คุณเจนนี่ค่ะ เราคิดว่าคุณคงเข้ามาอ่านหลายรอบแล้ว  ช่วยมาตอบคำถามของทุกๆๆคนด้วยนะค่ะ

.....................................

ในค่าย 20 วันสุดท้าย ตอนเที่ยงคุณเจนนี่เดินมาถามดิฉันเรื่องการขอขมา ดิฉันก็ถามว่าจะขึ้นขอขมาอ.อุบลหรอ เขาบอกว่าไม่ใช่ คือว่าลูกบ้านสวนสาขาของเจนนี่ทำผิดต่อเจนนี่  เขาจะต้องมาขอขมาเจนนี่ใช่ไหม

.(....ข้อความของ  คุณภรณ์จิตร์ สัจธรรมธนพิธ .....)

          คุณเจนนี่เป็นใครหรือค่ะถึงให้คนมาขอขมาค่ะ

ยิ่งอ่านก็ยิ่งเศร้าใจในความประพฤติของคุณ

           คุณเรียนจบอะไรมา แล้วมีอาชีพอะไร

ถึงสถาปนาตัวเองเป็นอาจารย์เจนนี่ให้คนนับถือ ให้คนมาทำความสะอาดบ้านให้ ว่าบ้านตัวเองเป็นแหล่งบุญ

              แต่เท่าที่ทราบคุณเป็นหมอดูดวง ไพ่ยิบซีไม่ใช่หรือค่ะ

.............................

ตอนค่าย20 ทุกคนต่างทำเวิร์คชอปกัน

เป็นชั่วโมงที่2คือเวลาประมาณ9โมงกว่า มันต้องเปลี่ยนฐานแต่คุณก็ไม่ยอมย้ายฐาน

คุณเจนนี่พูดว่าต้องการทำงานนั้นต่อให้เสร็จ 

แสดงว่าคุณมีเจตตาที่ไม่รับฟังผู้บังคับบัญชา  ตั้งตัวเองเป็นใหญ่ พูดง่ายๆๆบ้าอำนาจ

แล้วก็ชวนดิฉันทำงานด้วย  เลยตอบว่าเราอยู่คนละกลุ่มกันค่ะ

ตอนค่าย 15 ได้นอนอยู่พีระมิดเดียวกันและนอนข้างๆคุณเจนนี่ เธอบอกว่า พึ่งมาเป็นครั้งแรกมีความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลมาก แต่แปลกตรงที่เธอถามว่า เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์ ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง ......

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ วันที่ตอบ 2014-04-22

ช่างกล้าเนอะ ถ้าคิดว่าตัวเองดีได้ด้วยตัวเองแล้ว ก็ไม่น่ามาบ้านสวนฯ นะค่ะ คุณเจนนี่

ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน

เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า 
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ 
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง 
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

*********************

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

ที่ว่าต้องทน ทนต่ออะไรหละ ไม่เห็นมีอะไรต้องทนลำบากเพราะการเข้ามาในบ้านสวนไม่มีใครไปเกณท์ ไปเชิญ หรือบังคับให้เข้ามา นอกจากผู้ที่มีจิตใจสูงต้องการทำบุญแรงกายด้วยความสมัครใจเองต่างหาก  การช้ามาด้วยความลำบากยากเย็นแค่ไหนเราเองเป็นผู้เลือกทั้งนั้น ทั้งที่การเข้ามาไม่ช่จะเดินเข้าเดินออกตามสบาย  ตอนไหนก็ได้  อาหารการกินต่างๆ ก็ฟรีไม่ได้ไปหุงไปหาอะไร  ก็มีคนเมตตาทำให้ทานไม่เห็นจะมีเรื่องลำบากต้องทนอะไรมากมาย เพราะทุกคนที่มาทำบุญก็ตั้งใจทำ สีหน้าร่าเริงกันทั้งนั้น  และคุณถูกใครบังคับให้ทำอะไรที่เสียเปรียบเพื่อนที่ทำให้ไม่ได้รับความยุติธรรมจนทนไม่ได้ของคุณคืออะไรโปรดชี้แจง  อาหารก็รับประทานเหมือนกันไม่ได้พิเศษหัวหน้าหรือลูกน้อง เด็ก หรือผู้ใหญ่  การทำงานก็สุดแสนยุติธรรม การเวียนฐานไปทำบุญทุกคนก็เข้าทำเหมือนกันไม่มีสงวนที่สบายไว้ให้ใคร  งานลำบากให้ใครทำ เมื่อเข้ามาต้องลดอัตตาทั้งหมดและทุกคนเท่าเทียมกัน มีครูบาอาจารย์คนเดียวกัน และฟังธรรมมะจากอ.อุบล เท่านั้น

  ข่าวรายวันจาก   คุณเบ็ญจกาญจน์  ศุภศิริวัฒนา ค่ะ

หลักฐานตัวเป็นๆ มีตัวตนจริงๆมิได้กล่าวอ้าง

จากอ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์
----------

ที่บังเอิญไปนอนใกล้ๆ คุณ

คุณเจนนี่...บอกว่าศรัธาท่านอาจารย์อุบลมาก

แต่ไม่รู้ว่า ทำไม??????

ลูกบ้านสวนฯต้องห้อยวัตถุมงคลเต็มคอ

มันแปลกดีเนอะ.....

พวกเรารู้ตัวดีค่ะ ว่ายังชั่ว ยังเลวอยู่ บุญกุศลก็มีไม่มาก

ยังต้องขอพึ่งบารมีท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ

เมื่อใจเราศรัทธา น้อมเข้าหาท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

เมื่อเราประสบกับความเดือดร้อน

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็จะช่วยเราค่ะ

“ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้

จนได้มโนยิทธิเอง ......”

คำพูดของคุณเจนนี่ ช่างยกหางตัวเองเสียจริง

การยกตัวเองข่มผู้อื่น......คนปกติเขาไม่ทำกันหรอกค่ะ

บางคนเขาไม่พูดเลยเสียด้วยซ้ำ

สำหรับท่านอาจารย์อุบลที่เป็นคนปกติของพวกเรา

ทุกอย่างที่เราเห็นนั้น ท่านไม่เคยบอกว่าเป็นความดีของท่านเลย

ความอัศจรรย์และความดีที่ปรากฏ

ท่านยกให้เป็นความดีของพระพระพุทธเจ้าล้วนๆ

ลองคิด คิด คิด ทบทวนดูนะคะ

หรือใช้มโน....กรรมที่คุณได้

มองหาความดีของคุณเองว่ามีบ้างหรือเปล่า

หากเห็นแล้ว กรุณามาชี้แจงแถลงความด้วยนะคะ

ข้อความจากคุณเบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริวัฒนา  ค่ะ

 ตอนค่าย 15 ได้นอนอยู่พีระมิดเดียวกันและนอนข้างๆคุณเจนนี่ เธอบอกว่า พึ่งมาเป็นครั้งแรกมีความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลมาก แต่แปลกตรงที่เธอถามว่า เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์ ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง ......

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ วันที่ตอบ 2014-04-22

+++++++++++++++++++++++++++++

 ถ้าคุณเจนนี่ปฎิบัติได้แล้ว ทำไมคุณยังทุกข์ ยังมีปัญหาอยู่ล่ะครับ พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนคนให้พ้นทุกข์ทั้งปวง หากปฎิบัติได้แล้วจริง คุณต้องพ้นทุกข์ทั้งปวงแล้ว หากว่าคุณยังมีปัญหาอยู่ แปลว่ายังไม่ได้ หรือเป็นการคิดเอาเองฝ่ายเดียวนะครับ เพราะบางคนพอได้อะไรนิดหน่อยก็หลง คิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ ดีเลิศกว่าคนอื่น ซึ่งคนที่เขาได้จริงๆนั้น เขาไม่มาพูดอวดกันหรอกครับ

"ใครที่พูดอวด แปลว่ายังไม่ได้ และไม่มีดี เพราะถ้ามีดีแล้ว มันไม่จำเป็นต้องไปอวดใคร แต่คนที่ยังไม่มีดีนี่สิ จะชอบไปอวดตัวเองให้คนอื่นฟัง เพราะอยากให้คนอื่นเขาเห็นความดีของตัวเอง"

และการที่ได้มโนมยิทธินั้น หลวงพ่อบอกว่า ก็ัยังไม่พ้นนรกนะครับ แล้ววิชามโนมิทธินี้หลวงพ่อสอนผู้คนมากมาย เขาก้ได้กันมากมาย ก็ไม่เห็นเขาจะเอามาอวดกันเลย เพราะได้มโนมยิทธิแล้ว ก็ยังตกนรกได้ เพราะยังไม่ใช่พระโสดาบัน

แต่แปลกใจตรงที่คุณไม่ห้อยวัตถุมงคล หรือตอนนี้ห้อแล้ว ก็ด้วยความจำเป็น ไม่ได้มาจากใจที่อยากห้อยเองจริงๆ แล้วการที่คุณไปบอกให้คนอื่นบูชาวัตถุมงคล และห้อยที่คอ แต่ตัวคุณเองกลับไม่ทำนั้น คุณไม่อายบ้างหรอ คนที่เขาบูชาไปผมว่าต้องสงสัยบ้างแหล่ะครับ เพราะบอกว่ามีพุทธคุณมากมาย แต่ทำไมคนที่แนะนำกลับไม่ยอมห้อยล่ะ  แล้วที่บอกว่าห้อยแล้วไม่ปฎิบัติจะนำความเสื่อมเสียไปถึงท่านอาจารย์ คุณรู้ได้ยังไงว่าคนอื่นเขาไม่ปฎิบัติกัน คุณไม่มีสิทธิที่จะเอาตัวเองเป็นเกณฑ์การตัดสินนะครับ ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่ทำ แล้วก็คิดว่าคนอื่นเขาจะไม่ทำด้วยนะครับ คนอื่นเขารู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดีครับ และอีกอย่างการที่คุณจะให้คนอื่นมาขอขมาคุณในเวทีบ้านสวนพีระมิดนั้น คุณคิดอะไรอยู่ครับ

ถ้าคุณคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ทันคุณ คุณคิดผิด!! เพราะแค่อ้าปากก้เห็นลิ้นไก่แล้ว และถ้าคุณคิดจะเทียบรอยเท้าจริงๆ ผมว่าคุณมาผิดที่แล้วครับ 

 มาอัพเดทอาการคุณน้าถวิลที่เคยหกล้มจนเป็นอัมพฤกช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และได้ทำน้ำทิพย์พร้อมบอกให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  

เมื่อวานได้ไปโรงพยาบาลเจอคุณน้าถวิลตอนนี้สามารถเดินได้โดยใช้ไม้เท้า หน้าตาสดใสขึ้น คุณน้าถวิลบอกจะร่วมทำบุญด้วย 99+1 บาท

ส่วนคุณน้านงเยาว์ (น้าอี้ด) ซึ่งเป็นโรคมะเร็งตับ และโดนน้ำมันลวกแขน และเท้า เมื่อวานเจอปรากฏว่าแผลที่มือและเท้ามีเพียงนิดเดียว และเซลมะเร็งที่ตัวก็มีนิดเดียว หมอไม่สามารถจี้ออกได้  คุณน้านงเยาว์ หน้าตาสดใสขึ้นมาก  เห็นแล้วดีใจด้วยจริง ๆ ค่ะ

ส่วนพี่สาวที่เป็นสิวที่ใบหน้าได้ใช้สบู่ทรีทรีออยส์ อโรเวลล่า และครีมเกสรบัว  ตอนนี้สิวหายแล้วค่ะ เหลือเีพียงรอยแผลเป็นค่ะ

กราบขอบคุณท่านพ่อดตาจินิน อาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิื์ทุกพระองค์ค่ะ

*******

คุณเป็นคนเดียวในกลุ่มคนนับร้อยที่เเสดงกริยาที่หยาบคาย ต่ำซึ่งดิฉันไม่เคยพบจากใครในบ้านสวนนี้เลย...ดิฉันเจอคุณเจนี่ครั่งเเรกรู้สึกได้ถึงพลังด้านลบในตัวคุณ..ดิฉันเห็นหน้าผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งทุกข์มากอยู่ในตัวคุณถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ใช่ใครคนอื่น..คุณเป็นตัวเองมีสติครบถ้วนก็กรุณามาตอบข้อข้องใจให้ทุกคนได้ทราบด้วย...ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันคืออะไร...คุณอวดอ้างตัวเองได้มโน กสิน เป็นอาจารย์  เเต่ทำตัวเองให้พ้นทุกข์ไม่ได้  ยังทุกข์  ยังจน  ยังขี้เหร่  ขาดปัญญา  ขี้ขลาด  ไม่มีอะไรจะเทียบท่านอ. ได้เลย...ความเมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เเละท่าน อ.ไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปในจิตของคุณ  ผีต้องการบุญจากท่านอ. เเต่สิ่งที่คุณทำเเสดงว่าผีในตัวคุณไม่ต้องการบุญกุศล จึงไม่ใช่ผีธรรมดาทั่วไป  ต้องเป็นผีมารซาตานเเน่นอนถึงกล้ามาทำเรื่องชั่วชั่วในเขตบุญอันศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้     

ตอนค่าย 15 ได้นอนอยู่พีระมิดเดียวกันและนอนข้างๆคุณเจนนี่ เธอบอกว่า พึ่งมาเป็นครั้งแรกมีความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลมาก แต่แปลกตรงที่เธอถามว่า เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์ ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง ....  ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ  บุตรมนต์  เเล้วเรื่องห้อยวัตถุมงคลดิฉันห้อยตั่งเเต่ยังไม่เคยมาบ้านสวนเป็นปี...ได้มโนกับผีรึไงค่ะถึงไม่รู้ สัมผัสไม่ได้ว่าของดีเป็นอย่างไร ..ดิฉันรู้จักหรอกค่ะมโนเคยเเต่ได้ยินได้อ่านไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกเป็นอย่างไร.....เเต่รู้เเค่ว่าที่นี่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย....ไม่กล้าคิดทำอะไรที่เป็นเรื่องเลวเลว....มาที่นี่บุคลที่ดิฉันเคารพรักก็มีเพียงท่านอ.อุบลเเละท่านอ.มงคล คุณท้อปเท่านนั้น.คนอื่นที่อยากเป็นอาจารย์เเต่เพียงเห็นก็เเทบอาเจียน...เเละถ้าใครอวดอ้างว่าบ้านตัวเองมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องไปทำบุญที่บ้านตัวเองถึงจะได้บุญ....บอกได้เลยสุดชั่ว..ตัวเองชั่วไม่พอพาคนอื่นชั่วตามอีกด้วยค่ะ

ถ้าคุณเจนนี่ เก่งแล้ว ปฎิบัติดีแล้ว ได้มโน มนึกแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องห้อยวัตถุมงคลของบ้านสวน

นั่นก็แสดงว่า คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งใบบุญของท่านอ.อุบล คุณไปตั้งสำนักของคุณเองได้แล้ว เพราะคุณเองก็สอนลูกศิษย์ให้ได้มโน มนึก ทุกวันอยู่แล้วนี่ค่ะ

จำได้ว่า วันนั้นท่านอ.อุบลถามว่า ทำไมถึงคุณไม่ห้อยวัตถุมงคลของบ้านสวน คุณอึกอัก ตอบไม่ได้ นั่นเป็นเพราะคุณไม่อยากใส่วัตถุมงคลของบ้านสวน เพราะคุณคิดว่าไม่จำเป็น แต่คุณอยากได้เงินจากการบูชาวัตถุมงคลของพวกลูกศิษย์ของคุณ จึงต้องทนเข้ามาบ้านสวน เพื่อหวังผลประโยชน์ตรงนี้

แล้วการที่พาลูกศิษย์เข้าบ้านสวนแล้ว ก็ไม่ให้อิสระกับเขา กลายเป็นว่า พวกลูกศิษย์เป็นลูกหนี้ชีวิตของคุณ คุณจะควบคุมพวกเขา จูงพวกเขายังไงก็ได้

ใครจะบูชาวัตถุมงคลก็ต้องผ่านทางคุณ ห้ามมีสมองที่จะคิดซื้อเองเด็ดขาด

ห้ามเป็นสมาชิกแวปไซด์บ้านสวนเอง ห้ามมีสมองที่จะเขียนธรรมทานเอง

ทุกตัวหนังสือที่ลูกศิษย์ของคุณเขียนต้องผ่านการเซ็นเซอร์จากคุณ

ลูกศิษย์ต้องไปสร้างบุญแรงกายที่บ้านของคุณ ไปเช็ด กวาดถู บ้านให้คุณ เพราะคุณบอกว่าบ้านของคุณเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ เหมือนบ้านสวน

และลูกศิษย์ทุกคนต้องเรียกคุณว่า ท่านอาจารย์

คุณกำลังวัดรอยเท้าใคร อยากเป็นเหมือนใคร

อยากแต่งตัวเองเทียบเทียมท่านอ.อุบล ใช่หรือไม่

แล้วคุณมีอะไรดี เท่าท่านบ้าง

หรือการกระทำข้างบน นี่แหละ นั่นคือเกมส์ ที่คุณพูดถึง เกมส์วัดรอยเท้า

แล้วคุณพูดว่าที่นี่ไม่ยุติธรรม ตรงไหนไม่ยุติธรรม

กฎแห่งกรรมทำหน้าที่ยุติธรรมเสมอ

อีกไม่นาน กฏแห่งกรรมก็กำลังจะทำหน้าที่ให้คุณเห็น และเป็น

ตอนค่าย 15 ได้ นอนอยู่พีระมิดเดียวกันและนอนข้างๆคุณเจนนี่ เธอบอกว่า พึ่งมาเป็นครั้งแรกมีความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลมาก  แต่แปลกตรงที่เธอถามว่า เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์ ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง ......

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ วันที่ตอบ 2014-04-22 21:27:28

ถามจริงคุณเจนนี่  คุณไปครั้งแรกคุณก็สอบตกแล้ว  คุณต้องอ่านและศึกษาจากคนที่ไปแล้วแล้วหายโรคแล้วโชคดี  จากการพูดของคุณฉันว่า....คุณได้ตรงกันข้านกับคนอื่นเหมือนที่คุณเขียนนั้นและ.....ผีดื้อด้านที่อยู่ในตัวคุรออกบ้างแล้วแต่คุรเสือกหาใหม่เอง......คุณจะซวยช่วยไม่ได้แล้วครับพี่น้อง  ปากศรัทธาแต่การกระทำตรงกันข้ามทุกอย่างแล้วจะให้ฉันเชื่อลมปาก  ได้อย่างไรคุณเจนนี่   คนจะสูงต่ำอยู่ที่การทำตัว  ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ  แต่นี่การกระทำของคุณ..ชั่ว. ถ้าดีคนที่อยู่ใกล้คุรเขาไม่เขียนมาระบายกันยาวหรอกจ้า  ได้มนึก.นึกว่าตัวเองเป็นคนวิเศษ...ถามจริงคุณมาพึ่งท่านอ.อุบลและบ้านสวนทำไหมค่ะ 555+

666+  อ้อร้อ  หรือตอแหลภาคกลางนั้นและ

 ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน

เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า 
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ 
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง 
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

*********************

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

การที่เข้ามาบ้านสวนแล้วมีความลำบากใจ ทรมานต้องใช้คำว่า"อดทน"เชียวหรอคะ คงแสนสาหัดกับความลำบากที่ผู้มีบุญทั้งหลายกระหายที่จะเข้ามาเพื่อสร้างบุญแรงกาย  เพื่อละอัตตาตัวตน ไม่มีแบ่งชั้นวรรณะ ไม่มีนายมีบ่าว แต่คุณก็ยังใช่พฤติกรรมบังคับเพื่อนในสาขาคุณกำหนดที่พักที่นอนเขาไม่ให้เขาเป็นอิสระ และแสดงตนให้อยู่ในอานัติของคุณตลอด  ทำไมต้องอดทนทั้งที่การกินอยู่ก็สบายทุกอย่า  อาหารก็มีคนทำให้ทาน ห้องนอน ห้องน้ำก็ มีใช้อย่างสบาย หรือว่าเขาต้องอททนที่คุณเคี่ยวเข็นบังคับเขาให้ทำโน่น นั่น นี่ หรืออะไร และบอกว่าที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้ ความยุติธรรมในบ้านสวนของคุณที่ว่าหาไม่ได้คืออะไรคะ ทั้งที่ ที่นี่แหละเป็นที่มีความยุติธรรมที่สุด ชัดเจน และของแท้ เพียงแต่ว่าคุณมองไม่เห็นเท่านั้นเอง ถ้าที่นี่ไม่มีความยุติธรรมแล้วจะไปหาที่ไหนได้อีกหละคะ ยกต้วอย่างความไม่ยุติธรรมให้ดูบ้างสิ  ถ้าไม่แน่จริงอย่าพูดลอยๆๆ พวกเราเป็นศิษย์มีครู ถ้าไม่ให้ความเคารพ ก็อย่าพูดพล่อย ใครเขาก็รักก็บูชาอ.อุบลกันจึงดิ้นรนมาหา คุณยังมาใช้คำว่า"ที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้"อีกหรือ

 ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน

เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า 
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ 
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง 
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

*********************

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

การที่เข้ามาบ้านสวนแล้วมีความลำบากใจ ทรมานต้องใช้คำว่า"อดทน"เชียวหรอคะ คงแสนสาหัดกับความลำบากที่ผู้มีบุญทั้งหลายกระหายที่จะเข้ามาเพื่อสร้างบุญแรงกาย  เพื่อละอัตตาตัวตน ไม่มีแบ่งชั้นวรรณะ ไม่มีนายมีบ่าว แต่คุณก็ยังใช่พฤติกรรมบังคับเพื่อนในสาขาคุณกำหนดที่พักที่นอนเขาไม่ให้เขาเป็นอิสระ และแสดงตนให้อยู่ในอานัติของคุณตลอด  ทำไมต้องอดทนทั้งที่การกินอยู่ก็สบายทุกอย่า  อาหารก็มีคนทำให้ทาน ห้องนอน ห้องน้ำก็ มีใช้อย่างสบาย หรือว่าเขาต้องอททนที่คุณเคี่ยวเข็นบังคับเขาให้ทำโน่น นั่น นี่ หรืออะไร และบอกว่าที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้ ความยุติธรรมในบ้านสวนของคุณที่ว่าหาไม่ได้คืออะไรคะ ทั้งที่ ที่นี่แหละเป็นที่มีความยุติธรรมที่สุด ชัดเจน และของแท้ เพียงแต่ว่าคุณมองไม่เห็นเท่านั้นเอง ถ้าที่นี่ไม่มีความยุติธรรมแล้วจะไปหาที่ไหนได้อีกหละคะ ยกต้วอย่างความไม่ยุติธรรมให้ดูบ้างสิ  ถ้าไม่แน่จริงอย่าพูดลอยๆๆ พวกเราเป็นศิษย์มีครู ถ้าไม่ให้ความเคารพ ก็อย่าพูดพล่อย ใครเขาก็รักก็บูชาอ.อุบลกันจึงดิ้นรนมาหา คุณยังมาใช้คำว่า"ที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้"อีกหรือ

เราตักทรายในร่มที่ท่านอ. มีใว้สำหรับเซพตัวเราจะได้ไม่ร้อนไม่เหนื่อยจนเกินไปดิฉันเข้าใจอย่างนี้....เเต่คุณเจนนี่พยายามพูดถึง 3ครั่ง ให้ออกไปตักทรายข้างนอกตรงที่ไกลจากร่ม พูดว่าถ้ามาตักทรายตรงที่ร่มคนมาทำที่หลังก็ลำบากนะซิพูดเพื่อให้ดิฉันเเละลูกศิษย์ของเขาไปตักทรายข้างนอก..เเต่ดิฉันไม่ไป....... ..... เเล้วพอถึงเวลาเย็นจะต้องเก็บล้างทำความสะอาดเครื่องมือดิฉันได้เดินไปหยิบเเปรงมาเตรียมใว้ยืนรอขณที่เค้าฉีดน้ำล้างรถอยู่..คุณเจนนี่เดินมาเเล้วถ้าพูดให้ดูดีหน่อยจะเรียกว่าดึงเเต่ถ้าพูดหยาบหยาบก็คือกระชากไปจากมือดิฉันไม่มีการขอหรือพูดอะไรทั้งสิ้น..ดิฉันงงมากเเละตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ........

ผู้แสดงความคิดเห็น ณฐรัญชน์ ปาโมกข์ วันที่ตอบ 2014-04-22 20:25:01

คุณเจนนี่ครับ คนจริงย่อมไม่กลัวการเปิดเผย

และชี้แจงความจริง อย่างชัดเจนนะครับ

1.เรื่องที่คุณออกคำสั่งให้คนอื่นที่กำลังตักทรายในร่ม ออกมาตักทรายกลางแดด ร่มที่กางไว้เพื่อให้ผู้มาสร้างบุญเพื่อกำบังแดดนะครับ 

คุณออกคำสั่งที่ทารุณแบบนี้กับคนอื่น คุณเห็นว่าเขาเป็นทาสของคุณหรอครับ?

การที่คุณกระชากแปรงจากมือคุณ ณฐรัญชน์ การกระทำแบบนี้คนถ่อยๆไร้มารยาทเขาทำกันนะครับ

.............................................................

เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง?

อ้าว?คุณเจนนี่ คุณเป็นสาขาไม่ใช่หรอครับทำไมไม่รู้ว่าเขาห้อยวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิดทำไม? หรือว่าคุณเป็นสาแข้งกันแน่?

..................................................................................

สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์

 การที่คุณเจนนี่คิดอย่างนี้ แสดงว่าจิตใต้สำนึกจ้องจะทำชั่วอยู่แล้วสินะ

ถึงเอาตัวตนมาเปรียบเทียบกับคนอื่น มีคุณเป็นคนแรกที่บอกว่าศรัทธาท่านอ.อุบลแล้วพูดจาแบบนี้

เพราะคนที่ศรัทธาท่านอ.อุบลเขาพยามละความชั่วกันครับ

...........................................................................................

ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง คำูพูดประโยคนี้เธอแสดงอาการมั่นใจในความเก่งของตัวเองออกมาอย่างมาก

คุณมาพูดอวดเก่ง ไม่ต้องห้อยวัตถุมงคล แสดงว่าคุณไม่จำเป็นต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดและท่านอ.อุบลสินะ
หรือว่าคุณจะบอกว่าคุณเก่งกว่าท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือครับ
ตกลงคุณมาบ้านสวนพีระมิดทำไมคุณต้องการแสวงหาอะไรครับ?

.............................................................................................................

"ทนไม่ได้ก็ต้องทน"

 มีใครเป็นทาสของใครถึงต้องยอมทนครับ แล้วเรื่องที่คุณเจนนี่สั่งให้สาวกของคุณต้องทน คือเรื่องอะไรครับ?

.........................................................................

คุณเจนนี่ มีวุฒครูหรอครับ ถึงได้ไม่รู้สึกกระดากเลยที่คนอื่นมาเรียกตัวเองว่าท่านอาจารย์เจนนี่

หรือ ว่าใจคุณรู้สึกมีความสุขเวลาคนอื่นเรียกคุณว่าท่านอาจารย์เจนนี่

คุณต้องการเปรียบตัวเองกับท่านอาจารย์อุบลหรอครับ

ท่านอ.อุบลไม่ส่งเสริมให้ใครทำบุญเบียดเบียนตัวเอง

การที่คุณเจนนี่กำหนดจำนวนวัตถุให้คนบูชาเยอะๆเกินกำลังทรัพย์ แทนที่จะให้เขาค่อยๆทะยอยบูชาตามกำลังทรัพย์ สรุปคุณต้องการช่วยคนหรือเปล่าครับ

เพราะการกระทำแบบนี้เหมือนแม่ค้าหน้าเลือดเลยครับ

     ตอนค่าย 15 ได้นอนอยู่พีระมิดเดียวกันและนอนข้างๆคุณเจนนี่ เธอบอกว่า พึ่งมาเป็นครั้งแรกมีความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลมาก แต่แปลกตรงที่เธอถามว่า เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์ ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง .........

 บ้านสวนพีระมิดเป็นบ้านสวนตัวของท่านอ.อุบล

ซึ่งทุกคนที่มาก็มักจะทำตามกฏระเบียบที่ตั้งไว้

เพราะเป็นที่เข้าใจกันดีแล้วว่า 

ให้ทุกคนปฏิบัติตามกฏ เพื่อความเป็นระเบียบ

เพื่อความไม่วุ่นวาย เพื่อความง่ายต่อการสร้างงานบุญต่างๆ

แต่คุณเจนนี่มีสิทธิ์อะไรถึงได้กล้าตัดสินใจเองคะ

ว่าให้คนโน้นทำงานตรงนั้น ตรงนี้

ทำแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากการขัดคำสั่งท่านอ.เลย

มันขัดกับที่คุณบอกว่า รัก เคารพท่านอ.จริงๆ

หรือเพียงเพื่อแค่ต้องการเอาชื่อเสียง วัตุมงคลบ้านสวน

มาหากิน เลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองคะ 555

และเรื่องการเขียนธรรมทาน

ท่านอ.ก็บอกพวกเรามาหลายครั้งแล้วค่ะว่าบุญใหญ่แค่ไหน

ใครจะเขียนหรือไม่เขียน

เราไม่มีสิทธิ์ไปบังคับให้คนอื่นทำตามคำสั่งเรา

บังคับไปผู้เขียนไม่เต็มใจมันก็ไม่ได้บุญอยู่ดี หรือได้น้อยมาก

การกระทำทุกอย่าง

เราไม่มีสิทธิ์ไปบงการให้ใครอยู่ใต้คำสั่งของเรา

ทุกอย่างต้องมาจากใจของผู้ที่ทำ

ไม่ใช่มาจากภายใต้การบังคับของใคร

************************************************************************

และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง 
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

555

มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้ แล้วคุณมาทำไมคะ

ที่บ้านสวนไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะมาเล่นเกมส์หลอกผู้อื่น

ที่ๆหาความยุติธรรมไม่ได้ ไม่ใช่บ้านสวน

แต่คือทุกๆที่ ที่มีคุณเจนนี่อยู่ค่ะ 555

****************************************************************

ย้อนกลับไปที่คุณเจนนี่บอกว่าคิดมาก เรื่องที่ไม่ได้เป็นสาขาบ้านสวน

เหตุเพราะที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยเริ่มทำงานไม่ได้รับคัดเลือกเข้ากลุ่ม

เข้ากิจกรรมต่างๆนาๆเลย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนๆ

ตรงนี้คุณน่าจะเก็บเอามานอนคิดอีกสักร้อยตลบนะคะ

ว่าเพราะอะไร ทำไม ถึงเป็นแบบนี้

ถ้าคุณรู้ตัวว่าตัวเองบกพร่องตรงไหน ไม่ดียังไง

ทำไมถึงไม่ได้รับเลือกให้อยู่ในกลุ่ม

ในกิจกรรมต่างๆตั้งแต่สมัยทำงานจนถึงตอนนี้

คุณก็ควรที่จะแก้ไขตนเองตั้งแต่ตอนนั้น

แต่ในเมื่อมันยังเกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นั่นก็แปลว่า คุณรู้ทั้งรู้ แต่ไม่คิดที่จะเปลี่ยนตัวเอง 

แทนที่จะคิดนะคะว่าตัวเองไม่ดีตรงไหน ต้องแก้ยังไง

ได้แต่กลับพร่ำเพ้อพรรณนา

ถ้าคุณเปลี่ยนชีวิตคุณก็ "เปลี่ยน"

แต่ถ้าไม่เปลี่ยนมันก็"เหมือนเดิม"ไงคะ

เท่าที่ได้อ่านเรื่องของคุณเจนนี่  ก็อดไม่ได้  ถึงแม้นตัวเองจะไม่ได้ไปร่วมค่าย  แต่ก็พอจะเข้าใจเรื่องที่ทุกคนเมนท์มา  ในความคิดของตัวเองคุณเจนนี่คิดจะมาหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับท่านอ.อุบล  และอยากจะลอกเลียนแบบ  จึงบอกว่าต้อง ทน และนี่คือเกมส์อย่างหนึ่ง และเมื่อหล่อนสมความปรารถนาคือได้ข้อมูลต่างๆ เป็นที่น่าพอใจ  หล่อนก็จะตีตนเสมอท่านอ.อุบล  หล่อนจึงต้องทนมาเข้าค่าย  มาทำงานทั้งๆที่หล่อนอาจไม่อยากทำ  อยากเป็นใหญ่อย่างเดียว  ชี้นิ้วใช้สาวก  โดยที่สาวกไม่เต็มใจ  เธอขาดเมตตาอย่างแรง  บุคคลเช่นนี้จะเป็นผู้นำได้อย่างไร  หล่อนหวังเพียง  ลาภ  สักการะ การสรรเสริญเยินยอ  จากการเป็นหัวหน้าสาขาเท่านั้น  ท่านอ.อุบลไม่เคยชี้นิ้วใช้ใคร  มีแต่คนอยากให้ท่านใช้  ท่านอ.อุบลไม่เคยบังคับให้ใครบูชาวัตถุมงคล  มึแต่คนอยากบูชาเองเพราะศรัทธา  คุณเจนนี่  คุณยังห่างไกลท่านอ.อุบล  อย่าคิดตีตนเสมอท่านเลยค่ะ คุณทำไม่ได้อย่างท่านหรอก  ถ้าคุณกล้าเสียสละได้อย่างท่านวันไหนแล้วค่อยมาว่ากันใหม่นะคะ 

 ที่บ้านสวนพีรามิดเป็นที่พิสูจน์กฎเเห่งกรรมทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วเเละดิฉันคิดว่าเป็นที่ที่ยุติธรรมที่สุดซะด้วยซ้ำ..คนที่มามีทั้งฐานะเเละความรู้ที่เเตกต่างจากต่ำสุดถึงสุงสุดเป็นด๊อกเตอร์ก็มี...เเสดงว่าท่านอ.ไม่เลือกที่รักท่านรักเมตตาทุกคนเสมอกันท่านเปิดโอกาศให้ทุกคนที่พร้อมจะเเก้ไขความเลวชั่วช้าที่เคยทำมาเป็นสันดานขัดเกลาตัวเองให้พ้นจากทุกข์  กินเหมือนกัน..อาบน้ำ ที่หลับนอนลูกบ้านสวนซักใว้บริการทุกคนเท่ากัน ดิฉันเห็นเวลาทำน้ำทิพย์คุณธนาชอบพูดตลอดว่าใครมาก่อนนั่งเลยไม่ต้องสนใจยังไม่เเสดงถึงความยุติธรรมอีกหรือค่ะ เวลาจัดฐานทำบุญเเรงกายคุณธนาก็มักจะพูดเสมอว่าท่านอ.อยากให้ทุกคนปล็ดล๊อคความทุกข์ให้ได้มากที่สุดพยายามคิดเเต่ละฐานเเละให้ทุกคนกระจายทำให้ครบทุกฐานทุกอย่าง วัตถุมงคงมีตั่งเเต่รหัสใช้ฟรี  จี้คุ้มเกล้า ราคาเเค่100 เเละมากกว่านั้นก็เเล้วเเต่คุณศรัทธาล่ะ  รหัสท่านอ. ดิฉันปวดข้อมือมาเเปดปีรักษาทั้งกินยาเเละทายาก็ไม่หายทุกข์ทรมานมากเเต่หายขาดด้วยรหัสท่านอ.อุบลช่วยด้วยฟรีนะค่ะ...เพราะฉะนั้นคุณเจนี่อย่ามาตอเเหล....พูดให้คนอื่นเข้าใจผิดบ้านสวนเเละท่านอ. ทำให้คนอื่นที่เค้าอยากพ้นทุกข์ต้องทุกข์หนักมากกว่าเดิม...ถ้าอยากมีทุกข์มาก..จนมาก..ขี้เหร่มากก็ทำชั่วไปคนเดียวอย่าพยามชักชวนคนอื่นให้เค้าทำเลวตามตัวเอง..อยากตกนรกหมกไหม้อยู่กับผีที่มันสิงใจทุกวี่วัน..ก็ตามใจ

อยากให้คุณเจนนี่มาตอบด้วยตัวเองค่ะ

ไม่ต้องใช้ชื่อคนอื่น หรือรูปหน้าคนอื่นที่แอบว่าเป็นศิษย์คุณมาตอบค่ะ

อยากถามว่าที่คุณพูดออกมาว่าที่ไม่มีความยุติธรรฒ

อะไรคือไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมตรงไหน

แล้วที่บอกว่าเป็นเกม อะไรคือเกมไม่ทราบค่ะ

แล้วคุณมาบ้านสวนทำไม ใครขอร้องให้คุณมา

ทำไมคุณไม่ไปที่อื่นถ้าคุณคิดว่าที่ไม่ดี ไม่มีความยุติธรรม

ถามจริงๆ เถอะคุณเที่ยวไปบอกไปบังคับให้คนมาดูดวงและ

มาเปลี่ยนชื่อด้วย เรียกคุณ ว่า ท่านอาจารย์เจนนี่

คุณเป็นอาจารย์อะไร จบอะไร จบจากไหน

แล้วคุณสอนอยูที่ไหน

คนที่มากับคุณ สองคน

ดูท่าทางเค้าไม่มีความสุขเอาซะเลย หน้าอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา

โดยเฉพาะตัวคุณเครียดอะไรหนักหนา คุณไม่ได้ปรารถนามาปลดเปลื้องทุกข์หรือไง
 
แล้วทำไมต้องบังคับให้คนมาด้วยเช็ดรถให้

ทำไมคุณต้องพูดจาเกรี้ยวกราดใส่สาวกของคุณ

แล้วมีอีกอย่างค่ะ

หลังร่วมกิจกรรมภาคกลางคืนค่าย 20
คุณและสาวกของคุณทะเลาะกันจนคุณผดุง
เค้าบอกว่ากำลังหลับอยู่ ต้อง ตื่นขึ้นมา
เพราะได้ยินเสียงดังขึ้น
จนได้เยินเสียงคนในเต้นท์คุณ คุณพูดว่า
ทำไมต้องบังคับหนู หนูไม่ชอบ
หนูก็มีกลุ่มของหนู
หนูต้องปฏิบัติตามหัวหน้ากลุ่ม
ที่นี่่เค้ามีกฏระเบียบอยู่แล้ว
ทำไมอาจารย์เจนนี่จะต้อง บังคับหนูอีก

อยากรู้ว่าคุณบังคับ อะไรสาวกคุณหนักหนา
จนเค้าต้องระเบิดอารมย์ออกมาขนาดนั้น

คุณมาอยู่ในบ้านส่วนตัวท่านอาจารย์อุบล
มาใช้น้ำใช้ไฟท่าน มากินข้าวบ้านท่านฟรีๆ
ตั้งหลายมือ ตั้งหลายวัน 
คุณยังจะมาตั้งกฏกติกาตามอำเภอใจคุณอีกหรือ
ทำไมคุณไม่ออกไปตั้งสำนักคุณเอง 
คุณกะจะมาใช้สถานที่ของท่านอาจารย์อุบล ทำอะไรกันแน่ 
   

 ใครมีคุณสมบัติแบบนี้บ้างครับ

 (ขออนุญาตคุณมยุรฉัตร สุดจิตต์ ขยายตัวอักษรครับ)

อยากให้คุณเจนนี่มาตอบด้วยตัวเองค่ะ

ไม่ต้องใช้ชื่อคนอื่น หรือรูปหน้าคนอื่นที่แอบว่าเป็นศิษย์คุณมาตอบค่ะ อยากถามว่าที่คุณพูดออกมาว่า"....ที่ไม่มีความยุติธรรม.." 

อะไรคือไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมตรงไหน

แล้วที่บอกว่า เป็นเกมส์ อะไรคือเกมส์  ไม่ทราบค่ะ

แล้ว คุณมาบ้านสวนทำไม ? ใครขอร้องให้คุณมา

ทำไมคุณไม่ไปที่อื่นถ้าคุณคิดว่าที่น่ี่ไม่มีความยุติธรรม

ถามจริงๆ เถอะคุณเที่ยวไปบอก ไปบังคับให้ใครมาดูดวง

มาเปลี่ยนชื่อด้วย เรียกคุณว่าท่านอาจารย์เจนนี่

คุณเป็นอาจารย์อะไร

จบอะไร จบจากไหน แล้วคุณสอนอยู่ที่ไหน

คนที่มากับคุณ สองคน ดูท่าทางเค้าไม่มีความสุขเอาซะเลย

หน้าอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา

โดยเฉพาะตัวคุณเครียดอเะไรหนักหนา

บังคับให้คนมาด้วยเช็ดรถให้

พูดจาเกรีียวกราดใส่สาวกของคุณแล้วมีอีกอย่างค่ะ

คืนนั้นพวกคุณทะเลาะกันจนคุณผดุง

เค้าบอกว่า กำลังหลับอยู่ ต้อง ตื่นขึ้นมา

เพราะ พวกคุณทะเลาะกัน ได้ยินเสียงดังขึ้น

จนได้ยินเสียงคนในเต้นท์คุณ

พูดว่า ทำไมต้องบังคับหนู?หนูไม่ชอบ

หนูก็มีกลุ่มของหนู หนูต้องปฏิบัติตามหัวหน้ากลุ่ม

ที่นี่่เค้ามีกฏระเบียบอยู่แล้ว 

ทำไมอาจารย์เจนนี่จะต้องบังคับหนูอีก

อยากรู้ว่าคุณบังคับอะไรสาวกคุณหนักหนา

จนเค้าต้องระเบิดอารมณ์ออกมาขนาดนั้น

เอ้อ ได้ยินแล้วอ่อนอกอ่อนใจ

จนแทบอยากจะไปซักถามกันจะ ๆ คืนนั้นกันเลยทีเดียว

 อยู่ที่ไหน ?

มาตอบคำถามด้วย ?

มาพิสูจน์ตัวเองหน่อย?

?

ออกมาได้แล้ว 

 กราบท่านอาจารย์อุบล  ท่านอาจารย์มงคล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์

หนูชื่อ รัศมิ์ธกานต์  วุฒิธรรมมี ชื่อเล่น ชื่อตุ๊ก หนูเข้าไปสมัครที่เว็ปบ้านสวนแล้ว  แต่ยังไม่ได้  user จึงมาเขียนที่ร้านอาจารย์เจนนี่ค่ะ

หนูขออนุญาตพูดความจริงค่ะ หนูเคยเป็นเพื่อนสมัยเรียนพลังจิตกับอาจารย์เจนนี่ ตอนนั้นก็เคยเรียกคุณเจนนี่  แต่พอได้มีโอกาสมาที่ร้านอาจารย์เจนนี่ช่วงเดือนกันยายน ปี 56 อาจารย์เจนนี่ได้พูดคุยกับหนูเรื่องศีล หนูมาพิจารณาตัวเองและขัดเกลาตัวเองมากขึ้น และได้พาแม่ที่เป็นตับแข็งมาบำบัดกับอาจารย์เจนนี่ แม่ได้หายจากตับแข็ง และทราบว่าอาจารย์สอนวิชาพยากรณ์อยู่ หนูมีความรู้สึกอยากเรียกอาจารย์ก็เลยเรียกอาจารย์เจนนี่ หลังจากนั้นได้มาเป็นลูกศิษย์วิชาพยากรณ์ที่ตอนนั้นอาจารย์เจนนี่สอนอยู่ หนูก็เรียกอาจารย์เจนนี่เหมือนเพื่อนๆมาตลอด อาจารย์เจนนี่ไม่เคยบังคับให้ใครมาเรียกอาจารย์ และตอนหลังอาจารย์เจนนี่ก็เลิกสอนพยากรณ์ แต่หนูกับกลุ่มลูกศิษย์ก็ยังมาที่ร้านอาจารย์เจนนี่กันบ่อยๆ เพราะยังต้องการพัฒนาตัวเองต่อ เวลาที่อาจารย์เจนนี่แนะนำพวกเราหรือทำธรรมะบำบัด อาจารย์เจนนี่จะบอกเสมอว่าอาจารย์ของอาจารย์เจนนี่คือ ท่านอาจารย์อุบล อยู่ที่บ้านสวนพีระมิด และเวลาที่อาจารย์เจนนี่เล่าเรื่องราวของตัวเองเป็นธรรมทาน ก็เล่าว่า ที่เปลี่ยนแปลงได้เพราะได้ท่านอาจารย์อุบล อาจารย์เจนนี่ไม่พูดว่าสิ่งที่อาจารย์เจนนี่พูดเป็นคำของอาจารย์เจนนี่ แต่เป็นสิ่งที่ได้รับจากท่านอาจารย์อุบลสอน เป็นสิ่งที่หนูยังเอาอาจารย์เจนนี่เป็นตัวอย่างของการยกย่องครูบาอาจารย์  ที่หนูสัมผัสได้คือ อาจารย์เจนนี่รักและยกย่องท่านอาจารย์อุบลมาก  จนหนูอยากพบท่านอาจารย์อุบลและได้มาพบท่านอาจารย์อุบลครั้งแรกที่โรงแรมเทเวเลอร์ค่ะ และได้ไปงานธรรมะบำบัดที่โรงแรมอีก 2 ครั้ง และต่อมาอาจารย์เจนนี่ก็พาหนูมาพึ่งบารมีท่านอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพีระมิดค่ะ และหนูรู้สึกขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลที่ได้ทำให้หนูได้รับธรรมะที่ลึกซึ้ง ได้กรุณาปราบมารให้หนูและเมตตาต่อหนูมากๆ   จากที่หนูสัมผัสคืออาจารย์เจนนี่จะยกย่องท่านอาจารย์อุบล หนูไม่รู้สึกเลยว่าอาจารย์เจนนี่จะคิดเทียบเท่่าท่านอาจารย์อุบลค่ะ  ...หนูเขียนจากความรู้สึกจริงๆของหนูนะคะ

 ข่าวรายวัน  จาก คุณเบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา  คะ

ในค่าย 20 วันสุดท้าย ตอนเที่ยงคุณเจนนี่เดินมาถามดิฉัน
เรื่อง การขอขมา 
ดิฉันก็ถามว่าจะขึ้นขอขมาอ.อุบลหรอ เขาบอกว่าไม่ใช่
คือว่าลูกบ้านสวนสาขาของเจนนี่ทำผิดต่อเจนนี่
 เขาจะต้องมาขอขมาเจนนี่ใช่ไหม

ผู้แสดงความคิดเห็น ภรณ์จิตร์ สัจธรรมธนพิธ

***************
ไม่ทราบว่าคุณเจนนี่ และสาวกใช้อะไรคิดเหรอคะ
ตั้งแต่รู้จักและเข้าบ้านสวนฯมายังไม่เคยเห็นใคร กล้าคิดแบบคุณเลย
อยากให้สาวกมาขอขมาตัวเองในบ้านสวนฯ!!!!!
หรือแม้แต่อยู่นอกบ้านสวนฯก็ตาม
ตัวดิฉันเองและลูกบ้านสวนฯ คนอื่นๆไม่เคยมีใคร
กล้าคิดและทำเหมือนอะไรคุณเจนนี่เลย
...........
ดิฉันเจอเธอครั้งแรกที่งานธรรมะบำบัดสัญจรที่กทม.
ณ โรงแรมThe Traveller รัชดา
ตอนนั้นก็โง่ หลงชื่นชมว่า เป็นคนดี มีความศรัทธา
ท่านอาจารย์อุบล 
เป็นสะพานบุญชักชวนคนมาร่วมงานฯ มากมาย
แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่ตาเราเห็น
ความรู้สึกที่เจอเธอวันนั้น ก็เริ่มได้กลิ่นเหม็นตุๆแล้ว
รู้สึกว่าคุณเจนนี่ จะพยายามทำตัวเหนือคนอื่น
มองคนอื่นด้วยหางตา และสายตาที่ดูถูก
วางอำนาจ เหล่าสาวก ต่างเรียกเธอว่า
 “อาจารย์เจนนี่” เราฟังแล้วก็งง !!!!!!
เป็นอาจารย์สอนที่ไหรเหรอ
ไม่ได้เป็นอาจารย์สอน แต่เป็นหมอดู
ตอนนี้เลิกอาชีพหมอดูแล้ว แต่ยังให้ผู้คน
ยกย่องตัวเอง เรียก “อาจารย์เจนนี่” ทุกคำ
ในเมื่อคุณเลิกอาชีพหมอดูได้ แต่เรื่องที่คนอื่นเรียกคุณว่าอาจารย์
หากคุณไม่ต้องการให้คนอื่นเรียกจริงๆ ก็บอกความจริงเขาไป
ทุกอย่างก็จบแล้ว แต่คุณไม่ทำ
การแสดงในค่าย 20 ที่ผ่านมา เป็นเกมส์ของคุณด้วยหรือเปล่า
มนุษย์คิด เทวดารู้ เมื่อคุณคิดทำสิ่งไม่ดี
ก็จะมีปัญหาติดขัดไปเสียทุกอย่าง สังเกตุว่า
ติดขัดตั้งแต่เริ่มต้นเลย แค่เพลงประกอบการแสดงฯ
ยังหาเพลงไม่เจอเลย..... ชื่อเพลงก็จำไม่ได้
ทำให้เสียเวลา ละครใบ้ที่คุณนำมาแสดงนั้น มันน่ากลัว
หน้ากากที่คุณนำมาใส่นั้น เหมือนตัวคุณมากเลยรู้ตัวหรือเปล่า
จริงๆแล้วไม่ต้องใส่ก็ได้ ทำเอาผู้ชมต่างพากันนั่งแบบเงียบกริบ
บรรยากาศอึมครึมมาก นั่งลุ้นว่าเมื่อไหร่คุณจะแสดงจบ
เมื่อการแสดงจบทุกคนคงต้องฉีดน้ำอภิญญาแทนการปรบมือ

เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา ผู้เขียน

คุณรัศมิ์กานต์ วุฒิธรรม  (ตุ๊ก) ค่ะ

นับว่าคุณเป็นลูกศิษย์ที่เคารพคุณเจนนี่เป็นที่สุดนะคะ

เพราะดิฉันจำได้ดีตอนค่าย 19

ที่ท่าน อ.อุบล ได้ถามพวกเราว่า

ใครที่คิดว่าบูชาวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิดไปแล้ว

รู้สึกว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

คุณตุ๊กเป็นคนเดียวที่บอกว่าไม่คุ้ม

ท่าน อ.อุบลแนะนำให้เอาพีระมิดมาคืน

โดยคืนที่คุณเจนนี่เพราะคุณตุ๊กบูชาจากคุณเจนนี่

ตอนแรกดูเหมือนคุณจะคืน

แต่ดิฉันได้ยินคุณเจนนี่บอกคุณว่า

"หนูจะคืนได้ยังไงหนูลองนึกซิว่า

สิ่งที่หนูได้รับครอบครัวอบอุ่นใช่ไหม

แล้วจะมาบอกว่าไม่ได้ผล

มันไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทอง

หนูจะคืนไม่ได้เพราะหนูได้รับความสุขแล้ว"

โดยตอนนั้นคุณตุ๊กยืนอยู่คอยตอบคำถามจากท่าน อ.อุบล

และอีกฝั่งหนึ่งคุณเจนนี่ก็คอยบอกบท ว่า

คุณต้องตอบท่าน อ.อุบลอย่างไร

ทำให้คุณตุ๊กตอยคำถามท่าน อ.อุบลแบบตะกุกตะกัก

เพราะฟังสองทาง สุดท้ายคุณตุ๊กก็ยืนยันกับท่าน อ.อุบลว่า

คุณจะไม่คืนพีระมิด

ดิฉันนั่งแถวหน้าพวกคุณค่ะ

เลยได้ยินการบอกบทระหว่างคุณเจนนี่กับคุณตุ๊กค่ะ

จริงๆมีมากกว่านี้ค่ะแต่ว่าจำได้ไม่หมดค่ะ

          ฉวีวรรณ นภาพรรณราย

กราบสวัสดีท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล และคุณท๊อบ 

สวัสดีพี่ๆน้องชาวบ้านสวนพีระมิดทุกท่าน

ต้องขอบคุณพี่น้องทุกๆท่านที่ช่วยกันมาเล่าข้อมูลที่สะท้อนถึงพฤติกรรมของแปลกที่ไม่ธรรมดาของคุณเจนนี่ สำหรับแหล๋นเอง ตั้งแต่แรกที่ได้เห็นคุณเจนนี่ แหล๋นก็รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้ท่าทางจะทุกข์หนักนิ เพราะหน้าตาซีเรียสบูดบึ้งตลอดๆ เดินสวนกัน ปรกติลูกบ้านสวนเค้าก็จะทักทายกันอย่างสดชื่นเบิกบานร่าเริงแจ่มใส ก็เราจะไปสร้างบุญแรงกาย บุญบริสุทธ์ ก็ต้องดีใจกันกระดี๊กระด๊ากันเป็นธรรมดา เอ...แต่คุณเจนนี่ไม่เป็นแฮะ...ยิ้มไม่เป็น อืมมม แปลกนิ ไม่รู้แบกทุกข์มาด้วยทำไมมากมาย ก็ได้รับทราบช่วงทำงาน ว่าเธอก็มาขอปรึกษาเรื่องลูกวัยรุ่น แต่ก็ควรจะพักไว้ก่อน แล้วตั้งหน้าตั้งตาโกยบุญด้งยจิตใจที่แจ่มใสกว่านี้ค่ะ มีหลายสถานการณ์ที่สังเกตุเห็นพฤติกรรมคุณเจนนี่ที่แปลก ไม่ปรกติ พาให้สงสัยในเจตนาอันแท้จริงของคุณเจนนี่ดังต่อไปนี้ค่ะ  มาลองฟังกันดูนะคะ

-          เบียดเบียนบังคับจิตใจคนทำบุญผิดเวลา – ว่ากระทบและเข้าข่ายปรามาสครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ – ไม่มีปิยวาจา:  เมื่อคราวค่าย 19 ตอนท่านอาจารย์เมตตาทำพิธีปิดค่ายเรียบร้อย ร่ำลากันเสร็จพวกเราก็เตรียมตัวกลับ แหล๋นก็วิ่งไปห้องน้ำเก่าเพื่อจะไปตากถุงมือที่ซักเสร็จ แต่กลับได้เห็นคุณเจนนี่และผองเพื่อนกำลังล้างห้องน้ำกันอยู่ 3 ห้อง อย่างขะมักขะเม้น ยังแซวเลยว่า “โอโห..ถึงขนาดทิ้งทวนล้างห้องน้ำก่อนกลับด้วยเหรอนี่...เค้าจะกลับกันหมดแล้วนา“ ก็ได้ยินเสียงคุณเจนนี่ ตะโกนมาว่า “คุณอาจินต์ มาดูนี่สิ  มาดูนี่เร็วๆ” เสียงแบบจิกๆ แข็งๆยังไงชอบกล แหล๋นเอง พลางคิดในใจว่า อั๊ยยะ สงกะสัยว่า งานเข้า ไม่ตัวเราเอง ไม่ก็ลูกเราคนใดคนหนึ่งคงต้องไปลืมหรือทำอะไรไม่เข้าท่าอีกซะละมั้ง ก็เดินไปดู แต่ทว่ากลับเห็น คุณเจนนี่มีใบหน้าแบบว่าไม่ค่อยหงิกงอ มิค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่ พูดว่า “เนี่ย...ดูสิ..รู้กันบ้างมั๊ย ว่ามันสกปรก มีคราบขนาดนี้ ทำไมถึงไม่จัดฐานทำความสะอาดห้องน้ำ” 

อะจ้าก..โห...หนอย..บังอาจ (ในใจคิด) และแหล๋นรู้สึกปรี๊ดและหน้าชาทันที  จึงตอบกลับทันทีว่า ”เรื่องนี้ก็ทราบอยู่นะคะ แต่ที่นี่เรามีการลำดับความสำคัญอยู่ว่าควรจะทำงานตามฐานตามความเร่งด่วนที่มอบหมายผ่านท่านอ.อบล ผ่านคุณธนา เพราะนั่นคือการสื่อสารจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บัญชามาจากเบื้องบน เท่านั้น ที่นี่เราไม่ทำอะไรตามอำเภอใจกันนะคะ พวกเราเคยได้รับบทเรียนกันมาแล้วว่า การทำอะไรตามใจตัวเองที่ขัดพระบัญชาของเบื้องบนน่ะ จะได้รับบทเรียนบทลงโทษที่จัดหนักกันทุกคน จนเข็ดกันหมดแล้วล่ะค่ะ ไม่มีใครอยากเสี่ยงด้วยหรอกค่ะ เหตุที่ต้องที่พูดอย่างนี้ เพราะเราว่าคุณเจนนี่ทำความดี แต่มันผิดเวลาหรือเปล่าคะ ถึงอยากจะโมทนาแค่ไหนก็ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ  แล้วคุณยังเทน้ำทิ้งซะหมดถังเลย ถังใหญ่ซะด้วย ตั้ง 3 ถัง เสียดายจริงๆ แทนที่จะใช้ทรัพยากรน้ำนี้ให้ได้ประโยชน์ที่สุดก่อนค่อยเททิ้ง ถ้าคุณอยากจะทำความดี ก็ควรใช้เวลาส่วนตัวที่ไม่กระทบคนอื่น ที่ไม่บังคับใคร ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ตำหนิกระทบใครทั้งนั้น และควรเข้าใจว่าเวลานี้ผู้เขาเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้วนะ..เลิกค่ายเย็นแล้ว” แหล๋นมองหน้าคนที่มาด้วยกันที่ช่วยล้างอยู่ เห็นจ๋อยๆ หน้าเสียเลย ต่ออีกว่า ”แล้วนี่...ก็ต้องรอให้น้ำเต็มถังด้วยถึงจะกลับใช่มั๊ยคะ แล้วจะกลับกันกี่โมงล่ะคะเนี่ย... สำหรับแหล๋นนะ ไม่สามารถเลยค่ะ และต้องขอตัวก่อนนะคะ กลับนะคะ บ๊ายบาย” ว่าแล้วแหล๋นก็เผ่นวิ่งจี๋กลับไปที่รถ และเล่าให้คุณอภิชัยฟังทันทีค่ะ.. ( มีต่อค่ะ)

 ขอต่อค่ะ

-             วิจารณญาณกลับตาลปัด และเข้าข่ายปรามาสครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์:  เรื่องถัดมาก็คือ...ในช่วงของการเข้าค่าย20นี้ เวลาทำงานกลุ่ม คุณเจนนี่อยู่กลุ่ม 6 เดียวกับแหล๋น ขอเล่าพฤติกรรมที่แปลกเพิ่มเติมที่พี่ๆน้องๆเล่าแล้วอีกว่า มีมากกว่า1 ครั้งที่เธอมักจะขอไม่ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายตามฐาน แต่กลับคิดที่จะทำงานตามที่เธออยากทำด้วยหลายเหตุผล และข้ออ้างตามมุมมองส่วนตัว ซึ่งฟังดูจะขัดแย้ง หักล้างยังไงๆชอบกลอยู่ค่ะ ถ้าลำพังแหล๋นเองนะ..โอ๊ยทั้งโง่ซื่อบื้อ หูเบาและแย่ที่สุดเลยค่ะ พอคุณเจนนี่ชวนบอกไม่ต้องเปลี่ยนฐานหรอก แหล๋นก็เกือบจะเออออห่อหมกไปกับเขาด้วย โชคยังดีที่มีพี่ๆน้องๆหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ น่ารักและพอจะทราบวีรกรรมคุณเจนนี่มาก่อน สงสารแหล๋น ก็แอบมากระซิบตอกย้ำทันท่วงที ให้ต้องเปลี่ยนฐานๆๆๆ ..อย่าไปสน อย่าโดนหลอกให้ทำผิด ก่อนแหล๋นจะพากลุ่มให้สร้างบาปหนาแทนค่ะ ต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องๆที่สุดเลยนะคะที่มีจิตเมตตาฉุดช่วยให้พ้นนรกค่ะ แต่ก็ขอขอบคุณคุณเจนนี่ที่ช่วยมาเป็นบททดสอบให้แหล๋นคนซื่อบื้อ ชี้ให้เห็น และยอมรับในความบกพร่องอย่างใหญ่หลวงของตัวเองในจุดนี้ ทั้งโง่ซื่อบื้อหูเบาเชื่อคนง่าย แหล๋นสำนึกผิดคิดได้แล้วค่ะ และจากนี้ไปจะคิดไตร่ตรองใช้เหตุผลให้ดี ก่อนจะเชื่อจะตัดสินใจทำอะไร ดังที่ท่านอ.อุบลเมตตาพร่ำสอนให้รู้จักใช้ปัญญา จะต้องหยุดโง่ซ้ำซาก เสียทีเจ้าค่ะ   

-             ยกตนข่มท่าน – ขาดเมตตา – ไม่มีปิยวาจา :  ตอนทำงานฐานเกษตรธรรมะก็ไปดุเกรี้ยวกราดเอาเสียงดังข่มน้องไข่ตุ๋นแค่เรื่องการถางหญ้าและวางหญ้าข้างๆตัว แหล๋นทนไม่ไหวเลยสวนไปทันควันว่า “คุณเจนนี่..ทำไมต้องดุไข่ตุ๋นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดอย่างนี้ ดูซิ พูดจาแรงแบบนี้ เด็กที่ไหนเค้าอยากจะรับฟังคำเตือนของคุณ ถ้าหวังดีก็ควรพูดดีๆ ให้มันน่ารักน่าฟังหน่อย เด็กเค้าก็จะรับฟังได้ พูดจาอย่างนี้ที่นี่เค้าไม่ทำกัน ท่านอ.ก็สอนให้ทำทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นฐานของความเมตตา ขอร้อง ต่อไปนี้อย่ามาพูดจาแบบนี้อีกนะคะ“  ตอนนั้นเธอคงยังงงเลยรับคำเรียบๆ และเงียบไป แต่ก็ดีที่หยุดเธอได้ค่ะ  (มีต่อค่ะ)

 -                ต้องสงสัยพฤติกรรมมาร:  แหล๋นสังเกตุว่าคุณเจนนี่ยังมีการเข้าใกล้ระยะประชิด และสัมผัสเนื้อตัวหลายครั้ง จนมาล่าสุดตอนเข้าแถวรอไอติมกระทิก่อนเล่นสาดน้ำกัน เธอก็ยังมาใกล้ๆอีกจึงจำเป็นต้องเตือนเธอไปว่า “คุณเจนนี่คะ เคยทราบบ้างไหมคะว่าท่านอาจารย์อุบล เตือนหลายต่อครั้งไม่ให้พวกเราสัมผัสเนื้อตัว หรือจงใจเข้าใกล้กัน เพราะนี่เป็นวิธีที่มารเขาทำกัน ถ้าคุณเจนนี่ไม่ใช่มารก็อย่าทำเลยนะคะ“ ได้ผลค่ะ เธอถอยกรูดและมองแหล๋น อิอิ ม่ายรุเธอคิดอะไร 

-          การแสดงออกที่ไม่ให้เกียรติผู้คน – ไม่มีปิยวาจา: ยังไม่หมดค่ะ.. เธอมักพูดจา มอง และแสดงกิริยาอาการกับผู้คนแบบเหมือนไม่ให้เกียรติ ราวกับว่าคนเหล่านั้นต่ำต้อยกว่าเธอไปหมด แหล๋นก็เคยโดนมากกว่าหนึ่งครั้ง เธอพูดแบบสั่งๆจิกๆห้วนๆ ไม่มีมิตรจิตมิตรใจ วันนั้น ตอนค่ำช่วงค่าย19 อยู่ดีดีเธอผู้นั่งอยู่ในรถ ก็พูดขึ้นมาลอยๆว่า “เล่นการแสดงอะไร“ เสียงแบบเหมือนพูดกับบ่าวในเรือนเบี้ยเลยเจ้าค่ะ แหล๋นอยู่ในรถซึ่งอยู่ถัดไป จึงงง มองซ้าย..ขวา..เอ..พูดกับเราอ๊ะป่าวฟะ เธอก็พูดว่า..”ก็ถามคุณนั่นแหละ”  “อ้าว..ก็คุณไม่เอ่ยชื่อ เราก็ไม่แน่ใจนะสิ”  แต่ก็ตอบเค้าไปค่ะ ก็เป็นซะอย่างนี้ ดังนั้นเวลาเธอจะพูดจะถามอะไร จึงไม่น่าฟัง ไม่อยากตอบเลยค่ะ เธอยังเคยดุตำหนิผองเพื่อนของเธอต่อหน้าแหล๋นที่รถเราดันไปจอดข้างๆรถเธอ สงสารคนนั้นจัง จ๋อยเสียself ไปเลย คงอายแหล๋นด้วย แย่จังคนอาไร๊ ดุไม่มีเหตุผล ขาดเมตตาฝุดๆ      

-แล้วยังที่จัดการแสดงที่แสนงง ปิดท้ายค่ำคืนวันแรกของค่าย 20 แทนที่จะเป็นการแสดงที่แสนจะศักดิ์สิทธ์ และเป็นสิริมงคล นี่ก็ทำเอาพวกเราช๊อคซีนีม่า เพราะความน่ากลัวกับหน้า(กาก)ผีของคุณ ทำเอาแทบทุกคนพากันนำขวดอภิญญามาฉีดใส่หน้าใส่ตัวกันมือไม้สั่นเลยทีเดียว  (คุณเจนนี่สังเกตุมั่งป่าว) อันที่จริงก็ช๊อคตั้งแต่ตอนเปิดเพลงสับสนจนเสียเวลา เสียอารมณ์ แทนที่จะมารับผิดชอบจัดการดูแลเองให้ดี หรือไม่ก็จัดคนมาทำให้พร้อม แต่กลับมาใช้พิธีกรคุณธนาซะงั้น ไม่น่ารักเลยนิ  (มีต่อค่ะ)

 -          ตอนเล่นสงกรานต์ แหล๋นก็เห็นคุณเจนนี่ดูเหมือนพยายามจะสนุกอยู่นะคะ แต่ดูเหมือนกั๊กๆ เม้มๆยังไงชอบกล ดูไม่ค่อยธรรมชาติ ดูกลัวๆ เลยไม่สนุกจริง เอ...สงกะสัยว่าไม่เคยเล่นแบบเฮฮาละสิท่า หรือเราดูผิดซะก็ม่ายรุ  น้องบัวฝากมาเล่าด้วยว่า เห็นตอนที่คุณเจนนี่ถือสายยาง แล้วฉีดใส่คน เข้าหน้า เข้าตาหัวน้ำแทงหูดูคนโดนฉีดเจ็บๆยังไงก็ไม่รู้ น้องบัวก็เลยขอมาถือสายยางให้เองค่ะ น่ากลัวคุณเจนนี่คงไม่เคยมาก่อนเลยเล่นแบบระวังๆไม่เป็นนิ  

ตอนนี้มีเท่านี้ค่ะ ถ้านึกออกจะมาเล่าอีกนะคะ พี่ๆน้องเราจะได้มาช่วยกันวิเคราะห์ว่าอันที่จริงแล้วคุณเจนนี่หวังอะไรที่มาบ้านสวนพีระมิด เคารพนับถือท่านอ. อุบล ครอบครัวของท่าน และสิ่งศักดิ์สิืทธิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จริงหรือไม่ หรือมามีจุดประสงค์อืนๆมาแสวงหาสิ่งอื่นในนี้กันแน่คะ

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล คุณท๊อบ เทวดาที่รักษาท่าน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะที่ได้โปรดเมตตาลูกหลาน กราบสาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ

อาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ถ้าจริงใจ ไม่มีสิ่งใดแอบแฝง

กรุณาตอบด้วยตนเอง

อย่าเอาสาวกมาตายแทน

งานนี้ ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้

เรื่องฉีดน้ำสงกรานต์ ตัวเองก็โดนเธอกระทำค่ะ
ทั้งสาดน้ำแรง ๆ และบีบสายยางให้น้ำออกมาแรง
บ๊ิกซันกับจีจ้าโดนฉีดน้ำเข้าหูซะจนปวดหู จนตาแดงไปเลยค่ะ แต่สักพักก็หาย เพราะน้ำที่บ้านสวนเป็นน้ำอภิญญาค่ะ
ขอบอกค่ะคุณเจนนี่ เด็กเล่นกัน ทุกคนเล่นกัน
เค้าก็เล่นกันอย่างมีความสุข
แม้คุณจะพยามให้เสียบรรยากาศ
คุณจะเน้นฉีดใส่หู ใส่ตาผู้คนจนตาแดง
โดยเฉพาะ เด็ก เค้าโดนแล้ว
เค้าแสบหูแสบตาไปหมด
ท่านอาจารย์ก็สอนมารยาทเล่นน้ำสงกรานต์แหมบๆ
หลายๆ ท่านก็เตือนกันว่าอย่าสาดน้ำเข้าหูคนอื่นนะคะ
ค่อยๆ เท  แต่คุณเจนนี่ก็ไม่นำพา  ค่ะ


ถามจริงๆ เถอะค่ะ ที่ใช้ชื่อคนอื่่นออกมาแสดงความคิดเห็น
ต่างนาๆ  และที่บอกว่าไม่ได้บังคับ
ให้ใครเรียกท่านอาจารย์เจนนี่
ทั้งที่คุณก็ไม่ได้เป็นครูสอนโรงเรียน
หรือสถานศึกษาที่ไหน
แต่ดิฉันได้ยินคุณเรียกสรรพนามแทนตัวคุณเอง 
ว่าอาจารย์ อย่างนั้น อย่างนี้ตลอดเวลา
ได้ยินสองรูหู และบ่อยด้วยค่ะ
จะบอกว่า หลายๆ ท่านที่มาบ้านสวน
ก็เป็นครู อาจารย์ ระดับมหาวิยาลัย
ระดับมัทยม ประถม กระดับชำนาญการพิเศษ ไปจนถึงดร.
ก็ไม่เห็นมีใครแทนตัวเองว่าอาจารย์ สักคนเดียว
ทุกคนเค้าก็พูดแทนตัวเองว่ากระผม ดิฉัน กันทุกคน
มีคุณนี่แหละ แปลก
และทำไมไม่บอกให้เหล่าสาวกคุณเลิกเรียกคุณวาอาจารย์สักที
ดิฉันอายแทนค่ะ 
ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจทำไม่ไม่ออกมามาตอบข้อซักถาม
ข้องสงสัยของพีน้องดัวยตัวเอง

ทำไมต้องใช้ชื่คนอื่นตอบค่ะ

อยากจะถามคุณเจนนี่ต่ออีกค่ะ
ทำไมคุณต้องมาใช้เวทีอันศักดิ์สิทธิ์ของบ้านสวนพีระมิด
ในการให้สาวกของคุณมาขอขมา
มาสรรเสริญเยินยอคุณ
ทำไม้คุณไมไปขอขมากันที่อื่น
ทำไมคุณไม่ลงทุนไปเช่าสถานีโทรทัศน์เอง
ไปเปิดรายการเอง
ทำไมต้องมาที่บ้านสวนซึ่งเป็นเวที่ของท่านอาจารย์
ที่ท่านมีไว้เมตตาผู้คน
และท่านได้เมตตาเปิดโอกาสให้ผู้ทำผิดได้แก้ไข
ได้มีโอกาสกราบขอขมาได้ปลดล็อกกรรม
และท่านไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครมาขอขมานานแล้ว
แต่คุณกลับใช้เวที ใช้สื่อทีวีของท่าน 
ใช้บ้าน ใช้น้ำใช้ไฟ
ใช้สื่อที่ท่าลงทุนเช่าสถานีเองซื้อเวลาของท่านเอง
มาเป็นเวทีให้สาวกของคุณมาขอขมาคุณ
มาสรรเสริญเยินยอคุณ
มาเป็นโอกาสทองในการ
โฆษณาตัวเองของคุณ
มาโฆษณาสรรพคุณความดีของคุณ

โอกาสนี้เป็นความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตา
ให้พวกเราทั้งหลายได้ปลดล็อกกรรมอนันต์ริยกรรม
ที่เรามีต่อสิ่งศักสิทธิ์ต่อท่าน
แต่คุณกลับมาสถาปานาตัวเอง
ให้ตัวเองเป็นบุคคลสำคัญอันควรสรรเสริญเยินยอ
และขอขมา เอ้อ คุณคิดอะไรอยู่
คุณทำแบบนี้
คุณมาบ้านสวนพีระมิด
ซึ่งเป็นบ้านสวนตัวของท่านอาจารย์อุบลทำไม 
คุณต้องการมาทำอะไรกันแน่
หรือมีใครบังคับให้คุณมา
หรือมีใครอยู่เบื้องหลัง

จ้างคุณมาด้วยค่าจ้างอันแพงลิบลิ่ว
ถึงได้กล้ามาทำปาบมหันต์
กล้าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเขตบุญอันบริสุทธิ์

หรือว่าคุณไม่รู้กาละเทศะเลยจริงๆ 

ถามไปตั้งเยอะ ก็ไม่เห็นมาตอบเลย

ได้แต่เขียนบทให้ลูกศิษย์มาตอบอยู่ได้

คิดมุกอื่นบ้างเหอะ  คนเขารู้ทันกันหมดแล้วว


คุณตุ๊ก...สาวกของคุณเจนนี่

ที่บูชาพีระมิดไปตั้งเยอะแล้วไม่มีไรดีขึ้นน่ะ

รู้รึยังเป็นเพราะอะไร

ก็ท่านอ.ของคุณเค้าบอกอยู่ว่า

วัตถุมงคลมีเยอะ ๆ จะมีประโยชน์อะไร

ท่านอ.ของคุณเค้ายังไม่อยากคล้องวัตถุมงคลเลย

แต่ที่เค้าพูดโน้มน้าวให้คุณบูชาทีละเยอะ ๆ

แถมไม่มีสปิริตพอที่จะรับคืนของด้วย

แบบนี้ยังคิดไม่ได้อีกเหรอ ว่าเค้าอยากได้อะไรจากคุณ

ถ้าไม่ใช่หวังแค่ "เงิน" น่ะ

แล้วตัวคุณก็เช่นกัน ที่บอกว่าบูชาไปแล้วไม่คุ้มค่า

คุณหวังอะไร ถึงจะเรียกว่าคุ้มค่าคะ

การคิดแบบนี้ คือ การทำบุญหวังผลมาก ๆ

อาจมากกว่าศรัทธาด้วยซ้ำ

นี่ก็คิดคำตอบล่ะค่ะ ว่าทำไมถึงรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าสำหรับคุณ

และการที่คุณไม่ใช้ปัญญาของตัวเองคิดพิจารณา

ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้แต่ทำตามคำสั่ง คำพูดของคนอื่น

เรื่องคืนของไม่คืนของนั้นอีก คุณต้องคิดเอง

ไม่ใช่ให้ใครมาสั่ง

การที่คุณเป็นแบบนี้  คือไม่ใช้ปัญญาของตัวเองทำงาน

คุณก็จะต้องตกเป็นเบี้ยล่างของมาร

ให้มารบงการความคิดจิตใจของคุณได้ตลอดไป

จะมีวัตถุมงคลมากมายแค่ไหน แต่เราไม่ช่วยตัวเอง

ไม่ยอมใช้ปัญญา ไม่มีเหตุมีผล  ไม่พัฒนาปัญญาของเรา

มันก็เหมือนเดิม ไม่หลุดพ้นหรอกค่ะ

เรามาเรียนธรรมะกันนะคะ

ไม่ใช่มาให้ใครเสกให้ ทุกอย่างเราต้องเดินไปเอง

และคุณต้องเลือกหาหลักยึด ครูบาอาจารย์ที่ถูกต้องดีจริง

ที่จะนำพาชีวิตคุณไปในทางที่ถูกได้ตลอดรอดฝั่งจริง จึงจะไปถึงฝั่ง

หากคุณเลือกครูผิด ชีวิตคุณก็จบเห่ค่ะ

สำหรับคุณเจนนี่

ถ้าเป็นลูกศิษย์ท่านอ.อุบลตัวจริง

เค้าจะไม่รีรอที่จะรับของคืนหรอกค่ะ

เพราะเรารู้ดีว่าวัตถุมงคลบ้านสวนมีค่าสูงแค่ไหน

ใครไม่เห็นค่า หรือคิดว่าไม่คุ้มค่า

เราก็ไม่จำเป็นต้องง้อหรือบังคับให้เค้าบูชาค่ะ

ของดีมีค่า ไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน

แต่มีไว้สำหรับคนที่คู่ควรเท่านั้น

และประเด็นอื่น ๆ เมื่อไหร่จะออกมาเคลียร์ซะที

คนอื่นเค้าเบื่อแล้วนะ

พระพุทธเจ้าสอนหลักกาลามสูตรมาเพื่ออะไร??

ท่านอ.อุบลเองก็สอนเสมอเรื่องความเชื่อนี้

ท่านไม่เคยบอกให้พวกเราต้องเชื่อในสิ่งที่ท่านพูด

แต่ท่านจะพูดว่าให้เราใช้ปัญญาคิดดูว่าจริงหรือไม่

และทุกอย่างต้องใช้การพิสูจน์เป็นที่ตั้ง เอาความจริงมาว่ากัน

มาไตร่ตรอง แล้วจะได้คำตอบที่ถูกต้อง ถูกตรง

การดูคน ก็นับว่าพวกเราลูกบ้านสวนได้บทเรียนมาพอควร

เจอคนมาหลายรูปแบบ   มาหลายวัตถุประสงค์

ท่านอ.อุบลเองก็ทราบว่าใครมาดีมาร้าย

ทำไมท่านจะไม่ทราบล่ะคะเรื่องง่ายๆ แค่นี้

เพราะนอกจากท่านจะมีปัญญามองคนออกแล้ว

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล มีตั้งเท่าไหร่ที่จะคอยบอกท่าน

แต่ท่านอ.อุบล ก็ไม่เคยมาบอกเราว่า คนนั้นดีไม่ดี ให้เราเชื่อตาม

แต่จะสอนวิธีดูคนให้เรา  มองกันเอง ต่างหาก

เพราะในชีวิตจริง

เราก็ต้องเจอคนเหล่านี้ปะปน อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

แต่เรามักจะไม่ทันคน  มองเกมส์ไม่ขาด และรับมือกันคนเหล่านี้ไม่ได้

ไม่มีปัญญา  คือเชื่อแต่คำพูดที่เขาพูดกับเรา โกหก ตอแหลเรา

แต่ไม่ยักกะเปิดหู เปิดตา เปิดใจ  ดูการกระทำที่เขาทำจริง ๆ

เพราะลมปากคนจะพ่นอะไรออกมาก็ได้ทั้งนั้น

แต่การกระทำที่แสดงออก

...มันปกปิดไม่ได้  ใคร ๆ ก็เห็น

ต่อให้พยายามแอ๊บยังไง ก็ต้องมีหลุดกันบ้างล่ะ

ก็เพราะมันออกมาจิตของเค้านั่นเอง

ตรงนี้คือ ปัญญาเรื่องหนึ่งที่ได้จากการมาเรียนธรรมะ

จากชีวิตจริงที่บ้านสวน

และคิดว่ามีประโยชน์สำหรับชีวิตตนเองมาก

เพราะเจอมาหลายคน หลายระลอก

และก็พลาดมาเยอะ เพราะขาดตัว"ปัญญา"นี่เอง

ทุกวันนี้ จึงมีความระมัดระวัง

ต่อบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตมากขึ้น

คือไม่ประมาทเหมือนที่ผ่านๆ มาค่ะ

เพราะหากหลงไปคบคนชั่วแล้ว ชีวิตเราก็จะพลอยตกต่ำ

ย่ำแย่ จนอาจถึงขั้นล้มเหลวได้เลย

ก็ไม่อยากให้ใครต้อง ประมาท พลาดพลั้งเช่นกันนะคะ

เพราะ1ในอบายมุข6 ที่นำพาชีวิตให้ฉิบหาย

ก็คือ... การคบคนชั่วเป็นมิตร ค่ะ

 กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ในบ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์อาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท้อปค่ะ

เจนนี่ได้ขออนุญาตเข้าบ้านสวนพีระมิดในวันเสาร์-อาทิตย์นี้แล้วค่ะ เพราะช่วงค่าย 20 ได้สำนึกในใจตนว่าตนเองขาดการทำบุญแรงกายจึงตั้งใจจะไปทำบุญแรงกายให้ได้มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ

และขณะเดียวกันช่วงอาทิตย์นี้มีข้อความถึงเจนนี่ เยอะมากก อ่านไม่ทันเลย เจนนี่ซาบซึ้งกับทุกคำถาม และเจตนารมณ์ของทุกท่านค่ะ เพราะมีความรักความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด จึงช่วยกันลุกขึ้นมาปกป้องบ้านสวนพีระมิดอย่างแข็งขัน และทุกท่านก็ปรารถนาดีกับเจนนี่มาก จึงได้ช่วยกันตักเตือนมากมาย เพื่อให้เจนนี่ได้คิดและสำนึกตัว เพื่อที่จะได้ทำตัวให้มีคุณสมบัติที่จะมาอยู่ในกลุ่มของทุกท่านได้

 จึงจะขอโอกาสท่านอาจารย์อุบลและคุณธนา ให้เจนนี่ตอบคำถาม และให้ทุกๆทุกท่านได้ถามคำถาม เจนนี่ค่ะ  เปิดเผยข้อความในไลน์ของเจนนี่เพื่อความจริงทุกด้าน ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ด้วยค่ะ  และได้ขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล  คุณธนา และทุกๆท่านด้วยนะคะ

กราบขอบพระคุณค่ะ

ขอให้โอกาสและโปรด ขัดเกลา คนโง่เขลาคนนี้ได้รับความเมตตาจากทุกๆท่านด้วยค่ะ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เจนนี่มาบ้านสวนพีระมิด มาพึ่งบุญอาจารย์อุบลค่ะ อยากเป็นลูกศิษย์อาจารย์อุบล เรียนรู้ธรรมะ มาขัดเกลาใจ กายตนเอง เพื่อนำไปปฏิบัติเพิ่ม และเพื่อช่วยบำบัดผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ได้..

แต่กำลังกาย กำลังใจที่มาหาท่านอาจารย์อุบลนั้นไม่แข็งแกร่งเหมือนทุกท่าน เพราะยังขาดคุณสมบัติอยู่มากค่ะ..เช่น เจนนี่อยู่กรุงเทพใกล้แค่นี้แต่มาหาท่านอาจารย์อุบลได้แค่เดือนละครั้ง(พึ่งสำนึกช่วงค่าย 20 นี้ว่าจะต้องมาให้ได้มากกว่านี้)

เจนนี่ยังไม่ได้ช่วยท่านอาจารย์อุบลทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาได้ ทั้งๆที่ ดร.จิ๋มเคยบอกว่า "มาช่วยกันพัฒนาบ้านสวนพีระมิดกันนะ"(คำนี้จำได้อยู่เสมอค่ะ)

______________________________________________________________________________ 

เจนนี่จะเล่าเรื่องของตัวเอง จะได้มีคำตอบให้กับหลายท่านด้วยค่ะ ไม่ต้องเชื่อค่ะ แต่พิจารณาตาม แล้วพิสูจน์

ก่อนหน้านี้เจนนี่ไม่มีความรู้เรื่องธรรมะ พึ่งเริ่มมารู้เรื่องศีลจากท่านอาจารย์อุบลในรายการคุยไปแจกไป และรายการธรรมะบำบัดแล้วเริ่มสำนึกและปฏิบัติตนเองใหม่

ยังไม่รู้พระไตรปิฏกเลยค่ะ จนวันที่อาจารย์อุบลแนะนำให้อ่านพระไตรปิฏกฉบับย่อยแล้ว เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว โดยเฉพาะเรื่อง ศาสดา หรือครูผู้ที่ใครๆทักท้วงไม่ได้(สำนึกทันทีในวันนั้นค่ะ ว่าเราจะสอนใครไม่ได้ ถ้าเราไม่ทำตัวเองของเราก่อน) และสำนึกด้วยว่าถ้าใครมาปรึกษาอะไรไม่คิดเงิน เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้า ฟรี ที่งานธรรมบำบัดที่โรงแรมฟาร์อีส อินน์

 ช่วงเป็นหมอดูนั้น นอกจากดูดวงเป็นอาชีพแล้วก็ยังเปิดสอนวิชาไพ่ยิปซี โหราศาสตร์ สัตตเลข ซึ่งมีคนมาเรียน จึงเป็นสาเหตุทำให้หลายๆคนเรียกเจนนี่ ว่าอาจารย์เท่านั้นเอง(ไม่สมควรถูกเรียกหรอกค่ะ เพราะยังโง่อยู่เยอะค่ะ รู้แค่หางอึ่งนั่นถูกต้องเลยค่ะ)

นอกจากนั้นช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม เจนนี่ รับอนุญาติจากท่านอาจารย์ณภัทรดิศ สุริยะกมลจินดา ให้สามารถเปิด คอร์สสอนศาสตร์พลังจิตได้ ซึ่งมีคนมาเรียน และเรียกเจนนี่ว่าอาจารย์(ก็ไม่สมควรถูกเรียกอีกเช่นกันเพราะมีความรู้แค่เล็กน้อย)

ท่านอาจารย์ณภัทรดิศ เป็นผู้อำนวยการสถาบันศาสตร์พลังจิต  และเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่ มหาวิทยาลัย มหิดล และเป็นอาจารย์ประจำที่มหาวิทยาลัยรังสิต

เป็นครูคนละท่านกับครูสอนดูดวงค่ะ

การพบครูคนใหม่ คือท่านอาจารย์อุบล เมื่อเจนนี่เลือกเดินตามท่านอาจารย์อุบล ท่านชี้ทางเรื่อง ศีล 5 ปลดล๊อคทันที เพราะเจนนี่ไม่เคยมีศีล คือขาดคุณสมบัติทุกด้าน มันผิดทุกทาง ทั้งกาย ผิดทั้งวาจา ผิดทั้งความคิด

จึงต้องมาสำรวจฟื้นฟูใหม่นี่แหละค่ะ ที่เจนนี่กำลังขัด เกลาตนเองอยู่ในวันนี้ จึงรู้สึกว่า นี่แหละ อาจารย์สอนธรรมะเรา

และเพราะท่านอาจารย์อุบลมีคนเลื่อมใสศรัทธามาก เจนนี่เลยคิดเอาเองว่า เราจะทำหน้าที่ศิษย์ตามกำลังที่ทำได้ก็แล้วกัน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้อยู่ไกล แค่คิดนึกถึง แล้วก็ทำตามแบบที่ท่านอาจารย์อุบลทำให้ได้ก็พอ 

คิดแค่นี้เองค่ะ

ช่วยเผยแผ่ ช่วยคน สงเคราะห์คน ฟรี พิสูจน์กฎของกรรม ขอบารมีท่านอาจารย์อุบลช่วยด้วย..

เจนนี่จึงนำพาคนมาบ้านสวนพีระมิด พาเข้ามา ก็คือคนที่เจนนี่เคยสอนวิชาโหราศาตร์บ้าง ไพ่ยิบซีบ้าง คนที่เคยเรียนพลังจิตบ้าง หรือคนใหม่ที่มาพบตอนเจนนี่เป็นสาขาบ้านสวนพีระมิดแล้วบ้าง มารับรู้ รับธรรมะ มาปฏิบัติตามแนวทางท่านอาจารย์อุบล..(เพราะเคยพาทุกคนเดินหลงทาง เพราะรู้ไม่จริง)

เจนนี่มีกลุ่มไลน์ มีสมาชิกไม่ถึงห้าสิบคนค่ะ เมื่อก่อนเริ่มแรกคือกลุ่มสุดยอดพยากรณ์ จะพูดคุยแต่เรื่องพยากรณ์ แต่เมื่อมาพบท่านอาจารย์อุบล เจนนี่ได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น "ความรักชนะทุกอย่าง"ค่อยๆเริ่มเรื่องศีล จบการพยากรณ์ เน้นเรื่องสารภาพ เรื่องเหตุของกรรม เรื่องดับเหตุ ผลก็ดับ ..จนหลายๆท่านได้ซึมซับแนวทางใหม่ และกล้าหาญที่จะสารภาพบาป จนวันที่เป็นสาขาบ้านสวนพีระมิด และหลายๆท่านได้รับรู้เรื่องวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิดด้วยค่ะ

เจนนี่มาครั้งแรกคือ ค่าย 15 ช่วงเวลานั้น ไม่รู้เรื่องกฏระเบียบของบ้านสวนมากสักเท่าไหร่ค่ะ มาคนเดียว ได้เข้าไปนอนอยู่ที่พีระมิดสีขาว คนที่รู้จักในนั้นคือพี่นิดหน่อย หัวหน้าสาขา 7 นอกนั้นคือคุณก็อต ที่มาจากสกลนคร และพี่ที่มาจากนครพนม สกลนคร หรืออุดร จำชื่อพี่ไม่ได้ค่ะ(ขอโทษพี่นะคะ) พี่เค้ามากับลูกชาย  เจนนี่ขอโทษทุกท่านที่อยู่ในบ้านพีระมิดนั้นด้วยนะคะ ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ กฏ กติกา ต่างๆ การวางตัว ขอโทษทุกท่านจริงๆนะคะ เจนนี่จำได้ไม่หมดในสิ่งที่พวกเราได้คุยกัน  พวกเรามีกิจกรรมร่วมกันคือการแสดงของสาขา พี่นิดหน่อย แล้วให้เจนนี่มาเซิ้ง ด้วย เพราะคุณแม่พี่หน่อยไม่สบาย หรือขาดคน อยู่ 1 ท่านพอดี (พอมาเข้าใจก็เจนนี่เป็นคนอุบลด้วยนั่นไงล่ะ) ก็มีทั้งคุณจรัล ใครต่อใครก็ช่วยกันแต่งตัว ก็รู้สึกกลมเกลียวกันดี ทำผมให้กันบ้าง ช่วยกันแต่งหน้าบ้าง  จนได้รางวัล เป็นเส้นผมของท่านอาจารย์อุบลเป็นรางวัล เจนนี่ก็เอามาวางไว้ใกล้หัวนอน และก่อนนอนก็คุยกัน จนหลับมีความสุข (เจนนี่ไม่รู้จักมโนมยิทธินะค่ะ ไม่เคยใช้คำนี้) เจนนี่รู้สึกว่ามีลำแสงสีขาวส่องมาที่พวกเราที่นอนอยู่(นึกในใจคือท่านอาจารย์อุบลให้เส้นผมมา แล้วบอกว่าใครฝันอะไรแล้วให้มาบอก)  ค่าย 15 คือความทรงจำ ของเจนนี่ที่มีต่อบ้านสวนพีระมิดครั้งแรก ได้ถ่ายรูปกับท่านอาจารย์อุบล มีความสุขมาก..

ข้ามมาค่าย 19 ก่อนค่ะ ก่อนมาบ้านสวนพีระมิด แต่ละครั้ง เจนนี่จะรวบรวมถามทุกๆคนในไลน์ว่าใครจะไปบ้านสวนพีระมิดบ้าง แล้วจะสมัครให้ อยากให้ไปปลดล็อคกรรมด้วย แต่ละครั้งเจนนี่จะนัดคนมาที่ร้าน หรือให้มานอนที่ร้านเลย เพื่อจะได้เดินทางไปพร้อมกันตอนตีสาม ตีสี่ ซึ่งก็จะถึงบ้านสวนประมาณ ตีห้ากว่า หรือหกโมงเช้า (ซึ่งเจนนี่คิดเองค่ะ ว่าจะได้ทำบุญแรงกายช่วงเช้า เจนนี่คิดเองว่ามาแล้วจะต้องได้งาน

อีกอย่างคิดว่าคนอื่นเดินทางข้ามจังหวัด ภาคเหนือบ้าง อีสานบ้าง รอนแรมเดินทางลำบาก แล้วเราจะมาสบายๆ ขับรถชิวๆ มันก็จะสบายเกินไปมั๊ย ฝึกความอดทนก่อนถึงบ้านสวนด้วย คือคนอื่นลำบากกว่าแล้วเราใกล้แค่นี้ และก่อนที่จะได้ ทานอาหารเช้า ฟรี อย่างน้อยแลกกับแรงกาย จึงเป็นสาเหตุเหมือนบังคับคนที่มาด้วย ให้มีวินัย ความพร้อมเพรียง (ต้องขอโทษ ผู้ที่เจนนี่นำพามาด้วยกันทุกคนนะจ๊ะ ที่บังคับเวลาของทุกคนและจิตใจด้วย )

ค่าย 19 ค่ายอภิญญาใหญ่นี้ เจนนี่มาด้วยกัน ทั้งหมด 6 ท่าน ทุกท่านเป็นอิสระทั้งหมดค่ะ แต่หลายคนลำบากตรงที่ว่ามีของอยู่ในรถซึ่งเจนนี่ให้กุญแจรถไว้กับคุณตุ๊ก(รัศมิ์ธกานต์)คนเดียว เพราะฉะนั้นคนที่ไม่มีกุญแจรถก็อาจจะต้องอดทน เพราะไม่สะดวกนการหยิบของ หรือเสื้อผ้า ที่เก็บของต้องรอคนตุ๊ก มาเปิดรถให้(ขอโทษทุกคนที่มาที่ทำให้ไม่สะดวกด้วยนะจ๊ะ)

ในค่ายนี้ เจนนี่อยู่กลุ่มทำงานที่มี คุณน้อย หัวหน้าสาขาอุดรธานี เป็นหัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าเจนนี่คือคุณน้อย นอกนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยกับใครอื่นใด บ่ายวันนั้นเจนนี่ง่วงนอนมาก จะหลับกลางแดดให้ได้ ฐานนี้ทำเกษตร 2 ชั่วโมง มันง่วงนอนแต่เจนนี่ฝืนตัวเองมากด้วยการไปเข็นรถบรรทุกกระถางไปให้เพื่อนๆเพื่อบรรจุดิน ขุดดินใส่กระถาง เข็นรถไปหลับไปจริงๆค่ะ เข็นคนเดียว ที่เข็นคนเดียวจะได้หลับทั้งยืนได้ แล้วอาจารย์พันธ์ช่วยยกกระถางเปล่าใส่รถด้วย เข็นรถนี่เผื่อจะตื่นบ้างแต่ก็หลับตาคาเข็นรถ เข็นอยู่ 2 รอบ จากนั้นขุดดินบ้าง ยกกระถางบ้าง ทำไปหลับไปค่ะ

ยืนหลับได้ทุกวินาทีจริงๆ  จากนั้นก็ถอยมานั่งดูทุกคน งีบหลับการแดดนั่นแหละค่ะ ไม่เข้าร่มเพราะยังอยู่ในช่วงเวลาทำงาน เลยนั่งมันใกล้ๆเพื่อนๆนั่นแหละค่ะ ตื่นมาก็ฉีดผีง่วงออกจากตัว บ่ายวันนั้นหยิบจับอะไรไม่ทะมัดมะแมงเลย ที่ท่านทั้งหลายเห็นนั่งกลางแดดกอดเข่าอยู่นั่นคือหลับค่ะ 

พอช่วงเปลี่ยนเวลา ก็ได้โอกาสเดินมาหาน้ำหน้าองค์พระ เพื่อชุบน้ำเช็ดหน้า แต่ไม่มีน้ำ จึงเห็นคุณภา(ภริยาคุณอมร)นั่งอยู่ จึงเข้าไปหาและบอกคุณภาว่า ช่วยบำบัดให้ด้วยค่ะ ช่วยฉีดผีให้ด้วยค่ะ คุณภาจึงช่วยบำบัดห้หนสองหน ให้ ดีขึ้น

แล้วคุณธนาปั่นจักรยานผ่านมา ก็ทักทายขึ้นมา "นั่งเหมืเจนนี่ไม่เหมือนปอบลงเลยนะ"  (ขอโทษคุณธนาที่จำคำไม่ได้ทั้งหมด อาจผิดพลาดได้)

จากนั้นก็หัวเราะกับคุณภา ขอบคุณคุณภา และก่อนขอตัว กลับไปยกกระถาง ช่วยเพื่อนๆอีกครั้ง และไปขุดดินใกล้ท่านหนึ่งที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ ท่านที่ใส่ชุดทหาร เจนนี่เลยบอกเค้าว่า ที่นี่ไม่ให้สูบบุหรี่นะคะ ให้ดับเลยเดี๋ยวนี้ จากนั้นก็มึนหัวเพราะควันบุหรี่ และความง่วงยังมีอยู่เป็นทุนเดิม

 เจนนี่ไม่มองหาใครนอกจากคุณน้อยค่ะเพราะเป็นหัวหน้ากลุ่มให้คุณน้อยช่วยบำบัดให้ด้วยค่ะ ..คุณน้อยช่วยฉีดผีที่เตือนคนสูบบุหรี่ ผี่ง่วง ผีหลับ และคุณน้อยยังช่วยบำบัดเอาผีที่เคยดูดวงให้ออกจากตัวด้วยค่ะ.. ขอขอบคุณคุณน้อยที่ช่วยเหลือค่ะ

เจนนี่ถามคุณน้อยว่า ขับรถไกล มายังไง ใครขับให้ คุณน้อยขับเองมั๊ยคะ (ที่ถามเพราะเห็นกำลังใจคุณน้อยว่ายิ่งใหญ่ ฟังแล้วเอาเป็นตัวอย่าง  เราเองยังสู้คุณน้อยไม่ได้เลย ขับรถมาจากกรุงเทพ ถึงนครนายก ถามคุณน้อยแล้วเจนนี่ก็ย้อนมองดูตัวเอง เห็นแล้วละอายใจตนเอง ความดียังสู้คุณน้อยไม่ได้เลย)

 คุณน้อยทำงานแข็งขัน เจนนี่ก็มองดูตัวเองทันทีว่า โอ้เรานี่ยังไงจะหลับได้แม้กระทั่งยืน จึงฝืนสู้ยกกระถางขึ้นรถขาวเล็กช่วยหลายๆท่าน ไม่คุยไม่ยิ้มค่ะ เพราะอาการง่วง หลับมันมี ยกเสร็จก็ไปนั่งหลับตรงกลางแดดนั่นแหละค่ะ 

เจนนี่ทำแบบนี้หลายๆรอบ คิดว่าคุณน้อยจะทราบรายละเอียด ของอาการง่วงหลับของเจนนี่บ้างพอสมควรค่ะ

จนเลิกฐานและแยกย้ายกันไปอาบน้ำ พอสดชื่นขึ้นมาค่ะ  และค่ายนี้ตลอดคืน หลับอย่างเดียวค่ะ (ผีอยู่ในตัวเต็มไปหมด)

จนวันที่สองรู้สึกมีความสุข ไม่ง่วง ท่านอาจารย์พาท่องนรก ตกนรกกันทั้งทีมที่มาด้วยกันหมดเลยค่ะ กราบท่านอาจารย์อุบลและคุณธนาที่เมตตานำนรกมาให้สัมผัสกันชัดๆ

เลิกค่ายจะช่วยกันขัดถังอาบน้ำและห้องน้ำกันก่อนกลับ อย่างมีความสุขค่ะ

.........................................................................................................................................

ในค่าย 20 นี้ ตั้งใจมากัน 4 ท่าน เจตนามาเข้าค่าย เพราะศรัทธาจึงมา แต่ไม่สามารถมาได้หนึ่งท่าน คือคุณนิรามัย บุญแก่น เพราะมีปัญหาเรื่องครอบครัว รวมเหลือ 3 ท่านมี เจนนี่ คุณตุ๊ก(รัศมิ์ธกานต์)และคุณวลัยทิพย์(โสภากุล)

เดินทางมาพร้อมกัน คุณตุ๊กขับรถ ส่วนคุณโสภากุลนั่งข้างหลัง(โสภากุลไม่ได้นอน) และเจนนี่คุยเรื่องการมาไม่ได้ของคุณนิรมัย และ ปัญหาของคนในกลุ่มไลน์ ที่ควรช่วยกันใส่ใจ ดูแลกัน ให้ธรรมทานต่อเนื่อง คือมีหลายเรื่อง และที่มาที่ไปหลายอย่าง สรุปว่า คุณโสภากุลเองไม่ได้อ่านไลน์ ไม่ได้อัพเดท มาเป็น เดือน ก็ไม่ทราบข้อมูลทั้งหมด  (เจนนี่เองควรให้คุณโสภากุลนอนพัก แต่กลับพูดคุยกับทั้งคุณตุ๊กและโสภากุลต่อเนื่องจนถึงบ้านสวนพีระมิด) ซึ่งหาข้อสรุปยังไม่ได้

แต่ต้องเริ่มด้วยการทำบุญแรงกายกันแต่เช้า เรื่องต่างๆก็เก็บเอาไว้ก่อนค่ะ จึงเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวความขุ่นข้องหมองใจ หรือความอึดอัดใจยังคงมีอยู่หรือไม่ เช่นเคยคือจะเก็บกวาดใบไม้ ตลอดแนวทั้งด้านหลังวิหารไม้ให้โล่งเรียบ ช่วงเก็บกวาดนั้นเจนนี่แนะนำโสภากุลให้กวาดแบบกองเล็กๆ จะได้ไม่มีฝุ่นคลุ้ง และอยากทำงานให้คุ้มค่าเวลา และเห็นคุณดวงรัตน์ จัดที่วางปุ้งกี๋ อุปกรณ์การขนดิน เจนนี่ก็ชักชวนหลายๆคนไปช่วยกันจัดที่วางอุปกรณ์การขุด จอบเสียม ช่วยกันคนละไม้ละมือ ทำงาน จนถึง 8 โมงกว่าเพื่อแลกอาหารเช้า เช่นเคย เจนนี่ได้ทักทายคุณดวงรัตน์ เพราะชื่นชมเค้าขยันทำงาน(เจนนี่มองตัวเองยังสู้คุณดวงรัตน์ไม่ได้เรื่องความตั้งใจทำงาน) และได้เข้าไปทักพี่นิดหน่อย สาขาอุบลราชธานี ว่า เจนนี่จะหาจังหวะได้พาพ่อแม่ไปบำบัดที่บ้านพีนิดหน่อยด้วย ถ้าจังหวะกลับบ้านที่อุบล.

พอถึงเวลาอาหารเช้าก็ไม่ได้คุยอะไรกับใครค่ะ เจอหน้าจังๆก็ไหว้ หรือทักทาย หรือถ้าได้มองเห็นก็จะใช้การพยักหน้าทำความเคารพแทน เจอคุณธนาก็ไหว้เป็นปกติ และไม่ได้เข้าไปทำความยุ่งยากอื่นใด จนถึงเวลาปฐมนิเทศน์ ค่ายนี่เจนนี่เขียนขอว่า "เวลารับธรรมะจากท่านอาจารย์อุบลขอให้ไม่ง่วงค่ะ" เจนนี่ตื่นตัวอยู่เสมอจริงๆ ไม่ง่วง ไม่หลับ ตั้งใจฟัง

ค่ายนี้ เจนนี่มีหัวหน้าคือ คุณแหล๋น ถางหญ้า ทำรั้ว ทำความสะอาดช่องลม  คนที่เจนนี่ตามคือคุณแหล๋น  (เจนนี่คิดในใจว่า มีอะไรจะช่วยออกความคิดเห็น แต่จะให้คุณแหล๋นคอนเฟริมและตัดสินใจเสมอ)

และคุณแหล๋นทำหน้าที่ผู้นำได้ดีเยี่ยมจริงๆค่ะ คือเจนนี่เสนอแล้วคุณแหล๋นเห็นไม่เหมาะสม ก็จะบอกเมตตาเตือนว่าไม่ใช่ ไม่ควร หรืออันไหนที่เสนอแล้วคุณแหล๋นตัดสินใจด้วยแล้วว่าใช้ได้ หรือโอเค ทำได้ เปลี่ยนฐานตอนนี้ หรือดูเหตุการณ์ไหนก่อน คุณแหล๋นจะตัดสินใจนำพาทุกท่านทำ เจนนี่เป็นผู้ตาม แต่ผิดที่แสดงความคิดเห็น เจนนี่ควรอยู่เงียบๆ แค่ทำๆไป(เจนนี่ขอโทษคุณแหล๋น ที่ก้าวก่ายหน้าที่ และก้าวร้าว ไม่สำรวมระวังต่อเพื่อนผู้ร่วมทีมค่ะ)

วันแรกของการทำความสะอาดอิฐบล๊อก ช่องลม เจนนี่ขออนุญาตคุณแหล๋นไปนำเอาแปรงขัดใหม่ และสก๊อตไบร์ทที่อยู่ในรถเจนนี่ (ที่ซื้อมาใหม่นำมาเพื่อจะล้างห้องน้ำ ก่อนกลับจากค่ายหรือช่วงไหนที่ว่าง ) ช่วงหมดชั่วโมงเปลี่ยนฐาน เจนนี่เอาแปรงและสก๊อตไปรท์กลับมาด้วยค่ะ (เจนนี่ต้องขอโทษท่านผู้ที่เจนนี่คิดว่าแย่งแปรงขัด มันเป็นแปรงขัดอันนี้มั๊ย หรือ ขณะพวกเรากำลังทำงานอยู่แล้วเจนนี่แย่งทันทีในมือคะ ถ้าแย่งทันที เจนนี่ขอโทษจริงๆนะคะ ไม่ตั้งใจเลยค่ะ)

นอกจากคุณแหล๋นแล้ว เจนนี่จะคุยกับน้องปังปอนค่ะ มีคุยเรื่องเรียนของน้องบ้าง เรื่องปังปอนทำงานคล่องแคล่ว ป้าเจนนี่ยังเก่งสู้หนูไม่ได้เลย นี่คือเรื่องที่คุยกับน้องปังปอน

พอหมดชั่วโมงคุณแหล๋นก็จะบอก และเตือนทุกคนว่าต่อไปคืออะไร บางครั้งจะถามเจนนี่ว่ากี่โมงแล้ว (เจนนี่จะคิดเองอีกว่า หน้าที่เราอีกอย่างคือบอกเวลาหัวหน้าด้วย)(เจนนี่ขอโทษคุณแหล๋นและทุกท่านที่คิดเอง เออเอง ต่อไปจะทำงานคือทำงานค่ะ แค่ทำงานไปไม่ต้องทำเกินหน้าที่ค่ะ)

เจนนี่มีความซาบซึ้งใจกับคุณแหล๋นด้วยมากที่มีความช่วยเหลือ เมตตาต่อทุกคนด้วยการพูดคุย แนะนำอย่างดีมาก เจนนี่มีความสุขค่ะ ที่ได้อยู่กับคุณแหล๋น เพราะเป็นหัวหน้าท่านเดียวที่เป็นที่พึ่งพิงใจให้แก่เจนนี่ได้ในค่ายนี้ค่ะ

มีอยู่วันที่สองที่เจนนี่ได้พูดเสียงดังกับน้องไข่ตุ๋นช่วงงานเกษตรในการถางหญ้า คุณแหล๋นก็เมตตาเตือนว่า ต้องคุณกับน้องไข่ตุ๋นดีๆด้วยความเมตตา เจนนี่ก็ขอโทษน้องไข่ตุ๋นในเวลานั้น (และขอโทษทุกท่านด้วยนะคะ ที่เจนนี่พูดกับน้องไข่ตุ๋นเสียงดังค่ะ ขอโทษพ่อแม่น้องไข่ตุ๋นด้วยค่ะ)

ในช่วงฐานกิจกรรมวันที่สองมีคุณอมร ถามเจนนี่ว่า จะส่งใครขึ้นประกวด ร้องคาราโอเกะ (คุณอมรเองอาจไม่ทราบว่าเจนนี่เแค่เป็นสมาชิกในกลุ่ม 6 ไม่มีอำนาจคิดแทนหัวหน้า) เจนนี่ก็เอาเรื่องนี้ไปบอกคุณแหล๋นให้ทราบว่ามีประกวดคาราโอเกะ ส่งพี่ที่มาจากอุดรไปร้องดีมั๊ยคะ เจนนี่เสนอไปเท่านั้นค่ะ) สุดท้ายคุณแหล๋นก็ตัดสินใจทุกอย่างค่ะ (เจนนี่เองขอโทษคุณแหล๋นในส่วนนี้ด้วยนะคะ ที่ก้าวก่ายมากจริงๆค่ะ)

คืนแรก พอเลิกกิจกรรมแล้ว เจนนี่ คุณตุ๊กและคุณโสภากุล จะกางเต้นท์นอนอยู่ข้างล่างเวที คืนนี้เจนนี่คุยกันเรื่องเขียนธรรมทานให้คนในกลุ่มไลน์ค่ะ ช่วงเช้าจะยกเต้นท์ไปวางบนเวทีค่ะ(ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้เกะกะเวทีจริงๆ รู้สึกละอายใจค่ะ)

วันที่สอง เล่นน้ำสงกรานต์ เล่นเกมส์ต่างๆ ลานกิจกรรม สนุกสนานกันทุกๆท่าน หลังเล่นลูกโป่ง เล่นเกมส์ต่างๆเสร็จ เจนนี่ก็กวาดลาน กิจกรรม พร้อมคุณโสภากุลและคุณตุ๊ก เพราะรู้ตัวเองว่าจะต้องนอน ตรงลานนี้ คืนนี้  หลังจากนั้น เจนนี่บอกกับคุณโสภากุลว่าให้เข้าร่วมกิจกรรม ส่งนางสงกรานต์เข้าประกวด แต่ถูกปฏิเสธ เจนนี่จึงขอร้องและถามเหตุผล เมื่อบอกว่าไม่มีชุด และบอกว่ามีแสดงพรุ่งนี้ด้วย ก็ไม่ต้องประกวดก็ได้ และ บอกว่าคุณตุ๊กเคยรับปากแล้วก็ให้คุณตุ๊กขึ้นแสดง เจนนี่ก็เลยขอร้องคุณตุ๊ก และคิดหาว่าจะทำยังไง เพราะคุณตุ๊กเองก็ไม่มั่นใจ แต่สุดท้ายก็ยอมรับเข้าประกวดช่วยเจนนี่

พอเลิกกิจกรรมตอนดึก ถึงเวลาเอาเต้นท์ลงมา เจนนี่ จะให้เอาเต้นท์มาวางที่เดิมแม้รู้สึกว่าชื้นแฉะนิดหน่อย ส่วนโสภากุลด้วยความหวังดี คงไม่อยากให้อยู่ที่เปียกเท่าไหร่ แต่ก็รอเจนนี่ตัดสินใจ แต่เจนนี่พูดกับคุณตุ๊ก(รัศมิ์ธกานต์)ว่า ท่านอาจารย์อุบลให้สามารถนอนในเต้นท์ได้ แม้แต่กางเต้นท์ตลอดแนวไปจนถึงองค์พระ(ความหมายเจนนี่คือ พื้นเป็นดิน เป็นทราย เปียกชื้นก็กางวางลงได้) น่าจะเป็นสาเหตุให้คุณโสภากุลขุ่นใจ และอึดอัดขึ้นมาทันที 

สรุปว่ายกเต้นท์ลงมากางตรงลาน แล้วเจนนี่ขอคุยกันทั้ง สามคน เจนนี่ถามโสภากุลว่า รู้สึกอะไรพูดมาได้เลยนะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ โสภากุลเอง พุดเสียงดัง และเจนนี่บอกให้พูดเบาๆๆ เสียงโสภากุลน่าจะทำให้หลายๆท่านตื่นแน่นอน คือคุณโสภากุลบอกอึดอัด และไม่ชอบที่เจนนี่บังคับและบอกว่าทนไม่ได้แบบนี้ เจนนี่เองมีความปรารถนาให้คุณโสภากุล อดทน เรื่องแค่นี้ แค่ยกเต้นส์ลงมา คือเพราะเค้าคิดว่ามันเปียก เพราะช่วงบ่ายเล่นเกมส์กัน เจนนี่ก็บอกประมาณว่าแค่เล่นการเล่นเกมส์เปียกมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก อาจารย์อุบลยังเคยบอกในช่วงค่าย 19 ว่ากางไปได้ตลอดแนวทางเดินไปโน่นยังได้เลย แล้วทำไมแค่นี้เอง จะนอนตรงที่ชื้นที่นี่ไม่ได้ 

นอกนั้นคือความขุ่นใจกันที่เกิดขึ้นของโสภากุลในระหว่างที่อยู่ที่นี่ หรือจากที่เคยอยู่ในกลุ่มไลน์ของเจนนี่ หรือตอนไหนเจนนี่ไม่ทราบ (คิดอย่างเดียวอยากช่วยโสภากุลให้เข้าใจ และในอดทนก่อน เพราะยังอยู่ในค่าย จะเอาเวลาค่ายไปไม่ได้ แม้ช่วงคุยกันเจนนี่เลือกคุยตอนที่เป็นเวลาส่วนตัวไม่ใช่กิจกรรม)

เจนนี่เองรู้สึกเสียใจที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในกลุ่มของตนเอง (เจนนี่เองก็พิจารณาตัวเองทันที ค่ะ  เป็นเพราะเจนนี่ตึงเกินไปกับคนอื่น จึงทำให้เป็นแบบนี้ และเจนนี่เองสำนึกผิดในการกระทำของตนเองที่มีต่อ กลุ่มของตนด้วย) และโดยเฉพาะ เจนนี่นำความเสียหายมาสู่บ้านสวนพีระมิด เจนนี่เองไม่มีคุณสมบัติของผู้นำกลุ่มและ การเป็นผู้ตามที่ดีเลย

เจนนี่ได้เรียนรู้แล้วว่า จะต้องสำรวจตัวเองใหม่อีกครั้ง ปรับปรุงตัวเอง และเข้ากลุ่ม ช่วยเหลือเกื้อกูล กลมเกลียว รับการแนะนำตักเตือนได้ และเสียลละตนเองเพื่อทุกคน

เจนนี่ขอความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท้อป คุณธนา และทุกๆท่าน โปรดเมตตาชี้แนะนำเจนนี่ ให้มีโอกาสใหม่ ได้ทำตนเองให้เป็นประโยชน์ต่อท่านทุกๆท่าน ต่อบ้านสวนพีระมิด ต่อทุกๆคนในครอบครัว ต่อไป

กราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงค่ะ

 ดิฉัน  ณฐรัญชน์  ปาโมกข์..ขอเเสดงความคิดส่วนตัวซึ่งได้พบเจอเหตุการณ์บางอย่างในการเข้ามาขออาศัยสร้างบุญกุศลใต้ร่มไม้ชายคาท่าน อ.ทั้งสองคุณท้อปเเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์  ดิฉันได้เข้าค่ายทั้งหมดเเค่สามครั่ง..ครั่งเเรกค่าย 17  ครั่งที่สอง ค่าย 18  ครั้งที่สาม ค่าย 20 ได้มีโอกาศเห็นคุณเจนนี่ตอนค่าย 18 ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนไม่คยมีเรื่องบาดหมางอะไรเเต่พฤติกรรมที่คุณเจนนี่เเสดงกับดิฉัน...มันทำให้ดิฉันข้องใจเเต่ก็ไม่ได้เเสดงอะไรกลับ..เพราะที่นี่คือเขตบุญอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่ดิฉันรู้สึกได้....ตอนไปทำบุญเเรงกายค่าย18...เราตักทรายในร่มที่ท่านอ. มีใว้สำหรับเซพตัวเราจะได้ไม่ร้อนไม่เหนื่อยจนเกินไปดิฉันเข้าใจอย่างนี้....เเต่คุณเจนนี่พยายามพูดถึง 3ครั่ง ให้ออกไปตักทรายข้างนอกตรงที่ไกลจากร่ม พูดว่าถ้ามาตักทรายตรงที่ร่มคนมาทำที่หลังก็ลำบากนะซิพูดเพื่อให้ดิฉันเเละลูกศิษย์ของเขาไปตักทรายข้างนอก..เเต่ดิฉันไม่ไป..เพราะคุณเจนนี่ไม่ได้เป็นหัวหน้ากลุ่มดิฉันเเละไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปยืนตากเเดดทั้งที่เค้ากางร่มใว้ให้ตั้งหลายอันเชื่อได้ว่าคนที่มีเมตตากางร่มนั้นเค้าคงไม่ได้กางใว้ให้ทราย...คำพูดที่เหมือนจะดูดีนั้นเเต่ดิฉันกลับสัมผัสไม่ได้ถึงความเมตตาอะไรเลย..เเต่ก็เดินไปช่วยยกบ้างเพราะเราทำงานเป็นกลุ่มดิฉันไม่อยากทำตัวให้มีปัญหาเพระเราตั้งใจมาทำบุญเพื่อปล็ดล๊อคความทุกข์กันคุณเจนนี่ก็เหมือนจะไม่พอใจทั้งที่ลูกศิษย์ของคุณก็ไปช่วยคุณเเล้วเเต่ก็พยายามจะพูดซ้ำซ้ำเพื่อให้ดิฉันทำตาม..เพื่ออะไรค่ะ  เเล้วพอถึงเวลาเย็นจะต้องเก็บล้างทำความสะอาดเครื่องมือดิฉันได้เดินไปหยิบเเปรงมาเตรียมใว้ยืนรอขณที่เค้าฉีดน้ำล้างรถอยู่..คุณเจนนี่เดินมาเเล้วถ้าพูดให้ดูดีหน่อยจะเรียกว่าดึงเเต่ถ้าพูดหยาบหยาบก็คือกระชากไปจากมือดิฉันไม่มีการขอหรือพูดอะไรทั้งสิ้น..ดิฉันงงมากเเละตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยเดินไปที่องค์พระเพื่อตั้งสติเเละก็เดินกลับมาเเต่ไม่ได้เข้าไปรวมกลุ่มอีก..ความรู้สึกขณะนั้นงงมาก ตั้งเเต่เข้ามาดิฉันก็ใหม่เเต่ลูกบ้านสวนทุกคนก็ยิ้มเเย้มเเจ่มใสพูดจาดี..มีเเต่คุณนี่เเหละที่เเสดงกริยาหยาบคายต่อให้ลูศิษย์ของคุณมาเเก้ตัวเเทนยังไงฉันก็ไม่เชื่อไอ้เรื่องที่พร่ำสอนศิลธรรมลูกศิษย์คุณอาจทำจริงเเต่สิ่งที่คุณไม่ได้ทำคือลืมสอนตัวเอง..คุณอย่าพยายามให้ลูกศิษย์คุณออกมาพูดเเละเอ่ยอ้างว่าคุณสอนเรื่องศิลธรรมเลยค่ะ บาปเปล่าเปล่า ในเมื่อสิ่งที่คุณทำมันเป็นการสร้างบาปกรรมกับคนอื่น..มีลูกศิษย์ของคุณที่มาด้วยกันเล่าให้ฟังว่าคุณฝึกกสินใช้กสินดินห้ามเลือดให้ลูกเค้า..คุณเก่งขนาดนี้..เป็นถึงอาจารย์ลูกศิษย์เรียกขานตลอดเเต่ทำไมเอาตัวไม่รอด..คงเป็นเพราะคุณมีนิสัย..ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างสินะค่ะ.........
  คุณเจนี่ความจำคงไม่ดีทำอะไรใว้จึงนึกไม่ออกตอบก็เฉไฉเรื่องที่คนอื่นเขียนดิฉันไม่เข้าใจเพราะไม่ได้เจอด้วยตัวเองเเต่เรื่องที่คุณอ้างว่าเเย่งเเปรงจากมือโดยไม่ตั่งใจคุณโกหก...รึเปล่า..คนคนนึงที่เดินมาถึงกระชากของจากมือคนอื่นในเขตบุญเเล้วทำหน้าตาเฉยเเล้วบอกกับทุกคนว่าไม่ตั้งใจ..คุณต้องรู้อารมณ์ตัวเองด้วยว่าขณะนั้นคุณรู้สึกอย่างไรเเละเรื่องที่ดิฉันเล่าก็ค่าย18..ฐานที่ทำก็ฐานก่อสร้าง..คุณมากับขณะลูกศิษย์ที่ชื่อโอ๋ถ้าจำไม่ผิดมีลูกสองคนคนหนึ่งชื่อรายุสผู้ชายผู้หญิงชื่อฟ้ามาตาคุณเป็นคนตั้งให้....คุณเจนี่ไม่รู้จักมโนมยิทธิเเล้วกสินล่ะค่ะรู้จักไม๊ทำไมคนที่มากับคณะคุณถึงเล่าให้ดิฉันฟังว่าคุณเอากสินดินห้ามเลือดให้ลูกเค้าเค้าบอกท่านอ.ช่วยดิฉันคิดว่าท่านอ.อุบลตอนเเรกก็เงียบอยู่ดีดีมันฉุกคิดอะไรว่าท่านอ.ไม่เคยอวดอ้างเลยย้อนถามกลับว่าอ.ไหนเค้าตอบว่าอ.เจนนี่.....คุณเคยอวดอ้างรึเปล่าค่ะ..ดิฉันบอกตงไม่รู้สึกประทับใจกับคำตอบของคุณเลย....ลูกศิษย์เรียกคุณว่า..อ.พอมาค่ายนี้ลูกศิษย์คุณเรียกหนักกว่าเดิมอีกเป็น..ท่านอ..เมื่อค่ายที่เเล้วก็พูดไปทีเเล้วเรื่องนี้ว่าไม่ได้เป็นครูบาอาจารย์ไม่ควรเรียก...พอมาค่ายนี้ลูกศิษย์คุณก็เรียกเหมือนเดิมมันช่างงงงซะจริงจริง
ให้ตายสิสรุปเเล้วคุณฟังอะไรบ้างค่ะ

ธรรมทานของคุณเจนนี่ไม่ได้ตอบข้อสงสัยที่แต่ละท่านถามไปเลยค่ะ มีแต่แถออกนอกจักรวาล ตอบไม่ตรงคำถาม เอ๊ะ!! หรือว่าถามไม่ตรงคำตอบ...

 มาตอบทั้งที มีแต่น้ำกับผักบุ้ง

น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง

เล่าเรื่องไร้สาระเยอะแยะมากมาย แตไม่ตรงประเด็น ที่คนเขาถามกลับไม่มีคำตอบ

คุณพูดให้ตัวคุณดูดีเเต่ทำให้คนอื่นดูเเย่..ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าคุณไม่สามารถออกความเห็นอะไรได้เลย..ลูกบ้านสวนต้องมีอำนาจที่สุด.ทำให้ทุกคนคิดว่าคุณไม่รู้กติกาที่นี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรวางตัวยังไงดูสับสนไปหมด...ดิฉันมาที่นี่ก็ตัวคนเดียวมาด้วยความทุกข์มากมาย..เเต่ท่านอ.เเละลูกบ้านสวนทุกคนทำให้ดิฉันยิ้มเหงือกบานทั้งวันมีความสุขมาก..เเละคุณมาเพื่อค้นหาอะไรรึเปล่า...ที่เเห่งนี้อาจจะไม่มีสิ่งที่คุณต้องการอยู่ก็เป็นได้...คนเราถ้าเรารู้ว่าเราเลวมากันขนาดนี้เราจะต้องจำสิ่งที่ผิดพลาดเเละยอมรับผิดด้วยสำนึกจริงใจ....ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาด....เเต่ทุกคนยอมรับความผิดพลาดที่ทำเเละเริ่มต้นใหม่โดยยึดท่านอ.อุบลเป็นครูบาอาจารย์ต้นเเบบที่ดีที่สุดสอนเข้าใจง่ายเเละเห็นผลเป็นรูปธรรมที่สุด

"....ที่ไม่มีความยุติธรรม.."

" มันเป็นเกมส์ อะไรคือเกมส์  ไม่ทราบ "

" แล้ว คุณมาบ้านสวนทำไม ? ใครขอร้องให้คุณมา "

 ---------------------------------------------------------------------------------

    แค่คำถามหลักยังตอบไม่ได้ แล้วยัง

   เพิ่ม โยนปัญหาให้คนอื่นอีก

   ภาวะผู้นำที่จะแสดงความจริง รับผิดชอบ อยู่ตรงใหน 

ไม่ว่าคุณเจนนี่จะใช้ชื่อสาวก (คุณตุ๊ก) มาตอบคำถาม

หรือ ตอบเอง  ก็ไม่เห็นจะตอบตรงคำถามเลยนะคะ

หรือพวกเราถามไม่ตรงคำตอบคุณเจนนี่เองคะ 5555

เนื้อหาที่ตอบ  ก็เนื้อความเดิมๆ

คือ ไม่มีสาระ มีเเต่สรรเสริญเยินยอตัวคุณเจนนี่

ซึ่งสิ่งที่เขียนนั้นมันสตอรเบอรี่ตรงข้ามกับการกระทำที่คุณเจนนี่ทำเเบบสุดๆ

เหมือนพวก "ปากอย่าง ใจอย่างเลยค่ะ" อิๆๆ  

***********************************

ขอยกข้อความ คุณรัศมิ์ธกานต์  วุฒิธรรมมี (คุณตุ๊ก)

อาจารย์เจนนี่ไม่พูดว่าสิ่งที่อาจารย์เจนนี่พูดเป็นคำของอาจารย์เจนนี่ แต่เป็นสิ่งที่ได้รับจากท่านอาจารย์อุบลสอน เป็นสิ่งที่หนูยังเอาอาจารย์เจนนี่เป็นตัวอย่างของการยกย่องครูบาอาจารย์  ที่หนูสัมผัสได้คือ อาจารย์เจนนี่รักและยกย่องท่านอาจารย์อุบลมาก 

ตอนค่าย 15 ได้นอนอยู่พีระมิดเดียวกันและนอนข้างๆคุณเจนนี่ เธอบอกว่า พึ่งมาเป็นครั้งแรกมีความศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลมาก แต่แปลกตรงที่เธอถามว่า เห็นหลายๆคนห้อยวัตถุมงคลเต็มคอไปหมด ห้อยไปแล้วได้อะไร จะช่วยอะไรได้บ้าง สักแต่ห้อยหากปฏิบัติไม่ได้ระวังจะนำความเสื่อมเสียมาถึงตัวท่านอาจารย์ ตัวเจนนี่เองไม่เห็นต้องห้อยวัตถุอะไรก็สามารถปฏิบัติเองได้ จนได้มโนยิทธิเอง ......

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ วันที่ตอบ 2014-04-22

คุณเจนนี่ยกย่องครูอาจารย์เเบบไหนคะ  

ถึงได้ปรามาสจี้วัตถุมงคล  ซึ่งก็คือ การปรามาสท่านอ.อุบล ท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมหาอนันตจักรวาล

จี้วัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิดเป็นตัวเเทนท่านอ.อุบล

เป็นเสมือนเครื่องรับพลังงานความรักที่ท่านอ.อุบลที่ส่งมาช่วยพวกเราที่สวมใส่  และทำให้เราสามารถนำบารมีท่านอ.อุบลไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกที่

ในเมื่อคุณเจนนี่คิดว่าการห้อยวัตถุมงคลบ้านสวนไม่เกิดประโยชน์  คุณเจนนี่ช่วยตนเองได้  

อ้าว!! เเล้วคุณมาพึ่งท่านอ.อุบลทำไมคะ  มาขอเป็นสาขา  

เชียรเเกมบังคับ ให้สาวกบูชาวัตถุมงคลครั้งละมากๆๆทำไม

ตอนที่คุณขึ้นไปเเสดงบนเวที  ไปพูดโฆษณาร้านค้านเอง  

และสาธิตการบำบัดผู้คนดิฉันก็ไม่เห็นจะได้ยินคุณกล่าวถึง กล่าวขอบคุณท่านอ.อุบลผู้เป็นต้นกำเนิดพลังงาน ที่ทำให้ผู้มาบำบัดพ้นทุกข์  จี้วัตถุมงคลบ้านสวนคุณก็ไม่ใส่  เมื่อถามเหตุผลที่ไม่ใส่จี้วัตถุมงคลบ้านสวนคุณก็นิ่งไม่ตอบ 

############

ซึ่งดิฉันและครอบครัว ได้ยินคุณเจนนี่และกลุ่มทะเลากัน

เหมือนจะเถียงกัน แต่เถียงแบบไม่ดังมาก
แต่ก็ได้ยินคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า 
ทำไม้ต้องบังคับหนู หนูทนไม่ไหวแล้วนะ 
อะไรประมาณนี้
และคุณเจนนี่ก็พูดออกมา ว่า ต้องทน
นี่มันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง 
มาที่นี่หาความยุติธรรมไม่ได้

***********

ข้อความจากคุณ มยุรฉัตร สุดจิตต์

ค่าย 20  ช่วงเล่นน้ำสงกรานต์  พี่น้องเราต่างเล่นสาดน้ำอภิญญาใหญ่ใส่กันด้วยความสุข สนุกสนานมีรอยยิ้ม หัวเราะ 

เเต่คุณเจนนี่ หน้าตาดูไม่มีความสุข

สาดน้ำใส่เเต่ละคน ก็สาดเหมือนต้องการให้เค้าเจ็บ

มิ้มโดนคุณเจนนี่สาดน้ำทั้งกระเเป๋งมาที่หลังอย่างเเรง  

ตอนกำลังเต้นเล่นน้ำกับพี่น้อง รู้สึกเหมือนมีอะไรฟาดที่หลัง  

และพี่น้องหลายคนก็โดนคุณเจนนี่ฉีดน้ำใส่หน้าอย่างเเรง

จนเเสบตา หูอื้อ

หลังจากโดนคุณเจนนี่สาดน้ำใส่มิ้มมีอาการปวดขามาก

ถามพี่น้องคนอื่นที่โดนคุณเจนนี่ฉีดน้ำใส่ก็มีอาการปวดขาเช่นกันค่ะ

เเต่พวกเราไม่กลัวหรอกค่ะ  เพราะนี่คือ น้ำอภิญญาใหญ่

คนที่ส่งพลังงานไม่ดีมาที่เรา ก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้

เเต่ต้องรับผลกรรม สิ่งไม่ดี ต้องรับทุกข์เอง 

ฉีดน้ำใส่หน้า หวังทำร้ายหน้า

ผลกรรมก็ทำให้หน้าผู้นั้นไม่สวยเองค่ะ

ขอเล่าเรื่องคุณเจนนี่

ได้ทักทายกันจริงๆจังครั้งแรกในค่าย 19

อยู่กลุ่มฐานบุญแรงกายด้วยกันแปลกม๊ากทุกคน

กลับกันหมดหนูก็รอเก็บตกอยู่ มาพูดบอกว่าจะอยู่เป็น

เพื่อนในระหว่างรอนั่น คุณเจนนี่บอกว่าไม่สบาย

เป็นเหมือนจะอ้วกและเป็นประจำเดือนด้วย

หนูก็ไปบำบัดให้คุณเจนนี่

หลังเข้าค่าย 19 กลับมาถึงบ้านจ.อุดรธานี

ผลปรากฏว่า แขนสองข้างเป็นผื่นแดงและคั่น

จึงได้ใช้น้ำอภิญญาใหญ่บำบัดตัวเอง

ถ้าแขนสองข้างที่เป็นตุ่มคันอยู่นี้เพราะเกิดจาก

ที่ไปพูดคุยกับคุณเจนนี่แล้วผีเกาะใช่หรือไม่

ถ้าใช่ขอให้ผีของคุณเจนนี่มาอนุโมทนาบุญ

ขวดน้ำอภิญญาใหญ่แล้วขึ้นสู่นิพพานด้วยเถิด

ดีขึ้น 95% ทันที

ไปเขียนในห้องสายโลหิตหาย 100%

(ต่อ) เรื่องคุณเจนนี่

ตอนจะเก็บอุปกรณ์ จอบ พลัว เสียม มาล้าง 

คุณเจนนี่พูดว่าอย่างนี้คุณน้อยมีคน...จำชื่อไม่ได้

มาทำบุญบ้านสวนพีระมิดแล้วเหมือนโดนมาร

เรือนยายเรือนแมวเข้าสิง

คุณน้อยไปเป็นเพื่อนเจนนี่หน่อยไปเล่าให้

อ.อุบลฟังว่าเขาโดนเรือนแมวสิง

น้อยก็เลยบอกว่าไม่ว่างจะรีบไปซ้อมการแสดง

ถ้าอยากไปเล่าก็ไปเล่าคนเดียวเลย

เพราะเราฟังจากคำพูด

มันชักแปลกๆๆๆๆ

แต่ตอนนั้นน้อยคิดว่า

ก็ตัวคุณเจนนี่เองนั่นแหละ

ที่เป็นคนโดนผีสิง

ขณะเข้ากลุ่มกับเรามีแต่เรื่องไม่สบาย

เป็นนั่น โน้นนี่ให้บำบัด

...........

เหมือนมีเจตนาร้าย

แทนที่จะรีบโกยบุญ 

(ต่อ) เรื่องคุณเจนนี่

เพราะคนอื่นๆ ถ้าเขาเจตนาดีมาทำบุญ

ก็เห็นเขาปกติกัน เป็นบำบัดแป๊ปเดียวก็หาย

ตอนขนดินกัน

ในขณะยื่นถังจากพระแดน

ตัวเองเป็นผู้หญิงแทนที่จะระวังกลับไปรับถังที่ต่อมือกับ

พระเลยหนูก็ยังคิดว่าไม่รู้เรื่องหรือจงใจทำแบบนั่นกันแน้

แล้วมาค่าย 20 หนูจะไปเอาที่รถไม่รู้เดินมาจากไหน

จะมาคุยกับน้อยที่รถ

น้อยลืมลูกกุญแจรถก็เลยเดินกลับไปที่พีระมิดเพื่อจะ

เอาลูกกุญแจแต่นี่มีพฤติกรรมเดินตามไปถึงพีระมิด

ซึ่งที่จอดรถกับพีระมิดอยู่คนละด้านและไกล

จะตามไปถึงพีระมิดที่เรานอนทำไม

ถ้าต้องการคุยเล่น คุยกับใครก็ได้

ทำไมต้องมีเจตนาเดินไปถึงที่พักของเรา

แล้วไปคุยกับคนที่มากับเรา

แต่เราก็ได้บอกกับทุกคนที่มาด้วย

ถึงพฤติกรรมของ...เจนนี่ว่าเป็นแบบไหน

ว่าเป็นนางมารร้ายเพราะ....

พี่พิชัยเล่าให้ฟังว่าในกลุ่มทำบุญแรงกายก็ไปแย่ง

เครื่องมือทำงานเกษตรกับน้องไข่ตุ๋น

จนคุณแหล๋นเห็นจึงได้ห้ามทัน

ซึ่งผิดนิสัยของคนไปทำบุญในเขตบุญบ้านสวนพีระมิด

เพราะทุกคนก่อนเข้าไปต่างก็จะเข้าไป

ฝึกวินัย ฝึกนิสัย ของตัวเอง

เอานิสัยชั่วๆของตัวเองออก

ฝึกเอาแต่นิสัยดีๆออกไปสู่โลกภายนอก

แต่นี่มีพฤติกรรมไม่ดีแม้กระทั่งกับเด็ก

แล้วยังกล้ามาตั้งตัวเป็นอ.เจนนี่

คนที่เรียกอ.เจนนี่ก็ยังเรียกไปได้

ถ้าคุณเจนนี่แน่จริง

ทำไมไม่ไปตั้งสำนึกเสียเอง

มาอาศัยอ.อุบลทำไม

แล้ววัตถุมงคลของบ้านสวนพีระมิด

ก็ไม่เห็นห้อยสักองค์

พฤติกรรมแบบนี่คือ

มารรู้ไหม

จะบอกให้ถ้าคุณเจนนี่ยังไม่รู้ว่า

ตัวเองเข้ามาบ้านสวนพีระมิดทำไม

คือ เข้ามาเป็นมาร

ถ้าเป็นไปได้อย่าเข้ามาบ้านสวนพีระมิดอีก

ให้ไปตั้งสำนักของตัวเอง

ข้อความจากคุณเบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริวัฒนา  ค่ะ  

เรื่องราวของคุณเจนนี่ยังคงลึกลับซับซ้อน

เพราะสิ่งที่คุณเจนนี่และพวกบอกเล่ามา

ไม่ตรงกับสิ่งที่หลาย ๆ คนรับรู้และเห็นมาเลย

แต่คุณก็แก้ตัวไปได้แบบน้ำขุ่น ๆ

คุณมีพฤติไม่ปกติ

คนที่รัก ศรัทธา เทิดทูนท่านอาจารย์อุบลจริง ๆ

 เขาไม่ทำแบบคุณหลอก

คุณเจนนี่ คุณมาบ้านสวนทำไม

ต้องการอะไรกันแน่ ช่วยมาเฉลย

ให้ตรงประเด็นหน่อย 

ชุดที่คุณใส่แสดงบนเวทีตอนค่าย 20

มันคือตัวตนที่แท้จริงของ.....หรือเปล่านะ

อยากรู้จัง....

 ค่าย 21  

รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย

24 - 25 พฤษภาคม 2557 

เปิดรับสมัครแล้วคร่า  ค่าย 21 รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย  24 - 25 พฤษภาคม 2557  รีบสมัครกันได้แล้วจร้า  

ขณะนี้ บารมีพระศรีอาริย์ลงเต็มแล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2557  และเมื่อวันที่ 21 และ 22 เมษายน 2557 ในงานธรรมะบำบัดสัญจร ที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดสงขลา ท่านอาจารย์อุบลได้อาราธนา บารมีของศาสดาของทุกศาสนามาสถิตย์ในกายวาจาใจของท่านอาจารย์อุบล  ผู้คนจำนวนมากมาย ประมาณ 500 คน ที่เต็มแน่นห้องประชุม  ที่เจ็บป่วยมาก  จำนวนเกือบหมด ต่างพากันหายฉับพลันทันที 100 % เพียงแค่เดินผ่านท่านอาจารย์  และส่วนที่เหลือเล็กน้อย  ก็หายเกือบ 100 %  นี่คือสัญญาณของยุคพระศรีอาริย์  ที่ทุกศาสนาจะรวมกันเป็นหนึ่งคร่า  ..... 

และโชคดีสุด ๆ ของผู้ที่จะได้มารับบารมีพระศรีอาริย์ ในค่าย 21 นี้  ทุกท่านจะได้รับเทวดา ไปคุ้มครองดูแลรักษา จากท่านอาจารย์ อีกคนละ  99,999  พระองค์อีกด้วย  ว้าว ๆ  ว้าว ๆ  สุดยอดจริง ๆ  เลย ค่ะ   รีบสมัครกันได้แล้วคร่า   สมัครก่อนก็ได้รับอานิสงส์ก่อนนะคะ   ทำความดี  รีบทำทันทีเลยจร้า  อย่ารอช้า ......

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 26 เม.ย. 57

 ณ บัดนี้บารมีของพระศรีอาริย์ลงเต็มแล้ว

การไปธรรมะสัญจรภาคใต้ แสดงให้เห็นว่ายังมีผู้คนที่เป็นทุกข์

และต้องการความสุข ความร่ำรวยกันอีกมากมาย

และหากมีความศรัทธาต่อท่าน อ.อุบล และบ้านสวนพีระมิดแล้ว ผู้คนก็หายเจ็บหายจนกันได้ง่ายๆค่ะ

และที่สำคัญความนอบน้อมถ่อมตน 

ข่าวดี ต้อนรับ ค่าย 21

รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย

ผู้ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมค่าย 21 นี้ จะได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบล มอบเทวดาให้ไปคุ้มครองรักษาตัวท่าน ท่านละ 99,999 พระองค์ เพื่อให้ลูกหลานทำหน้าที่สาวกพระศรีอาริย์ ซึ่งเวลานี้ บารมีพระศรีอาริย์ลงเต็มกำลังแล้วค่ะ

โดยธรรมบำบัดสัญจรในแต่ละที่ ผู้คนที่มาร่วมงานต่างได้สัมผัสบารมีของพระศรีอารย์ที่ท่าน อ.อุบล อาราธนาบารมีของพระองค์ท่าน มาสถิตในกาย วาจา ใจ ของท่านอาจารย์อุบล และเพียงผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย ได้เดินผ่านท่าน อ.อุบล ด้วยความเคารพ อ่อนน้อม ต่างก็พากันหายเจ็บ หายป่วยกัน 100% หรือไม่ก็อาการดีขึ้นอย่างชัดเจนทันทีเลยค่ะ

โดยเฉพาะธรรมะบำบัดสัญจรภาคใต้ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้คนมาร่วมงานกันอย่างล้นหลาม จนเก้าอี้นั่งไม่เพียงพอ ต้องเพิ่มเก้าอี้เสริมอีกจำนวนมาก และแต่ละท่านที่มา มีทุกศาสนา ทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม ต่างก็มีความทุกข์ ความเจ็บป่วย ไม่ต่างกัน และทุกศาสนา ทุกท่านที่มา ก็ได้สัมผัสบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเดินผ่านท่าน อ.อุบล ด้วยความเคารพอ่อนน้อม ต่างก็พากันหายเจ็บ หายป่วยกันถ้วนหน้าเลยค่ะ มีความสุขกันทุกศาสนา โดยไม่มีการแบ่งแยกศาสนาอีกต่อไปค่ะ

นี่ใช่ไหมคะ ที่เขาเรียกว่ายุคใหม่ ยุคศิวิไลซ์ ยุคพระศรีอาริย์.....ที่จะไม่มีคนเจ็บ ไม่มีคนป่วย ไม่มีคนจน ไม่มีคนทุกข์ ไม่มีคนขี้เหร่ ไม่มีการแบ่งแยกศาสนากันอีกต่อไปอ่ะค่ะ

บุญใหญ่  บุญเตรียมค่าย 21  

รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย

ท่านอาจารย์ได้มีเมตตาให้ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา  สัปดาห์นี้ และทุกสัปดาห์จนถึงสัปดาห์ก่อนค่าย 21 เป็นงานเตรียมค่าย 21  รับบารมีพระศรีอาริย์   บุญเตรียมค่าย 21 นี้   บุญจะยิ่งใหญ่มากเป็นพิเศษ  เพราะ บารมีพระศรีอาริย์ ลงเต็มแล้ว สถิตย์ในกายวาจาใจ ของท่านอาจารย์ 
และผู้ใดมีความประสงค์จะมาร่วมเตรียมค่าย 21 กัน  ก็ขออนุญาตมาช่วยกันเตรียมค่ายได้เลยจร้า
และท่านใดที่ประสงค์จะนำไม้ดอก ต้นไม้ ที่อายุยืนทน จนถึงค่าย 21 ได้ ก็นำมาได้เลยคร่า  แต่ขอให้เป็นไม้ดอก ต้นไม้ที่สามารถอยู่ทนจนถึงสัปดาห์ค่าย 21 ด้วยจร้า  ทำบุญด้วยดอกไม้สวยงามสะอาด ผิวพรรณก็จะสวย   แต่ตัวเราก็ต้องเป็นคนสะอาดด้วยคร่า  สร้างบุญแล้ว อย่าให้กรรมมาดึงจร้า
และอุบสำหรับชาวค่าย 21 โดยเฉพาะ  จะมีองค์พีระมิดออกในค่าย 21 นี้แน่นอน  โดยในสัปดาห์หน้า ท่านอาจารย์จะได้นำมาให้ผู้ที่มาร่วมเตรียมค่าย ได้ทดสอบพุทธคุณกันล่วงหน้าจร้า  โอ้โฮได้ทั้งบุญใหญ่พิเศษสุด  และได้ทดสอบพุทธคุณ องค์พีระมิดรุ่นล่าสุด  ก่อนค่าย 21 อีก  ว้าว  สูดยอดคร่า .....
และผู้ใดที่มีความประสงค์จะร่วมเป็นเจ้าภาพอาหารให้กับผู้มาร่วมเข้าค่าย ก็แจ้งความประสงค์ที่คุณธนาได้เลยจร้า  หนึ่งบาทก็ร่วมทำบุญได้คร่า  บารมีพระศรีอาริย์ลงเต็มแล้วนะคร้า ...  
การทำความสะอาดตกแต่งองค์พีระมิด  อานิสงส์สูงกว่า การทำความสะอาดพระพุทธรูปด้วยคร่า  เพราะนอกจากจะได้อานิสงส์เรื่องหน้าตา และผิวพรรณแล้ว  การทำความสะอาดองค์พีระมิดยังได้อานิสงส์เรื่อง ปัญญาญาณ ที่มากขึ้นมาอีกด้วยคร่า สูดยอดเจ็ง เจ็ง เลย !!!! 
เคล็ดลับที่เราไม่เคยรู้คะ เวลาเห็นสิ่งใดไม่ดี   รีบทำทันทีให้มันสวยงาม  อย่าให้มันสกปรก  อานิสงส์ที่จะได้คือ  หน้าสวย  ผิวสวย  ปัญญาดีจร้า 

ใครอยากได้บุญใหญ่พิเศษ  มากกว่า บุญค่าย  ก็มาเตรียมค่าย 21  กันได้นะคร้า  มาเตรียมรับบารมีพระศรีอาริย์ กันคร้า

 วันแห่งการรอคอย

สุข สุข สุข ที่ได้รับ

นิพพานบนดิน บรมสุข อย่างถาวร ค๊า

ท่านอาจารย์อุบลและคณะ ได้ไปธรรมะบำบัดหายฉับพลันทันที

ณ โรงพยาบาลโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี 

เจ้าภาพโดยคุณสาวิตรี และคุณแม่สาวิตรี ค่ะ

จังหวัดปัตตานี ไม่มีใครอยากไป กลั๊ว กลัว กลัวตายค่ะ กลัวระเบิดตูม ตาม ค่ะ

ข้อความต่อไปนี้ อ่านทำเสียงดัง ดัง นะค่ะ

ละม่อม ไป๋  คุณสามี ไป๋ ค่ะ 

สุดยอดจริง จริง ค่ะ 

คุณสามีบอกว่า ถ้ารถของคุณสาวิตรี เต็ม จะขับรถไปเอง ค๊า

กลัวอะไร๊! มีท่านอาจารย์อุบลคุ้มครอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดคุ้มครอง

โอ้โห!!! หร๋อยแล้ววว  ๆ สุด สุด แล้ว ค๊ะ

ณ ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

คุณสามี เห็นรายการคุยไปแจกไป  คนไม่เคยดู ไม่เคยเห็น

รีบทานข้าว หน้าจอรายการคุยไปแจกไป ค๊า

และบอกภรรยาว่า  น้อง!!! ไปดู ดู น้องจัด(งาน)ถูกหม้าย?(ถูกมั๊ย?)พรุ่งนี้  555 

คุณสามีเป็นห่วง ภรรยา ค๊า

และไปเห็นเอกสารที่คุณสาวิตรี จัดแจกเอกสารเป็นธรรมทาน 

ถามว่า น้อง  !!! น้องมีมั๊ย ? น้องรีบขอไปถ่าย(เอกสาร) ตอนค่ำนี้น๊ะ

โอ้โห!!!  พลังบุญ ความเมตตาที่ท่านอาจารย์อุบลเมตตามอบให้ค๊า

ตอนที่อยู่บ้าน ให้อ่านก็ไม่อ่าน

ขออนุญาตให้มีชื่อคุณสามี จะแจกเอกสาร 

ก็ว่า อย่ายุ่ง 

อดีต ไม่พูดถึง ปัจจุบัน ศรัทธา เกินล้าน ค๊า

ขณะท่านอาจารย์อุบล บำบัด

คุณสามียกมือ วิ่งไปคนแรก คนแรกค๊า

เพราะรู้ว่า ที่คอ คุณตึง ปวด  ปวดและดังกร๊อกแกร๊ะ กร๊อกแกร๊ะ ค๊า 

ภรรยานั่ง นั่ง กลัวคุณสามีดื้อ ค๊า  

คุณสามี ไม่ดื้อแล้วค๊า ไม่ดื้อถาวร แล้ว ค๊า

555 คุณสามีปลื้มค๊า คุณศรัทธาอย่างแรงค๊า คุณเชื่อค๊า

คุณไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นค๊า 

คุณสามี กราบเท้าท่านอาจารย์อุบลอย่าง งาม งาม ค๊า

และบำบัด หาย หายเกลี้ยง ค๊า

กราบพระบาทขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ค่ะ

ขอบพระคุณ คุณธนา อาจารย์พันธ์+ภรรยาอาจารย์พันธ์ อาจารย์นี  คุณอุ๊ บ้านสวนพีระมิดสาขา อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

คุณสาวิตรี และคุณแม่สาวิตรีค่ะ

ขอบพระคุณธรรมทาน ทุก ๆ ท่าน ที่ได้รับความสุข หายป่วยฉับพลันทันที ได้รู้จักการรักษาศีล 5 และอบายมุข ชัด ชัด ชัด ค๊า

กราบ กราบ กราบ

ละม่อม + คุณกิตติพศ ทองเจือ 

 คุณสามี ตามองเห็นธรรมแล้วค๊า

บนรถตู้ พลังรัศมีท่านอาจารย์อุบล

แผ่เมตตา มาให้ละม่อมและครอบครัว

มีความสุขสันต์ กันทั่วหน้า

นิพพานบนดิน บรมสุขที่ถาวรค๊า

ขอให้ทุกคนที่ คนในครอบครัว ที่ขัดขวาง ให้ตั้งมั่น

เชื่อมั่น อดทน สู้ สู้ ถึงที่สุด

มีท่านอาจารย์อุบล เมตตาสุด สุด ให้พ้นทุกข์

พ้นทุกข์ด้านครอบครัว โดยสิ้นเชิง ค๊า

ความสุข ด้านครอบครัว มีอย่างถาวร ค๊า

เรื่องครอบครัว ขัดขวาง ไม่เชื่อ 

สามี(ผัว ดื้อ สุด สุด ไม่เชื่อ) ค่ะ

ปราบอยู่ เอาอยู่ ค๊า

พลังบุญรวมตัวค๊า

เจ้ากรรมนายเวร 99 ให้ อภ้ัย ค่ะ

บูชาองค์พีระมิด เกิน 99 พระองค์

บูชาจี้ทุกรุ่น 

บูชาแหวน กำไร ตุ้มหู เสื้อ

ขวดอภิญญา

ขวดอภิญญาใหญ่ 6 ขวด ค่ะ

เงินใส่บาตรวิระทะโย ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน ค่ะ

ทุกอย่างสะสมเงินบูชา ค่ะ

ขวดอภิญญาใหญ่ ฉีดหน้าตัวเอง ฉีดเหนือหัวตัวเอง คลุมกายตัวเรา ค่ะ

วิธีใช้

1. ถือขวดอภิญญาใหญ่

2.พูดว่า "อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ผีที่ทำให้สามี ขัดขวาง ไม่เชื่อ ในพีระมิดศักดิ์สิทธิ์ มาอนุโมทนาบุญกับน้ำทิพย์ขวดอภิญญาใหญ่ แล้วขึ้นนิพพานทันที เดี๋ยวนี้ ด้วยเถิด สาธุ"

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ค่ะ

พูดภาวนา  ระลึกถึงท่านอาจารย์อุบล เยอะ เยอะ ม๊าก มาก ค่ะ

กราบพระบาทขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ 

ขอบพระคุณ คุณธนา อาจารย์พันธ์+ภรรยาอาจารย์พันธ์(อาจารย์นี) คุณอุ๊ คุณแม่คุณสาวิตรี คุณสาวิตรี ค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ละม่อม +คุณกิตติพศ ทองเจือ จังหวัดสงขลา ค่ะ

 ทุก ๆ วินาที ที่มีคุณค่า มหาศาล บนรถตู้ ค๊า

คุณสามี พูด รู้เรื่อง รู้ฟัง ว่านอน สอนง่าย ค่ะ

ด้วยพลังบุญจากท่านอาจารย์อุบล ค๊า

จากดื้อ ดัน ไม่ฟัง 

ปราบ ราบ คาบ ค๊า

คุณสามี ครับ ครับ ครับ 

พูดง่าย ๆ เข้าใจง่าย ง่าย 

ด้วยแรงบุญ รวมตัว พลังบุญ รัศมีความเมตตา

ความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลเหนือคำบรรยาย ค๊า

เช่นละม่อม พูดว่า ต่อไปนี้ คุณกิตติพศ ให้ละม่อม วางพีระมิด ไว้หัวนอนได้ มั๊ย ค่ะ?

คุณสามี ตอบว่า " ได้จ๊ะ ได้จ๊ะ" 555

คณะผู้มีบุญอย่างแรงค๊า ที่นั่งบนรถตู้ พี่สาวสามี กับลูกสาว (หัวเร๊าะ หัวเราะ คิก คัก คิก คัก ค๊ะ)

พร้อมด้วยภรรยา หัวเราะ คิก คัก คิก คัก  

คุณสามีเปลี่ยนไปสุด สุด ค่ะ  คุณพ่อลูกสาวเปลี่ยนไปค๊า 

มีวันนี้ได้ เพราะท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด

ขอบพระคุณ คุณอุ๊ บ้านสวนพีระมิด สาขาปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  

คุณอุ๊ แนะนำทุกอย่าง ปรึกษาเรื่องทุกข์ของครอบครัว คุณสามี ไม่เชื่อ

ไม่เชื่อ ค่ะ

อดีตไม่พูดถึง ปัจจุบัน คุณสามีศรัทธาอย่างแร๊ง!!! เกินล้าน สุด สุด ค๊า

กราบพระบาทขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ค่ะ

ขอบพระคุณคุณธนา อาจารย์พันธ์ +ภรรยาอาจารย์พันธ์ (อาจารย์นี)  คุณอุ๊ ค่ะ

ธรรมทานทุก ๆ ธรรมทาน ทุก ๆ ท่าน ที่มีความกตัญญูรู้คุณ ต่อท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ค่ะ

กราบ กราบ กราบ 

ละม่อม + คุณกิตติพศ  ทองเจือ

ุ

     ถือว่าเป็นโอกาสดีที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งเลยนะครับ ที่จะได้มีโอกาสได้ทำบุญที่ยิ่งใหญ่ และยังได้มีโอกาสรับบารมีพระศรีอาริย์ ซึ่งถือว่าเป็นมิ่งมงคลที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งเลยทีเดียว และในค่าย21นี้ ท่าน อ.อุบล ก็จะเมตตราประทานเทวดาจำนวน 99,999 พระองค์ ให้กับคนที่ได้เข้าร่วมค่ายด้วย ซึ่งหาที่ไหนในโลกนี้ไม่มีอีกแล้ว ครับ และการที่ท่าน อ.อุบล ได้ประทาน เทวดามาช่วยดูแล และรักษาทุกๆคนนั้นผมขอมายืนยันอีกเสียงว่า มีผลจริงๆ ทำให้รอดพ้นจากอันตรายต่างๆได้จริงๆ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันนี้ หลังจากทำน้ำทิพย์เสร็จ และท่าน อ.อุบล ก็ได้ประทานเทวดาให้คุ้มครองพวกเรา และช่วยเหลือพวกเราคนละ 9,999 พระองค์นั้น จากนั้นผมได้เดินไปเก็บของบริเวณกระท่อม ซึ่งอยู่ใกล้กับต้นขนุน ซึ่งเมื่อเก็บเสร็จแล้วกำลังจะเดินถือกระเป๋ามาที่รถ ก็เหลือบไปเห็นหมวกที่ตนเองใช้ในการทำงาน จึงหยิบหมวก และจะนำไปคืนไว้ที่เดิม แต่เหมือนสิ่งศักสิทธิ์ดลใจ ให้คิดว่าแดดมันร้อน ต้องใส่ไว้สิ ก็เลยนำมาใส่ไว้ที่หัว ซึ่งปกติเวลาจะเก็บหมวกก็จะถือเดินเอาไปเก็บ ไม่เอามาสวมที่หัวเหมือนครั้งนี้ แต่ครั้งนี้ผมกลับเอามาสวมที่หัว และถือกระเป๋าเดินออกมาซึ่งในวินาทีนั้น ลูกขนุนที่สุกคาต้น และลูกใหญ่ ได้ตกลงมาตรงหน้าพอดี ซึ่งตอนนั้นตกใจและใจหายมาก เพราะว่าถ้าเกิดเราเดินเร็วอีกนิดเดียว รับรองหัวแบะแน่นอน ถ้าไม่ติดตรงเวลาสวมหมวก รับรองหัวเละไปแล้วครับ เพราะลูกขนุนลูกนี้ใหญ่พอสมควร และตกลงมาจนแตกกระจายอยู่ตรงนั้นเลย เลยคิดว่าการรอดตาย หัวไม่ถูกลูกขนุนหล่นใส่ในวันนี้นั้น เกิดจากที่ท่าน อ.อุบล ได้ประทานเทวดามาคุ้มครองและดูแล อย่างแน่นอนครับ กราบขอบพระคุณ ท่าน อ.อุบล และเทวดาที่รักษา อ.อุบลทุกๆพระองค์ และกราบขอบพระคุณเทวดาที่ท่าน อ.อุบล ประทานมาให้ทุกๆพระองค์ที่ได้เมตตราช่วยให้ผมรอดตายแบบหวุดหวิดในครั้งนี้ครับ สาธุ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า เทวดาที่ท่าน อ.อุบลประทานมาให้ท่าน ท่านคอยช่วยเหลือผมจริงๆในหลายๆเรื่อง และก็คอยช่วยเหลือทุกๆคนจริงๆครับ และในค่าย 21 นี้ ท่าน อ.อุบล จะประทาน เทวดาให้กับคนที่ไปค่าย คนะละ 99,999 พระองค์ ซึ่งขอบอกเลยครับ ว่าถ้าใครพลาดแล้ว ต้องเสียใจอย่างแน่นอนครับ

คุณผดุง สุดจิตต์ ไปซื้อขนมที่ร้านค้าที่อยู่ฝั่งเดียวใกล้กับบ้านสวนพีระมิด   คุณมยุรฉัตร ภรรยา ก็มาเล่าว่า เงินในบัญชี หายไป 40,000 บาท  ธนาคารก็บอกว่า เป็นการหักหนี้ที่คุณผดุงยืมมาโดยไม่ได้แจ้งคุณผดุงล่วงหน้า  หักเงินในบัญชี ไป 40,000 บาท เฉยเลย  และมาอีกครั้ง สัปดาห์นี้ ครอบครัวผดุงจิตต์ ก็ไปซื้อขนมมาจากร้านนี้อีก  พอ น้องบิ๊กซัน ลูกชาย กินขนมเข้าไป  ก็มีอาการเครียด จิตตก หน้าบึ้ง ร้องไห้ ผิดปกติมาก น้องบิ๊กซัน บอกว่า ตัวเองมีนิสัยเปลี่ยนไป งอนแม่  รู้สึกว่าแม่ไม่รัก  รู้สึกเหมือนเมื่อเหตุการณ์ที่เคยผูกคอตาย น้องบิ๊กซัน บอกว่า   แมวเรื้อนมาสิง  เพราะ แมวเรื้อนไม่รักพ่อแม่ เกลียดแม่ตัวเอง  แมวเรื้อนพูดว่านินทาแม่ตัวเอง  ไม่รักแม่ตัวเอง และไม่รักแม่สามีด้วย 
และคุณพัฒน์พงศ์ อยู่ดี ๆ ก็มีเงินโอนเข้ามาในบัญชี 15,000 บาท เป็นเงินของยายหึ่ง ยายหึ่งต้องการสั่งซื้อวัตถุมงคลจากคุณพัฒน์พงศ์  ทั้ง ๆ ที่ คุณพัฒน์พงศ์ ไม่ได้เปิดจิตรับ  แต่ คุณพัฒน์พงศ์ ก็มีอาการจิตใจไม่ดี คิดลบ มีปัญหากับแม่  หงุดหงิด  ทั้ง ๆ ที่ ไม่เคยมีอาการแบบนี้เลย และก็ไม่มีคนมาสั่งซื้อวัตถุมงคลเลย  ซึ่งโดยปกติจะมีคนมาสั่งซื้อวัตถุมงคลจากคุณพัฒน์พงศ์อยู่ตลอด    และเมื่อคุณพัฒน์พงศ์  ส่งเงินกลับไปให้ยายหึ่ง  จิตใจก็ดีขึ้นทันที    และก็มีคนโทรเข้ามาสั่งซื้อวัตถุมงคลทันทีเลย
แค่ไปซื้อของซื้อขนมจากร้านค้า  แค่เงินคนอื่นมาอยู่ในบัญชี
ชีวิตก็ซวย ก็วิบัติได้ จริง ๆ คร่า ต่อไปนี้ เราก็ต้องสังเกตอยู่ตลอดเวลา  เวลาเราไปซื้อของ ไปติดต่อ เกี่ยวข้องกับใคร   แล้วชีวิตของเราเป็นอย่างไรนะคร้า ...... 
การคบคนชั่วเป็นมิตร เป็นอบายมุข  นำพาชีวิตไปสู่ความฉิบหายคะ 

สำหรับ การคบคนชั่วเป็นมิตร ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ
โดยที่เรารู้ หรือไม่รู้ ว่าเค้าเป็นคนชั่ว
ก็มีผลทำให้ชีวิตเราตกต่ำย่ำแย่ได้ค่ะ

ตัว ดิฉันเองกับครอบครัว
ได้ประสบพบเจอประสบการณ์นี้แบบสดๆ ร้อนค่ะ
สามีได้ไปซื้อขนมให้ลูก ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งใกล้ ๆ
เขตบ้านสวนพีระมิด ครั้งแรกเมื่อตอนมาเข้าค่าย 19
หลังจากกลับจากการเข้าค่าย
จู่ๆ เงินก็หายจากบัญชี 40,000 บาท

ครั้ง ที่ 2 คือ เมื่อวาน
สามีได้ไปซื้อขนมแลคตาซอยร้านนี้มาให้ลูก
พอลูกดื่มเข้าไป ลูกชายชื่อน้องบิ๊กซัน
มีอาการผิดปกติทันที (เปลี่ยนเป็นคนละคนนิสัย
คล้ายผู้หญิงขี้อิจฉาริษยาจนเป็นเรื้อนเต็มตัว)
คือ น้องจะมีอาการจิตตก หดหู่
ร้องให้อย่างไร้เหตุผล และจิตใจเศร้าหมองเบลอ ๆ
คิดว่าแม่ไม่รักตัวเอง ใบหน้าบึ้่งตึงตลอดเวลา
และ จะทำอะไร ที่ผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว
ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เช่น หยิบฝรัั่งในถาด มากิน
และวางฝรั่งที่กัดแล้วลงในถาด
ซึ่งมีฝรั่งที่หันไว้ให้หลายๆท่านได้ทานกัน
โชคดีที่มีคนมาเห็นและก็ได้นำฝรั่งดังกล่าวไปเททิ้งค่ะ
(บิ๊กซันบอกว่ามีเสียงสั่งให้บิ๊กซันทำ)
และการกระทำของบิ๊กซันดังกล่าว
ก็เป็นเหตุให้ติดหนี้สงฆ์ค่ะ เพราะต้องเทฝรั่งทิ้งทั้งถาด

ลูกพร้อมครอบครัวขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล
ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป
กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

และ อยากให้เรื่องราวของดิฉันและครอบครัว
ได้เป็นอุทาหรณ์ให้หลายๆ ท่านค่ะ
ให้ระวังตัว อย่างได้เผลอคบคนชั่วเป็นมิตร
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
ไม่วากรณีใดๆ ก็จะไดพบกับความซวยได้ ค่ะ

เชื่อแล้วค่ะ ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไม่ให้คบคนชั่วเป็นมิตร
เป็นอบายมุข เหตุแห่งทุกข์และความฉิบหาย จริงๆ ค่ะ
ต่อไปนี้ลูกจะระวังตัวให้มากขึ้น
ไม่คบคนชั่วเป็นมิตรไม่ว่ากรณีใดๆ ค่ะ

 การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในทุกวันนี้

ทุกคนสามารถแก้ไขได้โดย

การเลิกผิดศีลข้อ 2 หยุดลักทรัพย์ หยุดชอบของฟรี หยุดผิด

หนี้แผ่นดิน ไม่ผิดหนี้สงฆ์ ไม่เลี่ยงภาษี ไม่เอาเปรียบ ไม่

เบียดเบียน ไม่เจ้าเล่ห์ ถ้าเราหยุด การทำผิดศีลข้อ 2 ได้ เราก็

จะสามารถดับสาเหตุของความจนได้ เราก็จะเลิกจนได้

และถ้าทุกคนทำทานได้เป็น ก็จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหา

เศรษฐกิจของประเทศได้จริง ๆ ค่ะ 

การทำทานที่ถูกต้อง ต้องประกอบด้วย 3 อย่าง คือ

1. จิตผู้ให้บริสุทธิ์ ให้เพื่อสละความอยากได้ ให้เพื่อสละความ

โลภ จิตใจไม่เป็นวิตกกังวล

2. วัตถุทานบริสุทธิ์ ของที่เราจะนำไปเป็นทานบริสุทธิ์ เช่น เงิน

บริสุทธิ์ แต่ทุกวันนี้ เรานำเงินที่ไม่บริสุทธิ์ ไปทำบุญ เราก็ไม่เห็น

อานิสงส์ของบุญฉับพลันทันที เพราะเราไปทำงานสาย กลับก่อน

อู้งาน โดดงาน แต่เรารับเงินเดือนเต็ม เงินของเราจึงไม่บริสุทธิ์

เมื่อนำเงินไปทำบุญก็ไม่เห็นอานิสงส์ของการทำบุญฉับพลัน

ทันทีคะ หรือ ใช้แรงกายที่บริสุทธิ์ในการทำบุญคะ

3. เนื้อนาบุญบริสุทธิ์ ที่บ้านสวนพีระมิด ทำบุญถวายแด่องค์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์คะ

 กราบท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ในบ้านสวนพีระมิด

เสาร์-อาทิตย์ที่ 2ึ6-27ที่ผ่านมานี้

เจนนี่ได้มีโอกาสเข้ามาทำบุญแรงกายที่บ้านสวน

มีความมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับชีวิตเจนนี่ที่สุดวันนี้ ชนิดที่มีความสุขล้นใจ สัมผัสได้ถึงพลังแห่งความรัก ความเมตตาอันยิ่งใหญ่ จากท่านอาจารย์อุบล ที่ได้นำมารร้าย  ผีร้ายออกจากตัวเจนนี่

เจนนี่ได้มองเห็นตัวเองว่า เป็นคนเลวร้าย มารยาททรามและถ่อย  เห็นความอยากได้ อยากดี อยากเด่นอยากดัง โกหก ตอแหล พลิกลิ้น และชอบที่จะทำตัวแปลกๆ ไม่เข้ากลุ่ม ฝืน และเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ทำผิดกฏกติกาของบ้านสวน และล่วงละเมิดสิทธิ์ของหลายๆท่านในบ้านสวน โฆษณาอวดอ้างตนเองว่า เก่ง กล้า สามารถ แต่ทำไม่ได้จริง เพราะรู้ไม่จริง.. 

ทุกๆเรื่องที่ทุกคนเมตตาบอกขึ้นมา เป็นกระจกส่องหน้าให้กับเจนนี่ ชี้ให้เห็นจุดชั่วของเจนนี่อย่างจังๆ จริงๆ

เจนนี่ขยะแขยงตัวเองที่บ้าอำนาจบังคนคน สมเภทเวทนาตัวเองที่ไม่มีความรู้แล้วแล้วยังทำเป็นไปสอนผู้อื่น

เจนนี่เห็นตัวเองที่ตอบคำถามยังชักแม่น้ำ เอาความดีให้ตนเอง แล้วโยนความผิดให้ผู้อื่น

 เจนนี่ชั่วอกตัญญุุ มีครูแล้วจะคิดเทียบเท่าครู ลบหลู่ครูตนเอง

แม้แต่เรื่องการแสดงยังตะโกนข้ามหัวครู ใช้คนอื่น ทั้งๆที่ตนเองไม่วางแผนเอง

เจนนี่ซาบซึ้งตื้นตันใจ กับความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดี และกำลังใจ ของทุกคน ที่ช่วยให้เจนนี่มีกำลัง ต่อสู้กับมารที่มาสิงสู่และเกิดจากที่เจนนี่ผิดศีลเอง

เจนนี่กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล ที่เจนนี่บอกว่ารัก แต่ไม่ทำตามคำสอน มาบ้านท่านอาจารย์อุบลแล้ว ยังไม่ฟัง ยังไปเกาะกลุ่ม กับคนที่ตนนำพามา บังคับ ให้เค้าทำตามตนเอง บังคับคนอื่น ตั้งตนเป็นอาจารย์เอง ทั้งๆที่ยังไม่มีภูมิธรรมภูมิรู้อะไร กระจอกงอกง่อยแต่กลับอยากยิ่งใหญ่ 

เจนนี่กราบขอโทษทุกๆคน ที่เจนนี่ไม่ได้มองถึงความรู้สึกของทุกคน  ที่เจนนี่ก้าวร้าว ใช้คำพูดติเตียน ขาดความจริงใจและขาดเมตตาแม้แต่กับเด็ก

เจนนี่ชั่วจริงๆ

เจนนี่สำนึกตัวและขอกลับตัว กลับใจ ทำตัวใหม่  จะขอเป็นลูกบ้านสวนที่น่ารัก ที่รับฟัง ร่วมมือ ยิ้มแย้ม เบิกบาน แจ่มใสแล้วจ้า

หลังจากที่ได้รับการบำบัดจากท่านอาจารย์อุบลแล้ว เจนนี่รู้สึกโล่งใจ มีความสุขที่สุด อยากพูดเพราะๆกับทุกๆคน อยากช่วยเหลืองานทุกคนอยากขยันขันแข็ง ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ให้บ้านสวนค่ะ              

และรักทุกๆคนขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ 

นอกจากนั้นแล้วช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ก่อนทำบุญแรงกาย เจนนี่รู้สึกอยากยิ้ม ให้ทุกๆคน รู้สึกหน้าใสขึ้น แล้วอยากเข้าไปหาทุกๆคน อยากขอโทษ อยากอยู่ใกล้ อยากพูดคุยด้วย

(ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่รู้สึกว่าตัวเอง อึมครึมๆ ยังไงไม่รู้)

เห็นรอยยิ้มจากทุกๆคน มันซาบซึ้งตรึงใจจริงๆค่ะ(นึกว่าฝันไป) แต่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

ขอบอกว่า ที่นี่ บ้านสวนพีระมิด ได้แสดงความเมตตามากๆๆๆๆต่อเจนนี่

ช่วงทำบุญแรงกายในเช้าวันอาทิตย์ เจนนี่มีความกระปรี้กระเปร่า มีความสุขทุกๆฐานกิจกรรม รู้สึกถึงความเป็นครอบครัว ความกลมเกลียว ปรองดอง รักนะ

 รักทุกคนมากๆๆค้า และรักอาจารย์อุบลค่ะ

..........................................................

พอมาถึงบ้าน ครอบครัวเจนนี่ อบอุ่นขึ้นมามากๆๆๆทันที สามีบอกอยากให้ทำกับข้าวให้ อยากให้เจนนี่ทำอาหาร และทานข้าวพร้อมๆกัน พ่อ แม่ ลูก 

รู้สึกว่าเป็นอานิสงส์การรับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลจริงๆ ที่นำมารออกจากตัวเจนนี่ และจากการไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนจ้า

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์

ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท้อป คุณธนาและลูกๆบ้านสวนทุกๆคน

ข่าวดีมาแล้วจ้า

ค่าย21 รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย

วันที่ 24-25 พฤษภาคม 2557

ก็เป็นความเมตตาที่หาประมาณไม่ได้ของท่านอ.อุบลจริงๆค่ะ ที่ได้จัดค่ายที่ยิ่งใหญ่นี้ขึ้นมา ให้ญาติธรรมทั้งหลายได้มีโอกาสมาสร้างบุญใหญ่ ร่วมรับบารมีพระศรีอาริย์ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและเป็นมงคลที่สุดในชีวิตเลยทีเดียวค่ะ ขณะนี้บารมีพระศรีอาริย์ได้ลงเต็มแล้วนะคะ เชิญทุกๆท่านร่วมสัมผัส และรับบารมีรีบสมัครด่วนเลยค่ะ สมัครก่อนอานิสงส์เกิดก่อนนะคะ ผู้ที่ได้มาร่วมกิจกรรมมค่าย21 จะได้รับความเมตตาจากท่านอ.อุบล มอบเทวดาให้ไปคุ้มครองท่านละ99,999พระองค์ค่ะ งานนี้ต้องพลาดไม่ได้แน่ๆจ้า

ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ เทวดาประจำตัวท่านอ.อุบล ท่านอ.อุบลและครอบครัวค่ะ

การมาสร้างบุญในแต่ละครั้งเราต้องมีการเตรียมพร้อม

ทำจิตใจให้บริสุทธิ์  เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม

ที่จะมาบางครั้งเรามาสร้างบุญที่บ้านสวนฯ

 ค่าย 21 

ขอเรียนเชิญ

"รับบารมีพระศรีอาริย์  แค่เดินผ่านก็หาย"

24-25 พ.ค. 57

รวมลูกหลานพระศรีอาริย์

ผู้ต้องการอยู่ในยุคใหม่ ยุคศิวิไลซ์ หรือยุคพระศรีอาริย์

ต้องการเป็นผู้มีความสุข สมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน

และปรารถนาพระนิพพานในชาตินี้

อย่าลืมโอกาสดีมีหนเดียวในชีวิต

 หลังจากเมื่อวานได้โอนเงินบูชา ขวดอภิญญาใหญ่  จำนวน 1 ขวด  

ก็ได้รับจองหนังสือจากลูกค้าทันทีต่อเนื่องถึงวันนี้

กราบขอบพระคุณเสด็จพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว สิ่งศักดิืสิทธิ์ทุกพระองค์ที่เมตตาช่วยลูกค่ะ

*******

อนุโมทนาบุญกับคุณละม่อม ทองเจือด้วยนะค่

ทุกคำในธรรมทานของคุณละม่อมสัมผัสได้ถึงความสุขที่คุณละม่อมกำลังได้รับอย่างล้นหลามตอนนี้

ขออนุญาตแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ในครอบครัววันนี้ค่ะ เมื่อคืน วัน 29 เม.ย. 2557 สามีไม่ชอบใจอย่างแรงที่เห็นเราพาลูกท่องรหัสอ.อุบล ช่วยด้วยขอให้หนูมีสมาธิเรียนหนังสือ อ่านออก เขียนได้ [เลียนแบบน้องฟิน] และใช้ขวดอภิญญาใหญ่ส่งผีขี้โกรธ ผีขี้เกียจเรียนหนังสือที่อยู่ในตัวลูกมาอนุโมทนารับบุญแล้วขึ้นสู่นิพพาน ...

สามีเป็นคนที่ต่อต้านบ้านสวนฯ มากค่ะ วันแรกที่หนูนำพีระมิดเข้าบ้าน วางไว้หัวเตียงนอน สามีไม่นอนเตียงเลย เค้าปูผ้านวมนอนข้างเตียง ยิ่งวันไหนเราบูชาเพิ่มนำพีระมิดไปวางเพิ่มไว้ที่หัวเตียง เค้าก็จะทำเหมือนเดิมค่ะ และทุกครั้งก็จะพูดว่าพอได้แล้วห้ามเอามาเพิ่มอีก ก่อนหน้านี้ดูรายการคุยไปแจกไป หรือเข้าเวปบ้านสวนฯต้องแอบทำ แต่หลังๆ ไม่แอบแล้วค่ะ ทำให้เค้าเห็นเลย แล้วเค้าจะแสดงอาการออกมาให้เห็นเลยค่ะ ว่าไม่พอใจและเดินหนีทุกครั้ง ทนไม่ได้ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อท่าน อ.อุบล หรือบ้านสวนพีระมิด 

ตื่นเช้ามาวันที่ 30 เม.ย. 2557 ส่งลูกไปเรียน summer เสร็จก็แยกย้ายไปทำงาน หน้าตายังแสดงอารมณ์ขุ่นเคืองใจค้างตั้งแต่เมื่อคืน ขณะเริ่มทำงาน 8.48 น. ไลน์จากสามีเข้ามา เปิดดูแล้วอึ้งมากค่ะ เค้าบอกว่า ทนไม่ไหวแล้ว เลิกสอนลูกเรื่องนรก สวรรค์ ควรปล่อยให้เขาเติบโตขึ้นมาอย่างเด็กทั่วไป ไม่ควรยัดเยียดเรื่องบาปบุญคุณโทษ เรื่องบ้านสวนฯ ให้ลูก อยากเชื่ออะไรก็เชื่อและทำไปคนเดียวไม่ต้องเอาลูกไปลงนรกด้วย ....... ระหว่างนั้นมีไลน์เข้ามาตลอดเวลา ก็เลยคิดว่านี่คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ก็เลยลางาน ออกมาจากออฟฟิศตอนประมาณเกือบ 10 โมงเช้า

เราโต้ตอบกันทางไลน์ค่ะ ว่าถ้าเราไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการ คือ ห้ามเรายุ่งเกี่ยวและสอนลูกเรื่องบาปบุญคุณโทษ ห้ามเอ่ยชื่อ อ.อุบล และอะไรที่เกี่ยวข้องกับบ้านสวนฯ อีก ก็เลยไลน์กลับไปบอกเขาว่า ตราบใดที่เป็นแม่ลูกกันอยู่เราก็ยังคงต้องสอน และต้องทำในสิ่งที่มั่นใจว่าถูกต้องสำหรับตัวเองและครอบครัว

คำตอบกลับจากจากเขาคือ " ถ้างั้นไม่มีทางอื่นแล้ว เราคงต้องเลิกกัน" 

เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ

                      การที่ไปสร้างบุญที่บ้านสวนพิระมิด   ในเมื่อเราไปด้วยใจสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นแน่นอนค่ะ   หลังจากค่าย 19  ที่ผ่านมา ( อภิญญาใหญ่ ) ดิฉัน , ลูก,และพี่่สาวได้ไปร่วมเข้าค่ายด้วยกัน  หลังจากที่กลับจากบ้านสวนพิระมิดแล้ว  ดิฉันและพี่สาวก็บูชาวัตถุมงคลเพิ่มเพื่อเป็นการขยายบุญที่ทำ  ใจไม่้ได้คิดอะไรมากมายเพราะเชื่อมั่นในตัวท่านอาจาร์ยอุบลอยู่แล้วค่ะ   สิ่งดี ๆ ก็เกิดขึ้นแบบปฏิหาร์ย                 ตอนที่ดิฉันไปบ้านสวน(ยังว่างงานอยู่ค่ะ )  พอกลับมา    1. ก็มีคนโทรศัพท์ให้ขึ้นไปสัมภาษณ์งานที่กรุงเทพฯ     2.  เพื่อนติดต่อให้ไปทำงานบัญชี   แต่ดิฉันได้ปฏิเสธไปเพราะไม่สะดวก  ใจจริง ๆ อยากทำงานอะไรก็ได้ที่ทำอยู่กับบ้าน  ได้ไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียน  ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรเสียมากมาย  ไม่ต้องมีอาชีพเบียดเบียนชีวิตสัตว์( ขายอาหารตามสั่ง ) จะหยุดไปทำบุญที่บ้านสวนพิระมิดเมื่อไหร่ก็ได้   ดิฉันพยายามตั้งจิตอยู่ตลอดเวลา ใช้รหัสอาจาร์ยอุบลช่วยด้วย   และสุดท้ายดิฉันได้ไปเรียนทำขนมไข่  และฝากส่งตามร้านค้าแล้วค่ะ  ( อาจาร์ยอุบลช่วยด้วย ) ขอให้ขนมของดิฉันขายดีด้วยเถอะ

           และครอบครัวก็มีความสุขขึ้น  รู้จักหันหน้ามาพูดคุยกัน   ลูกชายและลูกสาวก็เป็นเด็กน่ารัก   ไม่ดื้อ  โดยเฉพาะลูกชาย  รู้จักคิดขึ้นเยอะ  เป็นผู้ใหญ่ขึ้น   รู้จักทำงานหารายได้เข้าบ้าน(ช่วงปิดเทอม ) พอเงินเดือนออกรู้จักให้พ่อให้แม่  คนละ 1,000  บาท    สามีก็อารมณ์เย็นลง  ไม่ขี้โมโห    

          ดิฉันก็แนะนำพี่แดงว่าพิระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี  จะช่วยให้ครอบครัวมีความสุข     พี่แดงก็ฝากบูชา ไป 1 องค์ค่ะ และหลังจากบูชาไป  พี่แดงมีความสุขและเล่าว่า  วันนั้นพอได้รับพิระมิดจากจันไป สามีให้เงินตั้ง 10,000  บาท  พี่แดงดีใจมาก  และสามีก็มีอารมณ์เย็นลง ไม่วู่วามและโวยวายเหมือนเมื่อก่อน  ดิฉันก็อนุโมทนา ด้วย  และพี่แดงก็ฝากบูชาพระนางเนเฟอร์ตารี  เพิ่มอีก  1 องค์  ตอนนี้ดิฉันก็โอนเงินสั่งไปให้พี่แดงแล้วค่ะ

           ส่วนพี่สาวหลังจากกลับจากบ้านสวนพิระมิด  และได้บูชาพิระมิดและวัตถุมงคลบ้านสวนเพิ่มไปแล้ว   ลูกสาวของพี่สาว  ก็ได้ไปสอบเข้าทำงานธนาคารและธนาคารก็เรียกตัวเข้าทำงานแล้ว ( แจ้งผลมาเร็วกว่ากำหนด )  และพี่สาวก็โชคดีในด้านลาภลอยค่ะ 

                    และดิฉันก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่าน  ที่ร่วมเข้าค่ายที่ 20  และธรรมทานทุก ๆ ธรรมทาน ด้วยค่ะ

                                 สาธุ     สาธุ      สาธุ

(ต่อ คห 10867)

เมื่อกลับมาถึงบ้านประมาณ 10.00 ก็นั่งพักคิดทบทวนว่าเราจะหาทางออกยังไงดี ฉีดขวดอภิญญาส่งผีที่ทำให้สามีต่อต้าน อ.อุบลและบ้านสวนฯ ที่อยู่ในตัวสามีขึ้นสู่นิพพาน [ฉีดเกือบทุกวันแต่ผี-มาร คงเยอะมาก] สามีก็กลับมาเหมือนกันค่ะ ประมาณ 10.30 น. ถึงบ้านเขาขึ้นบ้านไปเก็บเสื้อผ้า

ไก่ - จะไปไหน

สามี - เราคงต้องเลิกกัน ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว จะกลับไปอยู่บ้านสระบุรี และจะเอาลูกไปด้วยทั้งสองคน ถามเหตุผลว่าเราผิดอะไร ถ้าเหตุผลที่เค้าตอบมาทำให้เรายอมรับได้เราก็จะยอมให้ไป

สามี - พี่รับไม่ได้ที่เราเปลี่ยนไป หลังจากเราศรัทธา อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด เราไม่ไหว้ไม่นับถือพระ แต่กลับไปนับถือศรัทธาอ.อุบล พี่รับพฤติกรรมเราไม่ได้ ไก่ไม่เหมือนเดิม

ไก่ - ขอเวลาอธิบาย และขอให้เปิดใจรับฟังไก่สักนิดก่อนที่จะคิดพรากลูก พรากแม่จากกัน ก่อนหน้านี้ไก่ยอมรับว่าผิดศีลทุกข้อ รวมทั้งอบายมุข 6 ด้วยชีวิตได้รับความทุกข์แสนสาหัสทุกด้าน โรครุมเร้ามากมาย 

- เป็นไมเกรนต้องกินยาแก้ปวดหัว[ไมเกรน] รุนแรง ต้องกินยาสัปดาห์ละ 1 แผง [โบรเฟน 400 /แผงละ 10 เม็ด+ทาฟาก็อต] บางครั้งกินยาไม่หายต้องไปฉีดมอร์ฟีน อาการจึงทุเลา บางครั้งต้องฉีดยาติดต่อกัน กลางคืน 1 เข็ม วันถัดมาอีก 1 เข็ม หลังจากนั้นก็เบลอไปอีก 1 วัน ทรมานมาก

- โรคเครียด อยากลาออกจากงานทุกวัน บ่นเบื่องาน เบื่อลูกน้อง เบื่อเจ้านาย เบื่อสามี รู้สึกไม่สบอารมณ์กับทุกๆ อย่าง

- เป็นโรคปวดหลัง ถ้ายกของหนักจะปวดมาก และหลังจะค่อมลงเหมือนยายแก่ ไม่สามารถยืดหลังให้เดินตัวตรงได้

ไก่ - ก่อนหน้านี้ไก่เป็นโรคที่ว่ามานี้ใช่มั๊ย

สามี - ใช่

ไก่ - ก่อนหน้านี้ไก่เป็นคนขี้เกียจทำงานบ้าน ปล่อยให้บ้านรก ห้องน้ำ ห้องครัวสกปรก ทำกับข้าวไม่เป็น ใช่มั๊ย

สามี - ใช่

ไก่ - แล้วตอนนี้ ไก่หายปวดหัว พี่ไม่ต้องพาไปหาหมอใช่มั๊ย ไก่ไม่บ่นเรื่องจะออกจากงาน หรือบ่นเบื่องานมาตั้งแต่ไปร่วมงานค่าย 18 เป็นต้นมาพี่จำได้มั๊ย ไก่ทำพยายามทำความสะอาดบ้าน ห้องน้ำ ห้องครัว หัดทำกับข้าวให้ลูกกับสามีทานทุกวันใช่มั๊ย

สามี - ใช่

ไก่ - โดยความคิดเห็นส่วนตัว ไก่คิดว่าการรู้จักบ้านสวนฯ ทำตามคำสอนของพระพุทธองค์ และท่านอ.อุบล ไก่เข้าใจว่าทุกอย่างกำลังดีขึ้น แต่พี่บอกว่าสิ่งที่ไก่ทำมันกำลังทำให้พี่รู้สึกแย่ลงจนทนไม่ไหวแล้ว ขอคำอธิบายหรือเหตุผลที่พี่คิดว่าการเปลี่ยนไปของไก่มันทำให้พี่แย่ลง ไก่รับฟังข้อผิดพลาดหรือข้อควรปรับปรุงของตัวเองได้

สามี - ก็ไม่รู้สิ พี่ไม่ชอบให้ไก่มาทำเสียงแข็ง ต่อว่าและ มาว่าพี่เวลาเล่นเกมส์ [สามีติดเกมส์] หรือเล่นกับลูก [ลูกปาลูกบอลใส่หัวพ่อ] แล้วพี่ก็ลืมคิดและไม่สังเกตว่าไก่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น พี่คิดเพียงแต่ว่าไม่ชอบบ้านสวนพีระมิด ไม่ชอบอ.อุบล ไม่อยากรับรู้ทนฟังไม่ได้

ไก่ - ขอโทษที่พูดตวาดพี่ ต่อไปจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว ถ้าพี่ต้องการให้ไก่กลับไปทำตัวเหมือนเดิม แล้วต้องทุกข์ทรมานเหมือนเดิม ไก่คงทำตามไม่ได้ และการที่พี่ทนฟังเรื่องอ.อุบล หรือบ้านสวนพีระมิดไม่ได้ รับไม่ได้กับวิธีการสอนให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ เรื่องนรกสวรรค์ มันทำให้พี่ทุกข์ แล้วพี่คิดว่าการที่เราเลิกกันแล้วพี่พรากลูกพรากแม่จากกัน มันทำให้พี่เป็นสุขหรือเปล่า ชีวิตเราไม่ยั่งยืนไม่รู้วันไหนเราตายจากกัน ทุกๆวันที่เรามีชีวิตอยู่ ควรเลือกทำแต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขทั้งก่อนและหลังความตายไม่ดีกว่าหรือ

สามี - พี่ลืมคิดไป แล้วไก่จะยอมรับคำขอโทษจากพี่ได้มั๊ย ยกโทษให้พี่ได้มั๊ย พี่โกรธ หงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยิน อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด จนไม่มีโอกาสรับรู้ว่าสิ่งเกิดขึ้นกับไก่มันคืออะไร ขอเวลาให้พี่ทำใจเกี่ยวกับเรื่องบ้านสวนฯ สักพักนะ 

และแล้วเหตุการณ์ทุกอย่างก็จบลงแบบ happy ending วันที่ 30 เม.ย. 2557 เวลา 11.30 น. ค่ะ สามียังไม่ศรัทธา อ.อุบล และ บ้านสวนพีระมิด แต่เค้าสัญญาว่าจะไม่ขัดขวางการมาทำบุญ และอนุญาตให้มาเดือนละ 1 ครั้งค่ะ มั่นใจมากค่ะว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เกิดมาจากพลังบุญบ้านสวนฯ และความศรัทธาอันแน่วแน่ของเราค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่เจอปัญหาคล้ายๆกันนะค่ะ ถ้าศรัทธาเราตั้งมั่นไม่สั่นคลอน พลังบุญจะนำพาให้ปัญหาคลี่คลายค่ะ

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ และท่าน อ.อุบล มากค่ะ สาธุ สาธุ ปลื้มสุดๆ 

 หากพิจารณาให้ดี สามีของคุณไก่เขาคงโดน มาร ซาตาน อสูร คุณไสยน์มนต์ดำ หรือไม่ก็ผีๆทั้งหลายที่เกิดจากการผิดศีล 5 ด้วยตัวของเขาเอง ถึงได้ต่อต้านวัตถุมงคลบ้านสวนขนาดนั้น รีบมาเขียนต่อไวๆเน้อ น้ำลายยืดแล้ว 

            *****************************************************

 ซาตาน มาร อสูรตัวนี้ คงจะตัวเป้งน่าดุนะคะคุณไก่ ขนาดทนฟังชื่อของท่านอาจารย์ไม่ได้ คงจะปวดหูมากเลยไม่อยากได้ยินชื่อของท่าน  กลัวเหยื่อจะหลุดจากกรงเล็บของมาร แต่สามีก็ดีขึ้นมากนะคะที่ยังยอมรับฟังคุณไก่อธิบาย จบลงแบบสวยงาม เพราะคุณไก่มีกำลังใจที่เข้มแข็งต่อกร กับมาร ผลออกมาเลย Happy ยินดีด้วยค่ะ

...ปรามาสพระเจ้าอยู่หัว ปรามาสอ.อุบล บำบัดยังไงก็ไม่หาย...

... 
....แค่คิดว่าท่านอ.อุบล คือนารีขี่ม้าขาว ตามพุทธทำนาย

อาการปวดหลัง ดีขึ้นชัดเจนทันทีค่ะ...

วันนี้มีคนมาบำบัดที่บ้านค่ะ เธอมีปัญหาสุขภาพ ปวดหลัง ปวดขา

และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย จิตใจเป็นทุกข์ เหงา เศร้าสร้อย

ว่างงาน และมักทะเลาะกับสามี ไม่ชอบกินข้าวพร้อมกัน

- รักษากับแพทย์และกินยามานานหลายปี ก็ไม่หาย 

- ไปทำบุญที่วัดมาแล้วมากมาย ก็ไม่ดีขึ้น ทั้งยังป่วยมากกว่าเดิม

- และทำทุกอย่างที่คิดว่าชีวิตจะดีขึ้น ไม่ว่าจะดูหมอ

ครอบครู สักยัน ทำพิธีอะไรอีกมากมายตามความเชื่อ แต่ก็ไม่ดีขึ้น

คุณแม่ของเธอได้ดูรายการคุยไปแจกไป แล้วศรัทธาท่านอ.อุบล

จึงบอกให้เธอเลิกกินยา แล้วมาลองใช้ธรรมะบำบัดดู

เธอหาข้อมูล จนมาเจอสาขาใกล้บ้าน แล้วก็ได้มาในวันนี้

เมื่อได้คุยกันก็รู้ว่าสาเหตุของความทุกข์เกิดจากการผิดศีลทั้ง 5

เธอเคยทำแท้งลูกตัวเองถึง 2 ครั้ง เมื่อสัมผัสพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี

อาการปวดขาหายทันที อาการปวดหลังดีขึ้นบ้าง

และคิดออกว่าเคยโดนตะขาบกัด

และชี้ให้แฟนดู ทำให้ต้องฆ่าตะขาบ ซึ่งตัวใหญ่มาก

พอเธอสัมผัสพีระมิดอาการปวดหลังก็ดีขึ้นมาก

และเธอเคยผิดศีลข้อ 3 มีแฟนแล้ว คบคนใหม่ ทำแบบนี้สองครั้ง

รวมมีแฟน 3 คน เธอไม่เคยรู้เลยว่าเป็นการผิดศีล

เพราะคิดว่า ถ้าไม่ได้แต่งงานก็ไม่น่าจะผิดอะไร

แต่ความจริงแล้วการทำแบบนี้คือการทำร้ายจิตใจผู้อื่น

เมื่อได้พูดออกมาอาการที่ปวดหลังก็ดีขึ้น 

และศีลข้ออื่นก็ผิดมาทุกข้อ รวมทั้งอบายมุข6

เธอก็ยอมรับว่าทำ

ทั้งเล่นหวย เล่นไพ่ ดื่มและเที่ยวกลางคืน

เธอเคยทำงานนวดที่ประเทศซาอุ จึงรับมนต์ดำคุณไสยมาด้วย

และยังไปสักยัน เข้าพิธีต่าง ๆ ที่ไม่ใช่หลักของศาสนาพุทธอีกมาก

แม้กระทั่งไปวัดทำบุญ พระยังมัดเชือกผูกข้อมือให้ และขอเบอร์โทรเธอด้วย

เธอจึงรู้สึกศรัทธาลดลง และเคยท้อแท้ในการทำบุญ ทำความดี

เคยคิดว่า ทำดีไม่เห็นได้ดี จากนี้จะทำชั่วดีกว่า

แต่เธอได้ยินเสียงพระพุทธเจ้ามาบอกว่า ทำดีได้ดี

เธอเลยมีกำลังใจลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ผลการมนต์ดำต่าง ๆ ที่เข้ามาในตัวเธอ

เมื่อเธอสัมผัสพีระมิดรุ่นท่านพ่อดตาจินิน อาการปวดหลังจึงดีขึ้นอีก 

จากนั้นจึงให้อมลูกอมอภิญญา

และฉีดน้ำอภิญญาใหญ่ให้ผี อาการดีขึ้นเล็กน้อย

และให้สัมผัสบารมีวัตถุมงคลรุ่นต่าง ๆ ก็ทำให้เธอคิดกรรมออกเรื่อย ๆ 

นอกจากนี้เธอยังติดหนี้แผ่นดิน โดยการฉี่ลงแม่น้ำลำคลอง

ติดหนี้สงฆ์ คือหยิบใบไม้ที่ร่วง ซึ่งเป็นต้นไม้ในวัด นำกลับมาบูชา

และยังถวายน้ำ ถวายของกิน ให้พระพุทธ แล้วนำกลับมากินด้วย

 

และที่สำคัญ เธอ ปรามาสพระเจ้าอยู่หัว

ด้วยการไปดูคลิปแล้วคล้อยตาม คลางแคลงสงสัยว่าพระองค์

จะมีส่วนในการปลงพระชนม์ร.8

แม่เธอเคยบอกว่า อย่าคิดแบบนี้ พระเจ้าอยู่หัวท่านมีบุญมาก

จะได้เป็นพระพุทธเจ้าด้วย เธอก็ยังไม่หายคลางแคลงใจ

วันนี้ได้พูดไปหลายอย่างเธอจึงเข้าใจ และได้กราบขอขมาพระเจ้าอยู่หัว

อาการปวดหลังจึงดีขึ้น

แต่เธอก็ยังไม่หายคลางแคลงใจทั้งหมด ทั้งที่ใจก็รักพระองค์ท่าน

 

และก่อนมาก็ยังไม่ได้เชื่อ และศรัทธาท่านอ.อุบล เต็มร้อย

จึงทำให้รับบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่เต็มร้อย เช่นกัน

แต่พอได้นั่งคุยกันยาวนานถึง 3 ชม. เธอก็เข้าใจมากขึ้น

และก็ค้บพบสาเหตุอีกอย่างที่ทำให้ปวดหลัง คือเธอไม่ทำงานบ้านเลย

สามีทั้งหาเงิน และทำงานบ้านให้เธอทุกอย่าง

พอพูดถึงตรงนี้ อาการปวดหลังดีขึ้นอีก

จึงรู้ว่า การขี้เกียจสันหลังยาว

ไม่ยอมทำหน้าทีภรรยา ทำงานบ้าน

ก็เป็นสาเหตุให้ปวดหลังด้วยเช่นกัน

ทำให้เธอคิดจะเปลี่ยนแปลงตนเอง

รู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง

และเข้าใจสามีมากขึ้น 

ทำให้เธอเข้าใจธรรมะของพระพุทธองค์

หากเราเข้าใจและนำมาปฏิบัติ

สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง

โดยไม่ต้องพึ่งไสยศาสตร์อะไรเลย

คุยมาเรื่อย ๆ จู่ ๆ เธอก็มีความคิดเรื่องนารีขี่ม้าขาวขึ้นมาในหัว

และถามว่า อ.อุบล จะเป็นนารีขี่ม้าขาว รึป่าวนะ

แล้วเธอก็ขนลุก และรู้สึกปิติขึ้นมาทันที

เธอบอกว่าตอนนี้เธอสุข และรู้สึกเต็มข้างในมาก

อาการปวดหลังโล่งขึ้น และเธอก็สามารถก้มตัวลงแตะถึงพื้นได้

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก้มไม่ได้เลย จะเจ็บมาก

กลับบ้านไปด้วยความปิติสุขใจมากค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์

ท่านอ.อุบล ที่เมตตานำธรรมะของพระพุทธองค์

มาช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้ทุก ๆ คนค่ะ

และจะนำพาพวกเรากลับบ้านนิพพานด้วยค่ะ

กราบ กราบ กราบ

 ขออนุโมทนาบุญกับคุณไก่(กัสนีวา)

                                     ที่นำเรื่องของชีวิตจริง

                                            มาเล่า....เป็นธรรมทานค่ะ.....สาธุ

ขวดอภิญญาใหญ่...

ฉีดแล้วไปท่องเที่ยวต่างดาว นรก สวรรค์ได้ค่ะ !!!

มีพี่คนหนึ่งซึ่งเขาติดตามบ้านสวนพีระมิดมาหลายปี

ล่าสุดได้บูชา ขวดอภิญญาใหญ่ไปหลายขวด

และนำไปให้ เพื่อนอีกคนซึ่งศรัทธาท่านอ.อุบลและบ้านสวนเช่นกัน

ผู้ชายคนนี้ หลังจากได้ ขวดอภิญญาใหญ่ไป ก็ได้ฉีดก่อนเข้านอน

หลังจากนั้นเขารู้สึกว่าได้ไป ท่องเที่ยวต่างดาว

ได้รู้วิธีการสร้างบ้าน เหมือนเกิดปัญญาญาณขึ้นมาเอง

และได้ไปสถานที่นึง ซึ่งมีแต่คน ตัวเท่า ๆ กันหมด

และทุกคนหน้าตาดีหมด สวย หล่อ หมดเลย เขาไม่รู้ว่าที่ไหน

แต่คิดว่าอาจจะเป็นยุคพระศรีอาริย์ เพราะ มีแต่คนสวย

ชายคนนี้เคยฝึกมโนมยิทธิมาก่อน แล้วเคยไปท่องนรกสวรรค์

โดยมีครูนำฝึก แต่ต่อมาเขาก็ไม่ได้ฝึกอีกหลายปี

และคิดว่าอาจจะไม่ได้แล้ว เพราะศีลยังไม่บริสุทธิ์พอ

จนมาฉีดน้ำจากขวดอภิญญาใหญ่ 

เขารู้สึกเหมือนได้มโนได้ไปท่องเที่ยวที่ต่าง ๆ

เขาก็มาตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะขวดน้ำรึป่าว

ทำให้ได้มโนมยิทธิอีกครั้ง

และครั้งนี้รู้สึกว่าไปได้แรง ชัดเจนกว่าตอนที่เคยฝึกในอดีตด้วย

อีกวันที่เขาเลยลองไม่ฉีดน้ำ แล้วนอนไปเลย

ปรากฏว่าวันที่ไม่ฉีดน้ำ แกหลับไปเฉย ๆ ไม่ได้ไปท่องที่ไหน

แต่วันไหนที่ฉีดน้ำอภิญญาใหญ่ก่อนนอน

คืนนั้นแกอยากไปไหน ไปได้หมด

ล่าสุดแกไปนรกมา ได้ไปเห็นคนที่อยู่ในนรก

ที่ทำอนันตริยกรรม ทำกับพ่อแม่

แกเล่าว่า คนพวกนี้ โดนหนักมาก ผิวหนังไหม้น่าสงสารมาก

ตอนนี้แกรู้สึกว่า แกไปเหมือนจะเต็มกำลัง

เวลากลับมา จะรู้สึกเหนื่อยมาก  เลยอยากรู้วิธีว่า

ไปแบบไม่เหนื่อย หรือถอนกำลังออกมาหน่อยจะทำยังไง

แต่ตอนนี้มั่นใจมาก ว่าไปท่องเที่ยวได้เพราะ

"ขวดอภิญญาใหญ่"

จริงๆ ค่ะ

อภิญญาใหญ่ ที่ท่านอ.อุบลมอบให้ ช่วยเราได้หลายเรื่องจริง ๆ นะคะ

กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน และท่านอ.อุบล

เทวดาที่รักษาท่านอ.อุบล ทุก ๆ พระองค์ค่ะ

 ขวดอภิญญาใหญ่ส่งผีขึ้นนิพพานได้จริง

 (ต่อค่ะ)  

......วันนี้เป็นวันพระนี่เอง เราถึงได้มีอาการรุนแรงขนาดนี้ พอเข้าที่พักได้ตัวเองก็เป็นไข้ ตัวร้อน หนาวสั่น และได้ตั้งใจอาราธนาบารมีพีระมิดเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ขอส่งวิญญาณผีที่ทำให้ข้าพเจ้ามีอาการไม่สบายนี้ และวิญญาณผู้ประสบภัยจากสึนามิ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ตาม รวมไปถึง สัตว์ทะเล และสัตว์ทุกชนิดที่ผู้คนนำมากินเป็นอาหารได้อนุโมทนาบุญขวดอภิญญาใหญ่แล้วขึ้นนิพพานทันทีด้วยเทอญ 

ตอนที่ส่งไปอาการก็ยังไม่ดีขึ้นค่ะ ตุ้ยเองก็บอกอีกว่า หากยังทำให้คนที่จะส่งขึ้นนิพพานเจ็บป่วยทรมานอยู่อย่างนี้แล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนส่งขึ้นนิพพานได้ เพราะตัวคนส่งเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด ตอนนั้นตัวเองอาการปวดตั้งแต่หัวจรดเท้า เป็นไข้ตัวร้อน หนาวสั่น เพื่อนๆจะให้กินยา แต่ตุ้ยไม่กิน เพราะรู้ว่ากินไปก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เรารู้เหตุอยู่ จึงได้ฉีดน้ำอภิญญาใหญ่ตลอด และพูดไปด้วยว่าหากท่านทั้งหลายได้รับบุญนี้ ขึ้นนิพพานได้จริง ก็ขอให้อาการที่ข้าพเจ้าเป็นทั้งหมดนี้หายในฉับพลันทันทีด้วยเถิด พูดอย่างนี้อยู่หลายเที่ยวจนหลับไปค่ะ

และมารู้สึกตัวอีกทีก็ช่วงใกล้เช้าค่ะ รู้สึกว่าอากาศร้อน  จนเหงื่อแตกเลยค่ะ ทั้งๆ ที่ในห้องเปิดแอร์ แล้วก็ลุกมาเข้าห้องน้ำค่ะ ตอนนั้นรู้เลยว่าเราหายแล้ว อาการเจ็บป่วยทั้งหมดหายเกลี้ยง ผีทั้งหลายเขาขึ้นนิพพานได้จริงๆ ดีใจมากเลยค่ะ รู้สึกเข้าใจหัวอกผีทุกตนที่ทุกข์ทรมานเลยค่ะ ว่าขนาดไหน ดีใจจนนอนต่อไม่หลับเลยค่ะ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนเช้าค่ะ และในวันที่สอง ที่สาม ที่ภูเก็ต หนูก็กลับมาร่างกายแข็งแรงปกติ จนเพื่อนๆ งง ว่าที่ผ่านมาคืออะไรแล้วยาก็ไม่กิน 

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ท่านพ่อดตาจินิน เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ เทวดารักษาท่านอ.อุบลทุกพระองค์ และท่าน อ.อุบล ซึ่งหนูใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้หายเจ็บป่วย ตลอดๆ และท่านก็ช่วยจริงๆ กราบพระบาททุกพระองค์ค่ะ 

สาธุๆๆ  อนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ  เรื่องครอบครัวคุณไก่    ครอบครัวคุณละหม่อม  มีความสุขกันทั่วหน้าค่ะยินดีด้วยกับการมาบ้านสวนที่ชนะคนที่ใกล้ตัวเราที่สุดค่ะ

ส่วนคุณตุ้ยสุดยอดเลย เพราะเขาหาคนที่สามารถส่งบุญให้เข้าขึ้นนิพพานได้เขาจึงมาหาคนถูกแล้วละ  คนแถวบ้านฉันเขายังไม่ได้แม้แต่สพเลยจนถึงวันนี้สึนามิที่ภูเก็ตทำให้เขาเสียลุกชายและไม่เคยเห้นหน้าลุกเขาก็เศร้าใจตลอดป่านนี้ไม่รู้ว่าเขาหายเศร้าใจแล้วหรือยัง

ฟังความคิดเห็นจากทุกคนบ้านสวนพีระมิดท่านอ.อุบลและครอบครัวเมตตากลับคนที่เคยทำชั่ว และพร้อมจะกลับตัวเปลียนแปลงตัวเองเสียใหม่  ฉันจึงมีความคิดเห็นว่าที่บ้านสวนฯ เป็นที่ดัดสันดานฉันได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

กราบพระบาทท่านพ่อดตาจินินและเทวดาที่รักษาตัวท่านอ.อุบลทุกพระองค์  ท่านอ.อุบลและครอบครัวค่ะ  

กราบพระบาทพระพุทธเจ้าค่ะ  

  กราบ กราบ กราบ

คบคนชั่วเป็นมิตร
ดิฉันจะเล่าเรื่องราวความผิดพลาด ของตัวเองจากการที่คบคนชั่วเป็นมิตร
ตอนสมัยฉันเป็นเด็กวัยรุ่น ฉันเคยคบเพื่อนคนหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน พ่อกับแม่เคยห้ามฉัน ไม่ให้ไปมาหาสู่กับผู้หญิงคนนี้ ท่านบอกว่าเธอนิสัยไม่ดี แต่ดิฉันก็รั้น บอกไม่ฟังและฉันก็ทะเลาะกับแม่ท่านก็เลยปล่อยเลยตามเลย   ในเวลากลางคืนมีหนังกลางแปลง งานวัด หรือมีมหรสพที่ไหน เพื่อนคนนี้ก็จะมาชวนฉันไปทุกที่ในท้องถิ่นละแวกนั้น ชีวิตฉันสนุกเพลิดเพลินไปตามเพื่อนทุกอย่าง แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคนนี้ก็ได้ชวนฉันไปวัด เธอบอกว่า ไปเก็บมะม่วงพุทรา ที่วัดมากินกันเถอะเห็นเขาบอกว่าลูกมันดกมากหล่นเต็มพื้นดินเลยฉันก็ได้ไปกับเธอ และฉันก็เคยไปเก็บผลไม้ที่วัดมากินประจำ โดยหารู้ไม่ว่า เป็นบาปอย่างใหญ่หลวง ต่อมา ฉันมารู้ทีหลังว่าเพื่อนของฉันเธอได้ไปพูดคุยสนิทสนมกับพระในวัดเข้าแล้ว ฉันเคยเห็นพระมาหาเธอถึงที่บ้าน ฉันตกใจ เธอไปมาหาสู่กับพระ แล้วในที่สุดพระรูปนี้ก็ได้สึก มาสู่ขอเธอแต่งงาน    ทุกวันพระฉันก็จะไปทำบุญตักบาตรที่วัดเป็นประจำ ฉันเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป คือตัวเองชอบไปมองพระรูปหนึ่งทุกครั้งที่ไปทำบุญ แล้วต่อมาฉันก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อพระรูปนี้สึก มาหาฉันที่บ้านทั้งๆที่ฉันไม่เคยพูดคุยอะไรกับท่านเลย ฉันก็หนีเตลิดเปิดเปิงไม่กล้าสู้หน้าเลย  ด้วยรู้ความผิดของตัวเอง ที่ไปส่งสายตา ทำให้พระสึก เห็นท่าทีฉันไม่คุยด้วยท่านก็เลยกลับไป      เหตุการณ์ตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนบาปอยู่ตลอดเวลาเลย ที่ไปคบเพื่อนชั่วเป็นมิตรโดยไม่รู้ว่าชีวิตตัวเองจะพบกับความทุกข์อยู่เบื้องหน้าขนาดนี้ บาปกรรมที่ฉันได้กระทำมาช่างมหันต์นัก เอาผลไม้ในวัดมากิน หนำซ้ำไปทำบุญก็เคยเอาของวัดมากินมาใช้ที่บ้านด้วย ชอบของฟรี ใครให้อะไรรับหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งของสงฆ์ บวกกับการที่ฉันเคยทำผิดศีลมาทุกข้อ เคยทำแท้งมาด้วย1ครั้ง   ผลกรรม ทำให้ครอบครัวฉันยากจน ครอบครัวมีปัญหาแตกความสามัคคี พี่น้องไม่ปองดรอง ทำมาหากินไม่ขึ้น มีปัญหาในหน้าที่การงาน การเงิน  มีโรคประจำตัว เป็นโรคแพ้ภูมิหนังแข็ง ด่างขาว พังผืดเกิดขึ้นตามอวัยวะส่วนต่างๆ เป็นโรคที่หมอไม่มีทางรักษาให้หายได้ นอกจากกินยาประคับประครองไว้เท่านั้น ฉันต้องกินยาเยอะมากในแต่ละวัน พังผืดเกิดขึ้นในปอด ไอ หอบ หายใจลำบากมาก ทนทุกข์ทรมาน ปวดเมื่อยไปทั่วร่างกาย แขนขาอ่อนแรง ทุกข์ทางกาย ทางใจ สามีทอดทิ้งไม่เหลียวแล ญาติพี่น้องไล่ไปบวชชี ทุกคนรังเกลียด พอชีวิตเป็นทุกข์ก็เห็นธรรมค่ะ     ตอนนั้นฉันไม่คิดอะไรเลย นอกจากคิดถึงพระพุทธเจ้าเท่านั้น  ฉันอ่านหนังสือธรรมะทุกอย่างที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ สวดมนต์เช้าเย็นเป็นประจำ อ่านหนังสือพระไตรปิฎก อ่านคู่มือดับทุกข์ แต่ฉันก็ยังดับทุกข์ไม่ได้อยู่ดี แล้วฉันก็ได้มารู้จักกับบ้านสวนพีระมิดซึ่งเป็นสถานที่แสดงกฎแห่งกรรมตามแบบฉบับของพระพุทธเจ้า เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อพาเพื่อนมนุษย์ไปสู่เป้าหมายสูงสุดคือ พระนิพพาน เป็นการพิสูจน์กฎแห่งกรรมว่าทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับผลก็ดับ โดยมีท่านอ.อุบลเป็นผู้ไต่สวนกรรมและเมตตาบำบัดและชี้ทางดับทุกข์ให้ ฉันมีความสุขมาก ความทุกข์ในใจถูกปล่อยวาง เหมือนได้พบเจอแสงธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วในที่สุด และก็เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์อยู่ที่นี่ด้วย ฉันมีความรัก ศรัทธา และชื่นชอบการสร้างบุญแบบบ้านสวนฯ มาสร้างบุญแรงกายตามที่ท่านอ.อุบลเมตตาชี้ทางให้ อาการต่างๆจากโรคเริ่มหายไป หายใจเต็มปอดได้ปกติ ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมานทางร่างกายหายไปหมดสิ้น แขนขามีเรี่ยวแรงขึ้นมา สุขภาพร่างกายฟื้นฟูแข็งแรงขึ้นเหมือนคนปกติทั่วไป จิตใจก็เบิกบานขึ้น เหมือนได้ชีวิตใหม่และมีความหวังค่ะ 

ลูกกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลค่ะ โดยมีท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จพ่อองค์พระปฐมเป็นที่สุดค่ะ เทวดาประจำตัวท่านอ.อุบล และท่านอ.อุบลและครอบครัวค่ะ ที่ให้ลมหายใจใหม่แก่ลูก และให้โอกาสลูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขตัวเองค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ กราบ กราบ กราบ สาธุ

พระปลอมอาละวาท วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 เวลาประมาณ 13.30 น. ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากพนักงานห้องถ้องถิ่นอำเภอโคกโพธิ์ แจ้งว่า ท่านนายอำเภอต้องการพบดิฉันด่วน มีพระอาจารย์มาจากวัดไหนไม่ทราบมารอขอพบดิฉันอยู่ที่ห้องนายอำเภอ หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ดิฉันก็ยังงงๆ เพราะดิฉันไม่รู้จักพระอาจารย์ที่ไหนนอกจากท่านอาจารย์อุบลแล้วทำไมจะต้องมาขอพบดิฉันที่ห้องทำงานของนายอำเภอ แต่ก็คิดในทางที่ดีว่า ท่านนายอำเภอและพระอาจารย์ที่มารอพบอาจจะสนใจธรรมะที่ท่านอาจารย์อุบลนำมาเผยแพร่ก็เป็นไปได้ เพราะมีผู้คนที่มาร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดสัญจรของอาจารย์อุบลที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์จำนวนมากไปบอกเล่ากันปากต่อปากว่าแค่ได้เดินผ่านอาจารย์อุบลก็หายเจ็บป่วยได้ พอไปถึงบริเวณหน้าห้องนายอำเภอดิฉันเห็นนายอำเภอ คุณนาย(ภรรยา) และข้าราชการหลายคนกำลังสาละวนอยู่กับการจัดฮวงจุ้ย ตามคำแนะนำของพระรูปหนึ่ง ดิฉันได้พูดคุยสอบถามจากเจ้าหน้าที่ อส.หน้าห้องนายอำเภอ ได้ความว่า นายอำเภอนิมนต์พระมาจัดฮวงจุ้ยห้องทำงานใหม่ ด้วยความสงสัยดิฉันจึงถาม เจ้าหน้าที่ อส. ว่า "ทำไมนายอำเภอจัดฮวงจุ้ยห้องทำงานใหม่บ่อยจัง" เจ้าหน้าที่ อส. ส่ายหน้าแล้วพูดพึมพำกับดิฉันว่า "ไม่ว่าจะจัดฮวงจุ้ยยังไงก็ไม่สามารถแก้เคราะห์กรรมได้หรอก" หลังจากที่จัดฮวงจุ้ยเสร็จ คุณนาย (ภรรยานายอำเภอ) เชิญดิฉันเข้าไปในห้องทำงานของนายอำเภอ ดิฉันเห็นพระรูปที่มาจัดฮวงจุ้ยนั่งถือเอกสารธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ดิฉันถ่ายเอกสารแจกเป็นธรรมทานรอดิฉันอยู่ที่โซฟา มีลูกศิษย์พระอาจารย์และข้าราชการเกือบสิบคนนั่งพับเพียบด้วยความเคารพนอบน้อมอยู่กับพื้น ดิฉันเองก็แสดงความเคารพนอบน้อมต่อพระด้วยการคุกเข่าคลานเข้าไปไหว้ทำความเคารพแล้วนั่งลงบริเวณใกล้โซฟาที่พระรูปนั้นนั่งอยู่ ไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลงอะไรพระรูปนั้นก็โยนเอกสารธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำลงบนโต๊ะด้วยความไม่พอใจแล้วสั่งให้ดิฉันหยุดกระทำการแจกเอกสารธรรมะของหลวงพ่อโดยเด็ดขาด ดิฉันถามว่า "ทำไม่ดิฉันจะถ่ายเอกสารธรรมะของหลวงพ่อแจกไม่ได้"  "ฉันเป็นพระมาจากวัดท่าซุง นี่เธอไม่รู้เหรอว่าเอกสารธรรมะหลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นลิขสิทธิ์ของวัดท่าซุง เธอมาทำอย่างนี้ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์" "ธรรมะของหลวงพ่อไม่มีลิขสิทธิ์ หรอกค่ะหลวงพี่ ใครๆ ก็มีสิทธิ์นำมาศึกษาและเผยแพร่ได้ทั้งนั้น" "เป็นถึงข้าราชการ ไม่รู้รึยังไงว่ามีหนังสือจากสำนักพระราชวังออกมาว่าให้เอกสารธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นลิขสิทธิ์ของวัดท่าซุงแต่เพียงผู้เดียว เธอไม่มีสิทธิ์ถ่ายเอกสารแจก ฉันเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อบวชมา 20 ปี ยังไม่เคยนำแม้แต่รูปถ่ายของหลวงพ่อมาถ่ายเอกสารแจกอย่างที่เธอทำ ครั้งนี้ฉันจะตักเตือนเธอก่อน ไม่งั้นเธอจะต้องโดนฟ้าผ่า แล้วไม่ใช่จะโดนแค่ฟ้าผ่าหรอกนะ ไฟจะไหม้บ้านเอาด้วย" "หลวงพี่มีหนังสือจากสำนักพระราชวังมาด้วยมั้ยคะขอโยมดูหน่อย" พอดิฉันถามถึงหนังสือจากสำนักพระราชวังที่ส่งมาถึงวัดท่าซุง หลวงพี่กลับแสดงอาการหงุดหงิดไม่พอใจดิฉันมาก ทำทีเป็นเอ็ดตะโรดิฉันเรื่องอื่น "แล้วนี่ที่เธอเอาเรื่องอภิญญาใหญ่มาถ่ายแจก คนอย่างเธอทำได้บ้างมั้ยสักข้อ ถ้าคนอย่างเธอฝึกได้ครบทุกข้อฉันก็จะยอมให้แจก แล้วนี่ดูเอามาทำเข้าซิเอาธรรมะของหลวงพ่อมาบิดเบือนข้อมูล แฝงไว้ด้วยผลประโยชน์ของตัวเอง" "การแจกเอกสารเรื่องอภิญญาใหญ่ของหลวงพ่อ ก็ไม่จำเป็นว่าผู้แจกจะต้องเป็นผู้ที่สำเร็จอภิญญาใหญ่ทั้ง 11 ข้อ ถึงจะแจกได้ จุดประสงค์การแจกของโยมก็เพื่อให้ผู้อ่านเกิดปัญญา ได้รับรู้ว่าอภิญญาใหญ่มีจริง ทำได้จริง และหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ทำได้ เอกสารที่แจกไปก็เป็นคำสอนของหลวงพ่อที่ไม่มีการบิดเบือนข้อมูลอะไรเลย หลวงพี่จะมาว่าโยมแอบแฝงผลประโยชน์ของตนเองในการแจกธรรมะของหลวงพ่อเรื่องอะไร" "ฉันจะไปรู้เธอเหรอว่าเธอแอบแฝงผลประโยชน์อะไรไว้" "อ้าว ถ้าโยมแอบแฝงผลประโยชน์ของตนเองในการแจกเอกสารธรรมะของหลวงพ่อจริงผู้อ่านก็ต้องรู้ซิคะว่าโยมแอบแฝงประโยชน์อะไรไว้" "ถ้าอยากจะแจกให้เอาของที่วัดท่าซุง มาแจก ไม่ใช่เอาเอกสารที่ถูกบิดเบือนข้อมูลพวกนี้ไปแจก ไปเอาที่ไหนมาแจกกันก็ไม่รู้ ฉันเห็นแจกกันมากเอกสารแบบนี้ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ อย่าให้ฉันเห็นเอกสารพวกนี้ในภาคใต้เป็นอันขาดไปจัดการซะ ตอนที่หลวงพ่อมีชีวิตอยู่หลวงพ่อโดนโจมตีมาเยอะแล้ว ฉันขอเตือนเธอนะ ห้ามเอาเอกสารธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำไปแจกที่ไหนอีก ถ้าฉันเห็นเอกสารพวกนี้อีก ฉันนี่แหละจะจัดการเธอให้หลุดจากตำแหน่งข้าราชการ" "ข้อหาอะไรเหรอคะ" "นี่เธอยังไม่รู้อีกเหรอ ว่าเธอผิดที่ไปละเมิดลิขสิทธิ์วัดท่าซุง พูดแล้วยังไม่ยอมหยุดอีก ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ประเดี๋ยวจะฟาดให้กะบาลแยก" ดิฉันเห็นกิริยาการพูดจาของพระปลอมรูปนี้แล้วไม่เข้าท่า เพราะคนที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้น 1.ต้องเป็นผู้ที่เคารพและศรัทธาในหลวงพ่อ  2.ต้องปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อ(ไม่นอกรีต)และ 3.ต้องเผยแพร่และยินดีที่เห็นผู้อื่นเผยแพร่หลักธรรมคำสอนของหลวงพ่อ ไม่ใช่มาทำกร่างขัดขวางพูดจาข่มขู่บุคคลที่เผยแพร่หลักธรรมคำสอนของหลวงพ่ออย่างที่พระปลอมกำลังคุกคามดิฉัน ดิฉันยังคงยืนกรานกับพระปลอมว่าธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำไม่สงวนลิขสิทธิ์ แสดงเจตนารมณ์ให้พระปลอมรู้ว่า ดิฉันไม่ยอมทำตามที่พระปลอมออกคำสั่งอย่างแน่นอน เป็นเหตุให้พระปลอมโกรธดิฉันมาก ดิฉันเห็นท่าไม่ดีจึงเรียกให้อาจารย์อุบลช่วยด้วย ยังไม่ทันบอกต่อท้ายว่าให้ท่านช่วยเรื่องอะไร

พระปลอมก็หันไปคว้าไม้เท้าฟาดลงกลางศีรษะของดิฉันอย่างแรงต่อหน้าข้าราชการจำนวนมาก เสียงดังพลั๊ว ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องทำงานนายอำเภอตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างนั่งกันเงียบกริบไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ดิฉันซึ่งเป็นผู้ที่ถูกฟาดศีรษะกลับไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย หลังจากถูกพระปลอมใช้ไม้เท้าฟาดกลางศีรษะ ดิฉันจ้องสบตาพระปลอมอย่างไม่เกรงกลัว ในใจก็เรียกให้อาจารย์อุบลช่วยด้วย ยังไม่ทันลุกขึ้นพระปลอมหันมาเห็นดิฉันแขวนวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิดเต็มคอและเห็นว่าวัตถุมงคลที่ดิฉันสวมใส่ไม่ใช่พระก็เกิดโทสะใช้ไม้เท้าฟาดลงกลางศีรษะของดิฉันอย่างแรงเป็นครั้งที่สอง ดิฉันรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานนายอำเภออย่างรวดเร็ว แม้ว่าดิฉันจะโดนพระปลอมใช้ไม้เท้าฟาดลงกลางศีรษะอย่างแรงทั้งสองครั้ง ดิฉันก็ไม่มีความรู้สึกเจ็บบริเวณศีรษะแม้แต่นิดเดียว เอามือจับศีรษะดูก็ไม่ได้ปูดบวม ปรกติดีทุกอย่าง ส่องกระจกดูก็ไม่มีแม้แต่รอยช้ำให้เห็น การที่ดิฉันโดนฟาดที่ศีรษะอย่างรุนแรงซะขนาดนั้นหัวจะต้องแตกเลือดจะต้องไหลอาบหน้าอย่างแน่นอน แต่ด้วยพระเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์คอยปกปักษ์รักษาทำให้ดิฉันแคล้วคลาดปลอดภัยทุกประการ  กราบ กราบ กราบ

 อนุโมทนากับธรรมทานของคุณตุ้ยและคุณสาวิตรีด้วยค่ะ

ธรรมทานสดๆร้อนๆ จากกิจกรรม

“รับธาตุทิพย์ "มโนธาตุ" จากแดนนิพพาน ผ่านเฟสบุ๊ค”  

คืนวันศุกร์ ที่ 2 พฤษภาคม 2557 เวลา 19.30 น.
(ท่านสามารถอ่านรายละเอียดกิจกรรม

และเนื้อหาธรรมทานจากท่านอาจารย์อุบล ที่ได้คัดลอกมาตามลิงค์นี้ค่ะ 

https://www.facebook.com/Baansuanpyramid/photos/a.402845129772673.89761.132865910103931/688302574560259/?type=1&theater)

มโนธาตุ  เป็นธาตุ 1 ใน 6 ธาตุที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ  คือ 
1.ธาตุดิน 2.น้ำ 3.ลม 4.ไฟ 5.อากาศธาตุ(ปราน) 6.วิญญาณธาตุ หรือ มโนธาตุ

(มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฏก โปรดลองศึกษาดูเพิ่มเติมมีฉบับที่ทำให้ง่ายแล้วด้วย ผู้แต่ง วศิน อินทรสระ)  

มโนธาตุ หรือ วิญญาณธาตุ หรือ ธาตุรู้

หรือ ธาตุแห่งการเกิด หรือ ธาตุแห่งปัญญา

การที่คนเรามีความรู้สึกทุกข์ สุข เศร้า เหงา ดีใจ เสียใจ
ตกใจ กลัว กล้า อาย หรือ ไม่อาย สำนึกดี หรือ ชั่ว เกิดจากธาตุนี้ทั้งสิ้น 
คนที่มีธาตุนี้มาก จะเป็นผู้เฉลียวฉลาด มีปัญญา ตัดสินใจไม่ผิดพลาด นำพาชีวิตให้มีความสุข

ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใด ก็ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความเครียด ไม่กังวล

ความรู้สึก ทุกข์ หรือ สุข หรือ ดีใจ เสียใจ เครื่องมือแพทย์ ยังไม่สามารถวัดได้ แต่ตัวของเรารู้ได้ดีที่สุด 

บางคนอาจจะพยายามหัวเราะ ทำร่าเริง ทำกลบเกลื่อนอย่างไร

แต่ถ้าข้างในมันเศร้า มันเหงา มันว้าเหว่เดียวดาย
นี่คือสิ่งที่เราหลอกตัวเองไม่ได้ แต่เราอาจจะหลอกคนอื่นได้

นี่แหละ คือธาตุใจ มโนธาตุ ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ

ขอให้ท่านสำรวจใจของตัวเองดู ก่อนจะรับมโนธาตุ ว่าท่านเป็นคนที่ขาดธาตุนี้หรือไม่

คนที่ขาด จะมีอาการดังต่อไปนี้
1.เครียดง่าย
2.เหงา
3.เศร้า
4.ทุกข์ง่าย
5.โกรธง่าย
6.จิตแว้บ ฟุ้งซ่าน
7.คิดมาก วิตกกังวล
8.คอยคิดลบ คิดแต่เรื่องไม่ดี 
9.คิดทำลายล้างคนอื่น
10.อยากเห็นคนอื่นมีอันเป็นไป
11.นอนไม่หลับ
12.ตกใจง่าย
13.รับรู้เรื่องร้ายๆไม่ได้ ใจสั่น
14.ควบคุมจิตใจไม่ได้
15.ก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย
16.ไม่อาย ในเรื่องสมควรอาย
17.อาย ในเรื่องสมควรกล้าหาญ
18.ขี้เกียจ สกปรก มักง่าย
19.เอาแต่ใจตัวเอง
20.ชอบวางอำนาจเหนือคนอื่น
21.ชอบทำร้ายร่างกาย และ จิตใจคนอื่น
22.ขาดเมตตา 
23.ขาดกระบวนการคิดแบบเหตุผล
24.ขาดการวางแผน วางแผนไม่เป็น
25.กลัวความผิด แต่ชอบทำผิด
26.ไม่กล้าเผชิญความจริง
27.นิยมทำผิด แล้วปกปิดสร้างภาพ
28.ไม่ยอมรับความจริง
29.ขี้อิจฉา คนที่เขาดีกว่าตนเอง
30.ไม่คิดปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น

31.นิยมทำผิดศีล

1. ชอบฆ่าสัตว์ ฆ่าคน ทำร้ายร่างกายคน ร่างกายสัตว์
ทรมานคน ทรมานสัตว์ ให้ได้รับความลำบาก กายใจ

2. ชอบลักขโมย ชอบของฟรี ชอบเอาเปรียบ ชอบจิ๊ก
ขอบแต่เป็นผู้รับ ไม่รู้จักเป็นผู้ให้ 

ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ โดยที่เขาไม่เต็มใจ 
เอาของวัดมากินมาใช้ โดยผิดหนี้สงฆ์
ทำงานไม่เต็มที่ ทั้งมาสาย กลับก่อน ลาบ่อย
อู้งาน เกียจคร้าน นินทาเพื่อนรวมงาน นายจ้าง
คุยโทรศัพท์เวลางาน ฯลฯ แต่รับเงินเต็ม

อยากทำงานน้อย อยากได้ค่าตอบแทนมาก
อยากได้เงินเพิ่ม แต่ไม่เคยขอทำงานเพิ่ม
ผิดหนี้แผ่นดิน

โกหก หลอกลวง ในการได้ทรัพย์มา
ไม่ยึดถือคำสอนของพระพุทธเจ้าในข้อที่ว่า
การได้มา และ การทำอาชีพใด ต้อง

-ยังประโยชน์ให้ตนเอง และ 
-ยังประโยชน์ให้ผู้อื่น

3. บ้ากาม สำส่อนทางเพศ
นิยมชมชื่นในการเสพกาม พูดถึงการเสพกาม
แบบไม่มีความละอายต่อบาป ไม่อายปาก ไม่อายฟ้าดิน

เจ้าชู้ นอกใจ ทั้งทางความคิด การพูดเกี้ยว เขียนเรื่องกาม

และ ทำผิดทางกาย สมสู่กับคนที่ไม่ใช่คู่ครองของตัวเอง 

ประพฤติเยี่ยงสัตว์ คือ สมสู่ไปทั่วมั่วไปหมด ต้องการเสพกามไปเรื่อยๆ กับคนมากหน้า ไม่แค่คู่ครองของตน

4. ชอบโกหก หรือ โกหกจนติด อัตโนมัติ
พูดจาหยาบคาย มึง กู *** สัตว์ ไอ้ อี ฯลฯ
พูดใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นที่เขาดีกว่าตัวเอง

พูดหรือ เขียน หรือ คิด เอาดีใส่ตัว โยนชั่วให้คนอื่น

ชอบนินทาผู้อื่น แต่ไม่เคยสนใจสำรวจตัวเอง

เพ้อเจ้อ ไร้สาระหาแก่นสารไม่ได้

พูดจาโอ้อวด ในสิ่งที่ไม่มีอยู่ในตน

ไม่รับผิดชอบต่อคำพูด คำมั่นสัญญา

ไม่มีสัจจะ

พูดจาให้คนอื่นเสียใจ ทำร้ายจิตใจผู้อื่น
พูดจาไม่ฉะฉาน ไม่มั่นใจ อ้อมแอ้ม เสียงแผ่วเบา

ก้าวร้าว รุนแรง ฯลฯ

 5.ดื่มสุรา ของมึนเมา เครื่องดื่มที่มีแอลกอลฮอลล์ เครื่องดองของเมา

ทั้งดื่มเอง ซื้อให้คนอื่นดื่ม ให้ของขวัญ
ขาย หรือ ส่งเสริมการขาย การผลิต การดื่ม
ซึ่งเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม ไว้ในศีลข้อ 5

6.ผิดอบายมุข ซึ่งพระพุท่ธองค์สอนว่า เป็นเหตุทุกข์แห่งความฉิบหาย คือ

1.ดื่มน้ำเมา 2.เที่ยวกลางคืน 3.ดูการเล่น 4.เล่นการพนัน หวย ไพ่ ฯลฯ 5.เกียจคร้านทำการงาน 
6.คบคนชั่วเป็นมิตร