|
ท่านท้าวเวสสุวรรณ | |
ประวัติของท่านท้าวเวสสุวรรณโณ (กุเวร) ท่านท้าวเวสสุวรรณ ๑ใน ๔ ท้าวจตุโลกบาล โดยมีท้าวธตรฐดูแลพื้นที่อยู่ทางทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหกดูแลรักษาพื้นที่อยู่ทางทิศใต้ ท้าววิรูปักข์ดูแลรักษาพื้นที่อยู่ทิศตะวันตก และท้าวเวสสุวรรณรักษาพื้นที่อยู่ทางทิศเหนือ โดยทั้ง ๔ ท่านมีหน้าที่แบ่งกันปกครองทั้งเหล่าคนธรรพ์ กินรี กินนร กุมภัณฑ์ นาค เทวดา และยักษ์ อยู่บนสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา ในส่วนของท้าวเวสสุวรรณ ท่านจะปกครองเหล่าอสูร และยักษ์ ตลอดจนภูติผีปีศาจทั้งหลาย ตามตำนานกล่าวว่าเริ่มแรก ท่านท้าวเวสสุวรรณปกครองอยู่ เมืองลงกา ต่อมาได้ถูกทศกัณฑ์มายึด และขับไล่ให้ท่านไปอยู่ที่อื่นพร้อมทั้งแย่งบุษบก ( ของวิเศษที่พระพรหมมอบให้ ) ไปครอบครองอีก ท้าวเวสสุวรรณจึงได้มาสร้างเมืองใหม่อยู่บนสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา โดยท่านมีหน้าที่ดูแล ปกครองเหล่าอสูร ยักษ์ ตลอดจนเหล่าภูติผีปีศาจทั้งหมด และยังเป็นเจ้าบัญชีพระกาฬใหญ่ ท่านท้าวเวสสุวรรณท่านเป็นยักษ์ที่ใจบุญ อีกทั้งยังให้ความเคารพนับถือในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ในสมัยพุทธกาล กล่าวว่ามีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ที่ออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อแสวงหาโมกขธรรม มีพระภิกษุสงฆ์บางรูปที่ยังไม่ได้สำเร็จอภิญญา มักจะโดนบรรดาภูติผีปีศาจ หลอกหลอนไม่เป็นอันได้ปฏิบัติกิจของสงฆ์ คือการเจริญสมาธิกรรมฐาน เพื่อชำระจิตใจให้สงบได้อย่างเต็มที่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ได้เสด็จลงมาจากเทวโลก เพื่อมากราบนมัสการ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งถวายมนต์
“ภาณยักษ์” ให้ไว้ เพื่อเป็นมนต์ป้องกันเวลาพระภิกษุ สามเณร ที่ออกเดินธุดงค์ตามป่าเขา ถูกบรรดา ภูติผี ปีศาจ ยักษ์ เทวดา ที่เป็นมัจฉาทิฐิ หลอกหลอน ซึ่งมนต์ “ภาณยักษ์” บทนี้ยังนำมาใช้สวดกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ โดยการสวดมนต์ “ภาณยักษ์” บทนี้มักจะทำเป็นพิธีการยิ่งใหญ่ ทุกวัดมักจะจัดให้มีการสวด “ภาณยักษ์” นี้ขึ้น เชื่อกันว่าใครที่ถูกคุณ ถูกของ หรือโดนผีเข้า เจ้าสิง เมื่อเข้าไปในบริเวณพิธีสวด “ภาณยักษ์” สิ่งอัปมงคลต่างๆ ที่มีอยู่ในตัวก็จะหมดไปด้วย มนต์ภาณยักษ์ อันวิเศษบทนี้ และนอกจากนี้
ท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย สัญญลักษณ์แห่งมหาเศรษฐี ในหนังสือเทวกำเนิดของพระยาสัจจาภิรมย์ ระบุชื่อท้าวเวสสุวรรณ ล้วนมุ่งหมายทางมหาเศรษฐีมั่งมีทรัพย์ อาทิ ท้าวรัตนครรถ (ผู้มีเพชรเต็มพุง) ท้าวกุเวรธนบดี (ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์) ท้าวธเนศวร (เจ้าทรัพย์) องค์อิฉาวสุ (ผู้มั่งมีได้ตามใจ) ท้าวเวสสุวรรณ (ยิ่งด้วยทอง) แม้แต่ชาวจีนก็ยกย่ององค์ท้าวเวสสุวรรณว่า เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความร่ำรวยในนาม “องค์ไฉ่ซิงเอี้ย” ซึ่งมีบูชากันทุกบ้านร่ำรวยทุกคน ขับไล่ภูติผีปีศาจ วิญญาณร้าย
แก้เสนียด อัปมงคลคุณไสยต่างๆ หากท่านผู้ใดบูชาท่านท้าวเวสสุวรรณ ด้วยความเคารพศรัทธา จงเชื่อได้เลยว่าท่านจะประสบแต่ความโชคดี มีทรัพย์ ตลอดจนพ้นภัยจากบรรดาภูติผีปีศาจทั้งหลายในคัมภีร์โบราณ ได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูปท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร
คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร
ตั้งนะโม ๓ จบ ก่อน
อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
มรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ
ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต
เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ 9จบ | |
ผู้ตั้งกระทู้ เบาหวิว :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-14 09:06:18 |
<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4] 5 6 ถัดไป >> |
ความคิดเห็นที่ 301 (1573184) | |
ขอบคุณท่านอ.อุบลที่นำเรื่องราวที่พวกเราอึมครึมอยู่นาน มาบอก หนูเป็นคนหนึ่งค่ะที่รักคุณทักษิณ แต่ก็ได้รับคำบอก เล่าต่าง ๆ จากเพื่อนมากมายหลาย ๆ ความเห็น เลยไม่รู้อะไร จริง อะไรเท็จ และหนูขอร่วมเป็นโจทก์ฟ้องคนที่หมิ่นสถาบัน พระมหากษัตริย์ ต่อไปเราคงได้เห็นคนไทยรักกันโดยไม่มีการแบ่งแยกสี และมี ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างจริงใจ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล (mamlak-w-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-20 10:14:09 |
ความคิดเห็นที่ 302 (1573189) | |
กราบพระบาทเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ ที่เมตตา เปิดในสิ่งที่ปิด หงายในสิ่งที่คว่ำ แต่ละคน ต่างก็คิดกันเอาเองกับเรื่องของการเมือง ซึ่งยุ่ง ยาก ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ผูกปม ผูกไว้หลายเงื่อนปม จนอีนุงตุงนังไปหมด ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ จนลามปามเลยเถิด ล่วงเกินสถาบันที่เคารพรัก ลูกเป็นผู้หนึ่งจะขอดูการทำงานของคุณยิ่งลักษณ์ว่าจะจงรักภักดี ต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรือไม่ เพราะลูกก็เข้าใจว่า คุณทักษิณเป็นคนอย่างนั้น ต่อไปจะได้เห็นคนไทยมีสีเดียวกันซะที คือสีชาติไทย มีดวงใจหลอมเป็นหนึ่งเดียว
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ (fareastinn-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-20 11:12:34 |
ความคิดเห็นที่ 303 (1573190) | |
เสื้อเหลือง-เสื้อแดง
ล้วนเป็นแผนของ มาร ทั้งสิ้น
ลองคิดดู ดีๆ เถอะ แล้วตรองดูซิ ว่า
คน เสื้อเหลือง มีคนชั่วไหม มีคนทำลาย ชาติ+ศาสน์+กษัตริย์ไหม มีคนผิดศีล พูดคำหยาบไหม
แล้วก็มาดูคน เสื้อแดง
มีคนชั่วไหม มีคนทำลาย ชาติ+ศาสน์+กษัตริย์ไหม มีคนผิดศีล พูดคำหยาบไหม ถ้าดูดีๆ อย่างคนที่เป็น กลาง คนที่ใจ เป็นธรรม จริงๆ จะเห็นว่า ทั้งสองสี มีทั้งคนดี คนชั่ว มีทั้งคนที่แฝงตัว เข้าไปปะปน เพื่อหวังผลบางประการ ในเมื่อมีคน คอยจ้องทำลาย สถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่มีคนหนึ่งที่เข้มแข็ง อย่างคุณทักษิณ (ถ้าทำจริง) มาเชิดชู บูชา ทำให้ มีหน้ามีตา ก็ต้องมีคนหาทาง ทำลาย ให้ร้าย ป้ายสี ทำให้เสียหาย ด้วย ขอกล่าวหาที่ร้าย ที่สุด คือ แสดงความจงรักภัคดี แต่ กลับถูกข้อกล่าวหา หมิ่นสถาบัน ซะเอง มันเจ็บปวดไหม ถ้าคุณทักษิณทำด้วยใจ ที่บริสุทธิ์ คราวนี้ก็มาดู พวกที่ปากบอกว่า รัก ในหลวง ดูการปฎิบัติซิ มีสิ่งใดที่ทำให้คนเห็นบ้าง ว่ารัก นอกจากแค่ลมปาก ไม่มีการกระทำ นี่แหละ คือเงื่อนงำ คือ แผน ล้มล้าง 3 สถาบัน ให้สิ้นซาก อ.อุบล ยังถือว่า คุณทักษิณ เขามีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง แต่ ทำไมจึงไม่ให้โอกาสเขา ในเมื่อกล่าวหาใคร ต้องใช้ความจริงพิสูจน์ ทำไมใช้วิธี ตามล่า ตามฆ่า ดูข้อกล่าวหาของคุณ ทักษิณ แล้ว คนมีปัญญา พิจารณากันเอาเอง ข้อกล่าวหาเรื่อง เลี่ยงภาษี เป็นคดีแพ่ง พิสูจน์ได้ แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นคดีอาญา นี่ อ.อุบล ไม่ใช่นักกฏหมายนะ วิเคราะห์ ตามปัญญาชาวบ้าน แต่ปัจจุบัน เรื่องมัน นัวเนีย นุงนัง บานปลาย มั่วไปหมด ไม่รู้อันไหนจริง อันไหนเท็จ คนที่ชอบทักษิณ ก็มีทั้งคนดี คนชั่ว ทั้งคิดเป็น คิดไม่เป็น ทั้งทำให้คุณทักษิณตกต่ำ ทั้งทำให้คุณทักษิณ ดูดี ก็มีปะปนกัน ดังนั้น คนที่ไม่รักทักษิณ ก็เช่นกัน มีทุกสายพันธุ์ ปะปนกัน ถ้ายังมองไม่ออก ให้ย้อนกลับมา มองคนที่มาบ้านสวนพีระมิด คนที่มาหา อ.อุบล มีทั้งคนที่ 1.มาด้วยผลประโยชน์-ไม่มีศรัทธา ถ้าได้ก็ว่าดี ถ้าไม่สมหวังก็ด่า ก็หาทางทำลาย (อยากหายป่วย อยากรวย อยากฯลฯ) 2.มาด้วยศรัทธา+ผลประโยชน์ ถ้าได้ดี ก็ว่าดี ถ้าไม่ได้ดี ก็ไม่มาอีก หรือ ได้ดีแล้วก็ไม่มาอีก เพราะหมด สิ่งที่ต้องการ ได้แล้ว ไม่รู้จะมาอีกทำไม เพราะไม่มีใจผูกพัน 3.มาด้วยศรัทธา ไม่ต้องการผลประโยชน์ (แต่กลับได้รับเอง) จะมาทำบุญตามโอกาส ไม่ต่อเนื่อง ไม่สม่ำเสมอ ไม่ทุ่มเท จิตใจยังไม่มั่นคง ถ้ามีสิ่งที่มากระทบใจ ก็ไม่มาอีก แม้ว่าจะศรัทธาก็ตาม (พอสิ่งที่เคยได้รับก็เริ่มหายไป ก็เริ่มกลับมา) 4.มาด้วยใจเคารพบูชา ไม่ว่าจะได้รับอะไรหรือไม่ก็จะมา 5.มาเพื่อช่วย มาเพื่อให้ มาด้วยหัวใจ พร้อมร่วมเป็นร่วมตาย อุปสรรคใดไม่อาจขวางได้ เพราะตั้งใจแล้วว่า เงิน ลาภ ที่เขามาหลอก ไม่มีหลง ลองดูนะว่า คนที่เข้าไปรวมกลุ่ม เสื้อเหลือง-เสื้อแดง เหมือนกับ คนที่มาบ้านสวนพีระมิดไหม ลองมาช่วยกันคิด วิเคราะห์ ด้วยใจที่เป็นธรรม เลิก อคติ ลบข้อมูลเดิม ที่เคยฟังมาออกจากหัวกันซิ แล้วเชิญร่วมวงสนทนา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-20 11:16:06 |
ความคิดเห็นที่ 304 (1573210) | |
ก่อนอื่น ผมขอร่วมลงชื่อ เพื่อพิสูจน์ความจริงตามแนวทางของเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ผมมั่นใจว่าการให้โอกาส ดีกว่า การปิดประตูและสรุปผล เพราะว่าที่ผ่านมาประเทศไทยเรา เดินบนเส้นทางเช่นนี้ตลอดมา และอย่างที่เห็นแหละครับ บ้านเมืองปั่นป่วนเสมอมา สำหรับผมเองแล้ว เมื่อก่อนเสพข้อมูลข่าวสารมามาก ก็เลือกตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับมา เรียกว่าฝ่ายไหนที่เด่นกว่าที่อยู่ข้างพระเจ้าอยู่หัว ผมก็เชียร์ ฝ่ายไหนที่ถูกตราหน้าว่าไม่จงรักภักดี และมีข่าวออกมาเรื่อยๆ ผมก็มีปฏิกิริยาไม่ชอบด้วย แต่หลังจากมาที่บ้านสวนฯ ฟังท่านอาจารย์สอน ทำให้เปลี่ยนไปทันที ไม่ตัดสินใจเสื้อสีไหน ตามข้อมูลเดิมๆที่เคยรับรู้ หลังจากคิดใหม่ พิจารณาใหม่ ผมพบว่า แม้แต่สีที่ผมเคยชอบ ผมมองพฤติกรรมของผู้นำกลุ่มสีนั้นๆก็เห็นว่าไม่ได้ดีกว่าอีกฝ่ายเลย และผู้สนับสนุนก็เช่นกัน ต่างคนต่างทำผิดศีลด้วยกันทั้งนั้น อ้าว!! สรุปว่าพวกเราคนไทย กำลังฆ่ากันเองเหรอเนี่ย ตั้งแต่นั้นมาผมชักไม่แน่ใจทันทีว่าที่ทักษิณได้รับฉายาว่า ผู้คิดทำลายล้างสถาบันนั้น เป็นความจริงหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงแพะเท่านั้นเพราะเขาเป็นผู้มีบทบาทอย่างสูงในทุกๆด้าน และอาจเป็นผู้ขัดขวางเส้นทางมืดของผู้ไม่หวังดีต่อประเทศไทยอยู่ก็เป็นไปได้ ทุกๆฝ่ายต่างคนต่างทำผิดศีลด้วยกันทั้งหมด แล้วจะว่าใครดีหรือ ไม่ดีล่ะ แล้วสรุปว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดมาจากอะไรกันแน่ ที่สำคัญหากมีแค่เหลือง แดง ก็ยังพอเข้าใจ แต่นี่กลายเป็นว่า มีอีกหลายก๊กเลยทีเดียวในสังคม การแบ่งแยก แบ่งพวก แบ่งสี ที่มากกว่าเหลือง แดง ทำให้ผมมั่นใจเหลือเกินว่า มีผู้ชักนำอยู่เบื้องหลัง โดยมีจำเลยทางสังคมที่ถูกพิพากษาไปแล้วเต็มๆ คือ คุณทักษิณ เมื่อมองย้อนกลับมาก็เลยคิดเสียดายว่า หากคุณทักษิณมีโอกาสกลับมาพิสูจน์ แต่ทีแรก ปมต่างๆก็คงคลายตัว คนไทยก็คงได้รู้ความจริงว่าอะไรอยุ่เบื้องหลัง แม้แต่กรณีภาคใต้ที่คนกล่าวหาว่าคุณทักษิณเป็นชนวน แต่ว่าถึงบัดนี้คุณทักษิณไม่ได้อยู่ในเมืองไทยเลย ปัญหาภาคใต้นี้ก็ยังไม่เคยสงบเลย กลับทวีความรุนแรงเป็นระยะ สรุปว่า คุณทักษิณ คือคนที่ควรได้รับโอกาสทางสังคมเป็นอย่างยิ่งที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง และขณะเดียวกัน เราเองก็จะได้มีโอกาสสำรวจทุกๆฝ่าย ที่เคยประกาศตัวว่า รักในหลวง ห่วงชาติบ้านเมืองว่า เป็นจริงไหน ผมมั่นใจว่า สิ่งที่เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณทรงให้ทำนั้น เป็นสิ่งที่จะเผยตัวตนของเงามืดที่อยู่ภายใต้ความปั่นป่วนของสังคมไทยได้อย่างแน่นอน ขอเพียงคนไทยทุกคนจงอย่าใช้อารมณ์ เวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนต้องเปิดใจเพื่อหาความจริง ไม่งั้นชาติ บ้านเมืองเราเสียหายหนักกว่าเดิมแน่นอน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-20 12:27:10 |
ความคิดเห็นที่ 305 (1573211) | |
ผมเห็นด้วยกับท่านอาจารย์ครับ ในกลุ่มเสื้อสีไหนก็ตามแต่ เขามีจุดยืนของเขาอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้คนที่ไม่คิดเช่นเดียวกับพวกเขาปะปนกันอยู่ มีทั้งดี ทั้งชั่ว และกลายเป็นว่า สี ของเสื้อนั้นกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มไม่หวังดีที่แอบผู้เบื้องหลัง คอยยุยง ความปัญหา สร้างข่าว ปล่อยข่าว หวังให้คนอื่นๆเข้าใจผิด เหมือนกับเหตุการณ์หลายๆอย่างที่เกิดในบ้านสวนฯ ที่มีหลายๆคนที่ออกไปแล้ว สร้างปัญหาในลักษณะเดียวกันเลย ตอนนี้ปัญหาต่างๆในสังคมไทยเลยกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก เพราะมีผู้อยู่เบื้องหลังหลายกลุ่ม หลายจุดประสงค์ ทำให้ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง หลายๆคน กลายพันธุ์ ได้รับข้อมูลผิดๆ ความเชื่อผิดๆ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา แต่ขณะเดียวกันก็มีมากมายเลยทีเดียวที่ทั้งแดง ทั้งเหลือง รักชาติ บ้านเมือง ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข ผมอยากให้มีการพิสูจน์ออกมาครับ เพื่อให้คนไทยเรารู้ตัวทันว่า เปิดเผยตัวจริงที่คอยให้ข้อมูล ยุยง และสร้างความแตกแยกทางความคิดให้กับคนไทยเราอยู่ เรามาช่วยกันอย่างเต็มที่ และจริงจังกันนะครับ อย่ามัวแต่หลับ และพยายามบอกแต่ว่า รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ร่วมมือกันทำอย่างจริงจังกันนะครับ ประเทศไทยเราจะได้สงบสุข ก้าวสู่ยุคศิวิไลซ์เร็วๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-20 12:37:04 |
ความคิดเห็นที่ 306 (1573225) | |
ลูก กมลลักษณ์ โปษณกุล เป็นอีกคนที่อยากจะรู้ค่ะ ว่าสิ่งที่คุณทักษิณทำความดี ถวายในหลวง แล้วทำไมถึงมีคนใส่ร้ายป้ายสีคุณทักษิณ จะล้มล้างสถาบัญพระมหากษัตริย์ กราบพระบาทเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ อ็อด...สงสัยมานานแล้ว...เจ้าค่ะ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-20 14:10:11 |
ความคิดเห็นที่ 307 (1573448) | |
ถ้าคุณทักษิณ ไม่ใช่ผู้ร้ายตัวจริง และมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวต่อสถาบันกษัตริย์แท้จริง ย่อมถูกเพ่งเล็ง เป็นเป้าที่สำคัญ สำหรับ พวกที่ต้องการล้มล้างสถาบันแน่นอน
และพวกผู้ร้ายตัวจริงจะต้องคิด วางแผน กำจัด ผู้จงรักภักดี ออกไปให้พ้นทาง โดยวิธี ป้ายสีความผิดข้อหาหนัก ๆ ที่มีความรู้สึกทางจิตใจของคนไทยมาก ๆ
เพราะทราบดีว่า ศูนย์รวมจิตใจของคนไทย คือ พระเจ้าอยู่หัว คนไทยรัก เทิดทูนมาก เหมือนที่พวกเรารักอ.อุบล แล้วมีคนมาบอกว่า ลูกศิษย์คนนี้ทรยศอาจารย์ ลูกศิษย์คนที่ถูกกล่าวหา ก็จะโดนพลังโจมตี จากคนที่รักอ.อุบลมากไปโดยปริยาย (เปรียบเหมือนเสื้อเหลือง รักในหลวง จึงเกลียดทักษิณ) หารู้ไม่ว่า เขาได้เอาความรักของเรา เป็นเครื่องหลอกใช้เราแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้นผู้ร้ายกลุ่มเดิม ยังได้แฝงตัวไปเป็นเป่าหูอีกฝ่าย เป่าหูพวกที่รักทักษิณ ให้รู้สึกโกรธแค้นที่ถูกใส่ความ ไม่ให้ความยุติธรรม และกล่าวหาไปถึงเบื้องบนว่าไม่มีความยุติธรรมด้วย (นี่ก็อาศัยความรัก ความศรัทธาของคน เป็นเครื่องมือเช่นกัน) ไม่เพียงเท่านั้น พยายามอาศัยความโกรธแค้นของคนกลุ่มนี้ ด้วยการใส่สีตีไข่ สร้างเรื่อง ว่าพระราชวงศ์ไม่ดีต่าง ๆ นานา ให้คนที่เคยเทิดทูนกษัตริย์ เกิดสับสน ลังเล และพอฟังข้อมูลมาก ๆ ก็เปลี่ยนใจเชื่อสิ่งไม่ดีเหล่านั้นจริง ๆ
นี่พวกคนล้มล้างสถาบันตัวจริง กำลังยืมมือพวกเราให้แตกกัน เกลียดกันเอง ยืมมือพวกเรา กลุ่มคนที่รักเทิดทูนกษัตริย์ ให้เป็นเกมส์ของเขา ให้เราฆ่ากันเอง ทำลายกันเอง ไม่รักสถาบัน ประเทศจึงไม่เข้มแข็ง เมื่อนั้น ก็เข้าแผนการณ์คนพวกนั้น
ซึ่งเชื่อว่า กลุ่มคนพวกนี้ มีมานานก่อนยุคเสื้อเหลืองแดง แล้ว ย้อนไป ดูคดีสวรรคต ร.๘ ก็เห็นได้ว่ากลุ่มที่ลอบปลงพระชมน์ท่าน แต่พยายามปล่อยข่าวลือ ว่าเป็นในหลวง ทำ นี่ก็วิธีเดียวกัน โยนความผิด ให้คนอื่น อยากทำลายล้างท่าน อยากได้อำนาจ อยากได้ประเทศไทยเป็นของตัวเอง อยากกุมอำนาจ อยากให้เป็นคอมมิวนิส ซึ่งถ้ามองในอดีต ประเทศรอบ ๆ เราก็เป็นเมืองขึ้นตลอด แต่ที่ยังเอาไม่ได้สักที ก็เมืองไทยนี่แหละ เพราะกษัตริยมีบุญบารมีมากมาทุก ๆ พระองค์ ประชาชนก็รักท่านเหลือเกิน วิธีตรงเอาชนะไม่ได้ ก็ต้องใช้แผน ใช้กิเลสมาล่อ เอาผลประโยชน์มาให้พวกวงใน ที่ใกล้ชิด แต่เป็นพวกคนกิเลสหนา มากกว่ารักชาติบ้านเมือง ก็เป็นเครื่องมือกันไป แล้วก็เข้าตามแผนทุกอย่าง ที่ผ่านมาประเทศเราเละเทะสมใจเขาจริง ๆ
แต่ในเมื่อความชั่วไม่มีทางชนะความดี จึงมีวันนี้เกิดขึ้น ฟ้าต้องส่งผู้ที่มาให้ความกระจ่างแก่ผู้คนที่น่าสงสารทั้งหลาย ที่ถูกใช้ความรัก ความศรัทธามาต่อลอง เป็นเครื่องมือให้เขา โดยประทานอาวุธผ่านทางอ.อุบล ให้ต่อสู้กับพวกมาร ด้วยการใช้ปัญญา มองเห็นปัญหา ไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร กราบขอบพระคุณ อนุโมทนา สาธุ คะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-20 21:08:18 |
ความคิดเห็นที่ 308 (1573485) | |
นอกจากนี้ สิ่งที่คุณทักษิณได้ทำผลงานเพื่อชาติ บ้านเมืองมาในอดีต ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลง สังคมไทยหลาย ๆ อย่าง ปัญหาที่เกิดอยู่ หลาย ๆ อย่างได้รับความคลี่คลายไปในทางที่ดี ยกตัวอย่างเรื่อง ยาเสพติด เป็นปัญหาเรื้อรังที่เห็น ๆ กันอยู่แต่แก้ไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลทักษิณ เอาจริง และปราบได้จริง ๆ คนดี ๆ ในสังคม ชื่นชอบ เป็นประโยชน์ต่อชาติแน่นอน แต่ผู้ที่เสียผลประโยชน์ เคยรุ่งเรือง มีเงิน มีอำนาจ แค้นแน่นอน เพราะขัดผลประโยชน์ของพวกค้ายา ซึ่งมีมูลค่าสูงมหาศาล จึงเกิดผู้ไม่หวังดีอีกกลุ่มนึงร่วม จัดการทักษิณด้วย
ดูไปก็มีส่วนคล้ายกับ ผู้คนที่เสียผลประโยชน์จากคำสอนของอ.อุบล อาจารย์ ทำลายล้างอบายมุข และสิ่งไม่ดีทุกอย่าง พวกขายหวย ขายเหล้า บุหรี่ เนื้อสัตว์ เสียผลประโยชน์ร้อยเปอร์เซนต์ เมื่อผู้เสียผลประโยชน์ มาเจอพวกอยากได้อำนาจ คาดแค้นอ.อุบล จึงรวมตัวกันเป็น พวก ร.พ.ช. (รวมพวกชั่ว) ไงคะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-20 21:27:46 |
ความคิดเห็นที่ 309 (1573521) | |
ขอลงนามสนับสนุน .. และขอแสดงเจตน์จำนง ร่วมเป็นโจทก์ฟ้องคนที่หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ คิดว่าเป็นทางออกที่ดีและยุติธรรม (เห็นด้วยกับคุณสุริวรรณ์) ขอกราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณที่ทรงเมตตาคนไทย ให้หูตาสว่าง และจะได้หันกลับมารวมใจเป็นหนึ่งเดียว ที่จะธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์สืบไป | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-09-20 21:45:24 |
ความคิดเห็นที่ 310 (1573523) | |
และการก่อม็อปเสื้อเหลือง เสื้อแดง ก็มีคนหลายประเภท เหมือนที่อ.อุบล บอกไว้เลยจริง ๆ ทั้งคนที่มีอุดมการณ์จริง กล้าออกหน้า ร่วมเป็นร่วมตาย บางคนก็เป็นแนวร่วมด้วยใจจริง บางคนตอนแรกเป็นแนวร่วมด้วยใจ พอให้เงินก็ชอบ แต่อุดมการณ์คงต้องลดลงแล้ว (เพราะเห็นเป็นเรื่องผลประโยชน์) บางคนรู้ว่าเค้าแจกเงิน ก็ตั้งใจไปกินไปนอน เพื่อเอาเงิน เอาข้าว เขาให้ตบมือก็ตบไป ให้เฮก็เฮ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยก็มี พอเงินหมด อาหารที่แจกหมด ก็กลับบ้าน ไม่มาแล้ว มันมีอย่างนี้จริง ๆ ทั้งเหลือง ทั้งแดง ต้องยอมรับ ตามสติปัญญา ของแต่ละคน คนรวย ไปถึงคนจน คนมีการศึกษา จนถึง คนเร่รอน มีหมด
แต่ทั้งหมด คือคนไทย ที่น่าสงสาร ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของคนชั่ว พระเจ้าอยู่หัว ท่านคงเป็นห่วงทุกคนมาก และคงทั้งสงสาร และเสียใจมากจริง ๆ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-20 21:51:55 |
ความคิดเห็นที่ 311 (1573531) | |
เดี๋ยวเราไปคุยกันต่อ ที่กระทู้
ทำไมคุณทักษิณ จึงถูกกล่าวหาว่าหมิ่นสถาบันกษัตริย์
ซึ่ง วัตถุประสงค์ เพื่อหาข้อยุติ ของปัญหา ความขัดแย้งในสังคม ไทย เพื่อให้ชาวไทย กลับสู่ความปรองดอง
เวลานี้ ไม่มีเวลาเอาแพ้เอาชนะ แต่ เป็นเวลาแยกคนชั่ว ออกจากคนดี ที่แท้จริง
พอกันที คนชั่ว ที่แฝงตัว ในหมู่ คนดี
ใช้ความชั่ว ทำลายความดี
เราจะตามหา ความจริง เพราะ ความจริง เป็นสิ่งไม่ตาย
เราจะไม่เชื่อคำ บอกเล่าของใคร นอกจาก เราจะได้พิสูจน์เอง เท่านั้น | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-20 22:11:30 |
ความคิดเห็นที่ 312 (1575191) | |
นับจากวันนี้ไป (วันนี้ 28 ก.ย.54) อีก 9 วัน
เสด็จพ่อ ท่านท้าวเวสสุวรรณ
จะเสด็จมา ประทับ ณ บ้านสวนพีระมิด
(ปกติท่านก็อยู่ทุกขณะ อยู่แล้วแต่หลายคนก็ ไม่เห็นองค์ท่าน แต่ คราวนี้ทุกคนที่มา จะได้เห็นท่าน)
คือ วันศุกร์ ที่ 7 ต.ค.54 เสด็จพ่อ ท้าวเวสสุวรรณ จะเสด็จมา
เราจะรับเสด็จ พระองค์ ท่าน
ส่วนวันเสาร์ ที่ 15 ต.ค.54 ค่าย 10
จะมีพิธีบวงสรวง
เห็นไหม ค่าย 10 ธรรมดาที่ไหน อุส่าห์อุบไว้ตั้งนาน
แต่ วันนี้เสด็จพ่อฯ บอกว่า ท่านต้องรีบ มาช่วยลูกหลาน ของท่าน ที่ ป่วย...ทุกข์ จน...เสี่ยงภัย...ฯลฯ ให้ทัน
ก่อน วันเข้าค่าย 10 นี้ให้ได้
ท่านรอ อ.อุบล ไปอัญเชิญท่านมา หลายวันแล้ว แต่ ฝนตกบ้าง ติดงานอื่นบ้าง
วันนี้ โอกาสดี ปลอดโปร่ง เลยได้ ไปชมบารมีท่าน ซึ่งปั้นเสร็จ 99 % แล้ว
เหลือแค่ ตกแต่งสีสันสวยงาม เท่านั้นเอง
ท่านประสงค์ จะเสด็จมาอารักขา พระพุทธเจ้า และ
ปัดเป่า ทุกข์โศกโรคภัย ให้พวกเรา
คราวนี้หละ จะได้ยลพระพักตร์ กันทุกคนแบบ ชัด ชัด ทันทีที่ก้าวเข้ามา ณ บ้านสวนพีระมิด
วันนี้ อ.อุบล ให้ช่าง มาดูสถานที่สร้างพระ ชำระหนี้แผ่นดิน
และ สถานที่ประทับ เสด็จพ่อ ท้าวเวสสุวรรณ และ งานอื่นๆ ที่ต้องสร้าง
หลังจากไปดูสถานที่ ต่างๆ เสร็จ ก็มานั่ง คุยกัน
บังเอิญมีคนมา ใช้แรงกาย 3 คน มาเล่าเรื่องว่าทำไมจึง มาที่นี่
คนผู้หญิง เล่าว่า ดู รายการฯ มา 5 เดือน เคยตกงาน สมัครงาน มามากมาย ก็ไม่ได้
หลังจากเรียก อ.อุบล ช่วยด้วย สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน ช่วยด้วย ก็ได้งาน ปาฎิหาร ทั้งที่ไม่น่าได้
ส่วนการดูรายการ เธอดูผ่านเวปไซด์ โดยไป เช้าเวลาร้านอินเตอร์เนท
แล้วไม่กล้าเล่า ให้สามีฟัง
จนเมื่อไม่กี่วันนี้ สามีเธอ ฝันว่า มีผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งชุดสีดำ เรียเขา มารับพระธาตุ สิวลี พระแม่กวนอิมฯลฯ แล้วให้มาเซ็นชื่อรับ
หัวกระดาษ เขียนว่า
อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด ผู้หญิงคนนั้น ตัดผมม้า สั้นแค่บ่า ใบหน้า.... ฯลฯ พอตื่นนอนก็รีบเล่า ให้ภรรยาฟัง
ภรรยาตื่นเต้น ดีใจ โอ้ย ไม่ต้องเล่าเอง ก็เลยบอกสามีว่า
ไปพิสูจน์ที่ร้านเน๊ท กันดีกว่า ว่าคนที่ฝัน กับคนที่จะพาไปดู ใช่คนเดียวกันไหม
ว่าแล้ว ก็ไปกัน 3 คน มีแม่สามีไปด้วย
พอเปิดรายการให้ดู สามีบอกว่า หน้านี้แหละ ที่เจอในฝัน เหมือนกันเลย แต่ใส่ชุดดำ ใช่ ใช่ ใช่
ดูไปแล้วก็อนุโมทนา อ้าว ปรากฎว่า แขนที่ปวดมานาน มันหายเฉยเลย
แม่ที่ไปด้วย ก็อนุโมทนา ก็หายปวด แขนเหมือนกัน ทั้งที่ปวดมานาน ยกแขนไม่ขึ้น
จึงชวนกันมา 3 คน ขุดหลุมสร้างอาคาร อเนกประสงค์หน้าวิหาร เสร็จเรียบร้อยแล้ว สาธุ เสด็จพ่อฯ เลือกมา แล้วก็ส่งมา จริงๆ เขาบอกว่า หลวงพ่อฤาษี กับ หลวงพ่อปานไปตาม ให้มา บอกว่าต่อไปนี้ จะรวย จะหายป่วย
ขณะนั่งคุยกันอยู่ ภรรยาก็บอกว่า
เอ๊ะ ทำไมหนูมึนหัว อ.อุบล ถือร่ามคู่กายอยู่พอดี เลยเอาร่ามเคาะหัว ไป 1 ที ปรากฎ เธอบอก ว่า หาย ทันทีเลยค่ะ
เอาละซี ... งานเข้า
ช่างปั้นพระ คนผู้หญิงที่มีไฝเม็ดใหญ่ ตรงเหนือปาก บอกว่า
ฉันก็ป่วย ฉันก็อยากหาย เคาะให้ฉันมั่ง
ทุกคน ต่างกระจองอแง เคาะให้ผมมั่ง ฉันมั่ง หนูมั่ง
เอา เอา เอาไป คนละโป๊ก (อยู่ดีไม่ว่าดี ชอบถูกตีหัว)
ไอ้เราก็เคาะไป มั่วๆ คนละโป๊ก สองโป๊ก
ปรากฎหายทุกคน
โดยเฉพาะคนปั้นพระ แกบอกว่า แกตึงไหล่ หันคอไม่ได้ หลังแข็ง หมดเลย
อ้าว ทำไมหันได้เลยเนี่ย
เออ ปั้นให้ดี ๆ แล้วอย่างก จะได้เจออะไรดีๆ กว่านี้อีก
ไอ้ที่บอกว่า เคาะมั่วๆ นะ
เสด็จพ่อบอกว่า เอ็งน่ะมั่ว
แต่ ข้าไม่ได้มั่ว
ผู้ชายที่ฝันเห็น อ.อุบล แกบอก แกเป็นคน ฝันแม่น
แล้วเมื่อวาน ก่อนมา แกก็ฝันอีกว่า แกได้มาบ้านสวนฯ
แล้วก็เห็นบรรยากาศ อย่างนี้เลย แต่ ที่แปลก ก็คือ แกเห็นคนนุ่งผ้าแดง ถือหอก เดินกันเต็มไปหมด จนไม่มีพื้นที่ว่างเลย
คราวนี้ ก็มาถึงการเสด็จมา ของ เสด็จพ่อ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านประสงค์ จะมาสงเคราะห์ ลูกหลาน ที่มาเข้า ค่าย 10 แล้วมีความเคารพ นับถือพระองค์ ให้พ้นทุกข์
ต้องการให้ คนที่ร่วมการแสดง จัดเครื่องบวงสรวง พระองค์พบ ความสุข สวัสดี มีชัย ร่างกายแข็งแรง หายเจ็บ หายไข้ หายจน พ้นภัย ไปนิพพานได้ กันทุกคน สาธุ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-28 18:34:09 |
ความคิดเห็นที่ 313 (1575204) | |
คราวนี้ ก็มาถึงการเสด็จมา ของ เสด็จพ่อ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านประสงค์ จะมาสงเคราะห์ ลูกหลาน ที่มาเข้า ค่าย 10 แล้วมีความเคารพ นับถือพระองค์ ให้พ้นทุกข์ -*-*-*-*-*-*- กราบพระบาท ท่านท้าวเวสสุวรรณ ในความเมตตา ขอกราบขอบพระคุณ อ.อุบล บ้านสวนฯ ที่ได้มอบโอกาส ที่...หาไม่ได้..อีกแว้ว.ว.ว. ขอบพระคุณค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 19:15:30 |
ความคิดเห็นที่ 314 (1575219) | |
สาธุ สาธุ สาธุ กราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณ และอ.อุบล มาก ๆ คะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 20:07:42 |
ความคิดเห็นที่ 315 (1575226) | |
ลูกขอกราบแทบพระบาท เสด็จพ่อท้าวเวชสุวรรณ ที่พระองค์ทรงเมตตา พวกเราลูกบ้านสวนฯมาตลอด ครั้งนี้คงเป็นอภิมหาโชค ของลูกบ้านสวนฯ ที่ท่านจะเสด็จมาประทับ ณ บ้านสวนพีระมิด ให้ลูกหลานได้สักการะ ท่านฯ กราบ กราบ กราบ ขออนุโมทนาบุญ และธรรมทาน จากท่าน อ.อุบล ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 20:40:35 |
ความคิดเห็นที่ 316 (1575228) | |
สาธุ สาธุ สาธุ นอบน้อมจิตกราบพระบาท เสด็จตาท้าวเวสสุวรรณ และ อาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ผู้ซึ่งมีความเมตตาอย่างหาประมาณมิได้ เจ้าค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (นางสาวลักขณา ศรประสิทธิ์) (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 20:43:30 |
ความคิดเห็นที่ 317 (1575231) | |
ลูกขอกราบแทบพระบาท เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ และ ท่าน อ. อุบล ที่เมตตาลูกหลานอย่างที่สุด สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 20:57:11 |
ความคิดเห็นที่ 318 (1575235) | |
เสด็จพ่อ ท่านท้าวเวสสุวรรณ
จะเสด็จมา ประทับ ณ บ้านสวนพีระมิด *-*-*-*-* กราบพระบาท ท่านท้าวเวสสุวรรณ ลูกปิติยินดีเหลือเกิน และ ขออนุโมทนา กับ ท่านอาจรย์อุบล ที่ทำให้ลูกบ้านสวน มีโอกาสได้เช่นนี้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 21:04:06 |
ความคิดเห็นที่ 319 (1575242) | |
ต้องการให้ คนที่ร่วมการแสดง จัดเครื่องบวงสรวง ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-28 18:34:09 เครื่องบวงสรวงที่ว่านี้ พวกเราคงสงสัย ว่ามีอะไรมั่ง
จึงกราบทูลถาม เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ว่าลูกหลานจะแสดง ความเคารพรัก เสด็จพ่อ ขอคำแนะนำเจ้าค่ะ
เออ พวกเอ็งก็รู้กันแล้วนี่ว่า ข้าไม่ต้องกินอะไร ยิ่งเหล้า กับ ไก่ เอาไปไกลๆข้าเลย
เอ็งตอบซิ ข้าเป็นอะไร
เป็นพรหมเจ้าค่ะ และ เป็นหัวหน้าท้าวมหาราชทั้งสี่ ผู้เป็นใหญ่ในปฐพี ใน 3 โลก เป็นนายแห่งผี นายบัญชีพระกาฬใหญ่ เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเจ้าค่ะ
แล้วเอ็งบอกข้า ซิว่า ข้ากินอะไรเป็นอาหาร
เสด็จพ่อฯ ทรงอิ่มเอม ด้วยอาหารทิพย์ คือบุญบารมีที่เสด็จพ่อ สร้างสมมาเจ้าค่ะ
แล้วเอ็งควรจะเอาอะไร บวงสรวงข้า บอกมาซิ
เอาบุญที่มีอานิสงส์สูงสุดเจ้าค่ะ
เออ นั่นแหละ บุญแบบไหน ที่พวกเอ็งจะส่งให้ข้าได้ บอกมา
บุญที่บริสุทธิ์เจ้าค่ะ เช่น บุญแรงกาย บุญการทำจิตให้สงบ บุญการทำสมาธิ บุญกรรมฐาน เจ้าค่ะ
เออ เอ็งก็รู้นี่หว่า
ลูกอยากกราบทูล ถามว่า ถ้าลูกหลานจะร่วมบุญ ด้วยอาหารการกิน ปัจจัย สิ่งของ จะได้ไหมเจ้าคะ
ได้ แต่ไม่ต้องเอามาบวงสรวงข้า บอกแล้วว่า ข้าไม่ต้องกิน ไม่ต้องใช้ของพวกนี้
แล้วจะให้ถวาย เสด็จพ่ออย่างไรเจ้าคะ
ก็พวกเอ็งก็ เอามากิน มาเลี้ยงกันเองไง พวกเอ็งก็จะได้อานิสงส์ ของสังฆทาน เป็นบุญใหญ่ แล้วค่อยถวายให้ข้า
ส่วนเงิน ก็เอามาทำบุญทุกบุญ ที่เอ็งทำอยู่นี่แหละ ข้ารับได้ทุกวี่ทุกวัน
อย่างนี้แหละ ถึงจะเรียกว่าเป็นการ บวงสรวง ปฎิบัติบูชาข้าที่แท้จริง
แล้วต้องนิมนต์พระ มาฉันเพลหรือไม่เจ้าคะ
มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ก็ผู้คนที่มา ก็เป็นพระโสดาบัน กันมากมาย เอ็งเคยขอ ข้าก็ให้แล้วนี่นา
บุคคลเหล่านี้ ที่เป็นพระโสดาบัน ถือว่า เป็นพระอริยเจ้าขั้นที่ 1 แล้วยังมี พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ มีคนที่เป็นพระอริย ทุกชั้นที่มา
นี่แหละคือ พระ ที่แท้จริง ไม่ว่าจะ เป็นชาย เป็นหญิง เด็กเล็ก โสเภณี ก็เป็นพระอริยะได้ เอ็งลืมไปแล้วหรือ
ไม่ลืมเจ้าค่ะ แต่ลูกอยากถามเพื่อความแน่ใจ และให้คนอื่นได้รับทราบ เจ้าค่ะ
เออ ดีแล้วลูก
แล้วลูกหลาน จะมีการแสดงถวาย อันนี้เสด็จพ่อจะว่ากระไรเจ้าคะ
เออ ดี ฝึกความกล้าแสดงออก ในสิ่งที่ดี ฝึกเป็นผู้นำ ฝึกทำเรื่องดี ดี ดีกว่าไปทำเรื่องบัดสี ไปนินทา ไปด่าคนโน้นคนนี้ ทำความดี ทำเข้าไป ข้าจะให้รางวัล
คราวที่แล้ว มันรำกัน สวยดี ขนาดมันบอก งานนี้ งานแรก เล่นเอา เหล่าเทพเทวา นางฟ้า เทพบุตร สุดทนดู อยากได้บุญมั่ง เลยร่วมด้วยช่วยแสดง
แล้วพิธีการ เสด็จพ่อจะให้ทำ แบบไหน จึงจะถูกจารีต ประเภณีเจ้าคะ
ไอ้จารีตประเภณีนี่นะ ข้าละทุเรดทุรัง นั่งสวด นั่งฟัง จนหลับหมด แล้วบุญ มันก็เลย อด เพราะ กำลังใจ มั่นอ่อนล้า
เอาที่จิตซีลูก พิธีที่ถูก คือทำทุกอย่าง ด้วยจิตศรัทธา ทำอย่างง่ายๆ จำไม่ได้หรือลูก
จำได้เจ้าค่ะ แต่เกรงว่าจะผิดเจ้าค่ะ
ถ้าตั้งใจทำดี จะมีเทวดามาช่วย ไม่ต้องกลัวผิดลูก ถ้าทำดี ต้องเป็นสิ่งที่ถูก ต้องเป็นบุญ ที่มาก
ไหนบอกพ่อสิว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำบอก ยังไงเรื่องพิธีการ ที่ได้บุญจริง
หลวงพ่อบอกว่า ให้ใจให้สบาย ไม่มีกังวล ทำทุกอย่าง เรียบง่าย ทำด้วยกำลังใจที่เต็มเจ้าค่ะ ส่วนฤกษ์ นั้น ให้เป็นฤกษ์สะดวก เจ้าค่ะ ไม่ให้มีความกังวล ให้มีแต่ความผ่องใส ร่าเริงเจ้าค่ะ
เออ คราวนี้ เอ็งรู้หรือยังว่า ทำไมพวกออกไปเต้นม้าย่อง จึงหายป่วย กันได้
ทราบเจ้าค่ะ เพราะช่วงนั้นประตูจิต ทุกคนเปิด มีแต่ความปิติร่าเริง จิตเข้าสู่ฌานเจ้าค่ะ
เออ เอ็งก็รู้นี่หว่า
ก็หลวงพ่อบอกเจ้าค่ะ
บอกยังไงเรื่องจิตเข้าสู่ฌาน
บอกว่า
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-28 21:36:13 |
ความคิดเห็นที่ 320 (1575257) | |
ต่อค่ะ เรื่องจิตเข้าสู่ฌาน
ที่จริงหลวงพ่อท่านเรียก จิตทรงฌานเจ้าค่ะ แต่ลูกมักง่าย พูดแบบคน ไม่ใช่พระเจ้าค่ะ
เออ พูดแล้วให้คนฟัง รู้เรื่องเข้าใจ พูดไปเถอลูก เอ้าว่าต่อ พ่อจะฟัง เรื่องฌาน
ลูกอายนะเจ้าค่ะ เสด็จพ่อ ทรงทราบแล้ว จะให้ลูกบอกทำไมเจ้าคะ
เออน่า ว่าไป อย่าดื้อกับพ่อ
ไม่ดื้อ แต่ อายภูมิธรรม ต่ำ ๆ บ้าน ๆ เจ้าค่ะ
เออ ว่าไป ฌาน เป็นยังไง แล้วฌาน 1 2 3 4 ที่เอ็งบอกให้เขาออกกัน ตอนตาย มันเป็นยังไง ลองบอกแบบ ง่ายๆ ของเอ็ง ดูซิ เผื่อมีใครที่มาอ่าน กำลังจะตาย ตอนนี้ หรือ จำไว้เผื่อตาย จะได้ออก ฌาน ตาย จะได้ไม่ไปอบาย ไงล่ะลูก
ถ้าเช่นนั้น ลูกจะบอกเล่าตามที่ลูกเข้าใจ หากไม่ถูกต้อง หรือ ผิดเพี้ยนไป ขอความเมตตาเสด็จพ่อ บอกลูกด้วยเจ้าค่ะ
เออ ว่าไป ลูก
ฌาน แปลว่า เพ่ง เจ้าค่ะ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สอนลูกว่า
เพ่ง ในที่นี้ ไม่ได้ใช้ตาเพ่งเจ้าค่ะ
แล้วใช้อะไรเพ่ง
ใช้ ใจเพ่ง เจ้าค่ะ
อาการเพ่งเป็นยังไงลูก
เพ่ง ก็คือ นึกไว้เจ้าค่ะ
นึกอะไรลูก
นึกอะไรก็ได้ที่เป็นสิ่งดี หรือ นึกถึงงานที่เราทำ นึกไว้ ให้ใจเป็นปกติ เช่น ขุดดิน ใจก็อยู่ที่ดิน ไม่ไปคิดอย่างอื่นเจ้าค่ะ
แล้วคิดอย่างอื่นคิดยังไงลูก
ก็อย่างขุดดินอยู่ แต่ใจไปคิดถึง หนี้สิน กังวลเรื่องลูกเต้า เป็นต้นเจ้าค่ะ หลวงพ่อบอกว่า ทำให้จิต ไม่มีสมาธิเจ้าค่ะ การงานที่ทำก็จะออกมาไม่ดี อาจผิดพลาด เพราะใจเหม่อลอย
อ้าว ฌาน ไปเกี่ยวอะไรกับสมาธิล่ะ
เกี่ยวกันเจ้าค่ะ เพราะสมาธิ เป็น พื้นฐาน ของฌานเจ้าค่ะ
สมาธิ ก็แปลว่า ตั้งใจ ฌาน ก็แปลว่า เพ่ง หรือ นึกไว้ ฌาน ต้องอาศัย สมาธิเจ้าค่ะ
อ้าว ทีนี้ สมาธิ จะอาศัยอะไรล่ะลูก
สมาธิต้องอาศัย ศีล เป็นปัจจัยเจ้าค่ะ
หมายความว่ายังไงลูก
หมายความว่า คนที่จะทำสมาธิได้ ศีล ต้องบริสุทธิ์เจ้าค่ะ
อ้าว ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์ ทำสมาธิไม่ได้รึไง
ทำได้เจ้าค่ะ แต่ได้แค่ทำเจ้าค่ะ จิตจริงๆ เข้าไม่ถึงสมาธิเจ้าค่ะ
ทำไม
การผิดศีล เป็น ปัจจัย ให้เกิดนิวรณ์ ขณะทำสมาธิเจ้าค่ะ
แล้วนิวรณ์มันคืออะไรลูก
ลูกชักอายแล้วนะเจ้าค่ะ ให้ลูกมาสอนเสด็จพ่อซึ่งยิ่งกว่า สังฆราช เจ้าค่ะ
ก็ไหนเจ้าบอกว่า ถ้าผิดจะให้พ่อช่วยยังไงล่ะ
เจ้าค่ะ
เอ้าต่อเรื่องนิวรณ์ เห็นพูดกันจัง ไม่รู้ว่าเข้าใจยังไง ว่าไปลูก เรื่องนิวรณ์
นิวรณ์ ถ้าให้ลูกพูดแบบ ที่ตัวเองเข้าใจง่ายๆ ก็คือ อารมณ์ใจ ที่เราไม่ต้องการ เจ้าค่ะ
ทำไมไม่ต้องการล่ะลูก
เพราะ นิวรณ์ คือ อุปสรรค ของความสำเร็จในธรรม และอุปสรรคตัวร้ายกาจที่สุด ที่ทำให้จิตไม่ได้แม้แต่ ฌาน 1 เจ้าค่ะ
ว่าไปลูก นิวรณ์คืออะไร ทำไมจึงร้ายแรงขนาดทำให้ไม่ได้ แม้แต่ฌาน 1 ล่ะลูก
ก็ฌาน 1 จะได้ก็ต่อเมื่อละ หรือ ตัดตัวนิวรณ์ทั้ง 5 นี้ได้ก่อนเจ้าค่ะ
ตัดอะไรลูก ตัด.......................
เอ มีใครสนใจไหมหนอ ถ้ารู้กันหมดแล้วก็จะขอไม่เล่าต่อ ขอสนทนากับเสด็จพ่อตามลำพัง แต่ถ้าอยากให้เล่าดังๆ ก็บอกมา นะจ๊ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-28 22:30:59 |
ความคิดเห็นที่ 321 (1575258) | |
กราบขอบพระคุณเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ เจ้าค่ะ
กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคลค่ะ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุริวรรณ์ ตีรวัฒนประภา (namo353-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 22:34:45 |
ความคิดเห็นที่ 322 (1575261) | |
กราบขอบพระคุณ ท่านท้าวเวสสุวรรณ และอ.อุบลมาก ๆ คะ ลูกขอฟังต่อด้วยคนคะ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 22:43:04 |
ความคิดเห็นที่ 323 (1575265) | |
เบลล์ขอฟังต่อนะครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 23:00:20 |
ความคิดเห็นที่ 324 (1575270) | |
กราบขอบพระคุณ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ และท่าน อ. อุบล ค่ะ หนูอยากให้เล่าเสียงดัง ๆ ค่ะ ขออนุญาตฟังต่อนะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 23:35:49 |
ความคิดเห็นที่ 325 (1575271) | |
ฟังแล้วได้อะไรกันมั่ง ได้ปัญญามั่งป่าว
ไม่เห็นบอกเล่าเลย ว่า อ่านแล้วได้อะไร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-28 23:39:16 |
ความคิดเห็นที่ 326 (1575274) | |
ได้เข้าใจเรื่องฌาณมากขึ้นครับ ว่าฌาณคือการที่เราใช้จิตระลึกเสมอถึงสิ่งที่ดีงาม ต้องมีศีลเป็นพื้นฐานของสมาธิ มีสมาธิก็มีฌาณได้
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 23:44:55 |
ความคิดเห็นที่ 327 (1575278) | |
เข้าใจในการทำบุญที่แท้จริง ต้องสุขใจ จึงเป็นที่สุดแห่งบุญ ดีใจ ภูมิใจ ที่มีโอกาสได้รับรู้ และปฏิบัติ รู้สึกดีที่ทุกคนที่สิทธิ์สร้างบุญได้ เท่าเทียมกัน เพราะมันสร้างได้ด้วยใจ ไม่ใช่เงิน และเป็นไปตามธรรมชาติ เรียบง่าย เป็นสุข แต่ต้องจริงจังกับความดี ตั้งตาต่อต้านความชั่วอย่างแท้จริง
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-28 23:56:24 |
ความคิดเห็นที่ 328 (1575284) | |
ตามที่หนูได้อ่านจากท่านอาจารย์อุบล คนโง่ๆอย่างหนูก็เข้าใจอะไรอยากซะเหลือเกิน
ฌาณ ก็คือการเพ่ง ในการเพ่ง เราจะต้องใช้ใจเพ่ง ถ้าใจไม่สงบไม่เป็นสมาธิ ก็ไม่เกิดฌาณ ใจไม่เป็นสมาธิ แสดงว่ายังมีนิวรณ์อยู่
แสดงว่าถ้าเรายังตัดนิวรณ์ไม่ได้ ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงฌาณ ค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี (woranea_912_meaw-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 00:53:37 |
ความคิดเห็นที่ 329 (1575287) | |
จากที่เคยได้ยินมาหลายๆครั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอย่างละเอียด ลึกซึ้้ง พึ่งจะมาเข้าใจจริงๆเรื่อง ฌาน ค่ะ ฌาน คือ การมีสมาธิ ไม่ว่าเราจะทำอะไร ใจเราก็จะจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ไม่คิดวอกแวกไปเรื่องอื่นค่ะ
กราบขอบพระคุณเสด็จท่านท้าวเวสสุวรรณและอาจารย์แม่ด้วยค่ะ การสอนของอาจารย์แม่ราบเรียบ แต่เข้าใจง่าย ทำให้ตาสว่าง ได้ความรู้ ที่สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > วันที่ตอบ 2011-09-29 01:38:18 |
ความคิดเห็นที่ 330 (1575301) | |
ตัดอะไรลูก ตัด.......................
ด้วยปัญญาอันน้อยนิด ลูกขอฟังต่อเจ้าค่ะ ลูกเพิ่งจะหัดเดิน ขอบคุณเบื้องบนทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลที่เมตตา
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา (aungpao-dot-benjy-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 03:55:18 |
ความคิดเห็นที่ 331 (1575316) | |
ขอกราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล ที่ให้ธรรมะ เรื่อง ฌาน สมาธิ ศีล ในภาษาและความหมายที่เข้าใจง่าย ก่อนหน้านี้ช่วงงานสมโภชน์ที่เต้นม้าย่องแล้วตัวเบา ใจเบา มีความสุข ยิ้มหน้าบาน อันนี้รู้สึกจริงๆว่าหน้ามันบานได้เอง ก็ยังพยายามนึกอยากหาเหตุผลชัดๆ ว่าทำไมเจ็บป่วยหาย ทำไมใจสบาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเข้ามาช่วยเราช่วง ตอนไหน เข้ามาด้วยจังหวะใด ในที่สุดก็ได้คำตอบ เพราะเรามีจิตที่ร่าเริง เบิกบาน (จริงๆนะ) ประตูจิตได้เปิดนี่เอง ยังบอกท่านอาจารย์ว่าในชีวิตนี้ ไม่เคยมีความรู้สึกว่าตัวเอง ได้ปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่ ไม่มีกั๊ก ไม่มีแอ๊บ เหมือนตอนเต้นม้าย่องเลย ดังนั้นอารมณ์ฌาน ในประสบการณ์ของอ้อย ก็คือ ช่วงที่ปลดปล่อยตัวเองออกจากทุกอารมณ์ แล้วมีจิตร่าเริง เบิกบาน คำว่าเบิกบาน นี่อธิบายไม่ถูก แต่เชื่อว่าพวกเราทุกคน ที่เต้นม้าย่องย่อมต้องรู้ได้
ตอนนี้เวลามีช่วงจิตตก จะพยายามหยุดคิด แล้วนึกถึง พระพุทธองค์ นึกถึงหน้า อ.อุบล นึกถึงบุญที่ทำที่บ้านสวนฯ ส่วนใหญ่จะเป็นบุญขุดบ่อน้ำพีระมิด และสร้างองค์พีระมิด เพราะเป็นบุญแรกๆที่ได้ทำ เมื่อมาที่บ้านสวนฯครั้งแรก เหนื่อย และเหงื่อออกเยอะ ไหลเหมือนน้ำประปา ออกจากตัว แล้วเราจะหลุดออกจากทุกข์ หรือ ปัญหาได้เร็ว อันนี้ไม่สงวนสิทธิ์ เอาไปใช้ได้นะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 08:57:31 |
ความคิดเห็นที่ 332 (1575322) | |
ขอฟังต่อค่ะ อาจารย์ ฟังแล้วได้ประโยชน์ มากมายมหาศาลค่ะ ได้ความรู้เรื่องการทำสมาธิ และรู้ว่าการรักษาศีลให้บริสุทธิ์นั้น เป็นพื้นฐานของการเข้าถึงธรรม ทุกอย่าง
อ่านไปก็ซาบซึ้งกับความรัก ของเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ที่มีกับท่าน อ.อุบล
พวกเราโชคดีมากค่ะ ที่มีท่านเมตตาคอยแนะ แนวทางสั่งสอนให้ลูกหลาน และท่านอยู่กับเราเสมอ ไม่เคยทอดทิ้งเราเลย นอกจากเราจะละทิ้ง คำสอนของท่านเอง
รอฟังต่อค่ะ อาจารย์
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 09:05:33 |
ความคิดเห็นที่ 333 (1575339) | |
คราวนี้ ก็มาถึงการเสด็จมา ของ เสด็จพ่อ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านประสงค์ จะมาสงเคราะห์ ลูกหลาน ที่มาเข้า ค่าย 10 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-29 10:03:05 |
ความคิดเห็นที่ 334 (1575340) | |
ก็ฌาน 1 จะได้ก็ต่อเมื่อละ หรือ ตัดตัวนิวรณ์ทั้ง 5 นี้ได้ก่อนเจ้าค่ะ ตัดอะไรลูก ตัด....................... """""""""""""""""" อยากฟังต่อมากๆครับ ที่รู้และอ่านมาก้อแค่งูๆปลาๆ ปฎิบัติไปแบบไม่มีแนวทาง กราบขอความรู้จากท่าน อ.อุบล ด้วยครับ...สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 10:08:04 |
ความคิดเห็นที่ 335 (1575358) | |
ฌาน มาจาก สมาธิ มาจาก ศีล ง่ายๆ สำหรับ ลูกบ้านสวนฯ ทางไปสมาบัติ 8 เลยค่ะ ถ้าลูกไม่ได้อ่าน คงไมาสนใจศีล เพราะคิดว่า สมาธิ ทำบ่อยๆ ก็จะได้ฌานเอง แต่ว่าไม่ใ้ห้ความสำคัญกับศีล ถ้าวันไหน ศีลแหว่ง แสดงว่า เราไม่ถึงสมาธิ เป็นพระเมตตาค่ะ ความรู้แบบ 1 เล่มใหญ่ อ.อุบล แสดงไว้ ไม่ถึง 1 หน้ากระดาษค่ะ ขออนุญาต รออ่านตอนต่อไปค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แอ๊ด อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 11:29:46 |
ความคิดเห็นที่ 336 (1575360) | |
ดีใจ ที่ค่าย 10 นี้ เราจะได้แสดงความรักต่อพ่อ "ท่านท้าวเวสสุวรรณ" ด้วยการปฏิบัติบูชา และไม่มีพิธีพราหมณ์ต่าง ๆ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดปัญญา แถมยังนำมาซึ่งปัญหา สับสน ง่วงงัน เยิ่นเย้อ ครั้งนี้คงจะได้ความสุข แบบเนื้อ ๆ กันจริง ๆ ได้แสดงความรัก ต่อท่านด้วยใจ ด้วยการปฏิบัติดี ด้วยความตั้งใจ ด้วยความสุขใจ เพื่อให้เป็นบุญที่บริสุทธิ์ ถวายแด่ท่าน... แค่คิดก็สุขใจมาก ๆ แล้วคะ
กราบขอบพระคุณท่านมาก ๆ คะ ที่ให้โอกาสลูกหลานทุกคน สาธุ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 11:40:28 |
ความคิดเห็นที่ 337 (1575366) | |
อ่านแล้วได้อะไร -*-*-*-*- ได้เข้าใจว่า. ทำไม อ.อุบล ให้พวกเรา รักษาศิล 5 ให้บริสุทธิ์ให้ได้ เพราะเป็นพื้นฐานที่จะนำไป สู่สมาธิ และ ญาณตามลำดับขั้นตอน ของความสำเร็จการปฏิบัติธรรม และเราจะใช้ ศิล สมาธิ ฯ ในการ บรวงสรวง ( ปฏิบัติบูชา ) การตัดนิวรณ์ .... ทั้ง 5 อ.อุบล ขา นิวรณ์ คือ การปิดกั้น ที่ผ่านยาก..ค่ะ แมวขอ...รออ่าน การตัดนิวรณ์.. จาก อ.อุบล ด้วยคนค่ะ ด้วยความเคารพ + รักมาก ๆๆ ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 12:22:19 |
ความคิดเห็นที่ 338 (1575379) | |
กราบพระบาทท่านท่าวเวสสุวรรณ กราบขอบพระคุณ อ.อุบลเป็นอย่างสูงค่ะ ลูกขอฟังต่อค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร (ananya-an-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 13:29:53 |
ความคิดเห็นที่ 339 (1575382) | |
ก่อนหน้านี้ อ. อุบล เคยสอน เรื่องณาณ สมาธิ ศีล มาแล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าใจลึกซึ้งเท่าตอนนี้ บทสนทนาระหว่าง ท่านท้าวเวสสุวรรณกับท่านอ. อุบล ทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งว่าอารมณ์ปิติร่าเริง อย่างตอนที่เต้นม้าย่องในวันสมโภชน์ นั่นคือ จิตเราเข้าสู่ฌาณแล้ว และอาการนิวรณ์ เช่น ง่วงนอน ขี้เกียจ ขณะทำสมาธิ เป็นเพราะศีล 5 เรากระท่อนกระแท่นนี่เอง ขอกราบพระบาทท่านท้าวเวสสุวรรณ และกราบขอบพระคุณท่าน อ. อุบล สำหรับธรรมทานอันล้ำค่า ...ค่าย 10 นี้... ลูกจะขอจัดเต็มอีกครั้งสำหรับการแสดง เพื่อบวงสรวงต่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ที่มีเมตตาต่อพวกเราเสมอมานะเจ้าค่ะ แหม...ตอนนี้สมอง กำลังประมวลผลตามอยู่เลยค่ะ ขอฟังต่อนะคะ...
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา (pooyingnaya-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 13:37:59 |
ความคิดเห็นที่ 340 (1575407) | |
ขอกราบขอบพระคุณเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณและอาจารย์อุบลกับบทสนทนาเป็นธรรมทานให้ลูกหลานบ้านสวนค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กนกกร แดงเอม (kanokkorntip-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 16:58:59 |
ความคิดเห็นที่ 341 (1575429) | |
กราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณ และท่านอ.อุบลเจ้าค่ะ ที่ได้สอนพวกลูกๆให้เข้าใจเรื่องสมาธิ และฌาณอย่างง่ายๆ ก่อนหน้านี้ลูกเคยอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ยังงงๆ มึนๆ (เพราะโง่นั่นเอง ฮะๆ) ท่านอ.อุบลเขียนเข้าใจง่ายค่ะ อยากอ่านต่อค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค้า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฐิติมา พฤกษ์อำนวย (pranaijai-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 19:11:22 |
ความคิดเห็นที่ 342 (1575430) | |
แว๊บไปตัดต่อรายการ ที่จะออกอากาศ วันอาทิตย์ 2 ต.ค.54 มาจ้า (ตา...ลาย...เลย...อ่ะ) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-29 19:25:43 |
ความคิดเห็นที่ 343 (1575432) | |
ค่ะ ๆๆ อาจารย์ สาธุ ๆๆ ค่ะ ขออนุโมทนาบุญ ค่ะ พักผ่อน มาก ๆ นะคะ พวกเรา รอได้ค่ะ แมว..แต่ง โคลงเคลง ให้อ่าน มั๊ยค่ะ อ.อุบล บอกขอหลับดีก่า 555++ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 19:39:14 |
ความคิดเห็นที่ 344 (1575433) | |
กราบขอบพระคุณอ.อุบลมาก ๆๆๆ คะ ที่สละเวลาเพื่อทุก ๆๆๆ คน สาธุ ๆๆๆ รัก ห่วงใย คิดถึง พักผ่อนมาก ๆ นะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 19:47:19 |
ความคิดเห็นที่ 345 (1575434) | |
อยากอ่านนะ หนูแมว อ่านโคลงหนูแล้ว เข้าสู่ฌาน ง่ายดีจริงๆ จ้า 555 เรื่องจริง ใครอ่านแล้วไม่ขำ ไม่เอาเงิน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-29 19:51:34 |
ความคิดเห็นที่ 346 (1575451) | |
สาธุ สาธุ สาธุ ขอกราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณที่เมตตาค่ะ กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล ที่เมตตาสอนเรื่อง ศีล สมาธิ ฌาณค่ะ ***************************** หลังจากที่ได้อ่านของอาจารย์แล้ว การทำสมาธิเป็นเรื่องง่ายๆมากเลยค่ะ แค่เรามีความตั้งใจ หรือใจจดจ่อกับงานที่ทำอยู่ตอนนั้น โดยไม่คิดเรื่องอื่น ก็เป็นการทำสมาธิแล้ว โดยที่ีไม่ต้องไปนั่งหลับตา ทำสมาธิ และสมาธิจะเข้าถึงฌาณได้โดยไม่มีอุปสรรค ก็เป็นเพราะเรารักษาศีลบริสุทธิ์ สาธุ สาธุ สาธุ เข้าใจได้ง่ายเลยค่ะ หนูอยากฟังต่อค่ะอาจารย์ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 21:40:41 |
ความคิดเห็นที่ 347 (1575458) | |
การ ปลง การปล่อยวาง สิ่งที่เรากำลังทุกข์ คงจะคล้ายๆ กับการตัดนิวรณ์นะค่ะ ส่วนใหญ่ จะรู้จักคำว่าปลงมากกว่า หนูจะรออ่านธรรม ทานจากท่านอาจารย์ต่อค่ะ เพราะจะได้นำ ไปฝึกปฏิบัติ ภัยพิบัติคืบคลานมาแล้ว เดิน ทางไปทางไหนก็เริ่มเจอน้ำแล้ว บริเวณบ้าน ตัวเองน้ำขังเป็นจุดๆ เพราะซึมไปไหนไม่ได้ ขอปฏิบัติตามคำสอนของ อ.อุบล ทุกอย่าง ค่ะ ส่วนอะไรจะเกิดต่อจากนี้ไป แล้วแต่ พระเมตตาของพระพุทธองค์ และเสด็จพ่อ ท้าวเวสสุวรรณ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-29 21:59:53 |
ความคิดเห็นที่ 348 (1575466) | ||||
มาแล้วจ้า มาต่อ ถ้ายังไม่เบื่อนะ 55555555555
เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ลองภูมิธรรม อ.อุบล ค่ะ
เรื่องฌาน มาถึงการที่จิตจะเป็นฌาน 1 ได้ ก็คือ ตัด นิวรณ์ ตัวเดียวเลย
อะไรนะลูกตัดนิวรณ์กี่ตัวนะ
5 ตัวเจ้าค่ะเสด็จพ่อ ขอบพระทัยเจ้าค่ะที่เมตตาเตือน
เออ พ่อก็รู้ว่าเอ็งไม่ได้ลืมหรอก หาเรื่องให้เอ็งตอบให้คนอ่าน หายสงสัย ไปยังงั้นแหละ เอ้าว่าต่อ นิวรณ์ 5 ตัวเป็นยังไง ถึงร้ายนัก
ก็เจ้านิวรณ์นี่มันน่าจะเรียกว่า ตัวปิดกั้นปัญญา น่าจะดีกว่านะเจ้าค่ะ
ทำไมล่ะ
ก็มันทำให้โง่ ทำให้ไม่มีปัญญา พาให้ไปไม่สูง จูงลงต่ำเจ้าค่ะ
ไหนอธิบายซิ ทำไมมันปิดกั้นปัญญา
1. ก็เวลาจะเริ่มทำสมาธิ จะเริ่มทำงานอะไร หรือฟังบรรยาย ฟังธรรม มันก็ชอบเสนอหน้ามา ทำให้ง่วงเหงาหาวนอน เจ้าค่ะเสด็จพ่อ
มันก็เลยทำให้ไม่มีปัญญาเจ้าค่ะ
ง่วงแล้วไปเกี่ยวอะไร กับไม่มีปัญญา ล่ะลูกเอ้ย
ก็ถ้านักเรียนฟังครูสอน แล้วง่วง ก็ต้องไม่เข้าใจที่ครูสอน ฟังธรรมะ มัวแต่คุย ก็คงไม่รู้ธรรมะ หรือ นั่งทำงานไป สัปหงกไป งานก็คงไม่เดิน หรือ เสียหายเจ้าค่ะ คนขับรถ ขับไปง่วงไป ก็อันตราย ถึงตายเจ้าค่ะ ดังนั้นความง่วง มันจึงเป็นตัวปิดกั้นปัญญาเจ้าค่ะ
แล้วเจ้าเคยง่วงไหม
เคยเจ้าค่ะ บ้อย บ่อยเจ้าค่ะ
แล้วเจ้าแก้ยังไงลูก
ก็แก้หลายวิธีเจ้าค่ะ เช่นถ้าอยู่บ้าน ก็เปลี่ยนกิจกรรม ก่อนค่อยทำสมาธิ หรือ ง่วงขณะทำ งานใด ก็ไปเดินสักหน่อย หรือดื่มน้ำเย็น เจ้าค่ะ หรือ ล้างหน้า / อาบน้ำเจ้าค่ะ
แล้วถ้าเจ้าทำสมาธิอยู่ ต่อเนื่องอยู่แล้วเกิดง่วงขึ้นมา เจ้าทำยังไง ก็ฝืนก่อนเจ้าค่ะ
ฝืนได้ไหม
ได้บ้างไม่ได้บ้างเจ้าค่ะ
ได้ยังไง ไม่ได้ยังไง
ก็ฝืนได้ ก็ทำต่อเจ้าค่ะ ถ้าไม่ไหวก็นอนเจ้าค่ะ แต่ก่อนหลับ ก็ทำสมาธิต่อในท่านอนเจ้าค่ะ จนหลับไปเลยเจ้าค่ะ
แล้วอย่างนี้ มันจะทำได้นานไหม
ไม่นานเจ้าค่ะ
แล้วถ้าอยากให้ได้นานขึ้น เจ้าแก้ไขยังไง
ก็ใช้วิธี ทำสมาธิในช่วงเวลา ที่ไม่ง่วงนอนเจ้าค่ะ ปกติที่ง่วง เพราะไปทำตอนดึกเจ้าค่ะ เดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนเป็น ทำทั้งวันเจ้าค่ะ
ตอนไหนมั่ง
ตอนนั่งหน้าคอมนี้ก็ทำได้มาก เจ้าค่ะ ระหว่างโหลด ระหว่างรอ ก็ทำสมาธิ ท่องปะโตเมตัง คาถาเงินล้าน นะมะ พะธะ พุทโธ แล้วแต่จิตจะสั่ง เจ้าค่ะแล้วก็ตอนอาบน้ำ ทำประจำเจ้าค่ะ ตอนแต่งตัว ตอนเดินไปไหนก็ช่าง ทำตลอดเจ้าค่ะ ตอนนั่งรถ ตอนพูดคุย บำบัด ฯลฯ ทำตลอดเจ้าค่ะ
อ้าว ตอนพูดคุย ทำสมาธิได้รึลูก
ทำได้เจ้าค่ะ และ ทุกคนก็ทำ อยู่แล้ว แต่ว่าทำได้ไม่เท่ากันเจ้าค่ะ ส่วนมากตอนคุยนี่ คนเราจะไม่ง่วง เป็นการตัดนิวรณ์ ง่วงได้ดีที่สุดเจ้าค่ะ
เอาละซี คุย ตัดนิวรณ์ เอ้อ ลูกข้า ช่างเจรจาจริงๆ
ก็จริงหรือเปล่าเจ้าคะ เวลาเราคุยกัน จิตเราเพ่งอยู่ที่ สาระการคุย ไม่เคลื่อนไปสู่อารมณ์อื่น คิดตามการสนทนาตลอด ถือว่าเป็นทั้งสมาธิ และ ไม่ง่วงด้วย เจ้าค่ะ ตัดตัวนิวรณ์ ง่วง ดีที่สุดเจ้าค่ะ
2. เวลาทำงาน หรือ ทำสมาธิ มันจะมีเสียงรบกวนเจ้าค่ะเสด็จพ่อ อันนี้ ยกเว้นคนที่ทำในที่สงัดจริงๆ
เออ นั่นสิ ถ้าทำแต่ที่สงัด อย่างพระที่ไปธุดงค์ในป่า มันจะตัดตัว รำคาญ เสียงรบกวนภายนอก ได้ไหม ในเมื่อในป่ามันเงียบ
ตอนปฎิบัติในป่า นิวรณ์ตัวนี้ มันไม่กินใจเจ้าค่ะ แต่พอออกมา จากป่า มาอยู่ในหมู่คนมากๆ ถ้าท่าน ยังรำคาญอยู่ แสดงว่าที่ท่านฝึกมา ไม่มีผลเจ้าค่ะ
หมายความว่ายังไง ทำไมไม่มีผล ก็อุส่าห์ไปธุดงค์ในป่ามานะลูก
การไปธุดงค์ ไปเพื่อให้ได้ความสงัด สอบอารมณ์ เฉพาะตอนฝึกเท่านั้น เจ้าค่ะ แต่ฝึกแล้ว เมื่อได้แล้วจริงๆ จะต้องอยู่ในที่ ที่มีแรงเสียดทาน มากที่สุดได้ โดยไม่รำคาญ หรือ มี อารมณ์หวั่นไหวเจ้าค่ะ
ใครสอนเอ็งวะเนี่ย เก่งนี่หว่า
ไม่ได้เก่งเจ้าค่ะ จำหลวงพ่อฤาษีมาทั้งหมด เลยเจ้าค่ะ แต่ไม่ทราบว่าที่ลูก เข้าใจนี้ ถูกต้องหรือไม่เจ้าคะ
ถูกแล้วลูก การฝึกสมาธิ ฝึกฌาน ฝึกกสิณ อภิญญา อะไรก็ช่าง ฝึกมาแล้ว ต้องอยู่ได้ในทุกสถานที่ โดยเฉพาะที่มีแรงเสียดทาน มีสิ่งยั่วยุ ยั่วยวน ชวนให้จิตตกที่สุด แต่จิตมันทรงความดีอยู่ได้ คือใจมันไม่ทุกข์ลูก จึงจะเรียกว่า สอบผ่านนะลูก ไม่ใช่สอบผ่านเฉพาะตอนนั่ง ตอนฝึก แต่พอใช้ชีวิตจริง จิตตก เครียด รำคาญ อย่างนี้ ไม่ผ่านลูก เอ้าใช้ได้ว่าไป
ทีนี้คนส่วนใหญ่ ก็มักจะรำคาญเสียงรบกวน เวลาทำสมาธิ ทำงาน ฟังครูสอน หรือฟังบรรยายอะไรก็แล้วแต่ เจ้าจะมีวิธีแก้ไม่ให้รำคาญได้ยังไง
ก็ต้องใช้...............
ยังมีใครฝึกฌานกับ อ.อุบล โดยเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ทดสอบภูมิธรรม อยู่หรือเปล่าจ๊ะ โปรดส่งเสียง และ บอกด้วยว่า เข้าใจ หรือ ได้เรื่องไหมจ๊ะ | ||||
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-29 22:50:45 |
ความคิดเห็นที่ 349 (1575476) | |
ผมเพิ่งเข้ามาอ่านกระทู้นี้วันนี้ แต่ได้รับคำอธิบายที่เปรียบเสมือน เป็น "คู่มือ" ฉบับย่อ สำหรับ ปฎิบัติธรรม เจริญภาวนา ฉบับท่านอาจารย์อุบลโดยแท้จริง
ผมกราบขอสรุปย่อ ตามสติปัญญาน้อยนิดของผม ดังนี้ครับ
การปฏิบัติต้องเริ่มต้นที่ ศรัทธา หากไม่ศรัทธา ก็ปฏิบัติไม่ได้ผล หากศรัทธา ก็สามารถรักษาศีล ทำสมาธิ จนเป็นฌานสำเร็จ
มีความศรัทธาสูงสุด ก็สามารถปฏิบัติจนบรรลุมรรคผล นิพพานในชาตินี้ได้
ผมกราบขออนุญาตคัดลอก ไว้อ่านและปฏิบัติ รวมทั้งนำไปเผยแพร่ ด้วยความเหมาะสม เพื่อให้ผู้อื่นได้ทราบด้วยครับ
ขอกราบขอบพระคุณ ในพระเมตตาของ ท่านท้าวเวสสุวรรณ และท่านอาจารย์เป็นอย่างสูง อนุโมทนาสาธุครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) วันที่ตอบ 2011-09-29 23:57:48 |
ความคิดเห็นที่ 350 (1575484) | |
นู๋ไอซ์ยังอยู่ค่ะ จับนิวรณไ้ด้ 2 ตัวแล้วค่ะคือ 1. การง่วง เหงา หาว นอนค่ะ อันนี้หนูเป็นบ่อย ถ้าทำสมาธิตอนดึก ทำไปพลาง สัปปะหงก ไปพลางค่ะ แต่ถ้ามาทำตอนเช้าตรู่ รู้สึกว่าจะทำได้ดีขึ้นค่ะ 2. รำคาญเสียงรบกวนภายนอก เมื่อก่อนรู้สึกค่ะ แต่ตอนนี้หัดทำสมาธิในรถเมล์บ้าง รถไฟฟ้าบ้าง ทำให้ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่ค่อยรำคาญในเสียงแล้วค่ะ แต่ก็ยังสอบตกกับเจ้านิวรณ์นี้อยู่ค่ะอาจารย์ ได้อ่านเรื่องบางเรื่อง หรือข่าวบางข่าว จิตก็ยังเศร้าและตกอยู่เลยค่ะ ขอตามติดการเอาชนะนิวรณ์กับอาจารย์ด้วยนะคะ และขออนุโมทนาบุญในธรรมทานขออาจารย์ด้วยค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 00:49:04 |
ความคิดเห็นที่ 351 (1575485) | |
การฝึกสมาธิ ฝึกฌาน ฝึกกสิณ อภิญญา อะไรก็ช่าง ฝึกมาแล้ว ต้องอยู่ได้ในทุกสถานที่ โดยเฉพาะที่มีแรงเสียดทาน มีสิ่งยั่วยุ ยั่วยวน ชวนให้จิตตกที่สุด แต่จิตมันทรงความดีอยู่ได้ คือใจมันไม่ทุกข์ลูก จึงจะเรียกว่า สอบผ่านนะลูก -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*- เข้าใจค่ะ แต่วิธีการปีน กำแพง ที่ปิดกั้น ค่อนข้าง...ยาก ( ข้อสอบยากจังค่ะ ) อ.อุบลขา...ช่วยแมวด้วย รบกวน ติว ข้อสอบ เพิ่มเติมนะคะ สงสารลูกศิษย์ ตาดำ ๆ ( อยากสอบให้ผ่านค่ะ )
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 00:50:54 |
ความคิดเห็นที่ 352 (1575497) | |
จะต้องอยู่ในที่ ที่มีแรงเสียดทาน
มากที่สุดได้ โดยไม่รำคาญ หรือ มี อารมณ์หวั่นไหวเจ้าค่ะ *********************************** ข้อนี้สอบตกประจำเลยค่ะ บางทีแค่เสียงรถดังๆ วิ่งผ่านไปมา จิตก็ตกลงมาแล้วค่ะ รบกวนอาจารย์แม่ ติวให้หญิงอีกคนนะค๊าาาาา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > วันที่ตอบ 2011-09-30 02:58:06 |
ความคิดเห็นที่ 353 (1575503) | |
โปรดส่งเสียง และ บอกด้วยว่า เข้าใจ หรือ ได้เรื่องไหมจ๊ะ ...................................... อยากจะส่งเสียงดังๆและบอกว่า เป็นธรรมทานที่ทรงคุณค่า อ่านแล้วได้ทั้งอรรถรส สั้น กระชับ แต่ได้ความหมาย และเข้าใจง่ายที่สุดแล้วค่ะอาจารย์
ส่วนการปฏิบัติก็คงจะเป็นเรื่อง ของ"ผู้อ่าน"อย่างเราๆล้วนๆ
พูดถึงนิวรณ์เนี่ย..ชนิดาก็ยกธงขาว ประกาศความพ่ายแพ้ ต่อพวกเค้าบ๊อยบ่อย เลยนะคะเนี่ย..
ตอนนี้ทราบเคล็ดลับที่จะต่อสู้ กับนิวรณ์ได้สองตัวแล้ว งั้นก็ขอตั้งหน้า ตั้งตาเกาะหน้าจอ รออ่านคำสอน เพื่อจะสะสางกับเจ้านิวรณ์ ที่เหลือทั้งสามตัวก็แล้วกันนะคะ
กราบพระบาทท่านท้่าวเวสสุวรรณ ที่เมตตามาติวเข้ม เรื่องศีล สมาธิและ ฌาณ ให้ลูกหลานบ้านสวนฯโดยเฉพาะ
และอนุโมทนากับทุกๆธรรมทาน จากท่านอ.อุบล และทุกๆท่านด้วยค่ะ สาธุ ............................................................. แล้วก็รออ่าน"โคลงเคลง" ที่ชวนครึกครื้นใจจากคุณแมวอยู่นะค๊า อิอิ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2011-09-30 06:13:41 |
ความคิดเห็นที่ 354 (1575507) | |
อนุโมทนากับธรรมทานครับอาจาย์อุบล สรุปว่า การปฏิบัติสมาธิทุกกอง ผลคือ ต้องทรงอารมณ์ใจให้ไม่ตก ทุกสถานการณ์ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 08:46:15 |
ความคิดเห็นที่ 355 (1575532) | |
ก็ใช้วิธี ทำสมาธิในช่วงเวลา ที่ไม่ง่วงนอนเจ้าค่ะ ปกติที่ง่วง เพราะไปทำตอนดึกเจ้าค่ะ เดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนเป็น ทำทั้งวันเจ้าค่ะ
ตอนไหนมั่ง
ตอนนั่งหน้าคอมนี้ก็ทำได้มาก เจ้าค่ะ ระหว่างโหลด ระหว่างรอ ก็ทำสมาธิ ท่องปะโตเมตัง คาถาเงินล้าน นะมะ พะธะ พุทโธ แล้วแต่จิตจะสั่ง เจ้าค่ะแล้วก็ตอนอาบน้ำ ทำประจำเจ้าค่ะ ตอนแต่งตัว ตอนเดินไปไหนก็ช่าง ทำตลอดเจ้าค่ะ ตอนนั่งรถ ตอนพูดคุย บำบัด ฯลฯ ทำตลอดเจ้าค่ะ ****** ที่ผ่านมาเคยอ่านหนังสือ แล้วเขาใช้คำว่า เจริญสติ คือการกระทำ ตามข้อความข้างบนที่ท่าน อ. อุบล ทำ ส่วนการทำสมาธิ คือต้องมานั่งสมาธิ, เดินจงกรม, หรืออื่น ๆ ที่ต้องใช้เวลานาน ๆ ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วค่ะ ทำให้เริ่มทำสมาธิได้บ่อยขึ้น และขอรออ่าน การกำจัด คุณนิวรณ์ ที่เหลือค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 12:09:32 |
ความคิดเห็นที่ 356 (1575561) | |
สาธุ สาธุ สาธุ กราบพระบาทท่านท้าวเวสสุวรรณและอาจารย์อุบล ที่เมตตาให้โอกาสลูกได้อ่านธรรมทานที่มีคุณค่านี้ค่ะ
จะต้องอยู่ในที่ ที่มีแรงเสียดทาน มากที่สุดได้ โดยไม่รำคาญ หรือ มี อารมณ์หวั่นไหวเจ้าค่ะ ข้อนี้สอบตกประจำค่ะอาจารย์ โดยมากจากคำพูดของคนใกล้ชิดค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น วิจิตร บุญศิริ (wijit2502-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 13:52:36 |
ความคิดเห็นที่ 357 (1575564) | |
รอฟังอยู่ค่ะ อาจารย์ เป็นประโยชน์มากค่ะ เพราะตัวเองก็เป็นเยอะค่ะ แพ้นิวรณ์คือตัวง่วง ตัวขี้เกียจค่ะ แถมมีจิตคิดรำคาญเสียงรบกวนต่างๆ อันนี้ยังมีจิตไปเพ่ง ไปสนใจมันอยู่ ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดบ้าง และบางทีก็เหมือนน้องไอซ์ค่ะ ดูข่าว หรือรับฟังเรื่องอะไรมา ก็มีจิตตก จิตหดหู่ สงสาร จนเกิดทุกข์ค่ะ แต่ก็พยายามใช้ปัญญา ถึงจะขจัดมันไปได้บ้างค่ะ ยิ่งเฉพาะเรื่องสัตว์นี่ ได้ยินข่าวโดนทำร้าย แล้วจิตตกมากค่ะ ทำใจไม่ค่อยได้ค่ะ ยังสอบไม่ผ่านอีกมากค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 14:23:08 |
ความคิดเห็นที่ 358 (1575582) | |
โปรดส่งเสียง และ บอกด้วยว่า เข้าใจ หรือ ได้เรื่องไหมจ๊ะ เข้าใจค่ะ 1. ถ้ามีเสียงรบกวน เข้ามาเราต้องตัดใ้ห้ได้ อยู่ที่ไหนก็ต้องทำได้ และได้ทุกเวลา เมื่อก่อน จะคิดว่า ทำไงจะสงบ เวลาเข้าห้องพระที่ไร ได้ยินเสียงข้างบ้านคุยทุกที วันนี้ เสด็จปู่ท่้าวเวสสุวรรณ อ.อุบล เฉลย ข้อสอบ สงบที่ใจ ใช่บรรยากาศ ค่ะ สาธุ 2. อาการง่วง เมื่อ ก่อนนอนเลย ต่อไป ทำสมาธิง่วง ก็เปลี่ยนเป็นสมาธินอน เรียบง่ายแต่ไม่มักง่าย ( ทำสมาธิได้ แบบ สะดวก สบาย) กราบขอบพระคุณค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แอ๊ด อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 17:08:37 |
ความคิดเห็นที่ 359 (1575589) | |
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ อาจารย์อธิบายให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น จะพยายามปฏิบัติตามให้ได้มากที่สุด กราบขอบพระคุณค่ะ (แอบรอติดตามตอนต่อไปนะค้า) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อรศรี ชุติเนตร (aurasri05-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 18:52:55 |
ความคิดเห็นที่ 360 (1575618) | |
ขออนุญาต คั่นเรื่อง ค่ะ วันนี้ ได้รับพระเมตตาจากเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ ที่ทำมักง่าย เอารองเท้าไว้ในกระเป๋าถือระดับเดียวกับ กระเป๋าที่ใส่รูปเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณค่ะ วันนี้ จึงถูกรองเท้ากัดพองเป็นแผล จึงขอขมากระทู้นี้ และกระทู้ขอขมาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์(คุณเบน) ลูกกราบขอขมาเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ ที่ล่วงเกินพระรูปด้วยกายของลูก และใจที่มักง่าย ขอบพระคุณที่เมตตาค่ะ ลูกจะระมัดระวังสำรวมกายใจค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แอ๊ด อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 21:04:47 |
ความคิดเห็นที่ 361 (1575620) | |
กราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณ และอ.อุบลมาก ๆ คะ
ในการฝึกจิตให้เป็นฌาน อาจารย์ชี้ให้เห็นปัญหา ที่จะมาขัดขวางเรา และได้แนะนำ ทางแก้ หรือวิธีลัด ที่ได้ผลเสมอเลยคะ อาจารย์สอนมาตลอดว่า ให้ทำสมาธิตลอดเวลา ในระหว่างวัน ได้ครั้งละนิดละหน่อย ก็ยังดี รวม ๆ แล้ววันหนึ่ง จิตก็มีช่วงเวลาที่เป็นฌานมาก มากกว่าเรากำหนดว่าจะทำเช้าเย็น
และได้ผลที่ดีกว่า คือเราจะมีสติรู้ตัว ตลอดเวลาทั้งวัน ไม่ว่าเจอเหตุการณ์อะไร หากเราพยายามทำตามที่อ.สอน เราก็จะพลาดไปทำผิดได้น้อย ได้ครองใจให้รักษาศีลไปด้วยในตัว อันนี้นอกจากแก้เรื่องง่วงแล้ว ได้ประโยชน์อีกหลายเท่าเลยคะ
และเรื่องเสียงรบกวน ที่ชวนให้รำคาญนี้ หนูได้จดจำที่อาจารย์สอนตลอดเลยคะ และทำให้คิดที่จะเอาชนะความรำคาญนั้นให้ได้ ด้วยการคิดว่าเป็นแบบทดสอบจิตเรา เราต้องอยู่ได้ในทุกที่ ทุกสถานการณ์ (ที่พี่ชนิดา เคยเขียนว่าตอนทำสมาธิแล้วเกิดรำคาญ คนข้างบ้านที่เปิดวิทยุดัง จึงเรียกอ.อุบลให้ช่วย แต่ไม่ได้ผล คือนานกว่าจะปิด หนูคิดว่าท่านคงอยากให้เราฝึกตัดนิวรณ์รึเปล่าคะ) คิดไปเองนะคะ ถ้าไม่ใช่ต้องกราบขออภัยด้วยคะ.. ก็ได้บอกตัวเองว่าเราต้องตั้งสติเข้าไว้ อย่าไปสนใจมัน แต่ต้องพยายามรับฟังคำสอนจากอาจารย์บ่อย ๆ ให้ขึ้นใจ จะช่วยให้มีกำลังใจฝ่าฟันไปได้ดีคะ (แบบที่พี่อ๊อดเคยพูดในคลิปคะ ต้องเปิดฟังเสียงอาจารย์ตลอด วันไหนไม่ได้ยินเสียงอาจารย์นะ.. แทบตายเลย)
กราบขอบพระคุณอ.อุบลมากที่สุดคะ ที่ทำให้หนูเข้มแข็งมากขึ้น ขอบพระคุณที่ให้ความรู้ ให้โอกาส ให้แต่สิ่งดี ประเสริฐสุดในชีวิต สาธุ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-30 21:31:41 |
ความคิดเห็นที่ 362 (1575703) | |
ขอกราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณและท่านอาจารย์อุบลที่เมตตาลูกหลานบ้านสวน ทำให้เข้าใจหลักในการปฏิบัติมากขึ้น สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน (pouging1-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-01 13:39:27 |
ความคิดเห็นที่ 363 (1575712) | |
กราบพระบาท เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ และอ.แม่อุบล เจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-01 16:04:28 |
ความคิดเห็นที่ 364 (1575714) | |
กราบแทบพระบาท กราบขอบพระคุณ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตาให้ธรรมทาน ที่มีคุณค่า และธรรมทานของท่าน สั้น ๆ กระทัดรัด อ่านแล้ว เข้าใจง่ายคะ หนูเองติดนิวรณ์ตัวที่ 1 บ่อยมาก ๆ ค่ะ ก็จะใช้นอนภาวนา จนหลับคะ แต่เริ่มจะแย่อีกแล้วคะ เริ่มติดนอนสมาธิ เริ่มขี้เกียจ เริ่มติดสบายมากไปคะ หนูจะพยายามปรับปรุง ตามคำสอนของท่านอาจารย์คะ ส่วนนิวรณ์ตัวที่สอง ก็ยังมีอยู่คะ ทั้งที่พยายาม ฝึกสมาธิในขณะ ที่มีเสียงดังรอบข้าง สุดท้ายก็ยังติดอยู่กับ อารมณ์หวั่นไหว จะพยายามต่อไปคะ อาจารย์อุบลขา ขอฟังธรรมทาน จากท่านอาจารย์ต่อนะคะ และขออนุญาต นำไปเผยแพร่ให้ สมาชิกในครอบครัว ได้อ่านและปฏิบัติคะ ขอกราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ และท่านอาจารย์อุบลด้วยคะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น นางมยุรีพร ภาชนะวรรณ (ma_parchanawan-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-01 16:53:23 |
ความคิดเห็นที่ 365 (1575775) | |
ก่อนอื่นต้องเล่าถึงความอัฉจรรย์ที่ได้มาอ่านกระทู้นี้หลังจากไม่ได้อ่านมานานมาก
เวลาเข้ามาอ่านก็จะเลือกกระทู้ที่อยากอ่านก่อน อันใหนยังไม่อยากอ่านก็ดองไว้ก่อน เนื่องจากไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านบ่อย วันนี้ก็เลือกอ่านตามปกติ แต่กระทู้นี้เด้งขึ้นมาที่หน้าจอเองเฉยเลย ซึ่งก็งงว่าเราเลือกมาอ่านด้วยเหรอ ซึ่งแน่ใจว่าไม่ได้เลือกอะ
แล้วก็ได้มาอ่านข้อความไคร์เมต เกี่ยวกับ การเสด็จมาประทับที่บ้านสวนของท่านท้าวเวสสุวรรณ การเข้าค่าย 10 ที่เป็นมหามงคล และการตัดนิวรส์ต่างๆ ซึ่งสำคัญมาก
เพราะเนื่องด้วยดิฉันเป็นจำพวก บัวในตรม เข้าใจยาก และขี้เกียจมาก เวลาฝึกสมาธิ ก็ง่วงหงาวหาวนอนประจำ
ได้มาอ่านด้วยความเมตตาของสิ่งศักสิทธิ์ ลูกขอน้อมจิตกราบพระบาทท่านท้าวเวสสุวรรณ และอ.อุบล คนสวย เจ้าค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี วันที่ตอบ 2011-10-02 00:52:37 |
ความคิดเห็นที่ 366 (1575818) | |
ขออนุญาติCopyรูปท่านท้าวเวสสุวรรณและคาถาบูชาท่านด้วยนะค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยคนนะค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กมลวรรณ์ ตาสาโรจน์ (tangtin-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-02 12:54:50 |
ความคิดเห็นที่ 367 (1575830) | |
สมาธิ ก็แปลว่า ตั้งใจ ฌาน ก็แปลว่า เพ่ง หรือ นึกไว้ ฌาน ต้องอาศัย สมาธิเจ้าค่ะ
อ้าว ทีนี้ สมาธิ จะอาศัยอะไรล่ะลูก
สมาธิต้องอาศัย ศีล เป็นปัจจัยเจ้าค่ะ
หมายความว่ายังไงลูก
หมายความว่า คนที่จะทำสมาธิได้ ศีล ต้องบริสุทธิ์เจ้าค่ะ
อ้าว ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์ ทำสมาธิไม่ได้รึไง
ทำได้เจ้าค่ะ แต่ได้แค่ทำเจ้าค่ะ จิตจริงๆ เข้าไม่ถึงสมาธิเจ้าค่ะ
ทำไม
การผิดศีล เป็น ปัจจัย ให้เกิดนิวรณ์ ขณะทำสมาธิเจ้าค่ะ *******************
ตอนนั่งหน้าคอมนี้ก็ทำได้มาก เจ้าค่ะ ระหว่างโหลด ระหว่างรอ ก็ทำสมาธิ ท่องปะโตเมตัง คาถาเงินล้าน
นะมะ พะธะ พุทโธ แล้วแต่จิตจะสั่ง เจ้าค่ะแล้วก็ตอนอาบน้ำ ทำประจำเจ้าค่ะ ตอนแต่งตัว ตอนเดินไปไหนก็ช่าง ทำตลอดเจ้าค่ะ ตอนนั่งรถ ตอนพูดคุย บำบัด ฯลฯ ทำตลอดเจ้าค่ะ ********************************** ธรรมของท่านอาจาย์สั้นกระชับ เข้าใจง่ายเเต่ลึกซึ้งมากเลยค่ะ หนูเข้าใจเเล้วค่ะการที่ท่านอาจาย์ให้เรานึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่บ่อยๆ ในช่วงเวลาเเต่ละวัน หรือ นึกถึงทั้งวันยิ่งดี ถือว่าจิตทรงฌาน ก็เพราะจิตเรานึกถึง เพ่งอยู่ที่พระพุทธเจ้า เเต่จะทำได้บ่อยมากน้อยขนาดไหน ก็มีสมาธิเป็นตัวกำกับ คือความตั้งใจ เนื่องจากในเเต่ละวันศีลเรามักจะมีพร่อง ทำให้เกิดนิวรณ์เข้ามาเเทรกตลอด อาจารย์จึงให้ใช้วิธีเเก้ปัญหาด้วยการ ให้ทรงฌานในชีวิตประจำวัน มากบ้างน้อยบ้างเเต่รวมเเล้วแต่ละวันจะได้ทรงฌานมาก จึงเป็นการเเก้ปัญหาตัวนิวรรณ์ "ง่วง"ได้ดีที่สุด เเละเมื่อฝึกบ่อยๆเเล้วจิตใจเราสามารถทนต่อเเรงเสียดทาน สิ่งยั่วยุภายนอกได้ ทรงความดีในใจ ใจเป็นสุขได้ถึงจะถือว่าสอบผ่านในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ตอนนั่งสมาธิหนูเคยลืมคำภาวนา จิตเงียบดับไปเลย ไม่รู้สึกตัวใด ไปพักใหญ่ เเล้วก็ค่อยรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อก่อนเข้าข้างตนเองตามประสาคนโง่เขลาว่าตนคงจะเข้าสมาธิ เเต่ตอนนี้ถ้าหนูเข้าใจไม่ผิด หนูคิดว่านั่นไม่ใช่เข้าสมาธิหรือฌานใดๆทั้งสิ้น เพราะเราไม่ระลึกหรือรู้ตัวใด คงจะเป็นอาการของนิวรณ์คือ ง่วงเเล้วก็หลับไปเลย ทั้งที่ยังหลังตรงอยู่เเท้ หนูเข้าใจถูกต้องหรือเปล่าคะอาจาย์ อาจารย์ขา หนูขอส่งเสียงดังๆว่าอยากฟังต่อค่ะ วิธีการที่ทำให้เราไม่รำคาญต่อสิ่งรบกวนค่ะ ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของสมเด็จท่านท้าวเวสสุวรรณ และท่านอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูงค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) (prapasiri_mim-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-02 15:27:32 |
ความคิดเห็นที่ 368 (1576058) | |
หนูได้จดจำที่อาจารย์สอนตลอดเลยคะ และทำให้คิดที่จะเอาชนะความรำคาญนั้นให้ได้ ด้วยการคิดว่าเป็นแบบทดสอบจิตเรา เราต้องอยู่ได้ในทุกที่ ทุกสถานการณ์ (ที่พี่ชนิดา เคยเขียนว่าตอนทำสมาธิแล้วเกิดรำคาญ คนข้างบ้านที่เปิดวิทยุดัง จึงเรียกอ.อุบลให้ช่วย แต่ไม่ได้ผล คือนานกว่าจะปิด หนูคิดว่าท่านคงอยากให้เราฝึกตัดนิวรณ์รึเปล่าคะ) คิดไปเองนะคะ ถ้าไม่ใช่ต้องกราบขออภัยด้วยคะ.. ............................................................................................. พี่ก็คิดอย่างหนูแหวน นั่นแหล่ะ จริงๆหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ที่่ชวนโกรธ ชวนรำคาญ หรือไม่สบอารมณ์ ทั้งหลาย ชนิดามักจะคิดว่า เป็นบททดสอบ ทั้งสิ้น และเชื่อไหมว่า พอเราคิดแบบนี้ ปริมาณความทุกข์เหล่านั้น จะลดลงไปทันทีไม่มากก็น้อย บางทีก็แอบยิ้มอยู่ในใจคนเดียว ว่าเบื้องบนท่านสุดยอดจริงๆ มีวิธีมาสอนให้เรา"เบื่อหน่าย"ในชีวิตนี้ ได้ตาม"กำลังของจิต"ที่เราจะรับได้แบบพอดีจริงๆ เพราะถ้ามากหรือหนักกว่านี้ อาจจะเสียหลัก จนไม่สามารถเรียนรู้อะไรเลยก็ได้...
แต่วันที่นั่งสมาธิวันนั้น ไม่ค่อยรำคาญ เสียงดนตรีเท่าไหร่หรอก แต่คิดรำคาญสามี(ไว้ล่วงหน้่า)มากกว่า เพราะรู้ว่าเค้าจะต้องมาบ่น ให้เราฟังเรื่องเสียงเพลงนี้แน่ๆ แหะ แหะ จะยังไงก็แล้วแต่ สุดท้ายก็แพ้นิวรณ์อยู่ดี .... แถมคิดให้ตัวเอง"ทุกข์" ไว้ล่วงหน้าอีกต่างหาก
ว่าแล้วก็ มารอฟังอาจารย์ เมตตามาสอนต่อนะคะ... สาธุ
อนุโมทนากับทุกๆความคิดเห็น จากพี่น้องบ้านสวนฯทุกๆท่านด้วยค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2011-10-03 16:46:04 |
ความคิดเห็นที่ 369 (1576077) | |
แต่กระทู้นี้เด้งขึ้นมาที่หน้าจอเองเฉยเลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี วันที่ตอบ 2011-10-02 00:52:37
.....................................................................................................................................................................
ขอบพระคุณคะ อันนี้ก็เคยได้รับพระเมตตา เหมือนกันคะ กดเปิดเข้าหน้าเว็บบอร์ด กลายเป็นคลิปรายการออกเฉยเลย..
คิดเอาเองนะคะ ว่า ท่านคงอยากให้เราได้รับสาระสำคัญจริง ๆ แล้วเราไม่เปิดสักที ท่านเลยเมตตาจัดให้แบบตรงประเด็น
กราบขอบพระคุณ ท่านท้าวเวสสุวรรณมาก ๆ คะ สาธุ สาธุ สาธุ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-03 18:35:28 |
ความคิดเห็นที่ 370 (1576112) | |
ขออนุโมทนากับธรรมทาน เรื่องนิวรณ์ วิธีการตัดนิวรณ์ ของท่าน อ.อุบล ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ 1.ง่วงเหงาหาวนอน ข้อนี้ผมเป็นบ่อยครับ ผมใช้วิธี ทำสมาธิตอนหลังจากตื่นนอน มันช่วยได้ดีครับ และก้อตอนขับรถไปขายของ ภาวนา พุทโธ เป็นพุทธานุสติ โดยเพ่งไปที่ทาง ด้านหน้า ให้เป็นพระพุทธรูปแก้วใส ให้นำทางอยู่ด้านหน้าตลอดเวลาที่ขับรถครับ ใครจะลองทำแบบผมก้อได้น่ะครับ จิตนิ่งมากๆเลย แล้วเวลานอนก้อภาวนา นะมะ พะธะ แล้ว เพ่งเป็นพระพุทธรูปแก้วใสอยู่ที่หน้าผาก จนกระทั่งหลับไปเลย 2. รำคาญเสียงรบกวนภายนอก ข้อนี้ขอออกตัวเลยว่าผมสอบผ่านแน่นอน เมื่อก่อนเจอปัญหานี้มากๆครับ เวลานั่งสมาธิในห้องพระ พอได้ยินเสียง ปิดประตูดังบ้าง เสียงคนเปิดเพลงบ้าง อื่นๆอีกมาก จะทำให้เกิดรำคาญ จนบางครั้ง เกิดเป็นโทสะเลยก้อมี แต่พอเรานั่งสมาธิบ่อยๆ ไม่สนใจมัน ไม่เอามาเป็นอารมภ์ ยึดติดอยู่กับคำภาวนา ของเราจะเป็น พุทโธ หรือ นะมะ พะธะ ก้อได้ มันก้อค่อยๆหายไปเอง ต้องอาศัยความเพียร ในการฝึกฝนครับจึงจะชนะมัน ทุกวันนี้ขนาดข้างๆบ้านมีปาร์ตี้กัน เปิดเพลงแดนซ์กันดังลั่น ผมก้อยังนั่งสมาธิในห้องพระได้สบาย เหมือนไม่มีอะไรมารบกวนจิตเราได้เลย ข้อนี้ต้องอาศัยความเพียรในการฝึกครับ ทำบ่อยๆ ค่อยๆตัดมันไป แล้วมันก้อไม่สามารถมากระทบจิตเราได้เองครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-03 20:14:02 |
ความคิดเห็นที่ 371 (1576115) | |
อนุโมทนา สาธุค่ะ และขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านท้าวเวสสุวรรณและท่าน อ.อุบล ในครั้งนี้ด้วยค่ะและหนูขออนุญาตคัดลอก ไว้อ่านและปฏิบัติ รวมทั้งนำไปเผยแพร่ ตามความเหมาะสมที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะดลใจให้ทำ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับทราบในธรรมทานในครั้งนี้ด้วยนะคะ
ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (anchala_23580-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-03 20:16:50 |
ความคิดเห็นที่ 372 (1576117) | |
พวกเราช่วย อ.อุบล เอานิวรณ์ทั้ง 5 มาให้พวกเรา ได้อ่าน ได้รู้จัก ได้วิเคราะห์ รอ อ.อุบล ไปก่อน นะคะ อนุโมทนาล่วงหน้าค๊า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-10-03 20:17:48 |
ความคิดเห็นที่ 373 (1576119) | |||
| |||
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-03 20:30:30 |
ความคิดเห็นที่ 374 (1576120) | ||
เมื่อนิวรณ์เกิดขึ้นมีวิธีแก้ดังนี้คือ เป็นความสุขที่ไม่ต้องมีวัตถุใดๆ มาเป็นเครื่องล่อ จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ๒ พยาปาทะ มีวิธีแก้ดังนี้ ๓ ถีนมิทธะ แยกเป็นถีนะคือความหดหู่ท้อถอยนั้นแก้โดย ส่วนมิทธะคือความง่วงเหงาหาวนอนนั้น มีวิธีแก้หลายวิธี ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระโมคคัลลานะ สรุปได้เป็นขั้นๆ ดังนี้ ๔ อุทธัจจกุกกุจจะ แยกเป็นอุทธัจจะคือความฟุ้งซ่านของจิต แก้โดย ใช้เทคนิคกลั้นลมหายใจ (เทคนิคนี้นอกจากจะใช้แก้ความฟุ้งซ่านได้แล้ว ยังใช้ในการแก้ความง่วงได้อีกด้วย) โดยการทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ ถ้ายังไม่หายก็เปลี่ยนเป็น เข้า-1 ออก-2 เข้า-3 ออก-4 ...... เข้า-9 ออก-10 แล้วเริ่มนับ 1 ใหม่ ถ้ายังไม่หายอีกก็เปลี่ยนเป็นรอบแรกนับจาก 1จนถึง 10 (เหมือนครั้งที่แล้ว) รอบที่สองนับจาก 1 - 9 ลดลงไปเรื่อยๆ จนเหลือนับ 1 - 5 แล้วค่อยเพิ่มขึ้นเป็น 1 - 6 ...... จนถึง 1 - 10 แล้วลดลงใหม่จนเหลือ 1 - 5 แล้วเพิ่มขึ้นจนถึง 1 - 10 กลับไปกลับมาเรื่อยๆ เพื่อให้ต้องเพิ่มความตั้งใจขึ้นอีก ถ้ายังไม่หายอีกก็เปลี่ยนเป็นนับเลขอย่างเร็ว คือขณะหายใจเข้าแต่ละครั้งก็นับเลข 1,2,3,... อย่างรวดเร็วจนกว่าจะสุดลมหายใจ พอเริ่มหายใจออกก็เริ่มนับ 1,2,3,... ใหม่จนสุดลมหายใจเช่นกัน ทั้งนี้ไม่ต้องไปกำหนดว่าตอนหายใจเข้า/ออกแต่ละครั้งจะต้องนับได้ถึงเลขอะไร เช่น หายใจเข้าครั้งแรกอาจจะนับได้ถึง 12 พอหายใจออกอาจจะได้แค่ 10 หายใจเข้าครั้งต่อไปอาจจะได้แค่ 9 ก็ได้ *** ในการหายใจนั้นที่สำคัญคือให้หายใจให้เป็นธรรมชาติให้มากที่สุด อย่าไปบังคับลมหายใจให้ยาวหรือสั้น บางขณะอาจหายใจยาว บางขณะอาจสั้นก็ปล่อยไปตามธรรมชาติของมัน เรามีหน้าที่เพียงแค่สังเกตดูเท่านั้น *** ทำใจให้สบาย อย่ามุ่งมั่นมากเกินไปจนเครียด จะทำให้ฟุ้งซ่านหนักขึ้น ค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ แล้วจะดีขึ้นเอง อย่าหวัง อย่ากำหนดกฎเกณฑ์ว่าวันนี้จะต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้ ปล่อยวางให้มากที่สุด ทำใจให้อยู่กับปัจจุบัน คือเพียงแค่สังเกตว่าตอนนี้เป็นอย่างไรก็พอแล้ว อย่าคิดบังคับให้สมาธิเกิด ยิ่งบีบแน่นมันจะยิ่งทะลักออกมา ยิ่งฟุ้งไปกันใหญ่ *** ถ้านับเลขผิดให้เริ่มต้นนับ 1 ใหม่ แล้วดูว่าวันนี้จะนับได้มากที่สุดถึงแค่ไหน *** เมื่อนับถี่ที่สุดถึงขั้นไหนแล้วเอาจิตให้อยู่ได้ก็หยุดอยู่แค่ขั้นนั้น พอฝึกจิตได้นิ่งพอสมควรแล้ว ก็ลองลดการนับไปใช้ขั้นที่เบาลงเรื่อยๆ จิตจะได้ประณีตขึ้นเรื่อยๆ ๕ วิจิกิจฉา แก้ได้โดย พยายามศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด ถ้ายังไม่แน่ใจก็คิดว่าเราจะลองทางนี้ดูก่อน ถ้าถูกก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าผิดเราก็จะได้รู้ว่าผิด จะได้หายสงสัย แล้วจะได้พิจารณาหาทางอื่นที่ถูกได้ ยังไงก็ดีกว่ามัวแต่สงสัยอยู่ แล้วไม่ได้ลองทำอะไรเลย ซึ่งจะทำให้ต้องสงสัยตลอด | ||
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-03 20:33:53 |
ความคิดเห็นที่ 375 (1576132) | |
อาจารย์...ขา เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจค่ะ คำว่านิวรณ์ทั้ง 5 มาเข้าใจก็ที่บ้านสวนนี่แหละค่ะ เริ่มตัดได้ ตอนที่ลูกคุณปุ๋มร้องนะค่ะ ก็เลยถึงบางอ้อ กับคำว่านิวรณ์..ค่ะ เมื่อก่อนทำไม่ได้เลย..ค่ะ ตอนนี้พอจะทำได้บ้างแล้ว..ค่ะ กราบขอบพระคุณ อาจารย์แม่มากๆเลยค่ะ สาธุ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-03 21:46:31 |
ความคิดเห็นที่ 376 (1576143) | |
ขอขัดจังหวะ เรื่องนิวรณ์หน่อยนะ
คือว่า วันนี้ไปดูความคืบหน้า ของการสร้าง เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ไปท่ามกลางสายฝน ที่ตกลงมาแบบ โปรยปราย พองาม
ก่อนไป อ.มงคล มาเล่าให้ฟังก่อนแล้วว่า ตอนนี้เขาติดเครื่องประดับ เสด็จพ่อเสร็จแล้ว ทั้งพระเศียร เครื่องทรงล่าง
ถามว่ากระบอง ติดรึยัง
เอ...ลืมสังเกตุ
ถ้างั้นไปอีกรอบได้ไหม จะขอไปด้วย
ได้ซิ ไป ไปเดี๋ยวนี้เลย ไม่รู้เค้าปิดรึยัง (5 โมงเย็น กว่าๆ)
ไปถึง ก็เห็นกระบองเลยหละ แล้วก็ไปพิจารณา ไปวัดความสูง ความกว้างมาด้วย
แล้วก็ถามเค้าว่า นี่จะเสร็จเหรอ สียังไม่ทำเลย
เสร็จค่ะ หนูรับรองว่าเสร็จ
ทันใดนั้นก็มีเจ้าของ พระพรหม ที่มาสั่งทำเหมือนกัน ท่านเป็นพระ มาดู มาตามงานเหมือนกัน
แล้วที่อัศจรรย์นะ พระท่านคุยกัน ไม่ได้แอบฟังนะ ท่านบอกว่า วันที่ 7 นี้ ฤกษณ์ดีทีสุด คือ ท่านให้เขาทำพระพรหมณ์ ส่งวันที่ 7 ต.ค.54 เหมือนกัน
แต่คราวนี้ของท่าน มีปัญหาจากช่างเดิม มาให้ช่างนี้แก้ แต่ช่างเดิมต้องมาแก้อีกนิดหน่อย
ปรากฎว่า สรุปว่า ช่างเดิม ไม่ค่อยรับผิดชอบ เราก็ดูแล้ว ก็ช่วยท่านลุ้น อยากให้ท่านเสร็จทันเหมือนกัน หัวอกเดียวกันเลย แต่ไม่ได้คุยกับท่าน
ระหว่างนั้น เราก็ดูงานของเรา (เสด็จพ่อฯ)
ท่านก็ดูงานของท่าน
แต่งานอยู่ใกล้กัน
อ.อุบล ถามน้องที่รับงานว่า จะลงสีเมื่อไหร่จ๊ะ
พรุ่งนี้ค่ะ
จะทันเหรอ
ทันค่ะอาจารย์พี่ หนูทำทั้งกลางวันกลางคืน
แล้วจะแห้งเหรอ
แห้งค่ะ
วันนี้วันที่ 3 แล้วนะ ส่งงานวันที่ 7
ค่ะ แต่หนูขอส่ง พระพรหมณ์ก่อนนะคะ แล้วค่อยไปส่งให้ อาจารย์พี่
เพราะต้องใช้ รถเครนคันเดียวกันค่ะ
ถ้างั้นของพี่ก็บ่ายละซี
ก็หนูจะรีบค่ะ
คุยไป คุยมา ปรากฎว่า พระท่านโทร.คุย กับใครไม่ทราบ พอวางสาย ท่านบอกว่า เลื่อนการส่ง เป็น วันที่ 14 นะโยม
ธรรมะจัดสรรค์อีกแล้ว เจ้าของงาน มีเวลาหายใจหายคอ ไม่ต้อง เร่งทำพร้อมกัน 2 เจ้า
เพราะพระพรหม์ ก็ใหญ่มาก
ท้าวเวสสุวรรณ ก็ 2 องค์
คราวนี้ แกโล่งใจเลย จะได้ทำดีที่สุด ทั้ง 2 ราย
เลยนำข่าวมาบอกจ้า ใครที่จะมารับเสด็จก็เชิญ ตามอัธยาศัยนะจ๊ะ
ใครอยากเอาบายศรี มาลี มาลา มาบูชา ก็เชิญจ้า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-10-03 22:50:19 |
ความคิดเห็นที่ 377 (1576216) | |
สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับบุญใหญ่มหาศาลครั้งนี้ ของอาจารย์อุบล ด้วยเจ้าค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (นางสาวลักขณา ศรประสิทธิ์) (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 10:36:37 |
ความคิดเห็นที่ 378 (1576228) | |
สาธุ ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยคะ อยากไปกราบรูปปั้นท่านท้าวเวสสุวรรณมากคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 10:56:01 |
ความคิดเห็นที่ 379 (1576255) | |
สาธุ กราบพระบาท เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้าค่ะ ขออนุโมทนา กับอ.แม่อุบล และ อ.พ่อมงคล ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 12:58:03 |
ความคิดเห็นที่ 380 (1576313) | |
ขอกราบอนุโมทนาบุญใหญ่ กับท่านอาจารย์อุบล และธรรมทาน จากหลาย ๆ ท่านด้วยคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นางมยุรีพร ภาชนะวรรณ (ma_parchanawan-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 16:57:27 |
ความคิดเห็นที่ 381 (1576317) | |
เลยนำข่าวมาบอกจ้า ใครที่จะมารับเสด็จก็เชิญ ตามอัธยาศัยนะจ๊ะ ใครอยากเอาบายศรี มาลี มาลา มาบูชา ก็เชิญจ้า -*-*-*-*-*-*-*-*- ขออนุโมทนาบุญที่ยิ่งใหญ่ กับท่านอาจารย์ทั้ง 2 ด้วยค่ะ กราบพระบาท ท่านท้าวเวสสุวรรณ ที่ทรงเมตตา -*-*-*-*-*-*-*-*-*- อ.อุบล ขา ช่วยด้วย ขอให้แมวสรุปรายงาน ให้เสร็จทันเวลาด้วยนะคะ สาธุ ๆ ๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 17:13:46 |
ความคิดเห็นที่ 382 (1576323) | |
จำได้ไหม ปีที่แล้วเสด็จพ่อฯ เตือนว่า ปี 54 เป็นปีที่ 1.เปิด สิ่งที่ ปิด / หงาย สิ่งที่ คว่ำ 2.จะมีคนตาย เป็นใบไม้ร่วง
วันนี้ท่านเมตตามา เตือนว่า ให้อยู่ห่างๆ คนชั่วไว้ อย่าข้องเกี่ยว อย่าคบหาสมาคม (อยู่ในคำสอนพระพุทธเจ้า เรื่อง 6 อบายมุข คือ ไม่ให้คบคนชั่วเป็นมิตร) เพราะ เวลาเขาเก็บกวาด คนชั่ว เขาคำนวณกรรมส่วนรวม เดี๋ยวจะต้องพลอย ซวยไปด้วย นั่นเอง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-10-04 17:35:25 |
ความคิดเห็นที่ 383 (1576348) | |
วันนี้ท่านเมตตามา เตือนว่า ให้อยู่ห่างๆ คนชั่วไว้ อย่าข้องเกี่ยว อย่าคบหาสมาคม ........................................................... กราบพระบาทท่านท้าวเวสุสวรรณ และ กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์ ที่เมตตามาเตือนลูกหลานบ้านสวนฯ ให้รู้จักหลีกเลี่ยงภัย ด้วยการอย่าได้คบคนชั่วเป็นมิตร และอย่าไปอยู่ในที่ ที่รวบรวมคนผิดศีล ไร้คุณธรรม สถานที่ที่มีความขัดแย้ง หรือ ตามสถานที่อโคจรต่างๆ ป้องกันตัวเองไว้ และปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า.. สาธุ .....................................................................
คุยไป คุยมา ปรากฎว่า พระท่านโทร.คุย กับใครไม่ทราบ พอวางสาย ท่านบอกว่า เลื่อนการส่ง เป็น วันที่ 14 นะโยม
ธรรมะจัดสรรค์อีกแล้ว เจ้าของงาน มีเวลาหายใจหายคอ ไม่ต้อง เร่งทำพร้อมกัน 2 เจ้า ..................................................... และด้วย"ธรรมะจัดสรร สวรรค์จัดสร้าง" ทุกอย่างจึงเป็นไปตามหมายกำหนดการ ที่เบื้องบนได้กำหนดไว้ได้อย่างลงตัว และสมบูรณ์แบบที่สุด กราบอนุโมทนากับท่านอ.อุบล และครอบครัวด้วยค่ะ ต่อไปนี้ลูกบ้านสวนฯทุกคน จะได้ชื่นชมบารมีท่านท้าวเวสสุวรรณ ในทุกครั้งที่มาเยือนบ้านสวนฯแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ ................................................... อนุโมทนาธรรมทานเรื่องเกี่ยวกับนิวรณ์ และวิธีการแก้ไข จากคุณพี่ตั้มด้วยนะคะ โดยเฉพาะวิธีการแก้อาการฟุ้งซ่าน ไม่เคยทราบวิธีที่ละเอียดแบบนี้มาก่อนเลย เดิมก็ใช้แต่เพียงว่า ต้องหายใจลึกๆ แรงๆ และดังๆ สามครั้ง เพื่อเรียกสติ เท่านั้น แต่ขั้นตอนเหล่านี้ ชนิดาลองทำดูแล้ว โอ้วว...ได้ผลชะงัดจริงๆ ไม่สามารถฟุ้งต่อได้เลย ไม่เชื่อก็ลองดู คร๊าบ..พี่น้อง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2011-10-04 19:25:17 |
ความคิดเห็นที่ 384 (1576352) | |
กราบแทบพระบาทเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ที่ทรงเมตตาลูกหลาน กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ท่านอาจารย์แม่ และ ท่านอาจารย์มงคล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 19:44:27 |
ความคิดเห็นที่ 385 (1576410) | |
ขอกราบขอบพระคุณ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล ด้วยความเคารพนะคะที่คอยเตือนและสอนลูกหลานบ้านสวนค่ะ ขอบพระคุณค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชนาฎ มีประกอบ (oilna007-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 22:16:46 |
ความคิดเห็นที่ 386 (1576411) | |
จากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ลูกขอได้มีโอกาสกราบเสด็จพ่อ ท้าวเวสสุวรรณสักครั้ง ลูกก็พร้อม ที่จะเผชิญค่ะ สาธุ ๆๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 22:18:45 |
ความคิดเห็นที่ 387 (1576425) | |
กราบขอบพระคุณเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล และท่านอ.มงคลค่ะ สาธุ..สาธุ..สาธุค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุริวรรณ์ ตีรวัฒนประภา (namo353-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-04 23:17:55 |
ความคิดเห็นที่ 388 (1576430) | |
เจ้าจะมีวิธีแก้ไม่ให้รำคาญได้ยังไง
ก็ต้องใช้............... ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-29 22:50:45 หลวงพ่อ ท่านให้ใช้ปัญญาเจ้าค่ะ
ใช้ยังไง ปัญญา หน้าตา ปัญญา มันเป็นยังไง
ปัญญา หน้าตาฉลาดเจ้าค่ะ คิดเป็น หาเหตุผลเป็น ปัญญา ไม่มีอารมณ์เจ้าค่ะ มีแต่ความคิดเจ้าค่ะ
เออ เข้าท่านี่หว่า ปัญญา ไหนว่ามาซิ ถ้ามีคนทำเสียงดัง ให้รำคาญ ไม่ว่าทำสมาธิ หรือ ไม่ จะใช้ปัญญายังไง จึงจะไม่รำคาญ
ก็ใช้ปัญญาคิดหาสาเหตุเจ้าค่ะ ว่าคนที่กำลังทำเสียงดังนั้น ดังเพราะอะไร อย่างเช่น ถ้าเป็นเสียงคนเมา อาละวาด เราก็ต้องคิดต่อไปว่า คนที่เมา เขาขาดสติ แม้แต่ตัวเขา เขายังควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วเราเป็นใคร จะคิดไปควบคุมเขา
แล้วคนที่เมา เขาผิดศีลข้อ 5 ต้องไปมหานรก ขุม 5 เราสมควรโกรธเขา หรือ ควรสงสาร เราไม่ต้องว่า ไม่ต้องทำอะไร เขาก็แย่อยู่แล้ว
หรือถ้าเสียงคนร้องเพลง หรือ เปิดเพลงดัง ไม่เกรงใจ เราก็ใช้ปัญญาคิดก่อนว่า ไอ้ที่เขาทำนี่ เขามีงาน นานๆ ครั้ง เราต้องเข้าใจ ทีเขา ทีเรา แต่ถ้าทำประจำ ด้วยความไม่สนใจ ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ อันนี้ก็ให้ใช้ปัญญาคิดว่า คนเราถ้าเขามีมารยาท ได้รับการ อบรมมาดี เขาจะไม่ทำเช่นนี้แน่นอน
แต่ในเมื่อเขาไม่มีมารยาท ขาดการอบรม เราก็ควรสงสาร อย่าซ้ำเติม แล้วหาโอกาสบอก ระหว่างยังไม่ได้บอก ก็คิดถึง คำสอนพระพุทธเจ้า ทำไมให้เรามุ่งนิพพาน เพราะโลกนี้ มันไม่น่าอยู่ มันน่ารำคาญ เราจะอยากเกิดอีกไหม
ถ้าเราคิดได้เช่นนี้ เราจะไม่รำคาญเสียงรบกวน ใด ใด ด้วยใช้ปัญญา เจ้าค่ะ เสด็จพ่อ
เออ เข้าท่า เอ้าว่าไป พ่อชอบฟัง
ไว้เล่าต่อวันหลังนะเจ้าคะ
เชิญท่านผู้อ่านซักถามค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-10-04 23:38:21 |
ความคิดเห็นที่ 389 (1576434) | |
กราบพระบาทท่านท้าวเวสสุวรรณ และกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ที่นำธรรมะ มาให้พิจารณาโดยใช้ปัญญา ช่างประจวบเหมาะกับค่ำคืนนี้ของผมเสียจริงๆ เพราะกำลังนั่งพิจารณาเสียงรบกวนภายนอก นั่นก็คือ เจ้าหมาน้อยบริเวณนี้ ที่เห่ามาเป็นชั่วโมง โดยไม่มีท่าทีจะหยุด นอกจากนั้นก็ยังมีหอนรับกันเป็นทอดๆ ซึ่งมากผิดปกติในคืนนี้ ก็ให้มานั่งพิจารณา หลังจากนั่งรำคาญอยู่พักใหญ่ ว่าเจ้าหมาน้อยคงโดนเจ้าของขังไว้ แล้วอยากออกจากที่คุมขังนั้นเต็มที เพราะฟังน้ำเสียงแล้วคงไม่ใช่เห็นอะไรแปลกๆ แล้วเห่า(ไปรู้ภาษาหมาอีกเรา) แล้วก็ตัดความรำคาญลงไปได้ระดับหนึ่ง ส่วนพวกที่หอนเป็นทอดๆ(ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องทอดด้วย) อยู่หลายช่วง หลายตอน และมากผิดปกติในคืนนี้ ก็คงเป็นเพราะย่างเข้าสู่ฤดูการตัวผู้ ตัวเมีย เพราะสังเกตุได้จากวันนี้มีลมเย็นๆ มาปะทะ เจ้าหมาเองก็คงหนาวเหมือนกัน...คิดอย่างนั้นก็ปล่อยไปตามธรรมชาติของเค้า ลดความรำคาญลงไปได้อีก พอมาเจอเรื่องราวเกี่ยวกับความรำคาญ ก็ย่ิงเสริมปัญญาที่มีอยู่น้อยนิด ให้เต็มเข้าไปอีก...กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลอีกครั้งครับ ที่คอยส่องสว่างในทางธรรมอยู่เสมอครับผม | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-05 00:05:16 |
ความคิดเห็นที่ 390 (1576445) | |
วันนี้ท่านเมตตามา
เตือนว่า ให้อยู่ห่างๆ คนชั่วไว้ อย่าข้องเกี่ยว อย่าคบหาสมาคม ************************************ กราบขอบพระคุณเสด็จท่านท้าวเวสสุวรรณ และอาจารย์แม่ด้วยค่ะ ที่เมตตามาเตือนให้อยู่ห่างคนไม่ดี อยู่ห่างคนชั่ว และสิ่งไม่ดีทั้งหลาย สาธุ สาธุ สาธุ ********************* กราบขอบพระคุณอาจารย์แม่ด้วยค่ะ คิดลองมาคิดแบบนี้ดูแล้ว ดูเหมือนว่าปัญหารำคาญใจต่างๆ จะน้อยลงไปเลยทีเดียวค่ะ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > วันที่ตอบ 2011-10-05 03:03:22 |
ความคิดเห็นที่ 391 (1576452) | |
ถ้าเราคิดได้เช่นนี้ เราจะไม่รำคาญเสียงรบกวน ใด ใด ด้วยใช้ปัญญา เจ้าค่ะ เสด็จพ่อ ........................................... กราบพระบาทท่านท้าวเวสสุวรรณ และกราบอนุโมทนา ในธรรมทานค่ะอาจารย์ ชนิดาได้มาวิเคราะห์ตัวเองแล้ว จริงๆชนิดาก็มีความคิดเหล่านี้ ไว้โน้มน้าวใจเจ้าจิตจอมโทสะ ทั้งหลายเหมือนกันนะคะ แต่บางทีก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง ไม่ดีขึ้นบ้าง
พอมาวิเคราะห์จากคำสอนของอาจารย์แล้ว อาจจะเป็นเพราะว่า สิ่งที่ชนิดาพยายามคิด พิจารณา และิวิเคราะห์ออกมานั้น ชนิดาไม่ได้พิจารณา ในขณะที่จิตทรงฌาณอยู่ ประมาณว่า คิดไปเหมือนท่องจำ นกแก้วนกขุนทอง ฟลุ้คถูกใจจิตชั่ว อาการโกรธหรือรำคาญก็ทุเลาลงบ้าง คือถ้าพิจารณาสิ่งเหล่านี้ได้ ในฌาณ 4 ทุกข์ก็ได้รับการปลดเปลื้อง ด้วยปัญญา
แหม่..ตอนนี้ชัดเลยว่า บางทีสติยังไม่มี.. ฌาณจะมาได้ยังไงละเนี่ย..
พูดตรงๆเมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่า ฌาณ 1 2 3 4 มีอาการต่างกันอย่างไร แต่ชนิดาว่าการฝึกกสิณสีต่างๆ น่าจะำทำให้ผู้ฝึกเห็นความแตกต่าง ของฌาณในระดับต่างๆ ได้ชัดเจนที่สุดรึเปล่าคะ แหะ แหะ ตัวเองก็ยังทำไม่ได้หรอกนะคะ แต่ก็ต้องทำต่อไป...ให้ได้ซักวัน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA (nhongjung-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-05 03:46:22 |
ความคิดเห็นที่ 392 (1576465) | |
ปัญญา หน้าตาฉลาดเจ้าค่ะ คิดเป็น หาเหตุผลเป็น ปัญญา ไม่มีอารมณ์เจ้าค่ะ มีแต่ความคิดเจ้าค่ะ
99999999999999999999999999999999999999999999999999
สาธุ กราบขอบพระคุณมาก ๆ คะ
ถ้าเราตัด อารมณ์ออกไป เราก็จะเหลือ แค่ความคิดเท่านั้น
ถ้าเรามีปัญญามาก ก็คิดได้ดีถูกต้องมาก ถ้าปัญญาน้อย ก็อาจคิดผิดพลาดไปจากหลักความจริงบ้าง
ซึ่งถ้าอยากได้ปัญญามาก ก็ต้องมีสติ มีสมาธิ ถ้าอยากมีสมาธิ ก็ต้องรักษาศีลให้ได้ ทุกอย่างต้องไปพร้อมกัน
ขาดอย่างหนึ่ง อย่างใด ก็ขัดขวางความก้าวหน้าคะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-05 07:46:09 |
ความคิดเห็นที่ 393 (1576476) | |
ขอบพระุคุณธรรมทานของอ.อุบลค่ะ วันนี้เข้ามาดูกระทู้ต่างๆ ตามปกติ แต่ไปๆ มาๆ เด้งมาอยู่ ความเห็นที่ 388 เฉยเลย
ซึ่งกำลัง อดทนกับเสียงอันดัง ของเพื่อนร่วมงานอยู่พอดีค่ะ แต่ไม่ทันจะใช้ปัญญาค่ะ ปากไวบอกเขาไปแล้วว่า.. "เสียงเธอดังไปถึงหน้าลิฟทฺ์เลยนะ"
พอพูดเสร็จสายตาก็เหลือบ มาเห็นข้อความนี้ทันทีค่ะ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีปัญญาเอาเสียเลย ใช้อารมณ์ขาดความเมตตา กับเพื่อนร่วมงาน รู้สึกสงสารเขาขึ้นมาเลยค่ะ
ลูกขอกราบขอบพระคุณ ธรรมะของท่านอาจารย์ และกราบพระบาท เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ที่เมตตาลูกหลาน ให้คำสอนด้วยแบบฝึุกหัด ชีวิตจริงเจ้าค่ะ ลูกจะแก้ไขตัวเองให้ดีกว่านี้ และจะมีเมตตาให้มากกว่านี้เจ้าค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-05 09:13:28 |
ความคิดเห็นที่ 394 (1576478) | |
ขอกราบอนุโมทนาครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชุณหพงศ์ ทองศรี (chunhapong-dot-thongsri-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-05 09:19:05 |
ความคิดเห็นที่ 395 (1576616) | |
อนุโมทนากับบทสรุปของหนูแหวน และเรื่องเหล่าที่เกี่ยวกับแบบฝึกหัด ทดสอบปัญญาที่เกิดขึ้น แบบสดๆร้อนๆจากคุณตุ้ยด้วยค่ะ เป็นไงเล่า เจอโจทย์ปุ๊บ คำตอบจากกระทู้นี้ ก็เด้ง... ให้ได้อ่าน แบบอัตโนมัติเลย โอ้วว..เว็บนี้บริการลูกบ้านสวนฯ แบบ "ทุกระดับประทับใจ" จริงๆ
จะว่าไปเมื่อคืนวันจันทร์ ชนิดาก็เจอเหมือนกัน เข้ามาอ่านกระทู้นี้ เขียนเสร็จกำลังจะส่ง ก็ส่งไม่ได้ ใช้เวลานานมาก ก็เลยคิดว่า สงสัยข้อความไม่ผ่านการอนุมัติ พอเช็คอีกที ปรากฏว่าเซิร์ฟเวอร์ ของไทยใช้ไม่ได้เลย ของต่างประเทศ ยังใช้ได้อยู่ แต่หลังจากนั้นไม่นาน สัญญาณเน็ตก็หายไปเลย จะเว็บไทย หรือต่างประเทศก็เข้าไม่ได้ทั้งนั้น แต่ชนิดาก็ยังไม่ยอมแพ้ ขอใ้ช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย ซักพักก็กู้หน้าเว็บบ้านสวนฯคืนมาได้ แต่ฟอร์แมทดูแปลกๆ เครื่องก็อืดมาก ชนิดาก็เริ่มจี๊ดแย้ววว... พยายามอยู่อีกตั้งนาน กว่าจะนึกได้ว่า อ้าว..จะปล่อยเวลา ให้เสียเปล่าไปกับอาการหงุดหงิด รำคาญใจทำไม๊ อาจารย์ก็เขียนให้ได้ อ่านกันชัดๆอยู่แล้วว่า ช่วงเวลารอส่งข้อมูล อาจารย์ก็ภาวนาคาถาต่างๆรอไปเรื่อยๆ แบบนี้เค้าเรียกว่า "โง่นี่.." แล้วก็ สอบตก อีกแล้วคร๊าบ..พี่น้อง กว่าจะคิดได้ ช้าเกินไป ไม่ทันเจ้า"อกุศลจิต" เล๊ย...
ฉะนั้น เตรียมใจให้พร้อม เมื่อศึกษาแล้ว ก็จะมีแบบฝึกหัด ให้ทำไปพร้อมๆกัน เช่นนี้แล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA (nhongjung-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-05 18:22:49 |
ความคิดเห็นที่ 396 (1576630) | |
ก็คิดถึง คำสอนพระพุทธเจ้า ทำไมให้เรามุ่งนิพพาน เพราะโลกนี้ มันไม่น่าอยู่ มันน่ารำคาญ เราจะอยากเกิดอีกไหม -*-*-*-*-*-*-*-*-
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาในธรรมทานของ อ.อุบลครับ
ไม่อยากเกิดแล้วครับ เข็ดแล้วววววววว T___T
ตอนนี้ เบส นึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าตลอดเวลาเลยคับ เพราะเบสคิดว่าถ้าเรายังต้องเกิดอีก ก็ต้องพบเจอกับปัญหาต่างๆ และเรื่องที่ทำให้เรารำคานอีกมากมาย อาจจะแสนสาหัสกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ ตอนนี้เลยไม่ค่อยรำคานอะไรแล้ว ใครมีอะไรก็ปล่อยผ่าน คิดซะว่าช่างมัน เป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าเมื่อชาตินี้มีโอกาสได้เกิดมาเป็นคนทั้งที เบสก็จะพยายามทำตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วไปให้ถึงนิพพานในชาตินี้ครับ (ตั้งใจไว้ก่อน .......ไปได้หรือไม่ ค่อยว่ากัน 555)
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-05 20:38:45 |
ความคิดเห็นที่ 397 (1576646) | |
กราบพระบาทเสด็จพ่อท้าวเวชสุวรรณ และท่าน อ.อุบล ครับ ลูกขออนุโมทนากับธรรมทาน ของท่าน อ.อุบล ที่ให้ใช้ ปัญญาพริจารณา เสียงนั้นๆ จนไม่เกิดความรำคาญครับ สาธุ สาธุ สาธุ
ขอเหลานินึง เมื่อก่อนผมจะมีปัญหาเรื่องรำคาญ เสียงรบกวนจากนอกบ้านมากๆ เพราะฝั่งตรงข้ามบ้านเป็นหอพักให้เช่า พวกนี้ชอบมาจับกลุ่มนั่งล้อมวงกินเหล้า กันที่หน้าหอ ร้องเพลงบ้าง ส่งภาษาท้องถิ่นกันดังลั่น จนชาวบ้านแถวนี้ระอากันหมด ผมจะเจอประจำเวลานั่งสมาธิ เมื่อก่อนจะรำคาญมากๆ จนเกิดโทสะก้อมี อาศัยนั่งสมาธิบ่อยๆ เอาจิตไปจับไว้ กับคำภาวนาตลอด พุท โธ บ้าง นะมะ พะธะ บ้าง แล้วค่อยๆตัดเสียงนั้นออกไป ให้รู้ว่ามันก้อแค่เสียงที่ผ่านมาเข้าหู เดี๋ยวมันก้อหยุดเอง มี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เดี๋ยวก้อต้องดับไป ทำแบบนี้บ่อยๆ มันก้อตัดไปได้เองครับ เดี๋ยวนี้ขนาดเขาเปิดเพลงแดนซ์กัน หน้าบ้าน ยังนั่งสมาธิได้เลย เสียงพวกนี้ไม่มารบกวนจิตเราได้เลย มันจะแค่คล้ายๆ เสียงลมพัดผ่านหูเราไปเอง ใครจะเอาวิธีผมไปใช้ก้อได้น่ะครับ แต่ต้องอาศัยความเพียร ในการฝึกนิดนึงน่ะครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-05 21:23:08 |
ความคิดเห็นที่ 398 (1576836) | |
เลยนำข่าวมาบอกจ้า ใครที่จะมารับเสด็จก็เชิญ ตามอัธยาศัยนะจ๊ะ ใครอยากเอาบายศรี มาลี มาลา มาบูชา ก็เชิญจ้า ============== มีข่าวมาบอกค่ะ ท่าน อ.อุบล เมตตาแจ้งให้ทราบ โดยทั่วกัน..ว่า ท่านท้าวเวสสุวรรณ จะเสด็จมาถึง บ้านสวนพิรามิด ในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2554 เวลา 9 โมงเช้า ค่ะ ท่านใดที่ประสงค์ รับเสด็จ..เชิญนะคะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-06 13:07:26 |
ความคิดเห็นที่ 399 (1576889) | |
ขออนุโมทนากับทุกท่านที่มีโอกาศรับเสด็จ ท่านท้าวเวสสุวรรณที่จะมาโปรดลูกหลานที่บ้านสวนพีระมิดวันที่ 7 นี้สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ วันที่ตอบ 2011-10-06 20:37:12 |
ความคิดเห็นที่ 400 (1576917) | |
กราบพระบาท เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ขออนุโมทนาบุญธรรมทาน ท่านอาจารย์อุบล เมื่อก่อนลูกเองก็เจอ เหตุการณ์ข้างบ้าน เสียงดัง รบกวน เวลาเขาเมา ตอนดึก ๆ เขาจะเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า บางวันก็จัดกลองชุดใหญ่ แรก ๆ ก็หงุดหงิด รู้สึกรำคาญมาก ก็พยายามนึกสงสารเขา ภรรยาเขาไม่อยู่ เขาอยู่คนเดียว คงเหงา ระยะหลังมานี่ ไม่ค่อยได้ยินแล้วคะ จู่ ๆ เขาก็เงียบไปเฉย ๆ ลูกขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตา ให้ธรรมทาน มาใช้พิจารณา โดยใช้ปัญญา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นางมยุรีพร ภาชนะวรรณ (ma_parchanawan-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-10-06 22:18:17 |
<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4] 5 6 ถัดไป >> |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1448601 |