ReadyPlanet.com


ข่าวรายวัน บ้านสวนพีระมิด


ตั้งแต่เดือน ก.พ. 54 เป็นต้นไป

บ้านสวนพีระมิด

จะมี บก.หน้าหยก มารายงาน

ข่าวประจำวัน

ทางเวปไซด์ ให้แฟนคลับได้รับทราบ

ความเคลื่อนไหว ในบ้านสวนพีระมิด (ประเทศไทยจำลอง)

เป็นสถานีข่าว สังคม บันเทิง ศาสนา ดารา สิงห์สาราสัตว์

ใครไปใครมา ตอนนี้สร้างอะไร จะทำบุญยังไง

ใครมาทำบุญ ทำบาป ฯลฯ

แล้วก็เรื่องอัศจรรย์วันละหลายหน ที่อดทน

เก็บไว้เต็มพุง ของ บก.หน้าหยก

อกเกือบแตกตายอยู่แล้ว

อ.อุบล จึงเกริ่นไว้ก่อน นะคะ ขอบอก

(ทำเป็นสถานีข่าว......ซะงั้น)



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-26 17:55:06


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 [73] 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 7201 (1624182)

 ขอถามพ่อใหญ่ หรือใครก็ได้ที่เข้ามาอ่าน

อยากถามว่า
 
1.คนที่ต้องการทำบุญกับ อ.อุบลแล้วถามเบอร์บัญชี กับ อ.อุบลๆ เคยบอกไหม อ.อุบลบอกว่ายังไง
   ท่าน อาจารย์ไม่เคยบอก ให้ไปหาเองในเวป และจะเน้นย้ำเรื่องการการสร้างบุญด้วยแรงกาย มากกว่าเงินเพราะเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์ที่สุด มีแรงเท่าไหร่ใส่ให้เต็มกำลัง 
 
2.คนที่ต้องการซื้อของทุกอย่างของ อ.อุบลซื้อได้ง่ายๆไหม โทร.มาหา หรือมาหา อ.ซื้อได้ไหมอ.ตอบว่าอย่างไร  
  จะซื้อของท่าน อ.อุบล ไม่ได้ซื้อได้ง่าย ๆ เลย เช่น อยากซื้อเครื่องสำอางค์พาเมล่า ไม่ว่าจะโทรมา หรือ มาหาท่านอาจารย์ จะสอบถามราคาหรือเรื่องใด ๆ ต้องศึกษาเองทั้งหมด ท่าน อาจารย์ไม่ตอบแน่นอน  ต้องอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณให้ครบ 9 รอบ ถึงจะใช้ได้ ถ้ามั่วว่าอ่านครบ เพราะอยากใช้มาก อันนี้มีตัวอย่าง ให้เห็นมาแล้ว อย่างสามีอัญเอง เม็ดขึ้นเต็มหน้าเลยค่ะ
 
 
3.ทุกวันนี้ คนที่่มาบ้านสวน เคยได้ยิน อ.อุบลชวนใครซื้อของหรือไม่ แต่ละคนที่ต้องการซื้อสินค้าอ.อุบล
ซื้อกันได้อย่างไรใครชวนไปซื้อ
ไม่เคยได้ยินท่าน อาจารย์ชวนใครซื้อของ แต่ละคนที่จะซื้อกันเอง โดยความเต็มใจบวกกับศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง
 
4.มีใครบ้างแม้สักคนไหม ที่ อ.อุบล ชวนให้ทำบุญ
ท่าน อ.อุบล ไม่เคยชวน หรือ เรี่ยไร ให้ใครทำบุญ    มีแต่พวกเราเองที่ขอไปร่วมบุญกับท่าน อาจารย์
5.อ.อุบล เคยบอกให้ใคร ต้องทำบุญด้วยเงิน
เท่านั้นเท่านี้หรือไม่ 
ไม่เคยบอกค่ะ มีแต่จะเน้นเรื่องการสร้างบุญด้วยแรงกาย จะเห็นได้จาก ไม่ว่าจะรวยล้นฟ้าขนาดไหน มาถึงบ้านสวน ฯ ก็ต้องมาเป็นกรรมกร ด้วยกันทั้งนั้น 
 
6.คนที่ทำบุญกับ อ.อุบล แล้ว อ.คืนให้มีใครบ้าง โปรดมาแสดงตัว
มีเยอะมาก   แต่ที่ประทับใจ อัญจะเป็นเครสที่เคยเป็นนายธนาคาร (ปัจจุบันไม่ได้ทำงาน) ภรรยา ต้องแบกรับภาระทำงานคนเดียว  ทำบุญมาพันนึง ท่าน อ.รับไว้  แล้วคืนให้ ทั้งสามี-ภรรยา ร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง ทำเอาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พลอยปิติไปด้วย ตัวอัญเองตอนที่ได้ทำบุญกับท่าน อ. ยังเคยถามว่า เดือดร้อนหรือเปล่า?   
 
7.ใครเคยเห็น อ.อุบลคืนเงินที่คนนำมาทำบุญเพราะเห็นว่า เป็นคนยากจนหรือคนแก่ หรือเด็กที่ยังไม่มีรายได้หรือไม่
ล่าสุดก็คุณยาย ที่เป็นร่างทรงและพี่สาวไม่ใช่แค่คืนเงินทำบุญแต่ท่าน อ.ยังแถมเงินให้อีกต่างหาก  
 
ขอบอกตามตรงเลยนะคะ ว่าไม่เคยเห็น แบบท่าน อ.อุบลมาก่อน สถานที่อื่น ๆ ที่เคยไปทำบุญ มีแต่จะหาวิธีการ จะมีพิธีกรรมหลอกล่อ  ให้คนเข้าไปร่วมทำบุญกันเยอะ ๆ แต่สำหรับบ้านสวนพีระมิด ท่าน อ.อุบล ไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องเงิน สอนไม่ให้โลภอยากได้ของฟรี ของที่ผู้อื่นไม่เต็มใจให้   มีแต่จะเน้นเรื่องใจ และ แรงกาย จะสอนเสมอว่าการทำบุญต้องบริสุทธิ์ 3 ส่วน ทั้ง ผู้ให้ วัตถุทาน และ ผู้รับ ผลบุญถึงจะเกิดฉับพลันทันที  ฉะนั้นพวกที่เห็นเงินเป็นพระเจ้า คิดแต่จะมาผลประโยชน์ในบ้านสวน ฯ จึงต้องกระเด็นออกไปเพราะความโลภของตัวเอง
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 00:39:39


ความคิดเห็นที่ 7202 (1624193)

คำถามเรื่องจี้ค่ะ..อาจารย์

.............................................................

 

ความเห็นที่ 7188 (1624082)

**********************

จี้ องค์เทพสฟิงซ์นั้น เป็นสมบัติเฉพาะบุคคลที่บูชาไป คนอื่นไม่มีสิทธิ์ยืมไปไหนทั้งนั้น ยกเว้นว่าขอชมเท่านั้น ดังนั้นเวลาที่จะช่วยคนอื่น เจ้าของจี้เท่านั้นที่มีสิทธิ์จับจี้องค์เทพสฟิงซ์ คนที่กำลังสารภาพห้ามจับองค์จี้ คือ สารภาพต่อหน้าองค์จี้ฯอย่างเดียว

ห้ามใครยืมไปที่บ้านเพื่อสารภาพบาปเพราะจะไม่ได้ผลเลย นอกจากนี้ห้ามซื้อฝากกัน ยกเว้นว่า เราซื้อให้พ่อแม่เราแบบนี้ได้

ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับที่เมตตาบอกวิธีการที่ถูกต้องแก่ลูกหลานและคนอื่นๆ

*********************

หนูขอเรียนถาม ท่าน อ.อุบล หรือผู้รู้ค่ะว่า

1.แล้วถ้านอกจากพ่อ แม่  ถ้าซื้อให้พี่สาวได้หรือป่าวค่ะ

2.ถ้ามีคนที่ไม่รู้จัก อ.อุบล

แต่พอเค้าเห็น แม่ และตัวหนูใส่จี้  เค้าต้องการจี้บ้าง เค้าบอกว่าต้องการสิ่งคุ้มครอง เพราะเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้ น่ากลัว

เค้าถามว่าเอาไว้ในรถได้มั้ย หนูตอบว่า คงจะได้ 

แต่ถ้าให้ดี ต้องนำติดตัวไว้จะดีกว่า

ไม่ทราบว่าหนูเข้าใจถูกต้องแล้วหรือยังค่ะ

เค้าสั่ง 2 องค์ ให้แฟนเค้าด้วย 1 องค์

 ให้หนูสั่งให้ อย่างนี้ จะได้มั้ยค่ะ จี้จะใช้ได้ผลเป็นอย่างไรค่ะ

ต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่หนูยังไม่เข้าใจในตรงจุดนี้

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรนันท์ เดิมหมวก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 15:01:35
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 03:20:20


ความคิดเห็นที่ 7203 (1624194)

แล้วเราก็ลองวางแผนเลย

ว่าเราจะเข้ามาเฉพาะ

วันเสาร์-อาทิตย์

แล้วเราก็ดูว่า ตรงไหน ที่คุยสบาย

งานไม่ต้องทำ

ดักคนโง่ๆ หน้าใหม่ๆ ไร้ความคิด

 

 

พวกที่มาบ้านสวนด้วยความอยาก

ไม่มีศรัทธาจริง ก็หาได้ไม่ยาก

วางแผนเลยว่า

วันหนึ่ง ต้องประกบ

ขอเบอร์ ติดต่อให้ได้กี่คน

เราก็ลองทำดู

 

แล้วก็มาประเมินผลดูว่า

ตั้งแต่ทำมา รวยกี่พันล้านแล้ว

ชีวิต อยู่ดีมีสุขไหม คำตอบที่ได้

ก็คือสิ่งที่เราจะตัดสินใจเอาเอง

 

 

แต่สำหรับคนที่หูเบา เชื่อง่าย ไม่อยากลอง

ก็ต้องบอกเขาไปตรงๆ ว่า

เจ๊งทั้งคนซื้อ เจ๊งทั้งคนขาย

ใครไม่เชื่อเราเชื่อ เพราะเราหูเบา

เราไม่เอาอะไรทั้งนั้น

 

แล้วไม่ต้องไปห้ามเขา

ใครอยากทำ อยากลอง

ให้ลองไป ดูซิ กฏสวรรค์บ้านสวนพีระมิด

เป็นแค่คำขู่ หรือ ของจริง

มันต้องพิสูจน์ให้แน่ใจ

จ้าคุณอังจ๋า

...............................

กราบอนุโมทนากับคำตอบที่ชัดเจน

และคำแนะนำที่ให้ทุกคน

ไปพิสูจน์หาคำตอบด้วยตัวเอง

ด้วยนะคะอาจารย์

 

แต่อ่านแล้ว หึ หึ ชนิดาคนนึงล่ะ

ที่ไม่ขอรับตำแหน่ง นักวิทยาศาสตร์

ขอเป็นนัก"พุทธศาสตร์"ที่หูเบา

พร้อมเชื่อในสิ่งที่อาจารย์บอกเลยดีกว่า

เพราะสิ่งที่ท่านอาจารย์เคยบอก

และเคยพูดไว้

ยังไม่มีอันไหน ที่ไม่จริงเลยค่ะ


ฉะนั้น ถ้าทุกคนตั้งใจที่จะไปสร้างบุญ

ก็ศึกษากฏให้ละเอียด

และให้ความเคารพต่อเจ้าของบ้าน

ด้วยการปฏิบัติตามทุกกฏ ที่กำหนดไว้

แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาโกยบุญอย่างเดียวดีกว่านะคะ

.........................................

อนุโมทนากับทุกๆคำตอบ

จากพี่น้องทุกๆท่านด้วยนะคะ

ซึ่งอ่านคำตอบจากทุกๆท่านแล้ว

ก็สรุปได้เพียงสั้นๆว่า

 

อ.อุบลแห่งบ้านสวนพีระมิด

เน้นให้ทุกคนทำบุญด้วยปัญญา

และกำลังใจที่เต็ม

ซึ่งต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

 

และท่านก็เน้นให้ทุกคนใช้แรงกาย

ไม่ใช่ ปัจจัยหรือจำนวนเงิน นะค๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 03:40:07


ความคิดเห็นที่ 7204 (1624195)

 ขอถามพ่อใหญ่ หรือใครก็ได้ที่เข้ามาอ่านอยากถามว่า 

1.คนที่ต้องการทำบุญกับ อ.อุบลแล้วถามเบอร์บัญชี กับ อ.อุบลๆ เคยบอกไหม อ.อุบลบอกว่ายังไง

ตั้งแต่ที่ไปบ้านสวนไม่เคยได้ยินอ.พูดบอกกล่าว หรือประชาสัมพันธ์เลขที่บัญชีบุญแต่อย่างไรคะ

2.คนที่ต้องการซื้อของทุกอย่างของ อ.อุบลซื้อได้ง่ายๆไหม โทร.มาหา หรือมาหา อ.ซื้อได้ไหมอ.ตอบว่าอย่างไร  

คนที่ต้องการจะซื้อสินค้าพาเมล่า ไม่เฉพาะท่านอ.อุบล แม้แต่อ.มงคลและคุณท็อปก็ตามจะไม่ขายสินค้าง่ายๆ จะถามก่อนว่าอ่านคู่มือหนีกรรมครบ 9 ครั้งหรือยัง  

3.ทุกวันนี้ คนที่่มาบ้านสวน เคยได้ยิน อ.อุบลชวนใครซื้อของหรือไม่ แต่ละคนที่ต้องการซื้อสินค้าอ.อุบล ซื้อกันได้อย่างไรใครชวนไปซื้อ

ท่านอ.และสมาชิกในครอบครัวไม่เคยชักชวนลูกบ้านสวนให้ซื้อสินค้าทุกชนิดในบ้านสวนแต่อย่างไร แต่ละคนที่ซื้อก็ซื้อเพราะศรัทธาของแต่ละคนไม่ได้มีการชักชวนให้ซื้อแต่อย่างไร

 4.มีใครบ้างแม้สักคนไหม ที่ อ.อุบล ชวนให้ทำบุญ

ท่านอ.ไม่เคยชักชวนให้ทำบุญแต่อย่างไร "มีแต่จะตักเตือนลูกหลานให้มีสติในการทำบุญด้วยซ้ำเพราะบางครั้งโลภอยากได้บุญแต่ไม่ดูกำลังทรัพย์ของตนเองก็มี "

5.อ.อุบล เคยบอกให้ใคร ต้องทำบุญด้วยเงินเท่านั้นเท่านี้หรือไม่ 

ท่านอ.ไม่ได้สนับสนุนให้ลูกหลานทำบุญด้วยกำลังทรัพย์ แต่สนับสนุนให้ใช้แรงกายขึ้นกำลังใจและแรงกายที่แต่ละคนมี และเป็นสิ่งที่แต่ละคนสามารถทำบุญไม่ว่าจะคนรวย,คนจน, เด็ก, คนแก่ คนที่หาเลี้ยงชีพเองและยังไม่สามารถหาเลี้ยงชีพ 

6.คนที่ทำบุญกับ อ.อุบล แล้ว อ.คืนให้มีใครบ้าง โปรดมาแสดงตัว

7.ใครเคยเห็น อ.อุบลคืนเงินที่คนนำมาทำบุญเพราะเห็นว่า เป็นคนยากจนหรือคนแก่ หรือเด็กที่ยังไม่มีรายได้หรือไม่

ทุกครั้งที่ทำบุญหรืออยู่ในเหตุการณ์ที่คนอื่นทำบุญกับอ. .จะถามก่อนตลอดว่าเอาเงินมาทำบุญนี้มีเงินไว้สำหรับกินสำหรับใช้หรือเปล่าโดยเฉพาะกับคนแก่ที่ไม่มีรายได้  

 

ตอนนั้นอยู่ในเหตุการณ์ที่คุณแม่คุณมยุรฉัตรมาทำบุญกับอ. ,.ก็เมตตาซักถามว่าเอารายได้มาจากไหน คุณแม่เอาเงินมาทำบุญกับอ.แล้วมีเงินใช้ไหม…..และบางรายที่อ.ก็รับและส่งเงินคืนกลับให้ด้วย (ซึ่งในส่วนนี้อ.ก็ต้องใช้เงินส่วนตัวแทนให้อีกด้วย) มีตัวอย่างให้เห็นชัดในรายการคุยไปแจกไป 17 มิ.ย 2555

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 03:44:27


ความคิดเห็นที่ 7205 (1624221)

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล

เมื่อบ้านสวนมีทุกกิจกรรมเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการดำริสร้าง Biogas หรือการขุดน้ำบาดาล ท่านไม่เคยเรี่ยไร ตั้งแต่ตอนติดตั้ง Biogas ท่านพยายามถามราคา ตั้งหลายหน เพื่อท่านจะเตรียมออกเอง แต่จิ๋มซึ่งรับเป็นเจ้าภาพใหญ่เขากราบขออนุญาติเอง และไม่เคยยอมบอกราคาใคร (งกบุญก็ว่าได้)  เขาพูดเสมอว่าเงินขายหุ้นที่เขาได้มา เพราะปาฏิหารย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ธนบัตรขวัญถุง เพราะเขาอธิษฐานขอจากท่าน

สำหรับน้ำบาดาลท่านแค่ให้หาคนมาขุดให้ เพราะช่วงนั้นเห็นน้ำหมดแท็งค์บ่อยเพราะพวกเรามากันมาก อยู่กันนานๆช่วงสร้างพระ ตอนจิ๋มไปขอเป็นเจ้าภาพรับออก 1 แสน ท่านยังตาโตดุๆว่าเอาอีกแล้ว จนจิ๋มต้องบอกลดว่าทำแค่ 8 หมื่น ให้คนอื่นร่วมจะเห็นว่าท่านไม่ได้เอ่ยปากอะไร

สำหรับการทำบุญซื้อรถให้ท่านดร.อาจอง สังเกตุได้ว่าเป็นการดลจิตดลใจจากเสด็จพ่อท้าวเวชสุวรรณแน่ๆ ให้จิ๋มเขาวุ่นวาย อยู่ดีๆ วันนั้นก็ไปกด ATM จาก 2-3 bank มาเลย ท่านอาจารย์อนุญาตให้ร่วมบุญ 1 บาทก็ได้แต่ไม่เคยกะเกณฑ์อะไรเลย

ยืนยันได้เลยว่าพวกลูกหลานทำกันเอง ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เหมือนว่ามีหน้าที่สนับสนุนบ้านสวนพ๊รามิด

จุ๋ม จิ๋ม

ปล สำหรับจุ๋มเองก็ร่วมกับเขาทีละหมื่น 2 หมื่น ตามกำลัง เกาะบุญจิ๋มไปเรี่อยๆ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 09:16:12


ความคิดเห็นที่ 7206 (1624223)

 

ก่อนที่ อ.อุบล จะตอบคำถามพ่อใหญ่

 

 

 

ขอถามพ่อใหญ่ หรือใครก็ได้ ที่เข้ามาอ่าน

อยากถามว่า
 
1.คนที่ต้องการทำบุญกับ อ.อุบล แล้วถามเบอร์บัญชี กับ อ.อุบลๆ เคยบอกไหม อ.อุบล บอกว่ายังไง

อาจารย์ไม่เคยบอกค่ะ  
อาจารย์บอกว่าให้ไปดูในเว็บเอง
ทุกอย่างอยู่ในเว็บแล้ว
 
2.คนที่ต้องการซื้อของทุกอย่างของ อ.อุบล ซื้อได้ง่ายๆไหม โทร.มาหา หรือมาหา อ.ซื้อได้ไหม อ.ตอบว่าอย่างไร 

ซื้อได้ยากมาก บางคนโดนดุ
คนที่โทรมาก็ไม่พอใจเยอะแยะ
เพราะท่าน ไม่ต้องการขาย
อยากให้คนศึกษาก่อนซื้อ
ท่านบอกว่าเครื่องสำอางพาเมล่าใช้ร่วมกับ
พลังความรัก ลดความโกรธ
และทำอภัยทานควบคู่จะได้ผล
ซึ่งท่านเน้นมาก และให้ไปศึกษาคู่มือหนีกรรม
อ่านให้ครบ 9 ตอนก่อนใช้  
 
3.ทุกวันนี้ คนที่่มาบ้านสวน เคยได้ยิน อ.อุบล ชวนใครซื้อของหรือไม่ แต่ละคนที่ต้องการซื้อสินค้า อ.อุบล
ซื้อกันได้อย่างไร ใครชวนไปซื้อ
 
อ.อุบลไม่เคยชวนใครซื้อของเลย
วันๆ หนึ่งท่านไม่เคยสนใจที่จะขายของด้วยซ้ำ
ท่านถือว่าของดี คนจะเข้ามาเอง
ไม่ต้องโฆษณาหรือไปเร่ขาย 
คนที่อยากจะซื้อ ต้องอ่านคู่มือหนีกรรมให้ครบ 9 ตอนก่อน
และการจะซื้อก็ต้องมาซื้อเองที่บ้านสวน
หรือซื้อจาก เซ็นเตอร์พาเมล่าเอาเอง
ไม่ได้มีวางขายเหมือน
เครื่องสำอางทั่วไป
พูดง่ายๆ ว่าไม่มีใครชวนให้ซื้อเลยค่ะ
ทุกคนอยากซื้อกันเอง 

4.มีใครบ้างแม้สักคนไหม ที่ อ.อุบล ชวนให้ทำบุญ

ไม่เคยเห็นเลยค่ะ
มีแต่ท่านอาจารย์คอยนำบุญต่างๆ
มาบอกพวกเราเสมอ
ให้ร่วมอนุโมทนา
บอกพวกเราถึงอานิสงค์ของบุญ
และท่านลงมือทำร่วมกับพวกเราทุกครั้ง
นำพาทุกวิถีทางให้เราไม่ตกบุญ
ให้เราได้เข้าถึงนิพพานกัน
ซึ่งขึ้นอยู่กับพวกเราเองว่าจะทำหรือไม่ทำ
ท่านไม่เคยบังคับ
มีแต่เมตตา 
 
5.อ.อุบล เคยบอกให้ใคร ต้องทำบุญด้วยเงิน
เท่านั้นเท่านี้หรือไม่  

ไม่เคยเลยค่ะ มีแต่ว่าใครทำเยอะ
อาจารย์จะคืนให้ ถามว่าเดือดร้อนไหม
อันนี้หนูซาบซึ้งกินใจมาก
ใครไม่มีเงินก็ใช้แรง
เพราะแรงกายเรานั้นบริสุทธิ์
ซึ่งไม่มีที่ไหนในประเทศไทย
ที่เขาให้ทำบุญด้วยแรงกาย
ส่วนใหญ่ก็เป็น เงิน หรือสิ่งของ

6.คนที่ทำบุญกับ อ.อุบล แล้ว อ.คืนให้ มีใครบ้าง
โปรดมาแสดงตัว


7.ใครเคยเห็น อ.อุบล คืนเงินที่คนนำมาทำบุญเพราะเห็นว่า เป็นคนยากจนหรือคนแก่ หรือ เด็กที่ยังไม่มีรายได้หรือไม่

ตัวหนูเองเคยเห็นหลายครั้งค่ะ
ที่จำได้ก็มีลูกคุณครูหนก
ที่ยังเป็นนักศึกษา ยังไม่มีรายได้
ท่านก็คืนเงินให้ และอีกหลายครั้งค่ะที่เห็น
แต่จำชื่อไม่ได้ คือท่านจะถามเสมอว่า
เดือดร้อนหรือเปล่า
แล้วท่านก็คืนเงินให้ บอกว่า
เงินนี้อาจารย์ให้ บุญที่ตั้งใจทำกับท่าน
คนทำก็ได้รับแล้ว
สิ่งนี้หายากมากค่ะในครูบาอาจารย์สมัยนี้
ส่วนใหญ่ท่านก็ไม่ได้มานึกถึงเราหรอกค่ะ
ว่าเราได้เงินมาอย่างไร 
เมื่อมาทำบุญ แล้วก็จบกัน
ไม่มีใครมาใส่ใจเราอย่างนี้ 
 
*********************
ตอบตรงนี้ก่อนดีกว่านะคะ ก่อนที่จะให้ อ.อุบล ตอบว่า
อ.ดีใจไหม ที่มีคน จะนำเงิน 50 %
ของรายได้มาทำบุญ

ทำให้คิดถึงพ่อโจ แค่10% แล้วทำดังที่อธิษฐานไม่ได้
นั่นขนาดคิดในใจนะ
ไม่ได้บอกใครเลย ผลเป็นยังไง 
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  วันที่ตอบ 2012-08-14 00:55:20
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 09:43:51


ความคิดเห็นที่ 7207 (1624234)

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาตอบคำถามค่ะ

ทำไมไม่ทักท้วงพี่สรเรื่องการค้าขายในบ้านสวน

ทั้งๆที่เคยเห็นกรณีของพี่บุญตาพี่เตี้ยมาแล้ว

สำรวจตัวเองแล้วขาดปัญญาอย่างมาก

เอาแต่งกๆเงิ่นๆอยู่ในครัว

คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาดเสมอ

คนฉลาดแผนสูงก็ต้องเจอกฏสวรรค์

เหตุการณ์นี้สอนให้หนูฉลาดขึ้นเยอะเลยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 10:32:29


ความคิดเห็นที่ 7208 (1624237)
อ.อุบล แห่งบ้านสวนพีระมิด

เน้นให้ทุกคนทำบุญ

ด้วยปัญญา  และ  กำลังใจที่เต็ม

ซึ่งต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

 

และท่านก็เน้นให้ทุกคนใช้แรงกาย

ไม่ใช่ ปัจจัยหรือจำนวนเงิน นะค๊า

--------------------------------

ขอบคุณพี่ชนิดาค่ะ ที่สรุปแบบสั้น ๆ

และประทับใจจริง ๆ  ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 10:43:38


ความคิดเห็นที่ 7209 (1624269)

ใครมาชวนซื้ออะไร ก็ลองซื้อดู แล้วพิสูจน์ดูว่า มันจะหายนะจริงไหม เป็นอย่างบุญตาไหม เป็นอย่้างยายเตี้ยจริงไหม และเป็นอย่างอีกหลายๆ คนจริงไหม

.........................

กราบขอบคุณท่านอาจารย์

หนูเคยโดนเต็มๆมาแล้ว

เคดเดียวกับพี่เตี้ยคือซื้อของต่อ

จากพี่รุ้ง ร้านเจ้ง คุณแม่เสียชีวิต

ปัญหาอื่นๆอีกมากมาย

ต่อนี้ไปคงไม่ทำอีกค่ะ

กรณีกับพี่สร นี้รับฟังแต่ก็ไม่ใด้บอกกล่าว

มัวแต่ทำงานในครัว

คิดเพียงว่าเราควรทำงานของเราให้ดี

เพราะงานครัวเป็นงานละเอียด

เพราะว่าพี่เเมว คุณอังทำงานในครัวใด้ดีมากๆๆ เราก็ควรทำให้ใด้ดีแบบพี่ๆเขาบ้าง

(ชีวิตทำสิ่งแย่ๆๆมาเยอะแล้ว)

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 13:31:03


ความคิดเห็นที่ 7210 (1624310)

      ตั้งแต่รู้จักบ้านสวนมา  ไม่เคยเห็น ท่าน อ. อุบล

เรี่ยไรเงินเพื่อสร้างบุญ  และสอนพวกเราเสมอว่า

ให้ทำบุญตามกำลัง  อย่าเบียดเบียนตัวเอง  ไม่มีเงิน

ก็ใช้กำลังกายสร้างบุญได้  และก็ได้มาเข้าใจเรื่องการทำบุญ

ด้วยแรงกายที่บ้านสวนนี่เองค่ะ  แม้แต่ใครจะฝากเงินมาทำบุญ

ท่านยังไม่อยากให้พวกเรารับฝากเลย  เผื่อเรารับฝากแล้ว

เป็นอะไรไปก่อน  เงินเลยไปไม่ถึง 

เราต้องกลายเป็นติดหนี้สงฆ์  ในส่วนที่พวกเราได้มีโอกาสร่วม

ทำบุญด้วย  ก็เพราะท่านมีเมตตา  อยากให้พวกเรา

ได้มีโอกาสทำบุญ  กับเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์

      ส่วนพาเมล่า  ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยชวนใครซื้อ

เราจะเห็นคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ  ที่เล่าเรื่องความเป็นมา

ของพาเมล่า  และคุณสมบัติของพาเมล่า  ราคา 

แต่ไม่มีบอกว่าหาซื้อได้ที่ไหน  ให้อ่านให้ศึกษาดูเท่านั้น

ท่านอาจารย์เน้นเสมอว่า  ถ้าใครรักษาศีลได้

  ทำสมาธิได้  พาเมล่าก็ไม่จำเป็น

      

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 15:48:50


ความคิดเห็นที่ 7211 (1624374)

   

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบลค่ะ

วันนี้ดิฉัน นาง ณัฐสินี พสิษฐ์ศรี ได้โอนเงินร่วมทำบุญสร้างโซล่าเซลล์ เป็นจำนวนเงิน 1,000

บาท และ นาย พิภพ  ลิ้มเจริญ(ลูกชาย)โอนเงินทำบุญสร้างพระ เป็นจำนวนเงิน 500 บาท

                    โดยโอนเงินวันที่ 15 ส.ค.55  เวลา 18.30 น.                        

เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 212-0-16993-4             

รวมเป็นจำนวนเงิน 1,500 บาทค่ะ

ขออนุโมทนาบุญต่างๆ ในบ้านสวนพีระมิดกับทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ
ขอขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐสินี พสิษฐ์ศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 20:26:41


ความคิดเห็นที่ 7212 (1624385)

ตั้งแต่รู้จักบ้านสวนมา  ไม่เคยเห็น ท่าน อ. อุบล

เรี่ยไรเงินเพื่อสร้างบุญ  และสอนพวกเราเสมอว่า

ให้ทำบุญตามกำลัง  อย่าเบียดเบียนตัวเอง  ไม่มีเงิน

ก็ใช้กำลังกายสร้างบุญได้

----

เสาร์ก่อนหน้านี้ หลังจากจบกิจกรรมภาคกลางคืน

หลายๆคนพากันเข้าไปหาท่านอาจารย์

ได้ยินเสียงท่านคล้อยหลังประมาณว่า

คุณกัลยาณี ทำคราวละเยอะๆอย่างนี้

ทุกอาทิตย์เลยย เดือดร้อนรึเปล่า

เหมือนท่านอาจารย์เกรงใจไม่ค่อยอยากรับ

กลัวลูกๆจะเบียดเบียนตัวเองจนเดือดร้อนน่ะค่ะ

เห็นด้วยกับคุณชนิดา ท่านเน้นการทำบุญด้วยปัญญาค่ะ

-----

พี่สรคะ

เคยได้ยินพี่สรชื่นชมท่านอาจารย์สารพัด

ทั้งยังให้ความเคารพรัก ยกย่อง

และเทิดทูนท่านอาจารย์มากๆๆๆ

พอได้อ่านเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ทุกอย่างมันกลับหัวเป็นหางไปเลยย

เป็นไปได้ไงเนี่ย

กิเลสมันไม่เคยปรานีใครเลยยจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 21:30:17


ความคิดเห็นที่ 7213 (1624455)

 

ความเห็นของป้าเตือน
       ท่าน อ.อุบลไม่เคยเรียกร้องชวนใครทำบุญ  ไม่เคยชักชวนใครซื้อเครื่องสำอางค์พาเมล่า ใครอยากใช้ต้องอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณให้ครบ 9 รอบจึงจะมีสิทธิ์ใช้เครื่องสำอางค์ได้ ท่าน อ.อุบลเมตตาพร่ำสอนให้ทำบุญด้วยแรงกายสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเงินหรือขาดปัจจัย เพราะแรงกายเป็นบุญที่บริสุทธิ์  ครั้งแรกป้าทำบุญกับท่าน อ.อุบล 1 พันบาท อ.อุบลก็ถามป้าว่าเดือดร้อนไหม มีรายได้ไหม เอารายได้มาจากไหน ป้าก็บอกว่าลูกให้ ท่าน อ.อุบลก็ยังเอาคืนให้ป้าตั้ง 500 บาท ท่านถือว่าป้าได้ทำบุญตามที่ตั้งใจแล้ว 1000 บาท แต่ท่าน อ.อุบลอยากสงเคราะห์ป้าจึงคืนเงินให้ป้า  ป้าปลื้มจนน้ำตาไหลทุกครั้งที่ได้ทำบุญกับท่าน  บางครั้งทำบุญ 300 บาท ท่าน อ.อุบลก็จะคืนให้ 200 บาท ให้เป็นค่ารถกลับบ้าน บางทีป้าต้องแอบกลับเอาไปหยอดที่ตู้ทำบุญเอา ยิ่งตอนที่เย็บผ้าองค์พีระมิดขนาดป้าขอเย็บให้ท่าน อ.อุบลฟรี ด้วยความเต็มใจ ท่าน อ.อุบลยังไม่ยอมเอาเงินใส่มือป้าเตือนจนได้ตั้ง 2000 ซึ่งมันมากเกินที่ป้าจะรับได้ ป้าจึงเอาเงินดังกล่าวไปใส่ซองยื่นทำบุญกับท่านอีกครั้งหนึ่ง
        เท่าที่ป้าเตือนเห็นท่าน อ.อุบลคืนเงินทำบุญให้กับญาติธรรมตั้งหลายคน อย่างป้าพร(ลำปาง) ป้ารุ่งทิพ คนพะเยา ได้เงินจากให้เขาเช่าที่นา ท่าน อ.อุบลก็คืนให้ ท่านให้ทำตามอัตภาพไม่เบียดเบียนตนเอง แล้วแต่ศรัทธา    อันนี้ป้าเตือนขอยืนยันด้วยความสัตย์จริงค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 11:26:17


ความคิดเห็นที่ 7214 (1624460)

    เหตุการณ์ล่าสุด ผมได้มีโอกาส ไปช่วยงานท่านอาจารย์ที่บ้านไร่ปลายตะวัน ที่วังน้ำเขียวครับ ผมขับรถกันไปเองกับพ่อใหญ่ธนา พอดีรถผมติดแก๊ส เรยประหยัดหน่อย เติมแก๊สเป็นค่าเดินทางไป-กลับ รวมประมาณ 900 บาท พอเสร็จจากงาน อาจารย์ท่านก็เรียกไปพบ ปรากฎว่า ท่านให้เงินผมจำนวน 3,000 บาท ซึ่งท่านบอกว่า เป็นค่าน้ำมัน ผมเรียนท่านว่า ผมเติมไปแค่ 900 บาทครับ ผมทำท่าจะไม่รับ สุดท้ายก็รับไป แต่ก็เอาเงินไปทำบุญต่อครับ เป็น ค่าน้ำ-ไฟที่บ้านสวนฯ 2000 บาท และ ร่วมสร้างพระอีก 1000 บาท

 

   เห็นได้ชัดครับ ว่าท่านอาจารย์มีเมตตากับลูกหลานมากแค่ไหน ท่านทราบดี ว่าตอนนี้ผมก็ยังเป็นหนี้อยู่ ดังนั้นท่านจึงมีแต่ให้ และให้แบบไม่มีข้อแม้ และไม่หวังสิ่งตอบแทนครับ
  ต้องเรียนขอขมาท่านอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูงครับ ความจริง..ผมควรรับเงินจากท่านอาจารย์แค่ 900 บาท แต่ตอนนั้นมันตกใจ ทำไรไม่ถูก เรยรับมาหมดเรย มาคิดได้ทีหลัง เรยเอาเงินไปต่อบุญหมดเรยครับ สาธุ ครับ 
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 12:15:18


ความคิดเห็นที่ 7215 (1624471)

 

ขอถามพ่อใหญ่ หรือใครก็ได้ที่เข้ามาอ่านอยากถามว่า 
1.คนที่ต้องการทำบุญกับ อ.อุบลแล้วถามเบอร์บัญชี กับ อ.อุบลๆ เคยบอกไหม อ.อุบลบอกว่ายังไง
ท่าน อ.อุบลให้ไปดูในเวปบ้านสวน ซึ่งมีรายละเอียดบอกไว้หมดแล้วค่ะ
2.คนที่ต้องการซื้อของทุกอย่างของ อ.อุบลซื้อได้ง่ายๆไหม โทร.มาหา หรือมาหา อ.ซื้อได้ไหมอ.ตอบว่าอย่างไร  
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์พาเมล่า ไม่ใช่สินค้าที่จะหาซื้อได้ง่ายๆ แม้จะซื้อจากบ้านสวน หรือตัวแทนพาเมล่า จะมีการถามผู้ซื้อก่อนว่าได้อ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณครบ 9 ครั้งหรือยัง  ถ้าไม่ครบก็ไม่สามารถขายให้ได้ หากมีคนอยากละเมิด โกหกว่าอ่านครบ ด้วยความอยากใช้แทนที่จะเห็นผลก็จะได้รับอาการที่เป็นหนักกว่าเดิมได้ อันนี้มีให้เห็นตัวอย่างแล้วหลายคน
3.ทุกวันนี้ คนที่่มาบ้านสวน เคยได้ยิน อ.อุบลชวนใครซื้อของหรือไม่ แต่ละคนที่ต้องการซื้อสินค้าอ.อุบล ซื้อกันได้อย่างไรใครชวนไปซื้อ
ท่านอ.อุบลไม่เคยชักชวนใครไปซื้อแต่อย่างใด มีแต่พวกเราเองแหละค่ะที่แห่กันไปซื้อเองความศรัทธาและความสมัครใจ อีกทั้งเงินที่ได้จากการจำหน่ายพาเมล่า ท่าน อ.ยังเมตตาเอาไปทำบุญทุกบุญให้กับพวกเรา และอุทิศบุญให้กับเทวดาประจำตัวพวกเราอีกต่างหาก หาใครที่เมตตาอย่างท่าน อ.อุบล จะมีอีกไหม
4.มีใครบ้างแม้สักคนไหม ที่ อ.อุบล ชวนให้ทำบุญ
ท่านอ.อุบลไม่เคยชักชวน เรี่ยไร ให้ทำบุญแต่อย่างไร  กลับจะเตือนให้พวกเราทำบุญด้วยความเต็มใจ ไม่เบียดเบียนตัวเอง และไม่ทำให้ใครเดือนร้อน ทำตามศรัทธา บุญจะมากหรือน้อยอยู่ที่กำลังใจของผู้ทำบุญ หาใช่อยู่ที่จำนวนเงินมาก และยังแนะนำสำหรับผู้มีปัจจัยน้อย หรือไม่มีเงินทำบุญก็สามารถใช้แรงกายทำบุญแทนได้ แถมเป็นการทำบุญครบ 3 อย่างคือ วัตถุทานบริสุทธิ์ (แรงกายเราล้วนๆ ) ผู้ให้ศรัทธาเต็มร้อย  และผู้รับเป็นเนื้อนาบุญ  เผลอๆ แรงกายทำบุญอาจได้มากกว่าคนบริจาคเงินเยอะๆ ทำเสียอีก เพราะไม่รู้ว่าทรัพย์ที่นำมาทำบุญบริสุทธิ์เต็ม 100 หรือเปล่า แม้จะเป็นเงินเดือนแต่ถ้าเป็นเงินที่ทำงานแบบ มาสาย กลับก่อน อู้งาน ยืมคนอื่น ขโมยจากสามี หรือภรรยา พ่อ- แม่ บุญก็ได้เพียงนิดไม่เต็ม 100
5.อ.อุบล เคยบอกให้ใคร ต้องทำบุญด้วยเงินเท่านั้นเท่านี้หรือไม่ 
ท่านอ.แนะนำให้ทำบุญได้ทั้ง เงิน แรงกาย กำลังใจ(ธรรมทาน) แล้วแต่ใครจะสะดวกอย่างไรที่ทำแล้วตนเองไม่เดือนร้อน ไม่เบียดเบียนตนเอง โดยเฉพาะธรรมทาน ท่าน อ.เน้นมากเพราะเป็นการทำบุญที่อานิสงค์ยิ่งใหญ่ ทำได้ยาก ต้องใช้กำลังใจทำสูงมาก น้อยคนที่ทำได้ แต่ก็ไม่น่าจะเกินความพยายามถ้าเราตั้งใจ คนที่ทำได้ยากเพราะมีเจ้ากรรมนายเวรมาคอยบังคับจิตใจขวางไม่ให้เราทำ แต่เชื่อเถอะค่ะ ลองได้ให้ธรรมทานซักครั้งแล้วต่อไปก็ไม่ยากแล้ว โดยเฉพาะธรรมทานเรื่องชั่วๆ ของตัวเราเอง ง่ายสุดๆ เพราะมีให้เห็นทุกวัน โดยเฉพาะจิตที่คิดไม่ดี มโนกรรมทั้งหลายขนาดเราว่าทำความดีแล้วยังมีความชั่วปนอยู่ได้ เมื่อก่อนตอนทำบุญก็อธิษฐานขอให้มีความคล่องตัว ขอให้ได้เป็น.. ขอให้มีเงินใช้เยอะๆ แหมพึ่งรู้ว่าขอแบบปนกิเลสความอยาก ตัณหา ผสมไปด้วย  เราทำบุญยังไงก็ต้องได้บุญเหมือนปลูกต้นมะม่วง ยังไงก็ต้องได้ผลมะม่วง จะให้ออกผลเป็นทุเรียนได้งัย ดังนั้นไม่ควรเรียกร้องขอเหมือนเป็นการต่อรองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า เราทำบุญนี้แล้วท่านต้องให้ผลแก่เราอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อถึงเวลาแม้เราไม่ได้ขอก็จะได้เอง ยิ่งใกล้ถึงเวลาในเดือน ธันวาคมนี้แล้วอย่างน้อยต้องให้ได้ 99 ตอน หรือใครไม่ถนัดก็เล่าเรื่องปาฏิหาร์รหัส อ.อุบลช่วยด้วย , จี้องค์สฟิงค์ใช้ช่วยคนได้อย่างไรบ้าง ก็ได้ค่ะ
7.ใครเคยเห็น อ.อุบลคืนเงินที่คนนำมาทำบุญเพราะเห็นว่า เป็นคนยากจนหรือคนแก่ หรือเด็กที่ยังไม่มีรายได้หรือไม่
หนูจำได้ว่า ตอนไปเข้าค่ายบ้านสวนให้เงินลูกสาวทั้ง 2 คนๆ ละ 100 บาท เพื่อให้ทำบุญกับท่าน อ.อุบล พอลูกสาวทั้งสองยื่นทำบุญ  ท่านอ.อุบลก็ได้คืนเงินให้ลูกสาว 2  คนของหนู ว่า ท่าน อ.อุบลรับเงินทำบุญแล้ว เงินนี้ให้หนูๆเอาไปกินขนมนะจ๊ะ ท่าน อ.อุบลเมตตาให้พวกเราได้มีโอกาสทำบุญแล้ว ท่านยังสงเคราะห์เด็กๆ อย่างน้องเอริค และน้องอแล็กซ์ ลูกของคุณโอ๋ เวลาทำบุญกับ ท่าน อ.อุบล ก็มักจะคืนเงินทำบุญให้แทบทุกครั้ง แม้แต่คนชรา และผู้มีปัจจัยน้อย อย่างคุณแม่เตือน น้าพร ป้าทิพ ผู้สูงวัยที่ดูแล้วไม่มีรายได้ประจำ ท่าน อ.อุบลจะถามเสมอว่า ทำแล้วเดือดร้อนไหม รายได้มาจากไหน มีพอใช้จ่ายไหม โดยเฉพาะคุณแม่เตือน ท่าน อ.อุบลเห็นว่าไม่มีรายได้ประจำท่านก็มักจะคืนให้เป็นค่ารถกลับบ้านบ้าง ซึ่งอัญมั่นใจว่าเงินจำนวนที่ท่านได้คืนให้แก่พวกเรานั้น ท่านต้องหักจากเงินส่วนตัวของท่านเองเพื่อช่วยสงเคราะห์คน และรักษากำลังใจในการทำบุญของแต่ละคนเพื่อใม่ให้จิตตกค่ะ 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 13:05:27


ความคิดเห็นที่ 7216 (1624475)

ตามความเห็น ของอร

ท่านอาจารย์ไม่เคยบอกบัญชีโอนเงินให้ใครเลยค่ะ คนที่ต้องการทําบุญด้วยจิตศรัทธากับท่่านจริงๆ ท่านจะบอกให้ไปหา บัญชีเอาเอง

สําหรับคนที่ต้องการซื้อสินค้า ก็ไม่ได้จะซื้อกันง่ายๆ อย่างตามท้องตลาด เพราะของที่ท่านอาจารย์ จําหน่าย เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธรรมะของพระพุทธองค์โดยตรง เพราะฉะนั้นต้องศึกษา ทําความเข้าใจก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อ โดยอ่านคู่มือก่อนอย่างน้อย9รอบ และท่านไม่เคยชวนใครซื้อสินค้าของท่านเลย คนที่ใช้ เมื่อใช่แล้วได้รับผลดี เค้าจะมาบอกเล่ากันเอง ใครอยากซื้อก็หาทางกันเอาเอง

ไม่เคยเห็นท่านอาจารย์ ชวนใครทําบุญเท่านั้น เท่านี้แต่อย่างใด ท่านบอกแต่ อนิสงค์ผลของบุญแต่ละอย่างให้ฟังอยู่เสมอเท่านั้น

ทุกคนที่มาต้องการทําบุญด้วยจิตศรัทธา แต่บางคนที่มีกําลังทรัพย์น้อย ท่านจะรับก่อน ซึ่งถือว่ารับแล้ว และท่านก็จะคืนให้แล้วก็บอกเหตุผลด้วย ซึ่งแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เช่นบางคนท่านจะบอกว่า เอาไปไว้เป็นขวัญถุง หรือเอาไปต่อยอดนะลูก เพราะท่านรู้ว่าคนใหนเดือดร้อน ทุกครั้งที่เห็นภาพนี้ อรรู้สึกซาบซึ่งใจจนนํ้าตาจะใหล ท่านจะบอกวิธีทําบุญที่บริสุทธิ์ ใหญ่ที่สุด และถูกที่สุดโดยไม่ต้องใช้เงิน โดยให้ใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ และบุญจากการเล่าเรื่องของตัวเองเพื่อเป็นธรรมทาน 

ท่านอาจารย์ ทําทุกอย่างเพื่อความพ้นทุกข์ ของมวลมนุษย์สย ชาติ ตัวอย่างความดีที่ท่านทํามา บอกได้เลยว่าไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้ทุกอย่างเพราะว่ามากมายเหลือเกิน หากนํามาปฎิบัตตาม แค่ตัวอย่างเดียวก็ทําให้คนชั่ว สามารถเปลี่ยนเป็นคนดีได้ไม่ยาก เพราะท่านสอนใน ทางตรง ทางลัด และชัดเจน 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 13:21:57


ความคิดเห็นที่ 7217 (1624496)

ความคิดเห็นที่ 7211 โดยคุณณัฐสินี

กับ ความคิดเห็นที่ 7213 โดยคุณอัญชลา

แสดงอีเมล

ช่วยซ่อนอีเมลด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 15:28:35


ความคิดเห็นที่ 7218 (1624501)

 

ขอถามพ่อใหญ่ หรือใครก็ได้ที่เข้ามาอ่านอยากถามว่า 
1.คนที่ต้องการทำบุญกับ อ.อุบลแล้วถามเบอร์บัญชี กับ อ.อุบลๆ เคยบอกไหม อ.อุบลบอกว่ายังไง
ท่าน อ.อุบลให้ไปดูในเวปบ้านสวน ซึ่งมีรายละเอียดบอกไว้หมดแล้วค่ะ
2.คนที่ต้องการซื้อของทุกอย่างของ อ.อุบลซื้อได้ง่ายๆไหม โทร.มาหา หรือมาหา อ.ซื้อได้ไหมอ.ตอบว่าอย่างไร  
อาจารย์จะถามก่อนเลยว่าศึกษาคู่มือหนีกรรมผิวพรรณครบ 9 ครั้งหรือยัง  ถ้าไม่ครบก็กลับไปศึกษาก่อนให้เข้าใจ  อย่างตัวเองอ่านไม่ครบ 9 รอบแต่มาซื้อสบู่น้ำนมข้าวไปใช้ผื่นขึ้นข้างแก้ม  จนมาศึกษาคู่มือครบ  9  จบ ถึงใช้ได้
3.ทุกวันนี้ คนที่่มาบ้านสวน เคยได้ยิน อ.อุบลชวนใครซื้อของหรือไม่ แต่ละคนที่ต้องการซื้อสินค้าอ.อุบล ซื้อกันได้อย่างไรใครชวนไปซื้อ
ท่าน อ.อุบลไม่เคยชักชวนใครไปซื้อแต่อย่างใด มีแต่พวกเราเองแหละค่ะที่จดรายการมาซื้อเพื่อไปใช้เองกับหลานสาวที่อ้วน เหมือนยาย  ตามข้อพับจะดำ   พอใช้ก็ขาวขึ้นค่ะ  และอาจารย์จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายพาเมล่า ท่าน อ.ยังเมตตาเอาไปทำบุญทุกบุญให้กับพวกเรา และอุทิศบุญให้กับเทวดาประจำตัวพวกเราอีกต่างหาก หาใครที่เมตตาอย่างท่าน อ.อุบล จะมีอีกไหม
4.มีใครบ้างแม้สักคนไหม ที่ อ.อุบล ชวนให้ทำบุญ
ท่านอ.อุบล ไม่เคยชักชวน  ให้ทำบุญด้วยปัจจัย   แต่จะชวนให้ทำบุญด้วยแรงกายเพราะแรงกายเราบริสุทธิ์  และผู้รับเป็นเนื้อนาบุญ  ปัจจัยนั้นอาจารย์แนะว่าตามกำลังของเรา ที่ไม่เดือดร้อน
5.อ.อุบล เคยบอกให้ใคร ต้องทำบุญด้วยเงินเท่านั้นเท่านี้หรือไม่ 
ท่านอ.อุบล ไม่เคยบอกว่าต้องทำบุญด้วย เงิน เท่านั้น   เท่านี้  มีแต่บอกว่าทำมาเยอะแล้วไม่ต้องทำแล้ว   แต่ตนเองอยากทำเพราะเหลือเวลาไม่มากแล้ว   อยากสะสมบุญไว้   เป็นเสบียงบุญต่อไปคงไม่มีใครเขาทำให้เราได้    ท่าน อ.เน้นมากเรื่องทำบุญด้วย  รรมทาน  เพราะเป็นการทำบุญที่อานิสงค์ยิ่งใหญ่ ทำได้ยาก ต้องใช้กำลังใจทำสูงมาก น้อยคนที่ทำได้ แต่ก็ไม่น่าจะเกินความพยายามถ้าเราตั้งใจ 
7.ใครเคยเห็น อ.อุบลคืนเงินที่คนนำมาทำบุญเพราะเห็นว่า เป็นคนยากจนหรือคนแก่ หรือเด็กที่ยังไม่มีรายได้หรือไม่
เคยเห็นกับตาหนึ่งครั้ง  ป้าเทิงนำเงินใส่ซองมาทำบุญ อ. อุบล  รับแล้วบอกว่าอาจารย์รับแล้วนะป้าเทิงได้บุญแล้ว   อาจารย์คืนให้นะ  แล้วที่ดูใน รายการแจกไปคุยไปอีกหลายครั้งค่ะ 
ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 16:02:26


ความคิดเห็นที่ 7219 (1624594)

 

อาจารย์แม่ท่านเคยบอกว่าทำบุญได้หลายอย่าง ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน ทำบุญด้วยแรงกายก็ได้ หรืออยากร่วมบุญแค่เพียงบาทเดียวก็ทำได้ ไม่เคยกำหนด

ตัวดิฉันเองเคยไปทำบุญเป็นเงินกับท่านอาจารย์ ก่อนรับท่านก็ถามหนูทำอาชีพอะไร หนูเดือดร้อนใหมที่ทำบุญ เพราะท่านไม่อยากให้เราเบียดเบียนตัวเอง แต่ส่วนมากทุกคนก็ตั้งใจทำบุญด้วยจิตที่ศรัทธาอยู่แล้ว และก็เคยเห็นท่านรับเงินทำบุญแล้วก็คืนให้กับคนที่มาทำบุญด้วยตาและดูรายการผ่านทีวี จึงสรุปได้ว่า ท่านไม่เคยเรี่ยไรเงิน หรือ กำหนดจำนวนเงินทำบุญ หรือ โฆษนาขายสินค้าใดๆ มีแต่คนที่ไปบ้านสวนนี่ล่ะที่อยากไปร่วมทำบุญเอง

เคยมีครั้งหนึ่งซึ่งนานมาก ดิฉันไปบ้านสวนแล้วตอนนั้นก็มีองค์พีระมิดที่มีจำนวนจำกัดแล้วท่านอนุญาตให้บูชาวันนั้นได้ แต่ให้ต่อคิวโดยเขียนรายชื่อ ซึ่งทุกคนต่างก็อยากได้ แต่ของมีจำนวนจำกัด ทำให้ทุกคนไม่ยอมต่อคิว แต่แทรกคิวแย่งกระดาษกันไปเขียน ซึ่งตอนนั้นดิฉันต่อคิวเป็นคนที่ 2 หรือ 3 ไม่แน่ใจ แต่โดนแทรกคิวเป็นลำดับที่เลยโควต้าองค์พีระมิดที่มีเลยคิดว่าคงไม่ได้ แล้วก็เลยคิดว่าการที่เราไปบ้านสวนนั้น ไปเพื่อสร้างบุญกุศล ปลดเปลื้องความทุกข์ หรือเราไปด้วยความโลภ ที่อยากหายโรค อยากร่ำรวย อยากได้ความสุขกันแน่ แต่แล้วกฏสวรรค์ก็มีจริงอาจารย์ท่านอ่านชื่อคนที่ได้พีระมิดไปแล้วก็ข้ามชื่อคนที่แซงคิว มาอ่านชื่อของดิฉันเลย ดีใจและเชื่อเลยว่าสิ่งสักดิ์สิทธิ์มีจริงและก็ควบคุมให้เป็นไปตามกฏกติกาที่ท่านอาจารย์บอก

ส่วนเรื่องพี่เกสร เมื่อได้อ่านแล้วก็ทำให้เรารับรู้ได้ ว่าคนที่มาบ้านสวนมากๆ หรือบ่อยๆ ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเป็นคนดี หรือว่ามีโอกาสเกาะบุญบ้านสวนไปนิพพานได้ง่าย อาจจะสร้างกรรมแล้วไปนรกง่ายด้วยเช่นกัน เพราะฉนั้นคนที่มีโอกาสไปได้น้อย หรือยังไม่มีโอกาสได้ไปอย่าเสียใจนะคะ เราปฏิบัตตามคำสอนของพระพุทธองค์ และท่านอาจารย์แม่ เราก็มีโอกาสเกาะบุญไปนิพพานได้เช่นกันค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-17 00:39:51


ความคิดเห็นที่ 7220 (1624625)

 

ป้าเตือนรู้สึกซาบซิ้งในพระเมตตาของพระพุทธองค์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ที่บ้านสวน รวมทั้งครอบครัวของท่าน อ.อุบล  ที่ทำให้ป้าเตือนมีวันนี้ได้
 
1. ได้รู้จักบ้านสวนจากรายการคุยไปแจกไป จากน้องสาว(ป้าพร) เห็นหลวงพ่อฤาษี และท่านท้าวเวสสุวรรณก็โมทนาหน้าจอ และส่งเงินมาทำบุญ 500 บาท ได้มีโอกาสไปทำบุญด้วยปัจจัยและแรงกาย 9 วันที่บ้านสวนกับน้องสาว และเกิดปาฏิหาร์ ด้วยโรคที่ป่วยมา 10 กว่าโรคที่หมอรักษาไม่หาย หมดเงินไปก็หลาบหมื่น ได้แค่อาการทุเลา โดยเฉพาะอาการเมารถและปวดหลัง ซึ่งทุกข์ทรมานมากว่า 40 ปี สามารถมาหายตอนทำความสะอาดในห้องครัวบ้านท่าน อ.อุบล ในเวลาเที่ยงคืน
 
2. รู้เหตุของกรรมที่ทำมาได้ เพราะท่าน อ.อุบลได้ชี้แนะว่า บาปกรรมที่ทำมาเจ้ากรรมนายเวรทำให้เราต้องป่วยไม่สบาย เพราะเราได้ทำลายศีลทุกข้อ พอรู้เหตุดังนี้เราก็ดับเหตุด้วยการรักษาศีลอย่างมั่นคง ผลก็ดับ อาการทุกข์หลายๆ อย่างก็บรรเทา และหายไป
 
3. การทำบาปแต่ละอย่างของเราทำให้เราได้รับผลของกรรมแตกต่างกันตามวาระกรรม หลังจากได้ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร และอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรแล้วก็มีอาการหายโดยฉับพลัน ทันที แสดงว่าการที่เราได้ไปทำบุญที่ครบองค์ประกอบทั้ง 3 ทรัพย์ที่ให้บริสุทธิ์-ผู้รับบริสุทธิ์และให้ด้วยใจศรัทธาบริสุทธิ์ ทำให้เจ้ากรรมนายเวรสามารถได้รับบุญได้อย่างทันที
 
4. ท่าน อ.อุบล แนะนำสอนวิธีทำอย่างไรที่ไม่ให้เรากลับไปรับความทุกข์อีก
ก็โดยการให้เรามีศีล 5 และเปลี่ยนพฤติกรรมของเราให้เป็นไปในทางที่ดีหรือทางบวกทันที ให้ทำ ทาน ศีล ภาวนา แล้วอุทิศบุญถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทวดาประจำตัวท่าน อ.อุบล เพื่อขอบคุณทุกท่านที่เมตตาสงเคราะห์เราและชี้ทางแสงสว่างหาทางกลับบ้านสู่นิพพาน 
 
สำหรับตัวเองก่อนมารู้จักบ้านสวน ก็ได้ทำลายศีลทุกข้อ พอมาเจอบ้านสวนก็รู้กรรมละเอียดขึ้น ทั้งทางกาย วาจา-ใจ โดยเฉพาะทางใจแค่คิดก็สร้างกรรมไม่ดีเกิดขึ้น ซึ่งเป็นได้ง่ายแต่ละ-ลด-เลิกได้ยากนัก อ.อุบลได้สอนให้รักทุกคนอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งเป็นหัวใจหลักของทุกศาสนา เมื่อได้ปฏิบัติตามคำสอนของท่าน อ.อุบลแล้วปรากฏว่าชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นทุกด้าน
-      สุขภาพแทบไม่ต้องไปหาพึ่งหมอ  เพราะมียาวิเศษคือ รหัส” อ.อุบลช่วยด้วย” 
-      ชีวิตครอบครัวมีความสุข โดยเฉพาะสามีปัจจุบันเลิกทานสุรา และยานัตถุ ไม่ค่อยเถียงทะเลาะกันแล้ว ด้วยบุญที่ทำกับบ้านสวน
-      เริ่มปลงชีวิตไม่ค่อยห่วงลูกหลาน หรือวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ คิดว่า ตายไปแล้วจะขอไปอยู่กับสมเด็จพ่อองค์ปฐมบนนิพพาน
-      การเงินมีความคล่องตัวไม่ขัดสนเหมือนแต่ก่อน มีความสุขกับการอยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียง ใช้หลักที่ได้ไปทำกับบ้านสวนมาประยุกต์ใช้กับตัวเองแล้วได้ผลดี
 
ที่สำคัญที่สุดคือ รู้ทุกข์แต่ไม่ทุกข์เหมือนแต่ก่อน เห็นอะไรที่เกิดขึ้นก็มองเป็นเรื่องธรรมดา ต้องขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิด ,เทวดาประจำตัวท่าน อ.อุบล และครอบครัวท่าน อ.อุบล ที่ช่วย
ชุบชีวิตใหม่ให้กับป้าเตือนและครอบครัวในครั้งนี้ ป้าเตือนจะรักษาศีล 5 อย่างเต็มที่เพราะสำนึกแล้วว่าหากขาดศีล 5 เราจะพบปัญหา อุปสรรค และความทุกข์อย่างไรบ้าง เพราะป้าอยากเป็นคนที่ปกติค่ะ 
 
 
ขอขอบคุณคำเตือนของคุณครองขวัญนะคะ    ได้ซ่อน Mail แล้วค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-17 09:19:26


ความคิดเห็นที่ 7221 (1624628)

ลองเข้าไปอ่าน

"ห้องสนทนา คำถามถึง อ.อุบล"

ดูนะจ๊ะ

 

ที่่พ่อใหญ่ธนา

ถามไว้นานแล้ว พึ่งได้มาตอบจ้า

 

มี 2 กระทู้ ค่ะ

1.กระทู้บน คือ เชิญถามปัญหา

2.กระทู้ถัดมา คือ พฤติกรรมคนที่มาบ้านสวน

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 16:23:36

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-17 10:19:12


ความคิดเห็นที่ 7222 (1624841)

อนุโมทนากับการเข้ามา

ตอบคำถามจากทุกๆท่าน

 

และอนุโมทนากับธรรมทาน

จากคุณป้าเตือน ด้วยนะคะ

 

เพราะป้าเตือนเป็นคนนึง

ที่ทำบุญด้วยปัญญาจริงๆ

จึงเห็นผลทุกอย่างได้อย่างชัดเจน

 

แม้กระทั่งการใช้บุญแรงกาย

ป้าเตือน ก็ไม่เคยเบียดเบียนตัวเองเลย

แล้วก็ไม่เคยบ่นท้อ ถอดใจ

ถึงแม้ว่า จะเจองานหนักๆ

อย่างยกหิน ยกปูน สาระพัด

ป้าเตือนก็ทำหม๊ด

 

แต่ทำตามกำลังและวัยของตนจริงๆ

ชนิดาเห็นแล้ว ก็แอบสรรเสริญอยู่ในใจ

เพราะป้าเตือนคนนี้ ใจสู้เกินร้อย เจงๆจ๊า...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 04:51:08


ความคิดเห็นที่ 7223 (1624887)

 สัปดาห์นี้ อาจารย์อุบลให้ปรับผังกิจกรรมใหม่ทั้งหมดครับ 

โดยในวันเสาร์นั้น จะเป็นการทำบุญด้วยแรงกายทั้งหมด ซึ่งท่านอาจารย์บอกว่า ทุกคนควรจะสะสมบุญให้ครบ 9 ชั่วโมง

เพื่อนำมาอุทิศบุญกุศลในวันอาทิตย์

โดยภาคกลางคืนของวันเสาร์ที่ปกติจะเป็นการสร้างธรรมทาน โดยมีการขอบคุณสิ่งศักดิ์ และบอกเล่าเรื่องราวและประสบการณต่างๆของลูกบ้านสวนที่เห็นว่ามีประโชน์ต่อคนอื่น และธรรมมะจากท่านอาจารย์อุบล จะถูกย้ายไปในวันอาทิตย์ทั้งหมด ตลอดทั้งวัน 

ซึ่งในสัปดาห์นี้ อ.อุบลได้อาราธนาบารมีพระศรีอาริยเมตไตยมาให้ทุกคนได้สัมผัสกัน 

ซึ่งเมื่อท่านอ.อุบล เริ่มอาราธนาท่านมาสถิตที่ กาย วาจา และใจของท่านอาจารย์อุบล

เบสก็สามารถสัมผัสได้ด้วย อาการปิติ ขนลุก และอยากจะร้องไห้ และมีอาการโล่งสบายไปทั้งตัว

ซึ่งคนอื่นๆก็มีอาการปิติเช่นกัน โดยหลายคนที่มีอาการเจ็บป่วยต่างๆ เมื่ออาราธนาบารมีของท่านมาแล้ว ต่างก็หายจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ

โดยตัวเองสัมผัสได้คือมีอาการหายใจโล่ง ซึ่งก่อนหน้านั้น หายใจติดขัดจากอาการมีน้ำมูก ซึ่ง อ.อุบลบอกไว้ว่า

พระศรีอาริยเมตไตยนั้นถ้าเป็นของจริงแค่เดินมาใกล้ๆก็สามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งก็คือการหายจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ โดยไม่ได้ทำอะไรเลย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

สามารถพิสูจน์ได้ว่า  พระศรีอาริยเมตไตยนั้น มีอยู่จริง 1000000 % ครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 19:20:42


ความคิดเห็นที่ 7224 (1624907)

ธรรมทานวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2555

วันเสาร์นี้มีงานบุญให้พวกเราทำดังนี้ ย้ายวิมานไม้ไผ่หลังเล็ก ไปไว้ใกล้ๆบ่อน้ำพีระมิิด จำนวน 3 หลัง ซึ่งอาทิตย์นี้พวกเราไปประมาณ 20 กว่าคน ต่างร่วมแรงร่วมใจกันยกบ้านไม้ไผ่อย่างทุลักทุเล ทำไปหัวเราะไปแต่ก็สำเร็จลุล่วงไปได้  เทปูนที่ฐานพระบาทสมเด็จองค์ปฐม และทำนาต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว

ท่านอาจารย์เริ่มเปลี่ยนการทำกิจกรรมการฟังสมาธิจากท่านอาจารย์ ตั้งแต่อาทิตย์นี้ โดยวันเสาร์ให้เราทำงานทั้งวัน เต็มวัน ให้ได้วันละ 9 ชั่วโมง ช่วงกลางคืนก็สวดมนต์ และสนทนากันเล็กน้อย แต่จะไม่เกิน 5 ทุ่มก็ให้เข้านอน ส่วนวันอาทิตย์ตื่นเช้าให้ช่วยงานเกษตร จนกระทั่ง 9 โมงเช้าก็มาอาบน้ำ เตรียมตัว ทานข้าวเช้า แล้วเริ่มกิจกรรมฟังธรรมะกัน ใครต้องการขอบคุณ ขอขมาก็จะมาทำในช่วงนี้

วันนี้ท่านอาจารย์ได้อัญเชิญพระบารมีของพระศรีอารย์ เพื่อมาช่วยพวกเราให้คนที่เจ็บป่วย คนที่มีปัญหาการงาน การเงิน หรือคนที่ีความทุกข์ได้ปลดเปลื้องทุกข์เหล่านี้ โดยให้แต่ละคนบอกความทุกข์ของตัวเองทีละคน จากนั้นท่านอาจารย์ได้อัญเชิญพระบารมีของพระศรีอารย์เพื่อให้พวกเราพิสูจน์ด้วยว่าพระองค์ท่านมีจริงหรือไม่ หรือคิดไปเอง ถ้าพระองค์ท่านเสด็จมาก็ขอให้พวกเราหายเจ็บป่วยหรืออาการดีขึ้น หรือพวกเราสามารถรับสัมผัสบารมีพระองค์ท่านได้หรือไม่

เจี๊ยบมีอาการคันที่หัวเข่าขวา และคันที่ผิวหนัง รักแร้ และเป็นเม็ดเล็กๆทั่วบรเวณท้องแขนด้านล่าง อาการสายตาสั้น สภาพการเงินไม่คล่อง และไม่เจริญทางธรรม

ปรากฏว่า หลังจากที่ท่านอาจารย์อารธนาบารมีพระศรีอารย์เสร็จ ท่านอาจารย์ถามว่าใครรับสัมผัสได้และอาการของโรคที่เป็นนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับเจี๊ยบ เวลาที่ท่านเสด็จนั้น รู้สึกขนลุกเล็กน้อย อาการคันหายไป เม็ดเล็กๆที่บริเวณท้องแขนนั้นยุบลง 70 % เมื่อท่านอาจารย์ไ้ด้ให้ออกมาบอกอาการหน้าห้องนั้น เมื่อไปใกล้ๆท่านอาจารย์ สายตาของเจี๊ยบที่สั้นนั้นดีขึ้นมองเห็นชัดขึ้นมา ประมาณ 30% ซึ่งเจี๊ยบมั่นใจว่าพระศรีอารย์มีจริงแน่นอน กราบขอบพระคุณในความเมตตาค่ะ

ส่วนคนอื่นนั้นต่างก็หายถ้วนหน้ากัน อาทิเช่น

1.น้องต้นอ้อ ออกไปเล่าด้วยตัวเองเลยค่ะ ว่าขนตาที่ยาวมาทิ่มลงในผิวเนื้อตาทำให้เจ็บปวดทรมานนั้น หายแล้วค่ะ โดยที่คุณอังคนาแม่ของน้องต้นอ้อ ออกมาอธิบายให้ฟังว่าเปลือกตาด้านล่างจะอยู่ติดผิวตา เวลาขนตายาวก็จะไปแทงผิวตา แต่ตอนนี้ เปลือกตาด้านล่าง ได้อยู่ห่างจากผิวตาแล้วทำให้ขนตาไม่ไปแทงผิวตา

2.คุณมงคลจากเชียงใหม่ ซึ่งรับพระบารมีของพระศรีอารย์เต็มๆจนสะอึกสะอื้นด้วยความปิติ ด้วยการสามารถเห็นพระองค์ท่านด้วยตาเนื้อ เห็นเป็นแก้วใส ในมือถือจักรแ้กวและพระขรรค์

3.คุณโฆษิต อาการปวดหัวไหล่ขวา หายเลย

4.ดร.จุ๋ม เห็นพระองค์ท่าน และอาการปวดข้อมือที่เป็นๆหาย ได้หายไป

5.คุณอร เห็นพระองค์ท่าน และอาการปวดคอหันไม่ได้ นั้นได้หายไป

6.พี่เหมื่ยว อาการนิ้วล๊อค ได้หายไป

7.คุณสิทธ์ อาการปวดข้อมือ ได้หายไป

8.น้องเบส อาการภูมิแพ้ เป็นหวัด ได้หายไป

9.คุณธนา อาการสายตาสั้นดีขึ้น 60 %

ทุกคนต่างสรุปว่า พระศรีอารย์มีจริง ต่างก็รับสัมผัสได้ รับพระบารมีได้ และพระองค์ท่านมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้เราได้ด้วย

ท่านอาจารย์บอกว่าต่อไปทุกวันอาทิตย์ ท่านอาจารย์จะเชิญพระบารมีพระศรีอารย์มาช่วยพวกเราที่มีปัญหาในทุกๆด้าน ให้ปลดเปลื้องความทุกข์ที่เรายังติดอยู่ และพระบารมีของพระองค์ก็จะเข้มข้นไปเรื่อยๆ

กราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระศรีอารย์ และ

กราบขอพระบารมีของพระพทุธองค์ขอเบิกบุญทาน ศีล ภาวนาในทุกภพชาติ และบุญบารมีที่สร้างในบ้านสวนฯขอบุญทุกบุญได้โปรดรวมตัวกัน และขออุทิศบุญแด่พระศรีอารย์ เทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบล อาจารย์อุบล อาจารย์มงคลและคุณท๊อป และพี่น้องบ้านสวนฯทุกท่านค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 21:17:05


ความคิดเห็นที่ 7225 (1624912)

ขออนุโมทนาบุญกับพี่เจี๊ยบ

สิงห์ปืนไวในการเขียนธรรมทาน

เล่าบรรยากาศการร่วมบุญที่บ้านสวนฯค่ะ

ตอนนี้องค์พระศรีอาริย์

ท่านมาปรากฎแล้วทางกายทิพย์

ท่านมาเพื่อช่วยพวกเราลูกหลานของท่าน

ตอนนี้คงใกล้ภัยพิบัติมากแล้ว

ต่อไปก็คงถึงเวลาที่จะ

เปิดเผยกายเนื้อ ตัวจริงๆ

ทุกอย่างเบื้องบนท่านกำกับบทไว้หมดแล้วจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 21:37:05


ความคิดเห็นที่ 7226 (1624914)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ แสดงว่าเวลานี้พวกเราได้พบพระศรีอาริย์กันแล้วก่อนเดือนกันยายน โอกาสที่เราจะขออารธนาบารมีพระองค์ท่านเพื่อยับยั้งภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นก็พอจะมีหนทางแล้วนะครับ  เอ้...ว่าแต่พระองค์ท่านจะทรงเปิดเผยพระวรกายที่เป็นกายเนื้อให้เราได้ชื่นชมบารมีและได้รับใช้พระองค์ก่อนภัยพิบัติรึเปล่าครับ รบกวนท่านอาจารย์หรือผู้รู้ท่านอื่นช่วยตอบด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 21:40:53


ความคิดเห็นที่ 7227 (1624949)

ธรรมทานวันที่19 ส.ค. 2555

ช่วงแรกอาจารย์ได้พูดถึงการตามหาพระศรีอาริย์

และได้ไห้ทุกคนเช็คว่าตัวเองจะมีคุณสมบัติที่จะรอด

หรือเปล่า โดยตรวจสอบศีล 5 แต่ละข้อ

ว่าเรายังบกพร่องในข้อไหน

และส่วนมากที่พวกเรายังผิดศีล

เนื่องจากใจยังไม่เข้มแข็งพอ

เอาอะไรมาเป็นตัววัดว่าจะรอดหรือไม่

รอดจะรอดแบบไหน

1.คนที่ยังมีกิเลสมาก

ทำชั่วทั้งต่อหน้าและลับหลัง

คนพวกนี้คงไม่รอด

2.คนที่ยังมีกิเลสแต่ยังมีสติควบคุม

ลับหลังอาจทำชั่วบ้างแต่ยังมีสติยั้งคิด

คนพวกอาจรอดแต่ไม่สมประกอบ

3.คนที่มีจิตเหนือสำนึก ละอายต่อบาป

ไม่ทำชั่วทั้งต่อหน้าและลับหลัง

คนพวกนี้จะรอดแบบสมประกอบ

คุณคือ ผู้กำหนดภัยพิบัติ

ต่อไปพวกเราต้องทำได้เหมือนอ.อุบลได้

ใครที่เคยใช้ จี้ ช่วยเหลือคนอื่น

นั่นคือ คนที่ได้รับเลือกให้อยู่

เพื่อที่จะช่วยเหลือคนอื่นใน

วันที่เกิดภัยพิบัติ

ส่วนคนที่ยังไม่ได้ใช้จี้ช่วยคนอื่น

อย่าเพิ่งเสียใจ

พระพุทธเจ้า

ท่านยังเปิดโอกาศให้ทุกคนที่มีจี้

ได้ช่วยเหลือต่อไป

จี้ ทำไมถึงมีบารมีช่วยเหลือคนอื่นได้?

ท่านอาจารย์ได้อธิฐานบารมี

พระพุทธเจ้าใว้ใน จี้

ให้พวกเราใช้จี้ไปช่วยคนอื่น

จี้ของใครที่ช่วยคนมากๆ

จะมีพลังมากกว่าคนอื่น

........................................

คนที่อยู่รอดต้องเป็นพระโสดาบัน

ซึ่งเป็นโจทย์ที่อาจารย์ได้รับมา

............................

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 00:14:00


ความคิดเห็นที่ 7228 (1624960)

ธรรมทานวันที่19 ส.ค. 2555

ช่วงแรกอาจารย์ได้พูดถึงการตามหาพระศรีอาริย์

และได้ไห้ทุกคนเช็คว่าตัวเองจะมีคุณสมบัติที่จะรอด

หรือเปล่า โดยตรวจสอบศีล 5 แต่ละข้อ

ว่าเรายังบกพร่องในข้อไหน

และส่วนมากที่พวกเรายังผิดศีล

เนื่องจากใจยังไม่เข้มแข็งพอ

.......................................................................

พูดเรื่องการตรวจสอบศีลห้าของเราแล้ว

ชนิดาก็อยากให้ทุกๆคน

พิจารณาแบบละเอียดๆจริงๆนะคะ

 

เพราะชนิดาเป็นคนนึง

ที่แต่ละวันมานั่งตรวจจับศีลของตัวเองแล้ว

ส่วนใหญ่ ชนิดาก็มักจะได้คำตอบว่า

วันนี้ไม่น่าจะมีอะไรผิดนะ

 

แต่พอถึงตอนนั่งสมาธิ

อาการบ่งบอกเลยว่า

อันตัวเรานี้

สตรอเบอร์..แหล ตัวเองชัดๆ

ก็นั่งไปฟุ้งไปแบบนี้

ไม่ศีลด่างก็ต้องทะลุแน่ๆ

เพราะ"ทาน"และ"ศีล"

เป็นบาทฐานสำคัญของสมาธิ

 

เมื่อนั่งแล้วจิตไม่สงบ

ก็ต้องเอาผลย้อนไปหาเหตุ

ซึ่งค้นๆไป ก็ได้เจอ

ความชั่วของตัวเองที่มันซ่อนๆอยู่

เช่น บางทีคุยโทรศัพท์กับคุณแม่

ก็ได้พูดถึงคนอื่นในทางที่ไม่ดี

แต่ตอนนั้นเราคิดว่าเรากำลัง

วิเคราะห์พฤติกรรมของเค้าอยู่(ดูดีเนอะ)

แต่มันเป็นการพูดลับหลัง

หรือ นินทานั่นเอง

 

หรือ บางวัน ก็เผลอบิดเบือนคำพูด

สร้างภาพสร้างอัตตาให้ตัวเอง

ก็เข้าข่ายโกหกอยู่ดี

 

คือ บางอย่างเราทำชั่ว

ได้เป็นอัตโนมัติมากๆค่ะ

 

และนอกจากนั้น ก็ยังมีความโกรธ

ไม่พอใจ และรู้สึกรำคาญคนอยู่

 

เรียกได้ว่า สติ สปีดเต่า

ตามกิเลสหุ่นเพรียวๆวิ่งเร็วๆ

ไม่ค่อยจะทันเลยค่ะ....

 

คือพอมานั่งพิจารณาจริงๆแล้ว

ถึงได้รู้ว่า

ศีลเราแทบจะหาความบริสุทธิ์ไม่ได้เลย

............................................


อนุโมทนากับธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 05:41:50


ความคิดเห็นที่ 7229 (1625124)

 ก่อนหน้านี้ผมกำลังติดตามประเด็นการตามหาพระศรีอริยะเมตไตย์  จากหลากหลายความคิด  หลากหลายข้อมูล  ผมก็เลยนึกสงสัยถึงการปรากฏภาพครั้งแรกของท่านต่ออาจารย์อุบลที่อาจารย์เล่าว่า

...ขณะจับภาพพระปฐมปางนิพพาน ซึ่งจับภาพนี้ทุกวัน จู่ๆ ก็มีภาพพระศรีอาริย์มาแทน ซึ่งแปลกมาก เราอยากพบท่าน    แต่เราไม่ยักเคยจับภาพท่านเลย วันนี้ท่านมาในชุดนิพพาน เหมือนกัน แต่ทรงจักร กับพระขันธ์.....

ผมสงสัยว่าหลายๆ คนพยายามหาพระศรีอาริย์ให้พบว่าเป็นใคร  ให้ท่านปรากฏกายขึ้นก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ   หลายๆสำนักก็พยายามผลักดันผู้ที่ตนเคารพให้เป็นพระศรีอาริย์   มองแต่เรื่องรูปธรรมใกล้ๆตัวเหมือนการเลือกเฟ้นสิ่งที่ดีที่สุดของตน  แล้วนำมาประชันให้เกิดการยอมรับความป็นเลิศที่สุด  จนลืมนึกถึงสิ่งที่ต้องพึงปฏิบัติคือการประกอบกรรมดี  มีทาน ศีล ภาวนาที่บริสุทธิ์  เพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเองจากสิ่งที่ไม่ดีและเอาชนะจิตที่เป็นฝ่ายต่ำของตนเองให้ได้ด้วยสติและปัญญา   ผมเชื่อว่าพระศรีอาริย์ท่านต้องการเห็นสิ่งนี้มากกว่าที่จะให้ใครมาตามหาท่านว่าท่านเป็นใคร 

โดยความคิดส่วนตัวผมเชื่อว่ามีพระศรีอาริย์แน่นอนแต่ท่านมีสภาวะที่เป็นทิพย์อยู่ในขณะนี้  ท่านจึงปรากฏเป็นภาพให้อาจารย์อุบลเห็นในขณะที่จิตอยู่ในฌาณ   หรือที่คุณก๊อตเห็น  หรือใครๆสัมผัสได้ก็โดยทางจิต  ผมจึงสงสัยว่าเราตามหาตัวบุคคลเป็นๆจะเจอท่านหรือไม่  ในเมื่อท่านมีสภาวะที่เป็นทิพย์เป็นนามธรรมไม่ใช่รูปธรรมตามความเข้าใจของผม

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้เราก็สามารถยังตามหาท่านได้  โดยใช้วิธีตามหาทางจิตเหมือนกับที่อาจารย์อุบลเห็นภาพพระองค์ท่าน   อาจารย์อุบลท่านมีคุณสมบัติพร้อมแล้วที่จะพบพระศรีอาริย์ด้วยวัตรปฏิบัติของท่าน  พวกเราพร้อมแล้วหรือยังที่จะพบกับพระศรีอาริย์   ส่วนตัวผมเชื่อว่าต้องสร้างกรรมดีให้มากกว่านี้จึงจะพบท่านได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 08:30:42


ความคิดเห็นที่ 7230 (1625141)

พวกเราพร้อมแล้วหรือยังที่จะพบกับพระศรีอาริย์ ส่วนตัวผมเชื่อว่าต้องสร้างกรรมดีให้มากกว่านี้จึงจะพบท่านได้...อ.อภิชัย

......................................

อนุโมทนาบุญกับธรรมทานท่าน อ.อภิชัยครับ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความเห็นของอ.อภิชัย ตามความเห็นของผมนะครับสิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าเราสร้างกรรมดีพอแล้วหรือยังที่จะพบพระองค์ หรือถ้าขณะนี้เราได้พบพระองค์แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป หรือเพียงแค่คิดว่าเราพบกายทิพย์พระองค์แล้วยังไงเราก็รอดตายแล้วปลอดภัยจากภัยพิบัติแล้ว โดยที่ไม่ทำอะไรอีกต่อไป

หรือเมื่อพบกายทิพย์พระองค์แล้วก็ยิ่งมั่นใจยิ่งขึ้น เร่งสร้างความดีให้เข้มข้นขึ้น รักษาศีลให้บริสุทธิ์มากขึ้น ทำงานสร้างความดีมากขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชาถวายพระองค์ครับ

แต่ถึงอย่างไรผมจะเร่งสร้างกรรมดี เพื่อหวังว่าจะได้พบกายเนื้อของพระองค์ในเร็ววันนี้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 10:22:32


ความคิดเห็นที่ 7231 (1625408)

 

พวกเราพร้อมแล้วหรือยังที่จะพบกับพระศรีอาริย์ ส่วนตัวผมเชื่อว่าต้องสร้างกรรมดีให้มากกว่านี้จึงจะพบท่านได้...อ.อภิชัย

......................................

อนุโมทนาค่ะ อ. อภิชัย เห็นด้วยนะคะ ถึงแม้นว่าเราจะเห็นพระองค์ท่าน อยู่ตรงหน้าไม่ว่าจะด้วยกายทิพย์หรือกายเนื้อก็ตาม หากตัวเรา ไม่น้อมนําคําสั่งสอนมาปฎิบัติ หรือไม่คิดที่จะแก้ไข เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น ก็เป็นสิ่งน่าเสียดาย ที่เห็นแต่พระรูปโฉมพระองค์ แต่ไม่เห็นธรรมะ อันงดงามของพระองค์ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 20:35:06


ความคิดเห็นที่ 7232 (1625426)

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ พวกเราลูกบ้านสวนได้พบและสัมผัสพระบารมีของพระศรีอริยเมตไตรยอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่สอง  ครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยมหิดล   แต่สำหรับผมเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสพระบารมีของพระองค์ท่าน   ก่อนหน้านี้เคยสงสัยว่าท่านจะมีจริงๆ   ตามพุทธทำนายหรือตามเอกสารอนาคตวงค์มั๊ย   อีกตั้งสองพันกว่าปีเราจะรู้ได้อย่างไร  อายุเราคงอยู่ไม่ถึงและถ้าเกิดใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เป็นอะไร  หรือถ้ามีจริงท่านก็คงจะบำเพ็ญบารมีโพธิญาณอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิต  และก็พยายามที่จะหากันว่าท่านได้ลงมาแล้วหรือยัง  และจะเป็นใคร   คิดกันไปต่างๆนาๆ

และเมื่อได้รับความกรุณาจากท่านอาจารย์อุบลอาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์  ให้ลูกบ้านสวนฯทุกคนได้สัมผัส  และผมสัมผัสด้วยตัวเองจึงยิ่งมีความเชื่อมั่นว่าพระองค์ท่านมีอยู่จริงๆ  และเมื่อถึงเวลาท่านก็คงประสูติแล้วตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ และเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายของภัทรกัปนี้

ผมเสร็จจากงานก่ออิฐ พระบาทสมเด็จองค์ปฐมฯ เมื่อตอนสามโมงเย็น  รีบกลับมาร่วมฟังธรรมทานแทบไม่ทัน   เข้ามาเป็นคนสุดท้ายแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และพอดีกับที่พอเข้าไปก็เป็นคิวของผมที่อาจารย์อุบลท่านถามพอดีว่าผมมีปัญหาอะไรบ้าง  ผมรู้สึกเหมือนท่านรอผมอยู่ไม่อยากให้พลาดโอกาสในการพบพระศรีอาริย์   ตอนเข้าไปผมมีอาการปวดหัวไหล่และบ่าทั้งสองข้างมากเหมือนมีใครมาบีบและกดไว้หนักไปหมด  และเมื่ออาจารย์อุบลท่านเริ่มอาราธนาอัญเชิญพระบารมีของพระศรีอาริย์ผมเริ่มขนลุกซู่เกิดปิติทั้งตัว  รู้สึกเบาโล่งและมีความสุข  และเมื่อเสร็จอาการปวดต่างๆก่อนหน้านี้หายหมดเหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลย   ตอนนี้ผมเชื่อมั่นอย่างทีสุดว่าท่านมีอยู่จริงเพราะจิตและร่างกายสัมผัสและรับรู้ได้  

ลูกบ้านสวนฯ คนอื่นๆก็สัมผัสได้ด้วยเช่นกัน  เช่น  เป็นครั้งแรกของคุณจุ๋มที่สัมผัสได้ถึงแสงสว่างจ้า  ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นพระฉัพพรรณรังสีจากพระวรกายของท่าน  คุณธนาจากที่สายตาสั้นมองไม่ชัดก็มองเห็นชัดขึ้น( เอ๊ะ  หรือสายตาจะเปลี่ยนจากสั้นไปยาวแทน )  คุณสิทธิ์หายจากอาการปวดข้อมือ ( แล้วปวดเอวหายมั๊ยครับ )  คุณอรปวดคอหันไปข้างๆไม่ได้  แต่หายเป็นปกติ  อาจารย์อุบลให้ลองหมุนคอไปรอบดู  อาจารย์ครับถ้าคุณอรหมุนคอไปได้รอบ  พวกเราก็วิ่งกันป่าราบแล้วครับ  และน้องต้นอ้อก็มาบอกว่าหนูหายปวดขาแล้วคะและตาก็ไม่เจ็บแล้ว  น้องต้นอ้อขึ้นไปคนเดียวเลยเก่งมาก น่ารักจริงๆ หนูข้าวต้มมัดของลุง  แต่คนที่ซึ้งที่สุดคือคุณมงคลที่เดินทางมาจากเชียงราย  ปกติคุณมงคลจะมาเช้าวันอาทิตย์ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีธรรมทานคืนวันเสาร์  แต่คราวนี้คุณมงคลได้มีโอกาสได้เห็นพระศรีอาริย์ท่านเสด็จมาให้เห็น พระหัตถ์ซ้ายถือพระขันธ์ พระหัตถ์ขวาถือจักร  เล่นเอาคุณมงคลเกิดปิติจนเรียกน้ำตาหนุ่มเจียงฮายได้  ถือว่าเป็นสุดยอดของเย็นวันอาทิตย์   และมีอีกหลายๆคนที่สามารถสัมผัสได้ถึงแสงฉัพพรรณรังสีและพระวรกายที่งดงามของพระองค์ท่าน  อาจารย์อุบลสบายใจได้แล้วครับมีลูกบ้านสวนร่วมเป็นพยานหลายๆคน  และยืนยัน นั่งยันเลยครับว่าพระศรีอาริย์มีจริง 

ลูกขอขอบคุณพระศรีอาริย์และอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูง  ที่ท่านมีเมตตากับพวกเราลูกบ้านสวนฯให้ได้มีโอกาสสัมผัสและชื่มชมพระโพธิญาณบารมีของพระศรีอาริย์ 

    

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 22:16:00


ความคิดเห็นที่ 7233 (1625429)

พวกเราพร้อมแล้วหรือยังที่จะพบกับพระศรีอาริย์ ส่วนตัวผมเชื่อว่าต้องสร้างกรรมดีให้มากกว่านี้จึงจะพบท่านได้...อ.อภิชัย

...................

ข้าพเจ้าขบคิดนานมาก จนกระจ่างว่า พระศรีอาริย ถ้าเราจะพบได้ก็ต้องทำตามคำสอนของพระพุทธองค์เสียก่อน

เคยคิดว่าจะเอามาเขียนในกระทู้แต่ก็คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยเขียน แล้วก็ลืมไปเลย จนมาอ่านข้อความ อ.อภิชัยแล้วก็นึกได้

ว่าคีเวิร์ดที่สำคัญในการตามหาพระศรีอาริย คือ "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"

.....................

ถ้าสิ่งที่ข้าพเจ้าคิดนั่นถูกต้องขอให้ส่งผ่านค่ะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 22:57:01


ความคิดเห็นที่ 7234 (1625435)

 ยุคพระศรีอาริยเมตไตยจะเป็นอย่างไร

ผมเคยอ่านที่หลวงพ่อโต  วัดอินทรวิหาร  ท่านกล่าวถึงยุคของพระศรีอาริยเมตไตรยว่า... โลกนี้จะมีความสงบสุข และพระศาสนาจะมีความรุ่งเรืองกว่า พระศาสนาของพระพุทธเจ้าในองค์ปัจจุบันนี้ ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าจะมีพระอริยบุคคลมากกว่า และประชาชนจะมีความสุขอย่างยิ่ง คือจะไม่มีเรื่องร้อนใจเลย ทุกคนพอใจในความเป็นอยู่ ไม่มีการเบียดเบียน ตอนนอนไม่ต้องปิดประตูก็ได้ บ้านเลยไม่ต้องทำประตูก็ได้ เรื่องคนร้าย หรือขโมยก็ไม่ต้องกลัว แล้วก็คนจะเป็นคนดีเหมือนกันหมด ไม่มีคนพาล จนกระทั่งลงจากบ้าน ก็ไม่มีใครจำได้ว่าใครเป็นใคร เพราะมันดีเหมือนกันหมด มันสุภาพเหมือนกันหมด มันสวยเหมือนกันหมด จนเมื่อกลับเข้าบ้าน จึงจะจำได้ว่า นี่คือภรรยาของเรา นี่คือสามีของเรา นี่คือลูกของเรา และต้องการอะไรก็ได้ มันมีต้นไม้พิเศษที่เรียกว่า ต้นกัลปพฤกษ์ อยู่ทุกทิศ อยากได้อะไรก็ไปขอที่ต้นไม้ จะสะดวกสบาย สรุปว่าไม่มีความทุกข์ อยู่กันเป็นผาสุก ไม่มีอันธพาล ทุกอย่างได้อย่างใจ.......

ใครอยากจะเกิดในยุคพระศรีอาริย์ก็ต้องเตรียมความพร้อมในการรักษาศีลให้บริสุทธิ์  ให้ทานทุกชนิด  ปฏิบัติธรรม ทำสมาธิ  และภาวนา  อย่างสม่ำเสมอนะครับ  ผมเองก็พยายามอยู่ครับขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 23:26:34


ความคิดเห็นที่ 7235 (1625474)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                      และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                      ได้อ่าน ธรรมทานจาก คุณแม่

                      ได้อ่าน ธรรมทานจาก คุณป้อม (คุณกฤษณะ)

                      ได้อ่าน ธรรมทานจาก คุณพี่แมว(คุณประวีณา)

                       ธรรมทานจาก คุณครองขวัญ และ ของคุณธนา

                       ผมขอกราบขอบพระคุณ ธรรมทานของคุณแม่ ครับ

                       และ ขอขอบคุณ สำหรับธรรมทานของทุกท่านที่เข้ามาเขียน ครับ

                       อ่านแล้วก็ทำให้ระลึกว่า ทำไม คุณแม่ถึงพยายามพร่ำบอก ให้พวกเราลูกบ้านสวนพีระมิด รักษาศีลห้า และ ให้เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม

                       เพราะ เรายังบกพร่องในการรักษาศีลห้า ทำให้เรายังเบียดเบียนตัวเอง และ ผู้อื่นอยู่เสมอๆ ทำให้เรา มีความโลภ และ ทำให้เราหาหนทางในการทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และ ครอบครัว โดยไม่คำนึงว่า เป็นทางที่ไม่สุจริต และ ไม่เหมาะสม

                         กฎระเบียบ ของ สถานที่ต่างๆ ก็มีและแจ้งให้ทราบ เราก็ไม่ปฏิบัติ ซึ่งก็คือ มารยาททางสังคมอย่างหนึ่ง เราไปเยี่ยมบ้านใคร เราก็ต้องมีมารยาท ปฏิบัติและกระทำให้เกียรติกับเจ้าของบ้านที่เราไปเยี่ยมเค้า

                          ขอน้อมกราบต่อ คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และ ขอกราบต่อความเมตตาและความรัก ของคุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล และ คุณท๊อป ครับ     

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 09:08:40


ความคิดเห็นที่ 7236 (1625526)

ธรรมทาน 18 - 19  ส.ค. 55

ช่วงบ่ายวันเสาร์พวกเราได้ช่วยกันย้ายวิมานไม้ไผ่ 3 หลัง ไปไว้บริเวณใกล้บ่อน้ำ พีระมิดและวิหารไม้ไผ่หลังเก่า โดยมีท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป มาช่วยด้วย ท่านอาจารย์อุบลคอยบอกระยะว่าจะยกไปทางด้านซ้ายหรือขวา เนื่องจากหลังคาวิมานไม้ไผ่สูง และมีสิ่งกีดขวางหลายด้าน พวกเราสนุกสนานกันมากจนลืมเหนื่อย ย้ายกองไม้ที่ วางอยู่ข้างบ่อน้ำไปไว้บริเวณโรงเก็บเครื่องมือด้านหลัง ต่อด้วยเทปูนฐานบัวรอง พระบาทสมเด็จองค์ปฐม ปลูกข้าว และงานเกษตร 

ท่านอาจารย์เริ่มเปลี่ยนกิจกรรมใหม่ โดยนำกิจกรรมที่เราเคยทำกันคืนวันเสาร์มา เป็นหลังอาหารเช้าของวันอาทิตย์แทน สำหรับเวลา 9 หรือ 10 โมงนั้นอาจจะต้องมี การเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสม กลางคืนวันเสาร์มีสวดมนต์ไหว้พระ สนทนา ธรรมเล็กน้อย นอนไม่เกิน 5 ทุ่ม ตอนเช้าอาจารย์พันจะเป่านกหวีดปลุกทุกคน 

วันอาทิตย์ท่านอาจารย์อุบลได้อัญเชิญพระบารมีพระศรีอารย์มา ให้พวกเราบอก ปัญหาความทุกข์ของตัวเองที่จะขอบารมีท่านให้ช่วยทีละคนจนครบทุกคน ท่าน อาจารย์ได้อัญเชิญพระบารมีของพระศรีอารย์เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสและพิสูจน์ด้วย ตัวเอง ว่าพระศรีอารย์มีจริงหรือไม่ ถ้าพระองค์ท่านเสด็จมาก็ขอให้ทุกคนสัมผัสได้   และหายเจ็บ ป่วย หรือดีขึ้น ตัวจิตเองมีปัญหาด้านสายตาพร่ามัว ขาดสภาพคล่อง ทางการงาน การเงิน มีหนี้สิน

อาการที่ตัวจิตสัมผัสได้คือมีอาการปิติ รู้สึกมีความสุขสงบสบายกายใจเป็นที่สุด ท่านอาจารย์ถามว่าใคร  สัมผัสได้บ้างก็ยกมือกันเกือบทุกคน คุณมงคลปิติร้องไห้จนพูดไม่ออก บางคนก็เห็นแสงสว่าง  ขนลุก มีอาการแตกต่างกันไป เมื่อท่านอาจารย์ให้ออกไปเล่าถึง อาการดีขึ้นหรือหาย  สายตาของจิตที่เคยพร่ามัวรู้สึกหนัก เวลามองต้องเพ่งมาก ก็มองเห็นชัดขึ้นประมาณ 40% เบาและไม่ต้องเพ่งมากเหมือนเดิม ต่อจากนี้ไปให้ทุกคน สังเกตตัวเองว่ามีความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างที่เกิดขึ้นกับชีวิตตนเองทั้งปัญหาสุขภาพ การงาน การเงิน และให้มาบอกเล่าเป็นธรรมทาน เพื่อตอบแทนพระคุณพระศรีอารย์

กราบพระบาทขอบพระคุณในพระเมตตาของพระศรีอารย์ 

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลที่เมตตาอัญเชิญพระบารมีพระศรีอารย์มาให้ลูก ๆ ได้สัมผัส ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 13:03:38


ความคิดเห็นที่ 7237 (1625634)

   รู้สึกว่าหลายท่าน ยังไม่หายตื่นเต้นเรยช่ายม่ะ ทีได้สัมผัสบารมีของพระองค์ท่าน (พระศรีอริยเมตไตร) ผมก็ขอคอนเฟริมอีกคนครับ ว่าท่านมีจริง เสด็จผ่าน กาย วาจา ใจ ของท่าน อ.อุบล ชัวร์ๆ ล้านเปอร์เซ็น ไม่งั้น แต่ละคนจะไม่หายจากอาการเจ็บปวด หรือ ดีขึ้น รวมถึงสัมผัสด้วยใจ ล่ะครับ ขนาดหนุ่มใหญ่ลายคราม(คุณมงคล) จากเชียงรายถึงกลับ ปิติ ร้องไห้ออกมาแบบพรั่งพลู เรยครับ ซึ่งผมเองก็สัมผัสถึงบารมีของพระองค์ท่านได้ทั้งกายและใจเรยครับ ทางกายนั้น ผมมีอาการเจ็บนิดๆที่หน้าอก และมีถุงน้ำในตา ทำให้เวลามองแล้วเหมือนมีอะไรมาขวางครับ แต่พอท่านอาจารย์ขอบารมีพระองค์ท่านเสด็จ อาการเจ็บที่หน้าอกกลับดีขึ้นครับประมาณ50% แต่ไปหายตอนเข้าไปใกล้ๆอาจารย์ล่ะครับ ม่ะ อัศจรรย์ใจจริงๆครับ ส่วนเรื่องตานั้น ถุงน้ำตานั้นก็ไม่ได้หายไปไหนครับ แต่มันแปลกตรง ทำไมไม่ยักกะลอยมาขวางตาล่ะ ตื่นเต้นเล็กน้อยครับ ลูกขอกราบขอบพระคุณต่อพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ครับ

   เอ....ผมสังเห่าใจ อะไรบางอย่าง ทำไมสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านอาจารย์อุบล  ท่านจึงกล่าวอะไรไว้หลายอย่าง ที่ผมฟังแล้ว ชวนให้สงสัย เช่น อาจารย์จะต้องปั้นลูกบ้านสวนฯ ให้จิตถึงพระโสดาปะติผล  ไม่งั้น ลูกหลานอาจไม่รอดจากภัยพิบัติที่จะมาถึงนี้แน่นอน แล้วท่านอาจารย์ก็พูดถึงเรื่อง ว่าจะพาฝึกกรรมฐาน เรื่องของอภิญญา และสุดท้ายท่านขอบารมีของพระศรีอริยเมตไตร มาให้ลูกหลานได้สัมผัสบารมีของพระองค์ท่าน

   ที่จริง เรื่องรอดหรือไม่รอด และคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าสู่ยุคใหม่นั้น พวกเราก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วนี่น่า เอ้...หรือว่าท่านมีเหตุผลอื่น ที่เราต้องใช้ปัญญาในการพิจารณากันแน่

   ผมก็บ่นไป เพ้อไปตามเรื่องน่ะครับ พอดีเริ่มติดนิสัยคนหน้าตาดีมาน่ะครับ เรยอยากสงสัย+ลองวินิจฉัย ดูกะเขาบ้าง เผื่อปัญญาจะได้เกิดกะเขาบ้างฮะ

   แล้วเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ สงสัยเหมือนผมบ้างไหม๊ฮะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 21:40:39


ความคิดเห็นที่ 7238 (1625648)

ป๊าดดด กระแสการรับพระบารมีองค์พระศรีอาริย์ยังเป็นฟีเวอร์อยู่ไม่หาย หลายๆคนคงยังช็อคอยู่ แต่สำหรับผมแว้วว ไม่รู้ล่ะ มีเวลาเหลือน้อยแระครับ

ก็ไม่รู้ว่าท่านอาจารย์จะเมตตาให้ทุกคนได้ชมบารมีอีกกี่ครั้งเหมือนกันนะครับ เพราะเห็นท่านอาจารย์บอกว่าพระองค์ท่านทรงเลือกคนไว้แล้ว ไม่ใช่ว่าใครๆก็จะได้มาชมกันทั้งหมดเน้ออ

แต่ต้องยอมรับครับ ว่าพระบารมีพระศรีอาริย์นั้นยิ่งใหญ่จริงๆ เป็นที่รอคอยของคนทุกศาสนา ทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะคนไทยนะครับ เพราะชาวคริสต์ อิสลามเขาก็มีพระศรีอาริย์เหมือนกัน เพียงแต่คนละชื่อเท่านั้น

เอาเป็นว่าทั่วโลกต่างรอคอย แต่เราชาวบ้านสวนฯกลับได้ใกล้ชิดก่อนใคร ดังนั้นโอกาสแบบนี้ ใครพลาดก็พลาดไป ผมล่ะไม่พลาดล่ะครับ ขอน้อมรับใช้พระองค์ท่านอย่างสุดความสามารถก่อนกลับบ้านในชาตินี้ล่ะครับ ไปได้ไม่ได้ไม่รู้ ทำสุดชีวิตไว้ก่อน ตั้งเป้าหมายแล้วลุยอย่างเดียว 5555

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 22:19:51


ความคิดเห็นที่ 7239 (1625654)

โอ้ว.....โมทนาบุญครับพี่ธนา โอกาสของลูกบ้านสวนนี้พิเศษสุดๆๆ..จริงๆครับ ผู้คนตามหาพระองค์กันทั่วโลก แต่พระองค์เมตตาลูกบ้านสวนก่อนแสดงว่าพระองค์มีนัยสำคัญที่ประทานให้ลูกบ้านสวนได้รับโอกาสนี้

ผมคนหนึ่งล่ะครับถ้ามีโอกาสจะขอน้อมรับใช้พระองค์จนสุดความสามารถเหมือนกันครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 22:51:57


ความคิดเห็นที่ 7240 (1625657)

ทำไมสัปดาห์ที่ผ่านมา

ท่านอาจารย์อุบล  ท่านจึงกล่าวอะไรไว้หลายอย่าง

ที่ผมฟังแล้ว ชวนให้สงสัย 

เช่น

อาจารย์จะต้องปั้นลูกบ้านสวนฯ

ให้จิตถึงพระโสดาปะติผล  

ไม่งั้น

ลูกหลานอาจไม่รอดจากภัยพิบัติที่จะมาถึงนี้แน่นอน

แล้วท่านอาจารย์ก็พูดถึงเรื่อง

ว่าจะพาฝึกกรรมฐาน เรื่องของอภิญญา

และสุดท้ายท่านขอบารมีของพระศรีอริยเมตไตร

มาให้ลูกหลานได้สัมผัสบารมี

ของพระองค์ท่าน 

 

กฤษณะ สิงห์ป้อม 

*********************

ใช่แล้ว

 พ่อสิงห์ป้อมเอ๋ย

ถ้าไม่เป็นพระโสดาบัน

โอกาสรอด แทบไม่มีเลย

 

แต่ถ้าเป็น

พระโสดาปฎิมรรค ก็ไม่แน่ว่า

จะรอดรึเปล่า หรือว่า รอดแบบพิการ

 

แต่ถ้าพระโสดาปฎิผลนี่

รอด ชัวร์ และได้อยู่ในยุคของ

พระศรีอาริย์ด้วย

ไม่พิการด้วย สวย หล่อ สุขภาพดีด้วย

รวยด้วย มีความสุขด้วย

 

ดังนั้น

นับแต่นี้ ติวเข้ม ที่สุด

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 23:12:09


ความคิดเห็นที่ 7241 (1625660)

อ.อภิชัย

เข้าใจถึงการที่ใครจะได้พบ

พระศรีอาริย์

อย่างไร ได้อย่าง ลึกซึ้ง

ซึ่ง

ก่อนเกิดภัยพิบัติ

พวกเรา น่าจะได้พบพระองค์ท่าน

ในสภาวะ เป็นทิพย์

ด้วยตนเอง

 

หมายความว่า

สภาวะเป็นทิพย์นี้

พระองค์จะทรงปรากฏ

ให้เห็น และ สัมผัสได้เอง

เฉพาะ

บุคคล ที่ทำความดี ถึงพร้อมแล้ว

 

ซึ่งสังเกตุจาก

ตัว อ.อุบล เอง เมื่อก่อน

ก็คิดจะตามหา บุคคล แต่ไม่เคยคิด

ขอเห็น กายทิพย์ ของพระองค์

แต่เมื่อถึงเวลาเหมาะสม

 

พระองค์กลับมาปรากฎ

ให้เห็นเอง

 

อันนี้

น่าจะเป็นวิธีการพบ

พระองค์ท่าน

ตามกำลังแห่งบุญและความดี

ที่พระองค์ท่าน จะเป็นผู้

ตัดสิน และ เลือกเอง

 

อย่าง ดร.จุ๋ม เป็นต้น

เป็นอัศจรรย์ด้วย

เพราะ ดร.จุ๋ม ตอนฝึกมโนฯ

ไปไหน ก็เค้า ก็ไม่ได้ ไม่เห็นอะไร

 

แต่ทำไม

มาเห็นบารมีพระศรีอาริย์

เอาง่ายๆ แถม ข้อมือที่เจ็บมา

กว่า 10 ปี หายเอาง่ายๆ ซะงั้น

 

นี่ย่อมเป็นสิ่งยืนยัน

ว่า

พระองค์ท่าน ทรงเลือก

เมื่อผู้นั้นมีความดี ถึงพร้อมแล้ว

 

ขอให้ทุกท่าน

เร่งบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม

เพื่อจะได้พบพระองค์

พระศรีอาริย์

ก่อนวันเกิดภัยพิบัตินะคะ

 

สำหรับ

ท่านที่พบแล้ว สัมผัสแล้ว

ก็ขอให้ ชัดยิ่งๆ ขึ้นไป

และขอให้ได้พบ

พระวรกายในเร็ววัน

นะคะ

สาธุ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 23:23:20


ความคิดเห็นที่ 7242 (1625677)

ขอให้ทุกท่าน

เร่งบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม

เพื่อจะได้พบพระองค์

พระศรีอาริย์

ก่อนวันเกิดภัยพิบัตินะคะ

.....................................

พยายามอยู่ค่ะอาจารย์

พยายามเกาะติดทุกคำสอน

และพิจารณาทุกคำเตือน

แล้วน้อมนำไปปฏิบัติ

เพื่อให้ตาสว่าง มองเห็น สัจธรรม

แบบชัดๆแจ้งๆซักที

 

เพราะตอนนี้ปัญญามันติดๆดับๆ

ยังกะ ถ่านไฟฉายเก่าๆ

เคาะทีก็สว่างที แต่พอวางเฉยๆ

ถ่านก็ขึ้นสนิม มืดตึ๊บๆ...ซะงั้น 

 

ก็เลยต้องเข้ามา"เคาะ"บ่อยๆ

เผื่อจะมี"บุญ"พอ

ที่จะได้พบ กายทิพย์

หรือ พระวรกายขององค์พระศรีอาริย์

ก่อนภัยพิบัติ ที่เฉียดเข้ามาใกล้ทุกทีๆ...บ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 05:54:12


ความคิดเห็นที่ 7243 (1625715)

 

การแสดง

"ธรรมบำบัด สัญจร"

ทุกสถานที่

ที่ อ.อุบล ออกไปแสดงธรรมนั้น

ถ้าเปรียบเทียบกับในบ้านสวนฯ

 

การแสดงนอกบ้านสวน

ถือเป็น

ขั้น อนุบาล 1 เท่านั้น

ในปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็น

 

สำหรับปรากฎการณ์

ในบ้านสวนพีระมิดนั้น น่าจะเป็น

ขั้น ปฐม 1 แล้ว

 

ต่อไปนี้

การแสดง ธรรมบำบัด

ในบ้านสวนพีระมิด

จะต้องเลื่อนขั้นสูงขุ้นไปเรื่อยๆ

จาก ปฐม 1

ต้องเลื่อนไปปฐม 2-3-4-5-6

 

แล้วต่อด้วย

มัธยม และ มหาวิทยาลัย

 

ซึ่งแต่ละระดับ ก็ยังมี

ขั้นของมันอีก

ตะหาก

 

เช่นขั้น

มหาวิทยาลัย

ก็มี

ตรี  โท  เอก

 

แม้แต่ เอก ก็ยังมี

เอก เป็นธรรมดา กับ กิติมศักดิ์

 

ทั้งหลายทั้งปวง

ที่พวกเราได้เห็นได้สัมผัส

ถือว่าเป็นเพียง

ขั้น

เริ่มต้นเท่านั้น

ยังตื่นเต้นกันขนาดนี้

(มนุษย์ชอบความตื่นเต้นจริงๆ)

 

โอ้โห

นี่ถ้าเจอขั้น ปฐม 2 เข้าไป

สัปดาห์นี้ จะว่ายังไงเนี่ย

 

พระองค์ท่านตรัสว่า

ต่อไปนี้

ต้องเรียนให้เลื่อนชั้น

กันทุกสัปดาห์ ช้าไม่ได้แล้ว

 

มีเวลาเรียน

ถึงขั้นมหาวิทยาลัย

ไม่กี่สัปดาห์แล้ว

 

โห

แล้วจะได้เรียนกัน

ทั่วถึงหรือเจ้าคะ ลูกบ้านสวนจะ

มีโอกาสได้มาเรียนกัน

สักกี่คนเจ้าคะ

 

เท่าไหร่ก็เท่านั้น

นี่เป็นเรื่องของ วาสนาบารมี

แข่งกันไม่ได้ แต่ละคน

ต้องบำเพ็ญเอาเอง

 

และต้อง

เคยอธิษฐานบารมี

ติดตามตถคตมา จริงๆ

เท่านั้น

จึงจะได้มีโอกาสเรียนเลื่อนชั้น

อย่างรวดเร็ว

 

 

สัปดาห์นี้ เอาให้ได้

พระโสดาบัน

ก่อน

 

แต่ก็มีคนที่เขาได้ พระโสดาบันแล้ว

คนที่ได้แล้ว ถ้าเขาเข้าชั้นเรียน

สัปดาห์นี้ เขาจะได้เลื่อน

เป็นพระสกิทาฯ

เลย

 

จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ก็เตรียม

อย่างที่เธอได้ประกาศ

ไปแล้วนั่นแหละ

ถูกแล้ว

 

วันเสาร์

สร้างบุญแรงกาย

ไว้เป็นเสบียง

 

วันอาทิตย์

สร้างบุญด้วยการฝึกจิตใจ

ให้พ้นกิเลส

 

ซึ่งต้องทำทั้ง 2 ส่วน

 

คนจะมีชีวิตอยู่รอดได้

ต้องมีความเข้มแข็ง

ทั้งร่างกาย+จิตใจ

จะตัดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

 

ถ้าจะฝึกเฉพาะจิตใจ

 

ใจเข้มแข็ง

แต่ร่างกาย ไม่มีแรง

ต่อสู้กับ สภาวะ ที่มากระทบกาย

แบบฉับพลันทันที หรือ ถ้าต้อง

วิ่งหนีอะไรสักอย่าง

ใจไม่กลัวก็จริง แต่ขาไม่วิ่ง ไม่มีแรง

ก็ต้องตายเหมือนกัน

 

ถ้าเขาจะไปฝึกร่างกายที่อื่น

มาฝึกแต่จิตใจที่บ้านสวน

ได้หรือไม่

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ได้เหมือนกัน

ก็ได้แบบ ที่ได้มาแล้ว

ตลอดชีวิตนั้นแหละ

 

ดูง่ายๆ

ทำบุญแรงกาย ที่อื่น

หายเจ็บป่วยไหม

 

ก็ต้องใช้ปัญญาต่อไปด้วย

ว่า

ไอ้งานอย่างนี้ ที่ไหนก็มีให้ทำ

แต่ทำที่อื่น ทำไมเหนื่อย ทำไมเพลีย

ทำไม ไม่หายเจ็บ หายไข้

อันนี้ตอบตัวเองก็ได้

 

แต่มาทำในบ้านสวน

ทำไมไม่เหนื่อย ไม่เพลีย

เหมือนที่อื่น

 

แล้วทำไม

หายเจ็บ หายไข้

กระทั่งโรคที่ร้ายๆ อย่างมะเร็ง

หรือโรคที่หมอรักษาไม่หาย

 

ผู้มีปัญญา

ต้องเอาตรงนี้

ไปคิดพิจารณาว่า

สถานที่ต่างกัน ผลมันต่างกัน

เพราะอะไร

 

เธอจงไปทบทวน

ที่หลวงพ่อของเธอเคยบอกไว้

ว่า สถานที่ สำคัญมาก

ที่ใดที่มีผู้ไปนั่งกรรมฐานแล้ว

สำเร็จอรหันต์ได้

ให้ไปใช้ที่ตรงนั้นนั่ง

 

อย่างเตียงพระนาคเสนเป็นต้น

มีผู้นั่งตรงนั้น

แล้วสำเร็จอรหันต์ตั้ง 7 องค์

เพราะอะไร

 

พระอรหันต์ หรือ เทวดา

ท่านจะมาโปรด สถานที่ ที่ท่าน

อนุโมทนาบุญได้เท่านั้น

 

แล้วการ

จะทำให้เทวดา

เสด็จมาที่ใดสม่ำเสมอนั้น

ท่านต้องเห็นกองกุศลในเขตนั้น

เป็นปัจจัยสำคัญในการเสด็จมา

 

ดังนั้น

การทำบุญ

ต้องเลือกเขตบุญที่บริสุทธิ์ที่สุด

ถ้าต้องการบุญที่เห็นผลเร็ว

 

แต่

ตถาคตไม่ได้ห้าม

ไม่ให้ทำบุญในเขตบุญอื่น

ซึ่งทุกคนต้องทำความดีทุกสถานที่

เป็นนิสัย เพื่อให้ ทุกสถานที่

เป็นเขตที่บริสุทธิ์

 

โดยเฉพาะ

บ้าน ที่ทำงาน เรือกสวน ไร่นา

ของแต่ละคน

และฝึกให้ได้จนกระทั่ง

สถานที่อื่น ที่ไม่ใช่สถานที่ของตน

ก็ต้องทำความดีเป็นสิสัย

อันนี้

กองกุศลยิ่งใหญ่กว่า กองใดทั้งปวง

เพราะคนที่ทำอย่างนี้ได้

 

เทวดาจะ

ติดตามตัวผู้นั้นไปตลอดเวลา

แบบห้อมล้อมจนไม่มี

ที่ว่างเลย

 

อย่างกรณีที่เธอ

ออกแสดงธรรมบำบัดนอกสถานที่ได้

เพราะกองกุศลของเธอเข้มข้นแล้ว

ทั้งในบ้านของเธอ และ ตัวเธอ

เธอจึงสามารถออกแสดง

อนุศาสนีปาฏิหาริย์ ได้ทุกสถานที่

ที่ใด ที่เธอไป ก็จะมี

ทวดาทุกชั้นฟ้าชั้นดินเสด็จ

ตามเธอไปเพื่ออนุโมทนาบุญ

และ

ช่วยเธอแสดงปาฏิหาริย์

 

***********

ถ้าผู้ใด

เป็นผู้มั่นคงในศีล

เทวดา จะไปสงเคราะห์เอง

ทำให้เป็นสถานที่เขตบุญเอง

เพราะเทวดา มีโอกาส โมทนาบุญได้

 

การที่พวกเธอทั้งหลาย

ต้องมาทำบุญแรงกาย

ในบ้านสวนก่อนนั้น

เพราะบุญของพวกเธอน้อยนิด

จนไม่สามารถที่จะทำให้

เทวดาปรารถนาจะติดตามอนุโมทนา

 

ดังนั้น

เมื่อเธอรู้แล้วว่า

เขตบุญบ้านสวนพีระมิด

เป็นเขตบุญที่เทวดาทุกชั้นฟ้า

ชั้นพรหม นิพพาน ต่างเสด็จมา

อนุโมทนาบุญ ทุกบุญ

ด้วยเหตุว่า เจ้าของสถานที่ เขาจริงจัง

ตั้งใจมั่น ในการสร้างบุญ

เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น

 

ดังนั้น

สถานที่แห่งนี้

จึงมีบุญบริสุทธิ์ และเข้มข้นมาก

 

ผู้ใดที่เข้ามาร่วมบุญ

ไม่ว่าจะแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ

จึงได้บุญมหาศาล กว่าการทำบุญ

นอกเขตบ้านสวนพีระมิด

และพิสูจน์ผลบุญ

ได้ทันที ดังที่พวกเธอ ได้พบเจอ

ด้วยตัวเอง และ เห็นมาแล้ว

 

ข้าพระพุทธเจ้า

เข้าใจแล้วพระพุทธเจ้าค่ะ

 

และ

 

ขอพุทธานุญาต

บอกแก่ผู้สงสัยเรื่องการ

ทำบุญ ใน และ นอก บ้านสวน

ก็ได้บุญเหมือนกัน

ได้หรือไม่ พระพุทธเจ้าค่ะ

 

 

 

 

 

ควรบอกอย่างยิ่ง

ก่อนที่ผู้ที่คิด และ พูดเช่นนั้น

จะเป็นภัยแก่ตนเอง

 

ด้วยความ ไม่รู้ หรือ อวิชา

ความไม่ปรารถนา ให้ผุ้อื่นพ้นทุกข์

ด้วยความจริงใจ ครอบงำ

จึงใช้ อวิชา

แสดงตน เป็นคนรู้ธรรม

ชักชวน ให้ผู้คน หลงผิด หลงทาง

ทั้งที่เขา เดินมา ถูกทางแล้ว

แต่บุคคล คนนั้น กลับบอกว่า

ที่เขาเดินมา นั้นผิดทาง

เป็นบาปมหันต์

ต่อผู้นั้น และ ผู้ที่ไปเชื่อ ไปคล้อยตาม

ซึ่งผลของบาปนั้น จะปรากฎ

ฉับพลันทันที

 

คือ

ความทุกข์

อุปสรรค ความเร่าร้อน

ความเจ็บป่วยของตนเอง

และคนที่ตนรัก

 

กราบพระบาทพระพุทธองค์

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดาฯ

อย่างหาที่สุดมิได้

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เจริญพร

--------------------

คราวนี้

พวกเราคงรู้คำตอบแล้ว

ว่า

ทำไม อ.อุบล ให้ปรับเวลา

สร้างบุญทั้ง 2 วัน

อย่างเต็มอัตรา

 

ผู้ใดปรารถนา

จะเข้าชั้นเรียนกับ

พระปฐมบรมธรรมบิดาฯ

ทั้งภาคปฎิบัติ ภาคทฤษฎี

ก็เชิญจัดตารางชีวิต

ได้ตั้งแต่สัปดาห์นี้

เป็นต้นไป

ได้เลย

 

แต่ละสัปดาห์

จะเป็นตารางการฝึก

แบบต่อเนื่อง เพื่อเลื่อนชั้น

กันไปเรื่อยๆ จนกว่า

จะจบหลักสูตร

สูงสุด

ของพระศาสนา

คือ

นิพพาน

 

 

ผู้ใดต้องการ ก็เชิญสอบถาม

หรือ แสดง ความเห็น ได้อย่างเสรี

จ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 10:19:08


ความคิดเห็นที่ 7244 (1625734)

พระพุทธองค์

ทรงล้ำเลิศ แยบยลจริงๆ

 

ต้องการให้พวกเรา

มีความเข้มแข็ง ทั้งร่างกาย + จิตใจ

 

ถ้าจิตใจเข้มแข็ง

แต่ร่างกาย ไม่มีแรง หรือ พิการ

อย่างน้องเอิร์ท

ก็คงไม่สามารถเป็นคนปกติได้

 

หรือแม้ร่างกายไม่พิการ

แต่ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่มีภูมิต้านทาน

ก็ไม่สามารถเป็นคนปกติได้

ไม่สามารถใช้ร่างกาย

ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิ่งหนีอะไรก็คงไม่ได้

การวิ่งหนี ในที่นี้ คงไม่ใช่วิ่งหนี

ในสภาวะอย่างที่เราเห็น

แต่ลองนึกเหตุการณ์สมมุติตามไปนะ

 

สมมุติว่า

อยู่ๆ ก็มืดกระทันหัน

อากาศเย็นยะเยือกกระทันหัน

อารมณ์ใจตอนนั้น

เป็นยังไง ร่างกายต้านทาน

ความหนาวเหน็บได้หรือไม่ จะไปไหน

ไปยังไง ถ้าตกใจ ใจเสีย

ก็ถือว่า ใจไม่เข้มแข็ง

ถ้าไม่ตกใจ แต่ร่างกาย ทนไม่ได้

ก็ถือว่า ต้องยอมตาย แต่ก็ยังดี

ที่ตายโดยใจไม่ทุกข์ ไปสวรรค์

 

คราวนี้ลองคิดต่อ

ว่า

ถ้าบังเอิญ ทั้งมืดทันที หนาวทันที

มีลูกเห็บเกิดด้วย มีน้ำมากระทันหันด้วย

มีฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ด้วย มีสัตว์ร้าย

ทั้งงู ทั้งจระเข้ออกมาด้วย

เราจะทำยังไง

 

ลองสำรวจ

สภาพจิต สภาพกาย

ของเราดู

 

ว่าทุกวันนี้ ร่างกายเรา พร้อม

ทน สู้ อึด ขนาดไหน

ออกกำลังกาย มาจนร่างกาย

อยู่ตัวแล้วหรือยัง

 

ถ้าต้องทั้งว่ายน้ำหนี

หาที่หลบภัย กว่าจะหนีไปเจอ

ที่ปลอดภัยได้ ต้องเสี่ยงทั้ง

เครื่องกิดขวาง สัตว์ร้าย สัมภาระ

ลูกเต้า พ่อ แม่ จะทำยังไง

เรี่ยวแรงที่มีอยู่ สู้กับสภาพนั้นได้ไหม

ทั้งอากาศหนาว ความมืด อันตราย

อันนี้ ให้นึก ทดสอบ ร่างกาย

(สำหรับคนที่ไม่ชอบฝึกร่างกาย)

 

คราวนี้มาดูสภาพจิตใจ

เข้มแข็งพอหรือยัง

 

บางคน ฟังเรื่อง นิดเดียว

ก็จิตตก อย่างน้องเอิ้น เป็นต้น

พอ อ.บอกว่า เพราะ ปากยังนินทาไม่เลิก

ก็เลยไม่หายเจ็บคอ แม้ได้สัมผัส

บารมีพระศรีอาริย์

ถือว่าปรปักษ์ จักรจึงไม่หมุน

 

เท่านี้เอง เอิ้นบอก ฟังแล้วจิตตก

 

ถ้าแค่นี้จิตตก

แสดงว่า วันที่ต้องเจอ เหตุการณ์

อย่างข้างต้น เอิ้นจะจิตหล่นหาย

แล้วหาไม่เจอเลยรึเปล่า

เรียกว่า จิตกระเจิดกระเจิงเลยทีเดียว

 

ที่เรามาฝึก

มาศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า

เพื่อให้เราเข้มแข็งทั้งร่างกาย

และจิตใจ

 

คนที่ร่างกายเข้มแข็ง

คือคนที่มีศีลบริสุทธิ์

 

คนที่มีใจเข้มแข็ง

คือคนที่มีวิปัสนาบริสุทธิ์

 

ย้อนมาดู

ที่เราจะฝึกสัปดาห์นี้

 

เราจะฝึกเพื่อเป็น พระโสดาบัน

อันนี้ ร่างกายจะเข้มแข็ง

จิตใจจะมั่นคง

ไม่หลงตัวเอง ไม่ฝักใฝ่ในบาป

ปิดนรกได้ โรคหาย ไปสูงได้แน่นอน

พระโสดาบัน+พระสกิทาคามี

ทรงอธิศีล

 

ต่อไปฝึกเป็น พระอนาคามี

ทรงอธิจิต

 

จิตใจจะเข้มแข็งสุดสุด

ไม่หวาดหวั่น ไม่หวั่นไหว สำรวจตัวเอง

ได้ไม่ต้องให้ใครบอก แต่ผู้รู้

เห็นอารมณ์เราแล้วรู้

เหมือนที่ อ.อุบล เห็นเอิ้น จิตตก

อันนี้ถือว่า ยังสอบตก ทุกขั้น

ยังเป็นไม่ได้ แม้แต่พระโสดาบัน

พระสกิทาคามี ยิ่งพรอนาคามี นี่ยิ่ง

หมดสิทธิ์ เพราะตราบใด

ที่ยังละนิวรณ์ไม่ได้ ยังวิตก วิจารณ์

ยังกังวล ยังเครียด ยังทุกข์

ก็ยังเป็นพระโสดาบัน

ไม่ได้

 

คุณสมบัติของพระโสดาบัน

คือ

ต้องมีปัญญาเล็กน้อย มีศีลมั่นคง

ที่แน่ๆ ที่ผู้อื่นสัมผัสได้

คือ ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับผู้ใด

พระโสดาบัน

ต้องการแต่จะเป็นผู้ให้

ไม่ใช่ผู้เอา หรือ ผู้อยากได้ของใคร

 

พระโสดาบัน

จะเป็นผู้ สงเคราะห์ผู้อื่นได้

ไม่ใช่รอให้ ผู้อื่นสงเคราะห์

 

พระโสดาบัน

จะปลอดภัยจากอบายภูมิ

แม้จะทำบาปมามากเท่าใดก็ตาม

ถือว่า บาปนั้น ไม่มีกำลังพอ

ที่จะดึงพระโสดาบัน

ไปใช้กรรมได้

เพราะ ศีล ปิดประตูนรกแล้ว

 

นรก

คือความทุกข์ ความวิตก

ความกังวล ความเครียด จิตตก

ดังนั้น

เราสอบอารมณ์เราดู

ว่าถ้าเรายังเป็นเช่นนี้อยู่

เรายังไม่เข้าเขตของพระโสดาบัน

หรือแม้แต่พระโสดาปฎิมรรค

 

ยิ่งถ้าเป็นพระอนาคามี

ซึ่งทรงอธิจิต

อันนี้ จิตเขา ยิ่งใหญ่มาก

ไม่มีอะไรมากระทบแล้วทำให้เขา

หวั่นไหว โยกคลอน ได้เลย

 

ขอให้พวกเรา

ลองสอบจิตเราดู แล้วมาบอก

หน่อยว่า ได้ขนาดไหน

เดี๋ยวจะได้บอกให้ ว่าเข้าสู่ขั้นไหนได้

แต่ไม่ใช่ อ.อุบล จะมาตัดสิน

ใครเป็นระดับไหน

 

เพียงแต่บอกให้ท่านสอบอารมณ์

ตัวเอง ไม่หลอกตัวเอง

การสอบอารมณ์ที่ดีที่สุด ไม่ใช่การสอบ

ในชั้นเรียน แต่ต้อง เป็นการสอบ

เมื่อเผชิญชีวิตจริงนอกห้องเรียน

ว่า

เรายังผิดศีลอยู่ไหม

 

อย่างเอิ้น ต้องขออภัย

ยกตัวอย่างเยอะหน่อย เพราะว่า

เอิ้นมาพูดว่า จิตตก พอดี

เลยเอามายกให้คนอื่นได้เห็นด้วย

และเอิ้นก็ยอมรับว่า

ที่เจ็บคอ เพราะ ยังไม่เลิกนินทา

แสดงว่า ศีลข้อ 4 ของเอิ้น

ยังแหว่งอยู่

 

เมื่อศีลไม่บริสุทธิ์

ก็เป็นพระโสดาบันไม่ได้

ขั้นสูงกว่านี้ ก็ยังไม่ต้องพูดถึง

 

ยิ่งถ้าตะหนี่ถี่เหนียว

ไม่เคยให้ใคร เป็นแต่ฝ่ายรับ

ด้วยแล้ว ถือว่า ยังห่างไกล พระโสดาบัน

 

เพราะ

ถ้าจะดูพระโสดาบัน

ยอด พระโสดาบัน ที่พระพุทธองค์

ทรงสรรเสริญ ก็คือ นางวิสาขา

นางเป็นสุดยอดของ

ผู้เป็นพระโสดาฯ

นางให้ทานเป็นเลิศ

สงเคราะห์ผู้อื่นเป็นเยี่ยม

นางไม่เคยตะหนี่ถี่เหนียว

ให้อะไรใคร ทำบุญ ทำทานใด

นางแถมตลอด จนเป็นที่เลื่องลือ

ว่า

เป็นเบญจกัลยานี

มีทรัพย์มหาศาล ด้วยอานิสงส์

แห่งทาน ที่ยิ่งใหญ่ทุกทาน

 

หันมาดูตัวเรา

เป็น"เงา"นางวิสาขา

กันบ้างหรือเปล่า เราให้ทาน

ได้ครึ่งของนางหรือไม่

เราจะเป็นระดับไหน

ถ้าเปรียบเทียบกับนางวิสาขา

 

เป็นพระโสดาปฎิมรรค

หรือ

พระโสดาปฏิผล

 

หรือว่าเป็นพระสกิทา พระอนาคา

พระอรหันต์ ช่วยมาบอกที

เอิ้น

ด้วยนะจ๊ะ

ลองมาบอก อ.อุบล หน่อย

ว่า

ถ้าเทียบนางวิสาขา กับตัวเองแล้ว

เหมือน หรือ ต่างกัน มากน้อยแค่ไหน

 

นางวิสาขาเป็นพระโสดาบัน

แล้วเอิ้นน่าจะเป็นอะไร

 

ท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะจ๊ะ

ถ้าอยากสอบอารมณ์ พระอริยเจ้า

เชิญมาคุยกัน ผิดถูกไม่เป็นไร

จะได้รู้จ้า อ.อุบล ไม่ได้เก่งวิเศษ

แต่ อ.อุบล มีครูดี คือ พระพุทธเจ้าจ้า

ถามท่านเอา ท่านตอบให้ แน่นอน

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 11:06:47


ความคิดเห็นที่ 7245 (1625743)

ถ้าจะดูพระโสดาบัน

ยอด พระโสดาบัน ที่พระพุทธองค์

ทรงสรรเสริญ ก็คือ นางวิสาขา

นางเป็นสุดยอดของ

ผู้เป็นพระโสดาฯ

นางให้ทานเป็นเลิศ

สงเคราะห์ผู้อื่นเป็นเยี่ยม

นางไม่เคยตะหนี่ถี่เหนียว

ให้อะไรใคร ทำบุญ ทำทานใด

นางแถมตลอด จนเป็นที่เลื่องลือ

ว่า

เป็นเบญจกัลยานี

มีทรัพย์มหาศาล ด้วยอานิสงส์

แห่งทาน ที่ยิ่งใหญ่ทุกทาน

++++++

กราบเรียน ท่าน อ. อุบล หนูขออนุญาตเข้ามาร่วม
วงสนทนา การสอบอารมณ์ด้วยค่ะ
ถ้าการทำบุญ  โดยมีนางวิสาขา เป็นบรรทัดฐาน
ตัวหนูเองคงห่างไกลจากท่านมาก  เพราะ
นางให้ทานเป็นเลิศ แต่ตัวหนูเองทำบ้าง
ไม่ทำบ้าง  บางครั้งทำก็นึกเสียดาย  ทำทาน
ส่วนมากเป็นทาสทาน   และสหายทานอยู่ 
สามีทานยังน้อยมาก
สงเคราะห์ผู้อื่นเป็นเยี่ยม  แต่ตัวหนูเองยังเห็น
แก่ตัวอยู่ ยังมองตัวเองเป็นที่หนึ่งก่อน  ก่อนที่จะนึก
ถึงคนอื่น
นางไม่เคยตะหนี่ถี่เหนียว  ให้อะไรใคร
ทำบุญ ทำทานใด    นางแถมตลอด  
 
แต่หนูเองยังใจแคบ  บางอย่างสามารถแบ่งปัน
ผู้อื่นได้  แต่ยังหวงไว้ก่อน เผื่อมีโอกาสได้
ใช้  ก็เก็บไว้อย่างนั้นแหละ  สุดท้ายก็ต้อง
ทิ้ง  ไม่เกิดประโยชน์กับผู้ใดเลย
     ทุกวันนี้ก็พยายามที่จะทำตามท่าน
แต่ก็ยังทำได้น้อยอยู่   เมื่อเทียบกับท่านแล้ว
ยังห่างไกลกันมากค่ะ  ถ้าจะบอกว่าทำได้สัก
 5 % ของท่าน  ก็ไม่รู้ว่าจะมากไปหรือเปล่า 
     ส่วนเรื่องศีล พยายามเต็มที่ คิดว่าข้อ 2,  3
และ 5  พอจะผ่านได้  ส่วนข้อ 1 และ 4 ยัง
แหว่ง ๆ อยู่ 
     ส่วนเรื่องอารมณ์  ยังมีความโกรธ  ยังโลภ
อยู่
     สรุป ว่าตัวเองยังห่างไกลจากพระโสดาบัน

อยู่มาก แต่ก็จะพยายามต่อไปค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 12:02:12


ความคิดเห็นที่ 7246 (1625747)

 

อ่านบทความของ

อ.อุบล แล้ว

ชอบมาก  - มากที่สุดค่ะ

หลังจากอ่านก็มาสำรวจตัวเอง

555++

เราเป็นเพียงเศษฝุ่น

ของนางวิสาขา

ไม่ใช่เงา ค่ะ

เฮ่อ...ระดับแมว

ก็คงเป็นได้แค่

พระโสดาฯ ( ต้องดัน )

และต่อจากนี้

ตวามเพียร ความพยายาม

ทั้งหมดต้องมารวมไว้

เพื่อเป้าหมายค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 12:22:05


ความคิดเห็นที่ 7247 (1625844)

 เอิ้น

ด้วยนะจ๊ะ

ลองมาบอก อ.อุบล หน่อย

ว่า

ถ้าเทียบนางวิสาขา กับตัวเองแล้ว

เหมือน หรือ ต่างกัน มากน้อยแค่ไหน

 

นางวิสาขาเป็นพระโสดาบัน

แล้วเอิ้นน่าจะเป็นอะไร

***

ขอเรียนตอบท่านอาจารย์อุบลครับ คิดว่าตัวเอง ยังห่างไกลมากๆ เลยครับ เพราะ ศีลข้อ 4 ยังแหว่งอยู่เลยครับ แต่ก็จะพยายามต่อไปครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 21:31:25


ความคิดเห็นที่ 7248 (1625850)

สำหรับตัวอ้อยเองนั้นยังห่างไกลจาก

พระโสดาบัน

มากเหลือเกินค่ะอาจารย์

ศีลยังไม่บริสุทธิ์

ศีลข้อ  1 อาจจะพอยับยั้งชั่งใจเรื่องฆ่าสัตว์

ยกเว้นที่เราไม่ได้เจตนาแบบเหยียบมด

แมลงต่างๆ 

แต่เรื่องคิดไม่ดีกับคนอื่นยังมีอยู่ค่ะ 

กับหัวหน้าที่เป็นคู่กรณีของอ้อยเอง 

ตอนนี้เค้าได้ทำตัวเอง

จนได้ลาออกจากบริษัทแล้ว 

อ้อยยังรู้สึกสะใจแว่บหนึ่ง 

ก่อนที่จะคิดได้ว่า 

คนคนนี้ช่างเสียสละตัว

  ทำนิสัยที่สุดโต่ง 

อย่างที่คนปกติทั่วไปไม่น่าจะทำได้

  มาเป็นแบบอย่างให้เราเห็นว่า 

เราจะไม่ยอมทำแบบเค้าเด็ดขาด 

 เพราะนำความเดือดร้อนให้ทั้งตัวเองและผู้อื่น

ศีลข้อ 2 ยังเป็นเรื่องเวลางาน

เนื่องจากงานตัวเองไม่ได้ทำในอ๊อฟฟิศ

ต้องอยู่ข้างนอกตามโรงพยาบาล 

เวลางานจึงไม่แน่นอน 

บางครั้งไปสายกลับเร็ว 

บางครั้งไปเช้ากลับดึก 

แถมวันนี้มีเรื่องวัดใจ 

ไปเข้า case ที่โรงพยาบาลที่ขอนแก่น

ไปพบแบบฟอร์มที่พี่พยาบาลทำไว้

สำหรับหน่วยงาน 

ดูแล้วเป็นระเบียบน่าใช้ 

น่าจะนำไปเป็นแบบแย่งให้ที่อื่นได้ดู 

พี่เค้าถ่ายเอกสารไว้หลายแผ่น 

 คิดจะขอเอามาแผ่นหนึ่ง  

พอดีฉุกคิดได้ว่านี่จะเป็นหนี้แผ่นดินนะ

  แต่ตอนนั้นด้วยความอยาก 

และขี้เกียจคัดลอก

เพราะค่อนข้างยาวประมาณ

หนึ่งหน้ากระดาษได้คิดว่า

คงไม่เป็นไรมั้งเดี๋ยวซื้อกระดาษ A4

มาชดใช้ให้ 

สุดท้ายเลยใช้วิธีเขียนลงสมุดบันทึก

เดี๋ยวมาพิมพ์ใหม่ 

เพราะถ้าเอากระดาษมาหนึ่งแผ่น 

คงต้องเป็นหนี้แผ่นดินแน่ๆเลย

ศีลข้อ 3 พอรักษาได้

ศีลข้อ 4 ข้อปราบเซียน  

ยังมีเผลอพูดโกหกบ้าง 

ไม่รู้เป็นยังไง มันยังอัตโนมัติ

เวลาเรื่องที่จะปกป้องตัวเอง 

ยังมีนินทาบ้างค่ะ 

แถมสบถเวลาโมโหคนปาดรถตัดหน้า

ศีลข้อ 5 เหลือยังทานกาแฟอยู่ค่ะ

ส่วนเรื่องสงเคราะห์ผู้อื่น

  ยังทำได้น้อยมาก 

เวลาส่วนใหญ่ยังสนใจแต่เรื่องตัวเองเป็นหลัก

เฮ้อ นี่อ้อยช่างเป็นลูกศิษย์ที่สอนยาก หัวดื้อ โง่จริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 22:05:25


ความคิดเห็นที่ 7249 (1625866)

กราบอนุโมทนาธรรมทานจากท่าน อ.อุบลค่ะ อ่านแล้วต้องรีบมาสำรวจตัวเอง  โอ้โฮ.....ยังห่างไกลโสดาบันโขอยู่  นางวิสาขาให้ทานเป็นเลิศ แต่หนูทำไม่สม่ำเสมอ    ศีลก็ด่างพร้อย  ยังขาดเมตตา เห็นแก่ตัว  ตระหนี่ถี่เหนียว ( ของฉัน ๆ ๆ)  ยังมีความโกรธอยู่  (หน้ามันฟ้อง)  ขาดความเพียรในทุกๆ เรื่อง ทั้งการให้ทาน  รักษาศีล(กระพร่องกระแพร่ง) การภาวนาทั้งๆที่รู้ว่าเป็นบุญใหญ่  แต่เอาชนะตัวเองไม่ค่อยได้สักที   คอยแพ้อยู่ร่ำไป  เมื่อเทียบกับนางวิสาขาแล้ว ไม่เห็นฝุ่นเลยหละ  โอกาสรอด รำไรๆ  คงต้องมีความพยายามในการทำความดีให้มากกว่านี้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย(แป้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 23:10:05


ความคิดเห็นที่ 7250 (1625872)

 คนที่ร่างกายเข้มแข็ง

คือคนที่มีศีลบริสุทธิ์

 

คนที่มีใจเข้มแข็ง

คือคนที่มีวิปัสนาบริสุทธิ์

******************

สภาพร่างกาย แข็งแรงบ้างบางครั้ง บางทีก็ยังปวด ๆ ตึงอยู่ค่ะ 

ส่วนเรื่องอารมณ์ใจไม่ไหวอย่างแรง ลู่ตามลมไปเรื่อย 

ดังนั้นจึงไม่บังอาจไปเทียบกับ นางวิสาขา เลยค่ะ 

ยังห่างชั้นอยู่มาก  แต่ถึงอย่างนั้น

อัญก็จะพยายามสอบเทีียบชั้นตามให้ทันพี่ ๆ 

อย่าวิ่งเร็วกันนักนะคะ  ก็น้องนะเพิ่งหัดเดิน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 23:30:15


ความคิดเห็นที่ 7251 (1625883)

ลองมาบอก อ.อุบล หน่อย

ว่า

ถ้าเทียบนางวิสาขา กับตัวเองแล้ว

เหมือน หรือ ต่างกัน มากน้อยแค่ไหน

..........................

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล

ขออนุญาตร่วมสอบอารมณ์ พระอริยเจ้าคะ

เมื่อสำรวจตัวเองแล้วคิดว่าต่างกับนางวิสาขามากๆเลยคะ ยังห่างไกลทุกๆเรื่อง

นางให้ทานเป็นเลิศ: แต่หนูยังไม่ค่อยได้ทำทาน ไม่มีความเสียสละมากพอ  ใจยังไม่เป็นผู้ให้ ยังมีกิเลสอยากได้ มีความเห็นแก่ตัว มีความเสียดาย คิดจะให้แต่ก็ยังลังเลอยู่

สงเคราะห์ผู้อื่นเป็นเยี่ยม: เห็นผู้อื่นเดือดร้อน คนที่ด้อยโอกาส มีความทุกข์ ก็ยังไม่มีความเมตตาที่จะช่วยเหลือ ทั้งๆที่ตัวเองพอจะช่วยได้ เข้าทำนองนิ่งดูดาย

นางไม่เคยตระหนี่ถี่เหนียว ให้อะไรใคร ทำบุญ ทำทานใด นางแถมตลอด:หนูยังเป็นคนขี้หวงของตนเองอยู่ ไม่อยากแบ่งปัน จะให้เฉพาะคนที่เราพอใจเท่านั้น ให้ก็ให้ไม่เต็มที่ ไม่มีการแถม แต่อยากได้ของแถมจากผู้อื่นมากกว่า

ศีล 5 ยังไม่บริสุทธิ์ บางวันก็มีผิดศีลบ้างบางข้อ(ด้วยความไม่ตั้งใจ) ยังมีความวิตกกังวล ความเครียด ในชีวิตประจำวัน

ตอนนี้หนูพยายามฝึกตัวเองรู้จักที่จะให้โดยไม่คิดเสียดายหรือหวังสิ่งตอบแทน

ช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่จะทำได้อย่างเต็มที่ ลดความเห็นแก่ตัวลง

หนูมีความตั้งใจและพยายามกระทำแต่สิ่งที่ดี ละเว้นความชั่ว เพื่อว่าสักวันหนึ่งจะบรรลุเป้าหมาย พระโสดาบัน คะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 00:22:13


ความคิดเห็นที่ 7252 (1625885)

 นรก

คือความทุกข์ ความวิตก

ความกังวล ความเครียด จิตตก

ดังนั้น

เราสอบอารมณ์เราดู

ว่าถ้าเรายังเป็นเช่นนี้อยู่

เรายังไม่เข้าเขตของพระโสดาบัน

หรือแม้แต่พระโสดาปฎิมรรค

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สอบยังไงก็ตกครับ

เรื่องอารมณ์ ความโกรธ ความเครียด จิตตก ยังมีให้เห็นครับ

ผมยังระงับยังไม่ได้แบบเด็ดขาด

เรื่องศีลทุกข้อ แม้จะไม่ได้ละเมิดด้วยกาย

แต่ยังเห็นว่าในใจยังคุกรุ่น รอจังหวะจะประทุออกมาเหมือนกัน

เช่น วันนี้ดูข่าว ผู้ใหญ่ ยุยงให้เด็ก ป.5 ป.6 ชกต่อยกัน

เด็กต่อยกันจนเหนื่อยล้าทั้งสองฝ่าย

ผู้ใหญ่จึงจับแยกออกบอกว่า  พอๆ  

พอได้แล้วไม่ต้องต่อยกัน 

ได้คลิปไว้ลงเฟสบุ๊คแล้ว ดูมันทำ ดูมันคิดได้ไง 

ดูใจตัวเองแล้ว เก็บอาการไม่อยู่ที่ผู้ใหญ่ ยุยงเด็กต่อยกัน

ส่วนการสละทาน และความเสียสละ

ทำได้ไม่เศษเสี้ยวของนางวิสาขาเลย

ยังตระหนี่ถี่เหนียวอยู่

ยังต้องฝึกอีกและต้องทำอย่างเร่งด่วนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 00:32:44


ความคิดเห็นที่ 7253 (1625903)

 


กราบเรียนท่านอาจารย์แม่

ธัญญาภรณ์ยังห่างไกลกับพระโสดาบันค่ะ

ศีลยังขาด ยังแหว่ง ยังทะลุ 

เกือบทุกข้อ

 

 

ศีลข้อ 1.ยังมีเผลอทำแมลงตาย

ยังทานเนื้อสัตว์เป็นบางครั้ง

ยังมีความโกรธ ความกังวลแฝงอยู่ในจิต

ยังอยากให้คนที่มารังแกเราได้รับผลกรรมเร็วๆ

พอนึกขึ้นได้ทีก็ละวางได้บ้าง

ศีลข้อ 2.ยังทำงานได้ไม่เต็มที่

แต่ยังอยากได้เงินเดือนเต็ม

ยังใช้อุปกรณ์สำนักงานทำธุระส่วนตัว

ยังอยากได้เงินของสามีทั้งที่เขาไม่เต็มใจให้

ศีลข้อ 3.ตอนนี้รักษาอยู่ค่ะ

ศีลข้อ 4.ยังติฉินนินทาสามีบ่อยๆ

ยังนินทาน้องสาวของสามีอยู่ในใจ

ศีลข้อ 5.ยังดื่มกาแฟอยู่

 

การให้ทาน

ยังติดการให้ตามอารมณ์เลวของตนเอง

ถ้ามีคนมาขอโดยไม่สมควรขอ จะไม่ให้

หรืออาจจะให้แบบทาสทาน

ถ้าเต็มใจให้ ส่วนใหญ่จะให้แบบสหายทาน

แต่ถ้ารู้ว่าบริจาคทานกับเนื้อนาบุญจริงๆ

จะให้แบบสามีทานค่ะ

 

สงเคราะห์ผู้อื่นเป็นเยี่ยม

ข้อนี้น่าจะเข้าข่ายนางวิสาขาบ้างค่ะ

เพราะส่วนตัวแล้วชอบช่วยเหลือคนอื่น

เท่าที่จะทำได้

ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไป

อานิสงค์ที่ได้รับ

คือ

ในช่วงนี้ที่ธัญญาภรณ์ได้รับวิบากกรรม

จากการที่ตนเองเคยทำผิดศีลมา

 

จะมีผู้คนจำนวนมากที่เราคาดไม่ถึง

ทั้งคนรอบข้างเราเอง, คนที่เราไม่สนิทสนม

และข้อสำคัญคนที่ควรจะอยู่ฝั่งตรงข้าม

เข้ามาช่วยเหลือ

เข้ามาปลอบให้กำลังใจ

จากที่เราเคยคิดว่าปัญหานี้ใหญ่โตมาก

สำหรับเรา

แต่เมื่อมองย้อนกลับมาดูผู้คนที่พร้อมสู้กับเรา

 

ทำให้เรามองข้ามปัญหาตรงนี้ไป

ขณะที่เขียนอยู่นี้ปัญหายังมีอยู่

แต่เราไม่ทุกข์ ไม่เครียด

ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ

 


 

นางไม่เคยตะหนี่ถี่เหนียว ให้อะไรใคร

 

 

 

ทำบุญ ทำทานใด นางแถมตลอด

 

ความตะหนี่ถี่เหนียวนี่จะมาเป็นระยะๆ

ข้อนี้จะพยายามปรับปรุงโดยด่วนค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 05:43:19


ความคิดเห็นที่ 7254 (1625928)

 


หันมาดูตัวเรา

เป็น"เงา"นางวิสาขา

กันบ้างหรือเปล่า เราให้ทาน

ได้ครึ่งของนางหรือไม่

เราจะเป็นระดับไหน

ถ้าเปรียบเทียบกับนางวิสาขา

 

เป็นพระโสดาปฎิมรรค

หรือ

พระโสดาปฏิผล

 

หรือว่าเป็นพระสกิทา พระอนาคา

พระอรหันต์ ช่วยมาบอกที


***********************

ส่วนตัวตุ้ยนั้น ยังห่างใกลพระโสดาบันมากค่ะ
เพราะ ศีลข้อ 1 ก็พอทำได้ค่ะ
แต่อาจมีบ้างที่ไม่เจตา 
เช่น พวก ยุง มด แมลงนี่ เห็บ หมัด
บางทีเผลอทำเขาตายก็บ่อยค่ะ

ศีลข้อ 2 อันนี้เลิกขโมยอย่างเด็ดขาดค่ะ
แต่ก็ยังมีอารมณ์
อยากได้ของฟรี ยังเห็นแก่ตัว ถ้าของ
ของตัวเองเราเก็บไว้ยังไม่ใช้
ใช้ของคนอื่นก่อน เรียกว่ายังเห็นแก่ตัวอยู่มาก
และบางทีก็หวงของ คนบางคน
เราช่วยได้แต่เราก็แพ้ความขี้เกียจ
เรื่องทำงาน ระหว่างงานก็เข้าเว็บนู๊นเว็บนี้
เรียกว่า ทำงานให้เขาไม่เต็มที่ แต่รับเงินเต็มค่ะ


ข้อ 3 ข้อนี้ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ
เพราะมีหน้าตาเป็นอาวุธอยู่แล้ว
แต่ก็ยังมีชื่นชมดารา คนโน้น
คนนี้หล่อบ้าง ยังมีความอิจฉาเล็กๆ
ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยอยู่บ้างค่ะ


ข้อ 4 ข้อนี้ยากสุดค่ะ เพราะทุกวันนี้เรายัง
นินทาอยู่ ยังมีอารมณ์
น้อยเนื้อต่ำใจ ท้อ จิตตก เบื่อหน่าย
ยังเม้า วิพาก วิจารย์คนอื่น แต่ไม่ได้ดูตัวเอง
สรุปข้อนี้ยังไม่ผ่าน

ขอ้5 ข้อนี้คิดว่าดีกว่าขอ้อื่นค่ะ
แต่ก็ยังมีกินนมรสกาแฟอยู่ 
เพราะมันใกล้หมดอายุน่ะค่ะ
จะทิ้งก็เสียดาย ซึ่งก็เป็นข้ออ้างเหมือนเดิม


การมาเขียนอย่างนี้ก็ได้เห็นชัดขึ้นค่ะ
ว่าเราจะต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง
บางอย่างก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ นะคะ 
และเป็นแรงฮึดให้เราปรับปรุงตัวเอง
เพราะดูแล้วบางข้อก็ไม่น่ายากเกินความพยายามค่ะ
พูดตรงๆเลยค่ะ อยากเจริญในทางธรรม
ยังมิกิเลสที่อยากเป็นค่ะ อยากพ้นทุกข์
ขั้นต่ำศีล 5 เราต้องบริสุทธิ์ก่อน
ถ้าเรามีเป้าหมายจริง เราต้องทำให้ได้ค่ะ

สรุปว่าตอนนี้ตัวเองยังห่างไกล
อยู่มากกับความเป็นพระโสดาบันค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 09:55:45


ความคิดเห็นที่ 7255 (1625931)

  อ่านธรรมทาน จากพี่ๆน้องๆบ้านสวนฯเขียนแล้ว..คล้ำ...ขำ

  ลูกบ้านสวนฯ นี่สุดยอดเรยครับ เรื่องอ่อนน้อมถ่อมตน เรื่องอัตตา นี่ยกให้ที่หนึ่งเรยครับ

  คือพอดี ผมติดนิสัยคนหน้าตาดีมาครับ เลยสงสัยอีกล่ะ ผมจำได้ว่า ไม่นานมานี้ ท่านอาจารย์เคยพูดว่า "อาจารย์เชื่อว่า ลูกบ้านสวนฯมีพระอริยะเจ้าหลายคน " อีกประโยคนึงครับ อันนี้บนเวทีงานวันแม่ครับ ตอนนั้น พี่ธนาถามท่านอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องพระอริยะเจ้าครับ แล้วผมก็ถามท่านอาจารย์เสริมเกี่ยวกับว่า ถ้าเราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แล้วเผลอไปใช้ท่าน อย่างนี้จะเป็นบาปไหม๊ หลังจากท่านอาจารย์ตอบเสร็จ อาจารย์ท่านทิ้งท้ายไว้ ซึ่งผมจำได้แม่น ท่านกล่าวว่า " ลูกบ้านสวนฯมากกว่า 5คน" นั่น..งัย ก็สรุปว่า มีแน่ ตามที่ผมเข้าใจ

   เอ้า...กลับมา ที่พี่ๆน้องๆ เขียนกันไว้ ทุกคนต่างปฎิเสธกันเสียงแข็ง ว่า ฉันยังห่างไกล เนี่ยถ้า พ่อใหญ่ธนา พี่สิทธิ์ พี่เหมี่ยว พี่ชนิดาและท่านอื่นๆ ออกมา ปฎิเสธกันหมดเนี่ย...อ้าว แล้วใครเป็นล่ะเนี่ย มันคุ้นๆเหมือนที่ ลูกหลานบ้านสวนฯ ถ้าพูดถึงเรื่องตามหาพระศรีอริยฯ แล้วชอบบอกว่า ไม่ต้องหาล่ะ เจอล่ะ อยู่ที่บ้านสวนฯไง ตามความเข้าใจของผม ก็หมายถึงท่านอาจารย์อุบล ล่ะครับ ทั้งที่ท่านอาจารย์อุบล ท่านก็บอกแล้วว่า ไม่ใช่อาจารย์ ไม่รับ ไม่ใช่ ไม่เป็น ปฎิเสธมาอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน.....อย่างนี้ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นหรือเปล่าครับ อิอิ

   ที่หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ขำๆน่ะครับ แหม๊ ลูกบ้านสวนฯ มีเป็น ร้อย เป็นพัน มีอยู่ตั้งหลายประเทศ ต้องมีบ้างล่ะ..เน้อ..อีกอย่านึงครับ ผมกลับมองว่า เป็นเรื่องที่ดี ท่านอาจารย์สอนเราเสมอ อย่าหลงตัวเอง อย่ามีอัตตา ทำความดี ไม่ต้องไปบอกใคร ประกาศกับใคร ว่าฉันน่ะดี ทำอะไรรู้แก่ใจ....สุข..ก็เกิดที่ใจน่ะครับ

   ส่วนผม..ก็ยังไปทำงานสายอยู่เรยครับ เล่นเน็ตในเวลางาน พูดจา เพ้อเจ้อ เหลวไหลบ้างครับ...แฮะๆ ก็ยังห่างไกลในความเป็นอริยะบุคคล เหมือนกันครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 10:27:32


ความคิดเห็นที่ 7256 (1625946)

 


หันมาดูตัวเรา

เป็น"เงา"นางวิสาขา

กันบ้างหรือเปล่า เราให้ทาน

ได้ครึ่งของนางหรือไม่

เราจะเป็นระดับไหน

ถ้าเปรียบเทียบกับนางวิสาขา

 

เป็นพระโสดาปฎิมรรค

หรือ

พระโสดาปฏิผล

 

หรือว่าเป็นพระสกิทา พระอนาคา

พระอรหันต์ ช่วยมาบอกที
----------------------
ส่วนตัวหนูเองยังห่างไกลพระโสดาบันมากๆ
ศีลข้อที่ 1.  ยังเผลอเหยียบมด ตัวตะเข็บ  หนู  ยุงกินจนเลือดแดงพอจับก็ตายแล้ว   ยังซื้อเนื้อสัตว์ให้ลูกและสามีกิน  และหมาที่เลี้ยง ทำอาหารให้และชิมด้วย
ศีลข้อ 2. ยังชอบของแถมที่เวลาไปเตินน้ำมันมีน้ำแถมฟรี  มีส่วนใช้ของหลวงที่สามีประมูลมาบ้าง แต่บางอย่างถามเขาไม่บอก เช่นเรื่องเงินเดือนเวลาเขถามรายของครอบครัวเขาบอกให้เขียนเท่าไหร่เราก็เขียนเท่านั้นเพราะไม่รู้จริงๆ
ศีลข้อ 3. ยังเผลอคิดอยากหาแฟนให้ลุกสาว  คิดคนเดียวถ้าเราเป็นคนนั้นถ้าจะดีหนา
ศีลข้อ 4.  ยังเผลอพูดโกหก  ดุลูก สามี ดุหมา เวลาขับรถว่าคนที่ขับไม่มีน้ำใจเราเปิดไฟเลี้ยวแล้วยังไม่ยอมเลย พูดแซวไร้สาระ
ศีลข้อ 5. ยังกินของมักดองอยู่ เช่นหัวไซรโบ๊   หน่อไม้   ผักกาดดอง  ปลาร้า
พูดถึงเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากขนาดพูดให้แม่ค้ากล้วยแขกที่ไปรษณีย์คลองหกเขายังยิ้มเฉยและเขาจะเปลี่ยนเรื่อง   และอีกคนหบึ่งเป็นหัวหน้าแผนไทยที่รพ. ลำลูกกาเขาสารภาพก็จริงแต่ยังไม่ศรัทาและยังพูดอีกว่าเดียวจะไปให้ดูทั้งหนูบอกกฎกติกาก่อนจะเข้าบ้านสวนแล้วเขาอ้างโน้นอ้างนี่ คนแบบนี้เจอเยอะมากน่าสงสารเขาจังหรือตัวหนูยังศีลพร่องอยู่ เวลาก็มีเท่ากันแต่ยังจัดสรรเวลาไม่ลงตัว
หนูจะพยายามรักษาศีล5 ให้บริสุทธิ์  โมทนาบุญกับคุณธนา  คุณแมว  พี่สิทธิ์  และอีกหลายที่ไม่ได้พูดถึง  และขอเป็นกำลังใจให้กับตัวเองและทุกท่านที่ตระหนักแล้วใส่ความมุ่งมั่นจะทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ

โมทนาบุญกับทุกท่านค่ะสาธุๆๆ สู้ๆกับกิเลสตัวเองให้ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 11:12:34


ความคิดเห็นที่ 7257 (1625948)

 

ที่หลวงพ่อของเธอเคยบอกไว้

ว่า สถานที่ สำคัญมาก

ที่ใดที่มีผู้ไปนั่งกรรมฐานแล้ว

สำเร็จอรหันต์ได้

ให้ไปใช้ที่ตรงนั้นนั่ง

 

อย่างเตียงพระนาคเสนเป็นต้น

มีผู้นั่งตรงนั้น

แล้วสำเร็จอรหันต์ตั้ง 7 องค์

เพราะอะไร

 

พระอรหันต์ หรือ เทวดา

ท่านจะมาโปรด สถานที่ ที่ท่าน

อนุโมทนาบุญได้เท่านั้น

 

แล้วการ

จะทำให้เทวดา

เสด็จมาที่ใดสม่ำเสมอนั้น

ท่านต้องเห็นกองกุศลในเขตนั้น

เป็นปัจจัยสำคัญในการเสด็จมา

 

ดังนั้น

การทำบุญ

ต้องเลือกเขตบุญที่บริสุทธิ์ที่สุด

ถ้าต้องการบุญที่เห็นผลเร็ว

กราบพระบาทในความเมตตาชี้แนะให้ปัญญากับลูกหลาน กราบท่านอาจารย์อุบล บรมครูผู้ที่น้อมนําคําสั่งสอนอันงดงามที่ ลึก ตรง ชัด ลัด เร็ว และง่าย มาท่ายทอดให้ศิษย์ได้พ้นทุกข์ ทั่งนี้ก็สุดแท้แต่บุญวาสนา และปัญญาของตัวลูกเอง ว่าจะไปถึงได้ แค่ใหนอย่างไร 

 

หันมาดูตัวเรา

เป็น"เงา"นางวิสาขา

กันบ้างหรือเปล่า เราให้ทาน

ได้ครึ่งของนางหรือไม่

เราจะเป็นระดับไหน

ถ้าเปรียบเทียบกับนางวิสาขา

 

เป็นพระโสดาปฎิมรรค

หรือ

พระโสดาปฏิผล

กราบเรียนท่าอาจารย์ ตัวลูกเองก็ยังห่างไกล เห็นได้แค่เงา แต่ยังเป็นเงาไม่ได้เจ้าค่ะและ กับการที่จะเป็นพระโสดาบัน ก็เช่นกันค่ะ  มาสํารวจศีลดูแล้วก็ยังพร่อง ยังแหว่ง ยังโหว่ อยู่มากค่ะ

ศีลข้อ1.จะมีเผลอไปฆ่าสัตว์ในบ้านสวน โดยมิได้เจตนา ตอนไปขุดดิน สร้างบุญปลูกต้นโมกหรือในแปลงเกษตร เช่น มด ไส้เดือน กิ้งกือ หรือแมลงต่างๆ และก็ยังคิดที่จะรังแก แกล้ง หรือทําร้ายผู้อื่นอยู่ เช่นเวลาเห็นลูก ทําในสิ่งไม่ถูกต้องหากตือนแล้วไม่ฟังก็เดี๋ยวพัดด

ศีลข้อ2. พอจะได้บ้าง อาจมีพลั้งเพลอเล็กน้อย

ศีลข้อ3. พอได้

ศีลข้อ4. ยังโกรธอยู่ ยังนินทาอยู่ ยังพูดส่อเสียดอยู่ ยังอิจฉา ริษยาอยู่ ยังพูดโกหกบิดเบือนอยู่ ข้อ4นี้ชัดมากๆค่ะ จิตตกง่าย หลงง่าย

ศีลข้อ5.พอได้ 

ก็คงเป็นได้แค่พระโสดาฯ ( ต้องดัน)  ขอบคุณพี่แมวค่ะ ขอยืมคํานี้มาใช้ด้วยนะคะ โดนใจจัง 

ยังไงก็จะต้องดันตัวเองขึ้นไปให้พ้นนรกให้ได้เจ้าค่ะสาธุ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 11:20:54


ความคิดเห็นที่ 7258 (1625975)

 

พระโสดาบัน

จะปลอดภัยจากอบายภูมิ

แม้จะทำบาปมามากเท่าใดก็ตาม

ถือว่า บาปนั้น ไม่มีกำลังพอ

ที่จะดึงพระโสดาบัน

ไปใช้กรรมได้

เพราะ ศีล ปิดประตูนรกแล้ว

 

....................................

ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมอาจารย์ต้อง

เน้นให้ทุกคนรักษาศีลให้ได้

อำนาจของศีลยิ่งใหญ่เหลือเกิน

ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผมอาจจะผิดศีลทั้ง 5 ข้อ

ทำบาปมาก็มาก

แต่ผมก็ยังมีโอกาส

ปิดประตูนรกได้ใชไหมครับอาจารย์

ถึงแม้ว่าจะทำยากแต่ก็จะพยายาม

ไม่ใช่สิ ต้องทำไห้ได้

(ได้ใหมหนอ)

...สติ...

 

.......................

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 12:30:33


ความคิดเห็นที่ 7259 (1626091)

คนที่ร่างกายเข้มแข็ง

คือคนที่มีศีลบริสุทธิ์

 

คนที่มีใจเข้มแข็ง

คือคนที่มีวิปัสนาบริสุทธิ์

อันนี้ตรงเป๊ะเลยครับ เพราะว่าทำบุญที่อื่นมาทั้งชีวิต ร่างกายก็ยังเป็นโรคเหมือนเดิม เพราะขาก็เป๋อยู่อย่างเดิม ฮ่าๆๆ แต่มาทำบุญที่บ้านสวนฯ หายเป๋ ร่างกายก็แข็งแรงจนเรารู้สึกได้เลยว่า เปลี่ยนไป๋เจงงๆๆ

เรื่องจิตใจก็เหมือนกัน เมื่อก่อนจะเกรงใจคนอื่นเขา ไม่กล้าพูดเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะปากหมาเป็นทุนเดิม ฮ่าๆๆ แต่ก็รู้สึกสงสาร ไม่อยากพูดอะไรให้คนเสียใจ แต่เดี๋ยวนี้มีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าเมื่อก่อน กล้าพูดในสิ่งที่ถูกต้อง ใครจะทำอะไร เกลียดเราหรือเปล่า มันก็เรื่องของเขา เราไม่ได้มาหาคนรัก คนเกลียดนี่ เรามาหาความจริง อย่างที่ท่านอาจารย์สอนไว้... แต่สุดท้ายจิตใจนี้ก็ยังมีกิเลสบาปหนาเกาะอยู่ ก็ต้องพยายามต่อไปให้เต็มที่เพื่อกลับบ้านให้ได้ในชาตินี้...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 14:15:47


ความคิดเห็นที่ 7260 (1626118)

หันมาดูตัวเรา

เป็น"เงา"นางวิสาขา

กันบ้างหรือเปล่า เราให้ทาน

ได้ครึ่งของนางหรือไม่

เราจะเป็นระดับไหน

ถ้าเปรียบเทียบกับนางวิสาขา

 

เป็นพระโสดาปฎิมรรค

หรือ

พระโสดาปฏิผล

ขอบกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลค่ะ

สำหรับตัวหนูเองคิดว่าตัวเองยังห่างไกลจากพระโสดาบันมาก แค่เศษเสี้ยวของ 1 เปอร์เซน

ของพระนางวิสาขาหนูยังทำไม่ได้เลยค่ะ

ศิลข้อ 1 ก็ยังมีเว้าแหว่างอยู่

ศิลข้อ 2 เวลามาทำงานก็มาสาย กลับก่อน อู้งาน บ่อย

ส่วนศิลข้อ 4 ก็ยังนินทาหัวหน้า  นินทาคนที่เราไม่พอใจ

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลค่ะที่ได้ชี้แนวทางให้ลูกแร่งสำรวจตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 15:26:52


ความคิดเห็นที่ 7261 (1626183)

คุณสมบัติของพระโสดาบัน

คือ

ต้องมีปัญญาเล็กน้อย มีศีลมั่นคง

ที่แน่ๆ ที่ผู้อื่นสัมผัสได้

คือ ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับผู้ใด

พระโสดาบัน

ต้องการแต่จะเป็นผู้ให้

ไม่ใช่ผู้เอา หรือ ผู้อยากได้ของใคร

...............

ขอน้อมรับค่ะท่านอาจารย์ว่ายังไม่ผ่านเลย

ศีลข้อ1พอจะผ่านค่ะ

ข้อ2 นี้ยังมีไปสาย ทานกาแฟ ทานขนมประจำ

เล่นเน็ตตอนพักเที่ยง ฟังเพลงออนไลท์

ข้อ3พยายามอยู่ ที่ใหนมีรัก ที่นั่นมีทุกข์

ข้อ4 นี้หนักเลยชอบนินทาหัวหน้า 

โกรธง่ายเวลาเจอคำพูดที่มันแรงๆ

แต่ก็พยายามระงับโทสะ และใช้ระหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยค่ะ

ข้อ5 ยังดื่ม ชา กาแฟ 

การให้ทาน ก็ยังตระหนีขี้เหนี่ยวอยูมากค่ะ

ต่อไปนี้จะพยายามรักษาศีลให้ห้าให้เเข็งแรง ให้ทานอย่างสมำเสมอ

ไม่คิดอยากใด้ของฟรี  คิดดีกับคนรอบข้างให้มากกว่านี้

หัดพูดความจริง ไม่ต้องเกรงใจว่าใครจะโกรธเรา

ก่อนหน้านี้มัวแต่อ่อนแอ กลัวคนอื่นไม่รัก กลัวทุกเรื่อง

กราบขอบคุณท่านอาจาร์มากๆที่ชี้ทางสว่างให้ลูกคนนี้ใด้

ไปที่ ที่ดี่

สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-25 00:27:01


ความคิดเห็นที่ 7262 (1626191)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                      และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                      ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่ ครับ

                                             เพราะ สิ่งที่คุณแม่พร่ำเตือน และ บอกกล่าวมาโดยตลอด ก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ มีความเมตตาและปรารถนาให้ผู้คนได้ไปสู่นิพพาน

                                             ไม่ว่าการมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ (เพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรง) และ การฝึกจิตใจ(เพื่อให้จิตใจเข้มแข็ง)  ซึ่งก็เป็นการบอกกล่าว ถึง ปริศนาธรรม ที่ผ่านมาหลายๆปี มีผู้คนจำนวนมากมาย ไม่เข้าใจถึงปริศนาธรรมอันนี้

                       ซึ่ง ผมคนหนึ่ง ที่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์อันนี้ แต่ก็ไม่สงสัย  คิดว่าการมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ก็เพื่อทำให้ผมลดอัตตาของตนเองลงไปได้ (อยู่ในสังคมภายนอก มีคนทำงานให้)

                        การฝึกจิต ก็คิดว่า ทำให้เราทำผิดศีลน้อยข้อลงไป และ มีความยั้งคิด เมื่อเราจะคิดทำสิ่งใดที่เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น

                        แต่ เมื่ออ่านข้อเขียนของ คุณแม่ ก็ทราบว่า ที่บ้านสวนฯ นั้น เรามีความมุ่งหมายที่ประเสริฐยิ่งกว่าที่ผมคิด ครับ

                        เมื่อ สอบจิต ตัวเอง ก็ยังพบว่า ผมยังห่างไกล จาก พระโสดาบัน อย่่างมากมาย ผิดศีลทุกข้อ ทุกเมื่อ ทุกการกระทำ ทุกความคิด และ ทุกคำพูด

                        อ่านข้อความของคุณแม่ และ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ก็เขียนคำตอบได้อย่างไม่ลังเล ครับ คงไม่รอดจากภัยพิบัติที่ใกล้จะเกิดแน่นอน แต่อย่างไร ก็ขอเกาะเกี่ยวต่อพระธรรม คำสั่งสอน ของพระพุทธองค์ และ น้อมนำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ นำไปปฏิบ้ติ ครับ

                         สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-25 08:38:04


ความคิดเห็นที่ 7263 (1626197)

 สำหรับทุกท่านที่กังวลในการทรงอารมณ์พระโสดาบันนั้น

หลวงพ่อฤษีท่านเคยแนะนำว่า ถ้ามันทรงอารมณ์ไม่ได้ทั้งวัน

ก็ขอให้ทรงอารมณ์ได้เพียงชั่วขณะ ที่เราสามารถทำได้

เราก็จะได้เป็นพระโสดาบันได้เวลาช่วงนั้นๆ

แม้แต่การฝึกจิตของเราในขณะทรงอารมณ์สมาธิในการทำความดี

เมื่อมันไม่ได้ตลอดทั้งวัน ก็ขอตั้งใจเพียงแค่เวลาที่เราสามารถทำได้

จิตเราก็จะได้ชินในอารมณ์นั้น บ่อยๆเข้า

เราจะได้อารมณ์พระโสดาบันโดยเราไม่รู้ตัวว่า เราได้อารมณ์พระโสดาบันแล้ว

ถ้าเวลาใหนที่เราทรงอารมณ์นั้นได้บ่อยๆ ลองเอาจิตเราทรงอารมณ์นั้นแล้ว

เราลองจับภาพอาจารย์อุบลดู 

ถ้าท่านอยากรู้ว่าพระศรีอาริย์  รูปร่างท่านเป็นอย่างไร

เราอาจจะเห็นอะไรดีๆก็ได้นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-25 09:54:15


ความคิดเห็นที่ 7264 (1626329)

หันมาดูตัวเรา

เป็น"เงา"นางวิสาขา

กันบ้างหรือเปล่า เราให้ทาน

ได้ครึ่งของนางหรือไม่

เราจะเป็นระดับไหน

ถ้าเปรียบเทียบกับนางวิสาขา

""""""""""""""""""""""

ไม่กล้าเปรียบเทียบเลยค่ะ เพราะยังห่างไกลชนิดที่เรียกว่าแทบไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว เพราะศีล 5 ก็ยังแหว่ง ยังขาดอยู่เลยค่ะ

ศีลข้อ 1 ก็ยังมีกวาดพื้น ปัดฝุ่น บางทีเห็นมด เห็นแมลง ก็ทำเหมือนไม่เห็นก็กวาดๆไปเลย ก็คงทำให้มดหรือแมลงตายบ้างแน่ๆเลย

ศีลข้อ 2 ก็ยังมีค้าขายบางครั้งบวกกำไรมากเกินไปค่ะ

ศีลข้อ 3 ทางกาย ทางวาจาผ่านค่ะ แต่ทางใจก็ยังมีแว๊ปๆมาบ้างค่ะ

ศีลข้อ 4 ก็ยังมีนินทา พูดจาไม่ดีเวลาไม่พอใจ บ้างครั้งก็เผลอโกหกลูกค้า พูดเกินจริง เหมือนเป็นไปโดยอัตโนมัติเลยค่ะ ก็คงจะเป็นเพราะทำชั่วมานานค่ะ

ศีล 5 ยังมีดื่มชา กาแฟ ทานของดองค่ะ

ส่วนเรื่องของทาน บางทีทำไปแล้วก็มานึกเสียดายทีหลัง การทำทานของลูกส่วนมากจะได้ทำกับสัตว์ทั้งอาหารและรักษาโรค ซึ่งบางครั้งหรือหลายๆครั้ง ทำไปแล้วก็เกิดการเบียดเบียนตัวเองและบุคคลอื่น เพราะเงินที่ใช้ทำทานนั้นเป็นเงินส่วนกลางซึ่งผู้ที่มีสิทธิ์ใช้ร่วมกันอาจจะไม่เต็มใจ ก็อาจจะทำให้ไม่เกิดบุญก็เป็นได้ค่ะ

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะที่ได้ชี้แนะ และทำให้ลูกได้สำรวจดูตัวเองอีกครั้ง ทำให้ลูกยังเห็นความบกพร่องในตัวเองอีกมาก ลูกจะพยายามให้ทาน รักษาศีลให้บริสุทธิ์ให้ได้ค่ะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-26 15:44:06


ความคิดเห็นที่ 7265 (1626358)
image

วันนี้ตอนเย็นๆขับรถกลับบ้านหลังจากทำบุญที่บ้านสวนฯ โดยมีน้องอัญและน้องอดิศักดิ์ เป็นผู้โดยสารร่วมเดินทางมาด้วยกัน ก็ได้บอกน้องอัญอยู่ว่า ดูดิ ท้องฟ้าวันนี้เป็นสีทอง สวยจังเลย ขนาดมืดแล้ว ยังมีแสงสีทองเลย

ป๊าดดด ประมาณช่วงสองทุ่มใกล้ถึงบ้านแล้ว พี่แมวได้ส่งรูปภาพอันเป็นมหามงคล เป็นภาพปาฏิหาริย์ซึ่งแม้ว่ารูปภาพจะไม่ชัดเจนนัก เพราะพี่แมวถ่ายด้วยมือถือ แต่ก็พอดูแล้วรู้เลยว่า ภาพนี้ไม่ธรรมดา

เพราะเล็งถ่ายไปที่บริเวณองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา ดูกันเอาเองนะครับพี่น้อง มีแสงสว่างขนาดใหญ่มีลักษณะพิเศษดังรูป สุดอัศจรรย์ใจจริงๆครับ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-26 21:20:31


ความคิดเห็นที่ 7266 (1626366)

 

                             

                                                          สำหรับอัญชลีแล้ว  ยังห่างไกล  พระโสดาบัน

                                        มากเหลือเกินค่ะอาจารย์  เพราะศีลยังไม่บริสุทธิ์   ศีลข้อหนึ่งทำได้เป็นบางวัน

                                     บางวันก็ศีลขาดเผลอไปตียุงให้หลานคนเล็กค่ะ ตั้งแต่นี้ไปจะพยายามไม่ทำไห้ได้ค่ะ

                                                      ศีลข้อสอง  ,  ศีลข้อที่สาม ,  ศีลข้อห้า  สอบผ่านค่ะ

                                     ส่วนศีลข้อที่สี่ ยังนินทาคนในบ้านถ้าทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร  และยังมีความโกรธอยู่บ้าง

                                     เป็นบางครั้ง แต่น้อยมาก  ส่วนเรื่องการไห้ทาน , และการสงเคราะห์ผู้อื่นสองข้อนี้ไม่

                                     มีปัญหาเพราะชอบช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ต้องมีข้อแม้และผู้อื่นไม่ร้องขอก็เต็มใจช่วยค่ะ

                                                  แต่จะตั้งใจและพยายามรักษาศีลห้าไห้ครบทุกข้อไห้จงได้ค่ะ

 

                                                         

                                                         

                                                         

                                                         

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-26 23:46:44


ความคิดเห็นที่ 7267 (1626373)

 

อ่านแล้วก็ต้องบอกว่า เราจะเป็นอะไรได้เหรอเนี่ย ศีลข้อ1 - 3 นะพอทำได้ แต่ข้อ ข้อ 4 นี่ซิคะเผลอทุกวัน  ว่าจะไม่แล้ว แต่ลูกก็ทำให้ขาดทุกที มีคนมานั่งเล่นที่บ้านจับกลุ่มกันก็เอาแระเริ่มมีนินทากาเร  คนโน้นที คนนี้ที  บางทีลืมก็เออ  ออไปกับเขา ผสมโรงไปเลย 

เรื่องการให้ทาน ยอมรับว่าเมื่อก่อน สามีทำเยอะก็มีอาการแล้ว หน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่พอใจ เพราะสามีเค้าจะทำตามที่ลุงบอก ท่านบอกว่า  ยิ่งทำยิ่งได้   แต่เราคิดว่า เราไม่รวยเหมือนท่านถ้าทำเยอะเราจะมีกินเหรอ  เมื่อก่อนโกรธให้สามีประจำ  เพราะกลัวเงินหมด  กลัวเงินใช้ไม่ถึงเดือน  แต่ตอนนี้เริ่มรู้แล้ว  ก็ไม่เคยขัดเรื่องทำบุญ  ทำด้วยใจยินดีตลอด  ทำแบบไม่เบียดเบียนตนเอง  เราก็ไม่ทุกข์  แต่ยังไงก็ยังไม่ถึงเศษเสี้ยวของนางวิสาขา  แต่ก็ยังอยากเป็นอยู่ดี  และจะพยายามทำให้ได้ค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 05:06:16


ความคิดเห็นที่ 7268 (1626396)

 

ตอนนี้ผมต้องน้อมนำ

สภาวะของพระโสดาบันเป็นหลักชัยในขั้นต้น

เพราะรู้สึกตัวดีว่าจิตของตนเองเพิ่งจะมีความเป็นมนุษย์ขึ้นมาบ้าง

ก็ตอนที่ได้มารู้จักบ้านสวนพีระมิด

ได้ฟังธรรมะของพระพุทธองค์

ที่อาจารย์อุบลนำมาถ่ายทอดให้ฟังอย่างเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง

จึงตระหนักได้ว่าชีวิตเราล่วงมาถึงวัยกลางคนแล้ว

แต่ธรรมะที่รู้มาอยู่เพียงแค่ชั้นอนุบาลครับ

หวังคงจะไม่สายเกินไปนะครับ

ที่จะเริ่มปฏิบัติและปฏิวัติตนเองใหม่

โดยยกระดับจิตใจของตนเองให้พ้นจากความเป็นมนุษย์

สู่ความเป็นพระโสดาบัน

ขอบพระคุณอาจารย์อุบลครับที่กรุณาเตือนสติครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 09:44:20


ความคิดเห็นที่ 7269 (1626481)

  ขอเล่าบรรยากาศ การสร้างบุญในบ้านสวนฯเสาร์-อาทิตย์นี้ค่ะ

  อรเข้าไปถึง บ้านสวนฯตอนคํ่าวันศุกร์ เก็บคะแนได้1ช.ม

 ก่อนเข้าห้องเรียนพิเศษ เพื่อรับชมบารมี พระศรีอาริยเมตตรัย วันนี้มีแฟนคลับบ้านสวน ที่ตามมาจาก มหิดล เขตร้อนมาใช้แรงกายตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว อนุโมทนาด้วยนะค่ะ

ผลลับ ที่มหิดล

ท่านอาจารย์ เมตตาให้ออกมาเล่า เหตุการณ์ที่ไป มหิดลมาแล้วเป็นอย่างไร มีคุณแคทลียาเธอเป็นดีไซเนอร์ ของบริษ้ทอินเด็กซ์ เธอบอกว่าดูรายการของบ้านสวนมา2ปีแล้ว อยากเจอท่านอาจารย์ อุบล อยากมาทําบุญที่บ้านสวน ตัวเธอเองบอกไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไร ชีวิตทุกอย่างดีขึ้นตามลําดับ ตั้งแต่รู้จักเวปซ์บ้านสวนและติดตามมาโดยตลอด แล้วคุณหน่องที่เป็นผู้จัดการสาขาในอินเด็กซ์ ก็ออกมาบอกว่าน้องแคทเค้าดีขึ้นมากโดยเฉพาะนิสัยและอารมณ์เย็นขึ้น คุณหน่องก็ให้ธรรมทานเรื่องของตัวเองว่า เป็นโรคความดันปรี๊ด เมื่อก่อนจะเป็นคนชอบโกรธ โมโห ชอบปรี๊ดด  ไม่ยอมคน เธอบอกว่าสิ่งไม่ดีทุกอย่างจะอยู่ในตัวเธอหมดเลย อิ อิเหมือนกัลเลยพี่ ตอนไปบําบัดที่มหิดล รับสารภาพตามที่ท่านอาจารย์นําบอก ทุกอย่างหายหมดเลย สาธุ แล้วก็มีคุณกระรอกออกมาเล่าว่า เธอปวดหลังเพราะเส้นจม มา6ปีแล้ว รักษายังไงก็ไม่หาย จนหมอนัดผ่าตัด เธอเลือกไม่ผ่า แต่มาหาอาจารย์อุบล มาสารภาพบาป ที่มหิดลทําให้การบําบัดโรคของคุณกระรอก เกินความคาดหมาย เธอหายเป็นปกติทุกอย่าง ตอนรับบารมีพระศรีอาริย์ ก้มได้สบายมาก ไม่เจ็บ ไม่ปวดทรมานอีกแล้ว  แล้วเธอก็เล่าต่ออีกว่า ที่มหิดลวันนั้น มีน้องคนหนึ่งที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ แล้วบอกว่าเคยฆ่าหนู เพื่อทดลองในห้องแลป กว่าสองสามร้อยตัว บอกกับคุณกระรอกว่า อาการปวดหลังเธอหายหมดแล้วเหมือนกัน แล้วก็บอกว่าจะมาบ้านสวนพีระมิด

เมื่อฟ้าประทาน สิ่งศักสิทธิ์เมตตา 

มาถึงเรื่องของตัวเองบ้าง อร ออกมาสารภาพบาป ที่เคยปรามาสตัดพ้อต่อว่า สิ่งศักสิทธิ์ ว่าทําไมท่านไม่เคยช่วยให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น ทั้งๆที่ของเซ่นไหว้ทุกอย่าง ให้กินตลอดไม่เคยขาด ด้วยความโง่เขลา เบาปัญญา ตอนนั้นยังไม่มาทางธรรม ความหวังของชีวิตจึงฝากไว้กับ พระภูมิเจ้าที่ ที่อยู่อาศัย และก็เคยปรามาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และราชวงค์ทุกพระองค์ มีคนนําเรื่องไม่ดีมาพูดให้ฟัง ด้วยความที่ขาดปัญญาไม่มีสติที่จะยั้งคิด ว่าควรหรือไม่ ไม่ห้าม   แล้้วตัวเองก็จะนําเรื่องนั้นๆไปพูดต่อ จึงทําให้ชีวิตตกตํ่ายํ่าแย่ มีปัญหาทั้งเรื่องความรัก การงาน การเงิน มีหนี้สินล้นพ้นตัว ทํามาหากินไม่ขึ้น ไม่เจริญ  เพราะติดลบมาหลายปี ยิ่งช่วง4เดือนสุดท้ายก่อนรู้จักเวปซ์บ้านสวน ตัดสินใจว่าถ้าไปไม่ไหวจริงๆจะปิดกิจการ พอ ดูเวปซ์ในรายการคุยไปแจกไป อนุโมทนาหน้าจอ ยอดขายจากเมื่อก่อนไม่เคยขายได้เลย วันนั้นขายได้3แสน และก็ไดยอดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ สต๊อกเก่าที่มีก็ขายเกลี่ยงแม้กระทั้งของตําหนิ จนมาถึงเดือนกุมภา ปี55เดือนเดียว ยอดขายได้9ล้าน และก็ยังมีออเดอร์อยู่ในมือ อีกประมาน3เดือน เป็นยอดเงิน กว่าสิบล้าน แล้วก็มาขอบคุณสิ่งศักสิทธิ์ ที่ใช้ รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย และมาทําบุญที่บ้านสวนสมํ่าเสมอจึงทําให้ทุกอย่างดีขึ้นตามลําดับ และออเดอร์มีมากจนทําไม่ทัน ต้องหยุดใช่รหัสก่อน  แล้วก็เหิมเกิม คิดว่าได้แค่นี้ก็พอแระ นานๆไปทําบุญที่ก็ได้ คิดว่าบุญตัวเองเต็มแระ แยอะแระ แล้วก็ห่างบุญในที่สุด ไม่มาบ้านสวนเดือนกว่า แต่หลังจากที่ขอหยุดใช่รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย ก็หยุดจริงๆ ทุกอย่างหยุดหมด ลูกค้าไม่มารับออเดอร์ที่สั่งไว้ จะได้แค่พอเลี้ยงปากท้องครอบครัว ไม่พอให้ลูกน้องกลายเป็นเริ่มติดลบหนักขึ้นๆทุกวัน จนรู้สึกจิตตก ท้อแท้ สิ้นหวัง แล้วก็มานั้งสํารวจตัวเอง นึกถึงคําที่พี่เหมี่ยวพูดว่า อรไม่น่าไปบอกว่าหยุดใช้ รหัสเลย และพี่แมวก็เคยบอกว่าท่าน อาจารย์เตือนแล้วอย่าห่างบุญ เดี๋ยวคอยดูเถอะ แฮะ แฮะ

ดูไม่ได้เลยค่ะ ท่านอาจารย์เจ้าขา ยอมรับผิดทุกสถานการณ์ และวันนี้ ก็เป็นวันที่ฟ้าโปรด เบื่องบนประทาน ได้ออกมาขออนุญาตใช้ รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วยอย่างเป็นทางการ ดีใจและมีความสุขที่สุด ชีวิตเิ่ริ่มมีความหว้ังที่่จะกอบกู้กิจการให้ดีขึ้นมาอีกครั้ง

ความเมตตาหาที่สุดมิได้

แล้วท่านอาจารย์ก็เมตตา ทําอุปกรณ์ขึ้นมาสําหรับคนขี้อาย เป็นรูปทรงพีระมิด3เหลี่ยม มีท่านอาจารย์อุบล มีรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ด้านหน้า ด้านหลังมีรูปธรรมจักร และคาถาประโตเมตัง ราคาเพียง 100บาทเท่านั้นจ้า

อันนี้เพื่อให้ทุกคนเป็นพระโสดาบันให้ได้ ไว้สารภาพบาป กรณีพลั่งเพลอหรือสุดวิสัยจริงๆ ให้สารภาพในใจก็ได้ผลทันที่ ใช้ได้เฉพาะบุคคลเท่านั้น ของใครก็คนนั้น ใช้ช่วยคนอื่นไม่ได้ บูชาให้กันได้เฉพาะ พ่อ แม่ ลูก นอกนั้นต้องบูชาเอง จึงจะมีอานุภาพ อรก็ได้ทดลองใช้แล้วเหมือนกันคิดในใจ เห็นผลทันตาเลยค่ะ นอกจากตัวเองแล้วรับรองไม่มีใครรู้แน่นอน

ด้วยพระบารมี มิอาจประมาณ

ถึงเวลาที่รอคอย มาชั่วชีวิต ท่านอาจารย์เมตตาอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ให้พวกเรา ได้สัมผัสพระองค์ท่าน อาการที่เป็นอยู่ทุกคนดีขึ้น อรรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยแล้วอาการก็หายโล่งสบายขึ้นทันที

กราบขอบพระคุณพระศรีอาริยเมตตรัย ที่พระองค์ทรงเมตตาเสด็จมาโปรดลูกหลาน พร้อมทั้ง บุญฤทธิ์ ธรรมฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ อิทธิปาฎิหาร ปลดเปลื่องความทุกข์ทั้งหมด กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล ที่ยอมสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อช่วยมนุษย์โลก หากบุญวาสนาลูกมีพอ ขอให้ลูกบรรลุธรรมในยุคของพระองค์ด้วยเถิดเจ้าข้า         

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 15:20:08


ความคิดเห็นที่ 7270 (1626523)

กราบอ.อุบล กราบพระพุทธองค์เจ้าคะ

 

หนูเองก็ได้ทบทวนดูพฤติกรรมของตัวเอง

ว่าเรามีอะไรดีขึ้นบ้างมั้ย ตั้งแต่รับคำสอนจากบ้านสวนไป

แล้วเรายังต้องทำอะไรให้ดีกว่านี้อีก

ก็เห็นชัด ๆ คือ เรื่องอารมณ์ ถ้าไม่ตั้งสติไว้ตลอด

จะยังเป็นคนที่มักเครียดง่าย ขี้โมโห โกรธคนอื่น

และจะลามไปใช้วาจาเชือดเฉือนคนอื่นได้บ่อย ๆ

เพราะอารมณ์ใจของเรา มันไม่สงบนั่นเอง

เรามักตั้งความหวัง หรือคิดว่าสถานการณ์ หรือคนรอบตัว

ควรจะอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์แบบ ดีพร้อมตามอุดมคติของเรา

แต่พอความเป็นจริงมันไม่ใช่ดังนั้น เราก็เลยเครียดไปกับมัน

ใส่อารมณ์ไปกับเหตุการณ์ กับผู้คน

อยากให้ทุกอย่างถูกต้องเป็นดังใจเรา

 

โดยไม่ตั้งสติ มองให้เห็นว่า

ทุกอย่างบนโลกมันก็เป็นไปอย่างนั้นเอง

นั่นคือข้อบกพร่องหนัก ๆ ที่อยากจะแก้ให้ได้มากที่สุด

เพราะเรานั้น ชอบเสือกเรื่องคนอื่นตลอด

รับเอาทุกข์จากภายนอกมาใส่ใจเรา

 

เมื่อมีสติทีไร ก็จะพยายามบอกตัวเอง อย่าไปคิดเรื่องคนอื่น

เรื่องลูก เรื่องคนในครอบครัวก็ช่าง ทุกคนก็มีกรรมเป็นของตัวเอง

คิดปรับปรุงตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ เรายังมีเรื่องแย่ ๆ อีกตั้งเยอะ

บางครั้งก็ขาดความเมตตา ยังกวาด ถู โดนแมลงเล็ก ๆ

ยังโลภอยากได้เงิน อยากได้สิ่งของต่าง ๆ

ยังนินทาว่ากล่าวผู้อื่น ยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ยังโกรธ

พูดจาไม่ดีกับคนรอบตัว ยังขี้เกียจ ยังไร้สาระ ฯลฯ

 

เยอะมาก ๆ ที่ยังเลวอยู่นี้ ก็จะพยายามปรับปรุงตัวเองต่อไปคะ

 

และเรื่องกำลังใจที่เข้มแข็งต่อเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง

รู้ตัวว่ายังสอบไม่ผ่าน ยังอ่อนแอ ยังไม่รู้ว่าจะรับสภาพได้หรือไม่

บางวัน อยู่ ๆ ก็คิดเรื่อง คนในครอบครัวตาย เราจะอยู่ต่อไปยังไง

เราต้องทำอะไรบ้าง 1234 แล้วถ้าเราตายก่อนล่ะ

ลูกจะเป็นยังไง  คิดไปเรื่อย ๆ ก็อยากให้จิตซ้อมไว้

วันนั้นจะเป็นยังไง ก็ยังไม่ทราบเลยคะ ก็จะพยายามต่อไป

 

สิ่งเดียวที่ทำได้ คือซ้อมใจให้เข้มแข็ง

และ บุญ เท่านั้นจะช่วยเราได้

ถ้าวันนั้นมาถึง และกรรมไม่ขวางเกินไป

จิตก็คงมีสติ ระลึกถึงอ.อุบล และพระพุทธองค์ได้ทันคะ

 

กราบขอบพระคุณอ.อุบล และพระพุทธองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์คะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 19:15:26


ความคิดเห็นที่ 7271 (1626544)

ธรรมทานวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 25-26 ส.ค.55

วันเสาร์-อาทิตย์นี้เราเิ่ริ่มเตรียมงานบวงสรวงพระศรีอารย์กันแล้ว เพราะเหลือเวลาแค่ 2 อาทิตย์แล้ว

เิ่ริ่มตั้งแต่ขุดหลุมเพื่อปักเสาปูนซิเมนต์เพื่อติดธงเป็นแถวแนวยาวตั้งแต่หน้าบ้านสวนฯจนถึงด้านหลังองค์พระปฐม ปักเสาและติดธงจนเสร็จเรียบร้อยมองดูสวยงาม มีพลังมากค่ะ มีงานถางหญ้าบริเวณทางเดิน 2 ข้างทางตั้งแต่ด้านหน้าจนสุดด้านหลัง ปรับปรุงเวณด้านหน้าบ้านสวนฯให้สวยงาม และยังได้ปลูกข้าวอีก 2 แปลงสุดท้าย จนเสร็จจากฝีมือจำนวนคน 30 กว่าคนที่มาร่วมบุญกัน

  ท่านอาจารย์บอกว่าใครที่จะมาช่วยเตรียมงานในช่วงนี้ก่อนถึงวันงานจริงให้แจ้งขออนุญาติก่อนมาล่วงหน้า 1 วัน ได้ค่ะ ขอเชิญทุกท่านที่สามารถปลีกเวลามาช่วยงานท่านอาจารย์ได้เลยนะค่ะ คนที่มาช่วยเตรียมงานได้บุญมากกว่าคนที่มาในวันงานอีกนะค่ะ เพราะมาวันงานบวงสรวง ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว แทบไม่ต้องทำอะไรอีก แต่คนที่เตรียมงานต้องใช้กำลังใจสูงในการมาช่วยสร้างสรรงานให้เสร็จ ให้ออกมาสมบรูณ์

และในวันงานใครที่ต้องการจะนำดอกไม้เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระศรีอารย์  ท่านอาจารย์ได้แจ้งว่า เป็นดอกสร้อยทอง ดอกกล้วยไม้ที่เป็นช่อ และดอกไม้แขวนตามต้นไม้ค่ะ  และอาหารนำมาร่วมบุญกันคนละเล็กละน้อย ตามกำลัง

เราลุยงานกันทั้ง 2 วัน แม้กระทั่งท่านอาจารย์ก็ทำทุกอย่างร่วมกับพวกเรา ท่านอาจารย์บอกว่าบารมีพระศรีอารย์ พระองค์ท่านได้แผ่บารมีให้พวกเราตลอดเวลาที่ทำงาน ซึ่งก็เป็นความจริงเพราะมีเหตุการณ์น่าระทึกกกกกก 

ลุงบุญโดนไฟดูด ไฟแรงสูง 220  โวลต์ ลุงบุญตัวสั่น กระตุกๆๆๆ สิงห์ป้อมเห็นก็ตกใจ ร้องออกมา คุณธนา คุณสิทธิ์วิ่งมาช่วยกัน(วิศวะกรทั้งน้าน ลุงบุญสบายละ) สิงห์ป้อมเอาองค์พีระมิดผ้าครอบลุงบุญ  หวังจะดึงลุงบุญออกจากปลั๊กไฟ แต่...ไม่ออก คุณธนาเองก็นึกตามหลักวิชาการได้ว่าห้ามถูกตัวเดี๋ยวตัวเราจะโดนไฟดูดไปด้วย ก็เลยเอาองค์พีระมิดครอบแล้วลากอีก แต่...ไม่ออก ลุงบุญแกตัวชาไปแล้ว แต่แกยังมีสติพูดได้อีกว่า  เอาปลั๊กออก คุณสิทธิ์กระโดดถีบปลั๊กออก แต่...ปลั๊กคนละอัน และแล้วก็มีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย คือ ลุงบุญกระชากปลั๊กไฟออกเอง ลุงบุญเก่งจริงๆ นั่นเป็นเพราะบารมีของพระศรีอารย์แน่นอน ที่ทำให้ลุงบุญมีแรงที่จะกระชากปลั๊กไฟ มีสติที่จะตัดสินใจการกระทำ เพราะคนที่โดนไฟแรงสูงดูดนั่นถ้าเกิน 10 วินาที ต้องตายแน่นอน แต่เคสลุงบุญ ประมาณ 20-30 วินาทีแน่นอน แต่ลุงบุญไม่เป็นอะไร หลังจากกระชากปลั๊กๆไฟออกแล้ว ลุงบุญมีอาการชาที่ขาแต่ไม่มาก ลุงบุญยังสามารถทำงานได้ต่อ สุดยอดจริงๆคะ ขนาดนี้แล้วลุงบุญยังไม่หยุดงานไปพักเลย

จนกระทั่งท่านอาจารย์ทราบ ก็บอกลุงบุญหายนะ ลุงบุญบอกว่าอาการดีขึ้นเล็กน้อย ท่านอาจารย์เลยขอพระบารมีพระศรีอารย์ ปรากฏว่าลุงบุญหายเจ็บ หายขาชาเลย สาธุ                                       

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 21:13:46


ความคิดเห็นที่ 7272 (1626552)

หลังจากที่ลุงบุญ

ถูกไฟช๊อต อ.อุบล ได้ไปหาลุงบุญ

ซึ่งตอนนั้น พวกเรามาทานอาหารเช้า

อ.อุบล รีบทานแล้วรีบออกไป

 

ก็เห็นลุงบุญ

กำลังพยายามกางม้วนตาข่ายลวด

เพื่อทำรั้วหน้าบ้านอยู่คนเดียว

อ.อุบล ก็เลยไปช่วยลุงบุญ

อ.อุบล เป็นคนมัดลวด ลุงบุญ

คลี่ม้วนตาข่าย แล้วดึงให้ตึง

 

ระหว่างนั้น

ก็เลยได้ถามลุงบุญว่า

ตอนนี้ อาการลุง เป็นยังไงบ้าง

ร่างกายทุกส่วนมีปัญหาไหม

ลุงบอกว่า

ไม่เป็นไรเลยครับอาจารย์

เหมือนไม่เป็นไรเลยล

แต่มันตึง แล้วก็ ชา ขาครับ

 

งั้นขอให้หายนะลุง

 

สาธุ ครับ ขอบคุณครับอาจารย์

 

เป็นไงบ้างลุง

 

ดีขึ้นนิดหน่อยอาจารย์

ยังไม่หายครับ

 

ถ้างั้น ขอบารมีพระศรีอาริย์

ช่วยลุงบุญด้วย ลุงบุญเป็นคนดี

เป็นช่าง ผู้มีความดีงาม ขยัน ซื่อสัตย์

มีน้ำใจ ขอให้พระศรีอาริย์ เมตตาลุงด้วย

เอ้าลุง ดูใหม่ซีคะ เป็นไง

 

หายแล้วครับอาจารย์

หายตึง หายชา เลยครับ

คราวนี้หายหมดเลย

 

แล้วก็ทำงานต่อ

สักพัก คุณเหมี่ยว คุณเจี๊ยบ

ก็มาช่วย ก็เลยได้เล่าให้ฟัง

 

เย็นวันอาทิตย์

ก็ได้ให้ลุงบุญเข้าร่วมพิธี

รับบารมีพระศรีอาริย์ร่วมกับพวกเรา

อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเล่าเหตุการณ์

 

ลุงบุญบอก

ตอนนี้ ขาปวดๆ ตึงๆอีกนิดๆ

แต่คงไม่ใช่จากไฟช๊อตหรอกครับ

คงเป็นเพราะเดินทำงานทั้งวันมากกว่า

จะเป็นเพราะอะไรก็ตาม

จะขอเมตตาบารมีพระศรีอาริย์

แล้วให้ลุงดูอาการอีกทีนะ

 

พอเสร็จพิธีอาราธนาบารมี

พระศรีอาริย์

 

ลุงบุญ

เป็นคนแรกที่พูดว่า

หายแล้วครับ หายหมดแล้ว

 

แล้วคนอื่นก็ทยอยกัน

สำรวจอาการ แล้วออกไปเล่า

 

เรื่องลุงบุญ

ไม่ได้เกิดโดยบังเอิญ

 

ถ้าเป็นไฟช๊อต

โดยไม่มีสิ่งใดช่วยลุงบุญไว้

ป่านนี้ พวกเรา คงขำไม่ออกกันแล้ว

เพราะ คงต้องไปงานศพ

ลุงบุญกันแล้ว

 

ไม่ใช่มาขำกัน

ท้องขด ท้องแข็ง

อย่างเมื่อเย็นวันอาทิตย์

เล่าเรื่องความเป็น ความตาย

แต่ดันหัวเราะกัน สนั่นหวั่นไหว

555 555 555

 

นี่คือนิมิตรหมาย

ที่

พระศรีอาริย์

ต้องการแสดงพระบารมี

อันเปี่ยมด้วย

บุญฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์

ผู้ที่มีใจเคารพเลื่อมใสในพระองค์

ก็จะได้รับความเมตตา

ช่วยเหลือทุกเมื่อ

แม้ยามคับขันที่สุด

 

พระองค์

ทรงต้องการให้ทุกคน

มองเหตุการณ์ที่เกิดกับลุงบุญ

คนใจบุญ สมชื่อ

 

ว่า

 

ต่อให้

เหตุการณ์เลวร้ายแค่ไหน

ถ้าคน คนนั้น ดีจริง แล้วไซร้

ย่อมได้รับความช่วยเหลือ

เมตตา จากพระองค์

พระศรีอาริย์

อย่างอัศจรรย์ สวนทางกับ

หลักการ หลักวิชาการ ทางโลก

 

ขอให้ทุกคน

ทำความดี เหมือนลุงบุญ

แล้วก็จะได้รับผล

อย่างลุงบุญ

 

วันนี้

ลุงบุญ กลับไปตอน

ทุ่มกว่าๆ เพราะ อ.อุบล ไปธุระ

ลุงบุญเลยอยู่เป็นเพื่อน

สาวๆ อย่างบุญตา แม้ว่า

จะมีไม้รวกผ่าซีก แบบตัน ค่อนข้างเยอะ

 

ก่อนกลับ

อ.อุบล ถามลุงบุญว่า

 

อาการลุง

เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้

 

ไม่เป็นอะไรเลยครับอาจารย์

ดีทุกอย่าง ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่ตึงเลยครับ

 

อนุโมทนา ในความดี

ของลุงนะจ๊ะ

ขอบคุณมาก ที่ทำทุกอย่าง

เพื่ออาจารย์อย่างดีที่สุด

 

วันนี้

พอ อ.เลี้ยวรถเข้าบ้าน

ยังไมทันจอดตรงไม้กั้นเลย

ลุงบุญวิ่งไปถึงแล้ว

รีบเปิดประตู

 

อ.อุบล

ไม่รู้ว่า ลุงบุญจะ เห็นรึเปล่า

ก็กะว่า จะลงไปเปิดเอง

แต่ช้ากว่า ลุงบุญ

 

นี่คือ

ลุงบุญ ตั้งใจ ทำดี เพราะใจ

ของลุงบุญ อยากทำเอง

 

ถ้าใจไม่อยากทำ

แกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็นก็ได้

หรือ

เห็น แต่ เดินไป ช้าๆ ก็ได้

เดี๋ยว อ.ก็ลงมาเปิดเองก่อน

ก็ไม่ต้องเหนื่อย

 

คราวนี้

จะได้เห็นถึงความตั้งใจ

ทำดี เพราะ มาจากใจ ของลุงบุญ

ว่าเป็นยังไง ทำไมลุงบุญ

ได้รับความเมตตา

ช่วยเหลือ

จาก

สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกครั้ง หลายครั้งแล้ว

ที่ลุงบุญ พบปาฏิหาริย์

แบบเฉียดตาย

แต่รอดปลอดภัย เหมือนไม่มีอะไร

เกิดขึ้นเลย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 21:49:48


ความคิดเห็นที่ 7273 (1626553)

ต่อค่ะ

คุณติ๋ม(ไม่ใช่ป้าติ๋มของเรานะค่ะ) สมาชิกใหม่เพิ่งมาครั้งแรกได้เล่าธรรมทานของตัวเองให้ฟัง ว่าคุณติ๋มรู้จักเวปไซด์บ้านสวนฯมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้มาบ้านสวนฯ

คุณติ๋มทำธุรกิจส่วนตัวค้าขาย  และไดู้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งจาการขายของนี้แหละค่ะ ชื่อนั่นสำคัญไฉน แต่คนนี้ชื่อสำคัญมากเราต้องรู้จักชื่อค่ะ ชื่อ นางสาวจตุพร เสมียนพรม อยู่จังหวัดสมุทรปราการ

เธอคนนั้นทำทีจะมาขอเซ้งธุรกิจ อยากจะทำธุรกิจแบบเดียวกับคุณติ๋มบ้าง คุณติ๋มก็เลยเสนอราคาที่ 2 แสนกว่าบาท แต่เธอบอกว่าแม่มีเงินจะจ่ายเงินให้ ตอนนี้ยังเบิกไม่ได้ เพราะแม่ป่วยอยู่ลายเซ็นต์ไม่เหมือน ขอยืมเงินก่อน ด้วยธุระ เรื่องโน้น เรื่องนี้ เช่นไปทำบุญที่วัด ไม่มีเงิน แม่ต้องผ่าตัดต้องใช้เงิน สารพัด คุณติ๋มก็โอนเงินไปให้เรื่อย คุณติ๋มสงสารก็ให้ซีดีบ้านสวนฯไปให้เธอดู เพื่อที่เธอจะพ้นเคราะห์กรรม(ที่จริงคนที่มีกรรม ก็คือคุณติ๋มนั่นแหละ) หลังจากนั้นเธอก็โทรบอกคุณติ๋ม ว่าเธอศรัทธาท่านอาจารย์อุบลมาก เธอไปบ้านสวนฯ และท่านอาจารย์โกนหัวบวชชีให้เธอด้วยแหละ ตอนที่โทรศัพท์หาคุณติ๋มนี้ ก็โทรอยู่ในบ้านสวนฯกำลังช่วยงานท่านอาจารย์อยู่

รู้กระทั่งว่า วันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมานี้ ท่านอาจารย์ก็ได้รับเชิญไปบรรยายที่ศูนย์เวชศาสตร์เขตร้อน เธอบอกคุณติ๋มว่าไม่ต้องไปหาท่านอาจารย์ที่ศูนย์เวชศาสตร์หรอก เพราะคนเยอะ เดี๋ยวเธอจะพาคุณติ๋มมาพบท่านอาจารย์เอง คุณติ๋มก็ยังเชื่ออีก

หลังจากนั้น เธอก็ไม่ติดต่อคุณติ๋มอีก คุณติ๋มก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้อีก คุณติ๋มรวมเงินที่โอนไปให้เธอทั้งหมด ประมาณ 2 แสนกว่าบาท

นั่นเป็นเพราะคุณติ๋มผิดศีลข้อ 2 และข้อ 4มาจึงได้รับกรรมนี้ ส่วนนางสาวจตุพรที่เอาความศรัทธาของคุณติ๋มที่มีต่อบ้านสวนฯ และท่านอาจารย์อุบล มาหลอกลวง เพื่อหากินกับคุณติ๋ม นั้น ผลกรรมที่จะได้รับ ไม่อยากจะนึกเลยว่าจะเจออะไรบ้าง บรื้อ....

ตอนเย็นก่อนกลับบ้าน ท่านอาจารย์ได้เมตตาขอบารมีพระศรีอารย์มาโปรดพวกเรา เจี๊ยบมรอาการคันเป็นผื่นแดง เป็นปื้นหนา และแสบ ปรากฏว่า ผื่นแดงนั้นจางลงมาก และไม่มีอาการคัน สาธุ

กราบขอบพระคุณเป็นที่สุดในพระบารมีของพระศรีอารย์ เทวดาที่รักษาตัวของท่าน อ.อุบล ท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล และคุณท๊อป ที่เมตตาเจี๊ยบได้มาสร้างบุญในบ้านสวน สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 21:50:58


ความคิดเห็นที่ 7274 (1626568)

ได้อ่านเกี่ยวกับนางวิสาขา หันกลับมาดูตัวขวัญ ก็เป็นไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวของท่านค่ะ เพราะทำทานบ้าง ไม่ทำบ้าง แถมบ้าง ไม่แถมบ้าง เลยไม่ได้มีฐานะร่ำรวย สำหรับศีล 5 ก็ด่างพร้อยทุกข้อค่ะ

ข้อ 1 มีอารมณ์โกรธ อึดอัด ไม่ชอบใจ แล้วก็ระงับ บางครั้งพูดระบายโทสะกับคนอื่นแต่ไม่ได้เจตนาจะทำให้ใครรู้สึกแย่

ผลกรรมชัดๆเลยคือ ผิวพรรณไม่ดี มีผื่นบนใบหน้า เห็นเส้นเลือดฝอยชัดเจนทำให้หน้าดูแดง ผิวหนังลอกที่ฝ่าเท้า

ข้อ 2 มีความหลงในโลกียทรัพย์ ตัดร่างกายของตัวเองไม่ขาด ติดหนัง มือถือ และทรัพย์สมบัติอื่นๆ เช่น บ้าน เสื้อผ้า อาหาร และยังมีความตระหนี่

ข้อ 3 มีจิตแวบเรื่องกาม แล้วระงับทันที

ข้อ 4 พูดไร้สาระ เพ้อเจ้อ 

ข้อ 5 ติดหนัง อยากดูหนัง ชวนคนอื่นดูหนัง ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นดูหนัง

ผลกรรมจากการผิดศีล คือ ไม่มีความก้าวหน้าทางธรรม เพราะติดสมบัติทางโลก ขาดการพิจารณาสม่ำเสมอว่ามันไม่เที่ยง ไม่ตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเอาชนะกิเลสความหลงไม่ได้ค่ะ

แล้วเวลาส่วนใหญ่ ก็ลืมนึกถึงความตาย ประมาทในชีวิตมาก แต่มั่นคงในนิพพาน อยากไปนิพพานถึงคุณสมบัติยังไม่ถึงขั้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 00:07:59


ความคิดเห็นที่ 7275 (1626570)

น้องขวัญ + คุณเจี๊ยบ

เป็นคนขยันเขียนธรรมทาน สม่ำเสมอ

อ.เห็นมาตลอด

 

ความรู้สึกว่า

เรายังไม่ดีพอ ยังเลวอยู่

นี่ถือว่าเข้าข่ายของความดีแล้ว

เพราะแสดงว่าได้พยายามที่จะทำให้ตัวเอง

ดียิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ แล้วยิ่งรู้สึกว่า

ตัวเองยังแย่อยู่มากเท่าใด

ก็แสดงว่าความก้าวหน้าทางธรรม

ได้บังเกิดขึ้นแล้ว

จริงๆ

 

แต่ถ้าเมื่อไหร่

ที่รู้สึกว่า

 

เออ

เรานี่ ดีเข้าขั้นแล้ว

ได้เป็นโน่น เป็นนี่ ถึงขั้นนั้น ขั้นนี้แล้ว

อันนี้แหละ นรกเลยหละ จะบอกให้

เพราะเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า

ตัวเองดีแล้ว

นั่นแสดงว่า เลวสุดขีดเลย

 

พระพุทธเจ้า

จึงให้กล่าวโทษโจษความชั่ว

ของตัวไว้เสมอไงล่ะ

จ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 00:54:24


ความคิดเห็นที่ 7276 (1626582)

เพราะเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า

ตัวเองดีแล้ว

นั่นแสดงว่า เลวสุดขีดเลย

 

พระพุทธเจ้า

จึงให้กล่าวโทษโจษความชั่ว

ของตัวไว้เสมอไงล่ะ

จ๊ะ

......................................

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

คือจริงๆชนิดาก็เป็นคนนึง

ที่เพิ่งจะเริ่มมอง"ความชั่ว ความเลว"

ของตัวเองจริงๆ

ก็ตอนที่มาติดตามคำสอน

จากท่านอาจารย์นี่แหล่ะค่ะ

 

เมื่อก่อนก็โง่ คิดว่าตัวเองดีแล้ว

เพราะคนอื่นต่างมองที่เปลือกบางๆของเรา

แล้วเห็นว่าเราเป็นลูกที่ดี เป็นพี่ที่เลิศ

เป็นน้องที่ประเสริฐ

เป็นเพื่อนที่คบได้ ฯลฯ

 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว

แหะ แหะ ผิดทุกข้อเลยค่ะ

โดยเฉพาะ เป็นลูกที่ดีแบบไหนไม่รู้

เพราะเคยคิด เคยพูดตำหนิ เคยโกหก

และนินทาบุพการีตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วน

 

ส่วนเพื่อนๆ ชนิดาก็เอาเปรียบประจำ

ส่วนพี่ชายและน้องสาว

ชนิดาก็ว่าและนินทามาจนปากเปลื่อยแล้ว

 

แหม่ เห็น"ความดีในแบบฉบับของตัวเองแล้ว"

รู้เลยว่า น่าจะจองไว้หลายขุมแล้วนะคะเนี่ย


พอหลังๆมานี้

ก็พยายามระวังตัว

ระวังความคิดและคำพูด

ของตัวเองให้มากขึ้น

แต่ก็ยังเห็นช่องโหว่ของตัวเองอีกมากมาย

จนบางทีก็เริ่มท้อใจว่า

คำสอนดีๆจากท่านอาจารย์

ไม่ได้ซึมเข้าหัวของเราเลยเหรอเนี่ย

 

ทำไมเรายังชั่วอยู่เลย

ทั้งปล่อยให้ตัวเองโกรธ อิจฉา

ไร้สาระ ขี้เกียจ ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ

และอื่นๆอีกมากมาย

............เฮ้อ.....


อยากเป็นคนดีที่ประเสริฐจริงๆอย่างลุงบุญค่ะ

ถึงแม้ว่าจะยังห่างไกล

แต่ก็จะทำให้ได้ค่ะ

เพราะไม่อยากเป็นปรปักษ์

ต่อองค์จอมจักรพรรดิ

สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 05:03:14


ความคิดเห็นที่ 7277 (1626583)

นั่น เป็นเพราะคุณติ๋มผิดศีลข้อ 2

และข้อ 4มาจึงได้รับกรรมนี้

ส่วนนางสาวจตุพร

ที่เอาความศรัทธาของคุณติ๋มที่มีต่อบ้านสวนฯ

และท่านอาจารย์อุบล มาหลอกลวง

เพื่อหากินกับคุณติ๋ม นั้น ผลกรรมที่จะได้รับ

ไม่อยากจะนึกเลยว่าจะเจออะไรบ้าง บรื้อ....

..........................

โห...ขนาดยังไม่ได้มาบ้านสวนฯเลย

ยังกล้าอ้างชื่อ ท่านอาจารย์

สร้างบาปมหันต์ได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

 

อ่านแล้วก็ไม่ต้องเดาเลยค่ะว่า

น.ส. จตุพร เจ้าแม่18มงกุฏคนนี้

คงมีนรกเป็นที่หมาย

แต่ก่อนตายคงมีความทุกข์กาย

ทุกข์ใจสาระพัดรูปแบบ

มาเป็นเครื่องเตือนใจ แน่ๆ

 

นี่คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจ

ให้กับผู้ที่รู้จักบ้านสวนฯ

แต่ไม่รู้แน่ชัดว่า บ้านสวนฯทำอะไร

มีกฏ กติกาอย่างไร

และที่สำคัญ

ไม่รู้แม้แต่ธรรมชาติของท่านอาจารย์อุบล

เลยแม้แต่น้อย....

 

ทั้งๆที่ข้อมูลและธรรมทานต่างๆ

ในเว็บบ้านสวนฯ ก็ชี้แจงชัดเจนในเรื่องต่างๆ

 

แต่ก็อาจจะเป็นด้วย"กรรม"บังตา

จึงทำให้คุณติ๋ม ต้องโดนหลอกลวง เช่นนั้น...

 

อ่านแล้วก็น่ากลัวนะคะ

ไม่รู้ว่า จะมีคนอีกมากมายที่เราไม่รู้จัก

แต่ไปแอบอ้างชื่อ ท่านอาจารย์

ไปหากินผิดๆแบบนี้

 

อนุโมทนากับธรรมทานจากพี่เจี๊ยบ เพชรดา

และ ทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 05:32:35


ความคิดเห็นที่ 7278 (1626604)

คนที่ร่างกายเข้มแข็ง

คือคนที่มีศีลบริสุทธิ์

 

คนที่มีใจเข้มแข็ง

คือคนที่มีวิปัสนาบริสุทธิ์

******

      อ่านเรื่องของลุงบุญที่ถูกไฟดูดแล้ว  ทำให้นึกถึง

ข้อความด้านบน  ที่ท่าน อ. อุบล ได้เมตตาบอกไว้ 

       ลุงบุญเป็นผู้ที่มีร่างกายเข็มแข็ง

เพราะหลังไฟดูดยังสามารถทำงานต่อได้

      ลุงบุญเป็นผู้มีจิตใจเข็มแข็ง

เพราะในภาวะวิกฤติแห่งความเป็นความตาย

ลุงบุญมีสติดีมาก ๆ ถึงช่วยตัวเองได้

     ดังนั้น ลุงบุญ  คือผู้มีศีลบริสุทธิ์  และ

วิปัสสนาบริสุทธิ์  จึงได้พบปาฏิหาริย์ทำให้มีชีวิตรอดได้ 

      กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ  ที่ได้นำธรรมทาน

เรื่องลุงบุญมาให้พวกเรา  ได้เห็นผลของการเป็นคนดี

แล้วความดีที่เราทำนั้น  ช่วยเราอย่างไร

      

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 09:06:29


ความคิดเห็นที่ 7279 (1626625)

 เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์หลายอย่างที่เป็นบททดสอบลูกบ้านสวนฯ  ว่ามีความพร้อมแค่ไหนเพียงใด  เริ่มด้วย

บททดสอบที่๑  ความแข็งแรงและความอดทน  ด้วยการขุดหลุม  แบกเสาและปักเสา  ส่วนใหญ่เป็นคนไม่รักดีเพราะแบกแต่เสาไม่ยอมแบกจั่ว  ถือว่าสอบผ่าน  ความอึดต้องยกให้  คุณอมรจอมพลังขุด

บททดสอบที่ ๒  การเตรียมพร้อมกับภัยพิบัติ  วันเสาร์อาทิตย์ฝนตกพรำๆทั้งวัน แต่ทุกคนก็ยังคงทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ทานอาหารกลางวันตอนเกือบจะบ่ายสองโมง  และถูกทดสอบอีกครั้งตอนค่ำ มีฝนตกกระหน่ำลงมาหนักมากจนน้ำเจิ่งนองไปทั่วบ้านสวน  ต้องวิดน้ำและลอกคูน้ำและหญ้าที่อุดตันทางน้ำไหล  ผ่านไปด้วยดีเป๊ยกมะลอกมะแลกกันอีกรอบ

บททดสอบที่๓ สติและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า  เรื่องลุงบุญถูกไฟช๊อต  ทำเอาบรรดาวิศวกรทั้งหลายวิ่งกันวุ่น  ไม่มีใครใช้รหัส  อาจารย์อุบลช่วยด้วยสักคน  ลุงบุญก็เลยต้องช่วยตัวเองครับ  ครับลุงบุญครับ  ตนนี่แหละเป็นที่พึ่งแห่งตน  อันนี้สอบไม่ผ่านนะครับ

บททดสอบที่ ๔  ความสามัคคีอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น  ทุกคนช่วยงานกันอย่างไม่รู้จักหน็ดจักเหนื่อย ช่วยกันปลูกข้าวจนเสร็จ  แบกเสาปักเสาและปักธงจนเสร็จ  เคลียร์พื้นที่หน้าบ้านสวน  ทางเข้า ปูกระเบื้อง จัดภูมิทัศน์ใหม่สวยงามจนเสร็จ  ย้ายครกกระเดื่อง เข็นครก  เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วจึงมากินขนมจีนกันด้วยความเอร็ดอร่อย  ขอโมทนาสาธุกับทุกๆคนด้วยครับ

บททดสอบที่ ๕ พลังศรัทธาที่บริสุทธิ์  จะเห็นได้ว่าผู้ที่สามารถสัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ได้ต้องมีศีลที่บริสุทธิ์ ละความเป็นตัวของตนไม่ยึดติด ไม่มีความลังเลสงสัยในการทำความดี  จิตอยู่ในระดับพระโสดาบัน ส่วนบททดสอบความเป็นพระสกิทาคามีพวกเราคงจะได้รับในโอกาสต่อไป

สุภาษิตสำหรับวันนี้

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน  

จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว

ความสามัคคีอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น  

รักดีหามจั่วรักชั่วหามเสา  

เข็นครกขึ้นภูเขา  

และ จุ๊ จุ๊ อย่าหูเบาคนเค้าจะหลอกเอาได้นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 09:52:31


ความคิดเห็นที่ 7280 (1626696)

โมทนบุญกับภาพของคุณธนา น้องเจี๊ยบ น้องขวัญ และทุกท่านค่ะ

คนที่ร่างกายเข็มแข็งคือคนที่มีศีลบริสิทธิ์

คนีที่มีใจเข็มแข็งคือคนที่วิปัสนาบริสุทธิ์

น้อมรับว่ายังใจยังอ่อนแอ ค่ะ 

  อ่านเรื่องลุงบุญที่ถูกไฟดูดไฟ 220 โวล  แต่แค่ตึงๆ  ดังนั้นลุงบุญเป็นคนดีจริงๆสมชื่อค่ะลุงบุญ

น้อมรับคำสอนของท่านอ.อุบลเพื่อมาปรับปรุงตัวเองให้ด้ดียิ่งขึ้น  ตอนนี้เจอเหตุการณ์ หาที่ฝึกงานที่สำนักงานพระพุทธศสนา  หรือศูนย์พัฒนาจิต  สิ่งแรกที่ทำมาตลอดคืออธิฐานเป็นประจำ   ตอนนี้ได้โทรไปหาอาจารย์แนะให้ไปฝึกงานที่ศูนย์ปฎิธรรมวังน้อย  แต่หนูอยากจะให้ฝึกที่บ้านสวนฯ  แต่ไม่มั่นใจเพราะดูรายการคุยไปแจกไปยังไม่ครบ  บางตองตอนดูก็ไม่จบ  พูดสื่อสารรู้เองบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง  ถามบางครั้งก็ไม่ตอบ  หนูอดทนกับลูกคนนี้มาตลอด  หนุพูดมากทำให้เขาโมโหแอบไปตัดเสื้อหนู  2  ครั้งแล้ว  และแล้วได้คุยกับสามีว่าสามีต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย การพูดของสามีที่พูดกับลูกเมียคือกู  พูดขออย่าพูดกูได้ไหมทำไมไม่ให้เกียรติเมียและลูกบ้าง  แล้วทำไมกับคนอื่นพูดจาไพเราะมาก   ที่คุณทำอยู่ตอนนี้มันบ่งบอกนะค่ะ  ทุกคนอยากให้ลูกนิสัยดีๆ  แต่ต้นแบบไม่ดีแล้วมันจะดีสมบูรณ์ได้อย่างไรค่ะ

ถ้าสิ่งที่เขียนมีประโยชน์ขอให้หนูส่งผ่านด้วยเถิดสาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 15:36:12


ความคิดเห็นที่ 7281 (1626704)

เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ที่ 25 - 26 ส.ค. ที่ผ่านมามีกิจกรรมบุญหลายอย่าง เช่นขุดหลุมสำหรับปักเสา ขนเสา เทปูนกลบโคนเสา ปลูกข้าว ปูพื้นหน้ากระท่อมไม้ไผ่ และปูพื้นเพื่อวางพีระมิด ขนย้ายของจากโรงทานเก่าไปเก็บด้านหลัง ตัดหญ้า และงานด้านเกษตร ติดรั้วตาข่าย ติดธง ฯลฯ พวกเราทำงานกันอย่างเต็มที่ทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์เพื่อเตรียมงานบวงสรวงพระศรีอาริย์ ช่วงที่พวกเราทำงานใช้แรงกายพระองค์ท่านก็ประทานบารมีให้แล้ว

ช่วงคืนวันเสาร์เป็นธรรมทานของคุณติ๋มซึ่งมาบ้านสวนครั้งแรก ทำธุรกิจขายอาหารเสริม มีลูกค้าที่ชื่อจตุพร  เสมียนพรหม จ.สมุทรปราการ มาตีสนิททำเป็นสนใจจะขอเซ้งกิจการในราคาสองแสนกว่าบาท  แต่จตุพร และพวกได้ใช้กลอุบายหลอกล่อยืมเงินคุณติ๋มหลายครั้งรวมแล้วก็ประมาณสองแสนบาท หลอกว่าแม่ป่วยต้องใช้เงินในการรักษาฯลฯ แม่เขามีเงินหลายล้านบาทแต่ยังถอนไม่ได้เวลานี้ ถอนได้เมื่อไหร่จะนำมาใช้คืน บอกว่ามาบวชชีโกนผมที่บ้านสวน และได้พบดร.อาจอง เป็นผู้ใกล้ชิดอาจารย์ ช่วยงานในบ้านสวนสารพัด  พวกเรามาบ้านสวนกันประจำไม่เคยเห็นจตุพรหรือใครมาโกนหัวบวชในบ้านสวนเลย ตอนนี้คุณติ๋มรู้ความจริงทุกอย่างแล้วพวก 18 มงกุฎ ใช้ความศรัทธาของคุณติ๋มที่มีต่อบ้านสวนหลอกล่อจนคุณติ๋มเชื่อเสียเงินดังกล่าว

จนถึงช่วงเย็นวันอาทิตย์ท่านอาจารย์จึงเชิญลุงบุญมาเล่าธรรมทานเกี่ยวกับเรื่องที่ลุงบุญโดนไฟดูดให้ฟังพร้อมกัน เพื่อเป็นบททดสอบพวกเราว่าพอถึงเวลาคับขัน มีปัญหาที่ต้องเผชิญและต้องแก้ไขอย่างรีบด่วนพวกเรามักลืมใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยกันหมด หลังจากนั้นท่านให้ทุกคนที่มีปัญหาลุกขึ้นและบอกทีละคน จิตมีปัญหาผิวหนังเป็นจุดดำและมีอาการคันในบางเวลา หลังจากรับบารมีพระศรีอาริย์แล้วอาการคันหายไป

เมื่อวันอาทิตย์ที่19 สิงหาคม ที่ผ่านมาท่านอาจารย์อัญเชิญบารมีพระศรีอารย์มาครั้งแรก จิตได้เรียนท่านอาจารย์ว่ามีปัญหาด้านสายตาพร่ามัว และปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินหลังจากกลับจากบ้านสวน งานเจียรจานเบรคที่บ้านทำอยู่ก็มีรายได้ดีขึ้น หลังจากที่รายได้ลดลงเรื่อย ๆ ตอนนี้การงาน การเงินเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับแล้วค่ะ

กราบแทบพระบาทขอบพระคุณในพระมหาเมตตาขององค์พระปฐม และพระศรีอาริย์

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ครอบครัว เทวดารักษาท่านอาจารย์ทุกพระองค์ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 16:09:23


ความคิดเห็นที่ 7282 (1626726)

ช่วงคืนวันเสาร์เป็นธรรมทานของคุณติ๋มซึ่งมาบ้านสวนครั้งแรก ทำธุรกิจขายอาหารเสริม มีลูกค้าที่ชื่อจตุพร  เสมียนพรหม จ.สมุทรปราการ มาตีสนิททำเป็นสนใจจะขอเซ้งกิจการในราคาสองแสนกว่าบาท  แต่จตุพร และพวกได้ใช้กลอุบายหลอกล่อยืมเงินคุณติ๋มหลายครั้งรวมแล้วก็ประมาณสองแสนบาท หลอกว่าแม่ป่วยต้องใช้เงินในการรักษาฯลฯ แม่เขามีเงินหลายล้านบาทแต่ยังถอนไม่ได้เวลานี้ ถอนได้เมื่อไหร่จะนำมาใช้คืน บอกว่ามาบวชชีโกนผมที่บ้านสวน และได้พบดร.อาจอง เป็นผู้ใกล้ชิดอาจารย์ ช่วยงานในบ้านสวนสารพัด  พวกเรามาบ้านสวนกันประจำไม่เคยเห็นจตุพรหรือใครมาโกนหัวบวชในบ้านสวนเลย ตอนนี้คุณติ๋มรู้ความจริงทุกอย่างแล้วพวก 18 มงกุฎ ใช้ความศรัทธาของคุณติ๋มที่มีต่อบ้านสวนหลอกล่อจนคุณติ๋มเชื่อเสียเงินดังกล่าว

รูปภาพ

บุคคลอันตราย

นส.จตุพร เสมียนพรหม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 17:33:17


ความคิดเห็นที่ 7283 (1626734)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกธรรมทานเมื่อ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ

กรณีลุงบุญนี่สุดยอด

ปาฎิหาริย์บุญ

ถูกไฟดูด ยังสามารถพูดบอกคนอื่นให้ช่วยได้

เมื่อถึงที่สุดมีสติ

ใช้มืออีกข้างที่จับเสาแน่น

มาจังสายไฟออกจากตัว

ตอนเกิดเหตุการณ์อ้อย

อยู่อีกด้านกำลังเข็นครกกระเดื่องมาเก็บ

ได้ยินเสียงดังว่าลุงบุญถูกไฟดูด

ขณะวิ่งไปดูก็เรียก

รหัส อ.อุบลช่วยลุงบุญด้วย

และได้ยินพี่เหมี่ยวและอีกหลายคนเรียก

แต่พอไปถึงเห็นลุงบุญดูเป็นปกติ

กำลังก้มทำงานอยู่

อ้าว ไหนว่าโดนไฟดูด

ทำไมดูปกติจัง  ยังทำงานต่อได้

มารู้รายละเอียดว่า

รุนแรงมากตอนธรรมทาน

ตอนบ่ายที่เล่าโดยคุณธนา

มีโอกาสได้ถามลุงบุญว่า

ตอนไฟดูด ได้ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วยรึเปล่า

แกบอกว่าไม่ได้ใช้นึกไม่ออก

  มัวแต่ยืนตัวแข็ง เกร็งอยู่

แถมผู้ช่วยกิติมศักดิ์

เหล่าวิดวะ

ทั้งหลายก็พร้อมใจกันลืมเช่นกัน

โชคดีที่บารมีพระศรีอาริย์ท่านเมตตาอยู่

ตอนบ่ายวันอาทิตย์

ประมาณบ่ายสามกว่าๆ

พวกเราเสร็จงานรีบอาบน้ำมาที่ปฐมศาลา

ท่านอาจารย์ได้เมตตา

ขอบารมีพระศรีอาริย์มาเมตตาลูกหลาน

ขณะที่ท่านอาราธนาบารมีท่าน 

รู้สึกมีแสงสว่างจ้าพุ่งเข้ามาใส่ตัว

แล้วตาก็กระตุกถี่แรงมาก

อ้อยมีอาการปวดหลัง และปวดแขนขวา

ปรากฎว่าปวดหลังหายสนิท 

 แต่อาการปวดแขนดีขึ้น 70%

ท่านอ.อุบลมอบอุปกรณ์รูปพีระมิด

ให้ทุกคน

ขณะรับอาการดีขึ้นอีก 10%

เดี๋ยวต้องไปนึกสารภาพกับอุปกรณ์ที่ได้มา

กราบขอบพระคุณทุกๆพระองค์

องค์พระศรีอาริย์

ท่าน อ.อุบล ที่เมตตาลูกหลานค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 18:59:14


ความคิดเห็นที่ 7284 (1626736)

คุณอ้อย

ลองดูอีกทีนะว่า

หลังจากมาเขียนลงเวปนี้แล้ว

อาการเป็นยังไง

เท่าเดิม หรือ หาย หรือ ดีขึ้น อีกจ๊ะ

 

พระศรีอาริย์

ต้องการให้ทุกคนที่สัมผัสบารมี

มาเล่าในเวปไซด์นี้ อาการที่เหลือ

จะได้หายสนิท

ส่วนคนที่ยังไงก็ไปเขียนแน่ๆอยู่แล้ว

ท่านให้หายก่อนเลย

 

ยินดี

กับทุกท่าน ที่ดีขึ้น และหาย

นะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 19:11:24


ความคิดเห็นที่ 7285 (1626737)

 

บุคคลอันตราย

นส.จตุพร เสมียนพรหม

**************************

คนคนนี้ กล้ามาก

ที่ใช้ความเชื่อ ความศรัทธา

ของคุณติ๋มที่มีต่อท่าน อ.อุบล

และบ้านสวนพีระมิด  มาหลอกลวงคุณติ๋ม

รู้จักคุณติ๋มมาประมาณ 1 ปี

แต่เริ่มหลอกลวงเอาเงินมาได้ประมาณ 3 เดือน  อ้างจะเซ้งร้านขายอาหารเสริม

จากคุณติ๋ม โดยแม่จะเป็นคนจ่ายให้ 

แต่พอถึงเวลานัดจ่ายเงิน

มีเหตุแม่ป่วย โน่น นี่ นั่นตลอด

และหลอกให้คุณติ๋มโอนเงินให้ตลอด

โดยช่วงแรกคุณติ๋มจะคอยเล่าเรื่อง 

บ้านสวนพีระมิด พร้อมทั้ง รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

ให้คนคนนี้ฟัง  จึงทำให้ น.ส.จตุพร เสมียนพรหม เห็นช่องทางที่จะหลอกเอาเงินคุณติ๋ม

  เข้ามาเวปบ้านสวนฯ รู้ความเคลื่อนไหว

กิจกรรมบ้านสวนฯตลอด

แล้วหลอกว่าตัวเอง 

เป็นคนใกล้ชิดอาจารย์

อาจารย์พาเค้าไปโกนหัวบวชชี 

 ตอนเข้าพรรษาให้ทำบุญเทียนเท่าอายุอีกหลายพัน

  ทำโน่น นี่ นั่น

ซึ่งลูกบ้านสวนฯตัวจริง

ต้องรู้อยู่แล้วว่า

ท่านอ.อุบลไม่เคยพาพวกเรา

ให้ยึดติดพิธีกรรมเหล่านี้ 

เน้นทำบุญด้วยแรงกาย ด้วยจิตที่บริสุทธิ์

ตอนนี้ น.ส.จตุพร

ก็น่ากำลังได้รัลผลกรรมจากการหลอกลวงอยู่

  บ้านที่สมุทรปราการตามที่อยู่

ในบัตรประชาชน

ก็เห็นว่ากำลังจะถูกยึด

ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน 

แถมรนหาที่

มาอ้างบ้านสวนฯ เพื่อหลอกลวงคนอื่น 

 สงสัยชีวิตคงยังตกต่ำ

บัดซบไม่พอ 

 อยากสัมผัสนรกทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่แบบจัดเต็ม 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 19:15:09


ความคิดเห็นที่ 7286 (1626739)

 

คุณอ้อย

ลองดูอีกทีนะว่า

หลังจากมาเขียนลงเวปนี้แล้ว

อาการเป็นยังไง

เท่าเดิม หรือ หาย หรือ ดีขึ้น อีกจ๊ะ

****************

อาจารย์ขา หลังจากเขียนธรรมทาน

ตอนนี้อาการปวดแขนดีขึ้นอีก 20%

เป็น 90% แล้วค่ะ

ได้สารภาพบาปกับจี้องค์เทพสฟริงซ์ว่า

ใช้แขนทำผิดศีลทั้ง 5 ข้อ

และใช้เล่นเกมส์ ดีขึ้นอีกเป็น 95% ค่ะ

ตอนนี้ยังนึกกรรมอื่นๆอีก 5% ไม่ออกค่ะ

กราบขอบพระคุณองค์พระศรีอาริย์ 

ท่าน อ.อุบล

ที่เมตตาลูกหลาน

ให้ได้สัมผัส บารมีของพระองค์

อย่างเป็นรูปธรรม รู้ได้ด้วยตัวเอง

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 19:25:00


ความคิดเห็นที่ 7287 (1626764)

ขอแมวเม้าส์

เรื่อง

ลุงบุญ โดนไฟดูดบ้างคร๊า

เฮ่อ มัวแต่แต่งสวย เลยมาช้าอ่ะค่ะ

ขออภัย...

นั่งพับเพียบเล่า เรียบร้อยซะ

555++

สถานที่เกิดเหตุ

บริเวณริมรั้วด้านใน

ข้าง ๆ บ้านไก่อู

เวลาเช้าประมาณ เกือบ 8 โมง

แมว อยู่ในครัว ซึ่งมองเห็น

ลุงบุญล้มลง แต่ไม่ทราบว่า

โดนไฟดูด คิดว่า ตก หรือ ล้ม

แล้วก็มีคนหลาย ๆ คน วิ่ง มามุง

แล้วก็....

เห็นลุงบุญเดินมาหยิบของ

บริเวณใกล้ ๆ ครัว

ก็เลยร้องถามลุงว่า

เมื่อกี้นี้ลุงเป็นไร

ลุงก็ยิ้ม แล้วก็ตอบว่า

ไฟดูดลุง อ่ะดิ

อ้าว.!!!!!

แล้วที่เดินอยู่นี่น่ะ

ตัวจริงตัวปลอมล่ะลุง

555++ ตัวจริง ลุงตอบ

ประสบการณ์แบบทดสอบ

"การเป็นพระโสดาบัน"

จาก..เบื้องบนครั้งนี้

ถือว่า พวกเรา สอบตก

ทำให้ต้องพิจารณา

สติ + ปัญญา

ของพวกเรา

และเพราะอะไร

ทำไมลุงบุญ..ถึงมีเสียงพูด

ทำไมลุงบุญ..ถึงมีแรงดึงสายไฟ

ทั้งหมดทั้งปวง

มั่นใจ ..หากเหตุการณ์แบบนี้

เกิดขึ้นนอกรั้วบ้านสวนฯ

พวกเราคงจะเศร้ากันแล้ว

และ

เหตุการณ์ ที่ตรงกันข้ามนี้

หากลุงเป็นไรไป

พวกเราจะต้องเศร้าหนัก

เพราะ

ไม่มีปัญญา... ช่วยลุงได้เลย

สรุปว่า  สอบตกกันระนาว

*************

อย่าดูหมิ่นใคร..ที่การศึกษา

เพราะใบปริญญา..ไม่ได้การันตี

"ปัญญาคน"

*********

ลุงบุญคือ

บุคคลตัวอย่าง

ที่เห็นได้จริง

ในบ้านสวนพิรามิด

คนที่ไม่ผิดศิล

เค้ามี

สติ และ ปัญญา

แบบนี้นี่เอง

แมวขอนับถือคร๊า

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 21:12:00


ความคิดเห็นที่ 7288 (1626777)

 อ่านกระทู้ที่ คุณแม่ คุณพี่ตาล คุณพี่อ้อย และ คุณพี่แมว เล่าเรื่องที่ ลุงบุญโดนไฟฟ้าดูด

 บุญกุศลที่ลุงบุญ ได้กระทำเพื่อบ้านสวนพีระมิด มาโดยตลอด  และ ท่านเป็นคนดี ไฟฟ้าก็ยังทำอันตรายไม่ได้

ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด ที่ท่านได้เมตตา คนที่กระทำความดี เช่น ลุงบุญ ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 21:51:26


ความคิดเห็นที่ 7289 (1626786)

อาจารย์ขา หนูเขียนธรรมทานมากขึ้นเพราะอยากทำตามอาจารย์ค่ะ ที่บอกว่าให้เขียนธรรมทานให้ครบ 99 ครั้ง ก่อน ก.ย. นี้ หนูหวังว่าจะเขียนให้เกิน 99+1 ครั้งค่ะ

แล้วปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ ช่วยแก้ปัญหาสมาธิสั้น ฟุ้งซ่านซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ของหนูได้ค่ะ เพราะหนูได้ดูจิตตัวเองมากขึ้น จิตวอกแวกน้อยลงค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาและทุกคำสอนของอาจารย์ที่ช่วยให้หนูได้ทำความดีค่ะ สาธุ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 22:21:40


ความคิดเห็นที่ 7290 (1626789)

 

เหตุการในวันนั้นวินก็อยู่ในเหตุการในตอนนั้นครับ

หลังจากที่เห็นคุณลุงบุญยืนตัวเเข็งถื้อ แล้วได้ยินเสียงใครตะโกนว่า ลุงบุญโดนไฟดูด

วินเองตอนแรกก็ทำไรไม่ถูกครับแถมยังลืมใช้รหัสอีก น่าตำหนิตัวเองจริงๆ

ตอนนั้นผมได้สติเพียงรีบวิ่งไปสับคัดเอ้าที่ข้างๆเวที   แต่ก็ดันผิดอัน

อันที่ถูกคือที่เสาไฟหน้าบ้านสวนฯ

แต่ก็เป็นอย่างที่ทุกคนเล่ามาครับ

ทุกคนในตอนนั้น พวกเรา สอบตกกันหมด

วินขอให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาเเพง

เทียบเท่าชีวิตคุณลุงบุญก็ว่าได้ครับ 

เป็นบทเรียนที่สอนให้วินคงสติให้มั่นคงตลอดเวลา

และใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยทุกขณะจิตครับ

ขอบคุณมากครับ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาชวินท์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 22:24:49


ความคิดเห็นที่ 7291 (1626829)

ลุงบุญคือ

บุคคลตัวอย่าง

ที่เห็นได้จริง

ในบ้านสวนพิรามิด

คนที่ไม่ผิดศิล

เค้ามี

สติ และ ปัญญา

แบบนี้นี่เอง

แมวขอนับถือคร๊า

............................

แหม่...นับถือเหมือนกันจ๊า

นับถือตั้งแต่ก่อนไปบ้านสวนฯ

จากคำเล่าลือที่ได้ยิน...แล้ว

 

พอได้ไปบ้านสวนฯได้เห็นคุณลุง

แบบเต็มๆตา เต็มๆเวลา

ก็ยิ่งนับถือยิ่งขึ้น

 

แล้วพอได้รับรู้เหตุการณ์ไฟดูด นี่อีก

ต้องขอกราบลุงบุญ

และเทิดทูนไว้เหนือหัว..อีกคนค๊า


ตอนชนิดาอยู่บ้านสวนฯนะ

นอกจากลุงบุญแล้ว ยังมีป้าเตือนอีกคน

ที่ทำให้ชนิดานึกอนาถใจตัวเองว่า

"ช้านนน เสียเงิน เสียเวลาเรียนป.โท"

ไปเพื่ออะไรเนี่ย

 

เพราะไม่ได้ทำให้ตัวเอง

ฉลาดขึ้นเลยแม้แต่น้อย


เพราะเห็นการทำงานต่างๆ

ของป้าเตือนและลุงบุญแล้ว

ต้องบอกว่า

เป็นผู้ทรงภูมิปัญญาอย่างแท้จริง

และภูมิปัญญาที่ทั้งสองท่านมี

ก็สามารถเอาตัวรอดได้

ในทุกๆสถานการณ์แน่ๆ

การเกษตรก็เก่ง งานสร้างก็ชำนาญ

ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ก็คิดได้รวดเร็วมั่กๆ.... 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 06:17:40


ความคิดเห็นที่ 7292 (1626830)

ได้ฟังเหตุการณ์ที่ลุงบุญโดนไฟดูดแล้ว  ก็ย้อนกลับมาดูตัวเองว่า ถ้าเป็นเราโดนจะเป็นอย่างไร  สติจะไปไหน  จะคิดได้รึเปล่าว่าเรามีของดีที่เรียกแล้วทำให้เรารอดได้  ขนาดลุงบุญซึ่งอยู่กับท่านอ.อุบลทุกวัน ท่านยังลืม  แล้วเราล่ะนานๆไปที คงไม่เหลือหรอก  ขนาดไฟรั่วที่ปลั๊กจับโดนนิดหน่อยยังเจ็บเกือบตาย  ต้องฝึกสติของตัวเองใหม่เพราะว่าสติยังอ่อนมาก  กราบขอบคุณสำหรับเหตุการณ์จำลองที่เบื้องบนจัดมาเพื่อเตือนสติทุกๆคนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 06:54:44


ความคิดเห็นที่ 7293 (1626836)

ได้อ่านธรรมทานเรื่องลุงบุญจากญาติธรรมบ้านสวนทุกท่านแล้ว

ยิ่งขัดเกลาสติให้กระจ่างชัดมากขึ้น

ผู้ใดครองศีลรักษาศีลได้มั่นคง

ย่อมตกน้ำไม่ไหล..ตกไฟไม่ไหม้

ความดีย่อมคุ้มครองคนดีเสมอ

ยังจำได้ว่า ของขวัญปีใหม่(ปี55) ที่ลูกบ้านสวนมอบแด่ท่านอาจารย์แม่

คือเราปฏิญานตน..จะรักษาศีล 5 อย่างครบถ้วนตลอดไป

วันนี้..จะใกล้สิ้นปี 55 อีกแล้ว

แต่ละวินาที..แต่ละวัน..แต่ละเดือน ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว

หนูต้องทบทวนตนเองเสมอ..

ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้..เราได้รักษาสัจจะวาจาต่อท่านอาจารย์แม่ได้มั่นคงหรือไม่

เมื่อพูดสิ่งใดแล้ว..เพราะเกิดจากจิตที่มุ่งมั่นเช่นนั้น...

ฉะนั้นต้องประพฤติปฏิบัติให้ตรงตามนั้นด้วย..

แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะต้องต่อสู้กับกิเลสทั้งภายนอก-ภายในจิต

แต่..ตายเป็นตาย..ต้องทำให้ได้อย่างเต็มที่ อย่างมั่นคง และสม่ำเสมอตลอดไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 07:37:10


ความคิดเห็นที่ 7294 (1626839)

จากธรรมทานเรื่อง น.ส.จตุพร เสมียนพรหม ที่หลอกตุ๋นคุณติ๋ม

โดยแอบอ้างถึงบ้านสวนและท่านอาจารย์แม่

ทำให้นึกถึงเรื่องเจ้าของร้านต้นโมก แม้จะไม่ได้หลอกตุ๋นผู้ใด

แต่..แค่ความนึกคิดที่ไม่ยอมขาดทุน และต้องได้กำไรเสมอนั้น

หาก คิด-พูด-กระทำ ในสถานที่อื่น.. เจ้าของร้านต้นโมกอาจยังคงเพลิดเพลินด้วยกิเลสนี้

แต่เมื่อ คิด-พูด-กระทำ ในบ้านสวนพีระมิด ...

นอกจากไม่ทันได้เพลิดเพลินแล้ว ยังจะได้รับทุกข์ทรมานแสนสาหัสอีกด้วย

เพราะ คิด-พูด-กระทำ อันเป็นการเอารัดเอาเปรียบต่อท่านอาจารย์แม่และบ้านสวน

ด้วยการคิดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน คิดเพียงว่าตนเองต้องได้กำไรเสมอ..บริการอย่างไม่เต็มใจ..

แม้ได้เคยบอกและเตือนเจ้าของร้านต้นโมกแล้ว..แต่ยังคงไม่สนใจว่า

บ้านสวนพีระมิด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เต็มเปี่ยมด้วยบุญบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์และท่านเจ้าของบ้าน

ทุกคนที่ได้รับโอกาสให้เข้ามาบ้านสวน เต็มพร้อมด้วยความศรัทธาต่อท่านเจ้าของบ้าน

ทุกคนรู้ว่าเมื่ออยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ต้องมุ่งมั่น ขวนขวายรีบสร้างความดีทุกเรื่องทุกเวลา เพราะบุญเหลือเกินแล้วที่ได้รับโอกาสนี้จากท่านเจ้าของบ้าน

แต่ทำไมเจ้าของร้านต้นโมก...กลับไม่คิดถึงโอกาสทองที่ตนจะได้สร้างบุญนี้

เสียดายเหลือเกิน..ที่คิดถึงแต่เงินกำไร-ขาดทุน ไม่คิดถึงบุญ-บาป

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 08:13:19


ความคิดเห็นที่ 7295 (1626864)

 เพราะเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า

ตัวเองดีแล้ว

นั่นแสดงว่า เลวสุดขีดเลย

 

พระพุทธเจ้า

จึงให้กล่าวโทษโจษความชั่ว

ของตัวไว้เสมอไงล่ะ

จ๊ะ

......................................

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

เมื่อก่อนอ็อดก็คิดว่าตัวเองดีตัวเองเก่ง

มีปัญญาเป็นเลิศไม่ยอมใครไม่ฟังเหตุผลคนอื่น

โดยเฉพาะคนใก้ลตัวเขาพูดอะไรมาไม่เคยฟัง

ตัวเองถูกเสมอ โทษแต่คนอื่น แต่ไม่ได้มองตัวเองเลย

มองแต่คนอื่นว่าเขาทำไม่ดี

แต่พอกลับมามองตัวเอง( ไม่มีอะไรดีเลย)

ไม่ว่าจะการศึกษาก็แค่ ป.4 งานก็ไม่มีทำที่ไม่ทำเพราะไม่หา

คิดแต่ว่าแฟนหาเลี้ยงแล้วไม่ต้องทำ

ไม่อดทนไม่คิดจะทำ แต่พอคิดจะทำก็ถูกขัดขวางว่าทำไม่ได้หรอก(โกรธ)

ตัวโกรธนี้แหละมันเกาะติดตัวอยู่นานมาก

ที่จำได้ก็ประมาณ 20 / 30 ปี

ความโกรธมาหายได้ที่บ้านสวนแต่ก็ยังไม่หมดยังเหลืออยู่บ้าง

แต่ไม่โกรธนานเหมือนเมื่อก่อน โกรธ 3 วัน 7 วัน

เดี๋วยนี้พยายามไม่ให้โกรธข้ามวัน

กราบขอบพระคุณอ.อุบล อ.มงคล และคุณท๊อปค่ะ

กราบขอบพระคุณเบื้องบนทุกๆพระองค์ค่ะ

ที่ช่วยสอนขัดเกลาสติปัญญาให้คิดเป็นให้ดีขี้น

ขอบพระคุณมากๆค่ะ

สาธุ

กราบ กราบ กราบ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 09:59:32


ความคิดเห็นที่ 7296 (1626868)

น้องกระเต็นวันที่เขาไปส่งต้นโมกมีน้องวิ   พี่ตุ๊ก  น้องหนึ่ง  ลูกน้องหนึ่ง  พี่เห็นเขาพูดกับหมาเป็นภาษพ่อขุนราม  และน้องวิก็เตือนแล้วนะ ความเห็นแก่ได้อย่างเดียว

โมทนาบุญกับธรรมทานทุกๆท่านค่ะ  สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 10:24:53


ความคิดเห็นที่ 7297 (1626869)

 ลุงบุญคือ

บุคคลตัวอย่าง

ที่เห็นได้จริง

ในบ้านสวนพิรามิด

คนที่ไม่ผิดศิล

เค้ามี

สติ และ ปัญญา

แบบนี้นี่เอง

***

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ ตลอดระยะเวลาที่รู้จักลุงบุญทุกๆครั้งที่มาบ้านสวน ลุงบุญเป็นคนใจดี ซื่อสัตย์ ไม่เคยเห็นลุงบุญโกรธ ใจเย็น ขยัน เวลางานไหนที่เราทำไม่ได้จริงๆ ลุงบุญ ก็ค่อยๆ อธิบาย จนพอทำเป็นกะเขาบ้าง ไม่รู้สึกกดดัน ทำให้เวลาทำงาน แล้วก็ได้ความรู้เรื่องงานช่างจากลุงบุญ บ้าง พอไปวัดไปวาได้ 55+ แบบนี้นี่เองที่เค้าว่า

"คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ (น่าจะรวมไฟดูดด้วย )"

***

ส่วนคุณจตุพร เสมียนพรหม นี่ก็ตรงกันข้าม กับลุงบุญอย่างเห็นได้ชัดเลย เวลาก็ดันมาเหมาะเจาะตรงกัน อย่างนี้ก็เลือกไม่ยากเลยครับว่า เราอยากเป็นอย่างลุงบุญ หรือ คุณจตุพร

ยังไงขอเอาอย่างลุงบุญแล้วกันนะครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 10:25:25


ความคิดเห็นที่ 7298 (1626915)

 จากคุณสมบัติพระโสดาบันอย่างนางวิสาขาตัวเองก็คงเปรียบได้เช่นไรฝุ่น ทำก็ยังไม่สมำเสมอ ศีลก็ยังไม่บริสุทธิ์ ด่างพร้อยอยู่มาก ทํ้งความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็ยังอยู่ครบ เพียงแต่รู้ทันกันมากขึ้น ระงับได้มากขึ้นแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม จากการสำรวจพฤติกรรมของตัวเองแล้วเริ่มตั้งแต่

ข้อ1. ยังฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนอยู่แม้ว่าเราจะไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาก็ตาม เพราะทีบ้านทั้งมด ปลวก เยอะมาก ก็โดนทั้งกวาด เช็ด ถู บางครั้งใจร้อนก็ขาดเมตตา ขาดความระมัดระวัง เผลอๆก็เอาน้ำราดลงท่อ คิดว่ามันคงใต่ตามท่อขึ้นมาได้ ช่างคิดนิ..เบียกเบียนสัตว์ชัดๆ เรื่องปลวกในบ้านแก้ปัญหาไปแล้วโดยใช้น้ำพีรามิด อุทิศบุญให้เทวดา ท้าวมหาราชทํ้ง 4 แต่ว่าไปอยู่ตามตันไม้นอกบ้านเยอะมาก ก็อึกละเอาน้ำหมักราดบ้างหรือเอาไม้เขี่ยตามทางเดินบ้างให้ร่วงลงดิน แต่ทำแล้วก็ไม่สบายใจ อาทิตย์ที่ผ่านมาคุยกับป้าปุ๊บอกว่ามันอยู่ข้างนอกก็ดีแล้ว ดีกว่าอยู่ในบ้าน เราก็เออนะ..แต่ก็ยังกลัวว่าเขาจะกลับมาในบ้านนะซิ นี้ยังไม่นับรวมไส้เดือน กิ้งกือ ตะเข็บ แมลงเล็กๆที่เราทำเวลาถางหญ้า และเรื่องหนูที่ต้องดักจับแต่ก็เอาไปปล่อย

ในป่า

ข้อ.2 ทางความคิด ก็ยังมีความโลภ ความอยากอยู่ ต้องการของๆคนอื่นเช่นเห็นต้นไม้ ดอกไม้ที่ถูกใจ ชอบ แต่ก็ขี้เกียจออก

ไปซื้อ คิดว่าขอแบ่งกับเค้าก็คงได้เนอะ

ข้อ3. จะมีมโนกรรม จิตแวบบ้าง ก็จะระงับทันที่

ข้อ4. คงต้องปรับปรุงตัวเองอีกมากทั้งพูดๆไปก็เออออห่อหมกไปด้วยโดยขาดสติในการพิจารณา ยั้งคิดก่อน พูดไร้สาระ

โมโหหงุดหงิดง่าย พูดเสียงดังใช้วาจาเสียงไม่ดีกับลูก คาดหวังจากคนรอบข้างให้ได้ดังใจเรา  ซึ่งบางครั้งระวับไม่ทัน  

จนทำให้อารมณ์ไม่สงบ จิตเศร้าหมอง จนต้องปล่อยวาง ไม่คาดหวังเพราะตัวเองยังไปไม่รอด ยังมีเรื่องที่ต้องแก้ใขอีกมาก

ทุกคนก็มีกรรมเป็นของตน

ข้อ5. คิดว่าข้อนี้ดูดีที่สุดแต่ยังเหลือกาแฟที่ยังมีอยู่วันละ1 แก้ว ตอนนี้ไม่ดื่ม ไม่ซื้อ ไม่สนับสนุน ไม่ให้ของขวัญใครอยากกิน

กินเอง หาเอง ตอนนี้ก็พยามยามแก้ใขความขี้เกียจ ใร้สาระ ขอสร้างบุญ กำลังใจให้เข้มแข็ง ตัดกังวลเรื่องลูกให้ได้มากที่สุด

เพราะต่างคนต่างมาต่างไป จะพยายามไม่ประมาทในชีวิต พยามยามนึกถึงความตายเสมอ แต่ก็ชอบลืม ตัดกายไม่ขาด

ขาดสติในการพิจารณสิ่งที่เข้ามากระทบพอรู้อีกที่ก็โดนอีกแล้ว  เรื่องลุงบุญเป็นตัวอย่างที่ดีให้ได้พิจารณา สติ และ ปัญญา

ของตัวเอง  มีปริญญาก็หาช่วยได้ไม่ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 13:13:53


ความคิดเห็นที่ 7299 (1626919)

นอกจากลุงบุญจะเป็นบุคคลตัวอย่าง

และเป็นแบบอย่างที่ดีเลิศในการปฏิบัติตน

ทุกครั้งที่ได้ทำงานกับลุงบุญ สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยน

ใจดี และ ยิ้มตลอดเวลา ลุงมีทักษะในการทำงานดีเยี่ยม

อย่างอัญเอง ตอนผสมปูนใหม่ ๆ กว่าจะได้แต่ละลูก แทบแย่

แต่พอลุงบุญมาสอน การผสมปูนง่ายขึ้น แบบพลิกฝ่ามือ

ทำงานกับลุงนอกจากสบายใจ ยังได้ความรู้เพียบ

เหตุการณ์ไฟดูดที่เกิดขึ้นกับลุงบุญนั้น

เบื้องบนท่านคงได้เลือกสรรค์บุคคลมาแล้ว

เพราะถ้าเป็นคนอื่น หรือ เหตุการณ์นี้เกิดนอกบ้านสวน ฯ 

เราคงไม่ได้ยินเสียงหัวเราะแน่แน่

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 13:30:24


ความคิดเห็นที่ 7300 (1626964)

เรื่องของคุณลุงบุญ คงเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคนดีจริงแท้แน่นอน คุณพระคุณเจ้า ย่อมคุ้มครองเสมอ แม้จะมีเหตุไม่คาดฝันถึงชีวิต ศีลที่คุณลุงมีเป็นปกติของชีวิตทำให้คุณลุงมีสติและปัญญารู้ ตลอดเวลา ขออนุญาตยกคุณลุงบุญมาไว้ในใจด้วยคนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 16:20:38



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 [73] 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.