ReadyPlanet.com


ข่าวรายวัน บ้านสวนพีระมิด


ตั้งแต่เดือน ก.พ. 54 เป็นต้นไป

บ้านสวนพีระมิด

จะมี บก.หน้าหยก มารายงาน

ข่าวประจำวัน

ทางเวปไซด์ ให้แฟนคลับได้รับทราบ

ความเคลื่อนไหว ในบ้านสวนพีระมิด (ประเทศไทยจำลอง)

เป็นสถานีข่าว สังคม บันเทิง ศาสนา ดารา สิงห์สาราสัตว์

ใครไปใครมา ตอนนี้สร้างอะไร จะทำบุญยังไง

ใครมาทำบุญ ทำบาป ฯลฯ

แล้วก็เรื่องอัศจรรย์วันละหลายหน ที่อดทน

เก็บไว้เต็มพุง ของ บก.หน้าหยก

อกเกือบแตกตายอยู่แล้ว

อ.อุบล จึงเกริ่นไว้ก่อน นะคะ ขอบอก

(ทำเป็นสถานีข่าว......ซะงั้น)



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-26 17:55:06


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 [86] 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 8501 (1655642)

บ่ายวันที่  31 มีค.56

แต่พอาจารย์พูดว่าผิดศีลข้อ 4 ก็เลยรีบไปบอกว่า ตนเองปวดฝ่าเท้ามาก  วันนี้มากกว่าเมื่อวาน จริง ๆ แล้วเมื่อวานน่าจะปวดกว่า เพราะเดินเยอะ แต่กลับกลายว่า วันนี้ทำ Biogas ไม่เดินเยอะ แต่เจ็บฝ่าเท้า  วันนี้มาถึงอาจารย์ก็ให้สวมจี้ให้เยอะที่สุด ของจิ๋มที่แขวนอยู่ในคอมี 25 องค์แล้ว ท่านก็ขอให้ลูกบ้านสวนที่ชมอยู่ช่วยบริจาค ยืมจี้ที่ตนแขวนมาชั่วคราวให้จิ๋ม ถือ รวมที่ถือคือ 174องค์  และเดินดู พบว่าดีขึ้นสัก 10% แต่ไม่หาย  อาจารย์ก็อยากเพิ่มให้อีก และขอบารมีให้จำนวนจี้เพิ่มเป็น 200 องค์ ก็ยังไม่หาย เพียงแต่ดีขึ้นเพิ่มเติมกว่าแต่ก่อน หลังจากนั้นคุณธนาก็มาถามคำถามเกี่ยวกับพระนางเนเฟอร์ตารี ว่าคือ อดีตชาติของท่าน อ.อุบลหรือไม่ และอ.อุบลสามารถอัญเชิญบารมีของพระนางมาช่วยคนได้ใช่มั๊ย ก็พบว่าอาการค่อย ๆดีขึ้น เล็กน้อยแต่ยังไม่หายอย่างฉับพลันทันที

การห้อยจี้เยอะ ๆ เช่นนี้ทำลำบากในชีวิตประจำวัน ท่าน อ.อุบลจึงได้ขอพระราชานุญาตเป็น ห้อย เพียง 1 องค์ แทน 20 องค์ โดยให้เก็บ 20 องค์ไว้ที่บ้านแทนค่ะ
นับเป็นเมตตาของท่าน จิ๋มจะลองบูชา และไปแขวนดู เพื่อจะได้อาการดีขึ้นค่ะ

ที่น่าแปลกอีกอย่างคือ ขณะเรากลับไปนั่งที่ และอนุโมทนาบุญไปกับ คนที่มาบำบัดรักษากับ อ.อุบล พบว่าอาการฝ่าเท้าเบาลง ๆ จนไม่เจ็บแล้วค่ะ

การพิสูจน์ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า อานุภาพแห่งบุญ

มีจริง ในการอนุโมทนากับผู้อื่น ก็สร้างบุญได้ทำให้ส่งอุทิศไปให้เจ้ากรรมนายเวรได้ และเขาก็ปราณีให้เราอาการดีขึ้น


กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
ชัชวลี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 05:17:10


ความคิดเห็นที่ 8502 (1655643)

อนุโมทนากับธรรมทานจากทุกๆท่านด้วยค่ะ

ได้อ่านเรื่องของเพื่อนเฮียวิ

ที่มารับการบำบัดที่บ้านสวนฯ

และได้อยู่ใกล้ๆท่านอาจารย์

ก็มีความสุข

คลายเครียด และยิ้มได้ทันที

 

ฟังแล้วก็ยินดีด้วยนะคะ

เพราะการมาครั้งนี้ของอาเฮีย

นับว่า คุ้มค่าที่สุด

เพราะได้รู้ถึง"สาเหตุ"ที่แท้จริง

ของผลกรรมต่างๆที่ตนได้รับ

เพื่อนำไปปรับปรุง แก้ไข ตนเองต่อไป....

เพื่อให้ปัญหาต่างๆในชีวิตได้คลี่คลายลง

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 07:27:51


ความคิดเห็นที่ 8503 (1655644)

อนุโมทนากับทุกๆธรรมทานจากเจ๊ตาล ด้วยนะคะ

เพราะแต่ละเคสชวนทึ่ง และ มหัศจรรย์จริงๆค่ะ

ชนิดาก็นึกภาพไม่ออกเลยนะคะว่า

คนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยิน

เกี่ยวกับท่านอ.อุบลหรือ บ้านสวนฯเลย

พวกเค้าจะ งงสุดๆ แค่ไหน....

โดยเฉพาะเคสของคนที่หูหนวก มาตั้งแต่จำความได้

แต่ก็มาหายร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยวิธีการง่ายๆ

ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องกินยา

เพียงแต่ให้"พิจารณาการกระทำ"

ของตนที่ผ่านๆมา เท่านั้น

ก็หายได้แบบฉับพลันทันที สาธุ

......................................

ส่วนกรณีของน้อง นศ.แพทย์ ที่เป็นอัมพฤกษ์

แต่ก็มาอาการดีขึ้นทันที90% ด้วยวิธีง่ายๆ

โอ้ววว...เรื่องนี้

ต้องไปสร้างปรากฏการณ์อันชวนอึ้ง

ในวงการแพทย์แน่นอนเลยค่ะ

......................................

ส่วนเคสท่านเจ้าอาวาส

และ หลายๆท่านที่หายจากทุกๆอาการทันที

ที่ท่านอาจารย์ประกาศอย่างหาญกล้าว่า

วันนี้ท่านอาจารย์มาพร้อมกับ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

ตั้งแต่ท่านพ่อดตาจินิน

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ฯลฯ...

ซึ่งงานนี้ ทุกท่านที่เจอปรากฏการณ์

แบบหายทันทีเช่นนี้ด้วยตัวเอง

คงสิ้นความสงสัยไปเลยว่า

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงหรือไม่.....

เพราะได้"คำตอบ"ที่สัมผัสและรับรู้ได้

เป็นรูปธรรมและเป็นวิทยาศาสตร์ ที่สุดแล้ว

........................................

ฉะนั้น กิจกรรม ธรรมบรรยาย

ที่วัดมงคลชัยพัฒนา ในครั้งนี้

คงจะทำให้ผู้ที่มาร่วมงานทุกๆคน

ได้ตระหนักในคำสอนแห่งพระพุทธองค์

และคงจะมีความเข้าใจในเรื่อง"ศีล"ได้ถูกต้องยิ่งๆขึ้น

อีกทั้งคงจะไม่กล้าละเมิดศีล

และละเมิดผู้อื่นอีกต่อไปแน่ๆเลย

.............................

 

กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์

และพี่น้องบ้าน สวนฯทุกๆท่าน

ที่ไปร่วมงานนี้ด้วยค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 07:35:53


ความคิดเห็นที่ 8504 (1655711)

อาทิตย์ที่แล้วพวกเราไม่ได้ไปบ้านสวนฯ รู้สึกแปลกๆ แหะๆ เป็นเพราะเข้าเฟซช้าเลยเขียนขออนุญาติไม่ทัน เป็นเช่นนั้นเองขอรับกระผม

อาทิตย์นู๊นหลังจากที่กลับจากบ้านสวนตอนค่ำ

แวะไปรับอาหารที่คุณแม่ฝากมาให้ที่บ้านพี่สาว หรือคุณป้าปิ๋ว ของเด็กๆ  

ผมขับรถไปถึงไม่ทันได้จอดรถสนิทดี  

เห็นน้องบัววิ่งถลาแล่นลงไปพร้อมแม่แหล๋น แต่ถึงตัวเจ้าหมาที่เขาเลี้ยงไว้ชื่อเจ้าน้ำเงี๊ยว  ไม่กีนาทีให้หลัง ก็วิ่งปราดมาที่รถพร้อมน้องบัวมือเลือดโชก บอกว่าโดนน้ำเงี้ยวกัด ที่มือขวาเป็นรอยเขี้ยวลึก  เลือดไหลโทรมมือ

เดชะบุญ มือไวเท่าความคิด แหล๋นเอาน้ำทิพย์ที่เพิ่งได้รับจากบ้านสวนวันนั้นราดที่แผล  เลือดหยุดทันทีเล่นเอาสองแม่ลูกงง....

ใช้ได้ผลทันทีอย่างฉับพลัน  

น้องบัวไม่มีอาการเจ็บเลยมีแต่อาการชาที่มือแทน

 แต่ที่เจ็บเป็นอาการที่คุณป้าบีบตรงแผล

เพื่อคัดเลือดจนมีเนื้อปลิ้นออกมาจนมีอาการช้ำที่แผล  

แหล๋นใช้น้ำทิพย์ชะโลมที่แผลจนถึงบ้าน  

ดึกแล้วจึงไม่ได้ไปหาหมอ  

พอมาถึงบ้านเปิดถุงอาหารที่คุณแม่ฝากมา

รู้สึกแปลกใจระคนดีใจ เพราะมีซองประกันอุบัติเหตุของน้องบัวอยู่ในนั้นด้วย  ทันเวลาที่น้องบัวได้ใช้ที่โรงพยาบาลสนามจันทร์พอดี  

ตอนนี้แผลหายเร็วมาก จนคุณพยาบาลชมเปาะสรุปว่า เจอยาฉีดป้องกันบาดทะยัก 1เข็ม และวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าอีก 5 เข็ม ไว้ก่อนหลายเข็มหลายเข็ม  จะเจ็บก็ตอนคุณพยาบาลทะลวงแผลตามความยามของคมเขี้ยว แต่แหล๋นก็เชียร์ลูกใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยทุกขณะจิต 

พอมานั่งนึกดูว่าคนรักสัตว์แบบน้องบัวโดนหมากัดได้อย่างไร  

มีอะไรที่ทำผิดบ้างก็ถามไถ่น้องบัวดู  

น้องบัวตกใจสารภาพเสียงอ่อยๆว่า

บัวถืออาหารของคุณบิ๊กถุงใหม่ที่ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋มกรุณาฝากมาให้  ทั้งยังมีถุงเก่าที่ป้อนหมดแล้วติดมือกลับบ้านมาด้วย

เราเลยเตือนน้องบัวให้สารภาพบาปผิดศีลข้อสองกับจี้องค์คุ้มเกล้าเสียเดี๋ยวนั้นเลย แล้วพอถึงบ้านก็กราบภาพท่านอ.อุบลเสียหลายรอบก่อนนอน แล้วก็ได้รับความเมตตาจากท่านเพราะเธอไม่เจ็บเอาเสียเลย แหมๆๆๆๆๆๆๆ มหัศจรรย์สุดๆเลยครับพี่น้อง

นี่เป็นบทเรียนที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตาตักเตือนน้องบัว

โดยให้หมาอีกตัวก็คือน้ำเงี้ยวสั่งสอนโทษฐานหยิบอาหารคุณบิ๊กออกมาด้วย  และได้ทดสอบพุทธานุภาพของน้ำทิพย์

แถมปลอบใจด้วยประกันอุบัติเหตุมาพร้อมกันหมดเลย

เรียกได้ว่าท่านจัดเต็มทุกรูปแบบ  สาธุ ครับ

ที่ท่านมาเตือนน้องบัวอย่างรวดเร็ว  อาทิตย์ที่จะถึงมือขวาน้องบัวก็สามารถใช้งานได้ สร้างบุญได้แล้วครับ

ด้วยความสำนักในความเมตตา และพระเมตตานี้ ครอบครัวเราทุกคนขอน้อมกราบแทบเท้าขอบพระคุณ ท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล คุณท้อบ ขอน้อมกราบแทบพระบาทขอบคุณสิ่งศักดิ์ทุกๆพระองค์ที่รักษาท่านอ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดด้วยครับ  กราบสาธุ สาธุ สาธุ ครับ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 22:06:47


ความคิดเห็นที่ 8505 (1655712)

ขอเล่าเหตุการณ์ บ่ายวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.56

ช่วงบำบัดหลังจากบำบัด คุณจิ๋มแล้ว เฮียวิซึ่งได้กลับไปจากบ้านสวนแล้วตอนเช้า และได้กลับเข้าบ้านสวนอีกในช่วงบ่าย โดยได้พาน้องสาว น้องชายและน้องสะไภ้ของเฮียมาด้วย เพื่อขอรับการบำบัด

ท่านอาจารย์ได้ให้คุณธนา คุณอ้อย และอ.พันธ์ช่วยบำบัดให้

น้องสาวของเฮียวิ มีอาชีพทำการค้า มีอาการปวดหัว กรดไหลย้อน ซึ่งบำบัดด้วยการให้ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย และจับจี้ของพวกเราซึ่งให้ ดร.จิ๋มยืมเพื่อบำบัดดร.จิ่ม ซึ่งก็หาย 100% ท่านอาจารย์ได้เมตตาบอกกรรม ซึ่งเป็นเพราะกรรมจากการคอยจ้องจับผิดลูกน้อง พูดไม่ดี พูดไม่ตรงกับความเป็นจริง

และน้องสาวเฮียวิขอรับการบำบัดเรื่องหนี้สิน และการค้าซึ่งกิจการค้าแย่ โดยการติดต่อซื้อขายกับลูกค้าซึ่งเกือบจะตกลงทำสัญญาแล้วก็มีอันต้องเปลียนไปหลายครั้ง เป็นเพราะว่าน้องสาวเฮียเองที่เวลาซื้อของของคนอื่นชอบต่อราคา และเมื่อต่อราคาแล้วก็เปลี่ยนใจไม่ซื้อ ซึ่งผลกรรมนี้ทำให้ตัวเองต้องได้รับผลกรรมนี้ที่พลาดโอกาสการขายหลายครั้งเช่นกัน และการซื้อของของคนอื่น เราควรจะแถมเงินให้ผู้ขายในส่วนที่ไม่ทำให้เราเดือดร้อน ซึ่งเงินที่แถมนั้นแม้เพียงจะเล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้ผู้ขายมีความรู้สึกดี มีความสุขได้ ผลบุญนั้นเราก็จะได้รับกลับมาเช่นกัน ทำให้เราได้แถมเรื่อยไปไม่ฝืดเคือง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 22:08:24


ความคิดเห็นที่ 8506 (1655713)

น้องชายเฮียวิ มีอาการปวดหลัง เป็นความดัน โรคเก๊าท์

ซึ่งได้บำบัดอาการปวดหลังของน้องชายเฮียวิ โดยการมองจี้ อาการก็ดีขึ้น หลังจากนั้นก็ให้จับจี้ อาการก็ดีขึ้นอีก คุณธนาเลยให้มองท่านอาจารย์แล้วถามว่าท่านอาจารย์สวยหรือเปล่า น้องชายเฮียชมว่าท่านอาจารย์สวย อาการเขาก็หาย 100% ค่ะ

ส่วนโรคเก๊าท์นั้นเกิดจากกรรมที่ทำร้าย กิน ฆ่าเป็ดไก่มามากมาย และกรรมจากเป็นคนโมโหร้าย หงุดหงิดจึงส่งผลให้เป้นโรคความดันและโรคเก๊าท์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 22:26:12


ความคิดเห็นที่ 8507 (1655714)

ธรรมทานวันอาทิตย์ ที่ 31 มีนาคม

หลังจากทำบุญแรงกายกันเต็มที่แล้ว ก็ถึงเวลามาร่วมบุญธรรม

ทาน วันนี้ขออนุญาตินำเรื่องเฮียวิมาเหลาอีกรอบ

หลังจากที่เฮียวิพาเพื่อนกลับไปตอนเช้า ตอนบ่ายก็ได้ข่าวว่า

เฮียวิจะพาญาติมาบำบัดอีกรอบ พอบ่าย3 เฮียวิ ก็พาน้องสาว

น้องชาย น้องสะไภ้ มาบำบัด คนแรกน้องสาวเฮียวิมีอาการมึน

หัว ปวดต้นคอ กรดไหลย้อน และขายที่ไม่ได้ ทั้งๆที่มีคนมาดู

หลายเจ้า แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครมาซื้อที่

พอได้เอามือสัมผัสจี้หลายๆองค์

ของทุกคนที่เอามารวมๆกัน อาการปวดต้นคอ มึนหัวก็ดีขึ้น

และสารภาพว่า เคยว่าลูกน้อง เคยเล่นไพ่กับเพื่อนๆ

และการเล่นไพ่คือต้นเหตุที่ทำให้มึนหัว คือใช้หัวในทางที่ไม่

สร้างสรรค์ ถึงแม้จะเล่นแบบหนุกๆ ตาละบาท แต่เวรกรรมเขาก็

ไม่เว้น และขายที่ไม่ได้สาเหตุมาจากเวลาจะซื้อของใคร หรือจะ

จ่ายเงินก็ยึกๆยักๆ ประวิงยืดเวลาจ่ายเงินไว้ผลกรรมเลยทำคนที่

มาซื้อที่เขาก็ยื้อเวลาจ่ายเงินเหมือนกัน แต่สุดท้ายอาการต่างๆ

ก็หาย100% และน้องสาวเฮียวิก็ขอบคุณอาจารย์ ที่ได้ให้

ธรรมะแบบง่ายๆ และโดนใจ  คนที่ 2 น้องสะไภ้เฮียวิ นิ้วมือเกร็ง

ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย อาการดีขึ้น และสารภาพว่าเคย

ขโมยเงินพ่อแม่ ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย อาการมือเกร็งก็ดีขึ้น

อย่างชัดเจน คนที่ 3 น้องชายเฮียวิ เป็นโรคความดัน

จะปวดหลังเวลาที่ยืนนานๆ

อาจารย์เลยให้ยืนคุย รอจนจะมีอาการปวดหลัง สักพักแกก็บิด

ซ้ายขวาบอกว่าปวดแล้ว ใช้รหัสอาการก็ไมดีขึ้น  ให้แก

สารภาพ ก็คิดไม่ออก เฮียวิเลยต้องเป็นคนมาสารภาพแทน

เฮียวิบอกว่า น้องชาย ตอนเด็กเป็นคนโมโหร้าย ชอบตีงู 

ยิงนกหลายสิบตัว พอเฮียวินำร่องให้ก่อน แกเลยสารภาพ

อีกหลายเรื่อง เช่นเรื่องเจ้าชู้บ้าง ตามประสาผู้ชาย

อาจารย์ก็ได้สรุปให้ฟังว่า โรคความดัน ถ้าเลิกโกรธได้

ความดันก็จะหายเองโดยที่ไม่ต้องกินยาเลย  หลังจากที่แก

สารภาพอาการปวดหลังก็หาย100 % วันนี้ดูครอบครัวน้องเฮีย

วิจะมีความสุข เพราะหายเจ็บหายปวดกันทุกคน

ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-02 22:52:25


ความคิดเห็นที่ 8508 (1655726)

เฮียวิ..เนี่ย วัยรุ่นจริงๆเลยนะคะ

พอตัวเองได้รับความสุข

ด้พบหนทาง"พ้นทุกข์" แล้ว

ยังไม่ทันข้ามวัน

ก็รีบแบ่งปันความสุขนั้น

ให้กับคนในครอบครัวแบบไม่รอช้าเลย

 

ซึ่งทั้งน้องสาว น้องชาย

และน้องสะใภ้ของอาเฮีย

ก็ได้พบทางสว่าง

และได้เรียนรู้ธรรมะของพระพุทธองค์

ในแบบที่เป็นรูปธรรมที่สุดอีกด้วย

อนุโมทนากับธรรมทานจากทุกๆท่านด้วยนะค๊า

.............................................

แล้วก็อนุโมทนากับธรรมทานจากอ.อภิชัย ด้วยค่

อ่านแล้วก็น่าหวาดเสียว

แทนน้องบัว พอสมควร

แต่เหตุการณ์นี้ก็คงจะทำให้น้องบัว

ระมัดระวังกับการกระทำของตนยิ่งๆขึ้นนะคะ

 

เพราะจะว่าไปแล้ว"คนบุญ"

เมื่อพลั้งพลาดทำอะไรผิด

มักจะได้รับการตักเตือนแบบทันทีๆ เช่นนี้แล....

 

และธรรมทานนี้คงจะ"เตือน"

ท่านอื่นๆ ด้วยเช่นกันค่ะ 

 

ชนิดาก็ขอบารมีพลังดัชนีไฉไล

จากท่านพ่อดตาจินิน

ที่ท่านอ.อุบลเป็นผู้อัญเชิญมา

ได้โปรดบันดาลให้แผล(ที่โดนหมากัด)

ของน้องบัวหายโดยฉับพลันทันทีด้วยเถิด

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-03 07:44:33


ความคิดเห็นที่ 8509 (1655744)

 อนุโมทนากับทุก ๆ ธรรมทานด้วยค่ะ

เฮียวิ......เค้าคงได้รับความสุขมาก ๆ เลยนะคะ

และเค้าก็ได้รีบแบ่งปันความสุขที่ได้นั้น

ไปยังผู้อื่นทันที  สาธุ ด้วยนะคะ

                                         #############

 

       ส่วนภาพที่เป็นผลงานของท่าน อ.อุบล

ไม่ว่าจะดูกี่ครั้ง  ก็มีความสุขทุกครั้ง

เป็นภาพที่สวยงามจับตา สะกดความรู้สึกของเรา

ให้มองเข้าไปดูในรายละเอียดต่าง ๆ ของภาพ

ซึ่งปกติเวลาที่ตัวเองดูภาพอื่น ๆ  ถ้าดูแล้วสวย

ก็คือสวย แต่ภาพไม่ดึงดูดใจเรา

ให้เราเฝ้ามองเข้าไปลึก ๆ ในภาพ

แต่ภาพผลงานท่าน อ. อุบล เหมือนเราต้องมนต์สะกด

ให้ใจเรานิ่งอยู่กับภาพนั้น  และนั่งวิเคราะห์ในรายละเอียด

ว่าทำอย่างไร  ใช้ผ้าสีอะไรบ้าง  ยิ่งภาพนกยูงรำแพน

มองนาน ๆ เหมือนนกยูงจะมีชีวิตจริง ๆ  ด้วยค่ะ

          กราบขอบพระคุณ  ท่าน อ. อุบล  ที่ได้แนะนำวิธีพ้นทุกข์

ให้พวกเราอีกทางหนึ่ง ซึ่งวิธีนี้เป็นการยืนยันว่า

ท่าน อ. อุบล สามารถช่วยผู้อื่นได้ตั้งนานแล้ว

ไม่ใช่พึ่งจะทำได้  กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-03 11:19:03


ความคิดเห็นที่ 8510 (1655762)

       วันนี้ตื่นขึ้นมาตอนเช้า มีอาการลมจุกเสียดในท้อง ปวดท้องจนตัวงอ เวลาเดินก็ตัวงอเหมือนคนแก่อายุ 70 พยายามยืดตัวให้เดินตรงๆก็ไม่ได้เลย ทานยาหอมก็ไม่หาย จนผ่านไปเกือบเที่ยง นึกขึ้นมาได้ว่าได้บูชาหนังสืองานประดิษฐ์จากผ้าใยบัว อุบลฟลอร่า เล่ม 2 มาจากบ้านสวนพีระมิด พอหยิบขึ้นมาดูปกรูปดอกบัว เกิดความรู้สึกว่า ดอกบัวสวยจังเป็นงานฝีมือที่ละเอียดมากๆ สบายตา ไม่ถึง 5 นาที เกิดอาการปั่นป่วนมวนท้องต้องเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นอาการปวดจุกเสียดท้องก็หายไปค่ะ กราบขอบพระคุณเทวดาประจำตัวท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล ที่เมตตาช่วยให้ลูกหายจากอาการปวดท้องในครั้งนี้ค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-03 18:19:03


ความคิดเห็นที่ 8511 (1655785)

ธรรมบำบัด วันที่ 30-31มีค.56 เล่าโดยจุ๋ม
เมื่อเฮียวิ เจ้าของกิจการม็อบถูพื้น จากกาญจนบุรี ได้รับการบำบัดจนท้องอืดที่บวมอยู่ยุบลง ก็มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของท่านอจ.อุบล และวัตถุมงคลทุกรุ่นของบ้านสวน และใน 1 อาทิตย์ ยังสามารถบำบัดช่วยเหลือ คนอื่นๆได้ 13 ราย อาทิตย์นี้จึงได้พาเพื่อน เป็นเสี่ยเจ้าของกิจการเสื้อผ้าส่งออกไปดูไบ ท่านเป็นเจ้าของกิจการที่เป็นหนี้สิน หลายล้าน ตัวคุณเสี่ยเองก็เป็นโรคเครียด นอนไม่หลับ ต้องใช้ยาทุกวันไม่เคยยิ้ม เพิ่งจะได้ยิ้มก็ตอนได้มาทานข้าว พูดคุยกับท่านอจ.อุบล

จากการพูดคุยซักถามโดยท่านอาจารย์อุบลกับเสี่ย โดยเอาศีลจับ จะทราบสาเหตุที่มีผลต่อสุขภาพ และการเงินของคุณเสี่ยดังนี้
อาการมึนศรีษะ นอนไม่หลับ ก็มาจากการดื่มเหล้าเป็นประจำของเสี่ย
กิจการที่ขาดทุน เป็นหนี้มากมาย แทบจะไม่มีเงินเดือนจ่ายลูกน้อง เกิดจาก การแต่งบัญชีเลี่ยงภาษีทุกปี  และการไม่พูดความจริงกับลูกค้า คือการผิดศีลข้อ 4 ล้วนแต่ทำให้ขาดทุน ถ้าเสี่บสามารถเปลี่ยนตนเองได้ จึงจะได้รับพรจากท่านอาจารย์ให้ขายได้กำไรบ้าง

วันรุ่งขึ้นตอนบ่าย เฮียวิก็พาน้องสาวและน้องชายมาบำบัด จากอาการเจ็บป่วย
น้องสาว เป็นโรคกรดไหลย้อน เมื่อซักกรรมก้พบว่า ตนคุมกิจการเฟอร์นิเจอร์ ต้องบ่นว่าลูกน้อง มีโทสะบ่อยๆ ทำให้เป็นโรคนี้ และอาการเจ็บแปล๊บที่หัวใจก็เกิดจาก การดุว่าลูกน้องให้เจ็บช้ำน้ำใจ เมื่อสำนึกได้อาการก็เบาลง  ตาที่ชอบคันแพ้ ก็มีสาเหตุจาก ใช้สายตาดุว่า จับผิดลูกน้อง ดูรูปโป๊ ดูละครมาก

น้องสะใภ้ มีอาชีพทำอาหารขาย จะเป็นนิ้วล็อก ถามไปมาก็ทราบสาเหตูว่า มักจะหยิบเงินของสามีไปใช้โดยไม่บอก กรรมจีงส่งผลให้นิ้วล๊อค ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุจริงๆ
 

ยังมีน้องชายเฮียวิอีก ____โปรดติดตามตอนต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-04 06:04:49


ความคิดเห็นที่ 8512 (1655786)

จะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ คุณพี่ดร.จุ๋ม

แบบว่าเป็นธรรมทานที่สั้น กระชับ

แต่ได้เนื้อหามั่กๆ

 

เพราะได้รู้ถึง เหตุต้น และ ผลกรรม

แบบชัดๆตรงๆที่สุดเลย

 

อนุโมทนากับธรรมทานด้วยค่ะ

 

แล้วก็อนุโมทนากับคุณ นพวรรณ์

และ เจ๊ตาล ด้วยจ๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-04 07:32:51


ความคิดเห็นที่ 8513 (1655797)

ธรรมบำบัด วันที่ 6-7 เมย.56 เล่าโดยจุ๋ม

สำหรับน้องชาย ของเฮียวิ จะมีอาการปวดหลัง ถ้าต้องยืนทำงานนานๆ เคยผ่าหมอนรองกระดูกแล้ว และการสอบสวนกกรรมที่เป็นสาเหตุ สรุปได้ว่ามาจาก กรรมที่เคยยิงนก เป็นจำนวนมาก และ ฆ่าไก่ ตีหลังงู ทำให้มีอาการเจ็บปวด และได้สารภาพว่าเป็นคนเจ้าชู้ มีก๊ก ตอนหนุ่มๆอีกต่างหาก เหล่านี้ล้วนเป็กรรมนำไปสู่อาการปวดหลังทั้งสิ้น
คุณเฮียยังมีอาการโรคเก๊า อันเกิดจาก การฆ่านก ฆ่าไก่ เป็นจำนวนมาก และมีอาการโรคกรดไหลย้อนด้วย ซึ่งพี่ชายคือเฮียวิ พูดยืนยันเสียงดังเลยว่า ตอนเด็ก ตอนหนุ่มโทสะจะแรงมากๆ

ธรรมทานเหล่านี้ อยู่ในกิจกรรมบวชเนกขัมมะ ให้พวกเรารักษาศีลให้บริสุทธิ์
ท้ายสุด อนุโมทนา กับ คุณชนิดาที่มาช่วยอ่าน ช่วยเม้นให้กำลังใจ ป้าๆกัน

อีกเรื่องคือ การถูกหมากัดของน้องบัว ถ้าขนมคุณบิ๊กที่ป้าฝากไว้กับน้องบัวเป็นสาเหตุให้หนูโดนหมากัด ป้าจุ๋มขออโหสิกรรมกะน้องบัวด้วยค่ะ__หายเร็วๆนะน้องบัวคนสวย
ป้าจุ๋มค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-04 08:38:19


ความคิดเห็นที่ 8514 (1655810)

อนุโมทนากับธรรมทานของทุกท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-04 13:00:12


ความคิดเห็นที่ 8515 (1655847)

ขอเล่าเรื่องเฮียวิ  ต่ออีกสักหน่อย
คนนี้เป็นคนกลางคนแล้ว อายุน่าจะ 50 - 60 ปี เคยเป็นเพื่อนท่านอาจารย์อุบลมาก่อน เขารู้จักท่านอ.อุบลมานานแล้ว เขาไม่เจอท่านมาหลายปี เขาบอกว่าตอนนี้ท่าน อ.อุบลเปลี่ยนไปมาก ตอนนี้ได้ทำหน้าที่ช่วยคน เป็นที่น่าภูมิใจจริง ๆ คุณเฮียวิ เป็นสามีของคุณเพ็ญ ทำธุรกิจขายม๊อบถูพื้นมหัศจรรย์ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ เขาได้มาบำบัดอาการปวดท้อง หรือท้องอืดได้ผล รวมทั้งคุณเพ็ญภรรยาของเฮียวิด้วย  จริงๆ แล้วเฮียวิเขาปฏิบัติธรรมมะมา ตั้งแต่ 10 ปีก่อน ก็เคยช่วยรักษาคนได้ด้วยเช่นกัน แต่วิธีไหนเขาไม่ได้บอกละเอียด พอเขามาเห็นการบำบัดโดยการบอกกรรม และ ให้คนรักษาศีล 5 เขาก็ศรัทธา และอยากไปช่วยญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่เมืองกาญจน์ด้วย คงอยากเปิดสาขาบ้างในอนาคต 
 พออาทิตย์ถัดมา เขาก็พาเพื่อนที่ได้รับความทุกข์มาคนนึง มาตอนกลางคืน (วันเสาร์ที่  30 มีค) ที่ทางอาจารย์ลงมาพบและประชุมกับผู้มาปฏิบัติธรรม  และพอวันอาทิตย์ตอนบ่าย 3 โมงก็มาอีก 3 คนเช่นกัน ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนแต่มีแแปัญหาทางกาย และปัญหาหนี้สิน
 คนที่มาวันเสาร์ เป็นคนมีฐานะระดับเศรษฐีมาก่อน เคยขายเสื้อผ้าส่งออก รายได้ประมาณ 4-5 ล้าน ต่อเดือน แต่ต่อมาในปัจจุบัน รายได้ไม่ถึงล้าน และมีหนี้สินมาก เขาเครียดง่าย ไม่เคยยิ้มและหัวเราะ แต่พอมาใกล้ท่านอาจารย์อุบล ก็ได้รับพลังบวกจากท่านอาจารย์เข้าไป ทำให้ยิ้มและหัวเราะได้ ทั้ง ๆ ที่เขาบอกว่าหลายสิบปีมานี้เขาไม่ได้หัวเราะหรือยิ้มเลย มีอาการเครียดลงหัวใจ คือมีอาการจี๊ดๆ ที่หัวใจ พอคุณธนาช่วยทำน้ำทิพย์ให้ แล้วช่วยบำบัดโดยถามกรรม พบว่าอาการเจ็บจี๊ดที่หัวใจก็หายไป 
 ขณะคุยไปท่านก็สอนธรรมะว่า  การค้าขายต้องทำด้วยความซื่อสัตย์ อย่าไปหลอกว่าของดี ทั้ง ๆ ที่ไม่ดี อย่าคาดหวังในผลกำไรมากไป เช่นถ้าตั้งเป้าสูงไป ถ้าทำไม่ได้ก็จะเครียด   คุณคนที่มีความเครียด ยังเป็นโรคกรดไหลย้อนด้วย นั่นเพราะเขาผิดศีลข้อ 4 นั่นเอง  อีกเรื่องนึงที่ท่านเตือนก็คือ คนรวยมักจะพยายามเลี่ยงภาษี  ให้พยายามเสียภาษีให้เต็มจำนวน ชีวิตจะดีขึ้นเอง      อีกโรคนึงที่คุณคนนี้เป็นก็คือ ปวดหัวตลอด รวมทั้งมึน ๆ ด้วย สาเหตุก็มาจากเขาชอบทานเหล้ามามากนั่นเอง
ก็นับว่าคุณคนนี้โชคดีที่มีทุกข์ พอมีทุกข์ก็ได้มาหาอาจารย์อุบลให้ช่วย และได้รับธรรมะที่ตรงประเด็นจากท่านอาจารย์อุบล เพื่อพลิกจิตของเขาให้เป็นคนดีต่อไป
 มาถึงเฮียวิ เขาบอกว่าตั้งแต่เขากลับไป เขาก็บำบัดคนได้ถึง 13 คนหายหมดเลย เก่งจริงๆ ทำให้ลูกบ้านสวนอย่างเราอายไปเลย ที่รู้วิธีบำบัด แต่ว่ากลัว ไม่กล้าบำบัด
 นอกจากนั้นตอนบ่ายวันเสาร์ คุณเฮียวิ ก็ยังพาน้องชาย และน้องสะไภ้ มาบำบัดด้วยอีก  ต่างคน ต่างหายจากอาการที่เป็นอยู่ แต่เรื่องหนี้สินที่เขามีปัญหาอยู่นั้น ก็คงต้องรอดูผลต่อไป
ขออนุโมทนาบุญกับคุณเฮียวิ จากกาญจน์ ที่ได้ทำบุญช่วยคนเช่นนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-04 21:53:30


ความคิดเห็นที่ 8516 (1655853)

อนุโมทนากับธรรมทาน

ทั้งจากคุณพี่ดร.จิ๋มและ ดร.จุ๋มด้วยนะคะ

ที่มาอธิบายรายละเอียด

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ"เฮียวิ"

 

อ้อ ที่แท้ก็เป็นเพื่อนท่านอาจารย์มาก่อนนี่เอง

แล้วยังเป็นคนที่"สนใจในธรรม"มานานแล้วด้วย

 

มิน่าล่ะ พอมาเพียงไม่กี่ครั้ง

ก็มีจิตเมตตาและสามารถนำ"ธรรมะบำบัด"

ในแบบฉบับบ้านสวนพีระมิด

ไปบำบัดผู้อื่นต่อแบบทันใจ๊ทันใจ

แล้วก็เห็นผล..ทันตา ซะด้วย.....

...............................

ป.ล. ป้าจุ๋ม จ๊า อยากจะบอกว่า

สงสัยชนิดาคงเป็น

เจนเนอเรชั่น คุณป้า เหมียนกัลล์ มั้งคะ

ก็เลยต้องมาให้กำลังใจ

คนเจนเนอเรชั่นเดียวกัน อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-05 04:28:00


ความคิดเห็นที่ 8517 (1655890)

 ธรรมทานการบำบัด 30-31 มีนาคม 2556 จาก ( แก้ว) กันยภัทร เฟื่องฟู 

น้องสาวเฮียวิ อาชีพขายเฟอร์นิเจอร์ เครียด จิตตก ธุรกิจตกต่ำ กรดไหลย้อน ซึมเศร้า คันตา กรรม ใช้สายตาจับผิดลูกน้อง มองค้อน ดูละคร ดูภาพโป๊ เล่นไพ่ ใช้สายตาในทางสร้างสรรค์ เมตตา แล้วจะหายได้ 
 
เครียด จิตตก ซึมเศร้า เพราะธุรกิจการค้า ตกต่ำ ขายของยาก ผลกรรมจู้จี้ จุกจิก ซื้อของยาก ต้องเต็มใจ ให้คนขายได้กำไร แล้วแถมเงินให้ด้วย ซื้อของแล้วต้องรีบจ่ายเงิน ซื้อเงินสด อย่าหน่วงเหนียวการจ่ายเงิน จะทำให้เราได้รับบุญเหตุนี้ ทำอย่างไรได้อย่างนั้น เราอยากให้คนอื่นเขาทำกับเราอย่างไร เราต้องทำอย่างนั้น (ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ) นักธุรกิจชอบหน่วงเหนี่ยวการจ่ายเงิน เป็นผลกรรมทำให้ตนเองได้รับเงินยาก
 
กรดไหลย้อน ผิดศิลข้อที่ 4 ดุว่าลูกน้อง พูดคำหยาบ โกหก เล่นไพ่ อยู่ที่เจตนาในการพูด ถ้าเลิกโกรธได้แล้วจะหายเอง หลุดพ้นความโกรธได้เหมือนขึ้นสวรรค์ ถ้ายังโกรธอยู่แสดงว่าเรายังขาดเมตตาและขาดปัญญา ถ้าเราอยากให้เขามีความสุขเราก็ไม่โกรธ 
 
เสียงแหบ ศิลข้อที่ 4 บ่นว่าลูกน้อง โกหก เล่นไพ่
เจ็บจิ๊ดๆ ที่หัวใจ เกิดจากพูดให้ลูกน้องเจ็บช้ำน้ำใจ เสียใจ
   
เพื่อนเฮียวิ อาชีพ ขายเสื้อผ้าส่งออก/ ปัญหาธุรกิจตกต่ำ หนี้สินพอกพูน
กรดไหลย้อน ผิดศิลข้อที่ 4 ไม่พูดความจริงกับลูกค้า กรรมส่งผล ทำให้ขายของไม่ดี 
ผิดศิลข้อที่ 2 แต่งบัญชี เลี่ยงภาษี เป็นหนี้แผ่นดิน กรรมทำให้หนี้สินพอกพูน 
 
เฮียทำทานโดยการบริจาคเงินค่ายาให้โรงพยาบาลเทียนฟ้า และคนพิการ เป็นทานที่มีกำลังบุญต่ำ จึงไม่มีกำลังบุญอุดหนุน บุญธรรมทานเป็นบุญตัดเวรตัดกรรมทุกภพชาติ เพราะมีอานิสงฆ์ มาก
 
ผิดศิลข้อ 5 ดื่มเหล้าเป็นประจำ ทำให้มึนหัว นอนไม่หลับ เครียดจิตใจเศร้าหมอง ยิ้มไม่ออก เพิ่งยิ้มได้เมื่อพบท่านอาจารย์อุบล
 
น้องชายเฮียวิวัฒน์
ปวดหล้งเวลายืนนานๆ ไต่สวนกรรม ตอนหนุ่มๆเจ้าชู้ เชือดไก่จำนวน มาก นำไปไหว้เจ้าตอนตรุษจีน ยิงนกจำนวนมากเป็น100ตัว เมื่อสารภาพ ดีขึ้น 80% มองจี้ดีขึ้น90%
โรคเก้าท์ กรรมรวมตัวจากการฆ่าสัตว์จำนวนมาก และเจ้าชู้
ความดันสูงเกิดจาก กรรมขี้โกรธ ใช้ก้อนหินขว้างหลังคาบ้านคนอื่นตอนเป็นเด็ก  ใครเข้าใกล้หงุดหงิด หลังจากอจ.อุบลสวย หาย 100%
 

ท่านอ.อุบล สร้างปาฏิหารย์ช่วยผู้คนให้พบความสุขได้แบบง่ายๆแต่ได้ผลฉับพลันทันที แล้วน้องชายเฮียวิแสดงความเห็นว่า เขาจะอาสาพาคนมาพิสูจน์อีกที่บ้านสวนพีรามิด
 
แก้ว  กันยภัทร
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-05 15:28:25


ความคิดเห็นที่ 8518 (1655946)

       อนุโมทนาบุญกับธรรมทาน ของ คุณชนิดา คุณอ้อย คุณตาล       ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม น้องหญิง อ.พันธ์ คุณธนา คุณอมร คุณอดิศักดิ์            คุณเจี้ยบ น้องเบส น้องชิม อ.อภิชัย ด้วยนะคะ  

       จากเรื่องที่หนิงมีอาการปวดจุกเสียดแน่นท้อง เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ทานยาหอมก็ไม่หาย แต่พอได้มาดูภาพ หน้าปกหนังสืองานประดิษฐ์จากผ้าใยบัว เล่ม 2 รูปดอกบัวสีชมพู แล้วอาการปวดหายไป พอวันรุ่งขึ้นวันที่ 4 เมษายน อาการปวดจุกเสียดกลับมาอีก รู้สึกได้เมื่อใช้มือกด ก้มตัวลงหยิบของจากพื้น จึงใช้วิธีอนุโมทนาบุญ กดถูกใจกระทู้ในเฟสบุ๊คบ้านสวนพีระมิดทุกๆธรรมทาน จากนั้นอาการปวดท้อง หาย 100% ไม่แน่ใจว่าใช้เวลาไปเท่าไหร่ เพราะว่ากำลังเพลินกับการอ่านธรรมทาน รู้สึกตัวอีกทีก็ไม่ปวดค่ะ แล้วอาการปวดก็ไม่กลับมาเป็นอีก

         ตัวเองก็เลยนั่งคิดพิจารณาย้อนอดีต ว่าหนิงเคยทำอะไรไว้บ้าง ถึงได้ปวดท้องหนักหนาสาหัสอย่างนี้ นึกขึ้นมาได้ก็คือ ตอนเด็กๆ เคยใช้เสี๋ยมสับลงกลางลำตัวแมงป่อง ตะขาบ ตีงูกลางลำตัว เป็นธุระไปซื้อยาฆ่าแมลง ใช้เท้าเขี่ยแมวท้องแก่ตกบันได เคยรู้สึกยินดี ชอบใจ เมื่อหมานิสัยดุร้ายของคนอื่นถูกวางยาเบื่อตาย เวลาทิ้งข้าวบูชาพระจะมีหมามากิน ซึ่งหมาตัวนั้นเราไม่ชอบ ก็จะไปเอาพริกป่นโรยลงข้าว หมาก็กินทั้งเผ็ดๆอย่างนั้น

          นี่เป็นกรรมส่วนหนึ่งที่ตัวเองทำลงไป แล้วนึกออกค่ะ หากการกระทำเหล่านี้เป็นผลให้ หนิงได้รับผลกรรม คือการปวดท้อง หนิงขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และพระศรีอาริยเมตไตร หนิงขอเบิกบุญทาน ศีล ภาวนา ที่ได้ทำมาตั้งแต่ชาติต้นจนถึงปัจจุบัน และบุญบ้านสวนพีระมิดทุกๆบุญที่หนิงได้ทำมา อุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าปวดท้อง ขอท่านมาอนุโมทนารับบุญด้วยเทอญ สาธุ

          กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอ.อุบล ที่ได้แสดงธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นธรรมะที่เข้าใจง่าย ทำให้หนิงได้รู้ เข้าใจกรรมจากการผิดศีล การกระทำที่ขาดความเมตตา ทำให้หนิงนึกและสารภาพความผิดพลาด สำนึกในความผิดบาปที่ทำลงไป แล้วไม่กลับไปทำอีกค่ะ

           และที่สำคัญ กราบขอบพระคุณ ท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล และคุณท๊อป ที่มีเมตตาอนุญาตให้หนิงได้เข้าไปสร้างบุญทุกบุญในเขตบ้านสวนพีระมิด ซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวของครอบครัวของท่านค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-06 16:43:38


ความคิดเห็นที่ 8519 (1655962)

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากคุณ หนิง นพวรรณ์ ด้วยนะคะ

จะเห็นว่า แค่อาการปวดจุกเสียดท้อง

เพียงอาการเดียว ก็ดูเหมือนว่า

จะมี"เจ้าของโรค"ประจำอาการ

อยู่ไม่น้อยเลยนะคะ และที่คุณหนิง

ระลึกรู้ได้ ก็เป็นเพียงบาปกรรม

ที่ทำในชาตินี้เท่านั้นนะคะ

 

แล้วพวกเราแต่ละคน

เกิดกันมากี่ภพกี่ชาติแล้วล่ะ

เพราะอายุกายนี้อาจจะแค่หลักสิบไม่เกินร้อย

แต่ถ้าให้นับ"อายุจิต" ของแต่ละคน

ก็คงจะไม่ต่ำกว่า"หลักล้าน"ปีแล้วนะคะ

 

ฉะนั้น ถึงแม้พวกเราจะพกพา

"อริยะทรัพย์"

ติดตัวกันมาไม่น้อยก็เถอะ

 

แต่ในทางกลับกัน"ลูกหนี้"ก็ตามมา

และรอคิวทวงหนี้ มิใช่น้อยเหมือนกัน

 

ซึ่งแนวทางผ่อนผันหนี้

ท่านอาจารย์ก็ได้เมตตาชี้แนะไว้หมดแล้วนะคะ

 

ฉะนั้น ตัวเราเองต้องเป็นผู้"ใช้หนี้"ด้วยตัวเอง

มิใช่ว่า เบื้องบนหรือท่านอาจารย์

จะต้องมาใช้หนี้แทนเรา แต่อย่างใด....

......................................................

แล้วก็อนุโมทนากับธรรมทาน

จากพี่แก้ว กันยภัทร ด้วยนะคะ

ว่าแต่อ่านเรื่องน้องสาวเฮียวิแล้ว

รู้สึก"สะอึก" เหมือนได้อ่าน

เรื่องของตัวเองยังไงก็ไม่รู้นะคะ

เพราะชนิดาก็เคยมีอาการเสียงแหบ

และบางทีก็เจ็บที่หัวใจจี๊ดๆเหมือนกัน

 

เพราะเคยใช้วาจาเชือดเฉือนหัวใจ

ของใครหลายๆคนมาก่อน

ถึงไม่"หยาบ" แต่ก็คงจะ"บาดใจ"มิใช่น้อย...

 

เท่าที่นึกๆได้ ก็คือ คุณแม่ พี่ชาย น้องสาว

และ โดยเฉพาะ"คุณสามี"

จะเป็นเหยื่อเจ้าประจำของชนิดาที่สุด .....

 

ณ ปัจจุบัน สำนึกแล้วนะคะว่า

สิ่งที่ตนทำมานั้นเป็นบาปใหญ่

และพยายามที่จะไม่กลับไปทำซ้ำรอยเดิมอีก...

 

แต่ด้วยกิเลสยังหนา และ"ปัญญา"ยังน้อย

จึงยังมีหลุดอยู่บ้าง...

แต่ต้องบอกว่า"น้องลง"จากเดิมเยอะแล้วค่ะ ....

 

ฉะนั้น จะพยายามขัดเกลาต่อไป ...

จนไม่เหลือ ให้ได้ค่ะ..... สาธุ    

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-07 05:17:47


ความคิดเห็นที่ 8520 (1656028)

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 6 เม.ย. 56 กิจกรรมบุญที่บ้านสวนฯเปลี่ยนเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศ ที่ร้อนระอุ

โดยทำกิจกรรมแต่ละฐาน จนถึงประมาณเที่ยง หลังจากนั้น

บ่ายโมงถึงบ่าย สองครึ่ง มีกิจกรรมบำบัด ในวิหารค่ะ

ซึ่งก็มีเรื่องราวอัศจรรย์อีกแระ เดี่ยวค่อยเล่า  แล้วออกมาทำกิจกรรมบุญจนถึง ห้าโมงครึ่งค่ะ

ตอนบ่ายโมงพวกเราเข้าวิหารกัน ก็มีพี่ ดร.จิ๋มได้บูชาจี้องค์เทพสฟริงซ์รุ่นต้างๆจำนวน 135 องค์รวมของเดิมที่เคยบูชาแล้วอีก 25 องค์เป็นทั้งหมด 160 องค์ค่ะ สาธุอันนี้สืบเนื่องมาจากคราวก่อน ท่านอาจารย์ได้ให้พี่ดร.จิ๋มได้ลองคล้องและถือจี้รุ่นต่างๆ รู้สึกจะ 154 องค์แล้วอาการปวดหลัง ปวดฝ่าเท้าจากปัญหาโปลิโอ หายไป ทำให้ทราบว่า พี่ดร.จิ๋มซึ่งมีเจ้ากรรมนายเวรเยอะมาก กรรมหนักเป็นโปลิโอตั้งแต่อายุ 6 เดือนเดินขาไม่เท่ากัน

มีอาการปวดหลังปวดฝ่าเท้าตลอด พอคล้องจี้จำนวนมากขึ้นอาการจะดีขึ้น

 

และที่สำคัญพี่ดร.จิ๋มมีความศรัทธาท่านอาจารย์อุบลมาก และมีกำลังเงินพอที่จะบูชาจี้ได้จำนวนมากๆโดย  ไม่เดือดร้อนซึ่งท่านอาจารย์ได้ทำการส่งพลังงานจากจี้ที่บูชาเพิ่ม 135 องค์ทั้งหมด มาที่ 25 องค์ที่เคยคล้องอยู่แล้ว

โดยท่านอาจารย์เมตตาให้พวกเรารับพลังด้วย แต่ว่า

วิธีการรับพลังนี่ซิไม่ธรรมดาท่านอาจารย์ได้รับการสื่อสาร เรื่องการบำบัดแบบใหม่มา ซึ่งก็คือ   ทุกครั้งถ้าท่านจะส่งพลังให้พวกเราท่านจะยกมือขึ้น  พวกเราก็ประนมมือรับพลังใช่มั๊ยคะ แต่คราวนี้เป็นพวกเราที่ต้องยกมือขึ้นสองข้างหันหน้ามือออกไปเพื่อรับพลังซึ่งท่าทางจะเหมือนรูป  รหัส อ.อุบลช่วยด้วยค่ะ 

ซึ่งวิธีนี้ทุกคนสามารถสัมผัสพลังได้ชัดเจน ตัวอ้อยเองรู้สึกมีประจุไฟฟ้าที่ปลายมือ  และมีพลังจำนวนปะทะเข้ามา จนรู้สึกแทบต้านไม่อยู่แต่แปลกที่รู้สึกถึงความอ่อนโยน

พูดไม่ถูก ต้องรู้เอง และรู้สึกสายตามองเห็นคมชัด สว่างขึ้น คนที่มีอาการเจ็บป่วยต่างก็หายกัน ที่สำคัญมาถึงตอนที่ท่านอาจารย์บอกว่า เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ได้เมตตาลูกหลาน รู้ว่าลูกหลานเล่นคุณไสยกันเยอะ ทำให้ยังมีจิจวิญญาณต่างๆที่ยังอยู่กับเรา  ท่านอาจารย์จึงส่งพลังจากเข็มกลัดท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณให้พวกเรายกมือรับพลัง  ซึ่งตัวอ้อยเองรู้สึกถึงพลังที่มือชัดมาก และได้ยินคำว่า สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ยาวมาก รู้สึกว่าเป็นจิตวิญยาณที่ยังอยู่ในตัวเรา หรือใกล้ๆตัวเรา  เค้าสาธุแล้วไปกันแล้ว  พี่เจี๊ยบรู้สึกจะส่งเสียงดัง ฟู่ๆ เห็นบอกว่ารู้สึกว่าจิตวิญญาณที่อยู่กับพี่เค้าแสดงตัว   น้องก้อยก็รู้สึกเหมือนแน่นในอก และอีกหลายๆอาการจากหลากหลายคน กราบขอบพระคุณทุกๆพระองค์ที่เมตตาลูกหลาน ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-07 21:40:35


ความคิดเห็นที่ 8521 (1656029)

 

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 6 เมษา 56

ท่านอาจารย์ได้เปลี่ยนตารางบุญใหม่ โดยหลังจากทำงานช่วงเช้าแล้ว เมื่อทานอาหารเที่ยงแล้วหลังจากนั้น ก็จัดให้มีการบำบัดให้คนที่ยังมีปัญหาหรืออาการเจ็บป่วยอยู่

วันนี้พวกเราได้ยกมือกันหลายคนกับอาการเจ็บป่วยที่ยังหลงเหลืออยู่ เจี๊ยบเองในวันนี้มีอาการเจ็บเพดานลิ้นและปวดหลังเท้าเนื่องจากเท้าแพลง วันนี้คณะของคุณแดงจากนราธิวาสประมาณ10 คนได้มาเยี่ยมและขอบำบัดด้วย คณะของคุณแดงซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ประมาณ5-6 คน ดูแล้วผู้ใหญ่ค่อนข้างจะป่วยกันเยอะค่ะ

มีผู้ชายคนนึงในคณะของคุณแดง เป็นมะเร็งที่ลำคอ โดนฉายแสงมา31ครั้งจนเกือบจะครบคอร์สการฉายแสงซึ่งมีทั้งหมด 33ครั้ง มีอาการเจ็บคอมาก ทานข้าวไม่ได้ แม้จะกลืนน้ำลายยังทรมานสุดๆ ต้องพกถุงบ้วนน้ำลายทิ้ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทรมาน ท่าอาจารย์ได้เรียกออกมานั่งใกล้ๆท่านอาจารย์ ปรากฏว่าอาการเจ็บคอเบาลง และได้บำบัดให้เขาพร้อมๆกับพวกเราในเวลาเดียวกัน เริ่มแรกเลย โดยเริ่มจากการใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้อาการที่เป็นของแต่ละคนหายโดยฉับพลันทันที

เจี๊ยบมีอาการที่ปวดหลังเท้าดีขึ้น 20% ส่วนลุงที่เป็นมะเร็งก็มีอาการดีขึ้น 10% หลังจากนั้นก็บำบัดแบบใหม่ที่ท่านอาจารย์เพิ่งได้รับมาจากสิ่งศักดิ์สิทธ์มาคือปรกติท่านอาจารย์จะยกมือทั้ง 2ข้างเพื่อส่งพลังให้ทุกๆคน แต่วิธีใหม่ คือให้พวกเราทุกคนยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาเพื่อรับพลังที่ท่านอาจารย์ส่งให้แทนค่ะ แต่ละคนก็สามารถรับความรู้สึกที่ท่านอาจารย์ส่งพลังงานมาให้ต่างกัน เจี๊ยบเองมีความรู้สึกว่าตรงใจกลางฝ่ามือมีพลังงานความร้อนหมุนวนอยู่ และอาการปวดหลังเท้ามีและเจ็บเพดานลิ้นมีอาการดีขึ้นเป็น 80% เลยค่ะ

ครั้งที่ 3 ท่านอาจารย์ได้รวมพลังจี้ของ ดร.จิ๋มซึ้งบูชาจี้ทุกรุ่นเพิ่มเติมในวันนี้อีก 156 องค์มาอยู่ในจี้ที่เป็นตัวแทนซึ่งจี้1 องค์เป็นตัวแทนแทนจี้ 20 องค์เพื่อจะได้คล้องคอไม่เยอะมาก และยังมีพลังพุทธานุภาพเท่ากับสวมจี้ 156 องค์ในคอ และท่านอาจารย์ได้เมตตาส่งพลังของจี้ทั้ง156 องค์ให้แก่พวกเราทุกคนด้วยค่ะ สาธุ ผลครั้งนี้เจี๊ยบหาย 100 %จากอาการที่ปวดอยู่เลยค่ะ และหลายๆคนก็หาย 100 % เช่นกันค่ะ

ส่วนลุงที่เป็นมะเร็งที่คอ ก็อาการดีขึ้นมากหายจากอาการเจ็บคอถึง 80 % และคุณธนาก็ได้ใช้วิธีดูรูปท่านอาจารย์ และมองตัวจริงท่านอาจารย์ชมว่าสวยจากใจจริง อาการก็หายดีป็น 100% เลยค่ะ

กราบขอบคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์อุบลที่เมตตากับพวกเราทุกครั้ง คอยคิดแทนเราทุกอย่าง ว่าพวกเรายังขาดเหลืออะไร ไม่สมหวังเรื่องอะไร ทำไมยังไม่รวย ท่านคอยแต่จะใสใจพวกเราแม้เรื่องเล็กน้อย กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-07 22:12:49


ความคิดเห็นที่ 8522 (1656031)

 

            อนุโมทนาบุญกับธรรมทานของคุณอ้อยนะคะ ที่เขียนแบ่งปันเหตุการณ์สำคัญมากๆให้ได้อ่าน เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจจริงๆค่ะ             เหมือนหนิงได้สัมผัสถึงพลังที่ท่านอ.อุบลได้รับการสื่อสาร  พออ่านธรรมทานของคุณอ้อยมาถึง

        วิธีการรับพลังนี่ซิไม่ธรรมดาท่านอาจารย์ได้รับการสื่อสาร เรื่องการบำบัดแบบใหม่มา ซึ่งก็คือ ทุกครั้งถ้าท่านจะส่งพลังให้พวกเราท่านจะยกมือขึ้น พวกเราก็ประนมมือรับพลังใช่มั๊ยคะ แต่คราวนี้เป็นพวกเราที่ต้องยกมือขึ้นสองข้างหันหน้ามือออกไปเพื่อรับพลังซึ่งท่าทางจะเหมือนรูป รหัส อ.อุบลช่วยด้วยค่ะ

ซึ่งวิธีนี้ทุกคนสามารถสัมผัสพลังได้ชัดเจน ตัวอ้อยเองรู้สึกมีประจุไฟฟ้าที่ปลายมือ และมีพลังจำนวนปะทะเข้ามา จนรู้สึกแทบต้านไม่อยู่แต่แปลกที่รู้สึกถึงความอ่อนโยน

       หนิงเกิดอาการขนลุกชันแม้แต่โคนผมก็ไม่เว้น หนิงกับจาวได้ยกมือขึ้นตามที่คุณอ้อยเขียนธรรมทาน รู้สึกทันทีว่ามีอาการเสียวที่มือ กลางฝ่ามือมีไออุ่นไหลวนอยู่  ขณะที่ยกมือขึ้นกันนั้น หนิงหันฝามือไปทางจอโน๊ตบุ๊ค ส่วนจาวนั่งหันหน้ายกมือไปทางกำแพง แต่จาวก็ได้รับความรู้สึกเสียวที่มือและฝ่ามือมีไออุ่นไหลเวียนเช่นกันค่ะ หนิงเชื่อว่าในวิหารวันนั้นพลังต้องแรงมากๆ เพราะว่าแค่ได้อ่านตัวหนังสือจากธรรมทานยังได้รับรู้ถึงพลังที่ท่านอ.อุบลได้รับการสื่อสารมา กันเลยทีเดียวค่ะ กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาลได้เมตตาลูกค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-07 22:45:04


ความคิดเห็นที่ 8523 (1656033)

  วันศุกร์ที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา หนิงอยู่เฝ้าร้านขายของที่ อ.มวกเหล็ก สระบุรี รู้สึกว่าลูกค้าเงียบมาก ตอนเที่ยงได้เรียกรหัส อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้มีลูกค้ามาซื้อของในร้านตอนนี้ด้วยเทอญค่ะ จากนั้นสักครู่มีลูกค้าเข้ามาซื้อของติดต่อกัน 2 คน ได้เงินเข้าร้านอยู่ที่ 200กว่าบาท สมกับร้านเปิดใหม่ที่ชอบปิดร้านบ่อย สโลแกนร้านเค้าแน่มาก 

         วันเสาร์มีแต่ลูกค้ามาชมของในร้านอย่างเดียว สังเกตด้วยต้วเองว่าวันนี้เปิดดูหนัง ฟังเพลงในร้าน รับแต่อบายมุข ลูกค้าหายหมดที่จะซื้อของหายเลยค่ะ  

          วันอาทิตย์ วันนี้ เปิดร้านเสร็จแล้ว เอาโน๊ตบุ๊คเปิดเว๊ปบ้านสวนพีระมิดเขียนธรรมทาน อ่านธรรมทานกดไลท์ในเฟสบุ๊ค เปิดดูเทปบันทึกถ่ายทอดรายการจากบ้านสวนพีระมิด ตอน สัมภาษณ์  คุณก๊อต คุณพจน์ เรื่องเปิดสาขาบ้านสวนพีระมิดที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี ดูไปถึงตอนที่คุณก๊อตใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย แล้วตั้งเป้าว่าจะขายเท่าไหร่  เราก็เอามั่ง อ.อุบลช่วยด้วยของให้ลูกขายของในร้านวันนี้ได้ 1000 บาทด้วยเทอญเจ้าค่ะ  ปรากฏว่า มีช่วงบ่ายมีลูกค้าเข้าร้านมาซื้อของ หลายคน เมื่อรวมยอดขายเงินเข้าร้านวันนี้ ได้ 1500กว่าบาท เกินเป้าหมายมาเหมือนกัน ทุกครั้งที่ลูกค้าออกจากร้านไป  ก็จะขอบคุณเทวดาประจำตัวท่านอ.อุบลทุกครั้งค่ะ ดีใจมากๆกับการขายของสำหรับร้านที่ปิดร้านบ่อยๆค่ะ

      อนุโมทนาบุญกับธรรมทานของพี่เจี้ยบ เพชรดา  คุณแก้ว กันยภัทร  และคุณชนิดานะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-07 23:55:21


ความคิดเห็นที่ 8524 (1656034)

           วันนี้ ได้นำน้ำพีระมิดที่ท่านอ.อุบลเมตตาทำผ่านทางเฟสบุ๊ค มาฉีดพ่นทั่วทั้งร้านค้า ทั้งตอนเช้า และตอนบ่าย ระหว่างวันได้พ่นใบหน้าตลอดเวลา มีความสุขใจมากๆ สังเกตได้ว่าช่วงบ่าย ลูกค้าเข้าร้านซื้อของกันมากกว่าปกติ ลูกค้าบางรายขับรถผ่านเลยร้านไปแล้ว ยังถอยรถกลับมาซื้อของค่ะ มหัศจรรย์จริงๆค่ะพลังของน้ำพีระมิด

           ลูกกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน เทวดาประจำตัวอ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาลค่ะ กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-07 23:55:22


ความคิดเห็นที่ 8525 (1656091)

วันนี้ 8 เม.ย. ได้ไปร่วมเปิดสาขาบ้านสวนพีระมิด ร้านสมพงษ์โอสถ สาขาที่ 3 ที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี ของคุณก็อตกับคุณพจน์  ไปถึงเก้าโมงกว่า  ตอโทรถามทางคุณก็อต  ก็ได้ทราบว่าท่านอาจารย์และคณะไปถึงตั้งแต่ช่วงแปดโมงแล้ว เพราะงานจะเริ่ม 9 โมงตรง

 

อ้อยไปถึงท่านอาจารย์กำลังบำบัดอยู่ มีคนมาร่วมงานเยอะพอสมควร ส่วนใหญ่วัยกลางคน ถึง ส.ว. ซึ่งส่วนใหญ่มีทั้งดีขึ้น และหาย 100%  แต่ละคนดูมีสีหน้าแปลกใจหายได้ไงเนี่ย หายจริงๆนะ  บางคนนั่งๆอยู่เห็นลุกออกไป คิดว่ากลับบ้านไม่สนใจแล้ว ปรากฎว่ากลับไปพาญาติมาเพิ่ม หลังจากมานั่งสังเกตุการณ์และพิสูจน์อานิสงส์บุญแล้ว 

ช่วงทำน้ำทิพย์ส่วนใหญ่นำน้ำมากันคนละ 2 ขวด ส่วนคนไม่มีก็มาซื้อหน้างานที่ร้านกันเลย

 

ท่านอาจารย์ยังเมตตาให้ทำลูกอมอภิญญาด้วย ก็อีกละ ซื้อที่ร้านเลย  อันนี้เป็นประสบการณ์ให้สาขาอื่นๆ  ควรจะต้องเตรียมน้ำและลูกอม สำหรับคนมารับการบำบัดด้วยนะคะ

หลังจากงานเสร็จเกือบทุกคนก็มาร่วมบูชาวัตถุมงคลกันอย่างตื่นเต้น

เห็นบรรยากาศแล้วมีความสุข และขออนุโมทนาบุญกับสะพานบุญ คุณก็อตและคุณพจน์ ที่จะได้ช่วยชาวอำเภอโคกเจริญให้พ้นทุกข์กัน

 

จริงๆก็ไม่ได้มีเฉพาะชาวโคกเจริญนะคะ เพราะมีป้าคนหนึ่งบอกว่ามาจากจังหวัดเลย  ต้องมาหาหมอที่กรุงเทพ พอดูรายการคุยไปแจกไปเห็นข่าวเรื่องเปิดสาขาที่โคกเจริญ จึงรีบบึ่งรถมาทันที  แกเล่าว่าตอนนั่งเครื่องมากรุงเทพ  เครื่องบินตกหลุมอากาศน่ากลัวมาก  แกเรียก รหัส อ.อุบลช่วยด้วย จู่ๆหน้าท่านอาจารย์ก็ลอยมาทันที  ก็รอดมาได้อย่างปลอดภัย

 

มีอีกกลุ่มหนึ่ง มีอาม่า ลุง ป้า ลูกชายและเด็ก 2 คน มาถึงประมาณเที่ยงครึ่งแล้วหลังงานปิดแล้ว พอได้ทันท่านอาจารย์ทานข้าวเสร็จและกำลังจะไป ที่ปรานบุรีต่อ  ลุงบอกว่ามีอาการเสียงแหบ พูดออกเสียงลำบากมาก ท่านอาจารย์เลยถามเกี่ยวกับศีลข้อ 4 ให้นึกให้ออก แกก็บอกว่าเคยโกหก นินทา ด่าว่าคนอื่น หลังจากนั้นคุณก็อตจึงเข้ามาช่วยบำบัดต่อ  กลุ่มนี้บอกว่าดูรายการมา 3 ปีกว่าแล้ว อยากมาแต่ไม่พร้อม ไม่กล้ามากลัวทำไม่ถูก กลัวผิดกฎ  พึ่งเว้นไม่ได้ดูรายการเมื่อมกราคมที่ผ่านมา ก็พอดีมามีอาการเสียงแหบ สงสัยเจ้ากรรมนายเวรรอจังหวะอยู่  ไปตรวจ ที่โรงพยาบาล หมอให้เข้าไปตรวจในกรุงเทพ ว่าเป็นมะเร็งหรือเปล่า  เมื่อวานได้กลับมาดูรายการคุยไปแจกไปอีกที  เห็นเรื่องเปิดสาขา เลยรีบมาแต่มาไม่ทัน

 

คุณก็อตก็ให้ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย ตามด้วยมองจี้ อาการดีขึ้นเล็กน้อยตามลำดับ แล้วก็กราบรูปท่านอาจารย์ อันนี้อาการเสียงแหบ ดูชัดขึ้นเห็นได้ชัดมาก ต่อมาเลยให้สารภาพบาป แกบอกว่าเคยเชือดคอไก่ เชือดคอปลาต่างๆ เชือดกบ ฆ่าแมลง นก พูดโกหก นินทา ด่าว่าคนอื่นถึงตอนนี้ดีขึ้น 70-80% เพราะพูดเสียงชัดขึ้น ไม่ต้องใช้ความพยายามในการพูดมาก  แกก็เลยบูชาจี้รูปท่าน อ.อุบล รุ่นคุ้มเกล้า เข็มกลัดท้าวเวสสุวรรณ   ส่วนภรรยาแกก็บูชาแหวนองค์เทพสฟริงซ์ จี้รุ่นคุ้มเกล้า

 

จากกรณีครอบครัวลุง นี่ทำให้อ้อยรู้สึกว่าการเปิดสาขาบ้านสวนพีระมิด มีประโยชน์มากๆ เพราะทำให้คนที่อยากมาบ้านสวนฯ แต่มาไม่ได้ด้วยไม่สะดวกในการเดินทาง  ยังไม่ค่อยได้ดูรายการ ไม่กล้าสารภาพบาปกรรม กลัวมาแล้วทำผิดกฎ  กลัวทำบุญด้วยแรงกายไม่ไหว ฯลฯ  คนเหล่านี้สามารถที่จะมาที่สาขาบ้านสวนพีระมิดได้เลย  สามารถมารับการบำบัด หรือบูชาวัตถุมงคลต่างๆได้  ซึ่งคนกลุ่มนี้น่าจะเยอะมากในประเทศไทย หรือในโลก  แสดงว่าต่อไปผู้คนจะได้รู้เรื่องราวของบ้านสวนฯมากขึ้น และสามารถที่จะปลดทุกข์ได้เหมือนพวกเราลูกบ้านสวนฯได้  แล้วอย่างนี้ยุคพระศรีอาริย์คงไม่ไกลเกินเดื้อมแน่นอน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-08 19:15:31


ความคิดเห็นที่ 8526 (1656097)

สาธุๆๆโมทนาบุญกับธรรมทานของทุกๆท่านค่ะ

กลับไปเยี่ยมบ้านที่นครศรีฯ คุณแม่อายุ 84 ปีมีอาการนอนไม่ค่อยหลับได้ใช้รุ่นคุ้มเกล้า บวกนกหวีดทำให้นอนหลับดีขึ้นค่ะ  หนูขอบพระคุณเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลแทนคุณแม่ด้วยค่ะ  ได้ไปเจอพี่น้อง หลาน ได้แนะนำวิธีอุปกรณ์บ้านสวนฯ และวิธีบำบัดจากเอกสารบ้านสวนฯ เลยให้น้องไว้ 1 ชุดค่ะ

ส่วนตอนขากลับที่บางเลนนกวิ่งมาชนกระจกหน้ารถแต่ดูแล้วน่าจะไม่รอดแล้วก็ได้อุทิศบุญให้นกตัวนั้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-08 20:38:01


ความคิดเห็นที่ 8527 (1656115)

ธรรมทาน วันเสาร์ที่ 6 เมย. 56

 วันเสาร์นี้เป็นวันจักรี 6 เมย. เป็นวันหยุดยาว ก็คื จะมีการหยุดชดเชยในวันจันทร์ที่ 8 เมย.ด้วย การทำงานเราก็แบ่งเป็น 3 ฐาน เช่นเคย คือ ติดกระจก เกษตร และการตกแต่งสถานที่ เช่น ซักผ้าที่ใช้ตกแต่งเป็นธง เพื่อที่จะต้อนรับค่าย 14 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14 เมย ถึง 16 เมย 56 นี้ อันเป็นค่ายพิเศษที่จะ อัญเชิญบารมีพระนางเนเฟอร์ตารี และ

เป็นการรวมพล คนมีหน้าที่ หรือหมายถึงคนที่เกิดมาสร้างบารมีร่วมกับท่านอาจารย์อุบล
       วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันในหน้าร้อนที่ อากาศร้อนเป็นพิเศษ ทางคุณธนาจึงได้จัดรายการพิเศษที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คือ หลังทานข้าว ช่วง บ่าย 2 โมงครึ่ง ถึง 3 โมงครึ่งให้มาประชุม พร้อมกันเพื่อทำการบำบัดกันเอง  วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จิ๋มจะได้นำจี้ที่บูชาไว้ มาขอความเมตตาให้อาจารย์อุบลช่วยทำพิธีให้ด้วย
   จี้ที่ได้บูชานี้มีหลายรุ่นคละกัน ตั้งแต่รุ่น พระศรีอาริย์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี รุ่นคุ้มเกล้า และรุ่นท่านดตาจินิน 
เดิมจิ๋มมีจี้ทั้งหมด 25 องค์  ก็เลยบูชาเพิ่มเติมในทุกรุ่นให้ครบ 160 องค์ ซึ่งจำนวนจี้ดังกล่าว ได้รับการพิสูจน์มาแล้วเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนที่ จิ๋มไปบำบัด ที่หน้าห้องประชุม และอาจารย์ได้รวบรวมจี้จาก ลูกบ้านสวนทั้งหมด ค่อย  ๆ เพิ่มจำนวนขึ้น และให้จิ๋มสังเกตอาการ ก็พบว่าเมื่อใช้จี้ 154 องค์ อาการเจ็บที่ฝ่าเท้าก็หายไป
      อาจารย์อุบลได้เมตตา ช่วยกราบถาม เบื้องบนว่า ทำอย่างไร จิ่มจึงสามารถสวมจี้ได้ เป็นร้อย ๆ องค์นี้ได้ โดยไม่หนักมากนัก ท่านก็เมตตาสื่อความผ่านท่านอาจารย์อุบลว่า ให้ใช้

อัตราส่วนเป็น 20 ต่อ 1 คือ บูชา 20 องค์ แต่ใส่เพียง 1 องค์ ได้  ดังนั้น ถ้าบูชา 160 น่าจะใส่เพียง 8 องค์  แต่การจะใส่จี้ลดจำนวนจากเดิมลงได้ ต้องนำจี้ทั้งหมดมาให้อ.อุบลทำพิธีในการรวมพลังให้ก่อน
        วันนั้นท่านอาจารย์อุบลได้ทำการบำบัด ผู้ชายคนนึงจากนราธิวาสอยู่ ที่เป็นมะเร็ง และต้องฉายแสงเป็นจำนวน 33 ครั้ง จนหน้าของเขาดำไปซีกนึง พบว่ามานั่งใกล้ท่านอาจารย์
และใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ก็ดีขึ้นตามลำดับ และพอท่านอาจารย์อุบล ได้อาราธนาบารีจี้ จำนวน 160 องค์มา และมารวมพลังจี้  เพื่อทุก คนในห้องก็ได้สัมผัสบารมีกันอย่างทั่วถึง พบว่าชายคนที่เป็นมะเร็ง จากอาการที่กลืนน้ำลายไม่ได้ ก็พบว่าดีขึ้นจนกลืนได้ตามปกติ  เลยทีเดียว

โดยอาจารย์จะพูดเพื่ออารธนาบารมี และพวกเราเป็นผู้รับ ให้รับโดยเอามือ 2 มือ ยกขึ้นมาระดับหน้าอก เหมือนในรูป ที่ท่านอาจารย์อุบลยก 2 มือ แผ่บารมี 

 แต่ตอนนี้เบื้องบนท่านไม่ต้องการให้ท่าน อ.อุบลเหนือย แต่ให้พวกเราเป็นฝ่ายยกมือ เพื่อจะรับบารมีแทน  บางคนก็เหมือนมีลมมาปะทะหน้าอย่างแรง  บางคนก็ขนลุก  บางคนก็ปิติ ส่วนตัวจิ๋มเองก็รู้สึกร้อนวูบ

วาบที่มือและหน้าอกตลอดเวลา เพราะได้ไปนั่งที่หน้าโต๊ะบรรยายใกล้ท่านอาจารย์ด้วย 
        หลังจากรับพลังดังกล่าว พบว่าอาการเจ็บจี๊ดที่ฝ่าเท้าที่เจ็บอยู่ จากที่เคยหายเพียง 40 -50% มาคราวนี้หายถึง 100 % เลยทีเดียว 
       
ส่วนอาการของจิ๋มในคืนนั้น ที่สังเกตได้ ก็คือมีความสุข และเดินเหินคล่องขึ้น ถึงอาการเจ็บฝ่าเเท้าจะกลับมาเจ็บต่อบ้าง  ส่วนอย่างอื่นที่สังเกตได้คือ คืนนั้นจะง่างนอนมาก ๆ ง่วงแบบผิดปกติ ซึ่งมาเรียนท่านอ.อุบล ท่านก็บอกว่า ท่านก็เคยมีอาการง่วงนอนมาก ๆ ในลักษณะเดียวกันที่ท่านได้สวมจี้นี้  ท่านบอกว่าจิ๋มเองก็ต้องค่อย ๆ ปรับตัวไปเช่นกัน

        กราบขอบพระคุณในความเมตตาของ อ.อุบล และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์ ได้แก่ เสด็จพ่อดตาจินิน สมเด็จองค์ปฐม ท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และท่านอื่น ๆ   ด้วยที่ได้เมตตาบรรเทาทุกข์ให้ลูกหลาน
 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-08 22:18:34


ความคิดเห็นที่ 8528 (1656118)

 

ต่อค่ะ ธรรมทานจากวันเสาร์ที่ 6 เมษา 56 หลังจากที่ท่านอาจารย์บำบัดลูกบ้านสวนหายเจ็บหายป่วยกันถ้วนหน้าแล้ว

ท่านอาจารย์ได้เมตตาให้พวกเราที่เคยเล่นหรือทำคุณไสย โดยเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ เมตตาปลดปล่อยวิญญาณที่วนเวียนอยู่กับคนที่เคยเล่นหรือเคยทำคุณไสยได้ไปจากเรา ชีวิตพวกเราจะได้ดีขึ้นซะที โดยท่านอาจารย์ได้ส่งพลังจากเข็มกลัดเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ แล้วให้พวกเรายกมือทั้ง 2 รับพลังจากท่าน ปรากฏว่ามีหลายคนเกิดอาการต่างๆนาๆ  คุณอ้อยอยู่ๆก็ไอมากมาย ส่วนเจี๊ยบเองก็เป็นไฮไลต์ของงานนี้ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะตอนที่ท่านอาจารย์ถามพวกเราว่า ใครเคยเล่นคุณไสยให้ยกมือขึ้นมีหลายคนยกมือขึ้น แต่เจี๊ยบไม่ได้ยกมือเพราะไม่ได้เล่นคุณไสย

แต่ตอนยกมือรับพลังนั้น รับรู้ได้ถึงพลังงานความร้อนที่ฝ่ามือและวิ่งวนเข้าตั้งแต่ศรีษะจนกระทั่งลงมาถึงแขนแล้ววิ่งกลับขึ้นไปที่ศรีษะวนไปมา ต่อมามีอาการที่บังคับตัวเองไม่ได้ ก็ยกมือขึ้นมาประนมมือเหนือหัว ปากก็เป่าฟู่ๆๆๆ แล้วตัวเองก็ร้องไห้ออกมาเสียงดังพักใหญ่ แล้วจากนั้นก็มีอาการโล่ง 

ก่อนที่เจี๊ยบจะรู้จักบ้านสวน เจี๊ยบเคยมีอาการแบบนี้มาก่อนบ่อยครั้ง ซึ่งเมื่อก่อนนี้แค่ได้กลิ่นธูปหรือพูดถึงสระน้ำ เจี๊ยบก็จะมีอาการเป่าฟู่ๆ บังคับตัวเองไม่ได้

แต่หลังจากที่รู้จักท่านอาจารย์ รู้จักบ้านสวน เจี๊ยบได้ทำบุญที่บ้านสวนและอุทิศให้จิตวิญญาณที่อยู่ด้วยกับเจี๊ยบบ่อยๆ จากนั้นอาการที่เป่าฟู่ๆก็หายไปนานแล้ว จนเจี๊ยบคิดว่าเขาคงไปแล้ว แต่ปรากฏว่ายังคงอยู่เป็นเพื่อนกันรักกันไม่ห่างหายไปไหน  และวันนี้เขาก็มาแสดงตัวให้รู้ว่าเขายังอยู่นะ ไม่ทราบว่าเขาไปหรือยัง ยังไงก็...ที่รักเรารักกันไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่เต๊อะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-08 22:34:11


ความคิดเห็นที่ 8529 (1656120)

 อนุโมทนากับธรรมทานของ

พี่นพวรรณ์ พี่ชนิดา พี่เจี๊ยบ และท่านอื่นด้วยนะคะ

การบำบัดเเบบใหม่

ซึ่งท่านอาจารย์ได้รับการสื่อสารจากเบื้องบน

โดยให้พวกเรายกมือขึ้นสองข้างหันหน้ามือออกไป

เพื่อรับพลังซึ่งท่าทางจะเหมือนรูป รหัส อ.อุบลช่วยด้วย

มิ้มเองอ่านเเล้วก็ลองทำ

 ก็รู้สึกว่ามีความร้อน วนอยู่ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง

เหมือนพี่หนิงเลยค่ะ อิๆๆ ตื่นเต้น  

พลังที่ท่านอาจารย์ส่งให้ในวันนั้นมหาศาลเหลือเกินค่ะ

ขนาดมิ้มมาอ่านตัวอักษรตามที่หลัง

ยังสามารถรับสัมผัสพลังได้เลย สุดยอดจริงๆค่ะ 

ยิ่งคนที่ได้รับโดยตรงจากท่านอาจารย์

ก็ต้องยิ่งมากมหาศาลกว่านี้มาก  

 

ความอ่อนโยนที่เเต่ละคนสัมผัสได้นี้

คงเป็นพลังความรัก  ที่ปราศจากเงื่อนไข

ที่ท่านส่งมาให้พวกเราได้พ้นทุกข์

กราบขอบพระคุณในความรัก ความเมตตา

ที่ท่านอาจารย์และเบื้องบนมอบให้พวกเราได้พบกับ

ความสุขทันทีที่ได้สัมผัสพลัง  ให้เกิดความปิติสุข

ที่สัมผัสได้ถึงพลังความรักที่อ่อนละมุน

อาการเจ็บป่วยก็หายหรือดีขึ้นกันอย่างฉัพพลันทันที สาธุค่ะ

............ 

 

         นับเป็นความเมตตาจากเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

และท่านอาจารย์อุบลที่มอบให้ลูกหลานไม่มีประมาณเลยค่ะ  

  การส่งวิญญาณเค้าไปที่มิ้มเห็นชัดเจนอันดับเเร

 

ก็คงเป็นหน้าตาของลูกบ้านสวนหลายคนที่ผ่อง  มากขึ้นเรื่อยๆ อุปสรรค ความทุกข์ที่เคยมีก็คลี่คลายไปได้  ดีเหลือเกินค่ะ

 

 

วิธีการบำบัดและพลังที่เบื้องบนส่งมาท่านอาจารย์

 

ที่นับวันก็ยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะคะ สาธุ

*******

   

ท่านอาจารย์อุบล เมตตากับพวกเราทุกคนเหลือเกินค่ะ

 

ท่านทั้งบอก ทั้งเตือน เราทุกอย่างเพื่อให้เราได้พ้นทุกข์

มิ้มเอง ก็ทำผิดไว้มากค่ะ โดยเพราะผิดศีลข้อ 4 

ก็คือ รับปาก เเล้วก็ไม่ทำ หรือทำไม่ได้

หรือลั่นวาจาว่าจะทำให้ได้ ก็ทำไม่ได้

ทำให้ไม่พ้นทุกข์กับเขาเสียทีค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และเทวดาที่คุ้มครองท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ ลูกน้อมรับคำสอน

จะพยายามปรับปรุงตนเองเจ้าค่ะ สาธุ สาธุค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 00:00:44


ความคิดเห็นที่ 8530 (1656121)

ต่อไปเมื่อสาขาบ้านสวนพีระมิด กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย และทั่วโลก

ผู้คนก็จะเข้าถึงธรรม

ของพระพุทธองค์มากขึ้นเรื่อยๆ

หันมารักษาศีล 5 ได้ปลดล็อก พ้นทุกข์

พบความสุขมากมายกันทั่วโลก

โลกเราก็จะเต็มไปด้วยพลังงานดี 

ภัยพิบัติต่างๆๆ ก็จะเบาบางลงเรื่อยๆๆ 

และ

พวกเราก็จะได้เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์

ได้พบความสุข ไม่เจ็บ ไม่จน

สวยหล่อกันทุกคนค่ะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 01:45:19


ความคิดเห็นที่ 8531 (1656122)

อนุุโมทนากับธรรมทานจากทุกๆท่านด้วยนะคะ

อ่านแล้วก็ต้องอึ้งที่ดร.จิ๋มบูชาจี้ไปอีก135 องค์

รวมทั้งหมดตั้ง 160 องค์ ไม่อยากจะคิดเลยค่ะ

ว่าพลังจะแรงขนาดไหน 

แต่อ่านดูแล้วที่ท่านอาจารย์เมตตาส่งพลัง

จากจี้ของดร.จิ๋มจำนวนร้อยกว่าองค์

ซึ่งแต่ละคนก็หาย 100% กันเกือบทู๊กกกกคน

มาพร้อมหลักฐานจริงๆค่ะว่าอานุภาพจี้

จำนวนยิ่งมาก พลังก็ยิ่งมากตามไปด้วย 

ถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

อนุโมทนากับ ดร.จิ๋มด้วยนะค๊าา สาธุ สาธุ 

**************************

ได้อ่านวิธีบำบัดแบบใหม่แล้วเจ๋งจังเยยค่ะ

เพียงแค่ยกมือเป็นสื่อรับจากท่านอาจารย์

ก็จะรับพลังจากท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว

แถมแต่ละคน ก็รับรู้ได้ถึงพลังที่ท่านส่งมาได้อย่างชัดเจน 

นึกแล้วก็ดีใจ ตื่นเต้นไปด้วยเหมือนกันค่ะ 

นับวันมีแต่ปรากฏการณ์สะท้านโลกใหม่ๆ 

แบบนี้นี่เองลูกบ้านสวนแต่ละคนถึงหายเจ็บ หายจน

พ้นทุกข์กันถ้วนหน้า

แถมหน้าใสอีกต่างหาก  อิอิ

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ 

**********************************

อนุโมทนากับคุณหนิงด้วยนะค๊าาา

นี่แหละเนอะ

ที่ท่านอาจารย์ถึงพยายามบอกให้เราดูรายการ

พยายามบอกให้เราเขียนธรรมทาน

เพราะสิ่งที่เราจะได้มันอยู่ในนี้

อย่างคุณหนิงที่ร้านค้าเงียบ

พอดูรายการก็ไปเจอตอนที่พี่ก็อต พี่พจน์ 

พูดถึงรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ในการตั้งเป้าในการขายของ  แล้วก็ได้จริงๆ

แล้วก็บังเอิ๊ญ

อ้อ เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก 

แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ดลใจ

ให้คุณหนิงเปิดมาเจอรายการพอดิบ พอดี

ทำให้มีแนวทางในการขายของ

โดยการใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

แล้วก็ได้ผลจริงๆ

อนุโมทนาด้วยนะคะ สาธุ สาธุ

***************************

อนุโมทนากับพี่อ้อยจากธรรมทานของวันนี้ด้วยนะคะ

รอลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงบ้างน๊าาา อิอิ

แต่อ่านจากที่พี่อ้อยเล่าแล้วก็มีความสุขไปด้วยเลยค่ะ

ที่ทุกคนที่มาหายเกือบ 100% และ 100%กัน

แสดงว่าจิตเปิดและสนใจอยู่ไม่น้อย 

แถมยังมีแฟนคลับจากต่างจังหวัดตามมาอีก

นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยค่ะ

ที่บ้านสวนได้มีสาขากระจายไปตามต่างจังหวัด

เพราะญเชื่อว่าผู้คนต่างจังหวัดที่เป็นแฟนคลับท่านอาจารย์

ที่ติดตามบ้านสวนคงมีอยู่มากมาย

อีกอย่างสำหรับคนที่มาบ้านสวนลำบาก หรืออยู่ไกล

ก็สามารถไปที่สาขาของบ้านสวนใกล้บ้านท่านแทน

ดีใจจังเลยค่ะ อิอิ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์และครอบครัวที่เสียสละ

และพยายามช่วยพวกเราทุกวิถีทางด้วยนะคะ

และขออนุโมทนากับพี่ก๊อต พี่พจน์

เจ้าของสาขาจังหวัดลพบุรีด้วยค่ะ

ที่ได้เปิดสาขาเพื่อช่วยเหลือผู้คน

อนุโมทนากับทุกๆท่าน

ที่ได้ไปงานเปิดสาขาในวันนี้ด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 02:25:13


ความคิดเห็นที่ 8532 (1656129)

อนุโมทนาสาธุกับพี่ ดร.จิ๋มด้วยค่ะ ที่บูชาจี้รุ่นต่างๆเพิ่ม

รวมของเก่าเเล้วก็เป็นจำนวนถึง 160 องค์

โอโห สุดยอดมากเลยค่ะ

อานุภาพครั้งนี้ต้องมหาศาลสุดๆๆเลยค่ะ

เหมือนที่พี่ ดร.จิ๋มได้พิสูจน์จากอาทิตย์ก่อนหน้าเเล้วว่า

เมื่อใส่จี้ลูกบ้านสวนรวมกัน 154 องค์ อาการปวดฝ่าเท้าของ

พี่ ดร.จิ๋มก็หายโดยทันที  สาธุค่ะ  

สำหรับคนที่มีเจ้ากรรมนายเวรมากก็ย่อมต้องใช้

พลังบุญบารมีมากมายมหาศาลตามไปด้วยนะคะ

เพื่อให้บุญให้เจ้ากรรมนายเวรเค้าเเต่ละตนได้พึงพอใจ

เเละขึ้นไปสู่ภูมิที่สูงขึ้น

ทำให้อาการเจ็บป่วยของเเต่ละคนนั้นหายไปได้

ดังนั้นเเต่ละคนเราสร้างกรรมมาตั้งเเต่อดีตชาติจนชาติปัจจุบัน

ก็เยอะมากมายเเตกต่างกันไป

เเต่ละคนย่อมใช้กำลังบุญไม่เท่ากัน

ในการส่งเจ้ากรรมนายเวรขึ้นสู่ภูมิที่สูงขึ้น

ในเมื่อพวกเรารู้เเล้วว่า

การทำผิดศีลทำให้เกิดเจ้ากรรมนายเวร

เกิดความทุกข์ ตลอดเวลา บรื๋อ.......น่ากลัวจังค่ะ

ดังนั้นถ้าไม่อยากทุกข์มีเจ้ากรรมนายเวรเพิ่มขึ้น

ก็มารักษาศ๊ล 5 ให้บริสุทธ์กันนะคะ สาธุ สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 08:41:59


ความคิดเห็นที่ 8533 (1656145)
image

 

ธรรมทานกิจกรรมนอกสถานที่

.มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

วันที่ 3 เมษายน 56

ช่วง 08.30 ที่พวกเราไปเตรียมจัดบูทตกแต่งพื้นที่ อันประกอบด้วย หนึ่ง, ก้อย, คุณตุ้ย น้องเบส พี่วิ ป้านมจิต แต่ปรากฏว่าคนมาเดินชมงานน้อยมาก และนักเรียนนักศึกษาก็ไม่ให้ความสนใจ แถมอากาศวันนั้นร้อนอบอวบมากๆ ดังนั้นคนที่มาเดินงานส่วนใหญ่คือเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยซะมากกว่า จนกระทั่ง 10 โมงกว่า 11 โมงถึงมีคนมาเดินผ่านบูทซึ่งส่วนใหญ่ก็หยุดดูรูปคุณสุดาดวงกับรูปน้องฟลุ๊คที่ทางญ.ก้อยและคุณตุ้ยเตรียมไปโชว์ แต่ไม่มีใครเข้ามาขอรับการบำบัด

 

จนกระทั่งท่านอ.อุบลเดินทางไปให้กำลังใจพวกเราในช่วงสายๆ ซึ่งพอท่านอ.มาที่บูทเสมือนกับเป็นประธานในงานให้พวกเรา ลูกบ้านสวนได้เจอปาฏิหาร์ย

--- > จากตอนแรกที่พวกเราแทบจะนั่งหลับเพราะไม่มีคนมาขอบำบัด แต่พอท่านอ.เดินเข้ามานั่งที่บูท ไม่รู้ผู้คนมาจากไหนกันเดินเข้ามาสอบถามและขอรับการบำบัดจากพวกเราชนิดที่ต้องรอคิวกันเลย

--- > อากาศตอนแรกที่ร้อนตับแล่บ ไม่มีลมพัดสักแอะ พอท่านอ.มานั่งที่บูทพระพายมาจากไหนไม่รู้ทำให้พวกเราคลายร้อนไปได้ทันที และที่น่าแปลกใจคือพอท่านอ.กลับเพราะท่านมีงานที่อื่นต่อ ลมก็แทบจะไม่กระดิกเหมือนเดิม

--- > วันนั้นทั้งวันตั้งแต่เช้าพวกเราไม่ได้ทานข้าวเช้า-และกลางวัน ท่านอ.เมตตาซื้อขนมมาให้ทานลองท้อง และเนื่องจากมาคนมารับการบำบัดอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ทำไมลูกบ้านสวนไม่มีใครได้แว่บไปกินข้าวกลางวัน จนกระทั่งบ่าย 3 กว่าๆก็เริ่มเก็บบูทมาสังเกตุตนเองถึงได้เอ๊ะใจว่า ทำไมพวกเราถึงไม่หิวข้าวกันแล้วอยู่กันได้อย่างไรโดยที่ข้าวไม่ตกถึงท้อง เพราะแต่ละคนทั้ง หนึ่ง, ก้อย, คุณตุ้ย พวกเราเป็นตัวแม่ในเรื่องกินทั้งนั้น น้องเบส พี่วิ แม่นมจิตก็ไม่มีใครหิวข้าว………..งานนี้อยู่ได้เพราะขนมอภิญญาของท่านอ.จริงๆคะ สาธุ สาธุ สาธุ (ไม่มีครั้งไหนที่ท่านอ.อุบลจะไม่คิดเตรียมการไว้ให้ลูกศิษย์ล่วงหน้า ^_____^”

 

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลและคณะติดตามที่เมตตาพวกเรานะคะ ท่านอ.มีงานและต้องเดินทางไปต่างจังหวัดแท้ๆ แต่ท่านอ.อุบลยังคิดถึงพวกเรา มาเป็นขวัญและกำลังใจให้พวกเราทุกๆคน….

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 13:10:25


ความคิดเห็นที่ 8534 (1656146)
image

 (ต่อ)  

บำบัดผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย (ตัวอย่างกรณีที่น่าสนใจ)

คนแรก : พี่เห็นเพื่อนที่บูทหายก็อยากจะหายกลับเขาบ้าง

ผู้หญิงที่อยู่บูทฝั่งตรงข้ามกับบูทธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันทีของลูกบ้านสวน พี่เขาเห็นเพื่อนที่มาออกบูทด้วยการหายจากอาการเจ็บปวดตามร่างกายจนอย่างจะหายกลับคนอื่นเขาเลยมาขอรับการบำบัด

มีอาการ ปวดแขน

วิธีบำบัด  ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยอาการก็ดีขึ้น 50%, มองจี้ดีขึ้นอีกประมาณ 60-70% แล้วก็ให้มองรูปท่านอ.จากหนังสืออุบลฟอร่าก็ดีขึ้นประมาณ 80% แต่พอให้เขามองรูปท่านอ.อุบลที่ยกมือขึ้นแล้วถามว่าตอนไหนสวยกว่ากัน เขาบอกว่ารูปท่านอ.ในปัจจุบันสวยกว่า ปรากฏว่าหาย 100% ทันที

 

คนสอง : หายแล้วไม่สำนึกบุญคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์อวดภูมิตนเองก็ต้องบำบัดไม่หาย

ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถามและขอรับการบำบัดโดย

มีอาการปวดทั้งตัวคือ ปวดเอวแล้วลามไปถึงไหล่และคอ, ปวดขา

วิธีบำบัดให้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยและมองดูจี้อาการก็ดีขึ้นประมาณ80% จนกระทั่งมองดูรูปท่านอ.จากหนังสืออุบลฟอร่าก็ดีขึ้นและจากรูปท่านอ.ยกมือในปัจจุบัน สุดท้ายชมท่านอ.ว่าสวยอาการปวดก็หาย แต่เมื่อหายแล้วแทนที่จะสำนึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงกับ นั่งเถียงพี่ธนาว่าเป็นแค่พลังงานอย่างหนึ่งที่มีอยู่ทั่วไป ( เฮ้อ คุณลุงช่างคิดได้)

 

สักพักแกขอบำบัดอาการปวดขา ซึ่งหนึ่งรู้แล้วว่าลุงจริงปิดแน่นอนเพราะ ระหว่างจะบำบัดแกก็พูดย้ำว่าหมอบอกว่ารักษาไม่หาย ทำอย่างไรก็ไม่มีทางหายอย่างแน่นอน เลยเริ่มต้นให้แกใช้รหัสอ.อุบลและมองจี้ปรากฏว่า อาการปวดขาบนขึ้น 10% เท่านั้น (ปกติหนึ่งบำบัดใครก็จะเจอคนที่ใช้รหัสอย่างน้อยๆก็จะต้องมีอาการดีขึ้นสัก 50%) เลยลองให้เขาสารภาพบาป ปรากฏว่าแกเป็นคนดีจริงๆ

หนึ่ง ลุงเคยตีลูกตีหลานไหมคะ

ลุง : ไม่ตี แค่จับมือขาเท่านั้น

หนึ่ง : อันนี้ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์นะคะ

ลุง : ก็มันอยากดื้อเอง

(ระหว่างที่แกพูดว่าจับเด็กมัดขา, แกพูดด้วยน้ำเสียงที่ภูมิใจในตนเองสุดๆ ไม่ได้มีอาการสำนึกอะไรแต่อย่างไร) หนึ่งจึงจบบทสนากับแกเพราะจิตแกไม่เปิด

 วันนั้นเราเดินทางกลับบ้านอย่างอิ่มใจสุดๆ, ตกเย็นวันนั้นก้อยและหนึ่งมีอาการปวดหัว เลยลองอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรที่มาทวงบุญ ปรากฏว่าอาการต่างๆหาย 100% 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 13:16:55


ความคิดเห็นที่ 8535 (1656149)
image

 ธรรมทานกิจกรรมนอกสถานที่

.มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

วันที่4 เมษายน 56

หลังจากเมื่อวานนี้พวกเราไม่ได้ทานอาหารวันนี้จึงพร้อมใจกันทำอาหารมาแบ่งปันกันทาน และหน้าตาลูกบ้านสวนแต่ละคนที่มาช่วยงานก็อิ่มใจกันเต็มที่ วันนี้ลูกบ้านสวนที่มาช่วยกิจกรรม ก็มี ก้อย, คุณตุ้ย พี่สมจิต, พี่ภา, ดร.พี่จุ๋ม, พี่เจี๊ยบ, น้องกระต่าย, ชิมและแม่ดารา เรียกว่าวันนั้นมีลูกบ้านสวนมาเตรียมตัวบำบัด 10 คนเล่นเอาแทบจะไม่มีที่นั่งในบูท

 

เนื่องจากวันนี้ท่านอ.ไม่ได้มาทำให้เราเห็นผลความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าคนที่มาเดินในงานและแวะมาที่บูทน้อยมากๆผิดจากเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด แต่คนที่แวะมาบำบัดกับลูกบ้านสวนต้องเรียกว่าแต่ละคนที่แวะมาวันนี้มีคุณภาพคับจอ เพราะมาด้วยกระแสคำบอกเล่าจากเพื่อนคนใกล้ชิดที่ได้รับการบำบัดเมื่อวานแล้วเอาไปบอกต่อถึงความมหัศจรรย์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง, นอกจากนี้แล้วการที่เราใส่จี้โชว์ให้ผู้คนเห็นก็ทำให้มีคุณลุงท่านหนึ่งเขาเดินตาม คุณตุ้ยและก้อย กลับมาที่บูทเพราะคิดว่าพวกเราเป็นพวกชมรมพระเครื่อง และได้อยู่คุยกับ 2 สาวชนิดที่ไม่ยอมเดินออกจากบูท เพราะแปลกใจในสิ่งที่พวกเราทำทั้งๆที่ไม่ได้รับเงินเดือน และกิจกรรมบำบัดก็ฟรี…………………………….ฟรีรรรรร ตลอดงาน จึงได้พูดคุยสนทนาธรรมะกับลูกบ้านสวน และดูเขาจะยิ่งแปลกใจใหญ่ถึงขนาดพูดออกมาเลยว่า หน้าตาและวัยพวกเราดูไม่น่าจะรู้ธรรมะเยอะ (คุณลุงขา……กว่าจะได้รู้ก็ต้องเจอทุกข์และโชคดีสุดๆที่ได้เจอท่านอ.อุบลละคะ) แถมระหว่างพูดคุยหนึ่งแอบเห็นคุณตุ้ยเล่าธรรมทานการผิดศีลของตนเอง จนเขาแปลกใจ สงกะสัย คุณลุงจะไม่เคยเจออยู่ๆใครก็ไม่รู้มาเล่าว่าตนเองเลวอย่างไรให้ฟัง

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 13:49:37


ความคิดเห็นที่ 8536 (1656154)
image

 (ต่อ)

การบำบัด วันนี้มีเคลสที่คนมาขอรับการบำบัดจากพวกเราที่น่าสนใจมากๆๆ

เคลสแรก : พี่คนหนึ่งเขาเป็นนักวิชาการหรือเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย (ขออภัยถ้าหนึ่งจำผิดนะคับ) คนนี้มาขอรับการบำบัดเพราะเพื่อนแนะนำมาและก็ได้ทำน้ำทิพย์รหัสเจ้ากรรมนายเวร 99 กับทางน้องก้อยด้วย, พอพี่เขาใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย ปรากฏว่าเกิดอาการปิติตื้นตันใจมากๆและรู้สึกอยากจะร้องไห้ซึ่งแน่นอนเขามาอย่างคนที่จิตเปิดสุดๆ ปรากฏว่าหลังบำบัดแล้วอาการที่ปวดขาหาย 100% ด้วย (อนุโมทนาบุญกับน้องก้อยและพี่คนนี้ด้วยคะ)

 

เคลสสอง : คุณป้าคนหนึ่งมีอาการปวดขาเวลาเดินก็จะต้องมีอุปกรณ์ช่วยพยุง วันนั้นแกเดินขากระเผกโดยใช้ร่มช่วยมาขอรับการบำบัดกับคุณตุ้ย ป้าคนนี้ตอนที่แกเดินเข้าบูทมาพวกเราคิดว่าแกจะไม่เชื่อแต่ปรากฏว่าหลังจากได้มีการพูดคุยก็ได้ร่วมทำน้ำทิพย์ปรากฏว่าหาย 100% เช่นกัน

 

เคลสสาม : คุณพูนศรีซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดงาน เขามาพูดคุยและขอรับการบำบัดจากพวกเรา มีอาการมีอาการปวดข้อมือนิ้วมือ ลองให้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยและมองจี้ปรากฏว่าอาการดีขึ้น 80% และหลังนั้นให้ดูรูปท่านอ.อุบลปรากฏว่าชมรูปท่านอ.อุบลว่าดูเด็กและสวยอาการก็หาย 100% ทันที

 แต่เมื่อขอรับบำบัดอาการปวดขาก็หลังจากได้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย , มองจี้, มองรูปแล้วก็ยังไม่หายจึงได้ให้ลองสารภาพบาป ซึ่งน่าสงสารเจ้ากรรมนายเวรเพราะแกไม่ยอมรับหรือสารภาพบาปแต่อย่างไรสุดท้ายก็ต้องหยุดทำการบำบัดไปในที่สุด

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 14:16:40


ความคิดเห็นที่ 8537 (1656155)
image

(ต่อ)
**ออร่าหลักฐานทางวิทยาศาตร์
กับจิตที่ผ่านการฝึกสมาธิ**

นอกจากพวกเราจะไปบำบัดผู้อื่นแล้ว งานนี้เนื่องจากอ.ฉาดฉาน นักถ่ายรูปออร่า มาออกบูทในงานด้วย เลยพากันกันไปถ่ายรูปออร่า ระหว่างถ่ายภาพก็เป็นช่วงนาทีระทึกของพวกเราเพราะกลัวว่าออร่าจะออกมาเป็นสีแดง ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นคนขี้โกรธ โดยส่วนตัวหนึ่งคิดว่าถ้าเป็นสมัยก่อนๆที่จะมารู้จักบ้านสวนพีระมิดและท่านอ.อุบล ถ้าหนึ่งมาถ่ายรูปถ่ายออร่า คงจะเห็นภาพออร่าตนเองคงเป็นสีแดงเพลิงแน่ๆ

 
แต่ออร่าของลูกบ้านสวนส่วนใหญ่บ่งบอกว่าพวกเราเป็นนักบำบัดหรือกลุ่มของผู้ฝึกสมาธิ (ซึ่งผลของออร่าที่ออกมาจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละวันขึ้นอยู่กับอารมณ์ในขณะนั้น) ซึ่งพอ .ฉาดฉานถามพวกเราว่าได้ฝึกนั่งสมาธิกันใช่ไหม  พี่จุ๋ม หนึ่งและน้องเบส พากันหัวเราะคิคิคิ แล้วตอบทันทีว่าไม่ได้ทำสมาธิ (แอบขี้เกียจท่านอ.เคยบอกให้นอนทำสมาธิแล้วแท้ๆ) , แต่ก็มานึกได้ว่า ทุกสิ่งที่ท่านอ.อุบลได้ฝึกสอนพวกเรามาโดยเฉพาะการทำบุญแรงกายเป็นแนวทางในการฝึกสมาธิในแบบฉบับของลูกบ้านสวน ซึ่งภาพออร่าของพวกเราก็เป็นเครื่องยืนยันในผลที่ท่านอ.ฝึกสอนพวกเรามา

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 14:38:15


ความคิดเห็นที่ 8538 (1656160)

 

        วันเสาร์ที่ 6 เมย.  อากาศอบอ้าว กินน้ำเยอะจนจุกเลยครับ  หลังอาหารเที่ยงหลบอากาศร้อนเข้าห้องเย็นๆ รับธรรมะ และวิธีการบำบัดแบบใหม่ รู้สึกตื่นเต้นครับ การบำบัดแบบใหม่ วันนี้ผมมีอาการเจ็บที่ใต้ข้อพับที่ขาขวา แผลเป็นจากอุบัติเหตุ ซึ่งไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆเลย แม้ว่าแผลจะมีขนาด 7x13 เซนติเมตร แล้วผ่าตัดเย็บแผล แผลหายสนิท เพียง 21 วัน ไม่มีอาการอักเสบ ของแผล ไม่ปวด ไม่แสบไม่เจ็บ เวลาล้างแผล ผมว่าเป็นเพราะท่านอาจารย์อุบล ฉีดทำทิพย์ (น้ำพลังปราณ มโนธาตุ) ให้ตอนแรกเลย  ท่านบอกว่าให้รักษาแผล ขอให้อย่าให้มีอาการเจ็บ ปวด  ให้แผลหายโดยฉับพลัน จากนั้นล้างแผลก็ใช้น้ำทิพย์ฉีดพ่นด้วยทุกครั้ง แผลจึงได้หาย แห้งเร็ว หายสนิท มารู้สึกถึงอาการเจ็บที่แผลเป็น ขึ้นมาแบบชวนสงสัยเหมือนกัน จึงขอรับการบำบัดอาการ เจ็บแผลเป็นที่ข้อพับ

     โดยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ก่อนหน้านี้ก็ใช้ รหัสเหมือนกัน แต่ไม่ดีขึ้น ต้องมาใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย พร้อมกัน เป็นการบำบัดรวม ทำให้อาการเจ็บข้อพับดีขึ้น 90 %

..... ตอนที่สองใช้พลังของพีระมิดทุกรุ่น ท่านอาจารย์ส่งพลังพีระมิดให้ทุกคน เพื่อให้หายจากอาการเจ็บป่วย ขับพลังงานลบออก พลังปราณ มโนธาตุ เข้าไปแทนที่ ทำให้ทุกคน สัมผัสได้อย่างชัดเจนทุกคนสิ่งที่ผมสัมผัสได้คือ หัวใจเต้นเร็วแรง ตัวโยกโคลง ชุ่มฉ่ำในใจมีปิติสุขครับ

.....ตอนที่สาม บำบัดด้วยวิธีใหม่ ท่านอาจารย์ ยกมือทั้งสองข้าง ส่งพลังความรัก ความเมตตา ส่งบารมีของฉัพพรรณรังสี สตรังสี บารมีของพระพุทธเจ้า  พวกเรายกมือรับเหมือนท่านอาจารย์ เราเสมือนเครื่องรับ อยู่ที่จิตที่น้อมรับ ผมน้อมรับสัมผัสได้ ด้วยที่ท้องเหมือนมีพลังหมุนวนยกขึ้นถึงศรีษะเลยครับ  ทุกคนที่อยู่ที่วิหารรับพลังได้ชัดเจนทุกคน

......ตอนที่ 4 เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ เมตตาถอนมนต์ดำ คุณไสย์ ครับ ท่านอาจารย์อุบลได้อาราธนาบารมี เสด็จพ่อท่านท้าว เวสสุวรรณให้ถอดถอน จิตวิญญาณ มนต์ดำไสยศาสตร์ ทำเสน่ห์  สาลิกาลิ้นทองแป้งผ้ดหน้า แป้งเจิม เสกทองเข้าหน้าผาก สักยันต์ ฝังหุ่น เสกหุ่น

  ผมจำได้เคยสักน้ำมันตอนเป็นเด็กวัด กำลังคะนอง อยากคงกระพัน ชาตรี  เคยใช้สีผึ้ง ที่รับจากพระบอกสรรพคุณ ทำให้มีเสน่ห์  ที่สุดแล้ว ไม่เกิด ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น เสียทรัพย์ เสียเวลา ที่สำคัญชีวิตไม่ได้ดีขึ้นเลย ยังหน้าแห้ง หน้าเหี่ยวเหมือนเดิม ยิ่งจนลง แถม มีป่วยไม่สบายบ่อยด้วย  ขาดสภาพคล่องอีกต่างหาก กลายเป็นขาดความมั่นใจตัวเองไปเลย หวังพึ่งลมๆ แล้งๆ

  ครั้งนี้ท่านอาจารย์อุบล ขอความเมตตาเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ปลดล๊อกกรรมที่เล่นคุณไสย์ ผมสัมผัสได้อีกครับ ปวดกระดูกทั้งตัวขึ้นมาทันทีทันใด สักพักหนึ่งอาการปวดคลายหายไป ตัวโคลงเคลง เกิดขนลุกทั้งตัว และลุกนานต่อเนื่องที่ขาทั้งสองข้าง 

 

   นี่เป็นความมั่นใจในการทำกิจกรรมบุญ อุทิศบุญ การปลดล๊อกสิ่งที่ ติดขัด ทั้งเจ็บป่วย ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เป็นหนี้บานเบอะ  พิสูจน์ได้ทันที จากการสัมผัสได้ ด้วยการหายเจ็บป่วย ส่วนการสภาพ คล่องมีรายรับมากขึ้นกว่าเดิม ราว 20 %  สามารถใช้หนี้ได้บางส่วน

 

   ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล และครอบครับ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกพระองค์ที่รักษาอาจารย์อุบล ที่เมตตาลูกให้รู้เหตุแห่งทุกข์ และลูกต้องหยุดยั้งการประกอบกรรมหันมาตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริบูรณ์ สาธุ ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 15:16:21


ความคิดเห็นที่ 8539 (1656161)
image

(ต่อ)
***เมื่อใช้รหัสอ
.อุบลช่วยด้วยถ่ายภาพออร่า***

ในวันสุดท้ายนั้นหลังจากพี่เจี๊ยบและก้อยถ่ายรูปออร่าและขอรูปออร่าแบบให้เห็นถึงจุดจักระ หนึ่งเลยไปถ่ายรูปอีกครั้ง

 แต่ตอนที่หนึ่งถ่ายภาพออร่า หนึ่งได้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยในใจแต่มีจุดๆหนึ่งที่น่าแปลกใจมากกกกกกก ถึงมากกกกกที่สุด คือรูปออร่าบนศรีษะของหนึ่งมีลักษณะคล้ายหมวก ซึ่งอ.ฉาดฉานบอกว่า เป็นสิ่งที่แสดงว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่ (ตามปกติแล้วออร่าในแต่ละวันของคนเราจะมีสีและลักษณะที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับอารมณ์ในขณะนั้น สมาธิในขณะนั้นหรือการกินอยู่หลับนอนในช่วงนั้นๆ)

 หนึ่งจึงขอดูรูปถ่ายออร่าของลูกบ้านสวนคือ พี่เจี๊ยบและน้องก้อย ซึ่งรูปออร่าทั้งสองคนไม่มีหมวก จึงสอบถามว่าแต่ละคนตอนที่ถ่ายออร่าได้มีการใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยหรือไม่

พี่เจี๊ยบ : ตอนที่ถ่ายภาพนึกถึงท่านพ่อดตาจินิน / น้องก้อย : ไม่ได้นึกอะไร / หนึ่ง : ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

 ผลที่ออกมาหนึ่งเชื่อว่า มันเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนคือ เมื่อเราใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองท่านอ.อุบลจะมาคอยคุ้มครองเราทันที ผลที่ได้รูปออร่าแสดงจักระจึงมีลักษณะเป็นหมวกอย่างชัดเจน,

ส่วนกรณีที่พี่เจี๊ยบนึกถึงท่านพ่อดตาจินิน
แต่รูปภาพออร่าที่บอกจุดจักระกับไม่มีลักษณะเป็นหมวก นั้นคงจะเป็นเพราะว่าพวกเราทุกคนไม่มีหน้าที่ๆจะสื่อสารหรือไม่สามารถรับสื่อโดยตรงกับท่านพ่อดตาจินิน จึงไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านได้กำหนดให้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยเป็นรหัสสากลแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 15:21:35


ความคิดเห็นที่ 8540 (1656170)

ขออนุโทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบล

ที่ได้เมตตามอบความรักความเมตตา

ความสุข บำบัดทุกข์ ให้กับผู้คนมากมายค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณก๊อต คุณพจน์

หัวหน้าบ้านสวนพีระมิดสาขา 3

ขออนุโมทนาบุญกับพี่ดร.จิ๋มค่ะ

ทีไ่ด้บูชาจี้เพิ่มรวมกับจี้รุ่นเก่าเป็น 160 องค์

ได้รับอนุภาพมหาศาล

ขออนุโมทนาบุญกับคุณตุ้ยคุณก็อย คุณหนึ่งคะ

ทีไ่ด้นำภาพถ่ายภาพออร่ามาให้ชม

แนวการสอนท่านอาจารย์อุบลเห็นผลจริงและพิสูจน์ได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 16:20:41


ความคิดเห็นที่ 8541 (1656173)
image

ขอเหลาบรรยากาศวันเปิดสาขา 3
ของคุณก๊อต คุณพจน์
 ณ โคกเจริญ จ.ลพบุรีนะคะ
บรรยากาศของงานจัดได้ดีมากค่ะ
ผู้คนก็มากันพอสมควร
แต่เจ้าภาพก็บอกว่านี่คือหายไปตั้งเยอะนะคะ
ทีแรกรับปากไว้ว่าจะมากันมากกว่านี้ โอ้โฮ เรียกว่า
เค้าจัดได้ดีจริงๆค่ะ ผู้คนที่มา
ก็ได้สัมผัสถึงพลังและบุญบารมีของท่านอ.อุบล
และหลายท่านก็ได้รับรู้ถึงธรรมะของพระพุทธองค์
ที่สถิตย์ ณ กาย วาจา ใจ ของท่านอ.อุบล ด้วยตัวเอง
ผู้คนที่มา ด้วยความศรัทธา และต่างๆ
ก็ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้คนที่มา
ก็เตรียมน้ำมาทำน้ำทืพย์กัน ผู้ที่มีศรัทธา
มีจิตเปิดมีสมาธิ ก็สามารถสัมผัสปาฏิหารย์ได้
ส่วนบางคนที่จิตไม่เป็นสมาธิ มีคุณตาอยู่คนหนึ่ง
ทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้นค่ะ เพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย
โดยรวมหายและดีขึ้นเกือบทุกคนค่ะ หลังปิดงาน
เจ้าภาพก็มีอาหารเมนูไข่เลี้ยงพวกเรา อร่อย
และทำให้มีแรงขึ้นเยอะเลยค่ะ เห็นงานนี้แล้ว
ทำให้อยากเปิดสาขากับเขาบ้างค่ะ
ขาดอย่างเดียวตรงที่ยังไม่มีทุนนี่ล่ะค่า ฮา
หากมีสาขาบ้านสวนพีระมิดอยู่ทุกตำบล
ทุกหมู่บ้าน ประเทศไทยของเราจะเป็นอย่างไรกันเนี่ย
คนเจ็บ คนจน คงจะไม่มีอีกต่อไป
แค่คิดก็มีความสุขแล้วค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 17:04:24


ความคิดเห็นที่ 8542 (1656185)

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 6 เมย. 56 ตอนพลังที่แรงขึ้น จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
กิจกรรมใช้แรงกายทั่วๆไปก็มีงานซักธง ตกแต่งสถานที่เพื่องานเข้าค่าย 14 งานเกษตร และทำความสะอาดบริเวณรอบบ้านท่านอาจารย์ และห้องน้ำ

ตอนบ่ายท่านอาจารย์ จัดให้พวกเราไปนั่งฟังธรรมทาน เพื่อหลบแดดหน้าร้อน วันนี้ จิ๋มเขาเบิกเงินมาบูชา จี้รุ่นต่างๆ เพิ่มจากที่มีอยู่ แล้ว 25 องค์ และบูชารุ่นๆอื่นๆ เพิ่มเป็น 160 องค์ เพื่อเขาจะพิสูจน์ว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะบำบัดจิ๋มเขาให้หายเจ็บปวดได้หรือไม่ โดยท่านอาจารย์ให้จิ๋มนำจี้ จำนวน 160 องค์เข้าพิธี เพื่อท่านอจ.จะรวมพลังให้มาสถิตย์ไว้ใน 8 องค์ หรือให้เลขสวยท่านก็ให้แขวนเพียง 9 องค์  ณที่ประชุมนั้น ท่านได้ส่งพลังของจี้ 160 องค์ไปให้ทุกคน โดยจะต้องยกมือ 2 มือ กางรับพลัง ลูกบ้านสวนต่างก็สัมผัสกันได้เป็นส่วนมาก บ้างก็บอกว่าแรง แต่มีความละมุน สำหรับตนเองอาการระคายคอเจ็บคอ เบาลง ดีขึ้นถึง 70% และเมื่ออจ.เมตตาให้สารภาพบาปต่อหน้าคนอื่นๆ ตนก็เล่าถึงโทสะที่ชอบดุคนรับใช้ อาการก็เบาลงแต่ยังไม่หาย ขอเล่าต่อถึงอาการเจ็บคอ ว่าตอนกลางคืน อจ.ท่านทำน้ำพีรามิด มีการถ่ายทอดสดและทางเฟสบุ๊ค และตนเองทำในห้องประชุมบ้านสวน พอดื่มจิบนึง น้ำพลังแรงนั้น สามารถมึพลังรักษากรรมหนักของจุ๋ม ให้โล่งคอไปได้ จนต้องลุกไปรายงานผล

เรื่องพลังแรงๆจากจี้นั้น จิ๋มเขาจะง่วงงุนตลอด ตั้งแต่ขับรถกลับ เขาหลับตลอด เขาบอกว่าแม้จะหลับสนิท แต่ตอนตื่นมายังง่วงต่ออีก แต่เขาเจ็บปวดน้อยลง ต้องฟังเขามาเล่าเอง
ขอกราบพระคุณพลังบุญที่แรงๆจากท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์
ธารีรัตน์_จุ๋ม



 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-09 22:03:13


ความคิดเห็นที่ 8543 (1656194)
image

 ธรรมทานงานเปิดบ้านสวนสาขา 3

.บ้านน้องก็อต & พจน์ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี

วันที่ 8 เมษายน 2556

 

เดินเข้างานแล้วบ่องตงคำเดียวว่า ตะลึง ตะลึง ตะลึง กับการจัดเตรียมงานของน้องก็อตและน้องพจน์ และจำนวนคนที่มารวมงานมากกก น้องทั้งคู่จะจัดเตรียมงานได้อย่างดีและะมีคนมาร่วมงานเยอะมีทั้งชาวบ้านที่อ.โคกเจริญหรือแม้แต่อำเภอใกล้เคียง

 

มีทั้งคนที่เคยได้รับการบำบัดจากก็อตและพจน์และมีทั้งคนที่ยังไม่เคยได้รับการบำบัดแต่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม งานนี้สังเกตุได้ไม่ยากเพราะคนที่รู้จักวิธีการบำบัดของบ้านสวนแล้วจะมีขวดน้ำติดตามมาด้วย เรียกว่าเป็นงานรู้ว่าต้องมีการทำน้ำทิพย์อย่างแน่นอน

 

งานเปิดสาขาของบ้านสวน หนึ่งเลยได้รู้ว่ายังมีคนที่เขาแอบซุ่มเงียบ แอบเป็นแฟนคลับของท่านอ.อุบลและบ้านสวนพีระมิดอยู่เยอะและคงจะมีอยู่ทั่วประเทศจากการดูรายการคุยไปแจกไปและเป็นกลุ่มคนที่ไม่กล้ามาบ้านสวนเพราะกังวลกับเรื่องกฏต่างๆ ทั้งจากจังหวัดเลย, จังหวัดสิงห์บุรี ……สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านสุดยอดมากๆ ท่านรู้ว่ามีคนแบบนี้อยู่เยอะและการเปิดสาขาบ้านสวนจะเป็นประโยชน์อย่างมาก, หนึ่งอดคิดไม่ได้นะว่าถ้าสามารถเปิดสาขาบ้านสวนครบ 76 จังหวัด ภัยพิบัติต่างๆก็คงจะทุเลาเบาบางลงมากทีเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-10 00:32:27


ความคิดเห็นที่ 8544 (1656195)
image

(ต่อ) 

กิจกรรมในงานเปิดสาขานั้นท่านอ.ได้ทำการบำบัดชาวบ้านด้วยวิธีให้ใช้รหัสอ.อุบล, ให้สัมผัสวัตถุมงคลบ้านสวนเพื่อที่ท่านอ.จะดูว่าแต่ละคนจะต้องใช้กำลังบุญจากวัตถุมงคลบ้านสวนคนละเท่าไหร่ และพี่ธนาก็ได้ใช้วิธีการชมท่านอ.ก็หายจากอาการเจ็บป่วย และที่เด็ดสุดๆคือท่านอ.ลองให้คุณป้าท่านหนึ่งคุยกับรูปท่านอ.ในใจ ปรากฏว่าคุณป้าหายจากอาการเจ็บปวดที่ร่างกายเช่นกัน (เอ๊ะคุณป้าคุยอะไรอ่ะ ) งานนี้ใช้จิตที่มีศรัทธาและมีสมาธิก็หายกันง่ายๆ หายกันดื้อแบบนี้แหละ มันเหลือเชื่อแต่มันเป็นไปแล้วจริงๆ…..

 

คุณลุงคนหนึ่ง (ในรูปในเสื้อสีแดงคะ) และครอบครัวเดินทางมาจากอ.โคกสำโรง ครอบครัวนี้น่ารักมากๆๆๆ เพราะจิตเปิดทั้งครอบครัว มีจิตศรัทธาในท่านอ.อุบลมาก สารภาพบาปก็เสียงดังฟังชัด พอหายจากอาการต่างๆก็รีบยกมือแถมแสดงท่าทางด้วยการสะบัดเอว สะบัดแขน เวลาแกสะบัดทีหนึ่งลุ้นมากกลัวว่ากระดูกแกจะหลุดออกมาจากตัวยิ่งตัวผอมๆอยู่ แต่สิ่งที่แกแสดงออกมานี้มันได้ใจอ่ะ บอกถึงความจริงใจแบบชาวบ้านจริงๆ ตอนเลิกงานแกก็บูชาวัตถุมงคลบ้านสวนไปด้วย แกบอกว่าแกจะเอาไปช่วยคนอื่น แถมบอกอีกว่าไม่แน่สักวันแกอาจจะเป็นสาขาของบ้านสวนก็ได้ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-10 00:50:23


ความคิดเห็นที่ 8545 (1656196)
image

(ต่อ) 

ช่วงไฮไลท์ท่านอ.เมตตาทำอาหาร(ลูกอม)ทิพย์และน้ำทิพย์ด้วยการส่งจิตมาให้ผู้ร่วมงาน ใครไม่มีน้ำและลูกอมก็ซื้อกันจากร้านเลยเพื่อจะได้ทำอาหารทิพย์ของตนเอง แต่บรรดาแฟนคลับท่านอ.ไม่ธรรมดาเล่นพกกันจากบ้านขวดใหญ่เรียกว่า เป็นงานจริงๆ คิคิคิ….แล้วก็ทดลองนำน้ำหยดใส่มือกันตรงนั้น ทำกันง่ายๆและทดสอบผลตรงนั้นและง่ายกันง่ายๆตามแบบฉบับของบ้านสวน

ผู้หญิงที่นั่งข้างๆหนึ่งเขาง.งง มากถามว่า แค่นี้หรือคะ พอลองทดสอบก็ปรากฏว่าอาการเจ็บคอดีขึ้นทันทีดูท่าทางแกจะงง ว่าเป็นไปได้อย่างไง

ส่วนบางคนก็พยายามจะบริกรรมคาถาก่อนจะลองนำน้ำมาทาที่ฝ่ามือจนท่านอ.ต้องบอกว่าไม่ต้องบริกรรมไม่ต้องภาวนาอ่ะไรเพราะที่สิ่งที่เกิดขึ้นท่านอ.เป็นผู้ขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เองและผลที่ได้ก็สร้างความตะลึงๆๆๆๆให้ผู้คน ทำให้ช่วงท้ายที่ท่านอ.เปิดโอกาสให้บูชาวัตถุมงคลบ้านสวนกับสาขา 3 นั้นและชาวบ้านก็น่ารักมากเอาวัตถุมงคลมาให้ท่านอ.สัมผัสอีกครั้ง อิอิอิ อันนี้ก็เป็นงานกันอีกแล้ว นอกจากนี้ยังมีการเปิดให้ บูชาคู่มือการทำน้ำทิพย์รหัส99” และ คู่มือการใช้วัตถุมงคลบ้านสวน รวมถึงแจกธรรมทานของบ้านสวนอีกด้วย

หลังกิจกรรมทางเจ้าของสาขา น้องก็อตและพจน์ก็จัดเตรียมอาหารมังสวัริติมาให้ท่านอ.และคณะผู้ติดตามได้ทานกันก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน ขอบคุณสำหรับอาหารที่แสนอร่อยนะคะ….

พร้อมกันนี้ขออนุโมทนาบุญกับท่านอ.อุบลและคณะร่วมเดินทางกับท่านอ.อุบล รวมถึงน้องก็อตและน้องพจน์ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-10 01:19:37


ความคิดเห็นที่ 8546 (1656251)
image

 ธรรมทานธรรมะบำบัดนอกสถานที่

.ศูนย์OTOPไม้ mop กาญจนบุรี

วันที่ 10 เมษายน 2556

คณะเดินทางของพวกเรา อันประกอบไปด้วย หนึ่ง, น้องมิ้ม,.ก้อย, คุณตุ้ยและน้องเบส ไปถึงงานสายนิดๆอีกตามเคย..เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มีนะคับพี่น้อง พอไปถึงงานพี่แหล๋นคนงามของอาจารย์ชายก็วิ่งมาต้อนรับน้องๆ พวกเราก็ทำท่าดีออกดีใจประหนึ่งวันพบญาติกันซะไม่มี

 

นอกจากนี้คุณตุ๊กมยุรฉัตรพร้อมครอบครัวก็เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย, ต้องบอกว่า อึ้งแอนด์ทึ่ง กับคุณตุ๊กจริงๆ เพราะวันนี้สังเกตุเห็นว่า ใบหน้าของคุณตุ๊กดูขาวและเนียนขึ้นผิดหูผิดตาเลย ทั้งๆที่หนึ่งก็รู้ว่าคุณตุ๊กเข้าร่วมกิจกรรมทำน้ำทิพย์ผ่านเฟสบุ๊คและขอบำบัดเรื่องผิวพรรณ แต่มันก็ยังอดที่จะทึ่งกับความมหัศจรรย์กับปาฏิหารย์ความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำทิพย์ไม่ได้ ดีใจและอนุโมทนาบุญกับคุณตุ๊กด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

และขอยกตำแหน่ง สาวไทยใจเกินร้อย ให้พี่แหล๋นศรีภรรยาของป๋าชายหรืออ.อภิชัยเลยอ่ะ, พี่แหล๋นเชื่อมั่นและมั่นใจในรหัสอ.อุบลช่วยด้วยสุดๆ นั่งรถตู้นครปฐมไปลงอ.ท่าม่วงและนั่งมอเตอร์ไซด์ไปบ้านเฮียวิทั้งๆที่พี่แหล๋นก็ไม่รู้ทาง แต่ใจแกเกินร้อยจริงๆ ถึงพี่แหล๋นจะต้องเข้าคิวรับการบำบัดเรื่องความสูง (อิอิอิ) แต่ เล็กพริกขี้หนูของแท้เลย ^__^

 

@@@บรรยากาศของงานนน@@@

มัวแต่โม้เลยยังไม่ได้เข้าเรื่องสักกะที….กิจกรรมธรรมะบำบัดที่บ้านเฮียวิกับคุณเพ็ญนี้ บรรยากาศของงานค่อนข้างจะอบอุ่นเพราะคนที่มาร่วมงานจิตส่วนใหญ่จิตเปิดกันทั้งนั้นและมีบรรดาฟ.แฟนคลับของท่านอ.อุบลมาร่วมงานด้วย จำนวนผู้เข้าร่วมงานกะด้วยสายตาประมาณ 30-40 คน ถือว่าเยอะเมื่อเทียบกับเส้นทางและระยะระยะการเดินทางไปยังบ้านเฮียวิ,  งานนี้มีคนที่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยกันน้อยไม่ถึงครึ่งคงจะเป็นเพราะเฮียวิแกเผยแพร่รหัสอ.อุบลช่วยด้วยมาก่อนหน้านี้

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 03:05:06


ความคิดเห็นที่ 8547 (1656252)
image

 @@@รูมาตอยด์หายได้ด้วยพระบารมี@@@

งานนี้ท่านอ.ได้เช็คจำนวนคนที่มีอาการเจ็บป่วยโดยให้ยกมือและ "ท่านอ.อุบล ได้อาราธนาบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลทั้ง ท่านพ่อดตาจนิน พระพุทธเจ้า เสด็จพ่อเวสสุวรรณ พระนางเนเฟอร์ตารีเป็นต้น มาให้แต่ละคนที่มีอาการเจ็บป่วยได้สัมผัสพระบารมี"

 

เคลสที่ถือว่าน่าสนใจมากๆๆ คือ แม่คุณตุ๊กมยุรฉัตร ซึ่งป่วยเป็นโรครูมาตอยด์” ที่เดินทางมากลับลูกสาวเพียงเพื่อต้องการจะมากราบท่านอ.อุบล โดยที่จิตแกไมได้คาดหวังว่าจะหายจากอาการป่วย หลังจากได้สัมผัสพระบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปรากฏว่า มือที่ปวดและ ไม่สามารถกำมือแค่งอนิ้วมือก็เจ็บปวด ปรากฏว่าสามารถกำมือได้ ทำเอาคุณตุ๊ก น้ำตาไหลด้วยความดีใจและตื้นตันใจที่แม่หายป่วย

สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บปวดหลังสัมผัสพระบารมีศักสิทธิ์นั้นส่วนใหญ่จะหายกัน 100% มีเพียง 1-2 ท่านเท่านั้นที่แค่ดีขึ้น โดยท่านอ.ก็เมตตาให้คุณป้า (จากรูปข้างบนใส่เสื้อสีม่วง) ออกมารับการบำบัดด้วยการให้ถือวัถตุมงคลบ้านสวน อาการต่างๆก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆตามลำดับและวิธีสุดท้ายที่ใช้เมื่อไรหนึ่งว่ามักจะได้ผล 100% คือชมท่านอ.ว่าสวยยยย (ท่านอ.อุบลตัวจริงก็สวยทั้งกาย วาจาและใจ นอกจากนี้ยังงามมมมด้วยค่ะ confirm and ฟันธง!!!!! ) อาการจึงหายสนิทๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 03:05:49


ความคิดเห็นที่ 8548 (1656267)
image

บรรยากาศงานธรรมะบำบัดนอกสถานที่ของศูนย์โอทอป

ไม้ม็อบของเฮียวิ จังหวัดกาญจนบุรี

เมื่อวันพุธที่ 10 เม.ย. นั้น ขอบอกว่าบรรยากาศจัดได้อบอุ่น

และใส่ใจแขกที่มาร่วมงานจริงๆค่ะ
มีผู้มาบำบัดและเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม

และรับการบำบัดเห็นผลหลายท่านเลยค่ะ

อย่างเช่นคุณป้าคนหนึ่งแกเป็นรูมาตอย

กำมือไม่ได้มากว่า 30 ปี ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็น

แม่ของคุณมยุรฉัตรค่ะ ปรากฎว่ากำมือได้หลังจากที่ท่าน

อ.อุบลอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์มา 

ส่วนคนที่ยังมีอาการหลงเหลืออยู่ก็ได้เริ่มทำน้ำทิพย์

โดยท่านอ.อุบลได้อาราธนาบารมีจากองค์พีระมิดทุกรุ่น

จากนั้นเป็นบารมีของจี้สามร่มโพธิ์ศรี

รุ่นพระศรีอาริย์ และรุ่นท่านพ่อดตาจินิน

มีคุณป้าคนหนึ่งที่ปวดขาก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบได้ 100%

พอสวมแหวนเทพสฟิงซ์ก็ดีขึ้นอีก

และที่สุดคือเมื่อมองหน้าท่านอ.อุบล

อาการที่หลงเหลืออยู่หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ

จากนั้นท่าน.อ.อุบลก็ได้ส่งบารมีจากวัตถุมงคล

บ้านสวนพีระมิดทุกรุ่นมายังน้ำที่ทุกคนเตรียมมาเพื่อทำน้ำทิพย์

น้ำนี้ก็คือห้ามดื่มแต่สามารถใช้ลูบไล้ตามตัว

ฉีดพรม บ้านเรือนร้านค้าได้ค่ะ บางคนที่ปวดคอ

คอขัดมา 2-3 ปี ก็มาหาย 100% กันในวันนี้ค่ะ สาธุด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 09:55:06


ความคิดเห็นที่ 8549 (1656268)

 อนุโมทนากับทุกธรรมทานและทุกท่านด้วยค่ะ

ทั้งธรรมทานในบ้านสวน  และ นอกบ้านสวน

นับวันเราก็จะได้เห็นการบำบัดจากท่าน อ. อุบล  

ที่เห็นผลชัดเจนมากขึ้น ง่ายขึ้น และทำได้มากขึ้น

ยิ่งได้อ่านธรรมทาน  การบำบัดแบบใหม่

และทุกท่านสามารถรับพลังจากท่าน อ. อุบล

ได้ชัดเจนกันทุกคน อ่านแล้วตื่นเต้นค่ะ (เดี๋ยวต้องลอง)

รวมทั้งธรรมทานนอกสถานที่ ที่ทุกคนที่เข้ารับการบำบัด

หายแบบฉับพลับทันที เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ

และอนุโมทนากับทุกเจ้าของสาขาบ้านสวนพีระมิดด้วยนะคะ  

ที่ได้สร้างบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย

ต่อจากนี้คนก็จะเข้าถึงรรมะแบบฉบับบ้านสวนฯ

ได้ง่ายขึ้น สาธุ สาธุ สาธุ

        และที่สำคัญยิ่งกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เทวดาประจำตัวท่าน อ. อุบล และท่าน อ. อุบล

ที่ได้ทำทุกอย่าง  ทุกวิธี  เพื่อช่วยเหลือ

มนุษย์  สัตว์ และจิตวิญญาณทั้งหลาย  

ให้ได้รับความสุข  พ้นจากทุกข์ทั้ปวง  

กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 09:57:50


ความคิดเห็นที่ 8550 (1656269)
image

และท่าน อ.อุบลยังเมตตาบอกถึงสาเหตุของโรค

แต่ละโรคด้วยค่ะ อย่างเช่นโรคกระเพาะ ปวดท้อง

ก็มาจากการเอาของไม่ดีให้คนอื่นกิน ทำอาหารใส่ผงชูรส

เงินที่ประกอบอาชีพมาไม่บริสุทธิ์

ซื้ออะไรกินเข้าไปก็ไปทำลายร่างกายตัวเราเอง 

โรคอัมพฤกษ์อัมพาต ก็มาจากกรรมหนัก

และทำบ่อย เช่น ฆ่าสัตว์ใหญ่ ทำแท้ง

มีส่วนรู้เห็นให้ทำแท้ง ทำร้ายผุู้อื่นมาร้ายแรง

มีส่วนร่วมรู้เห็น เรียกว่าผู้คนที่มา

ต่างก็ไม่เคยรู้สาเหตุแห่งโรคเหล่านี้กันเลย

เหมือนการมางานธรรมะบำบัดของพวกเขาเหล่านี้

ได้อะไรมากกว่าที่พวกเขาเคยไปฟังธรรมกันมาค่ะ

นั่นคือได้รู้สาเหตุแห่งโรค

รู้สาเหตุแห่งความทุกข์ที่ต้องมาเป็นกันค่ะ สาธุค่ะ

และสุดท้ายท่านอ.ก็ได้เมตตาทำลูกอมอภิญญาให้ด้วยค่ะ

เรียกว่างานนี้ เกินคุ้มที่สุดค่ะ แถมเจ้าภาพเฮียวิ

และครอบครัว ก็มีไอติมกะทิเย็นชื่นใจ

ไว้เลี้ยงผู้มาร่วมงานด้วยค่ะ คลายร้อนได้สุดๆ เลยค่ะ

 

และขากลับพวกเราได้แวะเยี่ยมเยียนร้านดอกไม้ครูนุกูล จ.ราชบุรี

ซึ่งเป็นเซ็นเตอร์พาเมล่าด้วยค่ะ

แต่ผลิตภัณฑ์พาเมล่าอยู่ด้านในสุดของร้าน

เรียกว่าไม่ได้เอาออกมาโชว์ขายเลยค่ะ

และได้เห็นวิธีการบำบัดแบบใหม่แบบคาดไม่ถึงคือ

ใช้ผลิตภัณฑ์ของพาเมล่า ทั้งสบู่ ครีมต่างๆของพาเมล่า

ให้ผู้ที่จะบำบัดได้ถือไว้ แค่นี้อาการต่างๆ ก็ดีขึ้นได้ค่ะ

นับว่ามหัสจรรย์จริงๆ ค่ะ เบื้องบนท่านใช้วิธีง่ายๆ

หายแบบรวดเร็ว ไม่ต้องยุ่งยากให้เสียเวลาค่ะ

 

สุดท้ายนี้กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิทุกพระองค์

ท่านอ.อุบล เฮียวิและครอบครัว

และพี่ธนาพิธีกรสุดหล่อและผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน

ที่เมตตาและเสียสละให้มีงานนี้

ได้ช่วยผุ้คนให้หายทุกข์โศกโรคภัยค่ะ 

กราบขอบพระคุณค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 10:13:34


ความคิดเห็นที่ 8551 (1656270)

(ต่อ)

@@@ชมท่านอ.จากใจหรืออยู่ใกล้ๆท่านอ.ก็หายได้เหมือนกัน@@@

อาการเจ็บปวดหลังสัมผัสพระบารมีสิ่งศักสิทธิ์นั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่จะหายกัน 100% มีเพียงบางท่านเท่านั้นที่แค่ดีขึ้นส่วนลูกบ้านสวนวันนั้นพวกเราไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างไร ยกเว้นน้องมิ้มที่มีอาการปวดหัวง่วงนอน พอสัมผัสพระบารมีอาการต่างๆหาย 100% ( สาธุ สาธุ สาธุ) ส่วนหนึ่งก็ปิติตื้นตัน ร้องไห้ (ยายคนนี้ปิติทีไรร้องไห้ตลอดซิ)

สำหรับคนที่ยังมีอาการหลงเหลืออยู่ท่านอ.ก็เมตตาให้คุณป้า (จากรูปข้างบนใส่เสื้อสีม่วง) ออกมารับการบำบัดด้วยการให้ถือวัถตุมงคลบ้านสวน อาการต่างๆก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆตามลำดับและวิธีสุดท้ายที่ใช้เมื่อไรหนึ่งว่ามักจะได้ผล 100% คือชมท่านอ.ว่าสวยยยย (ท่านอ.อุบลตัวจริงก็สวยทั้งกาย วาจาและใจ นอกจากนี้ยังงามมมมด้วยค่ะ confirm and ฟันธง!!!!! ) อาการจึงหายสนิทๆๆๆ

นอกจากนี้ก็ได้พิสูจน์คำล่ำลือต่างๆที่เขาบอกว่าเวลาอยู่ใกล้ๆท่านอ.แล้วอาการเจ็บป่วยหรือความทุกข์ทางใจจะทุเลาเบาบางลงจริงหรือไม่..พี่ธนาเลยให้ผู้คนหนึ่งซึ่งมีอาการหลงเหลืออยู่พอมายืนอยู่ใกล้ๆท่านอ.อาการต่างๆก็หายไปทันที…..

@@@น้ำทิพย์และลูกอมทิพย์บ้านสวน@@@

หลังจากนั้นท่านอ.ก็เมตตาทำน้ำทิพย์โดยท่านอ.ได้ขอบารมีของเสด็จพ่อขอให้รับจิตวิญญาณคุณไสยที่เกาะเกี่ยวอยู่กับคนที่ร่วมทำน้ำทิพย์ไปเป็นบริวาร, และก็ท่านอ.ก็เมตตาทำลูกอมอภิญญาและแจกลูกอมอภิญญาให้ทุกคนที่มาร่วมงาน พร้อมกับบอกถึงสาเหตุเห็นกรรมต่างๆ เช่น

ปวดหัว : กรรมจากตีหัวทำร้ายผู้อื่น คิดร้าย

ปวดท้องโรคกระเพาะหรืออาการเจ็บปวดภายใน : กรรมที่ทำอาหารผิดให้ผู้อื่นกินเช่นใส่ผงชูรสในอาหาร 

ปวดคอบ่าไหล่ : กรรมทำแท้ง รู้เห็นเป็นใจทำแท้ง

 ช่วงที่บอกกรรมนี่ ชาวบ้านที่เขาร่วมกิจกรรมจะตั้งใจฟังกันเป็นพิเศษเพราะเป็นเหตุที่ทำให้หายจากอาการเจ็บป่วยอย่างถาวร หนึ่งคิดว่าต่อไปชาวทุ่งทอง (ท่าม่วง) จะพากันรักษาศีลกันมากขึ้นเพราะรู้ถึงสาเหตุของความทุกข์ต่างๆที่ต้องประสบพบเจอ .. แล้วจากการสังเกตุท่าทีปฏิกริยาของชาวบ้าน ทำให้รู้สึกสะกิดใจตนเองมากคือ สิ่งที่ท่านอ.บอกถึงเหตุของความทุกข์เวลาฟังท่านอ.พูดทำมันมันดูง่ายๆ แต่เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไมเราถึงไม่รู้ เพิ่งจะมารู้ตอนที่มาบ้านสวน แต่บางอย่างถึงรู้แต่ก็ไม่สนใจไม่ใส่ใจที่จะจำ

 

ก่อนจะจบกิจกรรมท่านอ.เมตตาให้พวกเราขอขอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่เสด็จมา กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จองค์ปฐม เสด็จพ่อ พระนางเนเฟอร์ตารีและทุกๆพระองค์คะ และที่สำคัญขอบคุณท่านอ.อุบล พี่ธนา พี่แมว น้องตุลย์ เฮียวิและคุณเพ็ญสำหรับกิจกรรมดีๆแบบนี้คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 10:42:10


ความคิดเห็นที่ 8552 (1656278)

 อนุโมทนากับธรรมทานของน้องตุ้ย  

น้องหนึ่ง ด้วยนะคะ ที่นำสาเหตุแห่งกรรม

มาบอกให้ทราบ  ท่าน อ. อุบล  จะมีธรรมะแบบง่าย ๆ

ทุกคนเข้าใจทันที  และที่สำคัญพิสูจน์คำสอน

ได้เลยในขณะนั้น ซึ่งเราไม่สามารถหาจากที่ไหนได้อีกแล้ว

                กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์ทุกพระองค์

และท่าน อ. อุบล  ที่ได้นำธรรมะ แบบเข้าใจง่าย ๆ

มาให้พวกเราได้รับรู้  และสัมผัสได้ในทันที

กราบ  กราบ  กราบ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 11:20:02


ความคิดเห็นที่ 8553 (1656282)
image

(ต่อ)

@@@ธรรมะจัดสรรที่ราชบุรี ร้านดอกไม้ครูนุกูล@@@

หลังจากนั้นท่านอ.ก็เดินทางต่อไปยังราชบุรีเพื่อไปเยี่ยมครูนุกูลและพวกเราชาวคณะ พร้อมกับพี่แหล๋นก็ขอติดตามไปด้วย

ว้าวววววววว………..เลยคะ, ครูนุกูลตัวจริงน่ารักและดูเด็กกว่าที่เราเห็นรายการคุยไปแจกไปมาก ลืมบอกไปพวกเราไปถึงร้านครูนุกูลก่อนท่านอ.อุบล พอไปถึงบอกว่าเป็นลูกศิษย์ท่านอ., ครูนุกูลก็น่ารักมากให้ความเป็นเองกับลูกบ้านสวน และพาครูรู้ว่าพวกเราบ้ากล้อง เห็นกล้องเป็นต้องวิ่งถ่ายรูป ครูก็แนะนำให้พวกเราถ่ายภาพสวยๆในร้าน อิอิอิ…..พวกเราเลยจัดเต็มจริงๆ

และจากการได้พูดคุยกับครูนุกูล ทำให้หนึ่งรู้เลยว่า ทำไมครูถึงได้เป็นเซ็นเตอร์พาเมล่า เพราะอย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ว่า กว่าจะได้รับการคัดกรองจากท่านอ.อุบลนั้นยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา หรือสอบเอ็นทรานซ์ซะอีก,

การขายพาเมล่าของครูนั้น ครูบอกว่าปกติจะไม่ชวนให้ใคร และถ้าใครจะซื้อก็จะต้องดูรายการคุยไปแจกไปให้ครบ 9 ตอนก่อ เรียกว่าสิ่งใดที่ท่านอ.อุบล  กำหนดและยึดเป็นแนวทางครูนุกูลก็ทำตามทุกอย่าง คือไม่อวดฉลาด อวดเก่งเกินท่านอ., ลูกค้าที่มาซื้อพาเมล่าเมื่อได้ใช้แล้วก็จะกลับมาซื้อไปใช้อยู่เรื่อยๆ , มาถึงตอนนี้ก็ง.งง แล้วครูจะได้ลูกค้าใหม่ๆจากไหน? ถึงได้รู้ว่าลูกค้าหน้าใหม่จะมาจากการที่ได้ยินครูกับลูกค้าเก่าคุยกันเลยอยากจะใช้บ้างหรือได้จากผู้ใช้หน้าเก่าเอาไปบอกต่อ  เครื่องสำอางธรรมะ ถ้าใครจะหลุดกรรมเดี๋ยวเบื้องบนก็จัดสรรมาเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 11:32:16


ความคิดเห็นที่ 8554 (1656283)

 อ่านเรื่องนอกบ้านสวนแล้วรู้สึกดีใจ  

มีความสุขมากค่ะ  ที่พระธรรมของพระพุทธเจ้า  

ได้ถูกนำไปเผยแผ่ ให้ทุกคนสัมผัสได้

และสามารถพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าได้จริง

    วันนี้ขอเล่า เหตุการณ์ในบ้านสวนด้วยนะคะ  

ได้มีโอกาสไปทำบุญที่บ้านสวน  

ในวันที่  9-10  เมษายน  2556  ซึ่งมีตัวเอง

 หยก  แม่น้อย และคุณแหวน

   วันแรกพวกเราได้ไปยาแนวกระเบื้องห้องที่โรงทาน

ทำความสะอาด เก็บกวาดใบไม้  ติดกระจกคานโรงทาน

   วันที่สองเราก็เตรียมตัวพร้อมเพราะลุงบุญบอกว่า  

จะยกเสาลงหลุมที่ก่อสร้างด้านหลัง เตรียมเทปูน

ไปถึงปรากฏว่า  ลุงบุญบอกว่าไม่ต้องแล้ว  

เพราะใช้รถยกเสาลงหลุม และใช้แรงคนเพียง 2- 3 คน

ช่วยขยับเสาก็พอแล้ว ไปหลายคนลงหลุมไม่ได้  

พวกเราเลยมาทำความสะอาดโรงทาน

และติดกระจกกันต่อค่ะ และวันนี้ก็มีช่างมาติดแอร์  

ที่ห้องในโรงทานด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 11:32:42


ความคิดเห็นที่ 8555 (1656285)

 คุณบิ๊ก และ เจ้าไก่อู

   วันแรกที่ไปบ้านสวน คุณบิ๊ก มานอนเฝ้าพวกเรายาแนว

กระเบื้องกัน  สังเกตุว่าคุณบิ๊กมีสีขนเข็มขึ้นมาก  

จากสีน้ำตาลทอง  เป็นสีน้ำตาลเข็ม

(บางส่วนน้ำตาลทอง  างส่วนน้ำตาลเข็ม)

โดยเฉพาะที่หน้าสีเข็มมาก  จนคุณแหวนทักว่า

คุณบิ๊กหน้าดำไปแล้วนะ

ลุงบุญบอกว่าบิ๊กกำลังเปลี่ยนแปลงร่างกายใหม่  

วันที่สองไปเจอคุณบิ๊กอีก สีขนที่เป็นสีน้ำตาลเข็ม  

วันนี้สีจางลงเห็นได้ชัดเจน

      ส่วนเจ้าไก้อู เค้าก็จะเป็นคู่กัดกับหยก

ก่อนหน้านี้เราก็บอกหยก  ให้ถือไม้ไว้ไล่เจ้าอู

ไม่ให้มาจิกเรา  แต่วันนี้ (9 เมษา)

เราไม่เห็นเหตุการณ์  แต่หยกมาบอกว่า  

วันนี้ไก่อูวิ่งมาจะจิกอีกแล้ว  หยกเลยใช้ไม้กวาดตีหลังไก่อูไป

เราก็ได้แต่บอกลูกว่า  ให้ป้องกันตัวไม่ได้ให้ตีเจ้าอู  

พอตอนบ่ายช่างเสริฐบอกว่า วันนี้เจ้าอูเจ็บหนัก

ถูกไก่ป่ารุม  พอเราไปดู หงอนเจ้าไก่อูเต็มไปด้วยบาดแผล

เลือดกระจาย และขาอีกข้างมีแผลถลอกและขาหัก

ช่างเสริฐเลยจับมาไว้ที่ใต้ถุนโรงทาน  กันไก่ป่าทำร้าย

เราเลยมาคิดว่า เจ้าอูน่าจะเจ็บตั้งแต่ถูกหยกตี

และไปโดนไก่ป่ารุมอีกรอบ  เลยบาดเจ็บสาหัสเลย  

ได้ให้หยกไปขอโทษ  ขออโหสิกรรมเจ้าอู

ที่ได้ตีเค้าไป ตอนบ่ายหยกไปช่วยลุงบุญ ลุงเบิ้ม

เตรียมที่จะเอาเสาลงหลุมวันรุ่งขึ้น โดยไปช่วยตอกเสา

ปรากฏว่า มือหยกแตกเป็นแผลสองที่  เลยถามหยกว่า  

ใช้มือไหนตีเจ้าอู  หยกก็บอกมือข้างที่เป็นแผลนี่แหละที่ตีเจ้าอู

 กรรมติดจรวดจริง ๆ ยังไม่ออกจากบ้านสวนเลย

ก็ได้รับกรรมที่ก่อไว้แล้ว ทันใจดีจริง

และเราก็ขอขมาเจ้าไก่อูด้วยนะจ้ะ  

ที่ไม่ได้ระวังดูแลลูกให้ดี  ปล่อยให้เขาไปทำร้ายเจ้าอูได้

ต่อไปนี้เราจะระวัง  ดูแล และตักเตือนลูกหยกให้มากกว่านี้  

จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

เราขออโหสิกรรมด้วยนะจ้ะเจ้าอู

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 12:00:51


ความคิดเห็นที่ 8556 (1656290)

หยกถูกไก่อูไล่จิกเป็นประจำ หยกจึงถือไม้กวาดไว้ป้องกันตัว วันที่ 9 เม ย 56 ไก่อูไล่ตีอีกหยกใช้ไม้กวาดป้องกันตัว แต่แรงไปจนไก่อูเซ zz ไป

หยกหาได้ฉุกใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงไปทำงานต่อ ตกเย็น ลุงเบิ้มบอกว่าไก่อูขาหักเพราะถูกไก่แจ้ไล่จิก และมันจะต้องตายอย่างแน่นอน

หยกจึงมีส่วนร่วมในการฆ่าไก่อูด้วย

หยกกราบขอขมาไก่อูด้วยครับ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พลวัตร นภาพรรณราย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 13:02:28


ความคิดเห็นที่ 8557 (1656292)

ลูกกราบขอขมาท่านพ่อดตาจินิน ท่านอาจารย์อุบล ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณ

ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

ที่ข้าพเจ้าเคยปรามาสท่านไว้ ด้วยกายก็ดี ด้วยใจก็ดี ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี

ขอท่านพ่อดตาจินิน ท่านอาจารย์อุบล ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ และสิ่งศักดิ์ทั้งหลายขอโปรดอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 13:28:30


ความคิดเห็นที่ 8558 (1656301)

กราบขอบพระุคุณท่านอาจารย์อุบล และทีมงานบ้านสวนพีระมิดทุกท่านค่ะ

ที่ได้เดินทางมามอบความสุข ปลดเปลื้องทุกข์ให้ชาวจังหวัดกาญจนบุรี

ขอบพระคุณคุณวิ  คุณเพ็ญ น้องบิว เจ้าของบ้าน ที่ได้เมตตาเปิดบ้าน

และเลี่ยงไอศรีมน้ำดื่ม เย็น อำนวยความสะดวกทุกอย่าง

ดิฉันและครอบครัวได้มีโอกาสร่วมงานเมื่อวันที่ 10 เมย ที่ผ่านมาค่ะ

คุณแม่ นางเครือวัลย์ ทัดเที่ยง ตั้งใจว่าอยากมากราบท่านอาจารย์อุบล ไม่ได้คิดว่าจะมาบำบัดโรค

รู้สึกปิติตั้งแต่เดินเข้ามาในงานเห็น

ท่านอาจารย์กำลังสอนธรรมะผุ้คนที่มาร่วมงาน

คุณแม่เป็นรูมาตอยด์ มา 35 ปี

มือหงิกงอ กำมือไม่ได้

เนื่องจากป่วยเป็นรูตอยด์ มา 35 ปี หมอรักษาไม่หาย

เคยคิดจะผ่าตัด แต่หมอบอกว่ารักษา

ไม่ได้เพราะกระดูกเสื่อมหมดแล้ว

แต่ผลเกินคาดค่ะ

พอท่านอาจารย์อารธนาบารมี

ท่านพ่อดตาจินิน

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์

สิ่งศักดิื์ิ์์สิทธิ์ุทุกพระองค์

คุณแม่สัมผัสได้ กำมือได้ และหายปวด

ดิฉันดีใจมากค่ะ มันปิติสุด ๆ

เพราะไม่มีที่ไหนรักษาได้

แม่ทุกข์ทรมาณมานาน

แต่แม่หายด้วย

บารมีสิ่งศักด์ิสิทธิ์ท่านพ่อดตาจินิน

เทวดที่รักษาท่านอาจารย์อุบล

ทุกพระองค์ และท่านอาจารย์อุบล

และวันนี้หลังจากกลับจากร่วมงานธรรมะบำบัด

กลับมาทำงานช่วงบ่าย

ได้รับข่าวดี ได้รับเลื่อนขั้นเงินเดือนในระดับดีเ่ด่น

เงินเดือนขึ้นมากกว่างวดที่แ้ล้ว

ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้เพราะหัวหน้าบอกว่า

ทำงานไม่ได้เป้า

และเงินงวดนี้น้อยกว่างวดที่แล้วทุก

คนอาจจะได้น้อยกว่าคราวที่แล้ว

แต่งวดนี้หนูได้ มากว่าคราวที่แล้ว

และได้รับการปรับเงินเดือนตามวุฒิ

ที่รัฐบาลประกาศด้วย

คิดว่าเป็นเพราะบารมีสิ่งศักดิื์ืิสิทธิ์์ที่บ้านสวนพีระมิดค่ะ

เพราะบารมีท่านอาจารย์อุบล

ลูกกราบขอบพระคุณ ท่านพ่อดตาจินิน

ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 16:31:36


ความคิดเห็นที่ 8559 (1656302)

ขอบคุณคุณหนึ่งค่ะที่ได้ชม

ปกติแล้วไม่ค่อยสนใจใบหน้าตัวเองค่ะ

ไม่เคยทาครีม แต่งหน้า และทาปากเลยค่ะ

แต่มาวันนี้ลองสังเกตุดู หน้าดูดีขึ้น

ขาวขึ้น รอยด่างดำดูจางลงจริง ๆ ค่ะ

รู้สึกดีใจมากค่ะ  และอัศจรรย์มากค่ะ

  ไม่ต้อง กินยา ทายา หาหมอ หน้าก็ขาวได้เอง

รอยดำจางเอง ด้วยธรรมะบำบัดของท่่านอาจารย์อบล

และบารมีท่านพ่อดตาจินิน

ท่านอาจารย์อุบล

และเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน

ท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณท็อป

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-11 16:35:31


ความคิดเห็นที่ 8560 (1656324)
image

(ต่อ)

@@@ความลับที่ซ่อนอยู่ของพาเมล่า@@@

งานนี้ท่านอ.เฉลยโดยให้พี่ธนาบำบัด แฟนคลับท่านอ.ที่มารออยู่ที่ร้านครูนุกูล พี่ผู้หญิงคนนี้มีอาการปวดชาที่ขาและฝ่าเท้า (โรครองช้ำ)

อาการปวดชาที่ขา : ได้รับการบำบัดโดยให้ถือสบู่ของพาเมล่า ซึ่งอาการดูขึ้นและเมื่อเพิ่มจำนวนของเครื่องสำอางพาเมล่าก็หาย 100%

อาการเจ็บฝ่าเท้า (โรครองช้ำ) : ได้ให้ถือสบู่ของพาเมล่าและเพิ่มจำนวนเครื่องสำอางของพาเมล่าอาการดีขึ้น ต่อมาได้ให้สัมผัสกับพีระมิดบ้านสวน-จี้ แต่ยังมีอาการหลงเหลืออยู่ จนท้ายที่สุดน้องมิ้มได้ตั้งคำถามเสี่ยงทายโดยขอบารมีของท่านพ่อดตาจินิน

*ท่านอ.อุบลคือจิตวิญญาณของพระนางเนเฟอร์ตารีมาเกิดใช่หรือไม่

*ท่านอ.อุบลคือผู้นำที่จะนำพาผู้คนเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์ใช่หรือไม่

ก็ปรากฏว่าอาการเจ็บป่วยต่างๆดีขึ้นแต่ยังมีอาการเหลืออยู่จึงให้สารภาพบาป

มาถึงตอนนี้ถ้าเราไปบอกใครว่าแค่สัมผัสเครื่องสำอางพาแมล่าแล้วอาการเจ็บป่วยในร่างกายจะดีขึ้นหรือหายฉับพลับทันที 100% นั้น มันโดยเหลือเชื่อจริงๆ มันจะเป็นไปได้อย่างไร?? แต่มันเป็นไปแล้วคะ อยากให้ทุกคนได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นมากก็พาเมล่าเป็นเครื่องสำอางธรรมะ แล้วทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะไม่จัดสรรให้ล่ะคะ ที่สำคัญแค่ท่านอ.ส่งจิตขอให้น้ำ อาหารหรือของที่อยู่ในมือลูกบ้านสวนหรือผู้คนที่มารับการบำบัดทำน้ำทิพย์ผ่านทางเฟสบุ๊ค สิ่งๆนั้นยังเป็นทิพย์ได้เลย แล้วนี้พาเมล่าที่ท่านอ.เป็นผู้ทำขึ้นมาเอง ความเป็นทิพย์จะเข้มข้นเพียงใดพอมารู้ความลับของพาเมล่า ไอ้หยา….หนึ่งจะต้องรีบไปเร่งอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณให้ครบ 9 ตอนเพื่อจะได้ใช้พาเมล่ากับคนอื่นเขาบ้างแล้ววววว…..

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-12 00:43:13


ความคิดเห็นที่ 8561 (1656325)

 อนุโมทนากับพี่หนึ่งนะคะที่

มาเหลาธรรมทานให้ได้อ่านกัน

อ่านแล้วก็ดีใจจริงๆค่ะ
 
ที่ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงก็ให้ความสนใจ
 
ให้ความร่วมมือ และหายกันถ้วนหน้า
 
แบบนี้ยุคพระศรีอาริย์คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว 

ได้อ่านวิธีบำบัดแบบใหม่แล้ว
 
ก็ต้องบอกว่าสุดยอดมั่กๆ 
 
อะไรมันจะง่ายขนาดนี้
 
เพียงแค่ถือผลิตภัณฑ์พาเมล่าก็หายแล้ว
 
ยิ่งถือมากอาการก็จะยิ่งดีขึ้นมาก
 
เหมือนการถือจี้เลย
 
เริ่มเข้าใจแล้วค่ะที่ท่านอาจารย์เคยบอกว่า
 
ต่อไปจะมีแต่คนมาแย่งกันบูชาวัตถุมงคลบ้านสวน
 
 
แม้กระทั่งผลิตภัณฑ์พาเมล่า
 
(โชคดีที่ไม่เคยทิ้งขวดเปล่าของพาเมล่าเลย อิอิ :D )
 
 
เพราะแบบนี้นี่เอง ไม่ว่าจะเป็นอะไร
 
แต่ถ้าเป็นของบ้านสวนของสิ่งนั้น
 
ย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วยเสมอ
เพียงแค่หยิบ แค่มอง แค่ถือ ก็อาการดีขึ้น
 
หรือหายได้ ขอแค่ใจเราศรัทธา 

************************
ขอแสดงความดีใจกับพี่ตุ๊กด้วยนะคะ
 
ที่คุณแม่หายแล้ว เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ 
 
คงทุกข์ทรมานมาหลายปี
 
แต่มาหายเอาง่ายๆด้วยธรรมะบำบัดจากท่านอาจารย์
 
มันเป็นอะไรที่ทางแพทย์ควรจะมาใส่ใจ
 
วิเคราะห์ หาสาเหตุจริงๆค่ะ
 
 
ว่าทำไมแพทย์ถึงไม่สามารถช่วยได้
 
แต่ทำไมธรรมะของพระพุทธองค์
 
ที่ถ่ายทอดแบบฉบับท่านอาจารย์อุบล
 
ทำไมถึงทำให้คนหายได้
 
ถ้าทางแพทย์เปิดใจยอมรับ
 
และทำตาม คงจะมีแต่คนมีความสุข
 
และคนที่ทุกข์ก็จะน้อยลงๆๆ จนไม่มีเลย
 
**********************************
แหม่ เห็นรูปถ่ายออร่าแต่ละคนแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ค่ะ
 
เพราะรู้สึกมีความสุข ขนลุก
 
เพราะลูกบ้านสวนแต่ละคนล้วนไม่ธรรมดากันทั้งน๊านนนนน
 
ยิ่งรูปที่พี่หนึ่งได้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยในใจ
 
ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์เลยจริงๆ

ว่าตราบใดที่จิตใจเรายังคงคิดถึงท่านอ.อุบล

ตราบใดที่เรายังนึกถึงรหัสอ.อุบลช่วยด้วย

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ก็จะอยู่กับพวกเราเสมอ
 
สาธุ สาธุ ค่ะ
 
ว่าแต่ออร่าของเบสตี้แอบวงกว้างนะเนี่ย 
 
ไม่ธรรมดาเลยอะ อิอิ
 
*********************************
ได้อ่านเรื่องไก่อูจากพี่ตาลและน้องหยก
 
ก็นึกถึงคำว่ากงกรรม กงเกวียน 
 
เวรกรรมของเจ้าไก่อู
 
และเวรกรรมของน้องหยก
 
มันติดจรวดจริงๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-12 02:13:35


ความคิดเห็นที่ 8562 (1656326)

กราบอนุโมทนาบุญกับธรรมทานคุณหนึ่งค่ะ

น้อยเพิ่งได้ทราบว่าการสัมผัสเครื่องสำอางพาเมล่าทำให้

การเจ็บป่วยหายได้

สาธุ  สาธุ  สาธุ

และขอแสดงความดีใจกับคุณตุ๊ก มยุรฉัตร ที่ชีวิตดีขึ้น

ได้เลื่อนขั้นเงินเดือนขั้นพิเศษ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-12 03:13:01


ความคิดเห็นที่ 8563 (1656343)

      ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลฯอย่างสูงที่ได้ให้โอกาศและ     

รับรองว่า..นายสิทธิพันธ์  อัครวิชนนท์ เป็นผู้ที่มีความสามารถและทำ

หน้าที่ใช้ธรรมะบ้านสวนพีระมิด   เพื่อแสดงกฎแห่งกรรมปลดเปลื้อง

ทุกข์ ให้กับผู้คนในสังคมได้.  เป็นสาขา2...ของบ้านสวนพีระมิดซึ่งได้เปิด

เป็นทางการตั้งแต่วันที่11 เมย. 56 แล้ว กระผมนายสิทธิพันธ์  อัครวิชนนท์

   และครอบครัวขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงสุดครับ..ขอรับทำหน้าที่               

ให้ดีที่สุดและเต็มความสามารถ....แล้วท่านอาจารย์อุบลฯและคณะ                   

ลูกบ้านสวนฯหลายท่าน ( คุณธนา ,คุณแมว  น้องตุลย์ ดร.จิ๋ม                     

น้องมิ้ม   คุณจาว,คุณหนิง,คุณแหลน,คุณแม่ดารา,น้องซิมและ                    

น้องก้อย)ได้มาเปิด สาขา2และมาร่วมงานกันอย่าง อบอุ่นจริงๆ                    

ซึ่งลูกบ้านสวนฯทุกคนได้ทำหน้าที่่กันอย่างเต็มที่ถึงแม้ว่าอากาศ                   

จะร้อนไปสักหน่อย ธรรมะจัดสรร...แฟนคลับ.                                       

ท่านอาจารย์ ของเรามีใจจดจ่อที่ จะได้รับชมบารมี ธรรมะบำบัด                   

จาก ท่านอาจารย์อุบลฯ กัน  ซึ่งทุกท่านที่มา ต่างก็ได้รับความเมตตา           

และได้รับความสุข   กันทั่วหน้า....จากท่านอาจารย์...คือหายจาก             

อาการที่เป็นอยู่ 100%  หรือ ดีขึ้นกว่าเดิม..เช่นปวดขา    ปวดแขน              

ปวดคอ-บ่า  หลังซึ่งเขาเหล่านั้น  เป็นกันมานานเป็น  10 ปีขึ้นไป

หลายคนที่สัมผัสก็บอกว่า...

แปลกมากไม่เคยได้พบเห็นมาจากใหน?จริงๆ....

    ขอกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน   เทวดาที่ดูแลรักษา อ.อุบลฯ          

ท่านอ.อุบลฯและสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิดทุกๆท่านครับ/

                                     กราบ  กราบ  กราบ

                               *********************

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิพันธ์ อัครวิชชนนท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-12 15:38:11


ความคิดเห็นที่ 8564 (1656363)

งานเปิดสาขาบ้านสวนพีระมิด สาขาที่ 2  อ.พัน อ.นี สระแก้ว
วันนี้วันที่ 11 เมย. ได้มีโอกาสไปร่วมงานวันเปิดสาขาของบ้านสวนฯที่บ้าน อ.พัน เดินทางแต่เช้า เพราะไม่อยากให้รถติด วันนี้ฤกษ์เย็น ไม่ค่อยมีแดด ระหว่างเดินทางก็เจอฝนตกหนักมากด้วย พอมาถึงเห็นอาจารย์ทั้ง 2 ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหาร อ.พันผัดคั่วไก่ อ.นี แกงลูกชิ้น ท่านเหนื่อย แต่ใบหน้ามีรอยยิ้มตลอด คงปลื้มที่จะได้ต้อนรับ อ.อุบล ท่านบอกว่าเมื่อคืนนอน ตี 2 เพราะต้อง ล้าง และ เช็ดเก้าอี้ที่ไปยืมมา
หลังจาก อ.อุบลมา พักทานข้าวแล้ว ในที่สุดก็เริ่มบรรยาย เก้าอี้ที่เตรียมไม่ได้วางหมด แต่สักพักคนก็ทยอยกันมาจนเต็มห้องเลย รวมกันน่าจะ 30-40 คน รวมลูกบ้านสวนที่มาร่วมงานด้วย เช่นน้องจาว น้องหนิง น้องชิม กับคุณแม่ น้องแหลน น้องก้อย น้องมื้มเป็นต้น
วันนี้คนเป็นหนัก ๆ เยอะ ไม่ได้มาจากสระแก้วเท่านั้น มีคนจากเมืองชล ที่เคยเป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์ด้วย  เช่น เป็นโรคเอดส์ก็มาด้วย มือชา เจ็บขา ปวดหลัง อาจารย์บำบัดโดยวิธีต่าง ๆ เช่น ให้ถือสบู่พาเมล่า ก็พบว่าอาการดีขึ้น บางคนก็ให้มองหน้าท่านอาจารย์ก็ดีขึ้น เป็นต้น  คนมาใหม่ ๆ ยังไม่กล้าสารภาพบาป  ก็เลยจัดให้ลูกบ้านสวน น้องมิ้ม ไปสารภาพ ครูมิ้ม จบ ป.โท จุฬาฯของเราก็เริ่มสารภาพตามแบบฉบับ คือ ไม่อาย บอกหมดว่า เคยฆ่าคน โดยขับรถชนคนตาย เคยโกหก เคยหักอกผู้ชาย และอีกหลายอย่าง พอผู้คนได้ยินเช่นนั้น ก็พากันกล้าที่จะสารภาพกันมากขึ้น เพราะสารภาพแล้วหายกัน

วันนี้ไฟดับด้วย เพราะเราใช้ไฟเกินขนาด แต่พออาจารย์อารธนาบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาพร้อมให้คนสัมผัส พบว่าอาการดีขึ้นหลายราย และบางท่านก็ได้สัมผัสลมพัดเย็น ๆ มาด้วย มีเพื่อนท่านอาจารย์พัน ที่เข้ามาในงาน และยังเจรจาเรื่องเงินอยู่ พอเข้ามาที่งานก็ได้รับโทรศัพท์ ข่าวดีว่า สามารถทำธุรกิจได้ผ่านฉลุย ได้เงินราว ๆ 3 ล้านทีเดียว  อาจารย์บอกว่า หน้าบ้านอาจารยพัน มีพีระมิดจำลอง ทำด้วยผ้าหลากสี เหมือนที่บ้านสวน สามารถดึงดูดพลังดี ๆ มาได้
ตอนก่อนกลับ จิ๋มก็ได้ไปช่วยคนร่วมงานที่เขามีอาการ บ่า ไหล่ แข็งมาก  เขาบอกว่าเนื่องจากเขาใช้คอมมาก ด้วยการดูจี้ และให้ถือจี้ของจิ๋ม พบว่าบ่าไหล่ของเขานิ่มลงมาและหายปวด พอถามเรื่องกรรม ก็ค่อย ๆ อ้อมแอ้มมาว่ารู้เห็นในการทำแท้ง   ส่วนอีกคนก็มือชา เขาก็ขอเข้ามาถือจี้ด้วยอีกคน ก็พบว่าอาการดีขึ้นมาก  เขาบอกว่าเวลาถือจี้แล้วรู้สึกถึงพลังที่ส่งเข้ามา วูบ  ๆ เลย อาจเป็นพระจี้ในคอของจิ๋ม มีอานุภาพเท่ากับจี้จำนวน 160 องค์ที่จิ๋มได้ทำบุญบูชามานั่นเอง

หลังจากนั้น ก็ได้มีการทำน้ำทิพย์ และอาหารอภิญญาก่อนกลับบ้าน กัน หลายคนก็สนใจไปบูชาวัตถุมงคลกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ขออนุโมทนาบุญกับท่านอ.อุบล ที่ได้ช่วยคน และอ.พัน อ.นี ผู้จัดการสาขาที่ 2 ของเราด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-13 06:57:15


ความคิดเห็นที่ 8565 (1656378)

ขออนุโมทนากับธรรมทานของทุกๆท่านที่ได้ไปเปิดสาขาของบ้านสวน  และทำให้ทราบถึงวิธีการบำบัดแบบใหม่ๆ

เมื่อวาน ( 12 เม.ย ) น้องต็อปมีอาการปวดต้นคอเคยเรียกรหัสอ.อุบลช่วยด้วยแล้วแต่กลับมาปวดอีก  ก็เลยนึกถึงการบำบัดแบบใหม่คือการถือเครื่องสำอางค์พาเมล่า  ก็เลยพิสูจน์กับน้องต็อปโดยการเอาขวดเครื่องสำอางค์พาเมล่าเก่าที่มีเยอะพอสมควร....พร้อมกับสบู่อีก 3 ก้อน มาให้ถือ....แล้วก็ถามอาการว่าหายหรือเปล่า......  เค้าบอกว่า แม่หายแล้ว......กุหลาบเองก็ถามย้ำแล้วย้ำอีกว่า   หายจริงมั้ย  น้องต็อปก็บอกว่า   หายจริงๆครับแม่  

ลูกกราบขอบพระคุณพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์.....ท่านพ่อดตาจินิน..สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์...และท่านอ.อุบลที่เมตตาลูกๆและครอบครัวให้ได้รับแต่สิ่งที่ดีๆตลอดมา    กราบ...กราบ...กราบ

และอีกเรื่องที่ลูกอยากกราบขอบคุณท่านพ่อดตาจินิน  ที่ทำให้น้องชายของลูกเปลี่ยนจิตใจได้

เมื่อวันที่ 9 เม.ย  น้องชายของกุหลาบ  ได้ทะเลาะกับแฟนของเค้าเพราะตัวน้องชายของกุหลาบได้ติดผู้หญิงใหม่  ถึงขนาดกับจะทิ้งเมียของตัวเอง   เพราะทั้ง 2 ไม่ได้อยู่ด้วยกัน  ความเหินห่างจึงทำให้นิสัยความเจ้าชู้เกิดขึ้น  และผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้เป็นโสด กุหลาบเห็นความทุกข์ของน้องสะใภ้ก็สงสาร  กินไม่ได้  นอนไม่หลับ  เพราะสามีพูดกระแทก  แดกดัน  ไล่กลับบ้าน  (น้องสะใภ้ได้ลงมาอยู่กับกุหลาบ)  วันที่ 10 ตอนเย็นกุหลาบ  ขึ้นสวดมนต์ไว้พระ  ก็เลยขอบารมีท่านพ่อดตาจินินและขอใช้ดัชนีไฉไลที่ท่านอ.อุบลได้ส่งมอบมาให้ขอให้น้องชายชื่อ นายราวุธ  รักสนิท ได้เปลี่ยนจิตใจไปในทางที่ดี  ไม่่อยากให้เค้าทำผิดศีลมากไปกว่านี้  และขอให้เค้ากลับบ้าน  และโทรติดต่อได้ ( วันที่ 10 ทั้งวัน น้องชายไม่เปิดโทรศัพท์  และบอกเมียว่า จะไม่กลับบ้าน ) ตัวเองก็แอบลุ้นแทนน้องสะใภ้

     พอประมาณ ตี 5 กุหลาบตื่นมา เห็นรถน้องชายกลับมาบ้าน และขับรถออกจากบ้านไปแต่เช้า  ก็เลยถามน้องสะใภ้ว่า  น้องชายไปไหน  เค้าก็ไม่ค่อยอยากตอบ  แต่พอสายๆวันที่ 11 เม.ย น้องสะใภ้มาเล่าให้ฟังว่า............คืนวันที่ 10 เค้าพยายามโทรหาสามีแต่ก็โทรไม่ได้ ประมาณ 5 ทุ่ม  ก็เลื่อนรายการเบอร์โทรลงมาเรื่อยๆเพื่อจะหาว่าเวลาไหนที่โทรหาสามีได้  แล้วจู่ๆก็ปรากฏว่า เป็นการโทรออกเค้าบอกว่าทั้งๆที่เค้าไม่ได้โทรออก......แล้วก็เอาโทรศัพท์ไปแนบฟังดู....เป็นเสียงของน้องชายกุหลาบ

     น้องสะใภ้บอกว่า  เสียงของน้องชายเปลี่ยนไป และบอกเมีย เดี๋ยวจะกลับบ้านแต่จะดึกหน่อย ประมาณ ตี 1 ถึงจะเข้าบ้านตอนนี้กำลังทำงานรอลูกน้องทำงานให้เสร็จก่อน  น้องสะใภ้แปลกใจมากเพราะมันเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย  เพราะก่อนหน้านั้นด่ากันชนิดออกกู  มึงเลย  เค้าก็เลยคิดว่า ต้องเป็นกุหลาบบอกให้อ.อุบลช่วยแน่ๆ  และกุหลาบก็ได้ขอบคุณท่านพ่อดตาจินินตั้งแต่เห็นรถน้องชายเข้าบ้าน  ถ้าไม่ใช่ท่านพ่อดตาจินินและดัชนีไฉไลของท่านอ.อุบลแล้วน้องชายของกุหลาบต้องไม่เป็นอย่างนี้แน่ๆ  เพราะทราบนิสัยของน้องชายดี  เป็นคนนิสัยมุทะลุ  พูดไม่ฟังใคร  ดันทุลัง  แต่กลับเปลี่ยนเป็นคนละคน  พูดหยอกล้อกับเมีย  และก็ได้พากันกลับบ้านที่อุดรพร้อมกัน  ทั้งๆที่บอกว่าไม่กลับบ้านให้เมียกลับคนเดียว

  ลูกกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน และท่านอ.อุบลเป็นอย่างสูง  ที่เมตตาน้องชายและน้องสะใภ้ขอลูก  และขอให้น้องชายของลูกคิดได้อย่าได้ทำผิดศีลมากไปกว่านี้เลยเจ้าค่ะ   กราบ..กราบ..กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-13 16:23:49


ความคิดเห็นที่ 8566 (1656435)

โมทนาบุญกับธรรมทานของทุกๆ ท่านทั้งในบ้านสวนฯ และนอกสถานที่ ทั้งรูปถ่าย พร้อมทั้งงานเปิดสาขาโคกเจริญน้อวก๊อด น้องพจน์  และบ้านคุณครูนุกูล บ้านอาจารย์พัน สระแก้วได้อ่านและจะได้ทำตามด้วยนะค่ะ ยิ่งอ่านยิ่งตื่นเต้นกับการบำบัดแบบใหม่เห็นผลฉับพลันทันทียิ่งอัศจรรย์เหมือนกับตัวเองได้อยู่ในงานนั้นด้วยเลย   ยิ่งเปิดสาขาเยอะๆ คนดีก็จะมีที่ยืนประเทศไทยก็จะมีแต่คนดีๆมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป

กราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบล ทุกๆพระองค์และครอบครัว

เรื่องที่1. เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาตัวหนูเองไปส่งกล้วยไม้ที่ร้านยุวดีคลองเจ็ดนั่งกันสามคนมีชายคนหนึ่งขับมอเตอร์มาจอดแล้วนำเหรียญร.5 เก่าที่เจอจากในโคลนคนก่อสร้างด้วยกันคิดจะเอาไปขายเขาเลยให้หนูดูว่าขายได้เท่าไหร่ ) ประมาณนั้นเขาจะแบ่งกันเพื่อไปนำไปกินเหล้า ) ตอนนั้นหนูงงมากแต่หนูจะใส่จี้บ้านสวนฯ รวมเป็น7 องค์เอาไว้ด้านนอกเสื้อ  น้องผู้ชายคนนั้นก็แวะถามคุยกันได้สักพักน้องก็ขอตัวเพื่อจะไปหาคนที่รู้ว่าถ้าขายได้ราคาเท่าไทร่  หมดโอกาสที่จะเล่าของดีๆที่ใส่ให้ฟังหนูคิดเองนะค่ะบุญไม่มีได้แต่เห็นแต่ไม่ได้ฟังและไม่ได้พิสูจน์บุญใครก็บุญมันในเมื่อจิตเขาไม่เปิดหนูเองก็ไม่อยากจะคุยให้เสียเวลา

เรื่องที่ 2. วันนี้ไปวัดใกล้บ้านเอาบุญมาฝากทุกคนค่ะ

กราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบล และทีมงานลูกหลานบ้านสวนพีระมิดทุกๆท่าน

กราบขอบพระคุณค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-14 14:11:39


ความคิดเห็นที่ 8567 (1656697)

 

เรื่องที่ 1.เมื่อวานได้รับโทรศัพท์จากพี่ศรีโทรมาเล่าว่าพี่ก้อยบีบทั้งเรื่องการงาน ครอบครัว และตอนนี้พี่สาวทั้งสองครอบครัวรับเหมาปูยางที่จังหวัดสตูลอยู่ห้องแถวติดกัน พี่ศรีโทรมาบอกว่าพี่ก้อยชอบยุ่งเรื่องครอบครัวและเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยไม่เป็นเรื่องสรุปคือการสื่อสาร และคิดเอาเองทั้งนั้น คนที่เป็นวัวสันหลังหวะ หรือพูดง่ายๆเป็นคนผิดศีลทั้ง5 ข้อ แล้วพี่ศรีก็พูดต่อว่าสุดท้ายคิดจะยิงพี่ก้อยและคนที่ไม่ชอบและนัดสุดท้ายคือตัวพี่ศรีเอง  หนูก็ได้แนะนำว่าแค่คิดก็ผิดขั้นมหาศีลแล้ว เลยบอกว่าให้ใจเย็นๆ ค่ะพี่น้องคลานตามหลังกันมาให้เห็นกับแม่ และพ่อที่สั่งเสียไว้ก่อนจะตายแต่พี่สาวกลับไม่ฟัง หนูเป็นแค่น้องไม่คิดสอนพี่หลอกแต่หนูจะนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาบอกเท่า ถ้าใครได้อ่านช่วยให้ความคิดเห็นก็ได้นะค่ะ 

เรื่องที่ 2. เมื่อตีห้าของวันนี้เองน้องนุ้ยได้โทรมาเล่าว่าเมื่อวานไปหาพี่มวลเดินผ่านหน้าบ้านน้องสาวคนเล็กพอดีน้องนุ้ยได้บอกว่าไม่ให้กรีดยางแล้วนะ  ปรากฎว่าว่าน้องสาวคนเล็กโกรธมากจึงเดินมาผลักน้องนุ้ยแล้วด่าทอด้วยคำหยาบสาระพัดแล้วน้องคนเล็กบอกว่าจะไม่ส่งแม่ไปโรงพยาบาล น้องนุ้ยบอกว่าไม่เป็นไรไปเหมารถคนอื่นก็ได้จริงๆแล้วครอบครัวของน้องคนเล็กก็ได้สวนยางเหมือนกันแต่ขายไปหมดแล้วนำเงินไปซื้อสวนยางแต่ที่สงวนแล้วเป็นสมาอบต. ซื้อเสียงเสียด้วย ตอนนี้หมดเงินแล้วคิดจะค้อยาบ้าส่วนน้องสวคนเล็กหวังจะกรีดยางน้องนุ้ยคิดว่ายางน้องนุ้ยเป็นของตายเพราะน้องนุ้ยต้องไปหารถเขา คิดผิดคิดเอาเองทึ้งนั้นแล้วด่าต่อถ้าเขาไม่ได้กรีดยางคนอื่นก็ไม่ให้กรีดทั้งๆที่สวนยางนั้นเป็นของน้องนุ้ยและของหนูเอง หนูเองก็แนะนำว่าให้จดบันทึกที่บ้านกำนันศักดิ์ให้พี่สาวและพี่ชายเป็นพยาน  ทุกท่านค่ะคุณคิดอย่างไร  ส่วนหนูเองก็คิดตามที่เขียนไปนั้นแหละ   หากความคิดที่ดีกว่านี้ก็จะดีหนูจะได้แนะนำน้องนุ้ยๆ คนนี้เลี้ยงแม่ที่อายุ 84 ปีไม่มีเวลาเป็นของตนเอง มีทั้งสุนัขของพี่ศรีอีก 2 -3 ตัว เอามาเลี้ยงแล้วเลี้ยงไม่รอดให้น้องนุ้ยเลี้ยงตอนแรกก็ซื้อข้าวและกับข้าวให้สุนัข แต่ตอนนี้ไม่ค่อยจะซื้อให้เลยขอเงินก็ทำเป็นทะเลาะเอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาอ้าง สงสารน้องนุ้ยมากๆ ได้แต่โทรคุยและแนะธรรมะ และรห้สจักวาล  และน้องกับพี่สาวได้บูชาอุปกรณ์บ้านสวนฯ รุ่นคุ้มเกล้า  ตอนนี้ทั้งแม่ พี่สาว  น้องสาว  ใช้กันได้ผลแต่ทั้งสองสามบ้านเล่นคอมไม่เป็นและไม่มีอินเตอร์เน๊ตเคยให้ซีดีบ้านสวนฯไปก็ทำหาย  ที่หนูเขียนมานี่เพื่อให้เป็นธรรมทานตอนนี้บ้านหนูที่นครศรีฯ ทะเลาะกันได้ทุกวี่ทุกวัน  และแต่ละคนไม่นำธรรมะของพระพุทธองค์ หรือไม่นำเอาศีล 5 มาจับบ้างเลยได้แต่พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่นนี่เป็นธรรมทานที่เกิดขึ้นกันมากๆ แถวบ้าน และสังคมน่าจะมาทบทวนตัวเองแล้วปรับปรุงให้ดีกว่าดีกว่าโทษแต่คนอื่น  ถ้าทุกครอบครัวหันมาปรับปรุงและหาสาเหตุของปัญหา  แต่นี่กลับคิดโทษแต่คนอื่น และสังคม   ตัวเอง  นี่เหมือนกับท่านอาจารย์อุบลได้สอนและได้พิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมว่าเบื้องบนจะแยกคนดีคนชั่วคนตาย กับคนที่จะอยู่ยุคศิวิไลชัดเจน  หนูเขียนมาจากความจริงใจที่หนูคิดได้ตอนนี้ ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาของหนูมีแค่นี่ค่ะ

สุดท้ายนี้หนูกราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ ทุกๆ พระองค์

กราบขอบพระคุณค่ะ    กราบ กราบ กราบ

หากเขียนผิดพลาดประการใดขออภัยจากใจจริงไว้ณโอกาศนี้  โปรดแนะนำด้วยนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-16 19:38:39


ความคิดเห็นที่ 8568 (1656782)

วันนี้(17เมย.56)ได้ไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ

ไปซื้อผลไม้พบคนขายถามว่า...ทำไมแขวนอะไรเยาะจัง...

ก็เลยบอกเขาว่า...เป็นวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด.....

แขวนเพื่อให้มีพลังเอาใว้ช่วยบำบัดคน..ก็เลยได้โอกาสถามเขาว่า....

เป็นอะไรบ้างหรือเปล่า?..เขาก็ตอบว่าปวดหลังบ่อยๆ..

ตอนนี้ก็ปวดอยู่  ก็เลยบอกให้เขามองจี้แล้วก็นับ...นับได้ 32

แล้วอาการดีขึ้นดูเหมือนเขาทำท่าไม่กล้ามองต่อ....ถามเขาว่า....

เป็นอย่างไรบ้าง...เขาตอบว่าดีขึ้น....แล้วเขาก็บอกว่า...แปลกดีน๊ะ...

สุดท้ายก็ให้เขาขอบคุณเทวดาที่ดูแลรักษาอ.อุบลฯและแนะนำ            

ให้เขาดูเว็ปบ้านสวนฯและใช้รหัสอ.อุบลฯช่วยด้วย.....

        ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน                     

พีระมิด      ทุกๆพระองค์ด้วยครับ....สาธุ....

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิพันธ์ อัครวิชชนนท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-17 20:55:07


ความคิดเห็นที่ 8569 (1656837)

ลูกกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล น้องท้อป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

ที่เมตตาช่วยให้พ่อของลูกหายจากการเจ็บป่วย ปวดขาและชากลางหลัง เมื่อได้รับน้ำทิพย์ที่พี่ชายทำให้จากจี้ท่านพ่อดตาจินิน

และแม่ของลูกหายจากโรคเบาหวาน

พี่สาวของลูกหายจากอาการปวดตา  หลังจากใช้น้ำทิพย์แล้วไม่ได้โอนเงินทำบุญ 99+1 บาท ทำให้อาการปวดตากลับมาอีก

พี่เขยของลูกหายจากอาการป่วย

พี่สะใภ้ของลูกเมื่อได้รับน้ำทิพย์จากท่านอาจารย์อุบลเมื่อใช้แล้วโรคไทรอยด์เป็นพิษหาย ไปหาหมอตรวจไม่พบเชื้อแล้วแต่ยังให้ทานยาต่อได้ และพี่สะใภ้ก็ไม่ได้เขียนรายงานผลเป็นธรรมทานก็มักจะโดนเตือนโดนรถเฉี่ยวบ้าง ชนบ้างค่ะ

พี่ชายของลูกยังปวดขาขวาอยู่ แสดงว่ายังมีกรรมอื่นอีก

ตัวลูกเคยผิดศีลข้อ 1 วางยาเบื่อหนู ทำให้ปวดท้อง มีนหัวบ่อย เคยฆ่าแมลงสาบ ฆ่ามด ฆ่าแมลงเม่า แท้งลูกรู้เห็นในการทำแท้ง ให้เงินผู้อื่นไปทำแท้ง เหยียบหอยทาก ฆ่าปลวก ฆ่าแมว เลี้ยงหมาชื่อจีน่าปล่อยให้มันตาย กินเนื้องูรู้เห็นในการฆ่างูโดยไม่ห้าม

ศีลข้อ 2 หยิบเงินและใช้ของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ ทิ้งงานไม่รับผิดชอบงาน

ของตน

ศีลข้อ 3  มีชู้ มีกิ๊ก ทำให้แฟน คนรักเสียใจ

ศีลข้อ 4 เคยปรามาสท่านอาจารย์อุบลว่าน่ากลัว และท่านพ่อดตาจินินดุ โกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อนตอแหล เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น

ศีลข้อ 5 ดื่มเหล้า เบียร์ เที่ยวกลางคืน

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-18 12:48:14


ความคิดเห็นที่ 8570 (1656878)

จรัล ยาตรา กิจกรรมค่าย14 เป็นค่ายที่มีหลายอารมณ์ ทั้งเศร้า สนุก

สนาน อบอวลไปด้วยความรัก ความเมตตา ทำบุญแรงกายมี เทปูน

ทำความสะอาดบริเวณบ้านสวน ติดกระจกอาคาร ติดกระจกองค์พระ

แปลงเกษตร

ธรรมทาน  ป้าพรได้บำบัดอาการเจ็บป่วยด้วยรหัสเจ้ากรรมนายเวร99

ที่บ้านแล้วอาการเจ็บป่วยหาย แต่ไม่ชำระเงินภายใน24ชั่วโมง

ทำให้อาการหูไม่ได้ยินเสียงกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก

ได้มาขอขมาท่านพ่อดตาจินินที่บ้านสวนแล้ว  แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น  เพราะเป็นข้อตกลงขอ  ท่านพ่อดตาจินินไม่รับการขอขมา ถ้าจะให้หายต้องโอนเงิน99คูณ    100 ถือเป็นบทเรียนราคาแพง (ต้องโอน 9,900บาท)

 

 

พี่สาวของลูกหายจากอาการปวดตา  หลังจากใช้น้ำทิพย์แล้ว

ไม่ได้โอนเงินทำบุญ 99+1 บาท ทำให้อาการปวดตากลับมาอีก

น้องขวัญค่ะ หากต้องการบำบัดด้วยรหัสเจ้ากรรมนายเวร 99

ก่อนบำบัดน้องขวัญต้องบอกเงื่อนไขสำคัญแก่ผู้รับการบำบัด

ต้องเน้นถึงกฏและกติกาให้เข้าใจ โดยต้องเน้นย้ำ หากไม่ปฎิบัติตาม

ผลเสียที่ตามมานอกจากไม่หาย จะเป็นหนักกว่าเดิม

ผู้แสดงความคิดเห็น ณี พรรณี ศรีทะชะ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-19 02:38:24


ความคิดเห็นที่ 8571 (1657024)

โมทนาบุญกับธรรมทานของทุกๆท่านค่ะ

อยากเขียนอยากเล่าธรรมทานของตัวเองแต่ด้วยความโง่เขียนไม่ค่อยจะรู้เรื่อง จากปัญหาของพี่น้องและญาติๆ รู้สึกได้เก็บมาคิดมานั่งพิจารณาแล้วน่าเบื่อเหนื่อยปัญหาทุกๆ ปัญหาถ้าเรามีปัญญาก็ย้อยมาดูที่เหตุ ทุกท่านพี่น้องและตัวเองควรจะรับฟังเหตุผลอย่าคิดเอาฝ่ายเดียวให้ถือคความถูกต้องเป็นหลัก  แต่ที่เห็นพี่น้องทะเลาะกัน หรือเหตุการณ์บ้านเมืองและสังคมในวันนี้ถือความถูกใจพวกใครมากก็ได้เปรียบเสมอน่าเบื่อจริงๆ  พูดถึงเรื่องนี้ทีไรก็นึกถึงผู้ใหญ่บ้านบึงคำพร้อยเป็นผู้หญิงแต่ทำงานเอาแต่พวกแม้กระทั้งญาติตัวเองถ้าไม่เห็นด้วยกับเขาก็ไม่ยอบรับ เงินเอส เอ็ม แอล   ที่คลองห้าลำลูกกานำมาซื้อเครื่องกรองให้ยืมใช้ ตอนแรกกะจะแจกฟรีแต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบตอนนี้ได้แค่ยืมใช้เท่านั้น แทนที่เงินเอส เอ็ม แอล  เป็นเงินที่หมู่12 ที่จะมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์รวมกันทั้งที่หนูเองก็คัดค้านหลายคนอยากได้ร้านค้าชุมชนแต่เสียงตกไป ทุกครั้งเวลาประชุมอะไรไม่ค่อยจะบอกกล่าวเวลามาหาก็ได้แต่ขอลายเชนต์แต่หนูจะถามทุกครั้งว่าเอาไปทำอะไร?  ถึงจะเซตน์ให้ บางครั้งคนอื่นเขาเซนตน์ให้ก่อนไม่ต้องมาถึงเราตามรายที่ต้องการใช้เท่านั้นเอง  ป้าช่วยเล่าซึ่งเป็นของผู้ใหญ่ (นามสกุลเดียวกัน ) เวลาเขาจะเลือกเขาได้เตรียมคนหรือย้ายคนของเขามาอยู่ก่อนเรียบร้อยแล้วเชื่อไหมว่าปีนั้นหนูเองมาอยู่แล้วได้ 50 คะแนน ของคนทั้งหมดของหมู่ 12 เท่านั้น คนส่วนมากเขาไม่สนใจเขาช่วยเหลือตนเองเรียกว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ขาดความสามัคคีกันในหมู่บ้านหรือเรียกว่ารากหญ้าแล้วอนาคตของประเทศไทยยังเป็นได้ถึงขนาดนี้  ที่เขียนมานี่อยากให้ทุกท่านได้อ่านและได้ลองพิจารณาดูว่าบ้านของท่านเป็นอย่างนี้หรือเปล่า ถ้าเป็น เราจะแก้ไขอย่างไรให้มันถูกต้อง เพื่อพัฒนาหมู่บ้านของเราให้ดีกว่านี้ดีกว่าอยู่ไปก็รกโลก   เกิดมาหนักแผ่นดินและเป็นหนี้แผ่นดินหลายชั่วโคตร  แค่ทำง่ายๆ อย่างนี้ยังทำไม่ค่อยจะได้กันเลย แล้วจะไปคิดเรื่องศีล 5  นั้นเหลือดูแล้วมันไกลตัวมากเลย  ทั้งๆ ที่ตั้งแต่เราเกิด จนถึงเราตายเราต้องอาศัยศาสนาทั้งนั้น  ขอจบเรื่องไว้ข้อคิดกับทุกๆท่านค่ะ

หนูมาเข้าถึงเรื่องตัวเองบอกตรงว่าศีลห้ายังไม่บริสุทธิ์ เช่น กินปลาตาย กินกะปิ และน้ำปลาเป็นบางครั้ง ไปไหนกินมังเขี่ยเอาไม่มีหน้าจะไปบ้านสวนฯ ยังปรับปรุงตัวไม่ได้ดีเท่าที่ควรอยู่ข้างนอกดูทางคอมพิวเตอร์   ทางทีวีแล้วทำตาม ยังมีโกรธอยู่บ้าง  ยังพูดไม่ค่อยจะเข้าใจ ฯลฯ แต่ก็จะพยายามทำให้ได้เท่าที่จะทำได้แล้วแต่เวรแต่กรรมของที่ต้องชดใช้ แค่ตัวหนูได้รู้จักบ้านสวนฯไม่เสียชาติที่ได้เกิดมาเลยส่วนจะปรับปรุงได้แค่นั้นขึ้นอยู่กับปัญญาของตัวเองเองค่ะหนูไม่โทษใครต้องโทษตัวเองให้มากๆ ที่เขียนมานี้เพราะอยากจะระบายความอัดอั้นตันใจที่บอกกับใครเขาไม่ค่อยฟังได้แต่เขียนให้กับคนที่มีบุญสัมพันธ์ได้อ่านและได้แนะนำเพื่อเป็นธรรมทานให้ทุกๆท่านอย่าหลงว่า  ตัวกู  ของกู   นั้นเป็นของสมมุติที่มีให้เราใช้ทางโลกเท่านั้นเอง เบื้องหลังความตายยังมีให้มีอีเเยอะที่ทุกๆ ต้องเจอต้องได้พบแน่นอนขึ้นอยูกับใครจะเดินทางไปล่วงหน้าก่อนเท่านั้นเอง

ก่อนจะจบการเขียนธรรมทานในครั้งนี้ก็ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล  และครอบครัว  และเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกๆ พระองค์ ( ตัวหนูเองก็เคยพูดที่ต้องทำให้ท่านเสียใจหนูก็กราบขออภัยใว้อย่างมากมายค่ะ ) หนูยังชั่วอยู่ต้องปรับปรุงตัวเองค่ะ

  กราบ กราบ กราบ

กราบขอบพระคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ชาวบ้านสวนพีระมิดทุกๆท่านค่ะ หากพี่ตุ๊กบ้าคนนี้ทำผิด คิดผิด พูดผิด กับใคร ( กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม)อโหสิกรรมให้พี่ด้วยนะค่ะส่วนตัวพี่เองอโหสิกรรมให้กับทุกๆท่านค่ะเช่นกันค่ะด้วยนะค่ะ กราบด้วยความสำนึกผิดจริงๆค่ะ

อาจารย์อุบลช่วยด้วยโปรดบังคับกระแสจิตให้หนูเองคิด พูด ทำแต่สิ่งที่อยู่ในศีลในธรรมทุกช่วงเวลานาทีด้วยเถิดเจ้าค่ะ

กราบ กราบ กรามบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-21 11:40:40


ความคิดเห็นที่ 8572 (1657050)

ขอเหลาธรรมทานวันเสาร์ที่ 20 เม.ย.56 ดังนี้ค่ะ
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์หลังค่าย 14 คนจะบางตาหน่อยค่ะ

แต่ขอบอกว่าไม่ใช่ปัญหา

พวกเราที่มีกำลังพลน้อยแต่งานคืบหน้าไปมาก

และเสร็จอย่างรวดเร็ว โดยเสาร์นี้ก็เทปูนลงหลุม

สร้างอาคารด้านหลังค่ะ

และพอมีเวลาเหลือก็ได้ขึ้นไปติดกระจกท่านพ่อดตาจินินด้วยค่ะ

ท่านงดงามมาก กว่าจะปีนขึ้นไปได้วัดใจน่าดูค่ะ เพราะสูงจิงๆ 5555 

และในสัปดาห์นี้ท่านอ.ได้เมตตาพวกเรา

โดยระหว่างมื้อก่อนทานอาหารท่านก็มาส่งบุญ

ขอให้อาหารที่เราทานเป็นอาหารทิพย์

ก่อนทานพวกเราก็อุทิศบุญให้จิตวิญญาณ

เทวดาที่รักษาอาหารต่างๆ ตลอดจนแม่ครัวที่ทำอาหารให้เรากินค่ะ

นับว่าเป็นวิธีที่ดีมากๆ และเป็นระเบียบเรียบร้อยดีด้วยค่ะ

นช่วงค่ำท่านอ.ก็เมตตาให้ธรรมะเรื่องคุณไสย์มนต์ดำค่ะ

ว่ามีอยู่ทุกชนชั้นวรรณะ การทำมนต์ดำมีหลายวิธีค่ะ

อย่างเช่นวิธียาสั่ง ก็คือเขาจะเอาอาหาร

ที่จะทำยาสั่งเช่นจะทำด้วยข้าวโพด

เขาก็จะเอาข้าวโพดนั้นให้เรากินก่อน

เพื่อให้มันไปเพาะเชื้อในร่างกาย

โดยแทรกซึมเข้าเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย

จากนั้นพอเขาจะจัดการเราเขาก็เอาข้าวโพดให้เรากิน

วิธีนี้ต้องกินอย่างเดียว และจะทำได้ก็ต้องเป็นคนใกล้ชิด

สนิทสนมกัน เรียกว่าซี้ปึกทีเดียว แค่นี้เราก็เรียบร้อยค่ะ

และผู้ที่จะแก้คุณไสย์มนต์ดำได้ต้องเป็นผู้ที่มีบุญกรรมฐาน

อย่างเช่นท่าน อ.อุบลของเรานี่แหล่ะค่ะ

และเจ้าตัวต้องเอ่ยปากที่จะถอนคุณไสย์ด้วย

ถ้าไม่ต้องการถอนท่านก็ไม่สามารถทำให้ได้ค่ะ

และจิตเราต้องคอยจับพระพุทธเจ้าไว้ และน้อมจิตหาท่าน

ให้เราสังเกตง่ายๆ ว่าทำไมคนเจ็บป่วยอยู่ใกล้ท่าน อ.อุบลแล้วหาย

หรือดีขึ้น นั่นเพราะในตัวท่านอ.อุบลมีพลังสีขาว

ซึ่งเมื่อใครมีคุณไสย์ในตัวเข้ามาใกล้พลังเหล่านั้นก็จะอ่อนแรง

และเสื่อมลง คนที่เล่นคุณไสย์มนต์ดำ หรือยุ่งเกี่ยวด้วย

จะสังเกตได้คือ ....

(เดี๋ยวมาต่อค่ะ หรือท่านอื่นจะมาเหลาต่อก็ดีนะคะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-21 19:38:18


ความคิดเห็นที่ 8573 (1657057)

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2556

ในวันเสาร์ท่านอ.ได้เมตตาพูดถึงเรื่องของคุณไสย มนต์ดำว่ามีมาตั้งแต่ในอดีตซึ่งในยุคที่อียิปต้องมาล่มสลายก็เพราะเกี่ยวข้องกับคุณไสยมนต์ดำ ซึ่งคุณไสยมนต์ดำนั้นคือธาตุมืดซึ่งมีวิธีการทำคุณไสยหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบยาสั่ง ทั้งสัมผัส ซึ่งขนาดนี้คุณไสยมนต์ดำได้มีกระจายอยู่ทั่วโลก

โดยการทำคุณไสยนั้นผู้ที่ต้องการทำคุณไสยใส่ผู้อื่น ผู้กระทำจะต้องรับมนต์ดำเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายเสียก่อน จึงจะสามารถทำคุณไสยใส่ผู้อื่นได้ ดังนั้นทำกับว่า ผู้กระทำจะได้รับผลเป็น 2 เท่าของผู้ที่ถูกกระทำ และมนต์ดำเหล่านี้ก็จะถูกฝังลงใน DNA” ของคนๆนั้นไม่ว่าจะเกิดกี่ภพชาติมนต์ดำเหล่านี้ก็จะติดตามเราไปด้วย ทำให้ชีวิตของเราจะต้องพบเจออุปสรรคปัญหาต่างๆนานา ชีวิตมีแต่ความทุกข์และไม่สามารถหาทางปลดล็อคกรรมต่างๆได้

วิธีสังเกตุคนที่เล่นคุณไสย รวมถึงคนที่ชอบไปสำนึกทรงเจ้าต่างๆก็มีโอกาสรับคุณไสยมนต์ดำเข้ามาเต็มๆมักจะมีริมฝีปากดำ ดวงตาแข็งกร้าว

ท่านอ.ได้ยกตัวอย่างมนต์ดำ ยาสั่ง

วิธีการใช้ยาสั่งคือ :ผู้กระทำจะนำยาสั่งนี้ใส่ลงในอาหารและนำไปให้คนใกล้ชิดของผู้ที่ตนเองต้องการทำร้ายนำอาหารไปให้ หรือ ตนเองก็เป็นผู้นำอาหารไปให้คนๆนั้นด้วยตนเองเท่านั้นโดยการชักเชิญให้ทานอาหารนั้นๆ

วิธีการทำงานของยาสั่ง :ถ้ามีการใช้ยาสั่งใส่ลงไปในข้าวโพดและนำไปให้ผู้อื่นรับประทาน, ยาสั่งนี้จะฝังลงไปตามส่วนต่างๆของร่างกายของเราและเมื่อไรก็ตามที่เรารับประทานข้าวโพดเข้าไป (สิ่งที่เข้าไปกระตุ้น) ยาสั่งนี้จะเริ่มทำงานทันที

ซึ่งท่านอ.ก็ได้บอกเทคนิคของการหลีกเลี่ยงคุณไสยมนต์ดำไว้ให้พวกเราใช้ป้องกันตามคือ จากการที่ท่านอ.ได้รับการสอนจากหลวงพ่อเสงี่ยมคือ

1.ในการรับประทานอาหาร เราควรจะได้รับรู้วิธีการทุกขั้นตอน

2.เมื่ออาหารมาถึง ในขณะที่รับประทานไม่ควรจะลุกไปไหน

3.การดื่มน้ำก็เช่นกันทางที่ดีควรจะดื่มน้ำจากขวดหรือนำไปเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-21 22:43:20


ความคิดเห็นที่ 8574 (1657058)

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2556 (ต่อ)

การถอนคุณไสย : ผู้ที่จะถอนคุณไสยมนต์ดำให้ผู้อื่นได้ต้องเป็นผู้ปฏิบัติกรรมฐานสำเร็จ และ ผู้ที่ถูกคุณไสยมนต์ดำจะต้องเป็นผู้เอ่ยปากเองเท่านั้น

ดังนั้นเพื่อที่จะเป็นการป้องกันไม่ให้มนต์ดำเหล่านี้เข้าตัวทุกขณะจิตของเราจะต้องเกาะเกี่ยว กับพระพุทธเจ้าหรือนึกถึงท่านอ.อุบลตลอดเวลาหรือแม้แต่รหัสอ.อุบลช่วยด้วย เพราะคุณไสยมนต์ดำนั้นจะไม่สามารถทำร้ายผู้ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองหรือมีบุญกรรมฐาน

อันนี้มีตัวอย่างที่เห็นชัดๆมาแล้วว่าถ้าเมื่อใดที่จิตเกาะเกี่ยวกับท่านอ.อุบล หรืออยู่ใกล้ๆท่านอ. คุณไสยจะไม่สามารถทำอันตรายอะไรได้ ตัวอย่างเช่น มีเสธท่านหนึ่งที่จะแวะมาเยี่ยมท่านอ.อุบลและอยู่คุยและทานข้าวกับท่าน อ.อุบลเป็นเวลานานๆในทุกๆครั้งที่ท่านรู้ตัวว่าตนเองโดนทำคุณไสย การมีแต่ละคนนั้นเสธท่านนี้จะไม่เคยบอกให้ท่านอ.ทราบเลยว่าตนเองโดนคุณไสยมาและ ทุกๆครั้งที่มาหาท่านอ. ปรากฏว่าคุณไสยมนต์ดำจะโดนถอนออกไปทุกครั้ง จนล่าสุดเสธท่านนี้ก็ได้เล่าให้ท่านอ.ฟัง ถึงปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น

หนึ่งว่ายังดี ที่เสธท่านนี้รู้ตัวว่าตนเองโดนคุณไสยแต่สำหรับคนอื่นๆที่ไม่รู้ตนนี้ซิเป็นเรื่องน่ากลัวมากๆ เพราะมนต์ดำมันจะฝังอยู่ใน DNA และกัดกินกระดูกของเราตลอดเวลา.สยองงงงงงงเลย

และสิ่งสำคัญนำจากนี้คือ "การตั้งจิตอธิษฐานบารมี ขอให้ท่านพ่อดตาจินินควบคุมกาย วาจา ใจ บังคับกระแสจิตของเราให้ไม่หลงผิดไปเกี่ยวข้องกับคนที่เล่นคุณไสยมนต์ดำ"

นอกจากนี้มนต์ดำมาได้ทุกรูปแบบ ทั้งยาสั่ง การสัมผัสอาหาร การสัมผัสภาชนะ การผสมใส่ในอาหารและน้ำ หรือแม้กระทั่งผ่านทางตัวอักษร  

 

@@@พลังงานสีขาว และพลังงานสีดำ@@@

ท่านอ.จึงได้เปรียบเทียบปรากฏการณ์บ้านสวนพีระมิดซึ่งเป็นตัวแทนพลังงานสีขาว/ธาตุขาว กับ  คุณไสยมนต์ดำ (ธาตุดำ)ให้เห็นกันชัดๆเช่น

 A บ้านสวนพีระมิด : ท่านอ.สามารถส่งจิตทำน้ำทิพย์ทั่วโลกได้ ดังเช่นมีการทดลองกับน้องหญิงมาแล้วและปัจจุบันท่านก็ส่งจิตทำน้ำทิพย์ผ่านทางเฟสบุ๊ค

B คุณไสยมนต์ดำ : ผู้ที่เล่นคุณไสยสามารถส่งจิตออกไปให้ผู้อื่นด้วยเช่นกัน

 

A บ้านสวนพีระมิด : กราบท่านอ.แล้วหายจากโรคจากอาการเจ็บป่วย (การกราบคือการน้อมจิตรับ)

B คุณไสยมนต์ดำ : กราบไหว้ผู้ที่เล่นคุณไสยก็เป็นการน้อมจิตรับคุณไสยเข้าตัว

 

A บ้านสวนพีระมิด : ชมท่านอ.อุบลแล้วหายจากโรคจากอาการเจ็บป่วย
B คุณไสยมนต์ดำ : เอ่ยปากชมผู้ที่เล่นคุณไสย (แม้เราจะไม่รู้ว่าเขาเล่นหรือไม่) ก็เป็นการยอมรับคุณไสยมนต์ดำเข้าตัว

พอรับรู้ข้อมูลแบบนี้ ทำเอาหนึ่งตระหนักว่าทำไมพระพุทธเจ้าถึงห้ามไม่ให้คบคนชั่วเป็นมิตร เพราะนอกจากจะเป็นเหตุแห่งความฉิบหายแล้ว ยังเป็นการเชื่อมจิต-เป็นการยอมรับ-และเป็นช่องทางเอาคุณไสยมนต์ดำที่อยู่รายรอบผู้ที่เล่นเข้ามาสู่ตัวของเราโดยไม่รู้ตัว

 ซึ่งในความเป็นจริงแล้วด้วยความที่ตนเองเคยผิดศีลและมีความโง่เขลาเบาปัญญาอยู่มาก ดังนั้นก็ความที่จะต้องเชื่อในวิธีของพระพุทธเจ้าคือ ให้เอาศีลเข้าไปจับเพื่อที่จะแบ่งแยกคนดีและไม่ดีออกจากกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-21 22:45:08


ความคิดเห็นที่ 8575 (1657060)

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2556 (ต่อ)

 @@@น้ำทิพย์เพื่อล้างคุณไสยมนต์ดำในตัว@@@

และท่านอ.ก็ได้เมตตาทำน้ำทิพย์เพื่อชำระล้างคุณไสยมนต์ดำที่ฝังลึกอยู่ใน DNA ของพวกเราทั้งทีโดนคนอื่นทำใส่ หรือแม้แต่ที่พวกเราทำใส่คนอื่นๆ ตั้งแต่ชาติแรกจนถึงชาติปัจจุบัน โดยน้ำทิพย์นี้ให้ค่อยๆจิบไปเรื่อยๆและท่านอ.อนุญาติให้เต็มน้ำใส่ได้เพียง 1 ครั้ง (อันนี้ต้องไม่ลืมนะคับ พี่น้อง)

 

@@@แค่รับฟังเรื่องคุณไสย สิ่งที่แฝงอยู่ในตัวก็แสดงอาการ@@@

ระหว่างที่ท่านอ.ให้ธรรมทานเรื่องคุณไสยอยู่นั้น หนึ่งก็มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น คือ รู้สึกว่ามีอะไรที่เรามองไม่เห็นมาไต่ตามตัว ไต่มาตามแขน ตามขาอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ระหว่างนี้ก็มีจิตคิดแว่บกับท่านอ.ขึ้นมา

และในช่วงที่ท่านอ.ได้ขออารธนาบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์นำพวกเราทำน้ำทิพย์นั้นก็เกิดปิติร้องไห้

หลังจากดื่มครั้งแรกก็รู้สึกว่าตัวอะไรที่มันไต่ตามตัว มันไปรวมกันอยู่ที่บริเวณขาขวา สักพักก็รู้สึกเจ็บแปลบเหมือนโดยของแหลมทิ่มเนื้อ แล้วอาการทั้งหมดก็หายไป ตอนนั้นรับรู้เลยว่าจิตวิญญาณคุณไสยมนต์ดำเขามาแสดงตัวอยากจะรับบุญจากท่านอ.อุบลทันทีที่ท่านอ.เริ่มพูดเรื่องมนต์ดำ

 

@@@คุณไสยมนต์ดำบังคับจิตให้คิดแว่บปรามาส@@@

หลังจากที่ได้รับรู้ว่าคุณไสยมนต์ดำมีอยู่ทุกที่นั้น ทั้งผ่านทางตัวอักษร ทางอินเตอร์เน็ท ทางรูปภาพ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ครั้งแรกที่หนึ่งเริ่มมีจิตคิดปรามาสท่านอ.อุบล จากการเข้าไปอ่านข้อความที่เฟสบุ๊คที่พวกเฟสปลอมมาเขียนไว้ แต่ตอนนั้นได้รับปาฎิหาริย์จากแหวนองค์เทพสฟิงซ์และบารมีของแสงฉัพพรรณรังสีทำให้อาการหายไป 100%

ครั้งที่สอง: ต่อมาก็กลับมามีจิตคิดปรามาสท่านอ.อุบล และช่วงนั้นท่านอ.ก็อาธนาบารมีพระศรีอาริย์และให้ท่องบทสวดบูชาพระศรีอาริย์ ซึ่งตอนนั้นหนึ่งท่องทุกวันๆละ 99 จบติดต่อกันเกิน 9 วัน และอยู่ๆวันหนึ่งก็ปวดท้องเข้าห้องน้ำขับถ่ายอยู่เป็นชั่วโมงปรากฏว่า สีของอุจจาระที่ขับถ่ายเป็นสีดำสนิท (ดำเป็นถ่าน) และหลังจากนั้นก็รู้สึกว่าจิตตนเองรู้สึกโล่ง และอาการจิตแว่บก็หายไปตอนนั้นคิดง่ายๆแค่ว่าเป็นผลมาจากการที่ตนเองเคยผิดศีลข้อ 4 ซึ่งผิดเป็นประจำ แต่พอมาตอนนี้ทำให้คิดได้ว่า คงจะเป็นส่วนหนึ่งของการโดนคุณไสยอย่างแน่นอน

และล่าสุดเมื่อไม่นานหนึ่งเริ่มมีจิตคิดแว่บปรามาสท่านอ.อุบล ทั้งๆที่ตนเองพยายามบังคับกระแสจิตและขอบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว จึงได้เรียนให้ท่านอ.ทราบ หลังจากดื่มน้ำทิพย์ อาการที่คิดแว่บปรามาสท่านอ.ก็หายไปด้วย ท่านอ.จึงได้เมตตาบอกให้รู้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของคุณไสยมนต์ดำที่พยายามจะมาเข้าควบคุมดวงจิตของหนึ่งให้เราคิดไม่ดี

ที่น่าแปลกใจอีกอย่างคือ ในวันเสาร์ที่จะเดินทางไปบ้านสวน อยู่ๆก็รู้สึกว่าตนเองจะต้องขี้เกียจไม่อยากไปบ้านสวน ตอนนั้นก็สงสัยตนเองว่าทำไมต้องขี้เกียจด้วย.งง ซึ่งตนเองก็รับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตนเองเหมือนกัน 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-21 22:46:07


ความคิดเห็นที่ 8576 (1657061)

 ธรรมทานวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2556 (ต่อ)

@@@จิบน้ำทิพย์แล้วมวนท้องทุกครั้ง@@@

หลังจากนั้นหนึ่งก็จิบน้ำทิพย์อีกครั้งก็ปรากฏว่ามีตนเองมีอาการมวนท้องขึ้นมาเสียดื้อๆ รับรู้ได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังวิ่งเคลื่อนไหวอยู่ในท้องตนเอง พอวันนี้มีการขับถ่ายตามปกติก็ปรากฏว่าหลังขับถ่าย ตนเองมีอาการอ่อนเพลียหมดแรง แบบเว่อร์ๆ

 วันนี้ทุกครั้งที่ดื่มน้ำทิพย์ปรากฏว่ามวนท้องมันเสียทุกครั้งไป เลยรู้ว่าตนเองคงจะรับคุณไสยมนต์ดำเข้าไปทางน้ำและอาหารเต็มๆเลยและน้ำทิพย์คงไปขับไล่สิ่งเหล่านี้ออกจากร่างกายแน่ๆ

 หนึ่งขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล, ท่านพ่อดตาจินิน, พระนางเนเฟอร์ตารีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่เมตตา ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ทั้งทางกาย ทางใจ สิ่งต่างๆที่จะเป็นอุปสรรคขัดขวาง หนทางที่จะพบกับความสุข ความเจริญทั้งทางโลกทางธรรม ด้วยการทำน้ำทิพย์เพื่อช่วยเหลือทุกๆคนคะ เพราะลำพังตอนนี้ก็คงจะไม่มีปัญญาหาทางแก้ไขหรือขับไล่คุณไสยมนต์ดำในตนเองอย่างแน่นอน

ขอบารมีสมเด็จองค์ปฐม ลูกขอเบิกบุญศีลทานภาวนา ตั้งแต่ในชาติแรกถึงปัจจุบัน ขออุทิศบุญนี้ให้กับท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่ปกปักรักษาท่านอ.อุบลคะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-21 22:46:24


ความคิดเห็นที่ 8577 (1657065)

อนุโมทนาบุญกับน้องตุ้ยด้วยค่ะ ในธรรมทานของวันที่ 20 เมษานี้

สัปดาห์นี้เรื่องคุณไสย มนต์ดำ ถูกบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ(แห่งบ้านสวน)ทีเดียว เพราะท่านอาจารย์ได้ช่วยเหลือลูกศิษย์ทั้งในเรื่องสุขภาพกาย ปัญหาการงาน การเงินทุกอย่าง แล้วทำไมถึงยังไม่ปลดเปลื้องหมดสักที นั่นเป็นเพราะ พวกเราถูกคุณไสย มนต์ดำกันถ้วนหน้า ซึ่งการที่ถูกคุณไสย มนต์ดำก็เหมือนมีผีชั้นต่ำมาคอยคุมเราอยู่ บังคับเราให้ทำในสิ่งที่ผิด หรือทำให้เราทุกข์ เศร้าหมอง กังวลและอีกหลายๆอย่างที่คนกระทำต้องการจนกระทั่งถึงตายทีเดียว

การทำคุณไสยนั้น ทำได้ทุกชั้นวรรณะ ทุกระดับตั้งแต่ระดับสูงจนถึงระดับล่างทีเดียว และการทำคุณไสยนั้นสามารถทำได้หลายแบบ หลายอย่าง ทั้ง ให้กินเข้าไปในร่างกาย วิธีป้าย มองหน้า กล่าวชมคนที่เป็นเจ้าสำนักคุณไสยมนต์ดำ หรื่ออื่นๆ โดยให้เราเทียบกับพลังบารมีสีขาวของท่านอาจารย์ ซึ่งเป็นพลังรัก พลังเมตตา ว่าท่านอาจารย์สามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น มองหน้าหรือมองรูปท่านอาจารย์ก็หายได้ เช่นกันถ้าเรามองหน้าหรือรูป คนที่ทำคุณไสย เราก็ได้รับมนต์ดำทันทีเช่นกัน หรือกด like ในเฟสบุ๊ค เราก็ได้รับมนต์ดำเช่นกัน หรือยาสั่งที่น้องตุ้ยเขียนไว้นั้น หรือชมท่านอาจารย์สวยก็หายได้ เช่นกัน กราบคนที่ทำมนต์ดำ เราก็โดนมนต์ดำทันทีเช่นกัน

แต่คนที่ทำคุณไสย มนต์ดำใส่คนอื่นนั้น ก็จะโดนคุณไสย มนต์ดำเข้าไปอยู่ในร่างกายของตัวเองเช่นกัน เพราะการที่เราจะทำมนต์ดำใส่คนอื่นนั้น ตัวผู้กระทำก็จะได้รับก่อนจึงจะถ่ายไปให้คนที่ถูกกระทำ ยื่งทำคนอื่นเยอะ ก็จะยื่งเข้าตัวผู้ที่กระทำมนต์ดำมากขื้นเท่านั้น จนเรียกว่าเข้ากระดูกดำ ฝังแน่นทีเดียว ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเจ็บป่วยปางตายเลยที่เดียว ส่วนคนที่ถูกกระทำนั้น ถ้าศีลไม่บริสุทธ์ จิตใจไม่เข้มแข็งก็จะรับพลังมืดนั้นได้ดีทีเดียว

และผู้ที่จะแก้มนต์ดำได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญกรรมฐาน และตัวผู้ที่ถูกกระทำต้องมีใจเกาะเกี่ยวพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และต้องศรัทธาผู้ที่จะแก้มนต์ดำด้วยจึงจะสามารถแก้มนต์ดำได้ ซึ่งเพราะผู้ที่มีบุญกรรมฐานนั้นจะมีพลังงานสีขาวมากมายอยู่ในตัว เมื่อผีร้าย หรือคุณไสย มนต์ดำ เข้าใกล้ก็จะอ่อนแรงทันที และผีร้ายที่อยู่ในตัวเมือรับบุญของผู้ที่มีกรรมฐานแล้วก็จะได้รับความสุขและไปอยู่ในที่สูงขึ้น ไม่มาเกาะเกี่ยวกันอีกต่อไป

 ท่านอาจารย์ได้เมตตาทำน้ำทิพย์แก้มนต์ดำ คุณไสย ให้พวกเรา เจี๊ยบได้ดื่มน้ำทิพย์แก้มนต์ดำแล้วมีอาการขนลุก รับรู้ได้ว่ามีพลังงานบางอย่างวิ่งอยู่ทั่วตัว และเหมือนกับจะพยามผลักออกมาทางผิวหนัง ก่อนที่ท่านอาจารย์จะทำน้ำทิพย์ เจี๊ยบรู้สำร้อนมาก จนตัวเองเหงื่อซึม ทั้งที่อยู่ในห้องแอร์ แต่เมือดื่มน้าทิพย์หลังจาก อาการขนลุกแล้วก็รู้สึกโล่งสบาย ไม่ร้อนอีกเลย

กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ พระนางเนเฟอร์ตารี ท่านอ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธ์ทุกๆพระองค์ที่คอยห่วงใยลูกหลาน ให้ความรักความเมตตาต่อลูกหลานตลอดมาค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-21 22:56:13


ความคิดเห็นที่ 8578 (1657075)

กิจกรรมที่บ้านสวนฯ ในวันที่ 20 เมษานั้น

หลังจากวันเข้าค่าย 14 ซึ่งเหมือนเป็นธรรมเนียมเลย ที่คนไปบ้านสวนฯจะน้อยลง อาทิตย์นี้มีคนเข้าบ้านสวนฯแค่ 10 กว่าคนเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นปัญหาเลย

มีงานผสมปูนเทลงหลุมเสา 18 ต้น ตอนแรกหนักใจว่าจะเสร็จหรือเปล่าเพราะคนน้อย แต่ปรากฏว่าคนน้อยแต่ได้เนื้องานมากมาย เราแบ่งหน้าที่กันทำอย่างลงตัว ไม่ถึง 4 โมงเย็นงานเทปูนก็เสร็จสิ้นเรียบร้อย ทั้งๆที่อากาศร้อนจัดมาก เราดื่มน้ำเย็นหมดไปหลายกระติกเลยที่เดียว หลังจากกลับจากเทปูน เราก็หางานทำใหม่โดยไปปีนนั่งร้านติดกระจกท่านพ่อดตาจินินกันจนตะวันตกดินมองไม่เห็น จึงพากันกลับมาอาบน้ำทานข้าว

ในวันอาทิตย์ วันนี้คนทยอยกันกลับในตอนเช้าหลายคน ก็เลยยิ่งเหลือน้อยลงไปอีก หลังจากทานข้าวเช้าแล้ว ก็ไปปีนนั่งร้านติดกระจกองค์ท่านพ่อดตาจินินกันอีก โอย! แสนสบายไม่มีคนแย่งติดกระจก เรามีสมาธิในการทำงานมาก งานก็เดินเยอะมาก ผลงานก็ออกมาสวย ติดกระจกกันได้เยอะมาก ทำเพลินจนกระทั้งถึงบ่ายโมงจึงพากันลงมาทานข้าวเที่ยงกัน

เจี๊ยบขอแบ่งบุญให้แก่ทุกๆคนนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-21 23:26:24


ความคิดเห็นที่ 8579 (1657093)

 อนุโมทนากับทุกๆท่านที่ได้ไปร่วมบุญ

ที่บ้านสวนในอาทิตย์นี้ด้วยนะคะ

ถึงแม้คนจะน้อย แต่ก็หาได้เป็นปัญหาไม่

งานเดินไปได้อย่างรวดเร็วตามปกติ 

สังเกตมาหลายครั้งแล้วค่ะ

เวลาที่คนน้อยๆทีไร

งานจะออกมาดี และรวดเร็วมาก

(แต่ไม่ได้หมายความว่าเวลาคนเยอะแล้วงานช้าหรือไม่ดีนะคะ)

สงสัยเป็นเพราะคนน้อยเราก็ต้องใช้กำลังใจที่มากมายเลยทีเดียว

งานจึงจะสำเร็จและออกมาสวยงาม 

กำลังใจยิ่งมาก บุญก็มากตามไปด้วย 

สาธุกับทุกๆท่านด้วยคร๊าาา

************************

อนุโมทนากับพี่ตุ้ย พี่หนึ่ง และพี่เจี๊ยบด้วยนะคะ

เรื่องคุณไสยเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากๆค่ะ

ได้อ่านวิธีของพวกที่เล่นคุณไสยแล้วยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก

วิธีไหนที่บ้านสวนเผยแพร่ทำได้

พวกนั้นก็นำมาเล่นคุณไสยกันได้เช่นกัน 

คุณไสยเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น 

หากเราเผลอไปกินของๆใคร

หรือศีลไม่บริสุทธิ์ และอีกหลายๆอย่าง

สิ่งของต่ำๆเหล่านี้ก็เข้ามาทำร้ายเราโดยง่ายๆได้เช่นกัน

ท่านอาจารย์จึงเมตตาพวกเราเสมอ

ว่าให้รักษาศีลให้บริสุทธิ์

ไม่ให้พวกเราเห็นแก่กิน

ไม่ให้คบคนชั่วเป็นมิตร 

เพราะสิ่งที่ท่านอาจารย์บอกเรา

ท่านรู้มาก่อนแล้ว

จึงได้นำมาสอนพวกเรา

 

 

วิธีพวกนี้เป็นวิธีที่สกปรกจริงๆค่ะ เหมือนหมาลอบกัด

คอยทำร้ายผู้อื่นทางอ้อม

หากเราไม่มีจิตที่เกาะเกี่ยว

 

ท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

 

คุณไสย มนต์ดำเหล่านี้

ก็พาให้เราตกขบวนกลับบ้านได้โดยง่ายๆเลยเหมือนกัน

 

 

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ ที่เมตตาพวกเราเหลือเกิน

สิ่งไหนที่ขัดขวางความสุข ขัดขวางโชค ลาภ เงินทอง

หน้าที่การงาน และสิ่งไหนที่ทำให้เราทุกข์

อาจารย์ก็เมตตาช่วยขจัดสิ่งนั้น ออกไปให้ไกล

เพื่อไม่ให้พวกเราทุกข์ เพื่อให้เรามีแต่ความสุข

จิตใจอาจารย์ช่างเป็นผู้ให้

ความรัก ความเมตตาอย่างแท้จริง

และยิ่งใหญ่เหลือเกินค่ะ

กราบขอบพระคุณจริงๆค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-22 02:56:51


ความคิดเห็นที่ 8580 (1657103)

 อนุโมทนากับธรรมทานของทุกท่าน  

วันนี้ได้อ่านเรื่องคุณไสยมนต์ดำแล้วน่ากลัวจริง ๆ

เพราะตัวเองก็เคยเล่นคุณไสย์มาก่อน

 พอได้มามารับรู้ความจริงจากธรรมทานบ้านสวน

 รู้สึกหนาวเลยค่ะ  เพราะพิษสงร้ายกาจมาก

ถึงกับไปฝังตัวอยู่กับ DNA ของเรา

มันก็จะติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ  

     กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน

สมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา  

พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์  พระศรีอาริยเมตไตร  

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ  ท่าน อ. อุบล

ที่ได้เมตตาช่วยเหลือพวกเราทุกอย่าง

 สิ่งไหนที่จะทำให้พวกเราทุกข์

 ท่าน อ. ช่วยเหลือให้พวกเราได้พ้นทุกข์  

ในชีวิตเราคงจะหาใครที่มีความรักความจริงใจ  

ทำเพื่อเราทุกอย่างแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว  

นับว่าเป็นบุญอย่างที่สุดที่ชาตินี้ได้มารู้จักท่าน อ. อุบล  

     ลูกขอตั้งจิตอธิษฐานต่อท่านพ่อดตาจินิน  พระพุทธเจ้าทุก ๆ

พระองค์  พระศรีอาริยเมตไตร เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ  

สิ่งศักดิ์ทุก ๆ พระองค์ และท่าน อ. อุบล  ว่า

นับแต่วินาทีนี้  ลูกไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่อ

คุณไสยมนต์ดำอีกต่อไป  

        และลูกขอบารมีของทุก ๆพระองค์  

ช่วยให้ลูกมีจิตใจเข็มแข็ง อำนาจของคุณไสยมนต์ดำ

อย่าได้เข้ามาถึงตัวลูกได้เลย สาธุ

 กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-22 09:28:40


ความคิดเห็นที่ 8581 (1657115)

 

(ต่อ)


ขอบคุณธรรมทานของทุกท่านค่ะ

นับว่าสัปดาห์นี้ท่านอาจารย์เน้นเรื่องคุณไสย์มนต์ดำมาก

เพราะมีอยู่แทรกซึมทุกชนชั้น วรรณะ

เรียกว่ายากดี มีจน ก็ล้วนเล่นคุณไสย์มนต์ดำกันมาหมด

ส่วนวิธีที่จะสังเกต

ว่าใครเล่นคุณไสย์บ้าง ก็ดูได้ไม่ยากค่ะ คือ

คนนั้นจะมีความทุกข์ทุกด้าน

ทั้งการงาน การเงิน ทำให้ธาตุในร่างกายไม่ปกติ

ผู้ที่เล่นคุณไสย์จิตใจ

จะวิตกกังวลตลอดเวลา จะฟุ้งซ้าน เป็นคนขี้อิจฉา

ไม่อยากให้ใครได้ดี

และที่สำคัญเป็นคนขี้โกรธ ขี้โมโห

อย่างนี้คุณไสย์เข้าครอบงำได้ง่ายเลยค่ะ

และทางกายภาพก็คือ ริมฝีปากจะดำคล้ำ

ตาแข็ง ซึ่งก็เป็นวิธีที่จะดูประกอบได้ค่ะ

วิธีการที่เราจะรับคุณไสย์มนต์ดำเข้าตัวได้

ก็ให้สังเกตดูจากปรากฎการณ์ของบ้านสวน

เช่น การกราบ การชื่นชม

การมองรูป การมีจิตระลึกถึง การสัมผัส

การพูดคุย การแชต หรือเข้าเว็บไซต์ 

เราก็จะได้รับพลังสีขาว ทำให้หายเจ็บป่วย หรือดีขึ้น ตรงกันข้าม

ถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้กับผู้ที่เล่นคุณไสย์ เราก็จะรับมาแบบเต็มๆ ค่ะ

และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราโดนคุณไสย์มนต์ดำหรือไม่

หรือว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนเล่นคุณไสย์ ท่านอ.อุบล

ได้บอกไว้คือให้พวกเราเช็คได้โดยการกำหนดจิตถามท่านพ่อดตาจินิน

หรือใช้ รหัส อ.อุบลช่วยด้วย การกำหนดจิตถามก็คือให้เรานึกในใจ

ไม่ต้องออกเสียง ยกตัวอย่างเช่น

 

"ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน หากนาย ก.

ทำคุณไสย์ใส่ข้าพเจ้าจริง ขอให้ ป้า ข. 

(ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยที่เราจะทดสอบ

ที่ไม่ใช่ตัวเรา)

หายโดยฉับพลันทันที หรือดีขึ้นด้วยเถิด" 

 

จากนั้นเราจึงบอกแก่ป้า ข.โดยออกเสียงบอกเขาว่า

 

"ถ้าสิ่งที่เรากำหนดจิตถามเป็นจริง ก็ขอให้

อาการของป้า ข. ดีขึนหรือหายด้วยเถิด" 

 

เท่านี้ค่ะ เราก็จะทราบได้ค่ะ

เพราะการกำหนดจิตถามนั้นเป็นพระเมตตาจากท่านพ่อดตาจินิน

ไม่ใช่ตัวเรา จึงมีความแม่นยำ

และเชื่อถือได้แน่นอน 100% ค่ะ สาธุ

และสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ

หากเราไม่ต้องการรับคุณไสย์มนต์ดำ

ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคุณไสย์มนต์ดำอีก

เราต้องใช้การอธิษฐานบารมีร่วมด้วยคือ

ให้ท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้า

ขอบารมีท่านอย่าให้เราหลงผิด ให้มีสติ ให้มีคนดีมีเมตตามาช่วยเรา

ขออย่าให้คุณไสย์มนต์ดำมาข้องเกี่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม 

นับว่าการอธิษฐานจิตมีพลังอานุภาพมากนะคะ 

และเราก็ควรน้อมกาย วาจา ใจ

ของเราระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าด้วย

หรือเวลาใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย

ก็ต้องมีจิตระลึกถึงท่าน ไม่ใช่สักแต่พูดไปเรื่อยเปื่อย

และในค่ำคืนนั้นท่าน อ.ก็เมตตา

ทำน้ำทิพย์ที่สำหรับถอนคุณไสย์

และเป็นเกาะกำลังปกป้องพวกเราไม่ให้รับคุณไสย์เข้าตัว

ทั้งยังทำให้มีสติ ปัญญาเข้มแข็ง รู้เท่าทัน

ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคุณไสย์มนต์ดำอีก

ของตุ้ยนั้นเมื่อท่านอ.เมตตาทำให้เสร็จก็ได้จิบดื่มไป

รู้สึกว่าขนลุกก่อนเลยค่ะ และก่อนหน้านี้มีอาการปวดหัวด้านขวาตึ้บๆ

แต่พอจิบนำทิพย์แล้ว อาการปวดหัวหายไปเลยค่ะ

และตามมาด้วยอาการร้อนผ่าวที่ใบหน้า

เหมือนมีความร้อนออกมาตามรูขุมขนบนใบหน้า จนเหงื่อซึม

จึงคิดว่าแอร์ร้อนหรือเปล่าเหลือบไปดูอุณหภูมิห้อง

ก็อยู่ที่ 26-27 องศา

ซึ่งเย็นกว่าทุกครั้งที่เจอมา

และทุกครั้งที่จิบน้ำก็จะรู้สึกความร้อนออกมาตลอดค่ะ 

คงเป็นเพราะคุณไสย์มนต์ดำที่เคยเล่นมามากมายค่ะ

ไม่ว่าการทำผงไปโรยบ้านคนอื่น

หรือจะรับน้ำมนต์แม่หมอมาประพรมที่บ้าน

รวมทั้งการไปตำหนักทรงต่างๆ กับครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก

ทั้งทำลงนะ หน้าทอง

โอ๊ย เรียกว่ารับมนต์ดำ พลังมืดมาแบบเต็มๆ

ท่านอ.เมตตาบอกตุ้ยด้วยว่า

ตุ้ยนั้นเล่นคุณไสย์มาตั้งแต่สมัยอียิปต์ ทำใส่ผู้หญิงกลัวเขาไม่รัก

ซึ่งก็จริงค่ะ เพราะมาชาตินี้การที่เราไปทำ

สาเหตุก็มาจากเพราะความรัก (แบบผิดๆ)

กับสามีเท่านั้นจริงๆ และยังส่งผลให้ตัวเองมีอุปสรรคในชีวิตทุกด้าน

ดังที่กล่าวมา ริมฝีปากดำคล้ำ

เพราะมนต์ดำได้เข้าสู่กระแสเลือด

ฝังลึกในธาตุทั้ง 6 ของเรา

และติดตามไปทุกภพชาติ เฮ้อ พูดแล้วอานุภาพ

ของคุณไสย์มนต์ดำนี้น่ากลัวจริงๆค่ะ

และตุ้ยเองก็ขออธิษฐานจิตขอบารมีท่านพ่อ

จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคุณไสย์มนต์ดำอีกต่อไป ไม่ว่าภพชาติใด

ขอให้มีจิตใจเข็มแข็งให้สิ่งเหล่านี้ทำอะไรเราไม่ได้

ขอบารมีทุกพระองค์นำส่งจิตวิญญาณมนต์ดำทั้งหลาย

ขึ้นไปอยู่ในภพภูมิที่สุขยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเถิดเจ้าค่ะ

จะยึดมั่นใน คำสอนพระพุทธเจ้า

และขอกลับบ้านนิพพานให้ได้ค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-22 10:29:02


ความคิดเห็นที่ 8582 (1657127)

ธรรมทานสุดสัปดาห์ของบ้านสวนพีรามิด 20-21 เมย.56

โดย ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ

วันนี้มีกิจกรรมก่อสร้างเพียงฐานเดียว เพราะคนมากันน้อย และมีงานเทฐานเสาที่ลุงบุญตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จ เข้ามาสายแล้ว แต่ทันทำกิจกรรมขนหินช่วงเช้า ได้เห็นน้องมิ้มจัดน้ำพีรามิด และไม่ให้ทานน้ำอัดลมต่างๆเพื่อล้างมนตร์ดำ ตอนกลางวันเดี๋ยวนี้ ท่านอจ.อุบล ให้พวกเราทานอาหารพร้อมกัน และท่านเดินออกมาให้พร ให้อาหารน้ำที่เราจะทานเป็นอาหารทิพย์ เพื่อขับไล่มนตร์ดำ

ธรรมทานค่ำคืนนี้ รวมทั้งเย็นวันอาทิตย์ ท่านก็ยังเน้นย้ำถึงมนตร์ดำ หรือยาสั่งที่ผู้ทำจะใส่ลงน้ำและอาหาร โดยผู้ทำจะใช้สังเสทชะ ของเสีย เหงื่อไคลที่หมักหมมในร่างกาย หรือของตำเช่น ผ้าอนามัย มาใส่ปนเปื้อนในอาหาร ดังนั้นการไปทานอาหารที่ไหนควรจะรู้ที่มาของอาหาร และอย่าไปตักน้ำที่เป็นของรวมๆทานด้วยกัน เพราะอารมีผู้ใส่ยาสั่งให้เราทานตลอด

คนที่เล่นคุณไสยมนตร์ดำ ปากจะเป็นสีดำ มีอาการเจ็บปวดตามร่างกายเสมอๆ จิตใจจะกังวล ประสบการณ์คนที่พยายามทำมนตร์ดำใส่ท่านอจ.ที่เราเคยพบคือ คุณโชค ที่เคยมาบ้านสวน และมายืนจ้องๆๆๆๆหน้าอาจารย์ เหมือนทำเสน่ห์ ซึ่งเขาทำกับหญิงอื่นก็รักหลงเขา แต่ไม่ได้ผลอะไรเลยกับท่านอจ.อุบล เมื่อกรรมรวมตัวเขาจึงเจ็บปวดจนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่เมื่อนึกถึง อจ.อุบล ช่วยด้วยก็รอดมาได้ เขาจึงกลับมาบ้านสวน และแสดงธรรมทาน ถึงกรรมแห่งการใช้มนตร์ดำ บังอาจจะทำกับ อจ.อุบลด้วย แต่ก็ยังเอาของต่ำ ถือถุงฉี่เข้ามาบ้านสวนอีก ไม่รู้ว่ามาทำมนตร์ดำใส่บ้านสวนอีกหรือเปล่า??

เมื่อเราไปชมหรือนิยมชมชอบคนที่มีมนตร์ดำ สิ่งชั่วร้ายก็จะเข้าตัว ตรงกันข้ามการชมชอบผู้มีศีล อย่างอจ.อุบลว่าสวยก็จะมีแต่มนตร์ขาวไปคุ้มครอง การใช้รหัสอจ.อุบลช่วยด้วยก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปรักษา แต่ตรงข้ามถ้าไปกราบไหว้มาร มนตร์ดำก็จะเข้าตัว
จิต ใจที่เกาะเกี่ยวกับอจ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของท่านทุกพระองค์เท่านั้น จึงจะล้างคุณไสยออกจากตัวได้ แต่ถ้าประตูจิตไม่เปิดก็ไม่หาย นอกจากนั้นต้องหมั่นอธิษฐานบารมี ขอบารมีท่านพ่อดตาจินินมาปัดเป่าคุ้มครองด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-22 13:17:02


ความคิดเห็นที่ 8583 (1657133)

การรับมนตร์ดำของจุ๋ม
ตอนเข้าค่าย 14 เมื่อได้ทราบว่า ลีลาการตระบัดสัตย์ของคุณอ้อยเอง และการมีจิตใจย่อท้อจะไม่มาบ้านสวน ไม่ทำตามคำสัตย์ที่ให้ไว้กับท่านพ่อดตาจินิน เป็นสาเหตุให้อจ.อุบล ต้องขอเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อให้คุณอ้อยได้มีชีวิตอยู่ ทั้งนี้คุณธนา ก็ยังได้รับมนตร์ดำนี้นึกสงสารคล้อยตาม  ให้ท่านอจ.ต่ออายุ คุณอ้อย คุณธนาก็ถูงโยงมารับอานันตริยกรรมกับ คุณอ้อยไปด้วย ดังนั้นการแลกชีวิตของท่านคือเพื่อ 2 คนนี้

ในค่าย 14 ความรู้สึกของคนเองนั้น มีอารมณ์โกรธเกลียด คุณอ้อย คนมีกิเลสหนาทำผิดแล้วผิดอีก ต้องเป็นภาระให้อจ.จนถึงกับชีวิต เห็นคนนั้นบีบน้ำตากัน ไปกราบตักท่านอาจารย์ พูด I"m sorry กับภาษาต่างดาว ก็แปลกใจว่าทำไมไม่พูดไทยให้คนรับรู้ เขาไม่น่าจะอยากพูดสักเท่าไรจึงพูดภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง ออกมายังได้พูดทีเล่นทีจริงกับเขาเลยว่าพูดภาษามนุษย์ต่างดาวเหรอ??? สักแป๊ปก็ไปถ่ายรูป ยิ้มแย้ม สนุกสนานกันต่อ กลางคืนก็บันเทิงกันอีก วันนั้นก็พลอยหัวเราะไปกับการประกวด แต่ก็คิดไปถึงผีนางสงกรานต์ บรรยากาศเศร้าขนหัวลุก

ในคืนวันเสาร์20เมย.อารมณ์เกลียดผู้คนในวันนั้นยังค้างอยู่ เห็นคนมาวิจารณ์คุณอ้อยว่า ไม่ได้เศร้าสลดอะไร กลับไปโกรธลูกบ้านสวนคนอื่น ลุกขึ้นมาตอบว่าทุกคนก็ดูรื่นเริงไม่สลดอะไรกันเท่าไร เห็นมาว่าแต่คุณอ้อย ตนเองและน้องๆคนอื่นต่างก็ชื่นมื่น กระโดดโลดเต้นกันสุดเหวี่ยง ซึ่งการไปเข้าข้างคนผิดนี้ คุณธนา จึงได้เฉลยว่าตนเองก็ได้รับมนตร์ดำไปด้วย จึงไปเข้าข้างคนผิด ทั้งที่ก็รู้ว่าเขาคือสาเหตุ

เช้าวันอาทิตย์ก็มีอาการว้าวุ่นอีก จิตภายในบอกว่าตนเองจะไปเข้าข้างคนผิด ไปหาซื้อธูปเทียนแพ 3 ชุด จะมากราบขออโหสิ อจ.อุบล อจ.มงคล คุณท๊อปที่ล่วงเกิน คุณธนาและคุณแมว ก็เรียกมาบอกว่า น่าจะโดน คุณไสยเหมือนกัน ทำให้มีจิตใจโอนเอียง ตัวเองไม่ได้เป็นสาเหตุหรอก  ตอนกลางวันท่านอจ.อุบล เดินออกมา ก็ขอให้ท่านรับธูปเทียนแพไว้ สาเหตุคือตนมีจิตโอนเอียงไปเข้าข้างคนผิด ท่านก็เมตตารับไว้ ให้เราสบายใจ

ตอนบ่ายวันอาทิตย์จิ๋มได้มาเล่าเป็นธรรมทานว่า จุ๋มไปบ่นถึง ลูกบ้านสวนคนเก่าๆ ว่าอยากช่วยเขาให้รอดจากภัยพิบัติ ซึ่งแต่ละคนเป็นมารตัวเอก ที่จ้องจะมาหมิ่นศักดิ์ศรี และทำลายล้างอจ.ทั้งสิ้น  เมื่อ
ท่านเตือนสติว่าอาการหนักเหมือนกัน ต้องหยุดทุกอย่างลงด้วยปัญญาของตนเอง จึงจะหลุดพ้นย้อน กลับไปในเรืองขอขมาคิดว่าจิตฝ่ายดีของตนเองมาเตือนจริงๆว่าได้หลงทางหามาร ให้มาสารภาพบาปสำนึกผิดกับเจ้าของบ้านสวนพีรามิดทุกท่าน แต่มารตัวจริงเขามีจิตคงไม่มีจิตจะสำนึกผิดเหมือนตนเอง

สุดท้ายกลับบ้านคืนวันอาทิตย์นี้ ได้ลองใช้อธิษฐานบารมีกับท่านพ่อดตาจินิน หามารตัวจริง นึกในใจว่า ถ้าคนนั้นเป็นมารตัวจริง ให้ท่านยืนยันโดยให้แม่บ้านของจุ๋ม เขาเป็นต้อหิน ตาฝ้ามัวมากใกล้จะบอดไป 1 ข้าง กลางคืนนั้นเขาก็ว่าดีขึ้นทันที ตอนเช้าตื่นขึ้นมาบอกว่าเขาตาใสเห็นชัดเจนขึ้นมาก เลยให้เขาขอบคุณท่านพ่อดตาจินิน และท่านอจ.อุบล  สรุปว่าจุ๋มทราบแล้วว่าใครคือมารตัวจริง ที่ทำมนตร์ดำใส่ลูกบ้านสวน
ขอ บุญทุกบุญที่จุ๋มสะสมมาในบ้านสวนพีรามิด ปกป้องคุ้มครองคนดีทุกคนในบ้านสวนพีรามิด มารตนใดอย่าได้ย่างกรายเข้าบ้านสวนได้เป็นอันขาด นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป____ลูกบ้านสวนคนนี้ขอใช้รหัส อจ.อุบลช่วยด้วย ใช้ดัชนีไฉไลของอจ.อุบล ของให้สัมฤทธิ์ผลด้วยเทอญ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-22 14:38:57


ความคิดเห็นที่ 8584 (1657158)

กราบอนุโมทนาธรรมทานจากลูกบ้านสวนทุกท่าน  เรื่องคุณไสย์มนต์ดำ

พึ่งจะเข้าใจตอนนี้เอง  ตัวเองก็น่าจะได้รับมานานแล้ว  เพราะทางเหนือมี

พวกร่างทรง พวกชอบรับขันจากร่างทรง พวกเลี้งกุมารทอง  ทุกคนก็เป็น

เพื่อนที่คบหาทั้งนั้น  ก็รู้ แต่คิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เราไม่ได้เกี่ยว

ข้องอะไร ยิ่งเขาบอกมีเทพมีองค์ก็ยิ่งไม่กล้า กลัวค่ะ   มาหลังๆ ช่วงที่แจก

เอกสาร รหัส อ.อุบลช่วยด้วย คาถาท่านท้าวเวสสุวรรณ คาถาปะโตเมตัง 

เริ่มบำบัดด้วย รหัส อ.อุบลช่วยด้วย  จู่ๆ คนที่พูด อ.อุบลช่วยด้วย ก็ผีเข้า

เป็นผีเด็ก กว่าจะออกได้ก็นาน   บางคนเรียกระหัส อ.อุบลช่วยด้วย ก็สั่น

ไปทั้งตัว ให้ดื่มน้ำพีระมิด เขาก็เรอ เหมือนอยากอาเจียนแล้วก็หายปลิดทิ้ง

ส่วนตัวเองจะเป็นคล้ายน้องหนึ่ง  วันไหนรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ก็จะดื่มน้ำพีระมิด

แล้ว ขอ อ.อุบลช่วยด้วย  บ่อยมาก ที่ปวดท้องแล้วถ่ายเป็นสีดำ  บางครั้งก็เป็น

แบบน้องตุ้ยเหงื่อออกเป็นเม็ดใหญ่ๆ รู้ว่าผิดปกติ เป็นอยู่ประจำค่ะ

      ตั้งแต่นี้ไป ลูกจะไม่อยู่ใกล้พวกเล่นคุณไสย์ จะไม่ไปเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น

จะหนีห่างที่สุด จะไม่มีเพื่อนก็ยอม  หากคุณไสย์ยังค้างในตัวลูก  ขอบารมีท่าน

พ่อดตาจินิน  องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา พระนางเนเฟอร์ตารี  ท่าน อ.อุบล

โปรดเมตตาช่วยลูกด้วย ให้ลูกหลุดพ้นด้วยเถิด     สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณหมวย พรรณสรลี ชูตระกูล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-22 20:58:34


ความคิดเห็นที่ 8585 (1657159)

วิเคราะห์เหตุการณ์ค่าย 14 กับการเปิดเผยตัวตนของมาร

 ใครจะไปนึกว่า บ้านสวนพีระมิด ที่มีแต่พลังงานสีขาว แห่งคุณความดี จะมีมารแอบแฝงตัวเข้ามาอย่างเงียบกริบ และค่อย ๆ บ่อนทำลายบ้านสวนมาอย่างต่อเนื่อง เราเข้าใจว่าพวกมารที่คอยแต่จะจ้องทำลายบ้านสวนพีระมิดคงมีแต่พวก เพจปลอมเท่านั้น แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ คนที่มาบ้านสวนมายาวนานนั่นแหละก็เป็นไปได้
 วันที่เราได้ร่วมงานค่าย 14 เป็นอีกวันนึงที่พวกเราลูกบ้านสวนตั้งตาคอย ที่จะมีการอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอร์ตารี ที่เป็นดวงจิตสำคัญที่มีบารมีเหลือล้น ที่จะเข้ามาช่วยท่านอาจารย์อุบล ในการกอบกู้ ชาติ ศาสนา และมหากษัตริย์ แต่ใครจะรู้ว่าวันนี้ เป็นวันที่ถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่ ครูบาอาจารย์ผู้ให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดอย่าง อ.อุบล จะเมตตาแลกชีวิตกับ ลูกศิษย์คนนึงซึ่ง ทำบาปมหันต์ (บาปนั้นก็คือ ลบหลู่ ดูหมิ่น องค์ผู้กำเนิดโลก และทุกสิ่งในจักรวาล) อย่างท่านดตาจินิน เพราะศิษย์ที่กล่าวถึงนี้ ได้ทำการแอบอ้างว่าตนคือ ผู้ที่สือสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ สามารถพูดภาษา แปลกประหลาด ที่เข้าใจกันเองว่าเป็นภาษาเทพ ฟังไม่เข้าใจ แต่ดูขลังดี ทำให้ลูกบ้านสวนที่สติปัญญาต้อยต่ำ เชื่อและหลงกันว่าเป็นจริง  จริงๆ แล้วถ้าวิเคราะห์กันให้ดี อ.อุบล ครูบาอาจารย์ของเรา เป็นผู้มีบารมีสูงส่ง สามารถสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ และเวลาท่านมาบอกพวกเรา ท่านก็ใช้ภาษาไทย ที่ฟังเข้าใจรู้เรื่อง ไม่เห็นต้องพูดภาษาเทพ (หรือภาษามาร?) ท่านสื่อสารได้แล้ว ทำไมท่านต้องให้วิญญาน หรืออะไรสักอย่างมาเข้าร่างลูกศิษย์และพูดภาษาแปลก ๆ ด้วยเล่า  โธ่ น่าสมเพชลูกบ้านสวนปัญญาทรามอย่างจิ๋ม ไปหลงเชื่อเขาอย่างเต็มเปา
 มาร คนนั้นเขาทำภารกิจอย่างอาจหาญมานาน เหมือนน้ำซึมบ่อทราย จนในที่สุดเขาทำสำเร็จระดับนึง ขนาดที่ทำให้ท่านอ.อุบล ยอมแลกชีวิตด้วย  ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาได้ทำคุณไสย มนต์ดำ ใส่พวกเราทุกวัน ด้วยวิธีการต่าง ๆ นา ๆ ทำให้พวกเราหลงเชื่ออย่างงมงาย  จุ๋ม พี่สาวจิ๋มก็โดนอย่างเต็มเปา ไปเข้าข้างเขา จิ๋มเองก็เช่นกันมีจิตสงสารเขาว่าถูกรุม แท้จริงแล้ว เราน่ะแหละโง่มาก ไปเชื่อมาร ไปสนับสนุนมาร

 วันนั้นคืนวันเสาร์ที่อ.อุบลเมตตาทำน้ำทิพย์  จึงให้แต่ละคนพูดออกมาว่าอยากให้น้ำทิพย์แก้มนต์ดำอย่างไร ทุกคนในห้อง พูดและขอพรในทำนองเดียวกันว่า ขอให้คุณไสย มนต์ดำออกจากตัวเรา มีแต่ คุณอ้อยคนเดียว ที่พูดว่าขอให้ ตัวเขา และจิตเขาอย่าไปคิดร้าย หรือใส่มนต์ดำใส่ใคร (พูดทำนองนี้นะคะ ไม่ได้พูดอย่างนี้แป๊ะ แต่ใจความเป็นเช่นนั้น) นอกจากนี้  ตอนเพื่อนบ้านสวนคนอื่น พากันถามว่า พอคุณอ้อยรู้ว่าอ.อุบล ยอมสละชีวิตแทน ทำไมเศร้า แค่แป๊ปเดียว เสร็จแล้วก็ยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  จิ๋มได้ยินเขาพูดว่า เขาก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เหมือนกับไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองผิด โทษตลอดว่า ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไร มาวิเคราะห์กันเถอะว่า คนที่เป็นมนุษย์ และอยู่ในทางธรรม สติ สัมปชัญญะเป็นเรื่องสำคัญ จะทำอะไรควรจะรู้ตัวทั่วพร้อมเสมอ เขาได้แต่บอกว่า เขาไม่รู้ตัวว่าเขาทำอะไร และร้องไห้สะอึกสะอื้น ขอกลับไปพิจารณาก่อนว่า เขาทำผิดอะไร
 ฟังแล้วอึ้งจริง ๆ ค่ะ ทำผิดก็ยังไม่รู้ตัว  ถ้าคุณอ้อยยังคิดไม่ออก ยังไม่สามารถเรียกสติกลับมา ก็ขอความกรุณาอย่าเข้ามาเหยียบดินแดนสีขาวอย่างบ้านสวนพีระมิดอีกเลย เราต้องการคนที่มีสติเท่านั้น พวกที่จิตล่องลอยไร้จุดหมาย น่าจะไปที่ชอบ ที่ชอบ คือ ที่ที่คุณชอบไปที่อื่นดีกว่านะคะ
คิดแล้วเศร้า เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. ลูกบ้านสวนต้องมีปัญญามากกว่านี้ แยกแยะให้ได้ว่า คนไหนมาร คนไหน ไม่ใช่
2. อย่าไปปลื้มกับความสวยงาม หรือความดีเล็ก  ๆ น้อย ๆ แต่เปลือก มองคนให้ทะลุ อย่ามองด้านเดียว เช่น จุ๋ม และ จิ๋ม มองใครว่าดีไปหมด ไม่ใช้ปัญญาเอาเสียเลย
3. ระวังคุณไสย มนต์ดำให้ดี อย่านึกนะ ว่ามีมารเพียงคนเดียวรอบตัวเรา  ยังมีอีกเยอะ ที่พวกเราต้องช่วยกันหา และทำให้เขากลับใจ หรือไม่ก็ช่วยอัญเชิญเขาไปทำคุณไสยที่อื่น ไม่ใช่ที่บ้านสวน
4. พวกเราต้องเชื่อครูบาอาจารย์  อย่านึกเอง เออออไปเอง มีอะไรก็ถามท่านบ่อย ๆ ท่านหรือก็เมตตามากมาย ให้ท่านคอยแนะ และหัดฝึกปรือปัญญาให้มากขึ้นด้วย

 หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจกับพวกเราลูกบ้านสวนฯ และช่วยกัน ร่วมใจกันไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ขอบารมีท่านดตาจินิน อ.อุบล พระนางเนเฟอร์ตารี จงบังคับจิตของพวกเรามิให้ตกไปในที่ชั่ว และขอให้ยึดมั่นความดี นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้ มนต์ดำ จะได้ไม่ครอบใจเรา

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-22 21:06:02


ความคิดเห็นที่ 8586 (1657161)

โมทนาบุญกับธรรมทานของทุกๆท่านค่ะ  ที่เขียนธรรมทานของมนต์ดำคุณไสย  ตัวหนูก็เคยเจอกับตัวเอง และคิดจะทำคนอื่นด้วยค่ะ  สำหรับตัวเองที่เจอคือ จิตใจไม่มีความสุขจะอยู่นิ่งๆไม่ได้เลยกว่าจะดีได้ถึงขนาดนี้ต้องเข้ารพ. บ้าและกินยาไดอะซีแพมไปหลายปีค่ะ เวลาพูดๆดอาแต่ฝ่ายเดียวไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรกับคนที่เราพูดถึง แต่พอมีใครมาห้ามรู้สึกว่าเราเสียหน้ามากๆ ตอนแรกๆ ก็รับไม่ได้เลยค่ะ พอฝึกนานเข้าก็ค่อยดีขึ้นได้แค่ทุกท่านสัมผัสเห็นยังต้องปรับปรุงอีกเยอะเลยแต่ถึงแม้ว่าจะท้อแท้ไปบ้างแต่ต้องสู้กับมารในตัวเราให้จนได้แม้จะใช้เวลามากๆก็ตามถึงแม้ชาตินี้จะไม่สำเร็จ แต่ก็ดีกว่าไม่คิดจะทำอะไรเลยไม่ใช่หรือค่ะ  แถวบ้านที่นครศรีธรรมราชเคยเจอตั้งแต่เด็กๆ  ทั้งพี่สาว  พี่ชาย  หลานของตัวเอง  และตัวเองก็โดนกันทั้งตระกูลเชียวละ  ทั้งไปตำหนักทรงๆ สิงๆ   และพี่ชายก็เป็นร่างทรงอยู่เลยค่ะ จำได้หนูเองไปกับพี่มวลไปดานออกสิ่งที่ออกมาเป็นสิ่งที่สกปรกมากๆๆๆๆๆๆๆ  วิธีการทำดานออกของเขาที่หนูจำได้ คือ เขาเอาสายสิณโยงตัวพี่มวล  พร้อมใบตองหอเอาด้วยผูกไว้ใต้เท้าของพี่สาว และร่ายเวทมนต์ไปเรื่อยจนดีขึ้น และเปิดดูเห็นว่ามันสกปรกมากๆ เขาเอาไปลอยในคลอง และจำได้ว่าคนที่ทำพี่สาว คือหนุ่มแถวบ้านเขามาจีบพี่สาวๆ ไม่สนใจและไม่ได้ครอบครองพี่สาวเขาจะทำให้พี่สาวเป็นบ้าค่ะ  ตอนนี้พี่ก็ยังมีชีวิตอยู่ค่ะคิดว่าจะมีพลังงานสีดำอยู่ที่พี่มากๆ เคยฆ่าตัวตายด้วย แต่นำไปล้างท้องทันเลยรอดชีวิตมาถึงตอนนี้  แต่ความชั่วสก็จะปรากฎอยู่เสมอๆ  เช่นคิดฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเองพ่อเป็นคนบอกหนูเองตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ค่ะคิดจะหุบสมบัติของน้องนุ้ยและกรีดยางก็กรีดหน้ายางพังหมดเลย จนน้องบอกว่าพอแล้วบางครั้งเงินก็โกงน้องตลอดจนน้องนุ้ยต้องหนีไปบวช  ขนาดน้องสาวไปบวชชีก็ไปตีน้องนุ้ยถึงในวัดคิดว่าทำทุกอย่างเพื่อให้น้องนุ้ยอยู่บ้านไม่ได้ พ่อทราบเรื่องก่อนจะสิ้นลมได้โอนมรดกให้น้องนุ้ยโดยไม่ให้แม่ เพราะกลัวจะใจอ่อนเพราะถูกบีบ ตอนนี้พี่เขยก็ป่วยเป็นมะเร็งที่ลำคอและตัดจนพูดไม่ได้เลย จนพี่สาวขายสมบัติที่พ่อให้ใกล้จะหมดแล้วและเงินก็หมดแล้วคิดจะขายที่เหลืออีก

  ที่เขียนธรรมทานในครั้งนี้เพราะอยากให้ทุก ๆ ท่านที่ได้อ่านธรรมทาน  ควรจะไม่คิดไปยุ่งเกี่ยวกับมันเลย เพราะผลกรรมไม่จบแค่ตัวเรานะค่ะ  แต่ถึงโคตรของเราค่ะ ทะเลาะกันได้ไม่จบสิ้นคิดเอาเองทั้งนั้น ว่าตัวเองดี คนอื่นถ้าไม่เห็นดีกับเราชั่วไปหมดค่ะ  มันเป็นเช่นนั้นเอง   และยิ่งได้อ่านธรรมทานของน้องตุ้ย และหลายท่านค่ะบอกว่าโดนใจจริงๆ ค่ะมันกระแทกถึงกึ๋นจริงๆ  เพราะมันเจอ พบ  ประสบปัญหามากับตัวเองและตระกูลยังมีเยอะเลยค่ะแต่ไม่จะเขียนอย่างไรก่อนหลังนอกจากอ่านธรรมทานของทุก ๆ ท่านตอนต่อไปน่าจะคิดออกอีกเยอะคะ  หนูเองไม่อยากยุ่งเกี่ยวกัมเรื่องพวกนี้อีกแล้วค่ะ

อาจารย์อุบล ช่วยด้วย ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน  พระปฐมบรธรมบิดา  พระศรีอาริย์ พระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งมหาจักวาล เทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบล ทุก ๆ พระองค์พระพุทธเจ้าค่ะ อย่าให้ครอบครัวของหนูและพี่น้องตระกูลศรีสว่าง ขอให้ทุกคนอย่าหลงผิดอีกเลย  ให้มีสติ  ให้มีคนดีมีเมตตามาช่วยครอบครัวศรีที่กำลังหลงผิดขออย่าให่คิดเล่น คิดทำคุณไสย กับใครอีกเลย  และขออย่าให้คุณไสยมนต์ดำอย่ามาข้องแวะกับพี่ ๆ  น้อง หลาน  และบริวานหว่านเครือ  ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วยเถิด  ขอให้ความฝันที่หนูอยากเห็นพี่ น้อง และครอบ ของหนูปรองดองกันค่ะ  หนูอยากจะช่วยจริงๆ  แต่หนูไม่รู้จะช่วยอย่างไร แค่ตัวหนูเองยังเอาตัวไม่รอดเลยค่ะ คิดแล้วสังเวชใจมากนักตัวหนูเองยังคิดจะไปปลูกบ้านและทำสถานธรรม เพื่อช่วยพ่อ แม่ พี่ น้อง และญาติ ทั้งหมด  หนูคงคิดเองเองเช่นกันใช่ไหมค่ะ  กรรมใครกรรมมันต้องให้เห็นโลงศพแล้วค่อยหลั่งน้ำตา  ทุกท่านค่ะ  ที่หนูคิดแบบนี้ท่านว่าจะถูกหรือเปล่าค่ะ  ขอคำแนะนำจากใจจริงๆค่ะ  หนูเองไม่อยากเห็นพี่ น้อง สร้างกรรมอีกต่อไป  อยากจะหยุดกรรมของเขา แต่ก็ได้แต่คิด  และหนูขอความเมตตาท่านอาจรย์อุบล  และ กัลยาณมิตรทุกๆท่านนำไปคิดพิจารณาให้เรื่องเป็นธรรมทาน หนูเองบังอาจไปหรือเปล่าค่ะ  หากเป็นเช่นนั้นจริงๆหนูเองก็กราบขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะค่ะ และอโหสิกรรมให้หนูด้วยนะค่ะ เพื่อหยุดกรรมของตัวหนูเองค่ะ

กราบ กราบ กราบ    และกราบทุกๆ พระองค์พระพุทธเจ้าค่ะ

หากเรื่องที่หนูเขียนมีประโยชน์ขอให้หนูส่งผ่านด้วยเถิดเจ้าค่ะ สาธุๆๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-22 21:30:02


ความคิดเห็นที่ 8587 (1657170)

 ธรรมทานกิจกรรมวันเสาร์ที่ 20 เมษายน

ต่อเนื่องจากกิจกรรมค่าย 14 ที่ท่านอ.ได้เมตตาเฉลยเรื่องเหตุการณ์ที่ท่านอ.ได้แทรกแซงกรรมด้วยการขอต่อชีวิตของพี่อ้อยกับท่านพ่อดตาจินินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆพระองค์นั้น เป็นเหตุให้ท่านอ.ต้องเสียชีวิต

คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา 20 เมษายน ท่านอ.ได้เมตตาพวกเราก็ได้มีการพูดคุยถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในการที่ท่านอ.เอาชีวิตเข้าแลกกับพี่อ้อย, หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ทำให้หนึ่งรู้สึกสับสนกับการกระทำของพี่อ้อย

การกระทำของพี่อ้อยนั้น เป็นการสร้างสถานะการณ์บีบบังคับให้ท่านอ.อุบลต้องเอาชีวิตของท่านเข้าแลก กับ ชีวิตของพี่อ้อยและพี่ธนาไปด้วยนั้น

หนึ่งรู้สึกว่าพี่อ้อยได้มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนมาอย่างดี และ มีจุดประสงค์มุ่งร้ายทั้งกับท่านอ.อุบลและพี่ธนาอย่างแน่นอน

 

1.การรับสื่อจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ :

พี่อ้อยเริ่มปูพื้นสร้างเครดิตความน่าเชื่อถือให้ตนเองด้วยการแอบอ้างว่าตนเองได้รับสื่อและสัมผัสจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

อย่างที่เรารู้กันดีว่า คนที่จะรับสื่อหรือแม้แต่ได้มโนมยิทธินั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์ในระดับหนึ่ง  และจากเหตุการณ์หลายๆครั้งก็ทำให้เห็นถึงจุดอ่อนของพวกเราหลายๆคนคือการเห่อคนที่รับสัมผัสต่างๆได้ ทั้งกรณีป้าอุ๊ กล่องดำ, น้องขวัญ เป็นต้น

ในเมื่อพี่อ้อยก็ยังกินเนื้อสัตว์ ยังโกหกอยู่ แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนจะมาสื่อสารผ่านพี่อ้อยได้คะ และที่ผ่านมาการที่พี่อ้อยอ้างว่าตนเองได้รับสื่อสัมผัสต่างๆนั้นถ้าพี่อ้อยไม่สร้างเรื่องของมาแล้วจะให้เรียกว่าอะไร??

 

2. พี่ธนาคือคีย์แมนคนสำคัญคนหนึ่งของท่านอ.อุบลและลูกบ้านสวนซึ่งพี่ธนาก็ยังได้รับความไว้วางใจจากท่านอ.อุบลในการให้เป็นผู้นำกลุ่มจัดกิจกรรมต่างๆ และนอกจากนี้ในเวลาที่พี่ธนาเห็นพวกเราออกนอกลู่นอกทางหรือเห็นผิดเป็นชอบ เขาก็จะเป็นคนที่จัดหนัก จัดเต็ม เตือนสติให้พี่ๆน้องๆอยู่เสมอๆ และพี่ธนาก็คือคนที่รับสื่อรับสัมผัสจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้

ดังนั้นการสร้างเครดิตเรื่องการรับสัมผัสจากเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของพี่อ้อยก็คือ การพยายามสร้างเครดิตให้ตนเองเทียบเท่าพี่ธนานั้นเอง ซึ่งมันทำให้พี่อ้อยดูเป็นบุคคลสำคัญของบ้านสวนขึ้นมาทันที 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 02:56:07


ความคิดเห็นที่ 8588 (1657171)

 3.จากคีย์เวิร์ด ที่ท่านอ.เคยพูดกับพวกเราทุกคนว่า ท่านอ.จะไม่ยอมสูญเสียพวกเราคนใดคนหนึ่งไปอีกแล้ว หลังจากที่ได้เสียพี่เหมี่ยวไป คำพูดของท่านอ.นั้น อย่างที่เรารู้กันว่าท่านอ.เป็นผู้มั่นคงในศีลและเป็นผู้ปฏิบัติพระกรรมฐาน ท่านไม่โกหก และท่านคือคนจริง สิ่งใดที่ท่านเอ่ยปากมาแล้วท่านอ.จะช่วยอย่างเต็มกำลังอย่างเต็มความสามารถและไม่หวาดหวั่น

 

4.ในอดีตที่ผ่านมา ท่านอ.ได้เคยทำการขอต่ออายุให้กับพี่อมร ทำให้พี่อมรสามารถมีชีวิตอยู่ยืนยาวมาได้จนทุกวันนี้โดยพี่อมรให้เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ต่อว่า………, แต่เมื่อคืนวันเสาร์ที่ท่านอ.อุบลได้ขอต่อชีวิตให้พี่อ้อย และท่านได้ถามพี่ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่ออะไร  พี่อ้อยกับนิ่งเฉยไม่สามารถตอบคำถามได้ซึ่งดูเผินๆแล้วเหมือนกับเป็นคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ก็ถ้าคุณไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วทำไมคุณทำนิ่งเฉยเมื่อท่านอ.บอกว่าจะยอมตายแทนล่ะ ทำไมไม่รีบปฏิเสธไปล่ะ

คุณแสดงออกและพูดว่ารักท่านอ.อุบล ก็ในเมื่อรู้ว่าท่านอ.อุบลจะต้องตายแทนคุณทำนิ่งเฉยยอมรับโดยดุษฏีให้ท่านอ.ตายเนี่ยนะ!!

 

5.พี่อ้อยอ้างว่าตนเองได้รับการสื่อสารมาว่า หากท่านอาจารย์อุบลไม่ยอมรับว่าเป็นพระนางเนเฟอร์ตารี จะต้องทำให้สูญเสียบุคคลใกล้ชิดอีก” สิ่งที่พี่อ้อยสื่อมานี้ หนึ่งบอกตามตรงว่าไม่เชื่อในคำพูดของพี่อ้อยเพราะเหตุผลหลายๆอย่างประกอบกันคือ

----- >ในเมื่อท่านอ.อุบลเป็นผู้ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์บ้านสวนที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าทึ่ง น่ามหัศจรรย์ หายทันทีได้ นั้นก็หมายความว่า ท่านอ.เป็นผู้ที่สามารถสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โดยตรง แต่ทุกครั้งที่ท่านอ.ได้รับการสื่อสารก็จะมีผลที่มายืนยันคำพูดของท่านอ.ด้วยทุกครั้งไป

------ > ก็ในเมื่อเรื่องการยอมรับและไม่ยอมรับว่าท่านอ.อุบลในอดีตชาติเคยเกี่ยวข้อง เกิดเป็นพระนางเนเฟอร์ตารีมาก่อน เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ถึงขั้นต้องมีการสูญสาย แล้วทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงเลือกที่จะสื่อสารกับพี่อ้อยแทนที่จะสื่อสารกับท่านอ.อุบลโดยตรงคะ?? จุดนี้ถือว่าพี่อ้อยได้กล้าล่วงเกินต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะท่านพ่อดตาจินิน และพระนางเนเฟอร์ตารีมาก

------ >จากประโยคของพี่อ้อย ทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะต้องข่มขู่ท่านอ.อุบลด้วยคะ มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะต้องมาข่มขู่ท่านอ.อุบลและในเมื่อเรารู้กันอยู่ว่า ท่านอ.อุบลคือดวงจิตที่ถือกำเนิดมาจากท่านพ่อดตาจินิน ผู้เป็นใหญ่-ผู้สูงสุดในอนันตจักรวาลและเป็นผู้ให้กำเนิดทุกๆสรรพสิ่งในอนันตจักรวาล และท่านอ.ก็เป็นลูกของท่านพ่อดตาจินิน ด้วยแล้ว ยังจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์ใดกล้าที่จะข่มขู่ท่านอ.อุบลอีก, ดังนั้นการที่พี่อ้อยสื่อสารมาอย่างนั้นก็เท่ากับแอบอ้างท่านพ่อดตาจินินอย่างแน่นอน

 

ดังนั้นคำพูดที่แสดงอาการข่มขู่ท่านอ.ต่อหน้าทุกๆคนนั้น มันต้องมาจากจิตใต้สำนึกความนึกคิดของพี่อ้อยอย่างแน่นอน 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 03:01:52


ความคิดเห็นที่ 8589 (1657172)

6.ในเมื่อพี่อ้อยมีโอกาสที่จะสื่อสารโดยตรงกับท่าน อ.อุบล ทำไมพี่อ้อยจึงเลือกที่จะไม่สื่อสารกับท่านอ.เอง (ในเมื่อคุณรู้ตัวว่ากำลังจะตายแต่คุณกลับเลือกที่จะเอาชีวิตไปฝากในมือคนอื่น)

โดยธรรมชาติของมนุษย์ถ้าเรารู้ว่าเราจะต้องตาย เราก็จะต้องพยายามหาหนทางดิ้นรนเพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่รอด, เรารู้ว่าท่านอ.อุบลมีความสามารถในการขอต่ออายุของคนได้ แล้วทำไมเราจะไม่เลือกที่จะบอกกับท่านอ.  โดยตรง แต่กลับเลือกที่จะให้คนอื่นไปสื่อสารแทนทั้งๆที่เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะไปสื่อสารหรือเปล่า แล้วถ้าเขาไม่ไปสื่อสารให้ท่านอ.รับรู้ ตนเองก็จะตาย หนึ่งคิดว่าคงจะไม่มีใครเลือกที่จะทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ตามปกติแล้วพี่อ้อยเป็นคนกล้าแสดงออก, กล้าพูด แต่มาคราวนี้กลับเลือกที่จะทำนิ่งเฉยและ ให้ผู้อื่นเป็นผู้สื่อสารโดยตรงเองซึ่งมันผิดวิสัยของคนทั่วไป

 

ดังนั้นการที่พี่อ้อยเลือกที่จะสื่อสาร (เล่าความฝันหรือสื่อสัมผัสการตายของตนเองที่ญาติของตนเองได้รับข้อมูล) ผ่านทางน้องชิมนั้น มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าพี่อ้อยมีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี

------ > ทำไมจะต้องเป็นน้องชิม?? ตัวพี่อ้อยต้องมีความมั่นใจว่า น้องชิมจะต้องนำข้อมูลนี้ไปบอกกับพี่ธนา เพื่อให้พี่ธนาหาหนทางช่วยเหลือพี่อ้อย เพราะเราจะรู้กันอยู่แล้วว่าน้องชิมจะปลาบปลื้มพี่อ้อยอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อน้องชิมรู้ว่าชีวิตของพี่อ้อยจะตกอยู่ในอันตราย เขาจะต้องรีบไปปรึกษาพี่ธนาอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ธรรมชาติของพี่ธนา แกจะเป็นคนที่ห่วงใย ใส่ใจในพี่น้องทุกๆคนดังนั้นเรื่องคอขาดบาดตายถึงชีวิตพี่ธนาจะไม่ปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆโดยไม่หยิบยื่นให้ความช่วยเหลือ

------ > และถ้าเมื่อไรที่พี่ธนาเป็นผู้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากท่านอ. ให้พี่อ้อย ก็เท่ากับพี่ธนาได้ยินยอมที่จะแทรกแซงกรรมของพี่อ้อยทันที พร้อมกันนี้ถ้าเมื่อไรที่พี่ธนาหรือแม้แต่พวกเราเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ ท่านอ. จะไม่ลังเลที่จะหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือ

ตัวพี่อ้อยเองก็ต้องรู้ตัวว่าการกล่าวอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท้าทายอำนาจของท่านพ่อดตาจินิน นี้เป็นอนันตริยกรรมอยู่แล้ว  

พี่อ้อยจึงคิดวางแผนให้พี่ธนาเป็นผู้แทรกแซงกรรมเอ่ยปากกับท่านอ.เอง เพราะอย่างน้อยๆตนเองก็จะได้มั่นใจว่า ยังไงท่านอ.อุบลก็จะต้องหาทางช่วยเหลือพี่ธนาอย่างแน่นอน, ประกอบกับคีย์เวิร์ดที่ท่านอ.บอกจะไม่ยอมเสียพวกเราไปนั้น อย่างไรเสียถ้าท่านอ.ช่วยไม่ได้ท่านอ.จะต้องขอเอาชีวิตตนเองเข้าแลก

 

7.ช่วงค่าย 14 หลังจากที่พี่อ้อยรู้ว่าดวงจิตของท่านอ.อุบลได้ละออกจากสังขารปัจจุบันนี้แล้ว หนึ่งซึ่งนั่งแถวเดียวกับพี่ ได้สังเกตุดูอาการของพี่ตลอด เพราะวันนั้นพอท่านอ.พูดเสร็จปรากฏว่าพี่อ้อยนั่งนิ่งเฉยๆเมื่อกับไม่ได้รับรู้ว่ามีการตายเกิดขึ้น ในขณะที่น้องมิ้มนั่งร้องห่มร้องไห้เสียอกเสียใจจะเป็นจะตาย

พอกิจกรรมภาคบ่ายที่พวกพี่ถังมีการร้องขอต่ออายุให้กับท่านอ. พี่อ้อยที่นั่งอยู่ข้างๆหนึ่งกลับทำนิ่งเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เนี่ยน่ะหรือคือคนที่บอกว่ารักท่านอ.อุบลอย่างมากมาย ไม่ว่าพี่จะอ้างว่าพี่ไม่ใช่คนที่แสดงความรู้สึกเก่ง แต่นี้พวกเรากำลังสูญเสียท่านอ. อุบลไปนะ ทำไมพี่ถึงเฉยได้ขนาดนี้ ขนาดคนใหม่ๆที่เพิ่งจะเคยมาบ้านสวนเขายังสะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย

ที่สำคัญพี่อ้อยที่เคยเป็นผู้นำมาโดยตลอด ในวันนั้นกลับนิ่งเฉยไม่แอคชั่นอะไร แต่กลับเป็นคุณอัญ(ลูกป้าเตือน) ที่ได้ให้พี่ธนาร้องขอกับท่านพ่อดตาจินินด้วยการร่วมพลังจากทุกจิตวิญญาณของพวกเราแทน

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 03:10:13


ความคิดเห็นที่ 8590 (1657173)

ดังนั้นกับเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น การที่พี่อ้อยมาถามท่านอ.ว่าพี่อ้อยเป็นดวงจิตที่อธิษฐานมาขัดขวางมาเป็นมารใช่หรือไม่ หรือบอกว่าตนเองพยายามที่จะหาเหตุผลว่าทำไมตนเองรับการสื่อสารผิดๆมาอย่างนั้น มันเป็นไปการสร้างภาพ, หาช่องทางของพี่อ้อยเท่านั้น

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ คงจะต้องถึงเวลาจริงๆจังๆเสียทีที่พวกลูกบ้านสวนจะต้องมีสติมากกว่านี้ เราไม่ควรไปหลงเชื่อชมคนอื่นด้วยภาพลักษณ์หรือสิ่งที่เขาแสดงออกภายใน แต่ต้องพิจารณาการกระทำที่ผ่านๆมาของเขาว่าจริงหรือไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 03:56:53


ความคิดเห็นที่ 8591 (1657182)

ถึง เวลาที่พวกเราจะต้องหูตาสว่างเสียที กับ คุณอ้อย วันนี้ทำให้เห็นว่าคุณอ้อยมีการลำดับเหตุการณ์วางแผนมาอย่างแยบยล ในการทำลายท่านอาจารย์อุบล และพี่ธนา หรือหากมีโอกาสก็คงทำลายคนอื่นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปูพิ้นด้วยการแสดงว่าตนเองติดต่อสื่อสารกับท่านพ่อดตาจินิ นได้ การทำนายทายทัก หรือการพูดภาษาต่างดาวออกมา ซึ่งไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าคืออะไร ทำให้ลูกบ้านสวนหลงเชื่อ ประกอบกับคุณอ้อยได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้ากลุ่มบำบัด ทำ workshop ในทุกสัปดาห์ นั่นยิ่งเป็นการสร้างความเชื่อถือให้คุณอ้อยเป็นที่ยอมรับในบ้านสวนได้เป็น อย่างดี  สังเกตได้ว่าในหมู่ลูกบ้านสวน โดยเฉพาะพวกผู้ชาย จะปลาบปลื้ม แอบชอบคุณอ้อย ติดหนึ่งในนั้นแทบทุกคน และที่สำคัญ คุณอ้อยใช้ความฉลาดและฉะฉานของตัวเองเป็นอาวุธในการครอบงำผู้คน โดยแฝงความริษยาอยากมี อยากเป็น อยากได้ เป็นตัวผลักดันให้กระทำการอันชั่วช้าได้ถึงเพียงนี้ 

คน เราเมื่อได้รับคำชมมากๆ เข้า อาจเกิดการหลง ทำให้คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ หลายครั้งที่ท่านอ.ชื่นชมว่าคุณอ้อยเป็นผู้ที่กล้าสารภาพกรรมของตัว เองอย่างกล้าหาญ ได้เป็นผู้นำมอบหมายในหน้าที่สำคัญหลายอย่าง นั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความหลง บวกกับความอิจฉาริษยาที่มีอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ จึงทำให้ทุกอย่างรวมตัวและแสดงด้วยการทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายชื่อเสียงคนที่ มีสิ่งเหล่านี้ เพื่ออะไรไม่ทราบ แต่ต้องเป็นอะไรที่เลวร้ายแน่นอนในการคิดทำสิ่งแบบนี้  คุณอ้อยมีการวางแผนไว้อย่างแนบเนียน โดยใช้ช่วงเวลาที่ลูกบ้านสวนหลายคนเกิดอาการเบื่อหน่าย ในการเขียนธรรมทาน เกิดความขี้เกียจท้อแท้ ซึ่งในตอนนั้นเราก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงมีอารมณ์นี้กัน อารมณ์แย่ๆ แบบนี้จึงเกิดขึ้นกับพวกเรา และคุณอ้อยยังได้วางแผนเป็นขั้นตอนที่จะนำเรื่องนี้บอกเรื่องเกิดความเบื่อ หน่าย และกำลังคิดว่าตัวเองจะตายกับคนอย่างคุณชิม เพราะคุณชิมหัวอ่อน ชักจูงง่ายหรือเปล่า และถ้าคุณชิมรู้เรื่องสำคัญขนาดมีหรือเรื่องจะไม่ถึงหูพี่ธนา และก็เป็นไปตามคาด พี่ธนาถูกเชื่อมโยงให้ขอต่ออายุให้คุณอ้อย โดยใช้คำพูดของท่านอาจารย์ที่ว่า "จะไม่ยอมเสียใครไปอีกแล้ว" จากเหตุการณ์ของพี่เหมี่ยว  มาเป็นตัวเชื่อมโยง ให้ท่านอาจารย์ต้องแทรกแซงกรรมคุณอ้อย และดึงพี่ธนาเอี่ยวเข้าไปด้วย เรียกว่ายิงกระสุนนัดเดียวได้นกตั้งหลายตัว 

และ เมื่อค่าย 14 รวมพลคนมีหน้าที่สำคัญ เป็นค่ายที่รวมทหารกล้าไว้จริงๆ เพราะทุกท่านที่ไปวันนั้น ได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว ทั้งช่วยกันขอให้ท่านอ.อุบลยังอยู่กับพวกเราต่อ และยังได้มารวมตัวกันเปิดโปง หงายในสิ่งที่คว่ำให้เห็นกันชัดเจนอีกด้วย  และคุณอ้อยคือตัวเดินเรื่องสำคัญที่ทำให้ท่านอาจารย์ต้องยอมแลกชีวิตแทนคุณ อ้อย ซึ่งพวกเราทุกคนต่างช็อค ร้องไห้ในสิ่งที่เกิดขึ้น เฝ้าแต่โทษตัวเองว่าเราไม่เคยฉุกคิดเลย เจ็บใจตัวเอง แต่คุณอ้อยกับสีหน้าเรียบเฉย ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดคุณเป็นผู้ก่อแท้ๆ  หรือไม่ว่าจะเป็นก่อนวันค่าย ท่านอาจารย์ก็ได้ส่งสัญญาณทั้งในห้องแชตแล้วว่าจะขอแลกชีวิตกับคุณอ้อย แต่คุณอ้อยก็มิได้นำพา  หรือแม้กระทั่ง ตอนก่อนวันค่าย 14 ท่านอาจารย์ได้เรียกคุณอ้อยไปพูดว่า ถ้าคุณอ้อยเป็นอะไรไป อาจารย์ขอแลกชีวิตกับคุณอ้อย ตอนนั้นรู้สึกว่ามีคุณก้อยอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งตุ้ยเองก็เดินผ่านและได้ยินคำนี้อยู่พอดี แล้วทำไมคุณอ้อยถึงไม่ออกตัว ว่า ท่านอาจารย์อย่าทำอย่างนี้เลย หรืออะไรก็ว่าไป แต่คุณอ้อยก็นิ่งเฉย ยิ้มเจื่อนๆ แสดงให้เห็นว่าคุณอ้อยรับรู้มาตลอดว่าท่านอาจารย์ได้แลกชีวิตกับคุณอ้อย อย่างนี้จะอ้างไม่รู้ได้อย่างไร

เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่าคุณอ้อยวางแผนมาเป็นอย่างดี จิตในด้านลบที่อยู่ใน DNA ของคุณอ้อย ข้ามภพชาติและมาส่งผลแสดงออกในวันนี้แล้ว แต่ขอให้คุณรู้ไว้ว่า คุณไม่มีวันจะมาเทียบรัศมีบารมีกับท่านอาจารย์อุบลได้ หรือแม้แต่คนใกล้ชิดท่าน อ. ไม่ว่าจะเป็นพี่ธนา พี่แมว หรือใคร เพราะสิ่งที่คุณได้ทำกำลังเด้งกลับเข้าตัวคุณเป็นสองเท่าแล้ว อย่างที่บอกถ้าจะคิดต่อกรกับท่าน อ.อุบล คุณไปบำเพ็ญบารมีให้ได้ 4 อสงไขย กับอีกแสนกัป ซะก่อน วันนี้พวกเราทุกคนได้มีสติรู้เท่าทันคนชั่วคนพาล และกราบพระบาทขอขมาท่านพ่อดตาจินิน องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระศรีอาริยเมตไตร เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ และท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว ที่ลูกเคยหลงผิด เห็นกงจักรเป็นดอกบัว บัดนี้ลูกสำนึกแล้วจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกและขอให้ลูกมีสติ มีเกราะกำบังปกปักคุ้มครอง สิ่งไม่ดีไม่ให้เข้ามาทำอะไรได้ทั้งทางตรงทางอ้อม ด้วยเถิดเจ้าค่ะ


ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 10:07:39


ความคิดเห็นที่ 8592 (1657204)

ขอแชด้วยคนนะค่ะ  กราบขอบพระคุณค่ะ

ยิ่งอ่านธรรมทานยิ่งได้ความรู้มากมายถึงแม้ว่าจะไม่ได้เดินทางไปบ้านสวนฯ  แต่เราก็สามารถเข้าเวปบ้านสวนฯ   ตามที่ทุกท่านได้เขียนธรรมทานแค่การเข้าเวปบ้านสวนฯ  ก็จะได้รับพลังสีขาวที่ดีได้เพียงตัวเรายังเป็นเครื่องรับไม่ดีเองแล้วจะโทษคนโน้นคนนี้ได้อย่างไร ?  ต้องโทษตัวเองที่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่เล่นคุณไสยมนต์ดำ  มันฝังอยู่ใน  DNA   ของเราๆ ถึงได้ชั่วถึงขนาดนี้ จะไม่ให้ยุ่งเกี่ยวได้อย่างไรในเมื่อเป็นพี่ ๆ  และน้องของเราเอง อันนี้ทำใจอยากถึงขนาดนี้พี่สาวยังหาว่าเราเราอยู่ไกลไม่ค่อยจะกลับไปเยี่ยมแม่พี่ศรีหาว่าเราเองคนจะเป็นอะไรไม่เคยสนใจทั้งๆที่เราหาวิธีการช่วยเหลืออยู่แต่ใช้หลักตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า  และก้ได้เจอวิธีที่ดีที่สุดแล้วค่ะ  และไม่คิดแก้แค้น อิจฉา ริษยา   กับใครอีกต่อไป นี่เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม    ดีกว่ามานั่งแก้ปัญหา  สุดแล้วแต่พี่ศรี และพี่มวล น้องเจี๊ยบจะโอเคหรือเปล่า  เราเองไม่สามารถไปแวงแทรงกรรมของพี่ทั้งสอง  รวมทั้งน้องคนเล็กอีกหนึ่งคน เราเองก็จะให้ถึงวันนั้นเราต้องทำตัวเราให้มีศีลบริสุทธิ์จริงๆ ก่อน  แค่ตอนนี้โคตระเราเองก็ถูกพี่น้องและตัวเราเองทำลายจนบ่นบี้ไปหมดแล้ว  ถ้านึกย้อนเวลาได้จะไม่กลับมาทำผิดซ้ำซากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผิดจนต้องตายยังไม่ได้แก้ไขนี่ซิ  เบื้องหลังความตายจะเป็นอย่างไร  ไม่อยากจะคิดเลย   เละแน่นอน   จงแก้ไขวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่ปัญญาของเราจะมี และจะขอทำตามคำสอนของท่านอจารย์อุบลตลอดไป จนกว่าชีวิตจะตายอย่างนั้นแหละ  ฉันยังจำคำที่ฉันเขียนว่าแค่ได้รู้จักเวปบ้านสวนฯ  และได้ทำตามชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะแล้ว  ได้แค่นี้ก็ดีแล้วดีกว่าไม่ได้คิดทำอะไรเลย?    ที่ท่านทำกับศิษย์ทุกท่านอาจจะรับไม่ได้แต่นี่เป็นการหยุดการประกอบกรรมของเรามิใช่หรือ ?  เป็นประโยชน์ของตัวเราเองจะได้มานั่งคิดไตร่ตรองทบทวนตัวเองว่าที่เราทำไปนั้น ?   มันผิด? หรือถูกกันแน่ ?  แต่ถ้าปล่อยให้ทำผิดว้ำผิดซากเป็นกรรมหนักอนันตกรรมที่ชีวิตนี้ก็ใช้กี่ชั่วโคตรก็ใช้กรรมไม่รู้จักจบจักสิ้น  ได้แต่ร้องออกไปดังดังๆ ว่า ตายหยั่งเขียด ?

แค่ได้เข้าไปอ่าน  ได้เขียน  ได้แซต  ได้เข้าเวปก็มีความสุขมากพอแล้วค่ะ

ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน พระปฐมบรมธรรมบิดา  พระศรีอาริย์  พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์  ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่  ท่านพระยมราช ท่านท้าวเวสสุวรรณ พระอินทร์  พระพรหม ท่านมเหสักขา เทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุก ๆพระองค์  ท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์ทั่วทั้งอนัตจักวาล ควบคุมกาย  วาจา ใจ  บังคับกระแสจิตของหนูไม่ให้หลงผิดอีกต่อไป และจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคนที่เล่นคุณไสยมนต์อีกต่อไปพระพุทธเจ้าค่ะ

กราบพระบาททุกๆ พระองค์พระพุทธเจ้าค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 13:52:10


ความคิดเห็นที่ 8593 (1657226)

หลังจากงานค่าย14 ชนิดาได้อ่านธรรมทาน

จากเฟสบุ๊คเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งแต่ละท่านที่ไปโพสต์ในนั้น

ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์

ที่ท่านอาจารย์เสียสละแม้กระทั่งชีวิตของท่าน

แก่คุณอ้อยมากนัก

 

ตอนนั้นอ่านแล้ว ก็ยังดีใจอยู่ว่า

อย่างน้อยท่านอาจารย์ก็ยังอยู่กับพวกเรา

แล้วก็แอบนึกๆอยู่ว่า

ลูกบ้านสวนฯคนนั้นคือใครหนอ

 

 

แต่พอมาวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ได้เข้ามาอ่านในกระทู้ค่าย 14:

งานบวงสรวงอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอร์ตารี่ฯ

คห.ของคุณธนา

ที่เล่าถึงเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นทุกอย่าง

 

พออ่านแล้วบอกตามตรงค่ะว่า

เป็นครั้งแรกที่อ่านแล้ว

ไม่สามารถเมนต์อะไรออกมาได้เลย

 

เพราะมันรู้สึกสับสน อึ้ง เศร้า เสียใจ

และรู้สึกผิดมากๆต่อท่านอาจารย์

 

เป็นความรู้สึกที่เศร้าลึกๆ

เพราะรู้สึกว่า

ได้สูญเสียท่านอาจารย์ไปแล้วจริงๆ

 

แล้วมันสะท้อนลึกๆว่า

ความเสียใจแบบนี้

พวกเราเคยประสบมาแล้วในอดีต

แล้วประวัติศาสตร์ก็เหมือนมาซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง

 

"ความเสียสละของท่านอาจารย์

และพระนางเนเฟอร์ตารี่ช่างยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ"

 

เมื่อเห็นภาพท่านอาจารย์

หรือบางครั้งที่นึกถึงท่านอาจารย์

มันก็รู้สึกเศร้าจนแทบอยากจะปล่อยโฮออกมา

....เป็นช่วงที่สับสนและหมดแรงอยู่หลายวันค่ะ 

 

 

 

แล้วในใจก็เกิดคำถามขึ้นมามากมาย

แล้วก็มีความคิดที่ผุดออกมาเยอะมาก

รู้สึกว่า คุณอ้อยไม่ได้รู้สึกซาบซึ้ง

ต่อความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของท่านอาจารย์มากนัก

เพราะข้อความที่เขียน

ก็ไม่ได้เขียนขอบคุณหรือสำนึกผิด

 

มีแต่รู้สึกอึ้งกับช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น

แต่ตอนนั้นก็พยายามบอกตัวเองว่า

ดูที่"จิต"ตัวเองก่อนเถอะ ...........

เราน่ะ อาจจะเลวกว่าเขาก็ได้......

เราอาจจะไม่"อึด"

กับการหมั่นไปสร้างบุญเช่นเขาก็ได้

ฯลฯ  

 

แต่พอมาอ่านเรื่องความคืบหน้า

เกี่ยวกับคุณอ้อยสัปดาห์นี้แล้ว

บอกได้คำเดียวค่ะว่า

จิตเรา น่ากลัวมาก มันเนียน

มันฉลาดลึกกว่าเรายิ่งนัก

ฉะนั้น "อย่าไว้ใจตัวเอง"มากนักนะคะ

เผลอๆเราอาจจะเป็น

หนึ่งในมารตัวแม่ หรือ ตัวพ่อ ก็ได้

 

มีทางเดียวคือ ต้องมั่นคงใน"ศีล"

รักษาศีลให้บริสุทธิ์ให้ได้ตลอดเวลา

และหมั่นตรวจตรา

ความคิดของเราบ่อยๆ

 

 

แล้วก็ต้องย้อนกลับไปถามใจตัวเองอีกครั้งว่า

"เรามาบ้านสวนฯเพื่ออะไร"

อย่างที่ท่านอาจารย์เคยถามย้ำ

กับพวกเราอยู่บ่อยๆ

 

เพราะชนิดาคิดว่า

ที่ผ่านๆมาสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนหมั่น

มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯอย่างขยันขันแข็ง

เพราะ"กลัวเรื่องภัยพิบัติ"

กลัวว่าตนจะไม่มีที่ปลอดภัยให้อยู่

ก็เลยต้องมาคอยเช็คชื่อที่่บ้านสวนฯทุกอาทิตย์

เผื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา

จะได้ไม่รู้สึกกระดากใจที่จะมาพึ่งใบบุญ

....................

แต่เราก็คงจะเห็นนะคะว่า

สุดท้าย อดีตขาประจำก็ค่อยๆหายไปที่ละคน

หลังจากที่ภัยพิบัติคลาดเคลื่อนไป

เพราะลึกๆแล้วเขาเหล่านั้น

ก็ไม่ได้มีความคิดที่จะมาช่วยเหลือ

หรือมาแบ่งเบาภาระท่านอาจารย์

ด้วยใจจริง  ........แต่อย่างใด

 

ซึ่งสุดท้ายภาระทางโลก

จึงดึงเขาเหล่านั้นให้ห่างจากบ้านสวนฯไป

 

 

 

......... แล้วก็เช่นกัน

มีคำถามหนึ่งที่คุณธนา

ถามท่านอาจารย์ถึงคุณสมบัติ

ของคนที่จะมาเป็นตัวแทนพาเมล่า

(ในคลิปใดคลิปหนึ่ง ไม่แน่ใจ)

ว่าต้องเป็นอย่างไร

 

ท่านอาจารย์ก็ตอบประมาณว่า

ก็ต้องดูก่อนว่า ลึกๆแล้ว

เขามาด้วย"ความอยาก"หรือไม่

ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่รุ่งแน่ๆ

เพราะยิ่งอยาก ยิ่งไม่ได้

แล้วคนที่มีแต่ความอยาก

ก็จะไม่เคารพกฏ สุดท้ายก็จะขายไม่ได้

แล้วก็"ไม่ได้ขาย"ต่อไป

(ชนิดาเขียนถ่ายทอดในสำนวน

และความเข้าใจของตัวเองนะคะ

อาจจะไม่ได้ก็อปคำพูดมาเป๊ะๆ) 

 

ฉะนั้น หมั่นสำรวจ"จิต"ของท่าน

บ่อยๆนะคะ ถ้ามันเริ่มติดดี

แสดงว่า เราเริ่ม"เลว"แล้วล่ะ


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 18:04:06


ความคิดเห็นที่ 8594 (1657237)

      หลังจากอ่านธรรมทานจากทุก ๆ ท่านแล้ว

ทำให้ต้องย้อนกลับมาดูตัวเองอย่างจริง ๆ จัง ๆ เสียที

ว่าจิตเรายังมั่นคงต่อบ้านสวน จริงหรือเปล่า

หรือว่าจริง ๆ แล้ว เรามาบ้านสวนเพื่ออะไร

 เพื่อจะได้เห็นตัวมาร

ที่แอบซุกซ่อนอยู่ในตัวเรา  

        เราก็ยังโง่อยู่ดี ทั้ง ๆ ที่

ท่าน อ. ได้สื่อสารเรื่องการยอมแลกชีวิตของท่าน

กับชีวิตคุณอ้อย   เราก็เพียงแค่โต้ตอบว่า

"ชีวิตท่าน อ.มีค่ามหาศาลต่อชาวโลก  

ถ้าสิ่งที่มันจะเกิดกับพวกเรา

ก็ต้องปล่อยไปตามนั้น  เพราะเป็นสิ่งที่พวกเราสร้างขึ้นเอง"

แล้วเราก็ไม่ได้ทำอะไรต่ออีกเลย  จบเพียงแค่นั้น

          พอได้มารับทราบจากธรรมทาน  ก็นึกถึงคำที่ท่าน อ.

เคยพูดว่า  มีมารที่แฝงตัวอยู่ในบ้านสวนอีก  

และนับวันก็จะเนียนไปเรื่อย ๆ

ให้พวกเราสังเกตุกันดี ๆ จะเป็นคนที่มาบ้านสวนบ่อย ๆ

และมานานมากแล้ว

ตอนนั้นเราเองก็นั่งไล่ไปทีละคน ๆ ก็ไม่เอะใจใครเลย 

จนกระทั่งจบค่าย 14 จึงได้เห็นตัวมารที่แท้จริงว่าเป็นใคร

      ก็อยากจะฝากถึงคุณอ้อย  ลองใช้เวลานั่งสำรวจตัวเอง

ให้เวลากับตัวเอง  แล้วมองตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

ว่า  "คุณมาบ้านสวนเพื่ออะไรกันแน่นะคะ"

หรือว่าคุณมีคำตอบอยู่แล้ว  แต่พวกเราไม่รู้ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 19:23:21


ความคิดเห็นที่ 8595 (1657245)

    ได้อ่านธรรมทานเรื่องคุณไสย์แล้วน่ากลัวสุด ๆ เลยค่ะ

ยิ่งตัวเองเคยยุ่งเกี่ยวกับคุณไสย์โดยตรง  

อ่านแล้วยิ่งผวาเลย

        และขอเล่าความฝันของตัวเอง  

ซึ่งคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องโดยตรง

กับเรื่องคุณไสย์หรือเปล่า  โดยปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยจะฝัน

หรือฝันก็จะจำไม่ได้

    เมื่อคืนวันเสาร์ (20 เม.ย. 56)  ฝันว่า ไปนอนเล่นใต้ต้นไม้

ในป่าที่มีภูเขา  แล้วมีคนทำจี้คล้าย ๆ จี้บ้านสวน  

แต่ทำจากหินหรือดิน  แล้วร้อยเป็นสร้อยเยอะมาก  

มาคล้องคอให้เรา  สักพักจี้พวกนี้ได้แตก

กลายเป็นเศษหินเศษดิน  

ก็มีคนบอกเราว่าให้ปัดออกมันเลอะ

และให้เอาจี้ทั้งหมดออกไปทิ้ง

ซึ่งเราก็รีบปัดเศษหินเศษดินเหล่านั้นออก

แล้วนอนเล่นต่อ  แต่ก็มีเสียงบอกอีกว่่ายังไม่หมด

ให้เอาจี้ออกให้หมด (ได้ยินแต่เสียงไม่เห็นหน้า)  

จะได้ไม่เลอะ  เราก็ปัดอีก สลัดเสื้อ

แล้วตอนนั้นเราก็เริ่มสงสัยว่า  เรามีจี้ที่เป็นของบ้านสวนอยู่

แล้วจี้อยู่ที่ไหน  เราก็เริ่มมองหา แต่เสียงนั้นก็สำทับมาอีกว่า

มันเปื้อนสกปรกหมดแล้ว  เอาออกให้หมด แล้วก็รู้สึกตัวตื่น

เห็นตัวเองนั่งถอดจี้ออกจากเสื้อ  ถือไว้อยู่ในมือ  

แล้วใจเราก็แว๊บขึ้นมาว่า  นี่ไงจี้ของจริง  เราไม่ทิ้ง

(ปกติเวลานอนตัวเองจะใช้เข็มกลัด ๆ จี้ท่านพ่อดตาจินิน

กับเสื้อนอนทุกวัน)

ถึงตอนนี้เราตื่นเต็มที่แล้ว ยัง งง ๆ ว่าความฝันหรือความจริง

และคืนวันเสาร์ที่บ้านสวน  ท่าน อ.

ก็ได้ทำน้ำเพื่อใช้ถอนคุณไสย์

แล้วเราก็ฝันในคืนวันเสาร์  และที่สำคัญ  

ให้เราถอดจี้ท่านพ่อฯ ออกด้วยนี่ซิ

        ในความคิดของตัวเองนะคะ  ด้วยบารมีท่านพ่อฯ

จิตวิญญาณคุณไสย์ ที่อยู่ในตัวเรา  

ไม่สามารถอยู่ได้  เลยบังคับให้เราถอดจี้ท่านพ่อฯ  

ออกจากตัว และเค้าน่าจะมีอำนาจเหนือเรา  

เพราะเค้าสั่งเราได้  และเราก็ทำตามด้วย

แต่วินาทีสุดท้าย  ยังนึกได้ว่าจี้ที่เราถอดถือไว้ในมือ

เตรียมจะทิ้ง  นั่นคือจี้บ้านสวนของจริงที่เราหาอยู่

และถ้าเราถอดจี้ทิ้งในวันนั้น  อะไรจะเกิดขึ้นกับเราบ้าง ก็ไม่รู้

        แล้วเราก็หลับต่อ  ก็ฝันต่อว่า เราไม่ถอดจี้ตามคำสั่งเค้า

เค้าโกรธมาก  วิ่งไล่จะทำร้ายเรา  เราก็วิ่งหนีไปกับใครก็ไม่รู้

ที่มาลากแขนเราให้หนี แล้วเป็นยังไงไม่รู้  

แล้วเค้าเจ้าของเสียงนั้น ก็ตกลงมาจากเขา  

ถูกก้อนหินทับหน้าครึ่งซีกหัวแบนเลย

และเขาก็เสียชีวิต  เป็นภาพที่น่ากลัวมาก  

เห็นหน้าเค้าเป็นผู้หญิงผมยาว  ขาว

เหมือนเป็นคนที่เรารู้จัก  คุ้นเคย  แต่นึกไม่ออกว่าเป็นใคร

      พอเช้าวันอาทิตย์  เรารู้สึก เหงา  เศร้า  หดหู่

และกลัวอยู่ลึก ๆ และได้อุทิศบุญให้กับผู้ที่เราได้ฝันถึง  

แล้วได้มานั่งมองภาพท่าน อ. ใน FB เกือบชั่วโมง

ถึงรู้สึกดีขึ้น

      ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันหรือเปล่ากับคุณไสย์  

หรือกินมากฝันมากไป

       ลูกกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ และท่าน อ. อุบล

ที่ได้ช่วยเหลือลูกแม้แต่ในความฝัน  ท่านยังมาช่วยเหลือ

กราบ  กราบ  กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 21:27:01


ความคิดเห็นที่ 8596 (1657259)

 พอได้มาอ่านเหตุการณ์ในวันนั้นเพิ่มเติม

รู้สึกว่ามารมันมาได้เนียนมาก 

จริงๆแล้วการที่ท่านอาจารย์ยอมแลกชีวิตเพื่อใครนั้น

มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก 

ต่อให้เราชดใช้เป็นสิบๆชาติก็ไม่หมด

แต่เท่าที่อ่าน คห.พี่อ้อย ก็รู้สึกได้เช่นกัน

ว่าพี่อ้อยไม่ได้รู้สึกเสียใจ รู้สึกสลดหดหู่

หรือแม้แต่ความรู้สึกที่อยากจะขอบคุณ ที่มันมาจากใจ

เหมือนพิมแก้ขัดไปงั้น 

ท่านอาจารย์รัก เมตตาขนาดนี้

คุณก็ยังแทงข้างหลังอาจารย์ได้ 

แถมยังแทงได้แบบแนบเนียนเสียด้วย

โดยไม่คิดถึงความรัก ความเมตตา ความเสียสละ

ที่อาจารย์มีให้ 

แถมยังใช้ลูกๆบ้านสวนเป็นสะพาน

เพื่อเดินขึ้นไปทำลายอาจารย์

ทั้งๆที่แต่ละคนเมื่อรู้ว่าคุณจะต้องเสียชีวิต 

เขาก็รัก และเป็นห่วง

แถมท่านอาจารย์จะเอาชีวิตท่านแลก

คุณกลับยอมให้ท่านอาจารย์เอาชีวิตแลก

แล้วลึกๆคุณคิดอะไรอยู่

แล้วจะให้พวกเราคิดยังไงละคะ

หยุดคิด หยุดทำซะเถอะค่ะ

คุณไม่น่าเอาชีวิตตัวเองเข้ามาเสี่ยงเลย

สุดท้ายคนที่จะทุกข์ทรมานที่สุด

ก็คือคุณนั่นแหละค่ะ คุณอ้อย 

*****************************************

ดูที่"จิต"ตัวเองก่อนเถอะ ...........

เราน่ะ อาจจะเลวกว่าเขาก็ได้......

เราอาจจะไม่"อึด"

กับการหมั่นไปสร้างบุญเช่นเขาก็ได้

ฯลฯ   

ชอบข้อความนี้ของพี่ชนิดามากค่ะ

ว่าแล้วก็จะพยายามสำรวจจิตตัวเองบ่อยๆ

และจะพยายามรักษาศีลให้ดีที่สุดค่ะ

เพราะถ้าวันไหนที่มารอยู่เหนือจิตใจเรา

วันนั้นคงตกนรกทั้งเป็นจริงๆค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 02:57:31


ความคิดเห็นที่ 8597 (1657275)

ขอบคุณกับทุกธรรมทานของทุกท่านค่ะ วันที่เข้ามาอ่านข้อความที่คุณธนาเขียนเกี่ยวกับคุณอ้อย จะต้องเสียชีวิตจนดวงจิตต้องแตกดับ พอท่านอาจารย์ทราบเรื่องท่านยอมแลกชีวิตของท่านกับการต่ออายุเพื่อให้คุณอ้อยได้อยู่ต่อ พอคุณอ้อยเข้ามาเขียน ก็เป็นเพียงข้อความห้วนๆไม่มีความสลดใจหรือสำนึกในบุญคุณของท่านอาจารย์แต่อย่างใด

อ่านจบก็เขียนอะไรไม่ได้ น้ำตาไหล จุก อึ้ง คำถามในใจตอนนั้นคือทำไมคุณอ้อยยอมให้ท่านอาจารย์ทำเช่นนั้น หากจะนึกถึงคุณค่าและประโยชน์ระหว่างคุณอ้อยกับท่านอาจารย์ ความงดงามทั้งเรื่องส่วนตัวและส่วนรวมแล้ว คุณอ้อยเกิดอีกแสนชาติ ก็ยังทำประโยชน์ต่อแผ่นดินเกิดต่อมนุษย์ทั้งโลกไม่ได้แม้เพียงธุลีดิน ไม่มีวันเทียบท่านอาจารย์ได้เลย

ไฉนไยนิ่งเฉยต่อการเสียสละของท่านอาจารย์ หรือคิดว่าตัวเองจะทำประโยชน์ได้มากกว่าท่าน ถ้าทำได้ทำไมไม่ทำในสถานที่ส่วนตัวล่ะ มาอาศัยใบบุญของท่าน ยอมเสียเวลาตั้งนานเพื่อวันนี้ นี่เองใช่ไหมคะ

ใช้ความรักความเมตตาของท่านอาจารย์ได้เนียนสนิท ให้ท่านอาจารย์ทำลายตัวท่านเอง ด้วยการขอแลกชีวิตของตัวท่านกับลูกศิษย์เช่นคุณอ้อย จนลูกบ้านสวนฯเกือบต้องเสียท่านอาจารย์ไปจริงๆ

เพราะคุณอ้อยทราบดีว่า ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดทำอันตรายท่านอาจารย์ได้

น่ากลัวมากกับการกระทำเยี่ยงนี้ เหล่าทหารกล้าทั้งหลายช่วยปกป้องอารักขาท่านอาจารย์ด้วย นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 11:58:52


ความคิดเห็นที่ 8598 (1657283)

 เหตุการณ์ค่าย 14  “เปิดเผยสิ่งที่คว่ำ “

คุณอ้อย เข้ามาในบ้านสวนโดยมีการวางแผน  ทุกอย่างอย่างเป็นลำดับขั้นในการเข้ามาทำลาย  

....ซึ่งมิ้มได้พิสูจน์ความจริง  ด้วยการอธิษฐานจิตในใจถาม ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน  ช่วยเมตตาตอบคำถาม หากสิ่งที่มิ้มถามนั้นเป็นจริง ขอให้อาการบวมและปวดที่เท้าและขาทั้งสองข้างของคุณยายเล็ก หายโดยฉัพพลันทันที 

.....ผลการอธิษฐานจิต เห็นชัดมากตั้งแต่คำถามแรก เพราะเท้าที่บวมของคุณยายเล็ก ฟีบเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด อาการปวด และบวมค่อยๆๆดีขึ้นเรื่อยๆๆในทุกครั้งที่ตั้งคำถาม จนในที่สุดดีขึ้นถึง 95 % หมดคำถามแล้ว  อาการที่เหลือมิ้มจึงให้คุณยายมองจี้แล้วจึงหาย 100 % ค่ะ 

.....จากการอธิษฐานถาม  และได้ขอพิสูจน์ด้วยอาการปวดและบวมที่ขาของคุณยายเล็กหาย  ได้คำตอบคือ

       เหตุการณ์  การสูญเสียท่านอาจารย์อุบล โดยท่านอาจารย์เสียสละชีวิตตนเองเพื่อแลกชีวิตในครั้งนี้  เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยอิยิปต์โบราณ

-         คุณอ้อยมีเจตนาที่จะทำร้ายท่านอาจารย์อุบล 

-         เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น  คุณอ้อยได้มีการวางแผน มาก่อนแล้ว

และในวันถัดมามิ้มก็ได้ มีโอกาสบำบัดคุณยายเล็ก อาการเท้าปวดเท้าของคุณยายเล็กอีก  โดยการอธิษฐานขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน พระนางเนเฟอร์ตารี ขอถาม  ซึ่งการถามในใจนี้ก็เพื่อไม่ให้คุณยายเล็กรู้ว่ามิ้มอธิษฐานถามอะไร  เพื่อไม่ให้จิตคุณยายเล็กปรุงแต่ง  ปรากฎว่าคุณยายก็มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และหาย 100 %  โดยใช้คำถามเดิมค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 12:18:00


ความคิดเห็นที่ 8599 (1657284)

 @@ เมื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ทราบเลยว่า @@ 

คุณอ้อยได้วางแผนทุกอย่างมาล่วงหน้าแล้ว

-  โดยการสร้างความน่าเชื่อถือ  ว่าตนเอง คือ คนพิเศษ  บุคคลที่ไม่ธรรมดา  เป็นคนระดับแนวหน้า เช่นเดียวกับพี่ธนา  โดยแอบอ้างว่าตนได้รับการสื่อสารจากท่านพ่อดตาจินิน  ในการเตือนภัยพิบัติ  ทั้งที่ท่านพ่อดตาจินินไม่ได้มาสื่อสารผ่านคุณอ้อยเลย

-  ไม่มีความเกรงใจต่อพี่ธนา  สร้างเพาเวอร์ทำให้ทุกคนเห็นว่า  ตนเองไม่เกรงใดๆต่อพี่ธนา ถ้ามีการถกเถียงอธิปรายกันต้องชนะ  เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าตนเองนี่หละที่เป็นแม่ทัพระดับเดียวกับพี่ธนา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 12:18:31


ความคิดเห็นที่ 8600 (1657285)

 @@@วางแผน ทำร้ายท่านอาจารย์อุบล  และคนใกล้ชิดซึ่งก็คือ พี่ธนา  เพราะถ้าไม่มีท่านอาจารย์ และพี่ธนา 

คุณอ้อยก็จะเป็นผู้ที่มีผู้คนให้การไว้วางใจ  เพราะได้สร้างเครดิตให้ตัวเองว่าสื่อสารกับเบื้องบนได้@@@

โดยการใช้ชิม  ซึ่งเป็นคนที่ปลื้มพี่อ้อยอยู่แล้ว เล่าให้ชิมฟังว่าตนเองหมดอายุขัย  เพื่อให้ชิมนำเรื่องราวนี้ไปเล่าให้พี่ธนาฟัง  พี่ธนาเป็นคนทีรักและห่วงใยพี่น้องทุกคนอยู่เเล้วจึงไม่ระแวงสงสัย  ว่าคุณอ้อยไปทำอะไรมาเจ้ากรรมนายเวรของคุณอ้อยคือ ใคร  และ นำเรื่องราวนี้เล่าให้ท่านอาจารย์ฟัง  เพื่อหาวิธีการช่วยคุณอ้อย 

      การกระทำเช่นนี้ทำให้พี่ธนา  ได้รับผลกรรมไปด้วย  เพราะถือไปเค้าข้างฝ่ายมาร  ไม่ได้พิจารณาว่าเจ้ากรรมนายเวร ที่คุณอ้อยไปปรามาสล่วงเกินอย่างร้ายแรงคือ  ท่านพ่อดตาจินิน  ผู้ให้กำเนิดทุกดวงจิตดวงวิญญาณ  ส่งผลให้ ท่านอาจารย์ต้องขอแลกชีวิต  เพื่อช่วยทั้งคุณอ้อย และพี่ธนา

      ท่านอาจารย์ส่งสัญญาณให้พวกเรา  หลายครั้ง แต่พวกเราไม่เข้าใจ  คิดอะไรไม่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 12:19:03



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 [86] 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.