ReadyPlanet.com


ธรรมชาติ....เอาคืน.!!!


 

ตอนนี้

แผ่นดินไหว ทุก ๆ วัน

วันละหลาย ๆ ครั้ง

และที่ผ่านมา 3 วันนี้

10 - 11 - 12 พฤษภาคม 2554

ประมาณ 4 - 5 - 6 ริกเตอร์

รายละเอียด

เชิญอ่าน เพื่อ

เตรียมพร้อม...นะเจ้าคะ

*************************************

12 พค. 2554 06:25 น.

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.2 ริกเตอร์

ในเมืองลอร์กา ทางภาคใต้ของสเปน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน

เจ็บ 270 คน

อาคารเก่าแก่ บ้านเรือนพังถล่ม

ขณะที่ผู้นำสเปนสั่งการให้ส่งทหาร

และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ค้นหา

ผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

***************************************

12 พค. 2554 15:17 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

แจ้งว่าเมื่อเวลา 14.41 น.

แผ่นดินไหวในทะเล 4.9 ริกเตอร์

บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซีย ความลึก 45 กม.

ไม่มีผลกระทบต่อไทย

 



ผู้ตั้งกระทู้ แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-12 19:50:41


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 [46] 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 4501 (1587104)

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-06 14:12:12


ความคิดเห็นที่ 4502 (1587112)

อาริยาขออนุญาติลงข่าวค่ะ พอดีเห็นข้อมูล จากเวป พลังจิต เเล เวป ufokaokala 

งานสัมนาการเตรียมตัวภัยพิบัติ ซึ่งมีประโยชน์

กับทั้งส่วนตัว เเละ ส่วนรวม ค่ะ

จัดโดยเครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินภาคประชาชน พออ่านรายละเอียด เเละการตั้งทุนเพื่อการเตือนภัยเเละจิตอาสาเเล้ว ขอขอบพระคุณผู้ใจบุญ เเละ จิตอาสาทุกท่าน งานนี้ผู้เป็นเจ้าของกิจการคงต้องตื่นตัวเป็นพิเศษ เพราะมีหลายร้อยพันหมื่นชีวิตที่ท่านควรช่วยให้ความรู้ เตรียมทั้งสบียงบุญ เเละ ปัจจัย 4 

http://board.palungjit.com/f178/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่-3906-1335.html

บรรยายกึ่งเสวนาเรื่อง
"ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นประเทศไทย

เครือข่ายรับมือสถานการณ์
ฉุกเฉินภาคประชาชน

เวลา
15 ธันวาคม · 12:00 - 18:00
สถานที่
โรงแรมดุสิตธานี ห้องวิมานสุริยา

สร้างโดย
Wutikorn Yuphawatthana, Piyacheep S. Vatcharobol


รายละเอียด
เครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินภาคประชาชน ขอเชิญชวน ผู้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับภัยพิบัติ เข้าร่วมการบรรยายเชิงเสวนาที่จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งข้อมูลจากของไทย และอเมริกา ดำเนินรายการโดย อาจารย์ปิยะชีพ ส.วัชโรบล โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรสองท่าน

- ดร. สมิทธ ธรรมสโรจน์ ที่จะให้ข้อมูลถึงภัยที่จะเกิดขึ้นในประเทศ และภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทย ความรุนแรง แนวทางป้องกัน และบรรเทาภัย

- ดร. ก้องภพ อยู่เย็น ที่จะให้ข้อมูลถึงสาเหตุของพิบัติภัย และการคาดการณ์ล่วงหน้าจากข้อมูลที่ได้มา

ค่าใช้จ่ายในการร่วมเสวนา สำหรับบุคคลทั่วไป ๑,๕๐๐ บาท บริษัทจำกัด ๒,๐๐๐ บา
โดยรายได้จะนำไปใช้เพื่อ
๑. ทุนวิจัยและพัฒนาการเฝ้าระวังและวิเคราะห์ปฏิกิริยาดวงอาทิตย์
๒.ทุนปฏิบัติงานเฝ้าระวังและคาดการณ์พิบัติภัย
๒. ทุนการอบรมและสอนเชิงปฏิบัติการ อาสาสมัครแนวหน้าเตือนภัย ทุกชุมชนทั่วประเทศ ๘,๔๐๐ คน เพื่อเตรียมการรับมือกับพิบัติภัยที่จะเกิดขึ้นทุกชุมชน

รับจำนวนจำกัด เพียง ๑๐๐ ท่านเท่านั้น

สามารถโอนค่าสมัครเข้าร่วมเสวนาได้ที่บัญชี

ธนาคารกรุงศรีอยูธยา สาขาตลิ่งชัน
สมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บัญชีออมทรัพย์เลขที่ ๓๘๗-๑-๒๒๐๒๖-๖
หรือ
ธนาคารกรุงเทพ สาขาซิลลิคเฮ้าท์
ชื่อบัญชี นาง กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติ เลขที่ 860-0-14602-4

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 081 750 0102


บรรยายกึ่งเสวนาเรื่อง "ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นประเทศไทย"



เวลา
15 ธันวาคม · 12:00 - 18:00
สถานที่
โรงแรมดุสิตธานี ห้องวิมานสุริยา

สร้างโดย
Wutikorn Yuphawatthana, Piyacheep S. Vatcharobol


รายละเอียด
เครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินภาคประชาชน ขอเชิญชวน ผู้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับภัยพิบัติ เข้าร่วมการบรรยายเชิงเสวนาที่จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งข้อมูลจากของไทย และอเมริกา ดำเนินรายการโดย อาจารย์ปิยะชีพ ส.วัชโรบล โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรสองท่าน

- ดร. สมิทธ ธรรมสโรจน์ ที่จะให้ข้อมูลถึงภัยที่จะเกิดขึ้นในประเทศ และภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทย ความรุนแรง แนวทางป้องกัน และบรรเทาภัย

- ดร. ก้องภพ อยู่เย็น ที่จะให้ข้อมูลถึงสาเหตุของพิบัติภัย และการคาดการณ์ล่วงหน้าจากข้อมูลที่ได้มา

ค่าใช้จ่ายในการร่วมเสวนา สำหรับบุคคลทั่วไป ๑,๕๐๐ บาท บริษัทจำกัด ๒,๐๐๐ บาท โดยรายได้จะนำไปใช้เพื่อ
๑. ทุนวิจัยและพัฒนาการเฝ้าระวังและวิเคราะห์ปฏิกิริยาดวงอาทิตย์
๒.ทุนปฏิบัติงานเฝ้าระวังและคาดการณ์พิบัติภัย
๒. ทุนการอบรมและสอนเชิงปฏิบัติการ อาสาสมัครแนวหน้าเตือนภัย ทุกชุมชนทั่วประเทศ ๘,๔๐๐ คน เพื่อเตรียมการรับมือกับพิบัติภัยที่จะเกิดขึ้นทุกชุมชน

รับจำนวนจำกัด เพียง ๑๐๐ ท่านเท่านั้น

สามารถโอนค่าสมัครเข้าร่วมเสวนาได้ที่บัญชี

ธนาคารกรุงศรีอยูธยา สาขาตลิ่งชัน
สมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บัญชีออมทรัพย์เลขที่ ๓๘๗-๑-๒๒๐๒๖-๖
หรือ
ธนาคารกรุงเทพ สาขาซิลลิคเฮ้าท์
ชื่อบัญชี นาง กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติ เลขที่ 860-0-14602-4

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 081 750 0102



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-06 14:24:23


ความคิดเห็นที่ 4503 (1587114)

สมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย
และ ชมรมศึกษาวิทยาศาสตร์ทางจิต

เชิญรับฟังการบรรยาย 
ของ
ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
และ  กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
http://ufokaokala.com/index.php?topic=5121.msg42859;topicseen#msg42859
ร่วมบรรยายในเรื่อง
ประสบการณ์การติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวและการเตือนภัยโดยมนุษย์ต่างดาว 
โดย ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน
และ...การเตรียมการช่วยเหลือภัยพิบัติด้วยเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว
โดย...กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ในวันเสาร์ที่  24 ธันวาคม 2554 
ณ ห้องสีดา(3) โรงแรมรัตนโกสินทร์ 
เวลา 13.00-16.30  นาฬิกา



หมายเหตุ...เลื่อนมาจากกำหนดการเดิมที่จะบรรยายวันที่ 29 ตุลาคม 2554 
เนื่องจากเกิดอุทกภัยน้ำท่วม 

ดังรายละเอียดกำหนดการเดิมตาม link นี้ค่ะ
http://ufokaokala.com/index.php?topic=4595.0


ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายลงไปในส่วนใหญ่แล้ว 
ทางสมาคมค้นคว้าทางจิตฯ  จึงได้เรียนเชิญ
ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน
และ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
เข้าร่วมบรรยายในวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม 2554  ตามหัวข้อที่ได้กำหนดไว้แล้ว




รายละเอียดค่าใช้จ่ายของการเข้ารับฟังการบรรยาย

ซึ่งตามปกติของการเข้ารับฟังการบรรยาย 
กรรมการ และสมาชิกของสมาคม ท่านละ 150  บาท
ญาติ และผู้ิติดตามสมาชิก  ท่านละ 200  บาท
ผู้สนใจทั่วไปท่านละ  250  บาท


สำหรับสมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) 
รศ.ดร.นัยพินิจ  คชภักดี  ท่านได้ให้ความอนุเคราะห์อย่างดียิ่ง  โดยท่านแจ้งว่า 


....พิเศษ...สำหรับสมาิชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  คิดค่าลงทะเบียนเข้ารับฟังในราคาของกรรมการ และสมาชิกของสมาคมค้นคว้าทางจิต  คือท่านละ 150 บาท

โดยแจ้งกับผู้รับลงทะเบียนว่า  เป็นสมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จะได้รับสิทธิพิเศษค่าลงทะเบียน 150 บาท และรับหนังสือธรรมะเพื่อการละวางอัตตาตัวตน  ด้วยท่านละ 1 เล่ม

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
และหากท่านใดมีความประสงค์จะเข้ารับฟังการบรรยายในครั้งนี้  แจ้งความประสงค์ได้ที่สมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย  หรือจองผ่านทางเว็บไซด์ www.ufokaokala.com แห่งนี้  เพื่อจะได้รวบรวมรายชื่อ และแจ้งสำรองที่นั่งกับทางสมาคมฯต่อไปค่ะ

http://ufokaokala.com/index.php?topic=5121.msg42859;topicseen#msg42859
จึงเรียนมาเพื่อทราบ 
และขอเชิญสมาชิกเข้าร่วมรับฟังการบรรยายครั้งนี้ค่ะ 


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-06 14:29:16


ความคิดเห็นที่ 4504 (1587124)

อาริยากราบ ขออนุญาติท่าน อาจารย์ อุบล ขอนำคำชี้เเนะที่ท่านอาจารย์เมตตา เตือนพวกเรา ตลอดเวลาไม่ให้ประมาท จาก กระทู้ลูกบ้านสวนพีระมิดที่อยู่ กทม.ให้รีบออกจาก กทม.ด่วนที่สุดความเห็นที่ 409

ลูกขอกราบพระบาทกราบขอบพระคุณสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลค่ะ สาธุ

 

 

 

avatar
อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์

พระพุทธเจ้า

ให้คิดถึงความตาย

เป็นอามรมณ์ ไม่ให้ประมาท

ภัยพิบัติ

 

 

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เห็นกันมาแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-06 14:47:59


ความคิดเห็นที่ 4505 (1587159)

ลมกระโชกแรงป้ายคัตเอาท์ในเมืองจันท์ล้มพังเสียหายจำนวนมาก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ธันวาคม 2554 13:08 น.

จันทบุรี - เกิดลมพัดกระโชกแรงทำให้ป้ายคัตเอาท์ในเขตเมืองจันทบุรีล้มพังเสียหายและมีป้ายโฆษณาของหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ขนาดเล็ก ที่ติดตั้งอยู่ริมถนนกว่า 20 ป้าย หักโค่นและฉีกขาด

วันนี้ (6 ธ.ค.54) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจป้ายที่ติดตั้งโฆษณาอยู่บริเวณริมถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองจันทบุรี เช่น ถนนสายรักษ์ศักดิ์ชมูล ถนนสายญาณวิโรจน์ ถนนสายมหาราช ถนนสายสุขุมวิท และถนนสายพระยาตรัง พบว่าเกิดแรงลมพัดป้ายขนาดเล็ก และขนาดใหญ่พังเสียและฉีกขาดหักโค่นกว่า 20 ป้าย

ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้มีลมหนาวและมีลมแรง ป้ายที่มีการติดตั้งโฆษณาต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนไม่สามารถรับแรงลมที่พัดแรงได้ไหวจึงล้มหักโค่นฉีกขาดทำให้ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองจันทบุรี เทศบาลเมืองจันทนิมิตและเทศบาลเมืองท่าช้างต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่รีบออกมาเก็บป้ายโฆษณาและซ่อมแซมป้ายที่ชำรุดออกและซ่อมแซมป้ายที่พอใช้งานได้ให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรงเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และใช้เส้นทางที่ผ่านไปผ่านมาบนถนนสายดังกล่าว รวมถึงประชาชนที่เดินทางผ่านไปผ่านมาด้วย

ในส่วนนี้ทางเทศบาลเมืองจันทบุรี ได้ฝากเตือนให้ผู้ประกอบที่นำป้ายโฆษณามาติดตั้งบริเวณริมถนนขอให้มีการติดตั้งป้ายให้มีความแข็งแรงสามารถที่จะต้านทานลมที่พัดแรงได้ รวมทั้งควรจะมีการหาที่ยึดเหนี่ยวที่มีความแข็งแรงเพื่อไม่ให้ก่อเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในการสัญจรผ่านไปมา รวมทั้งเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีลมหนาวและมีลมพัดแรงขอให้ประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ประชาชนหรือผู้ใช้รถใช้ถนนที่เห็นป้ายล้มหรือป้ายหักโค่นสามารถแจ้งมาได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือเทศบาลใกล้บ้านท่านได้ ทางเทศบาล และ อบต.หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้ลงไปทำการซ่อมแซม หรือ เก็บป้ายที่ชำรุดออกเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไปอีกด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-06 20:27:30


ความคิดเห็นที่ 4506 (1587160)

ปักกิ่งหมอกควันหนาทึบ ยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ธันวาคม 2554 14:00 น

นักท่องเที่ยวมองทอดสายตาออกไปนอกกระจกสนามบินที่ปกคลุมไปด้วยหมอกทึบ ขณะที่กำลังจะออกจากสนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่ง (5 ธ.ค.) ภาพเอเอฟพี

เอเยนซี - รัฐบาลกรุงปักกิ่งของจีนยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว พร้อมกับปิดการสัญจรทางด่วน เมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) เนื่องจากหมอกควันหนาทึบได้ปกคลุมเมืองหลวงของจีน ทำให้วิสัยทัศน์ในขับขี่นั้นแย่มาก

สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งใช้เครื่องตรวจวัดสภาพอากาศของตนตรวจสอบพบว่า คุณภาพอากาศในกรุงปักกิ่งเมื่อวันจันทร์นั้นเข้าขั้นอันตราย นอกจากนั้นสำนักข่าวซินหวาของจีนก็เผยด้วยว่า มลภาวะนั้นดูเหมือนว่าจะเข้าขั้นอันตรายแล้วเช่นกัน

ช่วงบ่ายวันจันทร์ สนามบินหลักประจำกรุงปักกิ่ง ซึ่งวุ่นวายคลาคล่ำไปด้วยผู้โดยสารมากสุดอันดับสองของโลกนั้น เผยทางเว็บไซต์ว่า ได้ยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศ 233 เที่ยวและระหว่างประเทศอีก 17 เที่ยว และเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านั้นได้ยกเลิกไปแล้วอีก 400 เที่ยวบิน

สถานีโทรทัศน์จีนเผยภาพอาคารท่าเทียบเครื่องบินจีนที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนหลายพันที่ต้องกลับบ้าน หรือบางคนก็นั่งคอยโอกาสด้วยความหวังว่าจะสมารถจองตั๋วในเที่ยวถัดไปได้ หลังจากหมอกจาง

ซีซีทีวีนจีนรายงานว่า ทางด่วนสายหลัก ๆ ที่เชื่อมกรุงปักกิ่งกับส่วนอื่น ๆ ทางตอนเหนือนั้น ต้องปิดให้บริการในเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากหมอกหนาทึบ แต่ก็มีบางเส้นทางที่สามารถให้บริการได้ หลังจากหมอกคลายตัวลง

องค์การระหว่างประเทศหลายแห่งรวมทั้งสหประชาชาติได้จัดอันดับกรุงปักกิ่งให้ติดหนึ่งในเมืองมลพิษยอดแย่ของโลก เนื่องจากมีการบริโภคพลังงานที่มาจากเชื้อเพลิงขนานใหญ่

“การเผาผลาญด้วยถ่านหินเพื่อให้ได้พลังงานนั้น เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วันทั้งวันกรุงปักกิ่งกลายเป็นสีเทา” โจว หรง ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพอากาศกรีนพีซไชน่า เผย

จีนบริโภคพลังงานที่ผลิตจากถ่านหินใน 10 ปีที่ผ่านมานี้มากขึ้นอีกเท่าตัว จึงยิ่งทำให้อากาศย่ำแย่ลง โดยเฉพาะก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไนตรัสออกไซด์ นอกจากนั้นด้วยจำนวนยวดยานในกรุงปักกิ่งที่ช่วยกันพ่นควันมากเกือบ 5 ล้านคัน ก็ยิ่งส่งผลให้คุณภาพอากาศย่ำแย่ทวีคูณ

เจ้าหน้าที่กรุงปักกิ่งก็พยายามจะปรับสภาพอากาศกรุงปักกิ่งให้ดีขึ้น โดยปิดสถานีถ่านหินหลายแห่ง จำกัดจำนวนรถบนท้องถนน แต่สภาพอากาศก็ยังไม่พัฒนาขึ้น

ประชาชนที่อาศัยในกรุงปักกิ่งราว 20 ล้านคนกำลังวิตกปัญหาสภาพอากาศและออกมาโพสต์ข้อความในไมโครบล็อกออนไลน์นับล้านคนสะท้อนความไม่พอใจ ขณะที่นักวิทยาศาสตร์เผยว่า มลภาวะในกรุงปักกิ่งเป็นผลมาจากละอองไอที่เจือปนอยู่ในอากาศชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งนับวันยิ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต.




นักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องคอยเที่ยวบินที่ล่าช้าไม่ตรงเวลา ณ สนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่ง 5 ธ.ค. (ภาพเอเอฟพี)



รถยนต์ที่ขับเข้าไปยังด่านเก็บค่าทางด่วน ณ กรุงปักกิ่ง 5 ธ.ค. ภายใต้หมอกควันปกคลุมบดบังวิสัยทัศน์การขับขี่ (ภาพเอเอฟพี)



เครื่องบิน ณ สนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่ง 4 ธ.ค. (ภาพเอเอฟพี)




คนจีนขับขี่ยวดยานบนถนนที่หมอกหนาจัด อันตรายมาก 4ธ.ค. (ภาพเอเอฟพี)



หมอกควันตัดกับแสงไฟยามค่ำ กรุงปักกิ่ง คืนวันที่ 4 ธ.ค. (ภาพเอเอฟพี)



ยวดยานตั้งแต่จักรยานและรถยนต์ค่อย ๆ เคลื่อนไปข้างหน้าช้า ๆ เพราะหมอกควันลงจัด ณ กรุงปักกิ่ง คืนวันที่ 4 ธ.ค. (ภาพเอเอฟพี)

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-06 20:28:01


ความคิดเห็นที่ 4507 (1587460)
 
รร.ในสังกัด สพฐ.ยังเปิดเรียนวันนี้ไม่ได้กว่า 200 โรง

นายพิษณุ  ตุลสุข  รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ยังเปิดเรียนไม่ได้ เพราะยังประสบปัญหาน้ำท่วมมีกว่า 200 โรง แยกเป็นโรงเรียนในจังหวัดนครปฐม 54 โรง นนทบุรี กว่า 50 โรง  ปทุมธานี 90 โรง

และในกรุงเทพมหานคร มี  11 โรงที่ยังเปิดเรียนไม่ได้ คือ
 
1.โรงเรียนราชวินิต บางแคปานขำ
2.โรงเรียนนวลนรดิศวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก 
3.โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (ทวีวัฒนา) 
4.โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ  สตรีวิทยา พุทธมณฑล
5.โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง
6.โรงเรียนดอนเมืองจตุรจินดา
7. โรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมท์) 
8.โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 1 และ 2
และมีอีก 2 โรงเรียนในเขตบางแคที่ยังไม่แจ้งชื่อมา อยู่ในบริเวณพุทธมณฑล 


ทั้งหมดนี้จะเปิดในวันที่ 13 ธันวาคม แต่โรงเรียนที่วิกฤติจากน้ำท่วมอาจจะเลื่อนเปิดไปหลังจากวันที่ 13 ธันวาคม



มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ : 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-08 02:06:45


ความคิดเห็นที่ 4508 (1587461)

.อุตสาหกรรม แจงสูบน้ำออกจากนิคมฯ แห้งแล้ว 4 แห่ง


กระทรวงอุตสาหกรรม รายงาน ครม.ว่าเร่งสูบน้ำออกจากนิคมอุตสาหกรรมที่น้ำท่วม 7 แห่ง น้ำแห้งแล้ว 4 แห่ง คาดสามารถเริ่มการผลิตได้ 15 ธ.ค.นี้

นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานความคืบหน้าการฟื้นฟูและการเยียวยาช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัยต่อที่ประชุม ครม.วันนี้

โดยในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมที่ น้ำท่วมทั้ง 7 แห่ง ขณะนี้ได้สูบน้ำจนแห้งแล้ว 4 แห่ง สามารถเริ่มการผลิตได้ประมาณร้อยละ 20 ของผู้ประกอบกิจการทั้งหมด ส่วนอีก 3 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และนิคมอุตสาหกรรมนวนคร อยู่ระหว่างการเร่งสูบน้ำ และคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ประมาณวันที่ 15 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้มีภาคธุรกิจมาลงทะเบียนเพื่อให้รัฐบาลช่วยเหลือหลังน้ำลด จำนวน 2444 ราย ซึ่งรัฐบาลจะช่วยเหลือตามมาตรการฟื้นฟูต่างๆ เช่น การพักชำระหนี้ การขยายสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุน เช่น ขยายระยะเวลาวีซ่าให้ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติสามารถอยู่ช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรม จากเดิม 15 วัน เป็น 30 วัน



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-08 02:07:26


ความคิดเห็นที่ 4509 (1587462)
 
ฮือฮา! พบดาวดวงใหม่คล้ายโลกอีกดวง คาดอาจมีสิ่งมีชีวิต





ขอขอบคุณภาพประกอบจาก space.com

          เว็บไซต์สเปซดอทคอม รายงานเมื่อวันที่ 12 กันยายนว่า นักดาราศาสตร์พบดาวดวงใหม่กว่า 50 ดวง ผ่านการส่องกล้องจากหอสังเกตการณ์ยุโรปตอนใต้ ระบุหนึ่งในนั้นมีสภาพคล้ายโลก และอาจมีสิ่งมีชีวิตบนนั้น

          รายงานระบุว่า จากการค้นพบดาวดวงใหม่กว่า 50 ดวงในครั้งนี้ มีดาวที่มีขนาดใกล้เคียงกับโลกอยู่ทั้งหมด 16 ดวง ซึ่งผิวดาวทั้ง 16 ดวงนี้ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นหิน แต่ดวงที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือดาวที่ได้รับการตั้งชื่อว่า HD 85512 b หรือ Gliese 370 b ซึ่งถูกค้นพบเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนักดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งพบว่า นอกจากดาวดวงนี้จะเป็นดาวที่มีขนาดใกล้เคียงกับโลกแล้ว ยังอยู่โคจรอยู่ในแถบ habitable zone หรือแถบอวกาศที่มีสภาพอุณหภูมิไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป ทำให้น้ำสามารถดำรงอยู่ได้ในสภาวะของเหลว และนักดาราศาสตร์ก็ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนนั้นเช่นเดียวกับโลกของเราด้วย

          จากการตรวจสอบด้วยการใช้อุปกรณ์ตรวจวัดความเร็วเชิงรัศมีของดาวฤกษ์ความแม่นยำสูง หรือ HARPS ร่วมกับกล้องโทรทรรศน์ พบว่า ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดใหญ่กว่าโลกราว ๆ 3.5 เท่า อยู่ไกลจากโลกไป 35 ปีแสง โคจรรอบดาวดวงหนึ่งที่ชื่อว่า HD 85512 ที่มีลักษณะเหมือนกับดวงอาทิตย์เช่นเดียวกับโลก ใช้เวลา 54 วันในการหมุนรอบตัวเอง มีเมฆปกคลุมและมีบรรยากาศคล้ายกับโลกของเรามาก ส่วนอุณหภูมิพื้นผิวของดาวดวงนี้อยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส หรือก็พอ ๆ กับอากาศทางตอนใต้ของฝรั่งเศสนี่เอง

          ทางด้าน ลิซา คัลเตนเน็กเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ เปิดเผยว่า มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ที่ได้พบว่ามีดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายกันกับโลกอีกดวงหนึ่ง และการค้นพบครั้งนี้ก็ไม่ใช่แค่การค้นพบดาวที่อยู่ห่างออกไปเท่านั้น แต่มันคือการค้นพบโลกใหม่ก็ว่าได้

          ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการส่องกล้องโทรทรรศน์ค้นหาดาวบนฟ้าที่อยู่ห่างจากโลกของเราไปหลายล้านปีแสง นักดาราศาสตร์ได้พบดาวเคราะห์แล้วกว่า 564 ดวง และยังมีดาวอีกกว่า 1,200 ดวงที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาลักษณะและชนิดของดาวต่อไป ส่วนดาวเคราะห์ที่มีขนาดและลักษณะใกล้เคียงกับโลกนั้น ถือว่าพบได้น้อยมาก โดยก่อนหน้านี้ มีการพบดาวลักษณะคล้ายโลกไป 3 ดวงแล้ว คือ GJ 1214b (ห่างจากโลก 40 ปีแสง) OGLE-2005-BLG-390Lb (ห่างจากโลก 21,500 ปีแสง) และ Gliese 581 G (ห่างจากโลก 20 ปีแสง) แต่ทั้ง 3 ดวงนี้ก็ยังไม่คล้ายกับโลกเท่ากับ HD 85512 b ที่เพิ่งค้นพบนี้ ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักดาราศาสตร์มากเลยทีเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-08 02:14:00


ความคิดเห็นที่ 4510 (1587463)

น้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีรั่วไหลลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก

วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2554 เวลา 12:30 น.

วันนี้ (7 ธ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า บริษัทโตเกียว อีเลคตริค เพาเวอร์ จำกัด (เทปโก) เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ในเขตจังหวัดฟูกูชิมะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเกิดปัญหาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ามีน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมาจากโรงไฟฟ้า ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก โดยปริมาณน้ำที่รั่วไหลออกมานั้น เชื่อว่ามีประมาณ 150 ลิตร เป็นน้ำเสียแต่ก็มีธาตุโลหะ สทรอนเทียม ซึ่งเป็นอันตรายและอาจทำให้เกิดมะเร็งกระดูก ปนเปื้อนอยู่ด้วย

ก่อนหน้านี้ บริษัทเทปโกแถลงว่า พบน้ำเสีย 45 ตันขังอยู่โดยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะและไหลลงสู่รางน้ำ ซึ่งก็จะไหลลงสู่ทะเลในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก แต่เจ้าหน้าที่มาตรวจพบ และปิดกั้นเส้นทางไหลได้ทัน

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเทปโกยอมรับว่าหากคนเรากินอาหารทะเลจากน้ำทะเลในบริเวณดังกล่าว ติดต่อกันทุกวัน เป็นเวลา 1 ปี ก็จะไม่มีผลต่อสุขภาพของคนแต่อย่างใด.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-08 03:16:19


ความคิดเห็นที่ 4511 (1587464)

ญี่ปุ่นเต้นเรียกเก็บนมผงปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี

วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2554 เวลา 16:12 น.

วันนี้ (7 ธ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า “เมจิ” บริษัทผู้ผลิตอาหารและขนมรายใหญ่ของญี่ปุ่น แถลงว่า กำลังดำเนินการเรียกเก็บนมผงสำหรับเด็กทารกของ “เมจิ” หลังจากตรวจพบมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่น

เมจิแถลงว่า ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนของนมผงสำหรับเด็กทารกยี่ห้อ “เมจิ” ว่าไปถึงมือผู้บริโภคแล้วจำนวนเท่าใดกันแน่ แต่ก็ยอมรับว่า มีคำถามมากมายจากผู้บริโภคที่พากันวิตกในเรื่องนี้ ซึ่งเมจิได้ผลิตนมผงสำหรับทารกที่มีปัญหานี้ เมื่อช่วงเดือนมี.ค.ถึงเม.ย.ที่ผ่านมา และเริ่มจัดส่งในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมติดตามประทับว่า นมจะหมดอายุในเดือนต.ค.ปีหน้า
สำหรับระดับของสารกัมมันตรังสีที่ตรวจพบในนมผงของเมจิเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น ยังต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยที่รัฐบาลกำหนด และปริมาณก็ต่ำมากที่จะมีผลต่อสุขภาพของเด็กทารก ต่อให้กินนมผงเป็นประจำทุกวันก็ตาม

ทั้งนี้ได้เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิพัดถล่มญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 เตาในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ เกิดภาวะหลอมละลาย ส่งผลให้สารกัมมันตรังสีรั่วไหลลงสู่ทะเลและฟุ้งกระจายไปในอากาศ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-08 03:17:49


ความคิดเห็นที่ 4512 (1587470)

รู้สึกว่าช่วงเดือนนี้จะมีการจัดงาน

สัมมนา ค่อนข้างถี่มากๆเลยนะคะ

สงสัยจะเป็นการบอกใบ้ให้ทุกๆฝ่าย

เริ่มเตรียมตัวกันอย่างจริงจังได้แล้ว ...

 

เพราะนี่มันก็เดือนสุดท้าย

ของปีแล้วนะคะเนี่ย....

 

ถ้ามีข่าวคราวความคืบหน้า

เรื่องพายุสุริยะ ก็เมตตานำมา

ฝากพวกเราด้วยนะคะ คุณอาริยา


ขอบคุณทุกๆข้อมูลจากคุณ อาริยา ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-08 04:52:19


ความคิดเห็นที่ 4513 (1587626)

พี่อาริยาขอโมทนาบุญกับคุณ ชนิดาด้วยค่ะ ๆ สาธุ เเละขอบคุณที่ช่วยเตือนให้หาข้อมูล อัพเดท พายุสุริยะค่ะ

เดี๋ยวจะช่วยหาให้ด่วนค่ะ  หากท่านผู้ใจบุญท่านใดพอมีเวลา รบกวนช่วยกันลงข้อมูลนะคะ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากๆ เพราะหากเกิดขึ้น คงปั่นปวนทุกระบบไปทั่วโลก เคยนั่งคิดเล่นๆ ว่า หากเครื่องบิน กำลังบินอยู่ ไม่ทราบว่าจะมีเเผน 2, 3, 4 ...รองรับ บ้างไม๊เนาะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 00:43:32


ความคิดเห็นที่ 4514 (1587628)

.

แผ่นดินไหวบริเวรประเทศพม่า 3.3 ริกเตอร์

เมื่อเวลา 08.38 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2554 ที่บนริเวณประเทศพม่า

ห่างจาก อ.ฝาง จ.เชียงใหมม่ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

(20.48 N,98.82 E)

ขนาด 3.3 ริกเตอร์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:37:50


ความคิดเห็นที่ 4515 (1587629)

.แผ่นดินไหว 2.1 ริกเตอร์ -

จ. เชียงใหม่

2554-12-08 10:34:03 THA
ศูนย์กลาง: ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
Lat: 19.570 , Long: 99.120
ขนาด: 2.1

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:40:36


ความคิดเห็นที่ 4516 (1587630)

อุตุเตือนภัยอากาศหนาวเย็นบริเวณไทยตอนบน

8 ธ.ค. กรมอุตุประกาศเตือนภัย"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้"ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 08 ธันวาคม 2554 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว และจะปกคลุมต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิลดลงได้ 4-6 องศา กับมีลมแรง สำหรับพื้นที่ภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศา หลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

ในช่วงวันที่ 9-12 ธันวาคม 2554 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นลมแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลระวังอันตรายจากคลื่นสูงลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง สำหรับชาวเรือขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:45:53


ความคิดเห็นที่ 4517 (1587631)

ธารน้ำแข็งในชิลีละลาย 1 ปี ต่อ 1 กิโลเมตร

8 ธ.ค. 54 11.40 น.



ธารน้ำแข็งในชิลีละลาย 1 ปี ต่อ 1 กิโลเมตร
นักวิทยาศาสตร์เผยภาพธารน้ำแข็งในชิลีหดหายไปอย่างรวดเร็ว โดยภายใน 1 ปีแหว่งไป 1 กิโลเมตร

ภาพที่บันทึกไว้ในเวลาต่างกันเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็งนำมายืนยันว่า ธารน้ำแข็งฮอร์เก้ มงต์แหว่งหายไปรวดเร็วกว่าธารน้ำแข็งอื่นๆ ในชิลี คือ ระหว่างเดือน ก.พ.53 - ม.ค.54 ปลายลำธารส่วนหน้าหายไปถึง 1 กิโลเมตร ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเป็นผลมาจากโลกร้อนขึ้น และอีกปัจจัยคือ ธารน้ำแข็งฮอร์เก้ มงต์อยู่ภายในฟยอร์ด หรืออ่าวแคบและยาวที่อยู่ระหว่างหน้าผาสูงชัน

ธารน้ำแข็งฮอร์เก้ มงต์อยู่ภายในทุ่งน้ำแข็งพาตาโกเนีย ซึ่งห่างจากกรุงซานติอาโก้ลงไปทางใต้ประมาณ 1,800 กิโลเมตร โดยผลการวิจัยนี้สอดคล้องกับรายงานของชุดสำรวจจากอังกฤษและสวีเดนที่ระบุว่า ธารน้ำแข็งทุกแห่งในพาตาโกเนียมีการละลาย แต่ปรากฏว่า มี 2 แห่งที่การละลายเป็นไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.1800 และ 30 ปีที่ผ่านมากลับยิ่งมีอัตราทบทวี

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:46:39


ความคิดเห็นที่ 4518 (1587632)

ภาคตะวันออกของจีน หนาวอย่างต่อเนื่อง (ปักกิ่ง)



BEIJING - A strong cold spell that has swept Central and East China will continue to affect the country"s eastern regions over the next two days, China"s meteorological authority said Thursday.



It gets so cold in Beijing that a puppy has been dressed up with clothes to keep warm on Dec 8, 2011.[Photo/Asianewsphoto]
The National Meteorological Center issued a blue alert for the cold spell Thursday morning, the lowest level in the country"s four-scale alert system.
Northeast and South China, as well as regions along the Yellow, Yangtze and Huaihe rivers, will be affected the most, with temperatures dropping by 12 degrees Celsius, the center said.
In the next 24 hours, snow and sleet will hit some parts of Xinjiang, Inner Mongolia and the Qinghai-Tibet Plateau, as well as the provinces of Gansu and Shandong, the center said.
Moderate rainfall will hit areas south and east of the Yangtze River, as well as southwest China and Taiwan, over the next 24 hours, while sleet and icy rain will hit Southwest China"s Guizhou province, the center said.
The center continued to issue a yellow alert, the second-lowest alert level, for offshore gales in eastern and southern sea areas, including the East China Sea and South China Sea, the Yellow Sea and the Taiwan Strait.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:47:52


ความคิดเห็นที่ 4519 (1587633)

.ชาวเน็ตจีนซึ้ง...ภาพความตายที่งดงาม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2554 17:14

ASTVผู้จัดการออนไลน์/เอเจนซี--ภาพพระในพุทธศาสนารูปหนึ่งสวดมนต์ส่งดวงวิญญาณชายชราที่เสียชีวิตในห้องผู้โดยสารสถานีรถไฟเมืองไท่หยวน ได้กลายเป็นประเด็นกล่าวขาน เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น สร้างความประทับใจแก่ชาวเน็ตจีน ดูราวกับว่าชาวจีนจะได้เห็น "โอเอซิสกลางทะเลทรายแห่งจิตวิญญาณ" เข้าให้...

ชายชราผู้หนึ่งนั่งหลับและเสียชีวิตไปบนม้านั่งยาวในห้องผู้โดยสารสถานีรถไฟเมืองไท่หยวน มณฑลซันซี ประเทศจีน เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆต่างรู้สึกแปลกพิกลเมื่อพบว่าชายชราตัวเย็นเฉียบ จึงได้โทรศัทพ์แจ้งตำรวจ ชายชราได้ลาโลกไปแล้วโดยไม่รู้สาเหตุ

พระในพุทธศาสนารูปหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ได้เดินเข้าไปสวดมนต์ส่งดวงวิญญาณชายชราที่ไร้ญาติขาดมิตรมาดูใจก่อนสิ้นลม โค้งคำนับ และเข้าไปจับมือ

“หลายคนได้ลืมไปแล้วว่าพุทธศาสนาที่ถือกำเนิดในอินเดีย ได้เคยเพื่องฟูในประเทศจีน เนื่องจากศาสนาหลายกลุ่มได้กลายเป็นกิจเชิงพาณิชย์ระหว่างกลุ่มนักธุรกิจและรัฐ ยากมากที่จะได้พบเห็นพระที่แท้จริงในเมืองต่างๆของจีน” ชาวเน็ตผู้หนึ่งกล่าว



พระกำลังสวดส่งดวงวิญญาณชายชราที่เสียชีวิตไปโดยไม่รู้สาเหตุที่สถานีรถไฟเมืองไท่หยวน มณฑลซันซี ประเทศจีน เมื่อวันที่ 25 พ.ย. (ภาพเอเจนซี)






ตำรวจได้กันผู้โดยสารออกจากบริเวณที่ชายชรานั่งและเสียชีวิต เพื่อดำเนินการตรวจสอบ (ภาพเอเจนซี)

 

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:49:25


ความคิดเห็นที่ 4520 (1587634)
 
 
ข้อเท็จจริง 7 ประการ ธรรมชาติโลก
ปัจจุบัน - โลกาภิวัฒน์

 

ธรรมชาติของโลกปัจจุบันได้เปลี่ยนไปมากเนื่องจากสภาวะโลกร้อน ในบทความนี้จะได้เขียนถึงข้อสรุป   7 ประการ ที่ได้จากการประชุมสหประชาชาติเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อนเมื่อเดือนพฤศจิกายนนี้เอง

นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงหรือโลกร้อนได้หาข้อสรุป ข้อเท็จจริงกำลังจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ว่ามีแนวโน้มน่าจะเป็นเช่นไร แต่แนวโน้มนี้ก็คือการคาดเดาที่ค่อนข้างเชื่อถือได้ว่าจะเกิดขึ้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์

แต่ก็ต้องยอมรับความจริงอยู่อย่างหนึ่งว่า ยังมีสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งโลกยังไม่รู้อีกมาก หรือจะบอกว่ารู้แล้ว 100% คงจะไม่มีเพราะแนวโน้มของความจริง 7 ประการ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้มีดังนี้ครับ

ข้อ 1 มีแนวโน้มค่อนข้างมาก (มากกว่า 90%) ว่ากิจกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน

ข้อ 2 มีความน่าจะเป็นไปได้ (กว่า 50%) ว่าอุณหภูมิของโลกจะร้อนขึ้นระหว่าง 1.8 องศาเซลเซียส ถึง 4 องศาเซลเซียส ภายในสิ้นศตวรรษนี้หรือประมาณ ค.ศ. 2100 หรืออีก 89 ปีข้างหน้า

ข้อ 3 มีความเป็นไปได้ (กว่า 60%) ว่าอุณหภูมิของโลกจะร้อนขึ้นระหว่าง 1.1 องศาเซลเซียส ถึง 6.4 องศาเซลเซียส เมื่อขึ้นศตวรรษนี้หรือประมาณ ค.ศ. 2100 หรืออีก 89 ปีข้างหน้า

ข้อ 4 มีแนวโน้มว่า (กว่า 60%) ระดับน้ำทะเลของโลกจะสูงขึ้นประมาณ 28 ถึง 43 เซนติเมตร ในปี ค.ศ. 2100

ข้อ 5 อาร์กติก หรือขั้วโลกเหนือซึ่งปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งชั่วนาตาปีและไม่มีแผ่นดินนั้น มหาสมุทรขั้วโลกเหนือในช่วงฤดูร้อนมีแนวโน้ม (มากกว่า 60%) ว่าจะไม่มีน้ำแข็งให้เห็นในช่วงตั้งแต่ปี ค.ศ. 2051-2100

ข้อ 6 มีแนวโน้มค่อนข้างมาก (มากกว่า 90%) ว่าหลายพื้นที่ของโลกจะได้พบกับคลื่นความร้อน (Heat waves) จำนวนมาก

ข้อ 7 สภาวะอากาศโลกเปลี่ยนแปลงมีแนวโน้มว่า (มากกว่า 60%) จะนำไปสู่การเพิ่มความหนาแน่นของพายุโซนร้อน (Tropical storms)


ความจริงที่ตีเป็นเปอร์เซ็นต์ทางวิทยาศาสตร์นี้ มาจากผลการรายงานจากที่ประชุม ไอพีซีซี หรือ ที่ประชุมรัฐบาลระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) ที่คณะทำงานของนักวิทยาศาสตร์หลายชาติได้สรุปขึ้นมา

ซึ่ง ไอพีซีซี นี้ดำเนินการภายใต้องค์การสหประชาชาติ โดยมี องค์การอุตุนิยมวิทยาแห่งโลก หรือ World Meteorological Organization (WMO) และ องค์การสหประชาชาติว่าด้วยโครงการสิ่งแวดล้อม หรือ United Nation Environment Program me (UNEP)

ข้อสรุปทั้ง 7 ประการนี้ ผมว่าอีก 10 ปีข้างหน้าคงจะชัดเจนมากกว่านี้ แล้วจะนำมาเขียนให้ท่านผู้อ่านได้ทราบครับ.



รศ.ดร.บุญมาก  ศิริเนาวกุล
อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
boomark@stamford.edu

เดลินิวส์
วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2554 เวลา 00:00 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:56:11


ความคิดเห็นที่ 4521 (1587635)
สภาพอากาศทั่วโลกวิกฤต


รอบปีนี้ที่กำลังจะผ่านพ้นไป มรสุมภัยธรรมชาติถาโถมใส่โลกนับครั้งไม่ถ้วน ปากีสถานเผชิญน้ำท่วมรุนแรงที่สุด มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,700 คนกัวเตมาลาเจอพายุเฮอริเคนถล่ม เม็กซิโกเจอวิกฤตแล้งที่สุดในรอบ 70 ปี

ขณะที่ประเทศไทยเอง ต้องฟันฝ่าอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ วิกฤตที่เกิดกับเราครั้งนี้รุนแรงติดอันดับโลก ถึงขั้นที่ถูกหยิบยกไปเป็นตัวอย่างของผลกระทบจากความแปรปรวนของสภาพอากาศโลก บนเวทีการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก ที่เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้

สาเหตุหลักของภัยธรรมชาติในปีนี้ มาจากปรากฏการณ์ลานินญาที่รุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี และต่อจากนี้ภัยร้ายจากความแปรปรวนของสภาพอากาศจะหนักกว่าเดิม

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ปีนี้โลกต้องเจอศึกหนัก ก็คือปัญหาจากก๊าซเรือนกระจก องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกสรุปว่าปีนี้สถานการณ์เลวร้ายที่สุด อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าอัตราเฉลี่ยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าไม่เกิน 20 ปีจากนี้ ทวีปเอเชียของเราจะเป็นแหล่งผลิตก๊าซเรือนกระจกกว่า 45 เปอร์เซ็นต์ของโลก นี่เป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจากภาวะโลกร้อน 30 ปีมานี้ ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยละลายไปแล้ว 1 ใน 5 ส่วน สิ่งที่ตามมาคือน้ำทะเลจะสูงขึ้น ทำให้เกิดทะเลสาปขนาดใหญ่ที่อาจจะพังลงมา กระทบกับเทือกเขาตอนล่างทำให้ถูกน้ำท่วม และหากธารน้ำแข็งเหือดแห้งไปในช่วง 10 ปีข้างหน้าตามที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์พื้นที่หลายส่วนของเอเชียจะต้องเจอกับภัยแล้ง กระทบกับ 1,300 ล้านชีวิตที่อยู่ตามลุ่มน้ำสาละวิน และลุ่มน้ำโขง

ความอยู่รอดของเราและโลก ขึ้นอยู่กับ 2 ฝ่ายที่ยังคงขัดแย้ง ทั้งประเทศยากจนที่ต้องการใช้ทรัพยากรจำพวกถ่านหินและก๊าซเพื่อให้พ้นจากความลำบากขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศจีน อินเดีย บราซิล กำลังถูกบีบให้ลดการ ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆออกมา

พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของการการประชุมที่เมืองเดอร์บัน เป็นความหวังสุดท้าย ที่จะกำหนดอนาคตของโลกก่อนที่พิธีสารโตเกียวจะสิ้นสุดในปี 2555

พรุ่งนี้ตอนบนของประเทศอากาศเย็นลงอีก ภาคเหนืออุณหภูมิต่ำสุด13 องศา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 องศา ภาคกลาง อุณหภูมิลดลงอีก 2-3องศา ต่ำสุด 19 องศา กรุงเทพ 22 องศา ภาคตะวันออกก็เย็นลงเช่น ต่ำสุด 22 องศา

ส่วนภาคใต้ฝนเริ่มกลับมามากอีกครั้ง ฝั่งอ่าวไทยฝนกระจาย 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ส่วนฝั่งทะเลอันดามันมีฝน 40 เปอร์เซ็นต์
กลับมาติดตามความเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมในอุณหภูมิโลก

อุณหภูมิโลก


08-12-2554 | 17:52

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:57:26


ความคิดเห็นที่ 4522 (1587636)
 
ประชาชนหลายพันคนอพยพหนีภูเขาไฟระเบิดในอินโดนีเซีย


อินโดนีเซีย 8 ธ.ค. - ภูเขาไฟกามาลามาในอินโดนีเซีย ยังคงปะทุอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย

วันนี้ภูเขาไฟกามาลามาที่ตั้งอยู่บนเกาะเทอร์เนท บริเวณหมู่เกาะโมลุกกะทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ยังคงปะทุพ่นเอาลาวา และเถ้าถ่านออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนหลายพันคนบนเกาะต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยโดยผู้คนจำนวนมากพากันโดยสารเรือข้ามฟาก เพื่อมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังเมืองบีตังในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ ทางการระบุว่าขณะนี้มีประชาชนจากหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟมาอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิง 5 แห่งกว่า 1,200 คน ขณะที่สภาพของเมืองเทอร์เนท ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันมาตั้งแต่วันจันทร์ และสนามบินในเมืองยังคงปิดทำการ อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่ภูเขาไฟเริ่มปะทุเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


 
เกิดน้ำท่วมฉับพลันในรัฐควีนสแลนด์

บริสเบน 8 ธ.ค. – บรรษัทกระจายเสียงของออสเตรเลีย หรือเอบีซี รายงานว่า เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเมืองโรมาของรัฐควีนสแลนด์ ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ส่งผลกระทบต่อย่านธุรกิจ

เว็บไซต์สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานอ้างเอบีซีว่า เกิดฝนตกหนักส่งผลให้เกิดอุทกภัยในเมืองโรมาเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น แต่ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีย่านธุรกิจบางแห่งที่ยังได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคำเตือนในพื้นที่ใกล้แม่น้ำและแหล่งน้ำ โดยทางการจะยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำในพื้นที่เหล่านั้นต่อไป



 
โลกร้อนส่งผลให้ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วในชิลี


ซันติอาโก 8 ธ.ค.-คณะวิจัยในชิลีเผยแพร่ชุดภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นถึงการลดลงอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งในเขตปาตาโกเนียของชิลี

ธารน้ำแข็งฮอร์เก้ มอนท์ หดตัวลงอย่างรวดเร็วกว่าธารน้ำแข็งแห่งอื่นในชิลี โดยหดตัวลง 1 กิโลเมตร ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วถึงมกราคมปีนี้  สาเหตุสำคัญมาจากภาวะโลกร้อน  ซึ่งในเขตปาตาโกเนียได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นของโลก

นักวิชาการที่สำรวจการหลอมละลายของธารน้ำแข็งในเปรู กล่าวต่อที่ประชุมนักธรณีฟิสิกส์ที่นครซาน ฟรานซิสโกว่า การหลอมละลายอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งอาจเกิดขึ้นในอีกบางพื้นที่ของอเมริกาใต้และเทือกเขาหิมาลัย เพราะอากาศที่ร้อนขึ้น และธารน้ำแข็งฮอร์เก้ มอนท์ หดตัวอย่างรวดเร็วกว่าแห่งอื่น ๆ 10 เท่าซึ่งนับเป็นเรื่องผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม ธารน้ำแข็งภูเขาปาตาโกเนียมีขนาดที่ใหญ่มาก ธารน้ำแข็งแห่งนี้ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยหิมะจำนวนมากในช่วงฤดูหนาว ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าธารน้ำแข็งดังกล่าวจะไม่สูญหายไปโดยฉับพลันในอีกหลายร้อยปี


สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:59:12


ความคิดเห็นที่ 4523 (1587637)
 
อุทกภัยโคลอมเบีย


ที่โคลอมเบีย เกิดเหตุอุทกภัยครั้งรุนแรงที่กรุงโบโกต้า เมื่อวานนี้ ประชาชนหลายพันคนได้รับผลกระทบ

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำในแม่น้ำโบโกตา ล้นเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนและท้องถนนในหลายพื้นที่ ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ขณะที่บางส่วนติดค้างในพื้นที่ ทางการต้องส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินเข้าไปให้ความช่วยเหลือ

ผู้ประสบภัยในกรุงโบโกตา กล่าวว่า ระบบระบายน้ำในเมืองหลวงมีปัญหา ขณะที่ท่อน้ำเสียก็มีสิ่งกีดขวางทำให้น้ำไม่มีทางระบายและเอ่อเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ตลอดทั้งปีนี้โคลอมเบียต้องเผชิญทั้งฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันเกือบทั้งประเทศ ซึ่งก็เป็นผลมาจากปรากฏการณ์ลานีญา


ครอบครัวข่าว 3
วันพฤหัสบดี ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 01:59:56


ความคิดเห็นที่ 4524 (1587638)

.

ลุ้น 10 ธันวาคม ชมจันทรุปราคาเต็มดวง และจันทรุปราคาดาวพฤหัส




เว็บไซต์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(มหาชน) รายงานว่า ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ จะเกิด “จันทรุปราคาเต็มดวง” โดยดวงจันทร์จะเข้าสู่เงามืดของโลกตั้งแต่เวลา 19.46 น.และเริ่มเต็มดวงเวลา 21.06 – 21.57 เป็นเวลานาน 51 นาที

ในขณะที่ดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกเต็มดวง จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวง สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าในทุกภูมิภาคของประเทศ ทางทิศตะวันออกสูงจากเส้นขอบฟ้าประมาณ 40 องศา หากพลาดชมจันทรุปราคาเต็มดวงคราวนี้คนไทยต้องรออีก 3 ปี จึงจะได้ชมจันทรุปราคาเต็มดวงในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 8 ตุลาคม 2557 และครั้งถัดไปในวันที่ 4 เมษายน 2558





ช่วงเวลาเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง

- 18:33 น. เริ่มเกิดจันทรุปราคาเงามัว(P1)
- 19:46 น. เริ่มเกิดจันทรุปราคาบางส่วน(U1)
- 21:06 น. เริ่มเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง(U2)
- 21:31น. กึ่งกลางจันทรุปราคา
- 21:57 น. สิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง(U3)
- 23:17 น. สิ้นสุดจันทรุปราคาบางส่วน(U4)
- 24:30 น. สิ้นสุดจันทรุปราคาเงามัว(P4)





นอกจากนี้ ในค่ำคืนของวันที่ 10 ธันวาคม 2554 นอกจากคนไทยทั่วประเทศจะเต็มอิ่มกับความงามของดวงจันทร์เต็มดวงสีแดงอิฐที่ยาวนานถึง 51 นาที แล้ว คนไทยยังมีโอกาสเห็นจันทรุปราคาของดาวพฤหัสบดี อีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันที่หาชมได้ยากอีกด้วย

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาดาวพฤหัสบดีในครั้งนี้ เกิดจากดวงจันทร์ไอโอของดาวพฤหัสบดี โคจรเข้าไปในเงามืดของดาวพฤหัสบดี ทำให้คนบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์ไอโอค่อยๆ เคลื่อนที่หายเข้าไปหลังดาวพฤหัสบดี ในเวลา 18:12 น. และเคลื่อนที่ออกจากเงามืดของดาวพฤหัสบดีในเวลา 21:22 น. อย่างไรก็ตามการสังเกตปรากฏการณ์จันทรุปราคาบนดาวพฤหัสบดีนี้ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเนื่องจากดาวพฤหัสบดีอยู่ไกลมาก จึงต้องสังเกตการณ์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ที่มีกำลังขยายตั้งแต่  50 เท่า ขึ้นไปเท่านั้น



ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(มหาชน)
 
"เก่งทุกอย่าง รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง"

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 02:02:42


ความคิดเห็นที่ 4525 (1587646)

ภาพความตายที่งดงาม

ดูแล้วงดงามจริงๆค่ะ

เพราะความตาย เป็นสิ่งที่แน่นอน

แต่พวกเราไม่เคยรู้ตัว

หรือ ล่วงรู้เวลาที่แน่นอนของมันได้เลย

 

 

ขอบคุณทุกๆข่าวอีกเช่นเคยค่ะ คุณอาริยา

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 05:04:16


ความคิดเห็นที่ 4526 (1587689)

 

 

ข่าว.แผ่นดินไหว 3.3 ริคเตอร์ พรมแดนไทย-พม่า เขย่าเชียงราย-เชียงใหม่.

มื่อ: วันที่ 08 ธันวาคม 2011, 09:17:47 »


ขอขอบพระคุณ ผู้รายงานข่าวทุกท่านค่ะhttp://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=161770.0


เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า ได้เกิดเเหตุแผ่นดินไหวใต้พิภพ เมื่อเวลา 08.37 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทยขนาดความแรง 3.3 ริคเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ในประเทศพม่า ห่างจากพรมแดนไทย-พม่า อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ราว 80 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากพรมแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ราว 100 กิโลเมตร ที่บริเวณละติจูด 20.51 องศาเหนือ ลองจิจูด 98.76 องศาตะวันออก โดยมีรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวครั้งนี้ ได้เกิดทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.เชียงแสน แหล่งโบราณสถาน เกิดการสั่นไหว 3-5 วินาที และที่ศูนย์การเเรียนรู้นอกโรงเรียน (กศน.) และบ้านเรือนในเขตเทศบาลนครเชียงราย  อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นอาคารขนาด 2 ชั้นขึ้นไป เกิดการเขย่าสั่นไหว ราว 5 วินาที จนเกิดความแตกตื่น ด้านนายสมพล สุปการ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เ

กิดขึ้นจากรอยเลื่อนใด ระหว่างรอยเลื่อนสะแกรงในประเทศพม่า หรือรอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนเชียงแสน

ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า

พื้นที่ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบริเวณพรมแดนไทย-พม่า ครั้งนี้

มีที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนใต้พิภพตั้งอยู่ด้วย.

--------

ขอเเชร์ข้อความที่ลงในเวปนี้ค่ะ

อ่านเเล้วละอียด เพื่อไม่ประมาทในการเตรียมตัวกันค่ะ 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 12:11:37


ความคิดเห็นที่ 4527 (1587691)

ขอเเชร์ข้อความที่ลงในเวปนี้ค่ะ

อ่านเเล้วละอียด เพื่อไม่ประมาทในการเตรียมตัวกันค่ะ 

 เช้านี้แผ่นดินใหว

 

 08:12:15 »

ไหวแรงครับ แปปเดียว ไครรู้สึกบ้างครับช่วงเวลาแปดโมงเช้านิดๆ

 08:29:15 »เมื่อสักครู่ก็ไหวนะ

 08:32:47 »ที่เชียงแสนครับ
แต่เข้าไปเชคยังไม่มีรายงานเลย ห้องโยกสั่นคลอนเลย08:33:33 »

 

ณ เชียงแสน ไหว อีกแล้วครับพี่น้อง สั่นแรง ชั่วขณะ 3 -5 วินาทีได้ เมื่อกี้นี้เอง
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 12:21:22


ความคิดเห็นที่ 4528 (1587692)

 

 ซุปเปอร์ความเร็วลมขนาด 165 mph(264กม./ชม.) พัดถล่มสก๊อตแลนด์ เตือนให้ประชาชนควรหลบอยู่ในบ้าน
พายุ เฮอริเคน ถล่มซ้ำ


December 9, 2011A fierce storm with winds of up to 165 mph has battered northern parts of Britain, with people warned to stay indoors, schools forced to close and flights and rail links cancelled. Localized flooding has also caused major disruptions on roads – and more than 30,000 homes have been left without power. In North Yorkshire, a RAF helicopter plucked a couple to safety after their car was swept away in floodwaters near Aysgarth. They were flown to hospital with suspected hypothermia. A third person was also rescued from his car in a separate incident near the village of Gunnerside. Police have advised against all travel until at least 2am Friday, when winds are expected to ease. The Met Office earlier issued its strongest warning – a red alert – for winds in Scotland and warned parts of England and Wales to “be aware,” as temperatures were expected to drop and snowfall was predicted as far south as Birmingham. It said the Highland observing station at Glen Ogle reported a gust of 104mph at 11am. The Met Office later tweeted that a gust at the Aonach Mor ski area peaked at 137mph. –Sky News




นอกจากนั้น ลมขนาด 165 mphได้พัดถล่มทางตอนเหนือต่างๆของสหราชอาณาจักรเช่นเดียวกัน



*300ft high turbine explodes and another collapses *Huge areas of country brought to a standstill as roads and bridges are closed
*Winds are ranked at maximum force of 12 on Beaufort scale
*Bridge collapses in North Yorkshire
*Environment agency issues 12 alerts on rivers and lakes
SCOTLAND -

 

พายุ เฮอริเคน ถล่ม

A £2million, 100metre-tall wind turbine caught fire in hurricane-force

winds at Ard rossan, N orth Ayrshire, Scotland, during severe weather

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 12:22:35


ความคิดเห็นที่ 4529 (1587694)
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joyguang1 อ่านข้อความ
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 12:32:03


ความคิดเห็นที่ 4530 (1587695)

นาซา” อาจตั้งศูนย์อวกาศในโฮจิมินห์ รับมือภัยพิบัติภูมิภาค

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ธันวาคม 2554 10:41 น.




ภาพจากเว็บไซต์ SERVIR ที่ทำขึ้นจากข้อมูลดาวเทียม "อะควา" ของนาซ่า แสดงให้เห็นการเกิดไฟป่าในประเทศฮอนดูรัสและนิการากัว วันที่ 27 เม.ย.2551 องค์การนาซ่ากำลังหาทางแหล่งจัดตั้งสถานีอวกาศคล้ายกันนี้อีก 1 แห่งในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเฝ้าจับตาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมและภัยธรรมชาติ เพื่อช่วยหาทางรับมือภัยพิบัติรุนแรงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เวียดนามเป็นแหล่งหนึ่งที่ได้รับการพิจารณา. -- ภาพ: NASA.


ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐฯ หรือนาซา อาจจะตั้งศูนย์การอวกาศอีกแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นอีกทำเลหนึ่งที่นาซากำลังพิจารณาในขณะนี้ และจะมีการตัดสินใจในปีหน้า สื่อของทางการเวียดนาม รายงานอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้หนึ่งจากสหรัฐฯ

นายไมเคิล เอฟ โอเบรียน (Michael F O" Brien) ผู้บริหารร่วม ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ของนาซา กล่าวถึงเรื่องนี้ ในที่ประชุมคณะบริหารศูนย์ฝึกอบรมไซ่ง่อนไฮเทคปาร์ก ในวันอังคาร หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ กล่าว

นายโอเบรียน กล่าวอีกว่า โครงการที่เรียกว่า SERVIR ที่ได้รับการสนับสนุนจากนาซากับองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างระเทศแห่งสหรัฐฯ หรือ USAID (US Agency of International Development) เพื่อให้เป็นศูนย์สังเกตการณ์ดาวเทียมและประสานการทำงานภาคพื้นดิน นั้น ติดเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยในการติดตามการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อม

ปัจจุบัน SERVIR มีศูนย์อวกาศอยู่แล้ว 2 แห่ง คือ ในละตินอเมริกา กับแคริบเบียน และ อีกแห่งหนึ่งแอยู่ในประเทศเคนยา USAID กำลังมองหาแหล่งที่ตั้งศูนย์แห่งที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเวียดนามมีโอกาสที่จะเป็นศูนย์สำคัญดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ของนาซาเสนอแนะให้เวียดนามเร่งพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีระดับสูงและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์รูปภาพและข้อมูลดาวเทียม

เวียดนามจะต้องแข่งขันกับอีกหลายประเทศในภูมิภาค เพื่อให้เป็นศูนย์อวกาศแห่งต่อไป ซึ่งนาซ่าจะตัดสินใจคัดเลือกในปี 2555 นี้ เตื่อยแจ๋กล่าว
.



แดนนี ฮาร์ดิน (Danny Hardin) -- ซ้ายมือ-- นักวิทยาศาสตร์นักวิจัยอาวุโสจากมหาวิทยาลัยแห่งอลาบามาที่เมืองอันส์วิลล์ กำลังฝึกสอนนักวิจัยชาวเอลซัลวาดอร์ 3 คน เพื่อใช้เครื่องมือSERVIR ที่ศูนย์อวกาศ เพื่อเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อม นาซ่ายังมีศูนย์คล้ายกันนี้อีก 1 แห่งในประเทศเคนยา แอฟริกา และกำลังจะมีอีก 1 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอาจจะเป็นในเวียดนาม.-- ภาพ: เว็บไซ์ SERVIR.

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 12:34:31


ความคิดเห็นที่ 4531 (1587696)

น้ำท่วมเวเนซุเอล่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 12:35:25


ความคิดเห็นที่ 4532 (1587700)

สัตว์ได้กลิ่นอายของแผ่นดินไหว พยายามสืบหนทางจะได้รู้ตัวก่อน

วันที่ 09/12/2554 12:00





นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพวกสัตว์จะต้องได้กลิ่นสารเคมีแปลกๆในน้ำซับในดิน ถึงได้รู้ว่ากำลังจะเกิดแผ่นดินไหว พากันแสดงท่าทางประหลาดต่างๆออกมา

พวกเขาเริ่มสนใจเรื่องนี้เมื่อพบว่า ฝูงกบ เขียดต่างพากันหนีออกจากสระก่อนหน้าจะเกิดแผ่นดินไหว ที่เมืองอกีลาของอิตาลี เมื่อ พ.ศ.2542 เพียงไม่กี่วัน และเห็นว่าน่าจะใช้เป็นเครื่องทำนายการเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้

วารสารวิชาการ “การวิจัยสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขระหว่างประเทศ” รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า ก้อนหินในเปลือกนอกของโลกที่เบียดอัดกัน อาจทำให้เกิดกลไกที่เค้นเอาอนุภาคที่มีประจุออกมาทำปฏิกิริยากับน้ำซับในดินสรรพสัตว์ที่อาศัยอยู่ในหรือใกล้ๆแหล่งน้ำซับเหล่านั้น ต่างมีความรู้สึกไวกับการเปลี่ยนแปลงทางเคมีสูง จึงสามารถรู้ล่วงหน้าก่อนที่แผ่นหินจะเคลื่อน และก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น

ทีมนักวิทยาศาสตร์ของอาจารย์เฟรดมานน์ ฟรุนด์ ขององค์การอวกาศสหรัฐฯ อยากปลุกให้นักชีววิทยาและนักธรณีวิทยาร่วมมือกันค้นหาให้รู้แน่ว่า เหล่าสัตว์จะช่วยให้เราจับรู้สัญญาณว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นได้อย่างไร.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 12:50:53


ความคิดเห็นที่ 4533 (1587765)

คาดโลกร้อน ทำหมีขั้วโลกเปลี่ยนพฤติกรรม กินกันเอง!!



สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ หมีขั้วโลกกินหมีขั้วโลกด้วยกันเอง ซึ่งภาพดังกล่าวถ่ายได้โดย เจนนี่ รอส

ทั้งนี้ เจนนี่ เปิดเผยว่า เธอบันทึกภาพสะเทือนอารมณ์นี้ได้ ซึ่งตอนแรกที่เห็นเธอเข้าใจว่าหมีขั้วโลกตัวดังกล่าวกำลังกินแมวน้ำ ซึ่งเป็นอาหารโปรดของมัน แต่เมื่อเธอเข้าไปใกล้ ภาพที่เห็นทำให้เธอต้องตกตะลึง เมื่อเหยื่อที่เจ้าหมีตัวใหญ่กัดกินอยู่นั้น เป็นหมีขั้วโลกอีกตัวที่เล็กกว่า

เธอยังกล่าวอีกว่า หมีขั้วโลก ยังจ้องมองมาที่เธอ และทำท่าเหมือนส่งสารว่า “นี่คืออาหารของฉัน” และมันก็กัดเหยื่อหมีบริเวณลำคอ และลากไปส่งต่อให้กับหมีอีกตัวในกลุ่ม

ด้านผู้เชียวชาญเปิดเผยว่า พฤติกรรมดังกล่าวกำลังเพิ่มมากขึ้นและในอนาคตน่าจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่าสาเหตุมาจากการที่พื้นน้ำแข็งลดลง ส่งผลให้หมีขั้วโลกล่าแมวน้ำได้น้อยลง และส่งผลต่อพฤติกรรมเป็นเพชฌฆาตของมันลดลงด้วย

Mthai News

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:12:11


ความคิดเห็นที่ 4534 (1587766)

__________________
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman อ่านข้อความ
2011-12-09 09:43:06 - Volcano Activity - Myanmar (Burma)

 
!!! WARNING !!!
 
EDIS Code: VA-20111209-33336-MMR
Date&Time: 2011-12-09 09:43:06 [UTC]
Continent: Asia
Country: Myanmar (Burma)
State/Prov.: State of Rakhine,
Location: Kyaukphyu Mud-volcano, Ramree Island,
City:
 
Not confirmed information!
 
Description:
An earthquake in Rakhine State has caused underground water temperatures to rise, setting off volcano eruptions of mud and small amounts of lava. Retired geologist Soe Thein said volcanos in the Kyaukphyu Township area on Ramree Island were set off along a fault line. More volcano mud eruptions might occur, he said, but there is no danger or need for mass evacuations. “When there is earth crust movement in these fault lines, there will be underground water circulation and more water will move up to the surface as hot springs, but they are not like real volcanoes. They do not pose a danger to people,” Soe Thein said. The highest number of underground hot spring fault lines is in Kyaukphyu Township. The hot spring fault line runs through Magwe Region. A mud volcano erupted on November 26 on a small hill one mile west of Bawyabaya village, about 32 miles from Kyaukphyu. The eruption sent magma and lava 15-feet into the air, and about 5 acres of nearby land was covered by magma.

By evening, the eruptions had subsided, said local residents. Past eruptions in the area occurred in 1990 and 2000. On November 21, an earthquake occurred with an epicenter 32 kilometres northeast of Homlin in Sagaing Region measuring 5.9 on the Richter scale, Soe Thein said. It probably triggered the mud eruptions, he said. “The underground hot water in the fault line was pushed up to the surface and the eruptions took place,” he said. Two mud volcanoes in Sai Chong village east of Kyaukphyu erupted in January 2008. Lava and magma shot up to 300-feet high and a small amount of lava covered about 200 feet in the nearby area, the New Light of Myanmar reported on January 8. A similar volcano mud eruption took place near Sai Chong village in 2006, and an eruption in 1996 damaged more than 40 acres of farmland in the same area
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:13:41


ความคิดเห็นที่ 4535 (1587768)

ภาพแผนที่แสดงศักยภาพการเกิดน้ำท่วมโดย NASA (24 ชั่วโมง) ภาคใต้ระวังด้วย.


__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:14:48


ความคิดเห็นที่ 4536 (1587769)

ไฟไหม้โรงพยาบาลในอินเดียสังเวยกว่า 70 ชีวิต

คาดส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2554 17:07 น.



เอเอฟพี - เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองกัลกัตตา ทางตะวันออกของอินเดีย วันนี้ (9) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 70 ราย โดยเชื่อว่าเหยื่อหลายรายอาจเป็นผู้ป่วยที่สำลักควันไฟ

เหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลเอกชน สูง 5 ชั้น ครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 3.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 4.30 น.ตามเวลาของไทย ขณะที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จากทั้งหมดราว 160 คนกำลังหลับไหล

เอส. อุปัฐเย รองประธานอาวุโสของโรงพยาบาลเอเอ็มอาร์ไอแห่งนี้ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 70 ราย และสามารถช่วยเหลือออกมาได้ราว 90 คน

เหยื่อส่วนใหญ่น่าจะเป็นผู้ป่วย ที่ติดอยู่ภายในอาคาร เนื่องจากควัน และเปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็วไปตามวอร์ดต่างๆ บนชั้นที่สูงขึ้นไป โดยกว่าจะควบคุมเพลิงส่วนใหญ่ได้นั้น เวลาก็ล่วงเลยไปถึงเวลา 9.00 น.

นี่ถือเป็นเหตุไฟไหม้ครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงชี้ว่า ต้นเพลิงมาจากชั้นใต้ดิน

ด้าน มามะตา บาเนอร์จี มุขมนตรีรัฐเบงกอลตะวันตกรับปากว่าจะดำเนินการสอบสวนสาเหตุอย่างเต็มที่ โดยได้สั่งยกเลิกใบอนุญาตของโรงพยาบาลให้มีผลในทันที และสัญญาจะใช้มาตรการขั้นรุนแรง หากพบว่าการป้องกันอัคคีภัยต่ำกว่ามาตรฐาน

นักผจญเพลิงทำงานอย่างยากลำบากในการขนย้ายผู้ป่วย และพนักงานของโรงพยาบาลที่ยังติดอยู่ภายในซึ่งมีควันไฟลอยโขมง ขณะที่ผู้ป่วยซึ่งเดินไม่ได้ก็ต้องอพยพออกจากอาคารด้วยรอก และเชือก ส่วนรถดับเพลิงก็เข้าถึงที่เกิดเหตุด้วยความลำบาก เนื่องจากถนนแคบ และคดเคี้ยว




__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:16:24


ความคิดเห็นที่ 4537 (1587770)

ระทึก!! เกิดกลุ่มควันในห้องนักบินคาเธ่ย์ฯ สั่งอพยพผู้โดยสารกว่า

300 คน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2554 14:27 น.


เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นที่ท่าอากาศยานนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 747 ของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก เกิดมีกลุ่มควันเกิดขึ้นภายในห้องนักบิน ก่อนที่นักบินจะนำเครื่องบินทะยานขึ้น เพื่อมุ่งหน้าไปยังฮ่องกง ทันทีที่พบว่า มีกลุ่มควันนักบินได้ตัดสินใจล้มเลิกแผนการขึ้นบิน พร้อมทั้งสั่งอพยพผู้โดยสารจำนวน 351 คน และลูกเรือ 19 คน ออกจากเครื่องบินทันที เหตุระทึกขวัญครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาล 3 คน ขณะที่สายการบินเร่งสอบหาสาเหตุของเหตุขัดข้องครั้งนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:17:18


ความคิดเห็นที่ 4538 (1587771)

พบโลมาเกยตื้นตาย!! ริมหาดพัทยา คาดถูกใบพัดเรือประมง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2554 15:20 น.  ซากโลมาเพศผู้ ความยาวประมาณ 2 เมตร ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นริมชายหาดพัทยากลาง บริเวณถนนเลียบชายหาดในตัวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่กองอนามัยเมืองพัทยา และมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เดินทางเข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งจากนักท่องเที่ยวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบรอยแผลที่เกิดจากของมีคม บริเวณส่วนหัว เบื้องต้นคาดว่า อาจเกิดจากใบพัดเรือ หรือติดอวนเรือประมง และล่าสุด ได้ส่งซากโลมาไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:18:19


ความคิดเห็นที่ 4539 (1587773)

 

หิมะตกหนักในปักกิ่ง เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากมายเป็นถนนฟรีเวย์
 


 

 

 

 

 

 

Sudden snow unleashes deadly chaos on freeway

Updated: 2011-12-09 07:16

By An Baijie (China Daily)

BEIJING - More than 50 cars were involved in a series of accidents caused by a sudden heavy snowfall on a freeway in East China"s Shandong province on Thursday, leaving two people dead, local authorities said.

Eleven people were injured in the accidents, at least three of them seriously. All of the seriously injured people in the accidents were taken to the local hospital for treatment, said Pan Yuan, a publicity officer of the Weifang fire department, which took part in the rescue. Six of the injured chose not to go to the hospital.


"It"s the most serious freeway accident I"ve ever seen," Pan told China Daily on Thursday afternoon.
Dozens of vehicles were involved in the accidents, which occurred on a 112-kilometer stretch of the freeway near Weifang. A truck hit a bus on the Weifang section of the Jinan-Qingdao Expressway.
The snow began falling at 11 am, making the road slippery, Jinan-based Dazhong Daily reported on its website.
The Shandong provincial department of public security told the media that two people had been killed, but no details were released. Police officers and officials from local health departments also joined the rescue.
Several cars slid off the road into ditches along the freeway and got trapped in the snow, photos on the Dazhong Daily website show.
The Weifang fire department dispatched 16 rescuers and two vehicles to the scene and the rescue work continued until late in the afternoon, Pan said.
The accidents caused a traffic jam more than 4 km long, Pan added.
The traffic police have closed nearly 20 entrances to the freeway to prevent more accidents on the slippery road, according to a notice on the Shandong Hi-speed Group"s website at 5:30 pm on Thursday.
The Jinan-Qingdao Expressway, built in 1993, has two lanes in both directions. Because of the sometimes heavy traffic, the Shandong provincial department of transport has planned to expand the road to four lanes in both directions by the end of 2015, according to a report by the Jinan-based Qilu Evening News in December 2010.
Zhao Ruixue in Jinan contributed to this story.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:22:01


ความคิดเห็นที่ 4540 (1587776)

คลื่นลมอ่าวไทยรุนแรงส่งผลแนวสกัดพังหลายจุด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2554 12:14 น.


สถานการณ์ที่คลื่นลมในอ่าวไทยทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวสกัดคลื่นใต้ทะเลใน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งห่างจากชายฝั่งประมาณ 30-50 เมตร พังเสียหายแล้วหลายจุด ซึ่งจุดสกัดคลื่นดังกล่าวได้ก่อสร้างตามแบบมาตรฐานสากล โดยใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ผสมคอนกรีตเททับโครงคอนกรีต เพื่อเพิ่มความแข็งแรง แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานความรุนแรงของคลื่นที่เกิดขึ้นได้ บางจุดพังทลายลงจนเหลือแต่โครงคอนกรีต

ส่วนใน อ.ปากพะยูน กำแพงปูนและกำแพงยิปซัมผสมคอนกรีต ซึ่งเป็นแนวกั้นคลื่นถนนเลียบชายหาด ได้ถูกคลื่นซัดพังเสียหายหลายช่วงเช่นกัน และจะขยายพื้นที่เสียหายเพิ่มเติมอีก ถ้าหากว่าคลื่นลมยังรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านของเจ้าหน้าที่ศูนย์เฉพาะกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จ.ปัตตานี พร้อมกับทหารหน่วยบินอโนทัย ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งทะเล และเทือกเขา เพื่อนำข้อมูลมาประเมินสถานการณ์ เพื่อหาแนวทางป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากการบินสำรวจนั้นพบว่า ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ถนนเลียบชายฝั่ง อ.ยะหริ่ง ถูกคลื่นซัดพังเสียหายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เรือประมงจำนวนมากหันหัวเรือทยอยเดินทางกลับเข้าฝั่งมาลอยลำในอ่าวปัตตานี

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:30:41


ความคิดเห็นที่ 4541 (1587778)

สร้างความตื่นตะลึงไม่น้อย กับข้อมูลเตือนภัยพิบัติของ ศ.นพ.เทพนม เมืองแมน

ที่ระบุว่าภายในปี 2557 นี้ โลกจะเผชิญกับ การเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กโลกแบบกลับเหนือ - ใต้


http://board.palungjit.com/f178/สนามแม่เหล็กโลกใกล้วิปริต-317542.html#post5432506

เป็นที่ทราบกันมาเป็นเวลานานว่า ขั้วเหนือของแกนหมุนของโลกกับขั้วเหนือของสนามแม่เหล็กโลกไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน

ขั้วเหนือของแกนหมุน อยู่ที่ละติจูด 90 องศา บนแผ่นน้ำแข็งของมหาสมุทรอาร์กติก ส่วนขั้วเหนือแม่เหล็กโลก อยู่ในเขตของประเทศแคนาดา

เจมส์ รอสส์ สำรวจตำแหน่งของขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเป็นครั้งแรกในปี 1831 ในการสำรวจครั้งต่อมา ในปี 1904 โดย โรอาลด์ อามุนด์เซน พบว่า ตำแหน่งของขั้วเหนือเปลี่ยนไปจากเดิมราว 50 กิโลเมตร

จึงได้ทราบว่า ขั้วแม่เหล็กโลกมีการเปลี่ยนตำแหน่งด้วย




ในช่วงศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา ตำแหน่งขั้วเหนือก็ยังคงเคลื่อนที่เรื่อย ๆ ด้วยอัตรา 10 กิโลเมตรต่อปี แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เคลื่อนที่เร็วถึง 40 กิโลเมตรต่อปี

หากอัตราเคลื่อนที่ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ขั้วเหนือจะหลุดพ้นออกจากทวีปอเมริกาเหนือ และไปอยู่ที่ไซบีเรีย ภายในอีกไม่กี่สิบปีเท่านั้น

 
  แลร์รี นูวิตต์จากคณะสำรวจทางธรณีวิทยาของแคนาดา กล่าวว่า เดิมตนมีหน้าที่ไปสำรวจวัดตำแหน่งของขั้วเหนือหลายๆ ปีต่อครั้ง แต่ในช่วงหลัง จะต้องไปบ่อยขึ้น เนื่องจาก ขั้วแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่เร็วมาก

ไม่เพียงแต่ตำแหน่งของขั้วเปลี่ยนไปเท่านั้น ความเข้มของสนามแม่เหล็กโลกยังลดลงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมาอีกด้วย

หลังจากที่ข้อมูลนี้เผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ในที่ประชุมสหภาพธรณีฟิสิกส์อเมริกัน เรื่องถึงกับเป็นข่าวพาดหัวใหญ่ทันทีว่า สนามแม่เหล็กโลกกำลังหมดหรือ?

แกรี แกลตซ์มายเยอร์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ออกมายับยั้งกระแสว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับในอดีต

ในอดีตสนามแม่เหล็กโลก เคยมีการเปลี่ยนแปลง ขนานใหญ่กว่านี้มาก ถึงขนาด สนามแม่เหล็กสลับขั้วก็เคยเกิดมาแล้ว ขั้วเหนือกลายเป็นขั้วใต้ ขั้วใต้กลายเป็นขั้วเหนือ

หลักฐานของการเปลี่ยนแปลงนี้ ปรากฏชัดในหินโบราณ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เพียงครั้งเดียว แต่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และคาดการณ์ไม่ได้

ปรกติการสลับขั้วแม่เหล็กเกิดขึ้นทุก 300,000 ปีโดยเฉลี่ย ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นคือเมื่อ 780,000 ปีที่แล้ว

หรือว่า การเร่งความเร็วของขั้วแม่เหล็กโลกในช่วงหลังนี้ จะเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่สนามแม่เหล็กโลกจะสลับขั้วอีกครั้งแล้ว?

จากการศึกษาบันทึกแม่แหล็กในแผ่นหินพบว่า ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกมีการเพิ่มขึ้นและลดลงอยู่ตลอดเวลา และความจริงแล้ว สนามแม่เหล็กโลกในขณะนี้ มีความเข้ม มากกว่าความหนาแน่นเฉลี่ย ในช่วงหนึ่งล้านปีที่ผ่านมาถึงสองเท่า

ใจกลางโลก มีแกนชั้นในเป็นเหล็กแข็ง ที่มีอุณหภูมิสูง ใกล้เคียงกับพื้นผิวดวงอาทิตย์ ห่อหุ้มด้วยแกนชั้นนอก ที่เป็นเหล็กหลอมเหลว

แกนชั้นในหมุนรอบตัวเอง เช่นเดียวกับผิวโลก แต่เร็วกว่า ภายใต้แกนชั้นนอกที่ปั่นป่วน การเคลื่อนที่ของเหล็กหลอมเหลว ที่แกนโลกชั้นนอก ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำไฟฟ้าขึ้น สนามแม่เหล็กจึงเกิดขึ้น

ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ปรากฏการณ์ไดนาโม แกลตซ์มายเยอร์ และ พอล รอเบิตส์ ได้สร้างแบบจำลองของโครงสร้างภายในโลก ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์

โดยให้ความร้อน กับแกนชั้นใน และแกนชั้นนอก ปั่นป่วนเช่นเดียวกับของจริง หลังจากให้โปรแกรมวิ่งผ่านไป โดยจำลองให้เวลาผ่านไป เป็นเวลานับแสนปี พบว่า สนามแม่เหล็กของโลกจำลองนี้ มีการเพิ่มและลดลง

ขั้วแม่เหล็ก มีการเคลื่อนที่ และบางครั้ง ก็มีการสลับขั้ว ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดกับโลกจริง

นอกจากนี้ ยังพบว่า ช่วงที่สนามแม่เหล็กสลับขั้ว ใช้เวลานานหลายพันปี จึงจะเสร็จสิ้น



และสิ่งที่เหนือความคาดการณ์ของคนทั่วไปก็คือ ช่วงนี้สนามแม่เหล็กไม่ได้หายไป แต่มีความปั่นป่วนซับซ้อนมากขึ้น เส้นแรงแม่เหล็กบริเวณพื้นผิวโลก มีการบิดเบี้ยวและขมวดปม

ขั้วแม่เหล็กเกิดขึ้นใหม่ได้ทุกที่ ขั้วใต้อาจเกิดขึ้นที่แอฟริกา หรือขั้วเหนืออาจผุดขึ้นที่ตาฮีตี

แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใด สนามแม่เหล็กก็ยังคงมีเหมือนเดิม และยังคงปกป้องโลก จากรังสีอันตรายจากดวงอาทิตย์
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:33:45


ความคิดเห็นที่ 4542 (1587780)

.


ซึ่งจะทำให้เกิดพายุหมุน แผ่นดินไหว อุณหภูมิโลกเปลี่ยน และไทยยังต้องเผชิญกับหิมะตก โดยโลก เผชิญภาวะแม่เหล็กเปลี่ยนขั้วมาแล้ว 8 ครั้ง



เชื่อกันว่า การกลับขั้วของแม่เหล็กโลกนั้น เกิดขึ้นเมื่อการไหลเวียนของนิกเกิลเหลว (liquid nickel) และเหล็กเหลว (liquid iron) ในแกนกลางชั้นนอกของโลก กระจัดกระจาย จากนั้น ก็จัดเรียงตัวใหม่ ในทิศทางตรงกันข้าม







แต่ยังไม่มีใครทราบ ถึงสาเหตุของการกระจัดกระจายดังกล่าว หลักฐานการกลับขั้วพบได้ในสันเขากลางมหาสมุทร (mid-ocean ridges) ซึ่งแผ่นเปลือกโลกเทคโทนิค (tectonic plates) ได้แยกออกจากกัน

และที่ก้นมหาสมุทร ก็เต็มไปด้วยแมกมาซึ่งไหลซึม ออกมาจากเปลือกโลกชั้นใน (mantle) อนุภาคแม่เหล็กในของเหลวร้อนดังกล่าว ได้พลิกทิศทางของสนามแม่เหล็กโลกในเวลานั้น

ทั้งนี้ขั้วแม่เหล็กโลกกับขั้วโลก (Geographic pole) นั้น เป็นคนละขั้วและไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดียวกัน

จากข้อมูลของหน่วยงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งแคนาดา (Geological Survey of Canada) ระบุว่า ในช่วง 330 ล้านปีที่ผ่านมา มีการกลับขั้วของขั้วแม่เหล็กโลก มากกว่า 400 ครั้ง โดยเฉลี่ย 700,000 ปี จะเกิดขึ้นสักครั้ง

แต่ช่วงเวลา ระหว่างการกลับขั้ว ก็ไม่คงที่ บางครั้ง เกิดห่างกันน้อยกว่า 100,000 ปี และการคำนวณพบว่า ช่วงหลัง การกลับขั้ว เกิดขึ้นทุกๆ 200,000 ปี แต่การกลับขั้วครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อ 780,000 ปีที่แล้ว



ขณะเดียวกัน นายวรวุฒิ ตันติวนิช ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ข้อมูลว่า การเปลี่ยนแปลงขั้วแม่เหล็กเป็นเรื่องปกติ โดยพบมาหลายพันครั้งแล้ว ในอดีต

แต่ขั้วแม่เหล็กโลก ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานพอสมควร โดยครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นประมาณ 2 ล้านปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีมนุษย์คนแรก เกิดขึ้นแล้ว และการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น ก็ไม่ได้ทำให้มนุษย์สูญพันธุ์แต่อย่างใด



"นักวิทยาศาสตร์ จึงคาดกันว่า การเปลี่ยนแปลงขั้วแม่เหล็กโลก ไม่น่าจะทำให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงถึงมนุษย์ขั้นสูญพันธุ์ แต่ผลกระทบ อาจเกิดแก่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ต้องอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า


อาทิ การสื่อสารวิทยุ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ที่มีมอเตอร์และได้นาโม เป็นต้น รวมทั้งสุขภาพของคน


เนื่องจาก สนามแม่เหล็กโลก จะช่วยปกป้องสิ่งมีชีวิตจากรังสีนอกโลก หากมีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้พลังงานจากนอกโลก เข้ามาทำอันตรายสิ่งมีชีวิตได้" นายวรวุฒิกล่าว

พร้อมระบุว่า มีการศึกษาเรื่องการกลับขั้วแม่เหล็กโลกไม่มากนัก จึงยังไม่แน่ในว่า การเปลี่ยนแปลงขั้วแม่เหล็กโลกนั้น เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็พบว่า ขั้วแม่เหล็กโลก กำลังค่อยๆ เคลื่อนที่ออกจากแคนาดา

เมื่อปี 2374 นักวิทยาศาสตร์ของแคนาดา ได้เดินเรือสำรวจขั้วแม่เหล็กเหนือ (North Magenetic Pole) ของโลกเป็นครั้งแรก และคาดว่า มีตำแหน่งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรบูเธีย (Boothia Peninsula) ซึ่งอยู่ตอนเหนือสุดของแคนาดา จากนั้น ก็มีการสำรวจตำแหน่งของขั้วแม่เหล็กเหนือมาเรื่อยๆ และพบตำแหน่งที่ต่างกัน

โดยระหว่างศตวรรษที่ 20 นี้ ขั้วแม่เหล็กเหนือ ได้เปลี่ยนตำแหน่งไปราว 1,100 กิโลเมตรแล้ว ปัจจุบันพบว่า การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งขั้วแม่เหล็กโลก ได้เพิ่มขึ้นเป็น 41 กิโลเมตรต่อปี

หากการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง เกิดขึ้นด้วยความเร็วเท่าเดิม ในทิศทางเดิม ขั้วแม่เหล็กเหนือ จะไปอยู่บริเวณไซบีเรียในอีก 50 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า การเปลี่ยนแปลงของขั้วแม่เหล็กโลกนั้น จะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไรบ้าง ขณะที่การสำรวจตำแหน่งของแม่เหล็กโลก ก็ยังคงดำเนินต่อไป

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:36:40


ความคิดเห็นที่ 4543 (1587781)

เวป IRIS Seismic Monitor ที่สามารถดูข้อมูลแผ่นดินไหวจุดต่างๆในโลก

http://www.iris.edu/seismon/

"

แผ่นดินไหวภัยใกล้ตัว

ข้อมูลจาก "กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย " ระบุว่า "แผ่นดินไหว" นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ หรือพยากรณ์ระยะเวลาการเกิดสถานที่เกิด และระดับความแรงได้อย่างแม่นยำและแน่นอน

ต้นเหตุของแผ่นดินไหว เกิดจากการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลันของเปลือกโลก โดยมักเกิดตรงบริเวณ "ขอบ" ของแผ่นเปลือกโลก การเคลื่อนตัวในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจาก "ชั้นหินหลอมละลาย" ที่อยู่ภายใต้เปลือกโลก ได้รับพลังงานความร้อนจากแกนโลก และลอยตัวผลักดันเปลือกโลกตอนบนตลอดเวลา

ส่งผลให้เปลือกโลกแต่ละชิ้น มีการเคลื่อนที่ในทิศทางต่างๆ กัน พร้อมกับสะสมพลังงานไว้ภายใน บริเวณ "ขอบ"แผ่นเปลือกโลกจึงเป็นส่วนที่ชนกัน เสียดสีกัน หรือแยกจากกัน

หากบริเวณ "ขอบ" ของชิ้นเปลือกโลกใดๆ ผ่าน หรืออยู่ใกล้กับประเทศใด ประเทศนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยแผ่นดินไหวสูง เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์

นอกจากนี้ พลังงานที่สะสมในเปลือกโลก ยังถูกส่งผ่านไปยัง บริเวณรอยร้าวของหินใต้พื้นโลก หรือที่เรียกว่า "รอยเลื่อน" เมื่อระนาบรอยร้าว ที่ประกบกันอยู่ได้รับแรงอัดมากๆ จะทำให้รอยเลื่อน มีการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลัน เกิดเป็นแผ่นดินไหวได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมบาง อย่างของมนุษย์ ก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้เช่นกัน เช่น การทำเหมือง สร้างเขื่อน และขุดเจาะบ่อน้ำมัน

จากการบันทึกทางประวัติศาสตร์ พบว่า บนผืนแผ่นดินของเมืองไทย เคยเกิดแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ ปานกลาง และ เล็ก หลายครั้ง


มีบันทึกประวัติศาสตร์จารึกว่า ในปี พ.ศ.1558 เกิดแผ่น ดินไหวขนาดใหญ่เกิดขึ้น ทำให้บริเวณ "โยนกนคร" ยุบจมลงเกิดเป็นหนองน้ำใหญ่




จับตา13 รอยเลื่อนอันตราย

ประเทศไทยมีรอยเลื่อน 13 จุด ที่ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวได้ และยังมีรอยเลื่อนสะแกง ที่เป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่อยู่ทางฝั่งประเทศพม่า พาดผ่านทะเลอันดามัน ที่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 400 กม. ที่ต้องจับตามอง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ใด

สำหรับ 13 รอยเลื่อน ในประเทศไทยประกอบด้วย

1. "รอยเลื่อนแม่จันและแม่อิง" ครอบคลุม พื้นที่ จ.เชียงราย และเชียงใหม่

2. "รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน" ครอบคลุม จ.แม่ฮ่องสอน และตาก

3. "รอยเลื่อนเมย" ครอบคลุม จ.ตาก และกำแพงเพชร

4. "รอยเลื่อนแม่ทา" ครอบคลุม จ.เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย
5. "รอยเลื่อนเถิน" ครอบคลุม จ.ลำปาง และแพร่

6. "รอยเลื่อนพะเยา" ครอบคลุม จ. ลำปาง เชียงราย และพะเยา

7. "รอยเลื่อนปัว" ครอบคลุม จ.น่าน

8. "รอยเลื่อนอุตรดิตถ์" ครอบคลุม จ.อุตรดิตถ์

9. "รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์" ครอบคลุม จ.กาญจนบุรี และราชบุรี

10. "รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์" ครอบคลุม จ.กาญจนบุรี และอุทัยธานี

11. "รอยเลื่อนท่าแขก" ครอบคลุม จ.หนองคาย และนครพนม

12. "รอยเลื่อนระนอง" ครอบคลุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา
13. "รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย" ครอบคลุม จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา

สำรวจพื้นที่เสี่ยงธรณีพิโรธ

สำหรับประเทศไทย แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวส่วนใหญ่ จะตั้งอยู่ใกล้ๆ กับแนวในมหา สมุทรอินเดีย เกาะสุมาตรา และประเทศพม่า ส่วนแนวรอยเลื่อนต่างๆ ในประเทศ ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคเหนือ และ ภาคตะวันตก

และ จากการสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของไทย พบว่า มี 4 จังหวัดที่เสี่ยงภัยแผ่นดิน ไหวมากที่สุด ได้แก่...กาญจนบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน และเชียงราย โดยมี ความเสี่ยงประมาณ 7 - 8 เมอร์คัลลี (มาตราความรุนแรง) ซึ่งมีผลทำให้อาคารสูงเสียหายได้

ส่วนจังหวัดที่เสี่ยง รองลงมา ส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ทางภาคเหนือ และภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา น่าน ลำปาง รวมทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งมีความเสี่ยง ประมาณ 5 - 7 เมอร์คัลลี ซึ่งทำให้อาคารเสียหายเล็กน้อย

ส่วนพื้นที่ซึ่งปลอดภัยมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ



 



 

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-09 21:50:45


ความคิดเห็นที่ 4544 (1587807)

รู้สึกว่า ช่วงอาทิตย์นี้ต้องจับตาดู

เรื่องน้ำท่วมทางภาคใต้

ไว้ให้ดีเลยนะคะเนี่ย

 

 

อนุโมทนากับทุกๆข่าว

จากคุณ อาริยา คนขยันด้วยค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 07:04:16


ความคิดเห็นที่ 4545 (1587847)

 

 

 

นัก วิชาการชี้เร่งสืบรอยเลื่อนตอนใต้ กทม. ไหวหมื่นปีก่อนอาจมีพลัง ‘เจดีย์สามองค์’

เสี่ยงกระทบเมืองหลวง ด้าน ‘กรมทรัพยากรธรณี’ เตรียมสำรวจรอยเลื่อน 5 ปี ยันไม่ได้นิ่งเฉยรอให้เกิด ขณะที่ ‘สปภ.’ สนองนโยบาย กทม. จัดซ้อมภัยดินไหวตึกสูงตุลาคมนี้
เสี่ยงกระทบกรุง :แผนที่ภาคกลาง ซึ่งนักวิชาการและนักธรณีวิทยาต่างระบุว่ามีรอยเลื่อนที่พาดผ่านทางตอนใต้ ของ กทม. โดยมีรอยเลื่อนมีพลังที่ลากมาทางภาคตะวันตกและโดยรอบ(เส้นประสีแดง) 

 



- ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงรอยเลื่อนที่พาดผ่านตอนใต้ กทม. พร้อมกำชับทุกปีมีการไว้อาลัยผู้เสียชีวิตให้กำหนดเป็นวันซักซ้อมภัย

คาด 3 รอยเลื่อนกระทบ กทม.


เมื่อ ถามว่ารอยเลื่อนใดที่จะมีผลกระทบและเป็นอันตรายต่อ กทม. ดร.ปัญญา กล่าวว่า จากที่เราศึกษามาพบว่า ทั้งรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ รอยเลื่อนแม่ปิง รอยเลื่อนแม่จัน เคยเกิดแผ่นดินไหวที่ประมาณ 7 ริคเตอร์ในอดีตเมื่อประมาณ 1,000 -2,000 ปีมาแล้ว ในความรุนแรงขนาดนี้ อาจจะไม่รุนแรงมาก แต่ก็ควรให้นักวิศวกรรมออกแบบอาคารที่รับแรงแผ่นดินไหวให้ได้เท่ากับ 7 ริคเตอร์หรือมากกว่า ส่วนอาคารเก่าอาจเป็นเรื่องยากที่จะทำให้มันรับแรงได้ ในส่วนนี้ถ้าเราจะสร้างอาคารที่รับแรงได้ ต้องเพิ่มงบประมาณ การสร้างอย่างน้อยร้อยละ 10 ให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้

รัฐต้องเร่งสืบยันให้ได้ว่าไม่มีพลัง
หัว หน้าภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาฯ ระบุว่า "จุดใต้กทม. รู้มั้ยว่ามีพลังแน่นอนไม่มีใครรู้เลย แต่รู้มั้ยว่ามีรอยเลื่อนรู้ และต้องทำการศึกษาอย่างน้อย 2 - 3 ปี งบประมาณที่ 20 ล้านน่าจะอยู่ เพราะมันอยู่ลึกเกินไปแล้วมันไม่รู้ว่าผ่านตรงจุดไหนบ้าง จากการสำรวจโดยฟิสิกส์ทางอากาศบ่งบอกว่ามันมีรอยเลื่อนอยู่ข้างใต้ยาวไปถึง โซนใหญ่"
“ภัยธรรมชาติที่เกิดใต้พิภพไม่ว่าอะไรไม่มีทางแก้ไขได้ และไม่มีประเทศไหนรับมือได้ รัฐบาลจะต้องเร่งสืบข้อเท็จจริง เพื่อกับประชาชนว่าจริงๆแล้วรอยเลื่อนที่อยู่ใต้กทม.ไม่มีพลัง” ดร.ปัญญา กล่าว
คนกรุงเข้าใจผิดไม่ใช่ดินไหวในกทม.
ดร.ปัญญา กล่าวในส่วนความรู้ของคนกทม.ที่มีต่อแผ่นดินไหว ว่า ส่วนใหญ่นั้นเข้าใจผิดที่ว่า แผ่นดินไหวใน กทม. นั้นที่จริงไม่ใช่ต้องบอกว่าแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ในกทม. หมายความว่าจุดเกิดแผ่นดินไหวนั้นไม่ใช่เกิดที่ กทม. แต่เป็นจุดที่อาจจะมาจาก จ.กาญจนบุรี หรืออาจมาจากบริเวณจังหวัดใกล้เคียง กทม.
“เราต้องมีการซ้อมหนีไฟทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทุกปีเราก็มีการไว้อาลัยกับผู้ที่เสียชีวิตอยู่แล้ว ทำไมไม่เป็นวันซักซ้อมเสียเล่า การเกิดคลื่นแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซียในระดับ9 ริคเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา ทำให้เกิดสึนามินั้น เพราะว่า มันเกิดในทะเลเราไม่สามารถศึกษาหรือมองจากอากาศก็ไม่ได้ แต่นี่มันเกิดบนบกเราก็สามารถศึกษามันได้” หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาฯ ระบุ
กรมทรัพยากรธรณีเผยรอยเลื่อนใกล้กรุง

ด้าน ดร.สุวิทย์ โคสุวรรณ นักธรณีวิทยา ระดับ 8 กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ผ่าน “ดุสิตโพสต์”เกี่ยวกับรอยเลื่อน ที่อยู่ใกล้ กทม. ว่า ขณะนี้ได้สำรวจแล้วพบว่ามีรอยเลื่อนที่อยู่ใกล้กทม. ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง ได้แก่รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี รอยเลื่อนท่าจีน และรอยเลื่อนนครนายก เป็นรอยเลื่อนกลุ่มเดียวกับรอยเลื่อนองครักษ์ ซึ่งยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าจะส่งผลทำให้ กทม. เกิดแผ่นดินไหว ทั้งนี้ ถ้าเกิดแผนดินไหวขึ้นที่ประเทศพม่า ผลกระทบของแผ่นดินไหว ในรูปแบบของคลื่นแผ่นดินไหวนั้น อาจทำให้กทม.รู้สึก ถึงแรงสั่นสะเทือนตามไปด้วย แต่ด้วยระยะทางห่างจากจุดศูนย์กลางที่ประเทศพม่า เป็นระยะ 400 กิโลเมตรนั้น ผลกระทบก็จะลดลงตามลำดับ

ใช้เวลาสำรวจ 5 ปีรอยเลื่อนอันตรายต่อกรุง
ดร.สุ วิทย์ กล่าวอีกว่า ในตอนนี้ทางกรมทรัพยกรธรณี ได้มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแผ่นดินไหว โดยมีการดำเนินโครงการระยะยาว 5 ปี เพื่อทำการสำรวจและพิสูจน์ทราบถึงรอยเลื่อนที่จะเป็นอันตรายต่อ กทม. ซึ่งในขณะนี้เรามีพื้นที่ปฏิบัติการอยู่ทางด้านฝั่งตะวันตกของประเทศ จังหวัดกาญจนบุรี วัตถุประสงค์เพื่อเฝ้าระวังการเกิดแผ่นดินไหวที่จะส่งผลต่อ กทม.
มั่นใจไม่กระทบต่อเขตพระราชฐาน
ต่อ ข้อถามว่าในเขตดุสิตที่เป็นเขตพระราชฐานจะมีผลกระทบหรือไม่จากการสั่นไหว ดร.สุวิทย์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกิด เรื่องของคลื่นแผ่นดินไหวที่มาใน กทม. แล้วมีผลกระทบจะต้องเป็นตึกที่มีความสูง 20 ชั้น ถึง 30 ชั้น ดังนั้นตึกที่มีความสูงต่ำกว่านี้จะไม่ได้รับผลกระทบ ตึกที่มีผลกระทบต่อภัยแผ่นดินไหวก็ต่อเมื่อคลื่นแผ่นดินไหวนั้นมาคู่กันพอดี ถ้าคลื่นมาไม่เท่าความถี่ของธรรมชาติ ตึกจะไม่ได้รับความเสียหาย



สำรวจ 5 ปี : ดร.สุ วิทย์ โคสุวรรณ นักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี ย้ำไม่ได้นิ่งเฉยรอให้เกิดแผ่นดินไหว พร้อมระบุกรมทรัพยากรธรณีเตรียมสำรวจรอยเลื่อนใต้ กทม. 5 ปี

ย้ำไม่ได้นิ่งเฉยรอเกิดแผ่นดินไหว

“ตอน นี้ทางกรมกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ได้หยุดนิ่งหรือ รอให้เกิดแผ่นดินไหว เราได้ตั้งจุดสังเกตการณ์ ในประเทศไทยเราเจออย่างมากที่สุดก็ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยความสั่นสะเทือนวัดได้ 5.9 ริคเตอร์ ในส่วนของกรุงเทพฯ ถึงแม้ยังไม่เคยมีรายงานเรื่องแผ่นดินไหว แต่ในจุดนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่ากรุงเทพฯจะปลอดภัยจากการเกิดแผ่นดินไหวหรือ ไม่ เราจำเป็นที่จะต้องศึกษารอยเลื่อนมีพลังทั้ง 3 รอยเลื่อนนี้ต่อไป” ดร.สุวิทย์ กล่าว

ผังเมืองเก็บข้อมูลวางแผนฟื้นฟู กทม.
นอก จากนี้ แหล่งข่าวจาก สำนักงานผังเมือง กรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ผ่าน “ดุสิตโพสต์” ในส่วนของนโยบายผังเมืองหลังเกิดแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ใน กทม. ว่า ส่วนเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นระหว่างช่วง ก็จะเก็บข้อมูลมาศึกษา เพื่อจะรองรับเรื่องที่เกิด ทั้งนี้ จะมีแผนปรับปรุงฟื้นฟูเมือง ทั้งนี้ ในกรณีถ้าเกิดภัยพิบัติทาง กทม. ก็จะต้องมอบอำนาจให้เข้าไปปรับปรุงฟื้นฟูตรงเขตที่เกิดภัยพิบัติด้วย ส่วนใหญ่ภัยพิบัติถ้ามันเกิดแล้วเราจึงเข้าไปดำเนินการได้ โดยเราอาจจะวางผังว่าไม่ให้เขตที่เกิดภัยพิบัตินั้นเป็นเขตที่อยู่อาศัย
อาจารย์ภูมิศาสตร์เผยเคยรู้สึกไหวใน มสด.

ด้าน อาจารย์รายหนึ่ง ประจำกลุ่มวิชาภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ให้สัมภาษณ์ผ่าน “ดุสิตโพสต์” ถึงรอยเลื่อนที่อาจกระทบในส่วนพื้นที่ กทม. ว่า ภาคกลางไม่ใช่หินแข็ง ทั้งนี้ กทม. อดีตเคยเป็นทะเลมาก่อน การที่มันเป็นพื้นดินเกิดจากแม่น้ำหลายสาย ได้แก่ท่าจีน ป่าสัก เจ้าพระยา ซึ่งไหลลงอ่าวไทยแล้วก็พาตะกอนมาทับถม ตะกอนที่ทับสูงขึ้นจะกว่าระดับน้ำทะเลไม่เกินเมตรด้วยซ้ำในปัจจุบัน เพราะฉะนั้น กทม. ถึงน้ำท่วม

เมื่อถามว่า มสด.เคยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในอดีตหรือไม่ อาจารย์รายเดิม กล่าวว่าทางมหาวิทยาลัยมีอยู่ครั้งนานมาแล้วเกือบ 30 ปี ตนเคยสอนอยู่ที่ห้อง 336 ซึ่งในปัจจุบันนั้นคือห้องคณะวิทยาการจัดการ นกบินขึ้นพร้อมกันเกือบร้อยตัว หลังจากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวแต่ก็เล็กน้อยมาก เพียงครั้งเดียวที่ มสด.รู้สึกถึงผลกระทบจากการสั่นไหว

สปภ.เตรียมซักซ้อมภัยดินไหวตุลานี้
นาย ธนิก ยูถะสุนทร์ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ให้สัมภาษณ์ผ่าน “ดุสิตโพสต์” ในส่วนการเตรียมการรับมือและซักซ้อมภัยที่อาจเกิดภัยจากแผ่นดินไหวใน กทม. ว่า ขั้นแรกจะพิมพ์เอกสารแจกจ่ายให้กับภาคประชาชนทั่วกทม.1แสนฉบับและพยายาม ประสานกับกรมทรัพยากรธรณี กรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งทางหน่วยงานเหล่านี้จะรับแจ้งว่าเกิดแผ่นดินไหวที่ไหนบ้าง
รองผู้ อำนวยการ สปภ. กล่าวถึงเวลาซักซ้อมภัยแผ่นดินไหว ว่า เดือนตุลาคมนี้จะมีการซักซ้อมที่กทม. แต่เราต้องมีการประชุมโดยคณะกรรมการเพื่อให้คณะกรรมการตัดสินใจว่าจะกำหนด วันเวลาใดในการซักซ้อม โดยมี ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธาน ซึ่งจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เขต อาสาสมัคร หน่วยแพทย์ รวมทั้งหน่วยรักษาความมั่นคงทางทหาร
ซ้อมวันเดียวไม่เกินชั่วโมง

“ใน การซ้อมที่จะถึงเราก็ต้องบันทึกภาพนำไปให้กรรมการซ้อมใหญ่นำไปพิจารณาถึงข้อ บกพร่องว่ามันมีอะไรบ้างต้องเพิ่มเติมอะไรบ้าง เราก็เชิญสื่อมวลชนเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาด้วย และการซักซ้อมต้องมีความกระชับและเป็นขั้นเป็นตอน โดยใช้เวลาแค่วันเดียวระยะเวลาประมาณไม่เกิน1 ชั่วโมงเราต้องดูสถานการณ์ว่าเกิดความรุนแรงมาก” นายธนิก กล่าว

หวั่น ‘ศรีสวัสดิ์’แรง 8.5 ริคเตอร์ทำตึกถล่ม
รอง ผู้อำนวยการ สปภ. กล่าวอีกว่า รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์เป็นรอยเลื่อนที่เรากลัวมากที่สุด หากมีความรุนแรง 8.5 ริคเตอร์ อาจจะส่งผลมายังกทม.ทำให้ตึกมันถล่มได้ ทั้งนี้ แผ่นดินไหวไม่มีใครคาดการณ์ได้เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ จะเข้าไปดำเนินการ นั่นคือความพร้อมของ สปภ.เป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งต้องการที่จะทำให้เกิดความเคยชิน

“เราจะกำหนดโซนทั้งหมดสามโซน hot zone คือเหตุที่เกิดรุนแรงคือโซนที่เกิดอันตรายเป็นโซนที่เราไม่สามารถเข้าไปได้ เลย ส่วนต่อมา cold zone เป็นพื้นที่ที่เป็นหน่วยสนับสนุนคือหน่วยแพทย์ หน่วยของอาสาสมัครซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ต่อไปคือส่วนwarm zoneจะอยู่ชั้นนอกสุด ประชาชนดูได้แต่ต้องอยู่ไกลจริงตัวนี้เป็นหลักสากลที่ต่างประเทศเขาทำกัน เราจะทำให้รู้ว่าพอเกิดเหตุจริงประชาชนจะไม่มีสิทธิเข้าไปได้เลยไม่นั้นมัน ก็จะวุ่นวาย เหตุการณ์ก็จะมีคนที่อาศัยเหตุการณ์ในช่วงนี้เข้าไปลักทรัพย์บ้าง” นายธนิก กล่าว



เตรียมซ้อมภัย : นายธนิก ยูถะสุนทร์ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับนโยบายจาก กทม. เพื่อเตรียมซ้อมภัยครั้งใหญ่ในส่วนของอาคารสูงในพื้นที่ กทม.ที่อาจเกิดผลกระทบจากภัยแผ่นดินไหวในเดือนตุลาคมนี้
 

หวั่นมีพลัง : ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาฯ ชี้จุดรอยเลื่อนลากยาวจากทิศตะวันตกของประเทศมายังตอนใต้ กทม. หากเคยเกิดแผ่นดินไหวเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนอาจมีพลังได้ (ภาพข่าวหน้า 1จาก "ดุสิตโพสต์")
-----------------------------------------------------
วราพงษ์ เพ็งรัศมี , phanasGook - รายงาน
ดุสิตโพสต์ ปีที่ 20 ฉบับที่ 67 ประจำเดือนตุลาคม พุทธศักราช 2550

-----------------------------------------------------
 

 

ขอขอบพระคุณ คุณzz  จากเว๊ปพลังจิต ค่ะ สำหรับข้อมูลและรายละเอียดที่เป็นประโยชน์มากๆ ค่ะ


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 18:49:11


ความคิดเห็นที่ 4546 (1587848)

แผ่นดินไหว 4.5 ริกเตอร์ ที่ ยูนาน ประเทศจีน ติดชายแดนพม่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 18:57:31


ความคิดเห็นที่ 4547 (1587849)

แผ่นดินไหว 2.9 ริกเตอร์

ที่ อลาสก้า ลึก 0 กม.



ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 18:58:04


ความคิดเห็นที่ 4548 (1587850)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:03:49


ความคิดเห็นที่ 4549 (1587851)

วัน-เวลา *ประเทศไทย ขนาด Latitude Longitude Phase บริเวณที่เกิด
2554-12-10 08:02:20 4.5 24.89 97.81 11 ยูนาน, ประเทศจีน
2554-12-10 06:11:40 4.6 24.97 96.99 10 รัฐกะฉิ่น ประเทศพม่า
2554-12-09 17:01:53 2.0 17.14 98.67 9 ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก
2554-12-08 12:38:22 1.8 17.47 98.23 8 ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
2554-12-08 10:34:03 2.1 19.57 99.12 11 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
2554-12-08 08:38:50 3.3 20.48 98.82 20 ประเทศพม่า
2554-12-08 08:29:41 3.4 20.46 100.11 10 ประเทศพม่า
2554-12-08 08:08:02 2.8 20.55 100.23 12 ประเทศลาว

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:04:14


ความคิดเห็นที่ 4550 (1587852)

ภาวะโลกร้อน อิตาลีมีหิมะน้อยกว่าทุกปี

ในช่วงเวลานี้ของทุกปี จะได้เห็นภาพนักเล่นสกีมารวมตัวกันคึกคักบนเทือกเขาแอลป์
ของอิตาลี และสร้างเม็ดเงินให้ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวเป็นกอบเป็นกำ แต่ปีนี้
ภาวะโลกร้อนทำให้อิตาลีมีหิมะน้อยกว่าทุกปี

ผู้ประกอบการเกี่ยวกับกีฬาสกี กำลังวิตกกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปที่ทำลังเลว
ร้ายลง แต่ที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้นคือสภาพภูมิอากาศ เพราะปีนี้ไม่มีหิมะพอที่จะเรียก
ลูกค้าได้ ส่วนหิมะเทียมที่พวกเขาสร้างขึ้นก็ละลายเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเป็นผลจาก
อุณหภูมิที่สูงขึ้นบนเทือกเขาแอลป์

ฤดูหนาวปีนี้ ทั่วภูมิภาคคงเห็นเทือกเขาที่ปกติจะขาวโพลน กลายเป็นสีน้ำตาลหรือเขียว
และยังไม่มีพื้นที่ลาดเอียงเพียงพอสำหรับนักเล่นสกีด้วย

กรมอุตุนิยมวิทยาของอิตาลีบอกว่า ช่วงนี้เป็นรอยต่อระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
ที่ร้อนที่สุด นับตั้งแต่ปี 2296 โดยมีอุณหภูมิสูงกว่าระดับเฉลี่ย 2 องศาเซลเซียส

วิทโทริโอ ซาลุสโซ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการทำหิมะเทียม อธิบายว่า เวลาที่ผลิตหิมะเทียม
ต้องดูอุณหภูมิให้อยู่ที่ระดับ -2 ถึง -3 องศาเซลเซียส โดยมีความชื้นต่ำกว่า 50% ส่วนช่วง
เวลาที่ดีที่สุด คือเมื่ออุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -5 ถึง -6 องศาเซลเซียส

นอกจากผู้ประกอบการธุรกิจสกี และสกีรีสอร์ทจะได้รับผลกระทบแล้ว บรรดานักสกีเอง
ก็ลำบากด้วยเช่นกัน เพราะช่วงนี้ สถานีสกีที่อยู่บนยอดบนสุดเท่านั้นที่เปิดให้นักสกีเข้า
ไปเล่นได้

ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของอิตาลี อย่างสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และออสเตรียก็ต้องเจอ
กับความร้อนผิดฤดูด้วยเช่นกัน องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ใน
กรุงเจนีวา คาดการณ์ว่า 1 ใน 3 ปีข้างหน้า สวิตเซอร์แลนด์อาจจะต้องประสบกับภาวะ
แห้งแล้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ก็เป็นได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:09:08


ความคิดเห็นที่ 4551 (1587853)

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:11:03


ความคิดเห็นที่ 4552 (1587854)

.
วัน-เวลา *ประเทศไทย ขนาด Latitude Longitude Phase บริเวณที่เกิด
 
2554-12-10 13:12:05 2.8 18.32 99.68 10 อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
 
2554-12-10 08:02:20 4.5 24.89 97.81 11 ยูนาน, ประเทศจีน
 
2554-12-10 06:11:40 4.6 24.97 96.99 10 รัฐกะฉิ่น ประเทศพม่า
 
2554-12-09 17:01:53 2.0 17.14 98.67 9 ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก
 
2554-12-08 12:38:22 1.8 17.47 98.23 8 ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
 
2554-12-08 10:34:03 2.1 19.57 99.12 11 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
 
2554-12-08 08:38:50 3.3 20.48 98.82 20 ประเทศพม่า
 
2554-12-08 08:29:41 3.4 20.46 100.11 10 ประเทศพม่า
 
2554-12-08 08:08:02 2.8 20.55 100.23 12 ประเทศลาว
วัน-เวลา *ประเทศไทย ขนาด Latitude Longitude Phase บริเวณที่เกิด
 
2554-12-10 13:12:05 2.8 18.32 99.68 10 อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
 
2554-12-10 08:02:20 4.5 24.89 97.81 11 ยูนาน, ประเทศจีน
 
2554-12-10 06:11:40 4.6 24.97 96.99 10 รัฐกะฉิ่น ประเทศพม่า
 
2554-12-09 17:01:53 2.0 17.14 98.67 9 ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก
 
2554-12-08 12:38:22 1.8 17.47 98.23 8 ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
 
2554-12-08 10:34:03 2.1 19.57 99.12 11 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
 
2554-12-08 08:38:50 3.3 20.48 98.82 20 ประเทศพม่า
 
2554-12-08 08:29:41 3.4 20.46 100.11 10 ประเทศพม่า
 
2554-12-08 08:08:02 2.8 20.55 100.23 12 ประเทศลาว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:12:00


ความคิดเห็นที่ 4553 (1587857)

คร.เตือนผู้เป็นภูมิแพ้ระวังรับเชื้อราเข้าสู่ปอด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2554 15:01 น.


ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต

คร.เตือนระวังเชื้อรา ผู้เป็นภูมิแพ้หากสัมผัสอาจเกิดอันตรายได้ ขณะคนกินยากดภูมิ มีประวัติเป็นวัณโรคอาจเสี่ยงรับเชื้อราเข้าสู่ปอดเพิ่ม แนะวิธีทำความสะอาดอย่างถูกต้อง

วันนี้ (9 ธ.ค.) นพ. รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมควบคุมโรคมีความเป็นห่วงเรื่องเชื้อราที่มากับน้ำท่วม ซึ่งมักพบตามอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน โรงเรียน สำนักงาน และสถานที่ต่างๆ โดยการสำรวจเบื้องต้นของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า เชื้อราส่วนใหญ่ไม่ได้ก่อโรคในคน แต่เป็นเชื้อที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดเพราะความชื้นจากน้ำท่วม ซึ่งหากมีสุขภาพแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดีแล้วจะไม่มีปัญหาสุขภาพ แต่สำหรับกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น แพ้ละอองเกสร ก็อาจแพ้เชื้อราด้วย หากสูดหายใจเอาละออง (สปอร์) ของเชื้อราเข้าไป โดยอาจเกิดอาการโพรงจมูกอักเสบ ระคายเคืองนัยน์ตา หอบหืด หรือปอดอักเสบ จากการแพ้เป็นต้น

“นอกจากนี้ ในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ที่ใช้ยากดภูมิกัน ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรับเคมี บำบัดผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่เคยเป็นวัณโรค หรือโรคปอดเรื้อรัง รวมทั้งผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ หรือผู้สูงอายุ อาจติดเชื้อราในปอด ซึ่งบางรายมีอาการรุนแรงได้ แต่ปัญหาเชื้อราเหล่านี้จะเกิดมากหรือน้อย ขึ้นกับโอกาสและการสัมผัสกับเชื้อรา ดังนั้น จึงต้องทำความสะอาด ทุกอาคารบ้านเรือน อย่างดี รวมทั้งสวมเสื้อผ้ามิดชิดด้วย” นพ.รุ่งเรือง กล่าว

โฆษกรมคบคุมโรค กล่าวต่อว่า สำหรับข้อแนะนำการทำความสะอาดเชื้อราอย่างถูกวิธีนั้น เน้นการเช็ดเชื้อราออกให้หมดแล้วปล่อยให้พื้นแห้ง จึงต้องเปิดประตูระบายอากาศให้มากที่สุด สิ่งที่ กรมฯกังวล คือ เชื้อราจะเจริญเติบโตในความชื้น เช่น ห้องน้ำ อาจจำเป็นต้องล้างด้วยสารฆ่าเชื้อ เช่น น้ำยาซักผ้าขาว หรือผงซักฟอกด้วยการผสมผงซักฟอก 1 ส่วนผสมกับน้ำ 10 ส่วน แต่ผู้ใช้ต้องสวมถุงมือยางป้องกันด้วย เพราะอาจเกิดการระคายเคือง กรณีเสื้อผ้าที่จมน้ำ ควรซักให้สะอาด แล้วลวกน้ำร้อน ภาชนะที่ใส่อาหารควรล้างใหม่ให้หมด และหลังจากล้างเสร็จแล้วให้ตากแดดอุปกรณ์จำเครื่องครัว และภาชนะบรรจุให้แห้งแล้วค่อยเช็ดให้สะอาดก่อนเก็บจัดวางตามชั้นวางของต่างๆ กรณีเป็นวัสดุที่มีรูพรุน ยากต่อการทำความสะอาด บางครั้งหากไม่หนักหนา หรือราคาสูงมากแนะนำให้ทิ้งทันที

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:34:27


ความคิดเห็นที่ 4554 (1587858)

ค้นพบดาวเคราะห์มากเป็นโขยงเจอรวดเดียวอีกรวมถึง 18 ดวง

วันที่ 10/12/2554 08:00 (ผ่านมา 1 ชั่วโมง 28 นาที)





นักดาราศาสตร์ค้นพบดาว เคราะห์กันมากขึ้น อย่างเช่น ทีมนักดาราศาสตร์ของสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย เพิ่งพบมาสดๆ ร้อนๆ รวดเดียวรวมกันถึง 18 ดวง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์จอห์น จอห์นสัน ของสถาบันกล่าวแจ้งว่า “ถือเป็นประกาศการค้นพบดาวเคราะห์ที่เป็นบริวารดวงอาทิตย์ซึ่งมีปริมาณมวลใหญ่ โตมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราจำนวนมากที่สุด”

วารสาร “ฟิสิกส์ดาราศาสตร์” รายงานเรื่องนี้แจ้งว่า ก่อนหน้านี้เคยมีแต่กล้องโทรทรรศน์อวกาศ “เคปเลอร์” เคยรายงานว่า พบดาวเคราะห์จำนวนไม่ต่ำกว่า 1,200 ดวง แต่ส่วนใหญ่ยังไม่เคยมีการยืนยัน

สำหรับครั้งนี้ ทีมนักดาราศาสตร์ได้กล้องของหอดูดาวแมคโดนัลด์ และแฟร์แบงก์ ในสหรัฐฯ สำรวจดาวฤกษ์ 300 ดวง ล้วนแต่เป็นดาวรุ่นเกษียณแล้ว แต่ละดวงโตกว่าดวงอาทิตย์ของเราเท่าครึ่ง จากการสังเกตดูอาการส่าย เนื่องจากแรงดึงดูดของดาวเคราะห์บริวาร ทำให้สามารถคำนวณรู้จำนวนดาวเคราะห์ และนับดาวเคราะห์ที่ต่างมีขนาดมวลพอๆกับดาวพฤหัสบดี 18 ดวงด้วยกัน.

ไทยรัฐออนไลน์






ที่มา: ไทยรัฐ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:36:13


ความคิดเห็นที่ 4555 (1587859)

เฝ้าระวังหวัดพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯยังไม่พบผู้ป่วยในไทย

วันที่ 09/12/2554 20:42 (ผ่านมา 12 ชั่วโมง 48 นาที)





กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์เชื้อไอโอวาระบาดในสหรัฐฯ เผยไทยยังไม่พบผู้ป่วย ด้านองค์การอนามัยโลกเฝ้่าระวัง หวั่นเชื้อมาจากหมูผสมหวัด 2009 เกรงแพร่จากคนสู่คน...

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก ด้านการเตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ เปิดเผย กรณีมีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไอโอวา 2011 ซึ่งมียีนจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 10 คนในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า เชื้อดังกล่าวมีอยู่ในหมู ซึ่งประมาณกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีการตรวจสอบสาเหตุพบว่า ผู้ติดเชื้อ 7 คน ในรัฐอินเดียนา รัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐเมน มีการติดเชื้อจากหมู เพราะมีการสัมผัสโดยตรง แต่ที่น่าสงสัยผู้ป่วยอีก 3 คนนั้น ตรวจสอบยังไม่แน่ชัด และไม่ทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร แต่ยังตั้งข้อสงสัยในแง่ของการเกิดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ผสมจากหวัดหมูและหวัดใหญ่ 2009 ซึ่งอาจจะสามารถแพร่จากคนสู่คนได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีการยืนยันชัดเจน ดังนั้น นักวิชาการขององค์การอนามัยโลก (WHO) จึงต้องเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากมีประสบการณ์จากไข้หวัด 2009 แล้ว ทั้งนี้ในสำหรับสถานการณ์ในไทยนั้น แม้ยังไม่พบการระบาด แต่การจับตาเพื่อเฝ้าระวังก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทั่วโลกก็ต้องปฏิบัติเช่นกัน

ขณะที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ ในฐานะโฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการระบาดเชื้อดังกล่าวในสหรัฐฯ ทางประเทศไทยได้มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งยังไม่พบผู้ป่วยในไทยแต่อย่างใด ซึ่งทางสหรัฐฯ เองก็ยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบที่มาของเชื้ออย่างชัดเจน และมั่นใจว่าหากพบสาเหตุที่แน่นอน ทาง WHO และกรมควบคุมโรคเองก็ต้องมีการประกาศเตือนให้ประชาชนรับทราบอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้มีข้อมูลอย่างจำกัด จึงไม่สามารถที่จะรายงานรายละเอียดได้มาก จึงต้องรอติดตามสถานการณ์ต่อไป.

ไทยรัฐออนไลน์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:37:39


ความคิดเห็นที่ 4556 (1587860)

พายุถล่มสกอตแลนด์ ไฟดับใหญ่กระทบชาวบ้าน5หมื่นหลังคาเรือน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 ธันวาคม 2554 02:38 น.



พายุลูกใหญ่พัดถล่มสกอตแลนด์จนไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง

เอเอฟพี - เหล่าวิศวกรในสกอตแลนด์เมื่อวันศุกร์(9) กำลังเร่งมืออย่างหนักในความพยายามกู้คืนไฟฟ้าให้แก่ประชาชนเกือบ 50,000 หลังคาเรือน หลังพายุลูกใหญ่ก่อความเสียเป็นบริเวณกว้างและสร้างความโกลาหลด้านการเดินทาง

พายุลมแรงที่มีความเร็วลม 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนี้ขุดรากถอนโคนต้นไม้ ทำรถยนต์หลายคันพลิกคว่ำและนอกจากนี้มันยังเป็ต้นตอให้กังหันลมอันหนึ่งไฟลุกระหว่างพายุลูกใหญ่ถาโถมเข้าใส่สหราชอาณาจักรในวันพฤหัสบดี(8) โดยมันนับเป็นพายุลูกแรกที่เข้าเล่นงานดินแดนแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาวนี้อีกด้วย

รายงานระบุว่าอิทธิฤทธิ์ของมันเป็นผลให้เครื่องบินจำนวนมากตามท่าอากาศยานหลายแห่งต้องงดขึ้นบิน เหล่าผู้ขับขี่ที่ได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงถนนสายต่างๆที่มุ่งผ่านพื้นที่ทางภาคกลางของสกอตแลนด์ ขณะที่ทางการรถไฟต้องลดจำนวนเที่ยวให้บริการลงและโรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน

วิศวกรกว่า 1,300 คน ที่หลายรายถูกเกณฑ์มาจากทั่วสารทิศของสหราชอาณาจักร กำลังพยายามอย่างหนักในการกู้คืนไฟฟ้าแก่บ้านเรือนราษฎรทั่วสกอตแลนด์ จากการเปิดเผยของนายนิโคลา เตอร์เจียน รองรัฐมนตรีคนที่ 1 ของสกอตแลนด์ ขณะที่โฆษกบริษัทสกอตติช ไฮโดรบอกกับเอเอฟพีว่ามีลูกค้าราว 48,000 หลังคาเรือนที่ยังอยุ่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ ลดลงจากก่อนหน้านี้ 70,000 หลังคาเรือน

ด้านนายอเล็กซ์ ซัลมอนด์ รัฐมนตรีคนที่ 1 ยกย่องเจ้าหน้าที่สถานการณ์ฉุกเฉินที่ขานรับต่อภัยพายุร้ายนี้อย่างรวดเร็ว "สกอตแลนด์เป็นดินแดนที่กว้างขวาง แต่น้อยครั้งนักที่เราจะเจอกับสถานการณ์แบบนี้" เขากล่าวระหว่างเยือนฮ่องกง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:39:56


ความคิดเห็นที่ 4557 (1587861)

นกยักษ์คาเธ่ย์ เหินฟ้าล้มเหลว ควันเต็มห้องเครื่อง เจ็บ 9 คน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2554 18:39 น.




ภาพถ่ายแสดงผู้คนกำลังลงจากเครื่องด้วยกระดานลื่นฉุกเฉิน และมีคนอื่น ๆ ยืนอยู่ที่พื้นดินรอดูการลำเลียงเต็มไปหมด (ภาพเอเอฟพี)

เอเอฟพี - เครื่องบินของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ยังไม่ทันบินเหินฟ้าก็เกิดควันพวยพุ่งเต็มห้องเครื่อง ณ สนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้ต้องอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่อง ได้รับบาดเจ็บ 9 คน

สายการบินคาเธ่ย์เผยเองว่า ขณะนี้ได้ทำการอพยพผู้โดยสารจำนวน 351 คน และเจ้าหน้าที่บนเครื่องอีก 19 ชีวิต ออกจากโบอิ้ง 747 แล้ว ณ สนามบินผู่ตงอินเตอร์เนชั่นแนล ที่กำลังจะทะยานขึ้นฟ้าบินไปฮ่องกง แต่กลับมาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์คาเธ่ย์แห่งฮ่องกงเผยว่า ผู้โดยสาร 7 คน และเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ได้รับบาดเจ็บไม่หนักหนานัก และส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว แต่มิได้เผยสาเหตุของการบาดเจ็บดังกล่าวให้ชัด

“ศูนย์ข่าวใกล้กับที่เกิดเหตุของเราแจ้งว่า กัปตันได้สั่งให้อพยพคนออกจากเครื่อง เนื่องจากมีควันพวยพุ่งขึ้นมาในห้องเครื่องก่อนที่เครื่องบินจะออกตัว” รายงานของคาเธ่ย์ระบุ

สำนักข่าวซินหวาของจีนเผยว่า ควันดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากอุปกรณ์บางตัวทำงานล้มเหลว แต่ก็ไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ภาพถ่ายแสดงผู้คนกำลังลงจากเครื่องด้วยกระดานลื่นฉุกเฉิน และมีคนอื่น ๆ ยืนอยู่ที่พื้นดินรอดูการลำเลียงเต็มไปหมด

รัฐบาลเซี่ยงไฮ้เผยว่า การปฏิบัติงานที่สนามบินกลับคืนสู่ปกติ และกำลังเร่งทำการสืบสวนเหตุการณ์นี้

คาเธ่ย์เสริมว่า ได้ทำการสืบสวนทั้งทำเองและจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้วย.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:41:49


ความคิดเห็นที่ 4558 (1587862)

เตือนป่วยภูมิแพ้ระวังสัมผัสเชื้อราน้ำท่วมก่ออันตราย

วันที่ 09/12/2554 19:46 (ผ่านมา 13 ชั่วโมง 46 นาที)





กรมควบคุมโรคเตือนระวังเชื้อรา ผู้เป็นภูมิแพ้ หากสัมผัสอาจเกิดอันตรายได้ ขณะคนกินยากดภูมิ มีประวัติเป็นวัณโรค อาจเสี่ยงรับเชื้อราเข้าสู่ปอดเพิ่ม แนะวิธีทำความสะอาดอย่างถูกต้อง...

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมควบคุมโรคมีความเป็นห่วงเรื่องเชื้อราที่มากับน้ำท่วม ซึ่งมักพบตามอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน โรงเรียน สำนักงาน และสถานที่ต่างๆ โดยการสำรวจเบื้องต้นของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า เชื้อราส่วนใหญ่ไม่ได้ก่อโรคในคน แต่เป็นเชื้อที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดเพราะความชื้นจากน้ำท่วม ซึ่งหากมีสุขภาพแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดีแล้ว จะไม่มีปัญหาสุขภาพ แต่สำหรับกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น แพ้ละอองเกสร ก็อาจแพ้เชื้อราด้วย หากสูดหายใจเอาละออง (สปอร์) ของเชื้อราเข้าไป โดยอาจเกิดอาการโพรงจมูกอักเสบ ระคายเคืองนัยน์ตา หอบหืด หรือปอดอักเสบ จากการแพ้ เป็นต้น

“นอกจากนี้ ในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ที่ใช้ยากดภูมิกัน ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรับเคมี บำบัดผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่เคยเป็นวัณโรค หรือโรคปอดเรื้อรัง รวมทั้งผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอหรือผู้สูงอายุ อาจติดเชื้อราในปอด ซึ่งบางรายมีอาการรุนแรงได้ แต่ปัญหาเชื้อราเหล่านี้จะเกิดมากหรือน้อย ขึ้นกับโอกาสและการสัมผัสกับเชื้อรา ดังนั้นจึงต้องทำความสะอาดทุกอาคารบ้านเรือนอย่างดี รวมทั้งสวมเสื้อผ้ามิดชิดด้วย” นพ.รุ่งเรือง กล่าว

โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า สำหรับข้อแนะนำการทำความสะอาดเชื้อราอย่างถูกวิธีนั้น เน้นการเช็ดเชื้อราออกให้หมด แล้วปล่อยให้พื้นแห้ง จึงต้องเปิดประตูระบายอากาศให้มากที่สุด สิ่งที่กรมฯกังวล คือ เชื้อราจะเจริญเติบโตในความชื้น เช่น ห้องน้ำ อาจจำเป็นต้องล้างด้วยสารฆ่าเชื้อ เช่น น้ำยาซักผ้าขาว หรือผงซักฟอก ด้วยการผสมผงซักฟอก 1 ส่วน ผสมกับน้ำ 10 ส่วน แต่ผู้ใช้ต้องสวมถุงมือยางป้องกันด้วย เพราะอาจเกิดการระคายเคือง กรณีเสื้อผ้าที่จมน้ำ ควรซักให้สะอาด แล้วลวกน้ำร้อน ภาชนะที่ใส่อาหารควรล้างใหม่ให้หมด หลังจากล้างเสร็จแล้ว ให้ตากแดดอุปกรณ์ จำพวกเครื่องครัวและภาชนะบรรจุให้แห้ง แล้วค่อยเช็ดให้สะอาด ก่อนเก็บจัดวางตามชั้นวางของต่างๆ กรณีเป็นวัสดุที่มีรูพรุน ยากต่อการทำความสะอาด บางครั้งหากไม่หนักหนา หรือราคาสูงมาก แนะนำให้ทิ้งทันที



ไทยรัฐออนไลน์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:42:30


ความคิดเห็นที่ 4559 (1587863)

รัสเซียขู่คว่ำบาตรซัมมิทนาโตตอบโต้หนุนระบบป้องกันขีปนาวุธสหรัฐฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 ธันวาคม 2554 01:02 น.


นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย

เอเอฟพี - รัสเซียเปิดเผยเมื่อวันศุกร์(9) ว่าพวกเขาอาจคว่ำบาตรการประชุมซัมมิทกับนาโตที่กำหนดไว้ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า หากว่าทั้งสองฝ่ายยังเห็นต่างกันเกี่ยวกับการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปของสหรัฐฯ

เซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศเผยว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะเข้าร่วมประชุมดังกล่าวที่เมืองชิคาโก สหรัฐฯหรือไม่ จะได้ผลสรุปหลังศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 4 มีนาคม 2012 ซึ่งคาดหมายว่านายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน จะคืนสู่เก้าอี้ในเครมลินอีกครั้ง

"การตัดสินใจเข้าร่วมประชุมหรือไม่ มันจะง่ายกว่านี้หากว่าเวลานั้นเราสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับระบบป้องกันขีปนาวุธกันได้แล้ว" รยาบคอฟบอกกับสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของรัสเซีย "แต่จนถึงตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าเราจะสามารถเห็นพ้องกันได้หรือไม่"

ความเห็นของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากทั้งสองฝ่ายยืนกรานกระต่ายขาเดียว ณ ที่ประชุมของนาโต ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม อันมีนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเป็นตัวแทนของแต่ละฝ่าย

นางคลินตันบอกว่าสหรัฐฯจะเดินหน้าติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรป ถึงแม้มีคำเตือนจากประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ก็จะตอบโต้ด้วยการติดตั้งขีปนาวุธในเขตของยุโรปเช่นกัน

วอชิงตันอ้างว่าระบบป้องกันขีปนาวุธออกแบบมาเพื่อป้องกันความเป็นไปได้ที่อาจถูกอิหร่านโจมตีท่ามกลางความวิตกต่อโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน แต่รัสเซียแสดงความกังวลว่าสักวันระบบนี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อโจมตีพวกเขา

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:43:36


ความคิดเห็นที่ 4560 (1587864)

.



__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:44:27


ความคิดเห็นที่ 4561 (1587865)

นักวิทยาศาสตร์ม.โอไฮโอ ระบุ คลื่นสึนามิที่ถล่มญี่ปุ่น ทำลายล้างสูงสุดเท่าที่เคยมีมา



หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์ ในทะเล ทำให้เกิดคลื่นสึนามิยักษ์ถล่มเกาะญี่ปุ่น เมื่อเดือน มี.ค. มีประชาชนเสียชีวิตทั้งหมด 15,840 ราย รวมทั้งพลังของคลื่นยังทำลายล้างเมืองพินาศ โดยทางหน่วยงานนาซา ยังได้ออกมาเผยแพร่ภาพรัศมีของคลื่นที่แพร่ออกไปไกล สร้างผลกระทบให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในฟุกุชิมะ จนพังเสียหาย มีสารอันตรายกระจายออกมา




นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอ วิเคราะห์ว่า เป็นการรวมกันของคลื่น 2 ลูก ทำให้เป็นพลังคลื่นที่มีขีดการทำลายล้างสูง เราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า ในอนาคตจะเกิดแบบนี้ขึ้นอีกหรือไม่ เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และเตรียมรับมือ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:46:13


ความคิดเห็นที่ 4562 (1587866)

.

บุญ/บาปทางอินเทอร์เน็ต
โดยคุณดังตฤณ



ถามการเขียนข้อความหรือนำเสนอเนื้อหาอะไรผ่านอินเตอร์น็ต โดยใช้นามแฝง ถือเป็นกรรมหรือไม่ ? เพราะไม่มีใครรู้จักชื่อเรา ไม่มีใครเห็นหน้าเรา ไม่มีใครได้ยินเสียงเรา เหมือนเราไม่มีตัวตน


ตอบ – ผมเห็นว่าคำถามนี้จะนำไปสู่ความเข้าใจเรื่องกรรมได้ลึกซึ้งขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ยังนึกว่าการก่อกรรมเป็นเรื่องที่ต้องโชว์ตัว โชว์เสียง หรืออย่างน้อยก็ต้องมีชื่อแซ่ของเจ้าตัวปรากฏเป็นที่รับรู้เสียก่อน ความเข้าใจดังกล่าวนั้นคลาดเคลื่อนนะครับ กรรมนั้นคือเจตนา ต่อให้คุณนอนคิดร้ายอยู่บนยอดเขา ไม่มีใครเห็น คุณก็ทราบชัดอยู่แก่ใจ และสามารถสำเหนียกรู้สึกได้ว่า ใจคุณดำมืดเพราะโดนเมฆหมอกอกุศลทาบทับแล้ว

สำหรับกรรมที่ทำอยู่ในใจจริงๆ มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจคุณเองคนเดียวนั้น เรียกว่า ‘มโนกรรม’ สำหรับมโนกรรมนั้นจะสำเร็จสมบูรณ์เต็มขั้นในทันที ที่ตั้งใจคิดและมีความยินดีกับความคิดนั้น หากจะพูดว่ามโนกรรมคือกรรมที่ก่อแล้วยังไม่ทันส่งผลกระทบดีร้ายกับผู้อื่นก็คงได้ ตัวอย่างเช่น คุณคิดจะด่าเขา แต่ระงับใจไม่ด่า อย่างนั้นก็เป็นเพียงมโนกรรมอันเป็นอกุศล มีผลให้จิตคุณทุกข์ร้อนอยู่คนเดียว ยังไม่เป็นวจีกรรม ยังไม่มีเสียงกระทบหูใครให้ใจเป็นทุกข์ขึ้นมา

แต่หากคลื่นความคิดแรงจนทะลักรั้วกั้น หลุดจากสมองไปกระทบผู้อื่น ไม่ว่าจะทางภาษาพูดหรือภาษาเขียน ทำให้เขาเกิดความเข้าใจว่าคุณคิดอย่างไร ตรงนั้นจัดว่าเป็นวจีกรรมได้หมด พูดง่ายๆ ว่า ‘ภาษา’ นั่นเอง คือเครื่องมือก่อวจีกรรมของมนุษย์

ฉะนั้น คุณจะแอบเขียนอะไรทางอินเตอร์เน็ตโดยใช้นามแฝงเฉพาะกิจ ไม่มีใครอื่นรู้เห็น ไม่มีใครรู้จักเลย แม้เพียงครั้งเดียวก็นับว่าสร้างวจีกรรมไปแล้วหนึ่งครั้ง และกรรมก็จะติดตามคุณเป็นเงาตามตัว ไม่ผิดต่างไปจากกรรมอื่นๆ ที่กระทำโดยเปิดเผยหน้าตาตัวตน เจตนาเกิดขึ้นที่จิตของคุณ กรรมก็เกิดที่จิตของคุณเช่นกัน เพราะกรรมคือเจตนา เจตนาคือกรรม ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าบุคคลคิดแล้วจึงก่อกรรมทางกาย วาจา ใจ

อินเตอร์เน็ตเปิดโอกาสให้เราเห็นอะไรหลากหลายจริงๆ แม้แต่การทำงานของกรรม อย่างเช่นที่ผมรู้จักหลายๆคน เห็นกรรมทางวาจาของเขาในเบื้องต้น แล้วได้เห็นพัฒนาการหรือความเสื่อมทรามทางจิตใจในเวลาต่อมา เป็นไปตามวิธีคิดเขียนให้ดีให้ร้ายแก่ผู้อื่น

ผู้ก่อความวุ่นวาย นานไปย่อมมีจิตใจที่วุ่นวาย ปั่นป่วนเหมือนพายุ และแสดงแนวโน้มที่จะฟุ้งซ่านแส่ส่ายไปในเรื่องเหลวไหล พูดจาจับต้นชนปลายไม่ติดมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ก่อกระแสความเยือกเย็น นานไปย่อมมีจิตใจเยือกเย็น สงบราบคาบผาสุก และแสดงแนวโน้มที่จะแน่วนิ่งหนักแน่นในเรื่องเป็นเหตุเป็นผล พูดจามีต้นมีปลายมากขึ้นเรื่อยๆ

บอกได้เลยครับว่า วจีกรรมที่เกิดขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ตนั้น อาจจะให้ผลเร็วและแรงเสียยิ่งกว่าวจีกรรมที่เกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงเสียอีก ที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไร ? เพราะบนอินเตอร์เน็ตอาจมีผู้รับคำพูดของคุณจำนวนมาก ขอให้ลองนึกดู หากคุณพูดเบาๆ ว่า ‘ไอ้โง่’ ก็อาจมีคุณคนเดียวในโลกที่ได้ยินเสียงอกุศลของตัวเอง

แต่ถ้าคุณพิมพ์คำว่า ‘ไอ้โง่’ ลงในกระทู้ของเว็บบอร์ดที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมคับคั่ง คุณไม่มีทางปรับให้ดังหรือเบาได้ตามใจชอบได้เลย คุณทำอกุศลกรรมกับคนแบบไม่เลือกหน้าเข้าแล้ว คำด่านั้นอาจทำให้คนนับพันนับหมื่นเกิดความแสลงใจ ความแสลงใจของคนนับไม่ถ้วนนั่นแหละ จะย้อนกลับมาก่อเหตุให้คุณแสลงใจยิ่งกว่าพวกเขาได้

ผมเห็นแล้วนึกเสียดายครับ หลายคนยังเป็นเด็ก และมีความสนุกที่จะขีดเขียนข้อความฝากไว้ในอินเตอร์เน็ตด้วยความคึกคะนอง บางทีไม่รู้ตัวเลยว่าเอาอนาคตมาทิ้งเสียด้วยการสนทนาแบบไร้หน้าไร้เสียงนี่เอง

โอกาสก่อกรรมในยุคไอทีของพวกเรานี้ มีได้เป็นร้อยเป็นพันเท่า มากกว่ายุคอื่นครับ กระดิกนิ้วง่ายๆ ไม่กี่ที ผล (กรรม) อาจใหญ่หลวงยิ่งกว่าพยายามพูดในห้องประชุมใหญ่หลายๆ อาทิตย์เสียอีก หากจิตตั้งไว้ดีแล้วก็สบายตัวไป แต่หากจิตยังตั้งไว้ในมุมมืด อย่างนั้นก็คงน่าเป็นห่วงหน่อยล่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 19:52:12


ความคิดเห็นที่ 4563 (1587874)
 
คาดปีหน้าน้ำมากเหมือนปีนี้


"อานนท์" ชี้ปีหน้าปริมาณน้ำจะมากเหมือนกับปีนี้คาดไทยจะอยู่ในภาวะน้ำมากอีก 5-10 ปี ตามวงรอบเหตุจากภาวะโลกร้อน
         
วันนี้(10 ธ.ค.) นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ คาดการณ์ถึงสภาพอากาศในปีหน้าว่า จะมีปริมาณน้ำมาก คือฝนจะมากกว่าค่าเฉลี่ย โดยปริมาณน้ำมาจากฝนมรสุมที่พอกับปีนี้ และยังเป็นห่วงว่าสถานการณ์ที่มีน้ำมาเติมนอกจากมรสุมอาจเกิดขึ้นได้อีก นอกจากนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะมีพายุหรือร่องความกดอากาศต่ำที่เข้ามาอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างในปีนี้หรือไม่ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใดนำมาคาดการณ์ได้ ส่วนดาวเทียมที่ใช้คาดการณ์พายุจะมองเห็นเมื่อพายุเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว และสามารถใช้ในการเตือนภัยได้ 5 - 10 วันล่วงหน้าเท่านั้น ไม่สามารถบริการจัดการน้ำหรือป้องกันอย่างอื่นได้ทัน
         
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ประเทศไทยจะต้องอยู่ในภาวะน้ำมากแบบนี้อีกราว 5-10 ปีตามวงรอบ ซึ่งปัจจัยจากโลกร้อนอาจเป็นผลในการเสริมบ้างเล็กน้อยเท่านั้น แต่อยู่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ต้องจับตาหลังจาก 10 ปีไปแล้ว สภาพอากาศอาจจะเปลี่ยนรูปแบบไป สำหรับหน้าแล้งปีนี้จะเริ่มต้นขึ้นเร็วกว่าปกติ เนื่องจากมีการระบายน้ำไว้มากในช่วงนี้ จึงอาจส่งผลกระทบกับพื้นที่นอกเขตชลประทานเป็นหลัก


โพสต์ทูเดย์

10 ธันวาคม 2554 เวลา 18:12 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-10 21:37:17


ความคิดเห็นที่ 4564 (1587896)

 

แนะนำวิธีการหนึ่ง น่าสนใจ ให้รู้เกี่ยวกับก่อนเกิดแผ่นดินไหว

และภัยพิบัติ

 
ขอขอบคุณ ข้อความเดิมโดยคุณ Tisa

http://board.palungjit.com/f178/กทม-เสี่ยงดินไหว-พบรอยเลื่อนผ่านตอนใต้-317600.html

วันก่อน ได้มีโอกาสคุยกับผู้ปฏิบัติธรรม ชาวไต้หวันท่านหนึ่ง
เกี่ยวกับแผ่นดินไหวและภัยพิบัติ เขาแนะนำวิธีการหนึ่ง น่าสนใจ
ลองอ่านดู ให้เอาแม่เหล็กหนึ่งแท่งผูกไว้ที่เพดาน แล้วเอาแม่เหล็ก
อีกแท่งดูดกันไว้ (รวมเป็น 2 แท่ง) แล้วเอาถาดโลหะวางไว้ที่พื้นด้านล่าง
ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติ 10 นาที หรือสั้นๆในหลายวินาที
แท่งแม่เหล็กที่ถูกดูดไว้ จะถูกทิ้งตัวลงมา กระทบถาดโลหะ เสียงดัง
ให้หลบได้เลย เขาว่าวิธีนี้ ได้ผลจริงๆ และทางบ้านเค้าเผยแพร่
แนะนำกันไปทั่วโลกแล้ว


ถ้าท่านคิดว่าดี และ มีประโยชน์ ก็ช่วยกันบอกต่อสิ่งดีๆนี้ กันต่อไป ขอโมทนาบุญกับผู้ใจบุญที่ช่วยกันเผยเเพร่ค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 00:22:17


ความคิดเห็นที่ 4565 (1587899)

 อนุโมทนาบุญกับทุกบทความค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ์ สุจินตนาธรรม (rkdragon999-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 01:26:30


ความคิดเห็นที่ 4566 (1587902)

มีแต่ข่าวและข้อความที่เป็นประโยชน์

ต่อผู้อ่านทั้งนั้นเลยค่ะคุณอาริยา

 

อนุโมทนาด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 05:10:57


ความคิดเห็นที่ 4567 (1587942)

เวลา 08.47 (ไทย) เกิดแผ่นดินไหวขนาดแมกนิจูด 6.7 บริเวณ GUERRERO, MEXICO ที่ความลึก 61 กม
Earthquake - Magnitude 6.7 - GUERRERO, MEXICO - 2011 December 11, 01:47 UTC


You felt this earthquake. Tell us!


Magnitude Mw 6.7
Region GUERRERO, MEXICO
Date time 2011-12-11 01:47:26.0 UTC
Location 18.07 N ; 99.78 W
Depth 61 km
Distances 42 km SW Iguala (pop 112,106 ; local time 19:47:26.4 2011-12-10)
32 km S Teloloapan (pop 21,244 ; local time 19:47:26.4 2011-12-10)
13 km SE Apaxtla (pop 7,413 ; local time 19:47:26.4 2011-12-10)
 
 
 
 
Source parameters reviewed by a seismologist

2011-12-11 02:35:02.337min ago 38.86 N 43.54 E 7 MD 2.7 EASTERN TURKEY 2011-12-11 03:00
      2011-12-11 01:53:59.01hr 18min ago 38.95 N 43.54 E 5 MD 2.7 EASTERN TURKEY 2011-12-11 02:18
    F 2011-12-11 01:47:26.01hr 24min ago 18.07 N 99.78 W 61 Mw 6.7 GUERRERO, MEXICO 2011-12-11 02:11
      2011-12-11 01:39:05.91hr 33min ago 38.75 N 43.05 E 7 MD 2.7 EASTERN TURKEY 2011-12-11 02:07
      2011-12-11 01:22:44.01hr 49min ago 28.10 N 129.43 E 30 Mw 5.8 RYUKYU ISLANDS, JAPAN 2011-12-11 02:15
      2011-12-11 01:10:27.02hr 01min ago 7.70 S 127.48 E 178 mb 4.5 KEPULAUAN BARAT DAYA, INDONESIA 2011-12-11 02:16
      2011-12-11 00:48:16.72hr 23min ago 38.83 N 43.53 E 5 MD 2.9 EASTERN TURKEY 2011-12-11 01:04
      2011-12-11 00:13:30.02hr 58min ago 38.87 N 43.52 E 8 MD 2.7 EASTERN TURKEY 2011-12-11 00:32
      2011-12-11 00:09:53.03hr 02min ago 38.60 N 28.45 E 6 MD 2.4 WESTERN TURKEY

More information at:

USGS/NEIC Denver, USA

2011-12-11 02:35:02.337min ago 38.86 N 43.54 E 7 MD 2.7 EASTERN TURKEY 2011-12-11 03:00
      2011-12-11 01:53:59.01hr 18min ago 38.95 N 43.54 E 5 MD 2.7 EASTERN TURKEY 2011-12-11 02:18
    F 2011-12-11 01:47:26.01hr 24min ago 18.07 N 99.78 W 61 Mw 6.7 GUERRERO, MEXICO 2011-12-11 02:11
      2011-12-11 01:39:05.91hr 33min ago 38.75 N 43.05 E 7 MD 2.7 EASTERN TURKEY 2011-12-11 02:07
      2011-12-11 01:22:44.01hr 49min ago 28.10 N 129.43 E 30 Mw 5.8 RYUKYU ISLANDS, JAPAN 2011-12-11 02:15
      2011-12-11 01:10:27.02hr 01min ago 7.70 S 127.48 E 178 mb 4.5 KEPULAUAN BARAT DAYA, INDONESIA 2011-12-11 02:16
      2011-12-11 00:48:16.72hr 23min ago 38.83 N 43.53 E 5 MD 2.9 EASTERN TURKEY 2011-12-11 01:04
      2011-12-11 00:13:30.02hr 58min ago 38.87 N 43.52 E 8 MD 2.7 EASTERN TURKEY 2011-12-11 00:32
      2011-12-11 00:09:53.03hr 02min ago 38.60 N 28.45 E 6 MD 2.4 WESTERN TURKEY

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 12:58:44


ความคิดเห็นที่ 4568 (1587944)

เจาะลึกภัยพิบัติ...พลิกวิกฤตให้เป็นทางรอด ครั้งที่ 2 (Version: ต้อนรับปี 2012)

 

 
 
ขอเชิญร่วมงานสัมมนา ฟรี

"เจาะลึกภัยพิบัติ พลิกวิกฤตให้เป็นทางรอด ครั้งที่ 2"
version: ต้อนรับปี 2012


ณ หอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก กรุงเทพฯ

อาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2554 เวลา 8.30 น. - 17.00 น.



การสัมมนาและการบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและมากด้วยประสบการณ์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติต่างๆ และภัยธรรมชาติที่เกิดอยู่ในปัจจุบันและอนาคต
  • พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ
  • ดร.สมิทธ ธรรมสโรช
  • ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
  • รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์
  • รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ
  • ดร.ก้องภพ อยู่เย็น
จำนวน 2,012 ที่นั่ง สำรองที่นั่งได้ที่


- โทรศัพท์/sms รายละเอียดไปที่ 086-534-1112 และ 088-885-0212

- ลงทะเบียนทางอีเมล์
seminar@PalungJit.org

เพื่อความสะดวก กรุณาลงทะเบียนสำรองที่นั่ง ก่อนวันที่ 23 ธันวาคม 2554



(**รายละเอียด และ โปสเตอร์ ทางเว็บจะมาอัพเดตอีก ถ้าท่านใดจะก็อปไปเผยแพร่ต่อ ขอให้รอวันพรุ่งนี้)




สาเหตุมหาอุทกภัย และการคาดการณ์ในปี 2012 ?

รอยเลื่อนที่มีพลัง แผ่นดินไหว เขื่อนต่างๆ ?

Solar Maximum VS 2012 ?

อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ Pole shift ?
รูปขนาดเล็ก
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
Name:	aw_postersend_54_21.jpg
Views:	136
Size:	798.9 KB
ID:	1799343  

ขอโมทนาบุญ กับ ผู้จัด เเละ พระอาจารย์ ท่านอาจารย์ เเละ ผู้ใจบุญทุกท่านที่ท่านเมตตาให้ความรู้ที่มีประโยชน์กับมนุษย์ชาติทั่วโลก ค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 13:04:18


ความคิดเห็นที่ 4569 (1587961)

กองทัพนิวซีแลนด์ เปิดเผย รายงานเกี่ยวกับยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาว

          กองทัพนิวซีแลนด์ เปิดเผย รายงานหลายร้อยฉบับ ซึ่งได้บันทึกคำบอกเล่าของผู้ที่อ้างว่า เคยเห็นยูเอฟโอและพบกับมนุษย์ต่างดาว ในวันนี้ โดยในเอกสารดังกล่าว มีความหนาราว 2,000 หน้า ซึ่งบันทึกข้อมูลของประชาชน บุคลากรทางทหาร และนักบินพาณิชย์ เกี่ยวกับการพบเจอสิ่งมีชีวิตต่างดาวอย่างใกล้ชิด

 หนึ่งในหลักฐานที่เชื่อว่าเป็นจานยูเอฟโอ ปรากฎเป็นแสงประหลาดเหนือท้องฟ้า เมืองไคเคาราในปี 1978
ทัพนิวซีแลนด์ เผยเอกสาร 2 พันหน้า ระบุพบมนุษย์ต่างดาว ยูเอฟโอ
MThai News : 22ธ.ค.สำนักข่าวบีบีซี นิวส์ รายงานว่า กองทัพทหารของนิวซีแลนด์ ได้เปิดเผยเอกสารที่ระบุว่ามีการพบมนุษย์ต่างดาว วัตถุลึกลับ หรือ จานยูเอฟโอ ตลอดระยะเวลากว่า50ปี
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวระบุว่า เอกสารทั้งหมดได้รวบรวมไว้ตั้งแต่ปี 1954 ถึง 2009 โดยมีการเปิดเผยต่อสาธารณชนตามกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพในการรับข้อมูลข่าวสาร แต่ได้ลบชื่อที่บ่งบอกเอกลักษณ์บุคคลออกแล้ว
เอกสารทั้งหมด ถูกรวบรวมไว้ทั้งสิ้น 2 พันหน้า บันทึกคำบอกเล่าของ บุคคลทั่วไป, เจ้าหน้าที่ทหาร และนักบินพาณิชย์ ที่เคยเผชิญหน้ากับวัตถุประหลาด ซึ่งโดยมากจะปรากฎในรูปของแสงซึ่งเคลื่อนที่ไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
อนึ่ง เอกสารบางฉบับยังมีภาพสเก็ตช์จานบิน รายละเอียดเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวซึ่งสวม หน้ากากฟาโรห์ รวมทั้งตัวอย่างภาษาเขียนจากนอกโลก

อย่างไรก็ตาม นาย Kavae Tamariki หัวหน้าฝูงบินของกองทัพอากาศนิวซีแลนด์ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ พร้อมกับกล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะพิสูจน์เรื่องดังกล่าว เพียงแต่มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลไว้เท่านั้น
หนึ่งในรายงานที่ค่อนข้างชัดเจนระบุว่า มีผู้พบเห็นแสงประหลาดเหนือท้องฟ้าเมืองไคเคาราบนเกาะใต้ในปี 1978 ซึ่งเจ้าหน้าที่สถานีโทรทัศน์ที่อยู่บนเครื่องบินสามารถเก็บภาพไว้ได้





 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 18:52:06


ความคิดเห็นที่ 4570 (1587963)

ชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลาอ่วม คลื่นซัดชายหาดเสียหายยับ

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ -

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คลื่นในอ่าวไทยที่มีกำลังแรงอีกระลอกได้ซัดชายหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลาเสียหาย ต้นสนล้มอีก 6 ต้น แม้จะมีการป้องกันทั้งนำหินและกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกันคลื่นแต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้

วันนี้ (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่มีกำลังแรงขึ้นในระยะนี้จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่บริเวณชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา จ.สงขลา อีกครั้ง

เนื่องจากคลื่นได้กัดเซาะชายหาดทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ที่อยู่ติดริมทะเลล้มอีก 6 ต้นและอยู่ในสภาพที่เอียงใกล้ล้มอีก 10 ต้น แม้ทางเทศบาลนครสงขลาจะเตรียมการป้องกัน

โดยนำหินขนาดใหญ่รวมทั้งกระสอบทราบมาวางเป็นแนวกันคลื่นไว้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแรงของคลื่นที่ซัดข้ามแนวหินและกระสอบทรายขึ้นมา

และเหลือไม่ถึง 6 เมตร ก็จะกินพื้นที่ชายหาดลึกเข้าไปจนถึงแนวถนนชลาทัศน์ซึ่งเป็นถนนสายเลี่ยงเมืองเลียบชายทะเล

โดยในเบื้องต้น นายสมชาย เมฆาอภิรักษ์ รองนายกเทศมนตรีนครสงขลา ได้มาตรวจสภาพพื้นที่เพื่อเร่งหาทางป้องกันโดยเฉพาะบริเวณที่ยังไม่ได้มีการนำหินหรือกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกั้น

พร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนที่จะเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่บริเวณชายหาดชลาทัศน์ให้ระวังต้นสนริมชายหาดล้ม และห้ามลงเล่นน้ำทะเลอย่างเด็ดขาด

เนื่องจาก ขณะนี้คลื่นแรงจัด อาจถูกคลื่นซัดจมน้ำเสียชีวิตได้

ขณะที่ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงมา ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากฝนตกหนักในระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคมนี้

สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง

ชาวเรือและชาวประมงเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 19:03:22


ความคิดเห็นที่ 4571 (1587964)

.

นาซ่า พบวิธีเตือนแผ่นดินไหว ล่วงหน้า 3 วัน

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 54 เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ รายงานว่า องค์การนาซ่า (NASA) ตรวจพบปริมาณอิเล็กตรอน ในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ในระดับสูงผิดปกติ บริเวณศูนย์กลางแผ่นดินไหว ช่วง 3 วัน ก่อนเกิดภัยพิบัติสึนามิที่ญี่ปุ่น

เชื่อว่า เป็นปฏิกิริยาของพื้นผิวโลก ซึ่งสามารถใช้ผลตรวจวัดดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนภัยแผ่นดินไหวครั้งต่อไปได้ ดีเลยทีเดียว

รายงานระบุว่า นักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่าในรัฐแมรี่แลนด์ ของสหรัฐฯ ได้นำรายงานบันทึกข้อมูล เกี่ยวกับชั้นบรรยากาศบริเวณศูนย์กลางแผ่นดินไหว ช่วงเกิดภัยพิบัติสึนามิในญี่ปุ่น มาวิเคราะห์ และพบว่า

ก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติสึนามิ 3 วัน คือในวันที่ 8 - 10 มีนาคม นั้น ปริมาณอิเล็กตรอน ในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ได้มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น อย่างน่าตกใจ

ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหว แรงดันภายในเปลือกโลกจะทำให้เกิดการปล่อย ก๊าซเรดอน ออกมาในปริมาณที่สูงมาก ทำให้เกิดความร้อนในช่วงเวลาดังกล่าว

ซึ่งความร้อนที่ถูกปล่อยออกมานี้ จะกลายเป็นความร้อนส่วนเกิน ที่จะถูกบันทึกเป็นรังสีอินฟาเรด ที่แสดงให้เห็นผ่านภาพจากดาวเทียมของนาซ่า





ทั้งนี้ ภาพถ่ายจากดาวเทียมดังกล่าว ถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับนักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะมันสามารถทำให้นักวิทยาศาสตร์ ได้รู้ถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติ หรือความผิดปกติทางธรณี ที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้

และหลังจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ ก็จะนำการตรวจปริมาณความร้อน ในพื้นที่ทั่วโลก ไปใช้ในการประกาศเตือนภัย ในพื้นที่ซึ่งกำลังจะประสบเหตุต่อไป

ข้อมูลของชั้น บรรยากาศไอโอโนสเฟียร์

ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ เป็นชั้นบรรยากาศที่อยู่ห่างจากผิวโลกมากที่สุด รวมถึง เกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายคลื่นในย่านความถี่ HF มากที่สุดอีกด้วย

สิ่งน่าสนใจเกี่ยวกับบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ คือ ความสามารถหักคลื่นวิทยุให้สะท้อนกลับมาที่โลก เป็นการเพิ่มระยะทางส่งได้มากขึ้น

นิยมใช้งานกันในย่านความถี่ HF ลงไป ถ้าสูงกว่านี้อย่างย่าน VHF ไม่สามารถส่งโดยวิธีนี้ได้เพราะจะทะลุชั้นไอโอโนสเฟียร์ออกไป

การแพร่กระจายของรังสีอุลตราไวโอเลต จากดวงอาทิตย์ เข้าหาชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้เกิดการถ่ายเทพลังงาน เข้าสู่โมเลกุลของชั้นบรรยากาศ ไอโอโนเฟียร์ ให้เกิดการไอออนไนซ์ ของโมเลกุลขึ้น

ข้อมูลของก๊าซเรดอน

ก๊าซเรดอน เป็นกาซไม่มีสี ไม่มีกลิน ไม่มีรส และมองไม่เห็น เกิดจากการสลายตัวของยูเรเนียม-238

อะตอมของเรดอน เป็นอะตอมของก๊าซเฉื่อย มีครึ่งชีวิตสัน แหล่งกำเนิดของเรดอน แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ

ก๊าซในดิน สามารถแพร่ผ่านช่องว่างเล็ก ระหว่างดินเข้าสูที่พักอาศัย น้ำใต้ดิน

เรดอนที่เจือปนในน้ำ จะออกมาจากน้ำ และเข้าสู่อากาศภายในอาคาร และวัสดุกอสร้าง ที่อาจทํามา จากสารกัมมันตรังสี

ประเทศไทยพบก๊าซเรดอน มากในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในฤดูหนาว

เนื่องจาก มีลมพัดจากแผ่นดินใหญ่จีน เข้าสูประเทศไทยทางทิศเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะนําก๊าซเรดอนเข้ามาด้วย โดยมีค่าเฉลี่ย 186 pCi / L

ส่วนในฤดูร้อนและฤดูฝน มีลมพัดมาจากทิศใต้ ผ่านทะเลเป็นสวนใหญ่ ผ่านแผ่นดินน้อย จากการวัดพบว่า มีความเข้มข้นกาซเรดอน น้อยกว่าในฤดูหนาว

ก๊าซเรดอน เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด เป็นอันดับสอง รองจากบุหรี่

อนุภาคกัมมันตรังสี ที่เกิดจากเรดอน เมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ จะเกิดการสลายตัวต่อไป ให้รังสีแอลฟา ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเนื้อเยื่อปอด เป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดโรคมะเร็งได้


www.moosuper.com/blog392-(NASA)%20%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%20%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%203%20%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99.html

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 19:18:30


ความคิดเห็นที่ 4572 (1588009)
 
 
มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอย่างน้อย 3 คน จากเหตุแผ่นดินในเม็กซิโก


เม็กซิโก 11  ธ.ค. - เหตุการณ์แผ่นดินไหว 6.7 ริกเตอร์ในเม็กซิโกล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 3 คนแล้ว

แผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์  ที่เกิดขึ้นในรัฐเกร์เรโร ทางตะวันตกของเม็กซิโก ในช่วงคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 3 คน แล้ว ขณะที่ทรัพย์สินและอาคารบ้านเรือนไม่ได้รับความเสียหายมากนัก  สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองอิกัวล่า เกร์เรโร ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ราว 24 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ดินเกือบ 65 กิโลเมตร  ด้านกระทรวงกลาโหมเม็กซิโก รายงานว่า แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในพื้นที่ถึง 9 รัฐ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนจำนวนมาก  อย่างไรก็ตาม ทางการระบุว่าที่เมืองอาคาปุลโค ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศชายฝั่งแปซิฟิกไม่พบอาคารได้รับความเสียหายและไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด



 
 
เกิดแผ่นดินไหวใกล้ส่วนใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้

วอชิงตัน 11 ธ.ค.- เกิดแผ่นดินไหว 6 ริกเตอร์ในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นใกล้หมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช  ดินแดนปกครองตนเองของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ใกล้ทวีปแอนตาร์คติก และอยู่ปลายสุดของทวีปอเมริกาใต้

ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ กล่าวว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในเวลา 07.54 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 16.54 น.ตามเวลาประเทศไทย ที่ระดับความลึก 121 กิโลเมตร แต่ไม่มีคำเตือนการเกิดคลื่นสึนามิ

ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเกาะวิโซคอยไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 104 กิโลเมตร ซึ่งเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช ห่างจากหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ไปทางทิศตะวันออกเกือบ 2,000 กิโลเมตร



 
เตรียมนำประเทศที่ปล่อยก๊าซรายใหญ่ลงนามข้อตกลงที่มีผลในทางกฎหมาย


11 ธ.ค. - การประชุมสภาวะอากาศโลกของสหประชาชาติในวันนี้ ที่ประชุมอนุมัติแผนการที่จะนำไปสู่การทำข้อตกลงในปี 2558 ซึ่งจะเป็นครั้งแรก ที่จะนำเอาประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนรายใหญ่ทั้งหมด มาร่วมลงนามข้อตกลงที่มีผลในทางกฎหมาย

การอนุมัติแผนมีขึ้นหลังจากหารือมานานเกือบ 14 วัน ภายใต้แผนการนี้ ชาติสมาชิก 194 ประเทศ จะหาข้อตกลงที่มีเป้าหมายเพิ่มการจัดการปัญหาก๊าซเรือนกระจก โดยข้อตกลงจะได้รับอนุมัติภายในปี 2558 และจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2563 ทั้งนี้มาตรการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ว่าจะต้องจำกัดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลก ไม่ให้สูงขึ้นเกินกว่า 2 องศาเซลเซียส แต่จากรายงานวิจัยที่เสนอต่อที่ประชุมครั้งนี้พบว่า อุณหภูมิโลกสูงขึ้น 3.5 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรง น้ำท่วม พายุและระดับน้ำทะเลสูงขึ้น กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรโลกหลายสิบล้านคน

สำหรับประเด็นสำคัญที่จะบรรจุไว้ในข้อตกลงสภาพอากาศโลก 2558 ยังคงต้องหารือลึกลงไปในรายละเอียดกันต่อไป ซึ่งผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า ภารกิจการเจรจาจะยากลำบากขึ้น เช่น สถานะทางกฎหมายของข้อตกลงนี้และการแบ่งสรรกันระหว่างชาติร่ำรวยกับชาติยากจนในปริมาณการลดก๊าซคาร์บอน


สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 23:33:15


ความคิดเห็นที่ 4573 (1588011)

กรมควบคุมโรคยันไทยยังไม่พบเชื้อไอโอวา

 

 
กรมควบคุมโรคยันไทยยังไม่พบเชื้อไอโอวา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  
9 ธันวาคม 2554 16:45 น.
 


ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

กรมควบคุมโรค เผยไทยยังไม่พบเชื้อไอโอวา ขณะที่สหรัฐฯ ยังจับตาพิเศษ นักวิชาการหวั่นเป็นลูกผสมของหวัดหมูกับ 2009 เกรงแพร่จากคนสู่คน

จากกรณีที่มีกระแสข่าวต่างประเทศระบุว่า โรงพยาบาลในมลรัฐไอโอวาของสหรัฐอเมริกา พบเด็ก 3 คนติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อว่าเป็นยีนมาจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จากนั้นทั่วอเมริกาก็ตื่นตัวตรวจหาเชื้อเพิ่มจนเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา “ซีดีซี” หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ยืนยันว่ามีผู้ติดหวัดใหญ่ตัวใหม่ตัวนี้แล้ว 10 คนใน 4 มลรัฐ คือ เพนซิลเวเนีย 3 คน มลรัฐเมน 2 คน อินเดียนา 2 คน และไอโอวา 3 คน ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไอโอวา 2011 เป็นเชื้อเอช 3 เอ็น 2 (H3N2)

นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก ด้านการเตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่า เชื้อดังกล่าวมีอยู่ในหมู ซึ่งเมื่อราว กลางเดือน ก.ค. สหรัฐฯ มีการตรวจสอบสาเหตุพบว่า ผู้ติดเชื้อ 7 คนในรัฐอินเดียนา เพนซิลเวเนีย และรัฐเมน นั้นทราบว่ามีการติดเชื้อจากหมู เพราะมีการสัมผัสโดยตรง แต่ที่น่าสงสัย คือ ผู้ป่วยอีก 3 คนนั้นตรวจสอบยังไม่แน่ชัด ไม่ทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร แต่ยังตั้งข้อสงสัยในแง่ของการเกิดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ผสมจากหวัดหมูและหวัดใหญ่ 2009 ซึ่งอาจจะสามารถแพร่จากคนสู่คนได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีการยืนยันชัดเจน ดังนั้น นักวิชาการขององค์การอนามัยโลก (WHO) จึงต้องเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากมีประสบการณ์จากไข้หวัด 2009 แล้ว ทั้งนี้ในสำหรับสถานการณ์ในไทย นั้นแม้ยังไม่พบการระบาด แต่การจับตาเพื่อเฝ้าระวังก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทั่วโลกก็ต้องปฏิบัติเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมควบคุมโรคมีการประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่และโฆษก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการระบาดในสหรัฐฯ ในประเทศไทยมีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งยังไม่พบผู้ป่วยในไทยแต่อย่างใด ซึ่งทางสหรัฐฯ เองก็ยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบที่มาของเชื้ออย่างชัดเจน และมั่นใจว่า หากพบสาเหตุที่แน่นอน ทาง WHO และกรมควบคุมโรคเองก็ต้องมีการประกาศเตือนให้ประชาชนรับทราบอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้มีข้อมูลอย่างจำกัด จึงไม่สามารถที่จะรายงานรายละเอียดได้มาก จึงต้องรอติดตามสถานการณ์ต่อไป

ที่มา
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000157005
กรมควบคุมโรคยันไทยยังไม่พบเชื้อไอโอวา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  
9 ธันวาคม 2554 16:45 น.
 


ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

กรมควบคุมโรค เผยไทยยังไม่พบเชื้อไอโอวา ขณะที่สหรัฐฯ ยังจับตาพิเศษ นักวิชาการหวั่นเป็นลูกผสมของหวัดหมูกับ 2009 เกรงแพร่จากคนสู่คน

จากกรณีที่มีกระแสข่าวต่างประเทศระบุว่า โรงพยาบาลในมลรัฐไอโอวาของสหรัฐอเมริกา พบเด็ก 3 คนติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อว่าเป็นยีนมาจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จากนั้นทั่วอเมริกาก็ตื่นตัวตรวจหาเชื้อเพิ่มจนเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา “ซีดีซี” หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ยืนยันว่ามีผู้ติดหวัดใหญ่ตัวใหม่ตัวนี้แล้ว 10 คนใน 4 มลรัฐ คือ เพนซิลเวเนีย 3 คน มลรัฐเมน 2 คน อินเดียนา 2 คน และไอโอวา 3 คน ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไอโอวา 2011 เป็นเชื้อเอช 3 เอ็น 2 (H3N2)

นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก ด้านการเตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่า เชื้อดังกล่าวมีอยู่ในหมู ซึ่งเมื่อราว กลางเดือน ก.ค. สหรัฐฯ มีการตรวจสอบสาเหตุพบว่า ผู้ติดเชื้อ 7 คนในรัฐอินเดียนา เพนซิลเวเนีย และรัฐเมน นั้นทราบว่ามีการติดเชื้อจากหมู เพราะมีการสัมผัสโดยตรง แต่ที่น่าสงสัย คือ ผู้ป่วยอีก 3 คนนั้นตรวจสอบยังไม่แน่ชัด ไม่ทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร แต่ยังตั้งข้อสงสัยในแง่ของการเกิดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ผสมจากหวัดหมูและหวัดใหญ่ 2009 ซึ่งอาจจะสามารถแพร่จากคนสู่คนได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีการยืนยันชัดเจน ดังนั้น นักวิชาการขององค์การอนามัยโลก (WHO) จึงต้องเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากมีประสบการณ์จากไข้หวัด 2009 แล้ว ทั้งนี้ในสำหรับสถานการณ์ในไทย นั้นแม้ยังไม่พบการระบาด แต่การจับตาเพื่อเฝ้าระวังก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทั่วโลกก็ต้องปฏิบัติเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมควบคุมโรคมีการประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่และโฆษก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการระบาดในสหรัฐฯ ในประเทศไทยมีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งยังไม่พบผู้ป่วยในไทยแต่อย่างใด ซึ่งทางสหรัฐฯ เองก็ยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบที่มาของเชื้ออย่างชัดเจน และมั่นใจว่า หากพบสาเหตุที่แน่นอน ทาง WHO และกรมควบคุมโรคเองก็ต้องมีการประกาศเตือนให้ประชาชนรับทราบอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้มีข้อมูลอย่างจำกัด จึงไม่สามารถที่จะรายงานรายละเอียดได้มาก จึงต้องรอติดตามสถานการณ์ต่อไป

ที่มา
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000157005
กรมควบคุมโรค เผยไทยยังไม่พบเชื้อไอโอวา ขณะที่สหรัฐฯ ยังจับตาพิเศษ นักวิชาการหวั่นเป็นลูกผสมของหวัดหมูกับ 2009 เกรงแพร่จากคนสู่คน

จากกรณีที่มีกระแสข่าวต่างประเทศระบุว่า โรงพยาบาลในมลรัฐไอโอวาของสหรัฐอเมริกา พบเด็ก 3 คนติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อว่าเป็นยีนมาจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จากนั้นทั่วอเมริกาก็ตื่นตัวตรวจหาเชื้อเพิ่มจนเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา “ซีดีซี” หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ยืนยันว่ามีผู้ติดหวัดใหญ่ตัวใหม่ตัวนี้แล้ว 10 คนใน 4 มลรัฐ คือ เพนซิลเวเนีย 3 คน มลรัฐเมน 2 คน อินเดียนา 2 คน และไอโอวา 3 คน ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไอโอวา 2011 เป็นเชื้อเอช 3 เอ็น 2 (H3N2)

นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก ด้านการเตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่า เชื้อดังกล่าวมีอยู่ในหมู ซึ่งเมื่อราว กลางเดือน ก.ค. สหรัฐฯ มีการตรวจสอบสาเหตุพบว่า ผู้ติดเชื้อ 7 คนในรัฐอินเดียนา เพนซิลเวเนีย และรัฐเมน นั้นทราบว่ามีการติดเชื้อจากหมู เพราะมีการสัมผัสโดยตรง แต่ที่น่าสงสัย คือ ผู้ป่วยอีก 3 คนนั้นตรวจสอบยังไม่แน่ชัด ไม่ทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร แต่ยังตั้งข้อสงสัยในแง่ของการเกิดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ผสมจากหวัดหมูและหวัดใหญ่ 2009 ซึ่งอาจจะสามารถแพร่จากคนสู่คนได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีการยืนยันชัดเจน ดังนั้น นักวิชาการขององค์การอนามัยโลก (WHO) จึงต้องเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากมีประสบการณ์จากไข้หวัด 2009 แล้ว ทั้งนี้ในสำหรับสถานการณ์ในไทย นั้นแม้ยังไม่พบการระบาด แต่การจับตาเพื่อเฝ้าระวังก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทั่วโลกก็ต้องปฏิบัติเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมควบคุมโรคมีการประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่และโฆษก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการระบาดในสหรัฐฯ ในประเทศไทยมีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งยังไม่พบผู้ป่วยในไทยแต่อย่างใด ซึ่งทางสหรัฐฯ เองก็ยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบที่มาของเชื้ออย่างชัดเจน และมั่นใจว่า หากพบสาเหตุที่แน่นอน ทาง WHO และกรมควบคุมโรคเองก็ต้องมีการประกาศเตือนให้ประชาชนรับทราบอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้มีข้อมูลอย่างจำกัด จึงไม่สามารถที่จะรายงานรายละเอียดได้มาก จึงต้องรอติดตามสถานการณ์ต่อไป


ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000157005
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-11 23:48:38


ความคิดเห็นที่ 4574 (1588019)

การสัมมนา ในวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม นี้

น่าสนใจมากๆค่ะ คุณ อาริยา

 

งานนี้คงจะมีแนวทาง

และคำตอบหลายๆอย่าง

ที่พวกเราหลายๆคน

สงสัยและพยายามหา คำตอบ อยู่ ก็ได้

 

อนุโมทนากับคุณ อาริยา ด้วยค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-12 03:45:49


ความคิดเห็นที่ 4575 (1588128)

อาริยา ก็ขอโมทนาบุญกับ คุณชนิดาที่ขยันเข้ามาเขียนเป็นธรรมทานเเละให้ข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ หลายกระทู้ตลอดเวลาค่ะ สาธุ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:28:17


ความคิดเห็นที่ 4576 (1588129)

 

 

"แหลมตะลุมพุก" เจอคลื่นถล่ม น้ำทะเลท่วมเร่งอพยพ ปชช.หนี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ธันวาคม 2554 16:53 น.

 

Storm surge มีความเหมือน หรือแตกต่าง
จากการเกิดสึนามิ หรือไม่?


สิ่งที่คล้ายกัน คือ รูปแบบการเคลื่อนตัว ที่เป็นเหมือนคลื่นขนาดใหญ่ แล้วพัดเข้าชายฝั่ง

แต่ที่แตกต่างกัน คือ ลักษณะของการเกิด

สึนามิ เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหวใต้ทะเล ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน ส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ ซัดเข้าชายฝั่ง

Storm surge เกิดขึ้นโดยมีตัวแปรจากพายุ
“เมื่อStorm surge เกิดมาพร้อมกับพายุโซนร้อน เพราะฉะนั้น เมื่อพายุเข้ามา เราก็จะเห็นสัญญาณเตือนหลายอย่าง เช่น การเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา และจากการสังเกตลักษณะอากาศ ที่จะค่อยๆ เลวร้ายลง ทำให้เรารู้ตัวล่วงหน้าหลายวัน และสามารถหาทางอพยพได้ทัน

แต่กับ สึนามิ อาจจะไม่รู้ได้เลย เพราะบางครั้ง ก็เกิดขึ้นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีสัญญาณบอกเหตุร้ายแต่อย่างใด

แต่ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นในช่วงหลายปีมานี้ ก็เป็นอะไรที่คาดเดา พยากรณ์ได้ยากเช่นกัน

ซึ่งอาจเป็นผลมาจาก การเกิดภาวะโลกร้อน ที่ทำให้สภาพอากาศในทุกมุมโลกเกิดความแปรปรวน และยิ่งทวีความรุนแรงของเหตุการณ์ขึ้น

สิ่งนี้ จึงเรื่องที่ต้องได้รับการติดตาม อย่างใกล้ชิด


www.learners.in.th/blogs/posts/199774

ไม่ว่า อ. สมิทธ ท่านจะมีอนาคตังสญาณ รึใช้หลักคิดคำนวณแบบวิทย์ แต่เรื่อง Storm surge ท่านเตือนตั้งแต่ปี 2008 ช่วงเดียวกับที่เตือนว่าน้ำจะท่วม กทม. หนัก

รึอย่างก่่อนหน้า ที่ท่านเตือนสึนามิ ก็เตือนล่วงหน้า 2 - 3 ปี

สรุปว่า ภัยใหญ่อะไรจะมา ท่านเตือนล่วงหน้า ก็มีบางคนลืม บางคนประมาท บางคนดูถูก บางคนโกรธ บางคนเชื่อ ฯ

ว่ากันไป ตามบุญตามบาป ที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:30:45


ความคิดเห็นที่ 4577 (1588132)

บางระกำช้ำอีกแม่น้ำยมแห้งขอด

11 ธันวาคม 2554 เวลา 16:07 น. |เปิดอ่าน 22 | ความคิดเห็น 0

ระดับน้ำแม่น้ำยมช่วงไหลผ่าน อ.บางระกำ พิษณุโลกแห้งขอดจนเห็นสันดอน ชาวบ้านทำประมงไม่ได้

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำแม่น้ำยมในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้ลดลงอย่างมากจาก จากเมื่อช่วงเดือนพ.ย.ที่น้ำจากแม่น้ำยมได้ล้นเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก

ทั้งนี้ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำยมได้แห้งขอดลงอย่างมาก โดยเฉพาะที่บ้านวังเป็ด หมู่ 2 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พบว่า ระดับน้ำบางช่วงแห้งจนเห็นท้องน้ำและสันดอนจนสามารถเดินข้ามฝั่งไป-มา ได้ ส่งผลให้ชาวบ้านที่ทำประมงเลี้ยงชีพไม่สามารถประกอบอาชีพได้

อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่เพียงแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน จ.พิษณุโลกเท่านั้นที่แห้งขอด แต่แม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลก ก็ได้แห้งขอดเช่นกัน โดยระดับน้ำแม่น้ำน่าน เหลือเพียง 2.51 เมตร เท่านั้น ซึ่งลดลงถึง 8 เมตรทีเดียว จากระดับน้ำที่สูงสุด เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:37:38


ความคิดเห็นที่ 4578 (1588133)

สลด! เครื่องบินเล็กตกกลางสลัม ย่างสดชาวบ้าน-นักบินดับ 12ราย


วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554




สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ได้เกิดเหตุเครื่องบินขนส่งสินค้าขนาด 4ที่นั่ง ที่กำลังจะมุ่งหน้าไปยังเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ ตกใส่บริเวณชุมนุมแออัดแห่งหนึ่งชานกรุงมะนิลา

ซึ่งจากเหตุดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้ และลุกลามย่างสดชาวบ้านในชุมชนแออัด เสียชีวิตไป 12 ราย ในจำนวนนั้นมีเด็กด้วย 3 คน และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 20 คน

ด้านรามอน กูเตียร์เรซ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ขนส่งทางอากาศของฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุดีซีบีบีว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากนักบิน ขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินกรุงมะนิลา

หลังเพิ่งบินขึ้นได้ไม่นาน แต่ก็ไม่ทันการเครื่องบินตกใส่แหล่งชุมชนจนเกิดเหตุสุดสลดดังกล่าว ส่วนสาเหตุนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:38:41


ความคิดเห็นที่ 4579 (1588134)

อีสานหนาวจัด ส่งผลคน-สัตว์เริ่มล้มป่วย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2554 09:54 น.


สำหรับอากาศที่หนาวเย็นทำให้สุนัขที่ด่านกักกันสัตว์นครพนมเริ่มป่วยจากการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจและไข้หัดสุนัข ซึ่งเป็นโรคที่เสี่ยงต่อการตายสูง เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคัดแยกสุนัขป่วยประมาณ 40 ตัวไปอยู่ในคอกกักกัน โดยสุนัขทั้งหมดเป็นของกลางที่ตรวจยึดได้จากกระบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ ปัจจุบันยังคงเหลือสุนัขอยู่ด่านกักกันนครพนม 712 ตัว ยอดตายสะสมรวม 581 ตัว และมีผู้สนใจนำไปเลี้ยง 285 ตัว
ส่วนที่สกลนครอุณหภูมิต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส ทำให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กและคนชรา และอากาศทื่หนาวเย็น โดยเฉพาะพื้นที่สูงบนเทือกเขาภูพาน ชาวบ้านต้องก่อไฟผิงคลายความหนาวเย็น นอกจากนี้ยังก่อไฟให้สัตว์เลี้ยงอีกด้วย
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:39:49


ความคิดเห็นที่ 4580 (1588135)

นครพนมหนาวกระทบสุนัขของกลาง

12 ธันวาคม 2554 เวลา 08:20 น. |เปิดอ่าน 421 | ความคิดเห็น 1



นครพนมหนาวสุดในรอบปีอุณหภูมิลดเหลือ 9 องศา กระทบสุนัขของกลางเริ่มป่วย

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่จังหวัดนครพนม สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง หลังอุณหภูมิลดต่ำสุดแตะระดับ 9 องศา ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบปี โดยอากาศหนาวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยหนาวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการดูแลสุนัขของกลางภายในด่านกักกันสัตว์นครพนม ที่มีการตรวจยึดมาจากขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ ปัจจุบันยังคงเหลือจำนวน 721 ตัว

นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ระบุว่า ในช่วงอากาศหนาวเย็นได้ส่งผลกระทบต่อสุนัขของกลาง เริ่มมีอาการป่วยจากการติดเชื้อโรคไวรัสทางเดินหายใจ และไข้หัดสุนัข ที่เสี่ยงต่อการตายสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนต่อเนื่อง ขณะนี้มีสุนัขที่ป่วยประมาณ 40 ตัว ที่ต้องเฝ้าระวังให้การรักษา คัดแยกออก

นอกจากนี้ทางกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ได้มีการอนุมัติงบประมาณเกือบ 2 แสนบาท ดำเนินการสร้างโรงเรือนกันหนาว พร้อมระบบให้ความอบอุ่น ให้สุนัขของกลาง เพื่อป้องกันการป่วย ให้สุนัขมีชีวิตรอดมากที่สุด

ส่วนการป้องกันปราบปราม ทางจังหวัดนครพนม ยังคงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังดูแลป้องกัน ในการปราบปรามสกัดกั้นการลักลอบขนส่งสุนัขจากพื้นที่ต่างๆ ลำเลียงขนส่งมานครพนม ก่อนนำข้ามไปขายยังประเทศเวียดนาม ต่อเนื่อง เพราะยังพบข้อมูลว่า ขบวนการค้าสุนัขยังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะหน้าหนาวจะมีออเดอร์สั่งนำเข้าจำนวนมาก นำไปปรุงเป็นเมนูคลายหนาว และมีราคาแพงเท่าตัว ทำให้ขบวนการค้าสุนัขปรับเปลี่ยนวิธีการขนส่ง ที่จะเลี่ยงการจับกุมเจ้าหน้าที่ทุกรูปแบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:40:40


ความคิดเห็นที่ 4581 (1588136)

เมืองเอกยังมีน้ำท่วมขัง30-40 ซ.ม

.ข่าวสังคม วันจันทร์ที่ 12 เดือนธันวาคม พ.ศ.2554 08:43 น.

สถานการณ์น้ำท่วมเมืองเอก ยังคงมีน้ำขัง 30-40 ซ.ม. ประชาชนเริ่มเข้าไปสำรวจบ้านเรือนแล้ว
สถานการณ์น้ำท่วม ที่หมู่บ้านเมืองเอก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ขณะนี้ ยังคงมีน้ำท่วมขัง สูงเฉลี่ยที่ประมาณ 30 - 40 ซ.ม. เนื่องจาก พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างและบางจุดเป็นที่ต่ำ มีน้ำท่วมสูง ประมาณ 50 ซ.ม. โดย พ.ต.ท.อาทร ชิ้นทอง รองผู้กำกับฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยว่า พื้นที่หมู่บ้านเมือเอก ยังไม่ค่อยมีประชาชนเข้าไปพักอาศัยอยู่มากนัก
เนื่องจาก ก่อนหน้านี้มีน้ำท่วมขังสูงเกือบ 2 เมตร จึงต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่เมื่อน้ำเริ่มลดลงแล้ว บางส่วนก็จะเข้าไปดูสภาพบ้านเรือน ซึ่งขณะนี้การสัญจรเข้าพื้นที่ ยังคงมีรถทหารเข้าไปด้านในและรถยกสูงก็สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้แล้ว เนื่องจาก ชายขอบของเมืองเอกในช่วงวัดนาวง น้ำแห้งแล้ว ซึ่งล่าสุดบริเวณหมู่บ้านเมืองเอก มีการวางจุดระบายน้ำไว้ 3 จุด คือ บริเวณคลองเปรมประชากร จุดที่มหาวิทยาลังรังสิต รับผิดชอบ และจุดที่เทศบาล ต.หลักหก รับผิดชอบ โดยสามารถระบายน้ำเฉลี่ยลดลง วันละ 5 ซ.ม.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:41:47


ความคิดเห็นที่ 4582 (1588137)

อุตุฯ เผย เหนือ-อิสาน-กทม. อุณหภูมิลดลง เตือนคนไทยดูแลสุขภาพ



กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2554 เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ โดยระบุว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีอากาศหนาวเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา สำหรับพื้นที่ภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางแห่ง จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

อนึ่ง มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนอ่าวไทยมีลมแรง มีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง สำหรับชาวเรือขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:42:41


ความคิดเห็นที่ 4583 (1588138)

เตือน15ธ.ค.รับมือความกดอากาศระลอกใหม่

ข่าวสังคม วันจันทร์ที่ 12 เดือนธันวาคม พ.ศ.2554 08:35 น.

รองอธิบดีกรมอุตุฯ เผย 15 ธ.ค. เกิดความกดอากาศระลอกใหม่ ไทยตอนบน อีสาน กทม. เตรียมรับมืออากศหนาว ขณะที่ ภาคใต้ตอนล่าง ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน


นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ในรายการเปิดข่าวเด่นเจาะประเด็นดัง FM 102.75 MHz ถึงภาพรวมของสภาพอากาศที่หนาวเย็นในประเทศไทย ว่า สภาพอากาศประเทศไทยตอนบนวันนี้ มีแนวโน้มที่จะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส และหลังจากนี้ไป จะมีอากาศอุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่ในวันที่ 15 ธ.ค.เป็นต้นไป จะเกิดความกดอากาศสูงระลอกใหม่ สภาพอากาศจะหนาวเย็นขึ้นอีก ในพื้นที่ไทยตอนบน อีสาน รวมไปถึง กรุงเทพมหานครและปริมลฑลด้วย ทั้งนี้ในช่วงวันดังกล่าว จะส่งผลให้ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงขอให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและป่าไหลหลาก เกิดขึ้นได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:43:53


ความคิดเห็นที่ 4584 (1588139)

ดอยอินทนนท์หนาวจัด 4 องศาเกิด “แม่คะนิ้ง” อีก - อุทยานฯ เผยนักท่องเที่ยวเต็มตลอดช่วงหยุดยาว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2554 11:31 น.



ภาพของน้ำค้างแข็งที่เกิดก่อนหน้านี้บนดอยอินทนนท์ (แฟ้มภาพ )





ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ดอยอินทนนท์หนาวจัดแค่ 4 องศาจนเกิด “แม่คะนิ้ง” อีก สมใจนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลขึ้นไปท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว หน.อุทยานฯ เผยคนแห่เที่ยวแน่นเอี้ยด ที่พักถูกจองเกือบเต็มไปจนถึงช่วงปีใหม่ ต้องสอบถามและจองล่วงหน้าป้องกันผิดหวัง พร้อมแนะนักท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์เดินทางต้องตรวจสอบสภาพรถให้พร้อม 100% ป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายกับตัวรถ

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงเช้ามืดวันนี้ (12 ธ.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดน้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบ หรือแม่คะนิ้ง ขึ้นอีกครั้งเป็นวงกว้าง ที่บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน หลังจากตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องจนอากาศบนยอดดอยหนาวจัด โดยเช้าวันนี้บนยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดลงเหลือเพียง 4 องศาเซลเซียส ซึ่งนอกจากน้ำค้างแข็งแล้วยังมีทะเลหมอกด้วย สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ขึ้นไปท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์

นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้มีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นบ่อยครั้งบนยอดดอยอินทนนท์ จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและอุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าหลังจากนี้จะยังคงมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกต่อไป เพราะคาดการณ์กันว่าในปีนี้อากาศจะหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา

สำหรับในช่วงสุดสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาว มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่หลั่งไหลกันขึ้นไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โดยนายเกรียงศักดิ์ระบุว่า ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละหลายพันจนเกือบถึงหมื่นคน อย่างไรก็ตามในส่วนของการพักค้างแรมนั้น มีการจำกัดจำนวนเพื่อไม่ให้เกินขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ ซึ่งในส่วนที่พักของอุทยานฯ ทั้งบ้านพักและลานกางเต็นท์ สามารถรองรับได้ประมาณ 1,200 คน มีนักท่องเที่ยวเที่ยวพักเต็มหมด ส่วนที่เหลือมีการกระจายเข้าพักตามที่พักของชุมชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่

ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์กล่าวด้วยว่า ที่พักของอุทยานฯ นั้น ในช่วงตั้งแต่นี้ไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ มีการจองของนักท่องเที่ยวจนเกือบเต็มหมดแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวและพักค้างแรม ควรจะมีการตรวจสอบล่วงหน้าว่ายังมีที่พักว่างอยู่หรือไม่ โดยผู้ที่ต้องการจะเข้าไปท่องเที่ยวนั้นแนะนำว่าหากเป็นไปได้ควรใช้บริการรถรับจ้างท้องถิ่นในการเดินทางมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องการจราจรและที่จอดรถไม่เพียงพอ รวมทั้งความปลอดภัยเพราะคนขับรถรับจ้างท้องถิ่นจะมีความชำนาญเส้นทางมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากนักท่องเที่ยวจะใช้รถยนต์สาวนตัวในการเดินทาง แนะนำให้ตรวจสอบสภาพรถให้มีความพร้อม ทั้งระบบเครื่องยนต์ เบรก และคลัช ตลอดจนศึกษาเส้นทางให้ดี เนื่องจากเส้นทางในการเดินทางขึ้นสู่ดอยอินทนนท์นั้น มีลักษณะเป็นเน้นทางขึ้นลงภูเขาและคดเคี้ยว หากสภาพรถไม่มีความพร้อม ประกอบกับคนขับไม่มีความชำนาญ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่รถยนต์หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:45:03


ความคิดเห็นที่ 4585 (1588140)

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:45:38


ความคิดเห็นที่ 4586 (1588141)


ขออนุญาติอัพเดท ข้อมูลจากเวป พลังจิต ควรรีบจองนะคะ                    ขอขอบคุณ http://board.palungjit.com/f178/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่-3906-1341.html                                                      
  พี่น้องชาวเว็บพลังจิตรีบตัดสินใจ ก่อนที่จะออกสื่อหลายแขนงในเร็ววันนี้เพราะงานนี้ ทางเราขอมาประชาสัมพันธ์ที่เว็บพลังจิตก่อน เพื่อต้องการให้แฟนพันธ์เเท้ พี่ๆน้องๆชาวพลังจิต ได้ไปร่วมงาน และได้รวมพลพบปะกัน ที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือไม่

การเปิดให้ลงทะเบียน 2012 ที่นั่งก็จริง แต่มีโควต้าขอจองที่นั่งจากองค์กรอื่นได้จองมาก่อนหน้านี้แล้ว.


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ZZ อ่านข้อความ


เพื่อนๆพลังจิต..เจอกันให้ได้!!



หอประชุมรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก กรุงเทพฯ





แผนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง(หัวหมาก)
 
คลิกดูแผนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

รถเมล์สายที่ผ่าน 22, 60, 71, 93, 95, 122, 126, 137, 168, 501, และ512

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 00:47:01


ความคิดเห็นที่ 4587 (1588145)

สุดสลด แม่หนาวตาย ทิ้งลูกชาย ใช้ชีวิตโดดเดี่ยว

ศูนย์ข่าวศรีราชา - อำเภอสัตหีบ อุณหภูมิหนาวเย็นต่ำลงถึง 19 องศา สาวใหญ่วัย 49 ทนความหนาวเย็นไม่ไหวสิ้นใจคากระต๊อบกลางสวนมะพร้าว ทิ้งลูกชายวัย 13 ผจญโลกลำพัง หญิงชราใจบุญติดต่อขออุปการะเป็นบุตรบุญธรรม

วันนี้ (12 ธ.ค.) ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้นอนหนาวเสียชีวิตภายในกระต๊อบกลางสวนมะพร้าวผู้ใหญ่วินัย ซ.พงศ์สุข ม.10 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ

ในที่เกิดเหตุห่างถนนสายหลักเข้าไปประมาณ 500 เมตร พื้นที่โดยรอบมีหมอกลงหนาทึบ และมีอุณหภูมิหนาวเย็นประมาณ 19 องศา ตรวจสอบภายในกระต๊อบพบร่าง น.ส.สุนา จันดาดาล อายุ 49 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นในชุดเสื้อยืดคอปกสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว ร่างกายท่อนล่างห่อหุ้มด้วยผ้าห่ม สภาพนอนแข็งตัวเกร็ง โดยมี ด.ช.สมบูรณ์ หรือน้องจ๊อด บุญเสริม อายุ 13 ปี บุตรชาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเกล็ดแก้ว กำลังจับมือและโอบกอดผู้เป็นแม่อย่างไม่ห่าง ซึ่งสร้างความสลดใจให้แก่เจ้าหน้าที่ และผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรหาสาเหตุ ยังโรงพยาบาลสัตหีบ กิโลเมตรที่ 10

จากการสอบถาม ด.ช.สมบูรณ์ หรือน้องจ๊อด บุตรชายผู้ตาย เล่าว่า ครอบมีฐานะยากจน พ่อและแม่ได้มาขออาศัยพื้นที่ของผู้ใหญ่วินัย ปลูกกระต๊อบอาศัยอยู่ กระทั่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2551 พ่อได้มาเสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว ทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่กับแม่ 2 คน โดยแม่ได้เก็บมะพร้าวขายหาเงินส่งเรียน และเลี้ยงครอบครัว ก่อนตายในช่วงกลางดึกของเมื่อคืนนี้ แม่ได้ตื่นขึ้นมามีอาการไอ และมาสิ้นใจลงในช่วงเช้า ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต สืบเนื่องมาจากในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ในพื้นที่ได้มีอากาศหนาวเย็นอย่างมาก ยิ่งช่วงกลางดึกจะมีหมอกปกคลุมจนแทบมองอะไรไม่เห็น ผ้าห่มที่มีอยู่ก็ไม่เพียงพอ คาดว่าแม่จะทนความหนาวไม่ไหวจนสิ้นใจตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเสียชีวิตลงของ น.ส.สุนา ทำให้บุตรชายวัย 13 ปี ต้องกำพร้าพ่อแม่ไร้ญาติขาดมิตร โชคดีที่นางทองใบ โรหะทัศน์ อายุ 72 ปี หญิงชราที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงเกิดมีใจบุญเดินทางมาที่เกิดเหตุและขออุปการะเลี้ยงดูเด็กคนนี้เป็นบุตรบุญธรรม โดยตัวเด็กนั้นก็เต็มใจที่จะไปเริ่มต้นชีวิตในครอบใหม่

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 01:04:53


ความคิดเห็นที่ 4588 (1588205)

,

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 11:15:01


ความคิดเห็นที่ 4589 (1588206)

ฝนถล่มพัทลุงต่อเนื่องวันที่ 4 น้ำป่าทะลักท่วมบ้านเรือน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ธันวาคม 2554 09:29 น.

ฝนที่ตกหนักติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดที่ไหลตามลำคลองต่างๆ 7 สาย ในพื้นที่ จ.พัทลุง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บวกกับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ถนนเข้าหมู่บ้าน พื้นที่การเกษตร สวนยางพารา และนาข้าว โดยล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่บ้านด่านโลด ต.แม่ขรี ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด ต.โคกสัก อ.บางแก้ว ต.โคกม่วง ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน ทำให้ชาวบ้านนับพันครัวเรือนเร่งขนย้ายสิ่งของกันอย่างอลหม่าน พร้อมนำกระสอบทรายมาปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมภายในบ้าน โดยเฉพาะที่บ้านด่านโลด ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด สถานการณ์หนักสุด ทำให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนไปแล้ว 2 แห่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 11:17:26


ความคิดเห็นที่ 4590 (1588252)
น้ำท่วมพ่นพิษกทม.จ่อเลื่อนแผนปรับผังเมือง5โครงการ

นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯว่า ล่าสุดสำนักผังเมืองกทม.ได้รายงานสรุปภาพรวมโครงการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย โดยมีโครงการที่สำคัญ ๆ ในกรุงเทพฯที่ได้เลื่อนกำหนดออกการแล้วเสร็จออกไป ได้แก่ 1.โครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพฯ(ปรับปรุงครั้งที่ 3) ซึ่งเป็นโครงการเดิมต่อเนื่องปีงบประมาณ 2553-2555 และมีกำหนดสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 8 มี.ค.2555 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จช้ากว่าเดิม 30 วัน เป็นวันที่ 8 เม.ย.2555 เนื่องจากไม่สามารถสำรวจพื้นที่ได้ เพราะมีอุปสรรคน้ำท่วมและการปิดเส้นทางคมนาคม อีกทั้งจากวิกฤติน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ทั้งฝั่งธนบุรีและพระนคร รวมถึงพื้นที่จังหวัดปริมณฑล จึงจำเป็นต้องทบทวนและปรับแผนผังต่าง ๆ เพิ่มเติม

2.โครงการจ้างที่ปรึกษาประจำเพื่อสำรวจ วางผัง ออกแบบรายละเอียด ประเมินราคา สำหรับงานวางผังพัฒนาและปรับปรุงฟื้นฟูเมือง และส่วนของเมือง ที่เดิมคาดแล้วเสร็จ โดยสิ้นสุดสัญญาภายในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ อาจจะล่าช้าออกไป 60 วันเป็นวันที่ 17 ก.พ.2555 เนื่องจากขั้นตอนการออกแบบรายละเอียดยังไม่แล้วเสร็จ เพราะติดอุปสรรคต้องรังวัดสำรวจพื้นที่และประสานงานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดประชุมประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็นก่อนได้ข้อสรุป

3.โครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมปรับปรุงฟื้นฟูเมืองตามแนวพระราชดำริ "กรุงเทพเมืองสวรรค์" สิ้นสุดสัญญาวันที่ 18 ธ.ค.นี้ 4.โครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อสำรวจและออกแบบรายละเอียดเพื่อพัฒนาย่านที่อยู่อาศัยเขตประเวศ สะพานสูง ลาดกระบัง และมีนบุรี สัญญาสิ้นสุด 8 ม.ค.2555 และ 5.โครงการบูรณการระบบภูมิสารสนเทศ 3 มิติเพื่อการผังเมือง สิ้นสุดสัญญาวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่าน อย่างไรก็ตามโครงการที่ 3-5 ยังไม่สามารถกำหนดหรือระบุวันเวลาเพื่อลงพื้นที่ การจัดอบรมสัมมนา ก่อนสรุปผลการดำเนินการได้ จึงต้องรอให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติจึงจะมีความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการทั้งหมดอีกครั้ง
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 18:41:30


ความคิดเห็นที่ 4591 (1588253)

พัทลุงน้ำท่วมอีกรอบ ปิดทำการเรียนการสอนแล้ว 2 โรงเรียน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ธันวาคม 2554 11:03 น.



พัทลุง - ฝนตกหนัก 4 วันติดส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรแล้ว ล่าสุดโรงเรียนใน ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ปิดแล้ว 2 โรง ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยยังต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่าฝนที่ตกหนักติดต่อกัน 4 วัน ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดที่ไหลตามลำคลองต่างๆ 7 สาย ในพื้นที่ จ.พัทลุง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บวกกับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ถนนเข้าหมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรสวนยางพารา และนาข้าวแล้ว

โดยล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำป่าจากเทือเขาบรรทัด ได้ไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรในท้องที่ บ้านด่านโลด หมู่3 ต.แม่ขรี ม.8 ,9ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด ท้องที่ หมู่ 8 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว ม.5 6 12 14 ต.โคกม่วง ม.3 ม9 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน ทำให้ชาวบ้านนับ 1000ครอบครัว เร่งขนย้ายสิ่งของกันอย่างอลหม่าน พร้อมทั้งนำกระสอบทรายมาปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมภายในบ้าน โดยเฉพาะที่บ้านด่านโลด ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด ถูกน้ำท่วมหนักสุด ทำให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนแล้ว 2 แห่ง

ในขณะที่ทางจังหวัดยังคงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลาดเชิงเขาบรรทัดที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหล อำเภอตะโหมด อำเภอศรีบรรพต อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอป่าบอน อำเภอป่าพะยอม บริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน และอำเภอบางแก้ว ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมอย่างฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม น้ำล้นตลิ่ง น้ำทะเลหนุน และ โดยเฉพาะบริเวณที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก ให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 18:42:14


ความคิดเห็นที่ 4592 (1588254)

ส่อแววแล้ง อ่างทอง-แม่น้ำเจ้าพระยาแห้งขอด เห็นเนินทรายกลางน้ำ



แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านเมืองอ่างทองลดฮวบแห้งขอดจนเห็นเนินทรายโผล่กลางลำน้ำ ชาวบ้านต่างจับจองพื้นที่ปลูกถั่วลิสงหารายได้ระบุเป็นสัญญาณเตือนภัยแล้งกำลังมาถึง

หลังจากจังหวัดอ่างทอง เกิดภาวะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดอ่างทองได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เพียง 2 เดือนเศษระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ลดลงอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณตำบลไชยภูมิ อำเภอไชโย พบว่าขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้อยมาก น้ำเริ่มแห้งจนเห็นเกาะดินทรายอยู่กลางแม่น้ำ โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามวัดไชโยวรวิหาร พบว่ามีตะกอนกองทราย คันดินและอีกหลายที่ก่อตัวอยู่ใต้น้ำตามธรรมชาติ เริ่มทยอยโผล่พ้นผิวน้ำทอดยาวให้เห็นอย่างเด่นชัด บางแห่งขึ้นเป็นเกาะดินทรายทอดยาวไปถึงกลางแม่น้ำ สูงจากผิวน้ำเกือบ 2 เมตร นอกจากนั้นยังพบว่าประชาชนต่างเข้าไปจับจองพื้นที่ดินทราย เพื่อเพาะปลูกพื้นล้มลุก เช่น ถั่วลิสง มันเทศ หารายได้ และยังมีเด็กๆลงไปเล่นทรายที่ขาวละเอียดสวยงาม ชาวบ้านต่างบอกว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านต่างเข้าใจดีว่าเป็นสัญญาณเตือนภัยแล้งที่จะมาถึง



นางทองคืน โรจนสิน อายุ 65 ปี ชาวอำเภอไชโย กล่าวว่าหลังจากเกิดน้ำท่วม น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงมากแต่พอบทที่น้ำจะลดลงก็ลงอย่างรวดเร็วจนตอนนี้น้ำแห้งจนเห็นกองทรายที่อยู่กลางแม่น้ำ ซึ่งเท่าที่ดูจากต้นไม้ที่ขึ้นอยู่กลางแม่น้ำทำให้ทราบว่าน้ำลดลงไปกว่า 5 เมตร โดยชาวบ้านแถวนี้ต่างเข้ามาจับจองพื้นที่ที่เป็นดินทราย ตั้งแต่ตลิ่งบ้านลงมาถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วหลายสิบไร่ เพื่อทำการปลูกถั่วลิสงหารายได้ ซึ่งถั่วลิสงจะใช้เวลาปลูกเพียง 3เดือน สามารถเก็บขายได้ เหตุที่มาปลูกในพื้นที่แห่งนี้เนื่องจากไม่ต้องเช่า ใครจองได้ตรงไหนก็ทำตรงนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นดินทรายละเอียดที่สะสมกันมานานจนตื้นเขินเวลาน้ำลงก็จะเห็นเนินดินจากตลิ่งมาถึงกลางแม่น้ำ ซึ่งชาวบ้านบางคนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาขุดลอก เนื่องจากเวลาน้ำมากจะทำให้น้ำล้นเข้าบ้านเรือนประชาชนเร็วขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก ครอบครัวข่าว 3

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 18:43:24


ความคิดเห็นที่ 4593 (1588255)

เเผ่นดินไหวที่เกาะ สุลาเวสีอินโดนีเซีย

6.1 ริกเตอร์


 
MAG UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s
LAT
deg
LON
deg
DEPTH
km
Region
MAP 6.1 2011/12/13 07:52:12 -0.071 123.102 160.9 SULAWESI, INDONESIA

10-degree Map Centered at 0°N,125°E


__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 18:44:05


ความคิดเห็นที่ 4594 (1588256)

สกลนครหนาวเย็นต่อเนื่องไก่ดำภูพานป่วยตายจำนวนมาก


สถานนีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดสกลนคร รายงานภูมิอากาสประจำวัน ลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 04.00 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดย ทั่วไป กับมีหมอกเกิดขึ้นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ วัดได้ 12.2 องศาเชลเชียส อย่างไรก็ตามอากาศได้ลดลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 5 วันแล้ว คาดว่าในพื้นจังหวัดสกลนครอุณหภูมิจะลดลงอีก
ในขณะที่โรงเรียนต่างๆก็ได้พาเด็กนักเรียนออกมาเรียนกลางแจ้งเพื่อผิงแดด ช่วงอากาศหนาวเย็นติดต่อกันเช่นนี้ในส่วนของสัตว์เลี้ยง อาทิเป็ด ไก่ โดยเฉพาะไก่ดำภูพานที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่ายพบว่าก็เริ่มมีอาการ อ่อนแอและป่วยตายเป็นจำนวนมาก ล่าสุดนายจรินทร์ จักกะพาก ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เตรียมประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวในหลายอำเภอของจังหวัดสกลนคร และจากการตรวจสอบพบว่าประชาชนในพื้นที่ยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ซึ่งต้องใช้ไม่ต่ำกว่า 500,000 ผืน ถึงจะเพียงพอ
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รายงานว่าในช่วงวันที่ 13-14 ธันวาคม นี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนและมรสุตะวันออกเฉียงเหนือที่ปก คลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลงลักษณะเช่นนี้จะส่งผลให้ประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องโดยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณทลยังมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจายคลื่นลมอ่าวไทยตอนล้างมีกำลังแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาสที่หนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-13 18:47:26


ความคิดเห็นที่ 4595 (1588331)

ข่าวธนาคารโลก

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก http://board.palungjit.com/f2/เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว-รู้ทันโลก-โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน-266769-128.html

ธนาคารโลก

 

กล่าวเตือนเมื่อวันจันทร์ (12ธ.ค.)ว่า การแก้ปัญหาวิกฤติหนี้ในกลุ่มยูโรโซนของชาติสมาชิกในสหภาพยุโรป (อียู)อาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงในอียู ซึ่งมีระบบธนาคารที่แข็งแกร่ง

 


นายโซลลิก ระบุว่า ระบบการเงินและเศรษฐกิจโลกขณะนี้ กำลังอยู่ในภาวะ"เปราะบาง" และ"อ่อนไหว"ต่อการที่รัฐบาลประเทศต่างๆจะหั่นค่าใช้จ่ายและภาคอุตสาหกรรมธนาคารจะคุมเข้มด้านการปล่อยสินเชื่อ เพื่อให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงร่วมเพื่อสร้างวินัยการเงินการคลัง
"ขณะที่ผมเริ่มมองสถานการณ์ช่วงปลายปีนี้และปีหน้า ผมก็คิดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยรวมค่อนข้างเสี่ยง และมีโอกาสไม่มากนักที่คนเราจะทำอะไรผิดพลาด ผมไม่ได้บอกว่าเศรษฐกิจโลกจะถึงกาลพินาศ แต่สิ่งที่ผมเห็นคือการดำเนินการผิดพลาดสองสามอย่างทั้งที่นี่ (สหรัฐ) และที่นั่น(ยุโรป) ซึ่งรวมถึง ผลการประชุมของผู้นำยุโรป ที่อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อความพยายามพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลกได้"นายโซลลิก กล่าวในโอกาสให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี
ประธาน
ธนาคารโลก มองว่า การบังคับให้ธนาคารในยุโรป เพิ่มความแข็งแกร่งแก่ฐานเงินทุนของตัวเอง เนื่องจากธนาคารหลายแห่งถือครองพันธบัตรชาติยูโรโซนที่ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือและมีหนี้สาธาณะสูง เท่ากับบีบให้ธนาคารเหล่านั้นชลอการปล่อยกู้ ซึ่งจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจชะงักงันมากขึ้น
"ผลกระทบจากการที่ภาคอุตสาหกรรมธนาคารชลอการปล่อยสินเชื่อให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงในภูมิภาคยุโรป อาจจะเป็นการซ้ำเติม สถานการณ์ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว และขณะนี้ก็มีธนาคารจำนวนมาก เริ่มทะยอยขายสินทรัพย์ เริ่มเจอปัญหาขาดสภาพคล่อง จึงทำให้เราเริ่มเห็นบรรยากาศที่ไม่ดีนักในธุรกิจการเงิน" นายโซลลิก กล่าวและว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบบอลข่าน ยุโรปตะวันออกและยุโรปตอนกลาง ซึ่งธนาคารยุโรปตะวันตกเข้าไปเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในประเทศเหล่านี้

[COLOR=#3F3F3F][url=http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/foreign/20111213/424077/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%81.%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99.html] 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 10:16:06


ความคิดเห็นที่ 4596 (1588332)


ภัย(พิบัติ) จากเศรษฐกิจโลกที่กำลังเกิดขึ้น เเละ

หลายท่านอาจลืมพิจารณา

อย่าประมาท!

ปัญหาของยุโรปยังไม่จบง่ายๆ

เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้นำยุโรป 17 ประเทศได้ตกลงที่จะรับข้อผูกพันวินัยทางการคลังที่เข้มงวดขึ้น

เพื่อแลกกับการพยายามรักษาการรวมตัวกันและใช้เงินสกุลเดียวกัน โดยรัฐบาลของแต่ละประเทศในกลุ่มยูโรจะต้องไม่ขาดดุลงบประมาณเกินกว่า 0.5% ของจีดีพี และหากมีการละเมิดข้อกำหนดนี้ กลุ่มยูโรสามารถเข้าแทรกแซง และมีการลงโทษอย่างรุนแรงได้

นอกจากนี้ แต่ละประเทศจะต้องแจ้งแผนการกู้ยืมเงินโดยการออกพันธบัตร ให้ทางกลุ่มทราบล่วงหน้า สรุปก็คือแต่ละประเทศมีความเป็นอิสระในการจัดการกับงบประมาณของตนเองน้อยลง

ข้อตกลงนี้มีขึ้นในจังหวะที่ทั่วโลกกำลังจับตามองว่ายุโรปจะแก้ปัญหาของกรีซและประเทศยุโรปชายขอบที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะล้นพ้นตัวได้อย่างไร โดยผู้นำยุโรปตกลงกันว่า เมื่อมีข้อตกลงเรื่องวินัยทางการคลังที่เข้มงวดขึ้นแล้ว กลุ่มประชาคมยุโรปก็จะเพิ่มเงินให้ไอเอ็มเอฟอีก 500,000 ล้านยูโร เพื่อนำไปให้กู้กับประเทศยุโรปชายขอบที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ

กระบวนการรักษาเสถียรภาพ หรือ European Stability Mechanism หรือ ESM จะเข้าไปแทนที่กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป หรือ EFSF ในเดือนกรกฎาคม 2555 หรือเร็วกว่ากำหนดที่ตั้งไว้ 1 ปี

ดิฉันเคยเขียนถึงกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรปไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน ท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ค่ะ

กลับมาถึงการแก้ปัญหาของยุโรปต่อค่ะ การรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวทั้งทางด้านการเงิน เศรษฐกิจและสังคม เกิดขึ้นตั้งแต่ 7 กันยายน 2539 โดยผลของสนธิสัญญามาสทริชท์ (maastricht 1993) และเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินเดียวกัน คือ ยูโร ตั้งแต่ 1 มกราคม 2542 ในรูปของเงินอิเล็กทรอนิกส์ และตั้งแต่ 1 มกราคม 2545 ในรูปของธนบัตร โดยมีมูลค่าตั้งต้น คือ 1 ยูโร เท่ากับ 1.2 ดอลลาร์ เพื่อให้กลุ่มประชาคมนี้มีความแข็งแกร่ง มีอำนาจต่อรองในโลก และเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกันอยู่แล้ว จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการค้าขายที่ทำได้โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนเงินข้ามสกุล

ที่มาของปัญหาของยุโรป คือ เศรษฐกิจของแต่ละประเทศไม่ได้มีพื้นฐานเหมือนกันทั้งหมด เช่น เยอรมนี พึ่งพาอุตสาหกรรมการผลิตและส่งออก โดยการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของจีดีพี อัตราเงินเฟ้อไม่สูงมาก คือ ประมาณ 2.6% อัตราการว่างงานในปัจจุบันประมาณ 7% ในขณะที่ฝรั่งเศสพึ่งพาอุตสาหกรรมเคมี แฟชั่นและท่องเที่ยว อัตราเงินเฟ้อใกล้เคียงกันเยอรมนี คือ ประมาณ 2.1% อัตราการว่างงานสูงกว่า คือ 9.3%

สำหรับประเทศอิตาลีมีทั้งการผลิต เกษตรกรรม การท่องเที่ยวและแฟชั่น มีอัตราเงินเฟ้อประมาณ 3% อัตราการว่างงาน 8%

ส่วนสเปน ทำการค้าขายส่วนใหญ่กับประเทศยุโรปด้วยกันเอง มีทั้งผลผลิตการเกษตร อุตสาหกรรม และท่องเที่ยว อัตราเงินเฟ้อประมาณ 2.9% แต่อัตราการว่างงานสูงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมามีเพียงปี 2550 เท่านั้นที่อัตราการว่างงานของสเปนต่ำกว่า 10% เพียงเล็กน้อย ส่วนช่วงที่เหลือ สูงกว่า 10% มาโดยตลอดและในไตรมาสที่สามของปีนี้สูงถึง 21.5% ซึ่งเป็นอัตราการว่างงานที่สูงที่สุดในยุโรป

ประเทศกลุ่มยูโรมีสมาชิกรวม 27 ประเทศโดยกลุ่มประเทศดั้งเดิมซึ่งรวมตัวกันตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองมี 6 ประเทศ ประกอบด้วย เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ รวมตัวกันตั้งแต่ ปี 1952 หรือเมื่อปี พ.ศ. 2495 หลังจากนั้น สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และเดนมาร์ก จึงเข้าร่วมในปี 1973 หรือ พ.ศ. 2516 และกรีซเข้าร่วมเมื่อปี 1981 หรือ พ.ศ. 2524

สเปนและโปรตุเกสเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพในปี 1986 ในปี 1995 ออสเตรีย ฟินแลนด์ และสวีเดน จึงเข้าร่วม หลังจากสหภาพโซเวียตสลายการรวมตัว สมาชิกของประเทศในยุโรปตะวันออก เข้าร่วมในปี 2004 เป็นกลุ่มใหญ่ คือ เอสโทเนีย แลตเวีย ลิทัวเนีย และมีไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย สโสวาเนีย มอลตา และฮังการี เข้าร่วมในปีเดียวกัน สมาชิกล่าสุด คือ โรมาเนีย ซึ่งเข้าร่วมเมื่อปี 2007

เกือบทุกประเทศที่เข้าร่วม ต่างก็ใช้เงินสกุลยูโร ยกเว้น สหราชอาณาจักรที่ยังคงใช้ปอนด์สเตอร์ลิง และสวีเดน ที่ยังคงใช้สวีดิชโครน

จะเห็นได้ว่าประเทศที่เข้าร่วมใหม่ๆ แม้จะเป็นประเทศที่ฐานะทางเศรษฐกิจไม่แข็งแกร่งนัก แต่กลับไม่มีปัญหา เพราะประเทศเหล่านี้เพิ่งจะผ่านเกณฑ์การคัดตัวจึงยังแข็งแรงอยู่ ปัญหากลับอยู่กับประเทศที่เข้ามาร่วมแล้วระยะหนึ่ง แต่ไม่สามารถทำตามเกณฑ์วินัยการคลังที่ตั้งไว้ได้ และกลุ่มยูโรก็ไม่สามารถลงโทษหรือขับไล่ออกไปจากกลุ่มได้ เนื่องจากธรรมนูญไม่ได้เปิดช่องไว้

เมื่ออยู่ในบ้านหลังเดียวกัน หากสมาชิกคนใดคนหนึ่งอ่อนแอ สมาชิกอื่นๆ ก็ต้องเข้าไปช่วยดูแล จึงเกิดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป ซึ่งสมาชิกอื่นต้องระดมเงินเข้าไปทั้งให้กู้และให้การค้ำประกันแก่สมาชิกที่อ่อนแอ เพื่อให้สามารถคงอยู่ด้วยกันได้ต่อไป

แต่การเมืองของแต่ละประเทศไม่เอื้ออำนวย พอจะต้องรัดเข็มขัด ต้องลดการใช้จ่ายภาครัฐ ข้าราชการและประชาชนก็ออกมาประท้วง และนัดหยุดงาน ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชะงักงัน และยิ่งทำร้ายเศรษฐกิจที่อ่อนแออยู่แล้ว เมื่อบ้านเมืองไม่สงบ นักท่องเที่ยวก็ไม่มาเยือน จึงวนเวียนอยู่กับปัญหาอยู่อย่างนี้

ประเทศที่แข็งแรงและต้องเป็นผู้แบกรับภาระ เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส ต่างก็พบปัญหาในบ้านของตนเอง คือ ประชาชนไม่พอใจที่ต้องไปแบกรับภาระของประเทศที่อ่อนแอ และการแบกรับภาระของผู้อื่นมากๆ ก็สั่นสะเทือนถึงฐานะและอันดับความน่าเชื่อถือของตนเองเช่นกัน ทั้งนี้ ผู้นำประเทศกลุ่มยูโรเชื่อว่าวินัยทางการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้นนี้ จะไม่ทำให้วิกฤติหนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต

การก้าวล่วงเข้าไปสามารถลงโทษประเทศในกลุ่มสมาชิก และให้ประเทศกลุ่มสมาชิกต้องขออนุมัติการก่อหนี้กับกลุ่มยูโร ก่อนที่จะนำเสนอรัฐสภาของประเทศนั้นๆ เป็นเสมือนหนึ่งการมอบอธิปไตยบางส่วนให้กองกลาง จึงทำให้สมาชิก 9 ประเทศยังไม่สามารถเห็นชอบในหลักการนี้ได้ทันที ต้องนำไปเสนอให้รัฐสภาของประเทศตนเห็นชอบเสียก่อน ในขณะที่ประเทศหนึ่งประกาศชัดเจนว่าจะไม่ร่วม คือ สหราชอาณาจักร

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายค่ายเห็นว่า มาตรการเหล่านี้ เป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น ปัญหาของยูโร นอกจากจะอยู่ที่ความแตกต่างของพื้นฐานทางเศรษฐกิจแล้ว ยังอยู่ที่มีการรวมตัวกันเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ แต่ไม่รวมกันในด้านการปกครองด้วย ต้องมีรัฐบาลกลางที่จะชี้ขาดได้ว่า ใครต้องทำอะไร เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสามารถเกิดขึ้นได้ มิฉะนั้น จะไม่เกิดความมั่นใจแก่เจ้าหนี้ทั้งหลายไม่ว่าจะรายเก่าหรือรายใหม่

มีผู้มองว่า ยูโร ไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว ยิ่งรัดเข็มขัดในช่วงนี้ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย และเศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ จึงทำนายว่ายูโรต้องแตก จะแตกอย่างไร แตกแล้วจะเกิดอะไรขึ้นเอาไว้เขียนต่อในสัปดาห์หน้านะคะ

[COLOR=#3F3F3F][url=http://www.bangkokbiznews.com/home/details/business/ceo-blogs/wiwan/20111212/423918/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86.html]

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 10:20:54


ความคิดเห็นที่ 4597 (1588335)

อาริยากราบขออนุญาติท่านอาจารย์ ลงข่าวเศรษฐกิจของโลกเยอะขึ้นค่ะ

พอได้อ่านบทวิเคราะห์หลายนักวิจัยต่างๆเตือนให้ระวัง ทำให้นึกถึงคำเตือนสุดยอดของท่านอาจารย์อุบล ที่ได้เตือนลูกบ้านสวนให้ระวังมานานหลายๆเดือนก่อนข่าวที่ลง เพราะท่านคงได้เล็งเห็น เเละ เป็นห่วงความทุกข์ที่เกิดจากภัยเศรษฐกิจอันหนักหน่วงในไม่ช้านี้เเน่เชียว

ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะของพระพุทธองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธ์ทุกพระองค์ ครูบาอาจารย์ ท่านอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูงค่ะ ที่ท่านเมตตาให้ลูกเกิดปัญญา ไม่ประมาทกับชีวิตทุกวินาที เเละ ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม เเละ ทำให้เราพบความสุขที่เเท้จริงค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 10:40:01


ความคิดเห็นที่ 4598 (1588336)

 

ข้อคิดในการปฏิรูประบบการเงินโลก

[LEFT]โดย : ดร.บัณฑิต นิจถาวร
bandid.econ@gmail.com
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมอยู่ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ไปร่วมประชุม G20 Dialogue หรือ การหารือเพื่อระดมความคิดให้กลุ่มประเทศ G20

ในหัวข้อการปฏิรูประบบการเงินโลก จัดโดยสภาวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอินเดีย หรือ ICRIER ร่วมกับสถาบัน GIZ ของเยอรมันนี อย่างที่ทราบ G20 เป็นการรวมตัวของประเทศที่มีขนาดใหญ่ 20 ประเทศในโลก เพื่อเป็นเวทีด้านนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยความคิดเห็นของกลุ่ม G20 จะเป็นตัวขับเคลื่อนการทำงานขององค์กรระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงปรับปรุงระบบการเงินโลก เพื่อให้เศรษฐกิจโลกมีระบบการป้องกันและแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ถ้าจำได้ในช่วงแรกของวิกฤตเศรษฐกิจโลกคราวนี้ บทบาทของกลุ่ม G20 ค่อนข้างเด่นในการประสานนโยบายเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้กลับมาขยายตัว แต่สี่ปีให้หลังจนถึงปัจจุบัน ปัญหาที่สืบเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกก็ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุดก็ปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มสหภาพยุโรป ความยืดเยื้อของวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้ปัจจุบันบทบาทของกลุ่ม G20 ในฐานะผู้นำด้านนโยบายดูแผ่วลง การประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่างๆมีน้อยลง และการแก้ไขปัญหาจะออกมาในลักษณะต่างคนต่างทำ

ล่าสุดในการประชุมที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน กลุ่ม G20 ได้ประกาศความตั้งใจที่จะปฏิรูประบบเศรษฐกิจการเงินโลก เพื่อให้ได้ระบบใหม่ที่มีเสถียรภาพและเข้มแข็งกว่าเดิม โดยเน้นการปฏิรูปในสามทาง คือ หนึ่ง ดูแลปัญหาเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ และ สอง ผลักดันให้แต่ละประเทศ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนอย่างยืดหยุ่น เพื่อลดการสะสมเงินทุนสำรองทางการที่มองว่ามีปริมาณมากเกินพอดีในบางประเทศ และ สาม วางแนวทางให้เศรษฐกิจโลกมีความสามารถสูงขึ้นที่จะดูแลแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อเกิดขึ้น โดยปรับปรุงสถาบันและองค์กรต่างๆ ที่เศรษฐกิจโลกมี เพื่อให้โลกมีระบบป้องกันและแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

เป้าหมายต่างๆ นี้ต้องถือว่าวางไว้สูง และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผลักดันการปฏิรูป เพราะอย่างแรกต้องมีความชัดเจนก่อนว่า ในการปฏิรูปนี้สิ่งที่จะต้องพยายามทำให้เกิดขึ้นคืออะไร และสอง เมื่อทราบแล้ว แนวคิดด้านปฏิรูปก็จะต้องได้รับการสนับสนุนจากประเทศทั่วโลกว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ ซึ่งยากทั้งสองเรื่อง

เพื่อให้ผู้อ่าน “กรุงเทพธุรกิจ” เข้าใจว่าระบบการเงินโลกขณะนี้เป็นอย่างไร และมีปัญหาอะไร จึงนำมาสู่ความต้องการของกลุ่ม G20 ที่จะปฏิรูประบบปัจจุบันให้ดีขึ้น โดยใช้แนวทางสามด้านที่ได้พูดถึงนั้น ผมขอสรุปสั้นๆ ดังนี้

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ความยิ่งใหญ่ของประเทศสหรัฐในฐานะผู้ชนะสงคราม ทำให้เงินดอลล่าร์สหรัฐกลายมาเป็นเงินสกุลหลักของโลก จากความเข้มแข็งของเศรษฐกิจสหรัฐ ความก้าวหน้าของตลาดการเงินสหรัฐ และความน่าเชื่อถือในการทำหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้ทั่วโลกให้ความไว้วางใจและใช้เงินดอลล่าร์สหรัฐเป็นเงินสกุลกลางในการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยแต่ละประเทศจะกำหนดค่าเงิน หรืออัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินสกุลของตนกับเงินดอลล่าร์สหรัฐ ตามระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่แต่ละประเทศจะเลือกใช้ ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ แต่ต่อมาก็ผสมผสานระหว่างระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่และระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว

ภายใต้ระบบดังกล่าว ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่รุนแรงและต่อเนื่องหรือ ความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้นได้ยากในประเทศที่ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว เพราะอัตราแลกเปลี่ยนที่เคลื่อนไหวตามภาวะตลาด จะเป็นตัวปรับลดทอนความไม่สมดุลให้ลดลง ขณะที่ประเทศที่ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ความไม่สมดุลจะเกิดได้ง่าย และเมื่อเกิดขึ้นก็ต้องลดค่าเงิน หรือเพิ่มค่าเงินแล้วแต่กรณี และถ้าความไม่สมดุลมีมาก จนกระทบความสามารถของประเทศในการชำระหนี้ ประเทศก็อาจเข้าสู่วิกฤต ซึ่งระบบการเงินโลกก็จะมีไอเอ็มเอฟ ที่จะให้เงินกู้ช่วยเหลือเพื่อให้ประเทศสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลที่มีอยู่ได้

ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมา ระบบการเงินโลกจึงมีดอลล่าร์สหรัฐเป็นเงินสกุลหลักโดยมีความน่าเชื่อถือในการทำนโยบายการเงินของสหรัฐ เป็นตัวยึดเหนี่ยวความมั่นใจที่ทั่วโลกมีกับเงินสกุลหลัก โลกจะค้าขายและลงทุนระหว่างกัน นำมาสู่การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ ซึ่งก็คือการกู้ยืมกันเพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุน ความไม่สมดุลที่จะมี ก็จะถูกลดทอน โดยการปรับตัวของค่าเงิน โดยมีไอเอ็มเอฟเป็นผู้สอดส่องดูแล และให้ความช่วยเหลือในกรณีที่ประเทศต้องปรับตัวมากเพราะความไม่สมดุลมีมากจนเกิดวิกฤต

แต่ในช่วงประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ความเป็นโลกาภิวัตน์ของระบบการเงินโลก ทำให้การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศได้เพิ่มขึ้นในปริมาณที่สูงมากและเกิน การเคลื่อนย้ายเงินทุนเพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนของภาคเศรษฐกิจจริง สิ่งที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงินทุนเคลื่อนย้าย ที่เป็นการลงทุนทางการเงิน โดยตลาดการเงินโลกเพื่อแสวงหากำไร นำมาสู่ปริมาณการไหลเข้าออกของเงินทุนระหว่างประเทศที่มาก และผันผวน ประเด็นนี้ทำให้การเคลื่อนย้ายของเงินทุนระหว่างประเทศไม่ได้ถูกกำหนดโดยความต้องการทางการค้า หรือการลงทุนของภาคเศรษฐกิจจริงเหมือนอดีต แต่ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการของตลาดการเงินโลก ที่จะลงทุนเพื่อหากำไรหรือเพื่อเก็งกำไร ทำให้ระบบการเงินโลกปัจจุบัน เป็นระบบที่ขับเคลื่อนโดยกระแสหรือการไหลเวียนของเงิน (financial flows) ไม่ใช่ระบบที่ถูกขับเคลื่อนโดยการค้าและการลงทุน
สำหรับประเทศที่เงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาก ก็มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะใช้จ่ายเกินตัว มีปัญหาเงินเฟ้อ ปัญหาฟองสบู่ ปัญหาความไม่สมดุล และปัญหาหนี้ตามมา ซึ่งถ้ารุนแรงก็นำไปสู่การเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้นวิกฤตเศรษฐกิจใหญ่ๆที่เกิดขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เม็กซิโก เอเชีย รวมถึงไทย และล่าสุดที่สหรัฐ และยุโรป ล้วนแต่เป็นผลของเงินทุนเคลื่อนย้ายทั้งสิ้น ที่สำคัญ เมื่อการลงทุนทางการเงินมีมาก การเคลื่อนย้ายเงินทุนก็มาก วิกฤตเศรษฐกิจก็เกิดขึ้นได้บ่อย และเกิดขึ้นในขนาดที่ใหญ่ขึ้น และในประเทศที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ความสามารถของไอเอ็มเอฟ ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาทำได้น้อยลง เพราะไม่มีทรัพยากรการเงินมากพอที่จะช่วยเหลือประเทศที่เกิดปัญหาพร้อมกันหลายประเทศ โดยเฉพาะถ้าเป็นประเทศใหญ่ อันนี้คือปัญหาขณะนี้

ดังนั้นในชั้นแรก ความต้องการของกลุ่ม G20 ที่จะปฏิรูประบบการเงินโลก โดยดูแลเงินทุนเคลื่อนย้าย ต้องเริ่มที่การควบคุมการลงทุนทางการเงินของตลาดการเงินโลก ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยธุรกรรมทางการเงินบางอย่างต้องมีการควบคุมด้วยกฎระเบียบใหม่ที่เข้มแข็งและเป็นระบบสากล เพื่อลดการลงทุนทางการเงิน หรือการเก็งกำไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนของภาคเศรษฐกิจจริง ถ้าไม่มีจุดนี้การปฏิรูประบบการเงินโลกก็จะมีข้อจำกัด เพราะกลไกของนโยบายเศรษฐกิจ และอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเดียวจะไม่สามารถลดความเสี่ยง ที่เศรษฐกิจโลกมีจากเงินทุนเคลื่อนย้ายที่นับวันจะสูงขึ้นได้ อันนี้เป็นความเห็นที่ผมฝากไว้กับการประชุมที่อินเดีย เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เพื่อการพิจารณาของกลุ่ม G20

วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อน พบกันใหม่วันจันทร์หน้าครับ

[COLOR=#3F3F3F][url=http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/bandid/20111212/423921/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81.html]

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 10:41:01


ความคิดเห็นที่ 4599 (1588337)

 

ขอลงข่าวย้อน วันที่ 10 ธันวาคม 2554 17:47
"โดดเดี่ยว"

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



สิ่งพิมพ์ทุกฉบับนำเสนอข่าวอังกฤษไม่เข้าร่วมกับสหภาพการคลังยุโรป ถือเป็นการโดดเดี่ยวตัวเองจากกลุ่มอียู

[url=http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/foreign/20111210/423883/โดดเดี่ยว.html]"ⴴ

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก http://board.palungjit.com/f2/เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว-รู้ทันโลก-โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน-266769-128.html

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 10:47:08


ความคิดเห็นที่ 4600 (1588340)

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 11:02:31



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 [46] 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.