เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทะเลโฟม (Sea of Foam) บริเวณชายฝั่ง
เมืองเลอเน (Lorne) ในรัฐวิคตอเรีย (Victoria) ของประเทศออสเตรเลีย
หลังจากที่ระลอกคลื่นซัดเข้าฝั่งแตกเป็นฟองกระจายตัวเป็นทะเลโฟมปก
คลุมพื้นที่เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร และแน่นอนว่าปรากฏการณ์ทะเล
โฟมได้ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคนล้วนแล้ว
แต่อดใจไม่ไหวที่จะมาดำผุดดำว่ายกันอย่างสนุกสนานในทะเลโฟมแห่งนี้
สำหรับปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
และถูกบันทึกภาพโดย อเล็กซ์ คลีแลนด์ (Alex Cleland) ชาวบ้านในเมือง
เลอเนและเพื่อน ๆ อีก 2 คน ซึ่งเขาเล่าว่า “มันแปลกประหลาดมาก ทั้งนัก
ท่องเที่ยวและชาวบ้านถึงกับต้องหยุดดูและพากันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก”
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ทะเลโฟมจะพบเห็นไม่บ่อยครั้งนัก หลายปีถึงจะเกิดขึ้น
สักครั้งหนึ่ง โดยเกิดจากภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้พัดพาอินทรียวัตถุ
ไหลลงสู่ทะเล และถูกคลื่นเขย่าจนเป็นฟอง ก่อนซัดถาโถมกลับคืนสู่ฝั่ง
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังได้อธิบายว่า ฟองโฟมเหล่านี้ไม่ได้เกิดสิ่ง
สวยงาม แต่มันเกิดจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ทำให้ทะเล
สกปรก, เกิดจากเกลือ, เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี, การเน่าเปื่อยของซากพืช
ซากสัตว์ในทะเล ปลา ที่เกิดจากน้ำเสียที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เมื่อทุกอย่างมา
รวมตัวกันด้วยส่วนผสมที่ลงตัว และมีคลื่นที่เคลื่อนตัวแล้วม้วนตัวลงก็จะทำ
ให้เกิดฟองซึ่งถูกพัดออกมาสะสมอยู่ที่ริมชายหาด
หากนักท่องเที่ยวที่ลงไปเล่นอย่างสนุกสนานได้ฟังข้อเท็จจริงแบบนี้แล้ว ก็
ไม่รู้ว่ายังจะกล้าลงไปแหวกว่ายกันอยู่ไหม