ReadyPlanet.com


ธรรมชาติ....เอาคืน.!!!


 

ตอนนี้

แผ่นดินไหว ทุก ๆ วัน

วันละหลาย ๆ ครั้ง

และที่ผ่านมา 3 วันนี้

10 - 11 - 12 พฤษภาคม 2554

ประมาณ 4 - 5 - 6 ริกเตอร์

รายละเอียด

เชิญอ่าน เพื่อ

เตรียมพร้อม...นะเจ้าคะ

*************************************

12 พค. 2554 06:25 น.

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.2 ริกเตอร์

ในเมืองลอร์กา ทางภาคใต้ของสเปน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน

เจ็บ 270 คน

อาคารเก่าแก่ บ้านเรือนพังถล่ม

ขณะที่ผู้นำสเปนสั่งการให้ส่งทหาร

และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ค้นหา

ผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

***************************************

12 พค. 2554 15:17 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

แจ้งว่าเมื่อเวลา 14.41 น.

แผ่นดินไหวในทะเล 4.9 ริกเตอร์

บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซีย ความลึก 45 กม.

ไม่มีผลกระทบต่อไทย

 



ผู้ตั้งกระทู้ แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-12 19:50:41


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 [47] 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 4601 (1588341)

 

In Pics:ยลภาพอัศจรรย์!!ปรากฏการณ์รุ้งหมอกสีขาวขั้วโลกเหนือ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2554 04:28 น.





เดอะซัน - สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพถ่ายอันน่าอัศจรรย์ นาทีที่รุ้งหมอกสีขาวทอดข้ามท้องฟ้าของขั้วโลกเหนือ สร้างบรรยากาศอันหนาวเหน็บของดินแดนแถบนี้ให้ดูมีความอบอุ่นขึ้นมาได้ทันตา

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่พบเห็นบ่อยครั้งนักที่เรียกว่ารุ้งหมอก (Fogbow) หรือสายรุ้งสีขาวสวยงามนี้เกิดจากการสะท้อนแสงที่มีความใกล้เคียงกับการเกิดรุ้งกินน้ำ และมันถูกพบเห็นระหว่างการสำรวจขั้วโลกเหนือของคณะสำรวจคณะหนึ่งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา

ลูกเรือของเรือตัดน้ำแข็งเห็นสายรุ้งอันโค้งเว้านี้และแต่ละคนก็ยิ่งอึ้งขึ้นไปอีกเมื่อพบว่ามีเป็นรุ้งสีขาวที่ไม่มีแถบสีอื่นเข้ามาเจือปนแม้แต่น้อย



จากนั้น แซม ดอบสัน ช่างภาพชาวอังกฤษก็รีบความกล้องขึ้นมาและกดชัตเตอร์บันทึกภาพปรากฏการณ์น่าประทับใจนี้ที่สายรุ้งสีขาวทอดข้ามผืนฟ้าท่ามกลางอุณหภูมิอันหนาวเหน็บ

ด็อบสัน กล่าวถึงช่วงเวลานั้นว่า "ตอนนั้นน่าจะประมาณเที่ยงคืนแล้ว แต่ช่วงเวลานี้ในขั้วโลกเหนือมันจะยังคงมีแสงสว่างอยู่เหมือนตอนกลางวัน"

"ตอนแรกก็คิดว่ามันคงเป็นแค่เพียงก้อนเมฆธรรมดาๆ ทว่าพอเราเข้าไปใกล้ๆก็พบว่ามันสายรุ้งสีขาว มันเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก เราจึงลงจากเรือเพื่อไปดูมันใกล้ๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผม ณ ตอนนั้นเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์มาก" เขากล่าว

ทั้งนี้แซมและคณะสำรวจเดินทางไปด้วยเรือตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก "50 Years Of Victory" ที่แล่นออกจากเมืองมูร์มันสค์ของรัสเ
ซีย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 11:03:21


ความคิดเห็นที่ 4602 (1588342)

เกือบทุกภาคอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังมีอากาศหนาวเย็น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2554 05:56 น.

Share



กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันพุธที่ 14 ธันวาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง โดยตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้มีแนวโน้มเคลื่อนในแนวประเทศมาเลเซีย จะทำให้ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีฝนเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. 2554 นี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาอุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาอุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 11:05:43


ความคิดเห็นที่ 4603 (1588344)
ร้อยเอ็ด-หนาวจัดประกาศภัยพิบัติ 20 อำเภอ


จังหวัดร้อยเอ็ด อากาศหนาวจัด ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้วทั้ง 20 อำเภอ อุตุฯ เตือน ระวังอัคคีภัยและสุขภาพโดยเฉพาะเด็กและคนชรา
 
สภาพอากาศหนาวเย็นปกคลุมพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดมานานร่วมสัปดาห์ วันนี้ ( 13 ธันวาคม 2554 ) อุณหภูมิเฉลี่ย 13-14 องศาเซลเซียส ทางจังหวัดประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้วทั้ง 20 อำเภอ ส่งผลให้ชาวบ้านตามชนบทต้องก่อไฟผิง ส่วนนักเรียน นักศึกษา ต้องสวมใส่เสื้อผ้ากันหนาวไปโรงเรียน สถานศึกษาบางแห่งให้นักเรียนแต่งกายตามสบาย ครูต้องนำนักเรียนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลางสนามฟุตบอล เพื่อรับไออุ่นจากแสงแดดป้องกันนักเรียนล้มป่วย

ส่วนประชาชนผู้มีรายได้น้อยหาวิธีผ่อนคลายความหนาวเย็นให้กับตัวเอง ด้วยการหาซื้อเสื้อผ้ากันหนาวมือสอง ซึ่งราคาถูกเพียงตัวละ 40 บาท และผ้าพันคอราคาเพียงผืนละ 10 บาท ประทังความหนาวเย็นได้ ทั้งนี้ สาธารณสุขจังหวัดออกโรงเตือนต้องซักและทำลายเชื้อโรคก่อนนำไปสวมใส่ ป้องกันโรคผิวหนัง และโรคอื่นๆได้

ด้าน นายณัฐ เอกก้านตรง อุตุนิยมวิทยาจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า อีก 2-4 วัน อากาศหนาวเย็นระลอกสองจะเข้ามาอีกอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 12.0 องศาเซลเซียส เตือนประชาชนให้ระวังอัคคีภัย เนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง และให้ระวังสุขภาพโดยเฉพาะเด็กและคนชรา



ครอบครัวข่าว 3 วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 11:12:05


ความคิดเห็นที่ 4604 (1588346)
อ่างทอง-แม่น้ำเจ้าพระยาแห้งขอด เห็นเนินทรายกลางน้ำ



แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านเมืองอ่างทองลดฮวบแห้งขอดจนเห็นเนินทรายโผล่กลางลำน้ำ ชาวบ้านต่างจับจองพื้นที่ปลูกถั่วลิสงหารายได้ระบุเป็นสัญญาณเตือนภัยแล้งกำลังมาถึง

หลังจากจังหวัดอ่างทอง เกิดภาวะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดอ่างทองได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เพียง 2 เดือนเศษระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ลดลงอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ
 
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณตำบลไชยภูมิ อำเภอไชโย พบว่าขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้อยมาก น้ำเริ่มแห้งจนเห็นเกาะดินทรายอยู่กลางแม่น้ำ โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามวัดไชโยวรวิหาร พบว่ามีตะกอนกองทราย คันดินและอีกหลายที่ก่อตัวอยู่ใต้น้ำตามธรรมชาติ เริ่มทยอยโผล่พ้นผิวน้ำทอดยาวให้เห็นอย่างเด่นชัด บางแห่งขึ้นเป็นเกาะดินทรายทอดยาวไปถึงกลางแม่น้ำ สูงจากผิวน้ำเกือบ 2 เมตร

นอกจากนั้นยังพบว่าประชาชนต่างเข้าไปจับจองพื้นที่ดินทราย เพื่อเพาะปลูกพื้นล้มลุก เช่น ถั่วลิสง มันเทศ หารายได้ และยังมีเด็กๆลงไปเล่นทรายที่ขาวละเอียดสวยงาม ชาวบ้านต่างบอกว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านต่างเข้าใจดีว่าเป็นสัญญาณเตือนภัยแล้งที่จะมาถึง

 
นางทองคืน โรจนสิน อายุ 65 ปี ชาวอำเภอไชโย กล่าวว่าหลังจากเกิดน้ำท่วม น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงมากแต่พอบทที่น้ำจะลดลงก็ลงอย่างรวดเร็วจนตอนนี้น้ำแห้งจนเห็นกองทรายที่อยู่กลางแม่น้ำ ซึ่งเท่าที่ดูจากต้นไม้ที่ขึ้นอยู่กลางแม่น้ำทำให้ทราบว่าน้ำลดลงไปกว่า 5 เมตร

โดยชาวบ้านแถวนี้ต่างเข้ามาจับจองพื้นที่ที่เป็นดินทราย ตั้งแต่ตลิ่งบ้านลงมาถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วหลายสิบไร่ เพื่อทำการปลูกถั่วลิสงหารายได้ ซึ่งถั่วลิสงจะใช้เวลาปลูกเพียง 3เดือน สามารถเก็บขายได้ เหตุที่มาปลูกในพื้นที่แห่งนี้เนื่องจากไม่ต้องเช่า ใครจองได้ตรงไหนก็ทำตรงนั้น
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นดินทรายละเอียดที่สะสมกันมานานจนตื้นเขินเวลาน้ำลงก็จะเห็นเนินดินจากตลิ่งมาถึงกลางแม่น้ำ ซึ่งชาวบ้านบางคนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาขุดลอก เนื่องจากเวลาน้ำมากจะทำให้น้ำล้นเข้าบ้านเรือนประชาชนเร็วขึ้น



ครอบครัวข่าว 3 วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 11:12:52


ความคิดเห็นที่ 4605 (1588347)
 
ภาพยนตร์พาโนรามา สื่อผสมเฉลิมพระเกียรติ "๘๔ ปีแห่งความเรืองรองของกรุงรัตนโกสินทร์"

นำเสนอเรื่องราวกรุงรัตนโกสินทร์แผ่นดินทองใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารแห่งพระบาทสมเด็จพร­ะเจ้าอยู่หัว


ครั้งแรกของประเทศไทยในการใช้เทคนิคฉายภาพบนกำแพงสามมิติ พร้อมการแสดงประกอบตลอดแนวกำแพงพระบรมมหาราชวัง
ความยาว ๒๐๐ เมตร ด้านถนนหน้าพระลาน
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 11:23:41


ความคิดเห็นที่ 4606 (1588348)

ผวาคืนส่งท้ายปีเก่า "เขื่อนแตก" กรุงเทพจมบาดาล
(ข่าวเดลินิวส์)

http://board.palungjit.com/f178/ผวาคืนส่งท้ายปีเก่า-เขื่อนแตก-กรุงเทพจมบาดาล-ข่าวเดลินิวส์-318091.html


 


คำทำนายของเด็กชาย "ปลาบู่" เรื่องเขื่อนแตก 31 ธ.ค. 54 เวลา 22.00 - 24.00 น.

 

คำทำนายของเด็กชาย "ปลาบู่" เรื่องเขื่อนแตก 31 ธ.ค. 54 เวลา 22.00 - 24.00 น.


ประวัติของเด็กชาย "ปลาบู่"
 






 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 11:24:30


ความคิดเห็นที่ 4607 (1588417)

ภาพเมฆเปลี่ยนเกาะเป็นคัพเค้กก้อนยักษ์



เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ เปิดเผยภาพสุดมหัศจรรย์ "เกาะคัพเค้ก" ท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ในมหาสมุทรแอนแลนติกเหนือ เหนือเทือกเขา ลิธลา ดิมัน (Litla Dimun) ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะแฟโร

ภาพสวย ๆ นี้ถูกจับภาพโดยนักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียน นามว่า อังเดร ริคอร์ดี้ วัย 40 ปี จากเมืองปาเวีย ประเทศอิตาลี ที่ถ่ายไว้ขณะกำลังเดินทางอยู่บนเรือเฟอรี่ เส้นทางระหว่างเมืองหลวงเกาะแฟโร ของเมืองทอร์ชาน กับเกาะทางตอนใต้ของเมืองซูปูรอย ซึ่งเขาจับภาพอันน่าทึ่งนี้ได้ขณะที่เมฆก้อนเล็ก ๆ สีขาว ลอยมาปกคลุมเหนือเทือกเขาบนเกาะลิธลา ดิมัน โดยในภาพที่เมฆลอยมาเหนือเกาะนี้ ทำให้ดูเหมือนกับว่าเกาะนี้ ถูกโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งแสนหวาน ปกคลุมไปรอบ ๆ คัพเค้กรสมิ้นท์สีเขียวก้อนโตน่ากินเลยทีเดียว

โดยช่างภาพมือไวนี้ เผยว่า มันเป็นช่วงเวลาที่ท้องฟ้าเปิดและสว่างไสวมาก ยกเว้นเพียงเจ้าเมฆแสนดื้อก้อนนี้ที่ลอยมาอยู่เหนือเกาะ ซึ่งตนแปลกใจมากที่เมฆจะลอยต่ำจากท้องฟ้าได้ขนาดนี้ และตนก็ไม่รีรอที่จะรัวชัตเตอร์เพื่อเก็บภาพปรากฎการณ์อันน่าทึ่งนี้ไว้ไปอวดเพื่อน ๆ เมื่อกลับบ้าน ซึ่งเขาก็พอใจกับภาพที่ถ่ายออกมาอย่างมาก

สำหรับเจ้าเกาะแห่งนี้นั้นมีพื้นที่ราว ๆ 250 เอเคอร์ โอบล้อมด้วยหน้าผา อันสูงชันนั้นไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่อย่างใด จะมีสิ่งมีชีวิตเพียงแค่แกะและนกทะเลเท่านั้นที่อาศัยเกาะคัพเค้กนี้เป็นบ้านอันแสนสุข สงบ เพื่อพักพิง นอกจากนั้นยังเป็นบ้านของภูเขา สเลทเทอเนีย ซึ่งมีความสูงถึง 414 เมตร หรือ 1,358 ฟุต ที่จุดสูงสุด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 18:55:33


ความคิดเห็นที่ 4608 (1588418)

In Pics:ยลภาพอัศจรรย์!!ปรากฏการณ์รุ้งหมอกสีขาวขั้วโลกเหนือ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2554 04:28 น.





เดอะซัน - สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพถ่ายอันน่าอัศจรรย์ นาทีที่รุ้งหมอกสีขาวทอดข้ามท้องฟ้าของขั้วโลกเหนือ สร้างบรรยากาศอันหนาวเหน็บของดินแดนแถบนี้ให้ดูมีความอบอุ่นขึ้นมาได้ทันตา

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่พบเห็นบ่อยครั้งนักที่เรียกว่ารุ้งหมอก (Fogbow) หรือสายรุ้งสีขาวสวยงามนี้เกิดจากการสะท้อนแสงที่มีความใกล้เคียงกับการเกิดรุ้งกินน้ำ และมันถูกพบเห็นระหว่างการสำรวจขั้วโลกเหนือของคณะสำรวจคณะหนึ่งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา

ลูกเรือของเรือตัดน้ำแข็งเห็นสายรุ้งอันโค้งเว้านี้และแต่ละคนก็ยิ่งอึ้งขึ้นไปอีกเมื่อพบว่ามีเป็นรุ้งสีขาวที่ไม่มีแถบสีอื่นเข้ามาเจือปนแม้แต่น้อย



จากนั้น แซม ดอบสัน ช่างภาพชาวอังกฤษก็รีบความกล้องขึ้นมาและกดชัตเตอร์บันทึกภาพปรากฏการณ์น่าประทับใจนี้ที่สายรุ้งสีขาวทอดข้ามผืนฟ้าท่ามกลางอุณหภูมิอันหนาวเหน็บ

ด็อบสัน กล่าวถึงช่วงเวลานั้นว่า "ตอนนั้นน่าจะประมาณเที่ยงคืนแล้ว แต่ช่วงเวลานี้ในขั้วโลกเหนือมันจะยังคงมีแสงสว่างอยู่เหมือนตอนกลางวัน"

"ตอนแรกก็คิดว่ามันคงเป็นแค่เพียงก้อนเมฆธรรมดาๆ ทว่าพอเราเข้าไปใกล้ๆก็พบว่ามันสายรุ้งสีขาว มันเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก เราจึงลงจากเรือเพื่อไปดูมันใกล้ๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผม ณ ตอนนั้นเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์มาก" เขากล่าว

ทั้งนี้แซมและคณะสำรวจเดินทางไปด้วยเรือตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก "50 Years Of Victory" ที่แล่นออกจากเมืองมูร์มันสค์ของรัสเซีย

__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 18:57:53


ความคิดเห็นที่ 4609 (1588419)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 18:58:27


ความคิดเห็นที่ 4610 (1588457)
 
ลำปางแผ่นดินไหวครั้งที่4ในรอบ2สัปดาห์


เกิดเหตุแผ่นดินไหว ห่างจากเหมืองแม่เมา ขนาด 2.5 ริกเตอร์ ครั้งที่ 4 ในรอบ 2 สัปดาห์

สถานีตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนของ กฟผ.แม่เมาะ ที่ตั้งอยู่บริเวณแนวสั้นเขื่อนแม่จาง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง สามารถตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนจากการเกิดแผ่นดินไหว ครั้งล่าสุดได้ เมื่อเวลา 09.09 น. ขนาด 2.5 ริกเตอร์ สำหรับจุดศูนย์กลางที่เกิดแผ่นดินไหว อยู่ทางทิศตะวันตกของเหมืองแม่เมาะ ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงของการเกิดแผ่นดินไหว ทุกครั้งที่ผ่านมา สำหรับการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 2 สัปดาห์นี้ ที่จุดศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง หลังจากใน 3 ครั้งแรก เกิดขึ้น โดยที่การเกิดแผ่นดินไหวทุกครั้ง เป็นการไหวที่เบา ถึงแม้จะมีประชาชนรับรู้ได้ถึงแรงสั้นสะเทือน แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด “โดยเฉพาะการไหวที่ถี่ ในช่วงนี้ ก็ไม่ส่งผลกระทบ

ทั้งนี้ นอกจากสถานีตรวจวัดแรงสั้นสะเทือนของ กฟผ.แม่เมาะ ที่ตั้งอยู่บริเวณแนวสั้นเขื่อนแม่จาง อ.แม่เมาะ ที่จะมีการตรวจจับแรงสั่นสะเทือนของการเกิดแผ่นดินไหว อยู่ตลอดเวลา แต่ทาง กฟผ.แม่เมาะ จึงต้องเร่งทำการออกสำรวจในพื้นที่ ทั้งเขื่อนและโรงฟ้าแต่ก็เป็นที่น่าจับตา และตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมช่วงนี้แผ่นดินไหวถี่ขึ้นและบ่อยครั้งขึ้น


INN
วันพุธที่ 14 เดือนธันวาคม พ.ศ.2554 13:15 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 22:38:46


ความคิดเห็นที่ 4611 (1588458)
ระทึก แผ่นดินไหวสุดแรง 7.1 ริกเตอร์ เขย่าปาปัว นิวกินี ผู้คนแตกตื่น แห่หนีออกจากตึกอาคาร


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวเขย่าปาปัว นิวกินี วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.1 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 15.04 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองลีอา ราว 121 กม.และเมืองหลวง พอร์ต โมเรสบี้ ราว 221 กม.โดยแผ่นดินไหวสร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้คน ซึ่งออกมาจากตึกอาคาร และประชาชนบางรายบอกว่า แผ่นดินไหวเขย่าอย่างรุนแรง ทำให้ทุกคนรู้สึกได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทางการปาปัว นิวกินี ไม่ได้ประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำหรับปาปัว นิวกินี มักจะประสบกับเหตุแผ่นดินไหวเป็นปกติ เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตวงแหวนเพลิงแห่งภูมิภาคแปซิฟิก ซึ่งเป็นจุดที่แผ่นดินมีการเคลื่อนตัวจากรอยเลื่อนของเปลือกโลก


มติชนออนไลน์
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 17:33:27 น.


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 22:39:50


ความคิดเห็นที่ 4612 (1588459)
เกิดดินถล่มในเขตภูเขาทางใต้ของโคลอมเบีย



โคลอมเบีย 14 ธ.ค. - ทางการโคลอมเบียเผยเหตุการณ์ดินถล่มในเขตภูเขาทางภาคใต้ ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 1 คน และมีผู้สูญหายราว 15 คน

ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกันยายน ส่งผลให้เกิดดินถล่มในเขตภูเขาทางตอนโต้ของโคลอมเบีย โดยล่าสุดที่เมืองลา ครูซ มีบ้านเรือน 3 หลัง ถูกดินถล่มทับ และพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน เป็นเด็กอายุราว 7-8 ขวบ และเชื่อว่ายังมีผู้ที่ถูกฝังอยู่ใต้กองโคลน และซากบ้านเรือนอีกราว 15 คน

ในปีนี้โคลอมเบียต้องเจอกับความเสียหายอย่างหนัก จากภัยธรรมชาติ และสถานการณ์น้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี ข้อมูลของทางการระบุว่า ฤดูฝนปีนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 145 คน เทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 80 คน



สำนักข่าวไทย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันนี้ เวลา 10:09:09 pm โดย kitti »
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-14 22:40:26


ความคิดเห็นที่ 4613 (1588482)

เรื่องราวเด็กชาย ปลาบู่

เป็นประเด็นข่าวใหญ่ใน น.ส.พ.ด้วย

ขอบคุณทุกๆข่าวจากคุณ อาริยา ด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-15 07:03:52


ความคิดเห็นที่ 4614 (1588626)

ดร.อาจอง ท่านบอกมา

นานหลายปีแล้ว

ในรายการ คุยไปแจกไป

เรื่องเขื่อนแตก

โดยเฉพาะ เขื่อนเมืองกาญจน์

 

ที่น้ำจะมาถึง

กทม.ใน 35 ชม.

 

เมืองกาญจน์ทั้งเมือง

จะไม่มีใครรอดเลย

 

และอีก 24 จังหวัด

ได้รับผลกระทบ

มาก

 

เพียงแต่ท่าน

เป็นนักวิทยาศาสตร์

ไม่ฟันธง

เรื่อง

เวลา แต่ว่า ท่าน

เตือน

ตลอด ไม่เคย เลิกเตือน

ท่านยังยืนยัน

คำเดิม

 

เพื่อความไม่ประมาท

เรา

ต้องเตรียมพร้อม

ทุกเวลานาที

นะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-15 23:41:55


ความคิดเห็นที่ 4615 (1588645)

เพื่อความไม่ประมาท

เรา

ต้องเตรียมพร้อม

ทุกเวลานาที

นะจ๊ะ

 

ขอกราบขอบพระคุณท่าน อาจารย์อุบล เป็นอย่างสูงค่ะ  ที่เมตตาห่วงใยคอยเตือนลูกๆบ้านสวนทั่วโลก เตรียมพร้อมตลอดเวลา ขนาดท่านมีภารกิจเยอะมากๆ เเละใกล้เที่ยงคืนเเล้ว ท่านยังเเวะมาเขียนบอก เป็นบุญใหญ่ของเราค่ะ  อาริยาขอน้อมบุญที่ได้สะสมมาทุกภพชาติ ขอบารมีพระพุทธองค์โปรดดลบันดาลให้ท่านอาจารย์เเละ ครอบครัวมีความสุข เเละ สุขภาพเเข็งเเรงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:13:10


ความคิดเห็นที่ 4616 (1588646)

ฝูงวาฬติดช่องแพน้ำแข็งในรัสเซีย เร่งให้ความช่วยเหลือ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ธันวาคม 2554 03:30 น.


วาฬเบลูกากว่า 100 ตัวว่ายเข้ามาติดอยู่ในช่องว่างระหว่างแพน้ำแข็งในแคว้นชูคอตกา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย เจ้าหน้าที่เผยเมื่อวันพุธ(14) พร้อมเรียกร้องรัฐบาลส่งเรือตัดน้ำแข็งเข้าช่วยเหลือพวกมัน

"ฝูงวาฬเบลูกากว่า 100 ตัวถูกแพน้ำแข็งขังอยู่ในทะเลเบริงและพวกมันไม่สามารถว่ายออกไปข้างนอกได้" ทางการแคว้นชูคอตกาแถลงผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ พร้อมระบุว่าทางโรมัน โคปิน ผู้บริหารท้องถิ่นได้ร้องขอเรือตัดน้ำแข็งเพื่อเข้าช่วยเหลือพวกมันแล้ว

ในถ้อยแถลงนี้ยังบอกด้วยว่าฝูงวาฬติดอยู่ห่างจากหมู่บ้านยันราคีนอต ทางใต้ของทะเลเบริงราว 15 กิโลเมตร และโคบิน ได้ส่งหนังสือถึงอิกอร์ เลวิติน รัฐมนตรีขนส่งกับเซอร์เก โชอิกู รัฐมนตรีพลังงาน ขอให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเรือตัดน้ำแข็งเข้าช่วยเหลือฝูงวาฬเหล่านี้

ทั้งนี้ในคำแถลงดังกล่าวยังแสดงความกังวลว่าฝูงวาฬเหล่านี้เสี่ยงที่จะอดอาหารและการขยายตัวของแพน้ำแข็งก็อาจทำให้พวกมันต้องเบียดเสียดยัดเยียดกันจนตาย "ด้วยที่พวกมันขาดแคลนอาหารและน้ำที่กำลังแข็งตัวอย่างรวดเร็ว ฝูงวาฬอาจอ่อนแรงและตายได้"

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:20:17


ความคิดเห็นที่ 4617 (1588647)
ภาคเหนือนี้จะตรึงไม่ให้เกิดแผ่นดินไหวให้ถึงแค่ 8 ม.ค. 55 เท่านั้น !!!

http://board.palungjit.com/f178/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่-3906-1342.html
 


natthapatpun สมาชิก

คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ตายด้วยความประมาท เมื่อถึงคราวตาย ใครจะไปห้ามไม่ให้ใครตายได้อย่างไร อยู่ที่ไหนก็ตาย แต่คนที่จิตละแล้วซึ่งโลก เลือกตายอย่างไรก็ได้ ถ้าจะไม่มีใครเชื่อเรื่องการเตือนภัย ก็ปล่อยเขาไปตามกรรมของเขาเถอะค่ะ

แต่ถ้าการเตือนภัยนี้ทำให้สมาชิกหลายท่านเดือดร้อนทางกาย วาจา หรือใจก็ดี ดิฉันก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้เป็นอย่างสูง แต่จะให้ยืนยันว่าไม่เกิดนั้น สำหรับดิฉันยังไม่วางใจ แต่ใครจะปล่อยวางก็ไม่เป็นไร ปล่อยวางได้ก็ดีค่ะ จะได้ทำให้สบายใจ

เคยบอกให้ทราบแล้วว่าด้านเหนือนี้จะตรึงไว้ให้ถึงแค่ 8 ม.ค. 55 เท่านั้น เพื่อให้ผู้มีจิตเป็นกุศลได้ทำบุญขึ้นปีใหม่กันอย่างสบายใจ หลังจากนั้นก็จะปล่อยให้ธรรมชาติทำงานเหมือนเดิม
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:21:21


ความคิดเห็นที่ 4618 (1588648)
ตะลึง!! ภาพอุโมงค์ใต้น้ำ รูปกะโหลกมนุษย์




สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ช่างภาพ Peter Bardsley ได้เปิดเผยภาพน่าขนลุก เมื่อเขาถ่ายภาพอุโมงค์ใต้น้ำโฮจด์ โคส ในเมืองคัมเบีย ของอังกฤษ ได้อย่างบังเอิญ โดย  Peter กล่าวว่า หลังจากเขาถ่ายภาพอุโมงค์ดังกล่าว และหมุนตั้งขึ้น 90 องศา เขาพบว่าภาพที่ปรากฏมีลักษณะคล้ายกะโหลกมนุษย์ขนาดใหญ่ ทำให้เขาตกตะลึงมากๆ มันเหมือนหน้าของผี หรืออะไรบางอย่างที่น่ากลัว


ภาพอุโมงค์ เมื่อหมุนตั้ง 90 องศา


ทั้งนี้ Peter ยังเล่าต่อว่า มีคำล่ำลือกันว่า เคยมีนักดำน้ำจมน้ำตาย และนักปืนเขาตกลงมาเสียชีวิต ที่บริเวณอุโมงค์ดังกล่าวหลายราย อีกทั้งเมื่อปี 2005 เกิดเหตุที่ทีมกู้ภัยต้องเข้าช่วยเหลือนักดำน้ำวัย 48 ปี ที่มาดำน้ำบริเวณนั้น หลังตื่นตกใจและบอกว่าเขาพบศพของมนุษย์อยู่ใต้น้ำ




Mthai News

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:23:33


ความคิดเห็นที่ 4619 (1588649)

ทำบัญชีดาวเคราะห์น้อยอันตราย ขนาดใหญ่โตไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร



องค์การอวกาศสหรัฐฯแจ้งว่า ได้รวบรวมรายชื่อดาวเคราะห์น้อย ซึ่งมีวงโคจรเข้ามาเฉียดใกล้โลก จนเกรงว่าอาจสร้างมหันตภัยขึ้นได้ ขึ้นบัญชีเอาไว้ มีจำนวนประมาณ 1,000 ดวงด้วยกัน

องค์การได้ทำตามคำสั่งของรัฐสภาอเมริกัน เมื่อ พ.ศ.2541 ซึ่งขอให้จัดทำบัญชีรายชื่อดาวเคราะห์น้อยเข้ามาใกล้โลก ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 1 กม . เอาไว้ และได้จัดทำเสร็จไปแล้วร้อยละ 93 นอกจากนั้น ยังได้สำรวจพบดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กกว่า ในแถบใกล้โลก ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางโตประมาณ 100 เมตร อีก 20,500 ดวง

คาดกันว่า เมื่อ 65 ล้านปีมาแล้ว เคยมีดาวเคราะห์น้อย หรือดาวหางที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางโตระหว่าง 5-10 กม. พุ่งเข้าชนโลก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศขึ้นทั่วโลก จนไดโนเสาร์และสัตว์ต่างๆ พากันตายหมดสิ้น เจ้าหน้าที่ขององค์การกล่าวว่า “เรารู้ว่า ดวงใหญ่ๆ จะสามารถกวาดล้างชีวิตบนโลกให้หมดสิ้นลงได้”.

โดย: ไทยรัฐฉบับพิมพ์

15 ธันวาคม 2554, 12:00 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:24:25


ความคิดเห็นที่ 4620 (1588650)

ฝนตกต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่มในรัฐปะหัง



มาเลเซีย 15 ธ.ค. - ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในบางพื้นที่ของเมืองกวนตัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐปะหังทางชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซีย นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มปิดทับเส้นทางสายจาลัน กวนตัน –ซันไก เลมบิง เป็นระยะทางราว 70 เมตร ทำให้เส้นทางดังกล่าวต้องปิดการสัญจรและขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม

ด้านสมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งเดินทางลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ดินถล่มเกิดจากน้ำใต้ดินซึ่งทำให้โครงสร้างของดินอ่อนตัวลง และจากนี้จะมีการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากคณะที่ปรึกษาซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทน้ำมันปิโตรนาสเข้าร่วมด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:34:42


ความคิดเห็นที่ 4621 (1588651)

พัทลุง..น้ำป่ายังท่วม 2 อำเภอ เตือนพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม




น้ำป่ายังไหลเข้าท่วม 2 อำเภอ ทางจังหวัดแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยระวังดินโคลนถล่มอีกระลอก หลังมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น

จังหวัดพัทลุงยังคงมีน้ำท่วมสูงใน 2 อำเภอ หลังจากน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดที่ไหลผ่านอำเภอตะโหมด อำเภอป่าบอน เมื่อคืนวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา ยังคงไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ราบลุ่ม ของ อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว บ้านเรือนประชาชน สวนยางพารา สวนปาล์ม และนาข้าว เส้นทางเข้าหมู่บ้านหลายสายมีน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก วอนขอความช่วยเหลือ โดยเฉพาะชาวบ้าน หมู่ 3,5,7 ต.เขาชัยสน ม.2 3,4 ต.จองถนน อ.เขาชัยสน หมู่ 5,7 ต.ท่ามะเดื่อ ม.11 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว กว่า 2,500 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมมาแล้ว 2 ระลอก บางครอบครัว ต้องมาอาศัยนอนริมถนน และบางครอบครัวต้องทอดสะพานไม้เดินลุยน้ำออกมาหาชื้ออาหารยังชีพ

ในขณะที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุงแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัย ริมป่าเทือกเขาบรรทัด ในพื้นที่ อ.กงหรา อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน อ.ศรีนครินทร์ และอ.ศรีบรรพต ให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่แจ้งเตือนจะมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือระลอกใหม่ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น อาจจะทำให้ฝนตกหนักในช่วงวันที่ 15-18 ธันวาคมนี้ และบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงดังกล่าวด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:38:01


ความคิดเห็นที่ 4622 (1588652)

"ฝนตกหนัก" ดินถล่มบนภูเขาในโคลัมเบียเด็กดับ 1

by Nation Channel | 14.12.2011 เวลา 14:02 น.

เจ้าหน้าที่โคลัมเบีย ระบุว่า ดินถล่มเกิดขึ้นที่ภูเขาในจังหวัดนาริโนทางภาคตะวันตก เฉียงใต้ ทำให้บ้านเรือน 3 หลังในเมืองลาครูซถูกฝัง มีเด็กวัย 8 ขวบเสียชีวิต และคาดว่าประชาชนอีก 15 คนยังคงถูกฝังอยู่ภายใต้ดินโคลนและซากบ้านเรือน หน่วยกู้ภัยถูกระดมกำลังมาช่วยกันค้นหาผู้รอดชีวิตที่เชื่อว่ายังคงถูกฝังอยู่ แต่ด้วยสภาพอากาศและพื้นที่ ทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:38:42


ความคิดเห็นที่ 4623 (1588653)

ฝูงไก่ตายปริศนาในเนปาลหวั่นไข้หวัดนก

15 ธ.ค. สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า ประชาชนใน Ghurmi Bazaar, Udayapur เนปาล หวั่นเกรงว่าเกิดการระบาดของไข้หวัดนกในท้องถิ่น เนื่องจากเมื่อ 2 - 3 วันที่ผ่านมาฝูงไก่กว่า 1,000 ตัวจากฟาร์มเลี้ยงต่างๆในหมู่บ้าน ล้มลายโดยไม่ทราบสาเหตุ

Tilak Shrestha ประชาชนในท้องถิ่นให้ข้อมูลว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ฝูงไก่ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งใน Lekhani VDC-2, Ghurmi เริ่มล้มตาย หลังจากนั้นฝูงไก่ในฟาร์มอื่นๆในหมู่บ้านก็ล้มตายตาม ในหมู่บ้าน ไม่เคยมีฝูงไก่ล้มตายเป็นจำนานมากขนาดนี้มาก่อน และเกรงว่าสาเหตุเกิดจากไข้หวัดนก ขณะนี้ประชาชนในหมู่บ้านหยุดการจำหน่ายและบริโภคไก่เรียบร้อยแล้ว แต่สำนักงานสุขภาพปศุสัตว์ประจำอำเภอคาดว่าสาเหตุของการล้มตายของฝูงไก่จำนวนมากน่าจะเกิดจากการเป็นโรค Ranikhet หรือนิวคาสเซิล แต่ยังต้องมีการตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยันสาเหตุอีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถตรวจพิสูจน์ซากไก่ในสำนักงานสุขภาพปศุสัตว์ที่ Biratnagar จึงได้ส่งตัวอย่างไปยังกรุงกาฐมาณฑุ

อนึ่ง ใน Udayapur มีเกษตรกรเลี้ยงไก่ประมาณ 1,000 ราย หลังจากเหตุการณ์ฝูงไก่ล้มตายเป็นจำนวนมากครั้งนี้ จึงมีการระงับการส่งไก่ไปจำหน่ายยัง Khotang, Okhaldhunga และ Solukhumbu

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:39:36


ความคิดเห็นที่ 4624 (1588654)

เขื่อนภูมิพลพร่องน้ำเพิ่มเกือบเท่าตัวรองรับฤดูฝนหน้า หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:55:00 น.
Share



วันที่15ธ.ค. นายณรงค์ ไทยประยูร ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประทศไทย (กฟผ.) เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ระบุถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลว่า สิ่งที่ต้องจัดการก็คือจะต้องระบายน้ำออกไป เพื่อจะรองรับน้ำใหม่ที่จะเข้ามา ทั้งนี้ เนื่องจากว่ามีเวลาในการจัดการน้ำประมาณไม่เกิน 5 เดือน น้ำใหม่ก็ใกล้ก็จะเข้ามาแล้ว ล่าสุดเริ่มปล่อยน้ำมากขึ้นเป็นวันละ 40 ล้านลบ.ม. จากปกติวันละ 24 ล้าน ลบ.ม. เพราะกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเนื่องจากน้ำล้นอ่าง และในอนาคตจะต้องระบายมากกว่านี้ โดยจะต้องเตรียมการรองรับการระบายน้ำให้ดีเพื่อไม่ให้เดือดร้อนลุ่มเจ้าพระยา ขณะที่น้ำยังไหลเข้าอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 13 ล้านลบ.ม.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:40:21


ความคิดเห็นที่ 4625 (1588655)

ปศุสัตว์ตรวจเข้มเชื้อหวัดนก หลังนกไซบีเรียอพยพเข้าอ่างทอง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ธันวาคม 2554 15:20 น.


นายวิโรจน์ อัคควุฒิ ปศุสัตว์อำเภอแสวงหา จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้เก็บตัวอย่างมูลไก่ชนในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.จำลอง เพื่อส่งตรวจหาเชื้อไข้หวัดนก ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ พร้อมพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณเล้าไก่และเป็ดในหมู่ที่ 1 และ 2 เพื่อป้องกันเชื้อไข้หวัดนกระบาด หลังพบมีไก่ตายในพื้นที่ และจุดใกล้เคียงมีนกปากห่าง ซึ่งเป็นนกอพยพจากไซบีเรียมาอาศัยอยู่นับล้านตัว ทำให้ชาวบ้านกังวลว่าจะทำให้เกิดการระบาดของโรค ซึ่งการตรวจสอบหาเชื้อไข้หวัดนกบริเวณที่นกปากห่างอาศัยอยู่นั้น อยู่ระหว่างประสานกับกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จังหวัดสระบุรี ผู้รับผิดชอบให้ดำเนินการเพราะนก

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:41:02


ความคิดเห็นที่ 4626 (1588656)

จังหวัดยะลา เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ระวังน้ำท่วมระลอกสอง

ในพื้นที่ จังหวัดยะลา มีฝนตกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้พื้นที่ราบลุ่ม ของ อำเภอเมือง และ ตามอำเภอรอบนอก เริ่มจะมีน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ราบลุ่ม บ้างแล้ว ซึ่งหากยังมีฝนตกหนักติดต่อกัน จะทำให้เกิดน้ำท่วมระลอกสองได้ ประกอบกับ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ของ วันนี้ ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น และบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร โดยหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มเคลื่อนที่ผ่านประเทศมาเลเซีย จะทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่เสี่ยงภัย ตั้งแต่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม2554 ส่วนชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วง ดังกล่าว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:41:34


ความคิดเห็นที่ 4627 (1588657)

คาดหมาย
พายุ 27w จะเข้ามาถึง ทะเลจีนใต้ ตรงเวียดนาม

ในวันที่ 20 ธ.ค.54 ด้วยความเร็วลม 65 กม. ต่อ ชม.



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:41:51


ความคิดเห็นที่ 4628 (1588658)

เกิดน้ำท่วมฉับพลันที่ฟิลิปปินส์ จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

Flash floods triggered by heavy rains slowed down traffic in southern Metro Manila yesterday noon, the Metropolitan Manila Development Authority said. The MMDA said falsh floods occurred at the Metropoint area at the corner of Epifanio delos Santos and Taft Avenues. Rains fell in some parts of Metro Manila at noon yesterday even as weather forecasters said a tropical depression may enter Philippine territory as early as last night. Earlier, the Philippine Atmospheric, Geophysical and Astronomical Services Administration (PAGASA) indicated the depression may affect parts of Mindanao. PAGASA forecaster Elvie Enriquez said the cyclone is not likely to intensify since the Philippines is not conducive to cyclones.

RSOE EDIS - Flash Flood in Philippines on Thursday, 15 December, 2011 at 08:14 (08:14 AM) UTC. EDIS CODE: FF-20111215-33416-PHL

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:43:06


ความคิดเห็นที่ 4629 (1588659)

พรุ่งนี้ 16 ธ.ค.54 --> จะหนาวขึ้น อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศา ในภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 16-18 ธ.ค. 2554

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน

จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงได้ 2-4 องศาเซลเซียส

กับมีลมแรง บริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือ

และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

>> ส่วนภาคใต้ยังคงต้องรับมือกับพายุฝน ไปจนถึงวันที่ 18 ธ.ค. 54

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือทีพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

ประกอบกับในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค.

จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนที่ผ่านประเทศมาเลเซีย

ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

** ในช่วงวันที่ 16-18 ธ.ค.54**

ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป

ให้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและพื้นที่บริเวณแนวชายฝั่ง

ให้ระวังคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:44:06


ความคิดเห็นที่ 4630 (1588660)
ตะลึง!! ภาพอุโมงค์ใต้น้ำ รูปกะโหลกมนุษย์




สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ช่างภาพ Peter Bardsley ได้เปิดเผยภาพน่าขนลุก เมื่อเขาถ่ายภาพอุโมงค์ใต้น้ำโฮจด์ โคส ในเมืองคัมเบีย ของอังกฤษ ได้อย่างบังเอิญ โดย  Peter กล่าวว่า หลังจากเขาถ่ายภาพอุโมงค์ดังกล่าว และหมุนตั้งขึ้น 90 องศา เขาพบว่าภาพที่ปรากฏมีลักษณะคล้ายกะโหลกมนุษย์ขนาดใหญ่ ทำให้เขาตกตะลึงมากๆ มันเหมือนหน้าของผี หรืออะไรบางอย่างที่น่ากลัว


ภาพอุโมงค์ เมื่อหมุนตั้ง 90 องศา


ทั้งนี้ Peter ยังเล่าต่อว่า มีคำล่ำลือกันว่า เคยมีนักดำน้ำจมน้ำตาย และนักปืนเขาตกลงมาเสียชีวิต ที่บริเวณอุโมงค์ดังกล่าวหลายราย อีกทั้งเมื่อปี 2005 เกิดเหตุที่ทีมกู้ภัยต้องเข้าช่วยเหลือนักดำน้ำวัย 48 ปี ที่มาดำน้ำบริเวณนั้น หลังตื่นตกใจและบอกว่าเขาพบศพของมนุษย์อยู่ใต้น้ำ




Mthai News

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:45:07


ความคิดเห็นที่ 4631 (1588661)

โสรัจจะ ทำนาย ดวงเมืองปี 2555 เกิดน้ำท่วมซ้ำ จลาจล รัฐประหาร
คำพยากรณ์ต่อไปนี้ โปรดใช้สติพิจารณา

 

 

ขอขอบคุณข้อมูล จาก  กดลิงค์ นี้http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-ช่วงนี้ถึงธันวาคม-2011-a-288866-787.html


ทั้งหมดเป็นแค่คำทำนาย !!!

ที่มา : มติชนออนไลน์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:50:37


ความคิดเห็นที่ 4632 (1588662)
 
อุตุฯเผยไทยอากาศหนาวมากกว่าทุกปี


กรมอุตุเผยปีนี้ไทยเจออากาศหนาวมากกว่าทุกปีระบุช่วง16-19ธ.ค.อุณหภูมิลดอีก ด้านรองอธิบดีอุตุฯยันยังไม่ถึงขั้นหิมะตก

กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุถึงความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ และจะมีผลกับประเทศไทยตอนบนในวันพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.) ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง โดย

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ปีนี้ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยเป็นระลอกในทุก 5-7 วัน และจะมีต่อเนื่องจนถึงปีหน้า โดยในช่วงวันที่ 16-19 ธ.ค. ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นลงอีก แต่ยืนยันว่า ยังไม่ถึงขั้นหิมะตกในประเทศ

ทั้งนี้กรมอุตุฯได้รายงานสภาพอากาศในรอบ 7 วันข้างหน้าว่า ในช่วงวันที่ 16-18 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงได้ 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง บริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือ

ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือทีพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนที่ผ่านประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19-21 ธ.ค. 2554 บริเวณความกดอากาศสูงจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ทั่วทุกภาคยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องไปอีก

นอกจากนี้กรมอุตุฯ ยังขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ในช่วงวันที่ 16-18 ธ.ค. ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปให้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและพื้นที่บริเวณแนวชายฝั่งให้ระวังคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย


โพสต์ทูเดย์
15 ธันวาคม 2554 เวลา 18:36 น.

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:51:12


ความคิดเห็นที่ 4633 (1588663)

เชียงใหม่-อินทนนท์ยังหนาวติดลบแม่คะนิ้งเพิ่มมากขึ้น


 


ยอดดอยอินทนนท์อากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งลบ 1.4 องศา แม่คะนิ้งมากที่สุดในรอบปี เจ้าหน้าที่แนะวิธีชมแม่คะนิ้งแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ

จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (15 ธ.ค.) สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง หลังเข้าสู่ช่วงอากาศหนาวจัดของปี เช้านี้อุณหภูมิอยู่ที่ 14-16 องศา ขณะที่ตามยอดดอยยังมีอากาศหนาวจัด โดยเฉพาะยอดดอยอินทนนท์ที่สูงที่สุดของประเทศ เช้านี้อากาศหนาวจัด เกิดปรากฏการณ์แม่คะนิ้งมา 3 วันติดต่อกัน ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง


เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ซึ่งคุ้นเคยกับสภาพอากาศหนาวเย็นยังต้องพึ่งกองไฟสร้างความอบอุ่นขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ช่วงด่านทางขึ้นอุทยานฯ และยังต้องเตรียมกองไฟไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน บริเวณกิโลเมตรที่ 42 ขึ้นสู่ยอดดอย อุณหภูมิที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานอยู่ที่ 3.0 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวได้ชมภาพพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่ปกคลุมดอยหัวเสือไกลออกไป เป็นภาพที่สวยงามในช่วงที่มีอากาศหนาวจัดเท่านั้น

ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวต่างประทับใจที่ได้ชมปรากฏการณ์น้ำค้างกลายเป็นน้ำแข็ง หรือแม่คะนิ้ง นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธุ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนน์ แจ้งว่า เช้านี้อุณหภูมิยอดหญ้าลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ลบ 1.4 องศาอีกครั้ง ท้องฟ้าเปิด อากาศแห้งความชื้นน้อย และไม่มีลมแรง ทำให้เกิดปรากฏการณ์แม่คะนิ้ง ที่ถือว่ามากที่สุดของรอบปี ซึ่งมากกว่าวานนี้

โดยแม่คะนิ้งเกิดตามยอดหญ้าและต้นไม้ที่อยู่หน้าดิน ตั้งแต่สองข้างทางที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์เป็นระยะทางเกือบ 7 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมได้ตลอดสองข้างทาง แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้จอดรถในที่ปลอดภัย ห้ามจอดทางโค้ง หรือทางลาดชันอย่างเด็ดขาด

การชมปรากฏการณ์แม่คะนิ้งจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ ห้ามไปเหยียบย่ำ หรือเด็ดต้นไม้ใบไม้ อย่านำมือไปสัมผัส เนื่องจากหากเหยียบย่ำหรือสำผัสแล้วแม่คะนิ้งก็จะละลาย และอาจทำให้ต้นไม้แห้งตายไม่สามารถฟื้นตัว ที่สำคัญเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามกันอย่างทั่วถึง เพียงถ่ายภาพเก็บภาพประทับใจไว้ก็พอ

ตลอดทั้งสัปดาห์ไปจนถึงช่วงวันหยุดนี้ยังมีโอกาสสูงที่จะได้ชมแม่คะนิ้ง เนื่องจากทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้แจ้งว่าจะมีมวลอากาศหนาวระลอกใหม่แผ่เสริมเข้ามาอีก จะทำให้หนาวเย็นลงอีกไปจนถึงช่วงวันที่ 18 ธันวาคม นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นมาช่วงนี้ต้องเตรียมเครื่องกันหนาวให้พร้อม ทั้งเสื้อกันหนาว กางเกงขายาว หมวก ถุงมือ เพื่อที่ีจะสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายและท่องเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน



ครอบครัวข่าว 3 วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:54:48


ความคิดเห็นที่ 4634 (1588664)
คลื่นซัดแหลมสมิหลาใกล้วิกฤต


คลื่นซัดหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลาใกล้วิกฤตอีก2เมตรถึงแนวถนนระดมกระสอบทรายหมื่นลูกกั้น


นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลาและนายสมชาย เมฆาอภิรักษ์รองนายกเทศมนตรีนครสงขลา  ลงตรวจสอบพื้นที่หาดชลาทัศน์แหลมสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา บริเวณหน้าสโมรสรชั้นประทวนฐานทัพเรือสงขลา ซึ่งถูกคลื่นซัดเสียหายอย่างหนักจนเข้าขั้นวิกฤต ใกล้ถึงแนวถนนชลาทัศน์โดยเหลือเพียงไม่เกิน 2 เมตรเท่านั้น

ทางเทศบาลนครสงขลาได้ระดมเครื่องจักรและคนงานนำกระสอบทรายจำนวน 1 หมื่นกระสอบ มาถมบริเวณชายหาดและใต้โคนต้นสนจุดที่ถูกคลื่นซัดเสียหายอย่างหนักเพื่อสร้างเป็นแนวเขื่อนกั้นคลื่นความสูงประมาณ1 เมตร รวมทั้งนำหินมาเสริมอีกชั้นเพื่อให้แข็งแรงและป้องกันไม่ให้คลื่นซัดเสียหายมากขึ้นได้ในระดับหนึ่ง.


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:55:30


ความคิดเห็นที่ 4635 (1588665)
"หมอนิด"เตือนเรื่องราคาทองคำ
"ขึ้นอีกไม่มาก แล้วจะปักหัวลง"



เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผมเขียนบอกว่าใครมีทอง ก็ให้ขายออกหรือขายออกไปครึ่งหนึ่งก่อน ปรากฏว่ามีเมล์และโทรศัพท์เข้ามาถามผมเยอะไปหมด ทุกคนสงสัยว่าทำไมผมจึงบอกให้ขาย เพราะว่าราคาทองยังจะขึ้นไปได้อีก แม้แต่ร้านค้าทองหลายแห่งก็ถามมาเช่นกัน ผมก็บอกไปตามความรู้สึก เพราะผมไม่รู้ราคาตลาดทองคำและผมก็ไม่มีทองที่จะขายด้วย ผลปรากฏว่าทองก็ลดราคาลงมาจริงๆ ส่วนหุ้นผมก็เล่นไม่เป็น แต่ผมคิดว่าหุ้นมันจะขึ้นมันก็ขึ้นจริงๆในวันรุ่งขึ้น

ผมบอกแขกหลายคนให้ซื้อทองเก็บไว้ ตั้งแต่ราคาบาทละหมื่นเจ็ดถึงหมื่นเก้าพันบาท ทุกวันนี้รวยกันไปหลายคนเพราะทุกคนซื้อคราวละหลายสิบบาท บางคนซื้อเป็นร้อยบาท ต่อไปนี้อย่ามาถามผมเลยเอาไว้มีเสียงกระซิบสั่งก่อนก็แล้วกันนะครับ ตอนนี้ตัวใครตัวมันตัดสินใจเอาเอง ทั้งเรื่องทองคำและหุ้นต่างๆ โปรดอย่าเชื่อผมไปหมดทุกเรื่อง

ปล. *ทองช่วงนี้กำลังขึ้น แต่ขึ้นอีกไม่มาก แล้วจะปักหัวลง ขอให้ผู้ที่ถือทองเอาไว้พิจารณาด้วย*

ด้วยความเคารพ

หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)

18 ส.ค. 54

ที่มา
http://www.mornid.com/home.php

หมายเหตุ

หมอนิดได้ทำนายเอาไว้ในรายการ"คมชัดลึก"ทางเนชั่นทีวี เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.54 ว่าทองคำจะราคาตกไปถึง 22,000 บาทครับ


 

ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำประจำวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2554
ทองคำ 96.5% รับซื้อ ขายออก ประกาศเวลา
ทองคำแท่ง 23400 23500 12:50:00
ทองรูปพรรณ 23058.36 23900
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 03:57:15


ความคิดเห็นที่ 4636 (1588666)

นิวซีแลนด์" เผชิญน้ำท่วมรุนแรงในรอบหลายทศวรรษ


รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศภาวะฉุกเฉินครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้างของเกาะใต้ หลังจากเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

ทางการนิวซีแลนด์กำลังรับมือกับผลกระทบจากฝนตกหนัก จนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างในภูมิภาคแทสมัน บนเกาะใต้ของประเทศ ถือเป็นน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษของนิวซีแลนด์ จนทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ประสบอุทกภัย

ถนนหลายสายเสียหายจากดินถล่ม และผู้คนหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ก่อนที่ระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์น้ำท่วมบนเกาะใต้คาดว่าจะยังไม่ดีขึ้นจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้
ขณะที่บางพื้นที่ของเกาะเหนือก็กำลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเช่นกัน


Thaipbs

Thu, 15/12/2011 - 17:43
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 04:09:13


ความคิดเห็นที่ 4637 (1588667)
 
โคลนถล่มที่โคลอมเบีย


สภาพอากาศเลวร้ายที่โคลอมเบีย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมา ต้องเผชิญทั้งฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและอุทกภัยครั้งรุนแรง ล่าสุดเมื่อสองวันก่อนเกิดดินถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนสูญหาย 14 คน

เกิดเหตุดินถล่มที่เมืองลาครูซ จังหวัดนาริโน ของโคลอมเบีย ดินถล่มเกิดขึ้นหลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและถล่มลงมาทับบ้านเรือน 3 หลัง พบศพแล้ว 1 คน ขณะที่อีก 14 คนสูญหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านช่วยกันค้นหาผู้สูญหายและกู้บ้านเรือนของพวกเขาที่ถูกดินถล่ม คาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ในวันเดียวกันนี้ที่เมืองบาลันคิลลา เมืองชายฝั่ง ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน กระแสน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมถนน เมืองดังกล่าวถึง 90 เปอร์เซ็นต์ จมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่รถยนต์ 4 คันและรถบัสอีก 1 คันถูกกระแสน้ำพัดพา สำนักข่าวต่างประเทศยังได้จับภาพขณะรถแท็กซี่คันหนึ่งกำลังถูกน้ำพัดไปตามท้องถนนที่แปรสภาพกลายเป็นแม่น้ำไปแล้ว

โคลอมเบียต้องเผชิญทั้งน้ำท่วมและฝนตกหนักมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะด้านการส่งออก การประเมินความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าสูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 105,000 ล้านบาท ยอดผู้เสียชีวิตมีมากกว่า 120 คน ผู้ประสบภัยอย่างน้อย 5 แสนคน

ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซันโตส ของโคลอมเบียเผยว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นนับเป็นสิ่งท้าทายที่หนักหนาสาหัสในการบริหารประเทศของเขาตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 16 เดือนที่ผ่านมา และปรากฏการณ์ลานีญ่า เป็นสาเหตุสำคัญของสภาพอากาศเลวร้ายครั้งนี้


คลิปข่าว
http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/49137/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2.html


 
อุทกภัยที่คอสตาริกา


ที่คอสตาริกา ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย เมื่อวานนี้

คณะกรรมาธิการฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ ซีเอ็นอี ของคอสตาริกา สั่งอพยพประชาชน 1,052 คน ไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว หลังจากเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืนวานนี้ ในพื้นที่เขต Sarapiqui จนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเพิ่มสูงขึ้น และไหลทะลักเข้าท่วมอาคารบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ได้รับความเสียหาย และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน จากอุบัติเหตุรถไถลจากเนินเขาและร่วงลงสู่ถนนที่ถูกน้ำท่วม

คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวจะทวีความรุนแรง เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคอสตาริกา คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกลงมาอีกจนถึงวันนี้


คลิปข่าว http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/49135/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2.html
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 04:09:55


ความคิดเห็นที่ 4638 (1588668)
ระทึก แผ่นดินไหวสุดแรง 7.1 ริกเตอร์ เขย่าปาปัว นิวกินี ผู้คนแตกตื่น แห่หนีออกจากตึกอาคาร

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวเขย่าปาปัว นิวกินี วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.1 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 15.04 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองลีอา ราว 121 กม.และเมืองหลวง พอร์ต โมเรสบี้ ราว 221 กม.โดยแผ่นดินไหวสร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้คน ซึ่งออกมาจากตึกอาคาร และประชาชนบางรายบอกว่า แผ่นดินไหวเขย่าอย่างรุนแรง ทำให้ทุกคนรู้สึกได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทางการปาปัว นิวกินี ไม่ได้ประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำหรับปาปัว นิวกินี มักจะประสบกับเหตุแผ่นดินไหวเป็นปกติ เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตวงแหวนเพลิงแห่งภูมิภาคแปซิฟิก ซึ่งเป็นจุดที่แผ่นดินมีการเคลื่อนตัวจากรอยเลื่อนของเปลือกโลก


มติชนออนไลน์
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 17:33:27 น.



 
เกิดดินถล่มในเขตภูเขาทางใต้ของโคลอมเบีย


โคลอมเบีย 14 ธ.ค. - ทางการโคลอมเบียเผยเหตุการณ์ดินถล่มในเขตภูเขาทางภาคใต้ ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 1 คน และมีผู้สูญหายราว 15 คน

ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกันยายน ส่งผลให้เกิดดินถล่มในเขตภูเขาทางตอนโต้ของโคลอมเบีย โดยล่าสุดที่เมืองลา ครูซ มีบ้านเรือน 3 หลัง ถูกดินถล่มทับ และพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน เป็นเด็กอายุราว 7-8 ขวบ และเชื่อว่ายังมีผู้ที่ถูกฝังอยู่ใต้กองโคลน และซากบ้านเรือนอีกราว 15 คน

ในปีนี้โคลอมเบียต้องเจอกับความเสียหายอย่างหนัก จากภัยธรรมชาติ และสถานการณ์น้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี ข้อมูลของทางการระบุว่า ฤดูฝนปีนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 145 คน เทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 80 คน



สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 04:11:21


ความคิดเห็นที่ 4639 (1588669)
นาซ่าพบ"อุกกาบาต"1,000ลูกลอยใกล้โลก


องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซ่า ค้นพบอุกกาบาตเกือบ 1,000 ลูก ที่มีขนาดใหญ่ มีอานุภาพทำลายล้างพอที่จะสังหารประชากรโลกได้ทั้งใบ ลอยอยู่ไม่ไกลจากโลก

เอมี่ เมนเซอร์ จากห้องทดลองเจ๊ต โพรพัลชั่น ในพาซาเดนา แคลิฟอร์เนีย นำเสนอผลการค้นพบที่ชวนสยองนี้ในที่ประชุมสหภาพธรณีฟิสิกส์อเมริกัน ในเมืองซานฟรานซิสโก เผยว่า สามารถระบุวัตถุท้องฟ้าที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับหรือมากกว่า 1 กิโลเมตร หรือใหญ่เกือบจะเท่าโลกและเป็นภัยรุนแรงต่อโลกได้แล้วร้อยละ 93

ภายใต้โครงการชื่อสเปซการ์ด นักดารา ศาสตร์จะติดตามแกะรอยวงโคจรของอุกกาบาตทั้งหมดและพยากรณ์ความเป็นไปได้ที่มันจะโหม่งโลกในอนาคต

นอกจากอุกกาบาตพิฆาตพันดวง โครงการสเปซการ์ดยังค้นพบอุกกาบาตน้อยที่อยู่บริเวณเดียวกัน 20,500 ดวง แต่โอกาสที่อุกกาบาตพวกนี้จะชนโลกมีน้อยมาก


ข่าวสด
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-16 04:12:14


ความคิดเห็นที่ 4640 (1588833)

แม่น้ำสีเลือดที่จีน ผลกระทบจากมลพิษโรงงาน



สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพ แม่น้ำเจี้ยนเหอ ในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนัน ประเทศจีน ที่น้ำกลายเป็นสีแดงเลือด

ทั้งนี้ สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า สาเหตุที่น้ำในแม่น้ำเจี้ยนเหอกลายเป็นสีเลือดนี้ เกิดจากสารพิษที่ถูกปล่อยออกมาจากการย้อมสีของโรงงานเถื่อน 2 แห่ง

โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำน้ำไปวิเคราะห์เพื่อหาทางบำบัดและฟ้องร้องโรงงานเถื่อนทั้ง 2 แห่งแล้ว

Mthai News





 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 02:57:37


ความคิดเห็นที่ 4641 (1588834)

ตื่น!! คำทำนายเด็กชายปลาบู่ ผู้ว่ายัน เขื่อนใหญ่ไม่แตกวันปีใหม่แน่



หลังจากกลายเป็นกระแสดังในอินเตอร์เนต และถูกส่งต่อในโซเชียลมีเดีย ทั้งในเว็บไซต์เฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ ถึงคำทำนายเด็กชายปลาบู่ ว่า ในวันปีใหม่ พ.ศ.2555 กรุงเทพฯจมดินจมน้ำ เขื่อนที่จังหวัดตากก็พัง “ในเวลายามสองในคืนปีใหม่ คนไทยฉลองกันสนุกสนาน เกิดแผ่นดินไหวมีคนตายมากมาย” (อ่านคำทำนายเด็กชายปลาบู่ทั้งหมด คลิ๊ก)

ล่าสุด นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวลือดังกล่าว สร้างความตื่นกลัวให้กับชาวจังหวัดตากและใกล้เคียงเป็นอย่างมาก มีการโทรมาสอบถามที่จังหวัดจนสายแทบไม่ว่าง



นายสามารถ กล่าวต่อว่า อยากขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร เพราะแม้เขื่อนภูมิพลจะกักเก็บน้ำไว้มากก็จริง แต่มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ แต่ที่ผ่านมาแผ่นดินไหวที่เคยเกิดแค่ 3 ริกเตอร์เท่านั้น ขอให้ประชาชนสบายใจได้ ข่าวดังกล่าวเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้นเอง

Mthai News

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 02:58:40


ความคิดเห็นที่ 4642 (1588835)

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากhttp://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-ช่วงนี้ถึงธันวาคม-2011-a-288866-788.html

 

โปรดใช้วิจารณาญาณในการอ่านนะจ้ะ-

เขื่อนในความหมายของเด็กชายปลาบู่

Posted by ซันเดย์โพสต์



เด็กชายปลาบู่ ชาวจันทบุรี ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 38 ปี นายทองใบ คำสี บิดาได้ออกมาเปิดเผยแพร่คำทำนายของลูกชายว่าแม่นถนัด ภัยพิบัติได้เกิดขึ้นแล้วตามคำทำนาย และมหาภัยอีกอย่างหนึ่งที่ยังไม่เกิดก็คือ "เขื่อนภูมิพล" จะแตกในวันปีใหม่ สร้างความไม่พอใจให้ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพลจนต้องออกมาโต้คำทำนายดังกล่าว

แท้ที่จริงผู้อำนวยการเขื่อนฯ น่าจะแนะนำวิธีป้องกันหรือหาทางหนีภัยที่แม้นหากเกิดขึ้นดีกว่า เพราะหากเกิดขึ้นจริงแล้วประชาชนจะได้หาทางเอาตัวรอดได้ ไม่แสดงความเห็นแก่ตัว เอาเปรียบ หรือทุจริตอย่างที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา

"ความตื่นตระหนกจะหายไปถ้ารู้ช่องทางหนีภัย"

การปกปิดข้อมูลยังแต่เกิดความโกลาหลและวุ่นวายไปทั่ว ธาตุแท้มนุษย์จะหลั่งไหลพรั่งพรูจากรูปร่างมนุษย์ก็จะกลายเป็นสัตว์ร้ายอย่างที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันนี้

เหตุทำนายจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่อย่าต้องโต้เถียงกันให้เสียอารมณ์ ไม่มีใครรู้ นอกจากมีความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์

ผมเชื่อว่ามีทางจะเป็นจริงได้เพียงแต่นายทองใบตีความผิดว่าจะเกิดกับเขื่อนภูมิพลให้เอารางรถไฟเก่าไปดันไว้ จะเป็นเขื่อนภูมิพลหรือไม่???

ภาพ-
"เขื่อนศรีนครินทร์"

ภายหลังที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในพม่าตั้งปี 2553 - 2554 ได้สร้างรอยแตกร้าวให้กับเขื่อนหลายจุด และน้ำรั่วซึมเป็นจำนวนมาก หน่วยงานของกองทัพได้รับคำสั่งให้เข้าดำเนินการแก้ไขรอยแตกร้าวดังกล่าวมาหลายเดือนแล้วโดยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และผลการซ่อมแซมที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ยังไม่สามารถแก้ไขรอยแตกร้าวได้ และหากมีการเกิดแผ่นไหวขึ้นก่อนช่วงปีใหม่ในขณะทำการซ่อมแซม จะเกิดโศรกนาฏกรรมใหญ่ตามมา

รอยแตกร้าวส่วนใหญ่มิได้เกิดขึ้นเฉพาะในอุโมงค์ใต้สันเขื่อน แต่เกิดขึ้นทั่วไปทั้งตัวเขื่อน

และเขื่อนไม่สามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้ถึง 7.0 ริกเตอร์ ตามที่คำนวณไว้ตั้งแต่แรกได้แล้วเนื่องจากได้ชำรุดมากขึ้นจากอายุการใช้งานและการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวนับร้อยครั้งที่ผ่านมา ดังนั้นแม้จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดไม่เกิน 5.0 ริกเตอร์ ในบริเวณใกล้เคียง 0- 200 กิโลเมตรเมตร ก็สามารถเขย่าเขื่อนศรีนครินทร์ให้พังได้

และความจริงก็คือ เรื่องนี้ถูกปิดเป็นความลับ

ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์แตก บ้านของท่านจะจมน้ำภายในกี่นาที กี่ชั่วโมง กี่วีน ระดับน้ำสูงแค่ไหน มาดูแบบจำลองจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ทำขึ้นตั้งแต่เริ่มมีข่าวเขื่อนแตก

ภาพจำลอง-

และความจริงอีกอย่างก็คือ แบบจำลองดังกล่าวคำนวณโดยอาศัยระยะทางและปริมาณน้ำ 17,000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตรเต็มในเขื่อนพอดี แต่เวลาอาจสั้นลงเนื่องจากทางน้ำไม่ได้ไหลตามธรรมชาติอีกต่อไป แต่จะเรียกว่า"ทะลัก"ดังนั้นเวลาดังกล่าวจึงน้อยกว่าแบบที่จำลองมา อาจถึงกรุงเทพมหานครภายใน 6 ชั่วโมงก็เป็นได้

ปีใหม่นี้ขอภาวนาอย่าให้เกิดแผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และแนวรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ หรือใกล้เคียงเต็มๆ ก็พอ..

[url=http://www.oknation.net/blog/sundaypost/2011/12/15/entry-1]

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 03:00:37


ความคิดเห็นที่ 4643 (1588836)

เห็นชัดๆ! วัตถุลึกลับ UFO โผล่บินสังเกตการณ์ การประท้วงที่รัสเซีย



Mthainews: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้ประท้วงชาวรัสเซีย ต่างเหความสนใจไปกับวัตถุลึกลับ หรือ UFO ที่ทะยานเหนือท้องฟ้า กรุงมอสโควระหว่างทำกิจกรรมทางการเมืองในวันเสาร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวัตถุดังกล่าวสามารถเห็นได้ชัดเจน บันทึกโดยกล้องจากผู้ประท้วงรายหนึ่ง สร้างความงงงวยจากผู้ที่พบเห็น

ทั้งนี้ วัตถุลึกลับ หรือยาน UFO ที่ปรากฎให้เห็นเป็นส่วนใหญ่มักจะดูไม่ค่อยออก และรูปร่างลักษณะ ยากที่จะสังเกตเห็น แต่ในคลิปที่ผู้ประท้วงชาวรัสเซียบันทึกได้ กลับปรากฎส่วนที่คล้ายกับขา หรือส่วนมีคมยื่นออกมา คล้ายกับเฮลิคอปเตอร์ แต่ผู้เห็นเหตุการณ์หลายต่อหลายคน ยืนยันว่าภายในยานดังกล่าว มันบินได้โดยไม่ต้องใช้ใบพัดหรือเครื่องยนต์ใดๆ



ผู้ประท้วงที่ช็อคกับภาพที่ปรากฎอยู่บนท้องฟ้า ปีนขึ้นต้นไม้เพื่อจะได้มองเห็นยานดังกล่าวได้ชัดเจน ดูเหมือนว่ายานดังกล่าวจะมีความเร้นลับ ที่มาสอดส่องมองดูเหตุการณ์การประท้วง ที่มีประชาชนกว่า 25,000 คน ที่รวมตัวกันใจกลางจตุรัสโบโลตนายา

ไมเคิล โคเฮ็น นักเขียบนเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติ กล่าวว่า ยอมรับว่า นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ มนุษย์ต่างดาวอาจจะมาสอดส่อง ตรวจสอบอารยธรรม มีความเป็นไปได้สูงที่มนุษย์ต่างดาวให้ความสนใจกิจกรรมทางการเมืองของมนุษย์

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว มีปรากฎให้เห็นอยู่เสมอในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญๆ ก็มักจะเห็นวัตถุลึกลับ หรือ UFO ปรากฎอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ชัดว่านั่นเป็นยานของมนุษย์ต่างดาวจริงหรือไม่ แล้วพวกเขาต้องการอะไรจากมนุษย์ เป็นปริศนาที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์ ที่ยังต้องการคำตอบ

__________________
B1 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 03:04:49


ความคิดเห็นที่ 4644 (1588837)

ญี่ปุ่นประกาศปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2554 เวลา 16:11 น.



รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงปิดเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงปิดเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ของญี่ปุ่น แถลงในที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจว่าด้วยพลังงานนิวเคลียร์ว่า เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ อยู่ในระดับที่ปิดทำการไปแล้ว ซึ่งก็หมายความว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว


เสถียรภาพของเตาปฏิกรณ์ ซึ่งแท่งปฏิกรณ์ได้หลอมละลายลงไป ทำให้สารกัมมันตรังสีฟุ้งกระจายไปในอากาศและไหลลงสู่ทะเลนั้น นับเป็นการสิ้นสุดการทำความสะอาดระดับ 2 ของอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิดเมื่อปี 2529 ภารกิจขณะนี้จึงมุ่งไปที่การเก็บกู้ในส่วนที่ได้รับความเสียหาย แม้มีคำเตือนว่ากระบวนการนี้อาจต้องกินเวลาหลายสิบปีก็ตาม


โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดฟูกูชิมะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากแผ่นดินไหว 9.0 ริคเตอร์ และสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วยังมีคลื่นสูง 4 เมตรพัดเข้าถล่มโรงไฟฟ้า เกิดการระเบิด และมีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมา

แสดงความคิดเห็น

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 03:07:49


ความคิดเห็นที่ 4645 (1588838)



เพลิงเผาตึกสูงฮานอยเจ็บ24ราย


คนงานอย่างน้อย 24 คน ยังคงต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงระฟ้า ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในกรุงฮานอย ส่งผลให้เกิดกลุ่มควันลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณเมืองหลวงของเวียดนาม
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามว่า มีคนงานอย่างน้อย 24 คน ยังคงต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่อไป หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงระฟ้า ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในกรุงฮานอย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกลุ่มควันลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณเมืองหลวงของเวียดนาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจฮานอยเปิดเผยว่า คนงานส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากการสูดควันพิษ แต่โชคดียังดีที่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด


สาเหตุของเพลิงไหม้นั้นกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงระฟ้า ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จึงยังไม่มีผู้เข้าทำงาน แต่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นธันห์ เนียน รายงานว่า จากคำบอกเล่าของพยานซึ่งเป็นคนงานที่หนีออกมาจากบริเวณชั้นใต้ดินทราบว่า ต้นเพลิงเกิดจากประกายไฟของงานเชื่อม แล้วลุกลามไปยังวัสดุอื่นๆที่เป็นเชื้อไฟ ภายในระบบปรับอากาศ
พ.ต.อ.โท ซวน ธิว รองผู้กำกับการตำรวจดับเพลิงฮานอย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีคนงานทำงานอยู่ในตัวอาคาร 40 คน และได้รับการช่วยเหลือในเวลาต่อมา อาคารดังกล่าวยังไม่ได้ติดตั้งระบบเตือนภัยเพลิงไหม้ภายในตัวอาคาร ซึ่งเป็นอาคารแฝด โดยหนึ่งในนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการสร้างใหม่ ให้เป็น ศูนย์ไฟฟ้าเวียดนามเพื่อการบริหารจัดการโทรคมนาคมและข้อมูล เป็นบริษัทผูกขาดด้านพลังงานไฟฟ้าแห่งเดียวของเวียดนาม

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 03:09:21


ความคิดเห็นที่ 4646 (1588839)

ยลโฉมสาวน้อยแดนภารตะ ว่าที่ “ผู้หญิงตัวเล็กที่สุดในโลก” กับส่วนสูง 59 ซม.


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ธันวาคม 2554 13:00 น.



ชโยติ อัมเก ในวัย 18 ปีบริบูรณ์ กับน้ำหนักเพียง 5 กิโลกรัม กับความสูง 59 เซนติเมตร

เดอะซัน/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หญิงสาวตัวน้อยชาวอินเดียกำลังนับวันเฝ้ารอคำรับรองอย่างเป็นทางการจากกินเนส์ บุ๊ก ออฟ เรกคอร์ด ในฐานะ “ผู้หญิงตัวเล็กที่สุดในโลก” วันนี้ (16) เป็นวันเกิดอายุครบ 18 ปี และด้วยความสูงเพียง 59 เซนติเมตร เธอกลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่ไปโดยปริยาย

ชโยติ อัมเก ในวัย 18 ปีบริบูรณ์ มีน้ำหนักเพียง 5 กิโลกรัม กับความสูง 59 เซนติเมตร เธอกำลังรอการรับรองอย่างเป็นทางการให้เป็นผู้หญิงตัวเล็กที่สุดในโลก หลังจากเป็นที่รู้จักในฐานะ “เด็กผู้หญิงตัวเล็กที่สุดในโลก” มานาน ทั้งนี้ บริดเจตต์ จอร์แดน สาวสหรัฐฯ วัย 22 ปี เป็นเจ้าของตำแหน่งผู้หญิงตัวเล็กสุดในปัจจุบัน ด้วยความสูง 69 เซนติเมตร

อัมเกเป็นสาวชาวเมืองนาคปุระ รัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดีย เธออยู่ในสภาแคระจากภาวะกระดูกอ่อนไม่เจริญ ไม่นานหลังลืมตาดูโลก ปัญหานี้ยังทำให้เธอเป็นโรคกระดูกพรุน และต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดไปตลอดชีวิต โดยจะไม่เติบโตไปกว่านี้แล้ว

แม้สภาพร่างกายไม่สมประกอบในสายตาคนอื่น ชโยติ อัมเก ไม่ยอมจมปลักอยู่กับความทุกข์ โดยในปีหน้า อัมเกจะมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์บอลลีวูด 2 เรื่อง พร้อมทั้งกล่าวไว้ว่า “ฉันอยากทำให้ทุกๆ คนมีความสุข”

“ฉันภูมิใจที่เกิดมาตัวเล็ก ... ฉันก็เหมือนคนทั่วๆ ไป ฉันกินอาหารเหมือนคุณ มีความฝันเหมือน และฉันไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง” ชโยติ อัมเก เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2007 ขณะอายุ 14 ปี



ชโยติ อัมเก กับครอบครัวตัวใหญ่



ชโยติ อัมเก กับเพื่อนๆ ที่เธอเล่าว่าชอบไปช้อปปิ้งด้วยกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 03:10:06


ความคิดเห็นที่ 4647 (1588840)

 

ได้ยินเสียงจากพระเจ้า….
 

ขอให้มนุษย์ทุกคน รักษาชีวิต และร่างกายไว้ให้ดีที่สุด…และได้พบกับพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้า โลกุตตระ และหลักสัจจะธรรม สิ่งสูงสุดในจักรวาล ต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าที่จะถึง

ขอให้ผู้มีเมตตาต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ได้ช่วยกันเผยแพร่ธรรมบทนี้ให้กระจายครอบคลุมทั้งโลก

- ” หนุมาน ผู้นำสารจาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ”

โพสเมื่อ 2010-3-31 18:58

ขอขอบคุณ ที่มา ข้อมูล จากhttp://www.raycity.in.th/board/viewthread.php?tid=230100&extra=&page=1

เเละ http://board.palungjit.com/f178/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่-3906-1342.html


 

 


ผมยังไม่รู้จักว่าเสียงพระเจ้าเป็นอย่างไรครับ เป็นเสียงให้เราได้ยิน หรือเป็นความคิดที่เกิดขึ้นโดยพระวิญญาณทรงนำครับ คือบางครั้งมีความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในคำภีร์ คือวันนั้นกำลังอธิษฐานอยู่ พออธิษฐานจบ ก็มีข้อพระคำภีร์ ลูกา 16 เข้ามาในหัว พอเปิดอ่านดู ก็เป็นเรื่องที่เพิ่งอธิษฐานไป อย่างนี้ที่มีข้อพระคำภีร์เข้ามานี่เป็นเสียงของพระเจ้ารึเปล่าครับ?

ผู้เชื่อ 17 เม.ย. 49 เวลา 1:36:46

คริสเตียนส่วนใหญ่ มักเรียกการสื่อสารชนิดต่างๆ ที่ได้รับจากพระเจ้าว่าเป็น "เสียง" ค่ะ มีหลายรูปแบบ เป็นทั้งเสียงที่ได้ยินด้วยหู เสียงที่ได้ยินได้ในวิญญาณ หรือสื่ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์, ธรรมชาติ, ถ้อยคำแห่งความรู้, ความฝัน, ภวังค์, นิมิต, พระคัมภีร์, หนังสือคริสเตียน, สัญลักษณ์ ฯลฯ

อย่างเวลาอ่านพระคัมภีร์ถ้าเราได้อธิษฐานแบบดาวิดในสดุดี 119.18 พระเจ้ามักจะนำให้เราเกิดความเข้าใจพิเศษกับข้อความที่ดูธรรมดาๆ ให้เข้าใจในความล้ำลึกของข้อความนั้นๆ มากเป็นพิเศษ และบางครั้งพระเจ้าก็ตรัส หรือประทานคำตอบที่ตรงกับความจำเป็นของเราให้

ในลูกากล่าวว่า แกะของพระเยซูย่อมรู้จักเสียงพระเจ้า และในยอห์นกล่าวว่าการตรัสของพระวิญญาณเป็นเสมือนลม เราได้ยินเสียงลม แต่ไม่รู้ว่าลมมาจากไหน ... เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ และท่อนไหนที่พระเจ้าต้องการสื่อด้วยกับเรา ลักษณะจะเป็นเหมือนแสงที่วาบเข้ามาในความคิด คล้ายๆ ปิ๊งๆๆๆ ใช่เลย!!! ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสียงพระเจ้าแหละค่ะ แต่เราก็ต้องมั่นใจดีๆ นะคะ เพราะบางครั้งเราก็เข้าข้างตัวเองได้ และมีโอกาสที่มารจะหลอกใช้พระคำพระเจ้าหันเหความจริงได้ด้วย ต้องอธิษฐานพึ่งพาการทรงนำดีๆ โดยเฉพาะคำตอบเรื่องสำคัญๆ ... มิฉะนั้น เราจะเอาโล่(ความเชื่อ)ของตัวเอง ป้องกันพระแสง(พระคำ)พระเจ้าไม่ให้ทะลุแทงใจได้

วิธีอื่นๆ ที่พระเจ้าจะตรัสด้วย นอกจาพระคัมภีร์แล้ว ก็จะคล้ายๆ กัน คือ ถ้าเราคุ้นเคยกับพระองค์ เราก็จะรู้จักพระองค์ คือ พัฒนาความสัมพันธ์เรากับพระเจ้า ... และสิ่งที่เชื่อถือได้มากที่สุด ก็เป็นพระคัมภีร์นี่เอง เพราะการสื่อสารทางอื่น จะต้องไม่ขัดแย้งใดๆ กับพระวจนะของพระเจ้าเลย

Pop BFC 18 เม.ย. 49 เวลา 18:01:17

คำตอบชัดเจนดีครับ แต่ขอขยายความในส่วน ของการที่เรามีประสพการณ์ในการฟังเสียงของพระเจ้านะครับ พระเจ้าสื่อสารกับเราหลายวิธี ในส่วนของการแยกแยะการฟังพอจะจำแนกได้ดังนี้

เสียงในใจที่แผ่วเบา

- เสียงนี้จะเกิดในความคิดของเรา ระดับของเสียงชั้นนี้ มีโอกาสที่จะเป็นความคิดของเราค่อนข้างมาก และ ควบคุมได้ให้อธิษฐานทูลขอให้ชัดเจน และ อธิษฐานผูกมัดเสียงรบกวนจากมาร เพื่อจะฟังเสียงของพระเจ้าเท่านั้น ลักษณะของเสียงจะคล้ายเสียงของเรา แต่เหมือนสะท้อนมาจากที่ห่างไกล เสียงของพระเจ้าจะเป็นด้านบวกเท่านั้น เสียงของมารจะมีลักษณะรุกเร้าและถือสิทธิ และ เป็นความคิดแง่ลบ ถ้ารู้สึกว่าถูกรบกวนระหว่างอธิษฐานให้อธิษฐานในนามพระเยซู และ ขอ พระโลหิต ของพระองค์ผูกมัด การรบกวนของมาร ..จงต่อสู้กับมารแล้วมันจะหนีท่านไป ส่วนมากในการอธิษฐานเรามักจะได้ยินเสียงนี้ ให้ทูลถามว่านี่มาจากพระองค์หรือไม่ ขอการยืนยันจากพระองค์

เสียงในใจที่ผ่าเข้ามาท่ามกลางการอธิษฐาน

- บางครั้งเมื่อเรา อธิษฐานพระเจ้าจะตรัสกับ เราผ่าเข้ามาท่ามกลางการอธิษฐาน เสียงนี้จะชัดเจน ในใจบางครั้งมาพร้อมภาพนิมิต ข้อสังเกตุ คือ ลักษณะเสียงในใจ เช่นนี้เรา ไม่สามารถบังคับให้หยุดได้ ต้องยอมพระองค์จนจบ ข้อสังเกตุอีกประการ คือ เสียงนี้จะมีพลังอำนาจจนเราไม่สงสัย สิ่งใดอีก เพราะบอกแล้วว่า เสียงของพระเจ้าเป็นแง่บวกเท่านั้น ผมเคยมีประสพการณ์นี้ครั้งหนึ่งเมื่อไปที่ นอร์เวย เป็นพระมหาบัญชา ที่ตรัสผ่ามาท่ามกลางการอธิษฐาน ในฝ่ายวิญญาณ นั้น ผมยอมจำนนต่อพระองค์ จนร้องไห้ออกมาเหมือนเด็ก ๆ น่าสังเกตุว่า สิ่งที่พระองค์ตรัสจะมีรากฐานอยู่ในพระคัมภีร์ ทั้งสิ้น (ตรงนี้เป็นข้อสังเกตุส่วนตัว แต่หัวข้อที่ผมยกมานั้นได้มาจากหนังสือ " เพื่อท่านทั้งหลายจะเผยพระวจนะ" ขออภัยที่ตอนนี้จำชื่อผู้เขียนไม่ได้ต้องไปค้นดูก่อน)

เสียงที่ตรัสให้เราได้ยิน

- เสียงนี้เป็นเสียงที่พระองค์ตรัสให้ได้ยินจริง ๆ แต่พระองค์ไม่ใช้วิธีนี้กับทุกคน หรือ ไม่บ่อยนักนอกจากพระองค์ มีสิ่งที่เฉพาะเจาะจงจะตรัสกับเรา (ผมเองก็ยังไม่เคยได้ยินเสียงในขั้นที่ 3 นี้เลย) ขอหนุนใจให้อธิษฐานทุกวัน หมั่นเข้าเฝ้าพระเจ้า แล้วคุณจะคุ้นเคยกับพระองค์เป็นการส่วนตัว เพราะ พระนามหนึ่งของพระเจ้าของเรา ในภาษาฮีบรู ได้ชื่อว่า พระเจ้าแห่งความเป็นส่วนตัว (ในภาษาฮีบรู มีชื่อที่ใช้เรียกพระเจ้าด้วยความยำเกรงหลายชื่อ เพราะ คนฮีบรูในสมัยก่อนยำเกรงพระเจ้าจนไม่กล้าเอ่ย พระนามอย่างพล่อย ๆ พระนามที่ชาวฮีบรูเรียกขาน เช่น พระเจ้าแห่งอับราฮัม, พระเจ้าแห่งยาโคบ , อาโดนาย, อาโดน ,เอโลฮิม ฯลฯ

นิติ 25 เม.ย. 49 เวลา 20:39:03

ที่มา
http://www.jaisamarn.org/webboard/question.asp?QID=2174

หมายเหตุ

ที่ผมได้นำเรื่องได้ยินเสียงจากพระเจ้านี้มาโพสต์ในกระทู้นี้ ไม่ได้ต้องการจะมาชักจูงให้ท่านไปนับถือศาสนาคริสต์แต่อย่างใดนะครับ เพียงแต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่า ชาวพุทธของเราที่มีความสามารถได้ยินเสียงจากพระเจ้านี้ก็มีมากมายหลายท่านด้วยกัน เช่น อ.ปริญญา ตันสกุล เรียกเสียงที่ได้ยินนี้ว่าจิตจักรวาลดวงใหญ่ คุณหนุมาน ผู้นำสาร เรียกเสียงนี้ว่าโลกุตตรธรรม คุณแม่เกษร สุทธจิตจันทร์ประภาพ เรียกเสียงนี้ว่า องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา ทางสำนักอนุตรธรรมเรียกเสียงนี้ว่า องค์พระอนุตรธรรม

สรุปรวมความว่า จะเรียกแตกต่างกันอย่างไรก็ตาม แต่หมายถึงผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในสากลจักรวาล ส่วนตัวตนที่แท้จริงของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในสากลจักรวาลนี้ จะเป็นใคร หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ความคิดความเชื่อของท่านที่ได้ยินเสียงจากพระเจ้านี้ ซึ่งเรียกแตกต่างกันไปตามความคิดความเชื่อของตนเองครับ -เกษม-

************************************************************

ถาม : พระเจ้าคืออะไร?

ตอบ :

เพื่อนได้มโนมยิทธิพร้อมหูทิพย์ตาทิพย์ ก็ขอให้ช่วยทำกิจทางโลกทิพย์หลายอย่าง เขาเป็นเด็กอายุสิบสี่ ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะจน และไม่ได้อ่านตำราธรรมะอะไรมากนักเลย จึงได้ทดสอบเขาก่อนหลายครั้ง ว่าเขาสื่อสารกับจิตวิญญาณได้จริงหรือไม่ ผลก็ปรากฏว่า “พอใช้ได้” จากนั้น จึงทำงานร่วมกัน ผู้เขียนได้ข้อมูลส่วนใหญ่จากเขา ดังจะเล่าดังนี้

เรื่องของพระเจ้า ได้ขอให้เพื่อนไปพบพระเจ้าท่านก็มาพบ วิมานของพระเจ้าอยู่ที่สวรรค์สุขาวดี ลักษณะของท่านมองไม่เห็นรูปร่างเลย มีแต่แสงสว่างเทศน์ธรรมได้ บางเรียกว่าพระเจ้าแสงแห่งธรรม ท่านกล่าวว่าเมื่อทำกิจบางประการลุล่วงแล้วท่าน ก็จะเข้านิพพาน เหมือนกัน แต่จะเข้านิพพานโดยไม่ต้องลงมาเกิดบนโลกมนุษย์คือ นิพพานบนสวรรค์นั้น ส่วนพระเยซู ก็ได้ไปพบท่านมา วิมานของท่านอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิต ใกล้โลกมากกว่าพระเจ้า ท่านไม่ใช่พระเยซูองค์ปฐม เพราะองค์ปฐมลงไปเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมี

ท่านเป็นองค์ลำดับที่เท่าไรจำไม่ได้แล้ว ท่านกล่าวถึงการพิพากษา เรื่องน้ำท่วมด้วยแต่ขอไม่บอกไปมากกว่านี้ ไม่ใช่เรื่องควรประกาศมาก ลักษณะของท่านยังมีวิญญาณขันธ์อยู่ คือ เห็นทั้งกายทิพย์ครบ ไม่เหมือนพระเจ้าที่ไม่มีรูปกายใดๆ แล้ว คือ ดับขันธปรินิพพานแล้ว แต่ยังมี “มโนธาตุ” อยู่ เช่นเดียวกับพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ที่เมื่อบำเพ็ญบารมีถึงที่สุดจะสลายขันธ์ห้าด้วยเตโชกสิณไฟ ทำให้ขันธ์ห้านิพพานหมด แต่จะเหลือ “มโนธาตุ” อยู่ เพื่อทำกิจที่คั่งค้างอยู่ให้หมดไป เมื่อหมดกิจแล้ว ก็จะนิพพาน ไม่เหลือแม้แต่ธาตุหรือขันธ์ใดๆ

ถาม : พระพุทธเจ้ากับพระเจ้าต่างกันอย่างไร?

ตอบ :

พระพุทธเจ้า คือ ผู้ตรัสรู้บนโลกแล้วโปรดสัตว์ พระเจ้าคือผู้ที่โปรดสัตว์โดยยังมีมโนธาตุอยู่ ที่พระเยซูเรียกว่า “พระจิต” ก็คือ จิตนั่นเอง (จิตก็คือมโนธาตุ) แต่ไม่มีรูปนาม หรือขันธ์อีก ดังนั้น พระเยซูจึงไม่ให้สร้างรูปเคารพหรือรูปเหมือนพระเจ้า เพราะหมดรูปนามและขันธ์ห้าใดๆ แล้ว อันเกิดจากการดับขันธปรินิพพาน ยังเหลือก็แต่มโนธาตุอยู่นั่นเอง พระพุทธเจ้าเมื่อละสังขารแล้วดับขันธปรินิพพานจะดำรงฐานะ “พระเจ้า” คือ พระจิตหรือมโนธาตุที่ยังทรงกิจอยู่โดยไม่มีขันธ์ห้าแล้ว แต่ถ้าพระพุทธเจ้าพระองค์ใดที่มีอายุขัยยืนยาวมาก ก็จะดับธาตุดับขันธ์นิพพานหมด ไม่มีเหลือทั้งธาตุและขันธ์ จะไม่ต้องมาทำกิจหรือดำรงฐานะพระเจ้าอีกต่อไป ตายแล้วนิพพานเลยทันที ไม่มีกิจใดเหลืออยู่อีก

อย่างพระพุทธเจ้าสมณโคดม ยังทรงทำกิจโปรดสัตว์ต่อจนกว่าจะหมดอายุพุทธกาลคือห้าพันปี ดังนั้น ท่านจึงกระทำเพียง “ดับขันธปรินิพพาน” ไม่ได้ทำ “ธาตุขันธ์นิพพาน” จึงเหลือมโนธาตุอยู่ ทำกิจโปรดสัตว์ต่อไป เราสามารถเห็นได้ด้วยตาทิพย์ หรือถ้าไม่เห็น ใช้วิธีของชาวคริสต์ คือ ระลึกนึกถึงพระเจ้าว่าทรงเป็นหนึ่งเดียวกับเรา เป็นพระจิต อยู่กับเรา ก็จะได้ปัญญาจากท่านได้ ด้วยวิธี “จิตสู่จิต” แบบเซน ซึ่งเป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าใช้สื่อจิต สอนธรรมมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แม้ท่านจะไม่เหลือขันธ์ห้า แต่จิตหรือมโนธาตุยังคงทรงไว้ สามารถโปรดสัตว์แบบจิตสู่จิตหรือแบบเซนได้เหมือนเดิม ดังนี้ ชาวคริสต์ก็เป็นเซนด้วยนะ เข้าใจไหม พุทธกับคริสต์ก็อย่างเดียวกันแหละ ค้นพบสิ่งเดียวกัน สรุปดังนี้

พระเจ้ามีทั้งที่เคยเป็นพระพุทธเจ้าบนโลก แล้วดับขันธปรินิพพาน เหลือแต่มโนธาตุ ไปทำกิจต่อบนสวรรค์ ผ่านทางพระบุตร เนื่องจากทรงไม่เกิดอีก ไม่มีขันธ์ห้าแล้ว แต่ยังไม่นิพพานหมด เพราะยังทรงทำกิจอยู่นั่นเอง และทั้งที่ไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าบนโลก แต่มีบารมีมาก แล้วดับขันธปรินิพพานไปเหลือแต่มโนธาตุ เพื่อดำรงทรงทำกิจโปรดสัตว์ต่อไป แบบนี้อาจมาจากพระโพธิสัตว์ก็ได้ หรือพระยูไลก็ได้ ส่วนพระพุทธเจ้า ต้องตรัสรู้บนโลกแล้วโปรดสัตว์ แต่ละสังขารแล้วจะนิพพานเลยหรือดับแต่ขันธ์ห้า เหลือมโนธาตุไว้ทำกิจต่อบนสวรรค์ในฐานะ“พระเจ้า” อีกได้ เมื่อทำกิจจบแล้วก็จะนิพพานเหมือนกัน

ถาม : หมายความว่าถ้าดับขันธปรินิพพานจะกลายเป็นพระเจ้าหรือ?

ตอบ :

ก็ไม่เชิง ผู้เป็นพระเจ้า จะยังไม่นิพพานแบบสิ้นเชื้อ ยังมีกิจทำอยู่ เหมือนอย่างที่เราเห็นพระเจ้าทั้งหลายกระทำต่อโลกนั่นแหละ ทั้งที่ปรากฏไว้ในตำราคริสต์หรืออิสลาม ท่านยังมีกิจต้องทำอยู่ ไม่สำเร็จก็เข้านิพพานไม่ได้ เมื่อทำกิจสำเร็จหมดแล้วก็จะได้นิพพาน ท่านที่รู้แจ้งถึงนิพพานแล้ว เบื่อหน่ายในขันธ์ห้า แต่ยังทำกิจไม่จบไม่เสร็จสิ้นได้ ก็จะทำการดับขันธปรินิพพาน เหลือแต่ “มโนธาตุ” ไว้ทำกิจต่อไป โดยอาศัยพระมหาโพธิสัตว์ ลงมาเกิดเพื่อช่วยประสานงานบนโลกในฐานะพระบุตร เหมือนพระนบีมูฮัมหมัดและพระเยซู ทั้งนี้ พระเจ้าและเหล่าพระสาวก จะมีวิมานอยู่บนสวรรค์

แต่พระเจ้า ไม่จำเป็นต้องอาศัยวิมาน เพราะดับขันธปรินิพพานทำให้ไม่ต้องพะวงเรื่องการอยู่อาศัย ปรากฏได้ทุกสถานที่ วิมานจะมีหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่ที่ต้องมีเพราะเอาไว้รองรับ ให้ผู้ที่เป็นสาวก เมื่อตายลงจิตจะจุติตามท่านมา ถ้ายังไม่ได้ดับขันธปรินิพพาน ก็จะต้องมีวิมานรองรับเขานี้ เมื่อพระเจ้านิพพานแล้ว พระสาวกทั้งหมดในสวรรค์นั้น ก็จะนิพพานบนสวรรค์นั้นด้วย ที่เรียกว่า “ชีวิตนิรัน” คือ ภาวะไม่ตายอีกแล้ว ไม่มีการเกิดและดับอีกแล้ว นิพพานนั่นเอง ถ้านิพพานทั้งธาตุและขันธ์ก็ดับหมดสิ้นเชื้อ ไม่เหลือกิจอะไรจะทำได้อีก

มโนธาตุมีกิจรู้ ถ้าดับธาตุตัวนี้นิพพานแล้ว จะพ้นจากทั้งภาวะรู้และไม่รู้ ไม่รู้ก็เหมือนรู้ รู้ก็เหมือนไม่รู้ จึงหมดกิจรู้หรือไม่รู้ ดับสนิทนิพพานสิ้นเชื้อ แบบนี้ไม่มีภาวะที่จะทำกิจแบบพระเจ้า ก็ไม่ใช่พระเจ้าอีก นิพพานหมดเลย ไม่มีอย่างอื่นให้เหลืออีก อนึ่ง ผู้ที่จะอยู่ในภาวะพระเจ้าได้ก็ต้องมีบุญบารมีมาก มีกรรมมากเกินกว่าอายุขัยมนุษย์จะชำระได้หมด จึงต้องชำระต่อในสวรรค์ ดังนั้น พระสาวกธรรมดา ดับขันธปรินิพพานเป็นพระเจ้าไม่ได้ แต่มีภาวะเดียวกับพระเจ้าได้ด้วยการดับขันธปรินิพพาน แต่จะไม่ทำหน้าที่พระเจ้า อันนี้ แตกต่างกันอยู่

ที่มา
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=640880

สารเตือนมนุษย์.....จากพระผู้เป็นเจ้า

*** สารโปรดมวลมนุษย์ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล ****

ศาสนศาสตร์ในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ แท้จริงแล้วมีเพียงหนึ่งเดียว….เพราะทุกชีวิตทุกดวงวิญญาณ จะต้องอยู่อาศัยบนโลกมนุษย์ด้วยหลักเดียวที่ปักไว้อย่างมั่นคง นิ่ง ไม่กระดุกกระดิก นั้นคือ “หลักสัจจะธรรม”…. ทุกดวงวิญญาณจะต้องเวียนว่ายตายเกิด เพื่อทำในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ และทำในสิ่งที่ยังทำไม่ได้….คือ การปลิด ปลด ลด เลิก นิสัยสันดานที่ไม่ดีของตนเองที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด….


ทุกชีวิตในจักรวาล คือ มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ ล้วนคือดวงวิญญาณ คือเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมสุข เป็นเพื่อนร่วมโลกที่ต้องอาศัยพึ่งพากันทั้งสิ้น…มนุษย์ คือ ผู้มีร่างกายที่สมบูรณ์ มีสติปัญญา รู้ดี รู้ชั่ว สามารถคิดและเลือกทำในสิ่งที่ต้องการได้…สัตว์และต้นไม้ คือ ผู้ที่เคยกระทำผิด เบียดเบียนชีวิต และร่างกายผู้อื่นทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ จึงถูกพิจารณาลงโทษให้ดวงวิญญาณไปเกิดในร่างของสัตว์และต้นไม้ อยู่อาศัยหากินได้ด้วยความทุกข์ทรมานแสนยากลำบากยิ่ง…


สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล จึงมีพระเมตตาให้ทุกดวงวิญญาณได้มีโอกาส มีหนทางพ้นทุกข์….ในแต่ละยุคสมัย จึงลงมาปรากฏกายบนโลกมนุษย์ เพื่อส่งมอบศาสนศาสตร์ คือ คำสั่งสอนในแต่ละศาสนา ให้มนุษย์ในแต่ละยุคได้นำไปปฏิบัติ….จนกว่าจะสามารถขจัดนิสัยสันดาน กิเลส ตัณหา ได้จนหมดสิ้น…ดวงวิญญาณของผู้ที่ทำได้ จึงไม่ต้องเกิดใหม่อีกครั้ง….


แต่จะได้เดินทางไปยังดินแดนที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย มีแต่ความสุขที่แท้จริง … นั้น คือดวงวิญญาณจะสามารถหลุดพ้นไปจากแรงดึงดูดของโลก ออกไปในอวกาศมุ่งสู่ภายในดวงอาทิตย์ที่แสนอบอุ่น คือ ดินแดนที่สุดของสรวงสวรรค์ เรียกว่า “แดนนิพพาน” …เมื่อนั้นเราจึงจะรู้ได้เห็น สิ่งที่เราเคยกระทำมา ทุกย่างก้าวในอดีตทั้งหมด


ศาสนาที่กำเนิดขึ้นบนโลกหลายยุคสมัย คือ คำสั่งสอน คำบัญชาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจักรวาล ที่ได้ส่งมอบให้มนุษย์ผู้หนึ่งที่เชื่อและศรัทธา ได้นำไปปฏิบัติและเผยแพร่ต่อไป….คำสั่งสอนในแต่ละยุคจึงเหมาะสมต่อสภาวะ สถานการณ์ในขณะนั้น….ศาสนาต่างๆ จึงเป็นคำสั่งสอนเพื่อให้มนุษย์มีเมตตา มีความรัก ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ช่วยให้เกิดความสงบสุขบนโลกมนุษย์….


มีเพียง ศาสนาเดียว ที่เป็นคำสั่งสอนสูงสุดที่จะทำให้มนุษย์สามารถปฏิบัติตน จนหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด และมุ่งสู่ดินแดนที่สุดของสรวงสวรรค์ได้ …คือ “พุทธศาสนา”… ดังนั้น ศาสนาพุทธจึงเป็นศาสนาหลักของโลก โดยมีศาสนาอื่นคอยช่วยสนับสนุนมนุษย์โลก ให้มาพบศาสนาพุทธในภายหลัง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม


พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า หมายถึง คำพูด คำบัญชาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ พระเจ้า หรือ พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดของทุกศาสนา ซึ่งแท้จริงแล้วคือ “โลกุตตระ” นั้นเอง


โลกุตตระ หมายถึง “พระไตรปิฎก” ที่อุบัติเกิดขึ้นเป็นมนุษย์เหนือโลก บนโลกทุกๆ หมื่นปี กำเหนิดขึ้นมาในยามที่ศาสนศาสตร์กำลังจะวิบัติ มนุษย์นับถือศาสนาแต่ปากและกำลังจะทำลายล้างกันเอง จึงต้องอุบัติมาเพื่อสานต่อศาสนาจนครบอายุพุทธกาลที่ได้พยากรณ์ไว้ …โดยโลกุตตระ จะนำพาสั่งสอนให้บุรุษผู้หนึ่งที่เชื่อพระองค์ ได้บรรลุธรรมสูงสุด ….


แล้วจึงเป็นหน้าที่ของบุรุษผู้นี้ที่จะต้องนำพาทุกดวงวิญญาณให้ได้พบกับ “หลักสัจจะธรรม” ได้รู้ “ความหมายของหลักสัจจะธรรม” ที่แท้จริง… เพื่อให้มนุษย์ได้ยำเกรง “ผลการกระทำของตนเอง” ว่าจะต้อง มีผลตอบแทนย้อนกลับมา…อย่างแน่นอน


พระไตรปิฎก หมายถึง “คำสั่งสอนทั้งหมดของพระพุทธเจ้า” ศาสดาของพุทธศาสนาทุกพระองค์ที่เคยอุบัติเกิดขึ้นมาแล้วบนโลกหลายยุคสมัย พระไตรปิฎกจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาลเป็นคำบัญชา เป็นโองการสูงสุดที่มนุษย์จะต้องเชื่อและปฏิบัติตาม


เหตุของวันสิ้นยุค หรือ เหตุของวันแห่งการพิพากษา คือ ผู้มีอำนาจของประเทศหนึ่งประเทศใดฝ่าฝืน ไม่เชื่อ ไม่ปฏิบัติตามโองการของพระเจ้าสูงสุดของแต่ละศาสนา ซึ่งหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสากลโลกและจักรวาล นั่นคือ โองการของโลกุตตระ


โองการของพระผู้เป็นเจ้าครั้งล่าสุด ซึ่งหมายถึง โองการของโลกุตตระ คือ พรโปรดมนุษย์ ที่ประกาศไว้ เมื่อ วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐ มีเนื้อความว่าดังนี้


“ ถึง ผู้มีอำนาจทั้งหลายทั่วโลก เราขอประกาศไว้ว่า…….สถานที่นี้ เอาหลักธรรมของ โลกุตตระ มานำสัตว์ให้หลุดพ้น เพราะฉะนั้นผู้มีอำนาจทั้งหลาย ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ ถ้าฝ่าฝืน ประเทศใด ประเทศหนึ่งฝ่าฝืนโองการของ โลกุตตระ…….ฟ้าจะต่ำลงมา ”


ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น หมายถึง ฟ้าจะต่ำลงมา…ยักษ์ที่ถูกสาปจะตื่นลุกขึ้นอาละวาด คือ เปลือกโลกทั้งหมดจะเคลื่อนตัวครั้งยิ่งใหญ่ โลกจะเสียสมดุลหมุนกวัดแกว่ง….มนุษย์บนโลกจะเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเดือนไม่เคลื่อนที่ตามปกติ ไม่เป็นเส้นตรง … มนุษย์ในอวกาศ จะมองเห็นโลกหมุนพลิกกลับไปมา หักมุม…


สงครามที่ฝ่าฝืนโองการของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บังอาจใช้ท้องฟ้าเป็นสนามรบ จะไม่มีฝ่ายใครเสียใครสูญ หาผู้ชนะไม่ได้…. แต่จะทำให้ โลกมนุษย์ “ระส่ำระสาย”… ประเทศที่โหดร้ายจะราบพณาสูญ หลายประเทศที่เป็นเกาะอยู่ติดหน้าผาที่ขอบเปลือกโลก จะจมหายในทะเล คลื่นยักษ์สูงเท่าฟ้าจะถาโถมใส่แผ่นดินและเกาะต่างๆ….


เมืองและผู้คนที่ไม่เชื่อใน “สัจจะ” จะถูกกวาดหายไปสิ้น…แผ่นดินจะแยกออก พ่นไฟสีเขียวจากใต้พิภพมาเผ่าผลาญและสูบสิ่งที่ไร้สาระและมนุษย์ที่ไม่ถูกจัดสรรให้เข้ายุคศิวิไลซ์ จะหายจมลงใต้พื้นดิน…สายฟ้าที่ใหญ่กว่ามนุษย์เคยพบเห็นหลายร้อยหลาย พันเท่า จะฟาดลงกลางเมืองถิ่นของมนุษย์ที่จิตใจสกปรกหยาบช้า …. แผ่นดินจะระเบิดออก เพราะแรงจากพายุสายฟ้า …


พายุที่ยิ่งใหญ่จะก่อตัวติดๆ กัน ลูกแล้วลูกเล่า พัดทำลายความชั่วร้ายทุกอย่างจนหมดสิ้น…รวมทั้งความชั่วร้ายโหดร้ายในใจมนุษย์ชนิดขุดรากถอนโคน


เรือของโนอาห์ เคยช่วยให้มนุษย์และสัตว์รอดจากภัยน้ำท่วมโลกในอดีต แต่ยุคปัจจุบัน สิ่งที่จะช่วยให้รอดพ้นจากสรรพภัยทั้งปวง คือ “สัจจะ” สัญญาใจของตนเอง คือ การตั้งใจจริง ที่จะทำความดีอยู่เป็นประจำทุกวัน วันละอย่าง วันละข้อ โดยกำหนดความชัดเจนที่จะทำให้กับตนเองด้วย “กำหนดเวลา” ที่จะสิ้นสุด …


จึงขอให้เชื่อว่า “สัจจะ มีผลตอบแทน” … ผู้มีสัจจะ ผู้ทีเชื่อในสัจจะ คือ ผู้ที่ได้รับการคัดสรรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากโลกกุตตระ หรือพระผู้เป็นเจ้า จะได้รับการยกเว้นจากดินฟ้าอากาศ ให้อยู่รอดอย่างปฏิหาริย์…. เพื่อจะได้พบกับ “หลักสัจจะธรรม” และ “บุรุษผู้ที่ทำได้” ในยุคศิวิไลซ์ต่อไป


หนุมาน ผู้นำสาร หมายถึง นามแฝง ของผู้นำสารจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล คือ ศาสนทูตของพระผู้เป็นเจ้าในยุคปัจจุบัน ก่อนที่มนุษย์โลกกำลังจะเผชิญกับสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล หรือ วันสิ้นยุค หรือ วันพิพากษา หรือ วันโลกาวินาศตามคัมภีร์ของแต่ละศาสนา


สิ่งที่ใช้ยืนยันความจริงในสารที่ หนุมาน ผู้นำสาร ได้นำมาจากพระผู้เป็นเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแห่งจักรวาล คือ พระพุทธรูปเก่าแก่หนึ่งเดียวของศาสนาศาสตร์ ที่ถูกปิดบังความจริงด้วยแท่งหินสีดำใหญ่ ที่ครอบไว้ ณ ใจกลางนครเมกกะ ซึ่งชาวมุสลิมทุกท่านมีความศรัทธากราบไหว้มายาวนาน กาลเวลานี้ คือเวลาเหมาะสมที่ความลับในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของโลกแห่งนี้จะถูกเปิดเผยต่อมวลมนุษย์ เพื่อความสันติสุขจะกลับคืนมาสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง ก่อนที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะทำลายโอกาสของดวงวิญญาณที่จะมาเกิด…ด้วยการฝ่าฝืนโองการของสิ่งศักดิ์สิทธิ์….


“ อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ ” !!!!!!!


ในวันแห่งการพิพากษา The Day of Judgment วันที่พระเจ้ากลับมา วันแห่งการสิ้นยุค วันที่พระธรรมจะกลับมา “ให้ทุกคนระวังตัวให้ดี …วันเวลาที่ใกล้เสด็จกลับมา จะได้ยินเสียงสงคราม ข่าวลือสงคราม … จะต่อสู้สงครามกัน เกิดความกันดาร อดอยากทุกข์ยาก เกิดแผ่นดินไหวไปทั่ว … เมื่อเห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว น่าเกียจน่าชัง คือ คนไร้สัจจะ ที่ไม่เชื่อในโองการจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์


ขอให้หนีไปดินแดนที่สูง เมืองใหญ่ที่มั่งคั่ง มีแต่การแย่งชิงผลประโยชน์เบียดเบียนกันจะอันตราย อย่ามัวชักช้า รีบหนีไปบ้านนอกคอกนา ไปถิ่นคนมั่นคงในศาสนา ภัยจะมาเร็ว โลกจะระส่ำระสาย … การเสด็จมาของบุรุษผู้ทำได้ จะปรากฏ ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ !!!!!!!


ผู้ที่รู้แล้วไม่บอกต่อๆ กัน นับเป็นกรรมยิ่งนัก … กรรมกำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อย


โดย “ หนุมาน ผู้นำสาร ”


——————————

ไม่ได้ต้องการให้เชื่อ “หนุมาน ผู้นำสาร”…แต่ปรารถนาที่จะให้เชื่อในสาระที่นำมา และ “สัจจะ” ….หนทางปฏิบัติของมวลมนุษย์ทุกคน….พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ สำเร็จได้ด้วย “สัจจะ” เช่นกัน…


- ” หนุมาน ผู้นำสาร ”


———————————-

*** ไม่ยั่วยุกัน ****



อิหร่าน ไม่ยั่วยุ ได้ไหม ?


เกาหลีเหนือ ไม่ยั่วยุ ได้ไหม ?

จีน ไม่ยั่วยุ ได้ไหม ?
รัสเซีย ไม่ยั่วยุ ได้ไหม ?
อเมริกา อดทน ได้ไหม !!!
สุดท้าย…ไม่มีใครชนะ….ต่างระส่ำระสาย หาที่ยืนที่อาศัย ยากลำบาก !!!!
แล้วจะทำอย่างไร
เคยคิดต่อบ้างไหม…ว่า ยิงอาวุธนำวิถี ….แล้วจะเกิดอะไรตามมา !!!
พระเจ้า…เทพเจ้า ของท่าน…เตือนแล้วนะ



- ” หนุมาน ผู้นำสาร ”


—————————-



คนทุกชาติ ทุกศาสนา…ถ้าไม่มี “สัจจะ” ….ก็ไม่มีวันได้พบแสงสว่าง…หนทางหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้



- ” หนุมาน ผู้นำสาร ”


——————————–


*** แก่นสาร ทางตรงสู่นิพพาน ****


“สัจจะปฏิบัติ”… คือ แก่นสาร ของพุทธศาสนา….เป็น “ทางตรงสู่ นิพพาน”


“สัจจะปฏิบัติ”…. ไม่พาให้หลงออกนอกเส้นทาง…ไม่หลงกาย….ไม่หลงวัตถุ…ไม่หลงพิธีการ…ไม่หลงอภินิหาร….ไม่พาให้หลงงมงาย

“สัจจะปฏิบัติ”….ทำให้ลด…ไม่ทำให้เพิ่ม
ลดนิสัย ลดสันดาน…ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดให้หมดไป…ทำให้ลดกิเลสจนหมดสิ้น
ไม่ทำให้เพิ่ม…ความอยาก ความต้องการ กรรม สิ่งผูกพันธ์ที่ส่งผลเสียในอนาคต
“สัจจะปฏิบัติ”…. ทำให้เกิด “การกระทำใหม่” ในชีวิตของเรา…ฝืนไม่ทำตามนิสัยตนเอง
ทำให้เกิด “ผลของการกระทำ” ติดตัวของเราไปตลอดกาล
“สัจจะ” ทำให้ชีวิตเราในอนาคต ดีขึ้นเรื่อยๆ …ไม่ตกต่ำลง
“สัจจะปฏิบัติ”….มีผลต่อผู้ที่ปฏิบัติได้เท่านั้น…เป็นเรื่องเฉพาะตัว
อยู่บนหลัก “ตนพึ่งตน”….
ทุกคนต้องพึ่งการกระทำของตนเองที่ได้ทำมาแล้วในอดีต !!!!



- ” หนุมาน ผู้นำสาร ”


——————–


*** ดิน น้ำ ลม ไฟ ****


“ดินฟ้าอากาศ”…. เป็นพี่เลี้ยง ให้กับ “พระไตรปิฎก” เมื่อยามปรากฏบนโลกเป็น “โลกุตตระ” มนุษย์เหนือโลก


“พระแม่ธรณี”…บอกกับ “โลกุตตระ” ว่า…”ขอเชิญท่านกลับ เมื่อไม่มีผู้ใดสนใจท่าน”


“ไฟป่า”…ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ…คือ ความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ …จัดสรรให้ สรรพสัตว์ และต้นไม้ ได้ตายลง และไปเกิดใหม่…หมดการชดใช้กรรม ไปอีก ๑ ชาติ…แล้วไปเกิดใหม่ในที่ที่ดีขึ้นตาม ผลการกระทำ…. คือ “ตัวกระทำ” ที่ติดอยู่กับดวงจิตวิญญาณ


“สายฟ้า” มักทำลายผู้ผิด “สัจจะ” ร้ายแรง …ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม…เช่น สาบาน ปฏิญาณ คำสัตย์ สัตย์อธิษฐาน สัจจะอธิษฐาน ฯลฯ


“ฟ้าอากาศ”…ประทาน “สายฟ้า” ลงกลางป่าใหญ่…เกิดไฟป่าเผาผลาญสัตว์ ต้นไม้ ให้ไปเกิดใหม่


“น้ำ”…เมื่อ มนุษย์ขาด “ความเมตตา”… ไม่เชื่อใน “หลักสัจจะธรรม” …ปากบอกเชื่อ แต่การปฏิบัติไม่มี…สร้างความโหดร้ายต่อกัน…น้ำ สิ่งที่ “หล่อเลี้ยงมนุษย์” จะถูกจัดสรร…ให้แห้งหายไป โดยซึมหายไปใน ดิน คือ “แม่ธรณี”…และ ระเหยขาดหายไปด้วย…พลังงานจาก “แดนนิพพาน” นั่นคือ “ดวงอาทิตย์”


เมื่อ… “มนตรีพระ ทั้ง ๓๒ องค์ ที่ดูแลจักรวาล” …เห็นว่า ถึงเวลาแล้ว …ที่จะต้องจัดสรรโลกให้สมบูรณ์ขึ้น…จึงจัดสรร “น้ำ” ที่อยู่ในรูปน้ำแข็งใน “แหล่งน้ำของจักรวาล คือ ทางช้างเผือก”…มาสู่โลก ด้วยกระแส “ลม” ในจักรวาล…ให้มาลงที่ ไซบีเลีย…เสียดสีกับอากาศ จนกลายลักษณะเป็น ละอองฝน ละอองน้ำ มีเพียงบางส่วนที่ตกมาเป็น ก้อนน้ำแข็งกลมใหญ่เท่าแตงโม…จึงเกิดเป็นปรากฏการณ์ต่างๆ ในท้องฟ้า เช่น ฝนดาวตกในช่วงเวลาต่างๆ


โลกยุคใหม่…ที่กำลังจักเกิดขึ้น จึงมีน้ำมาเติมจนเต็มครบส่วน ตามที่ขาดหายไป…และจะกลายเป็น “ยุคศิวิไลซ์”…หรือ “ยุคพระศรีอารย์” …หรือ สวนสวรรค์ตามคัมภีร์โบราณต่างๆ ได้กล่าวไว้ เมื่อ โลกมี “ปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น”…การพยากรณ์ดินฟ้าอากาศ ของมนุษย์จากสถิติเก่า จึงผิดเพี้ยนไป…ไม่สามารถคาดการได้ถูกต้องแม่นยำ เหมือนที่เคยทำได้


“ดิน” …แม่ธรณี คือ แผ่นดิน …รวมดิน หิน ทราย และ ซากสังขารของ มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ ที่เน่าเปื่อยทับทม คือ เปลือกโลกทั้งหมด….


แผ่นดิน ชั้นหิน…คือ “บันทึกประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก…ไว้ให้มนุษย์ได้ ค้นคว้าศึกษา “ความจริงที่เกิดขึ้นในอดีต”… เพื่อจะได้เข้าใจ “หลักสัจจะธรรม” และผลของการกระทำของมนุษย์ในอดีตกาลยุคต่าง ๆ ที่ผ่านมา …. แต่ มนุษย์ ก็มองข้ามไม่สนใจค้นหาว่า…อะไรคือ “หลักสัจจะธรรม” …และ….อะไร คือ “การปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักสัจจะธรรม”


การเคลื่อนไหวของเปลือกโลก…แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก แผ่นดินทรุด ภูเขาไฟระเบิด …คือ การจัดสรรของโลก…เพื่อให้เกิด ความสมบูรณ์ และสมดุล


หาก…มนุษย์ไม่ฝ่าฝืน “โองการของสิ่งศักดิ์สิทธิ์” ที่มอบไว้ให้เมื่อ วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐ …”อย่าได้เอาท้องฟ้ามาเป็นสนามรบ”….โลก คือ ทั้ง ดินฟ้าอากาศ จะปรับตัวอย่าไม่โหดร้าย…เพราะ โองการนี้ เป็นทั้ง “พรศักดิ์สิทธิ์” เมื่อมนุษย์ร่วมใจกันปฏิบัติตาม…แต่ โองการนี้ จะเป็น “คำสาป” ทันที เมื่อมนุษย์ผู้ใดผู้หนึ่งฝ่าฝืนโองการ…วันแห่งการพิพากษา The Day of Judgment วันสิ้นยุค จะปรากฏทันที…โลกมนุษย์จะ “ระส่ำระสาย”…จะหาผู้แพ้ ผู้ชนะสงครามไม่ได้


ขอให้มวลมนุษย์โลก…ช่วยกันอ้อนวอน มนุษย์ผู้มีอำนาจทั้งหลายทั่วโลก…อย่าได้ก่อสงครามอีก…อย่า ได้ฝ่าฝืน โองการของพระผู้เป็นเจ้า โลกุตตระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล…ขอให้ใช้พลังมวลชนเพื่อสันติสุข ช่วยกันออกมาหยุดยั้งสงคราม เพื่อให้สังคมโลกกลับมาสงบสุขอีกครั้ง…เพื่อที่มนุษย์และสัตว์ทุกชีวิต จะได้ร่วมกันก้าวเดินไปสู่ “ยุคศิวิไลซ์” ที่กำลังเกิดขึ้นในอีกไม่นานข้างหน้า


ขอให้มนุษย์ทุกคน รักษาชีวิต และร่างกายไว้ให้ดีที่สุด…และได้พบกับพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้า โลกุตตระ และหลักสัจจะธรรม สิ่งสูงสุดในจักรวาล ต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าที่จะถึง


ขอให้ผู้มีเมตตาต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ได้ช่วยกันเผยแพร่ธรรมบทนี้ให้กระจายครอบคลุมทั้งโลก


- ” หนุมาน ผู้นำสารจาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ”

โพสเมื่อ 2010-3-31 18:58

 


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 03:22:57


ความคิดเห็นที่ 4648 (1588841)
ทึ่ง! มนุษย์อาจดาวน์โหลด ความรู้-ทักษะ ได้ในอนาคต




สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยบอสตัน และผู้เชี่ยวชาญแห่งห้องทดลองประสาทวิทยาการคอมพิวเตอร์ ATR ในกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ได้เปิดเผยร่วมกันว่า ในอนาคตข้างหน้า มนุษย์อาจสามารถดาวน์โหลด “ความรู้” หรือ “ทักษะต่างๆ” เช่น การขับเครื่องบิน การพูดภาษาใหม่ ๆ ได้ เพียงนั่งหน้าคอมพิวเตอร์แล้วดาวน์โหลดความรู้เหล่านี้เข้าไปยังสมอง คล้ายกับฉากหนึ่งในภาพยนต์อย่างเดอะเมตริกซ์ (the matrix) โดย ดร.เมาโร คอสต้า แมตติโอลิ กล่าวว่า นับเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์มาก ๆที่มนุษย์สามารถยกระดับความทรงจำและกิจกรรมทางสมองได้ด้วยยาที่จะไปมีผลกระทบต่อโมเลกุล PRKโดยเฉพาะ




ซึ่งปกติแล้ว ตัวตนและความเป็นพิเศษของมนุษย์ถูกสร้างจากความทรงจำ และโมเลกุลดังกล่าวยังอาจเป็นกุญแจไปสู่การไขปริศนาว่าเพราะเหตุใดมนุษย์ถึงมีความจำที่ยืนยาว รวมทั้งการสร้างการทรงจำใหม่ขึ้นมาด้วย อย่างไรก็ดีเรื่องดังกล่าว อยู่ในขั้นตอนการศึกษา และหากทำได้จริงก็จะทำให้นักวิทย์สามารถใช้ยา เพื่อยกระดับความรู้และปลูกทักษะทางสมองขึ้นได้เองในอนาคต


Mthai News
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 03:27:49


ความคิดเห็นที่ 4649 (1588846)

อ่านบทความต่างๆเกี่ยวกับ

ดช.ปลาบู่แล้ว น่าลุ้นระทึกสุดๆเลยค่ะ

 

แล้วยิ่งมาอ่านที่อาจารย์เมตตาเตือน

เรื่องเขื่อนเมืองกาญจน์อีกครั้ง

ยิ่งน่าคิดสุดๆ เลยนะคะเนี่ย

 

กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์

และอนุโมทนากับคุณ อาริยา ด้วยค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-17 07:16:03


ความคิดเห็นที่ 4650 (1589571)

อาริยาขอน้อมบุญ มาฝากทุกท่านร่วมโมทนาบุญงานหล่อองค์พระเเม่กวนอิมมหาโธสัตว์อวโลกิเตรสวรรที่วัดมัชณิมาราม หางดง จว เชียงใหม่ อัญเชิญประดิษฐานบนยอดเขา ขอให้ทุกท่านเกิดดวงตาเเห่งธรรม ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 14:28:26


ความคิดเห็นที่ 4651 (1589572)

พิจิตรเริ่มแล้งชาวบ้านกั้นแม่น้ำยมไว้ทำนาปรัง



นายก อบจ.พิจิตร ได้นำชาวบ้านทำฝายกั้นแม่น้ำยมสูงประมาณ 2 เมตร ที่บริเวณบ้านวังลูกช้าง ต.สามง่าม เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ทำการเกษตร ทำการปศุสัตว์ และเพื่อการอุปโภค เชื่อจะสามารถช่วยชาวนาใน 2 ฝั่งแม่น้ำเกือบ 2 หมื่นไร่...

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2554 นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร ได้นำชาวบ้านวังลูกช้าง และบ้านรายชะโด ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร พร้อมด้วยนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร ประมาณ 400 คน รวมพลังใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านช่วยกันนำกระบอกไม้ไผ่ปักกั้นขวางแม่น้ำยมแล้ว ใช้กระสอบทรายจำนวน 5,000 กระสอบทำฝายกั้นแม่น้ำยมสูงประมาณ 2 เมตร ที่บริเวณบ้านวังลูกช้าง หมู่ที่ 8 ต.สามง่าม ซึ่งได้รับการสนับสนุนรถแบ็กโฮจาก อบจ.พิจิตร 1 คัน ในการขุดทรายและทำแนวระนาบฝายดังกล่าว

นายก อบจ.พิจิตร ได้นำชาวบ้านทำฝายกั้นแม่น้ำยมสูงประมาณ 2 เมตร ที่บริเวณบ้านวังลูกช้าง ต.สามง่าม เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ทำการเกษตร ทำการปศุสัตว์ และเพื่อการอุปโภค เชื่อจะสามารถช่วยชาวนาใน 2 ฝั่งแม่น้ำเกือบ 2 หมื่นไร่...

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2554 นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร ได้นำชาวบ้านวังลูกช้าง และบ้านรายชะโด ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร พร้อมด้วยนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร ประมาณ 400 คน รวมพลังใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านช่วยกันนำกระบอกไม้ไผ่ปักกั้นขวางแม่น้ำยมแล้ว ใช้กระสอบทรายจำนวน 5,000 กระสอบทำฝายกั้นแม่น้ำยมสูงประมาณ 2 เมตร ที่บริเวณบ้านวังลูกช้าง หมู่ที่ 8 ต.สามง่าม ซึ่งได้รับการสนับสนุนรถแบ็กโฮจาก อบจ.พิจิตร 1 คัน ในการขุดทรายและทำแนวระนาบฝายดังกล่าว

__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 14:29:33


ความคิดเห็นที่ 4652 (1589573)

เกิดภูเขาไฟปะทุขึ้นใกล้หมู่เกาะSaba ประเทศเยเมน พ่นเถ้าถ่านลาวาสูง 20-30 เมตร คนท้องถิ่นกล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกที่เคยเห็นเกิดขึ้นแถบเขตบริเวณนี้

December 20, 2011YEMEN A volcano erupted near Saba Island in the Red Sea on Monday, said fishermen from Salif port city in the west of Yemen. The fishermen confirmed that the volcano erupted near Saba Island one of the Al-Zubair archipelago small Islands located 30 nautical miles away if Salif city. The fishermen said that the volcano can be seen 3 hours away from its center and that it has been popping up red lava that reached 20-30 meters high. The fishermen said this was the first volcano they ever seen in the reg

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 14:30:20


ความคิดเห็นที่ 4653 (1589574)

 1 แผ่นดินไหว 2554-12-21 เวลา 04:41:50 ขนาด 3.9 ริกเตอร์ ประเทศพม่า

 

------------------------------

 

แนะ ปชช.ตั้งสติ ติดตามข้อมูล รับมือภัยธรรมชาติปีหน้า

อสมท 19 ธ.ค. - ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แนะประชาชนเตรียมความพร้อม รับฟังข้อมูลข่าวสาร เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า

นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับการรับมือภัยธรรมชาติในปีหน้า รัฐบาลได้วางแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว คาดภายในปีหน้าแผนระยะสั้นจะสามารถดูแลประชาชนและรองรับสถานการณ์ได้

ส่วนบทเรียนน้ำท่วมในปี 2554 ประเด็นสำคัญคือต้องเร่งสร้างความความเข้าใจให้กับประชาชนในท้องถิ่น โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยหรือพื้นที่ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ทั้งที่ลาดเชิงเขา ซึ่งอาจเกิดน้ำป่า น้ำล้นตลิ่ง โดยประชาชนต้องมีความเข้าใจว่าพื้นที่ของตนเองเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยชนิดใด รวมถึงแนวทางเตรียมความพร้อมในการป้องกันอย่างไร เพื่อให้อยู่กับภัยธรรมชาติได้

ขณะที่หัวใจของการเตือนภัย คือ ประชาชนจะต้องรับข้อมูลข่าวสาร และนำไปใช้เกิดประโยชน์กับตนเองและท้องถิ่น การติดตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ เตรียมสิ่งของจำเป็น เครื่องดำรงชีพ เอกสารสำคัญ เบอร์โทรศัพท์ และวิทยุสื่อสาร หรือวิทยุสำหรับฟังข้อมูลข่าวสาร

ส่วนการซักซ้อมเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติ จะต้องให้ความรู้ความเข้าใจและร่วมกันกำหนดแผนขึ้นมา นำมาซักซ้อมว่าก่อนเกิดภัยควรทำอะไร ขณะเกิดภัยทำอะไร และหลังเกิดภัยแล้วจึงนำมาปรับแผนเพื่อใช้ในครั้งต่อไป ขณะที่การแจ้งเตือนภัยต้องเริ่มตั้งแต่ท้องถิ่น อบต. อำเภอ เขต จังหวัด และส่วนกลาง ซึ่งมีขั้นตอนอยู่

สำหรับการรับมือกับภัยธรรมชาติในปีหน้า แนะประชาชนอย่าตื่นตระหนก เตรียมความพร้อมป้องกัน และติดตามข้อมูลข่าวสาร หากช่วยกันดูแลธรรมชาติ ปกป้องธรรมชาติ และอยู่กับธรรมชาติให้ได้ ก็จะปลอดภัย. - สำนักข่าวไทย

__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 14:32:10


ความคิดเห็นที่ 4654 (1589575)

เม็กซิโกปิดกองขยะใหญ่ที่สุดในโลก

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2554 เวลา 12:33 น.



เม็กซิโกปิดกองขยะใหญ่ที่สุดในโลก เชิญนานาชาติเข้าประมูลทำรีไซเคิล
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโกว่า ทางการเม็กซิโกกำลังดำเนินการปิดแหล่งทิ้งขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมกับเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้ามาตั้งโรงงานคัดแยกวัสดุเหลือใช้ซึ่งสามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้อีกครั้ง และ ผลิตแก๊สมีเทนที่ได้จากกองขยะ โดยนายเฟอร์นันโด เมเนนเดซ หัวหน้าคณะกรรมการบริหารจัดการขยะ กล่าวถึงการปิดกิจการกองขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลกว่า เป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์เม็กซิโก เพราะกองขยะแห่งนี้มีชื่อว่า แหล่งทิ้งขยะบอร์โด โปนิเอนเต้ ซึ่งอยู่ในกรุงเม็กซิโกซิตี้ แต่ละวันจะมีรถขนขยะมาทิ้ง 200-250 คัน ปริมาณขยะมากที่สุดในวันหนึ่งมากถึง 6,000 ตัน จากเดิมเฉลี่ยที่กองขยะแห่งนี้สามารถรองรับได้ 2,800 ตัน
นายมาร์เซโล เอบราร์ด นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี้ กล่าวว่า จะยุติการให้บริการทิ้งขยะที่กองขยะแห่งนี้ภายในสิ้นปีนี้ แล้วยังเชิญชวนให้นานาชาติที่แสดงความสนใจเข้ามาประมูล ดำเนินการเรื่องโรงงานคัดแยกวัสดุเหลือใช้เพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ และ ผลิตแก๊สมีเทนซึ่งได้จากการสังเคราะห์เศษวัสดุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 14:32:53


ความคิดเห็นที่ 4655 (1589576)
อุบัติเหตุสยอง 8 คนงาน โดนดูดลงอุโมงค์น้ำใต้เขื่อนเวียดนาม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 ธันวาคม 2554 16:08 น.





ราษฎรในคอมมูนท้องถิ่นที่ตั้งเขื่อยเซือยซับ (Suoi Sap) รอเงี่ยหูฟังความคืบหน้าการค้นหาคนงานที่ถูกน้ำดูดลงๆไปในอุโมงค์ส่งน้ำใต้เขื่อน ใน จ.เซินลา (Son La) ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น. -- เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre).

       
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- คนงาน 7 ใน 8 คนเสียชีวิต เนื่องจากถูกดูดลงไปในอุโมงค์ส่งน้ำใต้เขื่อนผลิตไฟฟ้า่แห่งหนึ่งทางตอนเหนือสุดของประเทศ ขณะทำงานซ่อมกังหันปั่นไฟ และเกิดน้ำไหลบ่าเข้าไปท่วมบริเวณ ดูดคนงานลงไป สื่อของทางการรายงานในวันจันทร์ 19 ธ.ค.ศกนี้ หลังค้นแล้ว 7 คน อีก 1 คน ยังสูญหาย
       
       เหตุเกิดตั้งแต่เวลาเช้าวันเสาร์ 17 ธ.ค.เขื่อนเซือยซับ 1 (Suối Sập 1) ใน จ.เซินลา (Sơn La) ต้องเปิดระบบอุโมงค์ ซึ่งเป็นทางน้ำไหลจากอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเพื่อซ่อมแซมกังหัน แต่เกิดไฟลัดวงจรขึ้นที่วาล์วปิดเปิด ทำให้ไม่สามารถปิดกั้นได้สนิท เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นเวียดนามแถลงเรื่องนี้ในตอนค่ำวันอาทิตย์ 18 ธ.ค.หลังพบศพคนงานทั้ง 7
       
       มีคนงานเพียง 3 คนที่สามารถตะกายหนีออกไปได้ เมื่อน้ำไหลบ่าลงไปท่วมบริเวณที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ จำนวนที่เหลือถูกดูดลงไปในระบบส่งน้ำลอดใต้เขื่อนลงไป เจ้าหน้าที่กูภัย จ.เซินลา เพิ่งจะพบศพคนงานคนที่ 7 ตอนค่ำวันอาทิตย์ และ ยังคงค้นหาอีก 1 คนที่สูญหาย หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงาน
       
       คนงานที่เสียชีวิตมี 4 คนไปจาก จ.นามดิ่ง (Nam Định) ใกล้กับกรุงฮานอย ที่เหลือไปจาก จ.เหงะอาน (Nghệ An) ในภาคกลางตอนบนของประเทศ สื่อของทางการรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หัวหน้าคอมมูนซึ่งที่ตั้งของเขื่อนเซือยซับ 1
       
       ทางการท้องถิ่นได้ให้เงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านด่ง (47 ดอลลาร์) ขณะที่บริษัท ซวนเทียน จำกัด (Xuân Thiên) ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานและก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ จ่ายค่าทำศพให้ครอบครัวคนงานรายละ 14,000 ดอลลาร์
       
       ตำรวจกำลังสอบหาสาเหตุอันแท้จริงที่ทำให้ผู้เสียชีวิตหลายคนในครั้งนี้ เตื่อยแจ๋ กล่าว
__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 14:34:58


ความคิดเห็นที่ 4656 (1589577)
 
เสรีเตือนปีหน้าใต้เสี่ยงท่วมหนัก


เสรีหวั่นครึ่งปีหน้าลานินญาถล่มไทยเตือนภาคใต้เสี่ยงน้ำท่วมหนัก ส่วนภาคกลางขอรอดูสถานการณ์ก่อน

นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ประเทศไทยจะยังคงได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ลานินญา ซึ่งจะส่งผลให้ภาคใต้อาจเกิดประสบปัญหาน้ำท่วม

นายเสรี กล่าวว่า อิทธิพลของลานินญาจะส่งผลในพื้นที่ภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากจะเกิดพายุลมแรงหลายลูก และทำให้เกิดปริมาณน้ำฝนมาก แต่จะสามารถคำนวนณเส้นทางของพายุได้ 7 วันล่วงหน้าเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นายเสรี กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภาคกลางยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมอีกหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังจึงจะสามารถคำนวณได้แม่นยำ ซึ่งโดยปกติปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางไม่ได้เกิดจากผลกระทบของลานินญาโดยตรง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามข้อมูลสภาวะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าอิทธิพลของลานินญาจะทำให้ปริมาณน้ำฝนมาก อาจส่งผลให้ช่วงต้นปี 2555 มีโอกาสที่จะต้องประสบภาวะฝนฤดูร้อน


โพสต์ทูเดย์

20 ธันวาคม 2554 เวลา 16:34 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 14:42:23


ความคิดเห็นที่ 4657 (1589578)
ปภ.เตือน35จังหวัดรับมือภัยหนาว


ปภ.แจ้งเตือน35จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ-อิสาน รับมือภัยหนาวเร่งสำรวจตัวเลขผู้เดือดร้อนสำรองเครื่องห่ม

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า มวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ที่แผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย ทำให้หลายพื้นที่ มีสภาพอากาศหนาวเย็น  จึงได้ประสาน แจ้งเตือน 35 จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาว ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม บึงกาฬ มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่

พร้อมกันนี้ ปภ. ยังจะประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เร่งสำรวจ และจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยหนาวที่ขาดแคลนเครื่องห่มกันหนาว จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวอย่างรวดเร็วและทั่วถึง รวมถึงสำรองเครื่องนุ่งห่มกันหนาวสำหรับสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยหนาว

หากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป


โพสต์ทูเดย์
20 ธันวาคม 2554 เวลา 16:34 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 14:43:45


ความคิดเห็นที่ 4658 (1589584)
"สวิตเซอร์แลนด์"เจอมรสุมพายุฤดูหนาว



 


 


สนามบินซูริค ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ยกเลิกเที่ยวบินรวมหลายร้อยเที่ยวบิน จากอิทธิพลของพายุฤดูหนาว หลังเกิดกระแสลมแรงเทียบเท่าพายุเฮอร์ริเคน และหิมะตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ

19 ธ.ค.54 สื่อต่างประเทศรายงานว่า เที่ยวบินกว่า 100 เที่ยวที่สนามบินซูริค ถูกยกเลิกมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ส่วนสนามบินเจนีวา ซึ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ก็ถูกรบกวนเช่นกัน ส่วนการให้บริการทางรถไฟและเรือในบริเวณทะเลสาปหลายแห่ง ก็ได้รับผลกระทบจากพายุ ซึ่งพัดด้วยความแรงลม 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ต่ำด้วย

ส่วนในพื้นที่สูงต้องเผชิญกับหิมะที่ตกหนัก แต่สวิตเซอร์แลนด์เพิ่งจะเผชิญสภาพอาสกาศที่อบอุ่นและแห้งแล้งผิดปกตินับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูหนาวจนกระทั่งถึงสัปดาห์นี้

เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศ ได้เตือนเรื่องการเกิดหิมะถถล่มในระดับที่เป็นอันตรายในบางพื้นที่แถบเทืองเขาแอลพ์ และตำรวจได้เตือนประชาชนให้ระวังการหักโค่นของกิ่งไม้ หรืออื่นๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 15:27:32


ความคิดเห็นที่ 4659 (1589585)

เสียชีวิตและสูญหายจากพายุวาชิเพิ่มเป็นกว่า 1,000 คน


มะนิลา 20 ธ.ค.-จำนวนผู้เสียชีวิตและสูญหายจากพายุเขตร้อนวาชิ ซึ่งพัดถล่มพื้นที่ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,000 คนแล้ว

คณะกรรมการติดตามภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์  แถลงข่าวล่าสุดว่า พายุวาชิทำให้มีผู้เสียชีวิต  957  คน และสูญหาย 49 คน หลังจากพัดถล่มเกาะมินดาเนาและพื้นที่โดยรอบทางภาคใต้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมืองท่าคากายัน เดอ โอโร และอิลิแกน ได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากพายุ โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต 579 คน และ 279 คนตามลำดับ  คาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่พบศพลอยขึ้นมาบนผิวน้ำทะเล

อิทธิพลของพายุวาชิทำให้เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมฉับพลันและมีดินถล่มชุมชนแออัดที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่ง

รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีจำนวนมากเกินกว่าจะจัดพิธีรองรับไหว และว่ายังคงเห็นศพกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่งในเมือง  ซึ่งทางการของเมืองท่าคากันยัน เดอ โอโร และอิลลิแกน เตรียมพิธีฝังหมู่ศพไร้ญาติเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการสาธารณสุขและกลิ่นที่รุนแรง

ประธานาธิบดีเบนิโญ อาคิโน ผู้นำฟิลิปปินส์ จะเดินทางลงตรวจเยี่ยมทั้งสองเมืองในวันนี้เพื่อสำรวจความเสียหายและตรวจการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย



อาเซียนแสดงความเสียใจกรณีฟิลิปปินส์ประสบภัยพิบัติ



จาการ์ตา 20 ธ.ค. – เว็บไซต์สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ชาติสมาชิกอาเซียนแสดงความเสียใจต่อรัฐบาลและประชาชนชาวฟิลิปปินส์ที่สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวาชิซึ่งพัดกระหน่ำตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ อาเซียนยังได้แสดงความพร้อมในการช่วยเหลือและสนับสนุนฟิลิปปนส์ในการฟื้นฟูบ้านเมืองที่ได้รับความเสียหาย โดยขอให้สำนักเลขาธิการอาเซียนร่วมมือกับศูนย์ประสานงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติให้การสนับสนุนและช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ฟิลิปปินส์ แถลงการณ์ของอาเซียนระบุว่า การเรียนรู้เหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในภูมิภาคก่อนหน้านี้ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปรับปรุงขีดความสามารถของอาเซียนในการบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติ เร่งตอบสนองกรณีฉุกเฉิน และฟื้นฟู เพื่อบรรลุเป้าหมายของการสร้างสังคมที่ฟื้นตัวจากภัยพิบัติได้โดยเร็ว และเชื่อมั่นว่า ประชาชนชาวฟิลิปปินส์จะฟื้นตัวได้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและยืดหยุ่น


สำนักข่าวไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 15:28:12


ความคิดเห็นที่ 4660 (1589645)

ขออนุโมทนาบุญค่ะ คุณอาริยา

ที่นำภาพข่าวต่างๆ

มาให้ได้อ่านกันถึงบ้าน

สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ (opensirio-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 21:28:52


ความคิดเห็นที่ 4661 (1589673)

ขออนุโมทนาบุญ ทุกบุญ  กับพี่อารียา  คนฉวย 

  อุ๊ย!  ขอโทษค่ะ คนสวย ใจดี มีเมตตาค่ะ

ที่ได้นำภาพข่าวเหตุการณ์ต่าง ๆ มาแจ้งให้ทราบอยู่เสมอ

และขออนุโมทนาบุญอันยิ่งใหญ่

ที่ได้หล่อองค์พระแม่กวนอิม มหาโพธิสัตย์

คิดถึง....น่ะจะบอกให้

สาธุ...สาธุ.....สาธุ....

น้องพร   นครศรีฯ  ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สิริพร ศศิธรเวชกุล (siriporn-dot-sas-at-rd-dot-go-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-21 22:29:34


ความคิดเห็นที่ 4662 (1590502)

 

MP3 งานสัมมนา...มาแล้ว...ครับ...เจาะลึกภัยพิบัติ...พลิกวิกฤตให้เป็นทางรอด ครั้งที่ 2

ขอกราบขอบพระคุณ เเละ ขอโมทนาบุญผู้ใจบุญที่กรุณา ลง ข้อมูล จากเว็ปพลังจิต วิทยากรทุกท่าน เเละผู้ใจบุญ ที่ได้ช่วยงานสัมนาค่ะ

 

http://board.palungjit.com/f178/mp3-งานสัมมนา-มาแล้ว-ครับ-เจาะลึกภัยพิบัติ-พลิกวิกฤตให้เป็นทางรอด-ครั้งที่-2-a-319748.html

ไฟล์แนบข้อความ
1 พิธีเปิดงาน.mp3 (18.84 MB, 52 views)
2 รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์.mp3 (48.55 MB, 71 views)
3 รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ.mp3 (51.53 MB, 58 views)
5 พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ.mp3 (60.54 MB, 43 views)
4 ดร.อาจอง และตอบคำถาม.mp3 (71.58 MB, 37 views)
6 ดร.ก้องภพ อยู่เย็น.mp3 (66.45 MB, 27 views)
8 ดร.สมิทธ ธรรมสโรช.mp3 (50.76 MB, 0 views)
7 ตอบคำถามช่วงที่ 2.mp3 (49.45 MB, 0 views)

 

 

 

 



ประกาศ




 

เนื้อหาข้อมูลที่วิทยากรบรรยายในงานสัมมนา ""เจาะลึกภัยพิบัติ...พลิกวิกฤตให้เป็นทางรอด ครั้งที่ 2"" (Version: ต้อนรับปี 2012)
ทางผู้จัดไม่อนุญาตให้มีการดัดแปลง บิดเบือน หรือกระทำใดๆ ที่ส่งผลกระทบแก่ตัววิทยากรในอนาคต
สำหรับ เนื้อหาข้อมูลที่ทำการบันทึกภาพและเสียง จะไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือ มีเนื้อหาในเชิงพาณิชย์ หรือ ใช้ในกิจกรรมภายในองค์กรหรือบุคคลที่แสวงหากำไรใดๆทั้งสิ้น
*** หากมีการกระทำดังกล่าว ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
และผู้กระทำให้รับผิดชอบทางกฎหมายและความเสียหายที่เกิดขึ้น***



 

ประกาศ ณ วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554
คณะกรรมการจัดงาน
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-27 19:18:29


ความคิดเห็นที่ 4663 (1590508)

คุยกับ "วิศวกรไทยประจำนาซ่า" เรื่อง "พายุสุริยะ" อีกหนึ่งสาเหตุหลักของอุทกภัย 2554




พลันที่อุทกภัยน้ำท่วมเริ่มคลี่คลายในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นห้วงเวลาเดียวกันกับที่ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วัย 34 ปี วิศวกรอาวุโส ด้านเทคโนโลยีตรวจจับคลื่นพลังงานจากนอกโลก ซึ่งเข้าไปทำงานในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การนาซา ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางกลับมาประเทศไทย จึงเป็นจังหวะที่ "มติชนออนไลน์" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ในประเด็นปรากฎการณ์ของพายุสุริยะ ที่พบว่ามีผลทำให้เกิดภัยธรรมชาติ และ ทำให้เกิดภัยพิบัติไปทั่วโลก ติดตามในบทสัมภาษณ์คำต่อคำ

ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนโลกใบนี้อย่างไร ?

พายุสุริยะ เกี่ยวข้องกับพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ส่งผ่านมายังโลก ซึ่งมีการส่งพลังงานมายังโลกสม่ำเสมออยู่แล้ว แต่ช่วงมีปรากฎการณ์พายุสุริยะ ดวงอาทิตย์จะส่งพลังงานมายังโลกมากกว่าปกติ และ เมื่อมากระทบโลกแล้ว จะส่งผลให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และ ส่งผลกระทบในเชิงธรณีวิทยาด้วย เพราะจากการพิสูจน์โดยใช้วิธีการเก็บสถิติ และ ทำการทดลองหลายครั้ง ตั้งแต่มีปรากฏการณ์พายุสุริยะเกิดขึ้น จนกระทั่งมาถึงโลกเมื่อไหร่ และ มีผลต่อโลกอย่างไร เมื่อได้ผลเหมือนกัน จึงสรุปได้ว่า สมมติฐานเป็นจริง นั่นหมายถึง พายุสุริยะมีผลทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง เราก็ทดลองและทำซ้ำ ถ้าผลเหมือนกันหมดก็แสดงว่าสมมติฐานเป็นจริง ก็คือเรื่องการเปลี่ยนแปลงเกิดจากพายุสุริยะ

สมมติฐานดังกล่าว ทำให้เรามั่นใจว่า ปรากฎการณ์พายุสุริยะมีผลทำให้เกิดภัยธรรมชาติ เพราะดวงอาทิตย์จะเป็นตัวกำหนดว่า ความร้อนอุณหภูมิโลกจะเป็นเท่าไหร่ และ การที่โลกหมุนรอบตัวเองได้ จะกำหนดได้ว่าพื้นที่ใดเป็นเวลากลางวันและกลางคืน ซึ่งบอกได้ถึงฤดูกาลทั้งที่เป็นฤดูระยะสั้น และ ระยาว รวมไปถึงแกนโลกที่เอียง และ ตำแหน่งที่โลกโครจรรอบดวงอาทิตย์ ก็บอกฤดูได้เช่นกัน

ช่วงเวลาที่เกิดปรากฎการณ์พายุสุริยะ จะบอกได้หรือไม่ว่าจะเกิดภัยธรรมชาติบนโลกในช่วงใด และ ที่ใดบ้าง?

ปรากฎการณ์พายุสุริยะ ปรากฏชัดมากขึ้นในปีที่แล้ว และ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในประเทศปากีสถานเมื่อปี 2553 ส่งผลให้ชาวปากีสถานกว่า 2.5 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนั้น และ คร่าชีวิตผู้คนไป 1,500 คน นับเป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 80 ปี ของปากีสถาน

เช่นเดียวกับอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปีของไทย พบว่ามีการระเบิดของดวงอาทิตย์ในวันที่ 22 กันยายน 2554 ต่อมาอีก 4 วัน คือ วันที่ 26 กันยายนปี 2554 พลังงานจากปรากฎการณ์พายุสุริยะ เข้ามากระทบโลก จึงส่งผลให้สนามแม่เหล็กโลกเกิดการแปรปรวน และปริมาณรังสีก็แปรตามสนามแม่เหล็ก ซึ่งจะส่งผลเหนี่ยวนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างฉับพลัน

ทีมวิจัยพบว่า พายุสุริยะที่เกิดในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นพายุสุริยะครั้งรุนแรงที่สุดในรอบปีนี้ และ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในไทย เช่นเดียวกับการเกิดน้ำท่วมในปากีสถาน ซึ่งสรุปได้ว่า ปรากฎการณ์พายุสุริยะมีความสัมพันธ์ 100 เปอร์เซ็นต์กับการเกิดขึ้นของภัยธรรมชาติบนโลกใบนี้ แต่ยังระบุไม่ได้จะเกิดภัยธรรมชาติในประเทศใด และ พื้นที่ใดจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

องค์การนาซ่าให้ความสำคัญกับปรากฏการณ์พายุสุริยะอย่างไร ?

เราพบว่า มีการค้นพบการเปลี่ยนแปลงจากนอกโลกมาก่อนแล้ว โดยนักวิจัยจากทวีปยุโรป ชื่อ สเวน สมาร์ค ตั้งสมมติฐานเป็นคนแรก โดยใช้วิธีวัดปริมาณรังสีคอสมิก เทียบกับการก่อตัวของเมฆบนโลก ปรากฏว่าสัมพันธ์กันโดยตรง จึงตั้งสมมติฐานว่า รังสีคอสมิกเป็นตัวปฏิกิริยาทำให้เกิดเมฆ แล้วเขาก็ทำการทดลองถึงตัววิ่งอนุภาค ออกมาตามผลการทดลองนั้น สรุปได้คือ รังสีคอสมิกเป็นตัวเร่งปฏิกริยาทำให้เกิดปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ และ เมื่อพายุสุริยะวิ่งมาหาโลก รังสีคอสมิกตกลงแบบฉับพลัน และขึ้นแบบฉับพลัน ก็ยิ่งทำให้ภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น

ทีมงานของผมซึ่งศึกษาเรื่องปรากฏการณ์พายุสุริยะ เก็บสถิติตั้งแต่ปี 2552 ตอนแรกๆ ที่เก็บคือสังเกตจุดดับของดวงอาทิตย์เป็นหลัก ซึ่งตอนที่จุดดับมีการเปลี่ยนแปลงเยอะ ก็จะมีแผ่นดินไหว และ ภัยเกี่ยวกับน้ำท่วมมากกว่าปกติ แต่เรายังสังเกตไม่ได้แม่นยำถึงเรื่องเวลาที่จะเกิดภัยธรรมชาติ แต่ผมสังเกตว่า ภายในหนึ่งถึงสองวันจะมีพายุน้ำท่วมเกิดขึ้น หลังเกิดปรากฏการณ์พายุสุริยะ

จุดดับของดวงอาทิตย์มีหน้าตาอย่างไร ?

เรื่องพลังงานที่ส่งผ่านดวงอาทิตย์มีหลายรูปแบบที่ 1 คือ แสงจากดวงอาทิตย์, อินฟาเรด, ไมโครเวฟ, รังสีแรมม่า และ ฯลฯ ส่วนรูปแบบที่ 2 คือ ความร้อน, รูปแบบที่ 3 คือ นิวตริโน่ ซึ่งรู้จักกันไม่กี่ปี่ที่ผ่านมา เป็นกัมมันตรังสี ซึ่งมีผลการศึกษาว่า จะมีสารเรดิโอแอคทีฟ มีอัตราการแพร่บนโลกค่าๆ หนึ่ง เมื่อมีปฏิกิริยาดวงอาทิตย์สูง วันนั้นอัตราการแพร่รังสีบนโลกจะลดลง และจะสัมพันธ์กับโลก พอลดลงเสร็จแล้ว ก็กลับมาเท่าเดิม แบบฉับพลัน

สำหรับรูปแบบที่ 4 คือ เรื่องของกระแสไฟฟ้า ซึ่งเราเข้าใจมากที่สุด หากเปรียบเทียบโลกกับดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์เปรียบเสมือนเป็นแบตเตอร์รี่ แล้วโลกเป็นหลอดไฟ แล้วมีสายไฟเชื่อมระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ คือ พลาสม่า ซึ่งเป็นอนุภาค หรือ สถานะหนึ่งที่มีอยู่ในโลกเรา นอกจากนี้ยังมีแก๊สที่แตกตัวเป็นประจุบวกลบ มีตัวนำเป็นสายไฟฟ้า กระจายทั่ว มองไม่เห็น เห็นเฉพาะต้นทางและปลายทาง ต้นทางคือดวงอาทิตย์ ปลายทางคือ โลก เหมือนเราเห็นทองแดง แต่พลังงานตัวนี้ไม่เห็นด้วยตาเปล่า เรียกว่าตัวนำไฟฟ้า ซึ่งถ้าดูด้วยตาเปล่า พลาสม่าจะเปล่งแสงที่ต้นทางคือ จาก "ดวงอาทิตย์" มายังปลายทางคือ "โลก" โดยแสงที่เปล่งออกมา เรียกว่า ออโรร่า (aurora borealis) ถ้าอยู่ที่ขั้วโลกจะเห็น อย่างในพื้นที่ประเทศนอร์เวย์ , สวีเดน และ แคนาดา จะเห็นแสงสีเขียวบนท้องฟ้าชัดเจนในเวลากลางคืน

พลังงานส่งผ่านตลอดเวลา ไม่ใช่ส่งผ่านเฉพาะช่วงที่มีพายุสุริยะแล้วค่อยเกิดออโรร่า แต่มันเป็นอนุภาคที่เกิดขึ้นตลอดเวลา พอมีพายุสุริยะแปรปรวน ก็เหมือนกับแบตเตอร์รี่รวน ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ปลายทาง จุดดับ หรือ Sunspots ทำให้เห็นว่า พลังงานแสงอาทิตย์ส่งมาไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจุดดับบ่งบอกได้ว่า มีความแปรปรวนที่ดวงอาทิตย์ ซึ่งโลกก็จะแปรปรวนทางไฟฟ้าด้วยเช่นกัน และเชื่อมกัน ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงบนโลก ทั้งทางธรณีวิทยา และ สภาพอากาศ

จุดดับ ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ จุดดับที่วนรอบดวงอาทิตย์ มีเกิด แล้วมีดับ ซึ่งมันจะทรงตัวพักหนึ่งแล้วก็ดับไป ตอนที่โลกเปลี่ยนแปลงเยอะ คือ ช่วงที่มันเกิดพอดี ช่วงที่มันเกิดแล้วขยายตัวพอดี ช่วงนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น พายุ ซึ่งอาจมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลง ถ่ายเทพลังงานของดวงอาทิตย์ โลก และ ดาวเคราะห์ ดวงอื่นๆด้วย เพราะดวงอาทิตย์ไม่ได้ส่งผ่านโลกอย่างเดียว ส่งผ่านดาวเคราะห์ทุกดวง

นั่นหมายถึง ดาวเคราะห์ซึ่งเป็นบริวารของดวงอาทิตย์กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงตามดวงอาทิตย์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-27 19:34:53


ความคิดเห็นที่ 4664 (1590511)

คลื่นยักษ์ถล่มหัวหิน-น้ำทะเลท่วมหมู่บ้าน


http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-ช่วงนี้ถึงธันวาคม-2011-a-288866-799.html

25 ธันวาคม 2554 เวลา 12:56 น. |เปิดอ่าน 1,014 | ความคิดเห็น 0

คลื่นยักษ์พัดถล่มหัวหินหนัก เรือประมงแตกยับ น้ำทะเลยกตัวขึ้นสูงเข้าท่วมหมู่บ้านเขาตะเกียบ

เช้าวันนี้ได้เกิดภาวะมีคลื่นลมแรงพัดเข้าสู่ตัวเมืองหัวหินอย่างหนัก ตั้งแต่เวลา 03.00 น.25 ธ.ค.54 ส่งผลให้มีคลื่นขนาดใหญ่มากพัดเข้าถาโถมตลอดแนวชายฝั่งหัวหินโดยมีคลื่นสูงกว่า 4-5 เมตร ส่งผลให้เรือประมงที่จอดหลบลมอยู่ที่หลังเขื่อนกันคลื่นสะพานปลาหัวหินแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆจำนวนหลายลำส่วนบนของฟอร์ม

นอกจากนี้ คลื่นแรงได้พัดร้านค้าตามแนวชายหาดพังเสียหายเป็นจำนวนมาก เจ้าของร้านตามเก็บร้านนี้คลื่น แต่ส่วนใหญ่ถูกพัดลงทะเล จนข้าวของเสียหาย ซึ่งคาดว่าจะต้องปิดร้านไปอีกหลายวัน จนกว่าคลื่นลมจะสงบลงก่อน และเจ้าของร้านบางรายระบุด้วย อาจต้องปิดร้านยาวนานนับเดือน เพราะร้านค้าเสียหายหนักจนต้องหาเงินมาซ้อมแซมร้านก่อน

น้ำยกตัวขึ้นสูง มากผิดปกติจนทำให้น้ำให้น้ำทะเลไหลเข้าท่วม บ้านเขาตะเกียบ สูงประมาณ 10-30เซนติเมตร ชาวบ้านและชาวประมงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คลื่นแรงมาก และมีความถี่ของลูกคลื่น ทำให้เกิดความรุนแรงเวลากระทบเข้าสู่ฝั่ง ทำให้ร้านค้า บ้านเรือนเสียหายดังกล่าว ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนเกิดพายุรินดา ซึ่งมีความรุนแรงแล้ว แต่คลื่นยังไม่มีความถี่มากเท่าครั้งนี้

นายจิระภัทร พูลเสม ชาวบ้านในหมู่บ้านเขาตะเกียบ บอกว่า ปัญหามันน่าจะเกิดจากอากาศแปลปวนปกติแล้วช่วงนี้หัวหินจะไม่มีพายุคลื่นลมแรงแบบนี้มาก่อนในช่วงเดือนนี้ และที่สำคัญน้ำทะเลไม่เคยยกตัวขึ้นสูงจนท่วมหมู่บ้านเขาตะเกียบมานานหลายสิบปีมาแล้วแต่วันนี้มันเข้าท่วมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าขณะนี้ได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้ทราบและเพิ่มความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก และทราบว่าเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติแล้ว





ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-27 19:39:53


ความคิดเห็นที่ 4665 (1590512)

ชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงภัยระนองตื่นคำทำนายด.ช.ปลาบู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่มีข่าวคำทำนายของ ด.ช.ปลาบู่ ที่ทำนายว่าในวันที่ 31 ธ.ค. 2554 ที่เกิดพิบัติภัยอย่างรุนแรงครั้งสำคัญของโลก ทั้งแผ่นดินไหวรวมถึงพิบัติภัยอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับแผ่นดินไหว ได้สร้างความหวาดวิตกให้กับชาวบ้านในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิในเขตพื้นที่ จ.ระนองเป็นอย่างมาก

นางฟารียะ มาลา ชาวบ้านหาดประพาส อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่เคยประสบพิบัติภัยสึนามิเมื่อปี 2547 มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างหวาดวิตกและเกิดความกลัวเป็นอย่างมาก เพราะภาพแห่งความสูญเสียยังคงติดตาและอยู่ในความทรงจำของทุกคนจนถึงทุกวันนี้ และไม่ต้องการให้เหตุการณ์เกิดซ้ำรอยขึ้นอีก ประกอบกับในวันที่ 26 ธ.ค. เป็นวันครบรอบ 7 ปีสึนามิ ยิ่งเพิ่มความวิตกให้กับชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านในชุมชนหลายคนเริ่มเก็บข้าวของที่จำเป็น พร้อมติดต่อญาติพี่น้องเพื่ออพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราวโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. 2554 อาจจะทำให้หลายร้านร้างผู้คน

นายวิชัย ศรีเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เปิดเผยว่า จากกรณีที่พื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดระนอง ซึ่งเคยประสบเหตุสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 และกำลังจะครบรอบ 7 ปี เหตุการณ์โศกนาฏกรรม ทำให้ชาวบ้านที่เคยประสบเหตุในพื้นที่เสี่ยงภัย ส่งผลให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงกระแสข่าวลือต่างๆ ยิ่งเพิ่มความวิตกดกังวลให้กับชาวบ้านมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเหตุการณ์และปัจจัยต่างๆยังไม่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกหรือไม่ แต่พบว่าขณะนี้ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้ที่เคยประสบเหตุต่างอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-27 19:40:52


ความคิดเห็นที่ 4666 (1590513)

เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรงในเมลเบิร์น ออสเตรเลีย



Tornadoes follow Melbourne thunderstorms
aap.com.au | 2 hours ago
Mini-tornadoes are accompanying the severe thunderstorms that have hit many parts of Melbourne late on Christmas Day.

It"s a white Christmas Melburnians could have done without as hailstones the size of lemons have caused widespread damage across the city.

The weather bureau said a tornado had been reported near Fiskville, west of Melbourne, associated with the thunderstorms.

And people are tweeting that their suburbs have been pelted with hailstones.

One man said a hailstone smashed through his car window on the Hume Highway.

The State Emergency Services (SES) had received hundreds of calls for help from householders whose homes had been battered by hailstones.

SES spokesman Lachlan Quick says the hailstones have ripped through skylights, windows and roof tiles in Taylors Lakes, Sunshine and Keilor.

He advised people to stay away from windows in their homes if the storm hits in their suburb.

"And anyone who doesn"t need to be driving should stay off the road," he said.

Bureau of Meteorology senior forecaster Claire Yeo says parts of Melbourne also face the threat of flash-flooding.

The bureau has forecast very dangerous thunderstorms around Melbourne Airport and surrounding suburbs with severe thunderstorms in other parts of the city being accompanied by destructive winds, very heavy rainfall and hail, and flash flooding.
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-27 19:42:04


ความคิดเห็นที่ 4667 (1590817)
image

 

 

ขอให้เจ้าของกะทู้มีแต่ความสุข

 

ขอให้มีอายุมั่นขวัญยืน สุขภาพแข็งแรงและเปี่ยมด้วยความเบิกบาน
ดุจดั่งมีกระเป๋าแห่งทองคำ ขอให้ฐานะมั่งคั่งร่ำรวย
ขอให้ความฝันที่เธอใฝ่ กลายเป็นจริงสมดั่งใจปรารถนา
ความเอื้ออาทรที่เธอมักแบ่งปันต่อผุ้อื่น
ขอให้กลับคืนมาสู่เธอเสมอไป สุขสันต์วันปีใหม่จ๊ะ

โซบิเดย์  ยมโดย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โซบิเดย์ ยมโดย (sobiday9-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-29 21:12:56


ความคิดเห็นที่ 4668 (1591715)

 

5 January 2012

ภูเขาไฟ 7 ลูกที่อินโดนีเซีย เตรียมจ่อปะทุขึ้นพร้อมกัน ปรับระดับการเตือนเป็นระดับ 3 !!




JAKARTA: The Centre of Vulcanology and Geological Hazard Mitigation (PVMBG) on Thursday declared that seven out of 127volcanoes in Indonesia are in danger status of level III (alert), according to China’s Xinhua news agency.


The volcanoes are namely
1.Mount Papandayan in West Java province,
2.Mount Lokon of North Surawesi province
3.Mount Karangetan of North Sulawesi province,
4.Mount Kawah Ijen in East Java province,
5.Mount Anak Krakatau in the border of Banten and Lampung provinces,
6.Mount Gamalama at North Maluku province and
7.Mount Lewotolo in East Nusa Tenggara province, respectively.


Out of the seven volcanoes, authorities are focusing on Mount Kawah Ijen, Mount Gamalama and Mount Lewotolo as their eruption impact is the biggest compared to others, said Head of the National Agency of Disaster Mitigation BNPB) Syamsul Muarif.
Read More

--ถึงว่าแถบอินโดฯถึงไหวถี่ซะจริง เกิดปะทุขึ้นพร้อมกันถึงเวลานั้นบ้านเราพร้อมรับมือรึยัง—
 
 
โลกจะร้อนติดอันดับในรอบ161ปี

05 ม.ค. 2555, 01:55 น. 
กรมอุตุนิยมวิทยาเมืองผู้ดีชี้ปีบี้โลกจะร้อนขึ้นติด1ใน10ของปีที่ร้อนสุดในรอบ161ปี

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่าในปีนี้จะเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดติด 1 ใน 10 ของปีที่ร้อนที่สุดในรอบ 161 ปีโดยคาดว่าอุณหภูมิโลกจะสูงขึ้นเกือบครึ่งองศาเซลเซียสจากอุณหภูมิเฉลี่ย 14 องศาเซลเซียสในช่วงปี 2504-2533.
__________________

5 January 2012

ทั่วอังกฤษเจอพายุซัดกระหน่ำความเร็วลมขนาดกว่า 100 mph ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย


The gales continued across England and Wales, topping 100mph in the Pennines, 93mph in High Bradfield, 87mph in Wales and 75mph near Leeds.

Strong winds will cause disruption throughout rush hour, although the storms are expected to ease slightly during the day. Raging winds knocked down a tree outside an East London house, pictured, in the early hours of this morning, trapping a family of four people and damaging their car.

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-05 22:29:50


ความคิดเห็นที่ 4669 (1591721)

 

พายุพัดกระหน่ำในอังกฤษตาย 1
 
           พายุรุนแรงพัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ของอังกฤษ โดยสก็อตแลนด์ได้รับผลกระทบมากที่สุดทั้งจากลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก มีผู้เสียชีวิต 1 คน การสัญจรทั้งทางเครื่องบิน รถไฟและเรือข้ามฟากหยุดชะงัก ลมกระโชกแรงได้พัดกระหน่ำทั้งในสก็อตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือของอังกฤษ โดยเฉพาะที่เมืองเอดินเบิร์กของสก็อตแลนด์ กระแสลมมีความเร็ว 164 กม./ชม. และมีรายงานว่าชายคนหนึ่งเสียชีวิตหลังจากรถตู้ของเขาถูกต้นโอ๊กล้มทับในเมืองเคนท์ นอกจากนี้สะพานหลายแห่งของสก็อตแลนด์ต้องปิดไม่ให้สัญจร ซึ่งรวมถึงสะพานฟอร์ท โร้ด ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองเอดินเบิร์กกับเมืองไฟฟ์
           สำนักงานอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ลมกระโชกแรงที่พัดกระหน่ำหลายพื้นที่ของประเทศ ทำให้เกิดไฟฟ้าดับ ท่าเรือปิดให้บริการ และถนนหลายสายอยู่ในสภาพอันตรายต่อการขับขี่ สนามบินในเมืองเอดินเบิร์ก งดให้บริการเที่ยวบินขาเข้า ส่วนเที่ยวบินขาออกหลายเที่ยวบินก็ถูกยกเลิกและเลื่อนกำหนดเวลา และในสนามบินเมืองกลาสโกว์ก็มีการเลื่อนเวลาหรือยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยวเช่นกัน
        ส่วนเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกของสนามบินฮีทโธรว์และสนามบินแก๊ตวิคของกรุงลอนดอนก็ถูกเลื่อนล่าช้าออกไป นอกจากนี้รถไฟที่วิ่งระหว่างกรุงลอนดอนและสก๊อตแลนด์ถูกระงับ และเรือข้ามฟากจำนวนมากก็งดให้บริการในบริเวณช่องแคบอังกฤษจนกว่าสภาพอากาศจะดีขึ้น
                                        

อ้างอิง : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

(05-01-55)

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-05 23:15:03


ความคิดเห็นที่ 4670 (1591722)

 

น้ำท่วม-โคลนถล่มบราซิลมีประชาชนกว่าหมื่นคนต้องอพยพ
          บราซิล 5 ม.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมและโคลนถล่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของบราซิลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และอีกกว่า 13,000 คน ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย กรมป้องกันภัยพลเรือนรัฐเกเรส ประกาศบนเว็บไซต์ว่ามีประชาชนเกือบ 9,800 คนต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือนเนื่องจากแม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่ง และเกิดโคลนถล่มในหลายจุด ทำให้มีผู้จมน้ำและเสียชีวิตจากโคลนถล่ม 5 คน ส่วนที่รัฐริโอ เดอ จาเนโร มีผู้เสียชีวิต 3 คน และอีก 3,800 คนต้องอพยพออกจากบ้าน ขณะที่พื้นที่โดยรอบ ซึ่งกำลังถูกน้ำท่วมทำให้มีความเสี่ยงต่อชุมชนขนาดเล็กตามเชิงเขา ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเคยเกิดโคลนถล่มและถูกน้ำท่วมรุนแรงมาแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตไปกว่า 800 คน และราว 20,000 คนต้องอพยพ
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-05 23:18:03


ความคิดเห็นที่ 4671 (1591740)

อนุโมทนากับข่าวคราว

จากคุณตาลด้วยนะค๊า

 

ชนิดาก็ยังคิดอยู่ว่า ช่วงนี้รู้สึกว่า

อะไรขาดหายไปหรือเปล่า

อ้อ ที่แท้ก็ไม่ค่อยได้อ่านข่าว

ที่ชวนสะเทือน สะท้านใจ

เหมือนที่เคยๆนี่เอง อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 07:32:21


ความคิดเห็นที่ 4672 (1591749)

บราซิล อพยพคนหลังเขื่อนแตก


บราซิลอพยพประชาชน 4 พันคนหนีน้ำ หลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันจนเขื่อนแตก ขณะที่หลายประเทศในยุโรปกำลังเผชิญกับพายุฤดูหนาว ทำให้เกิดน้ำท่วมและอุบัติเหตุทางจราจร

กองทัพบราซิลต้องส่งทหารเข้าไปช่วยอพยพประชาชนหนีขึ้นที่สูง หลังจากเขื่อนแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับเมืองกัมโปส ในรัฐรีโอเดจาเนโร แตกเมื่อวานนี้ เนื่องจากฝนตกหนักทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ถนนเข้าเมืองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผนังเขื่อนก็แตกเป็นรูโหว่เช่นกัน น้ำท่วมทำให้ประชาชนเกือบ 20,000 คนในรัฐรีโอเดจาเนโร ต้องสูญเสียบ้านเรือน ส่วนที่รัฐมีนัสเชไรส์ น้ำท่วมทำให้สะพานพัง ทำให้ชาวบ้านต้องใช้เชือกในการลำเลียงข้าวของออกมาหนีน้ำ

ที่สหรัฐฯ หมอกลงจัดที่เมืองโบมอนต์ ของรัฐเทกซัส ทำให้เกิดเหตุรถยนต์ชนกันอย่างน้อย 50 คันซ้อน มีผู้บาดเจ็บมากถึง 40 คน และส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต หลังจากทางการต้องปิดถนนเป็นระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 5 นาฬิกา 45 นาทีตามเวลาท้องถิ่น บนทางหลวงสาย 73 ทางตะวันตกของพอร์ทอาร์เธอร์ โดยสาเหตุเกิดจากหมอกจัด และควันไฟจากเหตุไฟป่าในเขตเจฟเฟอร์สัน ซึ่งทำให้ทัศนวิสัยในบริเวณดังกล่าวเป็นศูนย์

ที่เบลเยียม ลมกระโชกแรง ความเร็ว 122 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อเช้าวานนี้ ทำให้ต้นไม้หลายต้นหักโค่นสร้างความเสียหายทั่วประเทศ และมีการสั่งอพยพประชาชนจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตที่ลุ่มทางตอนเหนือ หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และลมแรงทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าพนังกั้นน้ำอาจแตกได้ ส่วนที่ภาคใต้ ทางการต้องเสริมคันกั้นตลิ่งในบางพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น พร้อมทั้งแจกจ่ายถุงทรายในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เช่นเดียวกับเนเธอร์แลนด์ ที่ต้องสู้กับภัยน้ำท่วมเนื่องจากพื้นที่หนึ่งในสี่ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และมีความเสี่ยง 55 เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดน้ำท่วม

ส่วนเยอรมนี ต้องเจอกับพายุอันเดรอา พายุฤดูหนาวลูกที่สองของปีนี้ซึ่งพัดถล่มเยอรมนีเมื่อเช้าวานนี้ ทำให้มีลมแรงและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือ แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่โทรทัศน์เยอรมนีเผยภาพคลื่นลมแรงในทะเลเหนือและที่เมืองท่าเบรเมอร์ฮาเวิน ทำให้คนขับรถบรรทุกรายหนึ่งเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง

ที่อังกฤษ เกิดน้ำท่วมในย่านโบโรบริดจ์ ทางตอนเหนือของเทศมณฑลยอร์กเชอร์ และลมแรงได้พัดรถบรรทุก 2 คันพลิกคว่ำจนตกถนน สภาพอากาศที่รุนแรงทำให้ตำรวจต้องขอให้ประชาชนอย่าเดินทางออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

 

อิตาลี..ภูเขาไฟเอ็ตน่าระเบิดครั้งแรกในปีนี้

ภูเขาไฟเอ็ตน่าบนเกาะซิซิลี ทางภาคใต้ของอิตาลี ระเบิดเป็นครั้งแรกในปีใหม่นี้ โดยพ่นลาวาสีส้มสดปริมาณมหาศาลขึ้นสู่ท้องฟ้า

กลุ่มควันและเถ้าถ่านหนาทึบลอยขึ้นจากปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้ลาดเนินของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะกลายเป็นสีดำ

บนลาดเนินของภูเขาไฟเอ็ตน่าความสูง 10,925 ฟุต เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย หลายหมู่บ้าน

การระเบิดของภูเขาไฟเอ็ตน่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การระเบิดรุนแรงแต่ละครั้ง ทำให้สายการบินต่างๆ ของอิตาลีต้องเปลี่ยนเส้นทางเพื่อเลี่ยงที่จะต้องบินผ่าน

สถาบันภูเขาไฟวิทยาแห่งชาติอิตาลี ในเมืองกาตานีอา ทางตะวันออกของเกาะซิชิลี ต้องเฝ้าจับตาดูภูเขาไฟเอ็ตน่าอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เอ็ตน่าเป็นภูเขาไฟที่คุกรุ่นมากที่สุดของทวีปยุโรป ภูเขาไฟสำคัญของยุโรปมีอยู่ 4 ลูก คือ เอ็ตนา,เวซูเวียส หรือ เวซูเวอุส ,สตร็อมโอลี ในอิตาลี และซันโตรีนี่ ในกรีซ

ภูเขาไฟเอ็ตน่าระเบิดรุนแรงครั้งหลังสุดในปี 2535

 

แผ่นดินไหวที่ SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA
ขนาด : 5.1 ริกเตอร์
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว : SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA
วันที่ : 06 มกราคม 2555 06:14 น.
ละติจูด : 0° 52" 48"" เหนือ
ลองจิจูด : 99° 01" 48"" ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน : 40 กิโลเมตร
เพิ่มเติม :




ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 08:41:41


ความคิดเห็นที่ 4673 (1591752)

ยายวัย70ยอมสละที่ทำทางเบี่ยงช่วยชาวเขาวัง


วันพฤหัสบดี ที่ 05 ม.ค. 2555
  
 

กรมทรัพยากรธรณี แนะปลูกต้นมะขามแทนยางพาราลดความเสี่ยงดินถล่มซ้ำบ้านเขาวัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ชี้ระบบรากยึดดินแข็งแรงกว่า ล่าสุดหญิงวัย 70 ยอมสละที่ดินเหลืออยู่แปลงสุดท้ายทำทางเบี่ยงนำอาหารช่วยชาวบ้านที่ติดค้าง

 

 

 

หมอเผยคนไทยป่วยสมองเสื่อม3แสน

แพทย์ประเมินคนไทยป่วยสมองเสื่อม 3 แสน พบส่วนใหญ่ญาติไม่รู้ พร้อมจัดประชุมอัลไซเมอร์โลก หวังผลักดันการดูแลผู้ป่วยเป็นนโยบายสุขภาพระดับชาติ

พญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน หัวหน้าหน่วยเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และนายกสมาคมผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม  เปิดเผยว่า รายงานขององค์การโรคอัลไซเมอร์ระหว่างประเทศ ปี 2553 ระบุว่ามีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทั่วโลกมากกว่า 35 ล้านคน อยู่ในเอเชียอาคเนย์ 2.4 ล้านคน

ขณะที่ประเทศไทยรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 ปี2551-2552 โดยสำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พบว่าผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไปมีภาวะสมองเสื่อม 12.4% โดยในผู้ชายพบ 9.8% ขณะที่ผู้หญิงอยู่ที่ 15.1% แบ่งตามช่วงอายุ 60 - 69 ปี อยู่ที่ 7.1% ช่วงอายุ 70-79 ปีอยู่ที่ 14.7% และอายุ 80 ปีขึ้นไปพบสูงถึง 32.5%

ขณะที่ข้อมูลผลการสำรวจประชากรสูงอายุ ปี 2553 จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ สัดส่วนผู้สูงอายุอยู่ที่ 12% ของประชากรไทย และประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 17% ในปี 2563  ทั้งนี้โดยประมาณของผู้ป่วยสมองเสื่อมทั้งประเทศมีอย่างน้อย 3 แสนคน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลย และที่น่าตกใจคือ ผู้ป่วยเหล่านี้ รวมทั้งญาติและผู้ดูแล ไม่ทราบว่าป่วยเป็นสมองเสื่อม

ในปี พ.ศ. 2555 สมาคมผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมอัลไซเมอร์นานาชาติ ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานการประชุมทางวิชาการ เรื่อง ภาวะสมองเสื่อม และการประชุมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกขององค์การอัลไซเมอร์นานาชาติ ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 11 – 13 ม.ค.ที่ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด รัชดาภิเษก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย สมองเสื่อมและครอบครัว และผลักดันการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมให้เป็นนโยบายสุขภาพระดับชาติ

ด้าน รศ.มานะ ศรียุทธศักดิ์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในงานจะมีการเปิดตัวเครื่องมือระบุตัวตนของผู้ป่วยสมองเสื่อม เพื่อป้องกันการเดินหลงหายไปจากบ้าน ผู้ป่วยสมองเสื่อมเมื่ออยู่ในบ้าน มีปัญหาแบบหนึ่ง เมื่ออยู่นอกบ้าน ก็จะมีปัญหาอีกแบบหนึ่ง เช่น อุบัติเหตุ กลับบ้านไม่ได้ ระบุตัวตนกับบุคคลภายนอกไม่ได้ ทำให้การช่วยเหลือก็แน่นอนว่า ย่อมเป็นไปไม่ได้

ทั้งนี้เครื่องมือการระบุตัวตนจะช่วยผู้ป่วยเหล่านี้ได้ เช่น การ์ด ริสต์แบนด์ หรือสร้อยข้อมือ และเหรียญล็อคเก็ตห้อยคอ ที่ด้านหลังจะมีบาร์โค้ด และชิพที่ระบุข้อมูลของผู้ป่วยไว้ เช่น ชื่อ ที่อยู่ อายุ โรค กลุ่มเลือด และการแพ้ยา เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับเครื่องอ่านที่จะติดตั้งอยู่ตามจุดสำคัญ ๆ เช่น สถานีตำรวจ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เป็นต้น  ที่สำคัญคือการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจต่อสังคม เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

 
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 08:55:21


ความคิดเห็นที่ 4674 (1591777)

6 ม.ค. 55

อุทัยธานีแม่น้ำแห้ง เริ่มวิตกภัยแล้ง


นายสมพงษ์ ผลรวย ชาวนาบ้านหนองโพ หมู่ 5 ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี และชาวนาเพื่อบ้าน ต้องใช้เครื่องสูบน้ำลงไปเร่งสูบน้ำที่เหลือขังตามแอ่งกลางแม่น้ำตากแดด ที่ไหลผ่านที่นาของพวกเขา หลังจากพบว่า น้ำในแม่น้ำสายนี้ ลดเหลือน้อยและมีแนวโน้มแห้งเหือดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ กล่าวคือ ปกติทุกปี น้ำจะแห้งประมาณเดือนปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่ปีนี้น้ำแห้งตั้งแต่ต้นเดือน มกราคม ทำให้เขา และเพื่อนบ้านหวั่นวิตกว่า นาข้าวอายุ 2 เดือน หลายร้อยไร่ในย่านนี้ จะไม่มีน้ำเพียงพอหล่อเลี้ยงต้นข้าวไปถึงช่วงเก็บเกี่ยว อีก 2 เดือนข้างหน้า นั่นหมายถึงความเสียหายของผลผลิตในฤดูนาปรังนี้ เช่นเดียวกับชาวนาในพื้นที่ตำบลทุ่งใหญ่ ท้ายเขื่อนวังร่มเกล่า อ.เมือง จ.อุทัยธานี ต่างก็นำเครื่องสูบน้ำไปเร่งสูบน้ำจากแอ่งน้ำที่เหลืออยู่ เข้าไปเลี้ยงต้นข้าวนาปรัง เช่นกัน

 

มาเลย์เฝ้าระวังไข้หวัดนก หลังมีผู้เสียชีวิต 1 รายในจีน


สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.)กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่านาย Datuk Seri Liow Tiong Lai รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียออกมาแจ้งเตือนประชาชนชาวมาเลเซียให้เฝ้าระวังไข้หวัดนกหรือ H5N1 แต่ไม่ควรตื่นตระหนก โดยแนะนำให้ประชาชนชาวมาเลเซียหลีกเลี่ยงการเข้าไปในฟาร์มเลี้ยงไก่และพบแพทย์ทันทีที่เป็นหวัดหรือมีไข้ นอกจากนี้กระทรวงฯจะดำเนินการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารในทุกสนามบิน โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากจีน ฮ่องกง เวียดนาม และอินโดนีเซีย หากผู้โดยสารมีอุณหภูมิร่างกายสูงจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อกักตัว แต่ในขณะนี้ยังไม่มีผู้โดยสารรายใดถูกกักตัว และยังไม่มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกในมาเลเซีย
รัฐมนตรีกระทรวงฯออกมาแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังไข้หวัดนกหลังจากนายเฉิน ชาวจีนอายุ 39 ปี เสียชีวิตจากไข้หวัดนก เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งมีพรมแดนติดกับฮ่องกง ก่อนหน้านี้ฮ่องกงได้กำจัดไก่นับพันตัวหลังจากไก่ 3 ตัว ติดเชื้อ H5N1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน
หน่วยงานสาธารณสุขของเมือง รายงานว่าเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 นายเฉินมีไข้และหลังจากนั้น 4 วันจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและตรวจพบว่ามีอาการปอดปวมขั้นรุนแรง นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตไม่ได้สัมผัสไก่ก่อนที่จะป่วยและไม่ได้เดินทางออกจากเมืองนี้

 

เอกชนระนอง ตั้งเป้าปี 55 ปลอดปัญหาคอรัปชั่น


นางนฤมล ขรภูมิ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" ว่าทางภาคเอกชนจังหวัดระนอง คาดหวังว่า ปี 2555 จะเป็นปีของการเริ่มต้นการลดการคอรัปชั่นอย่างแท้จริง เนื่องจากปัญหาการคอรัปชั่นกำลังเป็นภัยร้ายกัดกร่อนสังคม และการพัฒนาประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางหอการค้าจังหวัดระนองร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นในจังหวัดระนอง สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ระนอง,สมาคมประมง จ.ระนอง,สภาอุตสาหกรรม จ.ระนอง, เครือข่ายภาคประชาชน,นักเรียน,นักศึกษา ร่วมลงปฏิญญาในการร่วมต่อต้านการคอรัปชั่นทุกรูปแบบ อีกทั้งเป็นนโยบายสำคัญของหอการค้าไทยที่จะรณรงค์ให้ภาคเอกชนในทุกพื้นที่ร่วมต่อต้านการคอรัปชั่น เพื่อลดผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ระนอง กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ทุจริตคอร์รัปชั่นเลวร้ายมากขึ้น มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับผู้มีอำนาจ เพื่อให้ได้งานหรือสิทธิประโยชน์มากถึงร้อยละ 50 เพิ่มจากอดีตในช่วง 20-30 ปีที่มีการจ่ายเงินโต้โต๊ะร้อยละ 2-3 และเพิ่มมาเป็นร้อยละ 30-40 ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการปล้นชาติ เพราะงบประมาณทุกบาทที่ควรนำมาพัฒนาประเทศได้ถูกโกงกินจากการลงทุนในโครงการต่างๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 11:05:12


ความคิดเห็นที่ 4675 (1591782)

เกิดแผ่นดินไหว ใกล้กรุงโตเกียว 5 ริกเตอร์
สำนักธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.55 น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวบริเวณใกล้ชายฝั่ง เกาะฮอนชู ประเทศ ญี่ปุ่น โดยจุดศูนย์อยู่ริมชายทะเล ใกล้เมือง มิโตะ เกาะฮอนชู ราว 64 กม. และใกล้กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ราว 94 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานการเตือนภัยสึนามิ หรือผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ จากทางการญี่ปุ่น

 

รายงานแผนที่ แผ่นดินไหวล่าสุด เมื่อวานนี้


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 11:16:46


ความคิดเห็นที่ 4676 (1591800)

สภาพอากาศวิปริตในยุโรป

ช่วงหลายวันที่ผ่านมาทั้งพายุหิมะ สตอร์มเสิร์จ ลมกรรโชก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิต โดยภาพด้านล่างแสดงรถบรรทุกที่ถูกลมแรงถึง 100 กม/ชม พัดตกถนนขณะกำลังวิ่ง



และสตอร์มเสิร์จได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชายฝั่งฮอลแลนด์ อีกทั้งทำให้น้ำท่วมในเมืองใกล้เคียงตามภาพ

__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 13:15:09


ความคิดเห็นที่ 4677 (1591801)

Update บราซิลทำนบกั้นน้ำแตก น้ำไหลบ่าท่วมหมู่บ้านเห็นแต่หลังคา

ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำมูริแอในเมืองคอมโพส เด กอยตาคาเซส รัฐริโอ เด จาเนโร ของบราซิลเนื่องจากฝนตกหนักเมื่อหลายวัน ได้ทำให้ทำนบกั้นน้ำแตกและถนนไฮย์เวย์ที่อยู่เหนือทำนบถูกตัดขาดยาว 20 เมตร กระแสน้ำจึงไหลบ่าด้วยความเชี่ยวกรากข้ามถนนเข้าท่วมหมู่บ้าน โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วประมาณ 3.5 - 4 เมตร ท่วมบ้านเรือนจนเห็นแต่หลังคา ขณะที่ทางการได้เร่งอพยพประชาชนเกือบ 4,000 คนในชุมชนเทรส เวนดาส ที่อยู่ห่างออกไป 30 กม.เป็นการด่วน และเจ้าหน้าที่บอกว่า ประชาชนได้รับแจ้งเตือนทันเวลา ทำให้หลายครอบครัวเก็บสมบัติและสิ่งของจำเป็นได้ทัน
มีรายงานว่า น้ำท่วมใหญ่ในรัฐริโอ เด จาเนโร และรัฐมินาส เกรส ขณะนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คนแล้วและประชาชนอีกกว่า 15,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

 

อุตุฯ เตือนภาคเหนือ 4-10 ม.ค. หมอกหนา-อากาศหนาวจัด

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศระหว่างวันที่ 4-10 มกราคม 2555 ว่า พื้นที่ภาคเหนือจะยังมีหมอกในตอนเช้า และตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศา ขณะที่บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลง ปลูกพืชด้วยวัสดุสีเข้มเพื่อรักษาอุณหภูมิดิน ส่วนในบางพื้นที่อาจมีน้ำค้างแข็ง เกษตรกรควรระวังป้องกันความเสียหายที่เกิดกับพืชผลทางการเกษตร ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย เนื่องจากหมอกและน้ำค้าง ระยะนี้เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก
นอกจากนี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือยังพยากรณ์อากาศเพื่อการท่องเที่ยวสำหรับเชียงใหม่ ในเดือนมกราคม 2555 ว่า ฟ้าโปร่งเป็นส่วนมาก ตอนเช้าหมอกบางและหมอกหนาบางพื้นที่ อากาศหนาว จึงควรรักษาสุขภาพ และเพิ่มความระมัดระวังขณะเดินทางผ่านหมอกหนา

__________________

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 13:17:53


ความคิดเห็นที่ 4678 (1591802)

เกิด พายุทอร์นาโด ขนาดเล็กพัดถล่ม ออสเตรเลีย



Western Downs residents hit by "mini tornado" with wind gusts of more than 100kmh

From: The Courier-Mail January 06, 2012 12:17PM 4 comments

FRIGHTENED residents have dubbed a wild thunderstorm that tore through the Western Downs overnight, downing trees and damaging homes, as a "mini tornado’’.

John Merrill, who lives on a rural property off Daybreak Rd, roughly 35km north of Tara, said the storms had wrought a trail of destruction through a strip of farmland roughly 10km long and just 2km wide.

"Everywhere you look you can see broken trees and the tops of the trees are all snapped off, like twigs,’’ he said.

"One big one came down and totally destroyed my shade house.’’

Tara SES controller Rodney Parker said crews had been assessing the worst of the damage on Daybreak Rd and Blackburns Rd.

"It’s mostly lots of trees down and blocking roads, although one house lost its verandah and had some tin loose on the roof,’’ he said.


"Mini tornado" destruction

"We’ve been helping people by removing trees from driveways and things like that.’’

Mr Merrill said the storm clouds started to gather about 5.30pm Thursday.

"The temperature started to drop and then we saw the dark clouds build up,’’ he said.

"At first we thought "it’s just another summer storm’ but after another 15 minutes we noticed the clouds were really swirling up high, and, although it was more spread out, looked a bit like a tornado.

"My friend was up visiting from Brisbane at the time and he said "good God, I’m going inside the house’.

"Within five minutes it hit. The wind must have been in excess of 100km/h and the rain was coming in sideways.’’

Mr Merrill said his neighbour, who lived down the road from him, phoned for help around 7pm because her roof and verandah had blown off.

He said it was the worse storm he’d ever seen.

"About halfway through the storm it just went really calm for about five minutes and then all of a sudden the wind started again and it was back,’’ Mr Merrill said.

Mr Parker said he’d watched the storm on the Bureau of Meteorology radar as it rolled in.

"It developed to the south west of us and we got a bit of rain and thunder here in Tara town but it seemed to go through somewhere out towards Millers Rd, which is about 10kms from Blackburns Rd,’’ he said.

"We’ve had a few storms go through like this in other years and the only lucky thing is that it’s mostly farming properties and not houses out there.’’

Bureau of Meteorology forecaster Michael Knepp said thunderstorms swept through from Goondiwindi in the south to Taroom overnight on Thursday.

He said it was difficult to get a reading on rainfall or wind because there wasn’t an official weather station in the area.

"There have definitely been reports of some wind damage but until we see any evidence of it I wouldn’t say it was a tornado,’’ he said.

เกิดน้ำท่วมฉับพลัน มาเลเซีย

Two missing in Kuching flash floods

KUCHING: A student and her would-be rescuer are missing after both fell into a monsoon drain during massive flash floods that left the city crippled.

Kho Ying Oi, 19, and Herman Sihas, a 29-year-old petrol station employee, have yet to be found at press time yesterday.

Kho slipped and fell into the drain while walking to a bus stop to wait for her mother after her car stalled in the floodwaters.

Herman then jumped in to save her but was swept away by the heavy current.

The flash floods inundated various parts of the city due to a combination of continuous rain and high tide.



An aerial view of Jalan Laksamana Cheng Ho in Kuching which was inundated after heavy rainfall. It poured almost half a month’s total of rainfall in less than 12 hours, causing massive jams and crippling the city. A student and a would-be rescuer are also missing after falling into a monsoon drain.
The floods, with waters swamping even areas that had previously not been affected, caused massive traffic jams.

State Welfare, Women and Family Development Minister Datuk Fatimah Abdullah said five schools were closed. Two Chung Hua primary schools were also reported closed.

As at 5pm, about 1,400 people from 300 families have been evacuated to five flood relief centres. The largest group of 418 evacuees is at Balai Raya Sinar Budi Baru.

State Disaster and Relief Committee chairman Tan Sri Alfred Jabu said the flooding could have been worse if not for the Sungai Sarawak barrage.

“The river could have burst its banks and spilled over to the Waterfront and affected other parts badly.

“On Dec 25 and 26, the water levels were over 10m due to the King Tide as well as the floodwaters flowing into the river,” he said.

Jabu added that the committee did not issue alerts earlier because the committee wanted to prevent panic.

“No one could have predicted that there was going to be 150mm of rainfall between 5am and 8am,” Jabu said.

Between midnight and afternoon yesterday, the Meteorological Department"s weather stations in certain parts here received as much as 210mm of rainfall.

As at 5pm yesterday, live video footage showed the barrage"s water level at 9m, about a metre below the alert level.

The department is forecasting strong winds and rough seas until Tuesday. The committee also listed 11 areas in Sarawak as “flood-prone”, including Kuching, Bintulu, Kapit, Sibu and Limbang.

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 13:20:58


ความคิดเห็นที่ 4679 (1591831)

 

เกิดพายุลูกเห็บที่ ประเทศมาลาวี



Hailstorm in Malawi on Friday, 06 January, 2012 at 04:43 (04:43 AM) UTC.

A two-year-old girl died in Malawi’s northern region district of Rumphi following a heavy hailstorm that hit the area and rendered hundreds of people homeless. The hailstorm which started on 29th December 2011 through to January 2, 2012 has destroyed over 50 houses whose roofs have been blown off. The victims have since sought refuge in school blocks while one old lady has been hospitalized at Rumphi District Hospital after breaking her both legs and an arm, officials in the district have confirmed. The lady has been identified as Edna Kazeze from Chozoli area and she was injured after her house was extensively damaged by the hailstorm. Rumphi District Commissioner Rhodrick Mateauma and Rumphi Police Victor Khamisi both confirmed the tragedy and said the disaster occurred in the area of Chozoli, TA Mwalweni and at Mhuju. The deceased young girl, Keriff Kumwenda, also came from the same area and was confirmed dead by medical personnel at the hospital. A postmortem revealed that she died due to multiple injuries and suffocation. “Medical doctors pronounced the late Keriff BD (brought dead). She died after walls of her parents’ house fell on her,’ “a nurse at Rumphi District Hospital said. The DC said preliminary assessment showed that Chozoli area alone had 16 houses whose roofs were blown off while 40 houses were destroyed at Ntchenachena. “At Mhuju Primary School, some teachers’ houses were also blown off and currently four teachers’ families have been accommodated school blocks,” said Khamisi adding that crops were not spared either. The office of Department of Disaster Preparedness and Relief is yet to come up with an official damage report, said the official. With schools just opened on Tuesday, it is not known how the teachers will cope up with the situation, considering that most schools in the country do not have enough school blocks/classrooms.
 
ไฟป่าในชิลีคลอกจนท.ดับเพลิง 6 ศพ

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 10:02 น.



วันที่ 6 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลี ว่าพนักงานดับเพลิงชิลีถูกไฟป่าคลอกเสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ 3 คนประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา ของชิลี แถลงว่า จากสภาพอากาศร้อนจัด และแห้งแล้งช่วงต้นฤดูร้อน ทำให้เกิดไฟป่าเผาพลาญพื้นที่กว่า 123,000 เอเคอร์ทางภาคกลางของภาคใต้ของประเทศ โดยในพื้นที่ภาคใต้ ไฟป่าไหม้ลามกว่า 50 จุดบ้านเรือนประชาชนถูกไฟเผาวอดหลายร้อยหลังแล้วและล่าสุดมีรายงานพนักงานดับเพลิงถูกไฟป่าปิดล้อม และไฟคลอกเสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ3 คนเมื่อวันพฤหัสบดี ที่เขตอารอคาเนีย รัฐคาอูติน ห่างจากกรุงซันติอาโกไปทางใต้ราว 730 กม.

ด้านนายมิเกล เมราโด ผู้ว่าการรัฐคาอูติน เผยว่า พนักงานดับเพลิง 10 คนของบริษัทมิมินโก ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรับเหมาสำนักงานป่าไม้เขตพื้นที่ถูกไฟป่าปิดล้อมที่เขตอารอคาเนีย 6 คนในจำนวนดังกล่าวถูกไฟคลอกดับ อีก 3 คนบาดเจ็บส่วนคนที่ 10 ซึ่งตอนแรกรายงานระบุว่าสูญหายไปปรากฏตัวในเวลาต่อมาโดยไม่เป็นอันตราย.
 
ช่วงวันนี้แผ่นดินไหว 7 ครั้งแล้ว ขนาดยังไม่ต่ำกว่า 4.5 เลย
แผ่นดินไหว New Ireland Region, P.N.G. (-4.33,153.63) ขนาด 4.9 วันที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 11.31 น. ตามเวลาประเทศไทย

6
มกราคม 2555, 11:31:06
2012-01-06 04:31:06 UTC
Lat. -4.33 , Long. 153.63
ขนาด 4.9
ลึก 10 กม.

แผ่นดินไหว Turkey (38.67,43.62) ขนาด 4.5 วันที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 07.16 น. ตามเวลาประเทศไทย
6
มกราคม 2555, 7:16:54
2012-01-06 00:16:54 UTC
Lat. 38.67 , Long. 43.62
ขนาด 4.5
ลึก 10 กม.

แผ่นดินไหว Near East Coast of Honshu, Japan (37.80,141.89) ขนาด 4.8 วันที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 06.28 น.ตามเวลาประเทศไทย
6
มกราคม 2555, 6:28:44
2012-01-05 23:28:44 UTC
Lat. 37.80 , Long. 141.89
ขนาด 4.8
ลึก 10 กม.

แผ่นดินไหว Southern Sumatra, Indonesia (-0.80,99.12) ขนาด 5.0 วันที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 06.14 น. ตามเวลาประเทศไทย
6
มกราคม 2555, 6:14:50
2012-01-05 23:14:50 UTC
Lat. -0.80 , Long. 99.12
ขนาด 5.0
ลึก 43 กม.

แผ่นดินไหว Pacific Antarctic Ridge (-55.86,-143.91) ขนาด 4.8 วันที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 04.55 น.ตามเวลาประเทศไทย
6
มกราคม 2555, 4:55:21
2012-01-05 21:55:21 UTC
Lat. -55.86 , Long. -143.91
ขนาด 4.8
ลึก 10 กม.

แผ่นดินไหว Near East Coast of Honshu, Japan (35.81,140.92) ขนาด 4.9 วันที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 03.55 น. ตามเวลาประเทศไทย
6
มกราคม 2555, 3:55:46
2012-01-05 20:55:46 UTC
Lat. 35.81 , Long. 140.92
ขนาด 4.9
ลึก 38 กม.

แผ่นดินไหว Fiji Islands Region (-20.87,-178.45) ขนาด 4.7 วันที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 01.23 น.ตามเวลาประเทศไทย
6
มกราคม 2555, 1:23:41
2012-01-05 18:23:41 UTC
Lat. -20.87 , Long. -178.45
ขนาด 4.7
ลึก 566 กม.
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 19:58:09


ความคิดเห็นที่ 4680 (1591834)

แล้งมาเยือนเร็วน้ำชี-มูลแห้งขอด

06 มกราคม 2555 เวลา 15:52 น. |เปิดอ่าน 11 | ความคิดเห็น 0



ภาคอีสานแล้งมาเยือนเร็วลำน้ำชี-น้ำมูล แห้งขอดจนเนินทรายโผล่ ชาวสุรินทร์เร่งสร้างทำนบกักน้ำใช้หน้าแล้ง

นางดวงเดือน ศาลางาม ชาวบ้านหนองบัว ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ปีนี้ฤดูแล้งมาเยือนเร็วกว่าทุกปี เนื่องจากน้ำในลำน้ำชีและแม่น้ำมูลแห้งขอด มาเป็นเวลา 1เดือนแล้ว จนกระทั่งเนินทรายโผล่ให้เห็นเป็นช่วงๆ ตลอดลำน้ำชี ไปจนถึงเขตรอยต่อกับแม่น้ำมูล ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าจะไม่มีน้ำไว้สำหรับ ปลูกข้าวนาปรัง และให้สัตว์ลี้ยง วัว ควาย และช้างได้กินน้ำ จึงได้พากัน นำกระสอบบรรจุทราย ทำเป็นทำนบ กักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับทำการเกษตรกร และเลี้ยงสัตว์

นางดวงเดือน กล่าวอีกว่า ได้ปลูกข้าวนาปรัง ใกล้กับลำน้ำชี จำนวน 10 ไร่ แต่เกรงว่าหากสถานการณ์น้ำแห้งเช่นนี้จะทำให้ต้นข้าวยืนต้นตายอย่างแน่นอนจึงช่วยกันบรรจุทรายใส่ถุง ทำเป็นทำนบ ปิดกักเก็บน้ำไว้ ใส่นาข้าว คาดว่า ใช้เวลา 3 เดือนก็จะเก็บเกี่ยวได้

"ที่ผ่านมาข้าวนาปีที่ปลูกในบริเวณนี้ น้ำไม่ท่วมหมดเสียหายหมด ทำให้ไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตจึงจำเป็นต้องปลูกข้าวนาปรังเผื่อจะมีข้าวไว้กิน แต่หากน้ำไม่พอ ก็ไม่ได้เก็บเกี่ยวข้าวอีก ชาวบ้านปลูกข้าวนาปรังด้วยกันต่างก็รู้สึกกังวลเช่นเดียวกับตน จึงขอให้ทางราชการหากมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน"นางดวงเดือน กล่าว

 

แผ่นดินไหว 5 ริกเตอร์นอกชายฝั่งชิลี ไม่มีรายงานความเสียหาย

วันศุกร์ที่ 06 มกราคม 2012 เวลา 16:04 น. สุวิภา บุษยบัณฑูร ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ


สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ แจ้งว่าเมื่อเวลา 03.08 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 15.08 น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.0 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งประเทศชิลี ที่ระดับความลึก 15.2 กิโลเมตรใต้ท้องทะเล โดยศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือนอยู่ห่างจาก แคว้นบีโอบีโอ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 140 กิโลเมตร และห่างจากกรุงซานติเอโก เมืองหลวงของประเทศชิลี 649 กิโลเมตร เบื่องต้นยังไม่มีรายงานผลกระทบใดๆ

__________________

น้ำท่วม Kuching มาเลเซีย


Flash flood scenes around Kuching City

Posted on January 6, 2012, Friday
Floodwaters begin receding along the Rock Road, Jalan Permata and Jalan Laksamana Cheng Ho by late afternoon. – Photo courtesy of Francis Ho
KUCHING: Floodwaters inundated several parts of Kuching City after 12 hours of continuous rain. A massive traffic congestion spread as drivers snake their way through the six roads leading into the city. Many roads were impassable to small vehicles.
Bernama reported a spokesman of the state flood operations room said the flooded roads are Green Road, Batu Kawa Road, Badarudin Road, Matang Road, Tabuan Road and Sultan Tengah Road.
“We received reports of floods in the residential areas of Dewa Wira and Stapok and it is learned that several residents have moved out of their homes,” he said.
There have been no reports so far of schools having to close, he said.
The spokesman said the floodwaters are expected to recede soon as the Sarawak River is at its normal level.
Meanwhile the King Tides for the state are expected from this weekend until January 16 with the highest at six metres on January 12, according to the Sarawak Almanac.
 
 
น้ำท่วมชุมพรดีขึ้นเหลือริมทะเลหลังฝนหยุดตก 4 วัน



ชุมพรท้องฟ้าเปิด ฝนหยุดตก 4 วัน สถานการณ์อุทกภัยเกือบเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว มีเพียงบางจุดริมทะเล ที่น้ำยังท่วมขังอยู่ ขณะที่ชาวบ้านวอนหน่วยงานรัฐเร่งซ่อมถนน สะพาน สิ่งสาธารณประโยชน์โดยเร็ว กระทบอาชีพ-วิถีชีวิต...

จากการที่จังหวัดชุมพรเกิดอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอละแม หลังสวน พะโต๊ะ ทุ่งตะโก และสวี รวม 27 ตำบล 277 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 6 หมื่นคน พื้นที่การเกษตร ทรัพย์สินของประชาชน และสิ่งสาธารณประโยชน์ เสียหายรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทนั้น เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค. 55 พ.อ.ศรีศักดิ์ เลิศล้ำ รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร พร้อมกำลังทหาร นำถุงยังชีพพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานผ่านกองทัพภาคที่ 4 นำไปมอบให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.พ้อแดง อ.หลังสวน จ.ชุมพร จำนวน 2,000 ชุด มีราษฎรประสบความเดือดร้อนกว่า 500 กว่าครัวเรือน เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบอุทกภัยในเบื้องต้น

พ.อ.ศรีศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งให้มีการจัดตั้ง “ครัวทหารเพื่อประชาชน” จัดทำอาหารวันละ 3 มื้อ บรรจุกล่องพร้อมน้ำดื่มส่งให้กับผู้ประสบภัย เพื่อเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้กับผู้เดือดร้อน ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู ทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเองหลังน้ำลด โดยครัวทหารเพื่อประชาชน จะปักหลักอยู่ใน อ.หลังสวน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเป็นปกติ

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้เข้าสู่สภาวะเกือบปกติแล้ว ท้องฟ้าเปิด ฝนได้หยุดตกมานาน 4 วัน แต่ยังมีอยู่ 5 หมู่บ้านของ ต.พ้อแดง และ ต.บางน้ำจืด ในพื้นที่ อ.หลังสวน ที่ยังมีน้ำท่วมขังผิวจราจร พื้นที่การเกษตร และที่อยู่อาศัยอยู่บ้าง เฉลี่ยระดับน้ำสูงประมาณ 20 ซม. เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่ม รองรับน้ำจากตอนบน ก่อนจะไหลลงสู่ทะเล และบางช่วงเวลามีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้การไหลระบายของน้ำเป็นไปอย่างช้าๆ แต่คาดว่าอีกประมาณ 2 วัน จะเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนั้น ถนนลูกรังเส้นทางหลักเข้าพื้นที่ หมู่ 5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาดหลายช่วงเป็นระยะทางยาวกว่า 20 กิโลเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถใช้สัญจรได้ ประชาชนนับพันครัวเรือน การจราจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง หากจะติดต่อกับโลกภายนอกจะต้องเดินเท้าได้เพียงอย่างเดียว และพื้นที่ หมู่ 12 บ้านในกรัง ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ สะพานไม้ข้ามแม่น้ำหลังสวนเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ถูกกระแสน้ำไหลหลากซัดจนขาด การสัญจรถูกตัดขาด ประชาชนไม่สามารถเข้าออกได้ ซึ่งขณะนี้นานกว่า 3 วันแล้ว ประชาชนไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหน ทำให้ขาดรายได้เพราะไม่สามารถส่งพืชผลทางการเกษตรออกไปจำหน่ายได้ ซึ่งชาวบ้านทั้งสองตำบลดังกล่าว เรียกร้องขอให้หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบเข้าไปทำการซ่อมแซมให้อย่างเร่งด่วนด้วย

สำหรับสิ่งสาธารณประโยชน์ เส้นทางคมนาคม ตามชุมชน หมู่บ้านต่างๆ ที่ถูกตัดขาดยังใช้การไม่ได้มีอีกจำนวนมากนั้น ซึ่งขณะนี้มีประชาชนที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้าน ชุมชน ชนบท ถิ่นทุรกันดารต่างๆ ในพื้นที่ประสบภัย รอหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เนื่องจากส่งผลกระทบกับการดำรงชีพ การประกอบอาชีพด้านการเกษตร และขณะนี้มีรายงานจากจังหวัดทหารบกชุมพร โดยกองทัพบกได้จัดส่งกำลังทหาร จากกองทหารช่าง จังหวัดราชบุรี กำลังเดินทางเข้ามาสำรวจในพื้นที่ความเสียหาย เพื่อนำอุปกรณ์พร้อมเครื่องจักรกล เข้าไปปรับปรุงซ่อมแซม ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว

โดย: ทีมข่าวภูมิภาค

6 มกราคม 2555, 17:15 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 20:37:20


ความคิดเห็นที่ 4681 (1591836)

นับวันความรุนแรงจากภัยพิบัติ ดิน น้ำ ลม จะทวีความน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะคะ เดือดร้อนกันถ้วนหน้าทั่วโลก

ขอบคุณและขออนุโมทนาด้วยเด้อค่ะ คุณตาล ที่ขยันหาข่าวมาให้อ่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ (opensirio-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-06 20:57:59


ความคิดเห็นที่ 4682 (1591889)

 

นักวิทยาศาสตร์เตือนรับมือภัยพิบัติ2012"สึนามิ-พายุสุริยะ"ถล่ม-กทม.วิบัติแน่!

นักวิทยาศาสตร์เตือน “สึนามิเข้าอ่าวไทยปี 55 แนะซ้อมหนีภัยทุกชุมชน จับตาพายุสุริยะทำไฟดับ ระบบสื่อสารขัดข้อง แนะคนไทยเรียนรู้สู้ปัญหาจากอุทกภัยปี 54 เตือนชุมชนซ้อมหนีภัย ฝึกสติ มีปัญญาสู้ทุกภัย ชี้ 10 ปีเห็นชัดน้ำท่วมเมืองหลวงอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายหรือสร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทย

เข้าสู่ปี ค.ศ.2012 ซึ่งมีคำทำนายชะตากรรมธรรมชาติหลายกระแสทั่วโลก ทั้งในแง่วิทยาศาสตร์ และโหราศาสตร์สำหรับประเทศไทยมีโหราจารย์และนักวิทยาศาสตร์หลายคนได้สังเกตการณ์ธรรมชาติและออกมาคาดการณ์ภัยพิบัติล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปี บางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อแต่ทุกคนกำลังเฝ้าจับตาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรับมือความแปรปรวนของธรรมชาติที่ปรากฎให้เห็นมากขึ้นทุกวัน

ปลายปี พ.ศ.2554 นักวิทยาศาสตร์หลายคนต่างพูดตรงกันว่า อุทกภัยของประเทศไทยในปีที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่หนังตัวอย่างที่ธรรมชาติส่งมาให้คนไทยได้เตรียมใจและเรียนรู้ที่จะรับมือกับ ของจริงที่กำลังจะมาเร็วๆ นี้!

ในแง่มุมของนักวิทยาศาสตร์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยาผู้อำนวยการโรงเรียนสัตยาไสหรืออดีตนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นระบบควบคุมการลงจอดบนดาวอังคารของยานไวกิ้งร่วมกับองค์การนาซาที่คนไทยรู้จักกันดี เผยว่า ตนได้พูดมานานแล้วว่าอีกหน่อยน้ำจะต้องท่วมภาคกลาง แต่อุทกภัยใหญ่ปีที่ผ่านมายังไม่ใช่สาเหตุหลักและยังไม่ถึงที่สุด

ระดับน้ำทะเลค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆโดยในช่วงชีวิตของผมน้ำทะเลขึ้นมาแล้วประมาณ 20 เซนติเมตรและตอนนี้ยิ่งเร่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะแก๊สมีเทนที่เริ่มขึ้นมาจากขั้วโลกเหนือทำให้โลกร้อนขึ้นทุกปี เมื่อความร้อนระเหยขึ้นจากมหาสมุทร เมฆจะมากขึ้นมีพายุมากขึ้น ฝนตกหนักขึ้น

เฝ้าระวัง “สึนามิ” จ่ออ่าวไทย

ดร.อาจอง อธิบายว่าน้ำแข็งที่ละลายจากภูเขาทางขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและน้ำหนักในมหาสมุทรเพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำหนักของแผ่นดินลดลง เช่นภูเขาหิมาลัยมีน้ำหนักลดลงเพราะน้ำแข็งละลายไหลลงมา เมื่อน้ำหนักไม่สมดุลกันรอบๆโลก ทำให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนไหวเพื่อปรับสมดุลขึ้นใหม่เหตุการณ์แผ่นดินไหวทั่วโลก หรือแผ่นดินไหวรุนแรง 9.0 ริกเตอร์ที่เกิดนอกชายฝั่งของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นผลมาจากการเคลื่อนที่และชนกันของขอบแผ่นเปลือกโลกนี้เอง

สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แถบประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งจะทำให้เกิดสึนามิเข้ามาทางอ่าวไทยได้ เวียดนามและเขมรจะโดนหนักรวมถึงภาคใต้ของเราด้วย แต่จะไม่หนักเท่าที่ญี่ปุ่น ประชาชนต้องเข้าใจและรู้ทันต้องมีการวางแผนในทุกจังหวัดว่าชุมชนต่างๆ ต้องหนีไปอยู่ตรงไหน

ดร.อาจองบอกอีกว่า หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น คนไทยจะได้รับการเตือนภัยล่วงหน้า 16 ชั่วโมง จึงสามารถหนีได้ทัน ไม่มีความเสียหายมาก แต่ทางราชการต้องมีการเตรียมพร้อมและซักซ้อมให้ประชาชนหนีขึ้นในพื้นที่สูง

โดยการเกิดสึนามิในอ่าวไทยมีแนวโน้มที่จะเกิดในระยะเวลาไม่นานหลังจากนี้เพราะปัจจุบันเปลือกโลกมีการชนกันค่อนข้างมากบริเวณรอบมหาสมุทรแปซิฟิกจึงเกิดแผ่นดินไหวค่อนข้างบ่อยซึ่งปี2555มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ๆที่ทำให้สึนามิเข้ามาในอ่าวไทย

แผ่นดินไหวไม่น่าเป็นห่วง

ดร.อาจองบอกอีกว่า ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่เริ่มแตกร้าวอยู่บ้างจึงอาจเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในหลายจุด แต่จะไม่รุนแรงมากนัก อย่างมากสุดประมาณ 5 ริกเตอร์ จึงไม่น่าเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ เขื่อนแตกเช่นที่กลัวกันเพราะเขื่อนสามารถทนต่อแผ่นดินไหวได้ถึง 7.5 ริกเตอร์

อย่างไรก็ตามคนไทยไม่ควรประมาท เพราะเขื่อนศรีนครินทร์มีรอยร้าวที่เชื่อมโยงไปถึงประเทศพม่าดังนั้นหากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในพม่าจะมีแรงสั่นสะเทือนเข้ามาในประเทศ ไทยดังนั้นจึงควรวางแผนซ้อมอพยพหากเกิดสถานการณ์การณ์ฉุกเฉิน

“พายุสุริยะ”แรงสุดปีนี้-ทำระบบสื่อสารพังชั่วคราว

อีกปัญหาหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้คือดวงอาทิตย์ที่จะปะทุขึ้นแรงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งจะมีรังสีพุ่งเข้ามาที่โลกของเราทำให้ระบบสื่อสารพังชั่วคราว เราอาจจะโทรศัพท์คุยกันไม่ได้ เพราะสัญญาณพังหมดแม้กระทั่งไฟฟ้าก็อาจจะดับเช่นเดียวกับที่ดับในอเมริกาในปีที่แล้ว

ดร.อาจอง บอกด้วยว่าผลกระทบจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และจะรุนแรงมากที่สุดในปีนี้ สอดคล้องกับการศึกษาเรื่องพายุสุริยะของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น นักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า ซึ่งพบว่าเมื่อมีแรงระเบิดในดวงอาทิตย์ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจะมีแผ่นดินไหวใหญ่ๆเกิดขึ้นบนโลกแต่ประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากสึนามิที่เป็นผลมาจากแผ่นดินไหวในประเทศฟิลิปปินส์มากกว่าเพราะเมืองไทยมีรอยเลื่อนไม่มากนัก

แนะเรียนรู้อยู่รอดจากปัญหา

แม้โลกกำลังเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นทุกที แต่ ดร.อาจองมีแนวคิดว่า ไม่จำเป็นต้องเครียด หรือกลุ้มใจต่อความไม่แน่นอนปัญหามีไว้เพื่อเรียนรู้ซึ่งโรงเรียนสัตยาไสของเขาเป็นตัวอย่างที่ดีจากการป้องกันน้ำท่วมได้สำเร็จในปีที่ผ่านมา

ร.ร.สัตยาไสของเราตั้งอยู่เหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จ.ลพบุรี ซึ่งปี 2553 น้ำท่วมโรงเรียนอย่างหนัก เพราะเขื่อนป่าสักกักเก็บน้ำเกินไป 25% เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯซึ่งผมบอกให้ทุกคนสังเกตว่าน้ำไหลเข้ามาในโรงเรียนผ่านทางไหนบ้างจุดไหนมีน้ำซึมเข้ามา และอุดทุกรูที่น้ำซึมเข้าได้ดังนั้นในปี54น้ำจึงไม่ท่วมโรงเรียนแม้ว่าเขื่อนป่าสักฯจะกักเก็บน้ำในเขื่อนเกินไปถึง 36%”

ดังนั้นการแก้ปัญหาน้ำท่วมในประะเทศไทยก็ควรใช้วิธีเดียวกันคือสังเกตดูว่า น้ำท่วมหนักปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นเพราะอะไรน้ำไหลลงมาทางจุดไหนแล้วเราจึงไปแก้ไขตรงนั้นให้น้ำสามารถไหลผ่านลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว ถ้าน้ำระบายได้เร็วน้ำก็ไม่ท่วม

ย้ายเมืองหลวงดีหรือไม่

ดร.อาจองให้ความเห็นต่อการย้ายเมืองหลวงว่า ภายในไม่เกิน 10 ปีคนไทยจะเริ่มรู้แล้วว่ากรุงเทพฯ จะอยู่ไม่ได้ และภายใน 20 ปี น้ำทะเลจะท่วมกรุงเทพฯดังนั้นต้องวางแผนตั้งแต่เดี๋ยวนี้ว่าจะจัดการอย่างไร ซึ่งมี 2 แนวทาง คือ 1.ย้ายเมืองหลวง 2.สร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทย

ประเทศฮอลแลนด์อยู่ใต้ทะเลแต่มีเขื่อน จึงสามารถอยู่ได้โดยไม่จม ทั้งที่เขาจะต้องจมไปนานแล้ว แต่ยังอยู่ได้ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เราจะสามารถป้องกันอู่ข้าวอู่น้ำในประเทศของเราไว้ได้

เตือนชุมชนฝึกสติ-ซ้อมหนีภัย

ด้าน ดร.วรภัทร์ภู่เจริญ นักวางยุทธศาสตร์และนักบริหารองค์กรแนวพุทธ พูดว่าขณะนี้ภัยธรรมชาติเกิดที่หัวใจพวกเราเสียแล้วภัยพิบัติถูกหัวใจตั้งแต่ยังไม่มาจริงแล้ว ดังนั้นเราควรทำจิตใจให้สดใสไว้ใจไม่ตื่นตูม กายก็พร้อมเราต้องเตรียมพร้อมเหมือนการใส่เข็มขัดนิรภัยหรือหมวกกันน็อก ไม่เกิดเรื่องก็แล้วไปแต่ถ้าเกิดขึ้นจริงก็ไม่ถึงกับแย่

เขาคิดว่าภัยธรรมชาติไม่มีทางจะเบาลงนับจากนี้เนื่องเพราะพฤติกรรมมนุษย์ที่ยังคงเดิม ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่า เผาอ้อยรุกป่าสงวนกระทั่งพฤติกรรมการผลาญพลังงานที่ไม่รู้จักพอของมนุษย์

เมื่อยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติเหล่านี้ให้เห็นชัดๆภัยธรรมชาติก็ไม่มีทางเบาลงได้เลย และยังทำนายไม่ได้ว่าจะเกิดน้ำท่วม ภัยแล้งหรือแผ่นดินไหวจึงบอกไม่ได้ว่าจะทำอะไร

โดยสิ่งแรกที่อยากให้คนไทยเตรียมตัวก็คือ เตรียมใจและปล่อยวาง อุทกภัยในปีที่ผ่านมาเหมือนเราได้ซ้อมใหญ่ได้ฝึกเรียนรู้ว่าสิ่งไหนจำเป็น-ไม่จำเป็น คนไหนเพื่อนแท้-เพื่อนเทียมคนไหนพึ่งได้-พึ่งไม่ได้ ความน่าไว้วางใจของหน่วยงานรัฐบาลมีมากแค่ไหนเราเริ่มรู้แล้วก็เริ่มทำใจได้ไง

วิธีเตรียมใจขั้นต่อมาที่เขาแนะนำคือการปฏิบัติธรรม เพื่อทำให้ตั้งสติได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อสติมาปัญญาย่อมเกิด

วิกฤตน้ำท่วมทำให้คนเห็นธรรมะมากขึ้นคนฉลาดที่สุดคือคนเอาวิกฤตมาฝึกสติ เอาวิกฤตมาปฏิบัติธรรม ทำให้เกิดสติ เมื่อสติมาใจจะโล่งสบาย ปัญญาก็ออก ไม่เหมือนเวลาเครียดเกร็ง คนจะไม่มีปัญญามีแต่การเอาเปรียบ เอาตัวรอด จนอาจจะฆ่าคนข้างๆ ตายได้ หรือแย่งกันกิน เห็นแก่ตัวกักตุน ไม่มีความเมตตา ขณะที่คนมีสติถึงตายเขาก็ไม่กลัว

สำหรับการเตรียมพร้อมทางโลก ดร.วรภัทร์ แสดงความเห็นว่าประเทศไทยยังไม่มีมาตรการรองรับเรื่องแผ่นดินไหวเท่าที่ควรซึ่งรัฐบาลควรบอกความจริงประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับรอยแยกรอยแตกหรือปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวนอกจากนั้นอาจจะมีการเปิดหลักสูตรสอนชัดเจนในแต่ละพื้นที่ของแต่ละชุมชนเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเมื่อมีปัญหาจะรวมตัวกันที่ไหน อุปกรณ์ช่วยชีวิตมีอะไรบ้างศูนย์อุบัติเหตุจะอยู่ที่ไหน จะช่วยคนเจ็บอย่างไรไม่ให้เป็นเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตการเตรียมแม่แรง การงัดตึก และน่าจะมีการซ้อมในชุมชน โดยการช่วยกันทำและอาจเชิญคนที่เคยผ่านแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นมาถ่ายทอดความรู้ให้เราว่าถ้าแผ่นดินไหว ไฟไหม้ แก๊สรั่ว ต้องทำอย่างไร การเกิดอุบัติภัยหมู่ทางโรงพยาบาลส่วนใหญ่ในประเทศไทยอาจจะเคยซ้อมกันบ้างแต่ประชาชนกลับไม่เคยได้ซ้อมเลย

สถานการณ์อุทกภัยใหญ่ที่ผ่านมาจึงฉายภาพการแย่งกันกินแย่งกันใช้น้ำดื่มขาดแคลน คนไม่รู้วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดภัยพิบัติประเทศไทยจะบอกว่าเป็นประเทศไม่มีภัยธรรมชาติไม่ได้อีกแล้ว เมื่อก่อนไม่มีแต่ตอนนี้ภัยธรรมชาติคุกคามเข้ามาดังนั้นเราต้องให้งบประมาณกับหน่วยงานด้านภัยพิบัติและสอนให้ประชาชนเรียนรู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ

ดร.วรภัทร์บอกอีกว่า หากเกิดน้ำท่วมโลกในปี ค.ศ.2012 ขึ้นจริง คนไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯแทบพึ่งพาตัวเองไม่ได้เลย ดังนั้นควรสอนเรื่องนี้ตั้งแต่เด็ก ให้สามารถเอาตัวรอดได้คนที่พักอาศัยในเมืองหากปลูกผักได้ก็ควรปลูกผักตามระเบียงหรือดาดฟ้าเพื่อรองรับวิกฤตการณ์ขาดแคลนอาหารจากสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นอีก

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-07 14:53:12


ความคิดเห็นที่ 4683 (1591947)

เนเธอร์แลนด์เร่งอพยพ ปชช.หวั่น! คันกั้นน้ำแตก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มกราคม 2555 10:27 น.

ตำรวจและทหารของเนเธอร์แลนด์ระดมกำลังช่วยกันอพยพประชาชน 800 คน ออกจากหมู่บ้าน 4 แห่ง ในที่ลุ่มทางภาคเหนือของประเทศ หลังมีความเป็นไปได้ว่าคันกั้นน้ำอาจแตก ซึ่งเป็นผลมาจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ประเมินว่า น้ำที่ทะลักจากคันกั้นน้ำจะไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่หลายร้อยเอเคอร์สูงถึง 1 เมตรครึ่ง โดยจุดที่ต้องอพยพประชาชนอยู่ห่างจากกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ไปทางเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครยังช่วยกันนำกระสอบทรายไปเรียงไว้บนแนวคันกั้นน้ำเพื่อเสริมความแข็งแรง ขณะเดียวกัน มีการระบายน้ำลงสู่ทะเลเพื่อลดระดับน้ำ และลดแรงดันในคันกั้นน้ำ
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมของเนเธอร์แลนด์ยังส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ซึ่งติดตั้งกล้องพิเศษ ที่ใช้ในการตรวจหาระเบิดในอัฟกานิสถาน ขึ้นบินสำรวจเหนือคันกั้นน้ำเพื่อติดตามสถานการณ์ด้วย


รูปจากเดลินิวส์

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 09:05:03


ความคิดเห็นที่ 4684 (1591951)

ดินไหวเขย่าอิเหนา-หมู่เกาะโซโลมอน แรงสุด 5.6



สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงานเกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.6 ริกเตอร์ ใกล้เกาะฮัลมาเฮรา ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมาลูกู ของอินโดนีเซีย รวมถึงเกิดแผ่นดินไหวระดับ 4.9 ริกเตอร์ ที่หมู่เกาะซานตา ครูซ หนึ่งในเขตปกครองของประเทศหมู่เกาะโซโลมอน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย...


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 7 ม.ค. โดยอ้างสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 5.6 ริกเตอร์ ใกล้เกาะฮัลมาเฮรา ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมาลูกู ของอินโดนีเซีย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

ข้อมูลของยูเอสจีเอส ระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวระดับ 5.6 ริกเตอร์ ครั้งนี้ อยู่ลึกลงไปใต้ทะเลราว 131.6 กิโลเมตร ห่างจากเกาะฮัลมาเฮราเพียงเล็กน้อย และอยู่ห่างจากเกาะเทอร์เนท ที่อยู่ใกล้เคียงไปทางเหนือราว 100 กิโลเมตร
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ แม้จะพบการแตกตื่นของชาวบ้านในหลายพื้นที่บนเกาะฮัลมาเฮรา และจังหวัดมาลูกูเหนือ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมากกว่า 1.03 ล้านคน


ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวระดับ 4.9 ริกเตอร์ ที่หมู่เกาะซานตา ครูซ หนึ่งในเขตปกครองของประเทศหมู่เกาะโซโลมอนเช่นกัน โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกราว 82.1 กิโลเมตร ห่างจากกรุงโฮนีอารา เมืองหลวงของหมู่เกาะโซโลมอน ไปทางตะวันออก 649 กิโลเมตร และยังไม่มีรายงานความเสียหายเช่นกัน.

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 09:07:24


ความคิดเห็นที่ 4685 (1591954)

ช็อกโลกซูดานสังหารหมู่ 3,000 ศพ

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 18:31 น.



ซูดานใต้สุดโหดสังหารหมู่ 3,000 ศพ ชาวบ้านอพยพหนีตายนับพันคน
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายโจชัว คอนยี กรรมาธิการประจำเมืองไพบอร์ในรัฐจุนกาลีของซูดานใต้ กล่าวว่า เกิดเหตุรุนแรงทางด้านเชื้อชาติจนถึงขั้นนองเลือดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,000 ศพ และประชาชนนับพันอพยพหนีตาย โดยศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด ถูกแยกเป็นผู้หญิงและเด็ก 2,182 ราย กับผู้ชายอีก 959 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่สหประชาชาติและเจ้าหน้าที่ทหารซูดานใต้ไม่ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต และข้อกล่าวอ้างยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ซึ่งหากมีการยืนยันจริง จะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ซูดานใต้แยกตัวจากสาธารณรัฐซูดานขึ้นเป็นประเทศใหม่เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว


นายคอนยี แจ้งว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มวัยรุ่นติดอาวุธหัวรุนแรงราว 6,000 คน จากชนเผ่าลู นูเออร์ ได้ยกกำลังเข้ามาในเมืองไพบอร์ ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของชาวชนเผ่าเมอร์เล พร้อมประกาศจะฆ่าให้หมดสิ้น อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุมีเด็กนับพันสูญหาย เกรงว่า อาจถูกลักพาตัว ขณะเดียวกัน วัวหลายพันตัวถูกขโมยไปด้วย ส่วนกลุ่มคนร้ายจากชนเผ่าลู นูเออร์ ที่เข้าโจมตีเมืองไพบอร์ ได้ถอนกำลังกลับไป ภายหลังปะทะกับกองกำลังทหารของฝ่ายรัฐบาล


ก่อนหน้านี้ นางลีส แกรนด์ กรรมาธิการฝ่ายมนุษยธรรมเพื่อซูดานใต้ของสหประชาชาติกล่าวว่า เธอหวั่นเกรงว่า จะมีประชาชนเสียชีวิตหลายพันศพ ขณะที่ นายไอแซค อาจิบา รัฐมนตรีข่าวสารของรัฐจุนกาลี ไม่สามารถยืนยันการรายงานของกรรมาธิการเมืองไพบอร์ได้ เพราะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ส่วน นายฟิลิป อาเกอร์ โฆษกกองทัพซูดานใต้กล่าวว่า ทางกองทัพกำลังรอรายงานจากทหารของเรา และการประเมินจะมีความน่าเชื่อถือ หากมีการเข้าไปในหมู่บ้านต่างๆ เพื่อนับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด


ทั้งนี้ รายงานจากสหประชาชาติระบุว่า ความรุนแรงทางเชื้อชาติและการล้างแค้นในรัฐทางตะวันออกของซูดานใต้ คร่าชีวิตผู้คน 1,100 ศพ ทำให้ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนราว 63,000 คนเมื่อปีที่แล้ว

__________________

06:50 พบรายงานการปะทุบนขั้วเหนือของดวงอาทิตย์ และได้ปล่อย CME ตรงมายังโลก

จากการคำนวนในรอบแรก กลุ่มแก้สร้อนและอนุภาคจาก CME จะผ่านโลกเราไปโดยไม่สัมผัส แต่จากการคำนวนซ้ำโดยห้องปฎิบัติการ Goddard Space Weather ได้ผลออกมาว่า CME ก้อนนี้จะตรงมาที่โลกและจะมาถึงโลกเราในวันนี้ต่อเนื่องพรุ่งนี้ (วันที่ 7-8 ม.ค.) กดดูที่ภาพเพื่อดูการเคลื่อนไหว วงกลมเหลืองคือโลกเรา



ดูภาพเคลื่อนไหว

--> http://iswa.gsfc.nasa.gov/downloads/...im.tim-den.gif

ผลจากการเข้าปะทะของ CME จะทำให้เกิดความปั่นป่วนของสนามแม่เหล็กโลกจากพายุสุริยะ อาจมีผลทำให้เกิดการรบกวนดาวเทียมหรือระบบสื่อสารต่างๆในซีกโลกเหนือ โปรดติดตาม

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 09:10:00


ความคิดเห็นที่ 4686 (1591958)

เฮติ เผชิญการระบาดของอหิวาตกโรค มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 7,000 คน

จอน คิม แอนดรุส รองผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคอเมริกาใต้ ระบุว่าขณะนี้เฮติกำลังเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ของอหิวาตกโรค ซึ่งตลอดช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา คร่าชีวิตชาวเฮติไปแล้วเกือบ 7,000 คน โดยเดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียว มีรายงานผู้ป่วยอหิวาตกโรคในเฮติกว่า 520,000 คน เท่ากับว่าแต่ละวันจะมีผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 200 คน ทั้งนี้ การระบาดของอหิวาตกโรคในเฮติ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายปี 2553 นอกจากเฮติแล้ว ยังมีรายงานการระบาดของโรคนี้ในสาธารณรัฐโดมินิกัน สหรัฐ และเวเนซุเอลา อีกด้วย

 

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ เผยข้อมูล พบรอยเลื่อนตอนใต้ของกทม.

รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ เผยข้อมูล พบรอยเลื่อนตอนใต้ของกทม.รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ คณะวิทย์ จุฬาฯ เปิดเผย เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ในรายการชั่วโมงเตือนภัยว่า ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่ยังมีพลังอยู่หลายจุด เช่น รอยเลื่อนแม่จัน จ.เชียงราย รอยเลื่อนปัว จ.น่าน รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี รอยเลื่อน องคลักษณ์จ.นครนายก พร้อมระบุว่า การที่จะบอกว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อไหร่นั้นไม่สามรถระบุเวลาการเกิด ได้
รศ.ดร.ปัญญา กล่าวอีกว่า ได้มีการค้นพบรอยเลื่อนตอนใต้ของกรุงเทพฯ แต่ยังต้องใช้เวลาศึกษาอีกมากจึงจะตอบได้ว่ารอยเลื่อนดังกล่าวเป็นรอยเลื่อน ที่ยังทรงพลัง หรือรอยเลื่อนที่ตายไปแล้ว


ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 09:13:14


ความคิดเห็นที่ 4687 (1591964)

อุตุเหนือมีฝนเผย9-13มค.อุณหภูมิจะลดอีก


อุตุฯรายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 9-13 ม.ค. 55 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือมีฝนในระยะแรกจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา บริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้จะมีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุม ลักษณะเช่นนี้ทำให้อ่าวไทยคลื่นลมแรงขึ้น และภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักได้ในหลายพื้นที่

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กทม.-ปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

ออสเตรียพายุหิมะตกหนัก-ปิดทางรถไฟสายสำคัญ

วันอาทิตย์ ที่ 08 ม.ค. 2555
  
 

เส้นทางรถไฟเวียนนา-อินน์สบรูค ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเชื่อมต่อตะวันออก-ตะวันตกทางภาคตะวันตกของออสเตรีย ต้องปิดบริการในวันเสาร์ ภายหลังหิมะตกหนักแถบเทือกเขาอัลไพน์ สถานที่เล่นสกียอดนิยม เช่นเดียวกับเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อทางใต้เยอรมนีก็ต้องระงับบริการเช่นกัน

 

 
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 09:50:05


ความคิดเห็นที่ 4688 (1591989)




น้ำตกที่จีนกลายเป็นน้ำแข็ง

คลื่นความเย็นที่พาดผ่านเมืองไลวู ของมลฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน ทำให้น้ำตกแห่งหนึ่งบนภูเขาดอกบัว หรือโลตัสกลายเป็นน้ำแข็ง

น้ำแข็งที่ห้อยลงมาจากภูเขา ก่อตัวเป็นรูปทรงต่างๆ ซึ่งบางส่วนมีรูปทรงคล้ายเพชร บางส่วนคล้ายดอกบัว ตามชื่อของภูเขา

ส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดของปรากฏการณ์นี้ วัดความยาวได้ถึง 120 เมตร และกว้าง 10 เมตร

ภูเขาดอกบัว หรือภูเขาเหลียนฮัว นี้ตั้งอยู่ในเขตเกาจวงเจิน ภูเขาลูกนี้ตั้งอยู่สูง 994 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลและมีเนื้อที่ 17 ตารางกิโลเมตร ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนและทั่วโลก จำนวนมากมาเยือน เพื่อชมทัศนียภาพที่งดงาม

__________________
เกิดลมกระโชกแรงและหิมะตกหนักที่ออสเตรีย



ออสเตรีย - เส้นทางรถไฟเวียนนา-อินน์สบรูค ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเชื่อมต่อตะวันออก-ตะวันตกทางภาคตะวันตกของออสเตรีย ต้องปิดบริการในวันเสาร์ ภายหลังหิมะตกหนักแถบเทือกเขาอัลไพน์ สถานที่เล่นสกียอดนิยม เช่นเดียวกับเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อทางใต้เยอรมนีก็ต้องระงับบริการเช่นกัน

Heavier than usual snowfall and high winds have caused chaos on roads and railways in many areas of Austria.

About 1.2 metres of fresh snow has fallen, closing sections of highway and isolating some towns since Thursday. Avalanche risk is extreme as more snow is forecast in the coming days.

Snowfall trapped some 15,000 tourists at ski resorts on the Arlberg Mountain on Friday, and while some roads are open there, others remain closed, the BBC said.

To prepare itself for any potential disasters, the Austrian army has put helicopters on alert.

High winds are also whipping the alpine nation, the International Business Times (IBT) reported.

The most snow has fallen in the western states of Tyrol and Vorarlberg. A government official in Vorarlberg said 52 people were rescued by an army helicopter there.

An important rail line that connects Vienna and Innsbruck with western Austria and Switzerland was to be closed until Sunday, the IBT said. Two rail lines that connect western Austria with Germany were also closed.

-AAP
http://www.nzherald.co.nz/world/news...ectid=10777419
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 17:03:42


ความคิดเห็นที่ 4689 (1591992)

09:00 ระดับรังสีเอ็กซ์เหนือบรรยากาศโลกเริ่มเพิ่มสูงจากกระแสอนุภาคของดวงอาทิตย์ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 17:08:41


ความคิดเห็นที่ 4690 (1591993)

 

 

 

ไนจีเรียเคอร์ฟิวตายกว่า30คน

08 ม.ค. 2555, 13:37 น. หมวดหมู่ : ข่าวเด่น
ไนจีเรียประกาศเคอร์ฟิวทั่วรัฐอาดามาวาหลังเกิดเหตุโจมตีชาวคริสต์3ครั้งมีผู้เสียชีวิตกว่า30คน

เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นระดับสูงในไนจีเรียเปิดเผยว่า ได้มีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วรัฐอาดามาวา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อวานนี้ หลังเกิดเหตุโจมตีชาวคริสต์ถึง 3 ครั้งในรัฐแห่งนี้และที่รัฐกอมเบซึ่งอยู่ใกล้เคียง ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน  โดยเหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังกลุ่มมุสลิมโบโก ฮาราม ประกาศเป็นคำขาดให้ชาวคริสต์ออกไปจากพื้นที่ทางตอนเหนือของไนจีเรียซึ่งมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ภายใน 3 วัน

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีกู้ดลัค โจนาธาน ผู้นำไนจีเรียได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อพยายามระงับเหตุรุนแรงภายหลังมีผู้เสียชีวิต 49 คนจากเหตุโจมตีโบสถ์ของชาวคริสต์ในวันคริสต์มาส แต่มาตรการดังกล่าวก็ไม่สามารถยุติเหตุโจมตีได้.

 

 

 

__________________
 
 

 

 

คลื่นซัดเรือสินค้าเกยแนวปะการัง ขาด 2 ท่อน!



 

คลื่นซัดเรือสินค้าเกยแนวปะการัง ขาด 2 ท่อน!

8 ม.ค. 55 13.32 น.

คลื่นซัดเรือสินค้าเกยแนวปะการัง ขาด 2 ท่อน!
(8 ม.ค.) เรือขนส่งสินค้าเรน่า สัญชาติกรีซ ที่เกยติดแนวปะการังนอกฝั่งประเทศนิวซีแลนด์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 ถูกคลื่นลมทะเลกำลังแรงซัดจนขาดเป็น 2 ท่อน ซึ่งทางการวิตกว่า การที่เรือขาดจะส่งผลให้สถานการณ์น้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลจะแย่ลง โดยคราบน้ำมันที่รั่วไหลทำให้นกทะเลตายไปแล้วมากกว่า 20,000 ตัว
ขณะที่ เจ้าหน้าที่นิวซีแลนด์คาดว่าในวันนี้ (8 ม.ค.) เศษไม้ท่อน นมผง และสินค้าอื่นๆ ที่ตกลงมาจากเรือเรน่า จะถูกน้ำซัดเข้าถึงฝั่ง ซึ่งทางการทำจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้รับมือแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 17:11:58


ความคิดเห็นที่ 4691 (1591995)

เจ็บ 7 คน! "แควนตัส"ตกหลุมอากาศ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มกราคม 2555 14:12 น.

สายการบินแควนตัส แอร์ไลน์ส ของออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คนและอีก 4 คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หลังเครื่องบินแควนตัส เอ 380 เที่ยวบินจากอังกฤษไปยังสิงคโปร์เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนและพายุรุนแรง ระหว่างบินอยู่เหนือน่านฟ้าประเทศอินเดียช่วงเช้าวานนี้
โฆษกแควนตัสกล่าวว่า ผู้โดยสาร 7 คนได้รับผลกระทบ และอีก 4 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนมากบาดเจ็บจากอาการฟกช้ำ เนื่องจากตกจากเก้าอี้ระหว่างตกหลุมอากาศ
ทั้งนี้ เครื่องบินลำเกิดเหตุถูกประกาศให้เป็น 1 ในเครื่องบิน เอ 380 หลายลำที่เกิดรอยแตกบริเวณปีกของเครื่องบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ชุมพร-ดินถล่มทับบ้านกลางหุบเขา



เกิดเหตุดินจากภูเขาถล่มทับบ้านของชาวบ้านในอำเภอพะโต๊ะ พังเสียหายขณะเจ้าของบ้านสองสามี-ภรรยา กำลังนอนหลับ โชคดีทับเพียงส่วนครัวหลังบ้าน ไม่มีใครได้รับอันตราย

เมื่อเวลา 08.15 น.วันนี้ ( 8 ม.ค.) นายสุธรรม ทิพย์มโนสิงห์ นายก อบต.ปังหวาน อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร รับแจ้งจากชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลปังหวาน ว่าได้เกิดเหตุดินจากภูเขาถล่มทับบ้านของชาวบ้านที่อยู่กลางหุบเขาสูง แวดล้อมด้วยป่าอุดมสมบูรณ์ ห่างจาก ถนนสาย หลังสวน-ระนอง

บ้านเกิดเหตุ คือ บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ที่ 4 ตำบลปังหวาน พบเพื่อนบ้านหลายคนกำลังให้การช่วยเหลือ ขนย้ายทรัพย์สิน ของ นายจรินทร์ เพ็งสกุล อายุ 47 ปี และ นางมาลี เพ็งสกุล อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ โดยดินทับบริเวณหลังบ้าน ที่มีดินจำนวนมากไหลลงมาทับและดินกระจายเป็นวงกว้าง ร่วม 3 เมตร นอกจากนี้ดินได้ทะลักเข้าไปในบ้านโดยจุดที่ดินถล่มเป็นห้องครัว ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์เครื่องครัว เช่น เตาแก้ส ตู้เย็น และ ทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง จากเหตุดังกล่าวทำให้บริเวณหลังบ้านห่างจากภูเขาออกไปอีก 5 เมตร กลายเป็นพื้นที่ชัน สร้างความหวาดกลัวให้กับเจ้าของบ้าน 2 สามีภรรยา อย่างมาก

นางมาลี เล่าว่า ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วเดินไปชงกาแฟในครัวพบว่า มีดินถล่มลงมาทับบ้านพังไปทั้งหมดแล้ว ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุนอนหลับสนิทกับสามี ได้ยินแต่เสียงฝนกับน้ำในลำห้วยเท่านั้น โชคดีที่ทับเพียงด้านหลังบ้าน รู้สึกกลัวมาก
จากการสังเกตพบว่า ภูเขาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาพะโต๊ะ ที่มีความสูงชันมาก และ ถูกบุกรุกมานานหลายสิบปี จนทำให้ไม่มีต้นไม้ขนาดใหญ่คอยยึดพื้นดิน พื้นที่หลายหมื่นไร่แปรสภาพเป็นพืชสวนเกษตรทั้งสิ้น เมื่อถูกฝน และ พายุที่รุนแรงจึงทำให้เกิดดินถล่มลงมา ซึ่งภูเขามาความลาดชันมาก ชาวบ้านถึงแม้จะหวาดกลัวแต่ไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 17:19:17


ความคิดเห็นที่ 4692 (1591996)

เกิดพายุหิมะที่ อลาสก้า สหรัฐอเมริกา

ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียไม่สามารถแล่นผ่านก้อนน้ำแข็งหนาไปได้



A Russian tanker is carrying an emergency fuel delivery through thick ice to the Alaskan city of Nome, where a severe storm has left roughly 3,500 people without enough fuel to last through the harsh northern winter.
The Renda set out in December and is now less than 200 nautical miles from its destination. Accompanied by a Coast Guard icebreaker Healy, it is carrying more than 3.8 million liters of petroleum.
On January 6, the Renda encountered ice in the eastern Bering Sea, but is more than capable of making it through – even if the ice is several feet thick.
For the Russian icebreaker to successfully complete its mission, all parties involved must constantly work on refining the best plan of action. That includes ship owners and agents, crews of both the Renda and the Healy as well as Alaskan Marine Pilots.
A team of public and private specialists has been working hard on the logistics of the venture, with weather and ice routing experts from all over the world supplying the mission with daily updates.
The mission is due to reach Nome by Monday morning, and will be marked as the first ever fuel delivery to Western Alaska in the heart of winter.

Russian rescue: Alaskan emergency brings first ever winter fuel delivery — RT

__________________

เกิดพายุ ทอร์นาโด พัดถล่ม Orissa ประเทศอินเดีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย
 

About 180 thatched and tin houses were damaged and many trees uprooted in an unseasonable violent tornado that hit Dera, Endalapur, Tarapada and other villages under Rajnagar block of Kendrapada district on Saturday. At least one person was killed and 12 sustained injuries in the tornado. Jaladhar Rout (45) of Tarapada was killed when lighting struck during the tornado. Many cycles and paddy bags were tossed around like toys in Dera village, where at least six persons, including two children were injured by flying roof tiles and metal sheets, said villager Tapan Parida. Pranakrushna Das of Endalapur village had a narrow escape in the tornado when some villagers managed to drag him out of his grocery shop, damaged in the storm. The fish market at Rajnagar was also damaged in the tornado, Sahoo said. "Many customers were purchasing fish and meat from my shop at Rajnagar. Suddenly at 11am the tornado hit our areas. My tin roof shop was damaged," said Sankar Behera a fish seller of Rajnagar. Road communication was affected due to uprooting of many trees. About 20 boats were also damaged in the tornado. Rajnagar tahsildar Bhabatarana Sahoo and other government officials rushed to the tornado-hit areas, including two medical teams. "The authority will clear the roads soon by removing the trees. Some schools and cyclone shelters in tornado-hit areas are jam-packed with women and children," Sahoo said. "We have started distributing food to the affected people. The authority arranged polythene covers for the affected too," he added.

http://www.ubalert.com/a/79436

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 17:24:14


ความคิดเห็นที่ 4693 (1592012)

       

ทช.พบ 11 จว.น้ำกัดเซาะรุนแรง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    8 มกราคม 2555 19:28 น.

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช.เปิดเผยว่า ขณะนี้ชายฝั่งอ่าวไทยเสียหายกว่า 500 กิโลเมตร และอันดามัน 110 กิโลเมตรใน 11 จังหวัด ได้แก่ จ.จันทบุรี ระยอง สมุทรปราการ เพชรบุรี ชุมพร กรุงเทพมหานคร ปัตตานี นราธิวาส และนครศรีธรรมราช ผลจากคลื่นสูงในแต่ละปีทำให้ชายฝั่งถูกน้ำกัดเซาะมากกว่า 5 เมตร จึงต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
        โดยช่วงคลื่นสูงที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องเรียนว่า บริเวณแหลมตะลุมพุกและแหลมสมิหลาถูกน้ำกัดเซาะอย่างหนัก หากปล่อยไว้อาจจะเสียหายเพิ่มขึ้น ในขณะที่อ่าวไทยตอนบนรูปตัว ก ได้มีการเริ่มทำไส้กรอกทรายแก้ปัญหาได้บ้างแล้ว ด้าน ทช.เตรียมลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลในเชิงลึก เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ในระหว่างการศึกษาหาแนวทาง 10 ทางเลือก อาทิ เขื่อนกันคลื่น คันดักทรายตัวที กำแพงคอนกรีต ไส้กรอกทรายเป็นต้น ซึ่งต้องศึกษาอย่างละเอียดให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ทางที่ดีอาศัยป่าชายเลนเป็นแนวกันคลื่นจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยคาดว่าต้องใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท โดยที่ระบบงบประมาณต้องอนุมัติจากกรมเจ้าท่าก่อน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-08 20:12:50


ความคิดเห็นที่ 4694 (1592047)

นวัตกรรมเพื่อรับมือภัยพิบัติ

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2555 เวลา 00:00 น
.
 


 


  

ในงาน บีโอไอแฟร์ 2011 (BOI Fair 2011) มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นได้แก่ นวัตกรรมเพื่อรับมือภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบัน สภาวะของโลกมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จะทำอย่างไรให้สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างสมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติได้ อย่างยั่งยืน
“เอสซีจี พาวิลเลียน” มีคำตอบ!!!

เริ่มต้นตั้งแต่การสร้างพาวิลเลียนให้เป็น อีโค พาวิลเลียน (ECO Pavilion) ด้วยการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น บล็อกปูพื้นที่ช่วยลดความร้อนสะสมจากแสงแดด ผนังสมาร์ทบอร์ดที่ช่วยป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร แผ่นอะคริลิคนำแสงที่ให้ความสว่างแทนการใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เป็นต้น

ภายใน พาวิลเลียน แบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 3 ห้อง ในห้องแรก นำเสนอเรื่องราวของโลกในอนาคตที่มนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ดำเนินเรื่องโดยปู่กับหลาน ผ่านจอมัลติมีเดีย และโมเดล ทอล์กเกอร์

ในห้องที่สอง เป็นการย้อนกลับไปในอดีต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดความเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติต่าง ๆ บนโลก ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัวถูกทำลาย เกิดภัยธรรมชาติมากมายที่ผู้คนคาดไม่ถึง ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยนำเสนอผ่านจอ 360 องศา ให้ผู้ชมได้รู้สึกเหมือนกับอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ

ห้องที่สามนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อรองรับความไม่แน่นอนของ ธรรมชาติ รวมทั้งตอบโจทย์ความต้องการ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมนุษยชาติ อาทิบ้าน เอสซีจี ไฮม์ (SCG HEIM) บ้านที่มีโครงสร้างพิเศษ ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีการก่อสร้างแบบโมดูลาร์ ( Modular Structure) จากประเทศญี่ปุ่น ที่ให้ความแข็งแรง เฉพาะตัว โดยเชื่อมทุกรอยต่อด้วยเทคนิคพิเศษ ซึ่งทำได้เฉพาะในโรงงานเท่านั้น จึงช่วยให้บ้านมีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน สามารถรองรับการเกิดแผ่นดินไหวได้

ภายในงานเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ลองทดสอบความแข็งแกร่งของบ้าน เอสซีจี ไฮม์ ผ่านเครื่องจำลองการเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.0 ริคเตอร์ ที่ระยะห่างจากศูนย์กลาง 300 กิโลเมตร

บ้าน เอสซีจี แคร์ (SCG Care) บ้านที่ได้รับการออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างอิสระ พึ่งพาผู้อื่นน้อยที่สุด และมีความปลอดภัยสูงสุด โดยผู้เข้าชมสามารถสัมผัสประสบการณ์จำลองเป็นผู้สูงอายุผ่านอุปกรณ์ เพื่อจำลองการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุในบ้านได้ด้วย

ซีเมนต์ บังเกอร์ (Cement Bunker) ที่อยู่อาศัยรูปทรงกระบอกระบบปิด สร้างจากนวัตกรรมปูนซีเมนต์ชนิดพิเศษ มีความเหนียว และความแข็งแกร่ง จากการผสมผสานของเส้นใยที่เป็นชนิดเหล็ก (Steel Fiber) และเส้นใยไฟเบอร์ประเภทโพลีเมอร์ (Polymer) ทำให้คอนกรีตมีความเหนียว ทานทาน รับแรงดึง และแรงดันได้สูงขึ้น

เหมาะกับการนำไปใช้เป็นโครงสร้างบ้านสำหรับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปใน อนาคต เพราะทนต่อแรงกระแทก (Shock Resistance) แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว แรงระเบิด และการกัดเซาะของคลื่นทะเลและลมพายุ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทดแทนการใช้ซีเมนต์บางส่วนด้วยวัสดุรีไซเคิล

ชีล ไลฟ์ (Shield–Life) ที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัย มีขนาดความกว้างและความสูง 1.10 เมตร ยาว 2.80 เมตร รับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัมรูปทรงได้รับแรงบันดาลใจจากเมล็ดข้าว อันหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ มีฟังก์ชั่นการใช้งานคล้ายกับเต็นท์ ที่มีน้ำหนักเบา แยกชิ้นส่วนได้ สะดวกต่อการเก็บรักษาและขนส่ง แต่มีความคงทนแข็งแรงมากกว่า เพราะผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีน

สามารถใช้พักกลางแจ้งได้ เพราะมีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดและสายฝนได้เป็นอย่างดี ภายในมีอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็นครบถ้วน เหมาะสำหรับประเทศที่มีสภาพอากาศไม่ปกติ หรือประเทศที่เกิดภัยพิบัติที่ต้องการที่พักอาศัยชั่วคราวอย่างเร่งด่วน

กานต์ ฮุนตระกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “เรามุ่งหวังให้ผู้เข้าชม เอสซีจี พาวิลเลียน ตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมสร้างสมดุลให้กับโลกใบนี้ไปพร้อมกันกับเรา เพื่อให้คนและธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนตลอดไป”.


SCG Pavilion ชูจุดเด่น Eco Pavilion นำเสนอนวัตกรรมเพื่อรองรับภัยพิบัติในอนาคต


แนวคิด (Concept)

จากแนวคิดเรื่อง Human Value ของเอสซีจี ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่เพียงตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน แต่ยังคำนึงถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ รวมทั้งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้าง สังคม และสิ่งแวดล้อมทั้งในวันนี้และวันหน้า เพื่อสร้างสรรค์ทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีความกังวลและห่วงใยต่อสภาวะแวดล้อมของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป และอยากมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาโลกให้ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต นำมาสู่แนวคิดการออกแบบ SCG Pavilion ที่ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการดำรงอยู่อย่างสมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติอย่างยั่งยืน

ผู้เข้าชม SCG Pavilion จะได้ตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างสมดุลให้กับ โลกใบนี้ไปพร้อมกับเอสซีจี ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น แม้ในสภาวะของโลก
ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงความมุ่งมั่นใส่ใจต่อคุณค่าชีวิตมนุษย์ สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คนและธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนตลอดไป

การออกแบบภายนอก (Exterior Design)

SCG Pavilion มีการออกแบบภายนอกโดยได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนำรูปทรงของใบไม้ที่มีความพลิ้วไหวพัดปลิวไปโดยรอบ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญ และคำนึงถึงคุณค่าในสิ่งแวดล้อม ที่เอสซีจีตั้งใจจะนำกลับมาให้อยู่ใกล้ชิดกับคนและโลกของเรามากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติแล้ว SCG Pavilion ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยออกแบบให้เป็น Eco Pavilion ที่เลือกใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่คิดค้นและสร้างสรรค์โดยเอสซีจี อาทิ

วัสดุที่ช่วยประหยัดและลดการใช้พลังงานได้แก่

· บล็อกปูพื้นตราช้าง ผสานเทคโนโลยี Cool Plus: มีอุณหภูมิที่ผิวบล็อกต่ำกว่าผิวคอนกรีตทั่วไป เพราะน้ำที่ดูดซึมและกักเก็บภายในตัวบล็อกจะระเหยไอเย็นออกมา เมื่อได้รับความร้อนสะสมจากแสงแดด (เป็นสินค้าที่ได้รับฉลาก SCG eco value)

· ผนังตราช้าง สมาร์ทบอร์ด: ผลิตจากวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ปราศจากใยหิน จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีค่าการนำความร้อนต่ำ ช่วยป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้อีกทางหนึ่ง (เป็นสินค้าที่ได้รับฉลาก SCG eco value)

· Shinkolite: แผ่นอะคริลิคนำแสง ที่ให้ความสว่างแทนการใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป

วัสดุที่ใช้ทดแทนวัสดุธรรมชาติ ได้แก่

· Vinyl Windsor รุ่น Nature Deck: วัสดุปูพื้นที่ทำมาจากพลาสติก ทดแทนการใช้ไม้จริง

· Creative Plastic: พลาสติกแปรรูป นำมาทำเป็น Landmark และ Furniture ภายในสวน ทดแทนการใช้วัสดุธรรมชาติ

การออกแบบภายใน (Interior Design)
สำหรับการออกแบบภายใน SCG Pavilion แบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 3 ห้อง เพื่อบอกเล่าถึงความเป็นอยู่ของ เมืองในอนาคต ที่ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นระหว่างคนกับธรรมชาติ รวมทั้งสะท้อนเรื่องราว เหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ผู้คนจะหันมาให้คุณค่ากับธรรมชาติ
แต่ด้วยแนวคิดของเอสซีจีที่มุ่งมั่นจะนำความสมดุลของธรรมชาติที่สูญเสียไป ให้กลับคืนมา จึงได้สร้างสรรค์นวัตกรรม ทั้งด้านที่อยู่อาศัย สินค้าและบริการ รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผู้คนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และที่สำคัญ คือ ทำให้คนและธรรมชาติสามารถกลับมาอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

ห้องที่ 1
นำเสนอเรื่องราวของกรุงเทพฯ ในอนาคต ที่ซึ่งมนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ผู้คนใส่ใจและห่วงใยในสิ่งแวดล้อม รู้จักใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ดำเนินเรื่องโดยปู่กับหลาน ผ่านจอ Multimedia และ Model Talker ก่อนจะพาผู้ชมย้อนกลับไปในอดีตช่วงที่โลกเกิดความเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติจากธรรมชาติ

ห้องที่ 2
เมื่อผู้ชมก้าวเข้าสู่ห้องนี้ จะพาทุกท่านย้อนกลับไปในอดีต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดความเปลี่ยนแปลงและ
ภัยพิบัติต่างๆ บนโลกใบนี้ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัวถูกทำลาย เกิดภัยธรรมชาติมากมายที่ผู้คนคาดไม่ถึง ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยนำเสนอผ่านจอ 360 องศา เพื่อให้ผู้ชมได้รู้สึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ
แต่ท่ามกลางความน่ากลัวที่เกิดขึ้น ยังมีทางแก้ไขได้ ด้วยความทุ่มเทของคนกลุ่มหนึ่งที่มุ่งมั่นให้อนาคตของโลกเราดีขึ้นด้วยการ คิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ที่จะนำความสมดุลของธรรมชาติบนโลกใบนี้กลับคืนมา และเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ห้องที่ 3
ผู้ชมจะได้สัมผัสการใช้ชีวิตในอนาคตผ่านนวัตกรรมของเอสซีจีที่สร้างสรรค์ ขึ้น เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของธรรมชาติ รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการ และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนในเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็น.....

· Future Living รูปแบบที่อยู่อาศัยที่รองรับความเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมของโลกและภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ พร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยเพื่อรูปแบบการใช้ชีวิตในอนาคต ได้แก่

- บ้าน SCG HEIM บ้านที่รองรับการเกิดแผ่นดินไหว โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์การเกิดแผ่นดินไหวผ่านเครื่องทดสอบ การเกิดแผ่นดินไหวขนาดสูงสุด 7.0 ริกเตอร์ เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของบ้าน SCG HEIM

- บ้าน SCG Care บ้านที่ได้รับการออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ โดยผู้ชมสามารถสัมผัสประสบการณ์จำลองเป็นผู้สูงอายุผ่านอุปกรณ์ เพื่อจำลองการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุในบ้าน SCG Care

- Cement Bunker นวัตกรรมจากที่อยู่อาศัยจากเอสซีจี ซิเมนต์ ที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงลม แรงระเบิด และการกัดกร่อน

- Sheild-Life นวัตกรรมที่อยู่อาศัยเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติและต้องการที่อยู่อาศัยชั่วคราว แบบเร่งด่วน จากเอสซีจี เคมิคอลส์ โดยมีคุณสมบัติแข็งแรง มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

· Future Natural นวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้คนได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สวยงามมากขึ้น

· Future Building รูปแบบอาคารถูกออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียว โครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน อายุใช้งานยาวนาน ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานจากธรรมชาติ

· Future Business การดำเนินธุรกิจที่ตอบรับความสะดวกสบายของการใช้ชีวิตในอนาคต นำเอาเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามาใช้ แต่ยังคงคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

SCG Pavilion จึงสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลของมนุษย์และธรรมชาติ

ผ่านแนวคิดและนวัตกรรมของเอสซีจีที่มุ่งมั่น สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนในสังคม

วันนี้....เรา ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการหันมาใส่ใจ และให้คุณค่ากับการใช้ชีวิตและธรรมชาติ เพื่อวันนี้และวันหน้าไปพร้อมๆ กับเอสซีจี

“SCG Pavilion นวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน”

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-09 08:57:54


ความคิดเห็นที่ 4695 (1592048)

หิมะที่ตกหนักทางตอนเหนือของอินเดียดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ขณะที่สถานการณ์หิมะพัดถล่มทางตะวันตกของออสเตรียเริ่มดีขึ้น

หิมะที่ตกหนักในรัฐหิมาจัลประเทศ ,รัฐอุตตราขัณฑ์ และรัฐจัมมูและแคชเมียร์ซึ่งมีฉายาสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชียทางเหนือของอินเดียหลังจากเกิดฝนตกและพายุลูกเห็บ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวพากันเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสัมผัสความงามของหิมะขาวโพลนที่ปกคลุมไปทั่วทุกหนทุกแห่งทั้งบ้านเรือน ต้นไม้และถนนหนทาง และมีรายงานว่ามีหิมะตกที่เมือง ปาตันกอต ในรัฐปัญจาบเป็นปรากฎการณ์ที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้คนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เมืองนี้มีหิมะตกในรอบหลายสิบปี กรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดียรายงานว่าหิมะที่ตกลงมาส่งผลให้อุณหภูมิทางภาคเหนือของอินเดียลดลงเหลือ 2 ถึง 3 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 12 องศาเซลเซียส

ขณะที่ทางตะวันตกของออสเตรียแม้ว่าหิมะเริ่มหยุดตกตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ถนนหลายสายทางตะวันตกของออสเตรียยังปิดอยู่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่มาเล่นสกีที่รัฐโฟร์อาร์ลแบร์กที่เป็นที่เล่นสกีที่มีชื่อเสียงของออสเตรียประมาณ 15,000 คน ต้องติดอยู่ในสกีรีสอร์ทเนื่องจากหิมะที่ตกอย่างหนักจนต้องปิดทำการเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดหิมะถล่ม แต่ได้เปิดทำการแล้วเมื่อวานนี้ ส่วนทางรถไฟระหว่างเมืองบลูเด็นซ์และแลนด์เด็คที่ปิดไปตั้งแต่วันศุกร์ก็เปิดให้บริการวันนี้เนื่องจากได้เปลี่ยนรางรถไฟแล้ว ส่วนตารางการเดินรถประจำทางระหว่างเมืองยังคงล่าช้าเนื่องจากการจราจรที่ติดขัดเนื่องจากมีการปิดถนนบางสายอยู่

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-09 09:04:02


ความคิดเห็นที่ 4696 (1592049)

อ่างทอง - หลวงพ่อโตวัดไชโยมีน้ำตาไหล


นักท่องเที่ยวไปกราบไหว้องค์พระหลวงพ่อโต วัดไชโยวรวิหาร พบมีน้ำตาไหลจากลูกตาทั้ง 2 ข้าง หวั่นเป็นสิ่งบอกเหตุร้ายในบ้านเมืองหรือไม่

บ่ายวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเสกสม แจ้งจิต อายุ 36 ปี นักท่องเที่ยว ว่าพบเหตุการณ์น่าแปลกใจกับ องค์พระมหาพุทธพิมพ์ หรือ "หลวงพ่อโต" แห่งวัดไชโยวรวิหาร โดยพบว่ามีคราบคล้ายคราบน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่วัดไชโยวรวิหาร พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภายในพระอุโบสถสถานที่ประดิษฐานองค์พระมหาพุทธพิมพ์" หรือ "หลวงพ่อโต" ประชาชนต่างยืนดูที่บริเวณพระพักตร์ของหลวงพ่อโต พร้อมถ่ายรูป บ้างก็นั่งกราบไหว้ขอพร

นักท่องเที่ยวต่างจับกลุ่มวิพากษ์กันว่าหลวงพ่อโตร้องไห้ เพราะเห็นมีคราบคล้ายคราบน้ำไหลออกมาจากดวงตาทั้ง 2 ข้าง โดยไหลออกมาจากขอบตาดำเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง และไหลลงมาหยุดอยู่ที่เหนือริมฝีปาก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างเชื่อว่าหลวงพ่อโต ร้องไห้ออกมา และอาจจะเกิดอาเพศเหตุร้ายอะไรกับบ้านเมืองก็ได้

นายเสกสม กล่าวว่าได้พาครอบครัวไปกราบไหว้ขอพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ แต่พอเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อโตเห็นนักท่องเที่ยวจับกลุ่มพูดคุยว่าหลวงพ่อโตร้องให้ จึงสังเกตที่พระพักตร์พบว่าเป็นจริง จึงเดินดูรอบๆองค์หลวงพ่อโต แต่ก็ไม่พบคราบดังกล่าวที่บริเวณอื่น ส่วนจะเป็นคราบอะไรนั้นไม่แน่ใจแต่ที่เห็นๆไหลออกมาจากดวงตาและออกมาจากตาดำเหมือนกัน หากเป็นจริงหลวงพ่อโตอาจจะบอกอะไรให้กับประชาชนบางอย่าง หรืออาจจะเกิดรางร้ายกับประเทศไทย

ด้านพระปลัดฟัก อภินันโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาตมาก็แปลกใจเพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคราบที่เห็นนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นคราบอะไร และที่นักท่องเที่ยวบอกว่าหลวงพ่อร้องไห้เพราะอาจจะเกิดอาเพศ อาตมาคงไม่เชื่ออาจจะเป็นมูลของนกก็เป็นไปได้ แต่ที่แปลกก็คือไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างเท่านั้น

สำหรับประวัติ พระมหาพุทธพิมพ์ (หลวงพ่อโต) วัดไชโยวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง ให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก มีพุทธลักษณะเป็นศิลปสมัยรัตนโกสินทร์ ปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตัก 8 วา 7 นิ้ว ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง ด้วยเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือ ที่เรียกกันติดปากว่าสมเด็จโตนั้น สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่โตสมนามของท่านมาก่อนนี้แล้ว 2 องค์ คือ พระนอนที่วัดสะตือ จ.พระนครศรีอยุธยา และ พระยืนที่วัดอินทรวิหาร เขตบางขุนพรหม

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-09 09:05:19


ความคิดเห็นที่ 4697 (1592052)

แผ่นดินไหว Near East Coast of Honshu, Japan (39.47,142.14) ขนาด 5.2 วันที่ 9 มกราคม 2555 เวลา 05.13 น. ตามเวลาประเทศไทย
9 มกราคม 2555, 5:13:03
2012-01-08 22:13:03 UTC
Lat. 39.47 , Long. 142.14
ขนาด 5.2
ลึก 10 กม.
แผ่นดินไหว Vanuatu Islands (-17.49,167.89) ขนาด 5.1 วันที่ 9 มกราคม 2555 เวลา 04.51 น. ตามเวลาประเทศไทย
9 มกราคม 2555, 4:51:50
2012-01-08 21:51:50 UTC
Lat. -17.49 , Long. 167.89
ขนาด 5.1
ลึก 39 กม.
แผ่นดินไหว Bonin Islands, Japan Region (27.09,143.85) ขนาด 4.7 วันที่ 9 มกราคม 2555 เวลา 03.25 น. ตามเวลาประเทศไทย
9 มกราคม 2555, 3:25:35
2012-01-08 20:25:35 UTC
Lat. 27.09 , Long. 143.85
ขนาด 4.7
ลึก 10 กม.
แผ่นดินไหว West Chile Rise (-36.31,-97.43) ขนาด 5.0 วันที่ 9 มกราคม 2555 เวลา 00.27 น. ตามเวลาประเทศไทย
9 มกราคม 2555, 0:27:28
2012-01-08 17:27:28 UTC
Lat. -36.31 , Long. -97.43
ขนาด 5.0
ลึก 10 กม.
แผ่นดินไหว Southern Sumatra, Indonesia (-2.69,99.76) ขนาด 4.7 วันที่ 9 มกราคม 2555 เวลา 00.05 น. ตามเวลาประเทศไทย
9 มกราคม 2555, 0:05:47
2012-01-08 17:05:47 UTC
Lat. -2.69 , Long. 99.76
ขนาด 4.7
ลึก 20 กม.
แผ่นดินไหว Near S. Coast of Western Honshu (34.01,135.54) ขนาด 4.8 วันที่ 8 มกราคม 2555 เวลา 22.37 น. ตามเวลาประเทศไทย
8 มกราคม 2555, 22:37:28
2012-01-08 15:37:28 UTC
Lat. 34.01 , Long. 135.54
ขนาด 4.8
ลึก 55 กม.
แผ่นดินไหว Northern Xinjiang, China (42.28,87.57) ขนาด 5.1 วันที่ 8 มกราคม 2555 เวลา 13.20 น. ตามเวลาประเทศไทย
8 มกราคม 2555, 13:20:05
2012-01-08 06:20:05 UTC
Lat. 42.28 , Long. 87.57
ขนาด 5.1
ลึก 10 กม.
แผ่นดินไหว Near East Coast of Honshu, Japan (38.73,141.97) ขนาด 4.6 วันที่ 8 มกราคม 2555 เวลา 11.41 น. ตามเวลาประเทศไทย
8 มกราคม 2555, 11:41:21
2012-01-08 04:41:21 UTC
Lat. 38.73 , Long. 141.97
ขนาด 4.6
ลึก 57 กม.
แผ่นดินไหว Near East Coast of Honshu, Japan (37.31,141.38) ขนาด 4.8 วันที่ 7 มกราคม 2555 เวลา 17.43 น. ตามเวลาประเทศไทย
7 มกราคม 2555, 17:43:08
2012-01-07 10:43:08 UTC
Lat. 37.31 , Long. 141.38
ขนาด 4.8
ลึก 51 กม.
แผ่นดินไหว Near East Coast of Honshu, Japan (37.50,141.85) ขนาด 4.8 วันที่ 6 มกราคม 2555 เวลา 06.28 น. ตามเวลาประเทศไทย
6 มกราคม 2555, 6:28:44
2012-01-05 23:28:44 UTC
Lat. 37.50 , Long. 141.85
ขนาด 4.8
ลึก 25 กม.

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-09 09:09:06


ความคิดเห็นที่ 4698 (1592054)

แผ่นดินไหว ยูนาน,ประเทศจีน (25.67,99.89) ขนาด 4.2 วันที่ 8 มกราคม 2555 เวลา 09:52:33 น.
8 มกราคม 3098, 9:52:33
2555-01-08 09:52:33 น.
Lat. 25.67 , Long. 99.89
ขนาด 4.2
ลึก 13 กม.
แผ่นดินไหว หมู่เกาะอันดามัน (12.84,95.61) ขนาด 4.5 วันที่ 5 มกราคม 2555 เวลา 12:27:20 น.
5 มกราคม 3098, 12:27:20
2555-01-05 12:27:20 น.
Lat. 12.84 , Long. 95.61
ขนาด 4.5
ลึก 13 กม.
แผ่นดินไหว หมู่เกาะอันดามัน (12.87,95.53) ขนาด 3.9 วันที่ 5 มกราคม 2555 เวลา 01:50:10 น.
5 มกราคม 3098, 1:50:10
2555-01-05 01:50:10 น.
Lat. 12.87 , Long. 95.53
ขนาด 3.9
ลึก 10 กม.
แผ่นดินไหว ประเทศพม่า (18.10,94.44) ขนาด 3.0 วันที่ 4 มกราคม 2555 เวลา 23:56:55 น.
4 มกราคม 3098, 23:56:55
2555-01-04 23:56:55 น.
Lat. 18.10 , Long. 94.44
ขนาด 3.0
ลึก 8 กม.
แผ่นดินไหว ประเทศพม่า (20.32,98.13) ขนาด 2.5 วันที่ 4 มกราคม 2555 เวลา 23:53:51 น.
4 มกราคม 3098, 23:53:51
2555-01-04 23:53:51 น.
Lat. 20.32 , Long. 98.13
ขนาด 2.5
ลึก 17 กม.
แผ่นดินไหว หมู่เกาะนิโคบาร์ (7.61,91.94) ขนาด 4.3 วันที่ 4 มกราคม 2555 เวลา 00:32:25 น.
4 มกราคม 3098, 0:32:25
2555-01-04 00:32:25 น.
Lat. 7.61 , Long. 91.94
ขนาด 4.3
ลึก 14 กม.
แผ่นดินไหว หมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย (14.90,94.44) ขนาด 4.9 วันที่ 3 มกราคม 2555 เวลา 16:09:49 น.
3 มกราคม 3098, 16:09:49
2555-01-03 16:09:49 น.
Lat. 14.90 , Long. 94.44
ขนาด 4.9
ลึก 15 กม.
แผ่นดินไหว ประเทศพม่า (20.24,99.17) ขนาด 3.0 วันที่ 3 มกราคม 2555 เวลา 00:46:51 น.
3 มกราคม 3098, 0:46:51
2555-01-03 00:46:51 น.
Lat. 20.24 , Long. 99.17
ขนาด 3.0
ลึก 8 กม.
แผ่นดินไหว พรมแดนพม่า-จีน (21.96,99.39) ขนาด 3.4 วันที่ 1 มกราคม 2555 เวลา 01:45:17 น.
1 มกราคม 3098, 1:45:17
2555-01-01 01:45:17 น.
Lat. 21.96 , Long. 99.39
ขนาด 3.4
ลึก 10 กม.
แผ่นดินไหว ประเทศพม่า (20.18,99.12) ขนาด 3.2 วันที่ 31 ธันวาคม 2554 เวลา 23:41:24 น.
31 ธันวาคม 3097, 23:41:24
2554-12-31 23:41:24 น.
Lat. 20.18 , Long. 99.12
ขนาด 3.2

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-09 09:10:53


ความคิดเห็นที่ 4699 (1592075)

พายุโซนร้อน 05S ความเร็วลม 35 น็อต จะขึ้นฝั่งมาดากัสการ์ในวันนี้

 

 

เกิดฟ้าผ่านับได้ถึง 1024 ครั้งในชั่วคืนที่กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

จากฝนฟ้าคะนอง โดยนับจาก 1 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นจนถึงรุ่งเช้า

ในรัศมี 50 กิโลเมตรจากตัวเมือง

โดยพายุฝนครั้งนี้ถือว่าแรงที่สุดนับแต่ต้นปีมา


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-09 11:23:23


ความคิดเห็นที่ 4700 (1592077)

เกิดพายุหิมะ ที่เซอร์เบีย

Snowstorm hits parts of Serbia
SOURCE: B92, BETA



PIROT -- A snowstorm has hit southern Serbia, closing roads and cutting off power supply.

There is no electricity in the southern town of Pirot, a road to Mt. Kopaonik is snowed in and one third of households in the municipality of Sjenica have been cut off due to high snowdrifts.

Three villages at Mt. Stara Planina still do not have electricity after strong wind and heavy snow severed the power lines.

Snow has created numerous problems in the Sjenica area and the authorities have declared the state of natural disaster. Strong wind, heavy snow and low temperatures have caused traffic, water and power supply problems.

Sjenica Mayor Muriz Turković told B92 that main roads had been cleared during the night but that around 5,000 citizens were still cut off from the rest of the world.

 

เกิดพา่ยุหิมะ ที่บัลแกเรีย




State of emergency declared on the territory of Chepelare Municipality
08 January 2012 | 16:29 | FOCUS News Agency
Home / Bulgaria

Chepelare. State of emergency was declared today at 13.30pm on the territory of Chepelare Municipality, Mayor of Chepelare Municipality Todor Bozukov said for FOCUS News Agency.

Trees have fallen due to heavy snow and had cut wires. Experts are working to restore the electricity in the municipality. Chepelare town is without power supply since yesterday as result there is no water supply in the one half of the town. All public buildings in the town are without heating as well as most of the hotels, the Mayor said.

__________________

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-09 11:32:28



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 [47] 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.