ReadyPlanet.com


ธรรมชาติ....เอาคืน.!!!


 

ตอนนี้

แผ่นดินไหว ทุก ๆ วัน

วันละหลาย ๆ ครั้ง

และที่ผ่านมา 3 วันนี้

10 - 11 - 12 พฤษภาคม 2554

ประมาณ 4 - 5 - 6 ริกเตอร์

รายละเอียด

เชิญอ่าน เพื่อ

เตรียมพร้อม...นะเจ้าคะ

*************************************

12 พค. 2554 06:25 น.

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.2 ริกเตอร์

ในเมืองลอร์กา ทางภาคใต้ของสเปน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน

เจ็บ 270 คน

อาคารเก่าแก่ บ้านเรือนพังถล่ม

ขณะที่ผู้นำสเปนสั่งการให้ส่งทหาร

และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ค้นหา

ผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

***************************************

12 พค. 2554 15:17 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

แจ้งว่าเมื่อเวลา 14.41 น.

แผ่นดินไหวในทะเล 4.9 ริกเตอร์

บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซีย ความลึก 45 กม.

ไม่มีผลกระทบต่อไทย

 



ผู้ตั้งกระทู้ แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-12 19:50:41


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 [49] 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 4801 (1594221)

 

"เสรี"เตือนรบ.รับมือน้ำท่วม"ต้องเอาให้อยู่ไม่ใช่แค่เอาอยู่"

เมื่อเวลา 10.00 น. นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ปาฐกถาในงานสัมมนา เรื่อง "การจัดการน้ำในสายพระเนตรของในหลวง" ในการสัมมนา "เรียนรู้ สู้น้ำ" ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภาร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรุงเทพมหานคร และเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ที่ห้องวาสนา โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ถนนพระราม 9

นายเสรี กล่าวตอนหนึ่งถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ด้าน คือ 1.เรื่องอ่างเก็บน้ำ 2.ทางผ่านน้ำหรือทางผันน้ำ 3.คันกั้นน้ำหรือพนังกั้นน้ำ 4.แก้มลิง และ 5.การปรับปรุงลำน้ำ ซึ่งที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริหรือทรงคิดก็มีการประยุกต์ใช้หมดแล้ว

นายเสรี ยังกล่าวถึงปัญหาในการสร้างฟลัดเวย์ ว่า การทำฟลัดเวย์นั้นต้องถามว่าน้ำจะลงมาที่ฟลัดเวย์หรือไม่ แล้วน้ำจะลงไปในปริมาณที่ออกแบบไว้หรือไม่ ดังนั้นเรื่องนี้จะเขียนแค่ในกระดาษไม่ได้ นอกจากนี้ตนทราบมาว่าปัจจุบันผังเมืองที่ใช้ในประเทศไทยมีทั้งหมด 4 ฉบับใน 77 จังหวัด ถ้าเราแก้ปัญหาในปัจจุบันโดยที่ไม่ย้อนกลับไปดูผังเมืองที่ในหลายจังหวัดกว่า 70 จังหวัดที่ไม่ได้ประกาศใช้ ซึ่งเรื่องไปค้างอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะถ้ามีผังเมืองก็จะทำให้ทราบทิศทางว่าจะเป็นอย่างไร และในส่วนของกทม.นั้นที่จะมีการสร้างอุโมงค์ใต้ดินผ่าใจกลางกทม. ก็ปรากฏว่าไปติดในส่วนที่ดินของผู้มีอิทธิพล รวมทั้งโรงงานขวางทางน้ำเต็มไปหมด ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันเพื่อให้น้ำเดินทางในทางที่เหมาะสม

นายเสรี กล่าวอีกว่า ในปีนี้อีกสองเดือนน้ำในแม่น้ำก็จะสูงขึ้น เพราะจากการคาดการหลายสำนักระบุว่าฝนจะมาเร็ว ดังนั้นจากนี้ไปรัฐบาล "ต้องเอาให้อยู่ ไม่ใช่แค่เอาอยู่" เพราะนี่คือสิ่งที่เราขาดระบบประเมินเหตุการณ์ทั้งก่อนเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อนำข้อมูลการพยากรณ์ของวิทยาศาสตร์มาเทียบกับข้อมูลพยากรณ์ทั้งของไทยและของจีนยังระบุว่าน้ำท่วม แต่วิทยาศาสตร์กับยืนยันว่าน้ำไม่ท่วม ดังนั้นนี่จึงเป็นศึกหนักของ กยน. ดังนั้นในส่วนของกรมชลประทานต้องขอความร่วมมือกับกับเกษตรกรในการเลื่อนการปลูกข้าวนาปีออกไป และต้องเก็บเกี่ยวในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตามหลังจากปีนี้ถ้ามังกรไม่คะนองน้ำจะกลายเป็นมังกรขาดน้ำ กลางปีหน้าจะไม่มีน้ำ จะหนักหนาสาหัสเพราะอุตสาหกรรมต่างๆต้องใช้น้ำ

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-25 16:34:21


ความคิดเห็นที่ 4802 (1594223)

ระวัง "ยูโรเกดดอน" ศก.โลกปั่นป่วน

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2555 เวลา 19:41 น.
http://www.dailynews.co.th/world/8952

 




ผู้เชี่ยวชาญออกโรงเตือนให้ระวัง "ยูโรเกดดอน" เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนพังทลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจทั้งโลก

วันนี้ (23 ม.ค.) เดอลัวต์-แอ็กเซส อีโคโนมิกส์ บิสเนส เอาท์ลุค รายงานเศรษฐกิจชั้นนำของออสเตรเลีย กล่าวเตือน เศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มเกิดปัญหาความปั่นป่วน กิจการธนาคารล้มละลาย และเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเลวร้ายครั้งใหญ่ มีความเป็นไปได้ที่ยูโรโซน ซึ่งประสบภาวะหนี้สินก้อนโต จะบริหารจัดการหนี้อย่างบกพร่อง ด้วยการผ่านงบประมาณการเงิน รายงานประจำไตรมาสของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจดังกล่าว ระบุด้วยว่า มีโอกาสที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนจะล้มละลาย

เศรษฐกิจในปี 2555 อาจจะไม่บอบช้ำ อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการเงินโลกปี 2551-2552 แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อีก หากการสนองตอบด้านนโยบายของเศรษฐกิจโลกไม่อยู่ในช่วงเวลาที่ดี และขณะนี้ รัฐบาลต่าง ๆ ก็มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติและยอดขาดดุลที่พากันหั่นลงอย่างมาก เพื่อเป็นการตอบโต้วิกฤติรอบใหม่ ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางหลายแห่ง ก็ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงอยู่ในระดับต่ำสุดเรียบร้อยแล้ว

ชะตากรรมของยูโร ยังไร้ความแน่นอน แต่มีความเป็นไปได้ว่า หนึ่ง หรือหลายประเทศอาจตกต่ำถึงขั้นถูกบีบให้ออกจากยูโรโซน ขณะนี้ ธนาคารกลางยุโรปพิจารณาไปที่ความสามารถในการป้องกันความปั่นป่วนของตลาดจากปัญหาหนี้สาธารณะ แต่ภูมิภาคก็มีแนวโน้มถดถอย นอกจากนี้ การตัดลดงบประมาณกำลังส่งผลกระทบต่อความหวังที่จะเห็นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ และทั้งจีนและอินเดียก็ชะลอตัว

รายงานชิ้นนี้ เตือนด้วยว่า อย่ามุ่งหวังพึ่งพาจีนเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยระบุว่า สถานะด้านงบประมาณของจีน ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย เริ่มสั่นคลอนมากกว่าที่เคยปรากฏ ขณะเดียวกัน ทั้งภาวะเงินเฟ้อและราคาอสังหาริมทรัพย์ ที่แม้ว่ากำลังผ่อนคลาย ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูง หากยูโรโซนเลวร้ายลงในปี 2555 อัตราการเติบโตของจีนก็อาจได้รับผลกระทบรุนแรงมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา

รัฐมนตรีคลังอียู มีกำหนดประชุมร่วมกันในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เพื่อผลักดันมาตรการต่าง ๆ ให้เดินไปข้างหน้าอย่างได้ผล ทั้งข้อตกลงงบประมาณและสนธิสัญญาการตั้งกองทุนแก้ปัญหาหนี้ถาวร.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-25 16:41:33


ความคิดเห็นที่ 4803 (1594234)

อนุโมทนาสาธุ กับสุดยอดความขยันของพี่ตาลและพี่อาริยาด้วยนะครับ

ข่าวสดๆร้อนๆจากทั่วทุกมุมโลก ส่งตรงมายังทุกท่านให้ได้อัพเดทกันตลอดเวลาเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ทุกคนกำลังลุ้นผลกระทบอันมิอาจคาดคะเนได้ของ CME ขนาดมหึมา ที่กำลังมาถึงโลกในวันนี้ ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น

ปกติ CME ขนาดไม่ใหญ่มาก ยังเกิดแผ่นดินไหว อากาศแปรปวนมากมาย แต่นี่ขนาดมหึมาขนาดนี้ ทุกคนควรตั้งตัว เตรียมพร้อมไว้ให้ดีนะครับ อะไรๆก็อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเลย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-25 18:14:24


ความคิดเห็นที่ 4804 (1594548)

ระทึก! ตึกถล่มดับสยองใต้ซากตึกเพียบ

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 เวลา 10:49 น.



วันนี้ (26 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลว่า ตึกสองหลังเกิดพังถล่มลงมาเมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา ในย่านใจกลางเมืองริโอ เดอ จาเนโร ยังผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายด้วยกัน และยังฝังเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ในตัวอาคาร โดยที่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน


ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์เครือข่าย โกลบอล นิวส์ อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนว่า มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวม 11 คนด้วยกัน ในเหตุการณ์ตึกถล่มครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในย่านเก่าแก่ จัตุรัสซิเนแลนเดีย ของเมืองริโอ เดอ จาเนโร


แต่นายเอดูอาร์โด ปาเอส นายกเทศมนตรีของเมืองริโอ เดอ จาเนโร ยืนยันว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว และก็ยังมีอีกหลายคนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังของตึกที่พังถล่มลงมา แต่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ส่วนตึกที่เกิดเหตุ มี 2 หลังด้วยกัน หลังแรกเป็นตึกสูง 10 ชั้น และ อีกหลังเป็นตึกสูง 20 ชั้น


จากคำบอกเล่าของพยานระบุด้วยว่า จุดที่เกิดเหตุ เป็นย่านที่เคยเกิดเหตุรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง แต่นายกเทศมนตรีเมืองริโอ เดอ จาเนโร ยืนยันว่า ยังไม่ทราบสาเหตุของเหตุตึกถล่ม แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจมาจากปัญหาโครงสร้างอาคาร


อนึ่ง บราซิล กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ในปี 2557 และ เมืองริโอ เดอ จาเนโร ก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสังเวียนฟาดแข้งด้วย

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:11:05


ความคิดเห็นที่ 4805 (1594549)
ข้อมูลล่าสุด ที่นักวิทยาศาสตร์ไขปริศนาได้แล้วว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกับพายุสุริยะ
 
เตรียมรับน้ำท่วมหนักจากพายุสุริยะ

เพราะไม่ใช่แค่ปัจจั
ยภายในโลกอย่างปริมาณฝน หรือพายุเท่านั้นที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ แต่ปัจจัยภายนอกโลกอย่าง "พายุสุริยะ" หรือการระเบิดพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ทำให้สนามแม่เหล็กโลกมีปัญหากำลังเกิดขึ้นและจะต่อเนื่อง
ไปจนถึงปี 2015 ซึ่งมีอิทธิพลทำให้ภัยธรรมชาติ
รุนแรงและถี่ขึ้น

หลังจากนักวิทยาศาสตร์ไขปริ
ศนาได้แล้วว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกับพายุสุริยะ โดยการระเบิดของดวงอาทิตย์จะเกิดขึ้นก่อนภัยพิบัติเฉลี่ย 1-3 วัน อย่างเช่นฝนหนักน้ำท่วมภาคใต้รอยต่อสิ้นปีถึงปีใหม่ (ฝนตกหนัก 28
ธ.ค.54 30 ธ.ค.54 น้ำท่วม//เกิดพายุสุริยะ 26 ธ.ค.54) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพายุสุริยะที
่เกิดก่อนหน้า 2 วัน

เตรียมรับน้ำท่วมหนักจากพายุสุ
ริยะ
และแย่ไปกว่านั้น อันตรายที่เกิดขึ้นกั
บโลกอาจจะมากขึ้น เพราะเกราะป้องกันโลกจากพายุสุริยะไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ส่วนหนึ่งมาจากรอยรั่วขนาดใหญ่ของสนามแม่เหล็กโลกที่องค์การนาซาพบเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งจะทำให้อนุภาคและ
พลังงานจากพายุสุริยะส่งผลถึ
งสภาพอากาศโลกโดยตรง ที่ชัดเจนคือจะทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือละลาย ขณะที่ขั้วโลกใต้หิมะน้ำแข็งจะเพิ่มขึ้นเกราะอีกชั้นที่มีปัญหาคือ บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกหดตัวมากเป็นประวัติกาลหายไปถึง 28 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจากนอกโลกจะกระทบถึงโลกเร็วขึ้น

ขณะที่ช่วง 20 ปีมานี้ ขอบนอกของระบบสุริยะสว่างมากขึ้
น 1 พันเปอร์เซ็นต์ หมายความว่ามีพลังงานบางอย่างเติมเข้ามาในระบบสุริยะจากการโคจรเข้าหากลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ที่มีความหนาแน่นสูง เมื่อเกิดพายุสุริยะจะเหมือนโลกถูก
ไฟฟ้าช็อตชั่วคราว สนามแม่เหล็กโลกแปรปรวนและจะเกิ
ดปฏิกิริยากับน้ำและอากาศ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพายุสุริยะจะทำให้แนวโน้มสภาพอากาศแปรปรวน และน้ำท่วมรุนแรงกว่าเดิม

ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้หยุ
ดแค่โลก แต่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงกับความเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยจักรวาล เป็นภัยคุกคามโลกครั้งใหญ่ที่เราต้องเตรียมตัว


[url=
http://www.ch7.com/news/news_scoop7see_detail.aspx?c=5&p=542&d=174270]สกู๊ปข่าว7สี สกู๊ป 7 สี สกู๊ปสารคดีฮอตฮิต สกู๊ปสารคดีล่าสุด เตรียมรับน้ำท่วมหนักจากพายุส
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:13:44


ความคิดเห็นที่ 4806 (1594550)

กทม.จัดประชุมใหญ่รับมือน้ำท่วมสัปดาห์หน้า

นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าประชุมคณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งจะเป็นการประชุมนัดแรก โดยมีม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.เป็นประธาน ส่วนวาระการประชุมจะเน้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่ครอบคลุมในเรื่องของสภาพภูมิศาสตร์ ปริมาณน้ำ ผลกระทบที่เกิดขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึงการสนับสนุนจากภาครัฐต่อเมืองในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำในปีนี้




นอกจากนี้จะมีการประชุมเรื่องขยะและสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องหลัก เพื่อดำเนินการให้กทม. ปลอดขยะและมีสภาพแวดล้อมที่ดีสมกับคำว่ากรุงเทพฯเป็นเมืองน่าอยู่ส่วนเรื่องรองนั้นจะเป็นเรื่องการจัดการระบบน้ำเสีย การจัดการเองที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้พื้นน้ำท่วมถึง และที่พักอาศัยชั่วคราว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:14:47


ความคิดเห็นที่ 4807 (1594551)
สมิทธิชี้ไทยไม่พร้อมรับน้ำท่วม

นายสมิทธิ ธรรมโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และ กรรรมการ กยน. บรรยายพิเศษ ให้กับทีมกู้ภัยในวงเสวนา ถอดบทเรียนเหตุการณ์มหาอุทกภัย สานพลังเครือข่าย รับภัยพิบัติ 2555 ว่า รัฐบาล ควรเร่งจัดระบบบริหารน้ำ ที่เป็นรูปธรรมออกมาได้แล้วหลังอนุมัติงบประมาณสูงถึง 3 แสน 5 พันล้านบาท แต่กลับไม่สามารถบอกได้ว่า ฟลัดเวย์หรือทางระบายน้ำหลาก อยู่ที่ไหน จุดใด แผนทิศทางการระบายน้ำของกทม.ก็ไม่รู้ทิศทางใด และการผันน้ำออกสู่ทะเล

ขณะที่ในกรุงเทพมหานคร ยังไม่เห็นว่า ได้ขุดลอกคูคลอง ซ่อมประตูระบายน้ำ หรือเพิ่มสถานีสูบน้ำ ให้ทันกับฤดูฝนที่จะมาถึง
น่าเป็นห่วงว่า ปีนี้ พื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ภาคกลางตอนบนลงมา รวมทั้ง กทม. จะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกแน่นอนนักวิชาการในวงเสวนา ยังคาดการณ์ว่า ปริมาณฝนที่จะตกปีนี้ มากกว่าปีที่ผ่านมา และขณะนี้ น้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ในช่วงต้นปี กักเก็บอยู่กว่าร้อยละ 85 แล้ว เกรงว่าจะเกิดปัญหาน้ำล้นเขื่อนอย่างปีที่แล้ว


วีดีโอข่าว :
http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=174348
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:16:25


ความคิดเห็นที่ 4808 (1594552)
กรมชลฯ ยัน "น้ำเต็มเขื่อน" จัดการได้ทันเวลา น้ำไม่ท่วมแน่นอน


แม้เขื่อนส่วนใหญ่ทั่วประเทศจะยังมีน้ำมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งๆ ที่อยู่ในฤดูแล้ง แต่กรมชลประทานยืนยันว่า มีแผนการบริหารจัดการน้ำที่จะสามารถระบายน้ำออกได้ทันเวลา และจะไม่ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักเหมือนปีที่ผ่านมา

นายณรงค์ ไทยประยูร ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล กล่าวว่า วันนี้ (26 ม.ค.) เป็นวันแรกที่เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เพิ่มปริมาณการระบายน้ำจากวันละ 39 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะขณะนี้ยังมีน้ำในเขื่อนอยู่ที่ร้อยละ 83 ขณะที่เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ที่วันนี้ (26 ม.ค.) ยังคงมีน้ำมากถึงร้อยละ 85 ทำให้เขื่อนต้องเร่งระบายน้ำกว่า 7,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อรองรับน้ำใหม่ที่จะไหลเข้าเขื่อนในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม

ขณะที่นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ยอมรับว่า ปีนี้เป็นปีที่มีน้ำเต็มเขื่อนมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กรมชลประทานจึงใช้วิธีการบริหารจัดการน้ำโดยจะเร่งระบายน้ำออก ซึ่งคาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูแล้งจะมีน้ำมากกว่าค่าปกติร้อยละ 10 แต่ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายสนับสนุนให้เกษตรกรโดยเฉพาะในที่ราบลุ่มภาคกลางทำนาปีละ 2 ครั้ง โดยให้ทำนาปีเร็วขึ้น และต้องเก็บเกี่ยวให้เสร็จภายในเดือนกันยายน จึงทำให้ขณะนี้จะต้องมีการใช้น้ำมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อถึงเดือนสิงหาคม รองอธิบดีกรมชลประทานเชื่อมั่นว่า ระดับน้ำในเขื่อนทุกเขื่อนจะลดต่ำกว่าปีที่แล้ว แต่เวลานี้ยังมีอุปสรรคหลายอย่างที่ทำให้ยังระบายน้ำไม่ได้เต็มที่

ด้านปัญหาน้ำค้างทุ่งในอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ทำให้กรมชลประทานต้องชะลอการระบายน้ำบางส่วน เพราะต้องใช้เครื่องสูบน้ำออก และต้องลดระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาให้ต่ำลง ประกอบกับขณะนี้เกษตรกรในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนยังคงใช้น้ำค้างทุ่งเดิมเพื่อการเพาะปลูก จึงยังไม่สามารถระบายน้ำได้เต็มที่เช่นกัน ขณะที่คันกั้นน้ำ และประตูน้ำหลายแห่ง รวมทั้งประตูน้ำบางโฉมศรีที่ยังคงชำรุดอยู่ ก็ทำให้ต้องลดการระบายลงครึ่งหนึ่ง เช่น คลองชัยนาท-อยุธยา เพื่อให้สามารถซ่อมแซมได้
 
ขณะนี้กรมชลประทานกำลังจะเสนอแผนการระบายน้ำออกจากเขื่อนให้รัฐบาลตัดสินใจ โดยใช้สถิติน้ำท่วมในปี 2554 ที่เป็นปีที่น้ำท่วมหนัก กับปี 2552 ที่น้ำแล้ง มาประเมินเป็นระดับน้ำที่จะระบายออกมาขณะนี้ โดยเส้นกราฟที่เห็นเป็นเส้นประ 3 เส้น คือแผนการระบายน้ำของปีนี้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องตัดสินใจว่า ต้องการให้เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ใด


Thaipbs

Thu, 26/01/2012 - 21:18
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:18:00


ความคิดเห็นที่ 4809 (1594553)
 
สะดุ้ง! “ดร.สมิทธ” ชี้หน้าฝนนี้น้ำท่วมซ้ำ


วันนี้ (26ม.ค.) ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จัดเสวนา “ถอดบทเรียนเหตุการณ์มหาอุทกภัย สานพลังเครือข่าย รับภัยพิบัติ 2555” โดย ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ(กยน.) ได้บรรยายพิเศษหัวข้อ “ภัยพิบัติธรรมชาติและสถานการณ์ภัยพิบัติของโลกในอนาคต” ตอนหนึ่งว่า

สิ่งสำคัญของการรับมือภัยพิบัติ คือการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์เบื้องต้นไว้ก่อนเพื่อความไม่ประมาท และต้องตระหนัก ตั้งสติให้มั่น เพราะมนุษย์โลกคงไม่สามารถบังคับภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติได้ แต่ทางที่ดีคือต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างปลอดภัย เพราะเราจะต้องประสบภัยน้ำท่วมอย่างแน่นอนในฤดูฝนข้างหน้า หรือประสบกับภาวะภัยพิบัติคล้ายๆ กับปีที่ผ่านมา หรือน้อยกว่าเล็กน้อยอย่างแน่นอน คือประมาณเดือน พ.ค.หรือ มิ.ย. ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่เห็นแผนการเตรียมการว่ารัฐบาลมีการระบายน้ำอย่างไร แต่มีแผนเรื่องการใช้งบประมาณแล้ว และระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 90 ของความจุเขื่อน ซึ่งไม่ทราบว่าทำไมถึงต้องกักเก็บน้ำไว้ตั้งแต่ต้นฤดู ส่วนการปล่อยน้ำในปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีการบูรณาการ เพราะระดับน้ำในเขื่อน 3 เขื่อนหลักๆ เกินวันละร้อยล้านลูกบาตรเมตร แต่ระบายออกได้ไม่ถึงร้อยล้าน จึงไม่แปลกที่น้ำจะท่วม ซึ่งนี่คือความผิดพลาดของการบริหารน้ำ และปีหน้าก็จะเป็นเช่นนี้ถ้ายังไม่มีแผน และไม่มีระบบเตือนภัย
 
“การบูรณาการระหว่างหน่วยงานในเมืองไทยใช้ไม่ได้ เราไม่เคยใช้ข้อมูลในการบริหารน้ำล่วงหน้า ไม่มีข้อมูล การคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาแม้จะประกาศให้ทราบ แต่หน่วยงานที่บริหารจัดการน้ำไม่เคยนำข้อมูลมาใช้เรื่องการบริหารจัดการน้ำในเขื่อน และไม่เข้าใจว่าเหตุใดหน่วยงานที่บริหารน้ำในประเทศไทยมีมากกว่า 20 หน่วยงาน ถือได้ว่ามากที่สุดในโลก แต่กลับอยู่คนละกระทรวง ทบวง กรม อาทิ อยู่ใต้อำนาจของผู้บริหารแต่ละคนซึ่งเป็นนักการเมือง” ดร.สมิทธกล่าว
 
เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐจะทุ่มเงินหลายแสนล้านบริหารจัดการน้ำ ดร.สมิทธ กล่าวว่า ยังไม่ทรายรายละเอียด และไม่เห็นแผนว่าจะมีการทำฟลัด เวย์ที่ไหนอย่างไร หรือจะมีการผันน้ำอย่างไร ส่วนที่ กทม.จะมีการขุดลอกคูคลองนั้นคงจะไม่ทันฤดูฝนที่จะมาเยือน เพราะตอนนี้ยังไม่เห็นว่าจะมีการขุดลอกคู คลองตรงไหน หรือลึกเท่าไหร่ ดังนั้นหากรัฐบาลไม่มีแผนเป็นรูปธรรมโอกาสที่น้ำจะท่วมอีกก็มีสูง
 
ดร.สมิทธ กล่าวต่อว่า แผนการบริหารจัดการน้ำที่เป็นรูปธรรมคือ จะต้องนำข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาที่คำนวณปริมาณฝนที่จะตกมาดู  และต้องพิจารณาว่าจะเก็บไว้ที่เขื่อนเท่าไหร่ ปล่อยออกมาเท่าไหร่ ถ้ามีการปล่อยน้ำออกมาน้อยกว่านำที่ระบายสู่ทะเลน้ำก็จะไม่ท่วม เพราะปริมาณน้ำฝนในปีนี้กับปีที่แล้วก็ใกล้เคียงกัน
 
ดร.สมิทธ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ไม่เข้าร่วมประชุม กนย. ว่า  กนย.มีการประชุม 5 ครั้งตนขาด 2 ครั้ง ไม่ใช่ไม่พอใจแต่เพราะติดธุระ ซึ่งไม่ใช่ตนคนเดียวที่ไม่เข้าร่วมประชุม ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ก็ไม่ได้เข้าเช่นกัน อย่างไรก็ตามยอมรับว่าที่ผ่านมาพูดไม่ทันนักการเมือง พูดอะไรไปเขาก็ไม่ฟัง แต่ตนเห็นว่า เมื่อเสนออะไรไปแล้วนอกจากที่ประชุม กนย.ควรจะรับฟังแล้วจะต้องถือปฏิบัติด้วยที่สำคัญกว่า 20 หน่วยงานจะต้องทำทำงานร่วมกัน
 
เมื่อถามถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะกรรมการ กยน. ลงพื้นที่ตรวจสอบการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อมอบนโยบายการบริหารจัดการน้ำในการป้องกันอุทกภัยให้กับผู้บริหารเขื่อน ดร.สมิทธ กล่าวว่า นายปลอดประสพพูดใช้ได้ และการบริหารจัดการน้ำควรจะทำตามอย่างที่นายปลอดประสพบอก แต่จะมีคนอย่างนายปลอดประสพสักกี่คน.


เดลินิวส์
วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 เวลา 13:06 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:21:09


ความคิดเห็นที่ 4810 (1594554)
ผลักดันไทยเป็นศูนย์เตือนภัยในอาเซียน




VoiceNews
23 มกราคม 2555 เวลา 21:54 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:26:14


ความคิดเห็นที่ 4811 (1594555)
รัฐบาลแนะ 2 เขื่อนใหญ่
 
เร่งพร่องน้ำรับมือน้ำท่วมปีนี้





Posted by greennewstv on มกราคม 26, 2012
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:27:23


ความคิดเห็นที่ 4812 (1594556)
นักวิชาการกังวลสถานการณ์น้ำเต็มเขื่อน
 


ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำ และการสร้างเขื่อน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กังวลว่าปริมาณน้ำในเขื่อนทั่วประเทศที่ยังมีอยู่สูงมาก เพราะมีข้อจำกัดในการระบายน้ำอยู่ในขณะนี้ โดยถ้าปีนี้มีฝนตกลงมามากอีกครั้ง และเขื่อนต้องเก็บน้ำปริมาณสูงสุดนานเกินไป ก็มีโอกาสเสี่ยงสูงที่เขื่อนจะชำรุดได้ ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพร่องน้ำให้มากกว่านี้

ผศ.นภาพร เปี่ยมสง่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ภาวะน้ำท่วมปีที่ผ่านมาทำให้เขื่อนหลายแห่งต้องเก็บน้ำไว้เป็นปริมาณมาก จึงทำให้ขณะนี้น้ำในเขื่อนส่วนใหญ่ทั่วประเทศยังคงมีปริมาณสูงมาก แต่ยังไม่สามารถระบายได้มาก เพราะยังคงมีน้ำค้างทุ่งอยู่หลายพื้นที่ในภาคกลาง และประตูน้ำหลายแห่งของกรมชลประทานก็ยังซ่อมไม่เสร็จ จึงไม่สามารถระบายน้ำได้มากนักถ้าปีนี้มีน้ำมากอีกครั้ง ก็อาจเกิดภาวะน้ำท่วมหนักได้อีก เพราะเขื่อนมีขีดจำกัดในการรับน้ำ

ส่วน รศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเขื่อนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ภาวะน้ำท่วมหนักอาจส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำล้นสันเขื่อน และทำให้เขื่อนชำรุด รั่วซึมจนขยายวงกว้างจนไม่สามารถควบคุมได้ ถ้าเขื่อนต้องเก็บน้ำในปริมาณสูงสุดเป็นเวลานาน โดยปีที่ผ่านมามีหลายเขื่อนที่เป็นเช่นนั้น ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงสูงมาก ที่จะชำรุดรั่วซึมได้ ส่วนผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่จะทำให้เขื่อนเสียหายนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก

ขณะที่เมื่อวานนี้ในการประชุมสภาฯ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐบาลวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้ดี เพราะจากการตรวจสอบพบว่าเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำมากทำให้เหลือพื้นที่เก็บกักน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่มีการพยากรณ์ว่าจะมีพายุอีก 7 ลูกในปีนี้ จึงกังวลว่าเขื่อนจะไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ และน้ำจะท่วมอีกครั้ง ดังนั้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร่องน้ำโดยเร็วที่สุด

ส่วนข้อมูลจากกรมชลประทานระบุว่า ขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 จนถึงเมษายนปีนี้ โดยนำน้ำไปใช้แล้วร้อยละ 46 แต่ขณะนี้ยังคงมีน้ำในเขื่อนทั่วประเทศปริมาณสูงมาก โดยวันนี้ของปีที่แล้วเขื่อนภูมิพลมีน้ำอยู่ที่ร้อยละ 57 แต่ปีนี้มีน้ำมากถึงร้อยละ 86 ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ปีที่แล้วมีน้ำอยู่ที่ร้อยละ 71 แต่ปีนี้มีน้ำมากถึงร้อยละ 84


Thaipbs
Thu, 26/01/2012 - 07:47
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:29:20


ความคิดเห็นที่ 4813 (1594557)
 
ภัยแล้งคุกคามจันทบุรีเริ่มรุนแรง


         จันทบุรี - สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดจันทบุรี เริ่มรุนแรงหลังจังหวัดขอความร่วมมือให้เกษตรกรปลูกข้าวหยุดการทำนาปรังในระยะนี้ออกไปก่อนเนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อน อ่างเก็บกักน้ำ และคลองธรรมชาติเริ่มลดลง ขณะที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องขาดรายได้ในช่วงนี้ไป
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่ทางจังหวัดได้ประกาศให้ 8 อำเภอ จาก 10 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติแล้งนั้น เริ่มส่อเค้ามีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากทางจังหวัดต้องมีการขอความร่วมมือให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ได้มีการหยุดทำนาปรังในระยะนี้ออกไปก่อน เนื่องจาการทำนาปรังต้องมีการใช้น้ำมากกว่าการทำนาปี
       
       ทางจังหวัดจึงได้แนะนำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีได้หาพืชที่ใช้น้ำน้อยเข้ามาทำการเพาะปลูกแทนไปก่อน สาเหตุมาจากปริมาณน้ำในเขื่อน อ่างเก็บกักน้ำ และคลองธรรมชาติเริ่มมีปริมาณน้ำลดน้อยลง และฝนได้เกิดการทิ้งช่วง
       
      รวมทั้งปริมาณน้ำจะไม่เพียงพอในช่วงฤดูแล้งในปีนี้ ประกอบกับในช่วงนี้ผลไม้ของเกษตรกรชาวสวนเริ่มมีการติดดอกออกผลด้วย การหยุดทำนาปรังในระยะนี้จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งกันและกันด้วย
       
       นายแก้ม หลิมเป้า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ทุกปีจะมีการทำนา 2 ครั้ง แต่มาปีนี้ต้องทำนาได้ครั้งเดียว เนื่องจากในปีนี้น้ำไม่เพียงพอ หากมีการทำนาไปในระยะนี้ก็อาจะขาดทุนได้เพราะข้าวขาดน้ำจะทำให้ไม่ได้ผลกำลัง ตนเองและครอบครัวต้องออกไปทำงานรับจ้างตัดหญ้า ตัดต้นไม้ และรับจ้างทั่วไปแทนกับการไม่ได้ทำนาเพราะหากไม่ออกไปทำอาชีพอื่นเสริมครอบครัวก็จะอยู่ด้วยความลำบาก นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้มีการขอความร่วมมือมาด้วย



ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2555 17:13 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:30:37


ความคิดเห็นที่ 4814 (1594558)
ทัพภาค3 สั่งรับมือไฟป่าสั่งคุมเข้มไฟป่า 3 จว.เหนือ



ที่กองพันพัฒนาที่ 3 จ.เชียงใหม่ พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ แก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดนมีกำลังทหารพร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าเสือไฟ หน่วยบินศูนย์ควบคุมไฟป่าภาคเหนือ ประชาชน นักเรียน จิตอาสา และ กองร้อยล่อจากกองพันสัตว์ต่างเข้าร่วมการซักซ้อมการดับไฟป่ากว่า 2,000 คน

ทั้งนี้ได้มีการ สมมุติสถานการณ์ไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเทพ-ปุย ก่อนจะซักซ้อมตามขั้นตอนปฏิบัติให้เกิดความพร้อม เผชิญเหตุ พล.ท.วรรณทิพย์ กล่าวว่า ปัญหาไฟป่าและหมอกควันมีผลกระทบหลายด้านทั้งสุขภาพ การท่องเที่ยว และผืนป่าที่ต้องเสียไป

แต่ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันดีขึ้นมาก การ เผาขยะในเขตเมืองและการเผาในพื้นที่เกษตรบนพื้นที่สูงลดลงอันเนื่องมาจากการรณรงค์อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การรณรงค์ที่เกิดขึ้นใน 9 จังหวัดภาคเหนือได้ผลเป็นอย่างดีทุกภาคส่วนมีความรู้และมีความร่วมมือกันมากขึ้น

อย่างไรก็ดียังมีพื้นที่น่าเป็นห่วงคือจังหวัดแม่ฮ่องสอน พะเยา และ เชียงราย ซึ่งยังพบการเผาไร่เลื่อนลอยบนพื้นที่สูงหลายจุดซึ่งพื้นที่เหล่านี้เรายังควบคุมไม่ได้ ขณะเดียวกันยังมีการเผาในพื้นที่ฝั่งพม่า จนทำให้หมอกควันลอยเข้ามาทางอำเภอแม่สายผ่านดอยตุง สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นทางทหารได้ประสานงานผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น หรือ ทีบีซี ไปยังพม่าให้มีการควบคุมหรือหามาตรการลดปัญหามลพิษตามแนวชายแดนร่วมกัน



เนชั่นทันข่าว 25 มกราคม 2555 19:52 น.
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=54

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:31:57


ความคิดเห็นที่ 4815 (1594559)
อุทัยธานี-ผู้ว่าฯเตือนระวังเกิดภัยแล้งหนัก



ปีนี้จังหวัดอุทัยธานีอาจประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง ผู้ว่าฯเตือนชาวนาโดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานขอให้งดทำนาปรัง ส่วนในเขตชลประทานขออย่าขยายพื้นที่ทำนาปรังโดยเด็ดขาด
 
นายวันชัย โอสุคนทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้อาจมีความรุนแรง จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ล่าสุดขณะนี้ปริมาณน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำต่างๆเหลือเพียงร้อยละ 60 เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร ฉะนั้นจึงขอเตือนไปยังเกษตรกรชาวนา โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทานขอให้งดการทำนาปรัง

ส่วนพื้นที่อยู่ในเขตชลประทานก็ขออย่าให้ขยายพื้นที่การทำนาปรังโดยเด็ดขาด เพราะหากข้าวอยู่ในช่วงเจริญเติบโตมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ได้รับความเสียหาย และจะต้องประสบปัญหาขาดทุนเป็นหนี้เป็นสินเพิ่มขึ้น และในช่วงนี้เกษตรกรควรจะปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่วเช่น ถั่วเขียว ถั่วลิสง ข้าวโพดฝักอ่อน มากกว่า เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะภัยแล้งดังกล่าว

ส่วนปัญหาน้ำอุปโภค บริโภค ของประชาชนไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากได้กำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งเตรียมพร้อมจัดหาแหล่งน้ำดูแลประชาชนนำน้ำออกแจกจ่ายในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค หรือได้รับการร้องขออย่างเต็มที่



ครอบครัวข่าว 3 วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:32:33


ความคิดเห็นที่ 4816 (1594560)
น้ำวังแห้งขอดแล้ว
หาดทรายโผล่เขตเมืองตากหลาย กม.


 


       ตาก - แม่น้ำวังแห้งขอดแล้ว พบหาดทรายโผล่ยาวหลายกิโลเมตร ชาวสวนแห่ลงปลูกผักกลางหาดหารายได้สู้ภัยแล้งแทน
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำวัง กว่า 200 หลังคาเรือน ที่อาศัย หมู่ 7 บ้านแม่เชียงราย ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา จ.ตาก เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว หลังแม่น้ำวังที่ไหลผ่านหมู่บ้านเริ่มแห้งขอด มองเห็นหาดทรายยาวเกือบ 10 กม.ตลอดสาย ส่งผลให้บ่อบาดาลน้ำตื้นในหมู่บ้านแทบทุกหลังคาเรือนทยอยแห้งลง
       
       ด้านชาวบ้านที่ยึดอาชีพปลูกผักปลอดสารพิษขาย เป็นรายได้หลักของหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 70 ราย ต้องหาพื้นที่ปลูกผักกลางหาดทรายแม่น้ำวัง เพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า จึงทำให้แม่น้ำวังตลอดระยะทาง 5-7 กม.เต็มไปด้วยแปลงผักของชาวบ้าน ในวันหนึ่งต้องใช้น้ำรด ผัก 2 หน เฉลี่ยวันละประมาณ 200-300 หาบ จึงไม่แน่ใจว่าจะมีน้ำใช้ปลูกผักได้ไปสักเท่าใด เพราะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หากภัยแล้งปีนี้ยาวนานเกินไปก็อาจจะทำให้ชาวบ้านประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และขาดรายได้จุนเจือครอบครัว
       
       สำหรับปัญหาน้ำในแม่น้ำวังแห้งขอด เกิดขึ้นหลายพื้นที่ ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งจำเป็นต้องสร้างฝายชะลอน้ำเก็บกักน้ำช่วยเหลือประชาชนในเขตพื้นที่ตนเอง จึงสร้างผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำ ต้องประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคในครัวเรือน อย่างเลี่ยงไม่พ้น



ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:33:25


ความคิดเห็นที่ 4817 (1594561)
เสรีประเมินปี55แล้งหนัก-ฝนมาเร็ว
 


"เสรี"ประเมินปี55ไทยเผชิญภัยแล้งหนัก-ฤดูฝนมาเร็ว ฟันธงมวลน้ำเท่าเดิมท่วมแน่ แต่แบบไหนขึ้นอยู่กับการจัดการ

“ปี 2555 จะเกิดน้ำท่วมอีกหรือไม่? ถ้ามวลน้ำเท่าเดิมน้ำท่วมแน่ๆ แต่จะท่วมแบบไหนนั้นอยู่ที่การบริหารจัดการ” เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธรและคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารทรัพยากรน้ำ หรือ กยน.กล่าวในวงเสวนา “เรียนรู้ สู้น้ำ”

เสรี ระบุถึงการพยากรณ์อากาศและการเตือนภัยว่า ด้วยเทคโนโลยีขึ้นสูงสุดที่มีอยู่ในขณะนี้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้เพียง 7 วัน โดยการพยากรณ์จะต้องการสร้างแบบจำลองที่ใช้เงื่อนไขของสภาพอากาศ ณ ปัจจุบันที่มีการคำนวณ การพยากรณ์ล่วงหน้าจึงไม่มีความแม่นยำและคลาดเคลื่อนได้ เพราะสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นสิ่งข้อจำกัดที่ไม่สามารถควบคุมได้ การจะบอกว่าน้ำจะท่วมปี 2555 อีกหรือไม่ จึงไม่สามารถบอกได้ ณ ขณะนี้

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำได้คือ การใช้ข้อมูลทางสถิติมาสร้างแบบจำลอง ซึ่งเมื่อลองศึกษาและสร้างแบบจำลองตามข้อมูลตามสถิติแล้ว ถ้ามีมวลน้ำเท่าเดิมน้ำจะท่วมแน่ๆ แต่จะท่วมแบบไหนนั้นอยู่ที่การบริหารจัดการว่าจะมีการผันน้ำไปในทิศทางใด จะเก็บกักน้ำไว้ที่ใดบ้าง รวมทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงของเขื่อนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะต้องมีการตัดสินใจว่าจะปล่อยน้ำหรือไม่ หากปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่เหนือระดับน้ำควบคุม(Rule Curve)

ดังนั้น กยน.จึงเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลในส่วนนี้ โดยการตัดสินใจปล่อยน้ำหรือไม่นั้น ต้องมีการประเมินผลกระทบของผู้ที่อยู่กับชุมชนที่อยู่ท้ายน้ำและจังหวัดใกล้เคียงด้วย

นอกจากนี้ ในปีนี้มีการคาดการณ์ไว้ว่าฝนจะมาเร็ว สิ่งที่อาจจะเห็นใน 2 เดือนข้างหน้าคือ ปริมาณน้ำในแม่น้ำจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปล่อยน้ำของเขื่อนเพื่อการทำนาปรังครั้งที่ 1 จำนวนพื้นที่ทั้งสิ้น 10 ล้านไร่ ทำให้ฤดูข้าวนาปีต้องเริ่มขึ้นในเดือน พ.ค. และต้องเก็บเกี่ยวให้เสร็จในเดือน ส.ค.-ก.ย. เพราะในเดือนต.ค.เขื่อนจะเก็บน้ำอย่างเต็มพิกัดและจะต้องเอาให้อยู่  เพื่อไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพ ดังนั้นกรมชลประทานจึงต้องทำความเข้าใจและร่วมมือกับเกษตรกรให้มีการเก็บเกี่ยวตามเดือนดังกล่าว

ขณะเดียวกันหลายแบบจำลองพบว่า กลางปี 2555 มีแนวโน้มอาจจะเกิดภัยแล้ง เนื่องจากมีปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เปลี่ยนไปจากลานิญาไปเป็นเอลนีโญมากขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่กรมชลฯ จะต้องบริหารความเสี่ยงนี้ให้ได้ เพราะเชื่อว่าปัญหาการขาดน้ำจะสร้างความเสียหายที่หนักหนายิ่งกว่าน้ำท่วมอีก ดังนั้น การแก้ปัญหาจึงต้องรับฟังข้อมูลและตัดสินใจว่าจะมีการบริหารความเสี่ยงอย่างไร

เช่นเดียวกัน การแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในระยะยาวด้วยการสร้างอ่างเก็บน้ำก็จำเป็นต้องนำข้อมูลต่างๆ ไปคิดประกอบ เช่น การกระจายของน้ำฝน อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นอาจจะไม่ได้รองรับน้ำทั้งหมดเพราะฝนมีการกระจายตัวในหลายพื้นที่ และไม่มีทิศทางที่แน่นอน ข้อมูลหรือแนวโน้มที่ได้จากแบบจำลองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งในอนาคต

นอกจากนี้ อาจารย์เสรีได้ชี้บทเรียนที่ได้รับผ่านมหาอุทกภัยเมื่อปีก่อน ดังนี้

1.ข้อมูลไม่ไปถึง จึงควรมีการแปรข้อมูลไปสู่ภาคประชาชนให้เกิดความตระหนัก ซึ่งจะนำไปสู่ความตระหนักของชุมชนและประเทศต่อไป

2.ขาดระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ ต้องมีแผนรองรับ โดยมีการประเมินผลกระทบของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียว่าเป็นอย่างไร ต้องประเมินทันทีและสื่อสารในทันทีในภาวะปกติ

3.Floodway หรือ Flood all ways ต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่าทางผ่านน้ำไม่ใช่น้ำผ่านทุกทาง เพื่อประกอบการตัดสินใจและสามารถวางแผนได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ

4.นิคมอุตสาหกรรมจมน้ำ สิ่งที่ประเมินแล้วว่าโครงการต่างๆ ทำแล้วมีประสิทธิผล ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมใช้วิธีการสร้างผนังกั้นน้ำ 2 ชั้น สูง 4 – 6 เมตร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่สิ่งสำคัญคือชุมชนเพราะโรงงานต้องมีแรงงานคน การสร้างความเชื่อมั่นจึงต้อง สร้างจากชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสามารถเดินต่อไปได้

5.จุดอพยพ เกิดการย้ายแล้วย้ายอีก เช่น ศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ย้ายไปดอนเมืองและย้ายต่อไปกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้เกิดจากการขาดระบบประเมินที่ไม่สามารถประเมินเหตุการณ์ได้ทั้งก่อนและขณะเกิดเหตุ จึงต้องมีการหาระบบในการตัดสินใจต่อไป

6.ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถสื่อไปยังประชาชนได้ เนื่องจากขาดระบบการประเมินนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเองก็มี พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ที่ถือว่าเป็นกฎหมายที่ดีฉบับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ไม่เคยได้ประกาศใช้ เช่นกันกับกฎหมายให้ชุมชนมีส่วนร่วมระบุว่าในชุมชนมีหมู่บ้าน หน่วยงานเอกชน ฯลฯ เท่าไหร่ แล้วไปต่อกับชุมชนอื่นเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ โดยมีภาครัฐดูแลให้เป็นภาพรวม

“สุดท้าย ในเมื่อแผนต่างๆ ของรัฐยังคงต้องใช้ระยะเวลา สิ่งสำคัญที่สุดจึงเป็นท้องถิ่นที่ต้องมีแผนรับมือภัยพิบัติ โดยสามารถบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐได้ แต่ระยะยาวคงหนีไม่พ้นการสร้างฟลัดเวย์” เสรี ระบุ


โพสต์ทูเดย์
25 มกราคม 2555 เวลา 20:57 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:34:05


ความคิดเห็นที่ 4818 (1594562)

 

25/01 อ.ปราโมทย์ แนะรัฐบาลยึดพระราชดำริฟลัดเวย์แก้ท่วมกรุง
 
 


อ.ปราโมทย์ ไม้กลัด ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ(กยน.) บรรยายเรื่อง แนวทางพระราชดำริและการบริหารจัดการน้ำ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งสถาบันเอเซียศึกษา ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จัดงานเสวนาในหัวข้อ  "อภิมหาโปรเจกต์ สู้น้ำ: คิดดี คิดชอบ คิดรอบ หรือยัง?"โดยกล่าวว่า แนวพระราชดำริเรื่องการบริหารจัดการน้ำท่วมเพื่อคลี่คลายปัญหาอย่างไรให้หมดไปในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานหลักคิดเรื่องการบริหารจัดการน้ำในกทม.และปริมณฑลฝั่งตะวันออกตั้งแต่เมื่อปี 2523 ต้องระบายน้ำออกสู่ทะเลผ่านคลองต่างๆไปฝั่งตะวันออก และทรงกำหนดให้ด้ายตะวันออกต้องเป็นพื้นที่สีเขียว (Green Belt) ที่เป็นพื้นที่นา ให้แปรสภาพได้เมื่อมีน้ำหลาก เป็นทางระบายน้ำ พร้อมสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมในเขตชุมชน ขยายทางน้ำหรือเปิดทางน้ำในจุดที่ผ่านทางหลวงหรือทางรถไฟ ซึ่งได้พระพระราชทานไว้อย่างสมบูรณ์ ส่วนสิ่งก่อสร้างของฟลัดเวย์จะมีลักษณะอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการศึกษาวิเคราะห์ทางวิศวกรรมและการมีส่วนร่วมของสังคม เมื่อมีงานฟลัดเวย์ที่สมบูรณ์แล้วก็ต้องดูว่าจะลดผลกระทบ หรือมีผลกระทบระหว่างกลุ่มประชาชนหน้าและหลังคันกั้นน้ำหรือไม่ ฟลัดเวย์เป็นเพียงคำรวม พระองค์ท่านได้ทรงรับสั่งมานานแล้ว หลังจากนี้ต้องศึกษาทำอุโมงค์หนือไม่ เพราะน้ำไม่มีทางไป  "ปี 2554 เห็นชัดเจนที่มีปัญหาเพราะการเร่งระบายน้ำมีปัญหา เนื่องจากมีการสร้างกระบวนการสกัดกั้น แทนที่จะจัดการกับสิ่งกีดขวาง และหลักคิดหลักทำการจัดการอุทกภัยกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะนี้ยังไม่ตกผลึก และแผนกยน.ที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงก็ยังไม่รู้จะออกมาอย่างไร ก็เห็นว่าต้องยึดหลักคิด ยึดหลักสู้ภัยเป็นหลัก"

http://www.paipibut.org/view.php?dataid=13686

รายงานพิเศษ ยึดแนวพระราชดำริแก้ปัญหาน้ำในอนาคต

http://ufokaokala.com/index.php?topic=5556.msg46703;topicseen#msg46703

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:36:21


ความคิดเห็นที่ 4819 (1594563)

 

น้ำท่วมที่รัฐเท็กซัส และโคลอมเบีย
 


พายุทอร์นาโดอย่างน้อย 3 ลูกพัดถล่มรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ อย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วม เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางในหลายพื้นที่ของรัฐ ขณะที่โคลอมเบีย ฝนตกหนักต่อเนื่อง 60 ชั่วโมง ทำให้หลายเมืองทางตะวันตกของประเทศจมอยู่ใต้น้ำ

เริ่มกันที่รัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุทอร์นาโด อย่างน้อย 3 ลูก เคลื่อนตัวพัดถล่มเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง โดยบางพื้นที่น้ำท่วมถนนในระดับสูง จนมิดหลังคารถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ รวมไปถึงป้ายสัญญาณจราจรต่างๆ ขณะที่ลมกระโชกแรง ทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณ ประชาชนหลายพันครัวเรือนต้องอยู่โดยไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ขณะเดียวกันมีรายงานว่าถนนในเมือง Dallas , San Antonio และ Austin ถูกปิดทุกเส้นทางไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทั้งนี้สภาพอากาศที่เลวร้าย เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน จากสนามบินนานาชาติ Dallas-Fort Worth ราว 30 เที่ยวบิน เพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม นักพยากรณ์อากาศเผยว่า แม้ว่าอิทธิพลของพายุทอร์นาโด จะทำให้เกิดฝนตก บริเวณทางตอนเหนือของรัฐเท็กซัส แต่ก็ยังไม่สามารถยุติภัยแล้งครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่กำลังเผชิญอยู่ได้

มาต่อกันที่สถานการณ์น้ำท่วมที่โคลอมเบียก็รุนแรงไม่แพ้กัน โดยฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง 60 ชั่วโมง ในเมือง Cauca Valley ทำให้เกิดน้ำท่วมสูง หลังจากที่ระดับน้ำในแม่น้ำ Cauca เพิ่มสูงขึ้นและเอ่อท้นเข้าท่วมถนนหนทาง ในเมือง Cali และเมืองใกล้เคียง ทำให้ประชาชนกว่า 1 พันครัวเรือน ต้องอพยพหนีน้ำ โดยบางคนใช้เรือแคนนูขนของอพยพไปอยู่ที่สูง

เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินของท้องถิ่น เผยว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม 28 หลัง ถนน และ สะพานหลายแห่งถูกกระแสน้ำพัดจนถูกตัดขาด พื้นที่การเกษตรจมไปกับน้ำได้รับความเสียหาย ขณะนี้มีประชาชนราว 3,500 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ และกำลังต้องการเต้นท์ที่พักชั่วคราว และ สิ่งของยังชีพ เป็นการด่วน


คลิปวิดีโอ
http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/51093/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%AA-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2.html


 

น้ำท่วมที่รัฐเท็กซัส



ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:38:28


ความคิดเห็นที่ 4820 (1594564)
ทอร์นาโดถล่มหลายพื้นที่ในอินโดนีเซีย คร่าชีวิตไป 7 คน

จาการ์ตา 26 ม.ค.- สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 7 คนจากทอร์นาโดถล่มหลายพื้นที่ของอินโดนีเซียในวันนี้

เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติของอินโดนีเซียกล่าวว่า นอกจากมีผู้เสียชีวิต ยังมีผู้บาดเจ็บ 51 คน บ้านเรือนเสียหาย 1,012 หลังทั่วประเทศ ทอร์นาโดลูกนี้ได้รับอิทธิพลจากไซโคลนโซนร้อนอิกกีในมหาสมุทรอินเดีย กระหน่ำเกาะชวาและบาหลี ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกต้นไม้ล้มทับ มีทั้งคนในจังหวัดชวากลาง กรุงจาการ์ตา และจังหวัดบาหลี



 
น้ำท่วมและดินถล่มในฟิจิมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน


ฟิจิ 26 ม.ค. - อุทกภัยและดินถล่มคร่าชีวิตผู้คนในฟิจิไปแล้ว 6 คน และไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายพันคน

สถานการณ์น้ำท่วมหนักและดินถล่มในฟิจิ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน และไร้ที่อยู่อาศัยเพิ่มอีกหลายร้อยคน หลังจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวบ้านจำนวน 3,500 คน ต้องอพยพไปอาศัยอยู่ตามที่พักชั่วคราว ชาวบ้านหลายคนต้องสิ้นเนื้อประดาตัวจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คนนี้ เป็นหนูน้อยวัยหัดเดินถึง 2 คน ขณะที่บางคนเสียชีวิตหลังพยายามนำปศุสัตว์ที่เลี้ยงไว้หนีกระแสน้ำ อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่เริ่มดีขึ้นก่อให้เกิดความหวังว่า สถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มครั้งนี้จะยุติลงโดยเร็ว


คลิปข่าว
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/323414.html


สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:40:49


ความคิดเห็นที่ 4821 (1594565)

 

อพยพประชาชนนับพันจากน้ำท่วมในออสเตรเลีย

ซิดนีย์ 25 ม.ค. – ชาวออสเตรเลียนับพันต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในวันนี้ ขณะที่อีกนับสิบได้รับการช่วยเหลือ หลังเกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ขณะที่พายุไซโคลนลูกหนึ่งกำลังก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก

หน่วยฉุกเฉินออสเตรเลียอพยพประชาชนราว 4,200 คนใน 5 เมือง ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เนื่องจากเกิดพายุพัดกระหน่ำอย่างหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้น้ำในแม่น้ำหลายสายล้นตลิ่ง อิทธิพลของพายุฝนยังทำให้เกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มในรัฐควีนส์แลนด์ ทำให้บ้านเรือนหลายหลังจมใต้กระแสน้ำและถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรได้ และมีรถยนต์ถูกกระแสน้ำพัด หน่วยฉุกเฉินต้องเข้าช่วยเหลือ

รัฐควีนส์แลนด์ได้ยกเลิกคำเตือนสภาพอากาศแล้ว เนื่องจากสถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า ฝนอาจกลับมาตกอีกในคืนวันศุกร์หรือวันเสาร์ และมีความเป็นไปได้ว่าพายุไซโคลนที่กลังก่อตัวบริเวณตอนเหนือของรัฐอาจทำให้เกิดกระแสลมแรงและฝนหนัก






เหตุดินถล่มในปาปัวนิวกินีมีผู้สูญหายหลายสิบคน


ปาปัวนิวกินี 25 ม.ค. - เหตุดินถล่มทับหมู่บ้าน 2 แห่ง ในปาปัวนิวกินี ยังผลให้มีผู้สูญหายแล้วหลายสิบคน

ความคืบหน้าเหตุดินถล่มทับหมู่บ้านอย่างน้อย 2 แห่ง ในปาปัวนิวกินี ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวของบริษัท เอ็กซอนโมบิล ล่าสุดยังมีผู้สูญหาย 40 คน เหตุดินถล่มซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่วานนี้ ส่งผลให้โครงการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวดังกล่าวต้องหยุดชะงักไปด้วย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวกำหนดจะเริ่มเดินหน้าการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว ภายในปี 2557 ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของปาปัวนิวกินีให้เติบโตถึงร้อยละ 20 และจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า มีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากเหตุดินถล่มครั้งนี้จำนวนเท่าใด




 
พายุหิมะถล่มดาวอสก่อนเปิดฉากเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม

 


สวิตเซอร์แลนด์ 25 ม.ค.-พายุหิมะพัดถล่มเมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์อย่างหนัก สร้างความหนักใจให้เจ้าหน้าที่ในการเตรียมความพร้อมการประชุมเศรษฐกิจโลก หรือเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ประจำปีนี้

ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เมืองดาวอสเผชิญพายุหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก คืนที่ผ่านมาเพียงคืนเดียวมีหิมะตกหนาถึง 16 นิ้ว ขณะที่ถนนบางสายมีหิมะปกคลุมหนาถึง 2.5 เมตร เจ้าหน้าที่จัดการประชุมเศรษฐกิจโลก หรือเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ต้องส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหลายพันนายเพื่อใช้พลั่วตักหิมะออกจากถนนและบริเวณโรงแรมที่พัก ซึ่งบรรดาผู้นำทางการเมือง เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการ และผู้บริหารระดับสูงของภาคธุรกิจและเอกชนกว่า 2,600 คน จากเกือบ 100 ประเทศจะเดินทางมาเข้าพักและร่วมการประชุม ขณะที่มีการประกาศเตือนภัยหิมะถล่มลงมาจากภูเขาเหนือเมืองตากอากาศแห่งนี้

สำหรับการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่มประจำปี 2012 จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้




สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 01:41:30


ความคิดเห็นที่ 4822 (1594566)
พายุสุริยะถล่มโลกรุนแรงสุดในรอบ 6 ปี
 

ภาพดวงอาทิตย์ปะทุเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลามาตรฐานตะวันออก

เมื่อใกล้เที่ยงวันจันทร์ที่ผ่านมา ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะได้ยิงกระสุนอนุภาคมีประจุพุ่งตรงมายังโลก เหตุการณ์ดังกล่าวคือปรากฏการณ์พายุสุริยะที่รุนแรงที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งสิ่งที่น่าห่วงที่สุดคือการทำงานของดาวเทียมในวงโคจรและมนุษย์อวกาศที่อยู่นอกโลก
       
       จากรายงานขององค์การมหาสมุทรและบรรยากาศสหรัฐฯ (National Oceanic and Atmospheric Administration) หรือโนอา (NOAA) นั้น เอพีระบุว่าเกิดการปะทุ (flare) บนดวงอาทิตย์ เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันอาทิตย์ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (หรือเวลา 11.00 น. ของวันที่ 23 ม.ค.2012 ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อโลก 3 เรื่อง โดยประเด็นสำคัญสุดคือการแผ่รังสีจากอนุภาคมีประจุ
       
       ดัก บีเซคเกอร์ (Doug Biesecker) นักฟิสิกส์ประจำศูนย์สภาพอวกาศ (space weather center) ของโนอาระบุว่า การแผ่รังสีจากอนุภาคมีประจุนี้เป็นปัญหาใหญ่ในการรบกวนการทำงานของดาวเทียมและยังส่งผลกระทบต่อมนุษย์อวกาศที่อยู่ในวงโคจร โดยปราฏการณ์ดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุของปัญหาในการสื่อสารแก่เครื่องบินที่สัญจรในแถบขั้วโลก
       
       การแผ่รังสีจากการปะทุครั้งนี้มาถึงโลกในอีกชั่วโมงถัดมาและยังคงมีรังสีแผ่มาอย่างต่อไปจนถึงวันพุธตามเวลามาตรฐานตะวันออก (ต่างจากไทย 12 ชั่วโมง) แม้ว่าระดับรังสีที่แผ่มานี้จะถือว่ารุนแรงแต่ก็เคยมีพายุอื่นๆ ที่รุนแรงกว่า ซึ่งบีเซคเกิอร์กล่าวว่าความรุนแรงของพายุสุริยะตามมาตรฐานโนอานั้นแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ รุนแรง (severe) และ รุนแรงที่สุด (extreme) อย่างไรก็ดี พายุสุริยะครั้งนี้ก็ยังคงแผ่รังสีออกมารุนแรงที่สุดนับแต่เดือน พ.ค.2005
       
       การแผ่รังสีในรูปของอนุภาคโปรตอนจากดวงอาทิตย์นั้นพุ่งมาด้วยความเร็ว 150 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งบีเซคเกอร์กล่าวว่า อวกาศระหว่างโลกไปถึงดาวพฤหัสบดีนั้นเต็มไปด้วยโปรตอน และเราไม่อาจกำจัดอนุภาคเหล่านี้ไปด้วยความเร็วระดับพายุสุริยะได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอนุภาคที่ดวงอาทิตย์ส่งมาจึงส่งผลกระทบต่อโลกอยู่หลายวัน
       
       ทางด้าน ร็อบ นาไวแอส (Rob Navias) โฆษกขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) กล่าวว่า แพทย์ประจำเที่ยวบินอวกาศและและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับปรากฏการณ์จากดวงอาทิตย์ของนาซาได้ประเมินผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการปะทุของดวงอาทิตย์ และตัดสินว่ามนุษย์อวกาศ 6 คนที่ประจำอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) ไม่จำเป็นต้องทำการใดเพื่อป้องกันตัวเองจากรังสี
       
       แอนต์ติ พัลก์กิเนน (Antti Pulkkinen) นักฟิสิกส์ของศูนย์การบินอวกาศก็อดดาร์ด (Goddard Space Flight Center) ในมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์แอนด์คาธอลิก (Maryland and Catholic University) กล่าวว่าการปะทุของดวงอาทิตย์เกิดขึ้นเป็นจังหวะ 3 จังหวะต่อเนื่องกัน ครั้งแรกคือการแผ่รังสีของอนุภาคแม่เหล็กไฟฟ้า ตามมาด้วยการแผ่รังสีในรูปอนุภาคโปรตอน
       
       สุดท้ายเป็นการพ่นมวลโคโรนา (coronal mass ejection) หรือซีเอ็มอี (CME) ซึ่งเป็นพลาสมาจากดวงอาทิตย์เอง ซึ่งปกติความเร็วของการแผ่รังสีอยู่ที่ 1.6-3.2 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ครั้งนี้ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และพลาสมานี้เองก็สร้างปัญหาบนโลกได้อย่างมาก เช่น ทำให้สายส่งไฟฟ้าไม่ทำงาน ซึ่งเมื่อปี 1989 พายุสุริยะได้เป็นสาเหตุให้เกิดไฟดับครั้งใหญ่ที่เมืองควิเบก (Quebec) ของแคนาดา และยังทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงเหนือ (northern light) หรืออโรรา (aurora) ลงใต้มากกว่าปกติ
       
       บีเซคเกอร์กล่าวว่า การพ่นมวลโคโรนานี้เหมือนจะมีความรุนแรงระดับกลางๆ ที่มีโอกาสจะรุนแรง โดยความเสียหายเลวร้ายที่สุดของพายุสุริยะนี้จะเกิดขึ้นบริเวณตอนเหนือของโลก แต่ปรากฏการณืครั้งนี้ต่างไปจากเหตุการณ์เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเกิดพายุสุริยะแปลกประหลาดที่ทำให้เกิดแสงออโรราลงใต้มาไกลถึงอลาบลามาของสหรัฐฯ แต่หนนี้เขากล่าวว่าจะไม่เกิดแสงเหนือลงใตมาไกลเช่นนั้นแล้ว โดยบางส่วนของรัฐนิวอิงแลนด์ ตอนเหนือของนิวยอร์ก ตอนเหนือของมิชิแกน มอนทานา และฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกจะเกิดปรากฏการณ์แสงออโรราให้เห็น
       
       ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ดวงอาทิตย์ของเราค่อนข้างเงียบสงบ และดูเหมือนจะเงียบสงบเกินไป ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหตุการ์ณปกติตามวัฏจักร 11 ปีของกิจกรรมบนดวงอาทิตย์ และเมื่อปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ก็เริ่มครุ่นคิดว่าดวงอาทิตย์อาจจะเข้าสู่วัฏจักรสงบนิ่งอย่างผิดปกติซึ่งอาจจะเกิดประมาณศตวรรษละครั้ง แต่ตอนนี้บีเซคเกอร์กล่าวว่าไม่การเงียบผิดปกติเช่นนั้นแล้ว
       
       บีเซคเกอร์บอกด้วยว่าตอนนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังจับตาดูดวงอาทิตย์ด้วยดาวเทียมดวงใหม่ของนาซาที่ถูกส่งขึ้นไปเมื่อปี 2010 ระหว่างที่ดวงอาทิตย์กำลังสงบ ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยิ่ง เพราะเราไม่ได้เห็นเหตุการณ์ปะทุของดวงอาทิตย์มาหลายปีแล้ว ดังนั้น เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องพิเศษ


ผู้จัดการออนไลน์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 02:07:18


ความคิดเห็นที่ 4823 (1594567)

 

แสงเหนือรูปร่างประหลาดเริ่มปรากฏในหลายประเทศแถบขั้วโลกเหนือ
 
น่าศึกษา อย่าพลาดดูคลิป
เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นค่ะ
 


เกิดพายุสุริยะขึ้นครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005 หลังจากเกิดการระเบิดครั้งใหญ่บนผิวดวงอาทิตย์ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งพลังงานผ่านมายังโลกโดยผลกระทบคาดว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันอังคาร ต่อเนื่องมายังวันพุธตามเวลาในสหรัฐ โดยแรงระเบิดดังกล่าวได้ให้เกิดหลุมบนพื้นผิวดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะแผ่รัศมีส่งผลกระทบต่อขั้วแม่เหล็กบนโลก
 
การระเบิดดังกล่าวได้ปล่อยรังสี และพลาสมา ที่ประกอบไปด้วยอิเลคตรอน และโปรตอนปริมาณมหาศาลที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์โดยตรง โดยพลาสมาที่เกิดขึ้น เดินทางด้วยความเร็วหลายล้านไมล์ต่อชั่วโมง และจะก่อให้เกิดพายุสุริยะเดินทางที่ความเร็ว 93 ล้านไมล์ต่อชั่วโมงมายังโลก
 
ทั้งนี้ พายุสุริยะดังกล่าว ยังทำให้เกิดแสงเหนือรูปร่างประหลาด เหนือท้องฟ้าในหลายประเทศใกล้เขตขั้วโลกเหนือ อาทิ สก็อตแลนด์, แคนาดา และนอร์เวย์ โดยคาดว่า แสดงเหนือรูปทรงแปลกตาเหล่านี้ จะสามารถเห็นได้ต่อไปอีกราว 2-3 วัน
 
ตามปกติแล้ว สำหรับพื้นที่สหราชอาณาจักร จะเห็นแสงเหนือได้ในพื้นที่เฉพาะบริเวณตอนเหนือของสก็อตแลนด์ในบางครั้งเท่านั้น แต่ผลจากพายุสุริยะที่เกิดขึ้นทำให้แสงเหนือถอยลงไปทางตอนใต้มากขึ้น ทำให้ทางตอนเหนือของเกาะบริเทนใหญ่ของอังกฤษสามารถเห็นแสงเหนือนี้ได้



มติชน
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 02:10:10


ความคิดเห็นที่ 4824 (1594568)
พบ “เอลกอร์โด”
กลุ่มกาแลกซีใหญ่กว่าใครในจักรวาล
 


นักวิทยาศาสตร์ส่องกล้องโทรทรรศน์จากทะเลทรายในชิลีพบกลุ่มกาแลกซีขนาดใหญ่ที่สุดในจักรวาล มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเรา 2 พันล้านล้านเท่า ในที่ไกลออกไป 7 พันล้านปีแสง ตั้งชื่อ “เอล กอร์โด” หรือ “เจ้าอ้วน” ในภาษาสเปน
       
       ทั้งนี้ กลุ่มกาแลกซีคือโครงสร้างเสถียรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอกภพ ซึ่งบีบีซีนิวส์ระบุว่าทีมนักดาราศาสตร์ได้รายงานการค้นพบกลุ่มกาแลกซีที่มีขนาดใหญ่สุดในเอกภพภายในการประชุมของสมาคมดาราสาสตร์อเมริกัน ครั้งที่ 219 โดยกลุ่มกาแลกซีที่ถูกตั้งชื่อว่า “เอล กอร์โด” หรือ “เจ้าอ้วน” ในภาษาสเปนนั้นอยู่ไกลออกไป 7 พันล้านปีแสง และมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเรา 2 พันล้านล้านเท่า (ดวงอาทิตย์มีมวลมากกว่าโลก 330,000 เท่า)
       
       นักดาราศาสตร์กล่าวว่า เอล กอร์โดเป็นการรวมตัว (merger) ที่กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ โดยพวกเขาหวังที่จะเข้าใจได้ดีขึ้นว่า กลุ่มกาแลกซีต่างๆ นั้นก่อตัวขึ้นอย่างไร โตขึ้นได้อย่างไร และชนเข้ากับกลุ่มกาแลกซีอื่นได้อย่างไร โดยกลุ่มกาแลกซีให้ความเป็นที่สุดระดับจักรวาลจำนวนมาก โดยการรวมตัวคือหนึ่งในความเป็นที่สุดดังกล่าว และการรวมตัวของกลุ่มกาแลกซี เอล กอร์โด คือเหตุการณ์ที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล จากการที่สสารปริมาณมหาศาลและสสารมืดอันลึกลับเข้าปะทะกันด้วยความเร็วอันยิ่งยวด
       
       การเติบโตของกลุ่มกาแลกซีและการรวมตัวนั้นได้รับแรงขับจากแรงโน้มถ่วง ซึ่งสสารทั่วไปที่เรารู้จักนั้นมีบทบาทในการดึงสิ่งต่างๆ ไว้ด้วยกัน ขณะที่สสารมืดอันลึกลับที่เป็นแรงขับให้เอกภพขยายตัวกลับมีบทบาทในการดึงให้สิ่งต่างๆ แยกออกจากกัน และการทำแผนที่กระบวนการเติบโตของกลุ่มกาแลกซี เป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจถึงผลที่แรงมืด (dark force) กระทำต่อกัน
       
       กลุ่มกาแลกซีอ้วนใหญ่นี้ถูกค้นพบด้วยกล้องโทรทรรศน์อาทาคามาคอสโมโลจี (Atacama Cosmology Telescope) บนภูเขาสูงในชิลี ทั้งนี้ กลุ่มกาแลกซีทั้งหลายคล้ายๆ กับเอลกอร์โดนี้จะปลดปล่อยอนุภาคที่มีพลังงานมหาศาลออกมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อรังสีพื้นหลังซีเอ็มบี (cosmic microwave background: CMB) ซึ่งเป็นรังสีจางๆ ฟุ้งทั่วเอกภพที่หลงเหลือหลังระเบิดบิกแบง (Big Bang)
       
       ทางด้าน ศ.แจ็ค ฮิวจ์ส (Jack Hughes) จากมหาวิทยาลัยรัทเจอร์ส (Rutgers University) ในนิวเจอร์ซี สหรัฐฯ กล่าวว่า เรามองเห็นกลุ่มกาแล็กซีเอล กอร์โดอยู่ในตำแหน่งไกลออกไปประมาณ 7 พันล้านปีแสง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่บ่งถึงช่วงเวลาที่เอกภพมีอายุน้อยกว่าปัจจุบันประมาณครึ่งหนึ่ง และเป็นช่วงเวลาที่โครงสร้างของกลุ่มกาแลกซีกำลังก่อตัวในอัตราที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ เมื่อเราเข้าใจคุณสมบัติของเอลกอร์โด เราก็สามารถทำความเข้าใจวิวิวัฒนาการในช่วงเวลาของการ ก่อโครงสร้างของเอกภพได้
       
       เมื่อเทียบกับกลุ่มกาแลกซีที่อยู่ในระยะทางพอๆ กัน เอลกอร์โดมีขนาดใหญ่กว่า 2 เท่า และภาพที่เราเห็นคือภาพขณะที่กลุ่มกาแลกซีขนาดใหญ่นี้มีอายุครึ่งชีวิตแล้ว โดยใช้กลุ่มกาแลกซีที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อช่วยหาอายุของกลุ่มกาแลกซียักษ์นี้
       
       “เอลกอร์โดกำลังโตขึ้นเรื่อยๆ เราสามารถหาว่ามวลของมันจะเป็นเท่าไร แต่โชคไม่ดีที่แบบจำลองยังคลุมเครือ แต่มันก็เป็นกลุ่มกาแลกซีที่มีมวลมากที่สุดที่เรารู้จัก” ศ.ฮิวจ์สกล่าว


ผู้จัดการออนไลน์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 02:11:53


ความคิดเห็นที่ 4825 (1594569)
 
ข้อมูลน่าอ่านค่ะ
 
อีกหน่อยอาจจะไม่มียาสีฟันให้ใช้
 


วิศวกรจาก University of Missouri (MU) ได้จับมือร่วมกับ Nanova, Inc ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแปรงสีฟันพลาสม่า ที่สามารถแปรงได้แบบไม่เจ็บเหงือก แถมยังสะอาดหมดจด ทำให้ฟันไม่สึกหรอด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงของการจะเริ่มทดลองกับมนุษย์ ถ้าทุกอย่างไปได้สวย เราอาจจะได้มีแปรงแบบนี้ไว้ใช้กันภายในช่วงปลายปี 2013

กระบวนการทั้งหมดได้ผ่านการทดลองในห้องแล็ปแล้วว่าไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ในการทำความสะอาดฟันแต่ละซี่จะใช้เวลาประมาณ 30 วินาที วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะฆ่าแบคทีเรียด้วยประจุไฟฟ้า แต่มันยังช่วยปรับเปลี่ยนผิวฟันเพื่อให้ยึดเกาะกับสารเคลือบต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แต่ปัญหาหลัก ๆ ของการอุดฟัน ก็คือ วัสดุที่ใช้อุดมันจะมีอายุการใช้งาน 5-7 ปี เมื่อถึงเวลาก็ต้องมาอุดใหม่ ซึ่งฟันซี่นึงจะสามารถอุดได้แค่ 2-3 ครั้งหลังจากนั้นก็จะอุดไม่ได้อีกต้องถอนออก แต่การใช้พลาสม่าในการปรับสภาพผิวฟันจะช่วยให้วัสดุที่ใช้อุดสามารถยึดติดกับฟันได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มอายุการใช้งานให้นานขึ้นไปอีก ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ จากการศึกษาพบว่าการใช้แปรงสีฟันพลาสม่าจะช่วยให้สารที่ใช้อุดฟันยึดเกาะได้ดีขึ้นถึง 60%


ครอบครัวข่าว 3
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 02:14:45


ความคิดเห็นที่ 4826 (1594570)
อีกแล้ว! ผู้ดีแชะภาพ"ยูเอฟโอ" เหนือน่านฟ้าอังกฤษ


ชายชาวอังกฤษสามารถถ่ายภาพยูเอฟโอได้ เหนือน่านฟ้ามณฑลเดวอน ตอนใต้ของอังกฤษ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่า แกรี แม็คเดอร์มอตต์ ชายชาวอังกฤษ อ้างว่า เขาสามารถถ่ายภาพ วัตถุบินไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ หรือยูเอฟโอ ได้ที่นครพลิมัธ มณฑลเดวอน ขณะที่เขากำลังถ่ายภาพเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินในระดับต่ำ บนสะพานรอยัล อัลเบิร์ต

แม็คเดอร์มอตต์เล่าว่า เมื่อวันอาทิตย์เวลาประมาณ 21:00น. ตามเวลาท้องถิ่น เขาขับรถข้ามสะพานรอยัล อัลเบิร์ต ต่อมาจึงได้จอดรถเพื่อลงมาถ่ายภาพเฮลิคอปเตอร์ ทันใดนั้นเขาก็เห็น วัตถุประหลาดมีสีแดงบินอยู่บนท้งอฟ้าสูงขึ้นไป เขาไม่รอช้ารีบถ่ายภาพเก็บไว็เป็นหลักฐาน ก่อนที่สิ่งนั้นจะหายไป

"ผมไม่อยากเชื่อตาตัวเอง นั่นต้องเป็นยูเอฟโอแน่นอน รูปร่างของมันไม่ใช่อากาศยานทั่วๆไปแน่ มันมีสีแดง รูปร่างเหมือนจาน และมีไฟสองจุดออกมาจากตัวยานด้วย ผมถ่ายภาพมันไว้ได้ แต่ยังไม่ทันได้บอกเพื่อนให้ดูเจ้าสิ่งนั้นเลย มันก็หายไปแล้ว" แม็คเดอร์มอตต์กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อราวสองสัปดาห์ก่อน ประชาชนในมณฑลเอสเซ็กส์ และมณฑลเคนท์ ทางตอนใต้ของอังกฤษ สามารถถ่ายภาพที่อ้างว่าเป็นยูเอฟโอได้เช่นกัน โดยในครั้งนั้นติดภาพแสงลึกลับได้ถึง 6 จุด


ยูเอฟโอมณฑลเคนท์

ยูเอฟโอมณฑลเอสเซ็กส์

ไทยรัฐออนไลน์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 02:16:21


ความคิดเห็นที่ 4827 (1594605)

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

สำหรับธรรมทานของ

พี่ตาลและพี่อาริยาด้วยค่ะ

สาธ สาธุ สาธุ ค่ะ

ขยันหาข้อมูลเพื่อมาคอยเตือนญาติธรรมให้เกิดความเตรียมพร้อมกันอย่างสม่ำเสมอค่ะ

..............

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (นางสาวลักขณา ศรประสิทธิ์) (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-27 11:00:49


ความคิดเห็นที่ 4828 (1594689)

เขื่อนภูมิพลปรับยุทธศาสตร์เตรียมรับน้ำใหม่
 
 

เขื่อนภูมิพล ปรับยุทธศาสตร์เตรียมรับน้ำใหม่ พร้อมรับมือมรสุมได้ 3 - 4 ลูก เร่งระบายน้ำทั้งหมด




นายณรงค์ ไทยประยูร ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลว่า พร่องน้ำลงไปเหลืออยู่ที่ร้อยละ 85 จึงมีน้ำอยู่ที่ 11,500 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยได้รับแผนการระบายน้ำจากคณะอนุกรรมการจัดสรรน้ำ เพื่อการเพาะปลูกในฤดูแล้ง กำหนดว่าจากเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนเมษายน 2555 ต้องระบายน้ำออกไป ต้องระบายน้ำออกไปถึง 7,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เพื่อเตรียมรอรับน้ำใหม่


ขณะเดียวกันเขื่อนภูมิพลจำเป็นต้องเดินเครื่องทุกเครื่องอย่างเต็มที่

โดยมีเป้าหมายในเดือนมกราคมนี้ต้องระบายน้ำออกไป 1,650 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันถ้าเดินเครื่องในลักษณะนี้ทั้งเดือนก็จะทำได้ตามเป้าหมาย และในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม มีปริมาณที่จะให้ระบายได้อยู่ที่ 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร และในเดือนเมษายนจะระบายได้ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร


นายประยูร กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้เขื่อน และคณะอนุกรรมการจัดสรรน้ำ

ทางรัฐบาลต้องการใช้ประโยชน์จากเขื่อนในการควบคุมน้ำหลาก แต่เดิมกระบวนการหรือแนวคิดมีการเก็บน้ำเพื่อเกษตรกรรม แต่ในปีนี้นโยบายก็เปลี่ยนไปซึ่งต้องมีการระบายน้ำมากขึ้น โดยคณะอนุกรรมการจัดสรรน้ำจะนำเรื่องนี้เข้าประชุมอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม น้ำต้นทุนก็มีส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม 2555 ต้องมีการปล่อยน้ำไปตามที่กำหนดไว้


ฉะนั้นหากว่าระบายน้ำไปตามที่กำหนดไว้อีกครั้งหนึ่ง ก็จะมีช่องว่างของพื้นที่รับน้ำใหม่โดยสามารถรับน้ำใหม่ได้ 6,500 ล้านลูกบาศก์เมตร จะสามารถรองรับต่อมรสุมที่จะเข้ามา 3 - 4 ลูก ในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน และเดือนตุลาคม จึงมีความเป็นไปได้ว่า เขื่อนจะต้องกักเก็บน้ำลดลง

 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-28 02:00:02


ความคิดเห็นที่ 4829 (1594690)

 

"ยงยุทธ" วอน "สมิทธ"

อย่าลาออกกยน.เลย

บอกที่ผ่านมา

รับฟังตลอด

 
 

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง ความเหมาะสมกรณีที่นายสมิทธ ธรรมสโรช กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารการจัดการน้ำ (กยน.) เตรียมลาออกจากคณะกรรมการชุดนี้ว่า

ขอให้นายสมิทธร่วมในคณะกรรมการชุดนี้ต่อไป เนื่องจากมีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลรับฟังนายสมิทธ มาโดยตลอด

ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น แม้ว่า นายผดุง จะมีภาพเป็นมือขวาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เห็นว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อล้างบางข้าราชการกระทรวงมหาดไทย แต่เป็นการแต่งตั้งตามความรู้ ความสามารถ ที่เหมาะสม ทั้งนี้ ตำแหน่งทางการเมืองต้องมีการหมุนเวียนสลับ เพื่อความเหมาะสม




 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-28 02:04:45


ความคิดเห็นที่ 4830 (1594691)

สมิทธ เตือนอีก 4 เดือน จมน้ำอีก - ปลอดประสพ ยันเอาอยู่



ดร. สมิทธ ธรรมมสโรช





4เดือนจมน้ำอีก‘สมิทธ’บ่นกยน.เหลวไร้รูปธรรม (ไทยโพสท์)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
ครอบครัวข่าว 3

นับถอยหลัง 4 เดือนเตรียมจมน้ำอีกครั้ง "สมิทธ" บ่นพึม กยน.เหลว อนุมัติแต่งบประมาณ แต่ยังไม่ลงมือป้องกันน้ำท่วมที่เป็นรูปธรรม เตือนลานีญา ตั้งแต่พฤษภาคมปริมาณฝนมหาศาลเท่าปีที่แล้วมาแน่ "ปลอด" ยันเอาอยู่ กทม.ไม่ท่วมล้านเปอร์เซ็นต์ ส่วนปริมณฑลพลเมืองชั้นสองเตรียมยกของเพราะเป็นทางระบายน้ำ

ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จัดเสวนา “ถอดบทเรียนเหตุการณ์มหาอุทกภัย สานพลังเครือข่าย รับภัยพิบัติ 2555” โดยมีนายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) บรรยายพิเศษหัวข้อ “ภัยพิบัติธรรมชาติและสถานการณ์ภัยพิบัติของโลกในอนาคต”

นายสมิทธกล่าวว่า ต่อจากนี้ไปสถานการณ์การเกิดภัยพิบัติจะเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะน้ำท่วม เนื่องจากมีการทำนายโดยอาศัยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า ประมาณช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป จะมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมหาศาลคล้ายกับปีที่ผ่านมา เพราะเกิดปรากฏการณ์ลานีญา เพราะฉะนั้นเราจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

เขาบอกว่า จากการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารทรัพยากรน้ำ (กยน.) มีการประชุมทั้งหมด 5 ครั้ง แต่ตนเข้าร่วมเพียง 3 ครั้งแรกเท่านั้น เพราะเห็นว่าเสนอความเห็นอะไรออกไปคณะกรรมการท่านอื่น ๆ จะไม่เห็นด้วย และไม่ปฏิบัติตาม จึงมองไม่เห็นความจำเป็นที่เข้าร่วมการประชุมอีก แต่ยืนยันว่ายังไม่ได้ลาออกจากการเป็นคณะกรรมการชุดดังกล่าว

นายสมิทธเห็นว่า การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขหรือรับ มือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่คาดว่าจะท่วมอีกครั้งในช่วงฤดูฝนนี้ กยน.ยังไม่ทำอะไรนอกจากการอนุมัติงบประมาณจำนวน 3.5 แสนล้านบาทเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราต้องมาติดตามดูว่ารัฐบาลจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาภัยพิบัตินี้ อย่างไร

“ที่เขาออกมาบอกว่าจะมีการขุดลอกคูคลองนั้น ผมว่าขุดลอกคูคลองอย่างเดียวมันไม่พอ ปริมาณน้ำมันมหาศาล และเท่าที่ดูตอนนี้ยังไม่มีการลงมือขุดลอกคูคลองที่ไหน หรือมีการซ่อมแซมประตูระบายน้ำที่ไหนเลย ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือบริหารจัดการน้ำต้องคำนวณปริมาณน้ำฝนและการปล่อยน้ำ ออกจากเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนใหญ่ ๆ จะต้องประสานข้อมูลกัน โดยปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในปริมาณที่สามารถปล่อยออกสู่ทะเลได้เช่นเดียวกัน อย่างนี้แล้วน้ำก็จะไม่ท่วม หรือไม่ท่วมหนัก” นายสมิทธกล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยภายหลังการประชุมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ กทม.ว่า รัฐบาลและ กทม.มีข้อตกลงร่วมกัน 12 ข้อ ได้แก่

1.รัฐบาลจะเข้าไปช่วย กทม.เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วม โดยทางฝ่ายรัฐบาลจะมอบหมายให้บางกระทรวงเข้าไปช่วย กทม.ในบางพื้นที่

2.งบประมาณที่ กทม.ได้รับไปแล้ว 1,964 ล้านบาทนั้นกทม.จะดำเนินการเอง 4 เรื่อง คือ การซ่อมแซมเขื่อนตามแนวลำน้ำ, การติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ, การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และปรับปรุงระบบระบายน้ำของคลองระพีพัฒน์

3.การขุดลอกคูคลอง 29 คูคลอง ซึ่งเป็นคลองสายหลัก กทม.ยินดีให้หน่วยราชการอื่นๆ ที่มีขีดความสามารถ เช่น ทหาร เข้าไปดำเนินการ

4.กองทัพเรือจะผลิตเครื่องผลักดันน้ำเคลื่อนที่จำนวน 100 เครื่อง เพื่อในกรณีเกิดความจำเป็น

5.กองทัพเรือและกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะร่วมกันเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิคในการออกแบบและติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ถาวรให้กับทุกจังหวัดที่มีความต้องการ

6.กองทัพบกจะดำเนินการขุดคูคลองใหม่ขนาดเล็ก 347 คลอง งบประมาณ 770 ล้านบาท ให้กับ กทม.

7. สำหรับท่อระบายน้ำของประชาชน เช่น บ้านจัดสรรซึ่งอุดตันในขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยจะร่วมมือกับทาง กทม. จะหารือกับเอกชน เพื่อขอเข้าไปดำเนินการ

8.ระบบเตือนภัย คณะทำงานของ กยน.กับ กทม.จะร่วมดำเนินการให้ระบบมีความเชื่อมต่อกัน ไม่แยกจากกัน ซึ่ง กทม.ได้งบไปแล้ว 24 ล้านบาท และคณะทำงาน กยน. ได้ไปแล้ว 1,000 ล้านบาท

9.กทม.ร้องขอว่าหากมีน้ำเหนือลงมาเป็นจำนวนมาก ให้ปล่อยให้น้ำไหลลงมาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ

10.กทม.ขอให้กระทรวงมหาดไทยทำความเข้าใจกับประชาชนตามขอบพื้นที่รอยต่อ จังหวัดให้เข้าใจวิธีการระบายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าเหมือนครั้งที่ผ่านมา

11.กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำลังทำแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมอยู่ รวมถึงการให้มีคลังเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ เครื่องดันน้ำ เสื้อชูชีพ เป็นต้น เพื่อใช้เผชิญเหตุน้ำท่วม

12.กทม.ยืนยันว่าการบุกรุกตามแนวคลองขนาดเล็ก กทม.คิดว่าจะแก้ไขปัญหาได้ในปีนี้ แต่สำหรับคลองขนาดใหญ่ เช่น คลองเปรมประชากร คลองบางซื่อ ขอให้เป็นนโยบายร่วมกับรัฐบาล และข้อ 12 ครึ่ง จะหาทางระบายน้ำผ่านทางตะวันออกของ กทม.ให้ได้ ซึ่งคราวที่แล้วทำไม่ได้ นอกจากนี้ยังได้ฝากที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อย้ำกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าเขื่อนขนาดใหญ่จะต้องถูก ใช้เพื่อป้องกันอุทกภัยเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องการเกษตรหรือเรื่องอื่นนั้นขอให้เป็นเรื่องรอง โดยที่ปรึกษารัฐมนตรีก็แสดงความเห็นด้วยในเรื่องนี้

“ผลของการตกลงกันวันนี้จะทำให้ชาว กทม.สบายใจได้ว่าน้ำจะไม่ท่วม และจะรักษาพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ จะได้รับการปกป้องและจะป้องกันให้ปลอดภัยล้านเปอร์เซ็นต์ หรือหากน้ำท่วมก็จะให้อยู่ในระยะสั้นและเสียหายน้อยที่สุด ส่วนปริมณฑลนั้นถือเป็นทางระบายน้ำอยู่แล้ว” รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าว

วันเดียวกันนี้ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ได้เพิ่มปริมาณการระบายน้ำจากวันละ 39 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันแรก เพราะขณะนี้ยังมีน้ำในเขื่อนอยู่ที่ร้อยละ 83 ขณะที่เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก มีน้ำมากถึงร้อยละ 85 ทำให้เขื่อนต้องเร่งระบายน้ำกว่า 7,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อรองรับน้ำใหม่ที่จะไหลเข้าเขื่อนในเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม

นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน เผยว่า ปีนี้เป็นปีที่มีน้ำเต็มเขื่อนมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งกรมชลประทานใช้วิธีการบริหารจัดการน้ำ โดยจะเร่งระบายน้ำออก ซึ่งคาดว่าเมื่อสิ้นฤดูแล้งจะมีน้ำมากกว่าค่าปกติร้อยละ 10

เขาบอกว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายสนับสนุนเกษตรกร โดยเฉพาะที่ราบลุ่มภาคกลางทำนาปีละ 2 ครั้ง โดยให้ทำนาปีเร็วขึ้น และต้องเก็บเกี่ยวให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน จึงทำให้ขณะนี้ต้องมีการใช้น้ำมากกว่าเดิม เมื่อถึงเดือนสิงหาคม รองอธิบดีกรมชลประทานเชื่อมั่นว่าระดับน้ำในเขื่อนทุกเขื่อนจะลดต่ำกว่าปี ที่แล้ว แต่เวลานี้ยังมีอุปสรรคหลายอย่างที่ทำให้ระบายน้ำไม่เต็มที่.


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-28 02:51:02


ความคิดเห็นที่ 4831 (1595047)
คาด ม.ค.–มี.ค.ฝนชุก กทม.เร่งเตรียมพร้อมป้องกันน้ำท่วมกรุง


 


กทม.คาดการณ์ช่วง ม.ค.-มี.ค.นี้ ฝนตกชุก เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เร่งเตรียมความพร้อม ขุดลอกคลอง ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ เตรียมเครื่องสูบน้ำ และการซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำที่ชำรุด ป้องกันน้ำท่วมกทม.

วันที่ 30 ม.ค. ที่ศาลาว่าการ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุม คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2555 เกี่ยวกับแผนขุด ลอก คูคลอง เพื่อเตรียมการป้องกันน้ำท่วมในภาพรวมของกรุงเทพมหานคร ซึ่งสำนักการระบายน้ำ กทม. ได้นำเสนอในที่ประชุมคณะผู้บริหาร

โดยคาด การณ์ว่าในช่วงเดือน ม.ค.–มี.ค. 55 จะมีฝนตกชุกมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศกาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับปริมาณน้ำฝนในเดือน ม.ค. 55 วัดได้ถึง 90 มม. สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 54 ที่วัดได้เพียง 20.6 มม.

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้ดำเนินการขุดลอกคลอง ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ เตรียมเครื่องสูบน้ำ และการซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำที่ชำรุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 54 ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้เสนอให้เร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว สำหรับคลองสายหลักให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 55 นอกจากนี้ยังให้ทบทวนแผนการดำเนินงานฯ มิให้ซ้ำซ้อนกับในส่วนของรัฐบาล ที่ได้เสนอให้หลายหน่วยงานสนับสนุนการทำงานของ กทม.ด้วย



ในส่วนของการปฏิบัติงานในช่วงฤดูฝน สำนักการระบายน้ำจะทำการเดินเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำ และลดระดับน้ำในคลอง โดยรักษาระดับน้ำประมาณ -1.00 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับรองรับน้ำฝน รวมถึงเตรียมความพร้อมของอุโมงค์ยักษ์ และแก้มลิง อีกทั้ง ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำหน้าที่รายงานสภาพฝนจากเรดาร์ ทุกต้นชั่วโมงผ่านทางวิทยุ Trunked, เว็บไซต์ของกรุงเทพมหานคร, เว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ, Twitter, Facebook  รวมถึงรับเรื่องร้องเรียนผ่านสายด่วน โทร. 0-2248-5115 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย)

ทั้งนี้ กทม.ยังได้จัดโครงการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ และเปิดทางน้ำไหลของกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 3 ก.พ. 55 ณ บริเวณหมู่บ้านณัฐกานต์ ซอยเพชรเกษม 112 เขตหนองแขม เพื่อล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ เปิดทางน้ำไหลคลองแสนศิริ โดยสำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตหนองแขม กรมราชทัณฑ์ และหมู่บ้านณัฐกานต์ จะร่วมกันดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝนในปีนี้.


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 03:49:03


ความคิดเห็นที่ 4832 (1595048)
27/01 กรมทรัพยากรน้ำ เตือนประชาชนเตรียมรับมือน้ำท่วมปีนี้

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำในกรุงเทพมหานคร ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเพื่อกำหนดแผนรับมือสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ใต้เขื่อนเจ้าพระยา ถึงกรุงเทพมหานคร อาทิ การจัดหาพื้นที่ปลอดภัยสำหรับอพยพประชาชน การซ้อมแผนช่วยเหลือ การลำเลียงอาหาร และให้ความรู้ประชาชนในการเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำ เนื่องจากมีความชัดเจนแล้วว่า น้ำในปีนี้จะไม่น้อยกว่าปี 2554 จากสัญญาณเตือนที่ผิดปกติต่างๆ เช่น ความแปรปรวนของสภาพอากาศ น้ำท่วมหนัก รวมถึงเกิดฝนตกก่อนฤดูกาล  นอกจากนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ลงนามในบันทึกข้อตกลง ร่วมมือทางวิชาการ ในการพัฒนาและนำองค์ความรู้ที่มีในต่างประเทศมาประยุกต์ใช้เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะนำร่องในพื้นที่ลุ่มน้ำบางประกง จังหวัดปราจีนบุรีก่อน

http://www.paipibut.org/view.php?dataid=13741
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 03:50:36


ความคิดเห็นที่ 4833 (1595049)
 
28/01 รองอธิบดีกรมอุตุฯ เผย ช่วงพ.ค.-ต.ค.ปีนี้ พายุจะเข้าไทย 2-3 ลูก

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า จากข้อมูลในการพยากรณ์สภาพอากาศ โดยเฉพาะปริมาณพายุจะเข้าสู่ประเทศไทย พบว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม จะมีพายุเข้าประเทศจำนวน 2-3 ลูก ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ลงไป ส่วนปริมาณน้ำฝนปีนี้ ค่าเฉลี่ยสูงกว่าปกติร้อยละ 30 แต่จะไม่สูงเท่าปีที่ผ่านมา  ส่วนในปีนี้ ประเทศไทยจะประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนักหรือไม่ อยู่ที่การบริหารจัดการน้ำของ กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ตลอดจนหน่วยวานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ได้มีการออกมาตรการออกมา ทั้งการขุดลอกคูคลอง โดยมองว่าแม้ปีนี้ปริมาณน้ำฝนเยอะ แต่เชื่อว่าไม่รุนแรง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ได้เรียนรู้แล้ว และหน่วยงานต่างๆ ก็มีการเตรียมความพร้อม


http://www.paipibut.org/view.php?dataid=13749
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 03:51:13


ความคิดเห็นที่ 4834 (1595050)
 
เหตุแผ่นดินไหวเปรู มีผู้บาดเจ็บ 60 คน

ลิมา 30 ม.ค.- เจ้าหน้าที่ของทางการเปรูเปิดเผยว่า มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 60 คนจากเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 6.3 ริกเตอร์ใกล้ชายฝั่งเปรูในเช้าวันนี้

รายงานระบุว่า จำนวนผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและคลินิกท้องถิ่นมีจำนวนราว 60 คน โดยส่วนใหญ่กระดูกหัก ถูกกระแทกและของหล่นใส่ แต่ไม่มีผู้ใดมีอาการบาดเจ็บเป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต สถาบันธรณีฟิสิกส์เปรูระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ มีขนาด 6.2 ริกเตอร์ ขณะที่นักวิจัยสหรัฐระบุว่า แผ่นดินไหว มีขนาด 6.3 ริกเตอร์ และมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองอิกาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 23 กม. และที่ระดับความลึก 39 กม.



 
มีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวจัดในเซอร์เบียและบัลแกเรีย

เบลเกรด 30 ม.ค.- มีผู้เสียชีวิต 4 คน และสูญหายอีก 2 คนจากหิมะตกหนักและสภาพอากาศหนาวจัดในเซอร์เบียและบัลแกเรียในวันนี้ ส่งผลให้ทางการต้องประกาศปิดโรงเรียนและดำเนินมาตรการช่วยเหลือฉุกเฉิน

รายงานระบุว่า ทางการเซอร์เบียและบัลแกเรียได้ประกาศให้ประชาชนเฝ้าระวังและเก็บตัวภายในอาคาร ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำลงถึง -20 องศาเซลเซียส โดยในเซอร์เบีย มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 3 คน และอีก 2 คนสูญหาย นอกจากนี้ ความพยายามในการเก็บกวาดหิมะออกจากถนนยังเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องกระแสลมแรงและหลายสิบเมืองไม่มีไฟฟ้าใช้ ตำรวจระบุว่ามีหญิงคนหนึ่งหนาวตายท่ามกลางพายุหิมะและคนชราอีก 2 คนเสียชีวิต

ส่วนในบัลแกเรีย มีชายวัย 57 ปี หนาวตายในหมู่บ้านทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินใน 25 เขต จาก 28 เขต โดยในกรุงโซเฟีย ทางการตั้งจุดบริการน้ำชาร้อน และจัดที่พักฉุกเฉินให้แก่ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย กระแสลมแรงยังส่งผลให้ต้องปิดเมืองท่าริมทะเลดำ

ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ทางการประกาศแผนตั้งเต็นท์ให้ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 3,000 คน สภาพอากาศหนาวจัดยังสร้างความเสียหายต่อรางรถไฟและทำให้การขนส่งล่าช้า



 
พบผู้เสียชีวิตเพิ่มจากพายุถล่มที่อินโดนีเซีย

จาการ์ตา 29 ม.ค. – เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียพบผู้เสียชีวิตจากฝนตกหนักและลมแรงเพิ่มเป็น 14 ราย โดยมีสาเหตุจากถูกต้นไม้ล้มทับ

โฆษกสำนักบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย และบาดเจ็บอีก 60 คน ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากถูกต้นไม้ล้มทับ นอกจากนี้ยังพบบ้านเรือนได้รับความเสียหายอีกกว่า 2,300 หลังในหลายพื้นที่ของเกาะชวาและเกาะบาหลีจากฝนตกหนักตลอดช่วงสี่วันที่ผ่านมา และว่า พายุฝนครั้งใหญ่นี้เกิดจากอิทธิพลของพายุหมุนเขตร้อนอิกกีในมหาสมุทรอินเดีย แต่พายุได้อ่อนกำลังลงแล้วและขณะนี้กำลังพัดออกจากอินโดนีเซีย เหตุพายุ ดินถล่ม และน้ำท่วมในอินโดนีเซียมักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงฤดูฝน โดยจะมีฝนตกชุกที่สุดระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์

สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 03:53:31


ความคิดเห็นที่ 4835 (1595158)

ธรณีพิโรธเขย่าอินโดนีเซียส่วนเปรูเสียหายยับ

วันอังคารที่ 31 มกราคม 2555 เวลา 09:07 น.



ธรณีพิโรธ 5.0 ริกเตอร์ เขย่าเมืองเซราม อินโดนีเซีย ขณะเปรู พบผู้ได้รับบาดเจ็บนับร้อย และบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างเสียหาย จากผลพวงแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์
กรณีสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา รายงานว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 6.3 ริกเตอร์ บริเวณชายฝั่งตอนกลางของประเทศช่วงกลางดึกของวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. สถาบันป้องกันพลเรือนของเปรูรายงานความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวว่าจากการประเมินเบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บราว 119 คนและบ้านเรือนราษฎร 16 หลังได้รับความเสียหายในแคว้นอีกา ขณะที่อาคารอย่างน้อย 10 แห่งได้รับผลกระทบจากแรงสั่นไหวส่งผลให้โครงสร้างภายในเสียหายและไม่ปลอดภัยต่อผู้อยุู่อาศัย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บนับร้อยคนแต่อาการไม่รุนแรงมาก เช่นกระดูกและศีรษะแตกเข้ารับการรักษาตัวตามโรงพยาบาลทั่วเมืองลิมา แต่คาดว่าตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บน่าจะมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลนี้ยังไม่รวมชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาของประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 01.25 น.ตามเวลาในประเทศไทย เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5 ริกเตอร์ ใกล้เมือง เซราม ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีจุดศูนย์กลางที่ 2 องศา 39 ลิปดา 36 ฟิลิปดาใต้ และลองจิลูดที่ 129 องศา 30 ลิปดา 36 ฟิลิปดาตะวันออก ลึกจากพื้นผิวดินไป 30 กม. แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายแต่อย่างใด.

Daily news

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:07:28


ความคิดเห็นที่ 4836 (1595159)

ยูเครนหนาวเย็นยะเยือกสังเวยสลดแล้ว 18 ศพ

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2555 เวลา 20:13 น.



ใครจะเชื่ออุณหภูมิติดลบ 16 องศาเซลเซียส ทำให้มีคนตายมากมาย รัฐบาลท้องถิ่นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 14 เขตเทศบาล


วันนี้ (30 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ว่า กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของยูเครน แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 ศพจากอาการสภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกินไป ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จากสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างรุนแรงที่แพร่กระจายไปทั่วในขณะนี้


กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของยูเครนแจ้งผ่านทางเว็บไซต์ว่า มีประชาชนในราว 500 รายต้องไปพบแพทย์เพื่อขอรับการรักษาอาการของโรคความเย็นกัดและสภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกินไปในช่วงเวลาแค่ 3 วันของสัปดาห์ที่แล้ว โดยอุณหภูมิในบางพื้นที่ของประเทศ วัดได้ ติดลบ 16 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางวันและวัดได้ ติดลบ 23 องศาเซลเซียสในช่วงกลางคืน รัฐบาลต้องเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 1,500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อจัดสรรด้านอาหารและที่พักที่อบอุ่นให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากคลื่นอากาศหนาวเย็นในขณะนี้


ส่วนที่ประเทศเซอร์เบีย มีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพราะอากาศหนาวเย็นแล้ว 3 ศพ และยังสูญหายอีก 2 คน รัฐบาลท้องถิ่นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 14 เขตเทศบาล เช่นเดียวกับที่ประเทศบัลแกเรีย มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ เป็นชายวัย 57 ปี พบศพนอนแข็งตายอยู่ในหมู่บ้านทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และที่สาธารณรัฐเช็ก รัฐบาลมีแผนจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสำหรับประชาชนผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 3,000 คน ซึ่งกำลังเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างรุนแรงในขณะนี้

แสดงความคิดเห็น

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:08:43


ความคิดเห็นที่ 4837 (1595160)

.เหตุการณ์วันนี้

10:42 แผ่นดินไหวขนาด 2.7 ทางตะวันออกของเชียงรายในเขตประเทศลาว




07:30 ความเร็วลมสุริยะ 460 กม/วินาที สนามแม่เหล็กโลกมีอาการไม่เสถียร

06:30 กทม 25°C นครศรีธรรมราช 25°C สกลฯ 20°C ขอนแก่น 20°C ลำปาง 22°C เชียงใหม่ 22°C อุบล 21°C

มีรายงานผู้เสียชีวิตหลายรายจากอากาศหนาวเย็นเฉียบพลันในยุโรป อุณหภูมิลดต่ำกว่า 0°C ในชั่วคืนเดียว

ยอดบาดเจ็บจากแผ่นดินไหว 6.2 ที่เมืองไอคา ประเทศเปรู เมื่อวานนี้ ล่าสุดอยู่ที่ 125 ราย ไร้ที่อยู่อาศัยมากกว่า 140 ราย

ยูเครน - อากาศหนาวเฉียบพลัน พบผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 18 คนและอีกเกือบ 500 คน ต้องเข้ารักษาโรคน้ำแข็งกัดและสภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ชาวบ้านมากกว่า 17,000 คน ต้องอพยพเข้าไปพักอาศัยตามสถานที่พักพิงชั่วคราวราว 1,500 แห่งทั่วประเทศ โดยอุณหภูมิช่วงกลางวันจะอยู่ที่ประมาณ -16°C ส่วนกลางคืนอุณหภูมิจะลดต่ำลงไปถึง -23°C

เซอร์เบีย พบการเสียชีวิตของผู้หญิงรายหนึ่งและชายชราอีก 2 คน ขณะที่ชายชราอีก 2 คนในวัย 70 เศษๆ สูญหายบริเวณภาคใต้ของประเทศ ผลจากอากาศหนาว
บัลแกเรีย เสียชีวิต 1 รายจากอากาศหนาว

กราฟแสดงระดับน้ำเก็บกักในเขื่อนภูมิพล ย้อนหลัง 3 ปี
03:21 แผ่นดินไหวขนาด 2.8 อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย




03:21 แผ่นดินไหวขนาด 2.8 อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:09:06


ความคิดเห็นที่ 4838 (1595161)

ฝนถล่มทั้งคืน พัทลุงประกาศเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก

วันที่ 31/01/2555 17:16





พัทลุงฝนตกหนักต่อเนื่อง ผู้ว่าฯ ประกาศเตือนภัยให้ระวังน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมฉับพลัน แถบเทือกเขาบรรทัด พร้อมสั่ง ปภ.จังหวัดเฝ้าระวังตลอด 24 ชม....

จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์สภาพอากาศภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่ จ.ชุมพร ถึงสงขลา จะมีฝนฟ้าคะนองทั่วไปร้อยละ 70 ของพื้นที่นั้น เมื่อวันที่ 31 ม.ค. พื้นที่ของ จ.พัทลุงได้รับอิทธิพลดังกล่าว ทำให้ตั้งแต่ตอนดึกที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ได้มีฝนตกหนักเกือบทุกพื้นที่ของจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่แถบริมเทือกเขาบรรทัด ในพื้นที่ อ.กงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ และ อำเภอศรีบรรพต ทำให้น้ำในลำคลองสายต่างๆ มีสภาพน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้มีสภาพน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่ม โดยชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ในพื้นที่ อ.ควนขนุน อ.เมืองพัทลุง อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ อ.ปากพะยูน ซึ่งเคยถูกน้ำท่วมเล่นงานมาแล้ว 4-5 ครั้ง หวั่นจะเกิดน้ำท่วมอีกระลอก อย่างไรก็ตาม ขณะที่รายงานในพื้นที่ยังมีฝนตกหนักติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายวิญญู ทองสกุล ผวจ.พัทลุง กล่าวว่า ขณะนี้มีฝนตกหนักเกือบทุกพื้นที่ของจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัด โดยวัดได้ในพื้นที่ อ.กงหรา 90 มม. จากสภาพดังกล่าวหากฝนยังไม่หยุดตกอาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ประชาชนและพื้นที่การเกษตรอย่างฉับพลันได้ ดังนั้น จึงได้ประกาศเตือนประชาชน โดยให้นายอำเภอทุกอำเภอ ส่งเจ้าหน้าที่ออกประกาศเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมเทือกเขาบรรทัด ให้ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลับ พร้อมกันนั้นได้ให้สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม จำนวน 28 จุด ในอำเภอกงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ และ อำเภอศรีบรรพต ตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:10:31


ความคิดเห็นที่ 4839 (1595162)

อุตุฯเตือนทั่วไทยมีฝน เหนือหนาวลง2-3องศา

วันที่ 31/01/2555 07:00






ประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย...

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 31 มกราคม 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามา ปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้ อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:11:37


ความคิดเห็นที่ 4840 (1595163)

ปลาหนีตายลอยน้ำเข้าฝั่งเกลื่อนชายหาดบางแสน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านแห่จับปลาที่ ชายหาดบางแสน หลังหนีน้ำเสียลอยเข้าฝั่งหาออกซิเจนหายใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (31ม.ค.) ชาวบ้านได้แห่นำอุปกรณ์ อวน แห สวิง มาที่ชายหาดบางแสน เพื่อทำการดักจับปลาที่ลอยเหนือน้ำ เพื่อหาอากาศหายใจ เนื่องจากระบบนิเวศในท้องทะเลแปรปรวน ทำให้น้ำทะเลเกิดเสียฉับพลัน

ทั้งนี้ ปลาที่ได้รับผลกระทบจะเป็นปลาอยู่ในระดับน้ำตื้น เช่น ปลากระเบน ปลากเห็ดโคน ปลาแป้น กุ้งและปู ซึ่งในช่วงเช้านี้ ทางกลุ่มชาวประมงน้ำตื้น ได้นำอวนมาล้อมดักจับปลา ต่าง ๆได้จำนวนหลายตัน

ปลาที่จับได้ส่วนใหญ่ เป็นปลาที่เป็นที่ต้องการของตลาดพอดี ทำให้มีราคาแพง บางชนิดราคาสูงถึงกิโลกรัม ละ 80 -100 บาท ส่วนปลาแป้นขายส่งให้โรงน้ำปลาที่นำรถมารอรับถึงที่

นายโอ๋ ชาวประมงน้ำตื้น กล่าวว่าปกติแล้วหน้านี้จะไม่มีน้ำเสีย เพราะเป็นช่วงน้ำขึ้นและไหลแรง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะส่งผลจากการผลักดันน้ำจืดตอนบนลงมาในทะเลเป็นจำนวนมากและอาจทำให้การปรับตัวระดับน้ำไม้ทัน เนื่องจากน้ำจืดนั้นจะลอยเข้าฝั่งในช่วงนี้ โดนการสังเกตตามโป๊ะต่างๆของชาวบ้าน ที่มีระดับน้ำลึก 5-10 เมตร มีสีดำข้นและไม่มีปลาเข้าเลย แต่กลับหลบหนีเข้าฝั่งแทน ส่วนจะนานหรือไม่นั้นต้องรอดูต่อไป

ส่วนปลาที่ได้มานั้น ไม่น่ามีผลกระทบกับการนำมารับประทาน เนื่องจากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทุกปี แต่อยากจะฝากเตือนชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องของปลา ขณะนี้ได้มีชาวบ้านหลายคนแล้วที่โดนปลากระเบนทิ่ม และยังมีปลาอีกหลายชนิดที่มีเงี่ยงประปนมาด้วยและมีหลายคนแล้วที่ต้องนำส่งโรงพยาบาลประภาศรี เพราะทนพิษไม่ไหว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:13:31


ความคิดเห็นที่ 4841 (1595164)

.ภูเขาไฟใต้ทะเล El Hierro (La Restinga) ยังคงปะทุต่อเนื่องตลอดต้นเดือนที่ผ่านมา




B5 - War Room Falkman


 

 


 

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:14:19


ความคิดเห็นที่ 4842 (1595165)

แล้งแล้ว 5 อำเภอ น่านจ่อประกาศภัยพิบัติ

วันที่ 31/01/2555 17:00





พ่อเมืองน่านจ่อประกาศภัยพิบัติ หลังแล้งแล้ว 5 อำเภอ สั่งทุกพื้นที่รับมือขุดลอกเส้นทางน้ำป้อนเกษตรกร และนำน้ำใส่รถแจกจ่าย คาดสัปดาห์หน้าสถานการณ์แล้งหนักเพิ่มขึ้น...

นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ผลการติดตามปัญหาภัยแล้งมีรายงานจากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน พบว่า มี 5 อำเภอที่ประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว ได้แก่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ทุ่งช้าง อ.สันติสุข อ.เวียงสา และ อ.นาน้อย ซึ่งพบว่าปริมาณแหล่งน้ำธรรมชาติเริ่มแห้งขอด บางช่วงของลำน้ำ ลำห้วยสาขา มีปริมาณน้ำน้อยจนสามารถเดินข้ามได้ ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านก็เริ่มตื้นเขินจนเห็นเป็นเกาะแก่งกลางแม่น้ำ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานจะได้รับผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตรด้วย

ขณะนี้ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2555 ขึ้น ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน พร้อมสั่งการให้แต่ละอำเภอเร่งสำรวจเส้นทางน้ำที่ตื้นเขิน ต้องมีการขุดลอกเส้นทางน้ำและให้ดูแลเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร ส่วนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ได้เตรียมรวมศูนย์รถยนต์บรรทุกน้ำเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดือดร้อน ซึ่งในระดับอำเภอและท้องถิ่น ที่มียานพาหนะบรรทุกน้ำอยู่แล้ว สามารถขอรับการสนับสนุนเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงกับทางจังหวัดได้ และขณะนี้มีรายงานพื้นที่แล้งแล้ว 5 อำเภอ คาดว่าสัปดาห์หน้าสถานการณ์ภัยแล้งอาจรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งอาจมีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนต่อไป.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:17:22


ความคิดเห็นที่ 4843 (1595166)

ชาวพิมายตื่นพบปลาประหลาดยาว 1 เมตร

นครราชสีมา - ชาวพิมายตื่นพบปลาประหลาด คล้ายปลาดุกยักษ์ยาว 1 เมตร น้ำหนักกว่า 17 กิโลกรัม ชาวบ้านแห่ขอเลขเด็ด เชื่อเป็นปลานำโชค
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านท่าหลวง ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่า ชาวบ้านได้พบปลาประหลาด คล้ายปลาดุกยักษ์ขนาดใหญ่ว่ายน้ำลอยมาติดตาข่ายดักปลาของชาวบ้าน ที่บริเวณกลางลำน้ำมูลบ้านท่าหลวง จึงรีบรุดไปดูตามที่ได้รับแจ้ง พบชาวบ้านหลายคนกำลังมุงดูปลาขนาดใหญ่ ซึ่งชาวบ้านไม่เคยพบเห็นมาก่อน และไม่มีใครทราบเป็นปลาอะไร
โดยปลาดังกล่าวมีลักษณะส่วนหัวคล้ายปลาดุก หนวดยาว ตรงกลางหลังมีครีบ 2 ครีบ ปลายหางมีสีส้ม ลำตัวไม่มีเกล็ด วัดความยาวของลำตัวปลาได้ 102 เซนติเมตร วัดรอบลำตัวได้ 70 เซนติเมตร น้ำหนักกว่า 17 กิโลกรัม
นายชอ้อน แบบพิมาย อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/4 ม.2 บ้านท่าหลวง ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ชาวบ้านผู้ที่พบปลาประหลาดเป็นคนแรก กล่าวว่า ระหว่างที่ตนออกไปวางตาข่ายดักปลาในลำน้ำมูล โดยตนได้วางตาข่ายดักปลาไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า พอช่วงบ่ายตนได้ออกจากบ้านไปดู ก็พบว่าตาข่ายที่ใช้ดักปลาสะบัดอย่างรุนแรง ตนจึงยกตาข่ายขึ้นมาดูก็พบปลาขนาดใหญ่ติดตาข่ายอยู่ โดยตนก็ไม่เคยเห็นปลาชนิดดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งหลังจากที่ตนจับปลาได้ก็มีชาวบ้านหลายคนที่ทราบข่าวแห่มาดูปลาประหลาด บางรายก็เชื่อว่าเป็นปลาศักดิ์สิทธิ์ และบางรายก็ไปตีเป็นเลขเด็ดเพื่อเสี่ยงโชค เพราะเชื่อว่าปลาประหลาดเป็นปลานำโชค


ไข้หวัดนกระบาดในฮ่องกง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันที่ 31 ม.ค. สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.)ระบุว่า เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2555 กระทรวงเกษตร ประมงและอนุรักษ์ฮ่องกง (AFCD) รายงานว่าพบซากห่านติดเชื้อไข้หวัดนกในหมู่บ้านซามแจ๋งซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฮ่องกง โดยผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าพบเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในซากห่านดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบฟาร์มสัตว์ปีกที่อยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตรจากบริเวณที่พบซากห่านตัวนั้น ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีฟาร์มใดติดเชื้อ นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯฮ่องกงจะตรวจสอบฟาร์มและตลาดค้าส่งเพื่อให้มั่นใจว่ามีการนำมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดนกมาใช้ได้อย่างเหมาะสมร่วมมือกับกรมอื่นๆในการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป ตลอดจนกระตุ้นให้เกษตรกรเพิ่มระดับมาตรการป้องกันและมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก


เขื่อนใหญ่เร่งระบายน้ำช่วยเหลือเกษตรกรลุ่มเจ้าพระยา

นายสาทิส บุษดาจันทร์ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการบริหารจัดการน้ำเขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้หลายฝ่ายคาดว่าจะมีปริมาณน้ำมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ทางเขื่อนใหญ่ อย่างเช่น เขื่อนสิริกิติ์ ที่ขณะนี้มีการกักเก็บน้ำอยู่ 7,743 ล้านลบ.ม. หรือ 81.43% ของการกักเก็บ และมีการระบายน้ำสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 45.64 ล้านลบ.ม./วัน ทั้งนี้เพื่อปล่อยน้ำมาช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ จ.อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ รวมระยะทาง 178 กม. จำนวนพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 600,000 ไร่ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในปีที่ผ่านมาอีกด้วย

โดยในส่วนของเขื่อนนเรศวร จ.พิษณุโลก ขณะนี้ได้มีแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในหลายพื้นที่ แบบ 100% เนื่องจากโดยทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดน้ำของเขื่อนนเรศวรจำนวน 413 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ประกอบอาชีพทางการเกษตร จำนวน 90,000 ไร่ และขณะนี้มีเกษตรกรลงมือทำเกษตรกรรมแล้ว 85,000 ไร่

นายสาทิส กล่าวอีกว่า ในปีนี้เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก ซึ่งทางคณะกรรมการจัดการน้ำแห่งชาติ ก็ได้กำหนดการบริหารจัดการน้ำในตลอดทั้งปีนี้แล้ว เพื่อช่วยเหลือทางการเกษตรและความพร่องตัวของปริมาณน้ำให้ไหลลงไปทางภาคกลาง และลงสู่น้ำทะเลได้



หมอกควันลำปางลดลงหลังฝนตก

นายสุวิทย์ ขัตติยวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 ลำปาง เปิดเผยถึงสถานการณ์หมอกควันไฟที่ปกคลุมพื้นที่ จังหวัดลำปาง ทั้ง 13 อำเภอ ว่าสถานการณ์ ยังน่าห่วง เนื่องจากสถานการณ์หมอกควันไฟปกคลุมพื้นที่ จากการติดตามค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่า 10 ไมครอน ซึ่งฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ถือว่าค่าเฉลี่ยเกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยค่าเฉลี่ยเกินค่ามาตรฐาน ระหว่างวันที่ 28 - 30 มกราคม 2555 ที่ผ่านมาโดยค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยเฉพาะในวันที่ 30 มกราคม 2555 ค่าเฉลี่ยสูงถึง 143 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และถือว่าค่าสูงสุดในประเทศไทย และเป็นค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์ ดังกล่าว มาเร็วกว่าทุกปีมักจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ส่วนค่าเฉลี่ยในวันนี้(31 ม.ค.) ถือว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลงจากเนเนื่องจากเมื่อวานนี้ ได้เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่ ทำให้ค่าเฉลี่ยลดลง โดยในวันนี้วัดได้ที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อยู่ที่ 105.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:18:56


ความคิดเห็นที่ 4844 (1595167)

 

 .เเผ่นดินไหวทั่วโลก

Update time = Tue Jan 31 8:00:04 UTC 2012



  MAG UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s
LAT
deg
LON
deg
DEPTH
km
Region
MAP 4.8 2012/01/31 07:26:11 -21.994 -179.485 596.0 FIJI REGION
MAP 2.5 2012/01/31 04:09:35 60.135 -152.913 116.3 SOUTHERN ALASKA
MAP 4.8 2012/01/31 03:40:31 3.901 126.877 52.8 KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA
MAP 2.7 2012/01/31 00:53:00 62.843 -148.225 57.7 CENTRAL ALASKA
MAP 3.2 2012/01/31 00:46:30 18.975 -65.314 90.2 PUERTO RICO REGION

 


  MAG UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s
LAT
deg
LON
deg
DEPTH
km
Region
MAP 3.2 2012/01/30 23:39:47 37.947 -77.984 3.0 VIRGINIA
MAP 2.5 2012/01/30 23:11:30 35.883 -117.909 3.7 CENTRAL CALIFORNIA
MAP 4.8 2012/01/30 19:56:07 -25.056 -179.881 483.2 SOUTH OF THE FIJI ISLANDS
MAP 4.6 2012/01/30 19:38:23 -1.335 137.808 38.2 NEAR THE NORTH COAST OF PAPUA, INDONESIA
MAP 4.9 2012/01/30 18:25:21 -2.841 129.546 42.6 SERAM, INDONESIA
MAP 2.5 2012/01/30 17:02:23 36.020 -117.820 2.7 CENTRAL CALIFORNIA
MAP 4.6 2012/01/30 16:34:13 -7.093 128.844 149.9 KEPULAUAN BARAT DAYA, INDONESIA
MAP 2.7 2012/01/30 14:58:47 62.215 -145.763 1.3 CENTRAL ALASKA
MAP 2.6 2012/01/30 14:57:48 44.231 -114.137 15.4 SOUTHERN IDAHO
MAP 5.2 2012/01/30 13:20:35 2.030 96.611 38.7 SIMEULUE, INDONESIA

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:20:52


ความคิดเห็นที่ 4845 (1595168)

  สวัสดีค่ะ  พี่อาริยา  หนูกลับมาแล้วค่ะ

ขอเข้ามาช่วยนะคะ

  อนุโมทนาบุญกับพี่ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:21:32


ความคิดเห็นที่ 4846 (1595169)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:23:55


ความคิดเห็นที่ 4847 (1595170)

สวัสดีค่ะน้องตาล ขอร่วมโมทนาบุญกับน้องคนขยันลงข่าวให้พวกเราได้อ่าน เตรียมตัวกันตลอดเวลา สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:28:50


ความคิดเห็นที่ 4848 (1595171)

กำแพงวัดมหาธาตุถล่ม กระทบงานอยุธยามรดกโลก

วันที่ 30/01/2555 20:42





กรมศิลปากรกั้นพื้นที่อันตราย หลังกำแพงวัดมหาธาตุถล่มยาวกว่า 10 เมตรจากน้ำท่วม กระทบงานแสง สี เสียง อยุธยามรดกโลกที่กำหนดระหว่างวันที่ 10-19 ก.พ.ด้านพ่อเมือง สั่งเช็กความเสียหาย ระงับฉากสู้รบ และจุดพลุ หวั่นโบราณสถานเสียหายหนัก ยอมรับในพื้นที่เป็นแหล่งทำพลุ เพิ่มความเข้มตรวจสอบย้ำความปลอดภัย หวั่นเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย...

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกำหนดการแสดง แสง สี เสียง งานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก และงานกาชาดประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 10-19 ก.พ. 55 โดยใช้พื้นที่บริเวณหลังวัดมหาธาตุ ถนนนเรศวร ต.ประตูชัย จ.พระนครศรีอยุธยา จัดงาน ล่าสุดกำแพงวัดมหาธาตุด้านทิศเหนือ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ขนาดความกว้างประมาณ 1.50 เมตร สูงประมาณ 1.80 เมตรได้พังทลายลงมาความยาวกว่า 10 เมตร สาเหตุคาดว่า จากปัญหาน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้ทำให้ดินบริเวณกำแพงทรุดตัวลงมา โดยขณะนี้กรมศิลปกร ได้กันเป็นพื้นที่อันตรายแล้ว


ด้านนายสุพจน์ พรหมมาโนช ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมกำแพงวัดมหาธาตุ ได้มีรอยชำรุดบ้างแล้ว และหลังน้ำท่วมหนักเป็นเวลานานน้ำได้กัดเซาะหินทรายภายในทรุด ทำให้เกิดพังเสียหายมากยิ่งขึ้น โดยทางกรมศิลปากรได้สำรวจ และตั้งงบประมาณซ่อมแซมแล้ว สำหรับงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ซึ่งทางจังหวัด และกรรมการจัดงานได้ใช้วัดมหาธาตุ แสดงแสง สี เสียง ทางกรมศิลปากรเป็นห่วงโบราณสถาน แต่จะมีการควบคุมในการใช้เสียงให้เหมาะสม

ขณะที่นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเรื่องแนวกำแพงโบราณสถานวัดมหาธาตุ ทรุดตัว และพังลงแล้ว โดยได้สั่งการไปยังสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย และทำสัญลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าเป็นจุดอันตราย เพื่อไม่ให้มีใครเข้าไปใกล้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าจุดที่เกิดการทรุด และแตกร้าวลงนั้นเกิดจากปัญหาน้ำท่วม




ส่วนการจัดงานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก และงานกาชาดประจำปี 2555 โดยใช้พื้นที่บริเวณหลังวัดมหาธาตุ ทำการแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม ซึ่งหลายคนเกรงว่า การแสดงและการจุดพลุ อาจจะทำให้ตัวโบราณสถานวัดมหาธาตุเสียหายหนักมากไปกว่านี้ ล่าสุด ได้แจ้งไปยังกลุ่มนักแสดง และกลุ่มผู้จัดงานแล้ว ว่า การแสดง แสง สี เสียง ในปีนี้ จะไม่ใช้ฉากการสู้รบ และการจุดพลุ เนื่องจากการแสดงในลักษณะดังกล่าว รวมถึงการจุดพลุ อาจจะทำให้ตัวโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วมนาน ได้รับความเสียหายมากขึ้น โดยจะเปลี่ยนการแสดงเป็น แสง สี เท่านั้น

สำหรับเนื้อหาของเรื่องจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยา กับนานาประเทศ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรองรับกับการจัดงานมหกรรมเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ซึ่งไทยเสนอจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในการจัดงานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ตั้งของสถานที่จัดทำพลุ จำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเข้มงวดในการตรวจสอบเรื่องการรักษาความปลอดภัย และการตรวจสอบสถานที่เก็บพลุ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับบางจังหวัดก่อนหน้านี้.

ไทยรัฐออนไลน์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:29:59


ความคิดเห็นที่ 4849 (1595172)

พายุหิมะเข้า! ยุโรปหนาวจัด-20องศาฯ แข็งตายแล้ว 36 ศพ

วันที่ 31/01/2555 01:20





เกิดพายุหิมะในยุโรปตะวันออก หลายประเทศได้รับผลกระทบ จนต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ และมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพราะอากาศหนาวในภูมิภาคแล้วอย่างน้อย 36 ราย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่า เกิดพายุหิมะในยุโรปตะวันออก ทำให้อุณหภูมิลดลงต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส มีผู้เสียชีวิตเพราะจากอากาศหนาวแล้วกว่า 36 ราย จนหลายเมืองต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน และเปิดศูนย์พักพิงหลายร้อยแห่งทั่วภูมิภาค ทั้งยังสั่งหยุดโรงเรียน เนื่องจากการจราจรเป็นอัมพาตเพราะหิมะปกคลุม ขณะที่ในบางพื้นที่มีปัญหาไฟฟ้าดับด้วย

ด้านกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของประเทศยูเครน เปิดเผยว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตจากอาการไฮโปเธอร์เมีย หรืออุณหภูมิในร่างกายลดต่ำกว่าปกติแล้วกว่า 18 ศพ ขณะที่มีผู้เข้ารับการรักษาแผลน้ำแข็งกัด และอาการไฮโปเธอร์เมียถึง 500 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนไร้บ้าน และพบร่างตามท้องถนน

ส่วนที่โปแลนด์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย เผยว่า อุณหภูมิลดต่ำลงมาอยู่ที่ -26 องศาเซลเซียส และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไร้บ้านและผู้สูงอายุ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจตราตามบ้านร้างและพาเหล่าคนไร้บ้านเข้าที่หลบภัย

นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตในประเทศ เซอร์เบีย โรมาเนีย บัลแกเรียและสาธารณรัฐเช็ก อีก 8 ราย โดยสาเหตุการเสียชีวิตล้วนมาจากภาวะอุณหภูมิในร่างกายลดต่ำกว่าปกติ และมีผู้สูญหายอีก 2 คนด้วย


B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:30:45


ความคิดเห็นที่ 4850 (1595174)

ตึกถล่มอินเดีย สังเวยอย่างน้อย 2 ศพ

วันที่ 31/01/2555 13:30







สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 30 ม.ค.ว่า เกิดเหตุอาคารสูง 4 ชั้นหลังหนึ่งพังถล่มที่เมืองนักปูร์ของอินเดีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 9 คน เบื้องต้นคาดว่าการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และการรับน้ำหนักเกินพิกัดอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้.

ไทยรัฐออนไลน์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:31:25


ความคิดเห็นที่ 4851 (1595175)

วัน-เวลา *ประเทศไทย ขนาด Latitude Longitude Phase บริเวณที่เกิด  
2555-01-31 10:42:31 2.7 20.17 100.96 15 ประเทศลาว**  
2555-01-31 03:21:41 2.8 19.58 100.05 28 อ.เทิง จ.เชียงราย  
2555-01-30 14:44:25 2.8 19.36 99.06 28 อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่  
2555-01-30 08:44:28 3.3 21.44 98.70 9 ประเทศพม่า


**ทางทิศตะวันออกของ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ประมาณ 47 กม. 

รายงาน เเผ่นดินไหว

2555-01-30

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:32:42


ความคิดเห็นที่ 4852 (1595178)

ขออนุโมทนาบุญ

ธรรมทาน

ของพี่ ๆ   นะคะ

สาธุ ๆ ๆ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-31 19:56:32


ความคิดเห็นที่ 4853 (1595230)

พี่อาริยาขอโมทนาบุญ เเละ ขอขอบคุณคุณเเมว ที่เป็นผู้จุดประกายตั้งกระทู้เเละลงข่าวภัยพิบัติ สาธุ ค่ะ  

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 01:25:00


ความคิดเห็นที่ 4854 (1595231)

พายุหิมะปกคลุมอย่างหนักไปทั่วตอนเหนือ และตะวันตกของญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 53 ราย และบาดเจ็บอีกนับร้อย



Image: A bridge in Sakae, Nagano Prefecture, thought to have collapsed because of heavy snow, is seen on Jan. 30. (Mainichi)

Heavy snow has left 53 dead and hundreds injured in several prefectures in western and northern Japan, it has been learned.

The loss of life came primarily in five prefectures along the Sea of Japan in the Tohoku region and Hokkaido, with 12 dead in Niigata, 11 in Hokkaido, nine in Aomori, eight in Nagano and six in Akita.

Reported injuries have already surpassed 574, with over 100 in four of the five prefectures affected most by the strong cold air mass sweeping through the region.

Meanwhile, a number of municipalities blanketed by the heavy snow say they have run out of funds for snow removal, and have begun urgent calls on the central government for financial assistance.

According to Niigata Prefecture, the prefecture"s 30 municipalities had budgeted a total of some 13 billion yen for snow removal, but that as of Jan. 23 at least 12 could no longer afford to keep clearing snow, forcing the prefectural government to step in with supplementary funds. Furthermore, six cities in the prefecture have tapped central governmental emergency aid under the Disaster Relief Act.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 01:25:39


ความคิดเห็นที่ 4855 (1595233)
มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ความท้าทายของผู้ประกอบการไทย ปี 2020
 



ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่โลกมีอุณหภูมิสูงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2393 หรือในรอบ 161 ปี ดังนั้นประเทศต่างๆ จึงต้องร่วมมือกันหามาตรการเร่งด่วนมาป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้

เวทีการประชุมรัฐภาคีว่าด้วยการอนุสัญญาเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือการประชุมโลกร้อน ครั้งที่ 17 ที่เมืองเดอบัน ประเทศแอฟริกาใต้ จึงได้รับความสนใจจากตัวแทนประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 190 ประเทศเข้าร่วมประชุมและแสดงความคิดเห็นอย่างคึกคัก

สาระสำคัญของเนื้อหาการประชุมครั้งนี้ ชาติสมาชิกทั่วโลก ต่างจับตาไปที่การบังคับใช้ “พิธีสารเกียวโต”รอบแรก ข้อตกลงของทั่วโลกที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในสิ้นปี 2555 เนื่องจากสมาชิกอยากให้ชาติมหาอำนาจ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณที่มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รับรองพันธะทางกฎหมายพิธีสารทั้งในรอบแรก และรอบที่ 2 เพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งโจทย์ไว้ว่าจะต้องไม่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงเกิน 2 องศาเซลเซียส

ด้วยเรื่องโลกร้อนเป็นประเด็นร้อนที่อยู่ในความสนใจของคนทั่วโลก บรรยากาศตลอดการประชุมในรอบนี้จึงเต็มไปด้วยรายงาน ข้อเสนอ และข้อถกเถียงที่ยากจะหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้ง่ายๆ

จุดสำคัญที่หลายฝ่ายจับตามองในการประชุมครั้งนี้ คือ กลุ่มประเทศร่ำรวยสุดของโลกจะยอมเสียสละเพิ่มขึ้นหรือไม่ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังคำมั่นเดิมจะสิ้นสุดลงในปีหน้า ซึ่งท่าทีของประเทศพัฒนาแล้วในการประชุมครั้งนี้ก็ยังออกมาในลักษณะเกี่ยงงอนเหมือนเดิม

แต่อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการนำเสนอรายงานวิชาการจำนวนหลายชิ้น เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจและอยากหยิบยกมานำเสนอเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เป็นภัยอันตรายที่น่ากลัวที่สุดของภาวะโลกร้อน นั่นคือ ผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารของโลก

รายงานชิ้นนี้ระบุว่า จากการประเมินทรัพยากรต่าง ๆ ทั่วโลกเป็นครั้งแรก โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) พบว่า เกษตรทั่วโลกต้องผลิตอาหารเพิ่มถึง 70% ภายในปี พ.ศ. 2593 เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนประชากรโลก ที่คาดว่าถึงขณะนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านคน

ปัญหาคือ พื้นที่เหมาะสมสำหรับทำการเกษตรส่วนใหญ่ได้มีการเพาะปลูกไปแล้ว ในขณะที่หลายพื้นที่มีปัญหาผืนดินเสื่อมคุณภาพ ทำให้ผลผลิตลดน้อยลง

ผลสำรวจในรายงานฉบับนี้ระบุว่า ผืนดินของโลก 25% เสื่อมคุณภาพ "มาก" 44% เสื่อม "พอประมาณ" มีแค่ 10% เท่านั้นที่เข้าข่าย "ดีขึ้น"

ที่น่าสนใจ คือ  40% ของผืนดินเสื่อมคุณภาพ พบในพื้นที่อยู่อาศัยของประชากรฐานะยากจนสุด

แนวทางแก้ตามการศึกษาของเอฟเอโอที่นำเสนอไว้ในช่วงท้ายในรายงาน คือ การปรับเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการน้ำชลประทาน ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอย่างเดียว ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ถึงปี 2558 ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งเจ้าหน้าที่คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) หน่วยงานหลักด้านการแก้ไขปัญหาโลกร้อนของยูเอ็น ได้บอกว่า จากนี้ไปการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสภาพภูมิอากาศโลก จะทำให้การทำการเกษตร ไม่สามารถคาดเดาได้มากยิ่งขึ้น

ภาวะโลกร้อนทำให้ความแห้งแล้งและน้ำท่วม เพิ่มความถี่ และอาจทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นก่อความหายนะ ถ้าภูเขาน้ำแข็งและทุ่งน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ยังละลายอย่างรวดเร็วต่อไป

ในขณะที่รายงานของหน่วยบรรเทาทุกข์นานาชาติ "อ็อกซ์แฟม" บอกว่า สภาพภูมิอากาศแปรปรวนรุนแรง ทำให้ราคาอาหารทั่วโลกแพงขึ้น ที่สำคัญประชากรกลุ่มยากจนสุดของโลก ต้องใช้จ่าย 75% ของเงินรายได้ ในการซื้อหาอาหารประทังชีวิต

ที่มากกว่านั้น ช่วง 18 เดือนหลังสุด พื้นที่เพาะปลูกของรัสเซียเสียหาย 13.3 ล้านเอเคอร์ หรือประมาณ 17 % ของการผลิตทั้งประเทศ จากผลของคลื่นความร้อนนานหลายเดือน ความแห้งแล้งในพื้นที่จะงอยแอฟริกา ทำให้ปศุสัตว์ในเอธิโอเปียล้มตายถึง 60% และแกะอีก 40% ของทั้งหมด

และรายงานของเอฟเอโอ ยังให้ข้อมูลอีกว่า อุทกภัยเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้ผลักราคาอาหารในประเทศไทยให้สูงขึ้นถึง 25% และสูงขึ้นถึง 30% ในประเทศเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดท้าย ผู้แทนจาก 194 ประเทศได้เห็นพ้องต่อข้อตกลงฉบับใหม่ในการประชุมครั้งนี้ จากเดิมที่ได้รื้อฟื้นพิธีสารเกียวโต ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 1997 และจะหมดวาระในปีหน้า ให้มีผลบังคับใช้ใหม่อีก ซึ่งตามข้อตกลงใหม่ครั้งนี้จะส่งผลให้ทุกประเทศอยู่ภายใต้ข้อบังคับเดียวกัน  เพื่อควบคุมปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยข้อตกลงใหม่ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบไปด้วยตัวแทนจากประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้วร่วมกันทำแผนให้แล้วเสร็จภายในปี 2015 เพื่อให้มีผลบังคับอย่างช้าที่สุดในปี 2020

เมื่อถึงเวลานั้นประเทศไทยคงหลีกเลี่ยงที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ได้ ดังนั้นในช่วงเวลา 8 ปีจากนี้ไปจึงเป็นความท้าทายสำหรับประเทศไทยทั้งภาครัฐและอกชนว่าจะเตรียมการ ตั้งรับและจัดการเรื่องนี้อย่างไร

ซึ่งก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น ในเบื้องต้นประเทศไทยจะต้องมีฐานข้อมูลก่อนว่าประเทศไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่เท่าไร หากเป้าหมายที่ประชุมโลกร้อนกำหนดให้แต่ละประเทศลดก๊าซเรือนกระจกปีละ 15 เปอร์เซ็นต์ ภาคธุรกิจไหนบ้างที่จะต้องลดเป็นอันดับต้นๆ เพื่อให้ตัวเลขภาพรวมการลดก๊าซเรือนกระจกลดลงอย่างชัดเจน  ซึ่งแน่นอนอุตสาหกรรมด้านพลังงานจะต้องเป็นกลุ่มแรกที่จะต้องดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

วันนี้จึงถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อม โดยรัฐบาลจะต้องมีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐ เอกชน เพื่อที่จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะหากรอให้ถึงปี 2020 แล้วค่อยขยับตัว จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศซึ่งไม่เพียงแต่เรื่องสิ่งแวดล้อมเท่านั้นแต่เศรษฐกิจไทยอาจต้องสะดุดเพราะตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลงของโลก


มติชนออนไลน์
วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:10:27 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 03:16:17


ความคิดเห็นที่ 4856 (1595234)
ยอดผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหวในเปรูเพิ่มเป็น 145 คน

ลิมา 31 ม.ค. – เจ้าหน้าที่ของทางการเปรูรายงานว่า ยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ บริเวณชายฝั่งเปรูเมื่อเช้าตรู่วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพิ่มขึ้นเป็น 145 คนแล้ว นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับบริเวณชายฝั่งตอนใต้ของกรุงลิมา

สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองอิกาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 23 กม. เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนระบุว่า ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีผู้บาดเจ็บ 145 คน ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ทำให้บ้านเรือนพัง 125 หลัง และอาคารเสียหาย 581 หลัง ประชาชนในเมืองอิกา ปิสโก และอีกหลายเมืองต้องพักค้างตามสวนสาธารณะ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอาฟเตอร์ชอกตามมา ก่อนหน้านี้ เปรูเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์เมื่อเดือนเมษายนปี 2550 ในเขตอิกา มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และบาดเจ็บอีก 200,000 คน

สำนักข่าวไทย


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 03:17:20


ความคิดเห็นที่ 4857 (1595235)

.

ยุโรปหนาวจัดเฉียบพลัน
ทำคนตายหลายสิบชีวิต


 

หญิงชรา 2 คนในบัลแกเรีย กำลังเดินฝ่าสภาพอากาศที่หนาวจัด


บีบีซี - มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนในยูเครน โปแลนด์ เซอร์เบียและบัลแกเรีย หลังจากหิมะตกหนักและอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างฉับพลันทั่วยุโรป
       
เจ้าหน้าที่เผยว่าในโปแลนด์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน พรัอมๆ กับมีรายงานการตายของชาวบ้านในเซอร์เบียและบัลแกเรีย ขณะที่ยูเครน พบผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 18 คน และอีกเกือบ 500 คนต้องเข้ารักษาโรคน้ำแข็งกัดและสภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติในช่วง 3 วันที่ผ่านมา
       
กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของยูเครนบอกว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น มีอยู่ 12 รายที่เป็นคนเร่ร่อนและศพของเขาเหล่านั้นถูกพบตามท้องถนนสายต่างๆ


เจ้าหน้าที่ของโรมาเนีย กำลังเร่งกวาดหิมะเพื่อเปิดการจราจรหลังเกิดหิมะตกหนักและอุณหภูมิลดต่ำอย่างฉับพลัน


นอกจากนี้แล้ว สื่อมวลชนของยูเครนรายงานด้วยว่าจากสภาพอากาศอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างฉับพลันในช่วง 3 วันที่ผ่านมานี้ ยังส่งให้ชาวบ้านมากกว่า 17,000 คนต้องอพยพเข้าไปพักอาศัยตามสถานที่พักพิงชั่วคราวราว 1,500 แห่งทั่วประเทศ
       
สำนักข่าวเอพีระบุว่า ในยูเครนอุณหภูมิช่วงกลางวันจะอยู่ที่ประมาณ -16 องศาเซลเซียส ส่วนกลางคืนอุณหภูมิจะลดต่ำลงไปถึง -23 องศาเซลเซียส ขณะที่ในโปแลนด์ ที่เดิมทีอากาศก็ไม่ถึงขั้นสาหัสนัก ทว่า อุณหภูมิกลับลดอย่างเฉียบพลันเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (27) ลงไปต่ำกว่า -26 องศาเซลเซียส
       
มัลกอร์ซาตา วอซเนียค รัฐมนตรีมหาดไทยของโปแลนด์บอกกับสำนักข่าวเอพีว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมีทั้งคนชราและคนเร่ร่อน ขณะที่ทางศูนย์พยากรณ์อากาศโปแลนด์เตือนว่าอุณหภูมิอาจลดลงไปอีกในช่วงสัปดาห์นี้ โดยตอนกลางวันอาจติดลบราว 20 องศาเซลเซียส ส่วนกลางคึนอาจดิ่งลงไปถึง -30 องศาเซสเซียส


ที่เซอร์เบีย ก็เจอกับสภาพอากาศอันเลวร้ายเหมือนๆกับชาติอื่นๆ


ในเซอร์เบีย ตำรวจรายงานว่า สภาพอากาศที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้หญิงรายหนึ่งและชายชราอีก 2 คน ขณะที่ชายชราอีก 2 คนในวัย 70 เศษๆ สูญหายบริเวณภาคใต้ของประเทศ
       
ด้าน บัลแกเรีย ชาติเพื่อนบ้าน อากาศอันหนาวเย็นก็คร่าชีวิตชาวบ้านไปแล้วอย่างน้อย 1 ราย และด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายนี้ทำให้ทางการต้องจัดตั้งสถานพักพิงฉุกเฉินที่มีทั้งอาหารและความอบอุ่นในกรุงโซเฟีย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับที่สาธารณรัฐเช็ก ที่มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวที่กรุงปราก เมืองหลวงของประเทศ


ASTVผู้จัดการออนไลน์   31 มกราคม 2555 03:32 น.   


 



ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 03:18:24


ความคิดเห็นที่ 4858 (1595236)

 

คำอธิษฐานของเด็กสาว
 
ขอขอบพระคุณ ข้อมูลจาก http://ufokaokala.com/index.php?topic=5703.msg46997;topicseen#msg46997
 
เมื่อครั้งอดีตนานมาแล้ว...
มีเด็กสาวคนหนึ่งอายุอานามราว 13 ถึง 14 ปี มีนิสัยชอบสวดมนต์ไหวพระอยู่เป็นประจำ ทุก ๆ วันเธอจะสวดมนต์ไหว้พระเป็นเวลานาน หลังจากสวดมนต์จบแล้ว ก็จะก้มลงกราบหน้าองค์พระพุทธ พร้อมกับอธิษฐานทุก ๆ ครั้งว่า

‘ด้วยอานิสงส์ผลบุญนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้พบกับพระศรีอาริย์ในภายภาคหน้าด้วยเถิด’

คำอธิษฐานนี้ ได้ส่งผลให้เด็กสาวคนดังกล่าว ได้ประสบกับความสุข เมื่อตายลงก็ได้มีโอกาสเข้าถึงกระแสธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากกว่าคนอื่น ๆ เนื่องจากมีจิตใจบริสุทธิ์ ไม่เคยกล่าวคำอธิษฐานถึงสิ่งที่สนองตอบต่อกิเลสดังเช่นคนอื่น ๆ ตรงกันข้ามกับเศรษฐีผู้มีอันจะกินอีกคนหนึ่ง ซึ่งสวดมนต์ไหว้พระขอพรทุก ๆ วัน ดังนี้ว่า...

‘ขอผลบุญทั้งหมดที่ข้าพเจ้ากระทำในชาตินี้ ส่งผลให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีทรัพย์สมบัติมาก มีเงินทองใช้ไม่หมดไปจนชั่วลูกชั่วหลาน’

เนื่องจากอานิสงส์ผลบุญที่เศรษฐีได้เคยทำเอาไว้ คำอธิษฐานนั้นก็ได้เป็นจริงสมความปรารถนาทุกประการ แต่ทว่า...ความร่ำรวยที่ได้มา เมื่อตายลงไปก็ไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้ มีเพียงผลบุญอันน้อยนิด เนื่องจากเป็นคำอธิษฐานที่เต็มไปด้วยการหวังในผลบุญเท่านั้นเอง
เรื่องเล่าดังกล่าว สอนให้มนุษย์ได้รู้ซึ้งถึงความหมายของการไหว้พระ ว่าการไหว้พระสวดมนต์ที่แท้จริงนั้นควรทำด้วยใจบริสุทธิ์ มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ไม่ควรหวังในผลบุญ เพราะนั่นเป็นการทำบุญด้วยใจที่ไม่บริสุทธิ์ เมื่อตายลงและเกิดกายอยู่บนสวรรค์ รัศมีรอบกายจักสว่างไสวจนประมาณไม่ได้ หรือว่าอับแสงหมองหม่น ก็ล้วนแต่เกิดจากอานิสงส์ที่เกิดจากใจทั้งนั้น
ปัจจุบันมีมนุษย์สักกี่คนกัน ที่ก้มลงกราบพระพุทธ ด้วยใจเปี่ยมศรัทธาอย่างแท้จริง ไม่กล่าวคำอธิฐานใด ๆ ทุกท่านมองเห็นถึงความจริงได้หรือไม่ว่า
คำอธิฐานแบบใดกันแน่...ที่จะทำให้เรามีโอกาสหลุดพ้นและเข้าถึงธรรมอย่างแท้จริง...


สะพานธรรม...ผู้บันทึก
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 03:21:40


ความคิดเห็นที่ 4859 (1595239)

"ดร.อาจอง" เผยความจริงที่ทุกบ้านควรรู้เกี่ยวกับ "มังสวิรัติ"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มกราคม 2555 12:44 น
ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

 

กล่าวได้ว่า สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ มากมายในทุกวันนี้ หนึ่งในสาเหตุหลักมาจากวิถีแห่งการ "รับประทาน" ทำให้หลาย ๆ ครอบครัวเริ่มตระหนัก และหันมาให้ความสำคัญกับอาหารสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในอาหารทางเลือกที่หลายคนเชื่อว่าเป็นทางรอดเพื่อสุขภาพนั้น เราคงจะปฏิเสธอาหาร "มังสวิรัติ" ไปไม่ได้

เช่นเดียวกับ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อีกหนึ่งบุคคลที่ตระหนักถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ "มังสวิรัติ" อย่างถ่องแท้ และเป็นต้นแบบและผู้นำทางความคิดในเรื่องนี้อย่างจริงจัง นับเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขบนวิถีแห่งมังสวิรัติได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับบรรดาเด็กนักเรียนและบุคลากรในรั้วโรงเรียนสัตยาไส ซึ่งท่านบอกเล่าให้ฟังว่า เลิกกินเนื้อสัตว์ตั้งแต่อายุ 30 ปี เพราะไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการฆ่าสัตว์ และที่สำคัญอยากมีสุขภาพดี และมีชีวิตที่ยืนยาวถึง 120 ปี

"ทุกวันนี้ 72 ปีแล้ว ไม่เจ็บไม่ป่วย หรือมีปัญหาด้านสุขภาพเลย ตรวจสุขภาพแล้วไม่มีคอเลสเตอรอล ไม่มีไขมัน ไม่มีน้ำตาล" ดร.อาจองเผยถึงผลต่อสุขภาพที่เห็นได้ชัดหลังจากหันมากินมังสวิรัติ

ลึกลงไปในประเด็นเรื่อง "มังสวิรัติ" ดร.อาจอง ให้ข้อเท็จจริงในงานเปิดตัวหนังสือแท้จริงแล้วมนุษย์เป็นสัตว์กินพืชของสำนักพิมพ์ฟรีมายด์เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า มนุษย์ไม่เหมาะกับการกินเนื้อสัตว์ เพราะหากพิจารณาลักษณะทางกายภาพของมนุษย์แล้ว เราไม่เหมือนกับสัตว์กินเนื้อตรงที่ระบบการย่อยของมนุษย์มีความยาวมากกว่าร่างกาย 9 เท่า ในขณะที่สัตว์กินเนื้อมีเพียง 3 เท่า ซึ่งเป็นผลดีสำหรับพวกมันเพราะจะทำให้เนื้อสดที่กินเข้าไปย่อยสลายได้เร็วและขับถ่ายออกมาก่อนที่มันจะบูดเน่าอยู่ในท้อง แต่สำหรับมนุษย์ การกินเนื้อสัตว์เข้าไปมาก ๆ ยิ่งทำให้เนื้อเหล่านั้นเน่าเสียอยู่ในท้องเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ตามมาในภายหลัง

"การกินเนื้อสัตว์ เหมือนเราเอาซากศพเข้าไปไว้ในท้อง เนื่องจากลำไส้มนุษย์จะยาว ผิดกับสัตว์กินเนื้อที่มีลำไส้สั้นแค่ 3 เท่าของร่างกาย นั่นเป็นผลดีสำหรับพวกมัน ในขณะที่สัตว์กินพืชมีความยาวของลำไส้ประมาณ 12 เท่าของร่างกาย ทำให้อาหารที่กินเข้าไปมีเวลาอยู่ในท้องได้นาน แต่เมื่อมันกินแต่พืชผักก็ไม่เป็นปัญหา เพราะอาหารเหล่านั้นย่อยและขับออกมาจากร่างกายได้ง่าย มนุษย์ก็เหมือนกับสัตว์กินพืชที่มีลำไส้ยาว การกินผักจึงดีกว่าเนื้อสัตว์อย่างแน่นอน" ดร.อาจองขยายความ

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมนุษย์ควรลดเนื้อสัตว์ลงมาบ้าง เพราะนอกจากจะย่อยยาก และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ตามมาในภายหลังแล้ว ยังทำให้มนุษย์อายุสั้นอีกด้วย

"สัตว์กินเนื้อส่วนใหญ่มีอายุไม่ยืน อย่างสิงโต อายุเฉลี่ยแค่ 18 ปี เมื่อเทียบกับสัตว์ที่กินพืชผักอย่างช้าง อายุเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 60 ปี หรือม้า วัว และควาย อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 ปี ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสัตว์กินเนื้อตายเร็วกว่าสัตว์กินพืช เหมือนกับชาวเอสกิโมที่กินเนื้อ และไขมันจำนวนมาก มักจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 29 ปีเท่านั้น ขณะที่ชาวหันสา ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในปากีสถาน กินเมล็ดธัญพืช อาหารสด ผลไม้ และผัก เราพบว่า คนกลุ่มนี้มีอายุยืนถึง 110 ปีเลยทีเดียว" ดร.อาจองเผย

 
ขอบคุณภาพประกอบจาก fearfatclub.com
อย่างไรก็ดี การหันมากินมังสวิรัติ หรือช่วยกันลดเนื้อสัตว์ ไม่เพียงแต่จะมีผลดีต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังช่วยลดปัญหาความอดอยากขาดแคลนของผู้คนบนโลกใบนี้ได้อีกนับหลายล้านคน เนื่องจากธัญพืชที่ถูกนำไปเลี้ยงสัตว์จำนวนมากจะเหลือเพียงพอกับคนทั้งโลก และไม่มีใครต้องทนหิวอีกต่อไป

"ทุกวันนี้ 1 ใน 3 ของธัญพืชที่ผลิตได้ทั้งโลก ถูกนำไปใช้ในการทำปศุสัตว์เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงวัวเลี้ยงสัตว์ แทนที่จะนำไปเป็นอาหารแด่เพื่อนร่วมโลก 1,500 ล้านคนที่อดอยากทุกข์ยากเพราะความหิว"

นอกจากนี้ การหันมากินมังสวิรัติยังช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย

"การกินผักช่วยให้โลกเย็น แต่การกินเนื้อสัตว์เป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดโลกร้อนเพราะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการบุกรุกทำลายป่าอย่างป่าอเมซอนในบราซิล เริ่มถูกโค่นลง เพื่อทำทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ไม่เพียงเท่านั้นในมูลสัตว์มีก๊าซมีเทนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 21 เท่า ซึ่งเป็นตัวการทำให้โลกร้อนขึ้น" ดร.อาจองให้ข้อมูล

ดังนั้น การทานมังสวิรัติจึงไม่ใช่แค่เรื่อง "การกินผักแล้วได้บุญ" แต่ยังส่งผลกระทบที่ดีอีกกว้างไกล

อ่านถึงบรรทัดนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเห็นข้อเท็จจริงในหลากหลายมิติเกี่ยวกับการทานมังสวิรัติกันได้ดีขึ้น ซึ่งทีมงาน และดร.อาจองไม่ได้มุ่งหวังให้ทุกคน หรือทุกครอบครัวเปลี่ยนแปลงแบบพลิกขั้ว แต่ต้องการเป็นเสมือนตัวแทนการบอกเล่าความจริงเกี่ยวกับการทานมังสวิรัติ เพื่อนำเสนอเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้อ่าน Life & Family นำไปพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าหนทางไหนเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณเองครับ

 

 

 

 



 

 



ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 03:51:37


ความคิดเห็นที่ 4860 (1595378)
1/02 อากาศหนาวจัดในกรีซ อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส




มวลอากาศเย็นกำลังแผ่ปกคลุมไปทั่วยุโรป โดยที่ประเทศกรีซกำลังเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็น เนื่องจากมีหิมะตกหนัก อุณหภูมิลดต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส และคาดว่าอุณหภูมิจะลดลงถึง ลบ 14 องศาเซลเซียส

สภาพอากาศที่หนาวจัดแผ่ปกคลุมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศกรีซ ทำให้มีหิมะตกหนัก ถนนหลายสายต้องปิดการสัญจรเพื่อความปลอดภัย โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส โดยในกรุงเอเธนส์ อุณหภูมิลดต่ำติดลบ 1 องศาเซลเซียส
ด้าน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของกรีซคาดการณ์ว่า มวลอากาศเย็น ซึ่งเคลื่อนตัวเข้ามาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะแผ่ปกคลุมต่อไป 2-3 วัน และคาดว่าอุณหภูมิจะลดลงรวดเร็วไปอยู่ที่ ลบ 14 องศาเซลเซียส

Temperatures below zero, frost, snowfall. These are the features of the ice cold weather that hit Greece coming from Siberian Russia. In Athens, temperatures fell at -1 degrees Celsius in the morning and snowflakes fell even at the sea coast of the Greek capital. Schools were closed in some northern suburbs of Athens and the broader Attica area. The mountains surrounding Athens have turned white and a icy cold north wind is blowing. Some roads leading to the mountains have been closed to traffic as precaution

In some Athens suburbs like
Kifisia, schools will open later on Wednesday due to frost

 

“เขื่อนราษีไศล” พร่องน้ำรับมือเขื่อนใหญ่โคราช - ฤดูฝนมาเร็ว

ศรีสะเกษ - เขื่อนราษีไศลเตรียมพร่องน้ำรับมือการระบายน้ำจากเขื่อนใหญ่โคราช รวมทั้งฤดูฝนที่จะมาเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา ขณะปริมาณน้ำในเขื่อนยังคงมีมากถึงร้อยละ 84

วันนี้ (1 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายจำรัส สวนจันทร์ หัวหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ว่าจะมีการพร่องน้ำออกจากเขื่อนต่างๆ โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ในจ.นครราชสีมา เพื่อเป็นการรักษาระดับน้ำจากร้อยละ 80 เป็นร้อยละ 50 ไปจนถึงเดือน มิ.ย.55 ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางเขื่อนราษีไศลก็ต้องมีการรักษาระดับน้ำเช่นเดียวกันหากมีการพร่องน้ำจากเหนือเขื่อนมาในปริมาณเท่าใดทางเขื่อนต้องระบายออกเท่านั้น เพื่อรักษาระดับน้ำในเขื่อนให้อยู่ในปริมาณที่เก็บกักเพียงพอสำหรับการเกษตรและรักษาระบบนิเวศท้ายเขื่อนด้วย ซึ่งขณะนี้เขื่อนราษีไศลมีปริมาณน้ำอยู่กว่า 64 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 84 ของความจุเขื่อน

นายจำรัสกล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเขื่อนราษีไศลมีการปิดประตูระบายน้ำ ตามมติคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2554 ที่ผ่านมาแล้ว แต่ได้ยกบานระบายน้ำเพียง 1 บาน เพื่อระบายน้ำออกจากเขื่อนบ้าง และรักษาระบบนิเวศวิทยาท้ายเขื่อนอีกด้วย และในวันนี้ (1 ก.พ.) ก็ได้มีการปรับยกบานประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2 บานแล้วเพื่อพร่องน้ำออกจากเขื่อน และเพื่อเตรียมรับมือน้ำที่จะเข้ามาในช่วงฤดูฝนซึ่งจะมาเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา

 

ฝูงลิงบาบูนคะนอง ป่วนซิมบับเว ฉกอาหาร-ทำร้ายคน

วันที่ 01/02/2555 14:00





Picture : lonelyplanet

ฝูงลิงบาบูนออกอาละวาดแย่งอาหารทำร้ายผู้คน บริเวณชายแดนซิมบับเว-แซมเบีย ทางการยอมรับควบคุมยาก เพราะมันฉลาดและเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างจากหนังสือพิมพ์นิวส์เดย์ของซิมบับเว ระบุว่า ฝูงลิงบาบูนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ บริเวณชายแดนซิมบับเวติดกับแซมเบีย พากันออกอาละวาดก่อความวุ่นวาย หยิบฉวยหาอาหารจากย่านที่พักอาศัยของผู้คนและนักท่องเที่ยว ตลอดจนทำลายสิ่งของเสียหายมากมาย รวมถึงรถยนต์ และหลายครั้งฝูงลิงดุร้ายยังไล่กัดคนอย่างบ้าคลั่งด้วย

อย่างไรก็ดี ทางการออกมายอมรับว่า บริเวณพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศนั้น เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จึงมีฝูงลิงบาบูนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากใกล้ชิดนักท่องเที่ยว และแหล่งที่พักอาศัยของมนุยษ์ มันจึงมีความฉลาดเป็นกรด และพยายามทำพฤติกรรมต่างๆ ลอกเลียนมนุษย์ ทำให้ยากต่อการควบคุม.

ไทยรัฐออนไลน์


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 18:52:46


ความคิดเห็นที่ 4861 (1595399)

พายุหิมะปกคลุมอย่างหนักไปทั่วตอนเหนือ และตะวันตกของญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 53 ราย และบาดเจ็บอีกนับร้อย

 

Image: A bridge in Sakae, Nagano Prefecture, thought to have collapsed because of heavy snow, is seen on Jan. 30. (Mainichi)

Heavy snow has left 53 dead and hundreds injured in several prefectures in western and northern Japan, it has been learned.

The loss of life came primarily in five prefectures along the Sea of Japan in the Tohoku region and Hokkaido, with 12 dead in Niigata, 11 in Hokkaido, nine in Aomori, eight in Nagano and six in Akita.

Reported injuries have already surpassed 574, with over 100 in four of the five prefectures affected most by the strong cold air mass sweeping through the region.

Meanwhile, a number of municipalities blanketed by the heavy snow say they have run out of funds for snow removal, and have begun urgent calls on the central government for financial assistance.

According to Niigata Prefecture, the prefecture"s 30 municipalities had budgeted a total of some 13 billion yen for snow removal, but that as of Jan. 23 at least 12 could no longer afford to keep clearing snow, forcing the prefectural government to step in with supplementary funds. Furthermore, six cities in the prefecture have tapped central governmental emergency aid under the Disaster Relief Act.

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 20:59:27


ความคิดเห็นที่ 4862 (1595400)

Last updated at 11:40 PM on 31st January 2012

อังกฤษอากาศหนาวสะท้าน แทบไม่ต่างจากขั้วโลกใต้ สาธารณสุขรัฐประกาศเตือนระดับ 3 หวั่นประชาชนจะแข็งตายนับพันต่อสัปดาห์จากภัยหนาว


*Department of Health issue "Level 3" cold-weather alert as freeze poses significant health risks
Warning of ice forming on untreated surfaces

*A cold snap that has left dozens dead across Eastern Europe will reach Britain by the weekend.
Temperatures are set to plunge far below freezing point making the country even colder than the South Pole.


Forecasters are expecting overnight temperatures of between -8c (18f) and -10c (14f) on Friday.
The McMurdo research facility in Antarctica is currently recording -6c (21f) at night. The bitter cold has forced some countries to deploy their armed forces and set up emergency accommodation.

Health chiefs have also started warning that as a result of the freezing conditions, more than 1,500 people a week could be killed by the weather.

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 21:00:43


ความคิดเห็นที่ 4863 (1595402)

A magnitude 4.7 earthquake has struck Samar, Philippines

 

A magnitude 4.7 earthquake has struck Samar, Philippines at a depth of 100.2 km (62.3 miles), the quake hit at 04:39:22 UTC Wednesday 1st February 2012

The epicenter was 62 km (38 miles) Northeast of Tacloban, Leyte,
Philippines


No Tsunami Warning Issued - No Reports of Damage or Injuries at this time

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 21:03:13


ความคิดเห็นที่ 4864 (1595405)

5.6 2012/02/01 07:14:28 -3.739 102.162 69.1 SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA

อยากให้ เตรียมพร้อมเรื่องแผ่นดินไหวช่วงนี้ เหตุจาก

1) แผ่นดินไหวถี่ในไทย

2) มีคนเห็นเมฆแผ่นดินไหวกันถี่มาก
3) อเมริกามีการซ้อมใหญ่แผ่นดินไหว
4) ดวงจันทร์อยู่แนวประเทศไทย

สหรัฐอเมริกาเตรียมซ้อมแผนรับมือแผ่นดินไหวบริเวณ New Madrid Fault

ตรงกับช่วงที่มีปรากฏการณ์ดาวเคราะห์เรียงตัวพอดี 7  กุมภาพันธ์

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 21:16:50


ความคิดเห็นที่ 4865 (1595406)

อย่าลืมทำกสิณไฟ

จะช่วยป้องกัน ภัยหนาวได้

 

บุญ เท่านั้น

ที่จะช่วยได้

มันมาแล้ว...เตรียมพร้อม...กันนะ

 

อย่าประมาท...อย่าตกใจ

ยังไงมันก็ต้องมา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-01 21:19:59


ความคิดเห็นที่ 4866 (1595682)

กราบขอบพระคุณค่ะอาจารย์

ที่กรุณาตามมาเตือนทุกระยะ

เพื่อให้พวกเราเตรียมพร้อมทั้งกายและใจ

เตรียมพร้อมตลอดเวลา  ไม่ประมาท  ไม่เผลอ

สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 10:10:24


ความคิดเห็นที่ 4867 (1595686)

สมาคมต่อต้านโลกร้อนค้านสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 14:45 น.



ออกแถลงการณ์ฉบับที่5 สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ค้านสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรป้องกันน้ำท่วม อ้างไม่ยอมชี้แจงผลกระทบ พร้อมขู่ฟ้องรัฐบาล
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 เรื่องคัดค้านการสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรป้องกันน้ำท่วม ตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้ทำการสนับสนุนให้ธนาคารออมสินเป็นผู้ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสุด 0.01 % เป็นเวลากว่า 10 ปี วงเงินกว่า 15,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมทั้งหลายในพื้นที่ ที่อยู่ในแนวเส้นทางน้ำผ่าน กู้ไปดำเนินการก่อสร้างเขื่อนหรือผนังกั้นน้ำถาวร ขึ้นล้อมรอบนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ถูกน้ำท่วม หรือมีความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วม โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่นหรือไจก้า มาร่วมกันวางแผนให้คำปรึกษาในการสร้างเขื่อนตามนิคมต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน อีกทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยอ้างว่าได้มีการประชุมร่วมกันกับรองนายกรัฐมนตรี ได้ข้อสรุปว่ารัฐบาลจะมีการตั้งกองทุน เพื่อช่วยเหลือนิคมอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ตั้งแต่การปล่อยกู้ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสูบน้ำ และการกู้เพื่อสร้างผนังกั้นน้ำถาวร ดังตัวอย่างโมเดลของเนเธอร์แลนด์ ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล แต่สามารถอยู่ได้ ซึ่งสภาอุตสาหกรรมเห็นชอบด้วยเต็มที่ความดังทราบแล้วนั้น

นายศรีสุวรรณระบุต่อว่า สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ขอคัดค้านนโยบายและการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้เพราะข้อเสนอของรัฐบาลและเอกชน ไม่เคยมีใครหรือหน่วยงานใดเลยที่จะออกมาพูดถึงผลลบหรือผลกระทบอย่างรุนแรง ที่จะเกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนหรือผนังกั้นน้ำถาวร หรือแม้แต่ข้อเสนอแนะทางออก หรือลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อชุมชน โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมนั้น ๆ ว่าจะลดผลกระทบที่จะต้องเกิดขึ้นกับพวกเขามากขึ้นอย่างไร ไม่มีหน่วยงานใดสนใจ ทุกคนทุกหน่วยงานมุ่งแต่จะเอาอกเอาใจผู้ประกอบการนักลงทุน แต่ชุมชนชาวบ้านรอบนิคมอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบ การสร้างเขื่อนหรือพนังกั้นน้ำถาวร อาจทำให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นในชุมชนรอบข้าง และสร้างความเสียหายให้พื้นที่หลายแห่งโดยรอบที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งรัฐบาลและผู้ประกอบการไม่เคยที่จะไปทำความเข้าใจ และหาทางวางแผนไม่ให้ผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนหรือไม่มีการกำหนดมาตรการชดเชย เยียวยาที่เหมาะสมเสียก่อนที่จะวางแผนหรือดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว หรือไม่มีมาตรการการแก้ไขปัญหาน้ำหลากอย่างเบ็ดเสร็จแล้วเสียก่อน

นายกสมาคมฯเปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ยังไม่มีการกำหนดมาตรการที่ชัดเจน ในการจำกัดขอบเขตการไหลของน้ำ ยังทำให้ลักษณะการไหลของน้ำหลากเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ระดับน้ำสูงขึ้น ความเร็วและอัตราการไหลเพิ่มขึ้น ความรุนแรงของคลื่นเปลี่ยนแปลง และเวลาเดินทางของน้ำเพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งผลด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น มีผลกระทบต่อระบบนิเวศและแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์ รวมทั้งลักษณะภูมิประเทศเดิมที่มีอยู่ ปัญหาเหล่านี้ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาล ไม่ได้คิดหาคำตอบก่อนที่จะสนับสนุนการสร้างเขื่อนกั้นน้ำหรือผนังกั้นน้ำถาวร ทั้งนี้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกำลังแก้ปัญหาโดยมีมุมมองเพียงด้านเดียว ในการบริหารจัดการในการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในอนาคต ขาดบริบทของการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง โดยกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอย่างจงใจ ท้าทายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 30 มาตรา 57 มาตรา 58 มาตรา 66 และมาตรา 67 อย่างเจตนา

“สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจึงขอประกาศคัดค้านแนวคิด นโยบายและแผนการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาล หากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคิดจะปกป้องนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวกันจริง เพื่อหวังเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนแล้วละก็ มีทางเดียวเท่านั้น คือ รัฐบาลต้องมีแผนหรือมาตรการที่ชัดเจน เป็นรูปธรรมเสียก่อนแล้วเท่านั้น โดยนำมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมเป็นตัวตั้ง ก่อนที่จะอนุมัติแผนงานหรือเงินทุนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไปดำเนินการก่อสร้างเขื่อนหรือผนังกั้นน้ำถาวร แต่หากรัฐบาล กยน.และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ยังดื้อดึงหรือไม่สนใจคำทักท้วงนี้ ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการสร้างเขื่อนหรือผนังกั้นน้ำถาวรต่อไป สมาคมฯและชาวบ้าน ชาวชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังกล่าว คงไม่สามารถคงไม่สามารถหาทางออกอื่นใดได้ นอกจากการพึ่งอำนาจศาลในการหาข้อยุติในการกระทำดังกล่าวของรัฐบาลและเอกชนได้เท่านั้น” นายศรีสุวรณเผย.

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 10:14:26


ความคิดเห็นที่ 4868 (1595688)

กรุงเทพฯและฝั่งธนฯอ่วม ฝนถล่ม ท่วมหลายจุด รถติดหนึบ

วันที่ 02/02/2555 16:25


ศูนย์วิทยุพระราม 2 รายงานว่า ขณะนี้ฝนตกหลายจุดในพื้นที่ฝังธนฯ เขตราษฎร์บูรณะ จอมทอง คลองสาน ธนบุรี บางกอกใหญ่ ฝนตกมากว่า 30 นาทีแล้ว และในเขตบางบอน บางขุนเทียน หนองแขม ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ่ม และมีลมกันโชกแรงในบางพื้นที่ บางจุดเริ่มมีปริมาณน้ำฝนบ้างเล็กน้อย การจราจรในถนนตากสิน คลองสาน และหลาย ๆ ช่องทางที่มุ่งหน้าสู่วงเวียนใหญ่ รถมากเคลื่อนตัวช้า ศูนย์ วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน รายงานว่า หลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ขณะนี้ ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง และจราจรติดขัดหลายจุด

อาทิ บริเวณถนนรามคำแหง ขาออก ทั้งพื้นราบและบนทางยกระดับรามฯ จากแยกรามคำแหง มุ่งหน้า แยกลำสาลี รถหนาแน่นติดขัด เนื่องจากก่อนถึงแยกลำสาลีประมาณ 100 เมตร มีอุบัติเหตุรถชนกัน 4 คัน กีดขวางการจราจร และในเส้นทางถนนรามคำแหง มีฝนตกหนัก ถนนอ่อนนุช ช่วงแยกตัดสุขุมวิท น้ำท่วมขังเสมอฟุตปาธ ถนนรัชดา-ลาดพร้าว ถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าดาวคะนอง การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้า ถ.ดินแดง ถ.ประชาสงเคราะห์ เป็นต้น จึงแจ้งให้ผู้ใช้เส้นทาง ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

ทางด้าน สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงาน ฝนที่ตกลงมาส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง 2 จุด ประกอบด้วย 1.บริเวณเตาปูน ช่วงถนนประชาราษฎร สาย 1 น้ำท่วมสูง เฉลี่ย 5-10 ซ.ม. ระยะทาง 50 เมตร 2.บริเวณถนนสุขมวิท 62 น้ำท่วมสูง 10-20 ซ.ม. ระยะทางยาว จราจรยังเคลื่อนตัวได้แต่ช้า ขณะที่ ปริมาณฝนยังตกลงมาต่อเนื่อง เบื้องต้น สำนักการระบายน้ำ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำในจุดดังกล่าว เพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว


ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 10:15:42


ความคิดเห็นที่ 4869 (1595701)

กราบขอบพระคุณอาจารย์แม่อุบล

ที่มีเมตตาต่อลูกหลานบ้านสวนฯอย่างหาประมาณมิได้

คอยเตือนลูกหลานกันตลอดเจ้าค่ะ

และขออนุโมทนาบุญสำหรับพี่ตาล

ที่คอยส่งข่าวเตือนภัยแบบระยะประชิดค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

ว่าก็ว่าเถอะค่ะบ้านย่านยาว(ตก)ที่น้องทรายอยู่ตอนนี้นะค่ะ

พอตกค่ำเข้าหน่อยต้องรีบอาบน้ำแล้วค่ะ

เพราะว่ากลางคืนอากาศหนาวมาก ๆ

และอีกอย่างลมก็แรงด้วยค่ะ

โชคดีที่มีคำเตือนที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาของอาจารย์แม่อุบลและข่าวคราวที่พี่ตาลและพี่อาริยาเตือนกันมาตลอดก็เลยซื้อเสื้อกันหนาวหนาๆไว้ก่อนแล้วนะเนี่ย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (นางสาวลักขณา ศรประสิทธิ์) (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 11:33:20


ความคิดเห็นที่ 4870 (1595722)

อะจ๊ากก นี่ทั่วโลกแต่ละวันๆมีคนตายเพราะภัยพิบัติความหนาวขนาดนี้เลยเหรอ เมืองไทยเราก็เตรียมตัวกันให้ดีเลยนะครับ

โปรดอ่านความเห็นที่ #4865 ของท่านอาจารย์อุบลด้วยนะครับ เตรียมเสบียงบุญ เสบียงทางโลกให้ดีนะครับ !!!

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 12:53:44


ความคิดเห็นที่ 4871 (1595757)

เหนือ-อีสานอากาศเย็น กลาง-ตะวันออกมีฝนเป็นแห่งๆ

วันที่ 03/02/2555 07:00





ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็น จากความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นเข้าปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเป็นแห่งๆ...

เมื่อเวลา 04:00 น. วันที่ 3 ก.พ. 55 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ว่า บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็น ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเป็นแห่งๆ

สำหรับคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ.55 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนในระยะแรกต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 15:22:59


ความคิดเห็นที่ 4872 (1595759)

ส่วนอังกฤษเตรียมความพร้อมเผชิญภัยหนาว คาดอุณหภูมิต่ำสุด -10c ช่วงสุดสัปดาห์นี้

Last updated at 1:22 AM on 3rd February 2012



 
Snowy scenes: Freya Kirkpatrick, 4, surveys the wintry landscape on top of Rushup Edge near Edale, Derbyshire, yesterday as temperatures plummet

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 15:25:08


ความคิดเห็นที่ 4873 (1595762)

จีนหนาวติดลบ 47 องศาฯ เตือน ปชช.พร้อมรับมือคลื่นความเย็นสูงสุด

บางพื้นที่ของเขตมองโกเลียใน ซึ่งตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจีน ขณะนี้อุณหภูมิลดต่ำลงอยู่ที่ลบ 40 องศาเซลเซียส โดยสภาพอากาศหนาวเย็นจัดเช่นนี้ต่อเนื่องมาแล้วเกือบ 10 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า ถือว่าเป็นช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของจีน ที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด โดยในบางพื้นที่อุณหภูมิลดลงไปถึงลดลงไปถึงลบ 47 องศาเซลเซียส
ทางการจีนได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังรักษาสุขภาพ และเตรียมพร้อมอุปกรณ์ทำความอบอุ่น พร้อมรับมือกับคลื่นความเย็นระลอกสูงสุดที่จะพัดเข้ามาปกคลุมอีก

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 15:38:26


ความคิดเห็นที่ 4874 (1595763)

เหตุการณ์วันนี้

Update 3 ก.พ. 55 ช่วงเช้า ยอดตายจากภัยหนาวยุโรป โปแลนด์=29 ยูเครน=63 โรมาเนีย=22 บัลแกเรีย=10 ลัตเวีย=10



ทุ่นสึนามิ 32401 แถวเปรู อเมริกาใต้ ส่งสัญญาณบอกระดับกระแสน้ำผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของอุปกรณ์



USGS แก้ไขความแรงแผ่นดินไหวเมื่อ 20:34 เมื่อคืนนี้ที่ประเทศวานูอาตู จาก 6.9 เป็น 7.1

NASA พบข้อยืนยันว่าโลกร้อนเกิดจากสภาพเรือนกระจก ไม่ใช่เกิดจากปฏิกิริยาดวงอาทิตย์ (....อืมมม...แต่ก็ไม่แน่นะ...)

05:30 กทม 26°C หาดใหญ่ 25°C เชียงใหม่ 22°C ลำพูน 22°C ลำปาง 22°C เชียงราย 20°C อุบล 22°C หนองคาย 23°C

05:30 มีอาฟเตอร์ช็อค 7 ครั้งหลังแผ่นดินไหใหญ่ 6.9 ที่หมู่เกาะวานูอาตูเมื่อ 20:34 วานนี้

04:00 พายุโซนร้อนอิกกิ ลดกำลังลงเป็นพายุดีเรสชันแล้ว มีแนวโน้มจะสลายตัวใน 24 ชม นี้

03:00 รายงานล่าสุด 2 ก.พ. 2555 เขื่อนภูมิพลมีระดับน้ำลดลงอีก 19 เซ็นติเมตร จากแผนระบายน้ำ 63 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือน้ำเก็บกัก 82.16% ของความจุ

03:00 รายงานล่าสุด 2 ก.พ. 2555 เขื่อนสิริกิติ์มีระดับน้ำลดลงอีก 18 เซ็นติเมตร จากแผนระบายน้ำ 49 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือน้ำเก็บกัก 80.18% ของความจุ

01:00 ระดับน้ำเก็บกักล่าสุดเขื่อนกระเสียว(100%),แม่งัด(98%),ลำแซะ(93%),มูลบน(91%),ศรีนครินทร์(86%)

ดาวเคราะห์น้อย (2012 BW61) กำลังเข้าใกล้โลกในระยะห่าง 18 เท่าของดวงจันทร์ ด้วยขนาดราว 37 เมตร ความเร็ว 16.53 กม


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 15:39:24


ความคิดเห็นที่ 4875 (1595764)

กทม.ยันไม่เวนคืนที่ดินฝั่งตะวันออกทำพื้นที่รับน้ำ

วันที่ 03/02/2555 12:40


เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ กรุงเทพมหานครจัดประชุมนำเสนอแนวทางพัฒนาย่านที่อยู่อาศัย เขตประเวศ สะพานสูง ลาดกระบัง มีนบุรี เพื่อช่วยระบายน้ำหลากลงสู่อ่าวไทย ซึ่งขณะนี้ ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาสำรวจ และออกแบบรายละเอียดเบื้องต้น ซึ่งจะพัฒนาใน 7 พื้นที่ ได้แก่ โรงพยาบาลสิรินธร เขตประเวศ พื้นที่สวนนกพัฒนา เขตสะพานสูง พื้นที่บึงกระเทียม เขตมีนบุรี พื้นที่วัดสุทธาโภชน์ ถนนฉลองกรุง พื้นที่หลังศูนย์บริการสาธารณสุข 45 ร่มเกล้า และพื้นที่หน้าโรงเรียนอรรถญาสาธิต เขตลาดกระบัง

ม.ร.ว.เปรมศิริ เกษมสันต์ ผู้อำนวยการการสำนักผังเมือง ยืนยันว่า จะไม่มีการเวนคืนที่ดินพื้นที่ฝั่งตะวันออก เพื่อทำเป็นพื้นที่รับน้ำ เนื่องจากมีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น พร้อมย้ำว่า จากนี้จะคุมเข้มการใช้ประโยชน์ของที่ดินบริเวณดังกล่าว ที่กำหนดเป็นพื้นที่รับน้ำ ไม่ให้สร้างหมู่บ้านหรือสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับสถานปัจจุบัน ไม่ขัดกฎหมาย และความต้องการของประชาชน


"ปลอดประสพ"เผยแผนจัดการน้ำระยะสั้นเสร็จกรกฎาคมนี้

วันที่ 03/02/2555 13:19


การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำหรือ กยน. ช่วงบ่ายวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการ หลังนักวิชาการในคณะกรรมการยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ในแผนบริหารจัดการน้ำระยะยาว
นายปลอดพระสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นรัฐบาลและ กยน.อนุมัติ 6 โครงการ รวมงบประมาณ 7,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำระยะสั้น ซึ่งทั้งหมดจะเสร็จภายในเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฎาคม 2555 เป็นอย่างช้า

สำหรับการกำหนดพื้นที่รับน้ำนั้น กยน.จะประกาศภายใน 2-3 เดือนนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 24,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่างจะเป็นพื้นที่รับน้ำ โดยนายปลอดประสพคาดว่า จะเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ใน จ.ชัยนาท ที่จะทำเป็นทางน้ำผ่านหรือฟลัดเวย์ (Flood Way)



ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-03 15:41:50


ความคิดเห็นที่ 4876 (1595833)

ความเห็นที่ 4865 (1595406)
แจ้งลบความคิดเห็น
avatar
อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์

อย่าลืมทำกสิณไฟ

จะช่วยป้องกัน ภัยหนาวได้

 

บุญ เท่านั้น

ที่จะช่วยได้

มันมาแล้ว...เตรียมพร้อม...กันนะ

 

อย่าประมาท...อย่าตกใจ

ยังไงมันก็ต้องมา

 

อาริยา เเละ ครอบครัว ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์อุบลในความเมตตาห่วงใยชี้เเนะ เตือนลูกๆบ้านสวนเเละทุกท่านทั่วโลกในการเตรียมเสบียงบุญ  เตรียมสติเตรียมตัว ค่ะ  ขนาดท่านมีภารกิจมากมาย ช่างเป็นมหาบุญของพวกเรา ขอบารมีพระพุทธองค์ได้โปรดดลบันดาลให้ท่านอาจารย์ เเละครอบครัวมีความสุขมากๆค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:30:41


ความคิดเห็นที่ 4877 (1595834)

 

Queensland น้ำท่วมหนัก ได้ประกาศเป็นพื้นที่เขตภาวะฉุกเฉินแล้ว



A REGIONAL Queensland town is enduring its worst-ever flood and eight more are bracing as the deluge in the state"s sodden southeast shows no sign of letting up.


The swollen Maranoa River has risen and inundated 15 homes in Mitchell, west of Roma.

Dozens more houses and businesses are expected to be flooded as the river rises to a predicted peak of 9m overnight.

A disaster situation has been declared and about 50 residents are spending the night at a makeshift evacuation centre at a council depot.

Maranoa Mayor Robert Loughnan says up to 45 homes may be inundated.

"We"ve never had a flood of this magnitude in Mitchell before," he told ABC Radio.

The river was at 8.8m and steady at 8.30pm (AEST), but could reach 9m overnight as more rain threatens.

Mitchell has copped 94mm of rain in the past two days as a monsoonal trough hovers over central and southern Queensland.

It is threatening to dump over 100mm of rain on the region between Charleville and Roma in the next 24 hours.

Eight other regional towns are bracing for flooding, including St George, downstream from Mitchell. Read More

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:36:13


ความคิดเห็นที่ 4878 (1595835)

เซอร์เบีย - พายุหิมะถล่มตัดถนน

ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านห่างไกลกว่า 11,000 คนไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอก

ทางการต้องใช้เฮอริคอปเตอร์เพื่อเข้าช่วยเหลือ


11 Thousand citizens of Serbia Stuck Snowstorm



Thursday, February 2, 2012
Posted by Monster News / On : 11:32 PM.

Photo: snow storms in Europe (AP)

BELGRADE -the Serbian Government, reported around 11 thousand citizens residing in a remote village in Serbia stuck due snowstorm that hit the region of Eastern Europe.

Up to now, a total of 6,500 homes are located in mountainous regions is not reachable because snow had blocked the streets of BLOB. According to the newspaper, 113 European citizens were killed by the storm. Such as foretold in the Associated Press, Thursday (2/2/2012).

The helicopter was deployed by the Serbian Government to bail out the victims in the remote region in Serbia and Bosnia. The helicopter was also carrying food and medical aid.

"The situation here is already looking increasingly worrisome, you could only see rooftops for housing in the area was blanketed in snow," said one doctor, Milorad Dramacanin.

The weather in the region of Eastern Europe alone currently reach minus 40 centigrade degree movies. Governments in European countries appear to provide tents are furnished by the warmers for the homeless citizens.

The largest number of fatalities in Ukraine. As many as 63 people were killed in the country, while the 950 other hospitalized, suffering from hypothermia and pneumonia because of the cold.

Meanwhile in Poland, most of the victims killed were pengkonsumsi alcoholic beverages who tried to find a place to warm up.

Schools, health care centers, and some universities are forced to shut down

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:37:20


ความคิดเห็นที่ 4879 (1595836)
ยูเครนยอดตายภัยหนาวพุ่งกว่า 100 คน


ยูเครน 3 ก.พ.-อากาศหนาวเย็นจัดที่แผ่ปกคลุมไปทั่วยุโรปนับสัปดาห์ ทำให้ขณะนี้ยูเครนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 คนแล้ว

กระทรวงฉุกเฉินของยูเครนปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตเพราะสภาพอากาศหนาวจัด จาก 63 คน เป็น 101 คน หลังมีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเพิ่มอีก 11 คน เพราะอุณหภูมิในร่างกายลดต่ำกว่าอุณหภูมิปกติจนระบบในร่างกายล้มเหลว นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเพราะทนหนาวไม่ไหวอีก 26 คน ทั้งนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มี 64 คน เสียชีวิตเพราะนอนหนาวบนท้องถนน ขณะที่มีชาวบ้านหลายร้อยคนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะถูกหิมะกัด

มีรายงานว่า บางพื้นที่อุณหภูมิดิ่งลงถึงติดลบ 30 องศาเซลเซียส โรงเรียนต้องปิดชั่วคราว ขณะที่ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงเคียฟ เมืองหลวง เริ่มขาดแคลนสินค้าแล้ว เพราะรถบรรทุกไม่สามารถฝ่าอากาศหนาวอุณหภูมิติดลบ 25 องศาเซลเซียส เข้ามาส่งสินค้าได้

สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:40:45


ความคิดเห็นที่ 4880 (1595837)

ปลากะพงขาวตายลอยเกลื่อนในอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 

ประจวบคีรีขันธ์ - พบปลากะพงขาวในกระชังของชาวบ้านซึ่งเลี้ยงไว้ในอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หัวหิน ตายลอยแพ 18 กระชัง มูลค่าเสียหายกว่า 3 แสนบาท เจ้าของกะชังวอนภาครัฐช่วยเหลือ ส่วนผู้ว่าฯประจวบฯ พร้อมเทศบาลเมืองหัวหิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประมงอำเภอหัวหิน และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่งฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำ พบค่าความเป็นด่างสูงกว่าปกติ คุณภาพน้ำต่ำขาดการหมุนเวียน ส่งผลให้ปลาในกะชังและนอกกะชังลอยตายเป็นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (2 ก.พ.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอธิคุณ บุตรยิ่ง รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ปลัดอาวุโสอำเภอหัวหิน ปลัดอำเภอหัวหิน รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ประมงอำเภอหัวหิน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่งประจวบฯ และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจวบฯ เจ้าหน้าที่เขื่อนปราณบุรี พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเดินทางไปยังบริเวณอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน และนับเป็นอ่างเก็บน้ำโครงการพระราชดำริแห่งแรกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังได้รับแจ้งจากนายวันมงคล ใบเกตุ อายุ 47 ปี ชาวบ้านเขาเต่าว่า ปลากะพงขาวอายุประมาณ 5 เดือน ที่เลี้ยงไว้ในกะชังจำนวน 20 กะชัง ได้ลอยขึ้นมาตายทั้งหมดโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 31 ม.ค.55 ที่ผ่านมา จึงแจ้งไปยังเทศบาลเมืองหัวหิน ให้หน่วยงานที่ตรวจสอบเข้ามาหาสาเหตุการตายของปลากะพงทั้งหมดในวันนี้

นายวันมงคล ใบเกตุ เจ้าของปลาในกระชัง เผยว่า ตนเลี้ยงปลาอยู่ในอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า มากว่า 15 ปี ไม่เคยเกิดปรากฏการณ์ตายทุกกะชังแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมา ก็เกิดฝนตกปลาก็ไม่เคยตายแบบนี้ ตนเองก็ไม้รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ปัจจุบันนี้มีโครงการหมู่บ้านจัดสรรมาสร้างอยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า เป็นจำนวนมากไม้รู้ว่าน้ำเสียจากโครงการเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ปลาในกะชัง ของตนเองที่เลี้ยงไว้ตายหรือไม่ จึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจัง

“วันนี้ปลาที่เลี้ยงไว้จะจับขึ้นขายได้ในช่วงประมาณเดือนเมษายนที่จะถึงนี้มูลค่ากว่า 3 แสนบาทกิโลกรัมละ 180 บาท วันนี้ไม่มีเหลือแล้ว ตอนนี้ผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ขาดทุนย่อยยับ จะเลิกอาชีพนี้ก็ไม่ได้เพราะเลี้ยงปลามานานและคงต้องเริ่มต้นด้วยการไปกู้เงินเพิ่งมาลงทุนใหม่และคงเป็นหนี้เป็นสินต่อไป อย่างไรก็ตาม ต้องปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือนถึงค่อยเริ่มต้นเลี้ยงปลาใหม่ ตอนนี้อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาช่วงเหลือบ้าง อาจจะเป็นพันธุ์ปลาก็ได้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ปลาในกะชังเท่านั้นที่ตายนอกกระชังก็ลอยขึ้นมาตาย พบว่าปลากะพงขาวในกะชัง ที่เลี้ยงไว้ในอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ลอยตายเป็นแพส่งกลิ่นเน่าเหม็นคลุ้ง” นายวันมงคล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายอธิคุณ บุตรยิ่ง รองนากยกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้สั่งการให้ทางกองสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินเก็บซากปลากะพงขาวขึ้นมา ซึ่งรวมๆ แล้วกว่า 6,000 ตัวและยังพบว่ายังมีปลาที่อยู่นอกกระชัง ยังลอยขึ้นมาตายอย่างต่อเนื่อง

ส่วนโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ติดอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า ส่วนหนึ่งก็มีการต่อท่อน้ำเสียลงมาในอ่างเก็บน้ำฯจริง แต่มีการตรวจสอบก็พบว่ามีระบบบำบัดน้ำก่อนที่จะปล่อยลงมา อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำในอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่าไม่มีการหมุนเวียน น้ำเข้ามาจากชลประทาน

ด้าน นายมนตรี บัวบาล นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่ง จ.ประจวบฯ ได้นำเครื่องมือมาเก็บตัวอย่างน้ำในหลายจุดของอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า และรวมถึงบริเวณกระชังที่ใช้เลี้ยงปลา พบว่า ในวันนี้ออกซิเจนในน้ำปกติแต่ค่า PH อยู่ในระดับที่ต่ำมากซึ่งอาจมีการเจือปนของการปนเปื้อนจากสิ่งปฏิกูลจากท่อน้ำทิ้งโครงการจัดสรร ร้านอาหาร และบ้านเรือน ตลอดจนการสะสมของดินโคลนในอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า รวมไปถึงน่าจะเกิดจากในวันที่ปลาตายนั้น มีฝนตกลงมาก่อนและปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีออกซิเจนน้อย จึงอาจทำให้เกิดปลาน็อกน้ำอย่างฉับพลันก็เป็นได้ ซึ่งจะนำตัวอย่างน้ำที่เก็บไปในวันนี้กับไปวิเคราะห์อีกครั้ง ว่า สาเหตุการตายของปลากะพงขาวในครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ อีกทั้งยังพบว่ายังมีปลาชนิดต่างๆ ที่อยู่นอกกะชังที่ลอยขึ้นมาตายด้วยเช่นกัน

นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาในเบื้องต้นในขณะนี้คือใช้อีเอ็มบอลน้ำมาเทใส่อ่างเก็บน้ำ ให้ทางเทศบาลเมืองหัวหิน จัดทำกังหันน้ำ และน้ำพุ ไว้ในอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า เพื่อเป็นการเพิ่มออกซิเจน และให้เขื่อนปราณบุรี ปล่อยน้ำเข้ามาในอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า เพื่อให้มีการหมุนเวียนถ่ายเทน้ำในอ่างออกสู่ทะเล และให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 8 จ.ราชบุรี มาเก็บตัวอย่างน้ำไปวิเคราะห์หาสาเหตุอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบ้านจัดสรรที่อยู่บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า นั้นคงไม่ใช่สาเหตุการตายของปลากะพงขาวในกระชัง เพราะเชื่อว่าเกิดจากค่า PH สูง และในวันที่มีปลาตายมีฝนตกลงมาก่อน และยังได้ได้กำชับให้เทศบาลเมืองหัวหิน จัดเก็บออกให้หมดเนื่องจากมีกลิ่นเหม็น นอกจากนั้น น้ำในอ่างยังมีสีดำผิดปกติอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อปลายเดือน พ.ย.2554 ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกติดต่อกัน 2-3 วัน ส่งผลให้ปลาในธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำบ้านเขาเต่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดอาการน็อกน้ำทำให้ปลาลอยตายเป็นจำนวนมากมาแล้ว


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:42:01


ความคิดเห็นที่ 4881 (1595838)

เหตุการณ์วันนี้

Update 3 ก.พ. 55

ทุ่นสึนามิ 32401 แถวเปรู อเมริกาใต้ ส่งสัญญาณบอกระดับกระแสน้ำผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของอุปกรณ์



USGS แก้ไขความแรงแผ่นดินไหวเมื่อ 20:34 เมื่อคืนนี้ที่ประเทศวานูอาตู จาก 6.9 เป็น 7.1

NASA พบข้อยืนยันว่าโลกร้อนเกิดจากสภาพเรือนกระจก ไม่ใช่เกิดจากปฏิกิริยาดวงอาทิตย์ (....อืมมม...แต่ก็ไม่แน่นะ...)


05:30 กทม 26°C หาดใหญ่ 25°C เชียงใหม่ 22°C ลำพูน 22°C ลำปาง 22°C เชียงราย 20°C อุบล 22°C หนองคาย 23°C

05:30 มีอาฟเตอร์ช็อค 7 ครั้งหลังแผ่นดินไหใหญ่ 6.9 ที่หมู่เกาะวานูอาตูเมื่อ 20:34 วานนี้

04:00 พายุโซนร้อนอิกกิ ลดกำลังลงเป็นพายุดีเรสชันแล้ว มีแนวโน้มจะสลายตัวใน 24 ชม นี้

03:00 รายงานล่าสุด 2 ก.พ. 2555 เขื่อนภูมิพลมีระดับน้ำลดลงอีก 19 เซ็นติเมตร จากแผนระบายน้ำ 63 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือน้ำเก็บกัก 82.16% ของความจุ

03:00 รายงานล่าสุด 2 ก.พ. 2555 เขื่อนสิริกิติ์มีระดับน้ำลดลงอีก 18 เซ็นติเมตร จากแผนระบายน้ำ 49 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือน้ำเก็บกัก 80.18% ของความจุ

01:00 ระดับน้ำเก็บกักล่าสุดเขื่อนกระเสียว(100%),แม่งัด(98%),ลำแซะ(93%),มูลบน(91%),ศรีนครินทร์(86%)

ดาวเคราะห์น้อย (2012 BW61) กำลังเข้าใกล้โลกในระยะห่าง 18 เท่าของดวงจันทร์ ด้วยขนาดราว 37 เมตร ความเร็ว 16.53 กม


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:44:00


ความคิดเห็นที่ 4882 (1595839)

จีนหนาวติดลบ 47 องศาฯ เตือน ปชช.พร้อมรับมือคลื่นความเย็นสูงสุด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กุมภาพันธ์ 2555 11:20 น.



 
 
 
บางพื้นที่ของเขตมองโกเลียใน ซึ่งตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจีน ขณะนี้อุณหภูมิลดต่ำลงอยู่ที่ลบ 40 องศาเซลเซียส โดยสภาพอากาศหนาวเย็นจัดเช่นนี้ต่อเนื่องมาแล้วเกือบ 10 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า ถือว่าเป็นช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของจีน ที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด โดยในบางพื้นที่อุณหภูมิลดลงไปถึงลดลงไปถึงลบ 47 องศาเซลเซียส
ทางการจีนได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังรักษาสุขภาพ และเตรียมพร้อมอุปกรณ์ทำความอบอุ่น พร้อมรับมือกับคลื่นความเย็นระลอกสูงสุดที่จะพัดเข้ามาปกคลุมอีก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:45:03

ความคิดเห็นที่ 4883 (1595840)

 

 รายงานเเผ่นดินไหว ทั่วโลก

Update time = Fri Feb 3 4:05:43 UTC 2012


  MAG UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s
LAT
deg
LON
deg
DEPTH
km
Region
MAP 6.0 2012/02/03 03:46:23 -17.376 167.278 21.7 VANUATU
MAP 3.0 2012/02/03 02:38:48 36.203 -118.322 0.1 CENTRAL CALIFORNIA
MAP 2.5 2012/02/03 01:22:23 62.224 -145.798 0.1 CENTRAL ALASKA



  MAG UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s
LAT
deg
LON
deg
DEPTH
km
Region
MAP 2.5 2012/02/02 23:22:58 60.033 -152.992 3.8 SOUTHERN ALASKA
MAP 3.9 2012/02/02 23:07:12 51.976 -171.428 40.8 FOX ISLANDS, ALEUTIAN ISLANDS, ALASKA
MAP 2.5 2012/02/02 22:54:22 60.016 -152.910 0.3 SOUTHERN ALASKA
MAP 3.6 2012/02/02 21:52:47 62.241 -145.590 19.9 CENTRAL ALASKA
MAP 4.8 2012/02/02 21:47:52 -17.523 167.235 9.9 VANUATU
MAP 4.8 2012/02/02 21:38:34 -16.809 -173.920 9.8 TONGA
MAP 5.1 2012/02/02 20:26:31 -17.519 167.359 17.4 VANUATU
MAP 5.1 2012/02/02 19:44:36 -17.457 167.229 31.9 VANUATU
MAP 4.9 2012/02/02 19:20:46 -17.996 167.828 10.3 VANUATU
MAP 2.6 2012/02/02 19:15:48 38.789 -122.743 1.4 NORTHERN CALIFORNIA
MAP 3.0 2012/02/02 17:58:00 60.016 -153.022 3.4 SOUTHERN ALASKA
MAP 5.2 2012/02/02 17:28:48 -17.596 167.339 20.8 VANUATU
MAP 5.5 2012/02/02 17:27:07 -17.963 167.209 22.8 VANUATU
MAP 2.6 2012/02/02 17:20:44 32.248 -115.177 16.9 BAJA CALIFORNIA, MEXICO
MAP 2.8 2012/02/02 17:12:39 60.017 -152.989 1.4 SOUTHERN ALASKA
MAP 5.0 2012/02/02 16:04:46 -17.779 167.233 33.3 VANUATU
MAP 2.5 2012/02/02 15:57:02 19.317 -155.215 6.2 ISLAND OF HAWAII, HAWAII
MAP 3.0 2012/02/02 14:10:11 60.167 -150.959 67.9 KENAI PENINSULA, ALASKA
MAP 3.3 2012/02/02 13:57:50 52.812 -174.537 160.2 ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA
MAP 5.3 2012/02/02 13:57:08 -17.462 167.169 10.0 VANUATU
MAP 4.9 2012/02/02 13:53:45 -17.597 167.191 13.4 VANUATU
MAP 7.1 2012/02/02 13:34:41 -17.766 167.134 23.1 VANUATU
MAP 4.5 2012/02/02 10:56:50 -20.902 -68.916 108.6 ANTOFAGASTA, CHILE
MAP 4.8 2012/02/02 10:44:08 -17.872 168.434 147.2 VANUATU
MAP 3.0 2012/02/02 10:15:23 63.398 -150.889 23.2 CENTRAL ALASKA
MAP 5.5 2012/02/02 09:32:16 -6.607 149.813 28.7 NEW BRITAIN REGION, PAPUA NEW GUINEA
MAP 3.4 2012/02/02 09:24:23 18.602 -64.270 61.0 VIRGIN ISLANDS REGION
MAP 5.0 2012/02/02 09:16:18 -5.294 153.550 74.0 NEW IRELAND REGION, PAPUA NEW GUINEA
MAP 2.6 2012/02/02 09:03:37 60.214 -147.254 36.0 SOUTHERN ALASKA
MAP 4.9 2012/02/02 07:59:54 -9.947 120.497 52.0 SUMBA REGION, INDONESIA
MAP 2.9 2012/02/02 07:33:41 36.225 -118.318 4.9 CENTRAL CALIFORNIA
MAP 3.1 2012/02/02 06:51:39 18.984 -65.114 30.0 VIRGIN ISLANDS REGION
MAP 5.4 2012/02/02 06:46:32 -6.642 149.801 69.0 NEW BRITAIN REGION, PAPUA NEW GUINEA
MAP 2.7 2012/02/02 06:21:36 18.993 -65.114 30.4 VIRGIN ISLANDS REGION
MAP 2.6 2012/02/02 06:05:49 62.303 -151.145 88.7 CENTRAL ALASKA
MAP 3.3 2012/02/02 06:03:00 18.975 -64.149 30.3
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:46:43


ความคิดเห็นที่ 4884 (1595841)

พายุหิมะทำชาวเซอร์เบียกว่าหมื่นคนติดท่ามกลางหิมะสูง5เมตร

มีชาวบ้านอย่างน้อย 11,000 คน ติดอยู่ท่ามกลางพายุหิมะและหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในแถบเทือกเขาของเซอร์เบีย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพราะอากาศที่หนาวจัดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในยุโรปตะวันออกที่กินเวลานานนับสัปดาห์ ได้เพิ่มเป็น 123 คนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนจรจัด
สภาพอากาศที่เลวร้ายสุดขีดในรอบหลายทศวรรษ ได้ส่งผลให้อุณหภูมิในหลายภูมิภาคลดเหลือ ลบ 30 องศาเซลเซียส หรือไม่ก็ต่ำกว่านี้ ทำให้กระแสไฟฟ้าขัดข้อง กีดขวางการจราจรทำให้โรงเรียนและเนิร์สเซอรี่จำนวนมากต้องปิดการเรียนการสอน สนามบินปิดให้บริการ
พายุหิมะในเซอร์เบีย ทำให้บ้านเรือนราว 6,500 หลังคาเรือน ติดอยู่ท่ามกลางหิมะ ไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะถนนถูกน้ำแข็งจับ และปกคลุมไปด้วยหิมะสูงถึง 5 เมตร เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินต้องทำงานด้วยความกดดันอย่างหนัก ในการกำจัดหิมะเพื่อจัดส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นเร่งด่วนและเฮลิคอปเตอร์หลายลำ ได้ถูกส่งไปยังพื้นที่ห่างไกลในเซอร์เบีย และบอสเนีย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยอพยพผู้ป่วย , นำอาหารและน้ำมันไปให้
เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยฉุกเฉิน เปิดเผยว่า ได้พยายามทุกวิถีทางในการกำจัดหิมะออกไปจากถนนสายต่าง ๆ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า จะมีพายุหิมะและหิมะตกหนักอีกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยพื้นที่ที่เผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดคือเมืองซิเจนิก้า ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเซอร์เบีย ที่เผชิญอากาศหนาวจัดและหิมะตกหนักติดต่อกัน 26 วันแล้ว ขณะที่น้ำมันดีเซลที่ใช้กับรถกำจัดหิมะ ก็กำลังจะหมด
ประชาชนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านห่างไกล ต่างเก็บอาหารไว้เพียงพอสำหรับฤดูหนาว แต่ทางการได้เตือนไม่ให้พวกเขาพยายามออกไปข้างนอกด้วยตัวเอง แต่ถ้าจำเป็นก็ให้แจ้งเหตุฉุกเฉิน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากอากาศหนาวจัดในยุโรปตะวันออก ที่รายงานล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี พบว่า ที่ยูเครนมีอีก 20 คน , โปแลนด์ 9 คน , โรมาเนีย 8 คน , เซอร์เบีย 1 คน และเช็ค 1 คน ส่วนในพื้นที่แถบยุโรปตะวันตก พบว่า มีผู้เสียชีวิตที่เยอรมนี 1 คน , อิตาลี 1 คน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:49:23


ความคิดเห็นที่ 4885 (1595842)

 



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:50:08


ความคิดเห็นที่ 4886 (1595843)

อากาศยุโรปวิกฤตยอดตายทะลุ160แม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กุมภาพันธ์ 2555 23:30 น.



 
 
 
โรมาเนีย
เอเอฟพี - สภาพอากาศอันหนาวเหน็บทำยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดี(2) ยังคงวิกฤต และยอดผู้เสียชีวิตพุ่งผ่าน 160 คนแล้ว หลายประเทศไล่ตั้งแต่อิตาลีไปจนถึงยูเครน ต้องเผชิญกับอุณหภูมิต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่ ขณะที่แม่น้ำบางสายถึงขึ้นจับตัวกลายเป็นน้ำแข็ง

เมื่อค่ำคืนวันพุธ(1) ในโปแลนด์ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 9 ราย หลังอุณหภูมิทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศดิ่งลงไปที่ -32 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศอันหนาวเหน็บที่เริ่มมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็น 29 ราย

 
สวิตเซอร์แลนด์
ในยูเครน ประชาชนหลายหมื่นคนพากันหลบหนีลมหนาวหลั่งไหลไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 2,000 แห่งทั่วประเทศ หลังจากเวลานี้ยอดผู้เสียชีวิตรวมพุ่งขึ้นเป็น 63 คน โดยส่วนใหญ่เป็นคนเร่ร่อนที่หนาวตายเป็นท้องถนนและมีเพียงเล็กน้อยที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ

 
ยูเครน
ด้วยความหนาวเหน็บและความหิวโหย ประชาชนราว 40,000 คน ต้องเข้าไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงชั่วคราวต่างๆที่ทางการจัดตั้งขึ้น โดยภายในศูนย์เหล่านั้นสามารถมอบความอบอุ่นและจัดเตรียมอาหารร้อนแก่ผู้ประสบภัยภายในประเทศที่ต้องผจญกับอุณหภูมิที่ดำดิ่ง โดยเฉพาะในคาร์เพเธียนส์ เมืองทางตะวันตกที่ติดลบ 33 องศาเซลเซียสและกรุงเคียฟ ที่ติดลบ 27 องศาเซลเซียส

ที่โรมาเนีย กระทรวงสาธารณสุขเผยว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 8 รายเมื่อคืนวันพุธ(1) ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 22 ศพ ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งในบางพื้นที่ต้องงดการเรียนการสอนเนื่องจาออุณหภูมิติดลบถึง 31 องศาเซลเซียส

 
กรีซ
ส่วนในบัลแกเรีย ที่อุณหภูมิลดต่ำลงแบบที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในประเทศแห่งนี้ สื่อมวลชนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 10 ราย และด้วยแม่น้ำดานูบบางจุดกลายเป็นน้ำแข็งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเคลื่อนย้ายเรือบางลำให้เข้าไปใกล้ท่าเรือเพิ่มเติมเพื่อปกป้องพวกมันจากน้ำแข็งที่คืบคลานเข้ามา ทั้งนี้ที่กรุงโซเรีย ชาวบ้านบางส่วนพบว่าธนบัตรของพวกเขาจับตัวแข็งเป๊ก ขณะที่ตู้เอทีเอ็มต้องงดให้บริการ

ในลัตเวีย เพียงแค่ที่กรุงริกา พบผู้เสียชีวิตรอบๆเมืองหลวงแห่งนี้มากถึง 10 รายเมื่อคืนที่ผ่านมา และตัวเลขนี้ยังไม่รวมจำนวนคนตายในส่วนอื่นๆของประเทศที่ยังไม่มีการแจ้งเข้ามา ขณะที่ในลิทัวเนีย ชาติเพื่อนบ้านพบชายเร่ร่อนรายหนึ่งนอนตายอยู่ในซากหักพังของบ้านร้างหลังหนึ่งในเมืองไคลเปดา และเขาเป็นเหยื่อของสภาพอากาศหนาวเหน็บรายที่ 9 ในประเทศแห่งนี้

ด้านอิตาลี มีรายงานว่าผู้โดยสารหลายร้อยคนต้องติดอยู่บนรถไฟหลายขบวนตลอดทั้งคืน ขณะที่อุณหภูมิที่หนาวจัดและหิมะตกหนักทั้งในตอนกลางและทางเหนือของประเทศก่อความโกลาหลด้านการสัญจรบนท้องถนน การเดินรถไฟและตามท่าอากาศยานต่างๆอย่างกว้างขวาง

 
เยอรมนี
พร้อมกันนั้นอุณหภูมิที่หนาวเย็นยังคร่าชีวิตเด็กทารกรายหนึ่งในเมืองซิซิลีและนักโทษวัย 76 ปีอีกคนในเมืองปาร์มาท่ามกลางภาวะที่นักพยากรณ์บอกว่าเป็นสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดของอิตาลีในรอบ 27 ปีเลยทีเดียว

ในออสเตรีย พบหญิงชราวัย 83 ปีหนาวตายในป่า หลังสันนิษฐานว่าเธออาจเดินหกล้มจนหมดสติและก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย ทั้งนี้เธอกลายเป็นเหยื่อรายที่สองของประเทศที่ต้องมาจบชีวิตท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้าย
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:51:32


ความคิดเห็นที่ 4887 (1595844)

ch3

ยอดผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวจัดนาน 1 สัปดาห์ของยุโรป เพิ่มเป็น 139 คนเมื่อวานนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ประเทศต่างๆ กำลังเร่งหาวิธีปกป้องเหยื่อที่ส่วนใหญ่เป็นคนจรจัดจากอากาศหนาว

ในยูเครน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 20 คนเมื่อวานนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 63 คน และมีอีกเกือบ 950 คนต้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติและหิมะกัด และเต๊นท์ที่มีระบบทำความร้อนกว่า 2,000 หลังถูกตั้งขึ้นโดยมีอาหารร้อนไว้บริการคนจรจัด ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำลงถึงลบ 32.5 องศาเซลเซียส

ที่อิตาลี หิมะตกหนักในเมืองมิลาน ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน 20 คันซ้อน มีผู้บาดเจ็บ 34 คน โดยท้องถนนที่มีน้ำแข็งเกาะบวกกับทัศนวิสัยที่แย่ลงทำให้รถยนต์หลายคันเสียหลักลื่นขณะแล่นออกจากปากอุโมงค์แห่งหนึ่ง ทำให้รถชนกัน ตำรวจต้องปิดถนนเพื่อให้รถพยาบาลเร่งส่งคนเจ็บไปรับการรักษา

ที่เบลเยียม รูปปั้นทองสัมฤทธิ์รูปเด็กชายยืนฉี่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงบรัสเซลส์ ต้องหยุดฉี่ชั่วคราว หลังจากอุณหภูมิลดต่ำลงจนติดลบ 14 องศา ทำให้น้ำประปากลายเป็นน้ำแข็ง เจ้าหน้าที่เทศกาลจึงต้องปิดการใช้งานชั่วคราวเพราะเกรงว่าอาจจะสร้างความเสียหายให้กับกลไกภายในของรูปปั้น

ส่วนที่ตุรกี นักเล่นสโนว์บอร์ดบางคนถือโอกาสที่หิมะตกทั่วกรุงอังการาต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ออกมาเล่นสโนว์บอร์ดสร้างความหวาดเสียวกันกลางท้องถนน ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ 5 องศาเซลเซียส.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:53:49


ความคิดเห็นที่ 4888 (1595845)

 ประมวลภาพอากาศหนาววิปริตทั่วโลก !

 

 


Harsh: A truck drives through heavy snowfalls near the town of Obilic, Kosovo. 122 people have died across Eastern Europe since the cold snap began on Friday last week

A heavy snowfall in the town of Nis, 200km south of the Serbian capital Belgrade. Freezing temperatures have killed six people and trapped some 11,500 others across Serbia

A tourist walks past icicles at the Partnachklamm gorge in Garmisch-Partenkirchen, southern Germany



Chill: A man views icicles on a window in Uzice 200km southwest of Belgrade while snow clings to the tower of the Wendelstein church, Germany"s highest church, 1838 metres up on Wendelstein mountain near Bayrischzell, southern Germany

Cold start: A car is almost completely buried by snow in Medvedja, Serbia

An elephant eats a snowball at Tierpark Hellabrunn zoo in Munich, southern Germany yesterday

Brave soul: A Russian man swims in an ice hole in a lake outside St. Petersburg

Ice sheets float in the river Spree near the Reichstag building in Berlin

 
 ส่วนอังกฤษเตรียมความพร้อมเผชิญภัยหนาว คาดอุณหภูมิต่ำสุด -10c ช่วงสุดสัปดาห์นี้

Last updated at 1:22 AM on 3rd February 2012




Snowy scenes: Freya Kirkpatrick, 4, surveys the wintry landscape on top of Rushup Edge near Edale, Derbyshire, yesterday as temperatures plummet

Sub-arctic temperatures: Snow falling and freezing on wire fences and walls in the Pennines yesterday make ice sculptures as the whole landscape turns white


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 01:55:05


ความคิดเห็นที่ 4889 (1595846)

เชื้อแบคทีเรียแซลโมเนลลาระบาดทำให้ชาวอังกฤษเสียชีวิต 1 ราย

องค์กรพิทักษ์สาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแบคทีเรียแซลโมเนลลาแล้ว 1 ราย และพบผู้ป่วยในอีก 6 ประเทศจำนวนกว่า 54 คน โดยผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อนี้ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหารแล้ว 1 คน รวมถึงพบผู้ป่วยเพราะเชื้อดังกล่าวในอังกฤษแล้วกว่า 30 คนและได้รับการยืนยันแล้วว่า พบผู้ติดเชื้อนี้ในอังกฤษ 26 คน เวลส์ 3 คน ไอร์แลนด์เหนือ 1 คน สก๊อตแลนด์ 4 คน สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 5 คน และที่เยอรมนีอีก 15 คน โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 60-85 ปีและจากข้อมูลของหน่วยงานตรวจสอบมาตรฐานสินค้าอาหารอาหารหรือเอฟเอสเอระบุว่า การระบาดของเชื้อแซลโมเนลลา เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว แต่รายงานการพบผู้ป่วยได้สิ้นสุดลงในช่วงปีใหม่ ซึ่งการระบาดครั้งใหม่ยังไม่อาจระบุได้ชัดเจนว่า สิ่งใดเป็นพาหะนำโรค

มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 02:01:08


ความคิดเห็นที่ 4890 (1595847)
 
ข่าวสุขภาพ " ลิ้น " บอกโรค


คุณเคยรู้ไหมว่า " ลิ้น " อวัยวะที่นอกจากจะใช้ลิ้มรสอาหารแล้ว ยังสามารถบอกโรคต่างๆได้อีกด้วย นั่นก็เพราะมีโรคหลายๆชนิดที่เมื่อเป็นแล้ว จะส่งผลให้ลิ้นเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปรกติอย่างเห็นได้ชัด การตรวจดูลิ้นจึงสามารถบอกถึงสุขภาพภายในร่างกายได้ดังนี้

1. ลิ้นสีน้ำตาลหรือดำ มักเป็นผลจากการรับประทานยาปฏิชีวนะ หรืออมยาฆ่าเชื้อที่มีผลทำให้เกิดการเจริญเติบโตของแบคที่เรียบางชนิดที่สร้างสีดำออกมาเกาะลิ้น
2. ลิ้นสีเขียวหรือสีแดง บ่งบอกว่าช่องท้องหรือตับ ของคุณทำงานผิดปรกติ
3.ลิ้นเป็นฝ้าขาวเป็นขลุยคล้ายคราบนม เกิดจากกาารติดเชื้อราหรือเชื้อยีสต์ส่วนมากมักพบในผู้ที่มีความต้านทานน้อยหรือเด็กทารก รวมทั้งผู้ที่รับประทานยาฆ่าเชื้อโรค และยากดภูมิต้านทาน เช่น สเตียรอยด์
4. ลิ้นเป็นฝ้าขาว มีจุดแดงๆ เป็นหย่อมๆ คล้ายผลสตอบอรี่รวมกับอาการไข้ และผื่นเต็มตัว พบในโรคติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น

นอกจากนี้แล้วการขาดวิตมินก็สามารถทำให้ลิ้นของคุณเปลี่ยนแปลงได้เช่นกันโดยสังเกตจาก

ขาดวิตมินบี 1 ทำให้ลิ้นแดง อักเสบและปวดแสบปวดร้อน
ขาดวิตมินบี 2 ทำให้มุมปากอักเสบเป็นปากนกกระจอก และทำให้ลิ้นเป็นแผ่นแดงๆม่วงๆแสบลิ้นง่าย
ขาดวิตมินบี 5 ทำให้ลิ้นอักเสบมากจนแดงก่ำมีแผลถลอกเลือดออกง่าย ลิ้นแตกเป็นร่อง

 

-----------------------------------------------
นิตยสาร HAIR

ช็อกโกแลตป้องกันมะเร็งลำไส้ ทำตัวเป็นกลไกป้องกันทางเคมี


ไม่แต่เพียงกินอร่อยเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่าช็อกโกแลต ยังช่วยป้องกันโรคของลำไส้ แม้แต่มะเร็งของลำไส้ได้ด้วย นักวิจัยเมืองสู้กระทิง ได้พบว่าโกโก้ อาจใช้เป็นระบบป้องกันของร่างกาย สกัดการส่งสัญญาณของเซลล์ เพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ซึ่งทำให้เนื้อร้ายก่อตัวขึ้น การกินอาหารที่อุดมด้วยโกโก้ จะช่วยขบวนการตามธรรมชาติของร่างกาย ที่เรียกกันว่าการตายของเซลล์ ตามที่ร่างกายจะขจัดเซลล์หมดอายุลง เพื่อเปิดทางให้กับเซลล์ใหม่ๆ ที่เรียกว่าเป็นกลไกป้องกันทางเคมี ซึ่งจะกำจัดความก้าวหน้าของมะเร็ง เป็นที่รู้กันว่าโกโก้อุดมด้วยสารฟลาโวนอยด์ และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ พวกเขาได้ทดลองกับหนูทดลอง เลี้ยงด้วยอาหารที่อุดมด้วยโกโก้ร้อยละ 12 แล้วทำให้ได้เชื้อมะเร็ง ปรากฏผลว่า หนูที่ได้กินช็อกโกแลต จะไม่ค่อยมีสัญญาณแสดงให้รู้ถึงอาการของมะเร็งลำไส้เกิดขึ้นเท่าใดนัก อาการแสดงอย่างหนึ่ง ได้แก่ ตุ่มเล็กๆ ขึ้นตามเยื่อบุลำไส้และรูทวาร องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า มะเร็งของลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง เป็นสาเหตุการตายทั่วโลกชั้นนำอันหนึ่ง และเป็นมะเร็ง ที่มีผู้ป่วยมากที่สุดของโลกอันดับ 4

ไทยรัฐออนไลน์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 02:03:56


ความคิดเห็นที่ 4891 (1595893)

โปแลนด์หนาวจัดตายอีก 10 คน

มีผู้เสียชีวิตอีก 10 คน ในโปแลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่สภาพอากาศหนาวจัดรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ยังคงแผ่ปกคลุมไปทั่วยุโรป กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า มีคนเสียชีวิตเพราะความหนาว 8 คน และอีก 2 คน เสียชีวิตเพราะสูดเอาก๊าซคาร์มอนมอนน็อกไซด์ จากการจุดเตาถ่านเพื่อสร้างอบอุ่นให้กับร่างกาย ส่วนที่กรุงบรัสเซลล์ของเบลเยียม ซึ่งเป็นจุดรวมศูนย์ของสหภาพยุโรป หรือ อียู พบว่า ถนนหลายสายกลายเป็นอัมพาตเพราะหิมะตกหนัก
รัสเซียและยูเครน ต้องออกมาตรการปลอดภัยไว้ก่อนเมื่อวันศุกร์ เพื่อปกป้องคนจรจัดจากสภาพอากาศหนาวจัด อุณหภูมิลบ 32 องศาเซลเซียส ด้วยการสั่งตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มีเครื่องทำความร้อนและอาหารเกือบ 3 พันแห่ง และสถานพยาบาลไว้รองรับ โดยรัสเซีย รายงานยอดผู้เสียชีวิตตลอดเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า มีจำนวน 64 คน ส่วนยูเครน มีจำนวน ผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 101 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในช่วงอากาศหนาวทั่วยุโรป เพิ่มเป็น 175 คนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นชาวยูเครน รัสเซีย บอสเนียเซอร์เบียและเนเธอร์แลนด์
อากาศที่หนาวจัด ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าขัดข้อง น้ำประปากลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้โรงเรียนเนิร์สเซอรี่ ต้องปิดการเรียนการสอน สนามบินและรถโดยสารระงับให้บริการ

++++++

      คุณชนิดาผู้โชคดี  ที่กลับมาเมืองไทยก่อน 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-04 14:16:12


ความคิดเห็นที่ 4892 (1595951)

อากาศหนาวยูเครน กระทบชีวิตสัตว์

ทางการยูเครน ต้องใช้เรือทำลายน้ำแข็งในทะเล เพื่อให้มั่นใจว่า บรรดานก และหงส์ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในอ่าว"อิลลิชิฟสกี้"(Illichivsk) ในทะเลดำ จะสามารถจับปลา และสัตว์น้ำในทะเลกินได้ โดยอ่าวแห่งนี้ มีหงส์กว่า 50 ตัว นกนางนวล และนกเป็ดน้ำอีกหลายร้อยตัวอาศัยอยู่ ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณนี้ จะช่วยนำเศษขนมปังมาเลี้ยงนก และหงส์เหล่านี้ด้วย เพื่อให้มันมีชีวิตรอดอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัดกว่าติดลบศูนย์องศา

ยูเครนนับเป็นหนึ่งในหลายประเทศของยุโรปตะวันออก ที่ต้องเผชิญสภาพอากาศหนาวจัดมานานนับสัปดาห์แล้ว ซึ่งล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเพิ่มขึ้นเป็น 101 คนแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นคนจรจัด นอกจากนั้น ยังส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิง และน้ำ รวมทั้งส่งผลกระทบให้ต้องปิดโรงเรียน สถานพยาบาล สนามบิน และเส้นทางเดินรถ

เม็กซิโกตั้งหน่วยฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ H5N1 ที่สถานีรถไฟ
 

ทางการเม็กซิโกได้ตั้งหน่วยฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดเชื้อเอช 1 เอ็น 1 ตามสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วกรุงเม็กซิโกซิตี หลังพบว่าเชื้อไข้หวัดได้ระบาดหนัก โดยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยถึง 1460 คน เมื่อเทียบกับปีที่แล้วทั้งปี ซึ่งมีผู้ป่วยเพียง 250 คน ในจำนวนผู้ที่แพทย์สันนิษฐานว่า ติดเชื้อเอช 1 เอ็น 1 มีทั้งสิ้น 267 คน และเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้ว 7 คน จากทั้งหมด 8 คน ทางการเม็กซิโกเกรงว่า จะเกิดการระบาดหนักในเมืองหลวง จึงตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโดยไม่คิดมูลค่าเพิ่มจากเดิม 19 จุดเป็น 34 จุด เพื่อรับมือกับการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งปรากฏว่าชาวเม็กซิโกให้ความสนใจเข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างคึกคัก จนทำให้แถวรอการฉีดวัคซีนมีความยาวเป็นพิเศษ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 10:36:20


ความคิดเห็นที่ 4893 (1595952)

แผ่นดินไหว 6.0 ริกเตอร์ SAMAR, PHILIPPINES - 2012/02/04 - 13:09:30

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 10:40:49


ความคิดเห็นที่ 4894 (1595953)

กทม.มีหมอกบางอีสานตอนบนอากาศเย็น

05 ก.พ. 2555, 05:50 น. หมวดหมู่ : ข่าวเด่น
 

กทม.มีหมอกบางตอนเช้า อีสานตอนบนอากาศเย็น ใต้ตอนล่าง กลาง และตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. คลื่นกระแสลมตะวันตกที่เคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะ 1-2 วันนี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทางตอนบนของภาค อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณสระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน กับฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆบางส่วน กับฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 10:42:54


ความคิดเห็นที่ 4895 (1595954)



แผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์ Vanuatu ตามเวลาไทย 7:15 น

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 10:44:46


ความคิดเห็นที่ 4896 (1595957)

สสจ.บุรีรัมย์เตือนระวัง โรคท้องร่วงระบาดหนัก

นายแพทย์สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ ได้ออกมาแจ้งเตือนประชาชนผู้บริโภคให้ระมัดระวังการบริโภคอาหารในช่วงที่มีสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน โดยเฉพาะผู้ที่นิยมซื้ออาหารบรรจุถุง และชอบบริโภคอาหารจานด่วนตามร้านขายข้าวแกง ตลาดนัด หาบเร่ และแผงลอยต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป หลายแห่งพบไม่ได้มาตรฐานไม่ถูกหลักอนามัย เสี่ยงต่อการเกิดโรคอุจจาระร่วง และโรคทางเดินอาหารที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจากสถิติปี 2554 ที่ผ่านมา มีประชาชนผู้บริโภคป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วง และโรคทางเดินอาหารมากกว่า 37,600 ราย จึงอยากฝากถึงประชาชนผู้บริโภคได้เลือกซื้ออาหารที่สะอาด ถูกหลักอนามัย ส่วนผู้นิยมซื้ออาหารถุงมารับประทาน ก็ควรอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทานทุกครั้ง จะสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดโรคทางเดินอาหารและอุจจาระร่วงดังกล่าวได้ ในปัจจุบันพบว่ามีประชาชนนิยมบริโภคอาหารจานด่วนและอาหารบรรจุถุงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเงื่อนไขเวลาที่จำกัด ต่างคนต่างก็มีหน้าที่การงาน ทำให้ไม่มีเวลาที่จะประกอบอาหารรับประทานเอง ทำให้วีถีชีวิตเปลี่ยนแปลงหันไปบริโภคอาหารที่ง่าย สะดวก รวดเร็วมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนทุกคนได้ระมัดระวังการบริโภคอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีต่อตนเองด้วย



ปภ.บุรีรัมย์ เตือนระวังพายุพัดถล่มช่วงผลัดเปลี่ยนฤดู

นายพรเชษฐ์ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์(ปภ.) กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนประชาชนทั้ง 23 อำเภอให้ระมัดระวังพายุพัดถล่มบ้านเรือนในช่วงผลัดเปลี่ยนฤดูจากหน้าหนาวเข้าสู่ฤดูร้อนซึ่งมักเกิดพายุฝนตกและลมกระโชกแรงที่อาจส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่มีต้นไม้ และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้บ้านให้เฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะอาจโค่นล้มทับบ้านเรือน ผู้คน สัตว์เลี้ยงทำให้ทรัพย์สินเสียหายและอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ม.ค.2555 ที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำและลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎรในเขตอำเภอเมืองและอำเภอลำปลายมาศ พังเสียหายแล้วกว่า 60 หลังคาเรือนรวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศให้ทั้ง 2 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติวาตภัยแล้ว และอยู่ในระหว่างการสำรวจประเมินค่าความเสียหายจริงเพื่อจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ของทางราชการต่อไป

__________________
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 11:24:09


ความคิดเห็นที่ 4897 (1595959)

รองผู้ว่าฯตรัง เผย สถานการณ์ป่าไม้ในจังหวัด อยู่ในขั้นวิกฤต เหลือไม่ถึง 7 แสนไร่

นายชัยยศ ธงไชย รองผู้ว่าราชการ จ.ตรัง เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ระดับจังหวัด จากการรายงานโดย นายมนภัทร วังศานุวัตร ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ป่าไม้ตามธรรมชาติ จากการวิเคราะห์พื้นที่ป่าไม้ ด้วยภาพถ่ายดาวเทียม ปี พ.ศ.2553 ของกรมป่าไม้ ปรากฏว่า จ.ตรัง มีพื้นที่ป่าไม้ตามสภาพธรรมชาติ เหลืออยู่ประมาณ 668,150 ไร่ หรือ ร้อยละ 21.74 ของพื้นที่จังหวัด เป็นสถานการณ์ที่อยู่ในขั้นวิกฤติ โดยตามหลักวิชาการป่าไม้ ป่าธรรมชาติไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัด หรือ ประมาณ 1,235,250 ไร่ มีการจับกุมดำเนินคดีไป 147 คดี มีคดีสำคัญ 2 คดี


บรรหารย้ำ2เขื่อนยักษ์เร่งพร่องน้ำรับหน้าฝน

04 ก.พ. 2555, 18:28 น. หมวดหมู่ : ข่าวเด่น


บรรหารย้ำเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์เร่งระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเหลือ 45% ก่อน 1 พ.ค.นี้ เพื่อรับน้ำในช่วงฤดูฝน

นายบรรหาร ศิลปะอาชา ประธานที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ ลงพื้นที่ตรวจงานแนวคันกั้นน้ำ บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท และดูงานระบบควบคุมและระบบโทรมาตร ณ อาคารควบคุมการระบายน้ำ เขื่อนเจ้าพระยา เพื่อหาแนวทางการปรับปรุงก่อสร้างและเสริมคันดันกั้นแนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นในปีนี้

นายบรรหาร กล่าวว่า แผนการระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ ได้กำชับให้เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ให้มีปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือ 45 เปอร์เซ็นต์ ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพื่อรองรับปริมาณน้ำในช่วงฤดูฝน และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำรอย

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 11:30:35


ความคิดเห็นที่ 4898 (1595990)
05/02 ปภ.ประกาศภัยหนาว 33 จังหวัด


นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) 33 จังหวัด 423 อำเภอ 3,494 ตำบล 125,689 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก น่าน ตาก พะเยา ลำปาง ลำพูน เพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร เลย หนองคาย นครพนม อุบลราชธานี มหาสารคาม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น สุรินทร์ ชัยภูมิ และนครราชสีมา

ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี ราชบุรี และนครปฐม
ซึ่งผู้ประสบภัยหนาว สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

A magnitude 5.7 earthquake has struck Vancouver Island, Canada



A magnitude 5.7 earthquake has struck Vancouver Island, Canada Region at a depth of 12 km (7.5 miles), the quake hit at 20:05:32 UTC Saturday 4th February 2012

The epicenter was 196 km (122 miles) South of Port Hardy, BC, Canada

No Tsunami Warning Issued - No Reports of Damage or Injuries at this time

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 14:58:11


ความคิดเห็นที่ 4899 (1595992)

คนริมน้ำเมืองตากผวาบ้านพังน้ำปิงเซาะตลิ่งหายไม่หยุด จวกยับรัฐไม่เหลียวแล


ตาก- ชาวบ้านริมน้ำปิงเขตเมืองตาก เดือดร้อนบ้านพัง โวยไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐดูแล ต้องระดมเครือญาติช่วยปักหลักลอชะลอกระแสน้ำไม่ให้กัดเซาะบ้าน

วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอเมือง จังหวัดตาก ว่าขณะนี้ราษฎรบ้าสนไม้งาม หมู่ที่ 1 ตำบลไม้งาม อำเภอเมืองตาก ต่างออกมาใช้ไม้ออกมาปักลงในริมฝั่งแม่นน้ำปิง หลังจากที่บ้านชาวบ้านหลายหลังถูกกระแสน้ำปิงกัดเซาะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เมื่อคราวเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ปีที่ผ่านมา

ส่วนหนึ่งพวกเขายังเชื่อว่าการพร่องน้ำของเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำเซาะตลิ่งจนถึงตัวบ้านเรือนของพวกเขาในขณะนี้

ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำปิงต่างหวาดผวาต่อปรากฏการณ์น้ำกัดเซาะทำให้ต้นไม้ และบ้านเรือน รวมทั้งทรัพย์สินอื่นได้รับความเสียหาย ขณะที่กระแสแม่น้ำปิงเชี่ยวกรากมากขึ้น

ชาวบ้านตำบลไม้งามรายหนึ่งแจ้งว่า มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำเซาะเสียหายไปแล้ว 2-3 หลัง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปดูแลโดยด่วน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จนขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปดูเลย จึงต้องช่วยเหลือตัวเองเท่านั้น ส่วนสาเหตุนั้น อาจจะมีผลมาจากอุทกภัยที่ผ่านมา และเมื่อเขื่อนพร่องน้ำ กระแสน้ำแรงทำให้เกิดเซาะตลิ่งได้


เตือนฝนตกฤดูหนาวเสี่ยงไข้เลือดออกระบาด
05 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 12:30 น. |เปิดอ่าน 242 | ความคิดเห็น 0

“วิทยา”เตือน ฝนตกประปรายฤดูหนาว เอื้อยุงลายแพร่ไข้เลือดออก ปีนี้พบป่วยแล้วกว่า 300 ราย 

นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศมีฝนตกประปรายแม้สภาพอากาศจะอยู่ในช่วงฤดูหนาวก็ตาม ทำให้มีแอ่งน้ำขังหรือมีน้ำขังอยู่ตามเศษวัสดุ เศษภาชนะต่างๆ จานรองกระถางต้นไม้ และกาบใบไม้ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์อย่างดีของยุงลาย อาจทำให้ประชาชนป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกในฤดูหนาวได้ ซึ่งโรคนี้พบผู้ป่วยได้ตลอดปี แต่จะพบมากในช่วงฤดูฝน ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด รณรงค์ให้ประชาชนทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้ชุมชนทุกแห่ง จัดการสิ่งแวดล้อมให้ปลอดยุงลายเพื่อลดปริมาณยุงลายให้มากที่สุด  และหากมีรายงานพบผู้ป่วยแม้เพียงรายเดียว ให้ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่เพื่อควบคุมโรคภายใน 24 ชั่วโมง และทำลายลูกน้ำยุงลาย พ่นสารเคมีฆ่ายุงตัวแก่ภายในบ้านและรอบบ้านผู้ป่วย ในรัศมี 100 เมตร และพ่นซ้ำอีก  7 วัน 

ด้านนพ.ไพจิตร์  วราชิต  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่วันที่ 1 - 19 มกราคม 2555 พบผู้ป่วยทั่วประเทศ 332 ราย เสียชีวิต 1 ราย แนวโน้มสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งมีผู้ป่วย 291 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยผู้ป่วยร้อยละ 56 อยู่ในภาคกลาง จำนวน 185 ราย เสียชีวิต 1 ราย รองลงมาคือภาคใต้ 69 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 42 ราย และภาคเหนือ 36 ราย และตลอดปี 2554 ที่ผ่านมาทั่วประเทศมีผู้ป่วย 65,961 ราย เสียชีวิต 59 ราย

นพ.ไพจิตร์กล่าวอีกว่า โรคไข้เลือดออกขณะนี้พบได้ทุกวัย จะมีอาการป่วยหลังถูกยุงลายที่มีเชื้อไข้เลือดออกกัดประมาณ 5-8 วัน ลักษณะอาการเริ่มจากมีไข้สูงกะทันหัน ไข้จะสูงติดต่อกัน 2-7 วัน ผิวหน้าแดง ปวดกระบอกตา ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและกระดูก คลื่นไส้ อาเจียน แต่จะไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูกไหล เหมือนไข้หวัด นอกจากนี้อาจมีผื่นหรือจุดแดงๆ ขึ้นที่ใต้ผิวหนัง หลังจากนั้นไข้จะลง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะฟื้นตัว สดชื่น แจ่มใสขึ้น และหายเป็นปกติ  แต่จะมีผู้ป่วยประมาณร้อยละ 2-5 ที่มีอาการช็อค เนื่องจากมีเลือดออกในอวัยวะภายใน เป็นอันตรายมาก มักจะเกิดหลังไข้ลง อาการที่สังเกตได้คือผู้ป่วยจะซึมลง เบื่ออาหาร มีอาการเพลียมาก ปวดท้อง อาเจียน กระสับกระส่าย   มือเท้าเย็น ถ่ายปัสสาวะน้อยลง  ขอให้รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือกลุ่มเด็กเล็ก เพราะเด็กยังไม่สามารถบอกอาการตัวเองได้  ดังนั้นจึงขอให้ผู้ปกครองใช้วิธีสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด หากหลังให้กินยาลดไข้ คือยาพาราเซตามอล หรือเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นแล้วไข้ไม่ลดภายใน 2 วัน หรือเด็กร้องกวนมาก ไม่กินนม ขอให้ผู้ปกครองคิดถึงว่าเด็กอาจป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก  ให้รีบพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องและรักษาอย่างทันท่วงที  

"ประการสำคัญที่สุดในการให้ยาลดไข้ ขอให้ใช้ยาพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน อย่างเด็ดขาด เนื่องจากหากป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีเลือดออกในอวัยวะภายในอยู่แล้ว ยาแอสไพรินจะทำให้มีเลือดออกมากขึ้น เพราะคุณสมบัติของแอสไพรินจะต้านการแข็งตัวของเกร็ดเลือด ทำให้เลือดหยุดยากและเสียชีวิตได้"นพ.ไพจิตร์กล่าว

นพ.ไพจิตร์กล่าวอีกว่า วิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกคืออย่าให้ยุงกัดและต้องลดปริมาณยุงลาย ขอให้ประชาชนยึดหลัก 3 เก็บ คือ 1.เก็บขยะ ทั้งเศษภาชนะขังน้ำ พลาสติกเหลือใช้ 2.เก็บบ้าน ให้ปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพักอาศัย เก็บล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำให้เป็นระเบียบ และ3.เก็บน้ำ เก็บน้ำกินน้ำใช้ให้สะอาด มิดชิด โดยปิดฝาภาชนะ โอ่ง ไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่  หากทุกคนร่วมมือกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้านตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว เชื่อว่าในปีนี้โรคไข้เลือดออกจะไม่เกิดการระบาดอย่างแน่นอน

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 15:01:09


ความคิดเห็นที่ 4900 (1596020)

กรมทรัพย์ย้ำไม่แตก! รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ไม่รุนแรงขั้นวิกฤต

วันที่ 05/02/2555 14:44





กรมทรัพยากรธรณียืนยัน "รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์" ใต้เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ไม่รุนแรงถึงขั้นทำให้เขื่อนแตก ย้ำหากจะแตกต้องเกิดเหตุดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ หรือเกิดถี่ซ้ำ แต่หากเขื่อนแตกจะมีเวลาประมาณ 10 ชม. ในการอพยพประชาชน...

เมื่อวันที่ 5 ก.พ. นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม และธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่นายสมิทธ ธรรมสโรช กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ออกมาระบุถึงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ซ่ึงอยู่ใต้เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี อาจจะเกิดภัยธรรมชาติแผ่นดินไหวและทำให้เขื่อนแตกว่า กรมทรัพยากรธรณี และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ร่วมกันศึกษาและเฝ้าระวังรอยเลื่อนที่อยู่ใกล้ กทม.มากที่สุดคือรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ที่อยู่ใต้เขื่อนศรีนครินทร์กับรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ที่อยู่ใต้เขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี ทั้ง 2 เขื่อน พบว่าขณะนี้สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง และตื่นตกใจ

ทั้งนี้ กรมทรัพยากรธรณี ได้สำรวจธรณีวิทยาแผ่นดินไหวของกลุ่มรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และเจดีย์สามองค์ พบว่า พื้นที่โดยรอบเขื่อนศรีนครินทร์ พบกลุ่มรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ วางตัวในแนวเกือบเหนือ-ใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความยาวของรอยเลื่อนย่อยตั้งแต่ 3-50 กิโลเมตร วางตัวขนานไปกับแม่น้ำแควใหญ่ มีความยาวรวมของกลุ่มรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ประมาณ 150 กิโลเมตร ขณะที่พื้นที่โดยรอบเขื่อนวชิราลงกรณ์ พบกลุ่มรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ มีการวางตัวในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มตั้งแต่ในเขตแดนของสหภาพพม่ายาวต่อเข้ามาในชายแดนของประเทศไทย บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ โดยมีความยาวของรอยเลื่อนย่อยตั้งแต่ 10-50 กิโลเมตร วางตัวขนานไปกับแม่น้ำแควน้อย โดยมีความยาวรวมของกลุ่มรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ประมาณ 170 กิโลเมตร

นายเลิศสิน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา เขื่อนศรีนครินทร์ เคยเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 5.9 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2526 แต่ไม่มีผลกระทบต่อตัวเขื่อนแต่อย่างไร ซึ่งโอกาสที่เขื่อนศรีนครินทร์ จะแตกจากแผ่นดินไหวใช่ว่าจะไม่มี แต่จะต้องเกิดแผ่นดินไหวที่จุดศูนย์กลางของสันเขื่อนพอดี แตถ้าเกิดห่างออกไปไม่มีผล เนื่องจากเขื่อนถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับแผ่นดินไหวขนาดมากกว่า 7 ริกเตอร์อยู่แล้ว ถ้าเกิดแผ่นดินไหวที่พม่า ก็ไม่มีผลแต่อย่างใด ที่สำคัญ กรมทรัพยากรธรณี ได้ไปติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหวอยู่บริเวณเขื่อนศรีนครินทร์ จำนวนมากเพื่อสร้างระบบเตือนภัย สมมติมีเหตุการณ์ผิดปกติถ้าเขื่อนจะแตก เครื่องวัดแผ่นดินไหวจะรายงาน เช่น เกิดแผ่นดินไหวถี่ขึ้นและมีขนาดรุนแรงขึ้น แสดงว่าต้องเตรียมการอพยพประชาชน และถ้าเขื่อนจะแตก ก็ใช่ว่าจะแตกพังทลายลงมาทีเดียว แต่จะเกิดรอยร้าวก่อน ถ้าซ่อมแซมไม่ได้เขื่อนก็จะค่อยๆ พังลงมา

ทั้งนี้ กฟผ.เคยคำนวณแล้วว่า ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์ แตกจริงๆ กว่าที่น้ำจากเขื่อนจะมาถึงตัวเมืองกาญจนบุรี จะใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งการอพยพประชาชนจะทันท่วงทีเพราะมีการเตรียมแผนซักซ้อมไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงถึงขนาด 7 ริกเตอร์อย่างแน่นอน

"หลายฝ่ายห่วงมากว่าคนเมืองกาญจนบุรี จะตายก่อนหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและเขื่อนศรีนครินทร์แตก แต่ขอเรียนว่าคนที่จะตายก่อนคือคน กทม. เพราะเขื่อนศรีนครินทร์ สร้างแนวนอน ขณะที่ กทม.สร้างตึกสูงในแนวตั้ง และใต้ผืนดินของ กทม.มีความอ่อน เมื่อเกิดแผ่นดินไหว คลื่นแผ่นดินไหวจะมาถึง กทม.เร็วมาก เมื่อเดือน มี.ค.ปี 2554 เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศลาว คน อ.แม่สาย จ.เชียงราย รู้สึกได้ ขณะที่คนนครสวรรค์ ลพบุรี ไม่รู้สึก แต่ กทม.รู้สึกเพราะมีตึกสั่นชี้ให้เห็นว่าผืนดิน กทม.ชั้นดินอ่อนเป็นอันตรายต่อแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ตกใจกับคำทำนายที่เกิดขึ้น" นายเลิศสิน กล่าว.

ไทยรัฐออนไลน์

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-05 20:46:58



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 [49] 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.