ReadyPlanet.com


ข่าวรายวัน บ้านสวนพีระมิด


ตั้งแต่เดือน ก.พ. 54 เป็นต้นไป

บ้านสวนพีระมิด

จะมี บก.หน้าหยก มารายงาน

ข่าวประจำวัน

ทางเวปไซด์ ให้แฟนคลับได้รับทราบ

ความเคลื่อนไหว ในบ้านสวนพีระมิด (ประเทศไทยจำลอง)

เป็นสถานีข่าว สังคม บันเทิง ศาสนา ดารา สิงห์สาราสัตว์

ใครไปใครมา ตอนนี้สร้างอะไร จะทำบุญยังไง

ใครมาทำบุญ ทำบาป ฯลฯ

แล้วก็เรื่องอัศจรรย์วันละหลายหน ที่อดทน

เก็บไว้เต็มพุง ของ บก.หน้าหยก

อกเกือบแตกตายอยู่แล้ว

อ.อุบล จึงเกริ่นไว้ก่อน นะคะ ขอบอก

(ทำเป็นสถานีข่าว......ซะงั้น)



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-26 17:55:06


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 [70] 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 6901 (1621276)

 

ฟาย เกสร ผิดศีลมาทุกข้อ

โดยเฉพาะศีลข้อ สาม

ตอนนี้เป็นเนื้องอกในมดลูกใครอยากตกนรก

ทั้งเป็นก็ไม่ต้องรักษาศีล

พวกที่กำลังปลอมตัวเป็นท่านอาจารย์อุบล

ใช้อักษรไปในทางต่่ำอยู่ไฟสุมอกแล้วใช่มั๊ยล่่ะ

อ่านธรรมทานท่าน อ.อุบลแล้ว

คุณกัญญ์วิญาญ์ ได้ผลกรรมครบสูตรล่ะซิ

.................................

กราบขอบพระคุณธรรมทาน  ท่านอาจารย์ค่ะ

สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 14:23:39


ความคิดเห็นที่ 6902 (1621282)

พึ่งอ่าน

ความเห็นคุณหมอวัฒนา

ค่ะ

 

มัวแต่ สมาทานศีล ข้อ 3

555

 

เวลานี้

เป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาญ

แล้วค่ะคุณหมอวัฒนา

 

อ.อุบล

ไม่มีเวลามากพอ

ที่จะร่อนเร่ไปทั่ว โดยเฉพาะ

ที่ไกลๆ แล้วหละค่ะ

 

เพราะ

โรคระบาดก็มาแล้ว

 

ผี

ก็มาแล้ว

 

น้ำ

ก็มาแล้ว

 

แล้วภัยพิบัติต่างๆ

ก็มาแล้ว

 

ปีนี้แล้วค่ะ

 

เราหมดเวลาแล้วจริงๆ

 

ยังไงก็เอาใจช่วย

คุณหมอวัฒนา และ คุณหมอกำพล

ให้ใช้ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า

ช่วยคนไข้ได้สำเร็จ

นะคะ

 

ถ้าบุญสัมพันธุ์

เราคงได้เจอกันอีกแน่นอน

 

ว่าแต่ว่า

คุณหมอวัฒนา

จะไปเป็นคณะบรรยาย

ธรรมะบำบัด

เหมือนที่ อ.อุบล ไปที่

ม.อยุธยา ไหมคะ

 

คณะนี้ หมอทั้งนั้นเลยค่ะ

 

ห้ามถามว่าเมื่อไหร่

ทางเวปไซด์นะคะ

 

เอาเป็นว่า ถ้าจะไปร่วม

เดอะ แก๊งค์ ก็โทร.คุยกันดีกว่าค่ะ

 

ตอนนี้ อ.อุบล

รับเชิญแค่ ใกล้ๆ ค่ะ

เพราะงานบ้านสวน เพียบเลย

 

และ

เบื้องบน กำลัง

นำเคส หนัก หน่วง เข้ามา

ทั้งนั้นเลยค่ะ

 

อนุโมทนากับ

จิตใจอันสูงส่งของคุณหมอ

วัฒนา นะคะ

ขอให้ยืนหยัด ในสิ่งที่คุณหมอ

ได้พบจริง พิสูจน์จริง มาแล้ว

อย่างฉะฉาน เข้มแข็ง

ก็พอค่ะ

 

ที่สุดแล้ว

ก็เพื่อตัวเราเองไม่ต้อง

กลับไปทุกข์ แบบเดิมอีก ค่ะ

 

ส่วน

ใครจะค้นพบ

วิธีรักษา แบบไหน อันนี้

ถือว่า เป็นเรื่องดี ทั้งนั้น ถ้าทำได้จริง

 

ยิ่งมีหลายที่ หลายทาง

ยิ่งดี

 

เพราะ

บ้านสวนพีระมิด

ไม่เชิญชวนใครมา

 

ต้องการแค่เพียง

ให้คนรู้ว่า กรรมเวร มีจริง

 

วิธีแก้ทำยังไง บอกไปแล้ว

ไม่ได้รักษาโรค แค่แสดงเหตุ แสดงผล

ของกรรม ให้ไปคิดต่อกันเอง

 

เชื่อไม่เชื่อ

อ.อุบล ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสีย

ไม่ต้องการให้คนมาหา

ไม่ต้องการรักษาโรคให้ใคร

 

ไม่เช่นนั้น

คงเปิดบ้านรับรักษาแล้วหละ

 

แต่คงวุ่นวายน่าดู

 

ไม่เอาหรอก

ไม่ใช่วิธีของพระพุทธเจ้า

 

พระพุทธเจ้า

ท่านไม่ให้ อ.อุบล ทำอาชีพ

หมอ

 

แต่ท่านให้ อ.อุบล

บอกวิธี ที่ถูกต้อง ให้แก่ หมอ

ตะหากค่ะ

 

เดี๋ยวให้เขาพยายามกัน

ให้สุด สุด ก่อนเถอะ

เดี๋ยวเค้าก็ ลมหวล ชวนกันคิดใหม่

เองแหละค่ะ  เวลาก็ใกล้แล้วหละ

คุณหมอวัฒนาจ๋า

 

แล้วอาการคุณหมอ

หายดี สบายดี หรือไม่คะ

รัก และ คิดถึง

นะคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 14:48:41


ความคิดเห็นที่ 6903 (1621310)

เมื่อวันเสาร์

เรามีการสมาทานศีลกัน

เปิดโอกาสให้

ครอบครัว คุณโชค

ออกมาบอกเล่าเรื่องผลกรรมที่ทำไว้

ทั้งครอบครัว

 

คุณโชค

แกเคยมาบ้านสวน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

แล้วก็เคยมาแบบผิดกฎ

อีกหลายครั้ง

 

เห็นแม่แกบอกว่า 3-4 ครั้ง

หลังจากนั้น ชีวิตครอบครัว พังหมด

 

เรื่องงาน เรื่องเงิน สุขภาพ

แย่หมดเลย

 

อย่าพ่อ-แม่ แกขาย

ดอกไม้ พวงมาลัย ปกติ

วันพระหนึ่งๆ จะขายได้ 6000 บาท

ก็ลดเหลือ 3000 บาท

ต่อมาไม่มีรายได้เลย

มีเงินติดบ้านแค่ 300 บาทไว้เป็นทุน

เท่านั้นเอง

 

ก็ยังคิดกันไม่ได้

แต่ว่า ชวนกันไปบ้านสวนพีระมิด

แต่ก็มาแบบไม่ขออนุญาต

คือผิดกฎนั่นเอง

 

น้องชายแกรู้นะ ไม่ใช่ไม่รู้

เพราะวันบวงสรวงสร้างพระปฐม

9 วัน 9 คืน แกก็มาร่วมใช้แรงกาย

อยู่วัหนึ่ง แกยังเล่าเลย

ว่าแกมาผิดกฎแล้วยอดขายย่ำแย่

 

ไป ไป มา มา

ไม่รู้คุยกันอีท่าไหน

พ่อใหญ่ธนา จึงตั้งคำถาม

ให้คุณโชค ตอบ ชุดใหญ่เลย

 

บางคำถาม

อ.อุบล ต้องช่วยตอบ

เพราะรายละเอียด เรื่องลัทธิ

คุณโชคแก อาจจะขี้เกียจตอบ

 

แกได้แต่บอกว่า

บ้านสวนพีระมิด ไม่ใช่ลัทธิ แน่นอน

เป็นคำสอน พระพุทธเจ้า ของแท้

 

แต่เมื่อเอ่ยคำว่า

ลัทธิ

ขึ้นมาแล้ว มีหรือ อ.อุบล จะยอม

ให้ผ่านไป โดยไม่ได้ทดสอบ

ภูมธรรม ของชาวพุทธ

ที่พูดส่งเดช

 

มันต้องถามกันซะหน่อย

ไอ้ที่พูดถึง ลัทธิ น่ะ นะ รู้จักรึเปล่า

ว่า ลัทธิ แปลว่าอะไร คือ อะไร

มีกี่ลัทธิ เพราะฟังมานาน

หมั่นใส้คนรู้มาก

มานานแล้ว

 

ที่ทำเฉย เพราะกลัว เขาหน้าแตก

 

แต่พอนานเข้า เรารู้ว่า หน้าเขา

น่าจะหนา พอที่ จะไม่แตกแล้ว

ก็เลยต้องขอบารมีพระพุทธเจ้า

โปรดสัตว์ ผู้ยาก สักหน่อย

 

ขอพุทธานุญาต

นำพระไตรปิฎก หมวดพระสูตร

 

หมวดที่ 1 เรื่อง

 

ทิฏฐิ

หรือทรรศนะ

คือความเห็นต่างๆ

 

ออกแสดง

โดย

ขอพุทธานุญาต ใช้สำนวน

ภาษาของข้าพระพุทธเจ้าเอง

ไม่ใช้สำนวนพระไตรปิฎก

เนื่องด้วย ให้ง่ายแก่การจำ และเข้าใจ

 

โดยเน้นหนักเรื่อง

ลัทธิ

เท่านั้นพระพุทธเจ้าค่ะ

ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณา

 

เพื่อให้ สาวก และ ชาวประชา

ได้รับทราบความจริง

และความหมายของคำว่า ลัทธิ

ตลอดจน แนวคิดของทุกลัทธิ

ที่พระองค์ทรงรวบรวมไว้

พระพุทธเจ้าข้า

 

ทรงมีพุทธานุญาต

ให้แสดงได้

 

กราบพระบาท

ในพระมหากรุณาธิคุณ

พระพุทธเจ้าข้า

 

เจริญพร

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 17:26:36


ความคิดเห็นที่ 6904 (1621314)

พระไตรปิฎก พระสูตร

หมวด 1

ทิฏฐิ

หรือทรรศนะ

คือความเห็นต่างๆ

--------

ก่อนอื่น เพื่อให้ผูอ่าน ได้รับประโยชน์

ที่เสียเวลามาอ่าน ก็เลยจะถือโอกาส

เล่าเรื่องราว ในหมวดนี้ เล็กน้อย

เพื่อประดับปัญญา

-------

 

ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จ พร้อม

พระภิกขุจำนวนมาก ระหว่างเมือง

ราชคฤห์ กับเมือง นาลันทา

 

ระหว่างการเดินทาง

มีนักบวช ลัทธิหนึ่ง ซึ่งเดินทางร่อนเร่

ในการเดินทางครั้งนี้ ไปทางเดียว

กันกับพระพุทธเจ้า

 

เขาไปกับศิษย์เขาคนหนึ่ง

ชื่อว่า พรหมทัต

แต่นักบวชคนนี้ชื่อ สุปปิยะ

 

--------------

ทั้งสองเดินตามพระพุทธเจ้าไป

แล้วก็ถกเถียงกันไปตลอดทาง

 

อาจารย์เขา กล่าวตำหนิติเตียน

พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์

ไปตลอดทาง

 

ส่วนศิษย์ คือ พรมทัต

กล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้า

พระธรรม และ พระสงฆ์ ไปตลอดทาง

 

อาจารย์ กับ ศิษย์ ลัทธินี้

มีความเห็นไม่ตรงกัน เถียงกันไป

 

จนถึงจุดหมายปลายทาง

 

พระพุทธเจ้า และ เหล่าสาวก

ก็หยุดพักแรม ที่สวนมะม่วงหนุ่ม

 

ส่วนเจ้าลัทธิ และ ศิษย์คนนี้

ก็หยุดพักแรม ที่เดียวกัน กับพระพุทธเจ้า

แล้วก็ยัง เถียงกันไม่หยุด

เรื่องเดิม

 

จนรุ่งเช้า ก็ยังไม่หยุด

 

สาวกของพระพุทธเจ้า

ได้กล่าวถึงเรื่องที่ เจ้าลัทธินี้ กับศิษย์

ซึ่งมีความเห็นต่างกัน

คนหนึ่งติเตียนพระพุทธเจ้า

คนหนึ่งสรรเสริฐพระพุทธเจ้า

พระธรรม พระสงฆ์

 

ซึ่งทำให้สาวกนึกถึงคุณงามความดี

อันน่าอัศจรรย์ของพระพุทธเจ้า

ที่ทรงรู้เห็นความที่สัตว์ทั้งหลาย

มีอัธยาศัย หรือ นิสัย ต่างกัน

เหมือนกับ

อาจารย์ กับ ศิษย์ทั้งสองนี้

------------------

พระพุทธเจ้า ทรงทราบทุกอย่าง

จึงเสด็จมาหาพระสาวก

แล้วทรงตรัสเตือน ด้วยเมตตา

ว่า

 

"ถ้าใครติเตียนพระพุทธเจ้า

พระธรรม และ พระสงฆ์ ก็อย่าโกรธเคือง

อาฆาตขุ่นแค้น เพราะถ้าโกรธเคือง

เสียก่อนแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่า

เขากล่าวถูกหรือผิด

 

อนึ่ง

ถ้าใครกล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้า

พระธรรม พระสงฆ์ ก็อย่าพึ่งยินดี

ลิงโลดใจ เพราะถ้ายินดีเสียก่อนแล้ว

รีบรับเอาแล้ว จะรู้ได้อย่างไร

ว่า เขากล่าวถูกหรือผิด

 

การที่ด่วนโกรธก็ตาม

ด่วนพอใจยินดีก็ตาม

จะเป็นอันตรายแก่เธอทั้งหลาย

ทางที่ถูกต้องก็คือ

ควรพิจารณาว่า เขากล่าวถูกหรือไม่

แล้วชี้แจงให้เขาทราบ

ให้เข้าใจ ตามที่เป็นจริง "

--------------

 

แล้วพระพุทธเจ้า ได้ตรัสแก่

พระภิกษุทั้งหลายว่า ที่ปุถุชนสรรเสริญ

พระองค์ ก็แต่เพียง ศีล เท่านั้น

ซึ่งเป็นสิ่งเล็กน้อย

 

หมายความว่า

พระองค์ทรงมีคุณธรรมอื่นๆ

ซึ่งสูงกว่า ศีล เป็นอันมาก

เช่น

สมาธิ ปัญญา และ วิมุตติ

(วิมุตติ คือความหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง)

แต่

ปุถุชนหารู้ถึงคุณธรรมเหล่านี้ไม่

 

------------

แล้วทรงแสดงศีล 3 ชั้น

 

พวกเราชาวบ้านสวน

อยากรู้กันไหมล่ะ ว่า ศีล 3 ชั้น

เป็นยังไง มีอะไรบ้าง

แล้วพวกเราคิดว่า

ชาวพุทธ รู้จักศีล 3 ชั้น กันไหม

 

เดี๋ยวมาต่อนะจ๊ะ

มีใครอ่านพระไตรปิฎก

โดย การย่อย ของ อ.อุบล

มั่งไหมเนี่ย

จะได้ไม่เสียเวลาเขียน

อิ อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 17:52:04


ความคิดเห็นที่ 6905 (1621315)

ก่อนจะได้อ่านเรื่อง ลัทธิ

ก็ขอให้ สาวก ของพระพุทธเจ้า

 

ได้เข้าถึงพระธรรมอันงดงาม

(พระสูตร คือ การยกตัวอย่าง

บุคคล สถานที่ จริง)

จากพระไตรปิฎกจริงๆกันหน่อย

เพราะเป็นพระมหากรุณาธิคุณ

ที่ทรงมีพุทธานุญาต

ให้ อ.อุบล ใช้สำนวนง่ายๆ

บ้านๆ ได้ สาธุ ค่ะ

-----------

 

พระองค์ทรงแสดง

ศีล 3 ชั้น

คือ

1.จุลศีล  2.มัชฌิมศีล  3.มหาศีล

-------

1.จุลศีล คือ ศีลอย่างหยาบ

เช่น เว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์

ผิดในกาม พูดโกหก นินทา  คำหยาบ

ส่อเสียดเพื้อเจ้อ ใส่ร้าย ดื่มน้ำเมา

เป็นต้น

ก็อย่างที่พวกเรา รู้จัก เรียนกันมา

ตั้งแต่เด็กนี่แหละ คือ ศีลขั้นหยาบ

 

2.มัชฌิมศีล คือ ศีลอย่างกลาง

เช่น

เว้นจากการสะสมอาหาร

เครื่องนุ่งห่ม เว้นจากเดียรัจฉานคาถา

คือคำเพ้อเจ้อ ไร้สาระ เป็นต้น

(คือ การปั้นน้ำเป็นตัว ใส่ร้าย ทำให้

ผู้อื่นเสียหาย โดยไม่รับผิดชอบ

ไม่รู้สึกเสียใจ ไม่รู้สึกผิด ไม่สำนึก)

 

3.มหาศีล คือ ศีลอย่างละเอียด

เช่น

เว้นจากการเลี้ยงชีพด้วย

การหลอกลวงโดยวิธีการต่างๆ

เช่น

การทำนายทายทักนิมิตต่างๆ เป็นต้น

(พวกตกทอง สร้างโปรเจ๊ก หลอกให้

คนร่วมลงทุน หลอกเอาเงิน เอาทรัพย์

เขาด้วยกลอุบายสารพัด ซึ่ง

เป็นสิ่งไม่จริง อาชีพทุจริตทั้งปวง)

-----------

 

พวกเรา

ก็ลองสำรวจตัวเองดู

กันเลย

ว่าเราเคยผิดศีลขั้นหยาบ หรือว่า

ขั้นละเอียด หรือ ขั้นกลาง

 

แล้วเราเคยเห็นใคร

ที่ผิดศีล ขั้นไหน มาบ้างไหม

ทั้งใน ทั้งนอก บ้านสวน

 

เดี๋ยวมาต่อนะ

สงสัย วัยรุ่น ไม่ชอบอ่าน

พระไตรปิฎก แน่เลย

เห็นเงียบเลย

อิ อิ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 18:06:37


ความคิดเห็นที่ 6906 (1621316)

มาเข้าเรื่อง ลัทธิ กันเสียที

 

ทั้งหมดที่เล่ามานี้

อยู่ในพระไตรปิฎกหมดเลยนะจ๊ะ

แต่สำนวนภาษา

มันอาจไม่หรูนะจ๊ะ เพราะว่า

อ.อุบล คนบ้านนา

จะไปเอาภาษาหรู มาจากไหน

เอาง่ายๆ อย่างนี้แหละ

---------

 

ต่อจากนั้น พระพุทธเจ้า

ก็ทรงแสดง ทิฏฐิ หรือ ทฤษฎี

หรือ ทรรศนะต่างๆ

ซึ่งมีอยู่ในสมัยนั้น ถึง 62 ประการ

 

ถ้าใช้ภาษาบ้านๆ

ก็คือ ความคิดเห็น ส่วนตัว นั่นเอง

 

บางพวก เห็นว่า โลกเที่ยง

บางพวกว่า ไม่เที่ยง

 

บางพวก ว่า

โลกหน้า หลังความตายมี

บางพวก ว่า ไม่มี

 

บางพวกเชื่อว่า ตายแล้วเกิด

บางพวกเชื่อว่า ตายแล้วสูญ

 

บางพวกเชื่อว่า เกิดเป็นอะไร

ก็ต้องเกิดเป็นอย่างนั้นทุกชาติไป

 

บางพวกเชื่อว่า

ไม่แน่นอน อาจไม่เป็นอย่างเดิม

 

บางพวกที่ว่าสูญ

ก็มีพวกหนึ่ง เห็นว่า สูญแต่ร่างกาย

จิตใจไม่สูญ

 

แต่บางพวกเชื่อว่าสูญหมด

 

ในสมัยนั้น

ความเชื่อ ความเห็นต่างๆนี้

จะรุนแรงมาก ถึงขั้น มีการถกเถียง

ปัญหากันทางอภิปรัชญา

(Metaphysics)

 

เอาแพ้ เอาชนะกัน เอาจริง เอาจัง

เอาเป็น เอาตาย กันเลย ทีเดียว

 

มีการสั่งสอนกัน

ชักชวนให้ผู้อื่นมีความเห็น+ทำตาม

ตามทิฏฐิ หรือ ความเห็นของตน

 

ตั้งเป็นคณะ เป็นสำนักขึ้นมา

จนถึงสมัยพุทธกาล

ก็ยังมีสำนักอยู่มาก

 

แต่ในพระไตรปิฎกรวมไว้ได้

6 ประการ หรือ 6 ลัทธิ

ดังนี้

แอ่น แอน แอ๊น

มาแล้วจ้า ลัทธิ ที่ท่านผู้

ทรงภูมิปัญญา กล่าวอ้างถึง

อ่านให้ดีนะจ๊ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 18:20:32


ความคิดเห็นที่ 6907 (1621317)

เมื่ออ่านลัทธิทั้ง 6 นี้แล้ว

ขอให้ทราบว่า

มาจากพรไตรปิฏก

หมวดพระสูตร หมวด 1

เรื่อง

 

ทิฏฐิ

หรือทรรศนะ

คือความเห็นต่างๆ

 

ให้ไปหาอ่านได้ แต่สำนวนที่ใช้

จะดีกว่า ที่ อ.อุบล เขียน

เมื่ออ่านแล้ว โปรดใช้ปัญญาคิด

พิจารณา เทียบเคียงกับ

กิจกรรม ที่บ้านสวนพีระมิดทำด้วย

เพื่อดูว่า เป็น ลัทธิ ใด หรือไม่

หรือว่าผู้อ่าน คนใด จัดเป็นผู้อยู่ใน

ลัทธิ ใด กันบ้าง

 

1.อกิริยทิฏฐิ

ลัทธินี้ มีความเห็นว่า

ทำก็ไม่ชื่อว่าทำ

เช่น

คนทำบุญทำบาป

ก็ไม่ชื่อว่า ทำบุญ ทำบาป

 

ลัทธินี้

เขาเชื่อว่า บุญไม่มี บาปไม่มี

 

เจ้าลัทธินี้ มีชื่อว่า ปูรณภัสสปะ

 

อ่านมา 1 ลัทธิแล้ว

เป็นไงบ้างจ๊ะ ลัทธินี้

เหมือน หรือ ต่างกับ

บ้านสวนพีระมิด ทำอยู่หรือไม่

 

(ตอบสิ ตอบ อย่าเงียบ)

 

เดี๋ยวซี อ่านต่อก่อน อย่าพึ่ง

ไปผูกคอตายนะ

อย่า อย่าพึ่ง แน่จริง อ่านต่อซิ

 

2.อเหตุกทิฏฐิ

ลัทธินี้ มีความเห็นว่า

ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย

สัตว์ทั้งหลาย คนทุกคนเกิดมา

จะได้ดี ได้ชั่ว มีสุข หรือ มีทุกข์

ก็เป็นไปเอง เกิดขึ้นเอง

 

ไม่ใช่ว่าจะได้ดี เพราะทำเหตุไว้ดี

ไม่ใช่ได้ชั่ว เพราะทำเหตุไว้ชั่ว

นี่เขาเชื่ออย่างนี้

 

ไม่ได้เชื่ออย่างพระพุทธเจ้าสอน

ว่า

ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เหตุดับ ผลก็ดับ

เขาไม่เชื่อแบบนี้เลย

รู้ไหม

 

แต่เขากลับเชื่อว่า

คนและสัตว์หลังจากเวียนว่าย

ตายเกิดแล้ว ก็จะบริสุทธิ์ผุดผ่องเอง

 

เจ้าลัทธินี้คือ มักขลีโคสาล

 

โปรดรู้เอาไว้เสียด้วยนะ

 

แล้วดูสิว่า ลัทธินี้

เหมือน หรือ ต่างกับที่บ้านสวน

กำลังทำอยู่ กำลังถ่ายทอดอยู่

 

แน่จริง อย่าพึ่ง หนีซี่

อุส่าห์แอบเข้ามาอ่านแล้วนี่

อ่านให้จบ อย่าหลบหน้าซิ

 

เดี๋ยวมาต่อ ลัทธิ 3 นะ

555 555 555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 18:35:28


ความคิดเห็นที่ 6908 (1621320)

มาโม้ต่อกันเลยดีกว่า

เรื่องลัทธิ ที่ 3 จากพระไตรปิฎก

หมวดพระสูตร หมวดที่ 1

 

3.นัตถิกทิฏฐิ

ลัทธินี้ เขามีความเชื่อว่า

 

ไม่ มี ผล

 

คือ

การทำบุญ ทำทาน ทำดี ไม่มีผล

 

การบูชา ไม่มีผล

 

เชื่อว่า คน และ สัตว์ ตายแล้วสูญ

 

เจ้าลัทธินี้ คือ อชิตเกสกัมพล

 

เป็นไงบ้าง อ่านมา 3 ลัทธิแล้ว

มีลัทธิไหน เข้าได้กับบ้านสวนพีระมิดมั่ง

หรือว่า เข้าได้กับตัวผู้อ่านเองบ้าง

แต่ว่าบางคนนะ

เข้าได้ทั้ง 3 ลัทธิเลยหละ

จริงรึเปล่า จะยอมรับ หรือไม่

ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่ทำนั้นแหละ

คือคำตอบ และ การยอมรับ

----------------

 

4.สัสสตทิฏฐิ

(เขียนอย่างนี้แหละ ไม่ผิดหรอก รับรอง)

ลัทธินี้ เขามีความเชื่อว่า

 

เ ที่ ย ง

 

คือ

เขาเชื่อว่า สิ่งทั้งหลาย

 

เที่ยง

 

ยั่งยืนอยู่อย่างนั้นตลอดไป

 

เช่น

 

โลกเที่ยง จิตเที่ยง

สัตว์ทั้งหลาย คนทั้งหลาย

เคยเกิดอย่างไร ก็เกิดอย่างนั้น

ต่อไป ตลอดกาล ตลอดสมัย

 

ดิน น้ำ ลม ไฟ

เป็นของเที่ยงแท้แน่นอน

 

ยิ่งไปกว่านั้นนะ

ลัทธินี้ เค้าเชื่อว่า ไม่มีใครฆ่าใคร

ไม่มีใครทำร้ายใคร

 

เพียงแต่เอาศัสตราสอดเข้าไปในธาตุ

ซึ่งยั่งยืน ไม่มีอะไรทำลายได้

 

ขอขยายความหน่อยนะ

 

ยกตัวอย่าง

มีคนเอามีดแทงคน ว่างั้นเถอะ

ลัทธินี้ เค้าเชื่อว่า

นี่เป็นเพียง การเอามีด สอดเสียบ

เข้าไปในธาตุซึ่งยั่งยืนนั่นเอง

 

เขาไม่เรียกว่า การฆ่า

ไม่เรียกว่าการทำร้าย

 

มิน่า พวกที่ แฮ๊กเข้ามาบ้านสวน

ก็คงคิดอย่างนี้แหละ 555

 

เจ้าลัทธินี้ คือ ปกุทธกัจจายนะ

 

จำให้แม่นนะ

จะได้เข้าสังกัดได้ถูก

เลือกศาสดาได้ไม่ผิดตัวนะจ๊ะ

 

เป็นไงบ้าง

อ่านมา 4 ลัทธิแล้ว

มีลัทธิไหน ที่ท่านชื่นชอบบ้าง

แล้ว

มีลัทธิไหน ที่เหมือนบ้านสวนบ้าง

บอกมา ต้องบอกให้ได้

 

ไม่งั้น เดี๋ยวผี เจ้าลัทธิ

จะไปหา ไม่รู้ด้วยนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 18:55:23


ความคิดเห็นที่ 6909 (1621321)

อ่านมา 4 ลัทธิแล้ว เบื่อหรือยังจ๊ะ

(เบื่อหรือไม่เบื่อ ก็ต้องอ่าน)

เวลาเอาไปกล่าวอ้าง จะได้ไม่อายใคร

 

ยกเว้น

หน้าหนา ไม่อาย ก็ไม่เป็นไร

แต่อย่าลืมนะ

ดาบนี้ มีสนองนะ คนที่

เที่ยวกล่าวหา เลื่อนลอย ไม่รู้จริง

วันนี้ เอาความรู้จริง มาให้อ่านแล้ว

ถ้ายังไม่อ่านอีก ก็เรียกได้

อย่างเดียวว่า

 

โง่ แล้ว อวดฉลาด

 

แถมให้อีก

 

โง่ แล้ว พาล

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 18:59:02


ความคิดเห็นที่ 6910 (1621322)

พ่อใหญ่ธนา มาเปิดประเด็น

เรื่องลัทธิไว้ เมื่อวันเสาร์ ว่ามีคนกล่าวหา

ว่าบ้านสวนพีระมิด เป็นลัทธิ นอกศาสนา

วันนี้ ก็เลยขอความเมตตา

พระพุทธองค์ ทรงโปรดสัตว์

ผู้ไม่รู้ ผู้มีอวิชาครอบงำ

ทรงเมตตาให้แสดงความจริง

เป็นทาน

 

---------------

5.อมราวิกเขปิกาทิฏฐิ

ลัทธินี้ มีความเชื่อว่า

 

ซัดส่าย ไหลลื่น

ไม่แน่นอน

เหมือนปลาไหล

 

หมายความว่า

1.เพราะเกรงจะพูดปด ก็เลยปฎิเสธว่า

อย่างนี้ ก็ไม่ใช่

(งง ไหมเนี่ย ภาษา หนังสือโบราณเนี่ย)

 

2.เพราะเกรงจะเป็นการยึดถือ

จึงปฎิเสธ แบบ ข้อ 1

 

3.เพราะเกรงจะถูกซักถาม

จึงปฎิเสธว่า แบบ ข้อ 1-2

 

4.เพราะโง่เขลา จึงปฎิเสธแบบข้อ 1

ไม่ยอมรับ และ ไม่ยืนยันอะไรทั้งหมด

 

อ่านลัทธินี้แล้ว

ช่างตรงกับการกระทำของ

คนบางคน บางจำพวก ที่ปกปิด

หน้าตา เพราะ เกรงว่า

จะถูกจับได้ จะถูกกฏหมายเล่นงาน

และเพราะโง่ จึงคิดเอาเองว่า

ไม่มีใครรู้ หารู้ไม่ ตัวเองรู้อยู่ตลอด

กรรม รู้ อยู่ตลอด มีคนรู้ อยู่ตลอด

 

เจ้าลัทธินี้ คือ สัญชัยเวลัฏบุตร

 

ใครอยากเป็นสาวก

ก็จำชื่อเจ้าลัทธิกันเอาเองเน้อ

จำย๊าก ยาก อ.อุบล ขี้เกียจจำเน้อ

 

แต่ว่า

เจ้าลัทธิ คนนี้ นะ สำคัญนะ

จะบอกให้ เพราะอะไร เพราะว่า

เขาเป็นอาจารย์เดิมของ

พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลานะ

ด้วยนะจะบอกให้

 

แหม อุส่าห์ เอาเรื่อง

ลัทธิ

ที่มีคน อวดรู้ กล่าวอ้าง

ไม่ยักมีใคร มาคุยด้วยเลย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 19:21:05


ความคิดเห็นที่ 6911 (1621323)

 กราบท่านอาจารย์ครับ

เบสมีข้อสงสัยครับ

ว่าถ้าหากมีคนที่นับถือลัทธิเหล่านี้

ซึ่งไม่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว

คนเหล่านั้นจะต้องรับผลกรรมเช่นไร และเมื่อตายแล้ว พวกเขาจะไปอยู่ไหนกันครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 19:25:36


ความคิดเห็นที่ 6912 (1621325)

6.อัตตกิลมถานุโยค

และ อเนกานตวาทะ

 

ลัทธินี้ มีความเชื่อว่า

 

การทรมานกาย

เป็นทางสู่ความพ้นทุกข์

 

มีความเป็นอยู่อย่างเข้มงวด

กวดขันต่อร่างกาย

 

อดข้าว  อดน้ำ  ตากแดด

ตากลม  ไม่นุ่งห่มผ้า(ชีเปลือย)

 

เช่น

 

พวกนิคนถ์

 

ตัวอย่างเจ้าลัทธินี้คือ

ติครนถนาฏบุตร หรือ ท่าศาสดามหาวีระ

 

ศาสดา องค์ที่ 24

ของ ศานาเชน นั่นเอง

 

ท่านผู้นี้เห็นว่า ความจริง มีหลายเงื่อน

หลายแง่ เช่น เรื่องหนึ่ง เหตุการณ์หนึ่ง

เมื่อพิจารณาแล้วในแง่นี้อาจริง

อาจถูก แต่ อีกแง่หนึ่ง

อาจไม่จริง ไม่ถูก เป็นต้น

-------------

ทั้ง 6 ลัทธิ ที่อ่านมา

เป็นไงกันบ้างจ๊ะ เหมือนบ้านสวน

รึเปล่า หรือว่าเหมือนตัวเราคิด

ตัวเรากำลังทำอยู่รึเปล่า

 

แสดงว่า

เรื่องลัทธินี่ พระพุทธเจ้า

รวบรวมไว้ เพราะ มีคนคิดและเชื่อ

แบบนี้จริง จนปัจจุบัน ก็ยังเชื่อ

ยังคิด ยังทำกันอยู่

 

แต่เจ้าตัว

อาจไม่เคยรู้ตัวเลยว่า

สิ่งที่ตนเป็นอยู่นั้น มันเข้าได้

กับลัทธิใด ลัทธิหนึ่ง
ซึ่งไม่ใช่ศาสนาพุทธ หรือ

ศาสนาใดทั้งนั้น

 

แต่เป็นความเห็น

ที่ไม่ใช่หลักธรรมของพระพุทธเจ้า

แน่นอน

 

ดังนั้น

จึงไม่แปลกใจเลยว่า

ทำไมจึงมีคนที่นับถือพุทธ

แต่เพียงเอกสาร

แต่การกระทำ กลับเข้าได้กับ

บาง ลัทธิ

 

อย่างพวกที่ทำผิดศีล

ไม่เชื่อบาปบุญคุณโทษ

ก็ไม่ใช่ชาวพุทธ

แต่เป็นลัทธิ

ข้างต้น อย่างแน่นอน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 19:35:25


ความคิดเห็นที่ 6913 (1621327)

น้องเบส มาพอดี

มาถามคำถาม น่าสนใจอีกแล้ว

กราบท่านอาจารย์ครับ

เบสมีข้อสงสัยครับ

ว่าถ้าหากมีคนที่นับถือลัทธิเหล่านี้

ซึ่งไม่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว

คนเหล่านั้นจะต้องรับผลกรรมเช่นไร และเมื่อตายแล้ว พวกเขาจะไปอยู่ไหนกันครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25

 

 ผลกรรม

และ ที่ไป ก็ให้เอาศีล

เข้าไปจับ

 

ดูว่า เขาทำอะไร ที่ขัดกับคำสอน

 

อันที่จริง ไม่ต้อง เอาศาสนา

เข้ามาจับก็ยังได้

 

เอาแค่สามัญสำนึก

คอมม่อนเซ้นต์ ปกติธรรมดา

เข้ามาจับก็ได้

 

ก็การละเมิดผู้อื่น

การทำลายความดี ทำแล้วก็มีแต่ทุกข์

 

แต่เมื่อเราเป็นชาวพุทธ

เราก็แนะให้เอาศีล 5 ไปจับ

 

จะรู้ว่าผลกรรมเป็นยังไง

ตายแล้วไปไหน

 

อันนี้บอกไว้แล้ว

 

ยกตัวอย่างอีกก็ได้

 

อย่างหยาบคาย ผิดศีลข้อ 4

ตายแล้ว ไปขุม 4

ก่อนตาย ปากเหม็น ไม่มีคนเชื่อ

 

ลามก นิยม เรื่องเพศ

ผิดศีล ข้อ 3 ตายแล้ว ไปขุม 3

ก่อนตาย ครอบครัวแตกแยก

ไม่มีคนรักจริง ผิดหวังตลอดกาล

ยากจน เดือดร้อน อัปลักษณ์

สารพัดจะทุกข์จ้า

 

เข้าใจหรือไม่จ๊ะ

หรือสงสัยอะไรก้ถามกันใหม่ได้จ้า

น้องเบส .... มศว.

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 19:42:27


ความคิดเห็นที่ 6914 (1621329)

เข้าใจแล้วครับอาจารย์

กราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ช่วยให้หายสงสัย

และรู้ที่ไปของคนเหล่านั้นครับ 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 19:59:07


ความคิดเห็นที่ 6915 (1621332)

  กราบอนุโมทนา ธรรมทาน จากท่านอาจารย์ อุบล บ้านสวนพีระมิด  ท่านมีแต่น้อมนําคําสั่งสอน จากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาบอก มาสอน พวกเราลูกบ้านสวน ด้วยดีเสมอมา หาที่สุดมิได้ ให้รู้เหตุแห่งทุกข์ ทุกสิ่ง เกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับ ลัทธิที่กล่าวมาทั้งหมด ที่อื่นมีค่ะ แต่บ้านสวน ไม่มีแน่นอนเจ้าค่ะ ลูกขอเชื่อฟัง และทําตามคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 20:05:12


ความคิดเห็นที่ 6916 (1621339)

     กราบขอบพระคุณในธรรมทานจากท่านอาจารย์อุบลและคำถามดีดีจากน้องเบสด้วยครับ 

     จริงๆ แล้วศีล 5 เป็นกฏสากล ไม่ว่าอยู่ศาสนาไหนก็อยู่บนกฏเดียวกัน คือ กฏแห่งกรรมอยู่แล้ว

     เห็นพวกชอบ"ยัดเยียด"ข้อหา ว่าบ้านสวนฯเป็นลัทธิ ก็อดไม่ได้ที่หัวเราะ จริงๆ ครับ เพราะ แค่เอาศีล 5 ไปจับ เอาแค่ขั้นหยาบๆ ก็ ขาดไม่มีชิ้นดีแล้ว ขั้นกลาง ขั้นละเอียดไม่ต้องพูดถึง        ยังกล้าจะบอกว่าตัวเองเป็นชาวพุทธอีก พุทธแท้ หรือ พุทธเทียม ดูกันที่การปฏิบิติดีกว่านะครับ เพราะคนกลุ่มนี้ มักจะมองอะไรที่เปลือกพอเห็นเป็น ปิรามิดหน่อยก็ บอกว่า นี่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ โดยไม่ใช้ปัญญา พิจารณาก่อน ดูๆแล้ว ยังห่างไกล นิพพาน จริงๆครับ เพราะมัวแต่ "ติดเปลือกกันอยู่" 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 22:02:52


ความคิดเห็นที่ 6917 (1621343)

 

ธรรมทานที่อาจารย์อุบลแสดงละเอียดมาก ในโรงพยาบาลก็จะพบโรคที่อาจารย์พูดถึงมากมาย แต่ก็ไม่ค่อยมีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรคเหล่านี้ว่ามาจากการผิดศีลทั้งนั้น

ช่วงนี้หมอก็เริ่มแจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ ให้คนไข้บางคนและพูดถึงผลของความเจ็บป่วยบ้าง ถ้าอาจารย์อุบลจะให้ช่วยทาง เวปไซต์ ก็ยินดีร่วมขบวนคะ

อาการโดยทั่วไปของหมอก็ดีมากจนเกือบจะหายแล้วคะ ขอบคุณคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-25 22:27:12


ความคิดเห็นที่ 6918 (1621355)

 เดี๋ยวค่อยมาต่อนะ

เอ มีใครอยากรู้รึเปล่าก็ไม่รู้

พูดไปไร้ประโยชน์

เหมือนเป่าปี ให้ ฟาย ฟัง

ถ้าไม่รู้เรื่อง และ ไม่อยากรู้

******************

ถ้าคนอื่นเขาจะมองว่า บ้านสวนพีระมิด คือ ลัทธิๆหนึ่ง

ลูกขอยอมเป็น"ควายของบ้านสวน"

ดีกว่ายอมเป็นควายของผู้ที่โง่แล้วอวดฉลาด

ที่กล่าวอ้างว่าบ้านสวนเป็นลัทธิ

แต่ตนเองกำลังจะทำตัวเป็นเจ้าลัทธิ์ซะอีก

 

อยากจะรู้นักว่า ในวันที่เกิดภัยพิบัติ

คนพวกนี้จะใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วยกันหรือเปล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-26 02:08:36


ความคิดเห็นที่ 6919 (1621371)

 เท่าที่อ่านพระไตรปิฎกเรื่องลัทธิแล้ว

ตุ้ยไม่เห็นว่าจะมีข้อไหน
ที่เป็นอย่างที่บ้านสวนฯสอนสักข้อ
เพราะบ้านสวนพีระมิดมีแต่สอนให้ 
 
 
 
1. เชื่อเรื่องบุญและบาป สอนให้เชื่อว่า
สร้างเหตุอย่างไร ก็ต้องได้รับผลเช่นนั้น
คนทำดีก็ต้องได้ดี ทำชั่วก็ต้องได้ชั่ว 
ผลก็คือลูกบ้านสวนทั้งหลาย
ที่มาสร้างบุญต่างๆ ที่บ้านสวน
เมื่อกลับไป แล้วอาการ
กิจการ การเงิน ความรัก
ดีขึ้นทุกด้าน ก็เพราะบุญส่งผล
ตรงกันข้ามคนที่มาทำบาป
ทำผิดกฎ เมื่อกลับไป 
ก็ได้รับแต่ความทุกข์ ความวิบัติ
โรคภัยไข้เจ็บ จนถึงเสียชีวิตก็มี

2. บ้านสวนสอนให้เราเชื่อว่า
สร้างเหตุอย่างไร
ย่อมได้รับผลเช่นนั้น
ไม่มีใครเกิดมาแล้ว
ประสบเคราะห์กรรมได้เอง
หรือเกิดมาโชคดี ร่ำรวย ได้เอง
เรียกว่าไม่มีเรื่องบังเอิญ
หากคุณไม่สร้างเหตุและผลไว้ในอดีต
ผลในปัจจุบัน
และอนาคตก็ย่อมไม่เกิดเช่นกัน

ตัวอย่างก็มีให้เห็น
ขอยกตัวอย่างเรื่องของตัวเอง
ตั้งแต่เด็กขโมยเงินแม่ เงินเพื่อน เงินที่ทำงาน
ปัจจุบันก็ต้องเจอสภาพขัดสนทางการเงิน
ชักหน้าไม่ถึงหลัง
หาได้มากแค่ไหนก็ไม่พอ
เอาเงินเขามาเท่าไร
ก็ต้องทำชดใช้เขาไปเท่านั้น
นี่คือเหตุที่สร้าง และผลที่ได้รับซึ่งมีจริง

3.บ้านสวนสอนให้เห็นว่า
เมื่อคนทำดี ก็ต้องได้ดี
ทำชั่วก็ได้ชั่ว
ทำไมมาสร้างบุญด้วยความศรัทธา
ทำถูกกฎระเบียบแล้ว กลับไปบ้าน
กิจการค้าขายรุ่งเรือง
สุขภาพหายโรคที่เป็นมานานแรมปี
ทำไมก้มลงกราบท่าน อ.อุบล
แล้วหายทุกข์ หายโศกทุกอย่าง
ซึ่งล้วนมาจากผลของการปฏิบัติดี
มีความเคารพบูชาในพระพุทธเจ้า 
พระธรรมคำสอน
ครูบาอาจารย์
ยังผลให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
 
 
(เดี๋ยวมาต่อค่ะ)
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-26 09:54:22


ความคิดเห็นที่ 6920 (1621376)

หมอได้มีโอกาศร่วมเดินทางกับคณะทัวร์หนึ่ง

มีสองคนที่เป็นมะเร็ง ทำคีโมและทำผ่าตัดไปแล้ว ที่น่าสนใจเป็นคุณผู้ชายที่เป็นมะเร็งที่หลอดอาหาร ทำผ่าตัดแล้ว ขณะนี้เป็นเบาหวาน ความดันสูงมีเส้นเลือดแตกที่สมองเป็นอำพาตไปครึ่งซีก เดินไม่ค่อยสดวกเพราะขาไม่มีแรง เขาเคยมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนภรรยาทำงานในกรมทางหลวงชนบทเขตเชียงใหม่ ฐานะการเงินค่อนข้างดี

ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าแล้วเขาทำกรรมอะไรมาถึงมีโรครุมเร้าขนาดนี้ทั้งๆทีมีเงินทองมากมาย

หมอก็เลยบอกให้เขาใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยเพราะเขามีแผลที่เท้า เขาบอกว่ารู้สึกว่าแผลติดดี แล้วก็ได้แนะนำเขาเรื่องบ้านสวนพีระมิด และให้เข้าไปดูรายการคุยไปแจกไป พร้อมกับให้เขาสำนึกผิดและก็ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรให้มากๆ เขาว่าเขาทำผิดศีลมามากมายเมื่อยังหนุ่มอยู่ ก็ไม่กล้าถามว่าอะไรบ้าง น่าจะรุนแรงมากด้วย

ก็ได้แต่หวังว่าเขาจะหาทางออกจากบ่วงกรรมนี้ได้และพ้นทุกข์ได้ในที่สุด สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-26 10:55:07


ความคิดเห็นที่ 6921 (1621379)

  ดูข่าวเมื่อเช้า เรื่องจับบ้ากามกระหัง 

ที่ลาดบัวขาวสีคิ้ว นครราชสีมา

จับได้แล้ว เป็นชาย ชื่อ นายเดิมเชียงแสน   ป้อม สูงเนิน

 อายุ 31 ปี เคยต้องโทษคดียาเสพติด

โดยนายเดิมเชียงแสน ได้ทำมือถือตกในที่เกิดเหตุ

จึงไปสู่การจับกุมได้รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง

ตนเองเคยดมสาระเหยจนประสาทหลอน 

รับสารภาพว่ามีความสุขจากการได้ลวนลามหญิงสาว

ตนเองเคยดมสาระเหยจนประสาทหลอน

นอกจากนี้ จากการค้นตัวเจ้าหน้าที่ยังพบยาบ้า

และกระสุนปืนอีกด้วย เบื้องต้น

ตำรวจได้แจ้งข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง

 บุกรุก กระทำอนาจาร มีโทษจำคุก 10 ปี

 ************************************* 

เอาแค่เรื่อง การหมกมุ่นในกามารมย์ 

ไปสู่การไปละเมิดผู้อื่น เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่

มีการเตรียมการ รู้ทางหลบหนี

และเลือกเป้าหมายบ้านที่อยู่ห่างๆกัน

 แสดงว่า จงใจที่จะทำกรรม ลามกจกกระเปรต

มันเป็นนิสัยและสันดานไปแล้ว

ครั้งแรก คนจับไม่ได้  เกิดย่ามใจ

 ครั้งต่อไป เข้าไปทำแบบเดียวกันอีก

 ต้องการแสดงให้รู้ว่า ตนเองเก่ง

คราวนี้้ เพิ่มขีดความสามารถ ทำหลายหลังในคืนเดียวกัน

แสดงว่ากำลังใจในการทำชั่วมีมากมายมหาศาล

 เป็นวิญญาณชั่ว ที่ต้องการพาไปให้ทำอะไรก็ได้

 ไม่สนอะไรทั้งสิ้น และที่สุดก็ถูกจับได้

 ไหนจะต้องถูกลุมประชาทัณฑ์

และเสียงด่าทอสาปแช่งสารพัด ของชาวบ้าน

 ต้องก้มหน้ารับโทษทางกฎหมาย

 แล้วโทษของกฎแห่งกรรมอีกละ 

 จะประมาณไหน...  

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-26 11:15:07


ความคิดเห็นที่ 6922 (1621381)

กราบขอบพระคุณธรรมทานของท่านอาจารย์ครับเรื่อง "ลัทธิ" ก่อนที่จะได้มารู้จักบ้านสวนผมคงได้เข้าไปอยู่หลายลัทธิ เคยมีมิจฉาทิฏฐิ เชื่อว่านรก-สวรรค์ไม่มีจริง บุญ-บาปไม่มีจริง เคยคิดว่าคนเราตายแล้วสูญ เมื่อเชื่อเช่นนั้นเลยทำให้สามารถประกอบกรรมชั่วและผิดศีลได้ง่าย สร้างบาปกรรมอย่างไม่ลดละ แต่พอได้มารู้จักบ้านสวนพีระมิด ได้ฟังพระธรรม ได้เห็นกฏของกรรมที่ท่านอาจารย์เมตตานำมาแสดงและสั่งสอน ทำให้รู้ว่า บาปบุญ คุณโทษ นรกสวรรค์มีจริง และสิ่งที่บ้านสวนทำอยู่ไม่ใช่ลัทธิ อย่างที่ใครกล่าวหา เพียงแต่อาจารย์นำพระธรรมอันงดงามของพระพุทธองค์มาแสดงแบบย่นย่อ เข้าถึงและเข้าใจง่าย พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม มีสัมมาทิฏฐิเชื่อมั่น ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธองค์อย่างมั่นคง

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-26 11:25:43


ความคิดเห็นที่ 6923 (1621385)

    กราบอนุโมทนาในธรรมทาน เรื่องลัทธิ

จากท่าน อ. อุบล ด้วยค่ะ

อาจารย์ขา  ในชีวิตตั้งแต่เกิดมา

ไม่เคยอ่านพระไตรปิฏกเวอร์ชั่นไหน

ที่อ่านไป  หัวเราะไป   เหมือนอ่านพระไตรปิฏก

เวอร์ชั่น ท่าน อ. อุบล เลยค่ะ

อ่านแล้วเข้าใจง่าย  สนุกด้วยค่ะ

    อ่านจบทั้ง 6 ลัทธิแล้ว  ไม่มีลัทธิไหน

เข้าได้กับบ้านสวนเลยค่ะ เพราะบ้านสวน

ท่าน อ. อุบล  ได้สอนพวกเรา  ดังนี้

   1. บาป  บุญ มีจริง

    2. ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ

    3. สร้างเหตุเช่นไร  ได้ผลเช่นนั้น

   4.  ทุกอย่างเป็นของไม่เที่ยง

    5. ให้ตั้งอยู่บนความเป็นจริง

    6.  การรักษาศีล  ภาวนา 

เป็นหนทางแห่งความหลุดพ้น

กราบ  กราบ  กราบ

   

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-26 12:06:41


ความคิดเห็นที่ 6924 (1621388)

(ต่อ)

 4. บ้านสวนพีระมิดสอนให้เรารู้ว่า

ทุกคนเกิดมาย่อมหนีความตายไปไม่พ้น
ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนเท่าความตาย
ทุกสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
บ้านสวนสอนให้เราละวางอัตตา
ยึดมั่นถึอมั่นในตัวเอง
ซึ่งแสดงออกมาทั้งจากการ
ให้เราสารภาพบาป
สอนให้เราพูดแต่ความจริง 
ให้เราได้กล้าแสดงออก
ทั้งการแสดง กิจกรรมบุญต่างๆ
เพื่อละวางอัตตา
ยศถาบรรดาศักดิ์ของตัวเอง
เราไม่สามาควบคุมให้ชีวิตเราหยุดเจ็บป่วย
หยุดเกิด แก่ เจ็บ ตายไปได้
รวมก็คือการสอนให้เรารู้ว่าชีวิตนี้
ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ และเป็นของเราเลย

ทั้งเรื่องการฆ่าคน ฆ่าสัตว์
เมื่อก่อนเราก็เคยคิดว่า
การคิดจะฆ่า คิดร้าย
ไม่ใช่การฆ่าคนสักหน่อย 
การกินเนื้อสัตว์ ก็ไม่ได้ไปฆ่าสัตว์
ด้วยตัวเองสักหน่อย
แต่บ้านสวนสอนให้เราเห็นว่า
ศีลนั้นละเอียดอ่อน 
แค่มโนกรรม หรือการเห็นดีเห็นงาม
ก็ล้วนมีผลเท่ากับสร้างกรรมนั้นแล้ว
นี่คือการสอนของบ้านสวน
ที่ทำให้เราเห็นว่าการฆ่า
แค่คิดก็เป็นกรรมแล้ว
แล้วถ้าได้ใช้อาวุธ ได้ลงมือเอง
จะเป็นกรรมหนักขนาดไหน

5. บ้านสวนพีระมิดสอนเราว่า
ให้เราพูดแต่ความจริง
จงเลือกเกรงใจพระพุทธเจ้า
อย่าไปเกรงใจคนอื่น 
การฟังเขาให้ร้าย
ฟังเขาพูดโกหก แต่เรานิ่งเฉย
นั่นคือการเห็นด้วยกับการทำผิด
อ้างเพราะเกรงใจ ไม่ใช่เรื่องของเรา
เหล่านี้เอง บ้านสวนพีระมิด
สอนเรามานานมากแล้ว
ว่าให้เราใช้พรหมวิหาร 4
ฟังเขาและให้ข้อมุลจริงกับเขา
หากเขาจะโกรธ จะเกลียดเรา
แต่เขาไม่ต้องตกนรกเราก็ต้องยอม
ฉะนั้นบ้านสวนไม่เคยสอนให้เราเกรงใจคนชั่ว 
ไม่เคยสอนให้เราโกหก ปกปิด
บิดเบือนเอาความดีเข้าตัว
ความชั่วให้คนอื่น

6. บ้านสวนสอนให้เรามีจิตที่เบิกบาน
ปล่อยวาง เดินทางสายกลาง
ดูได้จากการสร้างบุญแรงกาย
หากเหนือยก็พัก
ไม่ใช่ทำอย่างเอาเป็นเอาตาย 
ร้อนก็หางานในที่ร่มทำ 
ได้เวลากินเราก็กิน
ไม่เคยให้มาอดมื้อกินมื้อ 
ต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน
งานไม่เสร็จไม่ต้องกินข้าวเมื่อไร
เสื้อผ้า จะนุ่งขาวห่มขาว
หรือสีสันอะไรก็ช่าง
เพราะบ้านสวนพูดเสมอว่า
เครื่องแต่งกายไม่ได้มีส่วน
ทำให้คนหายทุกข์
ไม่ได้ทำให้คนไปนิพพานได้

ฉะนั้นทั้งหมดที่กล่าวมา
ตัวตุ้ยเองไม่เห็นว่าจะมี
ข้อไหนของคำว่าลัทธิ
ที่พอจะใช้กับบ้านสวนพีระมิดได้เลย
ดังนั้นผู้ที่มาละเมิดกล่าวหา
โดยไม่รู้จริง เท่ากับได้ปรามาส
ลบหลู่คำสอนของพระพุทธเจ้า 
ซึ่งบ้านสวนพีระมิดยึดคำสอนของท่านมาปฏิบัติ
ผลที่ได้รับนี่คงเกินคาดเดา 
ต่อไปนี้เราจะได้เข้าใจความหมาย
ของคำว่าลัทธิลึกซึ้งกันซะที
และจะนำบอกต่อ อธิบายให้อีกหลายๆ คน
ได้เข้าใจกันสักทีค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-26 12:18:49


ความคิดเห็นที่ 6925 (1621391)

 กราบอนุโมทนาค่ะอ.แม่

ที่มาขยายความหมายของคำว่า ลัทธิ

ซึ่งที่อ.แม่เขียนมาทั้งหมดก็เป็นเรื่องจริง

และทุกคนสามารถศึกษาค้นคว้าหาดูได้

ในพระไตรปิฎก

สิ่งที่บ้านสวนทำอยู่เท่าที่หนูอ่านดู

มันไม่ตรงกับลัทธิใดเลยในพระไตรปิฎก

แต่มันตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้ามากกว่า

แต่คนที่ทำตัวเหมือนลัทธิใดลัทธิหนึ่ง

หรือหลายๆลัทธิ แต่ไม่รู้ตัว

ไม่รู้ความหมายของคำว่าลัทธิ อย่างถ่องแท้

แต่กลับมาว่าผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

เป็นเจ้าลัทธิ 

คนแบบนี้น่าสงสารจังค่ะ

ตัวเองเป็นยังไง เข้าข่ายไหน

ยังไม่เคยรู้เลย

แถมยังมายัดเยียดให้ผู้อื่นอีก

หวังว่าถ้าคนเหล่านั้นได้เข้ามาอ่าน

คงตาสว่างสักทีนะคะ

พวกไม่รู้แล้วอวดฉลาดเนี่ย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-26 12:24:07


ความคิดเห็นที่ 6926 (1621447)

หวังว่าถ้าคนเหล่านั้นได้เข้ามาอ่าน

คงตาสว่างสักทีนะคะ

พวกไม่รู้แล้วอวดฉลาดเนี่ย

...............................................

พวกเค้าเข้ามาอ่านจ่ะ น้องหญิง

และดูเหมือนว่าจะแฮ็คเข้ามาอ่าน

ตอนที่ท่านอาจารย์กำลังเขียนธรรมทาน

เรื่องลัทธิอยู่ซะด้วยสิ

 

เห็นชัดๆเลยค่ะว่า

ท่านอาจารย์เขียนธรรทาน

เรื่อง ลัทธิไป แล้วก็กระทุ้ง

คนที่่ลักลอบเข้ามาอ่านไปด้วย

อย่างในคห.ที่ 6921 6922 6923 นั่นแล

 

ว่าแต่ ชักจะสงสัยเหมือนกันนะคะว่า

พวกนี้เป็น"คน" หรือว่า

เป็นพวก ปอบหยิบ รึเปล่าก็ไม่รู้นะคะ

เพราะเห็นชอบเข้ามาจก มาจิก

มาจับธรรมทานของท่านอาจารย์และพวกเรา

ไปไว้ในเพจปลอมของตัวเองตาหล๊อด...

 

แต่ก็อย่างว่าแหล่ะน้องหญิง

ถึงแม้พวกเค้าจะมีบุญได้เข้ามาอ่าน

แต่กรรมก็บังตา

 

ฉะนั้น ธรรมทานชั้นเลิศ จึงไม่ได้ทำให้

พวกเค้า"ตาสว่าง"ขึ้นมาได้เลย

ดีแต่"อวดโง่" แต่คิดว่า

ตัวเอง"ฉลาด"ไปวันๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-27 05:17:31


ความคิดเห็นที่ 6927 (1621449)

กราบอนุโมทนาในทุกๆธรรมทาน

จากท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

ได้อ่านแล้ว ก็กระจ่างชัดแจ้ง

ในเรื่องเกี่ยวกับลัทธิต่างๆ

 

และแน่นอนค่ะว่า บ้านสวนพีระมิด

ไม่มีคำสอนหรือกิจกรรมอันใดเลย

ที่ใกล้เคียงกับ ลัทธิเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย

 

แหม่..คนที่มากล่าวหา กล่าวอ้าง บ้านสวนฯ

ก็พูดไปเรื่อยนะคะเนี่ย

 

ไม่รู้ว่า เจ้าตัว..เอง

จะเข้าใจคำว่า ลัทธิ

ได้ดีแค่ไหนก็ไม่รู้นะคะ...

...............................

อ่านข่าวที่ พี่อมร แจ้งแล้ว

ชนิดาว่า ท่าทางพวกเราจะถูก

ตำรวจจับหลอก แล้วล่ะค่ะ

 

เพราะเท่าที่เคยอ่านคำให้การ

ที่เหยื่อเคยเล่าว่า ชายลึกลับเสื้อดำคนนั้น

สามารถวิ่งผ่านทะลุประตูที่ล็อคอยู่ได้

แสดงว่า ผีตนนั้น บ่ใช่คน แน่ๆ

 

แต่นี่ คุณตำรวจไปเอาขี้ยา ที่ไหน

มารับสารภาพแทนก็ม่ายรู้

 

เฮ้อ..ไม่รู้ว่า ถูกผีหลอก กับ ถูกตำรวจหลอก

อย่างไหนจะ น่ากลัว กว่ากันหนอ...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-27 05:29:41


ความคิดเห็นที่ 6928 (1621461)

เฮ้อ..ไม่รู้ว่า ถูกผีหลอก กับ ถูกตำรวจหลอก

อย่างไหนจะ น่ากลัว กว่ากันหนอ...

""""""""""""""""""""""

พี่สรก็คิดเหมือนน้องนิดาค่ะ

และเจ้าคนที่จ้องทำลายท่าน อ.อุบล

สัญญาณผลของกรรมส่งผลทันทีแล้ว

เพราะเขารุ่มร้อนตลอดเวลา

มีชีวิตทรมาร

ทุกลมหายใจแม้จะอ่านคำสอนของ

อาจารย์อุบล

มากเท่าไรเหมือนอ่านภาษาได้

แต่แปลไม่ได้ค่ะคุณน้อง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-27 09:03:33


ความคิดเห็นที่ 6929 (1621499)

กราบอนุโมทนาบุญกับธรรมทานจาก ท่านอาจารย์อุบลฯด้วยค่ะ!

     และยินดีกับทุกจิตวิญญาณของ  ทหารกล้า!

  ที่ได้รับพลังบุญจาก  อาจารย์ อุบลฯ  มอบให้

     ได้หลุดพัน  พบความสุข  ตลอดไป/ 

    และลูกขอร่วมอุทิศบุญ ในครั้งนี้ด้วยค่ะ!

                   สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-27 11:39:59


ความคิดเห็นที่ 6930 (1621584)

พี่สรก็คิดเหมือนน้องนิดาค่ะ

และเจ้าคนที่จ้องทำลายท่าน อ.อุบล

สัญญาณผลของกรรมส่งผลทันทีแล้ว

เพราะเขารุ่มร้อนตลอดเวลา

มีชีวิตทรมาร

ทุกลมหายใจแม้จะอ่านคำสอนของ

อาจารย์อุบล

มากเท่าไรเหมือนอ่านภาษาได้

แต่แปลไม่ได้ค่ะคุณน้อง

.................................

นั่นนะสิเจ๊สร

จิตใจพวกเค้าคงจะไม่สงบพอ

ที่จะจดจ่อและอ่านธรรมทานได้แน่ๆค่ะ

 

ถึงได้เลือกอ่านบางประโยค

หรือคัดเอาไป เป็น คำๆ

เห็นคำไหนพอจะแย้งได้

ก็จะหาเรื่องไปเรื่อยๆแบบนี้แหล่ะ 


ว่าแต่เรื่อง ตำรวจจับหลอก

ชนิดาว่าคงจะทำไปแบบมีเหตุผลง่ายๆ

คือ อย่างน้อยก็ทำให้ผู้คนแถวนั้น

รู้สึกปลอดภัยขึ้นเท่านั้นเอง

ทั้งๆที่ความจริงแล้ว

ยังอันตรายอยู่เต็มๆ

โดยเฉพาะคนที่ผิดศีล

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-28 06:00:26


ความคิดเห็นที่ 6931 (1621686)

กราบท่านอ.อุบลที่เคารพ

              วันนี้โชคดีมากและดีใจมากที่สามารถเปิดเวปบ้านสวนได้ปิติมากค่ะที่ได้อ่านธรรมทานเรื่องลัทธิ.....สาธุ..สาธุ....บ้านสวนไม่อยู่ใน 6 ข้อนั้นเลย.........สอนให้ทำแต่ความดี......มีศีลธรรม..สาธุ...ลูกจะนำคำสอนจากบ้านสวนพีระมิดไปปฏิบัติ. ระลึกและปิติทุกครั้งที่คิดถึงท่านอ.อุบล

                 จากวัณณิตา(ด.ญนิดหน่อย)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-29 15:30:01


ความคิดเห็นที่ 6932 (1621688)

ขอนอบน้อมกราบพระพุทธองค์

และท่านอาจารย์ อุบล

ที่ช่วยมาขยายความเรื่องลัทธิ ให้กระจ่างแจ้ง

ยิ่งเห็นชัดเลยครับเจ้าลัทธิ+ศิษย์ทั้งหลายใน

ปัจจุบันยังมีอยู่ครบเกลื่อนเมือง

เมื่อก่อนผมก็เคยเป็นสาวก ยังดีมีบุญมาบังบาป

พวกบอกว่าบ้านสวนเป็นลัทธิ เค้ามองไม่เห็นตัวเองจริงๆ

เพราะตัวเค้าเองแหละเป็นสาวกลัทธิใด ลัทธิหนึ่งเต็มๆ

พวกนี้จะดูคนอื่นเป็นงานประจำ

ไม่ดูจิตดูใจตัวเองตามที่พระพุทธองค์สอน

นับถือพุทธอยู่บัตรประชาชน

แต่มันไม่ได้เข้าไปที่จิตที่ใจ

ผู้มีปัญญาเท่านั้นถึงจะเห็น ไม่รู้จะสมเพส หรือจะหัวเราะดี

ที่มาเปิดใส้เปิดพุงให้คนอื่นเค้าเห็น แต่ตัวเองกลับไม่เห็น

ธรรมของพระพุทธองค์เป็นของกลาง

เป็นความจริง

เป็นธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว

ถ้าไม่ปรุงแต่งหรือฟุ้งไปซะมาก ก็จะพบหลักธรรมตามความเป็นจริง

แต่ทำไงได้ ก็มันยังมี ตัวกูของกู ความคิดความเห็นมันก็เลยเป็นลัทธิ

ผมไม่เอาด้วยหรอกครับขอมืดมาไปสว่างดีกว่าครับ

กราบ กราบ กราบ

ทุกๆ พระองค์

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น (kiattisp-at-scg-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-29 16:06:18


ความคิดเห็นที่ 6933 (1621695)

 

ดีใจที่สุดเลยค่ะเข้าเวปบ้านสวนได้แล้ว หลังจากรอมาสิบแปดวัน

 

เฮ้อ..ไม่รู้ว่า ถูกผีหลอก กับ ถูกตำรวจหลอก

อย่างไหนจะ น่ากลัว กว่ากันหนอ...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-27 05:29:41

อย่างหลังน่ากลัวกว่าค่ะคุณชนิดา เพราะบ่อยครั้งที่ตำรวจรีบปิดคดีเพราะรักษาหน้า และภาพพจน์ของตัวเอง นอนอยู่บ้านเฉยๆก็มีสิทธิ์เป็นแพะเป็นผู้ร้ายได้

ขออนุโมทนาธรรมทานจากท่านอ.แม่อุบลและทุกท่านค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

ขอขอบคุณเวปมาสเตอร์แห่งบ้านสวนฯด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-29 18:41:04


ความคิดเห็นที่ 6934 (1621712)

ขอกราบขอบพระคุณธรรมทานจากท่านอ.อุบลเป็นอย่างสูงครับ  

ท่าที่นั่งท่านลัทธิแต่ละข้อนั้น  ไม่มีข้อใดตรงกับบ้านสวนเราเลยสักข้อเดียว  

อ่านไปก็อดขำไม่ได้ครับ  กับการที่มีกลุ่มคนบางกลุมมากล่าวหาบ้านสวนฯ  ที่ว่าเป็นลัทธินอกศาสนาบ้าง  

คำว่าลัทธิไม่รู้ว่าคนพวกนี้รู้จักกันอย่างถ่องแท้รึปล่าว ก่อนที่จะกล่าวหาคนอื่นเขา  

ท่านอาจารย์เลยเมตตาสอนให้สักที สองที  ลองกลับไปดูตัวพวกคุณเองนะครับ  ว่าอยู่ในกลุ่มคนนอกศาสนารึปล่าว  

ถ้ายังหลงทางอยู่ผม ว่ายังมีทางออกนะครับ   ยังไม่สายเกินไป  

สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณธรรมทานจากท่านอาจารย์อีกครั้งนะครับ  ที่เมตตาสอยให้พวกเราได้รู้กัน  

ผู้แสดงความคิดเห็น ณภัทร ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-29 21:30:07


ความคิดเห็นที่ 6935 (1621725)

ดีใจมาก

เหมือนกันค่ะ

พี่อ๋อย ไม่ได้เข้า

เวปบ้านสวนพีระมิด

เหมือนอะไรขาดหายไปใน

ชีวิตสักอย่าง  สวัสดีค่ะ พี่น้อง

บ้านสวนทุกคน

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-29 23:04:11


ความคิดเห็นที่ 6936 (1621732)

ขอกราบขอบพระคุณในธรรมทานของอาจารย์อุบลเกี่ยวกับคำว่า"ลัทธิ" อ่านไปก็ตอบคำถามทีละลัทธิว่า บ้านสวนไม่เห็นมีอะไรที่ตรงกับลัทธิที่อาจารย์นำมาบอกกล่าวให้ฟังเลยแม้แต่น้อย มีแต่ตรงกันข้ามกับลัทธิที่นำมาเล่าทั้ง 6 ลัทธิ ซึ่งคำสอนที่อาจารย์นำมาสั่งสอน ตักเตือนเป็นสิ่งที่เป็นจริง ไม่มีอะไรจะมาลบล้างคำสั่งสอนที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงค้นพบให้พวกเราได้ยึดถือปฏิบัติกันได้เลยจริง ๆ เพราะทุกอย่างเกิดจากเหตุ เหตุดับผลก็ดับ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น และขออนุโมทนากับธรรมทานของทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กนกกร แดงเอม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-29 23:33:53


ความคิดเห็นที่ 6937 (1621734)

กราบเท้า อาจารย์อุบล,อาจารย์มงคล ที่เคารพรักอย่างสูง

     วันนี้วันที่ 29 กรกฎาคม 2555 ครอบครัวแดงเอมได้โอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 3บัญชี ได้แก่

     1. บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่ 212-0-16993-4 จำนวน 999+1 บาท                          

เพื่อร่วมสร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน                                                                                              

      2. บัญชีธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 065-0-34728-9จำนวน 1,999+1 บาท (เป็นเงินจากการใส่บาตรวิระทะโย)เพื่อร่วมทำบุญทุกบุญในบ้านสวนพีระมิด

      3. บัญชีธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 1-81068467-8 จำนวน 1,000 บาท เพื่อบูชาจี้องค์เทพสฟิงซ์ จำนวน 1 องค์และขอรบกวนให้ส่งที่นางกนกกร แดงอม วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000 (ได้พยายามโทร.แจ้งทางโทรศัพท์หมายเลข037356268แล้วแต่ไม่สามารถโทรติดต่อได้ค่ะ) ขอกราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กนกกร แดงเอม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-29 23:49:57


ความคิดเห็นที่ 6938 (1621736)

ขออนุโมทนา

กับคุณกนกกร แดงเอม

ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-29 23:55:33


ความคิดเห็นที่ 6939 (1621737)

 ท่านอาจารย์กล่าวถึงและให้ความกระจ่างของคำว่า ลัทธิ...ผมเองก็เคยเป็นสมาชิกอยู่หลายลัทธิเหมือนกัน เมื่อก่อนก็จะคิดว่าพระนิพพานมีอยู่จริงเหรอ จะไปกันได้เหรอ คนตายก็จบทุกอย่างก็น่าจะพอแล้วนิ มีความสุขที่คิดเอาเองว่าสุขไปวันๆ ไม่เดือดร้อนใจตัวเอง และผู้อื่นก็น่าจะพอแล้วมั้ง หรือบางคนมีตังค์จ่ายค่าสุรา นารี และอบายมุกอื่นๆ ที่ไม่เบียดเบียนใคร ก็น่าจะอยู่ดีมีสุขได้แล้วนิ...

เหล่านี้ ล้วนแต่คิด และเอาความคิดตัวเองเป็นหลักทั้งนั้น แม้แต่บุคคลที่เข้ามากล่าวหาว่า บ้านสวนฯ เป็นลัทธินั้น เขาเองเคยคิดหรือไม่ว่า สิ่งที่ตัวเองคิดนั้น ถูกต้องแล้วหรือยัง พิสูจน์ให้เห็นจริงแบบบ้านสวนฯ แล้วหรือยัง หาความรู้จากหลักธรรมะของพระพุทธองค์แล้วมาเปรียบเทียบกับบ้านสวนฯ แล้วหรือยัง...แทนที่จะมานั่งกล่าวหาแบบลอยๆ เห็นคนอื่นกล่าวหา ก็ร่วมวงกับเขาไปด้วย โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน

ธรรมะพระพุทธองค์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยิ่งศึกษา ก็ยิ่งรู้ว่าละเอียดมากแค่ไหน ถ้าได้แต่คิดเอง เออเองไปวันๆ ก็คงได้แต่ความหยาบกระด้างของปัญญาไปวันๆ เช่นกัน

ถึงแม้ตัวผมเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าใครที่ไหนเลย แต่ก็ยังคงที่จะเสาะแสวงหาธรรมะของพระพุทธองค์ ซึ่งประเสริฐที่สุดแล้ว และธรรมะอย่างท่ีท่านอาจารย์อุบล ได้นำมาบอกกล่าว ก็ล้วนแล้วแต่เป็นธรรมะจากพระพุทธองค์เช่นเดียวกัน พิสูจน์ได้จากพระไตรปิฎก ที่ใครๆ ก็สามารถหาอ่านได้(ถ้าอ่านนะ)...

แล้วลัทธิที่หลายๆ ท่านกล่าวอ้างว่าบ้านสวนฯ เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ถึงวันนี้ก็คงจะกระจ่างแก่ใจแล้วนะครับ...ลองอ่านทบทวนดูอีกครั้งก็ยังได้(ถ้าอยากอ่าน) โดยวางอารมณ์ขุ่นมัวไว้ชั่วขณะก่อน 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 00:27:08


ความคิดเห็นที่ 6940 (1621740)

ยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆท่าน

กลับคืนสู่

บ้านอันแสนอบอุ่นหลังนี้ด้วยนะคะ

 

เข้าใจค่ะว่า เวลาเข้าบ้านตัวเองไม่ได้นั้น

มันเคว้งคว้างแค่ไหน

 

ฉะนั้น เมื่อเข้ามาได้แล้ว

ก็แวะเข้ามาทักทาย

และแสดงความคิดเห็นกันบ่อยๆนะคะ

จะได้คึกคักและอบอุ่นเหมียนเดิม...

 

 

ว่าแต่หนูเกด หายไปนานมากเลย

หวังว่าคงจะสนุกกับบทบาทใหม่

ในชีวิตอยู่นะจ๊ะ

 

เอ่อ..ตกลงยังม่ายรู้เลยว่า

หนูเกดได้ลูกสาวหรือลูกชาย..เนี่ย

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 01:55:53


ความคิดเห็นที่ 6941 (1621741)

ประกาศ

ถ้าพี่น้องท่านใดยังไม่สามารถ

เข้าไปโพสต์ข้อความ

ในกระดานสนทนาได้

 

แต่ต้องการเขียนธรรมทาน

ก็สามารถมาเขียนในหน้านี้ได้นะคะ

 

(22 กค. 55) ประกาศจัดระบบสมาชิกบ้านสวนพีระมิดใหม่

ถ้าชนิดาเข้ามาอ่านเจอ

แล้วจะนำไปโพสต์ให้ในกระทู้

ที่ต้องการในกระดานสนทนาให้ค่ะ

 

ไม่ต้องเกรงใจนะคะ

แต่ก็ขอเพียง..วงเล็บบอกซักหน่อยว่า

(ยังไม่สามารถเข้าไปโพสต์ในกระดานสนทนาได้)

ก็จะดีมากๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 02:14:41


ความคิดเห็นที่ 6942 (1621743)

ก็อปธรรมทานนี้มาจากหน้า

(22 กค. 55) ประกาศจัดระบบสมาชิกบ้านสวนพีระมิดใหม่

 

 

ความคิดเห็นที่ 43 (143460)

 Mothanasathu kha,To achan Ubol kha ,I Respect u and would like to inform u that I bought frames,papers to paint as Sadeth pu thauw  Weth su wan ordered  me many times to do so, even though i refused many times too,i will paint  thai and english wich  i saw the most crearly,others i hope angles will do because i recieved ordered to sent to many places,someones i forgot their names  but i remerber their faces at t.v.,i sold my book so i have money enought for this month and i will buy the goods acrylic next month after august3,,due to i am no working from disabilities.

 

 

i keep praying long times asked helping from Nipparn through earth,i am so sufferings......., with your compassions ,devotions ,i improved somethings that the most important part of my disabilities through internet ....so miracle from u ( that doctors can not help much for this diagnosis of Complex regional pain syndrome with many cervical disces,lumbar herniated disces,stennosis....nerve dysfuntions....and many more just physicals not yet go to see psychologist docter,so not yet have official diag .from psycho .docters).

 

 

we do not know each others but u can help even we stay so far far away.the paint is helping others not to me directly,i just to paint then send to others  as Sadeth pu  thauw Weth su wan told me,i do not designs by myself,the first time i saw by mano was on the day 5-5-55 during i was on the bus....i did not knew that day was 5=5=55, i just knew that day was sathurday..and i did not want  to go to post office that day but angle? told me many times to go on that day.

 

i wil lsend letter to u in thai....long miracle  diary for thammatharn.i  inform u because your name on the paint but Sadeth pu thauw Weth su wan ordered me to do and showed me how to draw Somdeth ong pra thom in the dream after i refused to do and suggested to let artist at klomsilaprakorn do .

 

if i do not die  early i will do oils paint.thanks and respect alls sathu.

ผู้แสดงความคิดเห็น Natthaporn Nimsaneh (USA) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-28 23:11:43
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 02:23:26


ความคิดเห็นที่ 6943 (1621744)

คำแปล จากธรรมทานที่เขียนโดยคุณ ณัฏฐาพร จากอเมริกา ค่ะ (บางส่วนก็ใช้ Verb toเดา นะคะ)

กราบอนุโมทนาสาธุกับท่านอาจารย์อุบลด้วยความเคารพยิ่งค่ะ ณัฏฐาพร ต้องการจะแจ้งให้ท่านอาจารย์ทราบว่า ตอนนี้ลูกได้ซื้อกรอบ และกระดาษเพื่อที่จะเตรียมวาดภาพ ตามที่เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณมีรับสั่งมาหลายครั้งแล้วล่ะค่ะ  ทั้งๆตัวณัฏฐาพรเอง ก็พยายามปฏิเสธมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน

 

ลูกคิดว่าจะเขียนภาพออกมาทั้งไทยและอังกฤษ โดยจะเลือกอันที่ตนเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุดค่ะ ในส่วนอื่นก็คงจะเป็นหน้าที่ของท่านๆเทวดาทั้งหลาย เพราะตอนนี้ได้รับออร์เดอร์จากที่ต่างๆมากมายเลยทีเดียวค่ะ บางคนก็แทบจะจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่ก็พอจะจำหน้าได้บ้าง เพราะเคยเห็นออกทีวี

 

รายได้ส่วนหนึ่งลูกก็ได้รับจากการขายหนังสือ ฉะนั้นเดือนนี้จึงมีเงินเพียงพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ค่ะ คิดว่าหลังจากวันที่ 3ส.ค.นี้ ก็จะซื้อสีอะคริลิคมาวาดภาพ เพราะลูกก็ไม่ได้ทำงานอะไร เนื่องจากร่างกายพิการค่ะ


ลูกได้สวดมนต์ขอพรจากแดนนิพพานมานานแล้วล่ะค่ะ เพราะชีวิตที่่ผ่านมาลูกมีแต่ความทุกข์และทรมานเหลือเกิน แต่ด้วยความรัก ปรารถนาดี และความเสียสละจากท่านอาจารย์ ทำให้ลูกได้พบกับปาฏิหาริย์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต เพราะบางส่วนของร่างกายของลูกที่พิการนั้น มีอาการดีขึ้น แม้กระทั่งคุณหมอผู้เชียวชาญเอง ก็ไม่สามารถรักษาอาการที่ลูกเป็นอยู่นี้ ได้มากนัก จากอาการของโรคในกลุ่มอาการเจ็บปวดเฉพาะที่แบบซับซ้อน( CRPS)โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลัง  เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ระบบประสาททำงานผิดปรกติ และอาการอื่นๆอีกมามาย อาการทางกายที่เป็นนี่ยังไม่พอนะคะ ต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อบำบัดทางจิตอีกด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากจิตแพทย์ค่ะ


ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักกันมาก่อน และบารมีของท่านอาจารย์ก็สามารถช่วยณัฏฐาพรได้ แม้จะอยู่ไกลแสนไกลก็ตาม ภาพที่่ลูกจะเขียนนี้คงจะช่วยคนอื่นๆ คงจะ ไม่ใช่ช่วยลูกโดยตรงหรอกค่ะ ลูกแค่ทำหน้าที่วาด แล้วก็ส่งไปให้คนอื่นๆตามที่เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณรับสั่งมาเท่านั้น  และภาพที่วาดลูกก็ไม่ได้ออกแบบเองแต่อย่างใด แต่วาดตามภาพที่เห็นจากมโน

 

 

ครั้งแรกที่ลูกได้เห็นภาพจากมโนก็คือวันที่ 5-5-55 วันนั้นก็ไม่ได้นึกด้วยซ้ำว่าเป็นวันที่ 5-5-55 ก็คิดแต่ว่าเป็นเพียงวันเสาร์ธรรมดาๆวันนึง และที่สำคัญวันนั้นลูกก็ไม่ได้นึกอยากจะไปไปรษณีย์เลย แต่ก็มีเทวดามาบอกให้ไปในวันนั้น ..หลายครั้งพอสมควร


ลูกจะเขียนจดหมายเป็นภาษาไทยถึงท่านอาจารย์เพื่อเป็นธรรมทานแก่ทุกๆท่านอีกทีนะคะ เพราะได้เขียนบันทึกเรื่องราวปาฏิหาริย์ของตนไว้ยาวพอสมควร และลูกก็เพียงต้องการจะแจ้งให้ท่านอาจารย์ได้ทราบ เพราะในภาพวาดที่เสด็จปู่สั่งนั้น มีชื่อท่านอาจารย์อยู่ด้วย

 

และเสด็จปู่ท่าวเวสสุวรรณก็มาเข้าฝัน และแสดงภาพให้ลูกเห็นว่า ควรจะวาดสมเด็จองค์ปฐมออกมาแบบไหน ลูกก็บ่ายเบี่ยงเรื่องการวาดภาพนี้อยู่หลายครั้ง ยังคิดเลยค่ะว่า ทำไมไม่ให้ศิลปินฝีมือดีๆจากกรมศิลปากรเป็นผู้วาด

ถ้าลูกไม่ตายเร็วนัก ลูกก็คิดอยู่ว่า จะลองวาดภาพสีน้ำมันดูบ้าง

 

ขอบพระคุณ และกราบท่านอาจารย์และเบื้องบนทุกๆพระองค์ด้วยค่ะ

.................................

อนุโมทนากับธรรมทานจากคุณ ณัฏฐาพร ด้วยนะคะ จะว่าไปคุณมีความสามารถพิเศษ มากมายกว่าคนร่างกายปรกติอย่างชนิดาอีกนะคะ เป็นกำลังใจให้ แล้วก็ขอให้อาการทุกอย่างดีวันดีคืน และเป็นปรกติได้ในที่สุดนะคะ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 03:32:04


ความคิดเห็นที่ 6944 (1621750)

ขอก็อปธรรมทานของตนมาโพสต์ในกระทู้นี้ด้วยค่ะ

 

 

กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลูกผิดสัจจะ อย่างต่อเนื่อง

 

ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ชนิดาเพิ่งจะเขียนเตือนคนอื่นๆ เรื่องการผิดสัจจะอยู่เลย แต่พอถึงคราวตัวเองกลับผิดสัจจะแบบซ้ำซ้อน แบบน่าไม่อายจริงๆ

 

เนื่องจาก ตั้งแต่วันที่ 8-14ก.ค. ที่ ผ่านมา ชนิดาไม่ได้นั่งสมาธิเลย ทั้งๆที่ปรกติจะวางแผนไว้ว่า ถ้านั่งก่อนเข้าเว็บบ้านสวนฯ ก็จะนั่งประมาณ4ทุ่ม กว่า จนถึงเที่ยงคืนกว่า แล้วหลังจากนั้นค่อยเข้ามาอ่านในเว็บและตอบกระทู้

 

หรือ ไม่ก็ ถ้าใจร้อนอยากเข้าเว็บก่อน ก็ตั้งใจว่า ถึงบ้านกี่โมงก็่ช่าง ก็จะอ่านและตอบกระทู้ให้ไม่เกินตีหนึ่ง แล้วค่อยไปนั่งสมาธิ จะได้นอนไม่เกินตีสาม ก็กำลังดี ไม่ดึกจนเกินไป

 

แต่ ช่วงอาทิตย์นั้นปรากฏว่า ชนิดาเข้าเว็บแล้วก็อ่านเพลิน บางวันกว่าจะเขียนเสร็จก็ตีสาม ตีสามกว่าบ้าง ก็เลยบอกเบื้องบนในใจว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกจะตื่่นแต่เช้า และจะนั่งสมาธิตอนเช้าแทน แถมใช้รหัส"อ.อุบลช่วยด้วย" ขอให้ลูกตื่นแต่เช้า เพื่อจะได้มานั่งสมาธิด้วย ผลปรากฏว่า ตอนเช้าตื่นค่ะ แต่ไม่ลุกขึ้นมานั่งสมาธิ กลับนอนต่อหน้าตาเฉย แถมทำเป็นรู้สึกผิด แต่ก็ทำผิดแบบหน้าด้านๆ แบบนั้นทุกทุ๊กวัน

 

แล้วก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะที่ไม่ได้นั่งสมาธิ เพราะมานั่งอ่านพิจารณาธรรมและเขียนกระทู้ต่างๆจนดึกนั่นเอง


ผลปรากฏว่า วันที่15 ก.ค. อยู่ดีๆเครื่องคอมพ์ก็โดนไวรัสใช้ไม่ได้ ตั้งแต่วันนั้น ชนิดามีเวลาที่จะได้นั่งสมาธิ ทันที ...

 

จนบัดนี้ส่งเครื่องคอมพ์ไปซ่อม เปลี่ยนฮาร์ดิสก์ใหม่แล้ว วันนี้ลองเปิดดู ก็ยังใช้ไม่ได้อีก

 

ชนิดาจึงคิดได้ว่า น่าจะเป็นเพราะตัวเองยังไม่ได้มาเขียนธรรมทานเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แน่ๆเลย


ฉะนั้น เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจแก่ท่านอื่นๆด้วย ไม่ว่าท่านจะผิดสัจจะกับเบื้องบน ไม่ว่าจะทางความคิด คำพูด ข้อเขียน หรือ การกระทำ ผลกรรมนั้นย่อมส่งผลทั้งสิ้น

 

และที่สำคัญ บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป แต่ชนิดาเอาทั้งสองอย่างมารวมกัน และคิดว่า คงไม่เป็นไร ด้วยความโง่เขลาของตัวเองแท้ๆ ตอนนี้เสียทั้งเงินค่าซ่อม เสียทั้งเวลา เลยตาสว่างขึ้นมาบ้างแล้ว

 

 

อ่านแล้วก็พิจารณาเองนะคะ เพราะตัวเราย่อมรู้ตัวเราเองมากที่สุด

 

 

ลูกกราบขอขมาเบื้องบนทุกๆพระองค์และท่านอ.อุบลด้วยค่ะ และลูกจะพยายามรักษาสัจจะให้มั่นให้ได้....ลูกเข้าใจแล้วค่ะว่า ลูกบ้านสวนฯทุกคนต้องฝึกอย่างหนัก ในเรื่อง บารมีทั้งสิบประการ สาธุ สาธุ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 04:42:11


ความคิดเห็นที่ 6945 (1621779)

กราบท้าวเวสสุวรรณ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณน้องท๊อปค่ะ

 

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เข้าเวปบ้านสวนไม่ได้ เนื่องจากไม่ค่อยได้เข้าบ่อยเพราะบ้าเล่น facebook มากกว่า

แล้วเมื่อเข้ามาอ่านก็ไม่ค่อยได้เขียนธรรมทานเพราะเครื่องที่ใช้ไม่สามารถเขียนผ่านกระทู้ได้เลย ต้องเขียนไส่ใน Docs แล้วก๊อปมาแปะ ทำให้ขี้เกียจ

ผลก็เลยเข้าเวปบ้านสวน หน้ากระดานสนทนาไม่ได้ จนเลยวันที่ 22 กค. ตามกำหนดของเว็ปมาสเตอร์ ก็เข้าไม่ได้

ยังมานั่งคิดว่าเราทำผิดอะไร ตัดสิทธิ์เราทำไมเสียด้วยซี ไม่คิดว่าเราไม่ให้ความร่วมมือเองต่างหาก เราไม่มีโอกาสได้ไปสร้างบุญอย่างน้อยการเขียนธรรมทานก็ยังเป็นการสร้างบุญให้กับตัวและผู้ได้อ่าน แต่เพราะโง่ ไม่คิดสำนึก ถึงทำให้โดนตัดสิทธิ์

 

แล้วดิฉันก็ใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย เพื่อขอโอกาสในการเข้ามาอ่านกระดานสนทนาอีกครั้ง แล้วดิฉันจะเปลี่ยนตัวเอง จะพยายามเขียนธรรมทานเมื่อได้มาอ่านบทความ แล้ววันนี้ดิฉันได้ลองเข้าหน้ากระดานสนทนาอีกครั้ง แล้วก็สามารถเข้าได้ 

จึงสำนึกในพระเมตตาของท่าวเวสสุวรรณผู้ดูแลเว็ปบ้านสวน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตาให้ดิฉันได้กลับมาแก้ไขตนเองอีกครั้งค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 11:20:22


ความคิดเห็นที่ 6946 (1621797)

 

กราบสวัสดีท่านอ.อุบล และท่านอ.มงคล  และสวัสดีพี่น้องบ้านสวนทุกๆท่าน  ดีใจที่เข้าเว็ปได้  เหงามาตั้งหลายวัน

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 14:32:15


ความคิดเห็นที่ 6947 (1621801)

 กราบอ.อุบล ด้วยความเคารพ

         กราบขอขมาอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน ที่ไม่ค่อยได้เขียนในเว็ปเป็นธรรมทานแก่คนอื่น ในสิ่งที่เราได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นเห็นไม่เหมือนเราที่บ้านสวน ทั้งที่ได้รับปากต่ออาจารย์ไว้แล้ว ต่อไปนี้จะขอโอกาสอีกครั้งที่จะพยายามเขียนเล่าลงในเว็ปครับ

กราบขออภัยอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกท่าน ที่สถิตย์ในบ้านสวนเป็นอย่างสูงครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) (tewaritt2-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 14:48:56


ความคิดเห็นที่ 6948 (1621812)

 อยากถามท่านที่กำลังอ่านอยู่

ว่า

ถ้ามีคนมาถามท่านว่า

ทุกข์ที่สุด ทำอย่างไรจะหลุดได้

ท่านจะตอบ หรือ แนะนำเขาอย่างไร

**********************

 

หนูขอตอบด้วยความภาคภูมิใจว่าให้ใช้รหัสสวรรค์ "อาจารย์อุบลช่ายด้วย" เป็นคำตอบสุดท้าย ดีเป็นที่สุดของโลกเท่าที่มนุษย์จะพึงได้รับเจ้าค่ะ

พร้อมไปกับการคิดไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ ลึกซึ้ง เป็นกลาง ไม่เข้าข้างตัวเอง ถึงสาเหตที่แท้จริงของทุกข์นั้น เพื่อที่จะสามารถทำการขอขมาต่อจี้องค์เทพสฟิงค์ และตั้งเป็นปณิพานจักไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีกเจ้าค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 15:29:23


ความคิดเห็นที่ 6949 (1621818)

เริ่มกลับมาคึกคักกันแว้วว พร้อมกับหลายๆคนน้ำตาจะพรั่งพรูด้วยความคิดถึง เกือบจะพากันไปถ้ำกระบอก เพราะทนคิดถึงเวปบ้านสวนฯไม่ได้ 5555

กลับมาครั้งนี้ทำเอาคนขี้สงสัยอย่างผมหายเหงาได้มากเลยทีเดียวครับ เพราะว่ากลับมาครั้งนี้คนโง่บาปหนาอย่างผมก็สงสัยอีกหลายอย่าง แบบว่าคันปากอยากถามมาโด๋นแล้ว

ถ้างั้นผมขอความเมตตาท่านอาจารย์ถามเป็นเรื่องๆไปก่อนแล้วกันนะครับ จะได้หายคันปากบ้าง

1.ในพระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่า สัพเพ ธรรมา อนัตตา คือสรุปแล้วว่าธรรมทั้งหลายหรือทุกสรรพสิ่งเป็นอนัตตา และเท่าที่ผมอ่านๆมาหลายที่ ท่านผู้รู้หลายท่านที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฏกก็ยังกล่าวว่า สุดท้ายแล้วแม้แต่นิพพานก็เป็นอนัตตา

หากถึงนิพพานแล้ว คือดับหมดแล้ว ไม่มีเหลือ คำถามที่ผมสงสัยก็คือ (โอ๊ยย เกาจนเลือดปากซิบๆแล้ว)

พระพุทธองค์ทรงดับขันธ์ปรินิพพานและเสด็จสู่พระนิพพานแล้ว หากผมเข้าใจตามที่ผู้รู้บางท่านกล่าวไว้ นั่นหมายถึงพระพุทธองค์ก็น่าที่จะไม่สามารถเสด็จลงมาช่วยคนได้สิครับ

แล้วทำไมท่านอาจารย์อุบลถึงได้ประกาศปาวๆอยู่ได้ ว่าติดต่อกับพระพุทธองค์ได้ หรือบางทีก็บอกว่าพระพุทธองค์เสด็จมาพร้อมกันหมดทุกพระองค์

อืม..ตรงๆนะครับ ผมงง และเป็นไปได้เหรอครับ สรุปว่าที่ผมรู้มาน่ะถูกหรือผิด หรือว่ายังไงกันแน่ ยิ่งคิดยิ่งงง ป๊าดดดด...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 15:47:54


ความคิดเห็นที่ 6950 (1621820)

ยินดีต้อนรับพี่น้องทุกๆท่าน

กลับคืนสู่

บ้านอันแสนอบอุ่นหลังนี้ด้วยนะคะ

 

เข้าใจค่ะว่า เวลาเข้าบ้านตัวเองไม่ได้นั้น

มันเคว้งคว้างแค่ไหน

 

ฉะนั้น เมื่อเข้ามาได้แล้ว

ก็แวะเข้ามาทักทาย

และแสดงความคิดเห็นกันบ่อยๆนะคะ

จะได้คึกคักและอบอุ่นเหมียนเดิม...

 

  ดีใจมากเลยค่ะที่เข้าเวบบ้านสวนได้ คิดถึงทุกท่านค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อปค่ะ

และคุณมาร์ค คุณเพ็ชรค่ะ ที่ได้ให้โอกาสหนูเข้าเวบบ้านสวนได้อีกครั้ง

ช่วงที่เข้าเวบบ้านสวนไม่ได้ชีวิตมันเคว้งคว้าง จริง ๆ เลยค่ะ

และพยามใช้โอกาสนี้ให้ดี ขยันเขียนธรรมทานบ่อย ๆ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 15:55:18


ความคิดเห็นที่ 6951 (1621823)

ยางงง...ยังไม่หมดนะครับ คำถามของผม อิอิ แบบว่าเวปเปิดแล้วก็ต้องขอถามให้จุใจ จะได้หายสงสัยไปเลย

2.บ้านสวนพีระมิดนี่ว่าไปสอนธรรมะของพระพุทธองค์แบบเข้มข้น ทำให้ผมและหลายๆคนเข้าใจในศีลและคำสอนที่ถูกต้อง ง่าย และทำได้ทันที

แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้อีกแหละว่า มีอย่างที่ไหน บ้านสวนพีระมิดใช้ทั้งพลังพีระมิด มีทั้งองค์เทพสฟิงซ์ ซึ่งเท่าที่ผมศึกษามาไม่มีบันทึกไว้ในพระพุทธศาสนาเลย และที่สำคัญคือคนออกไปพูดสารภาพบาป แล้วหายทันที

ตรงๆเลยล่ะกันครับ เรื่องที่หายทันทีน่ะผมชอบครับ และอยากหายด้วยเพราะว่าทันใจดี ถูกใจวัยรุ่น แต่ผมก็คิดๆอยู่เหมือนกันว่า อืมมม...ไอ้ปรากฏการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันทันที หายทันที และกิจกรรมที่ทำอยู่เนี่ย

สรุปแล้วบ้านสวนพีระมิดนี่สอนตรงตามพระพุทธศาสนาหรือเปล่า หรือง่ายๆก็คือ ใช่ศาสนาพุทธหรือไม่ หรือผมควรเรียกว่าอะไรดีครับ สรุปว่า

1.พีระมิด และ

2.องค์เทพสฟิงซ์

เกี่ยวอะไรกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ ทำไมท่านอาจารย์ถึงได้นำมาให้ผู้คนได้รู้จัก ทั้งๆที่ท่านอาจารย์เป็นชาวพุทธ

3.สิ่งที่บ้านสวนพีระมิดทำๆอยู่นี่ เช่น ออกไปสารภาพบาปแล้วหายทันที และโดยรวมทั้งหมดแล้วใช่ศาสนาพุทธหรือเปล่า

เฮ่อ..แบบว่าคันปาก ก็ขอถามตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมเลยนะครับ ขอความเมตตาท่านอาจารย์อุบลตอบให้ผมทราบด้วย และเผื่อเพื่อนๆที่อาจสงสัยเหมือนผมก็อาจเป็นไปได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 16:00:40


ความคิดเห็นที่ 6952 (1621828)

ย้างงง ยังไม่หมดก๊าบบ คำถามอยู่ในหัวอีกกก

เบื่อตัวเองเหมือนกัน ทำไมต้องสงสัยอะไรกันหนักกันหนา แต่เมื่อสงสัยแล้วก็อยากได้คำตอบ จะได้หายคาใจ

ท่านอาจารย์อุบลนำธรรมะของพระพุทธองค์มาสอนมากมาย ซึ่งดูๆแล้วผมก็รู้สึกเคารพและชอบฟังที่ท่านอาจารย์สอนมาก เพราะฟังง่าย และเข้าใจดี แต่ๆๆๆ

ในเมื่อท่านอาจารย์ช่วยผู้คนมากมายให้หายเจ็บป่วยแล้ว ทำไมท่านอาจารย์ต้อง

1.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมต้องมีเรื่องการขายเครื่องสำอางด้วยละครับ

  1.1 เครื่องสำอางนี่ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าท่านอาจารย์ต้องการขายเครื่องสำอางหรือยังไง โปรดอธิบายผมด้วยครับ

2.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมหลายๆตอนต้องเน้นย้ำเหลือเกินเรื่องปรามาส อ.อุบล แล้วท่านอาจารย์ก็เขียนหลายครั้งแล้วว่าหากปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออาจารย์อุบล ก็จะโดนอย่างนั้นอย่างนี้

สรุปแล้วอ่านๆแล้วเหมือนกับท่านอาจารย์สาปแช่งคนอื่นที่ไม่เคารพหรือเห็นต่างจากบ้านสวนฯหรือเปล่า หรือว่าอย่างไรครับ อันนี้ก็ต้องขอเรียนถามตรงๆด้วยความเคารพนะครับ เพราะผมคิดว่าอาจเป็นสิ่งที่หลายๆคนสงสัยอยู่ก็เป็นไปได้ครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 16:13:39


ความคิดเห็นที่ 6953 (1621831)

คิดถึง จริง ๆ ค่ะ ดีใจจังเข้าบ้านได้แย้ว..

ทำให้นึกถึงความรู้สึกตอนเป็นเด็กที่ทำผิด

แล้วถูกแม่ ลงโทษ ด้วยการไม่พูดด้วย เสียใจกว่าถูกตีเสียอีก

ครั้งนี้ก็เหมือน พอเข้าบ้านไม่ได้แล้ว..สำนึกผิดว่า

ต่อไปลูกจะขยันเขียนธรรมทานให้มากกว่าเดิมค๊า

**********************

ขออนุโมทนากับธรรมทาน ของคุณ ณัฏฐาพร

อ่านธรรมทานแล้ว

รู้สึกได้ถึงกำลังใจที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก

คนร่างกายสมบูรณ์อย่างอัญสู้ไม่ได้เลย

และขออนุโมทนาที่อาการดีขึ้น และ ขอให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกนะคะ

************************

ขออนุโมทนาบุญกับพี่ชนิดา

ขอบคุณที่พี่ช่วยแปลธรรมทานดี ๆ

ของคุณณัฏฐาพร ให้พวกเรา

จะเร่งทำบุญธรรมทานให้มาก ๆ

จะได้สวย + เก่ง เท่าพี่ ฮิฮิ (ไม่รู้ทันป่าว)

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 16:30:07


ความคิดเห็นที่ 6954 (1621838)

อะไรกันนี่ ...

พี่ธนา กลายเป็นเด็กขี้สงสัย ไปแล้ว

โอ้โห  เล่นถามแบบ non stop ..เดี๋ยวแม่เหนื่อยแย่

แหมแต่ละคำถามโดนใจ

ไหน ๆ พี่ถามแล้ว..

งั้นขอยกมือ อยากรู้คำตอบด้วยคนค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 16:40:48


ความคิดเห็นที่ 6955 (1621841)

 ลูกและครอบครัวขอ

กราบอนุโมทนาน้อมรับพรอันยิ่งใหญ่

และสุดประเสิรฐ จากคห ที่ 6666 จากท่านอาจารย์แม่อุบลด้วยความขอบพระคุณและซาบซึ้งค่ะ

 

สาธุ สาธุ สาธุ  กราบ กราบ กราบ

 



 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 17:39:44


ความคิดเห็นที่ 6956 (1621842)

ขออนุโมทนาความกล้าหาญในธรรมของครอบครัวอ.อุบล  ที่แม้จะโดนมารผจญ  ก็ยังอาจหาญที่จะมอบธรรมทานแด่มวลชนผู้ที่ยังคงแสวงในธรรมและทางออกของชีวิต...ขอผู้ที่ทำเว็บล้อเลียนท่านอ.อุบลได้รับการจัดหนักโดยฉับพลันทันใดด้วยเทอญ...

ผู้แสดงความคิดเห็น มาโนช ปินตามูล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 17:50:04


ความคิดเห็นที่ 6957 (1621845)

 ลูกขอยกมือรอรับคำเฉลยจากท่านอาจารย์ด้วยคนค่ะ  ขอบคุณค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 18:33:03


ความคิดเห็นที่ 6958 (1621846)

รียนคุณธนา 

               อยากมีส่วนร่วมจัง  ของแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะคะ     (วทันยา)

ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมต้องมีเรื่องการขายเครื่องสำอางด้วยละครับ

  1.1 เครื่องสำอางนี่ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าท่านอาจารย์ต้องการขายเครื่องสำอางหรือยังไง โปรดอธิบายผมด้วยครับ

     เนื่องจากอ.อุบล  ยังต้องใช้ชีวิตในโลกมนุษย์  มีบ้าน มีครอบครัว  มีภาระในบ้านสวนที่ต้องจ่ายเรื่องสาธารณูปโภค  เครื่องบริโภค  มากมาย  และได้ทำบุญมากมายตามที่เรา ๆ  ท่าน ๆ  ได้เห็น 

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด  จึงมาจากสัมมาอาชีวะ 

    (เคยไปนั่งฟัง อ.ดร.สนอง  วรอุไร  ซึ่งเป็นอ.ภาควิชาวิทยาศาสตร์ มช.ที่ข้าพเจ้าได้เคยลงเรียนวิชาชีววิทยากับท่าน  ได้บรรยายธรรมะให้ผู้ปฏิบัติธรรมฟัง  ที่นิโรธาราม  หลังจากที่บรรยายแล้ว  ท่านได้มายืนพูดคุยกับผู้ปฏิบัติธรรม   ดิฉันคิดว่าท่านคงได้อภิญญาหล่ะ   ...(ตอนนั้นดิฉันอยู่ประมาณ ปี  1  นานมากแล้วแต่ก็ยังจำได้   ได้เจอพระผงซึ่งใส่กรอบตกอยู่ที่บ่อน้ำที่บ้าน  ก็นำมาแขวนที่คอ  ซึ่งมันคงนานมากเนื้อพระจึงกลายเป็นผงดินละเอียดไม่เป็นรูปพระ  แต่ดิฉันคิดว่าคงจะเป็นของดีอยู่จึงนำมาแขวนคอ  ซึ่งก็อยู่ข้างในเสื้อขาว)     อ.สนองท่านพูดว่า ...ที่แขวนอยู่นั้นมันเป็นดินนะ ...โอ้ตอนนั้นก็งง    ท่านรู้ได้อย่างไร  พระที่ป่นเป็นดินแล้วอยู่ในเสื้อข้าพเจ้ามองด้วยตาเนื้อข้างนอกแล้วไม่น่าจะดูออก  ..จึงเริ่มเกิดศรัทธาท่าน..และท่านก็หันไปพูดกับผู้หญิงคนหนึ่งว่า  อาชีพที่ทำอยู่มันทำให้คนเกิดราคะ  ถ้าเลิกได้ก็ขอให้เลิก  เพราะจะทำให้เราติดอยู่  สังสารวัฏจะยาวนานขึ้น...  ผู้หญิงคนนั้นมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวย )

     ดังนั้นการขายเครื่องสำอาง  ถ้าผู้ซื้อและผู้ขายยังไม่ใช้พระอรหันต์  การติดในรูป  ก็ยังคงมีอยู่  ดังข้าพเจ้าเช่นกัน 

    แต่ถ้าคิดตามกุศลเครื่องสำอางของท่านอ.อุบล  เปรียบเสมือนยารักษาสำหรับผู้ได้รับสารพิษ  โลหะหนักจากเครื่องสำอางตามท้องตลาด  ซึ่งหลาย ๆ  ท่านก็ได้หน้าใหม่  อันดูดีอ่อนเยาว์  ไม่มีฝ้า  หลังจากได้เครื่องสำอางหรือยาพาเมล่านี้   ซึ่งข้าพเจ้าหลังใช้พาเมล่า  สามีก็บอกว่าใบหน้าดูใสขึ้น  ซึ่งตอนแรกที่ได้รับกล่องเครื่องสำอางจากอ.อุบล  ก็แกะเอาครีมสมุนไพรเกสรบัวมาทา  ซึ่งทาแล้วสักครู่  รู้สึกเย็นวาบที่ใบหน้า  รู้สึกสบาย  รับรู้ถึงพลังมโนธาตุที่มีอยู่จริง

2.ใน รายการคุยไปแจกไป ทำไมหลายๆตอนต้องเน้นย้ำเหลือเกินเรื่องปรามาส อ.อุบล แล้วท่านอาจารย์ก็เขียนหลายครั้งแล้วว่าหากปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออาจารย์อุบล ก็จะโดนอย่างนั้นอย่างนี้

    การสั่งสอนคน  คนเราเปรียบเสมือนบัว  4  เหล่า  บัวบางดอกก็อยากลองของก่อนจึงจะพ้นน้ำได้

     

ผู้แสดงความคิดเห็น มาโนช ปินตามูล (vathanya108-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 18:48:22


ความคิดเห็นที่ 6959 (1621851)

เรื่องเครื่องสำอางค์ผมเข้าใจว่าเป็นการดึงดูดบัวให้เข้าถึงธรรมแบบแนบเนียน

คล้ายหนามยอกเอาหนามบ่ง

อีกอย่างในเครื่องสำอางค์มีพลังปราณและมโนธาตุผู้ไม่เคยฝึกสมาธิก็จะสัมผัสได้

สุดท้ายผู้ใช้ทำไปเรื่อยๆ อาจารย์จะแฝงธรรมเข้าไปด้วย

เราก็จะเดินอยู่ในทางเดียวกันนั่นแหละครับ

คือพอดีไปดูคลิปของพระอาจารย์รัตน์มา เลยทำให้ผมเข้าใจอาจารย์ท่านแบบนี้

ส่วนอีกหลายๆ ข้อของพี่ธนาผมเดาครับ

ใบไม้เพียงกำมือเดียวของพุทธองค์ที่นำมาสอนเรา

ยังมีใบไม้ในป่าอีกมากมายที่พระพุทธองค์ไม่ได้เอามาสอน

เพราะอาจไม่ใช่ทางนิพพาน

 

ความเห็นนี้

อาจจะพลาดได้ยังไงก็ขอรออาจารย์เมตตาด้วยคนละกันครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 19:34:05


ความคิดเห็นที่ 6960 (1621852)

 โอ้โห พึ่งเห็น คำถาม พ่อใหญ่ธนา มาเป็นชุด

พ่อใหญ่ธนา นอกจากจะหน้าตาดีมากแล้ว ยังขี้สงสัยมากด้วย แต่นับว่าดีมาก อีกเช่นกัน ที่สงสัยแล้วรู้จักถาม รู้จักใช้ความเป็นสุภาพชน ความเป็นผู้ดี ในการขอคำอธิบาย

เพื่อให้คลายความสงสัย สมแล้ว ที่จบวิดวะนะ และสมควรแก่ศักดิ์และสิทธิ์ของปริญญาบัตรที่ได้รับมาจริงๆ ขอสรรเสริญ ไปถึงสถาบันที่จบมา เขาผลิตนักศึกษาอย่างพ่อใหญ่ธนา ให้ใช้ปัญญา ในการค้นหาคำตอบ และ ขอสรรเสริญไปถึง คุณพ่อคุณแม่ ที่เลี้ยงพ่อใหญ่ธนามาให้หน้าตาดีมาก เอ้ยไม่ใช่ พูดผิด เลี้ยงพ่อใหญ่ธนามา ไม่ใช่ให้กินแต่ข้าว แต่ให้กินอาหารที่ดี มีประโยชน์ มีคุณค่า แก่สมองด้วย สมองพ่อใหญ่ธนา จึงคิดแต่สิ่งที่ดีงาม ทำแต่สิ่งที่่ดีงาม เมื่อไม่เข้าใจ สงสัย ก็ถามตรงๆ ไม้อ้อมค้อม ไม่อมภูมิ  ไม่กลัวใครเขาจะหาว่าเราโง่  และ ไม่สร้างภาพ ไม่อมภูมิอวดรู้ ทั้งที่ความจริงไม่รู้ ที่สำคัญ การถาม และ ข้อสงสัยของพ่อใหญ่ธนานั้น ใช้ภาษาสุภาพ ผู้ดี บ่งบอกถึง  ความเป็นผู้ดี ทั้งชาติตระกูล และ การศึกษา มิน่าล่ะ ถึงมีคนจ้างไปทำงาน เป็นผู้บริหารระดับสูง ได้เงินเดือนแพงลิบลิ่ว โอ้ย ริษยาเด้อค่าเด้อ

ร่ายซะยาวเชียว กว่าจะได้ตอบคำถาม

ทำไมร่ายยาว เพราะว่า ถูกใจวิธีค้นหาความจริง แบบซื่อๆ ง่ายๆ แต่โดนใจ ตรงไปตรงมา แล้วคำถามอย่างนี้ ไม่ค่อยมีคนกล้าถาม ทั้งที่คิด

และอยากให้ท่านที่เข้ามาอ่าน มาร่วมกันแชร์ ช่วยกันแสดงความรู้สึกได้ เหมือนกับ คุณมาโนช ซึ่งจะได้รู้ว่า เป็นแฟนรายการ อ.อุบล จริงหรือไม่ ดูซิท่านคิดยังไง กับสิ่งที่พ่อใหญ่ธนาสงสัย ท่านมีสิทธิ์แสดงความเห็นได้ ไม่ต้องเกรงว่า จะมาขัดแย้งกับ ความเป็นจริง ที่่ อ.อุบล จะตอบ เราต้อนรับทุกคน ที่เป็นสุภาพชน และ เป็นผู้เจริญทางจิตแล้ว แม้ว่า ความเจริญในธรรม จะสูงต่ำเพียงใด ไม่เป็นไร แต่สิ่งหนึ่ง ที่เราพึงมีต่อกัน คือ มารยาท สมบัติผู้ดี ที่บ่งบอกถึง ชาติตระกูล และสภาพสังคมของแต่ละคน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 19:45:59


ความคิดเห็นที่ 6961 (1621860)

โอ้โห

พึ่งเห็น คำถาม

พ่อใหญ่ธนา มาเป็นชุด

พ่อใหญ่ธนา

นอกจากจะหน้าตาดีมากแล้ว

ยังขี้สงสัยมากด้วย

แต่นับว่าดีมาก อีกเช่นกัน

ที่สงสัยแล้วรู้จักถาม

รู้จักใช้ความเป็นสุภาพชน

ความเป็นผู้ดี ในการขอคำอธิบาย

เพื่อให้คลายความสงสัย

สมแล้ว ที่จบวิดวะนะ

และสมควรแก่ศักดิ์และสิทธิ์

ของปริญญาบัตรที่ได้รับมาจริงๆ

ขอสรรเสริญ ไปถึงสถาบันที่จบมา

เขาผลิตนักศึกษาอย่างพ่อใหญ่ธนา

ให้ใช้ปัญญา ในการค้นหาคำตอบ

และ ขอสรรเสริญไปถึง

คุณพ่อคุณแม่

ที่เลี้ยงพ่อใหญ่ธนามา

ให้หน้าตาดีมาก

เอ้ยไม่ใช่ พูดผิด

เลี้ยงพ่อใหญ่ธนามา ไม่ใช่ให้กินแต่ข้าว

แต่ให้กินอาหารที่ดี

มีประโยชน์ มีคุณค่า แก่สมองด้วย

สมองพ่อใหญ่ธนา จึงคิดแต่สิ่งที่ดีงาม

ทำแต่สิ่งที่่ดีงาม เมื่อไม่เข้าใจ

สงสัย ก็ถามตรงๆ ไม้อ้อมค้อม

ไม่อมภูมิ ไม่กลัวใครเขาจะหาว่าเราโง่

และ ไม่สร้างภาพ ไม่อมภูมิอวดรู้

ทั้งที่ความจริงไม่รู้ ที่สำคัญ การถาม

และ ข้อสงสัยของพ่อใหญ่ธนานั้น

ใช้ภาษาสุภาพ ผู้ดี บ่งบอกถึง

ความเป็นผู้ดี ทั้งชาติตระกูล

และ การศึกษา มิน่าล่ะ

ถึงมีคนจ้างไปทำงาน

เป็นผู้บริหารระดับสูง

ได้เงินเดือนแพงลิบลิ่ว

โอ้ย ริษยาเด้อค่าเด้อ

ร่ายซะยาวเชียว

กว่าจะได้ตอบคำถาม

ทำไมร่ายยาว เพราะว่า

ถูกใจวิธีค้นหาความจริง

แบบซื่อๆ ง่ายๆ

แต่โดนใจ ตรงไปตรงมา

แล้วคำถามอย่างนี้

ไม่ค่อยมีคนกล้าถาม ทั้งที่คิด

และอยากให้ท่านที่เข้ามาอ่าน

มาร่วมกันแชร์

ช่วยกันแสดงความรู้สึกได้

เหมือนกับ คุณมาโนช

ซึ่งจะได้รู้ว่า

เป็นแฟนรายการ อ.อุบล จริงหรือไม่

ดูซิท่านคิดยังไง

กับสิ่งที่พ่อใหญ่ธนาสงสัย

ท่านมีสิทธิ์

แสดงความเห็นได้

ไม่ต้องเกรงว่า

จะมาขัดแย้งกับ ความเป็นจริง

ที่่ อ.อุบล จะตอบ เราต้อนรับทุกคน

ที่เป็นสุภาพชน และ

เป็นผู้เจริญทางจิตแล้ว

แม้ว่า ความเจริญในธรรม

จะสูงต่ำเพียงใด ไม่เป็นไร แต่สิ่งหนึ่ง

ที่เราพึงมีต่อกัน คือ มารยาท สมบัติผู้ดี

ที่บ่งบอกถึง ชาติตระกูล

และสภาพสังคมของแต่ละคน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 19:45:59

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 20:42:39


ความคิดเห็นที่ 6962 (1621865)

  ไชโยหายเหงาแล้ว ดีใจมากค่ะ

ที่พี่น้องได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง

     อนุโมทนากับคุณ ณัฏฐาพร ด้วยนะคะ

แม้ไม่เคยเห็นหน้า  ไม่เคยรู้จักกัน  แต่บ้านสวน

ก็นำพาให้เราได้รู้จักกัน และขอบคุณ คุณชนิดาด้วยนะคะ

ที่ช่วยแปลมาให้เรียบร้อยเลย สาธุ  ค่ะ

     พ่อใหญ่จ๋า  กลับมาพร้อมคำถามเพียบเลย

แล้วจะเริ่มตรงไหนก่อนดีค่ะ แต่ว่ามีคนมาไล่

ให้ไปนอนกับลูกแล้ว  พรุ่งนี้จะมาร่วมแสดงความคิดเห็น

ตามที่ท่าน อ. อุบล อยากให้พวกเราได้มา

แชร์ความรู้สึก  กับคำถามของพ่อใหญ่

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 21:37:59


ความคิดเห็นที่ 6963 (1621872)

พ่อใหญ่ธนา  สมเป็นยอดขุนพล

หัวหน้าชั้นศิษย์บ้านสวนฯจริงๆ ค่ะ

ความงดงามจิตใจ

ที่ท่าน อ.อุบลชมเชย พี่สรขอ

ร่วมจิตอนุโมทนาบุญในความจริงใจ

ที่มีต่อพี่น้องบ้านสวนฯด้วยค่ะ สาธุ

เพราะตลอดเวลาคุณธนา

รับใช้บ้านสวนฯทั้งกายใจ ศรัทธาอาจารย์อุบล

เกินร้อย

เวลาเมตตาอธิบายคนบรมโง่

อย่างพี่สรคุณธนาไม่เคยแสดงความ

เบื่อรำคาญให้พี่ใจเสียเลยค่ะ

และขอบคุณที่เสียสละชีวิตเพื่อท่าน อ.อุบล

และมีใจเมตตาเพื่อพี่น้องบ้านสวนฯค่ะ

....................................

และวันเสาร์ที่ 28/ก.ค

ช่วงสุดท้ายของค่ำวันนั้น

ขณะที่ท่าน อ.อุบลกำลังอาราธนาพระบารมี

พระพุทธเจ้า

เพื่ออุทิศบุญอยู่นั้น เกสรได้สัมผัส

นรกทางจิตทรมานมาก ๆ

เข้าใจแล้วว่านรกบางขุมที่ลึกและบาปหนาสุด ๆ

คนที่ทำลาย อ.อุบลอยู่ตอนนี้

พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่าน อ.อุบล

มาโปรดก็รับไม่ได้

ฉะนั้นคนทำลายท่าน อ.อุบล

ถ้าเขากลับใจสำนึกไม่ได้

เขาก็ไปที่ชอบ ๆ ที่ซึ่งทรมาน สุดๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-30 22:16:56


ความคิดเห็นที่ 6964 (1621881)

 ขอบคุณเวปมาสเตอร์มากๆๆเลยค่ะ  ดีใจมากๆเลยค่ะที่ได้กลับเข้ามาในบ้านแล้ว

คำถามที่พี่ธนาถาม มิ้มเองก็สงสัยอยากรู้คำตอบเหมือนกันค่ะ ขอร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ

    คำถามที่ 1  มื้มคิดว่า อนัตตา คือความว่างเปล่า ไม่มีกิเลส  นิพพานก็น่าจะหมายถึงดับกิเลส หมดกิเลส ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกับการยึดติดในกิเลส นิพพานไม่สูญ จิตยังอยู่แต่เป็นจิตที่บริสุทธิ์ ปราศจากกิเลส  พระพุทธองค์พระองค์ดับกิเลสจนหมดสิ้น จึงไม่เวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป พระองค์ทรงมีพระเมตตาที่จะช่วยคนที่คนที่พอจะช่วยได้ให้พ้นทุกข์ จึงสื่อสารเพื่อช่วยเหลือผู้คนผ่านท่านอาจารย์อุบล

        คำถามที 2 มิ้มขอเดาว่า  สิ่งที่พระพุทธองค์นำมาสอนและได้มีการบันทึกมาเปรียบเสมือนใบไม้เพียงหนึ่งกำมือ ซึ่งเป็นความรู้ที่ทำให้ดับกิเลสดับทุกข์ได้  ยังมีความรู้อีกมากมายที่พระพุทธองค์ยังไม่ได้นำมาสอน

แต่เนื่องจากภัยพิบัติใหญ่กำลังจะมาถึง  พระพุทธองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงเมตตาสื่อสารผ่านท่านอาจารย์อุบลให้พวกเราได้รู้จักพลังพีระมิด ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องขยาย เครื่องย่นย่อระยะเวลา ขยายกำลังบุญที่เราทำเพื่อเราจะได้พ้นทุกข์ได้เร็วขึ้น  และได้รู้จักองค์เทพสฟิงค์ องค์เทพผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาลที่จะอาศัยพระบารมีพระองค์ท่านให้เราพ้นจากทุกข์ และรอดจากภัยพิบัติในวันที่แกนโลกพลิก   

ที่สำคัญก็คือ พีระมิด และ องค์เทพสฟิงค์ เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เรารู้ความลับของจักรวาล

         คำถามที่  3   การออกไปสารภาพบาปแล้วหายทันที  เป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ ซึ่งมีระบุในพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าทรงโปรดอนุสาสนีปาฏิหาริย์กว่าปาฏิหาริย์อื่นเพราะว่า เป็นการสอนให้เห็นจริง ดังเช่น  ออกไปสารภาพบาปที่ได้สร้างกรรมนี้มา แล้วได้รับผลกรรมคืออาการป่วยต่างๆ   เมื่อรู้เหตุที่เกิดแล้วดับที่เหตุผลก็ดับ ทำให้ผู้ที่มา ได้พิสูจน์กฎแห่งกรรมจริงด้วยตนเอง  ทำให้กลัวและเปลี่ยนความประพฤติเลิกสร้างเหตุแห่งกรรมต่อไป 

         คำถามที่ 4  เครื่องสำอางพาเมล่าไม่ใช่คนทุกคนจะสามารถซื้อใช้ได้  ต้องอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณจบ 9 รอบท่านอาจารย์ถึงจะขายให้  แสดงให้เห็นความประสงค์ที่ชัดเจนของท่านอาจารย์ว่าไม่ได้มุ่งที่การขายเครื่องสำอางค์  แต่มุ่งให้ธรรมทานทผ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ เพื่อให้ผู้อ่านได้พ้นจากความทุกข์   อีกทั้งพาเมล่ายังเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ผู้ได้ใช้ได้พ้นจากความทุกข์ต่างๆจากการผิดศีล 5  เพราะเมื่อเราผิดศีลเราก็จะเสียพลังปราณในตัวไปด้วย  เป็นเหตุให้เราทุกข์  ซึ่งพาเมาล่าจะไปให้พลังปราณกับตัวเรา และเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการผิดศีลของเราอีกด้วย และเรายังได้รับพลังมโนธาตุจากพาเมล่าอีกด้วย ซึ่งปกติเราจะได้รับพลังมโนธาตุจากการทำสมาธิ พลังมโนธาตุทำให้ใจเราสงบ เยือกเย็น สบาย   

พลังปราณพลังมโนธาตุที่เราได้รับจากพาเมล่าจึงเป็นสิ่งช่วยให้เราพ้นทุกข์ เกิดปัญญาดับทุกข์ จนในที่สุดกลับบ้านนิพพานได้    

รายได้จากการขายพาเมล่าเป็นเพียงผลที่ตามมาเท่านั้น ซึ่งเงินเหล่านี้ท่านอาจารย์ก็นำไปจ่ายค่าเช่าช่องสัญญาณทีวี  ค่าใช้จ่ายต่างๆ   รวมถึงงานบุญทุกบุญในบ้านสวนพีระมิดซึ่งล้วนเป็นบุญที่ช่วยผู้คนให้พ้นทุกข์

        คำถามที่ 5   ที่ท่านอาจารย์เน้นย้ำเรื่องปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอาจารย์อุบล  เพราะความเมตตาของท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์ที่ไม่ต้องการให้ผู้คนสร้างบาปทำให้ต้องได้รับผลกรรมความทุกข์ต่างๆจนถึงขั้นเสียชีวิต  เหมือนที่เคยเกิดกับบุคคลที่ปรามาสท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์และได้รับผลกรรมหนักขึ้นบางคนถึงขั้นเสียชีวิต

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 00:03:48


ความคิดเห็นที่ 6965 (1621894)

เห็นทุกคนเข้ามาเขียน เข้ามาทักทายกันอย่างคึกคักแบบนี้แล้ว อบอุ่นดีจังเลยนะคะ

 

ว่าแต่พ่อใหญ่ธนา สงสัยจะรอวันที่เว็บบ้านสวนฯเปิดอย่างเป็นทางการมานานแล้วนะคะเนี่ย เพราะมาพร้อมกับคำถามเพียบเล๊ย...ขอร่วมแชร์ความคิดเห็นและความรู้สึกด้วยนะคะ

....................................................................................................

1.สุดท้ายแล้วแม้แต่นิพพานก็เป็นอนัตตา

หากถึงนิพพานแล้ว คือดับหมดแล้ว ไม่มีเหลือ

 

พระ พุทธองค์ทรงดับขันธ์ปรินิพพานและเสด็จสู่พระนิพพานแล้ว หากผมเข้าใจตามที่ผู้รู้บางท่านกล่าวไว้ นั่นหมายถึงพระพุทธองค์ก็น่าที่จะไม่สามารถเสด็จลงมาช่วยคนได้สิครับ

แล้ว ทำไมท่านอาจารย์อุบลถึงได้ประกาศปาวๆอยู่ได้ ว่าติดต่อกับพระพุทธองค์ได้ หรือบางทีก็บอกว่าพระพุทธองค์เสด็จมาพร้อมกันหมดทุกพระองค์

............................................

ที่ว่า นิพพานเป็นอนัตตา น่าจะหมายถึง แดนนิพพานเป็นดินแดนที่ไร้สังขารและรูปธรรม ไร้ขันธ์ห้า ไร้อัตตาตัวตน เพราะผู้ที่จะปฏิบัติจิตจนถึงนิพพานได้ ต้องดับซึ่งกิเลสทั้งปวงแล้ว เหลือแต่ดวงจิตที่บริสุทธิ์เท่านั้น

ฉะนั้น ที่ท่านอาจารย์สามารถสื่อสารกับพระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ ก็ด้วยการใช้จิตที่บริสุทธิ์สื่อถึงกัน มิได้ใช้การสื่อสารแบบทางโลกที่ต้องใช้เทคโนโลยี่ หรือต้องเห็นหน้า เห็นตัวกันเท่านั้นจึงจะสามารถสื่อสารพูดคุยกันได้....

และการที่จะพิสูจน์ว่าท่านอ.อุบล สื่อสารกับพระพุทธองค์ได้จริงหรือไม่ ก็ต้องดูจากคำพูดหรือคำสอนที่ท่านอาจารย์แสดง  ว่าเหตุการณ์หรือสิ่งที่อาจารย์พูดมานั้นเป็นจริงหรือไม่...ซึ่งส่วนใหญ่ที่เราได้เห็นก็คือ จริงทั้งหมด..


..............................................................

2.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมต้องมีเรื่องการขายเครื่องสำอางด้วยละครับ

..........................................................

รู้สึกว่าเรื่องนี้ท่านอาจารย์จะเคยตอบมาบ้างแล้ว ประมาณว่า ทีทุกคนคิดว่า รายการคุยไปแจกไป เป็นรายการขายเครื่องสำอางค์นั้นก็ไม่ผิดหรอก เพราะท่านอาจารย์ก็มีหน้าที่ทั้งทางโลกและทางธรรม

 

ซึ่ง การขายเครื่องสำอางค์ก็เป็นอาชีพที่สุจริต เป็นธุรกิจ ที่ไม่ได้ไปเบียดเบียดผู้ใด ไม่ได้ไปบังคับให้ใครมาซื้อแต่อย่างใด เพราะท่านอาจารย์ก็ยังต้องกินต้องใช้ ต้องมีปัจจัยมาสร้างบุญ สร้างธรรมทาน ซึ่งได้รายได้จากการขายพาเมล่า ก็นำมาเป็นค่าเช่าเวลา ค่าผลิตรายการ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าต่างๆนาๆในบ้านสวนฯ

 

ฉะนั้น จึงพูดได้ว่า รายการคุยไปแจกไป เป็นรายการขายเครื่องสำอางค์ ที่แทรกด้วยธรรมะ

 

โอ้วว...ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า เป็นรายการธรรมะ ที่แทรกด้วยการขายเครื่องสำอาง เพราะเนื้อรายการสองชั่วโมงส่วนใหญ่พูดถึงแต่ธรรมะ แต่มีช่วงเสนอรายละเอียดสินค้าเพียงไม่กี่นาทีเอง....

 

ส่วนประเด็นอื่นๆจะมาร่วมวิเคราะห์ต่อพรุ่งนี้นะค๊า...............

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 06:00:58


ความคิดเห็นที่ 6966 (1621907)

กราบอนุโมทนาบุญกับธรรมทานที่อ.อุบลนำมาเผยแพร่  สาธุ  สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิริ สุดใจ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 09:13:22


ความคิดเห็นที่ 6967 (1621915)

  

   ขอเข้ามาร่วมวงแสดงความคิดเห็นด้วยคนค่ะ
จากคำถามของพ่อใหญ่ธนา
1.ในพระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่า สัพเพ ธรรมา อนัตตา คือสรุปแล้วว่าธรรมทั้งหลายหรือทุกสรรพสิ่งเป็นอนัตตา และเท่าที่ผมอ่านๆมาหลายที่ ท่านผู้รู้หลายท่านที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฏกก็ยังกล่าวว่า สุดท้ายแล้วแม้แต่นิพพานก็เป็นอนัตตา หากถึงนิพพานแล้ว คือดับหมดแล้ว ไม่มีเหลือ คำถามที่ผมสงสัยก็คือ
พระพุทธองค์ทรงดับขันธ์ปรินิพพานและเสด็จสู่พระนิพพานแล้ว หากผมเข้าใจตามที่ผู้รู้บางท่านกล่าวไว้ นั่นหมายถึงพระพุทธองค์ก็น่าที่จะไม่สามารถเสด็จลงมาช่วยคนได้สิครับ
แล้วทำไมท่านอาจารย์อุบลถึงได้ประกาศปาวๆอยู่ได้ ว่าติดต่อกับพระพุทธองค์ได้ หรือบางทีก็บอกว่าพระพุทธองค์เสด็จมาพร้อมกันหมดทุกพระองค์
***************
         จากข้อนี้ เคยอ่านตำรา และเคยฟังมาบ้าง แต่ก็ไม่เข้าใจ เพราะมีหลากหลายความคิดเห็น แต่เมื่อได้มารู้จักบ้านสวนฯ และฟังจากท่าน อ. อุบลที่กล่าวถึงเรื่องนิพพาน  จึงทำให้คิดว่า นิพพาน คือ การที่คนเราปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จนกระทั่งละความโลภ โกรธ หลง ได้ทั้งหมด มีแต่ความเมตตา กรุณา ต่อผู้อื่น แม้ละสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว ดวงจิตที่เหลือคือดวงจิตที่บริสุทธิ์ ยังคงมีอยู่ ไม่ได้ดับสูญไปกับสังขาร ดังนั้น ผู้ที่เป็นมนุษย์ ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้ว มีความบริสุทธิ์มากพอแล้ว จึงสามารถสื่อสารกับดวงจิตอันบริสุทธิ์นั้นได้   ตัวอย่างจากท่าน อ. อุบล ท่านบอกว่าท่านสื่อสารกับพระพุทธเจ้าได้ เราก็ดูจากว่า สิ่งที่ท่าน อ. อุบล นำมาบอกกล่าว ได้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นว่า มีเหตุการณ์ดังที่ท่าน อ. อุบล ได้บอกไว้ก่อน เกิดขึ้นจริง 
2.บ้านสวนพีระมิดนี่ว่าไปสอนธรรมะของพระพุทธองค์แบบเข้มข้น ทำให้ผมและหลายๆคนเข้าใจในศีลและคำสอนที่ถูกต้อง ง่าย และทำได้ทันที  สรุปแล้วบ้านสวนพีระมิดนี่สอนตรงตามพระพุทธศาสนาหรือเปล่า หรือง่ายๆก็คือ ใช่ศาสนาพุทธหรือไม่ หรือผมควรเรียกว่าอะไรดีครับ สรุปว่า
1. พีระมิด      และ         2. องค์เทพสฟิงซ์
เกี่ยวอะไรกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ ทำไมท่านอาจารย์ถึงได้นำมาให้ผู้คนได้รู้จัก ทั้งๆที่ท่านอาจารย์เป็นชาวพุทธ
          สำหรับข้อนี้ เรื่องพีระมิด ท่าน อ. อุบล ได้บอกว่าพลังพีระมิด เป็นพลังงานสากล เหมือนแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ที่ใคร ๆ ก็สามารถใช้ได้ และนักวิทยาศาสตร์ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า พีระมิดสามารถดึงดูดพลังงานได้จริง และท่าน อ. อุบล ได้นำพลังพีระมิด มาเป็นเครื่องขยายกำลังบุญที่เราทำ (ขยายกำลังบาปด้วย) และย่นระยะเวลาของผลกรรมที่จะเกิดขึ้นด้วย  ทำให้เราเห็นผลในการทำบุญ และทำบาป ที่เกิดขึ้นในบ้านสวน เกิดอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องชาติหน้า
          ส่วนองค์เทพสฟิ้งซ์ ท่าน อ. อุบล บอกว่า เป็นผู้กุมความลับของจักรวาล และเป็นเทพที่มีฤทธิ์และปาฏิหาริย์ ดังนั้น ต่อไปถ้าทั้งจักวาล คืออันหนึ่งอันเดียวกัน ศาสดาของทุกศาสนาคือกลุ่มเดียวกัน แล้วสิ่งใดจะคือตัวแทนของจักรวาลหรือเป็นศูนย์รวมของจักรวาล ถ้าไม่ใช่ผู้กุมความลับของจักรวาล ศาสนาพุทธก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล และที่ท่าน อ. อุบล นำองค์เทพสฟิ้งซ์มาให้เราได้รู้จัก ก็เพื่อเปิดจิตของพวกเรา ให้มองให้กว้าง เพื่อเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าหากัน เพราะยังมีความจริงอีกหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ เลยคาดเดาแบบนี้ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 09:48:29


ความคิดเห็นที่ 6968 (1621918)

อนุโมทนาสาธุกับทุกๆธรรมทานนะครับ ดีใจครับที่หลายๆท่านร่วมแสดงความเห็น ไม่นิ่งดูดาย ช่วยสงเคราะห์คนขี้สงสัยอย่างผม ช่วยกันมาแสดงความเห็นเยอะๆนะครับ ผมจะได้มุมมองหลายๆแบบ ก่อนที่ท่านอาจารย์จะเมตตาตอบ

ทำให้ผมอดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะว่ายังมีอีกหลายคำถาม 5555 แบบว่าอยากให้ท่านอาจารย์ตอบให้ฟังสดๆในคืนวันเสาร์ที่จะมาถึงนี้ด้วยซ้ำไป เพราะผมขี้สงสัยอย่างผมจะได้สอบถามเพิ่มเติมระหว่างที่ท่านอาจารย์ตอบ

น๊านแน่..ไหนๆก็มาแว้ว ขอจัดคำถามอีกสักหน่อยนะครับ สงสัยเหลือเกินอันนี้

"รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย" ผมเองก็ลองใช้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งได้ผลเป็นที่อัศจรรย์ใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ซึ่งใครๆหากได้ฟังครั้งแรกก็คงไม่เชื่อ นอกจากต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่ๆๆๆๆๆ

ผมเป็นชาวพุทธนะครับ พระพุทธเจ้าคือสูงที่สุดแล้วซึ่งผมก็กราบไหว้ เคารพพระองค์ท่านอยู่สูงที่สุดเสมอมา เทพพรหมเทวาผมก็กราบไหว้เคารพท่านนะครับ

ทำไมท่านอาจารย์ไม่บอกให้คนเรียก "พระพุทธองค์ช่วยด้วย" เพราะจะได้เป็นการแสดงความเคารพต่อพระองค์ท่าน และเราก็ยึดพระองค์ท่านเป็นที่พึ่งในทุกๆเรื่องเสมอมา

ฟังๆดูแล้วอาจดูเหมือนท่านอาจารย์อุบลยกตนเองให้มีความสำคัญเหนือพระพุทธเจ้าหรือเปล่าครับ

ผมก็ต้องกราบขออภัยที่เรียนถามตรงๆเพราะอยากได้รับคำตอบที่ชัดเจน และไม่รู้ว่ามีเพื่อนๆชาวบ้านสวนฯจะขี้สงสัยเหมือนผมหรือเปล่าหนอ หรือว่าเริ่มหมั่นไส้คนขี้สงสัยอย่างผมแล้วก็ไม่รู้ 555 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 10:03:08


ความคิดเห็นที่ 6969 (1621920)

กราบอนุโมทนาบุญกับธรรมทานของท่านอาจาร์ยอุบลและทุก ๆ ธรรมทานของุทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ

                                       สาธุ   สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา กาลมัชฌิมา (jantira_123-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 10:09:42


ความคิดเห็นที่ 6970 (1621921)

อะจ๊ากกก...ว่าจะหยุดถาม แต่ใจมันหยุดไม่ได้ ย้างงง ยังไม่หมดคำถามก๊าบบ

ขออีกสักคำถามในช่วงนี้นะครับ เพราะความที่ผมอ่านมามาก ทำตัวเป็นผู้รู้มาก(แต่ยากนาน5555)

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ไม่เคยทรงสั่งให้ใครสร้างพระพุทธรูปหรือพระเครื่อง วัตถุมงคลใดๆให้คนใส่ และที่สำคัญพระองค์ยังทรงตรัสสิ่งที่สำคัญที่สุด ทำให้ผู้คนทั้งสามโลกปฏิบัติตามมาถึงทุกวันนี้คือ

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"

ซึ่งหมายถึงว่าพระองค์ท่านให้ทุกคนยึดพระธรรมคำสอนของพระองค์ท่านเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดวัตถุมงคล หรืออื่นๆใดเลย

แล้วทำไมบ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์ถึงได้สร้างวัตถุมงคล ซึ่งท่านอาจารย์บอกว่า ได้รับพุทธานุญาติให้สร้างแล้ว ซึ่งขัดกับพุทธดำรัสข้างต้นเหลือเกิน จนทำให้ชาวพุทธเชื่อได้ยากและไม่เข้าใจ ว่าบ้านสวนพีระมิดบิดเบือนคำสอน และไม่สอนแก่นแท้ของพุทธ ทำให้คนหลงติดวัตถุภายนอกหรืออย่างไร

ทั้งๆที่ทุกอย่างก็คือก้อนดิน อิฐ ทราย หรือโลหะ เท่านั้น ขอความเมตตาท่านอาจารย์ตอบคนโง่แถมขี้สงสัยอย่างผมให้มีมุมมองหรือเข้าใจในสิ่งที่ผมอาจไม่เคยรู้ หรือสุดท้ายผมก็อาจแค่เป็นชาวพุทธในทะเบียนบ้านเท่านั้นหรือเปล่าก็อาจเป็นไปได้ ขอบคุณมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 10:14:21


ความคิดเห็นที่ 6971 (1621922)

 

   (ต่อนะคะ)
3. สิ่งที่บ้านสวนพีระมิดทำๆอยู่นี่ เช่น ออกไปสารภาพบาปแล้วหายทันที และโดยรวมทั้งหมดแล้วใช่ศาสนาพุทธหรือเปล่า
          การออกไปสารภาพบาป ถือว่าเป็นการไปดับเหตุ เมื่อเรารู้ว่าเราสร้างเหตุอะไรไว้เราจึงได้รับผลเช่นนี้ เมื่อเราดับที่เหตุ (ระลึกได้และจะไม่กลับไปทำอีก = สารภาพบาป ) ผลจึงดับ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่บอกว่า “ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับผลจึงดับ” ซึ่งถือว่าเป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นปาฏิหาริย์ ที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ
1.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมต้องมีเรื่องการขายเครื่องสำอางด้วยละครับ
  1.1 เครื่องสำอางนี่ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าท่านอาจารย์ต้องการขายเครื่องสำอางหรือยังไง โปรดอธิบายผมด้วยครับ
          ข้อนี้ ท่าน อ. อบล ก็เคยได้พูดแล้วว่า รายการคุยไปแจกไป เป็นรายการขายเครื่องสำอาง เพราะ ท่าน อ. อุบล ยังต้องกินต้องใช้ จึงต้องประกอบอาชีพ แต่เราจะเห็นว่า ช่วงที่แนะนำสินค้าหรือเครื่องสำอางมีน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นโฆษณา คือนำธรรมะมาฝากผู้ชม ซึ่งเราไม่เคยเห็นรายการไหนที่เห็นประโยชน์ผู้ชมเป็นหลัก ประโยชน์ส่วนตนเป็นรอง ดังนั้นทำให้เราเข้าใจว่า ท่าน อ. อุบล ไม่ได้เน้นเรื่องการขายเครื่องสำอาง แต่ต้องการที่จะนำธรรมะของพระพุทธองค์มาเผยแพร่มากกว่า เพราะเครื่องสำอางพาเมล่า ท่าน อ. อุบล ได้อธิษฐานไว้แล้วว่า ผู้ที่จะได้ใช้พาเมล่า คือผู้ที่จะละกิเลสได้แล้วเท่านั้น ไม่ใช่ว่ามีตังค์ก็จะได้ใช้เหมือนอย่างอื่น 
          มีวันหนึ่งได้ร่วมวงสนทนากับท่าน อ. อุบลและสมาชิกบ้านสวน มีท่านหนึ่งอาชีพค้าขาย เขาบอกว่า เขาใช้รหัส อ. อุบลช่วยด้วย ทำให้มีลูกค้าเข้ามาเยอะ เขามีความร็สึกว่าลูกค้าเป็นผู้มีบุญคุณกับเขา เขาก็อุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวลูกค้าของเขา   แต่ท่าน อ. อุบล ได้บอกว่า ถ้าใครที่ซื้อพาเมล่า อารมณ์ความรู้สึกของท่าน คือ ท่านถือว่าท่านได้สงเคราะห์คน ๆ นั้น ท่านไม่ได้รู้สึกว่าลูกค้า คือผู้มีบุญคุณต่อท่าน ทำให้เรามานั่งคิดต่อว่า ทำไมท่าน อ. อุบลถึงรู้สึกเช่นนั้น ก็ทำให้เราได้คำตอบว่า เพราะพาเมล่า มีพลังงานปราณและมโนธาตุ ที่ทำให้ผู้ได้รับพลังงานนี้ สามารถปลดเปลื้องความทุกข์ได้ และท่าน อ. อุบล ยังนำเงินที่เป็นรายได้จากพาเมล่าไปทำบุญทุกบุญ และอุทิศบุญให้กับผู้ที่ซื้อพาเมล่าด้วย ซึ่งเท่ากับว่า ท่าน อ. อุบล ได้นำเงินพวกเราไปทำบุญให้เราด้วย คงไม่มีใครที่ไหนทำเช่นนี้  จึงทำให้เข้าใจท่าน อ. อุบล ที่ท่านรู้สึกว่าได้สงเคราะห์แก่ผู้ซื้อพาเมล่า เพราะท่านสงเคราะห์พวกเราจริง ๆ
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 10:21:06


ความคิดเห็นที่ 6972 (1621926)

 

(ต่อค่ะ)
          พ่อใหญ่ช่างสงสัยจริง ๆ 
2.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมหลายๆตอนต้องเน้นย้ำเหลือเกินเรื่องปรามาส อ.อุบล แล้วท่านอาจารย์ก็เขียนหลายครั้งแล้วว่าหากปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออาจารย์อุบล ก็จะโดนอย่างนั้นอย่างนี้
          เรื่องปรามาส เท่าที่ติดตามมานะคะ ท่าน อ. อุบล จะเริ่มที่ผู้อื่นก่อน เช่น พระพุทธเจ้า พระเจ้าอยู่หัว พระอริยสงฆ์ คนทั่วไป ว่าถ้าปรามาสแล้วผลจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทำให้พวกเราได้สำรวจตัวเองมาตลอดว่า ความคิดหรือการกระทำอันใดของเรา ที่เป็นการปรามาสบ้าง ทำให้เราได้พึ่งสำรวมกาย วาจา ใจ ให้มากขึ้น พอหลัง ๆ ท่านถึงมาพูดเรื่องปรามาส ตัวท่านเอง ว่าถ้าใครปรามาสท่าน อ. อุบล แล้วจะมีผลต่อผู้ปรามาสอย่างไร ซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมายว่า ปรามาสท่าน อ. อุบลแล้ว มีผลเกิดขึ้นจริง  เพราะท่าน อ. อุบล บอกว่า ท่านเป็นศาสดาที่ผู้ใดทักท้วงไม่ได้ เพราะท่าน อ. อุบล คือผู้ที่นำคำสอนของพระพุทธองค์ มาถ่ายทอดโดยไม่บิดเบือนความจริง ถ้าใครทักท้วงหรือปรามาสท่าน อ. อุบล ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ก็ประหนึ่งปรามาสพระพุทธเจ้า จึงได้รับความทุกข์ ความเดือดร้อนจากการปรามาส หรือนอกจากนี้ท่านอาจจะมีนัยยะอื่นที่แฝงมากับคำสอนนี้   ที่ท่านไม่สามารถพูดได้ตรง ๆ ในขณะนี้ 
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 10:36:31


ความคิดเห็นที่ 6973 (1621927)

    พ่อใหญ่สงสัยมากจริง ๆ  จะคิดทันไหมนี่

แต่ก็ดีนะคะ  ทำให้เราได้มานั่งวิเคราะห์ตัวเอง

ทั้งความเชื่อและการกระทำ  ว่าเรามีสิ่งใดเป็นบรรทัดฐาน

ให้กับตัวเอง  ว่าเราเชื่อเพราะเหตุใด  เราได้ใช้หลัก กามาละสูตร

เหมือนพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้หรือเปล่า 

สำหรับตัวเองหลายเรื่องก็ยังโง่มากอยู่

ใช้กาลามสูตรก็ไม่ทัน  จึงอาศัยทำตามไปก่อน

เชื่อไปก่อน  แล้วค่อยดูผลลัพธ์ที่ออกมา

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 10:45:24


ความคิดเห็นที่ 6974 (1621931)

       

(ต่อค่ะ)
"รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย" ผมเองก็ลองใช้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งได้ผลเป็นที่อัศจรรย์ใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ซึ่งใครๆหากได้ฟังครั้งแรกก็คงไม่เชื่อ นอกจากต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่ๆๆๆๆๆ
ผมเป็นชาวพุทธนะครับ พระพุทธเจ้าคือสูงที่สุดแล้วซึ่งผมก็กราบไหว้ เคารพพระองค์ท่านอยู่สูงที่สุดเสมอมา เทพพรหมเทวาผมก็กราบไหว้เคารพท่านนะครับ
ทำไมท่านอาจารย์ไม่บอกให้คนเรียก "พระพุทธองค์ช่วยด้วย" เพราะจะได้เป็นการแสดงความเคารพต่อพระองค์ท่าน และเราก็ยึดพระองค์ท่านเป็นที่พึ่งในทุกๆเรื่องเสมอมา
ฟังๆดูแล้วอาจดูเหมือนท่านอาจารย์อุบลยกตนเองให้มีความสำคัญเหนือพระพุทธเจ้าหรือเปล่าครับ
          ถ้าใครไม่ศึกษา ไม่ทดลอง แต่ฟังแล้วปฏิเสธทันที
ก็เป็นสิ่งน่าเสียดายแทนพวกเขาเหล่านั้นจริง ๆ เพราะเอาแค่ความคิดตัวเองเป็นหลัก (คงคิดว่าฉันสุดยอดแล้ว) มาถึงรหัส อ. อุบลช่วยด้วย
กว่าจะได้ รหัสนี้มาใช้ ท่าน อ. อุบล บอกว่า เป็นฉันทามติของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ศาสดาทุกศาสนา และเทพ พรหม เทวา ทั้งจักรวาล ท่าน อ. อุบล บอกว่าสิ่งศักดิ์ขอยืมชื่อท่าน อ. อุบล มาเป็นตัวแทนให้ใช้ เมื่อเรานึกถึงและใช้รหัสนี้ ก็จะเป็นการเชื่อมต่อญาณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ และทุกพระองค์ก็จะไปช่วยเรา ไม่ใช่ท่าน อ. อุบล ไปช่วยเรา ซึ่งทุกคนในโลกสามารถใช้รหัสนี้ได้ เพราะถึงว่าเป็นรหัสสากล
          วิเคราะห์ ถ้ารหัส อ. อุบลช่วยด้วย ไม่ได้เกิดขึ้นจากที่ท่าน อ. อุบล ได้บอกไว้ เราใช้แล้วจะได้ผลไหม??? ถ้าเราใช้แล้วได้ผลจริงมากว่า 80 % แสดงว่า สิ่งที่ท่าน อ. อุบล บอกไว้ คือความจริง   สรุปว่าตัวเองได้ใช้รหัส อ. อุบล ช่วยด้วย ได้ผลมากกว่า 90 % ดังนั้นจึงเชื่อว่า รหัสนี้เป็นรหัสสวรรค์จริง ที่สามารถช่วยเหลือเราได้ทุกที่ ทุกเวลา ส่วนที่ใช้ไม่ได้ ต้องมาสำรวจตัวเองว่า ได้ทำตามที่ท่าน อ. อุบลให้ทำหรือเปล่า เช่น ต้องบอกรหัสนี้ให้กับผู้อื่นให้มากที่สุด โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องของเขา เรามีหน้าที่บอก ใช้ได้ผลแล้วมีความกตัญญูรู้คุณหรือเปล่า เคยขอบคุณสิ่งศักดิ์ไหม เคยอุทิศบุญให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหม (เทวดาประจำตัวท่าน อ. อุบล) ได้สร้างบุญเพิ่มไหม
          ถ้าคิดว่า ท่าน อ. อุบล จะยกตนเหนือพระพุทธเจ้า คงไม่ใช่ เพราะทุกครั้ง ท่าน อ. อุบล จะพูดเสมอว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะท่าน อ. อุบล แต่เป็นบารมีของพระพุทธเจ้าของสิ่งศักดิ์สิทธิ์   ทำให้เรากลับมาคิดว่า แล้วท่าน อ. อุบล เป็นใคร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งจักรวาลถึงได้ไว้วางใจท่าน อ. อุบล ถึงเพียงนี้ และท่านคงเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ถึงที่สุดแล้ว บริสุทธิ์ที่สุดแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงได้มอบความไว้วางใจ
ใช้ชื่อท่าน อ. อุบล เพื่อช่วยเหลือมนุษย์และชาวโลกทิพย์ทั้งหลาย
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 11:15:55


ความคิดเห็นที่ 6975 (1621933)

 ขอร่วมแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ 

1.ในพระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่า สัพเพ ธรรมา อนัตตา คือสรุปแล้วว่าธรรมทั้งหลายหรือทุกสรรพสิ่งเป็นอนัตตา และเท่าที่ผมอ่านๆมาหลายที่ ท่านผู้รู้หลายท่านที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฏกก็ยังกล่าวว่า สุดท้ายแล้วแม้แต่นิพพานก็เป็นอนัตตา

- ผมคิดว่า ธรรม ในที่นี้ น่าจะหมายถึง ขันธ์ 5 คือ รุป นาม แต่ จิต ต่างหากที่เป็นสิ่งที่ไม่ตาย เวียนว่ายไปตามสังสารวัฎ แล้วจิตก็ นึกว่า นี่เป็นเรา นี่ต้องคงอยู่ ไม่เสื่อมสลาย จรืงๆ แล้วอย่างร่างกาย ก็ตายก็ให็เห็น ทุกวัน ดับไปไม่เหลืออะไร อย่าง นาม เช่น อารมณ์ต่าง มันเกิดขึ้น แล้วมันมีดับไหม สุข ทุกข์ เฉย เกิดดับไหม

ผู้ที่เข้านิพพาน คือผู้ที่ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดแล้ว จึงคิดว่าน่าจะอยู่ เหนือการเกิด-ดับ ดังนั้น จึงคิดว่าไม่น่าจะเอามารวมกันครับ  ไม่งั้น จะเรียกว่าบรรลุธรรมหรือ   

เคยเห็นพระที่ท่านเป็นพระอรหันต์ หลายๆ รุป ท่านก็สามารถ สื่อสารกับพระพุทธองค์ได้ ไม่ใช่แต่เพียง รูปเดียวที่กล่าว ยิ่งพอที่บ้านสวนได้แสดงธรรมมะให้เห็น แม้เราจะไม่สามารถ พบพระพุทธองค์ได้ด้วยตาเนื้อ แต่เราก็สัมผัสได้ถึงท่าน ด้วยอย่างบางคนทำไมหาย 

2.บ้านสวนพีระมิดนี่ว่าไปสอนธรรมะของพระพุทธองค์แบบเข้มข้น ทำให้ผมและหลายๆคนเข้าใจในศีลและคำสอนที่ถูกต้อง ง่าย และทำได้ทันที

แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้อีกแหละว่า มีอย่างที่ไหน บ้านสวนพีระมิดใช้ทั้งพลังพีระมิด มีทั้งองค์เทพสฟิงซ์ ซึ่งเท่าที่ผมศึกษามาไม่มีบันทึกไว้ในพระพุทธศาสนาเลย และที่สำคัญคือคนออกไปพูดสารภาพบาป แล้วหายทันที

 

สรุปแล้วบ้านสวนพีระมิดนี่สอนตรงตามพระพุทธศาสนาหรือเปล่า หรือง่ายๆก็คือ ใช่ศาสนาพุทธหรือไม่ หรือผมควรเรียกว่าอะไรดีครับ สรุปว่า

ผมคิดว่า หลักธรรมต่าง ๆ ก็เป็น ของศาสนาพุทธทั้งนั้น และนำมาจากพระไตรปิฎก สามารถพิสูจน์ได้ หลักๆ ที่ทำกันก็คือ ทำทาน รักษาศีล ภาวนา

1.พีระมิด และ

2.องค์เทพสฟิงซ์

เกี่ยวอะไรกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ ทำไมท่านอาจารย์ถึงได้นำมาให้ผู้คนได้รู้จัก ทั้งๆที่ท่านอาจารย์เป็นชาวพุทธ

ผมคิดว่า พีระมิด ก็เหมือน วัตถุชิ้นหนึ่ง ที่เป็นเครื่องขย่ายและย่อนย่อเวลา เป็นสิ่งสากล ไม่ได้จำกัดว่าใครเป็นเจ้าของ แล้วทำไม ไม่สงสัยบ้างหรือว่า ทำไม ในหลายๆดวงดาว จึงมีการสร้างพีระมิด และในบางประเทศก็ยังสร้าง แสดงว่ามันต้องมีความลับอะไรซ่อนอยู่สิ เพราะการที่เราปิดกั้นตัวเอง ทำให้เรา มีโลกที่แคบ ว่าไหมครับ

ผมก็ งงนะครับ ทำไม เวลาสร้างวัตถุมงคล อื่นๆ ไม่เห็นมีคนโจมตี ไม่ว่าจะเป็น ปลักขิก สาลิกาลิ้นทอง ฯลฯ แถมยังให้บูชากันอย่างดาษดื่น

จริงๆก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลนะครับ เพราะเวลาเราซื้อก็เงินเรา ไม่ได้ไปปล้นใคร ไม่ได้ละเมืดศีล 5 เลย แล้วไหง มีคนเป็นเดือดร้อน

ส่วนองค์เทพสฟิงค์  บางคนอาจจะไม่ได้รู้จักท่าน ถ้าบอกว่าไม่เคยเห็น ก็เข้าใจน่ะครับ แล้ว มีไหมครับ ที่ชาวพุทธ ที่ ไหว้ เทพต่างๆ ผีบ้านผีเรือน เจ้าพ่อ เจ้าแม่ เจ้าที่ ตี่จู่เอี่ย ฯลฯ อย่างเช่น อยากมีควาสำเร็จ ต้องบูชา พระพิฆเนศ เป็นต้น อีกอย่าง บ้านสวนเรา นับถือทุกๆพระองค์ไม่ และก็สอนไม่ให้ละเมิดผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ เทพ ศาสดาของทุกๆศาสนา เพราะมันเป็นการผิดศีล ไม่ควรทำอยู่แล้ว ถ้าบูชาแล้วไม่เคือดร้อนใคร ก็งง มาจะเดือดร้อนแทนเราทำไม?

3.สิ่งที่บ้านสวนพีระมิดทำๆอยู่นี่ เช่น ออกไปสารภาพบาปแล้วหายทันที และโดยรวมทั้งหมดแล้วใช่ศาสนาพุทธหรือเปล่า

ผมคิดว่าจุดประสงค์ของการสารภาพบาป คือ ให้คนเห็นว่าเราทำบาปอะไรมาจึงเป็นเช่นนี้ เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาอย่างเราเพราะเราอาจจะเคยพลาดมาก่อน อีกอย่างการสารภาพก็เป็นการละอัตตา เหมือนเวลาเรามีเรื่องอะไรที่เราเก็บไว้ในใจ เวลาได้ระบายออกมา จะมีความรู้สึก ที่มันโล่งสบาย ยิ่งยึดเอาไว้ก็ยิ่งทุกข์ สู้วางมันแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่า ส่วนการหายนั้นก็ถือเป็นผลพลอยได้ครับ

 

1.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมต้องมีเรื่องการขายเครื่องสำอางด้วยละครับ

ผมคิดว่า การเช่ารายการสถานี ต้องใช้เงิน คงไม่มีใคร มาให้ทำรายการฟรีๆ หรอก แตุ่้ถ้าเทียบดู ช่วงเวลาที่ ให้ธรรมมะ กับ ขายเครื่องสำอางค์ อย่างไหนมากกว่ากัน ส่วนเครื่องสำอางค์ก็ไม่ได้บังคับให้ใครมาซื้อ แถมถ้าจะซื้อ ต้องอ่านคู่มือหนีกรรม 9 รอบ จุดประสงค์หลักก็คือ ดึงคนเข้ามาสู่ทางธรรม 

  1.1 เครื่องสำอางนี่ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าท่านอาจารย์ต้องการขายเครื่องสำอางหรือยังไง โปรดอธิบายผมด้วยครับ

อย่างรายการธรรมมะอื่นๆ ก็จะมีผู้สนับสนุน อย่างองค์กร หรืออาจจะเป็นคณะลูกศิษย์ของรายการนั้นๆ แต่ อันนี้ ท่านอาจารย์อุบล ท่านออกเองทั้งหมด คิดง่ายๆ ถ้าเราลองทำเอง จะมีวิธีการยังไง ให้ธรรมมะ อย่างเดียว แบบนั้นคงทำได้ในกรณี ที่ คุณเป็น มหาเศรษฐี น่ะนะ แ้ล้วถามหน่อย ว่าจะมีใครทำ จะมีสักกี่คนบนโลก ที่ทำเพื่อคนอื่น อาจจะมีครับ แต่น้อยเหลือเกิน

ส่วนคนบนโลกก็มี 2 แบบ ครับ คิดลบ กับ คิดบวก และส่วนใหญ่ ชอบคิดว่าคนอื่นจะเหมือนตัวเอง 

2.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมหลายๆตอนต้องเน้นย้ำเหลือเกินเรื่องปรามาส อ.อุบล แล้วท่านอาจารย์ก็เขียนหลายครั้งแล้วว่าหากปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออาจารย์อุบล ก็จะโดนอย่างนั้นอย่างนี้

สรุปแล้วอ่านๆแล้วเหมือนกับท่านอาจารย์สาปแช่งคนอื่นที่ไม่เคารพหรือเห็นต่างจากบ้านสวนฯหรือเปล่า หรือว่าอย่างไรครับ อันนี้ก็ต้องขอเรียนถามตรงๆด้วยความเคารพนะครับ เพราะผมคิดว่าอาจเป็นสิ่งที่หลายๆคนสงสัยอยู่ก็เป็นไปได้ครับ ่

ผมคิดว่า ตรงนี้ จริงๆ ท่านแค่บอก ผลของกรรม ถึงท่านไม่บอก ถ้าคุณปรามาส แล้วเกิดอะไรขึ้นอาจจะ ไม่ทราบสาเหตุ สุดท้ายก็หาวิธีแก้ไม่ได้ เหมือนเราไม่รู้ว่าเราทำกรรมอะไรมาแล้วจึงต้องมาเป็นอย่างนี้ บ้างก็โทษ ดวงชะตา โทษโน่น โทษนี่ ทั้งๆ ที่ กรรม แปลว่าการกระทำ ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ก็รู้อยู่แล้ว แล้วเกิดจากอะไร ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ไม่เคยทรงสั่งให้ใครสร้างพระพุทธรูปหรือพระเครื่อง วัตถุมงคลใดๆให้คนใส่ และที่สำคัญพระองค์ยังทรงตรัสสิ่งที่สำคัญที่สุด ทำให้ผู้คนทั้งสามโลกปฏิบัติตามมาถึงทุกวันนี้คือ

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"

ซึ่งหมายถึงว่าพระองค์ท่านให้ทุกคนยึดพระธรรมคำสอนของพระองค์ท่านเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดวัตถุมงคล หรืออื่นๆใดเลย

แล้วทำไมบ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์ถึงได้สร้างวัตถุมงคล ซึ่งท่านอาจารย์บอกว่า ได้รับพุทธานุญาติให้สร้างแล้ว ซึ่งขัดกับพุทธดำรัสข้างต้นเหลือเกิน จนทำให้ชาวพุทธเชื่อได้ยากและไม่เข้าใจ ว่าบ้านสวนพีระมิดบิดเบือนคำสอน และไม่สอนแก่นแท้ของพุทธ ทำให้คนหลงติดวัตถุภายนอกหรืออย่างไร

ทั้งๆที่ทุกอย่างก็คือก้อนดิน อิฐ ทราย หรือโลหะ เท่านั้น ขอความเมตตาท่านอาจารย์ตอบคนโง่แถมขี้สงสัยอย่างผมให้มีมุมมองหรือเข้าใจในสิ่งที่ผมอาจไม่เคยรู้ หรือสุดท้ายผมก็อาจแค่เป็นชาวพุทธในทะเบียนบ้านเท่านั้นหรือเปล่าก็อาจเป็นไปได้ ขอบคุณมากครับ

สิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลเน้นย้ำ พวกเราเสมอๆ คือการทำความดี รักษาศีล 5 ส่วนวัตถุมงคลนั้น คุณจะบูชาหรือไม่ ก็ไม่ได้บังคับ แถมท่านยังย้ำอยู่เสมออีกว่า ต่อให้มีวัตถุมงคล แต่ไม่รักษาศีล 5 ก็ไร้ผล มาดูตรงจุดนี้ อะไรที่สำคัญจริงๆ ก็คือ ข้อปฎิบัติต่างหาก

จริงๆ แล้ว วัตถุต่าง ย่อมมีอันดับสลาย ท่านจึงไม่ให้ยึด ให้ยึดธรรมนั่นแหละ เป็นสิ่งที่จริงแท้แน่นอน 

ขออนุโมทนากับคำถามจากพี่ธนา และ คำตอบจากทุกๆธรรมทานด้วยครับ ผิดถูกยังไง ขอภัยครับ เพราะเป็นความเห็นส่วนตัว ต้องรอท่านอาจารย์อุบล มาเมตตาตอบให้ชัดเจนอีกครั้งครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 11:25:23


ความคิดเห็นที่ 6976 (1621934)

 

(ต่อค่ะ)
"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"
ซึ่งหมายถึงว่าพระองค์ท่านให้ทุกคนยึดพระธรรมคำสอนของพระองค์ท่านเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดวัตถุมงคล หรืออื่นๆใดเลย
แล้วทำไมบ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์ถึงได้สร้างวัตถุมงคล ซึ่งท่านอาจารย์บอกว่า ได้รับพุทธานุญาติให้สร้างแล้ว ซึ่งขัดกับพุทธดำรัสข้างต้นเหลือเกิน จนทำให้ชาวพุทธเชื่อได้ยากและไม่เข้าใจ ว่าบ้านสวนพีระมิดบิดเบือนคำสอน และไม่สอนแก่นแท้ของพุทธ ทำให้คนหลงติดวัตถุภายนอกหรืออย่างไร
ทั้งๆที่ทุกอย่างก็คือก้อนดิน อิฐ ทราย หรือโลหะ เท่านั้น ขอความเมตตาท่านอาจารย์ตอบคนโง่แถมขี้สงสัยอย่างผมให้มีมุมมองหรือเข้าใจในสิ่งที่ผมอาจไม่เคยรู้ หรือสุดท้ายผมก็อาจแค่เป็นชาวพุทธในทะเบียนบ้านเท่านั้นหรือเปล่าก็อาจเป็นไปได้ ขอบคุณมากครับ
          วัตถุมงคลบ้านสวน ท่าน อ. อุบล ไม่ได้ให้ทุกคนมายึดเป็นหลัก หากใครที่ปฏิบัติได้ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ หรือใครไม่มีทรัพย์พอที่จะบูชา ท่านก็ให้รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ทำสมาธิให้มาก และใช้รหัส อ. อุบลช่วยด้วย ซึ่งไม่ต้องเสียตังค์   แต่ถ้าใครที่กำลังใจยังไม่เข็มแข็ง และมีทรัพย์พอที่จะบูชาก็แล้วแต่ใจปราถนา ที่ท่านต้องเร่งรีบหาตัวช่วยผู้คน คิดว่าเป็นเพราะภัยพิบัติต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาในอนาคตอันใกล้ ถ้าปล่อยพวกเราตามลำพัง ดดยไม่มีตัวช่วย อาจจะไม่ทันการณ์ และทุกอย่างที่ท่าน อ. อุบล ทำ ก็ได้รับพุทธานุญาตจากสมเด็จองค์ปฐมฯ แล้วทั้งสิ้น เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เพราะถ้ามีสิ่ง ดี ๆ อยู่กับตัว ก็ทำให้เรานึกถึงแต่สิ่งดี ๆ ใจเราก็เกาะเกี่ยวอยู่กับความดี ถึงเวลาไปเราก็จะได้ไปดี
          ประมาณนี้นะค่ะ พ่อใหญ่ ปัญญามีเพียงเท่านี้เจ้าค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 11:29:09


ความคิดเห็นที่ 6977 (1621955)

สาธุ อนุโมทนากับทุกความเห็นด้วยนะครับ

ยังไงผมก็รอความเมตตาจากพี่ๆน้องๆบ้านสวนฯเข้ามาช่วยให้มุมมองต่างๆแก่ผมด้วย และสุดท้ายคงได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์ตอบปัญหาคนขี้สงสัยอย่างผมให้หายข้องใจซ๊ากที

เพิ่งทานข้าวกลางวันมาอิ่มๆ มีแฮงล๊ายหลาย ก็ขอถามอีกสักหนึ่งคำถามน๊าก๊าบบ ขอความเมตตาท่านอาจารย์และเพื่อนๆอย่าเพิ่งเบื่อคนโง่ ขี้สงสัยคนนี้เน้ออ

แบบว่าผมคิดไปคิดมาก็สงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่า บ้านสวนพีระมิดนี้ช่วยคนมากมายไม่สนใจชนชั้นวรรณะใดๆทั้งสิ้น พยายามเผยแพร่ธรรมะอันมีค่าของพระพุทธองค์ออกไปให้มากที่สุด แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า

หากบ้านสวนอยากช่วยคนจริงๆ อยากให้คนเข้าถึงธรรมะจริงๆ และยังมีคนที่สงสัยอยากพิสูจน์หลายๆอย่างว่าบ้านสวนฯเจ๋งจริงอย่างที่ร่ำลือกันไหม บิดเบือนคำสอนหรือเปล่า

ทำไมบ้านสวนฯต้องมีกฏสวรรค์อะไรๆมากมายด้วยล่ะครับ แบบว่าหากอยากช่วยคนจริงๆก็น่าจะเปิดกว้างสำหรับคนทั่วๆไปได้มาพิสูจน์ ได้มาศึกษากันสิครับ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์ก็จริงอยู่ แต่ก็มีปณิธานอยากช่วยคนทั้งหลายไม่ใช่เหรอครับ และก็จริงอยู่นะครับว่ารายการคุยไปแจกไปดูได้ทั้งทางเคเบิลจานดำ ทางเวปไซต์ก็มี

แต่ผู้คนก็ยังอยากมาสัมผัสด้วยตนเอง แต่มาติดตรงที่กฏอะไรต่อมิอะไรมากมาย ซึ่งที่อื่นๆที่เขาอยากช่วยเหลือผู้คนจริงๆก็ไม่ได้มีกฏสวรรค์อะไรแบบนี้เลย ทุกคนเข้าไปศึกษาและได้รับความกระจ่างด้วยตนเองมากมาย

ขอความเมตตาท่านอาจารย์ตอบข้อสงสัยนี้ให้คนปัญญาน้อยและที่สำคัญอยากรู้นี่แหละครับ ให้หายสงสัยด้วยเถอะครับ ขอบคุณมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 12:52:39


ความคิดเห็นที่ 6978 (1621958)

ความเห็นนี้ ที่ 6666

เป็นรหัสจากต่างดาว

 

ที่ป่วยขอให้หาย

ที่จน ขอให้ มีเงินพอใช้

ที่มีชื่ออยู่นรก

ให้ได้ขึ้นมาเสียที

 

ให้ทำแต่ความดี

ให้หนีความชั่วได้

ให้มีใจร่าเริง

สาธุ

..............

ขอขอบพระคุณท่าน อ.อุบล คะที่เมตตาคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุรีรัตน์ มีไชย(นก) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 12:56:45


ความคิดเห็นที่ 6979 (1621970)

หากบ้านสวนอยากช่วยคนจริงๆ อยากให้คนเข้าถึงธรรมะจริงๆ และยังมีคนที่สงสัยอยากพิสูจน์หลายๆอย่างว่าบ้านสวนฯเจ๋งจริงอย่างที่ร่ำลือกันไหม บิดเบือนคำสอนหรือเปล่า

ทำไมบ้านสวนฯต้องมีกฏสวรรค์อะไรๆมากมายด้วยล่ะครับ แบบว่าหากอยากช่วยคนจริงๆก็น่าจะเปิดกว้างสำหรับคนทั่วๆไปได้มาพิสูจน์ ได้มาศึกษากันสิครับ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์ก็จริงอยู่ แต่ก็มีปณิธานอยากช่วยคนทั้งหลายไม่ใช่เหรอครับ และก็จริงอยู่นะครับว่ารายการคุยไปแจกไปดูได้ทั้งทางเคเบิลจานดำ ทางเวปไซต์ก็มี

หนูคิดว่าบ้านสวนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะมาก เมื่อมาทำบุญเพี่ยงน้อยนิด ก็ได้รับอานิสงฆ์มากมาย แต่ถ้ามาทำสิ่งไม่ดีหรือทำบาบแม้จะน้อยนิดก็ได้รับผลกรรมเหมือนกัน ซึ่งท่านอาจารย์ท่านมีเมตตามาก ท่านไม่อยากให้ลูกหลานได้รับเคราะห์กรรม

ดังนั้นบ้านสวนฯ จึงมีกฎมากมาย และเมื่อมีผู้คนมากมายหลายพ่อหลายแม่ มารวมกัน แต่ละคนก็มาจากคนละที่คนละทาง  ถ้าทุกคนทำอะไรตามใจ ง่ายสบาย ๆ ทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ ทำอะไรมักง่าย ไม่คิดถึงส่วนรวม ไม่คิดถึงท่านเจ้าของบ้าน ไม่เกรงใจ ไม่ให้เกียติท่านเจ้าของบ้าน ก็คงจะทำให้เกิดความวุ่นวาย และเพิ่มภาระให้ท่านอาจารย์อย่างมาก เพราะปกติงานท่านอาจารย์ก็มากมาย จนท่านแทบไม่ได้ผักผ่อน  ท่านเมตตาผู้คนมากมาย เสียสละทั้งเวลา ทั้งแรงกาย ทั้งเงินทอง ค่าน้ำค่าไฟฟ้า ค่าอาหาร และการดูแลรักษาความสะอาด  เพื่อเปิดบ้านให้ผู้คนมากมายมาศึกษาธรรมะ ได้หลุดพ้นจากทุกข์  และคิดว่าผู้ที่จะมาบ้านสวนก็ควรจะคิดให้ดี และปฏิบัติตามกฎได้ถึงมา เพราะกฎระเบียบบ้านสวนเป็น กฏ กติกา มารยาท เพื่อให้ฝึกตนเองให้มีระเบียบวินัย เมื่ออยู่ในสังคม  และไม่ว่าจะอยู่ในบ้านสวน หรือนอกบ้านสวน ก็ควรปฏิบัติตนเช่นเดียวกัน ฝึกตัวเองเอาไว้จะได้เป็นผู้ที่เจริญทางด้านจิตใจพัฒนาจิตใจของเราไปด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 14:16:56


ความคิดเห็นที่ 6980 (1621971)

  แวะไปอ่านกระทู้อื่น ๆ มา

กลับมายังมาเจอ พ่อใหญ่ช่างสงสัยอีก

     

หากบ้านสวนอยากช่วยคนจริงๆ อยากให้คนเข้าถึงธรรมะจริงๆ และยังมีคนที่สงสัยอยากพิสูจน์หลายๆอย่างว่าบ้านสวนฯเจ๋งจริงอย่างที่ร่ำลือกันไหม บิดเบือนคำสอนหรือเปล่า

ทำไมบ้านสวนฯต้องมีกฏสวรรค์อะไรๆมากมายด้วยล่ะครับ แบบว่าหากอยากช่วยคนจริงๆก็น่าจะเปิดกว้างสำหรับคนทั่วๆไปได้มาพิสูจน์ ได้มาศึกษากันสิครับ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์ก็จริงอยู่ แต่ก็มีปณิธานอยากช่วยคนทั้งหลายไม่ใช่เหรอครับ และก็จริงอยู่นะครับว่ารายการคุยไปแจกไปดูได้ทั้งทางเคเบิลจานดำ ทางเวปไซต์ก็มี

แต่ผู้คนก็ยังอยากมาสัมผัสด้วยตนเอง แต่มาติดตรงที่กฏอะไรต่อมิอะไรมากมาย ซึ่งที่อื่นๆที่เขาอยากช่วยเหลือผู้คนจริงๆก็ไม่ได้มีกฏสวรรค์อะไรแบบนี้เลย ทุกคนเข้าไปศึกษาและได้รับความกระจ่างด้วยตนเองมากมาย

    เป็นคำถามที่ตัวเองก็เจอบ่อยมาก  แต่ก่อนก็ตอยเขาว่า

เป็นบ้านส่วนตัว ไม่ได้เปิดให้บริการตลอด  เพราะท่าน อ. อุบล

ก็ต้องมีภาระกิจส่วนตัว

    แต่ต่อไปนี้ถ้าใครถามคำถามนี้

จะบอกเค้าว่า  เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการ

จัดระเบียบผู้คนใหม่  ให้ทุกคนได้เข้าใจ  กฏ  กติกา

มารยาท  กันมากขึ้น  เพราะทุกวันนี้คนเรามักง่าย

เอาแต่สะดวกตัวเอง  โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่นเลย

พอบ้านสวน  มีกฏระเบียบมา  ก็รู้สึกอึดอัด

เพราะไม่เคยชิน  ทุกวันนี้ที่บ้านเมืองมีปัญหา

ก็เพราะเราขาดระเบียบวินัย 

     และที่สำคัญอีกอย่าง  การที่เราจะเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

ถ้าเราไม่ศึกษาระเบียบก่อน  ก็อาจจะกลายเป็นโทษ

กับตัวเราได้  ซึ่งที่ผ่านมา  ไม่มีใครบอก เราเลยไม่รู้

     ถ้าเราอยากจะไปที่ไหน  เราก็ทำตาม

กฏกติกา  ของที่นั้น ๆ  เราก็ได้ไป  มันต้องมีอะไรสำคัญ

เขาถึงต้องมีระเบียบ  มีกฏขึ้นมา  แต่ก่อนเราไม่รู้

ว่าทำแบบนี้ผิด  ทำแบบนี้ไม่ได้  เราก็สักแต่ทำตามเขาไป

ไปวัดก็ไปนำของวัดกลับบ้าน

ไปสร้างความสกปรกให้วัด  ไปหารายได้จากวัด

ไม่มีใครมาบอกเราเลยว่า

ที่ทำอยู่นี่เป็นหนี้สงฆ์  และการที่คนอยากเข้ามาพิสูจน์บ้านสวน

ก็มีหลายแบบ  ทั้งตั้งใจดี  และมาด้วยท้าทาย

ถ้าปล่อยให้เขาเข้ามา  โทษนั้นคงตก

แก่ผู้ที่เข้ามาเป็นแน่  นี่เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตา

จึงให้ศึกษากฏระเบียบก่อน  ให้รู้ว่าสิ่งไหนควรทำ

และไม่ควรทำ  และถ้าทำในสิ่งที่ห้ามแล้ว

ผลจะเป็นอย่างไร

สำหรับตัวเองคิดว่า  เป็นการจัดระเบียบ

ให้ทุกคนได้ตระหนักถึง

ความควร  มิควร  ไม่ใช่อาศัยแต่ความอยากอย่างเดียว

ปรับตัว  ปรับใจอีกนิด  เพื่อยกระดับจิตให้สูงขึ้น

     อ่านแล้วงง ๆ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 14:17:10


ความคิดเห็นที่ 6981 (1621972)

 

 1.ในพระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่า สัพเพ ธรรมา อนัตตา คือสรุปแล้วว่าธรรมทั้งหลายหรือทุกสรรพสิ่งเป็นอนัตตา และเท่าที่ผมอ่านๆมาหลายที่ ท่านผู้รู้หลายท่านที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฏกก็ยังกล่าวว่า สุดท้ายแล้วแม้แต่นิพพานก็เป็นอนัตตา

นิพพานเป็นอนัตตานั้นน่าจะหมายถึง สูญสิ้นจากกิเลสทั้งปวงมากกว่านะคะ แต่จะยังคงเหลือไว้แต่ดวงจิตที่บริสุทธิ์

ปราศจากขันธ์ 5 ร่างกายของเรา ปราศจากทุกข์ทั้งปวง 

หากว่านิพพานนั้นมันแปลว่าสูญแม้กระทั่งดวงจิต เราจะทำความดีไปเพื่ออะไรละคะ 

ในเมื่อทำไปแล้วตายไปก็ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดอยู่ดี ก็ไม่พ้นทุกข์อยู่ดี

หรือตายไปแล้วสูญหายไปเลย เราก็ไม่ต้องได้รับกรรมดี กรรมชั่ว แบบนี้คงไม่มีแรงจูงใจที่จะให้คนทำความดีแน่ๆค่ะ

เพราะมันไม่ยุติธรรม มันไม่เข้าข่ายเรื่องกฏแห่งกรรมที่พระพุทธองค์ทรงสอนมาเลยค่ะ

2.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมต้องมีเรื่องการขายเครื่องสำอางด้วยละครับ

รายการนี้ก็เห็นท่านอ.บอกมาตั้งนานและหลายครั้งแล้วเนอะ 

ว่าเป็นรายการขายเครื่องสำอางแต่สอดแทรกธรรมะเข้าไปด้วย

พี่ธนาน่าจะเปลี่ยนคำถามเป็นทำไมรายการถึงสอดแทรกธรรมะเข้าไปด้วย มากกว่านคะ อิอิ

แต่เท่าที่ดูรายการก็จะมุ่งเน้นไปทางธรรมะมากกว่าการขายเครื่องสำอางซะอีกนะคะ

 

เวลาเราทำงานเพื่อเลี้ยงชีพและครอบครัว เราก็ทำเพื่อตัวเรา ครอบครัวเรา ไม่ใช่ผู้อื่น 

 

แต่การประกอบอาชีพของท่านอ.ก็ยังมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้อื่นให้มีดวงตาเห็นธรรม

มากกว่าการที่จะทำเพื่อตัวเองและครอบครัวซะอีก เพราะคิดว่าท่านอ.เป็นเศรษฐีอยู่แล้ว

ไม่จำเป็นต้องมาขายเครื่องสำอางออกทีวี ก็มีเงินใช้แบบสบายๆ 

และในรายการก็ไม่เห็นว่าจะมีสปอนเซอร์เลยค่ะ ไม่เห็นท่านอ.มาติดป้ายโฆษณา

สินค้าอื่นๆนอกเหนือจากที่ขายเลย ยิ่งทำใ้ห้รู้ว่าไม่ได้มุ่งหน้าไปที่การขายจริงๆ

และเครื่องสำอางนั้นก็ไม่ได้ัซื้อกันง่ายๆ ไหนจะต้องมาอ่านคู่มือให้ครบ 9 รอบ

เพราะคู่มือนั้นบ่งบอกถึงการขาย และประโยชน์ที่ผู้ซื้อจะได้รับ

และสาเหตุของการเกิดปัญหาของผิวหน้าไว้อย่างชัดเจน ซึ่งทำใ้ห้รู้เลยว่า

เน้นผลประโยชน์มาที่ผู้ซื้อล้วนๆ 

3.สิ่งที่บ้านสวนพีระมิดทำๆอยู่นี่ เช่น ออกไปสารภาพบาปแล้วหายทันที และโดยรวมทั้งหมดแล้วใช่ศาสนาพุทธหรือเปล่า

ส่วนตัวคิดว่าใช่ศาสนาพุทธนะคะ  เป็นการดับเหตุมากกว่าค่ะ ดังคำสอนพระพุทธเจ้าที่บอกว่า เหตุดับ ผลก็ดับ เพราะการที่เรามาสารภาพบาป

 

นั่นก็แปลว่าเรารู้เหตุแล้วว่าสิ่งที่ทำให้เราทุกข์นั้นเกิดจากอะำไร ในเมื่อเรายอมรับและสำนึกผิดว่าจะไม่ทำอีก

ก็เหมือนการดับต้นเหตุของเรื่อง ผลนั้นก็จะดับตามเมื่อเราไม่ไปทำสิ่งนั้นอีก

 

4.สรุปแล้วบ้านสวนพีระมิดนี่สอนตรงตามพระพุทธศาสนาหรือเปล่า หรือง่ายๆก็คือ ใช่ศาสนาพุทธหรือไม่ หรือผมควรเรียกว่าอะไรดีครับ สรุปว่า

-พีระมิด และ

-องค์เทพสฟิงซ์

เกี่ยวอะไรกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ ทำไมท่านอาจารย์ถึงได้นำมาให้ผู้คนได้รู้จัก ทั้งๆที่ท่านอาจารย์เป็นชาวพุทธ

พระพุทธเจ้าท่านก็เคารพศาสดาของทุกศาสนา และไม่ได้แบ่งแยกเลยว่าของสิ่งนี้เป็นของศาสนาพุทธ ของสิ่งนี้เป็นของศาสนาอิสลาม

แต่พระพุทธเจ้าท่านให้เรารู้จักเคารพทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสิ่งดีงาม โดยไม่ต้องคำนึงถึง และแบ่งแยกว่าเป็นของศาสนาอะไร 

ก็อย่างที่ท่านอ.เคยบอกไปว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้านำมาสอนเป็นเพียงแค่์ใบไม้กอบกำเดียวเท่านั้น เพราะฉนั้นสิ่งอื่นๆที่พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงตรัสไว้

ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นไม่ดี ไม่ควรนำมาเคารพบูชา แต่เราควรใช้ใจเราแยกแยะพิจารณาเองมากกว่า ว่าสิ่งไหนสมควรแก่การเคารพบูชา

เราก็ควรศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเราเอง อย่าเพิ่งไปด่วนตัดสินใจว่าของสิ่ง้้นี้ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เพราะหากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีจริง มันจะเป็นการปิดกั้นตัวเราเอง

ให้พบสิ่งดีๆ

เรื่องพีระมิดจริงๆเท่าที่เห็นก็มีหลายประเทศนะคะ ที่มีพีระมิด แต่ที่ดังที่สุดน่าจะเป็นอียิปต์ หากมาคิดในมุมมองแบบคนโง่ๆเราน่าจะคิดว่าถ้าพีระมิดไม่ดีจริง ทำไมหลายๆประเทศต้องสร้างขึ้นมา และอีกอย่างพีระมิดก็ได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์มาแล้วว่า
จะช่วยดึงดูดพลังงานดีๆ สิ่งที่ดีเข้าหาตัวเรา และเป็นตัวช่วยขยาย ทำบุญมากก็ได้บุญมากขึ้นหลายเท่า ทำบาปมากก็ได้บาปปมากขึ้นหลายเท่าเช่นกัน

ซึ่งหนูคิดว่ามันเป็นอะไรที่ยุติธรรมเหมือนกฏแห่งกรรมเลยค่ะ 

ว่าแล้วก็สงสัยเหมือนกันนะคะว่า หากเราคิดว่าพีระมิดเป็นของอียิปต์

พอเราไปบูชาพีระมิด ก็หาว่าเราไม่นับถือศาสนาพุทธ ต่างๆนาๆ

แล้วทำไมไม่เห็นมีคนมาสงสัยเรื่องภาษาอังกฤษเลยละคะ

ในเมื่อภาษาอังกฤษเป็นของฝรั่ง แต่คนไทยก็เรียนรู้ที่จะพูดภาษาอังกฤษให้ได้

ทั้งๆที่มันเป็นของฝรั่ง 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 14:18:26


ความคิดเห็นที่ 6982 (1621976)

 

สุดท้ายแล้ว แม้แต่นิพพาน เป็นอนัตตา  หากถึงนิพพานแล้ว  คือหมดแล้วไม่มีเหลือ

พระพุทธองค์ ทรงดับขันร์เสด็จสู่พระนิพพานแล้ว นั้นหมายถึง พระพุทธองค์ ก็น่าจะไม่สามารถเสด็จลงมาช่วยคนได้

แล้วทําไมท่าน อาจารย์อุบล ถึงได้ประกาศปาวๆ ว่าติดต่อกับพระพุทธองค์ได้ บางทีก็บอกว่า พระพุทธองค์เสด็จมาพร้อมกันหมดทุกพระองค์

ขอแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ หากมีข้อผิดพลาดประการใด กราบขอขมา และขอรับผิดค่ะ  ขออนุโมทนาบุญ คุณธนาด้วยค่ะ

 จิตที่ปฎิบัติจนสะอาด บริสุทธิ์ ไม่มีตัวตน ไม่มีขันร์ห้า หมดทุกข์จากกิเลสโดยสิ้นเชิง เรียกว่าจบวิชาพระพุทธเจ้า ไม่ต้องเกิดอีกต่อไป นิพพานเป็น อนัตตา คือ ความว่าง ว่างจากจากทุกข์ ทั้งปวง แต่สิ่งที่อยู่ใน นิพพาน คือความสุข บรมสุข จิตที่เข้านิพพาน มีแต่ความเมตตา สงเคราะห์  ยกตัวอย่าง เวลานั่งสมาธิ ขอบารมี พระพุทธเจ้า เราก็สัมผัสพระองค์ท่านได้  จะเห็นเบื่องบน พระองค์ท่าน มีความรัก ความเมตตาต่อเรา ที่ปราศจากเงื่อนไข แล้วที่พระองค์ท่าน คอยดูแลคุ้มครอง ชี้ทางให้ผู้คน พ้นทุกข์ สู่หนทางแห่งความสงบสุข คิดว่า ความบริสุทธิ์ของจิต เป็นสิ่งที่อยู่ เหนือธรรมชาติ เหนือโลก  ดั่งที่หลวงปู่เสงี่ยม ท่านเคยบอกว่า เมื่อกายท่านดับแล้ว ท่านอยู่ข้างบน ท่านช่วยลูกหลานได้ง่ายก่วา สิ่งที่ท่าน บอก อาจจะหมายถึง ทั้งบุญฦทธิ์ อิทธิฦทธิ์ และอนุสาสนีย์ ปราฎิหารย์ ที่เราได้เห็น กันมาแล้วมากมาย หลายรูปแบบ ในบ้านสวนพีระมิด  กราบขอความเมตตา จากท่าน อาจารย์ อุบล ช่วยชี้แนะ  อธิบาย ให้ความกระจ่าง แกลูกๆด้วยเถิด เจ้าค่ะ     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 14:31:43


ความคิดเห็นที่ 6983 (1621983)

พ่อใหญ่ธนา  สมเป็นยอดขุนพล

หัวหน้าชั้นศิษย์บ้านสวนฯจริงๆ ค่ะ

ความงดงามจิตใจ

ที่ท่าน อ.อุบลชมเชย พี่สรขอ

ร่วมจิตอนุโมทนาบุญในความจริงใจ

ที่มีต่อพี่น้องบ้านสวนฯด้วยค่ะ สาธุ

-*-*-*-*-*-*-*-

ขอ โมทนาสาธุ..สาธุ..สาธุ

ด้วยความจริงใจ

อยากบอกว่า น้องชายเรา

สวด.ด.ด. ยอดอ่ะค่ะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

 

 

เพราะตลอดเวลาคุณธนา

รับใช้บ้านสวนฯทั้งกายใจ ศรัทธาอาจารย์อุบล

เกินร้อย

เวลาเมตตาอธิบายคนบรมโง่

อย่างพี่สรคุณธนาไม่เคยแสดงความ

เบื่อรำคาญให้พี่ใจเสียเลยค่ะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

เห็นด้วยกับพี่สรเลยค่ะ

เพราะ บุคคลที่เขามาบ้านสวนฯ

ที่ทั้ง บรมโง่  โง่

โง่จริง  แกล้งโง่

โง่ซ้ำ โง่ซ้อน โง่ซ่อนเงื่อน

โอ้ย เยอะ หลากหลาย

แต่ประเภทที่ คุณธนา

 เบื่อนะ แต่ไม่แสดงออก..นี่น่ะ

น่าจะเป็นประเภท

แกล้งโง่ ซ้ำซ้อน...โง่ซ่อนเงื่อนอ่ะจร๊า55++

( คุณธนา รู้นะแต่ไม่แสดงออกอีกแหละ )

แต่ถึงอย่างไรนะคะ

ก็ต้องกราบเท้าขอบพระคุณ

ท่านเจ้าของบ้านสวนพิรามิด

ที่ท่านเมตตา สุด สุด

ที่เปิดบ้าน..ให้พวกโง่ ๆๆๆๆ

ทั้งจริง และ ปลอม

เข้ามาศึกษาและ เรียนรู้

ซึ่งกัน และกัน

เรียกว่า ไม่ขาดสายเลยทีเดียวค่ะ

ไม่ต้องกลัวนะคะพี่สร

มีเพื่อนโง่ ๆ เยอะ

แต่จะจัดประเภทให้กับ

ตัวเราเองว่า

อยู่ในประเภทไหนเท่านั้น

โง่จริง

แกล้งโง่

หรือ

โง่ซ้ำ โง่ซ้อน โง่ซ่อนเงื่อน

อ่ะค่ะ....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 15:14:04


ความคิดเห็นที่ 6984 (1622002)

 

ขออนุโมทนา

กับความคิดเห็นที่

ตอบคำถามของพี่ธนาด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

เวลาเกดเล่าเรื่อง

อ.อุบลบ้านสวนพีระมิดให้

คนอื่นๆ ฟัง บางทีเค้าถามคำถาม

พวกนี้มา เกดก็ตอบไม่ค่อยถูกใจเค้าบ้าง

ไม่ตอบบ้าง เพราะยังง่วงอยู่ค่ะ  บอกแต่ให้เค้า

ไปดูรายการอย่างเดียว พอได้คำตอบจากอ.แม่ และพี่ๆ น้องๆ

ก็กระจ่างขึ้นมาทีเดียวค่ะ  สาธุ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนา

กับคุณณัฐฐาพรและพี่จ๋าว

ด้วยค่ะที่แปลให้คนง่วงๆ อย่างเกด

ได้อ่าน อ้อ! เล่าให้พี่ชนิดาฟัง เอ้ย! อ่านก่อน

ที่โรงพยาบาลที่เกดคลอดวันนั้น (5/5/55) เกดใช้

รหัสอ.อุบลช่วยด้วยตลอด ผลออกมาก็คือวันนั้น

มีคนคลอด 5 คน เป็น ญ 4 ช 1 ผู้หญิง 4 คน

เข้าตู้อบหมดเลย มีผู้ชายคนเดียวที่

สมบูรณ์ หนัก 3.59 ก.ก

ผู้ชายคนนั้น

ก็คือ

ลูกชายของเกดเองค๊า

ลูกขอกราบพระบาท

เทวดาบ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

รวมถึงอ.อุบล ที่เมตตาลูกมาตลอดเจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 17:24:29


ความคิดเห็นที่ 6985 (1622025)

จริงค่ะ พี่สร พี่แมว พูดถึงเรื่องโง่  อรขอยก 2มือ เลยค่ะ โง่ซํ้าซ้อน แถมซ่อนความโง่ไม่ให้ใครเห็น  แบบว่าอวดฉลาดอ่ะ

ต่อนะคะ

2.ในรายการคุยไปแจกไป ทำไมต้องมีเรื่องการขายเครื่องสำอางด้วยละครับ

..........................................................

ที่จริง ท่าน อาจารย์ ทําธุระกิจ ขายเครื่องสําอางพาเมล่าอยู่แล้ว ท่านต้องซื้อเวลาของสถานี เพื่อทําโฆษนาสินค้า แต่ท่านก็เป็นผู้ให้ น้อมนําธรรมะอันงดงาม ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเผยแพร่ในรายการของท่าน มากก่วา อย่างที่พวกเราได้เห็นกันจนทุกวันนี้ โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องการขายของ แต่อย่างใด  ท่านอาจารย์สร้างเหตุไว้ดีแล้ว  ผลที่ได้คือทุกวันนี้ ท่านไม่ต้องโฆษนาให้คนมาซื้อ ไม่ชวนใครซื้อ ผู้ที่ใช้ผลิตภัน ของท่าน จะมาบอกเล่า กันเอง ว่าดีอย่างไร ผู้ที่ใช้จริงเท่านั้นจะรู้เอง

3.สิ่งที่บ้านสวนพีระมิดทำๆอยู่นี่ เช่น ออกไปสารภาพบาปแล้วหายทันที และโดยรวมทั้งหมดแล้วใช่ศาสนาพุทธหรือเปล่า

 อันนี้เกี่ยวข้องโดยตรงแน่นอน  องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ท่านทรงตรัสไว้ว่า

ทุกสิ่ง เกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับ ท่าน อาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด ท่านเป็นผู้บอกเหตุ แห่งทุกข์ให้กับทุกคน  แล้วท่านก็เมตตา ดับเหตุ แห่งทุกข์นั้นให้กับทุกคน เพื่อหยุดยั่งการประกอปกรรม ด้วย อนุสาสนีย์ปราฎิหารย์ ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันทันที

 

4.สรุปแล้วบ้านสวนพีระมิดนี่สอนตรงตามพระพุทธศาสนาหรือเปล่า หรือง่ายๆก็คือ ใช่ศาสนาพุทธหรือไม่ หรือผมควรเรียกว่าอะไรดีครับ สรุปว่า

-พีระมิด และ

-องค์เทพสฟิงซ์

เกี่ยวอะไรกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ ทำไมท่านอาจารย์ถึงได้นำมาให้ผู้คนได้รู้จัก ทั้งๆที่ท่านอาจารย์เป็นชาวพุทธ

ท่านอาจารย์เมตตาบอกพวกเราว่า ศาสดา ของทุกศสนา ท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะทุกศสนาสอนให้เราเป็นคนดี กฎแห่งกรรมไม่เคยแบ่งแยก  ตรงตัวที่สุด ยุติธรรมที่สุด มนุษย์ ต่างหากที่มาแบ่งแยก กันเอง

พีระมิด เป็นอันหนึ่งของจักราวล เปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ ที่ทุกชีวิตต้องอาศัย ใช้ประโยชน์ เท่าเทียมกัน

องค์เทพสฟิงซ์  ท่านเป็นเทพแห่งจักวาล ทุกคนสามารถ เคารพศรัทธา ได้โดยไม่ต้องแบ่งแยก ว่าเป็นของศาสนาใด สิ่งศักสิทธิ์ เบื่องบน ทุกพระองค์ เป็นอันหนึ่ง อันเดียวกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 19:59:00


ความคิดเห็นที่ 6986 (1622029)

"รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย"

คงเป็นเพราะคนทั้งโลกจะมีศาสนาของตน

ที่ตนศรัทธา ถ้าเป็นชื่อพระพุทธองค์

คนที่นับถือศาสนาอื่นคงไม่เปิดจิตรับ

พระพุทธองค์ต้องการช่วยคนทั้งโลก

และอีกอย่าง คนทั้งโลกก็จะได้รู้จัก อาจารย์อุบล

อย่างไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไป

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น (kiattisp-at-scg-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 21:20:04


ความคิดเห็นที่ 6987 (1622035)

 เคยได้ยินแค้โง่แล้วอวดฉลาด

แต่ฉลาดแล้วแกล้งโง่ นี่นะคุณแมว ยังไงก็ไม่ใช่ อ.อุบล แน่นอน

อ.อุบล โง่ขนานแท้ โง่ได้ทนทานถาวร ไม่งั้นคงไม่มีใครคิดมาหลอก ซ้ำซากหรอก

เจอมาหมดแล้ว ทั้งแปดเหลี่ยม สิบสองคม กลมเหมือนมะนาว กลิ้งได้ด้วย ก็เจอมาหมดแล้ว

แต่ไม่เคยเข็ด ไม่เคยจำ (สงสัยความจำไม่ดี)

สิ่งที่รับประกัน และหลักฐาน ยืนยันว่า อ.อุบล โง่จริงก็คือ ถ้าไม่โง่นะ ไปนิพพานแล้ว (นิพพานคือพ้นทุกข์ทั้งปวงในชาตินี้ เดี๋ยวนี้)

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 22:04:10


ความคิดเห็นที่ 6988 (1622039)

ความเห็นที่ 6987 (1622035)
แจ้งลบความคิดเห็น

เคยได้ยินแค้โง่แล้วอวดฉลาด

แต่ฉลาดแล้วแกล้งโง่

นี่นะคุณแมว ยังไงก็ไม่ใช่

อ.อุบล แน่นอน

อ.อุบล โง่ขนานแท้

โง่ได้ทนทานถาวร

ไม่งั้นคงไม่มีใครคิดมาหลอก

ซ้ำซากหรอก

เจอมาหมดแล้ว

ทั้งแปดเหลี่ยม

สิบสองคม

กลมเหมือนมะนาว

กลิ้งได้ด้วย

ก็เจอมาหมดแล้ว

แต่ไม่เคยเข็ด

ไม่เคยจำ (สงสัยความจำไม่ดี)

สิ่งที่รับประกัน และหลักฐาน

ยืนยันว่า อ.อุบล โง่จริงก็คือ

ถ้าไม่โง่นะ

ไปนิพพานแล้ว

(นิพพานคือพ้นทุกข์ทั้งปวงในชาตินี้ เดี๋ยวนี้)

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 22:04:10

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 22:29:33


ความคิดเห็นที่ 6989 (1622047)

แต่ประเภทที่ คุณธนา

เบื่อนะ แต่ไม่แสดงออก..นี่น่ะ

...........................

ข้อนี้ก็ใช่อีกค่ะคุณน้องแมว

ความอดทนของพ่อใหญ่สูงมากค่ะ

.....................................................................

 ไม่ต้องกลัวนะคะพี่สร

 มีเพื่อนโง่ ๆ เยอะ

 แต่จะจัดประเภทให้กับ

 ตัวเราเองว่า

 อยู่ในประเภทไหนเท่านั้น

........................................................

น้องแมวก็เช่นกันยกให้เป็นแม่หญิงที่ใจกล้า

อีกคนซึ่งทุกคนศรัทธาอาจารย์

กันทั้งนั้นแต่จะให้กล้าคิด กล้าพูด กล้าเตือน

ในสิ่งที่ควรแบบตรงไปตรงมา

ธรรมทานแต่ประโยคของน้องแมว

เคาะหัวหงอกพี่สรได้เยี่ยมเลยค่ะ

จัดประเภทคนโง่ได้เจ๋งจริง ๆ ค่ะ

 คิดได้ไงคะน้องคุณน้อง

(ต้องแท๊งกิ้วด้วย.................เย็น ๆ นะคะ) 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 23:07:33


ความคิดเห็นที่ 6990 (1622054)

ธรรมทานแต่ประโยคของน้องแมว

เคาะหัวหงอกพี่สรได้เยี่ยมเลยค่ะ

จัดประเภทคนโง่ได้เจ๋งจริง ๆ ค่ะ

 คิดได้ไงคะน้องคุณน้อง

(ต้องแท๊งกิ้วด้วย.................เย็น ๆ นะคะ)

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ต้อง แท๊งกิ๊วพี่สรเช่นกัลล์...คร๊า

สำหรับแมวแล้ว ..เย็นแน่นอนจร๊า

แต่ไม่ใช่

เลือดเย็น  ละกัลล์..555++

Like & Share

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-31 23:56:13


ความคิดเห็นที่ 6991 (1622056)

เคยได้ยินแค้โง่แล้วอวดฉลาด

แต่ฉลาดแล้วแกล้งโง่

นี่นะคุณแมว ยังไงก็ไม่ใช่

อ.อุบล แน่นอน

อ.อุบล โง่ขนานแท้

โง่ได้ทนทานถาวร

ไม่งั้นคงไม่มีใครคิดมาหลอก

ซ้ำซากหรอก

-*-*-*-*-*-*-*-*-

เป็นแต่ก่อน แมวก็ไม่เคยคิด

ว่ามีนะคะ

คนที่ฉลาด แล้วแกล้งโง่นี่นะ

เอ..หรือว่า

คนที่เข้ามาคิดหลอกอาจารย์

หรือ ใคร ต่อ ใครในบ้านสวนฯ

ฉลาดตื้น ๆ แต่โง่ลึก.ก.ก.คะ

แมวเห็น หน้าหงาย หน้าคว่ำ

ล้มไม่เป็นท่า

มานักต่อนักแว้ว.ว.ว.

พวกที่ฉลาดแล้วแกล้งโง่เนี่ยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 00:03:59


ความคิดเห็นที่ 6992 (1622057)

 ต้องขอบคุณ คุณแมว ที่ได้ช่วยชีวิตหลายคนไว้ ให้รอดตาย จากการผิดกฏบ้านสวน

อย่างคุณโชคเป็นต้น ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน คุณโชคบอกว่า ได้มาพร้อมถุงฉี่ ออกจาก ร.พ.แล้วมาเลย มากันทั้งครอบครัวแบบนี้แหละ

แต่มาเจอคุญอัญ ไม่ให้เข้า เพราะไม่ได้ขออนุญาตไว้ เขาบอกว่า ขอแล้ว โทร.มาฝากข้อความไว้เมื่อวานนี้  คุณอัญบอกว่า ไม่ได้ขอ สาม ถึง เจ็ดวัน ไม่ได้

ดูเหมือนว่า คุณอัญถูกกดดันจากคุณอาต น้องชายคุณโชค ด้วยอารมณ์โทสะอย่างแรง จึงร้อนถึงคุณแมว หนูอัญไม่รู้จะทำยังไง เมื่อเจอนักเลง ข่มขู่ จะพบ อ.อุบล ให้ได้

นี่ขนาดแกโดนซะสะบักสะบอมทั้งครอบครัว เรื่องผิดกฏ แกก็ยังไมเข็ด ยังต้องการใช้อิทธิพล แบบผิดๆ เข้าพบ อ.อุบล ให้ได้อีก ในที่สุดต้องไปตามคุณแมวมาตัดสิน

คุณแมวไม่ให้เข้าพบ จึงโกรธคุณแมว อย่างแรง ใช้วาจาระรานคุณแมว ด้วยอารมณ์โกรธ เคืองกลับไป  แต่ส่วนนี้ คุณอาตไม่ยอมเล่า  แล้วคุณโชคก็พูดแต่ว่า บ้านสวนไม่มีเมตตากับครอบครัวแก ทั้งที่แกพึ่งออกจาก ร.พ. วันนั้น อ.อุบล ได้ถามว่า ถ้าคุณอัญกับ คุณแมวให้คุณเข้ามาได้วันนั้น คุณคิดว่า คุณจะเป็นยังไง แกก็บอกว่าแกคงไม่รอด อาจถึงขั้นเสียชีวิต  แล้วคุณอัญ กับ คุณแมว ผู้อนุญาต ก็ต้องโดนด้วย  ในส่วนที่คุณอัญกับคุณแมว จะโดนอะไร คิดว่า แกไม่สนใจหรอก เพราะไม่ใช่ตัวแก แต่แกสนใจแต่่ว่า อย่าให้เป็นตัวแกก็แล้วกัน  ซึ่ง อ.อุบล รู้ดีอยู่แล้วว่า กฎแห่งกรรมยุติธรรมที่สุด ตัวคุณอาต กับคุณโชคนั่นแหละที่ต้องได้รับเคราะห์ แต่แกพยายามจะให้คุณแมวอนุญาตให้ได้ แกคงคิดว่า ถ้าคุณแมวอนุญาต แกจะไม่ผิด คุณแมวก็ผิดเอง ซวยไป แต่แกได้พบ อ.อุบล แกคิดอย่างนี้

เมื่อมาดูหน้าที่ของคุณแมว คุณธนา ที่มาช่วยงาน อ.อุบล ตรงนี้ ถือว่าเป็นหนังหน้าไฟ ที่มีแรงเสียดทาน และกดดัน จากคนที่ไม่สมประโยชน์ ด้วยการรักษาชีวิตและประโยชน์ให้เขา โดยที่เขาไม่เคยรู้ตัว  ดังนั้น อ.อุบล จึงต้องขอประกาศ ณ เวลานี้เลยว่า นับแต่นี้ต่อไป ใครที่ต้องการเข้าบ้านสวนอย่างผิดกฏ ให้เขาทำไปตามสบาย คุณแมว คุณธนาไม่ต้องห้าม แค่ทำหน้าที่รับแจ้งแทน และบอกให้้รู้ว่า คุณต้องรับผิดชอบในผลที่จะเกิดขึ้นเอง ถ้าเขาถามว่า ได้หรือไม่ได้ ให้เขาคิดแอง ถ้าเขาถามว่า ถูกหรือผิด ก็ให้ตอบตาความจริงที่เรารู้ ส่วนใครจะเชื่อไม่เชื่อ ถือว่าหมดหน้าที่คุณมว กับคุณธนา ให้เขาเจอเอง ไม่ต้องเอาตัวไปขวางกรรมใครอีกต่อไป

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 00:12:29


ความคิดเห็นที่ 6993 (1622058)

ความเห็นที่ 6992 (1622057)
แจ้งลบความคิดเห็น

 

 ต้องขอบคุณ คุณแมว ที่ได้ช่วยชีวิตหลายคนไว้ ให้รอดตาย จากการผิดกฏบ้านสวน

 

อย่างคุณโชคเป็นต้น ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน คุณโชคบอกว่า ได้มาพร้อมถุงฉี่ ออกจาก ร.พ.แล้วมาเลย มากันทั้งครอบครัวแบบนี้แหละ

 

แต่มาเจอคุญอัญ ไม่ให้เข้า เพราะไม่ได้ขออนุญาตไว้ เขาบอกว่า ขอแล้ว โทร.มาฝากข้อความไว้เมื่อวานนี้  คุณอัญบอกว่า ไม่ได้ขอ สาม ถึง เจ็ดวัน ไม่ได้

 

ดูเหมือนว่า คุณอัญถูกกดดันจากคุณอาต น้องชายคุณโชค ด้วยอารมณ์โทสะอย่างแรง จึงร้อนถึงคุณแมว หนูอัญไม่รู้จะทำยังไง เมื่อเจอนักเลง ข่มขู่ จะพบ อ.อุบล ให้ได้

 

นี่ขนาดแกโดนซะสะบักสะบอมทั้งครอบครัว เรื่องผิดกฏ แกก็ยังไมเข็ด ยังต้องการใช้อิทธิพล แบบผิดๆ เข้าพบ อ.อุบล ให้ได้อีก ในที่สุดต้องไปตามคุณแมวมาตัดสิน

 

คุณแมวไม่ให้เข้าพบ จึงโกรธคุณแมว อย่างแรง ใช้วาจาระรานคุณแมว ด้วยอารมณ์โกรธ เคืองกลับไป  แต่ส่วนนี้ คุณอาตไม่ยอมเล่า  แล้วคุณโชคก็พูดแต่ว่า บ้านสวนไม่มีเมตตากับครอบครัวแก ทั้งที่แกพึ่งออกจาก ร.พ. วันนั้น อ.อุบล ได้ถามว่า ถ้าคุณอัญกับ คุณแมวให้คุณเข้ามาได้วันนั้น คุณคิดว่า คุณจะเป็นยังไง แกก็บอกว่าแกคงไม่รอด อาจถึงขั้นเสียชีวิต  แล้วคุณอัญ กับ คุณแมว ผู้อนุญาต ก็ต้องโดนด้วย  ในส่วนที่คุณอัญกับคุณแมว จะโดนอะไร คิดว่า แกไม่สนใจหรอก เพราะไม่ใช่ตัวแก แต่แกสนใจแต่่ว่า อย่าให้เป็นตัวแกก็แล้วกัน  ซึ่ง อ.อุบล รู้ดีอยู่แล้วว่า กฎแห่งกรรมยุติธรรมที่สุด ตัวคุณอาต กับคุณโชคนั่นแหละที่ต้องได้รับเคราะห์ แต่แกพยายามจะให้คุณแมวอนุญาตให้ได้ แกคงคิดว่า ถ้าคุณแมวอนุญาต แกจะไม่ผิด คุณแมวก็ผิดเอง ซวยไป แต่แกได้พบ อ.อุบล แกคิดอย่างนี้

เมื่อมาดูหน้าที่ของคุณแมว คุณธนา ที่มาช่วยงาน อ.อุบล ตรงนี้ ถือว่าเป็นหนังหน้าไฟ ที่มีแรงเสียดทาน และกดดัน จากคนที่ไม่สมประโยชน์ ด้วยการรักษาชีวิตและประโยชน์ให้เขา โดยที่เขาไม่เคยรู้ตัว  ดังนั้น อ.อุบล จึงต้องขอประกาศ ณ เวลานี้เลยว่า นับแต่นี้ต่อไป ใครที่ต้องการเข้าบ้านสวนอย่างผิดกฏ ให้เขาทำไปตามสบาย คุณแมว คุณธนาไม่ต้องห้าม แค่ทำหน้าที่รับแจ้งแทน และบอกให้้รู้ว่า คุณต้องรับผิดชอบในผลที่จะเกิดขึ้นเอง ถ้าเขาถามว่า ได้หรือไม่ได้ ให้เขาคิดแอง ถ้าเขาถามว่า ถูกหรือผิด ก็ให้ตอบตาความจริงที่เรารู้ ส่วนใครจะเชื่อไม่เชื่อ ถือว่าหมดหน้าที่คุณแมว กับคุณธนา ให้เขาเจอเอง ไม่ต้องเอาตัวไปขวางกรรมใครอีกต่อไป 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 00:12:29

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 00:21:02


ความคิดเห็นที่ 6994 (1622063)

ต้องขอบคุณ คุณแมว ที่ได้ช่วยชีวิตหลายคนไว้

 ให้รอดตาย จากการผิดกฏบ้านสวน

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

แมวต่างหากคะอาจารย์

ที่ต้องขอบพระคุณอาจารย์อย่างที่สุด

ที่ทำให้แมวได้รู้จัก

รักคนอื่น

ให้เหมือนกับที่รัก ตัวเรา

ทำให้รู้จัก

รักให้เป็น...คือ

รักษ์ศิล ... ชีวิตมีสุข

Good Night & Good Dream

นะคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 00:54:31


ความคิดเห็นที่ 6995 (1622065)

 กรณีครอบครัวคุณโชคนี่นะ

ได้ธรรมทานครบทุกรส สดทุกเรื่อง ได้ทั้งสาระ ความบันเทิง เนื่องจากคุณอาต แกเป็นคนตลก หน้าตาย เรียกเสียงฮาได้ตลอด 

แล้ว เรื่องที่แกมีอาการเหมือนมีเหล็กเสียงแทงตั้้งแต่ปาก ส่วนคาง ถึงกราม มีเสียงดังก๊อกแก๊ก เวลาขยับปาก หูมีเสียงดัง ปึ๊ง ปึ๊ง อยู่ตลอด

เจ็บปวดเส้นหัวซีกขวา ผ่านคอ มาบ่า ปวดร้าว เหมือนน้ำจะหมดแก้ว แล้วใช้หลอดดูด มีเสียงอย่างนั้นเลย หลังขอขมาแล้ว ก็ไม่ได้หายทั้งหมด

อ.อุบล ยังไม่ได้บอกแก ว่าทำไมยังไม่หายหมด เพราะแกก็ไม่ยอมบอกความจริง อ.อุบล บางอย่างที่แกทำไว้กับบ้านสวน ซึ่ง ทั้งพี่ ทั้งน้องคู้นี้

คือหนุ่มอาต กับหนุ่มโชค ต่างก็ยังมีสิ่งที่ปิดบังไว้อีก ส่วนของคุณอาต ที่ปากยังไมหายสนิท เพราะผลกรรม ที่ได้พูดจา ก้าวร้าว กับคุณอัญ และคุณแมว

ซึ่ง อ.อุบล ได้บอกคุณแมวไว้แล้ว ว่ายังไงก็ไม่หาย ถ้าไม่ขอขมาคุณแมว กับคุณอัญ คุณแมวบอกไม่เอาค่ะ  คือว่าไม่อยากให้คุณอาตมาขอขมา  นั่นเท่ากับว่า

คุณอาตแกต้องใช้กรรมต่อไป เวลาขยับปากแรงๆ   นี่ถ้าแกรู้ตั้งแต่แรกว่า ที่แกคิดไม่ดี และพูดไม่ดี กับคุณอัญและคุณแมว แล้วแกต้องมาเป็นอย่างนี้

แถมกลับไป ขายของไม่ได้อีกด้วย แกก็คงไม่ทำ แต่ที่แกทำไป ก็คงเพราะนิสัยเคยชิน คือเป็นคนพูดมาก อย่างที่แม่แกว่า พูดให้น้อยๆ ทำงานให้มากๆหน่อยนะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 01:18:17


ความคิดเห็นที่ 6996 (1622072)

 

ความเห็นที่ 6995 (1622065)
แจ้งลบความคิดเห็น

 กรณีครอบครัวคุณโชคนี่นะ

ได้ธรรมทานครบทุกรส สดทุกเรื่อง ได้ทั้งสาระ ความบันเทิง เนื่องจากคุณอาต แกเป็นคนตลก หน้าตาย เรียกเสียงฮาได้ตลอด 

แล้ว เรื่องที่แกมีอาการเหมือนมีเหล็กเสียงแทงตั้้งแต่ปาก ส่วนคาง ถึงกราม มีเสียงดังก๊อกแก๊ก เวลาขยับปาก หูมีเสียงดัง ปึ๊ง ปึ๊ง อยู่ตลอด

เจ็บปวดเส้นหัวซีกขวา ผ่านคอ มาบ่า ปวดร้าว เหมือนน้ำจะหมดแก้ว แล้วใช้หลอดดูด มีเสียงอย่างนั้นเลย หลังขอขมาแล้ว ก็ไม่ได้หายทั้งหมด

อ.อุบล ยังไม่ได้บอกแก ว่าทำไมยังไม่หายหมด เพราะแกก็ไม่ยอมบอกความจริง อ.อุบล บางอย่างที่แกทำไว้กับบ้านสวน ซึ่ง ทั้งพี่ ทั้งน้องคู้นี้

คือหนุ่มอาต กับหนุ่มโชค ต่างก็ยังมีสิ่งที่ปิดบังไว้อีก ส่วนของคุณอาต ที่ปากยังไมหายสนิท เพราะผลกรรม ที่ได้พูดจา ก้าวร้าว กับคุณอัญ และคุณแมว

ซึ่ง อ.อุบล ได้บอกคุณแมวไว้แล้ว ว่ายังไงก็ไม่หาย ถ้าไม่ขอขมาคุณแมว กับคุณอัญ คุณแมวบอกไม่เอาค่ะ  คือว่าไม่อยากให้คุณอาตมาขอขมา  นั่นเท่ากับว่า

คุณอาตแกต้องใช้กรรมต่อไป เวลาขยับปากแรงๆ   นี่ถ้าแกรู้ตั้งแต่แรกว่า ที่แกคิดไม่ดี และพูดไม่ดี กับคุณอัญและคุณแมว แล้วแกต้องมาเป็นอย่างนี้

แถมกลับไป ขายของไม่ได้อีกด้วย แกก็คงไม่ทำ แต่ที่แกทำไป ก็คงเพราะนิสัยเคยชิน คือเป็นคนพูดมาก อย่างที่แม่แกว่า พูดให้น้อยๆ ทำงานให้มากๆหน่อยนะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 01:18:17

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 03:51:54


ความคิดเห็นที่ 6997 (1622076)

 

ต้องขอบคุณ คุณแมว ที่ได้ช่วยชีวิตหลายคนไว้

 ให้รอดตาย จากการผิดกฏบ้านสวน

*****************************************************

ขอบคุณคุณแมวด้วยคะ 

ที่คอยให้คำชี้แนะและเต็มใจตอบทุกๆคำถาม

โดยเฉพาะเรื่องการเข้า-ออกบ้านสวน

ถึงแม้ว่าบางครั้งคำถามที่ถามไปจะแฝงไปด้วยความเห็นแก่ตัวของตนเองก็ตาม

 

 

 อนุโมทนาบุญกับความเมตตาที่ท่านอ.มีต่อครอบครัวของคุณโชคคะ

เพราะท่านอ.ได้ชี้แจ้งกรรมที่ยังคงติดค้างกับครอบครัวนี้อยู่

และหวังว่าคุณอาตจะได้อ่านเจอข้อความของท่านอ.เพื่อที่จะได้หลุดพ้นกรรม

และนำคำชี้แนะของท่านอ$.ไปปรับปรุงตนเองด้วยคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 04:27:56


ความคิดเห็นที่ 6998 (1622084)

อ.อุบล ยังไม่ได้บอกแก

ว่าทำไมยังไม่หายหมด

เพราะแกก็ไม่ยอมบอก

ความจริง อ.อุบล บางอย่าง

ที่แกทำไว้กับบ้านสวน

ซึ่ง ทั้งพี่ ทั้งน้องคู่นี้

 

คือ หนุ่มอาต กับหนุ่มโชค

ต่างก็ยังมีสิ่งที่ปิดบังไว้อีก

ส่วนของคุณอาต

ที่ปากยังไม่หายสนิท

เพราะผลกรรม ที่ได้พูดจา ก้าวร้าว

กับคุณอัญ และคุณแมว

...............................

กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

ที่เมตตามาเตือนถึงบาปกรรม

ที่คุณอาตกับคุณโชคยังค้างอยู่


จะว่าไปนี่เป็นเพียงแค่หนึ่งตัวอย่าง

ของคนที่ตั้งใจทำผิดกฏบ้านสวนฯเท่านั้น

 

แล้วนึกภาพความเป็นจริงทั้งหมด

จะมีกี่สิบ กี่ร้อยคนก็ไม่รู้

ที่เข้ามาทำผิดแบบเนียนๆ

หรือ บางคนก็มาขู่กรรโชก

หรือ บางคนก็มาอ้อนวอน

ขอความเมตตา

 

ทั้งๆที่ บ้านสวนฯมีกฏ กติกา

และมารยาท ที่ตายตัว

แต่ทุกคนก็ยังใช้ความคิด

และความรู้สึกของตัวเองเป็นมาตรฐานอยู่ดี


เฮ้อ แล้วคิดดู ถ้าร้อยคน พันคน ที่เข้าไป

ใช้แต่"มาตรฐาน"ในใจของตัวเองเป็นหลัก

บ้านสวนฯจะปั่นป่วนขนาดไหน 


นี่ขนาดมีหน้าเสื่อระดับพระกาฬ

อย่างคุณแมวและพ่อใหญ่ธนา

มาคอยเตือน คอยช่วยไว้หลายชีวิต

แล้วนะคะเนี่ย 

..............................

โอ้ววว...หนูเกด

ได้ลูกชายที่สมบูรณ์แข็งแรงมากๆ

ทั้งๆที่คุณแม่ก็เป็นสาวชาวมังฯ

..............................................................

อนุโมทนากับทุกๆคำถาม

และคำตอบจากทุกๆท่านด้วยนะคะ

(ตัวเอง เริ่มตอบไม่ทันแย้ววว

งั้น..วันนี้ขออ่านอย่างเดียวแล้วกัลล์)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 07:29:37


ความคิดเห็นที่ 6999 (1622092)

ขอบคุณกรณีศึกษาคนผิดกฏ

อย่าง 2 หนุ่มดูโอ้คุณโชคกะอาต

ที่คุณน้องแมว-น้องอัญมีจิตเมตตา

ขอให้คนที่อยากมาหาท่านอาจารย์อุบล

อ่านธรรมทานของท่านอาจารย์

ซัก 100 จบแล้วทำตามกฏนะคะเพราะเห็นมามาก

คุณป้าของเกสรตายเป็นตัวอย่างมาแล้วค่ะ

คุณป้าศรัทธา อ.อุบลกันจังเลยค่ะ

แต่ที่รู้อยากให้อาจารย์รักษาโรคให้สามี

ตกลงรักอาจารย์หรือมาด้วยความอยากของตน

สำหรับเกสรยังรักไม่จริง

เพราะยังเปลี่ยนตัวเองได้ไม่มาก

แต่ท่านอาจารย์ให้มามากแล้วน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 09:24:02


ความคิดเห็นที่ 7000 (1622093)

ตามพระไตรปิฎกได้มีบัญญัติเรื่องศาสดาทั้งสามพวก

ศาสดาที่ใคร ๆ ทักท้วงไม่ได้  คือ

ศาสดา(ครู) ที่ปฏิบัติได้มรรค  ผล

และสามารถสั่งสอนศิษย์ให้ปฏิบัติตามได้มรรค ผล เช่นเดียวกัน

 

หากผู้ใดทักท้วง จะถือเป็นความผิดและประกอบด้วยโทษ

 

หลักฐานแสดงแล้ว

คือผู้ที่ปรามาส อ.อุบล ปางตายทุกคน

ทุกข์ มาก-น้อย ตามการกระทำ ตามระดับการปรามาส

 

ส่วนผู้ที่ล่วงเกินลูกศิษย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

(ศิษย์ที่เสมือนเป็นพระองค์หนึ่ง)(พระโสดาบันขึ้นไป)

ผู้ล่วงเกินก็จะได้รับทุกข์ตามกำลังการล่วงเกินนั้นเอง

 

ถ้าขอขมาก็หาย  ไม่ขอขมาก็ทุกข์หนักต่อไป

นี่เป็นการแสดง "กฏแห่งกรรม"

ตามหลักวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้(ทันตา)

 

อนุโมทนากับธรรมทานจากครอบครัวคุณโชค

ที่เป็นตัวแทนมาพิสูจน์ กฏแห่งกรรม

พิสูจน์ความจริงของบ้านสวน และบารมีของอ.อุบลคะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 09:29:17



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 [70] 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.