ขออนุโมทนาในพระคุณความดีที่ อ.อุบล ได้เมตตา กับคนที่ตกทุกข์ได้ยากทุกคนค่ะ

สาธุ..สาธุ..สาธุ..

ทายว่าอ.อุบลเป็น สตรีผู้ที่จะมาช่วยประเทศไทย และประชาชนคนไทยค่ะ

กรุณาเล่าต่อเถอะค่ะ..นะคะ

โมทนา สาธุ กับคุณท๊อป สาธุ..สาธุ..สาธุ

ตอนคุณแม่ให้ท้อปมานวดให้ก็ไม่รู้เรื่องอะไร คุณแม่บอกแค่ว่าปวดไหล่มาก พอเริ่มนวดปุ๊บ ก็รู้สึกเริ่มเมื่อยตรงนิ้วโป้งทันทีเหมือนคนที่ยืนนวดมานาน แต่ก็ไม่สงสัยอะไร จนเริ่มเป็นมากขึ้นจึงบอกคุณแม่ว่าเมื่อยนิ้ว คุณแม่เลยพูดขึ้นมาว่า ท่านอย่าทำลูกท้อปนะ.....    ท้อปก็ไม่ทราบว่าคุณแม่พูดกับใคร....งง ครับ....

แต่ท้อปก็พูดว่า.....ขอรับที่คุณแม่ปวดไว้เอง....ขอให้ท้อปเป็นแทนครับ...

แล้วก็นวดจนคุณแม่ดีขึ้น( 1ชั่วโมง ไม่เคยนวดนานเท่านี้เลยครับ ) ระหว่างนวดตอนท้ายๆก็อธิฐานในใจไปด้วยว่าขอให้คุณแม่หาย...และยังไงก็ขอรับสิ่งที่คุณแม่เป็นไว้เอง  พอนวดเสร็จแล้วคุณแม่ก็ให้พร ...........

แล้วท้อปก็ไปอาบน้ำ และระหว่างที่อยู่ในห้องน้ำ ก็คิดในใจไปเรื่อยเปื่อยว่า

ขอให้แม่หายๆๆ และถ้าการที่ท้อปช่วยแม่ทำให้ท้อปต้องเป็นแทน หรือลงนรก ก็ยินดีเป็นแทนลงแทน แล้วก็คิดวนๆเหมือนรายการที่เปิดในบ้านสวนเลยครับ จนกระทั่งวันนี้(14 ธ.ค. 53) ตอนพบน้าวี น้าวีบอกว่าตอนนวดให้คุณแม่ น้าวีปวดแขนมากเหมือนมีคนขึ้นมาเหยียบและขย่มแรงๆแต่น้าวีก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร ท้อปเองก็เพิ่งทราบรายละเอียดตอนที่น้าวีกลับไปแล้วเพราะคุณแม่เพิ่งบอกและเปิดหน้านี้ไว้พอดีเลยเรียกท้อปมาดูข้อความที่คุณแม่ได้พิมพ์ไว้และก็มีน้าแมวและน้าแหวนเข้ามาเขียนไว้ด้วย ขอบคุณครับบบ

แล้วส่วนเรื่องที่ท้อปอธิษฐานในใจตอนอยู่ในห้องน้ำนั้น คุณแม่เองก็ยังไม่ทราบ ท้อปก็เพิ่งบอกคุณแม่ตอนได้อ่านข้อความที่คุณแม่เขียนไว้

ซึ่งน่าแปลกมากที่ท่าน ท้าวเวสสุวรรณ ทราบถึงสิ่งที่ท้อปได้อธิษฐานไว้ ท่านจึงบอกกับคุณแม่ว่าท้อปช่วยคุณแม่ไว้

ถ้าไม่เจอกับตัวเองคงไม่เชื่อแน่ๆครับ ตอนนี้ยัง งงๆ อยู่เลยครับ ฮ่าๆๆ

กฎสวรรค์แห่งบ้านสวนพีระมิดนี่ไม่ยกเว้นกระทั่งแม่ผมเลยครับ

ฉะนั้นผมจึงอยากขอร้องท่านๆทั้งหลายที่มีความประสงค์จะมาที่นี่ ควร จะทำตามกฎและ กฏิกาที่ทางบ้านสวนตั้งไว้ นะครับ อย่าทำให้ตัวท่านต้องเป็นต้นเหตุที่ทำร้ายบุคคลที่จะช่วยท่าน(แม่ผมนี่แหละครับ)เลยนะครับ ท่านบำบัดแต่ละวัน เหนื่อยนะครับ ไหนต้องส่งผมเรียนอีกนะครับท่าน ต้องไปรับ ส่ง ผม ที่มหาลัยด้วยครับ ฮ่าๆๆๆ ฝากไว้เท่านี้ละกันครับ วันหลังเจออีกทีจะมาเล่าใหม่ครับ(หวังว่าจะไม่เจอนะ)                ขอบคุณครับที่ทนอ่าน

สวัสดีค่ะ อ.อุบล และ ญาติธรรมทุกท่าน ก่อนอื่น ต้องกราบ ขออโหสิกรรม

ต่อ อ.อุบล และ กราบขอขมา ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่บ้านสวนพีรามิด

ทุกๆพระองค์ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยสงสัย ตอนดูในรายการคุยไปแจกไปตั้งแต่ออกอากาศตอนต้นปี ติดตามรายการมานานแล้วค่ะ จำได้ว่าดูตอนแรก ตอนที่ ดร.เทพพนม เอากล้อง

ถ่ายภาพออร่า มาถ่าย อ.อุบล และภาพถ่ายของ อ.มีแสงออร่าสีขาว อยู่เหนือศรีษะ เลยสนใจติดตามดูทุกอาทิตย์ ถ้าไม่มีธุระไปไหน และที่ว่า ขอกราบขออโหสิกรรมต่อ อ.

ก็เพราะว่าเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ ที่แล้ว ดิฉันดูรายการแล้ว เห็น อ.ใส่เสื้อผ้ารัดรูปก็แอบคิดในใจว่ารัดรูปเกินไปหรือเปล่านะ แล้วก็รีบตัดความคิดนี้ออกไปโดยเร็ว แต่ก็ได้รับผลกรรมอยู่ดี เพราะหลังจากนั้น ขี้กลากขึ้น เลยค่ะ เป็นอยู่ 5-6 วัน ดูเหมือนว่ากำลังจะลาม เริ่มคันมากขึ้น และดูรายการตอนที่ ผู้ที่ปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่บ้านสวนฯ ก็เกิดดวงตาเห็นธรรม คิดขึ้นมาได้ว่า เป็นเพราะเราล่วงเกิน อ.อุบล แน่เลย ก็เลย ขอโทษขออโหสิกรรม อ.อุบล ในใจผ่านจอโทรทัศน์ หลังจากนั้นเวลาผ่านไปอีก 2-3 วันต่อมาไม่ได้สังเกตุ ขี้กลากที่ขึ้นบริเวณแขนก็หายไปเองโดยไม่ได้ทายาอะไรเลยค่ะ จึงเขียนมาเพื่อ กราบอโหสิกรรม ต่อ อ.อุบลอย่างเป็นทางการ และเพื่อเป็นกรณีศึกษา ค่ะ

ถึงน้องท้อป

น้องท้อปเป็นเด็กดีมากนะคะ ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าเพราะอะไร

ทั้งคุณพ่อคุณแม่ รัก และดูแลอย่างดี และก็สมดังปรารถนาของพ่อแม่ทุกประการ

พี่(อย่าเรียกน้าเลยนะ...แก่ไปนิดมั้ยอ่ะ)คงไม่ต้องให้พรอันใด

เพราะท้อปคงได้รับพรที่วิเศษที่สุดจากคุณพ่อและคุณแม่ที่ประเสริฐแล้ว

รวมทั้งความดีทุกประการที่ทำให้พ่อแม่ชื่นใจ คงเป็นสิ่งที่คุ้มครองท้อปให้สำเร็จทุกประการนะคะ

แต่พี่ขอบคุณท้อปนะคะ ที่ทำให้พี่รู้สึกชื่นใจที่ได้ฟังเรื่องดี ๆ แบบนี้

ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณแม่ของท้อปมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณเมตตาให้หายรึยังคะ

ทุกคนรักและเป็นห่วงคุณแม่ของท้อปมากนะคะ

แต่ท้อปก็พูดว่า.....ขอรับที่คุณแม่ปวดไว้เอง....ขอให้ท้อปเป็นแทนครับ...

แล้วก็นวดจนคุณแม่ดีขึ้น( 1ชั่วโมง ไม่เคยนวดนานเท่านี้เลยครับ )

สุดยอดค่ะ.....รักน้องท้อป  จิง จิง......

นวดแล้วดีขึ้นแบบนี้.....ไปเปิดร้านนวด...กันดีกว่า

TOP  Massage 

น้าแมว...หุ่นให้เหมือนกันนะ ( หมอนวดเนี้ย )

แต่ร้านนี้.....เจ้าของร้าน.....หล่อระเบิด

ลูกค้าคงจะมีแต่....สาว ๆ

แซวเล่นค่ะ.....รักนะ

คุณชนิดาคะ

อ.อุบล ไม่เก่ง วิเศษรู้อะไร

ไปซะหมด...อย่างที่คุณชนิดาเข้าใจ...หรอกค่ะ

โดยเฉพาะประวัติคุณชนิดา

ลองคิดดูดีๆ ซีคะ

ว่าเคยบอก

ใครบ้าง

555

ไหน ๆ ก็คุยเรื่องประวัติ เคยอยู่ช่อง 5 เลยขอถามหน่อยนะคะว่า

รู้จัก พี่น้อย(ฝ่ายบุคคล) ไหมคะ

ขอบคุณที่ถามค่ะอาจารย์.... ว่าจะแอบอธิบายตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ แต่ก็กลัวว่าจะกลายเป็นกระทู้...ชีวประวัติของชนิดาไป..เิิขิลลลอ่ะ..

แต่ก็แอบไม่สบายใจเหมือนกันว่า คนของช่องห้าเอง...จะหาว่าเรามั่วนิ่ม..รึเปล่า...

คำตอบคือ "ไม่รู้จักซักคนเลยค่ะ" เพราะชนิดาเคยทำงานให้กับ บริษัท เทเลไฟฟ์ (เป็นการรวมตัวกันระหว่างบริษัททีวีใหญ่ๆอย่างกันตนา เวิร์คพอยท์ ทริปเปิ้ลทู ฯลฯ) เพื่อรับผิดชอบผังช่อง5 ตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงห้าทุ่ม (ถ้าจำไม่ผิดนะ) เมื่อประมาณกว่าสิบปีที่แ่ล้ว.... ชนิดาก็ดูแลรายการข่าวบันเทิงในช่วงนั้นหลายๆรายการ แต่ไม่นาน...เมื่อบริษัทรวมตัวแล้วไม่เวิร์ค ก็เลยสลายโต๋(สงสัยจะเป็นเพราะชนิดา อยู่แก๊งใหนหัวหน้าตายหมด ฮิฮิ) หลังจากสลายโต๋ ทีนี้ได้รับผิดชอบรายการเกมส์โชว์ ที่อัดรายการเดือนละสองครั้ง ชนิดาก็เลยคิดว่า ไม่ใช่ตัวเองเล๊ย... ก็คนเคยออกไปทำข่าวเอาท์ดอร์ทุกวัน ให้มานั่งคิดงานอยู่กับโต๊ะซะส่วนใหญ่  ไม่หนุกเลยอ่ะ... สุดท้ายก็.. ลาไปเรียนต่อดีกว่า จนบัดนี้ก็เลยยาวววววเลย... 

เฮ้อ...โล่งออกแล้ว แต่ถ้าเผื่อเจ้านายเก่าได้เข้ามาอ่าน คงเซ็งนิดหน่อย (จะตอกย้ำ...ทำไมเนี่ย)

ขออภัยค๊า....

ส่วนน้องท้อปทายาทสุดหล่อของอาจารย์อุบล.... ได้อ่านแล้วก็ทั้งทึ่งและซึ้งจริงๆ ที่มีความกตัญญูต่อคุณแม่มากๆ เข้ามา่เขียนบ่อยๆนะคะ 

อยากอ่านความคิดเห็นของคนใกล้ชิดอาจารย์อุบลเหมือนกันนะ ว่าคิดยังไงกันบ้างที่เห็นอาจารย์เจอเรื่องแบบนี้ทุกๆวัน...

ขอบคุณค่ะ

เดี๋ยวมาใหม่รอบดึกมากๆ ไปทำงานก่อนนะคะ

หวังว่าคืนนี้กลับมาจะีได้อ่านเรื่องเล่าจากอาจารย์บ้างนะคะ

(ถ้าอาจารย์ไม่เหนื่อยมาก และพอมีเวลา..บ้าง)

กราบขอประทานโทษครับอาจารย์อุบล 13/12/53 หลังจากเข้ามาโหวตคนที่ 11 แล้วก้อติดภาระกิจแล้วไม่ได้เปิดคอมฯ อีก  หลังจากนั้นก้องง! ว่าเป็นอะไรถึงปวดหัววันก่อนพึ่งพูดหยกหยกว่าไม่เคยปวดหัวมาตั้งแต่ 28/05/53 (นอกเรื่องซะเยอะยังไม่เข้าเรื่องซักที) แต่ด้วยขณะนี้ก้อยังไม่สะดวกในส่วนของคอมฯ ที่ใช้ครับ และรายละเอียดของเรื่องนั้นผมขอไปเรียบเรียงกับกุ้งก่อนนะครับ ส่วนที่จำได้ขึ้นใจก้อคือที่อาจารย์ถามเสด็จพ่อว่าปีนี้จะถวายพีระมิด99องค์หรือไม่ เสด็จพ่อบอกว่า77องค์ก้อเก่งแล้ว แล้วบังเอิญชาวค่ายรุ่น 7 ก้อทำสำเร็จถึง 77 องค์ 

ผมขอทบทวนความจำก่อนนะครับ

ค่ะ..

คุณเอก & คุณกุ้ง

ไม่ต้องรีบค่ะ....พวกเรารอได้

แต่ก็เร็วหน่อยก็ดีค่า....( ฟ้องด้วยภาพ )

You Know

   วันนี้ได้  แว๊บ  ไปบ้านสวนมาค่ะ  (ไปกอดแม่พระผู้มีเมตตามา)  ก่อนอื่นขอแจ้งข่าวอีกครั้งค่ะว่า อาการปวดของ อ. อุบล หายแล้ว  แต่อาจารย์บอกว่า  ยังเหลือเศษกรรมไว้เป็นเครื่องเตือนใจ  งานนี้ก็ต้องยกความดีให้ "น้องท้อป"  ที่เป็นลูกกตัญญู  จนท่านท้าวเวสสุวรรณ  ต้องยอมแพ้ใจ  ทำให้เราได้ซาบซึ้งถึงความเสียสละทั้งครอบครัว  ของ อ. อุบล  และยิ่งได้เห็นคำขอร้องขอน้องท้อป  ยิ่งทำให้เราต้องเคารพกฏกติกา  ระเบียบบ้านสวนอย่างเคร่งครัด  และถ้าท่านได้ฟัง อ. อุบล เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ระหว่างสองคน (คุณแม่อุบลและน้องท้อป)  เราจะเห็นความรักความห่วงใย  ความเสียสละ  ของทั้งสองท่าน ดิฉันนั่งฟังไปก็น้ำตาไหลไป  (ซาบซึ้งมาก)

    และวันนี้ก็ได้เจอพี่วี  พี่เค้าได้เล่าให้ฟังตอนที่นวดให้ อ. อุบล ว่า  นวดได้ไม่ถึงห้านาที  พี่เค้าก็ปวดแขนทั้งสองข้างมาก  ปวดตั้งแต่ปลายมือถึงข้อศอก เหมือนมีใครขึ้นมาเหยียบแล้วขย่ม ปวดมากจนต้องทรุดลงกับพื้น  ทุกท่านคิดดูซิค่ะว่าขนาดพี่วี  ยังทนกับความเจ็บปวดนั้นไม่ได้  แล้วอาจารย์ต้องได้รับกับความเจ็บปวดนั้น  มันสาหัสขนาดไหน  ท่านทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น  ยอมเจ็บเพื่อคนอื่น เราคงไม่อยากเห็นแบบนี้อีกนะค่ะ  ถ้าใครอยากทราบว่าเจ็บแค่ไหน  อย่างไร  ถามพี่วี  ได้นะค่ะ

         ขออุโมทนาบุญกับน้องท๊อปด้วยนะครับ ที่นวดคุณแม่จนหายปวด

เมื่อคืนตัวเล็กเผลอไม่ได้ดู หน้าต่อไปคงจะเหนื่อยจากการออกบุ๊ทที่พระ

ตำหนักวังสวนกุหลาบ ถึงตัวเล็กไม่ได้ไปบ้านสวนแต่สารภาพว่า กลับ

จากวัง ดูเวปบ้านสวนทุกวันครับ กลายเป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว

เมื่อวานอากาสที่วังร้อนมาก พอกลางคืนฝนยังตกอีกตัวเล็กก็เป็นห่วง

สินค้าที่อยู่ในบุ๊ท แต่ก็ตั้งจิตขอหลวงพ่ออย่าให้สินค้าเสียหายมากเลย

ก็อยากจะบอกว่า กระเป๋าเปียกแค่ 1 ใบเองครับ เป็นอะไรที่งงมาก

เพราะฝนตกแรงจริวๆ ขนาดพี่เบาหวิวยังโทรมาถามว่าเป็นยังไงบ้่าง

วันนี้ตอนแรกก็คิดว่าจะเปิดอ่านแล้วจะไปอาบน้ำ แต่ก็อดไม่ได้จริงๆ

ขอสารภาพว่าคิดถึงอาจารย์อุบลและญาติธรรมที่บ้านสวนทุกๆท่าน

ครับ เพราะที่นี่ทำให้ผมค้นพบว่า การมีที่ยึดเหนี่ยว มีมิตรภาพที่ดี

มีพระพุทธเจ้าและคำสอนของท่านที่ผมนำมาปฏิบัติในการงานและ

ส่วนตัว ทำให้ตัวเล็กมีความสุข สุดท้ายนี้ก็อดไม่ได้ที่จะขอบคุณ

พี่เบาหวิวที่แนะนำให้รู้จักบ้านสวน.......ขอบคุณจากใจครับพี่ท่าน

........

วันนี้ท่านมาถามว่า

ร้องไห้ทำไม ยังไม่หายหรือ

หายแล้วเจ้าค่ะ

แล้วร้องทำไม ตอนปวดทำไมไม่ร้อง

ไม่ไดร้องเพราะปวดเจ้าค่ะ

แล้วร้องทำไม

มีสิ่งใดหรือเจ้าค่ะ ในโลกนี้ที่ท่านจะไม่ทราบ

ทุกสิ่งขึ้นอยู่ที่กรรมของแต่ละคน

ลูกขออะไรสักอย่างหนึ่ง

จะเป็นการบังอาจ

ไหมเจ้าคะ

อะไร

ขอให้ท่าน

ได้โปรดเมตตาบุคคล

ที่มีความจริงใจต่อลูก ต้องการรับกรรมแทนลูก

ขอได้โปรดอย่าทำตามที่เขาขอ แต่ลูก

 ขอฝากบุญของลูกไว้กับ

ท่านพ่อ

ใครที่เขาต้องการ

รับกรรมแทนลูก ขอท่านพ่อโปรดเมตตา

ให้บุญของลูกแก่เขา ให้เขามีความสุขยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ในฉับพลันทันที ดังดวงจิตที่บริสุทธิ์ของเขา

ด้วยเถิดเจ้าค่ะ.....ได้ไหมเจ้าคะ

แม้แต่พระเจ้าอยู่หัวยังต้องรับ

แต่ท่านก็ปล่อยพระองค์แล้ว และลูกขอให้

ท่านพ่อปล่อยผู้ที่ขอรับกรรมแทนลูกด้วยวิธีเดียวกันเจ้าค่ะ

ถ้ากำลังบุญของลูกไม่พอ ลูกจะขอ

บารมีพระพุทธเจ้า

ตกลง

และขอให้ลูกได้ทราบ

ผลด้วยเจ้าค่ะ

ตกลง

 ได้มีโอกาสได้เข้ามาอ่านเรื่องราว หลังจากได้บังเอิญเปิดเจอรายการ ก็พยายามติดตามชมรายการเท่าที่มีโอกาส

เมื่อได้อ่านบทความ ที่ได้ลงในเว็บไซส์ ทำให้ได้จำบาปกรรมบางอย่างที่ได้ลืมไปแล้ว แต่ยังไล่อ่านไม่หมดเลยค่ะ

เนื่องจากได้อ่านเรื่องราว  จึงอยากร่วมแสดงความคิดเห็น

ร่วมลุ้นด้วยอีก  1 เสียงค่ะ แต่เห็นว่าขึ้นอยู่อาจารย์ดีกว่าค่ะ

และขอให้ลูกได้ทราบ

ผลด้วยเจ้าค่ะ

ตกลง

อาจารย์.....ขา ถ้าอาจารย์ทราบผลเมื่อใด ขอให้พวกเราชาวบ้านสวนฯทุกคนได้ทราบผลด้วยได้ไหม๊คะ ........ (หรือว่า จะเป็นเจ้าตัวมารายงานเอง... ที่เห็นๆน่าจะมี คุณแหวน และคุณแมว(ถ้าตกสำรวจท่านใด..ต้องขออภัยนะคะ) ที่รีบรับแทนอาจารย์แบบไม่คิดห่วงตัวเองเลยเช่นกัน ชื่นชมจริงๆ)

ส่วนท่านอาจารย์อุบลก็เป็นห่วงทุกคน ทุกเวลาจริงๆ ไม่เคยห่วงตัวเองเลยแม้แต่น้อย เกิดเป็นอ.อุบลเนี่ย ความอดทนสูงจริงๆ  และนอกจากอ.อุบลแล้ว บุคคลที่น่านับถือและศรัทธาอีก...น่าจะเป็น อ.มงคล และน้องท้อป ที่ต้องมีความเข้าใจและ ความเสียสละไม่น้อยไปกว่าอ.อุบล เช่นกัน.....

ขอบคุณครอบครัว "ศุภาเดชาภรณ์" ที่ยอมเสียสละความสุขส่วนตัว

เพื่อทำประโยชน์แก่มวลมนุษย์ทั้งหลาย ขอบคุณค่ะ

อ.อุบลคะ ตอนที่หนูได้อ่านข้อความว่าอาจารย์ต้องได้รับกรรมแทน และเจ็บ ทรมานมาก

หนูรู้สึกอยากเจ็บแทนอาจารย์ตามที่ได้เคยพิมพ์ไว้ดังนั้นทุกประการ

เพราะได้คิดแล้วว่าชีวิตของอาจารย์มีประโยชน์มีคุณค่ามาก

อีกทั้ง เสาร์ อาทิตย์ ยังต้องช่วยคนที่มาบำบัดอีกมาก

ซึ่งหนูเป็นแค่คนเลว ๆ คนหนึ่ง ที่หาประโยชน์ต่อส่วนรวมอะไรไม่ค่อยได้

เพราะฉะนั้น ถ้าหนูเจ็บอยู่บ้าน คงไม่เดือดร้อนอะไรมากมาย

เมื่อพิมพ์ไป ใจก็คิดไป(ว่าสงสารอ. แต่อีกใจก็คิดว่าท่านเป็นผู้มีบุญสูงส่ง

จะบังอาจมาสงสารได้ไง โง่จริงเรา) แต่ก็รู้สึกว่าไม่อยากให้อ.ทรมารเลย

แล้วคิดว่าท่านท้าวเวสสุวรรณท่านล่วงรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ท่านต้องรู้ในใจ ในความคิดของทุกคน

ก็ยกมือที่หน้าจอคอม บอกท่านว่า ขอให้อ.หายนะคะ ให้หนูเป็นแทนก็ได้คะ หนูยอมคะ สาธุ

แล้วก็รอดูผล รอสังเกตตัวเองดูว่าเราจะเจ็บตรงไหนมั้ยเนี่ย ก็เดินไปเดินมา สังเกตตัวเองไปด้วย

ก็ไม่เห็นเจ็บอะไรเลย คิดต่อว่า หรือท่านจะคิดว่าเราไม่ได้เต็มที่ หรือว่าอ.จะหายเจ็บแล้ว

เพราะเรื่องที่อ.มาเล่ามันอาจจะหลายวันผ่านมาแล้วหรือเปล่า ก็คิดไปเรื่อย ๆ  และรอเช็คข้อความในกระทู้ไปด้วย

จนกระทั่ง อ.ได้เล่าเรื่องน้องท้อปขึ้นมา ก็ปลาบปลื้มใจมาก หายเป็นห่วงไปเปราะนึง จนมาถึงวันนี้

ก็เลยทราบว่า อ.ขอร้องท่านว่า อย่าให้ใครได้รับกรรมนี่เอง เลยไม่ได้เจ็บ

สาธุ หนูขอกราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณผู้มีเมตตาสูงส่ง

และอ.อุบล ที่มีเมตตาสูงส่งเช่นกันคะ ทำให้หนูรู้ว่า ความดีมีอยู่จริง ความสุขมีอยู่จริง สาธุ

ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความทุกข์ แต่หลังจากได้ไปบ้านสวนปิรามิดแล้ว ( ใช้แรงกายและบำบัดโรคตั้งแต่คืนวันที่ 8 ถึง วันที่ 13 ธ.ค. 53 )

ข้อมือซ้ายที่เจ็บมาประมาณ 9 เดือนหายสามารถยกหิน ทราย ปูน ได้ตั้งแต่เช้าวันที่ 9 ขนาดยังไม่ได้บำบัด

บั้นเอวที่เจ็บปวดมา 13 ปี (หมอนรองกระดูกทับเส้น กระดูกสันหลังคดไปทางซ้ายขณะนี้น่าจะเหลืออีกประมาณ 20% เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน 100%)

โรคอื่นๆเบาบางลง( แหม๋ไปแค่ครั้งเดียวกะจะหายไห้หมดเชียวหรือ)

***** ที่สำคัญที่สุดความคิดในหลายๆอย่างเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลังจากได้รับคำสั่งสอนจากอาจารย์อุบล ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม

ตลอดจนได้ยินเสียงธรรมะจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งตอนนี้เป้าหมายของผมคือพระนิพพาน โลภ โกรธ หลง เบาบางลงมาก

ต้องขอขอบพระคุณ พระพุทธองค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์เทพสฟิงค์ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของบ้านสวนปิรามิด

และอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ที่ได้ให้ที่พัก อาหาร ธรรมะ จนทำให้โรคภัยของกระผมบางโรคหาย บางโรคเบาบางลง และที่สำคัญทำให้ดวงตาเห็นธรรมะจริงๆ

ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า

นายมนตรี บุญธรรม

          สวัสดีค่ะ อ.อุบล   ขอบคุณ อ.และครอบครัวของ อ.ที่ช่วยคนให้รู้ตื่น  อ่านแล้วทั้งดีใจ ปลื้มใจ จนนํ้าตาใหล

                ดีใจค่ะที่ได้เจอคนดี  ขออนุญาติ รัก อ.อุบล+น้องท็อป นะคะ

                กราบสิ่งศักสิทธิ์ในบ้านสวนปิรามิดเจ้าค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณมนตรีด้วยนะคะ  ที่สุขภาพดีขึ้น  และมีดวงตาเห็นธรรม

ขออนุโมทนาบุญกับ...คุณมนตรีค่ะ

ขอเป็นอีก 1 กระบอกเสียง   และเห็นด้วยกับคุณชนิดา ค่ะ   

และที่สำคัญ ในเมื่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ตั้งใจสร้างเงื่อนไขและข้อต่อรองให้อาจารย์บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองขนาดนี้แล้ว แสดงว่า ท่านต้องมีเหตุผลสำคัญเช่นกัน.....

ขอร่วมเป็นอีก 1 กระบอกเสียง  และเห็นด้วยกับคุณชนิดา ค่ะ

ผิดกฎสวรรค์ ทุกข้อ  เอ็งเจ็บหนักมาแล้ว

 ยังไม่เข็ด

-ไม่เข็ดเจ้าค่ะ

-เอ็งนี่มันบ้า...รึดี

-บ้าเจ้าค่ะ...โง่ด้วยเจ้าค่ะ

-มีใครเขาคิด  เขาทำแบบเอ็งมั่งฮึ  ในโลกนี้

-มี...เจ้าค่ะ

-ยังเถียง...ใคร

-พระเจ้าอยู่หัวเจ้าค่ะ

-ท่านท้าวเวสสุวรรณ...(เงียบ)

-หรือไม่จริงเจ้าคะ...?

-เอ็งบอกมา...พระเจ้าอยู่หัว...ทำอะไร

(ใครอยากให้เล่าต่อก็โหวต และแสดงความเห็นด้วยนะคะในเรื่องที่เล่าไปแล้ว)

อาจารย์คะ...ระหว่างรอเรื่องเ่ล่าจากคุณเอก...

ถ้าอาจารย์พอจะมีเวลา..รบกวนอาจารย์ช่วยเล่าเรื่องนี้ต่อได้ไหม๊... แอบรอมานานแล้ว..ค่ะ

แต่ไม่เห็นอาจารย์มาเล่าต่อซักที...

อย่าเพิ่งหยุดเล่านะคะอาจารย์ โดยเฉพาะเรื่องนี้... อยากรู้มากกกกกกกกก..ค่ะ

ขออนุโมทนาล่วงหน้ากับอาจารย์นะค๊า... สาธุ

เห็นด้วยกับคุณชนิดามาก ๆ คะ

รออาจารย์มาเล่าต่อนะคะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าคะ

                           ขอโหวตอีกหนึ่งเสียงค่ะ  ...ความเห็นเหมืือนคุณชนิดา..รอความเมตตาจากอาจารย์

         เล่าต่อค่ะ...และขออนุโมทนาบูญกับน้องtopด้วยน่ะ....ที่ทำบุญให้กับพระอรหันต์ของลูก(ไม่ทราบ

         ว่าเป็นความเห็นที่ผิดรึเปล่า...อาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ)  ว่าแม่มีพระคุณท่วมหัว .....สำหรับลูก

                            ขอขอบคุณอ.ที่่สละความสุขส่วนตัว  ทั้งครอบครัว  เืพื่อฃ่วยเหลือ และทำประโยชน์ให้

          แก่ผู้อื่นด้วยจิตเมตตาที่สูงส่ง

       ขอนุโมทนาบุญกับอาจารย์อุบล และทุกท่าน  วันนี้หนู(ผู้บาปหนาและโง่ด้วย)เพื่งมาเปิดดูและเดาทายว่าอาจารย์ต้องช่วยแน่ๆเลยและยอมเจ็บเหมือนที่เคยผ่านมาว่า  บอกเลยคะอาจารย์และมีความคิดเห็นเช่นเดียวกับคุณชนิดา

กราบขอประทานโทษครับอาจารย์อุบล  และขออภัยพี่น้องชาวบ้านสวนพีระมิด ผมเองจำได้แค่ว่า ในวันที่ 9 ม.ค. 53 ร่างทรงเสด็จพ่อ ร.5 พูดไว้ว่า

- อาจารย์เป็นเจ้าหญิง(จำชื่อไม่ได้ครับ) ที่จะมาช่วยให้ผู้ที่มีคุณธรรมให้รอดพันจากภัยพิบัติทางธรรมชาติด้วยอำนาจลึกลับของพลังพีระมิด 99 องค์  และพลังอันลึกลับจะช่วยให้พระอาการประชวรของในหลวงดีขึ้น

- การสร้างพีระมิดจะมีผู้คนทั้ง ไกลและใกล้มาช่วยกันสร้าง

- ผู้ที่จะรอดพันจากภัยพิบัติ มาแล้วก็จะมาอีก  แต่ผู้ที่มีอวิชชาห่อหุ้ม ก็จะมองว่าสิ่งที่ทำนี้ บ้า แล้วก็จากไป

- การสร้างในปี 53 จะสร้างเสร็จ 77 องค์  และจะช่วยให้สถานะการณ์ดีขึ้นแต่ยังไม่พ้น ถ้าจะให้ดีต้อง 99 องค์

(อย่าโห่กันนะครับจำได้แค่นี้)

แต่เหนือสิ่งอื่นใดพี่น้องก็ดูเอาเป็นข้อข้อ แล้วกันครับว่าตรงทั้งหมดครับ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมบุญกับบ้านสวนพีระมิดนะคะ

ขณะนี้ดิฉันมีอาการคันผิวหน้าและมีสิวขึ้นเหมือนแพ้อะไรสักอย่าง ซึ่งดิฉันเดาว่าดิฉันน่าจะเป็นเหมือนคุณนรินทร(ความเห็นที่104)  ที่ดูรายการคุยไปแจกไปแล้วก็เกิดความสงสัยทั้งๆที่ศรัทธาแต่ก็สงสัย ดิฉันยังเป็นคนโง่และบาปหนาอยู่  ดิฉันกราบขอขมาและขอโทษพระพุทธองค์  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ อาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิด  ถ้าดิฉันได้เคยคิดล่วงเกินสงสัยทุกท่านทางทีวี 

ดิฉันใช้ผลิตภัณฑ์พาเมล่าอยู่ค่ะ  สภาพผิวหน้าดีขึ้นมาก ดิฉันได้ศึกษาคู่มือหนีกรรมผิวพรรณพอเข้าใจและได้สั่งกับตัวแทนทางทีวี  ดิฉันเคยอธิษฐานว่าดิฉันจะอ่านให้ครบ 9 รอบ  แต่จนเดียวนี้ดิฉันก็ยังอ่านไม่ครบ  ดิฉันขอตั้งจิตว่าดิฉันจะตั้งใจอ่านให้ครบ 9 รอบตั้งแต่วันนี้ค่ะ

ขอบคุณคะคุณเอก รอมาตั้งหลายวัน ไม่โห่หรอกคะ

แต่ถ้าจำได้เพิ่มก็มาเล่าอีกนะคะ ชอบฟังคะ

ขอบคุณล่วงหน้าคะ

    ขอบคุณ คุณเอก+ คุณกุ้งนะคะ  ที่ช่วยกันเรียบเรียง  มาให้พวกเราได้ทราบ

และจะรออ่านอีกนะคะ

อ.อุบล มาแล้วจ้า

หายไปนาน เพราะไฟบ้านสวนดับบ้าง

ตัดต่อรายการที่จะออกอากาศ อา 19 ธ.ค.53 บ้าง

ดูงานก่อสร้างบ้าง........ฯลฯ.......สารพัด.......ตามประสาคนวัยทอง

หลังจากหายเจ็บปวดแล้ว

 ร้องไห้วันละหลายครั้ง ซึ่งปกติจะไม่ร้องไห้ง่ายๆ มานานแล้ว

(ตั้งแต่หลวงพ่อเสงี่ยมสอนว่า ให้ทำตัวเป็นภูเขา อย่าทำตัวเป็นยอดหญ้า)

จนเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

ท่านมาอีก  มนุษย์คิด....เทวดารู้

ร้องไห้อีกแล้ว

เจ้าค่ะ......มันร้องเอง......เจ้าค่ะ

มันร้องเองไม่ได้หรอก.....มันต้องมีสาเหตุ

ท่านก็ทราบหมดแล้วนี่เจ้าคะ ไม่มีสิ่งใด ที่เกิดขึ้น

กับชีวิตได ที่จะรอดพ้นพระเนตร  พระกรรณ ของท่านพ่อได้

ไม่ว่าความคิด  คำพูด  การกระทำ  แอบทำ ท่านพ่อ  ทรงทราบหมด

พ่อรู้....แต่อยากให้เจ้าบอกอีก

ทำไมหรือเจ้าค่ะ......จะจับโกหกหรือเจ้าคะ

ว่าปากกับใจลูก จะตรงกันหรือไม่ ท่านพ่อไม่ได้ทราบแต่ความคิดคน

หรอกนะคะ แต่ทรงทราบก่อนที่คนจะคิด จะพูด จำทำ จะไป ด้วยนะเจ้าคะ

ถึงกระนั้นก็ยังอยากให้เจ้าบอกอีกอยู่ดี...เพราะ...อยากให้คนอื่นรู้

แล้วทำไมท่านพ่อไม่ทำให้เขารู้...โดยใช้ฤทธิ์ล่ะเจ้าคะ

ก็นี่ไง...พ่อก็กำลังใช้ฤทธิ์...ผ่านเจ้า

อยู่นี่ไง...ที่บอกให้เขียน

อยู่นี่ไง

แล้วคนเขาจะเชื่อลูกหรือเจ้าคะ

ก็ลองเขียนไปก่อน แล้วเจ้าก็จะรู้เองว่า

เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อ....แล้วถ้ามีคนไม่เชื่อเจ้าอายหรือ

ไม่เจ้าค่ะ....ไม่อาย

ไม่อายแล้วกลัวทำไม

กลัวเขาบาป...ไปนรก...เจ้าค่ะ

แล้วก่อนไปนรก ท่านพ่อก็เล่นงานเขา สะบักสะบอม

สะบักสะบอมยังไง

ก็คันบ้าง  เป็นขี้กลากบ้าง เจ็บปวดบ้าง ถูกเหยียบไหล่บ้าง

กระบองตีหัว จนหัวน่วมบ้าง เขาก็มาเล่ากันเจ้าค่ะ

แล้วเขารู้รึเปล่า  ว่าทำไมถึงโดน

ก็รู้บ้าง ไม่รู้บ้างเจ้าค่ะ

คราวนี้เจ้ามั่นใจได้แล้วหรือยัง

ว่าสิ่งที่พ่อของเจ้า ให้เจ้าทำแต่ละอย่าง

พ่อวางแผนไว้หมดแล้ว สำหรับจัดการกับคนพวกนี้

เอ้าบอกมาร้องไห้ทำไม

สงสารคนที่ขอรับกรรมแทนลูก

และ

สงสารพระเจ้าอยู่หัวเจ้าค่ะ

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

ถาม อ.อุบล ว่า

คนที่ขอรับกรรม

แทนเจ้า พ่อก็ปล่อยแล้ว

ด้วยบุญที่เจ้าฝากพระพุทธเจ้าไว้ และ

บุญที่ฝากข้าไว้  เจ้ารู้แล้วนี่ ว่าทุกคนไม่ต้องรับ

แล้วสงสารเขาทำไม

ซาบซึ้งใจเจ้าค่ะ...ที่โลกนี้มีคนที่เสียสละ

ถ้าคนในโลกนี้เป็นเช่นนี้ทุกคน โลกคงไม่ต้องเกิดภัยพิบัติเจ้าค่ะ

นี่แหละที่เจ้าจะต้องรีบบอกความจริง ความจริงที่คนไม่กล้ายอมรับ

ความจริงที่คนยังไม่รู้

แล้วเรื่องที่ เจ้าสงสารพระเจ้าอยู่หัว ล่ะ

ก่อนหน้านี้เจ้าไม่สงสารพระองค์หรือ จึงไม่เคยร้องไห้

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พระองค์ประชวรมาก หนักมาก และ นานมาก

ทำไมพึ่งมาร้องตอนท่านหาย 

ก่อนหน้านี้ลูกก็สงสารพระองค์

หาวิธีช่วยพระองค์ทุกวิธี

ทั้งทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล ทำสมาธิเจ้าค่ะ

แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้เจ้าค่ะ

ทำไม

เพราะตอนที่ลูกเจ็บหนักครั้งนี้มันทุกข์

ทรมาณกายมากเจ้าค่ะ

ไม่ทุกข์ใจหรือ

ไม่เจ้าค่ะ คิดถึง

หลวงพ่อฤาษีลิงดำตลอดเจ้าค่ะ

คิดถึง จับภาพพระพุทธองค์ตลอดเจ้าค่ะ

ท่านสอนให้แยกกายออกจากจิตให้ได้

จึงใช้วิกฤตเป็นโอกาสเจ้าค่ะ

ฝึกแยกทุกขเวทนา

ว่าร่างกายมันจะป่วยก็เชิญป่วย

แต่ใจเราต้องไม่ป่วยตาม มีกรรมก็ใช้ไปเจ้าค่ะ

เราอยากไปแทรกแทรงกรรม

ของผู้อื่น เราต้องรับ

ที่ร้องไห้มากเมื่อหายเจ็บปวดแล้ว

เพราะพึ่งคิดได้ว่า

นี่ขนาดเรา

แทรกแทรงกรรมคน...เพียงคนเดียว

เรายังต้องได้รับทุกขเวทนาถึงเพียงนี้

แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทรงแทรกแทรงกรรมคน

หลายสิบล้านคน

พระองค์จะ

ต้อง

เจ็บปวด

ทุกข์ทรมาณสักเพียงไหน

นี่คือสาเหตุ.....ที่ลูกร้องไห้.....เมื่อหายแล้วเจ้าค่ะ

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณถามว่า

แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่า

พระเจ้าอยู่หัวแทรกแทรงกรรมคนหลายสิบล้านคน

ถ้าไม่มีใครอยากฟังต่อ...ก็...กู๊ดไนท์ค่ะ

ขอโหวต 1 เสียงค่ะ ขอให้อ.เล่าต่อค่ะ (เพื่อประดับปัญญาอันน้อยนิด)

(ไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะอาจารย์เคยสอนว่า อย่าอยากแล้วจะได้ ถ้าอยากแล้วไม่ได้)

หนูก็เลยเลือกข้อ ไม่อยากแล้วจะได้     แล้วจะรออ่านน่ะค่ะ

เห็นด้วยกับคุณ พรรณี ค่ะ ขอโหวต หนึ่งเสียง แต่สองมือ ยกสูงๆด้วยค่ะ...อาจารย์

โธ่....อาจารย์ขา มาจบตอนสำคัญอีกแล้ว.... ช่วยกรุณามาเล่าต่อด้วยเุุิถิด..ค่ะ....

แต่จากเรื่องที่อาจารย์เล่า ก็เคยได้อ่านเรื่องของพระองค์มาบ้างเหมือนกันนะคะ

ที่หลายๆครั้งพระองค์ช่วยให้เหตุร้ายและภัยต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับคนไทยให้ลดน้อยลง 

อันนี้ต้องรอให้อ.อุบล เป็นผู้มาเล่า อีกที ชัวร์กว่าเยอะ....

จะเห็นได้ว่า ถึงแม้จะเป็นผู้มีบุญญาธิการ และ บุญบารมีสูงซักเพียงใด

แต่ก็ไม่มีใครได้รับการยกเว้น จาก กฏของธรรมชาติเลย นั่นก็คือ กฏแห่งกรรม

เหมือนกับเหตุการณ์ที่อ.อุบลได้เคยเล่ามา ทั้งๆที่อาจารย์มีเจตนาดี

ต้องการที่จะช่วยให้คนอื่นพ้นทุกข์ แต่ถ้าทำผิดกฏ ก็ต้องรับกรรมอยู่ดี

ส่วนองค์เหนือหัว น้ำพระทัยเปี่ยมล้นจริงๆ

แค่ได้ฟังอาจารย์อุบลอธิบายถึงความเจ็บปวดทางกายที่อาจารย์ได้รับแล้ว

ยังแทบทนไม่ได้ แล้วพระองค์ล่ะ จะขนาดไหน ....  คงจะเกินคำบรรยาย แน่ๆ....

จดจ่อรอฟังตอนต่อไปนะคะอาจารย์....

เรารักในหลวง..ค่ะ

ยิ่งได้อ่านยิ่งรักในหลวงคะ

ท่านทรงเสียสละเพื่อประชาชน มากกว่าที่เราเคยคิด มากกกก

ขอบพระคุณอาจารย์มากคะ ที่อ.เสียสละเพื่อผู้อื่น

และมาสร้างพีระมิดเพื่อพระองค์ เพื่อประชาชนโดยแท้

    ด้วยไม่เคยคิด  ไม่เคยทราบ  ว่าพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ท่าน ได้ทำการช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ อย่างไรบ้าง

นอกเหนือจากที่เราได้เห็น  ได้อ่าน  และรับรู้จากสื่อต่าง ๆ เท่านั้น  เท่าที่เราทราบและสัมผัสได้  ก็มากมายยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใคร

จะคิด  จะทำได้  แต่พอมาอ่านที่ อ. อุบลได้เขียนมาให้พวกเราได้ทราบ  พึ่งได้ทราบความจริงว่า  พระองค์ท่านได้ทำเพื่อประชาชนของพระองค์

มากกว่าที่เราได้รับรู้   หลายพันเท่า เพราะฉะนั้น  ความเจ็บปวด  ความทุกข์ทรมานที่พระองค์ท่านได้รับ  อาจารย์คะ  หนูไม่กล้าคิดต่อ  ว่าสิ่งที่

พระองค์ท่านต้องได้รับจะมากมายแค่ไหน  ถึงตอนนี้  หนูรักในหลวงมากค่ะ  และจะเป็นคนดีของพระองค์  ตลอดไป

รออ่านอาจารย์มาเล่าต่ออยู่นะคะ  อ่านแล้วได้ข้อคิดมากเลยค่ะ  ขอบพระคุณอาจารย์มากๆค่ะ

ขอกราบ อาจารย์ครับ

                 วันนี้(18 ธันวาคม 2553) ผมพึ่งได้รับความเมตตาจาก อาจารย์อุบล อาจารย์ มงคล และ คุณท๊อป ที่มีเมตตา ให้ผมได้รับการบำบัดจากอาจาย์ครับ   สิ่งที่อาจาย์ได้พิมพ์ให้ทุกท่านได้อ่าน ผมได้รับฟังและได้พิจารณาจากวันนี้ ทำให้ผมได้ซาบซึ้งในความเมตตา ของครอบครัว"ศุภาเดชาภรณ์"  มาก เพราะว่า  ทุกท่านได้สละความสุขในครอบครัว มาช่วยเพื่อนมนุษย์ ผมขออนุญาตขอขอบคุณทุกท่านครับ แต่เมื่อได้รับฟังจากอาจารย์ว่า เมื่อท่านได้ช่วยเหลือบุคคลนอกเหนือเวลาที่ถูกกำหนด อาจารย์อุบล ต้องได้รับความทุกข์ทรมานทางกายแล้ว ทำให้ผมรู้สึกอยากจะมีส่วนช่วยเหลืออาจารย์อุบลมาก  และยิ่งทราบจากอาจารย์อุบลว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงได้รับความทุกข์ทรมานเช่นกัน และอาจมากเป็นทวีคูณ ทำให้ผมยิ่งเศร้าเสียใจมากขึ้นไปอีก เพราะ ผมเป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนทำให้พระองค์ท่านต้องทุกข์ ครับ

                      ผมคนหนึ่งที่ขอร่วมเป็นกำลังหนึ่ง ที่ต่อไปนี้ จะขอถวายความจงรักภักดีต่อท่าน และ นำแนวทางปฏิบัติที่อาจารย์ได้เมตตาบอกกล่าวให้ไปกระทำ ครับ        

ขออนุโมทนาบญกับ..คุณ ณากร ค่ะ

ใช่ค่ะ

พอแมว..คิดถึง..ว่า

อาจารย์..ต้องมารับความเจ็บปวด

เพราะ..ช่วยเหลือ...!!!!!!

น้ำตาไหลทุกที.....

อ.อุบล...ตัวเล็กๆ อยู่ด้วย

ให้คนตัวใหญ่ ๆ อย่างแมว..รับแทน..เถอะค่ะ

คิดถึงมาก ๆ ค่ะ

ก่อนจะเล่าต่อ

 ต้องขอพูดเรื่อง

การแต่งกายของ อ.อุบล ก่อนนะ

เพราะเป็นที่แปลกใจของคนหลายคน

 ว่าทำไม อ.อุบล ใส่เสื้อผ้ารัดรูปจัง.....

อะไรทำนองนี้

แต่ที่ อ.อุบล แปลกใจว่า คนที่เห็น อ.อุบล ก็คือ

1.ทำไมท่าน(เบื้องบน)เลือกคนอย่าง อ.อุบล มาทำงานนี้

2.ทำไมท่านเลือกคนแต่งตัวแบบนี้  (อันนี้คิดแทนคนอื่นด้วย)

3.ทำไมท่านให้ อ.อุบล มีบุคลิกภาพ + แต่งตัวแบบนี้ (เน้นเรื่องแต่งตัว)

ต้องขอท้าวความก่อนว่า อ.อุบล คนนี้

เป็นคนรักสวยรักงามมาตั้งแต่จำความได้ เป็นลูกคนเล็กของครอบครัว

และ

เป็นคนที่สวยที่สุดในบ้าน ในบรรดาพี่น้อง 4 คน

นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ เป็นเรื่องเดียวที่กล้าพูดโดยไม่ต้องคิด มั่นใจมาก

(ในชีวิตไม่เคยมั่นใจอะไรขนาดนี้เลย.....อวก)

ถามเสด็จพ่อท่านท้าวเวสฯ + หลวงพ่อฯ

ท่านก็ไม่ยอมบอก

ท่านบอก อ.อุบล โง่ ขืนรู้อะไรล่วงหน้าก่อนมากๆ จะเสียเรื่อง

ท่านก็เลยบอกว่า มีหน้าที่ทำตามอย่างเดียว เดี๋ยวรู้เอง

 แล้วเมื่อ ประมาณ 2 วัน ที่ผ่านมา เสด็จพ่อฯ ก็มาเฉลยแล้ว

แต่ อ.อุบล

อยากให้ท่านผู้อ่านลองวิเคราะห์

ว่า ทำไม ท่าน เลือก อ.อุบล + แต่งตัวแบบนี้

ดูซิคะว่าจะมีใคร(ที่เป็นคน)ล้ำเลิศเท่าพระอรหันต์อย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

และ ใครจะสุขุม ลุ่มลึก หลักแหลม เท่าเสด็จพ่อท่านท้าวเวสฯ

ใครทายถูกให้ 2 บาท / ทายผิดให้ 3 บาท

(ขึ้นราคาให้ด้วย)

แต่ อ.อุบล

อยากให้ท่านผู้อ่านลองวิเคราะห์

ว่า ทำไม ท่าน เลือก อ.อุบล + แต่งตัวแบบนี้

ดูซิคะว่าจะมีใคร(ที่เป็นคน)ล้ำเลิศเท่าพระอรหันต์อย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

และ ใครจะสุขุม ลุ่มลึก หลักแหลม เท่าเสด็จพ่อท่านท้าวเวสฯ

คงไม่มีใครบังอาจ ล้ำเลิศขนาดนั้นแน่นอนคะ

แต่ขออนุญาต (อยากมีส่วนร่วม) แบบคนโง่ ๆ นะคะ

จากที่ได้ยินได้ฟังมาบ้าง

น่าจะเป็นเพราะท่านต้องการแยกแยะระดับปัญญาของคน

ว่าจะมองคนหรือนับถือคนได้ ที่ภายนอก(รูปร่าง หน้าตา ชาย/หญิง)

 หรือภายใน(ความคิด จิตใจ ปัญญา)

ใครผ่านด่านทดสอบไปได้ ก็จะมีโอกาสพ้นทุกข์

  ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนค่ะ  คิดว่าที่เลือก อ. อุบล เพราะบุคลิก  ที่มั่นใจ ดูน่าเกรงขาม

แต่เรื่องการแต่งตัว  นี่ .. อาจจะ  ให้มองว่า  ไม่ว่าจะแต่งแบบไหนก็เข้าถึงพระธรรมได้

(น่าจะได้  3  บาทนะคะ)

ไหน ๆ หนูแหวนกับ หนูตาล ก็ ช่วยวิเคราะห์แล้ว

ก็อยากให้แถมอีกเรื่อง คือ เรื่อง อ.อุบล สวยที่สุดในบ้าน

ในบรรดาที่น้องสี่คน เชื่อหรือไม่ จะไม่สงสัยบ้างเลยหรือจ๊ะ ว่า อ.อุบล

จะคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า ขนาดคุณท้อป ยังพูดเลยว่า

คุณแม่คิดไปเองหรือเปล่าครับ.....555

555 เรื่องนั้น หนูมั่นใจว่าอ.ไม่โกหกแน่ เพราะอ.รักษาศีลอยู่ตลอดเวลา

และที่ได้ใช้สายตาตนเอง เพ่งมอง พิจารณาแล้ว ก็สวยกว่าคนธรรมดามาก

อีกทั้งยังเคยได้ยินการันตีว่าเป็นอดีตนางงาม

แล้วจะบังอาจสงสัยในความงามกว่าพี่น้องทั้ง 4 คนได้อย่างไรคะ

(ขออภัยคะ ลืมทำตัวใหญ่เผื่อผู้สูงอายุคะ เอาใหม่นะคะ)

555 เรื่องนั้น หนูมั่นใจว่าอ.ไม่โกหกแน่ เพราะอ.รักษาศีลอยู่ตลอดเวลา

และที่ได้ใช้สายตาตนเอง เพ่งมอง พิจารณาแล้ว ก็สวยกว่าคนธรรมดามาก

อีกทั้งยังเคยได้ยินการการันตีว่าเป็นถึงอดีตนางงาม

แล้วจะบังอาจสงสัยในความงามกว่าพี่น้องทั้ง 4 คนได้อย่างไรคะ

คุณตาลเห็นด้วยมั้ยคะ

ขอกราบอาจารย์ อุบล และขอกล่าวคำสวัสดีกับเพื่อนทุกท่านๆ

                            เรื่องความสวยของอาจารย์ คงไม่มีเพื่อนๆ คนไหนสงสัยหรอกครับ ก็เห็นประจักษ์กับสายดาของทุกท่านครับ ผมยืนยันได้

ด้วยไม่มีไรแอบแฝงครับ (ถ้ายังมีอีก ก็คงไม่กล้าไปบำบัดแล้วครับ เพราะ อาจารย์ก็บอกให้ทราบแล้ว ว่าเหตุเกิด กรรมก็ต้องเกิด)

                            เห็นอาจารย์มาตอบกระทู้ ก็ดีใจครับ ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์หายเป็นปกติไวไว ครับ ผมจะขอเป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ

                                                      ด้วยความเคารพและนับถือ ครับ

คุณคุณากร ใช่หนุ่มหน้ามน

คนเชียงราย ที่ไปบ้านสวน

ทั้งเสาร์+อาทิตย์ หรือเปล่าคะ

ถ้าใช่ ก็คงทราบคำตอบ

ความเห็นที่ 139

หมดแล้วนะ

ก่อนอื่นขอชื่นชมในคำตอบของคุณแหวนและคุณตาลด้วยนะคะ

ตอบได้กระชับและได้ใจความมากๆ อ.อุบลต้องแอบยิ้มภูมิใจแน่ๆ ว่าชาวบ้านสวนฯมิใช่ธรรมดา...

แต่มานั่งอ่านอีกที สิ่งที่อาจารย์้ต้องการจะบอก

ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องให้พิจารณาธรรมภายใต้ขันธ์5ของท่านอาจารย์อย่างเดียวซะแล้ว...

เพราะอาจารย์มาเน้นและย้ำเรื่องความงามของอาจารย์อีกครั้ง อาจารย์คงจะต้องการจะบอกอะไรมากขึ้นแน่ๆ... ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับ..

ประเด็นที่ว่า "อ.อุบลเป็นใคร" หรือเปล่า เพราะเท่าที่ดูทรงผมอาจารย์เป็นเอกลักษณ์มาก เท่าที่ติดตามมา อาจารย์ไม่เคยเปลี่ยนทรงผมเลย นอกจากจะสั้น..ยาว ต่างกันบ้างเท่านั้นเอง....

ไม่รู้ว่าเป็นทรงผมที่ทำมาตั้งแต่อดีต..นานมาแล้วหรือไม่...

ใช้ Verb to เดาอีกแล้วค่ะ.....อาจารย์อุบลคนสวย(ที่สุดในพี่น้องสี่คน)....

จริงอย่างคุณชนิดาว่านะคะ ว่าคงมาจากอดีตชาติ

คุณชนิดา...น้องรักของอ.อุบล ต้องรู้อะไรดี ๆ แน่เลย รีบเผยมาดีกว่าคะ

ตอนนี้ อ.อุบล จะอยู่กระทู้นี้ ก่อนนอน แล้วนะคะ

หนูเบาหวิว หนูตาล คุณสิทธิ์ คุณคุณากร หายไปไหนกันหมดนะ

บอกใบ้ให้ไปอ่าน ความเห็น ที่ 104 ก่อนก็ได้นะ

ทีแรกอ่านแล้ว ขำกลิ้งลิงกับหมาเลยค่ะ

แล้ววิเคราะห์ต่ะด้วยนะ

ว่าทำไมท่านเลือก อ.อุบล และ (ให้)แต่งตัวแบบนี้

ดิฉันดูรายการแล้ว เห็น อ.ใส่เสื้อผ้ารัดรูปก็แอบคิดในใจว่ารัดรูปเกินไปหรือเปล่านะ แล้วก็รีบตัดความคิดนี้ออกไปโดยเร็ว แต่ก็ได้รับผลกรรมอยู่ดี เพราะหลังจากนั้น ขี้กลากขึ้น เลยค่ะ เป็นอยู่ 5-6 วัน ดูเหมือนว่ากำลังจะลาม เริ่มคันมากขึ้น และดูรายการ ตอนที่ ผู้ที่ปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่บ้านสวนฯ ก็เกิดดวงตาเห็นธรรม คิดขึ้นมาได้ว่า เป็น เพราะเราล่วงเกิน อ.อุบล แน่เลย ก็เลย ขอโทษขออโหสิกรรม อ.อุบล ในใจผ่านจอ โทรทัศน์ หลังจากนั้นเวลาผ่านไปอีก 2-3 วันต่อมาไม่ได้สังเกตุ ขี้กลากที่ขึ้นบริเวณ แขนก็หายไปเองโดยไม่ได้ทายาอะไรเลยค่ะ จึงเขียนมาเพื่อ กราบอโหสิกรรม ต่อ อ.อุบลอย่างเป็นทางการ และเพื่อเป็นกรณีศึกษา ค่ะ ขอแสดงความยินดีกับคุณนรินทร....ด้วยนะค่ะ เพราะขี้กลาก....เป็นเรื่อง..เล็ก ๆ คุณโชคดีมาก ๆ ค่ะ ที่ตัด....ความคิดได้เร็ว ไม่เช่นนั้น....อาจจะ เป็นไฟ....ลามทุ่ง...เลยทีเดี่ยวค่ะ มีตัวอย่างมาก...มาย ไฟ..ลาม...ป่า...ก็เกิดมา..ให้เห็นแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น นริน

อ.อุบล

นอนรอ 5 ความเห็นค่ะ

และขอให้คุณคุณากร

มาเฉลยถ้ายัง

ไม่นอน

แม๋อาจารย์ครับ...ของเดิมก็ยังเกาไม่ทั่วเลย ใคร๊จะอยากหาเรื่องให้มันลามเข้าไปอีกล่ะครับ...มิบังอาจคิดต่อ..จะบอกอาจารย์ว่า เวลาอาจารย์เดินมาใกล้ๆ ผมจะท่องพุทโธตลอดครับ กลัวความคิดของตัวเองจะพาให้ลงนรกทั้งเป็น

เข้าเรื่อง...การจะนับถือผู้ทรงศีล ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ และผู้ที่ถวายชีวิตนี้แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องดูที่กายภายนอก ไม่ว่าการแต่งเนื้อแต่งตัว ความสวยงามในเรือนร่างภายนอก ผิวพรรณ หรือหน้าตา และอาจจะไม่จำเป็นต้องใส่ชุดขาวเพื่อให้ใครๆ เห็นดีเห็นงามตามแบบฉบับผู้ทรงศีลที่เห็นกันทั่วไป และเราก็เชื่อกันส่วนใหญ่ว่าผู้ใส่ชุดขาวแล้วโกนผมคือผู้ทรงศีล (หรือจะให้ อ.อุบล ใส่แบบนั้นบ้าง)....แต่ภายในจิตใจต่างหาก คือสิ่งที่เรามอง และขาวสะอาดยิ่งกว่าเป็นไหนๆ สวยใสยิ่งกว่าเครื่องสำอางใดๆ จะเปรียบได้(ไม่ต้องฟอกจิตด้วยสบู่พาเมล่าด้วย)

เตรียงตังค์ทอน 2 บาทแล้วครับ

ขึ้นหน้า 4 แล้ว เกือบตกข่าว กด Refresh แต่หน้าเดิม

ขออนุญาตินั่งรอคำเฉลยด้วยคนนะคะ ไม่ชอบขี้กลากเหมือนกันคะ

คุณสิทธิ์คะ เป็นไอเดียที่ดีมากคะ ท่อง พุทโธ ไว้ จิตจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน ขอทำตามด้วยคน

แล้ววิเคราะห์ต่ะด้วยนะ

ว่าทำไมท่านเลือก อ.อุบล และ (ให้)แต่งตัวแบบนี้

ถ้าจะให้วิเคราะห์...อาจารย์อุบล

ต้องขออนุญาติก่อนนะคะ

ทำไมท่านเลือก..อ.อุบล....

  ก็เพราะ...บารมี...เก่า + ใหม่...นะซิคะ

+

บุคลิก..ที่มีความเชื่อมั่น...ไม่กลัวใคร

ตรงไป..ตรงมา..แบบที่เรียกกันว่า

กล้า..บ้าบิ่น..ไม่กลัวตาย

และ

เรื่องการแต่งกาย...เอกลักษณ์เฉพาะ...สตรี  ( เรียนแบบได้ยาก )

อาจารย์อุบลเป็น..คนสวย...( รูปร่าง + ความสวยบนใบหน้า )

การแต่งการด้วยเสื้อผ้าที่เข้ารูป...

ต้องเป็นเป้าสายตา...บุคคลอื่น..อย่างแน่นอน

แต่

มุมมองของแต่ละบุคคล..ไม่เหมือนกัน

มีทั้ง บวก และ ลบ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น

คนที่จะเป็นพระได้...ไม่จำเป็นต้องมี

ยูนิฟอร์ม ...  จริงไหมค่ะ

เพราะฟู้รักษาศิล...ที่มีผ้าเหลือง...ผ้าขาว..ห่อหุ้ม

ก็ประพฤติ...ไม่เหมาะสม..

ให้เห็นกันอยู่..ในสังคม..มากมาย

จุดนี้

เบื้องบน..

ท่านอยากจะบอกพวกเรา..ว่า

ผู้ปฏิบัติ...ทางธรรม..

ก็.. ได้ IN THE FASHION  ได้  ( ใช่ไหมค่ะ  อ.อุบล )

แหม...ลำบากใจจริงจริ๊ง..ไม่มีรายชื่อในลิสต์ แต่ก็อยากจะเสนอหน้ามาตอบ.... กะเค้า

ขออภัยในความหน้าด้าน...ค่ะอาจารย์

ถ้าวิเคราะห์จริงๆ เบื้องบนท่านอาจจะให้พวกเราพิจารณาธรรมในหลายๆระดับนะคะ

หนึ่ง..ไม่ให้ยึดติดกับตัวบุคคล แต่ให้ยึดมั่นในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสำคัญ

สอง... จากการแต่งตัวแบบนี้ เป็นสิ่งที่ยั่วยุให้ทุกคนที่มองมา อาจจะคิดปรามาสและล่วงเกินอาจารย์ได้ง่ายๆ ฉะนั้นเบื้องบนต้องการสอนให้คนที่ต้องการมาบำบัดกับอาจารย์ทุกคน ว่าให้มีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา เพราะจะห้ามใจไม่ให้คิด ในสิ่งที่ตัวเองเห็น..มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

นั่นก็คือ ต้องทำจิตให้เป็นสมาธิตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนลืมตา นั่นเอง... อย่างที่คุณสิทธิ์พยายามภาวนา พุทโธ

สาม.... นอกจากผู้ที่มาบำบัดกับอาจารย์ และชมรายการทางทีวี  จะต้องพิจารณาธรรมแล้ว คิดว่า...(เดาอีกค่ะอาจารย์) เบื้องบนก็ต้องการที่จะทดสอบจิตของอ.อุบลด้วย ว่าอาจารย์จะอุเบกขา กับความคิดและสายตา จากทุกๆคนได้หรือไม่

เพราะทุกคนและทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้  ต้องอยู่ภายใต้กฏของธรรมชาติ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา... การฝึกสมาธิอยู่เป็นนิจและหัดพิจารณาอยู่บ่อยๆจะทำให้เรามองทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริงของมัน..และยอมรับความจริงได้ในที่สุด...

ถ้าเขียนเสร็จแล้วโพสต์ไม่ได้ แสดงว่าท่านไม่อนุญาตให้หน้าด้านตอบ

แต่ถ้าโพสต์ได้แสดงว่า ยังพอหน้าด้านต่อไปได้อยู่.. หึ หึ

แหะ แหะ แอบเตรียมตังค์ทอนไว้7 บาท เผื่ออาจารย์ให้เหรียญ 10มา ฮิฮิ...

ต้องยกตัวอย่างวันหนึ่ง

กำลังจะแต่งตัวออกไปบำบัด แต่หาเสื้อที่เลือกไว้ไม่เจอ ก็เลยหาทุกตู้

ก็ยังไม่เจออยู่ดี

หาเป็นชั่วโมง ซึ่ง อ.อุบล จะจัดตู้เสื้อผ้าเอง แยก เสื้อ กางเกง กระโปรง เสื้อยืด

ชุดยาว ไว้คนละตู้ ดังนั้นจะหาง่าย และ ที่สำคัญ จะเตรียมไว้ก่อน แต่วันนั้นหาจนเหนื่อย

ก็เลยต้องเปลี่ยนวิธีหาใช้วิธีถามหลวงพ่อ(ที่จริงก็เกรงใจท่าน อะไร หาของไม่เจอ ก็หลวงพ่อ

เดี๋ยวจะไม่บังควรอีก)แต่หมดปัญญา อันที่จริงก็ควรใส่ตัวอื่นเลย แต่เหตุการณ์มันไม่ธรรมดา

เพราะเราเตรียมไว้แล้วอยู่ตู้นี้ ตรงนี้ แต่หลวงพ่อไม่ให้ใส่ตัวนั้น จึงเลือกอีกตัว ซึ่งเป็นเสื้อยืดรัดรูป

 แขนกุด ก็ O.K.

ทีนี้เราก็อยากรู้ต่อไปว่า เสื้อตัวนี้มันหายได้อย่างไร ก็เลยอธิษฐานกับหลวงพ่อว่า ถ้าเบื้องบน

หรือ หลวงพ่อไม่ต้องการให้ลูกใส่ตัวที่ลูกเลือกไว้ เปิดตู้ไป ขอให้ลูกเห็นเสื้อเดี๋ยวนี้ ด้วยเถิด

แล้วก็เปิดตู้  ก็เห็นเสื้ออยู่ที่เดิม ที่เราเตรียมไว้ แต่ตอนหา 20-30 รอบ หาไม่เจอ นี่เป็นวิธีเลือกเสื้อผ้า

ให้ อ.อุบล และ ต้องรัดรูป (ซึ่งตัวที่เลือกไว้ก็เป็นเสื้อยืด แต่ไม่รัดมาก

แสดงว่าท่านจงใจจริง ๆ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้บังเอิญเลย แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

ที่ไม่ชื่อคุณชนิดานี่นะ เพราะเห็นคุณชนิดาอยู่ในกระทู้นี่อยู่แล้ว

อย่ามาแย่งตำแหน่ง อ.อุบล ซีคะ เรื่องหน้าด้านเนี่ยก็ บอกแล้วว่า

  บอบบาง บึกบึน หนังหนา หน้าด้าน 

คุณชนิดาจะมาลอกเลียนแบบได้ยังไง เค้าคิดก่อนนะ

เบื้องบน ล้ำลึก และแยบยลจริงๆ...

ธรรมะแฝงอยู่ทุกๆที่ ทุกๆรายละเอียด...

แต่จะว่าไป หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านรับหน้าที่หลายตำแหน่งเหมือนกันนะคะ

นอกจากจะเป็นผู้กำกับแล้ว ยังรับหน้าที่เป็นฝ่ายคอสตูม คนสำคัญของอาจารย์อีกด้วย

ติวเข้มจริงๆ อนุโมทนาค่ะอาจารย์ ที่พวกเราทำให้อาจารย์นอนดึกอีกแล้ว....

คุณชนิดานี่ช่างคิดเนอะ ยกให้ท่านเป็นฝ่ายคอสตูม ของอาจารย์

นี่ดึกแล้วนะ

ควรจะวงแตก

แยกกันไปนอนได้หรือยังจ๊ะ

หรือยังวิเคราะห์ไม่เสร็จ  งานนี้ท่านบอก

เต็มที่ มีต้องมียั้ง ไม่งั้นมันไม่ได้ของจริง ต้องไปนั่งในใจ

คนอื่น และ ลองนั่งในใจตัวเราเองดู

ตอนมอง อ.อุบล ใน ที.วี. เนี่ย

คิดอะไร รู้สึกอย่างไร

หลวงพ่อฝาก

ถามจ๊า

ขอสารภาพว่า...

ชุดที่ฝ่ายคอสตูมจัดมา

ทำให้เห็นสรีระได้ชัดเจนมาก(ทุกส่วน) (ตัวจริงชัดกว่าในทีวี)

จนธรรมชาติของคน ถือว่าเป็นจุดดึงดูดให้ต้องจ้องมอง 

และคิดต่อยอดไปเรื่อย ๆ

(เหมือนผู้ชายชอบมองผู้หญิงสวย ๆ กระโปรงสั้น ชุดนักศึกษารัดรูป ฯลฯ)

ถ้าคนที่มองแล้ว ไม่รู้ทันจิตของตน ปล่อยให้คิดลามไปเรื่อย ๆ

คงเข้าตามแผนการณ์ของฝ่ายคอสตูม กิตติมศักดิ์แน่นอนคะ

พี่ชนิดาว่าไวค๊า...

ก่อนวงแตกแยกกันไปนอน(สำหรับคนที่เมืองไทย)

แต่สำหรับชนิดา คงซักหน่อยคงจะแยกตัว เพราะว่าได้เวลาอาหารเย็น แต่ก่อนไปขอซักนิด

ชนิดาก็คิดอย่างที่"เบื้องบน" ตั้งใจให้พวกเราคิดนั่นแหล่ะค่ะ

ประมาณนี้เลยนะคะ ระหว่างที่ดูรายการ ก็แอบคิดดังนี้

....โห..อาจารย์ เสื้อรัดรูปไปป่ะเนี่ย...

....กางเกงรัดรูปไปหน่อยนะ ไม่ได้ ไม่ได้...

....อาจารย์จะเซ็กซี่ไปไหนเนี่ย... ดูไม่สมควรเลย...

ส่วนใหญ่พอคิดเสร็จ พอรู้ตัว... ก็รีบขออโหสิทันที (ถ้าไม่ลืม)

ส่วนอันนี้นอกเรื่อง...แุถม..

เพราะเมื่อก่อนจะเห็นอาจารย์ทำท่าปัดแมลงตลอด

(อันนี้แอบขำในใจทุกที ที่เห็นอาจารย์ยกมือมาปัด..ไปสังเกตดูเทปเก่าๆ มีทุกเทป..)

ถ้าชนิดาเคยมีความคิดล่วงเกินอาจารย์ไปไม่ว่าจะเรื่องใดๆก็ตาม ชนิดาขออโหสิด้วยนะคะอาจารย์

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...พี่น้องชาวไทย...

นอกจากปัดแมลงแล้ว

อ.ยังคอยเซ็ตทรงผมให้เข้ารูป สวยงาม ด้วยคะพี่

หนูก็ขอกราบขอขมา และขออโหสิกรรมด้วยเช่นกันนะคะที่ได้เคยล่วงเกินอาจารย์ไปทั้งหมดคะ

Good night นะคะอาจารย์ และทุกท่าน พี่ชนิดาทานข้าวเย็นให้อร่อยนะคะ

พรุ่งนี้จะเข้ามาอ่านคำเฉลย คิดถึงทุกท่านสุดหัวใจคะ

กราบ อาจารย์ อุบล   และเพื่อนๆ ทุกท่าน ( คุณแหวน , คุณชนิดา(ผู้อยู่ไกล แต่ใกล้ชิด อาจารย์,และเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน)

                  ก่อนอื่น ต้องขออภัยอาจารย์ อุบล ที่ผมไม่ได้เข้ามาตอบในกระทู้ท้นที เนื่องจาก เป็นคนต่างจังหวัด (ลำปาง ครับ)

มากรุงเทพฯ ก็แทบจะนึกเส้นทางในกรุงเทพฯ ได้ทุกเส้นแล้ว แต่เป็นคนที่กลัวรถติดในกรุงเทพฯมากๆ ก็ไม่กล้านอนดึก (เป็นเด็กอนามัย)

เพื่อว่าจะได้ตื่นแต่เช้า จะไปโรงพยาบาล( เป็นคนป่วยนะครับ ไม่ได้ไปทำงานครับ) ก็ตอบกระทู้แล้วก็ไปสวดมนต์แล้วก็เข้านอน แต่ปรากฎว่า

เช้านี้ยังไปไม่ได้ครับ มีเหตุขัดข้องนิดหน่อยครับ

                     ก็เลยมาเปิดคอมฯ เพื่อดูว่าอาจารย์ ได้เฉลยหรือยังครับ  อยากทราบผลครับ ก็ปรากฎว่า อาจารย์อยากให้ผมเฉลย ผมไม่ขอรอให้ช้า   คำเฉลย คือ

                               ท่านท้าวเวชสุวรรณ  ท่านต้องการแยกแยะ คนที่มีจิตที่ดีและไม่ดีออกจากกัน พวกที่จิตไม่ดี ก็จะทำการลงโทษ หนึ่งในนั่นก็คือ ผม ครับ รับการลงโทษไปเรียบร้อย  เพราะ อาจารย์บอกกล่าวให้ผมและเพื่อนๆ ที่ไปบำบัด และ ใช้แรงกาย (วันที่ 18 ธันวาคม 53)

ให้ได้รับทราบกันแล้ว โดยใช้คำพูดว่า  "คนที่มีจิตใจที่สูง มีศีล เมื่อเห็นการแต่งตัวของอาจารย์ เค้าย่อมไม่คิดอะไร แต่คนที่มีจิตใจยังไม่ดี ย่อมคิดปรามาส  ท่านท้าวเวชสุวรรณจะได้จัดการคนเหล่านี้ และ เมื่อยังไม่สำนึกผิด และขอขมาอาจารย์ อุบล ก็ย่อมได้รับการลงโทษ

ให้ความเจ็บปวดนั้น ยังคงอยู่ " (การขอขมานั้น ก็จะเห็นได้ว่า ขอขมาผ่านหน้าจอ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาขอขมา ที่บ้านสวนพีระมิด แต่ให้ขอทำด้วยความสำนึกผิดจริงๆ และ ไม่ควรจะกระทำอีก ไม่ว่า คิด พูด เขียน ก็ได้รับการให้อภัย)

                                ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เพื่อนๆ ได้อ่าน จากกระทู้ที่อาจารย์ อุบล ได้แนะนำให้อ่าน แล้วครับ

                              ผมซาบซึ้ง ในความกรุณาของอาจารย์ อุบล มากครับ ที่ให้ผมได้มาเฉลย ในตอนแรก ผมอ่านกระทู้ของอาจารย์

ผมก็รู้คำตอบ แต่ผมไม่สามารถมาตอบในตอนแรกได้ เป็นมารยาททางสังคม และ กลัวเป็นการแทรกแซง อาจารย์ครับ (กลัวและหลาบจำ ครับ)

                                        ขอแสดงความเคารพและ นับถือ ครับ

     อาจารย์ขา  มาแล้วค่ะ   ตื่นแล้วค่ะ  (ตอนนั้นหลับอยู่ค่ะ) ต้องรีบมาอ่านเดี๋ยวตกข่าว

ขอพูดเรื่องความงามก่อนนะคะ ก็ อ. อุบล เคยบอกแล้วไงคะ 

ว่า  พระนางเนเฟอร์ตารี  เป็นราชินีที่งดงามที่สุด และมีจิตใจโอบอ้อมอารี

ชาวอียิปต์รักและเคารพมาก

เนเฟอร์ตารี  แปลว่า  รักมากที่สุด    เพราะฉะนั้นความงามเราก็ไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว

    ส่วนเรื่องการแต่งกาย  ก็ขอเห็นด้วยกับคุณสิทธิ์นะคะ

                                       ขอสารภาพด้วยคนค่ะ

                                 นอกจากปัดแมลงแล้ว

                       อ.ยังคอยเซ็ตทรงผมให้เข้ารูป สวยงาม ด้วยคะพี่

               และต้องคอยดึงเสื้อลงอยู่บ่อย ๆ เหมือนไม่มั่นใจ

              อีกอย่างนะคะ  ที่ตัวเองฟังแล้วขัดกับความรู้สึก  ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่า อ. อุบล รู้จริง  แต่ฟังทีไรก็รู้สึก "ทำไม อาจารย์ต้องพูดแบบนี้  รู้ไปหมดทุกอย่างหรือไง"  กว่าจะทำใจยอมรับได้  ก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง  นี่ขนาดตัวเรารักและศรัทธาอาจารย์จริง ๆ นะคะ แต่ทำไมใจถึงรู้สึกแบบนี้ได้  ถึงวันนี้ฟังคำพูดนั้นแล้ว  ก็นั่งหัวเราะตัวเอง  ว่าทำไม  เป็นบ้าอยู่ได้ตั้งเกือบปี  ใจนิ่งแล้วค่ะ

อาจารย์คะ  ที่หนูคิดล่วงเกินอาจารย์หนูกราบขอขมาและขออโหสิกรรมด้วยค่ะ

   คำพูดนั้นก็ คือ ในรายการคุยไปแจกไป  ช่วงเครื่องสำอาง  ที่มีคนหนึ่งเขาใช้พาเมล่า  แล้วเขาเลิกเครื่องสำอางเดิมทันที  แล้วอาจารย์พูดว่า  " เป็นอย่างนี้ทุกคน ไม่มีใครเก่งกล้าสามารถเอาชนะได้"  ทุกท่านที่ฟัง  อาจจะรู้สึกเฉย ๆ เพราะนั่นคือความจริง  แต่ทำไมตัวเองถึงได้ติดอยู่กับ  แค่คำพูดเพียงแค่นี้  กว่าจะหลุดพ้น  ก็ปาเข้าไปเดือนที่ 9 ตอนนี้  หายบ้าแล้วค่ะ

      ขอขอบพระคุณพระพุทธองค์  เทพ  พรหม  เทวดา  ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่  เทพองค์สฟิ้งซ์และมหาพีระมิ  หลวงพ่อปาน  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย  ที่ได้ช่วยให้ลูกได้หลุกพ้นจากความบ้า  เสียที  รู้สึกโล่งใจมากค่ะ

เรียน  อาจารย์อุบล ที่เคารพ

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นตอนสายนะคะ  เพราะกลางคืนไม่มีโอกาส....เห็นด้วยกับความคิดของคุณชนิดาและคุณแหวนและทุกท่านนะคะ  โดยเฉพาะคุณชนิดา  ที่ว่า ...เพราะทุกคนและทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้  ต้องอยู่ภายใต้กฏของธรรมชาติ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา... การฝึกสมาธิอยู่เป็นนิจและหัดพิจารณาอยู่บ่อยๆจะทำให้เรามองทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริงของมัน..และยอมรับความจริงได้ในที่สุด...

โดนใจมากเลยค่ะ  ส่วนตัวของดิฉันที่ดูทีวีเกือบทุกสัปดาห์มีคำถามเดียวที่อยู่ในใจแต่ไม่มากแค่ว่า  ทำไมอาจารย์แต่งตัวสวยตลอด  นอกนั้นไม่สงสัยอะไรค่ะ  ศรัทธาอย่างเดียวไม่เคยคิดล่วงเกินอย่างอื่นค่ะ

คุณตาลนี่เก่งนะ รู้เยอะกว่า อ.อุบล

อ.อุบล ไม่เคยรู้เลยว่า

เนเฟอร์ตารี แปลว่า รักมากที่สุด

คือเรียกว่าไม่เคยรู้อะไรเลยเกี่ยวกับอียิปต์ เอางี้

และ เรื่องที่ อ.อุบล เล่ามา หลายคนคงคิดว่า อ.อุบล

กำลังจะพยายามให้ทุกคนคิดไปว่า อ.อุบล คือ พระนางเนเฟอร์ตารี

กลับชาติมาเกิด อะไรประมาณนี้ ถึงได้คาดเดากันต่างๆนาๆ

ซึ่งแท้จริง อ.อุบล ก็คือ อ.อุบล แม่คุณท้อป ภรรยา

อ.มงคล ที่ไม่ได้รับการยืนยันจาก

เพียงแต่ ดร.จิตรา

ท่านสนใจ

และ

คงเห็น อ.อุบล

ไว้ผมม้า (หน้าเหมือนแมว)

ก็ท่านชอบไปอียิปต์ และบอกว่า

ต่อไป อ.อุบล ต้องเป็นผู้เล่าประวัติศาสตร์อียิปต์

ตอนนั้นนึก เอาสมอง เอาปัญญาที่ไหนไปเล่า ไม่รู้อะไรเลย

เรื่องเล่า ที่เล่าแล้วรู้จริงที่สุดในชีวิต คือ เรื่องชั่วๆ ของตัวเอง เพียงเรื่องเดียว

แต่ถ้าใครรู้ประวัติศาสตร์อียิปต์ ก็น่าจะตั้งกระทู้ใหม่นะ เพราะขืนมา

ให้ อ.อุบล เล่าประวัติศาสตร์เขาเสียหายหมด เพราะจะเล่า

วนเวียนอยู่ แต่ แป้งน้ำคลีโอพัตราเท่านั้น จะเพิ่ม

อีกหน่อย ก็คือ เคยซื้อใช้กะเค้าเหมือนกัน

ซองละ 50 สตางค์ แบบว่า...........

อยาก......สวย.......น่ะ

แล้วแมลง

ที่ตอม อ.อุบล ที่คุณชนิดา

และทุกท่านเห็น อ.ปัดเนี่ยนะ

มันเป็นแมลงหวี่ตัวผู้

ทั้งนั้นเลย..555

แค่นี้ก็ดีใจ

เพราะผู้ชาย

ไม่มีใครมาตอมเลย

ขนาดให้ท่าซะชนาดนี้

ขนาดแต่งตัวแบบนี้ อ.มงคล

ไม่เคยหึง ไม่เคยหวง ไม่เคยห่วง

แต่ดันไปห่วงพวกผู้ชายที่เห็น ที่เข้าใกล้

และ คอสตูม (ตัวดี)  อีก 2 คน น่ะนะ เดาซิใคร

คราวนี้ทายถูกให้ 3 บาท / ทายผิดให้ 5 บาท...เล้ย

นี่ก็อีกแหละ เพราะอะไร ใครรู้บ้าง

สวัสดี คุณคุณากร(คนลำปาง) คุณตาล และทุกท่านคะ

ขอบคุณสำหรับคำเฉลยนะคะ ไม่ทราบว่าคุณป่วยเป็นอะไร ขอให้คุณหายป่วยโดยเร็วนะคะ

พี่ตาลหนูว่าคงมีหลายคนที่คิดแบบนี้ เพราะหนูก็ยังขำตอนอ่านข้อความพี่ชนิดา และคิดหลายอย่างเหมือนพี่

แต่ก็จะรีบคิดว่า อย่าคิด คิดอะไรไปเรื่อย อ.เป็นคนดี จิตใจสูงส่ง ดีกว่าเราทุกด้าน คิดทำไมเนี่ย...

ส่วนคำพูดที่ว่า

" เป็นอย่างนี้ทุกคน ไม่มีใครเก่งกล้าสามารถเอาชนะได้" 

มีประโยชน์กับหนูมากนะคะ เหมือนให้กำลังใจว่า มันเป็นธรรมดาเพราะเรารับสิ่งไม่ดีมามาก เป็นสิบ ๆ ปีมาเจอของดี(พลังพีระมิด)แป๊บเดียวจะให้ดีเว่อร์ได้ไง ก็ต้องค่อย ๆ ขับของเสียออกมาก่อน แล้วของดีก็จะค่อย ๆ สะสมไป

หนูมีกำลังใจต่อสู้กับความสิ่งไม่ดีในตัวเองมากเลยคะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะพี่ตาล ที่หลุดพ้นจากความคิดนี้ได้ สาธุ...

สวัสดีตอนเช้าคะอาจารย์อุบล คนสวย

ถ้าจำไม่ผิดที่คุยกันเมื่อคืน คอสตูมตัวดี น่าจะเป็น

ท่านเสด็จพ่อของอาจารย์ และท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ที่ชอบเอาชุดสุดโปรดไปซ่อนอาจารย์ ใช่มั้ยคะ

ส่วนที่ว่าอ.มงคลไม่หึง ไม่หวง ไม่ห่วงนั้น

หนูว่าอ.มงคลมั่นใจ ในอ.อุบล คนสวย เก่ง ฉลาด และจิตใจสูงส่ง

ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะอ.ก็มีความดี และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่แล้ว

ส่วนคนที่มองนี่สิ น่าห่วง เป็นที่สุด เพราะถ้าไม่มีความดีของตัวเองคอยกำกับสติไว้

อาจอันตรายถึงชีวิตได้....

กราบ อาจารย์ อุบล

และ ขอสวัสดีเพื่อนๆ ทุกท่าน

                   คุณแหวนครับ  ขอบคุณในคำอวยพรของคุณครับ ผมก็มาตรวจค่าของเสียในเลือดของผมครับ เพราะ ผมเปลี่ยนไตมาได้ 18 ปี แล้ว แต่ระยะหลังๆ ค่าของเสียในเลือด มีแววว่าจะสูงขึ้น ต่อไป ไตก็จะต้องวาย แล้วต้องทำการฟอกเลือดใหม่ครับ และต้องเปลี่ยนไตอีกครั้งครับ  เพื่อติดตามว่า ค่าของเสียจะไม่สูงเพิ่มขึ้น ก็ต้องหมั่นมาเช็คทุกสองเดือนครับ

                   นั้นก็คือสาเหตุที่ผมมาขอรับการบำบัด  ตอนระหว่างบำบัดโดนอาจารย์อุบลถาม ก็ปากคอสั่น สมองปั่นป่วน เหมือนคล้ายจะย้ำให้รู้ว่า บ้านสวนพีระมิด ไม่ใช่โรงพยาบาลนะ ก็ตั้งสติบอกเหตุที่อยากบำบัด ว่า

                       "อยากทราบสาเหตุที่ทำให้ไตเริ่มเสื่อม ทั้งๆ ที่ก็ราบรื่นดีมาตลอด 18 ปี"

เคยเอาคำถามนี้ไปถามคุณหมอ ท่านตอบว่า "อวัยวะ ที่ได้รับมาจากผู้อื่น เมื่อวันเวลาผ่านไป อวัยวะก็ต้องมีการเสื่อม ต้องยอมรับความจริงตรงนี้"

                         ในตอนแรกที่ได้รับคำตอบจากคุณหมอ ก็ปลงตก ยอมรับชะตากรรม แต่มาศึกษาและดูรายการคุยไปแจกไป ก็เห็นแนวทาง ไม่ใช่คิดว่า ตัวเองต้องหายทันทีที่ได้รับการบำบัด  แต่อยากรู้ว่า ถ้าเรารู้เหตุที่ทำให้เป็น แล้วรู้แนวทางแก้ไข แล้วสามารถนำมาปฏิบัติและแก้ไขได้ ชีวิตก็คงมีความสุข  และ ถ้าได้ออกมาบอกกล่าวในรายการได้ คงมีประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ไม่มากก็น้อย เพราะ ในทางการแพทย์ แม้จะเป็นอวัยวะของเราเอง เมื่อเราอายุมากขึ้น อวัยวะก็เริ่มต้องเสื่อมไปตามสภาพ แต่เมื่อดูรายการคุยไปแจกไป คนเป็นมะเร็งยังหายได้ เป็นเอสแอลอี ก็หายได้ ก็เริ่มติดตาม (แต่ก็รับทราบด้วยว่า บุญ กรรม แต่ละคนไม่เหมือนกัน) ดังนั้น ผมก็ต้องรับรู้และยอมรับผล เนื่องจากเกิดจากหลายปัจจัยที่ตัวเรากระทำมา และ การปรับปรุงแก้ไข

                          ผมเขียนเสียยาว ก็ขอจบเท่านี้ ถ้าช่วงบำบัดของผมได้ออกรายการ

เพื่อนๆ ก็คงได้ทราบว่า ผมกระทำอะไรมามากมายขนาดไหนครับ ถึงได้รับผมกรรมอันนี้ครับ

            ขอตอบคำถามนะคะ (เดาค่ะ)  คอสตูมประจำตัวอาจารย์อุบล  น่าจะมี

                       1.ท่านท้าวเวสสุวรรณ

                       2.  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

                       3.  พระนางเนเฟอร์ตารี

                      4. นางวิสาขา

             (หนูจะเข้าไปรับ 5 บาท นะคะ)

เดี๋ยวจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่

สำหรับคอสตูม(ตัวดี) 2 คน น่ะต้องแนะนำก่อนนะ

เอาตัวอย่างที่พึ่งไปงานแต่งงานหลาน อ.มงคล ที่แปดริ้วมาเมื่อเดือนที่แล้ว 25 พ.ย.53

ครั้งแรกก็ไม่รู้จะใส่ชุดอะไร เพราะเขาบอกว่า

ให้ อ.อุบล+อ.มงคล ไปทำหน้าที่

1.รับขันหมาก  2.ปูที่นอน  3.ให้พร+สอน คู่บ่าว+สาว

(เจ้าบ่าวเป็นชาวเกาหลี+อเมริกัน) หรือเรียกว่าอเมริกันเชื้อสายเกาหลี

ก็ไม่รู้จะแต่งชุดชาติไหนดี  ที่สำคัญแม้แต่ชุดไทย ก็ไม่ได้ใส่นานแล้ว

 ชุดที่เหมาะกาละ เทศะ เหมาะกับหน้าที่ไม่มีเลย

ตั้งแต่มาอยู่บ้านสวนก็ใส่ที่ชุดซกมก และ พวกชุดที่เห็นใส่ออกที.วี.นั่นแหละค่ะ

งานเข้าแล้วคราวนี้

ก็เลยนึกถึงชุดยาวสีน้ำตาล ที่ตั้งใจจะใส่ไปเข้าเฝ้า  King อาฟริกา

มีผ้าคลุมไหล่ดิ้นทอง คงพอใช้ได้

ก็เอามาให้คุณเตี้ยช่วยรีดอีกที และ ก็โทร.ถามเจ้าภาพว่า

ต้องแต่งตัวอย่างไร เขาบอก ตามสบายเพราะเสื้อผ้า(เรา)เยอะอยู่แล้ว

 พวกญาติเจ้าบ่าว เขาทำเนียมฝรั่ง ไม่เรื่องมากหรอก

ก็เป็นอันว่า ตกลงเลือกชุดนี้ ถึงแม้ฝ่ายเจ้าบ่าว ไม่เรื่องมาก แต่ญาติฝ่ายเจ้าสาวนี่สิ

แม่เจ้าสาว (พี่สาว อ.มงคล) ก็ไม่ใช่คนเรื่องมาก และ รักน้องสะใภ้คนนี้(อ.อุบล) กันทั้งบ้าน

แต่พี่สาว พี่เขยเขาก็มีหน้าที่การงาน มีเกียรตินะ เป็น ผศ. + เป็นรองคณะบดี

มหาวิทยาลัยราชนครินทร์ ฉะเชิงเทรา แขกในงานก็ระดับใกล้เคียงกันนะ แถมแม่งานใหญ่

เป็น ผศ.ดร.ผ่องศรี เราก็เลยต้องทำตัวอย่าให้เสียหายไปถึงพี่เขา

เดี๋ยวเขาจะเวทนาเจ้าสาว ว่าทำไมเอาใครมารับขันหมาก แถมปูที่นอน สอนบ่าว-สาว

เล่ายืดยาวไม่เข้าเรื่องสักที

แต่งตัวเสร็จ ชุดยาวถึงพื้น สีน้ำตาล มีรูปนกยูงสีฟ้าด้านหน้า

แล้วก็จัดแจงนำผ้าคลุมไหล่ดิ้นทอง ที่ลองกับคุณเตี้ยแล้ว คุณเตี้ยบอกเหมือนแม่เลี้ยงทางเหนือเลยค่ะ อ.

แต่งตัวเสร็จ คอสตูมคนที่ 1 ยืนมองสักพัก ก็มาเอาผ้าคลุมไหลออก แล้วก็บอก

 ไม่ต้องคลุมหรอกครับ

(.......)ว่า อย่างนี้ดูดีกว่าเยอะเลยครับ

เป็นอันว่าต้องใส่ชุดยาว ไม่คลุมไหล่สายเดี่ยว

 ตามคอสตูมคนที่ 1

แต่ อ.อุบล ก็ไม่ค่อยมั่นใจ เลยบอก อากาศมันหนาว คลุมดีกว่า

คราวนี้ คอสตูมคนที่ 2 หันมาเลย

ลองไปแบบนี้ดูก่อน ถ้าหนาวทนไม่ได้ จะกลับมาเอาผ้าคลุมไหล่ให้

ว่าแล้ว คอสตูม(ตัวดี)

ทั้งสองคน

ก็หิ้วคนละแขน เดินเข้าไปในงาน

ด้วยประการ ละ ฉะ นี้ เจ้า ค่ะ

แล้วลองทายซิว่า ใคร คือ คอสตูม(ตัวดี) คนที่ 1 และ คนที่ 2 คะ

ใครทายถูกให้ 5 บาท / ทายผิด ให้ 10 บาท เลยเอ้า

ก็คงไม่มีใคร

คอสตูม

หิ้วแขนคนละข้าง

โดยมี

อาจารย์อุบล

อยู่ตรงกลาง

อ.มงคล + น้องท้อป

ไชโย...ได้ 5 บาท..แล้ว

แหม...ที่แท้ก็เป็นคอสตูมสุดที่รัก ทั้งสองคนนั่นเอง

คุณสามี และคุณลูกชายตัวดีนี่เอง

    อาจารย์ขา  พรุ่งนี้  หนูไปรับตังค์  ห้าบาทนะคะ  ถ้าอาจารย์ไม่ว่าง  ฝากพี่ตุ้มไว้ก็ได้  นะคะ

คุณแหวน  คุณแมว  จะขอแบ่งด้วยหรือเปล่าคะ (จะหารเท่าไรดี)

 หนู นฤชล  ค่ะอาจารย์อุบลขา หนูอ่านแล้วก็ได้แต่นั่งยิ้มแล้วก็คิดตามบ้าง บอกตรงๆ ค่ะไม่กล้าที่จะวิเคราะห์ตามแบบน้องๆ เขาหรอกค่ะ แต่หนูก็ชื่นชมอาจารย์ และขอสารภาพว่าเคยคิดในใจกับรูปร่างของอาจารย์ค่ะ เพราะสีเสื้อผ้าแต่ละสีสุดๆ เลยค่ะ

หนูขอขมา ขออภัยกับอาจารย์อุบล มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

หนูขออนุญาตอาจารย์นึกภาพในใจว่าขอได้จับมืออาจารย์วางบนศรีษะ ด้วยนะคะ

ขอบพระคุณค่ะ

อ. อุบลขา.. ตุ้ยอ่านเรื่องที่อ. เล่าให้ฟังถึงสิ่งที่อ.ต้องมารับเคราะห์กรรมเอง แอบน้ำตาคลอไม่ได้ค่ะอาจารย์ ทำไมอาจารย์ถึงเมตตา และเสียสละเพื่อพวกเราอย่างนี้คะ หนูมองตัวเองแล้วก็ยิ่งอายความชั่วของตัวเองค่ะ วันๆ ไม่ได้ทำอะไรเพื่อใครเลย ขอบคุณอาจารย์นะคะ ที่รัก และเสียสละ ให้กับคนชั่วๆ โง่ๆ อย่างพวกเรา 

รักอาจารย์นะคะ (แต่ไม่แสดงออก) ขอยืมคำคุณแหวนมาหน่อยค่ะ

ขอแอบน้ำตาคลอ ซาบซึ้งในความรักของน้องท็อป กับอ.อุบลด้วยนะคะ นี่แหล่ะค่ะ อ.อุบล และครอบครัว คือ ตัวอย่างที่ดีมากๆนะคะ ในทั้งทางโลก และทางธรรมค่ะ ที่พวกเราต้องเอามาเป็นตัวอย่าง ตุ้ยฟังเรื่องราวของอ. แล้วรู้สึกตื้นตันใจเป็นที่สุดค่ะ ความรัก ความเมตตาที่บริสุทธิ์นี่ มีพลังมากมายมหาศาลจริงๆ นะคะ

ขอขอบคุณน้องท็อปนะคะที่ดูแลอ.อุบล เป็นอย่างดีค่ะ

กราบเรียน อ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ บ้านสวนพีระมิดด้วยความเคารพค่ะ

กุ้งขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการที่ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำต้องการให้ อ.อุบล แต่งกายรัดรูป  และแต่งตัวสวยๆ  คงเพราะต้องการให้มนุษย์ทั้งหลายมองกันและคิดระลึกว่า  ความสวย ความหล่อ เป็นกายหยาบที่สักวันก็ต้องร่วงโรย และดับไป น้ำเหลือง น้ำหนองไหล ร่างกายเน่าอืด แล้วยังมีใครต้องการมองอีกมั้ย  {อสุภกรรมฐาน (หากสะกดไม่ถูก ขออภัยด้วยค่ะ )}   โดยควรมองให้เป็นโครงกระดูกเดินได้ อย่างน้อยก็จะได้เจริญมรณานุสติตลอดเวลา ไม่ประมาทความตาย และควรมองที่จิตใจ  มองที่คุณงามความดี  จิตใจที่คิดดีก็จะเบิกบาน ตามที่พระพุทธองค์ท่านทรงกล่าวให้เราชาวพุทธเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน   แต่ถ้าหากใครเห็นความสวยและคิดอกุศลเลยเถิดไป  ก็ให้รู้ว่า ตนเองยังรักษาศีลได้ไม่ครบ ยังมีกิเลสเจือปนอยู่ และอาจมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เตือนท่านว่าคิดผิดคิดใหม่  ซึ่งคุณเอกเคยเล่าให้ฟังว่า พระที่ต้องเดินทางไปทำกิจธุระและต้องผ่านในสถานที่อโคจร  และพบเห็นหญิงสาวมากมายตลอดการเดินทาง  ท่านที่ปฏิบัติดีแล้วถึงพร้อมแล้ว ท่านจะมองเห็นทั้งหญิงและชายเป็นโครงกระดูก เหมือนกัน ไม่มีอะไรแตกต่าง  (ทางการไปมั้ยค่ะ)  ส่วนเรื่องการแต่งกายของ อ.อุบลนี้  ตั้งแต่แรกชมรายการ จนถึงปัจจุบัน กุ้งชอบนะค่ะ อ.แต่งกายสวยดี เพราะกุ้งก็เป็นลูกสาวคนสุดท้องและแต่งตัวเก่งมาก  (แถมสวยที่สุดในบรรดาพี่น้องเหมือน อ. อุบลเลยค่ะ  อิ..อิ)   ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า บ่อยมาก เสื้อผ้าเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆ....มากค่ะ ซึ่งในตอนแรกๆ ที่ยังไม่เต็มร้อยกับอาจารย์ฯ  แต่ไม่ใช่เรื่องการแต่งกายค่ะ   กุ้งขออุบไว้ก่อน แล้วจะเล่าให้พี่ๆ น้องๆ อ่าน ในตอนหน้าค่ะ  (ตอนนี้ Net ที่บ้านใช้ไม่ได้ค่ะ เลยได้เข้ามา Post ช้าม้าก มาก ค่ะ) 

ท้ายนี้ ขอบารมีพระพุทธองค์ทรงโปรดเมตตาบังคับกระแสจิตของทุกท่านและข้าพเจ้าให้คิดดี ทำดี พูดดี ด้วยเทอญ ... สาธุ

มีเรื่องเยอะจนไม่รู้จะเขียนเรื่องไหนก่อน

แต่วันนี้เอาเรื่อง

 เบื้องบน ฝาก ทุกคนต้องเลือกข้าง กันแล้ว

เลือกข้างไม่ได้หมายถึงเสื้อเหลือง - เสื้อแดงนะ

แต่หมายถึงจะอยู่ฝ่ายไหน...ตอบด้วย

1.ฝ่ายพระพุทธเจ้า

2.ฝ่ายพระเทวทัต

3.เป็นนก 2 หัว

1.ฝ่ายพระพุทธเจ้า ก็ต้อง ศรัทธาพระพุทธเจ้า ด้วยความจริงใจ

มุ่งหมายไปอยู่กับท่าน(นิพพาน) คือให้ทาน รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ทำสมาธิ

เจริญพรหมวิหารสี่ ละความรัก โลภ โกรธ หลง (ทำจริงๆ ไม่ใช่สร้างภาพ)

เป็นผู้รู้   ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน

เป็นผู้รู้  คือรู้พระธรรมคำสอน(รู้จริง) ไม่บิดเบือน

ผู้ตื่น คือ รู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องปฎิบัติด้วย ถ้ารู้แต่ไม่ปฎิบัติ

ก็ยังไปนรกอยู่ (ก็ยังไกลนิพพาน......เอาแค่สวรรค์ ก็ไม่มีสิทธิ์)

ผู้เบิกบาน คือ ต้องเป็นคนที่มีอารมณ์ใจร่าเริง ยิ้มแย้ม แจ่มใส

เป็นมิตร หัวเราะง่าย  ยิ้มง่าย  เข้าได้กับคนทุกคน ทุกชนชั้น ฯลฯ

2.ฝ่ายพระเทวทัต  ก็ต้อง  ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า คิดว่า

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องงมงาย ไร้สาระ นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี

เทวดาไม่มี กรรมเวรไม่มี ต้องเอาเปรียบ คิดว่าตัวฉลาด เจ้าเล่ห์

ไม่ชอบให้(ทาน)  ชอบของฟรี  ชอบเบียดเบียนผู้อื่น

คิดว่าการทำชั่วเป็นความโก้  เป็นความเท่ห์ หาทางหักหลังผู้อื่นเสมอ

อิจฉา คิดลบ  ขี้เกียจ ไร้ความสามารถ แต่ชอบตำหนิคนที่มีความสามารถ

  ยกตนข่มท่าน  ไม่เคารพกฏหมาย ศีลธรรม บูชาเงิน หมกมุ่นอยู่ในโลกีย์วิสัย

ชีวิตคิดถึงแต่งาน เงิน ครอบครัว...ไม่สนใจใฝ่ในธรรม

2.พวกนก 2 หัว พวกนี้ไม่มีศรัทธาที่มั่นคง ต้องการแต่ผลประโยชน์

ที่ใดสนองความต้องการตนได้ก็นิยม นับถือ ชอบตามกระแส พูดดี ดูมีหลักการ

แต่ทำชั่วมากกว่าทำดี  ทำบุญเอาหน้า  และ หวังผล ไม่ได้ทำเพื่อละวางความโลภ

ทำดีแต่ต่อหน้า นินทาลับหลัง ไม่จริงใจกับใคร ปากบอกเคารพพระพุทธองค์

แต่การกระทำไม่เคารพ

ถ้าวันใดเห็นว่าฝ่ายพระพุทธองค์ ให้ประโยชน์ ก็ทำเป็นศรัทธาพระพุทธองค์

วันใดเทวทัต ให้ความหวัง ก็ไมภัคดีพระเทวทัต ท่านจึงเปรียบคนพวกนี้ว่า

เป็นนก 2 หัว (บุญก็ทำ  บาปก็ทำ)

ภัยพิบัติใกล้เข้ามาแล้ว  ขอให้ทุกคนสำรวจตัวเองว่าเราอยู่ข้างไหน

1.ถ้าเลือกข้างพระพุทธองค์......ก็.......รอดปลอดภัยอยู่ถึง

วันที่โลกสงบสุข  อายุยืน 120 ปี และแข็งแรง

และต้องช่วยฟื้นฟูโลกใบนี้ใหม่(เริ่มตั้งแต่บัดนี้)

2.ถ้าเลือกข้างพระเทวทัต....ก็.....ต้องไปหาพระเทวทัต

ภายในเวลาไม่นานนี้(มีสัญญาณตั้งแต่บัดนี้ คือ ทุกข์ ไม่เบิกบาน)

3.ถ้าเป็นนก 2 หัว....ก็....รอด......แต่

-พิการ(มากบ้าง น้อยบ้าง   -เป็นบ้า(เสียสติ)

มีสัญญาณตั้งแต่บัดนี้ คือ ไม่มีความสม่ำเสมอในการทำความดี

หมายเหตุ.....คำว่าเลือก เบื้องบนไม่ได้ถือเอาคำพูด หรือความต้องการ

แต่ถือเอาการปฎิบัติ(ทั้งกาย วาจา  ใจ  ทุกขณะจิต) เป็นสำคัญ

ขอให้คุณคุณากร

จากลำปางออกมาเล่าหน่อยว่า

เคยคิดอะไร ตอนดูรายการ แล้วเจออะไร

และ อ.อุบล ก็จะเฉลย.......

ขอให้คุณคุณากร

จากลำปางออกมาเล่าหน่อยว่า

เคยคิดอะไร ตอนดูรายการ แล้วเจออะไร

และ อ.อุบล ก็จะเฉลย.......

ขอกราบบูชาพระพุทธองค์

จะขอ ปฏิบัติด้วยกาย วาจา  ใจ

ต้องการมีส่วนร่วม..ในการฟื้นฟูโลกใบใหม่

ขอขอบคุณค่ะ..อ.อุบล

 ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูง(มากๆ) ที่คอยเตือนสติอยู่ตลอดเวลา เพื่อหวังให้ทุกคนพ้นจากทุกข์ภัยทั้งหลาย...ตัวผมเองคงไม่มีตัวเลือกใดๆ ที่จะมาเอนเอียงให้ผมเปลี่ยนใจไปจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแน่นอนที่สุดแล้วในชาตินี้ จะเหลือก็แต่การตั้งใจมั่นเพื่อให้เกิดการสละ ละ วาง ในทุกๆ สิ่งแห่งวัฏสงสารนี้ ซึ่งยังคงใช้ความพยายาม ความมุ่งมั่น และด้วยปัญญาที่ยังโง่เขลา เต่าตุ่น ก็ให้เป็นไปตามเหตุและปัจจัยที่จะเอื้อหนุนได้ และไม่ลืมที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่าที่ตัวเองจะพอมีกำลังช่วยได้...

แต่ก็จะยึดอารมณ์พระนิพพานเป็นที่ตั้งแห่งที่สุด โดยมีพระพุทธองค์คอยเป็นที่ยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวเท่านั้นครับผม 

วันนี้เรื่องฝากจากเบื้องบนมาแบบเน้นๆย้ำว่า ให้เลือกข้าง..อย่างตั้งใจว่าจะใฝ่ธรรมะ หรือ อธรรม...

แถมพระองค์ก็รู้ทันอีกว่า choice ที่ให้มาน่ะ ไม่ได้ให้เลือกอย่างเดียวนะแต่ ต้องทำให้ได้ด้วย...

ชนิดาก็ขอตอบแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะว่า เลือกอยู่ฝ่ายพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว

แต่..... ด้วยวิบากกรรม และ ด้วยยังโง่เขลาอยู่มาก ในบางครั้ง "จิต" ก็แกว่ง ลอยขึ้นสูงบ้าง ลงต่ำบ้าง

ตามเหตุและปัจจัย แต่อย่างน้อยก็ได้ตั้งเข็มทิศไว้แล้วว่า จะเดินตามรอยพระพุทธบาท

แต่ก็ยังทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ซักเท่าไหร่เลย

ฉะนั้น ต้องคอยสำรวจจิตสำรวจใจตัวเองให้ดีๆ เพราะวันดีคืนดีอาจจะมีอีกหัวงอกขึ้นมา

กลายเป็นพวกนกสองหัว โดยไม่รู้ตัว.... และไม่ได้เจตนา...ก็เป็นได้

ขอบพระคุณเบื้องบนที่เมตตามาเตือนสติ และขออนุโมทนากับอาจารย์อุบลด้วยค่ะ

ป.ล. ส่วนเรื่องตอบคำถามชิงรางวัล คอสตูมตัวดีสองคน

ชนิดาก็ตอบได้ถูกโดยไม่ได้แอบดูเฉลยก่อนนะคะ

เพราะอาจารย์ให้คีย์เวิร์ดมาเดาได้ง่ายมาก(โชว์ออฟว่าฉลาด..ซะงั้น)

ว่า "คอสตูมตัวดีสองคน" เพราะคำๆนี้ คำตอบจะเป็นเบื้องสูง...ไม่ได้แน่นอน.......

ฉะนั้น รบกวนคุณพี่ตาล ช่วยส่งบิลเก็บตังค์อีก 5 บาทจากอ.อุบล เผื่อชนิดาด้วยนะคะ

ส่วนคุณ คุณากร คะ ไม่ต้องรีบค่ะ แต่อยากให้รู้ว่า พวกเราทุ๊กคน...รอเรื่องเล่าจากคุณอยู่ ฮิฮิ.... กดดันอีกแย้วววว.......

จิตเลือกฝ่ายพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว

แต่วิบากกรรมเก่า มันคอยจะฉุดลงนรกอยู่เรื่อยเลยคะ

กราบขอบพระคุณเบื้องบน และอาจารย์ที่เมตตา

เน้นย้ำ  ว่าต้องเลือกด้วยกาย วาจา ใจ อย่างแท้จริง

กราบขอบพระคุณที่เตือนสติมาก ๆ คะ

ลูกศิษย์ที่ผู้โง่เขลามาก(ไม่อยากเป็นนกสองหัวเจ้าคะ)

ก่อนอื่นขอหวังไปนิพพาน  และจะเริ่มปฏิบัติอย่างจริงจัง

เพราะที่ผ่านมา มันกระท่อนกระแท่นเหลือเกินค่ะ

อ.อุบลคะ

ในจิตสำนึกหนูระลึกอยู่เสมอว่าเราเป็นพุทธบุตรขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เหมือนยังมีกรรมค่ะ ทั้งๆที่ได้ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนตัวเอง โดยเราจะต้องรักษาศีล 5 เป็นพื้นฐานให้ได้ ใจพร้อม ทุกอย่างค่ะ แต่.. 

ที่บ้านขายของชำค่ะ คุณแม่ยังขายเหล้า เบียร์ บุหรี่  ตัวตุ้ยมีงานประจำทำ แต่เวลาเลิกงาน กลับบ้าน ก็ต้องขาย เพราะท่านก็เหนื่อย เราจะนั่งเฉยไม่ช่วยค้าขาย ก็ไม่ได้ ตุ้ยเคยบอก เคยอธิบายถึงโทษ ถึงกรรม  แม่ก็ฟังนะคะ แต่ก็พูดเพียงว่ายังไม่ถึงเวลา ตุ้ยก็ได้แต่พูดกับท่านทุกวัน ว่ามันไม่มีเวลาแล้ว ได้ยกตัวอย่างเคสของคนโน้น คนนี้ แต่แม่ก็ยังยืนยันว่า เดี๋ยวถึงเวลานั้นมันก็เลิกได้เอง  คือแม่เชื่อเรื่องนี้นะคะ แต่ยังตัดไม่ได้น่ะค่ะ (ไม่รู้ว่าเชื่อแบบไหน)

ทุกวันนี้หนูทุกข์ใจมาก ไอ้ครั้นจะพูดให้แม่เลิกขายเถอะทุกๆ วัน บางทีตุ้ยก็กลัวเป็นบาปเหมือนกันนะคะ ที่ทำให้ท่านทุกข์ (เพราะทุกครั้งที่พูดเรื่องให้เลิกขายสิ่งเหล่านี้แม่ก็จะสลดค่ะ)

หนูจะทำอย่างไรดีคะอาจารย์ สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ อุทิศบุญให้เทวดารักษาตัวของแม่ และเจ้ากรรมนายเวรของแม่แล้ว แต่ก็เหมือนจะไม่ทันการณ์น่ะค่ะ ทั้งที่กาย วาจา ใจ ของเราพร้อมที่จะรักษาศีล 5 มานานแล้ว ตั้งแต่พบบ้านสวนพีระมิด และหนูก็ปรารถนาไม่อยากมาเกิดแล้ว แต่ศีล 5 หนูยังไม่ครบ ทุกครั้งที่ขาย ฝืนใจมากค่ะ ขออโหสิกรรมในใจตลอด

หนูมาคิดดูนะคะ หนูคงไม่มีบุญพอ คงไม่ได้ตาม อ.ไปช่วยเหลือผู้คนด้วยนะคะ  ตั้งแต่เกิดมาจำความได้ ก็มีความรู้สึกว่าตัวเอง อยากช่วยเหลือสังคม อยากเป็นอาสาสมัคร อยากบริการ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันค่ะ แต่ก็มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้เรา ไม่ได้ทำตรงนั้น เหมือนพวกนก 2 หัว ตามที่อ.อุบลบอกนะค่ะ

อย่างไรก็ตาม กาย วาจา ใจ ของหนูอยู่กับพระพุทธองค์ค่ะ ถึงแม้การกระทำ (บางครั้ง) จะสวนทาง แต่ให้รู้ว่าหนูฝืนใจเป็นที่สุดค่ะ

กราบ อาจารย์อุบล

         เพื่อนๆ ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน

              เป็นการขออภัยครั้งที่สองครับ  เวลาอาจารย์อุบล ต้องการตัวคุณากร ทีไร

คุณากร(คนลำปาง) คนนี้ เป็นได้นอนหลับทุกทีครับ ไม่สมกับเป็นลูกบ้านสวนพีระมิดเสียเลย

แอบไปนอนหลับอยู่เรื่อย

              คุณากร คนนี้ เริ่มดูรายการครั้งแรก ก็เริ่มคิดว่า

                         1. คนสำนึกผิด แล้วสารภาพบาป แล้วก็บำบัดหายได้จริงหรือ?

                         2. อาจารย์อุบล คนนี้ บำบัดไปหัวเราะไป บำบัดได้จริงหรือ?  สองความคิดแรกนี้ ยังไม่ได้โดนลงโทษ (ไปทำงานที่บ้านสวนพีระมิด ก็ฟังรายการที่ กระจายเสียงให้ได้ยินว่า คนที่รักอาจารย์อุบลมากๆ ถ้าทำผิด จะโดนลงโทษทันที เห็นได้จากเรื่อง หยิบผงซักฟอก ไปใช้ โดยคิดว่า เป็นของพี่ตุ้ม)  อาจเป็นเพราะ ตอนนั้น คุณากร คนนี้ ยังไม่ได้รักและเคารพอาจารย์อุบล

               แต่เมื่อ เริ่มรักและเคารพ อาจารย์อุบล เมื่อดูรายการไปนานๆ ก็คิดในใจว่า  อาจารย์อุบล ทำไมแต่งตัวอย่างนั้น ก็พยายามตัดความคิด และ ไม่มองอะไรแล้ว ดูรายการต่อไป ก็มองแต่หน้าอาจารย์เท่านั้น

                 อาการแรก ที่เกิดขึ้นทันที ก็คือ ปวดบริเวณต้นคอมากๆ เหมือนกับว่า ตอนกลางวันที่ผ่านมา ไปเงยหน้ามองอะไรที่อยู่สูงๆ ปวดร้าวไปหมด พยายามนวดก็ไม่หาย ก็ไม่คิดมาก ก็ดูรายการต่อไป ต่อมา ก็เริ่มปวดไหล่บริเวณใกล้ต้นคอ เหมือนกับว่า เราไปแบกอะไรมาทั้งวัน ปวดร้าวลึกมากๆ ในใจก็คิดว่า ดูรายการก็ไม่ดูในเรื่องรายละเอียดของเรื่องที่อาจารย์เค้านำเสนอ ไปดูเรื่องการแต่งกายของเค้า ก็คิดแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้คิดจะขอโทษอาจารย์หน้าจอเลย

                  ตอนเช้าก็ออกกำลังกาย เดินไปเดินมา อาการก็เป็นแบบ ปวดๆหายๆ ก็คิดว่า อาจจะนอนตะแคงข้างเดียว ก็พยายามนวด แต่ฉับพลันก็คิด ขึ้นมาได้ว่า เมื่อคืนดูรายการคุยไปแจกไป คิดอะไรที่ไม่ดีกับอาจารย์อุบล ก็เริ่มสำนึกผิด ก็คิดขึ้นมาว่า ลองขอโทษ อาการก็หายตลอดทั้งวัน แต่เมื่อมาดูรายการตอนกลางคืน (ดูจากเว็บไซต์) ก็เริ่มเป็นขึ้นอีก

                   แต่ตอนที่ดูนั้น ก็ยังไม่รู้ว่า ถ้าขอโทษทางหน้าจอ อาจารย์ก็ยอมยกโทษให้ ก็ดูไปเรื่อยๆ ดูไปก็ยิ้มไป ก็เห็นตอนที่พี่สาวคนหนึ่ง เล่าถึงเรื่องหมิ่นพระเจ้าอยู่หัว หมิ่นศาสนาแล้วก็ร้องไห้ ตัวผมก็คลำไหล่ที่ปวดไปด้วย ไม่รู้ตัวอีก ดูจนจบตอน

                   ขณะที่จะนอนแล้ว มโนธรรมก็ลงโทษผม ว่าไปกรุงเทพฯครั้งหน้า (วันที่ 19ธ.ค.) ควรจะไปขอโทษอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพีระมิด อึกความคิดก็แย้งว่าแล้วจะไปบอกอาจารย์อุบลอย่างไรล่ะ? ไปบอกเค้าว่าอาจารย์อุบลแต่งตัวรัดรูปนะหรือ?อาจารย์อุบลคงจะนั่งใจเย็นมาบำบัดให้นะซิ? อีกใจก็คิดว่า แล้วจะเขียนในคำสารภาพอย่างไรล่ะ? แล้วความคิดหนึ่งก็แว๊บเข้ามาว่า ไปแล้วก็รู้เองนั้นแหละ ว่าจะพูดอย่างไร โดยอาจารย์ไม่ลำบากใจเกินไป เช้าขึ้นมาก็แอบไปนั่งพิมพ์คำสารภาพขึ้นมา (แต่ก็ไม่กล้าเขียนอยู่ดี แหละ เขียนแค่สองข้อเท่านั้น ที่เกี่ยวกับเรื่องอาจารย์)

                   แต่เชื่อไหมว่า ตอนไปนั่งรอการบำบัด ใจก็คิดแต่เรื่องที่ควรจะบอกอาจารย์เรื่องที่สาม(เรื่องสำคัญ รบกวนจิตใจมากๆ ) เหมือนอาจารย์พูดไปดูหน้าผมไป (ขอสารภาพ ณ ตรงนี้เลยครับ เป็นคนที่ชอบมองดวงตาผู้คนมากๆ แต่ยอมรับว่า มองดวงตาอาจารย์อุบลแล้ว รู้สึกกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิต เหมือนว่า อาจารย์ส่งสายตามากำหราบว่า อย่ามาพูดมั่วๆ โกหกฉันนะ ) ก็แข็งใจไม่ก้มหน้าก็มองไปข้างหลังของอาจารย์

                  แต่สิ่งที่ผมไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น วันนั้น อาจารย์ก็พูดเรื่อยๆ จนมาถึงเรื่องกระทู้หนึ่งที่กล่าวถึง เรื่องการแต่งตัวของอาจารย์ ผมก็นึกในใจว่ามีเพื่อนแล้วละโว้ย ไม่ใช่ผู้นำในการเปิดประเด็นคนแรก ก็สบายใจขึ้น แต่ก็คิดว่า พูดอย่างไรดีล่ะ เพราะ คนที่เปิดประเด็น เค้าไม่ได้มาบำบัดนะ เค้าแค่เขียนในกระทู้ แล้วก็ขอโทษแล้ว ก็หายไปแล้ว ไม่ต้องมาแล้ว

                  แต่ตัวเรา มานั่งอยู่หน้าอาจารย์แล้ว รอเวลาประหาร ก็แข็งใจว่า ไม่บอกดัวยตัวเราเอง อาจารย์อุบลก็ต้องรู้ เมื่อผลการบำบัดไม่ดีขึ้น( ดูมาแยะ) อาจารย์ก็ให้สารภาพอยู่ดีตอนนั้นเสียเชิงชายลูกคนเมืองรถม้าแน่นอน  ก็ตัดสินใจว่า ต้องสารภาพเสียแต่แรก ด้วยตัวเราเอง

                  ก็สารภาพไป อาจารย์ก็หัวเราะ ว่า คิดว่า อาจารย์จะโกรธ แล้วจะไม่บำบัดหรืออาจารย์ไม่เป็นอย่างนั้นหรอก ก็ไม่โกรธ  บำบัดให้ แล้วก็เฉลยเบื้องหลังให้ฟัง ว่าอาจารย์รู้ตัวมาตลอดละ โล่งใจครับ

           สวัสดีครับ พี่ตาล

                     ดีใจที่ได้พบและพูดคุย และได้ทำงานที่บ้านสวนพีระมิดด้วยกันครับ

                     พี่ตาลเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองมากครับ ดูจากการทำงานครับ

                     ผมเป็นคนคุยไม่เก่ง เวลาพบใครๆครับ โดยเฉพาะ ผู้หญิง

                     ขอพูดคุยกับทุกคนในเนทฯดีกว่าครับ  

Sorry,I"m come late.

มาช้าดีกว่าไม่มา

Have I told you lately ,that I love you

อยากจะร้องเพลงนี้ให้อาจารย์อุบลฟัง ด้วยเชื่อว่า

ทุกคนก็อยากบอกรักอาจารย์เช่นเดียวกับผม

ผมพูดหวานไปรึเปล่าครับ

อาจารย์ออกมาเล่าความในใจให้อ่านแบบนี้

เป็นเรื่่องน่ายินดีครับ ทำให้ทุกคนมีความเข้าใจในตัวอาจารย์มากขี้น

ผมขอปฏิบัติธรรมบูชาคุณอาจารย์อุบลตลอดไป

สวัสดีครับ พี่ปุ้ม (ชายกลางแห่งบ้านสวนพีระมิด)

                            อ่านบทความของคุณปุ้มมา ก็มากมาย อ่านกระทู้ของคุณปุ้มมาก็แยะ ชอบสำนวนของคุณพี่มากครับ

                             วันนี้ ขออนุญาตมาทักทายในกระทู้ครับ สักวัน เราทั้งสองคงได้พบและพูดคุยกันอีก ที่บ้านสวนพีระมิดครับ

สาธุ...สาธุ...ชื่นใจจริงๆ

สวัสดีครับ อาจารย์อุบลและชาวบ้านสวนฯ ทุกท่าน

                 ผมจรูญ   โกจินอก ประสบเหตุการณ์หนึ่งในการเดินทางไปร่วมทำบุญที่บ้านสวนฯ กับภรรยา ลูกชาย หลานและปู่ย่าตายาย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2553 คืออาการปวดศรีษะ ก็ไม่ถึงขั้นรุนแรงหรอกครับอยู่ดีๆ ก็ปวดขึ้นก่อนเดินทาง 2 วัน ทำอย่างไรก็ไม่หายไม่อยากกินยา ก็เลยไม่กิน คิดว่านอนพักผ่อนก็คงจะหายพอตื่นขึ้นมาก็ยังไม่หาย ขณะขับรถเดินทางมาบ้านสวนฯ ก็ยังมีอาการอยู่ จนมาถึงบ้านสวนฯก็ร่วมช่วยกันสร้างพีระมิดทั้งมัดและเย็บผ้า จิตก็พยายามภาวนาพุทธโธ อาการก็ยังเหมือนเดิม ผมนึกถึงความไม่ดีของตัวเองที่ทำไว้ก่อนมาบ้านสวนฯ คือ ผมไม่ชอบผอ.โรงเรียน พยายามหาทางที่จะไล่ผอ.ย้ายจากโรงเรียน แต่ก็ไม่ได้ทำแบบปลุกปั่นชาวบ้านนะครับเป็นเพียงแค่คิดและพูดกับพระเจ้าอาวาสวัดเท่านั้น แต่ก็รู้ว่าตัวเองทำแค่นี้ก็เลวมากแล้ว ไม่สมกับเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ด้วยความห่างจากคำสวนของอาจารย์อุบล และบ้านสวนฯ อำนาจทางโลกีย์ อารมณ์โทษะ ดึงให้ผมจมสู่ความทุกข์และจะนำไปสู่นรกภูมิต่อไป เมื่อคิดว่าการกระทำไม่ดีนี้น่าจะส่งผลให้ผมมีอาการปวดหัว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านคงเตือนแล้วว่าผมเดินผิดทางแล้ว จึงทำการขอขมาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงพ่อฤาษีฯ ท้าวเวสสุวรรณ ท่านยมบาล เทพพรหมเทวาทั้งหลาย อุทิศบุญต่อเจ้ากรรมนายเวร และจะไม่คิดจะไล่ผอ.อีกเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง จะดีจะชั่วก็เป็นกรรมของเขาเอง แล้วอาการปวดศรีษะก็หายไป ผมยังได้เล่าเรื่องนี้ให้กับลุงบุญฟังขณะที่ช่วยเทพื้นวิหารอยู่ อาจารย์อุบลครับผมคนนึงที่บาปหนา ได้มาบ้านสวนฯ ได้ยินเสียงอาจารย์ช่วยเพิ่มพลังให้กับตัวเองที่จะดำเนินชีวิตตามรอยพระศาสดา  พี่น้องที่มาบ้านสวนฯ จากทั่วสารทิศประดุจญาติสนิทมิตรสหาย พบกันคราใดมีความสุขอิ่มบุญทุกคราว ผมตั้งใจไว้ว่าจะพาน้องแทนคุณ ไปบ้านสวนฯ อย่างน้อยเดือนละครั้งครับ

             ไหน ไหน วันนี้ก็มีเวลาว่างกับเขาบ้างแล้ว ขอร่วมโหวตอีกหนึ่งเสียงค่ะ (แหม...ก็อยากทราบเหมือนกันนี่นา) 

กราบเรียนอาจารย์ อุบล ที่เคารพ

สวัสดีญาติธรรมบ้านสวนปิรามิดทุกท่านตั้งแต่อาจารย์อุบลได้สละเวลามาเล่ามาบอกสาระความรุ้และเรื่องราวที่พวกเราๆๆคงไม่มีโอกาสที่จะได้รับรู้เรื่องราวสำคัญๆๆเลยแต่ด้วยความกรุณาเมตตาของอาจารย์อุบล จึงทำให้พวกเราผู้โง่เขลาเบาปัญญาโดยเฉพาะดิฉันได้รับรู้เรื่องราวดีๆบ้าง ทำให้เวปบ้านสวนคึกคักขึ้นมาเยอะเลยค่ะปรกติดิฉันก็จะเข้ามาดูรายการคุยไปแจกไปเป็นประจำรออับเดททุกวันค่ะ แต่วันนี้มีเวลาเยอะหน่อยค่ะได้เข้ามาติดตามกระทู้ของอาจารย์แต่น่าเสียที่ดิฉันไม่มีบุญพอที่จะได้ชิงรางวัลตอบคำถามของอาจารย์  ค่ะ  ดิฉันเห็นอาจารย์แต่งตัวในรายการคุยไปแจกไปก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรนี่ค่ะก็สวยและน่ารักดีออกค่ะ เพียงแต่คนเราคิดว่าคนที่จะมาทำอะไรเกี่ยวกับธรรมะแล้วจะต้องนุ่งขาวห่มขาวเท่านั้นหากเราจะเปิดใจให้กว้างขึ้นมาหน่อยเราเป็นปุถุชนที่ยังต้องทำมาหากินอยู่แต่อาจารย์รักษาศิลห้าได้อย่างบริสุทธิ์และปฎิบัติได้ทำให้คนที่พบเห็นทึ่งและอัศจรรย์มากว่าค่ะ  อาจารย์เข้ามาเล่าอีกนะคะจะได้เป็นความรุ้สำหรับคนปัญญาน้อยอย่างดิฉันบ้างค่ะ  พร้อมกันนี้ดิฉันขออนุโมทนาสาธุกับอาจารย์ที่เมตตาสละตัวเองเพื่อมนุษย์ผู้ลำบากให้พ้นความทุกข์นั้นๆๆและขอนุโมทนาสาธุกับทุกๆๆท่านที่ได้มีส่วนร่วมทุกอย่างที่บ้านสวนปิรามิดด้วยค่ะ

กราบเรียนอาจารย์อุบล ที่เคารพ

ตามปกติแล้วผมก็จะเข้ามาดูเวปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยได้โพสไร ได้แต่เห็นแก่ตัวอ่านอย่างเดียว ไม่ได้แชร์สิ่งที่ได้รับจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากบ้านสวนปีระมิดทางเวปไซต์เลย แต่ก็คิดถึงบ้านสวนและอาจารย์อยู่เสมอ จนได้มีโอกาสเพิ่งกลับไปทำบุญเมื่อ 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยความรู้สึกใหม่คือเราถวายตัวเป็นลูกพระพุทธเจ้าแล้ว ก็คงทำทุกอย่างถวายพระองค์ท่าน แล้วแต่พระองค์ท่านและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเมตตา อย่างที่อาจารย์อุบลเมตตาบอกว่า เราต้องสร้างเหตุก่อน ผลจึงจะได้ เหตุไม่สร้างแต่มัวแต่ขอใครจะช่วยได้ ผมเพิ่งได้อ่านข้อความต่างๆที่อาจารย์เมตตาเขียนเล่ามาวันนี้เอง ไม่รู้เกิดไรขึ้น พอได้อ่านและได้รู้ถึงสิ่งต่างๆที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาทุกๆคนไม่เลือกชั้นวรรณะ และที่สำคัญความรัก ความเมตตาของอาจารย์ที่มีต่อทุกๆคน น้ำตามันไหลออกมามากมาย ตื้นตันสุดๆเลยครับ ห้ามไม่อยู่ คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้คงเกิดขึ้นกับหลายๆคนที่ได้อ่านเช่นกัน รู้สึกดีใจครับที่ได้เกิดมาและมีโอกาสร่วมสร้างมหาบุญกับอาจารย์และได้รับความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ทำไรบ้างเพื่อตอบแทนพระคุณอันล้นพ้นขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอันที่รักยิ่งของคนไทยทุกๆคน ขณะเขียนน้ำตาก็ยังคงไหลออกมาเองด้วยความซาบซึ้งในพระคุณของทุกๆพระองค์และอาจารย์ ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์และทุกๆท่านเป็นอย่างสูงครับ  รักและเคารพอาจารย์ครับ