ReadyPlanet.com


ข่าวรายวัน บ้านสวนพีระมิด


ตั้งแต่เดือน ก.พ. 54 เป็นต้นไป

บ้านสวนพีระมิด

จะมี บก.หน้าหยก มารายงาน

ข่าวประจำวัน

ทางเวปไซด์ ให้แฟนคลับได้รับทราบ

ความเคลื่อนไหว ในบ้านสวนพีระมิด (ประเทศไทยจำลอง)

เป็นสถานีข่าว สังคม บันเทิง ศาสนา ดารา สิงห์สาราสัตว์

ใครไปใครมา ตอนนี้สร้างอะไร จะทำบุญยังไง

ใครมาทำบุญ ทำบาป ฯลฯ

แล้วก็เรื่องอัศจรรย์วันละหลายหน ที่อดทน

เก็บไว้เต็มพุง ของ บก.หน้าหยก

อกเกือบแตกตายอยู่แล้ว

อ.อุบล จึงเกริ่นไว้ก่อน นะคะ ขอบอก

(ทำเป็นสถานีข่าว......ซะงั้น)



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-26 17:55:06


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 [85] 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 8401 (1649711)

  ร้อยอักษรเป็นมาลัยมากราบครู

  เป็นผู้รู้แจ้งธรรมนำสังคม

  ปฎิบัติธรรมเกิดสุขในบัดดล

  ครูอุบลบัวงามบ้านสวนพีระมิด

      กราบขอบพระคุณ ท่าน อ.อุบล ท่าน อ.มงคล และครูทั่วไทย ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุระณี สิริมานุวัฒน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-16 23:25:28


ความคิดเห็นที่ 8402 (1649712)

16 มกราคม ขอน้อมกราบ เคารพ  ศรัทธาบูชาครู ท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์มงคล ค่ะ

กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท็อป

คือผู้ให้ ผู้เมตตา ผู้เสียสละ ชี้แนะ  เคี่ยวเข็ญ  อบรมสั่งสอน

นำพระธรรมคำสอนของพระุพุทธเจ้ามาแสดง

ให้พ้นทุกข์ โดยดับเหตุ ไม่ทำผิดศีล

 ได้นำพาลูก ๆ ทุกคน เข้าถึงความสุขที่ทวี ยิ่งขึ้น 

ลูก ๆ ทุกคน  คงพ้นทุกข์ เพราะเชื่่อครู

ละม่อม ได้รับพลังชีวิต ทางธรรม ทำให้ แก้ปัญหา

เปลี่ยนแปลงตัวเอง ตามคำสอน

 มีท่านอาจารย์อุบล เมตตา ทำให้ อยู่ในสังคมทางโลก มีจิตใจที่แข้มแข็ง

และนำคำสอนจากท่านอาจารย์อุบล  บอกต่อ ให้ดู รายการคุยไปแจกไป 

แจก ดีวีดี รายการคุยไปแจกไป  บอก รหัสศักดิ์สิทธิ์ "อาจารย์อุบลช่วยด้วย"

ลูกขอบารมีพระพุทธเจ้า เบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ทำมาแล้วทุกชาติ

จนถึงชาตินี้ ขณะนี้

และบุญทุกบุญที่ทำแล้วในบ้านสวนพีระมิด 

ขอน้อมถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนทุก ๆ พระองค์  เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว ค่ะ

กราบ กราบ กราบ 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ละม่อม ทองเจือ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-17 00:59:19


ความคิดเห็นที่ 8403 (1649777)

สิบหกมกรามาบรรจบ

ได้มาพบครูทางธรรมเลิศทางสอน

ท่านได้นำทำให้ดูทุกขั้นตอน

ห่วงอาทรลูกศิษย์ทุก ๆ คน

ลูกขอกราบวันทาบูชายิ่ง

ท่านคือหญิงผู้เกรียงไกรทุกแห่งหน

ชื่ออุบลคนทั่วหล้าได้ยินยล

สุขมาก ล้น ทุกข์หาย ไร้โรคา

ในวันครูนี้ หนูขอกราบเท้าท่านอาจารย์ ที่เป็นครูทางธรรม ทำให้หนูได้รู้จักศาสนาพุทธและเรื่องของศีลมากขึ้นและละเอียดขึ้น

กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-17 10:38:38


ความคิดเห็นที่ 8404 (1649807)

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์มงคล ด้วยความเคารพ

เนื่องในวันครูแห่งชาติ ..

ท่านทั้งสอง คือ ครูบาอาจารย์แห่งธรรมของหนู

ทุกธรรมทานที่ท่านอาจารย์ได้สอนสั่งอบรมขัดเกลา

จนหนูมีวันนี้ เปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ดีขึ้นกว่าเดิม

ด้วยพระคุณของท่านอาจารย์

ด้วยความเมตตากรุณาของท่านอาจารย์

หนูขอกราบเท้าท่านอาจารย์อุบลและท่านอาจารย์มงคล  ด้วยความเคารพบูชาและศรัทธาอย่างสุดประมาณ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-17 15:47:23


ความคิดเห็นที่ 8405 (1649902)

ผมขอเล่าเรื่องราวปราฏิหาริย์ที่เกิดกับผมเมื่อวันอาทิตย์ที่13ม.ค.2556

บาดแผลที่โดนเคียวยาวฟัน

ยาวประมาณ2นิ้ว กว้างประมาณ1ซม. ลึกถึงชั้นไขมัน(ยาดเยิ้มเลย)

ขณะที่กำลังถางหญ้าบริเวณริมขอบรั้วที่บ้านสวนพีระมิดเพื่อเคลียร์ทางเดินให้กับเจ้าหน้าที่รางวัด

ไปเจอต้นมันขวางทางพอดี ผมเลยฟันต้นมันเต็มเหนี่ยวทีเดียวกิ่งขาด แถมเลยมาเข้าหน้าแข้งขวา

เนื้อฉีกออกจากกันทันที เลือดไหลอาบแข้งแดงไปถึงเท้า

คุณอัญกับคุณมิ้มอยู่ในเหตุการณ์จึงได้ช่วยใช้

รหัสอ.อุบลช่วยด้วยทันที

ขอให้เลือดหยุดไหล

ขอให้แผลหายโดยฉับพลันทันที

หลังจากนั้นผมวิ่งไปหาอาจารย์อุบล

วิ่งไปแบบไม่แทบไม่เจ็บแผลและเลือดก็แทบจะหยุดไหลสนิทแล้วประมาณ90%

วิ่งไปถึงตึกใหม่เจออาจารย์อุบลยืนอยู่

ท่านถามว่า มีอะไรหรือ

หน้าแข้งผมโดนฟันครับอาจารย์

ท่านบอก หาย นะลูกหาย

ผมได้ยินแล้วหายกลัวไป90%เลยครับ อบอุ่นมาก

ท่านก็เมตตาพาผมไปทำแผล

ท่านใช้น้ำอภิญญาล้างแผลให้ผม

อาการเจ็บตอนนั้นไม่เหลือเลยเหมือนโดนฉีดยาชาแต่มันก็ไม่ชา

แบบโดนยาชาแต่

รู้สึกธรรมดาๆไม่เจ็บ

ช่างน่าอรรศจรรย์จริงๆ

ทั้งที่บาดแผลดูหน้าหวาดเสียวมาก

ผมยังต้องปิดตาเลย ไม่กล้ามองจริงๆ

อาจารย์บอกว่าได้ชดใช้กรรม

ที่ชอบใช้ขาเดินไปที่อโคจร

ท่านให้ผมดื่มน้ำอภิญญาที่เหลือจากล้างแผลอีกครึ่งขวดให้หมด

และใช้น้ำอภิญญาอีกขวดเทเพื่อให้ผมทำความสะอาดเลือดที่เปื้อนตั้งแต่หน้าแข้งลงมาถึงเท้า

อาจารย์อุบลท่านใจดีมากๆและเมตตาที่สุด

ท่านยังบอกว่าน้ำอภิญญาล้างเลือดที่เท้ามีผลถึงแผล

ให้พี่อีก2คนมาช่วยทำแผล แต่ผมมัวปิดตาบวกกับยังตกใจกลัวอยู่ เลยจำไม่ได้ว่าเป็นใครบ้างที่มาช่วยทำแผล ขออภัยจริงๆนะครับ ผมมันแย่จริงๆจำไม่ได้ทุกคนว่ามีใครมาช่วยบ้าง

หลังจากนั้นท่านถามว่าทำงานต่อไหวไหม

ไหวครับ

ท่านบอกว่ายิ่งทำงานยิ่งหาย

(ดูแล้วน่าจะขัดกลับหลักการแพทย์ที่ควรให้คนไข้พักเยอะๆ)

แต่ที่นี่บ้านสวนพีระมิดเป็นเขตบุญใหญ่ ยิ่งทำยิ่งหายจริงๆเพราะขณะทำงานไม่เจ็บเลยรู้สึกเย็นที่แผล มีคันๆบ้าง เหมือนแผลกำลังจะหาย

ท่านให้ขี่จักรยานกลับไปทำงานและให้น้ำอภิญญามาอีก5ขวดไปแจกเพื่อนๆพี่ๆ

ช่วงบ่ายอาจารย์พันธ์กำลังตัดหญ้าริมรั้วเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่รางวัด พอดีเครื่องตัดหญ้าดับท่านเลยเรียกผมไปช่วยสตาร์ทเครื่องที่ท่านกำลังสะพายอยู่แต่ที่สตาร์ทมันอยู่ด้านหลังแล้วเครื่องที่ท่านสะพายอยู่ก็พลิกกลับเอาด้านมอเตอร์ร้อนๆขึ้นมาถูกมือผมพอดี ที่โคนนิ้วตอนนั้นพองทันที แต่ก็กัดฟันดึงสายสตารทเครื่องจนติด

หลังจากนั้นผมใช้น้ำอภิญญาที่ท่านอาจารย์อุบลมอบให้กับเจ้าหน้าที่รางวัดมาราดที่มือ อาการพองดีขึ้นประมาณ90%ภายในเวลาประมาณ5นาที

ตอนเย็นได้กินลูกอมอภิญญาที่ห้องประชุมรู้สึกสดชื่นมากปรอดโปร่งเบาสบายหายง่วง รู้สึกเย็นที่แผลที่หน้าแข้ง อาการเจ็บมือจากที่ถูกมอเตอเครื่องตัดหญ้าลวกเบาขึ้นอีก95%

ก่อนกลับอ.อุบลแนะวิธีดูแลแผลให้

คือให้ทำความสะอาดแผลทุกวัน โดยให้ใช้สำลีชุบน้ำอภิญญาแล้วทำความสะอาดรอบแผล แตะๆที่แผลก็ได้แต่ระวังอย่าให้แผลเปียก

แล้วท่านก็เมตตามอบน้ำอภิญญามา1ขวด

พอกลับออกมาจากบ้านสวนก็รู้สึกเริ่มปวดแผลขึ้นมาตะหงิดๆ

ราวกับว่าอาการเจ็บปวดมันไม่มีเลยเมื่อผมอยู่ใกล้อาจารย์อุบล

เรื่องนี้น่าคิดนะครับ

นี่เป็นสมมติฐานของผม อย่าเพิ่งหาว่าผมงมงายนะ

ตอนขับรถกลับต้องฉีกลูกอมอภิญญากินมาตลอดทางทุก15นาที เมื่อรู้สึกเริ่มปวดแผล

พอกินลูกอมอาการปวดหายทันที จะรู้สึกเย็นที่แผล

คุณมิ้มเมตตาแกะลูกอมส่งให้กินในขณะขับรถ

วันรุ่งขึ้นต้องแกะผ้าล้างแผลทำใจอยู่สักพักไม่กล้าให้แม่ทำให้เพราะกลัวแม่จะสงสารเรา คิดว่าแม่น่าจะเจ็บกว่าลูกเมื่อเห็นลูกเจ็บ สุดท้ายต้องทำเอง

(เพราะถ้าไปโรงพยาบาลโดนเย็บแน่นอน

และเป็นการไม่เชื่อและศรัทธาในแนวทางที่ท่านอ.อุบลให้มา)

ขั้นแรกผมคว้าลูกอมอภิญญามาอมก่อนเลย(กลัวเจ็บ)

ผลคือรู้สึกเย็นๆที่แผล

ผมเปิดแผลครั้งแรกใช้เวลาอยู่ครึ่งชั่วโมงอมลูกอมอภิญญาหมดเม็ดยังไม่เสร็จเลยต้องต่ออีกเม็ดเพราะค่อยค่อยดึงและลุ้นมากว่าแผลเราตอนนี้หน้าตาเป็นไง

เรียกอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ไม่เจ็บ ทำแผลง่ายๆ

พอเปิดออกมา

อุทานเลยว่า

พระศรีอาริย์มาโปรดลูกแล้ว

ที่อุทานเช่นนี้ เพราะอาจารย์อุบลเคยบอกว่าบารมีพระศรีอาริย์ลงมาเต็มที่แล้ว ณ บ้านสวนพีระมิด

 คิดเลยว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาช่วยเรานี่แหละบารมีพระศรีอาริย์

เพราะแผลที่ลึกจนถึงไขมันแห้งเร็วมากจนแทบไม่น่าเชื่อ

ไม่บวม ไม่อักเสบ ขับรถได้ ไม่ต้องยกขา ไม่ปวดแผล เลือดแทบไม่มี มีก็ซึมอยู่ไม่กี่หยด

ดูแล้วไม่น่ากลัวเลย ไม่เหมือนตอนโดนวันแรก

ผมได้ถ่ายรูปแผลเก็บเอาไว้ยืนยันทุกวัน

สำหรับขั้นตอนการล้าง

อันดับแรกอมลูกอมอภิญญาเพื่อป้องกันการเจ็บแผลเวลาดึงผ้าก้อท

ผมเอาน้ำพีระมิดเข้มข้นผสมกับน้ำอภิญญา

ใช้สำรีพันก้านจุ่มเช็ดทำความสะอาดรอบๆแผล

แล้วจึงใช้สำลีอันใหม่ชุบน้ำดังกล่าวแตะๆที่แผล

หลังจากนั้นจึงปิดแผลด้วยผ้าก๊อทแล้วพันด้วยเทปพันแผล3M

ผมทำอย่างนี้ทุกวันและถ่ายรูปเก็บไว้ตลอด

วันแรกๆต้องกินลูกอมอภิญญาประมาณเกือบ10เม็ด จะกินเมื่อรู้สึกเริ่มปวดแผล

วันต่อๆมาลดลงเรื่อยๆ จนวันนี้วันที่5แล้วกินแค่ประมาณ3เม็ดเท่านั้นเอง เพราะแทบไม่ปวดแผลแล้ว

อาการของบาดแผลดีขึ้นไวกว่าปรกติหลายเท่ามากๆ

อาการแบบนี้น่าจะหลายวันกว่าจะแห้ง

ลึกถึงไขมัน กว้าง1ซม. ยาว2นิ้ว

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์แม่อุบล พระศรีอาริย์

เทวดารักษาอาจารย์แม่อุบล

ที่เมตตาช่วยเหลือดูแลทุกอย่างด้วยความเมตตาแบบสุดประมาณครับ

กราบ กราบ กราบ

คุณอัญ คุณมิ้ม และพี่น้องบ้านสวนทุกคนที่ช่วยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยและช่วยทำแผลครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-18 02:27:48


ความคิดเห็นที่ 8406 (1649922)

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากน้องซิมด้วยนะจ๊า

จากเรื่องราวอันน่าหวาดเสียว

ที่เกิดขึ้นกับน้องซิมนี้

ได้ทำให้พวกเราได้รับรู้ถึงพลัง

หรืออานุภาพของพลังอภิญญา

ได้อย่างชัดเจนเลยนะคะ

 

โดยมีน้องซิม เป็นผู้ทดลอง

แล้วก็มารายงานผลให้พวกเรา

ได้รู้ว่า

 

เมื่ออยู่ใกล้ๆท่านอาจารย์อุบล

จะไม่รู้สึกกลัว

หรือเจ็บปวดแผลแต่อย่างใด

 

รวมถึง"น้ำอภิญญา"

ก็มีพลังทำให้แผลแห้งและหายเร็วยิ่งๆขึ้น

 

และที่สำคัญ"ลูกอมอภิญญา"

สามารถปลดทุกข์ได้จริง

เพราะเมื่อน้องซิม

อมลูกอมอภิญญาครั้งใด

ก็หายปวดเมื่อนั้น .....

 

 

ฉะนั้น สรุปได้ว่า

ทุกสิ่งที่ท่านอาจารย์เมตตาบอกพวกเรา

ล้วนเป็นจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้เสมอ

 

 

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์

และเทวดาประจำตัว

ท่านอาจารย์ทุกๆพระองค์ด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-18 08:01:49


ความคิดเห็นที่ 8407 (1649940)

เป็นกำลังใจให้น้องชิมหายเร็วๆด้วยนะค่ะ  และโมทนาบุญกับธรรมทานทุกๆท่านค่ะสาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-18 10:04:38


ความคิดเห็นที่ 8408 (1649949)

ขออนุโมทนบุญกับคุณชิมด้วยนะคะ

หายเจ็บหายปวดด้วยน้ำอภิญญา

และได้ใช้นำอภิญญาล้างแผล

แผลที่ลึกหายได้อย่างรวดเร็ว

โดยไม่ต้องเย็บแผล ไม่ต้องพึ่งหมอพึ่งเข็มฉีดยา

หายด้วยพลังบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิด

หายด้วยพลังบุญบารมีและความเมตตา จากท่านอาจารย์อุบล

อ่านข้อความและคิดภาพตาม รู้สึกหวาดเสียวค่ะ

แต่ก็รู้สึกอบอุ่น รู้สึกปิติ ด้วยความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบล

สาธุ สาธุ  ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-18 13:06:28


ความคิดเห็นที่ 8409 (1649971)

อนุโมทนากับคุณชิมด้วยค่ะ ขอให้หายเจ็บแผลเร็ว ๆ นะคะ

เดี๋ยวนี้คงจะมีคนกินลูกอมอภิญญาและน้ำอภิญญา แทนยาในการรักษาอาการเจ็บป่วย ไม่ต้องพึ่งยา หาหมอกันแล้วนะคะ

ส่วนขวัญเองตอนนี้หลังจากกินลูกอมอภิญญาและน้ำอภิญญารู้สึกว่าตัวเบาขึ้น 

อาการมึนศรีษะก็น้อยลง และมักจะได้ยินเสียงท่านอาจารย์

ไม่แน่ใจว่าใช่หูทิพย์รึเปล่า

และได้ฝันถึงท่านอาจารย์อุบลใส่ชุดสีทองสวยงามท่านมอบเล็บเท้าให้

บอกว่าเป็นเล็บเท้าทหารเสือสิทธัตถะให้เอาไปมอบให้.......(จำไม่ได้ค่ะ)

ลูกบ้านสวนคนใดเข้าใจความผันเมตตาบอกด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-18 16:46:48


ความคิดเห็นที่ 8410 (1649973)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับธรรมทานอันแสนหวาดเสียวของน้องชิม ในพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของน้ำอภิญญา ลูกอมอภิญญา ลูกรู้สึกปลาบปลื้มปิติและซาบซึ้งในความรัก ความเป็นห่วง ความเมตตาอย่างไม่มีประมาณจากท่านอาจารย์อุบลที่มีแก่ลูกๆด้วยนะคะ แม้ไม่ได้ร่วมสายเลือด แต่ท่านน่ารักจริงๆเลยค่ะ ลูกและครอบครัวขอกราบขอบพระคุณแทบเท้าท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว กราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาท่านและครอบครัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั่วทั้วอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ ทุกๆอนูของบ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ

 

พี่ขอให้น้องชิมหายไวไวนะคะ

อาจินต์ และครอบครัวภิรมย์รักษ์

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-18 16:51:56


ความคิดเห็นที่ 8411 (1649974)

 

อนุโทนาธรรมทานทุกท่าน และเป็นกำลังใจให้คุณซิมค่ะ 

อ่านไปยิ้มไปแม่ลูกคู่นี้น่ารักค่ะ  ขอพระบารมีให้แผลหายไวๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุระณี สิริมานุวัฒน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-18 17:09:00


ความคิดเห็นที่ 8412 (1649978)

 ขออนุโมทนากับธรรมทานของคุณชิม วัชระ ให้เห็นถึงเหตุอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น ขอบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และของท่านอาจารย์อุบลให้แผล หายเร็วๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รมภ์รวินท์ กระสวย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-18 19:33:17


ความคิดเห็นที่ 8413 (1650057)

                ขออนุโมทนาด้วยค่ะจากที่ได้อ่านเรื่องราวที่คุณชิมเล่าแล้วทั้งตื่นเต้นเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยขอบคุณธรรมทานที่มีคุณค่า   ปิติกับกับคุณชิมที่ได้รับเมตตาจากท่านอาจารย์  และด้วยบารมีของพระศรีอริย์ ฯ และสิ่งศักดิ์ทุกๆพระองค์ในบ้านสวนพีระมิด ท่านได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนต่อไปโรงพยาบาลคงไม่มีความจำเป็นสำหรับลูกบ้านสวน เพราะยาของโรงพยาบาลหรือจะสู้ น้ำอภิญญาและลูกอมอภิญญา  ขอให้คุณชิมหายไวไวนะคะ  สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-20 01:27:35


ความคิดเห็นที่ 8414 (1650193)

 ลูกอมมหัศจรรย์

เนื่องจากบ้านนอกบ้านนามีเหตุให้ได้ไปเมืองนอก

ได้ไปประเทศเกาหลี

หนาวมาก

ดูงานที่โรงเรียน

ในขณะที่น้อยเองเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว

เมื่อเจออุณหภูมิที่ติดลบสยบทั้งยืน

น้อยได้นำลูกอมอภิญญาของท่านอ.อุบลติดตัวไปด้วย

เป็นกำและแล้วจึงได้หยิบอาวุธวิเศษลูกอมมาใช้จริงๆ

ผอ.ที่รับผิดชอบพานักศึกษาไปครั้งนี้

เห็นน้อยนำลูกอมติดตัวไปด้วย

ห้ามไม่ให้น้อยเอาติดตัวไปด้วย

เพราะจะไม่ผ่านต.ม.จะเข้าเมืองไม่ได้

แต่แล้วก็ไม่มีโอกาสที่จะได้อธิบายอะไรกับท่านผอ.

น้อยจึงตัดสินใจยังงัยก็จะเอาลูกอมอภิญญาติดตัวไปให้ได้

จึงนำลูกอมใส่กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง

ปรากฏว่าผ่านนำเข้าไปได้

ไปเจออากาศที่หนาวติดลบ

น้อยได้นำอาวุธลับลูกอมอภิญญา

มาอมทันที หมดหนึ่งเม็ด อมต่อทันที

หมดเม็ดอมต่อทันทีทำอยู่อย่างนั้นตลอด

เวลาเดินทางไปไหนก็ทำอย่างนั้นตลอด

สังเกตุเห็นร่างกายของตัวเอง

เหมือนจะมีภูมิต้านทานต่ออากาศหนาวได้ดี

แล้วอาหารก็จะไม่หิวทรมาน

โดยน้อยก็ทำการเปรียบเทียบ

กับพี่ที่ไปด้วยกัน

เดิมทีอยู่ที่ประเทศไทยพี่เขาจะแข็งแรงไม่ค่อยเป็นอะไร

น้อยเริ่มสังเกตเห็นพี่เขาเริ่มหนาวมีน้ำมูกไหล

แต่เรารู้สึกว่าเย็นแต่ก็โอเค

และแล้วน้อยก็ได้ลูกอมอภิญญา

แจกให้พี่ๆที่ไปด้วยกัน

ก็ได้บอกว่านี่คือลูกอมอภิญญานะค่ะ

ให้อมลูกอมบุญแล้วสิ่งดีๆก็ได้เข้ามาสู่ตัวเรา

ผลลัพธ์ที่ได้เจออีกอย่างคือ

แต่ละวันต้องขี่รถตลอด

ร่างกายจะไม่ค่อยเหนื่อยล้าหรือเมื่อยแบบทรมาน

สุดย๊อด มหัศจรรย์ จริงๆค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล อ.มงคลพร้อมครอบครัว

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาลด้วยค่ะ

กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-21 23:58:32


ความคิดเห็นที่ 8415 (1650196)

 อนุโมทนากับคุณซิมด้วยค่ะ

เป็นอีกคนที่มาช่วยพิสูจน์อภิญญาบ้านสวนพีระมิด

ซึ่งอ่านจากที่เล่ามาแล้ว ตามหลักการแพทย์ 

แผลที่เห็นไขมันขนาดนี้ น่าจะต้องมีเย็บบ้างละ

แต่นี่เพียงแค่ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย+น้ำอภิญญา+ลูกอมอภิญญา

แผลก็ดีขึ้นแบบอัศจรรย์

ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องเสียเงิน

ช่างเป็นการรักษาที่ง่าย เห็นผลทันตารวดเร็วจริงๆ

เหตุการณ์นี้พิสูจน์เรื่องอภิญญาได้ดีทีเดียวค่ะ

เพราะถ้าอภิญญาไม่มีจริง

แผลคุณซิมคงไม่ดีขึ้นรวดเร็วขนาดนี้เป็นแน่

สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-22 02:33:31


ความคิดเห็นที่ 8416 (1650259)

 วัน ส-อาที่ 19-20 นี้  พวกเรา

ได้ร่วมบุญแรงกาย workshop

โดยเน้นไปที่การก่อสร้างวิหาร

และงานเกษตร งานหนัก

แต่ไม่เหนื่อยและไม่เพลียเพราะ

ระหว่างทำงานท่านอ.อุบลให้อมลูกอมเป็นระยะ

ของตุ้ยมีอาการปวดหลังจากการก้มตักปูน ส่งปูน

พอใช้รหัสอ.อุบลช่วยท่องคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วย

พร้อมกินลูกอมอภิญญาอาการ

ที่มีอยู่ก็ดีขึ้นมากค่ะสามารถทำงานต่อได้

และในวันอาทิตย์นี้ท่านได้ให้พวกเราเตรียมข้าวสารไป
ให้ท่านเล็กน้อยแล้วเอาส่วนที่เหลือไว้ที่บ้าน
เพื่อเข้าร่วมพิธีอาหารอภิญญา
โดยตุ้ยเองได้นำข้าวสารนิดหน่อยกับ
นมเปรี้ยวไปให้ท่านอาจารย์
 
 
โดยอาหารที่เราเตรียมไปให้ท่านอาจารย์นั้น
ก็เพื่อพิสูจน์คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่มี 3ส่วนคือ
1.มีความศรัทธา 2.วัตถุทานบริสุทธิ์ 3.เนื้อนาบุญบริสุทธิ์
เมื่อครบ3 อย่างปาฏิหาริย์จะเกิดฉับพลันทันทีในวันนั้น
ซึ่งสิ่งที่พวกเราได้พบก็เป็นจริงตามนั้น
และท่านก็ให้พวกเราลองกินอาหารที่เตรียมาดู
ก่อนกินตุ้ยเองมีอาการปวดแขน ปวดสะบัก
ปรากฎว่าพอกินนมเปรี้ยวเข้าไปภายใน 3 วินาที
อาการปวดที่แขนเบาลง และค่อยๆ หายไปในที่สุด
 
 
 
ระหว่างที่นั่งฟังญาติธรรมท่านอื่นรายงานผล รวมๆ แล้ว
ก็ไม่เกิน3 นาทีค่ะ อาการที่ปวดอยู่ก็หายไปหมดสิ้น
เหตุการณ์นี้ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าอภิญญานี้มีจริงแน่นอน
และสิ่งที่เราเคยอ่านเรื่องราวของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมา
ที่ว่ายุคคนี้คนได้อภิญญาใหญ่จะมามาก เราก็งงว่าคืออะไร
อภิญญาคืออะไร ได้แล้วจะวิเศษกว่าคนอื่นตรงไหน
และคนที่ได้ก็คงต้องเป็นคนที่ปฏิบัติเคร่งครัดมาก
ต้องสร้างบุญกุศลอย่างยิ่งยวด
ต้องตัดทางโลกไปเลยอะไรประมาณนี้นะคะ
แต่ที่ไหนได้ พอมาเจอบ้านสวน เรื่องอภิญญานี้
ง่ายกว่าที่คิดทำให้คนอย่างเรามีความหวัง
และมั่นใจว่าอภิญญาใหญ่ที่หลวงพ่อฯ
ท่านว่า ไม่ใช่ที่ไหนเลยค่ะ
ก็คือที่อภิญญาที่บ้านสวนนี่เอง
 
 

ส่วนญาติธรรมคนอื่นๆ ก็อาการเจ็บป่วย
ปวดเมื่อยนี่เรียกว่าดีขึ้น
จนถึงหาย 100% ก็หลายรายค่ะ
ส่วนบางคนที่อาหารของตัวเองไม่มีผล
กินไปแล้วอาการเจ็บป่วยยังเหมือนเดิมก็มีค่ะ
เพราะคนนั้นเขาคิดปรามาส
คิดร้ายกับท่านอาจารย์
มีมโนกรรมกับท่านอาจารย์ผู้ส่งอภิญญาบารมีให้เรา
ผลนั้นจึงไม่เกิดดังคำสอน
ของพระพุทธเจ้าข้างต้นค่ะ เมื่อองค์ประกอบ
1 ใน 3 ส่วนไม่ครบ ผลปาฏิหารย์ก็ไม่เกิด
ชัดเจนจริงๆ ค่ะ สาธุ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-22 12:37:04


ความคิดเห็นที่ 8417 (1650325)

 อนุโมทนาด้วยค่ะพี่ตุ้ย

เพียงแค่เรานำของมาทำบุญ

กับท่านอ.เพียงน้อยนิด

อาหารที่อยู่บ้าน และที่นำมาบ้านสวนก็สามารถ

รับพลังอภิญญาจากท่านได้แล้ว

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า

ท่านอ.เป็นเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์จริงๆ

โดยมีโรคภัยไข้เจ็บของพวกเรามาเป็นเครื่องพิสูจน์

ซึ่งหลายๆคนก็หายจริงเป็นว่าเล่นเลย

สุดยอดจริงๆ

 

เพราะหญิงก็เป็นคนนึง

ที่คิดว่าอภิญญาเป็นเรื่องไกลตัว

เป็นเรื่องที่ยากมากๆสำหรับคนธรรมดา

คิดว่าคนที่ได้อภิญญา

จะต้องบวชเป็นพระ ชี เข้าไปอยู่ในป่าเงียบๆ

แต่แล้ว....ท่านอ.อุบลก็ได้พิสูจน์ให้พวกเราเห็นว่า

ธรรมะของพระพุทธเจ้า

"สำเร็จแล้วมาจากใจ 

ไม่ใช่รูปกายภายนอก"

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-23 04:14:37


ความคิดเห็นที่ 8418 (1650402)

โมทนาบุญกับทุกๆท่านค่ะ  สาธุๆๆ

ดีใจกับน้องน้อยที่ได้ไปท่องเที่ยวแดนกิมจิรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-23 18:59:48


ความคิดเห็นที่ 8419 (1651006)

 ก่อนอื่่นต้องขออนุโมทนาบุญกับคุณ(ตุ้ย) ศิริพรโฉมจันทร์

ที่เขียนธรรมทานได้ชัดเจนมากเลยสำหรับอาทิตย์นี้้ (19-20 มค.56)

ส่วนกิจกรรมกลุ่มworkshopของอาทิตย์นี้เป็นกลุ่มที่5 โดยมีสมาชิก          

ทั้ังหมดรวม5 ท่านดังนี้..........

คุณ ปาริชาติ  ชมภูเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีสมาชิกในกลุ่มอีก........

คือ 1) คุณปาริชาติ  ชมภู  ปัญหาหนี้สินจากธนาคาร  ระยะยาว....

แต่ปัจจุบันมีสถาพคล่องทางการเงินดี

     2) คุณ พัฒพงศ์  ปรับโตจิตโจโย ไม่มีปัญหา                                                3) คุณ ศิริพร  โฉมจันทร์  ไม่มีปัญหา

     4) คุณ  คุณอาจินต์ ภิรมรักษ์ มีปัญหาหนี้สินกับธนาคาร  ระยะยาว...

     5) คุณ กันต์สินี  อัครวิชนนท์ มีปัญหาสายตายาว หลังเสร็จกิจกรรม  สายตาสว่างขึ้นได้ผล  20 %

      กิจกรรมที่ทางกลุ่มได้รับมอบหมายคือ   เทปูนพื้นวิหาร  งานทำความสะอาดเส้นทางไปสร้างองค์พระใหญ่ด้านหลัง  และงานด้านเกษตร งานเริ่มเวลา  9.00น พักเที่ยงและเลิกเวลา  14.30น.

 ข้อเสนอแนะ.....  ในการทำกิจกรรมกลุ่มเกษตรชั่วโมงทำปุ๋ย เวลาเทหญ้าหมักออกจากถังหมักใบใหญ่   ซึ่งทุกคนจะไม่อยากทำเพราะเหม็นเลาะเสื้อผ้ากันหมด  วิธีแก้ก็คือช่วยกันยกถังมาใกล้ๆบ่อถังพักแล้วช่วยกันเทจะสะดวกกว่าและไม่หกเลาะเทาะค่ะ...

****************

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-31 16:03:07


ความคิดเห็นที่ 8420 (1652131)

 

 วันนี้เป็นวันตรุษจีน สวัสดีพี่น้องไทย-จีน และทุกท่าน                                          ขอพึ่งพระบารมี ขอให้ร่ำรวยความดี มั่งมีความสุข ร่างกายแข็งแรง                         เข้าถึงธรรม  สมปราถนาทุกประการทุกท่านน่ะค่ะ

 ได้นำน้ำทิพย์ลูกอมเตรียมไปให้พี่น้อง แต่ไปเจอคนข้างบ้านที่ทุกข์กว่า ปวดแข้งขา เบาหวาน ความดัน เจ็แกอายุสัก 72 ได้แล้ว อ้วนด้วย เลยคุยด้วยให้รหัส อ.อุบลข่วยด้วย  ทาน้ำทิพย์ ให้ลูกอม  ดูดีขึ้น คุยเรื่องทำบุญทำกรรม แกก็บอกทำมาทั้งนั้น ก็ให้แกนึกกรรมและสารภาพอุทิศบุญให้เขาเรื่อยๆให้บทสวดไป       อีกคนเป็นอาซิ้มเล็ก ตัวเล็ก อายุ 74 ไปสวัสดีกะว่าจะเอาน้ำทิพย์ใปให้หลานแกซึ่งเป็นแผลผื่นคันเกาทั้งตัวมีแต่แผลเป็นมาตั้งแต่เด็กจนเป็นหนุ่ม  เห็นอาซิ้มแกนอนพิงหลับตาอยู่ บอกว่าลื่นล้มแต่ไม่รุนแรงดูหัวเข่าบวม ทาน้ำทิพย์ให้ ให้แกขอ อ.อุบลช่วยด้วย และมองจี้ เข่าที่บวมยุบลง เพราะแกยกมือโมทนาขอให้หายเชื่อบาปบุญและศรัทธาพระ แต่เคล็ดยอกอยู่ ได้ให้น้ำทิพย์ไว้ใช้ได้ตลอด ส่วนหลานชายแกที่เป็นเป้าหมาย ไม่สนใจเล่นเกมส์  ก็เลยบอกว่าให้น้ำทิพย์แกไว้ใช้ ใครอยากใช้ต้องศรัทธาต้องการรักษาจริงจึงใช้ได้ค่ะ  อีกคนให้พี่สาวพร้อมธรรมทานบทสวดค่ะ

  ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน ท่าน อ.อุบล ที่เมตตา ให้ลูกได้น้ำทิพย์รักษาคนที่เจ็บป่วยและขอให้เขามองเห็นธรรมด้วยเทอญ...สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุระณี สิริมานุวัฒน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-10 06:34:43


ความคิดเห็นที่ 8421 (1652169)

 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทราบมาว่าเพื่อนที่เคยสนิทเมื่อตอนเด็ก

เขาเสียแล้ว รู้สึกใจหายมากๆค่ะ

อายุเขาแค่ 20 ปีเอง เขาเพิ่งมารู้ตัวว่าเป็นมะเร็งในสมอง

เมื่อ 5-6 เดือนที่ผ่านมานี่เอง

คิดว่าเขาคงเป็นระยะสุดท้ายแล้วด้วยมั้งคะ

เขาถึงได้ไปไวมาก

ในใจหนูรู้สึกผิดมากค่ะ

เพราะปกติกลับไทยทุกครั้งหนูก็จะไปหาเค้า

ตามประสาเพื่อน แต่ช่วงหลังมา

รู้สึกว่าไม่ค่อยได้คุยกัน ห่างๆกันไป

หนูก็เลยไม่ได้โทรไป คิดไปว่าเขาคงหยิ่ง

ที่ต่างคนต่างไม่ได้ติดต่อกัน

เราก็เลยหยิ่งบ้างคือตอนกลับไทย

ตอนนั้นที่ไปบ้านสวน พอกลับตาก ก็ไม่ไปหาเค้า

ไม่ทัก ไม่สนใจ แต่เห็นเพื่อนขับรถผ่าน

เพื่อนก็มองมาที่เราอยู่ เห็นสายตาเค้าแล้วรู้เลย

ว่าเขาคงอยากทักเราอยู่

แต่ในใจก็คิดหยิ่งอีกว่า

อยากทักต้องมาทักเราก่อน

จนในที่สุดก็ไม่ได้คุยกัน

จนเพื่อนเสีย รู้สึกเสียใจ และรู้สึกผิดมากๆค่ะ

ถ้าตอนนั้นรู้ว่าเพื่อนเป็นมะเร็ง

จะไม่ทำกับเขาแบบนี้เลย

และจะเลิกนิสัยแบบนี้แล้วค่ะ

ยิ่งตอนหลังเพื่อนอีกคนมาเล่าให้ฟังว่า

ก่อนตายเพื่อนเขาไม่มีแรงลุ

ใส่แพมเพิร์ด ไม่กินข้าว กินแต่นม

ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย

รู้สึกเสียใจที่สุดเลยค่ะที่เราทำกับเพื่อนแบบนั้น

พอเขาตายก็ได้แต่อุทิศบุญให้เขา

แต่ในใจรับรู้ได้ตลอดเวลาว่าเพื่อนเขาลงข้างล่าง

จะจำไว้เป็นบทเรียนเลยค่ะ

จะเลิกนิสัยหยิ่ง จองหอง แบบนี้ 

แล้วเพื่อนคนนี้ก็คือคนที่หนูเคยสารภาพบาป

ไปว่าเคยร่วมมือกันขโมยเงินยายของเพื่อนที่เสีย

ตั้ง 5 หมื่น แล้วก็ทราบมาว่าจนถึงตอนนี้

ยายเขาก็ยังไม่อโหสิให้เลย 

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้หนูจะไม่ทำแบบนี้เลย 

เพื่อนเสียครั้งนี้นับว่าเป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ของหนูจริงๆ

รู้สึกว่าเพื่อนเขายังวัยรุ่น ไปไวมาก

รู้สึกว่าความตายอยู่ใกล้เราแค่นี้เอง

ตัวเรานั้นอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้

ทำให้รู้สึกว่าเรายังประมาทในการใช้ชีวิตอยู่มาก


สุดท้าย 

ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และบารมีท่านอ.อบล

ลูกขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนาที่ทำมาแล้ว

ตั้งแต่ชาติแรกจนถึงชาตินี้

และทุกๆบุญที่ได้ทำในบ้านสวนพีระมิด

ลูกขอฝากบุญนี้กับเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ และลุงพุฒิ

ไปให้กับ นายภานุวัฒน์ จิ๋วปัญญา ด้วยเถิดค่ะ

ขอให้เขาพ้นทุกข์

ได้ขึ้นไปอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไปด้วยเถิดค่ะ 

สาธุ สาธุ สาธุ

กราบขอบพระคุณทุกๆพระองค์และท่านอ.ค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-11 00:41:18


ความคิดเห็นที่ 8422 (1652170)

ได้อ่านความในใจของน้องหญิงแล้ว

ก็รู้สึกสะท้อนใจเหมือนกันนะคะ

เพราะเอาเข้าจริงๆแล้ว

พวกเราก็ประมาท ลืมคิดถึง"ความตาย"

 

และใช้ชีวิตในแต่ละวันไปกับความคิด

ความรู้สึกที่ไม่เป็นประโยชน์กับใครเลย

แ้ม้กระทั่งต่อตัวเราเอง

จะมาคิดได้ ก็เมื่อ"สาย"ไปซะแล้ว

 

ยิ่งอ่านก็ยิ่งคิดว่า

ความตายมันอยู่กับเราทุกขณะจริงๆค่ะ

ขอแสดงความเสียใจกับน้องหญิงด้วยนะคะ

 

แล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องด้วย

เรื่องนี้คงจะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ

ให้กับทุกๆคนได้นำไปพิจารณาเช่นกัน...

 

 

และลูกกราบขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน

สมเด็จองค์พระปฐมฯ

องค์พระศรีอาริย์

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

ท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

 

ได้โปรดบันดาลบุญของลูกที่สั่งสมมา

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งทาน ศีล ภาวนา

และ ทุกๆบุญที่ลูกทำกับบ้านสวนพีระมิด

ลูกขออุิทิศบุญทั้งหมดทั้งมวลนี้

แด่ นาย ภาณุวัฒน์ จิ๋วปัญญา

 

และขอฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

และท่านลุงพุฒิ และบอกให้จิตวิญญาณ

ของน้องภาณุวัฒน์ จิ๋วปัญญา

ได้มาอนุโมทนารับบุญนี้ด้วยเถิด

 

ขอบุญนี้จงหนุนนำให้น้อง ภาณุวัฒน์

พ้นทุกข์ และไปสู่ภพภูมิที่สูงยิ่งขึ้น

และเป็นสุขยิ่งๆขึ้นไปด้วยเถิด

สาธุ สาธุ สาธุ 

.....................................................

อนุโมทนาในทุกๆธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-11 02:17:01


ความคิดเห็นที่ 8423 (1652183)

 อ่านเรื่องราวของน้องหญิงแ้ล้ว 

ก็ทำให้รู้สึกเลยว่าพวกเรายังขาดเมตตาอยู่มาก

และก็ยังตั้งตนอยู่บนความประมาท

บางครั้งเราเห็นแค่เขายิ้ม หัวเราะ หรืออยู่เฉยๆ 

เราก็คิดเอาเองว่าเขาคงมีความสุขดี 

แต่จริงๆ เขาอาจมีทุกข์ที่มากกว่าเรา

ร้อยเท่าพันทวีก็เป็นได้

และเรื่องราวนี้ก็ยังสอนธรรมะเราได้ดีมากๆเลยค่ะ

ว่าความตายนั้นไม่แน่นอน

การพลัดพรากเป็นเรื่องธรรมดา

แต่เราควรทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

เพื่อวันหนึ่งที่พลัดพราก

เราจะไม่ต้องมาเสียใจกับสิ่งที่เราทำผิดพลาดไป

พี่เข้าใจความรู้สึกของน้องหญิงเลยค่ะว่าเป็นอย่างไร

และขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน ดัชนีไฉไลของท่านพ่อ

บารมีสามร่มโพธิ์ศรี

บารมีเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ และท่านอ.อุบล

ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนาของข้าพเจ้าทุกภพชาิติอุทิศให้

นาย ภาณุวัฒน์ จิ๋วปัญญา

และขอฝากบุญนี้ไปกับเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

ลุงพุฒิ และนายนิรยบาล โปรดเมตตานำบุญนี้ไปถึงแด่

นาย ภาณุวัฒน์ จิ๋วปัญญา ให้ได้อนุโมทนารับบุญนี้

และได้ไปเสวยสุขในภพภูมิที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเทอญ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-11 09:24:54


ความคิดเห็นที่ 8424 (1652201)

พี่อาจินต์ และครอบครัวภิรมย์รักษ์ ก็ขอร่วมอโมทนาสาธุกับความในใจที่เป็นธรรมทานที่ให้บทเรียนสอนใจที่แสนจะกล้าหาญและมีคุณค่า ของน้องหญิงคนเก่ง ด้วยนะคะ  และขอร่วมกับลูกบ้านสวนทุกๆท่าน

ขออาราธนาพระบารมีท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และบารมีของท่านอ.อุบล

ลูกทั้งหลายขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนาที่สร้างมาดีแล้วตั้งแต่ชาติแรกจนถึงภพชาตินี้ และทุกๆบุญที่ได้ทำในบ้านสวนพีระมิด

ลูกทั้งหลายขอฝากบุญนี้กับเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ และท่านลุงพุฒิ

ไปให้กับ นายภานุวัฒน์ จิ๋วปัญญา ด้วยเถิดเจ้าค่ะ

ขอให้เขาพ้นทุกข์ ได้ขึ้นไปอยู่ในภพภูมิที่สูงส่งยิ่งๆขึ้น บรมสุขยิ่งๆขึ้นไปด้วยเถิดเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอ. อุบล ท่านเทวดาที่รักษาตัวท่านและครอบครัวของท่าน และสิ่งศักดิ์สิทธิทุกๆพระองค์ทั่งทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดด้วยเจ้าค่ะ

 

นางอาจินต์ และครอบครัวภิรมย์รักษ์

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-11 10:44:10


ความคิดเห็นที่ 8425 (1652237)

พี่ขอแสดงความเสียใจกับน้องหญิงด้วยค่ะที่ได้สูญเสียเพื่อนรักไป พี่ขออุทิศบุญที่ทำมาทุกภพทุกชาติฝากท่านท้าวเวสสุวรรณ และลุงพุฒิ

นำส่งให้ นายภานุวัฒน์จิ๋วปัญญา และนายสมศํกดิ์  ดอกไม้จีน ด้วยค่ะ

ขอให้ทั้งสองคนได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-11 16:17:56


ความคิดเห็นที่ 8426 (1652241)

อนุโมทนาค่ะน้องหญิง    ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

วันนี้พี่หมวยก็รู้สึกปลงๆ ไม่อยากจะโกรธ แค้น อะไรใครแล้ว

ความพลัดพรากเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  ตอนมีชีวิตอยู่ก็จะขอ

สะสมบุญไปเรื่อยๆ ค่ะ    และลูกขอฝากบุญ ทาน ศีล ภาวนา

ทุกภพทุกชาติจนถึงชาตินี้ และบุญที่ได้สร้างในบ้านสวนพีระมิด

ทุกบุญ ขอฝากเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ท่านลุงพุฒิ  ส่งให้ก้บ

นายภานุวัฒน์ จิ๋วปัญญา  ขอให้ไปสู่ภพที่สูง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด

เจ้าค่ะ  สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณหมวย พรรณสรลี ชูตระกูล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-11 16:40:05


ความคิดเห็นที่ 8427 (1652277)

ขอนุโมทนาบุญกับธรรมทานน้องหญิงด้วยนะคะ

อ่านแล้วก็ทำให้คิดได้ว่าตัวเอง

ยังมีความประมาทในชีวิตอยู่มาก

 

ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และบารมีท่านอ.อบล

ลูกขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนาที่เคยทำไว้ทุกชาติภพ

และทุกๆบุญที่ได้ทำในบ้านสวนพีระมิด

ลูกขอฝากบุญนี้กับเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ และลุงพุฒิ

ไปให้กับ นายภานุวัฒน์ จิ๋วปัญญา ด้วยเทอญ

ขอให้เขาพ้นทุกข์

ได้ขึ้นไปอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-11 20:41:59


ความคิดเห็นที่ 8428 (1652672)

ขออนุโมทนา กับ ธรรมทาน ของ น้องหญิง ครับ

เป็นธรรมทานที่อ่านแล้ว ต้องกลับมาพิจารณาตัวของผมเอง เช่นกันครับ

เพราะ ก็เป็นคนประเภท มีมโนกรรม กับ คนอื่นมากมายเช่นกัน บางครั้ง ก็คิดว่า เป็นลูกหลานบ้านสวนฯ อย่างไร หักห้ามใจตนเองไม่ค่อยได้ นึกเสียใจมาตลอด ก็พยายาม ไม่นำการกระทำของคนอื่น มาเปรียบเทียบ พยายามคิดว่า ทุกคนมีแนวการทำงานของตนเอง แต่บั้นปลาย เพียงแต่ช้า หรือ ไวกว่ากัน แต่ก็คงประสพผลสำเร็จเหมือนกัน

อ่านเรื่องราวของน้องหญิงแล้ว ก็คิดว่า เรากลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตไม่ได้แล้ว แต่สามารถเป็นธรรมทาน ให้คนอื่นได้ ครับ ขอขอบคุณ น้องหญิง มากๆครับ

และ ขอน้อมนำบุญที่เคยกระทำมา อุทิศให้ คุณภานุวัฒน์ จิ๋วปัญญา ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-18 12:54:15


ความคิดเห็นที่ 8429 (1652707)

18 กพ56 กระผมได้ไปพบเพื่อนฯ ชื่อคุณ โกวิท  สละชั่วรับราชการ

ตำแหน่งรองผอ.ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดสระแก้ว 

คุณโกวิทย์มีปัญหาเรื่อง จิตไม่สงบมีเรื่องคิดฟุ้งซ่านไปทั่ว

จึงได้ทำน้ำมโนธาตุให้โดยใช้จี้รุ่นท่านพ่อดตาจินินให้เขา

ไป1ขวดให้ดื่่ม แต่ยังไม่ดื่มกลับไปดื่มที่บ้าน  แล้วโทรฯตามไป

เช็คอาการดูปรากฎว่า...บอกว่าหลังจากดื่่มน้ำแล้วจิตใจดีขึ้น

สงบเยือกเย็นขึ้นมากและกำลังดูรายการของบ้านสวนพีระมิดอยู่

อยากจะมาสร้างบุญด้วย/ .......หลังจากนั้นได้ไปพบ คนงานซึ่งเคย

บูชาจี้ รุ่น คุ้มเกล้าฯไปแล้ว ก็ลองถามดูว่า.....มีใครเจ็บป่วยอะไรบ้าง

ใหม   ก็มีแม่ยาย  บอกว่า....ปวดหัวเข่า ก็เลยแนะนำให้เขาใช้จี้รุ่น     

คุ้มเกล้าฯทำน้ำปราณ..แตะที่แก้วน้ำ..หลังจากนั้นก็ให้เขาเทน้ำ       

ใส่มือแม่ยาย....ถูมือไปมาสักครู่ ก็บอกว่า......หายปวดหัวเข่าแล้ว

ประมาณ3นาฑี เสร็จแล้วก็บอกให้ขอบคุณท่านอ.อุบลฯ

หลังจากนั้นก็มีหลานชายบอกว่า....ปวดข้อมือ....  ก็เทน้ำใส่มือแล้ว

ก็ถูไปมาก็หายเช่นกัน....ทุกคนที่พบเห็นต่างตื่นเต้นดีใจกันมากเลย/  

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน 

เทวดาที่ดูแลรักษาอ.อุบลฯ และท่านอ.อุบลฯด้วยครับ   

กราบ  กราบ  กราบ

****************

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิพันธ์ อัครวิชชนนท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-18 23:13:20


ความคิดเห็นที่ 8430 (1652737)

 

กราบอนุโมทนาบุญกับธรรมทาน

ท่านอ.พันธ์ อ.ณี ค่ะ

สาธุ สาธุ  สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-19 12:53:34


ความคิดเห็นที่ 8431 (1652770)

กราบขอบคุณท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จองค็ปฐม

บรมธรรมบิดา  ท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล

น้องท้อป  หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

สิ่งศักดิสิทธิ์ทุกพระองค์ ที่เมตตาให้ลูกและพี่ชายได้ไปสร้างบุญแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด และเมตตาต่ออายุให้กับตัวลูกและพี่ชายและบุคคลครอบครัว

และยังเมตตาเจรจากับเจ้ากรรมนายเวร

ให้เลิกจองเวร

ลูกขออุทิศบุญที่ได้ทำให้กับเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว ขอให้มีความสุข

ปราถนาสิ่งใดขอให้สมปราถนาทุกประการค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-19 17:18:30


ความคิดเห็นที่ 8432 (1652772)

ยินดีกับคุณ ถนอมขวัญและพี่ชาย ด้วยนะคะ

ที่ในที่สุดก็มีโอกาสได้ไปสร้างบุญในบ้านสวนฯ

 

แล้วยังได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์

ด้วยการต่ออายุให้ และได้เจรจา

กับเจ้ากรรมนายเวรให้เลิกจองเวรอีกด้วย ...

อนุโมทนาด้วยค่ะ

...........................

แล้วก็อนุโมทนากับธรรมทาน

จากท่าน อ.พันธ์ ด้วยค่ะ

 

รู้สึกว่า พลังน้ำมโนธาตุ

เห็นผลชัดเจนมากๆเลยนะคะ

ทำให้จิตที่ฟุ้งซ่าน สุข สงบ

เยือกเย็นลงได้ทันที หลังจากที่ดื่ม

สาธุ สาธุ ด้วยค่ะ

 

สงสัย ต่อไปนี้

จะมีสมาชิกลูกบ้านสวนฯ

ที่มาจากสระแก้ว เพิ่มขึ้นอีกแน่ๆเลยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-19 17:28:53


ความคิดเห็นที่ 8433 (1653415)

โมทนาบุญกับธรรมทานของทุกๆท่าน  สาธุๆๆ 

ความตายเป็นของที่แน่นอนที่ทุกคนต้องพบเจอจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่การใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-28 11:15:00


ความคิดเห็นที่ 8434 (1653670)

มานั่งทบทวนตัวเองแล้วตอนนี้ยังไม่ผ่านการทดสอบสักอย่างนึกแล้วก็ท้อแท้เบื่อหน่ายตัวเองมากๆ เห็นเหตุการณ์ก็เยอะ เจอปัญหามาก็เยอะ  แล้วทำไมยังยกระดับจิตได้แค่นี้หรือ?    เสียดายจังเลยเกิดมาครั้งนี้เสียชาติเกิดจริงๆ  ยังเป็นบัวเหล่าที่4  พอโพล่ได้นิดหน่อยก็ลงอีก สงสัยใกล้จะตายแล้วจึงสำนึกได้หรือ? 

ขนาดจะเขียนธรรมทานยังลังเลเขียนไม่ออกแต่ก็จะเข้าไปอ่านและเขียนได้แค่โมทนาบุญแค่นั้นเอง  กราที่ได้ดูรายการคุยไปแจกไปแต่ละครั้งก็นั่งจดไปด้วยพอจะเขียนก็ไม่รู้ขึ้นต้นและจะจบอย่างไร ฟุ้งซ่านไปหมดค่ะ

ขอบารมีท่านดตาจินินอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้ฉันคิดทำความดี  พูดในสิ่งที่สมควรพูด  ทำในสิ่งที่สมควรทำ  ให้จงสำเร็จเดี่ยวนี่ด้วยเถิดเจ้าค่ะ

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์ทธิสิทธิ์บ้านสวนฯ   และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนัตตกวาล  และขอบพระคุณเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-04 16:34:41


ความคิดเห็นที่ 8435 (1653767)

                           พี่บุญภิบาล  คงเขียว คะ 

             พี่เขียนธรรมได้มาจากใจเกิน 100 

           อย่าท้อนะคะนิดหน่อยชอบอ่านธรรมทาน

               ของพี่และขอจับมือเป็นกำลังใจ

              ให้พี่ร่วมสร้างบุญด้วยธรรมทาน

                     เช่นนี้ตลอดไปค่ะ

 

                           ด.ญนิดหน่อย

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-05 23:48:28


ความคิดเห็นที่ 8436 (1653866)

 

อย่าลืมนะคะ

วันนี้ พฤ 7 มี.ค.56

เราจะมีการถ่ายทอดสด

เวลา 2 ทุ่ม

ผ่านเวปไซด์บ้านสวนฯ

ทางรายการ

ธรรมะบำบัดบ้านสวนพีระมิด

วันนี้ จะมีการทำน้ำทิพย์

ด้วยรหัส เจ้ากรรมนายเวร 99

ซึ่งท่านสามารถชวนญาติสนิทมิตรสหาย

เพื่อนบ้าน มาร่วมชมกายการและ

ร่วมทำน้ำทิพย์ได้ค่

โดย

1.ให้เตรียมน้ำคนละ 1 ขวด

(ขนาดพอดีๆนะคะ ไม่ต้องขวดใหญ่)

2.เตรียมปากกา กระดาษไว้จด สิ่งที่ต้องทำ

หลังจากได้รับน้ำทิพย์แล้วค่ะ


คนที่จะร่วมพิสูจน์น้ำทิพย์

ถ้าเป็นคนที่กำลังมีอาการเจ็บป่วย

เช่น

ปวดหัว คอ บ่าไหล่ หลัง เอว ขา ฯลฯ

จะดีมากเพราะผลจะชัดเจน


แล้วอย่าลืมมาเล่าในเวปนี้นะคะ

ว่ารับน้ำทิพย์แล้วผลเป็นอย่างไรบ้าง

หรือจะเล่าทางเฟสบุ๊คก็ได้ค่ะ

 

ขอให้ทุกท่าน

ที่ได้มารู้จักบ้านสวนพีระมิด

ได้มีโอกาสพ้นทุกข์

ทั้งกาย+ใจ

นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-07 15:17:41


ความคิดเห็นที่ 8437 (1653891)

กราบอนุโมทนา เจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-07 19:54:18


ความคิดเห็นที่ 8438 (1654032)

เมื่อวันมาฆบูชาได้ไปวัดใกล้บ้านและได้เห็นคนที่ไปวัดนำอาหารจากวัดกลับบ้านโดยการขอพระสงฆ์ทั้งคณะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาขอพระสงฆ์ทั้งคณะปกติเขาไม่ขอเลยแสดงว่าที่ได้บอกได้ผลซินะ  (เราคิดไปเองหรือเปล่า )  แต่ถ้าเราไม่นำมาเลยถ้าจะดีนะค่ะเขายังชวนให้ฉันซื้อแกงที่วัดกลับบ้าน ฉันก็ได้ยกตัวอย่างให้ป้าคนหนึ่งฟังว่า สมมุติมีคนเอาของมาให้เราแต่พอกลับไปเขาขอของกลับบ้าน  เรามีควมรู้รู้สึกอย่างไร?  ป้าก็บอกว่า  ..เออจริงนะไม่ถูกต้อง วันนั้นพระท่านเทศน์เกี่ยววันมาฆบูชาว่ามีอะไรสำคัญบ้าง?   และก็ได้เวียนเทียนไปเลย  การเวียนเทียนวันนั้นฉันงงมากเพราะพระท่านได้บอกแค่ให้ท่องอิติปิโสห้องเดียว   ปกติรอบแรกอิติปิโส   รอบที่  2  สวากขาโต       รอบที่  3   สุปฏิปันโน  วันนั้นก็เลยงง?ที่ถูกควรทำเป็นเช่นไร? หรือที่ฉันเขียนถูกต้องแล้ว ฉันเคยเวียนที่สุโขทัยพระท่านได้เขียนลงในกระดานว่าวันนี้มีความสำคัญอย่างไร?   ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?   ใครที่ทราบคำตอบที่ชัดเจนช่วยเขียนแนะนำด้วยนะค่ะ 

และอีกเรื่องหนึ่งคือการเรี่ยไรพระที่วัดใกลับ้านท่านนำกระป๋องเล็กๆ มาวางไว้ที่ร้วหน้าฉันตอนฉันไม่อยู่บ้านอย่างนี้ควาทำบุญไม่?  อย่างไร?  แถวลำลูกกามีการนำกระป๋องมาวางเป็นประจำเลย

ขอบคุณคุณนิดหน่อยที่ให้กำลังใจนะค่ะ   โมทนาบุญกับธรรมทานของทุกๆท่านค่ะสาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-10 09:58:58


ความคิดเห็นที่ 8439 (1654608)

      สวัสดีค่ะ วันนี้  17  มีนาคม  2556 

ได้มีโอกาสไปร่วมทำบุญที่บ้านสวน

 วันนี้มีลูกบ้านสวนประมาณ  20  คน

แบ่งได้เป็น  2  กลุ่ม  คือ กลุ่มติดกระจก

 และ กลุ่มงานเกษตร 

โดยงานเกษตรวันนี้  ได้เก็บหญ้าใส่กระสอบ

ด้ายหญ้า ขุดแปลงเตรียมปลูกผัก

 แม้เราจะมีคนน้อย  แต่เราก็ทำเต็มที่

ทำแถมให้ อ. พันธ์อีกหนึ่งแปลงด้วย

(ขอบอก  อ. พันธ์ยิ้มหน้าบานเลยค่ะ)

              ส่วนงานติดกระจก วันนี้ก็ทำเรื่อย ๆ  

ไม่รีบ เกรงจะได้รื้อทำใหม่

ค่อย ๆ ไปดีกว่า  พอเสร็จก็ล้างอุปกรณ์เก็บ

แต่เนื่องจากเกียงน่าจะไม่ได้ล้างทุกครั้ง

ที่เสร็จงาน  ทำให้กาวเกาะติดแน่น

ล้างไม่ค่อยออก  เวลาที่เราใช้เกียงทากาว

พื้นจะไม่เรียบค่ะ   โดยอุปกรณ์เหล่านี้เราแช่

น้ำก็ล้างกาวออกได้แล้วค่ะ

       และที่สังเกตุอีกอย่างนะคะ  แผ่นกระจกที่เลอะกาว

ให้เรานำไปแช่น้ำ

แล้วล้างออก  นำมาใช้ใหม่ได้ค่ะ  

และอย่าลืมเก็บกระจกที่เราทำหล่นด้วยนะคะ

จะได้ไม่ติดหนี้สงฆ์กลับบ้านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-17 22:48:29


ความคิดเห็นที่ 8440 (1654611)

ธรรมทานที่ได้ในวันนี้ (17  มี.ค. 56)

    คุณพี่  ดร. จิ๋ม วันนี้มีอาการปวดหลัง 

ปวดฝ่าเท้าทั้งสองข้าง    ท่าน อ. อุบล

ได้ทดลองให้ถือจี้ ทุกรุ่นที่มีอยู่ เราก็ได้ระดมจี้ที่มีทั้งหมด

ให้พี่  ดร. จิ๋ม ถือ โดยเพิ่มจำนวนจี้ขึ้นเรื่อย ๆ 

อาการของพี่จิ๋มก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

สุดท้าย  อาการปวดหลังหาย 100 %

อาการเจ็บฝ่าเท้าหาย  98 %

เดินได้คล่อง รู้สึกขาเบาสบาย 

(แต่หนักขนแทนเพราะจี้เยอะ  154 องค์)

แต่พี่จิ๋มบอกว่า  พอนั่งใกล้ท่าน อ. อุบล

อาการเจ็บฝ่าเท้าที่เหลืออีก  2 %  หายหมด

แต่พอเดินห่างท่านอาจารย์ อาการปวดที่เหลือ  2  % 

ก็ปวดมาอีก  ท่าน อ.อุบล จึงให้พวกเราช่วยกันวิเคราะห์

ว่าเป็นเพราะเหตุใด  ที่อยู่ใกล้อาจารย์แล้วดีขึ้น

          ขอใช้สมองน้อย ๆ คิดบ้างนะคะ สำหรับตัวเอง

คิดว่า  ท่าน อ. อุบล ท่านมีบารมีในตัวท่านเอง

เมื่อใครได้อยู่ใกล้  ก็จะได้รับพลังบุญบารมี

ของท่านอาจารย์  จึงทำให้อาการเจ็บปวดต่าง ๆ ดีขึ้นได้

         และการบ้านที่ท่านอาจารย์ให้เราช่วยกันคิด  คือ

เราจะมีวิธีไหน  ที่จะนำสิ่งที่มีอยู่ในตัวท่าน อ. อุบล

ไปใช้ประโยชน์ได้  โดยให้เหมือนกับมีท่านอาจารย์

อยู่ใกล้เราตลอดเวลา  โดยท่านอาจารย์ยกตัวอย่าง

พี่ ดร. จิ๋ม ที่ต้องถือจี้มากมาย  แล้วเราจะทำอย่างไร

ที่เราจะไม่ต้องแบกจี้ไปไหนมาไหนด้วย

    ใครคิดได้ช่วยคิดด้วยนะคะ แต่ว่าตัวเอง

ยังคิดไม่ออก  กะว่าคืนนี้จะขอไปฝันก่อนนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-17 23:40:34


ความคิดเห็นที่ 8441 (1654612)

อีกท่านหนึ่ง  คือ พี่อมร

      พี่อมรบอกว่า ตอนที่ประสบอุบัติเหตุ 

เขารู้ว่าข้อเท้าขวาของตัวเอง

หลุด  เพราะพี่เขาไม่สามารถยกเท้าได้

และก็เห็นว่ามันห้อยร่องแร่ง

แต่มีมนุษย์ต่างดาว  มาช่วยรักษา 

โดยมาจับที่เท้าพี่เค้าเหมือนมาจัดกระดูก

พอมาถึง  รพ. เท้าพี่เค้าก็เข้ารูปเดิมแล้ว

ไม่ปวดแล้ว  พี่อมรมายืนยันว่า

มนุษย์ต่างดาวมีจริง

      มีเรื่องคุณพิชัย ซึ่งมีข้อคิดให้กับเราหลายอย่าง 

 แต่ว่า ขอเรียบเรียงก่อนนะคะ

เพราะมีหลายภาค  ทั้งอยู่ต่างประเทศ 

(ไปจับแมลงวัน แซวเล่นนะคะ)  ทั้งไปจับแมงจิซอน

จับกะปอม เดี๋ยวจะมาเล่าต่อนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-17 23:55:22


ความคิดเห็นที่ 8442 (1654613)

ช่วยแปลชื่อแมลงด้วยนะคะ

คุณตาล อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 00:12:59


ความคิดเห็นที่ 8443 (1654615)

ได้ค่ะ อาจารย์  แถมรูปให้ด้วยค่ะ

แมงจิซอน  คือ  แมงกระชอน

 

กะปอม      คือ   กิ้งก่า

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 00:23:01


ความคิดเห็นที่ 8444 (1654617)

 อนุโมทนากับพี่ตาลด้วยนะคะ

และขออนุโมทนากับทุกๆท่าน

ที่ได้มีโอกาสไปร่วมบุญบ้านสวนอาทิตย์นี้ด้วยค่ะ

****************************

และการบ้านที่ท่านอาจารย์ให้เราช่วยกันคิด  คือ

เราจะมีวิธีไหน  ที่จะนำสิ่งที่มีอยู่ในตัวท่าน อ. อุบล

ไปใช้ประโยชน์ได้  โดยให้เหมือนกับมีท่านอาจารย์

อยู่ใกล้เราตลอดเวลา  โดยท่านอาจารย์ยกตัวอย่าง

พี่ ดร. จิ๋ม ที่ต้องถือจี้มากมาย  แล้วเราจะทำอย่างไร

ที่เราจะไม่ต้องแบกจี้ไปไหนมาไหนด้วย

งืม เป็นปริศนาที่น่าคิดค่ะพี่ตาล อิอิ

แต่คิดไม่ออกเหมือนกันค่ะ 

เพราะเวลาทุกๆคนอยู่ใกล้ท่านอาจารย์แล้ว

ล้วนแต่มีสุข หายทุกข์กันทั้งนั้น

ซึ่งนั่นก็มาจากบุญบารมีที่ท่านอ.สั่งสมมานาน

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่อยู่กับท่านอาจารย์

งิงิ คิดไม่ออก ขอไปนอนคิดเป็นการบ้านนะคะ อิอิ

***************

ขอบพระคุณทุกๆท่านที่ช่วยอุทิศบุญให้เพื่อนหญิงด้วยนะคะ

ขอบพระคุณจริงๆค่ะ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 00:57:01


ความคิดเห็นที่ 8445 (1654627)

โอ้ววว..ปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นแล้ว

เพราะเดี๋ยวนี้เจ๊ตาลสามารถ

ไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯในวันหยุดได้แล้ว 

 

อนุโมทนากับทุกๆธรรมทาน

จากเจ๊ตาลด้วยนะคะ

แถมยังมาทิ้งท้ายด้วยการบ้านอันแหลมคม

ที่ท่านอาจารย์ฝากให้พวกเรานำไปขบคิดอีก....

 

ถ้าจะตอบแบบง่ายๆ ก็คือ 

พวกเราก็ต้องปฏิบัติตนและยกจิต

ให้ได้ใกล้เคียงกับท่านอาจารย์

จึงจะมีคุณสมบัติได้เท่าเทียมกับท่านอาจารย์

 

ซึ่งอันนี้ก็น่าจะลองพิสูจน์กับศิษย์

ระดับก้นกุฏิหลายๆท่าน

โดยเฉพาะพ่อใหญ่ธนา

เพราะเป็นคนนึงที่พิสูจน์ให้พวกเราได้เห็นแล้วว่า

เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นและทำหน้าที่

เีคียงข้างกับท่านอาจารย์

ทุกกิจกรรมบุญไม่มีพลาด

 

ซึ่งก็ต้องลองให้พ่อใหญ่ธนาบำบัดคนอื่น

โดยที่ไม่ต้องใช้จี้ และไม่ต้องสวมจี้เลย

ถ้าพ่อใหญ่ธนาสามารถรักษาคนอื่นให้หายได้

หรือเวลาคนไปนั่งใกล้ๆแล้ว

อาการเจ็บป่วยดีขึ้นด้วย

 

นั่นก็แสดงว่า

พวกเราก็มีแนวโน้มที่จะสามารถ

ทำตัวเป็นผู้รับสัญญาณจากต้นกำเนิด

ของแหล่งพลังงาน

อย่างที่ท่านอาจารย์ทำได้....... เช่นกัน.....

 

 

อิอิ ตอนนี้คิดได้ประมาณนี้แหล่ะค่ะ

แต่จะนำไปคิดต่อ เพื่อหาความน่าจะเป็นอื่นๆ อีกค่ะ   

 

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพียง

การเสนอ แนะแนวทางการพิสูจน์เท่านั้น

ไ่ม่ได้มีเจตนาที่จะเปรียบเทียบ

บารมีอันสูงส่งของท่านอาจารย์กับผู้ใดทั้งสิ้น..ค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 08:42:40


ความคิดเห็นที่ 8446 (1654640)

สาธุๆๆโมทนาบุญกับคุณตาลและทุกๆท่าน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 10:27:09


ความคิดเห็นที่ 8447 (1654641)

ขออนุญาติ post แทนคุณบุญเรือน ในโอกาสอาลัยคุณเหมี่ยว ให้พีน้องได้อ่านกัน

ธรรมทานจากคุณบุญเรือน กุลพญา  เขียนเมื่อวันที่ 6 มีค 56  
    จากการที่คุณอมรประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันที่ 8 กพ.56 ขอแสดงความเสียใจจาการจากไปของคุณเหมี่ยว

คุณอมรได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกคอเคลื่อน  หัวใจและปอดได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง และเป็นแผลฉกรรจ์ที่ขา  หมอห้ามเคลื่อนย้าย  คุณอมรได้รับความรัก และความเมตตาจากท่านพ่อดตาจินิน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด โดยผ่านท่าน อ.อุบล ทำให้คุณอมร มีอาการดีขึ้นพ้นอันตรายจนทำให้หมองงว่าอาการของคุณอมรดีขึ้นได้อย่างไร สั่งให้กลับได้ โดยลงความเห็นว่า ได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้ลูกบ้านสวนฯ ที่อยู่ในเหตุการณ์พากันงงไปหมดเหมือนกัน   กระดูกรองคอเคลื่อน  เยื่อหุ้มหัวใจอาจมีเลือดออกอันตรายมาก ปอดได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง    มีแผลฉกรรจ์ที่ขา   ทำให้หมอห้ามการเคลื่อนไหวส่วนบนเลย  ท่าน อ.อุบลใชัน้ำทิพย์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่บ้านสวนฉีดบนร่างกายตลอด และมือลูบที่ศรีษะคุณอมรตลอด ท่าน อ.อุบลบอกว่าได้ส่งดัชนีไฉไล ให้คุณอมร เพื่อให้คุณอมรมีกำลังใจดี และช่วยฟื้นฟู ร่างกายด้วย  คุณอมรสัมผัสดัชนีไฉไล ของท่านอ.อุบลได้  และได้มาเล่าว่ามีความรู้สึกเหมือนมีพลังอย่างใด อย่างหนึ่งเข้ามาที่ร่างกาย  ทำให้รู้สึกว่ามีความอบอุ่น ได้ความรัก ความเมตตาจากท่าน อ.อุบล และความรักความห่วงใยจากลูกบ้านสวน ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนเลย  ทำให้คุณอมรมีกำลังใจดีขึ้น และสภาพร่างกายก็ฟื้นฟูดีขึ้นด้วย
    เกี่ยวกับการจากไปของคุณเหมี่ยว คุณอมรบอกว่ามีความเศร้าโศกเสียใจเป็นธรรมดา ที่ของรักจากไป เป็นการพลัดพรากจากของที่รัก พระพุทธองค์ให้นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ เราจากกันด้วยกายแต่ใจเราอยู่ด้วยกัน คุณอมรได้ลูกชายกลับคืนมาจากการที่ลูกชายเกเร ไม่มีความรับผิดชอบ ถ้าเปลี่ยนนิสัยมาเป็นคนมีความรับผิดชอบที่จะดูแล พ่อ แม่ และน้อง ต่อไปแทนแม่ ดีใจกับคุณอมรที่มีจิตใจเข้าถึงแก่นธรรม รู้ว่าคนเราเกิดมาต้องพลัดพรากจากของที่เรารัก  ยอมรับกับความจริงได้และดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่ ให้มั่นคงในศีลธรรมต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้คุณอมร และลูก ๆ อีกคนค่ะ การที่ลูกชายคุณอมร รวมหุ้นกับเพื่อนลงทุนเปิดร้านขายเหล้านี้ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณอมร และคุณเหมี่ยว ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ และเครื่องมือหากิน คือ กล้องถ่ายรูป ก็เสียหายด้วย  คุณอมรบอกว่าอาชีพถ่ายรูปของคุณอมรผิดศีล คือมีการถ่ายนู้ดบ้าง และบางครั้งก็ถูกเนื้อต้องตัวลูกค้าบ้าง  คุณอมรคิดอยู่เหมือนกันว่าจะเลิกอาชีพนี้พอดี กล้องก็มาเสียหายด้วย ท่าน อ.อุบลแนะนำคุณอมร ให้ทำอาชีพถ่ายเอกสาร หรือทำเกี่ยวกับธรรมทานจะดีกว่า
    ท่าน อ.อุบลมีจิตใจใสเหมือนเพชร มีความรัก ความเมตตากับทุกคนแบบไม่มีเงื่อนไของครอบครัว หรือหวังสิ่งตอบแทนเลย ดูจากเหตุการณ์ของครอบครัวคุณอมร ท่านมีความรักความเมตตาต่อทุกคนเหมือนลูกเหมือนญาติ บอกว่าจะดูแลคุณอมรและครอบครัวทุกเรื่อง ไม่ให้คุณอมรมีความกังวลใดๆ เลย ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบลด้วยค่ะ คนเราอย่าดูแต่กาย หรือการแต่งกาย ขอให้ดูที่จิตใจ ดังเช่น ท่าน อาจารย์อุบลมีจิตใจที่ใส ให้ความรักความเมตตากับทุกคน
โดยคุณบุญเรือน กุลพญา

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 11:01:02


ความคิดเห็นที่ 8448 (1654668)

ธรรมทานกิจกรรม weekend 16-17มีค.56
ว่าด้วยเรื่องคุณตะขาบ และคุณพิชัย

วันนี้ไม่มีงานก่อสร้าง ก็มีงานเกษตร ติดกระจก ทำความสะอาดห้องน้ำ ในงานเกษตรเช้า ได้ช่วยถากหญ้า และ ถอนหญ้าในแปลง พอดีเกิดเหตุ คุณพิชัยถูกตะขาบกัด กำลังขุดดินเตรียมแปลง เจ้ากรรมนายเวรเข้าจ้องรออยู่ วิ่งมากัดที่เท้า ตรงที่รองเท้าต้องสัมผัสพอดี อาจารย์พัน รีบเข้าบำบัด มีคนเอาจี้องค์สฟิงส์รีบไปแตะ ก็ไม่หาย ต่างก็วิจารณ์ว่าเพราะเท้าเป็นของต่ำ ไม่บังควรเอาท่านไปแตะ อาจารย์พันจึงเรียกหาคนที่มีแหวนพีรามิด จุ๋มมีก็รีบวิ่งเอามือไปทาบไว้ ต่อจากนั้นเรารวมพลังจี้ตรงนี้นมีเจ้าพ่อ เจ้าแม่จี้สฟิงส์ เช่น จิ๋ม 9 องค์ คุณแก้ว คุณซิม อจ.พันธ์ และคนบริเวณนั้น ;จุ๋มมี 3 องค์ร่วมเกือบร้อยองค์ รวมกันไปแตะแก้วน้ำให้เป็นน้ำทิพย์ เอามาราดมือ ราดเท้าเลย อาการบวมลดลงเห็นกับตา คุณพิชัยก็ปวดลดลง อจ.พันได้ตะโกนถามมาด้วยว่า เคยเหยีบตะขาบตายไหม คุณพิชัยก็ตอบว่าเคย ทุกคนก็เริ่มเข้าใจ เจ้ากรรมนายเวรเขามาเอาคืน แต่ทุกคนก็รู้สึกสงสาร แต่เข้าใจแล้วว่าทำไมโดนกัดอยู่คนเดียวขุดกัน นั่งดึงหญ้ากันทุกวันไม่เคยโดน

ธรรมทานตอนวันเสาร์กลางคืนก็ได้ฟังคุณพิชัยสารภาพเรื่องใช้เท้าในทางไม่ดีมากมาย เตะลูกเมีย (น่าสงสารคุณเพ็ญ และน้องไข่ตุ๋น_กุมารทองของพวกเรา) ทานเหล้าทุกวันไม่เคยขาด ชอบเดินไปที่อโคจรเช่น คาราโอเกะ เหยียบสัตว์เล็กสัตว์น้อย และโดยเฉพาะตะขาบตาย  คืนวันเสาร์ ด้วยบารมีท่านพ่อดตาจินิน โดยรหัสเจ้ากรรมนายเวร 99 และด้วยบารมีเต็มจากพระนางเนเฟอตารีที่ได้มอบมาสู่อจ.อุบลในชาตินี้ สามารถบำบัดให้คุณพิชัยหาย นอนหลับไม่เจ็บปวด

แต่เช้าวันอาทิตย์ คุณพิชัยก็ทำบุญใช้แรงกายกันต่อ ไม่ท้อแม้จะโดนตะขาบ ยังทำเกษตรอย่างตั้งใจ แต่ตอนบ่ายก่อนกลับยังมีอาการบวมที่เท้าเพิ่มอีก อจ.อุบลก็เมตตาให้มาสารภาพว่าทำอะไรไว้อีก ก็ได้สารภาพเรืองฆ่าตะกวด ฆ่าปลาเป็นอาหาร แถมยังถีบวัวที่รีดนมด้วย อาการก็บรรเทา ทั้งนี้เขาคงต้องทำบุญอุทิศให้มากๆขึ้นจนกว่าเขาจะอภัย เอาใจช่วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 17:03:47


ความคิดเห็นที่ 8449 (1654674)

     ขอต่อจากพี่จิ๋มนะคะ เรื่องคุณพิชัย

ขอเริ่มจากชีวิตในต่างประเทศของคุณพิชัย

คุณพิชัยเล่าว่า  ได้ไปทำงานที่ประเทศใต้หวัน

(จำไม่ได้ว่าทำงานอะไร) คุณพิชัยบอกว่า อยู่ต่างประเทศ

ชอบไปเที่ยวเทค / ไปขโมยของเขา / พาเพื่อนไปทำแท้ง/

อู้งาน/ ไม่ทำงานแต่เบิกเงินทำงานล่วงเวลา 

       นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ขา  ไปทำผิดศีล

ทำให้ต้องมาชดใช้กรรม และตามมาด้วย

ถูกจี้สร้อยทอง (ซึ่งซื้อด้วยเงินที่ได้จากใต้หวัน)

บ้านถูกพายุพัดเสียหาย  ท่านอาจารย์

ได้บอกว่า เป็นเพราะทรัพย์ที่ได้มาไม่สุจริต

จึงเป็นเหตุให้ต้องเสียทรัพย์

                         จบภาคต่างประเทศค่ะ

               

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 20:47:19


ความคิดเห็นที่ 8450 (1654679)

     วันนี้  18  มี.ค.  56

         วันนี้ได้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวน

ได้ไปติดกระจกที่โรงทานค่ะ วันนี้ลุงบุญฉาบห้องน้ำ

ที่โรงทานเกือบเสร็จแล้ว ลุงเบิ้มทาสี แต่ไม่รู้ทายังไง

ตัวลุงเบิ้มขาวขึ้นมาเลย  ส่วนอีกมุม หนุ่มบูม กับหนุ่มหยก

ตอนแรกเห็นทำงานด้วยกัน  สักพักตัวใครตัวมัน  คนละมุม

พ่อ - ลูก อีกคู่ (พ่อใหญ่กับน้องตุลย์)

ไม่รู้ทำอะไรกันเงียบเลย

เห็นหน้าเฉพาะตอนทานข้าว

       ตอนเย็นก่อนกลับ น้องอัญมาติดกระจกต่อ

บอกขอติดสัก  100  แผ่น  สงสัยน้องอัญจะอายุ

หลายพันปีแล้วแน่ ๆ เลย

     คุณชนิดา, น้องหญิง , คุณนวล

เมื่อไรจะกลับมาติดกระจกกันคะ

รออยู่นะคะ  ช้าอดนะจะบอกให้

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 21:06:49


ความคิดเห็นที่ 8451 (1654682)

      อาจารย์อุบลขา  วันนี้คุยกับหยก

เรื่องจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถนำพลังบุญ

จากตัวท่านอาจารย์  ไปอยู่กับเราได้ตลอด

ไม่ต้องหอบจี้เยอะ ๆ เหมือนที่บำบัดป้าจิ๋ม

หยกบอกว่า  ก็ใช้เส้นผม  ขนรักแร้ ท่านอาจารย์

มาทำวัตถุมงคลซิครับ ท่านอาจารย์

ก็จะได้อยู่กับเราตลอด  โอ้ว....ลูกเราช่างคิดไปได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 21:17:08


ความคิดเห็นที่ 8452 (1654690)

ขออนุโมทนาบุญกับคุณตาล พี่จุ๋ม ที่มาเหลากิจกรรมบุญที่บ้านสวนฯวันที่ 17-18 มีนาคม 2556

อ้อยก็ได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมบุญด้วยค่ะ วันเสาร์ คนน้อยจึงแบ่งเป็น 3กลุ่ม มี 3 ฐาน คือเกษตร, ทำความสะอาด และติดกระจก

มีกรณีที่น่าสนใจคือ ก็คือคุณพิชัย มาจากอุดรธานี ถูกตะขาบกัดที่เท้าซ้าย บวม มีอาการปวด ตึง เดินกะเผลกๆ เป็นคนแรกที่มาทำบุญบ้านสวนฯแล้วโดนสัตว์มีพิษกัดได้  แสดงว่าต้องมีกรรมเกี่ยวพันกันมาแน่ๆเลย(อันนี้คาดการณ์ไว้ในใจ) อย่างที่พี่จุ๋มเล่ามา มีการรวมพลังจี้ของหลายๆคนทำน้ำทิพย์ ราดแผล ปรากฎว่าอาการดีขึ้น แต่บังเอิญแกดันไปเอาจี้สฟริงซ์มาแตะแผลที่เท้า อาการปวดบวมเลยกลับคืนมา  ดู๊แกทำซิ จี้องค์เทพสฟริงซ์เป็นของสูงดันเอาไปแตะแผลที่เท้า  แกก็นึกได้ขอขมา แต่อาการปวดบวมยังมีอยู่ อ้อยก็คิดว่าทุกคนได้ใช้ทุกวิธีในการช่วยแกแล้วรวมทั้งสารภาพบาปกรรมก็ยังไม่ดีขึ้น ก็คิดว่าคงมีอะไรสักอย่าง หรือบางทีเจ้ากรรมนายเวรแกคงอยากให้แกให้ท่านอ.อุบลพิพากษากรรมต่อหน้าสาธารณะแน่ๆ 

 

ปรากฎว่าแกก็ออกมาสารภาพบาปกรรมที่ทำ มีทั้ง เคยฆ่าตะขาบ ใช้ขาไปทำสิ่งที่ไม่ดี ทั้งเตะเมีย เตะลูก เพราะแกกินเหล้าทุกวันตอนเย็น พอเมาแล้วก็พาลลูกเมีย บ่น ด่า เตะสัตว์ แกบอกว่าแกเป็นคนขี้โมโห  ถ้าดูจากหน้าแกแล้ว อ้อยก็รู้สึกว่าพอจะมองเห็นรังสีอำมหิตออกมาจากตัวแกหลงเหลืออยู่บ้าง  ฆ่าสัตว์มากมาย แถมไปทำงานที่ไต้หวัน ก็ชอบไปเที่ยวเธคที่อโคจร โกงเวลางาน

หลังจากนั้นอาการดีขึ้นเรื่อยๆ มีการใช้ รหัสเจ้ากรรมนายเวร 99, ขอใช้บารมีพระนางเนเฟอร์ตารี สุดท้ายอาการปวดและตึงหาย 100%  เหลือแต่อาการบวมเท่านั้น

ซึ่งตอนนี้คุณพิชัยได้เปลี่ยนไปแล้ว หลังจากที่น้องสาวแนะนำให้รู้จักบ้านสวนฯ และได้มาพบท่าน อ.อุบล แกก็สามารถหยุดกรรมชั่วทันที เลิกทานเหล้า  รักษาศีล 5 ทานมังสวิรัติ รวมทั้งพาภรรยาและลูกมาทำบุญด้วยกันที่บ้านสวนฯด้วย  เห็นแล้วก็ชื่นใจจัง จากคนขี้โกรธ ขี้โมโห  กินเหล้าแล้ว ด่า บ่น เตะลูกเมีย ฆ่าสัตว์ต่างๆ สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ทันที กลับมามีครอบครัวอบอุ่น กิจการงานดี เป็นครอบครัวบุญ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 21:50:13


ความคิดเห็นที่ 8453 (1654692)

เสาร์ - อาทิตย์ 16 - 17 มีค

มาดูกิจกรรมวันนี้กัน  เหลือแค่ ติดกระจก เกษตร และทำความสะอาดทั่ว ๆ ไป จิ๋มมาถึงก็ผิดหวังเล็กน้อย เพราะนึกว่าจะได้ผสมปูน ช่วยเทปูน ตักหินซะหน่อย วันนี้ก็เลยอด  เต๊นท์ที่ซื้อมาจะไปวางกันแดด ก็เลยต้องเปลี่ยนแผน อ.พันธ์ได้เมตตา หาที่วางเต็นท์ได้เหมาะเจาะ คือ ใต้ต้นมะม่วง ถึงแม้ตรงนี้จะมีร่มจากต้นมะม่วง แต่ก็หลบฝนไม่ได้  พอมีเต็นท์มากาง สักพักช่วงบ่าย ๆ     ฝนก็ตกมาฉลองศรัทธาทันที ทำให้คนกลุ่มที่ไปแปลงเกษตร ตอนเย็นได้ใช้กันฝนได้เลย

กรรมจากการใช้เท้าเหยียบสัตว์ ทำร้ายสัตว์  หรือเตะลูก เตะเมีย


ตอนสาย ๆใกล้เที่ยง ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาด คือ พวกคนอยู่เกษตรฯ ต่างก็เข้ามาเพื่อจะ clear พื้นที่บริเวณนั้นเพื่อกางเต๊นท์ คุณพิชัย น้องชิม ก็เข้ามาช่วยพร้อมผู้หญิงแถว  ๆนั้น จิ๋มอยู่ด้านแปลงผัก สักพัก ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนว่า ตะขาบกัด  ต่างเรียกกัน และหาวิธีจะช่วยผู้ป่วย คือ คุณพิชัยจากอุดร จิ๋มก็วางมือ และเดินเข้าไป ได้ยินว่า เขาใช้จี้ แตะที่เท้า ซึ่งผิดแน่ ๆ ท่านเป็นของสูง คงเป็นเพราะอารามตกใจ พอเข้าไปจิ๋มก็รีบ บอกว่าเอาน้ำดื่ม มา 1 แก้ว และทำน้ำทิพย์กันเถอะ ตอนนั้นมี จิ๋ม คุณแก้ว คุณชิม อยู่ ซึ่งแต่ละคนมีจี้คนละ 10 กว่า ๆ รวมกันก็น่าจะได้ 30 นำทั้งหมดมารวมกัน แล้วแตะน้ำ และรีบนำน้ำนั้นทาไปที่ขาคุณพิชัย เห็นได้ชัดว่าเท้าที่บวมยุบลง เลย และเขาก็บอกว่าดีขึ้น   คงจะดีขึ้นบ้างนะ เพราะเห็นเขาก็ไปทำงานต่อได้อีก ใจเด็ดจริง ๆ เป็นเรา คงเป็นลมอยู่แถวนั้นแล้ว

 พอตกกลางคืนเสาร์ ทีมีการถ่ายทอดสด ไปที่ทางบ้าน และมีการทำน้ำทิพย์นั้น คุณพิชัยก็ได้ขึ้นมา และสารภาพเกี่ยวกับบาปกรรมที่เขาทำด้วยเท้า เช่น เดินไปที่อโคจร และไปทำชั่ว เช่น ไปกินเหล้า เคยเตะเมีย เตะลูก ฆ่าสัตว์ เหยียบสัตว์ให้ตาย เช่น เหยียบปลา เหยียบสัตว์เล็กสัตว์น้อย ตีตะขาบ เป็นต้น วันอาทิตย์ก็มาสารภาพกรรมเพิ่ม เช่น เขาเคยรีดนมวัว ทำวัวให้เจ็บ และขณะรีดนมก็ตีขาวัวไปด้วย เพราะวัวเขาเจ็บ 
(ซึ่งก็ย้อนมานึกถึงตัวจิ๋มเอง เช่นกัน เคยตีตะขาบ และตะขาบเขามีหลายขา กรรมนั้นจึงทับทวีคูณ)
 คุณพิชัยเล่าว่า ตอนบ่ายวันเสาร์ อ.อุบลได้เมตตามาบำบัดให้ พออาจารย์บำบัดก็ดี พอออกมาก็เป็นอีก และตอนคืนวันเสาร์ คุณพิชัยมาสารภาพบาป อาการปวดก็หายไป เหลือแต่บวม ๆ เท่านั้น

ยังไงก็ขอแสดงความยินดี และอนุโมทนาบุญกับ คุณพิชัย ที่ได้มาเล่าถึงกรรมของตนเอง และการเปลี่ยนแปลงตนเองได้อย่างฉับพลันเมื่อมาพบ อ.อุบลแห่งบ้านสวนพีระมิดนะคะ และยินดีกับคุณเพ็ญ และน้องไข่ตุ๋น (กุมารทองของป้าจิ๋ม) ที่จะได้พ่อแสนดีคนใหม่ มาแทนพ่อคนเดิมแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 22:11:04


ความคิดเห็นที่ 8454 (1654693)

ธรรมทานบ่ายวันที่ 17 มีค.56
ดร.จิ๋ม กับบารมีจี้ศักดิ์สิทธิ์ของบ้านสวนพีรามิด

ทุกครั้งก่อนจบท่านจะถามว่าใครมีอาารเจ็บปวดอะไรบ้าง  จิ๋มเขาจะปวดหลัง เจ็บเท้าทุกครั้งที่เสร็จงาน วันนี้ท่านอจ.อุบลเมตตา  ขอพิสูจน์อานุภาพองค์จี้สฟิงส์ทุกรุ่นรวมกัน ลองให้จิ๋มถือดู ว่าบารมีจะช่วยรักษาความเจ็บปวดได้ไหม  ทุกท่านเมตตามากๆบางคนมี 1องค์บ้างก็ยังถอดมาร่วมด้วย  จุ๋มก็ไปเอามาจากรถ คุณธนาเองก็ออกมาจากรถอีก 9 องค์ รวมทั้งสิ้น 150 กว่าองค์  อาการเจ็บที่เท้าจึงหายไป ทั้งนี้อาการปวดหลังหายเมื่อใส่ที่ประมาณ 130 องค์  แต่ที่เท้าต้องใช้ถึง 150 กว่าองค์  และพบว่าจิ๋มเขาต้องนั่งอยู่ใกล้ท่านอาจารย์เท่านั้นจึงหาย 100% ออกไปจากกระแสบุญของท่านไม่ได้

ต้องขอขอบพระคุณลูกบ้านสวนทุกท่านที่สละจี้ให้จิ๋มถือ อจ.บอกว่าผลบุญนี้จะทำให้จี้ของท่านมีพลังมากขึ้น

ตอนจิ๋มเขาถือสร้อยดูคล้ายกับถือโซ่ตรวนของนักโทษ ท่านให้ช่วยกันไปคิดว่า ทำอย่างไรจึงรวบรวมให้จี้อยู่ใน วัตถุขนาดเล็กลงได้ ทั้งนี้ จุ๋มคิดว่าอยู่ที่ความเมตตาของท่านพ่อดตาจินิน พระองค์เดียวว่าท่านจะเสกอะไรมาให้เล็กๆลง

กราบในความเมตตาของท่านอ.อุบล และเทวดาของท่านทุกๆพระองค์

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 22:25:31


ความคิดเห็นที่ 8455 (1654694)

ค่ำคืนวันเสาร์ที่ 16 มีค กับการออกทีวี ถ่ายทอดสด

เสาร์นี้ จิ๋มไม่ได้อยู่บ้านสวน ตอนวันเสาร์กลางคืน เพราะต้องรีบไปเฝ้าบ้าน เพราะอาทิตย์นี้ไม่ได้ พาคนใช้มาที่นครนายก ไม่มีใครเผ้าบ้านกลางคืน และต้องทำงานบ้านเอง 

แต่ได้ดูทีวี ถ่ายทอดสด และทำน้ำทิพย์ด้วย  ในวันนี้สังเกต ว่าจะมีคำถามจากคุณธนา เพื่อพิสูจน์ว่า  อาจารย์อุบล เป็นพระนาง เนอฟาติเรีย แห่งอียิปต์โบราณ ซึ่งท่านเป็นราชินีองค์หนึ่งที่สวยมาก และท่านมีบารมี ได้ช่วยเหลือผู้คนที่ท่านปกครองอยู่ ได้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ และชีวิตมีความสุขขึ้น  ซึ่งแนวทางที่ท่านทำ ก็คล้ายกันกับที่ท่านอาจารย์อุบลได้ทำอยู่ในปัจจุบัน ทางพิธีการสุดหล่อ คุณธนา ของเราก็เลยใช้คำถามว่า ถ้าพระนางเนอฟาติรี ได้กลับชาติมาเกิดเป็นอาจารย์อุบล และได้ถ่ายทอดบารมี และอำนาจมาให้ อ.อุบลในชาตินี้ เพื่อช่วยคน จริงแล้วละก็ ขอให้อาการที่เจ็บป่วยต่าง ๆ ของลูกบ้านสวนที่ออกไปแสดงธรรมทานได้หายจริง ก็พบว่าได้หาย หรือ ดีขึ้นกันหลายๆ ท่าน เช่น หมอแป้น คุณอมร คุณพิชัย เป็นต้น

สาธุ ขออนุโมทนาบุญในบุญบารมีของพระนางที่ถ่ายทอดมายัง อ.อุบล นับว่าท่านมีเมตตาเหลือประมาณ ยากที่จะตอบแทนได้ในชาตินี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 22:25:49


ความคิดเห็นที่ 8456 (1654695)

ส่วนเรื่องพี่จิ๋ม ที่เป็นโปลิโอ เดินขาไม่เท่ากันมาตั้งแต่เด็กๆ  ได้ออกมาเนื่องจากยังมีอาการปวดฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้าง ปวดหลังอยู่  ซึ่งจากที่พี่ตาลได้เล่าไว้แล้วว่า  หลังจากที่พวกเราได้รวมจี้ทุกๆรุ่นที่มี ได้ 154 องค์ ให้พี่จิ๋มทั้งสวมคอและถือไว้ แล้วให้ดูว่าอาการเป็นยังไงบ้าง โดยได้ค่อยๆเพิ่มจำนวนจี้ขึ้นมาเรื่อยๆนะคะ อาการพีขึ้นเรื่อยๆ จน ได้ 154 องค์ อาการปวดหลังหาย 100% อาการปวดฝ่าเท้าดีขึ้น 98% แต่พอมานั่งใกล้ๆอาจารย์ๆอาการปวดฝ่าเท้าจะหายไป  ซึ่งท่านอาจารย์ได้ถามความเห็นหลายๆคนว่า  เราน่าจะช่วยกันวิเคราะห์ดูว่าเป็นเพราะสาเหตุใด   อ้อยก็ได้ตอบว่า คิดว่าเป็นผลจากพลังบุญที่ท่านอาจารย์ได้ทำมาซึ่งเป็นพลังบวก พลังสีขาว อยู่รอบๆตัวท่านอาจารย์  พอใครที่มีความทุกข์อาการเจ็บปวด พลังบวก สีขาวนี้ก็จะแผ่กระจายมาขับไล่พลังมืด ซึ่งก็คือความเจ็บปวดของทุกคนออกไป  จึงทำให้ใครที่ยังมีอาการอะไรหลงเหลืออยู่ จะหายทันที หรืออาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทันที

 

และอีกเรื่องคือ จำนวนจี้องค์เทพสฟริงซ์ ที่ยิ่งมากยิ่งช่วยเรื่องรักษาโรคที่ร้ายแรง หรือ พวกที่เจ้ากรรมนายเวรหนักๆ จำนวนมากๆได้  โดยดูจากอาการพี่จิ๋มที่ยิ่งเพิ่มจำนวนจี้ อาการยิ่งดีขึ้น ซึ่งพี่จิ๋มนั้นได้ทำกรรมที่ร้ายแรงมากในอดีตชาติ คือ ขับรถชนคนตายแล้วหนี  เอาปืนไรเฟิลยิงขาคนกระจุย เอามีดฟันขาคนอท่น เคยข่มขืนผู้หญิง ซึ่งเป็นกรรมหนักๆทั้งนั้น   ท่านอาจารย์จึงให้ช่วยกันคิดเป็นการบ้าน ตามที่พี่ตาลได้บอกไว้ คือว่า

"การบ้านที่ท่านอาจารย์ให้เราช่วยกันคิด  คือ

เราจะมีวิธีไหน  ที่จะนำสิ่งที่มีอยู่ในตัวท่าน อ. อุบล

ไปใช้ประโยชน์ได้  โดยให้เหมือนกับมีท่านอาจารย์

อยู่ใกล้เราตลอดเวลา  โดยท่านอาจารย์ยกตัวอย่าง

พี่ ดร. จิ๋ม ที่ต้องถือจี้มากมาย  แล้วเราจะทำอย่างไร

ที่เราจะไม่ต้องแบกจี้ไปไหนมาไหนด้วย"

อ้อยคิดว่าท่านอาจารย์เป็นเครื่องส่งพลังที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ถ้าสมมติว่าทุกๆพระองค์เมตตา ทำจี้ หรืออุปกรณ์ ที่สามารถรับพลังบารมีของท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ใช้สำหรับกรณีคนที่ทำกรรมหนักๆมามาก เจ้ากรรมนายเวรจำนวนมาก   โดยค่าบูชาต้องสูงกว่ารุ่นอื่นๆมากๆ เพราะในเมื่อกรรมคุณหนักมาก แต่ของสิ่งนี้ช่วยคุณให้หายเจ็บปวดให้หายทุกข์ได้  ก็สุดยอดแล้ว 

แต่ก็มีคำถามต่อมาว่า เอ๊ะ อย่างนี้ก็เข้าทางคนมีเงินซิ  ไม่ต้องทำอะไรมีเงินอย่างเดียวก็สามารถซื้อความทุกข์ให้ออกจากตัวได้ซิ  

ติ๊กตอกๆๆ อ้อยคิดว่าเรื่องนี้มีคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว คือ วัตถุมงคลทุกอย่างของบ้านสวนพีระมิด  ต้องใช้ร่วมกับ ศรัทธาและความดี เท่านั้นจึงจะได้ผล เพราะ 2 อย่างนี้ต้องมี หรือสร้างด้วยตัวเอง ไม่สามารถซื้อหาได้อยู่แล้ว  ขนาดอานุภาพจี้องค์เทพสฟริงซ์ และ วัตถุมงคลทุกอย่างของบ้านสวนฯ  ที่แต่ละคนบูชาไป ยังแตกต่างกัน เป็นไปตามศรัทธา และความดีของคนบูชาด้วย

กราบขอขมาท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่อ้อยมีความเห็นดังข้างต้น ควร มิควรแล้วแล้วแต่จะทรงโปรดพิจารณาด้วยเถิดเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 22:26:45


ความคิดเห็นที่ 8457 (1654697)

ขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่ได้ไปสร้างบุญแรงกายกันในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยนะครับ

โดยขอเล่าบรรยากาศตั้งแต่เมื่อเย็นวันศุกร์เลยนะครับ โดยอาทิตย์นี้ผมมาทันการถ่ายทอดสดด้วยแหล่ะครับ ซึ่งเวลาในการถ่ายทอดสดก็จะประมานสองทุ่มเป็นต้นไปครับ วันนี้มาพบปะพี่น้องชาวบ้านสวนอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน (5วันแหน่ะ ) ก็รู้สึกดีใจ และก็ดี้ด้าเป็นพิเศษครับ 555 ในขณะที่มีการถ่ายทอดสดอยู่นั้นผมก็ได้นั่งใกล้ๆกับพี่อมร ซึ่งรู้กันดีว่าพี่เขาเพิ่งจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มา แต่ว่าอาการกลับดีขึ้นแบบสุดๆ นี่นับเวลาผ่านไปก็น่าจะประมานเดือนนึงได้แล้วล่ะมั้งครับ โดยเบสก็มานั่งฟังไปเรื่อยๆยังไม่ได้สนใจอะไร แต่เห็นพี่อมรทำท่าดีใจ เหมือนได้อะไรสักอย่างเลยหันไปมอง ทีแรกเราก็เห็นว่าพี่อมรเขานั่งขัดตะหมาตปกติ ไม่รู้ว่าแกดีใจอะไร แต่มารู้ทีหลังจากพี่าเขาว่า ตั้งแต่อุบัติเหตุคราวนั้นพี่เขากดนั่งขัดตะหมาดไม่ได้ ซึ่งคงเป็นเพราะแผลบริเวณรอยพับตรงเข่าด้านขวา ซึ่งทำให้เวลานั่งขัดตะหมาดจะทำให้บริเวณนี้ตึง และเจ็บไม่สามารถนั่งขัดตะหมาดได้ แต่พี่อมรบอกว่าเพิ่งมานั่งได้ที่นี่เอง เพราะก่อนที่เขาจะมาจากบ้านเขาก็นั่งขัดตะมาตไม่ได้เพราะมันตึง แต่พอขึ้นมาบนวิหารก็สามารถนั่งได้ และก็ยิ่งนั่งได้มากกว่าเดิมด้วยครับ พวกเราก็พลอยดีใจไปกับพี่เขาด้วยครับ เพราะเราเห็นคนอื่นมีความสุขเราก็พลอยสุขไปด้วย 555  ทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง คือ ที่บนวิหารน่าจะมีสิ่งสักศิทธิ์สถิตอยู่มากมาย เพราะแค่เดินขึ้นมา อาการก็เปลี่ยนแปลงแล้ว แล้วนี่ก็ไม่ใช่แค่รายแรกนะครับ ผมได้ยินจากหลายๆคนพูดเหมือนกันครับ ว่าบางคนแค่เดินขึ้นมาอาการก็ดีขึ้น หรือบางคนก็ถึงกับหายเลยก็มี และในเรื่องของพี่อมรนั้นอาจจะเป็นการที่ได้รับฟังธรรมะจากท่านอาจารย์ด้วย ทำให้อาการดีขึ้น ซึ่งตรงนี้ผมก็อดสงกะสัยไม่ได้ การที่ฟังธรรมะแล้วหายนี้ จะเป็นการที่เจ้ากรรมนายเวรที่เขาเกาะเกี่ยวอยู่กับเราเขาได้รับธรรมะแล้วอนุโมทนาแล้วเลื่อนภพภูมิขึ้นไปหรือป่าว หรือว่าในน้ำเสียงของท่านอาจารย์อุบลนั้น มีอะไรซ่ิอนอยู่กันแน่ อันนี้ต้องติดตามต่อไปครับ 555  และในวันนี้พวกเราก้ได้ร่วมพิสูจน์โดยการเสี่ยงทายกันด้วยครับ โดยการพิสูจน์นี้มีหัวข้อว่า ถ้าหากอาจารย์อุบลเป็นพระนางเนเฟอตารีกลับชาติมาเกิดจริงก็ขอให้อาการที่เป็นอยู่หายโดยฉับพลันทันที ซึ่งจากนั้นพวกเราก็ได้ร่วมพิสูจน์กัน เช่น เบสมีอาการขัดจมูก ตอนแรกคิดว่า คงเพราะโดนแอร์แน่ๆเลยเพราะตรงที่เบสนั่งแอร์ลงพอดี แต่พออธิฐานเสี่ยงทาย ว่าถ้าหากอาจารย์อุบลเป็นพระนางเนเฟอตารีกลับชาิติมาเกิดจริง ก็ขอให้หายขัดจมูก ปรากฎว่าจมูกมีอาการโล่งขึ้นทันที และยังมีอีกหลายคนที่ได้ร่วมอธิฐานเสี่ยงทายในหัวข้อนี้ และผลปรากฎว่าการเสี่ยงทายนั้นถูกต้อง100ครับ ทุกคนที่เสี่ยงทายอาการดีขึ้นหรือหายกันทุกคนไม่มีใครเลยที่ไม่มีอาการดีขึ้น ซึ่งนี้เอง เป็นหลักฐานยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ตีลังกายันเลยว่า อาจารย์อุบลคือพระนางเนเฟตารีกลับชาติมาเกิดจริงๆ ซึ่งผลก็เกิดจากการที่พวกเราได้พิสูจน์กันอย่างเป็นวิทยาศาตร์ คือตั้งสมมุติฐาน ทดลอง แล้วก็สรุปผล แต่บ้านสวนทำมากกว่านั้นคือการทำซ้ำๆหลายๆครั้ง เพื่อหาว่าจะมีใครสักคนไหมที่ไม่หายหรือไม่ดีขึ้นเลย ผลปรากฏว่าไม่มีครับ 5555 ซึ่งนั้นเป็นข้อมูลที่ทำให้รู้ว่า การพิสูจน์นี้ถูกต้อง 100%ครับ แหมๆนี่ขนาดวันศุกร์แค่วันเดียวนะครับเนี่ย ยังมีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นได้ขนาดนี้ ขอบอกเลยว่า วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผมจะเล่าในตอนต่อไปนั้น น่าตื่นเต้นกว่านี้อีกครับ อิอิ อย่าลืมติดตามนะครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 22:51:14


ความคิดเห็นที่ 8458 (1654699)

บ่ายวันอาทิตย์ที่ 17 มีค. ก่อนกลับบ้าน

บ่ายวันนี้จิ๋มก็ได้มีโอกาสไปหน้าเวที และทำการบำบัดจากท่านอาจารย์โดยการถือสร้อย ตอนแรกจะใช้แขวนคอไป แต่อาการที่เจ็บฝ่าเท้า หายยาก จิ๋มได้รับความเมตตาจากลูกบ้านสวนสละจี้ให้ยืมใส่ รวมกันได้ถึง 154 องค์ มีหลายรุ่น ปน ๆ กัน พอถือได้สักประมาณ 70 องค์ พบว่า ทีแรกเราสังเกตอาการที่ฝ่าเท้าว่าค่อย ๆ ดีขึ้น แต่อาการที่หายก่อนคือ การปวดหลัง  พอได้สัก 154 ก็เริ่มเบาลงเรื่อย เหลือแต่ปวดตรงนิ้วหัวแม่เท้าเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นเพราะจิ๋มมีชิวิตที่ต้องเดินเขย่งเท้าตลอด เท้าก็เลยด้าน เวลากดฝ่าเท้าลงพื้นก็จะเจ็บ แต่ได้ทำการพิสูจน์บารมี องค์จี้รุ่นต่างๆ ที่ได้นำมาถือไว้ พบว่ามีพลังทำให้อาการเจ็บที่เป็นอยู่ดีขึ้นเป็นลำดับ และยิ่งได้มานั่งข้าง ๆ ท่านอาจารย์อุบลเพียงไร ก็เบาลงมาก ๆ ท่านบังฝากให้วิเคราะห์ด้วยว่าเพราะอะไร   ลูกบ้านสวนหลาย  ท่าน ก็คงเคยประสบเหตุการณ์แบบจิ๋มว่า อยู่ใกล้ท่านอาจารย์แล้วหาย


ในตอนนั้นท่านอาจารย์ให้จิ๋มนึกกรรมไปด้วยก็เลยรายงานท่านว่า เราชอบกระทืบเท้าใส่พ่อ แม่ คิดไม่ดีกับเขา หาว่าเขาไม่รักเรา ชาตินี้เคย ขับรถชนหมาตาย  ตีหมา แมว ฆ่าตะขาบ เป็นต้น สังคนให้เอาไฟ มาเผารังต่อหัวเสือ ฆ่ามด แมลง หนอนในบ้านสวนเป็นต้น  พยายามอุทิศบุญให้เขาเรื่อย ๆ ชาติที่แล้วยิงขาตน ฟันชาคนชาย และพร่าชีวิต และข่มขืนผู้หญิงต่างๆ  

ท่านเจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้นที่เราได้ทำร้ายเขามีความโกรธแค้นตัวเรานับภพนับชาติไม่ถ้วน ชาตินี้ก็เช่นกันเขาก็มาทวงหนี้ ปัจจุบันจิ๋มได้ใช้หนี้ไปบางส่วนด้วยการมาทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด และหมั่นอุทิศบุญให้เขาไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน เขาก็ได้อภัยให้เราบ้างบางส่วน ด้วยการทำให้เดินได้ตรงขึ้น จากที่เคยไหล่เอียง อาการปวดหลังปวดฝ่าเท้าก็บรรเทาลง อาการดังกล่าว ได้ปรากฏแก่ กาย ใจ ของตัวจิ๋มเอง จึงนับว่าเป็นการพิสูจน์กฎแห่งกรรมได้อย่างชัดเจน ตามหลักวิทยาศาสตร์ เพราะผลเป็นไปตามสมมุติฐานที่เคยตั้งไว้ว่า เจ้ากรรมนายเวรมีจริง กฎแห่งกรรมมีจริง และยุติธรรมเสมอ

ลูกขอกราบขอบคุณท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน อ.อุบล และเทวดาที่รักษาท่าน อ.อุบลทุกพระองค์ อ.มงคล และคุณท๊อป ที่ได้เมตตาให้จิ๋๋มได้มีวันนี้ และได้เป็นลูกบ้านสวน สุขภาพดีชึ้นเดินขาตรงขึ้น และให้จิ่มได้มีโอกาสมา ข่วยงานบ้านสวนได้จนทุกวันนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 22:55:36


ความคิดเห็นที่ 8459 (1654700)

  

                                                    มานั่งรอแล้วนะคะ  น้องเบส

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 22:59:00


ความคิดเห็นที่ 8460 (1654703)

และการบ้านที่ท่านอาจารย์ให้เราช่วยกันคิด คือ

เราจะมีวิธีไหน ที่จะนำสิ่งที่มีอยู่ในตัวท่าน อ. อุบล

ไปใช้ประโยชน์ได้ โดยให้เหมือนกับมีท่านอาจารย์

อยู่ใกล้เราตลอดเวลา โดยท่านอาจารย์ยกตัวอย่าง

พี่ ดร. จิ๋ม ที่ต้องถือจี้มากมาย แล้วเราจะทำอย่างไร

ที่เราจะไม่ต้องแบกจี้ไปไหนมาไหนด้วย

***************

ขอเสนอให้ทุกท่านใช้จิตคิดถึงหน้าท่านอาจารย์อุบลด้วยใจศรัทธานึกถึงความรักความเมตตาที่ท่านมีต่อทุกคนค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน ท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่เมตตาให้ลูกนึกถึงกรรมของตนเองกับเพื่อนคนหนึ่งเรื่องการกู้ยืมเงินค่ะ และลูกได้บอกสถานที่ให้กับเพื่อนอีกคนซึ่งเป็นผู้ให้กู้ทราบ และหลังจากนั้นลูกก็ไม่สามารถติดต่อเพื่อนที่กู้เงินอีกเลยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-18 23:56:23


ความคิดเห็นที่ 8461 (1654704)

เมื่อวันที่16-17 มีนาคมใด้มีโอกาศไปร่วมบุญที่บ้านสวนพีระมิดค่ะ

 ขอเล่าตั้งแต่ออกเดินทางเลยนะค่ะ ใด้ติดรถมากับคุณ สายรุ้ง คุณอุ ซึ่งเดินทางมาจากกหัวหิน  ไม่ชินกับเส้นทางเท่าไร แต่ไช้ระหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วยตลอดเส้นทางค่ะ  ขับรถขึ้นทางด่วนยาวมากนึกว่าหลงทางเสียอีกค่ะ ปรากฎว่าลงคลองห้า นครนายกอย่างปลอดภัยค่ะ

ถึงบ้านสวนประมาณ 11น. รีบทำก๋วยเตี่ยวสูตรคุณอุ ที่แสนอร่อย เพิ่งรู้สูตรเด็ดจากคุณอุ ว่าทำไมน้ำซุบจึงอร่อยจัง

เคล็ดลับเพิ่มความอร่อย มีข้าวโพด หัวไชเท้า ฝัก อ้อยเพิ่มความหวาน ใบเตย  ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ  เพียงเท่านี้น้ำซุบก็อร่อยมากค่ะ

 ผักที่ใส่ในก๋วยเตียว คือถั่วงอกสูตรคุณสายรุ้ง เพาะถัวงอกเอง ใส่ขวดพลาสติก เพียงสองคืนใด้ถังงอกแสนอร่อย กรอบค่ะ  ขอร่วมอนุโมทนานะค่ะ

ช่วงบ่ายใด้ร่วมบุญแรงกาย กิจกรรมเวิร์คช้อป  ติดกระจก ทำเกษตรช่วงบ่ายอากาศร้อนมาก พอตกเย็นฝนตกค่ะกำลังถางหญ้าที่แปลงผักใด้บรรยากาศที่เย็นสบายต่างจากช่วงบ่ายมากๆ  รู้สึกเหมือนเราเป็นเกษตรกรอย่างแท้จริง ใช้ชีวิตอย่างพอพียง ปลูกพืชผักทานเอง  (ลืมชีวิตที่แสนวุ่นวายในเมืองกรุง)

ช่วงกลางคืนก็มารับธรรมะจากท่านอาจารย์ ทำน้ำทิพย์ ว่าท่านใดมีอาการเจ็บป่วยบ้าง ขอเล่าเรื่องของตัวเองนะค่ะ

มีอาการปวดฟันซีกบนด้านซ้ายเพิ่งปวดตอนนั้นนะค่ะ เหมือนเจ้ากรรมนายเวรต้องการบุญ ด้วยระหัสเจ้ากรรมนายเวร99

พอหยดน้ำลงฝามือเพียงเล็กน้อย ก็เกิดอาการร้อนที่ฝามือฉับพลันทันที  ก็คิดใด้ทันทีค่ะ ว่าเมือตอนกลางคืนวันศุกร์เราบำบัดโรคร้อนที่ฝามือทางเฟสบุคด้วยระหัสเจ้ากรรมนายเวร 99 แล้วหาย90% จากนั้นก็ดีขึ้นเป็น100% แต่ยังใม่ใด้โอนเงินร่วมบุญ 

ท่านพ่อดตาจินินเมตตาเตือนให้ทราบว่า บำบัดหายแล้วต้องทำอย่างไร ต้องอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรเพราะเขารอบุญเราอยู่นะ

เลยใด้ออกไปสารภาพให้ทุกๆๆท่านรับค่ะ  (ขอเพิ่มว่าเราต้องมีสัจจะกับตัวเอง ต้องรู้จักบุญคุณ รู้กตัญญู ต้องบอกเพื่อเป็นธรรมทาน ท่านอื่นๆๆจะใด้ไม่ทำแบบเราค่ะ ) หลังจากนั้นอาการร้อนฝามือก็หาย อาการปวดฟันก็หาย100%ค่ะ

หากเราหายจากโรคต่างๆๆภายใน24ชม แล้วไม่ใด้ร่วมบุญโรคจะกลับมาทวีคูณนะค่ะ ทีนี้ถ้าอยากหายต้องเอา100มาคูณด้วย99 =1เจ้ากรรมนายเวรค่ะ

และใด้สารภาพเพิ่มว่าข้าพเจ้าเคยต่อรองกับสิ่งศักดิ์สิทธ์ด้วยว่าเมือตอนวันพุธที่แล้ว ข้าพเจ้าใด้นั่งมองหน้าท่านอาจารย์อุบล แล้วใช้ระหัสเจ้ากรรมนายเวร99 เรื่องขอให้หายปวดฟันล่างและหายหูอื้อ แล้วอาการดังกล่าวก็หายทันที100%

ด้วยเหตผลและข้ออ้างว่าเหนื่อยจากการทำงานดึก ขอเวลาสองวันใด้ใหม อาการปวดฟันเลยกลับมาปวดทวีคูณสองเท่าตัวค่ะ  ทำให้ข้าพเจ้าทราบใด้เลยว่า คนเราต้องมีระเบียบวินัยกับตัวเอง อย่าออกนอกกติกา หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ใด้โอนเงินร่วมบุญให้เจ้ากรรมนายเวรสองร้อยบาทภายใน24ชม.ค่ะ( อาการก็หายตั้งแต่คิดค่ะว่าจะโอนภายใน24ชม )

กราบขอบคุณท่านพ่อดตาจินิน ท่านอาจารย์อุบล พร้อมครอบครัว เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆๆพระองค์ที่เมตตา คนโง่ หัวดื้อ ปัญญาน้อย อย่างลูกมาตลอด ค่ะ กราบ กราบ กราบ





ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-19 00:17:29


ความคิดเห็นที่ 8462 (1654714)

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

พอมีคนมาเขียนให้อ่านแบบหลากหลายมุมมอง 

อ่านแล้วทั้งสนุกและได้ธรรมะไปด้วยค่ะ

 

ว่าแต่เรื่องคุณพิชัย อ่านแล้วก็น่าคิดนะคะ

เพราะกฏแห่งกรรม

ให้ผลไม่เคยผิดตัวเลยจริงจริ๊ง

ทำอะไรไว้กับใคร โดนเอาคืนแบบเต็มๆ

 

แหม่..คนตั้งเยอะ

แต่ตะขาบกลับวิ่งมากัดอยู่คนเดี๊ยว

แถมกัดที่"เท้า" อวัยวะที่นำพาร่างกาย

ไปสร้างกรรมหนักๆซะด้วย ..........

...............................................................................

คุณชนิดา, น้องหญิง , คุณนวล

เมื่อไรจะกลับมาติดกระจกกันคะ

รออยู่นะคะ  ช้าอดนะจะบอกให้

............................

แหม่..แอบลุ้นอยู่เหมือนกันจ๊า เจ๊ตาล

ว่าจะมีบุญพอที่จะได้กลับไป

ติดกระจกเหมือนพี่น้องคนอื่นๆหรือไม่...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-19 09:21:10


ความคิดเห็นที่ 8463 (1654716)

ส่วนเรื่อง การบ้านที่ท่านอาจารย์ฝากไว้ให้คิด

พอได้มาอ่านคำตอบจากคุณ ถนอมขวัญ

แล้วน่าคิดมากๆค่ะ ยิ่งไปอ่านเฟสบุ๊คมา

ที่ท่านอาจารย์จะมีกิจกรรม"บวชใจ"

โดยจะเริ่มจากศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นี้เป็นต้นไป

 

จึงคิดเอาคำตอบของชนิดา

มาผสมกับคำตอบของคุณ ถนอมขวัญ

 

สรุปว่า เราจะสามารถทำอะไรๆได้

พอๆกับท่านอาจารย์

ด้วยการบวชใจ จนละได้ซึ่งกิเลส

แล้วก็กำหนดจิตนึกถึงภาพท่านอาจารย์

แล้วพลังงานก็จะได้รับการส่งผ่านมาที่ตัวเรา

 

และเราก็จะสามารถรักษาคนอื่นๆได้

แม้จะเป็นเคสที่หนักเพียงใดก็ตาม

โดยไม่ต้องห้อยจี้เป็นร้อยๆองค์อีกต่อไป

 

เพราะความแรงของพลังที่เราได้รับ

ขึ้นอยู่กับ"ความใส"ของจิตเรา นั่นเอง

 

ซึ่งแน่นอนว่าพลังที่ถูกส่ง

มาจากท่านอาจารย์นั้น เกินร้อยอยู่แล้ว

แต่จะรับได้ดีแค่ไหน

ก็ขึ้นอยู่กับ"จิต"ของเรา มากกว่า..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-19 09:33:41


ความคิดเห็นที่ 8464 (1654794)

มาต่อแล้วครับ  ....

   โดยในวันเสาร์นั้นในช่วงเช้า เบสเริ่มจากการเก็บกวาดใบไม้เป็นอันดับแรก เพราะสังเกตว่า ใบไม้เยอะเหลือเกิน ซึ่งน่าจะเกิดจากการที่ฝนตกลงมาในช่วงวันธรรมดาครับ ระหว่างที่กวาดอยู่นั้นก็นึกในใจว่า เราจะกวาดให้สะอาดเอี่ยมเลยแหล่ะ แล้วก็ลองมองดูรอบๆ  กว่าจะกวาดหมดก็นานอยู่ กวาดไปเรื่อยๆก็คิดเล่นๆว่า กวาดใบไม้นี้มันก็ดีนะทำให้บ้านเรือนสะอาด ดูสบายหูสะบายตา ขอให้ใจเราสะอาดเหมือนที่ๆเรากวาดด้วยก็คงดี   เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่ดีพอ และก็ยังมีข้อเสียที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะแยะเต็มไปหมดเลย แต่ก็คิดว่า ถ้าหากว่ายังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ยังมีโอกาสที่เราจะปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีกว่านี้

              ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าแค่การกวาดใบไม้ธรรมดาอาจจะไม่ได้อะไร แต่สำหรับเบสแล้ว แค่การกวาดใบไม้นี่ก็สอนอะไรเราได้หลายๆอย่างเลยทีเดียว เช่น เราทำความสะอาดข้างนอก ซึ่งก็คือร่างกาย บ้านช่อง ที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ควรที่จะหมั่นทำความสะอาดใจของตัวเองไปด้วย เพราะขนาดที่อยู่อาศัยไม่ได้กวาดนานๆเข้า ฝุ่นก็เยอะไม่สะอาดอยู่แล้วก็ไม่มีความสุข ร่างกายถ้าไม่ได้อาบน้ำแค่วันเดียวก็เหม็นไม่มีใครอยากเข้าใกล้แล้ว ดังนั้นเราจึงต้องทำความสะอาด ที่อยู่อาศัย และร่างกายอยู่เสมอ แต่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับจิตใจเลย บางคนถึงขนาดลืม ไม่คิดถึงจิตใจเลยก็มี ทั้งๆที่มันอยู่กับเราตลอดเวลา เมื่อไม่เคยทำความสะอาด มันก็คงเหม็น คงเก่าฝุ่นขึ้น แล้วก็ไม่สะอาดแน่เลยครับ เมื่อใจไม่สะอาดก็คงแย่ยิ่งกว่าร่างกายไม่สะอาดแน่ๆครับ เพราะเคยได้ยินมาว่า ทุกสิ่งสำเร็จแล้วมาจากใจ ซึ่งนั่นหมายถึง ใจของเราเป็นตัวควบคุมทุกอย่าง เป็นหลักของร่างกายนี้ ควาบคุมความรู้สึก นึกคิด ถ้าหากเราทำความสะอาดใจอยู่เสมอเราก็คงจะเป็นคนใจดีแน่ๆเลยครับ เพราะใจที่ทำความสะอาดบ่อยๆ คงสวย น่ามอง สบาย น่าอยู่ด้วย ผิดกับคนที่ไม่ค่อยทำความสะอาด หรือไม่เคยทำความสะอาดใจเลย ก็คงเป็นคนใจดำ ใจสกปรก ใจไม่สะอาด ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด ไม่มีใครอยากเข้าใกล้แน่ๆเลยครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-19 23:47:14


ความคิดเห็นที่ 8465 (1654800)

 อนุโมทนากับธรรมทานจากทุกๆท่านด้วยนะคะ

อ่านเรื่องคุณพิชัยแล้วเข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ

ว่าคงทรมานปางตายแน่ๆ

เพราะเมื่อตอนเด็กๆจำได้ว่าแม่เคยโดนตะขาบกัดค่ะ

อาการแม่ตอนนั้นทรุดมากเลยค่ะ 

ทำอะไรแทบไม่ได้ เจ็บปวดไปหมด

พิษตะขาบนี่รุนแรงสุดๆ

นี่ยังถือว่าคุณพิชัยโชคดีมากๆนะคะ

ที่มาชดใช้กรรมในเขตบ้านสวน

เพราะยังมีท่านอาจารย์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ พี่ๆน้องๆบ้านสวน

คอยช่วยเหลือบรรเทาอาการเจ็บได้บ้าง

แต่ถ้าโดนที่บ้าน หรือนอกบ้านสวน

ไม่อยากจะคิดเลยค่ะ

ว่าจะต้องเจ็บทรมานกว่านี้อีกสักเท่าไหร่

นับว่าเป็นความเมตตาของเบื้องบนจริงๆค่ะ

สาธุ สาธุ

************************************

คุณชนิดา, น้องหญิง , คุณนวล

เมื่อไรจะกลับมาติดกระจกกันคะ

รออยู่นะคะ  ช้าอดนะจะบอกให้

ก็ยังแอบหวังอยู่ลึกๆค่ะพี่ตาล

อิอิ

แต่ตอนนี้ขอเกาะบุญพี่ๆน้องๆไปก่อนนะค๊าา ฮ่าๆๆๆ

**************************

สรุปว่า เราจะสามารถทำอะไรๆได้

พอๆกับท่านอาจารย์

ด้วยการบวชใจ จนละได้ซึ่งกิเลส

แล้วก็กำหนดจิตนึกถึงภาพท่านอาจารย์

แล้วพลังงานก็จะได้รับการส่งผ่านมาที่ตัวเรา

 

และเราก็จะสามารถรักษาคนอื่นๆได้

แม้จะเป็นเคสที่หนักเพียงใดก็ตาม

โดยไม่ต้องห้อยจี้เป็นร้อยๆองค์อีกต่อไป

 

เพราะความแรงของพลังที่เราได้รับ

ขึ้นอยู่กับ"ความใส"ของจิตเรา นั่นเอง

ได้ทราบข่าวเรื่องกิจกรรม บวชใจ  แล้วรู้สึกชอบมากๆเลยค่ะ

ชอบกว่าการที่เราต้องมาบวชกาย ใส่ชุดขาว แต่ใจไม่ได้ บวช 

เคยเห็นคนที่เขาทุกข์มากๆ เวลาทุกข์

ชอบหนีไปอยู่ต่างประเทศบ้าง หนีไปไกลๆ 

แต่สุดท้ายก็ยังทุกข์เหมือนเดิม

"เพราะหากเราทำใจกับความทุกข์ไม่ได้

ต่อให้หนีไปไกลสุดขอบฟ้าแค่ไหน

ก็แค่ เปลี่ยนที่ทนทุกข์”"

จึงเริ่มเข้าใจ

ว่าจริงๆแล้วทุกอย่างมันอยู่ที่ "ใจ" 

เพราะอะไรๆก็ไม่สำคัญเท่ากับใจเราอีกแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-20 03:48:17


ความคิดเห็นที่ 8466 (1654870)

อนุโมทนากับธรรมทานของคุณชนิดา ที่ช่างวิเคราะห์มีเหตุมีผลชวนติดตามด้วยค่า

และธรรมทานจากน้องเบสก็น่าอ่านชวนให้คิดและปฏิบัติตาม มิน่าช่วงนี้หน้าน้องเบสใสกิ๊กชวนมอง เป็นเพราะจิตใจดี รักความสะอาดนี่เอง

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-20 23:48:19


ความคิดเห็นที่ 8467 (1654872)

วันเสาร์ที่ 16มี.ค.56 ได้มีโอกาสไปร่วมบุญแรงกายที่บ้านสวน ไปค้างคืนวันศุกร์ก่อน1คืน

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ตื่นก่อนนาฬิกาปลุก เย้ๆ (ตั้งไว้7โมงตรง)

เดินไปรอบๆบ้านสวนเห็นของวางไม่เข้าที่ก็หยิบจับไปเรียงให้เข้าที่

ดูสถานที่โดยรอบก่อนคร่าวๆว่า กำลังทำอยู่ในขั้นตอนถึงไหน น่าจะทำอะไรต่อ

เผื่อว่าเวลาทำกิจกรรมแรงกายจะได้เข้าใจงานที่ผู้นำกลุ่มได้สั่งการมา

สุดท้ายก็ไปพบอ.พันธ์ที่แปลงเกษตร

ผมช่วยอาจารย์เก็บหัวกะหล่ำปลี และแขนงกะหล่ำ(คือต้นกะหล่ำที่แตกขึ้นมาใหม่อร่อยมว่าก)

ทีนี้จะตัดกะหล่ำยังไงให้แขนงมันแตกใหม่ได้

วีธีคือให้ใช้มีดตัดอย่าลึกจนสุดโคนต้น โดยตัดให้เหลือแต่ใบด้านนอกสุดไว้หนึ่งใบ

แล้วตรงแกนด้านในจะแตกต้นขึ้นใหม่เอง

เก็บผักเสร็จก็มาดายหญ้าตรงทางเดินที่แปลงต่อ

หญ้าแถวนี้ยาวมาก มากจนท่วมก๊อกน้ำจนไม่เห็น

ตั้งเป้าไว้ว่าจะดายให้ได้สักครึ่งทางเดินก่อนไปทานข้าวเช้า

สรุปว่าทำได้ตรงตามเวลาที่ตั้งไว้พอดี และยังมีเวลาเหลือจนได้แถมไปอีกประมาณ2เมตร

พอมองย้อนกลับหลังไปเห็นทางเดินโล่งเตียนน่าเดิน ก็ชื่นใจแล้ว อิอิ

ขณะดายหญ้าก็มีความคิดเกิดขึ้นในหัวคือรู้สึกเหมือนได้ฝึกบารมี10

คือ 1.ทานบารมี คือ การที่ได้ทำบุญโดยสละแรงกาย

      2.ศีลบารมี คือ ระหว่างที่ดายหญ้าก็ไม่ได้ตั้งใจละเมิดหรือล่วงเกินใคร

      3.เนขัมมบารมี คือ ระหว่างดายหญ้า ไม่ได้ง่วงนอน ไม่ได้มีอารมเพศ จิตจับอยู่กับการดายหญ้า ไม่ได้ไปโกรธใคร

      4.อธิษฐานบารมี คือ ก่อนดายอธิษฐานไว้ว่าจะทำให้ได้ถึงครึ่งทางก่อนไปทานข้าวเช้า

      5.ปัญญาบารมี คือ จะทำยังไงไม่ให้หมดแรงก่อนงานจะสำเร็จ ต้องดายให้ถูกท่าจะได้ไม่เมื่อยและทำได้ไว ไม่โหมทำเร็วจนเกินไปเพราะจะทำให้ล้าซะก่อน และไม่ทำช้าจนเกินไปเพราะจะทำไม่ทัน

      6.ขันติบารมี คือ แน่นอนที่สุดคืออาการเมื่อยมีแน่ๆ หลังจากทำไปได้สักพักก็มีหยุดบ้างแต่ก็ต้องอดทน

      7.วิริยะบารมี คือ ถึงจะเมื่อย แต่ก็ไม่เลิกทำก่อนแน่นอนถ้ายังทำไม่ได้ตามเป้าหมาย

      8.สัจจะบารมี คือ ทำสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

      9.อุเบกขาบารมี คือ ระหว่างดายบางทีก็โดนหอยทากบ้าง ใส้เดือนบ้าง แมลงบ้าง เสียใจแต่ก็คิดว่าเราต้องระวังให้มากกว่านี้ และไม่จิตตกทำงานต่อ

      10.เมตตาบารมี คือ ชื่นใจที่ได้ดายหญ้าให้ทางน่าเดิน ให้คนเดินสะดวก และที่ขาดไม่ได้เลยคือการแผ่เมตตาอุทิศบุญให้สัตว์ที่เราทำร้ายระหว่างการทำงาน

เป็นการฝึกบารมี10แบบลูกควายครับผม อิอิ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-21 02:21:51


ความคิดเห็นที่ 8468 (1654873)

อนุโมทนากับธรรมทานที่เข้าขั้นวิปัสสนา

จากสองหนุ่มน้อยอย่าง

น้องเบส แอนด์ น้องชิม ด้วยนะคะ

 

บอกตามตรงว่า

อ่านแล้วชื่นชอบและชื่นชมมากๆ

เพราะเป็นธรรมทานที่เข้าขั้นสเต็ปแอดวานซ์แล้วเนี่ย

แบบว่าทำบุญแรงกายอย่างเดียว

ได้ทั้งทาน ศีล สมาธิ และ ปัญญาเลยในครั้งเดียว

 

ก็คงเป็นไปตามเหตุและปัจจัยนะคะ

เพราะลูกบ้านสวนฯขาประจำคงจะฝึกฝน

ได้ลับคม"ปัญญา" มาบ่อยๆ อยู่แล้ว

 

ฉะนั้น เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

จึงเห็นทุกอย่างที่กำลังทำ

เป็น"ธรรมะ" ที่ชวนพิจารณา ไปหมด....

 

ว่าแต่เรื่องกวาดใบไม้ พี่ก็มีเรื่องเล่านะ

คือน้องเบสน่ะ กวาดใบไม้ไปพร้อมกับ"ปัญญา"

แต่พี่น่ะ เคยกวาดพร้อมกับ"ตัณหา"มาแล้ว

 

แบบว่า วันนั้นท่านอาจารย์ไปทำธุระข้างนอก

ชนิดาก็กะว่า เดี๋ยวจะกวาดใบไม้

รอบๆบ้านอาจารย์ให้เอี่ยมเลย

เดี๋ยวตอนท่านอาจารย์กลับมาต้องสังเกตุ..ชัวร์

 

  ประมาณว่า อยากได้ทั้งบุญ

อยากได้ทั้งหน้า ล่าคำชมงั้นเถอะ

 

หึ หึ แต่มนุษย์คิดเทวดารู้..

ปรากฏว่า ตอนกวาดเกือบจะเสร็จแล้ว

เชื่อไหม๊คะว่า ใบไม้พร้อมใจกันหล่นมา

พอๆกับตอนที่ยังไม่ได้กวาดเลย ทั้งๆที่่ลมก็ไม่มี 

 

จะรอหล่นพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ 

โหย... รู้เลยว่า ท่านเทวดามาสอน

เพราะเราคิดอยู่คนเดียว

รู้อยู่คนเดียว ว่าอยากได้หน้า 

 

สุดท้ายก็เลยปล่อยเลยตามเลย

ไม่ได้กวาดใหม่อีกรอบหรอกค่ะ

กะว่า พรุ่งนี้ค่อยมากวาดใหม่แล้วกัลล์.. อิอิ

........................................

จะว่าไปแล้ว ส่วนหนึ่ง

ชนิดาก็ลอกการบ้าน

จากคุณ ถนอมขวัญ นั่นแหล่ะ

 

อิอิ คิดได้เองซะที่ไหน... ล่ะ

ที่ว่า ให้นึกถึง ภาพท่านอาจารย์   

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-21 06:06:26


ความคิดเห็นที่ 8469 (1654938)

อนุโมทนากับธรรมทานของคุณป้าชนิดาด้วยครับ

ผมเองก็ยังอยู่ในขั้นฝึกหัดอยู่ ยังต้องพยามอีกมากครับ

ขอบคุณป้าชนิดาที่ให้กำลังใจนะครับ

และโมทนาบุญกับน้องเบสด้วยนะครับ ที่กวาดใบไม้ และได้ชำระกิเลสออกจากใจไปพร้อมๆกัน เอี่ยมทั้งใจสถานที่ก็เอี่ยมสะอาดด้วย

อ่านแล้วได้เตือนตัวเองว่าเวลาทำดีให้ตั้งใจทำโดยเจตนาจริงๆ อย่าทำเพื่อจุดประสงค์อื่น

เพราะจะทำให้ผลของความดีมันเสียไป

แต่ก่อนเรื่อยมาผมเวลาทำความดีในใจก็ชอบคิดไปด้วยว่าจะมีใครรู้ไหมน๊อ...

ถ้าไม่มีใครรู้มันไม่สบายใจ เวลาใครชมทีตัวลอยเลย เสร็จแล้วกลายเป็นเหลิงไป กลับไปเลวอีก

ทำบุญเพราะอยากได้หน้า อยากรวย อยากสมหวังขอโน่นขอนี่โดยไม่ดูตัวเองเลยว่าที่ทำมามันพอรึเปล่า

แต่พอได้มารับคำสอนในรายการคุยไปแจกไปเรื่องการให้ทานต้องบริสุทธิ์ทั้ง3ส่วน ทั้งวัตถุทาน ศรัทธา เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์ทั้งหมด ผลถึงเกิดขึ้นทันที

ก็ถึงเข้าใจเลยว่าที่ผ่านมา เรานี่มันโง่จริงๆทำบุญไม่เป็น

==============================================

และการบ้านที่ท่านอาจารย์ให้เราช่วยกันคิด คือ

เราจะมีวิธีไหน ที่จะนำสิ่งที่มีอยู่ในตัวท่าน อ. อุบล

ไปใช้ประโยชน์ได้ โดยให้เหมือนกับมีท่านอาจารย์

อยู่ใกล้เราตลอดเวลา โดยท่านอาจารย์ยกตัวอย่าง

พี่ ดร. จิ๋ม ที่ต้องถือจี้มากมาย แล้วเราจะทำอย่างไร

ที่เราจะไม่ต้องแบกจี้ไปไหนมาไหนด้วย

ขอตอบตามความเข้าใจนะครับ

ให้ระลึกถึงท่านอาจารย์แม้จะด้วยเพียงแค่ความรู้สึกศรัทธาสำหรับสุขวิปัสโกหรือจะนึกเห็นเป็นภาพของท่านอาจารย์สำหรับผู้ที่นึกเห็นได้ด้วยอารมใจที่สงบ

แต่สิ่งสำคัญคือจิตของเราเองต่างหากต้องทำจิตให้เป็นเครื่องรับที่ดี ทั้ง ทาน ศีล สมาธิ และศรัทธา น่าจะเป็นตัวแปรที่สำคัญในผลลัพธ์ออกมาที่แตกต่างกัน เพราะท่านอ.ท่านให้มาเต็มอยู่แล้ว แต่พวกเรา จะรับได้แค่ไหนอาจไม่เท่ากันทุกคน

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-22 00:54:44


ความคิดเห็นที่ 8470 (1654939)

แหม.....หลานชิม เอ๊ย...

หยิบหมากให้ป้า..ทีซิ อิอิ

 

ดีนะ ไม่เรียกเรา"ยาย" ไม่งั้นล่ะก็...

วัยรุ่น(ใหญ่)อย่างเรา คงเสียเซลฟ์ แน่ๆ

 

ว่าแต่ เป็นโรคบ้ายอเหมือนกันเลยอ่ะ น้องชิม

แบบว่า ทำความดีนิดๆหน่อยๆ ต้องประกาศ

หรือไม่ก็แอบคิด จะมีใครเห็น

จะมีใครรู้บ้างไหม๊หนอ

ว่าเรากำลังทำความดีอยู่น๊า

หันมามอง หันมาชื่นชม มาสรรเสริญ กันหน่อย 

 

หึ หึ น่าละอายเนอะ ใจไม่เคยอยู่กับบุญเลย

ทั้งๆที่กาย ทำความดีอยู่แท้ๆ

แต่ใจไปฝักใฝ่อยู่กับกิเลส

 

แล้วอย่างนี้ ยังกล้าคิดว่า

ตัวเอง"ทำบุญ" อยู่อีกเนอะ ....

 

แค่คิดย้อนกลับไป ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า

ทำไม ถึงไม่เคยได้สัมผัส

หรือได้เห็นผลบุญเลย

 

ก็เพราะใจไม่ได้เกาะเกี่ยว

กับบุญแต่อย่างใดเลย.....

 

ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาหน่อย

ระดับความบ้ายอมันน้อยลง

ความอยากได้โน่น ได้นี่ ก็ลดลง

 

แต่มันก็ยัง ไม่บริสุทธิ์ ซะทีเดียว ....

ถ้าได้รับการ"บวชใจ"

ให้ขาว ใส บริสุทธิ์ เมื่อไหร่

วันนั้น คงจะเป็นวันของชนิดา ซักที สาธุ

 

ว่าแต่ บ่น เอ๊ย..คุยกันสองคน

ตามสไตล์ ป้าหลานไปก่อนนะเรา ...อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-22 05:28:16


ความคิดเห็นที่ 8471 (1654943)

 อนุโมทนากับน้องชิมด้วยนะคะ  

ที่มาสะท้อนเรื่องการทำบุญแบบหวังผล

เพราะตัวเองก็ไม่แตกต่างกันเลย  

ทำแล้วอยากได้รับคำชม  อยากได้หน้า

กว่าจะขจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปได้  ก็ยากเอาการอยู่

โดยจะระลึกถึงคำที่ท่านอาจารย์สอนว่า

"ถ้าทำบุญแล้วอยากได้หน้า  ท่านก็จะได้แต่หน้า  ไม่ได้บุญ"

 

       เอ!!!!  เราเข้ามาแทรกการสนทนาของ 

 ป้า ๆ   หลาน ๆ เค้าหรือเปล่าน๊า 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-22 08:19:34


ความคิดเห็นที่ 8472 (1655016)

ไม่ได้แทรกหรอกครับ คุณป้าตาล

แหะๆๆ แซวเล่นนะครับ หวังว่าคงจะมะโกรธน๊า คร๊าบ

มาช่วยกันแต่งแต้มสีสันด้วยธรรมทาน หยิบยกธรรมะมาถกกันมาช่วยกัน ผมเองก็ยังไม่รู้อีกมากมาย ชอบฟังหลายๆความคิดครับ

"ถ้าทำบุญแล้วอยากได้หน้า ท่านก็จะได้แต่หน้า ไม่ได้บุญ"

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมะจากท่านอาจารย์ด้วยนะครับ

ประโยคนี้ของท่านอาจารย์ตรงกระชับ ชัดเจนจริงๆไม่ต้องแปลอีกแล้วครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

=======================================================

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-23 02:33:46


ความคิดเห็นที่ 8473 (1655017)
ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-23 03:00:09


ความคิดเห็นที่ 8474 (1655018)

กิจกรรมแรงกายวันเสาร์ที่16มี.ค.56

หลังจากทานข้าวเสร็จ มาแบ่งกลุ่มฟังแผนงานจากพี่ธนา หนุ่มใหญ่หน้ามล เสร็จแล้ว

กลุ่มเรามี9คนมีพี่อดิศักดิ์เป็นหัวหน้ากลุ่ม

ประมาณ9โมงกว่า เรามาเข้าฐานติดกระจก

พวกเรานี่ก็ดีนะครับไม่พยามยื้อแย่งกันติดกระจก ทุกคนช่วยกันแบ่งเวลาพยามให้ติดให้ได้ทุกครบทุกคน

เวลาในฐานแรกเหลือไม่มาก กระจกก็ยังไม่ได้หัก 

ยังไงก็ขึ้นนั่งร้านไปติดกระจกได้ครั้งละไม่เกิน3-4คน

 

ผมมาคิดนึกๆดูว่าการติดกระจกช่วยเพิ่มอายุขัยได้ก็จริง แต่คนเราที่ตายก่อนอายุขัยก็มี ยังไงซะพวกเราก็ยังประมาทกับความตายไม่ได้อยู่ดี

ผมและเพื่อนๆส่วนนึงทำหน้าที่หักกระจก คัดขนาด และคัดกระจกเสีย ยังไม่ได้ขึ้นติดกระจก

ส่วนที่เหลือขึ้นติดกระจก โดยมีพี่อดิศักคอยเจียผิวปูนกรุยทางให้

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-23 03:00:12


ความคิดเห็นที่ 8475 (1655021)

เห็นหลานชิม มาเขียนเรื่อง ติดกระจก

แล้วก็ทำให้คิดได้ว่า คำพูดจากท่านอาจารย์่

ส่วนใหญ่มักจะมีอะไรซ่อนๆไว้เสมอนะ

ซึ่งสามารถตีความได้หลายอย่าง

และที่สำคัญก็เป็น"การสอบจิต"

ของทุกคนไปในตัวด้วย

 

เพราะหลายๆคนพอได้ฟังว่า

อานิสงส์ของการติดกระจก มีอะไรบ้าง

ก็ต่างฮือฮา และคิดหวังอย่างแรงกล้าว่า

ไหนๆก็ได้ไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯแล้ว

ยังไงๆ ก็ต้องติดกระจก ให้ได้ ......

 

สุดท้าย อาจจะกลายเป็น

ความโลภในบุญ ไปก็ได้

ยิ่งถ้าความพร้อมด้านฝีมือก็ไม่มี

สติก็ไม่มา อาจทำให้ทรัพย์สินเสียหาย

เป็นการสร้างบาปให้ตัวเองอีก

 

ซึ่งในทางกลับกัน

สำหรับคนบางคนที่เห็นว่า

มีคนอยากติดกระจกเยอะแล้ว

แต่พื้นที่นั่งร้าน ก็มีจำกัด

จึงเห็นว่า

คงจะไม่สามารถติดได้ทั่วถึงกันทุกคนแน่ๆ 

 

ชนิดาว่า เผลอๆแล้ว

คนที่เสียสละ ให้คนอื่นได้ติดกระจก

แล้วตนก็ไปทำงานส่วนอื่นแทน

ที่ส่งเสริมกัน และทำให้งานเดินต่อไม่สะดุด

อาจจะได้"บุญ"มากมายและบริสุทธิ์กว่า

ก็ได้เนอะ ......หลานชิม เนอะ อิอิ

..............................................

เอ!!!!  เราเข้ามาแทรกการสนทนาของ 

 ป้า ๆ   หลาน ๆ เค้าหรือเปล่าน๊า

.......................................

ก็ป้าๆหลานๆ เค้าคุยกัน

เพื่อรอให้คนอื่นเข้ามาแทรกเนี่ยแหล่ะจ๊า

 

ยิ่งถ้าเป็นญาติผู้ใหญ่

ระดับ คุณยายทวด

อย่างเจ๊ตาล แล้วล่ะก็ (อิอิ)

ยิ่งยินดีเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-23 06:23:35


ความคิดเห็นที่ 8476 (1655058)

แหมคุณป้าชนิดาครับ อวยกันอิกแล้ว

ผมฝีมือก็ยังไม่ดีติดไม่สวย เลยเป็นเหตุผลที่ขอบายในช่วงเช้าก่อนด้วยครับ

ชั่วโมงสุดท้ายตอนเย็นมีติดกระจกอีกที พอดีได้น้องเบสมาช่วยสอนเทคนิคในการติดให้สวย เลยติดพอไปวัดไปวากะเค้าได้หน่อย

ถามว่ายังโลภในบุญไหม ก็ต้องยอมรับว่ายังมีความรู้สึกนั้นอยู่ครับ อิอิ ผมเป็นคนกลัวตายครับไม่อยากเกิดมาเพื่อตายหลายๆรอบแล้วมันหวาดเสียว

============================================================

เสาร์ที่16มี.ค.56 ประมาณ10โมง

พวกเรามาต่อที่ฐานทำความสะอาดห้องน้ำใหม่ กับบริเวณรอบๆพีระมิดองค์ใหญ่กัน

กลุ่มที่ทำก่อนหน้าเก็บกวาดรอบๆพีระมิดองค์ใหญ่ใกล้เสร็จแล้วเหลือใบไม้ไม่มาก

พี่แก้วจึงรับอาสาเก็บกวาดใบไม้เศษขยะที่เหลือ

ส่วนพวกเราที่เหลือ จองขัดห้องน้ำกันคนละห้อง2ห้อง

ในครานี้พวกเราได้ขัดถังน้ำทุกถังด้วย

คราบที่ติดในถังนั้นหนามากและเหลืองมากๆคล้ายๆขี้โคลนเลยพอพวกเราเห็นยังนี้แล้วจึงอดไม่ได้ที่จะต้องเอามาขัด

น้ำในถังพวกเราจะไม่เททิ้งให้เสียเปล่า เราจะใช้ในการล้างส้วมก่อน แล้วถ้าเหลือก็เอามาล้างถังต่อ

เราพยามช่วยกันประหยัดน้ำ พอน้ำหมดถังแล้วเราจึงค่อยเอาน้ำก๊อกมาใช้

พวกเราช่วยกันขัดพื้นหน้าห้องน้ำด้วย

มีบกพร่องอยู่สองอย่างคือ ลืมขัดอ่างล้างหน้ากับเช็ดกระจก

ระหว่างเปิดน้ำเติมถัง น้องกระต่าย รับอาสาเสียสละรอน้ำเต็มถัง

ส่วนพวกเราที่เหลือก็เคลื่อนไปฐานเกษตรต่อไป

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-24 01:58:40


ความคิดเห็นที่ 8477 (1655083)

สาธุๆๆโมทนาบุญกับน้องชิม น้องภา คุณชนิดา  คุณตาลและทุกๆท่านที่ค่ะ

การบวชใจนี้มีประโยขน์จริงๆแต่พี่เองยังไม่ผ่านเลยบางวันหมดแรงแรงหมดบุญต้องลุกขึ้นสู้อีกพูดแล้วก็ท้อแท้แต่ไม่ท้อถอยนะค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-24 20:16:02


ความคิดเห็นที่ 8478 (1655090)

อนุโมทนา สาธุ กับทุกคนที่ได้มีโอกาสมาบวชใจที่บ้านสวนนะครับ

ธรรมทานบุญแรงกายที่เขียนในความเห็น8476คือ ผมเอาของเก่าที่มาทะยอยเขียนอะครับ

ผมยังไม่ได้ไปบวชใจเลยก้าบในสัปดาห์นี้

=================================================================================================

11มี.ค.56  ช่วง11โมง

ผมได้มีโอกาสได้ไปสร้างบุญที่แปลงเกษตร ผมรับหน้าที่ขุดแปลงเกษตร อยู่แปลงเดียวกับน้องวิน แบ่งกันขุดคนละครึ่งแปลง

แม้ดินวันนี้จะไม่แข็งมาก คงเพราะช่วงนี้มีฝนตกด้วย แต่การขุดแปลงเกษตรก็ยังไม่ใช่งานหมูๆเลยสำหรับผม

ความลึกต้องสม่ำเสมอกัน ต้องรักษาหน้าดินที่ขุดให้สูงสม่ำเสมอกัน ขุดได้ประมาณเกือบครึ่งแปลง

อาจารย์พันธ์ก็ให้พวกเราไปช่วยกันกางเต้นท์ที่ดร.จุ๋ม-จิ๋ม เมตตาซื้อมาไว้ที่ใต้ต้นมะม่วงใกล้แปลงเกษตร อนุโมทนนาด้วยครับ

เสร็จแล้วอ.พันธ์ ให้พี่พิชัยกับผมไปช่วยปรับพื้นที่ใต้เต้นท์

ปรากฏว่าพี่พิชัยโดนตะขาบตัวใหญ่กัดหลังเท้า

ผมเองด้วยความโง่ขาดสติ เอาจี้ที่ห้อยอยู่ไปแตะที่แผลและใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้อาการเจ็บปวดหายไปด้วยเถิดสาธุแต่ก็อาการไม่ดีขึ้น

 หลังจากนั้นดร.จุ๋มได้นำแหวนรูปพีระมิดไปกดที่แผล รวมกับ จี้ของดร.จุ๋ม-จิ๋ม อ.พันธ์ พี่แก้ว ของผม และคนอื่นๆน่าจะเกิน50องค์แตะที่แก้วน้ำแล้วราดไปที่แผล ผลปรากฏว่าแผลยุบลงทันที

หลังจากนั้นพี่พิชัยเอาจี้ของตัวเองไปแตะที่แผลตรงหลังเท้า ปรากฏว่ามันกลับมาบวมอีก

อาจเป็นเพราะทำอย่างนี้เป็นการไม่เคารพจี้และเป็นบาปเลยทำให้วิญญาณกลับมาเกาะที่เท้าได้อีกแบบฉับพลันทันที

หลังจากนั้นพวกเราจึงรวมจี้แตะที่แก้วน้ำอีกทีแล้วราดไปที่แผลอาการจึงกลับมาดีบ้างแต่ไม่มากนัก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-25 00:59:03


ความคิดเห็นที่ 8479 (1655092)

 โมทนากับหลานชิมด้วยนะคะ สาธุ

ตัวหนังสือหลานช่างมีสีสรรจริง ๆ 

ทำเอาป้าตาลายเลยน่ะ

********************************

 

                                                                       ยิ่งถ้าเป็นญาติผู้ใหญ่

ระดับ คุณยายทวด

อย่างเจ๊ตาล แล้วล่ะก็ (อิอิ)

ยิ่งยินดีเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ 

             ดีใจจัง  ได้เป็นยายทวดแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-25 03:45:45


ความคิดเห็นที่ 8480 (1655107)

 สัปดาห์นี้คือ ส-อา ที่ 23-24 มี.ค.56

เป็นสัปดาห์แรกที่เป็นการปฐมนิเทศน์ผู้ที่จะบวชเนกขัมมะ

เป็นการบวชใจ โดยท่านอ.อุบลได้กล่าวถึงสิ่งที่ทำให้เรา

แต่ละคนต้องมาเจ็บป่วย ขาดสภาพคล่องทางการเงินนั้น

ก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากการทำผิดศีลมาทั้งนั้น 

ส่วนสิ่งที่ทำให้เราชักหน้าไม่ถึงหลัง ยากจนขาดสภาพคล่องก็คือ

เรายังมีความโกรธ แค้น อาฆาต อีกทั้งทำผิดหนี้สงฆ์ หนี้แผ่นดิน

ซึ่งเป็นกรรมหนักมาก และสิ่งที่จะปลดเปลื้องหนี้แผ่นดินได้

ก็คือการร่วมสร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน

ที่ท่านพ่อดตาจินินมีพระบัญชาให้สร้างนั่นเอง

เพื่อเป็นการปลดเปลื้องปัญหานี้ของพวกเราค่ะ 


และในค่ำคืนวันเสาร์นั้นเอง

ได้มีผู้มาร่วมพิสูจน์บารมีของวัตถุมงคลบ้านสวน

ซึ่งก็คือพี่อมร ซึ่งเจ็บปวดดวงตา เพราะเกิดจากการอ๊อกเหล็ก

จนประกายไฟกระเด็นเข้าตา

และแพ้แสงด้วย จึงทำให้เจ็บปวดตามาก จนแทบทนไม่ไหว

เริ่มด้วยการทำน้ำทิพย์จากพีระมิดรุ่นต่างๆ ของบ้านสวน ปรากฎว่า

หลังจากหยดน้ำทิพย์นี้ลงฝ่ามือ อาการปวดตาดีขึ้นถึง 50% 

ครั้งที่ 2 ใช้บารมีจี้ สามร่มโพธิ์ศรี

ซึ่งเป็นบารมีของสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา

บารมีพระศรีอาริยเมตไตร และบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ปรากฎว่าหลังจากสัมผัสน้ำทิพย์ 1 หยด อาการก็ดีขึ้นเป็น 70%

ครั้งที่ 3 ใช้จี้รุ่นพระศรีอาริย์อาการเจ็บปวดตา ดีขึ้นอีกเป็น 80%

ครั้งที่ 4 ใช้จี้ท่านพ่อดตาจินิน อาการก็ดีขึ้นอีกเป็น 90%

ครั้งที่ 5 ใช้อุปกรณ์รุ่นคุ้มเกล้า ซึ่งเป็นบารมีของท่าน อ.อุบล

ที่บำเพ็ญเพียรมาทุกภพทุกชาติรวมตัวกัน

ก็ปรากฎว่าหายเจ็บปวด 100%

แต่พี่อมรยังคงมีอาการแสบตาเวลาลืมตาแล้วเจอแสงไฟอยู่มาก

ซึ่งโดยรวมอาการเจ็บปวดเหมือนมีทรายอยู่ในตาหายหมดแล้ว100%

ท่านอาจารย์จึงได้ใช้เข็มกลัดรุ่นเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณทั้งสองรุ่น

คือรุ่นเมตตาสีเขียว และสีแดงซึ่งเป็นรุ่นที่ป้องกันภูติผีปีศาจ

ก็ลืมตาได้มากขึ้น และได้ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย 

รวมทั้งกราบรูปท่านอาจารย์ และก้มลงกราบตัวจริงท่าน

และอาการแพ้แสงดีขึ้นเป็นลำดับ จากทีแรกที่ลืมตาไม่ได้เลย 

เจ็บปวดทรมานมาก นับว่าพี่อมรมาแสดงเหตุและผล

ได้ชัดเจนมากค่ะในคืนนั้น

และแกก็ได้สารภาพว่าเคยปาทราบใส่ตาคน

เคยมองค้อน ใช้สายตามองในสิ่งที่ไม่ควรมอง

เคยสาดน้ำสงกรานต์เข้าตาคนอื่น ผลจึงได้รับอย่างที่เป็นค่ะ


และก็มียังมีอาเฮียที่มาจากกาญจนาบุรีด้วยค่ะ 

ที่แกมีอาการท้องอืด เฟ้อ แกก็สารภาพว่าเคยยิงนกตายเป็นร้อย

ฆ่าปลา วางยาเบื่อ และอาการของแกหลังใช้น้ำทิพย์จากวัตถุมงคลต่างๆ

รวมทั้งคำอธิษฐานเสี่ยงทาย ก็ทำให้อาการของแกดีขึ้น

และหายได้แบบ100% เลยค่ะ


และในค่ำคืนนั้นท่านอาจารย์ก็เมตตาทำน้ำทิพย์รุ่นพิเศษ

เป็นรุ่นจากความรักความเมตตาอันมิมีประมาณ 

โดยน้ำทิพย์นี้ต้องมีบุญสัมพันธ์กันมา และทำมาจากความรัก

ซึ่งน้ำนี้สามารถดื่ม อาบ ฉีด ประ พรม

แจกจ่ายได้แบบไม่มีวันหมดสิ้น เติมได้ตลอด

ตราบใดที่ยังเคารพศรัทธาท่าน อ.อุบลอยู่ น้ำนี้ก็มีผลตลอดไป 

และผู้ที่ได้ใช้น้ำทิพย์นี้ก็ต้องทำบุญ

ให้กับสิ่งศักดิสิทธิถือเป็นการแสดงความกตัญญู

โดยให้เราโอนเงินเข้าบัญชีน้ำทิพย์เท่าไรก็ได้ทุกเดือน

ตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป

แล้วแต่กำลังของแต่ละคนค่ะ


สุดท้ายนี้ขอกราบขอบคุณท่าน อ.อุบล

และสิ่งศักดิ์สิทธิค่ะ ที่เมตตาเสมอ

ไม่ว่าพวกเราจะเป็นอย่างไร ท่านก็ใส่ใจ ห่วงใย พวกเราเสมอ

ยิ่งกว่าพ่อแม่ หรือคนในครอบครัวเราซะอีก กราบขอบพระคุณท่านค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-25 10:09:55


ความคิดเห็นที่ 8481 (1655137)

ธรรมทานโดนใจคืนวันเสาร์ที่ 23 มีค. 56
เรื่องปฐมนิเทศการบวชใจของบ้านสวนพีรามิด


ท่านอาจารย์อุบล อบรมการบวชเนกขัมมะ หรือการบวชใจ จริงๆท่านให้เริ่มได้เลย คือต้องรักษาศีล5 ให้บริสุทธิ์ ศีล5 ที่บ้านสวนจะละเอียดอ่อนมาก พออจ.ถามว่าใครยังโกรธอยู่บ้าง ตนเองและจิ๋มรีบสารภาพยกมือสูง แทบทุกวันตนเองจะขุ่นมัวกับผู้คนรอบตัวเนืองๆ ลูกน้องที่บ้าน ที่ทำงาน ทำอะไรไม่ได้ดังใจก็จะขุ่นมัว พออจ.อุบลถามว่าจะเลิกโกรธกันเมื่อไรก็อึ้งพูดไม่ออก แต่ก็รับปากท่านว่าจะพยายามตั้งแต่บัดนี้ แต่รู้ใจตนเองว่ายากมากๆ และตนเองตกนรกแน่นอนก็เพราะความโกรธนี่แหละ ได้แต่ปลอบใจตนเองว่าลงไปใช้กรรมในนรกก่อนแล้วค่อยขึ้นมาใหม่มั้ง แต่ขอเล่าเป็นข้อสังเกตุให้คนอื่นหลุดนรกขุมนี้ให้ได้ ส่วนอบายมุขดูการละเล่น ละครน้ำเน่านั้น ตนเองยังดูอยู่บ้างยังตัดหมดไม่ได้อีก แต่ไม่อินมากมาย

สำหรับศีลข้อ 2 การชอบของฟรี ของแถมมาก เวลาซื้อของ และมักใช้ของหลวงฟรี เป็นประจำ เคยเอาของหลวงกลับมาใช้ที่บ้าน ทำให้เป็นหนี้แผ่นดิน แต่ตนเองก็ซื้อกาแฟ โอวัลติน บริจาคให้ผู้คนส่วนรวมเช่นกัน ส่วนหนี้สงฆ์ เคยไปงานกฐินที่อ่างทอง ทางวัดเขาเลี้ยงอาหารมากมาย เมื่อทานเหลือก็ใส่ถุง กลับไปฝากคนที่บ้าน

การมาอบรมฟังธรรมะจากอจ.อุบล สามารถขัดเกลานิสัยไม่ดีออกไปเสียมาก ถึงตอนนี้ละโกรธก็ยังไม่สนิท การได้มารับโอวาทจากอจ. สัมผัสบารมีท่านพ่อดตาจินิน พระองค์ใหม่ที่กำลังสร้าง ช่วยฉุดตนเองขึ้นจากนรกได้มากเลย

สุดท้ายจากข้อคิดของคุณลุงวิ เพื่อนท่านอจ.อุบล จากเมืองกาญจน์ ที่มาบ้านสวนครั้งแรก ท่านก็เชื่อว่าภัยพิบัติร้ายแรงที่จะมาล้างโลกต้องเกิดแน่ โดยจะล้างคนชั่วไม่มีศีลธรรม โดยจะเหลือคนที่มีศีล 5 ที่บริสุทธ์ เพียง 10 % เท่านั้น ดังนั้นมาบวชใจรักษาศีล 5 น่าจะเป็นทางให้เรามีชีวิตรอดต่อไป
จุ๋ม_ ธารีรัตน์

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-25 15:52:55


ความคิดเห็นที่ 8482 (1655161)

ขอร่วมอนุโมทนากับธรรมทานของทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

                     สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา กาลมชฌิมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-25 23:19:05


ความคิดเห็นที่ 8483 (1655163)

   .... ตั้งแต่เช้าวันเสาร์ ต้องทำกลอนประตูเปิดปิด ให้สะดวก โดยใช้เหล็ก ต้องเชื่อมติดกับเสาประตู  ด้วยความเคยชิน เวลาอ๊อกเชื่อม ไม่ได้ใส่แว่นหรืออุปกรณ์ป้องกันเลย คิดว่า นิดหน่อย พอทำไป แสงเข้าตา หน้ามืด มองไม่เห็น งานก็ไม่เสร็จ ต้องวานลุงเบิ้ม ช่วยทำให้จนเสร็จ ขณะที่ลุงเบิ้ม อ๊อกเชื่อม ผมก็โดนควัน และแสงเต็ม ๆ  เมื่อก่อนไม่มีอาการ ถึงมีก็แป๊บเดียวก็หายแล้ว

       .... ครั้งนี้ รับแสง รับควันของธูปเชื่อมเต็ม ไม่มีอาการใดใด นอกจาก มองไม่ค่อยชัดเจนเท่านั้นเอง แต่สามารถทำงานอย่างอื่นได้ทั้งวัน  จนราว 5 โมงเย็น ไปตัดกระจกติดวิหารเตรียมไว้สำหรับคนที่มาทำวันธรรมดา ตัดไปได้ 3 แผ่น แสงงที่กระจกสะท้อนเข้าตา รู้สึกเคืองตาเล็กน้อย และก็เริ่มแสบและเคืองตามากขึ้น  จนมองแสงไม่ได้ เจ็บที่ตาอย่างรุนแรง เหมือนทรายอยู่ในลูกตาสักกำมือ น้ำตาไหล จนหมดน้ำตา  ยิ่งทำให้เจ็บมากขึ้นถ้าไม่มีน้ำตา อาการนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน มันทรมานมากเลย ทั้งเจ็บปวดที่ตาทั้งสองข้าง แสบร้อนทั่วใบหน้าเลย  

     .... จิตใจสับสนวุ่นวาย แม้ว่าจะภาวนาอะไร ก็ไม่สงบ รู้ตัวเองเลยว่า สอบตก จากการเจ็บตา เหมือนตาบอดไปเลย คิดเหมือนกันนะครับว่า ถ้าตาบอดจะเป็นยังไง  อาการจะดีขึ้นเป็นขณะราว 5-10 นาทีก็ปวดเหมือนเดิม คือ การฉีดพ่นน้ำทิพย์ที่ได้รับเมตตาจากท่านอาจารย์อุบล และ ใช้รหัสเจ้ากรรมนายเวร 99 

       .... ในใจคิดว่า เจ้ากรรมนายเวร กรรมที่เราเคยทำผิดมาคงสร้างเหตุให้เรารู้ และต้องการให้พิสูจน์ การบำบัดด้วยบุญของบ้านสวนพีระมิด หรือการทำน้ำทิพย์ด้วยวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด

     .... ครั้งแรก ได้น้ำทิพย์ที่ทำจากพีระมิดจำลอง ทำให้อาการปวด ไม่ปวดดีขึ้น 50 %  ครั้งที่ 2 ใช้บารมีจี้ สามร่มโพธิ์ศรีซึ่งป็นบารมีของสมเด็จองค์ปฐมบรม ธรรมิดาบารมีพระศรีอาริยเมตไตร และบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หลังจากสัมผัสน้ำทิพย์  บนฝ่ามือ อาการก็ดีขึ้นเป็น 70%
ครั้งที่ 3ใช้จี้รุ่นพระ ศรีอาริย์อาการเจ็บปวดตา ดีขึ้นอีกเป็น 80%  ครั้งที่ 4 ใช้จี้ท่านพ่อดตาจินิน อาการก็ดีขึ้นอีกเป็น 90% ครั้งที่ 5 ใช้อุปกรณ์รุ่นคุ้มเกล้า ซึ่งเป็นบารมีของท่าน อ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่รักษาตัวอาจารย์อุบล อาการเจ็บปวดตานั้นหายไปเลย 100% อย่างน่าอัศจรรย์

     .... แม้ว่าอาการปวดหายไป แต่ไม่สามารถลืมตาได้ เพราะว่าน้ำตาไม่มี ลืมตาแล้วต้องเจ็บมาอีก  ขณะนั้น ท่านอาจารย์ส่งฉัพพรรณรังสีบารมีพระพุทธเจ้า ขอให้มีน้ำตาแล้วลืมตาได้  ทำให้รับแบบเต็มๆ เกิดอัศจรรย์ในตัวเองอีก มีอาการปลื้มปิติ แบบคุมตัวเองไม่อยู่ ใจสั่น น้ำมูก น้ำตาไหลพลั่งพลู สะอื้นทำให้เกิดน้ำตาออกมา แล้วลืมตาได้ ไม่เจ็บ แต่มองแสงจ้าไม่ได้ เท่านั้นเอง 

     .... ต้องสารภาพว่าใช้ตาจ้องมองเหยียดหยามผู้อื่น มองสิ่งที่ไม่ควรมอง เคยมองก้น มองหน้าอกผู้หญิง แบบจงใจมองให้มีความรู้สึกทางเพศ เคยแอบดูเพื่อน อาบน้ำ เคยดูหนัง วีดีโอโป้ ลามก  ภาพลามก สื่อลามกอนาจาร  ถ่ายภาพนู๊ด ภาพโป้ จงใจถ่ายให้โป้มากมาก  

     .... การใช้สายตามองสิ่งที่ไม่ดี เป็นผลกรรมรวมตัวกันทำให้มีปัญหาสายตา และเจ็บตาแทบจะบอด จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่จะดูว่าเป็นแล้วเดี๋ยวก็หายได้ ถ้าคิดอย่างนี้ มีหวังตาบอดแน่ แน่ สำหรับผมแล้วเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก   ผมเลิกพฤติกรรมการมอง การใช้สายตาไปในทางที่ไม่ดี  ยังใช่สายตาไปละเมิดผู้อื่น แบบเด็ดขาด เพราะผมมันรุนแรง มากครับ

     .... ผมมั่นใจมากครับกับการพิสูจน์กฎแห่งกรรม ว่า ใช้สายตามองสิ่งที่ไม่สวยงาม จ้องมองละเมิดผู้อื่น ทำให้มีปัญหาทางสายตา ทำให้ตาเจ็บได้ 

     .... และการใช้วัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด ในการบำบัดอาการเจ็บตาของผม หายจริงครับ และสามารถลืมตาได้ และมีอาการเป็นปรกติตอนเช้า สามารถทำงานได้ เป็นปรกติ 

     .... ขอกราบขอบพระุคุณท่านอาจารย์อุบล ที่ท่านได้ส่งพลังความรัก พลังความเมตตา และเป็นสื่อกลางในการอัญเชิญบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้พวกเราได้สัมผัส อย่างอัศจรรย์ คือ การหาย  เพราะว่ายังไม่เคยเจอที่ไหนที่ทำได้อย่างนี้ และกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบล ทุกพระองค์ที่ให้สัมผสได้ทุกๆ การพิสูจน์ การสาธุ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-26 00:21:02


ความคิดเห็นที่ 8484 (1655165)

 อนุโมทนากับธรรมทานจากพี่ตุ้ย ดร.จุ๋ม และพี่อมรด้วยค่ะ

อ่านเรื่องพี่อมรไปก็ลุ้นไป อิอิ

แต่สุดท้ายก็หาย 100 เปอร์เซ็น ดีใจด้วยนะค๊าาา

จี้แต่ละรุ่นอานุภาพสุดยอด ไม่ธรรมดาจริงๆ

ซึ่งแต่ละรุ่นเมื่อนำมาบำบัดให้ตัวเราหรือคนอื่นแล้ว

รู้สึกว่าอานุภาพแต่ละรุ่นก็ตามคุณสมบัติของรุ่นนั้นๆ

แต่เมื่อนำมารวมกันแล้ว

รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ ลงตัว มากๆเลยค่ะ

พวกเราโชคดีมากๆเลยเนอะ 

ที่ท่านอาจารย์ปูทาง

ทำทุกอย่างไว้ให้พวกเราหมดแล้ว

เพียงแค่เดินตามท่านอาจารย์ให้ได้

พวกเราก็จะมีแต่ความสุข

จะไม่มีทุกข์อะไรมาทำร้ายพวกเราได้อีกต่อไป

หนูก็จะพยายามเลิกโกรธให้ได้ค่ะ

แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าดีกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆ

เพราะเวลาจิตว่างถ้าไม่ลืม ก็จะท่องคาถาตลอด

รู้สึกจิตไม่ฟุ้งซ่าน ช่วยไม่ให้จิตไหลลงสู่ที่ต่ำได้ดีมั่กๆ

พอท่องไปสักพัก จิตก็แว่บไปคิดเรื่องอื่น

แต่เมื่อมีเรื่องที่จะทำให้เราโกรธ

อารมณ์ไม่ดี รู้สึกว่าจิตเราจะรู้ทัน

ก็เลยพยายามไม่คิด ไม่สนใจ

บางทีก็โกรธไปแล้วแปปนึงก็มาคิดได้

ถ้าเป็นแต่ก่อนนี่โกรธนานเลยค่ะ

กว่าจะหายสิวก็ขึ้นแระ อิอิ

ตอนนี้กลัวไม่สวยค่ะ 555

เลยคิดว่าไม่เอาดีฝ่า

โกรธแล้วเดี๋ยวหน้าดำคล้ำ

เดี๋ยวจะใสสู้พี่ๆม่ายล่าย อิอิ 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-26 03:24:29


ความคิดเห็นที่ 8485 (1655167)

อนุโมทนากับธรรมทานจากคุณตุ้ย

คุณพี่ดร.จุ๋ม และพี่อมรด้วยค่ะ

 

เมื่ออ่านธรรมทานจากคุณตุ้ยแล้ว

รู้สึกทึ่งจริงๆเลยค่ะ เพราะเก็บรายละเอียด

ได้ดีพอๆกับเจ้าตัวเลย

 

คือพอมาอ่านเปรียบเทียบ

กับธรรมทานที่พี่อมรมาถ่ายทอดแล้ว

ความละเอียดใกล้เคียงกันเลย

เจ๋งอ่ะ..คุณตุ้ย

 

ซึ่งเรื่องราวของพี่อมรที่เกิดขึ้นในวันนั้น

ก็คงจะเป็นการตอกย้ำชัดๆกันอีกทีว่า

กฏแห่งกรรม ยุติธรรมที่สุด จริงๆค่ะ

 

เพราะพี่อมรได้รับทุกผลสะท้อนไม่มีบิดพลิ้ว

แล้วเหตุปัจจัยที่มาทำให้เกิดอาการ

เกี่ยวกับ"ตา" ก็ลงตั๊วลงตัวมากๆเลยนะคะ

 

ฉะนั้น เชื่อเถอะว่า

ถ้าผู้ใด ใช้"สายตา" ไปทำ ไปมองค้อน

หรือไปมองในสิ่งที่ไม่เป็นกุศล

ซักวันนึง คุณก็จะโดนแบบนี้

หรือ อาจจะแตกต่างอาการไปบ้างก็ได้

แต่ที่แน่ๆ หนีไม่พ้น ชัวร์ ....

 

จ๊าก...เขียนๆอยู่ก็มีอาการคันๆ เคืองๆตา ขึ้นมา

งั้นก็ขอสารภาพบาปของตนด้วยเลยค่ะ

 

เพราะชนิดาก็เคยใช้สายตา

ในทางที่ไม่ดีมา ไม่น้อยเช่นกันค่ะ

 

ที่หนักมากๆ ก็คือใช้สายตา

มองส่วนเว้าส่วนโค้งของท่านอาจารย์หลายๆครั้ง

 

นอกจากนี้ก็เคยมองหน้าอกผู้หญิงมาแล้วไม่น้อย

คือถ้ามีโอกาส มีหน้าอกดูมๆ มาผ่านตา

ก็ไม่เคยพลาดค่ะ แถมดูแล้ว

ก็แอบวิพากย์วิจารณ์ในใจไปด้วยอีกต่างหาก

 

นอกจากนี้ก็เคยใช้สายตามองจับผิดผู้อื่น

โดยเฉพาะชอบส่งสายตาตำหนิ

จิก ด่าและควบคุมความประพฤติ

ของคุณสามีอยู่เสมอๆ

 

แล้วก็เคยส่งสายตาเจ้าชู้

กับทั้งผู้หญิงและผู้ชายมาแล้ว 

เคยดูภาพโป๊ ภาพเปลือย หนังโป๊ มาด้วยค่ะ ............

 

ซึ่งจากกรรมทางสายตานี้

ส่งผลให้ชนิดาเป็นคนสายตาสั้นเอียง

มองอะไรก็ไม่ค่อยชัด

มีอาการคัน แสบตา เคืองตาบ่อยๆ

โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ

มักจะมีอาการตาแดงๆ

เหมือนมีสบู่ หรือ ยาสระผม

พลาดเข้าตาเป็นประจำ

 

และผลกรรมที่แรงที่สุด

ก็คือ หลังจากผ่าตัดไทรอยด์ครั้งที่สอง

(เมื่อประมาณ8ปีที่แล้ว)

การผ่าตัดครั้งนั้นพลาดไปกระทบเส้นประสาทตา

ทำให้หลังจากฟื้นจากการผ่าตัดแล้ว

มีอาการเปลือกตาด้านขวายาวกว่าด้านซ้าย

สภาพตอนนั้นดูแย่มากๆค่ะ

เหมือนคนไม่สมประกอบเลยค่ะ

 

คุณหมอทำอะไรมากก็ไม่ได้

เพราะถ้าไปผ่าตัดยกเปลือกตาขึ้น

แล้วถ้าวันนึง

ประสาทตานึกอยากจะหดตัวขึ้นมา

ข้างซ้ายกับขวาจะไม่เท่ากันอีก

 

แต่สุดท้าย อาการนี้ก็หายได้

ด้วยบุญกรรมฐานค่ะ

เพราะเมื่อกลับมาเมืองไทยเมื่อปี 2006

ชนิดาก็ไปเข้าคอร์สสมาธิเจ็ดวัน

อาการนี้

ก็หายเป็นปรกติร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ..............

....................................

ส่วนธรรมทานจากคุณพี่ ดร.จุ๋ม

ก็สะท้อนทำให้ชนิดานึกถึง

"ความโกรธ"ของตนด้วยเหมือนกัน

เพราะตอนนี้เวลาที่ใครทำอะไรม่ายล่ายดังใจ

จิตมันก็ยังขุ่น ยังโกรธอยู่เหมือนกัน

ก็จะพยายามตามรู้ ตามดู

เพื่อให้มันลดน้อยลงๆๆๆ

จนไม่เหลือให้ได้..ค่ะ  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-26 06:20:27


ความคิดเห็นที่ 8486 (1655181)

 อนุโมทนากับน้องตุ้ย  พี่จิ๋ม  พี่อมร  ด้วยนะคะ

 ศีลเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริง ๆ

ยิ่งศึกษาก็ยิ่งเห็นความชั่วของตัวเองเพิ่มมากขึ้นทุกที  

จนบางครั้งรู้สึกรับตัวเองไม่ได้เลย  

และได้มาอ่านเรื่องความโกรธโดนเต็ม ๆ ค่ะ

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร  

แต่ทำไมเราถึงเลิกไม่ได้สักที 

                   อ.อุบลช่วยด้วย  ขอให้ช่วยบังคับกระแสจิต

ให้หนูละความโกรธให้ได้ด้วยเทอญ เจ้าค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-26 09:59:02


ความคิดเห็นที่ 8487 (1655200)

ธรรมทาน ว่าด้วยน้ำทิพย์ รุ่นความเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุด จากท่านอาจารย์อุบล

จากคำเรียกร้องของ พ่อใหญ่ธนา พวกเราเลยได้รับรางวัลพิเศษจากท่านอจ.อุบลกันไปด้วย (ขอบคุณท่านผู้นำอย่างยิ่ง) ในคืนวันเสาร์ที่ 23 มีค. ลูกบ้านสวนที่เข้าธรรมทานคืนนั้น ได้มีโอกาสรับน้ำทิพย์ โดยถือขวดไปให้ท่านอาจารย์แตะรับพลังเมตตา โดยอานุภาพน้ำทิพย์รุ่นนี้ เมื่อใช้ใกล้หมด สามารถเติมเพิ่ม ใช้ไปตลอดชีวิต  น้ำทิพย์รุ่นนี้ใช้กัยร่างกายภายนอกได้อย่างเดียว แต่ใช้ฉีดบำบัดผู้อื่นได้ด้วย

อย่างไรก็ตามมีข้อแม้คือ ลูกศิษย์ท่านนั้นต้องมีความศรัทธา อจ.อุบลเต็มร้อย อานุภาพจึงเต็มร้อย ค้องรักษาศีล 5 ให้ได้ และต้องทำบุญ ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และท่านอาจารย์อุบล ที่มอบน้ำทิพย์มารักษาพวกเราทุกเดือน ทั้งนี้ จุ๋มและจิ๋ม จะโอนเงินเข้าบัญชี "น้ำทิพย์ " คนละ 2000 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

กราบขอบพระคุณในความเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดจากท่านอจ.อุบล

จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-26 13:55:24


ความคิดเห็นที่ 8488 (1655312)

อนุโมทนากับธรรมทานดีๆของ พี่ตุ้ย ดร.จุ๋ม-ดร.จิ๋ม พี่อมร พี่ชนิดา พี่ตาล น้องหญิง

อนุโมทนากับทุกคนที่ได้ไปบวชใจ และได้รับน้ำทิพย์อันสุดพิเศษ

ซึ่งถ้าประคองศีล5 ไม่ให้ศีลแตก และยังศรัทธามั่งคงต่ออาจารย์อุบลเต็ม100ก็ย่อมได้รับผลเต็มร้อยจากน้ำทิพย์นั้นตลอดไป สุดยอดดจริงๆ

ท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้ให้แบบไม่มีประมาณจริงๆ

ของที่บริสุทธิ์ ย่อมต้องน้อมรับด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน

ขอสารภาพบาปทางตาด้วยแล้วครับ

ผมเป็นคนที่ชอบมาก ชอบจริงๆ มองหน้าอกผู้หญิงเนี่ย สะโพก เอว อวัยวะเพศ เรียวขา ชอบส่งสายตาหวานให้สาวเพื่อเช็คเรตติ้ง

เคยดูหนังโป๊ รูปโป๊ มองจับผิดผู้อื่น มองค้อนมองตะปู

ผลคือมีอาการตาแห้งบ่อยมาก เวลาเจออากาศเย็น หรือโดนลม แม้สายตาสั้นและเอียงไม่มาก แต่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทำให้เวลาขับรถกลางคืนต้องใส่แว่น ถ้าไม่ใส่ขับไม่ได้ภาพเบลอไปหมด เวลาทำงานก่อสร้าง โดนฝุ่น ปูน กระเด็นเข้าตาบ่อย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-28 01:04:16


ความคิดเห็นที่ 8489 (1655315)

ถึงเพื่อนสหายธรรมชาวบ้านสวนพีระมิด

จิ๋ม ชัชวลี กะลัมพะเหติ ขอเขียนเรื่องราวที่เป็นนิสัยไม่ดีของตน ที่อาจส่งผลถึงการทำบุญธรรมทาน หรือสื่อความประสบการณ์ที่เกิดในบ้านสวนไปเผยแพร่ 

ขณะนี้จิ๋มถือว่า ตนเองเข้ามาอยู่ในบ้านสวนฯบ่อย และพยายามทำตนในการแบ่งปันประสบการณ์ที่นี่ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับรู้ และเอาไปกล่อมเกลาจิตเขา เพื่อจะได้ลิ้มรสธธรรมะบ้าง แต่บางทีตัวจิ๋มไม่ระวังในการใช้คำพูด คำเขียน เช่น เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็เขียนเรื่องใน ห้อง Chat ของบ้านสวนไปให้คนอื่นฟัง ซึ่งผิดอย่างยิ่ง เป็นการที่นำเรื่องที่เป็นส่วนตัวของท่านนั่น ๆ ไปเปิดเผย

กรรมดังกล่าว ทำให้อาทิตย์ก่อน ปวดหลังมาก  อธิษฐาน หรือขอใช้น้ำทิพย์ก็ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย บางคืนพอนอนผิดท่า ก็ปวดจนน้ำตาซึมเลย  ก็พยายามแยกกายแยกจิตเป็นพัก ๆ คือ ไม่สนใจกับกาย ปวดก็รู้ว่าปวด แล้วไม่ใส่ใจ  ก็ทำให้ลืมไปได้เป็นบางขณะ

พอมาวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 มีค) จิ๋มก็ทำผิดอีก คือ ท่าน อ.อุบล ได้ยกตัวอย่างว่า ตอนที่จิ๋มเคยอธิษฐานจิต ขอบารมีธนบัตรขวัญถุง จิ๋มก็ได้รับความเมตตา ขายหุ้นได้  เพื่อจะมาซื้อบ้านที่นครนายก  ทำให้ ญาติธรรมที่เมืองกาญจน์ผู้มาใหม่ หันมาถาม แทนที่จิ๋มจะตอบว่า เพียงบูชา และอธิษฐาน จิ๋มกลับบอกไปว่า บูชาธนบัตร ไว้หลังตู้เย็น แล้วเล่นคอมขายหุ้น คนก็เข้าใจผิดคิดว่า อ้อ ต้องเอาไว้หลังตู้เย็น แถมพี่คนนั้นยังบอกว่า ต้องวางไว้ เพราะให้เป็นเงินเย็นหรือคะ จิ๋มก็อึ้งไปเลย รีบบอกเขาว่าแค่เอาไว้ในที่สูงก็พอค่ะ

นี่แหละค่ะ ความที่เราเป็นคนแบบนี้ พอคิดอะไร เห็นภาพในจิตก็พูดไปเลย ไม่ไตร่ตรองเสียก่อน ว่า พูดแล้วเขาจะเข้าใจผิดนะ การเรียนสูงระดับ ดร.ไม่ได้สอนจุดนี้หรอก อยู่ที่สติ และการระมัดระวังค่ะ

ผลกรรมอันนี้จิ๋มเชื่อว่ามาที่จิ๋มเต็ม ๆ คือ เจ้านายจิ๋ม เขาไม่ค่อยไว้ใจให้จิ๋มพูด หรือ เสนอ ผลงานในที่สาธารณะ เขาจะมาย้ำว่าพูดได้มั๊ย เพราะ เขาพูดกับเราต้องถามซ้ำ หลายครั้งจนกว่าจะรู้เรื่อง แถมเสียงก็ค่อย  ก็เลยปัจจุบันไม่เคยได้เลื่อนยศ หรือต่ำแหน่งเลยมา 10 ปีแล้ว

จึงฝากเพื่อน ๆ ว่ากรรมมันละเอียดจริง ๆ และขอให้ระวังอย่าทำอย่างจิ๋ม ตอนนี้ต้องสังวรว่าเราเป็นลูกบ้านสวนฯแล้วจะทำอะไรที่ไม่ดี มันกระทบถึง ภาพพจน์ของครูบาอาจารย์ และบ้านสวนฯ เต็ม ๆ เลย

ตัวจิ๋มเองขอกราบขอขมากรรมที่ทำความร้อนใจให้ท่านอาจารย์อุบล และจะพยายามแก้ไขปรับปรุงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-28 06:40:25


ความคิดเห็นที่ 8490 (1655402)

 วัตถุมงคลของบ้านสวน

เรื่องนี้เกิดขึ้นเกือบ 1 อาทิตย์แล้วค่ะ ได้ขออนุญาติเจ้าของเรื่องนำมาเล่าให้เห็นถึงพลังวัตถุมงคลของบ้านสวนค่ะ 

เรื่องมีอยู่ว่า คุณกณิษา ได้พาลูกชายชื่อนายอาทิตย์ และลูกสาวชื่อ นฤมล ไปไห้วย่านาคพระโขนงค่ะ คือลูกชายอยู่ๆ ก็อยากไปไห้วนะค่ะ

กลับจากไหว้ เข้านอนตามปกติ แม่เค้าเล่าว่า ลูกคนผู้ชายเรียกเขาไห้ตื่น บอกโดนผีอำ ผีอำให้ร่ายรำค่ะ และในฝันก็ถามผีว่าแม่นาคเหรอ

ผีบอกว่า กูไม่ใช่แม่นาค กูอยู่แถวนั้น ที่กูตามมึงมาเพราะมึงดวงตก แม่ถามรูปร่าง ก็บอกว่า ห่มสใบสีเขียว ผมแสกกลาง หลังจากนั้นก็เรียก

น้องสาวลงมานอนเป็นเพื่อน และเปิดไฟนอน (ตอนแรกปิดไฟ) แม่ก็นำ อุปกณ์ รุ่นคุ้มเกล้า ให้ใส่คนละองค์ นอนสักพัก เด็กผู้หญิงบอกผีอำและ

เขาเข้าปลายเตียงจะจับขา เด็กก็สบัด นึกถึงจึ้แม่ให้แขวนเอามือจับที่หน้าอก ปรากฎว่าจี้หลุดลงไปอยู่ที่ๆ นอน แม่ก็นำมาใส่ให้ใหม่ พร้อมกับ

นำเข็มกลัดท่านท้าวเวสสุวรรณ มากลัดให้เด็กผู้หญิงอีก และก็นอนลืมตากัน สักพักเด็กผู้หญิงบอกเสียงเขาร้องให้ และพยายามจะเข้าหาตัว

แต่เข้าไม่ได้นั่ง ตรงโน้นที ตรงนี้ที พอมองไปที่กระจก ก็เห็นใบหน้าชัดเจน เห็นเหมือนที่พี่ชายบอก (ตอนแรกพี่ชายพูด แม่ไม่ค่อยเชื่อ ) พอ

ลูกสาวเห็นเหมือนกัน ก็เริ่มเชื่อ ก็ลองเดินไปตรงกระจก แม่บอกขนลุกชันเลย ผีก็วนเวียนอยู่อย่างนั้น ไม่ไปไหน เกือบตี 5  สามแม่ลูกลงมา

ที่ร้านขายอาหาร เพื่อเตรียมของ ลูกสาวบอกว่าเขาตามมาด้วย แต่เข้าร้านไม่ได้ แวปมาให้เห็นบ่อย ที่ร้านมีพีระมิด รุ่นบวงสรวงเท้าเวสสุวรรณ

อยู่ด้วยค่ะ เขาปรึกษาว่าจะทำยังไงให้เขาไป (โดยปกติเขาจะโอนเงินบาตรวิระทะโยทำบุญกับบ้านสวนมาสักระยะแล้วค่ะ) พอดีคุยกันว่า

กำลังจะโอนอยู่เหมือนกัน ก็เลยบอกให้ลูกพูดว่าเดี๋ยวจะทำบุญสร้างพระที่บ้านสวนให้ ให้ไปก่อน แม่ก็นำเงินตัวเองส่งให้ลูกจะให้โมทนาบุญ

ผีเขาบอกว่า มันไม่ใช่เงินมึง (นี้คือตัวลูกผู้หญิงเขาบอกเขาได้ยินเสียงแล้วให้ตัวเขาพูดออกมา ) เราก็บอกว่าให้บอกเขาว่าลูกยังเรียนหนังสือ

ไม่มีรายได้ ก็ต้องเอาเงินที่แม่ ให้แม่บอกลูกให้พูดกับผี แต่ก็ไม่มีการตอบรับอะไร แม่ก็นำเงินมาให้ แล้วปุณญิสา ก็โอนเงินให้ และให้เขากับไป

ส่งบุญให้ผีตนนั้น ซึ่งเช้าแล้ว ลูกผู้หญิงบอกจิตเขาแว๊ปๆ ว่าเขายังอยู่ แต่เข้าใกล้ไม่ได้ พอกลางคืน เขามาแต่อยู่รอบนอก แบบห่างไกล 

พยายามจะเข้ามาแต่เข้าใกล้ไม่ได้เลย อ้อ แม่เขาเอาพีระมิดท่านท้านเวสสุวรรณไปไว้ในห้องนอนด้วย ตอนแรกอยู่ที่ร้านค้า พอวันต่อมา

กลางคืนก็วนเวียนเหมือนเดิม ตอนนี้เขาบอกไม่ได้รับสัมพัสอะไรแล้ว นอนหลับดี ส่วนลูกผู้ชาย ไม่เป็นอะไร มาสื่อกับผู้หญิงคนเดียว

ส่วนตอนนี้ แขวนอุปกรณ์คลุ้มเกล้าติดตัวตลอด เขาบอกว่าที่ผีเข้าเขาไม่ได้เพราะอาจารย์อุบลช่วยเขา ล้านเปอร์เซนต์ ค่ะ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณญิสา พูลชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-29 02:21:19


ความคิดเห็นที่ 8491 (1655413)

เมื่อวันฟฤหัสได้ฝันเห็นท่านอ.อุบล และได้ไปทำกิจกรรมร่วมมากมายค่ะ  แค่ได้ฝันก็มีความสุขแล้วค่ะ  จริงๆแล้วมีเหตุมากมายกับตัวเองและครอบครัวพี่ๆน้องที่นครศรีฯ เป็นเรื่องไม่ดีหมดเลยเป็นเรื่องที่อิจฉาริษยา โมโหร้าย แก้แค้นเอาคืนกันทังนั้น ส่วนตัวหนูเองก็ยังมีโมโห  พูดจายังไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ค่ะ  และได้ถามถึงคุณแม่ซึ่งอายุ 84 ปี  นอนไม่ค่อยหลับน้องนุ้ยบอกว่าให้แขวนจี้รุ่นคุ้มเกล้าที่หนูได้บูชาให้ตอนนี้หลับสบายค่ะ กราบขอบพระบาทเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์แทนคุณแม่ด้วยนะค่ะเพราะแม่และพี่ๆ น้องเล่นคอมพิวเตอร์ไม่เป็นจริงๆค่ะ   กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์อุบลค่ะและครอบครัว+ทีมงานบ้านสวนพีระมิดทุกๆท่าน

กราบ  กราบ กราบ

ตัวหนูเองกำลังจะเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ที่นครศรีฯ  และหนูอยากจะถามว่าหนูเอาวัตถุมงคลไปแนะนำหรือบำบัดให้คุณและพี่ๆน้องๆ  และทุกท่านที่จิตเปิดรับได้ไหม? ค่ะ และหนูได้ส่งเอกสรไปก่อนแล้วพอได้ไปแล้วจะไปดูว่าก้าวไค่ไหนค่ะแล้วจมารายงานผลให้ทราบค่ะ  

โมทนบุญกับธรรมทานของทุกๆท่านค่ะได้อ่านได้รู้กิจกรรมได้ทราบถึงผลการกระทำของทุกๆท่านแล้วนึกกรรมของตัวเองออกด้วยค่ะธรรมทานของทุกๆท่านมีประโยชน์มากๆค่ะ  ขอบพระคุณค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-29 09:03:13


ความคิดเห็นที่ 8492 (1655455)

อานุภาพ น้ำทิพย์ รุ่นความเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุด จากท่านอาจารย์อุบล

ได้รับน้ำทิพย์ เมือคืนวันเสาร์ที่ 16 พอวันอาทิตย์ก็พกขวดใส่น้ำทิพย์ มีที่ฉีดกันเลย วันนี้ได้เดินทางไปลพบุรี เมื่อลงจากรถ อากาศข้างนอกทั้งร้อนทั้งอ้าว ต้องเอาน้ำฉีดหน้า ฉีดแล้วเย็นสดชื่น ไม่ง่วงตอนอยู่ในรถ ในงานนี้ได้ใช้น้ำทิพย์ ฉีดให้ข้อนิ้ว ของแม่คุณตุ๊ก_มยุรฉัตร ที่เป็นโรครูมาตอยต์ ก็มีอาการดีขึ้น เบาหายปวด ก็ปอกให้คุณแม่ขอบคุณ อจ.อุบล

กลับบ้านพบคุณพ่อ กำลังฝึกเดิน บ่นกันว่า พ่อปวดหัวเข่า เดินไม่ค่อยได้มา 2-3 วันแล้ว ตอนพ่อนอนอยู่บนเตียง ก็เอาน้ำทิพย์ รุ่นที่อจ.อุบล มอบให้ไปฉีดที่เข่าที่เขาปวด พอถามเขาพูดเสียงดังว่าดีขึ้น หายปวดแล้ว ผลดีจนน่าอัศจรรย์ ก็ให้พ่อพูดขอบคุณ อจ.อุบล เขาก็พูดตาม

ส่วนคุณแม่ปวดที่ข้อเท้า ไม่เดินไปสวนสาธารณะมา 2-3 วัน แม่อัตตาสูง ฉีดให้ยังเฉยๆ แต่วันรุ่งขึ้นถามอีกทีก็บอกว่าหายปวดแล้ว
อีกรายแม่บ้านทำความสะอาดมีอาการปวดตะโพก ก็ลองฉีดให้ที่มือ  วันรุ่งขึ้นมาก็บอกว่าหายปวด เทียบกับเมื่อวานปวดมาก พอหายก็ให้เขา ขอบคุณ ท่านอจ.อุบล
คนสุดท้ายไปเยี่ยมเพื่อนอาจารย์ที่ต้องผ่าตัดเอาเนื้องอกออก ก็พกน้ำทิพย์ไปเยียม ไปฉีดให้ที่มือ บอกก่อนเสมอว่าเป็นน้ำศักธิ์สิทธิ์ของ อจ.อุบล เขาสามารถสัมผัสว่าน้ำทิพย์มีกลิ่นหอม ตอนฉีด ก็บอกเขาว่าคงเป็นกลิ่นเทวดาจากน้ำของท่านอจ.อุบล แต่แผลจะดีไหมต้องติดตาม

น้ำทิพย์รุ่นศักดิ์สิทธิ์ สามารถไปช่วยคนได้ผลจริง__กราบขอบพระคุณอจ.อุบล น้ำทิพย์รุ่นนี้มีไว้ช่วยคนอื่นได้ดีมากๆ
ธารีรัตน์--จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-03-29 16:04:53


ความคิดเห็นที่ 8493 (1655561)

 วันที่่ 30 มีนาคม 2556 ได้มีโอกาสเข้าร่วมรับฟัง

ธรรมะบรรยาย และธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที โดยท่าน อ. อุบล ณ วัดมงคลชัยพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี

ไปถึงวัดเวลา 13.30 น. ซึ่งท่าน อ. อุบล ได้เริ่มบรรยายไปแล้ว ซึ่งมีผู้เข้าร่วม ประมาณเกือบสามสิบท่าน ตอนที่เข้าไปท่าน อ. อุบล และคุณธนา กำลังบำบัดผู้เข้าร่วมประชุมอยู่ โดยท่าน อ. อุบล ให้คุณธนาถามแต่ละท่านว่ามีปัญหาอะไร และท่าน อ. อุบล ก็บำบัดเป็นรายบุคคลไปเลย และต่อมาท่าน อ. อุบลก็ให้คุณธนาบำบัดให้ โดยแต่ละคนใช้วิธีที่ไม่เหมือนกัน พี่ ป้า น้า อา ตา ยาย ทั้งหลายก็ได้หายจากอาการเจ็บป่วย กันแบบฉับพลันทันทีจริง ๆ เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้เข้าร่วมประชุมแบบสุด ๆ // ถือว่าวันนี้เป็นโชคดีของทุกท่านที่ได้เข้าร่วมประชุมจริง ๆ ค่ะ เพราะท่าน อ. อุบล บำบัดแบบหาย 100 % กันทุกคน สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

     สำหรับความประทับใจในการบำบัดครั้งนี้ มีน้องนักศึกษาแพทย์ปี 5 ซึ่งเป็นอัมพฤต ข้างขวา ทำให้ต้องมาเขียนหนังสือมือซ้าย ท่าน อ. อุบล ก็บำบัดให้เลย โดยให้มองหน้าท่าน อ.อุบล อาการดีขึ้น 50 % และท่าน อ. อุบล ถามน้องว่ากล้าที่จะไปบอกเล่าเรื่องของตัวเอง ที่มาบำบัดวันนี้ให้เพื่อน ๆ ในวงการแพทย์ได้ทราบไหม ครั้งแรกน้องตอบว่า ต้องดูเป็นรายบุคคล ว่าควรจะพูดกับใคร แต่ท่าน อ. อุบล ได้บอกว่า หน้าที่เราคือพูดให้คนอื่นได้รับรู้เรื่องการบำบัด ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องของเค้า แบบนี้จะทำได้หรือไม่ เพราะที่ทำก็เพื่อตัวน้องเอง / น้องนักศึกษาแพทย์ตอบว่า ทำได้ อาการก็ดีขึ้นอีกเป็น 60 % / และน้องมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวท่าน อ. อุบล และพร้อมที่จะนำเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นได้รู้ ท่าน อ. อุบล ก็ให้รางวัลน้องก่อนที่จะไปเล่าต่อ สุดท้าย อาการของน้องดีขึ้น 90 % / ท่าน อ. อุบล ได้ถามน้องว่ารู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ น้องตอบว่า เป็นเรื่องที่อัศจรรย์ที่ทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารพิสูจน์ได้ และวงการแพทย์ก็ไม่สามารทำได้เช่นนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-01 08:07:01


ความคิดเห็นที่ 8494 (1655562)

 อีกท่านหนึ่ง หูข้างขวาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยตั้งแต่จำความได้ เวลาใส่หูฟัง ข้างขวาก็จะรู้สึกว่ามีเสียงสั่นสะเทือน แต่ไม่สามารถรู้ว่าเสียงนั้นพูดว่าอย่างไร ท่านนี้คุณธนาให้กราบท่าน อ. อุบล อาการดีขึ้น 10 % ซึ่งท่านนี้ บำบัดหลายวิธีมาก (จำไม่ค่อยได้ ฟังและลุ้นเพลินเลยค่ะ) มีทั้งกราบท่านอาจารย์ ใช้รหัส อ. อุบลช่วยด้วย ใช้พลังดัชนีไฉไล เข้าไปใกล้ ๆ ท่าน อ. อุบล สารภาพบาป และจากคำสารภาพบาปของท่านนี้แหละค่ะ มันมีบางอย่างที่เราไม่คิดว่าจะเป็นสาเหตุของอาการหูหนวก ครั้งแรก ท่านนี้บอกว่า ตอนเป็นเด็กเล่นกันก็ตบบ้องหูเพื่อน หลังสารภาพอาการดีขึ้น / มีน้องไม่ชอบแคะขี้หู ก็ช่วยแม่จับน้องล๊อคไว้ให้แม่แคะขี้หุ น้องก็ดิ้น ร้องโวยวาย หลังสารภาพอาการดีขึ้นอีก /เล่นสงกรานต์สาดน้ำเข้าหูผู้อื่น หลังสารภาพอาการดีขึ้นอีก/ ทำหูทวนลม พ่อ แม่ ครู บอกสอน ก็ทำเป็นม่ได้ยิน ไม่รับรู้ หลังสารภาพอาการดีขึ้นอีก / และสุดท้าย ท่านนี้อาการหูหนวกหาย 100 % เลยค่ะ เป็นคสที่ลุ้นมาก ๆ เลยค่ะ / วิธีการทดสอบการได้ยิน แรก ๆ ใช้วิธีเอานิ้วเข้าไปเขี่ยหู เหมือนเราใช้นิ้วปัดอะไรออกจากหู จากที่ไม่เคยได้ยินเสียง ต่อมาก็ได้ยินเสียง แต่ยังไม่เป็นภาษา พอดีขึ้นเรื่อย ๆ วิธีทดสอบต่อมา คือ การกระซิบข้างหู โดยคุณธนา ท่านอาจารย์บอกว่าให้กระซิบนะ ไม่ใช่ให้หอมแก้มนะ ฮาเลยเรา

 

        อีกท่านหนึ่งปวดไหล่ หลังจากบำบัดหมู่ทุกท่าน คนอื่นอาการหายหมด ยกเว้นท่านนี้ที่อาการดีขึ้นเพียง 10 หรือ 20 % ไม่แน่ใจค่ะ ท่าน อ. อุบล เลยให้สารภาพบาป ท่านนี้เรียนสัตวศาสตร์เคยฆ่าสัตว์ทดลองมาเยอะ มีส่วนรู้ห็นในการฆ่า วัว ควาย และไปทำงานที่ฟาร์มซึ่งก็เป็นการรู้เห็นในการส่งสัตว์ไปฆ่า ทำอยู่ 1 ปี ก็ลาออก เพราะสงสารสัตว์ หลังสารภาพอาการปวดไหล่ดีขึ้น 60 % / ขอบารมีสิ่งศักดิ์ทุกพระองค์และท่าน อ. อุบล อาการดีขึ้นเป็น 70% / กราบท่าน อ. อุบล อาการดีขึ้น เป็น 90 % สุดท้ายใช้รหัส อ. อุบลช่วยด้วย หาย 100 % เลยค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-01 08:09:03


ความคิดเห็นที่ 8495 (1655563)

   หลวงพ่อ เจ้าอาวาสวัด ปวดเข่า เส้นตึง นั่งสวดมนต์นาน ๆ ขาเป็นเหน็บชา ท่าน อ. อุบลบำบัดให้ เป็นการบำบัดหมู่ โดยท่าน อ. อุบล บอกว่าท่านมาวันนี้ มาพร้อมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ พระผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง คือ ท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระศรีอาริยเมตไตร พระนางเนเฟอร์ตารี พระรามเศสที่ 2 และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล โดยคุณธนาได้ขอความเมตตาจากทุกพระองค์ หากสิ่งที่ท่าน อ. อุบล พูดมาเป็นความจริง ขอให้ทุกคนที่ยังมีอาการเจ็บป่วยอยู่หายโดยฉับพลันทันทีด้วยเทอญ / ผล คือ ท่านเจ้าอาาส หายจากอาการปวดเข่า เส้นตึง เหน็บชา / ท่านอื่น ๆ ก็หายจาก ปวดขา ปวดเข่า ปวดหัว และมีคุณป้าท่านหนึ่งเป็นอัมพฤตมึนหัวตลอดรักษาอาการก็ไม่หาย แต่มาหายตอนบำบัดหมู่ คุณป้าบอกว่าหัวโล่งเลย ไม่มึนอีกแล้ว

                และสุดท้าย ท่าน อ. อุบล ได้มาสรุปว่า ที่เราต้องมาเจ็บป่วยอยู่นี่ เป็นเพราะเราละเมิดคำสอนพระพุทธเจ้า เราทำผิดศีล เราถึงต้องมาเจ็บป่วย ลำบากยากจน มีปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ // มีคนถามว่า อาการที่หายจากการบำบัดนี้ จะหายเลยหรือไม่ ท่าน อ. อุบล ตอบว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าจะหายชั่วคราวหรือถาวร ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวผู้นั้นเองว่าจะเลือกปฏิบัติแบบไหน ถ้าต้องการหายชั่วคราว กลับไปก็ไปทำตัวเหมือนเดิม ผิดศีลเหมือนเดิม อาการที่หายก็จะอยู่เพียง 24 ชั่วโมง / แต่ถ้าต้องการหายถาวร กลับไปเราต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่ทันที เราจะไม่ทำผิดศีล อีก อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเราที่ได้ออกจากเราขึ้นไปสวรรค์แล้ว ถ้าเราทำได้เราก็จะหายถาวร

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-01 08:09:03


ความคิดเห็นที่ 8496 (1655587)

 

สวัสดีค่ะ ในวันพุธ-พฤหัสที่ 3-4 เม.ย.56 นี้

งานนิทรรศการส่งเสริมสุขภาพ จัดที่ บริเวณชั้น 1
 อาคารอเนกประสงค์

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

(พระราม 7)
ท่านใดสนใจเชิญเข้าร่วมบำบัดที่งานได้นะคะ

บูธของเราอยู่บูธที่ 5 ค่ะ
งานเริ่มเวลาประมาณ 9.00-16.00 น.ค่ะ
งานนี้บูธของเราใช้ชื่อว่า

"ธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที"

บูธที่ 5 อยู่ติดกับบูธดังๆ ทั้งนั้นเลยค่ะทั้งซ้ายและขวา

อย่างเช่นบูธ อ.ฉาดฉาน บุญนาค
ที่เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายออร่า

บูธพลังจักรวาลเพื่อสุขภาพ
บูธ TISAR (สถาบันวิจัยค้นคว้าวิชาการสั่งจิตใต้สำนึก)
เรียกว่างานนี้ธรรมบำบัดของบ้านสวนพีระมิด

จะได้ช่วยผู้คนได้ในวงกว้างมากขึ้นจริง ๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-01 13:04:25


ความคิดเห็นที่ 8497 (1655609)

ขออนุโมทนากับจิตอาสา 2 สาว

อย่าง

คุณตุ้ย + คุณก้อย

ด้วยนะคะ

ขอติดตามให้กำลังใจด้วยคนค่ะ

เอ...งานนี้

อยากรู้ว่าถ้ามีคนมาบำบัดที่บูธ

" ธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที "

แล้วหายทันที

คนประจำบูธข้างๆ

จะอดใจมาร่วมเข้ารับการบำบัดด้วย ไหวรึเปล่าน้อ...

รอติดตามค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-01 18:52:13


ความคิดเห็นที่ 8498 (1655614)



ธรรมทานวันเสาร์ที่ 30 มี.ค.56 สัปดาห์นี้

เป็นสัปดาห์ของการบวชเนกขัมมะ (บวชใจ)

 ซึ่งค่ำคืนวันเสาร์ ท่านอ.อุบลได้แสดงธรรมะให้เห็น

โดยการใช้ชีวิตจริงของอาเฮียซึ่งเป็นเพื่อนเฮียวิ

จากกาญจนบุรีคือ

 เฮียแกมีปัญหา ทำธุรกิจก็ไม่ได้กำไร

หนี้สินล้นพ้นตัว ยอดขายลดลง

ไม่พอจ่ายดอกเบี้ย ทำให้แกเครียด สมองมึนงง

 เครียดจนลงหัวใจ และไม่พูดคุย ไม่ยิ้มไม่หัวเราะกับใครเลย

เป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว ดูอาการของแกค่อนข้างเป็นหนัก

 ซึ่งดูภายนอกเราจะไม่รู้เลย ซึ่งเป็นทุกข์ทางใจล้วนๆ

และกำลังจะส่งผลทางกายด้วย จึงได้เริ่มบำบัดเฮีย

โดยทำนำทิพย์จากจี้บารมีท่านพ่อดตาจินินแตะน้ำและสัมผัส 

ผลก็คือยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง


ต่อไปจึงใช้บารมี 3 ร่มโพธิ์ศรีซึ่งครั้งนี้

อาการอาเฮียดีขึ้นมาอีกหน่อย

 จึงใช้วิธีการบำบัดแบบใหม่คือให้ดูรูป

และผลงานท่านอาจารย์อุบล 

โดยดูรูปแรกอาการมึนงงที่หัวก็ดีขึ้นอีก 

ดูรูปที่สองก็ยังเหมือนเดิม 

จนมาถึงรูปท่านอาจารย์รูปที่สาม ที่หัวแกโล่งขึ้นอีก


ขั้นต่อไปจึงใช้วิธีเสี่ยงทายว่าถ้าท่าน อ.อุบล

คือพระนางเนเฟอร์ฯ กลับชาติมาเกิดจริงให้อาการตื้อ มึนหัว

 ของเฮียหายด้วยเถิด ก็ปรากฎว่าเฮียดีขึ้นมาขึ้นได้ 30%   

จึงได้เสี่ยงทายต่อไป โดยขอบารมีพระนางเนเฟอร์ฯ

ช่วยขอให้เฮียอาการที่เป็นอยู่หายหรือดีขึ้นด้วย

 ปรากฎว่าอาการเฮียเหมือนเดิมค่ะ 

 จึงได้ใช้วิธีต่อไปคือ ขอบารมีท่านอ.อุบล

ที่สั่งสมมาขอให้เฮียหาย มึนหัว และรู้สึกหงุดหงิดในอก

 ปรากฎว่าเฮียอาการดีขึ้นมากเป็น 80%


และเฮียก็ได้บอกล่าวว่าจะรักษาศีล 5 เลืกกินเหล้า 

จะเสียภาษีเต็มที่ เลิกโกหก  ผลคือดีขึ้นถึง 99% 

และสุดท้าย เมื่อเฮียก้มลงกราบท่านอาจารย์

3 ครั้งอย่างไม่ต้องลังเลด้วยความศรัทธา

ผลคืออาการทั้งหมดของเฮีย หาย 100% เลยค่ะ

ถือว่าสุดยอดมากๆ  เลยค่ะ


ทั้งหมดทำให้เห็นว่าการผิดศีลข้อใดข้อหนึ่ง

ล้วนแต่ทำให้ชีวิตเราไม่มีความปกติสุข

ความทุกข์ทางใจ ถึงไม่มีบาดแผล เรามองไม่เห็น

แต่ก็ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่หัวเราะ ไม่ยิ้ม

ซึ่งน่ากลัวมากจริงๆ ค่ะ ทางที่ดีรักษาศีลกันดีกว่าค่ะ

 จะได้ไม่ต้องทุกข์ทั้งกาย และใจค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-01 19:54:58


ความคิดเห็นที่ 8499 (1655640)


ค่ำคืน 30 มีค. 56

หลังจากทำบุญใช้แรงกายเสร็จในตอนเย็นประมาณ 5 โมงกว่า ป้าจุ๋มบ่นว่าจะไม่อยู่ตอนกลางคืนแล้ว เพราะวันนี้ตอนบ่ายเขาเป็นลม เพราะแดดแรงร้อนจัด ป้าจุ๋มเขาก็เลยเป็นลม  ทุกวันนี้ไม่ค่อยแข็งแรง หรือมีเงื่อนกรรมอะไรบางอย่าง เราก็ยังไม่รู้ 
 
แต่โชคดีที่ว่า ก่อนจะกลับเจอคุณธนา ก็เลยเข้าไปบอกว่าเราจะกลับก่อนนะ เพราะไม่สบายจะไปนอน คุณธนาก็รีบบอกว่า ยิ่งไม่สบายยิ่งต้องอยู่ อย่าหนีปัญหาสิ  มาที่นี่จะได้รู้กรรม และช่วยรักษาได้ การหนีไปนอนไม่ใช่ทางแก้ เพราะเรานอนมาทั้งชีวิตแล้ว  เรา 2 คนได้ฟังก็ได้คิด และไปพัก อาบน้ำ เสร็จแล้ว จุ๋มก็หายดี เพราะได้อาบน้ำพลังพีระมิดนั่นเอง

ค่ำคืนนี้มีแขกพิเศษคือ เพื่อนของคนเมืองกาญจน์ (เฮียวิ) เพื่อน ทานอ.อุบล  ตอนเย็นที่เจอเขา เขาก็บอกว่าบำบัดคนหายไปตั้ง 13 คนแน่ะ  เก่งจริง ๆ ขนาดมาบ้านสวนครั้งแรกเมื่ออาทิตย์ก่อน กับภรรยาเขา คุณเพ็ญ และทำการบำบัด ศรัทธาแรงกล้า มาบูชาจี้ และพิระมิดไป แล้วไปช่วยคนได้เยอะ ทำเอาคนเก่าอย่างเรา ที่เป็นลูกบ้านสวน อายไปเลย เพราะเราช่วยคนได้น้อยจัง

 มาคุยถึงเพื่อนเฮียวิ  เขาเป็นคนหน้าเฉย ไม่ค่อยยิ้ม เป็นคนขายเสื้อผ้าส่งออกไปดูไบ เขาเครียดมาก เพราะขาดทุน เป็นหนี้ประมาณ 10 ล้าน เขาบอกว่าไม่ค่อยได้ยิ้มและหัวเราะมานาน  พอตอนเย็น ได้ทานข้าวเย็นกับ ท่านอ.อุบล และคุยกับท่านอาจารย์เขาบอกว่า เป็นครั้งแรกที่ได้คุยและหัวเราะสนุกสนาน และอยู่ใกล้ท่านอาจารย์ก็มีความสุข เขาบอกว่าก่อนที่จะมาเจออาจารย์ ตอนเย็นวันนั้นได้คุยกับคุณดารา แม่น้องชิม คุณดาราแนะนำว่า ให้อยู่ใกล้ท่านอาจารย์เข้าไว้ จะดีเอง ไม่ว่าทางกายทางใจ เขาก็ทำตาม และได้ผลดีจริง ๆ ด้วย
 ตอนมาบำบัดอาจารย์ก็ให้คุณธนาช่วยทำน้ำทิพย์โดยใช้จี้ท่านดตาจินิน ซึ่งทำให้เป็นน้ำมโนธาตุ อาการที่เขาเครียดก็ดีขึ้น ท่านอาจารย์ก็ชี้กรรมให้เขาเห็นว่า ตอนค้าขาย เขาไม่จริงใจกับลูกค้า ชอบโกหก ว่าของดี ทั้งที่ไม่ดี และยังชอบโกรธ ทำให้จิตใจขุ่นมัว เป็นต้น ท่านก็แนะนำให้บูชาจี้ ท่านดตาจินินไป เพื่อบังคับกระแสจิตให้ไม่โกรธ  และจะได้หายเครียด และให้ตั้งใจทำความดี ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง
 จากที่ได้สังเกตเห็น คุณคนนี้จะนั่งนิ่ง และคิดตาม จิตค่อยๆ เปิดรับธรรมะ เขาก็ยิ้มได้ พอคนเราจิตใจดี ร่างกายก็จะดีตามไป อันนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว ประกอบกับได้รับพลังที่ดีๆ จากการอยู่ใกล้ท่าน อ.อุบล และน้ำมโนธาตุ ทำให้เขายิ้มได้ในที่สุด

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 04:34:35


ความคิดเห็นที่ 8500 (1655641)

เล่าตอนกลางคืนต่ออีกนิดนึงว่า  คุณธนาได้นำหนังสือสอนทำ ดอกไม้ผ้าใยบัว ที่ท่าน อ.อุบลทำขึ้นขายเมื่อปี 46 แล้วเปิดให้ดูรูปท่านอาจารย์ ที่มีภาพปรากฏในหนังสือ  3 รูป ดูทีละรูป แต่ละครั้งที่ดู ก็สังเกตอาการตนเองว่า อาการปวดหลัง และเจ็บฝ่าเท้าค่อย ๆ   ดีขึ้นเรื่อย ๆ  คุณธนาบอกว่า  เขาเคยไปกับท่านอาจารย์อุบล และเอารูปนี้ให้ คนที่มาบำบัดได้ดูก็พบว่าหายได้

อาจารย์ให้ออกความเห็นว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น คุณแก้ว ได้บอกว่า อาจเป็นเพราะเขาต้องการสื่อสารว่า จริง ๆ ท่านอาจารย์อุบล ก็เป็นผู้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวมานานแล้ว หรือกล่าวได้ว่า ท่านพ่อดตาจินิน ได้อยู่กับท่านอ.อุบล และปกปักรักษาท่านมานานแล้ว ดังนั้น การดูรูปท่านในอดีต ก็ปรากฏให้คนมีความสุข หายจากโรคภัยเช่นกัน
ส่วนตัวจิ๋มได้ให้ความเห็นไปว่า การที่เราดูรูปท่าน อ.อุบลเมื่อยังสาว แล้วเราหายเจ็บป่วย อาจเป็นสื่อบอกว่า ต่อไปนี้รูปร่างหน้าตาท่าน อ.อุบล จะสาวขึ้น และท่านอาจจะกลับไปมีรูปร่างเหมือน 10 กว่าปีก่อนก็เป็นได้ ซึ่งตรงกับคำทำนายของยุคพระศรีอาริย์ว่า ผู้คนจะหน้าตาดี ไม่เจ็บป่วย มีแต่ความสุขก็เป็นไปได้  หรือว่า จะมีการสื่อสารมาว่าใกล้ถึงยุคพระศรีอาริย์ ในไม่ช้านี้แล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 04:52:21



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 [85] 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.