รัฐบาลเดินหน้าต่อ โครงการถมทะเล สร้างเมืองใหม่

เขียนโดย Mthai News Reporter โพสต์เมื่อ วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2555 



ขณะที่กรมที่ดินงัดโมเดลศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะเป็นต้นแบบ เล็งเริ่มต้นหัวหิน อ้อมอ่าวไทยไปพัทยา

จากกรณีที่รัฐบาลได้ประกาศผ่านรัฐสภาให้โครงการถมทะเลสร้างเมืองใหม่ เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องทำในสมัยรัฐบาลนี้ โดยทุ่มงบประมาณมูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านบาทในการดำเนินการ เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจ ที่อยู่อาศัย รีสอร์ต มารีน่า และรถไฟความเร็วสูง

รวมไปถึงเป็นแนวกันน้ำท่วมและแก้ไขปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อลดการกัดเซาะให้ลดน้อยลง ทั้งนี้แม้โครงการจะถูกคัดค้านอย่างหนัก แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลเพื่อไทย ก็ยังพยายามพลักดันให้นโยบายดังกล่าวเดินหน้าอยู่นั้น
นายบุญเชิด คิดเห็น อธิบดีกรมที่ดิน ได้ออกมากล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการว่า ขณะนี้ขั้นตอนโครงการอยู่ระหว่างการยกร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นร่างพระราชบัญญัติได้ผ่านการพิจารณาของคณะทำงานยกร่างฯ แล้ว เตรียมจะเสนอกระทรวงมหาดไทย และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเร็วๆ นี้

โดยการยกร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่นั้น ได้มีการเสนอให้จัดตั้งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) ใช้ชื่อว่า บริษัท บริหารจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย จำกัด เป็นผู้ดำเนินงานในการจัดการโครงการ ให้มีรูปแบบเหมือนบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ที่คอยผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจและการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ ทั้งแปรสภาพแหล่งน้ำ และถมทะเล

ส่วนแนวทางในการดำเนินการนั้น ให้นำการก่อสร้างศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติถนนแจ้งวัฒนะเป็นต้นแบบ เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินการและการบริหารจัดการทางด้านการเงินและการระดมทุน โดยจะแบ่งการพัฒนาเป็นเฟส ๆ ตามความเหมาะสม
สำหรับพื้นที่ที่จะถมทะเลนั้น มีหลายตัวเลือก อาทิ สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี และชลบุรี เบื้องต้นได้คัดเลือกพื้นที่เป็น 2 แนวทางคือ

1.ก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำบริเวณริมฝั่งทะเล จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วอ้อมทะเลอ่าวไทยไปเมืองพัทยา

2.ก่อสร้างลึกเข้าไปในทะเล ห่างจากชายฝั่งทะเล 15-16 กิโลเมตร ตามแนวสันทราย จากชายฝั่งทะเลในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ไปถึงฝั่งทะเลด้าน จ.ชลบุรี รูปแบบจะเป็นถนนขนาด 4-6 เลน ตลอดทางจะมีประตูน้ำขนาดใหญ่สำหรับระบายน้ำทะเลเข้าออก และจะมีการถมทะเลพัฒนาเชิงพาณิชย์

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดำเนินการโครงการก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักวิชาการ และให้ความสำคัญกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ

Mthai News

รัฐบาลเดินหน้าต่อ โครงการถมทะเล สร้างเมืองใหม่ | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง

 หวั่นมรสุมเข้าไทย 8-10 ต.ค.นี้ 

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2555 เวลา 12:38 น.

 




"รอยล" ประสานกรมชลฯเร่งระบายน้ำกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก หลังพบดินทรุดตัวร้อยละ 50 ทำให้การระบายน้ำล่าช้า 

ศูนย์ซิงเกลิน์คอมมานด์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำภายใต้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. กล่าวว่ามีความกังวลหย่อมความกดอากาศต่ำทางทะเลจีนใต้ ที่จะเคลื่อนตัวเข้าประเทศเวียดนาม กัมพูชา และเข้าประเทศไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออกมีน้ำสูงขึ้น

เนื่องจากจะมีฝนตกมากขึ้น โดยขณะนี้ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 จุดใน 4 คลอง คือ คลองลาดกระบัง คลองบางโฉลง คลองบางเสาธงและคลองประเวศ ดำเนินการร่วมกับกรมชลประทาน เคลื่อนย้่่ายเครื่องสูบน้ำมาจากคลอง 7 และคลอง 13 มาติดตั้งเพิ่มที่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต เพราะต้องการเร่งการระบายน้ำ เนื่องจากพบว่าพื้นที่ดังกล่าว ดินทรุดตัวกว่าร้อยละ 50 ทำให้น้ำไม่ไหลออกนอกพื้นที่

ขณะที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ได้เร่งพร่องน้ำในแม่น้ำท่าจีนเพิ่มขึ้น เพราะมีปริมาณน้ำไหลมาจากฝนที่ตกในพื้นที่มาก นอกจากนี้จากการพร่องน้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ และลดการระบายลง คาดว่าวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ ระดับน้ำทั้งสองเขื่อนจะอยู่ที่ร้อยละ 74 แล 75 ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลที่สามารถมีน้ำใช้อย่างพียงพอในฤดูแล้ง

โดยระยะนี้ให้เฝ้าระวังแม่น้ำสุพรรณบุรี หรือแม่น้ำท่าจีนที่อ.สองพี่น้อง อ.เมื่องสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.13 เมตร และคาดว่าปริมาณจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะปริมาณน้ำจากเขื่อนกระเสียว ไหลมาสมทบด้วย

อย่างไรก็ตามปริมาณฝนในสัปดาห์นี้จะลดลงไป เพราะร่องฝนเลื่อนลงไปภาคใต้แล้ว แต่ต้องเตรียมพร่องน้ำในพื้นที่ภาคกลางตอนล่างไว้ด้วย เกรงว่าย่อมมรสุมจากประเทศเวียดนามอาจจะส่งผลต่อพื้นที่กรุงเทพฯในสัปดาห์หน้าด้วย คาดการณ์ปริมาณฝนจะมากเท่ากับช่วงปลายกันยายน ซึ่งมีปริมาณฝนเฉลี่ยเกิน 200 กว่ามิลลิเมตร มากกว่าค่าเฉลี่ยฝนทั้งประเทศในเดือนกันยายน แต่ยังน้อยกว่าปี 54 

หวั่นมรสุมเข้าไทย8-10 ต.ค.นี้ | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

กทม.เล็งสร้างอุโมงค์-ปตร.กรุงเทพฯ เพิ่ม

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2555 13:53น.



กรุงเทพมหานคร เตรียมสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ และประตูระบายน้ำในกรุงเทพฯ เพิ่มอีก 3 จุด เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ได้กล่าวถึงกรณีที่ทางกรุงเทพมหานคร จะมีการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำเพิ่มขึ้นมาอีก 3 แห่ง ได้แก่ อุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อ ในขณะนี้ได้มีการประกวดราคาแล้ว รอเสนอให้รัฐบาลทราบ เพื่อเข้า ครม.ต่อไป สำหรับอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน ได้มีการเสนอแผนไปแล้ว และยังมีส่วนที่ต้องเพิ่มเนื้อหา นำเสนอให้รัฐบาลอีกเป็นบางส่วน ส่วนประตูระบายน้ำดอนเมือง ได้มีการออกแบบไปบ้างแล้ว แต่ยังมีอุปสรรคในเรื่องของการจัดสรรพื้นที่ในการก่อสร้าง เนื่องจากติดพื้นที่ที่เป็นเส้นทางการรถไฟ จึงจะต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือด้วย และในการออกแบบก่อสร้างลักษณะของอุโมงค์ ก็จะมีการออกแบบคล้ายกับอุโมงค์ที่พระราม 9 

B5 - War Room Falkman 

 ปภ.สรุปล่าสุด 11 จังหวัดน้ำยังท่วม

2012-10-01 12:01:54 



ปภ.ระบุ มี11จังหวัดยังคงเผชิญน้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อน 179,074 คน ส่วนพื้นที่อุทกภัยใน5จว.เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 

วันที่ 1 ต.ค. 2555 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปสถานการณ์สาธารณภัยประจำวันว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 11 จังหวัด ได้แก่จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี

รวม 42 อำเภอ 290 ตำบล 1,763 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 75,523 ครัวเรือน 179,074 คน สําหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จ.ราชบุรี สตูล สุราษฎร์ธานี พังงา และระนอง ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว



http://news.springnewstv.tv/19393/

 นาซา เล็ง หาทางทำเหมืองแร่บนดาวเคราะห์น้อย

เขียนโดย nuntarat โพสต์เมื่อ วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2555 



ภาพ-แบบจำลองหุ่นยนต์สำรวจเหมืองแร่
องค์การอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ได้ทำสัญญาจ้างเหมา ให้ ดร.มาร์ค เอม. และทีมงานโคเฮน ศึกษาลู่ทางของการทำเหมืองแร่บนดาวเคราะห์น้อยดวงต่างๆ
ทั้งนี้ดร.โคเฮนได้ตั้งบริษัท ทรัพยากรระหว่างดวงดาวขึ้น โดยมีแผนการว่าจะส่งยานอวกาศหุ่นยนต์ไปสำรวจดาวเคราะห์น้อยจำนวนหนึ่ง เพื่อสำรวจแร่ดูก่อน แล้วจึงส่งหุ่นยนต์ขุดแร่ไปทำงาน
โดยในแผนงานต้องมีการส่งกล้องโทรทรรศน์ไปอยู่ในวงโคจรรอบดาวศุกร์ แล้วใช้หุ่นยนต์คนงานเหมืองส่งขึ้นไปดักดาวเคราะห์น้อยที่โคจรเข้ามาใกล้โลก ขุดเอาแร่ พวกนิกเกิลและเหล็กที่มีอยู่มากมาย แล้วส่งแร่ธาตุที่ขุดได้กลับมายังโลก
Mthai News

นาซา เล็ง หาทางทำเหมืองแร่บนดาวเคราะห์น้อย | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง

 เกิดแผ่นดินไหว ที่ โคลัมเบีย 

 ชาวภูเก็ตตื่น!! ปูนับหมื่นอพยพย้ายถิ่น ผวาลางบอกเหตุร้าย

ปูไม่ทราบชนิดนับหมื่นตัวอพยพย้ายถิ่นจากป่าชายเลนอีกฝั่งไปยังอีกฝั่ง ชาวภูเก็ตพากันตื่นหวั่นเป็นลางร้ายเตือนภัยพิบัติวันพระจันทร์เต็มดวง...

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่บริเวณป่าชายเลนนับสิบไร่ ปากทางเข้าสำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ตรงข้ามสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน ที่ 23 ภูเก็ต ถ.ศักดิเดชน์ ซอย 1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตได้มีชาวบ้าน และเด็กนับสิบคนกำลังก้มหน้าก้มตาดูปูไม่ทราบชนิดและสายพันธุ์กำลังเดินพาเหรดออกมาจากป่าชายเลนนับหมื่นตัวมายังร่องน้ำ เพื่อพยายามจะข้ามถนนสายดังกล่าวไปยังป่าชายเลนอีกฝั่ง แต่เมื่อมีฝนตกลงมาทำให้ปูทั้งหมดต่างหยุดชะงักและลังเลที่จะเดินข้าม ขณะที่ปูบางกลุ่มต่างทยอยชักแถวย้อนกลับเข้าไปยังป่าชายเลนที่เดินมาครั้งแรก 

ทั้งนี้ ลักษณะของปูส่วนใหญ่จะมีสีน้ำตาลเข้มขนาดใหญ่สุดเกือบเท่าผ่ามือเด็ก โดยบางตัวบริเวณใต้ท้องจะเต็มไปด้วยไข่สีส้มเป็นจำนวนมากนับพันฟอง ซึ่งชาวบ้านที่พบเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าอาจจะเป็นลางร้าย หรือลางบอกเหตุบางอย่าง โดยชาวบ้านบางคนบอกว่าเป็นปูหิน บางคนบอกเป็นปูเสมา ปูแสม และปูเปรี้ยว โดยไม่มีชาวบ้านคนใดกล้าที่จับปูดังกล่าวกลับไปเพื่อทำอาหารหรือเลี้ยงแต่อย่างใด

นายวินัย สุราตะโก อายุ 52 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นปูหินเป็นจำนวนมากอพยพขึ้นมามากเช่นนี้มาก่อน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าใต้พื้นดินอาจมีความร้อนสูงกว่าปกติ ทำให้ปูไม่สามารถอยู่ในรูได้ หรือไม่อาจเป็นเรื่องปัญหาน้ำเสียในป่าชายเลนหรือทะเลใกล้เคียง ทำให้ปูทั้งหมดนับหมื่นตัวต่างพากันอพยพย้ายถิ่นฐานข้ามจากป่าชายเลนอีกฝั่งไปยังป่าชายเลนอีกฝั่ง เพื่อหนีตายหรืออาจหาที่วางไข่ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าปูหินหรือปูแสมอาจขึ้นมาวางไข่ในช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย.จึงหาสถานที่วางไข่ โดยเฉพาะวันขึ้น 15 ค่ำของทุกปี แต่ที่สำคัญที่สุดคนโบราณเชื่อกันว่าอาจเป็นลางร้ายหรือลางบอกเหตุ ตลอดจนสัตว์อาจเตือนภัยพิบัติในวันพระจันทร์เต็มดวงหรือวันไหว้พระจันทร์.

ไทยรัฐ

ฮือฮา! พบเห็ดยักษ์คล้ายแมงกระพรุน ที่กาญจนบุรี

เขียนโดย nuntarat โพสต์เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2555 



รายงานข่าวแจ้งว่า นายระพีพล อังสุโชติ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 อยู่บ้านเลขที่ 9/8 หมู่ 8 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่าพบเห็ดตีนแรดมีดอกขนาดใหญ่วัดเส้นรอบวงกลมได้ 166 เซนติเมตร ขั้นซ้อนกันเป็นชั้นๆ จำนวนมาก มีลักษณะคล้ายแมงกะพรุน ดอกใหญ่สุด เส้นผ่าศูนย์กลางวัดได้ 54 เซนติเมตร มีประมาณ 19 ถึง 20 ดอก
นายพีระพล อังสุโชติ เล่าว่า เราเคยพบเห็ดบริเวณนี้มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ซึ่งจะขึ้นปีละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ทั้งนี้บ้านของตนเป็นแคมป์ขี่ม้าด้านหลังเป็นพื้นที่สวนป่า มีดินอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาบริเวณนี้เคยพบเห็ดหลินจือที่มีราคาแพงมาแล้ว สำหรับเห็ดที่พบทางภาคเหนือเรียกว่าเห็ดจั่น คนทั่วไปเรียกเห็ดแรด ส่วนชาวกาญจนบุรีจะเรียกว่าเห็ดตับเต่าขาว ไม่แน่ใจว่าทางได้หรือไม่ ซึ่งเมื่อทราบข่าวชาวบ้านก็เดินทางมาขอหวย
แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำตนว่าหากอยากทราบว่าเห็นชนิดนี้รับประทานได้หรือไม่ ให้นำไปต้มกับข้าวสาร หากข้าวสารกลายเป็นสีดำแสดงว่าเห็ดมีพิษ ไม่สามารถรับประทานได้ ซึ่งตนจะลองนำเห็ดที่พบไปลองต้มดู
Mthai News

ฮือฮา! พบเห็ดยักษ์คล้ายแมงกระพรุน ที่กาญจนบุรี | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง

B1 - War Room Falkman 

ลำพูน-อากาศเริ่มหนาวเย็น

วันจันทร์ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 



จังหวัดลำพูนเริ่มมีหมอกลงปกคลุมหลายพื้นที่ ตอนกลางคืนอากาศเริ่มหนาวเย็น ผู้ว่าฯลำพูน ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ เตรียมรับมือกับภัยหนาว

สภาพอากาศบนถนนสายลำพูน-ลำปาง ช่วงอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เช้าวันนี้ มีหมอกปกคลุมหนาแน่น ขณะที่สภาพอากาศใน 8 อำเภอของจังหวัด โดยเฉพาะที่อำเภอแม่ทา อำเภอลี้ อำเภอทุ่งหัวช้าง หลังจากที่ฝนหยุดตกลงมา 2-3 วันตอนเช้าๆเริ่มมีหมองลงแล้ว บางจุดอากาศเริ่มเย็น ซึ่งหมอกที่ปกคลุมช่วงเช้าๆเริ่มส่งผลกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนน ต้องเปิดไฟหน้ารถ และต้องระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ เนื่องจากหมอกลงหนาจัดทำให้ทัศนวิสัยบนท้องถนนไม่ดี บางจุดโดยเฉพาะตามเทือกเขาเส้นทางสายอำเภอลี้ ทุ่งหวัดช้าง ระยะการมองเห็นเหลือแค่ 150 เมตร รถทุกคันต้องเปิดไฟวิ่ง

ด้าน นาย สุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ออกประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ 8 อำเภอ เตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

สำหรับสภาพอากาศเช้านี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและ มีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่หมอกหนา โดยลดความเร็วลงเปิดไฟหน้ารถ และปฏิบัติตามกฏจารจร และป้ายแจ้งเตือนตามเส้นทางอย่างเคร่งครัดในช่วงที่สัญจรผ่านเส้นทางหมอกหนา เนื่องจากบางพื้นที่หมอกลงจัดจนทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ลดลง นอกจากนั้นประชาชนยังเตือนประชาชนในพื้นที่ให้รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวน นอกจากนั้นอากาศหนาวเย็นจะทำให้ประชาชนล้มป่วยกับโรคที่มาจากอากาศหนาวเย็นได้ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด ไอจาม มีน้ำมูกไหล ปอดบวม ภูมิแพ้ หืดหอบ

ลำพูน-อากาศเริ่มหนาวเย็น ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวด่วน ข่าว ข่าวสด ข่าววันนี้ สลากกินแบ่งรัฐบาล ข่าวดารา ข่าวบันเทิง : ครอบครัวข่าว 3

B1 - War Room Falkman 

 พายุนอร์แมนซัดฝั่งเม็กซิโกอพยพเร่งปชช.

1 ต.ค. 55 06.12 น. 



พายุโซนร้อน นอร์แมน อาจจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น แต่อิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงในรัฐซินาโล ชายฝั่งด้านตะวันตกของประเทศ โดยทางการอพยพชาวบ้านราว 200 ครอบครัว ออกจากเขตประมงยาเมโต้เพื่อความปลอดภัย โดยตำรวจนำรถบรรทุกและรถบัส ไปช่วยอพยพชาวบ้าน ทั้งนี้ ความรุนแรงของพายุทำให้สิ่งปลูกสร้างที่ทำจากไม้ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น และคาดว่าอีก 1-2 วัน พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนัก

http://news.sanook.com/1145480/%E0%B...8A%E0%B8%8A.-/

ชีวิตรันทด!แม่วอนช่วยลูก5ขวบป่วยผิวหนังไหม้ (ไอเอ็นเอ็น)

         รันทด แม่วอนช่วยลูกวัย 5 ขวบ ป่วยเป็นโรคผิวหนังตกสะเก็ด และผิวหนังไหม้ หลัง คลอด จนตาบอด

         ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก น.ส.สุริยาวดี แสนสุริวงศ์ อายุ 28 ปี ชาวบ้านวังสิม หมู่ 6 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม เพื่อขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานรับผิดชอบ หรือผู้ใจบุญ กรณีบุตรชาย ด.ช.พีรัชชัย กอมสิน หรือ น้องนิว อายุ 5 ขวบ ป่วยเป็นโรคผิวหนังตกสะเก็ด เป็นแผลพุพองมาตั้งแต่แรกเกิด มีสภาพผิวหนังไหม้ ไม่ทราบสาเหตุ จนต้องทำการรักษาต่อเนื่องมานานนับ 5 ปี ทุกเดือนจะต้องไปตรวจรักษาตามหมอนัด ที่โรงพยาบาลศิริราชอย่างต่อเนื่อง 

         ผู้เป็นแม่ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนเองต้องทนเห็นสภาพลูกอยู่ในความทุกข์ทรมานจากอาการผิวหนังพุพอง ถึงแม้ว่าแผลจะแห้ง แต่ยังตกสะเก็ดแสบร้อนอยู่ ต้องทายาตลอด แถมการพัฒนาการของร่างกายก็ช้า ไม่ทันเพื่อน มีปัญหาการเป็นอยู่กับเพื่อน ไปโรงเรียนไม่ได้ แต่พูดคุยรู้เรื่อง ซ้ำร้ายกว่านั้น พบว่าตาซ้ายบอดแล้ว และข้างขวา กำลังจะมองไม่เห็น ทำให้ตนเครียดมาก เพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากมีฐานะยากจน แยกกันอยู่กับสามี ต้องหาเงินเพียงลำพัง จึงได้ไปแจ้งขอความช่วยเหลือจากทาง อบต.ปลาปาก พร้อมกับวอนผู้ใจบุญ ช่วยเหลือตามที่อยู่ข้างต้นดังกล่าว

ที่มา :  http://hilight.kapook.com/view/73859

อ่างห้วยหลวงฯพร้อมรับน้ำพายุเกมีปลายสัปดาห์



หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน พายุโซนร้อน "เกมี" (GAEMI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 700 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 5-6 ต.ค. และจะเริ่มมีผลกระทบกับลักษณะอากาศของประเทศไทยในช่วงวันที่ 4-8 ตุลาคม นี้ โดยจะทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน 

จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "เกมี" ที่อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ในวันนี้มีปริมาณน้ำเพียง 52 ล้าน ลบ.ม. หรือ 38 เปอร์เซนต์ จากปริมาณความจุของอ่าง 135 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.อุดรธานี ตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 100 ล้าน ลบ.ม. โดยที่ผ่านมาโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง ได้เสนอขอให้มีการทำฝนหลวงในพื้นที่ เนื่องจากปริมาณน้ำกักเก็บยังน้อยมาก อาจส่งผลให้เกิดภาวะภัยแล้งในพื้นที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า

นายบุญยลักษณ์ ฉลองสัพพัญญู ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง กล่าวว่า ถึงแม้ จ.อุดรธานี มีฝนตกลงมาในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่มากนัก น้ำไหลเข้าอ่างน้อยมาก โดยทางโครงการฯ ยังคงงดส่งน้ำให้เกษตรกรในช่วงนี้ไปก่อน เพื่อให้เหลือน้ำไว้ทำน้ำประปา วันละ 0.05 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนี้ทางโครงการฯ ได้เสนอให้ทำฝนหลวงในพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าปริมาณน้ำกักเก็บจะไม่พอใช้ในช่วงหน้าแล้ง 

"หาก จ.อุดรธานี ได้รับอิทธิพลจากพายุเกมี ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง สามารถรองรับน้ำได้อีกว่า 80 ล้าน ลบ.ม. เพราะเกณฑ์เฉลี่ยของการกักเก็บของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ในเดือนตุลาคม น้ำจะต้องมีกักเก็บมากกว่า 100 ล้าน ลบ.ม.หรือเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง คาดว่าพายุโซนร้อนเกมี ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ เพราะช่วงนี้ จ.อุดรธานี ยังคงแล้ง และต้องการน้ำอีกจำนวนมาก"

อ่างห้วยหลวงฯพร้อมรับน้ำพายุเกมีปลายสัปดาห์

B1 - War Room Falkman 

 เชียงใหม่อากาศเริ่มหนาวเย็นหมอกปกคลุมหลายพื้นที่

 ระทึก!ระบบขัดข้อง "เกาหลีใต้" สั่งปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่ง

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2555 เวลา 13:35 น.

 




เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่งของเกาหลีใต้ จำเป็นต้องปิดตัวลงพร้อมกันชั่วคราวโดยมิได้นัดหมาย สาเหตุจากระบบขัดข้อง ขณะที่ทางการยืนยันไม่มีรังสีรั่วไหลแน่นอน 

วันนี้ ( 2 ต.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ว่า ทางการเกาหลีใต้ประกาศปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่งขนาด 1,000 เมกะวัตต์ในวันนี้ พร้อมกับยืนยันสาเหตุว่าจากความขัดข้องของระบบคอมพิวเตอร์ และไม่มีการรั่วไหลของรังสีอย่างที่หลายฝ่ายหวั่นเกรงแน่นอน

แถลงการณ์ของบริษัทรัฐวิสาหกิจโคเรีย ไฮโดร แอนด์ นิวเคลียร์ พาวเวอร์ ( เคเอชเอ็นพี ) ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 2 แห่ง ระบุว่า เหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นไม่มีความเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด แม้จะเกิดจากสาเหตุเดียวกัน คือ ความผิดปกติของแท่งควบคุมภายในเตาปฏิกรณ์ก็ตาม

ทั้งนี้ เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าชินโกรี ใกล้กับเมืองปูซาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ปิดระบบการทำงานของเตา เมื่อเวลา 08.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 06.10 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) หลังสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เจ้าหน้าที่ต้องระงับการทำงานของเตาปฏิกรณ์ตัวดังกล่าว หลังเริ่มเปิดเดินเครื่องเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว

ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่ง เกิดขึ้นกับเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้ายองกวาง ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ราว 260 กิโลเมตร ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ปิดตัวเองลงโดยอัตโนมัติ หลังตรวจพบความผิดปกติในระบบปั๊มน้ำของระบบหมุนเวียนน้ำหล่อเย็น ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ก.ค. เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 1,000 เมกะวัตต์อีกตัวหนึ่งของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ต้องปิดตัวเองลงอัตโนมัติ หลังระบบคอมพิวเตอร์มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากยังคงกังวลในมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลังเกิดเหตุวิศวกรอาวุโส 5 คน ถูกดำเนินคดีข้อหาปกปิดหลักฐานเกี่ยวกับความขัดข้องของระบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่ง 1 ใน 5 ราย คือวิศวกรผู้ดูแลเตาปฏิกรณ์โกรี-1 ซึ่งเป็นเตาปฏิกรณ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศ

ปัจจุบัน เกาหลีใต้มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งสิ้น 23 แห่ง สามารถผลิตกระแสไฟฟ้ารองรับความต้องการของประชาชนทั่วประเทศได้ถึงกว่าร้อยละ ทำให้รัฐบาลโซลยืนยันจะใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง แม้ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิจิ ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากสึนามิก็ตาม

ระทึก!ระบบขัดข้อง "เกาหลีใต้" สั่งปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่ง | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 ญี่ปุ่นแผ่นดินไหวรุนแรงรับอรุณ 2 ครั้งซ้อน

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2555 เวลา 08:12 น.

 




ญี่่ปุ่นเผชิญแผ่นดินไหวรุนแรง 6.2 และ 5.1 ริคเตอร์ บริเวณเมืองมิยาโกะ ในจังหวัดอิวาเตะ บนเกาะฮอนชู แต่ไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรง รวมถึงการประกาศเตือนภัยสึนามิ 

วันนี้ ( 2 ต.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.2 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของญี่ปุ่นในวันนี้ อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรง รวมถึงการประกาศเตือนภัยสึนามิ

รายงานของสำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) ระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.21 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 05.21 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 9.7 กิโลเมตร ห่างจากเมืองมิยาโกะ ในจังหวัดอิวาเตะ บนเกาะฮอนชู ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ค่อนไปทางตะวันออกราว 96 กิโลเมตร และห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ค่อนไปทางเหนือราว 550 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ยังเกิดแผ่นดินไหวซ้ำตรงจุดเดิมอีก ในอีก 30 นาทีถัดมา โดยวัดความแรงได้ 5.1 ริคเตอร์ มีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ทะเล 38 กิโลเมตร ห่างจากเมืองมิยาโกะราว 107 กิโลเมตร และห่างจากกรุงโตเกียวในระยะทาง และทิศทางเดิม

ญี่ปุ่นแผ่นดินไหวรุนแรงรับอรุณ 2 ครั้งซ้อน | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

ปภ.เตือน "30 จังหวัด" เสี่ยงฝนถล่มฤทธิ์พายุเกมี

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2555 เวลา 10:51 น.

 



ปภ.เตือน 6-7 ต.ค. พายุ "เกมี" 30 จังหวัดเสี่ยงฝนถล่ม 

วันนี้ (2 ต.ค.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตาม สภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค. พายุเกมีจะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย 30 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ตราด ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง ระนอง และสตูล

ทั้งนี้ จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ทางน้ำไหลผ่าน เตรียมความพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที 

ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยจากภาวะฝนตกหนักในช่วงวันที่ 5-8 ต.ค.โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังภัยในระยะนี้เป็นพิเศษ.

เตือน "30 จังหวัด" เสี่ยงฝนถล่มฤทธิ์พายุเกมี | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman 

 อุตุเตือนภัย6-7ตุลาคม พายุเข้าไทย ฤทธิ์เดชแรงเท่า"กิสนา"

 

ที่กรมอุตุนิยมวิทยา นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีฝ่ายบริหาร รักษาการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดแถลงข่าวว่า เวลา 10.00น.วันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา เกิดพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 600 กม.ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55กม.ต่อชม.แต่พายุเกือบจะไม่เคลื่อนที่ ซึ่งลักษณะเช่นนี้มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อนภายในวันที่ 2-3ตุลาคมนี้

จากนั้นช่วงวันที่ 4-5 ตุลาคม คาดว่าพายุจะเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนาม ในวันที่ 6-7ตุลาคม จะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่างและเคลื่อนตัวมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกหนาแน่นสะสมเฉลี่ยมากกว่า 90.1มิลลิเมตร บริเวณภาคเหนือตอนล่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน

ทั้งนี้ พายุดังกล่าวถือเป็นพายุลูกแรกที่เข้าประเทศไทยในปี2555 ลักษณะคล้ายพายุ”กิสนา” เมื่อปี2551 ซึ่งจะทำให้หลายพื้นมีน้ำเพิ่มขึ้นในลักษณะน้ำท่วมขัง แต่จะไม่เลวร้ายเหมือนปี2554 เพราะการเคลื่อนตัวของพายุค่อยข้างเร็ว คาดว่าน่าจะอยู่ในประเทศไทยประมาณ 2-3วัน จึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิด

ขอบคุณ ภาพ ข่าวเเนวหน้า http://www.naewna.com/local/24395

B5 - War Room Falkman

 สุขุมพันธุ์” เรียกประชุมด่วน ผอ.เขต รับมือฝนตกหนัก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2555 16:59 น “สุขุมพันธุ์” เรียกประชุมด่วน ผอ.เขต รับมือฝนตกหนัก พร้อมหามาตรการระยะยาวแก้ไขปัญหาชุมชนอยู่นอกคันกั้นน้ำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม.ลงพื้นที่ตรวจสิบสถานการณ์น้ำที่ประตูระบายน้ำมีนบุรี ตอนประชาร่วมใจ เขตมีนบุรี โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายหลังว่า ประตูระบายน้ำดังกล่าวได้เปิดที่ระดับความสูง 40 ซม เท่ากับประตูระบายน้ำที่คลองสองและลาดกระบังซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ทั้งนี้ เพื่อลดความเดือดร้อนของชาวปทุมธานี และชาวบ้านที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการพยากรณ์ฝนตกหนักในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ กทม.ก็จะรี่บานประตูเพื่อรักษาระดับน้ำพร้อมทั้งพร่องน้ำในประตูระบายน้ำออก ตลอดจนประสานงานกรมชลประทานและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ตนเองได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตเตรียมกระสอบทรายให้เรียบร้อยพร้อมทั้งออก ว8 ให้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เข้ามาประชุมด่วนในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น.เพื่อกำชับมาตรการต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกในสัปดาห์หน้า รวมทั้งหามาตรการแก้ไขปัญหาชุมชนนอกคันกั้นน้ำอย่างครบวงจรในระยะยาว เพราะเรื่องดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะอันสั้น จากนั้นผู้ว่าฯ กทม.และคณะ ได้เดินทางมายังหมู่บ้านมีนบุรี การ์เด้นท์โฮม ซึ่งเป็น 1 ใน 13 จุดอ่อนน้ำท่วมขัง และอยู่นอกคันกั้นน้ำของพื้นที่เขตมีนบุรี ซึ่งมีน้ำท่วมขังประมาณ 30 ซม. จากฝนตกหนักในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม.ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 5 เครื่อง โดยติดท้ายบริเวณหน้าหมู่บ้านจำนวน 2 เครื่อง เพื่อสูบน้ำออกคลองลำสะตือ ส่วนอีก 3 เครื่องติดตั้งข้างในหมู่บ้านเพื่อสูบน้ำออกคลองลำหิน โดยจะใช้เวลาระบายน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง อย่างก็ตาม วิธีแก้ปัญหาระยะยาวคือจะต้องยกระดับถนนให้สูงเท่ากับข้างนอก คือ ประมาณ 50 ซม.ทั้งนี้ ต้องให้ชาวบ้านเห็นชอบก่อน กทม.จึงจะมาดำเนินการได้   B5 - War Room Falkman

 ถนนหน้า"ตลาดรังสิต"ยุบ

วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2555 เวลา 20:00 น.

วันนี้ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีถนนยุบเป็นโพรงบริเวณกลางถนนรังสิต-ปทุมธานี ด้านหน้าโค้งนายฮั่ง ตลาดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบว่าจุดที่ถนนยุบนั้นเป็นช่วงทางโค้งแยกจากถนนพหลโยธิน เข้าสู้ถนนรังสิต-ปทุมธานี โดยพบว่ามีร่อยรอยถนนยุบเป็นวงกลมกว้างประมาณ 50 ซม.และเมื่อตรวจสอบดูด้านในหลุมกลับพบว่าดินด้านล่างเป็นโพรงกว้างประมาณ 1-2 เมตร ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้นำกิ่งไม้มาปักไว้เป็นสัญญาณเพื่อให้รถยนต์ประชาชนที่ผ่านปาได้สังเกตและหลบหลีกได้

นายสมชาย แก้วเกล็ด อาสาสมัครแจ้งเหตุเหยี่ยวเวหา กล่าวว่า ตนเองขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาที่โค้งดังกล่าวและพบว่ามีหลุมขนาดใหญ่ยุบอยู่กลางถนน จึงได้ช่วยหากิ่งไม้มาเสียบปักไว้เพื่อเป็นสัญญาณ และประสานงานไปยังศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาคอยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ขับรถมาบนถนนเส้นนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบดูด้านล่างพบว่าดินใต้ถนนนั้นเป็นโพรงกว้าง 1-2 เมตร น่าจะเป็นอันตรายห่างรถใหญ่ขับมาแล้วถนนเกิดยุบตัวลงไปเป็นวงกว้างขึ้นอีก และจะได้ประสานงานไปยังกรมทางหลวงเพื่อให้เร่งเข้ามาแก้ไขก่อนที่จะเกิดอุบติเหตุขึ้นมา.

B5 - War Room Falkman

พบรอยเลื่อนจ่อเข้ากรุง สุดเสี่ยง! อาคาร กทม.มีสิทธิ์ถล่มจากธรณีพิโรธมาก 2 ล้านหลัง

 อึ้ง! อาคารใน กทม.ไม่ปลอดภัยกว่า 2 ล้านหลัง รับแรงแผ่นดินไหวไม่ได้เลย 1 ล้านหลัง นักวิชาการจี้เสริมโครงสร้างโดยเฉพาะอาคารสาธารณะสำคัญ หลังธรณีวิทยาพบรอยเลื่อนมีพลังที่นครนายก จ่อเข้าใกล้ กทม.มากขึ้น ส่วนการรับมือน้ำท่วม ซัด รบ.ทำสวนทาง อยากระบายน้ำแต่กลับถมคูคลอง ชี้ สร้างเจ้าพระยา 2 เป็นเรื่องเพ้อฝัน แนะทำโครงสร้างระบายน้ำใต้ดิน เป็นกล่องแบบโครงสร้างทางด่วนบางนา-บางปะกง แก้ปัญหาเวนคืนที่ดินประชาชน ด้าน อ.นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ สอน รบ.ทำสื่อสารสาธารณะขณะเกิดภัยพิบัติ ต้องตั้งทีมมอนิเตอร์สื่อ สังเกตการรับข้อมูลของประชาชน ชี้ อย่ารอแต่แถลงข่าวอย่างเดียว ส่วนสื่อมวลชนอย่าบีบคั้นน้ำตาแหล่งข่าว และต้องตามประเด็นต่อหลังเกิดภัยพิบัติ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาและพัฒนา

วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุม 201 อาคารวิจัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวระหว่างการสัมมนาวิชาการ “การบริหารจัดการสาธารณะในภาวะวิกฤตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ” ว่า ภัยธรรมชาตินำมาซึ่งความสูญเสีย แต่ขณะเดียวกัน ก็นำมาซึ่งบทเรียนอันล้ำค่า ก่อให้เกิดการวิจัยและเรียนรู้การแก้ปัญหาในอนาคต ซึ่งการจะแก้ปัญหาได้นั้น จะต้องรู้ต้นตอของภัยธรรมชาติเสียก่อน โดยสาเหตุสำคัญนั้นส่วนหนึ่งมาจากมนุษย์ อาทิ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยที่เกิดขึ้นถี่กว่าในอดีต เป็นเพราะมีการขยายตัวเมืองเข้าไปใกล้รอยเลื่อนมากขึ้น การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก สูญเสียพลังงานมากขึ้น การปล่อยน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรม และบ้านเรือนลงสู่แม่น้ำ รวมไปถึงการบุกรุกแม่น้ำและชายหาด โดยการก่อสร้างขวางทางน้ำ เป็นต้น
       
       ศ.ปณิธาน กล่าวอีกว่า ส่วนสิ่งที่น่ากังวล คือ การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เราไม่ทราบจนอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติ อย่างกรณีภูเขาไฟระเบิดใต้ธารน้ำแข็งเมื่อปีที่แล้วนั้น นักวิทยาศาสตร์โลกไม่ได้มีการออกมาเตือนใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น การที่ออกมาระบุว่าระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นสูงปีละเท่าใดๆ นั้น ถือว่าผิดทั้งหมด เนื่องจากไม่มีการคำนึงถึงเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดใต้ธารน้ำแข็งมาก่อน
       
       ศ.ปณิธาน กล่าวต่อไปว่า สำหรับการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้น ต้องอาศัยกรอบการดำเนินงานเฮียวโงะ (Hyogo) ซึ่งเกิดขึ้นจากการประชุมการจัดการภัยพิบัติเมื่อปี 2548 ภายหลังครบรอบ 10 ปี การเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 17 ม.ค.2538 ที่เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น จนเกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรอบการดำเนินงานเฮียวโงะนั้น จะเน้นในเรื่องของการปฏิบัติและการป้องกัน โดยต้องมีการเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารต่างๆ ทั้งบ้าน อาคารโครงสร้างพื้นฐาน อาคารสาธารณะที่สำคัญ อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น เพื่อให้รองรับการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ การสร้างอาคารใหม่จะต้องถูกต้องตามหลักการรองรับแผ่นดินไหวด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ จะต้องมีการเสริมสมรรถภาพขีดความสามารถทรัพยากรมนุษย์ และรัฐบาลจะต้องมีนโยบายที่ถูกต้องในการรับมือกับภัยพิบัติ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
       
       “ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลย คือ ประเทศเฮติ ที่รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งที่มีการเกิดเหตุแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง จนเมื่อประมาณปี 2553 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ขึ้น แม้แต่ทำเนียบประธานาธิบดียังพังทลาย ตึกบัญชาการต่างๆ ก็พัง ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในประเทศ ซึ่งตรงนี้ยูเอ็นได้มีการณรงค์ One Million Safe โดยโรงพยาบาลต้องปลอดภัยจากภัยพิบัติ มีระบบสนับสนุนต่างๆ อาทิ ไฟฟ้าฉุกเฉิน และบุคลากรต้องได้รับการฝึกฝน สามารถจัดการกับภาวะฉุกเฉินได้ เป็นต้น” ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมฯ กล่าว
       
       ศ.ปณิธาน กล่าวด้วยว่า หลักการสำคัญ อีกประการในการจัดการและรับมือกับภัยพิบัตินั้น คือ ระบบรับมือ “Resilience” ซึ่งเป็นความสามารถของระบบชุมชนหรือสังคม ที่เผชิญภับพิบัติทางธรรมชาติแล้วสามารถต้านทานได้ มีการฟื้นตัวจากผลกระทบได้ในเวลาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กลับคืนสู่สภาพเดิมด้วย ส่วนมาตรการบรรเทาภัยพิบัตินั้น ที่สำคัญมีอยู่ 5 มาตรการด้วยกันคือ 1.การเตรียมพร้อมด้านอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน 2.การเตรียมพร้อมระบบเพื่อการบรรเทาภัย เช่น ระบบคมนาคมฉุกเฉิน 3.มาตรการด้านกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย 4.มาตรการด้าน Capacity Building และนวัตกรรมการแก้ปัญหา และ 5.มาตรการด้าน Emergency Response
       
       ศ.ปณิธาน กล่าวว่า ในเรื่องการเตรียมพร้อมด้านอาคารและโครงสร้างพื้นฐานนั้น สำหรับในประเทศไทยมีการออกกฎหมายให้มีการออกแบบอาคารให้สามารถรองรับการเกิด แผ่นดินไหวขึ้นเมื่อปี 2550 แม้ก่อนหน้าจะไม่มีการออกแบบให้รองรับการเกิดแผ่นดินไหว แต่เชื่อว่าสามารถรองรับได้ในระดับหนึ่ง โดยต้องมีการพิจารณาเสริมความแข็งแรงของอาคารที่ไม่ปลอดภัยเหล่านั้นให้ ปลอดภัย
       
       “ใน กทม.มีอาคารประมาณ 2 ล้านหลัง ที่ไม่ปลอดภัยต่อการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในจำนวนนี้มีประมาณ 1 ล้านหลัง ที่ไม่สามารถรองรับการเกิดแผ่นดินไหวได้เลย ดังนั้น จำนวนอาคารที่มีมากเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องเลือกปรับปรุงเสริมความแข็งแรง โดยเลือกอาคารสาธารณะที่สำคัญ อาคารโครงสร้างพื้นฐาน ทางด่วน สะพาน โรงไฟฟ้า ประปา สถานีดับเพลิง หรือโรงพยาบาลก่อน เพราะขณะนี้ทราบจากสำนักธรณีวิทยาว่า มีรอยเลื่อนมีพลังเข้าใกล้ กทม.มากขึ้น โดยอยู่ที่ จ.นครนายก แต่จะมีความรุนแรงเท่าไรนั้นไม่สามารถคาดการณ์ได้” ศ.ปณิธาน กล่าว
       
       ศ.ปณิธาน กล่าวเพิ่มอีกว่า ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องไม่แน่นอน เนื่องจากมีตัวแปรมากมาย สิ่งสำคัญคือ การเตรียมพร้อมด้านการบรรเทาภัย อย่างกรณีน้ำท่วม รัฐบาลใช้เงินจำนวนมากในการศึกษาน้ำท่วมเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีการเสนอมาตรการสำคัญในการแก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือการขุดคลองทำแม่น้ำเจ้าพระยา 2 เนื่องจากระบบระบายน้ำธรรมชาติไม่สามารถรับน้ำขณะเกิดพายุมากๆ ได้ ต้องมีระบบระบายน้ำเพิ่มเติม แต่สุดท้ายไม่ได้ทำ และทำในทิศทางตรงกันข้ามคือการถมคูคลองต่างๆไปจนหมด ซึ่งการจะมาแก้ไขด้วยงบประมาณกว่า 3 แสนล้านบาทไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้
       
       “เลิกฝันได้เลยกับการสร้างแม่น้ำเจ้า พระยา 2 มันเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องมีการเวนคืนที่ดินมาก ทำอย่างไรระบบระบายน้ำก็ไม่พอ เพราะคูคลองต่างๆถูกถมไปนานแล้ว ผมเคยเสนอวิธีการแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ จึงไม่มีใครฟัง ในฐานะที่ผมเป็นวิศวกรโครงสร้าง จึงนึกถึงการแก้ปัญหาด้วยการนำโครงสร้างทางด่วนที่มีลักษณะเป็นกล่องอย่าง ช่วง บางนา-บางปะกง เอามาวางให้ต่ำกว่าระดับพื้นดิน เพื่อใช้ระบายน้ำส่วนด้านบนก็ถมดิน ชาวนาก็สามารถทำไรทำนาต่อไปได้โดยไม่ต้องเวนคืนที่ดิน เท่ากับว่าเรามีคลองระบายอยู่ข้างล่าง ขนาดไม่ต้องใหญ่แต่ทำเป็นร่างแหอยู่ข้างล่างไปทั่วประเทศได้” ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมฯ กล่าว

 น.ส.สุภาพร โพธิ์แก้ว อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า การสื่อสารสาธารณะในช่วงของการเกิดภับพิบัตินั้น รัฐบาลต้องมีการตั้งศูนย์สารนิเทศ ที่ไม่ใช่รอเพียงการแถลงข่าวอย่างเดียว แต่ต้องเป็นศูนย์ที่พร้อมให้ข้อมูลตลอดเวลา เมื่อผู้สื่อข่าวมีข้อสงสัยสามารถถามแล้วได้คำตอบที่ต้องการ แต่จาก เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลรอการแถลงข่าวเพียงอย่างเดียว มองสื่อไว้เพียงรองรับการแถลงข่าวเท่านั้น สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือการตั้งทีมมอนิเตอร์สื่อ ประเมินสถานการณ์แต่ละวันว่า ประชาชนกำลังเสพข้อมูลอะไร สาธารณชนกำลังสับสนในข้อมูลเรื่องอะไรหรือไม่ หรือมีข่าวลืออะไรเกิดขึ้น เพื่อที่จะสามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้
       
       น.ส.สุภาพร กล่าวอีกว่า ในส่วนของสื่อมวลชนนั้น อยากฝากให้คำนึงถึงความเปราะบางทางจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบให้มาก เนื่องจากเขาเป็นผู้สูญเสียไม่ควรไปตอกย้ำคั้นถามเพื่อให้ข่าวดูสะเทือน อารมณ์ยิ่งขึ้น เช่น การพยายามซักหาลูกหลานที่หายไปกับสึนามิเจอหรือยัง เป็นต้น ไม่ควรกระทำ เพราะการออกข่าวให้เห็นน้ำตาหรือความฟูมฟายไม่ใช่เรื่องที่ดี อยากให้ใส่หัวใจและมองในมิตินี้ด้วย จึงจะไม่เป็นการเพิ่มผลกระทบโดยไม่รู้ตัว
       
       น.ส.สุภาพร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ เรื่องของการรายงานข่าวภัยพิบัตินั้น ในช่วงก่อนเกิดภัยพิบัติไม่จำเป็นที่จะต้องประกาศให้ดูเป็นภาวะวิกฤติไปก่อน เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกแฝงอยู่ในสังคม แต่ควรรายงานให้สังคมรับรู้ความเสี่ยง มากกว่ารู้สึกถึงความวิกฤติ ขณะที่ช่วงหลังเกิดภัยพิบัติไปแล้ว เนื่องจากข่าวไม่มีความสด หรืออาจเกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้ไม่มีการรายงานข่าวหลังภัยพิบัติมากนัก แต่การรายงานข่าวหลังภัยพิบัติถือเป็นส่วนสำคัญ เช่น เวทีถอดบทเรียนน้ำท่วม เป็นต้น ที่จะผลักดันให้เกิดการพัฒนาและนำไปสู่การแก้ปัญหามากขึ้น

ผู้จัดการออนไลน์

 น้ำป่าทะลักท่วมหมู่บ้าน ฟาร์มจระเข้แตก เพ่นพ่านตามคู คลอง บ่อน้ำ ลำห้วย เชื่อยังจับไม่ได้อีกนับร้อยตัว

วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2555 เวลา 17:41 น.

วันนี้ 3 ต.ค. หลังจากที่พื้นที่จังหวัดระยอง มีฝนตกหนักมาอย่างต่อเนื่อง ได้มีน้ำป่าทะลักเข้ามาในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง และพบจระเข้ หลุดออกมาจำนวนหลายตัว นายทิวา พรหมอินทร์ นายอำเภอบ้าน นายปราโมทย์ ฉันทะมิตร์ นายก อบต.หนองละลอก เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปตรวจสอบ พบบ่อจระเข้แตก หลังจากมีน้ำป่าไหลทะลักท่วมหมู่บ้านหนองละลอก อ.บ้านค่าย ทำให้ลูกจระเข้หลุดลอยตามน้ำจำนวนมาก แต่ทราบว่าเจ้าของสถานที่ไม่แจ้งตามข้อเท็จจริงให้ทราบ เพราะมีหลักฐานสำคัญก็คือชาวบ้านทอดแหเจอจระเข้ ยาวกว่า 1 เมตร และสามารถจับมาได้แล้ว 1 ตัว ซึ่งเจ้าของฟาร์มคือ นายไพบูลย์ ยงชัยหิรัญ อายุ 67 ปี ขอไถ่จระเข้คืน และพบว่าบริเวณพื้นที่มีบ่อจระเข้สร้างด้วยปูนซิเมนต์ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร ติดกัน จำนวน 3 บ่อ และในบ่อนุบาลมีรอยแตกรั่ว ซึ่งเจ้าของบ่อได้นำแผ่นสังกะสี และตาข่ายมาขวางกั้นไว้

นายปราโมทย์ ฉันทะมิตร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)หนองละลอก เปิดเผยว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาน้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมฟาร์มจระเข้ของนายไพบูลย์ ยงไทยหิรัญ ทำให้จระเข้หลุดออกจากฟาร์มไม่ทราบจำนวนซึ่งนายไพบูลย์ แจ้งว่าจระเข้ที่หลุดออกจากฟาร์มมีความยาว 70 เซนติเมตรเป็นลูกจระเข้จำนวน 70 ตัว จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบเกรงว่าอาจจะมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จระเข้หลุดออกมาด้วยและอาจทำให้ชาวบ้านได้รับอันตราย เนื่องจากปีที่ผ่านมาฟาร์มเลี้ยงจระเข้แห่งนี้คนงานลืมปิดประตูบ่อจระเข้ ทำให้จระเข้ตัวใหญ่ขนาด 100 กก.หลุดออกจากฟาร์มจำนวนหลายตัว และได้รับรายงานว่าขณะนี้ชาวบ้านได้ออกตามล่าจระเข้ที่หลุดออกจากฟาร์มแล้ว ล่าสุดพบจระเข้ขนาดใหญ่ และขนาดเล็กหลงอยู่ในบ่อน้ำของ นายบรรยงค์ คงจำรูญ บ้านเลขที่ 45/7 ม.3 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย

ด้าน นายไพบูลย์ ยงชัยหิรัญ อายุ 67 ปี เจ้าของบ่อจระเข้ ได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลา 17.00 น. ได้มีน้ำป่าไหลหลากทะลักท่วมเข้ามาในบริเวณบ่อจระเข้ที่เลี้ยงไว้ ทำให้บ่ออนุบาลแตกเป็นช่องโหว่ ซึ่งเลี้ยงลูกจระเข้ไว้ทั้งหมด 70 ตัว ทำให้ลูกจระเข้ที่มีขนาดความยาว 70-80 เซนติเมตร หลุดออกมาจำนวน 4 ตัว และไหลไปตามน้ำ ซึ่งขณะนี้ได้ทราบข่าวจากชาวบ้านแจ้งเข้ามาว่า ได้ทอดแหได้ลูกจระเข้ จำนวน 2 ตัว แต่ยังไม่ได้ไปรับคืนและยินดีไถ่ลูกจระเข้คืนทั้งหมด ส่วนอีก 2 ตัว คาดว่าน่าจะอยู่ในสระพักน้ำที่มีความยาวกว่า 100 เมตร ลึก 3 เมตร ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งยอดไปที่ปศุสัตว์จังหวัดระยองเรียบร้อยแล้ว และได้ย้ายลูกจระเข้จากบ่ออนุบาลไปรวมกับลูกจระเข้ที่มีขนาดโตกว่า ซึ่งมีความขนาด 1 เมตร ซึ่งจะได้ให้ช่างดำเนินการซ่อมแซมบ่อที่แตกรั่ว และยังพบลูกจระเข้ที่ถูกปูนซิเมนต์ทับตายจำนวน 4 ตัวด้วย

"เกมี"มาแล้ว!ไทยฝนตกหนัก5-8ต.ค.

อุตุฯ คาดพายุโซนร้อน "เกมี" จะทวีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ช่วงวันที่ 5-8 ต.ค. ปท.ไทยจะมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขณะที่หลายจังหวัดสั่งเตรียมพร้อมรับมือช่วยเหลือปชช.

ถนนกลางเมืองสุโขทัยทรุด

 ไอ้เคี่ยมพันธุ์สยามหนึ่งเดียวในเวียดนามตายแล้ว

     โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - จระเข้ขนาดใหญ่ลำตัวยาว 3.2 เมตร ที่นักวิทยาศาสตร์ในเวียดนามเชื่อว่า เป็นจระเข้พันธุ์สยามที่หายาก และใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติได้สิ้นชีวิตลงแล้วในวันเสาร์ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาใน จ.ฝูเอียน (Phu Yen) และเจ้าหน้าที่กำลังจะทำการพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อยืนยัน หรือพิสูจน์เผ่าพันธุ์ และหาอายุของมันเพื่อทำบันทึก 
       
       ขณะออกหาปลาในเวลาเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา นายเลดี่งหุ่ง (Le Dinh Hung) ราษฎรที่หมู่บ้านริมทะเลสาบเอียลาม (Ea Lam) ในท้องที่ อ.ซมง์ฮีง (Sông Hinh) เป็นผู้พบจระเข้ตัวนี้ในสภาพลอยอยู่ทั้งตัวในทะเลสาบอันเป็นถิ่นที่อยู่ของมัน และพบว่ามันเสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งให้ทางการท้องถิ่นได้ทราบ และนักวิชาการจากสถาบันนิเวศวิทยาภาคใต้ได้รุดไปที่นั่น นำจระเข้ในสภาพที่บวมขึ้นอืดทั้งตัวขึ้นฝั่ง
       
       ในวันอาทิตย์ 30 ก.ย.นี้ผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันนิเวศวิทยาภาคใต้ และสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเวียดนาม (Vietnamese Academy of Science and Technology) ได้ชำแหละเก็บกระดูก อวัยวะต่างๆ และนำเอาหนังของมันกลับไปพิสูจน์เทียบกับชิ้นส่วนตัวอย่างของจระเข้พันธุ์สยามที่เก็บเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์
       
       ชาวบ้านได้พบจระเข้ตัวนี้ตั้งแต่ปี 2550 ในเขตหนองน้ำที่อยู่ติดกับทะเลสาบเอียลาม ทางการได้ประกาศให้ทราบว่า มันเป็นพันธุ์หายาก และใกล้จะสูญพันธุ์ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย จึงไม่มีผู้ใดทำร้าย หรือตามล่า หรือรบกวนมัน มีเพียงราษฎรในท้องถิ่นที่ยังคงออกหาปลาในทะเลสาบตามปกติ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ภาษาเวียดนาม
       
       จังหวัดฝูเอียนเป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่ท้องถิ่นในเวียดนามที่มีรายงานการพบจระเข้พันธุ์สยาม (Crocodylus siamenssis)จระเข้น้ำจืดซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าถิ่นอาศัยอยู่ตามหนองบึง ล้ำน้ำ ลำธาร ในป่าชุ่มน้ำ หรือทุ่งหญ้าหญ้าชื้นแฉะในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
       
       อย่างไรก็ตาม ฝูเอียนเป็นแหล่งสุดท้ายที่พบเห็นตัวเป็นๆ ของมัน ส่วนแหล่งอื่นๆ ก่อนหน้านี้ไม่มีผู้ใดพบจระเข้มานานมากแล้ว และตัวนี้อาจจะเป็นตัวสุดท้ายในเวียดนามก็เป็นไป เตื่อยแต๋กล่าว
       
       การล่า และการรุกล้ำถิ่นที่อาศัยในธรรมชาติของมัน ทำให้จระเข้พันธุ์นี้มีจำนวนลดน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งองค์การอนุรักษ์สัตว์ป่าโลกต้องประกาศให้มันเป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อีกนิดหนึ่ง.

05:00 JTWC ประเมินล่าสุด พายุโซนร้อนแคมี Gaemi จะมีเส้นทางตามภาพ โดยจะขึ้นฝั่งในวันที่ 6 และมาสลายตัวแถว จ.ศรีสะเกษในวันที่ 7 ต.ค. โดยไม่กลายสภาพเป็นไต้ฝุ่น



04:00 TSR ประเมินล่าสุด พายุโซนร้อนแคมี Gaemi กำลังอ่อนแรงลง จะไม่เป็นไต้ฝุ่น และสลายตัวแค่แถบจังหวัดศรีสะเกษ ไม่เข้ามาลึกถึงภาคกลาง ใน 96 ชม ข้างหน้า

B5 - War Room Falkman

พรุ่งนี้ 2 ทุ่ม รับมือพายุแกมี – พระพิรุณจ่อเข้าไทยอีกลูก

วันพฤหัสที่ 4 ตุลาคม 2555



นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรฯ กล่าวถึง สถานการณ์ของ พายุแกมี ที่จะส่งผลต่อประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ช่วงเวลา 20.00 น. ว่าต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าจะเป็นโซนร้อน ดีเปรสชั่น หรือปรับตัวเป็นหย่อมกดอากาศ


อย่างไรก็ตาม ให้จับตาพายุอีกลูกที่กำลังก่อตัวในทะเลจีนใต้ ซึ่งหากเป็นพายุจะได้ชื่อว่าพายุพระพิรุณ (เป็นชื่อตามคิวของประเทศไทย) คาดว่าอาจจะเข้าประเทศไทย ในช่วงวันที่ 20 ต.ค.คาดว่าจะเข้าแนวเดิมทางภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางและภาคใต้ตอนบน

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เรียกประชุมร่วมกับผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุแกมี ซึ่งจะส่งผลทำให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร ประมาณ 80% ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ ผู้ว่ากรุงเทพ ยังได้กำชับให้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เตรียมรับมือ รวมทั้ง 13 เขต 27 ชุมชน ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งให้เตรียมความพร้อมของบุคคลากรและเครื่องมือไว้ล่วงหน้ากว่า 200 จุด ทั่วกรุงเทพ

Mthai News

B5 - War Room Falkman

ดินถล่มในจีนฝังเด็กประถมทั้งเป็น 18 คน

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2555 เวลา 12:58 น.

http://www.dailynews.co.th/world/158927

 

เกิดเหตุดินถล่มทับโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในมณฑลยูนนาน ฝังเป็นเด็กนักเรียน 18 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม

วันนี้ ( 4 ต.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนว่า เกิดอุบัติเหตุดินถล่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ในวันนี้ ส่งผลให้นักเรียนชั้นประถมศึกษา 18 คนถูกฝังอยู่เบื้องล่างทั้งเป็น และจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงเรียนประถมศึกษา หยูฟางไถ่ ในหมู่บ้านเจิ้นเหอ เขตยี่เหลียง มณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งซ้อนขนาด 5.6 ริคเตอร์ คร่าชีวิตประชาชนถึง 81 ศพ และบาดเจ็บอีก 820 ราย เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุแน่ชัดว่า เพราะเหตุใดจึงมีนักเรียนอยู่ในโรงเรียน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาวเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติจีน แต่อาคารเรียน 2 หลัง รวมถึงโรงนาอีก 2 แห่งที่อยู่เคียงกันถูกฝังอยู่ใต้ดินจนมิด

ทั้งนี้ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเป็นพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง โดยเมื่อเดือนพ.ค. 2551 แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.0 ริคเตอร์ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้แก่มณฑลเสฉวน และบางส่วนของมณฑลฉ่านซี และกานซู ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับหมื่นศพ

B5 - War Room Falkman

กาญจน์เจอฝนตกหนัก 2เขื่อนปรับแผนระบายน้ำ

04 ตุลาคม 2555 เวลา 12:36 น

กาญจน์เจอฝนกหนัก2เขื่อนปรับแผนระบายน้ำ - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค



กาญจน์เจอฝนตกหนัก2เขื่อนใหญ่ศรีนครินทร์-วชิราลงกรณ์ปรับแผนการระบายน้ำยันไม่กระทบชุมชน

นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เผยว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่มีฝนตกชุกทำให้ในหลายพื้นที่ที่อยู่ในเขตลุ่มน้ำแม่กลองได้รับผลกระทบกับปริมาณน้ำฝนจำนวนมาก เนื่องจากการระบายน้ำไม่ทัน ทั้งเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ จึงได้มีการปรับแผนการระบายน้ำลดลง เพื่อลดผลกระทบกับชุมชนดังกล่าว โดยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบัน (วันที่ 4 ต.ค. 55) อยู่ที่ระดับ 174.81 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 15,650.54 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 88.20% และปรับแผนการระบายน้ำลดลงเหลือวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังสามารถรองรับน้ำได้อีกถึง 2,094.56 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างวานนี้อยู่ที่ 48.20 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำปัจจุบัน (วันที่ 4 ต.ค. 55) อยู่ที่ระดับ 152.40 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง คิดเป็น 7,881.09 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 88.96% สามารถรับน้ำได้อีก 978.11 ล้านลูกบาศกเมตร ระบายน้ำตามแผนการระบายน้ำวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างวานนี้ 34.19 ล้าน ลบ.ม. โดยการระบายน้ำจะดำเนินการตามแผนการระบายน้ำที่ คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ และคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัยแล้งและในสถานการณ์ที่มีปริมาณน้ำหลาก

อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าปริมาณน้ำที่เอ่อสูงขึ้นในลุ่มน้ำแม่กลองไม่ได้เกิดจากการระบายน้ำฉุกเฉินของเขื่อนทั้งสอง แต่เกิดจากปริมาณน้ำฝน และปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขาที่อยู่ท้ายเขื่อนลงไป และจากสถิติปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากพายุจะพบว่า พายุ 1 ลูก ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง ประมาณ 600 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้นทั้งสองเขื่อนยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก

สำหรับการดูแลเรื่องความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนนั้น เขื่อนศรีนครินทร์ มีการดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างตามกมาตรฐานสากล และมีการดำเนินการในตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนอยู่เป็นประจำอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยได้นำเอาระบบตรวจวัดข้อมูลแบบอัตโนมัติ มาติดตั้งใช้งานที่เขื่อน โดยเป็นระบบตรวจวัดข้อมูล ที่ครอบคลุมข้อมูลด้านพฤติกรรมเขื่อน ข้อมูลอุตุ-อุทกวิทยา และข้อมูลแผ่นดินไหว

ระบบนี้จะสามารถประมวลผลข้อมูลเบื้องต้น แสดงผลเป็นรูปกราฟ และหากมีข้อมูลที่ผิดปกติ ก็สามารถแจ้งเตือนให้ตรวจสอบได้ทันที นับเป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้านการสื่อสารข้อมูลมาประยุกต์ใช้อย่างได้ผล เพื่อจะช่วยให้งานด้านความปลอดภัย สำหรับเขื่อนต่างๆ ของ กฟผ. มีประสิทธิภาพ ทัดเทียมมาตรฐานสากล โดยมีการดำเนินการตรวจสอบ และบำรุงรักษาเพื่อความปลอดภัยของเขื่อนอย่างมีระบบและต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่า เขื่อนทุกเขื่อนของ กฟผ. จะมีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน และมีความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำของเขื่อน จึงขอให้วางใจว่า ทั้ง 2 เขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด.

B5 - War Room Falkman

 ชาวบ้านแห่จับปูที่มากับขยะจำนวนมหาศาล

ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังทราบว่าบริเวณชายหาดมีขยะจำนวนมหาศาลลอยติดชายหาด เป็นระยะทางยาวกว่า 4.5 กิโลเมตร 

โดยเศษขยะทั้งหมดประกอบด้วยผักตบชวา ไม้ไผ่ ขยะพลาสติก และขยะจำพวกที่ใช้ในครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้ชาวบ้านตื่นตาตื่นใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้คือมีปูทะเล ปูแป้น ปูม้า ปูแสม จำนวนมากลอยมากับเศษขยะดังกล่าวด้วย ส่งผลให้ชาวบ้านแห่นำกระป๋อง และกะละมังมาจับปูกันเป็นจำนวนมาก


ด้านนางรัตนา ชูกลิ่น ผู้อำนวนการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองแสนสุข กล่าวว่า เหตุการณ์ขยะจำนวนมหาศาลที่ลอยมาติดชายหาดบางแสนนั้นมีสาเหตุมาจากการที่พื้นที่บริเวณสมุทรปราการ และบางปะกง ทำการขุดลอกคูคลองเพื่อระบายน้ำป้องกันน้ำท่วม ส่งผลให้เศษขยะดังกล่าวลอยมาตามน้ำ ประกอบกับพื้นที่บริเวณชายหาดบางแสนเป็นอ่าวที่รับน้ำจากแม่น้ำบางปะกง น้ำที่ไหลเข้าทะเลบางแสนจึงพัดพาเอาขยะทั้งหมดมาด้วย ซึ่งทางเทศบาลได้ทำการขอร้องพื้นที่ต้นน้ำให้งดทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำไปหลายรอบแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ และในส่วนของการเก็บกู้พื้นที่ให้ปลอดจากขยะนั้นคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันนี้ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของชายหาดบางแสน และป้องกันขยะเน่าเสียส่งกลื่นเหม็น


ในส่วนของนายสงกรานต์ แสงจันทร์ ประมงจังหวัดชลบุรี ได้ให้ความเห็นถึงการที่ปูจำนวนมากลอยขึ้นมาพร้อมขยะจำนวนมหาศาลว่า สาเหตุเกิดมาจากการที่มีน้ำจืดปะปนกับน้ำเค็มในทะเลมากเกินไปจากการที่ฝนตกมากในช่วงนี้ และจากการระบายน้ำจืดลงทะเลเพื่อป้องกันน้ำท่วม ส่งผลให้ปูและสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ ลอยเหนือน้ำหรือที่ว่า "น๊อคน้ำ" และคาดการณ์ว่าหากทะเลบางแสนโดนผลกระทบของพายุเกมีที่จะเข้าไทยในวันที่ 5-8 ต.ค.นี้ จะมีสัตว์ทะเลอีกเป็นจำนวนมากลอยเหนือน้ำ ซึ่งประชาชนสามารถจับไปปรุงอาหารรับประทานได้ตามปกติเนื่องจากเป็นสัตว์ที่เสียชีวิตจากการน๊อคน้ำไม่ได้โดนสารพิษที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด

ชาวบ้านแห่จับปูที่มากับขยะจำนวนมหาศาล

ตุรกีวอนยูเอ็นช่วยหย่าศึกซีเรีย

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2555 เวลา 08:10 น.



ตุรกีขอความช่วยเหลือยูเอ็น หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะเดือดตามชายแดนติดกับซีเรีย ส่งให้ชาวตุรกีเสียชีวิต 5 ศพ ล้วนเป็นผู้หญิงและเด็ก
วันนี้ ( 4 ต.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ทางการตุรกีเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติดำเนินมาตรการที่ “จำเป็นและเด็ดขาด” เพื่อหยุดยั้งวิกฤตสงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่เริ่มลุกลามสู่ประเทศเพื่อนบ้านเมื่อวันพุธ หลังมีชาวตุรกีถูกลูกหลงจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวพรมแดนซีเรียเสียชีวิต 5 ศพ ซึ่งล้วนเป็นสตรีและเด็ก

นายเออร์ตูกรูล เอปากาน เอกอัครราชทูตตุรกีประจำยูเอ็น ยื่นหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อนายเกิร์ด โรเซ็นทาล เอกอัครราชทูกัวเตมาลาประจำยูเอ็น ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนคณะมนตรีฯ ประจำเดือนต.ค. โดยประณามรัฐบาลซีเรียว่า กำลังคุกคามอธิปไตยของตุรกี รวมถึงเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นการทำลายกระบวนการสร้างสันติภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคอย่างแท้จริง

ดังนั้น ทางการตุรกีจึงขอเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ เร่งใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม เพื่อหยุดยั้งการกระทำอันป่าเถื่อน และเพื่อให้ทางการซีเรียแสดงความเคารพต่ออำนาจอธิปไตย ตลอดจนบูรณภาพแห่งดินแดนของตุรกี

ด้านนายมาร์ติน เนเซอร์กี โฆษกยูเอ็น แถลงว่า นายอาห์เหม็ด ดาวูโตกลู รมว.กระทรวงต่างประเทศตุรกี ติดต่อมายังนายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น เพื่อแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายบันได้ขอให้ทางการอังการาพยายามติดต่อกับรัฐบาลซีเรีย เพื่อผ่อนคลายทุกสถานการณ์ตึงเครียด ที่อาจเป็นชนวนให้เกิดการโจมตีดังกล่าว พร้อมกันนี้นายบันยังเรียกร้องให้ทางการดามัสกัสหยุดการทุกการกระทำที่เป็นการคุกคามอธิปไตยประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงชาวซีเรีย

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่เครื่องบินขับไล่ของกองทัพตุรกีถูกยิงตกในซีเรีย ส่งผลให้นักบินบนเครื่อง 2 นายเสียชีวิต เมื่อเดือนมิ.ย. ซึ่งทางการตุรกีได้ยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการไปยังองค์การป้องกันสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ( นาโต้ ) ที่ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลดามัสกัส

ตุรกีวอนยูเอ็นช่วยหย่าศึกซีเรีย | เดลินิวส์

B1 - War Room Falkman 

ฝูงวาฬตายเกือบ 50 ตัว เกยตื้นในอินโดฯ ชาวบ้านเตรียมชำแหละทำอาหาร

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก theterramarproject.org



เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยนของอังกฤษ รายงานว่า วาฬนำร่องครีบสั้นเกือบ 50 ตัว ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นและตายหมู่บนเกาะซาบูในอินโดนีเซีย ลาภปากชาวบ้านเตรียมนำไปทำอาหารกิน

รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา บริเวณชายหาดไรจัว บนเกาะซาบู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินโดนีเซีย เมื่อชาวบ้านได้พบกับวาฬนำร่องครีบสั้น 46 ตัว ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบนหาด บางตัวมีอาการบาดเจ็บ และบางตัวก็ตาย ชาวบ้านจึงเข้าไปช่วยลากวาฬที่ยังไม่ตายลงสู่ทะเล แต่ปรากฏว่าวาฬส่วนใหญ่ไม่สามารถว่ายน้ำได้ เพราะบาดเจ็บมาก ก่อนจะถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี การตายหมู่ของวาฬครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านบางคนยิ้มร่า เพราะพวกเขาจะได้อาหารอันโอชะมากินกัน โดยที่ไม่ต้องออกล่า และพวกเขาก็ไม่ได้ฆ่ามันด้วย

ทั้งนี้ สำหรับวาฬนำร่องครีบสั้น เป็นวาฬที่มักมีพฤติกรรมพลัดหลงหมู่ เพราะพวกมันจะว่ายน้ำเป็นฝูง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วาฬกลุ่มนี้ว่ายตามผู้นำฝูงมา และเมื่อวาฬตัวหนึ่งป่วย มันก็พากันพลัดหลงผิดทิศทาง จนถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนฝั่งดังกล่าว

ฝูง ปลาวาฬเกยตื้น ใน อินโดนีเซีย ชาวบ้านเตรียมชำแหละทำอาหาร

B1 - War Room Falkman 

 ลำปาง ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาจัด

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2555 8:44น.



ลำปาง ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาจัด ทัศนวิสัยการมองเห็น ต่ำกว่า 200 เมตร พบ ความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่ปกคลุม

สภาพอากาศทั่วไปภายในเขตเทศบาลนครลำปาง ช่วงเช้าที่ผ่านมาวันนี้ โดยเฉพาะบนถนนบางสายในเขตตัวเมืองลำปาง เช่น ถนนพหลโยธิน และถนนสายลำปาง-แม่ทะ ตลอดสายเริ่ม มีหมอกลงหนาจัด ทัศนวิสัยในการมองเห็น ต่ำกว่า 200 เมตร ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่รถ มองเห็นรถที่แล่นอยู่ด้านหน้าลดลง ซึ่งพบเห็นว่าประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนต่างต้องเปิดไฟหน้ารถป้องกันอันตราย ทั้งนี้ จากรายงานข้อมูล สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง แจ้งว่า เหตุที่เกิดหมอกลงจัด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดจากสภาพอากาศความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน จึงทำให้เกิดสภาพอากาศที่พอเหมาะ จึงทำให้เกิดมีหมอกปกคลุมในช่วงเช้า ส่วนช่วงสาย ๆ หมอกจะค่อยลดลงไป ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ

ลำปาง ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาจัด : INN News

B5 - War Room Falkman

 ปภ.พิษณุโลกเตือนพื้นที่เสี่ยงดินถล่มน้ำป่าหลาก

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2555 10:30น.



ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก เตือนพื้นที่เสี่ยง ระวังดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก หากพายุ "แกมี" ถล่มในพื้นที่ 

นายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์พายุ "แกมี" จะพัดผ่านในประเทศไทยใน 1 - 2 วันนี้ ในส่วนของ จ.พิษณุโลก คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวในวันที่ 7 - 8 ตุลาคมนี้ ส่วนผลให้ในขณะนี้ ต้องเตรียมรับมือกับพายุดังกล่าว เบื้องต้น ได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้า เพื่อการช่วยเหลือน้ำท่วมที่ศาลากลางจังหวัด และที่ว่าการอำเภอทั้ง 9 อำเภอ พร้อมประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ให้จัดตั้งชุดเฉพาะเคลื่อนที่เร็ว ในการช่วยเหลือประชาชนตามหมู่บ้านและหมู่บ้าน ส่วนอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน และมิสเตอร์เตือนภัย ก็ให้เฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนตลอด 24 ช.ม. หากมีปริมาณน้ำฝนตกมามาก ก็ให้ประกาศเสียงตามสายของหมู่บ้าน ให้ประชาชนเฝ้าระวัง นำสิ่งของทรัพย์สินขึ้นที่สูงทันที นอกจากนี้ หากท้องที่ไหนประสบภัยรุนแรง ทางจังหวัดก็จะประสานไปยังทหารของกองทัพภาคที่ 3 ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ได้นำเครื่องมือ และกำลัง
เข้าไปช่วยเหลือประชาชนทันที

B5 - War Room Falkman

4 หน่วยงาน ร่วมเข้มความปลอดภัยอาคาร แนะประชาชนตรวจสอบอาคารเสี่ยงอันตราย 

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2555 เวลา 08:21 น.

http://www.dailynews.co.th/thailand/159064

 




เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ต.ค.โรงแรม ทีเค พาเลซ ได้มีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการดำเนินการด้านความปลอดภัยระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สมาคมปลอดภัยไว้ก่อน สมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัยอาคาร และสมัชชาสภาองค์กรชุมชนกรุงเทพ โดยนายอนันต์ บัวสุวรรณ นายกสมาคมปลอดภัยไว้ก่อน กล่าวว่า ประเทศไทยมีสิ่งปลูกสร้างอาคารสูง ซึ่งมีกว่า 3 ล้านแห่ง ในจำนวนนี้มีอาคารสูงและอาคารใหญ่กว่า 3,000 แห่ง สิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุด คือการวางแผนป้องกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านอัคคีภัยเพราะจากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)พบว่าปี 2554 มีสถิติการเกิดอัคคีภัยในอาคารทั่วประเทศมากกว่า 180 แห่ง ซึ่งมักเกิดในคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ และโรงแรมสูง ในขณะที่รถดับเพลิงสำหรับอาคารสูงเกินกว่า 10 ชั้น มีปริมาณจำกัด เพียงไม่กี่คันเท่านั้น ดังนั้นการลงนามครั้งนี้จะเป็นการร่วมมือดำเนินการด้านความปลอดภัยให้กับประชาชน เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้บริการอาคารและสถานที่ของผู้ประกอบการ

นายวิเชียร บุษยบัณฑูร นายกสมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัยอาคาร กล่าวว่า ปัจจุบันการตรวจสอบอาคารสูง 9 ประเภท คือ อาคารสูง 23 เมตรขึ้นไป อาคารขนาดใหญ่พิเศษ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป อาคารชุมนุมคน 500 คนขึ้นไป โรงมหรสพ โรงแรม อาคารชุด 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ป้ายขนาดใหญ่ และสถานบริการ จะต้องเข้าตรวจสอบอาคารทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีอาคารขึ้นทะเบียนประมาณ 5,500 ราย ตรวจสอบไปแล้วกว่า 4,000 ราย เหลือประมาณ 1,300 รายที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ที่น่าเป็นห่วงอาคารที่ยังไม่เข้าสู่ระบบ เช่น โรงเรียนกวด วิชา ซึ่งได้หารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.)แล้ว ให้ดำเนินการให้อาคารเหล่านี้เข้ามาสู่ระบบโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้อาคาร อย่างไรก็ตามอาคารไม่ปลอดภัยยังคงมีอีกเป็นจำนวนมาก ที่ลักลอบดัดแปลง ซึ่งประชาชน สามารถตรวจสอบว่าปลอดภัยหรือไม่ โดยเข้าเว็บไซต์ของทางสมาคม www.dsa.or.th เพราะมีตัวอย่างอาคารที่เข้าข่ายว่าไม่ปลอดภัยไว้

ด้านนายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุมครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า สคบ.เพิ่งมีการลงนามความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อวันที่ 9 มี.ค.55 ถึงการตรวจสอบความไม่ปลอดภัยในอาคาร ซึ่งหลังลงนามมีประชาชนมาร้องเรียนเดือนละ 15-20 ราย ซึ่งสคบ.ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปตรวจสอบอาคาร ซึ่งสคบ.อยากให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ที่ปกป้องไม่ให้ใครมาละเมิด หากพบเห็นอาคารที่ไม่มีมาตรฐานในเรื่องความปลอดภัยสามารถแจ้งสายด่วนของ สคบ. 1166 ได้.

B5 - War Room Falkman 

ฝนกระหน่ำสตูล เตือนเก็บของขึ้นที่สูง

2012-10-05 10:51:21 


รองผวจ.สตูล สั่งทุกหน่วยจับตาน้ำล้นตลิ่ง น้ำป่า ดินโคลนถล่ม จากอิทธิพลของพายุแกมี เตือนชาวบ้านเก็บของขึ้นที่สูง 

เมื่อช่วงเช้าของวันนี้(5 ต.ค.) จังหวัดสตูลเผชิญฝนตกหนักและมีลมกรรโชกแรง คาดว่าได้รับผลกระทบจากอิทธิพลจากพายุแกมี ด้านนายกฤติพงษ์ คงแข็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล สั่งทุกหน่วยงานเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม จากอิทธิพลของพายุแกมีช่วงตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมเป็นต้นไป พร้อมสั่งเตือนชาวบ้านริมสองฝั่งคลองเก็บทรัพย์สินมีค่าที่จำเป็นขึ้นที่สูงไว้ก่อน เพราะระยะนี้มีฝนตกหนักทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และอาจเอ่อเข้าท่วมได้

ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ส่งหนังสือประกาศเตือนให้ทางจังหวัดสตูลเฝ้าระวัง พายุแกมีจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในวันที่ 6 ตุลาคม ลักษณะเช่นนี้ทำให้ช่วงวันที่ 5-8 ตุลาคม จะมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ตามเส้นทางเดินพายุและพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งมีลมแรง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และลมแรงในระยะนี้

http://news.springnewstv.tv/19587/ 

 เขื่อนกาญจน์เตือนคนอยู่ท้ายน้ำพร้อมรับมือ"แกมี"

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2555 เวลา 23:30 น.

 
 


ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ เผยเขื่อนกาญจน์เตือนคนอยู่ท้ายน้ำต้องปล่อยน้ำเพิ่มพร้อมรับแกมี 

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายดิลก ธโนศวรรย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการว่า พายุแกมี จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และกำลังเคลื่อนตัว ขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนาม ในวันพรุ่งนี้ จากนั้น จะเคลื่อนตัวผ่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง และภาคกลางของประเทศไทย ประกอบกับ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีกำลังแรง ทำให้ช่วงวันที่ 5 ถึงวันที่ 8 ตุลาคม นี้ ประเทศไทยจะมีฝนตกมากขึ้น และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เขื่อนวชิราลงกรณ จึงจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำ ที่จะเพิ่มมากขึ้น ตามแผนวิเคราะห์ สถานการณ์น้ำ และจัดสรรน้ำ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จึงขอแจ้งเตือนประชาชน ผู้ประกอบการแพพัก รีสอร์ท กระชังปลา ให้เตรียมพร้อม รับปริมาณน้ำ ที่จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงดังกล่าว.

B5 - War Room Falkman

 "แกมี" ถล่มแหลก โคราชระทมจมบาดาลแล้ว

วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2555 เวลา 09:48 น.

ทะลักท่วมหลายจุดจราจรติดหนึบเป็นอัมพาตทั่วเมือง ถนนสายหลักหลายสายระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม. 




วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และตำบลใกล้เคียงอย่างหนัก ถนนสายหลักหลายสายมีระดับน้ำท่วมขังสูงตั้งแต่ 10 ซม.ไปจนถึง 60 ซม. โดยเฉพาะถนนเดชอุดม , สืบสิริ , มุขมนตรี , ถนนสายราชสีมา – โชคชัย บริเวณแยกหัวทะเล และถนนสุรนารายณ์ระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50-60 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

ทั้งนี้ปริมาณน้ำท่วมขังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเช้าซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนต้องใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมาอย่างหนาแน่น ทำให้มีรถเล็กอาทิรถจักรยานยนต์ และรถเก๋งหลายสิบคันต้องฝ่าระดับน้ำที่ท่วมขังจนเป็นเหตุให้ต้องจอดเสียอยู่บนถนนหลายสิบคันการจราจรติดขัดอย่างหนัก

ขณะที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ออกกระจายลงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเพื่อกำจัดเศษมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่อุดตัดท่อระบายน้ำเพื่อเปิดทางน้ำน้ำไหลระบายได้อย่างสะดวกและให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในเที่ยงวันวันเดียวกัน.

B5 - War Room Falkman

 ระยองเตรียมแผนรับมือพายุแกมี 

วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2555 เวลา 08:54 น.

 

ระยองเฝ้าระวังพายุแกมี เตรียมกระสอบทรายแจก และแผนอพยพชาวบ้าน 




วันนี้ (6 ตุลาคม) นายประเสริฐ วงศ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลทับมาว่า ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขั้งอยู่ในพื้นที่ สาเหตุหลักมาจากที่น้ำเอ่อล้นจากคลองทับมาแล้วไม่มีทางระบายน้ำ เนื่องจากในปัจจุบันพื้นที่ที่รับน้ำในอดีตถูกถมที่สร้างหมู่บ้านจัดสรรเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่หมู่ 1 – 2 – 3 – 6 ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านจัดสรรที่เกิดน้ำท่วมเฉพาะผิวการจราจร ยังไม่เข้าบ้านพักอาศัย สถานการณ์เริ่มดีขึ้นหากในช่วงนี้ไม่มีฝนตก ภายในวันสองวันนี้ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ ปัญหาน้ำท่วมของตำบลทับมาเป็นปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นทุกปี ต้องแก้ไขด้วยการทำแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำเพียงอย่างเดียว ขณะนี้ได้มีการเริ่มดำเนินการขุดพื้นที่กว่า 300 ไร่ที่หมู่ 8 (เขาโบสถ์) เพื่อทำเป็นแก้มลิงด้วยงบประมาณ 160 ล้านบาท ระยะเวลาการดำเนินงาน 3 ปี ปัจจุบันผลการดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วร้อยละ 30

นายกเทศมนตรีตำบลทับมา กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าห่วงคือ “พายุแกมี” ที่กำลังจะพัดเข้าไทยในวันสองวันนี้และคาดว่าระยองจะได้รับผลกระทบมาก ทางเทศบาลตำบลทับมาได้มีการติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีการเตรียมกระสอบทรายไว้แจกจ่ายประชาชนที่มีความต้องการหรือร้องขอมา มีการเตรียมกำลังคน อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นและรถไว้พร้อม ไว้ช่วยเหลือและทำการอพยพประชาชนตามหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ ที่ประสบอุทกภัยได้ทันทีเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นและหลังจากน้ำลดแล้วทางเทศบาลตำบลทับมาจะส่งคณะกรรมการลงไปสำรวจความเสียหายของประชาชนเพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือกันต่อไป

อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางเทศบาลตำบลทับมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองและโรงพยาบาลระยอง ก็ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนออกตรวจรักษาแจกจ่ายยารักษาโรคพร้อมน้ำสะอาดให้แก่ประชาชนในหมู่ 2 ตำบลทับมา ที่ประสบอุทกภัยเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว....

B5 - War Room Falkman

 พายุแกมีเป็นดีเปรสชั่น ถึงอุบลอำนาจเจริญแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2555 8:48น.



"แกมี" ถึง จังหวัดอุบลราชธานี แล้ว เป็นดีเปรสชั่นกำลังอ่อน ฝนตกปรอยๆกระจาย นายอำเภอนาตาล สั่งกำชับผู้นำทุกหมู่บ้าน เกาะติดสถานการณ์ ส่วนที่อำนาจเจริญ ฝนตก แล้ว ปภ. สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ทุกระดับ เฝ้าระวัง พายุ 

เมื่อเวลา 04.20 น. พายุแกมี ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ของ จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 04.20 น. พร้อมอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่น กำลังอ่อน ทำให้เกิดฝนตกปรอยๆ กระจายเป็นบริเวณกว้าง พายุเข้าในครั้งนี้ เกิดประโยชน์แก่ภาคเกษตรเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่ฝนได้ทิ้งช่วงไปนานหลายสัปดาห์ ทำให้ต้นข้าวนาปี ที่กำลังตั้งท้องอยู่ในขณะนี้ ต้องขาดน้ำหล่อเลี้ยง เกิดเหี่ยวเฉาลง ซึ่งสร้างความกังวลใจให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง

นายวีระเกียรติ รัมณีย์รัตนากุล นายอำเภอนาตาล เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สั่งกำชับผู้นำทุกหมู่บ้านที่อยู่ในเขตรับผิดชอบไปแล้ว โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่แถบริมฝั่งแม่น้ำโขง ให้พากันเฝ้าระวัง เกาะติดสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ ขึ้นมา ก็ให้รีบรายงานไปยังอำเภอให้ได้รับทราบทันที จะได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือให้ทันต่อเหตุการณ์


ปภ.อำนาจเจริญ สั่งระวัง "แกมี" ล่าสุดฝนตกแล้ว
ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ฝนเริ่มตกแล้ว ในช่วงเวลา 06.00 น.เป็นต้นมา สภาพทั่วไป ท้องฟ้ามืดครึ้ม ยังคงไม่มีความรุนแรงใดๆ จากลมฝน ประชาชนยังเฝ้ารอกันอย่างปกติ ด้าน นายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า วันนี้เจ้าพนักงานในทุกระดับได้ประจำที่ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพายุแกมีแล้ว จากรายงานทุก 30 นาที แจ้งว่า ในขณะนี้ ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ยังไม่ได้รับผลเสียหายใดๆ จากลมฝนพายุแกมี แต่ทุกคนที่ทำงาน จะไม่ประมาท เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่


ประกาศเตือนภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.ตราด
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2555 น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 - 8 ตุลาคม 2555 จะเกิดลมกระโชกแรง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ตราด ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวัง และติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด 


ระดมขุดลอกท่อสี่แยกห้วยขวาง ป้องกันน้ำท่วมขัง 
จากการขุดลอกท่อ พบว่า ภายในท่อมีดินโคลนเป็นจำนวนมาก ทางสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานครจึงใช้รถดูดโคลนจำนวน 5 คัน ดูดออกจากท่อ โดยได้เริ่มการดำเนินการ ตั้งแต่เวลา 22.00 - 02.00 น. 
ทางด้าน นายชุมพล ชาวเกาะ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตห้วยขวาง กล่าวว่า ได้ทำการสำรวจจุดเสี่ยงที่อาจเกิดปัญาน้ำท่วม พบว่า บริเวณสี่แยกห้วยขวาง ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ที่ผ่านมาพบว่า มีน้ำท่วมขังสูงถึง 30 เซนติเมตร ใช้เวลาระบายน้ำกว่า 2 ชั่วโมง ทางสำนักงานเขต จึงดำเนินการขุดลอกท่อเพื่อให้น้ำไหลเวียนได้สะดวก โดยมั่นใจว่า หากฝนตกลงมาน้ำที่ท่วมขัง จะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง และระบายน้ำเป็นปกติได้

ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ยังได้ตรวจสอบถนนสายหลักของกรุงเทพมหานคร โดยหากพบจุดใดเสี่ยงต่อน้ำท่วม จะมีการเข้าไปตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบระบายน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปตรวจสอบ เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนลาดพร้าว และถนนรัชดาภิเษก


"อานนท์" ชี้ แกมี ไม่น่าห่วง เพราะน้ำทุ่งน้อย
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ กบอ. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า พื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี ยังไม่น่าห่วง หากฝนตกหนักและได้รับผลกระทบกับพายุแกมี แต่ห่วงสำหรับเกษตรกรที่เพิ่งปลูกข้าว เพราะหากฝนตกหนัก อาจท่วมขัง 1 - 2 อาทิตย์ ในพื้นที่ลุ่มต่ำได้ พร้อมยืนยัน น้ำเหนือในขณะนี้ แทบไม่มีและน้อยมาก ซึ่งเขื่อนสิริกิติ์ ปล่อยน้ำเพียง 7 - 8 ล้านลูกบาศเมตรต่อวัน และที่เขื่อนภูมิพล ปล่อยน้ำเพียง 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เท่านั้น ขณะที่น้ำบริเวณ จ.นครสวรรค์ และเขื่อนชัยนาท ก็มีน้ำอยู่เพียง 1,000 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่อศักยภาพที่รับได้ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนน้ำที่ค้างในทุ่ง พบว่ามีแค่เพียง 1 แสนกว่าไร่ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น้อยมากเช่นกัน

"ก็คงไม่ค่อยห่วงมาก เพราะน้ำในทุ่ง มันน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะ แต่ว่าเราก็ยังมองว่า หากฝนเข้ามาหนักๆ มันก็อาจทำให้มีพื้นที่ท่วมขังได้ ประมาณ 1 - 2 อาทิตย์ ในพื้นที่ลุ่มต่ำ" นายอานนท์ กล่าว

นอกจากนี้ นายอานนท์ ยังกล่าวว่า หากพายุแกมี เข้าแล้วเกิดฝนตกหนัก อาจจะกระทบในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปทุมธานี และนครปฐม บางจุดเท่านั้น พร้อมยืนยัน น้ำจะท่วมเพียง 30 เซนติเมตร และไม่ท่วมนานเป็นเดือน

พายุแกมีเป็นดีเปรส ชั่นถึงอุบลอำนาจเจริญแล้ว : INN News


B5 - War Room Falkman

 อุตุฯเผย "แกมี" ทำกทม.ฝนหนักคืนนี้ถึงพรุ่งนี้

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2555 15:35น.



โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา เผย อิทธิพล "แกมี" ทำกรุงเทพฯ ฝนหนักคืนนี้ถึงพรุ่งนี้ ขณะถึงสระแก้ว ราว 17.00 น. วันนี้

นายภูเวียง ประคำมินทร์ โฆษกประจำกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า จากผลกระทบของพายุแกมี ที่อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่นนั้น ในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะอยู่ใกล้แนวและศูนย์กลางของพายุ แต่โชคดีที่พายุอ่อนกำลังลงแล้ว ดังนั้น ตั้งแต่คืนนี้ จะเริ่มมีฝนตก และจะแรงขึ้น ไปจนถึงช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ แต่ไม่มีลมแรง ส่วน จ.สระแก้ว ที่จะได้รับพายุเป็นจังหวัดแรกนั้น พายุจะเข้าสู่จังหวัด ช่วง 17.00 น. - 19.00 น. ทำให้ฝนหนักและลมแรงต่อเนื่องทั้งวัน บางจุดอาจมีฝนมากกว่า 90 มิลลิเมตร 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพายุพระพิรุณนั้น โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า จะยังไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้ เนื่องจากแค่อยู่ในช่วงฟอร์มตัวของพายุ และอยู่ในสายตาของกรมอุตุฯ ซึ่งยังไม่ส่งผลกระทบใดๆ และเชื่อมั่นว่าสามารถรับมือได้ทัน

B5 - War Room Falkman

อุตุฯเตือนทิศทางพายุเกมี ยังเคลื่อนเข้ากรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ส่งผลฝนตกหนัก 90% ของพื้นที่

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2555 17:05น.



นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า แนวโน้มของพายุแกมี จะเคลื่อนผ่านทางเหนือของกรุงเทพมหานคร โดยระหว่างนั้น จะอ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชั่น กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง แต่ก็ยังส่งผลกระทบ ให้มีปริมาณฝนตกหนัก ประมาณร้อยละ 90 ของพื้นที่กรุงเทพมหานคร และภาคกลาง ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ ลงมา โดยปริมาณน้ำฝนอยู่ระหว่าง 35.1 มิลลิเมตร ถึง 90.0 มิลลิเมตร แต่มีบางพื้นที่ถือมีปริมาณฝนมากกว่า 90.1 มิลลิเมตร ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดฝนตกหนักบางพื้นที่นับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป

"เกือบจะเต็มพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ว่าไม่ตกทุกเขต หนักทุกเขต คงสลับกันไป บางที่ก็เบา บางที่ก็หนัก ปริมาณฝนคงบอกไม่ได้ แต่เราออกไปว่า จะมีฝนตกหนักประมาณ 35.1 - 90.0 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง และก็มีบางพื้นที่ ที่เกินกว่า 90.1 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ฝนตกหนักครับ" รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าว

ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่า ตามความเห็นของกรมอุตุนิยมวิทยา พายุจะไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทย ดังนั้นจะไม่มีเหตุการณ์ให้พายุแกมี เพิ่มกำลังขึ้นอีก แต่เนื่องจากบางจังหวัดเช่น จ.เพชรบุรี ราชบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ใต้พายุ ดังนั้นจะส่งผลให้มีฝนตกโดยทั่วไป

B5 - War Room Falkman 

 สมิทธ"คาดพายุแกมีเข้าไทยช่วงเที่ยงคืนนี้

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2555 20:08น.

"สมิทธ"คาดพายุแกมีเข้าไทยช่วงเที่ยงคืนนี้ : INN News



ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ คาด พายุแกมี เข้าไทย ช่วงเที่ยงคืนนี้ ยัน ไม่ส่งผล ให้เกิดสตอร์มเซิร์จ

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของการเคลื่อนตัวของพายุแกมี ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนตัวชัดเจนเข้ามาในประเทศไทย ในจุดไหน แต่คาดว่า จะเคลื่อนตัวบริเวณปากแม่น้ำ ในช่วง 24.00 น. นี้ โดยจุดแรกที่พายุแกมีจะเข้ามาในประเทศไทยนั้น จะอยู่ใน จ.สระแก้ว ต่อเนื่อง จ.ระยอง เข้าสู่ อ.สัตหีบ เมืองชลบุรี พัทยา และเคลื่อนตัวลงตัวที่อ่าวไทย แต่ทั้งนี้ต้องเฝ้าระวังว่า หากพายุแกมี ได้เคลื่อนตัวลงไปในอ่าวไทยแล้ว และหากพายุแกมี ได้ทวีกำลังเพิ่มขึ้น ก็จะอยู่ในอ่าวไทยต่อไป 

ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่า พายุแกมี อาจส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สตอร์มเซิร์จในพื้นที่ จ.เพชรบุรี นั้น ดร.สมิทธ ระบุว่า ในลักษณะของพายุดังกล่าว ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สตอร์มเซิร์จ แต่อาจจะมีคลื่นซัดเข้าหาฝั่งความสูงประมาณ 1-2 เมตรเท่านั้น

B5 - War Room Falkman

 

รบ.โสมขาวประกาศเขตภัยพิบัติหลังโรงงานสารเคมีระเบิดจนกรดพิษรั่วไหล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ตุลาคม 2555 11:48 น สภาพความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรในเขตภัยพิบัติ เมืองคูมี เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีใต้กำหนดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของสารเคมีให้เป็น “เขตภัยพิบัติพิเศษ” หลังประชาชนกว่า 3,000 ชีวิตล้มป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาด้วยอาการตั้งแต่คลื่นไส้อาเจียนไปจนถึงขั้นเจ็บหน้าอก เหตุโรงงานสารเคมีระเบิดในเมืองคูมี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และยังส่งผลให้กรดไฮโดรฟลูออริกปริมาณถึง 8 ตันรั่วไหล สร้างความเสียหายให้พืชผลทางการเกษตร รวมถึงปศุสัตว์ในวงกว้าง สำนักนายกรัฐมนตรีโสมขาวแถลงในวันนี้ (8) ว่า รัฐบาลตัดสินใจกำหนดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของกรดไฮโดรฟลูออริกเป็นเขตภัยพิบัติพิเศษ ซึ่งหมายถึงชาวบ้านในเขตดังกล่าวจะได้รับเงินช่วยเหลือ การลดหย่อนภาษี พร้อมกับค่าชดเชย แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า การรั่วไหลของสารเคมีดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างมาก แต่เสริมว่า ข้อมูลที่ถูกต้องโดยละเอียดจะได้รับการเปิดเผยหลังจากการประเมินโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาล และผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน รายงานของสื่อต่างๆ เผยว่า ประชาชนมากกว่า 3,000 คนในหมู่บ้าน 2 แห่ง ที่อยู่ใกล้กับโรงงานดังกล่าวต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียน เจ็บหน้าอก ผื่นขึ้น เจ็บตา หรือเจ็บคอ หลังสูดกลิ่นสารพิษจากกรดที่รั่วไหลเข้าไป สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า การรั่วไหลของสารเคมีครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเกือบ 80 แห่ง ซึ่งบางแห่งถึงกับต้องปิดโรงงาน โดยมีมูลค่าความเสียหายโดยประมาณ 17,700 ล้านวอน หรือมากกว่า 493 ล้านบาททีเดียว นอกจากนี้ สารเคมีที่รั่วไหลยังสร้างความเสียหายให้พื้นที่การเกษตรมากกว่า 500 เอเคอร์ และส่งผลกระทบต่อปศุสัตว์ถึง 3,200 ตัว สำหรับชาวบ้านราว 3,000 คนถูกอพยพไปยังที่พักชั่วคราว หลังมีการร้องเรียนถึงอันตรายต่อร่างกาย โดยพบว่าบางคนมีเลือดปนในน้ำลายด้วย ทั้งนี้ ชาวบ้านกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่บอกข้อมูลที่เหมาะสมทันเวลาเกี่ยวกับการรั่วไหลของสารเคมีดังกล่าว

ฮ่องกงผวา ไวรัสคล้าย "ซาร์ส" รพ. แจ้งมีเด็กซาอุฯ สงสัยป่วยแล้ว 1 ราย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ตุลาคม 2555 10:09 น.

โรงพยาบาลควีนส์แมรี่ ฮ่องกง ซึ่งรับผู้ป่วยเด็กชายวัย 4 ขวบ จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่ และหากผลตรวจยืนยัน จะเป็นผู้ป่วยรายที่ 3 ของโลกที่ติดเชื้อไวรัสอันตรายนี้ ขณะทางการฮ่องกงแจ้งเตือนผู้เดินทางจากประเทศที่มีเชื้อไวรัสระบาด มีอาการผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ (ภาพเอเยนซี) เอเยนซี - เด็กชายชาวซาอุดิอาระเบีย วัย 4 ขวบ เดินทางจากประเทศซาอุดีอาระเบีย มาฮ่องกง และป่วยจากการติดเชื้อไวรัสฯ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ ว่าจะติดเชื้อไวรัสคล้าย "ซาร์ส" หรือไม่ ขณะทางการฮ่องกง ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาจากประเทศที่มีการพบเชื้อฯ สื่อต่างประเทศรายงาน (8 ต.ค.) ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา โรงพยาบาลควีนส์แมรี่ ฮ่องกง ได้รับเด็กชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 4 ขวบ ซึ่งป่วยด้วยอาการเป็นไข้สูง ไอ และอาเจียน เข้ารับการรักษาฉุกเฉิน โดยแพทย์กำลังวินิจฉัยเชื้อฯ ว่าเป็นไวรัสที่คล้าย "ซาร์ส" อยู่ในตระกูลเดียวกับเชื้อโคโรนาไวรัส ซึ่งระบาดในตะวันออกกลางเมื่อเดือนที่แล้วหรือไม่ โฆษกศูนย์ป้องกันสุขภาพ แจ้งว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกงได้รับรายงานจากโรงพยาบาลท้องถิ่นฯ เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) ว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธ์หนึ่งซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการตรวจวินิจฉัยละเอียด และถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลควีนส์ แมรี่แล้ว โดยอาการล่าสุดยังทรงตัว จากการตรวจสอบประวัติฯ พบว่าผู้ป่วยเดินทางมาจากเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียพร้อมกับพ่อ ตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และพ่อของเขาได้ป่วยเป็นไข้สูงเมื่อวันศุกร์ ก่อนที่ไข้จะลดลงในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ฯ กล่าวว่า จะเฝ้าระวังและตรวจเชื้อคนไข้ที่มีอาการน่าสงสัยอย่างเร่งด่วน และการตรวจเชื้ออย่างละเอียดจะใช้เวลาทราบผลไม่เกิน 2 วัน รายงานข่าวกล่าวว่า ถ้าหากผลตรวจยืนยันว่าเป็นเชื้อไวรัสดังกล่าว ก็นับว่าเด็กชายคนนี้ เป็นผู้ป่วยรายที่สามของโลก ซึ่งติดเชื้อมรณะนี้ หลังองค์การอนามัยโลกยืนยันว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่นี้ 2 ราย ซึ่งเกิดห่างกันถึง 3 เดือน โดยชายทั้ง 2 คนเกี่ยวข้องกับประเทศซาอุดีอาระเบีย เชื้อโคโรน่าไวรัสชนิดใหม่นี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวเดนมาร์กให้ชื่อว่า เบต้าโคโรน่าไวรัส 2ซี (betacoronavirus 2c) เป็นต้นเหตุให้ชายชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 60 ปี คนหนึ่งเสียชีวิต ขณะที่ ชายชาวกาตาร์ วัย 49 ปี อีกคนที่เดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ก็ติดเชื้อดังกล่าวและกำลังป่วยหนัก โรคดังกล่าวอยู่ในตระกูลเดียวกับเชื้อโคโรนาไวรัส แต่ไม่ใช่โรคซาร์สที่แพร่ระบาดจากจีน และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 800 รายทั่วโลกในปี 2546 ขณะที่ไวรัสชนิดใหม่นี้กลับน่ากลัวตรงที่ทำให้เกิดภาวะไตวายอย่างรวดเร็ว และการแพทย์ยังรู้จักไวรัสชนิดใหม่นี้ค่อนข้างน้อย แต่องค์การอนามัยโลก จะเร่งหาความรู้ และให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิก เพื่อมาตรการรับมือที่เหมาะสม ล่าสุดประเทศเดนมาร์กซึ่งได้แจ้งว่าพบผู้ป่วย 5 คน สงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสฯ ดังกล่าว ก่อนที่จะตรวจอย่างละเอียด และแจ้งผลในเวลาต่อมาว่าเป็นเพียงเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ บี ทางการฮ่องกงฯ แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวว่า หากมีอาการเจ็บป่วย ภายใน 10 วัน หลังเดินทางมาจากประเทศซึ่งมีเชื้อไวรัสระบาด ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจเฝ้าระวังฯ ทันที

 

 “กุ้งเพชรฆาต“ ระบาดที่ยุโรป ทำสัตว์กลายพันธุ์-เปลี่ยนระบบนิเวศฯ

7 ต.ค. 55 13.46 น. 



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ว่า อังกฤษได้ตื่นตัวต่อกรณีการแพร่ระบาดของ "กุ้งเพชรฆาต" จากภูมิภาคยุโรปตะวันออก และพบในแม่น้ำเซเวิร์นของอังกฤษ รวมทั้งในคลองในเมืองวอร์เชสเตอร์ และเบอร์มิงแฮม โดยสำนักงานกิจการอาหารและสิ่งแวดล้อมในย่านชนบทอังกฤษระบุว่า กุ้งเพชรฆาตพันธ์นี้เป็นสัตว์นักล่ากระหายที่สามารถฆ่าสัตว์น้ำหลายชนิด รวมทั้งปลาเล็ก รวมทั้งสามารถเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศวิทยาได้ด้วย โดยขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งทีมสำรวจเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกุ้งพันธ์นี้ และศึกษาว่า มันกำลังแพร่ระบาดไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วได้อย่างไร

“กุ้งเพชรฆาต“ ระบาดที่ยุโรป ทำสัตว์กลายพันธุ์-เปลี่ยนระบบนิเวศฯ

 อุตุฯภาคเหนือแฉ ไทยเคยมีหิมะตก

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม 2555 เวลา 13:27 น.

อุตุนิยมฯภาคเหนือยันหิมะตกเชียงรายเป็นไปได้ เพราะเคยเกิดมาแล้วเมื่อ 50 กว่าปีก่อน ขณะเดียวกันเหนือเริ่มหนาวบนดอยอินทนนท์อุณภูมิลดเหลือ 9.5องศาเท่านั้น 


เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 ต.ค. นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร เวรพยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่าความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือมีปริมาณและการกระจายของฝนลดลงและอุณหภูมิจะลดต่ำลง 1-2 องศา โดยอุณหภูมิต่ำสุดเช้านี้วัดได้ 9.5 องศา ส่วนตัวเมืองเชียงใหม่วัดได้ 16.8 องศา
นายวรพจน์ กล่าวต่อว่าสำหรับที่มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้จะหนาวเย็นและหนาวนานกว่าทุกปี และมีโอกาสเกิดหิมะตกในจ.เชียงรายและเชียงใหม่นั้น ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้มีการวิเคราะห์สภาพอากาศปีนี้อากาศเย็นจากประเทศจีนเคลื่อนตัวมาไวกว่าทุกปี อุณหภูมิจะลดต่ำลงในทุกจังหวัดทั่วภาคเหนือ และจะหนาวหนักในเดือนธ.ค.และปีนี้จะเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบขึ้นตามยอดดอยทั่วไปแบบยาวนานกว่าทุกปี

ส่วนการเกิดหิมะตก นั้นมีความเป็นไปได้เพราะประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2498 และปีพ.ศ.2501 เคยเกิดหิมะตกที่ จ.เชียงรายมาแล้วแต่ต้องมีเงื่อนไขคือต้องมีเมฆผลึกน้ำแข็ง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของผลึกหิมะ และเมฆนั้นต้องอยู่ในระดับต่ำใกล้ชิดกับพื้นดินด้วยหรือระดับเยือกแข็งต้องอยู่ในระยะห่างพื้น ดินไม่เกิน 300 เมตร รวมถึงอุณหภูมิอากาศเหนือพื้นดิน ต้องต่ำเข้าใกล้ 0 องศาเซลเซียสแบบต่อเนื่อง แม้ประเทศไทยจะอยู่ในเขตโซนร้อน แต่ประเทศแอฟริกาที่อยู่ในเส้นศูนย์สูตร ก็สามารถเกิดหิมะตกได้ แต่ต้องรอดูสภาพอากาศในช่วงเดือนพฤจิกายน ธันวาคม และมกราคม แบบใกล้ชิดและอาจจะเกิดหิมะตกตามยอดดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ก็เป็นได้.

B5 - War Room Falkman

 

แผ่นดินไหว 6.0 นอกฝั่งเม็กซิโก สะเทือนไกลเกิน 900 กม. ไร้ความเสียหาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ตุลาคม 2555 18:59 น.

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส)รายงานวันนี้ (8) เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลบริเวณนอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกของเม็กซิโก ซึ่งสามารถวัดความรุนแรงได้ถึงระดับ 6.0 เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย ข้อมูลของยูเอสจีเอสระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกเพียง 9.9 กิโลเมตร ห่างจากเมืองโตโปโลบัมโป ในรัฐซินาลัวของเม็กซิโก ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 83 กิโลเมตร และห่างจากเมืองชายฝั่งลอส โมชิสในรัฐเดียวกัน 102 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลนอกชายฝั่งของเม็กซิโกในครั้งนี้ แต่มีรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวสามารถรู้สึกได้ในบางพื้นที่แถบชานเมืองฟีนิกซ์ มลรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวกว่า 950 กิโลเมตร

 เหนือเริ่มหนาว นักท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก

เขียนโดย NaiNat โพสต์เมื่อ วันพุธที่ 10 ตุลาคม 2555



พื้นที่ภาคเหนือเริ่มปรับสภาพอากาศเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว โดยปีนี้ลมหนาวมาเร็วกว่าหลายปีที่ผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีอากาศหนาวเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด มีหมอกปกคลุมในหลายพื้นที่ รวมทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ และตามทุ่งนารอบๆ ตัวเมือง
อุณหภูมิบนยอดดอย อ.ฝาง วัดได้ 19.7 องศาเซลเซียส อ.แม่อาย 19.3 องศาเซลเซียส อ.แม่แจ่ม 19.2 องศาเซลเซียส อ.อมก๋อย 17.3 องศาเซลเซียส พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ 17.1 องศาเซลเซียส ดอยอ่างขาง 17.5 องศาเซลเซียส และยอดดอยอินทนนท์ 11.6 องศาเซลเซียส
ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนเริ่มคึกคัก พบว่าที่ถนนคนเดินใจกลางเมืองแม่ฮ่องสอน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางเข้าไปเที่ยวบ้างแล้ว
ทั้งนี้ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศจะเริ่มเย็นลงในช่วงระหว่างวันที่ 10-13 ตุลาคม อีก 1-2 องศา หลังจากนั้นอาจจะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่เสริมเข้ามาอีกในช่วงกลางเดือน ซึ่งจะถือว่าเป็นช่วงที่ปรับเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว
Mthai News

เหนือเริ่มหนาว นักท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง

 ชาวแอฟริกา3ใน4เผชิญวิกฤตอาหาร

วันพุธที่ 10 ตุลาคม 2555 เวลา 07:55 น.



เผยผลวิเคราะห์จากบริษัทในเมืองผู้ดี ระบุชาวแอฟริกา3ใน4 และอีกหลายชาติในกลุ่มอาหรับ มีความเสี่ยงสูงในการเผชิญวิกฤตอาหาร

วันนี้ (10 ต.ค.) เมเปิ้ลครอฟต์ บริษัทที่ปรึกษาของอังกฤษเปิดเผยรายงานการวิเคราะห์ฉบับหนึ่งระบุว่า ประเทศในทวีปแอฟริกา 3 ใน 4 และอีกหลายชาติในกลุ่มอาหรับ มีความเสี่ยงสูงในการเผชิญกับวิกฤตอาหาร โดยจากการสำรวจ 197 ประเทศทั่วโลกพบว่า 59 ประเทศมีความเสี่ยงมากที่สุดเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางอาหาร ซึ่งในจำนวน 59 ประเทศดังกล่าว เป็นชาติในทวีปแอฟริกาถึง 39 ประเทศ นอกจากนี้ อีก 11 ประเทศมีความเสี่ยงมากที่สุด โดย 9 ชาติอยู่ในแอฟริกา ประกอบด้วยโซมาเลีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก บุรุนดี ชาด เอธิโอเปีย เอริเทรีย ซูดานใต้ โคโมรอส และเซียราลีโอน ขณะที่ เฮติและอัฟกานิสถาน ก็เป็น 2 ประเทศที่มีความเสี่ยงด้านวิกฤตอาหาร


รายงานระบุว่า แม้วิกฤตอาหารยังไม่ปรากฏขึ้นมา แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความวุ่นวายที่เกี่ยวพันกับอาหารในหลายภูมิภาค รวมทั้งในแถบทะเลทรายซาฮาราของแอฟริกาและชาติอาหรับ ส่วน 48 ประเทศอื่นที่อยู่ในข่ายเสี่ยงสูง รวมทั้งเยเมน ซีเรีย ปากีสถาน ปาปัวนิวกินี เกาหลีเหนือ อิรัก และลิเบีย อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าว ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ดัชนีวัดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของอาหาร ต้องการให้รัฐบาล เอ็นจีโอ และธุรกิจต่างๆ ไปจนถึงประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด ตระหนักถึงความหิวโหยและความไม่สงบทางสังคม เนื่องจากการขาดแคลนอาหารหรือราคาอาหารที่แพงขึ้น

ชาวแอฟริกา3ใน4เผชิญวิกฤตอาหาร | เดลินิวส์

B1 - War Room Falkman 

 แม่กลองล้นตลิ่ง ท่วม 80 หลังคาเรือน

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2555 15:19น



ชาวบ้านคุ้งน้ำวน ริมตลิ่งแม่น้ำแม่กลอง เดือดร้อน 80 ครัวเรือน หลังระดับน้ำเพิ่มขึ้น 50-60 ซ.ม. คาด 1-2 จะเข้าภาวะปกติ 

นายพิชิต บำรุงทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งน้ำวน อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ออกสำรวจความเสียหาย จากกรณีเขื่อนท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ปล่อยน้ำลงมา ประกอบกับช่วงนี้มีน้ำทะเลหนุนสูงมารวมกัน ส่งผลกระทบให้บ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เดือดร้อน 80 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายอีกเป็นจำนวนมาก ด้านเจ้าหน้าที่ เร่งสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อรายงานอำเภอช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้น ทั้งนี้ บริเวณชุมชนซอยสันคู และชุมชนท่าเสา เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ด้าน นายคณิต ชินวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานราชบุรี เผยว่า ระดับน้ำแม่กลองเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50-60 ซ.ม. จึงทำให้ส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งและที่ลุ่มต่ำ ทั้ง อ.บ้านโป่ง อ.โพธาราม และ อ.เมือง คาดว่าประมาณ 1-2 วัน ปริมาณน้ำน่าจะลดลง อาจจะเข้าสู่สภาวะปกติ


B5 - War Room Falkman

 หมอกปกคลุมทั่วเมืองน่าน อุตุฯเตือนประชาชนระมัดระวังการขับขี่

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 เวลา 08:19 น.

หมอกปกคลุมทั่วเมืองน่าน อุตุฯเตือนประชาชนระมัดระวังการขับขี่ | เดลินิวส์

 
 


น่านอากาศเย็นหมอกลงจัด ทัศนวิสัยมองเห็นต่ำกว่า 100 เมตร ส่งผลต่อการสัญจรของรถยนต์ เตือนประชาชน นักท่องเที่ยวเดินทางควรระวังอุบัติเหตุ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้(11ต.ค.)สภาพอากาศทั่วไปบริเวณเขตเมืองน่าน และอำเภอรอบนอก เริ่มเย็นลง มีหมอกหนาจัด ซึ่งเป็นสัญญานบอกว่า กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว โดยอุณหภูมิจะลดลงในช่วงกลางคืนและเช้ามืด และมีหมอกหนาจัดซึ่งส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำกว่า 100 เมตร ส่งผลต่อการขับขี่รถเนื่องจากสามารถมองเห็นรถที่แล่นอยู่ด้านหน้าลดลง ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนต่างต้องเปิดไฟหน้ารถเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

นายสมมาตร ฟุ้งวิทยา หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาน่าน หมอกจะปกคุมในช่วงเช้า ส่วนช่วงสายๆหมอกจะค่อยลดลงไป ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยจึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เริ่มเดินทางเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศหนาวทางภาคเหนือ ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่รถเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนด้วย

B5 - War Room Falkman

 บุรีรัมย์ผิดหวังแกมีฝนน้อย-เร่งสำรองน้ำดิบ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2555 15:46น.



บุรีรัมย์ ผิดหวังพายุแกมี หลังมีฝนตกเพียงเล็กน้อย ด้านชลประทาน เร่งสำรองน้ำดิบไว้ผลิตน้ำประปาใช้หน้าแล้ง 

หลังพายุแกมีที่เข้าสู่ประเทศไทย และอ่อนกำลังลง ได้ส่งผลกระทบต่อ จ.บุรีรัมย์ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีฝนตกโปรยปรายทั่วทั้งจังหวัดเพียงเล็กน้อย ซึ่งจากก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่าฤทธิ์ของพายุแกมี ก็จะช่วยเติมปริมาณน้ำในน้ำอ่างเก็บน้ำในจังหวัด ซึ่งมีปริมาณน้ำเหลือน้อย โดยน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้ง 22 แห่ง ขณะนี้มีปริมาณกักเก็บรวมกว่า 164 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุอ่างรวม 298 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ปริมาณ 55% ซึ่งถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ด้าน ชลประทานบุรีรัมย์ ก็จำเป็นต้องสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด และจากฝายลำมาศ เพื่อมาเติมในอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก ที่จะใช้เป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปาบริการประชาชน ในเขตพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ห้วยราช สำรองไว้เป็นน้ำดิบผลิตประปาในช่วงหน้าแล้ง

B5 - War Room Falkman

 

อาคารจอดรถที่สหรัฐพังถล่ม!! ตาย 2 เจ็บเพียบ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ตุลาคม 2555 11:33 น. เกิดเหตุอาคารจอดรถที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มลงมา โดยเหตุเกิดภายในวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ จนถึงขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ผู้เคราะห์ร้ายอีก 1 คน ยังคงติดอยู่ใต้ซากคอนกรีต เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังระดมกำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถดึงร่างผู้เคราะห์ร้ายคนหนึ่งขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย สื่อท้องถิ่นระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้วหลายคน นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายอีกหลายคน สำหรับอาคารจอดรถซึ่งในอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ที่พังถล่มลงมาครั้งนี้ เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุน่าจะมีแต่คนงานก่อสร้างอยู่ภายในบริเวณดังกล่าว B5 - War Room Falkman

 อุตุฯรายงานกทม.ไม่น่าห่วงปริมาณฝน

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2555 19:24น.



กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน สภาพอากาศ ร่องความกดอากาศต่ำ ยังพาดผ่านจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี และประจวบฯ ขณะที่ กทม.ไม่น่าห่วงปริมาณฝน

ดร.สุกฤษฎ์ เกิดแสง ผู้แทนของกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวในที่ประชุมคณะทำงานปฏิบัติการร่วมระบายน้ำในพื้นที่ปลายน้ำ ถึงการคาดการณ์สภาพอากาศล่วงหน้า 7 วัน ว่า ขณะนี้ประเทศไทย เริ่มมีมวลอากาศเย็นเข้ามาปกคลุม โดยจะปกคลุมไปจนถึงวันที่ 13 ต.ค. และจะอ่อนกำลังลง ซึ่งจะทำให้มีหมอกจัด โดยมวลอากาศเย็นดังกล่าว จะเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ และจะทำให้มีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ขณะที่คณะทำงานเตรียมประชุมประเมินสถานการณ์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า ส่วนปริมาณน้ำฝนใน 24 ชั่วโมง ดร.สุกฤษฎ์ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำฝนสูงสุด ซึ่งตรวจวัดได้ที่ จ.เพชรบุรี 88.5 มิลลิเมตร และยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ราชบุรี และ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นผลมาจากร่องมรสุม ที่พาดผ่าน ส่วน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะนี้มีปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ 67.5 มิลลิเมตร ซึ่งที่อยู่ในเกณฑ์ ที่ทางกรุงเทพมหานคร สามารถรับมือไว้ได้

B5 - War Room Falkman

 น้ำโขงลดวูบ!หวั่นแล้งหนัก 

13 ตุลาคม 2555 เวลา 10:27



แม่น้ำโขงช่วงรนครพนมแห้งเร็วเหลือประมาณ 4 เมตร เสี่ยงแล้งหนัก ชลประทานเตรียมรับมือ

ระดับแม่น้ำโขงช่วงจังหวัดนครพนมได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 4.50 เมตร เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ ประมาณ 10 เมตร เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาภัยแล้งสูง เนื่องจากแม่น้ำโขงลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แม่น้ำสาขาต่างๆ เริ่มแห้งขอด รวมถึงในปีนี้มีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ต่ำ ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเหลือน้อยอยู่ที่ประมาณ 60% 

ขณะเดียวกันในส่วนของ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ คือ ประตูระบายน้ำ ธรณิศนฤมิต ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการควบคุมรองรับน้ำจากพื้นที่ต่างๆ ไหลผ่านหนองหาน จ.สกลนคร ลงสู่แม่น้ำโขง ได้เตรียมพร้อมเร่งควบคุมน้ำการเก็บกักน้ำให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ที่ปริมาณ 35 ล้านลูกบาตรเมตร เพื่อเตรียมรับมือภัยแล้งโดยมีพื้นที่การเกษตรที่สามารถรองรับได้กว่า 60,000 ไร่ 

ด้าน นายพิทักษ์ ปักษานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการก่อสร้าง 3 โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า ในช่วงนี้ทางโครงการได้เตรียมพร้อมบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง ซึ่งมีการควบคุมปริมาณน้ำเก็บกักไว้ที่ระดับมาตรฐานคือ ประมาณ 35 ล้านลูกบาตรเมตร เพื่อให้เพียงพอต่อพื้นที่การเกษตร ให้เกษตรกรมีน้ำใช้ในการเกษตรตลอดปี ไม่ต่ำกว่า 61,000 ไร่ ส่วนภัยแล้งคาดว่าจะสามารถรับมือได้ แต่หากเกิดปัญหาพื้นที่การเกษตรไม่มีน้ำเพียงพอจะต้องมีการผันน้ำโขงกลับมาใช้ในระบบชลประทานได้

น้ำโขงลดวูบ!หวั่นแล้งหนัก - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค

B5 - War Room Falkman

 อุตุฯ เผยเหนือตอนบนอีสานอากาศเย็น-อ่าวไทยมีฝน

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2555 7:36น.



กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ภาคเหนือ และภาคอีสาน มีอากาศหนาวเย็น ขณะที่ อ่าวไทยมีฝนกระจายเป็นแห่งๆ กรุงเทพมหานคร มีฝนตกกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ 

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่เสริมลงมาปกคลุมตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนลมตะวันออก พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้

ส่วนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 ก.ม./ช.ม.


กาฬสินธุ์ภัยหนาวเริ่มปกคลุม-เตือนภัยแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2555 11:16น.

จ.กาฬสินธุ์ ภัยหนาวเริ่มปกคลุม คาด ปีนี้หนาวกว่าทุกปี ด้าน รองผู้ว่าฯ สั่งนายอำเภอ ประกาศเตือนภัยแล้ว

ปัญหาสภาพอากาศหนาวเริ่มปกคลุมพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในช่วงเช้าและกลางคืน จะมีลมหนาวเข้าปกคลุม ล่าสุดพบว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร โดยเฉพาะ ผู้ยากไร้ในเขต ต.แก้งกะอาม อ.สมเด็จ เริ่มสะสมฟืน เพื่อเตรียมนำมาผิงไฟ ไล่อากาศที่หนาวเย็น ทั้งนี้ ชาวบ้านเชื่อว่า ในปีนี้จะมีสภาพอากาศหนาวเย็นกว่าทุกปี เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน จนทำให้ต้องเตรียมการรับมือ 

ด้าน นายสุวิทย์ สุบงกช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้นายอำเภอ ทั้ง 18 อำเภอ ทำประกาศเตือนอัคคีภัยในช่วงอากาศหนาวเย็น โดยให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ทำการประกาศเสียงตามสาย ที่เน้นการป้องกันอัคคีภัยที่เกิดจากการผิงไฟไม่ระวัง เนื่องจากสถิติการเกิดเพลิงไหม้ในแต่ละปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 โดยปีที่ผ่านมา จ.กาฬสินธุ์ เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนราษฎรถึง 15 ครั้ง ทั้งนี้ ยังแนะนำให้ประชาชนหมั่นตรวจสอบสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า และสายไฟ ซึ่งหากเก่า หรือชำรุด ก็ควรเปลี่ยน เพื่อป้องกันปัญหาเพลิงไหม้ในระยะนี้


B5 - War Room Falkman

 หมอลำปางเตือนปชช.ระวังโรคทางเดินหายใจ

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2555 8:06น.



อากาศลำปาง เริ่มแปรปรวน แพทย์สาธารณสุขจังหวัดออกเตือนประชาชน ระวังโรคระบบทางเดินหายใจ 

น.พ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ขณะนี้อากาศในพื้นที่ จ.ลำปาง แปรปวน มีทั้งฝน และบางครั้งเริ่มมีอากาศเย็น ซึ่งอุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ (14 ต.ค.) อ.เมือง จ.ลำปาง อุณหภูมิลดฮวบต่ำสุดเหลือเพียง 22.4 องศาเซลเซียส ส่วนบนยอดดอย อยู่ที่ประมาณ 18 องศาเซลเซียส เนื่องจากเป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนฤดู ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน จึงอยากฝากเตือน ให้ระมัดระวังโรคต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นในช่วงนี้ เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคหวัด หอบหืด หรือหลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ พบว่ายังเป็นโรคที่พบบ่อยได้ตลอดปี สำหรับในเด็กเล็ก ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องระวัง พ่อแม่ควรจะใส่เสื้อแขนยาวและห่มผ้าให้ลูก หากตื่นมากลางดึก ก็ควรจะปิดแอร์ หรือพัดลม

B5 - War Room Falkman

 ยอดผู้เสียชีวิตจาก"โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเชื้อรา"ในสหรัฐเพิ่มเป็น 15 คน

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09:55:53 น

ยอดผู้เสียชีวิตจาก"โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเชื้อรา"ในสหรัฐเพิ่มเป็น 15 คน : มติชนออนไลน์

ทางการสหรัฐฯเผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากการระบาดของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเชื้อรา เนื่องจากการใช้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการปวดหลังกว่า 15 คนแล้ว

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มจากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เนื่องจากใช้สเตียรอยด์ปนเชื้อรา ทำให้ยอดเสียชีวิตมีจำนวนรวม 15 คนแล้ว โดยผู้เคราะห์ร้ายรายล่าสุดเป็นชาวรัฐอินเดียนา

ก่อนหน้านี้ บริษัทผู้ผลิตสเตียรอยด์ในรัฐแมสซาชูเซ็ตส์ ได้ขอเรียกคืนสเตียรอยด์กว่า 17,000 ขวด ที่ถูกส่งไปยังคลีนิคทั่วสหรัฐฯกว่า 70 แห่ง ขณะที่ปัจจุบัน มีรัฐที่ได้รับผลกระทบแล้ว 13 รัฐ ได้แก่ เทนเนสซี มิชิแกน เวอร์จิเนีย อินเดียนา ฟลอริดา แมรีแลนด์ มินเนโซต้า นอร์ธแคโรไลนา นิวเจอร์ซีย์ โอไฮโอ อิลลินอยส์ ไอดาโฮ และเท็กซัส 

อย่างไรก็ดี ซีดีซีเปิดเผยว่า โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเชื้อรา มิใช่โรคที่แพร่กระจายด้วยการสัมผัสกันแต่อย่างใด นอกจากนั้น ยังมีรายงานผู้ติดเชื้อรวม 197 คนในวันเสาร์ เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันศุกร์ 13 คน โดยพบว่าผู้เคราะห์ร้ายล่าสุดรักษาอาการปวดที่ข้อเท้าด้วยการฉีดสเตียรอยด์ และที่รัฐอิลลินอยส์ก็พบผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกนับตั้งแต่มีข่าวการระบาด 

ปัญหาดังกล่าวกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ หลังจากบริษัทนิวอิงแลนด์ คอมพาวดิ้ง ในรัฐแมสซาชูเซตส์ จัดส่งเวชภัณฑ์กว่า 17,676 ขวด ที่คาดว่ามีเชื้อราปนเปื้อนไปยัง 23 รัฐ และศูนย์แพทย์ 76 แห่งระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ทางการสหรัฐฯต้องดำเนินการสอบสวนทันที ขณะบริษัทต้องเรียกเก็บผลิตภัณฑ์และระงับการประกอบกิจการ


B5 - War Room Falkman

 

ปภ.เผยยังมีน้ำท่วมอีก 7 จว. เดือนร้อน 94,270 ครัวเรือน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ตุลาคม 2555 14:46 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า ยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา พิษณุโลก พิจิตร พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และ จ.นครปฐม รวม 31 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 94,270 ครัวเรือน 278,402 คน โดย จ.ปราจีนบุรี ยังมีน้ำท่วมขัง 6 อำเภอ ฉะเชิงเทรา 6 อำเภอ พิษณุโลก และพิจิตร 8 อำเภอ พระนครศรีอยุธยา 6 อำเภอ และสุพรรณบุรี 7 อำเภอ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทั่วประเทศ มีปริมาตรน้ำทั้งหมด 51,963 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 74 ของความจุอ่าง B5 - War Room Falkman

 แผ่นดินไหวโซโลมอน 5.9 ริคเตอร์

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2555 เวลา 14:00 น.

 



แผ่นดินไหวโซโลมอน 5.9 ริคเตอร์ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด 

วันนี้(14 ต.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.9 ริคเตอร์ สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับโซโลมอน ประเทศหมู่เกาะในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก ในวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด

ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุว่า แผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.9 ริคเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.58 น.เช้าวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ 86 กม.ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองชิโรแวงกา บนเกาะชอยซุลของหมู่เกาะโซโลมอน และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 60 กม. นอกจากนั้นแล้ว ศูนย์กลางแผ่นดินไหวยังอยู่ห่างจากกรุงโฮนีอารา เมืองหลวงของโซโลมอนประมาณ 500 กม.

สำนักงานธรณีศาสตร์ของออสเตรเลีย รายงานว่า วัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ 6.0 ริคเตอร์ และไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด รวมถึงรายงานความเสียหายใดๆในพื้นที่ของหมู่เกาะโซโลมอน

สำหรับหมู่เกาะโซโลมอน ตั้งอยู่ในเขตวงแหวนไฟของมหาสมุทรแปซิฟิก จุดที่แผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกัน จึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น เมื่อปี 2550 เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ หลังแผ่นดินไหวรุนแรง 8.1 ริคเตอร์ ถล่มหมู่เกาะโซโลมอน มีรายงานผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 52 ศพ และประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายพันคน

แผ่นดินไหวโซโลมอน 5.9 ริคเตอร์ | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

พบกรุพระผงโบราณนับหมื่นองค์คาดอายุมากกว่า1,000 ปี กลางป่าอ.กันทรารมย์

 เมื่อเวลา  07.00  น.วันที่  14  ตุลาคม  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บริเวณกลางป่าสาธารณประโยชน์ดงบ้านเก่า  สะเดาหวาน  บ้านหนามแท่ง  ต.หนองแวง  อ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นป่าสาธารณะเก่าแก่  ปรากฏว่าได้มีชาวบ้านจำนวนมากพากันหลั่งไหลไปกราบไหว้พระผงโบราณและใบเสมาเก่าแก่  ซึ่งหลวงพ่อสมศักดิ์  สิริธัมโม  พระลูกวัดสระพังทองหนามแท่ง  บ้านหนามแท่ง  อ.กันทรารมย์ เป็นผู้ขุดพบ 

หลวงพ่อสมศักดิ์  สิริธัมโม  พระลูกวัดสระพังทองหนามแท่ง  กล่าวว่า  เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่บริเวณกลางป่าแห่งนี้เป็นประจำทุกวัน  และต่อมาเมื่อวันที่  9  ต.ค.2555  ได้เห็นว่าบริเวณเนินดินแห่งนี้เหมาะสำหรับการจะจัดสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม  ดังนั้น  จึงได้นำเอาจอบมาทำการขุดดิน  เพื่อปรับพื้นที่และได้ขุดลงไปนำพื้นดินพบว่ามีไหดินโบราณจำนวนประมาณ  25  ไห  ฝังอยู่ใต้ดินกระจายอยู่รอบบริเวณเนินดิน  และเมื่อนำเอาไหมาเปิดดูพบว่า  ภายในไหมีพระผงโบราณบรรจุอยู่เต็มทุกไห  และพบใบเสมาโบราณ  จำนวน  4  ใบอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันด้วย   ดังนั้น  จึงได้ขุดนำเอาไหทั้งหมดขึ้นมา  และแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านได้ทราบ  จากนั้น  ได้นำชาวบ้านหนามแท่งมาทำการล้างพระผงที่อยู่ในไห  ซึ่งพบว่าพระผงโบราณเมื่อโดนน้ำจะแข็งตัวและมีสีแดง  แต่ว่าเมื่อแห้งแล้วองค์พระจะกลายเป็นสีนวลขาว คาดว่าเนื้อพระจะเป็นว่าน 108  จึงมีลักษณะแบบนี้ โดยพระผงโบราณทั้งหมดมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ  10,000  องค์ 

 

 

 

หลวงพ่อสมศักดิ์  กล่าวต่อไปว่า  จากการที่ได้ตรวจสอบใบเสมาโบราณแล้ว  พบว่า  ใบเสมาส่วนหนึ่งมีรอยจารึกเป็นภาษาขอมโบราณ  และมีอักษรเขียนคล้ายกับคำว่า  ร.ศ.๒๑๑  หรือ ๒๑๑๑  ซึ่งตัว  ร.ข้างหน้าคล้ายกับเลข  ๒ ไทย  แต่ว่าไม่ชัดเจนเนื่องจากเก่าแก่มาก  จนตัวหนังสือเลือนหายไม่ชัดเจน  ส่วนตัว ศ  ค่อนข้างชัดเจน คาดว่าพระผงโบราณและใบเสมาโบราณที่ขุดพบนี้อายุประมาณ  1,000 ปี  และปรากฏว่า  เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปได้มีบรรดานักค้าวัตถุโบราณมาติดต่อขอซื้อพระผงโบราณทั้งหมดในราคาขีดละหลายพันบาท  แต่ทุกคนไม่ขาย  เนื่องจากว่าต้องการเก็บรักษาไว้  เพื่อให้ชาวบ้าน  ลูกหลานได้สักการะกราบไหว้  และเพื่อเก็บไว้เป็นสมบัติของแผ่นดินต่อไป  โดยได้ก่ออิฐบล็อก  ความกว้าง  2  เมตร  และยาว  10  เมตร  ครอบไหโบราณที่บรรจุพระผงโบราณเก็บเอาไว้  โดยจะได้อัญเชิญพระพุทธรูปมาวางประดิษฐานเป็นพระประธานไว้ข้างบนพื้นที่ซึ่งได้ก่ออิฐบล็อกเอาไว้  เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะบูชาต่อไป  ซึ่งเมื่อชาวบ้านทราบข่าวได้พากันแห่มากราบไหว้สักการะและชมพระผงโบราณกันอย่างต่อเนื่องวันละหลายร้อยคน

ด้านผู้ใหญ่บ้านหมู่  3  บ้านหนามแท่ง  กล่าวว่า  ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้กับนายก  อบต.หนองแวง  ได้รับทราบแล้ว  เพื่อที่จะได้จัดหางบประมาณมาทำการบูรณะปรับปรุงบริเวณที่ขุดพบพระผงโบราณแห่งนี้  เพื่อจะได้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์และประชาชนทั่วไป  โดยบริเวณนี้อดีตเคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเก่าแก่  แต่ว่าต่อมาได้มีการย้ายหมู่บ้านออกไปอยู่ด้านนอกป่าแห่งนี้  ซึ่งภายในบริเวณนี้มีต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีหลายสิบต้น  เป็นป่าสาธารณะประโยชน์โบราณเก่าแก่มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเขต  อ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ

 

 

 

 

นายคำตา  พรหมดี  อายุ  74  ปี  อยู่บ้านเลขที่  66  หมู่  3  บ้านหนามแท่ง  ต.หนองแวง  อ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนเกิดมาจนอายุขนาดนี้แล้วไม่เคยพบพระผงโบราณจำนวนมากมายขนาดนี้  คาดว่าจะมีอายุประมาณ  1,000 ปี ขึ้นไป  ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่า  สถานที่บริเวณนี้เคยเป็นชุมชนของคนโบราณมาก่อน  จึงมีวัตถุมงคลล้ำค่าฝังเอาไว้  ซึ่งตนจะได้ร่วมกับชาวบ้านเก็บรักษาพระผงโบราณที่ค้นพบนี้ไว้เป็นสมบัติของชาวบ้านหนามแท่งทุกคนต่อไป

 

ที่มา  : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1350180191&grpid=&catid=19&subcatid=1906

 "ถนนพระราม 2" เสี่ยงยุบตัวสุด! หลังเกิดโพรงใต้ดินหลายจุด กรมทางหลวงเตรียมซ่อมใหญ่

วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:35:34 น



นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ถึงกรณีที่ถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงเกิดการยุบตัว เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนงามวงศ์วาน ซึ่งสำนักวิจัยและพัฒนางานทางและสำนักทางหลวงที่ 11 (กรุงเทพฯ) และกรมทางหลวงได้ดำเนินการสำรวจตรวจสอบและซ่อมแซมโพรงใต้ดินเร่งด่วนไปแล้วนั้น ซึ่งจากการตรวจสอบโดยละเอียดด้วยเครื่อง GPR (Ground Penetration Radar) พบว่า ถนนอีกหลายสายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะถนนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เช่น ถนนสุวินทวงศ์ ถนนพระราม 2 ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนบรมราชชนนี โดยพบว่า ถนนพระราม 2 มีความเสี่ยงที่จะเกิดโพรงมากที่สุด เนื่องจากมีรถบรรทุกหนักใช้เส้นทางจำนวนมาก และเป็นถนนที่ก่อสร้างบนดินอ่อน ซึ่งมีอัตราการทรุดตัวแต่ละปีเร็ว ซึ่งโพรงที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นช่วงคอสะพาน

อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมทางหลวง เผยว่า กรมฯจะนำเครื่อง GPD จะใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสำรวจความหนาของโครงสร้างชั้นทาง สำรวจตำแหน่งสาธารณูปโภคใต้ถนน ตำแหน่งโพรงขนาดใหญ่ใต้ถนน โดยส่งสัญญาณเรดาร์ลงไปใต้ผิวถนนและนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อสำรวจว่าใต้พื้นผิวจราจรจุดใดมีโพรงใต้ดิน โดยใช้คลื่นความถี่ต่ำ จากนั้นจะสำรวจถนนวิภาวดีและถนนบรมราชชนนี โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ ถนนพระราม 2 นั้นจะต้องมีการซ่อมใหญ่ โดยจะต้องปิดถนนเป็นช่วงๆละ 10-20 กิโลเมตร วงเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะกระทบกับการจราจร ดังนั้นจะต้องมีการประเมินผลกระทบก่อน และจะต้องวางแผนร่วมกันการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่มีแผนก่อสร้างทางพิเศษต่อจากทางพิเศษดาวคะนอง ไปตามแนวถนนพระราม 2 ด้วย โดยในระยะเร่งด่วน จะมีการตรวจสอบสภาพถนนตลอดเวลา หากพบการชำรุด จะเป็นการซ่อมเร่งด่วนเป็นการซ่อมย่อยเป็น วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท 

"ถนนพระราม 2" เสี่ยงยุบตัวสุด! หลังเกิดโพรงใต้ดินหลายจุด กรมทางหลวงเตรียมซ่อมใหญ่ : มติชนออนไลน์=

B5 - War Room Falkman

เชียงราย อากาศหนาว หมอกลงจัด

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 10:20น.



เชียงราย อุณหภูมิลดเหลือ 21.8 องศาฯ หมอกลงจัด และอากาศเย็น คาด จะลดลงอีก เตือนประชาชน พร้อมรับอากาศหนาว ในช่วง 1-2 วันนี้

สถานีอตุนิยมวิทยาจังหวัดเชียงราย รายงานการตรวจวัดอุณหภูมิต่ำสุดในเช้าวันนี้ ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย สามารถวัดได้ 21.8 องศาเซลเซียส ลดลงจากวานนี้ (16 ต.ค.) วัดได้ 23.5 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ทำให้บางพื้นที่ใน จ.เชียงราย หมอกลงหนา ทัศนวิสัยในการมองเห็น 3 กิโลเมตร อากาศทั่วไปถือว่าหนาวเย็น อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ จ.เชียงราย จะเริ่มมีอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง หลังความกดอากาศสูงจากจีนตอนใต้ หรือมวลอากาศเย็น มีกำลังแรงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง 1 - 2 วันนี้ จะทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงอีก 2 - 3 องศาเซลเซียส จึงของให้ประชาชนเตรียมรับมือกับอากาศหนาวเย็น และจะมีหมอกลงหนา ทำให้ทัศวิสัยลดต่ำลง


แม่สอด อากาศเย็น หมอกลงจัด

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 7:46น.




แม่สอด อากาศเริ่มหนาว น้ำค้างและหมอกลงจัด อุณหภูมิลดต่ำ เหลือไม่ถึง 20 องศาฯ ด้าน ผู้ว่าฯ กำชับ อปท. ดูแลประชาชน

ขณะนี้ ที่บริเวณชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก และอำเภอใกล้เคียง สภาพอากาศได้เริ่มหนาวเย็น อุณหภูมิลดต่ำลง มีน้ำค้างและหมอกลงปกคลุมหนาแน่นในช่วงเช้า อุณหภูมิลดต่ำ เหลือไม่ถึง 20 องศาเซลเซียล ซึ่งจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีหมอกลงจัด ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ ต้องเปิดไฟหน้าเพื่อตัดหมอก เนื่องจากจะเกิดอันตราย สำหรับอากาศบนภูเขาและยอดดอยนั้น ต่ำกว่าบนที่ราบ 3-4 องศาเซลเซียย และมีน้ำค้างเกาะที่ใบไม้จำนวนมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.ท่าสองยาง และ อ.อุ้มผาง นั้น อากาศจะหนาวเย็นและมีหมอกลงจัด 
จากสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็น นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งเทศบาล และ อบต. รวมทั้ง อบจ.ตาก ได้เข้าไปดูแลประชาชนที่กำลังจะประสบภัยหนาว ทั้งการมอบผ้าห่มเครื่องกันหนาว และดูแลด้านสุขภาพอนามัย โดยเฉพาะโรคที่มากับฤดูหนาวอีกด้วย

B5 - War Room Falkman 

 แผ่นดินไหว4.0 ริคเตอร์เขย่ารัฐเมนในสหรัฐ

วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2555 เวลา 08:27 น.

 



แผ่นดินไหว4.0 ริคเตอร์เขย่ารัฐเมนในสหรัฐ ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ 

วันนี้ (17 ต.ค.) เกิดแผ่นดินไหวระดับ 4.0 ริคเตอร์เขย่ารัฐเมนทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐเมื่อวันที่ 16 ต.คตามเวลาท้องถิ่น รับรู้ไปไกลถึงเมืองบอสตันทางใต้และเมืองนิวอิงแลนด์ สร้างความตกใจให้แก่ประชาชนที่ไม่คุ้นเคยการสั่นไหว อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวในเวลาประมาณ 19.00 น. หรือตรงกับ 06.00 น. ของเช้าวันที่ 17 ต.ค.ตามเวลาในไทย และศูนย์กลางของการสั่นสะเทือนอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดินเพียง 5 กิโลเมตร

ขณะที่ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ในเมืองมงต์เปลิเยร์ เมืองเอกของรัฐเวอร์มอนต์ รายงานว่า รู้สึกถึงการสั่นไหวประมาณ 10 วินาที ด้านผู้เชี่ยวชาญแห่งสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า แผ่นดินไหวล่าสุดที่รัฐเมน 4.6 ริคเตอร์ ก่อนปรับตัวเลขเหลือเพียง 4.0 ริคเตอร์.


B5 - War Room Falkman

ดินไหว 5.7R ที่ทะเลเซเลเบส ไร้ผลต่อไทย

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 13:01น.

ศภช. รายงานแผ่นดินไหว ขนาด 5.7 ริกเตอร์ ที่ Celebes sea ห่างจากภูเก็ต 2,929 ก.ม. ไร้ผลกระทบต่อประเทศไทย

น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงาน เมื่อเวลา 11.42 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 5.7 ริกเตอร์ บริเวณ Celebes sea ประเทศอินโดนีเซีย ระยะทาง 2,929 ก.ม. จากชายฝั่งทะเล จ.ภูเก็ต ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 192 

Skip to earthquake lists 
 



B5 - War Room Falkman 

 กรมอุทกศาสตร์เผยน้ำทะเลหนุนสูง17-21ตค.

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 12:42น.



รองเจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เผย น้ำทะเลหนุนสูง 17 - 21 ตุลาคมนี้ แต่ระดับน้ำสูงสุด จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา

พล.ร.ต.วิฑูรย์ ตัณฑิกุล รองเจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ แถลงพร้อมกับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า ในวันที่ 17 - 21 ตุลาคมนี้ จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง โดยอิทธิพลของน้ำทะเล จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.16 - 1.22 เมตร เมื่อรวมกับปริมาณน้ำเหนือ จะมีผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 1.77 - 1.87 เมตร ซึ่งคาดว่าในปีนี้ จะสูงสุดอยู่ที่ 1.81 เมตร ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ที่สูงกว่า 2.52 เมตร พร้อมระบุ หากในพื้นที่มีฝนตก ก็จะทำให้น้ำสูงกว่า 10 ซ.ม. ซึ่งจะทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ ได้รับผลกระทบ

กรมอุทกศาสตร์เผยน้ำทะเลหนุนสูง17-21ตค. : INN News

B5 - War Room Falkman

 พายุหมุนถล่ม อ.บางซ้าย พระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนพังราบ หญิงชราเจ็บ 

วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:55:17 น.



เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายวรากร สิทธิมาลิก นายอำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายอุบล ทัตพรหม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปลายกลัด อำเภอบางซ้าย เข้าตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนกว่า 10 หลังและสถานที่ราชการ เช่นสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลปลายกลัด บ้านพักพนักงาน และศาลเจ้าประจำชุมชน ซึ่งเสียหายจากแรงลมพายุหมุน ที่พัดอย่างรุนแรงในช่วงเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา และได้สร้างความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างจำนวนมาก โดยในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีหญิงชราได้บาดเจ็บ 1 รายเพราะถูกตู้ในบ้านล้มทับ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม ได้มีการสำรวจความเสียหาย เพื่อทำเรื่องเสนอไปยัง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อขอรับการช่วยเหลือกรณีได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ

นางสายสร้อย แช่มช้อย อาจารย์ประจำโรงเรียนวัดใหม่ต้านทาน กล่าวว่า ชาวบ้านบอกว่าเกิดลมพายุหมุน โดยเริ่มจากด้านหลังโรงเรียน พัดผ่านวัด และไปแสดงกำลังรุนแรงของลมพายุที่ชุมชนและสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลปลายกลัด จนเกิดความเสียหาย สำหรับโรงเรียนนั้นได้รับความเสียหาย เฉพาะอาคารศูนย์เด็กเล็กที่ต้นไม่โค่นทับจนกระเบื้องหลังคาพัง และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของชุมชนที่โดนแรงลมพายุหมุนแบบนี้

B5 - War Room Falkman

 จับตา"พายุ"ถล่มภาคใต้ส่อเท่า"พายุเกย์"


วันที่ 17-10-2555

จับตา"พายุ"ถล่มภาคใต้ ส่อเค้าแรงเท่า"พายุเกย์" : ทีมข่าวรายงานพิเศษ

http://www.komchadluek.net/detail/20...l#.UH4cssXQf51



ปีนี้ หลายคนรู้สึกโล่งอกที่ไม่ต้องเผชิญกับวิกฤติน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมา แต่หลายพื้นที่ของประเทศ ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมจาก "พายุแกมี" ที่อ่อนกำลังเป็น "ดีเปรสชัน" และนับจากเดือนนี้ไป ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง จะเริ่มสู่ฤดูหนาว แต่ทว่าพื้นที่ภาคใต้ของไทยกำลังเข้าสู่ฤดูมรสุมอาจจะมีพายุลูกใหญ่ก่อตัวขึ้น และอาจมีความรุนแรงเท่า "พายุเกย์" ที่เคยซัดถล่มชุมพร!!

"สมชาย ใบม่วง" รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยอมรับว่า จากวันนี้ไปจนถึงเดือนมกราคมจะเป็นช่วงฤดูฝนของทางภาคใต้ จะมีโอกาสเกิดพายุหมุนเขตร้อน อาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นในภาคใต้ตอนล่าง แล้วก่อตัวขึ้นเป็นพายุเดินทางเข้าสู่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกซึ่งจะก่อความรุนแรงและอันตรายมากเนื่องจากทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกนั้นไม่มีประเทศบังให้ ถ้าหากมีพายุก่อตัวจริงก็อาจจะมีความรุนแรงเช่นเดียวกับ "พายุเกย์" ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2532 ที่เคยสร้างความเสียหายให้แก่ภาคใต้มาแล้ว ต้องมีการเฝ้าระวังจับตาให้ดี มีโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมหนักได้ ถ้าเกิดพายุเข้ามาจะมีความรุนแรงถึงพายุโซนร้อนหรือพายุไต้ฝุ่น ประกอบกับสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นจากประเทศจีน แผ่ปกคลุมมาถึงภาคใต้ของไทย อาจทำให้เกิดคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่งที่เรียกว่า “มอนซูนเซิร์จ” (Monsoon Surge) ที่ในระยะหลังมีการเกิดขึ้นบ่อยครั้งซึ่งทำให้ชายฝั่งถูกกัดเซาะไปเรื่อยๆ ด้วย จึงต้องเฝ้าระวังอยู่ 2 อย่าง คือ พายุที่อาจจะก่อตัวขึ้นในภาคใต้ และ "มอนซูนเซิร์จ" ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้

สอดคล้องกับ ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า จากการศึกษาเปรียบเทียบเมื่อปี 2533, 2539, 2549 ซึ่งพบว่ามีลักษณะที่เป็นรอยต่อจากลานีญ่ามาเป็นเอลนีโญ่ ที่มีลักษณะเป็นพายุตรงๆ หรือเฉียดประมาณ 3 ลูก ทำให้เกิดน้ำท่วมได้ จากการเปรียบเทียบข้อมูลอาจจะมีอีก 2-3 ลูก ถึงแม้ว่า "พระพิรุณ" จะไม่เข้าประเทศไทย แต่การคาดการณ์พายุต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ 

"ตอนนี้ มรสุมลงไปอยู่ในภาคใต้ และระลอกของลมหนาวอาจจะปะทะกับลมร้อน อาจเกิดพายุขึ้นอีก ทำให้กรุงเทพฯ ไปจนถึงชุมพร ยังน่าเป็นห่วง ยิ่งช่วงนี้ภาคใต้มีฝนตกหนักด้วย สิ่งที่ต้องระวังคือพายุที่อาจจะก่อตัวขึ้นใหม่ในทะเลจีนใต้ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายเหมือนกับ "พายุเกย์" ผมอยากให้มอง "แกมี" เป็นการซ้อมใหญ่ให้แก่หน่วยงานต่างๆ เพราะเมื่อมีข่าวพายุจะเข้ามาทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวมากขึ้น หากในอนาคตจะมีพายุเข้ามาอีก ก็คาดว่าน่าจะรับมือกันได้ดีในระดับหนึ่ง"

ศ.ดร.ธนวัฒน์ ยอมรับว่า จากสถิติ 10 ปีย้อนพายุที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกแถบทะเลจีนใต้ มีค่าเฉลี่ยพายุประมาณ 21-29 ลูก ซึ่งพบว่าจำนวนลูกของพายุยังเท่าเดิม แต่ความรุนแรงนั้นเพิ่มขึ้น มีหลายลูกที่พบเจอมีการยกระดับเป็น "ซูเปอร์ไต้ฝุ่น" ส่วนในของประเทศไทยนั้นค่าเฉลี่ยอยู่ที่ที่ประมาณ 3-5 ลูกต่อปี ในปีนี้เพิ่งเจอ "แกมี" เป็นลูกแรก แต่ปีที่แล้วประเทศไทยเจอไป 5 ลูก ก็ยังต้องเฝ้าจับตาต่อไป

ด้าน ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า พื้นที่ภาคใต้ที่ยังต้องมีการจับตาดูอยู่ เพราะมันยังมีโอกาสมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดพายุใหญ่ๆ อย่างที่เคยเกิดมาได้ เพราะวงรอบนั้นมันไม่เกิดมาหลายปีแล้วยิ่งทำให้มีความเสี่ยงและโอกาสที่จะเกิดมากขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ภูมิอากาศ สำนักพัฒนาอุตุนิยมวิทยา ระบุถึงสถิติพายุหมุนเขตร้อนในระดับความรุนแรงต่างๆ เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในรอบ 60 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2494-2554 เกิดขึ้นทั้งหมด 186 ลูก โดยพบมากที่สุดในเดือนตุลาคม กันยายน พฤศจิกายน และธันวาคม 

B5 - War Room Falkman

 

ฝนตกหนักหลายย่านนครโฮจิมินห์เป็นเมืองบาดาล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2555 04:34 น

รถจักรยานยนต์คู่ชีพสำลักน้ำที่ท่วมสูงในเขตอำเภอที่ 2 ของนครโฮจิมินห์ ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมากต้องจูงกลับบ้านอย่างยากลำบากในเวลาพลบค่ำวันอังคาร 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ระดับน้ำทะเลเอ่อขึ้นสูงเท่ากับระดับสูงสุดที่วัดได้ในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ทำให้หลายย่านของนครใหญ่แห่งภาคใต้จมบาดาล. -- ภาพ: Tuoitre Online/Q.Khải.  . ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ฝนตกหนักประกอบกับน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงในบ่ายวันอังคาร 16 ต.ค.นี้ ทำให้ถนนในหลายย่านของนครโฮจิมินห์ ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไซ่ง่อนจมอยู่ใต้น้ำ การจราจรติดขัดอย่างหนักหน่วง โดยระดับน้ำทะเลหนุนขึ้นสูง 1.59 เมตร เท่ากับระดับสูงที่สุดที่วัดได้ในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว สื่อของทางการรายงาน  พายุฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมถนน และตัวเมืองในหลายอำเภอ รวมทั้งอำเภอที่ 2, 5, 7 และอำเภอที่ 11 ซึ่งหนักหน่วงที่สุด ชาวเมืองนับร้อยๆ ที่ไปรับลูกๆ หลังโรงเรียนเลิกต้องจูงรถจักรยานยนต์ลุยกลับ เด็กๆ จำนวนมากต้องเดินลุยน้ำไปตามถนนกลับบ้าน เนื่องจากรถบัสโดยสารประจำทางงดให้บริการ รถยนต์จำนวนมากเกิดเครื่องดับกีดขวางทางสัญจรทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก น้ำท่วมตั้งแต่ตอนบ่าย จนถึงเวลาตกเย็นเพิ่งลดระดับลงราว 1 เซนติเมตร ผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมากตกหลุมบนถนนโดยไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านในหลายท้องถิ่นต้องใช้เรือ หรือกล่องโฟมขนาดใหญ่มัดติดกันเป็นแพใช้แทนเรือ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม ชาวเมืองกล่าวโทษการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย กีดขวางทางน้ำไหล เช่นเดียวกับปัญหาผักตบชวา และขยะที่ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน การจัดเก็บขยะล่าช้า และทำได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งทำให้หลายย่านของนครใหญ่ที่มีประชากรกว่า 8 ล้านคน เกิดน้ำท่วมอย่างง่ายดาย เพียงแต่ฝนตกลงมาเท่านั้น ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย กล่าวว่า ระดับน้ำในนครโฮจิมินห์จะลดลงอย่างช้าๆ ตามการหนุนเนื่องของระดับน้ำทะเล และจะเริ่มลดให้เห็นผิดตาในวันพุธนี้ เมื่อระดับน้ำทะเลลดลง แต่ยังเตือนให้ระวังท่วมซ้ำอีก เนื่องจากยังจะมีฝนตกตลอดช่วง 2-3 วันข้างหน้า เตื่อยแจ๋กล่าว.

B5 - War Room Falkman

 

ทางการปากีฯเผย น้ำท่วมใหญ่ตั้งแต่ต้นก.ย. คร่าชีวิตปชช.อย่างน้อย 455 ราย อีก 5 ล้านคนได้รับผลกระทบ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2555 15:42 น เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่จากอิทธิพลของพายุและลมมรสุมในปากีสถาน ช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 455 ราย ขณะที่ประชาชนอีกมากกว่า 5 ล้านคนได้รับผลกระทบ ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดของหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของปากีสถานในวันพุธ (17)  สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (เอ็นดีเอ็มเอ) เผย ตลอดระยะเวลา 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่ส่วนต่างๆของปากีสถานต้องเผชิญกับอิทธิพลของพายุหลายลูก รวมถึงลมมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ จนหลายพื้นที่ต้องจมอยู่ใต้น้ำ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 455 ราย ส่วนอีกมากกว่า 5 ล้านคน ได้รับผลกระทบในรูปแบบต่างๆ เช่น ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน สูญเสียสมาชิกในครอบครัว หรือสูญเสียที่ดินทำกิน ฯลฯ โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ จังหวัดซินด์ห ปันจาบ และบาลูชิสถาน ขณะที่ประชาชนอีกมากกว่า 260,000 คนต้องกลายสภาพเป็นผู้อพยพที่พักอาศัยตามค่ายพักชั่วคราวต่างๆ นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปากีสถานต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่หลายระลอก รวมถึง อุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2010 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,800 คน และได้รับผลกระทบอีก 21 ล้านคน   B5 - War Room Falkman

เชียงราย อากาศหนาว หมอกลงจัด

เชียงราย อุณหภูมิลดเหลือ 21.8 องศาฯ หมอกลงจัด และอากาศเย็น คาด จะลดลงอีก เตือนประชาชน พร้อมรับอากาศหนาว ในช่วง 1-2 วันนี้ สถานีอตุนิยมวิทยาจังหวัดเชียงราย รายงานการตรวจวัดอุณหภูมิต่ำสุดในเช้าวันนี้ ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย สามารถวัดได้ 21.8 องศาเซลเซียส ลดลงจากวานนี้ (16 ต.ค.) วัดได้ 23.5 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ทำให้บางพื้นที่ใน จ.เชียงราย หมอกลงหนา ทัศนวิสัยในการมองเห็น 3 กิโลเมตร อากาศทั่วไปถือว่าหนาวเย็น อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ จ.เชียงราย จะเริ่มมีอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง หลังความกดอากาศสูงจากจีนตอนใต้ หรือมวลอากาศเย็น มีกำลังแรงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง 1 - 2 วันนี้ จะทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงอีก 2 - 3 องศาเซลเซียส จึงของให้ประชาชนเตรียมรับมือกับอากาศหนาวเย็น และจะมีหมอกลงหนา ทำให้ทัศวิสัยลดต่ำลง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS

ที่มา www.teenee.com

พายุโซนร้อนพอลจ่อถล่มเม็กซิโก

พายุโซนร้อนพอลเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งติดมหาสมุทรแปซิฟิกของเม็กซิโก ทางการสั่งปิดโรงเรียนสถานที่ราชการ กองทัพเรือเตรียมส่งกำลังช่วยชาวบ้าน วันนี้ (17 ต.ค.) ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐในเมืองไมอามี รัฐฟลอริด้า รายงานว่า  พายุเฮอริเคนพอล ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ยังคงเป็นอันตราย ในขณะที่ พายุเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งติดมหาสมุทรแปซิฟิกของเม็กซิโก  ทำให้โรงเรียนและหน่วยงานภาครัฐในคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนียต้องปิดทำการ เพื่อความปลอดภัย    ขณะที่ กองทัพเรือส่งเจ้าหน้าที่ราว 100 คนเพื่อเตรียมช่วยเหลือในกรณีพายุเข้าถล่ม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐระบุอีกว่า พายุโซนร้อนพอล  อยู่ห่างจากเมืองคาโบ ซาน ลาซาโร ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 50 กิโลเมตร  ด้วยความเร็วลมใกล้จุดศูนย์กลาง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   คาดว่า พายุลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกวัดได้ระหว่าง 3-5 นิ้ว ในแถบตอนกลางและทางใต้ของคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย   และอาจสูงถึง 10 นิ้วในเขตไร้คนอาศัย   คาดว่า พายุโซนร้อนพอล จะทำให้เกิดคลื่นสูงในทะเล   ด้าน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเม็กซิโกเชื่อว่า พายุลูกนี้จะไม่ขึ้นฝั่ง  แต่ยังคงเป็นอันตราย ส่วนสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนในคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย ได้เฝ้าระวังขั้นสูง และเตรียมพร้อมล่วงหน้า ด้วยการเปิดสถานที่พักพิงชั่วคราว 133 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับประชาชน 30,000 คน.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ที่มา www.teenee.com

ขยะมหาศาลโผล่เกยชายหาดหัวหิน ยาวนับ 10 กิโลเมตร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 ตุลาคม 2555 16:39 น.

ประจวบคีรีขันธ์ - เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติลมมรสุมในอ่าวไทยได้พัดพาเอาขยะจากอ่าวไทยขึ้นมาเกยหาดหัวหินเป็นแนวยาวนับ 10 กิโลเมตร และยังมีขยะเป็นปริมาณมากหลาย 10 ตัน นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ต้องระดมเจ้าหน้าที่ฯ เร่งดำเนินการเก็บขยะต่อเนื่องมาถึง 2 วันแล้ว แต่ขยะก็ยังลอยมาอย่างต่อเนื่อง และหวั่นทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติต่างไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเล ขณะที่ชาวบ้านระบุว่า ลักษณะเช่นนี้จะเกิดขึ้นเป็นประจำ และจะเป็นเช่นนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์

วันนี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติพบมีขยะพัดเข้าชายหาดหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ก็ได้รับทราบข้อมูลจากปัญหาขยะเช่นกัน จึงพร้อมด้วยนายมนตรี ชูภู่ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมณี รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหัวหิน ตลอดจนสมาชิกสภา ผู้ประกอบการร้านค้า ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณชายหาดหัวหิน พบว่าบริเวณชายหาดหัวหินตั้งแต่บริเวณหมู่บ้านบ่อฝ้าย ไปจนถึงหมู่บ้านเขาตะเกียบ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร มีขยะที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาชายฝั่งเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ จากการสังเกตการณ์ยังพบว่า ในท้องทะเลยังมีขยะลอยเกลื่อนอยู่อีกจำนวนมากเช่นกัน

นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า ขยะที่ถูกคลื่นซัดเข้ามามีทั้งขยะพลาสติก วัสดุขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ เศษไม้ และขยะที่เกิดจากธรรมชาติ รวมทั้งพืชทะเลก็ลอยขึ้นมาเช่นกัน ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วง 2 วันนี้เป็นช่วงวันหยุด มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางมาพักผ่อนเป็นจำนวนมากที่หัวหิน แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำทะเลแต่อย่างใด เนื่องจากมีแต่ขยะ ซึ่งทางเทศบาลเมืองหัวหินได้ระดมเจ้าหน้าที่ในสังกัดกว่า 100 คน เร่งดำเนินการเก็บขยะที่ลอยเกลื่อนตามแนวชายหาดอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าตั้งแต่วานนี้มาจนถึงวันนี้เป็นวันที่ 2 ซึ่งมีขยะที่เก็บขึ้นมาแล้วกว่า 6 ตัน

โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดลงเล่นน้ำของนักท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดด้านข้างโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ หัวหิน ซึ่งจุดนี้เป็นชายหาดที่นักท่องเที่ยวมักลงเล่นน้ำทะเล ทำให้ต้องเร่งคืนพื้นที่ให้กลับมาสะอาด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) จึงอาจต้องปรับแผนการเก็บขยะอาจต้องประสานขอกำลังทหารในพื้นที่ และเพื่อนพี่น้องจิตอาสา และผู้ปรกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ต้องออกมาช่วยกันเก็บขยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าสภาพชายหาดหัวหินจะกลับมาขาวสะอาดเหมือนเดิม

“ลักษณะเช่นนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่ชาวบ้านหัวหินจะรู้ดีว่ามักเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนตุลาคม จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยขยะที่ซัดเข้าหาดหัวหินในครั้งนี้จะเกิดจากลมมรสุมในอ่าวไทยที่พัดมากจากฝั่งจังหวัดชลบุรี พัดเข้าหาดหัวหิน โดยชาวบ้านจะเรียกกันว่า “ลมว่าว” ซึ่งอิทธิพลของลมนี้จะพัดพาเอาขยะในทะเล และพื้นที่ปากอ่าวไทยตั้งแต่ชลบุรี กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม หรือพื้นที่อ่าวตัว “ก” ลงมาด้วย ทำให้มีขยะมีปริมาณมหาศาล สำหรับลักษณะเช่นนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้นักท่องเที่ยวเที่ยวที่จะลงเล่นน้ำควรระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะคุณภาพน้ำทะเลอาจจะต่ำลง และอาจจะมีขยะที่อาจจะไม่ปลอดภัยลอยมา” นายนพพร กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม คาดว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ทะเล เนื่องจากเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหัวหินพบซากโลมาลอยปนมากับขยะและพบเต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ก็ขึ้นมาเกยตื้นตายเช่นเดียวกัน

ด้านนายอภิชาติ หงษ์สกุล ประธานฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาขยะที่ลอยมาที่ชายหาดหัวหิน เป็นจำนวนมากตลอด 2 วันที่ผ่านมานั้น ถึงทางเทศบาลเมืองหัวหินจะระดมเจ้าหน้าที่มาเก็บแต่ก็ยังไม่หมด เนื่องจากในท้องทะเลยังมีขยะที่ถูกพัดมาอีกเป็นจำนวนมาก ที่ทยอยพัดเข้าฝั่งที่ชายหาดหัวหิน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายน้ำทะเลจะหนุนสูงทำให้ไม่สามารถเก็บขยะได้ตลอดทั้งวัน

“ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ซึ่งจะมีการบรรจุวาระดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสมาคมฯ เพื่อจะได้ร่วมกันเชิญชวนให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และองค์กรภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา ฯลฯ และกลุ่มเพื่อนๆ ทางเฟซบุ๊กระดมกันจัดกิจกรรมเข้ามาช่วยกันเก็บขยะตามแนวชายหาดอย่างต่อเนื่อง จนกว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่กระทบการท่องเที่ยวหัวหินแต่อย่างใด”

แผ่นดินไหวใต้ทะเล 6.6 เขย่าวานูอาตู ยังไร้เตือนสึนามิ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 ตุลาคม 2555 14:06 น.

 เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงานในวันอาทิตย์ (21) ว่า เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล ซึ่งสามารถวัดความรุนแรงได้ถึงระดับ 6.6 ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศวานูอาตู ดินแดนหมู่เกาะแถบตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก

ข้อมูลของยูเอสจีเอส ระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวใต้ทะเลดังกล่าว ซึ่งสามารถวัดความรุนแรงได้ถึงระดับ 6.6 อยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ระดับความลึกราว 35.6 กิโลเมตร ห่างจากเมืองโซลา เมืองเอกของจังหวัดทอร์บา ของวานูอาตู ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 108 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่พบรายงานความเสียหาย และยังไม่มีการประกาศเตือนภัยการเกิดคลื่นสึนามิแต่อย่างใด รวมถึงมีการปรับลดความรุนแรงเหลือระดับ 6.2 ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวระดับ 6.6 ครั้งนี้สามารถรู้สึกได้ในบางพื้นที่ของนิว คาเลโดเนีย รวมถึงที่กรุงโฮนีอารา ของประเทศเพื่อนบ้านอย่างหมู่เกาะโซโลมอน ที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากกว่า 800 กิโลเมตร

อ้างถ่ายติดUFOในเมฆหมอก ก่อนพบนกตายปริศนาหลายสิบตัว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ตุลาคม 2555 04:29 น.

เค้าโครงปริศนาคล้ายยูเอฟโอถูกถ่ายติดโดย คาลัม เชอร์วูด

 เดลิเมล์ - วัยรุ่นชาวอังกฤษอ้างถ่ายติดภาพวัตถุคล้ายยูเอฟโอกำลังลอยอยู่ในกลุ่มเมฆเหนือท้องฟ้าเมืองคัมเบรีย ในวันเดียวกับที่พบนกตายหลายสิบตัวบริเวณสวนที่อยู่ใกล้กัน เรื่องราวน่าฉงนซึ่งเกิดขึ้นในเมืองที่เคยประสบเหตุประหลาดๆหลายครั้ง

นายคาลัม เชอร์วูด วัย 23 ปี รู้สึกช็อกมากตอนที่เห็นเค้าโครงปริศนาลอยอยู่ในกลุ่มเมฆ ระหว่างโดยสารรถบัสคันหนึ่งที่เขตซัลเตอร์บัค ในเมืองคัมเบรียเมื่อวันจันทร์(19) และต่อมาเขาก็ปักใจเชื่อว่ามันคือยูเอฟโอ

จากนั้นในวันเดียวกันนางสาวชารอน ลาร์กิน เพื่อนของ เชอร์วูด ซึ่งเป็นคนที่เชื่อในเรื่องของยานนอกโลกและพักอาศัยอยู่ใกล้ๆกัน ก็พบนกตายปริศนาภายในสวนหลังบ้าน เหตุการณ์ประหลาดที่ทั้งสองทึกทักว่ามันน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกัน

นางสาวลาร์กิน เชื่อว่าเหตุนกตายเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอที่เธอพบเห็นแน่ๆ พร้อมอ้างด้วยว่าพื้นที่ดังกล่าวซึ่งอยู่ใกล้ๆกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เซลลาฟิลด์ เคยมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเธอยังเคยเสียงดังแปลกๆบนท้องฟ้า ฟังดูคล้ายกับเหล็กครูดกันอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเหล่าผู้เชี่ยวชาญมองถึงสาเหตุแตกต่างกันออกไป โดยบางส่วนเชื่อว่ามันเป็นแค่รูปแบบการก่อตัวของเมฆที่ไม่ค่อยพบเห็นนัก ส่วนคนอื่นๆสันนิษฐานว่ามันน่าจะเป็นผลึกน้ำแข็งจากเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ตมากกว่า

เชอร์วูด เล่าถึงตอนที่พบเห็นเค้าโครงลึกลับว่า "ผมมองดูวัตถุนั้นอยู่ราวๆ 20 ปี มันดูแปลกมาก ตอนที่ผมเอารูปไปให้แฟนดู เราทั้งคู่คิดว่ามันอาจจะเป็นยูเอฟโอ ดังนั้นจึงติดต่อกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งมีความสนใจในเรื่องเหล่านี้ ผมไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน จึงไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร"

เมืองแห่งนี้นับเป็นดินแดนที่พบเจอเหตุการณ์ประหลาดบ่อยครั้ง โดยในปี 2010 ชายคนหนึ่งอ้างว่าเขาพบเห็นวัตถุบินประหลาดส่องแสงวาบลอยอยู่เหนือเมืองและกำลังเคลื่อนไปทางเหนือ ชายรายนี้อ้างด้วยว่าวัตถุดังกล่าวนี้บินอยู่ในระดับต่ำกว่าเมฆ ก่อนเปลี่ยนทิศทางและหายวับไปกับตา

นอกจากนี้แล้วในปี 2004 ชาวบ้านหลายคนยังอ้างว่าเคยพบเห็นยานบินประหลาดทรงสามเหลี่ยมและลูกบอลส่องแสงวาบบนท้องฟ้าด้วย

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้" ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2555

ในช่วงวันที่ 23-25 ตุลาคม 2555 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนกลางและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่นและมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไประวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงนี้ไว้ด้วย อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ประกาศ ณ วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น. (ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง (นายสมชาย ใบม่วง) รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

B5 - War Room Falkman

เตือนประมงสงขลาเฝ้าระวังฝนตกหนักคลื่นแรง วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2555 12:51น. เรือประมงสงขลา ทยอยกลับฝั่ง หลัง อุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนคลื่นสูง ขณะที่ ฝนเริ่มตกหนักต่อเนื่อง ปภ. สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เรือประมงทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมทั้ง เรือประมงพื้นบ้านชายฝั่งในทะเลอ่าวไทย พื้นที่น่านน้ำ จ.สงขลา เริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าฝั่ง หลังคลื่นลมในทะเลอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้นและรีบนำสินค้าสัตว์น้ำ ขึ้นท่าเทียบเรือ เพื่อส่งแพปลาและจำเป็นต้องหยุดเรือชั่วคราว เนื่องจากมีประกาศเตือนจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 2 เรื่องคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรง ระหว่างวันที่ 23 - 24 ต.ค. โดยเฉพาะ บริเวณฝนฟ้าคะนอง คลื่นจะสูงมากกว่า 2 เมตร อาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือได้ ขณะที่ สภาพอากาศในพื้นที่ จ.สงขลา ท้องฟ้ามืดครึ้มตลอดเวลา และเริ่มมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และตกหนักเป็นช่วง ๆ โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา ได้แจ้งไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยใกล้เชิงเขา ให้เฝ้าระวังเรื่องน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ จากภาวะฝนตกหนักติดต่อกัน เตือนประมงสงขลาเฝ้าระวังฝนตกหนักคลื่นแรง : INN News B5 - War Room Falkman

พายุดีเปรสชัน TD24W เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก มีทิศทางเข้าหาประเทศฟิลิปปินส์



 

B5 - War Room Falkman

ฤาคำทำนาย"วันสิ้นโลก"เป็นจริง นักดาราศาสตร์นาซาเผยพบ"หลุมดำระเบิด"ณ ศูนย์กลางกาแล็คซี่

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16:00:07 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ว่า กล้องโทรทัศน์"นูสตาร์"ของนาซาสามารถจับภาพน่าทึ่ง เป็นภาพการระเบิดตัวของหลุมดำบริเวณดาวฤกษ์"ธนู"ตรงศูนย์ของกาแล็คซี่ โดยนาซาระบุว่า ข้อมูลนี้จะช่วยให้นาซาได้เข้าใจถึงสิ่งใหญ่โตกลางกาแล็คซี่ และปรากฎการณ์การปะทุตัวระเบิดเป็นเวลาไม่กี่ชม.ก่อนจะกลับคืนภาวะสงบ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความสำเร็จของนาซาซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามจะจับตาเฝ้ามองและศึกษาหลุมดำบริเวณใจกลางกาแล็คซี่ ซึ่งทางช้างเผือกบริเวณกลุ่มดาวฤกษ์"ธนู"มักจะเงียบอย่างผิดปกติ และการปะทุดังกล่าวอาจเป็นสิ่งดีก็ได้

รายงานระบุว่า เมื่อมวลสารใด ๆ ถูกหลุมดำดึงดูด มันจะมีความร้อนกว่า 100 ล้านองศาเซลเซียส และจะกระจายเป็นการระเบิดของรังสี โดยก่อนหน้านั้น มันจะถูกดึงพ้นจากจุดที่แม้แต่แสงก็ไม่สามารถรอดพ้นการดูดของหลุมดำได้ และประเมินว่า นาซาจะสามารถจับภาพ การเกิดหมอกฝุ่นและก๊าซที่เข้าใกล้หลุมดำก่อนจะถูกดูดที่น่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์นี้ สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักวิทยาศาสตร์ที่ได้อุทิศเวลาให้กับการคำนวณผ่านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้สร้างรูปแบบจำลองว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับหมอกก๊าซดังกล่าวเมื่อมันวนเวียนอยู่ใกล้หลุมดำ ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าวยังถูกโยงเข้ากับการทำนายตามปฎิทินดาราศาสตร์ของชาวมายาแห่งอาณาจักรอินคา ที่อ้างว่า เมื่อโลก ดวงอาทิตย์ และศูนย์กลางของทางช้างเผือก เรียงตัวตั้งอยู่ในแนวเดียวกัน ในเดือนธ.ค. ปี 2012 จะก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงจากอานุภาพของพลังงานมหาศาลของจักรวาลที่สามารถทำลายสนามแม่เหล็กของโลกและทำให้โลกไปสู่กาลวิบัติ แต่นาซายืนยันว่า จะไม่มีการเรียงตัวเป็นแนวเดียวกันดังกล่าว หรือแม้ว่าจะมี ก็จะไม่มีผลกระทบใดทั้งสิ้น




ฤาคำทำนาย"วันสิ้นโลก"เป็นจริง นักดาราศาสตร์นาซาเผยพบ"หลุมดำระเบิด"ณ ศูนย์กลางกาแล็คซี่ : มติชนออนไลน์=

B5 - War Room Falkman

น้ำป่านครนายกซัดบ้านพังกว่า 20หลัง

มาอีกลูก .. “เซินตีง” เทพแห่งขุนเขา นัดถล่มเวียด-ลาว-อีสานเหนือ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ตุลาคม 2555

ต่าง กับพายุหลายลูกที่มักจะเป็น "ม้าตีนปลาย" เมื่อเข้าถึงฝั่ง แต่พายุโซนร้อนเซินตีง (Sơn Tinh) ทั้งเร็วและแรงเป็น "ม้าแรงปลาย" ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอยคาดว่ามันจะใช้เวลาเพียง 3 วันสำหรับการเดินทางข้ามทะเลจีนใต้สู่อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง สำนักพยากรณ์หลายแห่งยังมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับปลายทางของมันในช่วง 3-4 วันข้างหน้า หลายสำนักรวมทั้งของเวียดนามเองเห็นว่า มีโอกาสที่ "ไต้ฝุ่นเซินตีง" จะทะลุทะลวงเข้าสู่ภาคกลางตอนบนของลาวไปจนถึงภาคเหนือตอนบนของไทย ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็อาจจะหมายถึงหายนะในต้นฤดูหนาว.

.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - พายุโซนร้อนลูกใหม่ก่อตัวขึ้นที่บริเวณหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในต้นสัปดาห์นี้ และต่างไปจากพายุลูกอื่นๆ ที่พัดเข้าทะเลจีนใต้ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งมักจะอ่อนกำลังลง แต่พายุโซนร้อนเซินตีง (Sơn Tinh) มีแนวโน้มที่จะทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ในวันสองวันข้างหน้า

ไต้ฝุ่นเซินตีงจะยังแรงไม่หยุดเมื่อพัดเข้าถึงชายฝั่งเวียดนาม ทะลุทะลวงเข้าดินแดนลาว ภาคอีสานตอนบน และอาจจะรวมถึงเขตป่าต้นน้ำในภาคเหนือตอนบนของไทยวันที่ 29 ต.ค.นี้ ขณะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และดีเปรสชันตามลำดับ

ในวันพฤหัสบดี 25 ต.ค. พายุเซินตีงพัดกระหน่ำเข้าสู่ตอนกลางของฟิลิปปินส์ทำให้เกิดฝนตกหนัก และท้องทะเลปั่นป่วนในเขตวิซายาส (Visayas) หรือหมู่เกาะภาคกลางของประเทศ และกำลังมุ่งหน้าเข้าทะเลจีนใต้

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย เช่นเดียวกับหน่วยงานความเสี่ยงจากภายุโซนร้อน หรือ Tropical Storm Risk ในกรุงลอนดอน เชื่อว่าไต้ฝุ่นชื่อเวียดนามลูกนี้กำลังจะทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขึ้น เป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ในวันศุกร์ ขณะเคลื่อนเข้าทะเลจีนใต้ และมีแนวโน้มที่จะถึงชายฝั่งภาคกลางเวียดนามย่านนครด่าหนัง (Đà Nẵng) ในวันเสาร์นี้

แผนภูมิพยากรณ์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ ที่ออกในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นเซินตีง พัดทะลวงเข้าสู่แขวง (จังหวัด) คำม่วน และกับแขวงบอลิคำไซของลาวในวันเสาร์ ทั้งยังแจ้งเตือนให้ฝ่ายต่างๆ ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับเส้นทางของไต้ฝุ่นลูกนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตามแผนภูมิพยากรณ์ของศูนย์เตือนภัยใต้ฝุ่น หรือ Joint Typhoon Warning Center ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ออกในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นเซินตีง พัดขึ้นเหนือเข้าฝั่งเวียดนามที่ จ.นีงบี่ง (Ninh Bình) และพัดผ่านรอยต่อชายแดนเวียดนาม-ลาวในวันจันทร์ 29 ต.ค. ก่อนจะสลายไปในมณฑลหยุนหนันของจีน

ถ้าหากเป็นไปตามนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และภาคเหนือของลาวก็จะได้รับผลกระทบน้อยลง

พายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ถล่มคิวบาตายแล้ว11คน

สถานีโทรทัศน์ของทางการคิวบา ได้ประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตจากพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ ว่ามีจำนวน 11 คน ในจำนวนนี้ รวมทั้งเด็กทารกเพศชายวัย 11 เดือน ที่บ้านพังถล่มลงมาทับ

ทางการระบุว่า พายุแซนดี้เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดกระหน่ำคิวบา นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2548 เป็นต้นมา ซึ่งครั้งนั้น พายุเฮอร์ริเคน เดนนิส ที่มีความรุนแรงระดับ 5 ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต16 คน และทำให้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์

ในจำนวนผู้เสียชีวิต มีอยู่ 9 คน เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดซานติเอโก ทางตะวันออกของประเทศและเป็นที่ตั้งของเมืองซานติเอโก ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของประเทศ นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนัก ได้ทำให้บ้านเรือนพังราบเป็นจำนวนมาก และมีรถไฟตกรางหนึ่งขบวน

ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 2 คน อยู่ที่จังหวัดกวนตานาโม ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนติดกับฐานทัพเรือของสหรัฐที่อ่าวกวนตานาโม

ประธานาธิบดี ราอูล คาสโตร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ประเมินความเสียหายตลอดพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ ทางการระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ มีสาเหตุมาจากบ้านพักอาศัยของพวกเขาพังถล่ม แต่ก็ยังมีตรวจสอบหาสาเหตุอื่นด้วยเช่นกัน

พายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ถล่มคิวบาตายแล้ว11คน

เทศบาลหวั่นพายุโซนร้อนเซินตินห์ทำน้ำท่วมเมืองพิมาย

จากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ขณะนี้พายุโซนร้อนเซินตินห์ ได้ก่อตัวอยู่ประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนตัวลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง จะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกและลมกระโชกแรงช่วงวันที่ 27- 31 ตุลาคม นี้ นายดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่เทศบาล 20 นาย นำรถดูดสิ่งปฏิกูลและกำจัดเศษขยะที่ติดค้างในท่อระบายน้ำ เพื่อให้ระบายน้ำสะดวกป้องกันไม่ให้น้ำจากท่อเอ่อล้นเข้าท่วมขังภายในตัวเมือง จนสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน

ด้านนายสงัด สายใหม่ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมา กล่าวว่า ภาคอีสานจะได้รับผลกระทบพายุเซินตินห์ หลายพื้นที่มีปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง คาดว่าพายุลูกนี้จะส่งผลดีต่อเกษตรกรนอกเขตพื้นที่ชลประทาน ทำให้มีปริมาณน้ำที่ใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังออกรวง ปริมาณน้ำในลำห้วยเพิ่มขึ้น ส่วนเกษตรกรที่นำผลผลิตมาตากแดดเพื่อลดความชื้น ระยะนี้ควรเก็บผลผลิตไว้ในที่ร่ม เพราะอาจจะได้รับความเสียหายได้

เทศบาลหวั่นพายุโซนร้อนเซินตินห์ทำน้ำท่วมเมืองพิมาย

แผ่นดินไหว 5.3 ริกเตอร์ที่อิตาลี มีผู้เสียชีวิต 1 คน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2555 11:53 น.

สำนักข่าวอัลซาของอิตาลี รายงานว่า ชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 5.3 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นในเมืองโกเซนซา ทางใต้ของอิตาลี ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่โรงพยาบาลท้องถิ่น ต้องอพยพผู้ป่วยและประชาชนออกจากพื้นที่ หลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 08.15 น. วันนี้ แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารหลายแห่งได้รับความเสียหายอีกด้วย

Manager Online - แผ่นดินไหว 5.3 ริกเตอร์ที่อิตาลี มีผู้เสียชีวิต 1 คน

พายุเซินตินห์เตรียมขึ้นฝั่งเวียดนาม

วันศุกร์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

พายุโซนร้อนเซินตินห์เตรียมขึ้นฝั่งเวียดนามประมาณ 01.00 น.วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ พยากรณ์อากาศเตือนจะทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วม

ก่อนหน้านี้พายุโซนร้อนเซินตินห์ ได้พัดถล่มฟิลิปปินส์ ไปเมื่อ 2 วันก่อน ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ บางพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนวัดได้ 209 มิลลิเมตร ภาพวิดีโอเผยให้เห็นความยากลำบากของผู้ประสบภัยที่ต้องเผชิญกับฝนตกต่อเนื่อง บางพื้นที่ถูกตัดขาดเนื่องจากน้ำท่วม ประชาชนต้องเสริมความแข็งแรงให้กับบ้านเพื่อป้องกันความเสียหายจากพายุ

ทั้งนี้คาดว่า พายุเซินตินห์จะขึ้นฝั่งที่เวียดนามในเช้าตรู่วันอาทิตย์ซึ่งอาจทวีความรุนแรงเป็นไต้ฝุ่นที่มีความเร็วลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและอาจเกิดคลื่นสูงถึง 1.5 เมตร และทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม

พายุเซินตินห์เตรียมขึ้นฝั่งเวียดนาม ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวด่วน ข่าว ข่าวสด ข่าววันนี้ สลากกินแบ่งรัฐบาล ข่าวดารา ข่าวบันเทิง : ครอบครัวข่าว 3

วาฬครีบสั้นเกยตายหมู่ 40 ตัว ที่หาดอินเดีย

26 ต.ค. 55 07.35 น.



สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วาฬครีบสั้น ประมาณ 40 ตัว เกยตื้นตายหมู่ที่ชายหาดอ่าว เอลิซาเบธ บนเกาะเหนือของหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ในอ่าวเบงกอลของอินเดีย สร้างความพิศวงแก่เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาอุทยานและประชาชน เนื่องจาก ไม่เคยเป็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน ในหมู่เกาะดังกล่าว โดย อาใจ สักเสนา เจ้าหน้าที่อุทยานสัตว์ป่าในเมืองพอร์ต แบลร์ เมืองเอกของหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ เผยว่า ได้รับแจ้งการเกยตื้นตายหมู่ของวาฬ ครีบสั้นฝูงนี้ จากชาวประมงพื้นบ้าน ปรากฏการณ์นี้ เพิ่งเคยพบเห็นในแถบหมู่เกาะของทะเลอันดามัน เบื้องต้น กำลังให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบหาสาเหตุ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า วาฬฝูงนี้เกิดการสับสนหลงทิศทาง จนเกยตื้นและไม่สามารถว่ายน้ำกลับคืนสู่ทะเลลึกได้ หรือ ฝูงวาฬ ติดตามหัวหน้าที่แจ็บป่วย หรือ บาดเจ็บเข้ามาในเขตน้ำตื้น หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ อยู่ในดินแดนอาณาเขตของอินเดีย แต่อยู่ห่างจากชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ประเทศอินเดีย อย่างน้อย 1,000 กม. ซึ่งหากดูตามแผนที่จะเห็นว่า อยู่ใกล้ชายฝั่งประเทศพม่ามากกว่า

http://news.sanook.com/1149978/%E0%B...8%B5%E0%B8%A2/

 อุตุฯ ลำปาง เตือน อากาศแปรปรวน

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2555 10:22น.



อุตุนิยมวิทยาลำปาง เตือน ระวังสภาพอากาศแปรปรวน ร้อน ฝน และหนาว ในวันเดียวกัน

รายงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เปิดเผยถึงสภาพอากาศในพื้นที่ จ.ลำปาง ในวันนี้ ได้เกิดความแปรปรวน หลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา อุณหภูมิได้ลดต่ำลงเรื่อยๆ 2 - 3 องศาเซลเซียส โดยเช้าวันนี้ (28 ต.ค.) อุณหภูมิพื้นราบอยูที่ 20 องศาเซลเซียส และบางพื้นที่ มีหมอกลงในตอนเช้า ส่วนคืนที่ผ่านมา จ.ลำปาง มีฝนตกลงมาในพื้นที่ โดยช่วงก่อนฝนตก ในตัวเมืองลำปาง พบว่าอุณหภมิสูงถึง 32 องศาเซลเซียส ขณะที่ อ.เถิน จ.ลำปาง พบว่าอุณหภมิสูงสุดก็อยู่ที่ 34 องศาเซลเซียส นับเป็นสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่มีทั้งร้อน ฝน และหนาว ในวันเดียวกัน และอุณหภมิต่างกันวันหนึ่งถึง 12 - 14 องศาเซลเซียส น.พ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ออกมาเตือนประชาชนในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งช่วงกลางวันร้อนอากาศอบอ้าว และยังมีฝนตกปนลงมา จากนั้นอากาศจะเย็นลง ซึ่งจะทำให้เด็กเล็กและผู้สูงอายุ ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศไม่ทัน เป็นสาเหตุของโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และปอดบวม และเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น 

B5 - War Room Falkman

 ฝั่งอีสต์โคสต์รับเฮอร์ริเคน"แซนดี้" คาดเป็นพายุถล่มสหรัฐฯลูกใหญ่สุด

มหานครนิวยอร์กตกอยู่ท่ามกลางเมฆดำปกคลุมท้องฟ้าเมื่อวันเสาร์(27) โดยที่คาดหมายกันว่ามหานครแห่งนี้พร้อมกับชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐฯเป็นบริเวณกว้างขวาง จะถูกถล่มด้วยฤทธิ์ของพายุเฮอร์ริเคน “แซนดี้” ในวันจันทร์(29)-อังคาร(30)นี้

 วัตถุประหลาด ลอยเหนือท้องฟ้า สหรัฐ เชื่อเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้คนใน 3 มลรัฐของสหรัฐฯ ถึงกับงงกับวัตถุรูปทรงประหลาดที่บินอยู่เหนือท้องฟ้า ซึ่งหลายคนต่างก็สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว หรือ ยานลึกลับ(UFO)สักอย่าง โดยปรากฎเป็นแสงจ้า เมื่อดูคลิป
ของนายอัลเลน เอปลิง นักดาราศาสตร์สมัครเล่น ที่บันทึกภาพเอาไว้จากบ้านพักของเขาในมลรัฐเคนตักกี ก็เห็นชัดเจนว่า มันมีรูปร่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ได้




อย่างไรก็ตาม ผู้คนทั้งใน มลรัฐ เคนทักกี เวอร์จิเนียและเทนเนสซี กล่าวว่า วัตถุที่บินเหนือท้องฟ้ามีรูปทรงกระบอกคล้ายซิการ์ บินอยู่ที่ความสูง 100,000 ฟุต หรือ 2 เท่าของระดับความสูงของเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป กระทั่งชาวบ้านในละแวกนั้นต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่เมื่อตรวจสอบจากสนามบินท้องถิ่นในไพค์ เคาน์ตี เผยว่าในบันทึกการบิน ไม่พบว่ามีเครื่องบินลำใดบินอยู่เหนือน่านฟ้าของเมืองในช่วงเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด ทิ้งเป็นปริศนาที่ยังไร้คำตอบ

B1 - War Room Falkman

เวียดนามอพยพกว่าแสนคนหลังเซินตินห์ใกล้ซัด

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2555 7:28น.



ทางการเวียดนาม อพยพประชาชนกว่า 1 แสนคน ออกจากบ้านเรือน หลัง ไต้ฝุ่นเซินตินห์ ใกล้เข้าฝั่งทางตอนเหนือ

อิทธิพลไต้ฝุ่นเซินตินห์ ซึ่งมีความเร็วลม 160 กม./ช.ม. มีศูนย์กลางอยู่ในอ่าวตังเกี๋ย ห่างจากชายฝั่งจังหวัดนัมดินห์ของเวียดนาม 100 กม. แม้หน่วยงานพยากรณ์อากาศของเวียดนาม จะระบุว่า ไต้ฝุ่นเซินตินห์ จะไม่เคลื่อนขึ้นแผ่นดินใหญ่ของเวียดนามโดยตรง โดยจะเคลื่อนไปตามแนวชายฝั่งเมืองไฮฟอง และจังหวัดกว่างหนิง ก่อนจะเคลื่อนไปยัง ภาคใต้ของจีนก็ตาม 

แต่อิทธิพลของพายุลูกนี้ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ตอนเหนือและกลางของเวียดนาม ทำให้ ทางการต้องสั่งอพยพประชาชน กว่า 100,000 คน ไปยังที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นเซินตินห์ พัดถล่มฟิลิปปินส์อย่างหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน

B5 - War Room Falkman 

แผ่นดินไหว5.5 ริคเตอร์ขย่มปากีสถาน

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2555 เวลา 23:00 น.

 



วันนี้ (28 ต.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถานว่า เกิดแผ่นดินไหวในระดับปานกลางทางตะวันตกเฉียงเหนือและตอนเหนือของปากีสถานในวันนี้ แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในหลายเมือง แต่เจ้าหน้าที่ระบุยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

นายเอส. มุชทาก ชาห์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่บริเวณแนวพรมแดนของปากีสถาน ด้านที่ติดกับอัฟกานิสถานและทาจิคิสถาน ในระดับความลึกลงไปใต้ดิน 201 กม. แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว สามารถรับรู้ได้ในหลายเมือง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน รวมทั้งเมืองเปชวาร์, โนว์เชรา, มาร์ดัน และ ชาร์สัดดา รวมไปถึงเมืองชิตรัล ทางตอนเหนือด้วย

ปากีสถานเคยเผชิญแผ่นดินไหวรุนแรง 7.6 ริคเตอร์ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2548 คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 73,000 ศพ และ ไร้ที่อยู่อาศัยอีก 3.5 ล้านคน ส่วนใหญ่ในรัฐแคชเมียร์ที่อยู่ในการครอบครองของปากีสถาน กับบางส่วนของจังหวัดไคเบอร์ ปัคตุนควา.

 
แผ่นดินไหว5.5 ริคเตอร์ขย่มปากีสถาน | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman 

 

เฮอริเคน “แซนดี” คร่าแล้ว 13 ศพหลังซัดถล่มชายฝั่ง ตอ.สหรัฐฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ตุลาคม 2555 10:00 น.      ภาพจากกล้อง CCTV ของการท่าเรือนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์เผยให้เห็นน้ำฝนไหลทะลักผ่านช่องลิฟท์เข้าไปในตัวสถานี Hoboken ของระบบรถไฟ PATH หลังเฮอริเคนแซนดีพัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ   เอเอฟพี - ความรุนแรงของพายุเฮอริเคน “แซนดี” ซึ่งพัดเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ส่งผลให้เสาไฟฟ้าและต้นไม้หักโค่นระนาวในเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น ขณะที่เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตจากพายุแล้วอย่างน้อย 13 ราย คลื่นลมที่รุนแรงส่งผลให้น้ำทะเลไหลเข้าท่วมรอบๆตึกระฟ้าในย่านโลเวอร์แมนฮัตตัน ตลอดจนสถานีรถไฟใต้ดินและอุโมงค์ถนนหลายแห่ง นอกจากนี้ยังเกิดกระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในรัฐนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์, เพนซิลเวเนีย, เวสต์เวอร์จิเนีย และนอร์ทแคโรไลนา รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่สืบเนื่องจากพายุรวม 12 ราย ขณะที่ตำรวจแคนาดาในเมืองโทรอนโตรายงานว่า มีสตรีคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะถูกซากปรักหักพังที่ปลิวว่อนในอากาศลอยมากระแทก ที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ลูกเรือชาวอเมริกันบนเรือ เอชเอ็มเอส เบาน์ตี จำลองถูกช่วยขึ้นมาจากน้ำได้ในสภาพหมดสติ ขณะที่กัปตันเรือยังคงสูญหาย และคาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว หลังจากที่เรือลำนี้ถูกลมพายุอับปางลงนอกชายฝั่งรัฐแคโรไลนาทั้งสอง เฮอริเคนแซนดีคร่าชีวิตผู้คนไปทั้งสิ้น 67 รายระหว่างที่เคลื่อนตัวผ่านทะเลแคริบเบียนเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก่อนจะยกระดับความรุนแรงขึ้นเป็นมหาพายุหรือ “ซุปเปอร์สตอร์ม” เมื่อช่วงวานนี้(29) ทางการสหรัฐฯประกาศเตือนว่า พายุลูกนี้อาจสร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน “อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” พร้อมสั่งให้พลเมืองหลายแสนคนตั้งแต่แถบนิวอิงแลนด์เรื่อยลงไปจนถึงรัฐนอร์ทแคโรไลนารีบอพยพออกไปยังสถานที่ปลอดภัย ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯระบุว่า ความเร็วลมภายในตัวพายุเริ่มลดลงเป็นพายุหมุนเขตร้อน ทว่ายังมีความรุนแรงเทียบเท่าเฮอริเคนคืออยู่ที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระหว่างที่ทำให้เกิดฝนตกหนักใกล้กับเมืองแอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ กระแสลมรุนแรงซึ่งทำให้ต้นไม้หักโค่นและดึงเสาไฟฟ้าล้มระเนนระนาดส่งผลให้บ้านเรือนหลายล้านหลังตกอยู่ในความมืดมิด ขณะที่รถไฟหลายสายต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ส่วนผู้โดยสารเครื่องบินอีกหลายพันคนก็ยังตกค้างอยู่ตามสนามบินต่างๆทั่วภูมิภาค บริษัทประเมินความเสียหายจากภัยพิบัติ อีเควแคต (Eqecat) คาดว่าจะมีชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากเฮอริเคนแซนดีประมาณ 60 ล้านคน หรือราว 1 ใน 5 ของประชากรสหรัฐฯ และสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าสูงสุดถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก, ตลาดแนสแด็ก และตลาดล่วงหน้า (future market) อีกหลายแห่งในนครชิคาโก ปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์(29)จนถึงวันนี้(30) รวมถึงสำนักงานรัฐบาลและรถไฟแอมแทร็กบนชายฝั่งอีสเทิร์นซีบอร์ดทั้งระบบ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งจำต้องยุติการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อกลับไปบัญชาการรับมือภัยพิบัติที่ทำเนียบขาว แถลงว่า “การเลือกตั้งในสัปดาห์หน้าจะผ่านไปด้วยดีเอง... เวลานี้ สิ่งสำคัญประการแรกคือการรักษาชีวิตผู้คน และตอบสนองอย่างทันท่วงทีเพื่อให้เศรษฐกิจอเมริกากลับมาเดินหน้าต่อไปได้โดยเร็วที่สุด”

 

อัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ไต้ฝุ่นผละฮานอย สไลด์โค้งถล่มไหหลำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 ตุลาคม 2555 17:47 น. แผนภูมิโดย JTWC หน่วยงานของกองทัพเรือสหรัฐ แสดงเส้นทางเคลื่อนตัวของไต้ฝุ่นเซินตีง (Son Tinh) เป็นเส้นโค้ง หากเป็นผลงานของนักฟุตบอลสักคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีกก็คงจะได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้องสนาม แต่นี่คือผลงานอันน่าอัศจรรย์ของ "มาเธอร์เนเจอร์" พระแม่แห่งธรรมชาติ ไต้ฝุ่นลูกนี้ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ โจมตีสร้างความเสียหายให้แก่ 3 ประเทศ ฟิลิปปินส์ เวียดนามและจีน เร็วและแรงและสร้างความฉงนให้แก่นักพยากรณ์อากาศในหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาชั้นนำของโลกหลายแห่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา.  B5 - War Room Falkman ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ไต้ฝุ่นเซินตีง (Son Tinh) อ่อนกำลังลงจนกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำไปแล้วในเช้าวันจันทร์ที่ 29 ต.ค. นี้ หลังจากถล่มเขตที่ราบปากแม่น้ำแดง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเวียดนามขณะเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนก่อนข้ามชายแดนเข้าสู่จีน ทำให้เกิดฝนตกหนักในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และเกาะไหหลำ เซินตีงใต้ฝุ่นชื่อเวียดนามลูกนี้ ได้ทำสิ่งที่ผู้คนไม่คาดฝันหลายประการ และทำให้มนุษย์ได้ตระหนักอีกครั้งหนึ่งว่า พลังแห่งพระแม่ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่เหนือสิ่งใด ยากแก่การควบคุมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเคลื่อนข้ามหมู่เกาะฟิลิปปินส์เข้าทะเลจีนใต้ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ปลายทางของไต้ฝุ่นเซินตีงจะอยู่ที่ ภาคกลางลาว กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทย อีก 72 ชั่วโมงถัดมา พายุใหญ่ลูกนี้ หันหัวพุ่งเข้ากรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม แต่อีก 24 ชั่วโมงถัดมา คือเช้าวันเสาร์ 28 ต.ค. สำนักพยากรณ์อากาศชั้นของโลกหลายแห่งสามารถจับทิศทางใหม่ของมันได้ ไต้ฝุ่นระดับ 1 ตั้งลำใหม่หันหัวไปยังมณฑลกว่างซี และเกาะไหหลำในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กรุงฮานอยรอดตัวไป แต่เซินตีงที่เข้าถึงฝั่งตอนเช้าตรู่วันอาทิตย์ สไลด์โค้งเข้าถล่มเขตที่ราบปากแม่น้ำแดงแทน ทำให้ จ.นามดิง (Nam Dinh) และ จ.ถายบี่ง (Thai Binh) ได้รับความเสียหายหนัก ก่อนจะตรงเข้าถล่มเมืองท่าหายฝ่อง (Hai Phong) ผ่านอ่าวฮาลอง ใน จ.กว๋างนีง (Quang Ninh) แผนภูมิของสำนักพยากรณ์อากาศหลายแห่งได้จำลองเส้นทางเคลื่อนตัวของไต้ฝุ่นลูกนี้เป็นแนวโค้งที่สวยงามน่าแปลกใจขณะมุ่งหน้าสู่แผ่นดินใหญ่จีน เป็นอันว่าไต้ฝุ่นเซินตีง ซึ่งมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางเป็นไต้ฝุ่นระดับ 3 ขณะอยู่ในทะเลจีนใต้ได้สร้างความเสียหายให้แก่ 3 ประเทศในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นเคลื่อนที่เร็วที่สุดอีกลูกหนึ่งเท่าที่มีการบันทึกไว้ การสำรวจความเสียหายที่ยังไม่ครบถ้วนในเช้าวันอาทิตย์นี้ พบว่า ไต้ฝุ่นเซินตีงทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน ในเวียดนาม อีก 5 คนบาดเจ็บ อีก 7 คนยังสูญหาย ก่อนหน้าพายุจะเข้าถึงฝั่ง ทางการจังหวัดร่วมกับทหารอพยพราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยง 13,000 คน ช่วยลดการสูญเสียชีวิตของผู้คน ใน จ.นามดิงพื้นที่เดียว ทางการกล่าวว่า มีบ้านเรือนราษฎรถูกทำลายเสียหายนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่หลังคาถูกพายุพัดพาไป เรือประมงจำนวนไม่น้อยจมลงในอ่าว ขณะพายุเข้าถึงอ่าวตังเกี๋ยตอนเย็นวันเสาร์ รวมเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจประมาณ 9 แสนล้านด่ง (เกือบ 44 ล้านดอลลาร์) หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ เซินตีงทำให้เกิดฝนตกหนัก 180 มม. เป็นพายุที่สร้างความเสียหายให้แก่เขตที่ราบปากแม่น้ำแดงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550 ขนาดความรุนแรงของมันพอๆ กับไต้ฝุ่นลูกหนึ่งเมื่อปี 2505 ไต้ฝุ่นทำลายนาข้าวฤดูหนาวที่เก็บเกี่ยวแล้วกว่า 5,800 เฮกตาร์ (กว่า 116,000 ไร่) ฟาร์มเลี้ยงหอยชายฝั่งถูกทำลายไปเป็นเนื้อที่ราว 700 เฮกตาร์ (กว่า 4,300 ไร่) หอสังเกตการณ์ตามแนวชายฝั่ง 500 แห่งถูกทำลาย เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นลงกว่า 500 ต้น หอคอยแพร่ภาพออกอากาศของสถานีโทรทัศน์จังหวัดสูง 180 เมตร ที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ โดยบริษัทก่อสร้างจากมาเลเซีย มีความทันสมัยที่สุดในภาคเหนือ ก็ถูกไต้ฝุ่นพัดจนหักโค่นลงเช่นกัน ทางการจังหวัดกล่าว. .

ประเมินความเสียหาย”แซนดี้”ถล่มมะกัน

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2555 เวลา 01:17 น.

 




บริษัทประเมินวิบัติภัย อีเกแคต ประเมินความเสียหาย”แซนดี้”ถล่มมะกัน อาจสูงถึง 6 แสนล้านบาท 


วันนี้ (30 ต.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ความเสียหายอันเกิดจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคน “แซนดี้” พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐนั้น ประเมินแล้วอาจสูงถึง 2หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6แสนล้านบาท ทั้งนี้จากการเปิดเผยของบริษัทประเมินวิบัติภัย อีเกแคต

นายทอม ลาร์เซ่น รองประธานอาวุโสของบริษัท อีเกแคต เปิดเผยว่า ความเสียหายอันเกิดจากพายุเฮอริเคน “แซนดี้” พัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐนั้น อาจอยู่ระหว่าง 1หมื่น-2หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3-6แสนล้านบาท ทั้งนี้เพราะแซนดี้เป็นพายุเฮอริเคนลูกใหญ่ ส่งผลกระทบต่อร้อยละ 20 ของประชากรสหรัฐ

ผลจากการประเมินความเสียหายดังกล่าวครอบคลุมถึงการหยุดให้บริการภาคสาธารณะและภาคธุรกิจต่างๆในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐนอร์ธแคโรไลน่าไปจนถึงรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งมากกว่าพื้นที่เคยหยุดให้บริการเมื่อครั้งที่พายุเฮอริเคน “ไอกี้” ถล่มสหรัฐเมื่อปี 2551 และ มากกว่าครั้งพายุเฮอริเคน “ไอรีน” ถล่มสหรัฐเมื่อปี 2554 ซึ่งทำให้เสียหาย 1หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

พายุเฮอริเคน “แซนดี้” มีความเร็วลมพัดเข้าสู่ศูนย์กลางสูงถึง 150 กม.ต่อชั่วโมง ขณะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าเข้าชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ตามรายงานของศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ


B5 - War Room Falkman 

วัตถุประหลาด ลอยเหนือท้องฟ้า สหรัฐ เชื่อเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้คนใน 3 มลรัฐของสหรัฐฯ ถึงกับงงกับวัตถุรูปทรงประหลาดที่บินอยู่เหนือท้องฟ้า ซึ่งหลายคนต่างก็สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว หรือ ยานลึกลับ(UFO)สักอย่าง โดยปรากฎเป็นแสงจ้า เมื่อดูคลิป
ของนายอัลเลน เอปลิง นักดาราศาสตร์สมัครเล่น ที่บันทึกภาพเอาไว้จากบ้านพักของเขาในมลรัฐเคนตักกี ก็เห็นชัดเจนว่า มันมีรูปร่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ได้

**************************

ภาพนี้

เกิดก่อน มีพายุ เฮอร์ริเคน

ที่เมกา

เพียงวันเดียว รึเปล่าวเนี่ย

ขอบพระคุณอาจารย์อุบล ที่พูดการทำบ้านให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  และขอบคุณคุณแมวที่รายงานสถานการณ์ ภัยพิบัติทั่วโลกนะคะ ขออนุโทนาด้สยอย่างยิ่งเลยค่ะ

และต่อไปนี้

จะถือเป็นกฏข้อหนึ่ง

ซึ่งเป็นข้อสำคัญยิ่ง

ในการที่ใคร

จะเข้าไปบ้านสวนพีระมิด

จะต้องมีธรรมทาน

ชีวิตตัวเอง

ถ่ายเอกสารเตรียมไปแจกด้วย

ทุกคน

ต้องส่ง อ.อุบล ก่อน

แล้ว อ.อุบล จะเป็นผู้ให้ทีมงาน

กลั่นกรอง และ

แจกธรรมทานของคุณเอง

ส่วนใครจะมีสำเนา

จากในเวปที่คนอื่นเขียนไปแจกด้วย

ก็ยิ่งดี แต่ยึด ของตนเอง เป็นหลัก

เริ่มสัปดาห์นี้เลย

ก็แล้วกัน

ส่งข่าว

ไปหลายๆกระทู้ด้วยนะจ๊ะ

และ

ถ้าคุยกันได้ ก็บอกกันด้วยนะ

มิฉะนั้น

หมดสิทธิ์เข้าบ้านสวน

นะจ๊ะจะบอกให้

อย่างยายแก้ว

--------------

เป็นข้อความของท่านอาจารย์ครับ