมรับน้ำจากนิคมโรจนะ อีก 2 วัน ก่อนผันลงคลองระพีพัฒน์ จึงเตือนชาวคลองรังสิต 1-6 ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง

วันนี้ (11 ต.ค.) นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่แจ้งว่า ในช่วงนี้จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออกมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยจากการสำรวจพบว่ากรุงเทพมหานครชั้นใน มีพื้นที่จุดอ่อน 15 พื้นที่ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม หากมีปริมาณฝนตกเกินกว่า 60 มม./ชั่วโมง

ทั้งนี้ กทม.ขอแจ้งให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมิใช่พื้นที่เสี่ยงต่อผลกระทบของประมาณน้ำเหนือไหล บ่า หรือน้ำทะเลหนุน เป็นเพียง “พื้นที่จุดอ่อนที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมในกรณีที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง” เท่านั้น โดยสำนักการระบายน้ำ กทม.ได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำพร้อมเจ้าหน้าปฏิบัติงาน ซึ่งจะสามารถสูบน้ำออกจากพื้นที่ได้ภายใน 2 ชั่วโมง ขณะเดียวกันยังได้ดำเนินการพร่องน้ำในคลองสายหลักให้มีปริมาณน้ำลดลงอย่าง ต่อเนื่องเพื่อช่วยในการระบายน้ำอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากในช่วงนี้จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและกรุงเทพฯ อาจส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ปริมาณฝนสูงถึง 2,043.5 มิลลิเมตร สูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 43.5% ปริมาณระดับน้ำเหนือ (ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา) ที่เขื่อนเจ้าพระยาและพระราม 6 อยู่ที่ 4,756 ลบ.ม./วินาที ลดจากเมื่อวาน (10 ต.ค.) 130 ลบ.ม./วินาที

ขณะที่ประตูระบายน้ำบางไทรอยู่ที่ 3,560 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้นอีก 379 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ปากคลองตลาด เมื่อเวลา 07.00 น.อยู่ที่ระดับ +1.92 ม.รทก.(ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 88 ซม.) และคาดการณ์โดยกรมอุทกศาสตร์ว่าในเวลา 18.00 น.ระดับน้ำจะอยู่ที่ +1.98 ม.

โฆษก กทม.กล่าวว่า ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำได้ที่ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กองสารสนเทศระบายน้ำ โทรศัพท์ 02-248 5115 โทรสาร 02-248 8012 หรือสายด่วน กทม.1555

ขณะที่กรมชลประทาน ประกาศเตือนว่า น้ำที่ท่วมในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะถึงคลอง 26 รังสิต ในอีก 1-2 วันข้างหน้า ก่อนไหลเข้าคลองระพีพัฒน์ ภายใน 3 วัน ทำให้กรมชลประทานต้องระบายน้ำจากคลองระพีพัฒน์ฝั่งตะวันตก เข้าสู่คลองรังสิต 1-6 เพื่อให้คลองระพีพัฒน์สามารถรองรับน้ำเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่คลองรังสิต 1-6 ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นคลอง โดยคาดว่า ระดับน้ำอาจสูงกว่าถนนไม่เกิน 1 เมตร จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนขนย้ายสิ่งขอขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม น้ำจะไม่ไหลพ้นคลองรังสิต จนสร้างผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยในเขตดอนเมืองอย่างแน่นอน

พนังกั้นน้ำช่วงเขากระดี่ชัยนาทพังเพิ่มอีก3จุด 
 
11 ตค. 2554 20:44 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ชัยนาท แจ้งว่า จากการเปิดเผยของนายศุภกร เชียรเจริญ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ว่าพนังกั้นน้ำท่าลาศหรือเขาบางกระดี่ที่กั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้พังลง ที่หมู่ 9 ต.ธรรมมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท ทำให้น้ำไหลผ่านข้ามถนนพหลโยธิน เข้าท่วม ตำบลธรรมมามูล ตำบลเขาท่าพระ ตำบลหางน้ำสาคร ตำบลเสือโฮก ไหลไป อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างนั้น พบว่า มีการพังของพนังกั้นน้ำอีก 3 จุดความยาวจุดละ 10 เมตร ซึ่งอยู่ห่างกัน 200 เมตร ต่อจุด ในตำบลธรรมมามูล หมู่ที่ 9-10 อ.เมือง จ.ชัยนาท ทำให้น้ำไหลข้ามถนนพหลโยธิน อย่างรวดเร็ว และ ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเกาะโพธิ์ อ.เมือง จ.ชัยนาท น้ำเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง

ส่งผลทำให้น้ำทางฝั่ง อ.วัดสิงห์ และ อ.เมืองชัยนาท ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ลดลงประมาณ 5 ซม. ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมชลประทานเข้าไปซ่อมแซมด้วยความยากลำบากเพราะน้ำไหลเชียวมากการขนอุปกรณ์เครื่องมือและคนงานวิ่งอ้อมออกถนนสายเอเซียไปเข้าที่ แยกหางน้ำสาครแล้วจึงเข้าไปที่จุดพนังกั้นน้ำแตกทำงานได้แต่ให้เบื้องต้นใช้ตาข่ายเหล็กให้หินแล้วใช้รถแบคโฮนำเข้าไปวางได้แค่ชะลอน้ำได้แล้ว 1 จุด คงเหลืออีก 2 จุดคงต้องรออุปกรณ์ต่างๆจากที่อื่นเข้ามาเสริมให้มากขึ้นเพื่อเร่งซ่อมพนังกั้นน้ำอีก 2 จุดต่อไปให้แล้วเสร็จ

.

ยันน้ำทะลักกรุงเทพฯเอาอยู่ ถึงท่วมก็ไม่เกินสัปดาห์ วันที่ 11/10/2554 21:00 สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ยันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เอาอยู่ ถ้าท่วมก็แค่ไม่เกินสัปดาห์ ด้าน ผอ.ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมฯ รับห่วงการผันน้ำออกจากพื้นที่ กทม. เนื่องจากมีศักยภาพที่จำกัด ... เมื่อวันที่ 11 ต.ค. นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำที่จะไหลเข้าท่วมพื้นที่ กทม.นั้น เชื่อว่าจะไม่วิกฤติมากนัก ถึงแม้จะมีน้ำไหลผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่เสี่ยงของ กทม.ได้ก็ตาม แต่เนื่องจากพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก และ กทม.ก็สามารถระดมเครื่องสูบน้ำระบายน้ำที่เข้าท่วมออกไปตามจุดผันคลองระบายน้ำต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หากวิกฤติจริงอย่างน้อยระดับการท่วมขังก็อาจจะสูงสุดไม่เกินหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสถานการณ์น้ำปีนี้วิกฤติมาก สาเหตุจากปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมลงในเขื่อนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล มีน้ำไหลเข้าเขื่อน 4 เท่าของปริมาณน้ำในช่วงปี 2549 เช่นเดียวกับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็มีปริมาณน้ำไหลเข้า 3 เท่า ทำให้การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งกรมชลประทานพยายามแล้วแต่อาจไม่ได้ 100% ขณะที่ ดร.เสรี ศุภทราทิตย์ ผอ.ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติ สิรินธร กลับแสดงความเป็นห่วงว่า การผันน้ำออกจากพื้นที่ กทม. ยอมรับว่าศักยภาพมีจำกัด เนื่องจากสามารถผันน้ำออกได้แค่ประมาณ 150 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันเท่านั้น แต่ขณะนี้น้ำมีปริมาณน้ำสะสมอยู่มากกว่า 8,000 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้น จะทำอย่างไรถ้าจะผันน้ำออกโดยเร็วและสะดวกที่สุด ซึ่งขณะนี้สิ่งที่กังวลมากกว่าก็คือช่วง 2 เดือนระหว่างที่เราผันออก จะมีคันกั้นน้ำที่บกพร่องชำรุดและแตกอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเราผัน 100 ลบ.ม.ต่อวัน คงไม่สามารถเทียบได้กับกันคันแตกและมีปริมาณน้ำ 3,000 ล้านลบ.ม. ไหลเข้ามาจะเสี่ยงมากับพื้นที่ กทม. ทั้งนี้กำลังทำแบบจำลองประเมินสถานการณ์น้ำท่วม กทม.อยู่ เพื่อคาดการณ์ว่า จะมีระดับน้ำขังสูงขนาดไหนและจะระบายได้ในเวลาเท่าไหร่ นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมฯได้ส่งเรือยางที่ใช้ปฏิบัติงานในพื้นที่ป่าชายเลนไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 22 ลำ พร้อมได้จัดส่งเจ้าหน้าที่กรมจำนวน 59 คน รถกระบะ 4 ล้อ 30 กว่าคัน เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว นอกจากนั้นกำลังเตรียมส่งเรือยางอีกจำนวน 4 ลำ เรือเร็วสปีดโบ๊ตจำนวน 3 ลำ เพื่อลำเลียงอาหารและน้ำให้กับเจ้าหน้าที่ของเราและประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยทำงานร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ จ.พระนครศรีอยุธยา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา อีกทั้ง กรมฯ ยังเตรียมจัดส่งเรือขนาดใหญ่ 80 ฟุต จำนวน 2 ลำ ที่ใช้ปฏิบัติงานในทะเล ซึ่งเคยร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงต้นปี ไปร่วมในภารกิจดันน้ำออกสู่ทะเล โดยจะประจำการที่ปากแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทราด้วย. แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย somsweet : เมื่อวานนี้ เมื่อ 10:00 PM

.

เเผ่นดินไหว 4.8 ที่ หมู่เกาะอันดามัน เเถบ อินเดีย

อันดามัน 4.8  ริ๊กเตอร์ ระดับความลึก5.5กิโล ติดกับประเทศไทยฝั่งตะวันตก

MAG	UTC DATE-TIME y/m/d h:m:s	LAT deg	LON deg	DEPTH km	Region
MAP	4.8	2011/10/11 13:40:42	13.453	95.733	91.5

ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION

10-degree Map Centered at 15°N,95°E


 

ชาวเชียงใหม่จัดพิธีล้านนาโบราณขอขมาแม่น้ำปิง

วันที่ 11/10/2554 21:51





ผู้ว่าฯเชียงใหม่ จัดพิธีทางศาสนาแบบล้านนาโบราณ ขอขมาแม่น้ำปิงเชิงสะพานนวรัฐ พร้อมลอยสะตวงลงสู่แม่ปิง อธิษฐานขอให้สถานการณ์อุทกภัยใหญ่ของประเทศไทยคลี่คลายลงโดยเร็ว...เมื่อเวลา 06.00 น. 11 ต.ค. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่ นำข้าราชการ พ่อค้า และชาวเชียงใหม่ ร่วมพิธีทำบุญแม่น้ำปิงและบวงสรวงขอขมาบริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีพิธีทางสงฆ์ และพิธีขอขมาแม่น้ำปิงแบบโบราณล้านนาโบราณ และมีการปล่อยสะตวงลงสู่แม่น้ำปิง


โดยม.ล.ปนัดดา เปิดเผยว่า ในการทำพิธีวันนี้ มีพิธีทางศาสนาเพื่อรำลึกถึงบุญคุณพระแม่คงคา และขอขมาท่านในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมา กลับกลายเป็นความบกพร่องในประเทศชาติ อยากจะให้เป็นคติสอนใจคนยุคปัจจุบันว่า อย่าตัดไม้ทำลายป่า ขอให้ช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ดีกว่าเมื่อก่อน ดังนั้นพิธีในวันนี้ เพื่อขอขมาพระแม่คงคา และในขณะเดียวกัน เป็นการรณรงค์ร่วมใจที่พวกเราจะช่วยกันรักษาสภาพป่าไม้ สิ่งแวดล้อมแม่น้ำลำธารให้เกิดความอุดมบริบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งการทำพิธีในวันนี้ มีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองให้ข้อคิดในเรื่องนี้ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นขวัญกำลังใจให้แก่กัน และผู้ที่เข้ามาเยือนเชียงใหม่ จะได้เห็นพิธีกรรมทางศาสนา ความเชื่อมั่น และศรัทธาที่ดำรงอยู่ในประเทศชาติ ของเรามาช้านานแล้ว สิ่งที่จะดำเนินควบคู่กันไป เราจะต้องมุ่งมั่นปฎิบัติรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


"ผมอธิษฐานขอให้ความร่มเย็นเป็นสุขกลับคืนสู่ประเทศชาติบ้านเมืองไทย และจังหวัดเชียงใหม่ของเรา ให้ผู้คนที่ประสบอุทกภัยได้การแก้ไขและคลี่คลายโดยเร็ววัน" ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว.

ภัยน้ำท่วม..ที่คนกรุงควรรู้!"กทม."ย้ำจะแจ้งเตือนก่อน 3 ชม.

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์









เปิดแผนรับมือ และอพยพ กทม. พร้อมย้ำพื้นที่เสี่ยง ระบุจะแจ้งเตือนน้ำท่วม ล่วงหน้าประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อทำการเก็บของ รถยนต์



กทม.ได้สรุปข้อมูลเพื่อการทำความเข้าใจกับประชาชน ในพื้นที่ต่างของกรุงเทพมหานครในกรณีการรับมือน้ำท่วม
ข้อสรุปหลักจากทม. โดยภาพรวมทั้งหมด
- มีการเปิดประตูน้ำตามคลองต่างๆ ทุกคลองเพื่อให้น้ำผ่าน ดังนั้น จะเกิดภาวะระดับน้ำสูงขึ้นจนอาจล้นตลิ่งจนถึงระดับครึ่งแข้งได้
- ในกรณีฝนตก ซึ่งจะมีมากในช่วงเวลานี้อันเนื่องมาจากพายุต่างๆ ที่มาแล้ว และกำลังจะมาอีก ทาง กทม. จะทำการปิดประตูน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ ดังนั้น จะเกิดกรณีน้ำขังจากฝนตกบ้าง ซึ่งบางครั้งอาจถึงหัวเข่าและเมื่อฝนหยุดตกแล้วจะทำการเปิดประตูระบายน้ำดัง เดิม
- พื้นที่ชุมชนที่อยู่ใกล้ลำคลองต่างๆ ทุกลำคลองจะพบกับปัญหาน้ำล้นตลิ่ง จนถึงน้ำท่วมขัง ดังนั้นแนะนะว่าควรจะขนของหนีน้ำ (ควรจะมีระดับสูงตั้งแต่ 1.00 เมตรขึ้นไป เพราะเรายังไม่อาจคาดได้ในเรื่องของมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะตามเข้ามาใน 2 -3 วันข้างหน้า ดังนั้นกทม. แจ้งเตือนมา ระดับที่ปลอดภัยคือ 0.60 - 0.80 เมตร)
ในขณะนี้ขอยืนยันว่าจะยังไม่มีการแจ้งเตือนให้มีการอพยพใดๆ ทั้งสิ้น แต่ยังคงไว้ให้มีการเตรียมการในเรื่องของการขนของหนีน้ำเท่านั้น
- ข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถตรวจสอบได้ทางหน้า เว็บไซต์ดังนี้
1. www.ndwc.go.th <http://www.ndwc.go.th>
2. Facebook page ที่ศปภ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
3. Twitter page ที่ GCC_111, GCC-192, Nailek507
4. เว็บไซต์และช่องข่าววิทยุและโทรทัศน์ ทุกช่อง แต่ที่อัพเดตรวดเร็วจะมี ช่อง 3, เนชั่น และ Spring News
- กรณีที่เกิดข่าวจากการพุดแบบปากต่อปาก ขอให้ตรวจสอบมาที่ 1111 ต่อ 5, 1784 หรือ 191

หลักเกณฑ์และแผนการอพยพ ทางกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมแผนในภารกิจอพยพในครั้งนี้โดยได้กำหนดขั้นแรก คือ
1. การจัดทำแผนที่ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งทุ่งตะวันตกชุมชนริมน้ำและแนวตะวันออก โดย 1.1 สำรวจชุมชนและแผนที่ที่ได้รับผลกระทบ 1.2 สำรวจจำนวนครัวเรือนและลงทะเบียนผู้รับผลกระทบ 1.3 กำหนดพื้นที่พักพิงใกล้เคียง
2. การเคลื่อนย้ายผู้รับผลกระทบ 2.1 รถขนย้าย 2.2 เรือขนย้าย 2.3 บุคลากรเจ้าหน้าที่เทศกิจ และ อภปร. 2.4 การประสานเส้นทางการควบคุมการจราจร 2.5 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย คนพิการ และหน่วยแพทย์กู้ชีพ 2.6 การเตือนภัย
3. ศูนย์พักพิงซึ่งจะได้จัดเตรียมสถานที่พักและเครื่องนอน รวมทั้งปัจจัย <http://www.dmc.tv/search/ปัจจัย>สี่ และอุปกรณ์ดำรงชีพจัดบุคลากรสนับสนุนให้ข้อมูลข่าวสาร ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ผู้อพยพมาออกมาด้วยและการจัดนักจิตวิทยา เข้าไปฟื้นฟูสภาพจิตใจซึ่งจะต้องกระทำการอย่างทันที
4. ศูนย์ประสานงานกลางที่จะต้องดูแลทรัพย์สินบ้านเรือนของมีค่า สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือรวมทั้งการกระจายของรับบริจาค และสนับสนุนความช่วยเหลือ การอนุมัติงบประมาณประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการแจกคู่มือรับสถานการณ์น้ำท่วม
5. การฟื้นฟูหลังน้ำลดซึ่งมีทั้งการเคลื่อนย้ายกลับที่พัก การสนับสนุนงบประมาณเยียวยาความเสียหายการซ่อมแซมทางกายภาพ และการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำเพิ่มเติมให้สมบูรณ์
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ
1. เมื่อแจ้ง เตือนน้ำท่วม จะมีการแจ้งล่วงหน้าประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อทำการเก็บของรถยนต์หรือจักยานยนต์ ควรหาอาคารสูงเพื่อจอดรถ ตรวจสอบได้จากห้างสรรพสินค้าต่างๆ
2. ผู้อาศัยที่มีบ้านพักริมคลองหรือ บ้านชั้นเดียว ควรมีการเก็บเสื้อผ้าเครื่องใช้จำเป็นให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย กรณีต้องอพยพหนีน้ำ (สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติและ กทม. ประกาศ)
3. การจะไปซื้ออาหารมากักตุนเพื่อสำรองไว้ แนะนำว่าควรจะสำรองไว้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น เพราะเมื่อเกิดเหตุจริง จะมีการดำเนินการเรื่องการแจกของพร้อมอาหารปรุงสำเร็จและน้ำดื่ม (ขอให้เข้าใจว่า ข่าวลือที่เกิดขึ้นนั้นอาจมีการนำเอาประโยชน์ทางธุรกิจมาใช้เพื่อให้ได้กำไร ซึ่งเป็นการฉวยโอกาสของภาคธุรกิจบางส่วนเท่านั้น)สำหรับผู้ที่มั่นใจว่า สามารถพำนักอยู่ที่บ้านได้ ควรมีการเตรียมเตาและถังแก็สให้อยู่ในที่พ้นน้ำเพื่อความสะดวกในการปรุง อาหาร เนื่องจากอาจมีการตัดไฟฟ้า
4. การเตรียมเครื่องใช้ที่จำเป็น ควรเตรียม เครื่องใช้เด็กยากันยุง ยาประจำตัว ยาสามัญ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยาสระผม ผ้าเช็ดตัวถ่านไฟฉาย ไฟฉาย เทียนไข ไม้ขีดไฟหรือไฟแช็ค น้ำดื่ม
5. ควรประจุไฟแบตเตอรี่ให้เต็ม เมื่อเกิดเหตุใช้โทรออกแค่จำเป็นเท่านั้น
พื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมกรุงเทพฯ
1. พื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ
1.1 พื้นที่ ทุ่งรังสิตซึ่งจะทำการรับน้ำ และแยกมวลน้ำออกไปทาง มีนบุรี หนองจอก คลองสามวา ลาดกระบัง และทางพุทธมณฑลสาย1 และ 2 ถนนกาญจนาภิเษก
1.2 พื้นที่เสี่ยงตามคลอง 9 จุดที่จะมีการรับและระบายน้ำลงสู่อุโมงค์
1.2.1 คลองบางพรม (ถ.กาญจนาภิเษก)
1.2.2 คลองฉิมพลี - คลองบางแวก (พุทธมณฑลสาย 1)
1.2.3 คลองบางแวก (ถ.รัชดาภิเษก)
1.2.4 คลองเปรมประชากร (ดอนเมือง)
1.2.5 คลองลาดพร้าว (วัดลาดพร้าว)ปากคลองตลาด - คลองบางซื่อ (ฝั่งขวา ถ.พหลโยธิน)
1.2.6 คลองมหาสวัสดิ์ (ทั้งสองฝั่ง ถ.พุทธมณฑลสาย 2)
1.3 พื้นที่ประกาศ 15 จุดแนะนำให้ทำการเก็บของหนีน้ำ ได้แก่
1.3.1 เขตสาทร ย่านถนนจันทร์เซนต์หลุยส์สาธุ ประดิษฐ์
1.3.2 เขตพญาไทถนนพหลโยธิน ช่วงคลองสามเสน-คลองบางซื่อ
1.3.3 เขตพระโขนง ถนนสุขุมวิทจากคลองพระโขนง-ซอยลาซาล
1.3.4 เขตวัฒนา ซอยสุขุมวิท 39 และ 49
1.3.5 เขตวังทองหลางถนนลาดพร้าว จากคลองลาดพร้าว-ห้างเดอะมอลล์
1.3.6 เขตบึงกุ่ม ถนนนวมินทร์จากคลองดอนอีกา-แยกถนนประเสริฐมนูกิจทั้งสองฝั่ง
1.3.7 เขตดินแดง ถนนรัชดาภิเษกหน้าห้างโรบินสัน
1.3.8 เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก แยกลาดพร้าว
1.3.9 เขตราชเทวีถนนเพชรบุรี จากถนนบรรทัดทอง-แยกราชเทวี
1.3.10 เขตราชเทวี ถนนนิคมมักกะสัน
1.3.11 เขตราชเทวี ถนนพระรามที่ 6 หน้าตลาดประแจจีน
1.3.12 เขตบางแค ถนนเพชรเกษมซอย 63 (ซอยวัดม่วง)
1.3.13 เขตยานนาวา ถนนเย็นอากาศ จากถนนนางลิ้นจี่-ซอยศรีบำเพ็ญ
1.3.14 เขตประเวศ ถนน ศรีนครินทร์ ช่วงคลองตาสาด-คลองตาช้าง
1.3.15 เขตพระนคร ถนนสนามไชยและถนนมหาร1)เขตสาทร ย่านถนนจันทร์เซนต์หลุยส์สาธุประดิษฐ์
--------
รายชื่อ ศูนย์อพยพ 13 เขตและฝั่งตะวันออก [url=http://bit.ly/qyrwJU]

เมื่อไหร่ที่

คนในสังคมประเทศไทย

และโลกใบนี้

ยังไม่เชื่อพระพุทธเจ้า

ไม่ใช้ปัญญา

พิจารณาหาสาเหตุที่แท้จริง

ไม่เคารพ

นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เป็นนักวิชาการจ๋า นักวิทยาศาสตร์จ๋า

สมัยใหม่จ๋า

ก็จงก้มหน้า

รับกรรมกันต่อไป

หน้าบางใช่ไหม

กลัวใครเขาว่า

งมงาย

ใช่ไหม ก็อยู่กับภัย ต่อไป

เบื้องบนจะให้รู้จักท่าน

จนกว่าจะยอม

สยบ

อาริยาขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ อุบลที่เมตตาชี้เเนะหลายครั้งเเละ หลายกระทู้ อยู่ตลอดเวลาให้ทุกท่านเข้าใจสาเหตุของการเกิดน้ำท่วมขณะนี้ 

ขออนุญาติใช้พื้นที่นี้บอกเล่าการสื่อสารที่ได้ผลในประสพการณ์จริงกับผู้ที่ประสพภัย เเละ ผู้ที่นำไปสื่อสารต่อโดย ความศรัทธราที่เรามีต่อพระพุทธองค์ เเละ สิ่งศักดิ์ เเละท่านอาจารย์ จะสามารถช่วยท่านช่วยเรารอดพ้นบรรเทาความเดือดร้อน พวกเรามาช่วยกันบอกกล่าวต่อๆกันให้ผู้อื่นได้ทราบเเละขอขมาพระองค์ท่าน พระเเม่คงคาโดยเร็วเถิด

วันนี้ได้โทรไปวัดมงคลประสิทธ์ เจอท่านเเม่ชี บอกว่า ตอนเช้าน้ำลดดีใจ พระบิณทบาตได้ ปฏิหารย์ เหมือนท่านให้พระได้มีอาหารฉันทุกวัน  เเต่ตอนบ่ายนี้น้ำขึ้นอีกบ้าง  อาริยาได้ส่งข้อมูลสาเหตุน้ำท่วมตามที่ท่านอาจารย์ชี้เเนะอีกครั้ง (โดยนำประสพการณ์จริงของตนเองเเละผู้ที่นำไปใช้) เพื่อให้ท่านสื่อสารให้ชาวบ้านเข้าใจมีโอกาสทำพิธีขอขมา เเละ ขยายต่อๆไปหลายๆพื้นที่

วิธีง่ายๆ

เนื่องจากอาริยาเเละน้องสาว เเละ ผู้ทรงคุณวุฒิผู้ใจบุญ  ที่เป็นลูกบ้านสวน  ได้ปรึกษาวางเเผนกัน เห็นตรงกันว่า เป็นมหาบุญ ที่พวกเราต้องรีบทำ  จึงได้ช่วยกันทำเอกสารขึ้นมา 1 ฉบับ อธิบายอย่างกระชับ ตรงประเด็นเรื่อง

1. สาเหตุของน้ำท่วม จากการปรามาสในหลวง การขอขมา พระองค์ท่าน เเละ พระเเม่คงคา  

เเละ

2. รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย ด้วยความศรัทธรา

โดยรวบรวมจากนำประสพการณ์จริงของตนเอง

เเละผู้ที่นำไปใช้ คำเตือนชี้เเนะของท่านอาจารย์ เเละ

กรุณา สมัครให้ถูกต้อง เเละ ดู VDO

กรณี ไม่มีไฟฟ้า เร่งด่วน บอกทางโทรศัพท์

ท่านสามารถปรับตาม ความเหมาะสมในการอธิบาย 

เมื่อเช้านี้ท่านผู้ทรงคุณวุฒิท่านนี้ เเละ หน่วยงานได้ช่วยกันส่งเอกสารข้อมูล ใส่ซอง จม ส่งเป็นทางการให้กับผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านเเล้ว รวมทั้งผู้ที่ศรัทธรา ค่ะ  อาริยาเชื่อมั่นว่า ยังมีผู้ทรงคุณวุฒิ อีกมากมายที่ เปิดใจ เเละ อยากทำเพื่อส่วนรวมค่ะ

อาริยาขอร่วมอนุโมทนาบุญกับพี่ท่านนี้ เเละ ทุกท่านด้วยค่ะ  สาธุ สาธุ สาธุ

หากท่านใดต้องการ

เอกสารตามที่ท่านอาจารย์ชี้เเนะ +

วิธีบอกต่ออย่างละเอียด

เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ตนเอง  ลดความกลัวในการอธิบาย เเละ 

ประวัติส่วนตัวเเละการงานของอาริยา

เพราะเจอหลายท่านมีความตั้งใจ เเต่อาจจะกังวลเรื่องภาพพจน์ในหน้าที่การงาน ที่อาริยาเคยเป็น เเละ สลายได้เเล้วค่ะ

ติดต่อที่ Email นี้ procoachariya@gmail.com หรือโทรมา081-8991215 , 086-334 2589 ได้เลยค่ะ อย่าเกรงใจ ยินดีโทรกลับท่าน เพื่อช่วยประหยัดค่าโทร

(ปล. กลับมาท่านให้งานเยอะมาก พอบอกเหตุผลว่ากำลังช่วยกันสื่อสารงานมหาบุญนี้  ลูกค้าศรัทธรา ก็ช่วยกันบอกต่อๆ อีก สิ่งศักดิ์ท่านช่วยเราทั้งทางโลกเเละธรรม จริงๆ ค่ะ)

เมื่อเช้าดู คลิปทีมดารา workpoint ถูกกระแสน้ำพัดจนรถจมน้ำ น่ากลัวจริงๆ ค่ะ

ขำๆ คลายเครียด

 

ต้องดู!! ทำถุงยังชีพเป็นเสิ้อชูชีพจากวัสดุในบ้าน

ทำถุงยังชีพเป็นเสิ้อชูชีพ - YouTube

ไอเดีย เจ๋ง!! ถุงน้ำแทนกระสอบทราย ป้องกันน้ำท่วม



mthai
ถุงน้ำ อุปกรณ์กั้นน้ำใช้แทนกระสอบทราย

ถุงน้ำ ใช้กั้นน้ำท่วมบ้านแทนกระสอบทราย ผมทดลองทำดูแล้วและเห็นว่ามันมีประสิทธิภาพพอๆกับกระสอบทราย ประหยัดกว่า และใช้น้ำแทนทราย โดยอาศัยหลักการเดียวกันกับกระสอบทราย กล่าวคือ

ทรายเป็นมวลสารที่มีน้ำหนัก กระสอบเป็นภาชนะที่บังคับให้ทรายอยู่ในรูปทรงของกระสอบ จึงทำให้กระสอบทรายมีน้ำหนักมากพอที่จะต้านทานแรงดันของน้ำได้ ยิ่งวางซ้อนกันหลายชั้นและหลายแถวก็จะยิ่งต้านทานแรงดันของน้ำได้มากขึ้นตามลำดับ

ทีนี้ น้ำก็เป็นมวลสารที่เมื่อรวมตัวกันมากๆ ก็จะมีน้ำหนักมากเช่นกัน ถุง จึงเป็นภาชนะที่บังคับให้น้ำอยู่ในรูปทรงของถุง จึงทำให้ถุงน้ำมีน้ำหนักมากพอที่จะต้านทานแรงดันของน้ำได้เช่นเดียวกับกระสอบทราย ยิ่งวางซ้อนกันหลายชั้นก็จะยิ่งทำให้ต้านทานแรงดันของน้ำได้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการวางซ้อนกันหลายชั้นนั้นก็ต้องเพิ่มแถวการวางถุงน้ำลงไปด้วยเพื่อเป็นการถ่ายเทน้ำหนักของถุงน้ำให้กระจายออกไปทำให้ถุงไม่แตกง่าย

อุปกรณ์ก็คือ

1. ถุงดำ หรือถุงชนิดที่มีความเหนียว ตามขนาดของความเหมาะสม
2. สายรัดสายไฟ
3. น้ำ ทั่วๆ ไป

วิธีบรรจุ คือ นำถุงดำหรือถุงชนิดที่มีความเหนียวซ้อนกัน 2 ใบ หรืออาจจะมากกว่า เพื่อเพิ่มความทนทานความเหนียวของถุงพลาสติก แล้วใส่น้ำลงไปให้เต็ม เสร็จแล้วรวบปากถุงแล้วใช้สายรัดสายไฟรัดปากถุงให้แน่น เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสามารถนำไปวางเป็นเครื่องกั้นน้ำท่วมบ้านได้แล้ว

ในกรณีที่น้ำไหลแรง ให้เตรียมถุงน้ำให้เสร็จเรียบร้อยครบหมดก่อนแล้วค่อยนำมาวางเป็นแนวกั้น


ข้อแนะนำ
- ให้หาไม้แผ่นกระดานอัดหนาๆ มากั้นระหว่างแถวได้ยิ่งดี เพราะจะทำให้ถุงน้ำอยู่ทรงมากขึ้นและเพิ่มความแข็งแรง.
- ไม่แนะนำให้ใช้ถุงดำของ TESCO เพราะมีความบางมาก ไม่เหมาะที่จะใส่น้ำ ให้หาซื้อถุงดำที่ผ่านมาตราฐาน ISO มีความเหนียวทนเท่านั้น.

อนึ่ง…เราสามารถเลือกใช้วัสดุพลาสติกแข็งๆ หรือยืดหยุ่นได้หลายรูปแบบคับ อย่างเช่นถังน้ำ ขวดน้ำ มาทำเป็นเครื่องกั้นน้ำหรือเรียกว่าแท่งน้ำก็ได้ โดยการบรรจุน้ำให้เต็มแล้วปิดฝาให้แน่น หลังจากนั้นนำมาวางเป็นแถวแล้วเรียงซ้อนกันแล้วแต่ความต้องการโดยใช้ผ้าเทปกันน้ำรัดให้รอบอย่างแน่น เท่านี้เราก็จะได้แท่งกั้นน้ำแล้วคับ หรือหาถุงใส่ปลาชนิดหนาแบบของญี่ปุ่น หรือยางในรถสิบล้อ นำมาบรรจุน้ำแล้วปิดให้สนิท ก็ได้เช่นกันคับ เป็นต้น


แต่ที่ผมเลือกใช้ถุงดำก็เพราะว่าทดสอบแล้ว มีความเหนียวพอสมควรเมื่อใส่ถุงซ้อนกันก็จะสมามารถรับแรงกระแทกได้ดีในระดับที่ดี กดทับพื้นผิวได้สนิทซึ่งก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของน้ำตามขนาดของถุง และที่สำคัญชาวบ้านหาซื้ออุปกรณ์ได้ง่าย ราคาถูกไม่แพงเกินไปครับ.


ผมทดลองทำดูแล้วและเห็นว่าได้ผลมีประสิทธิภาพดี ใครทราบแล้วลองไปทดลองทำดูนะครับแล้วช่วยกระจายข่าวออกไปด้วยนะครับ จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง…/ Anupong ^^
 

ท่าน้ำนนท์ใกล้วิกฤต!

12 ตุลาคม 2554 เวลา 12:02 น.


ระดับน้ำเจ้าพระยาท่าน้ำนนท์สูงต่อเนื่อง โป๊ะท่าน้ำลอยเกือบสุดเสายึด เร่งสูบน้ำออกตลอด ด้านปภ.หวั่นฝนตกหนัก-น้ำหนุนทำกทม.อ่วม

สถานการณ์ระดับน้ำที่ท่าน้ำนนนท์ เทศบาลนครนนทบุรี น่าเป็นห่วง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโป๊ะลอยท่าลอยขึ้นจนเกือบสุดตัวเสายึด เจ้าหน้าที่เทศบาลได้นำกระสอบทรายก่อเป็นกำแพงกั้นน้ำสูงประมาณเกือบ2เมตรไม่ให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้ามาในตัวเมือง

เจ้าหน้าที่ได้ตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 1 ตัว คอยสูบน้ำออกตลอดเวลา พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเทศบาลนครนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย คอยเฝ้าวังตลอด24ชม.

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.50น. ได้เกิดฝนตกหนักทำให้กระแสน้ำเจ้าพระยาไหลเชี่ยวกราก เรือข้ามฝากไปฝั่งอ.บางบัวทอง ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น การควบคุมรือเป็นไปด้วยความลำบาก ส่วนเรือด่วนเจ้าพระยายังคงเปิดบริการตามปกติ แต่ต้องบังคับเรือให้เดินช้าลง เพื่อลดความแรงของกระแสน้ำจะพัดเข้าบ้านเรือนประชาชน

ชาวบ้านในเทศบาลนครนนทบุรี ระบุว่า ระดับน้ำขณะนี้น่าเป็นห่วงมาก หากกั้นน้ำไม่อยู่เทศบาลนครนนทบุรีจมแน่นอน ได้แต่ภาวนาอย่าให้ฝนตกลงมาอีก เพราะกลัวแนวกระสอบทรายจะพังลงมา

ส่วนที่ทำการเทศบาลนครนนทบุรี ได้เปิดเป็นศูนย์ช่วยเหลือบรรเทาผู้ประสบอุทกภัย โดยมีชาวบ้าน และบริษัทเอกชนได้ร่วมบริจาคทรายจำนวนหนึ่ง มาให้อาสาสมัครกรอกบรรจุลงกระสอบนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนทำคันกั้นน้ำในพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้ยังมีพ่อค้า และแม่ค้าได้นำกับข้าวกล่องมาเลี้ยงแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครด้วย

เทศบาลแจกกระสอบล้านใบเชื่อยังป้องกันได้

นางพรศรี กิจธรรม ปลัดเทศบาลนครนนทบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมกระสอบทรายไว้ 1 ล้านใบเพื่อแจกจ่ายให้กับชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเชื่อว่าในช่วงน้ำทะเลหนุนในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค.นี้ยังสามารถรับมือได้ เนื่องจากได้เตรียมแนวกระสอบทรายเอาไว้ที่ความสูงระดับ 3.5 เมตร ขณะที่ระดับน้ำในเจ้าพระยาอยู่ที่ 2.7 เมตร รวมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำจุดเสี่ยงเพื่อเฝ้าระวังน้ำทะลักท่วมตลอด24 ชม. ซึ่งขณะนี้ยังมั่นใจว่ายังสามารถรับมือปริมาณน้ำได้

ปภ.ห่วงฝนตก-น้ำหนุนทำกทม.กระทบหลังระดับน้ำเจ้าพระยาสูง

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลระดับน้ำทะเลหนุนกับกรมอุทกศาสตร์ พบว่า ในระยะนี้สถานการณ์น้ำในภาคเหนือและภาคกลางมีปริมาณมาก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณสูงถึง 3,500 - 4,200 ลบ.เมตรต่อวินาที

ทั้งนี้เป็นผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร ถึงป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง จะมีความสูงประมาณ 1.95 - 2.30 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง และอาจสูงกว่า 2.30 เมตร ในช่วงที่มีปริมาณฝนตกในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง รวมทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมากกว่าปกติ หรือมีการเปลี่ยนแปลงการระบายน้ำเพิ่มสูงขึ้น สำหรับในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แบ่งเป็น 2 ช่วง ตั้งแต่ 14 - 17 และ 28 - 31 ต.ค.นี้ โดยระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดในช่วงวันที่ 29 ต.ค.

ทั้งนี้ ปภ. ขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำเตรียมรับมือผลกระทบที่จะเกิดจากระดับน้ำเหนือที่ไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ ในช่วงที่มีฝนตกชุกหนาแน่นและน้ำทะเลหนุนสูงในคราวเดียวกัน โดยให้ติดตามสภาวะระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ขนย้ายสิ่งของ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูง ให้พ้นจากระดับน้ำท่วมถึง

รวมทั้งควรจัดทำกระสอบทรายเสริมเป็นแนวคันกั้นน้ำบริเวณหน้าบ้านและท่อระบายน้ำ พร้อมตรวจสอบให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ที่สำคัญ ในช่วงที่ก่อนที่น้ำจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ให้รีบตัดกระแสไฟฟ้า และงดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต

ภาพ/ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์

วิธีวางกระสอบทรายให้กั้นน้ำได้ดีที่สุด


 

วิธีอุดท่อน้ำทิ้งในบ้าน

พี่น้องชาวใต้เรามีประสบการณ์โดนน้ำท่วมบ่อยค่ะ เมื่อเรากั้นกระสอบทรายหน้าบ้านแล้ว เราต้องอย่าลืมอย่าลืมอุดท่อน้ำทิ้งที่พื้นและที่ชักโครกไว้ด้วยนะคะ เพราะน้ำสามารถผุดขึ้นมาจากข้างล่างได้ด้วย เป็นการป้องกันความเสียหายในบ้านได้นะคะ ขั้นตอนดูได้จากภาพเลยนะคะ

เครดิต Cr:YindeeDesign fb




ขอเพิ่มเติมค่ะ

เวลาผูกถุงอุด ควรให้ปลายเชือกยาวๆไว้นะค่ะ เพื่อต้องดึงกลับขึ้นมาได้เวลาเลิกใช้

มาแล้วสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด!!

จากระบบบูรณาการข้อมูลกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บ้านใครอยู่ตรงไหน ลุ้นเอา ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ประกาศหลักเกณฑ์และแผนการอพยพ พื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมแล้ว โดยจะแจ้งเตือนล่วงหน้าประมาณ 3 ชั่วโมง




1. มีการเปิดประตูน้ำตามคลองต่างๆ ทุกคลองเพื่อให้น้ำผ่าน ดังนั้น จะเกิดภาวะระดับน้ำสูงขึ้นจนอาจล้นตลิ่งจนถึงระดับครึ่งแข้งได้
2. ในกรณีฝนตก ซึ่งจะมีมากในช่วงเวลานี้อันเนื่องมาจากพายุต่างๆ ที่มาแล้ว และกำลังจะมาอีก ทาง กทม. จะทำการปิดประตูน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ ดังนั้น จะเกิดกรณีน้ำขังจากฝนตกบ้าง ซึ่งบางครั้งอาจถึงหัวเข่าและเมื่อฝนหยุดตกแล้วจะทำการเปิดประตูระบายน้ำดังเดิม
3. พื้นที่ชุมชนที่อยู่ใกล้ลำคลองต่างๆ ทุกลำคลองจะพบกับปัญหาน้ำล้นตลิ่ง จนถึงน้ำท่วมขัง ดังนั้นแนะนะว่าควรจะขนของหนีน้ำ (ควรจะมีระดับสูงตั้งแต่ 1.00 เมตรขึ้นไป เพราะเรายังไม่อาจคาดได้ในเรื่องของมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะตามเข้ามาใน 2 -3 วันข้างหน้า ดังนั้นกทม. แจ้งเตือนมา ระดับที่ปลอดภัยคือ 0.60 - 0.80 เมตร) ในขณะนี้ขอยืนยันว่าจะยังไม่มีการแจ้งเตือนให้มีการอพยพใดๆ ทั้งสิ้น แต่ยังคงไว้ให้มีการเตรียมการในเรื่องของการขนของหนีน้ำเท่านั้น
4.ข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถตรวจสอบได้ทางหน้า เว็บไซต์ดังนี้
1. www.ndwc.go.th
2. Facebook page ที่ศปภ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
3. Twitter page ที่ GCC_111, GCC-192, Nailek507
4. เว็บไซต์และช่องข่าววิทยุและโทรทัศน์ ทุกช่อง แต่ที่อัพเดตรวดเร็วจะมี ช่อง 3, เนชั่น และ Spring News
5. กรณีที่เกิดข่าวจากการพุดแบบปากต่อปาก ขอให้ตรวจสอบมาที่ 1111 ต่อ 5, 1784 หรือ 191

หลักเกณฑ์และแผนการอพยพ ทางกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมแผนในภารกิจอพยพในครั้งนี้โดยได้กำหนดขั้นแรก คือ
1. การจัดทำแผนที่ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งทุ่งตะวันตกชุมชนริมน้ำและแนวตะวันออก โดย 1.1 สำรวจชุมชนและแผนที่ที่ได้รับผลกระทบ 1.2 สำรวจจำนวนครัวเรือนและลงทะเบียนผู้รับผลกระทบ 1.3 กำหนดพื้นที่พักพิงใกล้เคียง
2. การเคลื่อนย้ายผู้รับผลกระทบ 2.1 รถขนย้าย 2.2 เรือขนย้าย 2.3 บุคลากรเจ้าหน้าที่เทศกิจ และ อภปร. 2.4 การประสานเส้นทางการควบคุมการจราจร 2.5 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย คนพิการ และหน่วยแพทย์กู้ชีพ 2.6 การเตือนภัย
3. ศูนย์พักพิงซึ่งจะได้จัดเตรียมสถานที่พักและเครื่องนอน รวมทั้งปัจจัย สี่ และอุปกรณ์ดำรงชีพจัดบุคลากรสนับสนุนให้ข้อมูลข่าวสาร ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ผู้อพยพมาออกมาด้วยและการจัดนักจิตวิทยา เข้าไปฟื้นฟูสภาพจิตใจซึ่งจะต้องกระทำการอย่างทันที
4. ศูนย์ประสานงานกลางที่จะต้องดูแลทรัพย์สินบ้านเรือนของมีค่า สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือรวมทั้งการกระจายของรับบริจาค และสนับสนุนความช่วยเหลือ การอนุมัติงบประมาณประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการแจกคู่มือรับสถานการณ์น้ำท่วม
5. การฟื้นฟูหลังน้ำลดซึ่งมีทั้งการเคลื่อนย้ายกลับที่พัก การสนับสนุนงบประมาณเยียวยาความเสียหายการซ่อมแซมทางกายภาพ และการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำเพิ่มเติมให้สมบูรณ์

ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ
1. เมื่อแจ้งเตือนน้ำท่วม จะมีการแจ้งล่วงหน้าประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อทำการเก็บของรถยนต์หรือจักยานยนต์ ควรหาอาคารสูงเพื่อจอดรถ ตรวจสอบได้จากห้างสรรพสินค้าต่างๆ
2. ผู้อาศัยที่มีบ้านพักริมคลองหรือบ้านชั้นเดียว ควรมีการเก็บเสื้อผ้าเครื่องใช้จำเป็นให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย กรณีต้องอพยพหนีน้ำ (สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติและ กทม. ประกาศ)
3. การจะไปซื้ออาหารมากักตุนเพื่อสำรองไว้ แนะนำว่าควรจะสำรองไว้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น เพราะเมื่อเกิดเหตุจริง จะมีการดำเนินการเรื่องการแจกของพร้อมอาหารปรุงสำเร็จและน้ำดื่ม (ขอให้เข้าใจว่า ข่าวลือที่เกิดขึ้นนั้นอาจมีการนำเอาประโยชน์ทางธุรกิจมาใช้เพื่อให้ได้กำไร ซึ่งเป็นการฉวยโอกาสของภาคธุรกิจบางส่วนเท่านั้น)สำหรับผู้ที่มั่นใจว่าสามารถพำนักอยู่ที่บ้านได้ ควรมีการเตรียมเตาและถังแก็สให้อยู่ในที่พ้นน้ำเพื่อความสะดวกในการปรุงอาหาร เนื่องจากอาจมีการตัดไฟฟ้า
4. การเตรียมเครื่องใช้ที่จำเป็น ควรเตรียม เครื่องใช้เด็กยากันยุง ยาประจำตัว ยาสามัญ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยาสระผม ผ้าเช็ดตัวถ่านไฟฉาย ไฟฉาย เทียนไข ไม้ขีดไฟหรือไฟแช็ค น้ำดื่ม
5. ควรประจุไฟแบตเตอรี่ให้เต็ม เมื่อเกิดเหตุใช้โทรออกแค่จำเป็นเท่านั้น

พื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมกรุงเทพฯ
1. พื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ
1.1 พื้นที่ทุ่งรังสิตซึ่งจะทำการรับน้ำ และแยกมวลน้ำออกไปทาง มีนบุรี หนองจอก คลองสามวา ลาดกระบัง และทางพุทธมณฑลสาย1 และ 2 ถนนกาญจนาภิเษก

1.2 พื้นที่เสี่ยงตามคลอง 9 จุดที่จะมีการรับและระบายน้ำลงสู่อุโมงค์
1.2.1 คลองบางพรม (ถ.กาญจนาภิเษก)
1.2.2 คลองฉิมพลี - คลองบางแวก (พุทธมณฑลสาย 1)
1.2.3 คลองบางแวก (ถ.รัชดาภิเษก
1.2.4 คลองเปรมประชากร (ดอนเมือง)
1.2.5 คลองลาดพร้าว (วัดลาดพร้าว)ปากคลองตลาด - คลองบางซื่อ (ฝั่งขวา ถ.พหลโยธิน)
1.2.6 คลองมหาสวัสดิ์ (ทั้งสองฝั่ง ถ.พุทธมณฑลสาย 2)

1.3 พื้นที่ประกาศ 15 จุดแนะนำให้ทำการเก็บของหนีน้ำ ได้แก่

1.3.1 เขตสาทร ย่านถนนจันทร์เซนต์หลุยส์สาธุ ประดิษฐ์
1.3.2 เขตพญาไทถนนพหลโยธิน ช่วงคลองสามเสน-คลองบางซื่อ
1.3.3 เขตพระโขนง ถนนสุขุมวิทจากคลองพระโขนง-ซอยลาซาล
1.3.4 เขตวัฒนา ซอยสุขุมวิท 39 และ 49
1.3.5 เขตวังทองหลางถนนลาดพร้าว จากคลองลาดพร้าว-ห้างเดอะมอลล์
1.3.6 เขตบึงกุ่ม ถนนนวมินทร์จากคลองดอนอีกา-แยกถนนประเสริฐมนูกิจทั้งสองฝั่ง
1.3.7 เขตดินแดง ถนนรัชดาภิเษกหน้าห้างโรบินสัน
1.3.8 เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก แยกลาดพร้าว
1.3.9 เขตราชเทวีถนนเพชรบุรี จากถนนบรรทัดทอง-แยกราชเทวี
1.3.10 เขตราชเทวี ถนนนิคมมักกะสัน
1.3.11 เขตราชเทวี ถนนพระรามที่ 6 หน้าตลาดประแจจีน
1.3.12 เขตบางแค ถนนเพชรเกษมซอย 63 (ซอยวัดม่วง)
1.3.13 เขตยานนาวา ถนนเย็นอากาศ จากถนนนางลิ้นจี่-ซอยศรีบำเพ็ญ
1.3.14 เขตประเวศ ถนน ศรีนครินทร์ ช่วงคลองตาสาด-คลองตาช้าง
1.3.15 เขตพระนคร ถนนสนามไชยและถนนมหาร1)เขตสาทร ย่านถนนจันทร์เซนต์หลุยส์สาธุประดิษฐ์ —

เครดิต Tawatchai Kitiyapichatkul -FB

การรถไฟฯ ประกาศงดเดินรถสายเหนือ น้ำท่วมรางเสียหาย


วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:21 น. ข่าวสดออนไลน์


นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า วันที่ 12 ต.ค. การรถไฟฯ ยังคงประกาศงดการเดินรถในเส้นทางสายเหนือ เนื่องจากปริมาณน้ำจากทางภาคเหนือยังวิกฤต มีน้ำไหลหลากในหลายพื้นที่เป็นเหตุให้ทาง รางรถไฟ ได้รับความเสียหาย จนขบวนรถไม่สามารถเดินรถเข้าพื้นที่ได้ให้หลายๆจังหวัด อาทิ อยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ เป็นต้น ซึ่งปริมาณระดับน้ำที่ท่วมเส้นทางรถไฟสายเหนือที่จังหวัดอยุธยาช่วงสถานีบางปะอิน-อยุธยา-บ้านม้า มีระดับน้ำสูงกว่าสันรางประมาณ 73-83 เซนติเมตร ขบวนไม่สามารถให้ขบวนรถไฟผ่านไปได้ ส่วนที่จังหวัดลพบุรี มีน้ำท่วมช่วงลพบุรี- ท่าแค สูงกว่าสันรางถึง 71 เซนติเมตร จังหวัดนครสวรรค์ ช่วงนครสวรรค์-ปากน้ำโพ- บึงบอระเพ็ด-ทับกฤช- คลองปลากด-ชุมแสง มีน้ำท่วมประมาณ 20-36 เซนติเมตร

ด้านการเดินรถไฟสายเหนือ การรถไฟฯประกาศให้มีเดินรถบริการเชิงสังคมหรือรถไฟฟรี ช่วงกรุงเทพ-คลองพุทรา, ช่วงกรุงเทพ-บางปะอิน , ช่วงท่าแค-นครสวรรค์ และช่วง ชุมแสง – พิษณุโลก- เชียงใหม่ ส่วนสายตะวันออกเฉียงเหนือ ต้นทางจากสถานีกรุงเทพ ขบวนรถเปลี่ยนเส้นทางเส้นรถจากกรุงเทพ-มักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-ชุมทางแก่งคอย-นครราชสีมา ซึ่งมีขบวนรถในสายตะวันออกเฉียงเหนือที่มีการประกาศเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถได้แก่

1. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 21 กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออกกรุงเทพ เวลา 05.45 น.
2. ขบวนรถเร็วที่ 135 กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออกกรุงเทพ เวลา 06.40 น.
3. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 75 กรุงเทพ-อุดรธานี ออกกรุงเทพ เวลา 08.20 น.
4. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 71 กรุงเทพ-ศรีสะเกษ ออกกรุงเทพ เวลา 10.05 น.
5. ขบวนรถเร็วที่ 145 กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออกกรุงเทพ เวลา 15.20 น.
6. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 77 กรุงเทพ-หนองคาย ออกกรุงเทพ เวลา 18.35 น.
7. ขบวนรถเร็วที่ 139 กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออกกรุงเทพ เวลา 18.55 น.
8. ขบวนรถด่วนพิเศษ 69 กรุงเทพ-หนองคาย ออกกรุงเทพ เวลา 20.00 น.
9. ขบวนรถด่วนพิเศษ 67 กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออกกรุงเทพ เวลา 20.30 น.
10.ขบวนรถเร็ว(ฟรี) 133 กรุงเทพ-หนองคาย ออกกรุงเทพ เวลา 20.45 น.
11. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 73 กรุงเทพ-ศีขรภูมิ ออกกรุงเทพ เวลา 21.50 น.
12. ขบวนรถเร็วที่ 141 กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออกกรุงเทพ เวลา 22.25 น.
13. ขบวนรถเร็วที่ 143 กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออกกรุงเทพ เวลา 23.40 น.

หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ เพิ่มเติมว่า สถานการณ์น้ำท่วมทางรถไฟมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางโดยรถไฟ ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาเดินรถได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

ขอนแก่นวิกฤต! ประกาศพื้นที่ประสบภัยทั้ง 26 อำเภอ



จังหวัดขอนแก่นประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมครบทั้ง 26 อำเภอ พบวิกฤตหนัก 8 อำเภอ ผู้ว่าฯ สั่งระดมเรือพร้อมถุงยังชีพเข้าช่วยเหลือ

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นยังวิกฤต ทางจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมครบทั้ง 26 อำเภอ พื้นที่ เสียหาย 193 ตำบล 2,121 หมู่บ้าน ประชาชชนเดือดร้อน กว่า 907,994 คน 199,865 ครัวเรือน ปัจจุบันเหลือพื้นที่วิกฤตอยู่ 8 อำเภอ คือ ชนบท เมือง มัญจาคีรี น้ำพอง บ้านแฮด พระยืน หนองเรือ และ อำเภอบ้านไผ่

ที่น่าเป็นห่วงมากสุด คือ อำเภอเมืองขอนแก่น จำนวน 13 ตำบล เนื่องจากลำน้ำพอง และลำน้ำชี จะมาบรรจบกันพอดีในพื้นที่ตำบลพระลับถนนรอบเมืองขอนแก่น ขณะนี้มีการอพยพชาวบ้านมาอยู่ที่ปลอดภัย เนื่องจากน้ำท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 4 เมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากทางเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มปริมาณการปล่อยน้ำอีกเป็นวันละ 46-50 ล้าน ลบ.ม.ทำให้เส้นทางสัญจรจากบ้านนาเพียงตำบลสำราญ อำเภอเมืองขอนแก่น ไปบ้านโคกท่า บ้านท่ากระเสริม อำเภอน้ำพอง รถเล็กสัญจรไปไม่ได้ ต้องเป็นรถกระบะยกสูง

ด้านความเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 4 คนแล้ว โดยโดนน้ำพัดจากการออกไปหาปลา 2 คน ส่วนอีก 2 คน เป็นเด็กอายุ 12 และ 14 ปีถูกกระแสน้ำพัดจมน้ำขณะเดินข้ามลำน้ำไปโรงเรียน

ด้านทรัพย์สิน โดนน้ำพัดเสียหายกว่า 1,400 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 1,343 แห่ง การเกษตรเสียหาย 339,461ไร่ บ่อปลา 6,818 บ่อ มูลค่าเสียหายเบื้องต้นกว่า 440 ล้านบาท

ด้านการช่วยเหลือ นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ส่งเรือท้องแบน และเรือไฟเบอร์จำนวน 220 ลำ เข้าช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอที่วิกฤต พร้อมออกมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยทั้งจังหวัด รวมกว่า 45,262 ชุด

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯปทุม จัดทำแผนอพยพ
นายกรัฐมนตรี สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีจัดทำแผนอพยพชาวบ้าน หลังพบหลายพื้นที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุปัญหาที่ดูแลไม่ทั่วถึงเพราะชาวบ้านไม่ยอมออกนอกพื้นที่

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ยอมรับว่าขณะนี้ไม่มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับท่วมครั้งนี้ได้หรือไม่ เพราะนอกจากน้ำจะมีปริมาณมากแล้ว ยังประสบกับปัญหาชาวบ้านแอบมารื้อกระสอบทราย ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เฉพาะพื้นที่อำเภอเมือง และ อำเภอลาดหลุมแก้ว แต่นายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วย เพราะปัญหาน่าจะแก้ไขได้ด้วยการพูดคุยกัน

โดยเบื้องต้นได้แนะนำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงไปพูดคุยกับชาวบ้าน และหลังจากนี้จะขอความร่วมมือกับ ส.ส. ส.ว.ในพื้นที่ ให้เข้ามาช่วยพูดคุยอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ว่าฯปทุมธานี เร่งจัดทำแผนอพยบประชาชน เพื่อรองรับปัญหากรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนในลำดับแรก ส่วนทรัพย์สินเป็นเรื่องรองลงมา

ขณะที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่าปัญหาสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลช่วยเหลือประชาชนได้ทั่วถึงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประชาชนไม่ยอมออกจากบ้าน ประกอบกับหนทางที่จะเข้าไปช่วยเหลือก็เข้าได้ยากลำบาก ซึ่งถ้าหากออกมารวมอยู่ในจุดเดียวกันก็จะไม่เกิดปัญหา เนื่องจากทางฝ่ายปกครองได้จัดเตรียมแผนรองรับปัญหาเหล่านี้ไว้หมดแล้ว

ปทุมธานี-ประตูระบายน้ำวัดป่าฝ้ายยังซ่อมไม่ได้ น้ำท่วม 5 หมู่บ้าน





ประตูระบายน้ำวัดป่าฝ้ายยังซ่อมไม่ได้ ทำให้น้ำยังไหลเข้าท่วมหมู่บ้านใน อ.สามโคก 5 หมู่บ้าน ชาวบ้านเร่งเก็บของหนีน้ำและบางหมู่บ้านก็ได้อพยพชาวบ้านออกนอกพื้นที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน 5 ตำบล คือ ต.กระแชง ,ต.สามโคก,ต.บางโพธิเหนือ,ต.บางเตย ,ต.คลองควาย ในเขตพื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ฝั่งตะวันตก เร่งเก็บข้าวของหนีน้ำ รีบนำรถยนต์ออกจากพื้นที่น้ำท่วม และบางพื้นที่โดยเฉพาะชาวบ้าน ต.กระแชง และ ต.สามโคก ต้องเร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ หลังปริมาณน้ำจากประตูระบายน้ำวัดป่าฝ้ายที่พังลง ตั้งแต่คืนวันที่ 10 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งกู้ปิดช่องทางน้ำดังกล่าว แต่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และได้ปล่อยให้ปริมาณน้ำทะลักเข้าท่วม ทำให้บ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบและใกล้กับประตูระบายน้ำดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างหนัก ระดับน้ำท่วมสูง 50-80 ซม. บางพื้นที่ที่เป็นที่ต่ำสูงกว่า 1 เมตรแล้ว และส่งผลทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ถนนเส้นทางปทุมธานี –เสนา การจราจรในเส้นทางดังกล่าวติดขัดเป็นทางยาว เพราะถูกน้ำท่วมบนพื้นถนนช่องทางขาเข้าปทุมธานีสูงประมาณ 20 ซม.

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าไปช่วยเหลืออพยพชาวบ้านและข้าวของด้วยรถขนาดใหญ่และเรือ เนื่องจากระดับน้ำในเส้นทางในการเดินทางเข้าไปถูกน้ำท่วมสูงทั้งหมด รถยนต์ขนาดเล็กของชาวบ้านไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ต้องนำมาไว้ริมถนนที่มีพื้นที่สูง

สถานการณ์การณ์น้ำวันนี้

วันพุธ ที่ 12 ตุลาคม 2554 เวลา 13.09 น.
พยากรณ์อากาศและสถานการณ์น้ำวันนี้
ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าว มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง ในระยะ 1- 2 วันนี้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนลดลง

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2554
น้ำฝน
- ปริมาณฝน (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา) สูงสุดที่ สำนักงานเขตทวีวัฒนา 34.5 มม.
- ปริมาณฝนรวมตั้งแต่ 1 ม.ค.-11 ต.ค. 54 รวม 2,043.5 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย 42.7%

น้ำเหนือ (ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา)
-ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา + พระราม 6 รวม 4,630 ลบ.ม./วินาที (ลดจากเมื่อวาน 120 ลบ.ม./วินาที)
-ปริมาณน้ำผ่าน อ. บางไทร 3,649 ลบ.ม./วินาที (เพิ่มจากเมื่อวาน 89 ลบ.ม./วินาที)

น้ำทะเลหนุนสูง
-วันนี้ เวลา 07.11 น. ระดับ +0.97 ม.รทก. และเวลา 18.20 น. ระดับ +1.01 ม.รทก.
-พรุ่งนี้ เวลา 07.48 น. ระดับ +1.04 ม.รทก. และเวลา 18.42 น. ระดับ +1.01 ม.รทก.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
- เมื่อวานสูงสุด เวลา 18.00 น ระดับ +2.02 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 78 ซม.)
- วันนี้ (12 ต.ค. 54) เวลา 07.00 น. ระดับ +2.02 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 78 ซม.)
- คาดการณ์ วันนี้ โดยกรมอุทกศาสตร์ เวลา 18.20 น. ระดับ +2.04 ม.รทก.

จากสถานการณ์น้ำปัจจุบันแนวป้องกันน้ำท่วมของ กทม. ยังสามารถป้องกันได้ไม่มีผลกระทบกับพื้นที่ในแนวป้องกันของ กทม. (ซึ่งป้องกันได้ที่ระดับเฉลี่ย 2.50 ม.- 3.00 ม.)

ระดับน้ำคลองต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาวะปกติ
ระดับน้ำในคลองด้านตะวันออก (คลอง 13 คลองหลวงแพ่ง) มีระดับสูง ต้องเฝ้าระวัง
ระดับในคลองด้านตะวันตก (คลองมหาสวัสดิ์ คลองทวีวัฒนา) มีระดับสูง ต้องเฝ้าระวัง

ข้อมูลล่าสุด
[ 13.00 น.กทม.พบกลุ่มฝนพบกลุ่มฝนปานกลาง-หนักเขตยานนาวา ราษฎบูรณะ บางคอแหลม พระนคร บางรัก ป้อมปราบฯ ปทุมวัน สาทร ธนบุรี คลองสาน จอมทอง ภาษีเจริญ บางแค หนองแขม จอมทอง แนวโน้มคงที่ | ปริมาณฝนสูงสุดทีสถานีสูบน้ำคลองวัดไทร 110 มม. | ระดับน้ำ(ม.รทก.)แสนแสบเก่า-0.51 หลังเขตบางกะปิ+0.01 คลองทวี-ภาษี+0.64 | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเวลานี้ที่บางนา+0.55 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.95 ม. ปากคลองตลาด 1.52 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.28 ม.บางเขนใหม่+2.10 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.90 ม. 12 ต.ค. 2554 ] ...

[ 12.50 น.กทม.พบกลุ่มฝนปานกลาง-หนักเขตยานนาวา ราษฎบูรณะ บางคอแหลม พระนคร บางรัก ป้อมปราบฯ ปทุมวัน สาทร ธนบุรี คลองสาน จอมทอง ภาษีเจริญ บางแค หนองแขม จอมทอง แนวโน้มคงที่ 12 ต.ค. 2554 ] ...

[ 12.10 น.กทม.พบกลุ่มฝนอ่อนเขตทวีวัฒนา ต่อเนื่องอ.บางกรวย อ.บางใหญ่ อ.เมืองนนทบรี อีกกลุ่มเขตสาทร ยานนาวา ราษฎบูรณะ บางคอแหลม | ปริมาณฝนสูงสุดที่เขตหนองแขม 42.5 มม. | ระดับน้ำ(ม.รทก.)แสนแสบเก่า-0.47 หลังเขตบางกะปิ+0.02 คลองทวี-ภาษี+0.64 | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเวลานี้ที่บางนา+0.58 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.92 ม. ปากคลองตลาด 1.56 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.24 ม.บางเขนใหม่+2.12 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.88 ม. 12 ต.ค. 2554 ] ...

[ 11.40 น. ฝนอ่อน-ปานกลาง 2กลุ่ม 1.รอยต่ออ.กระทุ่มแบน เขตหนองแขม เคลื่อนตัวเข้าสู่เขต บางแค 2.รอยต่อเมืองนนทบุรนีเขตบางซื่อ บางพลัด ตลิ่งชัน แนวโน้มคงที่ 12 ต.ค. 2554 ] ...

ข้อมูล Online จากระบบตรวจวัดอัตโนมัติ
ระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำฯ (ภายนอก / ภายใน) [คลองสอง 2/1.14 ม.] , [พระยาสุเรนทร์ 2.01/1.01 ม.] , [สามวา 1.70/0.97 ม.] , [แสนแสบ มีนบุรี 1.29/0.63 ม.(ค่าวิกฤติ 1.20)] , [บึงขวาง 1.27/0.66 ม.(ค่าวิกฤติ 1.10)] , [ประเวศน์ฯ ลาดกระบัง 0.78/0.43 ม.(ค่าวิกฤติ 0.65)] , [ประเวศน์ฯ วัดกระทุ่มฯ 0.32/0.21 ม.] , [คลอง 13 หนองจอก 2.30/1.58 ม.] , [หลวงแพ่ง 1.48/1.08 ม.] , [ประเวศน์ วัดราชโกษา 0.78 ม.] ,
ระดับน้ำคลองสายหลัก
ฝั่งพระนคร [บางบัว 0.59 ม.] , [คลองเปรมฯ หลักสี่ 0.74 ม.] , [ลาดพร้าว -0.01 ม.] , [สามเสน อนุเสาวรีย์ชัยฯ -0.49 ม.] , [แสนแสบ บางกะปิ 0.01 ม.] , [แสนแสบ คลองตัน -0.51 ม.] , [พระโขนง ศรีนครินทร์ 0.07 ม.] , [สถานีพระโขนง -0.68 ม.] ,
ฝั่งธนบุรี [มหาสวัสดิ์ ศาลายา 1.84 ม.] , [ทวีวัฒนา 0.97 ม.] , [มหาสวัสดิ์ ฉิมพลี 1.84 ม.] , [บางกอกน้อย 1.74 ม.] , [ราชมนตรี-ภาษีฯ 0.64 ม.] , [ทวีวัฒนา-ภาษีฯ 0.64 ม.(ค่าวิกฤติ 0.80)] , [ราชมนตรี -1.11 ม.] , [สนามชัย 0.77 ม.]
ระดับน้ำเจ้าพระยา [บางเขนใหม่ 2.10 ม.] , [บางซื่อ 1.99 ม.] , [สามเสน 1.45 ม.] , [กรุงเกษม 1.29 ม.] , [วัดไทร 0.91 ม.] , [บางนา 0.55 ม.] , [ปากคลองตลาด 1.53 ม.] , [ทะเลบางขุนเทียน 0.11 ม.] , [ทะเลบางปู 0.30 ม.] (คันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ สูง 2.50-3.00 ม.)

ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม 8 = 4220 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
ปริมาณน้ำไหลผ่านคลองบางกอกน้อย 78.50 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

* ค่าระดับน้ำ หน่วยเป็นเมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ปกติจะอยู่ที่ไม่เกิน +/- 2.50 ม. หากมีค่าเกินไปกว่านี้ หรือขาดหาย ส่วนใหญ่เกิดจากอุปกรณ์เครื่องวัดระดับน้ำขัดข้องชั่วคราว
** ค่าวิกฤติ คือค่าระดับของตลิ่ง หากระดับน้ำสูงเกินค่าวิกฤติ พื้นที่แถบนั้นอาจมีปัญหาน้ำท่วมได้

เรดาร์ภาษีเจริญ รายงานสถานการณ์น้ำ
เฝ้าระวังน้ำล้นคลอง ระบบโทรมาตร
Twitter @BKK_BEST Facebook
ภาพดาวเทียม แผนที่อากาศ
ตรวจสอบปริมาณฝน 24 ชม.ที่ผ่านมา 
สำนักการระบายน้ำ สรุปรายงานประจำวัน
ข้อมูลน้ำขึ้นและน้ำลง

ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร
0 2248 5115 ตลอด 24 ชั่วโมง

ว่ากทม.รับมือน้ำ 16-18 ต.ค. ยันตอนนี้รับมือได้ แต่เฝ้าระวัง-เร่งเสริมคันกั้นน้ำ

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:10:07




เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ตุลาคม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะผู้บริหาร เดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำที่โรงเรียนวัดปุรณาวาส (มัธยม) เขตทวีวัฒนา ด้านตะวันตกของกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพเรือกับกองทัพบกได้ระดมกำลังร่วมสร้างคันกั้นน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์กและคลองทวีวัฒนา เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชน

ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ระดับน้ำในวันนี้ที่แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 2.01 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหกรวม 4,630 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ปริมาณน้ำผ่านอ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยาวัดได้ 3,649 ลบ.ม./ วินาที ระดับน้ำในคลองหลักยังคงสูง แต่ยังอยู่ในสภาวะควบคุมได้หมด ไม่ถึงขั้นวิกฤติ ซึ่งขณะนี้ทางกทม.ได้ดำเนินการเสริมคันกั้นน้ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกของกรุงเทพฯ และได้มีการเตรียมการอพยพทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ

ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการรับมือน้ำที่ไหลมาจาก จ.ปทุมธานี ได้มีการประสานงานร่วมกับกรมชลประทานและรัฐบาลในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากดำเนินการอะไรต้องมีการปรึกษาหารือร่วมกัน มีการรับทราบและเห็นชอบ ไม่มีใครสามารถทำอะไรโดยพลการได้อย่างเด็ดขาด ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และหาก จ.ปทุมธานีรับมือไม่ไหว ทางกทม.ก็มีแผนอพยพในทุกเขตอยู่แล้ว แต่ก็ยืนยันว่าปทุมธานียังรับมือได้ เนื่องจากมีการเสริมแนวกระสอบทรายบริเวณ ต.หลักหก โดยล่าสุดมีการเสริมคันกั้นน้ำเพิ่มอีก 20 ซม. และเพิ่มความหนาอีก 1 กระสอบทราย หากประเมินว่ายังไม่พียงพอก็จะเสริมเข้าไปอีก

“ส่วนในเรื่องของการพยากรณ์อากาศ ยืนยันว่าโอกาสที่ฝนจะตกนั้นมีถึง 70-80% ในทุกวัน แต่ก็ไม่มีใครสามารถพยากรณ์ได้อย่างถูกต้อง ผมก็ไม่ใช่ขงเบ้งที่จะหยั่งฟ้ารู้ดินได้ แต่ยืนยันว่าในวันที่ 16-18 ต.ค. จะมีฝนตก ระดับน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเหนือไหลมาแน่ จึงต้องเตรียมรับมืออย่างเต็มที่ โดยจะมีการระบายน้ำจากคลองแสนแสบ ทำให้ในวันนี้และวันพรุ่งนี้จะต้องมีการหยุดเดินเรือ เพื่อเร่งระบายน้ำจากคลองแสนแสบเข้าสู่อุโมงค์ยักษ์พระโขนง เพื่อรองรับปริมาณน้ำในวันที่ 16-18 ต.ค.นี้ จึงขอให้ประชาชนที่ใช้บริการเดินเรือโดยสารในคลอวงแสนแสบเข้าใจถึงสถานการณ์ในขณะนี้ กทม.จะจ้องจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง ในการป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมก่อน” ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าว

ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ อาจจะต้องมีการเพิ่มปริมาณน้ำลงคลองทวีวัฒนา ซึ่งจะค่อยๆ เพิ่มปริมาณการระบายน้ำที่รับมาจากทางเหนือ ขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองทวีวัฒนายังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ซึ่งยังต่ำกว่าปี 2538 ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามคลองทวีวัฒนาไม่ใช่จุดเดียวที่ต้องเฝ้าระวังทางด้านทิศตะวันตก เพราะไม่มีพื้นที่ไหนปลอดภัย 100% จึงต้องมีแผนอพยพทั้ง 50 เขตต่อไป

ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือ ได้ระดมเจ้าหน้าที่บรรจุกระสอบทรายกว่า 40,000 กระสอบ เพื่อเสริมคันกั้นน้ำแนวคลองมหาสวัสดิ์และคลองทวีวัฒนา ให้มีระดับสูงขึ้น 2.80 เมตร ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร

น้ำท่วมกาฬสินธุ์ยังวิกฤติ-เร่งช่วยปชช.

12 ต.ค. 54 10.50 น.

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ หลายอำเภอยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ อ.ฆ้องชัย อ.ร่องคำ และ อ.กมลาไสย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มและติดกับแม่น้ำชี เนื่องจากระดับน้ำชี ที่ได้รับน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และ จ.ชัยภูมิ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 10 ซ.ม. ส่งผลให้น้ำเริ่มล้นพนังกั้นเข้ามาแล้วหลายจุด ซึ่งชาวบ้านในต.ลำชี และ ต.ฆ้องชัยพัฒนา อ.ฆ้องชัย หลายร้อยคนร่วมกันเร่งนำกระสอบทรายมาเสริมพนัง ให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบ้านและพื้นที่การเกษตร ส่วนพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ อ.หนองกุงศรี อ.ห้วยเม็ก และ อ.ท่าคันโท บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านยังคงถูกน้ำ จากเขื่อนลำปาวท่วมขังและทรงตัว เนื่องจากทางเขื่อนชะลอการระบายน้ำ เพราะเกรงว่าน้ำจะไหลไปสบทบกับน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ทำให้บ้านและไร่นาของประชาชนในพื้นที่ลุ่มถูกน้ำท่วมมากขึ้น

ขณะที่ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชน ที่ประสบภัยน้ำท่วมจากการปล่อยน้ำของเขื่อนลำปาว ใน ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 320 ชุด พร้อมทั้งกำชับให้นายอำเภอฆ้องชัย อ.ร่องคำ และ อ.กมลาไสย และผู้นำท้องถิ่นจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง

sanook news

ข-------------------------------------------------------

สามโคกอ่วมน้ำทะลักคันกั้นน้ำพังหลายจุด

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 12 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 12:49 น. INN

อบจ.ปทุมธานี เผย ระดับน้ำขั้นวิกฤติ ทะลักเข้าพนังกั้นน้ำหลายจุดในสามโคก หลายเส้นอ่วม

นายชาญ พวงเพ็ชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า ขณะนี้ระดับน้ำเข้าขั้นวิกฤติ มีน้ำทะลักผ่านพนังกั้นน้ำในหลายจุดของ อ.สามโคก โดยฝั่งตะวันตก น้ำได้ทะลักเข้าสู่ถนนสามโคก-ท้ายเกาะ เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในขณะนี้ ถนนไม่สามารถใช้การได้ และน้ำบางส่วนได้เข้าสู่ถนนสามโคก-เสนา หากน้ำเข้ามามากกว่านี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อ อ.ลาดหลุมแก้ว และ อ.เมือง บางส่วน ส่วนด้านตะวันออกของ อ.สามโคก น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลทะลักเข้าสู่คลองบ้านพร้าว และหากจุดนี้ยังไม่สามารถอุดกระแสน้ำได้ ก็จะทะลักเข้าสู่ อ.ธัญบุรี คลองหลวง ลำลูกกา และ อ.เมือง บางส่วน

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ ระดับน้ำอาจจะส่งผลกระทบถึง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเป็น ศูนย์พักพิงชั่วคราวของผู้ประสบอุทกภัย แต่ทุกศูนย์อพยพ ก็มีแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ไว้แล้วเช่นกัน

----------------------------------------------------

เตือนเลี่ยงสะพานข้ามคลองบางบัวทองน้ำท่วมสูง-รถติด

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:39 น. ข่าวสดออนไลน์


นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทางหลวงชนบท) เปิดเผยว่า จากการที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ต่างๆ ทำให้น้ำในคูคลอง เพิ่มระดับจนท่วมผิวจราจรบนถนนราชพฤกษ์ โดยเฉพาะบริเวณจุดกลับรถซึ่งอยู่ติดกับลำคลอง โดยศูนย์บำรุงทางหลวงชนบทราชพฤกษ์ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการโดยการวางกระสอบทราย ก่อสร้างคันดินกั้นน้ำ ติดตั้งป้ายเตือนและเครื่องสูบน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ไขเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้ทางน้อยที่สุด ซึ่ง ณ เวลานี้จุดที่ส่งผลกระทบต่อการจราจรมากที่สุด คือ บริเวณสะพานข้ามคลองบางบัวทองและจุดเชื่อมต่อทางหลวงชนบทหมายเลข 345 ที่มีระดับน้ำท่วมสูงในบางช่วงเวลา จึงขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางใช้ความระมัดระวังในเส้นทางดังกล่าวด้วย

สำหรับในส่วนของถนนชัยพฤกษ์ ทางศูนย์บำรุงทางหลวงชนบทชัยพฤกษ์ได้ดำเนินการป้องกัน โดยก่อสร้างคันดิน และวางแผนกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำไหลท่วมผิวทางจราจร แต่เนื่องจากในบางช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วง กม. 0+700 บริเวณสะพานข้ามคลองพระอุดม ระดับน้ำได้เอ่อท่วมสูงกว่าระดับคั้นกั้นน้ำ อาจส่งผลกระทบต่อการใช้เส้นทางได้ซึ่งอาจจะต้องทำการปิดการจราจรในเส้นทางดังกล่าวเมื่อปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงขอแนะนำควรหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวในช่วงเวลานี้ ทั้งนี้ ประชาชนผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนทางหลวงชนบท 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ประสพภัย เเละ คุณตัน ผู้เสียสละ ......

“เป็นคนไทยไม่ยอมแพ้ ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน”

ข่าวคุณตัน-อิชิตัน โรงงานโดนน้ำท่วม

BY HALLSMAN – ตุลาคม 12, 2011

คุณตัน ภาสกรนที น้ำตารินกลางรายการ เจาะข่าวเด่น เผยโรงงานที่โรจนะจมน้ำท่วม

หลายต่อหลายครั้งที่เรามักจะได้เห็นหน้าเจ้าพ่อชาเขียว “ตัน ภาสกรนที” ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในยามที่บ้านเมืองประสบภัยพิบัติ หรือควักกระเป๋าบริจาคเงินจำนวนมาก เพื่อช่วยน้ำท่วม ตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษา สร้างอาคารเรียน ฯลฯ ทำให้ภาพจำของผู้ชายคนนี้ คือนักธุรกิจใจบุญผู้มีรอยยิ้ม และอารมณ์ดีที่สุดคนหนึ่ง

มาวันนี้เขาเองต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจอีกหลายแห่งใน นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะโรงงานเครื่องดื่มที่เขาปลุกปั้นขึ้นมาด้วยเงินลงทุนหลายล้านบาท ได้จมไปกับน้ำท่วมกว่า 90% แล้ว

ทั้งนี้ ตัน ภาสกรนที ได้เปิดใจถึงสถานการณ์น้ำท่วมโรงงานในรายการ เจาะข่าวเด่น กับสรยุทธ สุทัศนจินดา ว่า โรงงานของเขาที่นิคมฯ โรจนะ ลงทุนไปกว่า 3,500 ล้านบาท ตอนนี้ถูกน้ำท่วมเสียหายเกือบทั้งหมด ซึ่งนั่นหมายความว่า เขาต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น คุณตัน ก็บอกว่า เขาจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ และไม่ใช่เขาคนเดียวที่ต้องเจอกับอุทกภัยอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง… “เป็นคนไทยไม่ยอมแพ้ ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน”



คุณตัน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาธรรมชาติได้เตือนเราตลอด แต่เราไม่รู้ เมื่อถึงคราวธรรมชาติเอาคืนบ้างก็คงจะโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเอง และวันนี้ทุกอย่างจบแล้ว สิ้นสุดการต้านทานน้ำแล้ว ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันและให้กำลังใจกัน พรุ่งนี้ก็คงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่

“ผมจะนอนที่นี่ ที่โรงงานที่โรจนะ ผมจะรอให้คนงานออกหมด แล้วผมจะออกเป็นคนสุดท้าย จะอยู่ให้คุ้มกับที่ลงทุนไป (ร้องไห้)”

ทางด้านพิธีกรอย่าง สรยุทธ ก็กล่าวยอมรับว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณตันอึ้งกับเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม เชื่อเหลือเกินว่า สิ่งดี ๆ ที่คุณตัน ภาสกรนที ได้ทำเพื่อสังคมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา จะช่วยให้สามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ภายในเวลาไม่นาน เพราะกำลังใจดี ๆ ที่เขาได้มอบให้พี่น้องชาวไทย ก็จะกลับไปถึงตัวเขาเช่นเดียวกัน
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟชบุ๊ก ตัน ภาสกรนที

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

กทม.เร่งสูบน้ำระบายอุโมงค์ยักษ์

วันพุธ ที่ 12 ตุลาคม 2554 เวลา 13:53 น

สุขุมพันธุ์ เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ 16-18 ต.ค. ระบายน้ำคลองแสนแสบลงอุโมงค์ยักษ์ พร้อมดูแลพื้นที่ด้านเหนืออย่างใกล้ชิด

วันนี้ (12 ต.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะผู้บริหาร เดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำที่โรงเรียนวัดปุรณาวาส (มัธยม) เขตทวีวัฒนา ด้านตะวันตกของกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพเรือกับกองทัพบกได้ระดมกำลังร่วมเสริมคันกั้นน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์และคลองทวีวัฒนา เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชน

ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ระดับน้ำในวันนี้ที่แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 2.01 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหกรวม 4,630 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ปริมาณน้ำผ่านอ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยาวัดได้ 3,649 ลบ.ม./ วินาที ระดับน้ำในคลองหลักๆยังคงสูง แต่ยังอยู่ในสภาวะควบคุมได้หมด ไม่ถึงขั้นวิกฤติ ซึ่งขณะนี้ทางกทม.ได้ดำเนินการเสริมคันกั้นน้ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกของกรุงเทพฯ และได้มีการเตรียมการอพยพทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ

สำหรับการรับมือน้ำที่ไหลมาจาก จ.ปทุมธานี ได้มีการประสานงานร่วมกับกรมชลประทานและรัฐบาลในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากดำเนินการอะไรจะต้องมีการปรึกษาหารือร่วมกัน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และหาก จ.ปทุมธานีรับมือไม่ไหว ทางกทม.ก็มีแผนอพยพในทุกเขตอยู่แล้ว แต่กยืนยันว่าปทุมธานียังรับมือได้

“ส่วนในเรื่องของการพยากรณ์อากาศ ยืนยันว่าโอกาสที่ฝนจะตก 70-80% ทุกวัน แต่ไม่มีใครสามารถพยากรณ์ได้อย่างถูกต้อง ก็เป็นเรื่องยาก ผมก็ไม่ใช่ขงเบ้งที่จะหยั่งฟ้ารู้ดินได้ แต่ยืนยันว่าในวันที่ 16-18 จะมีฝนตก ระดับน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเหนือไหลมาแน่ จึงต้องเตรียมรับมืออย่างเต็มที่ โดยจะมีการระบายน้ำจากคลองแสนแสบ ทำให้ในวันนี้และวันพรุ่งนี้จะต้องมีการหยุดเดินเรือ เพื่อเร่งระบายน้ำจากคลองแสนแสบเข้าสู่อุโมงค์ยักษ์พระโขนง เพื่อรองรับปริมาณน้ำในวันที่ 16-18 ต.ค.นี้ จึงขอให้ประชาชนที่ใช้บริการเดินเรือโดยสารในคลอวงแสนแสบเข้าใจถึงสถานการณ์ในขณะนี้ กทม.จะจ้องจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง ในการป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมก่อน” ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าว.

เจ้าพระยาทะลักท่วมสามโคกจม

ระวัง! ทวิตเตอร์แอบอ้างเบื้องสูงหลอกโอนเงินช่วยน้ำท่วม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2554 12:47 น




ASTVผู้จัดการ - พบผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง แอบอ้าง พระบรมวงศานุวงศ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้านผู้จัดการสาขาธนาคารที่เปิดบัญชีเผยได้รับคำสั่งให้ระงับบัญชีดังกล่าวแล้ว

วันนี้ (12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ในชื่อ@tepwadol18 ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยแอบอ้างพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์หนึ่ง แล้วให้โอนเงินผ่านบัญชีสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขานิคมพัฒนา กิ่ง อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ชื่อบัญชี นายเทพวดล สิริธาดานุกูล

เมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่า ผู้ใช้นามแฝงคนดังกล่าวเคยโพสต์ข้อความขอรับบริจาคเงินเพื่อต้านภัยหนาว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตรวจสอบกลับพบว่า นายเทพวดล สิริธาดานุกูล เป็นชาว จ.ลำปาง อายุ 25 ปี ทำงานอยู่ในโรงงานผลิตยางรถยนต์แห่งหนึ่งใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนแก่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ รวมทั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่นๆ ให้ระมัดระวังในการโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว

ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยังนายอาทร สารเจริญ ผู้จัดการสาขา ธนาคารกรุงเทพ สาขานิคมพัฒนา พบว่าทางธนาคารได้รับคำสั่งจากทางสำนักงานใหญ่ให้ระงับบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางสาขายังไม่ได้คำสั่งให้ช่วยติดตามตัวนายเทพวดล แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นของทางธนาคารพบว่า นายเทพวดลไม่ได้ทำงานที่โรงงานผลิตยางรถยนต์ดังกล่าวแล้ว

ท่าน้ำนนท์ใกล้วิกฤต โป๊ะลอยสูง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2554 13:18






ท่าน้ำนนท์ใกล้วิกฤต ระดับน้ำเจ้าพระยาสูง ห่วงโป๊ะลอยเกือบสุดเสา เร่งสูบน้ำออกแล้ว ด้าน ผู้ว่าฯ สั่งเสริมแนวคั้นกั้นน้ำรอยต่อพื้นที่ปทุมฯ ป้องกันน้ำทะลัก พร้อมสั่งเตรียมอพยพหากเกิดภาวะวิกฤตตลอดเวลา ยันประสานทุกฝ่ายร่วมมือแก้ไขปัญหาไม่แบ่งฝ่ายใด พร้อมขออภัยผู้โดยสารเรือคลองแสนแสบหยุดเดินเรือ

วันนี้ (12 ต.ค.) สถานการณ์ระดับน้ำที่ท่าน้ำนนนท์ เทศบาลนครนนทบุรี อยู่ในระดับน่าเป็นห่วง โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโป๊ะลอย ท่าลอยขึ้นจนเกือบสุดตัวเสายึด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลได้นำกระสอบทรายก่อเป็นกำแพงกั้นน้ำสูงประมาณเกือบ 2 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้ามาในตัวเมือง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 1 ตัวคอยสูบน้ำออกตลอดเวลา พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเทศบาลนครนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทสาสาธารณภัยคอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 11.50 น.ได้เกิดฝนตกหนักทำให้กระแสน้ำเจ้าพระยาไหลเชี่ยวกราก เรือข้ามฝากไปฝั่ง อ.บางบัวทอง จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งการควบคุมเรือเป็นไปด้วยความลำบาก ส่วนเรือด่วนเจ้าพระยายังคงเปิดบริการตามปกติ แต่ต้องบังคับเรือให้เดินช้าลง เพื่อลดความแรงของกระแสน้ำจะพัดเข้าบ้านเรือนประชาชน

ส่วนชาวบ้านในเทศบาลนครนนทบุรี ระบุว่า ระดับน้ำขณะนี้น่าเป็นห่วงมาก หากกั้นน้ำไม่อยู่เทศบาลนครนนทบุรีจมแน่นอน ได้แต่ภาวนาอย่าให้ฝนตกลงมาอีกเพราะกลัวแนวกระสอบทรายจะพังลงมา

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เดินทางมายังโรงเรียมัธยมวัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำ พร้อมเยี่ยมเจ้าหน้าที่ และกำลังพลจากกองทัพบก กองทัพเรือที่เข้ามาช่วยเร่งเสริมกระสอบทราย โดยผู้ว่าฯ ระบุว่า ขณะนี้เขตทวีวัฒนาได้รับความร่วมมือจากกองทัพเรือเพื่อมาสร้างแนวป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามาท่วมในพื้นที่ กทม. ซึ่งในวันนี้ระดับน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยาวัดได้ 2.01 เมตร จากแนวป้องกัน 2.50 เมตร ส่วนที่อำเภอบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 3,460 ลูกบาศเมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำในคลองกทม.ยังมีปริมาณจำนวนมาก แต่ยังสามารถควบคุมได้ ไม่ถึงขึ้นวิกฤต ซึ่งตนได้สั่งให้มีการเสริมแนวคันกั้นน้ำ พื้นที่ จ.ปทุมธานี รอยต่อกรุงเทพฯ และฝั่งตะวันตกของ กทม.พร้อมสั่งให้มีการเตรียมแผนอพยพ หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมสูง ซึ่งที่โรงเรียมัธยมวัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา ได้ เปิดเป็นศูนย์อพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า กทม.ได้ประสานการทำงานกับกรมชลประทานและรัฐบาล โดยไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำอะไรโดยไม่ปรึกษากัน เพราะต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย ตนไม่ประมาทสถานการณ์ในขณะนี้ เพราะได้ลงตรวจพื้นที่ทุกวัน ซึ่งตนได้สั่งให้มีการเสริมกระสอบทรายด้วยความสูง 20 เซนติเมตร และความหนาอีก 1 กระสอบ ที่ตำบลหลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อป้องกันน้ำที่จะทะลักเข้ามากรุงเทพฯได้

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า ขณะนี้การพยากรณ์อากาศยังไม่มีหน่วยงานใดพยากรณ์อากาศได้แม่นยำ เพราะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ตนอยากพยากรณ์อากาศให้แม่นยำ แต่ตนไม่ใช่ขงเป้งที่จะทำอย่างนี้ได้ แต่ในช่วงวันที่ 16-18 ต.ค.นี้ จะมีตัวแปร ซึ่งเป็นฝนเข้ามาเพิ่มหรือไม่ กทม.ก็ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกช้ชิด เพราะคาดว่าจะมีน้ำเหนือไหลลงมา พร้อมกับมีน้ำทะเลหนุนสูงค่อนข้างแน่

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้คลองเขตทวีวัฒนายังมีระดับน้ำที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งพบว่า ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เมื่อปี 2538 ซึ่งขณะนี้อาจจะมีการระบายน้ำเพิ่มเข้ามาในระบบคลองมากขึ้นได้ แต่ก็ต้องมีการติดตามสถานการณ์ทุกระยะ

ผู้ว่าฯ กล่าวต่อว่า ใน 2 วันนี้จะมีการเร่งระบายน้ำ ซึ่งจะต้องการหยุดเดินเรือในบางจุด เพื่อระบายน้ำจากคคลองแสนแสบ เพื่อผันเข้าอุโมงค์ยักษ์พระโขนง เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้น ตนจึงขออภัยกับประชาชนที่โดยสารทางเรือ เพราะอยากให้เข้าใจสถานการณ์ ในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นผู้ว่าฯ กทม.เดินทางไปยังตำบลหลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจการสร้างแนวคันกั้นน้ำเพื่อป้อกันน้ำเข้า กทม.ได้

ฝนถล่มฝั่งธนฯเร่งระบายลงเจ้าพระยา


12 ตุลาคม 2554 เวลา 13:32 น.


ฝนถล่มฝั่งธน น้ำขังลาดหญ้า-เจริญนคร กทม.เร่งระบายน้ำลงเจ้าพระยาด่วน ย่านพื้นที่เศรษฐกิจเตรียมแนวกั้นน้ำรับมือน้ำเหนือ
ฝนถล่มฝั่งธน
สถานการณ์น้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรีติดกับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำที่สูงขึ้นเล็กน้อยโดยระดับน้ำใกล้เคียงกับเท่ากับความสูงของตอม่อสะพานพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสะพานพระปกเกล้า แต่ถึงกระนั้นระดับน้ำยังคงต่ำกว่าแนวเขื่อนกั้นน้ำประมาณ 1.50 เซนติเมตร ซึ่งในส่วนของชุมชนในย่านวัดกัลยาณมิตรได้นำกระสอบทรายมาทำแนวกั้นน้ำเพื่อรองรับกับปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลมาสมทบในเร็วๆนี้ พร้อมกันนี้ทางกทม.ยังได้ประสานโรงเรียนวัดกัลยาณมิตรจัดเตรียมพื้นที่สำหรับรองรับผู้อพยพในพื้นที่ใกล้เคียงหากมีระดับน้ำสูงขึ้นและทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชน
ขณะเดียวกัน ตลอดทั้งวันตั้งแต่เวลา 10.30น.-13.30น.ได้มีฝนตกลงหนักลงมาและมีลมกรรโชกแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับในคลองสมเด็จเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ถนนลาดหญ้า และ ถนนเจริญนครมีน้ำท่วมขังเป็นบางจุด อย่างไรก็ตาม บริเวณใต้สะพานกรุงเทพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้ามาท่วมจุดกลับรถใต้สะพานเล็กและมีน้ำขัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดเครื่องสูบน้ำระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อบรรเทาปัญหาแล้ว
สำหรับพื้นที่เขตคลองสานซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ชั้นในของกทม.และไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศของศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แต่ทั้งนี้สำนักงานเขตคลองสานได้มีการเตรียมรับมือเอาไว้แล้วเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเคยประสบเหตุน้ำท่วมอย่างร้ายแรงเมื่อปี2538
โดยครั้งนี้ได้แจกจ่ายกระสอบทรายเข้าไปเป็นคันกั้นน้ำตามท่อระบายน้ำหลังจากพบว่าปริมาณน้ำในท่อระบายสูงมากขึ้นมาก เช่นเดียวกับได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณด้านหน้าสำนักงานเขตคลองสานติดกับคลองสานและคลองสมเด็จเจ้าพระยาหากระดับเพิ่มสูงขึ้นเพื่อสูบน้้ำระบายลงแม่น้่ำเจ้าพระยาและบรรเทาความเสียหาย
ขณะที่ บริเวณท่าเรือคลองสานข้ามฝั่งไปยังท่าเรือสี่พระยาระดับยังคงเป็นใต้แนวเขื่อนถาวรที่่ได้ก่อสร้างเอาไว้ล่วงหน้าประมาณ 1.50 เซนติเมตร แต่ในส่วนพื้นที่ร้านค้าฝั่งท่าเรือคลองสานพ่อค้าแม่ค้าและร้านสะดวกซื้อได้มีการนำอิฐบล๊อคมาก่อเป็นพนังกั้นน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และได้ทยอยนำสินค้าที่่ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและรองเท้าขึ้นที่สูงเอาไว้ล่วงหน้าแล้วหากระดับในแม่เจ้าพระยาไหลทะลักเข้ามา
อีกหนึ่งพื้นที่ย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ตลาดท่าดินแดง จากการสังเกตุระดับยังคงอยู่แนวใต้เขื่อนถาวรประมาณ 1.50 เซนติเมตรเช่นกันกับพื้นที่ใกล้เคียง แต่ในส่วนของร้านค้าและตลาดสดได้นำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวยาวเพื่อป้องกันน้ำกันแล้ว
ไม่ต่างอะไรกับร้านค้าในย่านวงเวียนใหญ่ซึ่งถือเป็นพื้นที่ใจกลางของฝั่งธนบุรีและเป็นแหล่งการค้าสำคัญได้มีการนำกระสอบทรายมาทำเป็นแนวคันกั้นน้ำเช่นกันโดยเฉพาะบรรดาร้านทอง นอกจากนี้ บรรยากาศภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขาลาดหญ้าได้มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายซื้อของกันอย่างหนาตาโดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ขายดี คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ฝนถล่มฝั่งธนฯเร่งระบายลงเจ้าพระยา


12 ตุลาคม 2554 เวลา 13:32 น.


ฝนถล่มฝั่งธน น้ำขังลาดหญ้า-เจริญนคร กทม.เร่งระบายน้ำลงเจ้าพระยาด่วน ย่านพื้นที่เศรษฐกิจเตรียมแนวกั้นน้ำรับมือน้ำเหนือ
ฝนถล่มฝั่งธน
สถานการณ์น้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรีติดกับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำที่สูงขึ้นเล็กน้อยโดยระดับน้ำใกล้เคียงกับเท่ากับความสูงของตอม่อสะพานพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสะพานพระปกเกล้า แต่ถึงกระนั้นระดับน้ำยังคงต่ำกว่าแนวเขื่อนกั้นน้ำประมาณ 1.50 เซนติเมตร ซึ่งในส่วนของชุมชนในย่านวัดกัลยาณมิตรได้นำกระสอบทรายมาทำแนวกั้นน้ำเพื่อรองรับกับปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลมาสมทบในเร็วๆนี้ พร้อมกันนี้ทางกทม.ยังได้ประสานโรงเรียนวัดกัลยาณมิตรจัดเตรียมพื้นที่สำหรับรองรับผู้อพยพในพื้นที่ใกล้เคียงหากมีระดับน้ำสูงขึ้นและทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชน
ขณะเดียวกัน ตลอดทั้งวันตั้งแต่เวลา 10.30น.-13.30น.ได้มีฝนตกลงหนักลงมาและมีลมกรรโชกแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับในคลองสมเด็จเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ถนนลาดหญ้า และ ถนนเจริญนครมีน้ำท่วมขังเป็นบางจุด อย่างไรก็ตาม บริเวณใต้สะพานกรุงเทพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้ามาท่วมจุดกลับรถใต้สะพานเล็กและมีน้ำขัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดเครื่องสูบน้ำระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อบรรเทาปัญหาแล้ว
สำหรับพื้นที่เขตคลองสานซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ชั้นในของกทม.และไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศของศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แต่ทั้งนี้สำนักงานเขตคลองสานได้มีการเตรียมรับมือเอาไว้แล้วเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเคยประสบเหตุน้ำท่วมอย่างร้ายแรงเมื่อปี2538
โดยครั้งนี้ได้แจกจ่ายกระสอบทรายเข้าไปเป็นคันกั้นน้ำตามท่อระบายน้ำหลังจากพบว่าปริมาณน้ำในท่อระบายสูงมากขึ้นมาก เช่นเดียวกับได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณด้านหน้าสำนักงานเขตคลองสานติดกับคลองสานและคลองสมเด็จเจ้าพระยาหากระดับเพิ่มสูงขึ้นเพื่อสูบน้้ำระบายลงแม่น้่ำเจ้าพระยาและบรรเทาความเสียหาย
ขณะที่ บริเวณท่าเรือคลองสานข้ามฝั่งไปยังท่าเรือสี่พระยาระดับยังคงเป็นใต้แนวเขื่อนถาวรที่่ได้ก่อสร้างเอาไว้ล่วงหน้าประมาณ 1.50 เซนติเมตร แต่ในส่วนพื้นที่ร้านค้าฝั่งท่าเรือคลองสานพ่อค้าแม่ค้าและร้านสะดวกซื้อได้มีการนำอิฐบล๊อคมาก่อเป็นพนังกั้นน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และได้ทยอยนำสินค้าที่่ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและรองเท้าขึ้นที่สูงเอาไว้ล่วงหน้าแล้วหากระดับในแม่เจ้าพระยาไหลทะลักเข้ามา
อีกหนึ่งพื้นที่ย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ตลาดท่าดินแดง จากการสังเกตุระดับยังคงอยู่แนวใต้เขื่อนถาวรประมาณ 1.50 เซนติเมตรเช่นกันกับพื้นที่ใกล้เคียง แต่ในส่วนของร้านค้าและตลาดสดได้นำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวยาวเพื่อป้องกันน้ำกันแล้ว
ไม่ต่างอะไรกับร้านค้าในย่านวงเวียนใหญ่ซึ่งถือเป็นพื้นที่ใจกลางของฝั่งธนบุรีและเป็นแหล่งการค้าสำคัญได้มีการนำกระสอบทรายมาทำเป็นแนวคันกั้นน้ำเช่นกันโดยเฉพาะบรรดาร้านทอง นอกจากนี้ บรรยากาศภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขาลาดหญ้าได้มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายซื้อของกันอย่างหนาตาโดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ขายดี คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป



 

เตือน 4 นิคมฯ “ลาดกระบัง-เวลโกรว์-อัญธานี-บางพลี” รับวิกฤต “นวนคร” หยุดยาว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2554 12:54 น.



กนอ.ยันคนงานในนิคม “ไฮเทค” อพยพหมดแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ หลังน้ำทะลักเข้า พร้อมประชุมรับมือเส้นทางน้ำด้านตะวันออก กทม.เตือน 4 นิคมฯ ลาดกระบัง เวลโกรว์ อัญธานี และบางพลี เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่ “นวนคร” หยุดต่ออีก 2 วัน เพื่อประเมินสถานการณ์

นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ กนอ.ได้ประกาศครั้งล่าสุดให้มีการอพยพคนงาน ในนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่ก่อนหน้าได้ขอความร่วมมือให้ปิดโรงงานทุกแห่งในไฮเทค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 แต่เนื่องจากมีการป้องกัน น้ำไม่ท่วม จึงทำให้บางโรงงาน ไม่ปิด มีการเดินเครื่องผลิตอยู่ ซึ่งทางราชการเห็นว่าหากเกิดน้ำทะลักท่วม อาจจะเกิดปัญหาเรื่องการอพยพคน แต่เช้านี้จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าทุกโรงงานได้ปิดดำเนินการแล้ว


ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวเสริมว่า ทาง กนอ.ได้ร่วมกับทางนิคมฯ ต่างๆ ตรวจสอบเส้นทางน้ำ ซึ่งล่าสุดจากที่กรุงเทพมหานคร จะมีการระบายน้ำไปยังพื้นที่ด้านตะวันออก อาจจะกระทบต่อ 4 นิคมฯ ที่อยู่ในเส้นทางนี้ ได้แก่ นิคมฯ ลาดกระบัง เวลโกรว์ อัญธานี และบางพลี ซึ่งมีโรงงานรวมกว่า 500 แห่ง โดยทางนิคมฯ ได้ประชุมร่วมกัน และวางแผนรับมือทั้งมีการเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแรง การป้องกันน้ำ การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รวมถึงวางแผนไปถึงหากเกิดเหตุฉุกเฉินวิกฤตจะทำอย่างไร โดยให้มีการระวังเครื่องมือ การป้องกันสินค้าคงคลัง ให้การเคลื่อนย้ายสินค้าคงกลัง ไปไว้ข้างนอก ซึ่งได้เตรียมแผนรองรับให้มากที่สุด

รายงานข่าวจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) แจ้งว่า ขณะนี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างกำกับดูแลการเสริมความแข็งแกร่งของคันกั้นน้ำ ของนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) โดยระดมกำลังทหารเสริมคันกั้นน้ำทางด้านทิศเหนืออย่างเต็มที่ เป้าหมายเสริมจาก 5.5 เป็น 6.5 เมตร และจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินหน้าเสริมคันดินอย่างเต็มที่ และน้ำยังไม่เข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ด้านเขตประกอบการอุตสาหกรรม บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม บางโรงงานขนาดใหญ่เริ่มสั่งให้พนักงานหยุดงานเพื่อรอดูสถานการณ์ 1-2 วัน เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของพนักงาน

ด้าน นายทวิช เตชะนาวากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเทค นิทซู (ประเทศไทย) และรักษาการเลขาธิการสมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทยกล่าวว่า จนถึง 09.30 น.ยังรักษาสถานการณ์ในนิคมฯ ไฮเทคได้ น้ำยังไม่เข้าท่วมโรงงาน ซึ่งทางเอกชนร่วมกับทางการได้ร่วมกันแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ซึ่งจากปริมาณน้ำที่เข้ามามาก ได้ทำให้คันเขื่อนที่ทำไว้ป้องกันเกิดการสไลด์ รั่วซึม แต่ก็ได้เข้าไปแก้ปัญหา ซึ่งจะต้องต่อสู้จนถึงนาทีสุดท้าย ซึ่งในขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะรักษาไม่ให้นิคมฯ ไฮเทค เกิดน้ำท่วมจนถึงเย็นวันนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กนอ.จะขอความร่วมมือให้โรงงานในไฮเทค ปิดการทำงานตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 แต่จนถึงวันนี้ ยังมีบางรายยังคงเปิดดำเนินการอยู่บ้าง

ทั้งนี้ นิคมฯ ไฮเทคมีโรงงานจำนวน 143 โรง ส่วนใหญ่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อยู่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ มีโรงงานอื่นๆ อยู่บ้าง เช่น ทำเครื่องประดับ ของบริษัท แมริกอท ที่ส่งไปยังต่างประเทศ

เตือน 4 นิคมฯ “ลาดกระบัง-เวลโกรว์-อัญธานี-บางพลี” รับวิกฤต “นวนคร” หยุดยาว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2554 12:54 น.



กนอ.ยันคนงานในนิคม “ไฮเทค” อพยพหมดแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ หลังน้ำทะลักเข้า พร้อมประชุมรับมือเส้นทางน้ำด้านตะวันออก กทม.เตือน 4 นิคมฯ ลาดกระบัง เวลโกรว์ อัญธานี และบางพลี เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่ “นวนคร” หยุดต่ออีก 2 วัน เพื่อประเมินสถานการณ์

นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ กนอ.ได้ประกาศครั้งล่าสุดให้มีการอพยพคนงาน ในนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่ก่อนหน้าได้ขอความร่วมมือให้ปิดโรงงานทุกแห่งในไฮเทค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 แต่เนื่องจากมีการป้องกัน น้ำไม่ท่วม จึงทำให้บางโรงงาน ไม่ปิด มีการเดินเครื่องผลิตอยู่ ซึ่งทางราชการเห็นว่าหากเกิดน้ำทะลักท่วม อาจจะเกิดปัญหาเรื่องการอพยพคน แต่เช้านี้จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าทุกโรงงานได้ปิดดำเนินการแล้ว


ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวเสริมว่า ทาง กนอ.ได้ร่วมกับทางนิคมฯ ต่างๆ ตรวจสอบเส้นทางน้ำ ซึ่งล่าสุดจากที่กรุงเทพมหานคร จะมีการระบายน้ำไปยังพื้นที่ด้านตะวันออก อาจจะกระทบต่อ 4 นิคมฯ ที่อยู่ในเส้นทางนี้ ได้แก่ นิคมฯ ลาดกระบัง เวลโกรว์ อัญธานี และบางพลี ซึ่งมีโรงงานรวมกว่า 500 แห่ง โดยทางนิคมฯ ได้ประชุมร่วมกัน และวางแผนรับมือทั้งมีการเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแรง การป้องกันน้ำ การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รวมถึงวางแผนไปถึงหากเกิดเหตุฉุกเฉินวิกฤตจะทำอย่างไร โดยให้มีการระวังเครื่องมือ การป้องกันสินค้าคงคลัง ให้การเคลื่อนย้ายสินค้าคงกลัง ไปไว้ข้างนอก ซึ่งได้เตรียมแผนรองรับให้มากที่สุด

รายงานข่าวจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) แจ้งว่า ขณะนี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างกำกับดูแลการเสริมความแข็งแกร่งของคันกั้นน้ำ ของนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) โดยระดมกำลังทหารเสริมคันกั้นน้ำทางด้านทิศเหนืออย่างเต็มที่ เป้าหมายเสริมจาก 5.5 เป็น 6.5 เมตร และจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินหน้าเสริมคันดินอย่างเต็มที่ และน้ำยังไม่เข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ด้านเขตประกอบการอุตสาหกรรม บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม บางโรงงานขนาดใหญ่เริ่มสั่งให้พนักงานหยุดงานเพื่อรอดูสถานการณ์ 1-2 วัน เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของพนักงาน

ด้าน นายทวิช เตชะนาวากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเทค นิทซู (ประเทศไทย) และรักษาการเลขาธิการสมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทยกล่าวว่า จนถึง 09.30 น.ยังรักษาสถานการณ์ในนิคมฯ ไฮเทคได้ น้ำยังไม่เข้าท่วมโรงงาน ซึ่งทางเอกชนร่วมกับทางการได้ร่วมกันแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ซึ่งจากปริมาณน้ำที่เข้ามามาก ได้ทำให้คันเขื่อนที่ทำไว้ป้องกันเกิดการสไลด์ รั่วซึม แต่ก็ได้เข้าไปแก้ปัญหา ซึ่งจะต้องต่อสู้จนถึงนาทีสุดท้าย ซึ่งในขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะรักษาไม่ให้นิคมฯ ไฮเทค เกิดน้ำท่วมจนถึงเย็นวันนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กนอ.จะขอความร่วมมือให้โรงงานในไฮเทค ปิดการทำงานตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 แต่จนถึงวันนี้ ยังมีบางรายยังคงเปิดดำเนินการอยู่บ้าง

ทั้งนี้ นิคมฯ ไฮเทคมีโรงงานจำนวน 143 โรง ส่วนใหญ่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อยู่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ มีโรงงานอื่นๆ อยู่บ้าง เช่น ทำเครื่องประดับ ของบริษัท แมริกอท ที่ส่งไปยังต่างประเทศ

 เฮอร์ริเคน"โฮวา"จ่อถล่มเม็กซิโกสั่งอพยพ

เม็กซิโก เตรียมศูนย์อพยพชั่วคราว หลัง

พายุเฮอร์ริเคน "โฮวา" โหมกำลังเพิ่ม จ่อพัดถล่ม

     สื่อต่างประเทศ รายงาน พายุเฮอร์ริเคน "โฮวา"

ความเร็วลมสูงสุด 205 ก.ม./ช.ม.

ที่จ่อพัดถล่มเม็กซิโก เพิ่มกำลังขึ้น

เป็นระดับ 3 ล่าสุด รัฐบาลเม็กซิโก

ประกาศเตือน ประชาชนให้เฝ้าระวังภัย

โดยพายุจะพัดบริเวณสถานที่ตากอากาศ

ในเมืองบาร์รา เดอ นาวิแดด

ทางตะวันตกเฉียงเหนือ รวมถึงเมือง

ท่าเรือขนส่งสินค้าใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก

ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมโรงเรียนและหอประชุม

ของทางเทศบาลไว้ 6 แห่ง

เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว

และสั่งชาวประมงงดออกเรือแล้ว

Credit : INN

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 12 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 11:04 น. 

 ปลากระป๋อง,บะหมี่หมด วอน อย่าตื่นซื้อตุน

 ปากเกร็ด-บางบัวทองอ่วมน้ำสูงเกือบ40ซ.ม.

ที่บริเวณปากเกร็ด-บางบัวทอง ยังอ่วม

ระดับน้ำสูงเกือบ 40 ซ.ม. เขื่อนคันดินกั้นน้ำ พังหลายจุด เจ้าหน้าที่เร่งกู้แล้ว

       ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นนทบุรี ว่า

ตอนนี้พื้นที่ ที่ประสบภัยพิบัติหนัก 2 อำเภอ

จาก 6 อำเภอ ใน จ.นนทุบรี คือ อ.ปากเกร็ด

และ อ.บางบัวทอง ซึ่งใน อ.ปาเกร็ด นั้น

พื้นที่ ที่หนักสุด คือ เกาะเกร็ด

ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ส่วนพื้นที่เสี่ยง

อยู่บริเวณซอยวัดกู้ ที่เขื่อนคันดินกั้นน้ำ

ได้พังทะลายลงหลายจุด เจ้าหน้าที่

ต้องเร่งระดมซ่อมอุดรอยรั่วต่อเนื่อง

ส่วนที่วัดกลางเกร็ด คันกั้นนำก็พังลงเช่นกัน

แต่เจ้าหน้าที่ได้ซ่อมแล้วเสร็จแล้ว

สำหรับอ.บางบัวทอง

ที่ตลาดสดบางบังทองนั้น

จมน้ำหมดแล้ว

ระดับน้ำสูงเกือบ 40 ซ.ม.

ส่วนที่ ร.พ.บางบัวทองได้มีการ

การอยพยคนป่วย

และเจ้าหน้าที่ออกไปแล้ว นอกจากนี้

จุดเสี่ยงอีกจุด คือ บริเวณ

ถนนสาย 345 ปทุมธานี-บางบัวทอง

ตรงทางเข้าวัดสะพานสูง

ที่ขณะนี้น้ำท่วมบนถนนสูงกว่า

40 ซ.ม. แล้ว

รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้แล้ว

Credit : INN

 บขส.ยังเปิดให้บริการเส้นทางสายเหนือปกติ

บขส. ยังเปิดให้บริการเส้นทางสายเหนือตามปกติ

          ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)

ระบุว่า บขส. ยังเปิดให้บริการตามปกติ

โดยจะเลี่ยงไปเดินรถในเส้นทาง

สายบางบัวทอง –สุพรรณบุรี – อ่างทอง

และในเส้นทางผ่านจังหวัดนครสวรรค์

จะเลี่ยงไปใช้เส้นทาง อ.ตากฟ้า และ

อ.ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ แทน 

ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวก

และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

ที่ต้องการเดินทางในระยะนี้

Credit : INN

 กาฬสินธุ์พนังกั้นน้ำหลายจุดเริ่มรั่ว

ทหารค่ายศรีพัชรินทร์ ช่วยผู้ประสบภัย

ในอำเภอฆ้องชัย กาฬสินธุ์

ขณะที่พนังกั้นน้ำหลายจุด เริ่มมีรอยรั่วซึม

และทรุดตลอดระยะ 10 ก.ม. 

          พันเอกจุมพล จุมพลภักดี ผู้บังคับการ

กองพันทหารม้าที่ 6 ค่ายศรีพัชรินทร์

จ.ขอนแก่น เข้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

โดยมี นายธนาวุฒิ ทองทวี นายอำเภอฆ้องชัย

นายโอภาส มั่นคง เกษตรอำเภอฆ้องชัย

และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงาน

สถานการณ์วิกฤติน้ำท่วมในพื้นที่

ขณะนี้ระดับน้ำมีระดับที่ 140.60 ม.รทก.

เป็นจุดที่ระดับน้ำสูงที่สุด แต่ทั้งนี้

ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น

คาดว่า น่าจะล้นฝายวังยาง 

      ทั้งนี้ ผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 6

ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น ได้สั่งการ

ให้ทหารจำนวน 100 นาย

เข้าช่วยเหลือชาวบ้านโดยการ

เร่งบรรจุกระสอบทราย

เพื่อเสริมเป็นแนวกั้นพนังกั้นน้ำลำนี้ชี

ที่มีบางจุดน้ำไหลท่วมมา บางส่วน

นอกจากนี้ ยังพบว่าพนังกั้นน้ำหลายจุด

เริ่มวิกฤติมีรอยรั่วซึม

และทรุดตลอดระยะ 10 ก.ม.

ซึ่งหากพนังมีปัญหาจะทำให้เกิด

น้ำทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎร

และนาข้าวอีกกว่า 100,000 ไร่ เสียหาย

ซึ่งได้สั่งการให้ทหารได้อยู่

ในพื้นที่เสี่ยงตลอดระยะนี้

เพื่อติดตามสถานการณ์

และช่วยเหลือชาวบ้านอย่างใกล้ชิด

Credit : INN

เขื่อนภูมิพล ลดระบายน้ำลงแล้ว

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 12 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 17:26 น.

เขื่อนภูมิพล ลดการระบายน้ำลงแล้ว

   นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการการไฟฟ้า

ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนภูมิพล

อ.สามเงา จ.ตาก กล่าวว่า ขณะนี้

หากสถานการณ์ล่าสุดของน้ำ

ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เริ่มคลี่คลาย

ก็จะมีการพิจารณาการระบายน้ำ

จากอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล

ซึ่งขณะนี้ดูจากปัจจัยหลายอย่างเริ่มดีขึ้น

อากาศเย็นเริ่มปกคลุมประเทศไทย

ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคเหนือ

และภาคเหนือตอนล่างเริ่มลดลง

โดยการติดตามการคาดการณ์

จากกรมอุตุนิยมวิทยา ปริมาณน้ำท่า

จากแม่น้ำปิง แม่แจ่ม และแม่ตื่น

ที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล

คาดว่า จะลดลงไปเรื่อยๆ

จากโทรมาตรของ กฟผ.

และโทรมาตรของชลประทาน

สำหรับการตัดสินใจที่จะลด

การระบายน้ำเป็นการตัดสินใจโดย

คณะอนุกรรมการติดตาม

และวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ

ซึ่งมี นายชลิต ดำรงศักดิ์

อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธาน

โดยจะดูในภาพรวมของประเทศคือ

ปริมาณน้ำที่ไหลไปสู่ลุ่มเจ้าพระยา

และในพื้นที่ภาคกลาง แต่ในเบื้องต้น

มีการลดระบายน้ำลงในแต่ละวัน

ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการน้ำ

โดยวันนี้จะมีการลดลงประมาณ

10-15 ล้าน ลบ.ม.

ซึ่งจะลดการระบายในทุกวัน

หากปริมาณน้ำเข้าลดลง

Credit : INN

 โรงงานย่านคลอง12ขนของหนีน้ำหวั่นท่วม

ระดับน้ำคลอง 12 ลดลงจากวานนี้

หลัง ไม่มีฝนซ้ำ ขณะโรงงานใกล้เคียง

ขนของหนีน้ำ รับมือน้ำท่วม

        เจ้าหน้าที่ควบคุมประตูระบายน้ำ คลอง 12

คลองรังสิตประยูรศักดิ์ เปิดเผยถึง

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ล่าสุดว่า ขณะนี้

ระดับน้ำภายในอยู่ที่ 2.97 เมตร

ส่วนระดับน้ำภายนอก อยู่ที่ 2.36 เมตร

ลดลงจากเมื่อวาน 1 ซ.ม.

เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา

ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม ทั้งนี้

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ภายในโรงงาน

โพรฟิเชี่ยนโปรดักส์ จำกัด

ที่ดำเนินธุรกิจแปรรูป เ

ม็ดมะม่วงหิมพานต์และปลากรอบ

ส่งขายตาม ห้างสรรพสินค้า

ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามประตูระบายน้ำคลอง 12

คนงานได้พากันขนย้าย

ข้าวของภายในโรงงาน

ขึ้นไปไว้ในที่สูงแล้ว เนื่องจาก

น้ำในคลองเริ่มเอ่อเข้าท่วมพื้นที่

รอบนอกโรงงานแล้ว

โดย นางประภาพร บำรุงปรีชาสิทธิ์

หัวหน้าฝ่ายผลิต เล่าว่า

โรงงานแห่งนี้ ตั้งขึ้นมาประมาณ 10 ปีแล้ว

โดยไม่เคยประสบกับปัญหาน้ำท่วม

แต่เนื่องจาก ปีนี้น้ำมีปริมาณมาก

และเริ่มล้นเอ่อ จึงเตรียมรับมือน้ำท่วม

ด้วยการขนย้ายข้าวของดังกล่าว

Credit : INN

 คันกั้นน้ำวัดกลางเกร็ด จ.นนทบุรี แตก

น้ำท่วมสายเอเชีย ช่วงคอสะพานเดชาติวงศ์

ทางหลวง แนะ เลี่ยงถนนพหลฯสายเก่า ขึ้นเหนือแทน

       พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา สว.ส.ทล.4 (นครสวรรค์)

กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง

เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.

ถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม

ในเส้นทางสายเอเชีย ที่จะขึ้นสายเหนือ

ช่วงคอสะพานเดชาติวงศ์ ซึ่งขณะนี้

ยังไม่สามารถผ่านได้ เนื่องจาก

มีระดับน้ำทะลักเข้าท่วม

สูงประมาณ 50-60 ซ.ม.

เป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร

ทั้งสองฝั่งของสะพาน

แนะนำไม่ให้รถทุกชนิดผ่าน

เว้นแต่รถในพื้นที่ ที่ต้องการออกจากพื้นที่

     สำหรับ ผู้ที่ต้องการจะขึ้นเหนือ

แนะให้ใช้ถนนพหลโยธิน (หมายเลข1สายเก่า)

ซึ่งหากมาจากกรุงเทพฯ ให้ไปเข้าทาง

จ.สระบุรี มุ่งหน้า โคกสำโรง จ.ลพบุรี

และจนถึงแยก อ.ตากฟ้า

ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 11

ทั้งนี้ จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ

อีกทั้ง ยังมี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง

คอยแนะนำตลอดเส้นทาง อย่างไรก็ตาม

ในส่วนของเส้นทางที่

จะเปิดได้เมื่อไหร่นั้น ขณะนี้

ทางเจ้าหน้าที่ จะต้องมีการ

ประเมินกันเป็นระยะ

ตามสถานการณ์น้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Credit : INN

หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

จังหวัดลำปาง เตือนภัยหมอกลงจัด

จากสภาพอากาศในหลายพื้นที่ของ

จังหวัดลำปาง ช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝน

ต่อช่วงฤดูหนาว ทำให้ในหลายพื้นที่ของ

จ.ลำปาง ตามถนนต่างๆ

เริ่มมีหมอกลงจัดในหลายพื้นที่

ทำให้ทัศนวิสัยนการมองเห็น

บนท้องถนน ลดลงเหลือ ลงต่ำ

กว่า 400 เมตร อย่างเช่น

ที่ ถ.สายลำปาง-แม่ทะ ต.พระบาท

เมือง ลำปาง และถนน

สายลำปาง-แจ้ห่ม เขต อ.แจ้ห่ม

เริ่มมีหมอกลงตามท้องถนน 

        ด้าน นายกฤษเพชร เพชรบูรณนิล

หัวหน้าสำนักงานป้องกันและ

บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง

เปิดเผยว่า ขอเตือนให้ ผู้ใช้รถ

ใช้ถนน ในเส้นทางต่างๆ

ให้ใช้รถด้วยความระมัดระวัง

เนื่องจากพบว่า ยังคงมีปริมาณรถที่หนาแน่น

และระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง

Credit : INN

 น้ำชีทะลักท่วมกาฬสินธุ์บ้านจม50หลัง

น้ำชีทะลักท่วมเพิ่มอีก 50 หลังคาเรือน

พร้อมท่วม วัดดังใน อ.กมลาไสย จ.กาฬาสินธุ์

ในช่วงเทศกาลออกพรรษา คนแตกตื่น 

            จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่

จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุด พบว่าที่บ้านหนองมะเกลือ

ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย อิทธิพลของแม่น้ำชีที่หนุนสูง

ส่งผลให้เกิดน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน

ประชาชนแล้ว อีก 50 หลังคาเรือน

หลังจากที่มวลน้ำมหาศาลจาก จ.ชัยภูมิ

และ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

น้ำได้เจาะทะลุกำแพงวัด

ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมทันที

ท่ามกลางความโกลาหล

เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก

ได้เข้าไปทำบุญในช่วงออกพรรษา 

          ทั้งนี้ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์

นายธนูสินธ์ ไชยศิริ นายอำเภอกมลาไสย

และ นายนิพนธ์ ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5

พร้อมด้วยรถแม็คโคร

ได้เข้าไปทำการอุดน้ำ ทั้งนี้

ก็ยังพบว่าการพังทลายของกำแพงวัด

นอกจากมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมทันที

50 หลังคาเรือน มวลน้ำยังได้เริ่ม

ไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่นามากขึ้นแล้ว

Credit : INN

เจ้าหน้าที่ระดมนำอาหารใส่รถบรรทุก

ช่วยชีวิตช้างที่อยุธยากว่า70เชือก

ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วม

         นายวรวิทย์ โรจนไพฑูรย์ ผู้อำนวยการ

สถาบันคชบาลแห่งชาติ พร้อมคณะสัตวแพทย์

โรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไท

ย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.ลำปาง

ได้ทำการ มอบอาหารช้าง หญ้าแห้ง

และอาหารเม็ด จำนวน 2 คันรถบรรทุก

ให้กับวังช้างอยุธยา แล เพนียดช้าง

จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปช่วยเหลือ

บรรเทาความเดือดร้อนช้างจำนวนกว่า

70 เชือก ที่ได้รับความเดือดร้อน

จากเหตุการณ์น้ำท่วมทั่วพื้นที่จังหวัด 

       ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุน้ำท่วม

ในพื้นที่ปลูกพืชอาหารช้าง

และพื้นที่ผูกมัดช้างได้รับความเสียหาย

ทำให้ช้างไม่มีอาหารกิน

และไม่มีพื้นที่ในการหลับนอน

ช้างจะต้องยืนหลับ

หากว่า มีผู้ประสงค์จะขอบริจาค

สามารถบริจาคผ่าน

ธนาคารกรุงไทย

สาขาลำปาง ชื่อบัญชี

กองทุนศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย

เลขที่ 503-1- 84611-9

Credit : INN

 เกาหลีใต้ บริจาคเงิน 20,000 ล้านดอลลาร์

เพื่อช่วยเหลือน้ำท่วมในไทย

       กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า

เกาหลีใต้ได้มอบเงินจำนวน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ผ่านสภากาชาดไทย เพื่อให้ความช่วยเหลือ

ฉุกเฉินแก่ประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบ

จากอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ 

        ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุด

ในรอบ 50 ปี ในประเทศไทย

ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 269 ราย

และพื้นที่การเกษตรราว 3.4 ล้านเอเคอร์

จมอยู่ใต้น้ำ ในขณะที่ กรุงเทพมหาจคร

ก็มีความเสี่ยงถูกน้ำท่วมเช่นเดียวกัน

Credit : INN

อ่างเก็บน้ำแควระบม - สียัด ปล่อยน้ำ

ทะลักท่วม 3 ตำบล สูงกว่า 1 เมตร

ชาวบ้านเรียบชายคลองเมืองฉะเชิงเทรา อ่วมซ้ำ

       ระดับน้ำในลำคลองท่าลาด ซึ่งเป็นเส้นทาง

การระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำคลองระบม

และอ่างสียัด ได้เอ่อไหลล้นออกนอกลำน้ำ

บ่าเข้าท่วมสู่หมู่บ้านที่อาศัยอยู่ใกล้

แนวตลิ่งริมลำคลอง สูงถึงกว่า 1 - 2 เมตร

และได้ไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็ว

กระแสน้ำมีสภาพเชี่ยวกราก ไหลแรง

ท่วมเข้าเต็มพื้นที่ด้วยเวลาไม่นาน

พบพื้นที่เสียหายแล้วใน ต.เกาะขนุน

ต.พนมสารคาม และ ต.เมืองเก่า

อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

        โดยแหล่งข่าวจากสถานีตรวจวัดระดับน้ำ

แห่งหนึ่งในพื้นที่ เปิดเผยว่า น้ำที่ไหลบ่า

เข้ามาท่วมยังพื้นที่ในครั้งนี้

ได้ถูกปล่อยระบายทิ้งออกจาก

อ่างเก็บน้ำสียัด ซึ่งมีขนาดความจุ

420 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อทิ้งออก

สู่ทะเลถึงวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร

ผ่านลงทางแม่น้ำบางปะกง

ในเขต อ.บางคล้า หลังจากน้ำในอ่าง

มีปริมาณมากเกินความจุที่จะรองรับได้

และยังมีน้ำป่าไหลลงสู่อ่างอีกอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน หากมวลน้ำ

ในพื้นที่จากทั้ง 2 อ่าง

ไหลลงไปบรรจบพร้อมกัน

ในแม่น้ำบางปะกง ผนึกมวลน้ำรวมเข้า

ด้วยกันระหว่างน้ำที่จะถูก

ระบายออกมาจาก กทม.

และจากกลุ่มจังหวัดในภาคกลาง

ที่กำลังถูกน้ำท่วมหนัก

ก็อาจจะทำให้มวลน้ำทั้ง 2 ก้อน

มาบรรจบกันที่บริเวณรอยต่อของ

อ.คลองเขื่อน และ อ.บางคล้า ได้

Credit : INN

กรมธนารักษ์เสริมแนวกั้นน้ำ 2 ชั้น

โรงกษาปณ์ คลองรังสิต 1 ปทุมธานี

           นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรี

ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

กำกับดูแลงานกรมธนารักษ์ ได้สั่งการ

ให้กรมธนารักษ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ

ติดตามสถานการณ์ และเตรียมแผน

รองรับเหตุการณ์ และป้องกัน

การเกิดน้ำท่วมโรงกษาปณ์ อ.คลองหลวง

จ.ปทุมธานี บริเวณคลองรังสิต 1

เพื่อไม่ให้กระทบการผลิตเหรียญกษาปณ์

หมุนเวียนออกสู่ระบบเศรษฐกิจ

     ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ

สถานการณ์น้ำท่วมในบริเวณโรงกษาปณ์

เพื่อเตรียมป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

เบื้องต้นให้จัดเตรียมกระสอบทราย

อิฐบล็อก เพื่อทำแนวกั้นน้ำสูงเกินกว่า

1 เมตร โดยจะทำแนวป้องกัน 2 ชั้น

ชั้นแรกเป็นการปิดกั้นตามแนวกำแพงรอบๆ

โรงกษาปณ์ โดยเฉพาะด้านหลัง

ซึ่งติดคลองรังสิต 1

ที่ขณะนี้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และชั้นที่ 2 จะกั้นพื้นที่ตัวโรงงานทั้งหมด

เพื่อป้องกันเครื่องจักร เหรียญตัวเปล่า

และอุปกรณ์ในการผลิตเหรียญ

ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

Credit : INN

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 12 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 19:26 น. 

ศภช. เตือนภัย เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง 12 - 16 ต.ค. นี้

จากการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น

       น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ ผู้อำนวยการ

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกประกาศ

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เรื่องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง

และน้ำท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น ในวันที่

12 - 16 ต.ค. 2554 อาจจะมีน้ำท่วมขัง

เนื่องจากการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์

โดยเฉพาะ อ.อุบลรัตน์ อ.ภูเวียง อ.หนองเรือ

อ.หนองนาคำ อ.ขอนแก่น อ.โนนสัง

อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู

อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม

ขอให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวัง

และปฏิบัติการตามคำแนะนำ

ของทางราชการ หากจำเป็น

ควรเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ปลอดภัยล่วงหน้า

และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

กระทรวงไอซีที ต่อไป

Credit : INN

ปทุมฯเร่งซ่อมหูประตูคลองบ้านพร้าว

 นครสวรรค์ยังวิกฤติน้ำท่วมต่อเนื่อง

น้ำท่วมนครสวรรค์ ยังวิกฤติ น้ำไหลทะลัก

เข้าท่วมตัวเมืองอย่างต่อเนื่อง

ชาวบ้านเร่งอพยพออกจากพื้นที่โกลาหล

         นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ

นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ เปิดเผยว่า

สถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้

นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

โดยกล่าวว่า ขณะนี้ต้องปิดถนนสายเอเชีย

รวมถึงต้องแจ้งราษฎรจำนวนเกือบ

2 แสนกว่าคน อพยพไปอยู่ที่

8 ศูนย์พักพิง

แต่ติดอุปสรรคขาดแคลนเรือ

จึงทำได้ด้วยความล่าช้าและยากลำบาก

         นอกจากนี้ยังได้มีผู้ที่เป็นเจ้าของตึกแถว

ในย่านธุรกิจหลายพันหลัง

ไม่ยอมออกจากบ้าน

แต่อาศัยอยู่บนชั้นสองของอาคาร

ปัญหาก็คือกำลังขาดทั้งอาหารและน้ำดื่ม

รวมถึงกระแสไฟฟ้า ที่ค่ำคืนนี้

ไม่สามารถจะจ่ายไฟฟ้าได้

อีกทั้งระบบประปาก็ผลิตไม่ได้

เพราะน้ำเข้าท่วม ดังนั้นคืนนี้

ภายในตัวเมืองที่ถูกน้ำท่วม

น้ำยังคงมีระดับต่ำกว่าในแม่น้ำปิง

และแม่น้ำเจ้าพระยา

อีกประมาณ 50-60 ซ.ม.

       ดังนั้นน้ำก็ยังคงต้องไหลเข้าท่วม

จนกว่าจะเสมอกัน จึงทำให้ จ.นครสวรรค์

ในขณะนี้ อยู่ในสภาวะวิกฤติอย่างหนัก

ซึ่งก็มีประชาชนบางส่วน

ได้แนะนำให้อพยพไปอยู่ที่

จ.กำแพงเพชร ซึ่งน้ำไม่ท่วม

จึงนับว่าเป็นการอพยพครั้งใหญ่

คล้ายกับการหนีภัยสงคราม

สิ่งของเครื่องใช้ อาหารการกิน

ต้องแย่งกันซื้อ จึงนับเป็นภาพที่น่าเศร้า

และรันทดใจยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Credit : INN

 แม่หอบลูก3คนวอนช่วยอดอาหารนับสัปดาห์

แม่ลูกอ่อน หอบลูก 3 คน มาขอความช่วยเหลือ

ที่ศูนย์ช่วยเหลืออยุธยา เผย

ลำบากจนอดอยาก มาหนึ่งสัปดาห์แล้ว

         นางสมทรง พุกน้อย วัย 35 ปี ชาวบ้านใน

ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

หอบลูกเล็ก 3 คน มาขอความช่วยเหลือ

จากศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัย

ที่อยู่ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

หลังจากต้องทนใช้ชีวิตด้วยความลำบาก

ที่ในพื้นที่น้ำท่วมนานนับสัปดาห์

โดย นางสมทรง กล่าวทั้งน้ำตานองหน้า

ถึงชีวิตความลำบาก ว่า

สามีเพิ่งเสียชีวิตไปได้ 1 เดือน

ทิ้งลูกเล็ก 3 คน ให้ตนเลี้ยงเพียงลำพัง

อยู่ในหอพัก และน้ำได้ไหลเข้าท่วม

หอพักถึงชั้น 2 จึงต้องขนของขึ้นชั้น 3

ซึ่งหอพักที่ตนอยู่ขณะนี้ ไม่มีไฟฟ้า

น้ำประปาใช้ ต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ประทังชีวิตมาหลายมื้อ

จึงตัดสินใจขนของใช้จำเป็น

และพาลูกๆออกมาขอความช่วยเหลือ

ทั้งที่มีเงินติดตัวมาแค่ 200 บาทเท่านั้น

      ทั้งนี้ศูนย์อพยพได้เตรียมส่งต่อผู้อพยพ

ไปที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

เพราะทางเข้าศูนย์อพยพที่มหาวิทยาลัย

จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย

มีระดับน้ำไหลเชี่ยว

ทางเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

Credit : INN

 สถานการณ์สามโคกยังวิกฤติหนัก

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 12 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 20:47 น. 

เมืองกรุงเก่า วิกฤติหนัก

ชาวบ้านเริ่มแย่งชิงของบริจาค

ท่ามกลางน้ำที่ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อ.อุทัย และ อ.ปางปะอิน หนักสุด

     ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วม

จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ชาวบ้าน

เริ่มมีการแย่งชิงสิ่งของบริจาค

ในส่วนพื้นที่วิกฤติที่สุดอยู่ในพื้นที่

อ.อุทัย และ อ.บางปะอิน

ซึ่งมีผู้ติดอยู่ในพื้นที่จำนวนหนึ่ง

ระดับน้ำทั้งสองอำเภอ ยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง

ขณะนี้ระดับน้ำสูงกว่า 4 เมตร

และฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

จนถึงขณะนี้พบว่า

เริ่มขาดเรือในการเดินทาง

และทางร้านค้า ก็โก่งราคาเรือ

เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ส่วนประชาชน

เริ่มวิตกเกี่ยวกับการชำระเงินบัตรเครดิต

เนื่องจากธนาคารจมน้ำ

และไม่สามารถเดินทางออกจากพื้นที่

เพื่อไปชำระเงินได้

ที่ อ.บางปะอิน น้ำจ่อท่วม

นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน

ซึ่งน้ำก็ได้ทะลักเข้าท่วมบางส่วนของ

นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคแล้ว

หากระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่องอย่างที่เป็นอยู่

คาดว่าน้ำจะท่วมนิคมอุตสาหกรรมทั้ง

2 แห่งอีกในไม่ช้า น้ำทะลักเข้าท่วม

บริเวณหน้าศาลากลางหลังใหม่

ที่ตั้งเป็นศูนย์อพยพ และได้มีการ

ย้ายจุดอพยพไปยังฝั่งตรงข้ามแล้ว

Credit : INN

 บ้านหมี่วิกฤติหนัก น้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง

ระดับน้ำ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ทะลักท่วมถนนแล้วกว่า 1 เมตร

แนะผู้บริจาคปฏิบัติตามคำแนะนำ

       นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม นายอำเภอบ้านหมี่

จ.ลพบุรี เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.

ถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ล่าสุด

ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

น้ำท่วมแล้ว 18 ตำบล

จากทั้งหมด 21 ตำบล

ระดับน้ำท่วมถนนพื้นที่ อ.บ้านหมี

สูงกว่า 1 เมตรแล้ว

การสัญจรถูกตัดขาด

ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ยอม

อพยพออกมาจากพื้นที่

เนื่องจากหวงทรัพย์สิน

ซึ่งทางอำเภอได้เตรียมศูนย์อพยพ

ไว้แล้ว 3 จุด ขณะเดียวกัน

ในพื้นที่เริ่มขาดเเคลน เรือ

สุขาลอยน้ำ และเสื้อชูชีพ

โดยมีจำนวนผู้อพยพเข้าศูนย์อพยพ

แล้วกว่า 500 คน เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่

ช่วยเหลือชาวบ้านอยู่อย่างต่อเนื่อง 

       ส่วนการบริจาคของทางภาคเอกชน

ที่ไม่ทั่วถึง ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่า

ทางภาครัฐให้ความช่วยเหลือไม่ทั่วถึง

หรือได้จำนวนน้อยบ้าง

ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้

จึงอยากประชาสัมพันธ์

ให้ทางผู้ที่ต้องการบริจาค

ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการด้วย

Credit : INN

 ไม่สนน้ำท่วม! แก๊งอาสาสมัคร ขโมยเรือช่วยน้ำท่วมขาย

ประตูระบายน้ำมีนบุรีเข้าขั้นวิกฤต

ประตูระบายน้ำมีนบุรีวิกฤต ระดับน้ำสูง1.3เมตร เจ้าหน้าที่ห่วงฝนตกตลอดคืนทำน้ำในพื้นที่ชั้นในระบายออกไม่ทัน
แผนที่แสดงประตูระบายน้ำย่านมีนบุรี
เมื่อเวลา 17.00น. เจ้าหน้าสำนักการระบายน้ำประตูคลองแสนแสบ ช่วงมีนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำที่หน้าประตูระบายน้ำมีนบุรีถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว เพราะมีระดับสูงถึง 1 เมตร 30 เซนติเมตร และยังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำบริเวณหน้าประตูเข้าท่วมพื้นที่ชั้นนอกบางส่วนแล้ว
"ปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังคือ ฝนที่อาจตกลงมาในพื้นที่ชั้นในตลอดทั้งคืน จะทำให้ระดับน้ำพื้นที่ชั้นนอกและชั้นในไม่สามารถระบายออกได้ทัน"เจ้า หน้าที่ระบุ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมที่เขตมีนบุรี ยังถือว่ารับมือได้เพราะประตูระบายน้ำแต่ละแห่ง อาทิ ประตูมีนบุรี ประตูลำบึงขวาง ประตูคลองลาดกระบัง ประตูประเวศน์ ประตูบางชัน มีความแข็งแรงมาก และเป็นประตูที่ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมตัวเมืองมีนบุรีอย่างฉับพลัน
นอกจากนี้ ขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เขตมีนบุรี ว่า อย่าแตกตื่นกักตุนอาหารหรือกระสอบทราย จนเกิดเป็นวิกฤตขาดแคลนอาหารตามมา
ขณะที่ ชุมชนหมู่ 5 ต.คลองหก อ.เมืองจ.ปทุมธานี ซึ่งมีประตูน้ำจุฬาภรณ์เป็นด่านรับน้ำแห่งสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้ายังคงมีฝนตกหนักเป็นระยะ จนกระทั่งช่วงบ่ายชาวบ้านพร้อมด้วยทหารหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบกได้ร่วมกันตักทรายใส่กระสอบเพื่อกั้นมวลน้ำที่จะไหลมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยาในคืนนี้
ชาวบ้านในชุมชนหมู่5 ต่างกล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่น้ำท่วมสูงขนาดนี้ และทำให้บ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำจมน้ำแล้วทั้งหมด
นายชูศักดิ์ ลิมปตานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดคือสุขาเคลื่อนที่ และเวชภัณฑ์แก้น้ำกัดเท้า
"ตอนนี้บ้านจมน้ำแทบจะหมดทุกหลังแล้ว ที่เราอยากได้คือสุขาเคลื่อนที่เพราะลำบากมาก นอกจากนี้คือยาแก้น้ำกัดเท้า ส่วนคันกันน้ำที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างอยู๊นี้คาดว่าจะกั้นน้ำที่จะไหลมา จากอยุธยาคืนนี้ได้ไหว ซึ่งผมจะขอลูกบ้านบางส่วนอพยพย้ายไปอยู่ที่ศูนย์ซึ่งมหาวิทยาลัยรังสิตเปิด ไว้ให้ โดยจะเอาบ้านที่โดนหนักๆบางส่วนไปก่อน ในชุมชนนี้มีทั้งหมด 250 หลังคาเรือนประมาณ 1,000 คน" นายชูศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่5 ยังบอกอีกว่าน้ำที่ท่วมอยู่ขณะนี้ขึ้นมาตั้งแต่เดือน ก.ย. พอพายุเข้าอยู่ช่วงหนึ่งน้ำก็หนักมาเรื่อยๆ
"ไม่เคยท่วมสูงขนาดนี้มาก่อน ปกติคนที่นี่บ้านริมน้ำอยู่แล้วเพราะฉะนั้นจะมีการยกพื้นเพื่อหนีน้ำ แต่คราวนี้ทำลายสถิติยกหนีแล้วก็ยังท่วม ตอนนี้ก็อยากให้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลมาถึงเร็วๆ ชาวบ้านจะได้นำไปซื้อไม้ซื้อวัสดุก่อสร้างสู้น้ำ" นายชูศักดิ์ กล่าว
ขณะที่พื้นที่ในหมู่บ้านเมืองเอก ย่านรังสิต เจ้าหน้าที่ช่วยกันเรียงกระสอบทรายเพื่อกั้นน้ำจากคลองรังสิตไม่ให้ไหลเข้า ท่วมหมู่บ้านเมืองเอก ส่วนบ้านของชาวบ้านที่ใน ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่นอกแนวกระสอบทรายต้องใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำท่วมขังมานานกว่า 1 เดือนแล้ว



เจ้าหน้าที่เร่งวางแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมหมู่บ้านเมืองเอกรังสิต

สภาพน้ำท่วมขังในชุมชนนอกแนวกระสอบทราย ต.หลักหก จ.ปทุมธานี