ReadyPlanet.com


ข่าวรายวัน บ้านสวนพีระมิด


ตั้งแต่เดือน ก.พ. 54 เป็นต้นไป

บ้านสวนพีระมิด

จะมี บก.หน้าหยก มารายงาน

ข่าวประจำวัน

ทางเวปไซด์ ให้แฟนคลับได้รับทราบ

ความเคลื่อนไหว ในบ้านสวนพีระมิด (ประเทศไทยจำลอง)

เป็นสถานีข่าว สังคม บันเทิง ศาสนา ดารา สิงห์สาราสัตว์

ใครไปใครมา ตอนนี้สร้างอะไร จะทำบุญยังไง

ใครมาทำบุญ ทำบาป ฯลฯ

แล้วก็เรื่องอัศจรรย์วันละหลายหน ที่อดทน

เก็บไว้เต็มพุง ของ บก.หน้าหยก

อกเกือบแตกตายอยู่แล้ว

อ.อุบล จึงเกริ่นไว้ก่อน นะคะ ขอบอก

(ทำเป็นสถานีข่าว......ซะงั้น)



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-26 17:55:06


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 [74] 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 7301 (1627032)

เรื่อง

ของลุงบุญ

ที่ผมจำได้แม่นที่อาจารย์

เล่าเรื่องการทำงานของลุงเป็นตัวอย่าง

ให้ผมได้คิดว่า

เรารับค่าจ้างเต็ม แต่งานที่เราทำ

มันคุ้มกับเงินที่เจ้านายเค้าจ่ายไหม

ซึ่งลุงเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า

ลุง

ไม่ได้ใช้เงินในการนำทางชีวิต

แต่ลุงทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

และ

ด้วยความรักศรัทธา

ที่มีต่อท่านอาจารย์

ลูกหลานขอนำสิ่งดีๆ

ที่เห็นนี้ไปปฏิบัติตาม

เพื่อว่าวันนึงจะได้ไปอยู่ในจุด

ที่ลุงบุญยืนอยู่

สาธุ

และอนุโมทนาบุญกับลุงบุญ

ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 21:34:58


ความคิดเห็นที่ 7302 (1627037)

             บารมีที่ข้าพเจ้าได้รับในวันนี้      (24 สค.55)    เนื่องจากมีอาการ  

 เอี้ยวคอแล้วปวดต้นคอ    เนื่องจากก่อนวันที่จะมาบ้านสวน 1 วัน ได้เก็บผัก

ตำลึงที่อยู่ข้างบ้านที่เลื้อยขึ้นต้นไม้สูง/ต่ำ และ ถอนหญ้าที่ขึ้นมาบริเวณนั้น  

ซึ่งท่านอาจารย์ได้สอบถามพวกเราทุกคนก่อนที่จะเชิญบารมี พระศรีอาริย์ฯ

มาประทับที่  กาย วาจา ของท่าน อ.อุบล ฯว่าลูกหลานแต่ละคนมีอาการอะไร

ที่ผิดปกติบ้าง   ส่วนตัวข้าพเจ้านั้นมีอาการเอี้ยวคอแล้วปวดต้นคอ   หลังจากที่

ท่าน อ.อุบลฯ ได้เชิญบารมีพระศรีอาริย์ฯ  มาแล้วอาการก็ดีขึ้น 50%   ต่อจาก

นั้นท่าน อ.อุบลฯก็ได้นำ จี้สฟิ้งซ์องค์เล็ก ซึ่งท่านอ.อุบล ฯได้รับบัญชาฯให้

สร้างขึ้นเพื่อลูกหลานที่ทำผิดแล้วไม่อยากสารภาพดังๆให้ใครได้ยินก็

สารภาพกับจี้ได้  แต่จี้นี้ไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้  ช่วยเหลือตัวเอง

ได้อย่างเดียว ท่านอ.อุบลฯให้ทดลองให้ใช้ดูโดยจ่ายเงินชุดละ 100 บาท

ก็ได้ทำการสารภาพ บาปดูก็ได้เพิ่มขึ้นมาอีก20% โดยที่ท่านได้ถามนำว่า

 ตอนไปเก็บผักตำลึงข้างบ้านแล้วถอนหญ้าด้วยนั้นได้ขอขมา /และ

อุทิศบุญให้เทวดาที่ดูแลต้นหญ้าเล็กๆหรือไม่  (ต้นหญ้าเล็กๆก็มีเทวดา

อยู่ด้วยทุกต้นเลย)     ตอบว่า ยัง จึงได้เริ่มอุทิศบุญให้  แล้วก็ลดลง

ไปอีก 20%    รวมดีขี้น 90% ก็ยังเหลือค้างอยู่ อีก 10 %   หลังจากนั้น

ก็กลับไปนั่งที่และเลิกประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ  ทุกคนแยกย้ายกันไปนอน

แต่หลังจาก     ตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันใหม่ อาการที่เหลือก็หายไปค่ะ/

   ลูกขอกราบขอบพระคุณบารมีพระศรีอาริย์ ,เทวดาที่ดูแลรักษาอ.อุบลฯ

ท่านอ.อุบลฯและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ค่ะ/

                                                    กราบ  กราบ  กราบ


 


 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 22:18:06


ความคิดเห็นที่ 7303 (1627068)

อ่านจากธรรมทานที่อ.นี

เขียนอธิบายอย่างละเอียดแล้ว

เห็นชัดๆเลยนะคะว่า

บารมีองค์พระศรีอาริย์

ช่วยปลดทุกข์ได้มหาศาลมากๆ

 

เพราะเทียบจากอาการที่หาย

ในแต่ละขั้นตอนแล้ว

ส่วนหลักคือ พลังบุญจากพระศรีอาริย์โดยตรง

แล้วก็มาที่พลังบุญของเราเองส่วนหนึ่ง

การสารภาพบาปสำนึกผิดก็ได้อีกส่วนหนึ่ง

 

อนุโมทนากับธรรมทานจากอ.นี และทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 04:55:31


ความคิดเห็นที่ 7304 (1627073)

                 เช้าวันอาทิตย์  เหมี่ยวตื่น 6 โมงเช้า พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจบุญ ที่ยิ่งใหญ่ ที่อาจารย์ท่านมอบหมายให้คือ เคลียพื้นที่เก็บของที่โรงทาน เก่าไปไว้ข้างวิหารไม้ไผ่ มีขนครกตัวที่ใช้ตำข้าว กระเดื่อง เตาเศรษฐกิจ แต่ละอย่างหนักพอดู พวกเรา 3-4 คน คุณอ้อย คุณโฆษิต อ.อภิชัย น้องอัญ คุณศักดิ์ พวกเราช่วยกัน เป็นครกและแบกเสา เพื่อไปเก็บ

คุณธนาและคุณป้อม พากันวิ่งหน้าตาตื่นเหมือนเห็นอะไรกัน ตกใจ เหมี่ยวก็วิ่งออกไปดู แต่ก็ไม่ทันได้ยินแต่ตะโกนกันว่า ลุงบุญโดนไฟซ๊อต เหมี่ยวยังไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์แต่ปากก็ตะโกนว่า อาจารย์อุบลช่วยลุงบุญด้วย  กว่าจะออกไปถึงเหตุการณ์ก็ปกติเห็นลุงบุญยืนทำงานต่อเฉย

เหมี่ยวถามว่า...ลุงเป็นอะไรหรือเปล่า  ลุงบุญบอกว่า...ไฟซ๊อต เกือบตาย  คุณเหมี่ยวไม่รู้มีใครเอาพีระมิดมาครอบลุง   ลุงบอกพีระมิดหักหลุดเลย ลุงบุญยังมีอารมณ์ขันอีก

ด้วยอานุภาพบารมีของพระศรีอาริย์ ถ้าไม่ใช่เขตบุญที่บริสุทธิ์อย่างบ้านสวนพีระมิด ลุงบุญอาจจะไม่ได้มายืนคุยกับพวกเราอีกก็ได้ เป็นเพราะลุงบุญเป็นคนดีซื่อสัตย์สุจริตลุงเป็นคนที่มีจิตใจดีงามกับทุกคน

       จากการได้รับความเมตตา จากท่านอาจารย์ที่ได้ให้พวกเราได้สัมผัส บารมีพระศรีอาริย์ อย่างใกล้ชิด  เหมี่ยวขอท่านให้หายจากอาการนิ้วล็อค ซึ่งงอ นิ้วไม่ได้เจ็บปวดมาก อาการก็หายทันทีตั้งแต่ท่านอาจารย์ท่านขอบารมีจบ หายมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ 2 อาทิตย์แล้วยังไม่กลับไปเป็นอีกเลย         อย่างคือ ปวดขา ขาตรึงก้มๆ เงยๆ เหมี่ยวกับขอบารมีท่านอีก อาการปวดขานั้นก็หายทันที เหมี่ยวทำงานอยู่ในบ้านสวนแม้จะเหนื่อย แต่ก็มีความสุขอิ่มอกอิ่มใจ บางครั้งไม่หิวข้าวเลย เพลิดเพลินกับการได้สร้างบุญด้วยแรงกายต้องเป็นเพราะอาจารย์อุบล เป็นผู้อัญเชิญพระบารมีพระศรีอาริย์ แท้ๆ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของบ้านสวน ดูมีความสุขมากๆ เลย ยิ่งใกล้จะถึงวันบวงสรวง ด้วยแล้วอานุภาพยิ่งเห็นได้ชัดเจน

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 08:16:04


ความคิดเห็นที่ 7305 (1627103)

เมื่อคืนประมาท  19.00 น.ได้ขับรถไปรับลูกที่ราชมงคลคลองหกธัญญะและลำลูกกา ปทุมธานี  พอขับรถออกปรา กฎเห็นมีวัตถุสีขาว  2  วง  วิ่งไปมาบนท้องฟ้าแล้วมารวมตัวกันกลมๆแล้วก็แยกออกอย่างนี้ไปเรื่อยๆ  มั้นใจแล้วเลยแนะนำให้ลูกสาวดูด้วยให้ถ่ายรูปก็ถ่ายไม่ได้เพราะอยู่ในรถ น่าจะเป็น ยูเอฟโอ

วันนี้สฟิ้งได้ช่วยให้น้องโยอยู่ที่แผนกขายสก็อตไปร  3 เอ็ม  บิ๊กซีคลอง5 ลำลูกกา

เขาปวดหลังมากคิดว่าวันนี้จะไม่มาทำงานแล้ว  ถามว่าวันนี้เป็นอะไรหรือ ?   ปวดหลัง  แล้วก็บอกว่าลองสารภาพบาปหรือสมาทานสีล 5  กับจี้สฟิ้งลองไหม?   ลองค่ะ

สีลข้อ  1   ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย  เช่น ไก่    ทุบวัวปลา   ปู  ตีงู

ศีลข้อ   2.  หยิบเงินสามี  ชอบของฟรี 

ศีลข้อ  3.  มีชู้   มีกิ๊ก   คิดฝ่ายเดียว

ศีลข้อ   4.   เถียงพ่อเถียงแม่  ว่าพระไม่ดี  เป็นหนี้สงฆ์  หนี้แผ่นดิน นินทาเพื่อน  นินทานาย 

ศีลข้อ   5.   เล่นหวย   ของมึนเมา

ปรากฎว่าอาการปวดหลังร้าวลงขาดีขึ้น  แล้วให้ใชรหัสลับจักรวาล อ.อุบล  ช่วยด้วยขอให้หนูหายปวดหลังร้าวลงขาด้วยเถิด  ดีขึ้นให้อุทิศบุญให้เทวดาที่รักษาตัวทานอ.อุบล  ด้วย  แล้วแนะให้ใช้รหัสนี้ได้ตลอด  เช่น  ปวด หัว   ปวดประจำเดือน  ฯลฯ    หนูบอกว่าถ้ายังไม่หายยังมีโจทย์เก่าที่สารภาพไม่หมดเลยแนะนำว่านึกได้เมื่อไหร่ให้จดบันทึกไว้นะค่ะ แล้วพี่จะไปให้น้องโยสารภาพบาปต่อค่ะ แล้วบอกว่าที่เราเป็นอย่างเพราะเหตุเราไปทำอย่างนี้กับคนหรือสัตว์  หาเหตุให้ได้ๆแล้วดับที่เหตุไปอย่างนี้เรื่อยจนกว่าเราจะหายค่ะ  คนนี้ไม้ต้องพูดเยอะเพราะเคยเล่าให้น้องโยฟังมาหลายครั้งแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 12:21:59


ความคิดเห็นที่ 7306 (1627110)

 นรก

คือความทุกข์ ความวิตก

ความกังวล ความเครียด จิตตก

ดังนั้น

เราสอบอารมณ์ดู

ว่าถ้าเรายังเป็นเช่นนี้อยู่

เรายังไม่เข้าเขตของพระโสดาบัน

หรือแม้แต่โสดาปฏิมรรค

จิตยังคงสอบไม่ผ่านหรอกค่ะอาจารย์

ยังมีครบทุกอย่างเลยค่ะ

ศีลก็ยังไม่บริสุทธิ์

ทุกข์ วิตก เครียด จิตตก 

สงบได้บ้างในบางเวลาเท่านั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 13:01:06


ความคิดเห็นที่ 7307 (1627115)

เหตุการณ์ที่ลุงบุญเจอ ล้วนแล้วแต่หนักๆทั้งนั้นเลย คร้งที่แล้วตกลงมาจากนั้งร้านแบบเหินเวหา หัวทิ่มลง ก่อนถึงพื้นเหมือนมีใครมาดันไว้ หน้าจึงไม่กระแทกพื้น บารมีสิ่งศักสิทธิ์บ้านสวนคุ้มครองจริง จริ้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลุงบุญโดนไฟฟ้าขนาด220โวซ์ ช๊อตขนาดนี้ถ้าปกติแล้วจะต้องมีแผลเข้าในผิวหนังตรงส่วนที่โดนช๊อต เพราะเมื่อก่อน คุณพ่ออร เคยถูกไฟช๊อตที่มือ มีแผลฉกรรณ์ เกือบทะลุ นอนหมดแรงเดินไม่ไหวอยู่หลายวัน แต่ลุงบุญไม่เป็นเช่นนั้น มีสติอยู่ตลอดเวลา และทุกอย่างอยู่ในความดูแลจากสิ่งศักสิทธิ์ ด้วยบารมีคุณ พระศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านอาจารย์ก็เป็นห่วงคอยดูแลช่วยเหลือ อย่างไกล้ชิด จึงทําให้ลุงบุญรอดมาได้อย่างปราฎิหาร ถ้าไม่ใช้ที่บ้านสวนลุงบุญจะเป็นไงบ้างหนอ สมชื่อลุงบุญจริงๆเลยค่ะ บุญรักษาแท้ เพราะลุงบุญเป็นคนดี ทั้งกาย ทุ่มเทแรงกายทํางานที่บ้านสวนฯอย่างเต็มกําลังความสามารถไม่เคยทําให้ ท่านอาจารย์หรือใครผิดหวัง ทางวาจาลุงบุญเป็นคนที่พูดน้อย พูดแต่ในสิ่งที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อทุกคน ทางใจ ลุงบุญไม่เคยทําให้ใครหนักใจ ตรงกันข้าม เวลาอยู่ไกล้ลุงรู้สึกอบอุ่นเสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ  ท่านอาจารย์เมตตาบอกว่า เหตุการณ์ทุกอย่าง เป็นการทดสอบ ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติโดยตรง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทุกคน ลืมใช้ รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย จึงสอบไม่ผ่าน และเมื่อเย็นวันเสาร์ ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก นํ้าท้วมเจิ่งนองไปหมด ท่านอาจารย์ก็เฝ้าดูแลทุกอย่างตลอด เฝ้าดูนํ้า ขับรถกอล์ฟฝ่าสายฝน พาลูกหลานเข้ามาในโรงทาน จนครบหมดทุกคนเพื่อทานอาหารเย็น กราบขอบพระคุณอย่างสูงในความเมตตาของท่านอาจารย์เจ้าค่ะ     

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 13:41:22


ความคิดเห็นที่ 7308 (1627181)

 

คุณอ้อย

ลองดูอีกทีนะว่า

หลังจากมาเขียนลงเวปนี้แล้ว

อาการเป็นยังไง

เท่าเดิม หรือ หาย หรือ ดีขึ้น อีกจ๊ะ

****************

อาจารย์ขา หลังจากเขียนธรรมทาน

ตอนนี้อาการปวดแขนดีขึ้นอีก 20%

เป็น 90% แล้วค่ะ

ได้สารภาพบาปกับจี้องค์เทพสฟริงซ์ว่า

ใช้แขนทำผิดศีลทั้ง 5 ข้อ

และใช้เล่นเกมส์ ดีขึ้นอีกเป็น 95% ค่ะ

ตอนนี้ยังนึกกรรมอื่นๆอีก 5% ไม่ออกค่ะ

กราบขอบพระคุณองค์พระศรีอาริย์ 

ท่าน อ.อุบล

ที่เมตตาลูกหลาน

ให้ได้สัมผัส บารมีของพระองค์

อย่างเป็นรูปธรรม รู้ได้ด้วยตัวเอง

สาธุ สาธุ สาธุ

*************************

วันนี้ออกจากบ้านรถติดมาก

ขณะอยู่ในรถจึงนั่งสารภาพบาป

ไล่ศีลตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 5

กรรมที่ทำกับพ่อ แม่

ผู้มีพระคุณ ครูบาอาจารย์

กรรมที่ปรามาศในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์

หนี้สงฆ์

หนี้แผ่นดิน

พูดสารภาพไปเรื่อยๆ

พอไปถึงอ็อฟฟิศ

ปรากฎว่าแขนซ้ายที่ยังปวดอยู่

หายปวด แบบไม่รู้ตัวเลย

สาธุ

จริงๆท่าน อาจารย์จะเน้นย้ำว่า

ให้พูดสารภาพบาปกับจี้องค์เทพสฟริงส์

ได้ตลอดเวลา

สารภาพได้ทั้งวัน

สารภาพได้ทุกสถานที่

ตั้งใจว่าจะทำตามที่อาจารย์บอก

แต่กลับมาบ้านทีไร ลืมทุกที

สารภาพได้นิดๆหน่อยๆ ก็ลืม

มีความรู้สึกว่าขี้เกียจสารภาพ

เพราะก็พูดเหมือนๆเดิมซ้ำๆ

ความชั่วเหมือนเดิม

เจ้ากรรมนายเวรคงดลจิตดลใจ

กลัวเราจะหลุดพ้นอำนาจกรรมของเค้า

เลยทำให้เราขี้เกียจ

แต่วันนี้มีแรงฮึด

ว่างเมื่อไหร่พูดสารภาพบาปตลอด

แปลกมากที่เราจะค่อยๆนึกกรรมออกมาทีละเรื่อง

นึกเรื่องไหนได้เพิ่มก็รีบสารภาพ

ตอนนี้แขนหายปวดแล้ว

สาธุ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์

ที่เมตตาลูกหลานโง่ๆคนนี้

ทั้งๆที่อาจารย์บอกแล้ว

ก็ยังไม่ยอมทำตาม

ประมาณว่า

เชื่อ แต่ ไม่ทำตาม

มันน่าเขกหัวกะโหลกนัก

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 21:16:27


ความคิดเห็นที่ 7309 (1627197)

กรรมตามทันตา

มีเรื่องจะสารภาพครับ 

เมื่อวานนี้ตอนค่ำผมจะกรอกน้ำดื่มจากแกลลอนใหญ่  ไปใส่ในขวด  พอเปิดฝาแกลลอนมีมดตัวเล็กๆมาเกาะอยู่ที่ฝาแกลลอนด้านในเต็มไปหมด เค้าคงจะหิวน้ำเหมือนคน  ด้วยความสงสารและกำลังหาวิธีจะเอามดออก  แหล๋นเค้าแนะนำว่าเคาะๆแล้วบอกให้เค้าไป  แต่ไม่ทันใจครับ ก็เลยใช้วิธีเป่าด้วยปากให้มดออกไป  ได้ผลครับปู๊ดแรก...มดก็กระจายหายไปคนละทิศละทาง เหลืออีกนิดหน่อยก็เลยเป่าปู๊ด..อีกครั้ง ได้ผลครับ แต่พอมา ปู๊ดที่สาม ปรากฏว่าคราวนี้โดนแก้แค้นครับ  มีมดตัวหนึ่งสงสัยจะเป็นฮีโร่ในฝูงมาเกาะที่ตาผมได้ก็กัดเลยครับ  หนอยแนะมาแกล้งพวกเราดีนัก  กัดซะตาซ้ายปูดเลยครับ  เจ็บมาก  เป็นไงหละไม่รู้จักฤทธิ์เราจะแล้ว  ลองคิดดูเถอะนะครับคนตัวเบ้อเร้อต้องมาเสียท่าให้กับมดตัวนิดเดียว  อายประชาชีครับ  โดนไก่จิกก็แล้ว  นี่หนักกว่าเก่าโดนมดกัดตา  คราวนี้ก็ต้องเดือดร้อน  อาจารย์อุบลช่วยด้วยซิครับ  ไม่หายครับ  คราวนี้ลองอีกทีสารภาพบาปกับจี้องค์สฟิ้งครับแล้วใช้แป๊ะไว้ที่ตาด้วย  อาการทุเลาลงครับ อาการเจ็บหายไปเหลือแต่อาการแสบๆ  ปิดท้ายด้วยการขอบารมีพระศรีอาริย์ครับ  คราวนี้ดี้ขึ้นมากเลยครับเหลือแต่อาการระคายเคืองดวงตาเล็กน้อย  หยอดตาแล้วนอนปิดตาซักสิบนาที  เมื่อลองเปิดตาดูก็เกือบหายเป็นปกติครับ  ต้องขอสารภาพบาปเลยครับว่าแม้แต่สัตว์ตัวเล็กๆก็อย่าไปรังแกเค้านะครับ  ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวจริงแท้แน่นอนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 23:56:07


ความคิดเห็นที่ 7310 (1627256)

 กรรมทันตา ภาค 2 - ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุุกข์นั้นถึงตัว

 

กราบสวัสดีท่านอ.อุบลเจ้าขา

 

ลูกขออนุญาตมาสารภาพวีรกรรมเพิ่ม เรื่องมดตัวน้อยตัวนิด มดมีฤทธิ์น่าดูเจ้าค่ะ คือว่าลูกทะลุศีลข้อปาณา ทำการโรยแป้งเย็นตรางูตรงบริเวณปลั้กไฟตู้เย็นที่บ้านซึ่งมีมดมาตอม เยอะพอสมควร อ่านเจอในเน้ตน่าค่ะแล้วนำมาใช้ โดยที่ไม่ได้คิดตรองให้ดีว่า มันน่าจะแรงเกินไปสำหรับสัตว์เล็กๆ แทนที่จะไปไล่ให้เค้าไปดีๆ กลับกลายเป็นไปฆ่าเค้า เพราะเค้าแน่นิ่งไปหมดเลยค่ะ แย่ละสิ  เสียใจค่ะ ไม่น่าเล้ยเรา ทำไมไร้สติขนาดนี้เนี้ย ทันทีทันใด พอคิดได้ลูกจึงรีบสารภาพบาป ที่จี้องค์สฟิงส์และเบิกบุญให้น้องๆมดทั้งหลายน่ะค่ะ 

 

หลังจากนั้น ผลกรรมที่ยังได้รับคือ พวกเราถูกดูเหมือนจะถูกมดโจมตีในแทบทุกจุดของบ้าน กัดเล็กกัดน้อยกันถ้วนหน้าเลยค่ะ จะใส่เสื้อผ้า ต้องสะบัด ตรวจดูให้ดี น่าจะเหลือแต่ที่นอนนะคะที่ยังพอรอดบ้าง  ลูกจึงสารภาพประกาศให้ทุกคนในครอบครัวทราบ ว่าแม่นี่เองแหละ ศีลทะลุข้อปาณา นะลูก อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง จงอดทน บอกเค้าดีๆ เคาะเบาๆ ให้เวลาเดี๋ยวเค้าก็ไปแล้ว อะไรแบ่งเค้ากินได้ ตอมได้ก็ยกให้ไปเลย อย่าบี้ อย่าฆ่านะ อาจเป็นโจทย์จากเบื้องบนเพื่อทดสอบสติ และความอดทน

 

ยังไม่พอ ด้วยความภาคภูมิใจ ตั้งแต่ได้เป็นลูกศิษย์ท่าน. อาจารย์อุบล เป็นลูกบ้านสวน ทุกสิ่งที่ท่านพร่ำสอน ลูกก็ถ่ายทอดให้ทุกคนที่พบเจอ พร้อมๆกับความกล้าหาญสารภาพสิ่งที่ผิดๆทั้งหลายที่เคยทำมา ให้เพื่อนๆที่ทำงาน ผู้ซึ่งอาจจะไม่เคยตระหนักเรื่องศีล5 ให้เป็นธรรมทาน ให้อย่าทำเยี่ยงเรา นะเดี๋ยวจะเจอแบบเรา ไม่ใช่แค่เรื่องมด ค่ะ ทุก....เรื่องที่จำได้ ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย ทำแท้ง โขมยตังค์พ่อแม่ไม่บอกกล่าว ใช้ของคนไม่รู้จักเกรงใจ ชอบของฟรี ใช้ของที่ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนตัว นอกใจสามีโดยแอบสนิทสนมกับสามีชาวบ้าน เล่นหวย เลวจริงๆค่ะ ไล่ไปครบ 5 ข้อเลยค่ะ นี่นะ วิบากกรรมที่ได้รับอย่างเรานี่แหละ จนนนน..อย่างนี้นี่แหละ เก็บเงินไม่อยู่ กิเลสหนาชอบซื้อของที่ไม่จำเป็น มีหนี้ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมาจากการผิดศีลล้วนๆของเรา 

 

ใจนึงอายนะคะ แต่อีกใจที่มีน้ำหนักมากกว่าก็โล่งใจค่ะ ที่ได้ถ่ายทอด คนอื่นๆจะได้ตระหนักรู้ และไม่ต้องลองผิดอย่างเราอีก ด้วยความหวังว่า จะช่วยให้คนลดการทำชั่ว และหมั่นสร้างกรรมดี ไม่ใช่แค่คนแก่นะที่ตาย คนทุกวัย ตายได้ทุกเวลานะ ความตายอยู่แค่ลมหายใจนี่เองล่ะ ชีวิตหลังความตาย แก้ไขไม่ได้แล้วนะ เพราะฉะนั้น อย่ากระนั้นเล้ย เพื่อไม่ให้เสียเวลา พวกเรามารณรงค์ ทำดี ในขณะที่ยังมีลมหายใจกันอยู่ ขัดเกลาตัวเองทุกวันทุกขณะจิต ทำดีถวายพระพุทธเจ้า ถวายในหลวงขณะที่ยังแรงดี กันดีที่สุดนะนี่นะ  เนี่ยค่ะคือสิ่งที่ที่บอกกล่าว พ่อแม่พี่น้อง ลูกหลาน เพื่อนฝูง คนแปลกหน้า กลัวจะไม่ทันค่ะ เดี๋ยวภัยพิบัติจะมาถึงซะก่อน

 

จากนี้ไป เข็ดสุดๆเลยค่ะ กลัวบาปกลัวกรรม ไม่กล้า ไม่เอาแล้วแล้วค่า เรายังรักชีวิต สัตว์เล็กสัตว์น้อยเค้าก็เช่นกัน เราไม่สร้างกรรมใหม่ ขอเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวบ้านสวนโปรดอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างค่ะ ขอปฏิบัตตามที่ท่านอ.อุบลพร่ำสอน ขอขัดเกลาตัวเองให้ดีที่สุดพอที่จะได้พบท่านพระศรีอารย์ ขอติดตามท่านไปนิพพานชาตินี้ให้ได้นะคะ  

 

กราบขอบคุณท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ 

 

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 11:27:22


ความคิดเห็นที่ 7311 (1627378)

พูดถึงเรื่องมดเคยมีประสบการณ์

คือมดมาจากใหนไม่รู้เต็มบ้านเลยมีอยู่วันนึง

เข้าไปในครัวเห็นซากมดตายเกลื่อนเลยถามภรรยา

ว่าเธอฆ่าเค้าหรือ เธอบอกว่าใช้ยาฉีด มันเป็นมดง่ามกัดเจ็บมาก

จิตใจของผมมันหดหู่จะหาวิธีใหน

บอกกับภรรยาดีให้เค้ารักษาศีลข้อหนึ่งได้

จงบอกกับเค้าว่าต่อไปห้ามผิดข้อหนึ่งอีก

ลองนึกดูถ้าเกิดพี่อยากละเมิดศีลข้อสามบ้าง

เธอจะยอมไหม เธอนิ่งแล้วตอบว่า

ให้ผมหาวิธีจัดการให้มดออกไปจากพื้นทีอย่างไรก็ได้

ผมโล่งอกเธอยอมทำตามที่จะไม่ผิดศีล

เรื่องมดผมใช้วิธี ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ให้เทวดามดพามดออกไปจากพื้นที่

เนื่องเรามีเจตนาไม่อยากทำบาป

จนทุกวันนี้ก็ไม่มีมดมาก่อความรำคาญ

ผมว่าเราสามารถพูดกับสัตว์เค้ารู้เรื่องนะ

เค้าไม่มาเบียดเบียนเราเลย (ถ้าเราไม่เผลอไปทำเค้าก่อน)

กราบขอบพระคุณคำสอนของท่านอาารย์ อุบล

ที่ทำให้คนในครอบครัวเห็นความสำคัญในการรักษาศีล

ขออุทิศบุญทั้งหมดให้เทวดาที่คุ้มครองอาจารย์อุบล ด้วยครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-01 07:15:20


ความคิดเห็นที่ 7312 (1627573)

     ช่วงอาทิตย์นี้พวกเราได้ช่วยกันเตรียมงานบวงสรวงสมโภชน์ พระศรีอาริย์ ผมเองก็มีประสบการณ์ของตัวเองมาเล่า เพื่อเป็นธรรมทานครับ

     เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงที่ทำงานแล้วผมกับคุณก้อยก็เป็นหวัด ของผมแค่ น้ำมูกไหล ของคุณก้อยเป็นทั้งคัดจมูกร่วมด้วย จนช่วงที่เตรียมงานได้พบท่านอาจารย์อุบล ท่านก็ถามคุณก้อยว่า ว่า ใช้รหัส อ.อุบลหรือยัง คุณก้อยก็ตอบว่าใช้แล้วดีขึ้นแต่ไม่หาย ท่านก็เลย อารธนาบารมีพระศรีอาริย์ให้คุณก้อย และคนที่มีอาการป่วยได้หายจากอาการที่เป็นอยู่ ผมเองก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วบ อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้นทั้งสองคนครับ เห็นได้ชัดเลยว่าพระศรีอาริย์ท่านอยู่กับท่านอาจารย์อุบล ตลอดเวลาเลยจริงๆ และท่านก็มีเมตตากับพวกเราทุกๆคน

     ตัวผมเองจากที่มีอาการเป็นหวัด น้ำมูกไหลก็ดีขึ้น ตอนนอนก็มานั่งนึกกรรมว่าทำอะไรบ้างแล้วก็สารภาพกับจี้สฟิงค์ ก็จำได้ว่า ช่วงที่เตรียมงาน มีมดมาเกาะเราก็หยิบออกมา ไม่แน่ใจว่าตายหรือเปล่า กับ ช่วงที่เทปูนอาคารหน้าห้องน้ำ ปรากฎว่าปูนเหลือ พวกเราก็เลยเอาไปเทตรงเสา บังเอิญเสาที่ผมไปเท ดันมีมดแดงอยู่หลายตัว ผมก็เอาใบไม้ เขี่ยๆออกไป แล้วก็เท ไม่แน่ว่าอาจจะยังมีมดที่ยังเหลืออยู่ในหลุมนั้นก็ได้ ก็สารภาพและขอขมา มดเหล่านั้น อาการดีขึ้นมากไปอีก ก็เลยคิดว่าน่าจะเกิดจากกรรมตรงนี้ หลังจากสารภาพ อาการก็ดีขึ้นไปอีก

     หลังจากนั้นก็ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย+นึกถึงพระศรีอาริย์ ขอบารมีท่านช่วย ปรากฎว่ารู้สึกเย็นๆ ตรงหน้าอก ก็ภาวนานึกถึงภาพพระศรีอารย์์ทีไร ก็จะมีภาพท่านอาจารย์อุบลซ้อนมา สลับไป สลับมาตลอดเลย ก็ภาวนา จนหลับไปเลย ตื่นเช้ามา ก็ไม่เหลืออาการอะไรเลยครับ 

     ขอกราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ พระศรีอาริย์ และท่านอาจารยอุบลครับ

      

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 10:39:57


ความคิดเห็นที่ 7313 (1627575)

วันอาทิตย์ที่ 2/9/55 ทำกับข้าวอยู่ในครัวได้ยินพี่จุ๋ม พี่จิ๋ม พี่อมร คุณธนา

และอีกหลายคนล้างทำความสะอาดถังไบโอแก๊สและสถานที่บริเวณนั้น

ดูเหมือนว่าการโหลดขยะมีปัญหาแก๊สไม่ขึ้นแก้ปัญหากันอยู่นาน

ยังคิดอีกว่ามาเสียอะไรตอนนี้นะอาทิตย์หน้าจะถ่ายทำแล้ว

พี่อมรถามว่าคุณอังดูวาวส์แก๊สไบโอซิว่าเปิดหรือปล่าว

ใจหล่นไปที่ตาตุ่มวาวส์แก๊สเปิดอยู่เกือบร้อยเปอร์เซนต์

เจอต้นเหตุของปัญหาแล้วแก๊สถูกปล่อยออกตลอดเวลา

เพราะปกติโหลดขยะปุบจะเกิดแก๊สทันทีเดชะบุญที่ไม่เกิด

โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่แม่ครัวบ้านสวนตายอนาถ

ท่านอาจารย์บอกว่าดีนะที่นี่มีสิ่งศักดิ์คอยช่วยไม่งั้นแย่แน่

เหตุเกิดจากต้มถั่วแระตอนประมาณ 1 ทุ่มแล้วแก๊สไบโอหมดถัง

ไฟที่เตาแก๊สดับไปเองถั่วสุกพอดีโดยไม่ได้ปิดวาวส์แก๊สทำอะไรเพลิน

จนบ่ายเกือบเย็นวันอาทิตย์ถึงรู้ว่าไม่ได้ปิดวาวส์แก๊ส

พอพี่ๆเริ่มโหลดขยะก็ได้กลิ่นแก๊สเหมือนกันแต่ไมเฉลียวใจ

คิดว่ากลิ่นถังไบโอมั้งดีที่ว่าครัวบ้านสวนโปร่งรอบด้านเปิดพัดลมดูดอากาศด้วย

แก๊สจึงได้ระบายออกไม่อัดอยู่ในครัว จุดเตาข้างเคียงทำอาหารบ่อยมาก

ในครัวมีถังแก๊สที่เต็มอยู่ 2-3ใบ คิดแล้วยังสยองไม่หาย

ท่านอาจารย์เมตตาบอกว่าดีแล้วไม่เป็นไรทีหลังเราจะได้ระวัง

กราบขอโทษท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว พี่จุ๋มพี่จิ๋มและทุกคน

สำนึกผิดแล้วค่ะต่อไปจะระวังและรอบคอบให้มากที่สุดค่ะ

กราบขอโทษท่านอาจารย์และพี่ ๆ ทุกคนค่ะ

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่ช่วยไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง

ขอบพระคุณพระศรีอริย์ เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณฯลฯเจ้าค่ะ

 

  

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 10:46:58


ความคิดเห็นที่ 7314 (1627584)

กราบเรียน ท่านอ.อุบลที่เคารพ

หนูได้โอนเงินใส่บาตรวิระทะโย  มาร่วมทำบุญกับบ้านสวน  จำนวนเงิน  1,000  บาท

วันที่ 3 กันยายน 2555          เวลา  10.40 น.

เข้าบัญชี อ.อุบล  สุภาเดชาภรณ์ 

บัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ  สาขาโลตัสเอกมัย-รามอินทรา 

บัญชีเลขที่ 065-0-34728-9

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรนันท์ เดิมหมวก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 11:34:39


ความคิดเห็นที่ 7315 (1627585)

 

มาบ้านสวนเกือบทุกอาทิตย์ยังตะลึงกับความเปลี่ยนแปลง

ราวกับเนรมิตสถานที่ทุกสิ่งอย่างเรียบร้อยสวยงามดังสวรรค์

งานทุกอย่างเดินหน้าไปพร้อม ๆ กันภายในชั่วระยะเวลาชั่วข้ามคืน

ดูเนื้องานแล้วยังกับทำมาทั้งเดือนหรือทั้งอาทิตย์แต่ไม่น่าเชื่อเพียง 2 วันเท่านั้น

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อทุกคนเหมือนมดงานทำงานกับด้วยความสุขสนุกสนานแข็งขัน

อยู่ในครัวได้ยินเสียงคนข้างนอกหัวเราะเป็นระยะ ๆ นำทีมด้วยท่านอาจารย์อุบล

และอาจารย์มงคลดูแลลายละเอียดทุกเนื้องานด้วยความปราณีต

เห็นแล้วสวรรค์บนดินเป็นอย่างไรท่านอาจารย์พาลูกบ้านสวนเตรียมงานบวงสรวง

พระศรีอริย์อย่างสมพระเกียรติด้วยความตั้งใจยิ่ง

น้องภามาอาทิตย์หน้าต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่จะบอกให้

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 11:39:50


ความคิดเห็นที่ 7316 (1627599)

เสาร์-อาทิตย์ ที่ 1-2 กันยายน 2555

ท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้นำทีมลูกบ้านสวนช่วยกันตกแต่งสถานที่ได้เรียบร้อยสวยงามสะอาดตา เพื่อเตรียมงานบวงสรวงพระศรีอาริย์ คุณแมวและลูกบ้านสวนหลายท่านได้ซื้อตุ๊กตาเซรามิคน่ารัก ดอกไม้ประดิษฐ์ ดอกไม้สด หลอดไฟประดับ ฯลฯ มาตกแต่งสถานที่ เปลี่ยนผ้าลูกไม้องค์พีระมิดที่ขาดชำรุด ตัดหญ้า ขัดพื้นบริเวณหน้าเวที เปลียนแผ่นป้ายบนเวที เทปูน งานเกษตร และงานอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ตอนนี้บ้านสวนสวยงามมาก โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้านสวนที่ประดับริ้วธง ส้ม เหลือง ขาว แดง ธงชาติ แลดูกว้างขวางโล่งตา ปกติหน้าบ้านสวนจะมีต้นไม้อยู่หลายต้นพวกเราช่วยกันขุดต้นไม้ไปปลูกบริเวณอื่นแทน นำแผ่นป้ายธรรมะมาแขวนไว้เป็นธรรมทานเพื่อเวลาใครผ่านไปมาจะได้อ่าน นำช่อดอกไม้มาประดับเพื่อเพิ่มสีสันจนถึงเวลากราบลาท่านอาจารย์ ท่านให้พรขอให้ทุกคนได้รับพระบารมีพระศรีอาริย์ 

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวเป็นอย่างสูงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 12:27:52


ความคิดเห็นที่ 7317 (1627602)

อรอยู่ในครัวกับคุณอังตลอด ตั้งแต่ตอนมาถึง ได้ยินคุณอังบอกว่าแก็สหมด แต่ก็ไม่ได้เฉลียวใจเลยสักนิดเดียว ว่าเราปิดถังหรือยัง อันตรายมากๆเลยค่ะ ที่เราไม่เป็นอะไร อยู่รอดปลอดภัยกันได้ เพราะบารมีพระศรีอาริย์โดยแท้ทีเดียว ถ้าอยู่นอกบ้านสวน มีหวังไม่เหลือแน่เลยค่ะ ครั้งนี้เป็นบทเรียนสอนเราให้รอบคอบมากขึ้น อย่าประมาทเป็นดี ต่อไปจะคอยดูแลและรอบคอบให้มากขึ้นกว่านี้ค่ะ

 บรรยากาศ บ้านสวนวันนี้ดูเปลี่ยนแปลงสวยงามมากๆ ตั้งแต่ทางเข้ามาดูโล่ง โปร่งและกว้างขึ้น ภูมิทัศโดยรอบสวยสะดุดตาด้วย ริ้วธงแนวเสาร์ด้านบนตั้งแต่ทางเข้าสวรรค์ ไปถึงแดนพรม และยาวไปจนถึงแดนนิพพาน ส่วนแนวด้านหน้า ประดับธงผูก เป็น ริ้วสวยงามจนถึงประตู ธรรมจักรตกแต่งด้วยดอกสร้อยไก่หลากสี จากฝีมือลูกบ้านสวนงามมากค่ะ ทุกคนตั้งใจเตรียมงานเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แด่องพระศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านอาจารย์เมตตา ส่งบารมีจากพระศรีอาริย์ให้พวกเราได้รับสัมผัสกันทุกคนตลอดทั้งวัน ส่วนตัวอร รู้สึกได้ว่าร่างกายสดชื่นมาก ขนาดเดินตากฝน ยังไม่เป็นอะไรและ ไม่มีอาการเจ็บปวดตรงใหน แต่อย่างใดเลย ก่อนกลับ ท่านอาจารย์ ถามว่ามีใครเจ็บปวด ร่างกาย ตรงใหนกันบ้าง  เงียบกริบเลยค่ะ สาธุ

 กราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์ ที่เมตตาลูกหลานไม่มีประมาน กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่่านอาจารย์มงคล ที่เมตตาต่อลูกหลานบ้านสวนทุกคนค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 12:34:49


ความคิดเห็นที่ 7318 (1627613)

คุณแม่ครัวทุกท่าน

คุณอัง คุณอร คุณแมว มีเมตตาเสียงชีวิต ทำอาหารอร่อยๆ ให้พวกเรามีแรง และเปิดแก๊สทำกับข้าว ท่ามกลางแก๊สมีเทน ซึ่งจะมีมากในวันอาทิตย์ที่ พี่ใส่ขยะเพิมไป

คนทำงานก็มีผิดพลาด พี่เองทำงานผิดพลาดประจำ แต่ขอให้มีกำลังใจสู้ต่อ อย่าหนีหายไปไหนนะ พวกบ้านสวนอดตาย

อนุโมทนาค่ะ

พี่จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 13:15:11


ความคิดเห็นที่ 7319 (1627641)

คืนวันเสาร์ 1 ก.ย. 55 ตอนที่หลายคนกำลังเตรียมงานบวงสรวงพระศรีอาริย์ พี่ก้อยเป็นหวัด เสียงเปลี่ยน พี่เอิ้น น้ำมูกไหล พอท่านอ.อุบลเมตตาอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ช่วย ผลคือ พี่ก้อยกับพี่เอิ้นมีอาการดีขึ้นมาก จากที่คัดจมูกก็โล่งเลย ขวัญสาธุด้วย ก็รู้สึกเบา อาการปวดขานิดหน่อยก็หายค่ะ สาธุ 

ตอนเช้าวันอาทิตย์ ถางหญ้าที่แปลงต้นเผือก แล้วปวด ทรมานตั้งแต่ก้นถึงข้อเท้าทั้งสองข้าง ตอนกินข้าวเช้า เลยขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอบารมีพระศรีอาริย์ เบิกบุญศีล ทาน ภาวนา ที่ทำมาทุกภพทุกชาติจนถึงชาตินี้ รวมทั้งบุญที่สร้างในบ้านสวนพีระมิด อุทิศบุญทั้งหมดให้กับเทวดารักษาตัวทุกพระองค์และเจ้ากรรมนายเวรทุกดวงจิต ทั้งคนและสัตว์ กราบขอขมา สำนึกผิดทุกกรรม จะตั้งใจรักษาศีล อาการปวดก็ดีขึ้นมากประมาณ 70% แล้วก็สารภาพบาปกับจี้องค์เทพสฟิงซ์ เช่น ฆ่าหรือเบียดเบียนมดแมลงโดยไม่ได้ตั้งใจ สนใจและวิจารณ์กริยาของคนอื่น ตอนนี้ อาการปวดข้างขวาหายแล้ว ข้างซ้ายหายปวดประมาณ 90% ค่ะ

นอกจากนี้ หายใจไม่ออกเหมือนจะเป็นหวัด ไปๆมาๆก็หาย ตากฝนก็ไม่เป็นอะไร ปาฏิหาริย์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะบารมีของพระศรีอาริย์ และเบื้องบนทุกพระองค์ สาธุ

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ พระศรีอาริย์ ท่านอ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 14:38:23


ความคิดเห็นที่ 7320 (1627644)

คุณแม่ครัวทุกท่าน

คุณอัง คุณอร คุณแมว มีเมตตาเสียงชีวิต ทำอาหารอร่อยๆ ให้พวกเรามีแรง และเปิดแก๊สทำกับข้าว ท่ามกลางแก๊สมีเทน ซึ่งจะมีมากในวันอาทิตย์ที่ พี่ใส่ขยะเพิมไป

คนทำงานก็มีผิดพลาด พี่เองทำงานผิดพลาดประจำ แต่ขอให้มีกำลังใจสู้ต่อ อย่าหนีหายไปไหนนะ พวกบ้านสวนอดตาย

อนุโมทนาค่ะ

พี่จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 13:15:11

 

 

 

ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม

ไม่ต้องกลัว แม่ครัวรุ่นนี้ หนีหาย

หรอกค่ะ พึ่งแต่งตั้ง

ก็เลยมีการทดสอบจิตกันซะหน่อย

 

ว่า

เป็นแม่ครัว

ต้องอยู่กับไฟ อยู่กับแก๊ส

บทเรียนครั้งนี้

จะทำให้แม่ครัวของเรา

รอบคอบ ระมัดระวัง มากยิ่งขึ้น

เพราะว่า

ต่อไปนี้ แม่ครัว มั่วไม่ได้แล้ว

 

ใครไม่มีหน้าที่

ห้ามเข้าครัว เด็ดขาดจ้า

 

ผู้ช่วยก็เหมือนกัน

ต้องแต่งตั้ง เพื่อรับประกัน

คุณภาพ ความสะอาด ปลอดภัย

ของอาหารทุกชนิด

ค่ะ

 

ดร.จุ๋ม

หายห่วงได้ค่ะ

เมื่อวานคุยกับคุณอังแล้ว

ทั้งขำ ทั้งเข็ด

ทั้งจด ทั้งจำ ทั้งรอบคอบขึ้นค่ะ

 

ถ้าไม่เจออย่างนี้

ต่อไป จะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด

แน่นอนค่ะ

 

แต่คราวนี้

รับรอง แม่ครัวเรา ระวังแจ

เพราะ

กลัวขนคิ้ว ขนตา และ เส้นผม

เหลือไม่เท่าเก่า อิ อิ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 14:59:43


ความคิดเห็นที่ 7321 (1627650)

กราบเรียนท่านอาจารย์ อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป

เรื่อง ขออนุญาต นําม่านนํ้าตก มาติดตั้งบริเวณตรงป้ายหน้าบ้านสวนพีระมิด เพื่อตกแต่งสถานที่ในงานบวงสรวงพระศรีอาริย์ ให้สวยงาม ทางร้านเข้ามาติดตั้ง ในวันพุธที่ 5 ก.ย 55นี้ค่ะ และอรจะนําใม้ดอกมาตกแต่งเพิ่มอีกบางส่วนด้วยค่ะ

 จึงกราบเรียนเพื่อขออนุญาต ด้วยความเคารพอย่างสูง

 กราบขอบพระคุณค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 15:51:59


ความคิดเห็นที่ 7322 (1627674)

 ในวันเสาร์ที่ 1 ก.ย ที่ผ่านมา 

ตุ้ยเองได้ไปร่วมบุญโดยงานแรก 
ก็เริ่มที่จับจีบผ้าด้านหน้าเลย
มีพี่อ้อย คุณก้อย น้องขวัญ น้องมะเหมี่ยว น้องบัว พี่เจี๊ยบ 
อีกหลายท่านค่ะ ทำให้งานออกมาสวยงามขึ้นมากค่ะ
รั้วทางเข้า ซ้ายขวา ตอนนี้มีการตอกเสาปูน ขึงตาข่าย
ดูเป็นระเบียบสวยงามขึ้น เมื่อเอาผ้าไปจับจีบแล้ว
ยิ่งดูอลังการสวยงามขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ทีแรกพวกเราทำๆ แก้ๆ กันอยู่หลายรอบ
จนท่าน อ.อุบลมานำทำให้ดู แป๊บเดียวจริงๆ ค่ะ
ทำจนหมดวัน ก็เหลือด้านหน้าริมถนนอีกราว 20% 
ที่เรายังต้องมาทำต่อวันรุ่งขึ้นค่ะ


ช่วงค่ำเราก็สวดมนต์ และพี่ธนาได้นัดแนะ
ในเรื่องงานบวงสรวงกันคร่าวๆ เสร็จสิ้นเรียบร้อย
และท่าน อ.อุบลก็ได้นำทีมพาตบแต่งพื้นที่
ช่วงหน้าทางเข้าบ้านสวน
โดยการเอาป้ายธรรมทานไปผูกติดไว้ เผื่อชาวบ้าน
ผ่านไปผ่านมาอาจได้อ่านกัน
เพิ่มเติมด้วยไม้ดอกไม่ประดับห้อยระย้า 
ทำให้ดูสะดุดตาน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก
และช่วงค่ำนั้น ก็จะมี UFO
บินผ่านมาให้เราเห็นเป็นระยะค่ะ
ลูกบ้านสวน ก็ยืนดู ด้วยความคุ้นเคย
กับสิ่งที่เห็นกันพอสมควร
หลังจากนั้นมีการนัดแนะ เรื่องการแสดงกัน
แล้วก็แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย

ช่วงเช้าตื่นมา
พวกเรารีบลุยงานกันต่อช่วงบ่ายก็เสร็จค่ะ 
จากนั้นไปช่วยกันปูกระเบื้องข้างไบโอแก๊สต่อ
ทำให้พื้นที่ตรงนั้นเดินง่ายขึ้น เปลี่ยนทัศนียภาพ
ให้หน้ามองมากขึ้น มีการย้ายกองทราย
ย้ายกระถางต้นไม้ ให้ดูสวยงามเหมาะสม
เกรดพื้นที่  และซ่อมแซม เปลี่ยนผ้าองค์พีระมิดใหม่
จัดตกแต่ง สวนหย่อม ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ
ตุ๊กตาเซรามิคต่างๆ ขออนุโมทนาบุญกับพี่ๆ 
ที่พากันไปหาซื้อ มาตบแต่ง และทำให้
บ้านสวนสวยงามมากยิ่งขึ้นค่ะ
และส่งท้ายด้วยการช่วยกันล้าง ขัด
บริเวณพื้นที่หน้าวิหารสมเด็จองค์ปฐม

จากนั้นจึงแยกย้ายอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวกลับค่ะ
ตอนที่กลับ ท่าน อ.อุบลได้บอกว่า
วันนี้ได้อาราธนาบารมี
ของพระศรีอาริยเมตไตรย์มาให้พวกเรา 
ตลอดเวลาที่ได้ทำงาน มิน่า ยังงงตัวเอง
ว่าทำไมวันนี้เราสดชื่น ไม่เหนื่อย
แถมทั้งตากแดด ตากฝน
ตากแอร์ (ตอนกลับ) ก็ยังไม่เป็นอะไรเลย
แข็งแรงสดชื่น 
ท่าน อาจารย์บอกว่า
การเตรียมงานเหนื่อยกว่า วันมาบวงสรวง
แต่ในความเหนื่อย มันเป็นความสุขที่อยู่ในใจค่ะ
คือความสุขที่เห็นคนอื่นมีความสุขยิ่งกว่า
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 17:29:55


ความคิดเห็นที่ 7323 (1627690)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้เตรียมงานบวงสรวงนะคะ  อ่านแล้วก็พลอยยินดีไปด้วย 

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 18:45:30


ความคิดเห็นที่ 7324 (1627694)

ขออนุโมทนาบุญกับนางฟ้า-เทวดาทุกท่านที่เป็นทั้ง

เบื้องหน้าและเบื้องหลังในการเตรียมงานบวงสรวง

พระศรีอาริย์

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 19:47:43


ความคิดเห็นที่ 7325 (1627701)

 

 

 

                                                    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มาช่วยเตรียมงานบวงสรวงพระศรีอาริย์นะคะ

                                                                  อ่านแล้วรู้สึกว่าใจพลอยยินดีมีความสุขมากเลยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 21:29:56


ความคิดเห็นที่ 7326 (1627712)

 

อาทิตย์ที่สองแล้วครับ

ที่พวกเราลูกบ้านสวนฯช่วยกันเตรียมแดนสวรรค์สำหรับงานบวงสรวงพระศรีอาริย์

กันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ภูมิทัศน์โดยรวมที่ทุกคนช่วยกันทำนะครับ 

เริ่มตั้งแต่ทางเข้าบ้านสวนฯเลยนะครับ  โอ่โถงกว้างขวางขึ้นโดยการขยายแนวเสาออกไปอีก   

เอารั้วไม่ไผ่ออกปรับเปลี่ยนเป็นเสาซิเมนต์กั้นด้วยตระแกรง

และประดับด้วยริ้วผ้าสีธงชาติและริ้วผ้าสีขาวเหลืองส้มสวยงามทั้งด้านหน้าและทางเข้าซ้ายขวา  

ทำให้ท่านท้าวมเหสักข์ยืนเด่นเป็นสง่ามากขึ้น   

คงเหลือแต่หลังจากนี้ต้องปั้นแต่งพระหัตถ์ท่านให้สมบูรณ์พร้อมตกแต่งให้สง่างาม   

ด้านหน้าช่วยกันเคลียร์หญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้และนำกระเบื้องมาปูพื้นด้านหน้าบ้านสวนฯ 

และปูหักมุมยาวขนานมาทั้งสองข้างจนถึงไม้กั้นทางเข้า  วางพีระมิดผ้าเป็นแนวตลอด  

มองจากปากทางเข้าแดนสวรรค์เราจะมองเห็นพระธรรมจักรศิลาทรายสีเหลือง  

เยื้องไปทางด้านขวาเราจะมองเห็นสมเด็จองค์ปฐมฯเป็นสง่าอยู่ด้านหลังอยู่ไกลๆ     

วิมานไม้ไผ่สามหลังถูกยกหามไปไว้ด้านขวาอยู่ริมรั้วต้นโมก   

ในร่มเงาของต้นขนุนตกแต่งเป็นมุมเล็กๆน่าเอ็นดูด้วยนกหลายคู่และเด็กๆแก่งชิงช้า

ห้อยระย้าด้วยดอกกล้วยไม้หลายสายพันธุ์  

ตรงข้ามอีกด้านถังไบโอแก๊สขาวเด่นเป็นสง่า

ด้านหน้าปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลสีตัดกันมีชุดเก้าอี้สีชมพูลายดอกไม้เก๋ๆตั้งอยู่ตรงมุม  

กองหิน กองอิฐ ถูกสายพานมนุษย์ย้ายออกไปตอนเช้าวันอาทิตย์ก่อนอาหารมื้อเช้า 

ฉากเวทีปรับเปลี่ยนใหม่เป็นแดนสวรรค์มีเมฆรายล้อมโลกไว้

เหนือขึ้นไปเป็นต้นกัลปพฤกษ์ต้นไม้วิเศษในยุคพระศรีอาริย์แผ่กิ่งก้านสาขา

รอเวลาที่ทุกคนสามารถอธิษฐานขออะไรก็ได้ครับ 

ด้านบนมีรูปพีระมิดส่องสว่างไสวด้วยแสงแห่งโพธิญาณ

ของพระศรีอาริยเมตไตรยที่แผ่ไปทั่วทั้งสามโลก     

ด้านซ้ายวิหารไม้ไผ่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  

พระธรรมจักรด้านล่างต้นไม้ถูกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวสะอาดตา 

มองผ่านแดนพรหมตามแนวเสาสองข้างทางที่ประดับด้วยธงและพีระมิดเล็กๆไปตลอดแนว 

ไปสิ้นสุดแดนนิพพานที่ประทับพระพุทธเจ้าทุกพระองค์โดยมีสมเด็จองค์ปฐมฯ เป็นประธาน 

ซึ่งต่อไปเราจะเห็นท่านในฉลองพระองค์ในชุดจักรพรรดิ์ทรงเครื่องใหญ่

ในท่าประทานพรประทับนั่งอยู่ในมหาวิหารพีระมิด พร้อมพีระมิดบริวารอีกสามองค์ด้านหลัง 

คงจะเป็นภาพที่ตระการตามากยามพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบ

อุ๊บ...จินตนาการไปเรื่อยเลยครับยังไม่ได้ทำเลยครับ  

กลับมาตรงเทวดาจากชั้นดาวดึงส์ที่อาสามาเป็นลูกบ้านสวนฯ

ก็ได้เนรมิตสรวงสวรรค์ไว้คอยรับเสด็จพระศรีอาริยเมตไตรยเป็นที่เรียบร้อย

ขออนุโมทนาบุญกับทุกแรงกายและอนุโมธนาบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ครับ 

ที่ช่วยให้งานเสร็จด้วยความปิติสุขเย็นกายเย็นใจด้วยสายฝนที่ตกลงมา

สาธุ  สาธุ  สาธุ ครับ 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 00:25:39


ความคิดเห็นที่ 7327 (1627716)

 กำลังมีความสุขกับงานที่ลุล่วงไปด้วยดี  จึงปลีกตัวไปอาบน้ำเตรียมตัวกลับบ้าน  ยกสัมภาระใส่ท้ายรถวอลโว่เก่าเป็นที่เรียบร้อยปิดท้ายรถดังปัง  โอ้ย...นึกขึ้นมาได้ว่าลืมกุญแจรถไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า  ล้วงออกจากกางเกงก่อนไปอาบน้ำ  เอาอีกแล้วทำไมขี้ลืมอย่างนี้  สงสัยผมจะเริ่มแก่แล้วครับหรือไม่ก็ขาดสติ  ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว  เผลอเลอครองสติไว้ไม่ได้  ต้องฝึกเรื่องการมีสติกันอีกให้หนักหน่วงขึ้นมากกว่านี้  นี่เป็นครั้งที่สองแล้วครับเรื่องกุญแจรถ  ครั้งแรกลืมไว้ในกระเป๋าใส่อุปกรณ์อาบน้ำหาไม่เจอ    ทำไงละครับ  เดือดร้อนละซิทีนี้ ? ต้องรีบแจ้งอาจารย์อุบลด่วนครับโดยการขออนุญาตไปตามตัวช่างกุญแจเข้ามาบ้านสวนฯ  อาจารย์อุบลแนะนำว่าทีหลังต้องเอากุญแจคล้องคอไว้ครับ  คงไม่คล้องกุญแจอย่างเดียวซิครับอาจารย์ผมต้องคล้องอย่างอื่นไว้ด้วย

คุณจุ๋มกับคุณจิ๋มอาสาขับรถไปตามช่างกุญแจที่บ้านนาให้แหล๋นนั่งติดรถไปด้วย  ส่วนทางผมพยายามหาทางแก้ไขไปก่อนโดยมีคุณตาโต๊ะ  คุณก๊อด พี่ผู้ชายและภรรยาที่เพิ่งจะเจอกันอาทิตย์นี้ยังไม่ทราบชื่อเลยครับ  ก็ช่วยกันใช้กุญแจอื่นๆลองไขดู  มือก็ไขกุญแจไปในใจก็ท่องรหัสอาจารย์อุบลไปด้วย  ยังไม่ได้ผลครับ  ลองอยู่หลายวิธีใช้ไขควงงัดบ้างไขบ้าง  นึกถึงหลวงพ่อปานที่ใช้คาถา ลองท่องกลับหลังดูเผื่อสลักกุญแจจะหลุดได้   แต่ไม่ได้ผลครับเพราะกรรมฐานยังอยู่ขั้นอนุบาล   ลองใช้จี้สฟิ้งก็ไม่ได้ผลครับ  คุณตาโต๊ะและพี่ผู้ชายก็ช่วยก็เอาไขควงไปเจียให้บางลงจะได้ไขได้ลึกขึ้น  และก็เหลือวิธีสุดท้ายแล้วครับคือก่อนที่จะใช้ไขควงไขกุญแจรถ  ผมก็อาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์ช่วยด้วยแล้วครับเพราะเป็นหนทางสุดท้ายแล้ว  ปรากฏว่ากุญแจท้ายรถไขได้ดัง คริ๊ก  หลุดครับ ขนลุกซู่เลยครับตอนนั้น  สำเร็จครับเพราะเกือบจะหมดหวังแล้ว  รีบโทรบอกแหล๋นว่าไขกุญแจได้แล้วให้รออยู่ที่บ้านนาเลยไม่ต้องกลับมา  ต้องขอขอบคุณ คุณตาโต๊ะ พี่ผู้ชายและภรรยา  ทุกคนที่คอยลุ้นเป็นกำลังใจ  และขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์  และเหนืออื่นใดคือพระบารมีของพระศรีอาริยเมตไตรยที่พระองค์ทรงมีเมตตาสงเคราะห์ลูกหลานในยามคับขัน  เป็นบททดสอบอีกอย่างหนึ่งที่ได้จากบทเรียนนี้คือเรื่องของสติ และบทพิสูจน์อีกครั้งถึงพระบารมีของพระศรีอาริย์ฯ ว่าท่านมีจริง  ผมขอกราบขอบพระคุณท่านงามๆสักสามครั้งครับ กราบ  กราบ กราบ   

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 01:43:47


ความคิดเห็นที่ 7328 (1627724)

จากคห.  7305   ไปตามน้องโยที่บิ๊กซีอีกครั้งปรากฎอาการปวดหลังร้าวลงขาก็หายเป็นปกติค่ะ

******************************************************************************

เมื่อวานลูกน้ำตาลได้ช่วยพี่ยามที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครพี่ยามปวดหัวมาก  ลูกสาวบอกว่าให้อธิฐานจิต ตั้งนะโม  3  ครั้ง    แล้วพูดว่าอ.อุบล  ช่วยด้วย  ผลปรากฎว่าพี่ยามหายแล้วค่ะ  แล้วแม่ก็แนะนำให้ลูกสาวไปบอกให้พี่ยามอุทิศบุญให้เทวดาที่รักาตัวท่านอ.อุบล  แล้วให้บอกคนอื่นต่อ  ถ้าไม่บอกอาการที่หายแล้วกลับมาเป็นอีกนะค่ะ

( บอกรหัสลับลจักรวาล )

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 05:39:45


ความคิดเห็นที่ 7329 (1627726)

เท่าที่อ่านธรรมทาน

เรื่อง ลืมกุญแจรถของอ.อภิชัย แล้ว

ก็น่าอัศจรรย์ใจจริงๆเลยค่ะ

 

แต่ก็ทำให้พวกเราทุกๆคน

ได้รับรู้และมั่นใจในบารมี

ของพระศรีอาริย์ยิ่งๆขึ้นไปอีก

 

ว่าพระองค์พร้อมมาโปรดทุกคน

ให้คลายทุกข์ได้ในทุกๆเรื่อง...จริงๆ

สาธุ

..........................................

แล้วก็อนุโมทนากับพี่น้องทุกๆท่าน

ที่ไปร่วมแรงร่วมใจกัน

เตรียมงานสมโภชน์กันอย่างขยัน ขันแข็ง

อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

แถมทำไปสุขไปอีกต่างหาก

 

แค่ได้อ่านและนึกภาพตาม

ก็เห็นถึงความสวยงามของบ้านสวนฯรูปโฉมใหม่

และความงามในจิตใจของทุกท่านแล้วล่ะค่ะ

.....................................

แต่เรื่องอันน่าหวาดเสียว

ของ ชาวแม่ครัว เนี่ย ...

อ่านแล้วก็ขนหัวลุกไปด้วยจริงๆจ๊า

 

โชคดีที่คนดี และสถานที่ดีๆ

ย่อมมี"พระ"คุ้มครองให้รอดปลอดภัยเสมอ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 06:08:14


ความคิดเห็นที่ 7330 (1627739)

 กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลครับ

สำหรับพระคาถาบูชาพระศรีอาริย์

 

 

เมตตานะ

 

ศรีอาริยะเมตโต

 

พุทธานะมะ

 

สันติเกโล

 

อนาคามิ

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

สั้นๆ ง่ายๆ กระชับดีครับจำไม่ยาก

ผมว่าความหมายก็ดีด้วยครับ  เดาว่าประมาณนี้ คือ

พุทธานุภาพแห่งพระเมตตาของพระศรีอาริยเมตไตรย

จะนำมาซึ่งความสุข ความสงบและสันติภาพแก่โลกใบนี้

ขออนุญาตนำไปเผยแพร่สำหรับผู้ที่สนใจนะครับ

ขอบพระคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 08:42:53


ความคิดเห็นที่ 7331 (1627799)

เรื่องมีอยู่ว่าลูกสาวประภาพร  ได้รับซีมฟรีจากทรูมูป  3G  ใช้ก็ไม่ได้ใช้แต่ถูกเรียกเก็บค่าใช้  เมื่อวานโทรรายการช่วยด้วยช่วยได้เอ็ฟเอ็ม  101  เขาให้เบอร์กสทช. มาเบอร์ 1200  ถามเขาว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง  เขาก็แนะนำให้ถ่ายซิมหน้า -หลัง   บัตรประชาชนหน้า- หลัง   ใบเสร็จจ่ายเงิน  ส่งไปที่สนง.กสทช. (กลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียน )  เลขที่ 404 อาคารพหลโยธินเซนเตอร์  ชั้น 2  แขวงสามเสนใน

เขตพญาไท กทม. 10400                แฟกซ์    022790251                

www. tcp. service@ nbtc.Go.th

ผลจากการชอบของฟรี*  ทำให้เสียเงินทั้งที่ไม่ได้ใช้   เสียเวลา  เสียความรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ  แต่เราลืมนึกไปว่าเพราะความโลภความอยากได้อยากมีของเรานี่เอง

ได้เตือนลูกคนนี้แล้วเขาไม่เชื่อฟังเพราะแม่ผิดศีลข้อ3.นี่เอง ทำให้ลูกไม่เชื่อฟัง    ทำให้พ่อแม่ต้องตามล้างตามเช็คนี่คือกฎแห่งกรรมที่ทำให้แม่อย่างหนูได้รับผลของกรรมนั้นแล้ว ดูลูกสาวคนเล็กคิดถึงตัวเองตอนเด็กเหมือนกันเลยเจ้ากรรมนายเวรตัวเป็นๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 17:51:41


ความคิดเห็นที่ 7332 (1627813)

 เสาร์-อาทิตย์นี้ ( 1- 2 กย.5 5 )

    พวกเราลูกบ้านสวนฯ   ได้ร่วมกันช่วยเตรียมงานบวงสรวงฯ  กันอย่างเหน็ดเหนื่อย!   แต่ทุกคนก็มีควาามสุข  กันถ้วนหน้า   ที่งานออกมาาม

                                                     และ

 มหรรศจรรย์สมความตั้งใจ  เพื่อถวายเป็น พุทธบูชาแด่องค์พระศรีอาริยเมตไตรย์

       ในวันเสาร์ ส่วนตัวเอง น้องลินและน้องเบสช่วยกันสร้างบุญด้วยการเก็บ

ผลผลิต จากแปลงเกษตรบ้านสวนฯของเรา  ซึ่งมีถั่วพลู  มะระ พริก และมะเขือยาว

มะเขือเปราะสีม่วง   ที่มีมากมาย เก็บเท่าไร ก็ไม่หมดสักที/

    (ขออุทิศบุญฯให้กับเทพ-เทวดาผู้ดูแลแปลงผักและผลผลิตแปลงเกษตรด้วยค่ะ)

         นอกจากนั้นก็มีกลุ่มที่ถากหญ้าแปลงเผือก  ซึ่่งหญ้าก็ได้รีบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

สวยงาม เกือบจะแซงต้นเผือกไปแล้ว   ถ้าไม่รีบเอาออกก็คงจะตามไม่ทันแน่เลย!

       ส่วนแปลงผักนั้นหญ้าก็สูงมากเช่นกัน แต่ มีช่างอ๊อตคนเก่ง  รับอาสาฯตัด

หญ้าให้  ก็เลยทำให้แปลงเกษตรบ้านสวนฯของเราแลดูสวยงามขึ้นมาเหมือนกัน/

       อาทิตย์นี้    กลุ่มเกษตรของเราได้เตรียมปุ๋ยซึ่ง ได้หญ้าที่มาจากการที่

ลูกบ้านสวนฯช่วยกันเตรียมงานบวงสรวงฯ เป็นจำนวนมาก ถึง 10 ถังใหญ่คาดว่า

คงจะเพียงพอที่จะเป็นปุ๋ยใส่นาข้าว/แปลงเกษตรบ้านสวนฯของเราจ๊ะ/

                         *********

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 20:06:23


ความคิดเห็นที่ 7333 (1627856)

วันเสาร์ที่1กันยายน หลังจากได้ร่วมช่วย เตรียมงานวันบวงสรวง ตั้งแต่เริ่มมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้ว

ก็ได้เป็นผู้ช่วยตัดลวดทำผ้าติดตรงทางเข้า  หลังเที่ยงก็ได้ถากหญ้าตรงบริเวณหน้าบ้านสวน

ตกบ่ายหน่อยก็ได้ไปช่วยขนหินขนทราย เพื่อที่จะนำไปผสมปูน เทพื้น ตรงที่บริเวณหน้าห้องน้ำ 

พอตอนดึกได้เข้านอน เกิดอาการปวดหัวมาก นอนไม่หลับใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยก็ยังไม่หาย

ผ่านไปสักชั่วโมง อาการปวดหัวได้หายไป แต่กลับมีอาการปวดแขนด้านซ้ายขึ้นมา แถมปวดมากด้วย

ตอนนั้นนึกในใจว่า ต้องเป็นเพราะขนทรายกับหินแน่เลย เพราะทั้งช่วยกันตักหินตักทราย

แล้วลากรถเข็ญ รู้สึกว่าหลายรอบมาก เข็ญไปมาทั้งหินทั้งทราย อาจจะทำให้ปวดแขน

เพราะไม่เคยทำงานหนักมาก่อน  งานนี้ถือว่าหนักสำหรับคนไม่เคยทำงานหนักอย่างหนู 

ตอนอยู่บ้านหนูยอมรับเลยค่ะ จอบหนูไม่เคยจับ  ขนดินจากหน้าบ้านไปหลังบ้านก็ไม่ช่วยพ่อกับแม่

เพราะตัวเองร้อน ตัวเองเหนื่อยก็ไม่ทำ แต่พอมาบ้านสวนหนูรู้สึกว่า การจับจอบถากหญ้า ขนหินขนทราย

ก็สนุกมีความสุขไปอีกแบบ  แม้จะเหนื่อย แม้จะร้อน สามารถสู้ได้ทนได้ ทนแดด ทนลมทนฝน

อ้าวบรรยายไปซะยาว พูดถึงอาการต่อแล้วกันค่ะ หลังจากใช้รหัสแล้วก็ไม่หาย นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ

เพราะปวดมากจะยกแขนขึ้นก็ต้องใช้มืออีกข้างพยุงขึ้น แต่อาจเป็นเพราะความเหนื่อยมากเลยหลับไป

พอเช้าตื่นขึ้นมาก็ยังปวดอยู่แถมปวดมากด้วยแต่ก็อดทนไว้ พอเริ่มลงมือทำงานจับจอบ ถากหญ้า

บริเวณบ่อน้ำพีระมิด อยู่ๆอาการนั้นหายไปเฉยๆรู้สึกโล่งมาก อาการหายเจ็บไปเลยค่ะ

หนูเป็นคนหนึ่งที่มาใช้แรงกายในบ้านสวนแล้วอาการเจ็บป่วยบางอย่างดีขึ้น บ้างอย่างก็หายไปเลย

อย่างเช่นอาการที่ตัวร้อนมานานก็แทบจะไม่มีมาให้เห็นแล้ว ค่ะ บุญบ้านสวนเป็นบุญที่มากมาย

มหาศาล ทำบุญที่ไหนไม่เห็นจากหายปวดนู๋ปวดนี้เลย แต่มาทำงานที่บ้านสวนหนูสัมผัสได้ถึง

ความเปลี่ยนไปภายในร่างกาย ความทุกข์ทรมานที่อยู่เป็นเพื่อนกับเรามาตลอดหลายปีก็เริ่มตีจาก

เราไปเรื่อยๆแล้วค่ะ

หนูขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลที่เมตตาให้เข้ามาสร้างบุญในบ้านสวนพีระมิดแห่งนี้ ค่ะ

และขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิดค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 22:42:03


ความคิดเห็นที่ 7334 (1627889)

                                                                                 เมตตานะ

 

ศรีอาริยะเมตโต

 

พุทธานะมะ

 

สันติเกโล

 

อนาคามิ

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

พุทธานุภาพแห่งพระเมตตาของพระศรีอาริยเมตไตรย

จะนำมาซึ่งความสุข ความสงบและสันติภาพแก่โลกใบนี้

กราบขอบพระคุณคาถาบูชาพระศรีอาริย์จากท่านอาจารย์ค่ะ

พร้อมอนุโมทนาบุญกับคำแปลจาก อ.อภิชัย

ไม่งั้นต้องพยายามเดาๆ ตามตัวอักษรอีกนานนน

------------------------

อนุโมทนาบุญกับพี่ๆน้องทุกคนที่ช่วยกัน

เนรมิตสรวงสวรรค์ให้งดงามยิ่ง

วานนี้ลุงเบิ้มติดไฟกระพริบเสร็จไปแล้วแถบนึง

ยิ่งทำให้ดูอลังการมากขึ้นไปอีก

โมทนาบุญกับลุงเบิ้มด้วยค่ะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-05 08:14:09


ความคิดเห็นที่ 7335 (1627913)

1. ผศ.อภิชัย

(ป.โท สอนที่ ม.ศิลปากร)

พรีเซ็นต์เรื่อง การสร้างพระปฐมฯ

 

2. อ.พัน

(ป.โท ม.เกษตร บางเขน)

แนะนำเรื่องการเกษตรอินทรีย์

เกษตรธรรมะ

โดยใช้ กาก ใบโอแก๊ส มาทำปุ๋ย

 

3.ดร.จิ๋ม,ดร.แป๊บ,ผช.นักวิจัย

(ป.เอก ออสเตรเลีย, นักวิจัย ปตท.)

แนะนำเรื่อง ไบโอแก๊ส

 

4.พ่อใหญ่ธนา

(วิศวกร สื่อสารโทรคมานาคมระดับโลก)

แนะนำ ภาพรวมบ้านสวน

-รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

-อานุภาพการสารภาพบาป

กับจี้ อุปกรณ์ เป็นตัวแทน อ.อุบล

ได้จริง พ่อใหญ่ต้องพิสูจน์

สดสดนะจ๊ะ

 

3.สิงห์ป้อม
(กรุณาอันแก๊สส่วนตัวด้วย)

(วิศวะ ผช. ผจก.บมจ.โซนี่ ประเทศไทย)

นำชม โดยเป็นผู้นำพา

ทีมงานถ่ายทำ ที่ถ่ายเสร็จก่อน

ไปแต่ละจุด ข้างต้น

 

โดย

แนะนำสถานที่ต่างๆ

ไปตลอดทาง

ให้ใช้รถก๊อล์ฟ อ.อุบล

คันสีเขียว

นั่งหน้า 2 คน(รวมคนขับ)

หลัง เต็มที่ได้ 3 คน

 

ยังมีรถก๊อลฟคันขาวอีกคัน

ที่คุณธีระเจ้าของสนามก๊อลฟ

เอาไว้ให้ใช้ในงานนี้ก่อน

 

4.พี่มหา

(วิศวะ เจ้าของธุรกิจ ปีที่แล้วฟัน 20 ล้าน)

ถ่ายทอดสด ตลอดงาน

และ

ระหว่างแต่ละรายการ

แต่ละช่อง

สัมภาษณ์ และ ถ่ายทำ

ก็ให้มีการถ่ายทอดสดด้วยนะจ๊ะ

ถ้าสัญญาณอำนวย

อิ อิ

(ตอนนี้เน๊ตสัญญานดีมากเลยนะ)

 

5.ด.ช.อมร

(เถ้าแก่ เจ้าของร้านถ่ายรูป ศิริศิลป์)

ช่างภาพ ตามบันทึกภาพ

ทุกจุด อย่างฉับไว

 

6.หนูอัง + หนูแมว

(สภากาชาดไทย, ผช.อ.อุบล)

แนะนำการใช้ไบโอแก๊ส

ประกอบอาหาร

 

แบบเปิดแก๊สทิ้งไว้ไม่ปิด

ด้วยนะ ว่าทำให้ ใบโอแก๊ส ไม่ขึ้น

อิ อิ อิ

 

แบบปิดแก๊ส

มันก็ปรุงอาหารไม่ด้ายสิเน๊าะ

 

แบบมีแก๊ส

ใช้ได้แรงขนาดไหน

ทำอะไรได้บ้าง ต้ม ผัด แกง ทอด

ทำได้จริงไหม ไบโอแก๊สเนี่ย

ทำโชว์ซะเลยสิเน๊าะ

 

โชว์ความแรง

ของแก๊สนะจ๊ะคนดี

(ไม่ต้องโชว์แก๊สบุญตา กะ สิงห์ป้อม นะจ๊ะ)

 

แล้วก็โชว์ สีมือ การทำอาหารด้วย

แล้วให้เขาชิมด้วยนะจ๊ะ

ชิม สด สด

555

 

7.คุณโฆษิต

(ป.โท นิด้า สวทช.)

แนะนำการถางหญ้า ต้องใช้

คนระดับ ป.โท นะคร๊าบ 

 

8.ผศ.ดร.จุ๋ม

(ป.เอก ออสเตรเลีย อ.มหิดล นักวิจัย)

แนะนำการทำปุ๋ย ตรวจวัดค่า

คุณภาพปุ๋ยที่ได้

ต้องใช้ ป.เอก นักวิจัย ค๊า ถึงจะทำได้

 

9.ลุงบุญ

ช่างเสริฐ ช่างโป๊ก

(ทีมช่างบ้านสวนพีระมิด ป.18)

แนะนำชม

งานก่อสร้างพีระมิดทุกองค์

ว่า

สร้างอย่างไร ใช้วัสดุอะไร

ทำไมถึงสร้างเป็น

 

10.ลุงเบิ้ม

(วิศวะ ธรรมศาสตร์ ช่างจักรกล)

ช่างไฟ ช่างดูแลพื้นที่ทั่วไป

วิธีตัดหญ้าด้วยรถ

ด้วยเครื่อง แล้วนำหญ้า ที่ตัดได้

มาทำปุ๋ยหมักรดผัก ผลไม้

 

ลุงเบิ้ม

มีความสามารถรอบตัว

ดังนั้น

ให้พวกเราเตรียมบอกลุงเบิ้ม

ได้เลยว่า จะให้ลุงเบิ้ม

อยู่จุดไหน

(แต่บอกลุงเบิ้มพูดเสียงดังๆหน่อยนะจ๊ะ)

 

ใครคิดอะไรออก

ว่าควรให้ใครทำหน้าที่ใดอีก

ช่วยบอก ช่วยมานำเสนอ

ด้วยจ้า

 

หรือ

ใครมีจิตอาสา เสนอตัวเลยค่ะ

555 เราต้องช่วยกัน 555

ไม่ต้องรอแต่งตั้ง

นะจ๊ะ

บุญ ต้องแย่งกัน จ้า

ที่แต่งตั้งไปนั้น เป็นแนวทางจ้า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 21:11:23

แก้ไข

 
ความเห็นที่ 187 (1627847)
แจ้งลบความคิดเห็น

อาจารย์อุบลเก่งจังนะคะ วางตัวละคร คนบ้านสวนได้เหมาะเจาะงดงามดีจัง  สมแล้วที่เป็นครูบาอาจารย์ของพวกเรา   จิ๋มเองรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ได้เกิดมาในชาตินี้ พบท่านอาจารย์อุบล และลูกบ้านสวนทุกคน ไม่เสียชาติเกิดจริงๆ  ได้มาบำเพ็ญบุญ บารมีร่วมกับท่านทั้งหลาย ในบ้านสวนพีรามิด เพื่อประเทศชาติ และพระเจ้าอยู่หัวของเรานะคะ

ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณท๊อป และ ทุุกๆ ท่านค่ะ ตื่นเต้นจังเลย

ชัชวลี

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 22:00:50

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-05 10:40:31


ความคิดเห็นที่ 7336 (1627931)

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบลค่ะ


แหล๋น พร้อมทั้งลูกๆก็ขอมากราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์  และเหนืออื่นใดคือพระบารมีของพระศรีอาริยเมตไตรยที่พระองค์ทรงมีเมตตาสงเคราะห์ลูกหลานในยามคับขัน  ในบททดสอบอีกอย่างหนึ่งที่ได้จากบทเรียนนี้คือเรื่องของสติ และบทพิสูจน์อีกครั้งถึงพระบารมีของพระศรีอาริย์ฯ ว่าท่านมีจริง และที่ท่านได้ส่งกัลยาณมิตรทุกท่านที่สามีได้เอ่ยชื่อมาข้างต้น ผู้มากด้วยน้ำใจแสนงดงามมาช่วยลูกในยามคับขัน  

ลูกทั้งหลายขอกราบขอบพระคุณท่านงามๆสักสามครั้งค่ะ

กราบ กราบ กราบ   

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-05 11:31:13


ความคิดเห็นที่ 7337 (1628012)

รับทราบครับอาจารย์

ขอขอบคุณอาจารย์อุบลครับที่มอบหมายให้เป็นพรีเซนเตอร์การสร้าง

สมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา

ในวันเสาร์จะรีบบึ่งจากนครปฐมไปนครนยกให้เร็วที่สุดครับ

แต่วันศุกร์จะส่งศรีภรรยานำร่องไปก่อนนะครับ

ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์อุบลและครอบครัว  

และลูกบ้านสวนฯทุกคนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-05 21:44:55


ความคิดเห็นที่ 7338 (1628141)

โมทนาบุญกับทุกๆท่านในการเตรียมงานบวงสรวงพระศรีอาริย์

ยินดีกับอ.อภิชัย  ที่ได้รับมอบหมายจากท่านอ.อุบลให้เป็นฟรีเซนเตอร์ในการสร้างสมเด็จพระปฐมบรมธรรมบิดา สาธุๆๆ

****************************************************

เมื่อวานได้ไปไปรษณีย์คลองหก ลำลูกกาแนะนำป้าหงินแม่ค้ากล้วยแขกเรื่องรหัสลับจักรวาล และการสารภาพบาป   ผลคือ...ไม่ตอบรับค่ะ

ช่วงนี้ท้องฟ้าแปลกๆ ช่วงเย็นหลังฝนตกแดดแจ่มมากเลยค่ะ   ส่วนเน๊ตก็หลุดบ่อยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 14:24:21


ความคิดเห็นที่ 7339 (1628243)

-ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้รับมอบหมายงานจาก

                            ท่านอาจาร์ยอุบล  ด้วยค่ะ

                                   สาธุ    สาธุ   สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา กาลมัชฌิมา (jantira_123-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-07 10:41:59


ความคิดเห็นที่ 7340 (1628335)

 ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมมหาบุญใหญ่บวงสรวงพระศรีอาริย์ด้วยนะคะ สาธุ

ขออนุญาตเเจ้งเเทนเพื่อน  ซึ่งมีความศรัทธาท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดมากๆๆค่ะ

เเม้ไม่เคยดูรายการ  เมื่่อเเนะนำบอกบุญบ้านสวนครั้งใดเค้าก็จะร่วมบุญโดยทันทีเลยค่ะ สาธุ

 

บัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านนา

บัญชีเลขที่ 212-0-16993-4

โอนเงินร่วมบุญสร้างพระพุทธรูปชำระหนี้แผ่นดิน


1.ฐปนีย์ มหบุญพาชัย และครอบครัว 19999+1 เวลา 20.51 วันที่ 7/9/55

2.นายรุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น และครอบครัว 9999+1 เวลา 20.52 วันที่ 7/9/55

3.นายณัฐพงษ์ และนางธิติมา เสาวยงค์ 999+1 เวลา 20.54 วันที่ 7/9/55

ข้อความที่คุณฐปนีย์ พิมพ์ส่งมาให้ค่ะ

"  ขอกุศลนี้ช่วยดลบันดาลให้ลูกและครอบครัวอีกทั้งบริวารแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยพิบัติ

และภยันตรายใดๆทั้งปวง มีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง มีสติ สมาธิและปัญญา

มีเมตตามหานิยม เจริญด้วยลาภ ยศ สุขะ พละ

และถึงนิพพานในปัจจุบันและอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ สาธุ สาธุ "

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-08 02:20:45


ความคิดเห็นที่ 7341 (1628353)

ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ที่ได้ไปร่วมงานบวงสรวงพระศรีอาริย์ ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-08 10:13:26


ความคิดเห็นที่ 7342 (1628393)

โมทนาบุญกับทุกบุญค่ะสาธุๆๆ

เมื่อวานไปรับลูกที่มหาลัยราชมงคลคลองหก  ได้เจอกับน้องทองดี  เฮงบุปผา บ้านอยู่คลอง  8 เธอเป็นรปภ. อยู่ที่นั้น  คุยกันหลายเรื่อง   แล้วก็วกไปถึงเรื่องเชื่อแห่งกรรมไม่ ?    เชื่อ    และแล้วก็เข้าทางเราเลยถามว่ามีปัญหาอะไรให้ช่วยไหม?   ปวดหลัง      กรรมที่ทำให้ปวดหลัง  เช่น  ทำแท้ง  ตีหมา  ตีงู  ฯลฯ   อยากหายปวดหลังไม่   อยาก      ทำอย่างไร?  

เล่าความชั่วตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ถ้าเราบอกว่าเราทำอะไรบ้าง สารภาพบาป              (  ศีล  5  )  พูดไม่มากน้องก็โอเคค่ะ

ศีลข้อ 1. ทำแท้ง  พาเพื่อนไปทำแท้ง   ยุง ตีงู  ยุง  หอย  ปลา ตีหมา  ตีแมว

ศีลข้อ 2. ขโมยมะม่วง  ฝรั่ง    เงิน

ศีลข้อ 3.  เคยเป็นเมียน้อย  มีชู้  มีกิ๊ก

ศีลข้อ 4.  พูดหยาบ  เพ้อเจ้อ  พูดไร้สาระ  ใชสายตาจิกด่าคนที่ไม่ชอบ

ศีลข้อ 5. กินข้าวหมาก  เบียร์   คบคนชั่ว้ป็นมิตร

ผลกรรมทำให้ปวดหลัง   ลูกดื้อ   ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน   ไม่บรรลุธรรม

เมื่อสารภาพแล้ว  ดีขึ้น   ถ้ายังไม่หาย  แนะให้ใช้รหัสลับจักรวาล  อ.อุบล  ช่วยด้วย

ช่วยให้หนูหายปวดหลังด้วย  แต่ถ้ายังไม่หายแสดงว่ายังกรรมที่ยังสารภาพไม่หมด  พอดีดึกมากแล้วก็ให้เบอร์ไว้  รีบกลับบ้าน 

 ********************************************************

วันนี้ส่งลูกประมาณ  ตีห้า  ส่งลูกเสร็จเอาเงินฝากน้องวิ  50  บาท   และดอกสโนฝากน้องไปทำบุญที่บ้านสวนฯค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-08 19:38:13


ความคิดเห็นที่ 7343 (1628400)

ขออนุโมทนา

กับทุกท่านด้วยค่ะ

ที่ได้ร่วมสร้างบุญใหญ่ครั้งนี้

สาธุ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนากับ

คุณบุญภิบาล คงเขียว ด้วยค่ะ

เป็นไอเดียที่ดีมากเลยค่ะ เกดขอเอาไปใช้บ้าง

นะค่ะ ทุกวันนี้บอกตามตรง อยากจะบอกเรื่องบ้านสวนพีระมิด

กับหลายๆ คนมาก แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ได้แต่บอกแบบงง งง

แล้วต้องมาเรียงลำดับเรื่องใหม่ 5555+ ทำให้เค้างง

ไปด้วยก็เลยช่วยได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ส่วน

รหัสสวรรค์นั้นบอกอยู่แล้ว

เมื่อมีโอกาสเจอ

คนใหม่ๆ ค่ะ

ขอบพระคุณนะค่ะ

ขออนุญาติเอาไปใช้บ้างค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-08 22:57:45


ความคิดเห็นที่ 7344 (1628447)

 

ธัญญาภรณ์ขอโอนเงิน

ร่วมบุญสร้างพระพุทธรูปชำระหนี้แผ่นดิน

โดยนำเงินจากการใส่บาตรวิระทะโย

พร้อมด้วยน้องสาวชื่อวันนา โคตรหมอ


จำนวน 499 + 1 บาท

วันที่ 8/9/2012

บัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านนา

บัญชีเลขที่ 212-0-16993-4

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-09 21:47:24


ความคิดเห็นที่ 7345 (1628459)

ขออนุโมทนาบุญกับเพื่อนๆคุณครูมิ้ม 

พี่ตุ๊ก บุญภิบาล

และเจ๊สีนวล สาวฝรั่งเศส ด้วยนะค๊า

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-10 01:47:39


ความคิดเห็นที่ 7346 (1628473)

ขอร่วมโทนาบุญกับทุกคนด้วยค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-10 10:17:32


ความคิดเห็นที่ 7347 (1628530)

ก่อนที่ท่านอาจารย์จะตั้งกระทู้เป็นทางการ ผมขออนุญาติประชาสัมพันธ์ข่าวดีแก่ญาติธรรมและผู้สนใจทุกท่านให้ได้รับทราบและเตรียมตัวกันไว้ก่อนเลยครับ

กิจกรรม

ธรรมะบำบัดสัญจร

โรงแรม The traveller รัชดา ชั้น10

วันที่ 21กันยายน2555

ซึ่งครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของคณะศิษย์บ้านสวนพีระมิด นำโดย ดร.จิ๋ม จัดขึ้นโดยกราบเรียนเชิญท่านอาจารย์อุบลไปบรรยายธรรมะสัญจร

ในหัวข้อ

 

 

 

"ธรรมบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที"

และ

"เตือนภัยพิบัติขั้นวิกฤต"

สำหรับหัวข้อนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ผมและดร.จิ๋มได้เคยคุยกันไว้ ซึ่งงานธรรมะบำบัดสัญจรที่ ม.มหิดลที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย และได้พิสูจน์ต่อหน้านักวิทยาศาสตร์ ดอกเตอร์ แพทย์ พยาบาล วิศวกร นักวิจัย และผู้คนหลายสาขาอาชีพแล้วว่า

กฏแห่งกรรมนั้นมีจริง และส่งผลไม่เคยผิดตัวเลย เมื่อเรารู้เหตุ เราก็ต้องดับที่เหตุ ปัญหาต่างๆจึงจะคลี่คลายและหายไปได้

ซึ่งพวกเราก็ได้รับสัมผัสพระบารมีพระศรีอาริย์กันแบบเต็มๆไปมากมายหลายท่าน ทั้งที่ ม.มหิดล ที่บ้านสวนพีระมิด และล่าสุดในงานบวงสรวงอาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์มาสถิต ณ บ้านสวนพีระมิด ระหว่าง7-9กันยายนที่ผ่านมานี้เอง และแน่นอนในงานที่กำลังจะจัดขึ้นนี้ ท่านที่ต้องการชมสัมผัสพระบารมีพระศรีอาริย์ เตรียมตัวไว้ได้เลยครับ

ตลอดจนการเตือนภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งทางคณะศิษย์บ้านสวนฯได้ขอความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลได้เตือนภัยที่กำลังเกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นแก่ทุกคนที่สนใจ เพราะที่ผ่านมาผู้คนต่างพากันสนใจเรื่องภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือหนทางที่จะทำให้ภัยพิบัติไม่เกิดหรือเกิดขึ้นแบบเบาบาง ทำอย่างไร นี่คือสิ่งที่ทุกคนควรตระหนัก จึงได้ขอความเมตตาจากท่านอาจารย์ในครั้งนี้ด้วย

งานธรรมะบำบัดสัญจรที่โรงแรมเดอะเทรเวลเลอร์ จึงเป็นงานที่จะตอบโจทย์ปัญหาในชีวิตของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ การเงิน การงาน ความทุกข์อื่นๆ รวมทั้งการเตือนภัยพิบัติและหนทางแก้ไขอย่างแท้จริง

 

 

ารลงทะเบียน โปรดแสดงข้อมูลจริงทุกประการ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ตัวท่านเอง

 

 

 

การลงทะเบียนในเวปไซต์ (ทุกท่านต้องแจ้ง)

1.แจ้งชื่อ-สกุล คำนำหน้า ยศ ให้ชัดเจน ไม่อำพราง

2.แจ้งที่อยู่ปัจจุบัน โดยเขียนเฉพาะจังหวัด

3.แจ้งเฉพาะตำแหน่งหน้าที่การงาน

4.แจ้งเฉพาะบัตรประชาชน/บัตรข้าราชการ ออกให้โดย....

5.โรคประจำตัว หรือ อาการที่ต้องการบำบัด เช่น ปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา หรือ อื่นๆ หรือ มีปัญหาครอบครัว การเงิน ฯลฯ ที่ต้องการบำบัด ระบุให้ชัดเจน

หลักฐานการสมัครเข้าร่วมงานธรรมะบำบัดสัญจร

1.สำเนาบัตรประชาชน/บัตรข้าราชการ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง และเขียนคาดกลางระบุให้ชัดเจนว่า "ใช้สมัครร่วมงานพิธีบวงสรวงฯพระศรีอาริย์เท่านั้น

2.รูปถ่าย 2นิ้วขึ้นไป 1รูป(ถ่ายไว้ไม่เกิน6เดือน)

ด้านหลังสำเนาบัตรประชาชนให้เขียนรายละเอียดดังต่อไปนี้ให้ครบถ้วน หากไม่ครบถ้วนจะถือว่าการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์

การลงทะเบียน โปรดแสดงข้อมูลจริงทุกประการ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ตัวท่านเอง

1.แจ้งชื่อ-สกุล คำนำหน้า ยศ ให้ชัดเจน ไม่อำพราง

2.แจ้งที่อยู่ปัจจุบัน และสามารถติดต่อได้จริง

3.แจ้ง สถานที่ทำงาน ตำแหน่งงาน

4.แจ้งหมายเลขบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ ระบุด้วยว่าออกให้โดย

5.โรคประจำตัว หรือ อาการที่ต้องการบำบัด เช่น ปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา หรือ อื่นๆ หรือ มีปัญหาครอบครัว การเงิน ฯลฯ ที่ต้องการบำบัด ระบุให้ชัดเจน

 

ดังนั้นหากท่านใดที่ยังไม่ส่งหลักฐานมาถึงบ้านสวนพีระมิด ทางเราขอสงวนสิทธิ์ไม่รับลงทะเบียนไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆทั้งสิ้น และผู้ที่จะมาร่วมงานฯต้องเป็นผู้ที่มีรายชื่อจากการประกาศของบ้านสวนฯเท่านั้น

ดังนั้นขอให้ทุกท่านที่ตั้งใจจะมาร่วมงานฯในครั้งนี้รีบลงทะเบียนและส่งเอกสาร ข้อมูลและหลักฐานต่างๆมาที่บ้านสวนฯโดยเร็วที่สุดนะครับ

 

 

เมื่อลงทะเบียนในกระทู้ที่ท่านอาจารย์อุบลตั้งขึ้นมาเสร็จแล้ว ให้รีบส่งหลักฐานและข้อมูลทั้ง5ข้อข้างต้นนั้นโดยเขียนด้านหลังสำเนาบัตรประชาชนและแม็กรูปไว้ที่มุมขวาบนของสำเนาบัตรประชาชน และต้องส่งมาถึงบ้านสวนพีระมิดให้เร็วที่สุด

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-10 16:03:40


ความคิดเห็นที่ 7348 (1628604)

ขออนุโมทนา

กับพี่ธนา และ ดร.จิ๋ม

ด้วยค่ะ ที่นำข่าวสารดีๆ มาบอก

ลูกหลานบ้านสวนอีกแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-10 23:47:16


ความคิดเห็นที่ 7349 (1628615)

พี่น้องด็อกเตอร์นักบุญ

อย่างพี่จุ๋มและพี่จิ๋ม เนี่ย

สร้างแต่บุญใหญ่ๆทั้งนั้นเลยนะคะ

 

และครั้งนี้ขออนุโมทนา

กับจิตอันเป็นกุศลของคุณพี่จิ๋ม ด้วยนะคะ

ที่มาเป็นแม่งานในการจัด

ธรรมะบำบัดสัญจร ครั้งพิเศษนี้

 

แล้วก็อนุโมทนากับข่าวดีๆที่พ่อใหญ่ธนา

รีบมาแจ้งให้ทุกคนได้รับทราบ

อย่างรวดเร็วด้วยค๊า สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 04:37:57


ความคิดเห็นที่ 7350 (1628624)

โมทนาบุญกับคุณธนา และพี่จุ๋ม พี่พี่จิ๋ม  ที่เป็นแม่งานธรรมสัญจรในครั้งนี้ รวมศิษย์ ลูกหลานบ้านสวนฯ

ว่าแต่โรงแรมนั้นอยู่แถวไหนกันละ?

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 06:06:14


ความคิดเห็นที่ 7351 (1628627)

ขออนุโมทนากับ ดร.จิ๋ม

ที่เป็นแม่งานในการจัดธรรมบำบัดสัญจรครั้งต่อไป

 

เห็นด้วยกับคุณชนิดาค่ะ

ที่ท่าน ดร.ทั้งสองมีแต่บุญใหญ่มาให้

พวกเราได้ร่วมยินดีมาโดยตลอด

 

*********

 

และ

ขออนุโมทนากับคุณธนา

ที่กรุณาส่งข่าวล่ามาเร็ว

ให้พวกเราได้ทราบกันด้วยจ้า

 

สาธุค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 07:13:43


ความคิดเห็นที่ 7352 (1628629)

ขออนุโมทนากับ ด๊อกเตอร์จุ๋ม ด๊อกเตอร์จิ๋ม ในการเป็นแม่งาน จัดงานธรรมะบำบัดสัญจร ครับ

ขออนุโมทนาบุญ กับ คุณธนา ที่นำข่าวบุญใหญ่ มาแจ้ง ครับ

ขออนุโมนทนาบุญ กับ เพื่อนๆพี่ๆ ทุกท่าน ที่ร่วมแรงกายและปัจจัยเพื่อ บ้านสวนพีระมิด ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 08:18:17


ความคิดเห็นที่ 7353 (1628642)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 10:14:43


ความคิดเห็นที่ 7354 (1628645)

แม่งานตัวจริง

ของธรรมสัญจรครั้งนี้

ศุกร์ 21 ก.ย.55 ที่ กทม. คือ

 

1.ผศ.ดร.จิ๋ม

(สภาบันวิจัย ปตท.)

 

2.พ่อใหญ่ธนา

(บ.โทรคมานาคมระดับโลก)

 

เขาห่วงคนกรุงเทพฯ

กลัวว่า ภับพิบัติก็ใกล้ ถึงตัวแล้ว

แต่คนกรุงเทพ ยังไม่รู้ตัวกัน

สักเท่าไหร่ เขาอยากให้

คนรอดเยอะๆ ว่างั้นเถอะ

เลยควักกระเป๋ากันเอง

 

เห็นดร.จิ๋มบอกว่า

ถ้าจัดใน ปตท. เขาไม่ให้คนนอกเข้า

แต่ ดร.จิ๋มบอกว่า

คนใน ปตท.ออกมาข้างนอกได้

อีกอย่าง

คนจัดใน ปตท.ชอบพระ

แต่

คนฟังอย่าง ดร.จิ๋ม

ชอบชี อ่า ล้อเล่นนะ

 

คือว่า

ชอบของจริงเป็นๆ

จะ จะ สด สด

เห็นผลทันที ไม่ใช่แค่

คำสอน

แต่คนฟังเหมือนเดิม

ว่างั้นเถอะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 10:56:04


ความคิดเห็นที่ 7355 (1628648)

จริงๆแล้ว

การจัดธรรมะสัญจร

นอกบ้านสวนนั้น ในความรู้สึกของ

พวกเราลูกบ้านสวน

ที่เคยเห็นเหตุการณ์ในบ้านสวนมาแล้ว

เปรียบเทียบกับ

เหตุการธรรมสัญจร นอกบ้านสวน

 

นอกบ้านสวน

เปรียบได้กับขั้นอนุบาล 1

เพราะ

การหายปวด โน่น นี่ นั่น

เราเห็นกันชินแล้ว

 

แต่ก็เอาเถอะ

คนนอกบ้านสวนคงไม่เคยเห็น

ต่อหน้าต่อตา หรือว่า

กับตัวเอง

 

ถ้าเป็นการ

ดึงคนเข้าสู่ธรรมะ

ก็ยินดี

 

แต่ถ้า

จัดเพื่อ รักษาโรค

อ.อุบล

ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ

เมื่อป่วย

ควรไปหาหมอ ไปโรงพยาบาล

คลีนิค ไม่ใช่ มาให้ อ.อุบล รักษา

 

เมื่อไหร่ที่

อ.อุบล มุ่งรักษาโรค

หรือ

ใครที่มาหา เพื่อรักษาโรค

ก็เท่ากับว่า

อ.อุบล ส่งเสริมให้คนทำชั่ว ทำบาป

 

คนที่มาหา

ไม่มีสำนึกในบาปบุญคุณโทษ

กฏแห่งกรรม

 

เพราะ

ไม่สนใจว่าตัวเอง

ทำอะไรมา ทำไมถึงเป็น

ทำไมถึงป่วย ทำไมถึงจน ทำไมถึงทุกข์

 

แต่

ที่ อ.อุบล ทำอยู่

ต้องการให้คนรู้ว่า ที่คุณป่วย

เป็นโรคต่างๆ หรือ ทุกข์สารพัดทุกข์นั้น

เพราะ

คุณทำอะไรใครเขาไว้มั่ง

ถ้าคุณไม่สำนึก

ก็ไม่มีทางหายได้หรอก

แม้ว่า

คุณจะมาหา อ.อุบล ก็ตาม

 

บางคน

ก็หายชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น

เพราะ

เจ้ากรรมเขารับบุญ อ.อุบล แต่ว่า

ตัวคุณไม่สร้างบุญอะไรเลย

หรือ

บุญที่สร้าง ก็น้อยนิด

ไม่พอให้เขากินอิ่มได้ เขาจึง

มาเตือนอีก

 

บางคน

จะตั้งหน้าตั้งตา

ให้แต่ อ.อุบล ช่วยอย่างเดียว

ไม่เคยคิดช่วยตัวเองเลย

 

อย่างต้นอ้อ

อ.อุบล ก็พยายามช่วย

ทุกวิธี ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า

คนที่จะช่วยต้นอ้อ ได้มากที่สุด

คือ

พ่อ แม่ของเขาเอง

 

อย่างพ่อเขา

เลี้ยงปลา ก็เคยบอกแล้ว

ว่า

ถ้าคุณไม่ทำเพื่อลูก

ใครจะทำ

 

ระหว่างปลากับลูกรัก

เลือกปลา

 

ก็ไม่รู้ว่า

จะช่วยยังไงอีกแล้ว

ทั้งที่ได้เงินทีเป็นล้านๆ

แต่สุดท้าย

ก็ไม่เหลือ ชักหน้า ไม่ถึงหลัง

แล้วลูกก็ยังไม่หายสนิท

 

ที่ประคับประคอง

มาได้ถึงทุกวันนี้ ก็ด้วยบุญ

ที่มาทำในบ้านสวน

บุญ อ.อุบล ที่พยายามช่วย

 

แต่พ่อ

ไม่ได้พยายามช่วย

ลูกตัวเองเลย

เฮ้อ

ต้นอ้อ นะ ต้นอ้อ

ทำไมพ่อหนูรักปลามากกว่า

รักหนู ก็ไม่รู้นะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 11:08:00


ความคิดเห็นที่ 7356 (1628685)

ขออนุโมทนาบุญกับ ดร. จุ๋ม  ดร.จิ๋ม  และพี่น้องชาวบ้านสวนด้วยค่ะ  รวมทั้งธรรมทานของท่านอาจาร์ยอุบลและทุก ๆ ธรรมทานค่ะ

                  สาธุ     สาธุ      สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา กาลมัชฌิมา (jantira_123-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 14:12:21


ความคิดเห็นที่ 7357 (1628694)

เมื่อวานได้เตือนคนที่มาตกปลาหน้าบ้านว่าอย่าไปตกเขาถ้าเราเป็นปลาบ้างเราจะรู้สึกอย่างไร ผู้ชายคนนั้นไม่นานก็ไปที่อื่นเขามองหน้า  ส่วนหลานของป้าใกล้บ้าน  วันนี้เลยเรียกป้ามาบอกว่าให้เตือนหลานให้หน่อย แล้วก็เล่าถึงเรื่องภัยพิบัติมันใกล้เข้ามาเต็มทีแล้วถ้าเราอยากอยู่รอดปลอดภัยเราควรรักษาศีล 5  ให้บริสุทธิ์  ยามเกิดภัยมาถ้ายังทำผิดศีลอยู่สัตว์ที่เรากินและเราฆ่าเขาจะมาทวงชีวิตของเขาคืนเขาจะมาเอาชีวิตเราคือ...ตายหยังเขียดแน่นอน ประชากรก็จะเหลือ 30%   หรือ สมร่มโพธิ์ศรี  คือ ชาติ  ศาสนา

พระมหากษัตริย์  เท่านั้น

************************************

ได้ไปทำกุญแจเลยพูดถึงเรื่องเรื่องภัยพิบัติและการที่รอดปลอดภัยให้หมอนวดที่บิ๊กซี  และคนที่ทำกุญแจฟัง รวม 6 คน  มีทั้งคนปฎิเสธว่าเขาทำไม่ได้และก็ยังมีคนฟังแล้วไม่ปฏิเสธก็มี  รวมปฏิเสธ 2 คน เหลือ สี่คนก็ลยพูดให้ฟังต่อก่อนจะเล่าเรื่องภัยพิบัติก็เล่าความชั่วของตัวเองให้พี่ๆเขาฟังว่าตัวเองก็เลวทำผิดศีล 5 มาทุกข้อแต่ก็พยายามกลับตัวกลับใจปรับเปลี่ยนตัวเองและพร้อมจะเอาตัวเองเป็นธรรมทาน  มามืดอยู่แล้วจะไม่ขอกลับสว่างบ้างเพราะแค่ทุกวันนี้ก็ทุกข์พอแล้วไม่รู้ว่าจะเกิดอีกทำไม   แล้วสุดท้ายก็บอกพี่ๆว่าถ้าใครอยากจะสารภาพบาปก็ได้นะ กับจี้สฟริ้งซ์  คืออภิญญาใหญ่  ของพระพุทธเจ้าอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว......แหละแล้วไม่มีใครเลยแต่ก็ไม่เป็นเราก็กลับบ้านเรามานั่งเขียนธรรมทานของเราดีกว่า เราได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้วแต่คุณไม่ให้โอกาสตัวเองช่วยไม่ได้ค่ะ

********************************
แล้วก็ตามคุณสะอาด  เพช็รน่วมที่สารภาพบาปมา  เป็นไงบ้าง  ตอบ..เป็นอย่างงั้นแหละ  ดูอาการแล้วจะทุกข์กว่าเก่า เพราะเขาไม่สำนึกจริงแค่อยากหาย อยากให้สามีมาช่วยทำมาหากิน

น่าสงสารจัง แล้วย้อนมาดูตัวเราอีดครั้งเราต้องทำให้ดีกว่าทุกวัน

กราบขอบพระคุณในความกรุณาของครอบครัวศุภาเดชภรณ์  เทวดาที่รักษาตัวท่านอ.อุบล  

ท่านอ.มงคล  และน้องท้อป

กราบ     กราบ   กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 14:39:57


ความคิดเห็นที่ 7358 (1628727)

ขออนุโมทนากับท่านดร.ทั้งสองและคุณธนาด้วยนะคะ  ฟังแล้วก็อยากไปจังเลย แต่ก็เป็นวันศุกร์  แต่ก็ได้บอกญาติๆที่ กทม. แล้วหละเผื่อเค้าอยากไปร่วมด้วย  ดีใจกับชาวกทม.จังเลยที่จะได้รับทราบสิ่งดีๆจากท่านอ.อุบล ทั้งเรื่องกฏแห่งกรรมและภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น 

อนุโมทนา สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 15:59:40


ความคิดเห็นที่ 7359 (1628734)

คุณบุญภิบาลคะ

ลองไปอ่านวิธีการช่วยคน

ในกระทู้ จี้องค์เทพสฟิงซ์ดีอีกทีนะคะ

แล้วดูว่า คนที่เขาช่วยคนได้สำเร็จ

เขาทำอย่างไรเริ่มต้นอย่างไร

 

ไม่ใช่อยู่ๆ จะไปถามเค้าว่า

ใครอยากสารภาพบาปบ้างก็ว่ามา

เขาคงหาว่าคุณเพี้ยนแน่ๆ

 

เพราะ

ไม่มีที่มา ที่ไป

ลองไปอ่านของคุณก๊อตดูก็ได้นะ

เขาเริ่มยังไง พูดยังไง

นะจ๊ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 16:13:29


ความคิดเห็นที่ 7360 (1628739)

ธรรมบำบัด+เตือนภัยพิบัติสัญจร ที่ กทม.ศุกร์ 21 ก.ย.55
แจ้งลบกระทู้


ผศ.ดร.จิ๋ม + คุณธนา

ได้มีมุทิตาจิต

มาขอ

เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม

ธรรมบำบัด

สัญจร ที่ กทม.

เพื่อ

อยากให้พี่น้องชาว กทม.

ที่มีความเสี่ยงสูง

ต่อ

ภัยพิบัติที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

และ

ชาว กทม.

จะได้รับผลกระทบมาก

 

ทั้งสองท่าน

เห็นว่า ไม่มีสิ่งใด ที่จะช่วย

ระงับยับยั้ง ภัยพิบัติ

ครั้งนี้ได้

 

ตลอดจน

เห็นว่า พี่น้อง ชาว กทม.

ล้วนมีปัญหา สุขภาพ

เจ็บป่วย ยากจน มีทุกข์

แล้วยังหาทางดับทุกข์ไม่ได้

กันมากมาย

 

ด้วยความที่ ดร.จิ๋ม

ซึ่งเป็นนักวิจัย ของ สถาบันวิจัย ปตท.

ได้รับสัมผัสรสพระธรรม

มาแล้วด้วยตัวเอง

 

จากโรค โปลิโอ กระดูกคด

ขาเดินไม่ปกติ ปวดหลัง ไหล่

เมื่อได้รับ

ธรรมะ และ สร้างบุญ

แก้ที่เหตุ

อาการต่างๆ ดีขึ้น และ หายได้

เดี๋ยวนี้ เดินตรง

เมื่อก่อนเดินขาบิดข้างหนึ่ง

อาการปวดดีขึ้นมาก

ทั้งที่ คุณพ่อ คุณแม่ เป็นหมอ

ตัวเอง จบ ดร. มีเงิน

แต่

ไม่สามารถช่วยให้พ้นทุกข์ได้

แต่บุญ ช่วยได้จริง

 

ส่วนคุณธนา

เคยได้รับอุบัติเหตุขาหัก

กระดูกผิดรูปเช่นกัน

ไม่สามารถนั่งสามาธิได้

ขาชี้ข้างหนึ่ง

เวลาเดิน ขาเป๋ ลาก

 

หลังจากมาบำบัด

ด้วยธรรมะ ขาของคุณธนา

หายได้ในพริบตา

 

อันที่จริง

คุณธนา เป็นวิศวกร

เงินเดือนสูง ความรู้ก็สูง

แต่ไม่สามารถใช้

ทั้งความรู้ และ เงินที่มีอยู่

รักษาขาตัวเองได้

 

แต่บุญ

กลับช่วยได้เป็นอัศจรรย์

ขาคุณธนา กลับมาตรงเข้ารูป

เดินตรง นั่งสมาธิได้

ในพริบตา

 

ด้วยเหตุนี้กระมัง

ทำให้

ทั้ง ดร.จิ๋ม และ คุณธนา

คิดถึงหัวอกคนอื่น

ที่ทุกข์

เหมือนอย่างที่ตัวเองเคยทุกข์

 

แต่ตัวเอง

พ้นทุกข์มาได้แล้ว

จึงอยากให้ พี่น้อง ที่อยู่ กทม.

ได้มีโอกาส เหมือนตัวเอง

และ

รู้ว่าภัยพิบัติใหญ่

ใกล้เวลาแล้ว ถ้าพี่น้อง

ยังไม่รู้วิธีดับทุกข์

ก็คงจะมีความเสี่ยงสูงต่อการ

เผชิญภัยพิบัติ

 

ไม่ใช่แค่น้ำท่วม กทม.

แต่มันจะยิ่งกว่านั้น

 

ยิ่ง

ได้สัมผัสพระบารมี

พระศรีอาริย์

ทั้ง ดร.จิ๋ม และ พ่อใหญ่ธนา

ก็ยิ่งคิดถึงพี่น้องชาวไทย

ที่ไม่มีโอกาสได้มา

บ้านสวนพีระมิด

 

ถึงกับ

ยอมลงทุนควักกระเป๋า

จ่ายค่าโรงแรมเอง

กันสองคน

 

ขอให้ อ.อุบล ช่วยไป

แสดงธรรมบำบัด

และ

เตือนภัยพิบัติหน่อยได้ไหม

 

เอ

เอาถึงขั้นเตือนภัยพิบัติ

ขั้นวิกฤติเลยเหรอ

ปกติ

จะเตือนแต่คนในเท่านั้น

คือ

คนที่เขาศรัทธา ที่มาหาจริงๆ

ส่วนคนทั่วไป ไม่อยากเตือน

เคยเตือนในรายการ

ทีวี.มาแล้ว

 

ดร.อาจอง ท่านก็เตือน

ดร.เทพนม ท่านก็เตือน

ใคร ต่อ ใคร ก็เตือน

 

คราวนี้

จะให้ อ.อุบล เตือน

แน่ใจนะ ว่าทนฟังกันได้

 

เพราะ

อ.อุบล เป็นคน พูดตรง

ไม่เกรงใจใคร

 

ถ้าอยากฟัง

ก็ตามใจ เมื่อไหร่ ที่ไหน

พ่อใหญ่ธนา ดร.จิ๋ม

 

แล้วแต่วัน อ.สะดวกครับ/ค่ะ

 

งั้นเอาศุกร์

ที่ 21 ก.ย.55 ดีไหม

เพราะถ้าช้ากว่านี้ พี่น้อง

ชาว กทม.จะเจออะไรมั่งก็ไม่รู้

 

ปีที่แล้ว

ลูกบ้านสวน ใน กทม.

รอดจากน้ำท่วมกันได้หมด

มีบางราย ที่เจอน้ำ

เพราะ

อยู่ท่ามกลาง แหล่งน้ำท่วม

และ

ไม่รักษาศีล ไม่เปลี่ยน

แต่ยังดี

ที่ไม่โดนเยอะเหมือนคนอื่น

 

พ่อใหญ่ธนา

คงห่วง พี่น้อง คน กทม.มาก

 

ส่วน ดร.จิ๋ม

ย้ายมาอยู่ นครนายกแล้ว

ก็ยังห่วงญาติพี่น้อง

เพื่อนฝูงอยู่ดี

 

เอาเป็นว่า

ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่

แสดงธรรมะบำบัดอย่างเดียว

ซะแล้วซี

 

ดูเหมือนจะ

3 รายการ

เลยนะ ดูแล้ว

 

1.แสดงธรรมบำบัด

แบบเห็นผลฉับพลันทันที

 

2.ชมบารมีพระศรีอารย์

 

3.เตือนภัยพิบัติ

 

ส่วนสถานที่นั้น

ให้พ่อใหญ่ธนา หรือ

ใครก็ได้มาบอกรายละเอียด

เรื่อง วันเวลา อีกทีนะจ๊ะ

 

ส่วนเงื่อนไข

การสมัคร ตอนนี้

ให้มาลงชื่อในเวปไซด์นี้ก่อน

 

 

ส่วนคนที่

เข้าเวปบ้านสวนไม่ได้

ให้สมัครที่ เฟสบุ๊ค บ้านสวน

เดี๋ยวคงมีคนก๊อปมาเอง

 

ใครจะไป

ก็มาลงชื่อที่กระทู้นี้ก่อนนะจ๊ะ

 

1.ชื่อ-สกุล มีคำนำหน้านาม

ไม่ปิดบัง

 

2.วุฒิการศึกษาสูงสุด

 

3.ตำแหน่ง - ที่ทำงาน

 

4.จังหวัดที่อยู่

 

5.ปัญหาที่ต้องการบำบัด

(บอกเท่าที่ต้องการบำบัด)

 

เดี๋ยวจะมาบอกเรื่อง

การส่งเอกสาร

ต่อจ้า

 

 

ให้ตามไปลงชื่อ

ที่กระทู้ที่ตั้งใหม่นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 16:23:41


ความคิดเห็นที่ 7361 (1628742)

 ขออนุโมทนากับ ดร.จิ๋ม ดร.จิ๋ม และพี่ธนา ด้วยนะครับ ที่เป็นแม่งาน เรียนเชิญท่านอาจารย์อุบล จัดกิจกรรมธรรมสัญจรในครั้งนี้ เพื่อให้ธรรมทาน กับชาว กทม. ในครั้งนี้ด้วยนะครับ สาธุ

***

รบกวนคุณจันทิราช่วยซ่อน อีเมลด้วยนะครับ

ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-11 16:26:58


ความคิดเห็นที่ 7362 (1628833)

รับทราบค่ะท่านอ.อุบล  หนูจะไปอ่านในกระทู้จี้สฟิ้งส์อักครั้งค่ะเพื่อทำความเข้าให้มากกว่านี้ค่ะ

ขอบพระคุณเจ้าค่ะที่กรุณาเมตตาหนูค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-12 07:35:34


ความคิดเห็นที่ 7363 (1628918)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม และพี่ธนาคะ

ขออนุญาติบอกข่าวเพื่อน ๆ ที่อยากมาร่วมงานค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-12 15:30:22


ความคิดเห็นที่ 7364 (1629235)

วันนี้ได้ใช้จี้ รักษาอาการรุ่นน้องที่ทำงาน ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน

คุยกันโดยให้เขาสารภาพผ่านโปรแกรมแชตของที่ office 

โดยไม่ต้องมาคุยกันแบบต่อหน้า

ว่าได้ฆ่ามด ด้วยการชอบบี้ที่หัวมด ให้มันแตกดังแป๊ะๆ 

เค้าบอกว่าถ้าไม่ทำ มดก็กัดเรา 

ก้อยก็ขอให้เขาเลิกทำ มดแค่กัดเรา ไม่จำเป็นต้องถึงกับฆ่า 

ถ้าอยากหายก็ขออโหสิเขา ตั้งใจว่าจะไม่ทำอีก และอุทิศบุญให้มด

ไม่ถึง 5 นาที เขาก็หายจากการปวดไมเกรนเลย

และถ้าไม่อยากกลับมาปวดอีก ก็ห้ามกลับมาทำอีก

เค้าก็ถามว่าเป็นไปได้ไง ก้อยบอกไปว่า "เรามีของดี" อิอิอิ

และถ้าอยากจะหายจากโรคไหน ก้อยรับปรึกษาทุกโรคจ้า

จนเขาแซวว่า หมอก้อย  555+

ท้ายสุดได้ฝากรหัส "อ. อุบลช่วยด้วย" ให้เขาไปด้วย

วันนี้รู้ดีใจ และภูมิใจ ที่ได้ช่วยเพื่อนร่วมโลกให้พ้นทุกข์ได้ค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 17:38:12


ความคิดเห็นที่ 7365 (1629298)

เห็น

คุณศรี

เข้ามาเขียนพอดี

อ.กำลังนึกถึง และ พูดถึง

คุณศรีอยู่พอดี

 

เรื่อง

การทำงานในครัว

เป็นผู้ช่วยแม่ครัว เพราะ

อ.อุบล

ต้องหาผู้ช่วยแม่ครัวให้คุณแมว

และคุณอัง ด้วยตัวเอง

 

เนื่องจากเจ้าตัว

ทั้งสองคนไม่มีเวลาเลือก

ด้วยเห็นว่า แต่ละสัปดาห์

คนที่น่าจะเป็นผู้ช่วยแม่ครัว

ไม่ได้มาทุกสัปดาห์

 

อ.อุบล

เห็นคุณศรี

ช่วยงานในครัวมานาน

ก็เลยพยายามติดตามผลงาน

ของคุณศรีไว้

มาตลอดเวลายาวนาน

 

จนสุดท้าย

สัปดาห์ที่ผ่านมา

คุณศรีได้มาอยู่สร้างบุญ

ด้วยแรงกาย

ยาวนานกว่าคนอื่น

คือ

กลับวันอังคาร

เมื่อวันก่อนนี้เอง

 

ดังนั้น

การอยู่วันที่คนอื่น

กลับไปแล้ว ก็ได้เห็นผลงาน

คุณศรีชัดเจน

ว่าคุณศรีทำอะไรเป็นมั่ง

ทำอะไรได้มั่ง

 

ก็เลยมาสรุปให้คุณศรี

ได้รับทราบ จะได้เป็นแนวทาง

กับคนอื่นต่อไป

ว่า

การเข้ามาบ้านสวน

เรามาเพื่ออะไรกันแน่

เรามาทำบุญ ซึ่งแปลว่า ความดี

แล้วมีบาปปนหรือไม่

 

------------

เมื่อวานซืน

ต้องขอบคุณคุณศรี

ที่ทำผัดมะขือยาวมาให้ อ.อุบล ทาน

ซึ่ง อ.อุบล ทานง่าย

ไม่ติดรสชาด

แต่

ไม่ทานสารเคมี ผักฉีดยา

หรืออาหารที่รสจัดจ้านจนเกินเหตุ

 

แล้วบุญตา

ก็มาถาม อ.อุบล ว่า

ทำไม อ.ไม่ทานแกงส้มคะ

 

ชิมแล้วจ้าบุญตา

อ.ทานไม่ไหว มันเปรี้ยวจน

เข็ดฟัน

 

ก็เลยสอนวิธีทำแกงส้ม

ให้บุญตาไป

 

บอกบุญตาว่า

แกงส้ม ที่ อ.อุบล เคยทำมา

นะบุญตา อ.อาจจะเป็นคนโบราณนะ

แม่ อ.สอนให้ใช้ น้ำมะขามเปียก

ใช้น้ำตาลปี๊ปตัดนิดหน่อย

เพื่อให้รสกลมกล่อม

ไม่ต้องเปรี้ยว

แผด

 

แต่แกงส้มบุญตา

มันเหมือนกับใส่น้ำส้มสายชู

หรือไม่ก็น้ำมะนาว

มันเปรี้ยวจน ทนไม่ไหว้

 

ถ้ามันพอทานได้

อ.จะทานทั้งหมด เพราะว่า

เสียดายของ

 

แล้วทำเยอะไหมจ๊ะ

 

หม้อหนึ่งค่ะอาจารย์

 

แล้วบุญตาเอง

ทานรึเปล่าจ๊ะ

 

ไม่ทานค่ะ

 

อ้าวทำไมล่ะ

แล้วพวกช่างพวกลุงเบิ้มล่ะ

ทานรึเปล่า

 

ไม่ทานค่ะ

 

บุญตารู้ได้ไงว่าไม่ทาน

 

หนูไม่เห็นพร่องเลยค่ะ

 

อ้าว

ทำแกงตั้งหม้อหนึ่ง

นึกว่า อ.ไม่ทานกันแค่ 2 คน

คนอื่นทานกันได้

เพราะชอบเปรี้ยวจี๊ดแบบนี้

ก็ไม่เป็นไร

 

เดี๋ยวต้มไข่ให้ อ.สัก 2-3 ฟอง

สองคนก็ทานกันได้

แล้วก็พริกป่น ซีอิ๊วขาว

ถั่วพลูสดๆ แค่นี้ ก็อร่อยแล้ว

บุญตาจ๋า

 

ทุกอย่างที่เราใช้ทำ

กว่าจะเป็นแกงส้มหม้อนี้

เราใช้เงินทองมากพอควร

 

ตั้งแต่แก๊ส

อย่าคิดว่าไบโอแก๊ส

ไม่เสียเงิน นะจ๊ะ

ดร.จิ๋มจ่าย หลายแสน นะจ๊ะ

เป็นคนโหลดขยะเอง

คนใช้แก๊ส อย่าคิดว่า ใช้ตามสบายนะ

มันเป็นความสบาย

บนความลำบากของ ดร.จิ๋ม ดร.จุ๋ม

และทุกคนที่มีส่วนร่วมด้วยนะ

เวลาขัดข้องที เดือดร้อนกันหมด

 

แล้วเครื่องปรุงแต่ละอย่าง

ไม่ว่าซ๊อส น้ำตาล มะนาว มะขาม

ผัก เครื่องแกง ก็เสียเงินนะ

กว่าจะได้มา

 

แล้วน้ำที่ใช้แกง

ก็ขุดบ่อ 4 แสนกว่านะ

กว่าจะได้น้ำ

เอาน้ำขึ้นมาใช้ ก็ใช้ปั๊ม ใช้ไฟ

ใช้ถังเก็บน้ำอีกนะ

เงินทั้งนั้นนะ

 

ล้างหม้อ ที่ใส่แกง

ก็ใช้น้ำ น้ำยาล้างจาน ฟองน้ำ

เวลาทำงาน อ.ก็จ่ายเงินนะ

 

ผักที่ใช้แกง ก็เสียทรัพย์นะ

อย่าคิดว่าผักบ้านสวนฟรีนะจ๊ะ

ลงทุนเป้นล้านนะ

กว่าจะได้ผักมากินเนี่ย

 

ดังนั้น

ทำทุกอย่างต้อง

ระมัดระวังทั้งหมด

การทำอาหารแล้ว คนทาน

ไม่ได้ทาน ทานไม่ได้ จะด้วย

สาเหตุใดก็แล้วแต่

คนทำ

เป็นผู้ต้องรับผลกรรมนะ

 

เพราะ

เข้าข่าย การผิดศีล

ข้อ 2 อทินนา ลักทรัพย์

ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์

ทำให้ลำบากยากจน มีปัญหา

ทางการงาน การเงิน

ไม่มีสภาพคล่อง

 

รวมไปถึง

ปัญหาจิตใจ ความไม่สำเร็จ

ในทางธรรมด้วย

 

บุญตา

ยืนฟัง ทำหน้า เจี๋ยมเจี้ยม

อาจารย์ขา อันที่จริง

หนูผิดเองค่ะ

หนูขอรับผิดเรื่องแกงส้ม

 

บุญตา

การขอรับผิด

ไม่อาจ บันเทากรรม

ได้ทั้งหมด เพราะ ทรัพย์เสียไปแล้ว

 

คราวนี้

ก็เลยพูดยาวเลย

ถึงผลกรรมเย็น จากการ

ทำอาหาร แล้ว ทำให้ผู้เข้ามา

ร่วมทำ มีส่วน ทำให้เกิดความเสียหาย

ได้รับผลกรรม คือ ความยากจน

ไม่หลุดพ้นเสียที

 

บุญตา

ถาม อ.อุบล หลายครั้ง

ว่า ยายเตี้ย อยู่บ้านสวนตั้งนาน

กลับไป นึกว่า ชีวิตจะดีขึ้น

 

กลับมาทำบุญอีก

ก็ไม่ดีขึ้น กลับแย่กว่าเดิม

คราวนี้บุญตาจะได้รู้

ว่าทำไม กรรมมันไม่หลุดพ้น

 

ตัวบุญตาเอง

ทำไม คนยืมเงินไป

ไม่มีใครใช้หนี้สักคน แล้วก็

มีปัญหา พึ่งมาหลุดหนี้ได้

ตอนมารู้จักบ้านสวน

ก่อนมาอยู่กับ อ.

 

ก็เกิดจากผลกรรม

ที่มาทำให้เขตบุญเสียทรัพย์

แต่ละวัน จากการทำอาหารบ้าง

ทำข้าวของพังเสียหายบ้าง

จากการเข้ามากินมาใช้

มากกว่ามาให้บ้าง

 

อย่างยายเตี้ย

หุงข้าวทิ้งทุกวันเพราะยายเตี้ย

เห็นว่า ข้าวเยอะ คนเอามาให้

ไม่เห็นต้องประหยัด

 

แต่ยายเตี้ยลืมไปว่า

นั่นแหละ บาปหนักที่สุดในชีวิต

ที่ทำให้ยายเตี้ยต้องจน แบบถาวร

เพราะยายเตี้ย

มีจิตคิดล้างผลาญทรัพย์

ของผู้มีเจตนานำมาร่วมบุญกับ อ.อุบล

เขานำมาให้ อ.อุบล เพื่อให้

อ.อุบล ใช้ประโยชน์ เพื่อการกุศล

สูงสุด

 

แต่ยายเตี้ยทำให้

เสียประโยชน์สูงสุด

แทนที่

ข้าวจะเก็บไว้ได้กินนานๆ

แทนที่ไม่ต้องเสียน้ำ เสียไฟ เสียเวลา

เสียหายต่อมลพิษ ขยะข้าวเน่าเหม็น

 

แล้วก็เสียวินัย

การดำเนินชีวิต

 

พอยายเตี้ย

อยู่บ้านตัวเอง ซื้อข้าว

ทีละไม่กี่กิโล

รู้จักเสียดาย รู้จักประหยัด

เพราะมันไม่มีกิน

 

น้ำมันพืช

อยู่บ้านสวน ทำอาหาร

ทุกมื้อ ไม่เคยประหยัด ขนาด

อาหารกลางวัน คนทำ คนเอามาให้

เหลือบานตะไท

 

เย็น

ยายเตี้ยต้องทำใหม่

ทำหลายๆ อย่าง

 

เขาบอก

อ.อุบล ว่าเขาเป็นคนที่

ต้องกินกับข้าวหลายอย่าง

เขากินอย่าง อ.อุบล ไม่ได้

อ.อุบล กินกับข้าว อย่าง สองอย่างได้

ก็กินไป แต่เขากินไม่ได้ เขาต้องทำ

 

แต่

สิ่งที่เขาใช้ทำ

เป็นทรัพย์ของ อ.อุบล ทั้งสิ้น

 

การให้กลับไปอยู่บ้าน

เพื่อให้ยายเตี้ยระลึกถึง

การกระทำ เมื่ออยู่ในบ้านสวน

 

ดูซิว่า

กลับบ้าน ยายเตี้ย

จะทำอย่างนี้ไหม ทำได้ไหม

มีเงินทำไหม

 

ปรากฏว่า

กลับไป แม้แต่น้ำ

บางวันก็ไม่มีเงินซื้อกิน

 

น้ำมันพืช ก็ต้องซื้อขวดเล็กสุด

แกง ก็ซื้อแกงถุงกิน

มื้อละ 2 ถุง กิน 3 คน ก็บ่นแล้ว

ว่าแพง แกงถุงละ 40 บาท

ยายเตี้ยคิด บวกลบ คูณหาร หมด

 

แต่ตอนอยู่บ้านสวน

ยายเตี้ย ทำอาหารแบบ มหาเศรษฐี

ทำกินตัวเอง ดียิ่งกว่าเจ้าของบ้าน

อ้างว่า

หนูกินอย่างอาจารย์ไม่ได้

 

แล้วทำไม

ไปอยู่บ้าน กินได้

ซึ่งกินแย่กว่า อ.อุบล อีก

----------

เรื่องยายเตี้ยยาว

วกมาเรื่อง

บุญตา กับ คุณศรี

ดีกว่านะ

 

เดี๋ยวมาต่อนะ

ต้องการบอกเรื่องนี้

กับคุณศรี

และอีกหลายๆ คนที่เข้าครัว

เผื่อจะยังไม่รู้สาเหตุ

ของความจน

ความทุกข์ อุปสรรค

ที่แก้ไม่ตก

แม้จะมาทำบุญกับบ้านสวน

ยาวนานแล้วก็ตาม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 10:02:01

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:14:35


ความคิดเห็นที่ 7366 (1629299)

ความเห็นที่ 225 (1628097)
แจ้งลบความคิดเห็น

มาต่อ

เรื่องคุณศรีนะคะ

---------

บุญตา

เป็นผู้มาเปิดประเด็น

ถาม อ.อุบล ว่า

ทำไม อ.ไม่ทานแกงส้มคะ

---------

ก็เลยร่ายยาว

มาหลายเรื่องเลย

ยาวไปถึง เรื่องยายเตี้ย

อดีตแม่ครัวบ้านสวนพีระมิด

ที่ตอนนี้ ชีวิตย่ำแย่

 

แม้จะเคยมาสารภาพว่า

สำนึกผิดแล้ว

 

แต่

กรรมเก่าที่ทำไว้

ในบ้านสวน มันยังไม่ลบล้าง

เพราะแต่ละวัน ทำไว้มาก

จนไฟนรก ติดตัวยายเตี้ย

คือ

ร้อนแผ่นหลัง มาจนทุกวันนี้

แล้วก็ยากจน มีหนี้ ไม่ใช้ใคร

มาจนทุกวันนี้

 

แล้วทุกครั้ง

ที่ยายเตี้ยกลับมาทำบุญแรงกาย

ในบ้านสวนพีระมิด

 

ยายเตี้ย

ก็จ้องแต่จะเข้าไปทำงาน

ในบ้าน อ.อุบล

ขณะเดียวกันก็คอยพูดจา

ขู่คนไม่ให้เข้าไปทำงานในบ้าน อ.อุบล

 

ขณะเดียวกัน

ก็ทำเป็นรู้มาก เรื่องงานครัว

การทำอาหาร ทั้งที่ชีวิตยายเตี้ย

ไม่เคยทำตัวเป็นแม่บ้านแม่เรือน

เรียกว่า ทำอะไรไม่เป็นเลย

ขี้เกียจเป็นที่สุด

ทำอะไรหน่อยก็บ่นเหนื่อย

เพราะ

อยู่บ้านไม่ทำอะไร

กับข้าวก็ไม่ทำ กินแกงถุง

งานบ้านก็ไม่ทำ ให้สามีทำทั้งนั้น

 

ดังนั้น

การมาบ้านสวน

แม้ว่า จะบอกว่า สำนึกแล้ว

 

ยายเตี้ยก็ยังมาแสดงบทบาท

คนสนิท ของ อ.อุบล

โดย

พยายาม บอกผู้คน ว่า

อ.ไม่ทานอันนี้ อ.ไม่ชอบอย่างนี้

ทั้งที่ตอนมาขอขมา

เคยอบรมเรื่องนี้ไปแล้ว

 

แต่

ยายเตี้ยก็มาทำอีก

จน คุณเบญจมาศ นำไปแอบอ้าง

เพราะคุณเบญมาศ

เริ่มเลียนแบบ วิธีการของยายเตี้ย

 

ทั้งที่

คุณเบญจมาศ

พึ่งเข้ามาบ้านสวนไม่นาน

แล้วที่สำคัญ ไม่เคยทักทาย อ.

ไม่มองหน้า ไม่พูดกับเจ้าของบ้าน

แต่

เวลาเข้าครัว ชอบออกคำสั่ง

ชอบชิมอาหาร

ชอบ

แสดงความอวดรู้ว่า

อ.อุบล ไม่ชอบแบบนี้ แบบนั้น

 

พอกรรมการบ้านสวน

สงสัยในพฤติกรรม

สอบถามเข้า

 

ก็ใช้คำว่า

 

หนูเพิ่งมา หนูจะรู้ได้ไง

ถ้าไม่มีคนบอกหนู

 

แล้วใครที่บอก

 

ก็คุณเตี้ยไง เขาเคยเป็น

แม่บ้าน อ.อุบล เป็นคนเล่าให้หนูฟัง

 

อ้อ

เธอเลยเก็บข้อมูลไว้

เอามาใช้กับคนที่มาเป็นแม่ครัว

ทำ งก งก งก อย่างคุณอัง

คุณแมว

 

ซึ่งไม่ค่อยรู้จักกับ อ.อุบล เท่าไหร่

อย่างว่าแหละนะ คุณแมว

ไม่ได้สนิทกับ อ.อุบล เหมือนอย่าง

คุณเบญจมาศ และ คุณเตี้ย

ก็ต้องคอยฟังคำสั่งเขา

 

เวลาก่อนจะมา

ก็พูดรำพันว่า อยากมาช่วยงาน

ช่วยอะไรก็ได้ เต็มที่เต็มใจ

แต่พอขอร้องให้ช่วย

เดินสะบัดตูดหนี ไม่ทำซะงั้น

แล้วก็ยังมีอาการ

ฟาดหัว ฟาดหาง อย่างเดิม

 

แสดงว่า

การสำนึก นี่แค่พูด

แต่การกระทำยังไม่เปลี่ยน

 

แล้วการไปป่าวร้อง

ว่าเคยเป็นแม่ครัวบ้านสวน

เลยรู้ว่า อ.อุบล ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรนั้น

ทำไมนะ ยายเตี้ย ไม่เคยรู้ว่า

อ.อุบล ไม่ชอบคนตอแหล

แต่

ชอบคนลงมือทำงานจริง

รู้จริง แล้วทำให้คนเห็น

ว่าทำเป็น ทำได้ดีจริงๆ

 

แต่ยายเตี้ย

เป็นพวก ฝีปากดี แต่ไม่มีฝีมือ

 

วันหนึ่ง

มีเพื่อนมาหา อ.อุบล

วันนั้น มีกับข้าวเต็มโต๊ะ

แล้วก็แกงบวชฟักทองด้วย

 

แต่เพื่อน อ.ทานข้าวมาแล้ว

อ.อุบล ก็เลยชวนเขา

ทานแกงบวชฟักทอง ซึ่งเป็นฟักทอง

ของบ้านสวน อยากให้เขาทาน

 

ยายเตี้ยอยู่ในบ้าน

กับอีกหลายคน คุณแมว ด้วย

แต่หลายคนก็เดินเข้า เดินออก

มียายเตี้ย ที่ไม่ไปไหน

ก็เลยวาน

ว่า

ช่วยหยิบถ้วย

มาใส่แกงบวชฟักทอง

หน่อยซีจ๊ะคุณเตี้ย

 

เธอก็มีน้ำใจ

ไปหยิบมา แต่อนิจจา

เธอส่งจานก้นลึกใบใหญ่ให้

 

อ.อุบล

นึกว่า เอ เขาไม่ได้ยินรึเปล่านะ

ว่าเราจะเอามาใส่แกงบวชฟักทอง

 

ก็เลยพูดแบบรักษาหน้า

ว่า

อ๋อ คุณเตี้ย

อ.จะเอามาใส่แกงบวชฟักทองค่ะ

 

ค่ะ

ก็นี่แหละค่ะ

ใส่แกงบวชฟักทองค่ะ

 

นี่มันจานข้าวนะคุณเตี้ย

 

บ้านหนูใช้อย่างนี้ค่ะ

 

จนเพื่อน อ.อุบล บอกว่า

ขอถ้วยเล็กๆ แบบนี้ เขาชี้ที่

ถ้วยน้ำพริก

 

ยายเตี้ยถึงไปเอามาใหม่

 

แต่ขณะเดียวกันก็

พูดบ่นไปด้วยว่า โอ้ยบ้านหนู

ใช้จานใส่ หรือไม่ ก็ชามใบโตๆค่ะ

อย่างนี้จะไปกินอิ่มยังไง

 

เราก็อายเพื่อนเหมือนกัน

แต่เพื่อนเราก็คงอ่านเวปมา

ก็เลยถามว่า

อ๋อ

คนนี้เหรอที่ชื่อเตี้ย

-------------------------

ที่เล่ามานี่นะ

อยากให้ผู้อ่านได้รับรู้ว่า

 

ยายเตี้ยอยู่บ้านสวนมานาน

นับปีกว่า

 

ยายเตี้ย

ได้วิชาอะไร จาก อ.อุบล ไปมั่ง

แล้วที่ไปอ้างว่า

อ.ชอบ อย่างนี้ ไม่ชอบอย่างนั้น

 

แล้วทำไม

แค่ถ้วยใส่แกงบวช

ยายเตี้ยไม่เคยรู้เลยว่า

อ.อุบล ใช้ถ้วยแบบไหน

หรือว่า

อ.อุบล ทานแกงบวชฟักทองใส่จาน

หรือชามใบใหญ่ๆ

 

หรือว่า

สิ่งที่ยายเตี้ยทำ

ท่านผู้อ่านจะแปลความหมาย

ว่าอย่างไร

ว่ายายเตี้ย สนิทสนม

จนรู้ใจ อ.อุบล หรือว่า แท้จริงแล้ว

ยายเตี้ย ไม่ได้รู้จัก อ.อุบล เลย

นอกจากรู้ชื่อ กับหน้า

เท่านั้น

 

---------------

นี่ยังไม่เข้าเรื่องคุณศรีเลยนะ

เดี๋ยวมาต่อจ้า

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 10:46:37

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:15:58


ความคิดเห็นที่ 7367 (1629300)

ความเห็นที่ 226 (1628101)
แจ้งลบความคิดเห็น

ที่ต้องเขียนถึง

ยายเตี้ย และ คุณเบญจมาศ

เพราะสองคนนี้

เหมือนกันมาก ในเรื่อง

ไม่มีฝีมือ มีแต่ฝีปาก ทำงานแทนมือ

 

อ.อุบล

เคยบอกยายเตี้ยว่า

การที่คนเราโง่ ทำอะไรไม่เป็นนี่นะ

มันมีหลายสาเหตุนะ

 

อย่างคุณเตี้ยเนี่ย

ทำไม อ.ไม่สอนอะไรให้คุณ

รู้ไหมคุณเตี้ย

 

ไม่รู้ค่ะ

 

ก็คุณเตี้ย

เป็นคนดื้อด้าน ต่อต้าน

อวดดี เจ้าอารมณ์ แล้วก็ ก้าวร้าว

 

อ.อุบล

ก็เลยไม่สอนอะไรให้

 

แต่ อ.ก็เคยสอนหนู

ทำราดหน้าต้นหอม กับ

แกงนะคะ

 

ก็นั่นยังไม่รู้ฤทธิ์

ก็เลยสอนให้ และ ตั้งใจ

จะสอนทุกเรื่อง รวมทั้งกิริยามารยาท

สมบัติผู้ดีทั้งหลาย แต่คุณไม่รับ

 

ทำไม อ.ว่าหนูไม่รับคะ

หนูอยากให้ อ.สอนจริงๆนะคะ

 

ถ้าคุณเตี้ยเป็นอย่างนั้นจริง

1 ปีกว่า ที่คุณเตี้ยอยู่กับ อ.อุบล มา

คุณเตี้ยจะได้วิชาไปมาก

ชีวิตก็จะไม่เป็นอย่างนี้

 

คิดว่า

อ.ไม่สอนหรือ

แล้วหยุดสอนตอนไหนรู้ไหม

 

ไม่ทราบค่ะ

 

ก็ตอนที่

อ.อุบล บอกว่า

แกงนี่นะ ให้ใส่น้ำ

ให้มากกว่านี้หน่อย เพราะว่า

น้ำแกงมันเหนียวข้นเกินไป

 

คุณเตี้ยบอกว่า

ก็หนูชอบกินแบบนี้นี่คะ

ชอบน้ำขลุกขลิกค่ะ ไม่ชอบน้ำเจิ่ง

แกงมีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อ หนูไม่กินค่ะ

 

จำได้ไหมคุณเตี้ย

อ.ก็เลยคิดว่า เออ เราลืมไป

นี่มันบ้านเขา แกงก็แกงเขา

เราเป็นแค่ผู้อาศัย

มีสิทธิ์อะไร จะไปบอกให้เขาทำโน่นนี่

ก็เลยต้องเจียมเนื้อเจียมตัว

 

อยากทำอะไรก็ทำไป

ใครอยู่ได้ก็อยู่ไป ฉันอยู่ไม่ได้

ฉันจะไปเอง ถ้าเธอไม่ไป

ก็คิดแค่นี้นะ

 

แล้วอีกเรื่อง

คือเรื่องให้ช่วยประหยัด

อาหาร ที่คนนำมาให้ ของทุกอย่า

รวมน้ำ ไฟ เพราะเธอ

ใช้แล้วไม่เคยปิด

 

เธอก็พูดว่า

เงินมีตั้งเยอะแยะ

ก็เอามาจ่ายมั่งสิ จะหวงไว้ทำม

 

------------

เท่านี้ก็จบกันแล้ว

อ.อุบล เลิกสอนทุกอย่าง

ให้คุณเตี้ย ตั้งแต่บัดนั้น มาจนบัดนี้

 

จนคุณเตี้ยกลับมาอีก

หลังจากกลับไปอยู่บ้านแล้ว

ขอมาทำบุญแรงกาย

แต่หลังๆ

อยู่ทีหลายสิบวัน

บางที ครึ่งเดือน ก็เริ่มออกลาย

เริ่มมีปัญหา กับคนทีมา

 

เริ่มของเก่ากลับมา

เริ่มเอาวิชาเดิมออกมาใช้

เริ่มแสดงบทบาท

ผู้มีอิทธิพล ในบ้านสวน

อีกครั้ง

 

แต่ยายเตี้ยคงคิดว่า

ไม่มีคนสนใจสิ่งที่เธอทำ

 

เธอเริ่มไม่พอใจบุญตา

ที่มาช่วยงานในบ้าน อ.อุบล

เธอบอกว่า

หนูชอบทำคนเดียว

ไม่ชอบทำหลายคน มันเกี่ยงกัน

 

อ้าว

ยายบุญตา ก็ทำอย่างหนึ่ง

เธอก็ทำอย่างหนึ่ง

แล้วไปเกี่ยงกันทำไม

 

ไม่รู้หละ หนูไม่ชอบ

 

ก็เลยบอกคุณแมวว่า

ช่วยมอบหมายงานให้ยายเตี้ย

ไปช่วยข้างนอกหน่อยนะ

 

ได้ค่ะ

 

คุณแมวเริ่มด้วย

เรียกให้มาช่วยปอกกระเทียม

ยายเตี้ยบอก เดี๋ยวก่อน

ตากข้าวก่อน ยังไม่ว่าง

 

พอตากเสร็จ

ก็ไม่มาช่วย จนป้าเทิงผ่านมา

คุณแมวเลยเรียกป้าเทิงช่วย

แต่ยายเตี้ย ไปยืนคุย

กับพวกช่าง

 

ก็เลยมาคุยกับบุญตา

ว่ายายเตี้ยบอกเกี่ยงงานกันทำ

ยายบุญตาก็ทำหน้า งง งง

ก็เลยบอกบุญตาว่า

ให้คุณแมว

เรียกไปช่วยแกะกระเทียม

ยายเตี้ยก็ไม่ช่วย

 

ยายบุญตา ไปถามยายเตี้ย

ยายเตี้ยบอก ว่า อยากให้ช่วยอะไร

ก็บอก ถ้าไม่บอก ก็ไม่ช่วย

 

ยายบุญตาก็ถามว่า

แล้วพี่แมวให้ช่วยปอกกะเทียม

ทำไมไม่ช่วย

 

ไม่ได้ยิน

 

เอาอย่างนี้ดีกว่า

เรียกมาหา อ.อุบล เลยไป

หมดเรื่อง ขี้เกียจพูดทีละคน

 

เรียกคุณแมวมาด้วย

เอ้า ว่ามา ต่อหน้า

 

คุณแมวยืนยันคำเดิม

ยายเตี้ยบอกไม่ได้ยิน

คุณแมวบอก ไม่ได้ยินแล้วทำไม

บอกว่า เดี๋ยวตากข้าวก่อน ตอนนี้ไม่ว่าง

แต่พอตากข้าวแล้ว ก็ไม่กลับมาทำ

 

ยายเตี้ยเลยจนมุม

 

แล้ว อ.อุบล ก็เลยถามว่า

ถามจริงเถอะคุณเตี้ย ที่มาเนี่ย

เห็นรำพึงรำพัน ว่าอยากมาช่วยงาน อ.

แต่พอ ตอนยุ่งๆ อย่างวันที่

เพื่อนชาวต่างชาติ อ .มากันหลายคน

 

ทุกคนมาช่วยกันชุลมุน

ไหง คุณเตี้ย แอบไปทานข้าวซะงั้น

ไม่สมกับที่พูดว่า อยากมาช่วยแบ่งเบา

งานให้ อ.อุบล เลยนะ

 

นี่วันแขกสำคัญมา

เขาทำอาหารดีๆ เลี้ยงแขก

ก็เลยรีบไปนั่งทานก่อน คนเดียว ซะงั้น

มันเหมาะไหม จะให้ อ.คิดยังไง

ว่าที่คุณเตี้ยมาบ้านสวนเนี่ย

ตกลง

อยากมาช่วย

หรืออยากมาหาของอร่อย

ฝีมือจากแม่ครัวเก่งๆ ทานจ๊ะ

 

เดี๋ยวมาต่อนะ มีคนมาตาม

ไปดูงานช่างจ้า

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 11:12:52

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:16:53


ความคิดเห็นที่ 7368 (1629302)

ความเห็นที่ 228 (1628113)
แจ้งลบความคิดเห็น

ก็เลยบอกยายเตี้ยไปว่า

ที่คุณ

ไม่เก่ง ทำอะไรไม่เป็น

ทำกับข้าวไม่เป็น ไม่รู้อะไรควร ไม่ควร

เพราะว่า

 

1.คุณเป็นคนไม่ชอบเรียนรู้

แต่ชอบอวดรู้ ชอบแสดงออกว่ารู้

แต่ไม่ลงมือทำ หรือ ลงมือทำ

ก็ทำเสียหายทุกเรื่อง

 

2.คุณเป็นคนขี้เกียจ ไม่มีน้ำใจ

ไม่ชอบลงมือทำงาน ชอบใช้ปาก

ชอบถามว่า

มีอะไรให้ทำไหม แต่พอเขาบอก

ให้ช่วยทำ ก็ไม่ทำ หนีเฉยเลย

 

3.คุณเป็นคนหยาบ

ทั้งฝีมือ และ ฝีปาก เรียกว่า

ทำงานไม่เป็นเลย แล้วชอบสอน

เวลาเห็นคนเก่งกว่าทำ

แทนที่จะไปเรียนรู้ อ่อนน้อมถ่อมตัว

ถามเค้า ว่า ให้ทำอย่างไร แต่นีคุณ

อวดรู้ สั่งคนเป็น ข่มเขา

แล้วคุณจะเอาวิชาจากเขาได้ยังไง

 

4.คุณไม่ชอบให้ใครสอน

แต่ชอบสอนคนอื่น

คือ

ถ้าคนเรารู้ตัวว่าไม่เก่ง ไม่เป็น

แล้วอยากทำอะไรเป็น ก็ควรเริ่มด้วย

การไปช่วยเป็นลูกมือคนเป็น คนเก่ง

แต่

การไปเป็นลูกมือ ไปเป็นผู้ช่วย

ต้องฟังคำสั่งคนเป็น คนเก่ง

โดยไม่มีข้อโต้แย้ง

แต่คุณ ไม่เคยทำอย่างนี้ คุณพยายาม

อวดภูมิความรู้ ที่เหนือคนอื่นตลอด

ทั้งที่ ทุกคนเขาก็รู้กันหมดแล้ว

ว่า คุณทำอะไร ไม่เป็นโล้เป็นพายเลย

 

5.คุณไม่รู้จักหน้าที่

ไม่รู้ว่า คุณเหมาะกับงานนี้หรือไม่

ทั้งที่คุณเตี้ยก็รู้อยู่แล้วว่า

คุณเป็นคนหยาบ

ไม่มีฝีมือ ทำไม่เป็น ทำไม่ได้

แต่ทำไม ชอบจัง ที่จะอยู่ในครัว

ชอบเข้าไปทำงานบ้าน อ.

ทั้งที่ อยู่มาปีกว่า ก็ไม่เคยทำให้

อ.ทำเองมาตลอด แล้วก็ยังมาขวาง

คนที่เขาจะไปทำให้ อ.

 

6.คุณไม่ละวาง

ปล่อยให้ความโกรธ ความอิจฉา

ครอบงำจิตใจ อยากสำคัญ อย่างเก่ง

เหมือนคนอื่น แต่ ไม่พยายาม

ฝึกฝนฝีมือ แต่ไปหาทางใช้ฝีปาก

และเล่ห์เหลี่ยม ใช้สถานการณ์คนมาก

กลมกลืนให้คนคิดว่า ตัวเองเก่ง

คนเยอะแยะ ปะปนกันไป คงไม่มีใครรู้

 

7.คุณไม่มีความรับผิดชอบ

คนที่อยากทำดีจริง ต้องรับผิดชอบ

อ.เห็นชัด วันที่เพื่อนมาจากต่าง ปท.

เอาเหตุการณ์เร็วๆนี่แหละ

จะได้ยังร้อนๆ อยู่

คุณหนีหน้าที่ ช่วงที่ต้องการ

ความช่วยเหลือจากคนมากมาย

แต่คุณ

อาศัยช่วงชุลมุนในบ้าน อ.

แอบไปทานอาหารดีๆ คนเดียว ในครัว

คิดว่า คนอยู่ในบ้าน อ.เยอะ

ยุ่ง

ไม่มีใครรู้ รีบไปกินอาหารดีๆ ก่อนดีกว่า

ทิ้งให้คนอื่น วิ่งกันวุ่น แต่อ้างว่า

อยากมาช่วยงานช่วงนี้

นี่มันแสดงความไม่รับผิดชอบชัดๆ

 

8.ตะกละ

สิ่งที่ทำมาข้างต้น มันยืนยันว่า

คุณตะกระไม่เลิก เหมือนเดิม

ไม่เช่นนั้น คุณคงไม่อาศัยช่วงชุลมุน

ในบ้าน อ.อุบล หนีไปทานอาหาร

ที่เขาเตรียมสำรองไว้ให้แขกหรอก

 

แล้วการที่คุณทำอาหารไม่เป็น

คุณก็ไม่ควรจะมาอยู่ในครัว

ถ้าคุณไม่มีเจตนา มาหาอาหารทาน

ก่อนคนอื่น หรือ ถ้าไม่ตะกระจริงๆ

ต้องไปทำงานอื่น นอกครัว

ที่คุณถนัดกว่านี้ เช่นงานเกษตร

หรืองานช่าง งานปูนเป็นต้น

 

9.ไม่รู้จักตัวเอง

ไม่พัฒนา ไม่ยอมรับความจริง

คนเราต้องรู้ว่า เรามีจุดอ่อน จุดแข็ง

ตรงไหน ต้องรีบแก้ไขตรงนั้น

และ

ต้องกล้ายอมรับความจริง

ไม่ใช่

มาคอยสร้างภาพตบตาคน

ที่จริง คุณก็หลอกตัวเองนั่นแหละ

 

ทำงานไม่เป็น

ถ้าอยากทำจริง คุณก็ต้องถาม

ทำไม่เป็น ยิ่งต้องถาม

อย่างหั่นผัก อย่าคิดนะ ว่าใครก็หั่นเป็น

มันไม่ใช่นะ คนทำอาหารไม่เป็น

จะไม่รู้หรอกว่า จะผัดหั่นอย่างไร

จะแกงหั่นอย่างไร

นี่คุณ

ทำไม่เป็น แต่ดัน ทำเลย ไม่ถาม

 

ที่ถูก

คุณต้องถามว่า

หั่นอย่างไรคะ หรือ ให้หั่นให้ดูก่อน

ได้ไหมคะ เมื่อหั่นไปสักชิ้น สองชิ้น

ก็ถามว่า อย่างนี้ ใช้ได้ไหมคะ

 

ถ้าคุณทำอย่างนี้

คุณก็จะเป็นผู้ช่วยแม่ครัวได้

และ

ได้ดีมากด้วย เพราะคุณจะได้วิชา

แต่

ที่คุณไม่ได้อะไรเลย

เพราะคุณไม่ถามเลย คุณทำผิด

ให้แม่ครัวเขากลุ้มใจ

ต้องแก้ปัญหา

 

คุณถึงได้สร้างบาปกรรม

ทำให้ลำบากยากจนไม่สร่างซา

เพราะว่า ทำข้าวของเสียหาย

อยู่ร่ำไป

 

นี่ยกตัวอย่างคร่าวๆ

เรื่องยายเตี้ย ช่วยงานครัว

แล้วมีส่วนทำให้ มีปัญหาเรื่อง

หนี้สงฆ์ หนี้กรรม อทินนา

มาจนทุกวันนี้

แต่ยายเตี้ยก็ไม่เปลี่ยน

 

เลยขอยกมาเป็นตัวอย่าง

ไม่ใช่เป็นการทำให้ใครกลัว

แต่ตรงข้าม

 

กลับทำให้เห็นว่า

การเป็นผู้ช่วยแม่ครัวนี่นะ

แสนสบาย

ไม่ต้องใช้สมองคิดวางแผนก็ยังได้

เพียงแต่ทำตามคำสั่งอย่างเดียว

 

แต่

คนที่กลัวคือคนที่

1.ขี้เกียจ

2.อวดดี อวดรู้ แต่ไม่รู้จริง

3.ไม่รู้ว่า หน้าที่ตนคือ ผู้ช่วย

ผู้ตาม ไม่ใช่ผู้นำ แต่พอเข้ามา

มาแสดงบทผู้นำ และ ไม่ยอมทำตาม

4.ดื้อรั้น ดันทุกรัง ที่สั่งไม่ทำ

ทำที่ไม่ได้สั่ง

5.ชอบออกคำสั่งกับแม่ครัวซะเอง

6.ชอบกิน ชอบพูด ขี้เกียจ

7.ใช้ห้องครัว หลบงานหนัก

8.เอาไว้หาลูกค้า หาเหยื่อ

9.เอาห้องครัว ไว้สร้างบาปให้ตัวเอง

เพื่อเป็นธรรมทานให้คนอื่นดู

ว่า

มาบ้านสวนตั้งนาน ทำไมชีวิตไม่ดีขึ้น

คนอื่นเขามาไม่กี่ครั้ง

ก็ดีขึ้นกันหมดแล้ว

---------------------

กลัวห้องครัว ต้องไม่กินนะ

กลัวการทำอาหาร ต้องไม่ทานนะ

กลัวไม่อร่อย ก็อย่ากินของอร่อยนะ

ชอบหนีห้องครัว ทั้งที่ยังมีงาน

เวลาทานอาหาร ก็รีบหนีนะ อย่าพึ่งทาน

 

ทำไม่เป็น

ก็พิจารณาตัวเองมั่งนะ

 

หรือไม่ก็

หัดถาม หัดทำตาม คำสั่ง

มั่งนะ จะได้เป็น

 

ถ้าทุกคน

ที่เป็นผู้ช่วยแม่ครัว

แค่ทำตามคำสั่งแม่ครัวที่เป็น

ก็จะไม่ใช่เรื่องยากเย็น

อะไรเลย

 

แม้เกิดมา

ไม่เคยทำ ก็ทำได้

 

ก็กิน

ยังกินเป็นเลย

ถ้าทำตามไม่ได้ ก็ขอให้

พิจารณาตัวเองเลย

ว่า

เราจะต้องไม่กิน

หมดเรื่องหมดราว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 11:57:46

 
ความเห็นที่ 229 (1628115)
แจ้งลบความคิดเห็น

ย้อนมาเรื่อง แกงส้ม

ที่บุญตา บอกว่า หนูขอรับผิดเองค่ะ

 

แล้ว อ.อุบล บอกว่า

การรับผิด ยังไม่ใช่จะทำให้

ยกเลิกกรรม เพราะสิ่งที่ทำ มันทำให้

เสียทั้งทรัพย์ และ เวลา

แล้วก็เสียความรู้สึก ถ้าทำบ่อยๆ

 

บุญตาก็คนลพบุรี

บ้านเดียวกับ อ.อุบล ทำไม

ใช้น้ำส้มสายชู หรือ มะนาวใส่แกงส้ม

แล้วใส่อะไรขนาดนี้

ไม่ชิม หรือ ไม่ถามความเห็น

คนที่บุญตาจะต้องทำเลี้ยงเขาบ้างหรือ

 

อย่างลุงเบิ้ม ลุงบุญเนี่ย

เขาจะกินลงหรือ ที่เปรี้ยวขนาดนี้

แล้วเรื่องอาหารรสจัดนี่นะ

ถ้าเราเป็นคนทำ

เราชอบรสจัดจ้านผิดมนุษย์

เราก็ต้องคิดถึงหัวอกคนอื่นบ้าง

 

อย่างลุงบุญนี่นะ

ทานเผ็ดไม่ได้เลย ก็ต้องทำอาหาร

ที่ลุงบุญทานได้ด้วย

หรือ

วิธีไม่ต้องแยกทำก็คือ

อย่าทำเผ็ด

ใครที่ชอบเผ็ดก็เติมพริกเอง

 

อย่างแกงส้ม

ก็อย่าทำเปรี้ยวจิ๊ดขนาดนี้

ถ้าใครชอบน้ำส้มสายชูหรือมะนาว

ก็ใส่เองทีหลัง ไม่ใช่ใส่ทั้งหม้อ

แล้วก็เอาไปเททิ้ง

 

ทำไมล่ะ

บุญตาทำเอง ทำไมตัวเอง

ก็ยังไม่กินเลย แล้วทำอย่างนี้ทำไม

 

คือว่า

อาจารย์คะ

หนูผิดเองแหละค่ะ

ที่หนูไปบอกให้คุณศรีช่วยชิม

ให้โป๊กช่วยชิม เขาไม่ชิม

ให้ลุงบุญช่วยชิม เขาก็ไม่ชิม

 

ครั้งแรกหนูก็ทำใส่มะขามค่ะ

หนูทำเสร็จแล้วค่ะ

มีคุณศรีมาชิม บอกว่า อ่อนเปรี้ยว

หนูก็ใส่น้ำมะขามเพิ่มแล้วค่ะ

หนูก็ว่าพอดีแล้ว

 

ตอนหลัง

หนูเห็นคุณศรีเขาไปปรุงใหม่

ทั้งหม้อเลยค่ะ

 

ปรุงยังไง

บีบน้ำมะนาวใส่ไปในหม้อเลยค่ะ

 

แล้วทำไม บุญตาไม่ห้าม

หรือบอกคุณศรีว่า บุญตาทำเสร็จแล้ว

 

นี่แหละค่ะ

ที่เป็นความผิดของหนู

คือหนูห้ามเขาไม่ฟังค่ะ

หนูไม่มีความสามารถทำให้เขาฟังหนูค่ะ

 

แล้วอย่างนี้

ท่านผู้อ่าน คิดยังไง

 

คุณศรีจะว่ายังไง

 

บุญตาปล่อยให้ อ.อุบล

เทศ ซะยาว

กว่าจะมาลงท้ายแบบนี้

โดนกันไปเกือบหมดบ้านสวนเลย

 

แล้วคุณศรีจะชี้แจง

ก็ดีนะ จะได้ยุติธรรม เดี๋ยวเป็นการ

ฟังบุญตาฝ่ายเดียว

ไม่เป็นธรรม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 12:18:32

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:18:03


ความคิดเห็นที่ 7369 (1629303)

ความเห็นที่ 230 (1628117)
แจ้งลบความคิดเห็น

สุดท้าย

ก็เลยถามบุญตาว่า

 

บุญตา

ทำไมต้องมาถาม อ.อุบล

ว่าทำไม อ.ไม่ทานแกงส้ม

ในเมื่อตัวเองก็รู้อยู่เต็มอก ว่ามันเปรี้ยว

ตัวเองก็ไม่ทาน

หรือจะเรียกว่า ตัวเองยังทานไม่ลงเลย

 

บุญตาบอกว่า

ก็พี่ศรีเขาถามหนูค่ะว่า

เป็นไงล่ะ

แกงส้มที่บุญตาแกงให้อาจารย์น่ะ

อาจารย์ทานรึเปล่า

เขาถามอย่างนี้ค่ะ หนูก็เลยมาถาม

อาจารย์ให้แน่ใจ

หนูจะได้ตอบเค้าได้น่ะค่ะ

 

เออ

ดีแล้วที่มาถาม

ถ้าใครสงสัยอะไรเกี่ยวกับ

อ.อุบล บุญตาก็มาถาม อ.ได้ทุกเรื่อง

เลยนะจ๊ะ ดีกว่า ตอบเอง

ยิ่งเก่งๆอยู่

 

แต่อย่าโมโหคนถาม

จนคว้าไม้ตีหัวเค้าล่ะ

555

บุญตาขำตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 12:22:16

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:18:35


ความคิดเห็นที่ 7370 (1629304)

ความเห็นที่ 235 (1628156)
แจ้งลบความคิดเห็น

ย้อนมาเรื่อง แกงส้ม

กราบขอโทษท่านอาจารย์ที่หนูสาระแนอวดเก่งทำให้แกงส้มเพี้ยนจนตกขอบ

เช้านั้นตั้งใจจะผัดมะเขืือยาว ตำน้ำพริกกะปิ

เพราะเห็นมีมะเขือยาวเหลืออยู่ในตอนเย็นวันอาทิตย์

คุยกันไว้ก่อนแล้วแต่คืนวันจันทร์

เช้านั้นเข้าครัวมาบุญตาเตรียมจะทำแกงส้ม

บนโต๊ะมีผัดถั่งพูเสร็จไปอย่างนึง

ก็เลยช่วยตำน้ำพริกกะปิ

ระหว่างนั้นได้ยินบุญตาว่าชะอมก็ยังไม่ได้เก็บ .... อ้าว

หม้อก็กำลังเดือดพล่าน เอาไง คิดอยู่ในใจค่ะ

พอดีโป๊กมา เธอเลยให้ช่วยไปเก็บชะอมมาให้

เห็นเค้าชิมหลายรอบ ท่าทางยังไม่ค่อยแฮป***นัก

แต่ก็ปิดแก๊สแล้วด้วย

หนูผิดที่ไม่เอะใจในตอนนั้นว่า เค้าคงพอจะยอมรับได้มั้ง ถึงได้ปิดไฟ

แต่ตัดสินใจ สาระแนปรุงต่อเอง

ลองชิมดูก่อน นึกถึงแม่ครัวที่เค้าตบท้ายด้วยน้ำมะนาว

เลยบีบลงไป ครึ่งลูก เติมซีอิ้วอีกนิด เพื่อดึงรสขึ้นมาหน่อย

รสชาดเลยเพี้ยนออกนอกจักรวาลไป

ต้องกราบขอโทษท่านอาจารย์อีกครั้งค่ะ

ที่ทำให้สุญเสียและสิ้นเปลืองทรัพยากรส่วนรวมโดยใช่เหตุ

แล้วยังทานไม่ได้ เสียของอีกด้วย

กลายเป็นสร้างกรรมใหม่หนักขึ้นไปอีก

หนูยอมรับผิดในการสาระแนอวดเก่งคราวนี้

ไม่มีอะไรแก้ตัวค่ะ

 

------------

 

เ้ช้านั้นไม่ได้ยกออกมาทานกับลุงเบิ้ม

มีแกงส้มหม้อเก่าวันอาทิตย์เหลืออยู่

ยังตักได้อีกหลายชาม

ลุงเบิ้มบอกว่าทานได้ยิ่งอุ่นยิ่งอร่อย

นอกจากนี้ก็มีพะโล้อีกหม้อ

แซมด้วยมะละกอผัดไข่อีกอย่างที่ลุงเบิ้มบอกว่าง่ายๆแล้วก็อร่อยอีกด้วย

--------------

มื้อกลางวันช่วยบุญตาเตรียมเครื่องผัดไท

เพื่อสำรองไว้ให้แขกที่มา

แล้วก็เลยเผื่อลุงเบิ้ม ลุงบุญอีกด้วย

ลุงเบิ้มทำส้มตำอีกจานเล็กๆ
แกงส้มหม้อนั้นก็เลยไม้ได้เอามาทานกันอีกค่ะ

 

--------------------------

อาจารย์คะสุดท้ายแล้วหนูก็เลยยังไม่ได้ผัดมะเขือยาวนะคะ

----------------------------

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาเตือนสติชี้แนะแนวทาง ไม่ว่างานเล็กงานใหญ่ให้มีสมาธิและสติวางแผนการทำงาน จะได้ไม่เสียงาน เสียเวลา และสูญเสียทรัพยากรอื่นๆอีกค่ะ จากนี้ต้องหันมามองตัวเองให้บ่อยชึ้น มากขึ้นค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 15:52:51

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:19:24


ความคิดเห็นที่ 7371 (1629305)

ความเห็นที่ 238 (1628179)
แจ้งลบความคิดเห็น

 

เลยบีบลงไป ครึ่งลูก เติมซีอิ้วอีกนิด เพื่อดึงรสขึ้นมาหน่อย

รสชาดเลยเพี้ยนออกนอกจักรวาลไป

ต้องกราบขอโทษท่านอาจารย์อีกครั้งค่ะ

ที่ทำให้สุญเสียและสิ้นเปลืองทรัพยากรส่วนรวมโดยใช่เหตุ

แล้วยังทานไม่ได้ เสียของอีกด้วย

กลายเป็นสร้างกรรมใหม่หนักขึ้นไปอีก

หนูยอมรับผิดในการสาระแนอวดเก่งคราวนี้

 

ความเห็น คุณศรี

************************

คุณแมวเปิดเวป

บุญตาเลยได้รู้เรื่องที่คุณศรี

มาเขียนชี้แจง เรื่องใส่มะนาวครึ่งลูก

 

บุญตาเลยบอกว่า

ไม่จริงค่ะ

หนูเห็นกับตา คุณศรีใส่มะนาว

ไม่น้อยกว่า 2 ลูกค่ะ

ที่หนูเห็นผ่าไว้แล้ว 4 ซึกค่ะ

แล้วก็ใส่หมด

แต่จะใส่อีกรึเปล่าไม่แน่ใจ

แต่ที่แน่ใจมากคือ 2 ลูกแน่ๆ

 

เพื่อความเป็นธรรม

เรื่องนี้ต้องถามทุกคนที่ชิม

ก็เลยเจอลุงเบิ้มทานข้าวพอดี

เลยถามลุงเบิ้มว่า

ได้ทานแกงส้มคุณศรีหรือไม่

 

ไม่ครับ

ทานไม่ได้ครับ

 

ทำไมล่ะลุงเบิ้ม

มันเหมือนทานมะนาวเลยครับ

ผมเลยไปตำส้มทานเองครับ

น้ำพริกกะปิก็เหมือนกันครับ

ไม่มีใครทานได้เลยครับ

มันเปรี้ยวเหมือนทานมะนาวล้วนๆ

เสียดายของนะอาจารย์

ทำทิ้งทำขว้าง ไม่มีใครทานได้เลยครับ

 

แล้วลุงบุญไม่ทานหรือลุงเบิ้ม

ก็ทานไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละครับ

 

กลับมาหาบุญตา

 

ตกลงแกงส้มหม้อนั้น

ทำยังไงบุญตา

 

เททิ้งทั้งหมดค่ะ

อ้อ ทำไบโอแก๊สค่ะ

 

เออ

คุณศรีแกดีนะ

ช่วยให้เรามีแก๊สใช้

ถ้าไม่ได้แกงส้มหม้อนี้

อาจจะไม่มีแก๊สใช้ก็ได้นะ

 

บุญตาขำ

 

จะว่าไปนะคุณศรี

อย่าง อ.อุบล นี่ไม่ติดรสชาด

ทำยังไงก็ทานได้

แต่

รสจัดนี่ไม่สู้จริงๆ

 

น้ำพริกกะปิคุณศรี

ก็เหมือนกัน

นึกว่า อ.อุบล ทานไม่ได้คนเดียว

อุส่าห์เงียบไว้ กลัวเสียกำลังใจ

แต่วันนี้ ได้ถามหลายคน

ถามลุงเบิ้ม ลุงบุญ

ลิ้นไอ้เข้แล้ว

ก็ทานไม่ได้เหมือนกัน

 

ดังนั้น

ถือว่า ลิ้น อ.อุบล ปกติ

 

คุณศรีจ๊ะ

สงสัย อ.อุบล ต้องเลิก

ปลูกมะนาวแล้วหละ กลัวใจคุณศรี

อ.อุบล เปรี้ยวพอแล้วจ้า

 

แล้วแต่ละคน

ลงมติว่า

ให้คุณศรี

ไปเอาดีทางอื่นเถอะนะ

อย่าเข้าครัวเลยจ้า

เข็ดฟันกัน

เป็นแถวเลยจ้า

 

ที่สำคัญ

ไบโอแก๊สจะระเบิดค่ะ

หรือถ้าจะทำ

ก็ทำเฉพาะทานเองคนเดียว

ดีกว่านะคะ ไม่ต้องเผื่อใคร

รวมทั้ง อ.อุบล ด้วยค่ะ

แต่ยังไงก็ขอบคุณ

ในน้ำใจค่ะ

 

ลองฝึกดูที่บ้านนะคะ

แต่ถ้าชอบรสแบบนี้ก็ไม่เป็นไร

คุณศรีก็ทำทานคนเดียวได้

ชอบใคร ชอบมัน

นะจ๊ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 20:55:28

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:20:32


ความคิดเห็นที่ 7372 (1629306)

ความเห็นที่ 239 (1628182)
แจ้งลบความคิดเห็น

อะจ๊ากกก อ่านเห็นอย่างนี้แล้วนึกเข็ดฟันแทนคนที่บ้านสวนฯเลยครับ

อืม ถึงตอนนี้แล้วผมคิดว่าที่ท่านอาจารย์บอกน่าจะเป็นหนทางดีที่สุดครับ5555 แสดงว่าพี่ศรีม่ายเหมาะงานทำครัว แต่ผมไม่ได้หมายถึงว่าพี่ศรีทำไม่เป็นนะครับ แต่หากว่ายังขืนทำงานในครัวอีก บุญจะกลายเป็นบาปหนักแทนดิครับป๋ม

ผมว่าอีกอย่างที่น่าคิดสำหรับพี่ศรีและท่านอื่นๆที่ทำครัวคือสิ่งที่ท่านอาจารย์ไล่มาทั้งหมด น่าจะเป็นแนวทางให้พี่ศรีและแต่ละคนได้สำรวจตัวเองได้เป็นอย่างดีว่าตนเองมีสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัวไหม หากเราไม่คิดเข้าข้างตัวเองแล้วล่ะก็ นี่คือของขวัญล้ำค่าสำหรับทุกคนเลยทีเดียวจะได้รู้ตัวเองและรีบปรับปรุงแก้ไขให้ทันกาล...

 

1.ขี้เกียจ

2.อวดดี อวดรู้ แต่ไม่รู้จริง

3.ไม่รู้ว่า หน้าที่ตนคือ ผู้ช่วย

ผู้ตาม ไม่ใช่ผู้นำ แต่พอเข้ามา

มาแสดงบทผู้นำ และ ไม่ยอมทำตาม

4.ดื้อรั้น ดันทุกรัง ที่สั่งไม่ทำ

ทำที่ไม่ได้สั่ง

5.ชอบออกคำสั่งกับแม่ครัวซะเอง

6.ชอบกิน ชอบพูด ขี้เกียจ

7.ใช้ห้องครัว หลบงานหนัก

8.เอาไว้หาลูกค้า หาเหยื่อ

9.เอาห้องครัว ไว้สร้างบาปให้ตัวเอง

เพื่อเป็นธรรมทานให้คนอื่นดู

ว่า

มาบ้านสวนตั้งนาน ทำไมชีวิตไม่ดีขึ้น

คนอื่นเขามาไม่กี่ครั้ง

ก็ดีขึ้นกันหมดแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 21:03:59

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:21:20


ความคิดเห็นที่ 7373 (1629307)

ความเห็นที่ 242 (1628186)
แจ้งลบความคิดเห็น

เลยบีบลงไป ครึ่งลูก

เติมซีอิ้วอีกนิด เพื่อดึงรสขึ้นมาหน่อย

รสชาดเลยเพี้ยนออกนอกจักรวาลไป

*************ยนนนนนนนนนนน

คือว่า อยากบอกอ่ะคะว่า แกงส้มอ่ะ

เค้าใส่เกลือ...ไม่ใช่ซีอิ้ว..คร๊า

รู้เลยว่า อร่อยหลุดโลกจิง ๆ

ออกนอกจักรวาลจิง ๆ แบบพี่ศรีบอก

แล้วพี่ยังจะทำให้ อ.อุบล ทานได้เน๊อะ

ที่เขียนมารู้เลยว่า

บุญตาที่บอกว่า ทำกับข้าวไม่เป็นแล้วนั้น

ยังเป็นมวยมากกว่า พี่ศรีอีกน๊า

เฮ่อ.. น่าเห็นใจ อ.อุบลเป็นที่สุด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-06 21:41:15

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:22:06


ความคิดเห็นที่ 7374 (1629308)

ความเห็นที่ 247 (1628214)
แจ้งลบความคิดเห็น

นางภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ขอขมาทุกๆท่านที่ทำให้เสียบรรยากาศของงานบวงสรวงองค์พระศรีอาริยเมตตรัยค่ะ

-------------------------------

คือว่า อยากบอกอ่ะคะว่า แกงส้มอ่ะ

เค้าใส่เกลือ...ไม่ใช่ซีอิ้ว..คร๊า

รู้เลยว่า อร่อยหลุดโลกจิง ๆ

ออกนอกจักรวาลจิง ๆ แบบพี่ศรีบอก

แล้วพี่ยังจะทำให้ อ.อุบล ทานได้เน๊อะ

ที่เขียนมารู้เลยว่า

บุญตาที่บอกว่า ทำกับข้าวไม่เป็นแล้วนั้น

ยังเป็นมวยมากกว่า พี่ศรีอีกน๊า

เฮ่อ.. น่าเห็นใจ อ.อุบลเป็นที่สุด

 

ขอบคุณคุณแมวที่ช่วยสอน เมนูนี้ไม่มีซีอิ้ว

พี่รู้มาผิดๆเองแหละ

ตอนอยู่ในครัว ไม่ค่อยได้ดูคุณอังปรุงเท่าไร

อาทิตย์ที่แล้วพอดีเหลือบไปเห็นเค้าบีบมะนาวใส่หม้อแกงส้ม

เลยปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมา

แต่ก็ทำจนเกินเลยเลยทำให้ข้าวของเสียหาย

อีกอย่างจำนวนมะนาวที่ใช้จำได้ว่าไม่น่าเป็นลูก

แต่ยังไงก็ตามขอยอมรับผิดทั้งหมด

ที่สาระแนอวดเก่งแบบไม่เข้าท่าจริงๆ

กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์มงคล ท่านอาจารย์ทั้งสองน่าจะได้ทานอาหารที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ เพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย แต่หนูกลับมาทำให้ท่านอาจารย์ทานไม่ได้เลยสักอย่าง เดือดร้อนต้องเปลี่ยนเมนูแบบกระทันหัน

ขอขมาบุญตาที่เข้าไปเกะกะ ยุ่มย่าม ทำให้วุ่นวาย และรำคาญใจ

ขอขมาลุงเบิ้ม และลุงบุญที่ทำให้เสียรสชาดและบรรยากาศในการทานอาหาร โชคดีที่ยังมีมะละกอผัดไข่ให้พอทานกันได้บ้าง

ขอขมากับญาติธรรมที่ตั้งใจนำวัตถุดิบมาร่วมบุญ เช่น เครื่องแกง น้ำตาล ซีอิ้ว มะนาว เกลือ กระเทียม พริก ฯลฯ

อีกทั้งท่านที่นำข้าวของเครื่องใช้ จำพวก หม้อ ทัพพี ครก ช้อน จาน ถ้วยชาม และอื่นๆ

พี่จุ๋ม พี่จิ๋ม และทุกท่านที่สร้างไบโอแก๊ส และน้ำบาดาล

รวมถึงท่านที่สร้างอ่างล้างจาน ล้างมือ น้ำยาล้างจาน+ฟองน้ำ ผ้าเช็ดจาน ฯลฯ

ดิฉันขอโทษ ขอขมาทุกท่านที่มีเจตนานำมาทำบุญ แต่ดิฉันกลับนำสิ่งของเหล่านั้นไปใช้โดยผิดวัตถุประสงค์ของทุกท่าน ด้วยการสาระแนปรุงน้ำแกงส้มให้เสียรสชาด และตำน้ำพริกที่ไม่มีใครสามารถทานได้เลย ทำให้เกิดการสูญเสียมากมายที่ไม่อาจประเมินค่าได้

กราบขอขมาสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธองค์ องค์พระศรีอริยเมตตรัย ท่านท้าวเวสสุวรรณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯทุกๆพระองค์ที่ลูกโง่เขลากระทำการเกินเลยจนทำให้เกิดการสูญเสียมากมายจนมิอาจประมาณค่าได้เลย ลูกขอยอมรับผิดทุกประการค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-07 00:30:26
 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:22:51


ความคิดเห็นที่ 7375 (1629310)

ความเห็นที่ 248 (1628216)
แจ้งลบความคิดเห็น

 

อีกอย่างจำนวนมะนาวที่ใช้จำได้ว่าไม่น่าเป็นลูก

แต่ยังไงก็ตามขอยอมรับผิดทั้งหมด

 

จากคุณศรี

***************

 

ถ้าครึ่งลูก

มันไม่น่ามีอานุภาพ

ต่อแกงหนึ่งหม้อขนาดนี้นะคุณศรี

นี่ทานไม่ได้กันทั่วหน้า

รสชาดเหมือนกินน้ำมะนาวเลย

ขนาดลุงเบิ้มนี่แกเป็นคน

เสียดายของ กินง่าย

อ.อุบล ก็กินง่าย ลุงบุญก็เหมือนกัน

แต่ทุกคนลงความเห็นเหมือนกัน

คือกินไม่ได้จริงๆ

จนต้อง

ทิ้งทั้งหม้อเลยนะ

 

เดี๋ยวมาคุยกับบุญตา

ดูนะเค้าบอกเค้าเห็นกับตา

ไอ้ที่ผ่าครึ่งแล้ว 4 ซีก

แล้วบีบลงไปในหม้อ เธอก็ดูและ

บอกคุณศรีว่าปรุงแล้ว

แต่คุณศรีไม่หยุดเอง

เธอว่าอย่างนั้น

 

ถ้าผิดถูกยังไง

ก็มาคุยกันดูก็แล้วกัน

 

แต่

ไม่ว่าคุณศรีจะบอกว่า

ใส่ครึ่งลูก หรือ น้อยนิด

แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าต้องทิ้งทั้งหม้อ

นี่ต่างหาก อะไรจะขนาดนั้น

มะนาวครึ่งลูกเนี่ย

นะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-07 01:28:45

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:26:14


ความคิดเห็นที่ 7376 (1629311)

ความเห็นที่ 249 (1628221)
แจ้งลบความคิดเห็น

จาก คห.228

 

ก็เลยบอกยายเตี้ยไปว่า

ที่คุณ

ไม่เก่ง ทำอะไรไม่เป็น

ทำกับข้าวไม่เป็น ไม่รู้อะไรควร ไม่ควร

เพราะว่า

 

1.คุณเป็นคนไม่ชอบเรียนรู้

แต่ชอบอวดรู้ ชอบแสดงออกว่ารู้

แต่ไม่ลงมือทำ หรือ ลงมือทำ

ก็ทำเสียหายทุกเรื่อง

 

2.คุณเป็นคนขี้เกียจ ไม่มีน้ำใจ

ไม่ชอบลงมือทำงาน ชอบใช้ปาก

ชอบถามว่า

มีอะไรให้ทำไหม แต่พอเขาบอก

ให้ช่วยทำ ก็ไม่ทำ หนีเฉยเลย

 

3.คุณเป็นคนหยาบ

ทั้งฝีมือ และ ฝีปาก เรียกว่า

ทำงานไม่เป็นเลย แล้วชอบสอน

เวลาเห็นคนเก่งกว่าทำ

แทนที่จะไปเรียนรู้ อ่อนน้อมถ่อมตัว

ถามเค้า ว่า ให้ทำอย่างไร แต่นีคุณ

อวดรู้ สั่งคนเป็น ข่มเขา

แล้วคุณจะเอาวิชาจากเขาได้ยังไง

 

4.คุณไม่ชอบให้ใครสอน

แต่ชอบสอนคนอื่น

คือ

ถ้าคนเรารู้ตัวว่าไม่เก่ง ไม่เป็น

แล้วอยากทำอะไรเป็น ก็ควรเริ่มด้วย

การไปช่วยเป็นลูกมือคนเป็น คนเก่ง

แต่

การไปเป็นลูกมือ ไปเป็นผู้ช่วย

ต้องฟังคำสั่งคนเป็น คนเก่ง

โดยไม่มีข้อโต้แย้ง

แต่คุณ ไม่เคยทำอย่างนี้ คุณพยายาม

อวดภูมิความรู้ ที่เหนือคนอื่นตลอด

ทั้งที่ ทุกคนเขาก็รู้กันหมดแล้ว

ว่า คุณทำอะไร ไม่เป็นโล้เป็นพายเลย

 

5.คุณไม่รู้จักหน้าที่

ไม่รู้ว่า คุณเหมาะกับงานนี้หรือไม่

ทั้งที่คุณเตี้ยก็รู้อยู่แล้วว่า

คุณเป็นคนหยาบ

ไม่มีฝีมือ ทำไม่เป็น ทำไม่ได้

แต่ทำไม ชอบจัง ที่จะอยู่ในครัว

ชอบเข้าไปทำงานบ้าน อ.

ทั้งที่ อยู่มาปีกว่า ก็ไม่เคยทำให้

อ.ทำเองมาตลอด แล้วก็ยังมาขวาง

คนที่เขาจะไปทำให้ อ.

 

6.คุณไม่ละวาง

ปล่อยให้ความโกรธ ความอิจฉา

ครอบงำจิตใจ อยากสำคัญ อย่างเก่ง

เหมือนคนอื่น แต่ ไม่พยายาม

ฝึกฝนฝีมือ แต่ไปหาทางใช้ฝีปาก

และเล่ห์เหลี่ยม ใช้สถานการณ์คนมาก

กลมกลืนให้คนคิดว่า ตัวเองเก่ง

คนเยอะแยะ ปะปนกันไป คงไม่มีใครรู้

 

7.คุณไม่มีความรับผิดชอบ

คนที่อยากทำดีจริง ต้องรับผิดชอบ

อ.เห็นชัด วันที่เพื่อนมาจากต่าง ปท.

เอาเหตุการณ์เร็วๆนี่แหละ

จะได้ยังร้อนๆ อยู่

คุณหนีหน้าที่ ช่วงที่ต้องการ

ความช่วยเหลือจากคนมากมาย

แต่คุณ

อาศัยช่วงชุลมุนในบ้าน อ.

แอบไปทานอาหารดีๆ คนเดียว ในครัว

คิดว่า คนอยู่ในบ้าน อ.เยอะ

ยุ่ง

ไม่มีใครรู้ รีบไปกินอาหารดีๆ ก่อนดีกว่า

ทิ้งให้คนอื่น วิ่งกันวุ่น แต่อ้างว่า

อยากมาช่วยงานช่วงนี้

นี่มันแสดงความไม่รับผิดชอบชัดๆ

 

8.ตะกละ

สิ่งที่ทำมาข้างต้น มันยืนยันว่า

คุณตะกระไม่เลิก เหมือนเดิม

ไม่เช่นนั้น คุณคงไม่อาศัยช่วงชุลมุน

ในบ้าน อ.อุบล หนีไปทานอาหาร

ที่เขาเตรียมสำรองไว้ให้แขกหรอก

 

แล้วการที่คุณทำอาหารไม่เป็น

คุณก็ไม่ควรจะมาอยู่ในครัว

ถ้าคุณไม่มีเจตนา มาหาอาหารทาน

ก่อนคนอื่น หรือ ถ้าไม่ตะกระจริงๆ

ต้องไปทำงานอื่น นอกครัว

ที่คุณถนัดกว่านี้ เช่นงานเกษตร

หรืองานช่าง งานปูนเป็นต้น

 

9.ไม่รู้จักตัวเอง

ไม่พัฒนา ไม่ยอมรับความจริง

คนเราต้องรู้ว่า เรามีจุดอ่อน จุดแข็ง

ตรงไหน ต้องรีบแก้ไขตรงนั้น

และ

ต้องกล้ายอมรับความจริง

ไม่ใช่

มาคอยสร้างภาพตบตาคน

ที่จริง คุณก็หลอกตัวเองนั่นแหละ

......................................

กราบอนุโมทนาในทุกๆธรรมทาน

จากท่านอาจารย์ด้วยนะคะ

 

แต่อ่านเรื่องที่ท่านอาจารย์สอนคุณเตี้ยแล้ว

ทำไมโดนชนิดาไปเต็มๆหลายข้อเลยค่ะ

ทั้งเรื่องอวดดี อวดเก่ง ไม่ค่อยฟังใคร

แถมหลอกตัวเองก็เก่งอีกต่างหาก

 

จะหมั่นเฝ้าดูแล

จิตใจชั่วๆของตัวเองให้ดี

และ มีสติเสมอกับทุกๆการกระทำค่ะ

 

เพราะถ้าพลาดเพียงหนึ่งครั้ง

ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องน้อยนิด

แต่จริงๆ มันคือ ความเสียหาย

ที่มหาศาลเกินประมาณ เสมอ

 

ต้องตระหนักและคอยเตือนตนอยู่เสมอ



กราบขอบพระคุณค่ะอาจารย์

ที่เมตตามาเขียนธรรมทานที่

สะท้อนจากพฤติกรรมหลายๆคน

ที่ไปทำบุญบ้านสวนฯ

และไปช่วยงานในครัว

 

แต่ก็สร้างบุญไป

แล้วก็เพิ่มพูนบาปให้ตัวเองไป

สุดท้ายก็เลย ไม่หลุด ไม่พ้น

จากความทุกข์ซักที

 

วันนี้คิดว่า คุณพี่ศรี

คงจะได้แนวทาง

แก้ปัญหา"หลัก"ในชีวิตแล้วนะคะ

 

 

คงต้องขอบคุณ

"อิทธิฤทธิ์ด้านความเปรี้ยว

เกินพิกัดของมะนาวครึ่งลูก"นะคะ

 

เพราะว่า มันเป็นชนวนอันดี

ที่ทำให้พี่ได้หยุดคิด พิจารณาตัวเอง

เพื่อจะได้ถอนรากกรรมให้สิ้นซากซักที

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-07 05:27:59

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:27:29


ความคิดเห็นที่ 7377 (1629312)

 

ขออนุญาตยกมาหน้านี้ เพื่อเป็นอุธาหรณ์แก่ทุกๆท่าน
ตอนเช้าของวันธรรมดาวันนึง
ได้ไปช่วยงานในครัวมีคุณบุญตาทำ อยู่ก่อนแล้ว
เค้าทำผัดถั่วพูเสร็จไปอย่างนึง กำลังทำแกงส้ม
ดิฉันเลยช่วยตำน้ำพริก อีกอย่าง
ระหว่างที่กำลังทำ เห็นทีท่าและท่าทางเค้าทำให้เราเข้าใจไปเองว่า
น้องเค้า ไม่ค่อยจะถนัดงานครัวนัก ( แต่จริงๆเค้าเป็นมวยมากกว่าเราอิก)
ประกอบกับที่เค้าพึมพำๆ ประมาณว่าแกงส้มไม่ได้ที่สักที่ ไม่ออกเปรี้ยวสักที
เห็นชิมหลายทีแล้วก็ยังพึมพำๆ แบบไม่ค่อยแฮป***นัก
พอเราทำน้ำพริกเสร็จ ชิมได้ที่แล้วก็เลยหันไปดู
จังหวะเดียวกับที่เค้าหันออกไปเด็ดชะอมพอดี
เราก็เลยได้ทีอวดเก่ง และสาระแนไปชิมของเค้า
เท่านั้นยังไม่พอ ไม่คิดไม่รีรออะไรเลยสักนิด
อีกทั้งยังไม่มีเสียงแอ๊ะอ๊ะอะไรจากอีกฝั่งนึง
(เราก็เลยยิ่งย่ามใจ ไม่รู้ว่ากำลังทำผิดมหันต์
ได้สิทธิ์รับตั๋ว VIP พุ่งหลาวลงนรกขุมที่สอง ...)
ปรุงต่อให้เค้าซะอีก อย่างมั่นอกมั่นใจในฝีมือต้วเอง
มีน้ำมะขามที่เหลืออยู่ กำลังจะเติมลงไป
อ้าว ไฟปิดแล้วนี่นา อ้อ ไม่เป็นไรนี่ (ยังไม่วายโง่)
ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่าเค้าพอใจในรสชาดแล้วมั้งถึงได้ดับไฟ
หันกลับมาหยิบมะนาวผ่าเลยค่ะ
เคยรู้เคยเห็นเขาทำกันมา ว่าใช้น้ำมะนาวแทนได้ชัวร์
แต่มันก็รู้มาไม่หมดอีกแหละ เฮ่ออ ... อ่อนใจ
พูดถึงมะนาว บางคนจะผ่ากลาง ลูกนึงจะได้แค่ 2 ชิ้น
บางคนจะผ่าแบบเลี่ยงๆเม็ด
ลูกนึงจะได้ 5 ชิ้น รวมทั้งแกนกลาง 2 ลูกก็จะได้ 10 ชิ้น
เราเองเป็นพวกหลัง วันนั้นผ่ามะนาวลุกใหญ่ๆซะหลายลูก รวม 3 - 4 คราว
จำได้ว่าใช้เขียงเล็กชมพู แล้วก็ไม่มีคราวใดที่ผ่ามะนาวแล้วแต็มเขียงเลยย
จึงค่อนข้างมั่นใจว่า ใส่มะนาวลงไปไม่เกิน 1 ลูก
 
ทีนี้มาต่อ ใช้มะนาวแทน
จะได้ไม่ต้องเปิดแก๊สให้เปลืองอีกรอบ (นึกว่าฉลาดแล้วว)
เติมซีอิ้วอีกนิดตามที่เคยรู้มา
อันนี้ก็รู้มาแบบครึ่งๆกลางๆ แบบผิดๆ ซะอีก ( มารู้ทีหลังว่าแกงส้มเค้าไม่ใช้ ซีอิ้ว อีกต่างหาก โง่คูณสิบ)
ชิมได้รสเปรี้ยวเค็มพอประมาณก็เลยพอแค่นั้น
บุญตาก็มาทอดชะอมของเค้าต่อ
เราก็ถอยออกมาทยอยเก็บล้างอุปกรณ์รอ จนเค้าทำเสร็จ
ก่อนเค้าจะออกไปยังฝากให้ผัดมะละกอใส่ไข่เป็นอาหารเช้าอีกอย่าง
เช้านั้นก็เลยมี ผัดมะละกอ กับไข่พะโล้และแกงส้มของเก่า อ้อ น้ำพริกอีกถ้วยกับถั่วพูสดๆ
ท่านคงเห็นความโง่ไม่เลิก บวกบทสาระแนแบบเหนียวแน่น แต่ยังไม่หมด มีอีกค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:34:45


ความคิดเห็นที่ 7378 (1629314)

 

มื้อเที่ยงบุญตาจะทำผัดไท สำรองไว้ให้แขกที่มา
จากความที่เราไม่รู้ถึงความโง่เขลาจุ้นจ้านในภาคเช้ามาก่อน
เลยได้มาสาระแนต่อในรอบที่สองอีก
เริ่มจากค้นตู้เย็นหาน้ำผัดไทปรุงสำเร็จ
ที่เหลือจากเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา
แล้วปอกหอมแดงแล้วสับละเอีนด
สองอย่างนี้เราหาเองและเตรียมให้
พร้อมด้วยไชโป้วหวานที่เค้าส่งมาให้สับ
รวม 3 รายการที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว
พอจะลงกะทะ ดูท่าน้องเค้าไม่ค่อยมั่นใจ
ไม่ค่อยอยากจะใช้หอมแดง เท่าไร
 (ถึงตอนนี้เราก็ยังโง่อยู่ ช่างไม่รู่อะไรบ้างเลยย)
เรากลับบอกเค้าไปด้วยความมั่นใจว่าให้ใส่ไปเถอะใช้ได้
หมายถึง ทั้งหอมสับและน้ำปรุง
 เพราะได้มีส่วนร่วมเตรียมเมื่อไม่กี่วันนี่เอง อันนี้ไม่ได้พูดออกไป
ระหว่างที่ผัด ก็คอยดูเป็นกำลังใจ แถมช่วยเติมน้ำให้อีกนิดหน่อย
แล้วหันมาปอกหัวปลีที่เริ่มดำแล้วแช่น้ำมะนาว (อีกแล้วว)
แล้วก็ซอยถั่วพู ผ่ามะนาว เพื่อเอาไว้เคียงในจาน
บุญตาผัดเสร็จได้ผัดไท หน้าตาสวยงาม
ลุงเบิ้มตั้งใจทำส้มตำ ให้ท่านอาจารย์
เลยได้ยกเข้าไปที่บ้านท่านอาจารย์พร้อมกับผัดไท
ทีนี้ก็ยังมีผัดไทเหลืออยู่อีก
เลยยกออกมาให้คุณลุงทั้งสองได้ทาน
จากเรื่องราวและพฤติกรรมในวันนั้น
 มันมีไฟเย็นแฝงอยู่ตลอดเวลา
แกงส้มหม้อนั้น และน้ำพริกครกนั้น
 ไม่มีใครทานกันได้เลย ต้องเททิ้งทั้งหมด
วัตถุดิบและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆที่เกี่ยวข้อง
เป็นของที่ ผู้มีจิตศรัทธานำมาบริจาคทำบุญ
นับเป็นสังฆทาน ถือเป็นของสงฆ์
รวมถึงเรี่ยวแรงของบุญตา และโป๊กที่ตั้งใจทำงานให้ลุล่วง
 แต่กลับถูกล่วงละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม
เพราะผลที่ออกมา คือความเสียหาย ที่ประเมินไม่ได้เลย
ถือเป็นการติดหนี้สงฆ์ อย่างใหญ่หลวง
ซึ่งจะชดใช้ย้งไงก็ไม่มีทางหมดหมดสิ้น
สัปดาห์ที่แล้วได้ถิอโอกาสกล่าวขอโทษ ขอขมาต่อผู้เกี่ยวข้องโดยตรง
คือ ลุงบุญ ลุงเบิ้ม ที่ทำให้ทานข้าวกันแทบไม่ลง
ขอโทษบุญตาที่ทำให้เค้า ยุ่งยากลำบากใจ
ตลอดจนพี่จุ๋ม พี่จิ๋ม ซึ่งเป็นเจ้าภาพใหญ่ ทั้ง น้ำ ไฟ และไบโอแก๊ส
 จึงฝากเรื่องนี้เป็นอุธาหรณ์แก่ทุกท่าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนใหม่ หรือใครก็ตามที่อาจจะเผลอ ลืม
และพลาดพลั้ง จะด้วยเจตนาอะไรก็ตาม
หากแม้มีความเดือดร้อน หรือเสียหายเกิดขึ้น
แปลว่าท่านได้ทำผิด ศีล แล้ว
ดังที่ดิฉันได้กระทำมา ดังนั้นท่านต้องมีสติตลอดเวลา
ไม่ว่าที่บ้าน  ที่สาธารณะ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตบุญ
มีสติในการรู้จักหน้าที่ตัวเอง
มีความรับผิดชอบ
ไม่ก้าวก่ายผู้อื่น แต่ก็ไม่ละเลยเพิกเฉยต่อผู้อื่นและส่วนรวม
ไม่ลืมเก็บข้าวของอุปกรณ์ที่หยิบออกใช้ไปทำงาน
ก่อนนำมาเก็บที่เดิมก็ต้องล้างให้สะอาด
 ไม่ลืมขวดน้ำ ถุงขนม ในทันทีที่เรากลับไปมันก็จะกลายเป็นขยะ
 ไม่เพิ่มภาระแก่ห้องน้ำ และโรงทาน ตลอดจนที่นอน
ใช้น้ำล้างจาน ล้างแก้ว อาบน้ำ ให้เกิดประโยขน์สูงสุด
ไม่ลืมปิดไฟ พัดลม เพราะเปิดทิ้งไว้ไม่เกิดประโยชน์แน่นอน ฯลฯ
กราบขอบพระคุณในเมตตาที่ท่านอาจารย์ได้ให้โอกาสตักเตือน สั่งสอน และระงับยับยั้งไม่ให้มีการประกอบกรรมซ้ำอืก
กราบขอขมาท่านอาจารย์ทั้งสองอีกครั้งที่ทำให้ท่านต้องลำบาก และเดือดร้อน ทั้งๆที่ท่านเองก็มีภารกิจสำคัญอีกมากมายที่ ท่านต้องมองไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือผู้คนอีกไม่รู้เท่าไร แต่กลับต้องมาเสียเวลา เสียความรู้สึกกับเรื่องที่ไม่เข้าท่าเช่นนี้ ลูกกราบขอโทษ และจะไม่ทำให้ท่านเดือดร้อนรำคาญใจ อีกต่อไปค่ะ
กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนทุกๆพระองค์ที่ลูกได้ก่อกรรมกระทำชั่วก่อให้เกิดความเสียหายอันหาค่ามิได้ ต่อไปลูกจะมีสติและพึงระลึกถึงข้อห้ามทั้งห้าเพื่อไม่ให้เกิดเหตุทำนองนี้อีก
ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:46:24


ความคิดเห็นที่ 7379 (1629408)

กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนทุกๆพระองค์ที่ลูกได้ก่อกรรมกระทำชั่วก่อให้เกิดความเสียหายอันหาค่ามิได้ ต่อไปลูกจะมีสติและพึงระลึกถึงข้อห้ามทั้งห้าเพื่อไม่ให้เกิดเหตุทำนองนี้อีก
ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-13 23:46:2

เรียนคุณ ภิญญลักษณ์

มารยาทในบ้านสวนฯ รวมถึงการเขียนหรือพูดด้วยนะคะ เห็นคุณภิญลักษณ์เรียกคุณบุญตา ว่าบุญตาเฉยๆ เรียกคุณโป๊ก ว่าโป๊ก สั้นๆ คุณภิญญลักษร์เคยได้ยินท่านอาจารย์เรียกใครแต่ชื่อเฉยๆไหมคะ อ๋อยเคยได้ยินแต่ท่านเรียกใครก็ คุณ...ทุกคำ ทั้งที่ท่านสูงส่งกว่าเราม้ากกก......อย่างวันบวงสรวงพระศรีอาริย์ฯ มีโอกาสช่วยท่านหยิบ  กล้วยไม้ส่งให้ท่าน ท่านเป็นคนจัดสวน ท่านเรียกว่า คุณอ๋อย ช่วยหยิบกล้วยไม้ให้อาจารย์หน่อยค่ะ

อ๋อยรู้ว่าตัวเองไม่ควรค่าที่ท่านจะเรียกว่าคุณ...ด้วยซ้ำ เพราะไพร่และต่ำเกินไป ทำชั่วมาสารพัด แต่ท่านมีจิตเมตตาที่ละเอียดอ่อนและสูงสุดฟ้า ท่านยังให้เกียรติ กับทุกๆคน ไม่เลือกชนชั้น

เคยมีกรณีคุณเบญจมาศ เขียนถึงคุณเอิ้น แต่เขียนว่าเอิ้น ซึ่งท่านอาจารย์ได้เมตตาเตือนคุณเบญไปแล้ว

ลองหาอ่านดูนะคะ อ๋อยจำไม่ได้ว่าอยู่กะทู้ไหน อ๋อยเองก็พยายามเข้ามาอ่านให้มาก และนำไปสอนตัวเอง เพราะปัญญาอ่อน คิดผิดคิดพลาดบ่อย ผลจากการเคยดื่มเหล้า เบียร์ มาหลายสิบปีความจำจึงเสื่อม ช้า เอ่อ

เวลาเข้ามาเขียนธรรมทานก็ใช้เวลานาน เรียงลำดับไม่ถูก แต่ก็พยายามเขียนค่ะ

ขออนุโมทนากับทุกธรรมทานด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-14 17:02:13


ความคิดเห็นที่ 7380 (1629456)

บุญตารู้สึกว่าคุณศรีอยากได้บุญธรรมทานกับเรื่องในครัวมากเหลือเกินนะคะวันไหนที่คุณศรีมาบ้านสวนช่วยทำหน้ามั่นใจให้บุญตาดูหน่อยนะคะอ่านตามเนื้อเรื่องแล้วคิดว่าคุณศรีมีฝีมือในการทำอาหารมากมายเหลือคณานับบุญตาเป็นคนไม่ค่อยถนัดงานครัวคราวหน้าขออนุญาติอ.อุบลให้คุณศรีโชเดี่ยวเป็นแม่ครัวเอกทำอาหารแบบทำหน้ามั่นใจให้ลูกบ้านสวนทานกันด้วยนะคะ อ้อ(ช่วยอธิบายคำว่าไฟเย็น ด้วยนะคะบังเอิญบุญตาคิดตามไม่ทัน)  แต่ในความรู้สึกของบุญตาคุณศรีคิดว่าโดนใส่ไฟหรือเปล่าค๊ะ  อีกอย่างนึงคุณศรีเที่ยวขอโทษหลายๆ คนแต่มีอยู่หนึ่งคนที่คุณศรีเจอแต่ไม่เคยเอ่ยถึงเลยและยังไม่ได้ขอโทษด้วย คิดออกไหมคะว่าเป็นใคร คือ อ.อุบลซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ท่านไม่สำคัญหรือคุณศรีไม่เห็นความสำคัญของท่านคะไม่เห็นเคยเอ่ยถึงเลย แต่ก็ต้องขอขอบคุณในความมี้น้ำใจในการร่วมลงมือทำอาหารในวันนั้น  ปล.อย่าลืมนะคะบุญตาก็ยังรอชิมอาหารแม่ครัวฝีมือเอกของคุณศรีอยู่นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญตา โปรยเงิน ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-14 21:47:28


ความคิดเห็นที่ 7381 (1629482)
ขอบคุณคอมเมนท์และธรรมทานจากคุณอ๋อยค่ะ
ระหว่างที่กำลังทำ เห็นทีท่าและท่าทางเค้าทำให้เราเข้าใจไปเองว่า
น้องเค้า ไม่ค่อยจะถนัดงานครัวนัก ( แต่จริงๆเค้าเป็นมวยมากกว่าเราอิก)
 "ทำให้เราเข้าใจไปเองว่า"
ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาเลยเข้าใจผิด ซึ่งตรงนี้ทำให้พี่
จุ้นจ้านสาระแนจนเกินเหตุ
จนทำให้เกิดความเสียหายที่ร้ายแรงดังกล่าว
ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าวันนั้นพี่เข้าใจผิดจริงๆ
 
(ช่วยอธิบายคำว่าไฟเย็น ด้วยนะคะบังเอิญบุญตาคิดตามไม่ทัน) แต่ในความรู้สึกของบุญตาคุณศรีคิดว่าโดนใส่ไฟหรือเปล่าค๊ะ
 
ขอยกตัวอย่างตามความเข้าใจ
จากธรรมทานที่ท่านอาจารย์เมตตาในงานบวงสรวงอาราธนาบารมีพระศรีอาริยเมตไตรย์
การล้างจานให้สะอาด
สมมุติใช้น้ำแค่ 2 ลิตรก็สะอาดแล้ว
ถ้าบังเอิญเราใช้น้ำไปซะ 5 ลิตร
เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน
คือได้จานสะอาดเหมือนกัน
แต่น้ำส่วนเกิน 3 ลิตรนี่แหละ
ที่เป็นไฟเย็นเพราะเราไม่รู้ตัว
ว่าเราใช้เกินทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
ได้ใช้น้ำแต่ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด
เคยเห็นตัวอย่างดีๆของพี่จุ๋ม พี่จิ๋ม
เลยจำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
รู้สึกขอบคุณทุกครั้ง
เวลาซักผ้าเสร็จ ก็จะเอาน้ำไว้ถูบ้าน ล้างห้องน้ำต่อ
ล้างจานก็เอาหม้อหรือกะทะมาไว้ใกล้ๆ
น้ำล้างจานไหลลงล้างฟองน้ำที่ล้างจาน
แล้วต่อลงกะทะ
ได้กำจัดไขมันที่ติดกะทะหน่อย
แล้วค่อยล้างกะทะ หรือหม้อต่อ
อย่างน้อยแต่ละครั้งก็ได้ประหยัดน้ำได้นิดนึง
รวมๆกันหลายๆครั้งเข้าก็ไม่น้อยนะ
ช่วยลดภาระชาติได้เหมือนกัน
แถมประหยัดค่าน้ำที่บ้านอีกซ้ำ
กรณีนี้เช่นกัน ไฟเย็นก็คือ 
การทำให้เกิดความเสียหายโดยที่เรา
คาดไม่ถึงว่ามันจะเสีย
แต่ของมันก็เสีย เกิดความสูญเสีย สูญเปล่า
ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์เลย
ไม่ใช่คุณน้องใส่ไฟอย่างที่เข้าใจค่ะ
 
อ.อุบลซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ท่านไม่สำคัญหรือคุณศรีไม่เห็นความสำคัญของท่านคะไม่เห็นเคยเอ่ยถึงเลย
พี่ยังนึกเสียดายที่ยังไม่ได้กล่าวคำขอขมาจากการล่วงละเมิดท่านอาจารย์ทั้งสองรวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกคนและการทำให้ข้าวของเสียหาย อย่างเป็นทางการเลย
แม้ว่าในวันที่เดินทางไปถึงซึ่งค่อนข้างดีกแล้วท่านอาจารย์กำลังพาลูกหลานเดินชมสวนและม่านน้ำตกบริเวณหน้าบ้านท่าน
ได้เข้าไปสวัสดีและกล่าวขอโทษท่านก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงไปจุดอื่นๆก็ตามที
ท่านอาจารย์เป็นผู้มีบุญคุณมีความปรารถนาดี ทำให้พี่ได้ตระหนักและพึงระวังที่จะไม่ละเมิดในความละเอียดของศีลทุกๆข้อ ซึ่งในอดีตเราเคยเรียนมา ท่องมา เลยได้รู้แค่หยาบๆ เท่านั้นเอง ถึงตอนนี้ก็ยังรู้ตัวดีว่ายังมีเลวอีกเยอะที่ต้องขุดออกไป แต่ไงก็ไม่ยอมแพ้หร้อก
การได้ฝึกหัดงานในบ้านท่าน ทำให้ร่างกายและจิตใจเข้มแข็ง แข็งแรงขึ้นระดับนึง
ที่นี่ช่วยรื้อฟื้นคำว่า เบิกบาน ที่หายไปจากชีวิต ... นานแล้ว
ที่นี่สอนให้พี่ และลูกหลานได้รู้จักคำว่า จิตอาสา ที่เป็นอาสาอย่างลึกซึ้ง
ที่นี่สอนให้พี่ และลูกหลานได้รู้จักคุณค่าของการทำงาน
ฯลฯ
แล้วท่านอื่นๆ ก็ไม่ค่อยได้เห็นในเวปไซต์ เลยถือโอกาส กล่าวขอโทษขอขมาหลังจากทักทายสวัสดี
สำหรับพี่จุ๋ม พี่จิ๋ม เข้าเวปไซต์ได้ แต่หากได้พบเจอทักทายแล้วก็ถือโอกาสนั้นกล่าวขอโทษขอขมาด้วยเลย จะไม่ดีหรือ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-15 02:13:33


ความคิดเห็นที่ 7382 (1629609)

 

วันนี้เกดได้โอนเงินทำบุญ จำนวน 99+1 บาท ที่ธ.กรุงเทพ เลขที่ 0650347289 ค่ะขอทำบุญทุกบุญในบ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

และได้โอนเงินซื้อของ คือ 1. ครีมเกสรบัว ปราณ 1 ขวด

                                         2. สบู่น้ำนมข้าว 1 ก้อน

                                         3. สบู่อโรเวล่า 1 ก้อน

                                         4. ธนบัตรขวัญถุง 1 ฉบับ

จำนวน 1,000 บาท ที่ธ.กรุงเทพ เลขที่ 1810684678  ค่ะ

กรุณาส่ง นิพาดา กะตะศิลา

บ้านเลขที่ 122/2 ซ.จอมทอง 2/1 ขว.บางค้อ ถ.จอมทอง ข.จอมทอง กทม.10150 โทร 080-2579927 ค่ะ

คือว่าเกดโทรแจ้งฝากข้อความไม่ติดค่ะ กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-15 23:35:11


ความคิดเห็นที่ 7383 (1629740)

เสาร์ - อาทิตย์ ที่ 15 -16 กันยายน 2555

พวกเราช่วยกันรื้อ ทุบกำแพงปูนห้องเก็บของที่อยู่ติดกับโรงครัวเก่า รื้อโรงทานเก่า ทุบองค์พีระมิดที่อยู่หน้าห้องครัวเก่าทั้ง 2 องค์ และนำเศษอิฐหักวัสดุไปแยกเก็บไว้เพื่อใช้งานในโอกาสต่อไป ส่วนวัตถุดิบเช่นเครืองปรุงรส น้ำดื่ม เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่เคยเก็บไว้ในองค์พีระมิด และห้องเก็บของพวกเราก็ช่วยกันขนย้ายไปเก็บในโรงครัวใหม่ งานด้านการเกษตรมีนำปุ๋ยหมักไปใส่ในนาข้าว ถางหญ้า ปลูกผักหวาน ตกแต่งกิ่งเสารส ช่วยผสมเกสรเสารส จัดแต่งดอกไม้บริเวณหน้าบ้านท่านอาจารย์ ส่วนอาจารย์อภิชัยตกแต่งช่วงพระบาทสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา ดร.จุ๋ม & จิ๋มทำงานด้านไบรโอแก๊สและงานทั่วไป

คุณปวริศา เรียนจบปริญญาตรีจากนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ จบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษได้ 1 เดือน คุณปวันรัตน์เป็นพี่สาวเคยมาบ้านสวนแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 พี่เห็นน้องมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจึงพาน้องมาบ้านสวนเป็นครั้งแรก

ปัญหาสุขภาพคุณปวริศา มีน้ำมันออกบนหัว ลักษณะเป็นก้อน มัน เหนียวคล้ายสีผึ้งสระผมก็ไม่ออก ครั้งแรกเป็นตรงกลางศรีษะนิดหน่อย ต่อมาเป็นก้อนมากขึ้น เวลาจะเป็นก็เป็น เวลาจะหายก็หายไปเอง  แล้วก็กลับมาเป็นใหม่ เป็น ๆ หาย ๆ อยู่อย่างนี้มาเกือบ 2 ปี คิดว่าตัวเองโดนคุณไสยมนต์ดำจากอดีตสามี เพราะพ่อแม่ พี่น้องของสามีชอบไปหาแม่หมอร่างทรง ดูหมอ ดูดวง ทุกวันโกน วันพระ สามีจะอารมณ์ร้อน เกรี้ยวกราด ตาเหลือก แสดงกิริยาโกรธเกลียดภรรยาอย่างเห็นได้ชัด คุณปวริศานำเรื่องความใจร้อนของสามีไปบอกเล่าให้แม่สามีฟัง แม่สามีจึงโทรศัทพ์ไปบอกแม่หมอร่างทรง แม่หมอทำพิธีจุดธูปเทียน สามีก็ใจอ่อนลงไม่แสดงอาการเหมือนที่เคยเป็น พ่อแม่สามีจะจัดการให้สามีแยกไปนอนบ้านอีกหลังหนึ่งในวันโกน วันพระ ไม่ให้นอนด้วยกัน

ช่วงวันโกนวันพระเวลากลางคืน คุณปวริศาจะมีอาการคันปวดแสบปวดร้อนเหมือนโดนหมามุ่ย ปวดกระดูก ปวดหัว ปวดขา เจ็บเหมือนโดนเข็มจิ้มก้น นอนไม่หลับเหมือนคนจุดไฟเผา บางครั้งได้กลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นแขก กลางคืนจะนอนไม่ได้ จะนอนหลับได้ตอน 6 - 7 โมงเช้าเท่านั้น นอนวันละ 1 ชั่วโมง เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ 2 - 3 อาทิตย์ หายไปแล้วกลับมาเป็นอีก มีความรู้สึกว่าถูกทำคุณไสยมานานแล้ว และคนทำคุณไสยมนต์ดำทำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

วันที่จะมาบ้านสวนเป็นครั้งแรก มีน้ำมันออกบนศรีษะเยอะมาก หลังจากทำบุญแรงกาย คืนวันเสาร์มีโอกาสเล่าให้ท่านอาจารย์ฟัง ท่านอาจารย์เมตตาส่งวิญญาณคุณไสยขึ้นข้างบน โดยให้ยืมบุญของท่านไปก่อน เย็นวันอาทิตย์ได้มาเล่าธรรมทานอีกครั้ง น้ำมันที่เหนียวหนืดบนศรีษะเหลือนิดเดียว ปกติเหนียวตั้งแต่โคนถึงปลายผม

ท่านอาจารย์ได้ทดลองให้พวกเราพิสูจน์บารมีพระศรีอาริย์ โดยให้คุณปวริศาอยู่ทั้งใกล้และไกลจากตัวท่าน ดร.จิ๋ม คุณแมว คุณเหมี่ยว คุณแก้ว คุณเจี๊ยบ เบส และท่านอื่น ๆ เป็นผู้พิสูจน์ ด้วยการทดลองจับผมบนศรีษะคุณปวริศา ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรระหว่างอยู่ใกล้ กับไกล ปรากฏว่าอยู่ใกล้ไม่เหนียวหนืด อยู่ไกลผมจะเหนียวหนืดมากกว่า  อีกอย่างหนึ่งมาถึงบ้านสวนแล้วคิดว่าจะบูชาจี้องค์เทพสฟิงซ์แต่ก็ไม่ได้บูชาเสียที จนถึงเย็นวันอาทิตย์ ท่านอาจารย์จึงให้คุณแมว(น้องอัญรับอาสาแทนคุณแมว)ไปนำจี้ที่คุณท็อปมาให้พี่น้องได้บูชาคนละ 1 องค์  เมื่อบูชาจี้แล้วท่านอาจารย์ได้นำอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร หลังจากอุทิศบุญแล้วคุณปวริศารู้สึกโล่ง โปร่งสบาย ผมลื่นเป็นปกติไม่เหนียวหนืด หน้าตาก็สดชื่นแจ่มใสแตกต่างจากวันเสาร์มาก แสดงว่าบุญแรงกาย บุญปัจจัย สิ่งของมีผลจริง ไปเรียนอังกฤษและรักษาอาการป่วยด้วยหมดเงินไป 2 - 3 ล้านบาทก็ไม่หายไม่ดีขึ้น เพราะคิดว่าหนีไปอยู่อังกฤษไกลแล้ว คุณไสยมนต์ดำคงตามไปไม่ถึง แต่ความจริงไม่เป็นอย่างที่คิด อยู่ไกลแค่ไหนคุณไสยมนต์ดำก็ตามไปได้ อาการเจ็บปวดทั่วร่างกายทุกอย่างที่เคยเป็น หายไปหมดในวันอาทิตย์ อาการป่วยนี้เป็นมาก่อนที่จะรู้จัก รหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วย

คุณไสยเป็นเชื้อโรคชนิดหนึ่ง เข้าร่างกายคนได้ทางการกิน เราควรระมัดระวังเรื่องการกินให้มาก การออกกำลังกายช่วยขับสิ่งเหล่านี้ได้ดี ในร่างกายเรามีแต่ของเน่าเหม็น มีเพียงหนังที่ห่อหุ้มร่างกายเท่านั้นที่พอจะดีหน่อย คนที่โดนคุณไสยคือคนที่ขี้โกรธ ขี้โมโห จิตตก อาฆาตจองเวร เคยทำคุณไสยคนอื่นมาก่อนเหมือนกัน อารมณ์ไม่ดีทั้งหลายเป็นตัวขัดลาภ ถ้าเราละอารมณ์ไม่ดีเหล่านี้ได้ และหัดทำอภัยทานให้ได้ สิ่งไม่ดีทั้งหลายจะออกจากร่างกายเราหมดในที่สุด ควรคิดดี พูดดี ทำดีทุกลมหายใจแล้วอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อย ๆ เขาอยู่ได้ด้วยบุญ ถ้าบุญหมดเมื่อไหร่เขาจะกลับมาหาเราอีก 

ช่วงท้ายแสดงความรู้สึก คุณปวริศารู้สึกโล่ง ปลอดโปร่ง สบายร่างกายขึ้น น้ำมันออกไปหมดแล้วอาการเจ็บป่วยร่างกายก็หายหมดแล้วตื่นเต้นและดีใจ หลังจากทนทุกข์ทรมานมาเกือ 2 ปี 

คนที่บูชาจี้แล้ว คนทำคุณไสยใส่ไม่ได้ คนที่ทำคุณไสยมนต์ดำให้ใคร ตัวเองจะต้องได้รับมนต์ดำนั้นซึมอยู่ในตัวก่อนจึงส่งให้คนอื่นได้ เราจะรับหรือไม่รับก็ได้ถ้าเรามีจิตใจที่ดีและเข้มแข็ง เหมือนการแช่งมีผลทั้งคนแช่งและคนถูกแช่ง ถ้าเรามีจิตใจเมตตาไม่โกรธ พลังร้ายเหล่านั้นก็จะกลับไป ตรงกันข้ามถ้าเราไม่มีเมตตา จิตตก  จิตต่ำ โกรธ โมโห ก็จะรับคุณไสยมนต์ดำได้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 14:41:53


ความคิดเห็นที่ 7384 (1629791)

พี่สมจิต เล่าซะเห็นภาพเลยค่ะ คิดถึงบ้านสวนจัง

อนุโมทนาบุญ กับญาติธรรมทุกท่านด้วยนะคะ ที่ได้ร่วมบุญวิหารทานและบุญอื่นๆทุกบุญ ทั้งแรงกาย  ปัจจัย สิ่งของ ใน เสาร์ -อาทิตย์นี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 21:16:08


ความคิดเห็นที่ 7385 (1629793)

ธรรมทานวันที่ 15-16 ก.ย.55

เสาร์อาทิตย์นี้ ลูกบ้านสวนฯไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯกันน้อย ประมาณ 20 คนยิ่งวันอาทิตย์ก็เหลือน้อยลงไปอีกเหลืออยู่ 10 กว่าคน

แต่ผลงานที่ทำออกมานั้นได้มากมาย  พวกเรารื้อ ทุบองค์พีระมิด 2 องค์ที่อยู่ด้านหลังโรงครัวเก่า และ รื้อโรงครัวและโรงทานเก่าเสร็จเรียบร้อยภายใน 2 วัน รวมทั้งขนเศษอิฐ เศษปูนไปเก็บเรียบร้อย ที่แปลงเกษตรก็ยังมีเวลาไปถอนหญ้าที่แปลงเผือก แปลงเสาวรส ปลูกต้นไม้หน้าบ้านท่านอาจารย์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ

แถมยังได้ธรรมทานดีๆช่วงบ่ายของวันอาทิตย์อีกค่ะ

1.คุณปวริศา (คุณนุช)สมาชิกใหม่ของบ้านสวนฯมากับคุณแนน(เจ้าของโรงสี)ซึ่งเคยมาบ้านสวนฯ 2 ครั้งแล้ว มาด้วยความทุกข์ จากการที่มีน้ำมันบนศรีษะ ซึ่งไม่เหมือนคนอื่น เพราะคนอื่นเขามีน้ำมันบนศรีษะเพราะไม่สระผมหลายวัน แต่คุณแนนสระผมเช้า-เย็น ทุกวัน แต่ก็มีน้ำมันไหลเิ้ยิ้มบนศรีษะ ลักษณะเหมือนเสาตกน้ำมัน จะมีลักษณะเหนียว เป็นก้อนๆ แม้ว่าจะสระผมหลายๆครั้งก็ยังไม่หลุดออกและเป็นมากตั้งแต่โคนผมถึงปลายผมเป็นเหมือนสีผึ้งทาปาก หวียังไงก็ไม่ออกแต่จะเป็นรอยหวีแทน แต่ถ้าบทจะหายก็หายไปเฉยๆ แต่ถ้าบทจะมีน้ำมันก็จะเยิ้มออกมาสระผมยังไงก็ไม่หาย เป็นมาประมาณ 2 ปี ช่วงหลังๆจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนเหมือนโดนไฟเผา คันตามผิวหนังทั่วตัวเหมือนโดนหมามุ่ย ปวดหัวปวดตัวเหมือนโดนเข็มจื้ม  กลางคืนจะนอนไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะวันพระจะมีอาการมาก แม้จะกินยานอนหลังก็นอนหลับได้แค่วันละชั่วโมงเท่านั้น

คิดว่าตัวเองโดนทำคุณไสย์จากอดีตสามี ซึ่งโดนทำคุณไสย์ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน เพราะที่บ้านของเขาอยากได้คุณแนนเป็นสะไภ้ เพราะฐานะทัดเทียมกัน และอดีตสามีเขาก็มีปมด้อยคือแขนขาด ไม่ได้ทำงาน พ่อแม่ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย ทางบ้านของอดีตสามีจะเชื่อเรื่องคนทรง หมอดูมาก ช่วงที่อยู่ด้วยกัน อดีตสามีจะมีพฤติกรรมที่เล่นคุณไสย์ และจะมีท่าทางวิปริตผิดมุษย์ คือ จะถมึงทึง แปลกๆ ในวันโกนวันพระ เมื่อบอกพ่อแม่สามี เขาก็จะโทรไปหาคนทรง คนทรงก็จะทำพิธี เขาก็จะสงบลง เมื่อหย่ากันแล้ว คุณแนนก็มีเริ่มมีอาการต่างๆข้างต้น จนกระทั่งได้หนีไปอยู่ที่อังกฤษ แต่คุณไสยก็ยังตามไปอยู่ด้วย ไปไหนไปกัน (แต่ไม่ช่วยออกค่าตั๋วเครื่องบินเล๊ย) เคยใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย แต่ก็ดีขึ้นนิดหน่อย

ก่อนวันเสาร์ที่จะมาบ้านสวนฯน้ำมันยังออกเต็มหัวอยู่เลย ช่วงกลางคืนของวันเสาร์ ก็ได้เล่าให้ท่านอาจารย์ฟังครั้งนึงแล้ว และท่านอาจารย์ได้อุทิศบุญให้แก่วิญญาณที่เกาะอยู่ และวันอาทิตย์ก็ได้ใช้แรงกายร่วมบุญเต็มที่ เมื่อถึงบ่ายวันอาทิตย์ได้ออกมาเล่าเป็นธรรมทานโดยนั่งข้างๆท่านอาจารย์ อาจารย์ก็เลยให้คนอื่นๆมาจับผมและ ศรีษะเพื่อเป็นพยาน แต่ปรากฏว่าหาน้ำม้นไม่เจอ คลำแล้วคลำอีกก็ไม่เจอ ท่านอาจารย์เลยให้ไปนั่งห่างออกไปก่อน แล้วจับศรีษะใหม่ปรากฏว่า มีน้ำมันออกมานิดหน่อย แตะที่โคนผมจะมีลักษณะเหนียวหนืดติดมือนิดๆ ซึ่งก็มีพยานหลายคนไปช่วยกันแตะ คือ คุณแมว คุณธนา พี่เหมี่ยว ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม และเจี๊ยบ

เมื่อกลับมานั่งข้างท่านอาจารย์ใหม่อีกครั้ง คุณแนนได้บูชาจี้องค์สฟริงซ์และสารภาพบาปกรรมที่เคยทำในอดีต ปรากฏว่าหายหมดเลย เส้นผมสลวยซะอีก ไม่มันเลย

คุณไสย ในทางวิทยาศาสตร์เป็นเชื้อโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากเหงื่อไคล สิ่งสกปรก(สังเสทชะ) สามารถเข้าทางร่างกายได้โดยทางการกิน ภาชนะที่ไม่สะอาด ท่านอาจารย์จึงย้ำวิธีการล้างจาน ภาชนะที่ถูกวิธี โดยติดวิธีการล้างที่ถูกต้องที่อ่างล้างจาน แต่ลูกบ้านสวนฯก็ยังเพิกเฉย

ที่คุณแนนโดนคุณไสย เพราะคุณแนนเป็นคนขี้โกรธมาก่อน การโกรธ โมโหจะทำให้โดนคุณไสยง่าย คนที่จิตตกหรือเคยทำคุณไสยใส่คนอื่นมาก่อน ก็จะโดนคุณไสยเช่นเดียวกัน เพราะคุณไสยก่อนที่ผู้ทำจะทำใส่คนอื่นต้องอยู่กับตัวคนทำก่อนจึงจะไปอยู่กับผู้ที่ถูกกระทำ

ความโกรธ อารมณ์ไม่ดีจะทำให้ไม่มีเงิน จะเป็นตัวขัดลาภ เราต้องหัดทำอภัยทาน

คนที่คิดดี พูดดี ทำดี เมื่อคนทำคุณไสยใส่เราจะไม่สามารถทำอะไรเราได้

ขอส่งธรรมทานตอนนี้ก่อนค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 21:24:13


ความคิดเห็นที่ 7386 (1629801)

บรรยากาศการทำบุญแรงกาย 15-16 กันยายน 55

หลังจากช่วง 2 อาทิตย์หลัง ที่ท่านอาจารย์ทั้ง 2 เมตตา จัดงานบวงสรวงอาราธนาบารมี พระศรีอารย์มาสถิตย์ที่บ้านสวนพีรามิดเป็นการถาวร ท่านเมตตาให้ตกแต่งภูมิทัศน์ให้สวยงาม พวกเราช่วยท่านทำแค่เสาร์ - อาทิตย์ แต่วันธรรมดา ท่านเจ้าของบ้านจะตกแต่งเปลี่ยนแปลงกันตลอด โดยท่านทำกันจนเย็นค่ำทุกวัน เพื่อต้อนรับผู้มาร่วมงานบวงสรวง และโทรทัศน์ที่มาขออณุญาติถ่ายทำกิจกรรม Biogas ของบ้านสวนพีรามิด และงานบวงสรวงพวกเราก็มีความสนุกสนาน กับการแสดงถวายพระศรีอารย์ในยามค่ำคืน และพิธีบวงสรวงอันศักดิ์สิทธ์ ท่านอาจารย์เองก็บอกว่ามีเทวดา นางฟ้า มารำถวายพร้อมพวกเราเต็มทุกอณู  ส่วนตนเองก็มีบุญสัมผัสกลิ่นหอมของเทวดา และแสงสว่างขาวทุกครั้งที่หลับตา และจิตนิ่ง

วันเสาร์ที่ 15 กย. มีคนมาไม่มาก  ไม่น่าจะถึง 20 คน ตัวพี่เองมาถึง 11 โมงได้มาร่วมขนเศษหิน ที่เขากำลังทุบทิ้ง วันเสาร์ทั้งบ่ายถึงค่ำ คนจำนวนไม่มากนั้นก็สามารถพิชิต ผนังโรงทานเก่าทั้งหมด และพีรามิดเขียว ที่ใช้เก็บน้ำและ อาหารแห้ง พวกผู้ชายใช้ค้อนทุบอิฐ ส่วนสตรี และคนชรา ก็ขนอิฐใส่รถ งานนี้โชคดีที่ไม่มีเด็ก เพราะเป็นงานที่จะมีอุบัตติเหตุเกิดได้มาก เช่น คุณเหมี่ยว โดนหิน บาดข้อเท้าเป็นรู เรียก อาจารย์อุบล ช่วยก็ เลือดหยุด จิ๋มก็ถูกหินบาดที่นิ้วเท้าเลือดออก ส่วน จุ๋มเอง โดนหินตกใส่ข้อเท้าบวม เรียก อจอุบล ช่วยความเจ็บก็ทุเลาเร็วมาก ทำงานต่อได้ ตอนขนหินมีมดมากัดเอาคืนตลอด อยากฆ่าเขาไว้ เขามาเอาคืน ก็ทนๆไป

เช้าวันอาทิตย์ 16 กย เขารื้อหลังคามุงจากออก พวกผู้ชายค่อยๆ เอามีกตัดกิ่งมะม่วง ตัดเชือกหลังคาทีละจุด จนสุดท้ายหลังคาจากมุงจาก ถล่มลงมาครืนใหญ่ ต่อจากนั้นก็คนละมือ ขนแฝกไปแปลงเกษตร ทำปุ๋ย ขนลำไม้ไผ่ไปพาดไว้กับต้นมะม่วง ประมาณ 11 โมง ก็ปิดตำนานโรงทานมุงจาก ที่อบอุ่น และชุ่มฉ่ำตอนฝนตก ลาก่อนโรงทานที่ให้พวกเราได้อาศัยร่มเงามานาน

อาจารย์อภิชัยถาม อาจารย์อุบลว่า พวกเราจะมีบาปติดตัวกันไหมที่บังอาจไปทุบปิรามิดทิ้ง 2 องค์ แถมรื้อโรงทานอีก ท่านอาจารย์ตอบว่าเราทำไป เพื่อให้มีการสร้างสถานที่ตึกใหม่ ให้ผู้คนได้มาอาศัย หลบภัย  ท่านอาจาย์เจ้าของบ้าน ท่านมีเมตตาแค่ไหน ท่านกะรับคนที่เดือดร้อน มาหลบภัย พวกเราก็ควรพยายามร่วมสนับสนุนท่านต่อไป ถึงจะเหนื่อย เท่าไร นอนคืน 2 คืน ก็ดีขึ้นเอง สู้ตายค่ะ

อนุโมทนากับคนทำและคนอ่านทุกท่านค่ะ
จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 22:00:20


ความคิดเห็นที่ 7387 (1629807)

ต่อค่ะ

คุณทัศนีย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลทหารผ่านศีก ป่วยด้วยอาการปวดหลังทรมานมาก ปวดทั่วตัว นิ้วชี้ซ้ายล็อค เคยให้คุณหมอตรวจแต่คุณหมอวินิจฉัยว่ากระดูกสันหลังทรุด ผ่าตัดไม่ได้ เพราะกระดูกผุ ไม่สามารถทำงานบ้านได้ ทำนิดหน่อยก็ต้องนอนซมลุกไม่ขึ้นเป็นอาทิตย์ แ่ต่มาบ้านสวนฯ 5 ครั้งแล้วทำงานหนักได้ไม่เป็นไร แต่อาการปวดยังเท่าเิดิม เคยใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย และสารภาพบาปกับจี้องค์สฟริงซ์แต่ไม่หาย ทั้งนี้เพราะพระองค์ท่านต้องการให้เล่าเป็นธรรมทาน

คุณทัศนีย์เคยทำกรรมจากการฆ่าสัตว์ ฆ่าสัตว์มากมายทั้งเพื่อเป็นอาหารและไม่ได้เป็นอาหารด้วยวิธีการโหดๆๆ

ฆ่ากระต่าย กระรอก นกทุกชนิด นกฮูก เต่า ตะพาบน้ำ อีเห็น ตะกวด กบ งู หนู

ใช้เชือกบ่วงรัดคอกระรอก ทำอาหาร

ใช้กรงดักอีเห็น แล้วเอาไปถ่วงน้ำให้ตาย ทำอาหาร

เต่า ใช้ไฟเผา ทำอาหาร

ตะพาบน้ำ ตัดคอแล้วลวกน้ำร้อน ทำอาหาร

ตะกวดตีให้ตายแล้วต้มให้หมากิน

กบถลกหนัง ดึงเส้นเอ็น ทำอาหาร

ตีงู หนู เอาลูกหนูให้แมวกิน

ทั้งนี้เพราะเห็นพ่อ พี่ชายทำบ่อยๆก็เลยชินและทำเองด้วย ซึ่งตอนนี้พ่อ แม่ ตายหมดแล้ว ส่วนพี่ชายเป็นเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ

เมื่อคุณทัศนีย์อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร แต่คุณทัศนีย์ใช้คำพูดและการกระทำยังไม่ได้มีจิตสำนึกในการกระทำมากนัก อาการปวดก็ดีขึ้น 50 % ส่วนที่เหลือไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจคนอื่นที่คิดจะสร้างบาปกรรม

คุณอมรภัทร เฟื่องฟู พี่สาวของคุณแก้ว มีอาการปวดท้องด้านขวามาก สารภาพเคยทำกรรมจากการเอายาเบื่อเบื่อหนู ตุ๊กแกติดกาวตาย ตีงูตาย ฆ่ากบ นกกระจอก ต้มน้ำเดือดๆแล้วเอาปลาเป็นๆโยนลงหม้อ และเคยบอกให้คนไปตายซะ เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ปรากฏว่า โล่งไปเยอะ หายปวดเลย

ช่วงคำถาม

คนที่ทำคุณไสยใส่ให้ใคร มนต์ดำนั้นจะอยู่ที่คนทำก่อนจึงจะปล่อยให้คนที่ถูกทำได้ และคนที่ถูกทำจะรับได้หรือไม่รับนั้น ขึ้นอยู่กับ

-กรณีคนนั้นมีจิตใจเมตตา ไม่โกรธแค้น จิตคิดบวก มนต์ดำนั้นจะสะท้อนกลังไปหาคนทำเป็น 2 เท่า

-กรณีคนนั้นมีความโกรธ ไม่เมตตา คุณไสยจะเข้าได้

ถ้าคนนั้นมีจี้องค์สฟริงซ์ก็จะช่วยได้ ถ้าคนทำส่งจิตวิญญาณใหม่เข้ามาก็จะช่วยกันได้

ทำไมจี้องค์สฟริงซ์จึงมีอานุภาพขนาดนี้

เพราะท่านอาจารย์รักษาศีลบริสุทธ์จริงๆ รักษาศีลจริงจัง ท่านอาจารย์สร้างบุญตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจริงๆ ทั้งทาน ศีล ภาวนาตลอด 24 ชั่วโมง ทำเป็นปรกตินิสัย พยายามตัดรัก โลภ โกรธ หลง

คนที่ใช้อุปกรณ์แล้วหาย เพราะท่านอาจารย์อุทิศบุญให้ผู้ที่บูชาทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ เครื่องสำอางพาเมล่า แหวน จี้ ต่างหู เพราะต้องการให้เขาได้ประโยชน์มากกว่าเงินที่เขาจ่าย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 22:15:00


ความคิดเห็นที่ 7388 (1629808)

 อนุโมทนาบุญกับธรรมทานด้วยนะคะ จากคุณสมจิต คุณเจี๊ยบและดร.จุ๋ม-ดร.จิ๋มคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 22:17:09


ความคิดเห็นที่ 7389 (1629813)

ธรรมทาน บ่ายอาทิตย์ที่ 16 กย.

      จำได้ว่าอาจารย์ได้บอกเกี่ยวกับคุณไสย มนต์ดำ ว่าเวลาคนทำคุณไสยพวกนี้ เขาจะนำเข้าให้กับคนทางปาก นั่นคือ เขาจะไปเพาะเชื้อ หรือ ทำเชื้อจากสิ่งสกปรกมาก ๆ มา เช่นได้เป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ที่เป็นพิษ มาเก็บไว้ แล้วพยายามให้คนที่เป็นเหยื่อกินเข้าไป  คนกินเข้าไปก็จะเกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดท้อง เจ็บปวดตามร่างกายเป็นต้น ความจริงมันก็ คือ วิทยาศาสตร์นั่นแหละ คือ รับเชื้อ อะไร ก็ได้อันตรายนั้น ๆ

      พอพูดถึงเชื้อโรค อาจารย์ก็ได้บอกว่า ลูกบ้านสวนเรา ก็ยังรักษาความสะอาดไม่พอ แก้วน้ำที่เป็นส่วนกลาง อย่าคิดว่าสะอาดนัก ถ้าจะใข้ ก่อนใช้ควรนำมาล้างอีกที เพื่อป้องกันเชื้อโรค แม้แต่การล้างจาน ท่านอาจารย์สังเกตว่า ฟองน้ำล้างจาน ก็ยังสกปรกอยู่ มีฟองฟอดของแฟ๊ป ติดอยู่ที่ฟองน้ำ  ปกติแล้ว วิธีที่ท่านแนะนำก็คือ ให้ล้างฟองน้ำด้วยน้ำเปล่า ไปพร้อมกับจานจนหมดแฟ๊บก่อน แล้วจึงวางในภาชนะที่จัดให้ ไม่ให้เหลือผงซักฟอกติดอยู่กับฟองน้ำเหล่านั้น เพราะเป็นที่หมักหมมของเชื้อโรค

        อาจารย์บอกอีกว่า ถ้าเรารักษาความสะอาดกันไม่ดีพอ โอกาสจะติดโรค ก็มีอีกมาก เพราะอนาคตอันใกล้ จะมีโรคระบาดขึ้นอีก   กราบขอบคุณในคำสอน และความหวังดีของท่านอาจารย์ต่อพวกเรา  จิ่มจะพยายามรักษาความสะอาดให้มากกว่านี้ค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 22:41:44


ความคิดเห็นที่ 7390 (1629817)

 

 
จากการที่ท่านอาจารย์อุบลได้พูดถึงว่า เขามีการทำคุณไสยกันโดยให้ผู้ที่ถูกคุณไสยได้รับเชื้อโรค ที่ท่านบอกว่าอยู่ในภูมิของสังเสทชะ จึงทำให้อยากรู้ว่ามีภูมิอะไรกันบ้างในกำเนิด 4     จิ๋มเลยไปค้นใน net มาให้อ่านกันค่ะ
เคยสงสัยไหมว่า ในบทสวดแผ่เมตตา มีคำว่า  ชลาพุชะ อัณฑชะ  สังเสทชะ โอปปาติกะ  แปลว่าอะไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณ
พระพุทธศาสนายืนยันว่า การเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริงซึ่งหลักฐานปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาจำนวนมาก เช่น ในคัมภีร์ชาดกเปรตวัตถุ วิมานวัตถุ ฯ ล ฯ
สัตว์โลกที่ไปเกิดอยู่ในภูมิทั้ง ๓๑ ภูมินั้น ย่อมเกิดในกำเนิดทั้ง ๔ คือ
๑. ชลาพุชะ   เกิดในครรภ์ 
๒. อัณฑชะ   เกิดในไข่ 
๓. สังเสทชะ   เกิดในเถ้าไคล
๔. โอปปาติกะ (อ่านว่า โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ) เกิดผุดขึ้น
คำว่า “ สัตว์โลก” คือ ผู้ยังข้องอยู่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมิต่าง ๆ ฉะนั้น จึงหมายรวมถึงมนุษย์ เทวดา พรหม ในทุกภพภูมิและสัตว์ในอบายภูมิทั้ง ๔ มิได้หมายเฉพาะสัตว์เดียรัจฉานประเภทเดียว
จะขอขยายความ กำเนิด ๔ ดังนี้
๑. ชลาพุชะกำเนิด   ได้แก่ สัตว์ที่เกิดในมดลูก คือ มนุษย์ และสัตว์เดียรัจฉานที่คลอดออกมาเป็นตัว และเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น โค กระบือ สุนัข แมว เป็นต้น
๒. อัณฑชะกำเนิด   ได้แก่ สัตว์เดียรัจฉานที่ออกมาเป็นไข่ก่อนแล้วจึงฟักออกมาเป็นตัว เช่น ไก่ เป็ด นก ปลา เต่า จิ้งจก งู เป็นต้น
ชลาพุชะกำเนิดและอัณฑชะกำเนิดนี้ รวมเรียกว่า ศัพภเสยยะกำเนิด เพราะเกิดอยู่ในครรภ์ของมารดาก่อน ภายหลังจึงออกจากครรภ์
๓. สังเสทชะกำเนิด   ได้แก่ สัตว์ทั้งหลายที่เกิดโดยไม่อาศัยท้องพ่อแม่ แต่อาศัยเกิดจากต้นไม้ ผลไม้ ดอกไม้ ของโสโครก ที่ชุ่มชื่น เชื้อรา เป็นต้น
๔. โอปปาติกะกำเนิด   ได้แก่ สัตว์โลกที่เกิดมาโดยไม่ได้อาศัยพ่อแม่และของโสโครก หรือที่ชุ่มชื้น แต่อาศัยอดีตกรรมอย่างเดียว และเมื่อเกิดก็เติบโตขึ้นทันที เช่น พวก สัตว์นรก เปรต เทวดา มนุษย์สมัยต้นกัป เป็นต้น

             เราห้ามการเกิด ไม่ได้ ทุกสิ่งต้องมีเกิด มีดับเป็นธรรมดา  แต่ถ้าเราเห็นแล้วว่าการเกิดเป็นทุกข์ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรก็ตาม เราก็น่าจะมาหาวิธีที่จะไม่ต้องเกิดกันอีก น่าจะดีกว่านะ  ทำยังไงล่ะ ก็ต้องทำตามคำแนะนำสั่งสอนของท่านอาจารย์อุบลไงล่ะ ท่านสอนให้ละความชั่ว และละกิเลสทั้งปวงเพื่อที่จะไม่ต้องมาเกิดอีก

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 23:07:07


ความคิดเห็นที่ 7391 (1629824)

คุณทัศนีย์ พยาบาลวิชาชีพ ร.พ.ทหารผ่านศึก เป็นพยาบาลมา 29 ปี 

สุขภาพไม่ดีมีอาการปวดคอ ต้นแขน ขา เข่า นิ้วมือ นิ้วชี้ด้านซ้ายล็อค เป็นภูมิแพ้ ปวดทั้งตัว ให้หมอรักษาทำอะไรไม่ได้ เคยเอ็กเรย์ หมอบอกว่ากระดูกทรุด ทานยาแก้ปวดมาตั้งแต่ปี 28 ภายหลังปวดมากขึ้นขยับตัวไม่ได้ ต้องใส่ซัพพอร์ท หลังมีอาการปวด ชา ตึง เสียว หลังแข็งเจ็บที่หลัง เวลามาทำงานที่บ้านสวนปวดแต่ไม่เสียวหลัง เคยบูชาจี้ สารภาพบาปกับจี้ก็ไม่หาย อยู่ใกล้อาจารย์ก็ไม่หาย 

เมื่อตอนอยู่ที่เบตง จังหวัดยะลา เคยฆ่าสัตว์ทำเป็นอาหารกินกันในครอบครัวเป็นจำนวนมาก และฆ่าเพื่อเลี้ยงสัตว์ก็มี  คนในครอบครัวก็ทำ ชาวบ้านพื้นนั้นก็ทำแบบนี้ จึงทำตามเช่นอีเห็น นกฮูก กระต่าย กระรอก เหยี่ยว กบ นก ตีงู จิ้งจก ตะขาบ แมลงสาบ สัตว์เล็กสัตว์น้อย

กระรอก ใช้เชือกรัดคอดึงให้หยุดหายใจ

อีเห็น ขุดลำธารให้ลึก ขังน้ำไว้เยอะนำอีเห็นไปแช่น้ำให้ตาย

ตะพาบน้ำ เวลาตะพาบโผล่หัวออกมาจะใช้มีดฟันให้คอขาด ลวกน้ำร้อน

เต่า เผาเพราะมีตัวทากเยอะ เผาแล้วแบะกระดองเอาเนื้อออกมาสับตุ๋นยาจีน

ตะกวด ชอบมาขโมยกินไก่ ตีให้ตายต้มให้หมากิน

กบ ทุบ ถลกหนัง ผ่าท้อง

หนู ฆ่าแล้วจับลูกหนูให้แมวกิน

ปลา ทุบหัว แหวะท้องปลา

เต่าและตะพาบน้ำ พระพุทธเจ้าทรงห้ามฆ่า เพราะบาปมาก

ทำไมคนอื่นสารภาพกับจี้หาย เข้าใก้ลอาจารย์ก็หาย แต่คุณทัศนีย์ทำกรรมมาเยอะ สิ่งศักดิ์ต้องการให้แสดงธรรมทาน  มานึกได้ว่าเป็นบาป บาปในอดีตไม่สามารถลบล้างได้มาตามส่งผลภายหลัง

พ่อ ตายแล้ว ทรมานอยู่หลายปีกลืนอาหารลำบาก

แม่ เป็นมะเร็งปอดตาย 

พี่ชาย มีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ

พี่สาว ปวดบ่า ปวดไหล่ 

บางคนตัดก้นหอย ลวกหอย ยังเป็นนิ้วล็อค

สารภาพบาปแล้วอาการยังเหมือนเดิม อุทิศบุญอาการดีขึ้นหน่อย

ท่านอาจารย์เมตตานำอุทิศบุญ จำได้บางตอนคือ อยากให้วิญญาณต่าง ๆ พ้นทุกข์ แล้วจะทำบุญให้อีก จะเมตตาสัตว์ เราเห็นแก่ตัวเอาชีวิตอื่นมาหล่อเลี้ยงชีวิตตัวเอง อยากทำให้เราทุกข์เท่าไรทำไปเลย แต่ขอให้พวกท่านพ้นทุกข์ หลังจากท่านอาจารย์นำอุทิศบุญ อาการเจ็บปวดหายไป 50 %

สาเหตุที่อุทิศบุญเองไม่ได้ผลเพราะไม่ได้ทำจากสำนึกที่แท้จริง ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธแต่ไม่เชื่อกฏแห่งกรรม ไม่เชื่อบาปบุญคุณโทษ ไม่เชื่อว่านรก สวรรค์มีจริง  ถือว่าไม่ใช่ผู้นับถือศาสนาพุทธจริง แต่เป็นพวกนับถือลัทธิ ไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม เชื่อตรงข้ามกับศาสนาพุทธทุกอย่าง

เมื่อปี 44 เคยทำบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทุกวันแต่ไม่ได้ผล เพราะทำตามแบบฟอร์มไม่ใช่สำนึกที่แท้จริง

คุณแดง ปวดท้องข้างขวา ความดันสูง ไขมันสูง ปวดขาข้างซ้าย

คุณแดงเคยไปที่มหิดลบอกว่าปวดขา ปวดท้อง สารภาพว่าตีขาหมาหัก จึงมีเหตุให้ข้อเท้าตนเองหัก ปวดขา พอเดินเข้าใกล้และกราบอาจารย์ก็หายแป๊บเดียวก็กลับมาปวดอีก เพราะบารมีพระศรีอาริย์ไม่ใช่บุญของตัวเอง จึงหายถาวรไม่ได้ วันนี้มาทำบุญที่บ้านสวนขาหายปวด แต่ท้องยังปวดอยู่ เคยตรวจครั้งสุดท้ายไม่พบเนื้องอกแล้วแต่ยังปวดท้อง เพราะยังไม่สารภาพบาปว่าทำอะไรมาจึงปวดท้องไม่หาย คุณแดงเคยวางยาเบื่อหนู ตุ๊กแกมากินด้วย ตีงูเห่า ให้พ่อตีงูสามเหลี่ยม ยิงนกกระจอก ฆ่าปลา ตกปลาเมื่ออายุ 11 - 12 ปีเยอะมาก เลิกฆ่าตอนอายุ 17 เคยต้มน้ำเดือดเอาปลาใส่ไปในน้ำร้อน เคยมีคนมาตะโกนเสียงดังในขณะที่นอนอยู่ เลยบอกคนนี้เมื่อไหร่จะไปตาย อยู่มาไม่นานก็ตาย อีกคนหนึ่งขโมยของในร้าน ก็บอกให้ไปตายซะก็ตายอีก พอสารภาพบาปอาการปวดก็หาย เพราะวิญญาณของคน สัตว์ที่ตายมารวมอยู่ในท้องหมดเลย คุณแดงสารภาพเพิ่มอีกว่าเคยปรามาสพระเจ้าอยู่หัวด้วย

ค้นหาสาเหตุได้แต่บุญไม่พอก็ไม่หาย

ค้นหาสาเหตุได้แต่ไม่สำนึกก็ไม่หาย

เราต้องทำบุญแรงกาย ปัจจัย  สิ่งของ ธรรมทาน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อย ๆ เขาจึงไม่ลงมากวนเรา เจ้ากรรมนายเวรอยู่ได้ด้วยบุญ บุญหมดเมื่อไรก็มาอีก 

บุญช่วยได้ทุกอย่าง สุขภาพแข็งแรง มีความสุข ดวงตาเห็นธรรม สมปรารถนา

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 01:57:50


ความคิดเห็นที่ 7392 (1629829)

อนุโมทนากับการมารวมตัวกัน

ของทีมนักเขียน

ธรรมทานสาวๆ ตัวจ. ด้วยนะคะ

 

ทั้ง คุณพี่จิต พี่เจี๊ยบ พีุ่จุ๋ม และ พี่จิ๋ม

เท่ห์อ่ะ เป็นปรากฏการณ์

ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อิอิ

 

ได้อ่านเรื่องที่มาของคุณไสย

ในคำอธิบายที่อิงวิทยาศาสตร์แล้

ว ก็ดูมีเหตุมีผลและเป็นข้อเท็จจริง

ที่เราควรพิจารณานะคะ

 

เพราะถ้าเราเป็นคนสุขภาพจิตดี

สุขภาพกายแข็งแรง

รักษาความสะอาดอยู่เสมอ

แล้วก็ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

รับรองว่า คุณไสยทำอะไรเราไม่ได้แน่ๆ

แต่ถึงกระนั้น พวกเราก็ยังเผลอโกรธ

เผลอเครียดและจิตตก

แถมยังชอบทำตัวมักง่าย

และหมักหมมเชื้อโรคอีก...

 

ก็เลยมีโอกาสเป็นเหยื่ออันโอชะ

ของ คุณไสย ได้ง่ายๆเลย...

 

ได้รับรู้เรื่องราวของคุณปวริศาแล้ว

ก็แอบสะเทือนใจเล็กน้อย

เพราะไม่คิดว่าคนสมัยนี้

ยังมีความคิดที่จะหาคู่

ด้วยการใช้คุณไสยอยู่อีกหรือ

 

หรือว่าจริงๆแล้ว ก็มีทั่วบ้าน ทั่วเมือง

แต่พวกเราไม่เคยรู้ก็ได้นะคะ

 

แต่ยังไง คุณไสยก็ไม่ได้ทำให้

ความรักอยู่ยั้งยืนยงได้แต่อย่างใด

 

คงจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจทุกๆท่านเป็นอย่างดี

เพราะสุดท้ายแล้ว

คนที่จะได้รับกรรมหนักที่สุด

ก็คือ คนที่คิดจะทำคุณไสยใส่คนอื่น นั่นเอง

......................

ส่วนเรื่อง บาปในการฆ่าสัตว์

ของคุณ ทัศนีย์ อ่านแล้วก็โหดมั่กๆ

แถมกินอาหารแต่ละอย่าง

แปลกๆทั้งนั้นเลยนะคะ

 

แค่อ่านวิธีการฆ่าแล้ว

ก็รู้สึก สงสาร

เหล่าจิตวิญญาณสัตว์เหล่านั้นจริงๆ


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 03:53:29


ความคิดเห็นที่ 7393 (1629897)

เสาร์อาทิตย์นี้ลุยเดี่ยวครับเพราะลูกติดเตรียมตัวสอบอาทิตย์หน้า 

หลังงานบวงสรวงลูกบ้านสวนฯ มากันไม่มากครับ  ไม่น่าจะเกิน ๒๕ คน

ส่วนใหญ่เป็นสาวๆ ทั้ง สน. สว. และหนุ่มๆ  อีกไม่ถึง ๑๐ คน 

พวกเราช่วยกันทุบและรื้อ  พีระมิดสององค์ ทุบผนังโรงทาน

เคาเตอร์ด้านหน้าซะโล่งไปเลย  พร้อมทั้งขนเศษอิฐ เศษคอนกรีตไปทิ้งเรียบร้อย 

เตรียมไว้สำหรับการก่อสร้างใหม่ที่จะรองรับการใช้งานในอนาคต 

ส่วนผมและลุงบุญหลังจากที่ว่างเว้นจากการสร้างสมเด็จองค์ปฐมมาหลายอาทิตย์

ก็รีบไปลุยที่องค์ท่านต่อ  โดยการปั้นเสริมฉลองพระบาทและสนับเพลา 

กำไลข้อเท้าเพิ่มเติม  เมื่อเริ่มมีเครื่องทรงมาประกอบบ้างบางส่วน

สมเด็จองค์ปฐมก็จะดูสมส่วนและสง่างามขึ้นแล้วครับ  

ประมาณตอนบ่ายๆฝนก็ตกลงมาก็เป็น  อุปสรรค์ครับสำหรับงานฉาบปูน    

จากนั้นช่วงเย็นกลับมาช่วยพี่น้องบ้านสวนทุบองค์พีระมิด

และขนเศษวัสดุไปทิ้งเสร็จเรียบร้อยราบเป็นหน้ากลอง 

พวกเราแข็งแรงและมีความอดทนมากจริงๆครับ 

หลังจากที่ผ่านการฝึกความพร้อมและเตรียมร่างกายมาหลายเดือน

ทำเป็นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานหนัก งานเบา พวกเราสู้ สู้  ยิ่งกว่าโคบูต้าอีกครับ 

เดินหน้าลุยงานลูกเดียวเรื่องถอยเอาเป็นว่าไม่มี  มีแต่เดินหน้ากับเบรค

สิ่งที่หน้าแปลกใจก็คือคนเรามากันแค่ ๒๐ กว่าคน

แต่เนื้องานที่ได้มากมายเทียบได้กับคนสัก ๕๐ คนทำ  หลายคนก็แปลกใจ 

ผมคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธ์ท่านเห็นแล้วก็คงจะสงสารลูกบ้านสวนฯตาดำๆ 

เลยต้องรีบเข้ามาช่วยเสริมทั้งกำลังกายและกำลังใจ  

พวกเราเมื่อ ๓๐๐๐พันปีที่แล้วก็คงจะเคยขนหินกันตอนสร้างพีระมิดตอนนี้ก็เลยต้องมาทำอีก

ผมเรียนถามท่านอาจารย์อุบลว่าสมัยก่อนเค้าขนหินสร้างพีระมิดกันอย่างไร 

ท่านตอบว่าขนหินและยกด้วยพลังจิต  แต่พอตอนนี้เราเกิดเป็นมนุษย์แล้ว

เราก็ต้องทำทุกอย่างด้วยศักยภาพของความเป็นมนุษย์ตามกำลังที่มี 

มิหน้าหละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจึงได้สงสารพวกเราในร่างมนุษย์ 

แต่เมื่อได้อาบน้ำเย็นๆความเหนื่อยล้าก็หายเป็นปลิดทิ้ง  

จะปวดร่างกายกันอีกครั้งก็ช่วงตื่นนอนหรือไม่ก็ช่วงเวลาที่ใกล้จะมีธรรมทาน

ผมมีอาการปวดไหล่และปวดมือมากจากการใช้แรงทุบกำแพงและองค์พีระมิด 

จึงนึกสงสัยตัวเองว่าเราทำอะไรผิดมาบ้าง เพราะก่อนทุบลืมขอขมาฯ

สิ่งปลูกสร้างที่พี่น้องบ้านสวนช่วยกันสร้างเกิดจากการทำบุญแรงกาย

และพลังศรัทธาแทบทั้งสิ้น

แล้วนี่พวกเราทุบออกจะมีผลเช่นไรบ้าง  เกี่ยวกับที่ปวดมือมากๆมั๊ย  สงสัยครับสงสัย 

ตอนรับพระบารมีพระศรีอาริย์อาการปวดก็ยังไม่หาย 

แต่เมื่อได้สารภาพบาปและใชรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  ว่าได้ใช้มือคู่นี้ทำสิ่งที่ผิดศีล

เช่น เคยขโมยเงินพ่อแม่ญาติพี่น้องมา  เคยนำเอาของหลวงของราชการมาเป็นของตนเอง

เคยตีลูก  เคยใช้มือทำร้ายสัตว์  ฆ่าสัตว์  อาการปวดมือก็เบาโล่งเหลือ ๕ เปอร์เซนต์ครับ

แสดงว่ากรรมชั่วต่างๆที่ผมเคยทำมาย่อมกลับมาแสดงเตือนทุกครั้งที่สร้างบุญ 

ท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายท่านคอยรับอยู่ 

ขอบพระคุณท่านทั้งหลายที่คอยมาเตือนสติ

และแสดงให้เห็นเพื่อที่จะได้ระลึกได้ถึงสิ่งต่างที่ไม่ดีที่เคยทำมา

สำหรับอาทิตย์นี้เราสัมผัสกับคุณไสยด้วยมีน้ำมันเหนียวๆที่กลางกระหม่อมของคุณนุช

น้องสาวคุณแนน และเจอกับนักฆ่าเพื่อบริโภคตัวจริงครับคุณทัศนีย์ 

อ่านรายละเอียดได้จากคุณเจ๊ยบและคุณสมจิตครับเสียววาบๆ

ไม่รู้ว่ามีอะไรอีกบ้างที่คุณเธอยังไม่เคยกิน  บอกได้คำเดียวว่าเสียวสันหลังแทนครับ 

เพราะดูเธอจะไม่สำนึกถึงความผิดทั้งหลายที่เคยกระทำมา 

ส่วนคุณแดงพี่สาวคุณแก้วก็วีรกรรมเยอะเหมือนกันครับปวดท้อง เคยตีขาหมาหัก วางยาเบื่อ

หนูและตุ๊กแก  ตีงู ฆ่าปลาโดยการต้มน้ำร้อนแล้วเอาปลาเป็นๆใส่ลงไป 

ฟังแล้วก็เสียวสันหลังแทนจริงๆครับ  สามคนถูกจัดมาแบบเต็มๆ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 14:13:11


ความคิดเห็นที่ 7394 (1629901)

กราบเรียนอ.อุบล อ.มงคลและคุณทอปค่ะ

และสวัสดีญาติธรรมชาวบ้านสวนพีระมิดทุกท่านค่ะ

แนนได้มาทำบุญแรงกายที่บ้านสวนอาทิตย์นี้รู้สิกว่าตัวเองได้รับบุญมากเหลือเกินค่ะจากท่านอ.อุบล

ได้ความรู้เรื่องคุณไสยและได้สัมผัสบารมีขององค์พระศรีอริยะเมตไตรด้วยค่ะ

สัมผัสบารมีขององค์พระศรีอริยะเมตไตร   ตอนนำเศษปูนที่ทุบแล้วไปไว้ที่ใต้ต้นไม้แนนไม่ทันระวัง

ก็เลยโดนรถขนปูนทับขาสิ่งแรกที่คิดถึงคืออ.อุบลช่วยด้วยค่ะและตามด้วยขอความเมตตาจาก

องค์พระศรีอริยะเมตไตรขออย่าให้ขาลูกช้ำและบวมแล้วทำงานต่อนึกขึ้นได้ลองขยับขาตรงที่เจ็บดู

อาการที่เจ็บหายไปตอนไหนก็ไม่ทราบค่ะ ซึ่งแนนมั่นใจว่าถ้าโดนแบบนี้ที่บ้านหรือที่อื่น ขาคงเขียวและบวม   ตอนเย็นวันที่ 15 มีอาการคัดจมูกเหมือนจะเป็นหวัดก็คิดถึงคืออ.อุบลช่วยด้วยค่ะและตามด้วยขอความเมตตาจากองค์พระศรีอริยะเมตไตรขออย่าให้ลูกเป็นหวัดนะเจ้าค่ะตื่นมาตอนเช้าลืมไปเลยค่ะว่าตัวเองคัดจมูก  ลูกขอกราบขอบพระคุณองค์พระศรีอริยะเมตไตร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่คุ้มครองอ.อุบล   อ.อุบลและครอบครัวที่เมตตาให้ลูกได้เข้า

บ้านสวนพีระมิดเพื่อทำบุญแรงกายและได้สัมผัสบารมีขององค์พระศรีอริยะเมตไตร   กราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปวันรัตน์ ปณัตถ์บุณย์ภวัต (pawanrat_nanny-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 14:37:36


ความคิดเห็นที่ 7395 (1629914)

ได้รับความรู้เรื่องคุณไสยจากท่านอ.อุบลว่าถ้าชาตินี้เราไม่ได้ยุ่งกับเรื่องคุณไสยก็จะเป็นเรื่องของอดีตชาติที่เราเคยทำเค้าแล้วเค้ามาเอาคืน ธรรมะทานอาทิตย์นี้มี 3 ท่านคือ

1. คุณนุก โดนคุณไสยจากอดีตสามี ตอนแรกก็ไม่รู้ตัวว่าโดนคิดว่าตัวเองสุขภาพไม่ดีเดี่ยวเจ็บตรงโน้นปวดตรงนี้เริ่มมารู้ตัวก็ตอนมีน้ำมันเหนียวๆ ออกบนศรีษะซึ่งได้เปลี่ยนยาสระผมทั้งสมุนไพร และยาสระผมทั่วไปก็ไม่หาย แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่สวดมนต์ไหว้พระบอกให้หลวงพ่อฤาษีช่วย จนกระทั่งได้รู้จักครูเต็งแนะนำให้เข้าเวปบ้านสวนจึงได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด และได้ขอเข้ามาทำบุญแรงกายและได้รับความเมตตาจากท่านอ.อุบลช่วยส่งดวงวิญญาณที่ได้ติดตามมา ทำให้น้ำมันพายที่ศรีษะหาย อย่างอัศจรรย์

2.คุณอมรภัทร เฟื่องฟู  มีอาการปวดท้องมากเนื่องจากอดีตชอบวางยาเบื่อหนู ตีงูเห่า ฆ่ากบ ฆ่าปลา

ผลกรรมรวมตัว แต่ที่สำคัญท่านอ.อุบลบอกว่าในท้องมีแต่ยาเบื่อหนู ซึ่งน่ากลัวมากค่ะ ถ้าย้อนกลับไปดูหนูก่อนตายคงจะทุรนทุรายมาก

3.คุณทัศนีย์  ปวดทั่วทั้งร่างกายเนื่องจากฆ่าสัตว์เกือบทุกชนิด เช่น ฆ่ากระรอก เต่า ตะภาพน้ำ นก ปลา

ซึ่งทำให้เจ้ากรรมนายเวรเยอะมาก

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลที่ได้เมตตาบอกให้ทราบว่าทำกรรมอะไรมาถึงได้เป็นเช่นนี้และ

ขอขอบคุณธรรมะทาน ของทุกๆท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปวันรัตน์ ปณัตถ์บุณย์ภวัต (pawanrat_nanny-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 16:01:33


ความคิดเห็นที่ 7396 (1629923)

เสาร์ - อาทิตย์ นี้คนน้อยไปหน่อย

แต่แรงกายแทบจะไม่น้อยเลย

สาวเด็ก ๆ ตัวบอบบางสวย น่ารัก แต่ทำงาน

น่าปลื้มใจ โกยหินที่ทุบพีระมิด

โดยฝีมือฝ่ายชาย

ใช้ทั้งจอม ทั้งพลั้ว ทั้งมือโกย

มีแรงซัก 4 - 5 เท่าตัว

นี้แหละมั่งผู้ที่จะช่วยเหลือคนต่อไป

และรักษา 3 ร่มโพธิ์ศรีภายหน้า

ทำงานกันไปคุย แหย่ เย้า มีเสียงหัวเราะ

ทำให้สดชื่นไม่เครียดแม้ว่างานที่ทำจะใช้แรงมากๆ

ยกบุ้งกี๋เศษอิฐ เศษปูนกันเป็นจำนวนมาก

แต่ก็ยังมีน้ำใจอาทรคนแก่ ๆ โดยจะคอยช่วยเหลือ

ตลอด ซึ้งในความมีน้ำใจของทุกคน

โดยเฉพาะคุณธนาที่เมตตาแนะนำ

ให้พยายามทำงานตามกำลัง

ที่ทำไหวอย่าหักโหม

แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ

เสาร์นี้ธรรมทานที่ได้รับรู้ที่ไม่เคยประสบเลย

ของคุณนุชที่ถูกคุณไสย เจ็บปวดทรมาน มา 2 ปี

คุณทัศนีย์ ที่ทำอาหารจากสัตว์ด้วยวิธีการ

ทารุณสัตว์ก่อนตายเหลือเกิน

ทั้ง เต่า ตะพาบ กบ ปลา

ทำให้สังเวชใจ คนเรานี้เหมือนเป็นยักษ์ของสัตว์เลย

วันอาทิตย์กลางวันเดินทางออกจากบ้านสวน

ขึ้นรถตู้นั่งหลังคนขับเป็นคนที่ 3

พอกลางทางแวะรับเจ้าของรถมานั่งเก้าอี้เสริมข้างซ้ายเรา

ก็เป็น 4 คนแล้วตัวอ้วนเหมือนกันขาจึงขยับเหยียดไม่ได้เลย

ปวดเข่า ข้างขวามากแทบทนไม่ได้เรียกอ.อุบลช่วยด้วย

ก็ดีขึ้นซัก 20 % แล้วจะปวดตลอด

พอถึงเซเว่น ที่อนุสาวรีย์ คนข้างขวาลง

จึงได้ขยับเหยียดขาก็ใช้รหัส และขอบารมีพระศรีอาริย์

เพราะจะลงรถแล้วจะเดินไม่ได้

พอรถจอดที่อนุสาวรีย์ลงรถแล้วยืนซักพัก

พอออกก้าวเดินขาก็หายปวด 90 %

สามารถเดินไปท่าจอดรถกลับราชบุรีได้

วันจันทร์ดูรายการคุยไปแจกไป

ตอน "พิธีบวงสรวง อาราธนาบารมี พระศรีอาริย์ สถิตย์ ณ บ้านสวนพีระมิด"

ช่วงอาจารย์ให้อธิษฐานก็บอกปัญหาที่ปวดเข่าและส้นเ้ท้าอยู่

พร้อมในรายการ อาการที่เป็นอยู่ก็หาย 100 %

กราบขอบพระคุณพระศรีอริยเมตไตรย์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนพีระมิด

ตลอดจนเทวดาที่รักษาท่านเจ้าของบ้านสวนพีระมิดทุกท่าน

ค่ะ  กราบ กราบ กราบ ค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 16:49:38


ความคิดเห็นที่ 7397 (1629924)

ปวันรัตน์ ปณัตถ์บุณย์ภวัต   ช่วยคลิก    ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล  ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 16:54:31


ความคิดเห็นที่ 7398 (1629925)

 

 
 
เมื่อวันเสาร์ ที่ 15 - 16 ก.ย.55 ที่ผ่านมา
ที่บ้านสวนคนน้อยค่ะ เราได้เริ่มทุบ
บริเวณโรงครัวเก่า พีระมิดหน้าโรงครัวอีกสององค์
ทำกันแบบรวดเร็ว แข่งกับเวลา
โดยแบ่งเป็นฝ่ายชายทุบ ฝ่ายหญิงเก็บกู้ซาก
เราใช้เวลาทั้งวันในการทำส่วนนี้
ระหว่างทำก็มีฝนตกปรอย ๆ พร่ำๆ เป็นระยะ
ทำให้ไม่ร้อน และทำงานอย่างลืมเหน็ดเหนื่อย
ช่วงที่เก็บซากนั้น ให้ความรู้สึกเหมือน
เรากำลังอยู่ในสถานการณ์แผ่นดินไหว
แล้วเรากำลังเร่งเก็บกู้ซาก
ช่วยผู้รอดชีวิตยังไงยังงั้นเลยค่ะ 555
แถมทำๆ ไป มีสะเก็ดไฟจากการจี้เหล็ก
กระเซ็นมาเป็นระยะ
ให้อารมณ์เหมือนภูเขาไฟระเบิด
 
 
เรียกว่าจำลองสถานการณ์ภัยพิบัติกันแบบขำๆ ค่ะ
เราใช้เวลาทำส่วนนี้กันทั้งวัน 
ช่วงค่ำ ก็ได้สวดมนต์ และ ท่าน อ.อุบล
ได้พูดคุยธรรมทานเล็กๆ น้อย ๆค่ะ
ที่จำได้ก็มี พี่แดง พี่สาวพี่แก้ว
แกปวดท้องมาก เรียกว่าปวดกว่าทุกครั้ง
ปกติผู้คนเวลาอยู่ใกล้ท่าน อ.อุบล
อาการเจ็บป่วยต่าง ๆจะหายเป็นปลิดทิ้ง
แต่เคสพี่สาวพี่แก้ว เป็นอีกแบบหนึ่งค่ะ
ที่เรียกว่า เจ้ากรรมนายเวร มาแสดงอาการ
เพื่อขอบุญกันจะ ๆ ค่ะ
 
 
เนื่องด้วยพี่แดง ได้ใช้ยาเบื่อหนู
ฆ่าหนูมามากมาย
และตัวเองก็เลยมามีอาการปวดท้องทรมานอย่างนี้
หลังจากท่าน อ.อุบลอุทิศบุญให้ 
พวกเราก็ร่วมกันอุทิศบุญ ขอบารมีพระศรีอาริย์
อาการพี่แดงก็ยังไม่ดีขึ้นค่ะ สรุปว่า
ต้องหมั่นมาสร้างบุญให้มากกว่านี้ 
เพราะถือเป็นกรรมหนัก ที่ฆ่าชีวิตผู้อื่นค่ะ

และท่าน อ.อุบลได้อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์
ให้ผู้ที่ยังมีอาการเจ็บป่วยต่างๆ 
ตุ้ยเองทำงานทั้งวันกลับ
ไม่มีอาการปวดเมื่อยเลยสักนิด
แถมเรี่ยวแรงไม่รู้มาจากไหน
ทำงานได้ไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
นี่คือบารมีของพระศรีอาริย์จริง
และ พวกเราก็ได้สัมผัสแล้ว
ซึ่งบารมีของท่าน มีอยู่ทุกอนูของบ้านสวน
จึงทำให้พวกเรา หายเจ็บป่วย แข็งแรง 
ทำงานไม่รู้จักเหน็ดจักเหนือยค่ะ

ช่วงเช้าวันอาทิตย์ 
ได้ไปถอนหญ้าที่แปลงผัก 
แล้วมาต่อทุบโรงทานไม้ไผ่ ซึ่งมาถึง พี่ๆ น้องๆ
ก็ทุบกันไปครึ่งทางแล้ว
เร็วมากๆ ยังเช้าอยู่แท้ๆ
เกือบมาไม่ทันแล้วเรา
เรารื้อโรงทานกันเสร็จใช้เวลาเพียง
ครึ่งวันเช้าเท่านั้นค่ะ
ก่อนกลับ ได้กราบลาท่าน อ.อุบล
รู้สึกอบอุ่น และเหมือนต้องกลับบ้าน
ไปทำงานในกรุงเทพฯอีกแล้ว
จบธรรมทานที่ตุ้ยได้ไปร่วมบุญ มา เพียงเท่านี้ค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 17:47:35


ความคิดเห็นที่ 7399 (1629928)

อนุโมทนากับทุกๆท่านได้สร้างบุญที่บ้านสวนทุกๆบุญค่ะ  ได้อ่านธรรมทานเรื่องคุณไสย์ก็น่ากลัว  และเรื่องการล้างจาน ที่สะอาด ต้องทำอย่างไรถึงจะสะอาดและปราศจากเชื้อโรค  เพราะที่บ้านยังทำไม่ค่อยสะอาด เพราะบางทีลูกชายทำต้องคอยกำกับอยู่เรื่อย  ขอบคุณทุกท่านที่นำธรรมทานมาแบ่งปันให้ทราบค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 18:14:41


ความคิดเห็นที่ 7400 (1629931)

ธรรมทาน เสาร์-อาทิตย์ที่ 15-16 ก.ย.55

เสาร์ที่15 ก.ย.55 วันนี้ได้ร่วมบุญแรงกายโดยได้ช่วยกันรื้อโรงครัวหลังเก่า และพีระมิด 2 องค์ ที่อยู่ติดกัน โดยคุณผู้ชายเป็นแผนกทุบ ส่วนคุณผู้หญิงเป็นแผนกเก็บเศษอิฐเศษปูน ช่วงแรกก็ทำงานกันปกติ ยังไม่ค่อยสปีดกันเท่าไหร่ แต่พอท่านอาจารย์อุบลออกมาลงมือทำด้วยตัวท่านเองทั้งใช้พรั่วตักเศษอิฐ ทั้งเข็ญรถ ทุกคนก็ต่างทำงานกันอย่างขยันขันแข็งชนิดสปีดกันอย่างเต็มที่ ทำให้งานเสร็จไปได้อย่างรวดเร็ว ช่วงเช้าตัวพจน์เองรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ดูแล้วท่าจะอาการไม่ค่อยดี เลยใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยพร้อมกับขอบารมีพระศรีอาริย์ช่วยด้วย แล้วนั่งลง แป๊บเดียวเท่านั้นอาการค่อยๆดีขึ้นจนหายเป็นปกติเหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ และยังรู้สึกว่ามีเรี่ยวแรงมากมายมาจากไหนไม่รู้ทำงานได้อย่างไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเลย อาจจะมีบ้างแต่แค่ยืนพักก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ ทำกันจนมืด แปลกใจกับตัวเองเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมวันนี้เราถึงทำงานได้แบบไม่รู้สึกเหนื่อยเลยและหลายๆคนก็เป็นเหมือนกันค่ะ ทั้งสนุก มีความสุข แข็งแรงกันทั่วหน้าเลยค่ะ

อาทิตย์ 16 ก.ย.55 ช่วงเช้าได้ช่วยกันรื้อโรงทานหลังเก่ากันตั้งแต่เช้า วันนี้คนเหลือน้อยลงแต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆกับงานที่ทำ แถมน่าแปลกใจด้วยว่าคนน้อยแต่เนื้องานที่ได้กับดูมากอย่างเห็นได้ชัดเหมือนอย่างที่ท่านอาจารย์อภิชัยบอกเลยค่ะ พอช่วงบ่ายได้ช่วยกันปลูกต้นสาระแหน่ ผักชีฝรั่ง โหระพา อื่นๆ กันต่อตรงหน้าบ้านท่านอาจารย์ค่ะ พอเสร็จก็แยกย้ายอาบน้ำกัน พอไปที่รถคุณสามีทำกุญแจรถหาย ไม่รู้ไปทำหล่นหายหรือไปลืมไว้ที่ไหน ตอนนั้นพจน์ได้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยและขอบารมีพระศรีอาริย์ช่วยด้วยให้สามีหากุญแจรถเจอ และก็ปล่อยให้สามีหากุญแจต่อ ส่วนพจน์ได้เดินไปห้องน้ำก่อน พอสักพักสามีมา เลยถามว่าเจอไหม สามีบอกว่าเจอแล้วลืมไว้ที่ห้องน้ำนั่นแหล่ะค่ะ เฮ้อโล่งอกเลยค่ะ

ธรรมทานช่วงบ่าย

-องค์พระศรีอาริย์สื่อผ่านท่านอาจารย์ว่าพวกลูกหลานส่วนใหญ่ ยังบกพร่องในเรื่องของความกตัญญู ท่านเน้นเรื่องความกตัญญูรู้คุณ

-คนที่มักโกรธ อารมณ์ขุ่นมัว จิตตกเป็นประจำ คิดไม่ดี แค้น มักจะมีแต่สิ่งไม่ดีเข้ามา รวมทั้งอาจโดนคุณไสยได้ง่าย

-การแช่งคน จะมีผลทั้งคนที่แช่งและถูกแช่ง

-คนที่มีเมตตา ไม่โกรธผู้ที่ทำไม่ดีหรือทำคุณไสยใส่เรา ผลจะย้อนกลับไปหาคนที่ทำเป็นสองเท่า

-ถ้าทำดี รักษาศีล คิดบวกเสมอ ไม่ต้องกลัวพวกคุณไสย เพราะผลจะสะท้อนกลับหมด

-ทำไมคนที่มีจี้ถึงใช้ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะผู้ที่บูชาจี้ เสื้อบ้านสวนฯ พาเมล่า วัตถุมงคลของบ้านสวนฯทุกอย่าง ท่าน อ.อุบล จะอุทิศบุญให้เทวดาที่รักษาเราทุกวัน

ช่วงท้ายท่านอาจารย์ได้อาราธนาบารมีองค์พระศรีอาริย์ ใครที่มีอาการเจ็บปวดตรงไหนให้สัมผัสบารมีพระองค์ได้ ตัวลูกเองก็มีอาการปวดหลังข้างขวา และสิ่งที่สัมผัสได้ คืออาการที่ปวดอยู่ดีขึ้น 80% หลังจากนั้นใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยก็ดีขึ้นมาเป็น 95% ค่ะ

ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณในพระเมตตาบารมีขององค์พระศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านอาจารย์อุบล เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ที่ได้ช่วยลูกเวลาที่เจ็บป่วยและมีปัญหาต่างๆสารพัด ให้คลี่คลายไปในที่สุด ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณอย่างที่สุดเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 18:50:48



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 [74] 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.