ReadyPlanet.com


ท่านทูตไนจีเรีย กล่าวถึง พระเจ้าอยู่หัว


ก่อนหน้าที่จะรู้จักกับท่านทูตไนจีเรีย

(คนก่อน ที่มีรูปในไตเติ้ลรายการฯ)

รู้สึกกลัวคนสีผิวมาก

ด้วยคำบอกเล่าต่อๆกันมาว่า

คนผิวดำน่ากลัว เจ้าเล่ห์ คบไม่ได้ ไม่จริงใจ ฯลฯ

แม้วันที่พบท่านวันแรก

ก็ยังรู้สึกเช่นนั้นอยู่ จนในที่สุด

ก็ได้ฟังท่านปาฐกถา

แรกๆ ก็ยังไม่ค่อยสนใจ คิดว่าท่านเป็นทูต

ก็เลยพูดแบบนักการทูต

คือถูกฝึกมาอย่างดี ก่อนจะมาเป็นทูต

จนมาถึงประโยคที่แทงใจดำเรา

ท่านพูดว่า

คนส่วนใหญ่ จะว่าคนไนจีเรียว่าเป็นคนไม่ดี

ค้ายาเสพติด เจ้าเล่ห์ ขี้โกง ฯลฯ

ซึ่งก็ยอมรับว่ามีส่วนจริง

แต่ถ้าจะเปรียบ

กับคนชาติอื่น ไนจีเรีย มีประชากร 150 ล้านคน

เป็นประเทศใหญ่ ดังนั้น เมื่อคนมาก

คนทำไม่ดี ก็ดูเหมือนมาก

ทั้งๆ ที่ถ้าเทียบส่วนแล้ว ประเทศเล็ก

ประชากรน้อย คนไม่ดี ที่ดูว่าน้อย

แต่สัดส่วนอาจจะมากกว่า ไนจีเรีย ด้วยก็ได้

อ.อุบล อึ้ง

และ

ใจเปิดยอมรับท่านทันที

ก็เลยตั้งใจฟังเรื่องต่อมาที่ท่านพูด

ก็คือ

ท่านบอก ไนจีเรีย ซื้อข้าวจากไทย

เป็นอันดับ 1 ของโลก

ฯลฯ

จนมาถึง วันนี้ มีคนนำเอาสาหร่ายเกลียวทอง(แคปซูล)

และข้าวเกรียบสาหร่าย

โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา

มาให้ท่าน(ไม่ใช่ อ.อุบล ค่ะ เพราะนี่วันแรกที่พบท่าน)

ท่านรู้สึกยินดี และ ได้กล่าวชื่นชม

พระเจ้าอยู่หัวมากมาย

สนใจในโครงการส่วนพระองค์ฯ

ท่านบอกไม่เคยเห็น กษัตริย์ ที่ไหน

ทำเพื่อประชาชนเช่นนี้

ส่วนใหญ่เป็นกษัตริย์ ต้องสบายที่สุด

แต่เป็นกษัตริย์ไทย

ดูน่าจะเหนื่อยที่สุด

จนมาถึงอยากไปชมโครงการส่วนพระองค์ฯ

(เจ้าของสถาบันฝาก อ.อุบล ซื้อสาหร่ายแคปซูล บอกจะนำมา

เป็นของที่ระลึกให้ท่านทูต แต่ข้าวเกรียบสาหร่าย คนอื่นนำมา)

นั่นเป็นจุดเริ่มต้น การได้รู้จักกับท่านทูตไนจีเรีย

ด้วยความรู้สึกที่ดี นับถือท่านเรื่อยมา

ตลอดเวลาท่านได้พิสูจน์ให้เห็น

ถึงความจริงใจ มาโดยตลอด

บางครั้ง อ.อุบล ก็เคย

พิสูจน์ว่า ท่านพูด

จริง หรือ ว่า

พูด

เพื่อให้ดูดี

(ปากหวาน)หรือเปล่า เช่น

ท่านบอกว่า

Madam Noi Come To My Home....Any Time

คุณชนิดา ช่วยแปลด้วยนะ อ.อุบล ไม่แข็งแรง

Noi เป็นชื่อเล่น อ.อุบล

และชวนหลายครั้ง ทั้งตอนที่พบท่านและทางโทรศัพท์

แต่ก่อนอื่นได้พาท่านไปที่ สวนอุทัยธรรมก่อนเป็นอันดับแรก

ท่านอยากไปดูวิธีการเพาะเลี้ยงสาหร่าย

ตอนนั้นไปเป็นการส่วนตัว คือ ไม่มีพิธีการอะไรมาก

ท่านเลขาธิการพระราชวัง (คุณแก้วขวัญ วัชโรทัย)

และ คณะ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยมี

1.คุณวิสิษฐพร  เผื่อนพิภพ ผอ.กองวัง ตอนนั้นเป็นรองฯ บรรยาย นำชม

(พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก)

2.คุณอรุณี วังสพ่าห์ ผช.ผอ.โครงการส่วนพระองค์ ฯ

3.คุณวิชัย วงษ์วาณิช ที่ปรึกษา ท่านเลขาธิการพระราชวัง ฯลฯ

ให้การต้อนรับ

ตั้งแต่เช้า จนสาย ท่านเลขาฯบอกว่า ถ้าไม่รีบกลับ

ขอรับรองด้วยอาหารกลางวัน ท่านก็รับคำเชิญ

พอทานอาหารเสร็จ ท่านทูตยืนขึ้น

(ท่านเลขาให้ท่านทูตนั่งหัวโต๊ะ)

กล่าวสุนทรพจน์

มีใจความ (เท่าที่พอจำได้)....ว่า

ท่านมีความประทับใจ

ในการต้อนรับของ ท่านเลขาธิการพระราชวังมาก

ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่ง ที่ท่านเลขา ให้ความสำคัญกับท่าน

ทั้งการนำชม และ เลี้ยงอาหารกลางวัน

ท่านเลขาฯ

ถ้าเปรียบกับประเทศที่มีพระมหากษัตริย์

เป็นประมุข ก็เหมือน King"s Friend

ซึ่งวันนี้ได้ให้เวลากับท่าน

เกือบทั้งวัน

ท่านบอกว่า วันที่ท่าน

มาเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว วันแรก

เพื่อถวายพระราชสาส์นตราตั้ง รายงานตัว นั้น

ท่านได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเปี่ยมล้น

ด้วยความเมตตา ได้สนทนากับพระองค์ นานประมาณ 15 นาที

ซึ่งท่านก็ปลาบปลื้มใจเป็นที่สุดแล้ว........ฯลฯ

และ

ท่านไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ มาดามน้อย ที่พาท่านมาในวันนี้ ฯลฯ

ต่อไปนี้เป็นการคุยกับท่านทูตนอกโต๊ะอาหาร

ท่านทูตเป็นคนช่างสังเกต เก็บรายละเอียดทุกอย่าง

ท่านบอก ท่านเลขา ติดดินมาก ขับรถกระบะเก่าๆ ขับเองด้วย

ตอนท่านเลขาฯ พาชมบ้าน ท่านพูดถึงโซฟาที่พระเจ้าอยู่หัว

ทรงพระราชทาน ท่านเลขาเล่าด้วยความปิติ

ท่านทูตก็สังเกตอีกว่า ทานเลขาฯ

รักพระเจ้าอยู่หัวมากนะ

ท่านบอกว่า

ท่าน

ดีใจมากที่มาเป็นทูตประเทศไทย

และ

นี่จะเป็นประเทศสุดท้ายของการเป็นทูตของท่าน

อ.อุบล ถามว่า แล้ว ท่านจะไปทำอะไร

ท่านบอก กลับไป ท่านจะ

ไปทำงานที่

สถานทูตไนจีเรีย เป็นทูตมา 3 ประเทศแล้ว

แล้วท่านก็พูดว่า

ท่านรักพระเจ้าอยู่หัวมาก อ.อุบล ถามว่าเพราะอะไร

ท่านบอก

พระเจ้าอยู่หัวของยู ไม่รังเกียจคนผิวดำ

ตอนที่เข้าเฝ้าครั้งแรกนั้น มีทูตมาจากประเทศอื่นด้วย

เป็นคนผิวขาว แต่ พระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งกับท่าน(ทูต)นานกว่า

(อ.อุบล รู้สึกได้ถึง น้ำพระทัยของพระเจ้าอยู่หัว)

และ

ที่ยิ่งไปกว่านั้น การที่บุคคล ต่างประเทศ เพียงได้ชื่นชมพระบารมี

พระเจ้าอยู่หัวของเราเพียง 15 นาที เท่านั้น

พระองค์ ยังไม่ได้ทำสิ่งใด ที่เป็นการช่วยเหลือ สงเคราะห์เหมือนกับที่

พระองค์ได้ทำให้กับพสกนิกรชาวไทยเลย

ยังทำให้ท่านทูต เอ่ย คำว่ารักพระเจ้าอยู่หัวของเรา ถึงเพียงนี้

อ.อุบล ไม่ได้นำมาเล่า เพราะ คิดว่าเพียงคำพูดแค่นี้

นักการทูตพูดได้โดยไม่ยาก แต่ สำหรับ

ท่านทูตคนนี้ อ.อุบล พิสูจน์ท่าน

ทุกอย่าง ก่อนจะรับรอง

เอาไว้เล่าวันหลัง

นะคะ

เรื่องมันยาว

ค่ะ

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-27 22:17:47


<< ก่อนหน้า 1 [2] 3 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 101 (1527862)

คุณชนิดาจ๋า

อย่าลืมแปล ไทย เป็น ไทย

นะจ๊ะ

ไทย ที่เขียนมาจาก อังกฤษ น่ะค่ะ

อย่าทำอู้งานนะจ๊ะ

เขารู้นะว่า

เนียน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-01-19 07:58:45


ความคิดเห็นที่ 102 (1527865)

 

               ลุ้นมากเลยค่ะ  ว่าอาจารย์  จะกลับบ้านได้อย่างไร

แต่สงสัยนิดเดียวค่ะ  ว่า  เด็กหนุ่มยูกานดา  กลับมาทันได้เห็นว่ามีรถมารับอาจารย์ 

                        หรือเปล่าค่ะ

(สงสารเขา  เกรงว่าเขาจะเดินตามหาอาจารย์  แล้วไม่พบ)

            อ่านแล้ว  ทำให้เราต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่  ตอกย้ำเข้าไปในจิตใจว่า

การที่จะมองคน     ให้มองอะไรบ้าง  ที่มากไปกว่า  หน้าตา ผิวพรรณ

ความเชื่อที่ฝังหัวเรามา  แล้วเราจะได้เห็น

สิ่งที่ดี ๆ  อีกมากมาย  มากกว่าที่เราเคยเห็น

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล ฉวีวรรณ นภาพรรณราย วันที่ตอบ 2011-01-19 08:52:06


ความคิดเห็นที่ 103 (1527868)

 ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งเห็นว่าความรู้ในกระทู้นี้สุดแสนจะประเสริฐยิ่งนัก...

มองภาพโดยรวมของคนทั้งโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ด้วยความคิดที่แล่นเข้ามาในสมอง(อันกลวงๆ)ของผม หลวงพ่อฯและท่านอาจารย์อุบลได้กรุณาเล่าเรื่องให้ "การคิดดีทำดี" เพื่อคนทั้งโลก ค่อยๆ ซึมเข้าไปในรอยหยักของสมอง

ถึงแม้ภายนอกใครเขาจะมียศฐา บรรดาศักดิ์ มั่งมี หรือจน หรือแม้กระทั่งสีผิวที่ไม่รู้ว่าใครปลูกฝังให้เรา(ผม)รู้สึกไม่ดีต่อคนที่มีสีผิวเข้มอย่างคนอาฟริกัน...แต่ภายนอกของเขาที่เราเห็นนั้น แท้จริงพื้นฐานความเป็นคนก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากเราเลย กลับกันซะด้วยซ้ำ เขามีจิตใจที่ดีกว่าเรามากมาย โดยที่เรากลับไปใช้ความคิดของเราเองในทางลบ ไปตัดสินจากภายนอกว่าเขาควรจะเป็นอะไรๆ อย่างที่เราคิดเองมั้ง

จิตดวงใสๆ ของร่างกายที่หยาบๆ ก็ยังคงมีอยู่คู่กับกายของมนุษย์ที่ "คิดดีทำดี" อยู่เสมอ...ในเมื่อเราสามารถลดทิฐิในตัวของเราเอง แล้วหันมามองและเมตตาคนทั้งโลกจากภายในจิตของตัวเอง ซึ่งไม่ได้ตัดสินจากตาเนื้อที่เห็นแล้วไปปรุงแต่ง...เท่านี้เราก็สามารถเป็นมิตรและมีไมตรีจิตที่ดีกับคนได้ทั้งโลก ไม่ใช่แค่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือคนรอบข้างแค่ในประเทศไทย

กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับธรรมะดีๆ ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้สื่อผ่านท่านอาจารย์อุบลครับผม  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2011-01-19 09:03:54


ความคิดเห็นที่ 104 (1527870)

อันที่จริง

คุณสิทธิ์

ก็ทำหน้าที่ ทรานเลเตอร์

ในบ้านสวนพีระมิด ให้ อ.อุบล มาแล้ว

และใครทีมีความรู้ภาษาอังกฤษ

คือเรียกว่าแปลได้น่ะนะ

ก็ช่วยกันแปลหน่อย

นะค้า อ.อุบล น่ะ

บอกแล้ว

ไม่แข็งแรง

มั่วไปทั่วโลก

ช่วยกันแปลเอาบุญหน่อยเร้วววว

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-01-19 09:17:36


ความคิดเห็นที่ 105 (1527881)

 

  ธรรมะ คือ ธรรมชาติ 

ตามที่อาจารย์เคยได้บอกไว้..งัยคะ

ไม่ว่าจะมีรู้ร่าง  หน้าตา  ผิวพรรณ

อย่างไร หรือ

ศาสนาใดก็ตาม

จิตวิญญาณที่มี

คุณธรรม  ความดี ความเมตตา

ติดตามมา

ก็เรียกว่า  " คนมีธรรม "  โดยธรรมชาติ

เพราะฉะนั้น

เมื่อ

ธรรมชาติ + คนมีธรรม = ทางสว่าง

อาจารย์ก็เลยกลับที่พักได้

อย่างปลอยภัย..ชิมิ

/*/*/*/*/*/*/*/

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น LAI - LA วันที่ตอบ 2011-01-19 09:59:30


ความคิดเห็นที่ 106 (1527892)

 

กราบขอบพระคุณ

องค์พระพุทธเจ้า

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวสสุวรรณ

ท่านอาจารย์แม่ อุบล

ที่ได้กรุณาเล่าเรื่องการผจญภัย ในต่างแดน

ทั้งสนุกและ ลุ้นเป็นห่วงว่าอาจารย์จะกลับได้อย่างไรหนอ

แต่จิตนี้ รู้อยู่อย่างแน่นอน ว่าคนดี อย่างท่านแม่ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้แน่นอน

เรื่องสีผิว ส่วนตัวไม่เคยนึกเป็นปัญหาอันใดเลย. เพราะคิดว่าคนเราเหมือนกัน..เสมอ

อาจารย์เล่า.. ทำให้เห็นภาพเหมือนหนังฉายให้ดูเลยค่ะ

เห็นภาพเด็กน้อย คริสต์ ยิ้มอย่าง เป็นมิตร

ภาพรถยนต์คันหรู..ที่แล่นมาจอดรับ.. คุณแม่ กลับที่พัก

ขอบคุณค่ะ ที่กรุณามาเล่าให้ฟัง

ขออนุโมทนาสำหรับธรรมทานด้วยค่ะ ท่านอาจารย์แม่ อุบล และทุกๆท่าน

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น kuru (tata_su22-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-19 11:08:13


ความคิดเห็นที่ 107 (1527968)

   คุณแม่อ.อุบลเป็นคนดีมีน้ำใจไปไหนมาไหนก็เจอแต่สิ่งที่ดีๆ  คุณแม่อ.อุบลเคยบอก   "คิดดีทำดีก็ต้องได้ดี"เขียนต่อรออ่าน...(คิดถึงจัง)

ผู้แสดงความคิดเห็น วีลูกบ้านสวน วันที่ตอบ 2011-01-19 16:38:46


ความคิดเห็นที่ 108 (1528025)

                       หนูเชื่อที่อาจารณ์สอนไว้คนดีอยู่ที่ไหนก็จะเจอคนที่ดีๆเช่นกันค่ะบางครั้งเราอาจจะอยู่กับคนไม่ดีแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คุ้มครองคนดีเสมอค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ดอกไม้ โสวะภาสน์ วันที่ตอบ 2011-01-19 20:50:12


ความคิดเห็นที่ 109 (1528057)

เห็นด้วยกับความเห็นที่ 106 อ่านที่อาจารย์อุบลเล่าแล้วเห็นทั้งภาพ เห็นทั้งธรรมะ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกไชย ทรงประไพ (ekachai_sh-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-19 22:46:41


ความคิดเห็นที่ 110 (1528080)

คุณชนิดาจ๋า

อย่าลืมแปล ไทย เป็น ไทย

นะจ๊ะ

ไทย ที่เขียนมาจาก อังกฤษ น่ะค่ะ

อย่าทำอู้งานนะจ๊ะ

เขารู้นะว่า

เนียน

แหะ แหะ... ทำเนียนจริงๆค่ะอาจารย์ ไม่อยากจะถามเลยว่า..อาจารย์รู้ได้ไงเนี่ย...

แต่ถามไปก็เท่า่นั้น..ก็รู้ๆคำตอบอยู่แก่ใจว่า มีเจ้าหน้าที่เว็บไซต์กิตติมศักดิ์ประจำอยู่

ทั่วไทยและทั่วทุกมุมโลก... คุณมาร์คเนี่ยรวยเนอะ มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ทุกที่เลยอ่ะ... ฮิฺฮิ 

ฉะนั้น อาจารย์อุบลก็คงจะได้รับรายงานความคืบหน้าทุกๆวันและทุกๆเวลา..ที่ต้องการ

จากท่านๆเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย...นี่เอง

ขอแก้ตัวเล็กน้อย ตอนแรกกะว่าจะแปลแล้ว... แต่ก็ไม่ค่อยชัวร์เหมือนกัน

เพราะบริบทประโยคข้างๆไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมมากนัก แล้วก็คิดว่า

ถึงไม่รู้ความหมาย คำว่า "คัสตั้ม" ก็ไม่ได้ทำให้ประเด็นหลักที่ต้องการจะสื่อ นั้นเบี่ยงเบนไป

แต่ถ้าอาจารย์กระทุ้งมาแบบนี้ น่ามีหลายจุดประสงค์ ชัวร์...

ที่แน่ๆ ก็คือ อาจารย์ต้องการจะบอกว่า ไม่ว่าชนิดาจะคิดหรือทำอะไร อาจารย์รู้หม๊ด.....

และก็คงจะไม่ใช่เฉพาะชนิดาหร๊อก...แต่ทุ๊กทุกคนในเว็บบ้านสวนฯ และที่บ้านสวนฯเอง ฮิฮิ.....

 

มาแปลไทยเป็นไทยกันดีกว่า นะค๊า

"คัสตั้ม" น่าจะมาจาก CUSTOM OR CUSTOMS ซึ่งเป็นศัพท์ที่มีความหมายกว้างมาก

แต่ขอแปลคร่าวๆก็แล้วกันนะคะ

CUSTOM แปลว่า กิจวัตร ขนบธรรมเนี่ยม ความเคยชิน การอุดหนุน ซึ่งถ้าเติม er  ก็แปลว่า ลูกค้า...

แต่จากเรื่องของอาจารย์น่าจะเป็นศัพท์มาจาก คำนี้ ซึ่งจะต้องมี s ต่อท้ายเสมอ

CUSTOMS แปลว่า ภาษีศุลกากร หรือ ศุลกากร

(ไม่่ว่าจะเ่อ่ยถึง คนเดียว หรือ หลายคน ก็จะต้องมี  s พ่วงท้ายตาหล๊อด..)

ฉะนั้น บุคคลที่อาจารย์พูดถึง ก็น่าจะเป็นเจ้าที่หน้าที่ศุลกากรประจำสนามบิน

แต่ก็น่าจะเป็นคนคุ้นเคยกัน เพราะเห็นเพื่อนอาจารย์ไว้ใจ และให้เงินเค้าไปทั้งซองเลย

แล้วเค้าก็อาสาพาไปซื้อของใช้ส่วนตัวอีก....

 

หวังว่าคงจะแปลถูกนะคะ ชนิดาก็ใช่ว่าจะรู้ไปซะทุกเรื่อง... ก็ถูๆไถๆไปเรื่อย..

แต่ที่แน่ๆ รู้แล้วว่า มีคุณสิทธิ์ เป็นแนวร่วมอีกคนนึง ฉะนั้น ทีหลังก็อย่า(ซอ)อู้...นะค๊า..

ช่วยกันทำงานโหน่ย... เผื่ออ.อุบล จะพิจารณาขึ้นเิงินเดือนให้(เป็นลูกมะปราง)... ฮิฮิ

ว่าแล้วก็ไปอ่านเรื่อง ตำนานรักใต้ต้นมะปราง ภาค ย้อนอดีต ต่อดีกว่า.....

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-01-20 05:18:47


ความคิดเห็นที่ 111 (1528095)

 อันที่จริง

คุณสิทธิ์

ก็ทำหน้าที่ ทรานเลเตอร์

แปลต่อเนื่อง Translator หรือ Interpreter หมายถึง ล่าม,ผู้แปล...ซึ่งอาจารย์ให้เกียรติผมไปช่วยทำหน้าที่แบบงูๆ ปลาๆ ที่บ้านสวนฯแบบ Live(ไลฟ์ = ถ่ายทอดสด) แต่ก็ยังโชคดีที่อาจารย์กรุณาส่งมาเป็นคำๆ และประโยคสั้นๆ ถ้ามาเป็นชุดล่ะก็...มีหวังโทรปลุกคุณพี่ชนิดาให้่ช่วยแปลแน่ๆ...

ถ้าใครได้ฟังที่อาจารย์เล่าสดๆ คืนนั้น คงจำกันได้กับอีกประโยคที่เล่นเอาคนฟังตะลึงไปเลยก็คือ "I want to take all(ไอ วอนท์ ทู เทค ออล)" นั่นคือตอนที่อาจารย์สนทนากับผู้ซื้อด้วยความจริงใจ ซื่อสัตย์ และตรงๆ จนผู้ซื้อบอกว่า "ฉันต้องการทั้งหมด" พูดง่ายๆ คือขอเหมาหมดนั่นเอง จนบูธอื่นคงจะมีเคืองกันบ้างเพราะเห็นว่าทำไมบูธจากประเทศไทยจ้าวนี้ถึงได้ขายดี เทน้ำเทท่า ถึงขั้นเทกระจาดหมดเกลี้ยงเชียว...เรื่องนี้ก็คงไม่พ้นในความตรงไปตรงมาของอาจารย์อุบล และความมีจิตใจที่งดงาม ที่ใครๆ ทุกชนชาติ ทุกศาสนา ก็สัมผัสได้เท่าเทียมกัน

ทีนี้คุณพี่ชนิดาคงจะทราบแล้วนะครับ ว่าเราแบ่งหน้าที่กันทำ...ของผมแบบสดๆ และไม่ได้(ซอ)อู้นะครับ แค่รอพักหญ่าย หญ่าย เอง...แต่ยังไงก็ขอเป็นคนฟังเสียงซอ โดยมีท่านอาจารย์อุบลเป็นคนสีีซอ ให้ผมฟังอยู่ใต้ต้นมะปราง แต่ไม่ต้องล่ามเชือกก็ได้นะครับอาจารย์ ผมไม่หนีไปไหน...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2011-01-20 09:12:21


ความคิดเห็นที่ 112 (1528218)

 

กราบ คุณแม่อุบล

                    อ่านเรื่องที่คุณแม่เล่า ก็คอยลุ้นตลอดครับ

                         แต่ก็มีความมั่นใจว่า คุณแม่คงผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ครับ

                                และ ที่ต้องรอลุ้นอีกรอบ ก็คือ ลุ้นให้คุณแม่มาเล่าอีกครับ

                                          หนึ่งเสียง(เพื่อเพิ่มเรตติ้ง ครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น กร วันที่ตอบ 2011-01-20 21:05:31


ความคิดเห็นที่ 113 (1528229)

วันนี้พาคุณมาร์คไปขอพรปีใหม่

ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

พึ่งกลับสักครู่ใหญ่ๆ

ก็เลยชวนคุณมาร์ค ทานอาหารเย็นด้วยกัน

เพื่อจะได้คุยงานไปด้วย

(เมื่อคืน ก็มานอนค้าง เพื่อจะเดินทางไปพร้อมกัน ได้มีเวลาพักผ่อน

แต่ปรากฎว่า เอาเข้าจริงๆ คุณมาร์ค แทบไม่ได้นอน ทำแต่งาน

เวปไซด์นี่แหละ ขนาด อ.อุบล ว่าอึดแล้ว คุณมาร์คยิ่งกว่าเพราะ

อ.อุบล นอนแล้ว ยังได้ยินคุณมาร์คออกมาทำงาน กับ อ.มงคล ต่อกันอีก)

วันนี้คุณมาร์ค เกิดไอเดีย หลังจากคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่

ดร.อาจอง พูดวันนี้

ว่าในที่สุดคนที่ไม่ยอมเปลี่ยน

ไม่ยอมหันมาทำความดี สร้างบุญกุศล ก็จะไม่มีทางรอด

มันต้องเกิดแน่ๆ (รอดูเทปจากคุณมาร์คนะจ๊ะ)

ซึ้งเป็นเรื่องที่เสด็จพ่อสื่อผ่านมาทาง อ.อุบล ในเวปนี้แล้ว เช่นกัน

คุณมาร์คมีความห่วงใยคนทั้งโลก

ที่แม้ไม่ใช่คนไทย ก็อยากให้เขาได้รับรู้เรื่องราวที่ อ.อุบล

ทำในบ้านสวนพีระมิด

ว่า

น่าจะมีคนแปล บทความ

ที่ อ.อุบล เขียนในเวปนี้ เป็นภาษาอังกฤษ

อ.อุบล เห็นด้วยอย่างยิ่ง

(อ.อุบล มีเพื่อนหลายชาติ แต่เขาดูเวปเรา ไม่รู้เรื่องเลย ขี้เกียจแปล มันเยอะ มันยาว)

 

เลยบอกคุณมาร์คว่า

ฝากคุณมาร์คไปหา อาสาสมัคร แปลกันนะ

ใครอยากได้บุญธรรมทาน เชิญติดต่อ

คุณมาร์คนะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-01-20 21:29:11


ความคิดเห็นที่ 114 (1528240)

 ขออาสาเป็นอีกหนึ่งแรงเล็กๆ (แต่ตัวใหญ่) ที่อยากจะช่วยเหลือคนทั้งโลกตามกำลังที่มีเช่นกันครับ...มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้แม้ไม่มากมาย ก็ยินดีช่วยเป็นอย่างยิ่งครับอาจารย์ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2011-01-20 22:33:02


ความคิดเห็นที่ 115 (1528285)

เคยแอบคิดเหมือนกันนะว่า ช่วงนี้อาจารย์มอบหมายให้แปล อังกฤษ เป็น ไทย

คงต้องมีสักวันที่อาจารย์ จะต้องให้แปล ไทย เป็น อังกฤษ ซึ่งกลัวมั่กๆ เพราะไม่เก่งขนาดน้าน.....

แต่อย่างไรก็ตาม....รายงานคุณมาร์คไว้ก่อนเลยว่า ไหนๆชนิดาก็ถนัดเสนอหน้ามาตั้งแต่แรกแล้ว

ก็ขออาสาเป็นอีกหนึ่งแรง ที่จะช่วยตามกำลังสมองและปัญญาอันน้อยนิดที่มีอยู่ อีกคนค่ะ....

แปลกดีเนอะ เมื่อปีก่อนนะชนิดาว๊างว่าง วันๆนั่งดูแต่ ยูทูบ โทรไปหาอาจารย์

อาจารย์อุบลยังเคยแซวเลยว่า ท่าทางคุณชนิดาเนี่ยว่างมากเลยเนอะ

ยังเคยแอบฟ้องคุณมาร์คทางอีเมลเลย เพราะ"งง"ว่าอาจารย์"ชม" ป่ะเนี่ย...

แต่ขอบอกเลยว่า ที่อาจารย์แซวมาน่ะ เรื่องจริง เพราะเวลาว่างเยอะจริงๆ

มาแรกๆไปเรียนภาษาโปแลนด์ที่มหาวิทยาลัย แค่วันจันทร์ถึงพฤหัสฯ

ฉะนั้น ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ว่างยาวเลย... ไปช่วยงานแฟนแค่นิดๆหน่อยๆเอง

หึ หึ ตอนนี้จบคอร์สไปนานแล้ว ลืมแล้วด้วยว่าเรียนอะไรไปมั่ง ...แป่วววววว...

 

ยิ่งพอมาปีนี้ทำงานมากขึ้น เยอะวันขึ้น แต่ก็มีความรู้สึกว่าอยากช่วยงานเว็บไซต์มากขึ้นเช่นกัน

แหะ แหะ เบื้องบนท่านคงส่งบททดสอบมาให้พิจารณาอีกแล้ว เพราะคนที่จะปฏิบัติธรรมให้ได้ดี

ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ทั้งทางโลกและทางธรรม ฉะนั้นก็ต้องจัดการเวลาตัวเองให้ดีๆ

โดยมีอ.อุบลเป็นตัวอย่าง หนึ่งอาจารย์อุบลทำได้ สาระพัดอย่าง....  ฉะนั้น พวกเราก็ต้องทำให้ได้....

สรุปว่า ร่วมด้วย ช่วยกัน ด้วยความเต็มใจค่ะ.......บอส(คุณมาร์ค)........

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-01-21 04:57:35


ความคิดเห็นที่ 116 (1528291)

 

สรุปว่า ร่วมด้วย ช่วยกัน ด้วยความเต็มใจค่ะ.......บอส(คุณมาร์ค)........

อยากช่วยเหมือนกัน...ค่ะ....บอสขา

แต่ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหมค่ะ....

ด้านภาษาเนี้ย.....ยัง...ดักแด้  อยู่เลยค่ะ

ได้ซิคร๊าบ.............ช่วยไปไกล ไกล ผมหน่อย+555

ผู้แสดงความคิดเห็น LAI - LA วันที่ตอบ 2011-01-21 07:50:40


ความคิดเห็นที่ 117 (1528294)

 

    ขอเป็นอาสาสมัคร  รวมแรงร่วมใจด้วยคนค่ะ

ด้านภาษา  ไม่แข็งแรง  แต่พอมีตัวช่วย (ขอยึดตัวช่วยเป็นหลัก)

สุดแล้วแต่ บอส  จะพิจารณา

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล ฉวีวรรณ นภาพรรณราย วันที่ตอบ 2011-01-21 08:46:18


ความคิดเห็นที่ 118 (1528329)

อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นครับ

ขอขอบคุณท่านอ.อุบล เป็นอย่างสูง

ผู้แสดงความคิดเห็น ยงยุทธ (yut011-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-21 13:29:01


ความคิดเห็นที่ 119 (1528336)

 

 

ขออนุโมทนากับบูญใหญ่ยักษ์

ในครั้งนี้ด้วยนะคะได้ช่วยคนทั้งโลก วิเศษมากๆ

สาธุ สาธุ สาธุ 

มีอะไรที่ช่วยได้ ยินดีด้วยความเต็มใจเลยค่ะ

เสริฟ ข้าว เสริฟ น้ำ ล้างชาม ยันล้างรถ สำหรับคุณสิทธิ์กับคุณมาร์กนี่น่ะ 

 แต่กับคุณชนิดา  จะไปเสริฟน้ำหรือข้าว ให้อย่างไรหนอ ไกลซะ

 แต่ความรู้สึกเล็กๆคิดเอง นะคะ

  ว่า..หลวงพ่อจะพาไปหา สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ สุวัฒนาพร (tata_su22-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-21 14:01:16


ความคิดเห็นที่ 120 (1528391)

ขออนุโมทนากับคุณสิทธิ์และคุณชนิดาที่จะมาช่วยแปลภาษา

ให้คนในโลกได้รับรู้กันกว้างขวางมากขึ้นคะ

 

ส่วนหนูไม่ค่อยแข็งแรง รอช่วยอย่างอื่นแล้วกันเนอะ ^_^

 

พี่ชนิดา คุณสิทธิ์คะ หนูว่าถ้ารายการคุยไปแจกไป

มีแปลเป็นอังกฤษขึ้นด้วยคงดีมาก ๆ เลยเนอะ ว่ามั้ยคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2011-01-21 19:34:57


ความคิดเห็นที่ 121 (1528433)

อยากช่วยจัง แต่ไม่เก่ง ภาษาเช่นคนอื่นเขาด้วยซิ

ตอนนี้ที่ทำได้ก็ขอเอาใจช่วยก่อนนะค่ะ

ถ้ามีอะไรให้ช่วย ที่พอช่วยได้ยินดีจะช่วยค่ะ

ตอนนี้ช่วยไรท์แผ่นรายการคุยไปแจกไป แจกคนรอบข้างไปก่อนนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตฤณ นาคทุ่งเตา วันที่ตอบ 2011-01-22 08:58:03


ความคิดเห็นที่ 122 (1528556)

                                                              มิสเตอร์เจมส์เป็นกงสุลไทย

                        ก็ต้องเอาของที่สําคัญที่สุดดีที่สุดของประเทศไทยให้ซิ

                             แล้วทําไมยูคิดว่าสาหร่ายนี้จะเป็นของดีที่สุด

                                              ท่านบอกว่า

                        ถ้าของพระเจ้าอยู่หัวไทยไม่ดีแล้วอะไรจะดีที่สุด

อ่านถึงตรงนี้ แล้วขอสรรเสริญภรรยาท่านทูตจิตใจท่านช่างดีงามเหลือเกิน

                       ข้าพเจ้า  กมลลักษณ์   โปษณกุล

ต่อไปนี้ขอสัญญาว่า จะขอเป็นคนดี ทําดี ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดไป

                       จะรักและเทิดทูนไว้เหนือเกล้า  เหนือกระหม่อม

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ็อด วันที่ตอบ 2011-01-23 20:32:50


ความคิดเห็นที่ 123 (1530189)

วันนี้

อังคาร 1 ก.พ.54

มีบัญชา

จาก

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เร่งให้ทำงานตัดต่อ

ตอนสำคัญ

ที่ต้องรีบออกอากาศให้ทัน

วันอาทิตย์ 6 ก.พ.54

เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมงานสำคัญต่อ

ท่านย้ำว่า ปีนี้เหนื่อยหนักนะลูก

เจ้าค่ะ ลูกยอมเจ้าค่ะ

แต่ลูกจะไม่เดียวดาย

ท่านพ่อของลูก

(เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ)

ท่านเป็นผู้บัญชาการรบ

คน รบ กับ คน

ต้องวัดดวงว่าใครจะแพ้ ใครจะชนะ

แต่ คน รบ กับ ผี สาง เทวดา

ลองทายซิว่าใคร...แพ้

แล้วคนรบกับยักษ์

ล่ะ

จะเป็นยังไง

 

แต่ก่อนอื่นหลวงพ่อ

บอก

ให้เล่าเรื่องที่ติดค้างอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

28 ก.ย.48 วันเดินทางไป ยูกันดา

ที่เคยเกริ่นไว้บ้างแล้ว

วันนั้นเป็นวัน

เปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิวันแรก

ไปเช็คอินก่อนเที่ยง เพื่อ

เดินทางบ่ายนิดๆ

พอขึ้นเครื่อง นั่งตั้งนาน

ผู้โดยสาร ชักเริ่มกระสับกระส่าย

เพราะนานเต็มทน เครื่องไม่ออกซักกะที

จนแอร์โฮสเตส ประกาศให้ลงไป

พักข้างล่างบอกเครื่อง

ขัดข้อง ตั้งแต่ฮ่องกง  ต้องซ่อม

เรียกว่าประกาศขึ้น-ลงเครื่อง 2 ครั้ง

ก็ยังเดินทางไม่ได้ ข่าวไม่ชัดเจนว่าเพราะอะไรแน่

จนในที่สุดเขาบอกตามช่าง รออะไหล่

จนซ่อมเสร็จ ก็มืด

ให้ขึ้นเครื่องอีกครั้ง แต่ก็

ประกาศให้ลงอีก เพราะกัปตันบอก

ใกล้หมดเวลาทำงานเขาแล้ว

ไม่ยอมบิน

ต้องรอกัปตันคนใหม่ต่อไปอีก

 

ในที่สุด

รออีกนาน กัปตันก็ไม่มา

เขาอ้างว่า ยังไม่ถึงเวลาทำงานของเขา

 

บ่ายวันใหม่เขาจึงจะมา

จึงเกิดจราจลเล็กๆ เพราะผู้โดยสารแน่นลำ

จากหลายชาติ

เขาต้องผิดนัด กิจการเสียหาย

มีการเรียกนักข่าว ฟ้องร้อง แจ้งความ

วุ่นวายไปหมด เราก็นั่งดูความ

วุ่นวายอย่างเงียบๆ

สงสารเจ้าหน้าที่ หนุ่ม+สาว 2-3 คน

วิ่งวุ่นช่วยกันแก้ปัญหารับมือกับความกดดัน

ของคนหลายร้อยคน ที่เอะอะโวยวาย

ในใจก็นึกไปเล่นๆ ว่าถ้าเด็ก

หนุ่มสาวนี้คือลูกเรา

ก็น่าเห็นใจยิ่ง

และ

ผู้โดยสารนี้

ก็น่าเห็นใจยิ่ง รวมทั้งตัวเรา

ซึ่งเป็นผู้โดยสารไทยเพียง 2 คนเท่านั้น

ต่อมาเขามาประกาศเพื่อลดความ

กดดัน และ ความตึงเครียด

ว่า เดี๋ยวจะให้ไปนอน

พักที่โรงแรม

ใกล้ๆนี้

ให้เตรียมพร้อมไว้

แล้วต่อมา ก็มาแจ้งใหม่ว่า

ทุกคนต้องนอนอยู่ในห้องนี้ ไม่มีโรงแรม

ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกรอบหนึ่ง

ขณะนั้น อ.อุบล คงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้บ่น โวย

เพราะอะไร

(ไม่ใช่เพราะดีกว่าใคร หรือไม่เสียหายเหมือนคนอื่น)

อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านรู้สึกอย่างไร

-ต่อนักบิน

-ต่อผู้โดยสาร

-ต่อเจ้าหน้าที่

-ต่อ อ.อุบล

 

ขอตัวไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้จะเล่าต่อจ้า

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-02-02 01:29:30


ความคิดเห็นที่ 124 (1530193)

ขออนุโมทนากับธรรมะสุดวิเศษรอบดึกนะคะอาจารย์

โอ้โห...คำถามยากนะคะเนี่ย ถามทีเดียวต้องเอาใจไปคิดเทียบกับคนตั้ง4คนแน่ะ...

1.ขอแแปลงร่างเป็นอ.อุบล ก่อนนะคะ ที่อาจารย์ไม่โวยวาย นั้นก็คงจะเป็นเพราะ

เท่าที่เห็นมันก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว ถึงจะไปโวยเพิ่มก็ไม่ทำให้เครื่องบินเดินทางไปได้

เพราะเครื่องบินจะออกบินได้ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก คือ เครื่องบิน และ นักบิน ...

เพราะอาจารย์คงคำนวณดูแล้วว่า อาจารย์ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปบอก

หรือสั่งให้นักบิน.มาประจำหน้าที่ได้ ฉะนั้น เมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็ต้อง"อุุเบกขา"

แทนที่จะเอาจิตไปติดแหง็กอยู่กับปัญหา ก็อาจจะเอาเวลาที่จะเสียเปล่านั้น...

ไปนั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือรอแบบเพลินๆ หรือวางแผนว่า.......

ถ้าเราไปช้าหนึ่งวัน เราจะทำยังไง หรือเราควรจะติดต่อหรือบอกใครไว้ก่อนดี ... ฯลฯ...

 

2. ผู้โดยสาร ที่รวมหัวกันโวยวาย เพราะไม่ได้เผื่อใจว่า "ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน"

ฉะนั้นเมื่อเครื่องบินบินไม่ได้และ นักบินไม่ยอมทำงาน ผู้โดยสารทั้งหลายจึงคิดว่า

"มันไม่ใช่ความผิดของพวกฉัน แต่เป็นความผิดของพวกเธอชัดๆ

ฉะนั้น พวกเธอต้องรับผิดชอบความเสียหายของพวกชั้นอย่างถึงที่สุด"...

เพราะผู้โดยสารคิดว่าตัวเองมี"สิทธิ์" ก็ต้องใช้"สิทธิ์" ตัวเองอย่างเต็มที่

ซึ่งก็ถือว่า ไม่ผิด  แต่การใช้สิทธิ์นี้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

หรือลำบากใจหรือไม่... ก็ไม่สน ... เหมือนกัน..

 

3. เจ้าหน้าที่..ผู้น่าสงสารและน่าเห็นใจเป็นที่สุด เพราะ ไม่ได้มีส่วนทำให้

เครื่องบินล่าช้่าเลยแม้แต่น้อย... แต่ต้องมารับหน้าเสื่อ..เต็มๆ โดนด่าระงม

เพราะการเป็นคนกลางเนี่ยนะ ลำบากใจเป็นที่สุ๊ด... เพราะฝ่ายสายการบิน

ก็ต้องการรักษาผลประโยชน์ตัวเองอย่างที่สุด ส่วนผู้โดยสารก็มุ่งมั่นว่าจะเอาเรื่่องให้ถึงที่สุดเช่นกัน...

แต่สองฝ่ายนั้นไม่ได้มาคุยและตกลงกันเองเลย ...เรียกได้ว่า ทำงานสนอง"ความอยาก"ของคนเนี่ย..

มันยากยิ่ง..จริงๆ เพราะยิ่งสนองยิ่งไม่รู้จัก"พอ"

และที่สำคัญ จะมีใครซักคนที่เข้าใจ เห็นใจ และใส่ใจในความรู้สึกของเจ้าหน้าที่บ้าง...

 

4. นักบิน ผู้ที่ทำงานตามหน้าที่เท่านั้น แต่ไม่ได้ทำงานด้วย"จิตและวิญญาณ"

ของการเป็นนักบินอย่างแท้จริง ฉะนั้น จึงคิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น

โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อส่วนรวม และด้วยคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญที่สุด

เพราะถ้า ไม่มี"นักบิน" เครื่องบินก็บินไม่ได้ ฉะนั้น ในดวงจิตจึงเต็มไปด้วยอัตตา

โดยไม่มีพื้นที่ว่างให้"พรหมวิหารสี่"มาแซกแซงได้เลย...

 

จะว่าไปปัญหาจะแก้ได้ง่ายขึ้นถ้าทุกคนทุกฝ่ายลดทิฏฐิของตนลง

ยอมที่จะพูดและปรับความเข้าใจกัน ด้วยความรักและเข้าใจซึ่งกันและกัน

ปัญหาก็อาจจะคลี่คลายได้ง่ายขึ้น เช่น ฝ่ายสายการบินก็อาจจะยอมเสียผลประโยชน์นิดหน่อย

เสนอเงินค่าเสียเวลาให้กับนักบินผู้ที่ต้องมาทำงานก่อนเวลา หรือ คนที่ต้องทำงานเกินเวลาไป

วนผู้โดยสารก็ต้องทำใจยอมรับว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น มันเป็นเหตุสุดวิสัย ...จริงๆ .....

 

และถึงแม้ชนิดาจะลองคิดในมุมของอ.อุบลดูแล้ว..

แต่ก็ยัง"อยาก" จะฟังเหตุผลที่แท้จริง ที่อาจารย์ไม่โวยวายนั้น

จริงๆแล้วเป็นเพราะอะไร และ ณ เวลานั้นอาจารย์คิดอะไรอยู่ ?????

 

ฉะนั้น ตั้งตารออาจารย์มาเล่าต่อนะค๊า..........

และรออ่านความคิดเห็นจากท่านอื่นๆด้วยนะค๊า.....

.

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-02-02 05:33:55


ความคิดเห็นที่ 125 (1530203)

ขอกราบ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ทรงล้ำเลิส เมตตาธรรมะสอนลูกหลานอีกแล้วเจ้าคะ

 

และก็เมตตาลูกหลานง่าย ๆ ด้วยทีมเวิร์ค

ให้ท่านอ.อุบลมาเล่าเรื่อง ให้คนโง่ ๆ อย่างลูก พิจารณาได้บ้างไม่ได้บ้าง

แต่ฟ้ายังส่งความเมตตาต่อเนื่อง ให้พี่ชนิดา มาแปล ความหมาย

ได้อย่าง ครอบคลุม ชัดเจนยิ่งขึ้น

สาธุ กราบขอบพระคุณจากใจ เจ้าคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-02 09:17:25


ความคิดเห็นที่ 126 (1530208)

เล่าเรื่องติดที่สนามบินต่อค่ะ

 

หลังจากเป็นที่แน่ชัดว่า

ต้องปรับเปลี่ยนแผน

เป็น

นอนในห้องผู้โดยสารขาออก

คิดสภาพนะ  สนามบินเปิดวันแรก

ไม่มีความพร้อมทั้งห้องน้ำ ฝุ่น ขยะ ระบบ

เจ้าหน้าที่

ฯลฯ

ถึงแม้จะพร้อม แต่ สภาพที่ต้องนอน

มันไม่ได้จัดเผื่อไว้เป็นห้องนอน สภาพห้องมันมีเพียง

เก้าอี้ และ พื้นที่พวกเราเดินกันเท่านั้น

 

เจ้าหน้าที่สายการบิน

เด็กหนุ่มสาว 3 คน

เอาอาหารกล่องมาแจก

ให้คนละ 1 กล่อง

แต่เป็นกล่องใหญ่พิเศษกว่าที่แจก

บนเครื่อง เพราะเป็นอาหารหนัก สั่งจากโรงแรม

เขาคงหารือกันแล้ว ว่าอาหารชุดนี้

จุกได้

ทานแล้วคงหายบ่นไปได้บ้าง

อาหารประกอบด้วย

อาหารหวาน คาว ผลไม้ น้ำ ชา กาแฟ ฯลฯ

พอได้รับแจกอาหาร เสียงบ่น

ก็เริ่มเงียบลง (เพราะอะไร)

สงสัยปากไม่ว่างเน๊าะ

 

มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง

นำอาหารกล่องมาให้ อ.อุบล

เพิ่มอีก 2 กล่อง

(บอกไม่พอจะเพิ่มให้อีกพี่ )

(สงสัยว่าหน้าตา อ.อุบล คงดูตะกละนะเนี่ย)

ทั้งๆ ที่บอกน้องเขาว่าไม่เป็นไร

กล่องเดียวยังไม่พร่องเลย

(เขาบอกทานไม่หมด พี่ก็เอาขึ้นเครื่องไปด้วย เพราะ ดีกว่าอาหารบนเครื่อง)

จึงแบ่งให้เพื่อนคนไทยที่ไปด้วย ให้เขาช่วยกวาดล้าง

และ

แบ่งให้คนอื่นที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

 

เพื่อนคนไทยแซว อ.อุบล ว่า

 

คุณน้อยไปหว่านเสน่ห์อะไรเนี่ย เขาถึงให้ขนาดนี้

 

แล้วก็ถึงเวลาแจกผ้าห่ม

เจ้าหน้าที่นำผ้าห่มมาแจกคนละ 1 ผืน

หมอน 1 ใบ ก็หมอนแบบบนเครื่องบินน่ะ คงนึกออก

แต่

ปรากฎว่า พอเจ้าหน้าที่เริ่มแจก ก็มีผู้หวังดี

ไปช่วยแบ่งเบาภาระ โดยหยิบเอง

จนผ้าห่มหมดเกลี้ยง

เขานำมาเท่าจำนวนคนพอดี

แต่มีคนยังไม่ได้ผ้าห่ม......เพียบ

กระจองอแงอีกครั้ง

เพราะ

อากาศในห้องนั้น หนาวมากที่สุด ในชีวิต อ.อุบล

บอกเจ้าหน้าที่ปรับอุณภูมิ เขาบอกปรับไม่ได้

ผ้าห่มก็ไม่มี เราไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ากันหนาว

และกระเป๋าก็ถูกนำขึ้นเครื่องไปหมดแล้ว

ชุดที่ใส่ก็ไม่พอรับความหนาวได้

คิดว่า วันนี้

สงสัยจะตายเพราะความหนาว

เป็นแน่แท้

เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง มาบอกว่า

บ้านพี่อยู่ไกลไหม พี่อยากกลับบ้านไหม

เราจะให้พี่ไปพักบ้าน พรุ่งนี้ค่อยมา เครื่องจะออก

เวลาเดิม ให้ตรงมาที่ห้องนี้ได้เลย

ดีใจที่สุด โทร.บอก อ.มงคล

ให้เตรียมมารับกลับบ้าน

 

อีกสักครู่หนึ่ง

เจ้าหน้าที่มาบอกว่า พี่คะ...คือ...ว่า

ถ้าพี่ไม่ได้กลับไปนอนบ้าน

พี่จะเสียใจไหม

ทำไมจ๊ะ

เพราะ

หนูได้ไปปรึกษาผู้ใหญ่ดูแล้ว

ว่า

ถ้าให้พี่ 2 คน กลับบ้าน

ผู้โดยสารคนอื่นก็จะโวยอีก ปัญหาใหญ่อีก

อ้าวทำไมล่ะ ก็บอกเขาไปซีว่า

พวกพี่ 2 คนเป็นคนไทย บ้านอยู่ใกล้ๆนี้เอง

น้อง........เงียบ........เศร้า........ซึม

 

น้องบอกปัญหาที่แท้จริงกับพี่ได้ไหมจ๊ะ

พี่ยินดีแบ่งเบาความทุกข์ของน้อง

ถึงจะไม่มาก แต่พี่ก็จะทำนะ

ในฐานะที่นำอาหาร

มาให้พี่ 3 กล่อง ทั้งที่พี่ก็ตัวแค่เนี๊ยะ

พวกหนูเห็นว่าพี่เป็นคนเดียว

(เพื่อนด้วยนะ)

ที่ไม่โวยวายเลย แต่กลับมีแววตา

ท่าที ที่สงสารพวกหนู

(อันที่จริง ไม่เคยพูดกับเขาเลยนะ ว่าสงสารเขาน่ะ)

ขอบคุณมากที่สุดในโลกค่ะพี่

แล้วจะบอกพี่ได้หรือยัง

ว่า

ปัญหาที่แท้จริง

ที่เปลี่ยนใจ

ไม่ให้พี่กลับบ้านเพราะอะไร

เพราะ

ในเที่ยวบินเที่ยวนี้ มีผู้โดยสารส่วนหนึ่ง

ซึ่งจำนวนมากพอควร

จนท.จาก อิมมิเกรชั่น นำตัวมาส่ง

เพื่อผลักออก ประเทศที่ 3

และ กลับประเทศ

ด้วยข้อหาอะไรจ๊ะ

โอเวอร์ สเตย์  ผิดกฏหมาย

มีข้อหาอื่นอีกไหม

น้องเงียบ....ไม่ตอบ....แต่หน้าเศร้า

ถ้าให้พี่ออกไป

พวกนี้ต้องโวย เพื่อหาเหตุผล

ที่จะออกไป

ถ้างั้นตอนที่บอกจะให้ไปนอนโรงแรม

แล้วเปลี่ยนแผน

ก็เพราะเหตุผลนี้ใช่ไหม

ค่ะพี่

 

อ.อุบล

จึงบอกกับน้องไปว่า

พี่จะนอนที่นี่ ด้วยความเต็มใจยิ่ง

แม้ว่าพี่ต้องทนทรมานกับความหนาว

ซึ่งพี่ไม่ชอบเลย

 มันทรมานจริงๆสำหรับพี่

 

แต่

พี่จะขอเป็นกำลังใจเล็กๆ

ให้น้องในฐานะคนไทยที่ปฎิบัติภารกิจ

เพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในครั้งนี้

ซึ่งเป็นการปิดทองหลังพระ

ซึ่งต้องทนคนประนาม เอาเรื่อง

กดดัน คนมองว่า

ร้าย  ผิด  แค่นี้ก็ไม่ยอมจ่าย

(ค่าโรงแรมที่พักข้างนอก)

 

แม้จะได้รับแรงกดดัน

จากผู้โดยสารนานาชาติ และ ผู้คนที่ไม่เข้าใจทั้งโลก

หรือ นับร้อย แต่น้อง ก็ยังอดทน ทำหน้าที่

อย่างดีที่สุด ไม่หนี ไม่ท้อ

เป็นบางคนคงจะ

ลาออกวันนี้

หรือ

หนีกลับบ้านไปแล้ว เพราะไม่มีผู้ใหญ่มาช่วยเลย

 

ผู้ใหญ่หารือกันตลอดค่ะพี่

แล้วน้องทุกคนก็รู้ดี

แต่อธิบายไม่ได้ใช่ไหมจ๊ะ

นั่นแหละค่ะพี่

คือสิ่งที่พวกหนูรู้สึกแย่ที่สุด

หนูเห็นพี่ไม่มีปัญหา

พวกหนูมองหน้าพี่ แล้วมีกำลังใจขึ้นมา ไม่รู้เป็นไง

ก็เลยพร้อมใจกัน เอาอาหารมาให้ 3 กล่อง

ที่จริงพี่ไม่ได้ทำเพื่อต้องการสิ่งนี้

แต่พวกหนูอยากให้พี่เอง

หนูรู้สึกดีกับพี่มาก

 

แต่คราวนี้

ปัญหาของพี่ มันมีอยู่ว่า

พี่ขี้หนาวมาก พี่จะแข็งแล้วละเนี่ย

ค่ะพี่ เดี๋ยวหนูจะหาผ้าห่มให้พี่ ให้ได้ค่ะ

พี่ซื้อก็ได้นะ เอาหนาๆ แล้วมาเบิกเงินนะ

อย่าเครียดนะจ๊ะ

 

พักใหญ่น้องกลับมา

ด้วยผ้าห่ม 5 ผืน

สำหรับ อ.อุบล

และ

สำหรับเพื่อน อีก 3 ผืน หมอนคนละใบ

และ

บอก เป็นบริการจากสายการบิน

ให้พี่ ไม่ต้องจ่ายค่ะพี่

 

ใช้ผ้าห่มผืนหนึ่งปูพื้น ซึ่งเย็นมาก อีก 3 ผืนห่ม

อีก 1 ผืนคลุมศีรษะ เพราะเย็นมาก

นอนอ่านหนังสือ

หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอบปัญหาธรรม

เพราะ

ไปไหนก็เอาไปด้วย ติดเหมือนเด็กติดการ์ตูน

เหมือนยาเสพติด ถ้าจะเลิกต้องไป

เลิกที่ถ้ำกระบอกเท่านั้น

แต่กลับออกมา

ก็อาจ

ติดใหม่อีก ก็เลยยังไม่ไปถ้ำกระบอกเลย

 

ก็อ่านพบข้อความ

ที่หลวงพ่อบอก การจะไปนิพพานได้

จิตต้องทรงความดี กายต้องทรงความดี

และ

การทำความดี

ไม่ใช่ทำเฉพาะตอนไปวัด

หรือ

ตอนนั่งห้องพระ

(ประมาณนี้)

และ

ในการทำความดีนั้น

ต้องทำ...ทุกลมหายใจ 

ทุกขณะจิต ทุกวินาที ทุกที่ ทุกเวลา

ไม่ทำเฉพาะเพื่อตนเอง

แต่ให้ทำ เพื่อ ผู้อื่นรอบข้าง

ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

และเมื่อทำแล้ว ให้ตั้งใจว่า

การทำความดีทุกครั้งของเรา

เราต้องตั้งใจไว้ว่า

1.ไม่ต้องการคำชมเชย

2.ไม่ต้องการ....สิ่งตอบแทน

3.ไม่ต้องการบอก หรือ ประกาศให้ใครรู้

4.ไม่ต้องการผลตอบแทนด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียง

หน้าตา วัตถุ สิ่งของ เงินทอง ฯลฯ

แต่

เราจะทำเพื่อเป้าหมายเดียว

คือ

พระนิพพาน

 

คราวนี้ท่านผู้อ่าน

ทราบหรือไม่ว่า

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

มีวัตถุประสงค์

อะไรที่ให้นำเรื่องนี้มาบอกลูกหลาน

ในนาทีนี้

 

แต่ขออย่าได้คิดว่า

เพื่อให้บอกความดีของ อ.อุบล กระมัง

บอกแล้วไงไม่ได้เป็นคนดี เป็นคน

ป ก ติ

ถ้าจะบอกคงบอกนานแล้วล่ะ

แต่นี่หลวงพ่อสั่งจ้า

 

และสั่งอีกว่า

ให้ถามลูกหลานซิว่า

อ่านแล้วได้อะไรมั่งไหม

ช่วยวิเคราะห์ให้หลวงพ่อฟังด้วย...จ้า

 

แล้วคราวนี้ ก็คงไม่พ้นหน้าที่

ทรานสเลเตอร์

อีกนั่นแหละ

ขอเชิญช่วยกันแปล ศัพท์ปะกิด ทุกคำนะจ๊ะ

ทั้งที่ขีดเส้นใต้ ไม่ขีดเส้นใต้...จ้า

คุณชนิดา พี่มหา น้องไล่ล่า หนูตาล และ ทุกๆท่าน

เชิญสนทนาธรรมกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ตามอัธยาศัย จ้า สาธุ สาธุ สาธุ

แล้วจะได้พบ หลวงพ่อฯ จริง จริง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-02-02 10:15:02


ความคิดเห็นที่ 127 (1530214)

 ขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ที่ให้เกียรติยกระดับผมจากพี่มหา เป็น...คุณชนิดา พี่หมา น้องไล่ล่า หนูตาล และ ทุกๆท่าน...ซึ่งคาดว่าคงไม่มีใครแย่งตำแหน่งนี้เป็นแน่ ซึ้งแทบตกเก้าอี้เลยครับ...ฮาสนั่นเมือง !!!

อ่านกระทู้นี้ทีไร ได้อะไรเยอะแยะมากมายทุกครั้ง แม้อ่านซ้ำแต่และครั้ง ก็ได้ไม่เหมือนกันซักที

เหตุการณ์จำลองเล็กๆ ในสนามบิน ที่เต็มไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา ที่ต้องเผชิญกับความวุ่นวาย ในที่นี่มีเหตุจำลองให้เจอกับความหนาวเย็น กับสถานการณ์เช่นนี้เมื่อเปรียบกับของจริงในระดับโลก ทำให้เรานึกและเตรียมตัวที่จะเผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และสิ่งที่ควรจะเตรียมมากที่สุดสำหรับผมก็คือ...ใจที่นิ่งที่สุด เพื่อคุมสติทุกสถานการณ์

คำสอนหลวงพ่อที่ว่า...เราจะทำความดีเพื่อเป้าหมายเดียว คือ พระนิพพาน...คำตอบนั้น อาจารย์ก็อธิบายอย่างแจ่มชัดอยู่แล้ว ให้อ่านย้อนประโยคของหลวงพ่อ แล้วจะพบว่าทำความดีเพื่ออะไร

ขอย้อนประโยคของหลวงพ่อที่สื่อผ่านอาจารย์อุบลอีกครั้งนะครับ...ผมอ่านแล้วเกิดปิติครับ 

เราจะทำเพื่อเป้าหมายเดียว

คือ

พระนิพพาน

การทำความดีทุกครั้งของเรา

เราต้องตั้งใจว่า

1.ไม่ต้องการคำชมเชย

2.ไม่ต้องการ....สิ่งตอบแทน

3.ไม่ต้องการบอก หรือ ประกาศให้ใครรู้

4.ไม่ต้องการผลตอบแทนด้วยเกียรติยศ

ชื่อเสียง

หน้าตา วัตถุ สิ่งของ เงินทอง

ไม่ทำเฉพาะเพื่อตนเอง

แต่ให้ทำเพื่อผู้อื่นรอบข้าง

ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ในการทำความดีนั้น

ต้องทำทุกลมหายใจ 

ทำทุกขณะจิต ทุกที่ ทุกเวลา

การจะไปนิพพานได้

จิตต้องทรงความดี กายต้องทรงความดี

และการทำความดี ไม่ใช่ทำเฉพาะตอนไปวัด หรือ

ตอนนั่งห้องพระ

ขอเสริมความคิดส่วนตัวครับ...วัด คือ บ้านสวนฯ...ห้องพระ คือ มหาพีระมิด

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2011-02-02 10:48:55


ความคิดเห็นที่ 128 (1530219)

 

อาจารย์...ขา

แมวขอสัญญาว่า

แมวจะประพฤติ + ปฏิบัติ

ตามคำสอนของหลวงพ่อ

และอาจารย์อุบล...ตลอดไป

ถึงแม้จะไม่มีโอกาส..ได้รับเมตตา

ที่จะเข้าวัด และ ห้องพระ อีกตลอดกาล

วัด คือ บ้านสวนฯ...ห้องพระ คือ มหาพีระมิด

ด้วยความเคารพ + รัก ตลอดทุกลมหายใจ

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ( ไล่ล่า ) วันที่ตอบ 2011-02-02 11:04:12


ความคิดเห็นที่ 129 (1530221)

ขอกราบบูชาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ขอตอบสิ่งที่หลวงพ่อให้วิเคราะห์เจ้าค่ะ

หนูคิดว่า วัตถุประสงค์ที่หลวงพ่อท่านให้นำเรื่องนี้มาเล่า

 ให้ฟังก็เพื่อให้พวกเรา ทำความดี ทุกขณะจิต

 ทุกลมหายใจเข้าออก เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ไม่ว่าจะชื่อเสียง เงินทอง คำชม เกียรติยศศักดิ์ศรี

 เพราะมนุษย์ทุกวันนี้ ต่างก็เห็นแก่ตัว

 ทำดีแต่ก็ยังหวังสิ่งตอบแทน (บางครั้งตัวหนูเองก็ยังเป็นค่ะ)
และสิ่งที่อาจารย์นำมาเล่าก็ไม่ได้ต้องการคำชื่นชมใดๆ

แต่เป็นเมตตาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

 และของอาจารย์ที่รัก เมตตา หวังดีกับพวกเราทุกคน

 มีแต่ให้ๆๆๆ สิ่งที่ดีกับพวกเราตลอดเลยค่ะ
ท่านอยากให้เรารู้จักให้อภัย ให้รักทุกคนเหมือนตัวเอง

ให้มองโลกในแง่ดี จริงใจ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน คิดบวก
สิ่งเหล่านี้ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กับ อาจารย์ได้ให้จิตสำนึกในการทำความดี

กระตุ้นการทำดี เป็นเหมือนได้ชาร์จแบตทุกครั้งที่หนูได้เข้ามาเว็บไซต์บ้านสวนฯ

 และให้ย้อนดูตัวเอง ว่าที่เราบอกว่า เราทำดีแล้ว
มันดีจริงหรือเปล่า บอกว่ารักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ได้ทำอะไรบ้างหรือยัง

 ที่ได้รับโอกาส และความรู้ต่างๆ มาจากบ้านสวนพีระมิดแล้ว

ได้นำมาใช้เพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติบ้างไหม

 เวลามีน้อยแล้ว เราต้องเปลี่ยนตัวเอง ต้องทำให้ได้ค่ะ
ขอบคุณหลวงพ่อ และอาจารย์อุบล ที่เมตตานำเรื่องราว

ข้อคิดดีๆ จากชีวืจริงมาเล่าเป็นธรรมทานให้พวกเราฟัง

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ วันที่ตอบ 2011-02-02 11:06:45


ความคิดเห็นที่ 130 (1530227)


กราบขอบพระคุณ

องค์พระพุทธเจ้า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ทุกๆ พระองค์ ท่านอาจารย์ แม่อุบล  ที่เมตตา

กราบขอขมาโทษ  ในทุกๆสิ่งที่ลูกได้กระทำไปแล้ว ลูกจะตั้งใจเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านแม่ อุบล ไม่สนใจ อะไร อื่นใด อีกแล้ว  สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ kuru (tata_su22-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-02 11:27:46


ความคิดเห็นที่ 131 (1530236)

หนูไม่สามารถจะวิเคราะห์อะไรได้เลย

และคิดในใจว่าตอนนี้พี่ชนิดา ผู้แปล กิตติมศักดิ์

ก็คงไม่ได้มาแปลให้หนูในเวลานี้แน่

 

แต่พอเลื่อนลงมา ต่อความคิดเห็นของอาจารย์

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ยังมีผู้แปลอีกท่าน ที่หนูไม่น่าจะลืมไปได้เลย

นั่นคือ คุณสิทธิ์ นั่นเอง รวดรัด ได้ใจความที่สุดเจ้าคะ ขอโมทนาคะ

 

ขอเรียนอาจารย์ (ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องเขียน อาจารย์ก็รู้อยู่ทุกอย่างแล้ว)

ว่าอ่านไป น้ำตาซึมไป ด้วยเข้าใจในความเมตตาของอาจารย์

และสอน ให้ระลึกในสิ่งดีงาม  และเป้าหมาย อยู่เสมอคะ

รัก อาจารย์ และเบื้องบนทุกพระองค์ เจ้าคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-02 11:55:22


ความคิดเห็นที่ 132 (1530268)

นอนอ่านหนังสือ

หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอบปัญหาธรรม

เพราะ

ไปไหนก็เอาไปด้วย ติดเหมือนเด็กติดการ์ตูน

เหมือนยาเสพติด ถ้าจะเลิกต้องไป

เลิกที่ถ้ำกระบอกเท่านั้น

แต่กลับออกมา

ก็อาจ

ติดใหม่อีก ก็เลยยังไม่ไปถ้ำกระบอกเลย

*********************************

ประมาณว่า

ขอทำใจดีสู้เสือ ถามนะคะว่า

ที่อยู่ของ....ถ้ำกระบอก....นี่นะ

69 หมู่ 6 ตำบล เขาเพิ่ม

อ.บ้านนา นครนายก

รหัสไปรษณีย์ 26110

ใช่หรือไม่คะ...เพราะไปที่อื่นไม่ถูก

แล้วถ้าไปได้...ต้องทำอย่างไรบ้างคะ

******************************

ขอบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ท่านท้าวเวสสุวรรณ

อาจารย์อุบล

โปรดเมตตา...หากท่านพิจารณาแล้วว่า

ลูกๆ 7 คนคือ..บุตรของ .. พระพุทธเจ้า

*******************

แล้วที่ถ้ำกระบอก

เค้าช่วยรับ

บำบัดรักษา คนอกหัก ด้วยใช่ไหมคะ

เพราะทั้งเจ็บ และ จุกมาก ๆ แล้วค่ะ

ถึงไม่สวย ไม่หล่อ แต่ ก็ไม่เคย อกหักมาก่อนเล้ย

พึ่งรู้ว่า อาการของคนอกหัก...รุนแรงไม่น้อยเลย

ถึงขั้น ตรอมใจตาย นะขอบอก

มาอกหักตอนเป็น ผสว.

อาจารย์ขา...ขอคำตอบ...

ให้

ไล่ล่า หาความรัก

ด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว วันที่ตอบ 2011-02-02 13:53:46


ความคิดเห็นที่ 133 (1530269)

 

     ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะคะ  (เท่าที่ความสามารถพอจะมี)

สำหรับเหตุการณ์ในสนามบิน 

1.  คงต้องการให้เราระลึก  และเตรียมใจเผื่อไว้เสมอ  ว่า  สิ่งที่เราวางแผนไว้  มันอาจจะไม่เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ก็ได้  อาจมีปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้

2. ถ้ามีเหตุการณ์อะไรสักอย่างที่เกิดขึ้น  ให้เราคิดว่า  สาเหตุจริง ๆ  คืออะไร  อย่ามองแค่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเราขณะนี้

ผู้ใหญ่หารือกันตลอดค่ะพี่

แล้วน้องทุกคนก็รู้ดี

แต่อธิบายไม่ได้ใช่ไหมจ๊ะ

นั่นแหละค่ะพี่

คือสิ่งที่พวกหนูรู้สึกแย่ที่สุด

                                                                                                                        

3.  และข้อสุดท้าย  คือการสอนในเรื่องการทำความดี

ในการทำความดีนั้น

ต้องทำ...ทุกลมหายใจ 

ทุกขณะจิต ทุกวินาที ทุกที่ ทุกเวลา

ไม่ทำเฉพาะเพื่อตนเอง

แต่ให้ทำ เพื่อ ผู้อื่นรอบข้าง

ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

และเมื่อทำแล้ว ให้ตั้งใจว่า

การทำความดีทุกครั้งของเรา

เราต้องตั้งใจไว้ว่า

1.ไม่ต้องการคำชมเชย

2.ไม่ต้องการ....สิ่งตอบแทน

3.ไม่ต้องการบอก หรือ ประกาศให้ใครรู้

4.ไม่ต้องการผลตอบแทนด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียง

หน้าตา วัตถุ สิ่งของ เงินทอง ฯลฯ

แต่

เราจะทำเพื่อเป้าหมายเดียว

คือ

พระนิพพาน

ลูกขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงพ่อ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ 

และ อ.แม่อุบล  ที่คอยย้ำเตือนพวกเราเสมอ บ่อย ๆ

ลูกจะพยายามทำดีอย่างเต็มกำลังความสามารถที่มี 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล ฉวีวรรณ นภาพรรณราย วันที่ตอบ 2011-02-02 13:59:12


ความคิดเห็นที่ 134 (1530284)

ด.ญ.ไล่ล่า

คนดี ที่ 1 เลย

ถ้าเป้าหมายของหนู

คือ

พระนิพพาน

หนูต้องตัดความรัก

ความอาลัย + ความผูกพัน

จากบุคคลอันเป็นที่รักให้ได้ก่อน

เป็นอันดับแรก

พระอานนท์ เคยร้องไห้คร่ำครวญ

เมื่อทราบว่าพระพุทธองค์จะทรงเสด็จ

ดับขันธ์ปรินิพพาน

แต่

อ.อุบล คนที่หนูคิดว่ารัก

คนนี้  ยังมีชีวิตอยู่

ลองพิจารณาดู

นะคนดี

ว่า

พระพุทธองค์ + หลวงพ่อของเรา

ท่านอยากบอก + สอนให้ลูกหลาน

ไปนิพพานให้ได้ และ สิ่งที่

หนูต้องทำให้ได้ คือ

ละความรัก ความอาลัย+ผูกพัน

ละความโลภอยากได้ อยากเป็น อยากมี

ละความโกรธ แค้น ริษยา จองเวร

ละความหลง ความสวย เสียงเพราะ

กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ

 

แล้ว พ่อ กับ แม่ ของเจ้า

รอ เจ้า อยู่ ที่ ไหน

เจ้าก็ต้องไป

พบที่นั่น

 

(ถ้าไม่รู้ว่าพ่อ+แม่ อยู่ที่ไหน ให้ไปดู

รายการคุยไปแจกไปอาทิตย์ที่ 6 ก.พ.54 นี้ นะทูนหัว)

 

แล้วถ้ายังไม่หายคิดถึงพ่อแม่

ให้กลับไปอ่านความเห็นที่ 123 และ 126 อีก 9 รอบนะคนดี

 

พี่ ม ห า

(ปลอดภัยไว้ก่อน)

ทำไมไม่ใช้ไม้เรียวตีน้องๆ

แต่ ปล่อยให้น้องๆ ร้อง กระ จอ งอ แง

อย่างนี้

ต้องเรียก พี่ หว่า หวา ดีมั้ง

แต่พี่เขาติดซ้อมเชียร์ลีดเดอร์อยู่

ไม่งั้น น้องๆ พวกนี้ โดน....แน่

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-02-02 15:53:16


ความคิดเห็นที่ 135 (1530287)

อาจารย์ขา อ่านเพิ่มอีกรอบ ก็เข้าใจเพิ่มอีกนิดหนึ่ง เรื่อย ๆ คะ

(ตามประสาคนโง่มากกก)

 

ขอบอกว่า หนังเรื่องเดียว ตอนเดียว ฉายสั้น ๆ เพียงครั้งเดียว

แต่ตอบโจทย์ทั้งหลายได้ครอบจักรวาล บ้านสวนพีระมิด

ประเทศไทยจำลอง และประเทศไทยจริง เลยคะ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะความล้ำเลิศ แยบยล ของเบื้องบน

และท่านอาจารย์ หนูก็หาคำตอบไม่ได้แล้วว่าเพราะอะไร

จึงตอบโจทย์ได้ดีเพียงนี้ จริงจัง ชัดเจน แต่นุ่มนวล มาก ๆ คะ

 

ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงเจ้าคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-02 16:18:46


ความคิดเห็นที่ 136 (1530288)

พี่ชนิดาขา วันนี้อาจารย์ โยนก้อนหินลงน้ำหลายก้อน พร้อมกันเลยคะ

ทั้งใหญ่ ทั้งเล็ก  ขอเชิญผู้มีประสาทสัมผัสไว อย่างพี่ ช่วยเรียบเรียงด่วน

ระหว่างนี้จะอ่านรออีกหลาย ๆ รอบคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-02 16:30:20


ความคิดเห็นที่ 137 (1530289)

 


กราบขอบพระคุณ

องค์พระพุทธเจ้า

พระอาจารย์หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ 

เสด็จตาท่านท้าวเวสสุวรรณ 

ท่านอาจารย์ แม่อุบล

และ  สิ่งศักดิ์สิทธ์ ทุกพระองค์

ใน..ธรรมทาน

ที่กรุณาได้มอบให้ในครั้งนี้..

ในเมื่อลูกทำผิด.. ลูกก็พร้อม..ยอมรับผิด 

ตามคำสั่งท่าน..อาจารย์ แม่อุบล อย่างเคร่งครัด

ขอบคุณ สำหรับทุกๆสิ่งที่เมตตา ต่อลูก

เพื่อจะได้ไม่เสียกฏ ระเบียบต่างๆ

เพื่อให้ผู้อื่นจะได้ไม่ทำ และ  หรือ อ้างได้ 

ลูกขอเป็นส่วนเล็กๆ ของบ้านสวนพีระมิด

ที่จะช่วยรักษากฏเกณฑ์ ระเบียบ ปฏิบัติตามคำสั่ง

ขอบคุณค่ะ .. ท่านอาจารย์ แม่อุบล ที่รักและเคารพ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ kuru (tata_su22-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-02 16:38:57


ความคิดเห็นที่ 138 (1530299)

 

ขอบคุณค่ะ

อ่านเกิน 9 รอบแล้วค่ะ

เข้าใจ..และทราบดีค่ะ

ว่า..ข้อความดังกล่าว..

บอกอะไรให้กับแมวได้บ้าง

แต่เป็นแบบทดสอบ...

ที่ไม่ได้ตั้งตัว...และเกือบสอบตก

ข้อสอบหนักมาก ถึง มากที่สุดในชีวิต

ขอบคุณนะคะที่สร้างความแข็งแกร่ง

และแมวจะพยายาม

ที่จะไม่เป็น ยอดหญ้า ค่ะ

**********************************

และก็ทราบอีกค่ะว่า

ทำไมคนที่อกหัก ถึงได้น้ำหนักลดเร็วมาก

ตา..ที่โตๆ ...โบ๋แล้วค่ะ

ถ้าอาจารย์พบแมวข้างนอก..บ้านสวนฯ

ก็คงจะจำ..แมวไม่ได้แล้วแน่เลย

******************************

ขอเคารพในคำพิพากษาค่ะ

*******************************

และขอยืนยัน ว่า

ขอยอมตาย

ถ้า...เจ้าของบ้าน...อนุญาติ...

*******************************

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว วันที่ตอบ 2011-02-02 17:30:25


ความคิดเห็นที่ 139 (1530305)


พี่แมวน้อย ที่แสนน่ารัก ของน้องกัญญ์ 

อย่ายอมตาย ง่ายๆ เลยค่ะ

กัญญ์คิดว่าท่านอาจารย์ แม่อุบล เมตตา

คงไม่อนุญาติให้ พี่แมวน้อยที่แสนจะบอบบาง ตาโบ๋  ของน้องตายอย่างแน่นอนค่ะ 

  และ ขอให้พี่แมว คนสวย ใจดี ที่สำคัญน่ารัก มาก

อย่าได้ไปสนใจกับ เสียง กรีด ร้องเล้ก ๆ น้อย

ของ สัมพเวสี หรือ พวกอีกา นรก เล็กๆน้อย เลย นะคะ

พวกนี้เหมือนเปรตมาขอส่วนบุญ เมตตา ไป ก็เท่านั้น  จริงๆเลย  ต้องขออภัยด้วยค่ะ 

พี่แมว ที่ไม่เชื่อ ตามที่แมวบอก ว่าอย่าไปยุ่ง กับ  มัน ไม่เชื่อเองค่ะ

เลยเหมือนยุ่งกับหมา แล้วหมาเลียปากใช่ไหมคะ

ขอโทษอีกครั้งนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ kuru (tata_su22-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-02 18:23:49


ความคิดเห็นที่ 140 (1530311)

ที่หลวงพ่อบอก การจะไปนิพพานได้

จิตต้องทรงความดี กายต้องทรงความดี

====================================

ต้องมีสติทุกลมหายใจใช่ไหมค่ะ

อ่านไปก้อน้ำตาซึม

เพราะบางครั้งเราก้อคิดเข้าข้างตนเองว่าดีแล้ว

แต่จำที่หลวงพ่อนสอน ยังไม่ขึ้นใจเลย

เพราะ

จิตจะทรงความดีได้

ก้อต้องไม่ไปสนใจจริยาของคนอื่น

ตามที่หลวงพ่อย้ำไว้

ดังนั้น มโนกรรม ที่ชั่ว ๆ จึงตามมาเป็นประจำ

กายไม่ทำ แต่มโนกรรมชอบไปเพ่งโทษคนอื่น

เท่ากับขาดเมตตาตนเอง

คนที่ไม่เมตตาตนเองแล้วจะไปเมตตาคนอื่นได้อย่างไร

แล้วลูกจะถึงพระนิพพานตามที่ตั้งใจ ?

====================================

 

และ

การทำความดี

ไม่ใช่ทำเฉพาะตอนไปวัด

หรือ

ตอนนั่งห้องพระ


และ

ในการทำความดีนั้น

ต้องทำ...ทุกลมหายใจ 

ทุกขณะจิต ทุกวินาที ทุกที่ ทุกเวลา

 

======================================

หลวงพ่อให้จับภาพพระ

ให้นึกลมหายใจ

ให้ภาวนา ได้ทุกที่ ทุกเวลา

ให้นึกว่าถ้าเราจะตายเดี๋ยวนี้ เราเป็นอย่างไร

เราเกิดมาก้อทุกข์มากแล้ว ยังไม่เบื่อ ไม่เข็ดอีกหรือไง

ถึงได้ดื้อด้าน

ยังลูบคลำศีลอยู่อีก

เรานึกว่าเราทำได้

แต่จริงๆ ก้อคือทำไม่ได้เพราะไม่มานะพากเพียร

อิทธิบาท ๔ ยังกระพร่องกะแพ่ง

จนพ่อแม่ท่านหนีไปพระนิพพานกันเป็นแสน ๆ องค์แล้ว

ลูกยังดื้อ ยังโง่ ยังบ้า อยู่อีก

แล้วต่อไปใครจะมาช่วย

ถ้าเราไม่ช่วยตัวเอง

==================================

 

ไม่ทำเฉพาะเพื่อตนเอง

แต่ให้ทำ เพื่อ ผู้อื่นรอบข้าง

ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

 

==================================

ถ้าไม่มีข้อความนี้ขึ้นมาเตือนใจ

ก้อยังคิดเข้าข้างตัวเองอีก

ว่าเรารัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาก ๆ ๆ ๆ

แต่ไม่เคยถามตัวเองสักครั้งว่า

เราได้ทำ

เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เต็มที่หรือยัง เต็มสติปัญญา เต็มความสามารถ หรือยัง

ยังไม่สายเกินไปนะคะหลวงพ่อ

 

==================================

 

 

และเมื่อทำแล้ว ให้ตั้งใจว่า

การทำความดีทุกครั้งของเรา

เราต้องตั้งใจไว้ว่า

1.ไม่ต้องการคำชมเชย

2.ไม่ต้องการ....สิ่งตอบแทน

3.ไม่ต้องการบอก หรือ ประกาศให้ใครรู้

4.ไม่ต้องการผลตอบแทนด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียง

หน้าตา วัตถุ สิ่งของ เงินทอง ฯลฯ

แต่

เราจะทำเพื่อเป้าหมายเดียว

คือ

พระนิพพาน

 

==================================

ทำบุญ คือ ให้ทาน รักษาศีล และภาวนา

ทุกครั้งก้ออธิษฐานตามที่หลวงพ่อสอน

คือ

ขอให้ลูกได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้โดยง่ายดายและฉับพลัน

แต่มันไม่ใช่เป้าหมายเดียว

ยังมีแถมว่า

หากลูกยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร ขอความไม่มี ...

ให้รวย ขอให้สบาย ฯลฯ

 

==================================

 

คิดว่า

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ต้องการมาเตือนสติ

ลูกหลานให้เร่งทำความดี เพราะเวลาจำกัด

ให้เพียรทำความดี

เพื่อตัวเอง

และเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

 

 

สุดท้ายนี้ ลูกขอกราบขอขมาต่อ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์

พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์

พระธรรม

พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย

เทพ พรหมทั้งหลาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนพีระมิด

ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมามีหลวงพ่อปานวัดบางนมโค และหลวงพ่อฤาษีเป็นที่สุด

รวมทั้งอ.อุบล แห่งบ้านสวนพีระมิด

หากลูกเคยล่วงเกินทั้งต่อหน้าและลับหลัง ด้วยกาย วาจา ใจ

ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา

ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี

ขอได้โปรดอดโทษให้แก่ลูกด้วยเถิด

ลูกขอสัญญาว่า

จะไม่ลูบคลำศีลอีกต่อไป

จะสำรวจใจเสมอว่าบกพร่องเรื่องใดและจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด

เพื่อ

พระนิพพาน

ตามที่หลวงพ่อเมตตา

มาตักเตือน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ วันที่ตอบ 2011-02-02 19:50:34


ความคิดเห็นที่ 141 (1530329)

โมทนากับ คุณเบญจรัตน์  ด้วยนะคะ ซาบซึ้งจับใจ

 

======================================

หลวงพ่อให้จับภาพพระ

ให้นึกลมหายใจ

ให้ภาวนา ได้ทุกที่ ทุกเวลา

ให้นึกว่าถ้าเราจะตายเดี๋ยวนี้ เราเป็นอย่างไร

เราเกิดมาก้อทุกข์มากแล้ว ยังไม่เบื่อ ไม่เข็ดอีกหรือไง

ถึงได้ดื้อด้าน

ยังลูบคลำศีลอยู่อีก

เรานึกว่าเราทำได้

แต่จริงๆ ก้อคือทำไม่ได้เพราะไม่มานะพากเพียร

อิทธิบาท ๔ ยังกระพร่องกะแพ่ง

จนพ่อแม่ท่านหนีไปพระนิพพานกันเป็นแสน ๆ องค์แล้ว

ลูกยังดื้อ ยังโง่ ยังบ้า อยู่อีก

แล้วต่อไปใครจะมาช่วย

ถ้าเราไม่ช่วยตัวเอง

==================================

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-02 22:32:49


ความคิดเห็นที่ 142 (1530341)

อนุโมทนากับปริศนาธรรมจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ถ่ายทอดโดยอ.อุบลด้วยนะคะ สาธุ สาธุ ค่ะ... 

มีการบ้านยากๆมาให้วิเคราะห์อีกแล้ว หึ หึ

งั้นขอแปลอันง่ายๆตรงๆตัวก่อนแล้วกันนะคะ แถมอาจารย์ก็เน้น..คำที่ขีดเส้นใต้และไม่ีขีดเส้นใต้อีก

แหะ แหะ  จะพยายามเก็บให้ได้ทุกประเด็นนะคะ

แต่ถ้าไม่ครบก็ต้องขออภัย...เพราะมือใหม่หัดแปลธรรมเหมือนกัลล์

 อิมมิเกรชั่น =Immigration = เจ้าหน้าที่จากกองตรวจคนเข้าเมือง

โอเวอร์ สเตย์  =Overstay  = (นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ)ที่ใช้เวลาอยู่ในเมืองไทย เกินเวลาที่กำหนดในวีซ่า

 

ส่วน ปริศนาธรรมที่ซ่อนไว้ในเหตุการณ์ต่างๆ คิดว่าผู้่อ่านหลายๆท่านก็คงจะรับรู้ได้ด้วยตัวเองไปแล้วล่ะเนอะ ชนิดาก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ฉะนั้น ขอใช้ Verb to เดาเช่นเคย..

 

1. ปริศนาผ้าห่ม สื่อถึงคนที่คิดแต่จะแต่เอาประโยชน์ส่วนตน จนลืมนึกถึงผู้อื่น แล้วก็คิดเองเออเองว่าเรามีสิทธิ์จะหยิบกี่ผืนก็ได้ ซึ่งจริงๆควรที่จะถามจนท.เพื่อความแน่ใจซะก่อนว่า ผ้าห่มทั้งหมดนี้มีเผื่อ หรือ พอดีคน ถ้าทุกคนรู้จัก"ความพอดี"แต่แรก ก็จะไม่มีใครต้องเดือดร้อน เพราะความเห็นแก่ตัวของเรา แต่อาจารย์ใช้คำว่า "มาช่วยแบ่งเบาภาระ" ก็คล้ายกับว่า ใช้คำพูดซะดูดี ดูเหมือนจะเป็นคนดี หรือ ประสงค์ดี  แต่แท้ที่จริงก็คือ "โลภ" หรือ "ความอยาก"นั่นเอง...

 

2. ได้รางวัล"ข้าวกล่อง" ถ้าเราฝึกสติอย่างช่ำชอง จิตนิ่ง พร้อมกับมีขันติ และความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอยู่เสมอ แม้เราจะไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ และไม่หวังให้ใครมาเห็นความดีและชื่นชมเรา แต่สิ่งนั้นจะสนองกลับมาหาเราในทางที่ดีเสมอ 

 

3. เลิกติด"ธรรมะ"ที่ถ้ำกระบอก สิ่งใดที่เราทำมาจนชินจนติดเป็นนิสัย จึงเลิกยาก อย่างอ.อุบล ผู้เชื่อมั่นในคำสั่งสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และธรรมะสนุกๆจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไม่ว่าจะไปแห่งหนใด ก็จะมีธรรมะติดตัวไปเสมอ ทุกที่ ทุกเวลา ทุกขณะจิต เพราะถ้ามีจิตที่มุ่งมั่น จไม่มีใครหรือสิ่งใดมาทำให้เราเลิกหรือละความสนใจในการปฏิบัติธรรมได้เลย  

ส่วนข้อความข้างล่างนี้อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างน้อ

แม้ว่าพี่ต้องทนทรมานกับความหนาว

ซึ่งพี่ไม่ชอบเลย

 มันทรมานจริงๆสำหรับพี่

 

แต่

พี่จะขอเป็นกำลังใจเล็กๆ

ให้น้องในฐานะคนไทยที่ปฎิบัติภารกิจ

เพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในครั้งนี้

ซึ่งเป็นการปิดทองหลังพระ

ซึ่งต้องทนคนประนาม เอาเรื่อง

กดดัน คนมองว่า

ร้าย  ผิด  แค่นี้ก็ไม่ยอมจ่าย

(ค่าโรงแรมที่พักข้างนอก)

จะก้าวสู่"นิพพาน" ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยิ่งสูงยิ่งหนาว และี่ที่อาจารย์ต้องมารับภาระที่ยิ่งใหญ่นี้

ทั้งยาก ทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย แต่อาจารย์ก็พยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดกับทุกๆคน ทุกๆฝ่าย

และในบางครั้งอาจารย์ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะอธิบายรายละเอียด

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ทุกๆคนเข้าใจได้ทุกๆเรื่อง ทุกๆเหตุการณ์

ได้โปรดเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของอาจารย์ด้วยว่า

อาจารย์รัก ปรารถนาดี และมีเมตตากับทุกๆคน เช่นเดียวกับเบื้องบนทุกๆพระองค์.. ..

 

ฉะนั้น สิ่งที่พวกเราต้องฝึกคือ อ่านและศึกษาธรรมให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง แล้วนำไปปฏิบัติ

จึงจะเกิดประโยชน์แก่ตนเองและส่งผลต่อส่วนรวมในที่สุด

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-02-03 05:22:44


ความคิดเห็นที่ 143 (1530381)

อ่านแล้วได้คำตอบในข้อสงสัยที่กำลังเกิดขึ้นกับผม ว่า เอ๊ะ! สิ่งที่เราทำก็เป็น "สัมมาทิฐิ"

  แต่พอดูจิตของเราให้ละเอียดลงไปปรากฏว่า  กลายเป็น "สัมมาทิฐิ" ที่ยังเจือไปด้วยกิเลส  แต่พอยิ่งไปให้เจ้ากิเลส(ความอยาก) ที่มันแอบเกาะมากับ "สัมมาทิฐิ"  ผมปรากฏว่ามันล่อหลอกเราให้เกิดความโลภ  และก็ก่อตัวเป็นความหลง  จนฟุ้งไปกันใหญ่

   ยกตัวอย่าง ผมลงประกาศโฆษณาอย่างหนึ่ง ด้วย "สัมมาทิฐิ" ว่าผู้ที่ได้ร่วมกับผมจะได้ร่วมบุญด้วยเท่านั้นเท่านี้  แรกเริ่มรู้สึกถึงความปีติ  แต่พอเผลอสติ กิเลส เข้าครอบ  เริ่มกดเครื่องคิดเลข แรกแรกก็ โอ้โห เราจะได้ยอดทำบุญเท่านี้ ถ้ามีคนร่วมกับเราเท่านี้(ถึงจะทำบุญ แต่ทำด้วยความอยากมันก็ก่อให้เกิดกิเลสเกาะใจได้) หนักเข้า หนักเข้า เริ่มกดเครื่องคิดเลขว่า เอ้า ส่วนที่เราได้ก็ไม่น้อยนี่  เอาไป เอามา เหมือนภูผา ที่ดูหนักแน่นของ พอปล่อยจิตที่เจือด้วยกิเลส  ก็เหมือนเศษดินเศษหินก้อนน้อยก้อนใหญ่ ที่มันค่อยค่อยทลายลง ตกสู่เบื้องล่าง ไม่ช้าไม่นานถ้ายังปล่อยจิตเป็นเช่นนี้  ก็อาจจะทลายลงมาหมด  เช่นเดียวกันงานที่เราเริ่มด้วยเจตนาบุญ  เอาไปเอามา ปากบอกเรื่องบุญ แต่จิตกับไปคิดถึงเรื่องกำไรเสียแล้ว โอ้แม่เจ้า จิตคนเรานี่ปล่อยไปไม่ได้เลย

   แต่พอได้อ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ส่งผ่านมาทางอาจารย์อุบล ผมจึงปริ๊งหลักขึ้นมา ว่า เอาใหม่ เอาใหม่ มรรค 8 พระพุทธองค์ก็ได้ทรงสั่งสอนไว้แล้ว  ในส่วนของ การงานชอบ เลี้ยงชีพชอบ เราทำตามนี้แล้ว แล้วจากนี้เราจะนำไปทำบุญ หรือจะบอกให้ลูกค้าเราทราบหลังจากจ่ายเงินให้เราแล้ว ว่าเราจะเอาส่วนนึงไปทำบุญ และให้เขาอนุโมทนา ก็ว่ากันไป ดีกว่า

กราบบูชาพระพุทธองค์ และสิ่งศักดิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด ทุกพระองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ แห่งผม และอาจารย์อุบลครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกไชย ทรงประไพ (ekachai_sh-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-03 12:09:44


ความคิดเห็นที่ 144 (1530433)

พี่ชนิดาคะ

 

ถ้าฟ้าไม่ส่งพี่มาแปลความหมาย ให้ละเอียด ชัดเจน ครบทุกประเด็นขนาดนี้

หนูคงพลาดโอกาสที่จะรับรู้ข้อธรรม

ที่อาจารย์ต้องการจะสอนพวกเรา ในหลาย ๆ ประเด็นที่สำคัญ แน่นอนคะ

เพราะจิตของคนที่ฝึกน้อย อย่างหนู จะเริ่มได้แค่มองเห็นข้อธรรมที่ใกล้ตัว

หรือเกี่ยวกับตัวเองเท่านั้น (นั่นอาจแสดงว่ายังเห็นแก่ตัว หรือยังไม่วางใจเป็นกลางได้พอ)

 

เมื่อได้ฟังคำแปลของพี่ หนูรู้สึกผิดเหลือเกิน ที่เห็นแก่ตัว

จนลืมนึกถึงจิตใจของคนที่หนูป่าวประกาศบอกว่า รักๆๆ เคารพ ๆๆ นับถือ ๆๆๆ

แต่จริง ๆ แล้ว คอยหวังแต่จะให้อาจารย์ ทำอย่างนั้น อย่างนี้

ซึ่งความจริงแล้ว อ.ไม่สามารถตอบสนองทุกคนได้ และไม่ใช่หน้าที่ด้วยซ้ำ

แต่อ.ก็ยังเมตตา อยู่เสมอ ๆ

ไม่นึกถึง ความเหนื่อย หนัก ทั้งกายใจ ของอาจารย์เลย

หนูรู้สึกผิด และขอกราบขอโทษอาจารย์คะ

 

และหนูขออนุญาตินับถือพี่ชนิดาเป็นแบบอย่างสำหรับตัวเอง

ว่าการวางใจเป็นกลางนั้น จะทำให้เราเข้าใจ

และมองเห็นภาพสิ่งต่าง ๆ ได้กว้างขึ้นมาก

เพราะไม่มีอคติ ทิฐิ ใด ๆ มาปิดกั้นความคิดเรา

และสิ่งนี้จะทำให้เราสุข อย่างแท้จริงด้วยคะ

 

สุดท้ายจะขอน้อมนำคำสอนของพี่มาปฏิบัติด้วยคะ

ฉะนั้น สิ่งที่พวกเราต้องฝึกคือ อ่านและศึกษาธรรมให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง แล้วนำไปปฏิบัติ

จึงจะเกิดประโยชน์แก่ตนเองและส่งผลต่อส่วนรวมในที่สุด

 

และกราบขอบคุณเบื้องบนที่ส่งพี่ชนิดามาแปลให้อีกครั้งคะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-03 19:13:59


ความคิดเห็นที่ 145 (1530442)

เล่าเรื่องติด

อยู่สนามบินสุวรรณภูมิต่อ

 

-ทำไมเราต้องมาใช้สนามบินวันแรกเปิด

-ทำไมเราถึงต้องมานอนค้างสนามบิน ทั้งที่ไม่ใช่ที่พัก

-ทำไมเราต้องมาเจอสายการบินที่เป็นเช่นนี้

-ทำไมเราจึงได้มารับรู้เรื่งวุ่นวายวันนี้

ฯลฯ

คำถามทั้งหมด มีคำตอบว่า

ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ

 

บรรยากาศในการนอน

แต่ละคนก็หาทำเล ที่ตนชอบ ตามอัธยาศัย

อ.อุบล ก็หามุมสงบ ที่ถูกใจที่สุด

ซึ่งมันก็คงไม่มีใครถูกใจ

ก็อ่านหนังสือไป

ดูผู้คนไป

แต่

นอนไม่ค่อยหลับ

เนื่องจากหนาวมากที่สุดในชีวิต

ต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ

แต่ละคนก็เช่นกัน

ผลัดกันเข้า

ทั้งคืน

จนห้องน้ำ

เลอะเทอะ แฉะไปหมด

เพราะวันนั้นสนามบินยังไม่มีแม่บ้าน

(หรือมีแต่เราไม่เห็นก็ไม่ทราบ)

แต่สภาพมันเต็มไปด้วย

ขยะ ฝุ่น ฯลฯ

และที่

คุณชนิดาบอกว่า

น่าจะไปหากาแฟทานนั้นน่ะนะ

ไม่มีสิทธิ์

พวกเราทั้งหมดถูกกักตัวอยู่ในห้องนั้น

เหมือนนักโทษ เหมือนพวกที่

อยู่ อิมมิเกรชั่น(ตม.)

เหตุเพราะ

เที่ยวบินนี้มีคนที่มาจาก ตม.

และ นอกจาก โอเวอร์สเตย์ ยังอาจมีข้อหาอื่น

ที่น้องเขาไม่กล้าบอก ซึ่งแน่นอน

เราคาดเอาเองว่า

ต้องร้ายแรง

มิฉะนั้นน้องคงพูด

และดูจากการกักตัวเข้มข้น

ขั้นยอมให้ฟ้อง ยอมให้ก่อจราจล

ยอมให้เกิดการคอมเพลน

ทุกรูปแบบ แต่ที่สุด

คือกักขังตัว

พวก

เราทุกคน

ที่ไม่มีส่วนผิด

หรือ

รู้อีโหน่อีเหน่ด้วยเลย

เด็กหนุ่มสาว 3 คน ต้องทนแรงกดดัน

ที่ตนเองไม่สามารถอธิบายได้

บอก อ.อุบล ได้คนเดียว

ดังนั้น อ.อุบล

ในฐานะ

คนไทย ต้องคิดหนัก

ว่าการนอนค้างของเราในคืนนี้

น่าจะมีส่วนช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้อย่างไร

ให้ทุกคนเครียดน้อยที่สุด หรือ ไม่ก็

ไม่เครียดเลย แล้วก็ไม่รู้ว่า

จะเริ่มยังไง อธิษฐาน

ขอให้เป็นไป

ตาม

ธรรมชาติเอง

คือให้มีการสร้างสาเหตุ

อะไรสักอย่าง

 

ค่อยมาเล่าต่อนะคะ เชิญค่ะ ใครอยากคุยกับ

สว.อ.อุบล ก็เชิญนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-02-03 20:33:30


ความคิดเห็นที่ 146 (1530446)

สวัสดีคะดิฉันปัทเป็นเซ็นเตอร์พาเมลลาสมุทรปราการ ตอนนี้ปัทอยู่บ้านสวนพิรามิดคะ  ปัทใช้เครื่องสำอางของพาเมลลามา๓ปีแล้วรู้สึกอยากจะขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทฺธิ์องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  และสิ่งศักดิ์สิทธิทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพิรามิด  และอาจารย์อุบลที่ได้ให้โอกาสกับปัทเป็นตัวแทนด้วยคะ  โอกาสที่ได้รับเหมือนทำให้ชีวิตได้รับความสุข คือทำให้ใจเย็น มีสติ เกิดปัญญา รวมถึงสุขภาพก็ดีขึ้นหลายอย่างช่วงที่ไม่ได้ใช้เครื่องสำอางของอาจารย์  ต้องไปนวดทุกสัปดาห์เพราะเป็นไมเกรน และเป็นคนที่แพ้ง่ายมาก ใช้เครื่องสำอางอะไรก็แพ้ ซักผ้ามือเป็นเม็ดแล้วก็คันมาก  แต่นะปัจจุบันทุกอย่างดีขึ้นมาก  ผิวพรรณเรียบไม่หยาบกร้านเหมือนเมื่อก่อน  และข้อสำคัญสำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์เมื่อพบอาจารย์อุบลทำให้รู้ว่าเราเกิดมาแล้วต้องหมั่นสร้างกุศล และทำใจของเราให้คิดดี ทำดี ให้อภัยทาน ไม่มีอะไรจะตามเราไปได้นอกจากกุศลที่ตัวเราทำไว้ในช่วงที่เป็นมนุษย์   ปัทต้องขอบคุณอาจารย์และครอบครัวเป็นอย่างมากเลยคะ ขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง  มีความสุข มีบารมีสูงยิ่งๆขึ้นคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัท(ศรุตาภรณ์ เทพเมธี) วันที่ตอบ 2011-02-03 21:00:27


ความคิดเห็นที่ 147 (1530447)

สวัสดีคะดิฉันปัทเป็นเซ็นเตอร์พาเมลลาสมุทรปราการ ตอนนี้ปัทอยู่บ้านสวนพิรามิดคะ  ปัทใช้เครื่องสำอางของพาเมลลามา๓ปีแล้วรู้สึกอยากจะขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทฺธิ์องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  และสิ่งศักดิ์สิทธิทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพิรามิด  และอาจารย์อุบลที่ได้ให้โอกาสกับปัทเป็นตัวแทนด้วยคะ  โอกาสที่ได้รับเหมือนทำให้ชีวิตได้รับความสุข คือทำให้ใจเย็น มีสติ เกิดปัญญา รวมถึงสุขภาพก็ดีขึ้นหลายอย่างช่วงที่ไม่ได้ใช้เครื่องสำอางของอาจารย์  ต้องไปนวดทุกสัปดาห์เพราะเป็นไมเกรน และเป็นคนที่แพ้ง่ายมาก ใช้เครื่องสำอางอะไรก็แพ้ ซักผ้ามือเป็นเม็ดแล้วก็คันมาก  แต่นะปัจจุบันทุกอย่างดีขึ้นมาก  ผิวพรรณเรียบไม่หยาบกร้านเหมือนเมื่อก่อน  และข้อสำคัญสำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์เมื่อพบอาจารย์อุบลทำให้รู้ว่าเราเกิดมาแล้วต้องหมั่นสร้างกุศล และทำใจของเราให้คิดดี ทำดี ให้อภัยทาน ไม่มีอะไรจะตามเราไปได้นอกจากกุศลที่ตัวเราทำไว้ในช่วงที่เป็นมนุษย์   ปัทต้องขอบคุณอาจารย์และครอบครัวเป็นอย่างมากเลยคะ ขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง  มีความสุข มีบารมีสูงยิ่งๆขึ้นคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัท(ศรุตาภรณ์ เทพเมธี) วันที่ตอบ 2011-02-03 21:00:28


ความคิดเห็นที่ 148 (1530458)

ระหว่างเดินเข้าห้องน้ำ

ก็ยิ้มทักทายกับเพื่อนร่วมชะตากรรม

เขาก็ถามว่า

ทำไมยูไม่โกรธ แสดงว่า

ยูไม่เสียหายใช่ไหม

ไม่ใช่ ฉันเสียหายมากที่สุด

แต่ที่ฉันไม่โกรธเพราะถึงฉันโกรธฉันก็

แก้ไขไม่ได้ แล้วจะโกรธทำไม

แล้วที่ยูบอกเสียหายมากที่สุด

มากขนาดไหน อยากรู้

ขนาดที่ว่า

1.ต้องแจ้งเปลี่ยนแผนคนที่จะมารับฉัน

จากสนามบิน ไปเมืองหลวง

2.ฉันต้องรีบไปติดต่อเรื่องที่ฉันส่งสินค้า

ไปทางเรือ แต่สินค้าอยู่ที่ KENYA

แต่ฉันต้องไปหาจ้างรถลากไป UGANDA

3.งานแสดงสินค้า มีกำหนดเวลาที่แน่นอน

แต่สินค้าฉันอาจมาไม่ทันวันงานก็ได้

นี่ปัญหาฉันใหญ่ที่สุดหรือยัง

 

แน่นอน ใหญ่จริง แต่ยูทำเหมือน

ไม่มีปัญหา ยังหัวเรา ยิ้ม คุย เหมือนปกติ

 

ฉันเป็นคนอย่างนี้เอง ไม่เคยทุกข์ร้อน

กับทุกปัญหา ฉันกลัวขาดทุน

 

ดีมาก ฉันอยากทำได้อย่างยู

และปัญหาของฉันเล็กน้อยกว่ายูอีก

แต่ฉันโกรธมากเลย แค่กลับบ้านช้า

ผิดนัดลูก กับแฟน

 

แล้วก็มีผู้ชายถามว่า

ยูเป็นคนไทย ทำไมยูไม่ไปนอนข้างนอก

คำถามโดนที่สุดเลย

รอเวลานี้มานานแล้ว ว่าเมื่อไหร่

จะมีคนถามคำถามนี้

 

อ.อุบล คิดถึง

ผู้ใหญ่ ที่หารือ และ มีคำสั่งมา

ว่าห้ามทุกคนออกจากห้องพักผู้โดยสารขาออก

แม้แต่ อ.อุบล คนไทย เพราะจะเป็นช่อง

ให้พวกที่ ตม.นำตัวมาส่งออก

กลับประเทศ และ

ประเทศที่ 3 ใช้เป็นข้ออ้าง ที่จะออกไปพักข้างนอก

แล้วก็จะหลบหนีเข้าเมืองไทย สร้างปัญหา

สร้างความเดือดร้อนให้ประเทศไทยอีกแน่นอน

 

แสดงว่า สิ่งที่ผู้ใหญ่คาดการณ์นั้น

ต ร ง เ ผ ง

เขาจ้องคนไทยอยู่ และ ถ้า อ.อุบล

ได้กลับไปนอนบ้าน สนามบินคงเกิดจราจลแน่นอน

 

อ.อุบล จึงบอกเขาไปว่า

ครั้งแรกฉันก็อยากกลับบ้าน เพราะฉันหนาว

คิดถึงที่นอน สบายๆ

 

นั่นสิ มานอนอยู่ที่นี่ทำไม

ยูรู้ไหมสนามบิน

สุ ว ร ร ณ ภู มิ

ของฉัน

สร้างมานานกว่าจะเสร็จ

ที่สำคัญวันนี้

เป็นวันแรกที่เปิดใช้สนามบิน

แค่ฉันได้มาใช้วันแรก

ฉันก็ดีใจมากแล้ว แล้วนี่ฉันได้นอนค้าง

ซึ่งคนในประเทศไทย และ ในโลกนี้

จะมีกี่คน ที่จะมีโอกาสอย่างฉัน

การนอนที่บ้าน

นอนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่การนอนที่นี่

ตลอดชีวิตนี้ฉันอาจไม่มีโอกาสนี้อีกเลย

และที่สำคัญ

เป็นการนอนที่ทรมาณก็จริง

แต่ทำให้ฉันได้พบยู ได้อยู่กับเพื่อนๆหลายประเทศ

ได้ประสบการณ์  ได้แก้ปัญหาที่รออยู่ข้างหน้า

ฉันคิดดีแล้ว ว่าการนอนค้างที่นี่วันนี้

จะเป็นวันแห่งความทรงจำ

ที่ยิ่งใหญ่

ที่ฉันไม่มีวันลืม

 

ก็จริงนะ ถ้าเช่นนั้น ยูกำลังจะบอกว่า

ฉันก็โชคดีใช่ไหม ที่ต้องค้างสนามบินใหม่

ที่พึ่งเปิดวันนี้ ฉันต้องดีใจใช่ไหม

 

แล้วแต่ยูจะคิด

ว่าควรดีใจ หรือ โกรธ

แต่ฉันน่ะ ดีใจ

แม้จะมีปัญหาใหญ่รอฉันอยู่ข้างหน้า

แต่ฉันก็หวังไว้ว่า ฉันจะหาทางแก้ไข

ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแก้ไขได้หรือไม่

แต่วันนี้ ฉันคิดเช่นนี้ ฉันดีใจ

 

ดูยูไม่โกรธ ไม่กังวลเลยนะ

ฉันเห็นพวกยูโกรธกันเยอะแล้ว ฉันสงสารพวกยู

 

พวกฉันจะฟ้องสายการบิน

ที่ทำให้เสียเวลา เสียหาย

แล้วการฟ้อง ยูไม่เสียเวลา และ ไม่เสียหายหรือ

 

(เขาหยุดคิด......สักพัก.....)

ตอนนั้นฉันโกรธมาก  แต่ตอนนี้

ยูทำให้ฉันรู้สึกว่า

ต้องคิดใหม่อีกทีสำหรับการฟ้อง

ขอให้ยูโชคดี นอนในสนามบินใหม่

ที่เปิดใช้วันแรก ข่าวทั่วโลก

และอย่าลืมไปบอก

ให้ทุกคนที่ได้นอนค้างสนามบินนี้ ดีใจกันด้วยนะ

แน่นอนฉันต้องบอก ขอบคุณยูมากนะ

ทำให้ฉันมีความสุขขึ้นมาทันที

ฉันจะบอกพวกเรา

กู๊ดไนท์

 

วันนั้น(ยามดึก)

สถานการณ์ เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี

เพียงนำธรรมะของหลวงพ่อฤาษี

ซึ่งสื่อสารมาจากพระพุทธองค์ มาบอกเล่า

แก่ชาวต่างชาติ

ให้เขาเปลี่ยนจากความโกรธ เป็นความภูมิใจ

 

ซึ่งมันไปตรงกับหลักจิตวิทยาสากล

ที่ว่า

-เพียงแต่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็จะเปลี่ยน

-ให้ใช้วิกฤติเป็นโอกาส

-ให้คิดบวกเสมอ

ฯลฯ

 

ซึ่งแท้จริงธรรมะ

ที่พระพุทธเจ้าค้นพบและสอนเรามา

ก็คือหลักการดำเนินชีวิตของคนปกติธรรมดา

(เท่านั้นเอง ไม่ลึกซึ้ง ซับซ้อน ง่ายๆ สบายๆ)

ไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา เพราะก็ตกอยู่ในชตากรรม

เดียวกัน หนาวเหมือนกัน รีบเหมือนกัน

มีปัญหาเดียวกัน แต่ ต่างกัน

ที่วิธีคิดเท่านั้นเอง

 

ธรรมะ

จึงเป็นสากล ทุกคนต่างใช้อยู่แล้ว

แต่อาจจะใช้ ผิดวิธีบ้าง ถูกวิธีบ้าง

แต่ต่างก็มีความต้องการ

เหมือนกัน นั่นคือ

หนีความทุกข์

หนีความเครียด

หนีความไม่สมหวัง

ฯลฯ

 

เราจะแบ่งแยกศาสนากันต่อไปอีกทำไม

มีใครเห็นด้วยบ้างไหมเนี่ย

แล้วอ่านทั้งหมดนี้แล้ว ได้อะไรบ้างไหมจ๊ะ

พี่ชนิดา พี่มหา พี่ไล่ล่า พี่แหวน พี่กัญญ์ พี่ตาล ฯลฯ

กว่าจะเอ่ยชื่อหมด ก็คงปีหน้า

ต้องขอลาถ้าเบื่ออ่านแล้ว นะ จ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-02-03 23:34:08


ความคิดเห็นที่ 149 (1530459)

 ขออนุญาติใช้ปัญญาอันน้อยนิดคุยด้วยอีกรอบครับ...จริงๆ กำลังคุย ความคิดเห็นที่(คหท.) 126 และ 145 ของอาจารย์อุบลอยู่ แต่อาจารย์มี คหท.148 มาแล้ว เพราะพิมพ์ไปหยุดฟังธรรมะไปด้วย...งั้นผมขอคุยเรื่องเก่าก่อนนะครับ

ด้วยความคิดของตัวผมเอง...อาจารย์อุบลนำเสนอเรื่องราวแต่ละความคิดเห็นในกระทู้นี้ จะเห็นว่าเข้ากันได้กับสถานการณ์ปัจจุบัน หมายถึงเรื่องราวบ้านสวนฯ ที่ดำเนินไปในแต่ละช่วงเวลาขณะนั้นๆ โดยเฉพาะความเกี่ยวโยงกับกระทู้ "ข่าวรายวัน บ้านสวนพีระมิด"(ความคิดส่วนตัว)...สิ่งที่หลายๆ คน กำลังเผชิญอยู่ และหาทางออกให้กับตัวเอง ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองผ่านพ้นวิกฤติตรงนั้นไปให้ได้ก่อน และลืมเสียสนิทใจไปว่า คนอื่น(ผู้โดยสาร)ก็ตกอยู่ในความลำบากไม่ต่างจากเรานะ เราจะไม่เห็นใจต่อส่วนรวมเลยหรือ...แต่ผู้โดยสารบางท่านก็ไม่ได้ตกใจอะไร และทำใจร่มๆ สบายๆ มองดูความเป็นไปของภายนอกที่เห็น แล้วก็ปล่อยให้มันเป็นไป...

และเรื่องราวแต่ละเรื่องที่เป็นไปนั้น ล้วนมีเหตุให้เกิดทั้งสิ้น เพราะ "ทุกส่ิงเกิดแต่เหตุ" แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เหตุเกิดถ้าไม่ใช่ใจของเราเอง ฉนั้น ดับที่ต้นเหตุ ก็คือใจเรา แล้วทุกข์ทั้งหลายก็ไม่เกิด ที่นี้แหละ แล้วจะได้พบ หลวงพ่อฯ จริง จริง อย่างที่อาจารย์อุบลได้ตบท้ายไว้ใน คหท.126 แล้วจะไปพบหลวงพ่อได้ที่ไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่แดน นิพพาน...ยิ่งทบทวน(เกิน 9 รอบแล้ว)ประโยคที่ขีดเส้นใต้ทั้งหลายแล้ว ยิ่งซาบซึ้งในข้อธรรมจับใจครับ ละเอียดเหลือเกินจะบรรยาย

มาถึงล่าสุดของอาจารย์อุบล คหท.145...ก็ความคิดตัวเองอีกแหละครับ อย่าตามผมนะครับ สมองที่ฉลาดน้อยมากอย่างผม มันอาจจะไม่ได้มีสาระอะไรก็ได้...

ทุกอย่างอยู่ในวงกายของเรานี่เอง ตั้งแต่เกิด(แรกเปิด) จนจำความได้ เผชิญกับโลกสมมุติที่แสนวุ่นวาย และก็เลือกที่จะเกิดไม่ได้เสียด้วย จึงต้องทุกข์ทนเหมือนโดนกักขังหน่วงเหนี่ยวอยู่ในวงจำกัดของกายเรานี้(ตม.)...ถ้ามองดูภายในกาย พิจารณาในกาย( ก็อ่านหนังสือไป) หรือมองนอกกาย(ดูผู้คนไป) ก็ไม่พ้นเรื่องเดิม นั่นคือ ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ...ถ้าเราไม่ส่งจิตออกไปภายนอก ก็ไม่มีเรื่องที่เป็นเหตุให้วุ่นวายใจ...ถ้าเราไม่เดินทาง ก็ไม่ต้องพบกับเหตุการณ์แบบนี้...เช่นกัน ถ้าเราไม่เกิดอีก สิ่งต่างๆ ที่เห็นว่าเป็นทุกข์ ก็ไม่ต้องเผชิญด้วยเมื่อนั้น เพราะทุกอย่างเค้ามีของเค้าอยู่อย่างนั้นในธรรมชาติ แต่เราเองที่ดันไปเลือกหยิบของที่เป็นทุกข์ แทนที่จะหยิบธรรมะของพระพุทธองค์มาปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น...หรือมัวแต่ไปหยิบวิกฤติ แทนที่จะหยิบโอกาสในการที่หันมาปรับปรุงตัวเองจากวิกฤตินั้น

มั่วไปเรื่อยเลยผม...อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ เสนอข้อคิดเห็นเพื่อล่อเป้าให้คนอื่นมาเขียนด้วย จะได้อ่านแล้วนำมาปรับปรุงและเตือนสติตัวผมเองขอรับ เพราะลำพังจะให้เข้าใจธรรมะที่อาจารย์อุบลได้สอดแทรกเข้าไปนั้น ผมคงต้องกินโอเมก้า 3 อีกหลายลัง กว่าจะทำให้สมองฉลาดขึ้นมาบ้าง 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2011-02-04 00:26:37


ความคิดเห็นที่ 150 (1530461)

คนที่หมั่นสำรวจตัวเอง ก็จะเห็นตัวเองได้ชัดเจนว่าดี หรือ บกพร่อง ตรงไหน

แล้วจะได้ "แก้ไข" หรือ "ปรับปรุง" ตัวเอง ได้ถูกจุดต่อไป

คุณเอก และ คุณแหวน ก็มาถูกทางแล้วเนี่ย... หมั่นสำรวจตัวเองซะขนาดนี้...ไปน่าพลาดเป้า..ได้น๊า

รวมถึงคุณเบญจรัตน์ อ่านแล้วชื่นชมนะคะ มาเขียนเป็นธรรมทานบ่อยๆนะคะ..

ส่วนพี่มหา.. ก็ฝึกกำลังภายในมาซะเยอะขนาดนี้แล้ว สำรวจตัวเองแทบจะทุกขณะจิตซะขนาดนั้น

ฉะนั้น มีพลังเหลือเฟือ ที่จะส่งไปให้คนอื่นต่อไปได้แล้วนะท่านพี่มหา.......

 

ส่วนชนิดาก็ยังค้นหาธรรมและหมั่นฝึกวิทยายุทธไปเรื่อยๆ

เพราะเผลอ"โง่"ทีไร ก็"ทุกข์" ทุ๊กที แต่ก็ไม่รู้จักจำ... ฮิฮิ...

จริงๆอยากให้ผู้อ่านทุกท่านเข้ามาเขียนความคิดเห็นของท่านนะคะ ว่าอ่านแล้วได้อะไรบ้าง

อย่างน้อยคุณมาร์คและคุณเพชรก็อุตส่าห์ทุ่มทุนสร้างเว็บนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องบันทึกจิต

และความรู้สึกของเราแล้ว ก็เข้ามาช่วยกันใช้ให้คุ้มๆ..นะค๊า....เพราะวันข้างหน้าเมื่อคุณเข้า

มาอ่านข้อความเดิมๆของคุณ คุณจะเห็นตัวเองได้ชัดๆ....เลยทีเดียว

แล้วจงคิดเสมอว่า "ทุกๆคนในนี้ก็คือพี่น้องเราทั้งนั้น"

 

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ...สาธุ....

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-02-04 03:13:13


ความคิดเห็นที่ 151 (1530462)

อย่างที่พี่มหา..ว่ามา ก็ค่อนข้างครอบคลุมมากๆแล้ว

และที่สำคัญวันนี้ที่อาจารย์สื่อมาคิดว่าค่อนข้างชัดเจนมากๆ

อ่านแล้วน่าจะเข้าใจตรงกัน และที่สำคัญ ขอเน้นและย้ำอีกที

ทุกสิ่งที่ชนิดาคิดและเขียนก็เป็นเพียงมุมมองจากคนๆหนึ่งเท่านั้น

ฉะนั้น ท่านไม่จำเป็นต้องเห็นตามที่ชนิดาเห็น และถ้าเห็นแตกต่าง

หรือมองได้ไกลและลึกกว่านี้ ก็ช่วยกันเขียนเป็นธรรมทานนะค๊า...

เพราะการถกกันด้วยเหตุผล เป็นหนทางที่จะแก้ปัญหาได้ค่ะ...

ได้อ่านกระทู้ 145 และ 148 แล้ว ก็ทำให้นึกถึงไปว่า

สถานการณ์ความโกลาหล ที่สนามบิน"สุวรรณภูมิ" ก็คือเหตุการณ์จำลอง

ที่พวเราทุกคนในโลกใบนี้จะต้องเจออีกไม่นานนี้นี่เอง..พร้อมหรือยังคร๊าบบพี่น้อง..

สุวรรณภูิมิ ก็คือ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง หรือ เมืองไทยจำลอง หรือ บ้านสวนพีระมิด นั่นเอง...

ข้อความเหล่านี้ส่งตรงถึงทุกๆคน โดยเฉพาะผู้ที่อาสาจะมาช่วยกอบกู้ชาติ ศาสนา พระมหากษัติรย์ ว่า เตรียมพร้อมรับมือกันหรือยัง.. เพราะถ้ารู้ตัวว่ายังไม่พร้อมที่จะสะิเทิ้นน้ำ สะิเทิ้นบก และ เผชิญกับความหนาวเหน็บ ก็ต้องไปฝึก"จิต" ของตนให้ นิ่งและสงบ เสียก่อน

 

ลองนึกภาพว่า ในช่วงเกิดภัยพิบัติและหลังภัยพิบัติ จะผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ ศาสนา ทั้งผู้ดี ผู้ร้ายจะต้องมาพึ่งพิงที่บ้านสวนฯ บางคนอาจจะมาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส แขน ขา ขาด บางคนอยู่ในสภาพเศร้าโศรกเสียใจเพราะสูญเสียทุกๆคนที่รัก จนคิดไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป บางคนมาพร้อมกับโรคติดต่อร้ายแรง ถามว่าถ้าพวกเราเห็นอย่างนี้ เราจะทำอย่างไร และจะเลือกช่วยใครก่อนหลัง เพราะในสถานการณ์วุ่นวายขนาดนั้น จะไปวิ่งถามอ.อุบล คนเดียว ก็คงไม่ได้..

ฉะนั้น ผู้ที่อาสามาช่วยหรือมาแบ่งเบาภาระของอาจารย์

จะต้องเป็นผู้ที่ฝึกวิทยายุทธมาได้ ใกล้เคียง

และ มีมุมมอง คล้ายๆกับอาจารย์ ให้มากที่สุด

 

แต่ตอนนี้ เหมือนกับว่า ถ้าอาจารย์ออกคำสั่งว่า "หน้าเดิน" แต่ถ้าทุกคนยังหันหน้ากันไปคนละทิศ

บางคนหันหน้าไปทางทิศเหนือบ้าง ใต้บ้าง ตกบ้าง คำสั่งว่า "หน้าเดิน" ง่ายๆ สั้นๆ แค่นี้

ยังจะทำให้เดินกันไปคนละทิศละทางได้เลย..

 

ฉะนั้น ที่อาจารย์เมตตามาสั่งสอนและตักเตือนอยู่นี้ก็เพียงเพื่อ จะให้ทุกคนตั้งแถวและหันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ฉะนั้นไม่สำคัญว่า ทุกคนจะมีภูมิรู้ ภูมิธรรมมามากน้อยต่างกันแค่ไหน แต่ควรจะมีความคิดและความรู้สึกพื้นฐาน ไปในแนวทางเดียวกันซะก่อน......

 

แต่อย่างที่ทุกๆคนเห็น ในขณะนี้แม้กระทั่งอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัว อาจารย์ยังมีงานล้นมือขนาดนี้ ไม่มีเวลามาฝึกทุกๆท่านได้เป็นการส่วนตัว จะให้มาจี้จุดแต่ละคนก็คงจะไม่ทัน ฉะนั้น ทุกคนต้องแยกย้ายไปฝึกวิทยายุทธด้วยตัวเอง พร้อมเมื่อไหร่ก็ส่งสัญญาณไป..ว่าพร้อมจะช่วยเหลือแล้ว..

 

ฉะนั้น คงต้องเริ่มจากการสำรวจตัวเอง ... ว่าตัวเองมีทุกข์เรื่องอะไร แล้วก็หาทางดับทุกข์..

ฝึกดับทุกข์ให้ตัวเองจนช่ำชองเสียก่อน แล้วค่อยไป อาสา "ดับทุกข์" ให้ผู้อื่น...

เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณจะสามารถ แบ่งเบาภาระให้อาจาย์ได้อย่างแท้จริง...

 

ขออนุโมทนาบุญกับจิตอันเป็นกุศลของทุกท่านที่อาสามาช่วยในภาระกิจนี้

ทุกๆคนที่ได้ไปเข้าค่ายรุ่นที่ 7ทุกๆท่าน คงจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองแล้ว

ว่าตัวเองมาด้วยภาระกิจอันใด ฉะนั้น ก็คงจะพอรู้ตัวแล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง

ทุกๆเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิตในช่วงนี้ คือแบบทดสอบที่ต้องพิจารณาให้ดี

ควรจะตั้งมั่นและทำให้ดีที่สุด... คิดซะว่ายอมหนัก ยอมเหนื่อย ช่วงนี้

เพื่อจะได้ไปพักผ่อนระยะยาว ในอนาคต......

 

และเก็บตกคำศัพท์

คอมเพลน มาจาก คำนาม complaint แปลว่า การร้องเรียน ร้องทุกข์ การเรียกร้องความเสียหาย

แต่ถ้าเป็นคำกริยา ใช้ to complain ก็แปลว่า บ่น หรือ ร้องทุกข์ หรือไม่พอใจ .

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-02-04 04:24:09


ความคิดเห็นที่ 152 (1530470)

     จากเหตุการณ์ในสนามบิน  ที่ อาจารย์ได้เล่ามา  ด้วยปัญญา อันน้อยนิดของตัวเอง 

จึงมองเห็นได้แค่วงแคบ ๆ

คือ  ถ้าเราต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้าย ๆ  ที่เราไม่คาดฝันมาก่อน  การมีสติ 

และการควบคุมตัวเองเท่านั้น  ที่จะทำให้เราผ่านวิกฤต

ตรงนั้นไปได้  โดยการคิดบวกเสมอ  ซึ่งกว่าจะทำได้ 

เราก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างช่ำชอง  เราจึงจะสามารถนำมาใช้ได้

          และได้มาอ่านความคิดเห็นของ  พี่มหา  และคุณชนิดา  ซึ่งทั้งสองท่านได้มีแง่คิด

มุมมอง  ที่กว้างไกลออกไปอีก  ทำให้เราได้เข้าใจมากขึ้น  และก็พยายามเจริญรอยตาม

แต่ก็ยังอยู่ที่จุดเริ่มต้นอยู่ดี  ก็พอสตาร์ท  ที่ไรก็ฟลาวทุกที  ต้องมาเริ่มต้นใหม่ 

ตอนนี้ก็พยายาม  บอกตัวเองว่า  จะต้องตั้งสติให้ดี  ทำอย่างไรจะไปต่อได้ 

โดยไม่ต้องมาเริ่มต้นใหม่  และถ้าต้องตัดสินใจด่วน  แต่คิดอะไรไม่ออก  ต้องรอคุณชนิดา

มาขยายความให้กระจ่าง  น่าจะไม่ทันการ  ก็จะพยายามเร่งตัวเอง 

เพื่อให้ก้าวออกจากจุดเริ่มต้นให้ได้

          ต้องขอขอบพระคุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์  ทุกท่าน  อ. อุบล  พี่มหา  คุณชนิดา

ที่ได้ช่วย  ให้มองเห็นภาพต่าง ๆ และคอยเตือนสติอยู่เสมอ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล ฉวีวรรณ นภาพรรณราย วันที่ตอบ 2011-02-04 09:04:54


ความคิดเห็นที่ 153 (1530483)


กราบขอบพระคุณองค์พระพุทธเจ้า

พระอาจารย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

เสด็จตา ท่านท้าวเวสสุวรรณ

ท่านอาจารย์ แม่อุบล  ขอบพระคุณค่ะ

ขออนุโมทนาในธรรมทาน และขอปรับความคิด จิตใจขอตนเองด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ (tata_su22-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-04 10:12:45


ความคิดเห็นที่ 154 (1530494)

ขอบูชา

กราบพระบาท

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ท่านท้าวเวสสุวรรณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง

และ 

อาจารย์อุบล...ที่เคารพรักยิ่ง

ที่สอนเสมอ ให้เป็น

ผู้รู้  ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

****************************************************

แล้วอ่านทั้งหมดนี้แล้ว ได้อะไรบ้างไหมจ๊ะ

พี่ชนิดา พี่มหา พี่ไล่ล่า พี่แหวน พี่กัญญ์ พี่ตาล ฯลฯ

*********************************

ธรรมมะ คือ คุณากร

ส่วนชอบสาคร

ดุจดวงประทีป ชัดชวาล

แห่งองค์พระศาสดาจารย์

ส่องสัตว์ สันดาน

สว่าง กระจ่างใจมล

ธรรมใด มรรคโดย มักผล

เป็น แปด พึ่งยน

ทั้งเก้ากับทั้งนฤบาล

สมญาโลกอุดรพิศดาร

อันลึกโอฬาร

พิสุทธิ์ พิเสกสุขใส

***********************************

ค่ะอาจารย์

สำหรับแมว..ง่าย ๆ ตรง ๆ

เพราะ ต่ำมาก ๆ ( เรื่องภูมิธรรม )

มีแต่ธรรมชาติ...ติดตัวมา

และจะขอปรับปรุง ธรรมชาติของตนเอง

เพื่อ เป้าหมาย ที่วางไว้

*********************************

ถึงตัวไกล...แต่ใจฝังไว้แล้วจ้า...ขอบอก

ขอขอบพระคุณค่ะ

ที่ยังมี ไล่ล่า

อยู่บนหน้าเวปบ้านสวนฯ

คิดถึง สุดหัวใจ

ไม่ให้เข้าไปบ้านสวนฯ

ก็หลับตาฝันเอาก็ได้...ว่าได้ไป...ก็มีความสุขแล้วคร๊าบ.บ.บ.บ

***********************************

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว วันที่ตอบ 2011-02-04 11:02:15


ความคิดเห็นที่ 155 (1530499)

มั่วไปเรื่อยเลยผม...อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ

เสนอข้อคิดเห็นเพื่อล่อเป้าให้คนอื่นมาเขียนด้วย

จะได้อ่านแล้วนำมาปรับปรุงและเตือนสติตัวผมเองขอรับ

เพราะลำพังจะให้เข้าใจธรรมะที่อาจารย์อุบล

ได้สอดแทรกเข้าไปนั้น ผมคงต้องกินโอเมก้า 3

อีกหลายลัง กว่าจะทำให้สมองฉลาดขึ้นมาบ้าง 

********************************

+555

ต้องขออนุญาติ แซวกันนิดนะคะ

สำหรับคุณสิทธิ์ ต้องกิน โอเมก้า 3

แล้วพี่ก็ต้องหา โอเมก้า 2 ( ปลาทู )

แทนได้ป่ะ

***************************

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว วันที่ตอบ 2011-02-04 12:55:32


ความคิดเห็นที่ 156 (1530530)

เห็นด้วยค่ะ ว่าจากนี้ไปถ้าโลกเราจะสงบสุข

เราก็ต้องรักกัน มีแต่ความเมตตาให้กัน

ไม่แบ่งแยกกันอีกแล้ว ต่างคนต่างให้ความรักกัน

มันเป็นสากลค่ะ ไร้พรมแดน อย่าจำกัด

แค่ประเทศเรา เมื่อก่อนเคยได้ยินท่าน อ.อาจอง

พูดในรายการที่มีคุณสัญญา คุณากร เป็นพิธีกร ว่า

ใกล้ถึงเวลาที่โลกเราจะสงบสุขแล้ว

 

แต่ต้องผ่านพ้นเหตุการณ์เลวร้ายเสียก่อน

 ขอให้พวกเราทุกคนรักกัน มีความรัก

ความเมตตาให้แก่กัน  ฟังแล้วก็ยังสงสัยค่ะ

ว่าทำไม กับแค่คำว่ารัก เมตตาให้กัน

ถึงจะช่วยโลกได้ มาวันนี้ ได้มาพบบ้านสวน

ก็ได้มีดวงตาเห็นธรรมแล้วค่ะ

เข้าใจ คำสอนของ ท่าน อ.อาจอง

เข้าใจความหมายของคำว่า

เมตตาธรรมค้ำจุนโลก 

ได้อย่างแท้จริงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ วันที่ตอบ 2011-02-04 17:50:53


ความคิดเห็นที่ 157 (1530547)

ขอกราบเบื้องบนทุกพระองค์ และท่านอ.อุบล

 

หนูเห็นว่าจริงตามนั้นทุกประการคะ ทุกเรื่องที่เราเจอที่เราเป็นอยู่ในขณะนี้

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ อย่างไม่น่าเชื่อว่าชีวิตนี้จะได้เจอ

หรือเรื่องเลวร้ายที่สุด ที่คิดว่าชีวิตนี้ไม่น่ามาพบเลย

ไม่มีคำตอบใดจะตอบเราได้ตรง ชัดเจน ที่สุด นอกจาก ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ

ดังนั้น เราจึงต้องสำรวจตัวเอง ว่าสร้างเหตุเช่นใดไว้??

เมื่อพบเหตุแล้ว ก็มาระวังกายระวังใจของเราให้มากกว่าเดิม

อย่าปล่อยให้ไหลไปตามกิเลส ต้องมีสติควบคุมตลอดเวลา

ไม่งั้น กิเลสเล็ก ๆ ที่เราคิดว่าไม่สำคัญ

จะนำพาใจให้ไหลต่ำลงไปอย่างไม่รู้ตัว

 

ดังนั้นต้องคอยเตือนตน ด้วยตนเอง (เพราะคงไม่มีใครตามช่วยเราได้ตลอด)

เพื่อจะได้ไม่สร้างเหตุที่เลวร้ายขึ้นมาอีก เพราะที่ต้องมาเกิดและเป็นอยู่นี้

ก็เพราะประมาทมาหลายภพหลายชาติแล้ว

 

ถ้ามองสิ่งร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกันเรา ในแง่ลบอาจคิดว่าทำไมต้องเจอแบบนี้ แย่ๆๆ

แต่ถ้าเราแล้วกลับมาคิดทบทวน ก็จะรู้ว่ามันก็มีประโยชน์กับเรานะ

เพราะถ้าเราไม่ได้เจอเรื่องร้ายนี้ เราก็จะไม่รู้ตัวเลยว่าเราประมาทมากขนาดไหน

และเราก็ยังจะไม่ระวังกายระวังใจเหมือนเดิม

 

ส่วนการที่เราจะบอกเรื่องผิดพลาดหนัก ๆ ในชีวิตเรานั้น

เราทุกคนก็คงเลือกคนที่เราไว้ใจ และคิดว่าท่านเข้าใจ และพร้อมให้อภัยเราเสมอ

เช่น พ่อแม่ หรือคน ที่เมตตา และรักเราจริง ๆ เท่านั้น

เพราะมั่นใจว่าจะไม่โดนด่ากลับมาให้เสียใจกว่าเดิม

แต่ท่านอาจเพียงสอน และชี้แนะแนวทางให้เราเริ่มใหม่ได้

เพราะทุก ๆ คน ก็ยังคงต้องการ

 

หนีความทุกข์

หนีความเครียด

หนีความไม่สมหวัง

ฯลฯ

 

ดังนั้นคงต้องเรียนรู้กันไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งชีวิตคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-04 21:22:51


ความคิดเห็นที่ 158 (1530563)

ฉันคิดดีแล้ว ว่าการนอนค้างที่นี่วันนี้

จะเป็นวันแห่งความทรงจำ

ที่ยิ่งใหญ่

ที่ฉันไม่มีวันลืม

 

ก็จริงนะ ถ้าเช่นนั้น ยูกำลังจะบอกว่า

ฉันก็โชคดีใช่ไหม ที่ต้องค้างสนามบินใหม่

ที่พึ่งเปิดวันนี้ ฉันต้องดีใจใช่ไหม

เข้ามาอ่านอีกรอบเพื่อสร้างความฮึกเหิมให้กับตัวเอง

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งอาจจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทั้งทางกายหรือใจ

และอุปสรรคต่างๆ แต่เราควรจะภูมิใจ ที่เราจะเป็นส่วนหนึ่งของ โลกใบใหม่ ที่จะสดใสกว่าเดิม

มีเพื่อนใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆให้ค้นหา.. จะว่าไปแล้ว ก็น่าจะตื่นเต้นดีเหมือนกันเนอะ ...

 

ฉะนั้น ภัยพิบัติจะมา หรือไม่มา หรือจะมาเมื่อไหร่..ก็ช่าง...

ก็จะพร้อมสู้ เื่พื่อ "วันแห่งความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ไม่มีวันลืม"....

แต่ชนิดาจะ"สู้"อยู่แถวไหน ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองเลยเนี่ย..ฮิฮิ..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-02-05 04:26:54


ความคิดเห็นที่ 159 (1530647)

 

อาจารย์ขา...

หากหายเหนื่อยแล้ว

กรุณาช่วยมาเขียนเล่าต่อมาก ๆ นะคะ

อยากอ่าน....ถึงแม้เรื่องมันจะยาว

ฮือ ฮือ ฮือ....อีกนานมากไหมคะเนี้ย...ถึงจะจบ

   

คือว่า..

แมว ... หนาวใจ...น่ะคะ

  คิดถึง ค่ะ  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว วันที่ตอบ 2011-02-05 22:45:17


ความคิดเห็นที่ 160 (1530659)

อากาสที่นามบินตอนนั้นหนาวเหน็บ

ทรมาน แต่ใจกลับเป็นสุข

ที่ได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้ไม่มีใครรู้

และวันนี้เสาร์ 5 ก.พ.54

 อากาศที่บ้านสวนพีระมิด หนาวมาก

เมื่อคืนนี้ คุณปัดน้องปลื้อม เซ็นเตอร์พาเมล่า

สมุทรปราการ มาค้าง คืนที่ 2 น้องปลื้มทนไม่ไหว

บอกหนาวมากที่สุด

วันนี้เลยซ้อมการใช้ฟืนปิ้ง ย่าง BBQ ไม่ให้ถ่าน

ต่อไปเราจะซ้อมการใช้ชีวิตแบบ กลับสู่สามัญ

แต่ทุกคนกลับรู้สึกมีความสุขมาก

ไม่เดือดร้อนเลย  ตอนนี้ใครหิวก็เชิญนะคะ

คุณสุเมธพ่อครัวเอก

กำลังทำเมี่ยงคำ ส่วนอีกทีมหนึ่งก็ ปิ้งย่าง

บัวลอยไข่หวาน คิดดูซิ

หุ่นจะเป็นยังไง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-02-06 00:12:03


ความคิดเห็นที่ 161 (1530660)

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ 

 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ทุกๆ พระองค์

ท่านอาจารย์แม่อุบล  ที่เมตตาสื่อธรรมะ

และขอบคุณญาติธรรมบ้านสวนพีระมิดทุก ๆท่านที่แสดงความเห็นเป็นธรรมทาน


 

สิ่งที่ท่านอาจารย์แม่อุบลเล่ามา

ต้องอ่านและพิจารณาทุกตัวอักษร

เพื่อเตรียมตัว เตรียมใจ ให้พร้อมกับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น


 

ขออนุญาตเล่าเรื่องราวของตัวเอง

เดือนต.ค. 2547  เจอเรื่องที่เรารู้สึกว่าทุกข์หนักที่สุดในชีวิต (เกี่ยวกับธุรกิจค้าขาย) 

26 ธ.ค. 2547 เจอสึนามิ (ตอนนั้นอยู่ จ.กระบี่) 

แต่สถานที่ ที่ณีอยู่เจอแค่ เศษเสี้ยวของสึนามิ

ได้เห็นเค้าขนศพ โดยรถบรรทุก  มาจากท่าเรือคลองจิหลาด

ไปเก็บไว้สุสานจีน กลางเมือง

บนถนนมีแต่แมลงวัน

ได้อ่านข่าว ดูข่าวในทีวี

มีคนมารอรับศพ ลูกๆ กลับบ้าน

คนที่ยังหาศพไม่เจอก็ต้องนอนรอกันที่ป่ายาง ข้างๆ สุสาน

 

ตอนนั้น

จิตตก หดหู่ มากถึงมากที่สุดในชีวิต

เป็นเพราะไม่เคย

ฝึกสติ

ไม่รู้เรื่องการปฎิบัติธรรม

หลังจากเหตุการณ์นั้น

ได้ยินเขาพูดว่า

มันเป็นสัจจธรรมของชีวิต

เกิด แต่ เจ็บ ตาย

จึงหันกลับมา

นึกถึงคำถามที่คาใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ

คนเราเกิดมาทำไม

และตั้งแต่นั้นมาก็พยายามหาคำตอบ

พยายามเยอะมากๆ

หันมาอ่านหนังสือธรรมะ มากกว่าแต่ก่อน

พยายามไปปฎิบัติธรรม เมื่อมีโอกาส

ตอนแรกรู้สึกว่านิพพานใกลเกินเอื้อม

จนกระทั่งวันหนึ่ง

พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลาย ๆท่าน

ก็ยืนยันว่า

ถ้าเราตั้งมั่น

ก็สำเร็จ

(เมื่อทุกอย่างพร้อม และถึงเวลาอันควร)

ตั้งแต่นั้นมา

บอกกับตัวเองเสมอ ๆ ว่า

ตัวเราไม่ไช่ผู้วิเศษ 

แต่

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ไม่หวั่นไหว

ขอ

ตั้งมั่น

เพื่อ พระนิพพาน


 

เล่าเรื่องติด

อยู่สนามบินสุวรรณภูมิต่อ 

-ทำไมเราต้องมาใช้สนามบินวันแรกเปิด

-ทำไมเราถึงต้องมานอนค้างสนามบิน ทั้งที่ไม่ใช่ที่พัก

-ทำไมเราต้องมาเจอสายการบินที่เป็นเช่นนี้

-ทำไมเราจึงได้มารับรู้เรื่งวุ่นวายวันนี้

ฯลฯ

คำถามทั้งหมด มีคำตอบว่า

ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ


ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ จริง ๆค่ะ

- บ้านอยู่หาดใหญ่ ทำไมจึงต้องไปอยู่กระบี่  และต้องอยู่ในเหตุการณ์ คลื่นสึนามิ

- เพราะเหตุการณ์นั้นจึงผลักดันให้เราได้มาเจอบ้านสวนพีระมิด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรรณี -ณี วันที่ตอบ 2011-02-06 00:30:04


ความคิดเห็นที่ 162 (1530665)

ตอนนี้ก็จิตตกอีกแล้วค่ะ

เสียดายไม่ได้ไปปฐมนิเทศ

เสียดายไม่ได้ไปปาร์ตี้ BBQ

ที่สำ มะ คัญ

อดชิม เมี่ยงคำ กับ บัวลอยไข่หวาน

ฮือ ฮือ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรรณี -ณี วันที่ตอบ 2011-02-06 01:06:27


ความคิดเห็นที่ 163 (1530674)

อากาสที่นามบินตอนนั้นหนาวเหน็บ

ทรมาน แต่ใจกลับเป็นสุข

ที่ได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้ไม่มีใครรู้....

คุณสุเมธ...

เมี่ยงคำ....จะส่งถึง

คนไกลบ้างได้ไหมจ๊ะ....

ประมาณหน้าวัง...สวนจิตรฯ เนี่ย

*********************************

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว วันที่ตอบ 2011-02-06 09:58:44


ความคิดเห็นที่ 164 (1530734)

ขออนุโมทนากับคุณพรรณี

สำหรับเรื่องเล่าประสบการณ์ตรง ที่โหดร้าย

แต่มีประโยชน์มาก ช่วยผลักดันให้พบความจริงของชีวิต

ทุกคนคงมีจุดหักเห มาเจอธรรม ที่แตกต่างกัน

โมทนาด้วยคะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-06 18:42:56


ความคิดเห็นที่ 165 (1530774)

 

 

กราบคุณแม่ ที่เคารพรัก

            และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆท่่าน

                           ผมจากหายไปจากเวบฯ เสียหลายวัน เลยตกข่าวต่างๆไปมากมายครับกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็ใช้เวลานั่งอ่านความคิดเห็นของแต่ละท่าน ครับ      

                           อ่านเรื่องที่คุณแม่ได้เมตตาเล่าเกี่ยวกับการต้องนอนที่สนามบินแล้ว ทำให้เห็นภาพต่างๆที่ได้เกิดขึ้นได้เหมือนว่าได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้รับความหนาวเหน็บอย่างที่คุณแม่ได้เผชิญ เพราะว่า เห็นมุมมองและการใช้สติของคุณแม่ในการเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ อย่างมีเหตุและผล ไม่มีความโกรธ ไม่มีความกังวล ไม่มีความเครียดกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวันเวลาข้างหน้า ทำให้ดวงจิตไม่มัวหมอง จึงเกิดปัญญาในการแก้ไขสถานการณ์ และ พูดกระตุกความคิดของเพื่อนๆที่ร่วมชะตากรรมในขณะนั้นได้ อย่างมีเหตุและผลมารองรับ ครับ
                                        ทำให้ได้คิดว่า เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็อย่าให้อารมณ์มานำเรา ขอให้ใช้สติและปัญญามานำทาง ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไม่เลวร้ายไปกว่าเดิม

                           การเขียนตอบของพี่ชนิดา ผมอ่านทุกข้อความของพี่ ครับ ผมขอแสดงความนับถือพี่ชนิดาอย่างเต็มร้อยครับ พี่เป็นบุคคลที่สมกับที่คุณแม่ยกย่อง ครับ ในความคิด ความรู้ และ ลูกเล่นต่างๆ ของพี่ครับ อ่านแล้วไม่เครียด เพิ่มความรู้และวิสัยทัศน์ ครับ

                           และ ต้องขอขอบคุณ พี่มาร์ค และ คุณเพชร ที่ทำให้มีเวปฯนี้ครับ

                           และ ติดตามอ่านเรื่องเล่าจากคุณแม่ตลอด ครับ       

 

 

  

                             

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กร วันที่ตอบ 2011-02-06 22:06:37


ความคิดเห็นที่ 166 (1530786)

อากาศที่นามบินตอนนั้นหนาวเหน็บ

ทรมาน แต่ใจกลับเป็นสุข

ที่ได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้ไม่มีใครรู้

 

อาจารย์..คะ ณ เวลานี้ ทุกคนรู้ ทุกคนเห็น แล้วก็แอบชื่นชมอยู่

และที่สำคัญทุกๆคนก็พร้อมที่จะเป็น"แนวร่วม" กับอาจารย์เสมอ..ค่ะ

เพราะจะว่าไปแล้ว การที่จะ้ต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บภายนอก

น่าจะง่ายกว่าการผจญกับ ความร้อนที่เผาใจ อยู่เป็นไหนๆนะคะ... 

เพราะอากาศหนาวใส่เสื้อผ้าให้อุ่นๆก็บรรเทาได้ แต่ถ้ากิเลสร้อนๆมาเผาใจ

ต้องใช้ธรรมะและกำลังภายในเท่านั้น จึงจะขับมันออกไปได้


และอนุโมทนากับเรื่องเล่าของคุณพรรณีด้วยนะคะ มันเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความหดหู่มากๆ

จำได้ว่าตอนนั้นชนิดายังอยู่ที่อังกฤษอยู่เลย รู้สึกเศร้ามากๆ จนต้องเลิกดูข่าวทาง บีบีซี ไปเลยพักใหญ่

เพราะทำใจไม่ได้ ดูทีไร น้ำตามันไหลทุ๊กที แล้วนึกสภาพของคนที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆจะ

"เศร้าสุดๆ"ขนาดไหน...

ก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยเตรียมใจไว้เลยว่า "ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน" ....อนิจา........

 

ส่วน"คุณกร" แม้นจะหายหน้าไปนาน สงสัยจะแอบไป"ลับคม" เป็นแน่แท้

เพราะเห็นได้ชัดว่า กลับมาคราวนี้ ไม่ธรรมดาอีกแล้ว... 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-02-07 00:00:33


ความคิดเห็นที่ 167 (1530813)

 

สวัสดีครับ พี่ชนิดา

            ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ตัวลอยไปไหนๆแล้วไม่รู้ครับ แค่นี้ก็หายหน้าไปตั้งนานถ้ามีอาการตัวลอยอีก ก็คงหลุดจากโลกไปครับ แต่ก็ยังดีนะครับ ที่ผมแค่หายหน้าไปจากเวปฯ ยังไม่มีอาการขาดการหายใจ ครับ

           ที่ชอบเขียนชมพี่ชนิดาเสมอ ก็เป็นความจริงทุกประการครับ ไม่ได้คิดเอง เออเองครับ แต่ตกที่ไม่ได้กล่าวถึงเพื่อนๆพี่คนอื่นๆ ก็ขออภัยครับ แต่อ่านทุกความคิดของทุกท่านครับ และได้นำไปขัดเกลาจิตของตนเองตลอด สำหรับความคิดของทุกท่าน แต่ไม่ได้ขัดไปจนหาเหลี่ยมมุมไม่เจอนะครับ เพราะว่า ที่ผ่านมาก็เป็นคนที่ทรนงตัวเองเสมอมา ไม่รับฟังความคิดของผู้อื่น แต่เมื่อได้มาที่บ้านสวนฯ แล้วทิฐิมานะส่วนตัวก็ลดลงไปได้มากมาย ฟังความคิด คำพูดของผู้อื่นมากขึ้นกว่าเดิม และฟ้งด้วยจิตที่คิดไตร่ตรอง และไม่อคติ

           นั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับว่าเสพติด และคิดถึงคุณแม่ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆท่าน ครับ แวะเวียนมาที่เวปฯ เมื่อมีเวลา และอ่านทุกถ้อยคำ และ เฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ด้วยใจที่ปิติยินดี แม้ว่า บางครั้ง ก็มีเรื่องที่ที่รบกวนจิตบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นข้อสอบที่ต้องเขียนคำตอบลงไปทุกคำถาม ผิดบ้าง ถูกบ้าง ก็ต้องตอบ ไม่สามารถเว้นว่างไว้ได้ เป็นการตอบที่ต้องรู้ว่าคำถาม ต้องการอะไร แต่บางครั้งก็ตอบไม่ได้ เพราะ วันเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้ฝึกฝน และ คิดหาเหตุและผล และปฏิบัติให้ดี ก็มีหลายคำถามที่แอบดูคำตอบของผู้อื่น

            โดยเฉพาะ คำตอบของพี่ชนิดา ครับ (อิ อิ)

             อากาศที่โปแลนด์เป็นอย่างไรบ้างหนอ อย่างไรก็ขอบารมีของพระพุทธองค์บันดาลให้พี่ชนิดามีความสุขกายสบายใจครับ เพราะ คนที่มีความสามารถ มีความรู้ อย่างพี่มีไม่มากที่มีก็เป็นแค่ทำเพื่อตนเอง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กร วันที่ตอบ 2011-02-07 06:49:03


ความคิดเห็นที่ 168 (1532843)

อาจารย์ได้แสดงธรรมะที่ช่วยเตือนสติทุกๆคนให้มีความรักที่ไร้เงื่อนไข  เป็นความรักความเมตตาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ  เป็นความรักที่ไร้ขอบเขต ไร้พรมแดน  ไม่ยึดติดตัวตน 

ทุกครั้งที่เราคิดถึงประโยชน์ต่อผู้อื่น เราก็จะวางตัวตนของเรา

ไม่ยึดติด ไม่มีตัวเราของเรา ความทุกข์จึงไม่มี

อาจารย์จึงมีจิตใจที่สงบสุขได้ในทุกสถานการณ์

และจิตใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาของอาจารย์ยังได้ขยายออกไปสู่ผู้คนรอบข้างโดยอัตโนมัติ สร้างความสงบ และเยือกเย็นให้เกิดขึ้นในฉับพลัน  สถานการณ์ต่างๆจึงเปลี่ยนไปในทางที่ดี

หากพลังแห่งความรักที่ไร้เงื่อนไขนี้เกิดขึ้นในจิตของทุกคน โลกก็จะมีแต่ความร่มเย็น สงบสุข

ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่เมตตามอบธรรมะที่งดงามมากแก่ลูก

ผู้แสดงความคิดเห็น ปาริชาติ วันที่ตอบ 2011-02-22 01:28:41


ความคิดเห็นที่ 169 (1533749)

ภูมิใจค่ะที่เป็นคนไทย

อยู่ใต้ร่มพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลค่ะ ที่เมตตาเป็นวิทยาทาน

และทำให้หนูมีประสบการณ์ในการเตรียมใจต่อสถานการณ์ต่างๆได้ดีด้วยค่ะ

สุดท้ายขออนุโมทนาบุญ ตามคำสอนของอาจารย์ค่ะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร่ามศรี สุวัตถิกุล วันที่ตอบ 2011-02-28 15:33:40


ความคิดเห็นที่ 170 (1533862)

 

 

     ตอนที่อ.เล่าว่าทุกคนต่างโมโห โวยวายกันมาก เพราะว่า

ได้เกิดผลเสียหลาย ๆ ด้าน ต่อตัวเขา ธุรกิจของเขา และครอบครัว

ของเขา แต่สิ่งที่เขาคิดนั้นมันเป็นเหตุการณ์ล่วงหน้า ที่ยังไม่เกิด

แต่อาจจะเกิด ก็มานึกถึงตัวของดิฉันเอง ตอนนั้นยังฝึกสมาธิไม่ได้

ก็จะเกิดอาการเครียด คิดมากต่าง ๆ นานา กับเหตุการณ์ที่ยังไม่

เกิดขึ้น แต่พอมาถึงเหตุการณ์จริง ๆ ก็จะมีหนทางแก้ไขปัญหาไป

ได้เองทุกครั้ง คือทุกปัญหามีทางออก แต่ก่อนเกิดปัญหาเราก็ทุกข์

ไปซะแล้ว อย่างนี้หรือเปล่าคะ ที่อ.บอกว่าเราขาดทุน เพราะคิดไป

เครียดไป เศร้าไปก็ไม่มีประโยชน์ สู้เราใช้สติมาแก้ไขปัญหาที่จะเกิด

ขึ้นดีกว่า แต่ตอนนั้นคิดไม่ได้หรอกค่ะ แต่พอมานั่งสมาธิแล้ว รู้สึกว่า

สิ่งเหล่านี้ได้หายไป ไม่ทุกข์ ไม่เครียด มีสติมากขึ้น แล้วเราก็จะมีช่อง

ทางออกได้เอง ตอนที่เราไม่เครียดจะคิดอะไรที่เป็นกุศลได้เยอะมาก

ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าทำไมพระพุทธองค์ หลวงพ่อ และ อ.อุบล จึงให้เรา

ฝึกสมาธิกัน เพราะสมาธิทำให้เรามีสติ คิดอะไรได้ มีทางออกของชีวิต

และถ้าเราไม่อยากจะเจอทุกข์แบบนี้ เราก็ต้องไม่กลับมาเกิด อันนี้เป็น

แง่คิดในแง่มุมของดิฉันเองกับเรื่องเล่าของ อ. แต่เรื่องที่ อ.เล่านั้น

ก็เป็นแง่มุมระดับประเทศชาติ ก็ต้องขอให้ผู้รู้เป็นผู้แสดงความคิดเห็น

นะคะ ดิฉันขอเป็นผู้อ่านเอาความรู้แล้วกันค่ะ เพราะถ้าแสดงความคิด

เห็นก็คงจะเป็นแบบโง่ ๆ ขอขอบคุณผู้แสดงความคิดเห็นทุกท่านค่ะ ที่

ได้เขียนให้ดิฉันรู้เป็นธรรมทานค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล วันที่ตอบ 2011-03-01 10:22:37


ความคิดเห็นที่ 171 (1538782)

ขอโมทนาบุญกับท่านอ.อุบล และ ทุกท่านสำหรับธรรมทานนี้ค่ะ

เรื่องนี้ทำให้เรียนรู้พระธรรมคำสอนของพระองค์ท่านและ สิ่งที่หลวงพ่อได้เมตตาบอกลูกหลานอยู่เสมอให้มีสติระลึกรู้อยู่กับตัวและการละอยู่ตลอดเวลา เพราะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าเรามิอาจรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเราเอง

แต่ถ้าเรารู้ถึงเหตุและหาทางที่จะดับเหตุนั้นด้วยสติแล้วเราก็จะพบกับความสุขเหมือนอย่างท่านอ.อุบลที่หามุมสงบและอ่านหนังสือของหลวงพ่อได้อย่างมีความสุข  

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา วันที่ตอบ 2011-04-04 15:37:48


ความคิดเห็นที่ 172 (1538893)

  อนุโมทนาสาธุ

กับเรื่องดีดีของอาจารย์อุบ

ด้วยนะครับ

 

และเรื่องราวของทุกท่านด้วยนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบลล์ (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-04 23:53:34


ความคิดเห็นที่ 173 (1542555)

 image

 ลูกขอระลึกนึกถึงพระคุณของ

พระวิสุทธิ์พุทธรังสีบรมธรรมบิดา

พระคุณของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

พระคุณของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทกๆพระองค์

 ลูกขออนุโมทนาบุญ

กับทุกๆ ท่านนะครับ

หลังจากไปบ้านสวนพีระมิดมา

ทุกวันนี้เบลล์มีความสุขมาก

ทั้งทางกาย

และโดยเฉพาะทางใจ

รู้สึกว่ากายเบาใจเบา

การปฏิบัติก็ดีขึ้น

ลูกขอขอบคุณ

อาจารย์อุบล

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด

ทุกๆพระองค์

อยู่ทุกครั้งครับ

 

ขอบุญนี้เป็นบุญอัศจรรย์

หมุนแผ่ไปตลอดเวลา

ด้วยพลังแสงทิพย์อริยธรรม

ด้วยพลังแสงฉัพพรรณรังสีรัสมีหกประการ

หมุนตลอดเวลา

ด้วยพระบารมีอันมิอาจประมาณ

ของพระวิสุทธิ์พุทธรังสีบรมธรรมบิดา

ด้วยพระบารมีของพระพุทธเจ้า

ด้วยบารมีของพระเบื้องบนพระนิพพานทุกๆพระองค์

ผลบุญใดที่ลูกได้กระทำมา

จากชาติแรกถึงปัจจุบัน

ทั้งทาน  ศีล  ภาวนา

รวมกับบุญที่ลูกขออนุโมทนาสาธุ

กับบุญทุกบุญในบ้านสวนพีระมิด

รวมกับบุญที่ลูกขออนุโมทนา

กับองค์พระเบื้องบนพระนิพพานทุกๆพระองค์

รวมกับบุญที่ลูกอนุโมทนากับพระอริยเจ้าทุกพระองค์

รวมกับบุญที่ลูกอนุโมทนากับพระมหาโพธิสัตว์พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์

รวมกับบุญที่ลูกอนุโมทนากับพรหมเทพเทวดาทุกๆ พระองค์

รวมกับบุญทุกบุญของทุกท่าน

ทั่วเขตแดนโกฏิจักรวาล

อนันตจักรวาล

ลูกขอน้อมถวายบูชาพระคุณ

พระบรมธรรมบิดา

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

พระอรหันตเจ้าทุกๆพระองค์

พระอริยเจ้าทุกๆพระองค์

พระมหาโพธิสัตว์เจ้าพระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆพระองค์

พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์

มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

และพระบรมวงศานุวงศ์เป็นที่สุด

เทพไท้เทวดาพรหมทุกๆพระองค์

คุณบิดามารดาทุกๆหลายแสนชาติ

พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกๆพระองค์

บรรพบุรุษไทยทุกๆ ท่าน

สรรพสัตว์ทั่วทั้งสามโลก

เจ้ากรรมนายเวร

พี่น้องบ้านสวนพีระมิดทุกท่าน

ผี  สัมพเวสี  เปรต  อสูรกาย  สัตว์นรก  สัตว์เดรัจฉาน

ขอจงร่วมอนุโมทนาบุญดังกล่าว

กรรมใดที่ลูกได้ประมาทพลาดพลั้งไป

ตั้งแต่ชาติแรกถึงปัจจุบัน

ทั้งตั้งใจก็ดี  ไม่ตั้งใจก็ดี

รู้ก็ดี  ไม่รู้ก็ดี

ทาง  ใจ  วาจา  กาย

ในคุณพระรัตนตรัย

ในเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์

ในคุณบิดามารดาครูอาจารย์ทุกๆพระองค์

ในทุกๆท่าน

ขอทุกท่านโปรดจงอโหสิกรรมให้ลูกด้วย

ขอให้กรรมขาดจากกันบัดนี้

กรรมใดที่ใครๆทำกับข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าอโหสิกรรม

น้อมถวายเป็นอภัยทาน

แด่พระเบื้องบนพระนิพพานทุกๆพระองค์

ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้

ขอให้ความไม่มี

ไม่ได้ซื้อคือไม่ได้เรียนรู้ธรรมะ

ไม่ได้ขายคือไม่ได้เผยแผ่ธรรมะ

ไม่หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งกายและใจ

ไม่ได้ช่วยเหลือคนให้พ้นทุกข์

ไม่ได้ช่วยชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์

จงอย่าบังเกิดปรากฎมีแก่ลูก

สัมปติจฉามิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นิพพานปัจจโยโหนตุ

นิพพานปรมังสุขขัง

บุญนี้ที่ลูกจะพึงได้รับเพียงใด

ขอน้อมให้ทุกท่านและเทวดาประจำตัวท่านได้รับเช่นกัน

รวมทั้งทุกท่านแม้ไม่ได้อ่านข้อความนี้ก็ตาม

ขอให้ท่านและเทวดาประจำตัวท่านพึงได้รับเช่นกัน

โดยอัตโนมัติ

ฝากไปกับแสงทิพย์อริยทรัพย์

และแสงฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการ

ส่งไปทาง

ทุกๆแสง  สี    และวัตถุธาตุที่ได้พบเห็น

ทุกเสียงที่ได้ยิน

สาธุ  สาธุ  สาธุ

สัมปติจฉามิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นิพพานปรมังสุขขัง

อานิสงส์ของบุญดังกล่าวมีเพียงใด

ลูกขอน้อมถวาย

แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ทั้งหมดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น นายคมกริช นามมงคุณ (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-04-27 22:13:42


ความคิดเห็นที่ 174 (1542671)

กราบเท้า อ.อุบล ที่เคารพยิ่ง

วันนี้หนูได้มาอ่านซ้ำอีกรอบ ยิ่งอ่าน ยิ่งเข้าใจ ซาบซึ้งใจ อย่างที่ไม่เคยรู้สึก

คำตอบที่ให้กับผรั่งที่บอกว่า ภูมิใจในการนอนสนามบิน

หนูคิดเลยว่า คนจะงาม งามที่ใจ แบบอ. ได้ คือ ต้องใจงาม เลยเป็นคนงาม

ไม่ใช่เครื่องสำอางค์ ได้พบแสงสว่างที่อ. เมตตา ฉายมา แล้วค่ะ

ลูกจักนำคำสอนที่ได้รับ มาปรับให้เป็นธรรมดาในชีวิตค่ะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ สาธู สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-04-28 11:46:54


ความคิดเห็นที่ 175 (1542691)

โชคดีอะไรอย่างนี้..ที่ได้อ่านกระทู้นี้..

(เมื่อก่อนไม่ได้อ่านเลยค่ะ..เพราะค่อนข้างเก่า)

ทำเอา "ตื่น" ได้ขนาดนี้..

ต้องไปควานอ่านย้อนหลัง อีกเยอะเลยค่ะ

ขอบคุณ น้องเบลล์ กับคุณอร่ามศรี ที่ทำให้กระทู้อัพเดท

เด้งดึงขึ้นมาอยู่ข้างบน

เตะ ตา คนตาบอด อย่างพี่น้องนะคะ

อนุโมทนาค่ะ อนุโมทนาค่ะ

สนามบินสุวรรณภูมิ วันแรก ห้องน้ำ ความหนาวเหน็บ

ความห่วง ความผิดหวัง ความกังวล คนรับหน้าแก้ปัญหา

เหตุผลที่แท้จริงแต่กลับไม่รู้ สิ่งที่ได้รู้กลับไม่ใช่ความจริง

การกักขังคนเป็น จราจลที่เกิดจากคนกลุ่มกระจี๊ดริด

และ อีกมากมาย..


สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ (pitcha_nate-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-04-28 13:16:40


ความคิดเห็นที่ 176 (1551262)

เข้ามาอ่านครั้งแรกค่ะ รู้สึกประทับใจในพระจริยาวัตรของพระเจ้าอยู่หัวมากยิ่งขึ้น ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย ได้แง่คิดและความรู้ต่างประเทศ ..     ยอมรับว่าเป็นคนโง่จริงๆ ขอบคุณ อ.อุบลที่เล่าเรื่องนี้เป็นธรรมทานค่ะ  และจะเป็นคนดีของสังคมไทยให้ได้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัชฎาภรณ์ ปุญโญกุล (rutpun18-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-09 13:19:13


ความคิดเห็นที่ 177 (1554878)

ขอกราบเท้าขอบพระคุณ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม

                            หลวงพ่อฤาษีลิงดำ     เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

                            พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                            ท่านอ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบ้านสวนพีระมิดเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ที่ทำให้ได้มีโอกาสเข้ามาอ่านบทความและคำสอน อันเป็นประโยชน์ยิ่ง  อ่านแล้วซึ้ง ประทับใจ กินใจ ได้ข้อคิด นำไปปฏิบัติ  และรู้สึกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกท่านเมตตา เป็นห่วงลูกหลานทุกคนอยู่ตลอดเวลา  รู้สึกมีความสุขและเกิดปีติมากค่ะ

                            ลูกจะพยายามอย่างยิ่ง เพื่อไปถึงซึ่งพระนิพพานค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมกันพูดคุยในเรื่องธรรมะด้วยนะคะ    ....สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฐิติมา พฤกษ์อำนวย (pranaijai-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-28 19:58:38


ความคิดเห็นที่ 178 (1556547)

ตุ้ยขออนุญาติ อ.อุบล นำกระทู้นี้เผยแพร่เป็นธรรมทาน

ที่ facebook "คนไทยรักในหลวง" ค่ะ

เพื่อเป็นการเผยแพร่เว็บไซต์บ้านสวน

และเชิดชูสถาบันค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-07 09:36:09


ความคิดเห็นที่ 179 (1567649)

ขอให้

ลูกบ้านสวนพีระมิด

ทุกคน

 

โปรด

เข้ามาอ่าน

กระทู้นี้ ทุกความเห็น

อีกครั้งหนึ่ง

(หรือหลายๆรอบยิ่งดี)

นะคะ

 

แล้วจะได้รับ

อะไร ใน ความสงสัย

จะ

ตอบโจทย์

ที่ค้างคาใจท่านได้

ดีทีเดียวค่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-04 23:39:59


ความคิดเห็นที่ 180 (1567650)

 โมทนาครับ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-04 23:41:59


ความคิดเห็นที่ 181 (1567691)

อนุโมทนาและเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะอาจารย์

แค่ได้กลับมาอ่านกระทู้นี้คร่าวๆอีกครั้ง

เพราะอาจารย์เมตตาเข้ามาอัพเดท ก็ได้เตือนสติตัวเองอีกครั้ง

หลายสิ่ง หลายอย่างเราเคยรู้ เคยคิดได้

แต่พอเวลาผ่านไป เราก็เผลอและลืมไปบ้างก็มี

 

ลูกๆบ้านสวนฯ

ควรจะเข้ามาอ่านกันอีกหลายๆทีนะคะ

เพราะเราจะได้พิจารณากันให้ถ้วนถี่อีกครั้งว่า

ทุกสิ่งเกิดแต่"เหตุ"

เพื่อเราจะได้เปิดใจรับ "ผลที่จะเกิดขึ้นได้"

โดยไม่ทุกข์และไม่มีอาการฟูมฟาย


และทีสำคัญได้มาอ่านข้อความเก่าๆ

ที่เขียนโดย คุณวีและคุณกัญญ์แล้ว

ต้องบอกว่า พวกเค้าก็"เนียน"ดีเนอะ

แสดงออก(ทางข้อความ)ว่าทั้งรักและเคารพอ.อุบล มากๆ..

แต่ตอนนี้..โอ้วว..ไม่อยากจะ"เซด" เล๊ย

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-05 06:11:40


ความคิดเห็นที่ 182 (1567817)

อนุโมทนาคะ

 

ควรต้องอ่าน และคิด อีกหลาย ๆ ครั้ง จริง ๆ คะ

กราบขอบพระคุณเบื้องบน ท่านอาจารย์อุบล

ที่มอบธรรมทานเหล่านี้แก่พวกเรา

ทุกเหตุการณ์ คือคำตอบของบ้านเรา

คำตอบของประเทศไทยที่กำลังวุ่นวายอยู่

ต้องใช้ปัญญา คิด ไตร่ตรองให้มาก ๆ กว่าเดิมเสมอ

(เพราะ พอเวลาผ่านไป เราก็เผลอและลืมไปบ้างก็มี)

จึงจะรับมือ และแก้ปัญหาได้จริง

สาธุ คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-05 22:45:48


ความคิดเห็นที่ 183 (1567855)

 กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์แม่

อ่านแล้วบางเหตุการณ์ที่ลืมๆ

ทุกอย่างคงจะตอบโจทย์ได้ดี

สำหรับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา

อะไรที่ลืม อะไรที่เคยเห็น เคยเป็น

ตอนนี้มันได้ถูกบันทึกไว้หมดแล้ว

ด้วยการกระทำของตนเองทั้งสิ้น

กะลาที่คว่ำไว้ มันใกล้ถึงเวลาที่จะต้องหงายเต็มทีแล้วละค่ะะะะะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-06 04:09:16


ความคิดเห็นที่ 184 (1568391)

อย่าลืม

มาอ่านกระทู้นี้กันนะจ๊ะ

แล้วลงชื่อไว้

เป็นหลักฐาน

ด้วยจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-09 07:00:35


ความคิดเห็นที่ 185 (1568423)

 

ต่อไปนี้หนูจะตั้งใจเป็นคนดี รักษาศึล 5 มิให้พร่อง จะเป็นประชาชนคนไทยที่ดี ค่ะกราบขอบพระคุณท่าน..อาจารย์อุบลที่กรุณามอบกระทู้ดีๆ ทำให้เห็นกรรมที่ทำ และธรรมะ ที่สว่างส่องให้ในใจขอบคุณค่ะ (จากความเห็นของคุณกัญญ์ ค่ะ)

  กลับมาอ่านอีกครั้ง  มาเติมพลังใจ  มาเก็บเกี่ยวสิ่งที่ดี

-  ทำให้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวง  ที่ท่านทุ่มเททั้งชีวิต

เพื่อประชาชนของท่าน  ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องตอบแทนพระคุณนี้

-  เพื่อทำใจไว้สำหรับเหตุการณ์  ที่เราไม่คาดคิดมาก่อน  การตัดสินใจ  การทำใจยอมรับ

- และการทำดี  ต้องทำทุกขณะจิต  ทุกที่  ทุกเวลา

-การทำบุญ  ทำเพื่อเป้าหมายเดียว  คือ พระนิพพาน

- อ่านแล้วได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของคน เช่น

เรียน ท่านอาจารย์อุบล  (ความคิดเห็นของคุณกัญญ์ ที่เขียนในกระทู้นี้)
ขอบพระคุณอย่างสูงที่กรุณา ชี้แนะ ถึงกระทู้ท่านทูตไนจีเรีย นี้.. ตัวหนูเอง ช่างโง่ จริงๆที่ไม่ได้อ่านสักครั้งเพิ่งได้มาอ่านได้สำเร็จวันนี้..เอง แต่โชคดีมากค่ะที่ท่านอาจารย์ได้กรุณาเล่าให้ฟังเป็นธรรมทานก่อนหน้านี้ หนูสำนึกแล้ว..ในความเป็นคนไทย ที่โชคดี ได้อยู่ในแผ่นดินทอง ที่มีพระมหากษัตย์ทรงมีความเมตตาพระอัจฉริยะ รอบรู้ และห่วงใยพสกนิกรท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณมากมาย เหลือที่จะกล่าวได้หมดกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตาต่อคนโง่ บาปหนา เช่นหนู ท่านทูตไนเจีเรียเรื่องของท่านทำให้หนูละอายมากค่ะ ที่เป็นคนไทย อยู่ในผืนแผ่นดินไทย แต่ไม่เคยทำให้พ่อชื่นใจ เลย.. กลับไม่มั่นคงต่อพระองค์ ร่วมรับฟัง คนอื่นๆกล่าวถึงท่านแล้วยังสนใจ เออ.. ออ ไปกับเขา บาปหนักหนาจริงๆ ข้าพพุทธเจ้านางสาวกัญญ์วิญาณ์ สุวัฒนาพร ขอกราบขออภัยต่อพระเจ้าอยู่หัวที่ข้าพเจ้าเป็นคนไทยเสียเปล่า ไม่ได้ทำหน้าที่ให้สมกับพระเมตตา ที่ทรงพระกรุณา สู้ท่านทูตไนจีเรีย ซึ่งท่านเป็นคนในชาติอื่น กลับห่วงพ่อ มากกว่าเรา  หนูสำนึกผิดแล้วค่ะ ขออภัยด้วยค่ะ 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-09 10:32:34


ความคิดเห็นที่ 186 (1568671)

มีปัญหาเดียวกัน แต่ ต่างกัน

ที่วิธีคิดเท่านั้นเอง

กราบขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ

สำหรับวิธีคิดที่หนูได้รับ ทุกๆเรื่อง

1. ท่านทูตไนจีเรีย ไม่ยิ้ม เหตุก็ด้วยร่างกายท่านยิ้มแล้วท่านจะไอทรมาน

อะไรควรคิด อะไรควรไตร่ตรองค่ะ

2. เมื่อต้องนอนสนามบิน วิธีคิดให้มีความสุข ไม่ต้องทุกข์กับสิ่งที่เจอ

3. ความเสียสละสุขสบายส่วนตัว เพื่อช่วยให้ประเทศไทยไม่ต้องตกอยู่ในอันตราย

4. ธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ทรงอารมณ์ความดีให้เป็นปกติ

อีกมากมาย ที่หนูเคยน้อยใจ เสียใจ คิดว่า ตนเองไม่ดี

แต่ไม่คิดแก้ไข หนูไม่รู้ว่า วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

ยังคงจะมีชีวิตทำความดี ได้หรือไม่

สิ่งที่ได้วันนี้ คือ กลับมามีสติในการเพียรทำความดีอีกครั้งค่ะ

กราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แอ๊ด อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-10 15:46:17


ความคิดเห็นที่ 187 (1568692)

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบลและญาติธรรมทุกท่านด้วยค่ะ สำหรับธรรมทานที่มีค่ายิ่ง

ดิฉันมีความรู้สึกดีใจมากที่ได้มาอ่านกระทู้นี้ เพราะก่อนหน้านั้นอ่านข้ามไปข้ามมา โดยไม่สนใจ พอเข้ามาอ่านถึงกับอึ้งบรรยายไม่ถูกเลยค่ะในความรู้สึก ไม่รู้จะเริ่มต้นพิมพ์อย่างไงดี ขอนั่งคิดก่อนเพราะไม่ค่อยฉลาดมาตั้งแต่เกิดแล้ว ทำอะไรก็เปิ่นๆมีแต่คนหัวเราะตลอด ขอเริ่มจากความคิดของดิฉันเลยนะคะ 

    ท่านทูตไนจีเรีย ท่านเป็นบุคคลที่สมควรเอาแบบอย่าง มีจิตใจดีงาม ไม่ถือยศถาบรรดาศักดิ์ ทำให้คนไทยอย่างดิฉันละอายใจเลยค่ะ เพราะเมื่อก่อนจะรู้สึกเฉยๆกับการ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตั้งแต่มารู้จักบ้านสวนพีระมิด บอกได้เลยค่ะ เกินร้อย

และการเดินทางของท่านอาจารย์อุบล ที่มีอุปสรรค แต่ผ่านไปด้วยดี เพราะอานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และบุญบารมีของท่าน อ.อุบล ทำให้มีสติปัญญามาแ้ก้ไขปัญหา  และการมีจิตเมตตา อุเบกขา เป็นสิ่งที่ประเสริฐจริงๆ 

และน้องชนิดาก็น่ารักอยู่ไกลถึงต่างแดน ยังช่วยเหลือในการแปลภาษา  และโพสกระทู้อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ คนอะไรสวยแถมปัญญาดีอีก และก้อคุณตาล คุณสิทธิ์ คุณแมว คุณดอกไม้ คุณกร คุณแหวน คุณตุ้ย คุณเบญจรัตย์ คุณเอกไชย คุณ ปัท คุณพรรณี และญาติธรรมอีกหลายท่าน ขอขอบคุณที่โพสอ่านแล้วมีสาระดีมากค่ะ ถ้าข้อเขียนคำใดไม่ถูกต้องดิฉันขอได้โปรดเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอ.อุบลและทุกท่าน งดเว้นโทษและอโหสิกรรมให้ดิฉันด้วยนะคะ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น จินตนา อัลลาร์ด(แขก) (jintana1963-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-10 18:53:01


ความคิดเห็นที่ 188 (1568766)

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลค่ะ

 

เรื่องของท่านทูตไนจีเรีย พอฟังเรื่องแล้ว

ท่านเป็นคนที่สุดยอดจริงๆค่ะ

ร่างกายท่านไม่ได้แข็งแรงเหมือนคนทั่วไป

แต่จิตใจท่าน แข็งแรงยิ่งกว่าคนทั่วไปหลายๆคน

ฟังเรื่องของท่านแล้ว ปัญหาที่หนูเคยเจอมา

ที่ว่าหนักที่สุดในชีวิตแล้ว

ก็ยังไม่ได้เพียงเศษเสี้ยวกับสิ่งที่ท่านประสบมา

 

ท่านไม่ใช้คนไทยแต่ท่านรักและเคารพ

พระมหากษัตริย์ ของไทยเรามาก

แล้วทำไม คนไทยที่เกิดในไทย

บางคนถึงไม่รักแผ่นดินเกิด

สร้างแต่ความวุ่นวาย อยู่เรื่อยมา

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี (woranea_912_meaw-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-11 12:29:42


ความคิดเห็นที่ 189 (1568783)

ขออนุโมทนากับท่านอ.แม่

และพี่ น้อง ทุกๆ ท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ขอบพระคุณอ.แม่ค่ะ ที่ให้กลับมาอ่านข้อความเก่าๆ

และยังได้เตือนสติไปในตัวด้วยค่ะ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ......

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-11 16:30:36


ความคิดเห็นที่ 190 (1568784)

ขออนุโมทนาบุญ

กับคุณมาร์ค และคุณเพชร

อีกหลายๆ ครั้งเลยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-11 16:36:49


ความคิดเห็นที่ 191 (1568851)

 

 

ท่านพูดมาคำหนึ่งว่า

ขอให้สงสารพระเจ้าอยู่หัว

อย่าทำให้ประเทศชาติบอบช้ำ

ท่านพูดแค่นี้กับคนไทย

คนนี้ที่ท่านเตือน

นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ อ.อุบล อึ้ง และ ทึ่ง

ในความเป็นคนมีปัญญาฉลาด

ล้ำเลิศของท่าน

และ

เป็นการแสดงให้เห็นว่า

ท่านรักพระเจ้าอยู่หัว และ รักประเทศไทย

ด้วยความจริงใจ

 

แล้วพวกเราเคยแสดงออกถึงความรักต่อพระเจ้าอยู่หัว อย่างจริงใจบ้างรึเปล่า

พวกเรามักอ้างว่าเรารักในหลวง

แต่พอเราเห็นมีคน หรือ สื่อต่างๆที่จาบจ้วง ล่วงเกินพระองค์ท่าน และพระราชวงศ์

เรากลับไม่เคยทำอะไร ได้แต่แสดงความไม่พอใจ  โกรธ อยู่ข้างหลัง ได้แต่นั่งมองดูพวกเขากระทำกับพระองค์ท่าน  แต่ไม่เคยแสดงความคิดเห็น หรือลงมือทำอะไรที่จะปกป้องท่านเลย  เพราะเรากลัวที่จะแสดงตัว แคร์ว่าคนอื่นจะไม่ชอบ ไม่รักเรา ถ้าเรามีความคิดเห็นไม่ตรงกับคนอื่น  แล้วพวกเราก็ถือคติ ชั้นอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ดีแล้ว  ชั้นไม่เห็นด้วยแต่ชั้นก็ไม่ทำอะไร

แต่

เราลืมไปว่า การที่เราอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร  นั่งมองดูคนอื่นล่วงเกินพระองค์ท่าน นั่นก็เหมือนเรา เห็นด้วยและส่งเสริมความคิดพวกเค้าแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-11 21:46:39


ความคิดเห็นที่ 192 (1599958)

กระทู้นี้

ไม่มีคนเข้ามาเม้นต์

นานมากแล้ว

 

มีบางคน

อาจยังไม่เคยอ่าน

เลยด้วยซ้ำ

 

ถ้าต้องการ

ความหลุดพ้นที่แท้จริง

ก็ลองตั้งใจ

อ่าน ตั้งแต่ต้น จนจบดู

แล้วจะได้รับพลัง

ความแข็งแกร่งของใจ

ขึ้นเยอะ

 

โดยมี

ท่านทูตไนจีเรีย

เป็นต้นแบบ ความอดทน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-29 21:49:22


ความคิดเห็นที่ 193 (1599960)

เห็นกระทู้นี้ทีไร

คิดถึงท่านทูตไนจีเรีย ทุกที

ตอนนี้มีท่านทูต คนใหม่มาแทน

ชื่อ สุไลมาลย์ เคยโทร.ไปคุยกับท่าน

ว่าจะไปเยี่ยมท่าน ป่านนี้ยังไม่ได้ไปเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-29 22:09:15


ความคิดเห็นที่ 194 (1599980)

ขอให้มีปาฏิหาริย์ หวังว่าวันหนึ่งท่านทูตคนใหม่อยากจะมาบ้านสวนฯให้ลูกหลานบ้านสวนฯได้กราบสวัสดีบ้างนะครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-29 23:04:59


ความคิดเห็นที่ 195 (1599982)

ยอมรับว่าผมยังไม่เคยเข้ามาอ่านกระทู้นี้เลยได้อ่านแล้วทำไห้รักพระจ้าอยู่หัวมากขึ้นได้ความคิดในการมองคนและคนเราจะมีความสุขหรือทุกข์ก็อยู๋ที่ความคิดของเราเองขอบคุณมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น จรัล ยาตรา (jalan227-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-29 23:14:58


ความคิดเห็นที่ 196 (1599984)

ถ้าเกิด ท่านทูตไนจีเรีย คนใหม่

มาบ้านสวนพีระมิดจริง

พ่อใหญ่ธนา จะทำอะไร ยังไงจ๊ะ

บอกหน่อย จะบอกท่านยังไง

จะให้ท่านหิ้วปูนหรือว่าถอนหญ้าจ๊ะพ่อใหญ่

 

แต่ อ.อุบล ยังไม่เคย

เห็นหน้าท่านเลยนะ

 

ท่านบอกว่า

ท่านไปสวนจิตรมาแล้ว

ตั้งแต่ตอนมาใหม่ๆ

ท่านทูตคนเก่า

บอกให้ท่านไป ท่านเลยไป

กับ รมต.ต่างประเทศ

(ถ้าจำไม่ผิดนะ เพราะคุยนานแล้ว)

 

ถ้าท่านทูตยังไม่มา

เอาเป็นเพื่อน อ.อุบล ตัวดำๆ

แทนก่อนได้ไหม

ชาวกาน่า เพียบเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-29 23:29:01


ความคิดเห็นที่ 197 (1600009)

กระทู้นี้เคยอ่านมานานแล้วค่ะ แต่ว่าช่วงนั้นจะอ่านแบบ อยากให้จบ อยากอ่านหลายๆ

กระทู้ให้จบเลย แต่ปรากฎว่า เรากลับไม่ได้อะไรมากเท่าที่ควร ได้น้อยมาก เพราะว่า

เร่งอ่านอย่างเดียว แต่ไม่ได้พิจารณาในสิ่งที่อ่านเลย อ่านแล้วก็ผ่านไปเลย ต่อไปนี้

หนูจะอ่านให้เป็นค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ ((ตั๊ก)) (ktkanlayani-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-01 01:51:20


ความคิดเห็นที่ 198 (1600032)

ไม่ว่าจะเป็นท่านทูต หรือชาวกาน่าก็ตามแต่ครับ ผมคิดว่าสำคัญหมดเลย น่ายินดีมากครับ เพราะงานของท่านอาจารย์คือช่วยคนทั้งโลก

ยิ่งคนเหล่านี้เป็นตัวแทนของประเทศเขา หากได้มาพบความจริง ที่เป็นธรรมชาติ ตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ เขาก็จะนำสิ่งที่พบเห็นกลับไปบอกแก่คนประเทศของเขา

การบอกต่อจากการได้พบเห็นจริง ผมมั่นใจว่าจะน่าเชื่อถือและเขาจะพูดด้วยความมั่นใจ และทำให้คนทั้งหลายในแอฟฟริกาที่ได้ฟังอยากพ้นทุกข์ อยากลองทำตามด้วย

แค่ท่านเหล่านี้มาเยี่ยมบ้านสวนฯ เห็นพวกเราทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งก่อสร้าง ปลูกผัก อื่นๆ และได้รู้อีกว่าแต่ละคนชีวิตเมื่อก่อนบัดซบแค่ไหน ป่วยหนักและจนแค่ไหน แต่หายได้เพราะอะไร

ซึ่งคนในแถบประเทศแอฟฟริกานั้น สภาพชีวิตเขาแย่มากกว่าเรานัก ทั้งหิว ทั้งจน ทั้งเจ็บป่วย น่าสงสารมั่กก

ยิ่งวันนั้นหากเขาได้เห็นกับตาว่าผู้คนที่เจ็บป่วยที่มาหาท่านอาจารย์ เขาป่วยเพราะอะไร ทำอย่างไรถึงหายได้ทันที

น่าจะเป็นตัวกระตุ้นความคิด มุมมองในชีวิตแบบที่เขาไม่เคยพบมาก่อน และช่วยขยายธรรมะเหล่านี้ไปสู่โลกกว้างอีกทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว...

อิอิ...เขียนไปเขียนมา สรุปว่าผมอยากชมการเต้นแบบแอฟฟริกาก๊าบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-01 08:46:29


ความคิดเห็นที่ 199 (1600033)

อ่านไป...ก็พิจารณาไป...

ขอแสดงความโง่และความเห็นเป็นเรื่องๆ นะคะ

ท่านฑูตไนจีเรีย อาจเป็นธรรมทานสอนไม่ให้ดูคนที่ภายนอก ซึ่งในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่จะชื่นชมและอยากใกล้ชิดคนที่มี หน้าตา ฐานะ เงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง อำนาจ ฯลฯ แต่ไม่ค่อยนิยมในความเป็นคนดีเท่าไหร่ (อาจเป็นเพราะคิดว่าไม่มีผลประโยชน์ ไม่เชิดหน้าชูตา) ซึ่งสถานการณ์ที่วุ่นวายต่างๆในปัจจุบันของเมืองไทยคงจะมีเหตุด้วยประการนี้

ด้วยพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทำให้ท่าน อ.อุบล ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากท่านกงสุลไทยประจำประเทศยูกันดาในทวีปอาฟริกา และสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกหลานบ้านสวนฯใจหายใจคว่ำมาเป็นอย่างดี

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่เปิดครั้งแรก เหมือนเป็นกระจกเงาให้พวกเราได้ย้อนพิจารณาตัวเองว่าได้ทำสิ่งใดบ้างเพื่อปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กันบ้าง

และหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านคงต้องการให้ อ.อุบล ได้นำเหตุการณ์นี้มาเป็นธรรมทานให้แก่ลูกหลานได้ใช้สติปัญญาโดยอยู่บนพี้นฐานของความถูกต้อง เข้าแก้ไขทุกวิกฤตปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้จะถึงนี้

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ดันกระทู้นี้ขึ้นมา

เหมือนจะเตือนลูกหลานกลายกลาย

สงสัย...หัวเทียนใกล้จะบอด

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (สีนวล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-01 08:47:49


ความคิดเห็นที่ 200 (1600240)

ดีใจ และ อนุโมทนา

ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้กันอีก

ทั้ง

คุณนวล หนูตั๊ก

คุณพ่อใหญ่ธนา

 

ว่าแต่ว่า

เพื่อนกาน่า พ่อใหญ่ธนา

ยินดีเป็นพี่เลี้ยงป่าว

 

อันที่จริง

เขาเคยมาบ้านสวนนะ

แต่มาตั้งแต่

ยังไม่เป็นบ้านสวนพีระมิดแน่ะ

เดี๋ยวคงได้เจอแน่

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-02 01:01:19



<< ก่อนหน้า 1 [2] 3 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.