อาหารอร่อยบรรยากาศดีดนตรีเพราะมีตลกมากมายเเถมยังติดเเอร์เย็นฉ่ำ..เเหมบรรยายยังกะคาเฟ่ที่ใครใครเค้าชอบไปเที่ยวกันน่ะค่ะ...เเต่ไม่เหมือนกันค่ะเพราะไปที่นั่นเสียเงินเเต่มาที่นี่ฟรีตลอดงานค่ะเเถมยังสนุกสนานได้ทำบุญเเรงกายปล๊ดล็อคปัญหาของเเต่ละคนอีกด้วยเเละยังได้ฟังธรรมทานที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเราทุกคนจะได้รู้เคล็ดไม่ลับว่าคนที่เค้าจนเเล้วมารวยมีสภาพคล่องหรือคนที่ครอบครัวเเตกเเยกมีกรรมอะไรเเละเค้าทำยังไงจึงหลุดกรรมหรือทำให้กรรมนั้นบรรเทาเบาบาง....ค่ายนี้ต้องบอกว่าสุดสุดจริงจริงไฮไลท์ที่สุดที่ประทับใจมากมากคือ....การรดน้ำดำหัวสิ่งศักดิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลจะไปหาที่ไหนค่ะได้รดน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์เป็นการเเสดงความกตัญญูต่อท่านที่ท่านได้เมตตาช่วยเหลือเรามาตลอดเราก็อาจเคยกราบขอบคุณในใจหรือที่บ้านเเต่นี่ท่านอ. อารธนามาเพื่อให้พวกเราได้รดน้ำหลายคนที่เข้าไปรดน้ำอาการที่เจ็บป่วยอยู่ก็หายฉับพลันทันทีบางคนก็ดีขึ้นทันใดอัศจรรย์มากเลยค่ะ

ธรรมทานจากเด็กๆ ในการใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ค่ะ

1.น้องว่าน เรียนสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหาสารคาม สอบแลปกริ๊ง วิชาอนาโตมี่ ไม่ผ่านทั้งที่อ่านหนังสือมาเยอะ แต่พอมาใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย โดยที่อ่านหนังสือเพียงนิดเดียว ใช้ก่อนสอบ โดยพูดว่า อ.อุบล ช่วยด้วย ขอให้ ทำข้อสอบแลปกริ๊ง วิชาอนาโตมี่ ให้ได้ทุกข้อ ถ้าไม่ได้ก็ขอให้ไม่ได้เพียงข้อเดียว ข้อสอบมี 12 ข้อ ทำได้ 11 ข้อ พอมาถึงข้อสุดท้ายทำไม่ได้ เลยได้ตามที่ขอตามนั้นเลยค่ะ แต่ก็สอบผ่านฉลุยค่ะ สาธุ

2.น้องอ๋า จากโรงเรียนสตรีชัยภูมิ เป็นเด็กเรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่าตลอด แต่ยังไม่เคยได้เกรด 4.00 เลย ได้ทานลูกอมอภิญญาก่อนเข้าสอบ และใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ใช้รหัสทุกวิชา ขณะสอบข้อไหนทำได้ก็ไม่ขอ ข้อไหนทำไม่ได้ก็ขอใช้รหัส ให้ทำได้ และกำจี้อุปกรณ์รุ่นคุ้มเกล้าไปด้วย พอผลสอบออกมา ปรากฏว่า น้องอ๋า สอบได้เกรด 4 ทุกวิชาเลยค่ะ

3.น้องฟิน เรียนอยู่ชั้น ป.2 จากโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ อ่านหนังสือไม่ออก สะกดไม่ได้ ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ขอให้หนูอ่านได้ อ่านคล่อง สะกดได้ เรียนเก่ง อ่านได้โดยไม่ต้องสะกด เพียงแค่ 2 วัน ก็สามารถอ่านได้หมดเลยค่ะ ทำให้คุณครูส่ง น้องฟิน เข้าประกวดการอ่าน สามารถอ่านได้ทั้งหมดเต็ม 40 ข้อ เลยคว้าที่ 1 มาแบบชิวๆเลยค่ะ เมื่อก่อนคุณแม่ต้องคอยดุ คอยตี คอยบังคับให้ทำการบ้าน ให้อ่านหนังสือ แต่ก็อ่านไม่ออก ดุทุกวัน แต่พอมาใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย สามารถอ่านคล่อง ทำการบ้านได้ ทำให้แม่ดุน้อยลงและไม่ตีแล้ว เรียนได้เกรด 3 เพียงตัวเดียว นอกนั้นได้เกรด 4 หมด ได้เกียรติบัตรด้วยค่ะ จนตอนนี้น้องฟินกลายเป็นดาวเด่นของห้องและของโรงเรียนไปเป็นที่เรียบร้อย แล้ว สุดยอดจริงๆค่ะ

4.น้องเฟส จะสอบเรียนต่อ ม.1 เมื่อก่อนอ่านหนังสือมากกว่าใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย สอบไม่ได้ สอบไม่ติด แต่พอหันมาใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย มากขึ้น อ่านหนังสือน้อยลง โดยขอว่า อ.อุบล ช่วยด้วย ขอให้สอบติด 1 ใน 10 ด้วยเถิด จากมีนักเรียนสมัครสอบ 600 กว่าคน รับ 193 คน ปรากฏว่าน้องเฟส สอบติดแถมได้ลำดับที่ 8 ด้วยค่ะ ได้ตามที่ขอจริงๆค่ะ เยี่ยมมากๆค่ะ

5.น้องวิว อายุ 15-16 ปี กำลังจะขึ้น ม.4 ขี้เกียจ ไม่ชอบอ่านหนังสือ เมื่อก่อนอ่านหนังสือก่อนสอบเพียง 1 คืน สอบได้ 50% แต่พอมาใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย สอบได้เพิ่มเป็น 80% ทั้งที่อ่านหนังสือเหมือนเดิม และคุณแม่ได้ให้ไปทดลองสอบโรงเรียนสาธิต ม.มหาสารคาม โดยใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย รับทั้งหมด 40 คน ปรากฏว่าน้องวิวสอบได้ลำดับที่ 11 ค่ะ แต่สละสิทธิ์ และได้ไปสอบเข้าโรงเรียนเดิม โดยไม่ค่อยอ่านหนังสือ แต่ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย รับทั้งหมด 30 คน ปรากฏว่าน้องวิว สอบได้ลำดับที่ 9 ค่ะ

6.น้องปังปอนด์ เป็นคนที่ชอบนอน ขี้เกียจ ไม่ชอบอ่านหนังสือ รู้จักท่านอาจารย์อุบลจากเพื่อน และได้บูชาอุปกรณ์รุ่นคุ้มเกล้า ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย สอบคณิตได้ 16 เต็ม 20 ทั้งที่เมื่อก่อนจะสอบได้แค่เพียง 7-12 ข้อ ตกอย่างเดียว แต่พอใช้รหัสก็สอบผ่าน และยังใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ขอให้ได้เกรดเฉลี่ย 3.3 ขึ้นไป หรือ 3.35 พอได้ใบเกรดมา ปรากฏว่าไดเกรดเฉลี่ย 3.35 เท่าที่ขอเลยค่ะ จากที่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือสอบนะคะเนี่ย เยี่ยมจริงๆ

การใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ควรใช้ทั้งก่อนสอบ ขณะที่สอบ และหลังสอบด้วยค่ะ และการใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ถ้ากำลังใจที่ใช้ต่างกัน อานิสงส์ก็จะต่างกันตามกำลังใจของแต่ละคนค่ะ

 คุณเก็ดถะหวา  กาสะลอง(คุณแอน)เธอเล่าว่า....

เธอมากราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลฯว่า....เธอได้พาเพื่อนเข้ามา

บ้านสวนฯโดยที่คิดว่า...อยากให้เขาได้บุญและตนเองก็จะได้

รับบุญด้วยเช่นกันโดยที่่เขาก็ยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลบ้านสวนฯเลย

แต่เขาอยากมาเฉยๆ...พอเขามาพบกิจกรรมสร้างบุญด้วยแรงกาย

ซึ่งเหนื่อยและร้อนมากและไม่พอใจกับการสร้างบุญแบบนี้้

และยังมาเห็นภาพที่ท่านอาจารย์..ร่าเริงสดใสมีความสุขไม่สำรวม

เหมือนกับผู้ปฏิบัติธรรมทั่วไปอีก...เขาบอกว่ารับไม่ได้...

เขาพยายามพูดชักชวนให้คุณแอนไม่มาร่วมบุญที่บ้านสวนฯ..

และเขาทนไม่ได้ที่มองเห็นองค์พีระมิดที่คุณแอนเคารพและศรัทธา

ซึ่งวางอยู่ในห้องเดียวกัน...คุณแอนบอกว่า...ยังไงก็เลือก

ท่านอาจารย์อยู่แล้ว...ในที่สุดเขาก็ทนอยู่ไม่ได้และแยกห้องไป

 ทำให้คุณแอนมีความสุขมาก.

ในcaseนี้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างการชักชวนคนเข้าบ้านสวนฯว่าต้อง

ดูให้ดีเสียก่อนที่จะนำพาคนเข้ามาบ้านสวนฯ..ว่าเขามีความเข้าใจ

และศรัทธาหรือไม่เพียงไร..

ธรรมทานค่าย20 หล่อ สวย รวย สุข เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท็อปค่ะ ที่ได้เปิดบ้านส่วนตัว ซึ่งเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ให้พวกเราได้เข้ามาสร้างบุญ และเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานอันหาประมาณมิได้ และในบรรยากาศบ้านสวนฯก็ตกแต่งสวยงามมากประดุจภพสวรรค์ก็ว่าได้ ผู้คนที่ได้มาก็หน้าตาเบิกบานสดใสล้วนแต่มีความสุข ที่จะได้มาเจอกันเปรียบเหมือนประหนึ่งเป็นวันรวมญาติก็ว่าได้ค่ะ ก่อนจะเข้าสู่การปฐมนิเทศ พวกเราก็ได้รับฟังธรรมทานดีๆจากคุณน้อย ยุวรัตน์ หัวหน้าสาขาจังหวัดอุดรธานี มาเล่าให้ฟังว่ากลับจากค่าย19 ชีวิตที่มีปัญหาทุกด้าน การงาน การเงิน หนี้สิน ปัญหาทุกอย่างคลี่คลาย 1.การงานกอบกู้มาได้ 2.ครอบครัวกลับมาปรองดอง 3.สามีที่เคยมีเมียน้อยกลับมารักครอบครัว 4.ปัญหาหนี้สินคลี่คลาย เรียกได้ว่าอิ่มกับความสุขกันแบบเต็มๆไปเลยค่ะคุณน้อย แล้วก็ยังมีผู้ที่ได้รับอานิสงค์ต่างก็มาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อแสดงความกตัญญูกันอย่างทั่วหน้าค่ะ และก็พิเศษไปกว่านั้นก็คือในค่ายนี้ท่านอาจารย์อุบลได้เมตตาเปิดโอกาสให้ขอขมา ซึ่งในรอบสองปีที่ไม่มีการขอขมา ก็นับว่าเป็นโอกาศที่ดีในวันสงกรานต์นี้ค่ะ ยุคพระศรีอาริย์จะมีแต่คน หล่อ สวย รวย สุข ไม่เจ็บไม่จน สุขภาพแข็งแรง และกุญแจดอกสำคัญที่จะปลดล็อคกรรมต่างๆได้นั้นก็คือ กตัญญู ค่ะ น้องมะเหมี่ยว เพิ่งทำงานได้1ปี8เดือน เป็นเด็กที่ขยันมาทำบุญแรงกายที่บ้านสวนฯ มาเข้าค่ายทำการแสดงร้องเพลง เต้น แต่อานิสงค์ส่งผลถึงการทำงาน ทำให้ได้ปรับเงินเดือนถึง3ครั้ง ทำงานก็ทำเต็มที่ รวมๆแล้วได้รับเงินเดือน 2หมื่นนิดๆ ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากโมทนาสาธุด้วยค่ะ

ค่าย หล่อ สวย รวย สุข เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์        ก็ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ภาพบรรยากาศความทรงจำดีๆ ยังไม่เลือนหายไปไหน ยังมีแต่รอยยิ้ม ความสุข ความสนุก ของทุกๆท่านค่ะ

ค่ายนี้ตรงกับวันหยุดปีใหม่ไทยพอดี พวกเราต่างก็ร่วมรดน้ำดำหัวขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล เพื่อแสดงความกตัญญู ในสิ่งต่างๆที่ล้วนได้รับความสุขกันมา

วันแรกก็ได้มีการปฐมนิเทศในช่วงเช้า ซึ่งพูดเกี่ยวกับสิ่งที่แต่ละคนต่างได้รับความสุขมา เช่น

เคส คนเตี้ย ขอ สูงหน่อย สักนิด

->คุณชิม ตอนนี้อายุ 29 ปี เคยเขียนปัญหาที่ต้องการบำบัดว่า อยากสูง ซึ่งตอนนันยังเตี้ยอยู่ หลังจากค่าย 19 ได้ไปวัดส่วนสูง ปรากฏว่า สูงเพิ่มรวมเป็น 2 ซม.

->คุณแก้ว อายุ 49 ปี มีอาชีพเป็นพยาบาล เดิมสูง 150 ซม. สูงขึ้น 2 ซม. เป็น 152 ซม. ซึ่งคุณพยาบาลแก้วบอกว่า รู้สึกว่า แขนขาจะยาวขึ้นด้วย ใบหูก็ใหญ่ขึ้น อิอิ

->คุณธนา  40 ปี พิธีกรสูงโปร่ง เดิมตอนถ่ายรูป เวลาคุณธนายืนถ่ายรูปใกล้ท่านอาจารย์อุบล คุณธนาจะเตี้ยกว่า แต่ตอนนี้ คุณธนา จะดูสูงกว่าท่านอาจารย์อุบลซะแล้ว แล้วยิ่งเมื่อเทียบกับ คุณชนิดา ที่ชอบแซวกันว่าเมื่อก่อนต้องเงยคอคุย จนเมื่อย แต่ตอนนี้ยืนคุยธรรมดาได้สบายๆแล้ว

ทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้น ทางวงการแพทย์ต้องบอกว่าเป็นไปไม่ได้แน่ เพราะคนเราจะหยุดความสูงเมื่ออายุเฉลี่ยประมาณ20 ปี แต่นี้ แต่ละคนเล่นอายุ เลยวัยไปนานแล้ว ซึ่งไม่น่าจะสูงแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เหมียวคิดว่า เกิดเพราะพลังบูญมากกว่าค่ะ

เคสต่อไปเป็นเรื่องอนาคตของชาติ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย....  

->น้องว่าน เรียนสาธารสุขศาสตร์ มีการสอบวิชาอนาโตมี้ ซึ่งเป็นวิชาที่ท่องจำ แต่น้องบอกว่าน้องไม่ชอบวิชาท่องจำ ตอนสอบน้องว่านจึงใช้หรัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ปรากฏว่า ทำไม่ได้ข้อเดียว เหตุผลเพราะว่า ตอนน้องใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยน้องพูดว่า อาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้หนูทำของสอบให้ได้ทุกข้อ ถ้าไม่ได้ก็ขอให้ผิดข้อเดียว ปรากฏว่าน้องทำไม่ได้ข้อเดียวจริงๆด้วย

->น้องอ๋า ได้เกรด 4.00  ในตอนทำข้อสอบได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย น้องบอกว่า ในขณะที่สอบก็ใช้รหัสไปด้วยกำจี้ไปด้วย และทานลูกอมอภิญญาด้วย น้องพูดว่า สาธุอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ทำข้อสอบถูกด้วย ปรากฏว่าผลสอบออกมาได้เกรด 4.00 เด้อคร้าาา เยี่ยมไปเลยเด็กไทยเรา

->น้องฟิน เมื่อก่อนอ่านหนังสือไม่ออกสะกดไม่ได้ใช้รหัส 2 วัน อ่านหนังสือได้หมดเลย น้องพูดว่า อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้หนูอ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องสะกด ปรากฏว่าน้องสามารถอ่านหนังสือได้ภายในเวลา 2 วันเท่านั้น เหลือเชื่อมั้ยล่ะค่ะ สุดยอด น้องบอกว่าไปประกวดแข่งการอ่านมาด้วยนะ ได้ที่ 1 เลยล่ะค่ะ ตอนนี้กลายเป็นดาวเด่นของห้องและโรงเรียนไปแล้วคร้าา การเรียนของน้อง น้องได้เกรด 3 มาตัวเอง นอกนั้น 4 หมดจร้าา

->น้องเฟรส น้องใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย สอบได้ที่ 8 จากจำนวนผู้สอบ 693คน รับเพียง 193 คน น้องบอกว่า อ่านหนังสือให้น้อยลง ใช้หรัสให้มากขึ้น น้องใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ทั้งก่อนสอบ ขณะสอบ และหลังสอบ ค่ะ

->น้องวิว สอบเข้าสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสาราคาม ได้ที่ 11 รับ 40 คน และสอบห้อง กิฟเต็ด ของโรงเรียน ได้ที 9 รับ 30 คน

เพราะฉะนั้น คิดว่า เวลาเด็กๆเข้าห้องสอบ สิ่งที่เด็กๆที่เล่ามา เคยทำ เคยใช้ สรุปได้ง่ายๆดังนนี้ คือ รหัสจักรวาลอาจารย์อุบลช่วยด้วย  จี้รุ่นคุ้มเกล้า ลูกอมอภิญญา และที่สำคัญที่สุดคือ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด นั้นก็คือสิ่งศักดิ์ศิทธิ์ที่เรามองไม่เห็น แต่มีอยู่จริง ซึ่งผลที่ได้รับจะต่างกับคนที่ได้ใช้พลังของตนเองค่ะ ....

วันนี้ของจบเพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ บับบายคร้าาา

 ธรรมทานค่าย 20 หล่อสวย รวย สุข เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์

ค่าย 20 นับเป็นค่าย คืนสู่เหย้า เป็นค่ายที่ได้มีโอกาส รดน้ำ ดำหัว ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว เป็นค่ายที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนกลับมาบ้านที่แท้จริงและได้มีโอกาศมาแสดงความกตัญญูรู้คุณผู้ที่เป็นทั้ง พ่อแม่ ครูอาจารย์ เป็นทุก ๆ อย่างของลูกและครอบครัว ศรีสุข  บรรยากาศในค่ายก็อบอุ่น เหมือนคนรู้ใจได้กลับมาเจอกัน ทุก ๆ คนก็เป็นกันเองมากขึ้น ไม่เกร็ง เหมือนเมื่อตะก่อน รู้สึกอบอุ่นดีค่ะ

ส่วนในด้านกิจกรรม ใน 3 วัน กิจกรรมบุญแรงกายจะมีครึ่งวัน ก็จะมีกิจกรรมแรงกายตามฐานบุญต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย มีฐานเกษตร ฐานรั้ว ฐานองค์พระ ในระหว่างกิจกรรมทุก ๆ คนรวมถึงตัวเองก็ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมกันอย่างแข็งขัน แบบไม่มีใครยอมใคร ดูแล้วสนุกสนาน ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ส่วนอีกครึ่งวัน ท่านอาจารย์อุบล เมตตาให้ลูกหลานได้สนุกสนานเล่นน้ำสงกรานต์ ได้มีโอกาสปล่อยแก่ หลังจากห่างหายการเล่นแบบนี้มานานพอควร(เพราะทุกข์จากการผิดศิล 5 ทุก ๆ ข้อ เลยไม่ได้มีโอกาสเล่น)

ส่วนกินกรรมภาคการคืน ก็มีการแสดง ๆ ของลูก บ้านสวนได้มีความเฮฮาครึกครื้นรื่นเริงสนุกสนานปนฮามากค่ะ

ส่วนในด้านของธรรมทาน ขอยกตัวอย่างของลูกชายตัวเองแล้วกันค่ะ ชื่อ นายมนัสชา ศรีสุข หรือ น้องพริก อายุ 18 ปีน้องพริกนั้นมีความใฝ่ฝันอยากเข้ารับราชการทหารแบบพ่อ และได้สมัครเข้าสอบแข่งขัน ในการสอบนักเรียนจ่าอากาศโดยใช้ความพยายาม เป็นเวลา 2 ปี ทั้งเรียนพิเศษ ในช่วงเวลาปิดเทอม กับติวเตอร์ แต่การสอบ ก็ยังไม่ผ่านในปีแรกตอนนั้นแม่นก(สุรดา ศรีสุข) ได้บอกให้น้องใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย แต่น้องพริก ยังไม่เชื่อ แต่เชื่อฝีมือตัวเอง เลยสอบไม่ผ่าน ปีที่ 2 น้องพริกก็เรียนพิเศษอีก ปีนี้แม่นก ก็ได้รู้จักผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่คิดว่า น่าจะฝากน้องพริกให้เข้าเรียนได้ แต่ผลปรากฏออกมาว่า น้องก็ไม่ผ่าน (นี่ขนาดใช้เส้นแล้วนะ) และระหว่างสอบ(ปีที่ 2) น้องก็ดันเป็นเส้นเลือดฝอยอักเสบขึ้นมาสะงั้น คุณแม่นก ก็เอะใจ ว่ามันต้องมีสิ่งที่คอยขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของน้องเป็นแน่ เลยชวนน้องตั้งหลักใหม่ ด้วยการบอกให้น้องหันมาใช้บุญแรงกายที่บ้านสวนพีระมิดให้มากขึ้น เพราะบุญเท่านั้นที่จะช่วยให้สมหวังได้ หลังจากน้องพริกเชื่อคำที่แม่พูด และมาทำบุญแรงกายที่บ้านสวนฯ แล้ว น้องก็กลับมาสอบในอีกปีที่ 3 ซึ่งตอนนี้แม่นก(สุรดา ศรีสุข) รู้แล้วว่าจะช่วยลูกวิธีใด หลังจากน้องมาเข้าค่าย 18 แม่นกได้บูชาจี้สามร่มโพธิ์ศรีเพิ่มให้น้องพริกอีก 1  องค์ หลังจากนั้นน้องก็มาสอบ แล้วผลการสอบก็ทำให้ไม่ผิดหวังเพราะน้องสอบได้.....จากที่มีผู้ร่วมสอบประมาณ 10,000.- รับ 500 น้องพริกได้ลำดับที่ 14  ทั้งหมดนี้เพราะบุญแรงกายของบ้านสวนพีระมิดและวัตุมงคง(จี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี)รวมถึวบารมีของท่านอาจารย์อุบลเท่านั้น ที่ทำให้น้องพริก และคุณแม่สมหวังค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณท๊อป และเทวดาที่รักษาอาจารย์อุบลทุก ๆ พระองค์ ที่เปิดโอกาศให้ลูกและครอบครัวได้มีโอกาศมาสร้างบุญแรงกายและบุญอื่น ๆ อีกมากมายในบ้านสวนพีระมิด ทำให้ลูก(สุรดา  ศรีสุข) ได้รู้จักกฎแห่งกรรมและเข้าใจมากขึ้น รู้จักเหตุที่ทำให้ทุกข์ และวิธีดับเหตุแห่งทุกข์ รู้จักแนวทางแก้ไขปัญหาชีวิตที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน ทำให้ครอบครัวลูกมีความสุขมากขึ้น ครอบครัวอบอุ่น ปรองดอง การงานการเงินมีสภาพคล่องมากขึ้น ทั้งหมดนี้ลูกขอบกราบแทบพระบาททุก ๆ พระองค์มีท่านพ่อดตาจินิน เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อปเป็นที่สุดด่ะ

ปล.น้องพริกเรียนไม่เก่งหรอกค่ะ แต่ที่สอบได้เพราะบุญบ้านสวนพีระมิดและบุญท่านอาจารย์อุบลล้วน ๆ ค่ะ อิอิ แม่นกคอนเฟริม

 ไอเป็นเลือด  จากการผิดศีลข้อ 4

คุณณฐรัญชน์  ปาโมกข์ คุณปู จากจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ออกมาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านอาจารย์อุบล  บ้านสวนพีระมิด คุณปู มีอาการปวดข้อมือมา 8 ปี  ได้ดูรายการ คุยไปแจกไป  ใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย  อาการเบาขึ้น และก้หาย  ก็ได้ใช้รหัสมาเรื่อย ๆ  คุณปู มาเข้าค่าย มาร่วมกิจกรรมเสาร์อาทิตย์ และได้บูชาวัตถุมงคลของบ้านสวนไป และก็นำองค์พีระมิดไปวางรอบบ้าน  โดยเฉพาะในห้องน้ำ  ก็วางรุ่นท่านพ่อดตาจินิน  ป้องกันมาร ซาตาน อสูร และก็ได้ไปเม้นท์ในเฟซ กระทู้คบคนชั่วเป็นมิตร ยังเขียนไม่เสร็จ  ก็ถ่ายของเสียออกมาทันที  คุณปูบอกว่า ของเสียที่ถ่ายนั้นคือ พวกคุณไสย์มนต์ดำที่โดนทำใส่มาอย่างมากมาย ตลอดเวลานาน  สามีไม่มีงานทำ  ก็ได้งานทำ  และมีรายได้มากกว่าที่ได้ตกลงกันในตอนแรกอีกด้วย   สามีก็เอาเงินมาให้คุณปูใช้อีก  ก็ถ้าไม่ใช่บุญบ้านสวน  แล้วจะเพราะอะไร  เพราะอยู่มานาน  ชีวิตก็ไม่ดีขึ้นเลย  แต่พอได้มาทำบุญบ้านสวน  ชีวิตเปลี่ยนไปทุกด้าน แบบก้าวกระโดดทีเดียว    คุณปูสำนึกในบุญคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอาจารย์อุบล จึงได้มากล่าวขอบคุณในค่าย 20 หล่อ สวย รวย สุข เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์ 
และต่อมา คุณปู ซึ่งเจ็บคอ ไอตลอด ไอเป็นเลือด ก็ได้ออกมาสารภาพบาปว่า ผิดศีลข้อ 4 มา ชอบด่า ด่าสามี สารภาพแล้วคอโล่ง หาย 90 % และได้มององค์พีระมิด รุ่นใหม่ หล่อ สวย รวย สุข  อาการดีขึ้นเป็น 95 %   คุณปู พูดจาไม่ฉะฉาน เวลาบอกว่า จะไม่ทำผิดอีกแล้ว ก็ไม่สามารถยุติเหตุได้  แต่เมื่อ คุณปูพูดใหม่ว่า  จะไม่ทำอีกแล้ว ด้วยความฉะฉานมั่นใจว่าจะไม่ทำอีกอย่างแน่นอน  สำนึกและเปลี่ยนแปลงตัวเอง  และมามององค์พีระมิด หล่อสวย รวย สุข อีกครั้ง  อาการทั้งหมดก็หาย 100 %  คร่า

พระพุทธเจ้า จะเลือกสงเคราะห์

บัวเหล่าที่ 1 และเหล่าที่ 2

บัวเหล่าที่ 1 คือ บัวเหนือน้ำ  บุคคลที่เข้าใจอะไรง่าย บอกแค่หัวข้อก็เข้าใจแล้ว มองตาก็เข้าใจแล้ว 

บัวเหล่าที่ 2 คือ บัวปริ่มน้ำ บอกหัวข้อไม่ข้าใจ  ต้องอธิบายเพิ่มเติมจึงจะเข้าใจ ต้องรอให้พ้นน้ำ หรือท่านอธิบายแล้วจึงสงเคราะห์

บัวเหล่าที่ 3 คือ บัวใต้น้ำ  บอกหัวข้อก็ไม่เข้าใจ  อธิบายก็ไม่เข้าใจ  ต้องได้รับบทเรียน ความเจ็บป่วย ความทุกข์ทรมานก่อน จึงจะเข้าสู่ธรรมะ 

บัวเหล่าที่ 4 คือ บัวใต้โคลนตม บอกหัวข้อก็ไม่เข้าใจ  อธิบายก็ไม่เข้าใจ ได้รับบทเรียน การลงโทษก็ไม่เข้าใจ  เหมือนคนออกจากคุกก็ไม่เข้าใจ คิดไม่ได้ ได้รับการลงโทษใด ๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนจิตใจได้  พระพุทธเจ้าไม่โปรด  ถ้าไปโปรด แสดงว่าเราทำตัวเหนือพระพุทธเจ้า 

ธรรมะของพระพุทธเจ้าต้องบันลือสีหนาท  ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีสงเคราะห์ของผู้คน   ไม่ต้องเที่ยวไปงอนง้อให้คนมาบำบัด  เมื่อออกไปบำบัดช่วยเหลือผู้คน  เพียงทำให้เขาได้รับรู้แค่นั้น  ถ้าเขาพอมีบุญหนุนนำ  เขาก็จะพยายามหาทางพ้นทุกข์เอง  เลิกวุ่นวายกับบัวเหล่าที่ 3 และ 4  เลิกคบคนชั่วเป็นมิตร  หาบัวเหล่าที่ 1 และ 2 ให้เจอ

การที่ต้องดูรายการ 9 ตอน การแต่งตัวของท่านอาจารย์  การทำตัวสบาย ๆ คือการกลั่นกรองเอาบัวเหล่าที่ 3 และ 4 ออกไป  บัวเหล่าที่ 1 และ 2 ก็จะเข้ามาได้  

หาบัวเหล่าที่ 1 และ 2 ให้เจอ  มีจำนวนเท่าเขาสัตว์  

บัวเหล่าที่ 3 และ 4 มีจำนวนเท่าขนสัตว์

ทำไมไม่ดูว่า  ทำไมอาจารย์อุบลจึงสวย  ทำไมอาจารย์อุบลจึงมีความสุข ทำไมมีเงินไม่หมด ทำไมอยากซื้ออะไรก็ได้ซื้อ  ทำไมครอบครัวมีความสุข  ทำไมมีคนอิจฉาริษยา อ.อุบล  ทำไมคนที่อิจฉาริษยา อ.อุบล ทำอะไร อ.อุบลไม่ได้ 

เวลาไปบอกให้คนอื่นดูว่าจิตใจอาจารย์อุบลเป็นอย่างไร  มันดูยาก  ต้องบอกให้ดูว่า  คนอื่นมาใกล้  มารับพลัง เขาหาย ยังไม่เห็นอีกเหรอ  

ศาสนาของพระพุทธเจ้าจะบรรลือสีหนาทไปอีก80,000 ปี

หน้าที่ของเราคือ การบอก  ถ้าไม่บอก  เราบาป  เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่บุญกรรมของเขา   ถ้าเขาปรามาส  เขาก็บาปเอง   แต่ถ้าเขาปรามาส  แล้วเราได้ยิน  เราไม่ชี้แจงความจริง เราก็บาป  

สาธุ  สาธุ  สาธุ

ที่ผ่านมา ตัวองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่วิ่งเข้าไปหาคนโน้น คนนี้  เที่ยววิ่งขอบำบัผู้คน  ไม่ทำให้ธรรมะของพระพุทธเจ้าบันลืสีหนาท  ต่อนี้ไป  จะไม่วิ่งไปขอบำบัดใครอีกแล้วคร่า   อยู่ ก็มีคนแชทเข้ามาทางเฟซสองราย
- คุณนุ๊กนิก ประสบอุบัติเหตุมา แขนขวาไม่มีแรง ยกไม่ขึ้น ใช้แขนซ้ายได้อย่างเดียว คุณนุ๊กนิกผิดศีล  ฆ่ายุง มด เห็บ หอย ขับทมอเตอร์ไซค์ชนไก่ มีกิ๊ก  และเถียงพ่อแม่ พูดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดไม่ดีกับพ่อแม่  หลังจากที่สารภาพผิด และได้นึกกราบขอขมาแม่ในใจ อาการก็ดีขึ้น 50 % อนันตริยกรรมที่ทำกับพ่อแม่  ทำให้ไม่สามารถได้ รับการบำบัดด้วยวัตถุมงคลของบ้านสวนพีระมิดแล้วได้ผล  คุณนุ๊กนิกตั้งใจที่จะไปกราบขอขมาแม่  และได้ให้ไปดูรายการคุยไปแจกไป ในเว็ป  จะได้เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม และอนันตริยกรรมให้ดีขึ้น
- ผู้ชายอีกคน ก็ต้องการมีงานทำ  จงได้แนะนำการใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  วิธีการใช้ และตัวอย่างการใช้ที่สำเร็จ   และแนะนำให้ไปดูรายการคุยไปแจกไปในเว็ปด้วยคร่า

และอีกราย ไปซื้อของที่ร้าน
- พี่ปุก เป็นเจ้าของร้าน ขนม ร้านอาหาร มีอาการขายอก จากการผิดศีลข้อ 1 ฆ่าสัตว์ และก็ไปนวดและเหยียบให้สามี  หลังจากที่สารภาพความผิด ได้สัมผัสองค์พีระมิด รุ่นบารมีคู่ อาการก็ดีขึ้น 55 %  จึงได้ให้คุณปุกไปนึกกรรม  และก็ให้คุณปุกกล่าวขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์  และแนะนำให้บูชาองค์พีระมิดรุ่นบารมีคู่  เพราะผีในตัวคุณปุกต้องการบุญจากองค์พีะมิด รุ่นบารมีคู่ ซึ่งการหายนี้ จะหายถาวรก็ต่อเมื่อคุณปุกทำบุญให้ผีด้วยตัวเองเท่านั้น
 

 ป้าเล็กอายุ 67ปี ปวดเข่าประมาณ 3-4 ปีและมีอาการชา ข้อนิ้วปวด โดยบำบัดอาการปวดเข่า .โดยใช้รหัสท่าน อ. อาการดีขึ้น 50% และได้สารภาพบาป ป้าเล็กสารภาพว่าเคยฆ่าไก่ ปลา ตี หมา แมว และ เคยแท้งลูก อาการดีขึ้นอีก วางพีรามิดรุ่นท่านพ่อดตาจินิน บอกว่าถ้าผีที่อยู่ในตัวต้องการบุญจากพีรามิดบ้านสวนให้อาการดีขึ้นอีก อาการดีขึ้นอีกบำบัดอาการข้อนิ้วโดยให้สารภาพเพิ่ม ว่ามือนี้เคยทำกรรมอะไรมาให้มา นึกให้ออกป้าบอกว่าได้แกะปู ฆ่าปู ดองแมงดา รวกน้ำทั้งเป็น สารภาพไปเรื่อยๆ อาการที่มือชา ปวดข้อนิ้วดีขึ้น 80 %ป้าเล็กได้บูชา พีรามิดรุ่น พระนางเนเฟอตารีสร้างบุญให้ ลูกและเจ้ากรรมนายเวร 1 องค์ ขณะที่ใช้รหัสอาจารย์ ป้าเล็กร้องไห้และสำนึกผิด ตลอดค่ะ……ผ่านไปหลายเดือนแวะไปคุยกับแกป้าเล็กเล่าว่าชีวิตมีความสุขมากขึ้นจากแต่ก่อนนอนก็ไม่ค่อยหลับบูชาพีรามิดพระนางเนเฟอตารีไปหลับสบายและเล่าว่าเรียกรหัสท่านอ.ตลอดแกมีทุกข์ว่าทุกวันนี้ไม่มีบ้านเป้นของตัวเองอยุ่บ้านหลวงก็ทุกข์ตามประสาคนห่วงลูกหลานแกบอกว่าขอให้อ.อุบลช่วยแม่เฒ่าด้วยแม่เฒ่ายากจนบ้านไม่มี..ก็มีสาเหตุมีคนมาจัดที่เป็นล็อคให้ผ่อนได้แกบอกว่าเป็นเพราะแกขอท่านอ.อุบลทำให้มีคนจัดที่เป็นล็อคมาให้ผ่อนได้ลำพังเงินก้อนแกกับลูกคงไม่มีปัญญาและหลานหลานที่เรียนแกก็ขอให้สอบได้ก็สอบได้แกมีความเชื่อมั่นต่อท่านอ.อุบลแม้แต่ไม่เคยเห็นหรือพบมาก่อนเป็นเพราะตอนที่พิสูจน์อาการเจ็บป่วยให้แกมันดีขึ้นถึง 80%.ทำให้แกเชื่อมั่นศรัทธาท่านอ. ทุกวันนี้แกไม่ทานเนื้อสัตว์ด้วยค่ะเห็นคนที่เค้ามีความสุขและความหวังทำให้จิตใจเราเบิกบานอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้เลยค่ะ

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวค่ะ

ขอบคุณธรรมทานจากทุกๆท่านนะคะ

เจนนี่ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอาจารย์อุบล เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

ก่อนที่จะมารู้จักท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด เจนนี่เคยทำอาชีพเป็นหมอดู ทำนายชีวิตคนเป็นพันๆคน ไม่มีภูมิธรรม และเราเองคิดว่าเราเก่ง ช่วยเหลือคนอื่นๆได้ แต่มันเป็นการไปแทรกแซงกรรมของคนอื่น จึงทำให้ผีของทุกๆคน เข้ามาอยู่ที่ตัวของเจนนี่ ทำให้ชีวิตตกต่ำ ครอบครัวไม่สงบ การงานชะงักงัน การเงินติดขัดขาดสภาพคล่อง คนที่มาดูดวงแต่ละคนมีความทุกข์ และเราไปช่วยเค้า ทำให้ผีของเค้าทั้งหลายโกรธแค้นเรา และมาเล่นงานเราทุกทาง

อย่างที่ท่านอาจารย์อุบลให้ธรรมะว่า "ถ้าเราเดินตามกำลังของเรา เราจะไม่รอด ถ้าดันทุรังจะมีอุปสรรคมาก สุขภาพก็เจ็บป่วย"

"ให้เราใช้กำลังภายใน คือ ผู้อยู่เบื้องหลังเรา

ผู้อยู่เบื้องหลังเราคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์.."

เมื่อกรรมรวมตัวกัน..เหตุเกิดประมาณวันที่ 19 เมษายน 2555 เป็นวันที่มีคนร้ายเข้ามาในร้าน และเข้ามารวบรัดตัวของเจนนี่เพื่อทำร้ายร่างกาย หวังเพื่อที่จะทำให้บาดเจ็บหรือตายก็ไม่ทราบ ควบคุมตัวเจนนี่เข้าไปในครัว แต่ด้วยเหตุอัศจรรย์หรือบังเอิญ ทำให้ข้าวที่แช่ไว้อยู่หกตกร่วงพื้นแฉะ ทำให้คนร้ายยืนไม่สะดวก ต่างคนต่างลื่น แม้คนร้ายพยายามที่จะต่อยที่ท้อง และลิ้นปี่ หรือพยายามที่จะมัดมือมัดเท้า แต่ก็ทุลักทุเลกันทั้งคู่ จนเวลาผ่านไปสักพักหลังจากการต่อสู้ จนคนร้ายเหนื่อยหนีออกไปจากร้าน อย่างน้อยโชคดีที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ให้รอด ให้มีชีวิตอยู่..

จากเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ จากที่คิดว่าช่วยคนอื่นได้ แต่กลับช่วยตัวเองไม่ได้ ยังมีความทุกข์ ครอบครัวแตกแยก  จนวันที่ได้รู้จักท่านอาจารย์อุบล จากการดูรายการธรรมะบำบัด และรายการคุยไปแจกไปช่วงเดือนเมษายน 2556 ทำให้เห็นกฏของกรรม เพราะเราทำผิดศีล ได้ดูการพิสูจน์กฎของกรรม แล้ว จึงเกิดความสำนึก ในความชั่วร้ายเลวทรามของตนเองที่ผ่านมา เดินหลงทางมานานแสนนาน ไม่เคยให้ทาน ไม่เคยรักษาศีล และขาดสติปํญญา..

จึงขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านอาจารย์อุบลที่ได้มอบชีวิตใหม่ การเกิดใหม่ให้กับเจนนี่ จากคนที่เดินทั้งหลงทาง หลงทั้งตัวเอง..ทำให้มองเห็นแสงสว่างนำทางทุกวันนี้

เจนนี่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิด มีท่านอาจารย์อุบลเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นขวัญ เป็นกำลังใจ ให้เจนนี่ได้ดำเนินชีวิตมาจนปัจจุบันค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงในความเมตตา กรุณาความปรารถนาดี อย่างหาที่สุดไม่ได้จากท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ค่ะ

..............................................................................

ขอเล่าเพิ่มถึงความอัศจรรย์ที่ได้รับ..ในช่วงเข้าค่าย 20 นี้ ในวันแรก ช่วงตอนที่ท่านอาจารย์ปฐมนิเทศน์อยู่ สามีโทรเข้ามา แต่ไม่ได้รับสาย แต่โทรกลับไปช่วงพักกลางวัน เจนนี่ถูกดุด่า ว่าเรื่องไม่ปิดเตาแก๊สที่บ้าน ทำให้อาจเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้บ้านได้ (คิดในใจว่าเป็นเพราะบุญที่มาบ้านสวน ทำให้บ้านปลอดภัย)

พอวันที่สามช่วงทำบุญแรงกายทำความสะอาดรอบๆบ้านท่านอาจารย์อุบล เจนนี่ได้รับโทรศัพท์จากสามี ถามว่า"จะกลับบ้านวันไหนครับผม ..คิดถึง"

(โอ้โห นึกว่าจะด่าว่าเราอีก ตกใจหมดเลย)(ซึ่งเป็นไปไม่เคยได้ สามีไม่พูดแน่ๆคำว่า คิดถึง ออกหน้าออกตาขนาดนี้ เพราะเราเป็นคนไม่ดีผิดศีลข้อ 3 มามาก)

อัศจรรย์มาก งงมาก ไม่น่าพูดขนาดนี้ว่าคิดถึงได้..ลงท้ายด้วย ครับผม ยิ่งไปกันใหญ่

และพอกลับมาจากค่าย 20 ความอัศจรรย์ก็เกิดทันที คือ ครอบครับอบอุ่น มีเวลาให้กันและกัน ทั้ง พ่อ แม่ ลูก ได้พูดคุยกัน ปรึกษาหารือกัน

และกำลังดำเนินเรื่องเอกสารเพื่อจะจดทะเบียนสมรส กันอีกรอบหลังจากหย่ากันมาแล้ว 7 ปี

ซึ่งปกติจะมีความเห็นที่ขัดแย้งกัน ไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันและรับข้อเสนอของแต่ละฝ่ายไม่ได้ คือคุยกันไม่เกินนาที ไม่ปรองดองกลมเกลียวกันขนาดนี้..

แถมสามีบอกว่า อยากจะให้อยู่บ้านเฉยๆเพราะเค้าจะเลี้ยงดูเอง..

แต่ได้บอกสามีไปแล้วค่ะว่า จะยังทำงานเหมือนเดิมแต่จะจัดเวลาให้ใหม่ จะได้ไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนด้วย เพราะเจนนี่เข้าข่ายห่างบุญ

ซึ่งจากท่านอาจารย์สอนว่า "อย่าห่างบุญ อย่ารอให้มีเคราะห์กรรมเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยสร้าง..." 

ลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลที่ได้มอบความสุข ความอัศจรรย์นี้ ให้แก่ชีวิตเจนนี่และครอบครัวค่ะ

ความอัศจรรย์นี้ เป็นอานิสงส์จากการทำบุญแรงกายในทุกๆฐาน และการเขียนบอกปัญหาในใบกิจกรรมกลุ่มชัดเจน และการรายงานผล

เจนนี่ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้สวย รวย สุข ด้วยเทอญ สาธุ ในช่วงเวลาทำบุญแรงกาย

และได้เช่าพีระมิดรุ่น หล่อ สวย รวย สุข 3 คู่ค่ะ

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอาจารย์อุบล เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

 เมื่อจะไปงานบวช 

 นิพพานบนดิน นิพพานคือความสุข บรมสุข ค่ะ !!!

กราบพระบาทขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์อุบล เมตตา  มอบให้ค่ะ

ขอบพระคุณ คุณอุ๊ บ้านสวนพีระมิด สาขาอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ค่ะ

วันนี้ วันศุกร์ 18 เมษายน 2557 เวลาประมาณ บ่าย 3โมงครึ่ง โทร.ไปหาคุณสามี

คุณสามี พูดรับโทรศัพท์ ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ค่ะ

เพราะได้รับน้ำพีระมิดจากพีระมิดมวลสารบ้านสวนพีระมิดที่ฝังไว้ใกล้มิเตอร์น้ำประปาเข้าบ้านค่ะ

จากคำแนะนำคุณอุ๊ ค่ะ และสบู่โรส ฟอก  สระผม ด้วยค่ะ

นี่คือ สูตรสำหรับคนดื้อ ม๊าก มาก ค่ะ

และที่สุด ของที่สุด คือ นิพพานบนดิน ค่ะ ละม่อม ได้รับแล้วววว!!!!!!! ค่ะ

ฉีดน้ำทิพย์ จากขวดอภิญญาใหญ่ ค่ะ

พูดว่า"อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน "  

ให้ผีที่ทำให้สามี บอกชื่อด้วยก็ได้ ขัดขวาง ไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา  ท่านอาจารย์อุบล กลัวพีระมิด 

มาอนุโมทนาบุญน้ำทิพย์ขวดอภิญญาใหญ่ แล้วขึ้นนิพพานทันที เดี๋ยวนี้ ด้วยเถิด สาธุ "

บูชา ขวดอภิญญาใหญ่ 6 ขวด ค่ะ 

บุญรวมตัวค่ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์อุบล เมตตาสุด สุด ค่ะ 

คุณสามี พูดว่า คำแรก ค่ะ !!! น้อง !!! บอก อาจารย์อุบล   โอ้โห !!! ได้ยิน คำแรก เอ่ยนาม คำว่า

อาจารย์อุบล  บอกพี่ชายให้รู้ เป็นตัวแทนของญาติพี่น้อง ค่ะ และบอก บอก บอก ลุง....

ดีใจ๊ ดีใจค่ะ เหมือนคนเงินล้านแตก ค่ะ ค่ะ

ละม่อม  ทุกข์ เรื่อง สามี ค่ะ  สามี ไม่เข้าใจ ขัดขวาง บ้านสวนพีระมิด มาเป็นเวลาเกือบ 4 ปี ค่ะ 

แต่ละม่อม สู้ สู้ สู้ ค่ะ เพราะได้รับฟังจากรายการคุยไปแจกไป ท่านอาจารย์อุบล นำพระธรรม

คำสอนพระพุทธเจ้า มาแสดงให้เห็น ให้ดู  เชื่อ ศรัทธา เต็มเปี่ยม ค่ะ ปฏิบัติ ตาม ค่ะ

ท่านอาจารย์อุบล สอน ฟัง  รู้เรื่อง เห็น ชััด  ทำให้ กลัว บาป ละอาย ต่อ บาป ค่ะ

ได้หันมารักษาศีล 5 ค่ะ เลิกอบายมุข ค่ะ 

ขอบพระคุณ พี่สาวของสามี ที่ได้พูดกับสามี  ซึ่งเป็นสะพานบุญ เชื่อม ให้สามีเชื่อ ค่ะ 

พี่สาวของสามี ได้รับการบำบัดโดย การ ละม่อม แอบพาพี่สาวของสามีมาดูรายการคุยไปแจกไป

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2557 ตอนบำบัดทางไกล ด้วยขวดอภิญญาใหญ่ ค่ะ

พี่สาวของสามี  ปวดนิ้วเท้า เดินโยกเยกค่ะ

 บำบัดให้ดูรูปถ่ายท่านอาจารย์อุบล

 พอเห็นรูป พูดว่า สวยจัง  สวยจัง  ยกมือไหว้  อาจารย์อุบล ช่วยให้หาย ช่วยให้หาย ค่ะ

และได้อ่านหนังสือธรรมทาน เล่มสีชมพู คู่มือการบำบัด รหัสเจ้ากรรมนายเวร 99 หน้า ภาคผนวก ค่ะ

หายค่ะ หายค่ะ เหลือนิดหน่อยค่ะ บอกว่า ให้พูด ระลึก ถึง ท่านอาจารย์อุบล

และขอบพระคุณเทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลทุกครั้งค่ะ

และให้สวดพระคาถา เมตตานะ ท่อง 99 จบ ด้วยค่ะ

และพี่สาวสามี บอกว่า ที่เอว ที่ปวดอยู่ ไม่ได้ขอ 

ท่านอาจารย์อุบล ช่วยอีก  ค่ะ

นั่นคือ บุญ ส่ง ผลค่ะ

เพราะพี่สาวสามี พยายามพูดคุย ถึงความมีบุญของท่านอาจารย์อุบล

ช่วยคนหายป่วย ค่ะ และเล่าถึงคุณกระต่าย เย็บผ้า ได้เงินเพราะท่านอาจารย์อุบลค่ะ

สุดยอด ของที่สุดค่ะ คุณสามี เอ่ยนาม อาจารย์อุบล ค่ะ ค่ะ  เอ่ย คุณงาม ความดี ค่ะ ค่ะ

หนู พ้นทุกข์แล้ววว ค่ะ ค่า าาาาาาาาา

-หนูไม่ต้องเป็น คุณแอบ แล้ว ค่ะ ค่า าาาาาา 

เพราะหนูเปิดเวปไซต์ บ้านสวนพีระมิด หนูก็*แอบ  หนูอยู่คนละบ้าน ค่ะ 

หนูพูดเผยแพร่ธรรมมะ ท่านอาจารย์อุบล  หนูก็*แอบ ค่ะ ถ้าคุณสามีอยู่ด้วยค่ะ

หนูได้พูด โทรศัพท์ กับท่านอาจารย์อุบล หนูปลื้มม๊าก มาก ค่ะ

หนูเดินเวียนในห้องทำงาน เดินไป เดินมา อยู่หลาย ๆ รอบ ค่ะ

หนูดีใจ๊ ดีใจ ค่ะ หนูฮึดสู้ หนูเถียง เรื่องธรรม รักษาศึล ท่านอาจารย์อุบลค่ะ       หนูพูดเสียงดังค่ะ 

หนูค่อยเล่าต่อ นะคะ มีอีกเยอะ ค่ะ

กราบพระบาทขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

ขอบพระคุณ คุณอุ๊ คุณธนา อาจารย์พันธ์ อาจารย์นีค่ะ

และพีสาวสามี ค่ะ  ขอบพระคุณธรรมทานทุก ๆ ธรรมทาน ทุก ๆ ท่าน

ได้รับความสุขและมีความกตัญญูต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอาจารย์อุบลค่ะ

หนูกราบขอบพระคุณยินดีต้อนรับ

ท่านอาจารย์อุบลและคณะด้วยความยินดีอย่างสูงค่ะ

หนูเตรียมอาหารไว้ทุก ๆ มื้อค่ะ  เตรียมรถ และเตรียมความพร้อม ทุก ๆ อย่าง ค่ะ

หนูได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญ ค่ะ  ความฝันเป็นจริง  เป็นจริง ค่ะ 

หนูได้พาผู้คนเข้าสู่ธรรมะพระพุทธเจ้า พบกับเนื้อนาบุญ ท่านอาจารย์อุบลค่ะ

หนูรักท่านอาจารย์อุบล ม๊าก มาก ค่ะ

หนูมีความสุข สุข ที่สุด ค่ะ ท่านเมตตา กับหนู และชาวสงขลา ค่ะ

หนู กราบ กราบ กราบ ค่ะ

 ตัวเองไม่ได้ร่วมเข้าค่าย 20 นี้

แต่ได้โอนไปร่วมบุญทุกบุญกับค่าย 20 เป็นเงินสองพันบาท

ก็ได้รับอานิสงค์บุญเหมือนกันค่ะ

คือตัวเองไปเที่ยวกับครอบครัว (10-15 เมษายน)

ทั้งแดดทั้งร้อน แต่กลับมาถึงบ้าน

มาส่องกระจกก็พบว่าหน้าตัวเองใส สว่างกว่าเดิมมาก

ปกติไปเที่ยวแบบนี้กลับมาหน้าจะดำคล้ำ

ต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือนถึงจะดีขึ้นค่ะ

แต่ครั้งนี้หน้าไม่คล้ำแถมหน้าใสกว่าเดิมอีกค่ะ

กราบขอบพระคุณเทวดาประจำตัวท่าน อ.อุบลทุกๆ พระองค์

และท่าน อ.อุบล อ.มงคล ที่เมตตาในครั้งนี้ค่ะ

กราบ กราบ กราบ

                ฉวีวรรณ นภาพรรณราย

 คุณยายเอมอร ศรีสวัสดิ์ กับหลานสองคน

ได้ไปรดน้ำข้าวโพด โดยต้องใช้ปั๊มน้ำ

ก็ได้กรอกน้ำใส่ปั๊มน้ำก่อนทำยังไงปั๊มน้ำก็ใช้ไม่ได้

กรอกน้ำเป็นสิบกว่าครั้ง จนถอดใจชวนหลานกลับบ้าน

ตอนเก็บของคุณยายนึกได้ จึงใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย

ขอให้ปั๊มน้ำใช้ได้ จึงลองเสียบปลั๊กอีกครั้ง

ผลคือน้ำไหลปั๊มใช้ได้ทันทีเลยค่ะ  

หลานจึงถามยายว่ายายทำยังไงปั๊มน้ำถึงใช้ได้

คุณยายบอกว่า อ.อุบลช่วยด้วย อ.อุบลมาช่วย ปั๊มน้ำถึงใช้ได้  

 อนุโมทนากับทุกธรรมทาน

และยินดีกับทุกท่านที่ได้รับความสุขจากการเข้าค่ายหล่อสวยรวยสุข ทุกคนค่ะ

 การพูดความจริงตรงไปตรงมา เพื่อหยุดยั้งผู้กำลังประกอบกรรมชั่วคือการแสดงความเมตตา

การที่ผู้คนมากมายไม่สามารถปลดล้อกกรรมได้  มีปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เกิดขึ้นในชีวิต  สาเหตุหนึ่งที่สำคัญก็คือ  การไม่เป็นผู้ที่แสดงความจริง   การแสดงความจริงอย่างตรงไปตรงมา  เมื่อเราเห็นผู้ที่กำลังกระทำความผิดอยู่ต่อหน้าต่อตาเรา  เป็นการแสดงความเมตตาเพื่อที่จะให้ผู้ที่ทำผิดได้หยุดยั้งการประกอบกรรมชั่วนั้น  การไม่พูดความจริง  เพราะเกรงใจ  เราเกรงใจคนชั่ว  แต่ไม่เกรงใจสิ่งศักดิ์สิทธิ์   เมื่อไม่เกรงใจสิ่งศักดิ์สิทธิ์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ทิ้งเรา  เทวดาก็ทิ้งเรา 

-  ผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนหนึ่งแต่งตัวไม่ดีดูไม่มีค่าดูเป็นผู้หญิงไม่มีราคา  มีคนเห็นกันหลายคน  แต่ไม่มีใครพูดว่ากล่าวตักเตือน   มีเพียงคุณอมรและคุณอุ๊เท่านั้น ที่ไปพูดตักเตือนการแต่งตัวของผู้หญิงคนนั้น   ผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนอื่นเห็นแล้ว  ก็ไม่กล้าพูด  บางคนก็เกรงใจ  บางคนก็ไม่สนใจ  บางคนเห็นว่าคุณอมรไปตักเตือนแล้วก็ปล่อยไป  หลังจากนั้น  ผู้หญิงคนนี้ก็ยังใส่ชุดเดิม  ไม่มีสำนึก  ไม่เปลี่ยนชุดให้ดีกว่าเดิม  นอกจากเรื่องการแต่งตัวแล้ว  ผู้หญิงคนนี้ยังได้ส่งสายตาเชิญชวนให้กับผู้ชายหลายคนที่เข้าร่วมกิจกรรมค่าย 20 นี้ด้วย  ผู้ที่ไม่กล้าพูด เพราะเกรงใจ  ผู้ที่เห็นแล้ว  แต่ไม่สนใจ เพราะเห็นว่า มีคนไปบอกแล้ว  ก็เลยไม่บอก ไม่ตักเตือน ผู้ที่ทำผิดที่อยู่ตรงหน้า  ผู้ที่ไม่เมตตา  ปล่อยให้คน ๆ นี้ทำความผิดต่อไป  ผู้ที่ไม่เมตตาจะได้รับผลกรรมคือ  จะประสบคราะห์กรรม มีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต  เพราะถือว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนให้คนทำผิดทำความชั่วความเลวต่อไป  ถือว่าได้ทำการสนับสนุนผู้ที่ได้กระทำความผิดนั้นเสียเอง  ถ้ามีคนไปว่ากล่าวผู้หญิงคนนั้นหลาย ๆ คน  ผู้หญิงคนนั้นก็จะเลิกทำผิด  เขาก็อาจจะสำนึกได้  แต่นี่ มีเพียงคนสองคนเท่านั้นที่ไปว่ากล่าวตักเตือน  ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่สนใจ  ก็ยังทำผิดต่อไปอีก  เราไม่ต้องไปบอกให้เขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  เราไม่มีสิทธิ์ไปสั่งไปบังคับใครได้  แต่ที่เราสามารถทำได้  คือการพูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึกจากใจของเราออกมา  ว่าเขาทำสิ่งที่ไม่ดีอย่างไรให้เขาได้รับรู้เท่านั้น  แม้คุณอมรและคุณอุ๊ จะไปพูดแล้ว  แต่เราทุกคนที่เห็นผู้หญิงคนนั้น  ก็ต้องไปช่วยพูดแสดงความจริงให้ผู้หญิงคนนั้นได้รับรู้  เพื่อเป็นการหยุดยั้งการประกอบกรรมชั่ว

-  น้องไข่ตุ๋น  ดื้อซน  รื้อข้าวของ  มีผู้เข้ารวมกิจกรรมเห็นกันหลายคน  แต่ก็ไม่มีใครว่ากล่าวตักเตือนน้องไข่ตุ๋นเลยสักคนเดียว  ท่านอาจารย์ต้องเป็นผู้ที่ตะโกนใส่ไมค์ห้ามปรามน้องไข่ตุ๋นในการทำความผิดนั้น   คนที่เห็นน้องไข่ตุ๋นทำคามผิดแล้วไม่ห้ามปราม  นิ่งดูดาย  ก็จะเป็นที่ได้รับคุณไสย์มนต์ดำจากไข่ตุ๋น  
เพราะถือว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนผู้กระทำความผิด เป็นอบายมุข  คือการสงเคราะห์คนทำผิด  เป็นอบายมุข  นำพาชีวิตไปสู่ความฉิบหาย 
การที่เราเป็นคนนิ่งดูดาย  ไม่พูดไม่บอกไม่ว่ากล่าวตักเตือนน้องไข่ตุ๋น  ถือว่าเราเป็นคนที่ใจร้ายมาก  เราไม่หยุดยั้งน้องไข่ตุ๋นในการทำความผิด   น้องไข่ตุ๋นทำความผิดแล้วก็จะได้รับความทุกข์  แต่เราก็ยังนิ่งดูดาย  เราใจดำกันมาก  จนกระทั่งท่านอาจารย์ต้องมาพูดใส่ไมค์ให้น้องไข่ตุ๋นหยุดดื้อ  เมื่อเราไม่แสดงความจริง  เราก็จะต้องได้พบกับปัญหาต่าง ๆ  ในชีวิตเรา

-  และก็ยังมีการกระทำที่ผิดกฎระเบียบวินัยต่าง ๆ อีกมากมาย  มีผู้ที่ตั้งตัวเป็นเจ้าของบ้านสวนพีระมิด แทนท่านอาจารย์ทั้งสอง ห้ามปรามไม่ให้คนนั้นคนนี้มาบ้านสวนพีระมิด   ห้ามปรามคนไม่ให้มาสารภาพบาปในเว็ปในเฟซของบ้านสวนพีระมิด  ห้ามปรามผู้คนไม่ให้มาทำบุญกับบ้านสวนพีระมิดโดยตรง  ให้ทำบุญโดยผ่านเขาก่อน   แล้วคนที่ทำบุญจะเชื่อใจได้อย่างไรว่า  เงินนั้นจะมาถึงบ้านสวนพีระมิด   ถ้าคนคนนั้นเกิดเป็นอะไรขึ้นมาละ  หรือถ้าหากคนคนนั้นเกิดยักยอกเงินทำบุญขึ้นมาละ   จะทำอย่างไร   ตั้งกฎระเบียบขึ้นมาใหม่ในบ้านสวน   ในการทำเวอร์คช็อป  ก็ไม่เชื่อฟังสิ่งที่คุณธนาบอก  คือให้ทำการเปลี่ยนฐานทุกชั่วโมง บังคับคนอื่นให้พูดกล่าวขอบคุณท่านอาจารย์ตามสคริปท์ที่ตัวเองต้องการ   และก็ไปแอบอ้างว่า  ท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้ที่เลือกตน  แสดงกริยาอาการไม่สุภาพกับผู้เข้ารวมกิจกรรมท่านอื่น  โดยการกระชากของออกไปจากมือ  แล้วก็ยังไปบังคับผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ออกมาจากใต้ร่มที่กางไว้  ให้ไปตากแดด  
การที่เห็นคนทำผิดต่อหน้าต่อตา  เราต้องพูดแสดงความจริง  เพื่อให้เขาได้หยุดการประกอบกรรมชั่ว  เราต้องช่วยกันพูด  พูดเดี๋ยวนั้นเลย    แล้วมาเล่าให้คนอื่นฟัง  แล้วก็ดูพฤติกรรมของเขาว่าเป็นอย่างไร     การพูดความจริงตรงไปตรงมา  เพื่อหยุดยั้งผู้ที่กำลังทำผิด   ไม่ให้ไปทำความผิดต่อไป เป็นการแสดงความเมตตาต่อผู้ที่กำลังทำความผิดนั้น   

กิจกรรมชำระหนี้สงฆ์
เสาร์อาทิตย์ ที่ 19-20 เมษายน 2557

สัปดาห์นี้  ผู้ที่มาเข้าร่วมกิจกรรมต่างก็ได้อิ่มเอมหน้าบานกลับบ้านกันอีกแล้ว  เพราะท่านอาจารย์ได้มีเมตตาให้ผู้ที่มาได้ร่วมกิจกรรมสัปดาห์นี้ได้มีโอกาสชำระหนี้สงฆ์  โดยการทำความสะอาดองค์พระบนมหาวิหารชั้นสอง ทำความสะอาดมหาวิหารทั้งสองชั้น  งานองค์พระท่านพ่อดตาจินินและสมเด็จองค์ปฐม งานเกษตรธรรมะ  งานทำความสะอาด  ทุกคนได้ร่วมงานกันทุกฐาน  เปลี่ยนฐานกันทุกชั่วโมง  นับว่าเป็นโอกาสอันพิเศษสุดจริง ๆ  ที่หาได้อย่างน้อยมากค่ะ  
กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว เป็นอย่างสูง ที่ได้เมตตาให้ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ธรรมทานเสาร์ อาทิตย์ ที่ 19 เมย 50 ควันหลงจากค่าย 20

หลังจากทำบุญ ทำความสะอาดวิหาร สรงน้ำเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ  แล้ว ตอนค่ำคืนก็มาประชุมรวมกัน เพื่อย้อนดู  บทเรียนจากค่าย 20 ว่าด้วยเรื่องการคบคนชั่วเป็นมิตร
    พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า อย่าคบคนชั่วเป็นมิตร มิฉะนั้นจะนำมาซึ่งความฉิบหาย
    ตัวดิฉัน จิ๋ม ชัชวลี ได้ฝ่าฝืนคำสอนของพระพุทธเจ้า ไปเสวนากับ ผู้หญิงที่ชื่อ ตุ๊ก ที่เป็นคนสนิทของ เจนนี่ ที่ทำตัวเด่นดัง วางอำนาจ เหมือนพฤติกรรมของมารที่มาคอยป่วนก่อกวนบ้านสวน  โดยไปตอบคำถามที่เขาถามเราว่า ทำไมเขายังมีพฤติกรรม เหมือนมีปอบสิง คือ มีจิตแว็ป คอยคิดร้ายกับท่าน อ.อุบล ตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะบูชาพีระมิดท่านพ่อดตาจินิน ไปถึง 99 คู่  ตนเองก็ไปตอบเขา และอธิบาย
เสร็จสรรพว่า พีระมิดนี้ สามารถประหารมารได้ ให้นึกถึงบารมีท่านบ่อยๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์ เพราะยังไม่ได้ไต่ถามเรื่องราวความเป็นมา แต่เราไปทำตัวเป็นศาสดา เที่ยวสั่งสอน แนะนำเขา แล้วยังไปเสวนากับเขา ทั้งๆ ที่ในค่าย ท่านอาจารย์ก็เตือนว่า อย่าเที่ยวไปคุยกับ คนอื่น ที่น่าสงสัยว่ามีพฤติกรรมแปลก ๆ   ให้ทำงานไป

    ทำไม จิ๋ม จึงได้ถือวิสาสะ ไปกล่าวโทษ คุณเจนนี่ และ คนสนิท ของเธอว่าเป็น คนที่น่าจะเป็นคนที่ไม่ควรไปเสวนาด้วย ก็เพราะเธอมีพฤติกรรม หลายอย่างคล้ายมาร 4 ตู อันได้แก่ ปากดำตู ปาริชาติ  เรื้อนตู ปวีณาแค้มป์ กร่างตู เจิดหทัย และ ซื้มตู บุญศิริ  คือ ชอบวางอำนาจ  ฝ่าฝืนระเบียบของบ้านสวนฯ เช่น ชอบสั่งนู่น สั่งนี่ให้ทำตาม เช่น คอยสั่งคนสนิท ให้มาประชุมกัน ก่อน ไปทำงานบ้านสวน เวลาจะเล่าธรรมทาน ต้องเล่าตามที่เจนนี่บอกบท ถ้าไม่เล่าตามนั้นก็จะถูกด่าว่า ที่พูดมานี่ มีหลักฐานนะ เพราะมีลูกบ้านสวนคนหนึ่งที่ เขากางเต๊นท์ใกล้ ๆ เขาได้ยินตลอดเลย

    ลูกบ้านสวนคนหนึ่ง มาเล่าว่า ถูกเจนนี่แย่งอุปกรณ์ทำความสะอาดจากมือไป อย่างไร้มารยาท แถมยังสั่งการ ให้กลุ่มตนเองที่ทำอยู่ไม่ต้องเปลี่ยนฐาน ให้ทำต่อไป นั่นก็คือ ขัดคำสั่งของ หัวหน้ากลุ่ม อย่างรุนแรง  อาการคุ้น ๆกับพวก ชอบวางอำนาจ ชอบเกรี้ยวกราด ด่าว่าคนไปทั่ว เหมือน เรื้อนตู กร่างตู ปากดำตู ที่เราลูกบ้านสวนเคยพบมา แล้วมาทราบตอนหลังว่า พวก 4 ตนนี้คือ มารที่มาป่วน ทำให้คนของบ้านสวน แตกความสามัคคี   ผลกรรมที่จิ๋มได้รับ หลังจากเสวนากับ คนที่มีพฤคิกรรม คล้าย มาร ที่เคยมาทำร้ายคนบ้านสวน ก็คือ คุณพ่อ ที่เจ็บอยู่ที่บ้าน ไม่ยอมทานข้าว จนมีอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาล  จำได้ว่า อ.ชาย เล่า ว่าไปทัก เจนนี่ว่า บูชาวัตถุมงคลเยอะจัง เท่านั้นแหละ กลับบ้าน รถเสียเลย 
    อ.อุบลท่านสอนว่า พระพุทธเจ้ามิให้คบคนชั่วเป็นมิตร  แม้แต่พูด คุย มองหน้า เสวนาด้วย เพราะเราไม่เก่ง ไม่มีจิตคิดจะต้านมาร กลับไปคล้อยตาม ก็จะทำให้เกิดความวิบัติ ขึ้นแก่เราได้  แต่สำหรับคนที่เก่ง และ มีจิตหนักแน่นเขาจะไม่เปิดจิตรับ จึงไม่เป็นไร  ดังนั้น สำหรับพวกเรา ที่ยังขาดปัญญา ต้องระวังตัว และมีปัญญาที่จะไม่ไปคบกับคนชั่ว

               ยังมีพฤติกรรมแปลก ๆ ของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่นำเอาคุณสมบัติของ ยายปากดำตู เข้ามาใช้ในบ้านสวน ก็คือ แต่งตัวยั่วผู้ชาย เช่น เขามาทำงานใช้แรงกาย แต่แต่งตัวใส่เสื้อ ลายตาข่ายโปร่ง เห็นสัดส่วนชัดเจน  ชุดตอนเล่นน้ำ ก็เปิดไหล่ หรือ พยายามสอดส่าย สายตา ไปยังหนุ่มบ้านสวน เพื่อพยายามจับหนุ่ม หรือยั่วให้เขาหลง ลูกบ้านสวนคนหนึ่ง มาเล่าและสารภาพว่า   เมื่อเห็นหญิงคนนี้ แล้วมีความรู้สึกคิดถึง คล้ายๆ กับความรู้สึกที่มีกับ ยายปากดำตู ที่เคยมายั่วเขา  โชคดีที่ลูกบ้านสวนคนนี้ ยังจดจำบทเรียนที่เคยได้รับ จากมนต์ดำของปากดำ ปาริชาติ ชมภู ว่า เขาเคยมีความคิดถึงยายปากดำ ๆ คล้ายกับที่คิดถึงหญิงสวย ที่มาพบในวันสงกรานต์นี้ ทำให้เขามีสติ ได้อธิษฐานโดยขอบารมีจากท่านพ่อดตาจินินว่า ถ้าความรู้สึกของเขาที่มีต่อหญิงหน้าใหม่คนนี้ เป็นการรับมนต์ดำ คล้ายกับที่ ยายปากดำตูทำกับเขา เมื่อครั้งก่อนแล้วจริง ๆ ก็ขอให้อาการคิดถึง และอยากเห็นหน้าหายไป ผลปรากฎว่า อาการดังกล่าวหายไป ได้มากถึง 80% ทำให้ลูกบ้านสวนคนนี้ มีสติกลับมารู้ทันมารว่า ตอนนี้กำลังโดนมนต์ดำเหมือนกับทีเคยโดนมาก่อน
    ส่วนหนุ่มลูกบ้านสวนอีกท่านหนึ่ง ก็ได้มาสารภาพ ว่าเขาเห็นหญิงคนนี้ ก็มีความรู้สึก ชอบ และอยากเป็นแฟนกับหญิงคนนี้เช่นกัน กับหนุ่มลูกบ้านสวนคนแรก เช่นกัน
    การแต่งตัว เปิดไหล่ หรือ ใส่กระโปรงสั้นแบบนี้ นับว่าเป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และถ้าย้อนกลับไป ลูกบ้านสวนทุกคนไม่ว่า หญิง หรือ ชาย ควรไปเตือน อย่าเกรงใจ การเกรงใจ ไม่กล้าบอก ทั้ง ๆ ที่เราคิด ก็หมายความว่า เราปากกับใจไม่ตรงกัน หรือ ที่ อ.อุบล ใช้คำว่า ตอแหล นั่นเอง  เป็นการมุสา ผิดศีลข้อ 4  ตัวจิ๋มเอง จำได้ว่า หญิงคนนี้มาทำกิจกรรมในแปลงเกษตร กลุ่มเดียวกัน  พอจิ๋มเห็น เสื้อเขา ใจก็คิดว่า ทำไมมาทำงานกลางแดด งานก็หนักเหงื่อก็ออก ทำไมมาใส่เสื้อแบบนี้ ดูโป๊ ใจคิดแบบนี้ แต่ปากไปบอกว่า ทำไม่ใส่เสื้อแบบนี้ไปเปลี่ยนซะ เดี๋ยวก็สกปรกหรอก...................อันนี้เป็นการมุสา ปากกับใจ ไม่ตรงกัน  ถ้าจิ๋ม หรือ ลูกบ้านสวนหลายๆ ท่าน กล้าไปพูดความจริงกับเขา เขาก็จะไม่กล้าใส่เสื้อโป๊ ยั่วยวน ผู้ชาย และเหตุการณ์ที่ เกิดการยั่วผู้ชายของลูกบ้านสวนก็จะไม่เกิดขึ้น  อ.อุบล ให้คนในที่ประชุมวันนั้นช่วยกัน  คิดว่า ถ้าเป็นเรา เจอหญิงแต่งตัวยั่วยวนควรพูดว่าอย่างไร จึงมีการเสนอว่า

- การแต่งตัวแบบนี้ ไม่ได้ทำให้คุณดูดีขึ้นมาแลย กับทำให้คุณยิ่งไร้ค่าไปอีก
- คุณแต่งตัวแบบนี้ ทำให้คุณเป็นผู้หญิงไม่มีค่า ในสายตาคนอื่น
- แต่งตัวแบบนี้ ทำให้ไปยั่วกิเลส ของผู้ชาย
- หญิงที่แต่งตัวแบบนี้  มันคล้ายกับอีตัว หรือผู้หญิงหากินดี ๆ นั่นเอง
    คุณแก้วมีความคิดว่า คุณอมร ได้ไปบอก  หัวหน้าสาขาคนหนึ่ง ที่พาหญิงคนนี้มาด้วยแล้ว ว่าให้ไปเปลี่ยนการแต่งตัวเสียใหม่  พอคุณแก้ว เห็นคุณอมรไปเตือน แล้วก็จะนิ่งเฉย ไม่เตือนอีก  ........................การกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ผิด ไม่ควรทำ ตรงกันข้าม เราควรช่วยกันเตือนหลาย ๆ คน จนเขาอายไปเอง การโยนความรับผิดชอบไปให้คุณอมร คนเดียวนั้น ผิด เป็นการโยนความรับผิดชอบ ดังน้ันถ้าสังคมไทยของเราเป็นอย่างนี้ไปหมด..............บ้านเมืองเราก็จะยิ่งแย่ ทำนองเดียวกัน  กับเหตุการณ์นี้ในบ้านสวน ทุกคนที่เห็นต่างพากันนิ่งเฉย ถือว่าไม่ใช่ธุระของตน เลยทำให้มนต์ดำ แพร่กระจายไปได้ เพราะการแต่งกายยั่วยวนของสาวหน้าใหม่คนนี้่นั้นเอง
          ในทำนองเดียวกับ ธรรมทาน หรือ ข้อความใดๆ ที่เราโพสต์ในเวป ให้ผู้คนอ่านกัน ถึงแม้จะซ้ำกันบ้าง แต่รายละเอียดความเห็นจะต่างกัน  และการที่หลายๆ คนช่วยกันไปเขียน ก็จะมีพลังยิ่งขึ้น อย่าไปคิดว่าซ้ำกัน แล้วไม่ควรเขียน เราต้องสามัคคี ช่วยกัน จึงจะมีพลัง

การรวมพลังสามัคคี กันเขียน กันโพสต์ข้อความ ทำให้แสดงถึงพลังสามัคคีฉันใด การนิ่งดูดาย ไม่แสดงความเห็น ก็ถือว่า เท่ากับ เป็นกรรมที่ต้องรับเช่นกัน  อย่างเช่น ที่ รร.เดอะทราเวลเลอร์มี พนักงานห้องสมุดที่ ม.เกษตร มาบำบัดอาการจุกคอ ที่เกิดขึ้นเนื่องจาก เขาได้ฟังคนปรามาสในหลวง แล้วเขานิ่งเฉย ไม่แก้ต่างให้ การนิ่งก็เท่ากับเป็นการ สนับสนุน เห็นดีเห็นงาม ทำให้เขาได้รับผลกรรม  ส่วนหญิงทอีกคนที่มาบำบัดที่ รร.ไอ เรสสิเดนท์ ก็ทำการนิ่งเฉยต่อการปรามาสในหลวงเช่นกัน ทำให้มีอาการคล้ายมีใบมีดมาปาดคอ  ลูกบ้านสวนจึงต้อง ลุกขึ้นมาแสดงความเห็น แสดงความรู้สึก อย่ากดความรู้สึก สร้างภาพให้ตัวเองดูดี แต่กลับไปมุสา บิดเบือนความจริง พูดไปอีกอย่างแต่ใจคิดอีกอย่าง  ทำให้เราไม่สามารถไปหยุดยั้งการประกอบกรรมของคนอื่นได้  นับว่าเป็นคนที่ขาดเมตตาอย่างร้ายแรง

ถ้าเราเจอเจนนี่อีก และต้องการเตือนคนอื่น ที่อยู่ในบงการของเจนนี่ ให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ เราต้องกล้าพูด กล้าเตือนเขา  ให้สำนึกว่า  เจนนี่ไม่ใช่คนปกติ ธรรมดา แบบลูกบ้านสวนทั่วไป เขามีอะไรที่เราคบด้วย แล้ว จะทำให้เรายิ่งแย่ และไม่มีความสุข เหมือนอย่างที่คุณตุ๊ก สาวก ของเจนนี่ มาถามจิ๋ม ว่าทำไมบูชา พีะมิดเสด็จพ่อดตาจินิน 99 คู่ แล้ว เขาก็ยังจิตแวปอยู่  ตัวจิ๋มได้แต่คิดในใจว่า  ก็เขาไปคบคนชั่วเป็นมิตรอยู่ ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ตัวจิ๋มเอง กลับขาดเมตตาไม่กล้าบอกเขาถึงความจริงดังกล่าว  ทำให้คุณตุ๊ก คนนี้ยังคงต้องรับกรรมต่อไปที่แท้จริง จิ๋มน่าจะบอกพฤติกรรมของเจนนี่ให้เขาฟังว่า มันแตกต่างกับ สาขาอื่น ๆ อย่างยิ่งยวด คนเป็นหัวหน้าสาขา มีแต่จะช่วยคนไม่หวังสิ่งตอบแทน อ.เดือน บำบัดหมอฝน ก็ให้เขาบูชาวัตุมงคล โดยให้คิดเองไม่บังคับ ให้ทะยอยได้ตามศรัทธา

แต่เจนนี่ไม่ใช่อย่างนั้น  ให้บำบัด โดยเสี่ยงทาย เพิ่มจำนวน มาก ๆ ซึ่งไม่รู้ว่า เสี่ยงถูกหรือผิด ถ้าเกิดถูก ก็ไม่ว่ากัน แต่พอได้จำนวนมา เช่น 50 องค์ ถ้าเป็นสาขาบ้านสวนพีระมิด ปกติ เขาก็จะทยอยบูชา ตามกำลัง ไม่มีการเร่ง หรือ บังคับให้มาบูชา ทันที เดี๋ยวนี้ เหมือนสาขา เจนนี่  สาขาอื่นใจดี ทุกคนอิสระ เขียนธรรมทานเองได้ ขอเข้าบ้านสวนเองได้ แต่เจนนี่ไม่ได้ ทุกคนที่เข้าบ้านสวนต้องมาให้นางเขียนขออนุญาตให้
ธรรมทาน ก็ต้องส่งมาให้เจนนี่ ให้นางตรวจสอบก่อน เหมือน ครู นักเรียน เลย อะไรจะขนาดนั้น แก่ ๆ กันหมดแล้ว ยังไม่มีอิสระอีกเหรอ

    ลูกบ้านสวนตัวจริง จะทำบุญ ทำงานแบบปิดทองหลังพระ แต่เจนนี่ไม่ได้ต้องป่าวประกาศ ให้ผู้คนรับรู้ แค่ล้างห้องน้ำ นางก็ป่าวประกาศว่า ชั้นมาล้างให้สะอาดนะ  คนที่ไม่ล้างนี่ แย่สิ้นดี เหล่านี้เป็นต้น 
+++++++++++++++++++++++

สรุปพฤติกรรม ของเจนนี่
1  ชอบเจ้ากี้ เจ้าการ
- ต้องให้สาวกในสังกัด มาสารภาพบาปกับนาง ทาง line ก่อน จึงจะส่งไปที่เว็บบ้านสวน  จนสาวกเอือมระอา แต่ก่อนมีคนร่วม 40 คน ตอนนี้เหลือ 2 คน
-การเขียนธรรมทาน ต้องมาผ่านมือเธอ เพื่อตรวจสอบก่อน
- เวลาทำบุญแรงกาย เจนนี้จะออกคำสั่งค้านกับหัวหน้ากลุ่ม เช่นถึงเวลาเปลี่ยนฐาน แต่เจนนี่ สั่งไปว่า ไม่ให้เปลี่ยน ควรทำต่อ
- ส่วนใหญ่ ถ้าไม่จำเป็นเวลาทำงานกลางแดดเสร็จแล้ว คนมาสร้างบุญแรงกายจะมาพักในร่ม แต่เจนนี่ไม่ ไปนั่งกลางแดดร้อน เอามือกอดเข่า ซุกหน้าไปกับเข่า เพราะทุกข์ และเศร้า แถมยังไปประกาศว่า ควรออกมากลางแดดจึงได้บุญ อย่าไปอยู่ในร่ม  ไม่จริงนะนี่ ท่าน อ.อุบล เฝ้าแต่คอยหาร่ม มากางให้เวลาทำงานกลางแดด  นี่แหละเขาเรียกว่า ไม่รู้อะไรจริง แต่ก็ยังเจ้ากี้เจ้าการอีก
2. เห็นแก่ลาภสักการะ
- สั่งให้ลูกศืษย์ที่อยู่ใต้อาณัติของนาง  หาคนมาบำบัด ที่เจนนี่คิมช็อบ ร้านขายเสื้อผ้า คนละ 10 ราย  ต่อวัน
- เรื่องบูชาพีระมิด ถ้าบำบัดแล้ว ผลว่าต้องใช้พีระมิด 50 องค์ ก็ต้องรีบบูชาเดี๋ยวนั้น ทะยอยไม่ได้  นับเป็นการล้มล้างคำสั่งท่าน อ.อุบล ที่บอกว่าทะยอยได้ ทำตามกำลัง อย่าเบียดเบียนตัวเอง
3.ต้องการให้คนมานบนอบ  เห็นว่าตนสำคัญ
 - เจนนี่เคยเป็นหมอดูดวง และเที่ยวไปบอกลูกศิษย์ว่า เวลาทำบุญให้มาทำบุญกับเธอ เพราะเธอเป็นเนื้อนาบุญอันบริสุทธิ์ 
 - เธอเล่าว่า มีคนฝันว่า ลูกธนู มายิงถูกปากเธอ เพราะเธอจะได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนของท่าน อ.อุบล นับว่าเจนนี่เป็นคน ไม่รู้จักที่ต่ำ ที่สูง เอาของสูงมาเปรียบเสมอตนเอง น่าอายจริง
 - เรื่องทำบุญ เธอไปเรี่ยไรลูกศิษย์ว่า ให้เอาเงินมาให้เธอ เธอจะนำเงินไปสร้างห้องน้ำให้บ้านสวนพีระมิด ลูกศิษย์คนหนึ่งทำบุญกับเจนนี่ไปแล้ว 2500 บาท แต่ อ.อุบล เจ้าของบ้านสวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เงินนี้น่าจะสูญเสียแล้วมั้ง

ขอบอกทุกท่านว่า ถ้าท่านกลับไปอ่านพฤติกรรมของ 4 ตู ที่ส่งมาจากดาวสูตู ที่มาคอยทำร้ายบ้านสวนพีระมิด พฤติกรรมเหล่านี้คงคุ้นตา คุ้นใจ ของลูกบ้านสวนรุ่นเก่า ๆ นะ โปรดตั้งสติให้ดี ว่าใครเป็นคนดี ควรคบหา เชือฟัง และใครเป็นคนที่เราควรออกห่าง คิดกันเอาเองก็แล้วกันค่ะ

ธรรมทานเสาร์ที่ 19 เมย.57
พฤติกรรมร้ายๆ ที่ทำให้ไม่น่าคบของสมาชิก ที่เข้าค่ายบ้านสวนพีระมิด
แม้พวกเราจะสนุกกับงานสงกรานต์มากมาย แต่ลูกบ้านสวนเก่าๆ ก็ได้พบเห็นพฤติกรรมแปลกๆแต่ไม่ดี ของสมาชิกใหม่ คนแรกคือ คุณเจนนี่ ที่มีความพยายามจะมาขอเป็นสาขาบ้านสวนพีระมิด จัดงานธรรมะบำบัดไป 1 หน เขาเคยมาสารภาพว่ามีความอิจฉาริษยา อจ.อุบล แต่จะมาเป็นลูกศิษย์อจ.อุบล เมื่อพวกเราทราบความคิดลึกๆของเขา เราก็เริ่มไม่ไว้ใจ เพราะพวกเรามีบทเรียนจากมารหมาขี้เรื้อน มารปากดำดู ที่มีความริษยาอจ.ของเรา กว่าพวกเราจะเปิดโปงตัวตน และขับไล่มารเหล่านี้ออกไปได้ ลูกบ้านสวนหลายคน รวมทั้งตนเองก็ถูกครอบ หลงเชื่อว่าเขาเก่งเขาดีมาตั้งนาน

พฤติกรรมร้ายๆของยายเจนนี่ ที่ตนเองสังเกตุและฟังจากคนอื่นที่มาเล่าในที่ประชุมของบ้านสวน คือ เขาจะตั้งตัวเป็นศาสดา อาจารย์ในหมู่เด็กๆของเขา จะสั่งนู่นนี่ให้อยู่ในอานัติ ยายตุ๊ก ลูกศิษย์ของเขา ซึ่งเคยถูกนางปอบเรื้อนเข้าสิง และอจ.อุบล ไล่ปอบออกไปให้ ยายตุ๊กนี่ก็เคยมาสารภาพตอนค่าย 18-19 ว่ามีความริษยา อจ อุบล แม้ปากจะพูดขอขมาแต่ปากไม่ตรงกับใจ ยังเปลี่ยนไม่ได้ แม้เขาจะบูชา พีระมิดท่านพ่อดตาจินินถึง 99 คู่ แต่ก็ยังมาสารภาพกับ ดร.จิ๋ม ว่ายังมีจิตแว๊ป คิดไม่ดีกับ อจ.อุบลอยู่ แสดงว่าจิตเขาเปิดรับฝ่ายมารตลอดเวลา หรือคบคนชั่วเป็นมิตร (คบยายเจนนี่เป็นมืตร) หรือไม่เช่นนั้นเขาก็เป็นมารเสียเอง ยายเจนนี่เองก็มาทำบุญแรงกายด้วยอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด ทำงานด้วยความทุกข์ นั่งกอดเข่าอยู่กลางแดด และสั่งให้คนอื่นๆมานั่งกลางแดดกับนาง แต่ไม่มีใครมา อยู่ในร่มกันดีกว่า  ยานเจนนี่ มักจะละเมิดกติกาในกิจกรรมใช้แรงกาย ไม่ยอมเชื่อหัวหน้ากลุ่มในการย้ายฐาน กลับนั่งทำกันอยู่ในฐานเดิม และยังมีผู้เล่าพฤติกรรม การแย่งแปรงล้างบุ๊งกี๋ จากมือคนอื่นของยายเจนนี่อีกด้วย

ในกลุ่มของยายเจนนี่ จะขอเข้าบ้านสวน นางต้องเป็นคนขออนุญาติให้ เมื่อคนในกลุ่มของเขาเขียนธรรมทาน ต้องมาให้เขาตรวจ และเขาจะแก้ไขส่งให้ ห้ามทำเอง มีผู้พบเห็นยายเจนนี่พยายามประกบ หัวหน้าสาขา เช่น คุณน้อย (ยุวรัตน์)   ดร จิ๋ม รวมทั้งป้าเจี๊ยบ แต่ต่างก็ใช้ ปัญญาหลีกเลี่ยงไม่คบค้าสมาคมด้วย แต่หัวหน้าสาขาที่ไปทักทายยายเจนนี่ เช่น อจ.ชาย ตอนมาทำบุญบ้านสวนช่วงกลางวันก็หมดเรี่ยวแรง พออธิษฐานเสี่ยงทายถาม ท่านพ่อดตาจินิน อาการหมดเรี่ยวแรงเกิดจากการไปทักทานเจนนี่ไหม ก็วูบกลับมาเป็นปกติ  สำหรับตนเองเคยไปพุดคัยทักเขาก่อนค่าย 20 ก่อนเข้าค่าย คุณพ่อก็เจ็บไม่ยอมทานน้ำ อาหาร ต้องไปนอน ให้อาหารทางสายยาง คุณแม่ความดันขึ้นสูง โกรธลูกที่ไปสงกรานต์บ้านสวน ตอนพ่อแม่เจ็บป่วยไม่มาดูแล ตนเองก่อนเข้าค่าย 20 ก็รถเสีย หม้อน้ำรั่ว ควันขึ้น ดร จิ๋มก็ขัดขาตนเองล้มทั้งยืน เกือบไปเข้าค่ายไม่ได้ วันแรกก็จะไม่เข้า แต่จุ๋มชวนให้กัดฟันทนเจ็บไปทำบุญใช้แรงกาย กลับดีขึ้นมากหายอย่างเร็ว จนเกือบเป็นปกติ ใครที่ไปสัมผัส ทักทายยายเจนนี่ ก็โปรดสังเกตุว่าได้รับผลกรรมเหมือนทั้ง 3 คนที่ไปทักทายเขาหรือไม่ โปรดเอาตัวรอดด้วยรหัส อจ อุบลช่วยด้วย พร้อมฉีดน้ำทิพย์จากขวดอภิญญาใหญ่กันเอาเอง
สุดท้ายหวังว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากการเปิดจิตทักทาย สมาคมกับคนที่มีแต่พลังลบอย่างยายเจนนี่ จะช่วยให้ทุกคนระวังตนไม่คบกับใครง่ายๆ ไม่สัมผัส ประแป้งกันตอนสงกรานต์ รับมนต์ดำ พลังลบกันได้จริงๆ

 หนูชื่อรัศมิ์ธกานต์ วุฒิธรรมมี ชื่อเล่นชื่อตุ๊กค่ะ

เมื่อได้อ่านธรรมทานที่เขียนถึงอาจารย์เจนนี่แล้ว  หนูอยากบอกเล่าความจริงค่ะ  (หนูยังไม่มี user จึงขอใช้เข้าเว็ปที่ร้านอาจารย์เจนนี่)  ในค่ายที่ผ่านมาหนูอยู่กลุ่มเดียวกับดร.จิ๋ม ดร.จุ๋ม และได้รับการถามว่าเป็นยังไงบ้าง เรื่องจิตแว๊บ  หนูบอกความจริงว่ายังมีจิตแว๊บคิดไม่ดีกับอาจารย์อุบลอยู่ (แต่หนูไม่ได้เล่าต่อด้วยว่า ส่วนใหญ่หนูจิตคิดไม่ดีกับอาจารย์เจนนี่ รู้สึกโกรธเกลียดอาจารย์เจนนี่ที่ตักเตือนหนูเวลาที่ทำผิด)  และได้คุยกันหรือดร.ถามหนูว่ามีพีระมิดท่านพ่อดตาจินินกี่องค์  หนูบอกว่าหนูมี 99 องค์ ดร.จิ๋มบอกว่าถ้ามีครบแล้วแนะนำว่าหนูควรขอบารมีพีระมิดท่านพ่อดตาจินินมาปราบมารบ่อยๆ ซึ่งหนูไม่เคยขอบารมีท่านเลย และยังบอกกับดร.ว่าอาจารย์เจนนี่ก็บอกหนูว่าให้ขอบารมีแต่หนูไม่ได้ขอ  และหนูได้ถามดร.จิ๋มว่า ถ้าเราได้ทดสอบอานุภาพไปว่า มีพีระมิดรุ่นจักรแก้วพระขรรค์แก้ว 50 องค์ด้วยเราก็ต้องเช่าตามนั้นใช่มั้ย หนูถามเพราะอยากทราบ (ตอนที่ถามหนูตัดสินใจเช่าไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับพีระมิด อาจารย์เจนนี่มารับพีระมิดในงานค่ายนี้)  

ขอเล่าย้อนไปตอนที่หนูทดสอบอานุภาพพีระมิดกับท่านอาจารย์อุบลที่โรงแรมฟาร์อีส เพื่อปราบมารพูดความหยาบคายในตัวหนูเมื่อปลายเดือนมกราคมได้ทดสอบพีระมิดรุ่นท่านพ่อดตาจินิน 99 คู่ พระจักรแก้วพระขรรค์แก้ว 50 องค์ และพีระมิดรุ่นบารมีคู่ พระนางเนเฟอร์ตารี และรุ่นอื่นๆ พบว่าตัวหนังสือคำหยาบจางลง บางตัวอักษรหายไป หนูเช่าทะยอยเช่ารุ่นท่านพ่อดตาจินินจนครบ 99 คู่ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และตอนประมาณเดือนมีนาคม หนูเพิ่งมาดูในธรรมทานที่หนูได้เคยเขียนไว้ใน line กลุ่ม หนูเลยแจ้งอาจารย์เจนนี่ว่าหนูเพิ่งเห็นว่าตอนนั้นทดสอบอานุภาพของพีระมิดรุ่นจักรแก้วพระขรรค์แก้ว 50 องค์ด้วยอาจารย์เจนนี่บอกหนูว่า ถ้าเรายังเช่าไม่ครบตามที่เราทดสอบอานุภาพ  มันก็ยังไม่หายเป็นเรื่องปกติ และหนูยังทำกรรมทางความคิดไม่ดีต่อเรื่อยๆ แต่อาจารย์เจนนี่ไม่เคยบังคับให้เช่า 50 องค์ เพียงแต่บอกเหตุของการที่หนูมีความรู้สึกแย่  หนูรู้สึกว่าอาจารย์เจนนี่กำลังพยายามช่วยหนู และตอนนั้นหนูก็รู้สึกจิตใจแย่มาก มันเครียด มันเศร้า คอยแต่คิดไม่ดี และมักคิดโกรธเกลียดอาจารย์เจนนี่เวลาอาจารย์เจนนี่พูดความจริงตักเตือนในสิ่งที่หนูทำผิด ตอนนั้นรู้สึกแย่มาก  เลยตัดสินใจเช่าพีระมิดจักรแก้ว พระขรรค์แก้ว 50 องค์ ในวันก่อนไปค่ายประมาณ2วัน (หนูได้รับพีระมิดตอนขากลับมาจากค่าย เพราะอาจารย์เจนนี่รับพีระมิดในวันที่ไปค่าย) ซึ่งหลังจากกลับมาจากค่ายหนูก็รู้สึกจิตใจสงบขึ้นและคิดดีมากขึ้นเยอะ  หนูเชื่อว่าเป็นผลจากการเช่าพีระมิดจักรแก้ว พระขรรค์แก้ว 50 องค์ด้วย อาจารย์เจนนี่ไม่ได้บังคับให้หนูเช่าเยอะๆ และที่ผ่านมาอาจารย์เจนนี่ยังเคยบอกว่าถ้ารู้สึกว่าไม่ได้ผลก็ให้เอามาคืนอยู่บ่อยๆ แต่หนูไม่ได้คืนค่ะ

และเรื่องที่ประชุมกันในเต้นท์ หนูอยู่ในเหตุการณ์ด้วย อาจารย์ประชุมเพื่อดูว่าเราได้อะไรจากการมาค่ายในวันนั้น และเราจะส่งต่อไปให้คนในกลุ่มที่ไม่ได้มาได้อย่างไร   เพราะพวกเขารอเราอยู่ แต่เพื่อนที่ไปด้วยชื่อวลัยทิพย์ก็พูดเสียงดังและมีอารมณ์โกรธขึ้นมาว่าเขาเขียนธรรมทานไม่ได้หรอกเพราะแบตหมด อาจารย์เจนนี่บอกว่าไม่ได้ให้เขียนวันนี้ แต่ให้จดไว้ว่าเราได้อะไร แล้วกลับถึงบ้านค่อยเขียนก็ได้  อาจารย์เจนนี่ถามวลัยทิพย์ว่า เขาโกรธอาจารย์เรื่องอะไร เขาก็ตอบด้วยเสียงดังและมีอารมณ์ว่า เขาไม่ชอบที่อาจารย์มาบังคับให้เขียนธรรมทาน เขาไม่ชอบใครมาบังคับเขา หนูเห็นอาจารย์พูดเสียงเบาและไม่มีอารมณ์โกรธ อาจารย์เจนนี่บอกให้วลัยทิพย์พูดเบาๆหลายครั้งเพราะคนอื่นเขานอน แต่วลัยทิพย์มีอารมณ์โกรธมาก พูดเสียงดังตลอด  ก่อนหน้านั้นวลัยทิพย์ได้คุยกับหนูตอนที่อาจารย์เจนนี่ไม่อยู่ด้วย ว่าไม่ชอบที่อาจารย์บังคับให้ทีมเราส่งคนเข้าประกวดนางสงกรานต์เพราะเราไม่ได้เตรียมตัวมา (ความจริงอาจารย์ให้เหตุผลว่าอยากให้ความร่วมมือ ถึงแม้เราจะไม่ได้เตรียมตัวมาแต่ก็น่าจะทำได้ อาจารย์บอกว่าวลัยทิพย์ได้ออกไปพูดหน้าเวทีแล้ว คนที่ประกวดน่าจะเป็นหนู หนูไม่อยากประกวดเพราะตัวเองไม่สวยเลย อาจารย์คิดให้ว่าหนูเป็นผีจะได้แปลกออกไป และผีหนูจะได้ออกจากตัวด้วยเพราะเรากล้าบอกว่าเราเป็นผี หนูเห็นด้วยเลยโอเค)  หนูยังกลับมาคิดเสียใจที่ไม่ได้ปกป้องอาจารย์หนูได้แค่พูดว่าอย่าไปว่าครูบาอาจารย์ มันไม่ดีเดี๋ยวจะเป็นเหมือนหนู เพราะแต่ก่อนหนูคิดวิพากษ์วิจารณ์อาจารย์เจนนี่บ่อย จนมีมารพูดคำหยาบมาสิงสู่(ท่านอาจารย์อุบลให้่โอกาสหนูขอขมาอาจารย์เจนนี่ที่โรงแรมฟาร์อีสด้วย) แต่วลัยทิพย์ก็ไม่ฟัง หนูได้บอกว่าให้วลัยทิพย์มาสารภาพบอกความรู้สึกกับอาจารย์เจนนี่

เรื่องที่บอกว่าอาจารย์ให้ลูกศิษย์หาคนมาบำบัด 10 คนต่อวัน จริงๆอาจารย์เจนนี่จัดธรรมบำบัดวันจันทร์กับพฤหัส และบอกกับลูกศิษย์ให้เล่าเรื่องที่ได้รับการปลดล็อคบอกต่อให้เยอะที่สุดเพื่อจะได้ช่วยคนได้ และก็เป็นผลดีกับลูกศิษย์ด้วย หนูไม่ได้ยินที่อาจารย์บอกว่าให้หาคนมา 10 คน แต่วลัยทิพย์บอกกับหนูในงานค่ายว่า ที่อาจารย์ให้ไปชวนคนมาบำบัดเ ค้าทำไม่ได้เพราะเขายังมีหนี้สินอยู่ จะบอกให้ไปปลดล็อคความจนก็คงยังไม่ได้ต้องใช้เวลา แต่ก็พูดเองว่าเขาได้ในเรื่องความสุขมาก แต่เขาคงไม่ได้แบ่งปันตรงนี้ พออาจารย์เจนนี่บอกว่าให้แบ่งปัน และพาคนมาบำบัดวลัยทิพย์ก็พูดด้วยความโกรธและไม่พอใจมากหาว่าอาจารย์บังคับ  จากที่หนูพูดคุยกับวลัยทิพย์ที่โกรธและไม่พอใจอาจารย์ และหนูก็เห็นวลัยทิพย์พูดเสียงดังใส่อาจารย์เจนนี่หลายครั้ง ตัวหนูเองเคยคิดโกรธเกลียดอาจารย์เจนนี่บ่อยเวลาที่อาจารย์เจนนี่ตักเตือนหนู (พอหนูมีสติมาพิจารณา อาจารย์เจนนี่ก็พูดความจริงในสิ่งที่หนูทำผิดพลาด เช่นหนูไม่อยากช่วยคนอื่น หนูขี้เกียจ หนูมองแต่เรื่องของตัวเอง อาจารย์เจนนี่เมตตาบอกหนูตรงๆโดยที่ไม่กลัวหนูจะโกรธ และหนูเป็นฝ่ายบอกอาจารย์เจนนี่เองว่าหนูอยากพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเอง) หนูสารภาพในห้องไลน์กลุ่มว่า เหตุการณ์นี้ลึกๆแล้วหนูก็รู้สึกสะใจ ที่วลัยทิพย์พูดว่าอาจารย์เจนนี่ ฟังวลัยทิพย์ไปเรื่อยหนูชักจะคล้อยตาม หนูจึงไม่ได้ปกป้องอาจารย์เจนนี่จริงๆ แต่หนูก็สำนึกแล้วว่าหนูก็โกรธ เกลียดทุกคนที่มาตักเตือนหนูตรงๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือพี่ที่เคยเป็นโค้ชของหนู หนูไม่มีความกตัญญูรู้คุณคน คิดเอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่พอไม่ได้ดังใจก็โกรธ เกลียด อาจารย์เจนนี่ไม่ได้ตักเตือนอย่างเดียว ยังคอยให้กำลังใจ ชื่นชมหนูด้วย สมัยตอนที่หนูศรัทธาอาจารย์เจนนี่(ไม่ได้คิดไม่ดี) หนูก็มีสิ่งเปลี่ยนแปลงมากมาย คือมีความสุขมาก สายตาดีขึ้นจนไม่ต้องใส่แว่น แม่ที่เป็นตับแข็งก็หาย แต่หนูไม่กตัญญูรู้คุณ คอยวิพากษ์วิจารณ์ คิดโกรธเกลียดอาจารย์เจนนี่ ท่านอาจารย์อุบลก็ให้โอกาสหนูขอขมาอาจารย์เจนนี่ในงานธรรมบำบัดที่โรงแรมฟาร์อีส แต่หนูก็ยังคิดไม่ดีกับอาจารย์เจนนี่ต่อ เมื่อวันก่อนหนูรู้สึกสำนึกผิดในความไม่กตัญญูของหนู และคิดอยากจะรับผิดชอบกับสิ่งที่หนูทำผิดคือ ฟังวลัยทิพย์พูดคุยเรื่องอาจารย์เจนนี่ก็เหมือนกับร่วมนินทา หนูไม่ได้พูดความจริงปกป้องอาจารย์เจนนี่ให้ชัดเจน  พอมาได้อ่านธรรมทานของดร.จิ๋ม ดร.จุ๋ม หนูก็เลยอยากเขียนความจริง  ถ้าเป็นเม่ือก่อนหนูอ่านแล้วคงสะใจ แต่ตอนนี้หนูรู้สึกว่าหนูต้องรับผิดชอบ ในสิ่งที่ถามเรื่องพีระมิดกับดร.จิ๋ม ทำให้ดร.จิ๋มเข้าใจผิดอาจารย์เจนนี่ และเรื่องราวในเต้นท์และสิ่งที่หนูคุยกับวลัยทิพย์ สิ่งที่หนูรู้สึกได้คือวลัยทิพย์โกรธอาจารย์เจนนี่ ที่อาจารย์เจนนี่พูดไม่ถูกใจวลัยทิพย์ วลัยทิพย์จึงเห็นว่าเป็นการบังคับ และวลัยทิพย์พูดตะคอกอาจารย์เจนนี่หลายครั้งซึ่งหนูก็เห็น หนูเห็นว่าวลัยทิพย์ไม่ได้เคารพครูบาอาจารย์ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ วลัยทิพย์เคารพอาจารย์เจนนี่มากเคยเขียนระลึกถึงบุญคุณอาจารย์เจนนี่ในเล่มธรรมทานในวันที่ท่านอาจารย์อุบลมาที่ร้านอาจารย์เจนนี่ แต่มาค่ายครั้งนี้วลัยทิพย์เปลี่ยนไปมาก

รัศมิ์ธกานต์ วุฒิธรรมมี (ตุ๊ก) ผู้เขียน  (หนูเขียนเองทั้งหมด อาจารย์เจนนี่ไม่ได้มาตรวจสอบเลย)

 กราบเรียนท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์ค่ะ
หนูนางสาวจอมใจ ตางูเหลือม เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เจนนี่มาตั้งแต่ อาจารย์เจนนี่ยังเป็นหมอดู แต่เมื่ออาจารย์เจนนี่ได้รับแนวทางการปฎิบัติมาจากท่านอาจารย์อุบล ก็หยุดดูดวงทันที และเดินตามแนวทางท่านอาจารย์อุบล แนะนำสั่งสอนให้ลูกศิษย์ มีความเกรงกลัวต่อการทำผิดศีล อาจารย์เจนนี่ทำให้หนูรู้จักการเติมบุญหนีกรรมของตัวเอง ด้วยพีระมิดของท่านอาจารย์อุบล ที่่เปลี่ยนชีวิตหนูในทุกๆ ด้าน และเกิดสิ่งอัศจรรย์กับหนูมากมาย 

หนูได้เห็นพีระมิดรุ่นมวลสารบ้านสวนที่ร้านอาจารย์เจนนี่ หนูถามอาจารย์เจนนี่ว่า คืออะไร อาจารย์เจนนี่ตอบหนูว่าเป็นพีระมิดของท่านอาจารย์อุบล ที่มีพลังบุญสูงมาก สามารถเติมบุญแก้ไขเรื่องต่างๆ ได้ 
หนูจึงเริ่มต้นด้วยการบูชาพีระมิดรุ่นมวลสารบ้านสวน 1 องค์สำหรับตัวเองเข้าบ้าน ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงกับครอบครัวหนูทันที พ่อของหนูป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจพอง ต้องรักษาด้วยการทำบอลลูนหัวใจ ซึ่งต้องใช้เงินมาก และพ่อหนูก็กลัวการผ่าตัด ไม่มีกำลังใจจะรักษาด้วยวิธีนี้ ก่อนหน้าที่หนูจะบูชาพีระมิดเข้าไปในบ้าน พ่อของหนูจะมีอาการเวียนหัว วูบ มือแขนชา แน่นหน้าอกอยู่เป็นประจำ แต่พอหนูนำพีระมิดรุ่นมวลสารบ้านสวนเข้าไปที่บ้านเพียง 1 องค์ พ่อของหนูแข็งแรงขึ้น มีอาการปวดหัว เวียนหัวน้อยลง หนูจึงบูชาพีระมิดรุ่นมวลสารบ้านสวน ให้กับพ่อ 1 องค์ เพื่อวางที่เตียงนอน ก็เกิดความอัศจรรย์กับพ่อหนูทันที คือ  จากที่เคยมึนหัวตื่นสายเพราะตื่นนอนไม่ไหว พ่อหนูสามารถตื่นได้แต่เช้า ไม่ปวดหัว เวียนหัว มือแขนชาน้อยลงเรื่อยๆ จนไม่มีเลยในที่สุด ทุกเช้าพ่อจะมีแรงลุกขึ้นมากวาดถูบ้านแต่เช้า จากแต่ก่อนต้องใช้ไม้เท้าในการเดิน ก็สามารถเดินเหินได้คล่องตัว ไม่ต้องใช้ไม้เท้า จากที่ต้องกินยาแก้ปวดบรรเทาอาการปวดหัวอยู่เสมอก็ไม่ต้องกิน หลังจากนั้นหนูสังเกตว่าพ่อของหนูดูสดใสขึ้นเรื่อยๆ และดูเป็นหนุ่มมีเรี่ยวแรงขึ้น 
นอกจากนี่้พ่อของหนูยังมีอาการหลังยอกอยู่เป็นประจำ หนูได้ทราบจากอาจารย์เจนนี่ว่า พีระมิดรุ่นมวลสารบ้านสวนดีกับโรคกระดูก มีอยู่วันหนึ่งพ่อของหนูหลังยอกหนัก เดินตัวตรงไม่ได้ แต่พอหนูบูชาพีระมิดรุ่นมวลสารบ้านสวนให้พ่อ หนูส่งเงินค่าบูชาให้อาจารย์เจนนี่ตอน 5 โมงเย็น พอหนูกลับเข้าบ้าน พ่อของหนู เดินตัวตรง และไม่มีอาการหลังยอก ซึ่งแม่ของหนูบอกว่า พอเดินตัวตรงได้ตั้งแต่ 5 โมง ซึ่งเป็นเวลาที่หนูขอเช่าและส่งเงินค่าบูชามาให้กับอาจารย์เจนนี่ 

แม่ของหนูมีอาการปวดเข่า ปวดขา ปลายมือเท้าชา ปวดหัว ต้องกินยาแก้ปวดอยู่เสมอ และเป็นมาหลายสิบปี หนูได้ทราบจากอาจารย์เจนนี่และได้ทราบจากการไปร่วมธรรมะบำบัดของท่านอาจารย์อุบล ว่า กรรมจากการทำแท้ง ทำให้มีวิญญาณของเด็กเกาะติดตามตัว ก่อให้เกิดความเจ็บป่วย แม่ของหนูเคยแท้งน้องคนต่อจากหนู หนูจึงเชื่อว่าความเจ็บป่วยของแม่เกิดจากวิญญาณของน้องที่แท้งไป ต้องการความรัก ต้องการบุญจากแม่ หนูจึงให้แม่บูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี 1 องค์ และให้แม่อธิษฐานส่งบุญให้กับน้อง ปรากฏว่า อาการปวดเข่า ปวดขา มือเท้าชา ปวดหัวของแม่หายทันที แม่ของหนูผอมลงทำให้น้ำหนักไม่กดทับที่หัวเข่า สดใสขึ้น และดูเป็นสาว มีเรี่ยวแรงมากขึ่้น 

ตัวหนูเองก็ได้รับอานุภาพจากการบูชาพีระมิดของท่านอาจารย์อุบลมากมาย ดังนี้ 
หนูทำผิดศีล ชิงสุกก่อนห่าม มีอะไรกับแฟน โดยพ่อแม่ไม่ยินยอม ก่อกรรมทำให้พ่อแม่เสียใจ ทำผิดซ้ำๆ จนชีวิตตกต่ำทุกด้าน ทั้งการงาน การเงิน ครอบครัว และความรักที่แม้แต่คนรักทีี่หนูมีอะไรด้วยก็ไม่ให้การยอมรับหนู หนูได้รับความทุกข์ทรมานใจอย่างมาก 

วันหนึ่งพี่ในกลุ่มของอาจารย์เจนนี่ท่านหนึ่งได้ฝันถึงเรื่องรหัสเจ้ากรรมนายเวร 99 คือบูชาพีระมิด 99 องค์เพื่อส่งบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร หนูได้อ่านอยู่ๆก็มีความรู้สึกว่าตุัวเองควรจะบูชาพีระมิดรุ่นพระนาเนเฟอร์ตารี ส่งบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร ของหนู ซึ่งเป็นความรู้สึกทีเ่กิดเองไม่มีใครบังคับ หนูส่งไลน์แจ้งอาจารย์เจนนีี่ว่าหนูมีความตั้งใจจะบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี เพื่อส่่งบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรของหนู หนูตัั้งใจจะขอบูชา 99 องค์ แต่หนูพิมพ์เข้าไปในไลน์ว่า 99 คู่ ตอนแรกหนูก็จะบูชา 99 องค์อย่างที่ตั้งใจ แต่หนูก็มาคิดว่า นี่อาจเป็นการบอกเหตุให้ปลดล็อคกรรมของหนู บุญจากพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี 99 คู่ ต้องเป็นบุญที่แท้จริงที่เจ้ากรรมนายเวรของหนูต้องการ หนูจึงตัดสินใจว่าจะเช่าพีระมิด 99 คู่ ตามที่เขียนเข้ามา โดยไม่มีใครบังคับอีกเช่นกัน แต่ในเวลานั้นหนูไม่มีเงินพอที่จะบูชาให้ได้ครบ 99 คู่ในเวลาอันรวดเร็วได้ หนูจึงบูชาพีระมิดรุ่นรวยซะให้เข็ดไปจากอาจารย์เจนนี่ 1 คู่ พอบูชาคู่แรกไป บริษัทของหนู เรียกหนูไปคุยว่าจะ ให้หนูกู้เงินสำหรับไปใช้หนี้สิน หนูจึงคิดว่าบูชาเพียงแค่ 1 คู่ หนูก็ได้รับสัญญาณที่ดี จึงตัดสินใจบูชาให้ครบ 3 คู่ ทำให้หนูได้เงินมาใช้หนี้และได้เงินมาบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารีตามที่ตั้งใจไว้
ก่อนหน้าทีี่จะบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี 99 คู่ หนูมีจิตใจที่หมกมุ่นการเสพกามกับแฟน ถึงจะรู้ว่าทำให้พ่อแม่เสียใจ ทุกข์ใจ และแฟนก็ไม่เห็นค่า แต่หนูก็ไม่สามารถหยุดการกระทำผิดได้ นานวัน แฟนของหนูก็ยิ่ง ไม่สนใจหนู หนูต้องเป็นฝ่ายวิ่งไล่ตาม ได้รับแต่ความทุกข์ใจ แต่หลังจากที่หนูบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี 99 คู่มา หนูสามารถหยุดกระทำผิดได้ชะงัก และเกรงกลัวที่จะกระทำผิดเพิ่มเพราะหนูกลัวว่าหนูคงไม่มีปัญญาหาเงินมาเติิมบุญหนีกรรมแบบนี้ได้อีกบ่อยๆ และสิ่งที่เกิดตามมาก็คือ จากที่ครอบครัวของหนูเคยพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่อบอุ่น เพราะผลกรรมที่หนูทำผิด ครอบครัวของหนูก็กลับมาปรองดองกันอีกครั้ง พ่อแม่มีความรักความเข้าใจหนูมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องความรัก การงานที่ตกต่ำย่ำแย่ไม่เป็นที่ไว้วางใจของหัวหน้าเจ้านาย หนูก็กลับมาได้รับความเมตตา ตอนช่วงที่หนูทำผิดไปมีอะไรกับแฟนอยู่บ่อยๆ พลังลบทำให้หนูหน้าตาหมองคล้ำ ผิวพรรณไม่สวย หน้าตาไม่สวย แต่หลังจากที่หนูบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี ผิวพรรณหนูดีขึ้น รูปร่าง หน้าตาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นทั้งหมด หนูสูงขึ้นจากเติมประมาณ 2 เซ็นติเมตร ในเรื่องความรัก คนรักที่เคยไม่เห็นค่า ก็กลายเป็นฝ่ายที่คอยติดตามหนู แม้หนูจะไม่ไปมีอะไรด้วย และคอยให้ความรักและช่วยเหลือหนูในทุกๆ ด้าน หนูรู้สึกว่าความรักของหนูได้เริ่มต้นใหม่อย่างถูกต้อง 

ล่าสุดหนูมีความปรารถนาที่จะบูชาพีระมิดรุ่นบารมีคู่ให้ครบ 9 องค์ เพราะต้องการจะมีครอบครัวที่อบอุ่น ยุติความขัดแย้งทุกอย่าง และต้องการเริ่มต้นเป็นครอบครัวกันแฟน ต้องการหมดปัญหาเรื่องความรัก เรื่องแฟนนอกใจ เพียงแค่คิดจะบูชา หนูก็สามารถมีเงินมาบูชา และก็เกิดความเปลี่ยนแปลงกับครอบครัวของหนู คือ พ่อแม่ของหนูที่ไม่ค่อยแสดงออกเรื่องความรักที่มีกับหนู ก็แสดงออกมากขึ้น มีความเข้าใจหนูมากขึ้น มีความคิดที่จะหาทางสร้างรายได้เพิ่มเติมเข้าครอบครัว แฟนของหนูก็หันมาสนใจให้เกียรติหนูมากขึ้น ครอบครัวของหนูมีความสุข ที่อยู่อาศัยได้รับการเปลี่ยนแปลงให้อยู่สบายมีความสุขขึ้น 

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับหนูที่ได้รับจากบุญพีระมิดของท่านอาจารย์อุบล ทำให้หนูศรัทธาและบูชาพีระมิดรุ่นต่างๆ ของท่านอาจารย์อุบล เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์เจนนี่จะบอกกับหนูทุกครั้งว่า ก่อนบูชาให้ทดสอบบารมีก่อน ก่อนที่จะบูชาก็จะมีเหตุนำร่องบอกสัญญาณที่ดีให้หนูได้รับรู้เช่น หนูจะบูชาพีระมิดรุ่นรวยซะให้เข็ด ก็จะมีเหตุเรือ่งการเงินเข้ามาให้หนูได้เห็นว่ากำลังจะได้เงิน หนูก็จะรีบบูชาทันที ถือว่าได้ทดสอบบารมีแล้ว ระยะหลังๆ หนูมีความเชื่่อและความศรัทธาพีระมิดของท่านอาจารย์อุบลอย่างมาก เพียงแค่ตั้งใจว่าจะบูชา หนูก็จะรู้สึกมีความสุข มีความเชื่อมั่นว่าพีระมิดของท่านอาจารย์อุบลจะเติมบุญให้กับหนูในเรื่องต่างๆ ได้ หนูไม่รอให้เกิดเหตุการณ์อะไรก่อน แต่เอาที่ความรู้สึกที่มีความสุขว่าจะเช่า และความเชื่อมั่่นในพลังบุญที่ท่านอาจารย์อุบลใส่ในพีระมิดทุกองค์ หนูเคยได้ยินท่านอาจารย์อุบลบอกว่า เพียงแค่ปรารถนาจะบูชา สิ่งศักดิิ์สิทธิ์ท่านก็จะจัดสรรให้เอง และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทุกครั้ง ไม่ว่าหนูปรารถนาจะบูชาพีระมิดรุ่นใด หนูก็จะมีหนทางมาบูชาเสมอ 

นอกจากอานุภาพของวัตถุมงคลของท่านอา่จารย์อุบลจะเกิดกับครอบครัวหนู หนูยังสามารถใช้วัตถุมงคลของท่านอาจารย์อุบล ช่วยคนอื่นได้ด้วย เมื่อต้นเดือนมีนาคม หนูได้ไปเยี่ยมปู่ของพี่เขยที่ตรวจพบก้อนเนื้อในอก และลามไปในช่องท้อง หมอปิดการรักษาและให้ญาตินำกลับมาทำใจที่บ้าน วันที่หนูไปพบปู่ ปู่มีอาการนอนหมดแรงอยู่กับที่ ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมากินข้าว ไปห้องน้ำ ไม่มีแรงลืมตา พูดคุยไม่ประติดประต่อ พูดนิดหน่อยก็เหนื่อยหอบ หนูได้ใช้ขวดอภิญญาฉีดตัวเองส่งบุญให้กับผี มาร ที่ทำให้ปู่เจ็บป่วย และได้ให้เข็มกลัดท่านท้าวเวสสุวรรณติดหน้าอกเสิืื้อไว้ให้กับปู่ พอกลับมาที่บ้าน หนูก็ใช้ขวดอภิญญาฉีดส่งบุญให้ผีในตัวปุู่ทุกวัน   ประมาณต้นเดือนเมษายน หนูได้รับข่าวว่า ปู่สามารถขึ้นมาถัดก้น ไปเข้าห้องน้ำและกินอาหารเองได้ เมื่อวันที่ 14 เมษายน หนูไปเยี่ยมปู่อีกครั้ง ปู่สามารถลุกเดินขึ้นบันไดได้ เดินเหินได้ นั่งพูดคุยได้ กินอาหารเองได้ และหมอบอกว่าตรวจไม่พบก้อนเนิื้อแล้วและบอกว่าการวินิจฉัยโรคผิดตั้งแต่ต้น ก็คือไม่มีก้อนเนื้อให้หน้าอกปู่แล้ว 

ในการบูชาพีระมิดของท่านอาจารย์อุบล อาจารย์เจนนี่จะให้หนูทดสอบบารมีก่อนบูชาทุกครั้ง หนูสัมผัสได้เองว่าพีระมิดรุ่นไหนจะช่วยเติมบุญให้หนูได้ โดยไม่มีใครบังคับ และหนูก็มีความเต็มใจในการบูชาทุกครั้ง 
หนูขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์ ที่ให้ความอัศจรรย์เปลี่ยนแปลงหนูและครอบครัวจนดีขึ้นในทุกๆ ทางค่ะ
 

นางสาวจอมใจ ตางูเหลือม ผู้เขียน 

บาปอนันตริยกรรมของหนู (ต่อ)

จากการที่หนูทำบาปผิดศีลทุกข้อ โดยเฉพาะผิดศีลข้อ 1 และ 4 กับพ่อแม่ คิดร้าย โกรธเกลียด ไม่เชื่อฟัง พูดใส่อารมณ์โกรธ โกหก เถียง นินทา พูดคำไม่สุภาพ ไม่เคารพพ่อแม่ ระบายอารมณ์ใส่สิ่งของเวลาโกรธพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจ และพ่อแม่คอยดูแลหนูในหลายเรื่อง เช่น การจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ให้หนู ทำความสะอาด จัดของๆหนู คือสร้างบาปอนันตริยกรรมกับพ่อแม่มามาก และเคยสงสัยคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องกฏแห่งกรรม สวรรค์ นรก 

ที่ทำให้หนูมีมารสิงสู่ มีผีมาอยู่ด้วย ที่คอยโน้มน้าวให้หนูทำผิดศีลทุกข้อเพิ่มขึ้นต่อไป โดยเฉพาะการทำอนันตริยกรรมต่อพ่อแม่ และทำกรรมทางความคิด คำพูด การกระทำที่มาจากความโกรธกับคนในครอบครัว ครูบาอาจารย์ เพื่อนและคนอื่นๆด้วย และชอบของฟรี อีกทั้งยังชื่นชอบอบายมุข ติดหนัง เที่ยวเล่นไร้สาระ เกียจคร้านการทำงาน

ทำให้เจอทุกข์หลายเรื่องในชีวิต

1) ผลการเรียนตกต่ำลงเรื่อยๆตั้งแต่ม.ปลายจนแย่ที่สุดในชีวิตในตอนเรียนมหาวิทยาลัย จากตอนม.ต้น (ที่อาจมีสร้างอนันตริยกรรมบ้าง เช่น โกรธ เถียง ใส่อารมณ์ในคำพูด ระบายอารมณ์ใส่สิ่งของ) ผลการเรียนดีมาก และได้ยกเว้นไม่ต้องเรียนม.3

2) แทบไม่มีเงินเก็บ มีเงินใช้จ่ายน้อยมาก และมักเสียไปกับเรื่องไม่มีประโยชน์

3) มีปัญหาเรื่องความรักมาโดยตลอด

4) ครอบครัวไม่ค่อยสงบสุข มีความขัดแย้ง ใช้อารมณ์โกรธกันบ่อย ตัดสินใจเรื่องธุรกิจของครอบครัวผิดพลาด ทำให้มีปัญหาอื่นๆตามมา

5) หน้าแดงที่แก้มทั้งสองข้าง มีสิวเม็ดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หน้าไม่เรียบเนียน

....แล้วเมื่อได้มารู้จักท่านอาจารย์อุบล

เมื่อได้ทราบคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องการรักษาและอานิสงส์จากการรักษาศีล5 การทำทานและอานิสงส์ของทาน การใช้ปัญญาพิจารณาเหตุและผล กฏแห่งกรรม ดูคนว่าดีหรือไม่ โดยดูว่าพฤติกรรมของเขาเป็นไปตามศีล 5 หรือไม่ มาจากท่านอาจารย์อุบล

สำหรับหนู ท่านอาจารย์อุบลชี้ทางสว่างให้หนูหยุดการประกอบกรรมผิดศีล โดยเฉพาะการเบียดเบียนคนอื่น ด้วยความโกรธ ทำให้หนูทำมามาก โดยเฉพาะอนันตริยกรรมตามที่เล่ามา

ท่านทำให้หนูมีกำลังใจมากขึ้นเรื่อยๆ มีความตั้งใจจะเลิกโกรธอย่างจริงจังขึ้น และทุกวันนี้ เปรียบเทียบกับตอนก่อนรู้จักท่าน ใจหนูมีความโกรธขึ้นมาและพูดด้วยความโกรธน้อยครั้งมากๆ พอมีความโกรธป๊บ จะเลิกให้ได้ทันที จะคิดถึงพระพุทธเจ้า และใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยบ่อยครั้ง

ทำให้ทุกวันนี้ หนูมีจิตใจอ่อนโยนขึ้น แทบจะไม่ทำอนันตริยกรรมแล้ว ได้สำนึกผิด และขอโทษพ่อกับแม่ ตั้งใจเปลี่ยนแปลงตนเองจะไม่ทำร้ายจิตใจพ่อแม่อีก จะรักและกตัญญูต่อท่าน หนูจะให้ความสุขกับท่านมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ทำความดีให้มากขึ้นเรื่อยๆ

และหนูยังมีความรักต่อ และคิดถึงคนอื่น และสัตว์อื่นมากขึ้น จิตใจเกาะเกี่ยวความดีมากขึ้น รู้สึกสบายใจเหลือเกินค่ะ

หนูรู้จักท่านตอนกำลังจะเข้าปีที่ 4 ปริญญาตรี จากนั้นเป็นต้นมา หนูมีกำลังใจและขยันเรียนขึ้น และทำบุญกับท่าน ทำตามคำสอนของท่านมาเรื่อยๆ เป็นผลให้การเรียน เกรดเฉลี่ยของหนูสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างมากๆ และได้เกรด A สำหรับวิทยานิพนธ์ ในขณะที่ก่อนรู้จ้กท่านอาจารย์ เกรดเฉลี่ยหนูอยู่ในเกณฑ์ต่ำมากมาตลอด

และท่านช่วยให้หนูมีอาชีพประจำและอาชีพพิเศษทำที่ดี มีสภาพคล่องทางการงานและการเงิน มีเงินเก็บมากขึ้นเรื่อยๆ  มีแต่รอยยิ้ม ความสุขในสังคมที่ทำงานค่ะ

ครอบครัวสงบสุข ไม่มีทะเลาะกัน ไม่มีความขัดแย้งกัน มีแต่ความรักกัน อาจมีบ้างแต่ประมาณได้ 1%เท่านั้นค่ะ

และผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น หน้าแดงน้อยลง  ไม่มีสิวเม็ดใหญ่

เหล่านี้คืออานิสงส์จากการปฏิบัติตาม และความโกรธค่ะคำสอนจากท่านอาจารย์อุบล โดยเฉพาะลดและตั้งใจหยุดการทำอนันตริยกรรมต่อพ่อแม่

กราบพระบาท ขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และเทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ในความเมตตาอันประมาณมิได้ต่อหนู ครอบครัว และคนรอบตัวหนูค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

อนันตริกรรมที่หนูเคยทำกับท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์มงคล

เกิดขึ้นช่วง 24-25 ธ.ค.54 บวงสรวง+หล่อท่านมเหสักขา

ตอนที่หนูกำลังทำบุญแรงกายขุดฐานสร้างองค์พระด้านหลัง 9.9 เมตร ซึ่งเป็นท่านพ่อดตาจินินผู้มีบารมีสูงสุดในอนันตจักรวาล 

หนูถนัดซ้าย และขณะที่กำลังถือจอบขุด หนูคิดโกรธ มีความคิดขึ้นมาประมาณว่า ทำไมท่านอาจารย์ไม่ทำเอง

นึกถึงก็น่าขำตัวเองจริงๆค่ะ คิดได้ยังไง ท่านเมตตาเปิดบ้านของท่าน ทำถวายพระพุทธเจ้า นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาช่วยเหลือคนให้พ้นทุกข์ ให้ได้ทำบุญแรงกายสร้างฐานองค์พระ ซึ่งเป็นบุญใหญ่มาก 

หลังจากนั้น หนูมีอาการปวดแขนข้างซ้ายมาก และปวดหัวมาก

ตอนกลางคืน ช่วงฟังธรรมะจากท่านอาจารย์อุบล หนูได้รับโอกาส ออกมาเล่าธรรมทานต่อหน้าทุกท่านที่อยู่ในวิหารองค์พระปฐมตอนนั้น หนูหายปวดหัวประมาณ 50% หลังจากสารภาพบาป เช่น ผิดศีลข้อ 1 ฆ่าสัตว์เล็กต่างๆ (หนูเล่าว่ามีสัตว์อะไรบ้าง) เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ ผิดศีลข้อ 5 เคยดื่มแอลกอฮอล์

แต่อาการปวดหัวอีกครึ่งหนึ่ง และอาการปวดแขนข้างซ้ายมากไม่ดีขึ้นเลย ซึ่งหนูเดาว่าเหตุหลัก คือทำอนันตริยกรรม คิดไม่ดีกับท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์มงคลแน่นอนค่ะ อย่างที่เล่ามา แต่เพราะหนูบาปหนา ถึงนึกไม่ออกตอนกำลังสารภาพบาปค่ะ ตอนนั้น เลยต้องรับกรรมต่อไป

หนูกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์มงคล ที่หนูเคยคิดไม่ดีต่อท่าน และกราบขอขมาเทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ค่ะ 

กราบเรียน อาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีรามิด ทุกพระองค์
               ดิฉันชื่อ ศุนา  แซ่เอี๊ยว (ศุ) อายุ 35 ปี ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานจ้างเหมาบริการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่งกรุงเทพใต้ 3 สำนักงานอัยการสูงสุด ตำแหน่ง บริหารงานทั่วไป
              ดิฉันพบอาจารย์เจนนี่ครั้งแรกเมื่อเดือน ต้นเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2556 โดยเคยทราบข่าวจากน้องที่เรียนกฎหมายด้วยกันว่า อาจารย์เจนนี่ดูดวงแม่น แต่ปรากฏว่าเมื่ิอเข้ามาพบ อาจารย์เจนนี่ ไม่ดูดวงให้ และบอกว่าเลิกดูดวงแล้ว แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือ ธรรมะตามแนวทางของท่านอาจารย์อุบล ที่ให้พิจารณาเรื่องศีล การสำนึกผิดและสารภาพบาปกรรมที่ทำเอาไว้  ยังจำได้ว่ามาพบอาจารย์เจนนี่ในวันนั้น มีลูกศิษย์อาจารย์เจนนี่อยู่ประมาณ 4-5 คน อาจารย์เจนนี่ได้นำเรื่องศีลและการสารภาพของท่านอาจารย์อุบล มาบอกต่อกับลูกศิษย์ โดยนำคำของท่านอาจารย์อุบลมาสอนทุกคนว่า บุญจากธรรมทานด้วยการเล่าเรื่องที่เคยกระทำผิด  จากการสำนึกผิด และจะไม่กระทำอีก เป็นบุญที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการ อาจารย์เจนนี่เริ่มต้นด้วยการเกริ่นนำถึงคำสอนของท่านอาจารย์อุบล จากนั้นได้เล่าสิ่งที่ตัวเองก็เคยทำผิดศีลมาสารภาพให้ทุกคนฟัง และให้ลูกศิษย์เล่าเรื่องราวที่เคยกระทำผิดของตัวเองเป็นธรรมทาน ยังจำได้ว่าออกจากร้านไปด้วยความตื้นตัน  จากเมื่อก่อนที่จะได้มาฟังเรื่องแนวทางของศีลของท่านอาจารย์อุบล ดิฉันคิดว่า ตัวเองเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง ที่รักษาศีลได้ครบ แต่เมื่อได้ฟังแนวทางของท่านอาจารย์อุบลแล้ว จึงรู้ว่าตัวเองแม้แต่ศีล 5 ขั้นพื้นฐานก็ยังรักษาไม่ได้ ดิฉันเคยฆ่าสัตว์ เคยพูดให้พ่อแม่เสียใจ เป็นการฆ่าพ่อแม่ทางใจ ผิดศีลข้อ 1 ดิฉันยังไปทำงานราชการแต่ไปทำงานสาย ซึ่งเป็นการลักทรัพย์ โกงเวลาทำงานของทางราชการ ผิดศีลข้อ 2 และเคยทำผิดศีลข้อ3 คือ ชิงสุกก่อนห่าม ซึ่งพ่อแม่ไม่ทราบการกระทำของดิฉัน และการที่ดิฉันไม่เคยบอก จึงเป็นการปิดบังความจริง ไม่พูดความจริง ไม่ให้พ่อแม่รู้ เท่ากับผิดศีลข้อ 4 ด้วย และยังดื่มสุราเมื่อสังสรร ผิดศีล ข้อ 5 ดิฉันรู้สึกผิดกับพ่อแม่ แม้ว่าผู้ชายที่ดิฉันชิงสุกก่อนห่ามจะเป็นสามีที่ดิฉันแต่งงานด้วยและพ่อแม่ยอมรับ  สิ่งนี้ติดอยู่ในใจตลอดมา หลังจากที่เข้า่กลุ่มใน Line ของอาจารย์เจนนี่ ซึ่งตอนนั้นจำได้ว่ามีสมาชิกประมาณ 40 กว่าคน ได้อ่านธรรมทานที่สมาชิกในกลุ่ม และธรรมะที่อาจารย์เจนนี่นำมาจากท่านอาจารย์อุบล ก็ได้เป็นการสำรวจตัวเองตลอด ช่วงแรกก็รู้สึกว่า ธรรมะที่อาจารย์เจนนี่นำมาจากท่านอาจารย์อุบลและส่งเข้ามาในกลุ่ม เหมือนโดนเราโดยตรง แต่เมื่อลูกศิษย์อาจารย์เจนนี่ในกลุ่มทยอยสารภาพความผิดของตัวเองออกมา ก็ได้สำรวจตัวเอง พบว่าตัวเองผิด อย่างที่คำสอนของท่านอาจารย์อุบลว่าไว้ และเมื่อสารภาพเข้ากลุ่มก็รู้สึกว่าตัวเองปลดล็อค มีความสุขมากขึ้น มีความหนักแน่น กล้ารับผิด และมั่นใจที่จะทำความดีมากขึ้น แต่บางอย่างก็ไม่ได้รับการปลดล็อคทั้งหมด เช่นเรื่องศีลข้อ 3 ที่สารภาพใน Line แล้วก้ยังรู้สึกติดค้่าง อาจารย์เจนนี่แนะนำว่าให้สารภาพกับสามี และ แม่(พ่อเสียชีวิตแล้ว) จึงรวบรวมความกล้าบอกสามีว่า เคยมีอะไรกับคนอื่นมาก่อนที่จะแต่งงานกับเขา แล้วก้ไม่ใช่แค่คนเดียวด้วย สามีก็รับรู้แล้วก็ถามว่าคิดยังงัยถึงมาบอก จึงบอกว่ารู้สึกผิดและอาจารย์เจนนี่แนะนำให้พูดความจริงและแนะนำให้บอกกับพ่อแม่ด้วยว่าเคยชิงสุกก่อนห่าม ปรากฏว่าสามีไม่ได้ว่าอะไร และยังได้ปรึกษาสามีว่า จะบอกแม่ดีมั๊ย สามีบอกว่าก็ได้ (แสดงว่าสามีก็เห็นดีด้วยที่เรามาพูดความจริง) กลับบ้านไปก็พูดเรื่อง ศีล 5 ให้แม่ฟัง และอ่านการสารภาพของคนในกลุ่มให้แม่ฟังว่าแต่ละคนเคยทำผิดมาอย่างไร สำนึกอย่างไร และสารภาพว่าหนูก็เคยทำผิดกับแม่  เคยชิงสุกก่อนห่าม แม่โกรธมาก ดิฉันกราบขอโทษแม่ แม่ถามว่าทำไมทำอย่างนั้น ก็ตอบไปตามจริงว่า กลัวไม่ได้ผู้ชายคนนี้ ดูท่าทางว่าแม่จะไม่หายโกรธ ดิฉันจึงอ่านธรรมทานของเพื่อนในกลุ่มให้แม่ฟังต่อไป สักพักอยู่ๆแม่ก็บอกขึ้นมาว่าอโหสิแล้วเอามือลูบหัว ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ครอบครัวคนจีนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกต่อกัน ซึ่งความจริงดิฉันเคยไปวัดปฏิบัติธรรมพร้อมแม่และได้เคยกราบขออโหสิกรรมกับแม่ แต่ไม่ได้เคยสารภาพว่าเคยทำผิดอะไร ขออโหสิเรื่องอะไร บาปจึงยังติดในใจ แต่คราวนี้ แม่อโหสิให้กับลูกโดยรู้ในสิ่งที่ลูกเคยทำผิดกับแม่ มันมีความสุขมากค่ะ ทั้งแม่ทั้งลูก นำ้ตาคลอ แม่ก็ยังรักลูกเหมือนเดิม หลังจากดิฉันสารภาพเรื่องที่ไม่เคยคิดว่าจะสารภาพได้กับแม่และสามี ดิฉันมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะทำทุกอย่างให้ตรงศีล การรับธรรมะกับอาจารย์เจนี่ที่นำมาจากท่านอาจารย์อุบล ทำให้ดิฉันมีความเข้มแข็งที่จะต่อสู้กับใจตัวเองที่จะหลงไปทำผิดศีล 5 ทำงานผิดพลาด ก็กล้าที่จะยอมรับไม่โทษคนอื่นและขอโทษกับหัวหน้า สถานการณ์จึงไม่เลวร้าย ได้รับการให้อภัย 

           ดิฉันเป็นคนไม่ค่อยอยากมีของขลัง มีพระพุทธรูป แต่ใครมาบอกว่าพระเครื่องโน่นนี่ขลังแบบนั้นแบบนี้ จะไม่เคยเชื่อ การที่อยู่ในกลุ่มอาจารย์เจนนี่ ดิฉันได้ฟังเรื่องราวของอานุภาพพีระมิดของท่านอาจารย์อุบล ที่เกิดกับคนที่บูชา อยู่มาหลายเดือนก็ไม่เคยบูชา แม้จะเคยพิสูจน์อานุภาพจากท่านอาจารย์อุบลเอง (เคยไปธรรมะบำบัด) อาจารย์เจนนี่ก็พิสูจน์อานุภาพให้กับคนที่จะบูชา เห็นกี่ครั้งก็ไม่บูชา แต่อาจารย์เจนนี่ก็ไม่เคยบังคับ เพียงแต่พูดและแสดงให้เห็นอานุภาพ เริ่มเช่าอันแรกก็เช่าราคาถูกที่สุด รุ่นมวลสารบ้านสวน และเช่ารุ่นชำระหนี้แผ่นดิน เพราะเห็นว่าตัวเองอยู่ประเทศไทย ใช้สิ่งของสาธารณะของประเทศเป็นการใช้ของแผ่นดิน ตามที่อาจารย์เจนนี่ให้ธรรมะที่นำมาจากท่านอาจารย์อุบลและพิจารณาแล้วว่า ตนเองไม่เคยจ่ายภาษี (หลบภาษี) ย่อมเป็นหนี้แผ่นดินนี้มาก จึงบูชา แต่ก็ไม่ได้สังเกตอานุภาพที่ีเกิดกับตัวเท่าไหร่เพราะจุดประสงค์ต้องการใช้หนี้ แต่สังเกตว่าตัวเองหลงไปหรือเปล่า ก็คอยเล่าให้สามีฟังเวลาที่ไปรับธรรมะบำบัด ว่าวันนี้อาจารย์พูดอย่างไรบ้าง เพื่อให้คอยเตือนกันหากผิดทาง ช่วงหลังดิฉันมารับธรรมะบำบัดที่ร้านอาจารย์เจนนี่ตามแนวทางบ้านสวนพีระมิด ของท่านอาจารย์อุบล  แฟนก็ไม่ว่าอะไร กลับดึกก็ไม่ว่าเพราะดิฉันเอาธรรมะของท่านอาจารย์อุบล ที่อาจารย์เจนนี่นำมาถ่ายทอด มาปรับปรุงตัวเองจริง และบอกด้วยว่าอาจารย์เจนนี่ได้ถ่ายทอดธรรมะของท่านอาจารย์อุบล ทำให้เห็นว่าสิ่งนี้ถูกสิ่งนี้ไม่ถูก ดิฉันก็มั่นใจในความคิดความอ่านของสามีดิฉันเพราะเค้าจบโทต่างประเทศ ทำงานบริษัทโตโยต้า สำนักงานใหญ่ หน้าที่การงานระดับหัวหน้างาน ย่อมไม่เชื่ออะไรที่ไม่ถูกไม่ตรงได้ง่ายๆ 

          หลังจากดิฉันบูชาพีระมิดของท่านอาจารย์อุบล  ครอบครัวมีความอบอุ่น พูดอะไรสามีก็รับฟังเพราะเราพูดแต่ความจริง เรียนเพิ่มเติมปริญญาด้านกฏหมายอีกใบก็บูชาพีระมิดรุ่นพระจักรแก้ว พระขรรแก้ว ทำข้อสอบเหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิจับให้เขียนทั้งที่แทบไม่ได้อ่านหนังสิือ บูชารุ่นท่านพ่อดตาจินิน ทำให้ขจัดพลังงานไม่ดีในบ้าน ทั้งดิฉันและลุกมาทำความสะอาดบ้าน สามีกวาดบ้านทุกวัน(เมื่อก่อนแทบไม่เคยทำเลย) ดิฉันทำครัวก็เช็ดครัวจนสะอาด ดิฉันเห็นห้องนำ้เป็นรอยดำก็ลุกขึ้นมายาแยวห้องน้ำด้วยตัวเอง เหมือนได้ห้องน้ำใหม่ ทั้งหมดนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย     

          ทั้งหมดนี้เป็นความเปลี่ยนแปลงของตัวดิฉัน ที่มารับธรรมะของท่านอาจารย์อุบลผ่านการถ่ายทอดอาจารย์เจนนี่มา 6 เดือน  วันนี้ได้อ่านข้อความด้านบนที่กล่าวถึงอาจารย์เจนนี่ ดิฉันในฐานะคนหนึ่งที่ต้องการพูดความจริงที่ถูกต้องตรงความจริง จึงขอบอกเล่าเฉพาะสิ่งที่ตัวเองรู้เห็นและอยู่ในเหตุการณ์      

          1. ก่อนมาพบอาจารย์เจนนี่ทราบว่าเคยดูดวง ก็ทราบมาจากเพื่อที่เรียนกฎหมายว่าแม่น และก็ทราบราคา คือแพง แต่ถึงแพงก็อยากดู พอมาหาอาจารย์เจนนี่ อาจารย์เจนนี่บอกว่าการดูดวงแล้วยังไง ไม่ได้แก้ไขอะไรให้ดีขึ้น แต่อาจารย์มีแนวทางที่ทำให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองได้ ซึ่งอาจารย์ก็ได้รับความรู้มาจากครูบาอาจารย์อีกที  คือท่านอาจารย์อุบล ที่อาจารย์เจนนี่พูดอยู่เสมอว่าเป็นแม่ทางธรรม ทำให้อาจารย์เจนนี่เกิดใหม่ มีชีวิตใหม่ ที่ไม่สร้างกรรมเลว  อาจารย์เจนนี่เชื่อในแนวทางของท่านอาจารย์อุบล ว่าดับเหตุผลก็ดับ ไม่จำเป็นต้องดูดวง และเป็นธรรมะที่ฟรี  ดิฉันเคยคำณวนรายได้ค่าดูดวงอาจารย์เจนนี่เล่นๆว่า ที่เห็นคนเดินเข้าออกร้าน อย่างน้อยวันหนึ่งน่าจะมีลูกค้าดูดวงประมาณ 2 คน เดือนละ 30 วัน คนละ 1,000 บาท รายได้ต่อเดือนอย่างน้อยน่าไม่น้อยกว่า 60,000 บาท แต่ดิฉันว่าน่าจะเป็นแสน  ทำไมอาจารย์เจนนี่จึงเลิกดูดวง แค่เพียงท่านอาจารย์อุบลบอกว่า ดูดวงผิดขั้นมหาศีล ยอมทิ้งเงินจำนวนนี้แล้วเสียเวลามานั่งสอนลูกศิษย์เพราะอะไร ผู้หญิงคนนี้แน่จริงๆ 

          2. บุคลิคอาจารย์เจนนี่ พูดโผงผาง ตรงไปตรงมา พูดเสียงดัง เพราะฉะนั้นเวลาที่อาจารย์เจนนี่บอกลูกศิษย์ตรงๆ บางคนจะคิดว่าโดนว่า เพราะดิฉันเองช่วงแรกๆก็คิดว่าทำไมอาจารย์เจนนี่ชอบว่าเรา แต่เมื่อเห็นว่าสิ่งที่อาจารย์เจนนี่พูดโดนทุกคน เพราะหลายๆคนก็สารภาพออกมา แต่คนที่ไม่กล้าปรับปรุงตัวเองจะไม่กล้ามาหาอาจารย์เจนนี่ กลัวอาจารย์เจนนี่พูดความจริง แต่เมื่อดิฉันสำรวจตัวเองก็เป็นจริงที่อาจารย์เจนนี่พูดทุกคำ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมปรับปรุงตัวเองหรือไม่ 

          3. ปัจจุบันสมาชิกใน Line มี 44 จะมีน้อยที่สุดก็ประมาณ 30 กว่าคน 

          4. ดิฉันไม่เคยโดนอาจารย์เจนนี่บังคับให้บูชาพีระมิดค่ะ

          5. ดิฉันมาพบอาจารย์เจนนี่เกือบทุกอาทิตย์ แต่แทบไม่เคยพบคนที่อ้างว่าเป็นศิษย์ที่กล่าวว่าร้ายอาจารย์เลย ( ตลอด 6 เดือน พบคนดังกล่าว ที่ร้านแค่ 1 ครั้ง )

            6. การทำบุญห้องน้ำ ช่วงที่ไปค่าย 19 อาจารย์เจนนี่เห็นป้ายที่ติดอยุู่กับตู้ที่บ้านสวนพีระมิดว่า ร่วมทำบุญสร้างห้องน้ำ ห้องละ 20,000 อาจารย์เจนนี่บอกว่าอยากจะร่วมทำบุญด้วย แต่ก็ไม่ได้บังคับหรือชักชวนอะไร  พอหลังจากจบธรรมะบำบัดในวันนั้น ดิฉันขอร่วมบุญสร้างห้องน้ำด้วย และคนอื่นๆ ก็อยากทำด้วยตามกำลังของแต่ละคน รวมถึงพี่ที่ทำบุญร่วม 2500 ก็ทำบุญร่วมด้วย  

 หนูใช้สบู่พาเมล่า แล้วผิวพรรณดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

ใช้สบู่อโลเวร่า หรือ ว่านหางจระเข้ ล้างหน้าเช้า-เย็น แล้วหน้าหนูจะสว่างขึ้น ใสขึ้น หน้าแดงน้อยลงในทันทีทุกครั้งที่ใช้ ปัจจุบัน ประกอบกับตั้งใจเลิกโกรธอย่างจริงจัง หน้าก็แดงน้อยลงมาตลอดค่ะ

ใช้สบู่อโลเวร่า โรส ฟอกผิวกาย หนูสังเกตเห็นว่า

ที่แผ่นหลัง ที่เคยมีสิวอักเสบแบบสิวหัวช้างขึ้นจำนวนมาก

หลังจากฟอกสบู่นี้ และเคยฟอกสบู่สิว ประกอบกับตั้งใจเลิกโกรธ ทำบุญกับท่านอาจารย์อุบล ปัจจุบัน เมื่อสักครู่ให้น้องสาวดูให้ ไม่มีสิวอักเสบเลย มีแต่สิวผื่นนิดหน่อย และรอยสิว น้องสาวบอกว่ามันดีขึ้นมากๆ และผิวตัวเองเนียนขึ้น แข็งแรง คือ ไม่มีอาการแพ้ฝุ่น เกสร แมลง น้ำหอม เครื่องสำอาง แดด ลม ความร้อน ความเย็น หรืออื่นๆเลย และถูที่แผล แผลก็นุ่มขึ้น

ผลจากการบอกต่อและใช้รหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วยบ่อย

อารมณ์เย็น ใจมีความสุขแทบตลอดเวลา

ทำให้มีสภาพคล่องในชีวิตในหลายอย่าง เช่น ได้รับความสะดวกสบายจากการเดินทาง เพราะคนในครอบครัวจะขับรถให้เสมอ และเวลาขึ้นรถโดยสาร BRT ไปทำงาน พอหนูมาถึง รถก็จะมาถึงเลย ได้ขึ้นเลย หรือรอเพียงซักพักเดียวเท่านั้น

มีสภาพคล่องทางการงานมาก ราบรื่น ทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง ทุกวัน นอนน้อย ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ทำได้เรื่อยๆ และไม่เครียด ใจสบายทุกวัน

คนรอบข้างยิ้มแย้ม แจ่มใส มีความสุข บรรยากาศที่หนูอยู่ดีเสมอ

ใช้รหัสกับพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง อยากให้เขาสบายใจ หลังจากนั้น มือกลางวัน เขาทานเจ ไม่ทานเนื้อสัตว์

นั่งข้างๆคุณย่า แล้วพูดและนึกถึงรหัสบ่อย ทำให้เขายิ้ม อารมณ์ดี หัวเราะเรื่อยๆ

ใช้รหัสขอให้ลดน้ำหนักให้ลงถึง 48 กก. หลังจากนั้น หนูก็สามารถควบคุมการทานอาหารได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้น้ำหนักตัวของหนูที่กังวลมาตลอด ลดลงมาเรื่อยๆค่ะ

ไม่อาการเจ็บปวดทางร่างกายใดๆ นอกจากปวดกระเพาะที่ยังไม่ทราบสาเหตุทั้งหมด นอกจากชอบทานของฟรี ที่ลดมาได้แล้ว แต่ยังไม่ 100% ค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และเทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ที่ช่วยให้หนูมีความสุขมากขึ้นๆเสมอค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

                        ธรรมทานวันที่ 19-20 เม.ย. 2557
    วันนี้ก็มากันเยอะต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมีความสุข  มีการแบ่งงานกันทำได้พอดีครบชั่วโมงก็เปลี่ยนฐานกันทำ เพื่อทุกคนที่มาจะได้ทำกิจกรรมกันครบทุกฐาน  ซึ้งในวันนี้ก็ได้มีโอกาสที่ดี ที่ทุกคนได้ขึ้นไปทำความสะอาด องค์พระชำระหนี้สงฆ์บนวิหาร ทำความสะอาดวิหารสองชั้น ทำความสะอาดเช็ดกระจกองค์พระท่านพ่อดตาจินิน+องค์องพระปฐมในองค์เดียวกัน และอีกหลายอย่าง
  ช่วงเย็นก็ได้คุยเรื่องการ การคบคนชั่วเป็นมิตรถ้าคบจะมีแต่ความฉิบหาย คือไม่ร่วมกิจกรรมด้วย ไม่พูดไม่คุยด้วย ถ้าร่วมก็พูดแต่น้อย และให้พูดความจริงกับสิ่งที่พบเห็นที่ดูแล้วไม่เหมาะสม ถ้ายัง(เกลงใจ=กับตอแหล)เช่นน้องใข่ตุ๋น เล่นรื้อข้าวของผู้ที่มาร่วมทำบุญหรือว่าเล่นลูกโปร่งเสียงดังตอนประชุมอยู่แต่ทุกคนก็ไม่ห้ามไม่ตักเตือน ยังนิ่งเฉยอยู่ แสดงว่าทุกคนยินดีที่เห็นเขากระทำอยู่ ยังสงเคราะห์คนทำผิดอยู่

     จากกิจกรรมเข้าค่าย20 ที่ผ่านมา ก็มีบุคคลหลายรูปแบบเข้าที่บ้านสวนฯ ซึ่งก็มีบางคนที่ได้สังเกตดูว่ามีพฤติกรรมนิสัยคล้ายๆกับมาร 4ตู คือปากดำตู ปาริชาติ เรื้อนตู ปวิณาแคมป์ กร่างตู เจิดหทัย และชิ้มตู บุณศิริ คือเป็นคนที่ฝ่าฝืนกฎกติกาบ้านสวนฯ เช่น หมดเวลาจะต้องเปลี่ยนฐานแต่กลับออกคำสั่งให้อยู่ทำในฐานต่ออีก  ทำตนเองให้เด่นกว่าคนอื่นแล้วสั่งให้คนอื่นทำตามตนเอง   การแต่งกายที่ไม่เหมาะสมผู้หญิงบางคนก็ใส่เสื่อผ้าที่รัดรูปเห็นสัดส่วน เอวลอยบ้าง ใส่กระโปรงสั้นบ้าง กวาดสายตาไปทั่ว มองหาแต่หนุ่มๆและเหมือนกับมายั่วยวน เพื่อมาหาประโยชน์อะไรสักอย่าง ก็มีลูกบ้านสวนฯที่หลายคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้มา ได้มาคุยกันว่าลักษณะแบบนี้ คุ้นๆคล้ายกับปากดำตู  ก็เลยให้ทุกคนคิดขึ้นมาว่า ถ้าเจอผู้หญิงแต่งตัวยั่วยวน ไม่ให้กล้าใส่เสื้อผ้าแบบนี้อีกควรพูดว่าอย่างไร ก็มีการเสนอขึ้นมาหลายอย่าง เช่น การแต่งตัวแบบนี้เหมือนอีตัวเลย การแต่งการแบบนี้ไม่มองว่าสวยนะ ดูแล้วไม่มีค่าเลย ดูน่ารังเกียจ  ดูเหมือนผู้หญิงหากินมากกว่า และการบอกแบบนี้ใครเห็นผู้หญิงที่แต่งตัวแบบนี้ก็ต้องบอกกันทุกคนไม่ใช่ว่า มีคนไปบอกแล้วผู้หญิงคนนั้นคงจะรู้แล้วแหละ แล้วตนเองเห็นก็ไม่บอกอีกทำนิ่งเฉย  เท่ากับตนเองไม่มีความเมตตาต่อผู้อื่น ถ้าช่วยกันบอกหลายๆคน จะทำให้เขาอายก็จะไม่กล้าแต่งตัวแบบนี้อีกครับ  

ขอขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์และท่าน อ.อุบลพร้อมครอบครับ 

    ผมขอมาเล่าเรื่องคุณเจนนี่บ้างครับ เห็นมีคนมาเปิดประเด็นเลยคิดว่าน่าจะเป็นการดีที่หลายๆคนที่คิดอะไรอยู่จะได้ออกมาพูด และเล่าเรื่องราวของตัวเองที่ได้เห็น และพบเจอครับ โดยจากการที่ได้เห็นคุณเจนนี่ ตลอดเวลาที่ไปทำบุญแรงกาย คุณเจนนี่ไม่ค่อยยิ้มเลย หน้าเครียดตลอดเวลา หน้าตาเหมือนคนอมทุกข์ เหมือนคนยิ้มไม่เป็น และเรื่องชอบวางอำนาจนี้ผมก็สัมผัสได้ เพราะผมได้มีโอกาสอยู่กลุ่มเดียวกับคุณเจนนี่หลายครั้ง ซึ่งเธอจะหน้าเครียดตลอด ไม่ยิ้ม ทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เพราะแค่มองก็ยังรู้สึกอึดอัดแล้วครับ แล้วจากที่ฟังมาจากหลายๆคนก็เห็นตรงกันว่า เธอหน้าเครียดตลอดเวลาจริงๆ เหมือนมาทำบุญแล้วไม่มีความสุข และก็ชอบสอนคนอื่น ซึ่งที่บ้านสวนพีระมิดนี้ เป็นบ้านของ อ.อุบล เรามาหาท่าน เราต้องเชื่อฟังท่าน ไม่ใช่มาทำตัวเป็นศาสดาสอนคนอื่นนะครับ ไม่งั้นคนอื่นเขาจะพูดได้ว่า ทำตัวเสมอ....  

เรื่องเกี่ยวกับคุณเจนนี่ และคนที่นับถือคุณเจนนี่เป็นอาจารย์ จากที่ได้อ่าน ข้อความต่างๆแล้ว ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ บ้านสวนพีระมิดเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีอาจารย์อุบลเป็นเจ้าของบ้าน นำธรรมจากพระพุทธองค์มาสอนมาถ่ายทอด แสดงกฏแห่งกรรม ทุกอย่างเกิดจากเหตุ ความดีต่างๆที่เกิดปรากฏขึ้นอาจารย์ไม่เคยกล่าวอ้างว่าเป็นความดีของอาจารย์เลย ยกให้พระพุทธเจ้า แต่สิ่งที่ไม่ดีอาจารย์จะรับเอง พวกคุณที่นับถือคุณเจนนี่เป็นอาจารย์ และจะกล่าวพูดหรือเขียนคำว่าอาจารย์ให้ระบุชื่อตามด้วยว่า อาจารย์ชื่ออะไรทุกครั้งด้วย เช่น อาจารย์เจนนี อาจารย์กอไก่ ถ้าในบ้านสวนในเวปบ้านสวน พูดเกี่ยวกับบ้านสวนถ้าพูดถึงอาจารย์แล้วไม่ระบุชื่อผมจะนึกถึงอาจารย์อุบลคนเดียว ที่ได้อ่านเรื่องจากคุณที่นับถืออาจารย์เจนนี่มันมีความรู้สึกที่ไม่ดีเอาเลย เหมือนความดีต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นของคุณเจนนี่ทั้งหมดเลย และลูกศิษย์ของคุณเจนนี่เอาอาจารย์อุบลไว้ตรงไหน คุณเจนนี่เอาอาจารย์อุบลไว้ตรงไหน คุณเจนนี่เวลาแสดงธรรมทานต่างๆ หรือบำบัดผู้คน เคยบอกหรือเปล่าว่าความดีทั้งหลายเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่เป็นความดีของคุณเจนนี่เองเป็นความดีของใครใครทำให้เกิดสิ่งที่ดีๆเหล่านั้นเกิดขึ้น ไม่ใช่ธรรมของคุณเจนนี่เอง  เวลามีสิ่งดีๆ เกิดผลความดีที่เกิดจากที่ได้รับได้บำบัดคุณเจนนี่กล่าวและพูดอย่างไรบ้างละได้อ่านเรื่องของคุณๆที่นับถือคุณเจนนี่เป็นอาจารย์รู้สึกเหมือนพวกคุณจะสร้างอะไรมาซ้อนที่บ้านสวนพีระมิด  ความรู้สึกมันเป็นเช่นนี้

พวกเราไปบ้านสวนไม่ต้องจ่ายเงิน. คือฟรีทุกอย่างแล้วทำไหมคิดกันไม่ได้หนอ. ถ้าเป็นบ้านคุณละแค่เห็นบิลค่าไฟ ละค่าอื่นๆ ต่อเดือน.เยอะมาก. แล้วถ้าให้คุณเป็นคนจ่ายเงินเองคุณจะรู้สึกบ่นใช่ไหมละ แต่บางคนไปบ้านสวนแล้วยังทำตัวเป็นสาสดาเสียเองไปสอนธรรมะให้คนอื่นทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังมาพึ่งใบบุญของท่านอ.อุบล ขอบอกชื่อเลยคือคุณเจนนี่ให้คนที่มาด้วยเรียกว่าอ.เจนนี่ทั้งที่คำว่าอาจารย์ในบ้านสวนมีท่านอ.อุบลคนเดียวเท่านที่มีคุณสมบัติพร้อม พิสูจน์กันมาตั้งเยอะแล้วแม้นใครชมว่าท่านสวย เขาใกล้ และทุกอย่างที่เป็นของท่านอ.อุบลใครได้เป๋นเจ้าของจะหายโรคแล้วโชคดีทันที และมีอีกเยอะๆม๊าก ที่ฉันและครอบครัวได้รับหลังจากได้รู้จักท่านอ.อุบลค่ะ แต่ครั้งแรกที่ฉันสัมผัสและอยู่ใกล้เธอฉันรู้สึก..... เซ็ง.เมื่อเห็นหน้าเธอ.ซึ่งคุณสมบัติของเธอไม่สุงสิงกับใครนอกจากพวกที่มาด้วยกันเท่านั้น แค่วันนั้นได้ทำรั้วและคุยกับเธอก็ทำให้ฉันรู้ว่าเธอไม่น่าอยู่ใกล้ เพราะอยู่ใกล้แล้วไม่มีความสุขค่ะ และการแสดงของเธอตอนค่าย 20 ก็บ่งบอกว่าเธอเหมือน......ผี...ที่แสดงนั้นและค่ะ และได้คุยกันหลายคนที่ถูกเธอออกคำสั่งทั้งๆ ที่เธอไม่ได้เป็นหัวน้ากลุ่ม แต่การกระทำมันแสดงถึงธ่ติแท้ของเธอค่ะ แล้วเธอยังอ้างตัวเป็นศาสดา ( ครู ) เสียเอง คือคนที่มาด้วยจะเรียกเธอว่าอาจารย์ ( อาชาม ) ทั้งๆ ที่อาจารยืที่พวกเราเข้าใจการที่ไปบ้านสวนมีคนเดียวคือท่านอ.อุบลเท่านั้น ถ้าเธอเก่งก็ตั้งสำนักแข่งกับท่านอ.อุบล แต่เธอมาหาท่านอ.อุบล เธอต้องทำตามกฎระเบียนของบ้านสวนให้เคร่งครัดค่ะ

ต่อค่ะ ความจริงแล้วแล้วเองเป็นคนขี้ขลาด ขาดความเมตตา ฟฤติกรรมของยัยเจนนี้ตอนค่าย 19 ตอนที่ทำรั้วด้วยกัน ฉันแนะนำว่าทำอย่างนี้แต่เขาไม่สนใจฉัน แต่พอค่าย 20 แกมาแปลก แกกวักมือให้ฉันไปหาแก แต่ฉันไม่ไป กราจะคุยอะไรกับใครเราต้องคุยต่อหน้าคนหลายคนก็ได้ไม่ต้องกวักมือไปในซอก คนที่คิดดีเขาทำกันอย่างนี้หรือ เวลาพูดกับใครถ้าดี ต้องพูดให้คนอื่นได้ยินถึงจะเหมาะสม ฉันนเข็ดแล้วกับคนที่นิสัย และการกระทำอย่างนี้ตอนนั้นเห็นฉันไม่มีประโยชน์ พอเห็นฉันมีดีกับเขาบ้างก็เลยอยากเอาเป็นพวกด้วย ฟฤติกรรมกรรมของเขามีหลายคนมาเล่าเยอะมากๆ ที่โดน กานไปทำบุญที่บ้านสวน เราต้องเคารพกฎกติกาอย่างเคร่งคัด เพราะไม่ใช่มีแต่เราคนเดียว เราต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเป็นบ้านเรามั้ง แล้วเจอคนมาแบบที่คุณเจนนี่ทำเราชอบไหม เที่ยวไปสั่งการคนโน้น คนนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ใช่เป็นหัวหน้ากลุ่ม ทำตัวแปลกไม่เหมือนกับคนอื่น สั่งคุณแหล๋นให้อยู่ที่เดิมได้บุญเยอะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาจัดให้อยู่กลุ่มไหน เวลาเปลี่ยนฐานต้องไปตามที่เขาจัดให้อย่างเคร่งครัด เวลาทำงานก็ต้องทำเต็มที่อย่าออมแรง เวลาอย่างได้เงิน ทำไหมอยากจะได้ทันทีละค่ะ ที่คุณทำแล้วเหมือนไม่ให้เกียติคนอื่น แล้วเราทำไหมอยากให้คนอื่นให้เกีรติเรา แต่เราทำไหมไม่ให้เกียติคนอื่นละค่ะ การกระทำมันบอกนิสัยที่ใช้ไม่ได้ค่ะ คนจะสูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ กลัวโดนปิดสาขา แล้วทำไหมไม่ดูคนอื่นที่เป็นหัวหน้าสาขาว่าเขาทำตัวกันอย่างไร แล้วเที่ยวไปถามคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง แล้วทำไหมไม่ถามท่านอ.อุบลละแน่นอนที่สุดจบข่าวค่ะ ต่อไปถ้าใครเจอคนที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ให้เราช่วยกันบอกเขาทันที เพื่อหยุดหยั้งการประกอบกรรมของเขา ถ้าใครไม่ทำหน้าที่....จะอยู่ในยุคพระศรีอาริยืไม่ได้ค่ะ อย่าตกขบวกกันนะค่ะ เราต้องเดินหน้า เพื่อนดัดสันดานตัวเอง ยิ่งพูดแล้วเรายอมรับได้เราก็จะอยู่ในยุคพระศรีอาริย์อย่างมีความสุขค่ะ แต่กลับกันถ้าใครหรือควรเปลี่ยนฟฤติกรรมตัวเองไม่ได้ก็อายพี่บิีกเขา

 กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์

กราบท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและครอบครัวค่ะ

เมื่อวานเจนนี่ได้อ่านข้อความของดร.จิ๋มและดร.จุ๋ม แล้วพึ่งเห็นตัวเองว่าเป็นมารชั่วในตัวค่ะ

ขอขอบคุณที่เมตตาตักเตือนเจนนี่ค่ะ เจนนี่ขอโทษทุกๆท่านนะคะ ที่ทำให้ทุกท่านอึดอัด ที่เจนนี่มีมารในตัว ทำให้หลายคนที่มาเข้าใกล้ มาทักทาย ได้รับความเสียหายและเป็นทุกข์

โปรดเมตตาผีที่อยู่ในตัวเจนนี่ที่เป็นมารชอบบงการ เจ้ากี้เจ้าการ เอาแต่ใจตนเอง ขาดความเมตตาและกริยามารยาท ไม่สำรวมระวัง ขาดความเคารพต่อทุกท่าน

โดยเฉพาะนำความเสียหายมาสู่บ้านสวนพีระมิด

เจนนี่กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและครอบครัว

และกราบขอโทษทุกท่านผู้ที่มีความรัก ความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบล

ที่เจนนี่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อทุกคนค่ะ

โปรดให้อภัยเจนนี่ และตักเตือนด้วยนะคะ

เจนนี่สำนึกถึงความขาดความร่วมมือ ขาดมิตรภาพ ขาดการให้ความใส่ใจต่อผู้อื่น เจนนี่จะปรับปรุงตัวเอง

โดยเฉพาะการทำบุญแรงกายเพิ่มค่ะ เพราะเจนนี่ขาดการทำบุญแรงกายที่ต่อเนื่องเพื่อแสดงความกตัญญูต่อบ้านสวนพีระมิดของท่านอาจารย์อุบล ร่วมกับทุกๆท่านค่ะ..

....................................................................................................................................................

ขอสารภาพบาปเพิ่มค่ะ

 กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบ้านสวนพีระมิด

ท่านพ่อดตาจินินเป็นที่สุด ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท้อป

และทุกท่านที่ได้ให้โอกาสได้เข้าร่วมค่าย 19 อภิญญาใหญ่..ตั้งใจจะเขียนตั้งแต่เข้าค่าย 19 แล้วค่ะ

เจนนี่มีความกลัว กังวล วิตก ทุกข์มาโดยตลอด ในการไม่ได้รับเลือกเข้ากลุ่ม เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกหรือเป็นสาขาบ้านสวนพีระมิด

มีความกลัวที่จะถูกทอดทิ้งเพราะเจนนี่เคยเจอแต่ความโดดเดี่ยว ไม่มีทีมใดๆ คือไม่มีกลุ่ม หรือมีกลุ่มแล้วเป็นอันว่าต้องออก หรือถูกให้ออก หรือสูญสลายไป

เพราะเจนนี่เคยสร้างกรรมมาแล้วอย่างโชกโชน ตั้งแต่สมัยเด็ก คือ ชอบใช้แต่คนอื่น เช่นน้องชาย หรือเพื่อน เอาเปรียบทุกอย่าง คือห่วงความสบายของตัวเองก่อนเสมอ เคยเป็นหัวหน้านักเรียนสมัยประถมก็มีความกลัว ความประหม่า ไม่กล้าเป็นผู้นำแม้จะนำสวดมนต์หน้าชั้น หรืออัญเชิญธงชาติตอนเคารพธงชาติ อาศัยแค่สิทธิ์ พ่อ-แม่เป็นครู แต่ตัวเองหัวหด ไม่กล้าแสดงออกเลยขาดความมั่นใจในตัวเองที่จะทำความดี แต่พอเรื่องเกเรเอาเปรียบคนอื่น จะเก่งมาก.

เวลาเรียนชั้นมัธยมก็ไม่เคยได้รับตำแหน่งอะไรเพราะหลีกเลี่ยง และไม่ต้องการการรับผิดชอบอะไรให้กับใคร ไม่ต้องการสละเวลาให้กับใคร ต้องการแต่ความสะดวกสบาย ไม่ร่วมมือ เอาแต่ตนเองเป็นที่ตั้ง

พอมาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ก็ไม่เคยเข้ากลุ่ม ไม่เคยคิดที่จะช่วยทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน คิดแต่ว่าใครจะเป็นอะไรก็ช่างไม่ใช่เรื่องของเรา คือขาดเมตตา ขาดมิตรภาพ ขาดพวกพ้อง การเกื้อกูลใดๆ คือขาดความสามัคคีกลมเกลียว คิดแต่ตนเอง คิดเอง เออเอง ตามความชั่วของตัวเอง ขาดศีล ขาดธรรม ไม่มีธรรมะในใจ.

พอมาทำงานกับบริษัทต่างชาติเกาหลีเข้ากลุ่มเพื่อนทำงานคนไทยด้วยกันไม่ได้ มีความคิดที่แตกแยกและขัดแย้งจากคนอื่น ไม่ใส่ใจไม่นึกถึงใคร ไม่คอยช่วยเหลือใครเลย

พอมาทำธุรกิจเองได้เข้าสมาคมแว่นตาแห่งประเทศไทยก็ออกจากสมาคมเพราะความไม่อยากรับผิดชอบ ไม่อยากสุงสิงกับใคร ไม่อยากให้อะไรแก่ใคร ขาดความเสียสละ

พอมาอยู่กลุ่มธุรกิจเสื้อผ้าก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะเคยทำให้ผู้ที่สนับสนุนเจนนี่ทางธุรกิจ เสียทรัพย์สินหลายสิบล้านบาท

พอมาอยู่ในวงการหมอดูก็ไม่สามารถเข้ากับลูกศิษย์ท่านอื่นๆได้ เพราะแยกตัวไม่ได้สนใจ ใส่ใจใครเลย

พอมาตั้งกลุ่มเองก็เจอคนทุกรูปแบบ เจอแบบที่ตัวเองเคยเป็นมาก่อนทั้งสิ้น กรรมตามทันตา

พอได้มีโอกาสไปเรียนวิชาพลังจิตกับสถาบันพลังจิต ก็ทำตัวห่างจากกลุ่ม ไม่ได้เข้าร่วมกลุ่ม ไม่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลท่านใด ไม่ได้ย้อนกลับไปมองดูคุณค่าของแต่ละคนเลย

ทั้งหมดนี้เกิดจากการผิดศีลของเจนนี่ทุกข้อรวมกันจึงไม่ประสบความสำเร็จและไม่เป็นที่ยอมรับนับถือจากใครแน่นอน เพราะขาดความกตัญญูกตเวที ต่อผู้มีบุญคุณ

คือ

ครูบาอาจารย์ทุกๆท่าน ผู้ให้วิชา ความรู้ ผู้ให้ชีวิต ผู้ให้หนทางชีวิต

และเจนนี่เข้าข่ายเป็นคนพาล หรือคนชั่ว คุณสมบัติไม่น่าคบ ไม่น่าเชื่อถือ ใครคบด้วยมีอันฉิบหายตามคุณสมบัติชั่ว

ที่สารภาพมาแล้ว

กรรมรวมตัวกัน จนต้องรับเคราะห์กรรมอย่างวันนี้

เจนนี่ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ขอบารมีท่านอาจารย์อุบล โปรดเมตตาเจนนี่ให้มีโอกาสพ้นทุกข์ด้วยเทอญ

วันนี้เจนนี่สำนึกถึงบุญคุณของทุกๆคน ที่เจนนี่ได้เคยสร้างความชั่วไว้เยอะมากมายแล้ว

และจะขอปรับปรุงพื้นฐาน รากฐานของตนเองใหม่ เริ่มต้นใหม่

เจนนี่มาบ้านสวนมาพึ่งบารมีท่านอาจารย์อุบล

ผู้ที่นำทางเจนนี่ผู้มีความหลงผิดผู้นี้

ให้กลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่ได้จริงๆ

และเจนนี่ขอความเมตตากรุณาต่อทุกท่านโปรดว่ากล่าวตักเตือน ชี้นำทางเจนนี่คนนี้ด้วยเถิด

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และลูกๆท่านอาจารย์อุบลทุกคนค่ะ.

อย่าทำตัวยิ่งใหญ่ เกินพระพุทธเจ้า เกินครูบาอาจารย์ ท่านอาจารย์ได้เมตตาสอนเรื่องการใช้สรรพนามเรียกคนอื่น อาจารย์ ใช้สำหรับเรียกคนที่เราควรเคารพ บูชา เป็นผู้ที่สอนเรา นำพาให้เราพ้นทุกข์ สมควรกราบไหว้ คือพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ของชาติ บางคนเคยมีอาชีพเป็นหมอดู ทำนายทายทัก และให้คนอื่นยกย่องเรียกตัวเองว่า อาจารย์ ........ไม่อายคนอื่น.แล้วไม่อายตัวเองบ้างเหรอคะ ตอนนี้ก็บอกว่าเลิกเป็นหมอดูแล้ว.....แต่เหตุใดยังปล่อยให้คนอื่นเขาเรียกตัวเองว่าอาจารย์อยู่เล่า แสดงว่าคุณยังไม่ได้ละวางอัตราของตัวเอง ยังอยากให้คนอื่นยกย่องตัวเอง และคำว่าอาจารย์ที่ใช้กันในบ้านสวนฯนั้น พวกเราหมายถึงท่านอาจารย์อุบลเท่านั้น มีคนที่เข้าบ้านสวนฯ มาเรียกคนอื่นว่าอาจารย์ด้วย......อย่าทำให้คนอื่นสับสนไปด้วยเลย จะเป็นการสร้างบาปมากกว่าสร้างบุญ สิ่งที่ท่านอาจารย์เมตตาบอก และสิ่งที่ลูกบ้านสวนฯ เป็นกระกระจกเงา ให้คุณได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองว่าเป็นอย่างไร ลองเก็บไปคิด คิดแล้วก็คิดทบทวนอีกวันละหลายๆรอบ เพราะไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่จะกล้าพูดกล้าบอกคุณตรงๆแบบนี้ โปรดอย่าลืม ว่าท่านอาจารย์อุบลคือคนที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ทรงเลือกมาเป็นตัวแทนของพระองค์ เพื่อช่วยเหลือให้ผู้คนทั้ง สามโลกได้พ้นทุกข์

คุณวิฝากโพสต์ค่ะ

 การละเมิดคำสั่งครูบาอาจารย์ ตั้งตนเป็นศาสดาเสียเอง

หรือแม้แต่มาบ้านสวน แล้วยังไม่เชื่อฟังหัวหน้ากลุ่ม

ในการสร้างบุญ 

 และการเขียนธรรมทานนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องบังคับใครค่ะ เพราะเจ้าตัวก็ย่อมรู้ดีว่า ธรรมทานนั้นอานิสงส์ขนาดไหน ให้ดูตัวอย่างครูบาอาจารย์ค่ะ ท่านไม่เคยบังคับให้ใครเขียน

คุณเขียนด้วยมือของคุณเอง

เขียนด้วยความสมัครใจ

เพราะคนที่ได้รับอานิสงส์ไม่ใช่ใครก็คือตัวเรานั่นเอง

ดังนั้นเราไม่ต้องไปทุกข์ร้อนกับใครค่ะว่าเขาจะเขียนหรือไม่เขียน การที่ทำให้คนๆ หนึ่งรู้สึกแย่

รู้สึกถูกกดดัน อยู่ใกล้แล้วไม่มีความสุข

เมื่อก่อนคิดว่าตัวเองเป็นคนดี มีครั้งนึง สาระแนคิดแทนท่านอาจารย์อุบล ว่า.....ผักบ้านสวนฯมีตั้งมากมายกินไม่หมดหรอก จำเราจะช่วยท่านอาจารย์ นำผักไปกินที่บ้านโดยการหยอดตู้ ชำระหนี้สงฆ์ แต่ ก่อนเอาเราไปถามท่านอาจารย์ก่อนดีกว่า........และแล้วเราก็ส่งตัวแทนไปเรียนถามท่านอาจารย์.......ตัวแทนที่อาสาไปคุยกับท่านอาจารย์นั้นก็ขาดปัญญา...... ท่านอาจารย์ได้เมตตาบอกเล้วว่าไม่สมควรเอาผักกลับไปบ้าน แต่เขาก็ไม่ฟังเซ้าซี้ท่านอาจารย์ จะเอาผักใ

ห้ได้ ไม่รู้ว่าชีวิตเขาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหลังจากวันนั้น ตัวเองและคุณบุญภิบาล ก็เข้าไปกราบขอขมาท่านอาจารย์ แต่คุณจิ๋มที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีอีกเช่นกันก็บอกว่า ได้อธิษฐานจิต กราบขอขมาท่านอาจารยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.....(ซึ่งหมายถึงว่าคุณจิ๋มคนนี้ไม่ยอมมากราบขอขมาท่านอาจารย์ด้วยตัวเอง) หลังจากนั้นข้าพเจ้าจึงเลิกติดต่อกับคุณจิ๋ม จนกระทั่งถึงวันนี้ เพราะ เขาไม่มีความจริงใจกับครูบาอาจารย์ของเรา สิ่งของในบ้านสวนฯทุกชิ้น เป็นของสงฆ์ แม้แต่ใบไม้ ต้นหญ้าติดกลับบ้านไป ยังต้องรับกรรมอย่างสาหัสเลย แล้วนี่เราอยากได้ผักเป็นต้นๆ เป็นกิโล กรรมที่ได้รับจะขนาดไหน ท่านอาจารย์ได้เมตตาพวกเราอย่างที่สุด หยุดยั้งการประกอบกรรมของพวกเรา แต่กระนั้นการคิดอยากได้ผักบ้านสวนฯไปทานก็ได้รับผลกรรมแล้ว......คุณเพชญรัช (จิ๋ม) อาสาไปคุยกับท่านอาจารย์ -----ผลกรรมที่ได้รับ .....หลังจากที่กลับจากบ้านสวนฯเขาไปรับคุณพ่อที่สนามบิน แต่หากันไม่เจอ จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่เจอ จึงต้องกลับไปรอที่บ้าน เมื่อเวลาผ่านไปคุณพ่อได้นั่งรถแท็กซี่กลับเข้าบ้านเองด้วยความอิดโรย..ส่วนตัวข้าพเจ้าเองก็เกิดเหตุ สามีขับรถไปเบียดฟุตบาท ทำให้ยางรถระเบิด.....ส่วนคุณบุญภิบาลก็ได้รับผลเหมือนกันแต่จำไม่ได้แล้วว่าอะไร.....และอ.พันที่ดูแลงานเกษตร ที่ออกความเห็นว่า น่าจะหยอดตู้ชำระหนี้สงฆ์ได้ ผลกรรมที่ได้รับคือ ถูกโจรกรรมทรัพย์สินมูลค่านับแสนบาท ลูกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลและเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ ที่ลูกอวดฉลาดคิดแทนท่านอาจารย์ ทั้งที่ตัวเองนั้นโง่ และยังสนับสนุนให้คุณจิ๋มกระทำการที่ไม่เหมาะสมด้วย ตอนนี้ลูกสำนึกผิดแล้วค่ะ กรรมนั้นละเอียดอ่อนจริงๆ

ธรรมทานจาก คุณเบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริวัฒนา

เมื่อก่อนก้คิดว่าตัวเองเป็นคนดี มีครั้งนึง สาระแนคิดแทนท่านอาจารย์อุบล ว่า.....ผักบ้านสวนฯมีตั้งมากมายกินไม่หมดหรอก จำเราจะช่วยท่านอาจารย์ นำผักไปกินที่บ้านโดยการหยอดตู้ ชำระหนี้สงฆ์ แต่ ก่อนเอาเราไปถามท่านอาจารย์ก่อนดีกว่า........และแล้วเราก็ส่งตัวแทนไปเรียนถามท่านอาจารย์.......ตัวแทนที่อาสาไปคุยกับท่านอาจารย์นั้นก็ขาดปัญญา...... ท่านอาจารย์ได้เมตตาบอกเล้วว่าไม่สมควรเอาผักกลับไปบ้าน แต่เขาก็ไม่ฟังเซ้าซี้ท่านอาจารย์ จะเอาผักใ้ห้ได้ ไม่รู้ว่าชีวิตเขาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหลังจากวันนั้น ตัวเองและคุณบุญภิบาล ก็เข้าไปกราบขอขมาท่านอาจารย์ แต่คุณจิ๋มที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีอีกเช่นกันก็บอกว่า ได้อธิษฐานจิต กราบขอขมาท่านอาจารยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.....(ซึ่งหมายถึงว่าคุณจิ๋มคนนี้ไม่ยอมมากราบขอขมาท่านอาจารย์ด้วยตัวเอง) หลังจากนั้นข้าพเจ้าจึงเลิกติดต่อกับคุณจิ๋ม จนกระทั่งถึงวันนี้ เพราะ เขาไม่มีความจริงใจกับครูบาอาจารย์ของเรา

สิ่งของในบ้านสวนฯทุกชิ้น เป็นของสงฆ์ แม้แต่ใบไม้ ต้นหญ้าติดกลับบ้านไป ยังต้องรับกรรมอย่างสาหัสเลย แล้วนี่เราอยากได้ผักเป็นต้นๆ เป็นกิโล กรรมที่ได้รับจะขนาดไหน ท่านอาจารย์ได้เมตตาพวกเราอย่างที่สุด หยุดยั้งการประกอบกรรมของพวกเรา แต่กระนั้นการคิดอยากได้ผักบ้านสวนฯไปทานก็ได้รับผลกรรมแล้ว......คุณเพชญรัช (จิ๋ม) อาสาไปคุยกับท่านอาจารย์ -----ผลกรรมที่ได้รับ .....หลังจากที่กลับจากบ้านสวนฯเขาไปรับคุณพ่อที่สนามบิน แต่หากันไม่เจอ จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่เจอ จึงต้องกลับไปรอที่บ้าน เมื่อเวลาผ่านไปคุณพ่อได้นั่งรถแท็กซี่กลับเข้าบ้านเองด้วยความอิดโรย..ส่วนตัวข้าพเจ้าเองก็เกิดเหตุ สามีขับรถไปเบียดฟุตบาท ทำให้ยางรถระเบิด.....ส่วนคุณบุญภิบาลก็ได้รับผลเหมือนกันแต่จำไม่ได้แล้วว่าอะไร.....และอ.พันที่ดูแลงานเกษตร ที่ออกความเห็นว่า น่าจะหยอดตู้ชำระหนี้สงฆ์ได้
ผลกรรมที่ได้รับคือ ถูกโจรกรรมทรัพย์สินมูลค่านับแสนบาท

ลูกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลและเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ ที่ลูกอวดฉลาดคิดแทนท่านอาจารย์ ทั้งที่ตัวเองนั้นโง่ และยัง

สนับสนุนให้คุณจิ๋มกระทำการที่ไม่เหมาะสมด้วย
ตอนนี้ลูกสำนึกผิดแล้วค่ะ กรรมนั้นละเอียดอ่อนจริงๆ

ธรรมทานของเบญจากญจน์ค่ะ

  ขออภัยข้อความซ้ำค่ะ

ขอเล่าธรรมทานเรื่อง คุณเจนนี่ ตอนเลิกค่าย เหล่าสมาชิกสาขาบ้านสวนพีระมิดจว.อุบลราชธานี  ได้พูดคุยกัน และได้แสดงความคิดเห็น เรื่อง การแสดงของกลุ่ม คุณเจนนี่  ว่าดูไม่รู้เรื่อง  หรือสื่อถึงอะไร ดูแล้วรู้สึกอึดอัด  ซึ่งสมาชิกที่ไม่รู้จักคุณเจนนี่ มี  1  คน  คือคุณพิม  ว่าเป็นใคร  ก็คนที่ใส่หน้ากากผีนั่นไง  ที่ได้หลงชื่นชมว่าแต่งตัวดี  และได้พูดออกมาในขณะนั้น ก็เกิดอาการท้องเสีย  เวียนหัวโดยทันที  และได้แก้ไขโดยฉีดน้ำทิพย์จากขวดอภิญญาใหญ่  ก็ดีขึ้น   และนี่เป็นผลจากการไปชื่นชมคนผิด

ศาสดาที่ใคร ๆ ทักท้วงไม่ได้

เราไม่มีสิทธิ์ไปบังคับใครมาเขียนธรรมทานได้ เราไม่มีสิทธิ์ไปบอกให้ใครเขียนหรือไม่เขียนได้  เราไม่มีสิทธิ์ไปสั่งสอนใครค่ะ  เราไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายชีวิตใคร  ไปบอกให้ใครทำ ไม่ทำอะไร ที่เราสามารถทำได้ก็คือ    ยกตัวอย่างให้เขาได้เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง   และสามารถบอกได้เพียงว่า เรามีความรู้สึกอย่างไร ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ๆ  การที่ใครสักคนจะทำความดีใดนั้น  ต้องเกิดจากความตั้งใจของเขาเองมากกว่านะคะ  ไม่ควรจะเกิดจากการถูกบังคับค่ะ  ที่ผ่านมา  ท่านอาจารย์อุบล ไม่เคยสั่งบังคับให้ใครเขียนธรรมทานกันเลยสักคน ท่านอาจารย์บอกพวกเราว่า ธรรมทาน คือทานที่สูงสุด รองจากอภัยทาน  อานิสงส์สูงสุดมาก  และผู้ที่เขียนธรรมทานกันมาก ๆ ได้รับอานิสงส์กันอย่างไร   พวกเราก็เลยรีบทำรีบเขียนกันเองค่ะ  ไม่ได้ถูกบังคับค่ะ  ท่านอาจารย์มีแต่ยกตัวอย่างของผู้ที่เขียนธรรมทานได้ดี เก่ง เร็ว และเข้าใจง่าย  ท่านอาจารย์บอกว่า  ท่านอาจารย์ชอบอ่านธรรมทานของใคร    แล้วพวกเราก็จะตามไปอ่านธรรมทานของคนคนนั้น  แล้วก็ปรับปรุงตัวค่ะ   เมื่อได้รับคำตักเตือนจากท่านอาจารย์   ว่าเราเขียนผิดพลาดอย่างไร  เราก็ปรับปรุงแก้ไขค่ะ 
และสิ่งนี้ ก็สะท้อนถึงทุกเรื่องค่ะ  ไม่วาจะเรื่องอะไรก็ตาม  เราไม่มีสิทธิ์ไปควบคุมกำหนดชีวิตของใครค่ะ  ไม่มีสิทธิ์ไปบอกให้ใครทำหรือไม่ทำอะไรค่ะ  ในทุกเรื่องของชีวิตค่ะ 

 กฎของบ้านสวนพีระมิด

เมื่อเข้ามาในบ้านสวนพีระมิดแล้ว  กฎระเบียบคือสิ่งสำคัญ  บ้านสวนพีระมิด คือบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์ทั้งสอง และคุณท็อป  ที่ได้มีเมตตาเปิดบ้านเพื่อให้ผู้คนได้เห็นกฎแห่งกรรม การเข้าฐานเวอคช็อปแต่ละฐาน  ได้รับการกำหนดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน จากท่านอาจารย์  การเข้าฐานเวอคช็อปแต่ละฐาน  ก็เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนได้บุญกันหลาย ๆ บุญ  ได้ปลดล็อกกรรม  เพราะแต่ละคนมีบาปกรรมกันมากมาย  การอยู่ที่ฐานเดียว จึงไม่อาจสามารถปลดล็อกได้ทุกกรรม  ทุกสิ่งที่เป็นกฎระเบียบ  ก็เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาได้ปลดล้อกกรรมต่าง ๆ ได้ค่ะ   เพื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนค่ะ  ดังนั้น การไม่เชื่อฟังหัวหน้ากลุ่ม ไม่ฟังคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมา  ท้ายที่สุดแล้ว  ผู้ที่เสียผลประโยชน์ก็คือตัวเราเองเท่านั้นแหละค่ะ  ท่านอาจารย์ ก็ยังสวย  ยังรวย  ยังมีความสุขมากมาย  ยังมีรถป้ายแดงขับอยู่ค่ะ  ท่านอาจารย์ไม่ได้มีความทุกข์ไปด้วยกับการที่เราฝ่าฝืนกฎค่ะ  ผู้ที่รับทุกข์ก็คือตัวเราเองค่ะ   ดังนั้น  ถ้าไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก็จะพบว่า  เรามาที่นี่ก็มาฝึกให้อยู่ในระเบียบวินัย  หลังจากที่เราหย่อนยานมาตลอดชีวิตค่ะ  เพื่อผลประโยชน์ของตัวเราทั้งนั้นค่ะ   การที่เราฝ่าฝืนกฎระเบียบ  ผิดศีลห้า  เราก็จะต้องทุกข์ทรมาน  กฎระเบียบมีไว้เพื่อช่วยไม่ให้เราต้องทำผิดพลาด  และต้องทนทุกข์ทรมานค่ะ 
และที่นี่ ก็คือบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์  การที่เราไม่ทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน ถือว่าเป็นการให้เกียรติเจ้าของบ้านที่ท่านได้เสียสละเมตตาเปิดบ้านให้พวกเราค่ะ   ดังนั้น เราจึงไม่มีสิทธิ์ในการแสดงความเป็นเจ้าของบ้านสวนพีระมิดค่ะ  

 

ดิฉันขอเล่าประสบการณ์
จากที่ได้เห็นคุณเจนนี่มีพฤติกรรมแปลก ๆ ค่ะ
เข้ามาแล้ว คุณมาทำตัวใหญ่กว่าเจ้าของบ้าน
ซึ่งเจ้าของบ้านคือท่านอาจารย์อุบล
ท่านอาจารย์มงคลและคุณท็อป
แต่คุณเจนนี่ มักจะดุคนที่มาด้วยประจำ
และเวลาจะนอนก็มักจะมีการเตรียมการ
ทำwork Shop กับลูกทีมในเต้นท์ของตัวเองที่มาด้วยกัน
ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน
เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้
ซึ่งข้อความนี้
สามีดิฉัน บอกว่าได้ยินเหมือนกัน
และเค้าก็ได้ยินชัดเจนด้วย 
และพวกเราก็สงสัยว่าทำไมคุณเจนนี่ถึงพูดแบบนี้ออกมา 
คุณเจนนี่คิดอะไรอยู่ คุณต้องการอะไรกันแน่
คุณมาบ้านสวนทำไม
แต่พวกเรายังไม่มีโอกาสถามปัญหานี้
วันนี้ได้มีโอกาสได้ถามดีใจมากๆ ค่ะ
จะบอกว่า ที่บ้านสวนยุติธรรมที่สุดแล้วค่ะ
เพราะท่านอาจารย์อุบล
ท่านแสดงกฏของกรรม
และกฏของกรรมก็ยุติธรรมที่สุดค่ะ
แม้คุณจะเปลี่ยนชื่อร้อยชื่อ
พันชื่อคุณก็หนีกฏของกรรมไม่พ้นหรอกค่ะ
แถมคนมาบ้านสวนทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏค่ะ
คุณจะใหญ่จะโตมาจากไหน จะเรียนจบป.4
หรือ ดร. เมื่อมาถึงบ้านสวนก็ มีสถานะเท่ากันค่ะ
คือมาขอรับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลเหมือนกันหมดค่ะ

อยากจะบอกหลายๆ คนที่เรียกสรรพนาม
แทนตัวคุณเจนนี่ว่า ท่านอาจารย์
ดิฉันรับไม่ได้เลยค่ะ เรามีท่่านแค่สองท่านค่ะ 
คือท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์มงคล

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ คุณจุมพล ว่า คุณเจนนี่ และคณะ เขาไม่ได้นับถือ อจ.อุบล ของชาวบ้านสวนพีระมิด ว่าเป็นครูบาอาจารย์ ผู้รู้จริง เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาทำ ก็แค่เลียนแบบคำสอน และ อานุภาพ ของวัตถุมงคลต่างๆ มา บอกเล่า คนในกลุ่ม ว่าต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ จะผิดหรือถูก ก็ไม่มีใครรับประกันได้ เพราะคุณเจนนี่ ก็ฟังมาจาก ท่านอจ.อุบล อีกที แต่ก็กล้าหาญที่จะฟันธง ว่าต้องบูชา พีระมิด จำนวนเท่านั้นเท่านี้ จึงจะได้ผล

ท่านอจ.อุบล เป็นผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นสือกลาง ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และท่านจะพูดย้ำเสมอว่า ความดี บุญฤทธิ์ต่างๆ เป็นของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ไม่ใช่ตัวท่าน อจ อุบล แม้แต่น้อย ก็เห็นมีแต่คุณตุ๊ก ลูกศิษย์ คุณเจนนี่ เท่านั้น ที่สำนึกรู้คุณยกย่องแต่ คุณเจนนี่ อจ.คนเดียวของคุณ ที่น่าเคารพ เมตตาดูแลพวกคุณ ไม่เคยเห็นว่าจะสำนึกบุญคุณชื่นชม อจ.อุบล มีแต่จิตแวป ปรามาส อจ.อุบล ด้วยคำหยาบคาย อย่างต่อเนื่อง ไม่เห็นความสำคัญ จ้องแต่จะยกย่องชื่นชม คุณเจนนี่ว่า ประเสริฐ แต่เพียงผู้เดียว ขอให้โปรดคิดไปเป็นการบ้านว่าจริงๆแล้ว คุณต้องการมาฟังธรรมะ จาก อจ อุบล หรือ อจ เจนนี่ ของคุณกันแน่

ดร.จุ๋ม ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ

และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้
........

อ้าว หากคุณเจนนี่พูดแบบนี้

แล้วคุณมาบ้านสวนทำไม ในเมื่อคุณมีอคติ
บ้านสวนพีระมิดนี่เป็น

ดินแดนที่ยุติธรรมที่สุดเเล้วค่ะ

ท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักด์สิทธ์

ให้ความยุติธรรมกับทุกๆๆคน

กับผี กับเจ้ากรรมนายเวร

อย่างที่สุดค่ะ

.......................................

ดิฉันเคยเห็นคุณเจนนี่วางอำนาจสั่งคนที่มาด้วยให้จัดที่นอน

ทั้งที่จริงแล้วลูกบ้านสวนที่มาที่นี่ทุกคนเท่ากันค่ะไม่มีใครใหญ่เกินใคร

เห็นสีหน้าของคนที่คุณสั่งไม่พอใจเท่าไร แต่เขาไม่พูด

...................

คุณแทนตัวเองว่าอาจารย์เจนนี่ตรงนี่เรารับไม่ใด้จริงๆๆค่ะ

เห็นด้วยกับคุณตุ๊กนะค่ะ

เรามีท่านอาจารย์เเค่สองคน

คือ อาจารย์อุบล และอาจารย์มงคลค่ะ

  บ้านสวนพีระมิด เป็นบ้านส่วนตัวของครอบครัวท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณท็อป ท่านเมตตาให้ใครต่อใครก็ไม่รู้ ร้อยพ่อพันแม่หัวนอนปลายเท้าก็ไม่รู้จัก ประวัติแต่ละคนที่เข้ามาก็ยิ่งไม่รู้จักใหญ่จะมาดีหรือมาร้ายก็ไม่ชัดเจน แต่ครอบครัวท่านก็ยินดี ที่เปิดโอกาศให้ทุกคนเข้ามาปลดทุกข์ของชีวิตมีทางออกให้ชีวิตสดใสในทำนองคลองธรรมตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้แก้ที่เหตุของทุกข์ แล้วพบความสุขกลับบ้านไป โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสักบาทเดียว ไม่ว่าค่าน้ำ ไฟฟ้า อาหารการกิน ที่พัก อย่างนี้จะมีที่ใหนอีก การกระทำของคุณเจนนี่ ต้องการมาชุบมือเปิบ ต้องการมาสร้างฐานให้กับตัวเอง ต้องการมาสร้างความเป็นใหญ่ให้ตัวเอง โดยเอาสิ่งศักดิืสิทธิ์ คำสอน จากบ้านสวนพีระมิดไปแอบอ้าง ให้สมาชิกตัวเองว่าเป็นความดีความชอบของตัวเอง ทั้งทั้งที่ผู้ที่รักษาศีล 5 ได้แค่อยู่ใกล้คุณก็ยังสำผัสได้ว่าไม่ปลอดภัย ต่างมีอาการแสดงออกให้เห็นชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ลูกบ้านสวนทุกคนเขาสำผัสได้มาตั้งนานแล้ว รอให้เจ้าตัวเผยธาตุแท้ออกมา

ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน
เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

*********************

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

อ่านแล้วก็ต้องอึ้งนะคะ กับคำพูดแบบนี้

แต่คุณมยุรฉัตร ก็ยืนยันว่าคุณผดุงได้ยิน ประโยคนี้เช่นกัน

อยากรู้จังว่า คุณเจนนี่ หมายความว่ายังไง ที่บอกว่า

ทนไม่ได้ ก็  "ต้องทน" 

"มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง"

"มาที่นี่...หาความยุติธรรมไม่ได้"

ช่วยตอบให้เคลียร์หน่อยว่า 
เกมส์.. ที่คุณว่า หมายถึงอะไร??

และถ้าที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

แล้วคุณมาทำไม???

คนที่คิดจะเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้า เป็นผู้ปกครองคนได้

จะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่ง

คือ ต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ

คือรับทั้งผิด ทั้งชอบ

ไม่ใช่เวลามีความผิดอะไรเกิดขึ้น

ก็ให้คนอื่น หรือลูกน้อง ลูกทีม

มาออกรับหน้า รับแทน แก้ต่างแทนตัวเอง

แบบนี้คงไม่เหมาะจะเป็นผู้นำใครได้หรอกค่ะ
ยังไง รบกวน คนที่อยากเป็นผู้นำ อยากได้รับการยอมรับ

ช่วยแสดงคุณสมบัติความเป็นผู้นำให้เห็นหน่อยนะคะ

ไม่ใช่อยากเป็นหัวหน้าแค่คอยสั่งให้อื่นทำตามตัวเอง

เช่นพูดโน้มน้าวให้คนอื่นไปทำงานบ้านให้ตน

โดยบอกว่าบ้านตนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มาทำก็จะได้บุญ

แบบนี้คือการใช่เล่ห์เหลี่ยม หาผลประโยชน์ให้ตนเอง

โดยอาศัยความศรัทธาของผู้อื่นรึป่าวคะ???

หรืออยากจะควบคุมทุกคนให้อยู่ได้กำมือตัวเอง

ห้ามให้แตกแถว  ทั้ง ๆ ที่ทุกคน ก็มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่ากัน

เวลามาสร้างบุญ ก็ควรทำตามที่กลุ่มแต่ละฐานกำหนดไว้

ตามกำลังของแต่ละคน  ไม่ใช่ทำตามที่ผู้พามาสั่ง

การกระทำแบบนี้ ไม่สามารถจะเป็นผู้นำใครได้หรอกค่ะ

นอกจากคนเหล่านั้นจะขาดสติสัมปะชัญญะ

ขาดความเป็นตัวของตัวเอง

ยอมให้คนอื่นกดขี่ข่มเหง

โดยไม่เปิดใจมองทุกอย่างตามปกติที่ควรจะเป็น

ที่เกิดคำถามมากมายจากทุกคน

ยังไงช่วยออกมาเคลียร์กับหลาย ๆ ประเด็นหน่อยนะคะ

ถ้าการมาบ้านสวนเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง

แล้วการไปตระเวณฟังธรรมะบำบัดตามที่ต่างๆนั้น

ก็เป็นเกมส์อย่างหนึ่งด้วยหรือเปล่า

คุณคิดเรื่องอะไรกันแน่ มาหาธรรมะหรือมาหาช่องทางทำอะไร

แล้วที่นี่ไม่มีความยุติธรรม หมายความว่าอะไร

ความยุติธรรมในความหมายของคุณ คืออะไร 

ถ้าการมาบ้านสวนเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง

แล้วการไปตระเวณฟังธรรมะบำบัดตามที่ต่างๆนั้น

ก็เป็นเกมส์อย่างหนึ่งด้วยหรือเปล่า

คุณคิดเรื่องอะไรกันแน่ มาหาธรรมะหรือมาหาช่องทางทำอะไร

แล้วที่นี่ไม่มีความยุติธรรม หมายความว่าอะไร

ความยุติธรรมในความหมายของคุณ คืออะไร 

การมาสร้างบุญที่บ้านสวน

ไม่ว่า ปัจจัย แรงกาย สิ่งของ

ทุกคนต่างเต็มใจมาทำด้วยความสุข

ด้วยรอยยิ้ม แจ่มใส  และลูกบ้านสวนตัวจริงทุกคน

จะได้รับการอบรม เพื่อ ฝึกยกจิต

โดยการทำบุญ ด้วยการเห็นผู้รับมีความสุข

ในสิ่งที่เราทำก็เพียงพอแล้ว

พูดง่าย ๆ คือ ไม่ทำบุญเอาหน้า

มีเศรษฐีมากมายหลายคน บริจาคเงิน สร้างถนน สร้างพระ และอื่น ๆ

เป็นจำนวนเงินหลายแสน แต่ไม่เคยอยากจะป่าวประกาศบอกใคร

บางท่านจะกระซิบทุกครั้ง ว่าไม่ต้องเอ่ยนาม

บางท่านก็แอบโอนเงินมาหลายแสน ไม่ยอมบอก

บางคนมียศมีเกียรติ เเรียนสูงถึงดร.

แต่แอบมาร่วมกิจกรรม โดยเนียนไม่บอกใครว่าตนเป็นดร.

แต่ก็ไม่วายมีบางคนที่คงไม่ใช่เป็นลูกศิษย์ตัวจริงของบ้านสวน

เพราะพฤติกรรมแต่ละอย่างไม่เหมือนที่ท่านอ.สอนลูกศิษย์

ให้ยกจิตให้สูงเอาเสียเลย

เพราะชอบทำบุญเอาหน้า  เวลาทำอะไรนิดหน่อย

ก็จะอวดอ้างว่าตนทำดี  และไปต่อว่าคนอื่นว่าไม่ยอมทำ

เช่น ฉันล้างห้องน้ำมานะ  ทำไมเธอไม่ทำฮ่ะ

อันนี้รับรองไม่ใช่ลูกบ้านสวนแน่ค่ะ

และคนที่ชอบยกตนข่มผู้อื่น

ให้ความสำคัญกับตนเองมากจนเกินเหตุ

ยกว่าตนเป็นท่านอาจารย์

ทั้งที่ก็ไม่ได้สอนหนังสือใครเลย

แต่ก็ให้ทุกคนเรียกว่า "ท่าน..อาจารย์" ได้ลง

ช่างไม่อายเลยนะคะ

คนที่เค้าเรียนสูง ตระกูลสูง เป็นอาจารย์หมอ

ยังไม่เรียกตัวเองแบบนั้นเลย เรียกชื่อเล่นตัวเองเท่านั้น

ทุกคนต่างวางหัวโขนออกทั้งนั้น

ก็พิจารณากันเอาเองแล้วกันนะคะ ว่าคนไหน

ลูกบ้านสวนตัวจริง   ตัวปลอม
 

ถ้าเข้ามาบ้านสวน

แต่ไม่ทำตามนโยบายบ้านสวน

ไม่ทำตามคำสอนของอ.อุบล

แล้วมาเพื่อจุดประสงค์อะไร???

ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน
เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

*********************

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

...............................................................

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ อึ้ง เหมือนกันค่ะ

อยากรู้ว่าคุณเจนนี่ พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงคะ และอยากจะถามคุณเจนนี่กลับเหมือนกันว่า ในเมื่อคุณคิดแบบนี้ คุณมาบ้านสวนทำไมคะ คุณมีวัตถุประสงค์อะไรในการมาบ้านสวนฯและคำว่า ต้องทน อยากรู้ว่าต้องทนเรื่องอะไร และคำว่า นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง เกมส์อะไรคะ คุณคิดอะไรอยู่ และที่บอกว่าที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้ คุณหมายความว่าไง เพราะเท่าที่ดิฉันมาบ้านสวนฯ ที่นี่มีความยุติธรรมที่สุดในโลกแล้วค่ะ เพราะกฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอค่ะ และประโยคที่ว่า ทำไมต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ อันนี้ก็อยากจะรู้อีกแหล่ะค่ะว่า คุณเจนนี่ ไปบังคับคนอื่นถึงขนาดที่คนๆนั้น ทนไม่ไหวจนต้องพูดประโยคนี้ออกมาเลยหรอคะ และอยากให้เจ้าตัว คนที่โดนบังคับและพูดประโยคนี้ ออกมาบอกเล่าเรื่องราวความจริง จังเลยค่ะ ว่าคุณเจนนี่ บังคับให้คุณทำอะไรบ้าง คุณถึงทนไม่ไหวอ่ะค่ะ

ถ้าคุณเจนนี่ และคนที่พูดกับคุณเจนนี่ว่า ทำไมต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ ได้มาอ่านแล้ว ช่วยออกมาตอบข้อสงสัย และชี้แจงความจริงทุกเรื่องด้วยนะคะ......

คุณพูดว่า " ที่นี่ หาความยุติธรรมไม่ได้..." 

แล้ว ใจคุณมีความยุติธรรมพอแล้วหรือ...? (ต่อคนของคุณ)

คุณเอาอะไร มาวัดเกณฑ์ความยุติธรรมของคุณ?

..แล้ว..หากคุณคิดว่า "ที่นี่ หาความยุติธรรมไม่ได้!" 

........................ดังคำพูด ของคุณ.....................

.....แล้วคุณจะก้าว!!  เข้ามา บ้านสวนพีระมิด หาพ  ระแ สง ทำไม!!!?   

 และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน

ดิฉัน  ณฐรัญชน์  ปาโมกข์..ขอเเสดงความคิดส่วนตัวซึ่งได้พบเจอเหตุการณ์บางอย่างในการเข้ามาขออาศัยสร้างบุญกุศลใต้ร่มไม้ชายคาท่าน อ.ทั้งสองคุณท้อปเเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์  ดิฉันได้เข้าค่ายทั้งหมดเเค่สามครั่ง..ครั่งเเรกค่าย 17  ครั่งที่สอง ค่าย 18  ครั้งที่สาม ค่าย 20 ได้มีโอกาศเห็นคุณเจนนี่ตอนค่าย 18 ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนไม่คยมีเรื่องบาดหมางอะไรเเต่พฤติกรรมที่คุณเจนนี่เเสดงกับดิฉัน...มันทำให้ดิฉันข้องใจเเต่ก็ไม่ได้เเสดงอะไรกลับ..เพราะที่นี่คือเขตบุญอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่ดิฉันรู้สึกได้....ตอนไปทำบุญเเรงกายค่าย18...เราตักทรายในร่มที่ท่านอ. มีใว้สำหรับเซพตัวเราจะได้ไม่ร้อนไม่เหนื่อยจนเกินไปดิฉันเข้าใจอย่างนี้....เเต่คุณเจนนี่พยายามพูดถึง 3ครั่ง ให้ออกไปตักทรายข้างนอกตรงที่ไกลจากร่ม พูดว่าถ้ามาตักทรายตรงที่ร่มคนมาทำที่หลังก็ลำบากนะซิพูดเพื่อให้ดิฉันเเละลูกศิษย์ของเขาไปตักทรายข้างนอก..เเต่ดิฉันไม่ไป..เพราะคุณเจนนี่ไม่ได้เป็นหัวหน้ากลุ่มดิฉันเเละไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปยืนตากเเดดทั้งที่เค้ากางร่มใว้ให้ตั้งหลายอันเชื่อได้ว่าคนที่มีเมตตากางร่มนั้นเค้าคงไม่ได้กางใว้ให้ทราย...คำพูดที่เหมือนจะดูดีนั้นเเต่ดิฉันกลับสัมผัสไม่ได้ถึงความเมตตาอะไรเลย..เเต่ก็เดินไปช่วยยกบ้างเพราะเราทำงานเป็นกลุ่มดิฉันไม่อยากทำตัวให้มีปัญหาเพระเราตั้งใจมาทำบุญเพื่อปล็ดล๊อคความทุกข์กันคุณเจนนี่ก็เหมือนจะไม่พอใจทั้งที่ลูกศิษย์ของคุณก็ไปช่วยคุณเเล้วเเต่ก็พยายามจะพูดซ้ำซ้ำเพื่อให้ดิฉันทำตาม..เพื่ออะไรค่ะ  เเล้วพอถึงเวลาเย็นจะต้องเก็บล้างทำความสะอาดเครื่องมือดิฉันได้เดินไปหยิบเเปรงมาเตรียมใว้ยืนรอขณที่เค้าฉีดน้ำล้างรถอยู่..คุณเจนนี่เดินมาเเล้วถ้าพูดให้ดูดีหน่อยจะเรียกว่าดึงเเต่ถ้าพูดหยาบหยาบก็คือกระชากไปจากมือดิฉันไม่มีการขอหรือพูดอะไรทั้งสิ้น..ดิฉันงงมากเเละตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยเดินไปที่องค์พระเพื่อตั้งสติเเละก็เดินกลับมาเเต่ไม่ได้เข้าไปรวมกลุ่มอีก..ความรู้สึกขณะนั้นงงมาก ตั้งเเต่เข้ามาดิฉันก็ใหม่เเต่ลูกบ้านสวนทุกคนก็ยิ้มเเย้มเเจ่มใสพูดจาดี..มีเเต่คุณนี่เเหละที่เเสดงกริยาหยาบคายต่อให้ลูศิษย์ของคุณมาเเก้ตัวเเทนยังไงฉันก็ไม่เชื่อไอ้เรื่องที่พร่ำสอนศิลธรรมลูกศิษย์คุณอาจทำจริงเเต่สิ่งที่คุณไม่ได้ทำคือลืมสอนตัวเอง..คุณอย่าพยายามให้ลูกศิษย์คุณออกมาพูดเเละเอ่ยอ้างว่าคุณสอนเรื่องศิลธรรมเลยค่ะ บาปเปล่าเปล่า ในเมื่อสิ่งที่คุณทำมันเป็นการสร้างบาปกรรมกับคนอื่น..มีลูกศิษย์ของคุณที่มาด้วยกันเล่าให้ฟังว่าคุณฝึกกสินใช้กสินดินห้ามเลือดให้ลูกเค้า..คุณเก่งขนาดนี้..เป็นถึงอาจารย์ลูกศิษย์เรียกขานตลอดเเต่ทำไมเอาตัวไม่รอด..คงเป็นเพราะคุณมีนิสัย..ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างสินะค่ะ

  ยัยป๊อบเจนนี่ ร้ายกาจ จริงๆ ไม่เพียงแต่มาด้วยความอิจฉาริษยานะ ยังมาออกคำสั่งให้คุณแหลนทำตามที่มันสั่งอีก มาเพื่อสร้างหน้า สร้างตาเข้าตัวเอง ไม่มีวันเจริญหรอก คนแบบนี้มีแต่จม ไม่มีแผ่นดินให้อยู่หรอก เพราะต่อจากนี้จะมีแต่คนรู้เท่าทันมารยาของมารกันหมดละ ไม่มีใครอยากคบคนชั่วเป็นมิตรหรอก ยัยป๊อบเอ้ยเรารู้เท่าทันมารยาของเจ้าหมดแล้วละ เจ้าจะไม่มีใครคบหาแน่นอน เพราะไม่มีใครอยากชั่วเหมือนเจ้า   

ขอถามคุณเจนนี่ว่าตอนค่าย 20  คุณแสดงอะไร?   มันสื่อถึงอะไร?  ทำไหมต้องเป็นหน้ากากผี?  แล้วคุณเตรียมตัวมาดีหรือเปล่า ?  ถ้าดีแล้วทำไหมคุณจำชื่อเพลงไม่ได้?   แล้วทำไหมบอกว่าเป็นเพลงที่ 5 ละ  คนเปิดบอกแล้วว่าไม่ใช่ ต้องให้เขาไล่มันเสียเวลา  และพวกเราเสียความรู้สึกสนุกอยู่ดีๆ   แล้วมีผีมาโผล่   สงสัยช่วยตอบให้หายสงสัยทีเถอะแล้วจะขอบคุณมาก

ให้เขียนความจริงนะค่ะเดี๋ยวผิดศีลผีมาเกาะไม่รู้ด้วยนะค่ะทนั้นเป้นการเพิ่มผีให้ตัวคุณเอง  เดี่ยวหาว่าสว. ไม่บอกนะค่ะ

ปล.  ไม่ต้องรีบพวกเรารอคำตอบอยู่ค่ะ 

 เรื่องบางเรื่องถ้าเราไม่เห็นหรือโดนด้วยตัวเองเราคงไม่สามารถเล่าได้อย่างเต็มปาก..เพราะการเล่าเรื่องคนอื่เเบบไม่รู้จริงอาจทำให้เค้าเสียหายหรืออาจโดนใครใครกล่าวหาว่าเรา  ตอเเหล เเต่สิ่งที่คุณทำในเขตบุญที่ศักดิ์สิทธิ์คุณกล้าทำได้อย่างไร..ดิฉันสงสัยตั่งเเต่ที่ท่านอ.ถามเเล้วว่าทำไมคุณจะมาเป็นสาขาเป็นลูกบ้านสวนเเต่คุณไม่ห้อยจี้เลยคุณตอบไม่ได้ท่านอ.ถามซ้ำอีกคุณส่ายหน้าหลายหนตอบไม่ได้จนสุดท้ายคุณตอบว่า..ที่ตัวคุณมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ที่ตัวท่านอ..ทำให้นึกขึ้นมาว่าคุณเจนนี่เหมือนใครบางคนที่ดิฉันเคยโทรมาบอกว่า..ได้ส่งหนังสือธรรมะมาร่วมบุญเค้าถามกลับว่าให้พี่เหรอค่ะ..บ้าหรือเปล่าคนเค้ามาทำบุญเค้าต้องอยากทำกันท่านอ.ทั้งนั้น..ใครเค้าจะอยากมาทำกับคนที่หน้าหาราศรีไม่ได้ทั้งเจ็บทั้งจนทนทุกข์ละค่ะ
เเต่เค้ากลับถามว่าให้เค้าเหรอ..เเสดงว่าจิตเค้าต้องมีปัญหาอย่างเเน่นอน
หลายสิ่งหลายอย่างที่คุณทำ.ก็เเสดงถึงภูมิจิตของคุณได้เป็นอย่างดี.หรือคุณจะบอกว่าคุณทำโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะค่ะ..อาจเป็นมารที่สิงสู่ใจคุณ

 ขอบคุณ คุณณฐรัญชน์  มากค่ะ

ที่มาแสดงความจริงให้พวกเราได้รู้กัน

ในสิ่งที่คุณเจนนี่กระทำต่อบุคคลที่มาสร้างบุญ

ในบ้านสวนพีระมิดของอ.อุบล

คือ ขาดเมตตาอย่างแรง  ..ชอบออกคำสั่ง

ทั้งที่ตนไม่มีสิทธิ์  ไม่ใช่หน้าที่เลยด้วย

ที่สั่งให้คนอื่นออกไปทำงานตากแดด  ทั้งที่มีร่มให้อยู่

คุณทำไปเพื่ออะไร ?? ช่วยตอบด้วยค่ะ

ทั้งที่ท่านอ.อุบลนำร่มมากางเพื่อไม่ให้พวกเราร้อน

แต่คุณกลับอยากให้คนอื่น ๆ ออกไปตากแดดร้อน

แบบนี้มันจงใจ จะหักล้าง และทำตรงกันข้าม

กับสิ่งที่ท่านอ.อุบลและบ้านสวนทำรึป่าวว

พอคนเค้าไม่โง่ทำตาม ก็ยัง ตามไปสั่งซ้ำอีก ตลกเกิ๊นน

แถมยังไม่พอใจที่คนอื่น ไม่ทำตามคำสั่ง

ถึงกับต้องแสดงกิริยา ต่ำ ๆ

คือกระชากแปรง ออกจากมือคนอื่นแบบนี้

ไม่ใช่นิสัยของคนปฏิบัติธรรมแน่นอนค่ะ



คนจิตหยาบแบบนี้

มาตั้งตนเป็นท่านอาจารย์ของใครได้ยังไง

แล้วขอถามหน่อย

คุณเป็นอาจารย์อะไร จบที่ไหน สอนที่ไหนคะ

ตอบหน่อย....คุณเจนนี่

และขอให้ใช้ชื่อตัวเองตอบนะคะ

ไม่ต้องเอาชื่อ เอาหน้าคนอื่นมาบัง

มาเขียนชื่นชมยกย่องตัวเองหรอกคะ

พวกเราถูกฝึกให้ใช้ปัญญาพิจารณามาแล้ว

ดังนั้นไม่เชื่อะไรง่าย ๆ ไม่ใช่เอาชื่อใครมาบังหน้า

เขียนอวยตัวเองแบบนี้ พวกเราไม่เชื่อหรอกค่ะ

ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน
เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

*********************

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

..............................................................

ได้อ่านข้อความนี้แล้ว รู้สึกสังเวชใจกับคำพูดของคุณเจนนี่อย่างยิ่ง และผมเองมีข้อสงสัยอยากจะถามคุณเจนนี่

- ที่สาวกของคุณเจนนี่พูดว่า "ทำไมต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ"... คุณเจนนี่บังคับสาวกของคุณเรื่องอะไร

- ที่คุณเจนนี่พูดว่า "นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง"...คุณกำลังคิดทำอะไรอยู่ ถึงได้พูดว่านี่เป็นเกมส์ และเกมส์ที่คุณพูด มันคือเกมส์อะไร

- และที่คุณเจนนี่พูดว่า "ที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้"... ที่ว่าไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเรื่องอะไร คุณมีหลักฐานหรือไม่

ผมเคยเห็นสมาชิกกลุ่มคุณเจนนี่ออกมาเล่าธรรมทานในงานค่าย และใช้ศัพนามเรียกคุณเจนนี่ว่า ท่านอาจารย์ ทำให้ผมเองงุนงงและสงสัยว่า คุณเจนนี่เรียนจบอะไรมา หรือเป็นอาจารย์สอนอยู่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ใด ถึงได้ให้สมาชิกในกลุ่มของคุณ เรียกคุณเจนนี่ว่าท่านอาจารย์ ช่วยตอบข้อสงสัยของผมด้วยครับ

 ตอนค่าย 15 ได้นอนอยู่พีระมิดเดียวกันและนอนข้างๆคุณเจนนี่ เธอบอกว่า พึ่งมาเป็นครั้งแรกมีความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลมาก  แต่แปลกตรงที่เธอถามว่า เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์ ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง คำูพูดประโยคนี้เธอแสดงอาการมั่นใจในความเก่งของตัวเองออกมาอย่างมาก จนตัวเองตอนนั้นรู้สึกใจเต้นแรง มีอาการเคืองขุ่นคุณเจนนี่ที่มีความคิดลบต่อผู้ที่ห้อยวัตถุมงคลของบ้านสวน ได้ตอบคุณเจนนี่ไปว่า  ที่ท่านอาจารนย์อุบลทำวัตถุมงคลขึ้นมาก็เพื่อช่วยคนที่ยังไม่มั่นคงในศีล ช่วยบังคับกระแสจิตให้มั่นคงในศีลมากขึ้น  คุณเจนนี่เก่งขนาดนี้แล้วมาบ้านสวนทำไมคะ เธอก็ตอบว่า มาเพราะศรัทธาท่านอาจารย์อุบล 

ตั้งแต่ครั้งนั้นก็รู้สึกแปลกๆกับคุณเจนนี่ ต่อมาไม่นานก็ได้ข่าวว่าเธอได้เป็นสาขาของบ้านสวนพีระมิด  ในใจก็ยังคิดว่า หากเธอมีอะไรแอบแฝงซ่อนอยู่ในใจ เธอก็คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะมีตัวอย่างมากมายให้ลูกบ้านสวนได้ศึกษามาหลายราย มารตนใดจะมาในรูปแบบไหนก็มิอาจเล็ดลอด พระเนตรพระกรรต์เบื้องบนไปได้หรอก กลับตัวกลับใจเลือกข้างพระพุทธเจ้าตอนนี้ อาจยังทัน( รึเปล่า )

เเละตอนที่เด็นเด็กสองคนคนนึงชื่อรายุสเล่นอยู่ที่กองทรายไม่ทราบว่าทำอะไรผิดจำไม่ได้คุณเจนนี่ก็พูดดุเสียใหญ่โตเลยนี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่งงว่าอะไรกะนักกะหนาเด็กก็ต้องเล่นบ้างกองทรายกับเด็กเป็นของคู่กันเราเคยเป็นเด็กมาก็รู้ดี  คุณเจนนี่วางอำนาจสอนเกินงานทำให้คนที่พบเห็นสัมผัสไม่ได้ถึงความเมตตา   กลับเห็นเเต่ว่าคุณอยากทำตัวให้ดูมีอำนาจ  ผิดกับท่านอ. อุบลท่านอ.มงคุณท้อป ที่มีเเต่ความอ่อมน้อมกับพวกเรา..สัมผัสได้ถึงความรักที่ไร้ข้อเเม้..ท่านอ.อุบลเปรียบเหมือนไม้ใหญ่กิ่งก้านใบสวยงามรากลงหยั่งลึกออกดอกผลสุขสมบรูณ์..ต้นไม้ใหญ่ยังโน้มตัวลงมาเมตตานกกาอย่างพวกเราไม่ถือตัว...เเต่บางคนเปรียบเหมือนหญ้าทำประโยชน์อะไรไม่ได้..มีเเต่จะทำให้ต้นไม้เป็นโรค..ต้องถอนทิ้งทำปุ๋ยอย่างเดียว..
การยืนเเขย่งปลายเท้าเพียงเพื่อให้ดูสูงกว่าผู้อื่นย่อมจะยืนอยู่ไม่ได้นาน

รู้สึกว่า การกระทำแต่ละอย่างของคุณเจนนี่

ที่ปาก..บอกว่าศรัทธาท่านอ.อุบล

แต่การกระทำช่างตรงกันข้ามทุกอย่างเลยนะคะ

แนะนำให้คนอื่นบูชาวัตถุมงคล

แต่ตนเองไม่ห้อยวัตถุมงคล

แล้วยังมาพูดว่า..ห้อยไปแล้วได้อะไร ช่วยอะไรได้บ้าง

และอวดตัวว่าตัวเองปฏิบัติดี ได้มโนมยิทธิ

โห่... จะบอกว่าตัวเองวิเศษกว่าอ.อุบลสินะ

เก่งแล้วทำไม นำพาตัวเองพ้นทุกข์ไม่ได้ล่ะ

ทำไมไม่ทำให้ตัวเอง สวย รวย สุข เหมือนท่านอ.ล่ะ

ถ้าวัตถุมงคลบ้านสวน ช่วยอะไรไม่ได้

แล้วคุณชวนคนบูชาทำไม ตั้งเยอะตั้งแยะล่ะ

หรืออยากได้เงินจากคนที่คุณเรียกว่า "ลูกศิษย์"

อาจารย์เค้ามีไว้ช่วยเหลือลูกศิษย์นะคะ

ไม่ใช่จะให้ลูกศิษย์คอยอุปถัมค้ำชูอาจารย์ อิอิ

 แถมยังขาดเมตตาต่อเด็ก 

บังคับ ข่มขู่เด็กอีก ทั้งดุเกรี้ยวกราด

มาสร้างบาปในเขตบุญแบบนี้

 มโน ก็ไม่ช่วยให้พ้นนรกได้หรอกค่ะ

พอได้รู้พฤติกรรมที่คุณทำแต่ละอย่าง

บวกกับที่เห็นทีไร ก็ทำหน้าตาบึ้ง เครียด

ไร้ความสุข ก็ไม่แปลกใจเลย

ทำไมคุณถึงได้ผิวพรรณไม่สวย เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง

 ตอนค่าย 15 ได้นอนอยู่พีระมิดเดียวกันและนอนข้างๆคุณเจนนี่ เธอบอกว่า พึ่งมาเป็นครั้งแรกมีความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลมาก  แต่แปลกตรงที่เธอถามว่า เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์ ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง คำูพูดประโยคนี้เธอแสดงอาการมั่นใจในความเก่งของตัวเองออกมาอย่างมาก 

คุณเจนี่พยามเลียนเเบบท่านอ. อุบลรึเปล่าค่ะ...อยากมีคนเรียกว่าอาจารย์ทั้งที่ตัวเองไม่ได้จบครูถ้าไม่ใช่ทำไมไม่ห้ามคนที่มากับตัวเองไม่ให้เรียกตัวเองว่าอาจารย์..ทั้งที่ความจริงตัวเองไม่มีความดีพอที่จะเป็นครูบาอาจารย์ของใครได้เลยคนที่เป็นครูบาอาจารย์ต้องมีความเมตตตาคุณคิดว่าคุณมีรึเปล่า..คนที่เป็นอาจารย์ต้องมีกริยามารยาทที่ดีคุณมีรึเปล่า...ดิฉันอยู่ข้างนอกเเต่ก่อนก็ชั่วไม่น้อย...บอกตงมาในนี้ไม่กล้าเลยค่ะไม่กล้าคิดเเละไม่อยากคิดด้วย..เพราะรักท่านอ. เเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยากเป็นคนดีอยากพบความสุข..การที่คุณมาพร่ำรำพันถึงความทุกข์ทุกด้าน..คุณเคยย้อนมองการกระทำของคุณรึเปล่าการกระทำที่ชอบเทียบบารมีกับผู้มีบุญ..ทั้งที่ตัวเองไม่มีความดีเหมือนท่าน...นอกจากจะทำให้ตัวเองทุกข์คนรอบข้างที่เชื่อคุณก็ต้องทุกข์ไปด้วย...

       และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
                 นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง 
             มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้ 
                            ........

      อยากจะถามคุณเจนนี่ว่า....

      1. คุณเข้ามาเล่นเกมอะไรที่บ้านสวนค่ะ  ที่นี่ท่าน อ.อุบล เปิดบ้านตัวท่านเองให้คนได้มาสร้างบุญกันค่ะ คุณน่าจะมาผิดที่แล้วนะคะ 

      2. ข้อนี่คุณเจนนี่ต้องตอบด้วยตัวเองให้ชัดเจนนะคะ ว่า "ความยุติธรรม" ของคุณคืออะไร เพราะบ้านสวนแห่งนี้ เป็นที่สถิตย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล  ถ้าคุณบอกว่า ที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้ เท่ากับว่าคุณปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ใช่ไหมค่ะ

      3. คุณเจนนี่เข้ามาบ้านสวนพีระมิดเพื่ออะไรค่ะ 

      4. อ่านที่คุณสารภาพบาปมา คุณก็ทุกข์มามากมาย ชีวิตตัวเองก็ยังเอาไม่รอด แต่ทำไมคุณถึงยังมาทำกิริยาที่ไม่ดี มาแล้วไม่เคารพกฏกติกา คุณไม่ยอมรับกฏกติกา แต่คุณก็ยังจะมาบ้านสวนอีก เพราะอะไรค่ะ

   พวกเรารอคำตอบจากคุณอยู่นะคะคุณเจนนี

                  ฉวีวรรณ นภาพรรณราย

คุณน้อยก็มาเล่าว่าคุณเจนนี่จะชวนคุณน้อยมาหาท่านอ.อุบลจะมาบอกว่าคนโน้นคนไหนก็ไม่ทราบน่าจะถูกมารสิง55555  คุณน้อยบอกว่าเธอเลยขอตัว..คิดได้นะค่ะคนอื่นเป็นมาร 555

  ถ้าคุณอ๋อย เพ็ญศิริ  บุตรมนต์  ได้พูดคุยกับคุณเจนนี่ เช่นนั้นจริง มันยิ่งน่าสงสัยไปใหญ่นะคะ เพราะถ้าคุณเจนนี่เก่งแล้ว ดีแล้ว สามารถฝึกตนเองได้เป็นอย่างดีแล้วคุณมาบ้านสวนพีระมิดเพื่ออะไรค่ะ คุณบอกคุณปฏิบัติได้ดีแล้ว แล้วทำไมคุณยังทุกข์อยู่เลย ทำไมคุณถึงมีปัญหาครอบครัว ทำไมคุณถึงไม่สวย  ไม่รวย ไม่มีคนยอมรับในความสามารถของคุณ เพราะตัวคุณเองบอกว่ากังวลมากกลัวไม่ได้เข้ากลุ่มบ้านสวนพีระมิด
     วัตถุมงคลบ้านสวนไม่จำเป็น ช่วยเหลืออะไรไม่ได้  แต่ทำไมคุณเจนนีถึงให้คนอื่นบูชาวัตถุมงคลบ้านสวนค่ะ ???? คุณต้องการอะไรที่ให้คนอื่นบูชาวัตถุมงคลบ้านสวนกับคุณ เพราะถ้าคุณพิสูจน์แล้วว่า ไม่สามารถช่วยคุณได้เลย แล้วคุณจะบอกคนอื่นว่ายังไงค่ะ เขาถึงยอมบูชาวัตถุมงคลบ้านสวน อิอิ วัตถุมงคลบ้านสวนไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย  แต่ไปบอกให้คนอื่นบูชา...มันชอบกลอยู่นะคะ คุณเจนนี????

                ฉวีวรรณ นภาพรรณราย

ขนาดคนที่เพิ่งเจอกันที่บ้านสวน ครั้งแรก

คุณเจนนี่ยังแสดงอาการเกรี้ยวกราด โหดร้าย

ขาดเมตตาด้วย ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่

เที่ยวออกคำสั่งเค้าไปทั่ว

ก็ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนที่มากับคุณเจนนี่

ถึงได้ดูเครียด ๆ ตลอดเวลา

โดยเฉพาะคุณเจนนี่ยิ่งเครียดสุดเลย

แถมเห็นบังคับให้คนที่มาด้วย เช็ดรถให้

เกรี้ยวกราดใส่  คนอื่นเขาเห็นกันทั่วแหละค่ะ

มีเหตุผลอะไรในสิ่งที่ทำลงไป ช่วยมาชี้แจงด้วยนะคะ

และช่วยใช้ชื่อตัวเองตอบด้วย อย่าเอาชื่อเอารูปคนอื่น

มาแอบอ้างว่าเป็นศิษย์  เพราะคุณมีคดีเรื่องที่คุณ

ไม่เคยให้ใครเขียนธรรมทานเอง อย่างอิสระ

แต่ต้องผ่านคุณก่อน มันดูไม่ยากหรอกค่ะ

สำนวนเยินยอคุณเจนนี่จนออกนอกหน้า

คนบ้านสวนเค้าดูออก ไม่มีใครคล้อยตามหรอกค่ะ

การที่กลุ่มของคุณเจนนี่จะมีกันกี่คนก็ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเรา

ดูร้อนตัวไปมั้ยคะ ที่รีบออกมาบอกว่ามีเท่านั้นเท่านี้

เราไม่ได้สนใจ ไม่มีใครอยากรู้เลย

 แต่คุณเจนนี่ต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเป็นรูปธรรม

ลูกบ้านสวนเขาไม่เชื่อลมปาก ที่ไม่มีหลักฐานหรอกค่ะ

 ถ้าจะให้โปร่งใส ต้องเอาหลักฐานมาให้ดู  ไม่ใช่แค่พูด

การเอาเรื่องคนอื่นมายืนยันความดีของตน

มันไม่มีความหมาย  ถ้าพวกเราเห็นว่าคุณทำสิ่งที่ไม่ดี

ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน
เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

*********************

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

ขอถามคุณเจนนี่ว่า  1.อะไรคือความยุติธรรม

2.ที่มันเป็นเกม คือเกมอะไร

  3.แล้วมาทำไหม     ใครขอร้องให้มา  ทำไหมไม่ไปที่อื่น          

4.ที่บอกว่าไม่ได้เข้ากลุ่ม   ขอถามกลับว่าทำไหมต้องบังคับให้คนทำกิจกรรมไม่ให้ย้ายฐานตามคำสั่งผู้นำบ้านสวนให้ย้าย  นี่คือการไม่ได้ยอมรับให้เข้ากลุ่ม   หรือคุณพยายามหักล้างกิจกรรมของบ้านสวนกันแน่  และสร้างกลุ่มที่ไม่ทำตามคนส่วนรวมทำ

5. ทำไหมใช้ชื่อคนอืนแอบอ้างในการตอบ  ทำไหมคุณไม่เขียนเอง  เพราะพวกเราไม่เชื่อว่าคนนั้นจะเขียนจริง

6.กลุ่มคุณมีกี่คนก็ไม่เกี่ยวกับเรา  แต่ดูจะร้อนตัสมาบอกเท่านั้นเท่านี่คนจริงๆ เราไม่อยากรู้  แต่คุณต้องพิสูจน์เป็นรูปธรรมแบบลูกบ้านสวน  เขาไม่เชื่อลมปาก  งั้นถ้าจะให้โปร่งใสต้องเอาหลักฐานมาให้ดู  ไม่ใช่มีแต่คำพูด

7.เรื่องที่ใช้ชื่อและรูปคนที่แอบอ้างว่าเป็นศิษย์ก็เช่นกัน  ไม่น่าเชื่อว่าคนนี้จะเขียนธรรมทานเองอย่างอิสระ  แต่คุณต้องกดเอ็นเตอร  มันดูไม่อยาก  พวกเราถูกสอนให้มีปัญญาอ่านสำนวนก็รู้  และแทบไม่มีคนเขียนเลย  และถ้ามีก็เขียนยาวเขียนสรรเสริญเยินยอคุณออกนอกหน้า  ซึ่งไม่มีใครเห็นตามคำเยินยอนั้น

8. และที่บังคับให้คนมาดูดวงมาเปลี่ยนชื่อด้วย  เรียกคุณว่าท่านอาจารย์  ขอถามหน่อย คุรไมอายหรือ  คุณเป็นอาจารย์อะไร?   จบอะไร?  สอนที่ไหน ? 

9.  ทำไหมคนที่มาด้วย มี 2  คน  แต่ละคนพูดว่าไม่มีความสุขเลยเครียดตลอดเวลาโดยเฉพาะคุณจะบังคับให้คนมาบ้านเช็ดรถให้  พูดจาเกรี้ยวกราดสั่งคนที่เขาได้เห็นได้ยินกันทั่ว

คุณต้องตอบด้วยตัวเองนะค่ะ

จากที่ได้อ่านเรื่องของแต่ละคน ก็เห็นด้วยกับหลายคนที่ไม่ชอบพฤติกรรมของคุณเจนนีซึ่งเราเองก็สังเกตุเห็นเช่นกัน  ในค่าย 20 วันสุดท้าย ตอนเที่ยงคุณเจนนี่เดินมาถามดิฉันเรื่องการขอขมา ดิฉันก็ถามว่าจะขึ้นขอขมาอ.อุบลหรอ เขาบอกว่าไม่ใช่ คือว่าลูกบ้านสวนสาขาของเจนนี่ทำผิดต่อเจนนี่  เขาจะต้องมาขอขมาเจนนี่ใช่ไหม ดิฉันก็ตอบว่าไม่ทราบให้ไปถามคนที่รู้ และคนที่อยู่ก่อน เพราะเราก็เป็นคนใหม่อยู่ไม่นานยังไม่รู้เรื่องอะไรดีหรอก หรือปรืกษาคุณธนาหรืออาจารย์ดู   ท่าทางคุณเจนนี่จะจริงจังกับเรื่องที่สมาชิกสาขาทำผิดต่อตนเองต้องมาขอโทษให้ได้  เหมือนว่าตัวเองเป็นคนสำคัญมากไม่ควรก้าวก่ายล่วงเกินเชียวหละ  แต่พอมาอ่านเรื่องที่คุณตุ๊กสาขาคุณเจนนี่เขาก็ยกย่องหัวหน้าสาขาออกนอกหน้าจนลืมไปว่าอ.ของเขาก็นำธรรมะของอ.อุบลนั้นแหละมาแนะนำสั่งสอนเขา ซึ่งไม่สำนึกถึงบุญคุณอ.อุบลที่ทำให้ตนเองได้เข้ามาทำบุญแรงกายในบ้านสวนและการที่เข้ามานี้มาด้วยใจไม่มีใครบังคับมาหรืออาจารย์บังคับมาก็ไม่ทราบ และสมาชิกสาขาของเขาก็มีหน้าตาที่เย็นชาเหมือนอาจารย์เขาจนมองดูแล้วไม่กล้าจะทักเอาซะเลย

แว๊ก... มีการจะใช้เวทีบ้านสวน

เป็นที่เชิดชู ยกย่องตัวเองอีกด้วย

เที่ยวบังคับให้คนที่มาด้วย

ขึ้นเวทีของขมาตนเอง

ขำมากก...คิดได้ไงอ่ะ

เวทีนี้ เป็นของ ท่านอ.อุบล บ้านสวนพีระมิดเท่านั้นค่ะ

จะขอขมาเจนนี่ ก็ไปขอที่บ้านนู่นสิ

จะมาขมาอะไรที่นี่ ไม่มีใครเค้าอยากดูหรอก

เปิดบ้าน สร้างสำนักเองเลย

จะให้คนมากราบกรานเท่าไหร่ก็ทำไป

เช่าเวลาออกอากาศเองด้วยนะ

อย่ามามั่วแบบนี้เลย

ที่สำคัญ คุณเจนนี่ คุณสูงส่งมาจากไหนไม่ทราบ

ถึงต้องให้คนมากราบขอขมาน่ะ

เฮ้อ...เห็นแล้วเอือมจริง ๆ

กับพวก ไม่มีความดีให้ใครสรรเสริญ

เลยต้องสรรเสริญตัวเองแบบนี้ 

ค่ายที่ผ่านมา

ตอนเที่ยงคุณเจนนี่เดินมาถามดิฉันเรื่องการขอขมา ดิฉันก็ถามว่าจะขึ้นขอขมาอ.อุบลหรอ เขาบอกว่าไม่ใช่ คือว่าลูกบ้านสวนสาขาของเจนนี่ทำผิดต่อเจนนี่  เขาจะต้องมาขอขมาเจนนี่ใช่ไหม

******************

ข้อความคุณภรณ์จิตต์ สัจธรรมธนพิธ

......................................................

ผมจำได้ว่าในงานค่าย 20 ท่านอาจารย์อุบลเมตตาเปิดโอกาสให้พวกเราได้ขอบคุณ ขอขมา สารภาพบาป แต่ละท่านก็ได้จองคิวกันเพื่อจะออกมาขอบคุณ ขมา สารภาพบาป ต่อท่าน อ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แต่คุณเจนนี่กลับอยากที่จะให้สมาชิกกลุ่มของตนเอง ออกมาขอขมาคุณเจนนี่ คุณเจนนี่ต้องการทำอย่างนั้นเพื่ออะไร หรือคุณเจนนี่กำลังใช้บ้านสวนเพื่อหาสาวก หรือหาผลประโยชน์ให้ตนเองอยู่กันแน่ครับ

      การมาของเขาต้องการเล่นเกมส์ แม้แต่การแสดงบนเวที แจ้งว่าเพลงที่ 5 จากแผ่นใหนก็ไม่รู้ แผ่นที่มีบูชาอยู่เพลงที่ 9  คงเป็นเกมส์แรกเล่นให้งงกันไปทั้งงานปั่นป่วนไปทั่ว เรียกว่าผีทำให้ขายหน้า 
   ทำให้สมาชิกตัวเองรู้ว่าผู้นำของเขามีพลัง สามารถออกคำสั่งกับผู้มาสร้างบุญให้ทำตามได้ 
   ให้ลูกทีมเรียกว่าอาจารย์จากวิชาหมอดู ซึ่งการทำนายทายทักเป็นการผิดศีลให้คุญให้โทษ ยังยินดีให้คนอื่นผิดศีลกับคำเรียกขาน
   เกมส์นี้เดิมพันด้วยการลงนรก มาใช้อำนาจออกคำสั่ง ในสถานที่บุญอันศักดิ์สิทธิ์กับผู้ศรัทธามาสร้างบุญแรงกาย
    พยามจะแหกกฏที่เบื้องบนกำหนดให้ ฐานบุญแรงกายแต่ละฐาน บอกว่าได้มโน แต่มโนไม่ออกหรือว่าแต่ละฐานนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำหนดให้ 

คุณเจนนี่ค่ะ  การกราบขอขมาท่านอาจารย์นั้น  ท่านอาจารย์เป็นตัวแทนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน  การตำหนิ ติเตียน ลบหลู่ ปรามาส ท่านอาจารย์  ถือเป็นการปรามาส สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนค่ะ  
ท่านอาจารย์ พูดอยู่ตลอดเวลา  ว่า  ไม่ชอบให้ใครมากราบ  ไม่ชอบที่สุด  แต่ที่ยอม  ก็เพื่อให้คนที่มากราบได้พ้นทุกข์ 
เห็นความแตกต่างมั้ยคะ  ท่านยอมทำในสิ่งที่ไม่ชอบ  ก็เพื่อคนอื่น แต่คุณเจนนี่ กลับต้องการเรียกร้องให้คนมากราบไหว้ มาขอขมา  เพื่อเหตุผลอะไรคะ  แล้วตัวเรามีค่าพอเชียวหรือคะ แค่พูดว่าขอโทษ  พอมั้ยคะ  หรือกราบขอโทษ  พอมั้ยคะ  ต้องมาขอขมาเชียวหรือคะ  

    คือว่าลูกบ้านสวนสาขาของเจนนี่ทำผิดต่อเจนนี่ 

            เขาจะต้องมาขอขมาเจนนี่ใช่ไหม

                        *********

  ขำมากค่ะคุณเจนนี่

คุณไม่รู้เลยหรือค่ะว่า งานค่ายต่างๆ ที่บ้านสวน

เป็นเรื่องของท่าน อ.อุบล ที่ท่านได้กำหนดว่า

จะต้องมีอะไรบ้าง ในแต่ละค่าย

แล้วคุณเจนนีเป็นใครค่ะ

ถึงจะให้คนอื่นมาขอขมาคุณ

โดยใช้เวทีของบ้านสวน

เห็นบอกว่าได้มโน

แต่อีกอันเขียนว่าที่ผ่านมาไม่เคยรักษาศีลเลย 555

คนไม่มีศีลแต่ได้มโน แว๊กก

คนไม่มีศีลแต่จะให้คนอื่นมาขอขมา

ขอความชัดเจนด้วยค่ะ ว่า คุณเป็นใคร

             ฉวีวรรณ นภาพรรณราย

 ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน

เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า 
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ 
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง 
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

*********************

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

 พฤติกรรมของคุณเหมือนมารทั้ง 4 ตูที่ถูกเตะออกจากบ้านสวน

     คือว่าลูกบ้านสวนสาขาของเจนนี่ทำผิดต่อเจนนี่ 

            เขาจะต้องมาขอขมาเจนนี่ใช่ไหม

                                                         ********************************

ว้าย! นรกจะกิน  

คุณเจนนี่นี่เป็นเอามากนะคะ  

เห็นตนเองสำคัญสูงส่งขนาดว่า

ต้องให้คนไปต่อคิว เพื่อขอขมาคุณเจนนี่ออกรายการทีวี

ต่อหน้าท่านอ.อุบล เทวดาที่รักษาท่านอ.อุบลทุกพระองค์

เลยหรอคะเนี่ย 5555

สงสัยจะหลงเพ้อ เพราะให้คน เรียกตนว่า

"ท่านอาจารย์เจนนี่"  

จนเพ้อ นึกว่าตนเองมีบุญบารมี คุณความดีเสมอท่านอ.อุบล  

คุณเจนนี่ ตอนนี้คุณ สวย รวย สุขเหมือนท่านอ.อุบลหรือยังคะ เเต่เท่าที่เห็นเหมือนจะตรงข้ามทุกอย่างนะคะ อิๆๆ

เเล้วที่คุณให้คนเรียกว่า "ท่านอาจารย์เจนนี่"

คุณไม่อายบ้างหรอคะ  

โบกปูนไว้ที่หน้าเปล่าคะ ถึงไม่รู้สึก อิๆๆ

อยากรู้จังค่ะ

คุณเป็นอาจารย์อะไร  จบที่ไหนมา สอนที่ไหนหรอคะ

เมือก่อนเห็นคนมากับคุณเจนนี่ตั้งเยอะ เดี๋ยวนี้เหลือเเค่  2 คน 

ที่หายไปคงจะเพราะเครียดปรามาสคุณเจนนี่ จนพ้นทุกข์ไม่ต้องมาเข้าใกล้คุณเจนนี่เเล้ว

เหลือ 2  ที่คิดขอขมาคุณเจนนี่ เลือกข้างคุณเจนนี่ก็เลยต้องเครียดต้องทุกข์หนักต่อไปนะคะ อิๆๆ

เท่าที่เห็นเเละรับรู้มา

ดู 2 คนนี่ไม่มีความสุข เครียดตลอดเวลาเลยนะคะ

จะไม่ให้เครียดได้ไงละคะ  

ก็คุณเจนนี่บังคับซะทุกอย่าง  ให้ทำเเม้กระทั่งเช็ดรถให้คุณเจนนี่  

เเละคุณเจนนี่ก็ยังไปเกรี้ยวกราดใส่

จนคนที่เค้าได้เห็นได้ยินกันทั่วเลยค่ะ บรื๋อๆๆ

 -ขยายตัวหนังสือของคุณบุญภิบาลให้อ่านง่ายขึ้นครับ

ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ อะไรประมาณนี้ และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้ ********************* ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์ ขอให้คุณเจนนี่ออกมาชีแจงด้วยนะคะ ดิฉันอ่านแล้วไม่สบายใจค่ะ เพราะบ้านสวนพีระมิดเป็นบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์อุบล ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ที่ดิฉันนับถือมากที่สุด คนที่เข้ามาในบ้านของท่านต้องมีความเคารพ และให้เกียรติท่านค่ะ สิ่งที่คุณพูดนั้นหมายถึงอะไรคะ มาบ้านสวนฯ ต้องอดทนกับอะไรค่ะ ใครไปบังคับให้คุณมาไม่ทราบ บ้านสวนฯเป็นตินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่คุณกลับมาพูดมา มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้ กล้าพูดเนอะ แสดงว่าคุณไม่ได้เคารพท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนฯเลย หน้าด้านเข้ามาทำไม.........ช่วยอธิบายให้กระจ่างด้วยนะคะ แล้วที่ว่ามันเป็นเกม อะไรคือเกม เกมใคร คนที่มาบ้านสวนฯ นั้นเขามาขัดเกลาตัวเองให้เป็นคนดีค่ะ ทำจริงค่ะไม่ได้เล่นเกม ทำไมใช้รูปคนอื่นมาแบอ้างในการตอบ เราไม่เชื่อคุณหรอกค่ะคุณแนบภาพถ่ายมาได้ ถ้าเช่นนั้นก็ถ่ายภาพข้อความที่สมาชิกของคุณเขียนส่งมาดีกว่า จะได้เห็นจะๆไปเลย คำพูดที่สาวกของคุณทุกคนเขียนมานั้นต่างยกย่องให้คุณเป็น " ท่านอาจารย์เจนนี่ " อ่านแล้วไม่ได้ชื่นชมนะคะ แต่สมเพช ที่คุณไม่นำคำสอนของท่านอาจารย์อุบลมาปฎิบัติเลย ในฐานะที่ดิฉันเป็นลูกบ้านสวนฯ คนนึงขอบอกคุณว่า คำว่า " ท่านอาจารย์ " นั้นดิฉันจะเรียกอยู่ 2 ท่านเท่านั้น คือท่านอาจารย์มงคล และท่านอาจารย์อุบลเท่านั้น ส่วนคุณหรือคนอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์มากล่าวอ้างหรือยกตัวเองเป็นครู หรือศาสดาให้ใครๆมาเคารพนับถือ เขาเรียกว่าเป็นคนไม่มีมารยาทค่ะ เมื่อเข้ามาในบ้านสวนฯ ก็ต้องให้เกียรติท่านเจ้าของบ้านค่ะ หากไม่สามารถทำตามได้ ก็ต้องพิจารณาตัวเองแล้วค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว วันที่ตอบ 2014-04-22 21:43:44

    ดีใจที่ลูกบ้านสวน ได้ใช้ประโยชน์จากการโพสต์ข้อความในอินเทอร์เนต ในการบอกเล่า เรื่องราวที่พบเห็น และตักเตือนซึ่งกันและกัน การที่เรารับฟังกัน แลพยายามไปปรับแก้นิสัย หรือ พฤติกรรมตัวเองเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง  เราคงไม่ปฏิเสธว่า ทุกคนต่างมี ผี ในตัว อันเนื่องมาจากผิดศีลกันทุกคน แต่บางคนอาจโชคร้ายกว่านั้น ที่มีมาร อสูร ซาตาน เข้ามาผสมโรง กระหน่ำซ้ำเติม ให้พฤติกรรมเราเลวร้ายมากขึ้น
    แต่ก่อนเราพากันคิดว่า ถ้าคนนั้นเขาอายุมากกว่า เขามียศ เป็นถึงระดับสาขา เรียนสูงถึงปริญญาโท ปริญญาเอก ไปเตือนเขาไม่ได้ แต่กฎแห่งกรรมไม่มี ยศ ไม่มีระดับ เขามาถึงเราได้ทั้งหมด การที่เราเมตตาบอกเขาว่า พฤติกรรมของคุณเหมือน พวกที่มี อสูร สิงที่เคยมาป่วนบ้านสวนนั้น ทำให้คนที่แสดงพฤติกรรมด้วยความเคยชิน มีสติ กลับมาคิด มาไตร่ตรอง ก็เท่ากับว่าเรารู้ทันมาร  เราต้องด่า หรือ ตอบโต้มันกลับว่า หยุดนะ ฉันรู้ทันเจ้าแล้ว ฉันจะไม่ด่าลูกศิษย์ของฉัน จะไม่บังคับ จะไม่ว่าใครแรง ๆ ให้เขาเจ็บ แค่นี้แหละ เราก็จะหลุดพ้นจากมารได้
    นับว่าเป็นเมตตาของท่าน อ.อุบล ให้เรารู้จักละอัตตา ยอมรับความจริง เช่น ตัวจิ๋มเอง ชอบสร้างภาพให้เห็นว่าตัวเองดี มีเมตตา จะด่าว่าใครก็ต้องเกรงใจ กลัวเขามาโกรธเรา เช่น เห็นผู้หญิงแต่ตัวโป๊ ไม่เหมาะสม มาบ้านสวน กลับบอกแค่ว่า ไปเปลี่ยนซะ เดี๋ยวเสื้อสกปรก แทนที่จะบอกไปว่า คุณแต่เหมือนผู้หญิง อีตัว เลย อย่างนี้ผู้ชายเขาก็จะเห็นคุณไร้ค่า แน่นอนตอนแรกเขาอาจจะโกรธ แต่มันก็เป็นการหยุดยั้งการทำชั่วของคนคนนั้น เขาก็จะไม่บาป ตัวผู้บอก ก็จะหลุดจากพฤติกรรมที่ปากกับใจไม่ตรงกัน หรือ ตอแหล ออกไป จิ๋มก็จะได้ไม่ตกนรกขุม 4 อีก
    การที่ลูกศิษย์คุณเจนนี่ มาตอบ และแสดงความเห็นขัดแย้ง กันนั้น เป็นสิ่งที่ดี แสดงว่าเรามีปัญญา รู้จักคิด น่าจะเป็นอานิสงค์จากน้ำทิพย์ในขวดอภิญญาใหญ่ และพีระมิดอภิญญาใหญ่ แน่นอน ที่ทำให้เราคิดได้ และที่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด ก็คือ ความเมตตาของท่าน อ.อุบล ที่กระตุกความคิด และความรู้สึกผิดชอบ ชั่วดี นี้ ดังนั้น จงหัดคิด พิจารณาต่อไป ให้รับฟังคนอื่นด้วย ในที่สุดเราก็จะมีปัญญาได้ถูกต้องตรงตามธรรมได้ในที่สุด ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้มาเขียนเรื่องราวค่ะ

ตอนที่คุณเจนนี่มาทำบุญแรงกายวันแรก วันที่บอกให้ทุกคนออกไปตักทรายข้างนอกร่มน่ะค่ะ มีช่วงหนึ่งที่บริเวณกองทรายไม่มีใครอยู่เลย แล้วตอนนั้นทรายก็ได้เทหมดทุกบุ้งกี๋พอดี หนูตักหินอยู่อีกข้างนึง จึงข้ามมาตักทรายช่วยข้างนี้บ้าง    คุณเจนนี่เธอรีบวิ่งมาจากทางไหนก็ไม่รู้ มาแย่งจอบออกจากมือหนูบอกว่า ไม่ต้องๆๆ เดี๋ยวทำเองๆๆ น่ะค่ะ   หนูเห็นพฤติกรรมแบบนี้แล้ว ก็คิดว่าเหมือนเธอมีอคติกับทุกคน  เป็นคนที่ขาดเมตตาอย่างรุนแรง และเป็นคนที่จิตใจแคบมาก  อันที่จริงจอบตักทรายเขามีไว้ให้ตั้งเยอะ  การกระทำของคุณเจนนี่มันบ่งบอกเลย  ว่าคุณไม่ได้เป็นลูกบ้านสวนฯ เพราะลูกบ้านสวนฯทุกคนท่านอาจารย์อุบล จะสอนให้พวกเราทุกคนมีเมตตาอารีต่อกัน  แต่คุณเจนนี่ชอบสั่งคนอื่นให้คนอื่นทำตามตัวเอง แต่งตั้งตัวเองเป็นอาจารย์   บ้านสวนพีระมิดมีอาจารย์อยู่สองท่าน คือ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล เท่านั้นนะคะ

 คุณเจนนี่คะ  ที่คุณเจนนี่มาถามดิฉันว่า ดิฉันออกไปกราบขอขมาท่านอาจารย์ เกี่ยวกับเรื่องธรรมทานที่เขียนผิดพลาด  นั้นเป็นอย่างไร  และอีกวันก็มาถามดิฉันว่าท่านอาจารย์เล่าเรื่องสาขา บ้านสวนที่ถูกปิดไปนั่น เป็นเพราะอะไร  คุณเจนนี่บอกว่า คุณเจนนี่ หลับ ๆ ตื่น ๆ เลยไม่ได้ฟัง  ดิฉันก็ตอบสรุปคุณเจนนี่ไปเล็กน้อยตามที่ดิฉันเข้าใจ  
แต่ดูเหมือนว่า  สิ่งที่คุณถามดิฉันนั้น  คุณคงไม่ได้สนใจอยากรู้จริง ๆ เท่าไหร่หรอกใช่มั้ยคะ   เพราะจากสิ่งที่คุณเจนนี่ทำทั้งหมดนี่  มันแสดงใหเห็นอย่างชัดเจนว่า  คุณเจนนี่  ไม่ได้สนใจกฎกติกาของบ้านสวนพีระมิดเลยแม้แต่น้อย  ไม่ได้เห็นแก่หน้าใครเลย  คุณทำในสิ่งที่คุณอยากทำ อยากแสดงอารมณ์กับใครต่อใครก็ได้ตามใจของคุณ   ถ้าอย่างนั้น  แล้วคุณจะกลัวทำไมละคะ  ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  อยากรู้จริง ๆ คะว่า  ที่คุณมาถามดิฉันนั้น  คุณต้องการอะไรคะ   อยากรู้จริง ๆ หรือคะ หรือถามไปเพื่อสิ่งใดคะ   
กรุณามาตอบด้วยตัวคุณเอง ในชื่อของคุณนะคะ  

 ข้อความจากคุณเบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริวัฒนา  ค่ะ

ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน

เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก

แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า ทำไม้ต้องบังคับหนู

หนูทนไม่ไหวแล้วนะ อะไรประมาณนี้

และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน

นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง

มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

*********************

ขอให้คุณเจนนี่ออกมาชี้แจงด้วยนะคะ

ดิฉันอ่านแล้วไม่สบายใจค่ะ

 เพราะบ้านสวนพีระมิดเป็นบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์อุบล

ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ที่ดิฉันนับถือมากที่สุด

 คนที่เข้ามาในบ้านของท่านต้องมีความเคารพ

และให้เกียรติท่านค่ะ

 สิ่งที่คุณพูดนั้นหมายถึงอะไรคะ มาบ้านสวนฯ

 ต้องอดทนกับอะไรค่ะ ใครไปบังคับให้คุณมาไม่ทราบ

บ้านสวนฯเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์

แต่คุณกลับมาพูดว่า มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

 กล้าพูดเนอะ แสดงว่าคุณไม่ได้เคารพท่านอาจารย์อุบล

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนฯเลย

หน้าด้านเข้ามาทำไม.........ช่วยอธิบายให้กระจ่างด้วยนะคะ

 แล้วที่ว่ามันเป็นเกม อะไรคือเกม เกมใคร

 คนที่มาบ้านสวนฯ นั้นเขามาขัดเกลาตัวเองให้เป็นคนดีค่ะ

 ทำจริงค่ะไม่ได้เล่นเกม

 ทำไมใช้รูปคนอื่นมาแบอ้างในการตอบ

เราไม่เชื่อคุณหรอกค่ะ คุณแนบภาพถ่ายมาได้

ถ้าเช่นนั้นก็ถ่ายภาพ

ข้อความที่สมาชิกของคุณเขียนส่งมาดีกว่า

จะได้เห็นจะๆไปเลย

คำพูดที่สาวกของคุณทุกคนเขียนมานั้น

ต่างยกย่องให้คุณเป็น " ท่านอาจารย์เจนนี่ "

อ่านแล้วไม่ได้ชื่นชมนะคะ แต่สมเพช

ที่คุณไม่นำคำสอนของท่านอาจารย์อุบลมาปฎิบัติเลย

ในฐานะที่ดิฉันเป็นลูกบ้านสวนฯ คนนึง

ขอบอกคุณว่า คำว่า " ท่านอาจารย์ " นั้น

ดิฉันจะเรียกอยู่ 2 ท่านเท่านั้น

คือท่านอาจารย์มงคล และท่านอาจารย์อุบลเท่านั้น

ส่วนคุณหรือคนอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์มากล่าวอ้าง

หรือยกตัวเองเป็นครู หรือศาสดาให้ใครๆมาเคารพนับถือ

 เขาเรียกว่าเป็นคนไม่มีมารยาทค่ะ เมื่อเข้ามาในบ้านสวนฯ

ก็ต้องให้เกียรติท่านเจ้าของบ้าน

และทำตามกฎของบ้านสวนฯ

หากไม่สามารถทำตามได้ ก็ต้องพิจารณาตัวเองแล้วค่ะ

เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา ผู้เขียน