ไข้หวัดแมว ระบาดหนักที่อ่างทอง ทำแมวตายแล้วเกือบ 100ตัว เขียนโดย Mthai News Reporter โพสต์เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555  ขณะที่ชาวบ้านจี้เจ้าหน้าที่เร่งจัดการ ที่วัดเขาแก้ว ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แมวที่ชาวบ้านนำมาปล่อยไว้เกือบ 200 ตัว ทะยอยตายไปเกือบ 100 ตายแล้ว บางตัวคลอดลูกออกมา ก็ตายยกคอก จนเหลือกว่า 70 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการซึมเศร้า ไอ จาม ตาแฉะ ไม่กินอาหาร และมีบาดแผลเต็มลำตัว ด้านแม่ชีพะเยาว์ อินมั่น แม่ชีวัดเขาแก้ว ผู้ดูแลแมวภายในวัด ได้เผยว่า การที่แมวภายในวัดได้ตายลงจำนวนมากนี้อาการอาจเกิดจากโรคไข้หวัดแมวที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ โดยเชื้อได้แพร่อย่างรวดเร็ว แต่วัดไม่สามารถช่วยอะไรได้ เนื่องจากมีแมวอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับโรคไข้หวัดแมว จะพบได้บ่อยในช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งเป็นไวรัสจําเพาะในแมวได้แก่ Feline Viral Rhinotracheitis Virus (FVRC) หรือ Feline Herpesvirus (FHV) และ Feline Calici Virus (FCV) นอกจากนี้ยังอาจมีการติดเชื้ออื่นๆ ร่วมด้วยเช่น Bordetella หรือ Clamydia ซึ่งจะทําให้แมวแสดงอาการรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในลูกแมวและแมวที่อ่อนแอ โดยทั่วไปมีไวรัส 2 ชนิด เมื่อแมวได้รับเชื้อและจะมีการอาการหวัด โดยการแยกอาการของการติดเชื้อไวรัสสองตัวนี้อย่างคร่าวๆ คือ การสังเกตได้จากอาการซึ่งไวรัส FCV จะไม่ค่อยมีอาการที่ตาและจมูก แต่อย่างไรก็ตามแมวสามารถมีการติดเชื้อร่วมกันของไวรัสทั้ง 2ชนิดนี้ได้ ซึ่งจะยิ่งทําให้อาการของโรครุนแรงมากขึ้นไปอีก Feline Viral Rhinotracheitis (FVRV)หรือ Feline Herpesvirus (FHV) โรคนี้จะพบได้บ่อย ในกลุ่มแมวที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนอัตราการติดโรคอาจสูงถึง 100% แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วอัตราการตายจะไม่สูงมากแต่ว่ามีโอกาสที่จะสูงถึง 30 %ได้ในลูกแมวที่เครียดหรือมีโรคอื่นแทรกซ้อน สำนักข่าวไทย Mthai News ไข้หวัดแมว ระบาดหนักที่อ่างทอง ทำแมวตายแล้วเกือบ 100ตัว | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง

ที่ยะลา มีข่าวเสือกินคน แล้ว หว่าา ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วค่ะ ที่สัตว์เหล่านี้จะมาทวงคืน

เจอแล้วกระโหลกศีรษะชาวบ้านถูกเสือตะปบขาด

ภายหลังจากที่เมื่อวันที่  29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีเสือโคร่งขนาดใหญ่ออกอาละวาดกัดกินชาวบ้านขณะกรีดยาง จนเสียชีวิต 1 คน คือ นายหย๊ะยา เซ็ง อายุ 44 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านกะลาพอ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา สภาพศพตามตัวมีร่องรอยถูกตะปบจากคมเล็บและกัดกิน ไม่มีศีรษะ อวัยวะเพศ อวัยวะช่วงท้องหายไป นั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน จนท.ตำรวจ สภ.อัยเยอร์เวง ชุดกองร้อยทหารพรานที่ 3302 และเจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติบางลาง จำนวน 20 นายพร้อมอาวุธครบมือ นำโดย พันตำรวจโทมุสตาฟา มานิ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ เกิดเหตุ ณ หมู่ที่ 2 บ้านกะลาพอ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นสวนยางพาราบนภูเขาสูงชัน จากการตรวจสอบพบ คราบเลือดที่พื้นที่เกิดจากการต่อสู้ กางเกงวอร์มของผู้เสียชีวิต รองเท้าบู๊ท มีดตัดยาง ปลอกมีด กล่องยากันยุง กระดูกหัวเข่า และห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร พบกะโหลกศีรษะอยู่ในโพลงก่อไผ่สภาพถูกแทะจนเหลือแต่กระดูก กรามและฟันหายไป 

นายนาแซ โต๊ะเฮง เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติบางลาง กล่าวว่า จากการดูบริเวณที่เกิดเหตุ รอยเท้าน่าจะเป็นเสือโคร่งขนาดใหญ่ 2 ตัว ทั้งนี้เพราะรอยแรกมีอุ้งเท้ากว้างประมาณ 18เซนติเมตร ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ลำตัวมีความยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 180 กิโลกรัม ส่วนอีกตัวหนึ่งมีอุ้งเท้ากว้างประมาณ 13 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ลำตัวมีความยาวประมาณ 1.5 เมตร น้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัม คาดว่าเสือออกมาทำร้ายชาวบ้านน่าจะเป็นเพราะพื้นที่ป่าถูกบุกรุก ทำลาย ไม่มีอาหาร จึงออกมาหากินตามแถวหมู่บ้าน

ด้านนายไพศาล นุกูล เพื่อนบ้านนายหย๊ะยา บอกว่า ขณะนี้ชาวบ้านมีความหวาดผวาเสือตัวดังกล่าวมาก เพราะกลัวจะกลับมาทำร้ายชาวบ้านอีก จึงไม่กล้าออกไปกรีดยาง ทำให้มีลูกจ้างกรีดยางบางส่วนที่มาจากจังหวัดปัตตานี ได้ทยอยเดินทางกลับบ้านเกิดเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย จนกว่าทางเจ้าหน้าที่จะหามาตรการป้องกันให้กับชาวบ้านได้ จึงจะเดินทางมารับจ้างกรีดยางอีก

ขณะที่พันตำรวจโทมุสตาฟา มานิ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรอัยเยอร์เวง กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ขณะนี้ได้ออกไปประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ให้ชาวบ้านระมัด ระวังป้องกันเสือเพิ่มมากขึ้น โดยให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลป้องกันซึ่งกันและกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

วัดโดเรมอนไม่สนลิขสิทธิ์ เตรียมตั้งเทพไอแพด

2 ธ.ค. 55 21.34 น. 

(2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดสำปะซิว ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัด

สุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดสำปะซิวเตรียมนำเทพแห่งครูตั้งกลางบ่อน้ำตกหวัง

ดึงดูดเด็กเข้าวัดไม่สนลิขสิทธิ์เตือน เชื่อสามารถดึงดูดเด็กเข้าวัดเรียนรู้พุทธ

ศาสนาได้แบบอัตโนมัติ

พระมหาอนันต์กุสลาลงกาโร เจ้าอาวาสวัดสำปะซิว เปิดเผยว่าสำหรับขณะนี้

ทางวัดได้ทำบ่อน้ำตกขนาดใหญ่พร้อมติดตั้งปั้มน้ำสองตัวทั้งเล็กใหญ่ทำน้ำแรง

ได้น้ำอ่อนได้ตามใจชอบเพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนใน

ยุคที่ร้อนๆเร่งรีบจากการหาเงินทองแสดงหาความสุขจากเงินทองมากกว่าความ

สุขทางใจ ให้มีความใจเย็น ที่ได้จากความเย็นของน้ำตกที่ไหลลงมาอย่างต่อ

เนื่องตลอดทั้งวัน

สำหรับประชาชนที่เดินทางเข้าวัดได้ดูน้ำไหลคล้ายธรรมชาติ ด้วยงบประมาณที่

สร้างจำนวนกว่าแสนบาทและติดตั้ง เทพประจำวันพฤหัสหรือที่ชาวบ้านเรียกกัน

ว่า เทพไอแพค ขนาดเท่ากับคนจริงๆความสูงเกือบเท่าตัวอาตมาที่ไอแพตของ

เทพมีช่องใส่เหรียญให้ประชาชนโยนเหรียญเสี่ยงทายใส่กลางบ่อน้ำตกลูกศิษย์

ที่อยู่ช่างสิบหมู่ช่วยปั้นถวายวัด ซึ่งเงินที่ได้จากการโยนเหรียญทั้งหมดจะมา

ทำบุญค่าน้ำค่าไฟ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และความสบายใจของญาติโยมที่

เข้ามาที่วัดได้เสี่ยงทายความสำเร็จเชื่อว่าสิ่งที่ทำไว้จะได้แก่ญาติโยมสาธุชน

ทุกคนที่เข้ามาที่วัดโดยเฉพาะเด็กๆเพราะวัดโดเรมอนเป็นวัดที่เป็นขวัญใจของ

เด็กๆทั่วประเทศไปแล้วตอนนี้และในอนาคตอาตมาเชื่ออย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวัดสำปะซิวเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากภาพจิตกรรมฝา

ผนังเล่าเรื่องราวพุทธประวัติทางศาสนา มีภาพการ์ตูนชื่อดังอย่างโดเรมอน แฝง

ไปด้วยปริศนาธรรม จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วสารทิศ

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด

Credit : Sanook

ฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมรับพายุ “โบพา” ข้อมูลชี้ชัดลูกนี้แรงสุดในรอบปี อาจเกิด "สตอร์ม เซิร์จ" สูง 10 เมตร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ธันวาคม 2555 12:51 น.

 เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ฟิลิปปินส์เตรียมรับการมาเยือนของพายุไต้ฝุ่น “โบพา” ซึ่งคาดว่าจะเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบปี 2012

รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า พายุโบพาซึ่งคาดว่ามีความเร็วลมที่ศูนย์กลางราว 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือใกล้เคียง อาจทวีกำลังแรงขึ้นจนมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางแตะระดับ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในขณะนี้พายุลูกดังกล่าวซึ่งก่อตัวขึ้นกลางมหาสมุทรแปซิฟิกได้เคลื่อนตัวเข้าสู่น่านน้ำของฟิลิปปินส์แล้ว โดยล่าสุดพายุโบพาอยู่ห่างจากเมืองฮินาตวน บนเกาะมินดาเนาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ไม่ถึง 900 กิโลเมตร ถือเป็นพายุที่ใหญ่และมีกำลังแรงที่สุดในรอบปี

ข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า พายุโบพาน่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองซูริเกา เมืองเอกของจังหวัดซูริเกา เดล นอร์เต ทางตอนเหนือของเกาะมินดาเนาภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ก่อนเคลื่อนตัวเข้าถล่มหมู่เกาะวิสายัน ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 11 ล้านคน เป็นที่หมายต่อไป โดยอิทธิพลของมันอาจทำให้เกิดฝนตกหนักราว 20-30 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง และอาจเกิดน้ำท่วม ดินถล่มในหลายพื้นที่ นอกจากนั้นพื้นที่แถบชายฝั่งในบริเวณที่พายุเคลื่อนตัวผ่านอาจต้องเผชิญกับการโจมตีของคลื่น "สตอร์ม เซิร์จ" ความสูงกว่า 10 เมตร

ด้านประธานาธิบดีเบนินโญ อากิโน ที่ 3หรือ “นอยนอย” ผู้นำฟิลิปปินส์ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเร่งด่วนในการรับมือพายุลูกดังกล่าว และสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจเข้าประจำการในที่ตั้งเพื่อเตรียมการอพยพประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวต่างๆ ขณะที่กองทัพเรือฟิลิปปินส์ได้ประกาศเตรียมเรือรบอย่างน้อย 40 ลำสำหรับให้ความช่วยเหลือประชาชนตามเกาะแก่งต่างๆ

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องเผชิญการโจมตีจากพายุที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่เป็นประจำ สร้างความเสียหายทั้งในแง่ของชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ขณะที่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ไต้ฝุ่นวาชิได้คร่าชีวิตประชาชนไปมากกว่า 1,200 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของประเทศ

จระเข้งาบเด็กออสซี่ลงน้ำอีก ตำรวจระบุชาวบ้านคอยให้อาหารมานานร่วม 20 ปี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ธันวาคม 2555 18:12 น.

จระเข้น้ำเค็มแสนดุร้ายในออสเตรเลีย

เอเอฟพี - ตำรวจออสเตรเลียออกค้นหาเด็กชาย วัย 9 ปี ซึ่งถูกจระเข้ ลำตัวยาวถึง 4 เมตรงาบหายไป ทางตอนเหนือของประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวดังกล่าวชาวบ้านในท้องที่คอยเลี้ยงดูให้อาหาร

เด็กชายรายนี้กำลังว่ายน้ำกับคนกลุ่มหนึ่ง ในชุมชนชาวเผ่าอะบอริจิน ใกล้พอร์ต แบรดชอว์ ของนอร์ทเทิร์น เทอร์ริทอรี ในวันเสาร์ (1) ที่ผ่านมา เมื่อถูกจระเข้ขนาดใหญ่งาบไป

เมื่อพวกผู้ใหญ่พยายามขว้างฉมวกแหลมเพื่อให้เจ้าเพชฌฆาตแห่งหนองน้ำปล่อยตัวเด็กชาย ทว่า มันกลับยิ่งลากเขาดำลึกลงไปในน้ำ และก็ไม่ปรากฎสัญญาณใดๆ จากเด็กคนดังกล่าวอีกเลยตั้งแต่นั้น

นี่ถือเป็นเหตุการณ์ที่เด็กถูกจระเข้เขมือบครั้งที่ 2 หลังจากเด็กหญิง วัย 7 ขวบรายหนึ่งหายตัวไประหว่างว่ายน้ำกับครอบครัวเมื่อเดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่ทางตอนเหนือของออสเตรเลียเช่นเดียวกัน โดยผลจากการตามล่าจระข้ตัวหนึ่ง ก็พบชิ้นส่วนมนุษย์อยู่ภายในท้องของมันด้วย ซึ่งเชื่อว่าเป็นเด็กหญิงผู้โชคร้ายรายนั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจของนอร์ทเทิร์น เทอร์ริทอรีระบุว่า เหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ เจ้าจระเข้ตัวต้นเหตุนั้นอยู่อาศัยใกล้กับชุมชนของชาวบ้านละแวกนั้นมานานหลายปีแล้ว และเชื่อว่ามันแก่มากแล้วด้วย

"บางครั้งพวกเขาก็โยนอาหารให้มัน หรือทิ้งซากปลาเอาไว้ให้ นั่นไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดเลย" โฆษกตำรวจรายหนึ่งกล่าว และเสริมว่า "เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเราระบุว่าจระเข้ตัวนี้เป็นที่รู้จักของคนในชุมชนมานานถึง 20 ปีทีเดียว"

ตำรวจยังเผยว่า การออกค้นหา ร่วมกันเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอาสาสมัครจำนวนหนึ่ง ในวันนี้ (3) ต้องยกเลิกไป โดยที่ไม่มีผู้ใดพบเห็นเจ้าจระเข้ตัวนี้ตลอด 2 วันที่ผ่านมาเลย

ทั้งนี้ จระเข้น้ำเค็ม ซึ่งสามารถโตได้ถึง 7 เมตร และหนักกว่า 1 ตัน เป็นสิ่งมีชีวิตที่พบได้ทั่วไปทางตอนเหนือของออสเตรเลีย พวกมันได้รับการคุ้มครองในช่วงปี 1970 กระทั่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับจำนวนคนที่ประสบพบเจอ

อดัม บริตตัน ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับจระเข้ในเมืองดาร์วินกล่าวกับสถานีวิทยุเอบีซีว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีแผนควบคุมดูแลจระเข้ขึ้นใหม่ และควรที่จะดำเนินการมากกว่าแค่ย้ายสัตว์เหล่านั้นออกจากพื้นที่อันตรายเท่านั้น

นาข้าว-สวนหอมแดง 13 หมู่บ้านพะเยาเสียหายยับ เจอฝนถล่มกลางหนาว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ธันวาคม 2555 14:01 น.

พะเยา - ชาวนา-ชาวสวนหอมแดงพะเยาแห่แจ้งชื่อขอความช่วยเหลือ หลังเจอฝนกลางฤดูหนาวถล่มจนนาข้าว-สวนหอมแดงเสียหายยับ 13 หมู่บ้าน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยาว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) ได้เกิดฝนตกอย่างหนักทั่วจังหวัดพะเยา โดยเฉพาะในเขต ต.จำป่าหวาย อ.เมืองพะเยา ทั้งที่ก่อนหน้านี้สภาพอากาศทั่วไปเริ่มหนาวเย็นบ้างแล้ว ส่งผลให้นาข้าวกว่า 500 ไร่ถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหาย รวมไปถึงหอมแดงก็ได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 350 ไร่ นายสมาน ปิงเมือง ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.จำป่าหวาย อ.เมืองพะเยา ระบุว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ได้มีชาวบ้านหมู่ที่ 1-13 ของ ต.จำป่าหวายทยอยมาแจ้งความเสียหายผลผลิตทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นมีเกษตรกรมาแจ้งความเสียหายต่อพื้นที่ทางการเกษตรไม่น้อยกว่า 13 หมู่บ้านแล้ว ซึ่งจะได้รายงานให้ทางอำเภอและจังหวัดทราบเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือต่อไป

 “ไต้ฝุ่นบุปผา” ซัดถล่มเกาะมินดาเนา ชาวบ้านปินส์กว่า 40,000 อพยพหนีตาย 

คนงานฟิลิปปินส์กำลังตัดกิ่งต้นไม้ที่หักโค่นเพื่อเปิดเส้นทางจราจร หลังพายุไต้ฝุ่นบุปผาพัดถล่มเมืองตากุม จังหวัดดาเวา เดล นอร์เทอร์ บนเกาะมินดาเนา ตั้งแต่เช้าวันนี้(4 ธ.ค.55)

เอเอฟพี - ไต้ฝุ่นบุปผา ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มตอนใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(4) ทำให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรงจนต้นไม้ใหญ่หักโค่น ขณะที่ประชาชนกว่า 40,000 คนต้องละทิ้งบ้านเรือนไปอาศัยตามศูนย์พักพิงชั่วคราว

ประชากร 10 ล้านคนบนเกาะมินดาเนาได้สัมผัสกับอิทธิพลของไต้ฝุ่นบุปผาซึ่งพัดเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกตั้งแต่เช้ามืด ความรุนแรงของพายุได้ขุดรากถอนโคนต้นไม้ใหญ่ และพัดหลังคาบ้านเรือนจนเปิดเปิงไปหลายหลัง ขณะที่หลายเมืองต้องตกอยู่ในความมืดมิดเมื่อมีการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง

ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายขั้นรุนแรง ทว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งและเขตน้ำท่วมถึงต่างเก็บข้าวของไปอาศัยตามศูนย์พักพิง เนื่องจากเริ่มเกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่แล้ว

อิทธิพลของไต้ฝุ่นบุปผาทำให้ทางการต้องสั่งระงับเที่ยวบินราว 80 เที่ยว ขณะที่ผู้โดยสารเรือข้ามฟากอีกหลายพันคนยังตกค้างอยู่ตามท่าเรือ สำนักงานป้องกันพลเรือนแถลง

ลิซา มาโซ เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนประจำภูมิภาค เปิดเผยว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะมินดาเนายังถูกตัดไฟ เพื่อหลีกเลี่ยงเพลิงไหม้และเหตุคนถูกไฟฟ้าช็อต

“เราตัดไฟตั้งแต่ก่อนเช้ามืด หลังมีรายงานกระแสลมแรง, คลื่นสูง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่งในบางพื้นที่ด้วย” เธอเผย

รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังได้สั่งปิดโรงเรียนบนเกาะมินดาเนา และหลายพื้นที่ทางตอนกลางของประเทศในวันนี้(4)

ประธานาธิบดี เบนิโญ อากิโน ออกแถลงการณ์ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมอพยพ วานนี้(3) โดยเตือนว่า “อำนาจทำลายล้างของไต้ฝุ่นบุปผาไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เราคาดว่ามันจะเป็นไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดที่พัดเข้าสู่ฟิลิปปินส์ในปี 2012”

หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นราว 20 ลูกต่อปี ซึ่งบางลูกก็มีความรุนแรงมาก โดยไต้ฝุ่นบุปผาถือเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 16 สำหรับปีนี้..

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2555 10:59 น.

เหยื่อไต้ฝุ่น”โบพา”ถล่มฟิลิปปินส์พุ่งเกิน 200 ศพแล้ว

วันพุธที่ 5 ธันวาคม 2555 เวลา 14:34 น.



ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่น “โบพา” พัดถล่มภาคใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ พุ่งขึ้นเกิน 200 ศพแล้ว เจ้าหน้าที่หวั่นว่าตัวเลขอาจปรับสูงขึ้นกว่านี้อีก เพราะยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จากผลของดินถล่ม น้ำท่วมหนัก และ ระบบสื่อสารล่มสลาย 

วันนี้ (5 ธ.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองนิว บาตาอัน ประเทศฟิลิปปินส์ว่า ผลจากพายุไต้ฝุ่น “โบพา” ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 210 กม.ต่อชั่วโมง พัดกระหน่ำเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะที่จังหวัดคอมโปสเตลา วัลเลย์ โฆษกประจำจังหวัด เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 151 ศพ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ทั้งชาวบ้าน 66 คนและทหาร เสียชีวิตอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ภายในค่ายทหาร ในเมืองนิว บาตาอัน ของจังหวัดคอมโปสเตลา ซึ่งถูกกระแสน้ำจากน้ำท่วมฉับพลัน พัดหายไปทั้งหมด แต่โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ แถลงว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 208 ศพแล้ว และตัวเลขอาจจะเพิ่มสูงกว่านี้อีก เพราะยังคงมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพเพิ่มเติม ซึ่งหลายพื้นที่ประสบปัญหา ระบบการสื่อสารขัดข้อง น้ำท่วมฉับพลัน และ ดินถล่ม ทำให้การเข้าไปปฏิบัติการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะที่ตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ที่เมืองนิว บาตาอัน มีตัวเลข 80 คน

พายุไต้ฝุ่น “โบพา” พัดขึ้นฝั่งเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ เมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และ ลมกระโชกแรง ทางการต้องสั่งอพยพประชาชน 87,000 คน ไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

พายุไต้ฝุ่นลูกนี้นับเป็นพายุลูกที่ 16 แล้วที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ ซึ่งเฉลี่ยแล้วในแต่ละปี ฟิลิปปินส์จะต้องผจญกับพายุรุนแรงถึง 20 ลูก ซึ่งเมื่อเดือนธ.ค.เมื่อปีที่แล้ว เกาะมินดาเนาก็เผชิญกับพายุไต้ฝุ่น “วาชิ” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 1,200 ศพ และ ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยอีกนับแสนคน

 เผยโสมแดงติดตั้งจรวดประจำฐานยิงเสร็จสิ้น เตรียมพร้อมนำดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 ธันวาคม 2555 13:38 น. 


แฟ้มภาพ ทหารนายหนึ่งยืนคุ้มกันจรวดอึนฮา-3 ณ ฐานยิงในสถานีโซแฮ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา 


เอเอฟพี - สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้เผยวันนี้ (5) เกาหลีเหนือติดตั้งจรวดพิสัยยิงไกลบนฐานปล่อยยานเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนหน้าแผนการยิงจรวดที่อ้างว่าเพื่อนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรภายในเดือนธันวาคม ท้าทายบทลงโทษจากนานาประเทศ

แหล่งข่าวรัฐบาลโสมขาวรายหนึ่งเผยกับยอนฮัปว่า จรวดอึนฮา-3 ทั้ง 3 ตอนถูกนำไปติดตั้งยังฐานยิง ณ สถานีส่งดาวเทียมโซแฮ ของเกาหลีเหนือแล้ว ขณะที่คนงานบางส่วนก็ออกไปจากสถานที่ดังกล่าวด้วย

สำนักข่าวเกาหลีใต้ยังเสริมว่า เวลานี้ คาดว่าโสมแดงน่าจะติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น เรดาร์ และกล้อง ก่อนที่จะเติมเชื้อเพลิงให้กับจรวด

เปียงยางประกาศในวันเสาร์ (1) ที่ผ่านมาว่าจะทำการยิงจรวดครั้งที่ 2 ในปีนี้ ช่วงระหว่างวันที่ 10-22 ธันวาคม ซึ่งสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในเอเชีย อย่างเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น กล่าวหาว่ามีจุดประสงค์แอบแฝงในการทดลองยิงขีปนาวุธ ที่ละเมิดมติยูเอ็น

ในวันอังคาร (4) ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาติพันธมิตรนาโต และรัสเซียเร่งกดดันเกาหลีเหนือให้ยกเลิกแผนการยิงจรวดดังกล่าว ซึ่งเปียงยางยืนกรานว่าเป็นเพียงงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างสันติ เพื่อนำดาวเทียมสำรวจโลกขึ้นสู่วงโคจรเท่านั้น

"สหรัฐฯ รู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ของเกาหลีเหนือ ที่ว่า มีแผนการจะยิงจรวดอีกครั้ง" คลินตันกล่าวในที่ประชุมคณะมนตรีนาโข-รัสเซีย และว่า "เราขอกระตุ้นให้ทุกท่านที่นี่เรียกร้องต่อเกาหลีเหนือให้ปฏิบัติตามข้อบังคับของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นอย่างเต็มที่"


B5 - War Room Falkman

วันนี้ ( 6 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ว่า ทางการฟิลิปปินส์เผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “โบพา” ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังลมแรงที่สุดในรอบปีนี้ของประเทศ ว่าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 325 ศพแล้ว

นายเบนิโต รามอส ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์ แถลงในวันนี้ โดยแสดงความกังวลว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังได้รับรายงานว่ายังมีผู้สูญหายอีกกว่า 320 ราย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชนบท และทุรกันดาร เจ้าหน้าที่จึงเน้นกระจายกำลังลงค้นหาผู้สูญหาย พร้อมกับให้ความช่วยเหลือประชาชนในบริเวณดังกล่าวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กลับต้องเผชิญอุปสรรคใหญ่หลวง ทั้งจากถนนและสะพานหลายสายที่ได้รับความเสียหายหนัก กระแสไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูกตัดขาด ทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยากลำบาก


นอกจากนี้ แม้จะมีรายงานเข้ามาว่า พายุมีแนวโน้มเคลื่อนที่ออกไปทางทะเลจีนใต้ แต่รามอสกล่าวว่า สถานการณ์ทุกอย่างยังไม่น่าไว้วางใจ ประชาชนและชาวเรือจึงควรเตรียมรับมือด้วยการรับฟังข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างเคร่งครัด


ขณะเดียวกัน นายมาร์ค โทเนอร์ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงในนามของรัฐบาลวอชิงตัน แสดงความเสียใจไปยังทางการฟิลิปปินส์ พร้อมกับกล่าวว่า ทางการสหรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกประเภทผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตในกรุง มะนิลา

ที่มา http://www.dailynews.co.th/world/170919

รูปขนาดเล็ก

 

เชิญเข้าไปอ่านกระทู้ "คำเตือน แค่รับคนไม่ดีเป็นเพื่อนทางเฟสบุ๊ค ก็ทำให้เจอเคราะห์กรรมหนักได้"

ที่ห้องข่าวประชาสัมพันธ์หรือคลิ๊๊กตามลิงค์นี้

 http://www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show

เผื่อใครที่ยังนึกถึงเหตุที่ช่วงนี้ต้องมาเจ็บไข้ได้ป่วยใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยแค่ดีขึ้นแต่ยังไม่หายจะได้กระจ่างๆๆๆๆคะ

แผ่นดินไหว 5.6 ริกเตอร์ ทางตะวันออกของอิหร่าน ดับ 8 ราย ติดใต้ซากอาคารเพียบ

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.08 น. ( 6 ธ.ค. 2555 ) ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหว ที่ประเทศอิหร่าน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.6 ริกเตอร์ โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใต้พื้นดินลึกแค่ 5.4 กิโลเมตร ห่างจากเมืองกาเยนราว 42 กิโลเมตร และห่างเมืองเบียยานราว 79 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้ ส่งผลทำให้ประชาชนในอ.ซาฮาน ต่างตกใจและวิ่งออกมาจากบ้าน และมีบ้านเรือนพังถล่มลงมาหลายหลังคา บางหลังมีประชาชนติดอยู่ใต้ซาก

ทั้งนี้มีรายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 20 ราย และยังคงมีผู้ติดอยู่ในซากอาคารบ้านเรือนที่ยังค้นหาไม่พบ

######

พายุหิมะที่สวีเดน

วันพฤหัสบดี ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สวีเดนเผชิญกับหิมะตกอย่างหนักเมื่อวานนี้ ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินของสนามบินนานาชาติ ในกรุงสต็อกโฮม ถูกยกเลิกและล่าช้าออกไป

หลังมีหิมะตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อวันอังคารจนถึงเมื่อวานนี้ โดยบางพื้นที่วัดความหนาของหิมะได้ 30 เซนติเมตร และคาดว่าจะมีหิมะตกลงมาอีก 20 เซนติเมตร ได้ส่งผลกระทบต่อการจราจาทางอากาศ ที่ต้องระงับเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากสนามบินชั่วคราว

โฆษกของ Swedavia ผู้ดำเนินงานของสนามบินดังกล่าว เผยวานนี้ว่า ทั้งหิมะตกลงมา บวกกับกระแสลมที่พัดแรง เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน อย่างไรก็ตาม การยกเลิกเที่ยวบิน ไม่ได้ทำให้ผู้โดยสารบางคนแปลกใจ เนื่องจากเคยเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้มาแล้ว แต่ก็หวังว่าสนามบินจะเปิดให้เที่ยวบินขึ้นได้เร็วๆ นี้

นอกจากนี้ มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในหลายพื้นที่ในสวีเดนด้วย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจวอนขอให้ประชาชนงดการขับรถหากไม่มีความจำเป็น เนื่องจากมีหิมะและน้ำแข็งปกคลุมถนนหนา ทำให้ถนนลื่น ซึ่งง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุ
B1 - War Room Falkman

ทอร์นาโดถล่มเมืองใหญ่นิวซีแลนด์ สังเวย 3 ชีวิต-บ้านเรือนเสียหายย่อยยับ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ธันวาคม 2555 13:48 น.
เอเอฟพี - พายุทอร์นาโดประหลาดลูกหนึ่งพัดถล่มเมืองโอ๊คแลนด์ วันนี้ (6) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และสร้างความเสียหายร้ายแรง พัดบ้านเรือนพังพินาศ ขณะที่สภาพอากาศแปรปรวนยังก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเมืองใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์แห่งนี้ด้วย

พายุลูกดังกล่าว ซึ่งมีกำลังลมมากกว่า 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มย่านฮอบสันวิลล์ ในช่วงบ่าย ถอนรากถอนโคนต้นไม้ ซัดหลังคาบ้านเรือน และซากความเสียหายต่างๆ ปลิวว่อนไปทั่ว

หน่วยคุ้มครองพลเมืองเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากวาตภัยครั้งนี้ 3 ราย และอีก 7 รายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยเชื่อว่าเหยื่อรายหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากแผ่นคอนกรีตบนรถบรรทุกหล่นใส่ และอีกรายถูกต้นไม้ล้มทับ

ขณะที่บ้านเรือนเกือบ 150 หลังได้รับความเสียหายร้ายแรง และส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้อีก ทำให้ชาวบ้านต้องเข้าไปอาศัยฐานทัพอากาศในบริเวณใกล้เคียงเป็นที่พักพิงชั่วคราว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พัก เนื่องจากน้ำท่วมฉับพลันปิดกั้นเส้นทางเดินรถหลายสาย อีกทั้งต้นไม้ที่โค่นใส่เสาไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าดับครอบคลุมกว่า 1,300 ครัวเรือน

ชาวเมืองเล่าว่า พายุลูกนี้พัดมาอย่างกะทันหัน ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ในเวลาประมาณ 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 7.00 น.ตามเวลาของไทย โดยสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงถึงที่สุดในช่วงระยะเวลา 5 นาที

ด้านสำนักงานพยากรณ์อากาศ เม็ตเซอร์วิสระบุว่า ทอร์นาโดลูกนี้เกิดขึ้นจากพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงต่อเนื่อง ที่ซัดเมืองโอ๊คแลนด์ตลอดทั้งวัน และค่อยๆ อ่อนกำลังลงในช่วงเย็น แม้จะยังมีความกังวลว่ากำลังลมรุนแรงอาจก่อตัวขึ้นใหม่ได้ในคืนนี้

ไทย ติดอันดับ 8 ก่อการร้ายมากสุดในโลก

เขียนโดย NaiNat โพสต์เมื่อ วันพฤหัสที่ 6 ธันวาคม 2555
ประเทศไทย ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 8 ของประเทศที่มีเหตุก่อการร้ายมากที่สุดในโลก
สถาบันเพื่อการวิจัยเศรษฐกิจและสันติภาพในสหรัฐอเมริกา จัดอันดับประเทศที่มีเหตุก่อการร้ายมากที่สุดในโลก ระหว่างปี 2002-2011 โดยวัดจากสัดส่วนการเกิดเหตุก่อการร้าย จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดขึ้น พบว่า
ประเทศไทยติดอันดับ 8 จากทั้งหมด 158 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เหตุก่อการร้ายมีความรุนแรง สืบเนื่องจากเหตุรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เกิดขึ้นกว่า 173 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 142 คน และบาดเจ็บ 427 คน ส่วนอันดับ 1 ได้แก่ อิรัก
ทั้งนี้หากเทียบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้ว
- อันดับ 1 ไทย
- อันดับ 2 ฟิลิปปินส์
- อันดับ 3 อินโดนีเซีย
- อันดับ 4 พม่า
- อันดับ 5 มาเลเซีย
- อันดับ 6 กัมพูชา
ส่วนลาวเป็นชาติที่ไม่มีเหตุก่อการร้ายเกิดขึ้นเลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
MThai News

B1 - War Room Falkman

 วันนี้ เวลา15.18น. แผ่นดินไหวชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของเกาะฮอนชู ญี่ปุ่น ขนาด 7.3 ริกเตอร์

เอเอฟพี - คลื่นสึนามิสูง 1 เมตรซัดเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น บริเวณเมืองอิชิโนมากิ จังหวัดมิยางิ วันนี้(7) หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 นอกชายฝั่ง ซึ่งทำให้อาคารสูงในกรุงโตเกียวสั่นไหวอย่างรุนแรง ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกประกาศเตือนภัยสึนามิขั้นสูง (tsunami alert)

นักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า คลื่นสึนามิเคลื่อนตัวถึงฝั่งหลังเวลา 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (16.00 น. ตามเวลาในไทย) ที่เมืองอิชิโนมากิ จังหวัดมิยางิ ซึ่งเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011

ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลในวันนี้(7) ซึ่งติดตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.2

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ(USGS) วัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ถึง 7.3 โดยมีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นทะเลประมาณ 36 กิโลเมตร

จุดที่เกิดแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองเซ็นไดไปทางตะวันออกราว 284 กิโลเมตร และห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 459 กิโลเมตร ตามข้อมูลจาก USGS

สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นยังได้ออกประกาศเตือนสึนามิ (tsunami warning) ในจังหวัดอิวาเตะ, ฟูกูชิมะ, อาโอโมริ และอิบารากิ ซึ่งเป็นคำเตือนระดับรองลงมาจากเมืองมิยางิ 1 ขั้น

ทั้งนี้ คาดว่าสึนามิความสูงประมาณ 50 เซนติเมตรจะซัดเข้าถึงชายฝั่งจังหวัดอิวาเตะ ในเวลาประมาณ 17.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น, ฟูกูชิมะ 17.50 น. ส่วนที่อาโอโมริและอิบารากิ 18.00 น.

ศูนย์เฝ้าระวังสึนามิในรัฐฮาวายมิได้ประกาศเตือนสึนามิเป็นวงกว้างในมหาสมุทรแปซิฟิก ขณะที่ทางการอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ก็แถลงว่า ไม่มีความเสี่ยงเกิดสึนามิระดับท้องถิ่น

บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค (เท็ปโก) ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าแรงสั่นสะเทือนได้สร้างความเสียหายเพิ่มเติมแก่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะไดอิจิ

วันนี้เวลา  17.33น. แผ่นดินไหวพม่า ขนาด 3.3

ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ. แม่สาย

จ. เชียงราย  ประมาณ  11  กม.

B5 - War Room Falkman

เหนือหนาวยอดดอย 8-15 องศา 08-12-2012



ภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก กลาง อากาศเย็นลง อุณหภูมิต่ำสุดบนยอดดอย 8-15 องศา จากความกดอากาศสูง กำลังแรง ประเทศจีนแผ่ปกคลุม ส่วน “โบพา” ไม่มีผลกระทบไทย คาดสลายตัวใน 2-3 วันนี้


กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.วันนี้(8ธ.ค.) ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส

อนึ่งพายุไต้ฝุ่น “โบพา” (BOPHA) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ ด้านตะวันตกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือช้าๆ และคาดว่าจะมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงและสลายตัวในระยะ 2-3 วันนี้ สำหรับพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


แหล่งที่มา เดลินิวส์
 

สึนามิ 1 เมตร ซัด"มิยางิ"ญี่ปุ่น หลังแผ่นดินไหว 7.3 ริกเตอร์

วันศุกร์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น คลื่นสึนามิสูง 1 เมตรซัดชายฝั่งจังหวัดมิยางิ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ของญี่ปุ่น รายงานล่าสุดว่า คลื่นสึนามิสูง 1 เมตร ได้ซัดกระทบชายฝั่งเมืองอิชิโนะมากิ ในจังหวัดมิยางิ แล้ว เมื่อเวลา 06.02 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเกิดสึนามิขนาด 20 เซนติเมตร ที่เมืองท่าโอฟูนาโตะ ในจังหวัดอิวาเตะ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 7.3 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งของจังหวัดมิยางิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เมื่อเวลา 17.18 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 15.18 น. ตามเวลาในประเทศไทย มีการเตือนภัย สึนามิ สูง 1 เมตร และเตือนให้ประชาชนอพยพไปอยู่ในพื้นที่สูงทันทีเพื่อความปลอดภัย แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวสามารถรับรู้ได้ถึงกรุงโตเกียว อาคารหลายแห่งสั่นไหวอย่างรุนแรง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือความเสียหาย ด้านบริษัทไฟฟ้าโตเกียว รายงานเบื้องต้นว่าไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

เบื้องต้นระบุว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใกล้จุดที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปีที่แล้วซึ่งทำให้เกิดสึนามิครั้งร้ายแรง

อย่างไรก็ตามทางด้านศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โทร 192 หรือ พลังจิต เว็บ พระพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism Buddhist

หมดยุคเบนซิน 91

เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ในวันที่ 1 มกราคม 2556 สถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศจะเลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซิน ออกเทน 91 ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้รถหันมาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์
สาเหตุก็เนื่องมาจาก รัฐบาลมียุทธศาสตร์ในการส่งเสริมให้ใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียนที่สามารถผลิตใช้ได้เองภายในประเทศ


ซึ่งเป็นผลดีต่อภาคการเกษตร เนื่องจาก “เอทานอล” แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ซึ่งเป็นส่วนผสมเพื่อผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้น ทำมาจากวัตถุดิบภาคเกษตร เช่น กากน้ำตาล อ้อย และมันสำปะหลัง จึงเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย อีกทั้งเพื่อต้องการลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในแต่ละปีเราต้องนำเข้าเป็นมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท
ภายหลังจากวันที่ 1 ม.ค. 56 ไปแล้ว ปั้มน้ำมันที่ยังมีเบนซิน 91 คงค้างอยู่ในสต๊อก จะสามารถจำหน่ายต่อไปได้อีก 3 เดือน และสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนไปเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้น จะยังคงมีเบนซิน 95 จำหน่ายอยู่เช่นเดิม
แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับผู้ใช้รถที่ยังเติมเบนซิน 91 ว่าหากเปลี่ยนมาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์แล้วจะมีผลต่อเครื่องยนต์หรือไม่นั้น โดยทฤษฎีและคุณสมบัติของน้ำมันแก๊สโซฮอล์แล้ว สามารถใช้ได้กับรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นที่มีระบบเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด (รถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นไป) เนื่องจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์มีคุณสมบัติที่เหมือนกับน้ำมันเบนซิน ออกเทน 91 และ 95 และมีคุณสมบัติอยู่ในเกณฑ์ของมาตรฐานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงที่กำหนด
และจากการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการนำน้ำมันแก๊สโซฮอล์มาใช้กับรถยนต์ในด้านปริมาณและชนิดของสารมลพิษพบว่าการเผาไหม้ของน้ำมันแก๊สโซฮอล์จะทำให้เกิดสารมลพิษชนิดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนน้อยกว่าการเผาไหม้ของน้ำมันเบนซินทั่วไป



ซึ่งมองโดยรวมแล้ว ถือว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์มีข้อดีมากกว่าน้ำมันเบนซิน 91 อยู่หลายประการ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่นับวันจะมีปริมาณรถยนต์ในท้องถนนเพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าเราจะสามารถคิดค้นจนหาพลังงานอื่นๆ มาทดแทนสิ่งเก่าได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะใช้พลังงานกันอย่างฟุ่มเฟือย สิ่งสำคัญที่คือการใช้พลังงานอย่างประหยัดและรู้คุณค่า เพื่อให้มีพลังงานไว้ใช้ตลอดไป

แหล่งที่มา ISNHOTNEWS,

แผ่นดินไหว 6.3 ริคเตอร์ขย่มนิวซีแลนด์

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2555 เวลา 08:08 น



เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.3 ริคเตอร์ สร้างแรงสั่นสะเทือนบริเวณเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อเช้าวันนี้ แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ

วันนี้ (8 ธ.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง สร้างแรงสั่นสะเทือนบริเวณเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า แผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.3 ริคเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.19 น.เช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 01.19 น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก 175 กม. และห่างจากเมืองโอ๊คแลนด์ลงไปทางใต้ 200 กม. สร้างแรงสั่นสะเทือนจนรับรู้ได้เกือบทั่วประเทศ

จีโอเน็ต หน่วยวัดแผ่นดินไหวของนิวซีแลนด์ รายงานว่าสามารถวัดแรงสั่นสะเทือนตามหลังแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อกได้ 5.8 ริคเตอร์ และ เป็นหนึ่งในจำนวนอาฟเตอร์ช็อกครั้งรุนแรงที่สุด ในจำนวน 24 ครั้ง ที่เกิดขึ้นในช่วง 7 ชั่วโมง หลังแผ่นดินไหว แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

เมื่อเดือนก.พ.ปีที่แล้ว เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.3 ริคเตอร์ ในเมืองไครสต์เชิร์ช เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 185 ศพ

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตวงแหวนไฟแห่งแปซิฟิก ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนออสเตรเลียนกับแปซิฟิก จึงเกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้งมาก เฉลี่ยแล้วปีละ 15,000 ครั้ง

http://www.dailynews.co.th/world/171268

B5 - War Room Falkman

 

สึนามิสูง1ม.ซัดญี่ปุ่น หลังดินไหว7.3R พบเจ็บ10

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2555 8:21น.


ญี่ปุ่น ยกเลิกเตือนสึนามิแล้ว หลังแผ่นดินไหว 7.3 ริกเตอร์ วานนี้ โดยมีคลื่นสึนามิสูง 1 ม. ซัดชายฝั่ง อายุคาว่า จ.มิยากิ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย

สำนักข่าวเอ็นเอชเค ของญี่ปุ่น รายงานว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 7.3 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 19.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 15.18 น. วานนี้ ตามเวลาประเทศไทย จนทางการญี่ปุ่น ต้องประกาศเตือนคลื่นสึนามิเข้าซัดฝั่งทาง จ.มิยากิ, อีวาเตะ, ฟุกุชิมะ, อาโอโมริ, อิบะระหงิ จนในเวลาต่อมา พบสึนามิขนาดเล็กสูงราว 1 เมตร เข้าซัดชายฝั่งทาง จ.มิยากิ และยังมีคลื่นสึนามิขนาดเล็กหลายระลอกเข้าซัดฝั่ง รวมถึงคลื่นสูงราว 40 เซนติเมตร ซัดชายเมืองโซมะ ที่อยู่นอกเขตอพยพภัยนิวเคลียร์จากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ปีที่แล้ว แต่ความสูงของคลื่น ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายใดๆ บริเวณ จ.มิยากิ จนในเวลาต่อมาทางการญี่ปุ่น ประกาศยกเลิกเตือนสึนามิทั้งหมดแล้ว โดยแรงสั่นเทือน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 คน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงวัย 36 ปี และเด็กชายวัย 2 ปี ใน จ.อิบารากิ ซึ่งถูกสิ่งของในบ้านล้มทับ แต่ผู้บาดเจ็บทั้งหมดไม่มีใครถึงขั้นสาหัสใดๆ
นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ดังกล่าวรายงานว่า ชาวบ้านราว 5,000 คนในจังหวัดมิยางิ ต้องอพยพหนีภัยแผ่นดินไหว หลังจากที่มีประกาศเตือนครั้งแรก

ด้านสำนักธรณีวิทยาสหรัฐ งานว่า แผ่นดินไหว7.3ริกเตอร์ ครั้งแรก มีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นทะเลประมาณ 36.1 ก.ม. ห่างจากเมืองเซ็นได ไปทางตะวันออกราว 284 กิโลเมตร และห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 459 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากแรงสั่นสะเทือนครั้งแรก 7.3 ริกเตอร์ ยังมีอาฟเตอร์ช็อคตามมาที่ขนาด 6.2, 5.3 ริกเตอร์ตามมา ครั้งล่าสุดขนาด 5 ริกเตอร์ เมื่อเวลาประมาณ 23.28 น. ตามเวลาประเทศไทย ของวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้ เช่นเดียวกับที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ไดอิจิ ก็ไม่พบปัญหาใดๆ

สึนามิสูง1ม.ซัดญี่ปุ่น หลังดินไหว7.3Rพบเจ็บ10 : INN News

B5 - War Room Falkman

"วงแหวนแห่งไฟ"ขยับญี่ปุ่น,อินโดนีเซีย,นิวซีแลนด์สั่นไปทั่ว

วันที่ 8 ธ.ค. 2555



อาฟเตอร์ช็อคแผ่นดินไหวญี่ปุ่น เกิดตามมากว่า10 ครั้งมากสุดวัดได้ 6.1 ขณะพื้นที่โดยรอบวงแหวนแห่งไฟมหาสมุทรแปซิฟิก ตลอดคืนเกิดแผ่นดินไหวเกือบ20ครั้ง ทั้งนิวซีแลนด์ และอินโดนีเซีย ...

ภายหลังจากที่เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.02 น.ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาดความแรง 7.3 ริคเตอร์ ที่นอกชายฝั่ง ด้านทิศตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองคามิอาชิ ราว 300 กิโลเมตร ความลึก 33 กิโลเมตร โดยมีการเกิดสึนามิขนาดเล็กความสูงคลื่นประมาณ 1 เมตร ตามมาด้วยนั้น ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงเวลาประมาณ 03.30 น. ปรากฏว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาดความสั่นสะเทือนเกินกว่า 4.0 ริคเตอร์นับสิบครั้งโดยเป็นอาฟเตอร์ช๊อคที่ประเทศญี่ปุ่น 15 ครั้ง วัดความสั่นสะเทือนได้มากที่สุดในส่วนของอาฟเตอร์ช็อกนั้นสามารถวัดได้ถึง 6.1 ริคเตอร์

นอกจากนี้ เว็บไซต์ GFZ Potsdam Earthquake Bulletin - last 20 events ยังรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.19 น. เกิดแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของเกาะนิวซีแลนด์ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.3 ริคเตอร์ โดยแรงสั่นสะเทือนขยายกว้างไปแทบทั่วทั้งเกาะ ขณะที่ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ปรากฎแต่อย่างใด ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวจำนวนหลายครั้งและมีความแรงการสั่นสะเทือนใกล้เคียงหรือเกิน ระดับ 5.0 ริคเตอร์หลายครั้ง โดยพิกัดการเกิดแผ่นดินไหวที่พบนี้ ทั้งหมดอยู่ในแนวของรอยเลื่อนเปลือกโลกที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟ ในมหาสมุทรแปซิฟิคทั้งสิ้น.

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

B5 - War Room Falkman

เขื่อนลำปาวน้ำลดเร็วกว่าปกติเร่งขุดเจาะบาดาลทดแทน

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายประมวล ศรีทอง นายอำเภอสหัสขันธ์ ขึ้นตรวจสอบระดับน้ำตรงสะพานเทพสุดา สะพานข้ามเขื่อนลำปาว พบว่า ปริมาณน้ำเขื่อนลำปาวได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดปริมาณน้ำเหลือเพียง 323 ล้าน ลบ.ม. จากปริมาณกักเก็บที่ 1,950 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 16 ซึ่งเหลือน้ำที่ใช้การได้เพียง 223 ล้าน ลบ.ม.
นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็วเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนทำให้เกิดการระเหยเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ได้หยุดปล่อยน้ำถาวรเพื่อกักน้ำไว้ใช้ผลิตน้ำประปา พื้นที่ชลประทานกว่า 350,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกข้าวต้องหยุดการเพาะปลูกรวมถึงการเลี้ยงกุ้งก้ามกาม และคาดว่าผลกระทบด้านเศรษฐกิจทางการเกษตรจังหวัดจะเสียหายกว่า 1 พันล้านบาท
ในจำนวนน้ำที่เหลือจะมีไว้ใช้เพื่อผลิตน้ำประปาภายในจังหวัดรวมถึงน้ำอุปโภคบริโภคที่ต้องนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาวโดยนโยบายรัฐบาลทางจังหวัดกำลังทำการสำรวจโดยเฉพาะการขุดเจาะบ่อบาดาลให้กับพื้นที่นอกเขตชลประทานกว่า 200 แห่งแล้ว

เขื่อนลำปาวน้ำลดเร็วกว่าปกติเร่งขุดเจาะบาดาลทดแทน

พบเชื้อตัวใหม่ในไทย ต้นเหตุตาแดง อาจถึงขั้นตาบอดได้

เขียนโดย NaiNat โพสต์เมื่อ วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2555

พบเชื้อตัวใหม่ เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคตาแดง หากปล่อยไว้อาจถึงขั้นตาบอด พบมากในฝุ่นและเศษดิน
แพทย์หญิงอุษณีย์ เหรียญประยูร จักษุแพทย์ประจำศูนย์เลเซอร์สายตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า มีการค้นพบเชื้อตัวใหม่ ชื่อว่า ไมโครสปอริเดียม
เชื้อดังกล่าวเป็นราชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในกระจกตา จนเกิดอาการระคายเคืองและตาแดง ทั้งนี้หากผู้ป่วยปล่อยไว้ไม่เข้ารับการรักษา หรือรักษาไม่ถูกวิธี จะเกิดการติดเชื้อลึกเข้าไปยังเนื้อกระจกตา อาจส่งผลถึงขั้นตาบอดได้
โดยเชื้อไมโครสปอริเดียมนี้ พบเป็นครั้งแรกในประเทศไทย จะมีอยู่ในฝุ่นละอองและเศษดิน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นนักกีฬาและเกษตรกร อาการเริ่มแรก จะมีอาการตาแดง น้ำตาไหล ไม่ควรซื้อยาหยอดตารักษาเอง ควรพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษา

พบเชื้อตัวใหม่ในไทย ต้นเหตุตาแดง อาจถึงขั้นตาบอดได้ | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง

พายุโบพาทำพิษ ฟิลิปปินส์ เกิดเหตุจลาจลแย่งอาหาร

Photo:: Reuters / Karlos Manlupig

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าในช่วงเช้าวานนี้(8 ธ.ค.) เกิดเหตุจลาจลขึ้นในพื้นที่ประสบภัยจากเหตุพายุไต้ฝุ่นโบพา ในหลายเมืองทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เนื่องจากอาหารและน้ำดื่มจากรัฐบาล เดินทางมาถึงผู้ประสบภัยช้า ส่งผลให้ผู้ประสบภัยหลายคนที่รอไม่ไหวรวมตัวกันก่อเหตุจลาจล เพื่อปล้นร้านค้าสะดวกซื้อ

รายงานข่าวระบุว่า พายุไต้ฝุ่น “โบพา” ได้เคลื่อนตัวผ่านตอนเหนือ

สุดของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงมะนิลา เมืองหลวงของ

ประเทศ ในเช้านี้(9 ธ.ค.) ด้วยกำลังลมสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อ

ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์ ได้ออกประกาศ

เตือนประชาชนในบริเวณตอนเหนือสุดของประเทศ ให้ระวังตัวและ

เตรียมพร้อมรับมือกับไต้ฝุ่น “โบพา” ที่กำลังพัดกลับมาเข้าในประเทศ

ฟิลิปปินส์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ไต้ฝุ่น “โบพา” ได้ทำลายบ้านเรือนประชาชน และสิ่ง

ปลูกสร้างต่างๆ มากมาย ประชาชน ไร้ที่อยู่ราว 2 แสนคนแล้ว

MThai News

 หิมะถล่มบอลข่านสังเวย 5 ศพ

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2555 เวลา 19:44 น.



อุณหภูมิระดับจุดเยือกแข็งและหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 5 ศพ และ ยังเป็นปัญหาวุ่นวายด้านการขนส่งทั่วประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน เช่น โครเอเชีย กับ เซอร์เบีย 

วันนี้ (9 ธ.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบียว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพในเซอร์เบีย และอีก 4 ศพในประเทศโครเอเชีย จากผลของหิมะตกหนักในประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้ต้องปิดสนามบินและถนน รวมทั้งระบบขนส่งสาธารณะในเมืองใหญ่ได้รับผลกระทบ

ประชาชนซึ่งเดินทางด้วยรถยนต์ ต้องติดอยู่ในรถนานหลายชั่วโมง เพราะถนนหลายสายในจังหวัดวอชวอดินา ทางเหนือของเซอร์เบีย รวมถึงทางหลวงสายหลักจากกรุงเบลเกรดไปยังชายแดนประเทศฮังการี มีหิมะตกลงมาปกคลุมอย่างหนัก วัดได้ 50 ซม. มีหลายคันที่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือ เพราะหิมะตกหนักมากในช่วงเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ทำให้รถยนต์เคลื่อนตัวไม่ได้ กลายเป็นปัญหารถติดขัด ดังนั้น นายอิวิกา ดาซิช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทยจึงได้สั่งการให้กำลังตำรวจ เข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยด้วย

ส่วนที่สนามบินในกรุงซาเกร็บของโครเอเชีย ต้องปิดให้บริการหลายชั่วโมงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รวมถึงถนนอีกหลายสายทั่วประเทศ เพราะลมกระโชกแรงและหิมะตกหนัก แต่พอวันรุ่งขึ้น สถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่ทางการก็ยังต้องแจ้งเตือนเรื่องการสัญจรทางถนนว่าอาจมีปัญหา เพราะถนนหลายสายมีน้ำแข็งเกาะ อาจลื่นและเป็นอันตรายได้ นอกจากนั้นแล้ว ทางการยังได้แจ้งเตือนว่า หากไม่มีความจำเป็นใดๆขอให้อยู่แต่ภายในที่พักอาศัยเท่านั้น

หิมะยังตกหนักในประเทศสโลวีเนียกับบอสเนียด้วย

หิมะถล่มบอลข่านสังเวย 5 ศพ | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 ระวังหายนะ!"สมิทธ"เตือนวันสิ้นโลกตรงพายุสุริยะ

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2555 เวลา 17:15 น.



"สมิทธ" เตือนภัยวันสิ้นโลก ตรงพายุสุริยะ ชี้มีสิทธิ์แผ่นดินไหวใหญ่ สึนามิยักษ์ เครื่องบินตกระนาว 

วันนี้ (9 ธ.ค.) นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยถึงกระแสที่คนทั่วโลกกำลังตื่นตระหนกกับวันสิ้นโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ธ.ค.2012 ตามปฏิทินของชนเผ่ามายา ว่า กรณีวันสิ้นโลกตนไม่ทราบ แต่ทราบเรื่องการเกิดพายุสุริยะรุนแรง ที่อาจจะตรงกับวันดังกล่าว ขณะนี้กำลังรอข้อมูลจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซ่า ที่คาดการณ์ว่าจะเกิดพายุสุริยะรุนแรงในช่วงวันดังกล่าว

โดยอาจจะเกิดก่อนหรือหลังจากวันนั้น ซึ่งคงบวกลบไม่เกิน 4-5 วัน นับจากวันที่เกิดการระเบิดรุนแรงของผิวดวงอาทิตย์ จนส่งผลกระทบต่อเปลือกโลกภายใน 48 ชั่วโมง จนอาจจะทำให้เกิดแผ่นดินไหว สึนามิถล่ม หรือการล้มสลายของระบบสื่อสาร โดยเฉพาะการขึ้นลงของเครื่องบิน เพราะพลังงานสนามแม่เหล็กที่รุนแรงจากพายุสุริยะจะเข้าทำลายระบบการสื่อสารจากดาวเทียมส่งสัญญาณถึงภาคพื้นดิน ซึ่งจะทำให้ระบบเรดาร์ขัดข้อง เข็มทิศในหน้าจอเครื่องบินไม่ทำงาน เครื่องที่ขึ้นบินอาจจะลงไม่ได้ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายประเทศวิตกกังวลกันมาก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ซึ่งมีเครื่องบินขั้นลงนับร้อยเที่ยวต่อวัน

“ขณะนี้มีผู้คนตื่นกลัวต่างโทรศัพท์มาสอบถามผมกันมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้ การเกิดพายุสุริยะกับวันสิ้นโลกมันช่างเข้ากันได้พอดี ผมกำลังรอข้อมูลยืนยันจากนาซ่า ซึ่งคาดว่าจะได้คำเตือนล่วงหน้าภายในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ เนื่องจากนายก้องภพ อยู่เย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการออกแบบเครื่องตรวจจับคลื่นไมโครเวฟอินฟาเรดจะเดินทางมาไทยในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อคนไทยที่จะได้รู้ข้อมูลที่ถูกต้อง ทำให้ลดความตื่นกลัวและสามารถหาทางรับมือได้ทัน” นายสมิทธ กล่าว.

ระวังหายนะ!"สมิทธ"เตือนวันสิ้นโลกตรงพายุสุริยะ | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 15:56น. แผ่นดินไหวประเทศเวียดนาม ขนาด 5.3



B5 - War Room Falkman

 แผ่นดินไหวอินโดนีเซีย 7.1 ริคเตอร์ไม่มีสึนามิ

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 เวลา 00:43 น.

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.1 ริคเตอร์ ทางตะวันออกของหมู่เกาะมาลูกู ประเทศอินโดนีเซีย แต่ไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิ 

วันนี้ (11 ธ.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 7.1 ริคเตอร์ เมื่อเวลา 23.53 น.ของวันจันทร์ที่ 10 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไป 157 กม. และ ห่างออกมา 365 กม.ทางทิศใต้ถึงตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองอัมบอน บนเกาะหมู่เกาะมาลูกู ทางสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐได้ลดระดับแรงสั่นสะเทือนจากรายงานเบื้องต้น 7.2 ริคเตอร์ลงมาเหลือ 7.1 ริคเตอร์ ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิแห่งแปซิฟิก ไม่ได้แจ้งเตือนภัยเรื่องคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด

ด้านสำนักงานตรวจวัดแผ่นดินไหวอินโดนีเซีย รายงานว่า วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.4 ริคเตอร์ แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เพราะจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปมากในทะเลบันดา และเบื้องต้นก็ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายใดๆ

ทั้งนี้ อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตวงแหวนไฟรอบมหาสมุทรแปซิฟิก เขตรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกัน จึงเกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งครั้งที่รุนแรงที่สุด วัดได้ 9.3 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มหลายประเทศ มีผู้เสียชีวิตกว่า 230,000 ศพ



B5 - War Room Falkman

ญี่ปุ่นเตรียมเผชิญอากาศหนาวจัดหลายพื้นที่

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2555 5:46น.



สื่อเผย หลายพื้นที่ตั้งแต่ภาคตะวันตกไปจนถึงตอนเหนือของญี่ปุ่นจะมีหิมะตกเป็นระยะ ๆ เตรียมตังเจออากาศหนาวจัดและมีหิมะตกหนัก

สื่อต่างประเทศรายงาน สื่อของญี่ปุ่น แถลงว่า บริเวณชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นและอีกหลายพื้นที่ของญี่ปุ่นจะเผชิญสภาพอากาศหนาวจัดและมีหิมะตกหนัก

โดยทางสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานว่า พื้นที่ตั้งแต่ภาคตะวันตกไปจนถึงตอนเหนือของญี่ปุ่นจะมีหิมะตกเป็นระยะ ๆ โดยพื้นที่แถบภูเขาจังหวัดกุนมะ มีหิมะตกวัดได้กว่า 90 เซนติเมตร แล้วในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา ขณะที่เมืองกิฟู แถบตอนกลางของประเทศ ก็มีหิมะตกเช่นกัน วัดได้ 19 เซนติเมตร ส่วนที่เมืองเกียวโต มีรายงานว่า หิมะตกเป็นครั้งแรกของฤดูกาล ซึ่งเร็วกว่าปกติ 5 วัน และที่เมืองแห่งหนึ่งในจังหวัดนีงาตะ ริมทะเลญี่ปุ่น มีรายงานว่า มีหิมะตกวัดได้กว่า 1 เมตร เช่นเดียวกับที่เมืองแห่งหนึ่งบนเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือสุดของประเทศ

รายงานระบุว่า หิมะส่งผลให้ต้องยกเลิกการเดินรถไฟ 89 ขบวน ของบริษัทรถไฟฮอกไกโด นอกจากนี้ ยังมีรายงานรถไฟติดค้างท่ามกลางหิมะเมื่อเช้าตรู่วันนี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ระบบขนส่งจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีการคาดหมายว่าจะมีหิมะตกลงมาอีกในพื้นที่ดังกล่าว

ญี่ปุ่นเตรียมเผชิญอากาศหนาวจัดหลายพื้นที่ : INN News

B5 - War Room Falkman 

น้ำทะเลเปลี่ยนสีกระทบชาวประมง

วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2555 เวลา 15:06น.



วันนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจความเปลี่ยนแปลงของสภาพท้องทะเลตั้งแต่ชายหาดวอนนภา ทะเลบางแสน ไปจนถึงทะเลบริเวณต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี พบว่าน้ำทะเลมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสีน้ำตาลเข้ม เนื่องจากการเกิดปรากฎการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าขี้ปลาวาฬ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติอันเกิดจากการเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วของแพลงตอนพืช ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสีไปตามชนิดของแพลงตอนพืชชนิดนั้น ส่งผลให้สัตว์ทะเลต่าง ๆ มีออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต หรือย้ายแหล่งที่อยู่ กระทบถึงชาวประมงในเขตอ่าวชลบุรีไม่สามารถออกเรือเพื่อทำประมงได้ เพราะสัตว์ทะเลลดน้อยลง บางวันไม่สามารถจับได้เลย ส่วนผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแคลง หอยแมลงภู่ก็ประสบปัญหาเช่นกัน เช่น หอยตาย หรือโตไม่ได้ขนาดจนไม่สามารถเก็บมาขายได้ เป็นปัญหาทุกข์ร้อนของชาวประมงอย่างมากในขณะนี้ 

นางอรพรรณ สุวรรณพงษ์ อายุ 57 ปี ชาวประมง เล่าว่า ปรากฎการณ์น้ำเปลี่ยนสีดังกล่าวเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ที่มีการระบายน้ำจืดจากแม่น้ำบางปะกงลงทะเล แต่ช่วงสัปดาห์นี้ น้ำมีสีแดงเข้มขึ้นจนเห็นได้ชัด มีชาวประมงที่ได้รับผลกระทบตลอดแนวอ่าวชลบุรีไม่ต่ำกว่า 500 ครัวเรือน ผลกระทบที่ได้รับคือไม่มีสัตว์ทะเลให้จับ หอยที่เลี้ยงไว้ตายจนหมด ชาวประมงบางรายถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลและแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล เพื่อถามถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลได้ส่งหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าปรากฎการณ์น้ำเปลี่ยนสีในครั้งนี้เกิดจากแพลงตอนพืชกลุ่มไดอะตอมเจริญหนาแน่นมากผิดปกติ โดยมีความหนาแน่นของเซลล์ประมาณ 13.9 ล้านเซลล์ต่อลิตร คิดเป็นเกือบ 100 % ของปริมาณเซลล์รวมแพลงก์ตอนพืชทั้งหมด โดยแพลงตอนพืชชนิดนี้ยังไม่เคยมีรายงานว่ามีพิษ โดยปรากฎการณ์ขี้ปลาวาฬดังกล่าวจะมีผลทำให้ออกซิเจนละลายน้ำลดลง เนื่องจากถูกนำไปใช้ในการหายใจของแพลงตอนพืชที่มีปริมาณมาก ส่งผลให้หอยและสัตว์ทะเลตาย และขณะนี้พบว่าสัตว์ทะเลและหอยได้ตายไปแล้วเป็นจำนวนมาก 

ดร.แววตา ทองระอา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปรากฎการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีเกิดจากการชะล้างเอาแร่ธาตุต่าง ๆ และของเสียจากบนฝั่งและปากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเล อันเนื่องจากฝนตกหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่จากการตรวจคุณภาพน้ำของทางสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ยังคบพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ

B5 - War Room Falkman 

 เชียงใหม่หนาว!น้ำค้างแข็ง3วันแล้ว

วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2555 เวลา 15:27 น.



เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 55 ว่าที่ ร.ต.ปรีชา จินต์ธนาวัตน์ พยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับกระแสลมตะวันตกในระดับสูงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบ้างพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16 - 21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามบริเวณยอดดอย อุณหภูมิต่ำสุด 3 - 13 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวนความเร็ว 10 - 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 5.5 องศาเซลเซียส ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และวัดได้ 7.5 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และในระยะนี้ไปจนถึงวันที่ 16 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกาลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลงได้ 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนผลกระทบต่อการเกษตรนั้น สภาพอากาศจะหนาวเย็นลง เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายของตนเองและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์เล็ก เกษตรกรควรเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนและทำแผงกาบังลมหนาวให้ด้วย ผู้เลี้ยงปลาควรดูแลให้อาหารน้อยลงกว่าปกติ เนื่องจากอากาศหนาวเย็น ปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ ระยะนี้จะมีแสงแดดจัด ผลผลิตของข้าวและพืชไร่ที่เก็บเกี่ยวมาแล้วและเปียกชื้นเนื่องจากฝนในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรสามารถนำมาผึ่งแดดเพื่อลดความชื้นในเมล็ด

ด้านเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง เปิดเผยว่า สำหรับอุณหภูมิในวันนี้โดยทั่วไปอยู่ที่ 5.5 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิบนยอดหญ้าวัดได้ 2.0 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบเกิดขึ้นติดต่อกัน 3 วันแล้ว ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากต้องการชมความงามของธรรมชาติและดูความงามของน้ำค้างแข็งที่ติดตามยอดหญ้าและใบไม้ ดอกไม้ต่างๆ ขณะนี้ทางสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวไว้พร้อมหมดแล้ว เนื่องจากทุกปีจะมีรถขึ้นมาจำนวนมาก ดังนั้นในปีนี้จึงได้มีจัดเตรียมสถานที่จอดรถรองรับนักท่องเที่ยวไว้ พร้อมกับเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษาความสะอาดในพื้นที่ ไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด เพื่อช่วยกันรักษาธรรมชาติ

B5 - War Room Falkman

วันนี้

พ.12-12-12

บ้านสวนพีระมิด

หนาวมากก

เบตงจับตาย! ‘เสือโคร่งกินคน‘

ฆ่าชาวบ้านไป 3 ศพ

13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายก้องสกุล จันทราช นายอำเภอธารโต จ.ยะลาได้รับแจ้งจากชาวบ้านพื้นที่บ้านวังศิลา หมู่ที่ 10 ต.บ้านแหร อ.ธารโต ว่า พบเสือโคร่งกำลังไล่ตะปบสุนัขของชาวบ้านบริเวณหลังโรงเรียนบ้านวังศิลา จึงสั่งการให้ นายปรเมศร์ จันแสง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหารพราน อส. และชาวบ้านกว่า 500 คนรุดไปยังที่เกิดเหตุ

ถึงที่เกิดเหตุพบเสือโคร่งกำลังนอนอยู่ในป่ารกทึบหลังโรงเรียนวังศิลา เจ้าหน้าที่พยายามจับเป็นแต่เสืออยู่ในอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้ายหน้า เนื่องจากโดนกับดักของชาวบ้านหลังจากไล่ตะปบชาวบ้านเสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 2 คน มาตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเข้าใกล้เพื่อที่จะจับเสือ เป็นจังหวะที่เสือกระโจนออกมาจากป่าเข้าหาชาวบ้าน ชุดไล่ล่าจึงได้ระดมยิงด้วยปืนลูกซองแต่ไม่ระคายผิว จึงใช้อาวุธปืนเอชเค เอ็ม 16 ระดมยิงเข้าใส่ จึงสามารถหยุดความดุร้ายของเสือโคร่งตัวนี้ได้ ชุดติดตามจึงตรวจสอบโดยใช้ไม้ยาวเขี่ยร่างเสือที่นอนแน่นิ่ง เข้าใจว่าตายแล้ว จึงเข้ามัดร่างเสือทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เสือตัวดังกล่าวมีสภาพผอมโซ เพราะต้องหลบหนีการไล่ล่าของชาวบ้าน อย่างไรก็ดีทางชุดล่าเสือโคร่งจะนำซากเสือส่งมอบให้กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Credit : Sanook

น้ำป่าทะลัก ท่วม ต.ปรางหมู่ พัทลุง แล้ว

ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2555 10:39น.



น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด เริ่มไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.ปรางหมู่ จ.พัทลุง ชาวบ้าน หลายสิบครัวเรือน เร่งอพยพ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า เมื่อเช้าวันนี้ ท้องฟ้าในพื้นที่ จ.พัทลุง ยังคงมืดครึ้ม และมีฝนตกเป็นบางช่วง ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เริ่มน่าเป็นห่วงอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ริมป่าเทือกเขาบรรทัด ใน อ.ศรีนครินทร์ มวลน้ำโคลนสีแดงขุ่นและไหลแรง กำลังไหลทะลักลงมาพื้นที่หมู่บ้านด้านล่างอย่างต่อเนื่อง โดยกระแสน้ำไหลลงมาทางลำคลองนาท่อมผ่าน ต.บ้านนา ต.อ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ ต.นาท่อม ต.โคกชะงาย ต.ปรางหมู่ ต.พญาขัน ก่อนไหลลงทะเล ที่ ต.ลำปำ อ.เมือง
แต่กระแสน้ำที่ไหลแรงและเชี่ยวกราด ได้ไหลเอ่อล้นออกมา ประกอบกับเส้นทางระบายน้ำรกชัฏ ทำให้น้ำได้ไหลทะลักออกมาท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.ปรางหมู่ ชาวบ้านหลายสิบครัวเรือน ต้องเร่งอพยบสิ่งของสัตว์เลี้ยงขึ้นไว้บนที่สูง เนื่องระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

ในขณะที่ เจ้าหน้าที่อาสมัครหมู่บ้านเฝ้าระวังป้องกันภัยดินโคลนถล่ม หรือ โอโต๊ด หมู่บ้านริมป่าเทือกเขาบรรทัด ยังคงตรวจตราเฝ้าระวังน้ำป่าตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำป่าทะลัก ท่วม ต.ปรางหมู่ พัทลุง แล้ว : INN News

ดินไหวริมฝั่งปาปัวฯ 6 ริกเตอร์ไม่เตือนสึนามิ

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2555 10:34น



เกิดแผ่นดินไหวริมฝั่ง ประเทศปาปัวนิวกีนี 6 ริกเตอร์ ไม่มีรายงานการเตือนสึนามิหรือผลกระทบใดๆ จากทางการปาปัวนิวกินี

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวนอกริมฝั่งประเทศปากัวนิวกินี ประเทศทางทะเลแปซิฟิกใต้ ขนาด 6 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว อยู่ใต้พื้นดินลึกราว 55.8 ก.ม. ห่างจากชายฝั่ง เกาะตารอน ราว 29 ก.ม. และห่างจาก เมืองโคโคโป ราว 87 ก.ม. ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานการเตือนสึนามิหรือผลกระทบจากทางการปาปัวนิวกินี

ดินไหวริมฝั่งปาปัวฯ 6 ริกเตอร์ไม่เตือนสึนามิ : INN News

B5 - War Room Falkman

ชาวบ้านป่ากล้วย หาดใหญ่ เฝ้าระวังระดับน้ำหลังฝนตกหนักต่อเนื่อง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ธันวาคม 2555 12:04 น.


จากภาวะฝนที่ยังตกต่อเนื่องในพื้นที่ จ.สงขลา ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่บ้านป่ากล้วย หมู่ 7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กว่า 40 ครัวเรือน ซึ่งบ้านเรือนตั้งอยู่เชิงเขาแก้ว ต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในลำห้วยและร่องน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากและโคลนถล่มซ้ำรอย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ต้นปีที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ทาง อ.หาดใหญ่ สั่งให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบ้านเรือนของชาวบ้านอย่างน้อย 3 หลัง ที่ตั้งอยู่แนวลำธารและลำห้วย ซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากและเขาถล่ม ต่างเตรียมพร้อมไปอยู่ในที่ปลอดภัย หากปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นหรือมีสีขุ่นแดง
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านช่วยกันนำก้อนหินขนาดใหญ่มาวางเป็นกำแพงกั้น เพื่อชะลอน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาลดระดับความรุนแรงลง
ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา สรุปภาวะโดยรวมของ จ.สงขลา ขณะนี้ยังปกติ ไม่มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแต่อย่างใด

Manager Online - ชาวบ้านป่ากล้วย หาดใหญ่ เฝ้าระวังระดับน้ำหลังฝนตกหนักต่อเนื่อง

น้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมเมืองชลบุรี

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2555 เวลา 14:24 น



เกิดเหตุน้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมพื้นที่เทศบาลเมืองชลบุรี ท่วมสูง 30 ซม. ชี้สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากท่อระบายน้ำออกได้ไม่ทัน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 09.00 น. น้ำทะเลหนุนสูงได้เอ่อท้นเข้าท่วมพื้นที่บริเวณเทศบาลเมืองชลบุรี หน้าอำเภอเมืองชลบุรี ถนนหน้าศาลารวมใจชล และบริเวณถนนโดยรอบเมือง ซึ่งเป็นย่านชุมชนและย่านการค้าของจังหวัด โดยมีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาอย่างมาก

สาเหตุการเกิดน้ำท่วมดังกล่าวเกิดจากน้ำทะเลมีปริมาณเพิ่มขึ้นจนหนุนสูงเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ประกอบกับระบบระบายน้ำตามท่อระบายน้ำต่าง ๆ ไม่สามารถระบายได้ทัน เบื้องต้นประชาชนต้องเร่งช่วยกันวิดน้ำออกจากที่พักอาศัย และหากระสอบทรายมากั้นชั่วคราวเพื้อแก้ปัญหาเฉพาะหน้ารอเวลาน้ำทะเลเริ่มลดลง และน้ำระบายลงสู่ท่อระบายน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุน้ำทะเลหนุนท่วมเข้าเมืองชลบุรีครั้งนี้ บางจุดกินพื้นที่ลึกเกือบ 1 กิโลเมตร ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนใหญ่จะเกิดน้ำท่วมช่วงน้ำทะเลหนุนและเกิดฝนตก ทำให้ระบายไม่ทัน แต่ครั้งนี้ไม่มีฝนตก เป็นน้ำทะเลทะลักล้วน ๆ



น้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมเมืองชลบุรี | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

น้ำป่าไหลทะลักท่วม 3ตำบล อ.เมืองพัทลุง

ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2555 16:15น.



น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด เริ่มหลากท่วม 3 ตำบล ของ อ.เมืองพัทลุง ชาวบ้านเร่งเก็บสิ่งของไว้ที่สูง หลังระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง ว่า หลังจากฝนที่ตกติดต่อกันนานกว่า 4 วัน ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ที่ไหลผ่าน อ.ศรีนครินทร์ ที่กระกระแสน้ำไหลลงมาทางลำคลองนาท่อม ผ่าน ต.บ้านนา ต.อ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ ต.นาท่อม ต.โคกชะงาย ต.ปรางหมู่ ต.พญาขันต์ ก่อนไหลลงทะเลที่ ต.ลำปำ อ.เมือง โดยกระแสน้ำที่ไหลแรงและเชี่ยวกรากไหลเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.ปรางหมู่ หมู่ 5, 9, 10 ต.พญาขันต์ หมู่ 9, 11 ต.ชัยบุรี อ.เมือง ชาวบ้านหลายร้อยครัวเรือน ต้องเร่งอพยพสิ่งของสัตว์เลี้ยงขึ้นไว้บนที่สูง เนื่องจากระดับน้ำ ยังคงเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยพบว่า ถนนในหมู่บ้านน้ำท่วมสูง 20 - 30 ซ.ม. รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง นอกจากนั้นแล้วน้ำยังไหลท่วมพื้นที่สวนยางพารา และนาข้าว กว่า 10,000 ไร่ ขณะที่ทางจังหวัด ได้ออกมาแจ้งเตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน โดยเฉพาะ เด็กเล็กที่ลงเล่นน้ำ ในช่วงน้ำหลาก ให้ผู้ปกครองเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะหวั่นจะจมน้ำเสียชีวิตได้ในช่วงนี้



น้ำป่าไหลทะลักท่วม3ตำบลอ.เมืองพัทลุง : INN News

B5 - War Room Falkman

เชียงรายอุณหภูมิลดฮวบเดียว 4องศาเซลเซียส

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2555 เวลา 11:36 น.



วันที่ 16 ธ.ค. เวลา 07.00 น. สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดเชียงราย รายงานการตรวจวัดอุณหภูมิต่ำสุดที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นราบวัดได้ 12.9 องศาเซลเซียส ลดลงจากวานนี้ประมาณ 3.9 องศาเซลเซียส (วานนี้วัดได้ 16.8องศาเซลเซียส) ขณะที่ตามยอดดอยอุณหภูมิอยู่ที่ 5-8 องศาเซลเซียส โดยพื้นที่จังหวัดเชียงรายถือว่ามีอากาศหนาวเย็นติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่องเกือบสองสัปดาห์แล้ว และคาดว่าอุณหภูมิในจังหวัดเชียงรายจะลดลงอีกประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส ทั้งนี้แจ้งเตือนประชาชนรับมืออากาศที่หนาวเย็นต่อไป ทั้งนี้ จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดเชียงรายที่เดินทางสัญจรไปมา ต่างพากันสวมเสื้อกันหนาวและหมวกไหมพรมเพื่อสร้างความอบอุ่นกับร่างกาย ขณะออกจากบ้าน นอกนี้อากาศที่หนาวเย็นยังทำให้ร้านขายเสื้อกันหนาวมียอดจำหน่ายสูงขึ้น


ส่วนที่ชายแดนไทย-ลาว ด้านอำเภอเชียงแสน บริเวณท่าเรือริมแม่น้ำโขงด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรเชียงแสน ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพขับเรือนำเที่ยวต่างพากันนำขอนไม้มาสุมไฟและพากันนั่งล้อมวงพิงไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายในขณะที่จอดเรือรอรับนักท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะเดินทางมาเที่ยวและนั่งเรือชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำโขงในบรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยหมอกที่ลงมาอย่างหนาแน่น

ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ( ปภ.) เชียงราย เตรียมเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติหนาวแล้ว หลังอุณหภูมิเชียงรายยังมีแนวโน้มลดต่ำลง



เชียงรายอุณหภูมิลดฮวบเดียว4องศาเซลเซียส | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

“เอกวาดอร์” ประกาศเตือนภัยภูเขาไฟปะทุ วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2555 เวลา 08:59 น. เอกวาดอร์ประกาศเตือนภัย และเตรียมอพยพประชาชนที่อาศัยใกล้ภูเขาไฟ ตันกูราฮัว หลังพบแนวโน้มว่าภูเขาไฟอาจปะทุรุนแรงอีกครั้ง วันนี้ ( 17 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกีโต ประเทศเอกวาดอร์ว่า ทางการเอกวาดอร์ประกาศเตือนภัยภูเขาไฟในระดับสีส้ม ซึ่งเป็นระดับรองจากระดับสูงสุด หลังพบแนวโน้มการปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟ ตันกูราฮัว เมื่อวันอาทิตย์ แถลงการณ์ของสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนแห่งชาติ ระบุว่า ทางหน่วยงานจำเป็นต้องประกาศให้จังหวัดตันกูราฮัว และชิมโบราโซ เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเตรียมอพยพประชาชน เนื่องจากอยู่ในรัศมีที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากการปะทุของภูเขาไฟตันกูราฮัวมากที่สุด หลังเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวหลายประการ รวมถึงปริมาณการปล่อยแก๊ซที่เพิ่มขึ้น ที่อาจเป็นสัญญาณการปะทุของเถ้าถ่าน กลุ่มควัน ไปจนถึงลาวาในอนาคตอันใกล้ ภูเขาไฟตันกูราฮัว มีความสูง 5,029 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกีโตไปทางใต้ราว 135 กิโลเมตร มีความหมายว่า ปล่องแห่งเปลวไฟ ในภาษาเกชัว ที่เป็นภาษาของชาวอินคาเผ่าหนึ่ง เคยระเบิดครั้งรุนแรงล่าสุดเมื่อปี 2549 คร่าชีวิตประชาชนไป 6 ศพ นอกจากนี้ ทางการเอกวาดอร์ต้องอพยพประชาชนในเมืองบานอสกว่า 15,000 หลังมีกลุ่มควันหนาทึบ และเถ้าถ่านพวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟลูกนี้อย่างรุนแรงเมื่อปี 2542 ซึ่งชาวเมืองต้องลี้ภัยอยู่ในศูนย์พักพิง หรือย้ายไปอยู่เมืองอื่นเป็นการชั่วคราวนานร่วม 1 ปี ก่อนจะสามารถย้ายกลับเข้ามาดังเดิมได้ “เอกวาดอร์” ประกาศเตือนภัยภูเขาไฟปะทุ | เดลินิวส์ B5 - War Room Falkman

น้ำท่วมพัทลุงขยายวงกว้าง-ซัดคอสะพานขาด

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2555 8:55น.



ฝนกระหน่ำพัทลุงทั้งคืน น้ำท่วมขยายวงกว้างหลายหมู่บ้าน สูง 30-50 ซ.ม. ขณะกระแสน้ำกัดเซาะคอสะพานขาด ชาวบ้านใช้สัญจรไม่ได้

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง ล่าสุด ฝนยังคงตกลงมาตลอดทั้งคืน และในตอนเช้า ยังตกกระจายนานเป็นวันที่ 5 ทำให้น้ำป่าจาก เทือกเขาบรรทัด ที่ไหลผ่าน อ.ศรีนครินทร์ ที่กระกระแสน้ำไหลลงมาทางคลองนาท่อม ก่อนไหลลงทะเลสาบสงขลา ที่ ต.ลำปำ อ.เมือง โดยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดได้ไหลเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ หมู่ 5, 7 ต.ปรางหมู่ หมู่ 5, 9, 10 ต.พญาขัน หมู่ 4, 7, 9, 11 ต.ชัยบุรี หมู่ 4 , 8, 11 ต.ลำปำ อ.เมือง พื้นที่การเกษตร สวนยางพารา นาข้าว และสวนปาล์ม ชาวบ้านหลายร้อยครัวเรือน ต้องเร่งอพยพสิ่งของสัตว์เลี้ยงขึ้นไว้บนที่สูง เนื่องจากระดับน้ำยังท่วมสูง 30-50 ซ.ม. รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางเข้าหมู่บ้าน

นอกจากนั้นแล้ว กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราด เมื่อคืนที่ผ่านมา ยังกัดเซาะคอสะพานขาด เส้นทางในหมู่บ้านระหว่างหมู่ 5 และหมู่ 7 จนชาวบ้านไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้ ต้องใช้ไม้พาดเพื่อข้ามไปอีกฝั่ง แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก วอนให้ทางจังหวัด เร่งเข้าซ่อมแซมช่วยเหลือเป็นการด่วน

น้ำท่วมพัทลุงขยายวงกว้าง-ซัดคอสะพานขาด : INN News


เฝ้าระวังน้ำตก 4 แห่ง หวั่น น้ำป่าหลาก

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2555 10:49น.



เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าโตนงาช้าง เฝ้าระวังน้ำตก 4 แห่ง หวั่น เกิดน้ำป่าไหลหลาก หลังฝนตกต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าโตนงาช้าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เฝ้าระวังปริมาณน้ำของน้ำตก ทั้ง 4 แห่ง ที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ทั้งน้ำตกโตนปลิว น้ำตกโตนงาช้าง น้ำตกบริพัตร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา และน้ำตกปาหนัน ในพื้นที่ จ.สตูล เนื่องจาก ยังคงมีฝนตกในเขตเขตเทือกเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง อาจจะเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ได้เพื่อแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวได้ทราบ รวมทั้ง ชาวบ้านในพื้นที่ปลายน้ำได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม สำหรับน้ำตกทั้ง 4 แห่ง ขณะนี้ยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเล่นน้ำและพักผ่อนในบริเวณน้ำตกได้ตามปกติ แม้ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย แต่ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และเตือนนักท่องเที่ยว หากพบว่าปริมาณน้ำไหลแรงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีสีขุ่นแดงให้รีบขึ้นจากน้ำทันที และเลี่ยงการลงเล่นน้ำตกในช่วงดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย

เฝ้าระวังน้ำตก 4 แห่ง หวั่น น้ำป่าหลาก : INN News

B5 - War Room Falkman

ฮ.ไนจีเรียตกกลางป่าจนท.รัฐ-ผจว.เสียชีวิต

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2555 7:28น.



เฮลิคอปเตอร์เจ้าหน้าที่ไนจีเรีย ตกกลางป่า ขณะผู้ว่าการจังหวัดสำคัญและอดีตหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เสียชีวิต

สถานีโทรทัศน์ของไนจีเรีย ได้รายงานว่า เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์ แบบอากุสต้า ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงนั่งมาประสบอุบัติเหตุตกในป่า รัฐบาเยลซ่า หลังจากพาเจ้าหน้าที่ เหล่านี้เดินทางกลับจากงานศพ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน ซึ่งรวมทั้ง นักบิน 2 คน โดยอุบัติเหตุครั้งนี้ สร้างความตกตะลึงให้แก่ ประธานาธิบดีกู้ดลัก โจนาทาน ซึ่งได้สั่งการให้สอบสวนสาเหตุโดยด่วน

ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกครั้งนี้ รวมทั้ง นายแพทริก อิบราฮิม ยาโคว่า ผู้ว่าการจังหวัดคาดูน่า ซึ่งเป็นจังหวัดที่เกิดเหตุจลาจลนองเลือดบ่อยครั้ง และนายโอโวเย่ อาซาซี อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของไนจีเรีย

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวสร้างความวิตกแก่ประชาชนในจังหวัดคาดูนา ซึ่งเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธมุสลิมโบโกฮารัมระเบิดโจมตีโบสถ์คริสต์มาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่ลุกฮือจับอาวุธต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2552

ฮ.ไนจีเรียตกกลางป่าจนท.รัฐ-ผจว.เสียชีวิต : INN News

B5 - War Room Falkman

ยอดดอยลำปางหนาวเร่งแจกเครื่องกันหนาว

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2555 10:55น.



ยอดดอยลำปางเริ่มหนาวจัด อุณหภูมิไม่ถึง 10 องศาเซลเซียส เร่งแจกเครื่องนุ่งห่มกันหนาว บรรเทาความหนาวเย็น

ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด บนยอดดอย มีเด็กเล็กและคนชรา ที่ บ้านแม่จอกฟ้า ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว หลังจากอุณหภูมิยังคงลดลงอย่างต่อเนือง โดยอุณหภูมิช่วงนี้ บนยอดดอยอยู่ที่ 8 -10 องศาเซลเซียส โดยทุกวันช่วงเช้าและช่วงหัวค่ำ ชาวเขา เด็กเล็ก และคนชรา ต้องออกมาก่อกองไฟผิงไฟเพื่อคลายความหนาวเย็นกันอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายสันติ นฤมิตร นายอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง พร้อมด้วยชมรมผู้สื่อข่าวนครลำปาง มอบเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ให้กับประชาชน เด็กเล็ก และคนชรา พื้นที่ ต.ทุ่งผึ้ง ในพื้นที่จำนวน 2 หมู่บ้าน โดยทำการแจกเครื่องกันหนาวจำนวน 500 ชุด เพื่อเป็นการบรรเทาความหนาวเย็น และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน


เตือนลำปางหนาวลงอีก2-4องศา เจอ1วัน2ฤดูหนาว-ร้อน

วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10:40:00 น.

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ได้รายงานสภาพอากาศโดยทั่วไปของ จ.ลำปาง ว่าสภาพอากาศในพื้นที่ยังคงหนาวเย็นบนพื้นราบ อุณหภูมิเฉลี่ย 16-18 องศาเซลเซียส และหนาวจัดบนยอดดอย อุณหภูมิต่ำกว่า 11 องศาเซลเซียส รวมถึงยังมีหมอกหนาทึบในตอนเช้ามืด และเช้าตรู่ ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม 2555 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับกระแสลมตะวันตกในระดับสูงจะยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือ ซึ่งจะทำให้ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นลงไปอีก 2-4 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ ขอประกาศเตือนประชาชนทุกพื้นที่ของ จ.ลำปาง ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่จะเกิดความหนาวเย็น อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศของ จ.ลำปาง จะไม่เกิดความแปรปรวนมี 3 ฤดูอยู่ในวันเดียวเหมือนกับในช่วง 3 สัปดาห์ก่อน ที่มีทั้งหนาว ร้อน และฝน แต่ได้เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มที่ จะหนาวในช่วงกลางคืน ไปจนถึงช่วงสาย ส่วนในช่วงบ่ายประชาชนจะเจอกับความร้อน ถือว่าจะเจอ 2 ฤดูในวันเดียว ทั้งหนาวและร้อน



B5 - War Room Falkman

เหนืออีสานกลางตอ.ตอนบนอากาศเย็น กทม.มีหมอกเช้า

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2555 7:07น.

กรมอุตุฯ เผย ไทยตอนบน อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า ภาคใต้มีฝนกระจาย ขณะที่ กทม. อุณภูมิต่ำสุด 25-26 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลาง ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกตอนบน มีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า สำหรับ คลื่นกระแสลมตะวันออกที่เคลื่อนเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจายในระยะนี้

สำหรับ กรุงเทพฯและปริมณฑล มีเมฆบางส่วนกับหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 ก.ม./ช.ม.

น้ำคลองเปลี่ยนเป็นสีคราบสนิมเกือบทั้งสาย ชาวบ้านผวา!

2012-12-17 11:20:21



ชาวบ้านในอ.ป่าโมก ร้องจนท.เข้าตรวจสอบลำคลองลาดเค้า หลังน้ำในลำคลองกลายเป็นสีคล้ายคราบสนิมเหล็กเกือบตลอดทั้งสาย เผยวิตกกังวลมากไม่กล้านำไปใช้อาบ-กิน หวั่นเป็นสารพิษอันตราย

สภาพน้ำในลำคลองลาดเค้า ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ที่มีคราบคล้ายสนิมเหล็กลอยอยู่เต็มคลองเกือบตลอดทั้งสาย โดยมีบางจุดที่มีลักษณะของน้ำที่มีฟองอากาศผุดมาจากคราบสนิมเหล็กที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ สร้างความวิตกกังกลให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองดังกล่าว เนื่องจากไม่รู้ว่าคราบดังกล่าวเป็นอะไร และจะส่งผลให้เกิดอันตรายหรือไม่หากนำไปใช้

นายมานพ อยู่เอนก วัย 60 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า หลังมีการลอกคลองสายดังกล่าวเมื่อปีที่ผ่านมาปรากฏว่ามีคราบคล้ายสนิมเหล็กลอยอยู่เต็มคลอง ซึ่งหากลมแรงก็จะพัดหายไปแล้วก็มีมาใหม่อีก ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร แต่ชาวบ้านก็ไม่มีใครนำน้ำในคลองดังกล่าวไปใช้ เนื่องจากกลัวว่าจะมีผลกระทบ มีเพียงนำไปใช้รดพืชผักและทำนาเท่านั้น แต่ก็ไม่มีใครนำไปใช้กินหรืออาบ ซึ่งคราบคล้ายสนิมเหล็กดังกล่าวเป็นมานานกว่า 1 ปีแล้ว

ขณะที่ชาวบ้านอีกหลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่รู้ว่าจะเกิดจากบ่อทรายที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากเมื่อก่อนไม่เคยมีคราบลักษณะนี้ แต่เมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กลับปรากฏคราบคล้ายสนิมเหล็กอยู่ในคลองดังกล่าวและคลองใกล้เคียง จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบว่าเป็นคราบอะไรและจะเป็นอันตรายหรือไม่ เพื่อที่ชาวบ้านจะได้คลายความสงสัยและสามารถนำน้ำจากในคลองดังกล่าวไปใช้ได้อย่างปลอดภัย

น้ำคลองเปลี่ยนเป็นสีคราบสนิมเกือบทั้งสาย ชาวบ้านผวา!

2012-12-17 11:20:21

ชาวบ้านในอ.ป่าโมก ร้องจนท.เข้าตรวจสอบลำคลองลาดเค้า หลังน้ำในลำคลองกลายเป็นสีคล้ายคราบสนิมเหล็กเกือบตลอดทั้งสาย เผยวิตกกังวลมากไม่กล้านำไปใช้อาบ-กิน หวั่นเป็นสารพิษอันตราย

สภาพน้ำในลำคลองลาดเค้า ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ที่มีคราบคล้ายสนิมเหล็กลอยอยู่เต็มคลองเกือบตลอดทั้งสาย โดยมีบางจุดที่มีลักษณะของน้ำที่มีฟองอากาศผุดมาจากคราบสนิมเหล็กที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ สร้างความวิตกกังกลให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองดังกล่าว เนื่องจากไม่รู้ว่าคราบดังกล่าวเป็นอะไร และจะส่งผลให้เกิดอันตรายหรือไม่หากนำไปใช้

นายมานพ อยู่เอนก วัย 60 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า หลังมีการลอกคลองสายดังกล่าวเมื่อปีที่ผ่านมาปรากฏว่ามีคราบคล้ายสนิมเหล็กลอยอยู่เต็มคลอง ซึ่งหากลมแรงก็จะพัดหายไปแล้วก็มีมาใหม่อีก ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร แต่ชาวบ้านก็ไม่มีใครนำน้ำในคลองดังกล่าวไปใช้ เนื่องจากกลัวว่าจะมีผลกระทบ มีเพียงนำไปใช้รดพืชผักและทำนาเท่านั้น แต่ก็ไม่มีใครนำไปใช้กินหรืออาบ ซึ่งคราบคล้ายสนิมเหล็กดังกล่าวเป็นมานานกว่า 1 ปีแล้ว

ขณะที่ชาวบ้านอีกหลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่รู้ว่าจะเกิดจากบ่อทรายที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากเมื่อก่อนไม่เคยมีคราบลักษณะนี้ แต่เมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กลับปรากฏคราบคล้ายสนิมเหล็กอยู่ในคลองดังกล่าวและคลองใกล้เคียง จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบว่าเป็นคราบอะไรและจะเป็นอันตรายหรือไม่ เพื่อที่ชาวบ้านจะได้คลายความสงสัยและสามารถนำน้ำจากในคลองดังกล่าวไปใช้ได้อย่างปลอดภัย

http://news.springnewstv.tv/22768/

อ่างทองพบมือเท้าปากระบาดในเด็กเล็ก 5 ราย สั่งปิดเรียนทันที 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ธันวาคม 2555 16:26 น 



อ่างทอง - พบโรคมือเท้าปากเริ่มระบาดในเด็กที่เมืองอ่างทอง ป่วยแล้ว 5 ราย นายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง สั่งเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโรงเรียนเด็กเล็ก พร้อมสั่งปิดเรียน 1 สัปดาห์ หวั่นโรคระบาด

วันนี้ (17 ธ.ค.) นายชัย สุวพันธุ์ นายเทศมนตรีเมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทำความสะอาดศูนย์เด็กเล็กโรงเรียนเทศบาล 3 วัดชัยมงคล ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังพบเด็กป่วยโรคเท้ามือปากในนักเรียนชั้นอนุบาล 1/4 จำนวน 5 ราย พร้อมสั่งปิดศูนย์เด็กเล็กชั้นอนุบาล 1 สัปดาห์ เพื่อทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อ และส่งเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลเฝ้าติดตามอาการ

พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองของเด็กที่ป่วย โดยขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน หากพบมีอาการป่วย พบเม็ดใสในปาก ที่เท้า หรือมือ ให้รีบพาไปพบแพทย์ และแจ้งให้โรงเรียนทราบทันที ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายยังมีการเรียนการสอนตามปกติ โดยในช่วงนี้ได้สั่งการให้ปิดโรงเรียนในส่วนของเด็กอนุบาลไว้ก่อนเพื่อทำความสะอาด และฉีดยาฆ่าเชื้อเพื่อเป็นการป้องกันโรคมือเท้าปากแพร่ระบาด

“เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผมได้รับรายงานจากครูผู้ดูแลเด็กอนุบาล โรงเรียนเทศบาล 3 ว่า หลังหยุดเรียน และเปิดมาในวันจันทร์พบเด็กมีอาการติดเชื้อปากมือเท้าในเด็นชั้นอนุบาล 1/4 จำนวน 5 ราย จึงได้ร่วมกับกองสาธารณสุขเทศบาลเข้าตรวจสอบ พบว่า มีตุ่ม และจุดสีแดงและที่ปากมีแผล แต่ไม่พบอาการเป็นไข้ ร่างกายแข็งแร็ง จึงแจ้งให้ผู้ปกครองมารับกลับไปดูอาการที่บ้าน และส่งเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นได้อนุญาตให้ผู้ปกครองเด็กอนุบาลเดินทางมารับกลับบ้านทั้งหมด พร้อมสั่งปิดเรียนชั้นอนุบาล 1 สัปดาห์เพื่อทำความสะอาด และพ้นยาฆ่าเชื้อในห้องเรียน ของเด็กเล่น และภายในอาคารเรียนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และให้เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขลงพื้นที่ศูนย์เด็กเล็กของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลทุกโรงเรียนเพื่อตรวจสอบต่อไป”



B5 - War Room Falkman 

 รวบหนุ่มคลั่งวันโลกแตก หลังไล่แทงหญิงชรา-นร.เจ็บ21ราย

คนร้ายใช้มีดแทงเด็กหญิงชราและไล่แทงเด็กนร.ในมณฑลเหอหนานของจีน ส่งผลให้เด็กนร.บาดเจ็บ20ราย และหญิงชรา1ราย ล่าสุดตร.สามารถจับกุมตัวได้แล้ว

หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดแทงเด็กนักเรียนในมณฑลเหอหนานเมื่อวันศุกร์(14 ธ.ค)ที่ผ่านมา จนมีเด็กนักเรียนกว่า 20 รายและหญิงชราได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดมีรายงานยืนยันแล้วว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ คือ ผู้ที่ก่อเหตุจริง และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินคดี โดยมีการเปิดเผยชื่อคนร้ายคือ นายหมิ่น หย่งจุน จากเดิมที่มีรายงานว่าเขาชื่อหมิ่น ยิ่งจุน โดยสาเหตุในเบื้องต้นคาดว่าเขาอาจจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เนื่องจากเข้าลัทธิที่มีความเชื่อว่าโลกกำลังแตก

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น วันที่ 14 ธ.ค.55 เวลา 07.40 น. โดยคนร้าย อายุ 36 ปี ได้ใช้มีดแทงหญิงชรารายหนึ่ง บริเวณหน้าโรงเรียนประถมภายในหมู่บ้านเฉิงผิง เขตกว่างซาน มณฑลเหอหนาน ก่อนจะใช้มีดไล่แทงเด็กนักเรียนที่กำลังเดินเข้าโรงเรียน จนได้รับบาดเจ็บมากถึง 23 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผลตามศรีษะ หรือถูกบาดที่นิ้วและหู แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว

----------------------------------------------------

 แผ่นดินไหวรุนแรงเขย่าอินโดนีเซีย

วันนี้(17 ธ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียว่า เมื่อเวลา  16.16 น. เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.1 ริคเตอร์นอกชายฝั่งเกาะสุลาเวสีทางตะวันออกของประเทศ   จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ หรือความเสียหายใดๆ   แต่ทำให้ประชาชนแตกตื่นวิ่งหนีออกมาที่ถนน ขณะที่ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ห่างจากเมืองลูวุคในจังหวัดสุลาเวสีกลางไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 119 กิโลเมตร   และอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 18.5 กิโลเมตร  แต่ไม่มีคำเตือนเกี่ยวกับคลื่นยักษ์สึนามิ แม้ศูนย์กลางการสั่นไหวอยู่ในทะเลก็ตาม

ด้าน สำนักงานการบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติบอกว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนบนแผ่นดินอินโดนีเซียเป็นเวลาหลายวินาที   ขณะที่ นายรูดี้  โกวาร์โน  ผู้จัดการโรงแรมรามายานาในเมืองลูวุค กล่าวว่า แผ่นดินไหวรุนแรง  ส่งผลให้แขกที่มาพักประมาณ 30 คน แตกตื่นตกใจวิ่งหนีออกไปอยู่บนถนน  ทั้งนี้ อินโดนีเซียเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุบ่อยครั้ง เนื่องจากภูมิประเทศตั้งอยู่บนวงแหวนไฟแปซิฟิก  ซึ่งเป็นรอยเลื่อนของเปลือกโลก..

ที่มา   :  http://www.dailynews.co.th/world/172964

 ผักแพง!แม่ค้าลำพูนโอดเหตุอากาศแปรปรวน

 ยูเครน ติดลบ 15 องศาทำคนดับแล้ว18ราย

เกือบ 6,000 ตารางกิโลเมตรทั่วญี่ปุ่น เกิดการทรุดตัว!

แผ่นดินไหวเป็นสาเหตุการทรุดตัวของแผ่นดินแพร่ขยายมากขึ้น (NHK)

รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นกล่าวว่า เกือบ 6,000 ตารางกิโลเมตรทั่วญี่ปุ่นได้ทรุดตัวลงกว่า 2 ซม.ในปีงบประมาณที่ผ่านมา

อาการดังกล่าวเกิดขึ้นรุนแรงกว่าปีที่แล้วถึง 1,000 เท่า (เทียบกับกลางเดือนมีนาคมปีที่แล้ว)และนับว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ตั้งแต่ปี 1978

ข้อมูลจาก 30 พื้นที่ทดสอบ ใน 20 มณฑล ล้วนมีอาการทรุดหรือจมตัวตั้งแต่ 2 ซม ขึ้นไป ข้อมูลนี้มีผลกระทบที่น่ากังวลไปถึงความเสถียรของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในบริเวณนั้นๆ

รมต.กล่าวว่า ที่เคเซนนูม่า ในมิยางิ มีอาการทรุดตัวมากที่สุดที่ระดับ 73.8 ซม

ตามมาด้วยอิชิคาว่า ในชิบะ 30.9 ซม.
และซุคุบะ อิบารากิ จมไป 15.2 ซม

โดยมีถึง 7 พื้นที่ ที่ทรุดตัวมากกว่า 10 ซม
คือ โตโฮกุ และ ในเขตคันโต ซึ่งรวม โตเกียว อยู่ด้วย



The Environment Ministry says nearly 6,000 square kilometers of land across Japan have subsided by more than 2 centimeters in the last fiscal year.

The figure is about 1,000 times greater than in the previous fiscal year that ended March last year, and the largest-ever since records began in 1978.

Municipal organizations that extract underground water assess land subsidence on a regular basis.

About half the 30 tested areas in 20 prefectures were recorded as sinking more than 2 centimeters. This level is judged to have a potential impact on buildings" stability.

The ministry says Kesennuma in Miyagi Prefecture sank deepest by 73.8 centimeters, followed by Ichikawa in Chiba by 30.9 centimeters. Tsukuba in Ibaraki sank by 15.2 centimeters.

Seven areas subsided by more than 10 centimeters. These lie in Tohoku, and in the Kanto region that includes Tokyo.

The ministry officials say the subsidence is attributable to last year"s March 11th earthquake. They have expressed concerns over the spread of subsidence and further damage to buildings.

Dec. 17, 2012 - Updated 23:08 UTC (08:08 JST)
Quake-caused subsidence spreads -NHK WORLD English-

 น้ำท่วมสำนักสงฆ์เขาระกำสูงร่วม 1.5 เมตร

รัสเซียหนาวจัดในรอบกว่า 70 ปี บางพื้นที่อุณหภูมิต่ำกว่า -50 องศาฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ธันวาคม 2555 17:07 น.

  

รัสเซียกำลังเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นจัดที่สุดในรอบกว่า 70 ปี ทั้งนี้ อุณหภูมิในหลายพื้นที่ลดต่ำลงกว่า -50 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะที่เขตไซบีเรีย ทางตะวันออกของประเทศ
สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 45 คน และอีก 266 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ขณะที่กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย ประกาศเตือนพื้นที่ใน 15 เขตทั่วประเทศ ให้เตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่ระบบการสื่อสารอาจใช้การไม่ได้

Manager Online - รัสเซียหนาวจัดในรอบกว่า 70 ปี บางพื้นที่อุณหภูมิต่ำกว่า -50 องศาฯ

B1 - War Room Falkman 

 กระแสโลกแตกทำนาซาสายโทรศัพท์ไหม้

 น้ำป่าซัดถนนพัง-ชาวพัทลุงเดือดร้อนหนัก

 ฝนกระหน่ำสงขลาทำน้ำหลากท่วมเชิงเขา

โลกเป็นอะไรไป? ไต้ฝุ่นมาอีกลูกฉลองปีใหม่-เมอร์รีคริสต์มาส
 

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นไต้ฝุ่นอีกลูกกำลังจะพัดเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนใกล้จะสิ้นปี ทั้งๆ ที่ฤดูพายุควรจะสิ้นสุดลงไปตั้งแต่ปลาย ต.ค.-ต้น พ.ย. เช่นเดียวกับในหลายปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้พิเศษสุด

พายุลูกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นในทะเลแปซิฟิก 2-3 วันที่ผ่านมา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ได้ทวีความเร็วลมขึ้นเป็นระดับพายุโซนร้อนในเวลาเที่ยงของวันคริสต์มาส 25 ธ.ค.นี้ สำนักพยากรณ์อากาศชั้นนำหลายแห่งคาดว่า พายุอู่คง (Wukong) จะกลายเป็นไต้ฝุ่นภายใน 24 ชั่วโมง และเคลื่อนเข้าถึงฝั่งเวียดนามภายใน 72 ชั่ว

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอยได้ออกคำเตือนเรื่องนี้ ขอให้ทางการท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ภาคกลางลงไปจนถึงตอนใต้สุดตรงปลายแหลมญวนจับตาพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด

ไต้ฝุ่นชื่อจีนกำลังจะเข้าถล่มเกาะมินดาเนาอีกครั้งหนึ่งในตอนกลางคืนวันอังคาร 25 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นเวลาเพียงข้ามสัปดาห์หลังจากเกาะใหญ่ทางภาคใต้ ถูกซูเปอร์ไต้ฝุ่น “บุปผา” (Bopha) ซัดกระหน่ำทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน ในขณะที่การเยียวยาความเสียหายยังคงดำเนินอยู่

ตามรายงานของสำนักงานพยาการณ์อากาศในกรุงมะนิลา ตอนเที่ยงวันวันอังคารนี้พายุอู่คงอยู่ห่างจากหมู่เกาะราว 299 กิโลเมตร และกำลังเคลื่อนตัวในแนวตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. ทำให้เกิดฝนตกประปรายจนถึงตกหนักตั้งแต่ตอนใต้เกาะลูซอน (ตั้งเมืองหลวง) ลงไปจนถึงหมู่เกาะแถบภาคกลางตอนล่าง

คาดว่าพายุจะพัดเข้าฝั่งบริเวณเกาะเลย์เต (Leyte) กลางดึกคืนนี้ และขอให้ประชาชนในย่านนี้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศต่อไปอย่างใกล้ชิด

หน่วยงานของฟิลิปปินส์คาดว่า ไต้ฝุ่นอู่คงจะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในคืนเดียวกัน และในเวลาเที่ยงวันวันพุธ 26 ธ.ค.จะเข้าถึง “ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก” ห่างจากหมู่เกาะปาลาวัน (Palawan) ราว 235 กม. (บริเวณหมู่เกาะสแปร็ตลีย์)

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ ในกรุงฮานอยรายงานในเวลาเที่ยงวันนี้ว่า อู่คงกำลังจะเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 10 ใน “ทะเลตะวันออก” ปีนี้ โดยคาดว่าจะเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 20-25 กม./ชม.ในแนวตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือ ก่อนจะชะลอตัวลงใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า และขอให้ชาวประมงเพิ่มความระมัดระวัง ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด.

พายุทอร์นาโดกระหน่ำภาคใต้สหรัฐฯ

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2555 11:20น.

พายุทอร์นาโด ซัดกระหน่ำภาคใต้ของสหรัฐฯ วันคริสต์มาส กลายเป็นเทศกาลสีขาว หิมะปกคลุมทั่วประเทศ
สื่อต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุทอร์นาโด โจมตีทางภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญวันคริสต์มาสของประชาชนนับ 200,000 คน ซึ่งรายงานเบื้องต้นความเสียหายยังไม่ส่งผลกระทบให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่มีต้นไม้โค่มล้ม กระแสไฟขัดข้อง ตึกและอาคารบางโครงสร้างได้รับผลกระทบ ในบางพื้นที่

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น พายุได้พัดพาหิมะเข้ามาในประเทศอย่างหนาแน่นกว่าเดิม จากวันคริสต์มาสซึ่งเป็นวันที่โลกสว่างไสว ด้วยไฟที่ประชาชนตกแต่งอาคารบ้านเรือน กลับกลายเป็นวันคริสต์มาสสีขาวโพน ซึ่งมีหิมะปกคลุมความหนาถึง 30.5 เซนติเมตร

บินทัพอากาศคาซัค บึ้มกลางอากาศดับยกลำ

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2555 8:01น.
เครื่องบินขนส่ง เอเอ็น 72 ของกองทัพอากาศ คาซัคสถาน บึ้มกลางอากาศ ก่อนร่วงทางตอนใต้ของประเทศ คาด ดับยกลำ 27 ราย โดยมีนายทหารระดับสูง อยู่บนเครื่องหลายนาย
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากการแถลงของคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของ คาซัคสถาน ระบุว่า เมื่อเวลา 19.55 น. ของคืนวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินแบบ เอเอ็น-72 ของกองทัพปากีสถาน ประสบอุบัติเหตุตกห่างออกมา 20 กม. จากเมืองชิมเคนท์ ทางตอนใต้ของคาซัคสถาน ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศอุซเบกิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตหมด ทั้งลำ 27 ราย โดยบนเครื่องมีนายทหารระดับสูงของกองทัพหลายนาย ซึ่งเครื่องบินลำนี้ เดินทางมาจาก กรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งทางการได้ตั้งกรรมการสอบสวนสาเหตุของเครื่องบินตกแล้ว
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ของ คาซัคสถาน รายงานว่า เครื่องบินลำนี้ดิ่งลงจากระดับความสูง 800 เมตร และสภาพอากาศรอบ ๆ ท่าอากาศยาน ณ ขณะนั้นเลวร้าย โดยรายงานจากการให้สัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณเครื่องบินตก บอกว่า ได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิด และพอไปดูยังจุดเกิดเหตุ ก็พบภาพน่าสลดใจ มีทั้งหมวกทหารและเศษชิ้นส่วนมนุษย์กระจายไปหมด ขณะที่ไฟก็ยังคงไหม้เครื่องบินลำดังกล่าวยังไม่หยุด

บินทัพอากาศคาซัค บึ้มกลางอากาศดับยกลำ : INN News

////////////////////

เครื่องบินกองทัพปากีฯ โหม่งโลกดับยกลำ 27 ศพ

เครื่องบินแบบเอเอ็น-72 ของกองทัพปากีสถาน ประสบอุบัติเหตุตกทางตอนใต้ของคาซัคสถาน ดับ 27 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถานว่า แถลงการณ์ของคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของ คาซัคสถาน ระบุว่า เมื่อเวลา 19.55 น.ของคืนวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินแบบเอเอ็น-72 ของกองทัพปากีสถาน ประสบอุบัติเหตุตกห่างออกมา 20 กม.จากเมืองชิมเคนท์ ทางตอนใต้ของคาซัคสถาน ซึ่งมีพรมแดนติดกับอุซเบกิสถาน ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตหมดทั้งลำ 27 ราย เครื่องบินลำนี้ เดินทางมาจากกรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน และมีจุดหมายปลายทางที่สนามบินเมืองชิมเคนท์

ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 27 ราย แบ่งเป็นลูกเรือ 7 คน และ ผู้โดยสาร 20 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าหน่วยตรวจตระเวนชายแดน และยังมีพ.อ.ตูร์กันเบค สแตมเบคอฟ รักษาการหัวหน้าหน่วยตรวจตระเวนชายแดน รวมอยู่ด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งทางการได้ตั้งกรรมการสอบสวนสาเหตุของเครื่องบินตกแล้ว

http://news.impaqmsn.com/articles_hn...d=506969&ch=hn

ขออนุโมทนาบุญกับนักข่าวที่น่ารัก ของบ้านสวนด้วยนะคะ

คุณตาล/ น้องหญิง/ น้องเบส/ น้องตุ้ย

ขอบคุณที่สรรหาข่าวมาให้อ่านค่ะ

โบสถ์เก่าวัด แหลมตะลุมพุก โผล่จากทะเล

เกิดอัศจรรย์ที่วัดแหลมตะลุมพุกแดนวิปโยคเมืองคอน โบสถ์จมทะเล 47 ปี สร้างขึ้นใหม่ซากหลังเก่าโผล่ให้เห็น เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้รับรู้...

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช 14 ธ.ค. ว่าบ่ายวันเดียวกันนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ถึงความอัศจรรย์ กรณีพระอุโบสถของวัดแหลมตะลุมพุก หมู่ที่ 3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่จมหายไปในทะเลครั้งเกิดมหาวาตภัยครั้งใหญ่ ปี 2505 โผล่ขึ้นมาให้เห็นในวันนี้ จึงเดินทางไปที่วัดแหลมตะลุมพุก  พบกับกลุ่มชาวบ้าน และพระอธิการจตุพร จตุวโร เจ้าอาวาสวัดแหลมตะลุมพุก นำไปดูจุดที่พระอุโบสถหลังเก่าโผล่ขึ้นมาให้เห็น อยู่ห่างจากกำแพงวัดในขณะนี้ ประมาณ 50 เมตร

พระอธิการจตุพร กล่าวว่า หลักฐานที่ปรากฏวัดแหลมตะลุมพุกมีที่ดินมากถึง 84 ไร่ แต่หลังจากที่เกิดวาตภัยเมื่อปี 2505 ทำให้ที่ดินวัดถูกคลื่นยักษ์ซัดจมหายไป คงเหลือแค่ 36 ไร่ พร้อมทั้งได้กลืนเอาพระอุโบสถทั้งหลังหายไปด้วย ต่อมาเมื่อปี 2550 คณะกรรมการวัดและชาวบ้านตลอดถึงผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมกันก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้นมา ขณะนี้ ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 60% จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2552 ได้มีเด็กวัดไปพบเห็นซากปรักหักพังโผล่ขึ้นมาจากทะเล มาแจ้งให้อาตมาทราบ จึงได้บันทึกภาพไว้ 

เจ้าอาวาสวัดแหลมตะลุมพุก กล่าวต่อว่า มีชาวบ้านเดินทางมาดูซากพระอุโบสถหลังเก่า ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นความอัศจรรย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ไม่มีใครเห็นซากพระอุโบสถโผล่ให้เห็นอีกเลย และมาโผล่ให้เห็นในช่วงเที่ยงวันนี้อีกครั้ง แต่ในวันนี้ถ่ายภาพไว้ไม่ทัน  เมื่อไปดูและจะไปเอากล้องถ่ายภาพแต่กล้องไม่มีถ่าน ให้เด็กวัดไปซื้อถ่านใส่กล้องถ่ายรูปกลับมา กลับตรงกับเวลาน้ำขึ้นซากโบสถ์ได้หายไปแล้ว  จึงได้นำภาพที่บันทึกไว้ได้เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2552 ให้ดูเป็นการยืนยัน 

ชาวบ้านหลายคน หมู่ที่ 2 ต.แหลมตะลุมพุก กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ยังจำเหตุการณ์เมื่อครั้งเกิดวาตภัยปี 2505 ได้ดี ยืนยันว่า อาณาเขตของวัดที่ติดกับชายทะเลในอดีตก่อนเกิดวาตภัย มีที่ดินเลยตำแหน่งโบสถ์เก่าที่จมหายไปอีกประมาณ 150 เมตร หลังเกิดวาตภัย ทั้งที่ดินวัดและโบสถ์ จมหายไปในทะเลพร้อมกัน และไม่มีชาวบ้านคนใดได้เห็นเค้าโครงของโบสถ์หลังเก่า เป็นเวลาถึง 47 ปี แต่เมื่อมีการสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นมาแทนที่ กลับมีโอกาสได้เห็นซากโบสถ์โผล่ขึ้นมาจากทะเลให้เห็น  เป็นเรื่องที่สร้างความแปลกใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก  เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้เห็น เพื่อเป็นการรับรู้ถึงการสร้างโบสถ์หลังใหม่

หอยกระพงนับล้าน!! เกยชายหาดหัวหิน จนท.เร่งเก็บก่อนเน่าเหม็น

20 ม.ค. 56 17.05 น. 

เมื่อวันที่ 20 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีซากหอยกระพง จำนวนหลายสิบตัน ถูกกระแสคลื่นลม ที่พัดรุนแรงในอ่าวไทยพัดขึ้นมาเกยชายหาดหัวหิน บริเวณหน้าอาคารนาวีภิรมณ์ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นอาคารสถานพักฟื้นของกองทัพเรือ ทำให้มีชาวบ้านจำนวนมากมาเก็บหอยไปรับประทาน สำหรับหอยดังกล่าวเป็นหอยที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก ห่างจากชายฝั่งหลายกิโลเมตร

ด้าน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า ได้สั่การให้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปจัดเก็บก่อนที่จะเน่าส่งกลิ่นเหม็น

Credit : Sanook

โลกออนไลน์อึ้ง! เนเธอร์แลนด์ตกแต่งห้องน้ำสาธารณะ ด้วยภาพพระ

21 ม.ค. 56 18.43 น. 

โลกออนไลน์วิจารณ์แซด ห้องน้ำยอดเหรียญสาธารณะในประเทศเนเธอร์แลนด์ ถูกตกแต่งด้วยภาพพระพุทธ พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล

วันนี้ (21 ม.ค.56) มีการแชร์รูปภาพบนโลกออนไลน์ ซึ่งโพสต์ผ่านเฟสบุ๊คโดยผู้ใช้ชื่อว่า Nok Ja พร้อมมีคำบรรยายใต้ภาพดังนี้ "ขอความร่วมมือจากเพื่อนๆ ช่วยกันแชร์ และแจ้งข่าวหน่อยนะคะ ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นะคะ เค้าเอารูปพระพุทธมาตกแต่งเป็นห้องน้ำสาธารณะค่ะ ป้าไปแจ้งแล้วเค้าก็ไม่เอาออก ช่วยกันหน่อยนะคะ" โดยขณะนี้มีการแชร์รูปภาพดังกล่าว กว่า 2,000 ครั้งแล้ว พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวเร่งเข้ามาดูแล

Credit : Sanook

 

อากาศหนาวจัด น้ำตกกลายเป็นน้ำแข็ง ที่มณฑลเสฉวน   อากาศหนาวจัด น้ำตกกลายเป็นน้ำแข็ง ที่มณฑลเสฉวน สภาพอากาศที่หนาวเย็นในจีน ทำให้บางพื้นที่เกิดพายุหิมะตกหนัก เป็นอุปสรรคต่อเที่ยวบินนับร้อยเที่ยว อุณหภูมิที่ติดลบทำให้แหล่งน้ำกลายสภาพเป็นน้ำแข็ง อย่างเช่น บริเวณหุบเขาจุ้ยซาย ในเขตจิ่วไจ้โกว มณฑลเสฉวน สายน้ำที่ตกจากโขดหินถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง ก่อตัวเป็นรูปทรงต่างๆ ซึ่งคาดว่า ต้องรอจนถึงปลายเดือนมีนาคม หรือ ต้นเดือนเมษายน กว่าน้ำแข็งจะละลาย และน้ำตกจะกลับมางดงามได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีน ระบุว่า อุณหภูมิลดต่ำลงจนถึงติดลบ ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากแนวความหนาวเย็นจากขั้วโลกเหนือเคลื่อนตัวลงมาทางใต้ จึงทำให้บางพื้นที่ หนาวที่สุดในรอบหลายๆปีทีเดียว Credit : Teenee

 ดินไหวอินโด5.9Rห่างภูเก็ต373กม.ไม่กระทบ

 พายุหิมะกระหน่ำแมสซาชูเซตส์หนาเพิ่ม10นิ้ว

 คืบหน้าดินไหวอินโดฯ ตาย 1 เจ็บ 7

 อัฟกันหนาวจัดทำผู้อพยพในค่ายลี้ภัยดับ17

 เผาวอดโรงงานสิ่งทอบังกลาเทศ-ดับ7ราย

 ดินถล่มอินโดนีเซีย ตาย 9 สูญหาย 17 ราย

 อียิปต์ปะทะเดือดดับ30เจ็บกว่า300ราย

 ไฟไหม้ผับในบราซิลตายแล้ว180เจ็บกว่า200

ออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิต 3 คน จากพายุทอร์นาโดถล่ม
 

Mon, 28/01/2013 - 14:02

 

เกิดน้ำท่วมหนักในออสเตรเลีย เนื่องจากถูกพายุทอร์นาโดถล่ม ทำให้เกิดฝนตกหนัก และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ขณะที่ทางการท้องถิ่นประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่

พายุทอร์นาโดถล่มรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และได้รับบาดเจ็บหลายคน ขณะที่บ้านเรือน 200,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ได้แก่ เมืองบุนดาเบิร์ก ซึ่งรองนายกเทศมนตรีเมืองบุนดาเบิร์กเผยว่าต้องอพยพประชาชนหลายร้อยคนไปอยู่ในที่ปลอดภัย และต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 18 คน ที่ติดอยู่บนหลังคาให้ออกมาได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งทารกน้อยที่ได้รับการช่วยเหนือจากรถบรรทุกที่จอดอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำท่วม

นอกจากนี้ชานเมืองบริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ก็ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเช่นกัน หน่วยจัดการภัยพิบัติรัฐควีนส์แลนด์จึงประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในหลายเมือง

ข่าวไทย พีบีเอส

“อียิปต์“ เกิดการจลาจล ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 49

28 ม.ค. 56 11.21 น. |

ความไม่สงบระลอกล่าสุดในอียิปต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 49 คน ซึ่งล่าสุดปรากฏว่าประชาชนยังคงท้าทายรัฐบาลด้วยการฝ่าฝืนกฏหมายภาวะฉุกเฉิน

ชาวเมืองอิสมาเลียกล่าวว่า จะไม่ยอมให้เผด็จการแบบอดีตประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารัค กลับมาอีก ส่วนที่จังหวัดชาร์เกีย ประชาชนออกมาปะทะกับตำรวจ ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ดมอร์ซี ประกาศภาวะฉุกเฉิน 30 วันในพื้นที่ 3 จังหวัดแนวคลองสุเอซเพื่อควบคุมการจลาจลระลอกล่าสุดที่เริ่มมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีสัปดาห์ที่แล้ว

การจลาจลครั้งนี้ของอียิปต์ประทุขึ้น เมื่อศาลในจังหวัดพอร์ตซาอิดบริเวณคลองสุเอซ ตัดสินประหารชีวิตแฟนบอล 21 คนจากเหตุจลาจลนัดแข่งขันฟุตบอลเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 73 คน สำหรับการจลาจลระลอกล่าสุดนี้เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 49 คนบาดเจ็บหลายร้อยคน

B1 - War Room Falkman
 

เกาหลีเหนือ - สะเทือนขวัญ! พ่อฆ่าลูกสองคน เอาเนื้อมาทำอาหาร
 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าที่ประเทศเกาหลีเหนือเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ พ่อฆ่าลูกเพื่อเอาเนื้อมาทำอาหารเพราะความอดอยาก พ่อรายนี้ฆ่าลูกสาวคนโตขณะที่ภรรยาออกไปทำธุระ จากนั้นจึงฆ่าลูกชายอีกคนเพราะมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี เมื่อภรรยากลับมาเขาก็บอกเธอว่ามี ‘เนื้อ" สำหรับทำอาหาร แต่เธอเกิดสงสัยจึงได้แจ้งตำรวจ จนค้นเจอศพของลูก ๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีรายงานการฆ่ามนุษย์ด้วยกันเพื่อเป็นอาหาร โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว มีรายงานว่าชายคนหนึ่งถูกจับเพราะฆ่าเพื่อนร่วมงานของตัวเองเพื่อทำอาหาร แล้วนำเนื้อที่เหลือมาขายโดยโกหกว่าเป็นเนื้อแกะ และเมื่อปี 2554 มีรายงานว่าชายคนหนึ่งฆ่าเด็กผู้หญิงเพื่อกินเป็นอาหาร และชายอีกคนฆ่าคนถึง 11ศพเพื่อนำเนื้อมาขายโดยโกหกว่าเป็นเนื้อหมู และแม้แตในค่ายกักกันชาวเกาหลีเหนือในหลายประเทศ ก็มีรายงานการฆ่าคนเพื่อกินเนื้อเช่นกัน

นอกจากนี้สำนักข่าวเอเชียเพรสยังรายงานว่าชายคนหนึ่งขุดศพของหลานชายขึ้นมากินเพราะความอดอยาก และในเมืองจองดาน ชายคนหนึ่งถูกจับเพราะต้มลูกของตัวเองเพื่อทำอาหาร

รายงานกล่าวว่าความอดอยากเพราะภัยแล้งในเขตเกษตรกรรมในหลายจังหวัดทางภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศและการยึดอาหารเอาส่งไปกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของประเทศ รวมถึงการฆาตกรรมเพื่อนมนุษย์เพื่อกินเนื้อ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 10,000 คน และเป็นที่น่ากลัวว่าตัวเลขการฆาตกรรมเพื่อกินเนื้อคนจะเพิ่มขึ้น

แม้ว่าจะเกิดความอดอยากยากแค้นในประเทศ แต่ นายคิม จอง อึน วัย 30 ปี ผู้นำเกาหลีเหนือกลับทุ่มเงินมหาศาลในการทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์หลายต่อหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเพิ่งประกาศจะทดสอบนิวเคลียร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยพุ่งเป้าไปที่สหรัฐฯ ศัตรูรายสำคัญ

รายงานเพิ่มเติมระบุว่าเกาหลีเหนือประสบกับภาวะอดอยากอย่างแสนสาหัสในปี 2553 ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนระหว่าง 240,000 ถึง 3,500,000 คนในครั้งนั้น

B1 - War Room Falkman

“นาซา” เตือน ดวงอาทิตย์ปล่อย “มวลสารโคโรนา” มหาศาล พุ่งใส่โลกใน 3 วัน ชี้ระบบสื่อสาร-ไฟฟ้าอาจมีปัญหา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2556 12:05 น.

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (24) ว่า เกิดอนุภาคพลังงานสูงจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากโคโรนาของดวงอาทิตย์ เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (23) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีก้อนมวลสารโคโรนา (ซีเอ็มอี ) จำนวนมหาศาลจากดวงอาทิตย์ กำลังมุ่งหน้ามายังโลกของเราด้วยความเร็วสูง และคาดว่าจะถึงชั้นบรรยากาศของโลกภายใน 1 ถึง 3 วันข้างหน้า

ข้อมูลขององค์การนาซาและองค์การอวกาศยุโรป (อีเอสเอ) ระบุตรงกันว่า ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์พ่นมวลโคโรนาที่เกิดขึ้นส่งผลให้มวลสารดังกล่าวพุ่งกระจายออกมาจากดวงอาทิตย์ และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้ามายังโลกของเราด้วยความเร็วประมาณ “375 ไมล์ต่อวินาที” โดยคาดว่าจะเดินทางมาถึงยังชั้นบรรยากาศของโลกของเราภายใน 24-72 ชั่วโมงข้างหน้านี้ พร้อมเตือนประเทศต่างๆ เตรียมหาทางรับมือ

ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงอาทิตย์ของนาซาระบุว่า ซีเอ็มอีซึ่งเกิดจากอนุภาคพลังงานสูงจำนวนมากที่พุ่งออกมาจากโคโรนาของดวงอาทิตย์นั้น สามารถเทียบได้กับระเบิดปรมาณูที่กองทัพสหรัฐฯใช้ทำลายเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นับแสนล้านลูก

ทั้งนี้ เมื่อซีเอ็มอีเคลื่อนตัวพุ่งเข้ามาปะทะกับชั้น “แมกนีโทสเฟียร์” ซึ่งเป็นชั้นสนามแม่เหล็กโลก จะส่งผลให้เส้นแรงแม่เหล็กของโลกเกิดการยุบตัวลง และอาจก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พายุแม่เหล็กโลก” ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ระบบส่งกำลังไฟฟ้าผ่านสายไฟฟ้าบนพื้นโลกอาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่หลายส่วนของโลก นอกจากนั้น พลังงานจากซีเอ็มอี ยังสามารถทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนดาวเทียม หรือยานสำรวจอวกาศต่างๆ ได้เช่นเดียวกับระบบนำทาง “จีพีเอส”

จีนระทึก! พื้นดินถล่มยุบตัวเป็นหลุมลึก

29 ม.ค. 56 16.25 น. 

 

 ระทึก จีนเจอหลุมยุบขนาดยักษ์ ดูดกลืนอาคารทั้งหลังถล่มในพริบตา

วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 13:00:05 น



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ว่า เกิดเหตุหลุมยุบกว้าง 3,230 ตร.ฟุต ในเมืองกวางโจว ส่งผลให้อาคารหลังหนึ่งถูกดูดถล่มลงมา และหลุมยุบยังสร้างความเสียหายตัดระบบไฟฟ้ากระทบประชาชนหลายพันคน โดยหลุมยุบดังกล่าวทำให้อาคารดังกล่าวถูกดูดถล่มราวกับถูกระเบิดตึก ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องอพยพออกจากอาคารต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียง และมีการปิดกั้นถนนเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวบ้านยังได้กลิ่นแก๊สในระยะห่าง 30 เมตร ด้วย 

รายงานระบุว่า สำหรับหลุมยุบบางครั้งเกิดจากฝีมือมนุษย์ โดยเฉพาะโครงการสูบน้ำประปาใต้ดิน รวมทั้่งโครงการก่อสร้าง และอื่น ๆ และนับเป็นครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในเมืองจีน โดยเมื่อปีที่แล้วเกิดขึ้นที่มณฑลกวางซี โดยเกิดหลุมยุบหลังจากมีการขุดบ่อน้ำในโรงเรียนแห่งหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ ขณะที่สื่อท้องถิ่นบางรายระบุว่า ในกรุงปักกิ่ง หลุมหลบภัยใต้ดินขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดหลุมยุบด้วย 

B5 -  War room  Falkman

 อึ้ง!! พบตัวอ่อนแมลงปริศนา โผล่ผิวหนัง เป็นตุ่มน้ำเหลืองทั่วร่างกาย

วันพุธที่ 30 มกราคม 2556 



รายงานข่าวเผยแพร่เรื่องราวประหลาดที่เกิดขึ้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อพบชายรายหนึ่ง วัย 45 ปี ถูกแมลงปริศนาบินออกจากต้นมะม่วง กัดทั่วลำตัวมานานหลายเดือน แม้ว่าทางอสม.มาฉีดพ่นยาฆ่าแมลง แต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้หมด



จนแมลงดังกล่าวยังคงกัดทั่วร่างกาย โดยเขาเล่าว่า ขณะที่กัดจะไม่รู้สึกตัว จะรู้สึกอีกทีก็พบว่าตัวแมลงเข้าไปในเนื้อแล้ว และจะรู้สึกเจ็บเวลาสวมใส่เสื้อผ้าจะรู้สึกเหมือนหนามแทง หากปล่อยไปนานๆจะมีตุ่มน้ำเหลือง รอยแผลทั่วร่างกาย ต้องรอ 2 วัน แมลงดังกล่าวจะหายไป แล้วมีแมลงตัวเล็กๆขึ้นมาอาศัยแทน วนเวียนไปเช่นนี้ บางทีพบเป็นหนอน คล้ายตัวอ่อนโผล่ออกมา 

MThai News

B5 - War Room Falkman

 คลื่นเซาะชายหาดแหลมสมิหลา ที่มีการดูดทรายจากทะเลมาถมหายยาวถึง 450 เมตร 

วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 08:30:53 



รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 30 มกราคม ระบุว่า คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่มีกำลังแรงคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ระหว่างวันที่29-31ม.ค. เนื่องจากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้อ่อนกำลังลง แต่ยังคงทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังปานกลาง ส่งผลกับพื้นที่ชายหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลา จ.สงขลา ที่มีการดูดทรายจากทะเลขึ้นมาถมเพื่อป้องกันคลื่นกัดเซาะ ระยะทาง 450 เมตร กว้าง 80 เมตร ใช้งบประมาณ 8 ล้านบาท ถูกคลื่นซัดเสียหายเกือบทั้งหมด และยังกินพื้นที่ลึกเข้าไปถึงแนวเขื่อนหินเดิมและมีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายให้กับต้นสนที่อยู่ริมทะเล ไม่สามารถต้านทานความรุนแรงของคลื่นได้ 

นายสมชาย เมฆาอภิรักษ์ อดีตรองนายก ทน.สงขลาเปิดเผยว่าโครงการเติมทรายคืนธรรมชาติให้กับชายหาดชลาทัศน์เป็นการทดลองแก้ปัญหาคลื่นกันเซาะชายฝั่ง จ.สงขลา เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพ ของศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จ.สงขลา กรมเจ้าท่าและเทศบาลนครสงขลา ดำเนินการดูดทรายบริเวณชายฝั่งชายหาดชลาทัศน์ที่ถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ขึ้นมาเติมบนชายหาดชลาทัศน์ ตั้งแต่บริเวณบ้านเก้าเส้งไปจนถึงบริเวณชายหาดหน้าทัพเรือภาคที่ 2 โดยใช้งบประมาณ 8.4 ล้านบาท จึงต้องหาแนวทางใหม่ที่สามารถป้องกันคลื่นกัดเซาะหาดต่อไป

คลื่นเซาะชายหาดแหลมสมิหลา ที่มีการดูดทรายจากทะเลมาถมหายยาวถึง 450 เมตร 

B5 - War Room Falkman

 ดินไหวชิลี 6.7 ริคเตอร์นานกว่า 1 นาที เสียชีวิต 1 ราย

2013-01-31 08:48:40 



แผ่นดินไหวที่ประเทศชิลี 6.7 ริคเตอร์ นานกว่า 1 นาที ระบบโทรศัพท์ - ไฟฟ้าขัดข้องล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย จากหัวใจวาย ขณะเกิดเหตุ 

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานการตรวจพบแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 16.15 น.ของวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 03.15 น.ของวันนี้ ตามเวลาในประเทศไทย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก 47.5 กม. และห่าง 102 กม.จากเมืองโคเปียโป ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของชิลี ห่างจากกรุงซันติอาโก เมืองหลวงขึ้นไปทางเหนือราว 800 กม. 



เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวในชิลีครั้งนี้ กินเวลานานกว่า 1 นาที ทำให้ระบบสื่อสารด้วยโทรศัพท์ในหลายเมือง แถบตอนเหนือ ขัดข้องใช้การไม่ได้ รวมไปถึงระบบไฟฟ้าด้วย ชาวบ้านในเมืองอตาคามา แตกตื่นวิ่งหนีลงมาบนถนนด้วยความกลัวว่า จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ 


นอกจากนั้นบ้านเรือนในเมืองวัลเลนาร์ ได้รับความเสียหาย ส่วนในเมืองโคเปียโป กระจกหน้าต่างบ้านเรือนแตกร้าว ล่าสุด มีรายงานว่า มีสตรีวัย 55 ปี จากเมืองอตาคาม่า เสียชีวิตจากหัวใจวาย ขณะเกิดแผ่นดินไหว แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บในพื้นที่อื่น

B5 - War Room Falkman

 ดินไหวพม่า 4.3 ห่างสบเมย-แม่ฮ่องสอน 354กม.

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ.2556 7:42น.



พม่า แผ่นดินไหว ขนาด 4.3 ริกเตอร์ ห่างจาก อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ราว 354 กม. ไม่กระทบใด ๆ ต่อไทย 

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา ประมาณ 20.36 น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 4.3 ริกเตอร์ ที่ประเทศพม่า จุดศูนย์กลางห่างจากทางทิศตะวันตกฉียงใต้ของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 354 กม. ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อประเทศไทย

ดินไหวพม่า4.3ห่างสบเมย-แม่ฮ่องสอน354กม. : INN News

B5 - War Room Falkman

 เกิดทอร์นาโดขนาดใหญ่พัดถล่มอย่างน้อย 20 ลูก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ กระทบ 6 รัฐ กระแสไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ 

พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ศพ ที่เมืองเอแดร์สวิลล์ รัฐจอร์เจีย และที่รัฐเทนเนสซี่ และผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก 

ทอร์นาโดหลายลูกถล่มพื้นที่รัฐมิสซิสซิป*** อินเดียนา และเทนเนสซี ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน ผู้เสียชีวิตรายแรก ถูกพายุพัดรถยนต์จนพลิกคว่ำบนทางหลวงสาย 75 ในรัฐจอร์เจีย เจ้าหน้าที่เผยว่ามีรถมากกว่า 10 คันที่ถูกพัดจนพลิกคว่ำ จนต้องปิดการสัญจรในเส้นทางดังกล่าวเป็นการชั่วคราว ผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นชายวัย 51 ปี ถูกต้นไม้ล้มทับโรงรถที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี 

พายุทอร์นาโดยังสร้างความเสียหายและความวุ่นวายในพื้นที่รัฐมิสซิสซิปปี อาร์คันซอส์ เคนตักกี้ และอินเดียนา ประชาชนกว่า 60,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากกระแสลมได้พัดเสาไฟฟ้าหักโค่น และสายไฟขาดชำรุดจำนวนมาก ตั้งแต่พื้นที่อ่าวเม็กซิโกถึงรัฐโอไฮโอ โดยที่รัฐจอร์เจียมีถึง 15,500 ราย นอกจากนั้น ยังมีรายงานจากสายตรวจรัฐจอร์เจียว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนกันถึง 83 ครั้ง ระหว่างเวลา 9.00-17.00 น.วานนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 33 ราย

นอกจากนี้กระแสลมแรงยังสร้างความเสียหายให้แก่อาคารและบ้านเรือนจำนวนมาก ขณะที่สำนักงานพยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่า สภาพอากาศจะยังคงเลวร้ายต่อเนื่องในช่วงนี้ ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดลูกเห็บตกและมีพายุทอร์นาโดตามมาอีก ที่รัฐอาร์คันซอส์ พบผู้บาดเจ็บหลังถูกฟ้าผ่าหนึ่งราย ส่วนที่รัฐเคนตักกี้ พบผู้บาดเจ็บสองรายหลังบ้านเคลื่อนที่ถูกพายุพัดปลิว

http://www.matichon.co.th/news_detai...&subcatid=0600
 

B5 - War Room Falkman

 พายุถล่มเชียงใหม่ต้นไม้ล้มขวางถนนไฟดับทั้งเมือง

2013-01-30 20:34:32 



เมื่อเวลา 19.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักใน อ.เชียงดาว และ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ฝนที่ตกลงหนักนานกว่าชั่วโมง ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางถนน ที่ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ และ ทำให้รถจำนวนมากจาก อ.ฝาง ที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ จ.เชียงใหม่ และ รถที่จะเข้าสู่ อ.ฝาง เพื่อเดินทางต่อไปยัง จ.เชียงราย ต้องติดค้างอยู่บนถนนหลายกิโลเมตร

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำเครื่องมือเข้าทำการตัดและเคลื่อนย้ายต้นไม้ออกพ้นถนน ขณะที่ตำรวจได้ส่งสายตรวจเข้าดูแลความเรียบร้อย และ แจ้งประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ที่ต้องติดอยู่กับการจราจร โดยคาดว่าในช่วงค่ำวันเดียวกันจะสามารถเคลียร์เส้นทางเพื่อให้รถสามารถผ่านไปมาได้ตามปกติ

รายงานแจ้งว่าฝนที่ตกลงมาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ทำให้ในช่วงเช้ามีหมอกหนาปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ ขณะที่สำนักงานป้องกัน และ บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศเตือนผู้ใช้รถให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างอำเภอ 

ที่มา: ข่าวspringnews.com

B5 - War Room Falkman

 ไฟไหม้สนง.ใหญ่บริษัทน้ำมันเม็กซิโก ตาย15 บาดเจ็บกว่าร้อย

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 08:18 น.



เกิดเหตุระเบิดและเพลิงลุกไหม้อาคารสำนักงานใหญ่บริษัทผลิตน้ำมันอันดับ 1 ของเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 100 ราย 

วันนี้ ( 1 ก.พ. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโกว่า เกิดเหตุระเบิดและเพลิงลุกไหม้โหมกระหน่ำอย่างรวดเร็วภายในบริษัทผลิตน้ำมันซึ่งรัฐบาลเม็กซิโกเป็นหุ้นส่วน เมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 100 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังช่วยเหลือผู้ที่อาจติดอยู่ภายในอาคารเป็นการด่วนแล้ว

นายมิเกล แองเกล โอโซริโอ รมว.กระทรวงมหาดไทยเม็กซิโก แถลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 05.00 น. เช้าวันที่ 1 ก.พ. ตามเวลาในประเทศไทย ) บริเวณอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท เปเม็กซ์ องค์กรรัฐวิสาหกิจด้านการผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยต้นเพลิงได้ลุกลามจากชั้น 1 ของอาคารที่มีความสูง 54 ชั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังควบคุมเพลิงนานนับชั่วโมง โดยใช้ทั้งรถฉีกน้ำ และเฮลิคอปเตอร์

เบื้องต้นมีรายงานพบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 14 ศพ ส่วนอีก 1 รายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 100 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยู่ระหว่างพยายามฝ่ากลุ่มควันและเปลวเพลิงที่ยังลุกไหม้อยู่ในบางจุดของตัวอาคาร ที่เริ่มพังทลายลงมาแล้วบางส่วน เพื่อค้นหาผู้ที่ติดอยู่ภายใน รวมถึงร่างของผู้เสียชีวิตที่อาจหลงเหลืออยู่

ด้านประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนา นีเอโต ผู้นำเม็กซิโก และนายมิเกล อังเกล แมนเซรา นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ และสั่งการให้มีการปิดการจราจรโดยรอบอาคารทั้งหมดแล้วเพื่อความปลอดภัย

แม้สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ผู้รอดชีวิตหลายรายซึ่งเป็นพนักงานของเปเม็กซ์ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้ยินเสียงคล้ายแก๊ซระเบิดดังมาจากห้องคลังสินค้าที่อยู่ชั้นล่าง

บริษัท เปเม็กซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ด้วยกำลังการผลิตราว 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เคยเผชิญกับเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันนี้เมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้ว ในเหตุการณ์ระเบิดบริเวณท่อส่งก๊าซ ภายในโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติของบริษัท ที่เมืองเรย์โนซา ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งอยู่ติดกับสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 ศพ

 เหนือ-อีสาน-กลาง อากาศเย็นส่วนกทม.มีฝนตกบางแห่ง

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 08:04 น.



กรมอุตุรายงานสภาพอากาศประจำวัน ภาคเหนือ อีสาน กลาง กทม. อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า แถมมีฝนตกเป็นแห่ง ๆ จากอิทธิพลของคลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนตัวผ่าน 

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า คลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนแล้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนอยู่ในเกณฑ์บางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และในช่วงวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 56 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกอีกระลอกหนึ่งเคลื่อนจากประเทศเมียนมาร์เข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บริเวณดังกล่าวมี ฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้อีก

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 56 คลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง

เหนือ-อีสาน-กลาง อากาศเย็นส่วนกทม.มีฝนตกบางแห่ง | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 หนองคายอากาศเย็น หมอกลงจัดทั่วเมือง 

วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 10:05:01 น



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่จังหวัดหนองคาย มีอากาศหนาวเย็นติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้ในช่วงเช้าของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีหมอกลงจัด ในเขตอำเภอเมืองหนองคาย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบปี 56 ในขณะที่อำเภอสังคม ที่ปกติจะมีหมอกจัดกว่าทุกอำเภอกลับไม่มี 

สำหรับหมอกที่ลงจัดครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งอำเภอเมืองหนองคาย โดยเฉพาะตามทุ่งนาที่มีอากาศชื้น และตามลำแม่น้ำโขง ทำให้การสัญจรของยวดยานพาหนะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี และประชาชนต้องสวมใส่เสื้อกันหนาวเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย 

หนองคายอากาศเย็น หมอกลงจัดทั่วเมือง 

B5 - War Room Falkman

 ผลวิจัยชี้โลกร้อนทำฝนตกน้อยลง

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม 2556 เวลา 17:59 น.



ผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์พบ โลกร้อนทำให้ฝนตกน้อยลง และจะเกิดความแห้งแล้งมากขึ้นในอนาคต 

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวันนี้ว่า คณะนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศเขียนบทความลงวารสารเนเจอร์ระบุว่า พวกเขาพบหลักฐานที่สนับสนุนคำทำนายสำหรับฝนตกเฉลี่ยน้อยลงในอนาคต โดยนักวิทยาศาสตร์พบข้อพิสูจน์ว่า ภาวะโลกร้อนอันเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยฝีมือของมนุษย์ได้มีผลกระทบที่แตกต่างต่อฝนที่ตกมากกว่าโลกร้อนอันมีสาเหตุจากการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ที่แรงขึ้นกว่าเดิม และการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มีส่วนทำให้โลกร้อน ได้รับการคาดหมายว่า จะทำให้เกิดความแห้งแล้งอย่างหนักในอนาคต

นายบิน หวัง นักวิทยาศาสตร์แห่งศูนย์วิจัยแปซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล แห่งมหาวิทยาลัยฮาวายในสหรัฐกล่าวว่า ฝนตกน้อยลง ทำให้มีโอกาสเกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง อีกทั้งการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์สามารถได้รับผลกระทบด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น การปะทุของภูเขาไฟ และระดับละอองของเหลวในชั้นบรรยากาศ รวมทั้งการเปลี่ยนวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของโลก ก่อนหน้านั้นมีผลการวิจัยชี้ถึงความเสี่ยงของการเกิดน้ำท่วมระดับภูมิภาคหรือแรงดันน้ำ ขณะที่ สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงได้ปรับเปลี่ยนกระแสลมและปริมาณความชื้นที่จับตัวในทะเล.

ผลวิจัยชี้โลกร้อนทำฝนตกน้อยลง | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 ดินไหวพม่า2รอบบนบก,ใต้ทะเล-ไม่กระทบ

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 7:49น.



เกิดแผ่นดินไหวทั้งบนบก และใต้ทะเล ประเทศพม่า ขนาดเล็ก เมื่อคืนที่ผ่านมา 2 ครั้ง ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.28 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวบนบก ที่ประเทศพม่า ขนาด 3.9 ริกเตอร์ จุดศูนย์อยู่ห่างจากทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 401 ก.ม. ทั้งนี้ ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อประเทศไทย 

ขณะที่ สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า เมื่อเวลา 03.31น. ตามเวลาประเทศไทยที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลอันดามัน นอกชายฝั่งประเทศพม่า ขนาด 4.4 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ลึกใต้ทะเลราว 27.2 ก.ม. ห่างจากชายฝั่งเมืองพอร์ทแบลร์ แบมบู แฟลท ราว 299 ก.ม. เบื้องต้นไม่มีรายงานผลกระทบใดๆ 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=431811

B5 - War Room Falkman

 ดอยแม่สลองหนาวหมอกลงจัดจุดไฟผิง

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 9:25น.



บนยอดดอยแม่สลอง หนาวต่อเนื่อง หมอกลงจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8.5 องศาเซลเซียส ร้านชาต้องจุดเตาถ่านผิงไฟคลายหนาวให้ลูกค้า

สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ถือว่ายังหนาวเย็น โดยสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดเชียงราย รายงานการตรวจวัดอุณหภูมิต่ำสุดในพื้นราบ สามารถวัดได้ 15.9 องศาเซลเซียส ลดต่ำลงจากวานนี้ 3 องศาเซลเซียส ขณะที่ตามยอดดอยวัดได้ 7-10 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าหนาวจัด ขณะที่อากาศตามยอดอยต่างๆ 

โดยเฉพาะดอยแม่สลอง ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มีหมอกลงจัดเป็นวันที่สองและอากาศที่หนาวเย็นจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8.5 องศาเซลเซียส ชาวบ้านในพื้นที่ต้องสวมใส่เสื้อกันหนาวตลอดเวลา และเด็กบางคนต้องหาผ้าห่มมาห่มเมื่อออกจากบ้านเพื่อสร้างความอบอุ่น เช่นเดียวกับร้านขายชา ต้องก่อไฟด้วยถ่านไม้ในเตา จากนั้นนำมาวางไว้บริเวณจุดชงชา เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายของเจ้าของร้านและลูกค้า โดยเจ้าของร้านขายชา ยอมรับว่า สภาพอากาศในพื้นที่ดอยแม่สลองกลับมาหนาวอีกครั้งในช่วงนี้ ซึ่งถือว่าหนาวกว่าช่วงก่อนที่ผ่านมา ซึ่งต้องนำเตาถ่านมาสร้างความอบอุ่นร่างกาย ทั้งเจ้าของร้านเอง และบริการลูกค้าอีกด้วย



B5 - War Room Falkman