ReadyPlanet.com


ธรรมชาติ....เอาคืน.!!!


 

ตอนนี้

แผ่นดินไหว ทุก ๆ วัน

วันละหลาย ๆ ครั้ง

และที่ผ่านมา 3 วันนี้

10 - 11 - 12 พฤษภาคม 2554

ประมาณ 4 - 5 - 6 ริกเตอร์

รายละเอียด

เชิญอ่าน เพื่อ

เตรียมพร้อม...นะเจ้าคะ

*************************************

12 พค. 2554 06:25 น.

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.2 ริกเตอร์

ในเมืองลอร์กา ทางภาคใต้ของสเปน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน

เจ็บ 270 คน

อาคารเก่าแก่ บ้านเรือนพังถล่ม

ขณะที่ผู้นำสเปนสั่งการให้ส่งทหาร

และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ค้นหา

ผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

***************************************

12 พค. 2554 15:17 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

แจ้งว่าเมื่อเวลา 14.41 น.

แผ่นดินไหวในทะเล 4.9 ริกเตอร์

บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซีย ความลึก 45 กม.

ไม่มีผลกระทบต่อไทย

 



ผู้ตั้งกระทู้ แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-12 19:50:41


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 [55] 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 5401 (1606164)

แผ่นดินไหวใต้ทะเลหลายจุด



กรมอุตุนิยมวิทยา เผยเกิดแผ่นดินไหว 5.1 ริกเตอร์ ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา อินโดนีเซียลึก 10 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังเกิดที่ประเทศเม็กซิโก 7 ริกเตอร์ นอกฝั่งสหรัฐฯ อีก 6.9 ริกเตอร์

อินโดนีเซีย แผ่นดินไหว 5.2 ริกเตอร์

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด เมื่อเวลา 05.35 น. วันที่ 12 เมษายน 2555 ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.2 ริกเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย และมีความลึกจากระดับผิวดิน 2 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวพม่า 2.0 ริกเตอร์

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด เมื่อเวลา 23.33 น.
วันที่ 11 เมษายน 2555 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.0 ริกเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว
อยู่ที่ประเทศพม่า

ทางการอินโดฯ,อินเดีย,ศรีลังกา ยกเลิกเตือนสึนามิแล้ว

สำนักงานธรณีฟิสิกส์และอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซีย ประกาศยกเลิกคำเตือนสึนามิ หลังศูนย์เตือนภัยสึนามิมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกคำเตือนสึนามิเป็นบริเวณกว้างทั่วมหาสมุทรอินเดีย ด้านศูนย์เตือนภัยสึนามิของอินเดียก็ประกาศยกเลิกคำเตือน ที่ศรีลังกา เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประกาศยกเลิกคำเตือนสึนามิแล้วเช่นกัน

อินโดฯ ยังเจออาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่อง

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า ยังคงเกิดอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องตลอดทั้งคืนโดยมากกว่า 30 ครั้ง มีขนาดตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ขึ้นไป โดยครั้งล่าสุดเกิดเมื่อเวลาประมาณ 05.15 น. ตามเวลาประเทศไทยขนาด 5 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางของอาฟเตอร์ช็อก ครั้งนี้อยู่ใต้ทะเลลึกราว 13.8 ก.ม. ห่างจากชายฝั่ง จ.อาเจะ ราว 644 ก.ม. ไม่มีรายงานผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อกครั้งนี้ โดยอาฟเตอร์ช็อกที่ทางสำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ วัดได้รุนแรงที่สุด ที่ขนาด 8.2 ริกเตอร์ เมื่อเวลา17.43 น. เมื่อช่วงเย็นวานนี้

และเมื่อเวลาประมาณ 06.18 น.โดยอาฟเตอร์ช็อก ครั้งล่าสุดจุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเลลึกราว 10.2 ก.ม. ห่างจากชายฝั่ง จ.อาเจะ ราว 385 ก.ม.

ทั้งนี้ สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาในบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกได้กว่า 38 ครั้ง

แผ่นดินแผ่นดินไหวเม็กซิโก 7 ริกเตอร์ ปชช.ตื่น นอกฝั่งสหรัฐฯ อีก 6.9 ริกเตอร์

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 2 จุด ทางทวีปอเมริกา โดยจุดแรกเมื่อเวลาประมาณ 05.55 น. ตามเวลาประะเทศไทย ขนาด 7 ริกเตอร์ บริเวณ รัฐมิชัวแคน ของเม็กซิโก จุดศูนย์กลางอยู่ใต้พื้นดินลึกราว 65.6 ก.ม. ห่างจากเมือง ซาราโล่ คาร์ดีนาส ของรัฐมิชัวแคน ราว 69 ก.ม. และห่างจากรุงเม็กซิโก ซิตี้ เมืองหลวงเม็กซิโก ราว 384 ก.ม. โดยสำนักข่าวเอพี รายงานว่า ตึกอาคาร หลายแห่งในกรุงเม็กซิโกซิตี้ เกิดสั่นไหวอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนต่างแตกตื่นวิ่งหนีมาอยู่กลางถนนอย่างโกลาหล แต่ยังต้องรายงานความเสียหายและผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้ จากทางการเม็กซิโกอีกครั้ง

ส่วนอีกจุดเกิดขึ้นที่นอกชายฝั่ง มลรัฐโอเรกอน ของสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณ 05.41 น. ตามเวลาประเทศไทย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.9 ริกเตอร์จุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเลลึกราว 10.2 ก.ม. ห่างจากชายฝั่ง เมืองคูลเบย์ ของมลรัฐ โอเรกอน 271 ก.ม.

ด้านศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก เผยว่า แผ่นดินไหวใต้ทะเล นอกชายฝั่งมลรัฐโอเรกอน ครั้งนี้ไม่น่าจะทำให้เกิดคลื่นสึนามิเข้าซัดชายฝั่งได้ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานผลกระทบและความเสียหายจากทางการสหรัฐฯ แต่มีรายงานว่าแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้ทำให้ประชาชนตามแนวชายฝั่ง เมืองคูลเบย์ ต่างตกใจออกมาจากนอกอาคารมาอยู่กลางถนน เนื่องจากรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ค่อนข้างรุนแรง

สื่อรัสเซีย เผยสึนามิขนาด 3.9 ม. ก่อตัวอ่าวเบงกอลไร้ผลกระทบ

เว็บไซต์ rt.com สื่อรัสเซีย รายงานเหตุแผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาดรุนแรง 8.6 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศ อินโดนีเซียเมื่อเวลาประมาณ 15.38 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยสื่อรัสเซีย รายงานว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งแรก และต่อมาเวลาประมาณ 11.49 น.ตามเวลาสากล พบคลื่นสึนามิความสูงขนาด 3.9 เมตร ก่อตัวในอ่าวเบงกอล ของมหาสมุทรอินเดีย แต่ไม่มีรายงานว่า คลื่นลูกนี้ซัดเข้าชายฝั่งประเทศ อินเดีย , ศรีลังกา หรือ พม่า ซึ่งในเวลาต่อมา ทางการอินเดีย , ศรีลังกา และ พม่า ก็ประกาศยกเลิกเตือนสึนามิ เพราะไม่พบว่ามีคลื่นซัดเข้าฝั่ง

ทั้งนี้ อ่าวเบงกอล เป็นอ่าวใหญ่ที่สุดในโลก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรอินเดีย โดยอ่าวเบงกอล ส่วนใหญ่ล้อมด้วยประเทศ อินเดีย, ศรีลังกา,บังกลาเทศ พม่า เกาะอันดามัน และ หมู่เกาะนิโคบาร์ทางทิศตะวันออก

__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-12 16:43:36


ความคิดเห็นที่ 5402 (1606165)

สตูลยังเฝ้าระวังสึนามิ

12 เมษายน 2555 เวลา 13:58 น. |

ชาวสตูลยังเฝ้าระวังเหตุเกิดแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย ติดตามข่าวจากโทรทัศน์ทั้งไทยและมาเลเซียหวั่นเกิดคลื่นสึนามิซ้ำรอยปี 2547

ประชาชนชาวจ.สตูลยังคงเฝ้าระวังเหตุเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.9 ริกเตอร์ที่บริเวณนอกชายฝั่งของจังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซียเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านเนื่องจากหวั่นวิตกว่าจะมีเหตุการณ์คลื่นสึนามิเหมือนครั้งปี 2547 นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวและประชาชนที่มีโปรแกรมจะไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆและบริเวณถำที่มีนำตก ล่องแก่ง สตูล บางกลุ่มก็ได้ยกเลิกรายการไปเช่นกัน เพราะเกรงความไม่ปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวครั้งนี้

ด้านนายพิศาล ทองเลิศ ผวจ.สตูล กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเล ให้เฝ้าระวังในเหตุการณ์ดังกล่าวโดยตลอด โยวันที่เกิดเหตุ ก็ได้อพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย เช่น อ.เมืองสตูล อ.ท่าแพ อ.ละงู และ อ.ทุ่งหว้า โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า จุดอพยพเดิม ที่เคยซักซ้อมกันไว้ ทางอำเภอกลัวไม่ปลอดภัย จึงอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่สูงกว่า ส่วนชาวบ้านที่เกาะสาหร่าย ซึ่งอยู่กลางทะเลอันดามัน ได้หนีลงเรือไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรือทุ่งริ้น อ.ท่าแพ เนื่องจากเป็นฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ใกล้เกาะสาหร่าย และแยกย้ายไปอยู่ตามบ้านญาติ

นอกจากนั้นประชาชนต่างเปิดเฝ้าดูและติดตามรายการโทรทัศน์ทั้งโทรทัศน์ไทยและช่องมาเลเซีย เนื่องจากฝ่งมาเลเซียหากเกิดคลื่นสึนามิหรือแผ่นดินไหวจากอินโดนีเซีย ฝั่งมาเลเซียจะมีผลกระทบก่อนพื้นที่ จ.สตูล ประกอบกับบางครอบครัวมีญาติพี่น้องอยู่ที่มาเลเซียด้วย



7วันอันตรายวันแรก อุบัติเหตุพุ่ง 343 ครั้ง ตาย 30


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) แถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2555 ในวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า วันแรกของการรณรงค์ "สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์" ได้เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 343 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 30 ราย และผู้บาดเจ็บ 375 คน ซึ่งจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 5 ราย คือ จังหวัดพิจิตร ส่วนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน 20 ครั้ง ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ การเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด คือ การโดยสารรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งนี้ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. อย่างไรก็ตามทางศปถ.ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,404 จุด โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 67,303 คน
นายจำรูญ กล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ และไม่มีผู้บาดเจ็บ มีทั้งหมด 16 จังหวัด คือ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ตราด นครนายก นนทบุรี ปทุมธานี แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา เลย สมุทรปราการ หนองคาย หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มีทั้งหมด 60 จังหวัด อย่างไรก็ตามทางศปถ.ได้กำชับให้จังหวัดเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมตรวจจับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่สวมหมวกนิรภัย เพื่อควบคุมผู้ใช้รถใช้ถนนมิให้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
"ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ศึกษาและเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด มีสติ ไม่ประมาท ไม่ขับเร็ว ไม่เมา ไม่โทร ง่วงไม่ขับ พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ จุดตรวจ เพื่อให้การเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นไปอย่างปลอดภัย และส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในสังคมไทย ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้น เทศกาลสงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์"นายจรูญ กล่าว

__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-12 16:44:24


ความคิดเห็นที่ 5403 (1606321)

 พายุฤดูร้อนถล่มเกาะคาต้นไม้ล้มบนถนนเพียบ

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ.2555 22:54น.
372400
พายุฤดูร้อน ถล่ม อ.เกาะคา จ.ลำปาง
ต้นไม้ใหญ่ล้มบนผิวการจราจรในหลายจุด
 

ได้เกิดพายุฝนตก พร้อมกับมีลมพายุฤดูร้อน และลมกระโชกแรง

นานประมาณ 20 นาที ในพื้นที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยเฉพาะที่

ต.ศาลา และ ต.เกาะคา โดยพายุได้พัดเอาต้นไม้ใหญ่ เช่น

ต้นฉามฉาขนาดใหญ่ ที่ปลูกอยู่ที่ริมถนนเอเซีย ทั้งขาขึ้นและขาล่อง

สายลำปาง-ตาก ล้มลงมาขวางผิวการจราจรบนถนนในหลายจุด

ทำให้รถยนต์ประชาชนที่ได้ขับผ่านสัญจรไปมา หวิดชนต้นไม้

ที่ขวางถนนหลายคัน เพราะจุดเกิดเหตุส่วนใหญ่

ไม่มีแสงสว่างส่องทาง บางจุดไฟฟ้าดับ ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย

อ.เกาะคา ต้องนำเลื่อยและมีดมาตัดกิ่งไม้ออกลงไปไว้ข้างทาง

ส่วนเต็นท์ที่ทำจากโครงเหล็ก ไว้สำหรับบริการประชาชน

หน้าที่ทำการสำนักงาน อบจ.ลำปาง ก็โค่นล้มพังเสียหลายหลัง

และเก้าอี้พลาสติก ล้มระเนระนาดเกลื่อนถนน

ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ไฟฟ้าในหลายหมู่บ้านของ ต.ศาลา

ก็เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม

ความเสียหายในส่วนอื่น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจแล้ว

Credit : INN

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-14 23:58:31


ความคิดเห็นที่ 5404 (1606322)

 พายุฤดูร้อนถล่มศรีสะเกษบ้านพังกว่า70หลัง

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ.2555 20:39น.
372381
พายุฤดูร้อน ถล่มศรีสะเกษ รับสงกรานต์
บ้านพังยับกว่า 70 หลัง
นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ เร่งสำรวจความเสียหาย 

 ที่บ้านหางว่าว ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดพายุฤดูร้อน

พัดโหมกระหน่ำเข้าใส่หมู่บ้านอย่างต่อเนื่องนานประมาณ 1 ช.ม.

ปรากฏว่า พายุที่พัดอย่างรุนแรงนี้ ได้ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้าน

พังเสียหายยับเยินกว่า 70 หลังเรือน โดยที่ส่วนมากแล้ว

หลังคาบ้านที่เป็นสังกะสี จะถูกพายุพัดเอาหลังคาสังกะสีปลิวหายไป

ทำให้ทรัพย์สินสิ่งของมีค่าของชาวบ้านที่อยู่ภายในบ้าน

ถูกน้ำฝนเปียกเสียหายจำนวนมาก ขณะที่บ้านหลายหลัง

ที่สร้างเสร็จใหม่ถูกพายุพัดพังครืนลงมาเสียหาย รถจักรยานยนต์

และสิ่งของภายในบ้านถูกบ้านพังทับได้รับความเสียหาย

ชาวบ้านต้องพากันรื้อเอาทรัพย์สินต่างๆ ถูกบ้านพังทับ

ออกมาอย่างทุลักทุเล โดยมีหมู่บ้านที่ถูกพายุพัดบ้าน

ของชาวบ้านพัง 2 หมู่บ้าน คือ บ้านหางว่าวและบ้านโนนบัว

ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ รวมจำนวนทั้งสิ้น

ประมาณกว่า 70 หลังคาเรือน

Credit : INN

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 00:00:35


ความคิดเห็นที่ 5405 (1606323)

 

กองทัพชีปะขาวนับล้านตัวบุกมุกดาหาร ทำสงกรานต์กร่อย
 
 

          วันที่ 13 เม.ย. 2555 มีกองทัพแมลงปอ

ที่ชาวบ้านเรียกว่าชีปะขาว อยู่ในแม่น้ำโขง จากแมลงปอ

 ซึ่งเมื่อยามเป็นแมลงปอจะไม่มีปีก แต่เมื่อลอกคราบออกมา

จะกลายเป็นชีปะขาวทั้งตัวพร้อมมีปีกบินโดยธรรมชาติ

ชีปะขาวจะไม่ลอกคราบเวลากลางวัน เนื่องจากชีปะขาวจะชอบ

แสงสว่างตามหลอดไฟตามถนน บ้านเรือน ตกกลางคืน

กองทัพชีปะขาวจะออกเล่นแสงไฟ ตามสถานที่ที่มีแสงสว่าง

จากหลอดไฟ บินเล่นตามถนนจนพื้นเป็นสีขาวไปหมด เหมือหิมะตก

จนหมดแรงแล้วก็ร่วงลงมาตายเกลื่อนตามร้านค้าและถนน

ส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก

ทำให้ร้านค้าผู้ประกอบการไม่สามารถเปิดร้านได้

แต่กลับเป็นผลดีต่อเกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง เป็ด ไก่

ต่างพากันเก็บซากแมลงชีปะขาว เพื่อนำไปเป็น

ส่วนผสมของอาหารปลา.เนื่องจากปีนี้มีแมลงชีปะขาวขึ้นมามาก

บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของปลาน้ำโขงจะมีมากในปีนี้


Credit : Teenee

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 00:10:58


ความคิดเห็นที่ 5406 (1606324)

 

พายุถล่ม"ตรัง"บ้านพังอื้อ
 
 

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง

จากชาวบ้านบ้านนายอดทอง หมู่ที่ 5 ต.วังวน อ.กันตัง

จ.ตรัง ว่า ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ทำให้บ้านเรือน

และสวนยางพาราของประชาชน

ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ 

ในเบื้องต้นพบว่า มีบ้านเรือนในพื้นที่ หมู่ 2 ต.วังวน

เสียหายจำนวน 13 หลัง และบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.วังวน

เสียหาย จำนวน 10 หลัง ส่วนพื้นที่สวนยางพาราได้รับความเสียหาย

300- 400 ต้น นอกจากนี้ในพื้นที่ ต.กันตังใต้

มีบ้านเรือนพังเสียหาย 21 หลัง รวมทั้งระบบไฟฟ้าในพื้นที่ 4 ตำบล

ประกอบด้วย ต.วังวน ต.บางสัก ต.นาเกลือ และต.เกาะลิบง

ได้เกิดขัดข้องชาวบ้านไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้

เนื่องจากต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูง 

Credit : Teenee

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 00:12:33


ความคิดเห็นที่ 5407 (1606325)

พายุถล่มอุดรฯบ้านเสียหาย150หลัง

  • 14 เมษายน 2555 เวลา 15:57 น

 

 

พายุพัดถล่ม อ.โนนสะอาด อุดรธานี บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 150 ครัวเรือน

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายแก่นเพชร ช่วงรังสี ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี 

พร้อมนายกเหล่ากาชาดอุดรธานี รองผู้ว่าราชการจังหวัด

ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.อุดรธานี

เดินทางไปมอบถุงยังชีพปลอบขวัญ ราษฎรที่ศาลากลางบ้าน

ทต.โนนสะอาด อ.โนนสะอาด โดยมีนายปราโมทย์ ธัญพืช

นายอำเภอโนนสะอาด นายสัจจะพงษ์ ภูมิภักดิ์

นายก ทต.โนนสะอาด นำตัวแทนราษฎร 150 ครอบครัว

ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน

นายแก่นเพชร กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุพายุพัดถล่มตั้งแต่

เย็นวันที่ 13 เม.ย.  ซึ่งนับว่าโชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

วันนี้จึงรีบออกมาตรวจสภาพข้อเท็จจริง และนำความช่วยเหลือ

ออกมาให้ โดยจะมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เพื่อช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายต่อไป

Credit : Posttoday

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 00:18:53


ความคิดเห็นที่ 5408 (1606331)

เตือน "สึนามิ" ถล่มอันดามันปลายปีนี้

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน 2555 เวลา 13:55 น.




“สมิทธ" เตือน ระวังสึนามิถล่มอันดามันอีกปลายปีนี้ ชี้ผลพวงพายุสุริยะมีผลต่อสนามแม่เหล็กโลกรุนแรง ทำให้เปลือกโลกเคลื่อนตัวเกิดแผ่นดินไหวร้อยละ 80-90 เปอร์เซ็นต์ หวั่น "กรุงเทพฯ" พังราบเป็นหน้ากอง เหตุชั้นดินอ่อนและชั้นล่างสุดเป็นดินเลนจะมีน้ำเข้ามาแทนที่



วันที่ 13 เม.ย. นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงการกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ไม่มีสินามิ เพราะเป็นแผ่นดินไหวแนวราบและก่อนหน้าเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรชาวไทยในองคการนาซ่า ตั้งอยู่มลรัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา ได้ส่งรายงานการเกิดพายุสุริยะหรือการเกิดระเบิดบนผิวดวงอาทิตย์ซึ่งส่งคลื่นสุริยะดวงอาทิตย์มีผลต่อสนามแม่เหล็กรุนแรง โดยคลื่นจะส่งผลถึงโลกในวันที่ 10 เม.ย.และได้เตือนว่าอาจเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณมหาสุมทรอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนเปลือกโลกที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดพายุสุริยะโดยตรงจะมีผลทำให้เกิดการเคลื่อนตัวหรือการเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลก เป็นคำเตือนที่ส่งมาให้ตนล่วงหน้า 1 วันก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา ทำให้ตนเชื่อว่าการเกิดพายุสุริยะ มีผลกระทบต่อเปลือกโลกจริง ในปีนี้จะเกิดพายุสุริยะอีกจำนวนมากไปจนถึงปี 2556 แต่รุนแรงที่สุดในวันที่ 21 ธ.ค. ปีนี้ หรือเป็นตามตัวเลข 21/12/12 ตรงตามปฏิทินชนเผ่ามายาที่ทำนายถึงวันสิ้นโลกเอาไว้


นายสมิทธ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในประเทศไทยและรุนแรง ซึ่งจะเกิดความเสียหายมาก โดยเฉพาะกรุงเทพฯ พื้นดินเป็นดินอ่อน หากเกิดแผ่นดินไหวห่างจากกรุงเทพฯไปถึง 350 กิโลเมตร ก็ทำให้กรุงเทพฯ พังราบได้ง่าย ๆ อีกทั้งสิ่งปลุกสร้างไม่ได้มาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ เช่น ตึกแถว บ้านทาวเฮาส์ บ้านราคาถูก ส่วนตึกสูงที่สร้างได้มาตรฐานอาจจะไม่พังเสียหาย ภาครัฐควรเร่งออกสำรวจสิ่วปลูกสร้างในกรุงเทพฯได้แล้วและเตรียมมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่ตอนนี้จะทำให้ลดความสูญเสียได้มาก


นายสมิทธ กล่าวอีกว่า รอยเลื่อนแผ่นดินไหวที่พาดผ่านประเทศไทยมีทั้งหมด 13 รอยเลื่อน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือสำรวจแนวโน้มความเป็นไปได้เพื่อวางแผนล่วงหน้า โดยเฉพาะรอยเลื่อนในทะเลอันดามันน่าห่วงมากที่สุด บริเวณเกาะสอง จ.ระนอง จ.สุราษฐธานี จ.พังงา จ.กระบี่ เป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ไปถึงประเทศพม่า ซึ่งเป็น แผ่นเปลือกโลกยูเรเชียนมีแนวยาวมาก จากเกาะสุมาตราไปถึงชายแดนพม่า และจากเกาะนิโคบาร์ ขึ้นเหนือไปไปถึงชายแดนพม่า โดยลอยเลื่อนบริเวณพม่านี้ ถ้าอยู่ใต้น้ำก็คือ ชุนดราเพลท แต่พออยู่บนบกก็คือรอยเลื่อนสะแกงที่อยู่ในพม่าต่อเนื่องมาแถบตะวันตกของไทยทางด้านกาญจนบุรีและอุทัยธานี รอยเลื่อนพวกนี้มีพลังมาก และถ้าถามว่าไทยจะเกิดคลื่นสึนามิอีกหรือไม่นั้น มีนักวิจัยด้านแผ่นดินไหวชาวไอร์แลนด์ชี้ว่ามีโอกาสที่จะเกิดคลื่นยักษ์ที่เป็นผลมาจากแผ่นดินไหวถล่มชายฝั่งเกาะสุมาตราในอนาคตอันใกล้นี้และแรงแผ่นดินไหวส่งผลถึงกรุงเทพฯแน่นอนจะเกิดความเสียหายคล้ายกับประเทศเฮติ เพราะเป็นชั้นดินอ่อนและพื้นดินข้างล่างสุดเป็นดินเลนทำให้มีน้ำเข้าไปแทนที่ได้ รวมทั้งมีผลสะท้อนมาจากการไหวอย่างรุนแรงที่ประเทศ ชิลี ซึ่งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกใหญ่แปซิฟิก เคลื่อนตัวมาทางตะวันออกเมื่อเร็วๆนี้ ส่งผลกระทบมาสู่รอยเลื่อนระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนด้วยทำให้อัตราการไหวเพิ่มถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์


---------------------
ขอบคุณที่มา :::
เตือน "สึนามิ" ถล่มอันดามันปลายปีนี้ | เดลินิวส์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 01:36:50


ความคิดเห็นที่ 5409 (1606332)

อย.มะกันเตือน! ทูนาครีบเหลืองส่อเป็นตัวการระบาดของโรคท้องร่วง

วันที่ 14/04/2555 18:00





อย.ของสหรัฐฯ ระบุว่า ปลาทูนาครีบเหลือง มีส่วนในการระบาดของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงใน 20 รัฐของประเทศ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า สำนักงานจัดการอาหารและยาของสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ระบุว่า เนื้อปลาทูนาครีบเหลือง มีส่วนเชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดของเชื้อ "แซลโมเนลลา" ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหาร ใน 20 รัฐของอเมริกา และทำให้มีผู้ป่วยมากกว่าร้อยรายแล้ว

จากข้อมูลของเอฟดีเอ ปลาทูนาครีบเหลือง จะถูกใช้สำหรับทำ ซูชิ ซาชิมิ ซึ่งเป็นอาหารญี่ปุ่นยอดนิยม และมีวางขายตามภัตตาคารและร้านขายของชำ ซึ่งเริ่มระบาดในพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐฯ และไปทางตะวันตกที่รัฐเท็กซัสและมิสซูรี จนถึงเมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา ผู้ป่วยจากการได้รับเชื้อแซลโมเนลลาในสหรัฐฯ มีมากถึง 116 คน โดยในจำนวนนี้มี 12 ราย ที่อาการหนักจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

ด้านบริษัท มูนมารีน ยูเอส คอร์เปอเรชั่น ผู้นำเข้าสินค้าต่างๆ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศเรียกคืนปลาทูนาครีบเหลืองแช่แข็ง รวมน้ำหนักกว่า 58,828 ปอนด์ หลังทราบว่า ปลาดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการระบาดของแบคทีเรียแซลโมเนลลา

ทั้งนี้ อาการป่วยเบื้องต้นหากได้รับเชื้อแซลโมเนลลาคือ ท้องเสีย ปวดเกร็งท้อง และมีไข้ ภายในเวลา 8-72 ชม. หลังได้รับเชื้อ และสำหรับทารก สตรีมีครรภ์ หรือคนชรา อาการอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตได้.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 01:38:39


ความคิดเห็นที่ 5410 (1606333)

ระทึก..เกิดหินขนาดยักษ์ตกจากภูเขาหล่นทับใส่บ้านผู้อาศัยในหมู่เกาะฮาวาย 2 หลัง พังเสียหาย โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ

UPDATED:


Five boulders tumbled down a steep hillside in Hawaii on Thursday, dramatically crashing into two homes.


No one was hurt but the two houses were left in ruins, with a third suffering minor damage.

The rocks dropped at around 9pm in Kalihi Valley, startling witnesses who said they heard a cracking noise shortly before they fell.




Ruins: Two homes were left devastated when boulders tumbled down a hillside in Hawaii and crashed into them

 
22:36 GMT, 13 April 2012

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 01:39:12


ความคิดเห็นที่ 5411 (1606334)

พายุฤดูร้อนถล่มศรีสะเกษรับสงกรานต์ บ้านพังยับ 70 หลัง

ศรีสะเกษ - พายุฤดูร้อนถล่มศรีสะเกษรับสงกรานต์ บ้านเรือนประชาชนพังยับกว่า 70 หลังคาเรือน นายอำเภอเมืองศรีสะเกษเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือด่วนแล้ว

วันนี้ ( 14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านหางว่าว ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดโหมกระหน่ำเข้าใส่หมู่บ้านอย่างต่อเนื่องนานประมาณ 1 ชั่วโมง (ชม.) ทำให้บ้านเรือนของประชาชนพังเสียหายยับเยินกว่า 70 หลังเรือน โดยส่วนมากแล้วหลังคาบ้านที่เป็นสังกะสีได้ถูกพายุพัดปลิวหายไป ทำให้ทรัพย์สินสิ่งของมีค่าอยู่ภายในบ้านถูกน้ำฝนเปียกเสียหายจำนวนมาก

ขณะที่บ้านหลายหลังที่สร้างเสร็จใหม่ถูกพายุพัดพังครืนลงมาเสียหาย ทั้งรถจักรยานยนต์ และสิ่งของภายในบ้าน ต้องพากันรื้อเอาทรัพย์สินต่าง ๆที่ถูกบ้านพังทับออกมาอย่างทุลักทุเล ขณะชาวบ้านบางส่วนพากันนำเอาสิ่งของที่เปียกน้ำออกมาตากแดด โดยมีหมู่บ้านที่ถูกพายุพัดบ้านพัง เสียหาย 2 หมู่บ้าน คือ บ้านหางว่าว และบ้านโนนบัว ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 70 หลังคาเรือน

นายไพบูลย์ โคตา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.5 บ้านโนนบัว ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ถูกพายุพัดบ้านพังได้รับความเสียหายทั้งหลัง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในภายในบ้านที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จใหม่ และปรากฏว่าได้เกิดลมพายุพัดเข้ามาอย่างรุนแรง ต้องรีบพาครอบครัวหนีออกจากบ้านและกระแสลมพายุที่พัดอย่างรุนแรง ทำให้บ้านพังลงมาทับรถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหาย ไม่มีใครในครอบครัวได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่บ้านได้รับความเสียหายยับเยินทั้งหลัง

นางหทัยรัตน์ วงษา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 ม.4 บ้านหางว่าว ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านกับครอบครัวและได้เกิดลมพายุพัดอย่างรุนแรงเสียงดังน่ากลัวมาก ลมพายุที่พัดอย่างรุนแรงได้พัดเอาหลังคาบ้านของตนที่เป็นสังกะสีปลิวกระเด็นไปตกอยู่ข้างบ้าน ทำให้ข้าวของทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านถูกน้ำฝนเปียกเสียหายจำนวนมาก

ทางด้าน นายวัฒนา พุฒิชาติ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยนายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้ไปตรวจสอบบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากพายุพัดบ้านพังแล้ว และได้สั่งการให้ นางพจนีย์ พรหมชาติ นายก อบต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เร่งทำการสำรวจความเสียหายบ้านเรือนทุกหลังเพื่อที่จะได้เร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้จ่ายเงินช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกพายุพัดบ้านพังเป็นเงินสดเพื่อที่จะได้นำเอาไปใช้ซื้อวัสดุมาใช้ในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่พังเสียหายตามสภาพความเป็นจริงอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการช่วยเหลือดูแลชาวบ้านอย่างเต็มที่ และขณะนี้ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้เหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ นำถุงยังชีพมาแจกจ่ายให้การช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเบื้องต้นด้วยแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 01:40:04


ความคิดเห็นที่ 5412 (1606335)

จ.สุราษฎร์แจ้งเตือนปชช.พท.เสี่ยงภัยระวังภัยธรรมชาติ

นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้สั่งการให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ราบลุ่ม ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ให้ระมัดระวังอุทกภัย วาตภัย ลมกระโชกแรงและคลื่นลมแรง ในระหว่างวันที่ 14-18 เมษายน นี้ สำหรับเรือประมง เรือโดยสารและเรือเฟอร์รี่ ควรพิจารณาเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ทั้งนี้หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายว่าในช่วงวันที่ 14-18 เมษายน คลื่นกระแสลมตะวันออกพัดนำความชื้น เข้าปกคลุมภาคใต้ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ประกอบกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาภาคใต้มีปริมาณฝนตกชุกและตกหนักบางพื้นที่แล้ว ถ้ามีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่เสี่ยงภัยอีก อาจทำให้เกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในช่วงดังกล่าวได้

 

http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-เพื่อรองรับสถานการณ์ปี-2012-a-288866-974.html

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 01:42:05


ความคิดเห็นที่ 5413 (1606336)

ไฟไหม้ร้านค้าใหญ่วอดสูญนับ10ล้าน

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน 2555 เวลา 20:19 น.


 
 

เพลิงพิโรธ รับสงกรานต์ เผาร้านเครื่องเขียนชื่อดังกลางเมืองเชียงราย วอดเสียหายนับ 10 ล้าน

เมื่อเวลา 18.40 น.วันนี้ ( 14 เม.ย.) พ.ต.ท.ชัยยุทธ ฉิมพลี สวส.สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านเยาวชนการค้าเชียงราย เลขที่ 535/8-11 ถนนบรรพปราการ ต.เวียง อ.เมือง จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก. พ.ต.ท.สมคิด หมั่นงาน รอง ผกก.สส. รถดับเพลิงเทศบาลนครเชียงราย และพื้นที่ใกล้เคียง 20 คัน ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ 3 ชั้น 4 คูหาเปิดเป็นร้านเครื่องเขียนขนาดใหญ่ พบเพลิงกำลังลุกไหม้จากบริเวณชั้น 3 ของตัวอาคารอย่างรุนแรง หน้าที่จึงเร่งระดมใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากภายในอาคารเก็บสินค้าประเภทเครื่องเขียน กระดาษ และแผ่นโฟมจำนวนมากการดับเพลิงจึงเป็นไปด้วยความยาลำบากใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบความเสียหายได้ อย่างไรก็ตามมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครเชียงราย ถูกกระจกบาดที่แขนนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว

สอบสวนเบื้องต้น นางอำไพ สมุดความ อายุ 50 ปี พนักงานธุรการของร้าน ให้การว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ร้านปิดช่วงสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 11-18 เม.ย. โดยปิดประตูร้านค้าไว้ไม่มีคนเฝ้า จนมาเกิดเหตุไฟไหม้ในวันนี้ แต่ก็ยืนยันว่าก่อนจะทำการปิดร้านได้ตัดระบบไฟฟ้าภายในร้านหมดแล้ว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าในส่วนสาเหตุและมูลค่าความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้คงต้องกั้นพื้นที่เกิดเหตุไว้ก่อนจนถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะได้เรียกผู้เสียหายมาสอบถามข้อมูลสินค้าและทรัพย์สินอีกครั้งและจะได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจภูธรเชียงรายเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุเพื่อดำเนินการต่อไป.


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 01:43:01


ความคิดเห็นที่ 5414 (1606387)

 พายุฤดูร้อนพัดถล่มเลยบ้านเรือนพัง20หลัง

ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ.2555 20:48น.
372539

พายุฤดูร้อน พัดถล่ม อ.เมือง จ.เลย

ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน ได้รับความเสียหายร่วม 20 หลัง  

เกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มที่หมู่บ้านกกทอง อย่างรุนแรง

โดยพายุได้พัดเอาหลังคาบ้านเรือนราษฎร จนหลังคาเปิด

ต้นไม้และไม้ผล ถูกพายุพัดหักระเนระนาด จากนั้นฝนก็ตกลงมา

อย่างหนัก ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายอำเภอเมืองเลย

ว่าได้รับรายงานจากผู้ใหญ่บ้านกกทอง ต.กกทอง อ.เมือง จ.เลย

ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มที่หมู่บ้านกกทองอย่างรุนแรง

โดยมีพายุพัดอยู่ประมาณ 10 นาที จากนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ก็ได้รายงานให้นายสมพงษ์

อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ทราบโดยด่วนแล้ว

Credit : INN

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 22:09:04


ความคิดเห็นที่ 5415 (1606388)

 ดินไหวในทะเล Off The West Coast

Of Northern Sumatra 6.3R-ไม่กระทบไทย

ข่าวต่างประเทศ วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ.2555 14:31น.
372487
แผ่นดินไหวในทะเล 6.3 ริกเตอร์
บริเวณ Off The West Coast
Of Northern Sumatra คาด ไม่กระทบไทย

 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้งข่าวแผ่นดินไหว

วันที่ 15 เมษายน 2555 เวลา 13.13 น. เมื่อเวลา 12.57 น. 

เกิดแผ่นดินไหวในทะเลขนาด 6.3 ริกเตอร์ บริเวณ

Off The West Coast Of Northern Sumatra ระยะทาง 

1,056 ก.ม. จากชายฝั่งทะเล จังหวัดภูเก็ต คาดว่าไม่มีผลกระทบ

ต่อประเทศไทย

Credit : INN

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 22:10:32


ความคิดเห็นที่ 5416 (1606389)

 อินโดฯผวา!อีก ดินไหว 5.9 ช่องแคบซุนดา

ข่าวต่างประเทศ วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ.2555 7:33น.
372407
อินโดนีเซีย ยังขวัญผวาไม่เลิก แผ่นดินไหว 5.9 R
บริเวณช่องแคบซุนดา ไม่มีเตือนสึนามิ

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐ USGS รายงาน แผ่นดินไหว 5.9 ริกเตอร์

ที่ประเทษอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเวลา 02.26 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ซึ่งห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงจาการ์ตาร์

เพียง 170 ก.ม. วัดความลึกได้ 50 ก.ม.

ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือ ผู้เสียชีวิต

รวมทั้งไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ 

Credit : INN

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 22:12:03


ความคิดเห็นที่ 5417 (1606392)

โผล่รอบสอง! อุกาฟ้าเหลือง หวั่นเกิดภัยพิบัติอีก

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  • 15 เม.ย. 55 21.03 น.
  

 

ชาวระนองฮือฮา "อุกาฟ้าเหลือง" โผล่รอบสอง หวั่นเกิดภัยพิบัติอีก

หลังก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว

(15 เม.ย.) เมื่อเวลา 18.30 น. ได้เกิดปรากฏการณ์ท้องฟ้า

เป็นสีเหลืองและส้ม ให้เห็นอีกครั้งในพื้นที่ จ.ระนอง

นานประมาณ 30 นาที สร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็น

พร้อมมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยส่วนใหญ่วิตกถึงสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ

เนื่องจากปรากฏการณ์ในลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง

ในช่วงเช้าเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2555 หลังจากนั้นในวันที่ 11 เม.ย. 2555

ได้เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวซึ่งประเทศไทยรู้สึกได้ในหลายพื้นที่

นายชัย แก้วจันทร์ อายุ 65 ปี กล่าวว่า ตอนแรกเพื่อนบ้านได้เรียกตน

ให้ออกมาดูลักษณะท้องฟ้าที่แปลกประหลาด โดยเมื่อตนออกมา

สังเกตดูพบว่าท้องฟ้าไม่เหมือนเช่นทุกวันและไม่เคยเห็นบ่อยนัก

ที่ท้องฟ้าจะเป็นเช่นนี้ จำได้ว่าหากท้องฟ้าเป็นสีลักษณะนี้

ชาวบ้านบอกว่าเป็น อุกาฟ้าเหลือง ชาวเรือไม่ควรออกเรือ

และมักจะเกิดเหตุเภทภัยที่ไม่ดี ซึ่งตนจำได้ว่าช่วงที่ จ.ระนอง

เคยประสบเหตุพายุซีต้าพัดถล่มเมื่อหลายปีที่ผ่านมาฟ้า

จะเป็นสีเหลืองติดต่อกันหลายวัน

ด้านนางหว่าง แก้วจันทร์ อายุ 75 ปี กล่าวว่า

ตนเคยเห็นปรากฏการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้งในชีวิต

และส่วนใหญ่มักจะเกิดอาเพศขึ้นเสมอ

ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่อยากจะคิดในแง่ร้ายเช่นนั้น 

Credit : Sanook

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 22:17:53


ความคิดเห็นที่ 5418 (1606394)

ขณะนี้

เปลือกโลก

กำลังได้รับการกระทบกระเทือน

ซึ่งจะมีผลต่อเนื้องกันเป็นลูกโซ่

โดยเฉพาะที่อยู่ในแนวเพลตเดียวกัน

จะได้รับผลกระทบก่อน

แล้วหลังจากนั้น

ก็จะส่งผลในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

 

คนที่อยู่ใกล้แนว

รอยเลื่อน

และ

เขื่อน + ทะเล

ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 22:52:16


ความคิดเห็นที่ 5419 (1606397)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างที่สุด ที่เมตตาลูกหลาน ถึงแม้ท่านอาจารย์ไม่ได้รับอนุญาติจากเบื้องบนให้บอกลูกหลานตรงๆ ถึงวันเวลาและสถานที่

แต่จากข้อมูลที่ท่านอาจารย์เมตตาแจ้งเตือนมา ก็เป็นข้อมูลที่เรียกว่าห้ามเผลอสติ และประมาทเด็ดขาด สำหรับพี่น้องที่อยู่ใกล้เขื่อน+ทะเล

วันนี้พี่น้องบ้านสวนฯระหว่างวันมีการสำรวจกันและกันว่า ใส่แหวนองค์เทพสฟริงซ์กันรึยัง ก่อนกลับท่านอาจารย์ก็เมตตาถามถึงน้องเอิ้นด้วยว่าแหวนไปไหน ทำไมไม่ใส่ ซึ่งน้องเอิ้นเก็บไว้ในกระเป๋า ห้ามประมาทกันเด็ดขาดเลยเน้ออพี่น้อง

ตอนนี้นอกจากบุญ และจิตใจที่มั่นคงในพระพุทธเจ้าและความดีแล้ว ขอให้ทุกคนอย่าลืมที่ท่านอาจารย์เตือนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นนกหวีด เป้ฉุกเฉิน เสื้อบ้านสวนฯ แหวนพีระมิด&เทพสฟริงค์ จี้ องค์พีระมิดจำลอง และอื่นๆ ให้พกไว้ติดตัว ที่บ้าน และที่ทำงานกันเด้อครับพี่น้อง...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 23:19:54


ความคิดเห็นที่ 5420 (1606401)

พ่อใหญ่ธนาเอ๋ย

เดิมทีเดียว อ.อุบล คิดว่า

จะให้คนเข้าบ้านสวนพีระมิดได้

แบบปล่อยผี ดูสักที เพื่อจะได้

ฉุดช่วยผู้คนที่บาปหนา

ให้บางลงบ้าง

 

และ

เป็นการ

ทดสอบความแข็งแกร่ง

ของจิตใจ และ ภูมิธรรม

ของพวกเรา

ว่า

พร้อมหรือยัง

ที่จะแสดงความเมตตา

ต่อผู้หลงผิด

โดย

ไม่มีข้อแม้และเงื่อนไข

 

ปรากฏว่า

เสด็จพ่อไม่ทรงอนุญาต

แป่ววววว

 

ด้วยเหตุผลที่ว่า

1.อย่า

คบคนชั่วเป็นมิตร

 

2.อย่าเสียเวลา

กับคนที่ไม่รอด ถ้ายามีจำกัด

(ต้องช่วยคนที่พอช่วยได้ก่อน)

 

3.เวลาเหลือน้อยแล้ว

ต้องเร่ง ยกระดับจิตของคนที่

พอมีหวัง

 

4.ต้องช่วยเฉพาะ

คนที่พร้อมที่จะช่วยตัวเอง

เท่านั้น

 

5.อย่าดึงพลังลบ

เข้ามามากเกินไป ต้องให้

ภูมิต้านทาน คนเก่า แข็งแรงจริงๆ

เสียก่อน มิฉะนั้น อาจติดเชื้อ

(พิษสุนัขบ้า 555)

 

6.สถานที่ใด

มีพลังงานลบมาก

สถานที่นั้น คือพื้นที่เสี่ยงภัย

 

สถานที่ใด

มีพลังงานบวกมาก

สถานที่นั้น คือ ที่ปลอดภัย

 

ดังนั้น

เสด็จพ่อให้พวกเรา

เร่ง

การพัฒนา ระดับจิตใจ

ให้สะอาด บริสุทธิ์

ให้เร็วและมากที่สุด

 

อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง

เดี๋ยวต้องไปอยู่

กับลุง(พุฒิ)

ไม่รู้ด้วย

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 23:47:20


ความคิดเห็นที่ 5421 (1606406)

 

 

 

15/04 ดร.สมิทธ จ่อเพิ่ม5หอเตือนภัยระนองรับมือดินไหว-สึนามิ



นายวัชระ ธีรรัตนางกูร ประธานศูนย์ประสานงานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติระนอง เปิดเผยว่า มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โดย ดร.

สมิทธ ธรรมโรช ประธานมูลนิธิฯ ประสานให้จัดทำข้อมูล รายละเอียดพื้นที่ที่จะดำเนินการก่อสร้างหอเตือนภัยเพิ่มอีก 5 แห่ง ตามพื้นที่ชายฝั่งทะเลใน จ.ระนอง ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ เพื่อที่จะให้การเตือนภัยมีความครอบคลุมมากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 13 แห่ง ซึ่งจุดที่จะก่อสร้างหอเตือนภัยอีก 5 แห่ง ประกอบด้วย อ.สุขสำราญ,กะเปอร์,ราชกรูด,บางแก้ว และกระบุรี ยอมรับว่า จ.ระนอง ยังเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งแผ่นดินไหวและสึนามิเนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อนระนอง ซึ่งพบว่ายังมีแรงกดทับของเปลือกโลกที่อาจจะส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว และสึนามิได้ ซึ่งนอกจากการสร้างหอเตือนภัยแล้ว ทางมูลนิธิฯยังเตรียมที่จะจัดสัมนาเรื่องการเตรียมความพร้อมรับมือพิบัติภัยรอบสองให้กับประชาชนทั่วไป หลังจากที่ทางมูลนิธิฯได้จัดมาแล้ว 1 ครั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้ความรู้กับประชาชนในการเตรียมพร้อมรับมือกับพิบัติภัยได้อย่างถูกต้อง




 

 

15/04 ชาวระนอง ขอบคุณ ดร.สมิทธที่คอยเตือนประชาชนไม่ให้ประมาท


นายวิชัย ศรีเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งในระยะนี้ โดยเฉพาะในแนวรอบประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการที่ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ได้ออกมาระบุ จ.ระนอง และจังหวัดชายฝั่งอันดามันมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสึนามิในช่วงปลายปี 2555 นี้ โดยอ้างอิงข้อมูลจากการศึกษาของผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญว่าในระยะ 5-10 ปี คาดจะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในทะเลอันดามัน ซึ่งมีจุดเสี่ยงที่แผ่นเปลือกโลกกดทับอยู่ 3 จุด ซึ่งอาจจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดระนองเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงนั้น ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับชาวบ้านไม่ได้ตระหนกแต่ก็ต้องขอบคุณ ดร.สมิทธที่คอยเตือนประชาชนไม่ให้ประมาท อีกทั้งให้ความรู้ให้กับชาวบ้านในการเตรียมความพร้อมและรู้เท่าทันภัยธรรมชาติ อีกทั้งจะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความตื่นตัวและมีความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยเฉพาะหอเตือนภัย การกำหนดเส้นทางหนีภัย และการสร้างอาคารหลบภัยที่จะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง

http://www.paipibut.org/view.php?dataid=15631

 

 

 

15/04 “ดร.สมิทธ” เตือนเฝ้าระวัง 13 รอยเลื่อนไทย หวั่นกระทบหลังแผ่นดินไหว.



ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการ มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนอย่าตกใจ เรื่องอาฟเตอร์ช็อก หลังจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา แต่เตือนให้ต้องเฝ้าระวัง 13 รอยเลื่อนในไทยอาจทำให้รอยร้าวแตกยาวขึ้น จึงต้องดูว่าทั้ง 13 รอยเลื่อน จะมีการขยับตัวหรือไม่ โดยจุดที่น่าห่วงคือ ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ลงมาถึง จ.กาญจนบุรี จ.ระนอง และคลองมะรุ่ย ที่ตัดผ่านภาคตะวันออกของเกาะภูเก็ตเข้าไปในอ่าวพังงา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงและผู้บริหารท้องถิ่นต้องเตรียมที่พักและอาหาร รวมถึงหาที่สูงน้ำไม่ท่วมไว้รองรับประชาชน แต่อย่าตื่นตระหนก ส่วน ในพื้นที่ กทม.ที่มีตึกสูงเยอะก็ยังน่าเป็นห่วง เพราะพื้นที่ดินอ่อนและดินเลน เหมือนประเทศเม็กซิโก ถ้าเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 8 ริกเตอร์ ห่างจาก กทม. 300-

400 กิโลเมตร อาจส่งผลกระทบต่ออาคารบ้านเรือนใน กทม.ที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรงไม่ได้มาตรฐานได้ ดังนั้น กรมโยธาธิการและผังเมือง กทม.และ ผู้ว่าฯ กทม.ต้องไปสำรวจดูอาคารเพื่อความรอบคอบ สำหรับเรื่องคลื่นสึนามิ ที่อาจเกิดขึ้นในไทย ตนเป็นห่วง เพราะมีผู้เชี่ยวชาญทำนายไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเร่งเตือนประชาชนให้รวดเร็ว หากมีสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น




B5 - War Room Falkman
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-15 23:58:31


ความคิดเห็นที่ 5422 (1606407)

.

 

ทอร์นาโดพัดถล่มต่อเนื่องอย่างน้อย 12 ลูกใน 4 รัฐของสหรัฐ Oklahoma, Kansas, Nebraska และ Iowa มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย

(CNN) -- Wichita was under a tornado emergency late Saturday as a large twister, part of a series of severe storms in the Great Plains, moved through south-central Kansas and threatened to destroy homes.

The "confirmed large and extremely dangerous tornado was located just east of Conway Springs and moving northeast at 35 mph," toward the Wichita area, the National Weather Service reported Saturday night. "This is a particularly dangerous situation."

Major damage to houses and buildings were likely, "and complete destruction possible," the weather agency said. But by 10 p.m. (11 p.m. ET), Kansas authorities had reported no serious damages.
Read More



Five people have been killed after a tornado ripped through a small town in Oklahoma, where many residents were caught unaware because storm sirens failed to sound.

Woodward, in the states northwest, was badly damaged in the twister, which struck after midnight (local time).

The town"s mayor, Roscoe Hill, said the tornado hit a mixed area of residences and businesses.

He added it appeared that sirens to warn people of the approaching danger had not worked - even though they had been sounding loudly from storms on Saturday afternoon.

Overnight, tornadoes touched down in four US states - Oklahoma, Kansas, Nebraska and Iowa.

http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-เพื่อรองรับสถานการณ์ปี-2012-a-288866-975.html
B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 00:01:03


ความคิดเห็นที่ 5423 (1606408)

ภาพระทึกขวัญกลางเมืองพิษณุโลก แก๊สรถยนต์ระเบิดไฟลุกท่วมหน้าปั้ม วอดทั้งคัน

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 11:40:19 น



 

เกิดเหตุระทึกขวัญกลางเมืองพิษณุโลก บริเวณสี่แยกไผ่คู่ ถนนราเมศวร .อ.เมือง จ.พิษณุโลก รถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส ทะเบียน กธ 2095 พิษณุโลก เกิดอุบัติเหตุแก๊สระเบิด บริเวณหน้าร้านข้าวมันไก่ ใกล้โรงเรียนไทยกล้าวิทยา เจ้าของรถ ได้ตัดสินใจเปิดประตูออกจากตัวรถ หนีเอาตัวรอด แล้วปล่อยให้รถยนต์ที่ไฟลุกท่วม ควันไฟโขมง ไหลไปตามถนนเป็นระยะทางยาวร่วม 200 เมตร ก่อนที่รถจะมาชนขอบฟุตบาธ หน้าปั้มน้ำมันเชลล์ และไฟก็เริ่มลุกไหม้ทั้งคันรถ พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและดับเพลิงเทศบาลนครพิษณุโลกมาทำการควบคุมเพลิงเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กันประชาชนให้อยู่ห่างจากจุดไฟลุกไหม้ประมาณ 100 เมตร เนื่องจากไฟกำลังลุกท่วมรถยนต์ และอยู่หน้าปั้มน้ำมัน รถดับเพลิงเทศบาลนครพิษณุโลกได้ฉีดน้ำและสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในเวลา 15 นาที สภาพรถยนต์ถูกไฟไหม้เสียหายหมดทั้งคัน





B5 - WarRoom Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 00:03:55


ความคิดเห็นที่ 5424 (1606409)
15/04 เตือน!! อีสานล่างลงไป ระวัง พายุฤดูร้อน เหนือ กลาง ร้อน-ร้อนจัด


ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคกลาง ประกอบกับ คลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น  โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง
 
จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักในช่วงวันที่ 15-17 เมษายน 2555 ไว้ด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://ufokaokala.com/index.php?PHPSESSID=29cfa96f0f07985131009d8aa90328a7&topic

=5979.msg51219;topicseen#msg51219 ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 00:06:51


ความคิดเห็นที่ 5425 (1606411)
พายุฤดูร้อนถล่มตรัง บ้านพังกว่า 100 หลัง


ตรัง 15 เม.ย. - พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนใน จ.ตรัง เสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน

นายวิสิฐ ตั้งปอง นายอำเภอกันตัง จ.ตรัง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนใน 4 หมู่บ้าน 2 ตำบลของ อ.กันตัง หลังพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนพังเสียหายนับร้อยหลังคาเรือน สวนยางหักโค่นกว่า 100 ไร่ โดยชาวบ้านอยู่ระหว่างเร่งซ่อมแซมบ้านเรือน และขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านไปพักอาศัยกับญาติพี่น้อง

นอกจากนี้ นายอำเภอกันตัง ยังสั่งกำชับให้ผู้นำชุมชนสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนและพืชผลการเกษตรให้แล้วเสร็จใน 2 วัน และให้ อบต.จัดซื้อแผ่นกระเบื้องแจกชาวบ้านให้แล้วเสร็จในวันนี้ เนื่องจากยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 00:09:14


ความคิดเห็นที่ 5426 (1606412)

สรุปรายงานแผ่นดินไหวทั่วโลก 15 เมษายน 2555


รายงานแผ่นดินไหวทั่วโลกจาก USGS นี้ ไม่มีรายงานของแผ่นดินไหวในไทยรวมอยู่ด้วย เนื่องจากข้อมูลกรมอุตุไทยไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบสากล

■เมื่อ 12.57 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 บริเวณ นอกชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ที่ความลึก 15.20 กม.
■เมื่อ 12.32 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 บริเวณ Tabasco ประเทศเม็กซิโก ที่ความลึก 19.10 กม.
■เมื่อ 11.06 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 บริเวณ หมู่เกาะริวกิว ประเทศญี่ปุ่น ที่ความลึก 13.50 กม.
■เมื่อ 11.04 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.0 บริเวณ Kodiak Island Alaska ที่ความลึก 110.50 กม.
■เมื่อ 09.48 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.4 บริเวณ ทางเหนือของ East Pacific Rise ที่ความลึก 9.90 กม.
■เมื่อ 09.44 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.3 บริเวณ นอกชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ที่ความลึก 11.00 กม.
■เมื่อ 09.22 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.0 บริเวณ Central Alaska ที่ความลึก 91.90 กม.
■เมื่อ 07.59 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.3 บริเวณ เปอร์โตริโก ที่ความลึก 89.30 กม.
■เมื่อ 06.49 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.0 บริเวณ West ประเทศชิลี Rise ที่ความลึก 10.10 กม.
■เมื่อ 05.24 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.7 บริเวณ ประเทศวานูอาตู ที่ความลึก 10.00 กม.
■เมื่อ 05.06 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 บริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ที่ความลึก 29.70 กม.
เมื่อ 05.05 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.6 บริเวณ ประเทศวานูอาตู ที่ความลึก 33.00 กม.
■เมื่อ 04.34 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.4 บริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ที่ความลึก 14.60 กม.
■เมื่อ 04.10 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.9 บริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ที่ความลึก 28.70 กม.
■เมื่อ 03.53 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 บริเวณ South Sandwich Islands ที่ความลึก 18.30 กม.
■เมื่อ 03.50 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.1 บริเวณ Kashmir-Xizang border ที่ความลึก 37.90 กม.
■เมื่อ 03.35 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 บริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ที่ความลึก 26.90 กม.
■เมื่อ 03.31 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.9 บริเวณ ทางตะวันตกของ Sichuan ประเทศจีน ที่ความลึก 20.70 กม.
■เมื่อ 02.26 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 บริเวณ Sunda Strait ประเทศอินโดฯ ที่ความลึก 49.00 กม.
■เมื่อ 01.11 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.4 บริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ที่ความลึก 27.20 กม.
■เมื่อ 00.21 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 บริเวณ Northern California ที่ความลึก 25.90 กม.
■เมื่อ 00.10 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 บริเวณ ประเทศวานูอาตู ที่ความลึก 50.30 กม.


Posted on 15/04/2012 by mrvop
http://paipibat.com/?p=5444




อินโดฯผวาอีก! แผ่นดินไหว 5.9 ริคเตอร์ บริเวณเกาะชวา คาดไม่กระทบไทย

ศูนย์เตือนภัยพิบัติเเห่งชาติรายงานว่า เมื่อเวลา 02.26 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวในทะเลขนาด 5.9 ริคเตอร์ บริเวณเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ระยะทาง 1,818 กิโลเมตร จากชายฝั่งทะเลภูเก็ต โดยคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย และเมื่อเวลา 04.34 น. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวที่ชายฝั่งตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย ขนาด 4.5 ริคเตอร์ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์เตอนภัยพิบัติแห่งชาติ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 192


http://www.matichon.co.th/
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 00:10:56


ความคิดเห็นที่ 5427 (1606421)

กราบอนุโมทนาในคำเตือน

จากท่านอาจารย์อุบล

ความคิดเห็นจากพ่อใหญ่ธนา

และทุกๆข่าวจากคุณอาริยาและน้องหญิง

ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 01:53:00


ความคิดเห็นที่ 5428 (1606450)

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีรมิด

ท่านอาจารย์อุบล ได้เมตตาลูกหลานบ้านสวน

เมตตาทุกวิถีทาง ให้มีชีวิตรอดปลอดภัย ทั้งทางตรงและทางอ้อม

กราบอนุโมทนาบุญ ทุกธรรมทานของท่าน อ.อุบลค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรินทร คัดชา (อุ๊) (warintorn-dot-n2011-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 12:01:28


ความคิดเห็นที่ 5429 (1606482)

ไอซ์เพิ่งกลับถึงบ้านตอนเช้า พี่สาวและพ่อได้เล่าให้ฟังว่า

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่อ. สนม จ.สุรินทร์ (บ้านที่อาศัยอยู่ตอนนี้)

ได้เกิดเหตุการณ์ พายุ ฝนฟ้า ลมแรง และมีลูกเห็บ

มีทั้งฟ้าร้อง และฟ้าผ่า ที่รุนแรงมาก

แสงของฟ้าที่ผ่าลงมาก ได้เข้ามาถึงในตัวบ้าน

มีลมที่พัดอย่างรุนแรงตลอดเวลา

และมีลูกเห็บตกบริเวณหน้าบ้านด้วยค่่ะ

พี่บอกว่าทุกคนในบ้านได้แต่มองหน้ากัน

แต่ละคนก็รีบไปหาเสื้อบ้านสวนของตัวเองมาสวมใส่กัน

และออกมานั่งดูฟ้าที่บริเวณหน้าบ้าน

ตัวพี่สาวเองก็เรียกอ.อุบลช่วยด้วยอยู่ตลอดเวลา

หลังพายุหยุดลง ตัวบ้าน และพืชผักในสวน

กลับไม่มีสิ่งใดเสียหายเลยค่ะ

ไอซ์ได้ฟังก็นึกถึงบุญที่ตัวเองได้ทำที่บ้านสวนพีระมิด

และองค์พีระมิดจำลอง องค์สฟิงซ์ รูปถ่ายของอ.อุบล 

เสื้อบ้านสวนพีระมิด

และคำอวยพรของอ.อุบล

ที่ช่วยปกป้องทุกคนในบ้าน และบ้านเรือน เรือกสวน ไร่นา ทรัพย์สิน เงินทอง ให้ปลอดภัย

ขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล และเทวดาที่รักษาท่านอ.อุบลที่เมตตา คุ้มครองครอบครัวให้ค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 15:39:10


ความคิดเห็นที่ 5430 (1606504)

 
เกิดแผ่นดินไหว วันที่ 16 เมษายน 2555 เวลา 16.44 น. ศูนย์กลาง ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต (8.02,98.37) ขนาด 4.3 ซึ่งหลังจากนั้นเวลา 16.46 เกิดแผ่นดินไหวที่ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ขนาด5.4 ตามมา ก่อให้เกิดความสับสนในข้อมูล ซึ่งเหตุการณ์ ที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ประชาชนได้รับรู้แรงสั่นไหวได้ในหลายพื้นที่ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 19:40:26


ความคิดเห็นที่ 5431 (1606535)

พายุถล่มลพบุรี เสาไฟฟ้าโค่นเกือบ300ต้น บ้านพังยับ

วันที่ 16/04/2555 17:05





พายุพัดถล่มส่งท้ายสงกรานต์ที่ลพบุรี บ้านเรือนชาวบ้านพังยับกว่า 200 หลังคาเรือน พบเสาไฟฟ้าโค่นล้มเป็นแนวยาวนับ 10 กม. ประมาณ 300 ต้น...

จากกรณีเกิดพายุกระหน่ำพื้นที่ใน จ.ลพบุรี เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.30 น.วันที่ 15 เม.ย. ล่าสุด วันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้ลงสำรวจพื้นที่ พบว่าสภาพบ้านเรือนราษฎร ต.หนองผักแว่น อ.ท่าหลวง และ ต.ท่ามะนาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ได้รับความเสียหายจากลมพายุที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณสัญญาณไฟสี่แยกท่ามะนาว หมู่ที่ 8 ต.ท่ามะนาว อ.ชัยบาดาล เส้นทาง 2338 จาก อ.ชัยบาดาล ไปจนถึงสี่แยกสัญญาณไฟบ้านหนองน้ำใส ต.หนองผักแว่น อ.ท่าหลวง ระยะทางประมาณ 10 กม. หักโค่นเกือบ 300 ต้น โดยพบว่าเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่ที่ล้มลงมาได้ทับบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยที่ ต.หนองผักแว่น อ.ท่าหลวง มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากการถูกเสาไฟฟ้าล้มทับจำนวน 25 หลังคาเรือน ปั๊มน้ำมัน 2 แห่ง ร้านอาหาร 2 แห่ง รถยนต์ 2 คัน และทรัพย์สินเครื่องใช้ภายในได้รับความเสียหายจำนวนมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก และมีบาดแผลที่ลำตัว 2 ราย

ส่วนที่ ต.ท่ามะนาว อ.ชัยบาดาล บ้านเรือนได้รับความเสียหายเกือบ 10 หลังคาเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก มีบาดแผลที่ลำตัว 1 ราย

- War Room Falkman

ขอขอบคุณข้อมูล จาก

http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-เพื่อรองรับสถานการณ์ปี-2012-a-288866-976.html   ค่ะ

B5

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-16 23:59:01


ความคิดเห็นที่ 5432 (1606537)

 

 

โกลาหลทั่วเกาะภูเก็ต หลังเกิดแผ่นดินไหวรู้สึกได้เป็นวงกว้าง

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 19:33 น

วัน-เวลา *ประเทศไทย ขนาด Latitude Longitude Phase บริเวณที่เกิด  
2012-04-16 21:17:39
2012-04-16 14:17:39 UTC

 
2.6 8.01 98.34 4 อ.ถลาง จ.ภูเก็ต  
2012-04-16 20:30:29
2012-04-16 13:30:29 UTC

 
2.7 8.03 98.32 4 อ.ถลาง จ.ภูเก็ต  
2012-04-16 16:44:25
2012-04-16 09:44:25 UTC

 
4.3




เมื่อเวลา 16.46 น. วันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.3 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางที่จังหวัดภูเก็ต โดยแรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารบ้านเรือนประชาชน ที่ทำการหน่วยงานราชการ ประชาชนและข้าราชการเจ้าหน้าที่ บริษัทต่างๆ ผู้เกี่ยวข้องรู้สึกได้อย่างชัดเจน

เบื้องต้น ยังไม่มีการรายงานความเสียหาย หรือการแจ้งเตือนจากจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานความมั่นคงใดๆ ขณะที่การจราจรเริ่มหนาแน่น และประชาชนเริ่มแตกตื่นและหนีออกจากอาคารบ้านเรือนบ้างแล้ว โดยมีรายงานว่าประชาชนที่กำลังจับจ่ายซื้อของและเดินเล่ในห้างเซ็นทรัล ห้างบิ๊กซี ใจกลางเมืองภูเก็ตรู้สึกได้ถึงการสั่นไหว ต่างพากันออกจากอาคารอย่างโกลาหล

ทั้งนี้พื้นที่ทีมีรายงานการรับรู้ถึงการสั่นไหวมีวงกว้าง เช่นที่บ้านพอน อ.ถลาง หาดกมลา-หาดป่าตอง อ.กะทู้ รวมถึงในตัวเมืองหน้าเรือนจำภูเก็ต บ้านเรือนบางแห่งมีสิ่งของตกลงมาจากหิ้งพระหรือที่สูง



ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง ได้ปิดกั้นการจราจร เส้นทางกะทู้-ป่าตอง ป้องกันจราจรติดขัดหากมีการอพยพประชาชนและนักท่องเที่ยวมาสู่ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะอนุญาตเฉพาะรถยนต์ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปช่วยเหลือ แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์การอพยพเคลื่อนย้ายประชาชนและนักท่องเที่ยว หรือรถยนต์ของทางราชการ ฝ่ายปกครอง และความมั่นคงเท่านั้น สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้เส้นทางดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงชั่วคราว จนกว่าทางราชการจะอนุญาต

ด้านนาย
สมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทัพเรือภาคที่ 3 ว่าเมื่อเวลาประมาณ 17.41 น. ตรวจสอบระดับน้ำทะเล ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด นอกจากนี้ ทางสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า น่าจะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย อย่างไรก็ดี หน่วยงานความมั่นคง ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเฝ้าระวังภัยต่อไป ในความเป็นจริง การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ มีการเฝ้าระวังต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมาแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:00:53


ความคิดเห็นที่ 5433 (1606538)

 

 ตะลึง ปลาทูนับแสนโผล่อ่าวกระบี่

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 19:44 น
.



เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายวีรพงศ์ นบนอบ นายท้ายเรือกลประจำศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน จ.กระบี่ เผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่าพบฝูงลูกปลาทูขึ้นบริเวณปากอ่าวกระบี่และอ่าวกระบี่ ต.ไสไทย อ.เมือง เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อไปตรวจสอบพบว่าจุดที่อยู่ห่างท่าเทียบเรือออกไป 3 กิโลเมตร มีฝูงลูกปลาทูนับแสนตัวจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน 20-30 ฝูง โผล่ขึ้นมาเล่นแสงแดดเหนือผิวน้ำทั่วบริเวณ สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวประมงและนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือโดยสารผ่านไปยังเกาะพีพีเป็นอย่างมาก

นายเจริญ โอมณี หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงฝั่งอันดามันกระบี่ กล่าวว่า หลังประกาศปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำในช่วงฤดูปลาวางไข่มาได้ 3 ปี ตั้งแต่เดือนเม.ย.ถึงเดือนมิ.ย. จะมีปลาทูเข้ามาวางไข่และหาอาหารบริเวณชายฝั่งทะเลของจังหวัดกระบี่โดยเฉพาะช่วงคลื่นลมสงบ จากนั้นฝูงปลาทูแรกเกิดขนาดลำตัวยาว 2-3 นิ้ว จะออกมาเล่นแดดกันเป็นฝูงๆ ละ 2-3 หมื่นตัว ปรากฏการณ์ดังกล่าวพบเห็นไม่บ่อยครั้ง ปีนี้มากกว่าทุกปี คาดว่าเป็นผลมาจากการขยายพื้นที่และขยายเวลาประกาศปิดอ่าวเพิ่มจาก 2 เดือนเป็น 3 เดือน ทำให้สัตว์น้ำมีโอกาสวางไข่เลี้ยงลูกและเจริญเติบโต

นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ฝูงปลาทูโผล่ผิวน้ำเกิดขึ้นทุกปีในช่วงที่มีการปิดอ่าว ปีที่ผ่านมาพบบริเวณท่าเรือบ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม แต่ปีนี้พบมากเนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างดี ไม่มีเหตุน้ำป่าไหลหลากส่งผลให้มีฝูงปลามากขึ้น อย่างไรก็ตามหากชาวประมงไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ใช้อวนปลากะตักจับปลาตอนกลางวัน จะทำให้ฝูงลูกปลาทูติดอวนไปด้วย ไม่มีโอกาสเจริญเติบโต จึงให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดกวดขันจับกุมและขอความร่วมมือชาวประมงพื้นบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตา จะได้มีทรัพยากรสัตว์น้ำให้ชาวประมงมีกินอย่างยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ที่ทำให้ปลาทูได้วางไข่และเติบโตเป็นจำนวนมาก ยังทำให้แมงกะพรุนบริเวณชายฝั่งอ่าวกระบี่เติบโตอย่างสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน

วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดกระบี่ นำเรือประมงออกจับแมงกะพรุนจานที่บริเวณริมชายฝั่งอ่าวกระบี่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งตั้งแต่ท่าเรือบ้านตลิ่งชัน ไปจนถึงชายฝั่งบ้านแหลมโพธิ์ ต.ไสไทย อ.เมือง มีเรือประมงพื้นบ้านลอยลำจับแมงกะพรุนไม่ต่ำกว่า 50 ลำ จากนั้นนำไปขายให้พ่อค้าที่บริเวณท่าเทียบเรือตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง สาเหตุเพราะปีนี้แมงกะพรุนมีราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ตัวละ 5-6 บาท ปีที่แล้วตัวละ 3-4 บาท ชาวประมงจึงหันมาจับแมงกะพรุนมากขึ้น ประมาณ 5,000 บาทต่อวัน

B5 - War Room Falkman

ขอขอบคุณข้อมูล จาก

http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-เพื่อรองรับสถานการณ์ปี-2012-a-288866-976.html   ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:02:27


ความคิดเห็นที่ 5434 (1606540)

พวกเรา

พร้อมหรือยังจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:03:18


ความคิดเห็นที่ 5435 (1606544)

 

ขอกราบขอบพระคุณในพระมหาเมตตา คําเตือนชี้เเนะ ของเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอาจารย์ อุบลที่ท่านยังคอยห่วงลูกๆ ทั่วโลกให้เตรียมตัวกัน ขอบารมีพระพุทธองค์เมตตาคุ้มครองทุกท่านปลอดภัย เเละขอให้ท่านอาจารย์เเละครอบครัวมีความสุขมากๆค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:13:09


ความคิดเห็นที่ 5436 (1606546)

ภูเขาไฟ PoPo ที่เม็กซิโกหลับใหลมายาวนาน ตื่นขึ้นอีกครั้ง พุ่งควันออกมาในระดับปานกลาง ยังตงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทางการเตือนประชาชนให้อยู่ห่างกว่า 7 ไมล์

April
16, 2012MEXICO CITYPopocatépetl, the nearly 18,000 foot volcano that hovers like a sentinel on the southeastern fringe of Mexico’s capital, awakened again Sunday, punctuating an especially shaky seismic season. Popo, as the mountain is widely called, spewed at least seven exhalations overnight Saturday and through the day Sunday, sending vapor, smoke and gas billowing into the clear sky. The most serious occurred just after 9 a.m. Sunday, sending a vapor cloud a mile into the air. Mexico’s National Disaster Prevention Center issued a precautionary warning to residents, advising them to stay alert for a worsening situation and to keep at least seven miles away from the volcano’s crater. The service predicted continuing “moderate exhalations, some with ash, sporadic low to moderate explosions with likely burning fragments emitted close to the crater, and flaming magma within the crater visible at night.”-Chron

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:14:16


ความคิดเห็นที่ 5437 (1606547)

นักวิทยาศาตร์งง!! ธารน้ำแข็งกำลังเกิดขึ้นในเอเชีย
Mthainews:

ภาพถ่ายดาวเทียมที่บันทึกโดยดาวเทียมของฝรั่งเศส แสดงให้เห็นเทือกเขาน้ำแข็งทางตะวันตกของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ คาราโครัม(Karakoram)เชื่อมพรมแดนจีน-ปากีสถาน และอินเดีย การพบดังกล่าวสร้างความงุนงงแก่นักวิทยาศาสตร์ เพราะเกิดขึ้นสวนกระแสกับธารน้ำแข็งส่วนอื่นๆ ที่กำลังละลายไป
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส จากศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์นานาชาติ มหาวิทยาลัย เกรนโนเบิล กำลังศึกษาจากภาพที่เกิดขึ้น ซึ่งอุปสรรคก็คือ พื้นที่แห่งนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงได้

จากการศึกษาที่ผ่านมา ในพื้นที่หนาวเย็นอื่นๆทั่วโลกมีลักษณะคล้ายคลึงกับพื้นที่ คาราโครัม ที่จะเพิ่มมวลน้ำแข็งอย่างต่อเนื่อง และมีการตรวจวัดทางอุตุนิยมวิทยาแสดงว่าเกิดฤดูหนาวยาวนานขึ้น
ธารน้ำแข็ง Karakoram ยังพบสิ่งผิดปกติคือ เป็นพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยชั้นหินที่หนา แต่มีการละลายและการเพิ่มมวลของพื้นผิวที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดเป็นธารน้ำแข็ง
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษา ว่าเหล่านี้ เป็นผลที่เกิดจาก อุณหภูมิของโลกที่เปลี่ยนแปลง (global warming)ด้วยหรือไม่ ที่จะกลายมาเป็น global cooling หรืออย่างไร
Mthai News
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:18:07


ความคิดเห็นที่ 5438 (1606549)

สยอง ตำรวจบราซิล จับสมาชิกลัทธิกินเนื้อคน !!

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน 2555 เวลา 11:08 น.



จับ3ผู้ต้องหา ต้องสงสัยฆาตกรรมหญิงสาวอย่างน้อย 2 คน เอาเนื้อมากิน อ้างว่าเพื่อการชำระล้างจิตวิญญาณ
วันนี้ ( 14 เม.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิลว่า ตำรวจบราซิลจับกุมชาย 1 คน และหญิงอีก 2 คน ซึ่งต้องสงสัยฆาตกรรมหญิงสาวอย่างน้อย 2 คน และนำเนื้อของพวกเธอมารับประทานเป็นอาหาร โดยอ้างว่าเพื่อการชำระล้างจิตวิญญาณ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา


นายเดโมคริโต้ โฮโนราโต้ โฆษกสำนักงานตำรวจเมืองกัวรันฮันส์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ แถลงว่า ผู้ต้องสงสัยทั้งสามเรียกตัวเองว่ากลุ่ม “คาร์เทล” มีสมาชิกคือ นายจอร์เก้ และ นางเอลิซาเบธ ปิเรส ดา ซิลเวรา วัย 51 ปี และน.ส. บรูนา ดา ซิลเวรา วัย 25 ปี มีจุดมุ่งหมายที่จะสังหารผู้หญิงปีละ 3 คน แล้วรับประทานเนื้อของเยื่อเพื่อชำระบาป และทำให้จิตใจบริสุทธิ์ โดยจะใช้วิธีลงโฆษณารับสมัครพี่เลี้ยงเด็กเพื่อหาเหยื่อ ก่อนจะเลือกสังหารเมื่อ “จิตใต้สำนึก” บอกว่า เหยื่อรายไหนเป็นคนชั่วร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ค้นพบรายละเอียด และขั้นตอนทั้งหมดในหนังสือความยาว 50 หน้า ชื่อ “ ความสัมพันธ์ของผู้ป่วยจิตเภท” ที่เขียนขึ้นโดยนาย ดา ซิลเวรา


ส่วนศพของเหยื่อทั้ง 2 รายที่ถูกพบในสวนของบ้านของผู้ต้องสงสัย คือ น.ส. อเล็กซาดร้า ฟาลเคา วัย 20 ปี และน.ส. กิเซเล ดา ซิลวา วัย 30 ปี ซึ่งทั้งคู่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง และก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งชื่อของทั้งสองในคดีคนหายด้วย ทั้งนี้ กุญแจสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ คือ ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตของผู้ตาย ที่ผู้ต้องสงสัยนำไปใช้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้


นอกจากนี้ ระหว่างเข้าตรวจค้นบ้าน เจ้าหน้าที่ยังพบเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ซึ่งอาจเป็นบุตรของหนึ่งในผู้เสียชีวิต และขณะนี้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์แล้ว เพื่อหาผู้อุปการะต่อไป 

http://board.palungjit.com/f178/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่-3906-1396.html
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:19:51


ความคิดเห็นที่ 5439 (1606550)

ชาวประมงจึงหันมาจับแมงกะพรุนมากขึ้น

ประมาณ 5,000 บาทต่อวัน

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

อาจารย์อุบลช่วยด้วย

หนู ยังจนอยู่ต่อให้ ห้าล้านบาทต่อวัน

ก็ไม่เอาค่ะ

อาจารย์อุบลช่วยด้วย

แปลงผักหญ้ารกอยู่ค่ะ  พริกขี้หนูก็ยังต้องเก็บอีก

หนูยังไม่พร้อมจะลงทะเลนะคะ

........................................................

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

และเทวดาประจำกายค่ะ

ที่ทำให้หนูพอมีเสบียงบุญก่อนจะ

สายไปมากกว่านี้ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:20:06


ความคิดเห็นที่ 5440 (1606552)
โลกแผ่นดินไหวถี่ขึ้น


ที่ตั้งของประเทศไทยถือว่าโชคดีมากที่ไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ แต่เราก็ยังมีความเสี่ยงที่ต่อจากนี้ไปคงต้องระวังกันมากขึ้นแผ่นดินไหว 8.6 ริกเตอร์เมื่อ 5 วันที่ผ่านมาส่งผลถึงแผ่นเปลือกโลกใกล้เคียง ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวระบุว่า ใน 13 รอยเลื่อนที่พาดผ่านประเทศไทยนั้น รอยเลื่อนในทะเลอันดามันน่าห่วงมากที่สุด ซึ่งรอยเลื่อนนี้ทอดตัวบริเวณเกาะสองจังหวัดระนอง,จังหวัดสุราษฎร์ธานี,จังหวัดพังงาและจังหวัดกระบี่ เป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ ยาวไปถึงประเทศพม่า ซึ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียที่เราอยู่มีแนวยาวมากจากเกาะสุมาตราไปถึงชายแดนพม่า และจากเกาะนิโคบาร์ขึ้นเหนือไปถึงชายแดนพม่า โดยรอยเลื่อนบริเวณพม่านี้ถ้าอยู่ใต้น้ำก็คือ ชุนดราเพลท แต่พออยู่บนบกก็คือรอยเลื่อนสะแกง รอยเลื่อนสะแกงที่อยู่ในพม่าต่อเนื่องมาแถบตะวันตกของไทย ทางด้านจังหวัดกาญจนบุรีและอุทัยธานี รอยเลื่อนพวกนี้มีพลังงานมาก ปัจจัยจากแรงกระแทกของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในชิลีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้แผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกเคลื่อนตัวมาทางตะวันออก ส่งผลกระทบมาสู่รอยเลื่อนระหว่างเปลือกโลกยูเรเซีย เสี่ยงที่จะไหวมากขึ้น 80-90 เปอร์เซ็นต์

แผ่นดินไหวเป็นความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นปกติเพราะเปลือกโลกเลื่อนอยู่ตลอดเวลาเฉลี่ยปีละ 2 มิลลิเมตร หรือปีละ 2 เซนติเมตรซึ่งหากว่าเลื่อนอยู่เรื่อยๆจะไม่เป็นปัญหา เพราะจะเป็นคลื่นภายในโลก โดยคลื่นชนิดนี้จะใช้เวลาเดินทางไม่กี่วินาที เมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะสามารถรายงานได้ทันที ส่วนใหญ่ไม่อันตราย แต่ถ้าเมื่อไรที่มีการกักเก็บพลังงานแล้วเลื่อนฉับพลันจะเกิดการปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของคลื่นพื้นผิว ไหวออกมาในทุกทิศทาง ส่งผลให้ตึกที่มีความสูงพอเหมาะกับความถี่ของคลื่นเกิดการสั่นไหว

แม้ว่าความทันสมัยและโครงข่ายที่ครอบคลุมของสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวที่มีอยู่ทั่วโลกนั้น ทำให้ภายในเวลาไม่เกิน 10 นาทีก็สามารถประมวลผลได้ว่าเกิดแผ่นดินไหวที่จุดใด ความรุนแรงเท่าไร และเป็นแผ่นดินไหวจากการเลื่อนแบบใดของเปลือกโลก แต่เราก็ประมาทไม่ได้นี่ยังเป็นภัยที่เราต้องเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง ขนาดผลพวงจากแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อค ยังไม่มีใครทราบว่าสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ อย่างเหตุการณ์เมื่อปี 2547 ยังส่งผลให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกมาจนถึงทุกวันนี้


http://ufokaokala.com/index.php?PHPSESSID=bf792eb87f83af970b52c59f4114e13a&topic=5979.msg51302;topicseen#msg51302

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:25:34


ความคิดเห็นที่ 5441 (1606553)
ผู้ว่าฯเตือนคนภูเก็ตอย่าตื่นตระหนก ผู้เชี่ยวชาญมั่นใจไม่มีสึนามิ


ผู้ว่าฯ เตือนชาวภูเก็ตอย่าตื่นตระหนก มั่นใจไม่มีผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก แต่อาจจะรู้สึกได้ สั่งหอเตือนภัยเตรียมความพร้อม เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ด้านผู้เชี่ยวชาญยันยังไม่ปรากฏสัญญาณว่่าจะเกิดสึนามิ ...

นายตรี อัครเดชา ผวจ.ภูเก็ต เปิดเผยถึงเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.3 ตามมาตราริกเตอร์ ในทะเลทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา ว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์เตือนภัยว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว ใกล้กับเกาะสุมาตรา ประมาณ 5.5 ริกเตอร์ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อประเทศไทยมากนัก อาจจะรู้สึกได้ถึงภูเก็ต ทั้งนี้ ได้สั่งให้หน่วยงานท้องถิ่นแจ้งเตือนกับประชาชนแล้วว่าไม่ต้องตื่นตระหนก แต่ได้สั่งการให้หอเตือนภัยเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อก เกิน 8 ริกเตอร์ ก็อยากให้ประชาชนฟังข่าวจากทางการ เบื้องต้น ขณะนี้ทางการกำลังเฝ้าระวังและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ในวันที่ 10 พ.ค. ทางจังหวัดได้เตรียมการซ้อมอพยพกับทางกองทัพภาคที่ 3 ไว้แล้ว เพื่อให้มีการเตรียมพร้อมอย่างเป็นระบบ

พล.ร.ต.ถาวร เจริญดี ผู้เชี่ยวชาญศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยกับรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า ยังยืนว่า จากการตรวจสอบข้อมูลอยู่ที่ 5.5-5.6 ริกเตอร์ และมีรายงานว่า รู้สึกได้ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเบื้องต้นได้มีการแจ้งผ่านเอสเอ็มเอสออกไป โดยขณะนี้ให้เฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และจนถึงขณะจากการตรวจสอบยังไม่ปรากฏว่าอะไรที่แสดงว่ามีสึนามิ.


ไทยรัฐออนไลน์
16 เมษายน 2555, 21:15 น.

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:26:11


ความคิดเห็นที่ 5442 (1606555)
 
กรีซแผ่นดินไหว 5.6 ริคเตอร์


วันนี้ (16 เม.ย.) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริคเตอร์ เขย่าคาบสมุทรเปโลปอนนีส ทางใต้ของประเทศกรีซเมื่อวันจันทร์ โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.23 น. (18.23 น. ตามเวลาในประเทศไทย) จุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ทะเล 39 กม. ห่างชายฝั่งเมืองเมโธนี บนคาบสมุทรเปโลปอนนีส ประมาณ 15 กม. และห่างจากกรุงเอเธนส์ไปทางตะวันตกแยงใต้ราว 236 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย
กรีซนับเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งที่สุดในทวีปยุโรป โดยเกิดประมาณครึ่งหนึ่งของทวีป และส่วนใหญ่จุดศูนย์กลางจะอยู่ที่คาบสมุทรเปโลปอนนีส แผ่นดินไหวใหญ่หนล่าสุดในปี 2551 วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.5 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 30 คน.


เดลินิวส์
วันจันทร์ที่ 16 เมษายน 2555 เวลา 18:42 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:27:07


ความคิดเห็นที่ 5443 (1606556)
พายุลูกเห็บกระหน่ำภาคใต้ของจีน ทรัพย์สินของประชาชนเสียหาย



จีน 16 เม.ย.- พายุลูกเห็บพัดกระหน่ำภาคใต้ของจีน สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนและต้นไม้ตามแนวถนนหักโค่นเป็นจำนวนมาก

พื้นที่ซึ่งถูกถล่มหนักที่สุดคือเมืองชางกวนในมณฑลกวางตุ้ง ชาวบ้านระบุว่าลูกเห็บที่พัดกระหน่ำลงมานั้น บางลูกมีขนาดใหญ่เท่ากับไข่ไก่ ทำให้ผู้ที่เดินอยู่บนท้องถนนต้องวิ่งเข้าหาที่หลบภัยกันจ้าละหวั่น ผู้ที่หลบไม่ทันได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน รถยนต์ถูกลูกเห็บตกใส่ถึงกับบุบหลายคัน ต้นไม้หักโค่นเป็นจำนวนมาก ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ถูกพัดปลิว ชาวบ้านพากันกล่าวว่าเสียงลูกเห็บตกกระทบพื้นเหมือนก้อนหินตกใส่พื้นเหล็กฟังแล้วน่าตกใจกลัวเป็นอย่างมาก พายุลูกเห็บแม้จะพัดกระหน่ำเพียงแค่ 10 นาที แต่ทำให้ชาวเมืองได้รับบาดเจ็บหลายคน  อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บสาหัสจากพายุลูกเห็บในครั้งนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:28:06


ความคิดเห็นที่ 5444 (1606557)

 

 

 

ขอขอบคุณ ข้อมูลดีๆ ค่ะ จาก http://ufokaokala.com/index.php?PHPSESSID=bf792eb87f83af970b52c59f4114e13a&topic

ขออนุญาติลงข้อมูลที่น่าสนใจ เเต่ยาวหน่อยค่ะ

เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติ อินโดนีเซียให้คำเตือนการอพยพเมื่อ 11 เมษายน 2555 ที่มาภาพ : www.guardian.co.uk


11 เมษายน 2555 เป็นอีกวันที่เสียงเตือนภัยสึนามิดังสนั่นใน 6 จังหวัดอันดามันของไทย เมื่อเกิดแผ่นดินไหว 8.6 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย แต่ครั้งนี้ไม่เกิดคลื่นยักษ์เนื่องจากเปลือกโลกขยับตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่งเหมือนปี 2547 เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นการซ้อมครั้งใหญ่ก็ว่าได้

ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ ระบบการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารซึ่งปัจจุบันไม่รู้ว่าหน่วยงานใดควรรับผิดชอบเรื่องนี้ ที่เป็นศูนย์แจ้งข่าวให้ประชาชนทราบ ปรากฏว่ามีการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คประมาณ 17.00 น.ของ “บรรจง นะแส” เครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่อันดามันบอกว่า “รัฐบาลครับ…..ขอทีวีสักช่องให้ประชาชนภาคใต้ได้ติดตามเรื่องนี้หน่อย รวมศูนย์ข้อมูลข่าวสารที่รอบด้าน ในแต่ละจุดๆ แจ้งให้ประชาชนทราบ วุ่นกันไปหมดแล้วครับ ได้โปรดเถอะครับ”

ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ออกแถลงการณ์เวลา 20.15 น. ซึ่งตอนนั้นศูนย์เตือนภัยสึนามิ มหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐ ประกาศยกเลิกเตือนภัยสึนามิทุกพื้นที่แล้ว แต่นายกฯ ยังแถลงการณ์บอกให้เฝ้าระวังและคอยฟังข่าวจนกว่าจะประกาศยกเลิกการเตือนภัย

นอกจากนี้ จากการสัมภาษณ์ประชาชนในพื้นที่ที่หนีภัยสึนามิ ต่างพูดเหมือนกันว่าระบบการสื่อสารด้วยโทรศัพท์มือถือล่ม ไม่สามารถติดต่อได้ นี่คือสภาพการติดต่อสื่อสารที่เป็นปัญหาทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ (อ่านเพิ่มเติม) http://www.thairath.co.th/content/region/252496

หากย้อนไปก่อนหน้านี้ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ ศึกษาความเสี่ยงภัยพิบัติของประเทศไทย ซึ่งทางสภาพัฒน์ได้ว่าจ้างบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส จำกัด (PwC) ซึ่งนางสาววิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนบริษัทเคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าว่า โครงการนี้สภาพัฒน์ได้รับการมอบหมายจากสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ศึกษาความพร้อมประเทศไทยในการรับมือเหตุการณ์วิกฤตไม่ว่าภัยธรรมชาติ ภัยจากความมั่นคง โดยทางสภาพัฒน์ได้ว่าจ้าง pwc เป็นที่ปรึกษา ทำการสำรวจประเทศไทยว่า ณ ขณะนี้มีความพร้อมแค่ไหน และเปรียบเทียบกับ 5 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ (อ่านเพิ่มเติม) http://thaipublica.org/2012/01/thai-disaster-risk-pwc/

จากการสอบถามเรื่องนี้จากสภาพัฒน์ ทราบว่างานวิจัยดังกล่าวได้นำเสนอสำนักนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพื่อส่งไปให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้




และก่อนหน้านี้ทางเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทยหรือซอฟท์แวร์พาร์ค ได้จัดสัมมนา lesson learned กรณีสึนามิ ญี่ปุ่น โดยเชิญ ดร.โทชิโอะ โอบิ มหาวิทยาลัยวาเซดะ ญี่ปุ่น มาถอดบทเรียนสึนามิปีที่แล้วโดยเฉพาะกรณีการสื่อสารให้ฟัง

สำนักข่าวไทยพับลิก้าได้สัมภาษณ์ ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการซอฟต์แวร์พาร์ค และนางสาววิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส จำกัด ซึ่งได้เข้าร่วมงานดังกล่าว โดยประเด็นที่สัมภาษณ์เป็นมุมมองบทเรียนจากญี่ปุ่นถึงประเทศไทยต่อการวางแผนรับมือภัยพิบัติต่างๆ

ไทยพับลิก้า : กระบวนการสื่อสารตอนเกิดสึนามิญี่ปุ่นตอนนั้นทำอย่างไรบ้าง

วิไลพร – ดร.โอบิเล่าการสื่อสารว่าญี่ปุ่นเขาสื่อสารกันอย่างไร เขาเรียนรู้อะไรบ้างจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาประกาศกันอย่างไร เขาเล่าว่ามีเสียงตามสายในหมู่บ้าน มีลำโพงประกาศว่ามีสึนามิมา แต่พอเกิดจริงๆ ไม่ได้ยินหรอก เพราะมีเสียงดัง หรือบางทีคนอยู่ในบ้าน ซึ่งมันไม่เวิร์ค

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีคนสูงอายุเยอะ การสื่อสารแบ่งสื่อตามอายุคน สื่อที่เขาใช้เพื่อจะเข้าถึงคนได้มากที่สุด ได้แก่ ทีวี คอมพิวเตอร์ มือถือ โทรศัพท์ รัฐบาล โบรชัวร์ และอื่นๆ

“จากการที่ญี่ปุ่นมีคนสูงอายุมาก บางทีคนสูงอายุ ไม่ได้ใช้เฟซบุ๊ก ไม่มีทีวีก็ใช้วิทยุ ถ้าเป็นเด็กๆ ก็ใช้ไอโฟนทีเดียวกระจายไปเร็วมาก แต่เขาใช้ทีวี พีซี โบรชัวร์ และที่เขาเล่าให้ฟังคือ รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังจะเริ่มทำ emergency ที่เป็น device ไม่ว่ามือถือจะอยู่ในโหมดสั่น โหมดเงียบ ถ้ามีภัยพิบัติ เขาคิดว่าจะทำให้ทราบทางมือถือได้ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังคิดกันอยู่”

คนอายุ 70 ปี มีแค่ 3.4 % ที่มีมือถือ บางบ้านก็ไม่มีทีวี มีแต่วิทยุ บางพื้นที่มีไฟฟ้าก็อาจจะใช้วิทยุได้ ญี่ปุ่นเขาจึงต้องใช้ทุกสื่อ บางชนบทที่ยากจนจริงๆ ถ้าไม่มีทีวี/วิทยุจะทำอย่างไร จะสื่อสารด้วยอะไร ดังนั้นการดีไซน์ช่องทางการสื่อสารด้วยอะไร เขาก็คิดแก้ปัญหาวิธีการสื่อสารอยู่

ดร.ธนชาติ -เทียบการสื่อสารกรณีสึนามิกับน้ำท่วมบ้านเรา ช่องทางการสื่อสารบ้านเรายังเป็นปัญหาที่จะต้องเตรียมเรื่องภัยพิบัติว่า how to get information ผมว่าการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนจะทราบข้อมูลได้อย่างไร ตั้งแต่ก่อนเกิด และเกิดแล้วจะสื่อสารอย่างไร ให้รู้ว่ามีคนเจ็บตรงไหน ต้องการความช่วยเหลืออย่างไร ผมว่าของไทยยังไม่มีแผนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย

นี่คือปัญหาว่าเราจะวางรากฐานอย่างไร

หรือแม้กระทั่งง่ายๆ เช่น คำพูดบางคำพูดสื่อกันไม่เข้าใจ อาทิ น้ำท่วมถึงเข่า เข่าแต่ละคนไม่เท่ากัน มันเข่าใคร เรายังไม่เซ็ตมาตรฐานภาษาในการสื่อสาร มันไม่มี ไม่เหมือนต่างประเทศที่บอกได้ทันทีว่าคนนี้สูงเท่าไหร่ แต่เราไม่ถูกฝึกเรื่องพวกนี้ หรือบอกว่าระดับน้ำแค่ไหน บอกไม่ได้ นี่คือเราไม่เซ็ตมาตรฐานการสื่อสาร

ครั้งที่แล้วที่น้ำท่วม คนกรุงเทพฯ ตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุในบางพื้นที่ แต่บางพื้นที่ไม่เตรียมตัวเลย เพราะการสื่อสารที่เป็นปัญหา เราไม่มีข้อมูลในการที่จะเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติและหลังเกิดภัยพิบัติที่ดีพอ

วิไลพร – ที่จริงต้องแบ่งเป็นกลุ่มคน คือ ชาวบ้านทั่วไป และชาวบ้านก็ต้องแบ่งเป็นพื้นที่ พื้นที่ที่มีระบบการสื่อสารดีหรือไม่ และอีกกลุ่มคือ การสื่อสารระหว่างรัฐบาลด้วยกัน

ดร.โอบิเล่าว่า ญี่ปุ่นชอบใช้เปเปอร์เป็นหลัก แต่ในยามฉุกเฉินมันต้องการความเร็วในการตอบกลับ ญี่ปุ่นชอบใช้แฟ็กซ์เพราะต้องการหลักฐาน ก็กลายเป็นว่าในช่วงเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ ส่งแฟกซ์กัน ซึ่งอาจจะไม่มีใครรับแฟ็กซ์ นั่นคือประสบการณ์ที่เกิดขึ้น จริงๆ เมื่อส่งแฟ็กซ์แล้วต้องโทรศัพท์ตาม กรณีของโรงงานนิวเคลียร์เท็ปโก้ เขียนไว้ว่าถ้าเกิดวิกฤต ให้ติดต่อผ่านแฟ็กซ์ ทำให้การแก้วิกฤตทำได้ช้า ไม่ทันท่วงที

“นี่ชี้ให้เห็นว่า นอกจากช่องทางการสื่อสารแล้ว ยังเป็นเรื่องวิธีการสื่อสารด้วย ดังนั้นในยามวิกฤต แฟ็กซ์นั้นลืมไปเลย โทรศัพท์ไปเลยดีกว่า ดังนั้น การขอเปเปอร์ อันนี้คงไม่ได้ในยามวิกฤต คงต้องเร็ว ไม่งั้นอพยพคนไม่ทัน ความเสียหายอาจจะสูงกว่าที่คิดไว้เยอะ”

ดร.ธนชาติ - เสริมนิดหนึ่ง communication panel อีกอันหนึ่งที่เป็นปัญหา อย่างโทรศัพท์มือถือ ถ้ามันล่ม แล้วยังไงต่อ บ้านเราไม่ได้เตรียมทางเลือกอื่นไว้รองรับว่าจะใช้ช่องทางไหน อย่างไร

วิไลพร – สิ่งสำคัญคือ ไฟฟ้า ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐาน critical infrastructure ไม่มีใครมาดูเรื่องนี้ แม้ว่าภาคเอกชนจะมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินแล้วที่เรียกว่า BCP (business continuity planning) แต่ถ้าระบบโครงสร้างพื้นฐานมันล่ม ถ้าไฟฟ้ามันล่ม เซลล์ไซต์มันล่มตาม แล้วเรามีแหล่งพลังงานสำรองไหม จะมีแผนรองรับอย่างไร ตอนนี้หลายประเทศทำข้อตกลงร่วมกันในยามฉุกเฉิน มีการทำดีลระหว่างประเทศในการยืมพลังงานสำรองกันแล้ว เพื่อให้เซลล์ไซต์ใช้ได้ ติดต่อสื่อสารได้ นี่คือถ้าไม่มีระบบสำรอง ทุกอย่างก็จะระนาบเป็นโดมิโน่ไปเลย

ดร.ธนชาติ – นี่ถือว่าเป็น disaster recovery เป็นประเด็นแรกๆ ที่ต้องคิดระดับประเทศเลย ที่ต้องไปปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหรือ critical infrastructure ถ้ามันล่มจะทำอย่างไรด้วย

วิไลพร – นี่คือเป็นประเด็นใหญ่ของประเทศ ต้องมีแผนรองรับ การป้องกันต้องมองเห็นภาพใหญ่ อย่ามองเป็นชิ้นๆ ต้องมองภาพใหญ่และอย่าไปปกป้องเป็นเชนๆ

ดร.ธนชาติ – อย่างกรณีสึนามิแถวสุมาตราที่อินโดนีเซีย ที่ระบบการสื่อสารมันล่มหมด เขาใช้แซทเทิลไลต์โมบายเป็นแบ็คอัพมาใช้สื่อสาร บางคนบอกว่ามันเก่าไปแล้ว แต่มันใช้ได้ มันมีประโยชน์ ของสหรัฐอเมริกาเขาก็มีระบบนี้เป็นแบ็คอัพ อย่างน้อยติดต่อกันได้ สั่งการกันได้

บ้านเราความตระหนักในประเด็นนี้ยังไม่มี แม้ว่าในส่วน Business Continuity Management (BCM) หรือมาตรฐานการบริหารจัดการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้ภาวะวิกฤติ ภาคเอกชนมีการตระหนักมากขึ้นก็ตาม แต่ประเด็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญยังไม่มีแบ็คอัพ อย่างเรื่องการสื่อสาร ถ้ามันล่ม มันติดต่อไม่ได้ จะทำอย่างไร

ผมเคยคุยกับเพื่อนในหน่วยงานหนึ่ง เขาบอกว่าถ้ามีน้ำท่วมเขาเตรียมรถขนของ ถามว่าใครดูแลเรื่องรถ ถ้ารถไม่มาทำอย่างไร เพราะเวลาเกิดวิกฤตจริงๆ ถ้ารถมาไม่ได้จะทำอย่างไร ถ้ามันหารถไม่ได้ แม้จะทำสัญญาเช่าไว้ก็ตาม นี่คือเบสิคพื้นฐานที่คนไม่เข้าใจ

วิไลพร – นี่ก็เป็นประเด็นเหมือนของญี่ปุ่นตอนนี้ มีอยู่เมืองหนึ่งมีคนอยู่ประมาณ 1 ล้านคน ชาวบ้านบอกว่าอย่าเพิ่ง activate เพราะมันอยู่บนภูเขา หากมีระเบิดเกิดขึ้น สารเคมีรั่ว เวลาอพยพมันอพยพยาก ยิ่งอยู่ที่สูงจะลงเขาอย่างไร จะอพยพคน 1 ล้านคนได้อย่างไร ลองนึกสภาพถนน ดังนั้นในเรื่องสภาพพื้นที่ ตั้งอยู่ตรงไหน ต้องมีการวางแผนในเรื่องนี้ด้วย แต่ของเรายังไม่เคยคิดว่าจะรับมือในการอพยพอย่างไร



ดร.ธนชาติ – บ้านเรายังไม่ได้มีการเตรียมตัวที่ดีพอในการรับมือภัยพิบัติทุกประเภท อย่างสึนามิที่ภาคใต้เมื่อ 26 ธันวาคม 2547 ดูข่าวตอนเที่ยงยังไม่รู้ว่าเกิดคนตายเยอะแยะ แต่คนยังดูหนังดูละครอยู่ ผ่านมาปี 2554 เราไม่ได้ทำอะไรดีขึ้นกว่าเดิมเท่าไหร่ จากน้ำท่วมนครสวรรค์ที่กำแพงแตก แม้จะอพยพคนได้เร็ว แต่ยังไม่ดีมาก

“การสอนประชาชนให้เตรียมพร้อม ต้องมี แต่ยังไม่มีการสอนประชาชนให้รับรู้ว่าวิกฤตว่าต้องทำอย่างไร ไม่มีการซักซ้อม อย่างการจุดพลุเมื่อเกิดวิกฤต อย่างน้ำท่วมปีที่แล้ว ที่ปากเกร็ดบอกว่าให้คนดูพลุ แต่ก็มีคนมาจุดพลุเล่น อะไรอย่างนี้…เราไม่มีระบบที่ดีพอ ไม่มีแบบแผน”

วิไลพร – ต้องเอาแผน BCM ระดับประเทศมาทาบให้เห็น ตั้งแต่เราจะเริ่ม activate เมื่อไหร่ จะอพยพอย่างไร อพยพไปไหน เวลาเตรียมรับมือภัยพิบัติต้องมองในทุกกรณี เวลานี้คนมักจะมองว่า 5 เดือนน้ำจะท่วมจะทำอย่างไร แล้วถ้าน้ำย้อนศรล่ะ ถ้าไม่มาทางนครสวรรค์แต่มาจากทางอื่นจะทำอย่างไร BCM ต้องมีหลายซีนาริโอที่เลวร้ายสุดทุกซีนาริโอ เพราะคุณต้องพร้อมไม่ว่าจะเกิดอะไรตาม ปัจจุบันยังเป็นแนวแคบอยู่

ดร.ธนชาติ- ตอนนี้รัฐบาลมองแต่เรื่องน้ำท่วมอย่างเดียว อย่างหน่วยงานผม (หน่วยงานแม่คือ สวทช.) ประชุมกันว่ามีแผนรับมือภัยพิบัติอย่างไร เราก็ชี้แจงว่าเราไม่ได้รับมือแค่น้ำท่วม ถ้าน้ำไม่ท่วมล่ะ เกิดไฟไหม้ล่ะ หรือกลายเป็นเรื่องอื่นจะรับมือกันอย่างไร เราไม่มีหน่วยงานที่มาดูแลเรื่องนี้ แต่เรามองแค่ว่าน้ำท่วมครั้งหน้าจะทำอย่างไร เราไม่มีหน่วยงานที่จะทำ BCM เหมือนต่างประเทศ

“ประเทศไทยไม่มีแผน BCM สำหรับภัยพิบัติต่างๆ อย่างปีใหม่มีอยู่ปีหนึ่งที่มีระเบิด ถ้ามีระเบิดจริงๆ คนเหยียบกันตายจะทำอย่างไร เราไม่ถูกฝึกแบบญี่ปุ่น เขามีการซ้อม ผมว่าเรื่องแบบนี้มันต้องฝึก อย่างเราอยู่เมืองนอก ดึกๆ มาแล้ว ต้องซ้อม แผ่นดินไหวทำอย่างไร หลบใต้โต๊ะทำอย่างไร ของเราไม่มี และเราถือว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องน่ารำคาญ อย่างซ้อมหนีไฟ คนไม่สนใจ เป็นรูทีนไปแล้ว ชิน ไม่มีคนสนใจ”

หรือภัยพิบัติอื่น เช่น เขื่อนแตก ระบบไฟฟ้าดับ 2-3 จังหวัด ทำอย่างไรต่อ ต้องเริ่มมีการเทสต์ ควรมีการทำกรณีว่า เลวร้ายสุดจะทำอย่างไร คุณพร้อมแค่ไหน ตัดสินใจได้รวดเร็วแค่ไหน มันต้องมีซีนาริโอแพลนนิ่ง

วิไลพร - ญี่ปุ่นจะเริ่มทำแล้ว เขามีบทเรียนมาเยอะ และเขาเอาไปปรับเยอะเหมือนกัน แผนที่ดีต้องปรับเรื่อยๆ ตามความเสี่ยงของโลกที่เปลี่ยนไป และห้ามเมคแอสซัมชั่น อย่างโรงงานนิวเคลียร์ คาดว่าจะมีแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ แต่เกิดจริงๆ 9 ริกเตอร์

ดร.ธนชาติ -“ผมว่านี่คือปัญหาของประเทศ สังคมเราไม่ทำอะไรให้เป็นระบบโครงสร้างที่ดี สังคมเราเป็น unstructured social และมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการวางแผนที่ดี ไม่มีระบบที่ดี และไม่มีคนรับผิดชอบ ปัญหาคือไม่มีใครรับต้องรับผิดชอบ ก็จะโยนกันไป หาเจ้าภาพไม่ได้”

แต่ถ้ามีภัยพิบัติในอนาคตจะทำอย่างไร ไม่ใช่แค่น้ำท่วม ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน จะรับมืออย่างไร จะต้องมีคนรับผิดชอบแค่ไหน อย่างไร

วิไลพร - จริงๆ ในยามที่เกิดภัยพิบัติ ตามหลัก BCM จะมีโครงสร้าง 2 แบบ 1. โครงสร้างยามปกติ จะต้องมีแผน หาวิธีป้องกัน ช่วยผลักดันให้เกิดการระมัดระวัง 2. ในยามฉุกเฉิน เพื่อให้การแก้ปัญหารวดเร็ว ต้องมีกระบวนการสั่งงานใหม่ที่สั่งตรงจากท็อปกาย ตรงมาที่ทีม BCM และทีมนี้ต้องมีอำนาจพอเพียงในการบริหารจัดการให้เกิดผลเดี๋ยวนั้น

ดร.ธนชาติ – ตามกฎหมายเรามี พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว ที่ผ่านมาใช้ในกรณีเรื่องการเมืองเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่นำมาใช้ในกรณีภัยพิบัติ เรามองภาวะฉุกเฉินในเรื่องการยิงกัน จริงๆ ต้องมองภาวะฉุกเฉินมากกว่าเรื่องการการเมือง จะต้องมองโครงสร้างทั้งระบบ

ปัจจุบันเรามองแค่น้ำท่วม สิ่งที่เรารับทราบข้อมูลตอนนี้คือการป้องกันน้ำท่วม บางครั้งถึงจุดที่ป้องกันไม่ได้ มันต้องอพยพ ทำอย่างไร จะแจ้งข่าวอย่างไร อพยพอย่างไร อย่างคราวที่แล้วมีประกาศว่าน้ำท่วมแล้ว ต้องอพยพแล้ว แต่ประชาชนก็นั่งๆ อยู่บ้าน ฉันไม่ไปก็ได้ เมืองนอกนี่อย่างนี้ไม่ได้ ต้องออกไปจริงๆ แต่ของเราบอกให้อพยพ ยังสบายใจอยู่เลย มันเกิดอะไรขึ้น การบังคับของกฎหมายไม่มีผลเลย มันผิดหลักการ แสดงว่าระบบการสื่อสารไม่ดี

หรือบางทีการสื่อสารก็ไม่เข้าใจ บอกว่าคนที่อยู่บริเวณ “ทับช้างบน” ต้องอพยพ แล้วคนอยู่ “ทับช้างล่าง” ทำยังไง แล้วเราอยู่ตรงไหน ต้องอพยพแล้วหรือ แต่มันไม่เห็นมีอะไรวิกฤต เป็นต้น

วิไลพร – การสื่อสารให้ถูกต้อง อธิบายให้ชัด ไม่สับสน ต้องมีความน่าเชื่อถือ คนพูดต้องพูดให้เป็น ภัยพิบัติเป็นเรื่องต้องปฏิบัติตาม ให้มีคำสั่งออกมา แต่เนื่องจากของไทยมีการแก้ปัญหาแบบกระจายอำนาจ แต่ภาวะภัยพิบัติต้องรวมศูนย์ และการบริหารต้องมองภาพทั้งระบบ

การสื่อสารต้องชัด สมมติว่าถ้าน้ำท่วมแล้วต้องอพยพไปไหน อย่างไร จริงๆ ต้องดูตามพื้นที่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติแบบไหนเกิดขึ้น จะอพยพไปไหน อย่างเรื่องน้ำ ดูจากทิศทางการไหลของน้ำ การวิเคราะห์ต้องใช้ข้อมูลประกอบ เช่น เกิดภัยพิบัติเชียงใหม่ คุณจะไปไหน ถ้าเกิดที่ภูเก็ตคุณจะไปไหน ต้องมีทีม BCM มาวางแผน

ความเสี่ยงที่ PwC ศึกษาไว้ว่าจะมีภัยพิบัติอะไรที่จะเกิดขึ้นบ้าง (18 ประเภท) ต้องทำเป็นคู่มือให้ชัดเจน ภาคไหนจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเกิดภัยแบบนี้จะเอาที่ไหนเป็นศูนย์ มองให้ทะลุไปเลย เราจะได้ไม่ตื่นตระหนกเวลาเกิดภัยพิบัติ จะได้เตรียมความพร้อมไว้ก่อน ภัยจากตรงนี้ ถ้าต้องอพยพจะอพยพอย่างไร อพยพไปไหน จังหวัดนี้มีคนเท่านี้ ถ้าต้องอพยพภายใน 3 วัน จะต้องอพยพอย่างไร

ไทยพับลิก้า : ศูนย์ดูแลภัยพิบัติควรเป็นหน้าที่ใคร

วิไลพร – หน่วยป้องกันสาธารณภัย (ปภ.) ของกระทรวงมหาดไทย แต่เท่าที่ทราบแผน ปภ. ทุกจังหวัดเหมือนกันหมด

ดร.ธนชาติ – เวลาเกิดภัยพิบัติคนที่ไม่มีอำนาจต้องถอย ปล่อยให้คนมีอำนาจตัดสินใจ ทีม BCM ต้องมี ผมมองดูเหตุการณ์เกิดสึนามิ น้ำท่วม ส่วนใหญ่นักการเมืองจะเข้ามามีบทบาท ทำให้การแก้ปัญหาภัยพิบัติได้ไม่ดีพอ ทำให้ข้าราชการเกรงใจ งานไม่เดินตามแผน ดังนั้น ถ้ามี BCM คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องถอย คอมมานด์ไลน์ต้องชัดเจน ใครใหญ่แค่ไหนก็ตามหากไม่ใช่หน้าที่ของคุณ คุณต้องถอยออกไป

“ผมว่าเราไม่มี BCM ทำให้การแก้ปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ไม่ดีพอ ต้องปรับที่โครงสร้าง”

วิไลพร – การรับมือภัยพิบัติต้องวิเคราะห์แผนประเทศ พื้นที่ไหนมีความเสี่ยง หากมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องซ้อมแผน พื้นที่ต่างกัน แผนควรต่างกัน เช่น 3 จังหวัดภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน แต่ละพื้นที่ต่างกัน แผนก็ต้องต่างกัน

ดร.ธนชาติ – ผมว่าการแก้ปัญหาไม่ยากเกินไป เพียงแค่ทำให้เป็นระบบ ให้ความสำคัญกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ปัจจุบันแผน BCM ของประเทศเป็นแค่แผนป้องกันภัยฉุกเฉินเฉพาะด้าน ต้องไม่ใช่แค่ป้องกันน้ำท่วม เพราะมีภัยพิบัติหลายประเภท เพราะถ้าเป็น BCM จริงต้องมองทะลุ แจ้งข่าวอย่างไร อพยพอย่างไร การสื่อสารล่มแล้วทำอย่างไร ทำงานต่ออย่างไร ทำอย่างไรไม่ให้มันเกิด

แต่นี่เรามาคิดเรื่องการป้องกันน้ำท่วม มันคนละประเด็น เพราะบางทีไม่ใช่แคน้ำท่วม อาจจะไฟไหม้ ระเบิดลง จะทำอย่างไร

วิไลพร – คงต้องฝึกมองภาพใหญ่ ไม่ใช่รั่วแล้วอุด เราเห็นประเด็นหรือยัง อย่ามองแค่จุดๆ แก้ทีละประเด็น หากรั่วทั้งหมดก็ตายกันหมด ดังนั้นถ้ามีแผนระดับประเทศ ก็มีแผนจังหวัด แผนองค์กร ตอนนี้หากมีแผนประเทศก็จะทำได้ง่ายขึ้นว่าจะวางแผนอย่างไร



http://thaipublica.org
16 เมษายน 2012


16 เมษายน 2012

=6176.msg51301;topicseen#msg51301

“วิไลพร – ธนชาติ” ถอดบทเรียนสึนามิญี่ปุ่นถึงบทเรียนไทย…แผนภัยพิบัติแห่งชาติ!
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:31:51


ความคิดเห็นที่ 5445 (1606558)

 

ภูเก็ตวุ่น แผ่นดินไหว4.3R



ประชาชนชาวภูเก็ตต่างแตกตื่น หนีขึ้นเขาโกลาหน หลังมีเหตุแผ่นดินไหว 4.3 ริกเตอร์ ศูนย์กลาง ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในหลายพื้นที่
------------------------------------
 
15/04 เตือน!! อีสานล่างลงไป ระวัง พายุฤดูร้อน เหนือ กลาง ร้อน-ร้อนจัด

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคกลาง ประกอบกับ คลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น  โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง
 
จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักในช่วงวันที่ 15-17 เมษายน 2555 ไว้ด้วย


http://www.paipibut.org/view.php?dataid=15613
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:45:56


ความคิดเห็นที่ 5446 (1606559)

 

แผ่นดินไหว ศูนย์กลาง “ศรีสุนทร” บ้านร้าวหลายหลัง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 เมษายน 2555 22:52 น.

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เหตุ แผ่นดินไหว4.3 ริกเตอร์จุดศูนย์กลาง ต.ศรีสุนทร จ.ภูเก็ต ทำบ้านเรือนประชาชนหมู่ 2 บ้านบางขาม ร้าวกว่า 10 หลังคาเรือน

เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ รองผู้ว่าระบุประกาศเป็นเขตภัยพิบัติในพื้นที่


 
นายสมเกียรติ สังขาวสุทธิรักษ์ พร้อมนายกเทศมนตรีต.ศรีสุนทร เข้าตรวจสอบบ้านเรือนปชช.ที่เสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว

เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันนี้ (16 เม.ย.) นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายวรวุฒิ ทรงยศ นายเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 เข้าตรวจสอบบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ 2 บ้านบางขาม ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีบ้านเรือนของชาวบ้านจำนวนหลาย หลังคาเรือนได้รับความเสียหายแตกร้าวหลักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหววันนี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์แผ่นดินไหวบนบกขนาด 4.3 ริกเตอร์ ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.44 น.

 
บ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย

นายสมเกียรติ กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย เช่น บ้านเลขที่ 100 ซึ่งเป็นบ้านของนางชุม นิยมพงศ์ อายุ 56 บ้านเลขที่ 100 /2 บ้านนายถาวร ตรีสุข อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 100/1 บ้านนางอำไพ นิยมพงศ์ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 100/4 บ้านนายชัยสิทธิ์ จินเสนา และบ้านอื่นๆอีกหลายหลัง ว่า จากการตรวจสอบบ้านของประชาชนพบว่าได้รับความเสียหายคล้ายๆกันโดยมีลักษณะแตก ร้าวที่บริเวณเสา รอยต่อแตกร้าวลงมาเป็นแนวดิ่ง

ซึ่งขณะนี้ ได้สั่งการให้ทางเทศบาลต.ศรีสุนทร เร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมด คาดว่าบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายมีมากกว่า 11 หลัง เนื่องจาก การสำรวจในเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านเดินทางมาแจ้งข้อมูลเพิ่มขึ้น ตลอดเวลา

 

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) เจ้าหน้าที่จะลงมาสำรวจความเสียหายอีกครั้งเพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป

โดยในเบื้องต้น ได้ประสานไปยังหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เพื่อประกาศให้พื้นที่หมู่ที่ 2 เป็นเขตภัยพิบัติแผ่นดินไหว เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างทันท่วงที

ซึ่งในเรื่องของการเฝ้าระวังภัยแผ่นดินไหว และ สึนามินั้น ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีการเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

 

ขณะที่นายวรวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุแผ่นดินไหวใน ครั้งนี้ทางเทศบาลจะส่งเจ้าหน้าฝ่ายช่างโยธาลงไปสำรวจความเสียหายของบ้าน เรือนในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างทันท่วงที

โดยจะมีการตั้งวอร์รูม รับแจ้งความเสียหายจากชาวบ้าน โดยชาวบ้านที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายสามารถแจ้งได้ทันที่เพื่อให้เจ้า หน้าที่เข้าไปตรวจสอบให้ความช่วยเหลือต่อไป

 

ขณะที่นางอำไพ นิยมพงศ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 100/1 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังสนั่น เหมือนกับมีสัตว์ขนาดใหญ่ วิ่งอยู่บนหลังคา ตกใจวิ่งออกจากบ้านทันที หลังจากเหตุการณ์สงบ จึงได้เข้ามาสำรวจที่บ้านพบว่า บ้านมีรอยแตกร้าวหลายจุด และเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้รุนแรงมาก

ด้านนางชุม นิยมพงศ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 100 กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุอยู่ในบ้านกับหลาน 2 คน รู้สึกว่าบ้านสะเทือนไปทั้งหลัง และมีเสียงดังคล้ายหม้อไฟระเบิด จึงอุ้มหลานวิ่งออกจากบ้าน ซึ่งตนไม่เคยพบกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาก่อน แผ่นดินไหวในครั้งนี้รู้สึกได้ถึงความแรงของแผ่นดินไหว และรุนแรงกว่าวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นตนไมรู้สึกว่ามีแรงสั่นสะเทือน แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าบ้านสะเทือนมาก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 00:58:26


ความคิดเห็นที่ 5447 (1606561)

.

ภูเก็ต อาฟเตอร์ช็อค 5 ครั้งแล้วครับ ครั้งสุดท้าย 2.1

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://board.palungjit.com/f178/ประกาศข่าวแผ่นดินไหว-and-การคาดการณ์-51734-332.html

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 01:03:19


ความคิดเห็นที่ 5448 (1606569)

 กราบขอบพระคุณในคำเตือนของอ.แม่ด้วยค่ะ

อนุโมทนากับข่าวจากพี่อาริยาด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 04:23:30


ความคิดเห็นที่ 5449 (1606682)

พวกเรา

พร้อมหรือยังจ๊ะ

***********

พร้อมแล้วค่ะอาจารย์ขา

ขอกราบขอบพระคุณ

ที่เตือนลูกหลานอีกครั้งค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 16:01:18


ความคิดเห็นที่ 5450 (1606691)

ตะลึง ปลาทูนับแสนโผล่อ่าวกระบี่

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 19:44 น.



เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายวีรพงศ์ นบนอบ นายท้ายเรือกลประจำศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน จ.กระบี่ เผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่าพบฝูงลูกปลาทูขึ้นบริเวณปากอ่าวกระบี่และอ่าวกระบี่ ต.ไสไทย อ.เมือง เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อไปตรวจสอบพบว่าจุดที่อยู่ห่างท่าเทียบเรือออกไป 3 กิโลเมตร มีฝูงลูกปลาทูนับแสนตัวจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน 20-30 ฝูง โผล่ขึ้นมาเล่นแสงแดดเหนือผิวน้ำทั่วบริเวณ สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวประมงและนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือโดยสารผ่านไปยังเกาะพีพีเป็นอย่างมาก 

นายเจริญ โอมณี หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงฝั่งอันดามันกระบี่ กล่าวว่า หลังประกาศปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำในช่วงฤดูปลาวางไข่มาได้ 3 ปี ตั้งแต่เดือนเม.ย.ถึงเดือนมิ.ย. จะมีปลาทูเข้ามาวางไข่และหาอาหารบริเวณชายฝั่งทะเลของจังหวัดกระบี่โดยเฉพาะช่วงคลื่นลมสงบ จากนั้นฝูงปลาทูแรกเกิดขนาดลำตัวยาว 2-3 นิ้ว จะออกมาเล่นแดดกันเป็นฝูงๆ ละ 2-3 หมื่นตัว ปรากฏการณ์ดังกล่าวพบเห็นไม่บ่อยครั้ง ปีนี้มากกว่าทุกปี คาดว่าเป็นผลมาจากการขยายพื้นที่และขยายเวลาประกาศปิดอ่าวเพิ่มจาก 2 เดือนเป็น 3 เดือน ทำให้สัตว์น้ำมีโอกาสวางไข่เลี้ยงลูกและเจริญเติบโต

นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ฝูงปลาทูโผล่ผิวน้ำเกิดขึ้นทุกปีในช่วงที่มีการปิดอ่าว ปีที่ผ่านมาพบบริเวณท่าเรือบ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม แต่ปีนี้พบมากเนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างดี ไม่มีเหตุน้ำป่าไหลหลากส่งผลให้มีฝูงปลามากขึ้น อย่างไรก็ตามหากชาวประมงไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ใช้อวนปลากะตักจับปลาตอนกลางวัน จะทำให้ฝูงลูกปลาทูติดอวนไปด้วย ไม่มีโอกาสเจริญเติบโต จึงให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดกวดขันจับกุมและขอความร่วมมือชาวประมงพื้นบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตา จะได้มีทรัพยากรสัตว์น้ำให้ชาวประมงมีกินอย่างยั่งยืน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ที่ทำให้ปลาทูได้วางไข่และเติบโตเป็นจำนวนมาก ยังทำให้แมงกะพรุนบริเวณชายฝั่งอ่าวกระบี่เติบโตอย่างสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน 

วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดกระบี่ นำเรือประมงออกจับแมงกะพรุนจานที่บริเวณริมชายฝั่งอ่าวกระบี่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งตั้งแต่ท่าเรือบ้านตลิ่งชัน ไปจนถึงชายฝั่งบ้านแหลมโพธิ์ ต.ไสไทย อ.เมือง มีเรือประมงพื้นบ้านลอยลำจับแมงกะพรุนไม่ต่ำกว่า 50 ลำ จากนั้นนำไปขายให้พ่อค้าที่บริเวณท่าเทียบเรือตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง สาเหตุเพราะปีนี้แมงกะพรุนมีราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ตัวละ 5-6 บาท ปีที่แล้วตัวละ 3-4 บาท ชาวประมงจึงหันมาจับแมงกะพรุนมากขึ้น ประมาณ 5,000 บาทต่อวัน 

B5 - War Room Falkman
 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 16:57:20


ความคิดเห็นที่ 5451 (1606692)

 ดินไหว 6.5 แคว้นบัลปาไรโซของชิลี ความเสียหายยังไม่ระบุ

วันที่ 17/04/2555 11:45 





ยูเอสจีเอสรายงาน เกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.5 ที่แคว้นบัลปาไรโซ ของประเทศชิลี แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 17 เม.ย. อ้างข้อมูลจากสำนักสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.50 น.ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.5 ที่แคว้นบัลปาไรโซ ของประเทศชิลี จุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดินที่ 25.9 กม.ห่างจากเมืองบัลปาไรโซ ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 42 กม.

จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงซานติอาโก เมืองหลวงของประเทศ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 112 กม. อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผลกระทบจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้

B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 16:58:27


ความคิดเห็นที่ 5452 (1606693)

ตะลึง ! พญานาคโผล่ "หนองหาร" แสงระยิบระยับนาน 5 นาที

วันที่ 17/04/2555 09:00 





นักท่องเท่ียวกว่า 30 ชีวิต ล่องเรือทำบุญหนองหาร ตกตะลึงเมื่อเห็นคลื่นน้ำเป็นเกลียวโผล่ขึ้นเหนือน้ำ ยาว 100 เมตร นานกว่า 5 นาที มีสีเงินสีทองระยิบระยับลักษณะคล้ายครีบ เชื่อปู่พญานาคแสดงอภินิหาร ต่างพนมมือไหว้ท่วมหัว ขณะที่รอง ผวจ.สกลนคร นำคลิปเหตุการณ์มาดูด้วยความสนใจ...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 16 เม.ย.2555 ขณะที่นายทวีพงษ์ นวานุช อดีตข้าราชการครู และประธานชมรมคนรักหนองหาร จ.สกลนคร ได้พานักท่องเที่ยวกว่า 30 ชีวิต ลงท่องบึงหนองหาร อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อไปทำบุญที่เกาะดอนสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่กลางบึงหนองหาร ขณะที่เรือแล่นไปใกล้เกาะดอนสวรรค์อีก 1 กม. ปรากฏมีคลื่นน้ำเป็นเกลียวโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำสูงประมาณ 40 ซม. ยาวประมาณ 100 เมตร ลักษณะเป็นสีเงินสีทองระยิบระยับ ดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำนานกว่า 5 นาที ระหว่างนั้น นายวิศักดิ์ แก้วศิริ พนักงานบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัด หนึ่งในนักท่องเที่ยวได้หยิบกล้องวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ระยะห่างประมาณ 200 เมตร รวมถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ในเรือได้หยิบกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือเก็บภาพ พร้อมพนมมือไหว้



ด้านนายวิศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนจะล่องเรือออกไป ตนได้จุดธูป 9 ดอก เพื่อบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ปกป้องบึงหนองหาร ซึ่งหมายถึงพญานาคให้ปกป้องคุ้มครองตลอดการเดินทาง ทั้งขาไปและกลับ เพราะต้องการไปทำบุญ อีกทั้งยังได้ถวายดอกบัวเพื่อบูชาพญานาค และอธิษฐานว่าหากมีบุญก็ขอให้ปู่พญานาคได้แสดงอภินิหารปรากฏตัวให้เห็นด้วย และมาทราบภายหลังว่า คนอื่นๆ ก็อธิษฐานเช่นกัน เมื่อแล่นเรือไปใกล้ดอนสวรรค์ บริเวณเดียวกับที่นายคำรณ หว่างหวังศรี พิธีกรช่อง 3 เคยมาบันทึกรายการ และพญานาคได้ปรากฏให้เห็น จู่ๆ เครื่องยนต์เรือก็เบาลง และดูเหมือนติดขัด จังหวะนั้นหลายคนที่อยู่บนดาดฟ้าได้กรูกันไปที่ท้ายเรือเพื่อมองดูเกลียวคลื่นซึ่งทำให้ทุกคนตะลึง 

สำหรับเกลียวคลื่นดังกล่าวยาวประมาณ 100 เมตร และยกตัวขึ้นมาเหนือน้ำประมาณครึ่งเมตร มีลักษณะผลุบขึ้นผลุบลง ไม่ใช่เลื้อยส่ายไปส่ายมา และยังมีสีคล้ายสีทองส่องแสงระยิบระยับ มีลักษณะคล้ายครีบ ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นนานกว่า 5 นาที ก่อนที่จะค่อยๆ จมหายไป ทำให้ทุกคนต่างยกมือขึ้นเหนือศีรษะ รู้สึกเป็นบุญตาที่ได้เห็น

ขณะที่ น.ส.ปลงใจ สมศรี อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 71 หมู่ 1 บ.กุงศรี ต.นาเพียง อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร กล่าวว่า ตนเองทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และกลับมาเยี่ยมบ้าน ได้ยินข่าวว่ามีการพบพญานาคที่บึงหนองหาร จึงเดินทางมาพร้อมกับครอบครัวและญาติพี่น้องประมาณ 10 คน กระทั่งได้เห็นในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะพบพญานาคจริงๆ และสิ่งที่เห็นมั่นใจว่าไม่ใช่คลื่นของเรือแต่อย่างใด เนื่องจากเกิดขึ้นในแนวขวางตัดกับเส้นทางการวิ่งของเรือ และอยู่ห่างจากท้ายเรือมากนับร้อยเมตร 

นายทวีพงษ์ นวานุช ประธานชมรมคนรักหนองหาร จ.สกลนคร เล่าว่า ขณะที่เห็นในครั้งแรกนั้นไม่ชัดเจนเท่าใดนัก แต่ในครั้งนี้ได้ปรากฏนานมากประมาณ 5 นาที และมีประกายระยิบระยับ ทั้งๆ ที่ไม่มีแสงแดด และพื้นน้ำไม่มีคลื่นลมแต่อย่างใด และที่สำคัญคลื่นของเรือไม่มีในขณะเกิดปรากฏการณ์ ทั้งนี้ ในพิธีบวงสรวงเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2555 ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมพิธีกว่า 2 หมื่นคน เพื่อรอชมพญานาค แต่ต้องผิดหวัง ปรากฏเป็นเพียงก้อนเมฆคล้ายพญานาคขี่ครุฑ ซึ่งแม่ชีนิรนามบอกว่า ในวันนั้น คนที่มาชมส่วนหนึ่งได้พูดจาลบหลู่พญานาค ว่าถ้าแน่จริงทำไมไม่โผล่ขึ้นมาให้ดู และคนที่มาชมส่วนใหญ่ต้องการมาเห็น ไม่ได้มาด้วยความเชื่อความศรัทธา 
ประกอบกับการบวงสรวงทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากการบวงสรวงพญานาค ห้ามมีของคาว เพราะพญานาคไม่ใช่สัมภเวสี แต่ท่านจำศีลอยู่ การใช้หัวหมูเป็นเครื่องสังเวย การนำปลาปิ้งมาบวงสรวง และการนำไข่ไก่มาบวงสรวงนั้นไม่ถูกต้อง ในวันทำพิธีบวงสรวง ท่านก็ขึ้นมาเช่นกัน แต่อยู่ไกลมาก คนที่มารอชมอาจจะมองไม่เห็น แต่ก็มีพญานาคบริวารขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึก แต่หลายคนไม่รู้สึก 

ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นางวิตยา ประสงค์วัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ซึ่งกลับจากตรวจเยี่ยม บขส.ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ติดตามถามหานำคลิปบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวมาดูด้วยความสนใจ

B5 - War Room Falkman
 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 16:59:10


ความคิดเห็นที่ 5453 (1606694)

พายุลูกเห็บซัดบ้านใน อ.วังสะพุงพังกว่าร้อยหลัง-รง.ประกอบรถบรรทุกเสียหายกว่า 50 ล้าน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2555 09:59 น.
 
 



เลย- พายุฤดูร้อน-ลูกเห็บถล่มในพื้นที่ อ.วังสะพุง-เมืองเลย บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ขณะที่โรงงานประกอบรถบรรทุกใน ต.นาโป่งพังยุบลงมากองกับพื้น มูลค่าความเสียหายร่วม 50 ล้าน แต่ไม่มีคนงานได้รับบาดเจ็บเพราะหยุดสงกรานต์พอดี

เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วานนี้ (16 เม.ย.) เกิดเหตุพายุลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่อำเภอวังสะพุง และอำเภอเมืองเลย แรงลมได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนในตำบลศรีสงครามกว่า 70 หลังคาเรือน และในเขตอำเภอเมืองเลย 30 หลังคาเรือน โรงงานประกอบรถบรรทุกในพื้นที่ตำบลนาโป่ง อำเภอเมืองเลยพังยุบลงมาทั้ง 2 หลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

นายโฉม บุญเรือง อายุ 65 ปี ผู้ดูแลโรงงาน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลมพายุได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก พร้อมกับลูกเห็บ หลังจากนั้นก็มีลมพายุหมุนพัดโรงงานพังถล่มเสียงดังสนั่น ตนจึงรีบตะโกนบอกคนงานที่อยู่ในอาคารที่เหลือรีบวิ่งออกมา และได้รีบไปตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เพราะอยู่ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ มีคนงานมาทำงานเพียงไม่กี่คน

นอกจากนี้ ความแรงของพายุยังได้พัดบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองวังสะพุง และบริเวณบ้านน้อยนา หมู่ที่ 1 ตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย หลังคาสังกะสีเปิดและถูกลมพัดปลิวไปอีกรวมกว่า 70 หลังคาเรือน

ขณะเดียวกัน ลูกเห็บที่ตกลงมาทำความเสียหายให้แก่ฟาร์มไก่ บ้านเรือนอีกหลายจุด และต้นไม้ริมถนนนับ100 ต้นหักโค่น เสาไฟฟ้าแรงสูง เสาไฟฟ้าแนวบ้านเรือน โค่นล้มกว่า 10 ต้น ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในหลายหมู่บ้านของอำเภอวังสะพุง

ด้านนายโสภณ สุวรรณรัตน์ นายอำเภอวังสะพุง เมื่อรับทราบข่าวได้ส่งเจ้าหน้าที่อำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสงคราม เทศบาลเมืองวังสะพุง เข้าไปสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว

 

B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 17:01:40


ความคิดเห็นที่ 5454 (1606695)

 ยันดินไหวภูเก็ต ไม่กระทบ2เขื่อนใหญ่กาญจน์

วันที่ 17/04/2555 14:39 





2 เขื่อนใหญ่ จ.กาญจนบุรี ยืนยันแผ่นดินไหวภูเก็ตไม่กระทบ ยังแข็งแรงมั่นคง ส่วนการระบายน้ำเพิ่มในเขื่อนวชิราลงกรณ ไม่กระทบต่อประชาชนที่อาศัยท้ายน้ำแน่นอน...

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยกรณีการเกิดแผ่นดินไหวที่ภูเก็ตขนาด 4.3 ริกเตอร์ โดยยืนยันไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก และอยู่ไกลมากถึง 800 กิโลเมตร จึงไม่ส่งผลกระทบกับเขื่อนแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับนายณัฐจพนธ์ ภูมิเวียงศรี ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ออกมาระบุว่า เขื่อนวชิราลงกรณไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แต่อย่างใด โดยตัวเขื่อนยังมีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ และยังมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา การตรวจสอบ และการประเมินความมั่นคงปลอดภัยที่มีการดำเนินการมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมความพร้อมตลอดเวลา

ส่วนการปรับเปลี่ยนการระบายน้ำเพื่อความเหมาะสม จากปัจจุบันเขื่อนวชิราลงกรณมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 4,971 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 56.12% โดยมีการระบายน้ำตามแผนการระบายน้ำของคณะกรรมการฯ วันละประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปรับแผนระบายน้ำเพิ่มมากขึ้น จะไม่มีผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ด้านท้ายน้ำ.


B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 17:04:23


ความคิดเห็นที่ 5455 (1606697)

 นักแผ่นดินไหวระบุรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย-ระนองยังมีพลัง



ดร.ไพบูลย์ นวลนิล นักแผ่นดินไหววิทยา ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จ.ภูเก็ต วันที่ 16 เม.ย.2555 พิสูจน์ได้เลยว่าภาคประชาชนเร็วกว่าภาครัฐ ทราบกันในกลุ่มโซเซี่ยลเน็ตเวิร์คก่อนที่สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวจะรายงาน เพราะฉะนั้นถ้าภาคประชาชนทำงานร่วมกับภาครัฐได้อย่างใกล้ชิดมีการเอาข้อมูลมาประมวลรวมกัน จะทำให้เกิดความแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวที่จ.ภูเก็ตครั้งนี้ เกิดจากรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ได้รับการกระตุ้นจากแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวหลัก 2 ครั้ง ที่เกิดที่สุมาตราเหนือ คือ 8.6 ริกเตอร์ กับ 8.2 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา สำหรับรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย จากการสำรวจจะพาดผ่านจากจ.สุราษฎร์ธานีมาถึงภูเก็ต และในทะเลอันดามัน 

"กลุ่มรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยจะอยู่บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงมา จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต แล้วก็พาดลงไปในทะเลอันดามัน เพราะฉะนั้นจากข้อมูลรอยเลื่อนอันนี้ทำให้เราสรุปได้ว่า น่าที่จะเป็นแผ่นดินไหวที่เกิดจากการกระตุ้นของแผ่นดินไหวหลัก 8.6 ริกเตอร์ และ 8.2 ริกเตอร์สุมาตราเหนือ"

สำหรับแนวโน้มที่เกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคใต้ที่รอยเลื่อน 2 รอยเลื่อน คือ รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย กัน รอยเลื่อน มีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าปกติ เพราะว่าจากข้อมูลที่ได้ทำการเก็บรวบรวม ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวในบริเวณแนวรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย หรือแนวรอยเลื่อนระนอง จะเห็นได้ว่าจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่สุมาตราเหนือเมื่อ วันที่ 26 ธ.ค. 2547 ขนาด 9.1 ริกเตอร์

กระตุ้นให้รอยเลื่อนทั้ง 2 เกิดแผ่นดินไหวถึงแม้จะไม่รุนแรง เนื่องจากเป็นแผ่นดินไหวขนาดปานปลาง หรือขนาดอยู่ในช่วง 3-5 ริกเตอร์ แต่มันก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกรอยเลื่อนทั้ง 2 ได้รับการกระตุ้นจากแผ่นดินไหวใหญ่ในครั้งนั้น ส่วนรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยกับรอยเลื่อนระนองนั้น พาดผ่านกินพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งทะเล อย่าง รอยเลื่อนระนอง ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5 ริกเตอร์ ในอ่าวไทย ทำให้ผู้คนที่อาศัยในพื้นที่ จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ จังหวัดชุมพร ได้รับผลกระทบ 

ดร.ไพบูลย์ ยังยืนยันว่า รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย กับรอยเลื่อนระนอง ยังเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง และได้รับการกระตุ้นจากแผ่นดินไหวในสุมาตรา "ครั้งหนึ่งผมเสนอไปทางหน่วยงานที่รับผิดชอบว่า ให้ความสำคัญกับรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย และรอยเลื่อนระนอง แต่ได้รับการบอกว่าเขาให้ความสำคัญกับรอยเลื่อนที่มีพลังทางภาคเหนือมากกว่า ผมก็อยากบอกว่า แผ่นไหวมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่มีฤดูกาล เหมือนพายุ เหมือนอุทกภัย มันเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน เราต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ตอนนี้" ดร.ไพบูลย์ กล่าว
__________________
B1 - War Room Falkman

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-17 17:05:44


ความคิดเห็นที่ 5456 (1606835)

.

ภูเก็ตบ้านร้าว 34 หลัง เหตุแผ่นดินไหว

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 เมษายน 2555 นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายเรวัต อารีรอบ ส.ส.เขต 2 จ.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร อ.ถลาง นายสันติ์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณจังหวัดภูเก็ต นายสุวิทย์ โคสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนวิจัยรอยเลื่อนมีพลัง สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี นายอานนท์ ปถมาทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำบำรุงรักษาที่ 2 อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบอ่างเก็บน้ำบางเหนียว หมู่ที่ 7 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.ศรีสุนทร ขนาด 4.3 ริกเตอร์ ซึ่งรับรู้ได้ทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ ต.ศรีสุนทร เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยใช้วิธีการเดินสำรวจเป็นแถวหน้ากระดานเพื่อดูรอยรั่วซึมบริเวณสันเขื่อน ซึ่งมีขนาดความยาวประมาณ 860 เมตร กว้าง 8 เมตร สูง 30 เมตร มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุดที่รับได้ประมาณ 7 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด หลังจากนั้นคณะทั้งหมดได้ลงพื้นที่บ้านลิพอน-บางขาม หมู่ที่ 2 ต.ศรีสุนทร เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน ซึ่งทางเทศบาลฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นมารับเรื่องร้องเรียน เบื้องต้นในช่วงเช้ามีผู้มายื่นเอกสารแล้ว ประมาณ 34 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านชั้นเดียว จะมีรอยร้าวบริเวณผนังบ้านและเสาบ้าน

นายสมเกียรติ กล่าวว่า การลงตรวจสอบสภาพเขื่อนดังกล่าว ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทางจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี เทศบาลตำบลศรีสุนทร และ ส.ส.มีความห่วงใยความรู้สึกและความกังวลของพี่น้องประชาชน ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยตาเปล่าไม่พบความผิดปกติของตัวเขื่อนแต่อย่างใด นอกจากนี้เพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่มีปัญหาก็จะนำผลจากการตรวจสอบด้วยอุปกรณ์ของทางอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำมาประกอบด้วย

__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 02:37:52


ความคิดเห็นที่ 5457 (1606836)

ปภ.ระนอง เตรียมซ้อมแผนรับมือสึนามิ

นางสำเนียง มณีรัตน์ รักษาการ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีการเกิดภัยพิบัติต่างๆในช่วงนี้ โดยเฉพาะพิบัติภัยจากอุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว หรือสึนามิ ทางสำนักงาน ปภ.ระนองเตรียมกำหนดซ้อมแผนป้องกัน และรับมือพิบัติภัยต่างๆให้กับชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อสร้างความพร้อม และสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่และชุมชนเสี่ยงภัยในการรับมือกับพิบัติภัยต่างๆ ที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดฝึกอบรมเพื่อรับมือกับพิบัติภัย แต่ขณะนี้หลายชุมชนลืมขั้นตอน อันเป็นผลจากการขาดซักซ้อม ปภ.ระนองจึงเตรียมจัดทำแผนฝึกซ้อมให้กับชุมชนในพื้นที่เสี่ยง 15 ชุมชน เพื่อใช้กำหนดทิศทางและเป้าหมายจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติของชุมชน โดยใช้หลักกระบวนการ CBDRR 13 ขั้นตอนในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขแนวเส้นทางอพยพหลบภัยและจุดที่หลบภัยที่พบยังมีปัญหาหรือมีข้อบกพร่อง

สำหรับกระบวนการ CBDRR 13 ขั้นตอนมีรายละเอียดดังนี้ 1.จัดประชุมเพื่อแนะนำโครงการ ชี้แจงวัตถุประสงค์ 2.ผู้บริหารประสานงานและชี้แจงโครงการในระดับจังหวัด
3.ผู้ปฏิบัติงานประจำจังหวัดประสานงานและชี้แจงโครงการในระดับจังหวัด 4.ผู้ปฏิบัติงานประจำจังหวัดแนะนำ และชี้แจงโครงการในชุมชนเป้าเหมาย 5.ประชุม ชี้แจง สร้างความเข้าใจกับชุมชนที่ตอบรับเข้าร่วมโครงการ 6.อบรมแกนนำ/อาสาสมัครชุมชนเรื่องการเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ 7. ประชุมเพื่อตรวจสอบผลการประเมินสภาวะชุมชนอย่างมีส่วนร่วม PRA TOOLS 8.ทบทวนหรือพัฒนาแผน เตรียมพร้อมรับและป้องกันภัยพิบัติชุมชน 9.พัฒนาความสามารถของชุมชน 10.ฝึกปฏิบัติตามแผนตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินของชุมชน/ปรับแผน 11.ซ้อมแผนฉุกเฉิน 12.จัดประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การฝึกซ้อมระหว่างชุมชน/องค์กรต่างๆ 13.จัดประชุมแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ นำเสนอผลงานระหว่างองค์กร และส่งมอบภารกิจให้แก่องค์กรท้องถิ่น

สำหรับ 15 ชุมชนเขตพื้นที่ จ.ระนองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ประกอบด้วย ชุมชน, บ้านเกาะคณฑี ม. 1 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง , บ้านเกาะพยาม ม. 2 ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง , บ้านเกาะคณฑี ม. 2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง , บ้านนาพรุ ม. 2 ต.นาคา อ.สุขสำราญ , บ้านเกาะช้าง ม. 2 ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง , บ้านบางมัน ม. 1 ต.นาคา อ.สุขสำราญ , บ้านในกรัง ม. 9 ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี , บ้านบางลำพู ม. 3 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ , บ้านบางกล้วยนอก ม. 3 ต.นาคา อ.สุขสำราญ , บ้านชิมี ม. 8 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ , บ้านเกาะตาครุฑ ม. 4 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง , บ้านแหลมนาว ม. 6 ต.นาคา อ.สุขสำราญ , บ้านชาคลี ม. 1 ต.บางหิน อ.กะเปอร์ , บ้านเกาะสินไห ม. 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง



ให้ทุกคนลองดู
รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ซึ่งพาดผ่านจากภูเก็ตออกอ่าวไทย
รอยเลื่อนระนองออกอ่าวไทยตรงประจวบ ไปต่อกับรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์
รอยเลื่อนแม่ปิง ตัดพาดผ่านหลายจังหวัดไปต่อกับรอยเลื่อนใหญ่รอยเลื่อนสะแกงในพม่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 02:40:30


ความคิดเห็นที่ 5458 (1606837)

ภูเก็ตประกาศพื้นที่หมู่ 2 ต.ศรีสุนทรเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว

 

จังหวัดภูเก็ตออกประกาศเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว
 
วันนี้ (17 เม.ย.) นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ลงนามในประกาศจังหวัดภูเก็ต เรื่อง ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอถลางแล้ว โดยมีใจความ ว่า ด้วยได้เกิดเหตุภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยเกิดเหตุแผ่นดินไหว บริเวณอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ความลึก 10 กิโลเมตร ขนาด 4.3 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 เวลา 16.44 น. เบื้องต้น ได้รับรายงานรู้สึกสั่นไหวจากประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ราษฎรจำนวน 33 ครัวเรือน ณ พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ภัยดังกล่าวสิ้นสุดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 เวลาประมาณ 17.00 น.

อาศัยอำนาจตามข้อ 16 (2) ของระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจึงประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวของจังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นต้องรีบป้องกัน และแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือลดอันตรายจากภัยพิบัติที่จะทำความเสียหายต่อสิ่งสาธารณประโยชน์ หรือลดความเสียหายต่อราษฎรโดยพลัน ทั้งนี้ จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือทันทีตามหลักเกณฑ์ และวิธีดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 255 ประกาศ ณ วันที่ 17 เม.ย 2555

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 02:41:53


ความคิดเห็นที่ 5459 (1606838)

เตือนจับตา2รอยเลื่อน "ระนอง-เพชรบูรณ์"

วันอังคารที่ 17 เมษายน 2555 เวลา 15:47 น.


“กรมทรัพยากรธรณี” เตือนจับตารอยเลื่อนคลองมะรุ่ย จ.ระนอง และรอยเลื่อนแม่อิง จ.เพชรบูรณ์ (ภาพประกอบข่าว)

ขอขอบคุณ คุณ Falkman ค่ะ  ทีมา http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-เพื่อรองรับสถานการณ์ปี-2012-a-288866-978.html


วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา13.30 น. ที่กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายนิทัศน์ ภู่วัฒนกุล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี พร้อมด้วยนายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ร่วมกันแถลงข้อเท็จจริงการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.3 ริกเตอร์ ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยนายนิทัศน์ กล่าวว่า การเกิดแผ่นดินไหวที่ จ.ภูเก็ตเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ. ถลาง มีขนาด 4.3 ริกเตอร์ ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวบนบกขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในภาคใต้ของไทย และยังเกิดแผ่นดินไหวตามหรืออาฟเตอร์ช็อกจำนวน 5 ครั้ง ขนาด 2.1-2.7 ริกเตอร์ จนทำให้มีบ้านเรือนเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน
สาเหตุของแผ่นดินไหวครั้งนี้มาจากการเคลื่อนตัวของแนวรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ที่กินพื้นที่ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา ตามแนวระนาบแบบเหลื่อมซ้าย ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าวถือว่าประเทศไทยโชคดีที่เป็นเกิดแผ่นดินไหวตามแนวนอน ผลกระทบจึงไม่เกิดขึ้นมาก ที่สำคัญการเกิดแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.ถลาง เป็นการเกิดแผ่นดินไหวในเวลาใกล้เคียงกับการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งไม่ใช่แผ่นดินไหวตามกันหรืออาฟเตอร์ช็อกแต่อย่างใด เนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ที่ประเทศอินโดนีเซีย ไม่สามารถส่งผลกระทบทำให้บ้านเรือนใน พื้นที่จ.ภูเก็ตสั่นไหวจนรู้สึกได้ทั้งจังหวัดได้

นายนิทัศน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยืนยันว่าเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวที่ จ.ภูเก็ตนั้น ภาครัฐไม่ได้ปกปิดข้อมูลต่อประชาชน แต่เป็นเพราะต้องเช็ครายละเอียดให้แน่นอนก่อน เนื่องจากข้อมูลเรื่องแผ่นดินไหวเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือและกระทบกับชีวิตของประชาชน ดังนั้นการจะประกาศข้อมูลใดออกไปจะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดและรอบคอบก่อน อย่างไรก็ตามขอเตือนให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซียขนาด 8.6 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ได้มีประชาชนหนีจากอาคารสูงลงทางลิฟท์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเกิดแผ่นดินไหวไฟฟ้าอาจจะถูกตัดเมื่อไรก็ได้ ดังนั้นจึงจะต้องมีการออกประกาศเพิ่มเติมให้อาคารสูงมีบันไดหนีไฟ และให้ใช้ในกรณีที่เกิดไฟไหม้และแผ่นดินไหวด้วย
นอกจากนั้นในส่วนของอาคารสูงและเขื่อนนั้นเราไม่หนักใจ เพราะมั่นใจในเรื่องการออกแบบทางวิศกรรมที่รองรับกรณีการเกิดแผ่นดินไหว โดยเฉพาะเขื่อนส่วนใหญ่ของกรมชลประทานที่ตั้งอยู่ตามแนวรอยเลื่อนอยู่แล้วและมีการวางระบบเตือนภัยอย่างเข้มข้น แต่สิ่งที่เป็นห่วงคืออาคารบ้านเรือนของประชาชนทั่วไปที่สูงเพียง 1-2 ชั้น ที่อาจจะไม่ได้มีการออกแบบมาเพื่อรองรับการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีที่เกิดขึ้นในจ.ภูเก็ต ที่มีบ้านเรือนเสียหาย เสา กำแพงแตกร้าวไปกว่า 30 หลัง ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหารือกันต่อไป

ด้านนายเลิศสิน กล่าวอีกว่า การเกิดแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซียเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ขนาด 8.6 ริกเตอร์ และ 8.2 ริกเตอร์ที่เกิดตามมานั้น เป็นแผ่นดินไหวคนละเหตุการณ์กันไม่ใช่แผ่นดินไหวตามหรืออาฟเตอร์ช็อกตามที่เข้าใจในตอนแรก ซี่งการเกิดแผ่นไหว 2 ครั้งดังกล่าวส่งแรงต่อการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.3 ริกเตอร์ ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเกิดบริเวณแขนงของรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ทำให้กรมทรัพยากรธรณีต้องเฝ้าระวังกลุ่มรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยความยาว 150 ก.ม. และกลุ่มรอยเลื่อนระนอง ความยาว 270 ก.ม. ซึ่งกินพื้นที่ตั้งแต่ จ.ระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และพังงาเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มรอยเลื่อน ถือว่าเป็นรอยเลื่อนที่มีการขยับตัวชัดเจน ทั้งยังเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง แม้แผ่นดินไหวส่วนใหญ่จะเกิดจากรอยเลื่อนหลักแล้วจึงส่งผลไปรอยเลื่อนแขนง แต่เมื่อรอยเลื่อนแขนงขยับตัวแล้วก็อาจจะส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวบนตัวรอยเลื่อนหลักได้เช่นกัน

“จากการที่กรมทรัพยากรธรณีนำตะกอนดินของทั้ง 2 รอยเลื่อนไปตรวจสอบพบว่ามีการยกตัวของชั้นดินชัดเจน และเมื่อ 3,600 ปีที่ผ่านมา เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ ซึ่งมากที่สุดมาแล้ว และจากวันนี้เป็นต้นไปแผ่นดินไหวที่เกิดจาก 2 รอยเลื่อนดังกล่าวนี้สามารถเกิดได้ทุกเมื่อ แต่ขนาดจะไม่รุนแรงและเป็นแผ่นดินไหวขนาดปานกลาง 5-6 ริกเตอร์เท่านั้น เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้ตั้งอยู่บนแนวการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกเหมือนกับประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น จึงไม่สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้ แต่รอยเลื่อนในประเทศไทยเป็นรอยแตกของแผ่นเปลือกโลก จึงสามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กถึงปานกลางเท่านั้น” นายเลิศสิน กล่าว

นายเลิศสิน กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าประเทศไทยเป็นประเทศเสี่ยงแผ่นดินไหว แต่ความเสี่ยงแผ่นดินไหวของประเทศไทยก็ยังปลอดภัยที่สุดกว่าการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศอื่นๆ ที่อยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ดังนั้นประเทศไทยก็คงต้องเฝ้าระวังตามกลุ่มรอยเลื่อนต่างๆ ขณะนี้กรมทรัพยากรธรณีได้รวบรวมข้อมูลกลุ่มรอยเลื่อนล่าสุดเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา โดยขณะนี้รอยเลื่อนทั้งหมดในประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังทั้งหมด 14 รอยเลื่อน จากเดิม 13 รอยเลื่อน กระจายอยู่ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ รอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน รอยเลื่อนเมย รอยเลื่อนแม่ทา รอยเลื่อนเถิน รอยเลื่อนพะเยา รอยเลื่อนปัว รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลื่อนระนอง รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ส่วนรอยเลื่อนเดิมคือรอยเลื่อนท่าแขก จ. หนองคาย นครพนมและต่อเนื่องไปถึงประเทศลาว กรมทรัพยากรธรณีได้ตัดออกจากบัญชีรอยเลื่อนที่มีพลัง เพราะไม่มีการขยับตัวมา 30 ปีแล้ว อีกทั้งไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบในประเทศลาวได้

อย่างไรก็ตามได้เพิ่ม 2 รอยเลื่อนใหม่ที่มีพลังขึ้นมา คือ รอยเลื่อนแม่อิง จ.เชียงราย และ พะเยา และรอยเลื่อนเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ แต่ขณะนี้รอยเลื่อนระนองและคลองมะรุ่ย ถือเป็นรอยเลื่อนมีพลังที่ต้องจับตาและเฝ้าระวังมากที่สุด ทั้งนี้เหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ 2 ครั้งล่าสุดที่ประเทศอินโดนีเซีย จะส่งผลกระทบไปถึงรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์และรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์เท่านั้น โดยอาจจะทำให้เกิดหลุมยุบในบริเวณแนวรอยเลื่อนเหล่านี้มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่มีสภาพเป็นหินปูนและแผ่นดินไหวส่งผลต่อระบบน้ำใต้ดิน แต่ไม่ใช่ตัวเร่งให้เกิดแผ่นดิน ส่วนรอยเลื่อนอื่นที่เหลือไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด.

B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 02:45:56


ความคิดเห็นที่ 5460 (1606839)

ขอขอบคุณ คุณ Falkman ค่ะ  ทีมา http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-เพื่อรองรับสถานการณ์ปี-2012-a-288866-978.html

พายุฤดูร้อนถล่มเทศบาลนครสกลนครป้ายโฆษณาหักโค่น-น้ำท่วมฉับพลัน

วันที่ 17/04/2555 18:53


เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 17 เมษายน ที่อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเขตเทศบาลนครสกลนครนานกว่า 1.30 ชั่วโมง ส่งผลทำให้น้ำท่วมฉับพลันบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำทั่วเขตเทศบาลนครสกลนคร โดยเฉพาะบนถนน ต.พัฒนา ถนนรัฐพัฒนาอุทิศใกล้ห้างแม็คโคร ทำให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาไม่ได้รับความสะดวก

ทางด้านถนนมรรคาลัยหน้าวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ป้ายประชาสัมพันธ์การจัดงานถนนเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ก่อสร้างด้วยเหล็กนั่งร้านล้มลงมาปิดกั้นเส้นทางสัญจร โดยประชาชนในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณป้ายล้มบอกว่าเกิดพายุทั้งลมและฝนพัดกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 02:46:41


ความคิดเห็นที่ 5461 (1606840)

ด่วน! แก๊ส NGV 96 ถัง รั่วบนสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ล่าสุดปิดวาล์วได้แล้ว แนะเลี่ยงเส้นทาง


ช่วงนี้ได้ข่าว ไฟ เเละ เเก็สรั่วเยอะมาก
   วันที่ 17/04/2555 18:00


เมื่อ17.48น. วันนี้ วิทยุจส.100 ได้โพสต์ทวิตเตอร์ @js100radio ว่าได้เกิดอุบัติเหตุรถ 18 ล้อ บรรทุกแก๊ส NGV ของปตท. จำนวน 96 ถัง รั่วบริเวณบนสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ โดยตร.สภ.ปลายบาง ทำการปิดการจราจรช่องทางคู่ขนาน และให้เลี่ยงใช้ทางด่วนหน้าปั๊มปตท.บางใหญ่

ต่อมาเวลา 17.49น. ตร.สภ.ปลายบางแจ้งว่า สามารถปิดวาล์วแก๊ส NGV ได้แล้ว เหลือรั่วที่ข้อต่อเล็กน้อย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 02:48:25


ความคิดเห็นที่ 5462 (1606841)

 

แนะเสริมกำลังรวมให้อาคารป้องกันตึกกรุงถล่มจากแผ่นดินไหว

มจธ.- มจธ. เผยนวัตกรรมการเสริมกำลังรวมให้อาคาร แข็งแกร่ง สลายกำลังแรงสะเทือนใต้พื้นด้วยคํ้ายันเหล็กต้านแผ่นดินไหว เตือนเตรียมพร้อมอย่างมีสติ หากอาคารสูงไม่มีลักษณะบกพร่องในตัวจริง กทม.ไม่ราบเป็นหน้ากองแน่นอน


แม้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เมื่อวันที่ 11 เม.ย.55 อยู่ที่ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งห่างจากชายฝั่งอันดามันของไทยราว 860 กิโลเมตร แต่ผู้อยู่อาศัยในอาคารสูงของกรุงเทพฯ กลับรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น หลายคนเริ่มตั้งคำถามจากกระแสข่าวต่างๆ ที่ออกมาเตือนให้ระวังอาคารสูงในพื้นที่เสี่ยงภัย หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า

ผศ.ดร.สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ ผู้อำนวยการ โครงการเทคโนโลยีวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เผยว่า พื้นที่กรุงเทพฯ พื้นที่เสี่ยงต่อผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว โดยเฉพาะแผ่นดินไหวบริเวณรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ซึ่งวางตัวตามแนวตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจุดที่ใกล้กรุงเทพมหานครมากที่สุดห่างจาก กทม. ประมาณ 150 ถึง 200 กิโลเมตร แต่พื้นที่กรุงเทพฯ มีลักษณะเป็นแอ่ง มีพื้นดินอ่อนด้านล่างเป็นเลนลักษณะทางภูมิศาสตร์เช่นนี้สามารถขยายความรุนแรงของการสั่นสะเทือนได้คล้ายกับกรุงเม็กซิโกซิตี้ ซึ่งเคยเกิดความเสียหายรุนแรงจากแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางห่างออกไปมากกว่า 300 กิโลเมตรเมื่อปี 2528

ทั้งนี้ ผศ.ดร.สุทัศน์เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการด้านผลกระทบจากแรงลมและแผ่นดินไหว ของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) หนึ่งในคณะทำงานโครงการพัฒนาและปรับปรุงจัดทำประมวลข้อบังคับอาคาร สำหรับประเทศไทย ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทยจัดทำขึ้น เพื่อจัดทำมาตรฐานการออกแบบอาคารต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2552 เพื่อให้สิ่งปลูกสร้างในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวมีความปลอดภัย

“หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น จนเป็นเหตุให้เกิดสึนามิ ใกล้ประเทศไทยเองก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นบริเวณชายแดนไทยกับพม่าประมาณ 7 ริกเตอร์ ซึ่งครั้งนั้นห่างจากกรุงเทพฯ ราว 780 กิโลเมตร แต่อาคารบริเวณสีลมและหลายแห่งในกรุงเทพฯ กลับสั่นจนหลายคนตกใจ สิ่งที่น่าสนใจคือในครั้งนั้นคือ ในจังหวัดต่างๆ ที่มีระยะห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวพอๆ กับกรุงเทพฯ ค่าความเร่งที่ตรวจวัดได้ในกรุงเทพฯกลับมีมากกว่าที่อื่นหลายเท่าตัว ที่มีสาเหตุเช่นนี้เพราะพื้นที่กรุงเทพฯมีพื้นดินที่อ่อนสามารถขยายแรงสั่นสะเทือนให้มากขึ้นได้ลักษณะเช่นนี้จะมีอาคารบางกลุ่มได้รับผลกระทบมาก” ผศ.ดร.สุทัศน์กล่าว

ผศ.ดร.สุทัศน์ ขยายความว่า โดยปกติแล้วทุกๆ โครงสร้างจะมีการสั่นที่ความถี่ค่าๆ หนึ่งตามธรรมชาติ หรือในทางวิศวกรรมเรียกว่า “คาบการสั่นพื้นฐาน” เช่นเดียวกับอาคารแต่ละหลังจะมีค่าคาบเวลาการสั่นที่ไม่เท่ากัน ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว เมื่อแรงสั่นสะเทือนเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ และถูกขยายแรงขึ้นจากดินที่ค่อนข้างอ่อนตัวมากใต้พื้น ซึ่งหากแรงสะเทือนนั้นกระเพื่อมไป โดยมีความถี่ในการสั่นพ้องเข้ากับค่าการสั่นของอาคารใดอาคารนั้นก็จะได้รับผลกระทบรุนแรง

จากข้อมูลพื้นดินของกรุงเทพพบว่าอาคารที่สูงขนาด 8-16 ชั้นน่าจะได้รับผลกระทบรุนแรง ในขณะที่อาคารที่สูงกว่านี้ขึ้นไปจะได้รับผลกระทบเบาลง และจะไปเกิดการสั่นพ้องอีกครั้งในอาคารที่มีความสูง 30-40 ชั้น ซึ่งก็จะได้รับผลกระทบมากเช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้ผศ.ดร.สุทัศน์ อธิบายว่า ค่าความถี่ในการสั่นหรือคาบการสั่นของตึกจะขึ้นกับความสูงและขนาดของอาคาร ซึ่งในทางวิศวกรรมสามารถคำนวณหาค่าเวลาการสั่นของอาคารได้ จากการศึกษาอาคารรูปแบบต่างๆ ในทางสถิติพบว่าอาคารที่สูงอยู่ในช่วงดังกล่าวทั้งสองช่วง มักจะมีการความถี่ในการสั่นที่จะตรงกับการสั่นสะเทือนที่จะเกิดในกรุงเทพฯ

ทั้งนี้จากข้อวิตกกังวลดังกล่าวทางด้าน วสท. รวมถึง มจธ. จึงศึกษาค้นคว้าและมีทีมวิจัยที่ร่วมมือกันหลายองค์กรเพื่อศึกษาความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมจากหลายประเทศทั่วโลก นำมาต่อยอดปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาของประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในงานวิจัยพบว่ามีแนวทางในการลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับอาคารสูงเมื่อเกิดแผ่นดินไหว นั่นคือ “การเสริมกำลังโดยรวมให้กับอาคาร”

เนื่องจากแผ่นดินไหวมีความเสี่ยงในระดับที่ไม่อาจมองข้ามได้ ดังนั้นอาคารต่างๆ ควรที่จะต้องมีการออกแบบรับแผ่นดินไหว ไม่ว่าจะชั้นเดียวหรือหลายชั้นก็ตาม ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของพื้นที่ ซึ่งกฎหมายบอกว่าวิศวกรต้องออกแบบอาคารรับแผ่นดินไหวตามมาตรฐานที่รับรองโดยหน่วยงานรัฐ หลังจากปี 2552 ที่มีมาตรฐานกรมโยธาธิการและผังเมืองว่าด้วยเรื่องการออกแบบอาคารให้สามารถรับแผ่นดินไหว อาคารต่างๆ มีการสร้างโดยคำนึงถึงข้อนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่อาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งการออกแบบและการก่อสร้างที่ถูกต้อง การคุมงานและวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีอาคารจำนวนมากที่สร้างก่อนหน้านี้โดยไม่ได้ออกแบบให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว มจธ.จึงคิดศึกษาวิจัยเรื่องการเสริมกำลังของอาคารให้ สามารถสลายแรงสั่นสะเทือนได้” ผศ.ดร.สุทัศน์ กล่าว

สำหรับงานวิจัยเสริมกำลังให้กับอาคารนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว) ในชื่องานวิจัยว่า “การประเมินระดับความต้านทานแผ่นดินไหวของอาคารในประเทศไทยและการปรับปรุงอาคารให้สามารถต้านทานแผ่นดินไหวในระดับที่เหมาะสม”ซึ่งจากงานวิจัยดังกล่าวพบว่าการเสริมกำลังให้อาคารมี 2 ประเภทคือ 1.เสริมกำลังเฉพาะที่ และ 2.เสริมกำลังโดยรวม

ในส่วนที่ มจธ.รับผิดชอบในการศึกษาคือการเสริมกำลังโดยรวมนั้น หลักๆ จะต้องเพิ่มความแข็งแรงให้กับอาคารทั้งหมด โดยวิธีที่ มจธ.คิดค้นคือการค้ำยันด้วยเหล็กที่เรียกว่า Buckling-Restrained Brace: BRB เป็นการค้ำยันด้วยเหล็กที่มี 2 ชั้น ชั้นในเป็นแกนเหล็กที่ออกแบบไว้สลายพลังงานจากการสั่นสะเทือน ส่วนด้านนอกเป็นปลอกเหล็กทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้แกนเหล็กด้านในโก่งตัวและเสียรูปไปจากการโยกตัว

การทดสอบพบว่า BRB มีความสามารถสลายพลังงานที่ดี สามารถรองรับการเสียรูปได้สูง ผลการทดสอบการเสริมกำลังโครงอาคารคอนกรีตด้วย BRB ที่พัฒนาขึ้นพบว่าสามารถเพิ่มความสามารถในการสลายพลังงานได้มากกว่า 10 เท่า การเสริมกำลังรูปแบบนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการออกแบบและปรับปรุงโครงสร้างคอนกรีตเพื่อต้านทานแรงแผ่นดินไหว


ผศ.ดร.สุทัศน์ กล่าวด้วยว่า รูปร่างรูปทรงของอาคารที่ไม่ค่อยเหมาะกับการต้านทานแผ่นดินไหว มักเป็นอาคารที่มีชั้นล่างเปิดโล่งเอาไว้จอดรถ หรือกิจกรรมต่างๆ จะมีความอ่อนไหวกว่าอาคารแบบอื่น หรืออาคารที่มีลักษณะตอม่อสั้น และอาคารที่มีรูปร่างประหลาดๆ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวอาจเกิดการบิดตัว ซึ่งปัจจุบันวิศวกรสามารถวิเคราะห์โครงสร้างเพื่อเสริมกำลังอาคารได้

ขั้นตอนในการเสริมกำลังจะเริ่มจากการนำแบบอาคารมาประเมินหาจุดอ่อน จากนั้นก็ทำการวิเคราะห์ว่าจุดอ่อนนั้นๆ จะสามารถทำการเสริมกำลังด้วยวิธีการใด อาจจะเสริมเฉพาะที่หรือเสริมทั้งหมด และเมื่อเลือกวิธีแล้วก็จะนำไปทำในแบบจำลองก่อนเพื่อวิเคราะห์ก่อนจะไปถึงขั้นตอนในการทำการเสริมกำลังจริงที่หน้างาน ซึ่งคาดว่าต้นทุนในการเสริมกำลังนั้นอยู่ระหว่าง 5-10 เปอร์เซ็นต์ของค่าก่อสร้างอาคารทั้งหมด

“ไม่ใช่ว่าทุกอาคารจะเสริมได้ทันที ในการเสริมกำลังจะต้องได้รับการคำนวณที่ถูกต้องจากวิศวกรก่อน” ผศ.ดร.สุทัศน์กล่าว

นอกจากนั้นอาคารแต่ละอาคารมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน และ บางอาคารอาจมีความสำคัญมากสำหรับภารกิจกู้ภัยหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว เช่น อาคารโรงพยาบาล สถานีดับเพลิง อาคารศูนย์สื่อสาร ฯลฯ หรือธุรกิจบางประเภทอาจไม่สามารถหยุดการผลิตเพื่อซ่อมแซมอาคารได้หลังจากเกิดแผ่นดินไหว เมื่อหยุดการผลิตจะทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมากดังตัวอย่างที่เห็นได้จากผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ดังนั้นอาคารทุกอาคารจะต้องมีเป้าหมาย วิธีการ และระดับในการเสริมกำลังรองรับแผ่นดินไหวที่แตกต่างกัน

ผศ.ดร.สุทัศน์ ทิ้งท้ายว่า อาคารสูงในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอาคารที่สร้างใหม่ ไม่น่าจะพังทลายแบบราบเป็นหน้ากองหากเกิดแผ่นดินไหวขนาดแรงที่คาดการไว้ ยกเว้นอาคารที่มีข้อบกพร่องจริงๆ เท่านั้น แต่อาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้น อาคารสูงในกรุงเทพฯนั้นถูกออกแบบให้ต้องต้านทานแรงลมและรับน้ำหนักบรรทุกต่างๆ ตัวอาคารจึงถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงระดับหนึ่ง และอาคารสูงมักมีการก่อสร้างที่มีการคุมงานที่ระมัดระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ห่วงอาคารสูงปานกลาง และอาคารอย่างอาคารเรียน และโรงพยาบาล ที่มีความเก่าด้วยตัวของอาคารเอง หรือหอพักที่สร้างโดยไม่ได้มาตรฐาน เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 02:49:00


ความคิดเห็นที่ 5463 (1606842)

ดินสไลด์-ถนนอ่างทองทรุดราบ

วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 17:32 น



เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่า ถนนเลียบคลองสาหร่ายไปริมแม่น้ำน้อย บริเวณหน้าบ้านพ.ท.ทรัพย์ มีวัฒนา อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.4 ต.อ่างแก้ว อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตเกิดพังทลายลง ทำให้สัญจรผ่านไปมาไม่ได้และชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว

ที่เกิดเหตุเป็นสามแยกจากถนนเลียบคลองสาหร่ายมาจนถึงสามแยกไปตลาดโพธิ์ทอง พบถนนพังทลายลงเป็นระยะทางยาว 30 เมตร ซึ่งเกิดจากเขื่อนคอนกรีตกั้นได้พังเอนลง ทำให้ดินยุบตัวลงไป ทำให้ถนนคอนกรีตพังเป็นทางยาวและรถสัญจรผ่านไปมาไม่ได้ โดยเทศบาลโพธิ์ทองต้องนำแผงกั้นห้ามผ่านไปกั้นไว้ เพื่อไม่ให้รถตกลงไปจะเสียหาย

พ.ท.ทรัพย์กล่าวว่า ถนนเลียบคลองสาหร่ายผ่านหน้าบ้านของตนได้ทรุดตัวมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มาก โดยเทศบาลโพธิ์ทองได้ของบประมาณจากจังหวัด แต่ยังไม่ได้ และเมื่อช่วงเช้าขณะนอนหลับอยู่ได้ยินเสียงดังสนั่น จึงตกใจแล้ววิ่งออกมาดูปรากฏว่าดินเกิดยุบตัวมากจนท่อประปาส่วนภูมิภาคแตกน้ำไหลเสียงดัง ทำให้ดินถล่มอย่างรวดเร็วและถนนหน้าบ้านพังลงจนเห็นเสารั้วบ้านลอย จึงแจ้งประปามาซ่อมแซมแล้ว แต่ถนนคอนกรีตพังจนสัญจรผ่านไปมาไม่ได้ ซึ่งคงต้องรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแก้ไขต่อไป

B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 02:52:07


ความคิดเห็นที่ 5464 (1606844)

ภูเขาไฟ Shiveluch ที่รัสเซียเกิดปะทุขึ้น พุ่งควันเถ้าถ่านสูงถึง 9,500 เมตร(สูงประมาณ 31,000 ฟุต) หวั่นกระทบการบิน

Posted on April 17, 2012



April 17, 2012RUSSIARussia’s northernmost active volcano is churning out ash to a height of 9,500 meters (over 31,000 feet) in the country’s Far East, local scientists reported on Tuesday.

The 3,283-meter (10,771-foot) Shiveluch volcano increased activity in May 2009 and has been periodically spewing ash from three to ten kilometers. “A powerful eruption of ashes took place 05.59 a.m. local time [17:59 GMT on Monday], a source at the Far Eastern Institute of Volcanology and Seismology said. The official said the column of ashes could be clearly seen from a distance of 40 kilometers spreading to the east. “It is the most powerful eruption this year,” the expert said.

According to scientists, the volcanic activity over the past two-three years has significantly altered the contour of the volcano with the crater increasing in size by 50% and the slopes becoming far steeper than before. Although the current eruption poses no immediate threat to nearby settlements, the ensuing ash fallouts could be hazardous to health and the environment. The clouds of volcanic ash could also pose threat to air traffic because the tiny particles cause problems with aircraft engine t

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 03:16:53


ความคิดเห็นที่ 5465 (1606845)

ตะลึง ! พญานาคโผล่ "หนองหาร" แสงระยิบระยับนาน 5 นาที

วันที่ 17/04/2555 09:00





นักท่องเท่ียวกว่า 30 ชีวิต ล่องเรือทำบุญหนองหาร ตกตะลึงเมื่อเห็นคลื่นน้ำเป็นเกลียวโผล่ขึ้นเหนือน้ำ ยาว 100 เมตร นานกว่า 5 นาที มีสีเงินสีทองระยิบระยับลักษณะคล้ายครีบ เชื่อปู่พญานาคแสดงอภินิหาร ต่างพนมมือไหว้ท่วมหัว ขณะที่รอง ผวจ.สกลนคร นำคลิปเหตุการณ์มาดูด้วยความสนใจ...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 16 เม.ย.2555 ขณะที่นายทวีพงษ์ นวานุช อดีตข้าราชการครู และประธานชมรมคนรักหนองหาร จ.สกลนคร ได้พานักท่องเที่ยวกว่า 30 ชีวิต ลงท่องบึงหนองหาร อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อไปทำบุญที่เกาะดอนสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่กลางบึงหนองหาร ขณะที่เรือแล่นไปใกล้เกาะดอนสวรรค์อีก 1 กม. ปรากฏมีคลื่นน้ำเป็นเกลียวโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำสูงประมาณ 40 ซม. ยาวประมาณ 100 เมตร ลักษณะเป็นสีเงินสีทองระยิบระยับ ดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำนานกว่า 5 นาที ระหว่างนั้น นายวิศักดิ์ แก้วศิริ พนักงานบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัด หนึ่งในนักท่องเที่ยวได้หยิบกล้องวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ระยะห่างประมาณ 200 เมตร รวมถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ในเรือได้หยิบกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือเก็บภาพ พร้อมพนมมือไหว้



ด้านนายวิศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนจะล่องเรือออกไป ตนได้จุดธูป 9 ดอก เพื่อบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ปกป้องบึงหนองหาร ซึ่งหมายถึงพญานาคให้ปกป้องคุ้มครองตลอดการเดินทาง ทั้งขาไปและกลับ เพราะต้องการไปทำบุญ อีกทั้งยังได้ถวายดอกบัวเพื่อบูชาพญานาค และอธิษฐานว่าหากมีบุญก็ขอให้ปู่พญานาคได้แสดงอภินิหารปรากฏตัวให้เห็นด้วย และมาทราบภายหลังว่า คนอื่นๆ ก็อธิษฐานเช่นกัน เมื่อแล่นเรือไปใกล้ดอนสวรรค์ บริเวณเดียวกับที่นายคำรณ หว่างหวังศรี พิธีกรช่อง 3 เคยมาบันทึกรายการ และพญานาคได้ปรากฏให้เห็น จู่ๆ เครื่องยนต์เรือก็เบาลง และดูเหมือนติดขัด จังหวะนั้นหลายคนที่อยู่บนดาดฟ้าได้กรูกันไปที่ท้ายเรือเพื่อมองดูเกลียวคลื่นซึ่งทำให้ทุกคนตะลึง

สำหรับเกลียวคลื่นดังกล่าวยาวประมาณ 100 เมตร และยกตัวขึ้นมาเหนือน้ำประมาณครึ่งเมตร มีลักษณะผลุบขึ้นผลุบลง ไม่ใช่เลื้อยส่ายไปส่ายมา และยังมีสีคล้ายสีทองส่องแสงระยิบระยับ มีลักษณะคล้ายครีบ ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นนานกว่า 5 นาที ก่อนที่จะค่อยๆ จมหายไป ทำให้ทุกคนต่างยกมือขึ้นเหนือศีรษะ รู้สึกเป็นบุญตาที่ได้เห็น

ขณะที่ น.ส.ปลงใจ สมศรี อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 71 หมู่ 1 บ.กุงศรี ต.นาเพียง อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร กล่าวว่า ตนเองทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และกลับมาเยี่ยมบ้าน ได้ยินข่าวว่ามีการพบพญานาคที่บึงหนองหาร จึงเดินทางมาพร้อมกับครอบครัวและญาติพี่น้องประมาณ 10 คน กระทั่งได้เห็นในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะพบพญานาคจริงๆ และสิ่งที่เห็นมั่นใจว่าไม่ใช่คลื่นของเรือแต่อย่างใด เนื่องจากเกิดขึ้นในแนวขวางตัดกับเส้นทางการวิ่งของเรือ และอยู่ห่างจากท้ายเรือมากนับร้อยเมตร

นายทวีพงษ์ นวานุช ประธานชมรมคนรักหนองหาร จ.สกลนคร เล่าว่า ขณะที่เห็นในครั้งแรกนั้นไม่ชัดเจนเท่าใดนัก แต่ในครั้งนี้ได้ปรากฏนานมากประมาณ 5 นาที และมีประกายระยิบระยับ ทั้งๆ ที่ไม่มีแสงแดด และพื้นน้ำไม่มีคลื่นลมแต่อย่างใด และที่สำคัญคลื่นของเรือไม่มีในขณะเกิดปรากฏการณ์ ทั้งนี้ ในพิธีบวงสรวงเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2555 ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมพิธีกว่า 2 หมื่นคน เพื่อรอชมพญานาค แต่ต้องผิดหวัง ปรากฏเป็นเพียงก้อนเมฆคล้ายพญานาคขี่ครุฑ ซึ่งแม่ชีนิรนามบอกว่า ในวันนั้น คนที่มาชมส่วนหนึ่งได้พูดจาลบหลู่พญานาค ว่าถ้าแน่จริงทำไมไม่โผล่ขึ้นมาให้ดู และคนที่มาชมส่วนใหญ่ต้องการมาเห็น ไม่ได้มาด้วยความเชื่อความศรัทธา
ประกอบกับการบวงสรวงทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากการบวงสรวงพญานาค ห้ามมีของคาว เพราะพญานาคไม่ใช่สัมภเวสี แต่ท่านจำศีลอยู่ การใช้หัวหมูเป็นเครื่องสังเวย การนำปลาปิ้งมาบวงสรวง และการนำไข่ไก่มาบวงสรวงนั้นไม่ถูกต้อง ในวันทำพิธีบวงสรวง ท่านก็ขึ้นมาเช่นกัน แต่อยู่ไกลมาก คนที่มารอชมอาจจะมองไม่เห็น แต่ก็มีพญานาคบริวารขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึก แต่หลายคนไม่รู้สึก

ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นางวิตยา ประสงค์วัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ซึ่งกลับจากตรวจเยี่ยม บขส.ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ติดตามถามหานำคลิปบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวมาดูด้วยความสนใจ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 03:17:48


ความคิดเห็นที่ 5466 (1606846)

อาฟเตอร์ช๊อกเขย่าภูเก็ต บ้านร้าว 11 หลัง เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบอ่างเก็บน้ำหวั่นพัง



เหตุแผ่นดินไหว4.3R.จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณเขาพระแทว น้ำตกโตนไทร ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เบื้องต้นพบบ้านร้าว11หลัง-จนท.เร่งตรวจสอบอ่างเก็บน้ำเพิ่ม

นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อม นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย จากเหตุแผ่นดินไหว 4.3 ริกเตอร์ ลึกลงไปในพื้นที่ดิน 10 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณเขาพระแทว น้ำตกโตนไทร ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง เมื่อเวลา 16.44 น. ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และรุนแรงที่สุดในจังหวัดภูเก็ต พบว่าบ้านเรือนประชาชน ที่บ้านลิพอนบางขาม ตำบลศรีสุนทร ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลาง ประมาณ 3-4 กิโลเมตร พบรอยแตกร้าวตามผนัง เสา ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน เป็นรอยยาวจากหลังคาบ้าน ถึงพื้นที่บ้าน จำนวน 11 หลัง

ทั้งนี้ได้สั่งให้นายอำเภอถลาง และนายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร นำช่างเข้าตรวจสอบบ้านเรือนที่เสียหายอย่างละเอียด และประกาศพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลศรีสุนทร เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เนื่องจากยังมีอาฟเตอร์ช็อกอยู่ตลอดเวลา และให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง รวมทั้งให้เทศบาลนำงบประมาณซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย หากไม่พอให้ขอมายังจังหวัดภูเก็ต

ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าตรวจสอบอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ตำบลศรีสุนทร ว่ามีรอยร้าวจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้หรือไม่ เพื่อจะได้ซ่อมแซมได้ทันทีท่วงที เพราะหากเกิดรอยร้าวอาจทำให้สันเขื่อนพังลงมา และอาจทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในอำเภอถลางได้ เนื่องจากน้ำในเขื่อนมีมากถึง 7 ล้านลูกบาศก์เมตร



ส่วนชาวบ้านที่บ้านลิพอนบางขาม ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด บ้านทั้งหลังสั่นสะเทือน จึงตกใจวิ่งหนีออกจากตัวบ้านทันที พบว่าเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ก็หนีออกมาอยู่กลางถนนกันหมดแล้ว จึงรู้สึกกลัวมาก เพราะไม่เคยพบมาก่อน

สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระบุว่า ร้ายแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา คาดว่าจะเป็นแผ่นดินไหวตามรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง โดยเชื่อมต่อมายังใต้ของจังหวัดภูเก็ต ที่อยู่ห่างจากสนามบินภูเก็ตไปประมาณ 10 กิโลเมตร

ทั้งนี้ข้อมูลจากสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อก ที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต หลายครั้ง ซึ่งประชาชนสามารถรู้สึกถึงความสั่นไหวได้ ดังนี้
เวลา 20.30 น. ขนาด 2.7 ริกเตอร์
เวลา 21.17 น. ขนาด 2.6 ริกเตอร์
เวลา 23.03 น. ขนาด 2.7 ริกเตอร์
เวลา 23.47 น. ขนาด 2.1 ริกเตอร์
เวลา 01.00 น. ขนาด 2.2 ริกเตอร์
เวลา 02.02 น. ขนาด 2.5 ริกเตอร์
เวลา 08.31 น. ขนาด 2.3 ริกเตอร์

นอกจากนี้ยังมีอาฟเตอร์ช็อกที่ขนาดต่ำกว่า 2 ริกเตอร์ อีกกว่า 40 ครั้ง ซึ่งไม่สามารถตรวจวัดได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 03:18:30


ความคิดเห็นที่ 5467 (1606847)

พายุลูกเห็บซัดบ้านใน อ.วังสะพุงพังกว่าร้อยหลัง-รง.ประกอบรถบรรทุกเสียหายกว่า 50 ล้าน

เลย- พายุฤดูร้อน-ลูกเห็บถล่มในพื้นที่ อ.วังสะพุง-เมืองเลย บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ขณะที่โรงงานประกอบรถบรรทุกใน ต.นาโป่งพังยุบลงมากองกับพื้น มูลค่าความเสียหายร่วม 50 ล้าน แต่ไม่มีคนงานได้รับบาดเจ็บเพราะหยุดสงกรานต์พอดี

เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วานนี้ (16 เม.ย.) เกิดเหตุพายุลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่อำเภอวังสะพุง และอำเภอเมืองเลย แรงลมได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนในตำบลศรีสงครามกว่า 70 หลังคาเรือน และในเขตอำเภอเมืองเลย 30 หลังคาเรือน โรงงานประกอบรถบรรทุกในพื้นที่ตำบลนาโป่ง อำเภอเมืองเลยพังยุบลงมาทั้ง 2 หลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

นายโฉม บุญเรือง อายุ 65 ปี ผู้ดูแลโรงงาน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลมพายุได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก พร้อมกับลูกเห็บ หลังจากนั้นก็มีลมพายุหมุนพัดโรงงานพังถล่มเสียงดังสนั่น ตนจึงรีบตะโกนบอกคนงานที่อยู่ในอาคารที่เหลือรีบวิ่งออกมา และได้รีบไปตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เพราะอยู่ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ มีคนงานมาทำงานเพียงไม่กี่คน

นอกจากนี้ ความแรงของพายุยังได้พัดบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองวังสะพุง และบริเวณบ้านน้อยนา หมู่ที่ 1 ตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย หลังคาสังกะสีเปิดและถูกลมพัดปลิวไปอีกรวมกว่า 70 หลังคาเรือน

ขณะเดียวกัน ลูกเห็บที่ตกลงมาทำความเสียหายให้แก่ฟาร์มไก่ บ้านเรือนอีกหลายจุด และต้นไม้ริมถนนนับ100 ต้นหักโค่น เสาไฟฟ้าแรงสูง เสาไฟฟ้าแนวบ้านเรือน โค่นล้มกว่า 10 ต้น ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในหลายหมู่บ้านของอำเภอวังสะพุง

 

โรงงานประกอบรถบรรทุกในพื้นที่อ.เมืองถล่มยุบพังลงกองกับพื้น

 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 03:19:16


ความคิดเห็นที่ 5468 (1606848)

เบตงฝนตกตลอดคืนดินถล่มทับบ้านพัง 2 หลัง

ยะลา - อ.เบตง ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้ดินบนภูเขาไหลทับบ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง และพื้นที่การเกษตรเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

วันนี้ (17 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรยะรม ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า มีดินบนเขาไหลลงมาทับบ้านเรือนในพื้นที่ ม.7 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา อย่างรวดเร็ว จึงวิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่ ร้อย ตชด.445 เบตง และหน่วยกู้ภัยอำเภอเบตง เข้าตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือ

เบื้องต้นพบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวไม่มีเลขที่ จำนวน 2 หลัง ตั้งอยู่ภายในซอยร่วมใจ ห่างจากถนนสายบ้านจันทรัตน์-เบตง ประมาณ 200 เมตร โดยชาวบ้านใกล้เคียงช่วยกันเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของบ้านหลังดังกล่าวออกมาอยู่ในจุดปลอดภัยแล้ว ส่วนความเสียหายของตัวบ้านพบว่า ผนังปูนด้านหลังบ้านแตกเป็นวงกว้าง ดินทะลักเข้าในบ้าน ทำให้ข้าวของเครื่องใช้เสียหายหลายรายการ นอกจากนี้ พื้นที่การเกษตรซึ่งปลูกกล้วยน้ำหว้า และผลไม้อีกหลายชนิดก็เสียหายเช่นเดียวกัน

นายสุวิทย์ วงศ์เ***ย อายุ 36 ปี และ น.ส.จำปา อาสาราช อายุ 33 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุดินถล่มซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน เปิดเผยว่า สาเหตุที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย คาดว่า สาเหตุมาจากดินบนเนินเขาไหลลงมาตั้งแต่เมื่อคืนที่มีฝนตกหนัก ซึ่งขณะฝนตกอยู่นั้น ได้นั่งดูทีวีอยู่กับครอบครัว และได้ยินเสียงไม้ดังลั่น และตัวบ้านเริ่มเอียงจึงได้รีบนำลูกออกจากตัวบ้าน จากนั้นเพียง 20 นาทีบ้านก็พังลงมา ทำให้บ้านเสียหายจำนวน 2 หลังดังกล่าว

 
ยะลา - อ.เบตง ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้ดินบนภูเขาไหลทับบ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง และพื้นที่การเกษตรเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

วันนี้ (17 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรยะรม ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า มีดินบนเขาไหลลงมาทับบ้านเรือนในพื้นที่ ม.7 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา อย่างรวดเร็ว จึงวิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่ ร้อย ตชด.445 เบตง และหน่วยกู้ภัยอำเภอเบตง เข้าตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือ

เบื้องต้นพบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวไม่มีเลขที่ จำนวน 2 หลัง ตั้งอยู่ภายในซอยร่วมใจ ห่างจากถนนสายบ้านจันทรัตน์-เบตง ประมาณ 200 เมตร โดยชาวบ้านใกล้เคียงช่วยกันเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของบ้านหลังดังกล่าวออกมาอยู่ในจุดปลอดภัยแล้ว ส่วนความเสียหายของตัวบ้านพบว่า ผนังปูนด้านหลังบ้านแตกเป็นวงกว้าง ดินทะลักเข้าในบ้าน ทำให้ข้าวของเครื่องใช้เสียหายหลายรายการ นอกจากนี้ พื้นที่การเกษตรซึ่งปลูกกล้วยน้ำหว้า และผลไม้อีกหลายชนิดก็เสียหายเช่นเดียวกัน

นายสุวิทย์ วงศ์เ***ย อายุ 36 ปี และ น.ส.จำปา อาสาราช อายุ 33 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุดินถล่มซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน เปิดเผยว่า สาเหตุที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย คาดว่า สาเหตุมาจากดินบนเนินเขาไหลลงมาตั้งแต่เมื่อคืนที่มีฝนตกหนัก ซึ่งขณะฝนตกอยู่นั้น ได้นั่งดูทีวีอยู่กับครอบครัว และได้ยินเสียงไม้ดังลั่น และตัวบ้านเริ่มเอียงจึงได้รีบนำลูกออกจากตัวบ้าน จากนั้นเพียง 20 นาทีบ้านก็พังลงมา ทำให้บ้านเสียหายจำนวน 2 หลังดังกล่าว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 03:22:23


ความคิดเห็นที่ 5469 (1606849)
เกิดหลุมยุบขนาดยักษ์กว้างกว่า 200 ฟุต ที่สวีเดน



April 16, 2012  SWEDEN  It looks like something taken straight from a horror movie. An enormous hole leading to hell, some would say. But this is not a movie. This is a real and dangerous phenomenon. New shocking images clearly show the enormous pit in Sweden is expanding. 

The 200 foot wide open pit is called the “Fabiangropen’ (Fabian pit) and is in the Malmberget area is located at Gällivare, 75km from Kiruna, Sweden. As you can see on the map, it is in the northern regions of Sweden. Due to presence of many orebodies, mining at Malmberget is conducted at different levels at 600m, 815m and 1,000m. The mining company LKAB has now taken new pictures of the pit. In the pictures you see the new Fabian pit which has expanded during the night between Tuesday and Wednesday in the former cavity full width. The pit is square and 150×150 meters high. This is naturally very bad news for people who live close to this giant sinkhole and many are afraid and also annoyed because of the loud noises. According to the locals sometimes the tremor around here can last up to 45 minutes! Message to Eagle
 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 03:24:31


ความคิดเห็นที่ 5470 (1606864)


 
2012-04-18 04:38:10 : เกิด After shock ของแผ่นดินไหวที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เวลา 04.15น. ขนาด 3.2 รู้สึกสั่นไหวในหลายพื้นของ จ.ภูเก็ต
 

 

ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มาค่ะ

http://board.palungjit.com/f178/เขย่าโลกรอบสอง-29-มีนา-22-เมษา-2555-จองที่นั่งเฝ้าระวังได้แล้ว-ณ-บัดนี้-332300-39.html

http://board.palungjit.com/f178/ตื่น-อุกาฟ้าเหลืองหวั่นลางร้ายพิบัติภัย-334254-3.html

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 06:24:19


ความคิดเห็นที่ 5471 (1606958)

อนุโมทนาทุกธรรมทานของคุณอาริยา  รัตนพรศิริ ค่ะ  ทำให้ทุกคนเตรียมพร้อมตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งพร้อมในการเร่งสร้างบุญใหญ่ที่บ้านสวนพีระมิดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิริกัญญกรณ์ ธนิศรา (sreesompawn-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-18 16:23:34


ความคิดเห็นที่ 5472 (1607053)

 ข้อปฏิบัติในการป้องกันและบรรเทาภัยจากแผ่นดินไหว 


ก่อนเกิดแผ่นดินไหว 

  • เตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ถ่านไฟฉาย ไฟฉาย อุปกรณ์ดับเพลิง น้ำดื่ม น้ำใช้ อาหารแห้ง ไว้ใช้ในกรณีไฟฟ้าดับหรือกรณีฉุกเฉินอื่น ๆ 
  • จัดหาเครื่องรับวิทยุ ที่ใช้ถ่านไฟฉายหรือแบตเตอรี่ สำหรับเปิดฟังข่าวสารคำเตือน คำแนะนำและสถานการณ์ต่าง ๆ 
  • เตรียมอุปกรณ์นิรภัย สำหรับการช่วยชีวิต 
  • เตรียมยารักษาโรค และเวชภัณฑ์ให้พร้อมที่จะใช้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 
  • จัดให้มีการศึกษาถึงการปฐมพยาบาล เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรืออันตรายให้พ้นขีดอันตรายก่อนที่จะถึงมือแพทย์ 
  • จำตำแหน่งของวาล์ว เปิด-ปิดน้ำ ตำแหน่งของสะพานไฟฟ้า เพื่อตัดตอนการส่งน้ำ และไฟฟ้า 
  • ยึดเครื่องเรือน เครื่องใช้ไม้สอย ภายในบ้าน ที่ทำงาน และในสถานศึกษาให้ความมั่นคงแน่นหนา ไม่โยกแยกโคลงแคลงไปทำความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน 
  • ไม่ควรวางสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๆ ไว้ในที่สูง เพราะอาจร่วงหล่นมาทำความเสียหายหรือเป็นอันตรายได้ 
  • เตรียมการอพยพเคลื่อนย้าย หากถึงเวลาที่จะต้องอพยพ และวางแผนป้องกันภัยสำหรับครอบครัว ที่ทำงาน และสถานที่ศึกษา มีการชี้แจงบทบาทที่สมาชิกแต่ละบุคคลจะต้องปฏิบัติ มีการฝึกซ้อมแผนที่จัดทำไว้ เพื่อเพิ่มลักษณะและความคล่องตัวในการปฏิบัติเมื่อ เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน 


ขณะเกิดแผ่นดินไหว 
  • ตั้งสติ อยู่ในที่ที่แข็งแรงปลอดภัย ห่างจากประตู หน้าต่าง สายไฟฟ้า เป็นต้น 
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำ ข้อควรปฏิบัติของทางราชการอย่างเคร่งครัด ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป 
  • ไม่ควรทำให้เกิดประกายไฟ เพราะหากมีการรั่วซึมของแก๊สหรือวัตถุไวไฟ อาจเกิดภัยพิบัติจากไฟไหม้ ไฟลวก ซ้ำซ้อนกับแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นอีก 
  • เปิดวิทยุรับฟังสถานการณ์ คำแนะนำคำเตือนต่าง ๆ จากทางราชการอย่างต่อเนื่อง 
  • ไม่ควรใช้ลิฟต์ เพราะหากไฟฟ้าดังอาจมีอันตรายจากการติดอยู่ภายใต้ลิฟต์ 
  • มุดเข้าไปนอนใต้เตียงหรือตั่ง อย่าอยู่ใต้คานหรือที่ที่มีน้ำหนักมาก 
  • อยู่ใต้โต๊ะที่แข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งปรักหักพังร่วงหล่นลงมา 
  • อยู่ห่างจากสิ่งที่ไม่มั่นคงแข็งแรง 
  • ให้รีบออกจากอาคารเมื่อมีการสั่งการจากผู้ที่ควบคุมแผนป้องกันภัย หรือผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ 
  • หากอยู่ในรถ ให้หยุดรถจนกว่าแผ่นดินจะหยุดไหวหรือสั่นสะเทือนหลังเกิดแผ่นดินไหว 
  • ตรวจเช็คการบาดเจ็บ และการทำการปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อให้แพทย์ได้ทำการรักษาต่อไป 
  • ตรวจเช็คระบบน้ำ ไฟฟ้า หากมีการรั่วซึมหรือชำรุดเสียหาย ให้ปิดวาล์ว เพื่อป้องกันน้ำท่วมเอ่อ ยกสะพานไฟฟ้า เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าดูด หรือไฟฟ้าช็อต 
  • ตรวจเช็คระบบแก๊ส โดยวิธีการดมกลิ่นเท่านั้น หากพบว่ามีการรั่วซึมของแก๊ส (มีกลิ่น) ให้เปิดประตูหน้าต่าง แล้วออกจากอาคาร แจ้งเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนผู้ที่รับผิดชอบได้ทราบในโอกาสต่อไป 
  • เปิดฟังข่าวสารและปฏิบัติตามคำแนะนำ จากทางราชการอย่างขวัญดีโดยตลอด 
  • ไม่ใช้โทรศัพท์โดยไม่จำเป็น 
  • อย่ากดน้ำล้างส้วม จนกว่าจะมีการตรวจเช็คระบบท่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะอาจเกิดการแตกหักของท่อในส้วม ทำให้น้ำท่วมเอ่อหรือส่งกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนา 
  • ออกจากอาคารที่ชำรุดโดยด่วน เพราะอาจเกิดการพังทลายลงมา 
  • สวมรองเท้ายางเพื่อป้องกันสิ่งปรักหักพัง เศษแก้ว เศษกระเบื้อง 
  • รวมพล ณ ที่หมายที่ได้ตกลงนัดหมายกันไว้ และตรวจนับจำนวนสมาชิกว่าอยู่ครบหรือไม่ 
  • ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปปฏิบัติงานในบริเวณที่ได้รับความเสียหาย และผู้ไม่มีหน้าที่หรือไม่เกี่ยวข้อง ไม่ควรเข้าไปในบริเวณนั้น ๆ หากไม่ได้รับการอนุญาต 
  • ออกจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นใต้น้ำซัดฝั่งได้ แม้ว่าการสั่นสะเทือนของแผ่นดินจะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 00:59:41


ความคิดเห็นที่ 5473 (1607055)

 เกาหลีเหนือฉีกข้อตกลงระงับทดลองนิวเคลียร์/ขีปนาวุธชั่วคราว


เกาหลีเหนือฉีกข้อตกลงที่สัญญาจะระงับการทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธชั่วคราวเพื่อแลกกับความช่วยเหลือด้านอาหารจากสหรัฐแล้ว โดยอ้างว่าสหรัฐไม่รักษาสัญญาก่อน พร้อมทั้งขู่ดำเนินมาตรการตอบโต้ด้วย

กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์วันนี้ระบุว่า เกาหลีเหนือไม่มีพันธะผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาระงับการทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธชั่วคราวที่ได้ทำข้อตกลงไว้เมื่อสิ้นเดือนกุมภาพันธ์แล้ว หลังจากสหรัฐยกเลิกความช่วยเหลือทางอาหารน้ำหนัก 2 แสน 4 หมื่นตันที่เคยตกลงเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน

รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าข้อตกลงให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือเป็นโมฆะ เพราะเกาหลีเหนือยิงจรวดส่งดาวเทียมสำรวจขึ้นสู่วงโคจรแต่ประสบความล้มเหลวเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งเป็นการแอบทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลที่เป็นการละเมิดมติของสหประชาชาติ 

แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือยังเตือนด้วยว่า การตัดสินใจของสหรัฐดังกล่าวทำให้เกาหลีเหนือสามารถดำเนินมาตรการตอบโต้ที่จำเป็นได้ และสหรัฐจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดต่อผลลัพธ์ทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นตามมา

โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ บอกว่า แถลงการณ์ล่าสุดของเกาหลีเหนือไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจ เพราะเกาหลีเหนือแสดงพฤติกรรมแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ขณะที่นักวิเคราะห์เกาหลีใต้ คาดว่า เกาหลีเหนืออาจจะตอบโต้ด้วยการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ลูกที่ 3 หรือ ยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล ก่อนหน้านี้หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ ก็เปิดเผยว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมที่บันทึกไว้ได้เมื่อเร็วๆนี้บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือกำลังขุดอุโมงค์ใต้ดินแห่งใหม่ที่เมืองปังเกรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ 2 ครั้ง ทำให้เชื่อว่าอาจมีการเตรียมทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 3
__________________
B1 - War Room Falkman

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 01:00:11


ความคิดเห็นที่ 5474 (1607060)

ชาวตาพระยาผวา!พบรอยดินแยกกว่า100ม.
ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ.2555 10:57น.

 

 372944

ชาวบ้านตาพระยา จ.สระแก้ว ผวา
หลังพบรอยแผ่นดินแยกยาวกว่า 100 ม.
ขณะที่หน่วยศึกษาภัยพิบัติวิทย
เตือน ระวังดินถล่มหลังฝนตกหนัก

นายยุทธนา นุชนารถ นายอำเภอตาพระยา ได้รับแจ้งจาก

ราษฎรบ้านกุดเตย หมู่ 11 ต.ตาพระยา ว่าห่างจากหมู่บ้าน

ประมาณ 150 เมตร มีร่องรอยแผ่นดินแยก จึงขอให้เจ้าหน้าที่

ผู้เกี่ยวข้องมาตรวจสอบด้วย เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

ในละแวกนี้ นายคำนวณ เจือจันทร์ เลขาฯนายก อบต.ตาพระยา

กล่าวว่า พื้นที่ อ.ตาพระยา สูงกว่าระดับน้ำทะเล สภาพอากาศ

ที่แปรปรวนจะทำให้เกิดการก่อตัวของพายุฤดูร้อนเข้าถล่มในพื้นที่

จ.สระแก้ว ได้ ส่วนปีนี้มีแนวโน้มน่าเป็นห่วงมาก ซึ่งกำลังติดตาม

สถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ พบแผ่นดินแยกออกจากกัน

ยาวถึง 100 เมตร ชาวบ้านหวาดผวากับเหตุการณ์ในครั้งนี้

เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

ทั้งนี้ นายอำเภอตาพระยา ได้รายงานให้ทาง จ.สระแก้ว ทราบ

และหัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยวิทยา วิเคราะห์กันว่า

นับจากนี้เป็นต้นไปในพื้นที่ อ.ตาพระยา จะมีฝนตก

ส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้ และที่สำคัญในจังหวัดที่ชั้นดินเป็นหินปูน

อาจเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ขึ้น

Credit : INN

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 01:13:45


ความคิดเห็นที่ 5475 (1607064)

คนภูเก็ตผวา แผ่นดินไหวอีก 3 ครั้ง

18 april 2012

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


 เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุแผ่นดินไหว

ต่อเนื่องที่จ.ภูเก็ตว่า ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้น 3 ครั้ง

ระหว่างคืนวันที่ 17 เม.ย. ถึงช่วงเช้าวันที่ 18 เม.ย.

โดยมีจุดศูนย์กลางที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ในเวลา 21.56 น.

วันที่ 17 เม.ย. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.0 ริกเตอร์

ต่อมาเวลา 00.49 น. วันที่ 18 เม.ย.

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.6 ริกเตอร์

และเวลา 04.15 น. วันที่ 18 เม.ย.

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.2 ริกเตอร์

 

 ซึ่งในช่วงสายวันเดียวกันนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา

รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวรวุฒิ ทรงยศ

นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร นำกำลังลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน

โดยเฉพาะการซ่อมแซมบ้านเรือนที่แตกร้าว

พร้อมสร้างความมั่นใจในการเข้าไปช่วยเหลือหากเกิดเหตุซ้ำ


 นายจำเริญกล่าวว่า ในระยะเร่งด่วนต้องเข้าไปช่วยซ่อมแซม

บ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้มีการ

เตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน โดยกำหนด

หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ กำหนดจุดอพยพ

และการให้ความช่วยเหลือ

เนื่องจากภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่ไม่สามารถห้ามได้ 

สิ่งสำคัญคือต้องมีสติและมีความรู้ในการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุขึ้น

โดยที่ผ่านมาได้เดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น

จึงนำรูปแบบการบริหารจัดการมาใช้เป็นตัวอย่าง

 

Credit : Teenee

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 01:36:16


ความคิดเห็นที่ 5476 (1607066)

.

 พายุลูกเห็บถล่มเลย-เสียหาย162หลังคาเรือน!

เมื่อ 17 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เกิดพายุลูกเห็บพัดกระหน่ำ 5 ตำบล อ.วังสะพุง จ.เลย ในช่วงกลางคืนของวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยพายุพัดโหมกระหน่ำโดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองวังสะพุง ทำให้บ้านเรือนประชาชนสังกะสีปลิวว่อน บางหลังหลุดไปทั้งหลังคา หลังจากพายุกระน่ำแล้วก็เกิดลูกเห็บตกตามมา ทำให้คนที่เดินถนนต้องหนีหลบภัยกัน จากนั้นฝนก็เทลงมาอย่างหนัก เป็นเหตุให้ฟ้าดับทั้งอำเภอ บางจุดขณะนี้ไฟฟ้ายังใช้ไม่ได้

และจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ทางอำเภอไม่สามารถออกสำรวจความเสียหายได้ กระทั่งเช้าวันนี้นายโสภณ สุวรรณรัตน์ นายอำเภอวังสะพุงจึงสั่งการให้เทศบาลเมืองวังสะพุง และอบต.ต่างๆ รีบทำการสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย พบว่าบ้านของนายอาทิตย์ บัวระภา อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 102 หมู่ 1 บ้านศรีสงความ ต.ศรีสงความ ซึ่งเป็นร้านทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้ หลังคาทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกพายุพัดไปตกกลางทุ่งนาห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร

นายอาทิตย์ กล่าวว่า เป็นช่วงร้านหยุดสงกรานต์จึงปิดโรงงาน ขณะที่ตนกลับมาดูบ้านเห็นพายุหมุนมาจากทางแม่น้ำเลย พัดมาอย่างแรง จึงรีบหลบออกจากบ้านก่อนที่บ้านจะพัง

ส่วนนายเทวิน สารประเสริฐ บ้านเลขที่ 152 หมู่ 11 บ้านวังน้ำเย็น รอดตายจากกระต๊อบหน้าบ้านพังทับ กล่าวว่า ตนเองกับภรรยา นางบัญชนีพรรณ นั้งอยู่ที่กระท่อมหน้าบ้าน ก็มีพายุพัดมาอย่างแรงจึงหากันวิ่งเข้าไปในบ้านก็พอดีพายุพัดเอาหลังคาบ้านหลุดไปทั้งแถบ

ด้าน นายโสภณ กล่าวว่า จากการสำรวจพายุฤดูร้อนที่พัดในตัวอำเภอวังสะพุง ทราบว่า มีตำบลที่ถูกพายุพัดบ้านเรือนเสียหาย 5 ตำบล คือตำบลวังสะพุง รวมทั้งเทศบาลเมืองวังสะพุง ต.ศรีสงคราม ต.ปากปวน ต.ผาน้อย และ ต.หนองหญ้าปล้อง ขณะนี้ได้รับรายงานมีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้ง 5 ตำบล 162 หลัง ที่เสียหายหนักประมาณ 30 หลัง ส่วนการข่วยเหลือบ้านเรือนที่เสียหายเล็กน้อยทาง อบต.ได้ให้การช่วยเหลือไปแล้ว ส่วนที่เสียหายมาก นายภาณุ แย้มศรี รองผวจ.ที่ได้รับมอบหมายจาก ผวจ.เลย จะนำส่งของมาช่วย เช่นสังกะสี ไม้ และเครื่องอุปโภคบริโภค

วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 12:59 น. ข่าวสดออนไลน์


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 01:42:30


ความคิดเห็นที่ 5477 (1607071)

ลางบอกเหตุจากพฤติกรรมสัตว์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 02:15:22


ความคิดเห็นที่ 5478 (1607075)

.สรุปรายงานแผ่นดินไหวทั่วโลก 18 เมษายน 2555

Posted on 18/04/2012
2
รายงานแผ่นดินไหวทั่วโลกจาก USGS นี้ ไม่มีรายงานของแผ่นดินไหวในไทยรวมอยู่ด้วย เนื่องจากข้อมูลกรมอุตุไทยไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบสากล

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 03:01:38


ความคิดเห็นที่ 5479 (1607076)

ปภ.แนะประชาชน รู้ทันภัย...สึนามิ คลื่นยักษ์ซัดชายฝั่ง

วันพุธที่ 18 เมษายน 2555 เวลา 16:57 น.
 



ปภ.แนะประชาชนชายทะเลรับมือสึนามิ ให้สังเกตระดับน้ำและมองหาเนินเขาหรือที่สูงเผื่อไว้อพยด ขณะผู้อยู่ในพื้นราบให้ถอยห่างชายฝั่งอย่างน้อย 15 กิโลเมตร

วันนี้ (18 เม.ย.) นาย วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ระยะนี้เกิดเหตุแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล บริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลอันดามันของไทยบ่อยครั้ง ส่งผลให้ผู้ที่อาศัยริมชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวต่างหวั่นเกรงอันตรายจาก การเกิดคลื่นสึนามิซัดชายฝั่ง เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดสึนามิดังนี้ หากอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลแล้วรับรู้ถึงการเกิดแผ่นดินไหว ให้เฝ้าระวังระดับน้ำทะเล หากสังเกตพบน้ำทะเลลดระดับอย่างรวดเร็ว ให้รีบอพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย โดยหนีขึ้นที่สูง ซึ่งอยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 15 เมตร หรือเข้าไปอยู่ในอาคารสูงที่มั่นคงแข็งแรง พร้อมปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด

กรณีเป็นชายหาดที่ไม่มีเชิงเขาหรืออาคารสูง ให้รีบออกห่างจากชายฝั่งทะเล ปากแม่น้ำหรือ ลำน้ำที่ติดกับทะเลในระยะทางมากกว่า 15 กิโลเมตร เพราะสึนามิอาจซัดเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้เกิดอันตรายได้ กรณีอยู่ในเรือ ให้รีบนำเรือออกไปกลางทะเล บริเวณน้ำลึกนอกชายฝั่ง เพราะคลื่นที่อยู่ห่างจากชายฝั่งจะมีขนาดเล็ก พร้อมติดตามรับฟังสถานการณ์เป็นระยะ รวมถึงแจ้งจุดที่เรือลอย หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะได้สามารถขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงที

หลังเกิดเหตุแล้ว ควรออยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยสักระยะ ห่างจากชายฝั่งทะเล ห้ามลงไปบริเวณชายหาด หรือกลับเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านพักใกล้แนวชายฝั่งทะเลในทันที เพราะสึนามิประกอบด้วยคลื่นหลายระลอกและสามารถซัดเข้าสู่ชายฝั่งได้ตลอดเวลา ให้รอจนมีประกาศยกเลิกการแจ้งเตือนภัยหรือยุติสถานการณ์ ทั้งนี้ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวบริเวณใกล้แนวชายฝั่งทะเล ประชาชนควรติดตามรับฟังสถานการณ์และประกาศแจ้งเตือนภัยเป็นระยะ พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความสูญเสียหรืออันตรายจากสึนามิ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 03:04:15


ความคิดเห็นที่ 5480 (1607077)

.

 

 

เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru จากประเทศญี่ปุ่นสามารถสื่อสารกับ UFO

 

 


...ฉันชื่อ เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru จากประเทศญี่ปุ่น...

ในปี 1976 ฉันเคยมีประสบการณ์ทางจิตที่น่าประหลาดใจมากอันหนึ่ง และนับตั้งแต่นั้นมา ตาที่สามของฉันก็เปิดออก ดังนั้น ฉันจึงสามารถติดต่อสื่อสารกับ UFO, ผู้คน และรวมถึงผู้ที่อยู่ใต้พื้นโลกได้ ซึ่งพวกเขาเป็นอารยธรรม ที่มีพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณสูงมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าห้องสมุด ของโลกใต้พิภพคนนั้น ฉันก็ได้ติดต่อสื่อสารกับเขาด้วย

และจากข้อมูลการติดต่อสื่อสารทั้งหมดเหล่านี้ที่ฉันมี ทำให้ฉันเชื่อว่า ในปี 2012 วันที่ 22 ธันวาคม 2012 เป็นต้นไป มันจะมี 3 วันที่โลกใบนี้ จะเข้าไปสู่มิติที่ 5 เมื่อโลกผ่านเข้าไปสู่สถานที่แห่งนั้นแล้ว มันจะมี 3 วัน 3 คืนที่เราจะไม่มีไฟฟ้าใช้มันจะเป็นคืนวันที่มืดมิดสนิทจริงๆ จะไม่มีดวงอาทิตย์ จะไม่มีดวงดาว ไม่มีแสงสว่างใดๆทั้งสิ้นพวกเราจะอยู่ในความมืดมิดอย่างแท้จริงเป็นเวลา 3 วัน

แต่ยังไม่มีสื่อสารมวลชนใด หรือข้อมูลข่าวสารใด ออกมาประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้เลยแต่รัฐบาลลับทั้งหลายรู้เรื่องนี้กันดี และพวกเขาก็เตรียมความปลอดภัยไว้ให้ตัวเองแล้วพวกเขาพยายามที่จะหนีออกไปจากโลกใบนี้ หรือไม่ก็กำลังขุดอุโมงค์สร้างเมืองใต้ดินกันอยู่อยู่ใต้ประเทศ? นอร์เวย์ ฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ หรือออสเตรเลียซึ่งในนั้นจะจุคนได้ประมาณ 1 หมื่นคน และปลอดภัยอยู่ในนั้น

แต่ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยหรอกนะ เพราะว่าพวกเราจำเป็นจะต้องชำระสะสางสภาวะจิตของตัวเราเองให้บริสุทธิ์
ทั้งทางด้านกายภาพ-และทางด้านจิตวิญญาณ

ฉันจะบอกพวกคุณว่าเราจะสามารถทำได้อย่างไร เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลานุภาพสูงสุด และพระผู้สร้าง คือพลังงาน และความรัก และแสงสว่างซึ่งส่วนหนึ่งของพลังงานความรักที่ว่านี้ ก็มีอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกๆคนเราสามารถโกหกคนอื่นๆได้ แต่เราไม่สามารถที่จะโกหกตัวเราเองได้ นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันเรียกว่าจิตสำนึกหละ

มนุษย์โลกแต่ละคน มีส่วนที่สวยงามนั้นของพระผู้สร้าง อยู่ในวิญญาณของเราทุกๆคนซึ่งวิญญาณนี้เองที่เป็นผู้ที่จะไปเวียนว่ายตายเกิด และเป็นส่วนที่จะอยู่ชั่วนิรันดร์ และอยู่ในตัวพวกเราทุกๆคนซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าจะชำระสะสางวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์หละก็ เราต้องมองดูชีวิตของตัวเราเองด้วยจิตสำนึกอันนั้น เพื่อดูว่า ทุกๆ 5 ปีหรือราวๆนั้น นับตั้งแต่ตอนที่เราเกิด เราประพฤติตัวอย่างไร เราค้นหาอย่างไร เราพูดอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถที่จะชำระสะสางได้ ด้วยการมองดูชีวิตของตัวเราเองทุกๆ 5 ปี จนถึงบัดนี้

ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ทุกๆครั้งที่เราพบว่า เราได้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นการทำร้ายคนอื่นหละก็แล้วเราก็จะสามารถชำระสะสางมัน และทำให้มันบริสุทธิ์ได้ ซึ่งทุกๆครั้งที่เราค้นพบมัน หัวใจของเราจะขยายตัวใหญ่ขึ้น แล้วเราจะสามารถหายใจได้ลึกมากขึ้น และทุกๆครั้งที่เรามีประสบการณ์นี้ความมืดมิดอันนี้ทั้งหมด ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาจากหัวใจของเรา แล้วแสงสว่างสีทอง ก็จะเข้ามาสู่หัวใจของเราแทน ด้วยวิธีการนี้ เราจะสามารถมองเห็นได้ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้พวกเรายังพอมีเวลาอยู่ จนกว่าจะถึงปี 2012 วันที่ 22 ธันวาคม 2012ในทางกายภาพแล้ว พวกเรายังสามารถชำระสะสางร่างกายเนื้อของเราได้ด้วยโดยวิธีการแรกที่สุด พวกเราไม่ควรจะดื่ม "น้ำผลไม้กระป๋อง" หรือ "เบียร์กระป๋อง"เพราะว่าอลูมิเนียม เป็นสิ่งที่มีอันตรายต่อร่างกายของเรามากๆ และโดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเราจึงรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้

ดังนั้น พวกเราแต่ละคนจึงสามารถที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองด้วยวิธีการทำนองนี้และการออกกำลังกายบางประเภท ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นด้วย และทุกๆวันเราก็สามารถที่จะ สะท้อน (ไม่ชัวร์นะครับ ฟังไม่ค่อยออก - ผู้แปล) จิตวิญญาณของเราได้ด้วยอย่างที่มันเป็น

ในแก่นแท้ของพวกเราทุกๆคน พวกเราก็คือแสงสว่าง และ ความรักเพราะว่าพวกเราทุกคน มีส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างอยู่ในหัวใจของพวกเรา ซึ่งก็คือสิ่งที่ลงมาเวียนว่ายตายเกิดนี้ โดยการมามีชีวิตภพชาติแล้ว ภพชาติเล่าอยู่ในร่างกายเนื้อของเรา ที่อยู่บนโลกใบนี้ แต่จิตวิญญาณของเรา จะเทียวเข้าเทียวออก ร่างกายโน้น ไปร่างกายนี้อยู่ตลอดเวลา

บนโลกใบนี้ ฉันระลึกชาติได้ว่า ฉันเคยเกิดมาหลายพันชาติแล้ว
นอกจากนี้ฉันยังเคยไปเกิดในส่วนต่างๆของโลกมาแล้วมากมายหลายแห่งอีกด้วยการระลึกชาติของฉัน ทำให้ความทรงจำฉันกลับคืนมา และทำให้ฉันสามารถพูดภาษาที่ฉันยังไม่เคยเรียนมาเลยได้ด้วย

ดังนั้น ในทางกายภาพแล้ว ฉันมีประสบการณ์กับทฤษฎีการเวียนว่ายตายเกิดนั่นก็ถูกต้องแต่อย่างไรก็ตาม ใครก็ตามที่ฟังการบรรยายครั้งนี้อยู่ ฉันคิดผู้คนเหล่านี้น่าจะปลอดภัย

พวกเรามีการแบ่งแยกกันเหลือเกิน ตั้งแต่ปี 1913 เพราะว่าคนที่เชื่อในเรื่องแบบนี้กับคนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ก็จะแบ่งแยกห่างออกจากกันลึกลงไปเรื่อยๆ ดังนั้น ผู้คนในส่วนที่ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ก็จะไม่เชื่อในเรื่องนี้เพราะว่าพวกเขาเป็นคนที่มืดบอดด้านจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง พวกเขาจะได้ไปเกิดในดาวดวงอื่น ที่เหมือนกับโลกใบนี้ ซึ่งที่นั่นก็จะมีความรุนแรง และมีสงครามเหมือนกัน แต่จะเป็นดาวดวงอื่น

เอาหละคะ ตอนนี้พวกเราก็ได้เสร็จสิ้นการประชุมดีๆแบบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณมากคะ


ขอขอบพระคุณ ผู้แปลโดยคุณ Chayutt เว็บพลังจิต ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 03:22:39


ความคิดเห็นที่ 5481 (1607079)
 
จีนต้องอพยพคนเพิ่มอีกนับแสนหนีอันตรายจากเขื่อนสามผา

เซี่ยงไฮ้ 18 เม.ย. – กระทรวงทรัพยากรที่ดินจีน แถลงว่า จีนต้องอพยพประชาชนเพิ่มอีก 100,000 คน ออกจากบริเวณเขื่อนสามผา เพราะอาจเกิดอันตรายจากดินถล่มและพื้นที่โดยรอบเขื่อนทรุดตัว

แถลงการณ์ของรัฐบาลที่มีรายงานในหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้เดลี่ ระบุว่า การเกิดดินถล่มและภัยพิบัติอื่น ๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 70  นับตั้งแต่เขื่อนสามผาซึ่งเป็นโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อปี 2553  โดยมีประชาชนราว 1,400,000 คน ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้เขื่อนบริเวณแม่น้ำแยงซีอพยพไปหาที่อยู่ใหม่แล้ว  แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่าอาจต้องอพยพเพิ่มอีก 100,000 คน ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้นได้  โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ 5,386 จุด

แถลงการณ์ระบุว่า การที่ระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอาจเสี่ยงเกิดดินถล่มและปัญหาอื่น ๆ ตามมาและความเสี่ยงมีมากขึ้นตามจำนวนประชากรในพื้นที่ดังกล่าว   ทางการจีนอ้างว่าโครงการเขื่อนสามผาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาน้ำท่วมตามแนวชายฝั่งแม่น้ำแยงซีและยังผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรมจีน  แต่นักธรณีวิทยาบางคน แย้งว่า การเก็บน้ำไว้ในเขื่อนขนาดใหญ่มากเกินไป อาจเสี่ยงอันตรายจากเหตุแผ่นดินไหวและทำลายระบบนิเวศน์ในระยะยาว



 
ญี่ปุ่นจำลองการเกิดแผ่นดินไหวกรุงโตเกียวจะมีผู้เสียชีวิตกว่า 9,000 คน


โตเกียว 18 เม.ย. - ทางการกรุงโตเกียวเสนอแบบจำลองการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในกรุงโตเกียวพบว่าจะมีประชาชนเสียชีวิตกว่า 9,600 คน และบาดเจ็บเกือบ 150,000 คน

แบบจำลองชี้ว่า หากกรุงโตเกียวเกิดแผ่นดินไหวเพียง 7.3 ริกเตอร์ ซึ่งน้อยกว่าที่เกิดเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วที่ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งสูงถึง 9.0 ริกเตอร์ ก็เพียงพอที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 9,600 คนและบาดเจ็บ 147,000 คน  ในจำนวนนี้จะบาดเจ็บสาหัส 21,900 คน  นอกจากนี้จะมีประชากร 5.2 ล้านคนที่ไม่สามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ เนื่องจากเกิดความเสียหายที่ระบบไฟฟ้าและการคมนาคมขนส่ง แรงสั่นสะเทือนขนาด 7.3 ริกเตอร์ จะทำให้อาคารบ้านเรือนพังถล่มและเสียหายอย่างหนักประมาณ 378,000 หลัง

กรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบเคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในปี พ.ศ.2466 ซึ่งวัดความรุนแรงได้ 7.9 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 140,000 คน และพื้นที่จำนวนมากได้รับความเสียหาย



 
เม็กซิโกยกระดับการเตือนภัย ภูเขาไฟโปโปกาเตเปทปะทุหนัก


เม็กซิโก 18 เม.ย. - ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติเม็กซิโก ประกาศว่า ขณะนี้การก่อตัวของลาวาโดมที่บริเวณปากปล่องภูเขาไฟโปโปกาเตเปท ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังพ่นเถ้าถ่าน ไอน้ำและหินร้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องยกระดับการเตือนภัยขึ้นเป็นระดับที่ 5 จากทั้งหมด 7 ระดับ เพื่อให้ประชาชนเตรียมระวังภัย เนื่องจากอาจเกิดระเบิดครั้งใหญ่ พ่นเถ้าถ่านหินลาวาออกมาได้ทุกเมื่อ พร้อมทั้งสั่งปิดพื้นที่ใกล้เคียง และให้ประชาชนอยู่ห่างจากพื้นที่รอบรัศมีภูเขาไฟอย่างน้อย 12 กิโลเมตร รวมทั้งให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการสูดเถ้าถ่านและควันพิษจากภูเขาไฟ


 
คืบหน้าแผ่นดินไหวชิลี


ชิลี 18 เม.ย.-เกิดแผ่นดินไหวแถบชายฝั่งชิลี วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.7 ริกเตอร์ แต่ไม่พบความเสียหายหรือรายงานการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ เผยว่า เมื่อเวลา 23.50 น. ตามเวลาชิลี ซึ่งตรงกับ 10.50 น.วานนี้ตามเวลาในไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวแถบชายฝั่งทางตอนกลางของชิลี  วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.7 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน 25.9 กิโลเมตร ห่างจากเมืองวัลพาไรโซ 40 กม. เจ้าหน้าที่ชิลียืนยันไม่พบการเกิดคลื่นสึนามิ รวมถึงไม่มีรายงานความเสียหาย แต่ได้แนะนำให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายฝั่งขึ้นไปทางตอนเหนืออพยพขึ้นที่สูง ขณะที่มีรายงานว่าชายวัย 72 ปีในเมืองวัลพาไรโซเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจวาย ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี 2543 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นอกชายฝั่งชิลี ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 500 คน และสร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ


สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 03:31:24


ความคิดเห็นที่ 5482 (1607080)
มหาสมุทรอินเดียเสี่ยงเขย่าอีก



วันนี้ครบ 1 สัปดาห์เหตุแผ่นดินไหว 8.6 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา ทันทีที่แผ่นเปลือกโลกขยับตัวรุนแรง แผ่นเปลือกโลกแผ่นอื่นๆก็มีผลกระทบไปด้วย ทำให้ตลอดสัปดาห์มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นตามแนววงแหวนแห่งไฟ ไม่ว่าจะที่ปาปัวนิวกีนี (7.0) เม็กซิโก (8.5) และชิลี (6.5)รวมถึงวันนี้ที่เกาะภูเก็ตถูกเขย่าไป 2 รอบ ตอนนี้ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเกิดจากการสะสมพลังของแผ่นเปลือกโลกหรือเป็นเพราะอาฟเตอร์ช็อคเมื่อ 7 วันที่แล้วกันแน่ แต่ที่แน่ๆผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราทำให้เกิดแรงตึงเครียดบริเวณรอยเลื่อนเมนตาไวซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเกาะสุมาตรามากขึ้น ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงในแถบมหาสมุทรอินเดียก็มีมากขึ้นตามไปด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาทำวิจัยเรื่องแผ่นดินไหวในอาเจะห์บอกว่าการเกิดแผ่นดินไหว 8.6 ริกเตอร์เมื่อ 7 วันที่ผ่านมาเป็นการสั่นสะเทือนในแนวระนาบหรือ "สไตร์ค สลิป" ที่รุนแรงมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งลักษณะแบบนี้เกิดไม่บ่อยครั้งนัก โดยเฉพาะการมีอาฟเตอร์ช็อกขนาดรุนแรงถึง 8.2 ริกเตอร์ตามมาซึ่งเกิดขึ้นได้ยากมากและบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากโซนรอยเลื่อนไปทางทิศตะวันตกค่อนข้างไกล แผ่นดินไหวครั้งนี้จึงผิดปกติ

แม้ว่าการสั่นสะเทือนจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่ก็ทำให้เกิดแรงตึงเครียดสะสมขึ้นในรอยเลื่อนรอบๆจังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย โดยจุดเสี่ยงที่สุดที่ต้องจับตาคือหมู่เกาะเมนตาไว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางใต้ของรอยเลื่อนใหญ่ เวลานี้มีพลังงานสะสมมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ที่นี่เคยเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง แต่ทั้งหมดก็แค่การปลดปล่อยพลังงานสะสมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้โอกาสเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงมีมากขึ้น คือหลังเกิดคลื่นยักษ์สึนามิกวาดชายฝั่งหลายประเทศรอบมหาสมุทรอินเดีย เมื่อปี 2547 เป็นการปลดปล่อยพลังงานสะสมออกมาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นเอง นั้นหมายความว่ายังหลงเหลือพลังงานอีกมหาศาลที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยเท่ากับว่าเรากำลังนับถอยหลังสู่การเขย่าธรณีรุนแรงอีกรอบ

ถึงจะไม่มีข้อมูลระบุว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงมากกว่าประเทศอื่นๆแต่ตอนนี้แผ่นดินไหวกลายเป็นภัยใกล้ตัวที่เราต้องเรียนรู้และพร้อมตั้งรับแล้ว

http://ufokaokala.com/index.php?topic=5978.msg51488;topicseen#msg51488

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 03:32:29


ความคิดเห็นที่ 5483 (1607135)

ขออนุโมทนาบุญกับคุณอาริยา

และทุกท่านค่ะ

ที่นำข่าวเตือนภัยให้ทราบตลอดเวลา

ขอบคุณมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 12:16:52


ความคิดเห็นที่ 5484 (1607195)

แผ่นดินไหว ไต้หวัน Taiwan (24.04,121.66) ขนาด 4.8 วันที่ 19 เมษายน 2555 เวลา 08.58 น. ตามเวลาประเทศไทย

19 เมษายน 2555, 8:58:08
2012-04-19 01:58:08 UTC
Lat. 24.04 , Long. 121.66
ขนาด 4.8
ลึก 10 กม.


แผ่นดินไหว North of Svalbard (84.01,-2.57) ขนาด 4.7 วันที่ 19 เมษายน 2555 เวลา 08.41 น. ตามเวลาประเทศไทย


19 เมษายน 2555, 8:41:34
2012-04-19 01:41:34 UTC
Lat. 84.01 , Long. -2.57
ขนาด 4.7
ลึก 10 กม.




แผ่นดินไหว Kuril Islands (47.65,153.32) ขนาด 4.8 วันที่ 19 เมษายน 2555 เวลา 07.24 น. ตามเวลาประเทศไทย


19 เมษายน 2555, 7:24:33
2012-04-19 00:24:33 UTC
Lat. 47.65 , Long. 153.32
ขนาด 4.8
ลึก 10 กม.




แผ่นดินไหว Off West Coast of Northern Sumatr (2.00,91.26) ขนาด 4.7 วันที่ 19 เมษายน 2555 เวลา 05.53 น. ตามเวลาประเทศไทย


19 เมษายน 2555, 5:53:40
2012-04-18 22:53:40 UTC
Lat. 2.00 , Long. 91.26
ขนาด 4.7
ลึก 10 กม.




แผ่นดินไหว Irian Jaya Region, Indonesia (-0.66,131.75) ขนาด 5.0 วันที่ 19 เมษายน 2555 เวลา 01.38 น. ตามเวลาประเทศไทย


19 เมษายน 2555, 1:38:10
2012-04-18 18:38:10 UTC
Lat. -0.66 , Long. 131.75
ขนาด 5.0
ลึก 10 กม.

วัน-เวลา *ประเทศไทย ขนาด Latitude Longitude Phase บริเวณที่เกิด
 
2012-04-19 08:13:13
2012-04-19 01:13:13 UTC
1.9 8.00 98.34 4 อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-เพื่อรองรับสถานการณ์ปี-2012-a-288866-980.html

วันที่ 16 เมษายน เวลา 19:39 UTC เกิดพายุุสุริยะ มีหลายทิศทางซึ่งมีพลังงานมาที่โลก และจะเดินทางมาถึงโลกประมาณวันที่ 19 เมษายน เวลา 0 UTC +/- 7 UTC
อ้างอิง:
19 เมษา เวลา 7 โมงเช้า +- 7 ชั่วโมง เวลาไทย
ลกจะมีความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมากเป็นพิเศษในช่วง นั้นหรือหลังจากนั้น spaceweather.com/images2012/16apr12/304.mov จากการคำนวณทางเวปพบว่าพลังงานจะมาถึงโลกประมาณวันที่ 19 เมษายน เวลา 14 +/-10 UTC
อ้างอิง:
space weather คำนวณว่าจะมาถึง 19 เมษายน ประมาณ 3 ทุ่ม +- 10 ชั่วโมง เวลาไทย


นอกจากนั้นยังพบการขยายตัวของจุดดับ 1459 และ 1460 เป็นลางบอกเหตุถึงแผ่นดินไหวระหว่าง 6-9 ริตเตอร์ ภายใน 1-4 วันข้างหน้า

17 เมษายน เกิดพายุสุริยะขนาดใหญ่มีทิศทางมาที่โลก ซึ่งคาดว่าโลกจะได้รับผลกระทบประมาณวันที่ 20-21 เมษายน - จากการคำนวณพบว่าพลังงานจะเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 20 เมษายน เวลา 18 UTC +/- 7 ชั่วโมง

อ้างอิง:
เสาร์ที่ 21 เมษายน เวลาประมาณตีหนึ่ง +/-7 ชั่วโมง เวลาไทย
นอกจากนั้นยังมีจุดดับขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 15 เป็นลางบอกเหตุถึงแผ่นดินไหวระหว่าง 6.7-9 ริตเตอร์ ภายใน 1-4 วัน

อ้างอิง
จับตาการเรียงตัวของดาวเคราะห์ช่วงวันที่ 1 ถึง 30 เมษายน คศ 2012 : update 19 เมษายน 0:13 UTC | Truth4Thai.org
__________________
A1-WarRoom Falkman
ฯ ๗๑  

 



__________________
B1 - War Room Falkman
ฯ ๗๑  

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 17:15:32


ความคิดเห็นที่ 5485 (1607198)

โคลัมเบียฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 เมษายน 2555 10:56 น.

       ฝนที่ยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง เสี่ยงจะทำให้เกิดน้ำท่วม และดินถล่มอย่างรุนแรงได้ ทางการโคลัมเบียต้องวางกำลังทหารตามพื้นที่ทำการเกษตร และป่าไม้โดยรอบกรุงโบโกตา ซึ่งมีความเสี่ยงว่าจะถูกน้ำในแม่น้ำโบโกตาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ หลังจากตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและโคลนถล่มไปแล้ว 19 คน และสูญหายอีก 4 คน แม่น้ำโบโกตาได้เอ่อล้นตลิ่งถึง 2 รอบในพื้นที่ ส่งผลให้พื้นการเกษตรรอบเมืองหลวงได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเป็นที่ชุ่มน้ำอยู่แล้ว จึงไม่สามารถจะดูดซับน้ำเอาไว้ได้อีก ทำให้การป้องกันน้ำท่วมเป็นไปอย่างยากลำบาก ทางการคาดว่ามีบ้านเรือนเกือบ 12,000 หลัง โรงเรียน 40 แห่ง และโรงพยาบาล 40 แห่งได้รับความเสียหาย นับตั้งแต่ฤดูฝนเริ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว

__________________
B1 - War Room Falkman
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 17:20:07


ความคิดเห็นที่ 5486 (1607250)
ลางบอกเหตุจากพฤติกรรมสัตว์



แผ่นดินไหวเป็นภัยพิบัติที่มนุษย์ยังไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ทำให้ทุกครั้งที่เกิดเหตุจะต้องมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แตกต่างจากสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสพิเศษ สามารถรับรู้ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขึ้นได้ ทำให้สามารถหลีกหนีขึ้นที่สูงได้ทัน ไปดูกันว่าพฤติกรรมแปลกๆของสัตว์ ทั้งสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงในบ้านที่มักแสดงออกมาเป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหวจะมีอะไรบ้าง ติดตามได้จากรายงานของคุณจุฑารัตน์ บรรเจิด ผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 22:27:15


ความคิดเห็นที่ 5487 (1607252)
จีนหวั่นภัยพิบัติธรณีวิทยา ย้ายคนนับแสนออกจากเขื่อนใหญ่ที่สุดในโลก

เขื่อนสามโตรก ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความยาวเฉพาะตัวเขื่อนเกือบ 3 กิโลเมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำยาว 640 กิโลเมตร จากปี 2552 จีนทดลองปล่อยน้ำสู่อ่างเก็บน้ำสูงสุด 175 เมตร ก็ปรากฏเหตุการณ์ดินถล่มฉับพลันเพิ่มกว่าที่คาดการณ์ (แฟ้มภาพ เอเจนซี)


ASTV ผู้จัดการออนไลน์--ศูนย์ข่าวกลางของจีนประกาศแผนการย้ายประชาชนนับแสนคนออกจากพื้นที่เขื่อนสามโตรก ระหว่าง 3-5 ปีนี้ เนื่องจากมีแนวโน้มภัยพิบัติธรรมชาติและดินถล่มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากแถลงการณ์ของหลิ่ว หยวน หัวหน้าสำนักงานปกป้องภัยพิบัติทางธรณีวิทยาบริเวณเขื่อนสามโตรก สังกัดกระทรวงทรัพยากรที่ดินแห่งจีน
       
นับจากปี 2552 มา โครงการเขื่อนสามโตรก หรือซันซย่า (Three Goges) ได้ทดลองปล่อยน้ำสู่อ่างเก็บน้ำฯ แตะระดับสูงสุด 175 เมตร 3 ครั้ง แต่การที่น้ำแตะระดับสูงสุดนี้ อาจส่งผลกระทบความเสี่ยงภัยพิบัติทางธรณีที่น่ากลัวมากขึ้นภายใน 3-5 ปีนี้ ทั้งจากเหตุดินถล่ม และชายฝั่งพัง ดังนั้น จึงต้องย้ายชาวบ้านออกจากท้องที่ประมาณหนึ่งแสนคนในช่วงเวลาดังกล่าว
       
หลังจากที่น้ำในเขื่อนแตะระดับสูงสุด ก็ได้เกิดเหตุการณ์ตลิ่งพังและดินถล่มอย่างฉับพลันในบริเวณเพิ่มกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินระดับที่คาดการณ์ไว้ หลิ่วกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตรวจสอบพื้นที่ในจุดต่างๆเพิ่มมากขึ้น เพื่อตรวจสอบผลกระทบจากระดับน้ำในเขื่อนสามโตรก และดำเนินมาตรการป้องกันจุดเสี่ยง 5,386 จุด ในจำนวนนี้มี 182 จุด ที่อาจได้รับผลกระทบสูง และได้ส่งผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด
       
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเขื่อนสามโตรก ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยังเพิ่มขึ้นไม่สร่างซา ในเดือน ม.ค. กระทรวงสิ่งแวดล้อมจีนได้เตือนผู้พัฒนาโครงการเขื่อนอีกว่าจะต้องให้ความสำคัญกับ “ระบบนิเวศ” เป็นอันดับหนึ่ง และเคร่งครัดสนใจผลกระทบต่อแม่น้ำและชุมชน


ชาวบ้านในบริเวณเขื่อนสามโตรกกำลังถูกย้ายออกจากท้องที่ (แฟ้มภาพ เอเจนซี)

ทั้งนี้ จีนได้ก่อสร้างเขื่อนสามโตรก ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกบริเวณหุบเขาซีหลิงเสีย เมืองอี๋ชัง มณฑลหูเป่ยซึ่งอยู่ติดชายแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือของนครฉงชิ่ง โดยมีเป้าหมายป้องกันน้ำท่วม ผลิตพลังงานสะอาด ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างดุเดือด โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2537 โดยเฟสสุดท้ายจะแล้วเสร็จในปี 2552 นี้
       
ในการสร้างเขื่อนยักษ์ที่มีความยาวตัวเขื่อนร่วม 3 กิโลเมตรหลังนี้ ทำให้จีนต้องปล่อยน้ำท่วมเมืองต่างๆ ที่อยู่ริมฝั่งแยงซีเกียงถึง 116 เมือง เพื่อเป็นอ่างเก็บน้ำใหญ่ มีความยาวถึง 640 กิโลเมตร ระหว่างการก่อสร้างได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ถึงราว 1.4 ล้านคน นับเป็นการอพยพคนครั้งใหญ่ที่สุดในโลก
       
ก่อนหน้านี้ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีรายงานว่า จีนมีแผนย้ายคนออกจากพื้นที่อีกระลอก 4 ล้านคน ภายในปี 2563 นับเป็นการย้ายใหญ่กว่าครั้งแรกถึง 3 เท่าตัว



ASTVผู้จัดการออนไลน์   19 เมษายน 2555 11:08 น.   
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 22:31:08


ความคิดเห็นที่ 5488 (1607253)
19/04 ปภ. แนะวิธีปฏิบัติตนเกิดสึนามิ

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะวิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดสึนามิ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลในช่วงนี้ โดยระบุว่า หากอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลแล้วรับรู้ถึงการเกิดแผ่นดินไหวให้เฝ้าระวังระดับน้ำทะเล หากสังเกตพบน้ำทะเล ลดระดับอย่างรวดเร็ว ให้รีบอพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย หรือ ที่สูง เหนือกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 15 เมตร  พร้อมปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด กรณีเป็นชายหาด ที่ไม่มีเชิงเขา หรือ อาคารสูง ให้รีบออกห่างจากชายฝั่งทะเล ปากแม่น้ำ หรือ ลำน้ำที่ติดกับทะเลในระยะทางมากกว่า 15 กิโลเมตร เพราะสึนามิอาจซัดเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้เกิดอันตรายได้ กรณีอยู่ในเรือ ให้รีบนำเรือออกไปกลางทะเล  บริเวณน้ำลึกนอกชายฝั่ง เพราะคลื่นที่อยู่ห่างจากชายฝั่งจะมีขนาดเล็ก พร้อมติดตามรับฟังสถานการณ์เป็นระยะ รวมถึง แจ้งจุดที่เรือลอย หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะได้สามารถขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงที หลังเกิดเหตุ ควรรออยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยสักระยะ ห่างจากชายฝั่งทะเล ห้ามลงไปบริเวณชายหาด หรือ กลับเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านพักใกล้แนวชายฝั่งทะเลในทันที และควรรอจนมีประกาศยกเลิกการแจ้งเตือนภัย หรือ ยุติสถานการณ์

ทั้งนี้ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว บริเวณใกล้แนวชายฝั่งทะเล ประชาชนควรติดตามรับฟังสถานการณ์และประกาศแจ้งเตือนภัยเป็นระยะ พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความสูญเสีย หรือ อันตรายจากสึนามิ

ขณะที่ พร้อมพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัย นายวิบูลย์  สงวนพงศ์  อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ระยะนี้ จังหวัดภูเก็ต เกิดแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อคตามมาหลายครั้ง แม้แผ่นดินไหวและสึนามิจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ จะไม่สามารถคาดการณ์ระยะเวลา การเกิด สถานที่เกิด และระดับความรุนแรงได้ แต่สามารถป้องกันและลดความสูญเสียได้ หากมีระบบการแจ้งเตือนภัยที่รวดเร็ว แม่นยำและเข้าถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างมีประสิทธิภาพ  นายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง วางระบบการแจ้งเตือนภัยให้สมบูรณ์ จึงได้เร่งพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยที่มีอยู่ให้เป็นระบบมากขึ้น ครอบคลุมทุกประเภทภัย โดยเชื่อมโยงกับแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติทั้งในช่วงก่อน-ขณะ-หลังเกิดภัย  โดยเฉพาะการอพยพประชาชนและการจัดเส้นทางจราจรในการอพยพ ซึ่งจะทำให้การแจ้งเตือนภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและการอพยพประชาชนมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น จึงช่วยลดความสูญเสียและทรัพย์สิน รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในระบบการแจ้งเตือนภัย และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศ


http://www.paipibut.org/view.php?dataid=15749
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 22:32:21


ความคิดเห็นที่ 5489 (1607254)
สธ.เผย 3 รพ.วิกฤตใกล้จุดเสี่ยงแผ่นดินไหว


กระทรวงสาธารณสุข ห่วงโรงพยาบาลใหญ่ 3 แห่งตั้งอยู่ใกล้จุดเสี่ยงวิกฤตรอยเลื่อนแผ่นดินไหว สั่งสาธารณสุขจังหวัดดูแลอย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้ตั้ง โรงพยาบาลสนามในที่ปลอดภัยทันที พร้อมเตรียมส่งรถโมบายฉุกเฉินประจำจังหวัดภูเก็ตอีก 3 คัน

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกประชุมผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับการยืนยันจากที่ประชุมว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลอยู่ 3 แห่ง ตั้งอยู่ใกล้จุดเสี่ยงวิกฤตรอยเลื่อนแผ่นดินไหว ไม่ว่าจะโรงพยาบาลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โรงพยาบาลเกาะยาวใหญ่ และโรงพยาบาลเกาะยาวน้อย ในจังหวัดพังงา ที่ตั้งอยู่ใกล้ริมหาด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเหตุแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้น จึงได้สั่งระดมแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมรถโมบายหกล้อจำนวน 3 คัน ให้ประจำอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต สมทบกับรถพยาบาลฉุกเฉินที่มีอยู่เดิม รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 6 คัน เพื่อสร้างความมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ หากเกิดเหตุแผ่นดินไหวซ้ำต่อเนื่องอีก

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สถานพยาบาลในพื้นที่ทั้งหมด เตรียมพร้อมรับมือ โดยจัดทีมแพทย์วางระบบวิทยุสื่อสารในภาวะฉุกเฉิน และประสานขอข้อมูลทางจังหวัด กำหนดจุดปลอดภัยเพื่อให้สามารถตั้งรับเหตุการณ์ได้ รวมถึงการตั้งโรงพยาบาลสนามอย่างรวดเร็วทันที อย่างไรก็ตาม ยังได้กำชับให้มีการซ้อมใหญ่ระบบส่งต่อผู้ป่วยพร้อมกันทั่วประเทศ โดยใช้ระบบเดียวกับที่เคยใช้ในช่วงเกิดเหตุสึนามิ ปี 2547

ที่ประชุมยังได้พุ่งเป้าไปอีก 5 จังหวัดที่เหลือ นอกจากภูเก็ตและพังงาแล้ว ยังมี จังหวัดกระบี่ ชุมพร ระนอง สงขลา และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ติดกับชายฝั่งอันดามัน และมีภาวะเสี่ยงต่อการเชื่อมต่อการเกิดแผ่นดินไหวทุกขณะ

และยังมีอีก 10 จังหวัด ที่ต้องเฝ้าระวัง รองจาก 7 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่ 10 จังหวัดนี้ เคยได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวมาก่อน คือ จังหวัดกาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และจังหวัดลำพูน

ในส่วนของ กทม.ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่ 3 ที่จะต้องจับตาและเฝ้าระวังการเกิดแผ่นดินไหวในระยะไกลด้วย และมี 4 จังหวัดที่ติดกับ กทม.ที่จะได้รับผลกระทบร่วมกัน คือ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และ จังหวัดสมุทรสาคร

นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ปัญหาแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นหลายครั้งในจังหวัดภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างมาก ซึ่งอยากจะย้ำให้ประชาชนมั่นใจในการดูแลด้านสาธารณสุขของกระทรวง ที่จะมีการส่งต่อผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการสั่งทีมแพทย์ตั้งรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง


ครอบครัวข่าว 3
วันพฤหัสบดี ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 22:33:26


ความคิดเห็นที่ 5490 (1607255)
ท่วมใหญ่..ต้องพายุรู้ล่วงหน้าแค่7วัน



น้ำจะท่วมเหมือนปีที่แล้วอีกหรือไม่ ...เราสามารถจะรู้ล่วงหน้าได้ยาวนานแค่ไหน

กรมอุตุนิยมวิทยา หน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบในการพยากรณ์อากาศ และผลจากน้ำท่วมปีที่แล้ว ได้รับมอบหมายหน้าที่พิเศษจากรัฐบาล ให้พยากรณ์แม่นยำกว่าเดิมและรู้ล่วงหน้าให้ได้ยาวนานเกินกว่า 7 วัน ให้คำตอบ ตามที่ได้นำเสนอในสกู๊ปหน้า 1 ไปแล้ว ว่า...

การพยากรณ์อากาศระยะยาวให้รู้ล่วงหน้า 1-3 เดือน ไม่อาจจะได้คำตอบที่แม่นยำ...ทำได้แค่คาดหมายลักษณะอากาศ จะมีแนวโน้มไปในทิศทางไหนเท่านั้นเอง

และข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ในพยากรณ์อากาศระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้, ร่องความกดอากาศต่ำ, ปรากฏการณ์เอลนีโญ ลานีญา, ปรากฏการณ์อุณหภูมิน้ำทะเลผิดปกติ ในมหาสมุทรอินเดีย และปรากฏการณ์ฝนตกติดต่อนานผิดปกติเกิน  6 วัน ในบริเวณเส้นศูนย์สูตรทั่วทั้งโลก...ให้คำตอบได้เพียงฝนจะมากจะน้อยกว่าเกณฑ์ค่าเฉลี่ยปกติขนาดไหน ไม่สามารถบอกเป็นปริมาณตัวเลขได้



ที่สำคัญข้อมูลการพยากรณ์ระยะยาวไม่อาจจะบอกได้ว่าประเทศ

ไทยเกิดภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่เหมือนปีที่แล้วหรือไม่...เพราะปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่อบ้านเราอย่างมาก แค่ทำให้ฝนตกชุกจนเกิดน้ำท่วม แต่เป็นการท่วมแบบปกติของปีน้ำมาก...ไม่มีอิทธิพลถึงขั้นทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ได้แต่อย่างใด

ตัวการที่จะทำให้ปีน้ำมากกลายเป็นปีน้ำท่วมใหญ่ได้ จะต้องมีพายุที่พัดเข้าสู่ประเทศไทยมาเป็นตัวหนุนเสริมด้วย ปรากฏการณ์แบบปีที่แล้วถึงจะเกิดขึ้น

การจะรู้ว่าพายุแต่ละลูก ที่เกิดขึ้นในทะเล มหาสมุทร จะพัดเข้าไทยหรือไม่...การพยากรณ์อากาศระยะสั้นเท่านั้นที่จะรู้ได้ชัดเจนแม่นยำ

เพราะมีการนำข้อมูลที่ละเอียดมากมาใช้ในการวิเคราะห์พยากรณ์อากาศ...ฉะนั้นความแม่นยำจึงมีสูงกว่า

“หลายคนสงสัยกรมอุตุฯพยากรณ์ได้แม่นยำแค่ไหน ยกตัวอย่างง่ายๆ พายุลูกล่าสุด พายุปาข่าที่ก่อตัวใกล้เวียดนามเมื่อ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา และสลายตัวไปเมื่อวันที่ 2 เม.ย.

ตอนพายุก่อตัว เราได้ประกาศล่วงหน้าพายุลูกนี้จะไม่เข้าไทย และไม่มีอิทธิพลต่ออากาศของประเทศไทย แต่นักวิชาการระดับด็อกเตอร์เกี่ยวข้องกับงานป้องกันน้ำท่วมที่รัฐบาลแต่งตั้ง ต่างตื่นตระหนกตีโพยตีพายกันใหญ่

ถึงขั้นไปฟ้องผู้หลักผู้ใหญ่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์กล่าวหากรมอุตุฯ ทำไมไม่เตือนภัยให้ระวังพายุจะพัดเข้าไทย เดี๋ยวจะเกิดความเสียหายเกิดน้ำท่วมใหญ่
แล้วในที่สุดผลเป็นอย่างไร เป็นอย่างที่กรมอุตุฯพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าหรือเปล่า”

ดร.ภูเวียง ประคำมินทร์ รักษาการ ผอ.สำนักเครื่องมืออุตุนิยมวิทยา และโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยาคุยถึงความแม่นยำในการพยากรณ์อากาศในระยะสั้นไม่เกิน 7 วันของหน่วยงานตัวเอง

แม่นยำได้เนื่องมาจากมีการนำข้อมูลละเอียดทั้งในแนวราบและแนวดิ่งมาใช้ในการพยากรณ์อากาศ

ข้อมูลในแนวราบ...ถ้าใครเคยเปิดอินเตอร์เน็ตเข้าไปดูแผนที่อากาศในเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จะเห็นว่า มีตัวเลขสัญลักษณ์เล็กๆยุบยับเต็มไปหมด



ตัวเลขสัญลักษณ์เหล่านี้ล้วนมีความหมายทั้งสิ้น บอกทั้งอุณหภูมิสูงต่ำ ความเร็วลม ลมพัดมาจากทางทิศไหน ความกดอากาศเท่าไร ทัศนวิสัยมองได้ไกลเท่าไร เมฆหมอก บอกละเอียดหมดทุกอย่าง ที่สถานีตรวจอากาศวัดได้

ไม่ได้บอกรายละเอียดแค่ของประเทศไทยอย่างเดียว ทั่วทั้งโลกมีสถานีตรวจวัดอากาศกี่แห่ง ข้อมูลจะถูกระบุอยู่ในแผนที่นี้หมด เพราะมีการเชื่อมโยงแจ้งข้อมูลให้รู้ทั่วถึงกันทั่วทั้งโลก และบอกรายละเอียดให้รู้วันละ 4 ครั้ง...จึงสามารถติดตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ได้ทุก 4 ชั่วโมง

นั่นเป็นแค่ข้อมูลพื้นฐานที่นำมาใช้ในการพยากรณ์อากาศในระยะสั้นเท่านั้น ยังไม่อาจนำมาใช้พยากรณ์ให้แม่นยำได้ จะพยากรณ์ที่แม่นยำมากขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยาต้องนำข้อมูลตรวจอากาศในแนวดิ่งมาวิเคราะห์ด้วย

ใช้บอลลูนตรวจอากาศ วัดสภาพอากาศในหลายระดับความสูง ตั้งแต่ 2,000 ฟุตขึ้นไปจนถึง 15 กม. ที่สามารถบอกได้ว่าสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปจะทำให้เกิดพายุได้หรือไม่ และจะเป็นพายุระดับไหน รุนแรงแค่ไหน

เพราะความเคลื่อนไหวในอากาศในแต่ละชั้นความสูงจะให้ข้อมูลบอกให้รู้ว่า พายุลูกนั้นจะใหญ่รุนแรงแค่ไหน หรือเป็นแค่ลมพัดแรงธรรมดาเท่านั้นเอง

แค่นั้นไม่พอ ยังมีการนำข้อมูลทั้งในระดับแนวราบแนวดิ่ง มาเข้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อคำนวณประเมินผลสร้างแบบจำลองของสภาพอากาศอีกต่างหาก ซึ่งของไทยเราจะรู้จักกันในชื่อ “ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์” ที่กรมอุตุนิยมฯจัดหามาเมื่อ 15 ปีก่อน

แต่เพื่อให้ข้อมูลแบบจำลองมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ยังได้นำการจำลองสภาพอากาศของสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, สหภาพยุโรป, ญี่ปุ่น, อินเดีย, จีน, เกาหลี มาเทียบเคียงอีกต่างหากว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของเราได้ทำไว้หรือไม่

แล้วไหนยังจะมีข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมตรวจอากาศอีกต่างหากมาร่วมใช้เป็นข้อมูลในการพยากรณ์อากาศ

สิ่งเหล่านี้ทำให้กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ได้ว่า พายุนั้นจะพัดเข้ามาไทย และมีอิทธิพลต่อสภาพอากาศของบ้านเราหรือเปล่า

“ตอนนี้ยืนยันได้ ถ้าเกิดพายุขึ้นในทะเลจีนใต้ เราสามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า 7 วันว่า พายุลูกนี้จะพัดเข้าประเทศไทยหรือไม่ และจะมีอิทธิพลต่ออากาศเมืองไทยขนาดไหน ส่วนพายุที่เกิดขึ้นแถวฟิลิปปินส์ไม่ต้องพูดถึงเรารู้ล่วงหน้าได้นานกว่านั้น เพราะอยู่ไกลจากไทยมาก

และจริงๆแล้วตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาของการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำจากเขื่อน อ่างเก็บน้ำต่างๆ ทุกหน่วยต่างต้องการรู้ข้อมูลพยากรณ์อากาศเพื่อเตรียมการล่วงหน้านานแค่ 3-7 วันเท่านั้นเอง”

แต่ถ้ารัฐบาลอยากได้ข้อมูลที่ละเอียดแม่นยำมากกว่านี้ ถึงขั้นรู้ให้ได้ ฝนจากพายุที่พัดเข้าไทย หรือเมฆฝนจากหย่อมความกดอากาศต่ำที่เกิดจากการสลายตัวของพายุในประเทศเพื่อนบ้าน จะทำให้มีฝนในบ้านเรามากขนาดไหน และฝนจะตกในพื้นที่ใดอย่างแม่นยำ โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยาบอกว่า รัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้ตามที่ได้สัญญากันไว้

เพราะเรดาร์ตรวจอากาศหาเม็ดฝนในก้อนเมฆที่กรมอุตุฯมีอยู่ขณะนี้ เป็นเรดาร์รุ่นโบราณ มีอายุใช้งานมากว่า 20 ปี มีศักยภาพสามารถตรวจหาเม็ดฝนในก้อนเมฆได้เฉพาะแนวระนาบเท่านั้น

เนื่องจากเมฆแต่ละก้อน มีขนาดกว้างยาวสูงใหญ่ไม่เท่ากัน ปริมาณน้ำฝนต่างกัน ฉะนั้นจำเป็นต้องใช้เรดาร์ตรวจอากาศรุ่นใหม่ ที่สามารถยิงคลื่นตรวจวัดเม็ดฝนได้ทั้งแนวราบและแนวดิ่งได้ในเวลาเดียวกัน

นับแต่น้ำท่วมที่ผ่านไปและรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะจัดหางบประมาณให้ เวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้...ทุกอย่างเลยผ่านไป ไม่มีอะไรยื่นมาให้แม้แต่น้อย

ช่างต่างกับ “โครงการขุดลอกคูลอกคลอง” ที่ข้าราชการ นักการเมือง ผู้รับเหมาร่วมใจสามัคคีใช้งบประมาณ ทุกอย่างผ่านฉลุยได้โดยพลัน.



โดย: ไทยรัฐฉบับพิมพ์ สกู๊ปหน้า 1
18 เมษายน 2555, 05:00 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 22:34:11


ความคิดเห็นที่ 5491 (1607257)

.

กรุงเทพฯ เหมือน “เม็กซิโกซิตี” ที่ราบคาบจากแผ่นดินไหว 27 ปีก่อน

สภาพเมืองเม็กซิโกซิตีเมื่อเหตุแผ่นดินไหวในปี 2528

รศ.ดร.อมร พิมานมาศ

รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย

เสริมความแข็งแกร่งอาคารด้วยคาร์บอนไฟเบอร์

เสริมความแข็งแกร่งอาคารด้วยเหล็กปลอก และลวดกรงไก่ แล้วฉาบปูน


นักวิชาการระบุกรุงเทพฯ มีความเสี่ยงเหมือน “เม็กซิโกซิตี” ที่ราบคาบจากแผ่นดินไหวเมื่อ 27 ปีก่อน ทั้งๆ ที่จุดศูนย์กลางอยู่ไกลกว่า 350 กิโลเมตร เหตุเพราะอยู่บนพื้นที่ดินอ่อนเช่นเดียวกัน และไม่ได้ออกแบบอาคารรองรับแผ่นดินไหว แจงมี 3 รอยเลื่อนที่กำหนดความเสี่ยงเมืองกรุงคือรอยเลื่อนในเมืองกาญจน์ พม่าและแนวมุดตัวทางฝั่งอันดามัน ชี้ควรสร้างอาคารที่รองรับการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว
       
รศ.ดร.อมร พิมานมาศ จากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมโครงสร้างและสะพาน สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่าตั้งแต่ปี 2554 มีความตื่นตัวในเรื่องแผ่นดินไหวกันมากขึ้น ซึ่งจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทั้งในนิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จนถึงแผ่นดินไหวล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 11 เม.ย.55 นั้น อาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ มีการสั่นไหวอย่างรุนแรง
       
เหตุที่อาคารสูงในกรุงเทพฯ สั่นไหวอย่างรุนแรงเนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่ดินอ่อนหรือดินเลน เมื่อถูกกระตุ้นจึงขยายการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงได้ถึง 3 เท่า แม้เหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 26 ธ.ค.47 ที่เกาะสุมาตรามีจุดศูนย์กลางอยู่ไกล 1,200 กิโลเมตร หรือแผ่นดินไหวในจีนที่อยู่ไกลออกไปถึง 2,600 กิโลเมตร ก็พบว่ามีการเขย่าของตึกสูงในกรุงเทพฯ แต่ รศ.ดร.อมรกล่าวว่า แม้อาคารสูงจะสั่นอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถล่มเสมอไป ส่วนหนึ่งเพราะอาคารสูงมักได้รับการออกแบบให้รองรับแรงลมระดับหนึ่งอยู่แล้ว
       
อย่างไรก็ดี ตึกสูงในกรุงเทพฯ ยังคงมีความเสี่ยงจากเหตุแผ่นดินไหวอยู่ดี โดย รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย จากคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) กล่าวว่า คลื่นสั่นสะเทือนจากพื้นดินมีความรุนแรงมากกว่าแรงลมอยู่มาก และแม้กรุงเทพฯ ไม่ตั้งอยู่แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว แต่สภาพดินก็ขยายความรุนแรงได้ถึง 3 เท่า โดยเฉพาะความถี่ต่ำๆ จากแผ่นดินไหวจะถูกขยายความรุนแรงโดยอาคารสูงที่มีการโยกอย่างช้าๆ หรือมีความถี่ธรรมชาติที่ตรงกับคลื่นแผ่นดินไหว จึงเกิดการสั่นพ้องหรือการกำทอนขึ้น
       
ทางด้าน รศ.ดร.อมรได้เปรียบเทียบว่ากรุงเทพฯ มีความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวเหมือนกรุงเม็กซิโกซิตีของเม็กซิโก เนื่องจากมี 3 ปัจจัยคล้ายกันคือ 1.ไม่มีรอยเลื่อนอยู่ใต้เมือง 2.ตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน และ 3.อาคารไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับแผ่นดินไหว ซึ่งเมื่อปี 2528 เกิดแผ่นดินไหว 8.5 ริกเตอร์ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตีออกไป 350 กิโลเมตร ส่งผลให้อาคารต่างๆ ถล่มลงมา มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 10,000 คน
       
สำหรับเมืองไทยนั้น รศ.ดร.เป็นหนึ่งกล่าวว่า มี 3 ปัจจัยที่กำหนดความเสี่ยงให้กรุงเทพฯ คือ รอยเลื่อนใน จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7-7.5 ริกเตอร์ รอยเลื่อนสะแกงหรือรอยเลื่อนสกายตามภาษาถิ่นในพท่าที่อยู่ห่างออกไป 400 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ และแนวมุดตัวบริเวณเกาะนิโคบาร์ทางฝั่งอันดามัน (แนวเดียวกับที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 2547) ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 600 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวถึง 8.5 ริกเตอร์
       
ทั้งนี้ รศ.ดร.อมรกล่าวว่าสำหรับกรุงเทพฯ นั้นต้องใช้เม็กซิโกซิตีเป็นแบบจำลองเพราะมีปัจจัยความเสี่ยงเหมือนกัน และแผ่ยดินไหวเป็นเหตุการณ์ที่เตือนไม่ได้ ดังนั้น เราจำเป็นต้องอยู่บนอาคารที่ปลอดภัย ซึ่งทางวิศวกรรมสถานฯ ได้ศึกษาข้อมูลจนนำไปสู่การออก “กฎกระทรวง” ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ในปี 2550 สำหรับบังคับใช้ในการออกแบบอาคารต้านแผ่นดินไหวสำหรับพื้นที่เสี่ยง
       
กฎกระทรวงดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 3 บริเวณ คือ บริเวณที่ 1 ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร บริเวณที่ 2 ได้แก่ กาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน และบริเวณเฝ้าระวัง ได้แก่ กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี หากแต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีความเสี่ยงและต้องปรับแก้กันต่อไป
       
สำหรับอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้ออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวนั้น รศ.ดร.อมรแนะนำให้เสริมความแข็งแรงด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ โดยใช้พันรอบเสาในในตำแหน่งที่จะเสียหายได้ง่าย เช่น โคนเสา เป็นต้น แต่วิธีนี้มีราคาประมาณ 200,000 บาท จึงมีอีกวิธีสำหรับอาคารที่ไม่สูงเกิน 6 ชั้นหรืออาคารตึกแถว ให้ใช้เหล็กปลอกพันรอบโคนเสาแล้วพันทับด้วยลวดกรงไก่จากนั้นฉาบปูนทับ ซึ่งจะได้เสาที่มีความแข็งแรงขึ้นในต้นทุนเสาละประมาณ 1,000 บาท


ชมคลิปอธิบายการสั่นของตึกความสูงระดับ สูง กลาง และต่ำ เมื่อเผชิญแผ่นดินไหว




ASTVผู้จัดการออนไลน์   19 เมษายน 2555 18:07 น.   

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 22:35:07


ความคิดเห็นที่ 5492 (1607258)
สาเหตุปัญหาถนนกทม.ยุบตัว



กรุงเทพมหานคร มีปัญหาถนนยุบตัวในหลายพื้นที่ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ วันนี้ทีมข่าวสปริงนิวส์ มีรายงานพิเศษเกี่ยวกับชั้นดินของกรุงเทพมหานครที่หลายคนสงสัยว่าจะเป็นสาเหตุของถนน­ยุบตัวหรือไม่ ติดตามได้จากรายงาน คุณบงกศ จุ้ยนิ่ม ผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 22:36:56


ความคิดเห็นที่ 5493 (1607259)
สภาพอากาศเลวร้ายทั่วโลก


สภาพอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งพายุ ฝนตกหนัก และน้ำท่วม

เริ่มที่พายุรุนแรงที่พัดถล่มกลางกรุงอิสตันบูลของตุรกี เมื่อวานนี้ อิทธิพลของพายุที่มีความเร็วลม 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้หลังคาของอาคารบ้านเรือนกว่า 300 หลัง ได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน นอกจากนี้ยังทำให้สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ ต้องยกเลิกเที่ยวบินในวันนี้ 42 เที่ยว

ส่วนที่ออสเตรเลีย องค์กรบรรเทาฉุกเฉินของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือกว่า 1,000 สาย ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมอย่างกะทันหัน จากการพยากรณ์ของอุตุนิยมวิทยาของรัฐคาดว่ายังคงมีฝนตกหนักในนครซิดนีย์ และทางตะวันออกของรัฐอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับที่โคลอมเบีย ฝนตกหนักทำให้แม่น้ำชิกูท่วมตลิ่งเมื่อวานนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโบโกต้า 20 กิโลเมตร ประชาชนกว่า 230 คนได้รับผลกระทบ น้ำได้เข้าท่วมกินบริเวณเกือบ 1,000 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่วนที่จีน เกิดพายุทรายพัดถล่มที่เขตปกครองตนเองซินเจียง อุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าตามข้างทางต้นไม้และป้ายโฆษณาได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประชาชนต้องสวมหมวก และผ้าพันคอเวลาออกมาข้างนอก โดยที่เมืองนี้ได้เกิดพายุทรายที่รุนแรงที่สุดที่เคยวัดได้


วิดีโอข่าว http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/55079/%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81.html
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-19 22:38:00


ความคิดเห็นที่ 5494 (1607284)

หวั่น! อ่างเก็บน้ำแม่ฮ่องสอนแตก หากเกิดแผ่นดินไหว





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

ผู้อำนวยการโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ยอมรับ หากเกิดแผ่นดินไหวแรงเกิน 7 ริกเตอร์ อ่างเก็บน้ำแม่ฮ่องสอนอันตราย น้ำอาจทะลักเข้าตัวเมืองได้ ภายใน 10 – 15 นาที

วันนี้ (19 เมษายน) นายกตัญญู ใจชื้น ผู้อำนวยการโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ได้ออกมาเปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำแม่ฮ่องสอน เป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง สามารถบรรจุน้ำได้ 7.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำนบดินมีความยาว 226 เมตร ความสูง 23 เมตร อยู่ห่างตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปทางทิศตะวันออก 3 กิโลเมตร และอยู่สูงกว่าตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมากกว่า 30 เมตร ส่วนสาเหตุที่ทำให้ถูกจัดอยู่ในอันดับ 5 ของอ่างเก็บน้ำที่น่ากลัวในประเทศไทย เนื่องจากมีที่ตั้งติดกับรอยเลื่อนของเปลือกโลกพอดี

ดังนั้น หากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากกว่า 7 ริกเตอร์ อ่างเก็บน้ำดังกล่าว อาจไม่สามารถรองรับความสั่นสะเทือนได้ จนเป็นเหตุให้ปริมาณน้ำในอ่างทั้งหมดไหลทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนในเวลา 10 – 15 นาที ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-20 03:09:32


ความคิดเห็นที่ 5495 (1607344)


  มนุษย์ก่อแผ่นดินไหวให้เกิดขึ้นเสียเอง โดยการขุดบ่อน้ำมันและแก๊สมาใช้

วันที่ 20/04/2555 08:00 (ผ่านมา 10 นาที)




นักธรณีวิทยาของรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวแจ้งว่า มนุษย์ก็สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวถี่ขึ้น ในดินแดนบริเวณใกล้กับหลุมขุดน้ำมันและแก๊สอย่างผิดสังเกตได้ เนื่องจากไปไล่น้ำทิ้งใต้ดินออกไป

เจ้าหน้าที่แจ้งว่า บริเวณแถบกลางทวีปอเมริกา บริเวณรัฐอาร์คันซอ โคโลราโด และอื่นๆ ได้เกิดแผ่นดินไหวเฉลี่ยในแต่ละปีถี่ยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน และกล่าวว่า การขุดน้ำมัน โดยการสูบน้ำและสารเคมีลงไปในชั้นหินใต้ดิน เพื่อจะดูดเอาแก๊สและน้ำมันขึ้นมานั้น อาจทำให้รอยแยกของแผ่นดินเคลื่อน เกิดแผ่นดินไหวขึ้น

เขาเปิดเผยต่อไปว่า นับแต่ปี พ.ศ.2513 ถึง 2543 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดระดับ 3 ขึ้นปีละ 21 ครั้ง แต่พอช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2544 ถึง 2551 ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 29 ครั้ง

ทางกระทรวงมหาดไทยเคยกล่าวว่า การขับน้ำทิ้งใต้ดินออก เป็นที่เชื่อกันนานแล้วว่า อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้.

ไทยรัฐออนไลน์

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-20 12:57:11


ความคิดเห็นที่ 5496 (1607345)

 อินเดียอวด "อัคนี-5" ขีปนาวุธยิงไกล 5,000 กม.

วันที่ 20/04/2555 01:15 





อินเดียประสบความสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล “อัคนี - 5” โดยสามารถยิงได้ไกลถึงเมืองใหญ่ของจีนได้เกือบทั้งประเทศ หรือราว 5,000 กิโลเมตร...

เมื่อวันพฤหัสบดี 19 เม.ย. รัฐบาลอินเดียประกาศความสำเร็จทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่นใหม่ “อัคนี - 5” ขนาดความสูง 17.5 เมตร น้ำหนัก 50 ตัน ราคาลูกละ 486 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปล่อยขึ้นจากฐานยิงจรวดบนเกาะวีเลอร์ บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก 

ขีปนาวุธอัคนี-5 ถูกยิงขึ้นสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 600 กม. การทดลองยิงขีปนาวุธถูกแบ่งเป็น 3 ขั้น ซึ่งขั้นที่ 3 คือการติดหัวรบนิวเคลียร์น้ำหนัก 1.5 ตัน สามารถเดินทางถึงเป้าหมายได้ระยะไกลถึง 5,000 กม. หรือสามารถยิงไกลถึงเมืองใหญ่ของจีนได้เกือบทั้งประเทศ รวมถึงกรุงปักกิ่งและมหานครเซี่ยงไฮ้ ขีปนาวุธอัคนี-5 เป็นขีปนาวุธแบบร่อน ใช้เชื้อเพลิงแข็ง พัฒนาจากขีปนาวุธรุ่นอัคนี-3 ซึ่งพิสัยการยิงได้ไกล 3,500 กม. ยังไม่ถึงเมืองใหญ่ของจีนอีกหลายเมือง ทำให้กองทัพอินเดียต้องพัฒนาสร้างขีปนาวุธรุ่นอัคนี-5 เพิ่มศักยภาพการโจมตีให้ได้ทั่วทุกพื้นที่ของจีนเพื่อคานอำนาจชาติเพื่อนบ้าน

นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์แห่งอินเดีย กล่าวชื่นชมความสำเร็จภารกิจยิงทดสอบขีปนาวุธอัคนี-5 ระบุแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของกองทัพอินเดียในศักยภาพครอบครองขีปนาวุธยิงข้ามทวีป เช่นเดียวกับหลายประเทศในโลก แม้ว่าขีปนาวุธรุ่นนี้ยังต้องทดสอบอีกหลายครั้งก่อนถูกบรรจุเข้าประจำการใน กองทัพ 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกรุงปักกิ่งไม่แสดงท่าทีวิตกกังวล ถึงการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลของอินเดีย โดยระบุอินเดียคือชาติเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่กับจีน ไม่ใช่คู่แข่งหรือศัตรู แต่คือชาติที่ต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในหลายด้าน.


B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-20 12:58:49


ความคิดเห็นที่ 5497 (1607408)

จีนหวั่นภัยพิบัติธรณีวิทยา ย้ายคนนับแสนออกจากเขื่อนใหญ่ที่สุดในโลก

ASTV ผู้จัดการออนไลน์--ศูนย์ข่าวกลางของจีนประกาศแผนการย้ายประชาชนนับแสนคนออกจากพื้นที่เขื่อนสามโตรก ระหว่าง 3-5 ปีนี้ เนื่องจากมีแนวโน้มภัยพิบัติธรรมชาติและดินถล่มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากแถลงการณ์ของหลิ่ว หยวน หัวหน้าสำนักงานปกป้องภัยพิบัติทางธรณีวิทยาบริเวณเขื่อนสามโตรก สังกัดกระทรวงทรัพยากรที่ดินแห่งจีน

นับจากปี 2552 มา โครงการเขื่อนสามโตรก หรือซันซย่า (Three Goges) ได้ทดลองปล่อยน้ำสู่อ่างเก็บน้ำฯ แตะระดับสูงสุด 175 เมตร 3 ครั้ง แต่การที่น้ำแตะระดับสูงสุดนี้ อาจส่งผลกระทบความเสี่ยงภัยพิบัติทางธรณีที่น่ากลัวมากขึ้นภายใน 3-5 ปีนี้ ทั้งจากเหตุดินถล่ม และชายฝั่งพัง ดังนั้น จึงต้องย้ายชาวบ้านออกจากท้องที่ประมาณหนึ่งแสนคนในช่วงเวลาดังกล่าว

หลังจากที่น้ำในเขื่อนแตะระดับสูงสุด ก็ได้เกิดเหตุการณ์ตลิ่งพังและดินถล่มอย่างฉับพลันในบริเวณเพิ่มกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินระดับที่คาดการณ์ไว้ หลิ่วกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตรวจสอบพื้นที่ในจุดต่างๆเพิ่มมากขึ้น เพื่อตรวจสอบผลกระทบจากระดับน้ำในเขื่อนสามโตรก และดำเนินมาตรการป้องกันจุดเสี่ยง 5,386 จุด ในจำนวนนี้มี 182 จุด ที่อาจได้รับผลกระทบสูง และได้ส่งผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเขื่อนสามโตรก ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยังเพิ่มขึ้นไม่สร่างซา ในเดือน ม.ค. กระทรวงสิ่งแวดล้อมจีนได้เตือนผู้พัฒนาโครงการเขื่อนอีกว่าจะต้องให้ความสำคัญกับ “ระบบนิเวศ” เป็นอันดับหนึ่ง และเคร่งครัดสนใจผลกระทบต่อแม่น้ำและชุมชน
ทั้งนี้ จีนได้ก่อสร้างเขื่อนสามโตรก ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกบริเวณหุบเขาซีหลิงเสีย เมืองอี๋ชัง มณฑลหูเป่ยซึ่งอยู่ติดชายแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือของนครฉงชิ่ง โดยมีเป้าหมายป้องกันน้ำท่วม ผลิตพลังงานสะอาด ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างดุเดือด โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2537 โดยเฟสสุดท้ายจะแล้วเสร็จในปี 2552 นี้

ในการสร้างเขื่อนยักษ์ที่มีความยาวตัวเขื่อนร่วม 3 กิโลเมตรหลังนี้ ทำให้จีนต้องปล่อยน้ำท่วมเมืองต่างๆ ที่อยู่ริมฝั่งแยงซีเกียงถึง 116 เมือง เพื่อเป็นอ่างเก็บน้ำใหญ่ มีความยาวถึง 640 กิโลเมตร ระหว่างการก่อสร้างได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ถึงราว 1.4 ล้านคน นับเป็นการอพยพคนครั้งใหญ่ที่สุดในโลก

ก่อนหน้านี้ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีรายงานว่า จีนมีแผนย้ายคนออกจากพื้นที่อีกระลอก 4 ล้านคน ภายในปี 2563 นับเป็นการย้ายใหญ่กว่าครั้งแรกถึง 3 เท่าตัว

B5 - War Room Falkman

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-20 22:56:12


ความคิดเห็นที่ 5498 (1607410)

เปรูเร่งค้นหาสาเหตุโลมาตายลึกลับกว่า 900 ตัว

วันศุกร์ที่ 20 เมษายน 2555 เวลา 12:03 น.

 




ทางการเปรูเร่งสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างลึกลับของโลมากว่า 900 ตัว ที่ถูกคลื่นทยอยซัดมาเกยตื้นบริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศ ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า อาจเกิดจากเชื้อไวรัส

วันนี้ ( 20 เม.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลิมา ประเทศเปรู ว่า ทางการเปรูเร่งสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างลึกลับของโลมากว่า 900 ตัว ที่ถูกคลื่นทยอยซัดมาเกยตื้นบริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศ ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา
นายกาเบรียล กูจานเดรีย รมช.กระทรวงสิ่งแวดล้อมของเปรู แถลงผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงท้องถิ่น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า การเสียชีวิตของโลมาเหล่านี้ ซึ่งกว่าร้อยละ 95 เป็นโลมาจมูกขวด อาจเกิดจากเชื้อไวรัส อย่างไรก็ตาม ทางการยังคงรอผลการชันสูตรโดยละเอียด เพื่อสรุปอีกครั้งว่า มลภาวะทางสิ่งแวดล้อม หรือปัจจัยอื่นๆ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ นายกูจานเดรียยังกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เนื่องจากเคยมีการพบการเสียชีวิตของโลมาในลักษณะคล้ายกันนี้ ทั้งในเม็กซิโก และสหรัฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่วินิจฉัยสาเหตุของการเสียชีวิตว่า เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่ทำให้เกิดโรคหัด และโรคลงแดง.

B5 - War Room Falkman

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-20 23:00:00


ความคิดเห็นที่ 5499 (1607422)

.

พายุทรายพัดถล่มอีรัก การจราจรหนึบ(คลิป)


เกิดพายุทรายพัดถล่มกรุงแบกแดด ของประเทศอิรัก  ซึ่งเป็นครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่งผลให้ทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นสีส้ม และทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง โดยเฉพาะผู้ใช้รถใช้ถนนเกือบมองไม่เห็นทาง  ส่วนผู้คนทั่วไปต้องรีบหาที่กำบังกันจ้าละหวั่น เนื่องจากพายุทรายพัดมาแรงมาก

จากเหตุดังกล่าวทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าออกมานอกบ้าน  อย่างไรก็ตามยังมีผู้ที่ออกมาภายนอก ซึ่งหาวิธีป้องกันโดยสวมหน้ากากคลุมใบหน้า หรือใช้เอาผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปากเอาไว้  ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสวมหน้ากากคลุมใบหน้าเช่นกัน 

สำหรับโรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้ป่วย ซึ่งมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ  บางรายที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการยิ่งแย่หนัก  ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นคนแก่  นอกจากนี้พายุดังกล่าวยังทำให้ตาเกิดการระคายเคืองอีกด้วย 

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำกรุงแบกแดด บอกว่า เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดพายุทะเลทราย มีประชาชนกว่า 60 คน  เดินทางมาโรงพยาบาล  เพราะหายใจติดขัด  ซึ่งล่าสุดสถานการณ์เริ่มทรงตัวและอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังมีอ๊อกซิเจน และหน้ากากอ๊อกซิเจนสำรองเพียงพอ

ทั้งนี้ตามปกติ อิรักเกิดพายุทรายอยู่เป็นประจำ แต่ภัยแล้งหลายปีติดต่อกันทำให้พายุทรายรุนแรงขึ้นในปีนี้  ระดับน้ำในแม่น้ำไทกริส และ ยูเฟรติส ที่ลดน้อยลง เพราะประเทศต้นน้ำ เช่น ตุรกี สร้างเขื่อนดักเอาไว้ ยิ่งทำให้อิรักเกิดภัยแล้ง และฝุ่นทรายก็มีมากขึ้น  ฝุ่นจากพายุทรายยังปลิวเข้าบ้านเรือนไปเกาะติดตามเครื่องเรือน และเกาะติดตามเส้นผมของผู้คน ทั้งยังทำให้ลิ้นแห้งสากอีกด้วย





http://www.springnewstv.tv/news/foreign/13476.html
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-21 03:11:18


ความคิดเห็นที่ 5500 (1607423)

.

 
จีนเพิ่มระดับการเตือนภัยเหตุน้ำท่วมหนักมณฑลกวางตุ้ง


มณฑลกวางตุ้งของจีนเผชิญกับฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ทางการต้องเพิ่มระดับการเตือนภัยจากระดับสีเหลืองเป็นสีส้ม

สภาพอากาศที่เกิดขึ้นในมณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ของจีนที่ว่าค่อนข้างเลวร้าย เมื่อพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงพัดเข้าถล่ม ทำให้เกิดฝนตกหนัก โดยในเมืองกวางโจว เมืองเอกของมณฑล วัดปริมาณน้ำฝนในหนึ่งชั่วโมงได้เกินกว่า 20 มิลลิเมตร ส่งผลให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมถนนหลายสาย สนานบินไป่หยุน (Baiyun) ต้องเลื่อนกำหนดเที่ยวบินถึง 30 เที่ยว ขณะที่เที่ยวบินอีก 12 เที่ยวต้องเปลี่ยนจุดหมายไปลงจอดที่สนามบินเมืองเซินเจิ้นและเมืองซูไห่

นอกจากพายุฝนฟ้าคะนองแล้วยังเกิดพายุลูกเห็บและพายุทอร์นาโดในบางพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนกว่า 20 หลังในเขตไป่หยุน ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ส่งผลให้บ้านเรือน 7,000 หลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านต่างหวาดผวากับพายุทอร์นาโดที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีปศุสัตว์ล้มตายไปอีกหลายร้อยตัว/สำนักงานพยาการณ์อากาศคาดการณ์ว่า มนฑลกวางตุ้งจะยังคงเผชิญกับฝนตกหนักต่อไปอีก 2 วัน


ThaiPBS
20/04/2012 - 15:24 น.


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-21 03:12:32



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 [55] 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.