ReadyPlanet.com


ใครจำลุงกินหมาก ค่าย 7 ได้บ้าง


คุณลุงที่เป็นเจ้าของสวนผลไม้เมืองจันนท์

มาครั้งที่ 2 วันเข้าค่ายรุ่น 7

3-5 ธ.ค.53

บอกว่า

ตั้งแต่มาบ้านสวนครั้งแรก

เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว  กลับไป คอล๊อก คอเคล็ด

ทำยังไงก็ไม่หาย อุทิศบุญก็ไม่หาย ขอโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกอย่างแล้วก็ไม่หายพยายามคิดว่าทำอะไรผิด

คิดไม่ออกเลยครับ อ.

อ.อุบล....ลองไปถามองค์เทพสฟิงซ์ดูสิ

ครับ...แล้วลุงก็คิดขึ้นได้ว่า

สงสัยเป็นเพราะ

ตอนที่

อ.

บำบัด

คนอื่น แล้ว อ.ประกาศ

ให้คนที่ยังไม่ถึงคิว ไปทำบุญด้วยแรงกาย

ไม่ต้องมานั่งดูคนอื่น แต่ผมไม่ไป

เพราะผมอยากดู อ.อุบล

ผมไม่เคยเห็น

ผมคิด

ว่า

คงเพราะเหตุนี้

ใช่ไหมครับ อ...ไม่ทราบ

คุณต้องคิดเอง รู้เอง เพราะคุณทำเอง

แล้วถ้าเป็นเรื่องนี้จะทำไงครับ

ไม่ทราบต้องคิดเอง

ผมขอขมา

อ.อุบล

ได้ไหมครับ

ไม่ทราบ คุณต้องตัดสินใจเอง

ขอขมาเลยได้ไหมครับ

ไม่ทราบคิดเอง

เพราะ

เดี๋ยวนี้ เสด็จพ่อ ท่านท้าวเวสสุวรรณ

บอกให้ อ.อุบล ลดบทบาทการคิดแทนคนอื่นลงให้มากที่สุด

ถ้าเขาคิดไม่เป็น  เดี๋ยวท่านจะช่วยคิด

และช่วยจัดการให้......

เอ็งไม่ต้อง.....

ข้าเอง



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-12 18:32:11


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1521472)

ฮิฮิ ไม่ได้เข้าค่ายกะเค้าหรอก แต่ประมาณว่า...เสนอหน้า...ทุกรายการเล๊ย...ชนิดา

ไม่รู้จะมีแฟนขับ(ไล่) อ๊ะเปล่า......


แต่จริงๆก็น่าเห็นใจคุณลุงกินหมากนะคะ เพราะในชีวิตนี้

คงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่รู้ ไม่ชัวร์ ว่าได้ทำผิดอะไรไว้...ถึงได้รับผลแบบนี้

 

แต่อย่างน้อยอ.อุบล ก็ยังมีเมตตาบอกใบ้ให้

อย่างน้อยคุณลุงก็ได้รู้ว่า สถานที่เกิดเหตุ อยู่ที่บริเวณหน้าเทพองค์สฟริงซ์ นั่นเอง


สงสัยต้องหัดคิดเอง เยอะๆ ซะแล้วสิเรา

ขอบคุณเรื่องราวของคุณลุงกินหมากนะคะ อ่านแล้วก็นำมาเป็นอุทาหรณ์สอนตัวเอง

เพราะบางทีชนิดาก็คิดได้น้อยเหมือนกัน

หรือบางทีคิดได้เย๊อะ...แต่ทำได้น้อยกว่าที่คิดก็...เยอะ....และ บ่อยๆ

 

อนุโทนาค่ะอาจารย์ วันนี้บำบัดคนอื่นๆเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว 

พอว่างก็เสียสละเวลามาบำบัดใจพวกเราต่อ...อีก

สาธุงามๆค่ะ....

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-12 20:26:57


ความคิดเห็นที่ 2 (1521493)

 แกชื่อลุงติ๊ดครับอาจารย์ ผมเห็นแกใช้แรงงานด้วยวัยขนาดนั้นแล้วคนวัยละอ่อนอย่างผมยังอายเลยครับ...

ตอนแกพยายามจะขอขมาอาจารย์ก็คล้ายๆ กับกรณีพี่พงษ์(ด.ต.ที่มาจากสุรินทร์) แต่พี่พงษ์แกแน่นหน้าอก นั่งอยู่ติดกับผมตอนจุดเทียนถวายพระพร บ่นกับผมตลอดว่าอยากขอขมาอาจารย์อุบลมากเหมือนทำผิดอะไรซักอย่าง จนอาจารย์อุบลต้องอ่อนใจให้ขอขมา แก่ก็หายแน่นหน้าอกเป็นปลิดทิ้ง ดีใจใหญ่เลยครับ

เรื่องนี้ อ.อุบล ทำให้ผมฉุกคิดได้อีกอย่างคือ ถ้าเรามีความเชื่อจริง ศรัทธาจริง...อย่ารอใช้ความคิดนานเลยครับ ไม่มีอะไรเสียหายเลย กลับดีซะอีกที่ทำให้จิตเราเบิกบานที่ได้ทำ...บุญและบาปไม่เคยรอใครแม้เสี้ยววินาทีเดียว ทำจิตให้รู้ตื่น เบิกบานตลอดเวลา แล้วจะรู้ว่าวินาทีที่สิ้นลมนั้น เราพ้นอบายหรือไม่

สาธุครับอาจารย์... 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2010-12-12 22:49:12


ความคิดเห็นที่ 3 (1521495)

ไหนๆ ธรรมะก็จัดสรรค์

ให้คุณสิทธิ์ได้เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิดขนาดนี้

ถ้างั้น คุณสิทธิ์ ก็เล่าเรื่องคุณตำรวจ

ให้ละเอียดเท่าที่จำได้นะคะ

เพื่อถวาย ท่านท้าวเวสสุวรรณ ด้วยเถิดค่ะ

ไม่ทราบท่านต้องการบอกอะไร  ท่านเน้นย้ำเรื่องนี้มาก

ท่านบอกท่านมีเรื่องจะชำระสะสางคดีนี้มานานแล้ว

ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าค่ะ

ใครจะมาช่วยกันเล่าเสริมก็ได้ เพราะวันนั้น

เป็นวันสุดท้ายใช่ไหม

 บางคนก็กลับแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2010-12-12 23:09:34


ความคิดเห็นที่ 4 (1521505)

 เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับอาจารย์...งั้นผมขอเล่าเท่าที่จำได้นะครับ

พี่พงษ์หรือ ด.ต.สิทธิพงษ์ เพชรนอก ซึ่งมาจากสุรินทร์...แกพยายามสมัครมาหลายครั้งมาก กว่าจะได้รับการตอบรับให้เข้าค่ายในรุ่น 7 นี้ ถึงแม้ได้รับการตอบรับแล้ว แต่ก็ยังไม่เชื่อสายตาตัวเองที่ได้เห็นรายชื่อตัวเองผ่านเว็บ...

วันแรกที่มาถึงบ้านสวนพีระมิด แกก็ไม่รีรอที่จะทำบุญด้วยแรงกาย ก็คือขุดบ่อบริเวรหน้าห้องน้ำ...แต่แล้วเมื่อสายตาแกมองไปเห็นนางฟ้าของพวกเราเดินมา แกก็ไม่รีรอที่จะยกมือไหว้ แต่การไหว้สวัสดี อ.อุบล ของแกไม่ธรรมดาครับ...ก้มลงกราบกับพื้นหน้าห้องน้ำเลยครับ มาบอกกับผมตอนหลังว่ารู้สึกศรัทธาในตัว อ.อุบล มากๆ ถึงมากที่สุด...โดยเฉพาะแกเห็นอาจารย์ให้ความเมตตาคนที่มีปัจจัยน้อย ทำบุญกับอาจารย์แล้ว...แต่ อ.อุบล คืนเงินให้เป็นขวัญถุงเพื่อไปประกอบอาชีพทำคุณงามความดีต่อไป คนแล้วคนเล่า พี่พงษ์ก็เกิดความศรัทธาในตัว อ.อุบล ยิ่งขึ้นไปอีก พูดกับผมเรื่องอาจารย์คืนเงินหลายครั้งมาก ปล้ืมสุดๆ

ส่วนวันสุดท้ายของการเข้าค่าย ช่วงที่ อ.อุบล นำส่งบุญให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งใบชี้แจงกรรมของตัวเอง และมอบสิ่งของ ซึ่งก็เป็นเวลาสายๆ จรดไปถึงบ่ายสองโดยที่ไม่มีใครหิวข้าวกันเลย(หรือหิวก็ไม่รู้) แต่ที่แน่ๆ อ.อุบล เมตตาทุกคนตลอดหลายชั่วโมงโดยไม่เหน็ดเหนื่อย...ช่วงนั้นพี่พงษ์เองก็เริ่มบ่นกับผมนิดๆ แล้ว ว่าอยากขอขมาอาจารย์อุบล แต่ด้วยจังหวะที่คิวค่อนข้างเยอะ ก็เลยยังไม่มีโอกาส 

พอตกคำ่หลังจากที่ได้จุดเทียนชัยถวายพระพรแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสร็จ...พี่พงษ์ก็บ่นกับผมว่าเจ็บหน้าอก อยากขอขมา อ.อุบล มาก แกเคยบอกผมว่าแกเคยปรามาส อ.อุบล แต่ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร...แกเอ่ยปากจะขอขมาอาจารย์ให้ได้ แต่ อ.อุบล ก็บ่ายเบี่ยงว่ามาขอขมาทำไม อ.อุบล ไม่ใช่ผู้วิเศษ และไม่ได้คิดบาดหมางใครๆ เลย มีแต่จะอโหสิให้กับทุกคนที่คิดไม่ดีกับอาจารย์...แต่พี่พงษ์ก็ไม่ละความพยายาม กลับกัน แกรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมากกว่าเดิมอีก จน อ.อุบล เห็นท่าไม่ดี ก็เลยยอมให้แกขอขมาเผื่อจะช่วยให้แกหาย...เท่านั้นแหละครับ หลังจากพี่พงษ์ลงไปกราบ แล้วลุกขึ้นยืน...หายแน่นหน้าอกทันที อ.อุบล ก็ถาม "เป็นไงบ้าง"..."หายแล้วครับ"..."อย่ามาหลอกนะ"..."จริงๆ ครับอาจารย์"...ผมเห็นหน้าพี่พงษ์ตอนนั้น เหมือนคนดีใจตอนชนะเกมส์ บิงโก้ ก็พลอยอนุโมทนาสาธุกับแกไปด้วยครับผม 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ วันที่ตอบ 2010-12-13 00:23:15


ความคิดเห็นที่ 5 (1521510)

อนุโมทนากับคนเล่าและเจ้าของเรื่องด้วยนะคะ

คุณสิทธิ์น่าจะมีข้อมูลอีกเยอะนะคะเนี่ย.......

 

.เขียนและถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีมากๆค่ะคุณสิทธิ์

ยิ่งได้อ่านถึงช่วงที่ อาจารย์คืนเงินให้เป็นขวัญถุงแล้ว รู้สึก"ซึ้ง" ในความเมตตาของอาจารย์จริงๆ

มิน่าล่ะ คุณพงษ์ ถึงได้จำและตราตรึงในใจตลอดเวลา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-13 01:06:08


ความคิดเห็นที่ 6 (1521512)

อนุโนมทนาสาธุกับทุกท่านที่ได้เข้ามาเล่าสิ่งดีๆๆให้คนที่ไม่ได้ไปบ้านสวนได้รับรู้ด้วย ขอให้ทุกท่านหายป่วย แข็งแรง และโชคดีร่ำรวยๆๆๆนะคะ สาธุ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อรุณรัตน์ เปรมฉัตรปริพัต วันที่ตอบ 2010-12-13 01:29:59


ความคิดเห็นที่ 7 (1521516)

คุณสิทธิ์คะ

เรื่องที่ท่านท้าวเวสสุวรรณ

ต้องการชำระสะสางคดี ก็คือ

เรื่องที่เป็นสาเหตุให้ คุณตำรวจปรามาส อ.อุบล ในใจ

เป็นเรื่องที่คุณตำรวจโทร.ถามทาง

 ไปบ้านสวนพีระมิด

แต่คนตอบ

หลายคน

นั้น

ทำให้คุณตำรวจ

คิดว่าเป็นคนในบ้านสวนพีระมิด

มาถึงตรงนี้ คุณสิทธิ์คงจะนึกออก

และบอกเล่า เพื่อถวาย

ท่านท้าวเวสสุวรรณ

อีกครั้งนะคะ

อ.อุบล

ต้องการช่วยชีวิตเขาค่ะ

เพราะ ท่านท้าวเวสสุวรรณ  บอกว่า

พวกนี้ข้าขึ้นบัญชีดำ

  ข้าตามใจเอ็งมานานแล้ว  เอ็งขอข้า ให้ไว้ชีวิตพวกมัน ข้าก็ให้เอ็ง

แต่คราวนี้ข้าจะขอให้เอ็งต้องฟังข้าบ้าง

มันต้องมีคนตายโชว์โว้ย

พวกมันถึงจะเลิก

เหิมเกริม

คุณสิทธิ์รีบเล่านะ

จะได้ไม่มีใครตาย ผ่อนหนักเป็นเบา

ไปก่อนก็ยังดี ระหว่างนี้

อ.อุบล จะอ้อนวอน

ท่านไปก่อน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2010-12-13 08:20:29


ความคิดเห็นที่ 8 (1521529)

 ขอบพระคุณครับอาจารย์ ที่ทำให้ผมร้องอ๋อขึ้นมาทันที ไม่รอช้าที่จะเล่าต่อ เผื่อจะช่วยให้เค้าพ้นจากเคราะห์กรรมที่เค้าทำ ด้วยแรงบุญอันน้อยนิดของคนบาปหนาอย่างผม ก็ยินดีและเต็มใจช่วยครับ

อย่างที่อาจารย์อุบลกล่าวไว้...ท้าวความก่อนที่แกจะมาบ้านสวนพีระมิด แกเคยโทรมาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบ้านสวน ก็เจอนางฟ้าของพวกเรารับสายพอดี แต่ได้รับคำตอบจากนางฟ้าที่แสนดีว่า "คุณคงไม่มีวาสนาที่จะได้มามั้งค่ะ" แกก็อึ้งซิครับ ได้รับคำตอบแบบนี้กำลังใจเริ่มถดถอยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ละความพยายาม จนได้รับการตอบรับในค่ายรุ่น 7 นี้...

หลังจากพี่พงษ์ได้รับการตอบรับให้เข้าค่ายรุ่น 7 นี้แล้ว แกก็โทรมาถามเส้นทางมาที่บ้านสวนพีระมิด โดยแกมีแผนที่และเบอร์โทรศัพท์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข พอโทรมาก็มีคนรับสายเป็นผู้หญิง เสียงดุสวนกลับมาอย่างที่แกไม่ทันตั้งตัว มาถึงตรงนี้หลายท่านอาจจะคิดว่า โดนเจ้าที่ทำพิษซะแล้วกระมัง ดูแต่ในทีวีก็น่าจะดุเอาเรื่อง พอได้ยินเสียงในโทรศัพท์ทำไมดุยิ่งกว่าอีก...ไม่บอกทางแล้วยังมาสวนกลับอีกว่า "ลบเบอร์โทรนี้ออกไปเลยนะ" แล้วก็วางหู โดยที่พี่พงษ์ยังอึ้งในเสียงตามสายนั้นอยู่ ก็ให้คิดปรามาสในใจขึ้นมาทันทีว่า สถานที่แห่งธรรมะ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก แต่ไฉนถึงได้ใจร้ายแบบนี้...ซึ่งพี่พงษ์เองก็ยังไม่รู้ว่าหญิงผู้รับสายท่านนั้นไม่ใช่ อ.อุบล แต่ใจแกคิดในทางลบไปต่างๆ นาๆ จนเป็นเหตุให้้ต้องขอขมา อ.อุบล...จนสุดท้ายก็ได้เดินทางมาบ้านสวนฯ แต่มาถึงใกล้ค่ำก็ไม่กล้าเข้ามาก่อนเกรงว่าจะผิดกฎ เลยแวะค้างคืนโรงแรมใกล้ๆ บ้านสวนฯ เพื่อว่าจะได้มาแต่เช้า

สำหรับผู้รับสายท่านนั้น ได้ฟังเรื่องเล่าจาก อ.อุบล แล้วช่างซับซ้อน ซ่อนเงื่อนอะไรปานนั้น ต้องถอดรหัสยิ่งกว่า The Davinci Code ซะอีก โยงใยไปถึงเบื้องสูง จนจะพาเค้าไปสู่เบื้องล่างแห่งนรกอเวจีได้แบบไม่ยากเย็นเลย คิดแล้วก็ให้น่าสงสารคุณผู้หญิงผู้รับโทรศัพท์พี่พงษ์ท่านนั้นจริงๆ ส่วนเรื่องราวคุณผู้หญิงท่านนั้นจะเป็นยังไง ผมมิบังอาจและเกินวิสัยคนบาปหนา ปัญญาหยาบอย่างผมที่จะเล่าได้ล่ะครับ...รู้เพียงอย่างเดียวคือ อ.อุบล เมตตากับทุกๆ คน ทุกๆ ชนชั้น จะดุก็เพียงแต่ต้องการให้สำนึกในกิเลสและยอมรับในกรรมของทุกท่านที่ได้กระทำด้วยตัวเองมา เผื่อจะได้ผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือหมดไปโดยไม่ต้องไปชดใช้ในนรกอเวจี...ไม่เท่านั้น อ.อุบล ยังต้องขอโทษพี่พงษ์รวมทั้งทุกๆ คน ที่แก้ไขข้อมูลผู้ติดต่อช้าไปหน่อย ทำให้เกิดการเข้าใจผิดอะไรบางอย่างไป แต่ตอนนี้ข้อมูลก็ถูกต้องทุกประการแล้วนะครับ

ขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ ท่าน และอาจารย์อุบล อีกครั้งที่ให้โอกาสได้เล่าประสบการณ์...ถ้าพี่พงษ์อ่านอยู่เกิดข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ วันที่ตอบ 2010-12-13 10:38:33


ความคิดเห็นที่ 9 (1521546)

อนุโมทนากับคุณสิทธิ์ด้วยนะคะ เล่าได้ละเอียดมากคะ

ผู้หญิงที่รับสาย 2-3 คนนั้น ถ้าเดาไม่ผิดหนูคงเคยพบเมื่อต้นปี

เพราะตอนนั้นยังไม่มีเวปไซด์ ไม่มีแผนที่ ไม่มีป้ายบอกทาง

และยังไม่มีเบอร์โทรพื้นฐานของทางบ้านสวน

ส่วนสัญญาณมือถือของ อ. ก็จะโทรไม่ค่อยติด

จึงมีเบอร์โทรของอีกหลาย ๆ ท่านที่เคยไปและมีเจตนาจะช่วยบอกทางแก่ผู้ที่ไป ด้วยความศรัทธาบ้านสวนพีระมิด

แต่บัดนี้ ก็ไม่ทราบได้ว่าเกิดอะไรกับบุคคลเหล่านั้น ซึ่งอาจจะโดนก่อกวนมาก โทรศัพท์โรคจิตบ้าง หรือ อื่น ๆ

ซึ่งเขาบอกว่าเขาถอนตัวออกมาแล้ว และ อื่น ๆ ... ตามที่คุณตำรวจได้ฟังมา

(ช่วงเข้าค่ายรุ่น 7 แฟนหนูซึ่งยังมีใบปลิวในสมัยนั้น เขาติดต่อหนูไม่ได้

ก็เลยโทรไปหาเบอร์ ต่าง ๆ ตามนั้นเช่นกัน ไม่ทราบว่าได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง

ก็มาบอกหนูว่า เนี่ยเขามีข้อมูลอะไรบางอย่าง...

เอาเป็นว่าอยากไปทำบุญก็ไปเถอะ ก็ขอให้ได้บุญนะ อีกหน่อยก็จะรู้เอง...)

หนูก็ไม่ได้พูดอะไรมาก กลัวเขาจะบาปไปด้วยเพราะความไม่รู้จริง

รอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกัน ใช้ปัญญาของตนไตร่ตรองดูเอง

บุญกรรมทำมาไม่เท่ากันจ้ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-12-13 12:16:54


ความคิดเห็นที่ 10 (1521560)

อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ (tata_su1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-13 13:37:27


ความคิดเห็นที่ 11 (1521565)

อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกรรม และทุกท่านที่แสดงความเห็น  สวัสดีครับ อาจารย์ อุบล

กระทู้ตั้งที่ลุงกินหมาก แต่ลงท้ายความเห็นเกี่ยวกับดาบพงษ์  ผมเลยต้องขอร่วมแสดงความเห็นด้วยคน  บังเอิญว่าเรื่องของดาบพงษ์  ทำให้ผมได้ข้อทำหลักๆ          2 เรื่องครับพี่น้องบ้านสวนพีระมิด

1. ธรรมะจัดสรร

2. ผู้ที่จะหันเข้าสู่ทางธรรม มักจะมีอุปสรรค์มาขัดขวาง   ดังนี้

    -  ธรรมะจัดสรร คือ หงายสิ่งที่คว่ำ เปิดสิ่งที่ปิดอยู (อ้าว งง! ไปใหญ่) นั้นก็คือเหตุการณ์ที่ต้องเกิดกับดาบพงษ์นั้น  ช่วยให้หลายคนได้ทราบเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เรื่องที่ปัจจุบันต้องชี้แจงให้ถูก เพื่อให้ผู้ที่จะมาใหม่ในอนาคตได้ทราบ สาธุ สาธุ สาธุ

    -  ผู้ที่จะหันเข้าสู่ทางธรรม มักจะมีอุปสรรค์มาขัดขวาง(ดูจากตัวเองด้วยครับ)  ทดลองใจ  บางท่านก็ผ่านไปได้ บางท่านก็กำลังต่อสู่กับมารอย่างถึงพริกถึงขิง แต่บางท่านกลับไปอยู่ฝั่งเดียวกับมารเสียแล้ว  ดังนั้นขอทุกท่านได้พึงระวังรักษาจิตของตนให้ดี ดังมีการกล่าวถึงไว้ในบทกรวดน้ำอิมินา ที่ผมยกมาบางส่วน และได้เน้นสีไว้

วรรคท้ายของบทกรวดน้ำอิมินา

อุชุจิตตัง สะติปัญญา  มีจิตตรงและสติทั้งปัญญาอันประเสริฐ
สัลเลโข วิริยัมหินา  พร้อมทั้งความเพียรเลิศเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย
"มารา ละภันตุ โนกาสัง  โอกาสอย่าพึงมีแก่หมู่มารสิ้นทั้งหลาย
กาตุญจะ วิริเยสุ เม  เป็นช่องประทุษร้ายทำลายล้างความเพียรจม"

พุทธาทิปะวะโร นาโถ  พระพุทธผู้บวรนาถ
ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม  พระธรรมที่พึ่งอุดม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ  พระปัจเจกพุทธสมทบ
สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง  พบพระสงฆ์ที่พึ่งผยอง
"เต โสตตะมานุภาเวนะ  ด้วยอานุภาพนั้น
มาโรกาสัง ละภันตุ มาฯ  อย่าเปิดโอกาสให้แก่มารทั้งหลายเทอญ"

สาธุ สาธุ สาธุ

ปล.อาจารย์อุบลครับนับจากคืนวันที่ 4 ธ.ค.53 ที่ผมคุยกับคุณสิทธ์ ว่ากสิณไฟ นี่ง่ายโน๊ะ ง่ายกว่าที่ผมทำอานาปนสติอีก(ไม่มีจิตที่หลบหลู่) มาจนบัดนี้ผม ไม่ว่าจะพุทโธ หรือ เกศา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ ผมก็ไม่สามารถเข้าสมาธิได้ ทั้งที่อธิษฐานจิตขอขมาโทษต่อท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำแล้ว  แต่ตอนนี้ผมนิมิตทั้งลืมตาอยู่หรือหลับตา ก็จะมีภาพของเทียนที่จุดอยู่  เหมือนเมื่อครั้งที่มีนิมิตรูปพระพุทธองค์เลยครับ  และพอผมทดลองใช้วิธีใช้นิมิตแสงเทียนนั้นเป็นอารมณ์ปรากฏว่าจิตนิ่งไม่ไปไหนเลยครับ  สิ่งนี้คือ ธรรมะที่จะจัดสรรให้ผมศึกษาธรรมะที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้สั่งสอน มาปฏิบัติอย่างจริงจังหรือเปล่าครับ(ก่อนหน้านี้ผมเชื่อ เคารพท่าน แต่ไม่เคยคิดที่จะศึกษาวิธีของท่านเลยครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกไชย (ekachai_sh-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-13 13:46:27


ความคิดเห็นที่ 12 (1521569)

 

            ขอโมทนา กับทุกท่าน  ที่ได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ 

   ตอนนี้  ตัวเองเริ่มรู้สึกว่า  บ้านสวนพีระมิด  เริ่มแยกแยอะบุคคลที่จะเข้ามาบ้านสวนฯ

   ถ้าไม่ถูกคัดเลือก  ก็ไม่มีโอกาส   ดังนั้น  เมื่อได้มีโอกาสเข้ามาแล้ว  ก็ขอทำความดีอย่างเต็มความสามารถ

  ด้วยหัวใจที่ศรัทธา  เชื่อมั่น  ต่อพระพุทธองค์  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบ้านสวนพีระมิด

   สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2010-12-13 14:29:47


ความคิดเห็นที่ 13 (1521619)

ถ้าใครดูรายการคุยไปแจกไปของวันที่ 28 พ.ย.2553 ตอน "ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ สร้างเหตุไว้เช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น" จะเห็นได้ว่ามีข้อความขึ้นเป็นนัยๆ ไว้ว่า "บาป-บุญ กำลังจะแยกคนดี-คนชั่วออกจากกัน" และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำเฉลยที่ได้ฟังจาก อ.อุบล ให้สามารถปะติดปะต่อภาพแห่งธรรมะจัดสรรได้ลงตัวทุกประการอย่างไม่ต้องสงสัย

อ่านข้อความคุณเอกแล้วขนแขนแสตนอั๊พอีกแล้วครับ...มันช่างเหมาะเจาะและเหมือนกันซะจริงๆ...ผมเคยไปกราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่วัดท่าซุงด้วยความศรัทธามาหลายครั้ง พยายามฝึกมโนมยิทธิที่บ้านซอยสายลมก็แล้ว ไปปฎิบัติธรรมกับลูกศิษย์หลวงพ่อคือพระอาจารย์เล็กที่วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญฯ ก็แล้ว รวมทั้งเคยฟังธรรมะหลวงพ่อก็แล้ว...ด้วยกรรมและกิเลสของตัวเอง สุดท้ายก็ยังโง่ในธรรมเหมือนเดิม จนต้องไปภาวนาแบบอานาปานสติ

มาช่วงก่อนจะไปเข้าค่ายรุ่น 7 หยิบธรรมะของหลวงพ่อเปิดฟังไปในรถ...อ้าว ทำไมถึงเข้าใจแจ่มแจ้งกว่าเมื่อก่อนที่เคยฟัง สงสัยตอนนั้นเราคงโง่ในธรรมแบบสุดๆ(ประมาณ 5 ปีที่แล้ว) ตอนนี้โง่น้อยลงกว่าเดิมนิดหน่อยแต่ก็ยังโง่อยู่...ทำให้ขึ้นรถเมื่อไหร่เปิดธรรมะหลวงพ่อเมื่อนั้น แถมยังอยากกลับมาศึกษาธรรมะของหลวงพ่ออย่างจริงจังอีกครั้ง...ใช้คำว่าอยากไม่ได้ซิครับ เพราะธรรมะคือการปล่อยวาง ต้องบอกว่า พยายามจะเข้ามาศึกษาธรรมะตามแบบฉบับของหลวงพ่อฤาษีลิงดำแบบจริงจังอีกครั้ง ตามความตั้งใจที่จะพ้นทุกข์และช่วยให้คนอื่นพ้นทุกข์ด้วย

ทำไปทำมา....กระทู้ลุงติ๊ดกินหมาก กลายเป็นดาบตำรวจ แล้วก็กลายพันธุ์ต่อไปอีกซะแล้ว...แต่ก็ยังไม่เกินวิสัยของคำว่า ธรรมะจัดสรร ล่ะครับ

อย่างไรก็ตาม...ผมเชื่อมัน ตั้งมั่นและศรัทธาในธรรมะของพระพุทธองค์ อย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้นครับผม 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ วันที่ตอบ 2010-12-13 17:21:21


ความคิดเห็นที่ 14 (1521849)

ขอให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้

ไปอ่านต่อในกระทู้

"เสด็จพ่อท้าวเวสฯ ต้องการชำระคดีคนรับโทร.ตำรวจ"

เพราะชื่อกระทู้นี้ เริ่มไม่สัมพันธ์กับเนื้อหา

ข้างในแล้วค่ะ   ขอบคุณค่ะ

อ.อุบล

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2010-12-15 07:27:22


ความคิดเห็นที่ 15 (1521996)

ขอเชิญ

แสดงความคิดเห็น

หรือ

ให้ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

และช่วยอุทิศบุญให้ผู้ต้องถูก

ชำระบัญชีด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2010-12-15 20:47:47


ความคิดเห็นที่ 16 (1527976)

                                         กราบเรียนอาจารย์แม่อุบล

                            อ๊อดก็เคยโทรไปสอบถามทางเขาค่ะเขาก็บอกว่า

                                          เขาถอนตัวออกมาแล้ว

                             อ๊อดก็ไม่ได้ถามต่อ ขอบคุณเขาแล้วก็ว่างสายค่ะ

                                           ในใจก็สงสัยว่าทําไมต้องถอนตัว

                                                   แค่สงสัย

                                            ได้มาอ่านเรื่องของคุณตํารวจก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ

                                                     ว่าแกโดนว่าอะไร

                                         ใครรู้ช่วยบอกด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ็อด วันที่ตอบ 2011-01-19 17:06:54


ความคิดเห็นที่ 17 (1528068)

ใครรู้ช่วยบอกด้วย

คุณอ๊อดหมายถึงใครหรือครับ  " ว่าแกโดนว่าอะไร "  ผมขอช่วยไขให้ขอรับ ว่า

- ถ้าหมายถึงคุณตำรวจ(ดาบพงษ์) เนื่องจากแกโทรถามทาง คนเคยอาสาบอกทางบ้านสวนพีระมิด แล้วคนเคยอาสาบอกทางพูดไม่ดี  แล้วดาบพงษ์  ก็เลยเข้าใจผิดแล้วคิดไม่ดีกับบ้านสวนฯ รวมถึงปรามาส อาจารย์อุบล ด้วยมโนกรรม  ก็เลยเกิดแน่นหน้าอก(ประหนึ่งว่าเบื้องบนต้องการให้ทุกคนรู้เรื่องคนเคยอาสาบอกทาง)  พอดาบพงษ์ เล่าเรื่องทั้งหมด และกราบขอขมาต่ออาจารย์ฯ ก็หายจากอาการแน่นหน้าอก

- ส่วนถ้าหมายถึงคนเคยอาสาบอกทาง " ว่าแกโดนว่าอะไร " ถึงถอนตัว  เล่าให้ฟังง่ายง่าย คุณอ๊อดอย่าไปบอกใครนะครับ (ความลับซะไม่มีง่ะ) ว่าคนเคยอาสาบอกทางเขามาแบบต้องการผลประโยชน์จากบ้านสวนพีระมิด  แต่บ้านสวนพีระมิดในเป้าหมายของอาจารย์คือผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเพื่อนผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตาย โดยรวม เป็นทานบารมีครับ  ดังนั้นเมื่อคนเคยอาสาบอกทางเขาไม่ได้ดังเขาหวังเขาจึงถอนตัวครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกไชย ทรงประไพ (ekachai_sh-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-19 23:30:54


ความคิดเห็นที่ 18 (1528122)

                                  เขาใจแล้วค่ะ

                ขอบคุณมากค่ะ  คุณเอกไชย  

ผู้แสดงความคิดเห็น อ็อด วันที่ตอบ 2011-01-20 11:31:00


ความคิดเห็นที่ 19 (1528126)

                                 ขออุทิศบุญกุศลให้คนที่บอกทางคุณตํารวจ

จนคุณตํารวจเข้าใจผิด ขอบุญกุศลนี้ให้คุณรอดพ้นจากความตายด้วยนะค่ะ

                                   สาธุ  สาธุ  สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ็อด วันที่ตอบ 2011-01-20 11:42:06


ความคิดเห็นที่ 20 (1542633)

โมทนากับทุกๆข้อความตุ๊กได้แต่โมทนาหน้าจอตอนนี้เสียวหลังมากบางโรคก็เบาบางบางโรคก็หายวันจันทร์ต้องไปทำกายภาพ+นวดแผนไทยรพ.ลำลูกกา

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ๊ก+น้ำตาล+โปเต้ ปทุมธานี (ratmanee90-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-28 08:37:10


ความคิดเห็นที่ 21 (1542680)

 กราบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด  และอาจารย์อุบลด้วยความเารพอย่างสูงยิ่ง

                      เล่าเรื่องครั้งแรกที่ไปบ้านสวน ฯ โดยรถโดยสาร

                            ก่อนอื่นขอแนะนำตัวดิฉันนางสาววัณณิตา  นันตะโรหิต (หน่อย) ทำงานที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี ในตำแหน่งนักวิชาการศาสนาชำนญการ   หน่อยรู้จักบ้านสวนจากน้องสวรส  ข้าราชการในสำนักงานด้วยกันจะเปิดดูรายการและแนะนำ  หน่อยสนใจแต่ก็ดูรายการไม่ครบสนใจอะไรก็ดูตามที่สนใจ   แต่ตั้งมั่นว่าจะไปบ้านสวนให้ได้เพื่อไปใช้แรงงานและวันที่ 21 ก.พ.53  ได้มีโอกาสเดินทางขั้นแรกได้โทรศัพท์ไปที่บ้านสวนเพื่อสอบถามเส้นทาง  จุดเริ่มต้นที่หหน้าฟิวเจอร์รังสิตจะมีรถตู้รังสิต - ปราจีนบุรี  เราขึ้นได้เลยแล้วบอกว่าจะไปอำเภอวิหารแดง   ลงที่แยกคลองไทร  ค่ารถ  55  บาท เมื่อลงรถจะมีมอเตอร์ไซต์รับจ้างมาถามเราบอกไปบ้านสวนพีระมิด  (ต้องขอเบอร์โทรด้วยเพราะจะต้องเรียกมารับเมื่อต้องการกลับ) ในราคา  50  บาท   หวังว่าทุกท่านที่มีความประสงค์จะไปทำบุญเพื่อสร้างกุศลแต่ไม่มีพาหนะสามารถไปได้ตามที่แนะนำ  สะดวกคนขับรถใจดี   ตั้งใจแล้วไปได้แน่นอนไม่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัว...................แต่ต้องเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกนะ

สาธุ   สาธุ  สาธุ  สำหรับผู้ที่ได้รับคัดเลือกและไม่มีพาหนะคงไปบ้านสวน ฯ  ได้สะดวกเช่นเดียวกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต (w_wannita-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-28 12:50:16


ความคิดเห็นที่ 22 (1543549)

สาธุค่ะ..ส่วนตัว**เพิ่งเข้ามาบ้านสวนครั้งแรก 13/04/54 วันสงกรานต์..ดูรายการ

ประมาณต้นปีค่ะ  ไม่เคยไป ..แต่อธิษฐานขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลจิตดลใจสามีให้

พาไปค่ะ..พร้อมprint  แผนที่ไปให้สามีศึกษาทางที่จะไป ขับไปทางหนองแค ..รถติด

สุดๆๆช่วงอยุธยา **ก็สวดมนต์ ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนให้ไปให้ได้และทัน

เวลา10.55น. ตอนที่รถติด9.30น.แล้วก็ทำใจบอกสามีว่าไปไม่ทันแล้ว**แต่ก็อธิษฐาน

ขอบารมี ตลอดทางค่ะ  เข้าอ.วิหารแดง ถามคนแถวนั้นว่ารู้จักมั้ย**บอกว่าไม่รู้  แต่

สามีบอกว่ามาถูกแล้ว ก็ขับไปเรื่อยๆๆ สุดท้ายรถขับถึงหน้าทางเข้าบ้านสวน 10.45น.

เป็นอัศจรรย์จริงๆๆ เล่ากี่รอบๆๆก็มีความสุข ปลื้มในหัวใจ**

**ลูกนางสุริวรรณ์-นายสุระ  ตีรวัฒนประภา** กราบขอบพระคุณบารมี  สมเด็จองค์ปฐม..เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ..หลวงปู่ฤาษีลิงดำ..ท่านเทพสฟิ้งค์..ท่านดตาจินิน..ท่านมนุษย์ต่างดาว...บารมีพระอาจารย์รัตน์..อ.อุบล**มา ณ โอกาสนี้ค่ะ  สาธุ  **ไม่เสียดายที่เกิดมาแล้วต้องตาย เพราะได้รู้จักบ้านสวนพีระมิดแล้วค่ะ**

ผู้แสดงความคิดเห็น สุ/นะโม (namo53-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-03 16:21:35


ความคิดเห็นที่ 23 (1543765)
image

ขออนุโมทนากับทุกท่านทุกเรื่องที่อุตส่าห์สละเวลามาเขียนเล่าสู่กันฟังเป็นธรรมทานนะคะ..สาธุ..

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเคยทุกข์ (fasa_kao-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-04 12:51:09


ความคิดเห็นที่ 24 (1598512)

อนุโมทนากับธรรมทาน ของเรื่องนี้ด้วยค่ะ ทำให้ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกต้องได้เตือนตัวเองในธรรมชาติบาป ที่ต้องสำรวมระวังความคิด คำพูด และการกระทำมากขึ้น  เนื่องจากบ่อยครั้งที่ตามไม่ค่อยทันค่ะ

ด้วยบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์ อริยเจ้า อริยสงฆ์ อริยบุคคล ครูอุปัชฌาอาจารย์ ท่านท่าวเวสสุวรรณ และอ.อุบล  ผลบุญทั้งหมดที่ข้าพเจ้าสั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน ขอน้อมส่งกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับธรรมทานนี้ และผู้ที่ถูกชำระบัญชี ขออานิสงฆ์นี้ส่งผลเป็นอโหสิกรรม ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน ค่ะ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ริญญารัตน์ รัตนมณีฉายา (wipa_ratta-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 13:55:49


ความคิดเห็นที่ 25 (1598518)

คนที่เข้ามา

บ้านสวนพีระมิด

ที่ทำเป็นเคารพนับถือ

ศรัทธา อ.อุบล

 

โดยมีแผน

ผลประโยชน์แอบแฝงมานั้น

มีมาตั้งแต่เริ่มต้น

จนปัจจุบัน ก็ยังมีอยู่

และ

คงจะมีต่อไปอีกเรื่อยๆ

 

จนกว่า

คนเหล่านี้จะสูญพันธุ์

หรือ

จนกว่าแกนโลกจะพลิก

 

ซึ่งเป็นเรื่องที่

เราเห็นกันมาคู่กับโลก

จนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเรื่อง

ธรรมดา

 

แต่จริงๆ มันเป็นเรื่อง

ผิดปกติ ของคนที่ จิตใจ

ผิดปกติ

 

เพราะ

ศีลบกพร่อง

ก็เลย ผิดปกติ ทั้ง

ทางกาย ทางใจ

 

ทำให้คนเหล่านี้

มีอยู่ทั่วไป ยิ่งตามสถานที่

ที่มีคนนิยมไป

 

มีคนหลากหลาย

ฐานะ

เข้ามารวมกัน

 

ก็จะเป็นเป้าหมาย

ในการ หาเหยื่อ ที่ง่ายดาย

 

เพราะ

ปกติ คนพวกนี้

ต้องเที่ยว แสวงหา เหยื่อ

กันเอง เรียกว่า

ยาก

 

แต่

ที่บ้านสวน

มีคนเข้ามาเอง

แค่มาทำศรัทธา อ.อุบล

แค่มาดูแลโน่นนี่นั่น

ออกรายการ

ให้คนรู้จัก

 

ก็เปิดฉาก หากินได้แล้ว

 

เพราะ

คนที่มา ก็มีหลากหลาย

ภูมิปัญญา

 

มีทั้งคนโง่มาก โง่น้อย

เรื่องไม่โง่เลย นั้นไม่มี

 

ถ้าไม่โง่

คงไปนิพพานกันหมดแล้ว

 

พวกนี้

ก็จะหาคนมีตัง แต่โง่

 

หรือ

ไม่มีตัง แต่ชอบหน้าใหญ่

จ่ายง่าย กู้ยืมเขามาจ่ายก็ช่าง

ขอให้จ่ายง่าย หูเบา ไร้ปัญญา

เป็นใช้ได้

 

พวกนี้

จะพยายามตีสนิท

แล้วทำให้ไว้ใจ

 

บางคนนะ

ลงทุนบีบนวดปรนนิบัติให้เลย

อันนี้เห็นกับตา

 

เห็นแล้วรู้ทันทีว่า

เดี๋ยวยายคนนี้ ต้องกินตับ

ยายคนนี้แน่นอน

 

แล้วก็จริง

 

บางคน

วางแผนมา เป็นขั้นเป็นตอน

 

ไม่ลงมือทำเอง

แต่กำกับอยู่นอกบ้านสวน

 

ใช้วิธี

วางแผน โทร.กำกับ

 

ให้งาบเหยื่อรายนี้ให้ได้

แล้วลากออกไปกิน

นอกบ้านสวน

 

เหยื่อก็ประเภท

โง่ แต่ บ้ายอ ไม่เคย

มีคนยกก้น

 

ไปเลย

ควักไป จ่ายไป

เดินตามแผนชั่วไป

 

แต่ว่า

คนที่จะโดนอย่างนี้

มันต้องมี วิบากกรรม ร่วมกันมา

 

เราก็ได้แต่

ดู

และคอยรับคำสั่ง

จากหลวงพ่อ + เสด็จพ่อฯ

เท่านั้น

 

อย่าไปแทรกแทรงกรรม

ท่านบอกอย่างนี้

 

เราแค่ป้องกัน

ไม่ให้คนเหล่านี้เข้ามา

บ้านสวนพีระมิดอีก

เพื่อไม่ให้ คนอื่น ต้องเจออีก

 

คือ

ตัดขาดสังคม

ของคนพวกนี้ ไม่ให้เข้ามา

ทำมาหากินในนี้อีกต่อไป

 

ให้เขาไปกินกันเอง

เมื่อหลอกกันออกไปได้

มันก็ต้อง เจอลวดลาย ซึ่งกันและกัน

 

ใครจะเอาเปรียบใคร

เก่งกว่ากัน

ใครจะเหนือชั้นกว่ากัน

ก็ฟาดฟันกันไป

 

คนหนึ่ง

ชอบหน้าใหญ่

คนหนึ่ง หิวเงิน ร้อนเงิน

คนหนึ่ง ขี้เกียจทำงาน

ชอบตอแหล ใช้ปาก หากิน

มันก็ต้อง ให้เจอกัน

ลงตัวพอดี

 

คราวนี้จะได้รู้ว่า

คนที่มาบ้านสวนฯแล้ว

ดูเหมือน ทำบุญเยอะ ช่วยงานดี

แล้วหายหน้าหายตาไป

 

คราวนี้

จะได้ใช้ปัญญา

หาข้อมูลดูให้ดี อย่าดูแค่

ที่เห็น ไอ้ที่ไม่รู้ไม่เห็น พวกนี้

ทำอะไรไว้กับบ้านสวนมั่ง

ได้ไปคนละเท่าไหร่

มีใครเป็น

เหยื่อ บ้าง แล้วพวกนี้

รวยจริง หรือ ราคาคุย

สร้างภาพ

 

คนก่อนจะหลอกคน

มันต้องทำเป็นรวย

 

ถ้ารวยจริง

ทำไม 50 บาท ก็เอา

100 บาท ก็เอา

 

เอาตั้งแต่

เงินระดับ กระจอก

จนถึง เงินก้อนใหญ่

 

พวกนี้ไม่เคยเชื่อ

บาป บุญ คุณ โทษ

ทำเป็นเชื่อ เพื่อหลอก

ตบตาคนให้ไว้ใจ เท่านั้นเอง

 

บางคน

มาเป็นปี สวดปะโตเมตัง

ยังไมได้เลย

สู้เอริค ก็ไม่ได้

 

ไม่สงสัยหรือว่า

เขามาเพื่อค้นหาธรรม

หรือ ค้นหา กรรม

หรือ ค้นหาอะไร

 

บางคน ยิ่งมา

ยิ่งเดี้ยง ทั้งที่ดู ทำบุญ

ใหญ่ๆ ไม่สงสัยบ้างรึ

 

ว่า

มันต้องมีอะไร

ที่เขาทำหมกเม็ดไว้

ที่เราไม่รู้

 

เราใช้แต่ตาดู หูฟัง

แต่ไม่ใช้ปัญญา

 

ทีกับ

พระพุทธเจ้า

กับผู้ทรงศีล ดันสงสัย

 

ทีคนพวกนี้

น่าสงสัย กลับปลื้มอกปลื้มใจ

 

น่าสงสาร

จริง จริ๊ง มนุษย์หนอ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 14:39:07


ความคิดเห็นที่ 26 (1598538)

หนูคิดว่าคนที่มาบ้านสวนคงถูกคัดกรองมาอย่างดีแล้ว

เพราะมีสิ่งศักสิทธิ์มากมายทุกคนที่มาต้องเกรงกลัว

ละอายต่อบาป ต้องเกรงใจท่านอาจารย์อุบล

คงมีแต่คนดีๆ ทั้งนั้น หนูเองกลับคิดว่าหนูเป็นคนเลว

เข้ามาบ้านสวนต้องระวังตัวเองให้จงหนัก

จะได้ไม่ทำให้คนดีมัวหมอง ต่อไปนี้ต้องใช้ปัญญา

ให้จงหนัก ขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะที่เมตตา

สอนทุก ๆเรื่องเหนื่อยแทนจริงๆ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก (angkhana-s2011-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 16:22:00


ความคิดเห็นที่ 27 (1598544)

บางคน

มาเป็นปี สวดปะโตเมตัง

ยังไมได้เลย

สู้เอริค ก็ไม่ได้

ป๊าดด!!ได้อ่านที่ท่านอาจารย์เขียนแล้วเห็นภาพเลยครับ ปกติวันเสาร์หากผมเห็นมีคนใหม่ๆเพิ่งมา ผมมักจะถามก่อนทุกครั้งว่าใครยังสวด ปะโตเมตังไม่ได้ และบทอื่นๆยังไม่ได้

คนใหม่ๆบางคนก็ยก บางคนก็สวดเป็นมาจากที่บ้านแล้ว แต่บางคนนี่สิเท่าที่จำได้ เรียกว่าแทบทุกครั้งเลยที่ถาม จะยกมือขึ้น ทั้งๆที่มาเป็นปีๆแล้ว ไม่รู้ว่าคุณพี่เขาภูมิใจหรือว่ามันดูเด่นหรืออย่างไรที่ยกมือตลอดเลยว่าสวด ปะโตเมตัง ไม่เป็น

ผมว่าเด็กๆอย่างเอริค คงใช้เวลาไม่นาน นิดเดียวก็คงจำได้แระ เพราะว่าสั้นๆเองครับ แล้วนี่ศีลธรรม ที่ท่านอาจารย์พร่ำสอนจะจำกันได้เหรอครับเนี่ย...

 

ไม่สงสัยหรือว่า

เขามาเพื่อค้นหาธรรม

หรือ ค้นหา กรรม

หรือ ค้นหาอะไร

 

บางคน ยิ่งมา

ยิ่งเดี้ยง ทั้งที่ดู ทำบุญ

ใหญ่ๆ ไม่สงสัยบ้างรึ

บางท่านที่ผมสังเกตเห็นนี่ ยิ่งมายิ่งอาการแย่จริงๆครับ ไม่ว่าทั้งการเงิน การงาน สุขภาพ เห็นแย่สุดๆ ตอนแรกคนโง่อย่างผมก็ไม่รู้จริงๆ คิดๆอยู่ว่า..อืม คนนี้ทำบุญมากมายเลย แต่พักหลังๆนี่ทำไมน๊า สุขภาพเขาแย่ได้มากมาย เรียกว่าเดี้ยงดีกว่าครับ ต่อมายิ่งได้รู้ว่าการเงิน ก็เดี้ยงไม่แพ้กัน ก็อดสงสัยไม่ได้

จนเริ่มตาสว่างขึ้นมาบ้างว่า..อ้อ บุญใหญ่ก็ทำ ไอ้บาปหนักก็ทำ แถมทำที่ไหนไม่ทำ ดันมาทำในบ้านสวนฯอีก อ้าว!แล้วที่เห็นๆนี่ต้องการอะไรจากบ้านสวนฯกันแน่...

บางรายก็หายหน้าหายตาไปนานเลย บางรายคงเบื้องบนโดนจัดหนัก ทนไม่ไหวหายหน้าไปพักใหญ่แล้วเหมือนกัน...

ที่เขียนๆมานี่ ไม่ได้เจตนาจะตำหนิกรรมหรือว่าทำลายผู้ใดนะครับ เพียงแค่อยากเล่าสิ่งที่พบเห็นในบ้านสวนฯเป็นธรรมทานเพื่อให้อีกหลายๆท่านที่อาจมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้น ได้เห็นตัวอย่างผลกรรมที่เกิดขึ้นกับคนเหล่านี้...อย่าทำแบบนี้เลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 16:54:11


ความคิดเห็นที่ 28 (1598568)

ที่พูดมานี่

ไม่ได้หมายความว่า

ทุกคนที่มาบ้านสวนพีระมิด

จะมาหาผลประโยชน์หมดทุกคน

คนที่เค้าตั้งใจมาเพื่อสร้างบุญ

นั้นมีมาก แน่นอน

 

มิฉะนั้น

บ้านสวนจะไม่สามารถ

สร้างได้ ภายใน 2 ปี ขนาดนี้

 

แต่

ที่ต้องบอกเล่า

เพื่อให้คนที่มาด้วยเจตนาดี

ได้ระวังตัวกันบ้าง

 

ไม่ใช่ให้ระแวง

 

แต่ให้ระวัง

 

ให้คิดถึงกฎธรรมชาติ

ว่า

คนดี หรือ คนชั่ว

มันไม่มีป้ายแขวนคอ

 

ไม่มีเครื่องหมาย

 

มันต้องใช้ปัญญาดู

 

ใช้แค่ ตาดู หูฟัง ไม่ได้

 

คนจะหลอกคน

มันต้อง มีแผน ให้คน ตายใจ

ให้คนเชื่อว่าเขาเป็นคนดี

 

แต่สังเกตุเถอะ

 

คนที่เขาดีจริง

เขาไม่โฆษณาตัวเอง

ไม่ชอบอวด ไม่ชอบโชว์

 

แต่คนไม่มีดี

มักชอบอวด ชอบโชว์

เราก็จะไปหลงพวกนี้

 

ยิ่งคนที่มาทักเรา

ว่า เรา มีองค์ นั้น องค์นี้

เราเป็นโน่น เป็นนี่

เขาเป็นร่างของ เทพองค์โน้นองค์นี้

 

เขาเห็นโน่น เห็นนี่

แนะให้เราทำอย่างนั้น แก้อย่างนี้

 

ทั้งที่ตอนมา

ตั้งใจมา บ้านสวน

มาหา อ.อุบล อยากพึ่งบารมี

พระพุทธเจ้า

 

แต่ดันไปแวะหา

พระเทวทัตกันซะนี่

 

บางคน

เห็นแค่ อาหาร การกิน

ที่มีคนนำมาร่วมบุญ

มากมายก่ายกอง

ก็วางแผนมาเลย อยากจัดการ

 

คนอยากมาอยู่บ้านสวน

มีมาก มีทั้งอยากมาช่วยแบ่งเบา

อ.อุบล

 

มีทั้ง

อยากมาเป็น

ผจก.ส่วนตัว อ.อุบล

อยากมาดูแล จัดการทรัพย์สิน

ข้าวปลาอาหาร ที่มากมาย

 

อันนี้

ที่พูดได้ เพราะ

ได้เห็นมาแล้ว เกิดมาแล้ว

 

คนที่มาบ่อยๆ

ก็อาจสังเกตุเห็นได้

 

หรือ

ไม่ต้องมาบ่อย

ก็อาจสังเกตุเห็นได้

 

ยกเว้น

ไม่สังเกตุ คือคิดว่า

ทุกคน คงดีเหมือนกันหมด

 

เหมือนที่ คุณอังคณาคิด

 

ถ้าทุกคนดี เหมือนกันหมด

คงมีความสุขเท่ากันหมด

คงมีเงิน เท่ากันหมด

 

คงไม่มีคน ที่มีความ

แตกต่างกัน

 

เพราะทุกคน สร้างเหตุ

เหมือนกัน

 

ดังนั้น

เราต้องใช้ปัญญา

พิจารณา ความเป็นจริง

ว่า

คน ก็คือ คน

คนที่ไหน ก็มีดี มีชั่ว ทั้งนั้น

 

คิดถึง

พระเจ้าอยู่หัว

ทรงเคยเล่าเมื่อครั้ง

เสด็จเยี่ยมหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

 

พระองค์รับสั่งถาม

ประมาณว่า

 

มารับเสด็จกันกี่คน

 

มาหมดทั้งบ้านเพคะ

 

อ้าว แล้วใครเฝ้าบ้าน

ไม่กลัวโจร เข้าบ้านหรือ

 

ไม่กลัวเจ้าค่ะ

เพราะว่า วันนี้ โจรก็มา

รับเสด็จเหมือนกันเจ้าค่ะ

 

เห็นไหมว่า

คนดี คนชั่ว ก็ไป

รับเสด็จพระเจ้าอยู่หัว

เหมือนกัน

 

แล้วทำไม

คนดี คนชั่ว จึงจะมา

บ้านสวนพีระมิด

ไม่ได้

 

ดังนั้น

ใช้ปัญญา พิจารณา

คนที่มาบ้านสวนกันเอง

 

รวมทั้ง

คนที่เรา ไปเจอ

ที่สถานปฎิบัติธรรม วัด

ทุกที่ในประเทศ ในโลก ด้วย

 

หา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 20:31:47


ความคิดเห็นที่ 29 (1598576)

เรื่องคาถา

ปะโตเมตัง นี่นะ

พ่อใหญ่ธนา

 

คุณตา คุณพ่อ อ.อุบล

อายุ 91 ปี

ความจำไม่สมบูรณ์แล้ว

 

คือถามอะไรเรา

เราตอบแล้ว

 

อีกไม่ถึง 1 นาที ถามอีก

คำถามเดิม คือความจำเสื่อมแล้ว

ถ้าพูดภาษา ที่เข้าใจง่าย

 

แต่

อ.อุบล

ให้แผ่นที่แจก

วัน ดร.อาจอง พาครู

มาเข้าค่ายพิเศษ

 

ซึ่งมี 3 คาถา

1.ปะโตเมตัง

2.คาถาท้าวเวสสุวรรณ

3.คาถาเงินล้าน

 

ให้คุณตาท่องดู

 

ปรากฎว่า

วันเดียว ท่องได้

ทั้ง 3 คาถาเลย

 

ลองให้ท่องให้ฟัง

บนโต๊ะอาหาร ท่องได้

เร็วปรื๋อเลย

 

แต่ยังไม่ 100 % นะ

 

มีคาถาท้าวเวสสุวรรณ

ที่หลงๆ นิดหน่อย

พอช่วย ต่อได้เลย

 

ส่วนคาถาเงินล้าน

ซึ่งยาวมาก อันนี้ คุณตา

ท่องได้คล่องที่สุด

 

แล้วอย่างนี้

เราจะสรุปยังไง

 

กับคนที่อายุ

น้อยกว่า 91 ปี ความจำดี

ยังไม่เสื่อม แต่ท่องไม่ได้

 

เราจะบอกว่า

เขามาหาทางปฎิบัติ

ตามวิธีบ้านสวนฯ

หรือว่า

เขามาทำไมกันแน่

 

แล้วก็มีคนหลง

ด้วยนะ ว่าคนบางคน

มาช่วยงาน อ.อุบล ม๊ากมาก

 

แต่ไม่เคยรู้เลยว่า

การมานั้น

ไม่ใช่มาช่วยฟรี

ไม่ได้มาสร้างบุญ แต่ว่า

มา

เพราะมีผลประโยชน์

เป็นเงิน

ที่สูงลิบลิ่ว

 

จึงถูกเสด็จพ่อ

เตะ และ โดน กระบอง

น่วมทั้งตัว แย่ทั้งเงิน

 

บางคนสร้างภาพ

ว่ารวย

แต่

ซื้อของ

มาให้บ้านสวนฯ

บวกเพิ่มทุกอย่าง

 

คนทั่วไปไม่รู้ว่า

อ.อุบล ต้องจ่าย เท่าไหร่

 

จึงเป็นสาเหตุให้

ชีวิต ครอบครัว การงาน

การเงิน ล่มจม ย่อยยับ

แต่ยังสร้างภาพ

ว่ารายได้ดี

 

ใครจะโกหกใคร

ก็ได้

 

แต่

โกหก สิ่งศักดิ์สิทธิ์

และ

โกหกตัวเอง ไม่ได้หรอก

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 21:44:54


ความคิดเห็นที่ 30 (1598587)

    ได้ดูรายการคุยไปแจกไปเมื่อคืนวันจันทร์ประทับใจคุณพ่อ ท่านอ.อุบล มาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ............ไม่แปลกใจเล้ย  ที่ท่านอ.อุบลหัวเราะเสียงดังเห็นฟันแทบทุกซี่...........เพราะท่านอ.อุบลเหมือนคุณพ่อนี่ เอ้ง.......ฮิ..ฮิ.

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต (wannita9955-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 22:58:05


ความคิดเห็นที่ 31 (1598588)

ใครจะโกหกใคร

ก็ได้

 แต่

โกหก สิ่งศักดิ์สิทธิ์

และ

โกหกตัวเอง ไม่ได้หรอก

*-*-*-*-*

ขอสนับสนุนข้อความด้านบน

ของ

ท่านอาจรย์แม่อุบล

เป็นข้อความที่โดนมากๆ

ชัดเจนมากๆ

ตัวเล็ก

คิดว่าถ้าพวกเขาเหล่านั้นอ่าน

คงกระเทาะหัวใจได้

ไม่มากก็น้อยทีเดียว

......

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:00:05


ความคิดเห็นที่ 32 (1598595)

คุณตาสุดยอดเลยครับ... วันเดียวท่องได้หมดทั้ง ๓ พระคาถา ผมงี้ยังอายเลยครับ อิอิ

พอพูดถึงคนมาหาประโยชน์ในบ้านสวนฯแล้ว ทำให้ผมสงสัยอีกว่า ที่ผ่านมามีตัวอย่างมากมายที่ทำตัวเช่นนี้ แล้วชีวิตล้มเหลว ไม่มีความสุข พังไปหมดทั้งสุขภาพ การงาน การเงิน

ซึ่งตัวอย่างเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้คนบางคนเกรงกลัวบาปและผลกรรมที่จะได้รับเลยหรือ แต่กลับยิ่งหาวิธีที่แนบเนียน ไม่ว่าจะสร้างภาพ วางแผนสารพัด

ยิ่งหากแบบว่าหลักสิบก็เอา หลักร้อยก็คว้า แต่ภาพลักษณ์กลับดูเหมือนคนมีกะตังค์ เหมือนคนใจบุญ จนบางครั้งคนโง่สุดๆอย่างผมก็เข้าใจว่าเขาเอานั่นเอานี่มาทำบุญด้วยเงินเขาเอง

มารู้ทีหลังว่า อาจารย์อุบลทั้งน้านน คนจ่าย...รู้สึกสลด สังเวชใจเลยครับ ว่าทำไมสร้างภาพลักษณ์เก่งสุดๆ

คนแบบนี้มักจะมีเพื่อนแบบเดียวกัน มีพฤติกรรมและใช้วิธีการคล้ายๆกัน และสุดท้ายกลุ่มเพื่อนรักแบบนี้ก็โดนเบื้องบนจัดหนักจนหงายหลังกระเด็นออกไป... ม่ายรู้จะเข็ดหรือสำนึกไหมหนอ..

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:12:38


ความคิดเห็นที่ 33 (1598630)

 เห็นด้วยกับพี่ธนาค่ะ

ว่าคุณตาสุดยอดจริงๆ

วันเดียวท่องได้หมด 

ขออายด้วยคนค่ะ อิอิ

 

บางคนสร้างภาพ

ว่ารวย

แต่

ซื้อของ

มาให้บ้านสวนฯ

บวกเพิ่มทุกอย่าง

สร้างภาพให้คนเชื่อ ตายใจ

เหมือนดูดีมีฐานะ

เพื่อที่จะง่ายต่อการหากิน

แต่ก็คิดอย่างพี่ธนานะคะ

ว่าถ้าเค้ามีฐานะจริง ทำไมเงินหลักสิบ หลักร้อย

เค้าก็เอา เอาโดยไม่อายกันเลยทีเดียว

แล้วแบบนี้จะให้คิดว่าเค้ามีฐานะได้ไงเน๊อออ

เพราะความอยากมี อยากได้ จึงต้องทำแบบนี้

เพราะความไม่มี จึงอยากมี อยากได้

แต่ทำไมไม่คิดละเนอะว่าทำไม

ตัวเองถึงไม่มีกะเค้าซักที.......ก็เพราะหากินแบบนี้ไง

ได้มาเท่าไหร่ก็ล่มจมหมด 

เงินที่ได้มาด้วยความไม่บริสุทธิ์

เก็บเท่าไหร่ก็ไม่อยู่หรอกค่ะ

และได้บาป ได้ทุกข์มาเป็นของแถมด้วย

เสียดายเวลาทำมาหากิน

ของคนไม่ซื้อสัตย์จริงๆค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 06:10:37


ความคิดเห็นที่ 34 (1598697)

 

ดังนั้น

เราต้องใช้ปัญญา

พิจารณา ความเป็นจริง

ว่า

คน ก็คือ คน

คนที่ไหน ก็มีดี มีชั่ว ทั้งนั้น

 

 

กราบขอบพระคุณ อ.อุบล และเบื้องบนทุกพระองค์คะ

และธรรมทานทุกชีวิต ของผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวพันกับบ้านสวนฯ

ทำให้เรามองเป็นความจริง ธรรมชาติ ของคน ได้ดีมาก

(ทำให้เห็นถึงความ โง่ ของเราชัด ๆ เลยคะ)

ทำให้เห็นสัจธรรม และเบื่อกับความวุ่นวายในสังคม

พาลจะเบื่อชีวิต และความเป็น "คน" เข้าไปอีก

 

การที่ต้องบริหารจัดการ เรื่องของ คน

ถือเป็นเรื่องที่น่าเบื่อและยุ่งยากมากเหลือเกิน

และอาจารย์เอง ท่านก็เคยบอกว่าเบื่อผู้คนที่เข้ามาในชีวิต

แต่ท่านยังเมตตามาเปิดบ้านส่วนตัว เพื่อฉุดช่วยพวกเรา

แถมต้องรบรากับ คน อีกหลาย ๆ ประเภทด้วย

 

ถ้าไม่เพราะบารมีอันสูงส่งของท่านอ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

คงต้องเหนื่อยกับปัญหาเรื่อง คน อีกหลายเท่าแน่ ๆ

ขอกราบขอบพระคุณในจิตใจที่ประเสริฐของอ.และครอบครัวด้วยคะ

เมื่อท่านช่วยพวกเราขนาดนี้ เราก็ต้องพยายามช่วยตัวเองให้มากกว่าเดิมให้ได้

 

...................................................................................................................

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 11:21:07


ความคิดเห็นที่ 35 (1598708)

แล้วก็มีคนหลง

ด้วยนะ ว่าคนบางคน

มาช่วยงาน อ.อุบล ม๊ากมาก

 

แต่ไม่เคยรู้เลยว่า

การมานั้น

ไม่ใช่มาช่วยฟรี

ไม่ได้มาสร้างบุญ แต่ว่า

มา

เพราะมีผลประโยชน์

อัญก็เป็นคนหนึ่งค่ะ ที่หลง และ โง่สุด ๆ

คิดว่าบุคคลพวกนี้น่าจะสูญพันธุ์ไปจากบ้านสวนได้แล้ว

ก็อย่างที่พี่ธนาว่า ตัวอย่างของบุคคล

ที่เข้ามาหาผลประโยชน์ ในบ้านสวน ฯ

แล้วชีวิตต้องล้มเหลว พังทุกด้าน ก็มีให้เห็นมากมาย

แต่ทำมั๊ย ทำมัย ถึงยังกล้าทำกันอีก

คนโง่อย่างอัญคิดไม่ออกจริง ๆ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร (ananya-an-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 12:17:40


ความคิดเห็นที่ 36 (1598710)

ใครจะโกหกใคร

ก็ได้

 

แต่

โกหก สิ่งศักดิ์สิทธิ์

และ

โกหกตัวเอง ไม่ได้หรอก

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ศีลบกพร่อง

ก็เลย ผิดปกติ ทั้ง

ทางกาย ทางใจ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

บางคน ยิ่งมา

ยิ่งเดี้ยง ทั้งที่ดู ทำบุญ

ใหญ่ๆ ไม่สงสัยบ้างรึ

-*-*-*-*-*-*-*-*-

สงสัยค่ะ..

สงสัยว่าเอ..พี่คนนี้มาทำบุญ

ประจำที่บ้านสวนฯ

แต่อาการป่วย เจ็บนั่น ปวดนี่

ดูจะรุกหนักขึ้นตลอด

แล้วไม่เคยเห็น...บำบัด

ไม่เห็นสารภาพกรรม...

โดยตั้งใจเลยสักครั้ง

ต้องมีอะไรแน่ ๆ

หรือ

คิดหนัก ปรึกษาคนนั้น คนนี้

ว่าจะสารภาพดีมั๊ย

โอ้..ม่าย.ย.ช่าย.ย.ย แระ

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 12:20:22


ความคิดเห็นที่ 37 (1598727)

ถ้าเรารู้จักใช้ปัญญา

แล้วนำคำสอนพระพุทธองค์

เข้ามาจับ เราจะเข้าใจทุกอย่างได้หมด

 

ห้ามใช้

ความรู้สึกของเรา

เพราะ

มันขาดปัญญา เราต้องพึ่ง

ปัญญาพระพุทธเจ้า

แล้วเราจะไม่พลาอ

 

อย่างคำสอนที่ว่า

 

ผลเป็นตัว บอกเหตุ

 

เอาแค่นี้แหละ

 

เห็นคนทุกข์ คนเครียด

มันบอกได้เลยว่า

 

ไอ้อาการอย่างนี้ มันเป็นอาการ

ของคนที่สร้างเหตุชั่วไว้

มันจึงมาส่งผล

 

แต่คนส่วนใหญ่

ไม่ได้คิดเช่นนี้ กลับเห็นใจ

 

ไอ้เห็นใจกันก็ดี

ถือว่า เป็น เมตตา จิต

แต่

มันดันไปเชื่อ ไปคล้อยตาม

แทนที่จะช่วยเขาดับทุกข์

ด้วยการค้นหาเหตุ

 

คนส่วนใหญ่

มันดันไปช่วยเขา

ดับแต่ผล

 

ไม่เคยสนคำสอน

พระพุทธเจ้า จะเอาแต่

ความรู้สึกของตัวเอง

 

แล้วจะให้คิดว่า

เชื่อพระพุทธเจ้าได้อย่างไร

 

คิดแค่นี้

ยังคิดไม่ได้เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 13:27:05


ความคิดเห็นที่ 38 (1598801)

อย่างคำสอนที่ว่า

 

ผลเป็นตัว บอกเหตุ


กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ในธรรมทานสั้นๆ แต่มีความหมายในตัวที่ครบกระบวนความ โดยไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันมากมาย ไม่ต้องใช้กำลังใจตัวเองที่คิดว่าแน่แล้วไปปรุงแต่งอะไรต่อมิอะไรให้มันมากมายและวุ่นวายอีก

ท่านอาจารย์ใช้กระทู้นี้เปิดประเด็นขึ้นมา อันที่จริงก็ไม่ใช่จะเปิดประเด็นอะไร เพียงแต่ว่า เรื่องราวที่มันวนเวียนอยู่ในบ้านสวนฯ นั้น กี่ปีกี่ชาติก็ยังวนเวียนอยู่อย่างนั้น ซึ่งถ้าเรามัวแต่ดับที่ผล เดี๋ยวซักวันมันก็โผล่มาอีก...หรือพูดง่ายๆ ก็คือ หินทับหญ้า เอาหินออกเมื่อไหร่ หญ้าก็โผล่ขึ้นมาเหมือนเดิม

กระทู้นี้ก็เหมือนกัน...เรื่องราวของคนที่คิดแสวงหาผลประโยชน์เมื่อครั้งท่านอาจารย์เปิดบ้านสวนฯ เมื่อไม่ได้ดั่งที่ตัวเองหวัง ก็พาลไม่สนับสนุนการสร้างความดีของท่านอาจารย์อุบล ใครโทรมาถามทางเข้าบ้านสวนฯ ก็บ่ายเบี่ยงและตะคอกใส่ว่าไม่ต้องโทรมาอีก และลบเบอร์นี้ไปเลยนะ...

มาถึงตอนนี้ สองปีให้หลัง...ก็ยังไม่วายมีคนยังคงเข้ามาหาผลประโยชน์จากบ้านสวนฯ ในหลายๆ รูปแบบ อย่างเรื่องนวด นี่ก็หน้าบอกอยากรับใช้ท่านอาจารย์อุบล แต่ใจก็อยากได้ตังค์...หรือมาในรูปแบบ นักบุญที่มีแต่จะให้ ยินดีจะมอบทุกสิ่งที่มีค่าให้กับท่านอาจารย์ ทั้งแก้ว แหวน เงิน ทอง อัญมณี แม้กระทั่งสิ่งก่อสร้างที่เป็นรูปธรรม แต่ก็ไม่วายที่จะแอบแฝงไปด้วยผลประโยชน์และกำไร โดยนึกว่าท่านอาจารย์คงไม่รู้มั้ง

ถ้าเราตัดความอยากทั้งหลายแหล่ ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจจะเป็นกุศลในจิตได้แล้ว ผลที่ไม่พึงประสงค์ก็คงไม่บังเกิดแก่เรา ถ้า...


ถ้าเรารู้จักใช้ปัญญา

แล้วนำคำสอนพระพุทธองค์

เข้ามาจับ เราจะเข้าใจทุกอย่างได้หมด

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 19:58:45



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.