กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท็อป

ลูกกราบขอขมาที่มีเศษทรายจากบ้านสวนติดมากับเสื้อลูกเมื่อตอนที่ไปบ้านสวนช่วงสงกรานต์ค่ะ วันนี้ลูกเพิ่งเห็น เพราะเอาเสื้อออกมาวางไว้บนที่นอน แล้วก็พับเก็บไว้ สักพักก็เห็นมีทรายตกอยู่บนที่นอน แต่ก็น่าแปลกใจเพราะว่าลูกซักเสื้ออย่างดีแล้ว และกระเป๋าเสื้อก็ลึกด้วย การวางเสื้อก็ไม่น่าจะทำให้มีอะไรซึ่งถ้าอยู่ในกระเป๋าหล่นลงมาได้ ซึ่งลูกคิดว่าเป็นพระเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านได้เตือนลูก และลูกได้เก็บทรายนั้นไว้แล้ว ถ้าไปบ้านสวนอีกเมื่อไหร่ลูกจะนำไปคืนค่ะ

ลูกกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท็อป และกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่ลูกไม่ได้สำรวจให้ดีก่อนที่จะออกจากบ้านสวน จึงทำให้มีทรายติดมาด้วยค่ะ

อนุโมทนากับธรรมทานของคุณชนิดาค่ะ เห็นด้วยกับเรื่องพายุสุริยะทำให้มีอารมณ์แปลปรวน บ่อย พยายามควบคุมตัวเองอยู่ ปกติจะไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า จะชอบดื่มน้ำหวาน

จนตัวบวมแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะลดเลย 555

 อนุโมทนากับธรรมทานจากพี่ชนิดาและทุกๆท่านด้วยนะคะ

อ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นเหมือนกั๊น

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรค่ะ

ขี้เกียจ และอารมณ์แปรปรวน สารพัดอย่าง

ยิ่งช่วงไหนไม่ค่อยได้คอมเม้น

รู้สึกว่ามันทุกข์อย่างไม่มีสาเหตุจริงๆ

จะพยายามปรับตัวไปพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่าง

ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง

จะได้ไม่ต้องมาติดเทอร์โบวิ่งตามหลังคนอื่นค่ะ

เพราะมันจะเพิ่มความเหนื่อยให้เราเป็น 2 เท่า

ในขณะที่คนอื่นๆเดินธรรมดาก็ไปได้แล้ว

และเค้าก็สามารถเปลี่ยนแปลง

และยกระดับจิตกันได้แล้ว

เห้อ ทุกข์ของความเป็นคนมันไม่่ได้มีแค่

เรื่องหนี้เหมือนที่เราคิดตอนเด็กๆเลยนะเนี่ย 

หายไปหลายวัน  ไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนหรอกค่า  ป้าติ๋มมาร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23  เมษายน ถึงวันพุธที่ 2 พฤษภาคม  ขอรายงานผลการมาร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิดนะคะ
กิจกรรมที่ทำตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23  ช่วงหลังเที่ยง  ถึงสายของวันพุธที 2 พฤษภาคม บ้านสวนพีระมิด   
 1. จัดการรื้อจัด เก็บซ่อมแซม เครื่องนอนที่ วิหารหลังเก่าที่จัดระเบียบใหม่ แยกมุ้งครอบ  มุ้งหู  เสื่อ   หมอน 
 2. มากวาดบริเวณพื้นบริเวณห้องประชุม  กวาดถูวิหารหลังใหม่ทั้ง 2 ชั้น 
 3. ขุดวัชพืชกอหนาๆ ได้เพียง 2 เวลา ท่านอาจารย์อุบลและท่านอาจารย์มงคลเมตตาบอกว่าอากาศร้อนมากป้าติ๋มดูตัวเองด้วย ก็ เลยรู้ว่าตัวเองอายุก็น้อยแล้วน่าจะไปหางานใหม่แทนงานขุดนี้
4. กวาดใบมะม่วงเก็บใส่ถุงปุ๋ย  และตัดหญ้าบริเวณหน้าบ้านท่านอาจารย์และด้านทางเดินไปห้องน้ำหลังบ้าน
5. เก็บกระท้อนที่หล่นมากมายใต้ต้นไว้ให้น้องอมรทำไบโอฯ จากการรับงานต่อจากน้องเทิงเพราะงานน้องเทิงล้นมือ 
6. ตัดหญ้าบริเวณด้านหน้าบ้านสวนพีระมิดด้วยกรรไกรด้วยความเห็นที่ตรงกับน้องเทิงว่า รกหญ้าขึ้นสูงมาก  ทำให้บ้านสวนไม่สวยก็เลยหอบเครื่องมือทั้งมีดบาง ที่ลับมีด  ต่อมาน้องศักดิ์หนุ่มไฟฟ้าประจำโรงแรมที กทม. มาช่วยอีกแรงด้วยการใช้ที่ตัดหญ้าสะพายไหล่(ไม่รู้เขาเรียกว่ายังไง) ตัดได้รวดเร็ว ป้าติ๋มก็เป็นแผนกเก็บหญ้าไปไว้ทำปุ๋ย  แล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองคือช่วยน้องเทิงแต่งต้นอะไรก็ไม่รู้เรียกไม่ถูก  ใบสีเขียวเข้มยาวอวบปลายแหลมเป็นกอคล้ายว่านหางจรเข้ ปลายแหลมถ้าแทงโดนเมื่อไหร่ สุดยอดเจ็บปวดสุดๆ  พอดีได้น้องต้นโฆษิตมาช่วยจัดการเรื่องหนามแหลมๆ ไม่งั้นเจ็บปวดทั้งตัว  แล้วก็เก็บใบบริเวณโคนที่ปาดออกไปทิ้ง  อากาศร้อนมากกกกกกกกก 41 องศาทะลุ เหงื่อไหลท่วมเข้าตาแสบไปหมด ข่าวว่าทั่วประเทศที่ร้อนขนาดนี้
7. ได้รับมอบหมายงานใหญ่จากท่านอาจารย์อุบลให้จัดแต่งภูมิทัศน์ด้านหน้าบ้านสวนพีระมิดให้ดูโปร่ง โล่ง สบายตา และได้คู่หูที่สุดยอดมากกกกกกกกกก คือ น้องเทิงหรือยายเทิงหรือป้าเทิง นั่นเอง ชื่อจริง สุนิสา ค่ะ  น้องเทิงสุดยอดขยัน แข็งแรง  สะอาด  แต่ขี้เกรงใจสุดๆ ทำอะไรนิดก็บาปกรรม อะไรหน่อยก็บาปกรรม พูดตรงๆ (ป้าติ๋มขำกลิ้งประจำ)ตรงไหนสกปรก เน่าๆ รกๆ น้องเทิงจัดการเรียบสะอาดกิ๊ก  พอเราสองคนได้รับคำบัญชาอนุญาตแล้วก็ปรึกษาแล้วลงมือช่วยกันทันที  แต่บอกตรงๆ ป้าติ๋มไม่มีเรี่ยวแรงอย่างน้องเทิงหรอกค่ะ  หน้าที่ส่วนมากคือ คอย O.K. ตัดเลย สูงเท่านี้แหละ  จากนั้นคอยมองว่าสูงต่ำสวยงามหรือยัง  แล้วก็ทำงานประจำคือเก็บเศษหญ้า กิ่งไม้ ไปทิ้ง  1 วันผ่านไปเสร็จไปด้านเดียว  ช่วงนั้นด้านวิหารโรงทานก็กำลังช่วยกันเทปูนเสา (น้องศักดิ์ก็ไปช่วยงานปูนแล้ว) ก็ได้ยินเสียงเรียกให้ไปช่วยแต่เราสองคนติดต้นไม้อยู่เลยช่วยส่งใจไปช่วยเทแทน
วันที่ 2 ตัดแต่งอีกด้านคือด้านพีระมิดองค์ใหญ่  วันนี้อยู่ด้านนี้ต้นโพค่อนข้างใหญ่  จากต้นเล็กๆ ที่มีกำลังพอจะลากจะดึงข้ามถนนไปทิ้งได้สบายๆ  พอมาถึงต้นโพใหญ่ก็เลยเอาง่ายๆ อยู่ใกล้ที่ไหนก็ลากข้ามไปทิ้งเลย  ปรากฎว่ากำลังเพลินกับการลากกิ่งไม้ไปทิ้ง ...เสียง แจ๊ดๆๆๆๆๆ มาพร้อมกับเสียงมอเตอร์ไซด์ที่มีผู้หญิง 2 คนนั่งมาด้วยกันตะโกนแข่งเสียงรถโดยไม่ยอมจอดว่า  ห้ามเอามาทิ้งตรงนี้นะ  ทิ้งไม่ได้ ๆๆ ทางเข้าบ้านถางยากด้วย  แล้วก็ขับรถเลยไปเลี้ยวขวา ฟ๊าบ! เข้าไปในหมู่บ้าน  ป้าติ๋มกับน้องเทิงช่วงนั้นเริ่มจะเป็นนักมวยที่ต่อยมาหลายยกแล้ว น้องเทิงงง มองหน้ากันแล้วหัวเราะ ป้าติ๋มเลยพูดดังๆ ว่า ทำไมไม่มาเร็วกว่านี้ จะได้ไม่ทิ้งตรงนี้ แล้วก็เริ่มลากออกเพื่อจะเอาไปทิ้งที่ใหม่  ก็ปรากฏร่างของเจ้าของเสียงเดินมายืนเท้าเอวดู ป้าติ๋มกับน้องเทิงเลยช่วยกันพูด ขอโทษนะคะ  กำลังจะเอาไปทิ้งที่ใหม่แล้วค่ะ  ชี งง คงกะจะมาฟัดกะป้าติ๋มกับน้องเทิงถ้าเจอปากตลาดและไม่ยอมเอาออกจากที่  แกยืนอึ้งไปแป๊บแล้วพูดเบาๆ ว่าเป็นทางจะเข้าบ้านออกถ้ารกจะมองไม่เห็นรถที่วิ่งไปมา เกรงรถจะชนเอา แล้วก็เดินกลับหายไปในหมู่บ้าน  อภินิหารสี่ตา (งงล่ะซี ก็ป้าติ๋มกับน้องเทิงใส่แว่นทั้งคู่ไง) ก็หัวเราะอีกก๊ากแล้วก็ตุปัดตุเป๋(อันนี้น่าจะเป็นป้าติ๋ม)ช่วยกันลากย้ายไปทิ้งที่ใหม่   ความมักง่ายแทนที่จะทิ้งแค่ต้นเดียวกลายเป็นสองต้น... เอาละซี พอตัดเรียบร้อย น้องเทิงเริ่มเป็นกังวลว่าตัดเตี้ยไปหรือเปล่า  ป้าติ๋มก็เห็นว่าไม่นะ (และทราบว่าท่านอาจารย์อุบลพอใจเราสองคนก็โล่งอก) แล้วเราสองคนก็หัวเราะกันสนั่นหวั่นไหวจนตัวงอขาอ่อนเพราะรถเข็นที่ป้าติ๋มเอามาเข็นใบไม้กิ่งไม้ไปทิ้ง  ล้อเจ้ากรรมหลุดจากตัวรถอีก ก๊ากกกกกกกกกกกกก.. พักหัวเราะไปแป๊บ พอนึกได้เรื่องตัดต้นไม้ตัดสั้นไป น้องเทิงก็กังวลอีกว่ามันจะตาย  แล้วสรุปเอาเป็นว่าถ้าตายเราสองคนช่วยกันปลูกใหม่นะแล้วก็หัวเราะอีก  วันที่ 1 พฤษภาก็ช่วยกันตกแต่งเก็บงานด้านหน้าอีก  แต่ก็ต้องมาช่วยเทปูนเสาที่เหลืออีก 3 ต้น เพราะวันนี้เหลือเพียง5 คน คือน้องเตี้ย น้องตา หนูเบญ ป้าติ๋ม และน้องเทิง ดีที่วันนี้มีน้องแอ๊นและลูกสาวตัวเล็กๆจากอำเภอบ้านสร้าง ปราจีนบุรีมาช่วยอีกแรง เสร็จแล้วก็มาเก็บงานที่ค้างจากวันก่อนๆ คือหลังบ้านท่านอาจารย์ เช้าวันที่ 2 พฤษภา ก็เก็บงานที่เหลือ น้องเทิงก็ย้ายบัวมาลงอ่างใหญ่บริเวณหน้าบ้านท่านอาจารย์ น้องเทิงเก่งมากสามารถใช้ที่ตัดหญ้าแบบสะพายไหล่ได้  งานถึงเสร็จเร็ว (นอกจากใช้เลื่อยเลื่อยต้นไม้ที่เหนียวๆ ขาดเป็นแถวแบบไม่มีอาการเหนื่อยให้เห็นเลย) มาอยู่บ้านสวนครั้งนี้สนุกมาก ไม่รู้สึกเหนื่อย  ได้รู้จักน้องเตี้ย  น้องตา น้องกร หนูเบญและน้องเทิงซึ่งอาจารย์ท่านแซวว่าคู่หูดูโอ้กับป้าติ๋ม...เดี๋ยวมีเรื่องสนุกมาเหลาให้อิจฉา อิ ๆ ๆ ๆ

  อนุโมทนาบุญกับป้าติ๋มด้วยนะคะ

อิ่มบุญกลับบ้านเลยใช่ไหมค่ะ

จากป้าติ๋มกระโปรงบาน  เปลี่ยนสไตล์ใหม่

เป็นกางเกงทะมัดทะแมง  ไม่ว่าจะลุคไหน

ก็เห็นป้าติ๋มอารมณ์ดี  ได้ยินแต่เสียงหัวเราะและเสียงเพลง

แล้วป้าติ๋มสอนป้าเทิงเต้นรำหรือยังค่ะ

ถึงเรื่องที่ทุกคนต้องตาร้อนกันเป็นแถว (โม้อีกแล้ว)  วันแรกที่เข้าบ้านสวนท่านอาจารย์อุบลไปธุระ  ป้าติ๋มกับเด็กๆ อีก 3 คน(น้องเทิง น้องเตี้ยและน้องตา) รวมเป็น 4 คนหลังจากอาบน้ำรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อย ก็มานั่งเสวนากันที่โรงทาน รอท่านอาจารย์ แต่น้องกรขอไปอาบน้ำนอนก่อน จนประมาณ 5 ทุ่ม อาจารย์ท่านกลับมา ท่านอาจารย์อุบลท่านเมตตาเปิดกระจกทักทาย  ทำให้ป้าติ๋มรู้สึกอบอุ่นมากๆ จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าที่พัก 
ค่ำวันที่ 24 ท่านอาจารย์คงเกรงว่าพวกเราจะเหงา ท่านก็เปิดห้องคาราโอเกะที่แสนจะเย็นฉ่ำ  (จริงค่ะ เพราะพอออกมาข้างนอกเหงื่อทะลักล้นเลยค่า)จอใหญ่กว่ากระดานดำสมัยป้าติ๋มเป็นนักเรียนชั้น ป.1 อีกแน่ะ  แรกๆ พวกเราก็ตัวลีบ  เพราะคิดไม่ถึงว่าจะได้รับเมตตาจากท่านขนาดนี้  ท่านบอกให้ป้าติ๋มร้องเพลงสลับกับท่าน  แรกๆ ก็ร้อง บ้าง เวียนไปหาน้องเตี้ย ลูกทุ่ง ลูกรุง  แต่พวกเรามีความเห็นและความรู้สึกที่ตรงกันว่า  เสียงท่านอาจารย์ไพเราะมาก  ฟังแล้วเกิดความสุขอย่างบอกไม่ถูก  และช่วงที่ท่านอาจารย์ร้องเพลงท่านก็ให้พวกเราเต้นเป็นแด๊นเซอร์ไปๆ มา ตกลง 4 สาว สนุกเต้นโดยมีท่านอาจารย์ร้องเพลง  คืนแรกท่านอาจารย์มงคลทำงานเลยอดฟังเสียงท่าน  เต้นๆ สนุกมาก สเต็ปตามแต่ฉัน มือแขน พันกันให้ยุ่ง  น้องเทิงก็ปล่อยมุขเด็ดลวดลายวัยรุ่นเรียกเพ่ 555555 ครั้งแรกว่าประมาณว่าไม่ดึก อาจารย์ท่านคงเห็นพวกเรามันส์ ก็เลยแถมเวลาให้เต็มๆ ไม่มีเศษนาที แต่จอเริ่มงอแง มืดๆ ดับๆ พวกควาย 4 ตัวเลยคิดว่าหลวงพ่อฤาษีท่านคงเตือนว่าพอได้แล้ว  แต่ท่านอาจารย์ก็ยังสบายๆ สดใส คณะหางเครื่องเลยกราบลาไปนอนก่อน  แล้วรู้มั๊ย  แอบกระซิบท่านอาจารย์อุบลไม่ได้ยินหรอก  ท่านอาจารย์อุบลร้องเพลงต่อไปจนถึงตีสามแน่ะ WOW!
คืนที่ 25 ท่านอาจารย์มีเมตตาอีก คงจะเห็นว่าเมื่อคืนจองอแง  เลยให้พวกเรามาสนุกกันอีก  คราวนี้โชคดีได้เห็นและฟังเสียงท่านอาจารย์มงคลด้วย  โอ้โฮ้! กิ่งทองใบหยก จริงๆ เสียงท่านอาจารย์อุบลและท่านอาจารย์มงคลไพเราะน่าฟังมากกกกกกก ทั้งเพลงคู่และเพลงเดี่ยว  หลายเพลง เรียกว่าเพลงไหนได้หมด ท่านอาจารย์มงคลยังแถมลูกทุ่ง  สตริงมันส์ให้อีกแนะ  จนท่านอาจารย์อุบลยังแซวท่านอาจารย์มงคลเป็นทำนองว่ายึดไมค์ได้แล้วประมาณนั้น อิ ๆ ๆ ๆ ปรากฎว่าหางเครื่องหมดแรง  ยืนเต้นไม่ไหว  ไม่เป็นไรนั่งยกแต่แขนกับมือก็ยังได้  ท่านอาจารย์มงคลขำ แซว มา  เดี๋ยวก็นอนทำท่าหรอก  ก็ได้หัวเราะกันสนุกมากๆ   เป็นบุญหูของพวกเราจริงๆ
หมาดๆ คืนวันที่ 1 ท่านอาจารย์อุบลเมตตาพวกเราอีกโดยจัดเป็นการเลี้ยงส่งป้าติ๋ม  แต่ท่านมารู้ที่หลังว่า 3 คน ที่จะกลับวันที่ 2 คือ ป้าติ๋ม  น้องเทิงและหนูเบญ  คืนนี้มีไมค์ตัวใหม่สุดยอดมากๆ  ป้าติ๋มก็ร้องเพลงสลับกับท่านแล้วพอท่านถามว่าป้าติ๋มจะร้องเพลงอะไร  ป้าติ๋มก็กว่าจะนึกชื่อเพลงได้ ป้าติ๋มก็เลยพูดแบบขำๆ ว่าอาจารย์รำคาญป้าติ๋มเงอะงะ ท่านอาจารย์ก็ O.K  และท่านอาจารย์ก็เลยร้องเพลงกัลปังหาของคุณสุเทพ วงศ์กำแหงให้เราฟัง ไพเราะมาก และอีกหลายๆ เพลง แต่คืนนี้รู้สึกเหมือนท่านอาจารย์จะเพลียๆ พวกเราก็เลยนั่งคุยกับท่านอาจารย์หลายๆ เรื่องที่เป็นเรื่องธรรมทานและเรื่องความเป็นอยู่ส่วนตัวของ 3 คนที่ลาท่านกลับบ้าน  สมควรแก่เวลาก็กราบลาท่านเข้านอนเพราะไม่อยากรบกวนท่านลาในตอนเช้า....นั่นเอง  ค่า
อ้อ...แถมอีกนิด ค่าย 12 นี้ อย่ากระพริบตา จะมีรายการสุดเด็ด มันส์พะยะค่ะ  แน่นอน..จ้า

แล้วป้าติ๋มสอนป้าเทิงเต้นรำหรือยังค่ะ

บอกแล้วไงคะน้องตาล  ค่าย 12  อย่ากระพริบตา  
วัยรุ่นเรียกน้องเทิงว่า เพ่ 
55555555555555555

อ้อ...ลืมเหลาอีกนิด  ตอนที่ป้าติ๋มกับน้องเทิงกำลังตุปัดตุเป๋(ป้าติ๋มจ้า)ลากกิ่งไม้ไปทิ้ง  ปลื้มใจสุดๆ เลยที่น้องธนาจอดรถให้กำลังใจ โดยมีน้องแมว กับน้องอัญคอยลุ้นอยู่ในรถ มีอีกคนหรือเปล่ามองไม่เห็น จนกิ่งไม้ถูกป้าติ๋มกับน้องเทิงลากโยนเข้าพงรกสำเร็จ  ถึงยอมเคลื่อนรถกลับ กทม. อย่างเป็นห่วงคนข้างหลังอยู่ THANK YOU หลายเด้อค่ะเด้อ 555555555555555

 กิจกรรมบุญ คืนวันเสาร์ มีผู้มาขอขมาและขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้

1.      ป้าติ๋ม ได้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอาจารย์อุบล

ด้วยเหตุที่ป้าติ๋ม มีมโนกรรมเวลากราบหรือสวดมนต์ ปรากฏภาพอวัยวะเพศที่ดวงจิต สร้างความเจ็บปวดหัวใจ ถึงขั้นหลับตาไม่ได้ แม้แต่นึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ยังนึกในสิ่งที่ไม่ดีกับพระองค์ท่าน ทั่งที่ป้าติ๋ม รักษ์ เทิดทูน พระองค์ท่าน และอาจารย์อุบล ป้าติ๋มมีจิตที่หยาบ เมื่อนึกถึงชื่อ อ.อุบลก็เป็นคำนำหน้าสมัยพ่อขุนรามคำแหง

อ.อุบลเมตตาบอกถึง กรรมและเหตุแห่งทุกข์ของป้าติ๋ม เป็นกรรมที่ผิดศีลทุกข้ออย่างหนัก โดยเฉพาะข้อกามา  ไม่ซื่อสัตย์ กับสามี หลอกฟันผู้ชาย มากกว่า 10 ราย ทั้งที่ไม่มีใจรักผูกพัน

ต้องลงนรกอเวจีมหานรก มโนกรรมที่ป้าติ๋ม ได้เกิดกับพระพุทธองค์ เป็น นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม ที่มีความเห็นผิดอย่างมั่นคงรุนแรงและยาวนาน เป็นอกุศลกรรมที่หนักที่สุด เพราะว่ากรรมนี้ให้ผลทันทีที่ชีวิตจบลงโดยไม่มีกรรมใด ๆ มาแทรกได้เลยซึ่งป้าติ๋ม ปรากฏสัญญาเดิมออกมาจากการพูดคำหยาบ พูดจาบจ้วงผู้ทรงศีล ทรงธรรม

ป้าติ๋ม ขอสารภาพบาป ขอเป็นยกชีวิตเป็นธรรมทาน เพื่อดับเหตุ

         2.   คุณเพ็ญประภา  จันทร

คุณเพ็ญประภา ได้ขอขมาที่ตนเองเข้ามาบ้านสวนโดยที่ตนเองไม่ได้สนใจกฎระเบียบ บ้านสวนพีระมิด เพียงรู้ว่าบ้านสวนมีกิจกรรมการส่งดวงวิญญาณเด็กที่ถูกทำแท้ง ขึ้นสวรรค์ หาทางเข้าบ้านสวนโดยมิได้ขออนุญาต เพื่อมาทำบุญแรงกาย อีกทั้งยังเบียดเบียนอาหารของบ้านสวน อีก หนึ่งมื้อ ทำให้คุณเพ็ญประภา ร้อนรุ่มกลุ้มใจ เหมือนมี ไฟร้อนในหัวใจนอนไม่หลับน้ำตาไหลตลอด รู้สึกผิดมากมาก ที่รู้สึกตนเองทำผิดกฎระเบียบขนาดนี้ 

อ.อุบลได้ถามถึงแรงจูงใจในการดั้นด้นมาบ้านสวน คุณเพ็ญประภา มีเจตนาอันดีที่อยากสร้างความดี อยากจะมาบ้านสวน แต่ขาดสติ ในการศึกษาข้อมูลบ้านสวน  ขอยกเป็นตัวอย่างสำหรับผู้ที่จะไปบ้านสวน ต้องศึกษากฎระเบียบอย่างละเอียดถี่ถ้วน

คุณเพ็ญประภา ยังเล่าประสบการณ์การสวมแหว องค์เทพสฟิงค์ ทำให้เกิดสิ่งดีในชีวิต เช่น ลูกชายไม่เคยสนใจเชื่อฟัง

3.  คุณพัชรพร  พัชรินทร์ศักดิ์

ขอขมา ที่ปรามาสอาจารย์อุบล เรื่อง รายการคุยไปแจกไป อ.อุบลโมษณาขายสินค้า  ซึ่ง อ.อุบลบอกคุณพัชรพรว่า คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว อาจารย์อุบลทำรายการขายสินค้า ส่วนรายการธรรมะนั้น เป็นการนำเสนอขั้นรายการ  และเคยนำเนื้อสัตว์มารับประทานในบ้านสวน      

4. คุณเจิดหทัย

ได้ขอบคุณบ้านสวนพีระมิด ที่ทำให้ได้รู้ เรื่องนิพพาน และได้พบหนทางกลับบ้านพระนิพาน

ได้ขอขมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตนเองได้รับฟังเรื่องราวการพูดจาบจ้วง หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่ตนเองรับฟังคล้อยตามในบางครั้ง แต่ส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่คัดค้าน ปล่อยให้เขาพูดต่อไป เป็นผลกรรมที่เกิดกับตนเอง มีความทุกข์ทางใจอย่างสาหัสเหมือนกับหาทางออกของทุกข์ไม่ได้ และลูกที่คลอดมามีสายตาเอียงทั้งสองข้าง

ต้องการให้เป็นธรรมทาน ที่ตนเองมีส่วนรับฟังการปรามาส การพูดจาบจ้วง สถาบันฯ ไม่ได้ปกป้องพระองค์ท่าน ทั้งที่พระองค์ท่านเป็นผู้ให้ประโยชน์แก่เรามากมาย แต่เราก็เห็นแค่ประโยชน์ที่เราได้ ไม่หาหนทางคลี่คลายปัญหาที่บุคคลกำลังหมิ่นสถาบัน เพียงสร้างจุดยืนเรื่อง ท่านสูงส่งกว่าเราเป็นไหนไหน ท่านสร้างความดีมุ่งประโยชน์แก่บุคคลมากมาย มากกว่าการสร้างความดีของเรา อย่างมากมายเทียบไม่ได้

5.   คุณณัฐนันท์

ขอขมา ที่มีมโนกรรมต่อพระปฐมบรมธรรมบิดา และอาจารย์อุบล ด้วยมีจิตด้วยคำด่าหยาบคาย เป็นการผิดศีลทั้ง 5 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 4 ที่ได้เคยทำกรรม พูดจาหยาบคาย พูดส่อเสียดเหน็บแนม

เป็นเหตุให้ตนเองทุกข์ใจ ซึ่งไม่สามารถอธิบายทุกข์ได้โดยไม่สามารถรักษาทางการแพทย์ได้ จึงสำนึกในกรรม และมโนกรรม คิดร้ายต่อผู้ทรงศีลทรงธรรม  คิดไม่ดีกับผู้อื่น แต่เราก็ทุกข์เอง 

อนุโมทนากับป้าติ๋ม และคุณอมรค่ะที่มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านสวนพีระมิด

ขออนุโมทนาสาธุกับคุณป้าติ๋ม ป้าเทิง  พี่เตี้ย พี่อมร และทุกท่านนะค่ะที่มาร่วมบุญที่บ้านสวน  สาธุ

อนุโมทนาในทุกๆบุญ

กับป้าติ๋มด้วยนะคะ

แอบหายหน้าไปสร้างบุญ

ที่บ้านสวนฯ9วันนี่เอง

ได้อ่านธรรมทานจากป้าติ๋มแล้ว

คงจะโล่ง โปร่งใจ

และเป็นสุขมากๆเลยนะคะ

เพราะได้สารภาพบาปชุดใหญ่

และปลดเปลื้องทุกข์ในใจ ให้ตนไปแล้ว

..................................

อนุโมทนากับธรรมทานจากคุณ สายรุ้ง

น้องตั๊ก แล้วก็พี่อมร ด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

....................................

ส่วนสมาชิกที่เจอ"พายุสริยะ" กระทบใจ

ให้แปรปรวน รวนเร อย่างหนักหน่วง

ชนิดาก็ขอให้ทุกๆท่าน

ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้นะคะ

เำพราะถ้าผ่านได้แล้ว

ใจมันจะเบาและสงบขึ้นมากๆ

 เพราะช่วงก่อน

ชนิดาก็เจอมาเหมือนกัน

ฉะนั้น จึงต้องเกาะหน้าเว็บ

บ้านสวนฯไว้ไม่ให้ห่าง

หมั่นพิจารณาทุกๆอย่าง

ที่อาจารย์เมตตาโพสต์

แล้วเราจะชนะใจชั่วๆของเราได้

อีกหนึ่งขั้น

( แต่มันยังมีเหลืออีกหลายๆๆๆๆๆๆขั้น..นะ อิอิ)

 จะว่าไปช่วงนี้อากาศร้อนที่ค่อนไปทางร้อนมาก ถึงมากที่สุด ซึ่งลากยาวมาครบหนึ่งเดือนเต็มพอดิบพอดี หากย้อนกลับไปนึกถึงหลายๆ ปีที่ผ่านมา ช่วงหน้าร้อนก็ไม่ค่อยจะร้อนติดต่อกันยาวนานเหมือนปีนี้ อย่างมากก็อาทิตย์กว่าๆ แล้วก็มีฝนบ้าง ลมบ้างสลับกันไป...แต่ปีนี้ ผิดสังเกตุเอามากๆ ข้ามมาพฤษภาแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะคลายร้อนได้ยังไงเลย

ร้อนแบบนี้ ก็พาให้ใจรุ่มร้อนไปตามอากาศด้วย ตอนแรกก็นึกว่าผมเองคงจะเข้าสู่วัยอันสมควรแล้วมั้ง ถึงได้หงุดหงิดง่ายดายปานนี้ แต่พออ่านข้อมูลจากหลายๆ แหล่งก็เบาใจลงได้ว่า วัยรุ่นอย่างผมยังห่างวัยตรงนั้นอีกไกลโข(มั้ง)...

ได้มีโอกาสอ่านข้อมูลดีๆ จาก ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ซึ่งได้เขียนไว้ในเฟสบุ๊คส่วนตัวของท่าน เลยเอามาแชร์ให้อ่านกันเล่นๆ ครับ...

Kongpop U-yen

มาอ่านข้อมูลจากดร.ก้องภพแล้ว

เหมือนกับว่าปฏิกิริยาต่างๆที่เกิดขึ้น

ในรอบสามวันนั้น เป็นการ สตาร์ทเครื่อง

เตรียมพร้อมไงไม่รู้นะคะ

ประมาณว่า รอจังหวะเหมาะๆ ก็ออกตัว..

แบบพุ่งเหยียบสุดคันเร่งเลย.. ว่างั้นเถอะ..

..............................................

อิอิ อากาศร้อนซะจน ทำให้พี่มหา

เริ่ม...ร้อนตัว ว่า ตัวเองจะเข้าสู่..

Golden Age (ยุคทอง )  เลยเหรอเนี่ย...

 คุณชนิดาคะ พอจะชี้แนะได้หรือเปล่าคะ…. หนึ่งไปอ่านเจอบทความอยู่เรื่องหนึ่ง หลังอ่านจิตมันแว่บไปคิดถึงคำพูดหยาบๆในบทความนั้นๆทั้งๆที่ใจเราก็ไม่ได้คล้อยตามนะคะ….เพิ่งเป็นช่วงไม่นานนี้เอง

ทำอย่างไรดีคะ…..??

ช่วงที่ป้าติ๋มเข้าสร้างบุญบ้านสวนเมื่อ 23 เมษา - 2 พฤษภา ที่ผ่านมา  หลังจากอยู่ในบ้านสวนได้ประมาณ 5 วัน เช้าวันหนึ่งป้าติ๋มตื่นนอนมารู้สึกได้ทันทีว่า ใบหน้าบวม ตาบวม(มาก) เท้าบวม  ป้าติ๋มก็นึกทบทวนตลอดเวลาว่า เราไปทำอะไรที่ล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนบ้างไหม  เพราะทุกอย่างที่ทำ เช่น ตัดต้นไม้  สวยมะม่วง  ก็จากการรับบัญชาอนุญาตของท่านอาจารย์อุบล  นึกยังไงก็ไม่นึกออก  ก็เลยอธิษฐานน้ำพีระมิดดื่มให้หายและใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  และอุทิศบุญตลอดเวลา แต่อาการเพียงยุบลงเล็กน้อย แต่อาการอื่นๆ เช่นปวดท้อง หายจากการอธิษฐานน้ำพีระมิดดื่ม จนกระทั่งวันกลับบ้านสามีเขาทักทันทีว่าไปรับประทานอะไรมา หน้าบวม (เพราะเคยรับประทานอาหารบางชนิดแล้วหน้าตาตัวบวม)  ป้าติ๋มก็บอกเขาว่าไม่มีอะไรหรอก  มาถึงบ้านก็ยังคิดๆ อยู่จนกระทั่งเข้าเวปบ้านสวนนั่งแป๊บนึง  คิดถึงธรรมทานที่มีคนเล่าเรื่องแอบนอนในองค์พีระมิดแล้วเกิดอาการขาบวม   โอ้แม่เจ้า! ทันใดนั้นคิดได้ทันที  ใช่แล้วที่ป้าติ๋มหน้าบวมตัวบวมเท้าบวมเพราะเหตุการณ์ต่อไปนี้  ช่วงวันที่ได้รับมอบหมายจากท่านอาจารย์อุบลให้ตกแต่งต้นไม้ด้านหน้าบ้านสวนกับน้องเทิง  ป้าติ๋มร้อนมากเลยขออนุญาตน้องเทิงเดินกลับมาที่องค์พีระมิดP1ที่ตัวเองพักอยู่  แล้วเปิดพัดลม เอนตัวลงกะว่าแป๊บเดียวจะกลับไปทำงานต่อ ปรากฎว่าผลอยหลับไปมาตกใจตื่นเพราะเสียงตัวเองกรน  รีบลุกขึ้นแล้วไปช่วยน้องเทิงทำงานต่อ วันต่อมาวันนี้เจตนาจริงๆ คือกะว่าจะนอนพักสักนิด  แต่พอถึงองค์พีระมิดเข้าไปแล้วก็ไม่อยากจะนอน ก็กลับออกมาช่วยน้องเทิงทำงาน  เมื่อทราบสาเหตุแล้วเมื่อคืนป้าติ๋มจึงกราบขอขอมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์และองค์พีระมิดเรื่องที่ป้าติ๋มเผลอหลับและตั้งใจมานอน  ปรากฎว่าเช้าวันนี้ใบหน้าตาและเท้าป้าติ๋มยุบจริงๆ ค่ะ  เหลือบวมเล็กๆ  กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ในบ้านสวนพีระมิดที่เมตตาป้าติ๋ม ป้าติ๋มจะไม่แอบไปหลับอีกแล้วเจ้าค่ะ  สาธุ

วันที่ 2 พฤษภา ช่วงเช้าก่อนกลับบ้าน ป้าติ๋มกับน้องเทิงได้ปรึกษากันตั้งแต่เย็นวันที่ 1 แล้วว่า พรุ่งนี้(คือวันที่ 2) เราจะต้องเก็บงานที่เหลือค้างอยู่ให้หมดก่อนเที่ยงเพราะเราต้องเดินทางกลับบ้านแล้ว  ดังนั้นวันที่ 2 ป้าติ๋มจึงตื่นแต่เช้าเก็บเศษหญ้าที่ถูกถางแล้วกองไว้ไปเก็บที่บริเวณสวน  ส่วนน้องเทิงก็ปลูกบัวให้ท่านอาจารย์  แล้วป้าติ๋มก็ดูรดน้ำต้นโมก ต้นแก้ว (เช้า- ค่ำ) ที่คุณกระเต็นนำมาทำบุญที่บ้านสวนเพื่อไม่ให้ตายก่อนลงดิน (ดูๆแล้วน่าจะตายแน่ๆ หลายต้น  เพราะไม่รู้จะมีใครช่วยรดน้ำบ้าง เนื่องจากดูที่ทุกคนที่เข้ามาร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนจะมุ่งหน้าไปขุดดินบริเวณสร้างสมเด็จพระปฐมฯ มากกว่า)  เสร็จแล้วก็ไปรวบรวมกระท้อนที่เก็บๆ ใส่รถเข็นไว้ใส่ถุงเพื่อไว้ให้น้องอมรทำไบโอแก๊ส  กระท้อนในรถเข็นหมดก็ยังมีกระท้อนที่หล่นเพิ่มเติมที่บ้านสวนอีกพอสมควร  ป้าติ๋มก็เดินก้มลงเก็บได้ไม่กี่ลูก  เกิดอาการปวดบั้นเอวมาก  ทำให้นึกได้ทันใดว่าเราต้องอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร  ป้าติ๋มจึงได้ตั้งใจอุทิศบุญ ท่านอาจารย์อุบลท่านเมตตาบอกว่า บุญในบ้านสวนที่ทำให้อาจารย์อุบลเป็นบุญใหญ่วิญญาณทุกดวงอยากได้บุญที่นี่มาก (ซึ่งทุกวันที่เริ่มสร้างบุญแรงกายในบ้านสวนป้าติ๋มจะถวายบุญทั้งหมดแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนพีระมิด  เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ  เทพสพริงซ์ รวมทั้งท่านอาจารย์อุบลเสมอ) พอป้าติ๋มอุทิศบุญให้ปรากฏว่าอาการปวดบั้นเอวหายเป็นปลิดทิ้ง   สาธุ..เป็นบุญของป้าติ๋มที่ได้มาสร้างบุญในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้  ป้าติ๋มขออธิษฐานขอให้ป้าติ๋มได้มาสร้างบุญที่บ้านสวนตลอดไปจนกว่าจะได้ถึงนิพพาน

ขอบคุณน้องอมรที่ช่วยเล่าเรื่องป้าติ๋มสารภาพบาปเป็นธรรมทาน  เพราะป้าติ๋มเล่าเองเรื่องคงจะไม่กระชับชัดเจนอย่างนี้  พูดถึงเรื่องสารภาพบาป  ป้าติ๋มไม่เคยหวั่นใจว่าใครจะเกิดความรังเกียจในการทำบาปที่อาจจะเกิดจากการตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ของป้าติ๋ม เพราะมันเป็นอดีตที่ป้าติ๋มมั่นใจอย่างยิ่งว่า ไม่มีใครอยากจะเป็น  อยากจะทำเรื่องที่น่าอัปยศอดสู  ลามกอนาจาร  ซึ่งเรื่องที่ผ่านๆ มาของป้าติ๋มป้าติ๋มยินดีให้เป็นธรรมทานกับทุกคน  ที่ป้าติ๋มกล้าพูดว่าไม่หวั่นที่ใครจะตั้งข้อรังเกียจ ไม่อยากจะพูดคุยกับเรา (เพราะมีคนมาเปรยๆให้ฟังว่า พอเขาสารภาพบาปแล้ว มีหลายคนแสดงปฏิกิริยาที่เหมือนเกิดความรังเกียจในพฤติกรรมที่เขาได้สารภาพกับท่านอาจารย์อุบลค่ะ)  ป้าติ๋มไม่อยากจะพูดอะไรให้มากเพราะอนาคตไม่มีใครรู้ว่าจะมีสิ่งเลวร้ายถึงขนาดสังคมไม่ยอมรับรวมทั้งตัวเราเองที่อาจจะรับไม่ได้รับไม่ไหว จะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนที่เรารัก  ป้าติ๋มอโหสิกรรมให้ทุกความคิดถ้าเขาคิดว่าป้าติ๋มเป็นคนที่ไม่สมควรจะร่วมกิจกรรมได้ ค่ะ  สาธุ  ขอพระบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ในบ้านสวนพีระมิด  และท่านอาจารย์อุบลโปรดเมตตาคนบาปหนาอย่างป้าติ๋มให้ได้หลุดพ้นจากนรกทุกขุมด้วยเถิดเจ้าค่ะ

ขออนุโมทนาธรรมทานของป้าติ๋มด้วยนะคะ

ซึ่งน้ำใจป้าติ๋มเลยค่ะที่ได้มีธรรมทานสอนพวกเรา

ป้าติ๋มเล่าบรรยากาศได้น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ

ขอบคุณป้าติ๋มมาก ๆ นะคะ

 เพราะมันเป็นอดีตที่ป้าติ๋มมั่นใจอย่างยิ่งว่า

ไม่มีใครอยากจะเป็น 

อยากจะทำเรื่องที่น่าอัปยศอดสู

  ลามกอนาจาร  ซึ่งเรื่องที่ผ่านๆมาของป้าติ๋ม

ป้าติ๋มยินดีให้เป็นธรรมทานกับทุกคน

  ที่ป้าติ๋มกล้าพูดว่าไม่หวั่นที่ใครจะตั้งข้อรังเกียจ

ไม่อยากจะพูดคุยกับเรา

(เพราะมีคนมาเปรยๆให้ฟังว่า

พอเขาสารภาพบาปแล้ว

มีหลายคนแสดงปฏิกิริยาที่เหมือนเกิด

ความรังเกียจในพฤติกรรม

ที่เขาได้สารภาพกับท่านอาจารย์อุบลค่ะ) 

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

A Ha....สำนึก และ อยากสารภาพ

บาป ในอดีต ที่เคยกระทำ

เป็นอะไรที่น่ายกย่องต่างหากค่ะ

เราสำนึกแล้ว และ ตั้งมั่นว่า

เราจะไม่เป็น / กระทำ / คิด

แบบนั่นอีก

เฮ่อ...แมวซะอีก...ที่ยังทำได้ไม่เหมือนป้าติ๋ม

เป็นเหมือนที่ อ.อุบล ว่าไว้ จริง ๆ

เวลาทำดี คิดแล้ว คิดอีก

แต่ทำชั่ว ...ไม่คิดมาก 555++

นี่ถ้าป้าติ๋มสารภาพ อีก 1 ข้อ

ที่เป็นกรรมทางความคิด...

กับใคร อีกคนหนึ่ง ที่บ้านสวนฯ นะ

รับรอง ฮา กระจาย...

อั้นแน่...พวกเราอยากรู้ คงต้องรอ

ป้าติ๋มและคู่กรณี มาป๊ะกันแหม ก่อนเด้อคร๊า

มีเฮ..ก๊าก.ก.ก.

แมวขอ ยกย่องป้าติ๋ม ในความกล้าหาญค่ะ

อดีต คือ อดีต ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้

ปัจจุบัน ต่างหากคะ ที่จะนำเรา

ไปสู่ อนาคต ที่เบิกบานได้

ขออนุโมทนากับ ธรรมทาน ที่มีประโยชน์สูงสุด

ของ ป้าติ๋มค่ะ

นี่ถ้าป้าติ๋มสารภาพ อีก 1 ข้อ

ที่เป็นกรรมทางความคิด...

กับใคร อีกคนหนึ่ง ที่บ้านสวนฯ นะ

รับรอง ฮา กระจาย...

อั้นแน่...พวกเราอยากรู้ คงต้องรอ

ป้าติ๋มและคู่กรณี มาป๊ะกันแหม ก่อนเด้อคร๊า

มีเฮ..ก๊าก.ก.ก.

******************

 ขอ ก๊าก..ก..ก...มั่งนะน้องแมว 

ป้าติ๋มมานั่งนึกๆ แล้วก็ขำตัวเองไม่หาย  

ทั้งๆ ที่ (แอบกระซิบนะ) ไม่ใช่สเปคเล้ย ฮ่า..ๆ..ๆ..ๆ

ป่านนี้เจ้าตัวน่าจะฝันสยดสยองแล้วนะเนี่ย

อาจจะใช่ เพราะเห็น(คู่กรณีป้าติ๋ม)บรรยายมาว่าช่วงนี้ร้อนรุ่มผิดปกติ

น้องชนิดายังแซวว่าคงเข้า วัยทอง อ่ะ

ก๊าก..ก..ก..ก... 

เฮ้อ...แล้วจะป๊ะกันตอนใด๋หละเนี่ย...

อยากสารภาพบาปเต็มแก่แย้ว...

ก๊าก..ก..ก..ก... 

เฮ้อ...แล้วจะป๊ะกันตอนใด๋หละเนี่ย...

อยากสารภาพบาปเต็มแก่แย้ว...

-*-*-*-*-*-*-

ก๊าก.ก.ก..ก

กลายเป็น

จ๊าก.ก.ก.ก..ก.ก

เมื่อ เขาผู้นั้น รู้ตัว 555++

เพราะฉะนั้น อย่างพึ่งให้ เขารู้ตัวนะจ๊ะ

ป้าติ๋ม...

 ทั้งๆ ที่ (แอบกระซิบนะ) ไม่ใช่สเปคเล้ย ฮ่า..ๆ..ๆ..ๆ

โชคดีที่ไม่อยู่ในข่ายสปคป้าติ๋ม....เฮ้ออออ รอดตัว(รึปล่าว) 

โชคดีที่ไม่อยู่ในข่ายสปคป้าติ๋ม....เฮ้ออออ รอดตัว(รึปล่าว)

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ว้าย.ย.ย ... มาได้งัยเนี่ย.ย.ย.ย

ป้าติ๋ม  เขิล.ล.ล.ล นะ ตัวเอง

อย่า !!! คิดว่า ใช่..เพราะ

ไม่ได้มา ... นะคะ...

ป้าติ๋มบอกว่า คนที่ป้าติ๋ม ชอบ

ไม่มีหล่อ เล๊ย.ย.ย ซักคน

แล้วอย่างนี้จะใช่ได้งั๊ยเน๊อะ..คุณสิทธิ์

รอดตัวไป ( รึปล่าว )  555++

อิ อิ จะว่าไป เฉาก๊วย กับ น้ำตาลทรายแดง

เข้าก๊าน.น.น เข้ากัน เน๊อะ

  +    = 

โอ๋ ล้อเล่น...ยามที่อากาศร้อน ๆ แบบนี้

คลายร้อนได้มากทีเดียวคร๊า...

 เมื่อวันเสาร์ที่ 28/เมษ/55 ไปบ้านสวนพีระมิดท่าน อาจารย์ อุบล ท่าน กรุณาลูกบ้านสวนพีระมิด ได้ทำพิธีสวด อภัยกรรม เพื่อปิดหลุมนรก ครั่้งที่ 1 ดีใจมากคนมีกรรมมากก็อย่างงี้แหละ ขอบคุณๆๆๆๆๆค่ะ 

     ขออนุโมทนาธรรมทานจาก ป้าติ๋ม พี่อมร พี่สิทธิ์ พี่ชนิดา น้องคั๊ก คุณสายรุ้งด้วยนะครับ 

     ป้าติ๋มได้ไปอบู่ 9 วัน กลับมาคงอิ่มบุญเต็มที่ ขออนุโมทนาด้วยครับ 

แหม่..ว่าแล้วก็ขอสั่ง

เฉาก๊วย และ น้ำตาลทรายแดง ด้วย

ซักถ้วยนึงนะค๊า..คุณแมว

ขอน้ำแข็งเยอะๆนะ

เพราะท่าทางจะ"ร้อน"ไม่เบา..อิอิ

งั้น..พี่มหาและป้าติ๋ม...

กรุณา "จัดเต็ม"เลยค๊า

แบบว่า ผู้ชมทางบ้าน ก็รอลุ้น

การสารภาพบาป ซีรีส์นี้ เหมียนกัลล์

แล้วผลออกมาจะ...

ก๊ากกกกกกกกกกกกก

จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกก

ก็ม่ายรู้ ต้องคอยดูอีกที

แล้วผลออกมาจะ...

ก๊ากกกกกกกกกกกกก

จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกก

ก็ม่ายรู้ ต้องคอยดูอีกที

-*-*-*-*-*-*-*-*-

จุ๊ ๆ ๆ อย่าเอ็ดไปค่ะ

เพราะ ป้าติ๋ม จัดเต็มอยู่แล้น

แต่ จะจัดกับผู้ใด๋

โปรดติดตาม..

ป้าติ๋ม ... สารภาพแบบ

ป๊ะ ๆ ๆ  กันซึ่ง ๆ คร๊า

ป้าติ๋มจ๋า

บ้านสวนพีระมิดน่ะ

เป็นบ้าน อ.อุบล จ้า

ถ้าเจ้าของบ้านคนนี้ต้อนรับป้าติ๋ม

ก็โปรดเดินให้สง่างามเลยนะป้าติ๋ม

ที่นี่

ต้อนรับคนบาป

ที่กลับใจ

แต่ส่วนใหญ่

ก็เป็นคนบาปทั้งนั้น

ที่มา

แต่เข้าใจผิด คิดว่าตัวเองดี

อันนี้ต่างหาก

ที่ไม่อยากต้อนรับเลย

แต่

ป้าติ๋ม เป็น ฮีโร่

ในดวงใจ อ.อุบล เลยนะ

คนอย่างนี้แหละ

ที่ชาติต้องการ

ทำผิดแล้ว

กล้ารับ กล้าเปิดเผย

เขาเรียกว่า

มีภาวะผู้นำที่น่ายกย่อง

จ้า ป้าติ๋ม จ๋า

ใครเขารังเกียจ

ป้าติ๋ม

ก็ช่างบิดา มารดา

เขาเถอะค่ะ

เรากินข้าวเรา

+

ข้าว อ.อุบล

นะจ๊ะ

 คุณชนิดาคะ พอจะชี้แนะได้หรือเปล่าคะ…. หนึ่งไปอ่านเจอบทความอยู่เรื่องหนึ่ง หลังอ่านจิตมันแว่บไปคิดถึงคำพูดหยาบๆในบทความนั้นๆทั้งๆที่ใจเราก็ไม่ได้คล้อยตามนะคะ….เพิ่งเป็นช่วงไม่นานนี้เอง

ทำอย่างไรดีคะ…..??....

..............................................

แบบนี้เค้าเรียกว่า "โดนของ"

เข้าแล้ว...คุณหนึ่ง

อ๊า..ล้อเล่น เขียนซะเว่อร์ เชียว

ก็เราไปเปิดช่อง ให้"จิต" ไปรับข้อมูล

ที่ไม่เป็นประโยชน์เหล่านั้นเอง

ว่าแต่ชนิดา ไม่ขอชี้แนะ

แต่ขอ"ช่วยคิด"หาำคำตอบดีกว่านะคะ

แต่ก่อนจะ ช่วยคิด ชนิดามี บทความ ดีๆ

มาให้อ่านก่อน ซึ่งข้อความนี้

เปิดจิต รับข้อมูลได้เต็มที่เลยค่ะ

รับรองว่า ไม่มีผลร้าย

กับ ชีวิตและจิตใจ แน่นอน

.....................................................

กฏจักรวาล

ธรรมชาติรังสรรค์จิตวิญญาณ

กฏธรรมชาติ สนามแรงของการรักษาสมดุล กฏของการดึงดูด
ที่คอยค้ำจุนจักรวาล และทุกจิตวิญญาณ ในประการเบื้องต้นประการมีดังนี้




กฏของจักรวาล คือ สิ่งเดียวกัน ย่อมดึงดูดเข้าหากัน
ทั้งรูปธรรม และนามธรรม:-

-รูปธรรม หมายถึง:
บุคคลที่ประพฤติดีจิตใจดี ย่อมดึงดูดบุคคลประพฤติดีเข้าหาสังคมเดียวกัน

บุคคลที่ประพฤติไม่ดีมีจิตใจไม่ดี ย่อมดึงดูดบุคคลประพฤติไม่ดีเข้าหาสังคมกัน

บุคคลที่มีอุปนิสัยจริตความชอบอย่างเดียวกัน ถูกโฉลกกัน
มักจะได้เจอคบหากันและสนิทไปไหนมาไหนด้วยกัน ร่วมกระทำในสิ่งที่คล้ายคลึงกัน

-นามธรรม การสำนึก ระลึกถึง ของจิตใจ หมายถึง:
ความปรารถนาดีต่อตนเอง

ย่อมดึงดูดสิ่งที่ดีมาสู่ตัวเอง

ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น

ย่อมดึงดูดสิ่งที่ดีมาสู่ตัวเอง

ความปรารถนาไม่ดีผู้อื่น

ย่อมดึงดูดสิ่งที่ไม่ดีมาสู่ตัวเอง

ความรักย่อมดึงดูดความรัก

ความชังย่อมดึงดูดความชัง

........ความคิดคำนึงการสำนึกระลึกถึง อย่างเนืองๆเกี่ยวกับความเจ็บไข้ ความอ่อนแอ ขี้โรค ล้มเหลว ความไม่มั่นใจ ความชิงชัง ริษยา ความประทุษร้าย ย่อมดึงดูดสิ่งที่อยู่ในความคิดดังกล่าวนั้น บุคคล และสถานที่(หรือ บทความ) อันที่จะเกี่ยวเนื่องกับสิ่งเหล่านั้นเข้ามาประสบพบเจอ

........ความคิดคำนึงการสำนึกระลึกถึง อย่างเนืองๆเกี่ยวกับความเข้มแข็ง ความสำเร็จ ความมั่นใจ ความสงบ ความรัก เมตตา ความกรุณา ย่อมดึงดูดสิ่งที่อยู่ในความคิดดังกล่าวนั้น บุคคล และสถานที่ อันที่จะเกี่ยวเนื่องกับสิ่งเหล่านั้นเข้ามาประสบพบเจอ


"อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา"

"ความนึกคิดเกิดขึ้นในจิต เมื่อจบก็จบลงไปในจิต"

"ทัศนะความเห็น(ทิฏฐิ) มุมมองโลกทัศน์ ที่บุคคลมี จะไหลไปสู่
ความนึกคิด คำพูดวาจา และการกระทำเสมอ ดุจเป็นหางเสือของเรือ"

สิ่งชนิดเดียวกัน

ย่อมดึงดูดเข้าหากันเสมอ

...........................................

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ ธรรมจักร และ

อ่านบทความนี้ เพิ่มเติมได้ที่

กฏจักรวาล ธรรมชาติรังสรรค์จิตวิญญาณ

......................................................

แต่จริงๆคำตอบของมัน ก็อยู่ใน ทุกๆธรรมทาน

ในวันเสาร์ที่ผ่านมาแล้วน๊า... คุณหนึ่ง

ลองคิดอีกทีนะจ๊ะ

ใครเขารังเกียจ

ป้าติ๋ม

ก็ช่างบิดา มารดา

เขาเถอะค่ะ

เรากินข้าวเรา

+

ข้าว อ.อุบล

นะจ๊ะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

อ.อุบล  สุดยอดค่ะ

ขอกด Like 10 คร๊า 

ป้าติ๋ม เป็น ฮีโร่

ในดวงใจ อ.อุบล เลยนะ

คนอย่างนี้แหละ

ที่ชาติต้องการ

ทำผิดแล้ว

กล้ารับ กล้าเปิดเผย

เขาเรียกว่า

มีภาวะผู้นำที่น่ายกย่อง

จ้า ป้าติ๋ม จ๋า

..................................

และป้าติ๋มก็ยังเป็น "ฮีโร่"

ของใครอีกหลายๆคนค่ะ

ฉะนั้น จะมีอีกหลายๆคน

ที่กำลังสั่งสมความกล้าหาญ

และจะเดิน"ตามรอย" วีระสตรี

อย่างป้าติ๋ม จ๊า

แหม่...หลานย่าโม ก็เงี้ยะแหล่ะ

.........................................

แหม่..คุณแมว โทษที

ลืมไปว่า เรื่องนี้ พวกเรา

ต้องปิด..กัน

ให้ "แซ่ดดดด" เนอะ

แหม่..คุณแมว โทษที

ลืมไปว่า เรื่องนี้ พวกเรา

ต้องปิด..กัน

ให้ "แซ่ดดดด" เนอะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-

555++  คุณชนิดา....

ว่าแต่ว่า...

ป้าติ๋ม ยังไม่ทันได้สารภาพ

เขาผู้นั้นก็...มีสภาพ

ดังที่เห็นแล้วอ่ะ

แล้วถ้า เขารู้ จะเป็นยังงัย55++

สงสัยว่า จะหมดสภาพ แหงมๆ

เลยคุณแมว

แค่เห็น ภาพที่คุณแมวเอามา

ก็"ฮา"จนหมดแรง..แล้ว เนี่ย

ช่วงนี้ พี่แก ยิ่งร้อนๆตัวว่า

จะเข้าข่าย"หนุ่มวัยทอง" อยู่ด้วย เอิ๊ก เอิ๊ก..

แต่... เห็นภาพแล้ว

ยิ่งกว่า สาววัยทอง ซะอีกแน่ะ

ป้าติ๋มจ๋า

บ้านสวนพีระมิดน่ะ

เป็นบ้าน อ.อุบล จ้า

ถ้าเจ้าของบ้านคนนี้ต้อนรับป้าติ๋ม

ก็โปรดเดินให้สง่างามเลยนะป้าติ๋ม

ที่นี่

ต้อนรับคนบาป

ที่กลับใจ 

แต่

ป้าติ๋ม เป็น ฮีโร่

ในดวงใจ อ.อุบล เลยนะ

คนอย่างนี้แหละ

ที่ชาติต้องการ

มีภาวะผู้นำที่น่ายกย่อง

จ้า ป้าติ๋ม จ๋า

ใครเขารังเกียจ

ป้าติ๋ม

ก็ช่างบิดา มารดา

เขาเถอะค่ะ

เรากินข้าวเรา

+

ข้าว อ.อุบล

นะจ๊ะ

*********************

นางฟ้าผู้แสนดีของป้าติ๋ม สมควรอย่างยิ่งแล้วที่ป้าติ๋มเคารพรักและศรัทธาในตัวท่านอาจารย์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นใน T.V.  ป้าติ๋มซึ้งในความเมตตาที่ท่านอาจารย์กรุณามอบให้ป้าติ๋ม  ป้าติ๋มน้ำตาร่วงเลยค่ะเมื่ออ่านจบ  ในโลกนี้ขอเพียงท่านอาจารย์อุบลคนเดียวที่เมตตาป้าติ๋มก็พอแล้วค่ะ   กราบแทบเท้านางฟ้า พระนางNefertari แห่งบ้านสวนพีระมิด
กราบ กราบ กราบ

อนุโมทนากับความคิด

และจิตสำนึกที่ดีงาม

ของป้าติ๋มด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ป้าติ๋มรู้ไหมว่า

คุณเพ็ญ มาจากสวีเดน

ออกไปสารภาพบาปว่า เธอ

เคยผ่านผู้ชายมา

3,000-4,000 คน

พอคนนี้พูดเสร็จนะ

ป้าติ๋มรู้ไหม

ว่า

มีอีกคนหนึ่ง

เค้าบอกกับคุณเพ็ญว่า

ของพี่นี่ยังน้อยนะ

ของเค้าน่ะ

ฟันผู้ชายมาแล้ว

ไม่น้อยกว่า หมื่นคน

อันนี้เรื่องจริงนะ

เค้าแย่งกันสารภาพ

และ

ไม่มีใครรังเกียจ

เค้ากันเลย

ถ้าเทียบกับป้าติ๋มนะ

เรื่องป้าติ๋ม

ติ๋ม

ไปเลย

เค้าแย่งกันสารภาพ

และ

ไม่มีใครรังเกียจ

เค้ากันเลย

*************
ท่านอาจารย์เจ้าขา  ใครจะรังเกียจป้าติ๋ม  ป้าติ๋มไม่สนใจเลยค่ะ  ขอเพียงเมตตาจากท่านอาจารย์อุบล  ท่านอาจารย์มงคล ก็พอแล้วค่ะ

ยังมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้เหลา  และจะต้องเหลา  ป้าติ๋มอยู่บ้านสวน 10 วัน 9 คืน  นอกจากป้าติ๋มจะได้เพื่อนที่ดี  รู้ใจกันแล้ว  ยังมีอีก 1 สุนัข คือ น้องบิก  สุนัขเพศผู้สีช๊อคโกแล๊ต  ที่วันแรกมันคาบรองเท้าใครไม่รู้มาให้ป้าติ๋ม 1 ข้าง  แล้ววันต่อมาก็คาบใบมะม่วงมาให้อีก 1 ใบ   ปกติป้าติ๋มเป็นคนที่รักสัตว์และชอบคุยกับสัตว์มาก เช่น สุนัข แมว  ตุ๊กแก และชนิดอื่นๆ  เหตุผลมันพูดไม่ได้ แล้วก็ดูเหมือนเขาฟังเราพูดกับเขาและเข้าใจรู้เรื่องกว่าคนหลายๆ คนเสียอีก  อย่างบิก วันแรกๆ ป้าติ๋มไม่รู้หรอกว่าชีวิตประจำวันเขากินอยู่อย่างไร  ก็เห็นน้องกร(หนุ่มลำปาง)เอานมกล่องให้กิน  และน้องตาเอาขนมปังโรยนมข้นให้กินช่วงบ่าย  แรกๆ ป้าติ๋มก็ไม่ได้เสวนากับบิกเท่าไหร่  เพราะจะออกไปสร้างบุญแรงกายกลางแจ้งมากกว่า แล้วบิกเขาก็ไม่สนใจป้าติ๋ม  ต่อมาป้าติ๋มเริ่มให้อาหารเขา  คุยกับเขา  บางวันเขามายืนมองป้าติ๋มกินข้าวแล้วน้ำไหลเขาไหลโจ๊ก ป้าติ๋มขำก็ขำ  ไม่รู้ว่าเขาอยากกินอะไร  ก็น้องกรอีกนั่นแหละ บอกว่าบิกชอบกินลูกอม คุณลุงบุญก็บอกโดยเฉพาะฮอลล์  กินแบบไม่เคี้ยวกลืนเข้าไปเลย  วันหนึ่งบิกเขามายืนดูป้าติ๋มนั่งพักในโรงทาน ป้าติ๋มก็ถามว่าเขาอยากกินอะไร  ป้าติ๋มเลยหยิบขนมปังกรอบที่มีรอยบิไปบ้างแล้วยื่นให้  ผลคือบิกไม่กิน  ป้าติ๋มก็ยื่นอีกบิกก็เฉยป้าติ๋มเลยเอาใส่ปากให้ เห็นเขางับเข้าปากป้าติ๋มดีใจคิดว่าบิกกินเข้าไปแล้ว  ที่ไหนได้คายขนมปังกรอบออกวางที่พื้น  ป้าติ๋มเลยบ่นดังๆ ให้เขาเรื่องไม่ยอมกินขนมที่ป้าติ๋มให้  น้องเทิงบอกป้าติ๋มว่าเดี๋ยวน้องเทิงเอาให้กินเอง  รับรองบิกต้องกิน  ผลคือบิกกินจริงๆ ป้าติ๋มเลยบ่นน้อยใจว่า ป้าติ๋มไม่สวยบิกเลยไม่ยอมกินขนมที่ป้าติ๋มให้  ป้าติ๋มไม่คุยกับบิกแล้วแหละ  แต่ป้าติ๋มก็เอานม เอาขนมให้เขาอยู่  แล้วป้าติ๋มก็ได้บิกเป็นเพื่อนเพิ่มทันที คือไม่ว่าป้าติ๋มจะเดินไปทางไหน  บิกจะเดินตามและนอนเฝ้าตลอด  บางครั้งป้าติ๋มลืมชวนเขา  สักครู่ก็เห็นบิกเขาเดินมาหาป้าติ๋มตรงที่ป้าติ๋มอยู่  ป้าติ๋มมีความสุขมากๆ ที่มีบิกเป็นเพื่อน กลางคืนบิกก็ไปนอนหน้าห้องน้ำใกล้องค์พีระมิดที่ป้าติ๋มพักอยู่  พอเช้าก็จะรอไปโรงทานพร้อมป้าติ๋มทุกวัน  จนวันสุดท้ายป้าติ๋มบอกบิกว่าป้าติ๋มจะกลับบ้านแล้วนะ  ตอนป้าติ๋มเดินไปขึ้นรถ บิกยังเดินตามไปส่ง  คิดถึงบิกมากค่ะ  ป้าติ๋มมัวแต่สร้างบุญเลยไม่มีรูปบิก  ขออนุโลมว่าเจ้าตัวนี้เป็นบิกแล้วกันนะคะ

เขาผู้นั้นก็...มีสภาพ

ดังที่เห็นแล้วอ่ะ

แล้วถ้า เขารู้ จะเป็นยังงัย55++

จาก พี่แมว

-----------

พี่แมว สรุปว่าผู้โชคดีคนนั้นเขารู้ตัวยางเนี่ยย...หากรู้ตัวแว้ววทำหน้าตาเหมือนอุรังอุตังผูกโบว์ ป้าติ๋มเสียใจแย่ดิก๊าบบ 5555

ไงป้าติ๋มจัดหนัก จัดเต็มไปเลยนะก๊าบบ หลานๆรอฟัง รอลุ้นตัวโก่งอยู่ ผู้ใด๋น๊ออ เป็นตาอีโต๋นแท้ๆ 555

ป้าติ๋มสมกับเป็นหลานย่าโม

มีเลือดกล้าหาญน่ายกย่องมาก ๆ ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ว่าแต่ ท่านอาจารย์มีแต่ลูกสาวนะคะ

ธนาพร สิทธิ์ฤดี  หญิงป้อม

อมรศรี  น้องนุชตัวเล็ก

 2 คนหลัง ผิดศีล ส่วน 3 คนแรกน่ะป้าติ๋ม

ปากคอคมกริบเชียว ขืนป้าเคี้ยวเอื้องล่ะก้อ

เสียวฟันนา ใบข่อยขัดฟันก็เอาไม่อยู่

มีทั้งปลาร้า มีทั้งสะตอ

กลิ่น ตุ ตุ ทั้งนั้นป้าติ๋มมมมมมมมมมม

 ป้าติ๋ม เป็น ฮีโร่

ในดวงใจ อ.อุบล เลยนะ

คนอย่างนี้แหละ

ที่ชาติต้องการ

ทำผิดแล้ว

กล้ารับ กล้าเปิดเผย

เขาเรียกว่า

มีภาวะผู้นำที่น่ายกย่อง

จ้า ป้าติ๋ม จ๋า

..................................

เข้ามายืนยัน-นอนยัน-นั่งยัน ว่าลูกบ้านสวนเป็นฮีโร่ในดวงใจเลยคะ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั่งฟังป้าติ๋มสารภาพบาป รู้สึกอย่างหนึ่งว่าบรรยากาศในวันนั้น

ทุกๆคนที่อยู่ในห้องส่งแรงใจให้ป้าติ๋มกันทุกๆคน

มีแต่ลูกบ้านสวนนี้แหละที่เป็นกำลังใจให้กัน เวลาที่เราเล่าความเลวที่เคยทำมา

....พอรู้ว่าป้าติ๋มเป็นครู.......

เนี่ยแหละแม่พิมพ์ของชาติ

ส่วนอีกคนที่หนึ่งเคยดูเทปแล้วยกมือให้ เจอตัวจริงอยากจะกอดน้องมากๆๆ

น้องตั๊กกัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ 

หญิงไทยใจกล้า ขนาดน้องอายุยังน้อยแต่สารภาพบาปเรื่องศีลข้อ 3 ได้ประทับใจ

กับความกล้าหาญของน้อง

นั่งๆดูแล้วคิดถึงสภาพจิตใจน้องตอนสารภาพ ไหนจะกลัวคุณพ่อ-คุณแม่ รู้ความลับ

...กลัวอะไรต่อมิอะไรสาระพัด แต่สุดท้ายน้องเลือกจะกลัวบาป...(ประทับจริงๆ)

ขออนุโมทนา

กับทุกท่านที่ได้เล่าธรรมทาน

ในหลายๆ เรื่องด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

เมื่อวาน (03/05/55) เวลา 14:53 น. เกดได้โอน

เงินใส่บาตรวิระทะโย ในทุกๆ วัน เป็นจำนวน 499+1 บาท

โอนเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ เลขที่ 0650347289

เกดขอร่วมทำบุญทุกบุญใน

บ้านสวนพีระมิด

เจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

** ขอโทษค่ะ เกดยังไม่ได้ฝากข้อความเสียงเลยค่ะ **

 วันนี้ ( 4 พ.ค. 55 ) เวลา 14.52 น. ได้โอนเงินจากการใส่บาตร วิระทโย จำนวน 399 + 1 เพื่อร่วมบุญสร้างพระ เข้าบัญชีท่านอจ.อุบล ธนาคารกรุงไทย  เลขที่ 212-0-16993-4  ขออนุญาตแจ้งในกระทู้นี้ค่ะ

กราบเรียนท่านอาจาร์ยอุบลที่เคารพ  ลูกนางจันทิรา   กาลมัชฌิมา  โอนเงินร่วมสร้างพระพุทธรูป   ธนาคารกรุงไทย  บ/ช 212-0-16993-4  วันที่4/5/55. เวลา 18:04  จำนวน  499+1  ค่ะ

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับธรรมทาน และบุญทุก ๆ บุญ กับทุกๆ ท่าน  ด้วยค่ะ

    สาธุ     สาธุ     สาธุ

งั้น..พี่มหาและป้าติ๋ม...

กรุณา "จัดเต็ม"เลยค๊า

**********************

GO  BIG  แปลแบบ wife rent  หมายฟามว่า ไป ใหญ่  แย้ว.ว..ว.ว.ว.

คุณน้องชนิดา  คุณน้องธนา  และคุณน้องแมวเหมียวเปรี้ยวจี๊ด 

พี่มหาของคุณน้องทั้งหลาย หล่อนไม่รู้โหน่อิเหน่ เด้อ

และป้าติ๋มแกก็ไม่ได้ก้าวหน้าไปถึงไหนเล้ย

ถ้าจะจัดเต็ม ป้าติ๋มจัดคนเดียว...จ้า

หลีโตนพ่อมหา ..แท่น้อ

*********

 ส่วน 3 คนแรกน่ะป้าติ๋ม

ปากคอคมกริบเชียว ขืนป้าเคี้ยวเอื้องล่ะก้อ

เสียวฟันนา ใบข่อยขัดฟันก็เอาไม่อยู่

มีทั้งปลาร้า มีทั้งสะตอ

กลิ่น ตุ ตุ ทั้งนั้นป้าติ๋มมมมมมมมมมม

 ว๊าย!...น้องสรจ๋า 

มอบตำแหน่ง"ควายแก่"ให้ป้าติ๋มเลยนะเนี่ย  โอ๋...อย่างอน

แบบว่าอากาศมันร้อนมาก  ก็เย้าแหย่กันเล่นพอคลายร้อน จ้า..อิ..อิ..อิ

อย่า.. เป็น งง  เจ้าตัวเล็กคือหลานยาย

เปรียบเป็นพี่มหา..ของ คุณน้องทั้งหลาย...จ้า  อิ..อิ..

น่ารักมากใช่อ๊ะ เปล่า...

หรือรูปนี้ โตขึ้นมาหน่อยแล้ว  เขาน่ารักนะคะ

แล้วเจอกัน ค่าย 12  คร๊าบ..บ..บ..บ

เห็นคุณหลานแล้วน่ารักจังค่ะ

ป้าติ๋มมีห่วงคล้องใจซะแล้วววววววว

กราบเรียน ท่านอาจารย์ อุบล ที่เคารพ เมื่อประมาณวันที่อังคาร ดิฉันได้โทรสั้งครีมค่ะแต่กลัวว่าจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่เพราะคลื่นไม่ค่อยดีเลยค่ะ  ดิฉันเลยขออนุญาติย้ำที่กระดานนี้อีกทีนะคะ   และเมื่อเช้านี้พี่สาวได้โอนเงินเข้าบัญชีอาจารย์ หมายเลย  1810684678 สาขาลาดพร้าว จำ 9700 บาท ค่ะ และของที่สั่งมีดังนี้ค่ะ

                    ปิรามิดรุ่นท้าวเวสสุวัณ   2   องค์                 600 

                                 สบู่โรส         4   ก้อน                1000

                    ครีมบารานส์      เช้า     4   ขวด                 2000

                                         เย็น     4   ขวด                 2000

                    ครีม มิราเคิล      เช้า      1  ขวด                 2000

                                         เย็น       1 ขวด                 2000

                                   รวมเป็นเงินค่าสินค้าทั้งสิ้น           9600

                                                   ค่าส่ง                      100

                                    รวมทั้งหมดเป็นเงิน                    9700   บาทค่ะ

        กรุณาส่งไปที่

                         คุณ  สมปอง   เรืองรังษี

                               62/55 หมู่ที่ 3  หมู่บ้าน เลิศอุบล

                               ต. ท่าแร้ง       เขตบางเขน

                               กรุงเทพฯ  10220  

กราบขอบพระคุณอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

อนุโมทนากับความกล้าหาญของป้าติ๋มด้วยนะคะ

ตั๊กได้อ่านธรรมทานจากหลายๆท่านเรื่องของป้าติ๋มแล้ว

ป้าติ๋มเป็นบุคคลที่น่ายกย่องมากเลยค่ะ

แล้วตั๊กเชื่อว่าลูกบ้านสวนทุกท่าน ก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน

และพร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้เมื่อผู้นั้นสำนึกผิดและพร้อมที่จะ

แก้ไขปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่  และที่สำคัญ อาจารย์แม่ท่านมีเมตตา

ต่อลูกๆทุกคน ไม่เคยรังเกียจใครเลย ถึงแม้ว่าเค้าจะทำชั่วมาแค่ไหน

ลูกกราบขอบพระคุณอาจารย์แม่มากค่ะ กราบ กราบ กราบ

ขอเป็นกำลังใจให้ป้าติ๋ม ในการเดินหน้าทำความดีต่อไปด้วยนะคะ ^^

.........................................................

และก็ขอบคุณพี่หนึ่งมากๆนะคะ 

ไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันเมื่อไหร่นะคะ

แต่ถ้าเจอแล้วต้องกอดเก๊าน๊าาา อิอิ (ล่อเล่นค่ะ ^^)

สภาพจิตใจตอนที่ตั๊กสารภาพนั้น พร้อมทุกอย่างแล้วค่ะพี่หนึ่ง

เพราะเตรียมตัวมากจากบ้านแล้ว ก็ทำใจไว้แล้วล่ะค่ะ ถ้ามันจะเกิด

อะไรขึ้น ตั๊กก็พร้อมยอมรับกับสิ่งนั้น เพราะตั๊กทำตัวเอง ก็ต้องยอมรับ

ให้ได้ทุกอย่าง แต่โชคดี ที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้ตั๊กมีกำลังใจ

มุ่งมั่นที่จะสร้างความดีต่อไปค่ะ

อนุโมทนาธรรมทานจากทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ

มีข่าวมงคลมาฝากพี่น้องบ้านสวนฯ

สื่อจากมหาเทพ เมตาตรอน ค่ะ

ขอบคุณข้อมูล จากคุณ ชยุต

แห่งเว็บพลังจิตด้วยค่ะ

................................................

พอดีมีข้อความใหม่ล่าสุดมาจากท่านมหาเทพเมตาตรอนหนะครับ
เกี่ยวกับการเชิญชวนให้มาทำสมาธิหมู่ร่วมกันทั้งโลก
ในวันที่ 5/5/55 นี้ตามวันเวลาแบบไทยเรา แต่เป็นวันแห่งความรักสากลครับ

ซึ่งการทำสมาธิหมู่ที่ว่านี้ ท่านให้ปลดปล่อยสิ่งที่รบกวนจิตใจเราอยู่ออกไป
ให้ค้นหาความรัก และ การให้อภัยที่อยู่ภายในของเราให้เจอ
เพราะว่าไม่มีพลังงานใดอีกแล้วในทั่วทั้งอาณาจักรแห่งการสรรสร้างนี้
ที่จะมีพลังอำนาจมากกว่า "ความรัก" แต่มันก็ต้องเป็น
"ความรับแแบบปราศจากเงื่อนไข" เท่านั้นหนะนะครับ

แต่ว่าการให้อภัยที่ว่านี้ ก็ไม่ใช่การไปยอมให้ใครมาทำอะไรเราก็ได้ซะหมดนะครับ
และการให้อภัยที่ว่านี้ จะทำให้กรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่นของเรา ถูกตัดไป

ท่านว่าให้ใช้โอกาสนี้สร้างโลกใหม่ที่ดีกว่าเดิมขึ้นมา
โดยเพียงแต่ทำสิ่งต่างๆด้วย ใจดวงเดียวกัน ด้วยความคิดและความตั้งใจอย่างเดียวกัน

เดี๋ยวคุณเดรดเธอคงแปล และ โพสต์ให้อ่านทีหลังหนะนะครับ
เพราะว่า เหมือนกับว่า พรุ่งนี้จะมีข้อความใหม่มาเพิ่มเติมอีกอยู่

ข้างล่างนี้เป็นข้อความที่คุณเดรดฝากมานะครับ
............................................................


คุณชยุต เจ้าขา.... คาดว่าอิชั้นคงแปลไม่ทันแหงๆ
ท่านช่วยไปสรุปเลยดีกว่าไหม

เพราะเป็นแค่การมาแจ้งให้ร่วมกันทำสมาธิ
แบบว่าวันนี้ประตูเปิดอะไรประมาณนั้น
รู้สึกเขาจะทิ้งท้ายว่าพรุ่งนี้จะมีข้อความมาอีก เดี๋ยวค่อยดูอีกทีว่าเป็นไง

ส่วนตอนนี้ ถ้ารออิชั้นแปล คงไปโพสต์ได้เย็นย่ำค่ำมืด แล้วเนื้อหาก็ไม่มีอะไรนัก
ในส่วนที่ ลิงค์เพิ่มเติม ต่อท้าย ก็เป็นการบอกวันเวลาในแต่ละ Time Zone
ใกล้เราก็ ญี่ปุ่น พอกล้อมแกล้ม ไม่ได้ทำฤกษ์ ทำพิธี ไม่ต้องเป๊ะก็ได้
แต่ถ้าจะให้เป๊ะ ก็เข้าเนทดูได้ พอดีโปรแกรมอิชั้นเดี้ยง ยังไม่ได้ซ่อม

แล้วเขาก็พูดถึงเรื่อง ข่าวการเมือง การเงิน คงไม่สำคัญจนต้องแปลมั้ง

และวันที่ 5 พค นี้ก็เป็นวัน Fullmoon ด้วย
ที่อิชั้นเคยบอกว่า มันจะเป็นวันที่มีพลังงานสูงสุดในรอบเดือน
จึงเหมาะกับการรับและส่งพลังเป็นอย่างยิ่ง

มันก็แปลกดีเน๊อะ มาตรงกับ เสาร์ 5 ตามความเชื่อของไทย
แถมเป็นวัน super moon ที่ดวงจันทร์จะโคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี
ปกติใกล้สุด 384000 แต่วันนี้เข้ามาอีกถึง 356955 กม.
จะสังเกตว่าช่วงนี้พระจันทร์จะใหญ่มากๆ

คุณชยุตไปสรุปให้ทีน้า คุณชยุตละเอียดลออกว่า

เดี๋ยวขาดเหลืออะไรจะตามไปช่วยเก็บ(ถ้ามี)

นะ นะ นะ Pleasesssss.....

...............................................................

เห็นบางกลุ่มนัดกันทำสมาธิหมู่ในช่วง

เช้ามืด ตี5 5 นาที หรือถ้าไม่ทัน

ก็ทำ  5โมงเย็นหรือ  5ทุ่ม 5 นาที

ก็ดีทั้งนั้นค่ะ หรือจะทำในช่วงที่สะดวก

เวลาใดก็ได้ เพราะทำความดี

ทำตอนไหน ก็ถือว่าเป็นฤกษ์ดีทั้งน๊าน...

แหม่..เห็นรูป หนูน้อยหลานยาย

ของคุณป้าติ๋มแล้ว น่าชังมั่กๆ

ยังกะ หลวงจีนน้อย เลยเนอะ..อิอิ

...................................................

จะว่าไป "น้องตั๊ก" ก็เป็นหนึ่ง

ใน"ฮีโร่ในดวงใจ"ของพี่เหมือนกันนะ

กล้าหาญชาญชัย

สารภาพได้ไม่มีกั๊กและไม่มีเก๊ก

แล้วยังทำให้ผู้ชม

พลอยอารมณ์ดีไปด้วย..อีก

 น้องตั๊ก...พี่หนึ่งพูดจริงๆนะ

ประทับใจจริงๆ พอมามองย้อนตนเองเรื่องศีลข้อ 3 ที่ตนเองทำผิด

พี่นะแอบมีกิ๊กทางใจ

น้องตั๊กทำให้พี่คิดได้อย่างน้อยๆพี่ก็จะสารภาพบาปกับคุณสามีของพี่เพื่อให้จิตมันเบาขึ้น

แล้วเทปของตั๊กทำให้พี่คิดได้อีกเองหนึ่ง....

ทุกวันนี้ตั้งมั่นว่า พี่จะต้องสอนลูกให้เป็นคนดี...

แต่พี่ลืมคิดไปว่าก่อนที่เราจะสอนลูกให้เป็นคนดี

แล้วพี่จะสอนเขาให้เขารู้จักละอายใจต่อบาปอย่างๆไร

ถ้าขาดตัวนี้ตัวเดียวไม่ต้องไปคิดล่วงหน้าว่าจะให้เขาเป็นคนดีเลย

แหม่..เห็นรูป หนูน้อยหลานยาย

ของคุณป้าติ๋มแล้ว น่าชังมั่กๆ

ยังกะ หลวงจีนน้อย เลยเนอะ..อิอิ

...................................................

ค่ะ คุณน้องชนิดา  บางคนก็เรียกว่า ตี๋น้อย

บางคนก็เรียก ชินจัง

แต่ถ้าเขายิ้มแบบเต็มที่เมื่อไหร่

คุณยายจะเรียกเขาว่า

" แป๊ะยิ้ม " ค่า..

เห็นคุณหลานแล้วน่ารักจังค่ะ

ป้าติ๋มมีห่วงคล้องใจซะแล้วววววววว

*******************

จ้า.. น้องสรคนงามน้ำเสียงแสนไพเราะเสนาะหู

น้องกัญจน์เขาเป็นหลานยายคนแรก  และเขามีเพียงแม่ดูแลคนเดียว

ยายก็ค่อนข้างจะรักเขามาก เป็นทั้งพ่อและแม่เขาด้วย

ทีนี้จะถอดตำแหน่งควายแก่ที่ให้ป้าติ๋มได้หรือยัง จ๊ะ  อิ..อิ..อิ..

แต่ใจจริงป้าติ๋มก็ยังอยากครองตำแหน่งนี้ไปนาน ๆ

เพราะ ปกติป้าติ๋มก็เป็นควายบ้านสวนของท่านอาจารย์อุบลอยู่แล้ว จ้า

ควายบ้านสวนฯไม่ได้เป็นง่ายๆ นะคะป้าติ๋ม

สวย เก่ง รวยไม่พอ ต้องศรัทธา

ท่านอาจารย์อุบลด้วยค่ะ

............................................................

ไม่ต้องเคี้ยวเอื้องแล้วแต่

ก็หันมาเคี้ยวหมากกันสองคนนะคะพี่ขา!

กลัวปูนกัดปาก..จ้ะ 

ร้อนๆ อย่างงี้พักดื่มน้ำหวานเย็นๆ ดีกว่า เน๊าะ

น้องสร จ๋า เย็นชื่น..น..น..ใจ

หายเหนื่อยแล้ว 

ไปไถสวนช่วยอาจารย์พันปลูกมัน..ดีกว่า

ชะ..เอิง..เงิง..เงย..

แหม่..คุณป้ากะคุณเพ่เกสร

คุยกันเรื่องไรเนี่ย ฟังบ่รู้เรื่อง..เล๊ย

งั้นขอหญ้าอ่อนๆซักกำ

มาเคี้ยวทำใจก่อนเป็นไง..เนี่ย อิอิ..

อ้าว... ที่แท้พวกเราก็

สปีชีส์ เดียวกัน นี่น๊า

...................................

เห็นชื่อคุณมาร์ค ออนไลน์ แว๊บๆ

คิดว่า คงต้องเข้ามาอัพโหลด

รายการตอนล่าสุดให้พวกเรา

ได้ชมกัน..แน่ๆ

ขอบคุณมากๆนะค๊า...

ว่าแล้วก็ไปดูรายการดีฝ่า

ประกาศคนหาย

แบบว่า น้องหญิง

หายจากหน้าจอไปเกิน 48 ชม.

อย่างไร้วี่แวว  ฉะนั้น น่าเป็นห่วง..เจงๆ

จึงประกาศมา เพื่อให้รู้ว่า

ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วง

จากพี่ๆทุกๆคน นะจ๊ะ

จะว่าไป "พี่ชนิดา" ก็เป็นฮีโร่ในดวงใจของตั๊กเหมือนกันนะคะ

ในเรื่องการเขียนธรรมทานของพี่ชนิดาเนี่ย อ่านแล้วทำให้ตั๊กเข้า

ใจขึ้นมาอีกเยอะเลยค่ะ เพราะพี่ชนิดาจับใจความสำคัญ มาสรุป

ให้เข้าใจ และยังสามารถมาขยายในส่วนที่เข้าใจได้ยาก ออกมาให้

กระจ่างได้อีกด้วย...สุดยอดจริงๆค่ะ

อนุโมทนากับพี่หนึ่งด้วยนะคะที่จะสารภาพบาปกับคุณสามี

และความตั้งมั่นที่จะสอนลูกให้เป็นคนดี..

และก็ขอช่วยพี่ชนิดาประกาศคนหายอีกแรงนึงนะคะ ช่วยกันๆค่ะ

น้องหญิงจ๋า...ถ้าได้ยินเสียงพี่ๆเค้าเรียกแล้ว รีบมารายงานตัวด่วนเลยน๊าา  พี่ๆทุกคนเค้าคิดถึงและเป็นห่วงกันจ้าา

จะถอดตำแหน่งควายแก่ที่ให้ป้าติ๋มได้หรือยัง

-*-*-*-*-*-*-*-

ป๊าด..โธ่...คนแก่คุยกัน  555++

แมวพึ่งกลับจาก บ้านสวนฯ

นำบุญฝาก คนแก่น้อย แก่มาก ทุกคนคร๊า

-*-*-*-*-*-*-*-

อิ อิ ป้าติ๋ม คิดถึงกันหรือเปล่า

สัปดาห์หน้า ปิด ขุม 3

มา มะ ไม่มาจะเสียใจ 555++

ไม่เคย รักใคร เท่าติ๋ม.ม.ม.ม

เฮ่อ.คิดถึงอ่ะค่ะ

สาธุ...อนุโมทนาบุญกับคุณน้องแมวเหมียวด้วยนะคะ

คิดถีง คุณน้องแมวเหมียวเปรี้ยวจิ๊ดที่ซู๊ด.....

แล้วอยากรู้จังนอกจากน้องแมวเหมียวแสนซนแล้ว

มีใครคิดถึงป้าติ๋มมั่ง อ๊ะ เปล่า...

อิ..อิ..อิ..

คุณชนิดาจ๋า

เรื่องคนหายต้องถาม

คุณแมว

ค๊า

-----------------

ได้ข่าวโคมลอย

ว่า

คนที่หายไป

ที่คุณชนิดาประกาศหา

เค้าโทร.หาคุณแมว

แล้วอยากคุยกับ อ.อุบล

แต่

พอคุณแมวบอก

อ.อุบล กำลังคุยอยู่

น้อง ญ เลยบอก

งั้นหนูยังไม่คุยกับ อ.ดีกว่า

หนูจะโทร.มาใหม่

เพราะอะไร

น้องหญิงไม่ได้เข้าเวป

2-3 วัน

คุณแมวแจ้งข่าวด้วยจ้า

คุณชนิดา

จะได้ ถอน แจ้งความ

 อาทิตย์นี้มีคนบ่นถึงป้าติ๋มนะครับ มีแต่คนร้องเพลงไม่เคยรักใครเท่าติ๋ม (ของวง โมเดริน์ด๊อกน่ะครับ 55) 

ขอมาเล่าบรรยากาศ กิจกรรมบุญปิดบัญชีนรกขุม 2 ที่เพิงผ่านมาหมาดๆ ครับ

วันเสาร์ 5 พ.ค. 2555

     ในวันนี้นับว่าเป็นฤกษ์ดี วันเสาร์ 5 ใครๆต่างก็อยากจะทำบุญ แต่การทำความดี ไม่เวลา วันไหน ๆก็ต้องได้รับผลดีแน่นอน เริ่มด้วยช่วงเช้า พวกเราก็ได้มาร่วมกัน เทปูน วิหาร กันจน บ่ายๆก็ไปสร้างฐานพระด้านหลังกันต่อ ซึ่งอากาศในวันนี้ร้อนมากๆ พอช่วงที่เราไปสร้างฐานพระ ก็มีฝนตกมาให้พวกเราหายร้อน แต่ล่ะคน บ่นหนาว ตัวสั่นกันเป็นแถว ร้อนก็บ่น หนาวก็บ่น เกิดเป็นคนมันก็ยุ่งแบบนี้ หลังจากนั้นช่วงเย็นก็ได้เข้าสู่ กิจกรรมช่วงค่ำ กันต่อ ซึ่งวันนี้คนที่มาร่วมสมาทานศีล ขอบคุณ ขอขมา มีทั้งหมด 11 คนครับ หลังจากนั้นก็ได้เริ่มพิธีปิดบัญชีนรกขุม 2 ซึ่ง ท่านอาจารย์ก็ให้เรานึกถึงเจ้ากรรมนายเวรขณะที่เริ่มอุทิศบุญก็เริ่มมีอาการสั่น หลังจากนั้นก็หายครับ คิดว่า เจ้ากรรมนายเวรเค้าคงรับบุญจากเรา แล้ว แต่มีอยู่เรื่องนึงครับที่ ไม่ได้นึกถึง คือตอนเด็กๆ นั่งรถเมล์แล้วไม่จ่ายค่าโดยสาร คิดว่า นึกมาล่วงหน้าแล้วแต่เรื่องบางเรื่อง มันนึกไม่ถึงจริงๆ

ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารยือุบลและครอบครัว ที่ได้เมตตาให้ลูกได้มีโอกาสปิดบัญชีนรกขุมนี้ครับ

ผลกรรมก็ยังเดินต่อ หากไม่หยุดประกอบกรรม

     เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณแม่ของน้องต้นอ้อ ได้มาขอบคุณ และรายงานผลว่าอาการทุกๆอย่างดีขึ้นหลังจากที่ได้มาร่วมบุญ ไม่ว่าจะเป็น ทั้งทางสุขภาพ คือ ที่ป่วยเป็นเนื้องอก เพราะผลกรรมในอดีตชาติ ที่เหมือนว่าจะชำระสะสางไปแล้ว

     หลายๆคนที่ได้มาบ้านสวนบ่อยๆคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของน้องต้นอ้อ คือ ร่าเริงขึ้น จากที่เคยเป็นเด็กขี้วีน เอาแต่ใจ สุขภาพก็ดีขึ้น ความสูงเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ แต่อาการต่างก็ยังไม่หาย

     ซึ่งวันนี้ ก็ได้มารู้สาเหตุอีกอย่างนึง ว่าทำไมน้องต้นอ้อ ยังไม่หายขาด เพราะ ครอบครัวของน้องต้นอ้อประกอบอาชีพ เลี้ยงปลา ซึ่งก็เป็นอาชีพที่ต้อง ทำผิดศีลข้อปาณาติบาต ท่านอาจารย์อุบลก็แนะนำให้คุณแม่น้องต้นอ้อ(คุณอัง) ไปบอกสามีให้เลิกอาชีพเลี้ยงปลา น้องต้นอ้อจึงจะหายขาด พวกเราก็เอาใจช่วย น้องต้นอ้อกัน ให้คุณอังทำสำเร็จ

     ถึงแม้ว่าจะได้มาสร้างบุญมาโดยตลอด แต่ยังไม่หยุดประกอบกรรม ผลกรรมมันก็ยังคงเดินต่อไป

      ถ้าให้เราเลือกระหว่างการได้เงินมาจากการเบียดเบียนผู้อื่นแล้วต้องมาแลกกับความทุกข์เราเองก็คงไม่มีใครอยากทุกข์ แต่เราเองมีสิทธิ์ที่จะเลือกที่จะประกอบอาชีพที่ไม่ผิดศีล เพื่อไม่่ให้ต้องมาเจอเคราะห์กรรมได้

     การเลี้ยงสัตว์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น ปลา หรือ อะไรก็แล้วแต่จุดประสงค์ก็คือเลี้ยงเอาไปเป็นอาหาร(ฆ่า) ถ้าเราทุกๆคนยังไม่หยุดที่จะทานเนื้อสัตว์ ความทุกข์ต่างๆัมันก็ต้องวนมาเจอเราสักวัน

ไว้เดี๋ยวมาเล่าท่านอื่นๆ ต่อครับ

คุณชนิดา

จะได้ ถอน แจ้งความ

............................

งั้น ชนิดาขอถอน แจ้งความ(ในใจ)

ก่อนนะคะ อิอิ

แต่ก็พอจะรู้อยู่ว่า

ช่วงนี้ น้องหญิง เค้า...

ม่ายค่อยฉะบายยย... ค่ะ

น้องตั๊ก ก็จะได้สบายใจด้วยเนอะ

...................................................

อนุโมทนากับทุกๆบุญ

และ ธรรมทานจากน้องเอิ้น ด้วยนะค๊า

สาธุ สาธุ สาธุ

..........................................

แล้วก็คิดถึง ป้าติ๋ม เหมือนกัลล์ จ๊า...

ว่าแต่....เมื่อไหร่ป้าติ๋ม

จะมาโชว์ตัว ที่บ้านสวนฯอีกล่ะค๊า

สาธุ...อนุโมทนากับธรรมทานของน้องเอิ้นด้วยนะคะ

+++++++++

อาทิตย์นี้มีคนบ่นถึงป้าติ๋มนะครับ มีแต่คนร้องเพลงไม่เคยรักใครเท่าติ๋ม (ของวง โมเดริน์ด๊อกน่ะครับ 55) 

..........................................

แล้วก็คิดถึง ป้าติ๋ม เหมือนกัลล์ จ๊า...

ว่าแต่....เมื่อไหร่ป้าติ๋ม

จะมาโชว์ตัว ที่บ้านสวนฯอีกล่ะค๊า

++++++

...อยากบอกให้รู้ว่าคิดถึงที่สุด..

ทั้งน้องเอิ้น  น้องชนิดาและลูกบ้านสวนทุกคน ค่า

ค่าย 12 ชัวร์ป้าบ!

ป้าติ๋มรอนางรำอยู่นะคะ คุณน้องชนิดา

น้องหญิงคนสวย ไม่ฉะบาย

หายเร็วๆ นะคะ ป้าติ๋มคิดถึงหลายเด้อ..

เอ...แล้ว...ใคร

เค้าบอกว่า น้องหญิง

ไม่ฉะบายจ๊ะเนี่ย

อิ อิ อิ

น้องหญิงไม่ได้เข้าเวป

2-3 วัน

คุณแมวแจ้งข่าวด้วยจ้า

คุณชนิดา

จะได้ ถอน แจ้งความ

-/-/-/-/-/-/-/-/-/-

ข้าแต่ศาลที่เคารพ

สาเหตุที่ น้องหญิง

ไม่ได้เข้ามาเยี่ยม เวปฯ

เนื่องจาก งานรัดตัว

ต้อง ทำ OT ในช่วงนี้

กลับถึงบ้าน ก็หมดแฮง.ง.ง

เพราะตัวเล็กอยู่แล้ว ยังโดนรัดอีก

เฮ่อ ..ลูกบ้านสวนฯ ก็งี้แหละ

งานเข้า..ตลอด

ยังไง น้องหญิงก็รักษาสุขภาพ

บ้างนะคะ พี่ ๆ เป็นห่วง

ปล. พี่เรียน อ.อุบล ให้แล้ว

ว่า น้องหญิงคิดถึง อ.อุบลที่ซู๊ดจ๊ะ

  ขอโมทนากับป้าติ๋มสุดสวยคนนี้ด้วยคนนะจ๊ะ  สาธุ

น้องหญิงสู้ๆ มั่นใจว่าเรื่องจิ๊บๆแค่นี้ น้องหญิงเหล็กผ่านได้สบายอยู่แว้ววครับ

หากยอมมาค่าย12นะ พวกเพ่ๆจะจัดบูมต้อนรับ ฮ่าๆ แค่คิดก็อายแว้วว ตอนบูมรับบัณฑิตใหม่อย่างคุณท็อป ซ้อมมาดิบดี บูมผิดบูมถูก แต่มันส์ด้วยบรรยากาศเน้ออ

แต่ก็พอจะรู้อยู่ว่า

ช่วงนี้ น้องหญิง เค้า...

ม่ายค่อยฉะบายยย... ค่ะ

เอ...แล้ว...ใคร

เค้าบอกว่า น้องหญิง

ไม่ฉะบายจ๊ะเนี่ย

อิ อิ อิ

**************

ตกลงน้องหญิง ม่ายฉะบาย หรือว่า ฉะบายดีคะ เนี่ย..

ทราบแล้ว โปรดเฉลย ด่วน รู้มั๊ย ครายๆ เขาก็ห่วงน้องหญิงทั้งน้าน..น..น

 สวัสดีญาติธรรมทุกท่านครับ

สาธุ..อนุโมทนาธรรมทานของน้องป้อม นะคะ 

ช่วงนี้ผมรู้สึกว่า ทำไมคนที่มาบ้านสวนฯเนียะ มีอาชีพเป็นครูเยอะจัง เบื้องบนท่านคงจัดสรรอะไรบางอย่างแน่เรยครับ เพราะตอนนั่งฟังอยู่ ก็มาสารภาพบาปว่า ผิดศีลข้อกาเมฯบ้าง ลักทรัพย์ บ้าง เบิกเงินหลวงแบบไม่ถูกต้อง อะไรประมาณนี้ ผมเรยคิดเองว่า อาชีพครูนั้น ยิ่งเป็นข้าราชการในแผ่นดินองค์ในหลวงด้วย ยิ่งจำเป็นต้องเป็นแบบอย่าง ให้กับเยาวชนคนรุ่นต่อๆไป ซึ่งก็เป้นอีกอาชีพนึงที่มีบทบาทในการกำหนดทิศทางและเป็นรากฐานระดับจิตใจ ให้กับเยาวชนรุ่นต่อๆไป ไม่มากก็น้อยครับบบ

ยังเหลือครูอีกมากมายที่ผิดศีล 5 ครบ แต่ยังไม่มีบุญได้มาที่บ้านสวนฯนี้  แต่ก็ยังมีครูอีกส่วนหนึ่งที่ได้มาบ้านสวนฯ นี้อย่างป้าติ๋ม เป็นต้น และต่อไปจะพยายาม แตก กิ่ง ก้าน ใบ ดอกและผล บุญให้สุดฤทธิ์สุดเดชเลยแหละน้องป้อม

แต่..ยังไม่รู้เลยว่า ปิดนรกขุม 3 (สำมะคัญมาก..ก..ก)

ป้าติ๋มจะได้มาไหม (อยากมาเป็นที่สุด..)

ขอพระบารมีเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

โปรดเมตตาให้ป้าติ๋มได้มาปิดนรกขุมที่ 3 นี้ด้วยเถิด เจ้าค่ะ

มาเล่าธรรมทานต่อครับ

"วันนี้ที่รอคอย"ของพี่เหมี่ยว

     พี่เหมี่ยวได้ออกมาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำให้อาการมือที่เหมือนเป็นโรคสะเก็ดเงินคือมีอาการ มือลอก เท้าลอก เนื่องจากผลกรรม ลักขโมยผลไม้ แต่หลายๆคนสงสัยว่าทำไม เท้าจึงลอกด้วย ก็เพราะเวลาจะไปขโมยก็ต้องใช้ขาเดิินไปเช่นกัน เพราะฉะนั้นเราควรจะใช้ร่างกายของเราไปทำแต่สิ่งดีดี จะได้ไม่เป็นบาป และกล้าที่จะเด็ดขาด ตัดขาดสิ่งที่ไม่ดีทั้งปวง

     อีกทั้งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พี่เหมี่ยวไม่หายก็คือ ยังเขียนเอกสารเท็จ เช่น บิลเงินสดให้ลูกค้าอยู่อาการถึงยังไม่หาย เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้ใช้หนี้กรรมเก่าไปแล้วไม่ควรจะก่อหนี้กรรมใหม่อีก จะได้หายอย่างถาวร

     ก่อนหน้านี้พี่เหมี่ยวได้อฐิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ตนจะขยันมากขึ้น ซึ่งปรกติพี่เหมี่ยวก็เป็นคนขยันมากๆ อยู่แล้ว จากที่รอมานานวันนี้ก็มาถึงสักที

หากไม่อยากเจอคุณไสยให้เลิก "โกรธ"

     เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่ไอซ์ ได้ออกมาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยให้พี่ชายหายจากอาการเหมือนโดนคุณไสย คือมีอาการ ฉุนเฉียวอยุ่ตลอดเวลา คุยกับคนอื่นไม่ค่อยรู้เรื่อง มีปัญหากันตลอดหลังจากที่พี่ใอซ์ อฐิษฐาน กับปิรามิดรุ่นเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ และให้พี่ชายถือไว้ ในวันต่อมา เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน

     แต่โดยปรกติ พี่ชายของพี่ไอซ์เป็นคนโกรธง่ายอยู่แล้วจึงเป็นเหตุให้รับพวกคุณไสย สิ่งไม่ดี เข้ามาได้ง่าย เพราะฉะนั้นเราจึงต้องหมั่นเป็นบุคคลที่ คิดบวก ละวางความโกรธ เพราะจิตใจที่ดี ก็ย่อมดึงดูด สิ่งที่ดีดีเข้ามา "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ร่าเริงผ่องใส"

การนับถือทุกๆศาสนา คือ"กำไรชีวิต"

     เรื่องนี้พี่อัญ จากเชียงใหม่ออกมาขอขมาเรื่องที่ใช้ไม้ขนไก่ผิดอันเวลาทำความสะอาด ซึ่งทางที่ดีเวลาที่เราทำความสะอาดรูปภาพที่มีกรอบควรใช้ผ้าสะอาดชุดน้ำเพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย คุณอัญคิดว่าทำให้ส่งผลถึงสินเชื่อ ของธนาคารแต่จริงๆแล้ว สาเหตุที่แท้จริง คือความโกรธ ที่เป็นตัวปิดกั้นโชคลาภ แต่คุณอัญก็ได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยทำให้ ยอดสินเชื่อของตนยังติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ จีงได้มาขอบคุณด้วย

    ธรรมทานจากเรื่องนี้ ก็ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่คุณอัญเคยปรามาสศาสนาคริสต์ ว่าสู้ศาสนาพุทธไม่ได้ ศาสนาคริสต์สอนแค่สวรรค์ แต่ศาสนาพุทธสอนถึงนิพพาน ซึ่งจริงๆแล้ว พระเยซูเองก็เป็นพระโพธิสัตว์ ที่หลวงพ่อฤาษีเคยได้พบท่านที่ดาวดึงส์แต่จริงแล้วท่านอยู่ชั้นดุสิต ซึ่งเป็นสวรรค์ที่เหล่าพระโพธิสัตว์อาศัยอยู่ ชั้นนี้มีความพิเศษ คือพระโพธิสัตว์สามารถอฐิษฐานจิต ลงมาต่อมาบารมีได้ตามต้องการและเลือกตระกูลเกิดได้ด้วย

     ซึ่งในบ้านสวนก็ได้มีผู้แต่งงานกับคนต่างศาสนา และคนศาสนาอื่นอย่างน้องเบส ที่เคยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ทำให้ผีที่มาอำ กระเด็นออกไป ซึ่งในครั้งแรกใช้ พุทโธ แต่ไม่สำเร็จ

     ซึ่งการที่น้องเบสใช้รหัสก็เป็นแผนจากเบื้องบนเพื่อให้น้องเบสเอะใจ และทลายความต่างของศาสนา เพราะต่อไปในอนาคต ทุกศาสนาจะรวมเป็นหนึ่ง และรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยก็เป็น มติของสิ่งศักดิสิทธิ์ทุกๆพระองค์ รวมทั้งศาสดาของทุกๆศาสนาด้วย

บุคลากรของชาติ ควรเป็นผู้"รักษาศีล 5"

     พี่แป้นได้ออกมาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องที่ครอบครัวมีความสุขขึ้น ตั้งแต่มารู้จักบ้านสวนฯ

     และำีพี่แป้นก็ได้ออกมาสมาทานศีล 5 อีกทั้งเคยได้เอาของหลวงมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ ปากกา หรือยา ทำเอกสารเท็จ ทำงานไม่เต็มที่ แต่รับเงินเต็มที่ เนื่องจากพี่แป้น รับตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาล ถ้าทุกๆคนในองค์กร เป็นบุคคลที่รักษาศีล 5 ซื้อสัตย์ องค์กรนั้นๆ ก็พัฒนาไปในทางที่ดี

อาินิสงส์ ของ"สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน"

     เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พี่ธนา ได้ออกมาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องที่ได้งาน ในตำแหน่ง และเงินเดือน ถึงเลข 6 หลัก พี่ธนาก็ได้กล่าวถึงผลบุญธรรมทาน ที่ีพี่เค้าทำอยู่อย่างเสมอๆ เป็นประจำ คงจะส่งผล ให้ได้รับอานิสงส์มากมายขนาดนี้ แต่พี่ธนาเองก็ถือว่าเป็นบุคคลที่ ทำบุญหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็น สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน ตั้งใจรักษาศีล 5

         ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆอีกคนเลยคือ น้องหญิง ที่เป็นอีกคนที่ขยันเขียนธรรมทาน ทุกๆกระทู้เลย ก็ได้งานแบบอัศจรรย์เช่นกัน

     เรื่องบุญนี่ใครทำ คนนั้นก็ได้ครับ เหมือนกินข้าว ใครกินคนนั้นก็อิ่มเอง อีกทั้งเวลากินข้าว คงไม่มีใครที่กินข้าวคำเดียวแล้วอิ่มไปตลอดชาตินะครับ ต้องกินทุกวัน เหมือนบุญเราก็ต้องขบันเติมบ่อยๆ ซึ่งบุญธรรมทานนี่ ทำครั้งเดียว คุ้มเสียด้วย เพราะมีคนมาอ่านเรื่อยๆ  

     อีกทั้งพี่เขาเป็นคนที่แบ่งเบาภาระของท่านอาจารย์อุบลในหลายด้านด้วยขณะที่พี่เขาไปสัมภาษณ์งานก็ได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ธนบัตรขวัญถุง ปีรามิดรุ่นบวงสรวงเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ  ติดตัวไปด้วย ยังไงก็ขออนุโมทนาด้วยครับ ผู้ที่ให้สิ่งประเสริฐ ย่ิอมได้รับสิ่งประเสริฐ 

"ธรรมทาน" สิ่งที่ทำ"ไม่ยาก" แต่ได้ผล"มาก"และต่อเนื่อง

     เรื่องนี้เป็นของคุณต๋อง-และคุณรัตนาวดี ฟักโต ได้ออกมาขอบคุณ เรื่องที่ต้องทำการเปลี่ยน รพ.จาก จังหวัดอุทัยธานี ไปสิงห์บุรี แต่เนื่องขณะนั้นเป็นเวลากลางคืน ไม่มีหมอมาเข้าเวร ก็อฐิษฐานขอให้ได้พบคุณหมอ ในเวลา 2 ทุ่ม ในที่สุดก็ได้ผล ในขณะนั้นคุณต๋องเป็นไขัหวัด อีกทั้งคุณต๋องเองก็ติดบุหรี่ คราวนี้ท่านอาจารย์ก็ได้มาแสดงว่าทำกรรมอะไร จึงต้องมาติดบุหรี่ และในที่สุดก็ต้องเป็นโรคปอด เนื่องจากเคย ฆ่าแมลง มด และ ผึ้ง ด้วยการใช้ควัน กรรมรวมตัวกับการที่คุณต๋งเป็นคนโมโหร้าย ปากไว

           คุณต๋องเองเคยมีความคิดที่จะไม่นับถือศาสนาอะไรเลยเนื่องจาก ไม่ชอบพิธีการต่างๆ ซึ่งจริงๆ ถึงแม้คุณจะไม่นับถือศาสนาอะไร เพียงแต่คุณอยู่ในพื้นฐานของศีลธรรม ไม่ละเมิดผู้อื่น ซึ่งเป็นกฎสากล คือกฎแห่งกรรมอยู่แล้ว

     อีกทั้งหลายๆคนสงสัยว่าทำไมบ้านสวนพีระมิดจึงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ซึ่งทุกๆคนก็สามารถทำได้เพียงแค่เรา ให้ทาน รักษาศีล ทำสมาธิ คิดดี พูดดี ทำดี ก็จะเป็นสิ่งที่ดึงดูด พลังงานที่ดี เช่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามกฎของแรงดึงดูด คือสิ่งที่เหมือนๆกันก็จะถูกดึงเข้ามาหากัน

     และปิรามิดก็จะเป็นตัวช่วยเพิ่มพลังงานที่ดี หากเราทำความดี ก็จะส่งผลให้ดียิ่งขึ้น หากเราทำชั่ว ก็ส่งผลไม่ดีเช่นกัน เหมือนในบางประเทศแม้จะมีปิรามิด ก็ไม่ได้ส่งผลดี มีทั้งภัยธรรมชาติต่าง ๆ ซึ่งความลับของปิรามิด คือต้องใช้ร่วมกับความดี ความรัก ความเมตตา 

     และคุณรัตนาวดีก็ได้มาขอขมาเรื่องที่วันงานอุทิศบุญให้วิญญาณเด็กทำแท้ง ซึ่งคุณรัตนาวดีได้รับสัมผัส กลิ่นหอมเหมือนดอกไม้แต่ด้วยความไม่แน่ใจจึงไม่ได้ออกไปรายงานผลบนเวที อีกทั้งไม่ได้มารายงานผล ทางเวปไซต์ว่าตัวเองได้รับสัมผัสอะไร เหมือนเราไม่ได้สร้างธรรมทาน วิญญาณที่เราได้อุทิศบุญก็ต้องกลับมาหาเราอีก

     บุญธรรมทานในเวปไซต์เป็นบุญที่มีความเคลื่อนไหวตลอดเมื่อมีคนมาอ่านธรรมทานจากเรา บุญและอาินิสงส์ก็เกิดอีก ไม่เหมือน บุญแรงกาย เช่น สังฆทาน วิิหารทาน

     การเขียนธรรมทานในเวปไซต์เป็นบุญที่ทำง่ายๆ ไม่ต้องใช้แรงมาก แต่ได้ผลมาก และต่อเนื่อง แต่คนไม่ค่อยทำกัน

      เรื่องนี้เป็นของคุณพัทธนันท์  รูปโฉม จากเนเธอร์แลนด์ ได้ออกมาขอบคุณที่ได้มีกิจการเป็นของตัวเอง ด้วยผลบุญที่คอยอนุโมทนาหน้าจอ ในรายการคุยไปแจกไป มาเป็นเวลาปีกว่า 

     ซึ่งธรรมทานของคุณพัทธนันท์ ท่านอาจารย์อุบลก้ได้สอดแทรกธรรมทานเกี่ยวกับ การเสียภาษี ซึ่งคุณพัทธนันท์เอง ต้องจ่ายภาษีให้รัฐบาล ถึง 60 เปอร์เซนต์ของรายได้

     ซึ่งถือว่าเยอะถ้าเทียบกับประเทศไทย ขนาด 7 เปอร์เซนต์ ยังลบเลี่ยงภาษีกันทำให้ประเทศเราไม่เจริญสักที ในต่างประเทศถึงเขาจะไม่ได้เป็นเมืองพุทธ แต่เขาก็ถือว่าได้ทำบุญตลอด คือการเสียภาษีก็เหมือนได้ทำบุญทางหนึ่ง

     ใน ประเทศอเมริกา การให้ทิป ก็ยังเป็นประเพณีอีก นั่นก็เหมือนการทำบุญเช่นกัน มาดูๆ ประเทศเรา ทั้งหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งถือว่าผิดศีลข้อ 2 ,หนี้แผ่นดิน แถมยังไม่ค่อยทำทานกันอีก ซึ่งถือว่าส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยตรง

     ปัญหาเรื่องสุขภาพ ของคุณพัทธนันท์ คือจะปวดเอว ปวดบ่า ด้วยวิบากกรรมจากการทำแท้ง 1 ครั้ง รู้เห็น อีก 2 ครั้ง กรรมรวมตัวกับ เคยถีบสามี และคุณพัทธนันท์เคยเปิดร้านขายการหาร เกี่ยวกับเป็ด และฆ่าปลา ขี้โกรธ  มีมโนกรรมอยากให้อดีตสามีตาย เนื่องจากอดีตสามีคุณพัทธนันท์เป็นคนขี้หึงมาก ไม่ให้คุยกับลูกค้า ไม่ว่าชายหรือหญิง ทำให้คุณพัทธนันท์ ทนไม่ไหวจึงวางแผนหนี มากว่า 20 ปี สุดท้ายก็สำเร็จได้ไปอยู่ต่างประเทศและแต่งงานใหม่

                        อย่า"สนใจ"ในจริยาของบุคคลอื่น
     เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พี่ศรีออกมาขมา ที่มีมโนกรรม ตอนที่ท่านอาจารย์บอกว่าให้ไปทำงาน แล้วก็เกิดมโนกรรม ว่า ทำไมชั้นต้องเชื่อเธอด้วย

     ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยมีโนกรรมตั้งแต่ตอนดูรายการคุยไปแจกไป แล้ว ปรามาส

    ซึ่งบางคนเวลาดูรายการธรรมมะชอบคิดว่าถ้าเอาผลิตภัณฑ์มาขายก็จะดูไม่เหมือนหลอกลวง ซึ่งในวันนี้อาจารย์ก็ได้เฉลยว่ารายการคุยไปแจกไป เป็นรายการที่ทำเพื่อขายเครื่องสำอางค์ ส่วนธรรมทานนั้นเป็น โฆษณา

     ซึ่งถ้าคนคิดบวกก็จะมองว่า ดีจังขายเครื่องสำอางค์แต่สอดแทรกธรรมทานให้เราได้บุญด้วย แต่ถ้าคนคิดลบก็จะมองว่าทำรายการธรรมมะแต่แอบขายเครื่องสำอางค์ ทำไมไม่คิดว่าเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ที่เอามาสร้างธรรมทานนั้น ก็เป็นเงินส่วนตัว ที่ขายเครื่องสำอางค์ แต่เวลาที่นำเสนอเกี่ยวผลิตภัณฑ์นั้น น้อยกว่าโฆษณาอีก เกี่ยวกับเรื่องทาน

    รายการคุยไปแจกไป เป็นรายการขายเครื่องสำอางค์ แต่ชวนให้คนทำความดี ละวางความโกรธ สร้างสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน เมื่อไหร่ก็ตามที่เรา ทำได้ครบ เงินจะวิ่งเข้ามาหาเราเอง ตามที่พระพุทธเจ้าสอนว่า อยากรวยให้ทำทาน 

     แต่คนส่วนใหญ่มักจะคิดลบ มองแต่ผิวเผิน เหมือนที่เวลาเรามองคนปฏิบัติธรรม จะต้อง นุ่งขาว ห่มขาว ทำท่าสำรวม ซึ่งเปลือกดีดี เสื้อผ้าดีดี ใครๆ ก็สร้างได้ แต่เปลือกไม่ได้เป็นตัววัด ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ ได้เลย

     ผู้ที่สนใจแค่เปลือก ถือว่ายังห่างไกลนิพพาน เพราะการที่จะไปนิพพาน สิ่งแรกที่จะต้องตัด คือ ร่างกาย 

    ในครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้า เคยขับพระสาวก นามว่าพระวักกลิ ปฎิบัติธรรมมาหลายปี ก็มั่วแต่สนใจแต่พระรูป พระโฉม ของพระองค์ ไม่สนใจธรรมมะ ที่ซ่อนไว้ข้างใน คือ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ (ความหลุดพ้น) หลังจากโดนขับออกจากสำนัก ก็คิดว่า "จะมีประโยชน์อะไร ที่จะมีชีวิตอยู่ห่างไกลโดยไม่ได้พบเห็นพระศาสดา"

     จึงคิดจะไปโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย พอจะกระโดดเขา พระพุทธเจ้าก็ทรงเปล่งฉัพพรรณรังสี ไปที่เฉพาะหน้า นั่งอยู่ข้างพระวักกลิ ทรงกล่าวาจาว่า "วักกลิบุคคลใดเห็นธรรม บุคคลนั้นชื่อว่าเห็นตถาคต"

     " การที่พระวักกลิตัดสินใจกระโดดเขาให้ตาย ก็แสดงว่าท่านไม่ห่วงใยในร่างกายแล้ว คนที่จะเป็นพระอรหันต์นั้น เป็นคนที่ไม่ห่วงในร่างกายนั่นเอง ถ้าเราตัดสักกายทิฐิได้ตัวเดียว เราก็เป็นพระอรหันต์ได้ "

แหวนองค์เทพสฟิงค์.. พลังปราน และมโนธาตุ

     เรื่องนี้เป็นของคุณหมวย ธรรมรัตน์ มาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านอาจารย์อุบลที่ได้ ช่วยให้หายปวดจากการเป็นโรคหมอนรองกระดูกอักเสบที่เป็นมากว่า 20 ปี หลังจากที่ได้ดูรายการคุยไปแจกไป ในวันที่

     ซึ่งคุณหมวยก็เล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับแหวนองค์เทพสฟิงค์ ที่เมื่อใส่แล้วรู้สึกมีความสุข เนื่องจากแหวนองค์เทพสฟิงค์นั้น เป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดพลังปราณ และ มโนธาตุมากที่สุด ใส่แล้วรู้สึกมีความสุข แล้วคุณหมวยเองก็ได้ ดูที่แหวนแล้วก็จูบด้วย 

     และก่อนที่จะมาก็อฐิษฐานว่า ขอให้ดูรายการครบ 9 ตอนโดยที่ลูกไม่รบกวนเนื่องจาก ลูกของคุณหมวย มักจะต้องใช้คอมพิวเตอร์ คุณหมวยจึงไม่มีโอกาสได้ดู สุดท้ายก็สามารถดูอย่างต่อเนื่อง 8 วัน และได้มาสร้างบุญ ซึ่งทุกๆคนที่ได้มานั้นก็เป็นผู้ที่เคยอฐิษฐานจิตมาด้วยกัน

     และคุณหมวยก็ได้มาสมาทานศีลด้วย สาเหตุของความทุกข์ต่างๆ ก็ มาจาก การเลี้ยงเป็ด ลวกหอยแครง ฆ่า กิ้งก่า มด ยุงหักคอปลาช่อน เตะพี่เลี้ยง สามี อดีตแฟน ตีลูก ตบลูก ทำให้มีอาการ ปวดต้นคอ บ่า ไหล่ หลัง กลางฝ่าเท้า

"ความรู้" ไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์ แต่ "ปัญญา" ช่วยให้พ้นทุกข์ได้

     เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณจันทร ออกมาสมาทานศีล ส่วนอาการที่คุณจันทรเป็น ก็คือ นิ้วชา มือชา ซึ่งสาเหตุก็คือ คุณจันทรเคยเขียนเอกสารเท็จ และได้สารภาพว่าเคยทำแท้ง 3 ครั้ง ซึ่งคุณจันทร ก็เคยดูรายการแล้วสงสัยว่าทำไมหลายๆคนมาแล้วหายเพราะ ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ถ้าเหตุดับผลก็ดับได้ ถ้าทุกคนเชื่อพระพุทธเจ้าก็มีสิทธิ์พ้นทุกข์ได้

     ซึ่งคุณจันทรเองก็เป็นบุคคลที่จบการศึกษา ปริญญาโท แต่ไม่สามารถดับทุกข์ได้ เพราะความรู้และปัญญา เป็นคนละเรื่องกัน คนที่มีปัญญาย่อมพ้นทุกข์ เหมือนคนอ่านหนังสือธรรมมะ แต่ไม่นำมาปฏิบัติ ก็ไม่สามารถดับทุกข์ได้

วันอาทิตย์ที่ 6 พ.ค. 2555

     วันนี้พวกเราก็ได้ ไปร่วมทำฐานสมเด็จองค์พระปฐม บรมธรรมบิดากันต่อ และพี่แป้นก็ได้เอา มันสำปะหลัง 5 นาที มาให้พวกเราบางส่วนได้ปลูก นำทีมโดยอาจารย์พัน แต่ปลูกกันแค่แปปเดียวก็เสร็จแล้ว จากนั้นก็ไปลุยงานทำฐานฯ กันต่อ บางส่วนก็ไปเกลี่ยดิน เพื่อสร้างมหาปิรามิด ในอาทิตย์นี้ก็ได้เคลียร์ ตอ ไว้รอ ขุดกันอาทิตย์หน้าครับ คิดว่า อาทิตย์ คงจะได้ขุดกันอีกเยอะเลย 

     ท้ายสุดนี้ขอกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อป ด้วยครับ และ ขอผลบุญนี้ให้ถึงแก่เทวดาที่รักษาทุกๆท่านด้วยครับ

สาธุ...อนุโมทนาธรรมทานจากน้องเอิ้น  ชัดเจน เหมือนป้าติ๋มอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของ ป้าติ๋ม พี่ชนิดา คุณเอิ้น และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านค่ะ

สวัสดีทุกๆท่านค่ะ

ขอขยายความธรรมทานขอน้องเอิ้น

ในส่วนที่แหววได้ออกไปขอบคุณและขอขมา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกิจกรรมภาคค่ำ

   หลังจากที่ได้มาร่วมกิจกรรมที่บ้านสวนวันที่7-8 เม.ย.

วันที่ 11 เม.ย. พี่ต๋องก็เป็นไข้สูง ไอ จึงเข้ารักษาตัวที่

ร.พ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เป็นเวลา 3 วัน ก็เป็นไข้ทั้ง 3 วัน

จนพี่ต๋องบอกแหววว่า รู้สึกว่าอาการของพี่ต๋องไม่ดีขึ้น

    แหววจึงโทรปรึกษาคุณย่าประคำ ว่าจะย้ายพี่ต๋องไป

รักษาที่ ร.พ.สิงห์บุรี แต่พอดีเป็นช่วงวันหยุด ตอนแรก

คุณย่าโทรไปหาคุณหมอที่คลีนิค พนักงานบอกคุณหมอ

ไปต่างจังหวัด

    คุณย่าจึงใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วยเพื่อจะโทรไปหา

คุณหมอ ให้โทรแล้วเจอคุณหมอ แล้วก็ได้ผลค่ะคุณหมอ

อยู่ร.พ. คุณหมอ ให้คุณย่าจองห้องไว้เลย

    คุณย่ากลัวว่าถ้าโทรไปไม่เจอคนที่รู้จักเขาจะไม่ให้

จองห้อง ก็ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วยเป็นครั้งที่ 2

ปรากฏว่า โทรไปก็เจอคนรู้จักและก็จองห้องได้

   หลังจากนี้นคุณย่าก็โทรบอกแหววเวลา 17.00 น.

(วันที่ 13 เม.ย.)ว่าได้ห้องพักแล้วและคุณหมอ

นัดพบ 11.00 น.วันที่ 14 เม.ย.

   ส่วนแหววอยู่ ร.พ.ทัพทัน ยังไม่ได้แจ้งให้

ทางพยาบาลทราบและเกรงว่าจะไปพบหมอ

ที่สิงห์บุรีไม่ทัน จึงใช้ รหัส อ.อุบลช่วยด้วย

ช่วย และคล้องสายคล้องคอของบ้านสวน

ขอให้การติดต่อประสานงานทุกอย่างราบรื่น

และขอให้หมอมีคนไข้ฉุกเฉิน เข้ามา ร.พ.ตอน

2-3 ทุ่ม แล้วทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ขอค่ะ

    แหวว ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกพระองค์ เทวดาทุกพระองค์ที่ปกปักรักษา

อ.อุบล ที่เมตตาแหววและครอบครัว

     กราบขอบพระคุณ อ.อุบลที่เมตตา

บอกถึงสาเหตุที่ทำให้พี่ต๋องเป็นไข้สูง ไอ

และบอกถึงสาเหตุที่ทำให้พี่ต๋องซึ่ง

พยายามที่จะเลิกสูบบุหรี่มาหลายครั้ง

แต่ก็เลิกไม่ได้

     อาจารย์ถามพี่ต๋องว่าเคยใช้ไฟ ควัน

ทำร้ายอะไรไหม 

     พี่ต๋อง : เคยก่อไฟรนผึ้ง และเอากระ

ดาษจุดไฟเผามด

     อาจารย์บอกเจ้ากรรมนายเวรไม่ให้อภัย

พี่ต๋องพยายามเลิกเท่าไรจึงเลิกไม่ได้

     อาจารย์จึงนำอุทิศบุญให้ผึ้งและมดแล้ว

ให้พี่ต๋องกลับมารายงานผล

          ในส่วนที่ขอขมา

    จากที่แหววไปร่วมกิจกรรมอุทิศบุญให้

ลูกที่ทำแท้ง ในส่วนของกิจกรรมภาคค่ำ

อาจารย์นำอุทิศบุญถ้าลูกได้รับบุญก็ขอให้

เราได้รับสัมผัส ปิติ 5 ส่วนตัวแหววได้กลิ่น

ของดอกไม้ แต่เกิดความไม่แน่ใจว่าดอกไม้

ในบ้านสวนหรือเปล่า ตอนอาจารย์บอกให้

ใครที่ได้รับปิติ 5 ให้ออกไปหน้าเวที จึงไม่

ได้ออกไป ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา

ความไม่มีมารยาท

      ลูกขอกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก

พระองค์แห่งบ้านส่วนพีระมิด และกราบ

ขอขมา อ.อุบล

     อาจารย์ได้บอกทุกคนว่าใครที่ไม่มี

มารยาท เมื่อสัมผัสปิติ 5 แล้ว ไม่ออกไป

เพราะเกรงใจอาจารย์ กลัวอาจารย์เหนื่อย

ไม่ต้องมาบ้านสวน

เมื่อวันศุกร์ที่27

ถึงวันพุธที่ 2 พฤษภาคม

ที่ผ่านมา

เบญได้มีโอกาส

ไปทำบุญใช้แรงกาย

ที่บ้านสวนพีระมิด

วันแรก

เบญไปถึงในช่วงค่ำๆ

ในวันนั้นเลิกงานตอน 5 โมงครึ่ง

แล้วก็เลยไปบ้านสวนเลย

เพราะเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าไว้เรียบร้อยแล้ว

ไปต่อรถตู้ที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต

กรุงเทพ-ปราจีน

เป็นรถเที่ยวสุดท้ายพอดี

ต้องลงที่วิหารแดง

เพื่อต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้าไป

เวลานั้นมืดแล้วราวสองทุ่มเศษ

วินมอเตอร์ไซค์หมดตั้งแต่4-5โมงเย็น

จึงได้โทรเรียกลุงมอเตอร์ไซค์

ที่เคยใช้บริการเป็นประจำมารับ

บ้านลุงอยู่เลยบ้านสวนพีระมิดไปราว500เมตร

ระหว่างทาง

ลุงคุยให้ฟังว่า

ขี่มอเตอร์ไซค์วินเส้นทางนี้มา

40กว่าปีแล้ว

ขับมาตั้งแต่น้ำมันลิตรละ3บาท

สองข้างทาง

บริเวณที่เรียกว่าคลองไทรนั้นมีแต่ทุ่งนา

จนกระทั่งบัดนี้เต็มไปด้วยบ้านคนตลอดแนว

คุยกับลุงไปสัพเพเหระ

ท่ามกลางความมืดและอากาศที่หนาวเย็น

(จริงๆหนาวเพราะลุงพาซิ่ง)

ระยะทางกว่า8กิโลเมตร

จะว่าไกลก็ไม่ใช่  ใกล้ก็ไม่เชิง

พอมีเวลาแหงนดูดาวบนท้องฟ้า

คืนนั้นไม่ค่อยมีดาว

มีแต่ไฟแวบๆของบางสิ่งบางอย่าง

ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า

ไฟแวบๆสามเหลี่ยม

แบบที่บ้านสวนมีเยอะแยะ

เราก็คิด ท่าน..มารับลูกหรือเจ้าคะ

เพราะก่อนมาอธิษฐานขอมา

ให้ราบรื่นตลอดทาง

เพราะติดงาน

เลิกช้า

มาไม่ทัน

ตกรถล่ะยุ่งแน่ๆ

ลุงกำลังคุยถึงบริการของแก

เปิดถึงเที่ยงคืน

ลูกค้าไกลใกล้บ้านนา-วิหารแดง

ดึกดื่นเที่ยงคืน

ยกหูเรียกลุงได้ทันที

ไม่เคยทิ้งลูกค้า

ถามลุงว่า

ลุงเคยเห็นยูเอฟโอไหม

ปรากฏว่า

ไม่มีสัญญาณตอบรับ

จากหมายเลขที่ท่านเรียก

จำต้องคุยเรื่องอื่น

นั่นก็คือ

เขาเพิ่ม

ลุง...เขาเพิ่มใช่ลูกนั้นไหม

ชี้ให้แกดู

ไม่ใช่

ไกลจากนี่ไปอีกหน่อย

อ้อ..ได้ความรู้มาอีกหน่อย

...................................

พอถึงบ้านสวน

หิ้วกระเป๋าเดินท่อมๆ

ไฟเปิดอยู่ที่โรงทาน

ที่โต๊ะ

มีพี่แมว พี่บุญตา พี่เตี้ย

ป้าติ๋ม ป้าเทิง น้องเบสและคุณอดิศักดิ์

ยกมือไหว้กราด

พอทุกคนทราบว่านั่งวินมา

เลยถูกแซว

ลูกบ้านสวนนี่เก่งนะเนี่ย

นั่งวินมอเตอร์ไซค์มากลางค่ำกลางคืน

ยังรอด ไม่เป็นไรเลย

ใส่เสื้อบ้านสวนด้วย

ฮากันตรึม

ตอบไปว่า

หนูมีหน้าตาเป็นอาวุธค่ะ

ยังฮาได้อีก

ต่อมาจึงทานข้าว

บิ๊กเขาเดินเข้ามา

เห็นเขาคาบใบไม้มาด้วย

เลยทัก

ว่าเอาใบไม้มาทำไม

น้องเบสบอกว่า

ก็เอามาให้พี่นั่นแหละ

ตอนพี่มาไม่เห็นเหรอ

อ้าว! ไม่เห็น

ตอนนั้นรู้สึกผิดไปเลย

เขาคาบมาต้อนรับตอนไหนไม่เห็นจริงๆ

คาบอยู่นานด้วย

กว่าเบญจะคุย กินข้าว

จวนจะอิ่มอยู่แล้วเพิ่งเห็นเขา

ใบไม้ยังคาปากอยู่

แสดงว่าคาบมาตั้งแต่เบญลงรถมา

จึงถามเขาว่าเอามาให้หรือ

เอามาสิ

ขอใบไม้

น้องเบสบอกว่าเขาไม่ให้หรอก

แป่ว..

……………………………….

ได้ยินพี่แมวบอกว่า

คืนนี้จะไปเก็บเห็ดยายฉิม

 เบญก็คิดว่าพี่แมวจะไปเก็บเห็ด

ที่โรงเพาะข้างบ้านอาจารย์ 

ตอนเดินไปอาบน้ำที่ห้องน้ำเก่า 

ก็พยายามมอง

เอ้...พี่แมวมาเก็บเห็ดหรือยังน้อ

จะไปช่วยเก็บสักหน่อย 

จนเข้านอน

รุ่งเช้าจึงได้รู้ว่าเห็ดยายฉิมอยู่ที่ไหน

วันที่สอง

เช้าตรู่

พี่ศรีซึ่งพาน้องอรกับน้องเอมมาตั้งแต่เมื่อคืน

ก็ไปขนขนุนที่กองอยู่

ไปให้พี่ณเดชน์กับคุณอดิศักดิ์สับ

ทำไบโอดีเซล

เบญไปช่วยพี่ศรีขนขนุน

รอบแรกเอาไปกองข้างๆพี่ณเดชน์

“เอ่อ...ขอบคุณครับคุณกันยาพัชร”

เอาแล้ว..ไปแต่เช้าเลยพี่เรา

“หนูไม่ได้ชื่อกันยาพัชรค่ะ”

ดูแกงงๆ

เบญรีบชิ่งออกมาก่อน ปล่อยแกงงอยู่ตรงนั้น

ตัวเราเองก็งงด้วย  ใครหว่ากันยาพัชร

คิดไปคิดมา

อ๋อ! เทพีสงกรานต์คนล่าสุดนี่นา

สักพักขนขนุนไปอีกรอบ

แกถามอีก

ถามประมาณว่ามาอยู่กี่วัน

หรือมากี่ครั้งแล้วอะไรสักอย่างจำไม่แม่น 

แต่ลงท้ายด้วยคุณกันยาพัชร

“หนูไม่ได้ชื่อกันยาพัชรค่ะ”

ว่าแล้วเบญก็เข้าครัวช่วยพี่แมว

วันนี้อาหารเช้าเป็นข้าวต้ม

ได้ยินเสียงสับขนุนโป๊กๆ

สักพักได้ยินว่าคุณอดิศักดิ์หายไปไหนแล้ว

แต่เสียงสับขนุนยังอยู่

เมื่อณเดชน์ปะทะเอฟโฟว์

เบญยังอยู่ในครัวกับพี่แมวพี่ศรี

ตรงเตาไบโอข้างครัว

ได้ยินเสียงคนสับขนุนกำลังเปิดศึกกับอะไรบางอย่าง

“ไปๆ ไปที่อื่นเลยไป้..”

ไม่ได้ออกไปดู

แต่เดาว่า

เป็นเจ้าพวกไก่เอฟโฟว์ขาโจ๋4ตัวนั่นแหละ

เสียงชิ่วๆไล่เท่าไร  เจ้าพวกเอฟโฟว์ก็ยังไม่ไป

สักพักมีเสียง “โฮ่งๆๆ...”

สาบานได้ว่าไม่ใช่เสียงคุณบิ๊กแน่นอน

จนพี่แมวร้องว่า

“หาน้ำมาสาดหมาหน่อยเร้ว...”

....................................

ราวๆ9-10โมงมีการเทพื้นชั้นสองของครัวใหม่

ญาติธรรมยังมากันไม่ครบ

 แรงงานจึงขาดพอสมควร

พี่อมรบอก เบญขึ้นไปข้างบน

ฮะ  หนูเนี่ยนะ

เหวออยู่ชั่วอึดใจ

พยายามมองหาทางขึ้น

ยังไม่เจอ

เคยทำแต่ภาคพื้นดิน

เคยปีนที่สูงสองสามครั้ง

ตอนงานบวงสรวงสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา

นอกนั้นเป็นแอร์กราวด์ตลอด

ข้างบนกำลังตกลงอะไรกัน

เกี่ยวกับการจัดสรรกำลังพล

เบญก็พยายามเหล่มองหาทางขึ้น

เขาขึ้นตรงไหนกัน

ตอนเขาขึ้นก็ไม่ได้ดูเสียด้วย

มีเหล็กนั่งร้านพาดไปชั้นสอง

กับบันไดไม้ยาว พาดไปถึงชั้นสามโน่น

สรุปต้องการคนข้างบน

พี่อมรสำทับอีก

เบญ...ขึ้นไปข้างบนไป

ไปก็ไป  กลัวที่ไหน

คิดว่า

ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้

(ยกเว้นเป็นคนดี)

ว่าแล้วก็ไต่เดี๊ยะๆขึ้นไปโดยใช้บันไดไม้

...........................................

เมื่อกระบวนการผสมปูนเสร็จสิ้น

เครื่องจักรก็เริ่มทำงาน

สายพานส่งรับถังปูนเป็นจังหวะ ไหลลื่น

จนกระทั่งเวลาผ่านไปญาติธรรมทยอยกันมามากขึ้น

เวลานั้นเบญอยู่ในตำแหน่ง

รับถังปูนจากด้านล่าง

ซึ่งต้องก้มๆเงยๆ ตลอดเวลา

เพราะต้องจัดการกับถังปูน

ที่ทยอยส่งขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย

ก้มบ่อยๆเริ่มหน้ามืดจึงเปลี่ยนมานั่ง

อิริยาบถเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

เมื่อไรที่แรงหมดจริงๆ

ก็ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ขอให้ลูกทำภารกิจนี้สำเร็จ

ขอให้ทำอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ตลอดรอดฝั่งด้วยเถิด

ในเวลานั้นไม่ต้องการเปลี่ยนตำแหน่ง

เพราะต้องการพิสูจน์กำลังใจของตัวเอง

สิ่งที่คิดอยู่เสมอ

เวลาที่มาสร้างบุญ

แล้วพละกำลังเหือดหายก็คือ

เอาเถิด

ถ้ามันจะตายตอนนี้

ก็ให้มันตายไปเลย 

ตายเสร็จขอไปนิพพานเลยเดี๋ยวนี้

ก็ไม่เห็นมันตายสักที

ถ้าส่งปูนอยู่ก็ขอตายคากระป๋องปูน

ถ้าโกยหินคลุกอยู่ก็ขอตายคาจอบ

คือต้องมีอุปกรณ์เสริมเวลาตาย

ดูซิว่าตายแบบไหนทุเรศที่สุด

โชคดี ตอนขัดส้วมยังไม่ได้ใช้มุกนี้

เพราะว่า ขัดส้วมไม่ต้องใช้แรงเยอะ

ตอนเย็น

เบญกำลังนั่งทานอาหารเย็น

อยู่กับคุณเอื้อม

พี่ณเดชณ์เดินเข้ามานั่ง

“เอ่อ...น้องเบญจมาศใช่มั้ยครับ”

อืมม..ความจำพี่เขาเริ่มกลับคืนมาแล้วล่ะ

…………………………………

กลางคืนมีการสมาทานศีล

จนกระทั่งถึงไฮไลท์ของงาน

นั่นคือการปิดบัญชีนรกขุมที่1

เบญนั้นถือว่าเป็นมือฆ่าอันดับหนึ่งในตอนเด็กๆ

สารพัดสัตว์ที่อยู่ในท้องทุ่งเก็บเรียบวุธ

ฆ่าด้วยทรมานด้วย

เรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรในข้อนี้เยอะมาก

กลัวลืมว่าจะอุทิศบุญให้เขาไม่หมด

เผื่อหลงลืมใครไป

จึงได้บอกเจ้ากรรมนายเวรไว้

ตั้งแต่ตอนกลางวันว่ามารอรับได้เลย

จะรวบให้ทุกดวงวิญญาณที่มารอในวันนี้

พอถึงเวลาอาจารย์แม่นำอุทิศ

และเปิดโอกาสให้รับสัมผัสจากไฟนรก

และเจ้ากรรมนายเวร

มีอาการปวดไหล่ทั้งสองข้าง 

ซึ่งปวดมาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว

ส่วนความร้อนนั้นคิดว่าไม่ได้รับสัมผัสอะไร

ช่วงที่อุทิศบุญอยู่จะเฉยมาก

เหมือนไม่มีอะไร

เฉยจนกระทั่งเราคิดว่า

เจ้ากรรมนายเวรเขาจะได้บุญพอกันไหม

จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนเสร็จสิ้นพิธีการ

จู่ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง

เปรอะหน้าไปหมด

จึงได้รู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรเขาได้บุญของเราแล้ว

พิมพ์คำว่า

บ้านทรงปิรามิด Enter

แล้วจะได้อ่านคำเตือนเก่า ๆที่ท่านอาจารย์อุบล

เขียนไว้ ซึ่ง

ลูกบ้านสวนฯ ทุกท่านไม่ควรพลาด

อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังล้ำสมัยค่ะ

แต่ก็พอจะรู้อยู่ว่า

ช่วงนี้ น้องหญิง เค้า...

ม่ายค่อยฉะบายยย... ค่ะ

...................................

เอ...แล้ว...ใคร

เค้าบอกว่า น้องหญิง

ไม่ฉะบายจ๊ะเนี่ย

อิ อิ อิ

.............................

อิอิ คือว่า มีเสียงนางฟ้าตัวน้อยๆ

จากสวีเดน กระซิบส่งข่าวมาทาง

สายโทรศัพท์ที่โปแลนด์ว่า

ช่วงนี้ น้องนุชคนสุดท้อง

ของพี่ๆทุกคนนั้น

ไม่ค่อยสบายกายและใจ

แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ

เพราะว่า"ยังไหว" อยู่

จบข่าวค่ะ

ส่วนรายละเอียด

ต้องรอให้เจ้าตัวมาแถลงข่าว

ด้วยตัวเอง

................................

อนุโมทนากับธรรมทานจาก

น้องป้อม น้องเิอิ้น คุณแหวว น้องเบญ

และ ความคิดเห็นจากทุกๆท่านด้วยนะคะ

แหม่..การปิดขุมนรกอาทิตย์หน้า

คิดว่า"น้องป้อม" สุดหล่อคงต้องใช้

ความคิดอย่างหนักพอสมควร 

เดี๋ยวพี่ๆให้ยืมนิ้วมือไปช่วยนับนะน้อง

เพราะรู้สึกว่า จะคู่กรณี เย๊อะมั่กๆ

เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ก็งี้แหล๊ะ

แต่สงสัย น้องป้อม บอกว่า

ถ้ารู้ว่า ต้องมาวิ่งหนีนรก

สุดแรงเกิดแบบนี้

ไม่น่าเกิดมาเป็นคนเสน่ห์แร็งส์เลย

ซะยังดีกว่า...เนอะ

วันที่สาม  (ต่อ)

ตอนเช้าไปตัดหญ้าในแปลงถั่วเหลือง 

โดยมีพี่เหมี่ยวนำทีม 

อาจารย์พันธ์คอยแวะเวียนมาดูเป็นระยะ 

ส่วนอาจารย์นีเป็นมือลับมีด

การตัดหญ้าในแปลงถั่วเหลืองคราวนี้

ใช้มีดเพราะหญ้าขึ้นชิดต้นถั่วมาก

ใช้จอบไม่สะดวก

สัปดาห์นี้ต้นถั่วโตขึ้นมาก 

บางต้นใบโต๊โต

พอให้ร่มเงาได้บ้าง

อย่างน้อยก็เย็นสบาย

วันนั้นแดดแรงมาก

เบญจึงมุดลงไปใต้ต้นถั่ว 

กำลังเพลินๆ

ได้ยินเสียงพี่เหมี่ยวคุยกับสุภาพบุรุษท่านหนึ่ง

เรื่องจะให้พาน้องต้นอ้อกลับไปด้วย

จับใจความได้ว่าเป็นพี่ณเดชน์

“อ้าวแล้วนั่นใครล่ะ มุดอยู่นั่นน่ะ”