แต่ก็อดคิดไม่ได้นะคะว่า และคนอื่นๆที่คิดอย่างสามีพี่อัญจะมีโอกาสได้รับความเมตตาแบบนี้บ้างหรือป่าวเนอะ คิดแล้วเสียวแทนเลยค่ะ 

ก็ขอยินดีกับน้องอัญด้วยนะคะที่ได้รับความคุ้มครอง

คุณสามีและลูกปลอดภัยดีทั้งคู่

อดคิดถึงตัวเองไม่ได้ ก็หวังอยู่ลึกๆว่าให้สามีได้พบปาฎิหาริย์

แต่คงเพราะตัวพี่ยังสร้างบุญได้ไม่มากพอ

ขออนุโมทนาบุญของทุกๆท่านที่ได้ไปสร้างบุญอย่างต่อเนื่อง

ทุกๆอาทิตย์ด้วยค่ะ สาธุ  สาธุ

            ขอความแสดงความยินดีกับน้องอัญด้วยนะคะ    ที่ได้รับพระเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเบื้องบน     และอานิสงค์ที่น้องอัญได้หมั่นมาทำบุญกับบ้านสวนบ่อยๆ  จึงมีอานิสงค์ถึงบุคคลในครอบครัวให้รอดปลอดภัยได้   และตั้งแต่นี้ไปครอบครัวน้องอัญคงจะแฮป***มากขึ้นกว่าเดิม    ไหนจะได้สามีคนใหม่ที่เปลี่ยนใจยังทัน ต่อความเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านสวนแห่งนี้  และท่านอาจารย์อุบล  โลกนี้ก็จะได้มีพลังบวกที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เริ่มจากตัวเรา   และคนใกล้ตัวเรานี่แหละค่ะ

สัปดาห์ที่แล้วมี คนใหม่มาหลายคนเหมือนกันครับ มีสองสามีภรรยาคู่นึงครับ ชื่อคุณลลิวาพร ส่วนสามีจำไม่ได้ว่าชื่ออะไรครับ ตัวภรรยาเป็นโรคเอสแอลอี อาการทางกายที่เห็นคือนิ้วมือจะกุด สั้นลงผิดปรกติ โดนอากาศเย็นไม่ได้ครับ ผิวหนังแข็ง แล้วก็เวลาหายใจจะเจ็บปอด เนื่องจากมีพังผืดมาเกาะปอด พอดีตอนช่วงกิจกรรมคืนวันเสาร์ อาจารย์ท่านได้เมตตาช่วยบำบัดให้กับท่านนี้ โดยกรรมที่เคยทำมาคือ กรรมจากการฆ่าสัตว์ คือฆ่าปลาดุก เอาปูเป็นๆไปเผาไฟครับ  หลังจากนั้นพี่ธนาอาสาใช้จี้สามร่มโพธิ์ศรี บำบัดโดยให้นั่งมองที่จี้ครับ พวกเราก็คอยนับครับ พวกเรานับได้ประมาณ 14 วินาที อาการหายใจแล้วเจ็บปอดหายครับ ในขณะนั้นเอง ผมก็นั่งสังเกต แววตาของคุณสามีครับ ผมเห็นแววตาที่ดีใจ จนมีน้ำตามาเออ เห็นแล้วก็พลอยดีใจไปกับเขาด้วยครับ ส่วนคุณลลิวาพร ไม่ต้องพูดถึง สีหน้าเธอดีใจมาก ที่อาการเจ็บปอดของเธอหาย ยังไงก็ขอเอาใจช่วยน่ะครับ อ้อ ลืมเล่าไปนิดนึง วันนี้ระหว่างทำงานนั้นผมตกลงมาหนักมาก ซึ่งคุณลลิวาพรบอกว่า ปกติจะต้องหนาว อยู่ไม่ได้แน่ แต่วันนั้น เธอบอกไม่เป็นอะไรเรย ทำงานต่อได้เฉยเรย ขออนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ สาธุ

โมทนาค่ะ  คุณอัญ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก พระองค์  และ ท่าน อ.อุบล

เมตตา คุณอัญ  อย่างที่สุด    นึกถึงตอนที่

พวกเราร่วมหล่อองค์พระปฐม  คุณอัญจะปีน

ขึ้นไปหิ้วปูนส่งอย่างไม่เหน็จเหนื่อย  ภาพนั้น

ยังติดตาพี่หมวยอยู่เลยค่ะ ยังคิดในใจว่า

คุณอัญเก่งจริงๆ   บุญที่สร้างในบ้านสวนฯ

ส่งผลและคุ้มครองลูก ๆ ตลอดเวลา  ดั่ง

ครอบครัวของคุณอัญ ที่ปลอดภัยทั้งพ่อและ

ลูก   ขอให้โชคดีนะค่ะ   สาธุ......

ขอขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ

จากพี่ ๆ น้องๆ ทุกท่านค่ะ รู้สึกตื้นตันใจจริง ๆ ค่ะ

กราบเท้าขอบพระคุณ ท่าน อ.อุบล และครอบครัวเป็นอย่างสูง

ที่ทำให้อัญมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าเดิม

ไม่ฟูมฟายกับเรื่องที่เกิดขึ้น

และสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ได้ลุล่วงเป็นอย่างดี

กราบ กราบ กราบ

เหมียวดีใจด้วยกับครอบครัวพี่อัญนะค่ะ ที่สามียอมกราบรูปท่านอาจารย์ ยอมเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์สักที เพราะเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกันศาสนาเลย คนเราต้องมีเหตุการณ์มาให้เกิดขึ้นกับตัวเองก่อนเสมอถึงจะคิดจะเปลี่ยนความคิดของตัวเองให้มาเชื่อในสิ่งทีมองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ จริงอย่างที่เค้าว่าคนเราไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรม  สงสัยนับจากเหตุการณ์วันนั้นพี่อัญคงจะได้สามีที่เปลี่ยนใจเป็นคนใหม่หันมาเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ถ้าเรานับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านก็ไม่ทิ้งเราให้เดือดร้อน เพียงแค่มาเตือนให้เรารู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทันเท่านั้น

 ขอแสดงความดีใจกับพี่อัญด้วยนะคะ

ญว่านี่คือการเมตตาของเบื้องบน

ที่ทุกพระองค์ช่วยจัดเหตุการณ์แบบนี้ให้สามีพี่อัญ

เพราะทุกพระองค์คงแลเห็นแล้วว่า

ถ้าทำแบบนี้ คงจะสามารถเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนจิตใจ

ของสามีพี่อัญให้ตาสว่างแบบฉับพลันทันที

ก่อนที่จะไม่มีเวลา และก่อนที่มันจะสายไปมากกว่านี้

ดีใจด้วยจริงๆค่ะที่ได้สามีคนใหม่ในร่างเดิม อิอิ

เย้

****************************

พี่ตุ๊กจ๋า เรื่องที่เกี่ยวกับจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี

รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย เวลาจะเขียนธรรมทาน

เอาไปเขียนให้ตรงกระทู้ของมันดีกว่าไหมจ๊ะ

เพราะคนอ่านเขาจะได้อ่านแบบเน้นๆ

และจะได้ๆบุญเยอะๆด้วยค่ะ

 ขอแสดงความเสียใจกับพี่ชนิดาด้วยนะคะ

ที่สูญเสียคุณลุงไป

ข้าพเจ้าขอเบิกบารมีพระพุทธเจ้า บุญ ศีล ทานภาวนา

ที่ลูกได้ทำมาแล้วทุกภพทุกชาติ

และบุญทุกบุญที่ได้ไปทำในบ้านสวน

ขอฝากบุญนี้กับเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ

ไปให้ คุณลุง พีระฉัตร ดวงสีเสน ด้วยเถอะค่ะ

กราบขอบพระคุณค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ขอบคุณน้องหญิงมากๆจ่ะ รวดเร็วทันใจจริงๆ

ชนิดาก็เพิ่งจะทราบข่าววันนี้เช่นกัน

เพราะเน็ตใช้ไม่ได้มาหลายวัน

พอทราบข่าวก็ตกใจมากๆ

และรู้สึกได้ว่า ความตาย

มันคลืบคลานเข้ามาใกล้เราทุกๆขณะ

ถ้าเราไม่หมั่นคิดถึงความตายไว้บ่อยๆ

เมื่อเวลานั้นมาถึง 

น่าจะทำใจยอมรับได้ยากเหมือนกัน

อย่างคุณลุง ก็ไปปั่นจักรยาน

ออกกำลังกายอย่างเช่นทุกวัน

แต่วันนั้นไม่เหมือนทุกวัน

เพราะโชคร้ายไปประสบอุบัติเหตุ

ถูกรถทัวร์ชน จนเสียชีวิต

คุณแม่บอกว่า ก่อนสิ้นใจ คุณลุงพูดแต่ว่า

ยังไม่อยากตาย ๆ

แต่ก็สุดท้าย ทนพิษบาดแผลไม่ไหว

ก็ไปแบบห่วงๆอยู่...

ลูกขอบารมีสมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

องค์พระศรีอาริย์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

ได้โปรดบันดาลบุญที่ลูกสั่งสมมา

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งทาน ศีล ภาวนา

และทุกๆบุญที่ลูกทำกับบ้านสวนฯ

ทั้งปัจจัย แรงกาย และธรรมทาน

ขออุทิศ บุญทั้งหมด ทั้งมวลนี้

แด่คุณลุง พีระฉัตร ดวงสีเสน ด้วยเถิด

และขอฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

และเมตตาบอกให้คุณลุง

มา อนุโมทนา รับบุญ ด้วยเถิด

สาธุ สาธุ สาธุ

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

และที่สำคัญยินดีกับหนูอัญด้วยนะจ๊ะ

ที่ได้สามีคนใหม่

ที่หันหน้ามาเข้าทางธรรมแล้ว

แม้จะผ่านเหตุการณ์อันชวนระทึกใจ

มาไม่น้อยก็ตาม

แต่ทุกคนก็ปลอดภัยดี

ด้วยบารมีอันเกินประมาณ

จากเบื้องบนและท่านอาจารย์อุบล

ทีนี้คงกราบท่านอาจารย์

ได้ด้วยความเคารพ บูชา

และ ศรัทธามากๆเลยนะคะ

 เมื่อวานนี้หนึ่งได้เข้าไปทำบุญใช้แรงกายที่บ้านสวน

เลยได้มีพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับลุงบุญและลุงเบิ้ม

คุยกันอยู่ดีดี อยู่ลุงบุญก็เปิดเสื้อโชว์พุงซะงั้น

(เสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมอยู่แค่เม็ดเดียวตามสไตส์ของของลุงบุญ

ที่ลุงบุญบอกกับหนึ่งว่าถ้าติดกระดุมทุกเม็ดคนจะไม่รู้ว่าเป็นแก)

เพื่อให้ดูเิริม ที่ใต้วงแขนด้านขวา..

แล้วก็เล่าอย่างภาคภูมิใจว่า ลุงบุญเป็นเริมและปวดมาได้ 5 วันแล้ว

แต่เมื่อวันก่อนลุงใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย + โลชั่น

ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น เริมที่ปวดและบวม ยุบแห้งไปทันที

หนึ่ง : ลุงบุญเดี๋ยวหนึ่งไปเขียนเป็นธรรมทานให้ลุงนะ ลุงจะได้ๆบุญธรรมทานเพราะท่านอาจารย์เน้นบุญธรรมทานมาก

ลุงบุญ : ยิ้มน้อยๆ....ตามสไตล์เฉพาะตัว

สักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงใึครบางคนที่ดูไม่ค่อยจะสนใจบทสนทนาดังขึ้นมาก

ลุงเบิ้ม : ของลุงบุญไม่เจ๋งเท่าของลุงหรอก

หนึ่ง : ทำไมล่ะลุง??

ลุงเบิ้ม : ลุงมีเด็ดกว่านั้น (พร้อมกับโชว์แขนข้างขวา) เนี่ยดูนี้...ลุงก็เป็นคล้ายเริมแต่เป็นแค่ขี้กลาก

( หนึ่งแอบคิดในใจ ลุงจะภูมิใจทำไมเนี่ย เป็นขี้กลากแท้ๆ )

หนึ่ง : แล้วมันเด็ดกว่าอย่างไรล่ะลุง ?

ลุงเิบิ้ม : ลุงลืมใช้รหัส และก็นึกกรรมไม่ออก ลุงเลยกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนแล้วบอกว่าลุงนึกกรรมไม่ออก ถ้าลุงทำผิดก็กราบขอขมาและถ้าจะลงโทษลงก็ยอมรับผิดแต่โดยดี....เชื่อไหม วันรุ่งขึ้นมันก็ยุบและแห้งไปเลย ....

หนึ่ง: แล้วหนูต้องเอาเรื่องของลุงเบิ้มไปเขียนเป็นธรรมทานด้วยเปล่าเนี่ย ...

ลุงเบิ้ม : เขียนซิ ลุงก็อยากได้บุญเหมือนกัน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...ใครไปบ้านสวนอย่าลืมถามลุงบุญลุงเบิ้มว่าต้องการจะเล่าธรรมทานอะไรบ้างหรือเปล่านะคะ...

 ขอแสดงความดีใจกับคุณอัญด้วยค่ะ

ในที่สุดปัญหาแต่ละอย่างก็เิริ่มคลี่คลายนะคะ

สิ่งที่เราทุกข์และกังวล

ถึงวันนึงก็จะมีเหตุการณ์ให้

กลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ได้ครอบครัวที่อบอุ่นมีความสุข

นับเป็นอานิสงค์ของการมาสร้างบุญบ้านสวน

อย่างเต็มกำลังของคุณอัญ และบารมีของสิ่งศักดิสิทธิ์

และท่านอาจารย์อุบลแท้ๆ ค่ะ

-------------------------------------

ขอแสดงความเสียใจกับพี่ชนิดาด้วยค่ะ

ที่สูญเสียคุณลุง วิญญาณของท่านคงไปสู่สุขคติค่ะ

เพราะท่านมีหลานเป็นลูกบ้านสวน ที่พวกเราสามารถ

สร้างบุญ และอุทิศให้ท่านได้ ซึ่งเป็นบุญที่แรงและเร็ว

เพราะเราทำกับเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ 

ส่งตรงถึงท่านเลย ไม่ต้องเสียเวลารอเป็นเดือนเป็นปีค่ะ

ขอให้ดวงวิญญาณคุณลุงไปสู่สุขคติค่ะ สาธุ

--------------------------------------------------

ขอแสดงความดีใจกับลุงบุญ ลุงเบิ้มด้วยนะคะ

ที่หายจากโรคผิวหนัง ทั้งเริม และขี้กลากค่ะ แหะๆ

เห็นลุงสองคนแล้วเราก็พลอยดีใจไปด้วย

เพราะแกอารมณ์ดีตลอด ไม่เคยโกรธ

ไม่เคยบึ้งตึงกับใครเลย

อยู่ใกล้ๆ แล้วมีความสุขค่ะ

 ตอนที่ยังไม่เกิดเรื่องช่วงที่อัญมาทำบุญที่บ้านสวน ฯ

เค้ามักจะเอารูปท่านอาจารย์ที่แขวนอยู่ที่หน้ารถเก็บใส่ลิ้นชัก

พอถามก็ไม่ได้คำตอบ  ตอนนี้กลับมาขอรูปท่านอาจารย์ไว้กราบ

เพราะหนูอัญ มีศรัทธามั่นคง ต่อสิ่งศักดิ์สิทธ ท่านอาจารย์อุบล ทํางานทุ่มเททุกอย่างต่อเนื่อง ความดีที่ทํา สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตา ส่งผลให้สามีและลูกปลอดภัย อนุโมทนาด้วยนะคะ่

ที่บ้านพี่อร ก็เป็นเหมือนกันค่ะ เอาสติกเก้อไปติดหน้ารถสามีก็เอาออก ไม่รับอะไรสักอย่าง ยังดีที่รถอีกคันลูกสาวใช้ วางสิ่งที่เป็นมงคลของบ้านสวนได้ทุกอย่าง 

ขอแสดงความดีใจกับหนูอัญ  อัญ  ด้วยนะจ๊ะ แล้ววันที่มีความสุขก็มาถึงจนได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคงเห็นในความจงรัก ภักดีต่อท่านอ.อุบล และความเสียสละทุ่มเท  ทั้งแรงกาย  จิตใจ ให้กับบ้านสวนฯ  แถมอัธยาศัยดีอีกต่างหาก  ขออนุโมทนาด้วยนะคะน้องอัญ

บุญส่งผลแล้วนะนู๋อัญ

ต่อไปคงได้สมาชิกมาบ้านสวนเพิ่ม

แน่ ๆ เลยนะคุณอัญ

เงินทองหาใหม่ได้

แต่ชีวิตลูก และสามีหายากนะ

พี่ส่งกำลังใจช่วยนะค่ะ

ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกพระองค์ที่เมตตา

ครอบครัวสาวแกร่งแห่งบ้านสวน

นะค่ะ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...ใครไปบ้านสวนอย่าลืมถามลุงบุญลุงเบิ้มว่าต้องการจะเล่าธรรมทานอะไรบ้างหรือเปล่านะคะ...

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) วันที่ตอบ 2012-11-30 06:21:32

ขอบคุณน้องหนึ่งค่ะ พี่อ๋อยก็ว่าจะเขียนถึงลุงเบิ้มอยู่เหมือนกัน เพราะปลื้มในหัวใจที่รักและศรัทธาของลุงเบิ้มที่มีต่อท่านอาจารย์ที่มากเกินกว่าจะมีคำพูดใดๆอธิบายได้ ต้องอึ้งและอึ้งค่ะ

เรามักจะเห็นลุงเบิ้มมาบ้านสวน คราวละไม่น้อยกว่า สิบวัน ก่อนนั้นยังทำงานประจำที่โรงน้ำตาล ก็ลางานบ้างไรบ้าง ไปๆมาๆลุงเบิ้มลาออกจากงานประจำ เปิดอู่ซ่อมรถ เพื่อที่จะได้มาบ้านสวนตามสะดวก

และลูกศิษย์ท่านอาจารย์อุบลตัวจริงต้องไม่ง้อลูกค้าค่ะ ลุงเบิ้มเป็นเช่นนั้น แม้จะมีลูกค้าอยากจะนำรถมาซ่อมที่อู่จนใจแทบขาด แต่ถ้าลุงเบิ้มมีPLAN จะไปบ้านสวนล่ะก้อ...ต่อให้รถคันนั้นจะได้ตังค์มากแค่ไหนก็ไม่สน หากใครรอได้ก็รอไป ถ้ารอไม่ได้ก็ไปหาช่างคนใหม่ ลุงจาไปบ้านสวนก๊าบบพ้ม...

และจากการที่มีอาชีพอิสระนี้ ทำให้ลุงเบิ้มอยู่บ้านสวนได้นานนน จนกลับบ้านที ภรรยาเกือบจำไม่ได้ 55555+++ เรื่องนี้เล่าให้ฟังโดยภรรยาของลุงเบิ้มจ้า น่ารักอ่ะ...

และอ๋อยเคยถามลุงเบิ้มว่า ลุงอยู่บ้านสวนนานแบบนี้ แล้วเอาตังค์ไหนส่งลูกเรียนจ๊ะ

ลุงเบิ้มตอบว่า ลุงพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ไม่เดือดร้อนหรอก อ่ะโห..ลุง ทำอ๋อยอึ้งแล้วยังทึ่งได้อีก สวดยอดมวาก....ทั้งที่เราเองอยากทำได้แบบลุงมั่งแต่ภาระทางครอบครัวและเหตุผลทางโลกสารพัด ทำให้ต้องกลับไปเผชิญกันต่อไป

ล่าสุด กลับจากทอดกฐินที่วัดคลองไทร จะเดินทางกลับก็แวะทักทายลุงเบิ้มตามประสาลูกข้าวเหนียวอีสานแห่งบ้านสวน

อ๋อย:ลุงเบิ้มมาคั้งนี้ อยู่จั๊กมื้อล่ะลุง

ลุงเบิ้ม: เก๊าซิบเก๊ามื้อ ...99 วัน

อ๋อย: หา....3 เดือนน่ะนะ(นึกว่าฟังผิด)

ลุงเบิ้ม: คับบบ

อ๋อย: ขออนุโมทนาบุญนำลุงแหน่เด้อจ้า

ลุงเบิ้มยิ้มมม... 

นับถือลุงเบิ้มจนสุดใจจริงๆค่ะ และให้นึกถึงคำพูดที่ว่า

ยอมมอบกายถวายชีวิตให้แด่พระพุทธองค์ และท่านอาจารย์อุบล ลุงเบิ้มคือตัวจริงที่ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม และทำได้จริงๆค่ะ

 ยินดีกับนู่อัญด้วยนะที่สามีและลูกเจอปาฎิหาริย์

ทำให้ได้สามีคนใหม่มาแ่ทน  ต่อไปคงจะได้เห็น

นู๋อัญมาบ้านสวนฯพร้อมครอบครัวแน่ๆจ้า

****************************************

ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาด้วยนะคะ

ที่สูญเสียคุณลุงไปอย่างกระทันหัน ความตาย

เป็นเช่นนี้เอง  พรุ่งนี้อาจจะเป็นเราก็ได้ ใครจะรู้

ข้าพเจ้าขอเบิกบุญทุกบุญ ทุกภพชาตินี้  รวมกับบุญ

ทีทำในบ้านสวนฯ ขอฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท่านท้าวเวชสุวรรณ

ได้โปรดนำบุญนี้ไปให้ คุณลุง พีระฉัตร ดวงสีเสน

ได้อนุโมทนารับบุญนี้ด้วยเถิด สาธุ

***************************************

และก็ขอแสดงความยินดีกับลุงบุญ และ ลุงเบิ้ม ด้วยนะคะ

ที่หายจากเป็น เริม และ ขี้กลาก 55..(ฉงฉัยจะลืมอาบน้ำ ฮิ.ฮิ..)

และขออนุโมทนาบุญกับลุงทั้ง 2 คนด้วยนะคะ

ที่มีกำลังใจอันยิ่งใหญ่ในการสร้างบุญบารมีอย่างเต็มพิกัด

ขอแสดงความยินดีกับนู๋อัญด้วยค่ะ  ที่ได้สามีใหม่ในร่างเดิมกลับคืนมา  

เบื้องบนท่านเมตตาให้ได้รับสิ่งดีๆ ครอบครัวมีความสุข และรอดปลอดภัย ดีใจด้วยจริงๆค่ะ

...............................................

ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาด้วยค่ะที่สูญเสีย

คุณลุงพีระฉัตร  ดวงสีเสน ไปอย่างไม่มีวันกลับ

ข้าพเจ้าอเบิกบุญศีล ทาน ภาวนา ที่ทำมาทุกภพทุกชาติ

และทุกบูญที่มาทำ ณ บ้านสวนฯ ขอบุญรวมตัวกัน

ฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

ฝากบุญนี้ไปให้กับ คุณลุงพีระฉัตร  ดวงสีเสน

ขอให้อนุโมทนาและรับบุญนี้ได้ด้วยเถิด  สาธุ 

ขอแสดงความเสียใจ

กับ

คุณชนิดาด้วยนะคะ

ที่สูญเสียคุณลุงไปแบบกระทันหัน

ธัญญาภรณ์ขอบารมีพระพุทธเจ้า

ขอเบิกบุญตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน

รวมกับทุกบุญที่ร่วมทำกับบ้านสวนพีระมิด

ทั้งสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน

ขอฝากบุญนี้ไปกับท้าวเวสสุวรรณ

ให้ถึงแก่ดวงวิญญาณของ

คุณลุงพีระฉัตร  ดวงสีเสน

ขอให้มาโมทนาบุญและไปสู่ภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไปด้วยค่ะ

**********

ขอแสดงความยินดี

กับ

ลุงบุญและลุงเบิ้ม

ที่หายจากโรคเริมและขี้กลาก

 และ

อนุโมทนากับลุงเบิ้มด้วยค่ะ

ที่มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯ 99 วัน

สาธุค่ะ

ครอบครัวสุดจิตต์ ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาด้วยค่ะ

ที่สูญเสีย คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

ข้าพเจ้าพร้อมครอบครัวขอบารมีพระพุทธิเจ้า

ขอเบิกบุญศีล ทาน ภาวนา ที่ทำมาทุกภพทุกชาติ

และทุกบูญที่มาทำ ณ บ้านสวนฯ ขอบุญรวมตัวกัน

ฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

ฝากบุญนี้ไปให้กับ คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

ขอให้อนุโมทนาและรับบุญนี้ได้ด้วยเถิด สาธุ สาธุ

เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้สามีอัญ

ที่เป็นพวกหัวรั้นไม่ค่อยเชื่อเรื่องเวรกรรม กับเปลี่ยนความคิดได้ในทันที

พูดแต่ซ้ำ ๆ ว่าถ้าเชื่อในสิ่งที่อัญบอก ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้

.........................................................

ขอแสดงความเสียใจกับคุณอัญที่สามีและลูกเกิดอุบัติเหตุ

ต้องสูญเสียทรัพย์สิน

ขอแสดงความดีใจ ที่คุณอัญได้สามีคนใหม่ในร่างเดิม

จากนี้ไปครอบครัวคุณอัญมีความสุขมากขึ้น

ได้สามีเข้าทางธรรมมากขึ้น

เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดไม่ทอดทิ้งลูกหลานจริงๆ

สาธุ   สาธุ   สาธุ

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานคุณพี่บุญภิบาล คงเขียวค่ะ

สาธุ  สาธุ    สาธุ

             ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดา ที่สูญเสียคุณลุงไปน่ะค่ะ

ดิฉันขอพี่งพระบารมี เบิกบุญที่ทำมาทุกภพชาติ และบุญบ้านสวน ฝากท่านเวสสุวรรณ บอกให้คุณลุงพีระฉัตร  ดวงสีเสน ได้โมทนาบุญที่ข้าพเจ้าพึงมีพึงได้ให้คุณลุงได้รับบุญด้วย เทอญ

       และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาด้วยค่ะ

ในการจากไปของ คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

อัญและป้าเตือนขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

ขอเบิกบุญศีล ทาน ภาวนา ที่ทำมาทุกภพทุกชาติ

และทุกบุญที่มาทำ ณ บ้านสวนฯ ขอผลบุญจงรวมตัวกัน

ฝากบุญนี้ไปกับท่านท้าวเวสสุวรรณ

ฝากบุญนี้ไปให้กับ คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ด้วยเทอญ

กราบขอบพระคุณป้าเตือน คุณอัญ

คุณ สุระณี

ครอบครัว"สุดจิตต์"

เจ๊สีนวล ธัญญาภรณ์

คุณพี่แป้น ชนกพร

คุณพี่ฉันทนา

คุณตุ้ย และน้องหญิง ด้วยค่ะ

ที่เมตตาเผื่อแผ่อุทิศบุญ แด่คุณลุง พีระฉัตร

ชนิดาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า

ผลบุญจากชนิดาและทุกๆท่าน

คงจะมีส่วนเกื้อหนุนให้จิตวิญญาณคุณลุง

ไปสู่ สุคติภูมิ และ มีความสุขยิ่งๆขึ้นไป

สาธุ สาธุ สาธุ

ขอบคุณจริงๆค่ะ

..........................................

ได้อ่านเรื่องราวของลุงบุญ และ ลุงเบิ้ม แล้ว

ก็ทั้งแอบยิ้มในคำสนทนาที่ตรงแกมฮา

คนอะไร้ ขนาดเป็นเริมกะขี้กลากยังภูมิใจเลย

เพราะเป็นได้ก็หายได้ง่ายๆ

ด้วยพลังบุญที่สร้างในบ้านสวนฯ

แล้วก็แอบปลี้มในบุญ

กับคุณลุงทั้งสองจริงๆค่ะ

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากคุณหนึ่งและพี่อ๋อยด้วยค่ะ

 ขอแสดงความดีใจกับคุณอัญด้วยค่ะที่สามีและลูกปลอดภัย

...........................................

ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาด้วยค่ะที่สูญเสีย

คุณลุงพีระฉัตร  ดวงสีเสน ไปอย่างไม่มีวันกลับ

ข้าพเจ้าขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ทำมาทุกภพทุกชาติและทุกบุญที่มาทำ ณ บ้านสวนฯ ขอผลบุญจงรวมตัวกัน    ฝากบุญนี้ไปกับท่านท้าวเวสสุวรรณ
ฝากบุญนี้ไปให้กับ คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน 

                                           ขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุคติ

และอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นเทอญ

.....................................................

 ขอแสดงความยินดีกับลุงบุญและลุงเบิ้ม

                               ที่หายจากเริมและขี้กลากค่ะ

 และอนุโมทนาบุญกับลุงเบิ้มด้วยค่ะที่มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯ 99 วัน

                     ...........................................................

                อนุโมทนากับบุญธรรมทานของทุกๆท่านด้วยค่ะ

                                        สาธุ สาธุ สาธุ

    บ้านเกิดทัศน์อยู่อ.เบตง จ.ยะลา เดิมเป็นพื้นที่สีแดง เป็นที่อยู่ของจีนคอมมิวนิส  หลังจากจีนคอมมิวนิสออกมามอบตัว  รัฐบาลไทยได้จัดสรรให้ทุกคนมีที่ทำกินที่เบตงจนถึงปัจจุบัน   อุโมงค์ที่ขุดข้ามเขาหลายลูกจึงถูกเปิดเผยออกมา มีชื่อว่า "อุโมงค์ปิยะมิตร " ไม่มีใครรู้ประวัติของอุโมงค์ว่าขุดเมื่อไหร่  ขุดอย่างไร  รู้แต่ว่าเป็นที่หลบซ่อนตัวของจีนคอมมิวนิสในอดีต

    แต่เหตุการณ์เหลือเชื่อได้เกิดขึ้นกับตัวเอง คือ การไปทำบุญใช้แรงกายครั้งที่ 3 ที่บ้านสวนพีระมิตร  ได้พบกับลุงเบิ้ม  ลุงบอกว่าเคยใช้ชีวิตอยู่ที่อ.เบตงหลายปีแถมเป็นแนวร่วมจีนคอมมิวนิสในอดีตเสียด้วย  ที่สำคัญคือลุงเป็นคนหนึ่งที่ร่วมขุดอุโมงค์ปิยะมิตรด้วย   โลกมันช่างกลมเหลือเกินที่ทำให้ได้พบกับลุงเบิ้มและรู้ประวัติของอุโมงค์ที่บ้านสวนพีระมิตร    สิ่งที่น่าแปลกคือชื่อของอุโมงค์ปิยะมิตรก็คล้องจองกับชื่อบ้านสวนพีระมิตรอีก  แสดงว่าเราต่างคนต้องมีบุญสัมพันธ์กับอ.อุบล  จึงได้มีโอกาสมาร่วมบุญกันที่บ้านสวนพีระมิตรแน่นอน     

ขอบารมีพระพุทธเจ้า

ลูกขอเบิก

บุญตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน

ขออุทิศ บุญทั้งหมด

ให้คุณลุง พีระฉัตร ดวงสีเสน

และขอฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

และเมตตาบอกให้คุณลุง

พีระฉัตร ดวงสีเสน

ได้อนุโมทนาบุญ ด้วยเทอญ

-ขอเป็นกำลังใจและขอขอบคุณ พี่น้องชาวบ้านสวนพีระมิด ส่งกำลังใจให้คุณณัฐพร ได้เผยแพร่รหัสศักดิ์สิทธิ์ รหัสมหาจักรวาล "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ให้กับประธานาธิบดี โอบามา ได้ช่วยคนทั้งโลกค่ะ

-ขออนุโมทนาบุญกับคุณลลิวาพร และสามีคุณลลิวาพร หายจากการเจ็บป่วย ด้วยพระบารมีจี้สามร่มโพธิ์ศรี โดยคุณธนา อาสาค่ะ น่ากลัวม๊าก มาก กรรมจาการฆ่าสัตว์ ฆ่ากินเป็นอาหาร เห็นผลชาตินี้เลย

-โมทนาบุญกับคุณอัญ ที่สามีได้เปลี่ยนใจ เปลี่ยนแปลง หันมาเข้าสู่บ้านสวนพีระมิด  ด้วยความพระเมตตาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

ละม่อม เข้าใจดี อึดอัดใจมาก อยากให้สามีละม่อม เปลี่ยนใจ คิดดี พูดดี ทำดี ให้มีใจเข้าสู่ธรรมมะบ้านสวนพีระมิด ด้วยเถิด

 และขณะนี้คุณสามี เลิกขายเหล้า เบียร์ บุหรี แล้วค่ะ

กราบพระบาทขอบพระคุณ สมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ พระศรีอาริยเมตไตร หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยมโอภาสี พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ องค์พีระมิด องค์เทพสฟิงซ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุก ๆ พระองค์ ทั่วจักรวาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ค่ะ

-ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดา ด้วยค่ะ ที่สูญเสียคุณลุง ค่ะ

ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ทำมาแล้วทุกภพ ทุกชาติ  จนถึงปัจจุบัน ขอฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ บอกให้คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน อนุโมทนาบุญ รับบุญ ด้วยเถิด

-ขอบคุณ คุณเจิดหทัย และทุก ๆ คน ช่วยลุงบุญ ลุงเบิ้ม เขียนเล่าธรรมทานค่ะ หายจากโรค เริม ขี้กลาก หายเจ็บ หายป่วยค่ะ

 ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาด้วยครับ

 ลูกขอเบิกบุญ ศีล ทาน ภาวนา ที่บำเพ็ญมาตั้งแต่ชาติแรกถึงปัจจุบัน

 ขออุทิศบุญทั้งหมด ฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ให้ 

 คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน 

 ได้อนุโมทนาด้วยครับ

 ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณลุง พีระฉัตร ดวงสีเสนและคุณชนิดา ด้วยค่ะ

ลูกขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอเบิกบุญศีลทาน ภาวนาที่ทำมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติ ปัจจุบัน บุญที่ทำกับบ้านสวนพีระมิดขออุทิศบุญทั้งหมดนี้ และฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ให้คุณลุง พีระฉัตร ดวงสีเสนได้อนุโมทนาบุญนี้ด้วยเจ้าค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับลุงเบิ้มและลุงบุญด้วยนะครับ

ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาและครอบครัวของลุง พีระฉัตร ดวงสีเสน

ขอบารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ขอเบิกบุญุ ที่เคยทำมาทุกภพทุกชาติ ตลอดบุญที่ได้ทำที่บ้านสวนพีระมิด

ทุกบุญรวมกันและขอฝากบุญนี้ไปกับเด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

ให้คุณลุงพีระฉัตร  ดวงสีเสนได้อนุโมทนาบุญนี้ด้วยเทอญ             

ขออนุโมทนาบุญกับลุงบุญและลุงเบิ้มด้วยน๊ะค่ะ และดีใจด้วยค่ะที่หายจากเริมและกลาก ค่ะ

     ----------

ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาด้วยนะค่ะ ที่สูญเสีญคุณลุงไปอย่างกะทันหัน ความตายไม่มีใครรู้เลยว่าจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่างคุณลุงปั่นจักรยานออกกำลังกายทุกเช้า ก็ยังมามีอุบัติเหตุทำให้ถึงแก่ชีวิตขึ้น เหมียวขออารธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ขอเบิกบุญศีล ทาน ภาวนา ที่ได้ทำในทุกภพทุกชาติรวมถึงบุญที่ได้ทำที่บ้านสวนพีระมิดทุกๆบุญขอให้บุญเหล่านี้รวมตัว อุทิศแด่ คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสนขอให้อนุโมทนารับบุญทั้งหมดด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

เหมียวเองก็เพิ่งเสียย่าไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อวันศุกร์นี้เองค่ะ ซึ่งเป็นวันเกิดของเหมียวเองด้วย ก็ไม่คาดคิดเหมือนกันค่ะว่าคุณย่าจะจากไปเร็ว เมื่อคืนวันพฤหัส เหมียวได้ไปเยี่ยมย่าที่ ICU เหมือนย่าอาการดีขึ้น ย่ากำมือได้ เหมียวเอามือย่ามาจับแล้วให้ย่ากำ ย่าก็กำได้ เหมียวเลย เอาจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี ให้ย่ากำ อธิฐานขอบารมีพระศรีอาริย์ที่ท่านอาจารย์อุบลอาราธนามา ส่งพลังให้ย่า แข็งแรง ย่ากำซักพัก เหมือนย่าจะพูดอะไรไม่รู้ แต่พูดไม่ได้เพราะใส่สายที่คอ แล้ว น้ำตาย่าก็ไหลค่ะ ซึ่งวันรุ่งขึ้นตอนบ่ายย่าได้ฟอกไต แล้วก็ช๊อก และก็เสียชีวิตค่ะ  ซึ่งในวันพฤหัสเหมียวได้ไปกดไลค์ที่เฟสบุคในชื่อของย่าเจิม พุฒศรี ได้ไปปิดขุมนรกให้ย่าแล้ว ซึ่งเหมียวรู้สึกดีใจที่ได้ทำอะไรตอบแทนย่าค่ะ บุญนี้ที่เหมียวทำในบ้านสวนทุกๆบุญเหมียวขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ขออุทิศบุญให้ย่า ทั้งหมด ให้ย่าโมทนารับบุญนี้ด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

 ขอแสดงความเสียใจกับคุณเหมียวด้วยนะคะ

ที่สูญเสียคุณย่าไป

ลูกขอบารมีพระพุทธเจ้า 

และขอเบิกบุญที่ลูกได้ทำมาแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ขออุทิศให้คุณย่าเจิม พุฒศรี

ขอให้คุณย่าได้ไปอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไปนะคะ

สาธุๆ

รู้สึกว่าช่วงนี้ลูกบ้านสวนฯหลายๆท่าน

จะได้รับบทเรียนแห่งชีวิต

ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเลยนะคะ

โดยเฉพาะการฝึกทำใจให้พร้อม

กับการพลัดพรากจากคนที่เรารัก

หรือ คนรู้จัก หรือ ญาติๆ

เพราะชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ

แล้วก็ไม่แน่ด้วยว่า คนที่จะ"จากไป"

อาจจะเป็นตัวเราเองก็ได้...

ขอเป็นกำลังใจและขอแสดงความเสียใจ

กับน้องมะเหมี่ยว และครอบครัว"พุฒศรี" ด้วยนะคะ

ที่สูญเสียคุณย่าไปอย่างกระทันหัน

ลูกกราบขออาราธนาบารมี

สมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

องค์พระศรีอาริย์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาลทุกๆพระองค์

ได้โปรดบันดาลบุญของลูก

ที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ทั้งทาน ศีล ภาวนา

และ ทุกๆบุญที่ลูกทำกับบ้านสวนฯ

ทั้งปัจจัย แรงกาย และ ธรรมทาน

ลูกขออุทิศบุญทั้งหมดทั้งมวลนี้

แด่ ดวงจิตวิญญาณ คุณย่า เจิม พุฒศรี

ขอให้คุณย่าไปสู่สุุคติภูมิ

และมีความสุขยิ่งๆขี้นไปด้วยเถิด

สาธุ สาธุ สาธุ

................................................

และขอขอบพระคุณน้องมะเหมี่ยว

คุณ จรัล พี่อ๋อย เพ็ญศิริ

คุณตาโต๊ะ คุณครูละม่อม

คุณ เกียรติศักดิ์ และ คุณทัศนีย์ เป็นอย่างสูงค่ะ

ที่น้อมจิตอุุทิศบุญแด่คุณลุงของชนิดา

ขอพลังบุญที่ทุกๆท่านมอบให้

ตั้งแต่วันก่อนจนถึงวันนี้

ย้อนกลับไปสู่ทุกท่าน ร้อยเท่าพันทวี

และมีแต่ความสุข ไร้ทุกข์

ไร้ปัญหาทั้งปวงนะคะ

ขอบคุณมากๆค่ะ เพราะต่างกาลเวลา

เราก็อาจจะได้รับบทบาท

ที่แตกต่างกันไปนะคะ

บางทีก็เป็นผู้ให้ และในบางครั้ง

เราก็อาจจะอยู่ในฐานะของผู้รับบ้าง...

.................................

ขอบคุณเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ

"อุโมงค์ปิยะมิตร" จาก คุณทัศนีย์ ด้วยนะคะ

แล้วชื่ออุโมงค์ก็มาคล้องเสียง

กับ บ้านสวนพีระมิด จริงๆซะด้วย.. 

- ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดา ในการจากไปของ คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

- ขอแสดงความเสียใจกับคุณมะเหมียว ในการจากไปของ คุณย่าเจิม พุฒศรี

ขอแสดงความเสียใจกับคุณเหมี่ยวด้วยค่ะ

ในการจากไปของ ย่าเจิม  พุฒศรี

ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

ขอเบิกบุญศีล ทาน ภาวนา ที่ทำมาทุกภพทุกชาติ

และทุกบุญที่มาทำ ณ บ้านสวนฯ ขอผลบุญจงรวมตัวกัน

ฝากบุญนี้ไปกับท่านท้าวเวสสุวรรณ

ฝากบุญนี้ไปให้กับ ย่าเจิม  พุฒศรี

ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ด้วยเทอญ

ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาด้วยค่ะ

รู้สึกว่าช่วงนี้ลูกบ้านสวนฯหลายๆท่าน

จะได้รับบทเรียนแห่งชีวิต

ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเลยนะคะ

โดยเฉพาะการฝึกทำใจให้พร้อม

กับการพลัดพรากจากคนที่เรารัก

หรือ คนรู้จัก หรือ ญาติๆ

ของแสดงความเสียใจกับคุณพี่ชนิดาทีสูญเสีย

คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

และขอแสดงความเสียใจกับน้องมะเหมี่ยวในการจากไปของ

คุณย่าเจิม  พุฒศรีด้วยค่ะ

ขอบารมีพระพุทธเจ้า เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ เบิกบุญ ทานศีล ภาวนา ที่ลูกทํามาทั้งหมด ฝากบุญให้กับ

คุณลุงพีระฉัตร ดวงดีแสน

คุณย่าเจิม  พุฒศรีด้วยเทอญ

ขอแสดงความเสียใจกับพี่ชนิดาและน้องมะเหมี่ยวด้วยค่ะ

ขอร่วมแสดงความเสียใจกับคุณชนิดา

คุณมะเหมี่ยวด้วยค่ะ 

และคุณย่าเจิม พุฒศรี

ขอแสดงความเสียใจกับ พี่ชนิดา

ในการจากไปของ

คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

และ ขอแสดงความเสียใจกับ น้องมะเหมียว

ในการจากไปของ

คุณย่าเจิม พุฒศรี

ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

ขอเบิกบุญทานศีลภาวนา และบุญที่ได้ทำที่บ้านสวน

ขอผลบุญนี้ส่งถึงทั้งสองท่านด้วยครับ

ขอแสดงความเสียใจต่อคุณชนิดาและน้องเหมี่ยว

ที่ได้สูญเสียคุณลุงและคุณย่าไป

ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

ขอเบิกบุญทานศีลภาวนาที่ได้บำเพ็ญมาทุกภพชาติ

และบุญที่สร้างในบ้านสวนทั้งหมด

ขอบุญทุกบุญมารวมตัวกัน และขอฝากบุญนี้ไปกับ

เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ ขออุทิศให้แก่

จงโมทนาและรับผลบุญนี้ด้วยเถิด

ขอบารมีพระพุทธเจ้า

ลูกขอเบิก

บุญตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน

ขออุทิศ บุญทั้งหมด

ให้คุณย่าเจิม พุฒศรี

และขอฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

และเมตตาบอกให้

คุณย่าเจิม พุฒศรีได้อนุโมทนาบุญ ด้วยเทอญ

 ของแสดงความเสียใจกับคุณชนิดาและน้องมะเหมี่ยวทีสูญเสีย

คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสนและคุณย่าเจิม  พุฒศรีด้วยค่ะ

*********

ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  

ลูกขอเบิกบุญ  ศิล   ทาน  ภาวนา และบุญที่ได้สร้าง

ที่บ้านสวนฯทั้งหมดอุทิศ 

ให้คุณลุงพีระฉัตร ดวงดีแสน

และคุณย่าเจิม  พุฒศรีด้วยเทอญ/

*********

ขอแสดงความเสียใจกับคุณพี่ชนิดา

 ในการจากไปของ คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

ขอแสดงความเสียใจกับคุณพี่มะเหมี่ยว 

ในการจากไปของ คุณย่าเจิม พุฒศรี

ขอแสดงความยินดีกับคุณอัญ

ที่ครอบครัวปลอดภัย 

และขออนุโมทนาบุญกับครอบครัวคุณอัญ

ที่ได้สามีคนใหม่ในร่างเดิมและมีจิตใจเข้าทางธรรมมากขึ้น

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานทุกๆท่านค่ะ

 ขอแสดงความเสียใจกับน้องเหมี่ยวด้วยนะต่ะที่สูญเสียคุณย่า

ด้วยบารมีพระพุทธองค์ขอเบิกบุญ ศีล ทาน ภาวนา ทุกภพ ทุกชาติ

อุทิศให้คุณย่า เจิม พุฒศรี  และขอฝากบุญนี้ไปกับท่านท้าวเวสุวรรณ

และบอกให้คุณย่าเจิม พุฒศรี ได้อนุโมทนารับผลบุญนี้ด้วยเถิด

ขอแสดงความเสียใจแก่พี่ชนิดาและน้องม่าเหมี่ยวมา ณ ที่นี้ด้วยครับ และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้เคยทำมาแล้วตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน และคุณย่าเจิม พุฒศรี ครับ  

นั่นนะสิ สิงห์ป้อม

ไม่รู้ว่า ความตาย จะมาถึงเราเมื่อไหร่

ฉะนั้น ไม่ควรประมาท อย่างแรง

เพราะช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้

ถ้าเกาะบุญหรือความดีไม่แน่นพอ

ก็อาจจะ"หลุด"วงโคจรได้ง่ายๆ เลย..

.................................................ง

กราบขอบพระคุณทุกๆท่านอีกครั้งนะคะ

ที่เมตตาเผื่อแผ่อุทิศบุญแด่คุณลุงพีระฉัตร

อนุโมนาในกุศลจิต

จากพี่น้องบ้านสวนฯทุกๆท่านด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ทำไปเถอะลูก

ชาตินี้ชาติสุดท้าย

พ่อบอกแล้ว

ว่าลูกจะเหนื่อย

ลูกต้องช่วยคน

........................

พ่อ

ไม่เคยทอดทิ้งเจ้า

แม้เพียงวินาทีเดียว

พ่อ

ช่วยลูกของพ่อ

อยู่ทุกเวลานาที่ ทุกที่ที่ลูกไป

ที่ลูกต้องการให้พ่อ

ปกปักรักษา

ดูแล

 อ่านถึงข้อความข้างบนนี้แล้ว มันซึ้งเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ

อาจารย์ขาหนู อ่านกี่ครั้ง ก็น้ำตาคลอทุกครั้ง

ความซาบซึ้งนี้มันมากจนเหลือที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

ทำให้คิดถึงตอนเด็ก ๆ ขณะที่พ่อยังมีชีวิตอยู่

หนูจะถูกลงโทษ จากพ่อบ่อย มาก เพราะดื้อ ไม่ค่อยจะเชื่อฟังเท่าไหร่

พ่อจะพูดเสมอว่าสักวันหนึ่งเมื่อลูกโตขึ้นลูกจะเข้าใจในสิ่งที่พ่อสอน

อ่านเรื่องที่อาจารย์สนทนากับท่านท้าวเวสสุวรรณแล้ว

หนูรู้สึกถึงความผูกพันและห่วงใยที่ท่านมีต่ออาจารย์เป็นอย่างมาก

และรู้สึกคล้ายๆ กับตัวเองก็พลอยได้รับความห่วงใยนั้นเช่นกัน

..........................................................

หนูขอเป็นอีกคนหนึ่งที่จะช่วยงานของอาจารย์

เท่าที่ ปัญญาและกำลังจะพึงมีค่ะ

ขอแสดงความเสียใจกับน้องมะเหมี๋ยวด้วยนะค่ะที่เสียคุณย่าจากไปไม่มีวันกลับ

ขอแสดงความดีใจกับลุงเบิ้ม ลุงบุญ ที่หายจากโรคกลากเกลื้อนด้วยค่ะ

และขอโมทนาบุญกับธรรมทานของคุณทัศนีย์  คุณน้อย  คุณชนิดา  น้องหญิง  คุณธนา  คุณโฆษิต  คุณเจี๊ยบ และทุกๆท่านที่ไม่ได้เอ๋ยนามค่ะ สาธุๆๆ

ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดา และน้องมะเหมี่ยวด้วยนะคะที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก  ความตายเกิดขึ้นได้กับทุกๆคน 

และขออนุโมทนากับทุกๆธรรมทานด้วยค่ะ

ขอแสดงความเสียใจกับ พี่ชนิดาในการจากไปของ

คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

และ ขอแสดงความเสียใจกับ น้องมะเหมียว ในการจากไปของ

คุณย่าเจิม พุฒศรี

.....................

ขออาราธนาบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ทุกชาติ ทุกภพ

รวมทั้งบุญ ทุกๆบุญที่ข้าพเจ้าใด้ทำที่บ้านสวนพีระมิด

ขออุทิศบุญให้กับคุณลุงพีระฉัตร และคุณย่าเจิม

ขอให้ท่านทั้งสองมาโมทนารับบุญในครั้งนี้แล้ว

ไปสู่ภพ ภูมิที่สูงยิ่งๆๆขึ้นไป สาธุ

 ขอแสดงความเสียใจกับคุณชนิดา ในการจากไปของคุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน ขอแสดงความเสียใจกับน้องมะเหมี่ยวในการจากไปของ  คุณย่าเจิม พุฒศรี

ขอบารมีพระพุทธเจ้าขอเบิกบุญกุศลทาน ศีล ภาวนา ที่ข้าพเจ้าทำมาทุกภพชาติจนถึงชาตินี้และบุญทุกบุญที่ทำกับบ้านสนพีระมิด ฝากบุญไว้กับพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านพระยายมราช ขอได้ทรงโปรดรับฝากบุญของข้าพเจ้าให้ถึงแก่คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน คุณย่าเจิม พุฒศรี ด้วยเถิด สาธุ 

                      บุญทุกๆบุญที่ลูกทำกับบ้านสวนฯ

ทั้งปัจจัย แรงกาย และ ธรรมทาน

ลูกขออุทิศบุญทั้งหมดทั้งมวลนี้

แด่ ดวงจิตวิญญาณ  คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน 

และ คุณย่า เจิม พุฒศรี

ขอให้ท่านทั้ง 2 ไปสู่สุุคติภูมิที่สูงขึ้นไป

และมีความสุขยิ่งๆขี้นไปด้วยเถิด สาธุค่ะ

มะเช้านี้ดูถ่ายทอดสด พระราชพิธีถวายพระพรในหลวง 5 ธันวามหาราช ทีจัดขึ้นที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และพระที่นั่งอนันตสมาคม ดูไปก็นั่งน้ำตาซึมไป โห คนเยอะมากๆเรยครับ คนตั้งสองแสนกว่าคนใส่เสื้อสีเหลืองอร่าม มาเข้าร่วมในพระราชพิธีและมารอรับเสด็จพระองค์ท่าน เรียกว่าอร่ามไปทั่วทั้งลานพระบรมมรูปทรงม้า และถนนราชดำเนินเรยครับ พระองค์ท่านดูสดใสมากๆครับ ตอนที่กล้องจับภาพตอนที่พระองค์ท่านกำลังเสด็จจากโรงพยาบาลศิริราชนั้น ผมเห็นพระองค์ท่านแย้มพระสลวยด้วยครับ อิ่มใจบอกไม่ถูกครับ

แม้จะเป็นการรายงานบรรยากาศ

การถ่ายทอดสดเล็กๆน้อยๆจากสิงห์ป้อม

แต่ได้อ่านในสิ่งที่คุณยายท่านนั้นพูดแล้ว

ก็"จุก"ไปด้วยเหมือนกันจ่ะสิงห์ป้อม 

5 ธันวามหาราช

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

เรา..รักในหลวง

............................................

อนุโมทนากับทุกๆพลังบุญ

จากทุกท่านอีกครั้งนะค๊า

ขอให้ทุกท่านมีความสุข

และมีครอบครัวที่อบอุ่นในวันพ่อนี้นะคะ

เมื่อเช้าก็ได้ดูข่าวนี้ซ้ำค่ะทุกท่าน

ได้ฟังนักข่าวต่างประเทศให้สัมภาษณ์ด้วยความงุนงงสงสัย

ว่าทำไมคนไทยมากันมากมายขนาดนี้

อากาศก็ร้อน แล้วคนที่มาก็มีทุกเพศทุกวัย ทุกเจนเนอร์เรชั่น

เรียกว่าเขาอเมซซิ่งมากๆ กับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น

และสงสัยว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวงมากขนาดนี้

ส่วนในโลกไซเบอร์ ก็มีคู่ ยายหลานคู่หนึ่ง

พูดถึงเหตุการณ์นี้ด้วยค่ะว่า

คุณหลานบอกกับยายว่า คนเยอะมากเข้าไม่ถึง 

มองไม่เห็นในหลวงเลย รู้อย่างนี้ดูถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้านดีกว่า

แต่คุณยายก็บอกกับหลานว่า ที่มานี่

ไม่ได้มาดูในหลวง แต่มาให้ในหลวงดู

ให้ท่านปลาบปลื้มใจ มีกำลังใจ

โห เรียกว่าฟังแล้วจุกเลยค่ะ โดนใจมากๆ 

และปีนี้ท่านมีพระราชดำัรัสเน้นย้ำเรื่อง

ขอให้พวกเรา  มีเมตตา ปรารถนาดีต่อกัน 

และขอยกพระราชดำรัสส่วนหนึ่งอันพอสรุปใจความสำคัญ

ของพระองค์มาดังนี้ค่ะ

"ความปราถนาดีและ

ความพร้อมเพรียงกันของทุกท่าน

อย่างที่ได้เห็นในวันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ

มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยมีความเชื่อเสมอมาว่า

ความเมตตาปรารถนาดีต่อกันนี้

เป็นปัจจัยอย่างสำคัญ

ที่จะยังความพร้อมเพรียงให้เกิดมีขึ้น

ทั้งในหมู่คณะ

และในชาติบ้านเมือง และถ้าคนไทยเรา

ยังมีคุณธรรมข้อนี้ประจำอยู่ในจิตใจ

ก็มีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทย

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ

ก็จะอยู่รอดปลอดภัย

และดำรงมั่นคงต่อไปได้

ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน"

ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานค่ะ 

 ลินดูตั้งแต่บรรยากาศถ่ายทอดสด และ ข่าว ซ้ำไปมาหลายรอบ

แต่ไม่ว่าดูกี่ครั้งก็อด น้ำตาซึมไม่ได้  

เพราะ แค่ ได้เห็นหนึ่งรอยยิ้มของพ่อ ก็ปลาบปลื้มปิติมากมากเลยละค่ะ 

ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

มีพลานัยสมบูรณ์แข็งแรงตลอดไป ค่ะ 

 มีข่าวดีมาบอก

เชิญร่วมกิจกรรม

"ปลดล๊อกกรรม และ เตรียมกายเตรียมใจสู่ภัยพิบัติ"

ศุกร์ที่ 14 ธ.ค.55 ณ ห้องประชุมชั้น 2

อาคารกิจกรรมนักศึกษา ม.ราชภัฏนครปฐม

เวลา 10.00-17.00 น. /////

การสมัคร ให้สมัครในเฟสบุ๊คนี้

หรือ

ที่www.Baansuanpyramid.com

 โดยตอบคำถามต่อไปนี้

1.ชื่อ-สกุล (ถ้ามีคำนำหน้า ชื่อ ยศ ให้ระบุ)

2.อาชีพ + ตำแหน่งงาน +สถานที่ทำงาน

3.วัตถุประสงค์ในการต้องการร่วมกิจกรรม

4.มีความศรัทธา อ.อุบล และ บ้านสวนพีระมิดหรืไม่

5.เชื่อบาปบุญคุณโทษ และ กฏแห่งกรรมหรือไม่

6.ปัญหาที่ต้องการบำบัด กับ อ.อุบล คืออะไร

/////

ส่งเอกสาร ด่วน

ไปที่บ้านสวนพีระมิด 69 ม.6 ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา

จ.นครนายก 26110 /////

1.สำเนาบัตรประชาชน หรือ บัตรข้าราชการ

(นำตัวจริงไปแสดงในงาน)

2.รูปถ่าย หน้าตรง ไม่สวมหมวก+แว่นตาดำ

ขนาด 2 นิ้ว 1 รูป ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน

3.ตอบคำถามทั้ง 6 ข้อ ในกระดาษ A4 /////

ลงทะเบียน ก่อน 9.30 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่

คุณแมว T.086-025-0861

 เชิญเข้าไปอ่านกระทู้ "คำเตือน แค่รับคนไม่ดีเป็นเพื่อนทางเฟสบุ๊ค ก็ทำให้เจอเคราะห์กรรมหนักได้"

(ห้องข่าวประชาสัมพันธ์) เผื่อใครที่ยังนึกถึงเหตุที่ช่วงนี้ต้องมาเจ็บไข้ได้ป่วยใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยแค่ดีขึ้นแต่ยังไม่หายจะได้กระจ่างๆๆๆๆคะ

 http://www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยค่ะ

แม้เพียงแค่ได้เห็นพระองค์

น้ำตาก็ไหลแล้ว....

ดีใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย

ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์

เราในหลวง

**********************************

อนุโมทนากับพี่แมวด้วยค่ะที่มาช่วยประชาสัมพันธ์ข่าว

เวลาใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

ช่วงนี้ท่านอาจารย์และทุกๆคน

คงจะเหนื่อยและต้องช่วยคนให้ได้มากที่สุด

กับเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิด

ขอส่งใจไปร่วมด้วยคนนะคะ

อนุโมทนากับจิตอาสาทุกๆท่านด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ

ในนามของครอบครัวภิรมย์รักษ์ 

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับคุณชนิดาในการจากไปของ คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

และ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งเฉกเช่นเดียวกันกับ น้องมะเหมียว ในการจากไปของคุณย่าเจิม พุฒศรี

.....................

ลูกขออาราธนาพระบารมีแห่งสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และบารมีแห่งพระศรีอาริย์ที่อาราธณาโดยท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์ แห่งบ้านสวนพีระมิด 

ลูกขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ทุกชาติ ทุกภพ รวมทั้งบุญ ทุกๆบุญที่ลูกใด้สร้างที่บ้านสวนพีระมิด

ขออุทิศบุญทั้งหมดทั้งมวลนี้ให้กับคุณลุงพีระฉัตร และคุณย่าเจิม ขอให้ท่านทั้งสองโปรดโมทนารับบุญในครั้งนี้แล้ว

ไปเสวยสุขสู่ภพ สู่ภูมิที่สูงยิ่งๆๆ สุขยิ่งๆขึ้นไป

สาธุ สาธุ สาธุ

อาจินต์ และครอบครัวภิรมย์รักษ์

 โมทนาสาธุกับคุณแมวที่ช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวกิจกรรมธรรมะบำบัดที่ม. ราชภัฐ นครปฐม ขอขอบคุณมากค่ะ 

ขอขอบพระคุณทุกๆท่านมากค่ะที่อุทิศบุญให้คุณย่าของเหมียว

ตอนนี้เหมียวคิดว่าคุณย่าคงได้รับบุญจากทุกๆท่านที่อุทิศบุญให้และคงจะไปอยู่ในภพภูมิที่สูงแล้วล่ะค่ะ ขอขอบพระคุณมากค่ะ

ส่วนหน้าที่ของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้ก็ต้องรีบเร่งสร้างความดีกันต่อไป เพราะไม่รู้ว่าในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ต้องนึกถึงความตายตลอดเวลา ตายแล้วก็ทำบุญไม่ได้ ต้องรอบุญจากคนอื่นอุทิศให้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ในช่วงที่มีชีวิตอยู่ จะพยายามรักษาศีล5ให้ครบค่ะ ตอนนี้ยังขาดๆอยู่บ้างเป็นบ้างอย่าง ตัวเหมียวเองยังชั่วยังเลวอยู่เยอะ แต่จะขอพยายามทำให้ดีที่สุดในทุกๆอย่างค่ะ 

และขออนุโมทนาบุญกับคุณแมวด้วยค่ะ ที่นำข่าวดีมาบอกลูกๆบ้านสวนพีระมิดกัน รายละเอียดทุกอย่างเขียนชัดเจนแล้ว ขอให้ทุกท่านที่จะไปร่วมกิจกรรม"ปลดล๊อกกรรม และ เตรียมกายเตรียมใจสู่ภัยพิบัติ"ทำตามกฎด้วยนะค่ะ เพื่อสะดวกแก่ตัวเองและเจ้าหน้าที่ค่ะ  และขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยค่ะที่มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ค่ะ 

เมื่อสักครู่นี้เหมียวได้ดูข่าวว่า วันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯยังอุทยานสวนสมเด็จย่า วันนี้เห็นในหลวงท่านทรงมีพระพักตร์ที่แจ่มใสมากค่ะ  และระหว่างสองข้างทางก็มีประชาชนร่วมตะโกนร้อง ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ดังก้อง เห็นแล้วรู้สึกปลื้มปิติมากอย่างบอกไม่ถูกเลย เห็นแล้วมีความสุขมากค่ะ ดีใจ ภูมิใจ ที่ได้เกิดอยู่ในพื้นแผ่นดินไทยแห่งนี้ อยู่ใต้ร่มพระบารมีของท่าน เท่านี้ก็พอใจแล้วค่ะ ไม่ขออะไรแล้ว ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป

ขอบคุณทุกๆภาพ และทุกๆข้อความ

ที่สะท้อนจากงานเฉลิมฉลอง

5 ธันวามหาราช ด้วยค่ะ

อ่านความคิดเห็นของคู่ยายหลาน

ที่คุณตุ้ยนำมาฝากแล้ว

ก็"จุก"ไปด้วยเหมือนกัน

เพราะมันสะท้อนความคิด

และจิตใจคุณยายท่านนั้นเลยว่า

ไปร่วมงานเพื่อต้องการแสดง

ความจงรักภักดีต่อพ่อหลวง จริงๆ

ไม่ได้ไปด้วย"ความอยาก" เห็นพระองค์

แต่ไป เพื่อให้พระองค์เห็น สาธุ สาธุ ค่ะ

......................................

ขอบคุณในกุศลจิตจากทุกๆท่านอีกครั้งนะคะ

ขอบคุณพี่แมวค่ะที่ได้แจ้งข่าวบำบัดที่ ม.ราชภัฏนครปฐมค่ะ

ขอบคุณภาพประทับใจทุกภาพค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

ที่ได้ร่วมงานถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในอาทิตย์นี้ด้วยค่ะ

วันนี้พระอาจารย์รัตน์ได้ไปบรรยายเตือนภัย ที่สวนดุสิต มีคนนำมาโพสที่เว็บภัยพิบัติดังนี้ค่ะ

==========

เดี๋ยวรอผู้อธิบายเก่งๆๆมาเล่านะคะ ในสัมนาท่านจะเน้นเรื่องแกนโลกที่จะเปลี่ยน ดดยวันที่17ธันวา55 เป็นต้นไป พลังงานในโลกและสุริยจักรวาลจะเริ่มม้วนตัวเข้าสู่แกนกลางพลังงานของกาแลกซี่ทั้ง3อย่างช้าๆๆ มนุษย์จะรู้สึกว่า การเคลื่อนไหว การเดิน จะแตกต่างไปจากเดิม ลมหายใจติดขัด เกิดความแปรปรวนในระบบสื่อสาร ระบบนำร่องเดินทาง ถึงเวลาที่ต้องใช้ปิรามิดฐาน8เหลี่ยม เพื่อช่วยปรับสภาพ และช่วยให้ใจมีแรงยึดเหนี่ยว เดี๋ยวคงมีผู้up load ลงyoutubeน่ะค่ะ ท่านจะบรรยายอีกครั้งประมาณ15-16ธ.ค เสร็จแล้วก็จะขึ้นบนเขาที่วัดท่านเลย) มีคำถามว่า เหตุการณ์จะเลื่อนไหม ท่านตอบประมาณว่า ไม่มีใครหนีธรรมชาติไปได้ ท่านได้พูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี2540แล้ว และนี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ท่านได้ทำหน้าที่เพื่อช่วยมวลมนุษย์แล้ว  (ต่อจากนี้ท่านคงจะปฏิบัติสู่ความสงบ มุ่งมรรคผลนิพพานเสียที)ข้อความในวงเล็บเป็นการตีความของข้าพเจ้าเองค่ะ หมายเหตุ.ท่านให้เลขสำคัญคือ 314 นั่นคือตั้งแต่วันที่3ม.ค.56-14 ก.พ.56 จะเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์จะโดนกดจากแรงโน้มถ่วง จนกระทั่งไม่สามสารถยืนได้ ต้องนอน หรือคลาน ค่ะ ในช่วงเวลานี้ ให้พวกเราได้ใช้ปิรามิด8เหลี่ยมเพื่อแยกกายละเอียดออกจากกายหยาบ(ในระห่วางเกิดการเปลี่ยนแปลง) หรือไม่ก็หาสถานที่ปลอดภัย ให้พ้นจากการยุบตัวของแผ่นหินเปลือกโลกเรีบยร้อยแล้ว หลังจาก14ก.พ.56 โลกจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ได้แกนขั้วโลกตะวันออก-ะวันตก มีสันติสุขโดยถ้วนหน้า สิ่งที่เป็นหน้าที่หลักของมนุษย์ลำดับต่อไป มิใช่เพียงการดำรงอยู่ของ มนุษย์เท่านั้น  หากยังต้องทำหน้าที่ที่สำคัญต่อตนเองด้วยการฝึกปฏิบัติให้เห็นแรงสืบต่อของการเกิดขึ้น ตั้งอยุ่ สลายตามแนวทางพระพุทธศาสนา สืบต่อไป (ข้อความนี้ นำมาจาก หนังสือแจกตอนเข้าฟัง เรียบเรียงโดย คุณจีรพันธุ์ ประศาสน์วุฒิค่ะ) โดยคุณใบย่านางค่ะ

3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน อาจจะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด และ อาจไม่มีการทำงาน และ ไม่มีการประกอบอาชีพใดๆบนโลกใบนี้ก็อาจเป็นได้ หากทุกคนไม่สามารถยืนทรงตัว และ ไม่สามารถเดินได้ด้วยสองขาของตนในช่วงเวลาดังกล่าว

พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานที่สำคัญในยุคปัจจุบันท่านหนึ่ง ในสายสมาธิหมุน (หมุนพระธรรมจักร) ท่านศึกษารายละเอียดเชิงลึกจากสาส์นของชาวมายัน และจารึกโบราณจากสโตนเฮ้นจ์ ที่ประเทศอังกฤษ และ ทำกรรมฐานเชิงลึกขั้นถอดจิตออกจากกายได้ โดยให้ลูกศิษย์ทำการตรวจสอบ เป็นข้อมูลคู่ขนาน คือ พระชัยวัฒน์ พนมยงค์ หลานฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ และ ดร.สรัญฯ อาจารย์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ได้ข้อมูลตรงกัน

เนื่องจากข้าพเจ้า นายมงคล กริชติทายาวุธ ซึ่งได้เข้ารับการอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เป็นครั้งแรกจากพระอาจารย์รัตน์ฯ และ พระอาจารย์รัตน์ฯ แจ้งว่า การอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในครั้งนี้ จะเป็นการจัดอบรมเป็นครั้งสุดท้ายของปี 2555 ในระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคม 2555 ณ ห้องกาหลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยได้แจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ท่านจะกลับขึ้นเขาไปที่แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อทำกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป ใครจะนินทาให้ร้ายอย่างไร จะเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องที่ท่านนำมาเตือนภัยนี้ ก็สุดแต่จะพิจารณากันเอาเอง

ขออนุญาตเรียนย้ำว่า ท่านพระอาจารย์รัตน์ฯ ได้องค์ความรู้ฯ จากการศึกษาค้นคว้าในศาสตร์โบราณ และ จารึกโบราณ ว่าด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ และ เสริมด้วยองค์ความรู้ฯ ที่ได้มาจากการศึกษาทาง “จิต” ที่สงบนิ่งได้องค์ฌาน เป็นญาณทัศนะ ถอดจิตออกจากกายไปรับรู้เรื่องราวในอดีต และ ทราบเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้พระอาจารย์รัตน์ฯ รู้ถึงเหตุและผล ของแต่ละปรากฏการณ์ ในความเชื่อมโยงของแต่ละเหตุการณ์ ได้ด้วยการใช้ แรงสืบต่อ หรือ แรงสันตติ สาวหาเหตุและผล ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ สลาย ของสรรพสัตว์ ปรากฏการณ์ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ และจักรวาล ฯลฯ

ทำให้ได้เห็นความจริงที่ผูกโยงเป็นเงื่อนไขว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนั้นย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงเกิด เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนั้นย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงดับไป ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่ได้เกิดมาจากการทำงานของสมองและใจ ตามปกติที่สามัญชนกระทำกัน จึงไม่ใช่การพยากรณ์ มิใช่การทำนาย แต่เป็นการบอกแจ้งให้ทราบว่า หรือ เพียงแจ้งให้ท่านทราบว่า ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว อะไรจะเกิดตามมาในลำดับต่อไป

ตามเงื่อนไขที่ผูกโยงไว้อย่างเป็นเหตุและผลต่อกัน ส่วนท่านใดจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น หาใช่สิ่งสำคัญไม่ เพียงแต่ว่า หากมีปัจจัยนี้เกิดขึ้นแล้ว พระอาจารย์รัตน์ฯท่านจึงออกมาเตือนให้ทราบว่า จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต่อไป เพื่อให้การช่วยเหลือมนุษยชาติให้ได้มากที่สุด

ในส่วนของการได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการทำวิปัสสนา การตรวจหาสิ่งที่มีชีวิต สิ่งที่ไร้ชีวิต และ การรักษาโรคนั้น ขออนุญาตไม่กล่าวถึงในวันนี้ แต่ขอกล่าวถึงในส่วนที่ท่านพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้มาเตือนเรื่องภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ โดยสรุปดังนี้

“ในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะใดๆทุกชนิดในโลก ไม่ว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานถีบด้วยเท้า ไม่มีเรือบิน หรือ การเดินทางในทางน้ำ ระบบการสื่อสารคมนาคมล่มในทุกระบบ และ ผู้คนทั้งหลายจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานในสถานที่ต่างๆได้ แม้จะเป็น Home office ก็ลุกจากที่นอนมาทำงานไม่ได้ หมายความว่า ในช่วงเวลา 42 วันดังกล่าว จะไม่มีการประกอบอาชีพใดๆบนโลกใบนี้ เป็นช่วงที่ไม่มีโจรขโมย เพราะ ทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่สามารถยืนทรงตัวได้ และ ไม่สามารถเดินได้ด้วยสองขาของตนในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากถูกพลังงานอันมหาศาลกดทับร่างของทุกคนบนโลก ไม่ให้ทรงตัวยืนได้ ต้องล้มลงนอนทุกคน จะกินอาหาร จะดื่มน้ำ ก็จะต้องนอนกินนอนดื่ม รวมทั้งนอนขับถ่ายด้วย”

ทั้งนี้ ท่านแจ้งว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่นั่นเอง

เพราะทุกๆรอบ 13,000 ปี สุริยจักรวาล กาแลคซี่ทางช้างเผือก และ กาแลคซี่ไตรแองกุลัม จะโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งจะมีผลให้ โลก และสุริยจักรวาล จะเปลี่ยนเข้าสู่แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ทางทิศตะวันออก

เดิมนั้น พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้เปิดสอนหลักวิปัสสนากรรมฐาน โดยการเคลื่อนที่ของจิต ด้วยอุบายหลัก 2 วิธี คือ การเจริญสติ เพื่อฝึกจิตให้เห็น การเกิด – ดับ ของการกระทบที่เกิดขึ้น เป็นปัจจุบันขณะ และ

อุบายของการหมุนธรรมจักร เพื่อฝึกจิตไม่ให้ติดในการกระทบที่เกิดขึ้นทั้งสองส่วน คือ ที่อายตนะภายนอก และ อายตนะภายใน อีกทั้งยังได้ประยุกต์ หลักการเคลื่อนที่ของจิต มาเป็นการเคลื่อนที่ของพลังจิต ของพลังงาน โดยใช้ศาสตร์พีระมิด ของชาวแอตแลนตีส เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้าง ฟื้นฟู บำบัด รักษาร่างกายด้วยตนเองให้แก่ผู้สนใจมานาน

พระอาจารย์ฯ ท่านว่า เรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกของเราในเร็วๆนี้นั้น แท้ที่จริงแล้ว กล่าวได้ว่า เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และ ไม่เลื่อนเวลาอีกแล้ว

เพราะโลกของ เราเคยเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ตามความรู้ที่ได้จาก สโตนเฮนจ์ (Stone Henge) ซึ่งบ่งชี้ว่า ทุกๆ 13,000 ปี จะมีการสลับเปลี่ยนขั้วของแรงดึงดูด ที่มีอิทธิพลต่อโลก สุริยจักรวาล เนื่องจากกาแลคซี่ ที่มีอิทธิพลต่อสุริยจักรวาลมีด้วยกันถึง 3 กาแลคซี่ ได้แก่

1. กาแลคซี่ทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy) มีศูนย์กลางของแรงดึงดูดอยู่ทางทิศเหนือในปัจจุบัน โลก สุริยจักรวาล ตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่นี้

2. กาแลคซี่ไตรแองกุลัม (Triangulum Galaxy) มี ศูนย์กลางของแรงดึงดูดอยู่ทางทิศตะวันออก มีขนาดเล็กกว่ากาแลคซี่ทางช้างเผือก ในอนาคตโลก สุริยจักรวาล จะถูกดึงเข้าสู่แรงดึงดูดของกาแลคซี่นี้ ตามวาระการวนครบรอบอีกครั้ง

3. กาแลคซี่อันโดรเมดา (Andromeda Galaxy) เป็นกาแลคซี่ที่มีขนาดใหญ่มาก แผ่อิทธิพลควบคุมทั้ง 2 กาแลคซี่ ไม่ส่งผลกับโลกโดยตรง

ดังนั้น จึงพอสรุปได้ว่า ใน 1 รอบใหญ่ คือประมาณ 26,000 ปี ตามปฏิทินดาราศาสตร์ที่สโตนเฮนจ์ โลก สุริยจักรวาล จะตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้าง เผือก 13,000 ปี และสลับไปอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม อีก 13,000 ปี

การประสบกับภัยพิบัติอย่างรุนแรง ถึงกับมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของพื้นผิวโลก นั่นคือ จะมีการเปลี่ยนพื้นที่ตั้งของภูเขา ไปเป็นมหาสมุทร จากป่าฝนไปเป็นทะเลทราย จากเขตร้อนกลายเป็นเขตหนาว ฯลฯ นอกเหนือจากเป็นการทำงานตามวาระของธรรมชาติแล้ว ยังมีองค์ประกอบที่ส่งผลร่วมอย่างร้ายแรง คือ การกระทำของมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยด้วย

เมื่อประมาณ 26,000 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงวาระที่โลก สุริยจักรวาล อยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ที่สมบูรณ์ไปด้วยพลังงานที่ดี เช่น กระแสลมปราณ และ มโนธาตุ ส่งผลให้มหาอาณาจักรแอตแลนตีส เจริญสูงสุดในทุกด้าน

แต่จุดเสื่อมย่อมเพาะเชื้อก่อกำเนิดมาจากจุดสูงสุดเสมอ เมื่อคนเรามีความรู้มาก เก่งมาก จึงนำไปสู่การผลิตอาวุธสงครามที่ร้ายแรง เรียกว่า “อาวุธเส้นแสง”

เมื่อ อาวุธเส้นแสง ถูกนำมาใช้ในการทำสงคราม สิ่งที่เกิดตามมา คือ เกิดแรงอัดกระแทกอย่างมหาศาลลงสู่พื้นดิน พร้อมๆ กับการโคจรมาเรียงตัวเป็นเส้นตรงของ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ทางช้างเผือก และกาแลคซี่ไตรแองกุลัม

ด้วยขนาดของกาแลคซี่ทางช้างเผือกที่ใหญ่กว่า จึงทำให้แกนขั้วโลกจากทิศตะวันออก พลิกเปลี่ยนชี้ไปทางทิศเหนือ มหาอาณาจักรแอตแลนตีส จึงจมลง เปลี่ยนสภาพจากแผ่นดิน กลายเป็นมหาสมุทรในชั่วข้ามคืน เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพ บนพื้นผิวโลกอย่างมโหฬารไปทั่วทุกส่วนของ โลก ตามอัตราส่วนของการมีพื้นน้ำ 3 ส่วน และพื้นดิน 1 ส่วน มนุษย์เสียชีวิตมากมายเหลือคณานับ เป็นการสิ้นสุดของยุคทองแห่งแอตแลนตีส

ชาวแอตแลนตีสกลุ่มหนึ่ง มี ผู้นำเป็นนักบวชที่มีพลังจิตสูง ได้ลงเรือเดินทางออกจาก มหาอาณาจักรแอตแลนตีส ก่อนจะเกิดเหตุภัยพิบัติอย่างรุนแรง ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ขึ้นฝั่งในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์ในปัจจุบันนี้ การถ่ายทอดอารยธรรมแอตแลนตีส จึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง สัญลักษณ์ สิ่งแรกที่ยิ่งใหญ่แสนมหัศจรรย์ที่นักบวชได้สร้างขึ้นด้วยพลังจิต และอาศัยความช่วยเหลือจากชาวดาวอังคาร คือ การสร้างสฟิงซ์ (Sphinx) ด้วย เทคนิคการใช้พลังจิต เปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงานแสง และเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นวัตถุ เป็นรูปสิงโตหมอบ เหยียดขาหน้าทั้งคู่ไปด้านหน้า ลำตัวทอดยาวไปตามแนวทิศตะวันออก และทิศตะวันตก เพื่อเป็นสิ่งบ่งบอกว่า ในอนาคตข้างหน้า เมื่อถึงวาระครบ 13,000 ปีอีกครั้ง

ณ ที่ตั้งสฟิงซ์แห่งนี้ จะกลายเป็นตำแหน่งของขั้วโลกใหม่ และ ขั้วโลกจะชี้ไปทางทิศตะวันออก อยู่ในอิทธิพลแรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม อีกครั้ง โดยใช้เวลารอบใหม่เป็นเวลานานอีกประมาณ 13,000 ปี

ชาวแอตแลนตีส มีความชำนาญในการใช้พลังพีระมิดอย่างหลากหลาย และได้ถ่ายทอดสู่ชาวอียิปต์จากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งอีกหลายพันปีต่อมา จึงได้มีมหาพีระมิดเกิดขึ้น

เชื้อสายชาวแอตแลนตีสรุ่นต่อๆมา มีการย้ายถิ่นฐาน สร้างเมือง สร้างประเทศใหม่ อารยธรรมแอตแลนตีสจึงกระจายออกไปหลายส่วนของโลก ที่รู้จักกันดี คือ ชนเผ่ามายา หรือ มายัน ผลงานชิ้นสำคัญของพวกเขา คือ การจัดวางเสาหิน แท่งหิน ขนาดมหึมาเป็นรูปวงกลมซ้อนกันอยู่ 3 วง เรียกว่า สโตนเฮนจ์ (Stone Henge) อยู่ที่เมือง ซาลเบอรี่ (Salisbury) ประเทศอังกฤษ มีเทคนิคการสร้างเหมือนกับการสร้างสฟิงซ์ คือ

การใช้พลังจิต เปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงานแสงก่อน และ เมื่อนำไปจัดวางได้เรียบร้อยแล้ว จึงเปลี่ยนพลังงานแสง คืนกลับเป็นวัตถุอีกครั้ง

สโตนเฮนจ์ เป็นปฏิทินดาราศาสตร์ ใช้หลักคำนวณจากการโคจรของกาแลคซี่ ทั้ง 3 ใน 1 รอบ คือ 26,000 ปี โดยสามารถถอดรหัสได้ว่า ในช่วงระยะเวลา 26,000 ปี สุริยจักรวาล จะตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้างเผือก 13,000 ปี และ อีก 13,000 ปี จะสลับมาอยู่ในอิทธิพลของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม

ฉะนั้น การสร้างสโตนเฮนจ์ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อเตือนภัยแก่ชาวโลก เมื่อถึงวาระของการสลับเปลี่ยนขั้วของแรงดึงดูดอีกครั้ง

การเกิดภัยพิบัติในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นความสัมพันธ์ เชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน และอนาคต ระหว่างกาแลคซี่ทั้ง 3 กับสฟิงซ์ สโตนเฮนจ์ และ แกนพลังงานโลก โดยมีทั้งมนุษย์ และธรรมชาติเป็นพลังงานขับเคลื่อน

แกนพลังงานโลก เป็นแกนพลังงานที่ทอดยาวควบคู่ไปกับแกนสสาร ที่ปัจจุบันชี้ไปทางขั้วโลกเหนือและใต้ แกนพลังงานประกอบด้วยพลังงานสำคัญ 3 ประการ คือ

1. พลังงานแม่เหล็กโลก หรือ พลังงานแรงดึงดูดจากศูนย์กลางกาแลคซี่ทางช้างเผือก เป็นแรงร้อยรัดที่ดึงโลก ให้อยู่กับสุริยจักรวาล และ กาแลคซี่ ตามลำดับ เป็นพลังงานที่มีคุณสมบัติที่ร้อนและหนัก มีสีเข้ม คล้ายสีเทา เกือบดำ และอยู่นอกสุดของแกนพลังงาน

2. พลังงานกระแสลมปราณ มีสีออกเหลือง ออกส้ม เป็นพลังงานที่โลกเราได้รับมาจากดวงอาทิตย์ เป็นพลังงานที่ดี มีประโยชน์ เป็นเสมือนภูมิต้านทานร่างกาย ที่มนุษย์ทุกคนได้รับอย่างเท่าเทียมกัน โดยลมหายใจเข้า

3. พลังงานมโนธาตุ มีสีออกขาว อยู่ชั้นในสุดของแกนพลังงาน เป็นพลังงานดี ช่วยเสริมจิตใจให้มีคุณธรรม

เทคโนโลยี ที่เกิดจากการผลิตอุตสาหกรรมหนัก ทำให้เกิดสารตกค้าง CFC หรือ สาร คลอโรฟลูออโรคาร์บอน และยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถทำลายสาร CFC นี้ได้สำเร็จ

สาร CFC มีคุณสมบัติ “เบา กว่าธาตุอื่นๆทุกชนิด” จึง สามารถแทรกเข้าไปทำลายแกนพลังงานโลก เริ่มขบวนการทำลายมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2540-2544 จนกระทั่งแกนพลังงานโลกตัน ทำให้แรงร้อยรัด หรือ พลังงานแม่เหล็กโลก ที่ส่งออกมาจากกาแลคซี่ทุกวินาที ไม่สามารถไหลทะลุผ่านขั้วโลกเหนือ-ใต้ได้ พลังงานจึงแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของโลก ทั้งพื้นน้ำ มหาสมุทร พื้นแผ่นดิน แผ่นหิน เปลือกโลก ร่างกายมนุษย์ สัตว์ และ พืช ฯลฯ

ความร้อนและหนัก จึงฝังตัวติดแน่น สะสมเป็นเชื้อร้ายแฝงอยู่ และเพิ่มอันตรายมากทวีคูณ เกินกว่าจะ
พรรณนาได้ กล่าวได้เพียงว่า พลังงานแม่เหล็กโลก จากกาแลคซี่ทางช้างเผือกในปัจจุบัน คือ พลังงานสำคัญที่ทำลายมนุษย์ และเปลี่ยนโลกใบนี้ในอนาคต

ผู้คนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ คือ ผู้ปล่อยยักษ์ใจร้ายตนนี้ออกมาเอง และหากสมมุติว่า จะเนื่องด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทำให้ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ไม่เกิดขึ้น มนุษย์ สัตว์ และ พืช ทั้งหลาย ก็อาจถูกทำลายอย่างรุนแรง ด้วยพลังงานแม่เหล็กโลก และ พลังกระแสไฟฟ้าลบ อาจสิ้นชีวิตลงเกือบ 3 ใน 4 ส่วนของประชากรโลก ภายใน 14 กุมภาพันธ์ 2556 โดยประเทศไทย จะเป็นประเทศที่มีประชากรเหลือมากกว่าประเทศอื่นๆ และ พุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสูงใน 2,500 ปีต่อจากนี้

พลังงานกระแสลมปราณ และ พลังมโนธาตุ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ได้ลอยสูงขึ้นๆ ไปอยู่ในบรรยากาศชั้นบนสูง เกินกว่ามนุษย์จะนำเข้าสู่ร่างกายได้ ด้วยลมหายใจ เข้า ดังนั้น ด้วยองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ จึงได้นำพลังพีระมิดมาใช้เพื่อช่วยมนุษยชาติในการแก้ปัญหาดังกล่าว

พลังงานกระแสแม่เหล็กขั้วลบ จากกาแล็กซี่ทางช้างเผือก และ พลังงานไฟฟ้าขั้วลบจากกาแล็กซี่อัลโดรมีด้า ได้แผ่กระจายเข้ามาในโลกอย่างรุนแรงหนาแน่นมาก ในทุกพื้นที่บนโลก โดยจะเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงของแผ่นเปลือกโลก จะเกิดการเคลื่อนที่สับเปลี่ยนของผืนแผ่นดิน แผ่นน้ำ จะเกิดลมพายุ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่มากกว่าปรากฏการณ์ในปี 2554 หลายสิบเท่าตัว จะเกิดการหล่นกระจายของแผ่นฝ้าน้ำแข็ง เพดานโลกที่เกิดจากการสะสมของควันน้ำมัน บางก้อนมีน้ำหนักถึง 40 กิโลกรัม ฯลฯ

สิ่งที่จะยืนยันว่าจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นนั้น จะเริ่มเห็นชัดมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ถ้า

1. การยืน หรือ เดินของตัวเรา ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ลูกหลาน หากเริ่มปรากฏอาการโครงเคลงตอนลุกขึ้นยืน หรือ ในเวลาเดิน หรือ มีอาการสะดุดคล้ายตกหลุมอากาศ ภูมิต้านทานโรคลดต่ำลง มีอาการป่วยง่าย มีอาการอ่อนเพลียมาก และ/หรือ

2. มีแผ่นดินไหวในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

3. มีภูเขาไฟระเบิดในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

4. มีแผ่นดินยุบตัวลงในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

5. ระบบนำร่องของเรือเดินทะเลมีปัญหา เกิดอุบัติเหตุทางเรือในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

6. ระบบนำร่องของเครื่องบินมีปัญหา ทำให้เกิดเครื่องบินตก เครื่องบินชนกัน ในสถานที่ต่างๆถี่ขึ้น และ/หรือ

7. ระบบสื่อสารคมนาคมมีปัญหา ไม่ว่าทีวี โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ท ไอแผ็ด ไอโฟน หรือ ระบบไฟฟ้าสายเมนใต้น้ำ ใต้ดินระเบิด จะมีการขัดข้องบ่อย สะดุดบ่อย สายหลุดบ่อยกว่าที่เคยปรากฏ โดยปรากฏในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

8. ระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมทั่วโลกมีปัญหา

หากมีเหตุต่างๆหลายประการเกิดขึ้น และต่อมา ในช่วงตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ถ้า มีแรงดันที่ท้องของแต่ละคนมากขึ้น จนรู้สึกอยากโค้งตัวลง หรือ งอตัวลง จึงจะรู้สึกสบาย คือ เกิดสภาวะการยืดตัวตรงลำบาก ซึ่งจะเห็นได้จากคนอื่นๆ และ ตัวของเราเอง มีการหายใจติดขัด ไม่คล่องจมูกมากขึ้น และ สิ่งบอกเหตุ 8 ประการก็มีมากขึ้น ท่านทั้งหลายที่อยู่ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก ขอให้ท่านรีบเดินทางไปหาที่พักในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณโดยเร็ว น่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ท่านอยู่อาศัยในปัจจุบันโดยเร็ว (ชายทะเลใหม่อาจไปอยู่ที่สระบุรี ลพบุรี และ นครสวรรค์ สำหรับพื้นที่ภาคกลาง จะมีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่าปี 2554 ได้)

นั่นคือ จะมีการเปลี่ยนสัณฐานของโลกครั้งใหญ่ พื้นดินในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตกนั้น อาจยุบจมหายไปได้

ความ รุนแรงมากที่สุด น่าจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน ที่อาจไม่มีการทำงาน และ ไม่มีการประกอบอาชีพใดๆได้ นั่นคือ จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด หากอยู่ระหว่างการเดินทาง ต้องหยุดการเดินทางทั้งหมด เพราะพลังงานของกระแสแม่เหล็กโลก และ พลังงานกระแสไฟฟ้าลบ เข้ามาในโลกอย่างรุนแรงหนาแน่น จนไม่เหลือช่องว่าง และ ทุกคนอาจไม่สามารถทรงตัวยืน เดิน ตามปกติได้ และ อาจต้องเคลื่อนไหวโดยการคลานสี่เท้า รวมทั้งต้องนอนตะแคงใบหน้ากินอาหาร หรือ กรอกน้ำใส่ปากในช่วง 42 วันดังกล่าวนี้ก็อาจเป็นได้

ก่อนหน้าวิกฤติช่วง 42 วันนี้ ท่านต้องรีบเตรียมสำรองอาหาร ที่รับประทานได้ง่ายที่สุด หากเป็นแคปซูลได้ยิ่งดี อาหารที่ไม่ต้องเสียเวลาปรุง ไม่ต้องสนใจในรสชาติ ขอให้ท้องอิ่ม เพื่อให้มีลมหายใจอยู่ให้รอด 42 วันที่ยืนเดินไม่ได้ ท่านต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มบนพื้นห้องนอน

อาหารที่ท่านต้องรีบเตรียมการโดยด่วน อาทิ อาหารที่ใช้รับประทานในอวกาศต่างๆ เช่น อาหารที่ผลิตใส่ในแคปซูลเม็ด หากหาไม่ได้ ก็ต้องเป็นประเภทนำใส่ปากรับประทานได้เลย เพราะช่วง 42 วันดังกล่าว จะไม่มีไฟฟ้าใช้ ผู้ที่อยู่คอนโดมิเนียมทั้งหลายจะเดือดร้อน อาหารแห้งที่ต้องเตรียมพร้อม เช่น สาหร่ายประเภทต่างๆ ไมโล โอวัลติน ถั่วต่างๆ เมล็ดทานตะวัน เม็ดมะม่วง ข้าวเม่า ข้าวตัง กล้วยอบแห้ง ผลไม้อบแห้ง ฯลฯ ต้องหาอาหารที่ไม่ต้องขับถ่ายมากมารับประทาน
น้ำดื่มสะอาดจำนวนมาก พร้อมหลอดดูด ต้องเตรียมไว้ให้มากพอ

ท่านต้องนอนกับพื้น และ มองหาที่พอคลานไปขับถ่ายได้ อย่าลืม จะทรงตัวยืนไม่ได้ในช่วงระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน สำหรับเรื่องอาบน้ำนั้น ไม่ต้องสนใจ



หลังจาก 14 กุมภาพันธ์ 2556 ไปแล้ว ในช่วง 7 วันแรก ไม่ควรออกมานอกบ้าน เพราะพลังงานในโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ยังปรับสมดุลไม่ได้ดี ร่างกายของมนุษย์อาจมีอันตราย

หลังจาก 21 กุมภาพันธ์ 2556 ไปแล้ว ต่อไปในประเทศไทยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-24 องศาเซลเชียส มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับเกาหลี และ ญึ่ปุ่น ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2556 ประเทศไทยจะมีอากาศเย็นสบาย พระอาจารย์รัตน์ฯ ให้ติดตามดูต่อไป

สำหรับผู้ที่อยู่ภาคอิสาณนั้น พื้นที่ริมฝั่งโขงทั้งหมด จะได้รับอันตรายจากเขื่อนใหญ่หลายแห่งในประเทศจีนแตก ภูเขาหิมาลัยจะทรุดตัวลง ปริมาณน้ำแข็งจะละลายเป็นปริมาณน้ำมหาศาล ย่อมท่วมเข้ามาในพื้นดินริมโขงทุกจังหวัดของไทย และ ลาว

ช้า ที่สุด คือ ต้องอพยพออกจากพื้นที่ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง(กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงครม ฯลฯ) ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก โดยรีบเดินทางไปเข้าที่พักในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณก่อน 24 นาฬิกาของวันที่ 2 มกราคม 55 จะปลอดภัยมากกว่า

มนุษย์เรานั้น ประกอบด้วย จิตและกาย หากยังมีความคิดว่า “ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ควรรักษาไว้” จึงควรแสวงหาทางรอด ตามวิถีความเชื่อของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการฝึกจิต ควรเข้าใจให้ชัดเจนว่า พลังงานแม่เหล็กโลกที่ไม่ได้อยู่ในแกนพลังงานโลก เป็นพลังงานกั้นบัง ฉุดรั้ง เป็นเสมือน ตัณหาที่ฉาบทาโลก ส่งผลให้การฝึกจิต ทำได้ยากยิ่งขึ้น หากโลกเราได้แกนพลังงานใหม่ เปลี่ยนเป็นขั้วโลกตะวันออก เป็นกาแลคซี่ใหม่ที่ สมบูรณ์ด้วยพลังงานกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ ซึ่งเหมาะแก่การฝึกจิตเป็นอย่างยิ่งในช่วงหลังจากปรากฏการณ์ครั้งสำคัญนี้ แล้ว ในช่วงเวลานี้ พีระมิดแปดเหลี่ยมเท่านั้น ที่ช่วยพอประทังให้ประคับประคองความเป็นอยู่ได้บ้าง ด้วยการถอดจิต หรือ กายละเอียดไปพักนอกกาแล็คซี่ทั้งสาม ที่ขอบอนันตจักรวาล ซึ่งบรรดาศิษย์จำนวนหนึ่งของพระอาจารย์รัตน์ฯก็ต้องเร่งฝึกทุกวัน นับแต่วันนี้ (ที่ 9 ธันวา 55) เพื่อให้ทันภายใน 3 มกรา 56

ในที่สุด คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ ก็จะสำเร็จตามจิตประสงค์ มหาอาณาจักรแอตแลนตีส ที่เคยจมหายไปร่วม 13,000 ปี จะได้มีโอกาสโผล่ขึ้นมาอวดโฉมอีกครั้ง พื้นที่มหาสมุทรแอตแลนติค จะกลายเป็นพื้นดินขึ้นมาใหม่ ส่วนที่เคยเป็นพื้นดินในทวีปอเมริกา อัฟริกา ยุโรป และ เอเชียหลายส่วน จะกลายเป็นผืนน้ำที่ถาวรใน 13,000 ปีต่อจากนี้ไป

สิ่งเตือนใจ คือ อายุขัยของมนุษย์ และ สัตว์ นั้นแสนจะสั้น มีอายุได้อย่างมากเฉลี่ยแล้วประมาณ 100 ปีเป็นอย่างมาก หากยังดับกิเลสได้ไม่หมดสิ้น ท่านย่อมจุติ หรือ ตายไป แล้วไปปฏิสนธิ หรือ ไปเกิด หรือ อุบัติบังเกิดในภพภูมิต่างๆ เวียนว่ายตายเกิดต่างภพ ต่างภูมิ ตามผลกรรมของตน หรือ ผลของการกระทำที่เคยสร้างไว้ในครั้งยังมีชีวิตอยู่ และถ้าหากไม่เคยฝึกจิต คงไม่สามารถรู้ถึงเหตุและผล ของการตกอยู่ในสังสารวัฏ และการวนรอบของปรากฏการณ์ทุกอย่างได้ จึงมักจะเชื่อเฉพาะสิ่งที่รู้ได้ด้วยสมอง และ สัมผัสต่างๆด้วยตนเองเท่านั้น

ทั้งๆที่ความจริงที่มีอยู่ในโลกของเรานั้น ทุกคนเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ก็เชื่ออย่างสนิทใจว่ามี เช่น มีลม มีอากาศ มีคลื่นวิทยุ มีคลื่นโทรทัศน์ มีคลื่นโทรศัพท์ มีรังสีเอ็กซเรย์ มีรังสีแกรมม่า มีรังสีแอลฟ่า มีแสงอุลตราไวโอเล็ต ฯลฯ แต่ ถามจริงๆเถอะว่า มีใครมองเห็นสิ่งต่างๆตามตัวอย่างเหล่านี้บ้าง แม้จะมองไม่เห็น ทุกคนที่มีความรู้ ก็ย่อมเชื่ออย่างสนิทใจว่ามีอยู่จริง แต่ ในเรื่องพลังจิต กับถูกปฏิเสธว่า ไม่มีอยู่ จริง

เรื่องของจิต และ พลังจิตของแต่ละท่านนั้น เป็นเรื่องที่มีอยู่จริง แต่มีมากน้อยแตกต่างกันเท่านั้น ท่านที่ไม่เคยมีพลังจิต หรือ มีเพียงน้อยนิด โปรดอย่าปรามาส หรือ สบประมาทครูบาอาจารย์ที่ท่านมีพลังจิตที่เหนือกว่า เข้าทำนองว่า “ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่" แต่ ก็มิได้บังคับให้ท่านต้องเชื่ออย่างงมงาย

เพียงแต่เรื่องใดที่ท่านไม่มีฐานความรู้ หรือ ไม่มีองค์ความรู้ในเรื่องนั้นๆมาก่อน ก็อย่าด่วนปฏิเสธทันที หรือ ดูหมิ่นความรู้ของผู้อื่น ที่นำเรื่องราวมาบอกกล่าวตักเตือน โปรดทำการศึกษาและติดตาม ทดลองและลงมือปฏิบัติ สักวันหนึ่งในอนาคต ท่านอาจได้พบความจริง เพียงแต่ หากลังเล หรือ ล่าช้าในการลงมือปฏิบัติ ในวันที่ท่านยอมรับความจริงนั้น อาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิตท่านก็ได้ เข้าทำนองว่า “ไม่เห็นโลงศพ ก็ไม่หลั่งน้ำตา”

ขอให้ท่าน และ ครอบครัวของท่าน มีสติในทุกสถานการณ์ มีความปลอดภัย รอดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากในช่วง 42 วันดังกล่าว เพื่อจะได้มีชีวิตในยุคพลังงานใหม่ที่ดี ที่ผู้คนมีจิตใจที่ดีงาม มีศีลธรรมสูง และ ขั้วโลกได้เปลี่ยนเป็นขั้วตะวันออก-ตะวันตก แทนขั้วเหนือ-ใต้

ด้วยความปรารถนาดี จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ
อดีต Senior Vice President บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าของเว็บไซต์ mongkoldham.com และ ที่ปรึกษาสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ ผู้รวบรวม และเรียบเรียงอย่างกระทันหัน

ไฟล์แนบข้อความ

3 มค- 14 กพ 56 อาจจะไม่มีการเดินทาง และ (199.5 KB, 210 views)

__________________
A1-WarRoom Falkman FB

ขอขอบคุณ คุณธัญญาภรณ์ที่นำบทความสำคัญมาให้อ่านค่ะ ใจระทึกตึ๊กตั๊กไปเลยค่ะ แม้จะเตรียมใจไว้บ้างแล้วกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า แต่ก็อดใจหายไม่ได้ เพราะในชีวิตจริงของเรายังไม่เคยผ่านเรื่องเหล่านี้ มวลมนุษยชาติ ต้องเจอของจริงในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้

น่าสงสารคนที่ไม่รู้อะไรเลยนะคะ  ขนาดเรารู้ ยังนึกไม่ออกเลยว่าหากต้องคลานแทนการเดินทุกอย่าง เป็นเวลาเดือนกว่า สภาพจะยังไง มีคำทำนายคำนึงเคยอ่าน บอกว่าคนจะเปลี่ยนจากยืนเป็นคลาน เนื่องจากเหตุเปลี่ยนสัณฐานใหม่ของโลกนี่เอง

ขอบคุณคุณธัญญาภรณ์ (ฝรั่งเศส)น่ะครับ ที่มาแชร์ข้อมูลให้พวกเราทราบอีกทางนึงครับ

 ขอขอบคุณคุณธัญญาภรณ์ (ฝรั่งเศษ)ด้วยนะค่ะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้แล้ว พออ่านไป ก็จิตนาการภาพตามไปด้วย มันช่างน่ากลัวเหลือเกินค่ะ แม้ตัวเหมียวเองจะเตรียมเสบียงไว้บางส่วนบ้างแล้ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยุ่กับบุญและบาปที่เราทำมาด้วย ว่าจะให้รอดหรือไม่รอด ยิ่งอ่านยิ่งกลัว แต่ถ้าเราปิดหูปิดตาไม่รับรู้อะไรเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเราก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลยจะทำอะไรไม่ถูก การที่อ่านและรับรู้เรื่องราวต่างๆเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะจะทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ประมาทกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น จริงอย่างที่พี่ป้อมว่าค่ะ ข่าวออกเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติเยอะ แต่ก็มีคนมาค้านว่าไม่เกิด ไม่มีทางเกิด แล้วถ้าคนที่ได้ฟังข่าวได้ฟัง ก็คงจะนิ่งนอนใจ คงจะประมาท เพราะผู้เชี่ยวชาญออกสื่อว่าไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน ทำให้ไม่ได้เตรียมพร้อม ในทุกๆด้าน เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงๆก็คงจะทำอะไรไม่ถูก น่าจะให้ประชาชนตัดสินมากกว่าก่อนที่จะมาค้านอะไร แล้วก็น่าจะบอกวิธีการรับมือมากกว่าว่าจะต้องปฏิบัติตัวกันอย่างไร เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นถ้าเกิดจริงๆเราจะอยู่ได้มั้ยหรือยังไง เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริงๆวันนั้นก็คงจะไม่มีใครมีช่วยใครให้เห็นอย่างในข่าวแล้วล่ะค่ะ ต่างคนก็ต่างเอาตัวรอดแล้วล่ะ

แจ้งข่าว สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม

 "ปลดล๊อกกรรม และ เตรียมกายเตรียมใจสู่ภัยพิบัติ"

ศุกร์ที่ 14 ธ.ค.55

ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกิจกรรมนักศึกษา

ม.ราชภัฏนครปฐม เวลา 10.00-17.00 น.

สามารถนำส่งเอกสารได้ที่หน้างานก่อนเวลา 09.30 น.คะ

     ขอบคุณคุณธัญญาภรณ์ค่ะ สำหรับข่าวสารเรื่องภัยพิบัติ   หลายคนไม่เชื่อ พยายามหาเหตุผลมาหักล้าง  หาว่าครูบาอาจารย์ออกมาบอกให้ผู้คนตระหนก   แทนทีจะคิดว่าท่านเมตตาออกมาบอกมาเตือนนั้นเป็นการดี จะได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ หาที่ปลอดภัย เตรียมเสบียงแต่เนิ่นๆ  คนที่ไม่เชื่อก็เห็นด้วยกับนักวิชาการเหล่านั้น  ขนาดคนใกล้ตัวข้าพเจ้ายังค้านเลย หาว่าเราบ้าไปแล้ว  เออ! บ้าก็บ้าเนาะ 

   ข้าพเจ้าก็นับเวลาถอยหลังแล้ว อีกไม่กี่วันเอง  ยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปอยู่ที่แห่งใด  จะไปทันไหม?  แล้วที่ทำงานเราล่ะ!  เสบียงเตรียมไว้บ้างแล้ว  แต่พอได้รับรู้จากพระ อ.รัตน์ล่าสุด  ต้องเป็นอาหารที่พร้อมกินได้ หาที่ปลอดภัยให้ตัวเอง ท่านบอกว่าเมื่อถึงเวลานั้น คนสำคัญของประเทศจะปลอดภัย  กว่าจะได้แกนโลกใหม่ (ซึ่งความจริงต้องใช้เวลานานประมาณ 4 เดือน ท่านมีหน้าที่ต้องช่วยให้การปรับใช้เวลาสั้นลง) ยังไงๆ ข้าพเจ้าก็ยังอุ่นใจ เพราะมี รหัส อ.อุบลช่วยด้วย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และในรถยนต์ค่ะ แต่จะรอดหรือไม่อยู่ที่ บุญ/บาป ตัวเราเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น 

ขอแสดงความเสียใจกับ พี่ชนิดา ด้วยค่ะ

ที่สูญเสีย คุณลุงไป

คุณลุงพีระฉัตร ดวงสีเสน

และ ขอแสดงความเสียใจกับ คุณเหมียว

ที่สูญเสียคุณย่าเจิม พุฒศรี

ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

ขอเบิกบุญทานศีลภาวนา

ขอผลบุญนี้ส่งถึงทั้งสองท่านด้วยค่ะ

ขอขอบคุณ คุณธัญญาภรณ์ที่นำบทความสำคัญที่พระอาจารย์รัตน์

บรรยายเตือนภัยมาให้อ่านค่ะ     (บอกตัวเองว่าอ่านแล้วก็ต้องมีสติ)    

นึกถึงตัวเองแล้ว ความเตรียมพร้อมไม่มีเอาเสียเลย  ทั้งเรื่องอาหาร ที่อยู่

ความสามารถหาทางที่จะไปหาที่ปลอดภัยเมื่อถึงวันนั้น  เมื่อวันนั้นมาถึง

ทุกคนคงจะหนีกันจนไม่มีช่องทางที่จะไป  คนอยู่ใกล้บ้านสวนนับว่าโชคดี

มีบุญใหญ่  แต่คนที่อยู่ไกลถ้าไม่หนีไปไหน ก็คงเลือกที่จะตายอยู่ที่บ้าน

(อย่างหนู)   และคงจะได้แค่นั้นจริง ๆ ถ้าถามว่าอยากรอด อยากได้อยู่ต่อ

มั้ย ทุกคนก็คงหวังให้เป็นเช่นนั้น แต่บุญกรรมแต่ละคนมันไม่เท่ากันจริง ๆ 

***แต่เราสามารถเลือกได้  อาจไม่ทั้งหมด ตามบุญ กรรมสะสมที่ติดมาหลายภพ ชาติ ที่เราก็จำไม่ได้ (ถ้าจำได้คงเวียนหัวน่าดู) เพราะคงเกิดตายหลายภพหลายชาติมากเลยยยย 

******แต่เชื่อว่าสำหรับลูกบ้านสวนแล้ว เลือกได้ค่ะ คือเลือกที่จะทำดี รักษา

ศีล 5 ทำบุญใหญ่ โดยเฉพาะบุญที่ได้ทำที่บ้านสวน ไม่ว่าจะเป็นบุญแรง

กายซึ่งเป็นบุญที่บริสุทธ์ จะเห็นได้จากผู้ไปใช้แรงกายบ้านสวนแล้ว อาการ

โรคที่เป็น ไม่ว่าจะเป็นโรคเล็กน้อย ปานกลาง โรคร้ายรักษาไม่หาย ก็หาย

เกลี้ยง แต่มีข้อแม้ว่าทำบุญต้องทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ และทำให้มากขึ้น

แล้วมีจิตสำนึกกรรม และไม่กลับไปทำอีก  ปัจจัย เช่นเงิน สิ่งของ แต่อาจได้

ไม่เต็มที่เพราะเงินที่ได้มา หรือสิ่งของที่ได้มาอาจไม่บริสุทธิ์ ส่วนธรรมทาน

ถือเป็นบุญใหญ่ ถ้าจะให้ดีก็ให้ทำตามแบบที่ท่าน อ.อุบลสอน คือ เขียน

ทันที เขียนให้มากขึ้น เขียนให้เข้าใจง่าย และอื่น ๆ  ตามแนวทางที่ท่าน

อาจารย์ชี้แนะ ชี้นำไว้ (แต่จะทันอะป่าวนิก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะ..เหลืออีกไม่กี่วัน) 

เราจะมีเวลาสร้างกรรมดีกันอีกสักเท่าไรหนอ  จะได้พาตัวเองรอดให้ได้ไปที่สูงที่สุดได้แค่ไหน  

แต่ยังงัย ถือว่าเกิดมาชาตินี้ก็ไม่เสียทีที่ได้เกิดได้เจอท่าน อ.อุบล แห่งบ้านสวนพีระมิดผู้นำทาง และผู้อยู่เบื้องหลังทุกท่าน  ได้พบหนทางกลับบ้านที่แท้จริง  เปรียบท่าน อ. อุบล เหมือนมีนารีขี่ม้าขาวมาช่วยชี้หนทางกลับบ้าน  *** ซึ่งพวกเราทั้งหลาย  พากันหลงทางอยู่นานหลาย ๆ  ๆ ร้อยพันปี   มาเจอชาตินี้ ทำให้กลับตัว กลับใจทัน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ   ดูเหมือน ไม่นาน แต่ขอเป็นส่วนหนึ่ง  อย่างน้อยเราก็สำนึกได้ด้วยความจริงใจและจะไม่กลับไปทำผิดบาปอีกค่ะ 

ผู้หยั่งรู้ที่มีญาณสูง ๆ คงเตรียมตัว เตรียมใจมีตั้งนานแล้ว  แต่หนูว่าการ

เตรียมเสบียงไว้ ก็ดี เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้ก็ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าวันนั้นมาถึง

เราจะมีโอกาสได้ใช้มันหรือปล่าว

คงต้องเตรียมตัวเตรียมใจอีกเยอะเลย  และดูเหมือนคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่

ค่อยเชื่อและเห็นความสำคัญ เนื่องจากว่าทั้งชีวิตก็ไม่เคยผ่านเรื่องเหล่านี้

มา ถ้าหากว่าต้องมาเจอเหตุการณ์เหล่านี้ บางคนบอกว่าสู้ไม่คิดดีกว่า

แต่ก็น่าสงสารคนที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขนาดคนที่รู้แล้วก็ยากที่จะยอมรับ

ความจริง  แต่ที่สุดแล้วเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จักต้องยอมรับมันค่ะ

จริงอย่างที่คุณจิรนันท์บอกค่ะว่า น่าสงสารคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมัวแต่ใช้ชีวิตอย่างประมาท แต่บางคนถึงรู้แล้วก็ไม่ยอมรับความจริงก็มี มักจะคิดว่าคงอาจจะไม่เกิดหรอกมั่งแถมยิ่งช่วงนี้มีนักวิทยาศาสตร์ผู้รู้ออกมาบอกว่า เป็นไปได้ยากและเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเหตุการรณ์2012 ขึ้น ยิ่งจะทำให้นิ่งนอนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก  แต่บางคนรู้แล้วก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากมาย อย่างเช่นตัวเหมียวเองตอนนี้นับว่าเตรียมของไว้น้อยมาก ยังประมาทในการใช้ชีวิตอีกเยอะ ยิ่งถ้าห่างบุญแล้วยิ่งแล้วไปกันใหญ่เลย ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นก็อย่าประมาทกับการใช้ชีวิต ช่วง4-5วันนี้ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา บรรยายกาศใน กรุงเทพดูแปลกๆ เหมียวไปเดินที่สะพานลอยบริเวณอนุสาวรีย์ มองท้องฟ้า มันมืดๆหม่นๆ ด้านหนึ่งเป็นสีส้ม แต่ส้มแบบ แปลกๆไม่สดใส อีกฝั่งหนึ่งครึ่มๆ บรรยากาศมองแล้วมันหดหู่ค่ะ เป็นแบบนี้ที่เห็นหลายวัน มันมองแล้วมันไม่สบายใจชอบกลเลย จะว่าเหมือนฝนตก ก็ตกแปบเดียว 10 นาทีได้มั่ง ดูเหมือนว่าอีกไม่นานเกินรอจริงๆทุกอย่างในกรุงเทพคงจะเปลี่ยนค่ะ ซึ่งตอนนั้นก็ต้องยอมรับกลับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้น เพราะท่านอาจารย์ได้เตือนคนที่อยู่ใน กทม ว่าให้ออกจาก กทม ตั้งนานแล้วเพราะไม่ปลอดภัย บางคนก็ได้ลางานยาวแล้วก็มี ส่วนตัวเหมียวเองอยากจะออกจาก กทมมาก แต่เพราะห่วงงานจึงยังคงต้องอยู่ต่อไปค่ะ 

I am Miss Natthaporn  Nimsaneh, I  KRABBUCHA  SOMDEJONGPRATHOM ,BUDDHAS ,DRAMMA, PRAARIYASONGS,  THANTAOVETTSUWON  , PRAPHOTHISATTAS , PRAPHOTHISATTA  THAI  KING  BHUMIPON,  AR JARN UBON, AR JARN MONGKOL ,KHUN TOP, KHUN  LOOOK  BAANSUAN  ,YATTHIDHAMMA ALL OVER THE WORLD.

I would like to inform that I sent 99 dollars +19 dollars and some after paid for fee to AR JARN UBON ACCOUNTno.065-0-34728-9 Bangkok bank,Lotus branch,Akekamai,Ramintra,yesterday  :

     TO  SET  AR  JARN  UBON  CHUAY  DUAY  FOUNDATION  that I received answer last month    by  Manomayitthi  when I asked what will I do the  next  after I sent  THE PAINTING OF AR JARN UBON CHUAY DUAY ( to help Americans ,people  all over the world )  To THE PRESIDENT  OBAMA   at WHITE  HOUSE.by mailed  on Noverber 15 ,2012.And  e-mail to CNN, the WASHINGTON POST to post this to people...but nothing progress.

 Another things to THAYAI  my  land to   SOMDEJ PRATHEP to build the forest temple... at Thailand that I intend to do long long time ago befor I die...not thing progress I think THAN not yet know.

  I saw THE  PICTURE OF SOMDEJONGPRATHOM with Rainboe aura ,below  are PRAPHOTHISATTA THAI KING BHUMIPON  photo and AR JARN UBON and oher details on NOV.25,2012 at 9.09 pm.I hurried drawing......to my book.

ถ้าเราตามหา พระศรีอาริย์ พบก่อน ภัยพิบัติจะไม่เกิด   แต่ พระศรีอาริย์ จะนำโลกสู่สันติสุขแทน   แต่ ถ้าไม่มีใครสนใจ ตามหาพระศรีอาริย์และไม่เชื่อ ก็เป็นกรรมของสัตว์โลก ที่จะต้องพบกับ หายนะภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด โดยไม่มีโอกาส เสียใจ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ วันที่ตอบ 2012-12-13 02:29:50

ขออนุญาตคัดลอกค่ะท่านอาจารย์

วันที่ตอบ 2012-12-13 02:29:50

 มีลูกค้าผมคนหนึ่งชื่อ คุณศิวกร  บวรไชยวัฒน์ (คุณศักดิ์)

          คุณศักดิ์ประสบอุบัติเหตุ ขับมอเตอร์ไซค์ ประสานงากับปิ๊กอั๊พ ขาหักทั้งสองข้างหักสี่ท่อน ต้องใส่เหล็กเอาไว้ เดินขาไม่เท่ากัน ข้อมือทั้งสองข้างหลุด  มีอาการปวดขาตรงที่หัก อาการปวด ทนปวดมาจนชิน ยิ่งถ้าเดินมากๆ จะปวดมาก

คุณศักดิ์ ขอบำบัดอาการปวด แล้วหายสนิทแต่ คุณศักดิ์ยังแวะเวียนมากราบรูปอาจารย์อุบล ที่ร้านผมเป็นประจำ ผมแอบสังเกตเห็นแกขับปิ๊กอัพผ่านหน้าผม แกยังยกมือไหว้อาจารย์อุบลเลยครับ

คุณศักดิ์ศรัทธา อาจารย์อุบลมาก อาการปวดหลายเดือนแล้วยังไม่กลับมาปวดอีก และที่สำคัญการได้รู้จักอาจารย์อุบลทางทีวี ทำให้คุณศักดิ์และครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่กล้าจะบ่นทะเลาะกันเหมือนแต่ก่อน แกเชื่อว่าทะเลาะกัน ขัดโชคลาภ ทุกคนในครอบครัวจะตั้งหน้าตั้งตารอดูรายการคุยไปแจกไปทางช่อง MV48 ทุกวันอาทิตย์

คุณศักดิ์บูชาอุปกรณ์สารภาพบาป ให้ตัวเอง ลูกเมีย และแม่ยาย คุณศักดิ์นำอุปกรณ์ มาแขวนรวมกันกับพระเครื่องที่บูชามาหลายองค์ เป็นเงินหลายบาท คุณศักดิ์ชอบ เครื่องรางของขลังมาก จึงไปหาพระเขมร ที่อ.สตึก ท่านเช็คกำลังของพระเครื่องเครื่องรางได้ จึงทดสอบ เอาจี้อุปกรณ์ ที่มีรูปอาจารย์อุบลให้พระเช็คดู พระก็ไม่อยากจับเช็คดู คนอื่น ๆ ก็ไม่สนใจ เพราะว่า เพียงเป็นรูป เลี่ยมกรอบพลาสติก ไม่มีมวลสารใด ๆ คุณศักดิ์ ขยั้น ขยอ ให้พระลองจับดู เพียงแค่พระจับเท่านั้นเอง พระถึงกับผงะ หงายเงิบเลยครับ ทุกคนต่างมาสอบถามเรื่องพลังนี้มาได้ยังไง เป็นอะไร พระไม่ค่อยจะพูดอะไรมากด้วยเกรงว่าจะทำให้คนที่อยู่ที่นั่นไปสนใจจี้อุปกรณ์ของคุณศักดิ์มากเกินไป ได้แต่มาถามกันข้างนอก

ทำให้คุณศักดิ์มีความมั่นใจในอนุภาพของจี้อุปกรณ์จากบ้านสวนพีระมิดมาก ถึงขนาด ไม่แขวนพระอื่นเลย แขวนจี้อย่างเดียว

     คุณศักดิ์  เอาจี้อุปกรณ์รูปอาจารย์ไปทดสอบพลังอีกครั้งหนึ่งครับ

  คราวนี้คนเช็คพลัง เป็นครูสอนวิชาพระพุทธศาสนา ที่จังหวัดสุรินทร์ครับ คุณศักดิ์ ตั้งใจนำวัตถุมงคลทั้งหมดที่มีอยู่ที่บ้าน นำไปให้อาจารย์คนนี้เช็คพลังงาน     เช็คที่ละอัน ทั้งย่ามเลยครับ ปรากฏว่าไม่มีพลังงาน ใดๆที่จะสัมผัสได้เลย

คุณศักดิ์ ถอดจี้อุปกรณ์ที่คอออกให้อาจารย์จับพลังดู อาจารย์บอกว่า...ขนหัวลุกลุกมาก ขนลุกทั้งตัว ขนหัวลุกนานมาก  มีคนอื่นจะเอาวัตถุมงคลอื่นมาให้จับ  อาจารย์ บอกว่า.... ขนหัวลุกยังไม่หาย  ขนหัวยังลุกอยู่เลย จับอันอื่นไม่ได้ ไม่รู้เรื่องเลย

อาจารย์คนนี้ได้มโนมยิทธิครับ  บอกคุณศักดิ์ว่า "พลังคลุมเศียร คุลมเกล้า" ครับ คลุมกายคุณศักดิ์อยู่  คุณศักดิ์ ยิ่งมั่นใจจี้อุปกรณ์ ของบ้านสวนพีระมิดมาก เครื่องรางที่ตนเองมีอยู่ ก็จำหน่ายจ่ายแจกไปเลยครับ

คุณศักดิ์พูดด้วยความดีใจมากๆว่า  มีพลังศักดิ์สิทธิ์มากในจี้ที่แขวน ได้ทดสอบแล้วรู้ว่ามีจริง ยิ่งมั่นใจใหญ่เลย เวลาแขวนคอผมก็เอารัดคอเลย โชว์ ไว้ไม่อายใคร โชว์แบบอยากให้คนถาม มีคนมองแล้วไม่ถาม ต้องหาจังหวะเล่าให้ฟังเลย

อีกอย่าง อุปกรณ์ที่พี่สาวคุณศักดิ์บูชาไป ใช้ได้ผลทั้งหมู่บ้าน  คุณศักดิ์ฝากซีดีไปให้พี่สาวดูที่ จ.สารคาม พี่สาวรบเร้าอยากให้พาไปหา อาจารย์อุบล พีระมิด  คุณศักดิ์บออกว่า เดี๋ยวก่อน ผมก็ยังไม่เคยไปบ้านสวนเลย ผมจะต้องไปบ้านสวนพีระมิดให้ได้ก่อนแล้วจะพาไป

คุณศักดิ์ บอกผมว่า ผมจะกัดฟันบูชา จี้ร่มสามร่มโพธิ์ศรีแน่ ๆ ครับแกบอกว่า..แปลกมาก ถ้าคุยเรื่องบ้านสวนพีระมิดให้คนฟังแล้ว ผมมีความสุขครับ  ขายโออิชิก็ดี แกเป็นเซลขายโออิชิ ครับ เมื่อก่อนยอดขายไม่ค่อยดี ตอนนี้แกบอกว่าแปลกมากเลย ขายของได้ มียอดขายดีแบบงง

เข้าร้านไหน ไม่ถามเรื่องสั่งของก่อน แกจะพูดเรื่องอัศจรรย์อุปกรณ์บ้านสวนพีระมิดก่อนครับ แล้วค่อยขายของ ก็คุณศักดิ์ ศัทธาของแกครับ

          คุณศักดิ์มีความศรัทธาในตัวอาจารย์อุบล แม้ว่าจะยังไม่เคยเห็นตัวจริง แต่คุณศักดิ์ก็มิได้สงสัย ลังเลแต่อย่างใด จึงทำให้คุณศักดิ์ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยได้ผล รวมถึง เป็นคนนำจี้อุปกรณ์ของบ้านสนพีระมิด ไปบำบัดพี่สาวซึ่งป่วยเตรียมจะส่งโรงพยาบาล คุณศักดิ์ บำบัดโดยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย แล้วให้สารภาพบาป สำนึกผิด เหมือนที่คุณศักดิ์ เคยสารภาพแล้วหายปวดขา จึงนำประสบการณ์นั้นไปใช้กับพี่สาว แล้วพี่สาวก็หาย ไม่ต้องไปโรงพยาบาล เป็นที่ฮือฮามาก มีแต่คนจะมาสารภาพบาปกับจี้ที่คอคุณศักดิ์  ทั้งที่คุณศักดิ์ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ แต่ก็ลองทำดูและก็ได้ผลจริงอย่างน่าอัศจรรย์ อนุโมทนาสาธุครับ

คนอื่น ๆ ก็ไม่สนใจ เพราะว่า เพียงเป็นรูป เลี่ยมกรอบพลาสติก ไม่มีมวลสารใด ๆ คุณศักดิ์ ขยั้น ขยอ ให้พระลองจับดู เพียงแค่พระจับเท่านั้นเอง พระถึงกับผงะ หงายเงิบเลยครับ ทุกคนต่างมาสอบถามเรื่องพลังนี้มาได้ยังไง เป็นอะไร พระไม่ค่อยจะพูดอะไรมากด้วยเกรงว่าจะทำให้คนที่อยู่ที่นั่นไปสนใจจี้อุปกรณ์ของคุณศักดิ์มากเกินไป ได้แต่มาถามกันข้างนอก

ขออนุโมทนากับคุณศักดิ์ และพี่อมรค่ะ

5555 ทำให้พระสงฆ์ผงะ หงายเงิบได้นี่ เห็นภาพเลยค่ะพี่มร ป่านนี้ท่านหายตกใจรึยัง ก็ม่ายรุ

เพราะยังไม่เคยปรากฏในวงการพระเครื่องใดๆ แค่รูปภาพของท่านอาจารย์ที่อยู่ในอุปกรณ์จะมีพลังมหาศาล ไม่มีมวลสารใดเลย แต่มีพุทธคุณครอบจักรวาลของจริง

เมื่ออาทิตย์ก่อนผมได้มีโอกาสแวะไปงานวิทยาศาสตร์ทางจิตมาครับ เจอคุณป้ามหาภัยด้วยครับ หลบแทบไม่ทันเรยครับ ฮ่าๆๆๆ

“ใน ระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะใดๆทุกชนิดในโลก

ไม่ว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานถีบด้วยเท้า ไม่มีเรือบิน หรือ การเดินทางในทางน้ำ ระบบการสื่อสารคมนาคมล่มในทุกระบบ และ ผู้คนทั้งหลายจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานในสถานที่ต่างๆได้

แม้จะเป็น Home office ก็ลุกจากที่นอนมาทำงานไม่ได้

หมายความว่า ในช่วงเวลา 42 วันดังกล่าว

จะไม่มีการประกอบอาชีพใดๆบนโลกใบนี้

เป็นช่วงที่ไม่มีโจรขโมย

เพราะ ทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้

ไม่สามารถยืนทรงตัวได้

และ ไม่สามารถเดินได้

ด้วยสองขาของตนในช่วงเวลาดังกล่าว

เนื่องจากถูกพลังงานอันมหาศาล

กดทับร่างของทุกคนบนโลก

ไม่ให้ทรงตัวยืนได้

ต้องล้มลงนอนทุกคน จะกินอาหาร จะดื่มน้ำ

ก็จะต้องนอนกินนอนดื่ม

รวมทั้งนอนขับถ่ายด้วย”

............................................

ขอบคุณข้อมูลดีๆที่เจ๊ ธัญญาภรณ์

นำมาแบ่งปันกับพวกเราด้วยนะคะ

อ่านแล้วก็รู้สึกว่า

ขนาดยังไม่ถึงช่วงเวลานั้นเลย

ช่วงนี้มีใครรู้สึกหนักๆบ่าบ้างไหม๊คะ

คือมาเป็นช่วงๆ

แต่ช่วงสองอาทิตย์ก่อนนั้น

รู้สึกว่า ง่วงนอนบ่อยม๊ากกก

บางทีอยู่ที่ทำงานแทบอยาก

จะนอนฟุบคาโต๊ะเลยค่ะ

(จริงๆ ฟุบไปแล้วล่ะ อิอิ)

ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

ตอนนี้อาการง่วงดีขึ้น

แต่รู้สึกว่า อาการหนักๆตัว ยังเป็นอยู่ค่ะ

รวมถึง รู้สึก งงๆ เอ๋อๆ

เหมือนคิดอะไรได้ช้ามากๆ

(จริงๆโง่มานาน แล้วป่ะ

แต่หาข้ออ้าง เรื่องพลังงาน ซะงั้น อิอิ)

นี่ยังดีนะคะ ..

ที่พวกเรามีวัตถุมงคลบ้านสวนฯ

ช่วยคุ้มครอง และปกป้อง

จากพลังงานเหล่านั้นอยู่แล้ว

ไม่งั้น คงแย่ กว่านี้ แน่ๆ

จริงๆถ้าถึงช่วงนั้นจริงๆ

ถ้าเรามีสเก็ตบอร์ด

เอาไว้นอนเลื่อน ไปไหนมาไหน

ก็คงสะดวกดีนะคะ

ไม่ต้องคอยคลานกระตี๊บๆ

แหม่.. เด็กวัยรุ่นที่เล่นสเก็ตบอร์ดอยู่แล้ว

คงได้เปรียบนะคะเนี่ย อิอิ

................................................

อนุโมทนากับธรรมทาน

เรื่องราวของคุณ ศักดิ์ จากพี่อมร

และบรรยากาศงาน

วิทยาศาสตร์ทางจิต จากสิงห์ป้อม

รวมถึง ความคิดเห็นจากทุกๆท่านด้วยค่ะ

 ขอบคุณข้อมูลของพี่ธัญญาภรณ์ มากนะคะ

พออ่านไปแล้วก็เลยทำให้เราถึงบางอ้อค่ะ

ว่าที่ช่วงนี้ พวกเราหลายคนรู้สึกเพลีย นอนกันทั้งวันทั้งคืน

บ้างก็ปวดหัว ไหล่ ตูด เอ้ย ล้อเล่นค่ะ

บ้างก็ปวดคอ บ่า ครั่นเนื้อครั่นตัวกันไป

แถมอินเตอร์เน็ตก็ล่มบ่อยๆ 

มันล้วนเกี่ยวโยงมาจากสาเหตุดังกล่าวนี่เอง

อย่างนี้เริ่มชัดแล้วค่ะ ว่าคงอีกไม่นานเิกินรอ

พวกเราอาจได้นอนราบเข้าสู่การเปลี่ยนยุคซักที

ถึงวันนั้นระหว่างที่นอนราบ เราคงคิดอะไรกันได้มากทีเดียวค่ะ

อย่างน้อยก็สิ่งที่ท่านอ.อุบลพร่ำบอกพวกเรามาตลอด

อาจคิดได้ในวันนั้น จะคิดกลับตัวกลับใจ

อาจสายเกินไปก็ได้ค่ะ

อ้าวไหงพูดไปพูดมาเริ่มเพ้อเจ้อแระ

ดังนั้นอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ

สิ่งที่จะช่วยเราได้คือบุญเท่านั้นค่ะ

ขอบคุณพี่ธัญญาภรณ์อีกครั้งค่ะ

ทำให้ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆ ค่ะ

แกเชื่อว่าทะเลาะกัน ขัดโชคลาภ

ขอบคุณธรรมทานพี่อมร คุณศักดิ์ และทุกท่านค่ะ

ขอยืนยันอีกคนหนึ่งค่ะ ว่าความโกรธทําให้ ขัดโชคลาภ ทําให้ขาดสติ คิดอะไรไม่ออก พูดง่ายๆ ว่า "โง่ บรม โง่" เพราะเมื่อวานนี้โดนกับตัวเองเต็มๆ ตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน มีปํญหาเรื่องงาน กับลูกน้อง ปรึกษากับคุณสามี ก็โมโหโกธาใหญ่โต+พาล ก็เลยไม่คุย ใช่ความเงียบ แต่ยิ่งเงียบก็ไม่ได้ผลเพราะไม่ได้คําตอบ เลยต้องใช้สติพูดด้วยเหตุผล ทุกอย่างเลยค่อยสงบลง แต่ปรากฎว่าขายของไม่ดีเลย ทั้งวัน นึกแล้วทําตัวเองแท้ๆ ธรรมะพระพุทธเจ้านี้ สุดยอดดจริงๆๆ กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ 

ขออนุโมทนากับธรรมทานของพี่อมรด้วยนะคะ  อ่านธรรมทานเกี่ยวกับภัยพิบัติก็รู้สึกหดหู่เหมือนกัน แต่ก็พยายามไม่ให้จิตเศร้าหมอง  เหมือนที่ท่านอ.อุบลเคยบอกไว้  อะไรมันจะเกิดก็ให้เกิด เตรียมตัวเสมอกับความตาย  แต่ก็ดีที่มีสิ่งที่มาเตือนให้ได้รับรู้เอาไว้

เกือบเดือนที่กุหลาบเข้าเวปไม่ได้เพราะสัญญาณเน็ตที่บ้านมีปัญหา  ทำทุกรูปแบบที่จะได้เข้าเวป  แต่ก็ลำบากที่กุหลาบเข้ามาเขียนได้วันนี้มาที่วังน้ำเขียว  ที่ไร่มี WIFI ก็เลยโชคดี ได้เข้ามาอ่าน  แต่ถ้ากลับไปที่บ้านก็คงเหมือนเดิม  คิดถึงท่านอ.อุบลที่สุด  และทุกๆคนลูกบ้านสวน เข้าเวปไม่ได้ก็เหงา  แถมเฟสบุ๊ค ก็โดนล็อคไม่ทราบว่าเป็นอะไร  แต่ถึงอย่างไรก็ยังทำหน้าที่เผยแพร่ รหัสอ.อุบลช่วยด้วย  บำบัดคนที่เจ็บป่วยอยู่ตลอดค่ะ  เพราะคิดอยู่เสมอว่า ถึงแม้นจะติดต่อสื่อสารไม่ได้  สิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอ.อุบลก็ต้องอยู่เคียงค้างตลอดเวลา ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วกุหลาบคงบำบัดคนไม่หาย หรือดีขึ้นแน่นอน  เพราะโดยลำพังตัวกุหลาบเองไม่ได้มีดีอะไร  นอกจากบารมีของท่านอ.อุบลเท่านั้น 

   กุหลาบกราบขอบพระคุณพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์  พระศรีอาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมหาจักรวาล  องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และท่านอ.อุบล  อ.มงคล  ที่มอบแต่สิ่งที่ดีๆให้ลูก  ลูกซาบซึ้งในความเมตตาเหลือเกินเจ้าค่ะ

ตอนนี้อาการง่วงดีขึ้น

แต่รู้สึกว่า อาการหนักๆตัว ยังเป็นอยู่ค่ะ

รวมถึง รู้สึก งงๆ เอ๋อๆ

เหมือนคิดอะไรได้ช้ามากๆ

(จริงๆโง่มานาน แล้วป่ะ

แต่หาข้ออ้าง เรื่องพลังงาน ซะงั้น อิอิ)

รู้สึกเหมือนกันค่ะ คุณพี่ชนิดา บางทีนั่งอยู่เฉยๆ

มัน วูบ ขึ้นมา

แบบไม่รู้สาเหตุ แป๊บเดียวก็เป็นปกติ

บางทีเดินเหมือนตัวเราโคลงเคลงยังไงไม่รู้

ทําอะไรก็เชื่องช้ามาก สมองเบออๆ มึนๆ งงๆ

บอกไม่ถูก บางทีต้องนั้งจ้องมอง จี้รุ่น3ร่มโพธิ์ศรี

เราใส่อยู่ที่คอเราไม่ได้มองเลย พอมองแล้ว

ก็จะรู้สึกดีขึ้น สบายตัวมากขึ้น

คิดถึงท่านอ.อุบลที่สุด  และทุกๆคนลูกบ้านสวน

เป็นเหมือนกันค่ะ คุณกุหลาบ ช่วงหลังๆมานี้คิดถึง

บ้านสวนมากกๆ ฝันเห็นท่านอาจารย์อุบลทุกคืนเลยค่ะ

เมื่อคืนฝันเห็นท่านอาจารย์เหมือนกันค่ะ ฝันว่าได้กราบเท้าท่านขอกอดท่านด้วย และร้องไห้ด้วยความปิติดีใจ และฝันเห็นในหลวงท่านเสด็จมาประทับยืนอยู่ตรงหน้า อ๋อยรีบหมอบกราบแทบพระบาท ในใจก็งง ว่าพระองค์ท่านเสด็จมาได้อย่างไร

วันนี้ยิ้มอย่างเบิกบานได้ทั้งวัน จากความฝันเมื่อคืน

คุณอรไม่ใช่น้องคนเดียวนะที่รู้สึกว่าต้วโครงเครงเหมือนกันและรู้สึกทำอะไรเหนื่อยเร็วมากๆ

ส่วนแพมเป็นเหมือนหายใจไม่อิ่ม

ต้องสูดหายใจลึก ๆ ตลอด

มีอาการนี้มาเกือบอาทิตย์แล้ว

เมื่อคืนนี้

สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตีสาม

จู่ ๆ ก็คัดจมูก มีน้ำมูกไหลแบบไม่มีปีมีขลุ่ย

นอนต่อไม่ได้ ต้องลุก มานั่งแล้วดื่มน้ำ

อาการจึงค่อยยังชั่ว

 ขอบคุณพี่สีนวลด้วยจ้ะ

ส่วนตัวหญิงเองช่วงนี้จะรู้สึกง่วงมากผิดปกติ

ง่วงทั้งวัน แม้เวลาทำงานก็ง่วง

มีอยู่วันนึงเมื่ออาทิตย์ก่อน

ง่วงแบบไม่ไหวแล้วจะฟุบคาโต๊ะทำงานอยู่แล้ว

จึงแอบไปงีบในห้องน้ำ 10 นาที แหะๆ

แล้วก็ทำงานชดเชยให้ค่ะ อิอิ

อาการแบบนี้ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

ช่วงนี้ตอนกลางคืนก็คัดจมูก

ไม่เป็นแบบนี้มาประมาณเกือบ 2 ปีแล้ว

บางทีก็แน่นหน้าอก ต้องสูดหายใจลึกๆ 

ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งมั่นใจค่ะว่ามันมาแว้วววว

พวกเรายังโชคดีกว่าคนอื่นมากๆ

ที่มีโอกาสรู้และเตรียมตัว เตรียมใจ

ถึงเตรียมไว้แล้วก็ยังไม่รู้เลยว่าจะรอดหรือไม่

พอมานึกถึงคนที่เค้าไม่เชื่อ ไม่รู้ ไม่สนใจ

ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงเลยเนอะ

พี่อ๋อยเองก็ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ เป็นหวัด ไอ น้ำมูกไหลทั้งที่ไม่ค่อยเป็นหวัดอะไรกับเค้าง่ายๆ ตั้งแต่รู้จักบ้านสวนฯ ร่างกายแข็งแรงดี เป็นมา 4-5วันแล้วค่ะ อาการจะหายก็ไม่หาย แค่ดีขึ้น

วันนี้หนูมีเรื่องอยากจะขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์และท่านอ.อุบลค่ะ คือหลังจากที่หนูและแม่กลับจากบ้านสวนครั้งล่าสุด ที่บ้านเราก็ขายของได้ดีขึ้นๆกว่าเดิม และมีอยู่วันนึงหนูและครอบครัวได้ไปเผยแพร่รหัสอ.อุบลช่วยด้วยพร้อมทั้งแจกธรรมทาน ให้กับที่สถานีวิทยุเผยแผ่ธรรมะ และได้คุยกับพระท่านหนึ่งถึงเรื่องพระคุณพ่อแม่ ท่านแนะนำให้ล้างมือล้างเท้าพ่อกับแม่ทุกวันแล้วเอาน้ำมาพรมของขายที่ร้าน เพราะน้ำนั้นคือน้ำมนต์ พอวันพ่อจึงได้นิมนต์หลวงพ่อซึ่งเป็นพ่อหนูเองมาที่บ้านเพื่อกราบขอขมาและล้างมือล้างเท้าท่าน แล้วก็เอาน้ำนั้นมาพรมของขาย เพื่อที่จะได้เป็นศิริมงคล หลังจากนั้นประมาณสองสามวัน ยอดที่เคยได้ดีมาตลอดก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด หนูก็สังเกตุตั้งแต่ตอนที่นำน้ำมาพรมแล้วยอดก็ไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะท่านคือพ่อ ซึ่งเป็นพระในบ้าน น้ำนั้นย่อมต้องดีเสมอ ผ่านมาห้าวัน ยอดก็ไม่กระเตื้องจึงคิดหาสาเหตุกันกับแม่ เราก็เลยสงสัยกันว่าน่าจะเพราะเราไปทำตามคำแนะนำของคนอื่น ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ดีเพราะสิ่งศักดิสิทธิ์ที่บ้านสวนทุกๆพระองค์และท่านอ.อุบลทั้งนั้น ที่ทำให้ครอบครัวของเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความสุขขึ้น สิ่งศักดิ์สิทธิืท่านจึงเห็นว่าเราได้ทำตามคนอื่นแล้ว ท่านจึงไม่ต้องช่วยเราอีกแล้ว ปล่อยให้คนอื่นช่วยแทน หนูกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอ.อุบลและครอบครัว ที่หนูได้ทำสิ่งที่ไม่สมควรลงไป ต่อไปนี้หนูจะเชื่อและปฏิบัติตามที่ท่านอ.แนะนำอย่างดีท่สุดค่ะ กราบ กราบ กราบ

และวันนี้ที่หนูคิดว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะทำตามคำแนะนำผู้อื่น หนูจึงกราบขอขมาในใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์และท่านอ.อุบล คุณแม่หนูก็ได้เขียนขอขมาลงในกระดาษเพื่อให้หนูนำมาพิมพ์ ปรากฎว่าวันนี้ที่บ้านหนูขายของได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ ดีขึ้นมาได้ประมาณเท่าตัวนึงเลย ซึ่งแตกต่างจากห้าวันก่อนนี้มากเลยค่ะ หนูกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์และท่านอ.อุบลที่เมตตาให้หนูได้ทราบถึงสาเหตุของยอดที่ตกลงไปค่ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมีเมตตาเหลือประมาณ ไม่เคยทอดทิ้งลูกและครอบครัวเลย ลูกกราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ กราบ กราบ กราบ

ท่านอาจารย์อุบลเจ้าขา

ลูก และครอบครัวภิรมย์รักษ์ขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์เพื่อขอบพระคุณท่าน ด้วยความซาบซึ้งที่ท่านเมตตามอบลูกอมฝากมากับอ.อภิชัย

ลูกทุกคนดีใจและซาบซึ้งในความเมตตาของท่านมากเจ้าค่ะ

กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสุดเจ้าค่ะ

อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ 

ในนามของ

ณภัทร ภิรมย์รักษ์

อาชวินท์ ภิรมย์รักษ์

กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ และ

อภิชัย ภิรมย์รักษ์

 หลังจากได้กินลูกอมที่อาจารย์ให้มา วินเกิดอาการปลื่มปิติ หายใจแรง ขนลุก และก็รู้สึกถึงพลังวูบๆจนตัวเเข็งเลย 

ลูกขอกราบ

อนุโมทนากับ อ.แม่อุบล

ที่เมตตาลูกหลานเสมอมาเจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

เกดขออนุโมทนา

กับพี่น้องบ้านสวนพีระมิด

ทุกท่านที่ได้สร้างบุญธรรมทาน

อันเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

เกดก็มีอาการเหมือนกันค่ะคือคัดจมูก น้ำมูกไหล

ทั้งที่หายมาแล้วตั้งแต่ได้ไปสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด

เป็นมา 2 - 3 วันแล้วค่ะ เป็นเพราะไม่ได้ไป

เติมบุญที่บ้านสวนพีระมิดด้วยค่ะ

และขออนุโมทนากับ

คุณมงคล กริชติทายาวุธ

และคุณธัญญาภรณ์  ด้วยค่ะ

เกดขออนุญาตินำข้อความไปเผยแพร่

นะค่ะ

วันนี้ตื่นมาตอนเช้ารู้สึกมึนหัว  คงนอนดึกมั๊ง(ปกติก็นอนดึก.) 

พอตอนบ่ายรู้สึกปวดและหนักหัวมากขึ้น แถมเริ่มเจ็บคอ 

ไอ มีเสมหะ ปวดบ่า 2 ข้าง 

สงสัยจัง เกี่ยวกับการปรับตัวแกนโลกหรือเปล่า  

เพราะใกล้เวลาเต็มทีแล้ว

                     วันนี้ 18 ธ.ค.55 เวลา ประมาณ 15.00 น     ลูกได้รับโทรศัพท์ร้องขอให้ช่วยเหลือเนื่องจากเจ็บป่วยจากคุณแม่พิศมัย  ไชยโย  อายุ 70 ปีเศษ 

ลูกเลยแจ้งคุณแม่พิศมัยว่าให้อธิษฐานขอบารมีจากจี้ 3  ร่มโพธิ์ศรี  ขณะเดี๋ยวกันลูกก็จับที่จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี ขอบารมีให้คุณแม่พิศมัยหายเจ็บป่วย

       เมื่อตรงลงกันเรียบร้อยแล้ว  ลูกก็สอบถามว่าเจ็บตรงไหนครั้งแรกเจ็บที่เข่าซ้าย  ใช้เวลานับ 1  นาที  ครั้งที่สอล้ข่าขวาใช้เวลา 30 วินาที่ ครั้งที่ สาม ไหล่ขวาใช้เวลา 33 วินาที

         ทั้งหมดหาย 100 % ค่ะ ลูกขอกราบสิ่งศักดิ์ทุก ๆ พระองค์ในบ้านสวนพีระมิด และกราบท่านอ.อุบล ที่เมตตาให้ลูกได้ช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยค่ะ  และหายเจ็บป่วย 100 % ค่ะ

        หมายเหตุตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 ลูกได้ช่วยเหลือผู้เจ้บป่วยได้ 27 รายค่ะรวมคุณแม่พิศมัยด้วยค่ะ เอกสารที่ท่านอ.อุบลให้จัดทำแจกได้เล็กน้อยค่ะแต่บางท่านแจ้งว่าจะทำไปแจกในวัด

                                                                                กราบ  กราบ  กราบ  ท่านอ.อุบลด้วยความเคารพค่ะ