"ขอยอมรับว่าจิ๋มอาย และเขิน ว่าเราไม่ใช่พระแต่มีคนมากราบได้ยังไง แต่เขากลับหายตอนกราบเรา  ต่อไปนี้ถ้าเขาจะกราบแล้วหายเราก็จะยอม และนึกภาพเอาว่าคนที่เขากราบนั้นไม่ใช่ตัวเรา แต่เขาได้กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านหลังเรา ก็แล้วกัน จะได้สบายใจ

จิ๋มก็รักษาคนไม่ค่อยเก่ง เหมือนพี่น้อง บ้านสวน คนอื่น ๆ จริง ๆ แล้วถนัดงานบริการ เสริฟ น้ำ อาหาร จัดโต๊ะ รับแขกมากกว่า แต่ก็จะพยายามค่อย ๆ เรียนรู้ไป เพื่อทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ให้ดีที่สุดค่ะ"

หนึ่งอ่านประโยคนี้ของพี่จิ๋ม

แล้วรู้สึกว่านี้อดนึกถึงใบหน้ารอยยิ้มซื่อๆของพี่

และความเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนที่เป็นบุคลิกลักษณะประจำตัวพี่จิ๋มไม่ได้เลย ^______^

วันงานต้องถือว่าเป็นงานเปิดสาขาที่สมบูรณ์แบบมากๆคะ

ทุกอย่างถูกจัดการเตรียมพร้อมไว้เป็นอย่างดี

แถมพี่ทั้งสองยังใจดีจัดเตรียมอาหารและน้ำ ขนมอีกมากมายเรียกได้ว่าจบงานแล้วจะต้องอิ่มทั้งบุญและอิ่มใจและอิ่มท้องกลับบ้านทุกคนคะ

อนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ นะคะ

***********************

วันนี้...จิต...ได้มีโอกาสพาสามีไปร่วมงานเป็นครั้งแรก หลังจากกลับจากงานเปิดสาขาบ้าน...ดร.จุ๋ม&จิ๋ม...มีลูกค้าทยอยนำจารเบรคมาให้เจียรทุกวัน

ว้าวววววววววววววววววว

ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนาบุญกับพี่จิตด้วยคะ

เอาละซิอันนี้เป็นปริศนาธรรมเหมือนกันนะ

ทำไมถึงกลับมาจากงานเปิดสาขาแล้วกิจกรรมดีขึ้นทันตาเห็น???

ทั้งๆที่พี่จิตก็ไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนทุกอาทิตย์

แต่ยังไม่เห็นผลที่รวดเร็วชัดเจนเช่นนี้


และก็คงจะไม่ใช่เฉพาะพี่จิตที่เห็นผลทันที
แม้แต่ตัวหนึ่งเองก็จะเห็นผลทุกครั้งที่ไปร่วมกิจกรรมเปิดสาขา

คือจะรับรู้ได้ว่าตนเองจะเกิดความรู้สึกเข้มแข็ง

และได้รับพลังงานบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขทุกครั้ง

นอกจากนี้ปัญหาต่างๆที่เคยติดๆขัดๆก็คลี่คลายอย่างรวดเร็ว

หนึ่งคิดว่าเป็นเพราะ

ในวันงานที่เปิดสาขาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่คุ้มครองท่านอ.อุบล

ได้เสด็จและทุกๆพระองค์ก็ล้วนแต่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา

และพระบารมีที่ยิ่งใหญ่มหาศาล

นอกจากนี้ท่านอ.ยังให้พร กับพวกเราทุกคน

ทำให้ปาฏิหาริย์ต่างๆเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วยคะ

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์
รวมถึงหัวหน้าสาขาต่างๆด้วยคะ
สาธุ สาธุ สาธุ

รษเห็นด้วยกับคุณหนึ่งนะคะ รษมีความคิดว่าถ้าใครได้ไปร่วมงานบุญไม่ว่างานเปิดสาขาหรือกิจกรรมไหนๆของท่านอาจารย์แลัวไปแบบจิตใจเปิดรับศัรธทา จิตใจผ่องใส ตั้งจิตตั้งใจทำกิจกรรม ตั้งใจฟังที่ท่านอาจารย์บำบัด และสอนเรื่องต่างๆ ให้ความร่วมมือในคำถามและทำกิจกรรม คนคนนั้นจะได้รับสิ่งดีๆเมื่อกลับไปจริงๆอย่างที่รษได้รับเรื่องงานค่ะ อย่างแรกที่ได้รับคือมีความสุขจิตใจผ่องใส เป็นหนึ่งในบุญสามข้อที่พระพุทธเจ้าสอน อย่างที่สองเราไปทำความดีด้วยการสารภาพบาปหรือร่วมกิจกรรม อย่างที่สามขณะร่วมกิจกรรมเราไม่ได้ทำความชั่วใดๆทั้งกาย วาจา ใจ ครบสามความดีแล้ว รวมทั้งได้ร่วมกับผู้มีบุญสร้างความดีอย่างท่านอาจารย์อุบล มีสิ่งศักดิ์สิทธ์มากมายที่มาร่วมงาน สิ่งดีๆย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน อันนี้เป็นความคิดของรษนะคะ รษเคยถามน้องญาว่าแล้วหนูมาทำไมค่ะวันนี้ไม่เจ็บ ไม่ป่วย  เค้าบอกว่าวันนี้หนูมารับพลังดีๆ จากท่านอาจารย์อุบล รษก็เลยคิดได้ว่าใช่จริงๆ สิ่งไม่ดีใดๆจะได้ไม่เกิดขึ้นกับเรา มีแต่ความโชคดีกลับไป นีแหละค่ะเมตตานะ เมตตาหนอ ของท่านอาจารย์อุบลที่ยอมเหนื่อยเพื่อศิษย์บ้านสวนและผู้อื่นทุกท่าน เจอท่านอาจารย์ทีไรอยากเข้าไปน้อบน้อมกราบที่เท้า อาจจะไม่คุยอะไรมากมาย แค่นี้ก็มีความสุข ในความเงียบที่ไม่พูดอะไรมากแต่ในหัวใจลูกชาวบ้านสวนทุกคนรักและเป็นห่วงท่านอาจารย์อุบลด้วยใจจริง ทำดี ทำบุญกุศลก็จะนึกถึงท่านอาจารย์อุบลเสมอค่ะ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบล และกับพี่แมว และคุณ ธนา และชาวบ้านสวนทุกท่านที่ได้ช่วยเหลืองานท่านอาจารย์อุบลนะคะ 

เก็บตกงานเปิดสาขา 11
จุ๋มไม่ตั้งความหวังอะไรว่าจะมีคนมามากถึง 100 คน อีกทั้งยังรวมลูกบ้านสวนดังๆไว้หลายคน คุณอัมประธานค่าย1 แม่ครัวใจดีและลูกๆ คุณอัญชลา ประธานค่าย 14 นั่งรถมาจากเชียงราย อจ.พันธ์ คุณเจี๊ยบ หัวหน้าสาขาสุดฮอต น้องตุ้ย น้องหนึ่ง อจ.นี คุณจิต น้องแก้ว คุณอมร น้องภา น้องเบส คุณดาโต๊ะ คุณบุญเรือนและพี่สาว จูงหลานมาหมดบ้าน คุณจาว คุณพรรณี คุณแหวน_กับแม่น้อย_น้องเก้า--น้องชิม_แม่ดารา คุณแหลน คุณตาล มากับ น้องหยก-,มีคุณเต้ เจ้าของไอติมแสนอร่อยด้วย---ตกหล่นต้องขออภัย

แต่ขอขอบคุณที่มาให้ความอบอุ่น และช่วยดูแลจัดโต๊ะขายวัตถุมงคล หาน้ำเลี้ยงแขกตลอดงาน และถ้าอาหารไม่พอก็ขออภัยด้วย กะใช้วิชาอาหารอภิญญา แกงหม้อไม่ใหญ่แต่เลี้ยงคนได้ทั้งงาน ตอนงานเสร็จก็ช่วยเก็บโต๊ะ เก็บเสื่อ ลุงคนสวนของจุ๋มชมใหญ่เลยว่าเป็นคนดีมีน้ำใจ ตอนขายของน่าตกใจมากทำไมถึงได้อยากซื้อกันมากมาย นี่ถ้าไม่มีคุณแมว คุณเจี๊ยบ คุณจิต น้องตุ้ย คงทำอะไรไม่ถูก เกิดมาไม่เคยขายของด้วย อะไรมันจะขายดีขนาดนี้ จุ๋มเดินหนีไปที่อื่นเลย

สำหรับน้องเพชร พุดเดิ้ลสีขาว เขาติดจุ๋มมาก เลยต้องเอามารับแขกด้วย อาจเห่าบ้างต้องขออภัยด้วย แต่ก็แก้ง่วง น้องเพชร เขาก็ได้รับบุญจากท่านอจ.ด้วย เผลอๆ คลานเข้าไปเลียเท้าท่านอจ.อุบล เขาชอบท่านอจ.ด้วยไม่เห่าเลย

สุดท้ายขอบคุณในความเมตตาที่ท่านอจ.ไว้วางใจให้เป็นสาขา และทีมงาน คุณธนา คุณตุลย์ คุณแมวค่ะ

โมทนาบุญกับธรรมทานของทุกๆท่านค่ะสาธุๆๆ หนูเองไม่ได้อยู่ช่วยขอโทษด้วยนะค่ะ

เก็บตกและผลที่ได้รับจากการไปร่วมงานบ้านดร.จุ๋ม ดร. จิ๋ม

เรื่องที่1.หลังจากกลับร่วมงานเปิดสาขาของพี่ๆทั้งสองตอนนี้สามีและลูกคุยเรื่องเดียวกันไม่ทะเลาะกัน ก่อนนั้นหนูเองจะเป็นคนกลางคอยพูดและแนะนำทั้งๆ ที่อยู่ด้วยแต่ตื่นกันละเวลา คือว่าเมื่อก่อนสามีทำงานอยู่ที่จ.อุทัยธานี หลังจากนั้นหนูเองก็ไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนฯ แล้วอธิฐานให้สามีหนูได้ย้ายมาอยู่ใกล้หนูมีคนจะช่วยให้ได้จ.นครนายกแต่หนูเคยอธิฐานว่าให้ได้ย้ายมาอยู่ที่จ.ปทุมธานี และแล้วก็ไดย้ายสมใจค่ะ และงานแรกที่หนูชวนสามีและครอบครัวไปร่วมงานบ้านพี่ๆทั้งสองแล้วสามีก็ได้บูชาจี้รุ่นท่านพ่อดตาจินินตอนนี้บอกได้เลยว่าสามีเปลี่ยนไปในทางที่ดีและคุยเรื่องเดียวกัน พูดได้ตอนนี้ครอบครัวของหนูมีความสุขมากขึ้นค่ะ

เรื่องที่ 2. วันหนึ่งหนูเองไปขายที่ตลาดหน้าร.ร.วัดปัญจทายิกาวาสมีแม่ค้าคนหนึ่งขายผลไม้ บ้านอยู่คลอง4 เขามาปรึกษาเรื่องที่เขาท้องได้1 เดือนแล้ว พูดง่ายๆ เขาไม่ต้องการเด็กคนนี้ หนูเองก็ได้ให้คำแนะนำว่าอย่างไรต้องเอาเด็กคนนี้ไว้นะค่ะ แม่ค้าตอบ.. เขาไม่ต้องการเด็กคนนี้..หนูถาม. คุณคิดจะทำอย่างไร? ในเมื่อคุณไม่ต้องการเด็ก ก่อนคุณจะทำอะไรลงไปคุณทำไมไม่วางแผนคุมกำหนดให้ดีละ  แล้วคุณคิดมาทำแก้ไขตอนนี้ แล้วหนูก็บอกผลกรรมจากการทำแท้งให้แม่ค้าฟัง  และหนูเองก็จะติดตามแม่ค้าว่าเขาจะเอาอย่างไรทั้งที่หนูเองก็พูดถึงผลกระทบที่จะได้รับให้ฟัง  และแม่ค้าคนนี้ก็เคยบำบัดกับหนูแล้วไม่คิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง คิดแต่อยากหายอย่างหนูก็เลยไม่ค่อยสนใจ

ธรรมทานการตอบปัญหาธรรม วันเสาร์ที่ 25 พค. โดยจุ๋ม
ค่ำคืนนี้ ต่างก็ช่วยกันปุจฉาข้อธรรมะต่างๆ โดยมีท่านอจ.อุบลวิสัชนา เป็นนิมิตหมายว่า เราต่างพยามที่จะเร่งสะสมบุญเป็นเสบียงให้บรรลุธรรมที่สูงขึ้นไป

ว่าด้วยเรื่องเนื้อนาบุญ
อจ.อุบลเคยมีความคิดจะตั้งมูลนิธิเพื่อเด็กกำพร้าทำบุญอย่างจริงจัง แต่หลวงพ่อของท่านเตือนว่า เด็กเหล่านั้นไม่ใช่เนื้อนาบุญที่ยิ่งใหญ่ เราจึงควรตั้งใจทำบุญกับผู้มีบุญ เช่นพระอริยะเจ้าต่างๆ

ท่านอจ.อุบล แห่งบ้านสวนพีรามิด เล่าวิธีการทำบุญว่า ท่านจะฝากบุญหรือถวายบุญให้ท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ท้าวเวชสุวรรณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่รักษาอจ.อุบลทั้งจักรวาล และอนันตจักรวาล และเมื่อเบิกบุญมาใช้จะต้องขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อน ก็จะได้รับบุญบารมีที่มีกำลังบุญสูงมากๆ นี่เป็นตัวอย่างที่คนธรรมดาบุญกระจิบกระจอกอย่างพวกเราน่าจะมาเริ่มทำตามท่านอจ.

จากกำลังบุญสูงส่งของบ้านสวน มีผลทำให้ผู้คนหายเจ็บป่วยกันมากมาย แค่ที่ไปที่สาขา 11 เกือบร้อยคน ก็หายทุกโรค โรคที่เป็นหนักเช่น รูมาตอยต์ SLE ยังหาย นี่จึงเป็นเหตุผลยืนยันว่า บุญบารมีของท่านอจ.อุบลสูงส่งมากจนบำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้

การมาทำบุญกับบ้านสวนพีรามิดที่มีกำลังบุญสูง เราย่อมได้บุญมากเช่นกัน และการทำบุญต่างๆในบ้านสวน ถ้าเป็นงานหนักใช้กำลังใจมากเช่น งานก่อสร้าง ปิดกระจกในที่สูงๆ ย่อมได้บุญมากตามกำลังใจ ผู้คนที่มาหายเจ็บกันและไม่สร้างบุญกันเอง อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของตน คอยรอรับบุญจากท่านอจอุบลอย่างเดียวสักวันคงไม่พอ ต้องกลับมาเป็นกันใหม่ อย่าประมาทกับชีวิตจะดีกว่า บุญใครบุญมัน

 

 การดมมือแล้วหาย

เป็นปริศนาธรรม ให้พวกเราคิด พิจารณา

แทนที่จะมาตื่นเต้นที่ดมมือแล้วหาย

ลองหาความหมายดูกันก่อน

ดีไหมคะ

ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

มือนี้มีอะไร จึงทำให้หายได้

 *********
หนึ่งคิดว่าเป็นบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

ไม่ว่าจะเป็น ท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จองค์ปฐม, พระศรีอาริย์พระพุทธเจ้าทุกพระองค์, พระนางเนเฟอร์ตารี, ท่านรามเสลที่ 2 และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล
ได้มาสถิตใน กาย วาจา ใจ ของท่านอ.อุบล

นอกจากนี้มือของท่านอ.อุบลยังเป็นมือที่
ส่งสัตตรังสี และฉัพพรรณรังสีมายังลูกหลานอีกด้วยคะ 

 การดมมือแล้วหาย

เป็นปริศนาธรรม ให้พวกเราคิด พิจารณา

แทนที่จะมาตื่นเต้นที่ดมมือแล้วหาย

ลองหาความหมายดูกันก่อน

ดีไหมคะ

ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

มือนี้มีอะไรจึงทำ ให้หายได้

**************

จิต....คิดว่าเป็นเพราะบารมีของท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์..เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ และบุญบารมีของท่านอาจารย์เอง...ที่สั่งสมมาทุกภพชาติ  เมื่อใช้มือแตะ....สัมผัส......ให้ใครดม.....จึงหายเป็นอัศจรรย์ทุกครั้ง แม้ไม่ได้สัมผัสโดยตรง......หากท่านยกมือไปทิศทางไหนคนที่รับสัมผัสบารมีสัตตรังสี ฉัพพรรณรังสีได้ ก็จะมีอาการให้รับรู้แตกต่างกันไป เช่น ขนลุก ใจเต้นแรง น้ำตาไหล โล่ง เบาสบาย ฯลฯ  มือท่านอาจารย์มีสัตตรังสี ฉัพพรรณรังสีมีบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์สถิตย์อยู่ค่ะ..... 

ธรรมทานคุณแก้วกันยภัทร  25 พค 56
นานแล้วก่อนเข้าบ้านสวน แก้วมีอาการแสบร้อนตามตัว ตอนดึกๆ ตี1-ตี2 แสบร้อนมากต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำ หลังจากมาสร้างบุญที่บ้านสวนท่านอาจารย์ไต่สวนกรรม ทำผิดศีลทุกข้อ โดยเฉพาะข้อ 1 ฆ่าและทรมานสัตว์สัตว์เยอะมาก ท่านอาจารย์เมตตาบอก แสบร้อนตามตัวคือสัญญานต้องไปนรก ปัจจุบันถึงแม้อากาศร้อนมาก แต่ไม่มีอาการแสบร้อนตามตัวแล้ว สบายตัวขึ้นเยอะ
กราบขอบพระคุณท่านอจ.อุบล และเทวดาที่รักษาท่านอจ.ทุกๆพระองค์

เก็บตกจากการไปร่วมงานเปิดสาขาบ้านสวน สาขาที่ 11  โดยมี ดร.จุ๋ม และ ดร.จิ๋ม เป็นแม่งาน  ซึ่งเป็นวันตรงกับวันวิสาขบูชาเสียด้วย วันพระใหญ่ แถมมีปรากฏการณ์ให้เราได้อึ้ง ทึ่ง หลากหลายอารมณ์ ไม่ว่า

1. การที่ท่าน อ.อุบล สามารถถ่ายทอดพลังงานบุญที่ดี หรือย้ายพลังไปให้แก่ หัวหน้าสาขาให้สามารถทำได้ใกล้เคียงกับที่ท่านทำได้  ไม่ว่าการที่ให้ ผู้ที่เป็นโรคต่างๆ  ได้มอง ดร.จิ๋มแล้วชมอาการก็ดีขึ้น / ผู้ที่เป็นโรค SLE (โรคคุณพุ่มพวง) ได้จุมพิตมือ ดร.จิ๋ม ก็หายปวดเมื่อยตามร่างกาย / ให้คนที่เป็นเก้าท์ก้มลงกราบ ดร.จิ๋ม ก็อาการดีขึ้นอย่างมาก  / หรือแม้แต่คนที่ปวดตามร่างกายได้ลองมายืนใกล้ๆ ดร.จุ๋มและ ดร.จิ๋ม ก็อาการดีขึ้น  แม้อยู่ระยะห่างไกล เพียงแค่ให้ ดร.จุ๋ม และ ดร.จิ๋ม ยกมือขึ้นเพื่อส่งฉัพพรรณรังษีของพระพุทธองค์ไปให้ ก็ทำให้อาการดีขึ้นและหายได้  สุดยอดจริงๆ ค่ะพี่น้อง ที่เด็ดกว่านั้นสามารถใช้ดัชนีไฉไลชี้ให้อาการผู้มาบำบัดดีขึ้นได้ด้วย  อย่างนี้แล้วหากผู้ที่เราต้องการช่วยบำบัดเขาแม้อยู่ห่างไกล ถึงต่างประเทศเราก็สามารถช่วยเหลือเขาได้สบายๆ  หรือจะแชทกันอยู่ก็ยกมือผ่านคอมแล้วพูด "หายนะลูก"  นี้่เวิกค์แน่ๆ ค่ะพี่น้อง

2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลท่านมาสถิตย์ที่สาขาบ้าน ดร.จุ๋ม และ ดร.จิ๋ม ตั้งแต่วันที่คิดจะเปิดสาขาบ้านสวนแล้ว ช่วยทำให้อัญตาสว่างถึงความเมตตาของทุกๆ พระองค์ อัญคิดว่าไม่ว่าจะเป็นสาขาใดของบ้านสวนเพียงแค่เราตั้งใจที่จะเปิดเป็นสาขาแล้ว จะได้รับพระเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทันที โดยไม่ต้องรอว่าท่านจะมาสถิตย์สถานที่เราในวันเปิดสาขา  มนุษย์คิดเทวดารู้ เป็นอย่างนี้นี่เองค่ะ  และผู้ที่มาเยือนเพียงแค่ก้าวเข้ามาในบริเวณบ้านของสาขาบ้านสวนจะพบกับสิ่งมหัสจรรย์ ไม่ว่าอาการที่ดีขึ้น หรือ หายจากโรคที่เป็น  

3. มีคุณป้าวัย 60 กว่าๆ ร่างท้วมๆ  มีปัญหาเรื่องสายตามองไม่ชัดเจน ใครจะคาดคิดได้ว่า จากผลกรรมที่จิตป้าแกเอนเอียงไปทางทอมๆ  รับสารภาพว่าเป็นทอม  พวกเราอึ้งเชียว และชอบมองหน้าอกผู้หญิง และเป้าของผู้ชาย  ที่สำคัญป้าแกดูรายการคุยไปแจกไปแล้วแอบคิดไม่ดีกับท่าน อ.อุบล ประมาณว่าอยากปลุกปล้ำท่าน อ.อุบล  ดูซิคะความคิดคนเราน่ากลัวมากๆ กว่าแกจะยอมรับสารภาพว่าคิดไม่ดีก็นานพอดู แต่ไม่สามารถหาย 100%  ได้ เพราะไม่ยอมพูดความจริงทั้งหมดว่าเอาสายตาไปดูสิ่งไม่ดีหรือเปล่า คงห่วงภาพลักษณ์ตัวเองหน่ะค่ะ ว่าเป็นถึงครูบาอาจารย์ทำไมจึงมีความคิดเช่นนั้น

4.ไฮไลท์ของงานคือมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเล่าประสบการณ์ว่าที่เขามาในงานนี้เพราะอยากพบเจอท่าน อ.อุบล  ด้วยก่อนหน้าน้องเขามีความทุกข์ใจกับปัญหาชีวิตถึงขนาดคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว  เดชะบุญเพื่อนบ้านได้แนะนำให้ดูรายการคุยไปแจกไป  น้องเขาดูและสนใจมากอีกทั้งปฏิบัติตามโดย ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย และท่องคา  ปรากฏว่ารุ่งขึ้นก็ได้รับข่าวดีมีงานทำ และปัจจุบันเขามีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงชีพได้  จากคนที่คิดจะฆ่าตัวตายแต่เปลี่ยนใจเมื่อเจอท่าน อ.อุบล  เขาพูดประมาณว่า  เขาไม่สนใจว่าท่าน อ.อุบลจะเป็นใครมาจากไหน  แต่ที่เขามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะมีท่าน อ.อุบล เขารู้สึกรักและเทิดทูนท่าน อ.อุบลเป็นอย่างมาก   เล่นเอาพวกเราตะลึง อึ้ง ที่คำพูดออกจากปากน้องเขา  แต่สามารถส่งพลังความจริงใจประทับใจในตัวท่าน อ.อุบล ได้อย่างแรงกระแทกใจเราได้อย่างประหลาด  ซึ่งท่าน อ.อุบลได้กล่าวว่า  คำพูดน้องเขาทำให้ท่าน อ.อุบลมีกำลังใจที่จะช่วยเหลือคนต่อไป และรู้สึกว่าตัวท่านพอจะมีคุณค่าบ้าง...  อัญว่า งานนี้มีโจทก์ให้พวกเราได้ตีไข เสียแล้ว  กับคำว่า  มีประโยชน์  และ  มีคุณค่า 

ทำให้คิดไปว่าทุกวันนี้ที่เรามาหาท่าน อ.อุบล เพื่ออะไร...ลึกๆ ที่จริงแล้วมาหาท่านเพื่อประโยขน์ส่วนตัว  มาแล้วหายเจ็บป่วย จน มีสภาพคล่อง มีความสุขในครอบครัว  หน้าที่การงาน   เหมือนเห็นแก่ตัวมาก ๆ   มาเพื่อรับสิ่งดีๆ จากท่านอาจารย์เท่านั้นหรือ    หรือเราเห็นแต่ประโยชน์ในตัวท่านอาจารย์  จนลืมคิดถึงคุณค่าของท่านอาจารย์ที่ท่านทุ่มเททำทุกวิถึทางเพื่อช่วยเหลือเราให้พ้นทุกข์  คิดๆ แล้วทำให้อดนึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้  ว่าท่านทรงทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมหาศาล ทำเพื่อประชาชนของท่าน  แต่คุณค่าในสิ่งที่พระองค์ทำพวกเราได้ตระหนักและเห็นหรือไม่   ไม่ได้เดินตามคำสอนของพ่อเลย  ยังทะเลาะกัน  ไม่สามัคคีกัน  รักพ่อแต่ปาก แต่การกระทำไม่ใช่เลย.. หรืออัญอาจเข้าใจอะไรผิดก็ได้ค่ะ

5.ในช่วงตอนกลางคืนได้มีการเวียนเทียนกัน ซึ่งในครั้งนี้หลายท่านโหวตว่าอยากเวียนเทียนที่บนนิพพาน  เพื่อกราบท่านพ่อดตาจินิน และไปหาท่าน อ.อุบล   คุณอมรอยากไปเวียนเทียนในนรก  พี่จุ๋มไอเดียบรรเจิดอยากไปเวียนเทียนที่ประเทศอียิปต์ เพื่อไปพบพระนางเนเฟอร์ตารีและท่านรามเสสที่ 2  งานนี้ใครเห็นสัมผัสอะไรยังไงคงต้องให้เจ้าตัวมาเหลาซะแล้วค่ะ    ส่วนอัญเองอยากไปนิพพานเพื่อขอฝากดวงจิตส่วนหนึ่งไว้กับท่านพ่อดตาจินิน  ซึ่งท่านพ่อได้เมตตาให้หมั่นกำหนดจิตเราไปบนนิพพานทุกวันอย่างน้อยตอนตื่นนอนใหม่ๆ  และก่อนนอน เพื่อให้จิตเราชินและมีที่ไปเมื่อถึงเวลานั้น   เพราะที่ผ่านมาอัญคิดว่าเราใช้จิตมายุ่งเกี่ยวกับทางโลก 100%   แต่งานนี้ได้กำไรชีวิตเพราะนอกจากได้กราบท่านพ่อดตาจินินแล้ว ยังได้กราบท่านอาจารย์อุบลด้วยเพราะท่านอาจารย์นั่งอยู่ข้างๆ ท่านพ่อดตาจินินด้วยค่ะ  

เหตุการณ์หลังเปิดสาขา 11  บ้านสวนพีระมิด ผู้เล่าคือจิ๋ม ชัชวลี

หลังจากเปิดสาขา อ.อุบลได้สอนวิธีการใหม่ ๆ ให้ มีอะไรบางอย่างที่จิ๋มอึ้ง เช่น ดมมือ แล้วหาย หรือ กราบแล้วหาย  ใน 2 วิธีนี้เป็นวิธีที่ จิ๋มไม่กล้าใช้ เพราะคิดว่าตนเองยังไม่บริสุทธิ์พอค่ะ  เพราะเรายังบำเพ็ญบารมีมาไม่ถึงขั้นเหมือนท่านอาจารย์   แต่ก็จะจดจำไว้ใช้นะคะถ้าจำเป็น  แต่จิ๋มคิดว่า ไม่ต้องถึงวิธีนั้น เขาก็หายได้หมดแล้ว

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา จิ๋มได้บำบัดครอบครัว 1 คณะ เนื่องจากเขามาบ้านสวนฯ โดยผิดวิธี เพราะไม่ได้ขออนุญาต แต่เขามาแล้ว จิ๋มจึงให้เขาไปพบที่ บ้าน สาขา 11 ตอนบ่าย ครอบครัวนี้คือครอบครัวของคุณอนุรักษ์ ทำงาน กฟผ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ติดตาม อ.อุบลใน web นานมากเป็นปี แต่ไม่เคยมาบ้านสวนฯ ดูซิ พอจะมาก็มาผิดวิธี เลยเข้าบ้านสวนไม่ได้ เพราะไม่ขออนุญาต  เขาพาครอบครัวมา ซึ่งแต่ละคนไม่ได้อ่าน web เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และลองให้จิ๋มช่วยบำบัดดู  เช่น ภรรยาเขา ตึงไหล่ ปวดหลังมาหลายปี  พอรักษา โดยดูจี้  และให้แตะพีระมิด ก็ดีขึ้นมาก  ส่วนน้องสาวอีกคนก็ปวดขา และหลัง ก็หาย  พอหายแล้วเขาก็ขอบูชาวัตถุมงคล เพื่อเอากลับบ้าน  น้องสาวคุณอนุรักษ์อยากรวย ก็เลยขอบูชา เข็มกลัดท่านท้าวเวสสุวรรณ รวมทั้งพีระมิดด้วย แต่จิ๋มพยายามเน้นว่า  การที่อ.อุบลมอบหมายหน้าที่ให้จิ๋มทำการบำบัดนั้น ก็เพื่อให้คนที่มารักษาสำนึกในบาปกรรมที่ทำ และกลับตัวเป็นคนดี อย่ากลับไปทำอีก ดังนั้นอาการที่หายในวันนี้อาจกลับเป็นอีก ถ้าไม่ทำความดี หรือทำบุญเพิ่มเติม เพราะขณะนี้เราอาศัยบุญจากท่าน อ.อุบลอยู่  เขาก็เข้าใจ  

อีกกลุ่มนึง ประมาณ 6 คน เป็นครอบครัวของคุณ อ้อ ที่ อ.ภาชี อยุธยา  งานนี้จิ๋มทำงานนอกสถานที่ เพราะเขาอยู่ใกล้ที่ทำงานคือ สถาบันวิจัย ปตท. ก็เลยให้มาที่นั่น และเลือกมุมสงบ ๆ มารักษากัน งานนี้มีคนเป็นไทรอยด์ และมีเนื้องอกออกมา กำลังจะผ่าตัด จิ๋มเลยบอกว่า จะรักษาให้ แต่คงไม่เห็นผลทันที เพราะ ต้องรอว่าอาการจะดีขึ้นมั๊ย งานนี้เลยให้เขามองจี้ และ ใช้คำพูดว่า หายนะลูก 

ส่วนคนที่มาด้วย ก็มีคุณแม่ขอคนที่เป็นไทรอยด์ ปวดหลัง ปวดหัว เพราะเขาขี้โกรธ และตีหัวปลา ตีงู  อันนี้เขาสารภาพมาภายหลังนะคะ  ให้ดูจี้ และใช้รหัสอาจารย์  กรณีอาการไม่ดีขึ้น ก็ให้ถือพีระมิด สัก 3 วินาที  ก็หายได้ค่ะ

2 ครอบครัวนี้ บอกว่าให้ส่งข่าวด้วยว่าจะทำการบรรยายธรรมที่สาขาอีกเมื่อไรจะมาด้วย  จิ๋มก็จะรีบส่งข่าวให้เขาค่ะ

ส่วนรายสุดท้าย เป็นเพื่อนบ้านที่นครนายก มีอาการคัน และปวดต้นคอ ก็ให้เขาดูจี้ และ ฉีดน้ำทิพย์ที่ติดกระเป๋าจิ๋มไว้ เขาก็หาย และเกิดขนลุก เขาก็บอกว่างานหน้าจะชวนเพื่อนมาอีกเยอะๆ

ดีใจมากค่ะ ที่เริ่มรักษาคนได้แล้ว กราบขอบพระคุณท่านอาจาย์อุบล ลูกขอถวายบุญที่เกิดจากการช่วยคน และกล่าวบอกธรรมทานกับเขาเหล่านี้   ให้กับเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษา อ.อุบลทุกๆ พระองค์

จิ๋ม ชัชวลี (หมออนาคตมือใหม่)

 อนุโมทนากับพี่ จิ๋มด้วยค่ะ

แม้จะเป็นหมอมือใหม่  แต่ก็บำบัดผู้คน

ให้หายจากความเจ็บป่วยได้แบบฉับพลันทันที  

ดีกว่าหมอแผนปัจจุบันด้วยค่ะ

      และขอเก็บตกจากงานเปิดสาขาบ้านพี่จิ๋มค่ะ

ท่าน อ. อุบล ได้พูดถึงเรื่องพลังปราณ  มโนธาตุ

ว่าเราสามารถสร้างให้ตัวเราเองได้  ด้วยการทำความดี

แต่ถ้าเราไม่สามารถทำได้  ก็อาศัยตัวช่วย

จากวัตถุมงคลบ้านสวน

และพาเมล่า  พลังปราณทำให้อาการเจ็บป่วยทางกายดีขึ้น

พลังมโนธาตุ เป็นธาตุรู้  ทำให้สงบ มีปัญญา

แล้วทำไมเมื่อใคร ๆ เข้าใกล้ท่าน อ. อุบล

แล้วอาการเจ็บป่วยถึงดีขึ้น  ท่าน อ. อุบลบอกว่า

เพราะในทุกอณุของร่างกายท่าน  มีพลังปราณ  มโนธาตุ  

อยู่มากมาย จึงทำให้คนที่อยู่ใกล้ท่านหาย

จากการเจ็บป่วยได้  เพราะได้รับพลังปราณ

จากท่าน อ.อุบล  ที่แผ่ออกมา

    และอีกเรื่อง  คือ  เมื่อเราได้รับการบำบัดแล้ว  

อาการดีขึ้น  หรือ  หาย

ท่าน อ. อุบล  เน้นเสมอว่า  ให้เราพูดถึงเรื่องที่ดีขึ้นก่อน

เพื่อเป็นการขอบคุณสิ่งศักด์สิทธิ์

นอกจากนั้น  การที่เราพูดถึงอาการที่ดีขึ้นก่อน  

เป็นการพูดถึงสิ่งที่ดี  เป็นการนำสิ่งที่เป็นมงคล

เข้าตัวเรา  แต่ถ้าเราพูดถึงอาการที่เหลืออยู่  

เป็นการพูดถึงสิ่งที่ไม่ดี

เป็นการนำสิ่งไม่ดีเข้าสู่ตัวเรา  และทำให้จิตเราปิดกั้น

ไม่สามารถรับสิ่งดี ๆ เข้าไปได้

ขอนุโมทนาบุญพี่ดร.จิ๋มค่ะ 

เขียนบรรยายการบำบัดได้น่ารักมากเลยค่ะ

และผู้ที่มาบำับัดก็หายและได้รับความสุขกลับไปทุกคนสาธุค่ะ

 ขออนุญาต ขยายขนาดตัวอักษรค่ะ

ความเห็นที่ 8809 (1660012)
เก็บตกจากการไปร่วมงานเปิดสาขาบ้านสวน สาขาที่ 11  โดยมี ดร.จุ๋ม และ ดร.จิ๋ม เป็นแม่งาน  ซึ่งเป็นวันตรงกับวันวิสาขบูชาเสียด้วย วันพระใหญ่ แถมมีปรากฏการณ์ให้เราได้อึ้ง ทึ่ง หลากหลายอารมณ์ ไม่ว่า 1. การที่ท่าน อ.อุบล สามารถถ่ายทอดพลังงานบุญที่ดี หรือย้ายพลังไปให้แก่ หัวหน้าสาขาให้สามารถทำได้ใกล้เคียงกับที่ท่านทำได้  ไม่ว่าการที่ให้ ผู้ที่เป็นโรคต่างๆ  ได้มอง ดร.จิ๋มแล้วชมอาการก็ดีขึ้น / ผู้ที่เป็นโรค SLE (โรคคุณพุ่มพวง) ได้จุมพิตมือ ดร.จิ๋ม ก็หายปวดเมื่อยตามร่างกาย / ให้คนที่เป็นเก้าท์ก้มลงกราบ ดร.จิ๋ม ก็อาการดีขึ้นอย่างมาก  / หรือแม้แต่คนที่ปวดตามร่างกายได้ลองมายืนใกล้ๆ ดร.จุ๋มและ ดร.จิ๋ม ก็อาการดีขึ้น  แม้อยู่ระยะห่างไกล เพียงแค่ให้ ดร.จุ๋ม และ ดร.จิ๋ม ยกมือขึ้นเพื่อส่งฉัพพรรณรังษีของพระพุทธองค์ไปให้ ก็ทำให้อาการดีขึ้นและหายได้  สุดยอดจริงๆ ค่ะพี่น้อง ที่เด็ดกว่านั้นสามารถใช้ดัชนีไฉไลชี้ให้อาการผู้มาบำบัดดีขึ้นได้ด้วย  อย่างนี้แล้วหากผู้ที่เราต้องการช่วยบำบัดเขาแม้อยู่ห่างไกล ถึงต่างประเทศเราก็สามารถช่วยเหลือเขาได้สบายๆ  หรือจะแชทกันอยู่ก็ยกมือผ่านคอมแล้วพูด "หายนะลูก"  นี้่เวิกค์แน่ๆ ค่ะพี่น้อง 2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลท่านมาสถิตย์ที่สาขาบ้าน ดร.จุ๋ม และ ดร.จิ๋ม ตั้งแต่วันที่คิดจะเปิดสาขาบ้านสวนแล้ว ช่วยทำให้อัญตาสว่างถึงความเมตตาของทุกๆ พระองค์ อัญคิดว่าไม่ว่าจะเป็นสาขาใดของบ้านสวนเพียงแค่เราตั้งใจที่จะเปิดเป็นสาขาแล้ว จะได้รับพระเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทันที โดยไม่ต้องรอว่าท่านจะมาสถิตย์สถานที่เราในวันเปิดสาขา  มนุษย์คิดเทวดารู้ เป็นอย่างนี้นี่เองค่ะ  และผู้ที่มาเยือนเพียงแค่ก้าวเข้ามาในบริเวณบ้านของสาขาบ้านสวนจะพบกับสิ่งมหัสจรรย์ ไม่ว่าอาการที่ดีขึ้น หรือ หายจากโรคที่เป็น   3. มีคุณป้าวัย 60 กว่าๆ ร่างท้วมๆ  มีปัญหาเรื่องสายตามองไม่ชัดเจน ใครจะคาดคิดได้ว่า จากผลกรรมที่จิตป้าแกเอนเอียงไปทางทอมๆ  รับสารภาพว่าเป็นทอม  พวกเราอึ้งเชียว และชอบมองหน้าอกผู้หญิง และเป้าของผู้ชาย  ที่สำคัญป้าแกดูรายการคุยไปแจกไปแล้วแอบคิดไม่ดีกับท่าน อ.อุบล ประมาณว่าอยากปลุกปล้ำท่าน อ.อุบล  ดูซิคะความคิดคนเราน่ากลัวมากๆ กว่าแกจะยอมรับสารภาพว่าคิดไม่ดีก็นานพอดู แต่ไม่สามารถหาย 100%  ได้ เพราะไม่ยอมพูดความจริงทั้งหมดว่าเอาสายตาไปดูสิ่งไม่ดีหรือเปล่า คงห่วงภาพลักษณ์ตัวเองหน่ะค่ะ ว่าเป็นถึงครูบาอาจารย์ทำไมจึงมีความคิดเช่นนั้น 4.ไฮไลท์ของงานคือมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเล่าประสบการณ์ว่าที่เขามาในงานนี้เพราะอยากพบเจอท่าน อ.อุบล  ด้วยก่อนหน้าน้องเขามีความทุกข์ใจกับปัญหาชีวิตถึงขนาดคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว  เดชะบุญเพื่อนบ้านได้แนะนำให้ดูรายการคุยไปแจกไป  น้องเขาดูและสนใจมากอีกทั้งปฏิบัติตามโดย ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย และท่องคา  ปรากฏว่ารุ่งขึ้นก็ได้รับข่าวดีมีงานทำ และปัจจุบันเขามีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงชีพได้  จากคนที่คิดจะฆ่าตัวตายแต่เปลี่ยนใจเมื่อเจอท่าน อ.อุบล  เขาพูดประมาณว่า  เขาไม่สนใจว่าท่าน อ.อุบลจะเป็นใครมาจากไหน  แต่ที่เขามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะมีท่าน อ.อุบล เขารู้สึกรักและเทิดทูนท่าน อ.อุบลเป็นอย่างมาก   เล่นเอาพวกเราตะลึง อึ้ง ที่คำพูดออกจากปากน้องเขา  แต่สามารถส่งพลังความจริงใจประทับใจในตัวท่าน อ.อุบล ได้อย่างแรงกระแทกใจเราได้อย่างประหลาด  ซึ่งท่าน อ.อุบลได้กล่าวว่า  คำพูดน้องเขาทำให้ท่าน อ.อุบลมีกำลังใจที่จะช่วยเหลือคนต่อไป และรู้สึกว่าตัวท่านพอจะมีคุณค่าบ้าง...  อัญว่า งานนี้มีโจทก์ให้พวกเราได้ตีไข เสียแล้ว  กับคำว่า  มีประโยชน์  และ  มีคุณค่า  ทำให้คิดไปว่าทุกวันนี้ที่เรามาหาท่าน อ.อุบล เพื่ออะไร...ลึกๆ ที่จริงแล้วมาหาท่านเพื่อประโยขน์ส่วนตัว  มาแล้วหายเจ็บป่วย จน มีสภาพคล่อง มีความสุขในครอบครัว  หน้าที่การงาน   เหมือนเห็นแก่ตัวมาก ๆ   มาเพื่อรับสิ่งดีๆ จากท่านอาจารย์เท่านั้นหรือ    หรือเราเห็นแต่ประโยชน์ในตัวท่านอาจารย์  จนลืมคิดถึงคุณค่าของท่านอาจารย์ที่ท่านทุ่มเททำทุกวิถึทางเพื่อช่วยเหลือเราให้พ้นทุกข์  คิดๆ แล้วทำให้อดนึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้  ว่าท่านทรงทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมหาศาล ทำเพื่อประชาชนของท่าน  แต่คุณค่าในสิ่งที่พระองค์ทำพวกเราได้ตระหนักและเห็นหรือไม่   ไม่ได้เดินตามคำสอนของพ่อเลย  ยังทะเลาะกัน  ไม่สามัคคีกัน  รักพ่อแต่ปาก แต่การกระทำไม่ใช่เลย.. หรืออัญอาจเข้าใจอะไรผิดก็ได้ค่ะ 5.ในช่วงตอนกลางคืนได้มีการเวียนเทียนกัน ซึ่งในครั้งนี้หลายท่านโหวตว่าอยากเวียนเทียนที่บนนิพพาน  เพื่อกราบท่านพ่อดตาจินิน และไปหาท่าน อ.อุบล   คุณอมรอยากไปเวียนเทียนในนรก  พี่จุ๋มไอเดียบรรเจิดอยากไปเวียนเทียนที่ประเทศอียิปต์ เพื่อไปพบพระนางเนเฟอร์ตารีและท่านรามเสสที่ 2  งานนี้ใครเห็นสัมผัสอะไรยังไงคงต้องให้เจ้าตัวมาเหลาซะแล้วค่ะ    ส่วนอัญเองอยากไปนิพพานเพื่อขอฝากดวงจิตส่วนหนึ่งไว้กับท่านพ่อดตาจินิน  ซึ่งท่านพ่อได้เมตตาให้หมั่นกำหนดจิตเราไปบนนิพพานทุกวันอย่างน้อยตอนตื่นนอนใหม่ๆ  และก่อนนอน เพื่อให้จิตเราชินและมีที่ไปเมื่อถึงเวลานั้น   เพราะที่ผ่านมาอัญคิดว่าเราใช้จิตมายุ่งเกี่ยวกับทางโลก 100%   แต่งานนี้ได้กำไรชีวิตเพราะนอกจากได้กราบท่านพ่อดตาจินินแล้ว ยังได้กราบท่านอาจารย์อุบลด้วยเพราะท่านอาจารย์นั่งอยู่ข้างๆ ท่านพ่อดตาจินินด้วยค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) วันที่ตอบ 2013-05-30 22:41:02

"เขารู้สึกรักและเทิดทูนท่าน อ.อุบลเป็นอย่างมาก"

ซึ่งท่าน อ.อุบลได้กล่าวว่า  คำพูดน้องเขาทำให้

ท่าน อ.อุบลมีกำลังใจที่จะช่วยเหลือคนต่อไป

และรู้สึกว่าตัวท่านพอจะมีคุณค่าบ้าง... 

อัญว่า งานนี้มีโจทก์ให้พวกเราได้ตีไข เสียแล้ว 

กับคำว่า  มีประโยชน์  และ  มีคุณค่า 

ทำให้คิดไปว่าทุกวันนี้ที่เรามาหาท่าน อ.อุบล เพื่ออะไร...

ลึกๆ ที่จริงแล้ว มาหาท่านเพื่อประโยขน์ส่วนตัว

มาแล้วหายเจ็บป่วย หายจน มีสภาพคล่อง

มีความสุขในครอบครัว  มีหน้าที่การงานดีๆ  

เหมือนเห็นแก่ตัวมาก ๆ   มาเพื่อรับสิ่งดีๆ

จากท่านอาจารย์เท่านั้นหรือ ?

หรือเราเห็นแต่ประโยชน์ในตัวท่านอาจารย์ 

จนลืมคิดถึงคุณค่าของท่านอาจารย์

ที่ท่านทุ่มเททำทุกวิถึทางเพื่อช่วยเหลือเราให้พ้นทุกข์ 

(แสดงความคิดเห็นโดย คุณอัญชลา บุตรโส)

 ************************************

คุณประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์

ก็อาจจะไม่มีค่าอีกต่อไป

คุณค่า คือ สิ่งที่จะคงอยู่ต่อไปตลอดกาล

โมทนาบุญกับธรรมทานทุกๆท่านค่ะ คุณอัญ คุณนี  ฯลฯ

ประโยชน์   เมื่อหมดประโยชน์ก็อาจจะไม่มีคุณค่าอีกต่อไป

คุณค่า สิ่งที่คงอยู่ตลอดกาลและตลอดไปตราบเท่าชีวิตของหนูค่ะ  ท่านอ.อุบล เคยพูดถึงถ้าจะเห็นท่านให้เห็นศีล สมาธิ ปัญญา  วิมุติ อย่ามองแค่ภายนอก ( ประมาณนั้นแหละ )หนูยังจำคำที่ท่านอ.อุบลพูด  หนูเองอาจจะเขียนธรรมทานไม่เก่งและอาจใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้องเท่าไรนัก  หากคำพูดที่หนูเขียนไปถูกต้องขอให้หนูส่งผ่านด้วยเถิด แต่ถ้าจำผิดไปหรือเขียนไม่ได้เรื่องก็ขอให้ส่งไม่ผ่านด้วยเถิดเจ้าค่ะสาธุๆๆ 

มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังค่ะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 2556 หนูเองอยู่ที่รพ.ลำลูกกา ลูกน้ำตาลโทรบอกว่ามีไอ้เข้ ( คุณเข้)  เข้าบ้านแต่ที่จริงแล้วเป็นตัวเงินตัวทอง ตัวเงินตัวทองเขาหอบเงินหอบทองมาให้บ้านเรา แล้ววันนี้มีคนมาดูที่เป็นนายหน้าคนใหม่ซึ่ที่ติดกับรั้ววราบดินทร์โซนจามจุรีแน่ก็เป็นข่าวดีเราบอกไปไร่ละห้าล้านแต่นายหน้าไปเอากำไรอีกห้าแสนแล้วเราจะขายได้ไหมเนี่ย อ.อุบลช่วยด้วยขอให้ขายที่ผืนนี้ขายได้ฉับพลันทันทีณบัดนี้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ สาธุๆๆ

อนุโทนาค่ะ น้องอัญ

ตอนนี้ ที่ลำปางก็มีหลายคนเช่นกันที่หายจากอาการเจ็บป่วย ทุกข์ทรมาน

มานาน บางคนเป็นเบาหวานมา ๘ ปีบางคนเป็นไทรอยด์มา ๔ ปี  บางคนก็

เหมือนบ้าๆ บอๆ นอนไม่หลับ ต้องกินยานอนหลับทุกคืน และอีกหลายๆ คน

เขาเหล่านี้เมื่อได้รับการบำบัดด้วยระหัส อ.อุบลช่วยด้วย และได้ดื่มน้ำพีระมิดที่ให้ไป อาการดีขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็ลดยาลง หมอยืนยันจากผลการตรวจเลือด  ทุกคนจะระลึกถึง ท่าน อ.อุบล เขาบอก ท่านเป็นใคร ไม่เคยเจอ แต่เขาเคารพกราบไหว้ขอบคุณทุกวันคืน  อ.อุบล ทำให้มีความสุข หายป่วยไข้

แค่ได้ยิน หมวยก็มีความสุขไปด้วยค่ะ  ลูกกราบเท้า ขอบพระคุณท่าน

อ.อุบล  และเทวดาทุกพระองค์ของท่าน อ.อุบล ค่ะ   สาธู ค่ะ

ธรรมทาน จากคุณบุญเรือน กุลพญา ฝากมาที่ชัชวลี เพื่อเขียนใน web บ้านสวน
เรื่องเกี่ยวกับการแก้คุณไสยมนต์ดำ ด้วยบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
 เรือน ขอขอบคุณ ท่านพ่อดตาจินิน  พระนางเนเฟอร์ตารี  ท่านรามเสสที่ 2 พระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ ท่าน อ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่คุ้มครองท่าน อ.อุบล เรือนได้พาพี่สาวไปร่วมงานที่ รร.เดอะทราเวลเลอร์ พี่สาวโดนคุณไสย มนต์ดำ หลังจากพี่สาวได้รับการบำบัดกับท่าน อ.อุบล และได้ดื่มน้ำทิพย์ที่ท่าน อ.อุบลทำให้  เมื่อได้ดื่มน้ำแล้ว ก็ได้อาเจียรออกมาทันทีเลย แล้วตัวก็เบา อาการจุกเสียดแน่นท้องก็หายไป เรือนดีใจมากเพราะพี่สาวเป็นมานานหลายปีแล้ว อาการแบบนี้จุกเสียด แน่นท้อง จะเป็นก่อนวันพระ และในวันพระด้วย อารมณ์หงุดหงิดง่าย เรือนดีใจที่ได้พี่สาว ที่มีชีวิตดีขึ้นมาใหม่
 จากการไปร่วมงานเปิดสาขาบ้านสวน สาขา 11 ที่บ้าน ดร.จุ๋ม จิ๋ม เรือนได้พาพี่สาว ไปร่วมงานอีก เมื่อพี่สาวได้ดื่มน้ำทิพย์ที่ท่าน อ.อุบล ทำให้ดื่มประมาณ 2-3 อึก ก็อาเจียนออกมา คราวนี้พี่สาวได้สัมผัสว่า เหมือนมีอะไร เป็นก้อน ๆ หรือเป็นลูก ๆ เคลื่อนออกมาจากท้อง แล้วก็อาเจียรออกมา หลังจากนั้นแล้ว พี่สาวก็บอกว่า ตัวเบาลง ใบหน้าขาวมีราศี จิตใจดีขึ้น  หลังจากกลับมาบ้านแล้ว พี่สาวได้ดำเนินชีวิตประจำวันเป็นปกติ มีความสุขดีขึ้น ไม่แน่นท้อง จุกท้อง  อารมณ์และจิ
ตใจดีขึ้นมา ไม่หงุดหงิดง่าย  ก่อนที่จะเข้าไปร่วมงานเปิดสาขาบ้านสวน ที่บ้าน ดร.จุ๋ม จิ๋ม ตอนนั้นนั่งรถไปสังเกตุดูพี่สาวมีใบหน้าหมองคล้ำ อารมณ์หงุดหงิด ผิดกับตอนที่ได้รับน้ำทิพย์แล้ว
 เรือนขอขอบคุณท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระนางเนเฟอร์ตารี ท่านรามเสสที่ 2  ท่าน อ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก พระองค์ที่คุ้มครองท่าน อ.อุบลที่มอบชีวิตใหม่ให้พี่สาว ทำให้พี่สาวมีความเป็นอยู่ดีขึ้น และขอขอบคุณความมีไมตรีจิตที่ดีของชาวลูกบ้านสวนทุกคน ที่อำนวยความสะดวกให้กับพี่สาวและหลานทั้งสองคน
 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่สาวทั้งสองเหตุการณ์ คือ ที่ โรงแรม และที่บ้าน ดร.จุ๋ม จิ๋ม เป็นที่ประจักษ์แน่ชัดแล้วว่า คุณไสย มนต์ดำ ต้องปลดล็อคด้วยบารมีทั้ง 3 พระองค์เท่านั้น คือ ท่านพ่อดตาจินิน พระนางเนเฟอร์ตารี และ ท่านรามเสสที่ 2 เพราะบารมีท่านสูงส่ง และศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
 ลูกขอเป็นตัวแทนของพี่สาวและของตัวลูกเอง ขอกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน พระนางเนเฟอร์ตารี ท่านรามเสสที่ 2  พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์  ทาน อ.อุบล และเทวดาที่รักษาท่านทุกพระองค์

คุณบุญเรือน กุลพญา ผู้เขียนข้อความฝากมา

 ธรรมทานวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย. 56

วันนี้พวกเราได้ช่วยกันบำบัดญาติธรรม

ที่มาสร้างบุญร่วมกัน

ซึ่งงานนี้เป็นการรวมตัวกันของผู้จัดการสาขาอย่างแท้จริง

เพราะมีทั้ง อ.พัน จากสาขาสระแก้ว

พี่เจี๊ยบจากสาขานนทบุรี

ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋มจากสาขานครนายก

และพี่พิชัย-คุณน้อยจากสาขาอุดรธานี

งานนี้เริ่มด้วยอาการเจ็บนิ้วของพี่แก้วที่ค้อน

ตอกเอานิ้วตัวเองเข้าระหว่างสร้างบุญแรงกาย

ซึ่งเริ่มด้วยการบำบัดของแต่ละท่าน บ้างก็ใช้วิธียืนไกลกัน

และบอก"หายนะลูก" พี่แก้วก็ดีขึ้น  ท่านอื่นก็ใช้วิธีแต่ะตัว

แล้วพูดเหมือนกัน พี่แก้วก็อาการดีขึ้นอีก แต่ยังไม่หาย

งานนี้ลองให้ดมมือ ผจก. สาขาดูบ้าง อาการก็ดีขึ้นอีก

และผจก.สาขาท่านอื่นก็ได้ใช้ดัชนีไฉไลส่งให้ปรากฎว่า

หลังจากผจก.สาขาทั้งหมดได้บำบัดจบลงที่คนสุดท้าย

พี่แก้วอาการหาย 100 %  ทำให้เห็นได้ว่า

การบำบัดนั้น นอกจากบำบัดให้ดีขึ้นหรือหายแล้ว

งานนี้ยังสอนให้พวกเราเห็นถึงความสามัคคีด้วยค่ะ

ว่า  ถ้าหากเราต่างคนต่างบำบัด

อาการก็ดีขึ้น แต่อาจไม่หาย 100% 

ก็เป็นได้ แต่ถ้ารวมพลังกัน ทำอะไรก็สำเร็จ

ดังผลปรากฎชัดเจนในค่ำคืนนี้เอง

ส่วนเคสที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจก็คือ

เคสของคุณน้อย จากอุดร 

ซึ่งแกมีอาการ ปัสสาวะ อุจจาระไม่ออก

ปวดแต่ไม่ยอมออก

พอจะปัสสาวะออก ก็ทั้งเจ็บทั้งแสบ แถมเป็นเลือดด้วย

เรียกว่าสร้างความทุกข์ทรมานให้แกอย่างที่สุด

ซึ่งคุณน้อยก็ได้เล่าอาการและเรื่องราวให้ฟังว่า

ได้มีผู้ชายคนหนึ่งโทรมาเพื่อมาขอบำบัดด้วย

ซึ่งผู้ชายคนนี้

มีอาการเจ็บแสบตรงอวัยวะเพศ เขาทุกข์ทรมานมาก

ซึ่งเจ้าตัวก็เคยผิดศีลข้อ 3 มา

ซึ่งตัวคุณน้อยก็ได้นัดเจอและได้นำ

เครื่องสำอางพาเมล่าติดตัวไปด้วย

เพื่อจะให้บำบัดและให้เขาบูชา

และได้บอกกับผู้ชายคนนั้นว่าคุณน้อย

จะไม่โทรหาเขาเด็ดขาด

ถ้าจะเจอกันต้องให้เขาโทรมาเองเท่านั้น

ซึ่งพวกเราก็ช่วยกันวิเคราะห์ว่า

เพราะเหตุใดหลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว

คุณน้อยถึงมามีอาการเหมือนชายคนนั้นทุกอย่าง

และสรุปได้ว่าอาจเกิดจากการแทรกแซงกรรม ที่คุณน้อยไปเสนอวิธีการบำบัดให้เขา

และนำเสนอการขายผลิตภัณฑ์พาเมล่ามากเกินไป

และอีกเหตผลหนึ่งก็คือเกิดจาก

คุณน้อยมุ่งที่จะช่วยแต่เจ้าตัวผู้ชายคนนั้น

โดยลืมให้ความยุติธรรมกับเจ้ากรรมนายเวรก่อน

งานนี้จึงไม่พลาดในสิ่งที่เราสงสัยว่าการกระทำนี้

เป็นการแทรกแซงกรรมจริงหรือไม่

จึงได้ตั้งคำถามกราบทูลกับท่านพ่อดตาจินิน

ผลปรากฎว่าคุณน้อยอาการดีขึ้น ลองไปฉี่ดู

ปรากฏว่า ปัสสาวะออกแล้ว

และไม่ทรมานเหมือนก่อน

งานนี้คุณน้อยบอกว่าเข็ดแล้ว

ไม่เอาอีกแล้วค่ะ 555

ดีใจกับคุณน้อยที่อาการดีขึ้นด้วยนะคะ

เชื่อว่าเดี๋ยวต้องหายแบบ 100 % แน่นอน

ชัดเจนค่ะ ทำให้พวกเราได้ธรรมะว่า

การที่เราจะช่วยบำบัดใคร

ต้องให้ความยุติธรรมกับเจ้ากรรมนายเวรก่อนเจ้าตัว

เพราะเขาเจ็บปวด และทุกข์ทรมานกว่าเจ้าตัวหลายเท่านัก

และการเป็นเซ็นเตอร์พาเมล่านั้น

อย่ามุ่งเน้นหรืออยากขายมากจนเกินไป

ดังที่ท่านอาจารย์จะย้ำนักย้ำหนากับกฎระเบียบในการเป็นเซ็นเตอร์พาเมล่ามาตลอด

และพี่เจี๊ยบก็ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า

ผู้ชายคนนี้ก็ได้โทรมาบำบัดกับพี่เจี๊ยบก่อนหน้านี้แล้ว

ซึ่งพี่เจี๊ยบก็ได้บำบัดจนอาการดีขึ้น

และบอกเขาไปว่ากรรมนี้เกิดจาก

การผิดศีลข้อ 3 ส่วนหนึ่ง

และพี่ผู้ชายคนนี้ก็เล่าด้วยว่าเขาชอบฉี่ไม่เป็นที่เป็นทาง

ขับรถไปเจอปั๊มก็ไม่เข้าแต่เลือกฉี่ข้างทางแทน

บางทีในบ้านของตัวเองห้องน้ำก็ไม่ฉี่

แต่เลือกฉี่ที่รั้วข้างบ้านแทน

ถึงแม้เจ้าตัวจะบอกว่าขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ

เจ้าที่เจ้าทางแล้วก่อนฉี่ก็ตาม

แต่พี่เจี๊ยบก็ได้บอกไปว่า

แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าท่านอนุญาติ

เรียกว่างานนี้แสดงให้เห็นเลยค่ะ

ว่ากรรมก็คือการกระทำของเขาเองนั่น แหล่ะ

และผลของกรรมก็ยุติธรรมเสมอ

ดังเคสนี้ที่พวกเราได้ธรรมทานกันค่ะ

ขอบคุณธรรมทานล่าสุดที่เกิดขึ้น

เมื่อวันเสาร์ที่ 1มิ.ย. จากคุณตุ้ย ด้วยค่ะ

อ่านแล้วก็นึกภาพตาม

คงจะเป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆเลยนะคะ

ที่ หัวหน้าสาขาแต่ละที่

สามัคคีกันและรวมพลังบุญเพื่อบำบัด

จนอาการของพี่แก้วหายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

เป็นการพิสูจน์ให้พวกเรา

ได้เห็นกันชัดๆเลยว่า

สามัคคีคือ"พลัง" จริงๆ

เพราะถ้าแต่ละคนแต่ละที่

คิดไปในทางแข่งขันกัน

ผลคงจะออกมาคนละเรื่องแน่ๆค่ะ

...........

ส่วนอุทาหรณ์สอนใจเรื่องของคุณน้อย(อุดร)

อ่านแล้วก็ คงจะเตือนใจพวกเราได้เป็นอย่างดีว่า

"อย่าเผลอสติ และประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด"

ทุกครั้งที่จะบำบัดผู้ใด

ก็ต้องให้เค้าเป็นฝ่ายมาหาเราเอง

อย่างที่ท่านอาจารย์ทำเป็นตัวอย่าง

แล้วก็ต้องนึกให้ถ้วนถี่ถึงตัวผู้มารับการบำบัด

และ ต้องนึกถึงหัวอกเจ้ากรรมนายเวร

ของเค้าเป็นสำคัญด้วย .....

งานนี้ไม่ง่ายเลยนะคะเนี่ย

เพราะผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าสาขาได้

ต้องเป็นคนที่ใจแข็ง เด็ดเดี่ยว

และต้องมีจิตอาสา มีศีล มีสติตลอดเวลาจริงๆ

ซึ่งแต่ละท่านก็คงจะสะสมบุญบารมี

มาไม่น้อยชาติแล้วล่ะค่ะ

ไม่งั้นคงจะไม่เสียสละตน

มารับหน้าที่นี้อย่างแน่นอน 

แล้วก็ขอบคุณทุกๆธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยค่ะ

แต่อ่านที่พี่หมวยเขียนแล้วก็ดีใจด้วยอีกคนค่ะ

เพราะพวกเค้าเหล่านั้นพ้นทุกข์ได้

ด้วยรหัสวิเศษ"อ.อุบล ช่วยด้วย"

ทั้งๆที่ไม่เคยได้พบ ได้เจอ

ท่านอาจารย์เลยด้วยซ้ำ

แต่ก็เห็นผลแบบชัดๆเต็มๆ

สาธุ สาธุ ด้วยค่ะ

ขอบคุณธรรมทานจากทุกท่านค่ะ

ทำให้ชาวเกาะอ่านแล้วได้ระมัดระวัง

ปรับเปลี่ยนตัวเอง

โดยเฉพาะคนทีคิดอยากจะเป็นตัวแทนพาเมลา

หรือสาขาบ้านสวน

เพราะสิ่งใดที่ท่านอาจารย์ท่านอาจารย์อุบลเมตตาเตือน

ย้ำแล้วย้ำอีกแสดงว่าต้องระวังให้มาก ๆ

ไม่ใช่เพื่อใคร แต่ที่อาจารย์เมตตาเตือน

แล้วเตือนอีก ก็เพื่อตัวพวกเราเองล้วน ๆ สาธุค่ะ

 อ่านธรรมทานพี่ตุ้ยแล้วก็สุดยอดไปเลยค่ะ

หัวหน้าสาขาร่วมแรงร่วมใจช่วยกันคิด 

ช่วยกันบำบัดพี่แก้ว สุดท้ายก็หาย 100%  

สาธุ สาธุ 

ส่วนเคสคุณน้อยนึกแล้วก็ทรมานนะคะ

ต้องรับกรรมของผู้อื่นมา

เพราะทำผิดกฏนั่นเอง

แบบนี้เอง ท่านอาจารย์จึงเน้นย้ำ

ให้พวกเราทำตามกฏ คิดให้ถ้วนถี่ก่อนเสมอ

เพราะหากเผลอทำผิดกฏขึ้นมา

มันไม่คุ้มค่ากับการเจ็บ ทรมานเยย

แต่ก็ถือไว้ว่าเป็นบทเรียนเนอะ 

ทำให้เราระมัดระวังและคิดมากขึ้น

เบื้องบนท่านเมตตาให้ปัญญา และสอนเราทุกวินาที

ที่จะทำอะไรลงไปเสมอ

อนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ 

โมทนาบุญกับทุกๆธรรมทานทุกๆท่านค่ะ  อ่านแล้วเตือนสติตัวเองได้ดีมากๆ และยุติธรรมสำหรับสิ่งที่เรามองไม่เห็นเราต้องบุญเขาก่อนเพราะเขาเจ็บปวดมากกว่าเรา  ยินดีกับน้องแก้วที่ได้รับารบำบัดกับหลายหัวหน้าสาขาบ้านสวนพีระมิดหลายสาขาที่ร่วมกันช่วยบำบัดให้น้องแก้ว

และอีกเรื่องหนึ่งที่จะฝึกสติสำหรับท่านที่จะคิดจะเป็นหัวหน้าสาขาบ้านสวนพีระมิดการที่บำบัดให้ใครเขาเองต้องเป็นคนมาหาเรา ไม่นั้นเป็นการแซงแทรงกรรมและเราเองจะเป็นเหมือนกับคนที่เป็นโรคนั้นๆเสียเอง

และไม่มุ่งหวังขายพาเมล่า จะเป็นการผิดกฎระเบียนของบ้านสวนพีระมิดอย่างแรง ตัวอย่างก็มีให้เห็นคือถูกถอดจากการเป็นเซนเตอร์พาเมล่าก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วค่ะ

และขอแสดงความยินดีกับพี่สาวของพี่เรือนที่มีชีวิตที่ดีจากพีเรือนเป็นสะพานบุญให้พี่สาวจนสำเร็จสามาพิสูจน์จากตัวพี่สาวพี่เรือนเองจ้าสาธุๆๆ

 บารมีที่่มหัศจรรย์และสำผัสได้จริง.....

โดย....นางกันต์สินี  อัครวิชนนท์.....

วันนี้(4มิย.56)แพทย์ได้นัดทำผ่าตัดฟัน..เพื่อใส่รากฟันเทียม

มีการฉีดยาชาและผ่าตัดกันใช้เวลาประมาณเกือบ4ชม.

เพราะเป็นการทำที่ยากพอสมควร ต้องเป็นแพทย์เฉาะทางเท่านั้น

จึงจะทำได้...พอหลังจากทำเสร็จก็รีบกินยาแก้ปวดชุดแรกไป

เลย......แต่หลังจากนั้นประมาณ3ชมเศษๆ....

ก็เริ่มมีอาการปวดอีก...ก็นึกขึ้นมาได้ว่า...ท่านอาจารย์

ทำน้ำทิพย์ให้พวกเราใว้ก็เลยนำมาลองฉีดที่หน้าและปาก..

ซึ่งขณะนั้นเริ่มมีอาการบวมแล้ว..ปรากฎว่า....พอฉีดเข้าไป

อาการปวดก็หายไปทันที...ต่อมาอาการบวมบริเวรปากที่บวมอยู่

ก็ค่อยๆยุบลงด้วยใช้เวลาประมาณ2ชม....ขณะที่เขียนรายงานนี้

ประมาณเกือบ10ชม.แล้วยังไม่มีอาการปวดเลยโดย....

ไม่ต้องกินยาแก้ปวด..ทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้คงจะต้อง

แปลกใจมากเช่นกันว่า......เป็นไปได้จริงๆเหรอ...

.ต้องขอบอกว่าเป็นไปได้จริงเพราะพิสูจน์มาแล้ว....

ช่างเป็นความเมตตาและแปลกประหลาดมหัศจรรย์จริงๆ...

เป็นไปได้แน่นอนเลยค่ะ/

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน ท่านอ.อุบลฯ

และเทวดาที่ดูแลรักษาท่านอ.อุบลฯและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักวาลและ

อนันตจักวาลค่ะ.....สาธุ

*********************

ขอสารภาพกรรมที่ทำในชาดนี้....

จากวิชาชีพวิสัญญีพยาบาล...โดยที่สมัยเรียนได้ฝึกปฎิบัติ

กับคนไข้....ด้วยความที่กลัวๆกล้าๆ....โดยใช้เครื่องมือแพทย์

ที่ช่วยใส่ท่อทางเดินหายใจ  มีลักษณะเป็นอลูมิเนียมแข็งๆ

คงต้องไปถูกปากและฟันคนไข้บ้าง....ซึ่งท่านเหล่านั้น

ก็คงจะต้องเจ็บกันมากเช่นเดียวกับเราในขณะนี้

หรือมากกว่า...จึงทำให้เราต้องมาเจ็บเช่นนี้....และ

จากการที่ประกอบอาหาร....ที่มีปลาดุก..ปลาช่อน...ทุกตัว

จะต้องผ่าปากทั้งหมด...และจับปากหมาและแมวบีบเพื่อป้อนยา....

นี่แหละคงจะเป็นผลกรรม...ที่ได้รับ

.ลูกขอน้อมจิตถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ลูกขอขมา

และขอรับผิดทุกอย่างรู้..สึกสำนึกในบาปกรรมที่ทำมาทั้งหมด

จะไม่กกลับไปทำอีกแล้ว....ขอเบิกบุญศิล...ทาน...ภาวนา...

และทุกบุญทั้งอดีตชาดจนถึงปัจจุบันและบุญบ้านสวนฯ

ทั้งหมดให้กับทุกท่านที่ลูกได้ทำผิดและล่วงเกินต่อเขา

โปรดรับโมทนาบุญของข้าพเจ้าด้วยเถิด......สาธุ

*****************

  การดมมือแล้วหาย

เป็นปริศนาธรรม ให้พวกเราคิด พิจารณา

แทนที่จะมาตื่นเต้นที่ดมมือแล้วหาย

ลองหาความหมายดูกันก่อน

ดีไหมคะ

ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

มือนี้มีอะไร จึงทำให้หายได้

 *********

เป็นสิ่งที่น่าคิดมากๆๆเลยนะคะ

เพราะ พระอริยเจ้า ผู้มีบุญบารมีมากมาย

ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย

ที่กราบแล้วหาย  ดมมือท่านอาจารย์อุบลแล้วหาย

มิ้มคิดว่า คงเป็นบุญบารมีมหาศาล

ที่ท่านอาจารย์อุบล

สั่งสมมายาวนานถึง 4 อสงขัยกับอีกแสนกัป

อีกทั้งท่านอาจารย์เป็นลูกสาวท่านพ่อดตาจินิน

ผู้ยิ่งใหญ่ที่สูงสุดในจักรวาล อนันตจักรวาล

ท่านอาจารย์มอบกาย ถวายชีวิตเเด่พระพุทธองค์

ท่านพ่อดตาจินดตาจินิน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

อยู่กับท่านอาจารย์อุบล  อยู่กับพระนางเนเฟอร์ตารี

ทำให้ทุกอณูร่างกายของท่านอาจารย์อุบล เต็มไปด้วย

พลังปราณ พลังมโนธาตุ  พลังบุญบารมีมหาศาล

สัตรังสี ฉัพพลันทรังสี

ดังนั้น เมื่อเรา ดมมือท่านอาจารย์จึง

หายจากอาการเจ็บป่วยทางกาย และทางใจค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้ อจ.นีย์ ผ่านพ้นความเจ็บปวดทางกายไปได้ โดยขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน ท่านอจ.อุบล และเทวดาของท่านทุกพระองค์ ส่งดรรชนีไฉไล ไปรักษาการเจ็บป่วยของ อจ. นีย์ ให้ดีขึ้นฉับพลันทันทีด้วยเถิด สาธุ

จุ๋ม ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ

ธรรมทานสัปดาห์ 25-26 พค.56 โดย คุณแก้วกันยภัทร เฟื่องฟู
งานเปิดสาขาบ้านดร.จิ๋ม-จุ๋ม มีคนมาร่วมงานจำนวนมาก เจ้าของบ้านแสนใจดีน่ารักบรรยากาศอบอุ่น คนเจ็บป่วยหาย 100% เคสหนักๆเป็น SLE ปวดตามข้อก็หาย 100% ประทับใจและซาบซึ้งน้องผู้หญิงชื่อ มิลค์ ออกมาพูดเรื่องของตัวเองทั้งน้ำตา ชีวิตเขาลำบากมาก ไม่มีพ่อแม่พี่น้อง ตัวคนเดียว ตกงาน ไม่มีเงินไม่มีข้าวกิน คิดฆ่าตัวตาย มีเพื่อนดีช่วยเหลือให้กินข้าว แนะนำให้ดูรายการ อจ.อุบล วันต่อมาได้งานทำ มีเงินใช้ ชีวิตดีขึ้นอย่างปาฏิหารย์ ฟังเรื่องของน้องเขาแล้ว ซาบซึ้งในความเมตตาของอาจารย์โดยไม่มีเงื่อนไข ท่านอาจารย์ทำให้โลกประจักษ์ว่า เมตตาค้ำจุนโลกจริงๆ
น้องเขาพูดมาจากหัวใจจริงๆ ฟังแล้วพลอยตื้นตันไปด้วย ทำให้ท่านอจ.มีกำลังใจช่วยคนตกทุกข์ได้ยากต่อไป

บุญแรงกายบ้านสวน
ฐานเกษตร นำใบไม้แห้งที่ใส่กระสอบไว้ไปเทใส่แปลงนา หรือเป็นปุ๋ยธรรมชาติ
ชำกิ่งผักหวาน
ดาหญ้าที่แปลงผัก ต้นหญ้าหรืวัชพืช งามยิ่งกว่าพืชผักที่ปลูกซะอีกจึงต้องหมั่นกำจัดวัชพืช มิฉนั้นพืชผักจะถูกแย่งอาหาร และถูกเบียดบังจนขาดความสมบูรณ์ วัชพืชเปรียบเหมือนกิเลส หากเราปล่อยให้เกาะกินใจเรา ฬจเราก็เศร้าหมอง จึงต้องหาอุบาย เช่นภาวนา นะมะพะทะ หรือ ปะโตเมตังเพื่อไม่ให้จิตว่าง และไม่มีเวลาคิดเรื่องไม่ดี
แก้วอยู้ฐานเกษตร ให้อจ.พัน ช่วยบำบัดอาการเจ็บคอเวลากลืนน้ำลาย เหมือนมีอะไรสักอย่างติดคอ เป็นมา 20 กว่าปี สารภาพกรรมเคยใส่อาหาร feed คนไข้เป็นจำนวนมาก ช่วยแพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจและตกปลา หลังสารภาพแล้วอาการไม่ดีขึ้น ท่านอจ.พัน จึงแนะนำว่าต้องขอโทษต่อหน้าพระพุทธเจ้า จึงตั้งจิตอธิษฐานใหม่ ขอโทษคนไข้ทุกคน ขอโทษปลาทุกตัว แล้วเช็คอาการ ปรากฎว่าอาการดีขี้นหาย 100% ขอบคุณอจ.พันธ์ค่ะ ขอบคุณท่านอจ.อุบล และเทวดาที่รักษา อจ.อุบลทุกๆพระองค์

ธรรมทานสัปดาห์ 25-26 พค.56 ตอน 2 โดย คุณแก้วกันยภัทร เฟื่องฟู

การอธิษฐานให้พีรามิดแก้วครอบตัวเราไว้ ช่วยป้องกันคุณไสย มนตร์ดำได้ มนตร์คุณไสย เป็นประสบการณ์จริงทำให้ได้รับความรู้หลายๆอย่าง
หากใครมีจิตใจเกาะเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า เช่นท่องพุทโธ ท่านก็จะส่งฉัพพรรณรังษีมาให้

ท่านพ่อดตาจินิน อยู่บนชั้นนิพพานสูงสุด เป็นเขตพิเศษ ไม่มีใครเคยเห็น โดยท่านอจ.อุบลอยู่กับท่านพ่อดตาจินิน
การที่พระพุทธเจ้ามาโปรด เพราะท่านมีเมตตา และท่านหมดกิเลสแล้ว

การขอบารมี ต้องอธิษฐานว่า ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ...... และเราสามารถขอบารมี่านดตาจินินได้เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า
เวลาถวายบุญกับท่านพ่อดตาจินินเป็นความฉลาด เพราะท่านมีบุญบารมีมาก การถวายบุญให้ท่านจึงดีมาก

ท่านพ่อมีความเมตตาประเสริฐสุด บางครั้งเราไม่ได้ขอให้ท่านช่วยท่านก็ช่วย
เวลาเราถวายบุญให้ท่านอจ.อุบลและเทวดาที่รักษาท่านอจ.อุบล ก็คือได้ถวายท่านพ่อด้วยเพราะ ท่านพ่อคุมอจ.อุบลมากกว่าใครๆ
เราขอบารมีท่านพ่อ ขอเบิกบุญทาน ศีล ภาวนา จึงมีบุญบารมีมากที่สุด
เวลาเราทำบุญหรือความดีอะไรก็แล้วแต่ เราถวายบุญท่านพ่อส่วนหนึ่งและฝากไว้ส่วนหนึ่ง จะทำให้มีบุญเพิ่มขึ้น
การอุทิศบุญ ถ้าขอบารมีพระพุทธเจ้า จะได้กำลังบุญมาก

บุญแรงกายเป็นบุญที่บริสุทธิ์ บูญที่ใช้กำลังใจมาก จึงมีกำลังบุญสูง
บุญธรรมทานมีกำลังสูงกว่าสังฆทาน วิหารทาน บุญแรงกายและบูญธรรมทาน จะต้องมาประกอบกันหลายๆอย่าง เหมือนกับมีบ้านต้องมีข้าวของเครื่องใช้หลายๆอย่าง
การบำบัดคนให้หายป่วย แล้วไต่สวนกรรม ทำให้คนกลัวบาป เป็นวัตถุประสงค์ของเบื้องบน
อานิสงค์การแจกธรรมทานบ้านสวน ขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติของผู้อ่าน
รหัสอจ.อุบลช่วยด้วยมีความลับมากมายซ่อนอยู่ในนั้น ช่วยให้รวยได้ช่วยได้ทุกอย่าง ท่านจึงให้บอกต่อ คนมีปัญญาต้องค้นว่ามีอะไรดี แล้วติดตามบ้านสวนให้ได้
การคล้องจี้ไว้นอกเสื้อ ประการแรกคือละอัตตา รับฉัพพรรณรังสี
อย่ากลัวคนปรามาส อจ.อุบลและบ้านสวน เพราะการถูกลงโทษจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นความเมตตา เพื่อเขาหยุดประกอบกรรม ไม่ต้องลงนรกเปลี่ยนแปลงตัวเอง
จี้พระศรีอารย์ 3 องค์ ล้างคุณไสยได้
ควรมีจี้ทุกรุ่น วัตถุมงคลทุกรุ่น ทำน้ำทิพย์ ฤทธิ์ใกล้เคียงกับที่ท่านอจ.ทำ

สุดท้ายนี้ขอชื่นชมคุณแก้วว่า บัดนี้มีวิทยายุทธ์ จิตใจละเอียดเพียงใด คุณแก้วเก็บได้ละเอียดมีประโยชน์มากๆๆ  จุ๋ม

กายอันเป็นทิพย์

ท่านคงเคยเห็นคนเก็บอัฏฐิของพระอรหันต์มาบูชา เพราะหลังจากท่านดับขันธ์กายของท่านจะเป็นทิพย์  พระอรหันต์ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ บำเพ็ญบารมีมานาน เช่น เป็นแสนๆ กัปป์ การกลั่นกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์ มีผลถึงร่างกายของท่านด้วย 
 การอุปมานี้ สามารถนำมาใช้กับท่าน อาจารย์อุบล ท่านบำเพ็ญบารมีมานาน แน่นอน เพราะกายของท่านเป็นทิพย์ไปแล้ว อย่างเช่น คนที่มาบำบัด จับเส้นผมท่านอาการที่เป็นอยู่ก็หายได้  บางคนจูบมือท่านก็หาย เป็นต้น  จิ๋มยังจำได้ ตอนที่ท่านได้เมตตาให้หัวหน้าสาขามาออกรายการ ว่าจะเปิดสาขา ตอนนั้นเราปวดฝ่าเท้าอยู่ ท่านก็เมตตายื่นนิ้วมาให้จิ๋มจับ พบว่ามีกระแสบางอย่าง วิ่งจี๊ดไปที่เท้า อาการปวดอยู่ก็เบาลงจนหายไป นั่นเป็นเพราะกายของท่านเป็นทิพย์แผ่พลังมาให้เรา จนทำให้หายจากอาการเจ็บปวด
 ตัวอย่างหลักฐาน กายเป็นทิพย์ที่จิ๋มประสบมาอีกเรื่องนึง ก็คือ  ท่านอาจารย์เคยให้รูปที่เป็นรังไข่ที่ท่านทำการผ่าตัดออก ท่านอัดเป็นรูปถ่ายเล็ก ๆ ให้พวกเรา เพื่อที่จะให้เราดูเป็น อสุภะกรรมฐาน จิ๋มก็เก็บรูปนั้นไว้ในกระเป๋า แปลกที่ว่า วันนึง จิ๋มได้กลิ่นหอมจากกระเป๋าที่ใส่รูป หอมเอามากๆ เหมือนกลิ่นธูปหอม วันนั้นเรายืนจะซื้อข้าวกลางวัน ก็งงว่าใครมาจุดธูปนะ  มองซ้าย ขวา ก็ไม่มีอะไร ก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาดม หอมมาก ถึงรู้ว่ามาจากรูป รังไข่ ท่านอาจารย์นั่นเอง  สาธุ ที่ท่านให้เราทราบว่า อ.อุบล ท่านสำเร็จ ฌานขั้นสูงสุดจนเป็นทิพย์ 

หวังไว้ว่าธรรมทานนี้จะทำให้พวกเรามีกำลังใจปฏิบัติ และทำความดีกันเยอะ ๆ จนกลายเป็นทิพย์ได้ เช่น อ.อุบล ถึงจะยากลำบากยังไง พวกเราก็โชคดีแล้วที่พบครูบาอาจารย์ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้เรา  พวกเราควรตั้งใจทำตามให้ดีที่สุด

ชัชวลี

อนุโมทนาบุญธรรมทานของ ดร.จิ๋มที่ได้นำเรื่องปาฎิหาริย์จากภาพรังใข่ของท่านอาจารย์มาเล่าสุ่กันได้รับทราบเป็นสาธรณะด้วยค่ะ สาธๆๆ...

คืนวันเสาร์ที่25-5-56 หลังจากทานข้าวและอาบน้ำเสร็จ  คิดว่าพอมีเวลาเหลือก็ได้นั่งสมาธิในองคืพีรามิดห้องที่พัก แต่พอออกจากสมาธิก็เผลอสติคุยกับพี่ที่พักด้วยกันต่อที่ในองค์พีรามิด พอนึกได้ตกใจมากเเละรีบจ้ำอ้าวไปที่ห้องแสดงธรรม

พอก้าวเท้าเข้าไปที่ห้องประชุม ลูกรู้สึกหน้าชา เพราะความอายมาก ที่ทำตัวไม่เหมาะสม ลูกรู้สึกสำนึกผิดต่อท่านอาจารย์และละอายใจมากๆเลย อายท่านอาจารย์มาก ทำหน้าไม่ถูกเลยลูกนี้เลวจริงๆ ทำไมถึงทำตัวแบบนี้ได้ ลูกผิดไปแล้วจริงๆ 

ลูกขอกราบขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่คุ้มครองท่านอาจารย์  ที่ลูกทำตัวเหมือนไม่เคารพท่านอาจารย์ ไม่เคารพสถานที่ ลูกมิได้เจตนาเลยจริงๆ แต่ด้วยเพราะเผลอสติไป และรู้สึกเสียใจต่อการเผลอสติของตัวเองมากๆ.... 

และยังได้เผลอใส่รองเท้าเหยียบกระเบื้องหน้าห้องน้ำ1ครั้งแต่ก็ตกใจรีบชักขาออก

และวันกลับบ้านในขณะจะไปอาบน้ำ มือได้หอบข้าวของพะรุงพะรัง แต่จะก้มลงปิดพัดลม ซึ่งเหลือมือข้างเดียว  ก็ได้เผลอใช้เท้าช่วยกดปลั๊กเพื่อให้อีกมือสามารถดึงปลั๊กออกได้ ด้วยนึกไม่ทัน พี่รุจิกาญได้ช่วยเตือนสติ จึงนึกขึ้นได้ และได้ขอขมาสิ่งสักดิ์สิทธิ์

กลับจากทำบุญที่บ้านสวนลูกมีอาการปวดขา ปวดเข่ามากขึ้น ได้พยายามคิดและค้นหาข้อผิดของตัวเองแต่ก็ยังได้ไม่หมด และก็คิดว่าทำงานมากเกินไป พยายามสารภาพบาปที่ไปทำผิดกฎ แต่เรื่องที่จะเข้ามาเขียนขอขมาท่านอาจารย์กลับลืมไป จนกระทั่งวันนี้อยู่ๆก็นึกได้ว่ายังไม่ได้เข้ามาเขียนเลย

เมื่อพิจรณาถึงสิ่งที่ลูกได้เผลอสติทำผิดและสิ่งที่ไม่สมควรลงไปแล้ว ได้เห็นว่าจิตของลูกยังหยาบมากๆอยู่  ทั้งๆที่ดีใจมากๆที่จะได้ไปสร้างบุญที่บ้านสวน เมื่อไปถึงบ้านสวนพีรามิดจะขอบารมีทุกๆพระองค์ช่วยคุ้มครองลูกว่าอย่าได้เผลอสติ แต่ก็ยังพลาดจนได้  เกลียดตัวเองเหลือเกิน ได้รับการลงโทษก็สมควรกับความโง่แล้ว

ลูกขอกราบพระบาททุกๆพระองค์และกราบฃอฃมาท่านอาจารย์อุบลอีกครั้ง ขอเมตตาให้โอกาศลูก ลูกจะพยายามแก้ไขและเพ่งโทษตัวเองให้มากและขอติดตามท่านอาจารย์ต่อไปด้วยเถิดเจ้าค่ะ

กราบ  กราบ  กราบ

 นางคนึงนุช  พงษ์ดี ขออนุญาตเข้ามารายงานผลค่ะ

หลังจากที่เข้ามาเขียนขอขมาท่านอาจารย์แล้ววันรุ่งขึ้นหลังตื่นนอน

อาการปวดขาเข่าดีขึ้นมากเลยค่ะ รู้สึกดีใจมากๆ

ได้กราบขอบคุณท่านพ่อดตาจินิน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

ที่ท่านเมตตาได้เตือนสอน และลงโทษเพื่อให้ค้นหาเหตุเพื่อแก้ไข

มีอีกอย่างที่ลืมและติดกลับมาบ้านคือกระดาษที่เขียนเข้ากลุ่มเวิร์คช๊อป

ของตัวเองได้ติดกลับมาด้วย  ตอนแรกตั้งใจว่าจะส่งไปรษณีย์คืนแต่ก็

เกรงใจท่านอาจารย์  ที่ท่านจะต้องเสียเวลามานั่งแกะจดหมายออกดู

จึงตั้งใจส่งกลับพร้อมกระดาษA4ไปทำบุญที่บ้านสวนด้วย

ด้วยความที่ปวดขา+เข่าทำให้กลายเป็นคนเดินขาลากและเกิดเสียงดัง

จนเป็นนิสัยไปโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ตัวจริงๆค่ะ เพราะขามันปวดก็เลยเดินลากๆ

ไปจนชินเป็นนิสัย นานๆครั้งถึงจะได้ยินเสียงเดินของตัวเอง

ก็จะลดเสียงลง เพราะการเดินลากเท้าเป็นการรบกวนผู้ที่ได้ยิน

แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจคิดที่จะแก้ไขเลย ใครเตือนก็เดินยกขาเท่านั้น

ที่ไปบ้านสวนก็มีพี่กาญช่วยเตือน และนุชก็ลดเสียงเท้าลง

แต่พอลืมตัวก็เป็นเหมือนเดิม กลับมาได้เล่าให้พี่กาญฟังว่าปวดขา

พี่กาญบอกว่า นุชเดินลากเท้าตลอดเตือนก็ไม่เชื่อ

เดินผ่านบ้านอาจารย์เสียงดังมากกกก...  ยังแก้ตัวว่าเป็นนิสัยเคยชิน

แทนที่จะขอโทษ  ณ.ตอนนั้นก็คิดไม่ได้

ที่ไม่ได้ขอโทษทันทีเพราะไม่คิดว่าทำผิดอะไรไป

ยังนึกค้านในใจว่าการเดินเสียงดังทำให้ถูกลงโทษ

ให้ปวดขาเข่าด้วยหรือ...ไม่น่าจะใช่

แต่ผ่านไปหลายวัน คิดทบทวน ไปมาทำให้คิดได้ว่านุชควรจะแก้ไขซะที

จึงพยายามให้มีสติรู้ตัวเวลาเดิน  ก็สังเกตุตังเองว่าวันแรกจะมีสติแค่

สอง สามครั้งเท่านั้นที่รู้ตัวและคิดได้ ถามตัวเองว่าแล้วทั้งวันสติเราไปไหน

พยายามฝึกใหม่โดยมีสติอยู่กับเสียงทุกเสียงที่เกิดขึ้นจากตัวเรา

จากกิจกรรมที่ทำทุกอย่าง ทำให้มีสติกลับมาอยู่ที่เสียงฝีเท้าได้โดยไม่ให้

เกิดเสียงได้

ยังแก้ไขเรื่องที่นุชเป็นคนเก็บกด เวลาหงุดหงิดไม่พอใจมือไม้ และขา

จะลงหนักเป็นการระบายอารมณ์ ส่วนใหญ่หงุดหงิด สามีและลูก

โต้ตอบเขาไม่ได้ก็เลยหงุดหงิด ที่ผ่านมาไม่ได้ใช้สติเลย

และถึงจะรู้สึกตัวว่าโกรธ แต่ไม่สามารถเอาชนะความโกรธความขุ่นมัว

ในใจของเราได้ เรียกว่าแพ้กิเลสโทสะ

การฝึกให้มีสติอยู่กับเสียงที่เกิดขึ้นจากตัวเรา ทำให้นุชทำอะไรๆก็พยายาม

ทำด้วยความเบามือเบาเสียงเป็นการฝึกนิสัยใหม่ ทำให้รู้สึกมีความตั้งใจ

ต่อการทำอะไรๆได้มากขึ้น  มีสติรู้ตัวได้มากขึ้น ไม่ใช่กำลังล้างจานแต่ใจ

อยู่ที่อื่น  อย่างน้อยก็วันละหลายสิบครั้งที่รู้ตัว หากมีสติรู้แต่ไม่มีเสียง

ที่เกิดจากตัวเรา ก็กำหนดลมหายใจแทน รู้สึกเป็นวิธีที่ได้ผลดีมาก

จึงอยากแชร์ค่ะ ไม่ได้เข้ามาเขียนเพื่อจะโอ้อวดใดๆ

แต่รู้และสำนึกว่าได้ทำผิดเพราะขาดสติ

(ไม่รู้โง่มากี่ร้อยกี่พันชาติแล้ว คิดแล้วเบื่อหน่ายตัวเองจริงๆ)

พี่กาญบอกว่านุชน่ะ ดูอ่อนนอกนะแต่แข็งใน จิตไม่น้อมในทันทีในสิ่งที่พี่

เตือนก็ขอบคุณพี่เขาสำหรับคอมเมนท์ คงโง่มาหลายชาติ กว่าจะคิดได้

จึงใช้เวลานาน

เรื่องของเรื่อง พี่เขาไปบ้านสวนด้วยและก็เผลอใส่รองเท้าเหยียบกระเบื้อง

หน้าห้องน้ำ นุชก็ไม่แน่ใจว่าที่เราปวดขา เพราะเกี่ยวกับพี่เขาหรือเปล่า

ก็ไม่แน่ใจน่ะ พี่เขาบอกว่าไม่น่าเป็นสาเหตุให้นุชปวดขา เขาไม่ได้ไปบ้าน

สวนเป็นครั้งแรก  นี่เป็นครั้งที่สองแล้วและก็รีบยกมือขอโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์

นุชเดินเสียงดังมากกว่าจึงปวดขา...

แต่ไม่ว่ายังไงก็ขอบคุณพี่เขาที่ได้จุดประกายให้นุชคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไข

เพราะไม่ว่าจะผิดหรือไม่ผิด การเดินเสียงดังอาจรบกวนและ

น่ารำคาญมากๆกับบางคน ก็เท่ากับได้สร้างกรรมที่ไม่เจตนาขึ้น

ที่สุดแล้วลูกขอน้อมกราบท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จพ่อองค์ปฐม

องค์พระศรีอาริย์เมตไตย พระนางเนเฟอตารี ท่านรามเสทที่2

ท่านท้าวมหาราชทั้ง4 ท่านอาจารย์อุบลและครอบครั;

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์ทุกๆพระองค์กราบขอบพระคุณที่ยังเมตตา

ต่อลูกอย่างหาประมาณมิได้เจ้าค่ะ

กราบ   กราบ  กราบ

                   ขออนุโมทนาบุญและ   

               ขอบคุณทุกๆๆธรรมทานค่ะ 

            อ่านแล้วมีคุณค่าอย่างมากมาย

              โดยเฉพาะเคสของคุณน้อย

                     สาธุ  สาธุ  สาธุ ค่ะ

          วันนี้ 8 มิ.ย.56 ได้มี

  คุณกานต์ประภา จันทร์อ่อน อายุ67 ปี     มาขอบำบัดเนื่องจากมีเสลดติดคอ

 จึงขอบารมีท่านอ.อุบล โดยการกราบรูป   ท่านอ.อุบล สัมผัสจี้รุ่นต่างๆ  สัมผัสแหวน สัมผัสรองเท้าที่ท่านอ.อุบลสวมใส่   เบาะที่ท่านอ.อุบลนั่ง กล่องทิชชูที่ท่านอ.อบลจับ ถอนหญ้าที่องค์พีระมิด  อาการเสลดติดคอ หาย 100 % 

    รายที่สองด.ช.รัชพล  ศิริคูณ อายุ 3 ปี เศษ ไม่พูด  แต่หลังจากที่คุณยายได้มาร่วมงานธรรมะบำบัดนอกสถานที่เมื่อวันที่ 23 พ.ค.56 ณ.จังหวัดอุบลราชธานี  และได้เอาลูกอมอภิญญาที่ท่านอ.อุบลเมตตาทำให้ไปให้หลานชายกินหลานชายสามารถพูดคำว่าตา กับคำว่ายายได้  วันนี้ได้มาขอบารมีท่านอ.อุบลเพื่อให้พูดได้  ผลจะเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ

    กราบท่านพ่อดตาจินิน  สมเด็จองค์พระปฐมธรรมบิดา  พระพุทธเจ้าทุก ๆๆพระองค์ ท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทกๆ พระองค์ในบ้านสวนพีระมิด ที่เมตตาให้ลูกได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ที่มีความเจ็บป่วยให้สามารถพ้นทุกข์ได้และผลบุญที่ลูกได้เป็นสื่อให้คุณกานต์ประภา  จันทร์อ่อน หายขอให้เทวดารักษาท่านอ.อุบลได้บุญทั้งหมดนี้เช่นกันค่ะ

                สาธุ สาธุ สาธุ                    

                   นิดหน่อย

ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะคะ

วันนี้ขอเล่าประสบการณ์สุดพิเศษของตัวเองบ้างค่ะ

วันเสาร์มิ้มไปเรียนป.โท มีรุ่นพี่เดินเข้ามาทักมิ้มค่ะ

ว่าวันนี้ไม่ใส่สร้อยมาหรอ

 ถึงนึกขึ้นได้  ตอบพี่เข้าไปว่าอยู่ในเสื้อค่ะ

ปกติมิ้มจะเอาสร้อยจี้ท่านพ่อ หรือจี้รุ่นต่างๆออกนอกเสื้อ

วันนี้รีบก็เลยลืม

เเต่ก็ติดเข็มกลัดท่านท้าวเวสสุวรรณที่เสื้อไปค่ะ

หลังจากนั้นมิ้มก็เอาจี้ออกมาข้างนอกเสื้อ

ในช่วงพักเบรคทานของว่าง

ก็มีพี่ซึ่งมิ้มก็ไม่รู้จักเข้ามาทัก

ว่า จี้อะไรหรอ  สวยจัง อยากได้บ้าง

เเล้ว ก็มีคนอื่นอีก 2- 3 คน

เดินเข้ามาดูจี้ อย่างสนใจ

ก็เลยได้โอกาสอธิบาย

ว่าเป็นจี้ท่านพ่อดตาจินิน ซึ่งเป็นผู้สูงสุด

ให้กำเนิดพระพุทธเจ้า ศาสดาทุกศาสนา

และทุกดวงจิตดวงวิญญาณ

มีพุทธคุณสูงมากๆนะคะ มิ้มใส่ใจมิ้มก็สงบ

มีความสุข ทำสมาธิได้ง่าย

พิสูจน์ได้ เพียงเเค่มอง

เจ้ากรรมนายเวรที่อยู่กับเราก็จะอนุโมทนาเเสงบุญ

อาการเจ็บป่วยก็จะดีขึ้น หรือหาย เเต่ละคนทีมาดูก็สนใจ

ถามว่าศาสนาพุทธ หรือเปล่า

 รู้มาจากใคร และบูชามาจากไหน 

เราก็ยืนยันว่าศาสนาพุทธ 100 %ค่ะ

บูชาจากท่านอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพีระมิด อ.บ้านนา จ.นครนายก

 มีคนจากทั่วโลกมาสร้างบุญที่นี่มากมาย

 ท่านอาจารย์อุบลพาพวกเราพ้นทุกข์ พิสูจน์กฎเเห่งกรรม

 เเบบวิทยาศาสตร์ให้เราเห็น

 ทำให้กลัวการทำผิดศีล หันมารักษาศีล 5 ค่ะ

 เเต่ละคนดูสนใจฟัง และพี่คนหนึ่งบอกว่าอยากบูชาจี้

 มิ้มก็ถามว่า มีอาการเจ็บป่วยอะไรมั้ยคะ

 เเค่มองจี้อาการก็ดีขึ้นเเล้ว

พี่เค้าก็บอกว่า พี่เเอบมองจี้ที่คอน้องมานานเเล้ว

มาเรียนทีไรก็มองหาน้อง เพื่อจะมองจี้

เพราะเวลามองทีไรจะรู้สึกสบายใจ

มีความสุข สว่าง

 โล่ง เบาหัว หายปวดหัว  

จี้สวยมากๆเลย พี่อยากบูชา

มิ้มฟังเเล้วอึ้งเลยค่ะ พึ่งรู้ว่า

มีหลายคนที่เค้า"เเอบมองจี้เรา"

โดยเราไม่รู้ตัวเลย

 ดีใจมากๆ ที่เพียงเรา "ละอัตตา"

นำสร้อยออกมานอกเสื้อ

 ก็ทำให้เราได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือ

ผู้คนมากมายเเล้ว

 เพราะหากเจ้ากรรมนายเวรของเค้าอยากได้บุญ

ก็จะดลใจให้เค้ามองสนใจจี้ เพื่อรับเเสงบุญจากจี้

 ทำให้พ้นทุกข์  พบความสุข ได้พบธรรมที่งดงามจากท่านอาจารย์อุบล

มิ้มจึงได้โอกาส เล่าเรื่องการบำบัดและสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด

คำสอนท่านอาจารย์อุบล รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

แนะนำเว็บไซท์ และให้หนังสือธรรมทานค่ะ

ครูที่โรงเรียนก็มีคนบอกมิ้มว่า

มิ้มไม่เหมือนครูคนอื่นๆในโรงเรียน

เพราะดูสว่าง ดูมีออร่า 

ก็คงเป็นเพราะว่ามิ้มเอาสร้อยจี้ออกนอกเสื้อค่า

ขออนุโมทนาบุญธรรมทาน   จากลูกบ้านสวนทุกท่านค่ะ

ขออนุโมทนาบุญจ๊ะน้องมิ้ม ดูดีมีออร่า โดยไม่ต้องพึ่งพาคลินิก......

ขออนุโมทนาบุญเรื่องเล่าจาก  อ.พันธ์  พี่นิดหน่อย ดร.จิ๋ม

หมออนาคตมือใหม่ มากความสามารถค่ะ

ขออนุโมทนาบุญธรรมทานจากพี่นุชค่ะ

การที่เราทำอะไรไปด้วยความเคยชิน

บางครั้งก็อาจรบกวนผู้อื่นได้

ขอบคุณค่ะสำหรับธรรมทาน

เราต้องสำรวมกาย วาจา ใจ

ต้องมีสติ

ความคิดเห็น#8824

ถ้าใครไม่เคยปวดฟัน คงอธิบายได้ยาก

ว่าอาการปวดฟัน ปวดมากแค่ไหน

คงต้องบอกว่า" ต้องลองปวดเองค่ะแล้วจะ รู้"

ขอบคุณค่ะ อ.นี ที่มาแชร์ประสบการณ์

ต่อไปใครที่ปวดฟันคงยิ้มได้แล้ว

เพราะเรามียาแก้ปวดที่วิเศษ พิเศษไม่เหมือนใคร

และไม่มีใครเหมือน

อนุโมทนาบุญธรรมทาน 1 ม.ย. 56 (จากน้องตุ้ย)

"การรวมพลังของหัวหน้าสาขาช่วยบำบัดพี่แก้ว"

เคสคุณน้อย

 การที่เราจะช่วยบำบัดใคร

ต้องให้ความยุติธรรมกับเจ้ากรรมนายเวรก่อนเจ้าตัว

เพราะเขาเจ็บปวด และทุกข์ทรมานกว่าเจ้าตัวหลายเท่านัก

ดังที่ท่านอาจารย์อุบล เน้นย้ำเสมอว่า

ความเห็นที่ 8788 ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์

การทำบุญด้วยแรงกาย ทานที่บริสุทธิ์ที่สุด

แต่ต้องเป็นการอยากทำงานแบบไม่กลัวเหนื่อย

ไม่เอาเปรียบ อยากจะทำงานยากๆ ตรงที่ร้อน 

ใช้กำลังกาย และลำบาก ใช้กำลังใจมากๆ

อันนี้จะได้อานิสงส์มาก ค่ะ  

บุญแรงกายถือเป็นสังฆทาน วิหารทาน 

และการเขียนธรรมทาน เป็นบุญที่สูงกว่าสังฆทาน วิหารทาน 100 เท่า 

และท่านอาจารย์ได้เมตตาสอนว่า คนเราควรจะทำบุญให้ครบทุกอย่าง 

ทำง่าย ทำสม่ำ เสมอ ทำอย่างต่อเนื่อง

แม้จะมาทำบุญแรงกาย บ้านสวนบ่อยๆ

แต่ก็ต้องหมั่นทำบุญธรรมทานด้วยเหมือนกัน

เพราะเปรียบเสมือนชีวิตคนเรา จะสมบูรณ์ ได้

ต้องมีบ้าน มีพาหนะ มีอาหาร  ฯลฯ

(การทำบุญก็ต้องทำให้ครบทุกบุญเหมือนกันจึงจะสมบูรณ์)

ความเห็นที่ 8828

ธรรมทานสัปดาห์ 25-26 พค.56 ตอน 2 โดย คุณแก้วกันยภัทร เฟื่องฟู

บุญแรงกายเป็นบุญที่บริสุทธิ์ บุญที่ใช้กำลังใจมาก

จึงมีกำลังบุญสูง

บุญธรรมทานมีกำลังสูงกว่าสังฆทาน วิหารทาน

บุญแรงกายและบุญธรรมทาน

จะต้องมาประกอบกันหลายๆอย่าง

เหมือนกับมีบ้านต้องมีข้าวของเครื่องใช้หลายๆอย่าง

 มหาทาน

ทานที่ให้ได้ยาก

• ทานระดับบารมี ให้กำลังสละแรงกายและเวลาของตน
• ทานระดับอุปบารมี 3อย่าง คือ 1.ให้เลือดเนื้ออวัยวะในร่างกายตน       2.ให้ภรรยาของตน 3.ให้บุตรธิดาของตน
• ทานระดับปรมัตถบารมี คือให้ชีวิตของตน

บุญแรงกายเป็นบุญที่ต้องใช้กำลังใจสูง

การใช้แรงกายในงานก่อสร้าง งานเกษตร

ทั้งร้อน หนัก เหนื่อย

ทำให้เราได้เรียนรู้ว่ามันหนักแค่ไหน

เหนื่อยขนาดไหน 

เราจะได้รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

อาชีพก่อสร้าง ถ้าไม่มีคนทำแล้วเราจะมีบ้านอยู่ได้อย่างไร?

อาชีพเกษตร   ถ้าไม่มีใครอยากทำแล้วเราจะเอาอะไรกิน?

การใช้แรงกายในบ้านสวนฯ ปกติเราจะอยู่แต่ในห้องแอร์

ทำให้ไม่ได้ออกกำลังกายและไม่ค่อยเสียเหงื่อ

เมื่อเรามาใช้แรงกาย ได้ทำงานหนัก เราจะเหนื่อยมากๆ

และหายใจได้ลึก ทำให้การสันดาปในร่างกายสมบูรณ์

ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้ดี

ร่างกายขับเหงื่อออกมาได้เยอะ เป็นการดีท๊อกพิษ

ทำงานกลางแดดตอนเช้า เราจะได้วิตามินดี

และเราก็ได้รับพลังปราณ ซึ่งในบ้านสวนมีพลังปราณเยอะมาก

เวลาพวกเราทำงานใช้แรงกายแล้วพักผ่อน ตื่นขึ้นมาตอนเช้า

ก็ไม่รู้สึกปวดเมื่อย  ปกติถ้าเราทำงานหนักๆ ที่อื่น พอตื่นเช้ามา

เราจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ปวดไปหมดแทบไม่อยากลุกจากที่นอน

บางคนอาจจะสงสัยว่า จริงเหรอ?

ก็ต้องลองมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง

ลองมารับพลังปราณที่บ้านสวนพีระมิดดูสักครั้งในชีวิต

แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง

        วันอาทิตย์ หนูได้ไปเรียนพิเศษ พอตอนที่จะไปซื้อขนม หน้าบ้านคุณครูมีหลุมหนูได้ล้มลงและเท้าหนูก็แพลง และเจ็บมาก แล้วพอเลิกเรียนพ่อของหนูได้มารับแล้วหนูก็พูดในใจว่า อาจารย์อุบลช่วยด้วย พอถึงบ้านแม่ก็ชีดน้ำพีรมิดพร้อมกับพูดว่าอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้เท้าหายปวด เวลาจะนอนก็ได้ฉีดให้อีก พอตื่นเช้าขึ้นมาก็หายเจ็บแล้วค่ะ แต่ก็ยังปวดๆนิดนึงค่ะ หนูขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและ เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์แห่ง บ้านสวนพีรมิดเป็นอย่างสูงค่ะ

สาธุๆๆ โมทนาบุญกับ ดร.จิ๋ม ดร.จุ๋ม  น้องมิ้ม  น้องนี  ฯลฯ ทุกๆธรรมทานค่ะ อ่านแล้วกลับมาลองสำรวจตัวเอง ทุกเคสถ้าเราเอามาพิจารณาแล้วมีประโยชน์กับทุกท่านมากนัก เช่นเคสของน้องนุช เป็นการฝึกสติต้องทำที่บ้านและทุกที่ๆ เป็นการฝึกไม่ให้เผลอสติโดยการภาวนาอ.อุบล ช่วยด้วยตลอด เช่นตอนขับรถอ.บลช่วยด้วย ขอให้ลุกขับรถอย่างปลอดอย่ามีอุปสรรคใดๆมาขวางกั้นด้วยเถิด สาธุๆๆ  และเคสอื่นๆอยู่ที่ทุกท่านจะไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์

ขอบคุณเทวดาที่รักษาตัวท่านอ.อุบล ทุกพระองค์

ขอบคุณทีมงานและสาขาบ้านสวนพีระมิดทุกๆสาขา

กราบขอบพระคุณที่ช่วยแบ่งเบางานท่านอ.อุบล โดยการเปิดสาขาย่อยช่วยงานท่านอ.อุบลได้มากๆเลยค่ะ

นำบุญมาฝากค่ะ เมื่อวันเสาร์ -อาทิตน์ ที่8-9 มิ.ย 56

ใด้มีโอกาสไปร่วมบุญที่บ้านสวนพีระมิด ทำก่อสร้างช่วงวันเสาร์อากาศร้อนมากช่วง11.00-12.00น. แต่มีความรู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธ์ท่านเมตตาให้มีเมฆมาบังทำให้มีร่มมากันเเดด ทำให้พวกเราทำงานใด้สบายขึ้นไม่เหนื่อยมาก

ช่วงบ่ายใด้ทำเกษตรธรรมะกับอ.พันธ์ ทุกคนแฮบ***มากถึงอากาศจะร้อน แต่อ.พันธ์ดูเเลเอาใจใส่ดีมากค่ะ โดยมีร่มกันเเดดมาปักให้นั่งถอนหญ้าอย่างมีความสุข ตลอดงานเลย ออกมาดีมากค่ะ

หลังจากนั้นอ.พันธ์ ใด้ถามพวกเราว่าใครมีปัญหาอะไรบ้าง โดยรวมแล้ว พวกเรามีปัญหาหนี้สิน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน( คนในกลุ่มทำ workshop มีน้องก้อย พี่สมจิต น้องชิน และภา) 

ท่าน อ.พันธ์แนะนำให้พวกเราขอขมาพระพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ เรื่องเคยผิดศีลข้อ2 ทำให้มีปัญหาเรื่องนี้ ให้ทุกคนคิดกรรมของตัวเองทั้งหมด โดยรวมแล้วของภาผิดดังนี้ค่ะ เคยลักทรัพย์ ขโมยเงิน พ่อ-แม่ พี่น้อง .ขโมยผัก ผลไม้ ลุงป้าน้าอา (เก็บกินโดยไม่ขออนุญาต)  ขโมยทอง พลอยเจ้านาย ขโมยเวลา อู้งาน มาสายกลับก่อน นอนหลับเวลางาน  ใช้ของสำนักงาน มาทำงานส่วนตัว  ชอบกินฟรี เที่ยวฟรี ชอบของฟรี ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์ โดยการปล่อยเงินกู้ ร้อยละ5-10บาท/เดือน ชวนเพื่อนทำธุรกิจขายตรง ว่างานที่ทำมีรายใด้ดีเกินจริง  ทำให้เพื่อนเสียเงินมากมาย ทำบัญชีเท็จ ชวนเพื่อนทำบัตรเครดิด เพื่อนๆติดหนี้บัตรกันเยอะมากๆๆ ทั้งหมดที่พูดมานี้ ข้าพเจ้าสำนึกกรรมแล้ว ต่อไปข้าพเจ้าจะไม่ทำแบบนี้อีก 

ข้าพเจ้ากราบขอขมาท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จพ่อองค์ปฐม องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆๆพระองค์ สาธุ

กราบขอบคุณท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆๆพระองค์  ขอบคุณอ.พันธ์ ขอบคุณมากค่ะ 

วันอาทิตย์ที่9 มิ.ย56

วันนี้เหลือคนอยู่ประมาณ 10กว่าคน เลยมีกลุ่มเดียวค่ะทำก่อสร้าง พอทำงานใด้ประมาณ3 ชม. ข้าพเจ้า,มีอาการร้อนหลัง ปวดเเสบ ปวดร้อน ที่หลังอย่างมาก เลยเรียกอ.พันธ์มาบำบัดให้ โดยการมองจี้ อาการดีขึ้นเล็กน้อยคือ5% หลังจากนั้นอ.พันธ์ให้ข้าพเจ้า สารภาพบาบ สำนึกกรรมว่าเคยทำบาปอะไรมาบ้าง เคย  เผาปู-ปลา-กบ-มด-ปลวก   ลวกหอย-กบ  นึ่งปู  เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ

ทั้งหมดนี้ที่พูดมาข้าพเจ้าสำนึกบาป และอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรอาการดีขึ้น ถึง99% ส่วนที่เหลือ ข้าพเจ้าจะมาเขียนธรรมทาน อาการก้อหายทันที่ที่คิดจะเขียน 100%

กราบขอบคุณทานอาจารย์อุบล พร้อมครอบครัว ขอบคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ขอบคุณอ.พันธ์ และเพื่อนๆๆญาติธรรมบ้านสวนทุกๆๆคนค่ะ สาธู

สัปดาห์ที่ 8-9 มิ.ย. 56
เป็นสัปดาห์ที่ลูกบ้านสวนพีระมิดต่างมาสร้างบุญกันอย่างขมักเขม่น สัปดาห์นี้พี่แก้วได้พาเพื่อนใหม่มาสร้างบุญแรงกายที่บ้านสวนฯ 1 คน ชื่อว่าทิพย์ โดยพี่แก้วได้บำบัดเค้าไปก่อนหน้าที่จะมาบ้านสวนฯ ซึ่งก่อนหน้าที่พี่แก้วจะบำบัดคุณทิพย์ เค้าเป็นโรคเกี่ยวกับประสาทที่สมองเหมือนจะเป็นโรคอัมพฤต  อาการแขนขาอ่อนแรง เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าเดิน พูดไม่ค่อยชัด ไม่ค่อยเป็นคำ พูดช้ามากและฟังค่อนข้างยาก เคยไปรพ.หาหมอรักษาแล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย หลังจากที่พี่แก้วได้บำบัดไปแล้ว คุณทิพย์สามารถมีแรงเดินไปมาไกลๆได้และไม่ต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดินเรียกได้ว่าทิ้งไม้เท้าได้เลย ทำให้คุณทิพย์มีความเชื่อและศรัทธาบ้านสวนฯมากจนอยากจะมาบ้านสวนพีระมิด

เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.56 ในช่วงเช้าก่อนไปทำกิจกรรมเข้าฐานต่างๆ อ.พันได้ช่วยบำบัดให้คุณทิพย์โดยการถือจี้ อาการของคุณทิพย์ที่เป็นก่อนบำบัดนั้น จะเดินค่อนข้างช้า ดูขากระเพกๆ เดินไม่ค่อยไหว อ.พันให้เดินแล้วถือจี้ไปด้วย ปรากฎว่า อาการเดินที่ช้าๆคล่องตัวขึ้น และพูดชัดขึ้นเป็นคำมากขึ้น ทำให้คุณทิพย์มีกำลังใจไปทำบุญแรงกายต่อไป

จากนั้นช่วงเช้าในช่วงเวลาของฐานก่อสร้าง ในฐานนี้จะมีการยกแผ่นอิฐบล๊อก แล้วรับ-ส่งเป็นสายพานไปวางตามจุดที่ได้รับมอบหมาย น่าจะช่วงชม.ที่2 กลุ่มคุณทิพย์เวียนมาฐานก่อสร้างพอดี แล้วก็เริ่มยกรับส่งแผ่นอิฐบล๊อกต่อ พอส่งไปถึงคุณทิพย์น่าสงสารแกมาก ยกอิฐแทบไม่ไหว พี่แก้วต้องคอยช่วยประครอง และเมื่อยกไปเรื่อยๆ เริ่มเห็นพัฒนาการของคุณทิพย์ เริ่มที่จะยกคนเดียวไหว และเคลื่อนตัวได้ไวขึ้นเป็นลำดับๆ จากนั้นพักเที่ยงผมก็ถามคุณทิพย์ว่าเป็นยังไงบ้าง พี่ทิพย์เค้ายิ้มและพูดด้วยความดีใจมากๆ(ตั้งแต่ตอนเช้าหน้าตาพี่เค้าดูอมทุกข์มากๆ แทบจะเห็นรอยยิ้มพี่เค้าไม่ได้เลย) บอกว่าดีขึ้นมากเลย มีแรงแล้วจากที่ไม่มีแรงมาก่อน ช่วงบ่ายขอยกอิฐอีกได้ไหม มันดีมากเลย จากนั้นก็ทำกิจกรรมช่วงบ่ายต่อ พอตอนเย็นผมก็สังเกตเห็นพี่เค้ามีความคล่องแคล้วขึ้นมาก การเดินก็ดีขึ้นกว่าเดิม

พอถึงช่วงกิจกรรมช่วงหัวค่ำ(2 ทุ่ม) โดยมีท่านอ.มงคล และลูกบ้านสวนอยู่ในวิหาร และได้พูดคุยกันในเรื่องต่างๆ และมาถึงพูดถึงเรื่องของคุณทิพย์ ก็ได้ไต่สวนกรรมกัน คุณทิพย์ก็ได้สารภาพบาปมา บอกว่าเคยหักขากบ ขาเขียด 2 ตัว ฆ่ายุง เคยใช้เท้าเขี่ยผู้ป่วย และอื่นๆผมจะรายละเอียดไม่ครบ แต่ที่พี่เค้าสารภาพมาน่าจะส่งผลมากที่สุดคือ พี่ทิพย์เคยปรามาสผู้ทรงศีลก็คือแม่ชี ที่มีอาการเดินเหมือนคนพิการแล้วคุณทิพย์เค้าไปด่าในใจ คุณทิพย์จึงมีอาการเหมือนกับแม่ชีที่คุณปรามาสยังไงยังงั้นเลย

เมื่อถึงกิจกรรมวันอาทิพย์ที่ 9 มิ.ย.56  คุณทิพย์ก็มีโอกาสได้ทำก่อสร้างอีก วันนี้ผมเห็นพี่เค้ายกได้เหมือนคนปกติและดูแล้วอาจจะมีแรงมากกว่าคนปกติคนอื่นๆด้วยซ้ำ ก็คือระหว่างที่มีการก่ออิฐ พี่ทิพย์ได้ยกอิฐไปวางที่ๆกำหนด ผมกับพี่แก้วเห็นพร้อมกันและทึ่งมากๆครับ โอ้โห...พี่ทิพย์ยกอิฐคนเดียว2ก้อนเลย ว๊าว!!สุดยอดจริงๆ และเดินไกลมากๆ แข็งแรงจริงๆ และก็ทำกิจกรรมต่ออย่างสนุกสนานจากนั้นถึงช่วงพักเที่ยงก็ได้สอบถามคุณทิพย์ว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง คุณทิพย์ก็บอกว่าอาการไม่มีแรงหาย100% แล้วและการเคลื่อนไหว การเดิน การพูดดีขึ้นมากๆ ผมกำลังจะถามว่าอาทิพย์หน้าจะมาอีกมั้ย ยังไม่ทันถามเลย กำลังจะอ้าปากถาม พี่เค้าบอกว่าเดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะมาอีก และก่อนจะกลับพี่เค้าก็ได้บูชาพีระมิดรุ่นมวลสารบ้านสวนพีะมิด 1 องค์ และอุปกรณ์คุ้มเกล้าอีก 3 องค์ครับ

นับว่าสุดยอดจริงๆครับ บุญบ้านสวนฯแรงมากๆครับ แค่เพียงยกอิฐไม่กี่ชม. โรคที่เป็นก็หายหรือดีขึ้นฉับพลันทันทีเห็นผลทันใด ยกขนานแรงตัวไหนก็ทำอย่างนี้ไม่ได้ และขออนุโมทนาบุญกับพี่แก้วที่เป็นสะพานบุญให้คุณทิพย์ได้มา และอนุโมนาบุญกับคุณทิพย์ที่สร้างบุญด้วยกำลังใจที่เกินร้อย กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินและเทวดาที่รักษาท่านอ.อุบลทุกๆพระองค์ กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล อ.มงคล คุณท๊อป ที่เมตตาให้ผู้คนได้มีโอกาสสร้างบุญได้สำนึกรู้กฎแห่งกรรมแล้วเปลี่ยนตัวเองในทางบุญแล้วมุ่งสู่พระนิพพานครับ

สาธุ อนุโมทนาบุญกับพี่ภาด้วยครับ เยี่ยมมากๆครับ
ทั้งรับปากว่าจะมาเขียน และได้เขียนจริงๆด้วย
ซื่อสัตย์ต่อตนเองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างนี้
คงหาย200% เลยมั้งครับเนี๊ยะ 555

                                     ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทาน

       ของน้องตุลย์      อ่านแล้วมีความสุข

    กับทุกๆๆท่านที่ได้ไปสร้างบุญที่บ้านสวน

พีระมิดอนิสงคฺ์ของบุญก็ส่งผลอย่างฉับพลัน

ทันใดอย่างเช่นคุณทิพย์  สาธุ สาธุ สาธุ  ค่ะ

 ขออนุโมทนาบุญกับน้องมิ้ม..คุณน้อย..คุณภาและน้องตุลย์

ที่เขียนธรรมทานกันอย่างละเอียดเลย..

ต้องขอสนับสนุนน้องตุลย์เรื่องคุณทิพย์...เพราะอยู่ในเหตุการณ์

เย็นวันศุกร์ที่โรงทานด้วย...คุณทิพย์มีอาการแย่มากจริงๆ

  แม้แต่พูดก็ยังไม่มีเสียง....เหมือนไม่อยากพูดกับใคร...

ที่โรงทานเรานั่งกันอยู่หลายคน  คุณทิพย์มีอาการเหนื่อย

  พูดไม่ค่อยชัด..อ.พันกับคุณแก้วก็ช่วยกันบำบัด...

โดยให้คุณทิพย์ถือจี้ของคุณแก้วครั้งแรกเดินไปมา3รอบ...

แล้วถามเช็คอาการตอบว่า...ดีขึ้น     ครั้งสองก็ให้เดินไปมา

อีก3รอบ..ตอบว่า..ดีขึ้นเสียงดังขึ้น    ครั้งที่3    ให้เดินไปมาอีก3รอบ

เช็คอาการบอกว่า..ดีขึ้นอีก...คุณทิพย์ขอพักก่อนเพราะเหนื่อย...

หลังจากนั้นก็ได้ออกมาจากโรงทานมานั่งที่ม้าหน้ากระท่อม...

อ.พันก็ให้คุณแก้วเอาจี้วางที่หัวคุณทิพย์ได้สักพักหนึ่ง

คุณทิพย์บอกว่าปวดหัว...ก็เลยเอาจี้ออกทิ้งไว้สักครู่.....

อาการปวดหัวหายไป   ปรากฎว่า.....คุณทิพย์พูดได้เสียงดัง

และชัดขึ้น คราวนี้มาที่แขนคุณทิพย์ยกแขนข้างหนึ่งได้ไม่สูง

ประมาณ  60  องศา....ก็นำจี้ไปวางที่ข้อศอกสักครู่......แขนก็ค่อยๆ

ยกสูงขึ้นเรื่อยๆจนเท่าแขนอีกข้างหนึ่ง...ยกได้สูงเท่ากันแล้ว...

คุณทิพย์เธอดีใจมาก   เราเห็นแล้วยังอดดีใจไปกับเธอด้วย

ไม่ได้เลย...สาธุ   คุณทิพย์เธอดูมีความหวังมากขึ้น....

สุดท้ายก่อนยุติการบำบัดในวันนั้นก็ใหัคุณทิพย์ขอบคุณ

ท่านพ่อดตาจินิน  เทวดาที่ดูแลรักษาอ.อุบลฯและท่านอ.อุบลฯ..

อ.พันและคุณแก้ว......สาธุ

**********************

ข้าพเจ้า นางสาวศิรินาท   แสงขาว  อาชีพค้าขาย  อ.เสิงสาง  จ.นครราชสีมา

        ข้าพเจ้ามีความทุกข์กาย ทุกข์ใจ เรื่องการเงิน เพราะไม่มีเงินพอที่จะขยายบ้าน ขยายกิจการค้าขายขายของชำ เคยยื่นเรื่องขอกู้เงินกับธนาคาร ตั้งแต่ต้นปี 2555 ก็ไม่ผ่าน  ติดตามเรื่องก็ไม่ได้รับการตอบรับ เปลี่ยนผู้จัดการไปหลายคนอ้างกันไปมา จนออกท้อๆ  เลยต้องหันมาพึ่งพา หาทองออกคิดแบบโง่ๆ  คือไปซื้อหวยใต้ดิน  ซึ่งได้ไม่เท่าเสีย ยิ่งทำให้เสียเงินหนักเข้าไปอีก

        ต่อมาข้าพเจ้า ได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด จากการแนะนำของพี่เหมี่ยว พี่อมร พี่ทั้งสองได้พูดคุยเรื่องกฎแห่งกรรม เป็นเหตุของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ   พี่ทั้งสองได้ให้เอกสารแนะนำบ้านสวนพีระมิด และให้ติดตามรายการคุยไปแจกไปทาง MV TV ช่อง 48

        ก่อนอื่นข้าพเจ้าต้องกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล ที่มีจิตปรามาส  นึกค้านในใจว่า คนอะไรจะชี้นิ้วให้คนอื่นหายจากโรคภัย หายเจ็บ หายจนได้  แต่ข้าพเจ้าก็อยากพิสูจน์  โดยไปขอคำแนะนำ ขอความรู้เพิ่ม  เกี่ยวกับอาจารย์อุบล และบ้านสวนพีระมิด กับพี่เหมี่ยวและพี่อมร เสมอ เมื่อมีความสงสัย คาใจทำให้ข้าพเจ้าต้องติดตามรายการคุยไปแจกไปอย่างสนใจ และจดจ่อ  ทุกวันอาทิตย์

        จนได้รับข่าวการประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตของพี่เหมี่ยว และการบาดเจ็บสาหัสของพี่อมร ระหว่างเดินทางไป บ้านสวนพีระมิด  มีความแปลกประหลาดใจมากที่พี่อมร  สามารถกลับมาเปิดร้านทำงานต่อได้ อย่างปรกติภายในระยะเวลา ไม่ถึงเดือน ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ กับการบาดเจ็บขนาดนั้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เรื่องของบุญบ้านวนพีระมิด

เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าเริ่มมีความศรัทธา อาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด  เลยต้องขอบูชาจี้ ท่านพ่อดตาจินินเป็นองค์แรก ทันทีที่ได้รับจี้ ทำให้ขนลุกขนพอง มีปิติในใจ  พอได้รับคู่มือการใช้วัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด จากพี่อมร  ทำให้รู้สึกว่า ทุกอย่างให้พิสูจน์อย่างเป็นเหตุเป็นผล  จึงขอเช่าจี้ รุ่นบารมีพระศรีอาริย์ รุ่นสามร่มโพธิ์ศรี แหวนสฟิงซ์   พีระมิดจำลอง ทุกรุ่น

วันที่ข้าพเจ้าได้รับวัตถุมงคลบ้านสวน แล้วได้เดินต่อไปที่ธนาคารเพื่อติดตามเรื่องการขอกู้เงินขยายกิจการ สอบถามเจ้าหน้าที่ น้องเขาบอกว่าให้เข้าไปพบผู้จัดการ ระหว่างนั้นข้าพเจ้านึกถึงอาจารย์อุบล  เรียก อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ทางธนาคารอนุมัติเงินกู้ตามที่ขอไว้ด้วยเถิด ปรากฏว่าผู้จัดการบอกว่า ให้ยืนยันจำนวนวงเงินที่ต้องนำไปขยายกิจการ  

ข้าพเจ้ามั่นใจในสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด  รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด ที่ทำให้ทางธนาคารอนุมัติเงินกู้ ทั้งที่หมดหวังไม่หวังที่จะได้รับการอนุมัติด้วยซ้ำไป  ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาอาจารย์อุบล และอาจารย์อุบล ที่เมตตาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะตั้งใจรักษาศีลห้า อย่างตั้งใจ กราบขอบพระคุณค่ะ

ธรรมทานคุณแก้ว กันยภัทร เฟื่องฟู
ตอบปริศนาธรรม "มือนี้มีอะไรจึงทำให้หายได้"
-ท่านอจ.เป็นบุคคลพิเศษ ทำอะไรได้เหนือธรรมชาติ ทำได้ทุกอย่าง ถ้าคิดได้ก็ทำได้=สำเร็จที่ใจเหตุปัจจัยที่ท่านอจ.เหนือธรรมชาติ เพราะท่านบำเพ็ญบุญบารมีมาหลายภพหลายชาติ มือเป็นอวัยวะสำคัญในการสร้างบุญบารมี ยืนใกล้อจ.ก็หายได้ ไม่ต้องแตะหรือไม่ต้องสัมผัสร่างกายอจ.ก็หายได้ มองสิ่งของที่อจ.ย้ายพลังงานมาไว้ก็หายได้ ท่านฝากพลังงานไว้กับคนอื่นก็ได้

-อจ.ใช้จิตสั่งให้ดมมือแล้วหายจึงหายได้ เพราะท่านมีพลังจิตเข้มแข็งเกิดจากพลังรักเมตตาอย่างไมามีเงื่อนไข เป็นพลังยิ่งใหญ่ ทำให้อจ.ทำทุกอย่างได้ดังใจคิด
-อจ.ใช้พลังจิต (พลังความดี) สร้างคุณประโยชน์ ท่านปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขอย่างไม่มีขอบเขต หากมีศรัทธาก็รับความสุขได้ทุกคน

ธรรมทานคุณแก้ว กันยภัทร เฟื่องฟู สัปดาห์ที่ 8-9 มิย.56
สัปดาห์นี้บุญแรงกายภูมิใจเป็นพิเศษ เพราะได้เป็นพี่เลี้ยงคุณทิพย์ด้วย ได้บุญ 2 อย่าง
-คุณทิพย์ อายุ 50 ปี ป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ เส้นเลือดสมองตีบ แขนขาซีกขวาอ่อนแรง เดินขาลากใช้ไม้เท้าช่วย ลิ้นตก พูดไม่ชัด พูดช้า ปู่ตาก (พระเจ้าตากสิน) บอกเจ้ากรรมนายเวรตีกรอบสี่เหลี่ยมจะเอาชีวิต ด้านจิตใจ ท้อแท้สิ้นหวัง อยากตาย เขาน่าสงสารจึงพามาบ้านสวน

-บำบัดให้ครั้งแรก ก่อนมาบ้านสวน มองจี้นับ 1-60 ดีขึ้น 50% อจ.อุบลช่วยด้วย อาการเท่าเดิม
-ถือจี้สามร่มโพธิ์ศรี (รวมบารมี 11 องค์ ดีขึ้นอีก 10% ใช้ดัชนีไฉไล แขนขามีแรงดีขึ้น 80% ไม่ต้องใช้ไม้เท้า ไต่สวนกรรม เคยใช้เท้าช่วยเขี่ยขาคนไข้ที่ป่วยจากขาอ่อนแรงให้เดิน
-มาบ้านสวน อจ.พันธ์มาช่วยบำบัดครั้งที่ 2 ถือจี้เดินไปมาในโรงทาน ขาเดินได้เร็วขึ้น 80% ยังเหลือปัญหาพูดช้าพูดไม่ชัด ใช้จี้โปะไว้ที่หัว นับ 1-60 พูดชัดขึ้น เร็วขึ้น จี้ยังคงอยู่ที่หัว คุณทิพย์บอกปวดหัว อจ.พันธ์ให้เอาจี้ออกจากหัว ปวดหัวจึงทุเลา (อจ.พันธ์ บอกดีขึ้นแล้วไม่เอาจี้ออกจากหัวจึงปวดหัว)
-มือแขนยังอ่อนแรง ยกแขนได้แค่ระดับไหล่ ถือจี้ในมือนับ 1-60 x2 ครั้ง มือมีแรงมากขึ้นกำมือได้ ต่อไปเอาจี้ไว้ที่ข้อพับแขน นับ 1-60 ดีขึ้น ยกแขนสูงเหนือศรีษะ เท่าแขนข้างปกติ
-วันเสาร์ ฐานเกษตร คุณทิพย์มือยังมีแรงไม่พอ ใช้มีดตัดโคนต้นหญ้าไม่ไหว
-บ่ายฐานก่อสร้าง อาการดีขึ้นชัดเจน ต่อสายพานส่งอิฐปล๊อก ก้อนแรกๆยังค่อนข้างช้า หลังจากนั้นรับส่งก้อนอิฐได้เร็วขึ้นเหมือนคนปกติ
-เช้าวันอาทิตย์ ตื่นนอน คุณทิพย์บอกนั่งยองๆได้แล้ว เก็บที่นอนขามีแรงมากขึ้น มีฐานก่อสร้างอย่างเดียว มีคนน้อยเหลือ 6 คน
-คุณทิพย์ อาการโดยรวมดีขึ้น 90% ใช้มือขวากรอกปูน ใส่ช่องอิฐปล๊อกได้อย่างดี และเขาสามารถยกอิฐปล๊อกได้ครั้งละ 2 ก้อน เขาบอกแขนขามีแรงปกติ 100%
-เคยเห็น สัมผัสคนไข้อัมพฤกษ์ มากพอสมควร ใช้เวลาทำกายภาพบำบัดหลายเดือน อาการยังไม่ดีขึ้น 50% อย่างคุณทิพย์ใช้เวลาแค่ 2 วันสร้างบุญแรงกายบ้านสวน เป็นปาฏิหารย์จริงๆ คุณทิพย์บอกอาทิตย์หน้าจะมาอีก
-ขอบคุณพี่น้อง ลูกบ้านสวนทุกๆคน ช่วยเป็นกำลังใจให้คุณทิพย์ เขามีกำลังใจดีขึ้น หน้าตาผ่องใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
-อจ.พันธ์บอกรู้วิธีบำบัดใหม่ ว่าเจ้ากรรมนายเวรอยู่อวัยวะส่วนไหน เอาจี้แตะที่ส่วนนั้น เช่นมือ แขน หรือศรีษะ แล้วให้เจ้ากรรมนายเวรรับแสงบุญจากจี้ ทำให้อาการดีขึ้นหรือหายได้อย่างงายดาย อ.พันธ์บำบัดเก่งมากขอปรบมือให้ค่ะ

อนุโมทนากับ ดร.จุ๋ม และ ดร.จิ๋ม และทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกับท่านอาจารย์อุบลค่ะ และยินดีกับทุกท่านที่หายเจ็บป่วยด้วยบารมีของท่านอาจารย์อุบล

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่ยังคงเมตตาลูกหลาน

กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน

ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล น้องท้อป และสิ่งศักดิสิทธิ์ทุกพระองค์ที่คอยช่วยเหลือลูกและบุคคลในครอบครัวอยู่รอดปลอดภัยมีกินมีใช้อยู่ตลอดค่ะ

               กราบ  กราบ กราบ ท่านอ.อุบล ด้วยควาเคราพอย่างสูง  และกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆๆ พระองค์ในบ้านสวนพีระมิดค่ะ

      ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานของดร.จุ่ม  และทุก ๆท่าน ค่ะ  อ่านแล้วได้รู้วิธีการบำบัดแบบใหม่ๆๆ ของลูกบ้านสวนพีระมิด โดยเฉพาะวิธีการของอ.พันธ์ และยินดีกับคุณทิพย์ สาธุ สาธุ  สาธุ ค่ะ

                                  นิดหน่อย

จากที่่ได้อ่านเรื่องราวของคุณทิพย์

ทำให้ได้เห็นผลบุญ

ที่ส่งผลให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณทิพย์ให้อภัย

สังเกตเห็นว่า

บุญแรงกาย ก่อสร้าง

เป็นบุญที่เจ้ากรรมนายเวรให้น้ำหนักของบุญมากที่สุด

รองลงมาคือ การใช้จี้บำบัด

และ

อื่นๆ ตามลำดับ

ขออนุโมทนา

กับเจ้ากรรมนายเวรของคุณทิพย์ด้วย

ที่ยอมปลดปล่อยคุณทิพย์

หันไปรับบุญที่ยิ่งใหญ่แทนที่จะแค้นต่อไป

เจ้ากรรมฯ เลือกถูกต้องแล้ว

ธรรมทาน วันที่ 14 มิถุนายน 2556                  

*** เจ้ากรรมนายเวร 99 ***

รหัสปลดล็อกกรรมทุกชนิด  เบื้องบนเมตตาบอกมา 99 บาท แถม 1 ต่อเจ้ากรรมนายเวร 1 ราย หรือ  ต่ออาการดีขึ้น 1 อาการ  ใช้ได้ทั้งการงาน การเงิน ความรัก โรคภัยได้หมด  แถม 1 บาทนี้  ก็เพื่อให้ชีวิตเราเวลาได้อะไร  เราก็จะได้มากกว่าที่เราจะได้รับเหมือนพระนางวิสาขา

    ส่วนรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  เป็นการช่วยแค่ชั่วคราว 

    เมื่อทำบุญรหัสเจ้ากรรมนายเวร 99 บาท  เป็นการตัดเจ้ากรรมนายเวรแบบถอนรากถอนโคน ถ้าทำบุญ 99 บาทไม่ได้  ก็ทนทุกข์ต่อไป และติดไปหลายภพ หลายชาติ เหมือนคุณไปฆ่าคนตาย  เคลียร์ด้วยเงิน 99 บาท  คุณว่าหายมั้ย 

    ปกติยุติการจองเวรด้วย 99 บาท กับที่คุณไปฆ่าคนตาย  ปกติไม่ได้หรอก แต่นี่เป็นข้อตกลงที่ท่านพ่อดตาจินินซึ่งเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่สูงสุด อยู่เหนือกฎแห่งกรรม ตกลงกับดวงวิญญาณ

การหยดน้ำแล้วดีขึ้น 60 %  ก็ทำบุญ 99+ 1 บาท

ถ้าดีขึ้นอีก 20 %  ก็ชำระอีก 99 + 1  บาท คือ ทำบุญ 200 บาท 

หายถาวร ถ้าไม่กลับไปทำอีก

        ถ้าหายแล้ว กลับมาแสดงว่าอีกเจ้ากรรมนายเวร

 *** น้ำขวดเล็ก  ขวดใหญ่ ***

น้ำขวดใหญ่ แสดงว่าคุณโลภมาก  ก็จะได้น้อย 

ถ้าขวดน้อยก็แปลว่าโลภน้อย  ก็จะได้มาก

เพชรกับก้อนหิน คุณอยากได้เพชรหรือก้อนหิน  คุณอยากได้น้ำที่เจือจางหรือเข้มข้น

หยดใส่มือ ห้ามไปที่บริเวณเป็นแผล

ท่านอาจารย์จะส่งพลังความร้อนเผากิเลส  ความเย็นจากน้ำ  และวัตถุมงคล

*** ท่านอาจารย์ได้รับพลังงานใหม่เข้ามา ***

       ท่านพ่อดตาจินิน เบื้องบนเมตตาประทานให้ท่านอาจารย์   เป็นไฟเผาไหม้กิเลสในใจมนุษย์ สำหรับคนที่รู้ตัว  แล้วปรารถนาที่จะดับไฟกิเลสให้ได้ เมื่อก่อนส่งน้ำอย่างเดียว  พลังงานเย็น )  ยังไม่บาลานซ์  ต้องทำร้อนและเย็น  จึงส่งไฟ เข้าไปเผากิเลสข้างใน

        อาการต่างๆ ก็จะรู้สึกได้  เมื่อหายแล้ว ทำบุญ 99 + 1 บาท

ได้รับอานิสงส์  ให้โอนมาภายใน 24 ชม.  อาการดีขึ้นมากน้อยขาดไหน  เจ้าตัวจะต้องรู้  เราต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง ซื่อสัตย์ต่อเจ้ากรรมนายเวร  ถ้าไม่โอนอาการจะกลับมา พร้อมดอกเบี้ย

 *** เมื่อพวกเราบูชา วัตถุมงคล หรือ ซื้อพาเมล่า  ***

-         ถือว่าเงินนี้เป็นส่วนตัวของท่านอาจารย์  ซึ่งท่านอาจารย์จะแบ่งไปสร้างบุญมากที่สุด

-         เงินที่ได้มาท่านอาจารย์ก็จะไปทำ 4 ส่วนนี้ คือ ใช้หนี้เก่า (ให้พ่อให้แม่ ) ใช้หนี้ใหม่ ( ให้ลูก ซึ่งคุณท๊อปก็แทบไม่ใช้เงินเลย )  ฝังดินไว้ ( ทำบุญ )  ทิ้งลงเหว( กินใช้ )

-         เงินส่วนใหญ่ที่ได้ท่านอาจารย์ นำไปสร้างบุญ  คือ เอาไปเช่าสถานีโทรทัศน์   1 สัปดาห์ 2 ชั่วโมง   

-         นำไปสร้างบ้านสวนพีระมิด  เลี้ยงทั้งคน บริวาร คนมาปลดเปลื้องความทุกข์  ให้อาหาร  ให้ที่นอน  ให้ปัญญา ค่าใช้จ่ายต่างๆๆ  เงินเดือน ค่าตอบแทน คนที่มาร่วมงานกับท่านาอาจารย์  ทำบุญผ้าป่ากฐิน  ภารกิจเดินทาง

*** การบูชาวัตถุมงคล พาเมล่า จึงมีอานิสงส์สูงมาก  แต่เค้าจะอภัยถอนรากหรือเปล่าขึ้นกับสำนึก ***

*** ท่านอาจารย์ ก็ได้รับพลังไฟ ท่านได้รับไฟจากแดนนิพพาน เป็นไฟทิพย์***

-          มนุษย์มีกิเลสเผาแน่นที่ยังขุดไม่ได้  

-         ท่านให้ไฟเผากิเลส 

-         ผู้ได้รับจะต้องมีจิตมั่นคงต่อท่านอาจารย์จริงๆๆ  เพราะเราจะรู้สึกว่ามั่นโล่งเบาหมด

-         เราจะรู้เองค่ะ พอเรารับไฟมันจะไปเผากิเลสส่วนนี้

-         หลังจากที่ท่านอาจารย์ ได้ไฟทิพย์ พระนิพพาน   ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ท่านาอจารย์ไม่ค่อยได้นอน นอนตี 4 ตื่นตี 5  แต่กลับไม่เหนื่อย ไม่เพลีย  

-          หลังได้รับไฟนี้แล้ว มีความรู้สึกว่าตัวเองสดขื่นแข็งแรง

 พีระมิดรุ่นบวงสรวงองค์พระปฐม

-         เป็นครูพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  ฉัพพลันรังสี    สัตรังสีรัศมี 7 ประการ 

-         ในครั้งหนึ่งหลวงพ่อฤาษีลิงดำอาพาตหนักเพราะกรรมรวมตัวของหลวงพ่อ พระพุทธเจ้าส่งฉัพพลันรังสีมาช่วย  ทำให้หายจากอาการอาพาตนั้น   

-         การรับถ้าไม่เปิดจิตรับก็จะรับไม่ได้  ถ้าเปิดจิตรับก็รับได้ทั้งหมด

-         เจ็บป่วย โรคร้ายหัวนอน 9 องค์ขึ้นไป 

พีระมิดรุ่นท่านท้าวเวสสุวรรณ

-          ตั้งแต่ท่านอาจารย์อุบลยอมรับเป็นลูกของท่านอย่างภาคภูมิ  ท่านก็ประทานเงินมาให้โดยตลอด

-           ท่านอาจารย์ชอบคบผี  เวลาผีเจอ ผีก็จะโมทนาบุญของท่านอาจารย์แล้วขึ้นไปสู่ภูมิที่สูงขึ้น

-           ใครนับถือท่านจริง  ทำกรรมฐาน  ขอบารมีท่านก็จะเบิกวิญญาณขึ้นมาได้  การเบิกวิญญาณต้องผ่านท่านท้าวเวสสุวรรณ 

-         พีระมิดองค์นี้มีพุทธานุภาพ   จิตคุณต้องเกาะท่านอาจารย์อุบลก่อนถึงจะปลดทุกข์ได้ 

-         คนเจ็บป่วยต้องมีให้ได้ 9 องค์ขึ้นไป

-          ใครค้าขาย  ใครนับถือท่านท่านไปทอดทิ้ง  ใครล่วงเกินท่านก็ลองดู  หรือล่วงเกินลูกสาวท่าน

พีระมิดรุ่นบวงสรวงพระศรีอาริย์ 

-         ท่านอาจารย์อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์มาสถิตที่กาย วาจา ใจ ท่านาอาจารย์ครั้งแรก ก็ปรากฏเป็นอัศจรรย์ คือ คนเดินผ่านแล้วหาย จากอาการเจ็บป่วย  ยุคของพระองค์ท่านไม่มีคนเจ็บ คนจน

พีระมิดรุ่นมวลสารบ้านสวนพีระมิด

-         ของทุกอย่างในบ้านสวนเป็นของทิพย์ ศักดิ์สิทธิ์   มีคนเคยเอาแก้วไป 1 ใบ โดยเจตนา ทำให้เจ็บป่วย สาหัส ต้องซื้อแก้วส่งมาเป็นการุต  ท่านสอนให้จำฝังใจไม่ทำอีก

-          เอาวางไว้ใต้เตียงได้  ไว้ได้ทุกส่วน มีคนไปเอาไปฝังดิน พืชผลเติบโตดี  

 เข็มกลัดติดเสื้อท่านท้าวเวสสุวรณ 

-         คุณควรกลัดไว้หน้าอก  ถ้ากลัด  ถ้าพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้อง กล้าหาญ  องอาจ ไม่อาย กตัญญู

-          ถ้าคุณไม่องอาจยอมรับท่าน  ท่านก็จะไม่ช่วย  เหมือนกันเมื่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำโดนผีบีปคอ แล้วขอให้ท่านท้าวมหาราชมาช่วย แต่พอท่านมาช่วย แล้วหลวงพ่อบอกว่าอย่าทำเค้า   พอผีมาอีก ถึงร้องขอท่านก็ไม่มาช่วย    เทวดาท่านถือ ความต้องการความช่วยเหลือจากท่าน

-          จงติดอย่างภาคภูมิ  คุณคิดในใจท่านรู้  ผลจะเกิดตามนั้นเลย

-           ท่านป้องกันคุณไสยได้  แต่ถ้าคุณเปิดจิตรับ  คุณไสยก็เข้ามา  ถ้าจิตเกาะท่านเสมอ  คุณไสยก็เข้ามาไม่ได้

-         ท่านจะปกปักรักษาคนที่ปฏิบัติพระกรรมฐาน ผู้ที่บูชาท่าน  ปกป้องพระพุทธศาสนา  ใครติดแล้วจิตเกาะท่านท้าวเวสสุวรณ เกาะท่านอาจาย์  ถ้าจิตยึดมั่น  คุณไสยทำอะไรไม่ได้  นอกจากนิสัยทำคุณเอง

รุ่นคุ้มเกล้า 

-         บูชา  100 บาทเท่านั้นเอง   ใช้ได้ทั้งตัวเอง  ครอบครัว คนอื่น 

-         แค่มองก็หาย  มองจับ  สารภาพบาป ทำน้ำทิพย์ 

-         ท่านอาจารย์ไม่ชอบให้ใครกราบ  ชอบเป็นคนธรรมดา ไม่มีศักดินา  ท่านทำใจยอมรับความสำคัญลำบากมาก  ที่ยอมให้กราบ  ก็เลยให้กราบรูปท่านอาจารย์  หรือจิตกราบท่านอาจารย์  ใจยึดมั่น มั่นคงยึดมั่นในตัวท่านก็ให้ผลเหมือนกราบท่านอาจารย์  ทุกอย่างสำเร็จแล้วด้วยใจ  หากกายกราบใจไม่กราบไม่เห็นผล   ถ้ามีเองทำน้ำทิพย์ดื่มได้  อาจารย์ทำให้อย่าดื่มนะ

 แหวนพีระมิด

-          มหาพีระมิดใช้พื้นที่เยอะมากๆๆ  พกติดตัวไม่ได้  จึงเหมือนย่อมาไว้พกติดตัวได้ 

-         พลังพีระมิด  นักวิทยาศาสตร์นำเนื้อสัตว์วางในพีระมิด ความสูง  1 / 3 ของพีระมิด  ทำให้เนื้อสัตว์ไม่เน่าเปื่อย และทำให้มีดคมใหม่ 

-         พีระมิดเครื่องขยายทุกอย่าง  ถ้าเราทำความดีเพียงน้อยนิด เหมือนทำความดีมากมาย  99 บาทของท่านจึงขยายเป็น ร้อยล้านได้ 

-         เป็นเหตุผลว่าทำไมเรามาทำบุญที่บ้านสวน   ช่วยขยายความดี  ขยายความชั่ว  ย่นย่อเวลา  ย่นย่อระยะทาง  เช่น ปกติทำบุญ เกิดชาติหน้าฉันใด  ทำบุญขอให้มีสมบูรณ์ทุกด้าน  ทำบุญเดี๋ยวนี้บ้านสวน  ก็หายทันที  ฐานะการเงิน การวันนี้ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอถึงชาติ  มันเกิดขึ้นรวดเร็ว   

-         คนที่ละเมิดก็จะเห็นผล  คนละเมิดบ้านสวนก็ได้รับผลกรรมเลย   แล้วคุณจะได้รับบทเรียนคุ้มค่า  ต่อไปคุณก็จะไม่ปากพล่อย  ใช้ปัญญาพิจารณา 

-         ถ้าคุณจะเดินสายบุญ  มาบ้านเถอะค่ะ  เพราะย่นระยะเวลา  ถ้าอยากเห็นผลเดี๋ยวนี้ 

-         ท่านอาจารย์บอกพิสูจน์ได้หมด  พลังจะอยู่ที่แหวนนี้การขยายย่อนย่อ 

*** พีระมิดมีความสามารถดึงดูดพลังจากจักรวาล อนันตจักรวาล   ดึงดูดฉัพพลันรังสี  สัตรังสี จากแดนนิพพาน  ***

แหวนองค์เทพสฟิงค์ 

-         ประเทศอิยิปต์ มีมหาพีระมิดและองค์เทพสฟิงค์ เหมือนสุริยันจันทรา  เป็นของคู่กัน

-         เพราะท่านอาจารย์อุบล  เป็นลูกท่านพ่อดตาจินิน  ลูกสาวท่านท้าวเวสสุวรณ 

หน้าองค์เทพสฟิงค์จึงใช้หน้าท่านาอาจารย์อุบล เพราะ  พลังทั้งหมดจึงอยู่ที่ท่านอาจารย์อุบล 

-         องค์เทพสฟิงค์ที่เป็นหน้าท่านอาจารย์อุบล  เพราะเป็นการเชื่อม จิตต้องเกาะท่านอาจารย์อุบล  

-         ทำให้เกิดหน้าผลดีกับผู้คน  บางคนปวดหลังแทบตาย ใส่นิดเดียวหาย 

-         ต้องเป็นหน้าผู้รับพลังมาใส่ เป็นลูกสาวท่าน  รับพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพพรหมเทวาทุกระดับชั้น

การที่หน้าองค์เทพสฟิงค์เป็นฟาโรห์  แต่ตัวเป็นสิงโต

-          มนุษย์ที่มีปัญญาคิดอย่างหนึ่ง  มนุษย์ที่มีปัญหาคิดยอย่างหนึ่ง 

-         เป็นตัวเทนสุคติภูมิ  ทุกคติภูมิ  ตัวเป็นสัตว์เดรัจฉานคือทุกคติภูมิ   และหน้าเป็นฟาโรเป็นตัวแทนเทพ 

-         เราต่างเคยทุกข์เคยสุขเราต่างวนเวียน รวมสิ่งที่มีอำนาจสูงสุดไว้ด้วยกัน

-          องค์เทพสฟิงค์เป็นผู้กุมความลับจักรวาล  ผู้ใดรู้ความลับของสฟิงค์  ก็จะรู้ความลับของจักรวาล 

***คนที่ศรัทธา ยึดมั่นท่าน   ท่านสามารถบอกไปถึงวิบากกรรม ***

-           การเราจะหลุดกรรมใดต้องใช้เวลาเป็นชาติๆๆๆ   

-         ท่าน จะส่งข้อมูลไปยังท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์จะบอกเพื่อปลดเปลื้องกรรม

-         การสวมแหวนองค์เทพสฟิงค์ เหมือนอยู่ใกล้ท่านอาจารย์อุบลตลอดเวลา  แต่ต้องจิตใกล้นะคะ  

 จี้พระศรีอาริย์

-         คนที่มีจี้พระศรีอาริย์   แล้วรักบูชาท่านจริง จะได้รับผลที่จะเกิดในยุคของท่าน    เหมือนได้พบปาฏาริย์ก่อนที่จะถึงยุคท่านค่ะ 

จี้สามร่มโพธิ์ศรี 

-         บ้านสวนสร้างบุญถวายในหลวง   ท่านอาจารย์เลือกทำบุญกับผู้ที่อานิสงส์บุญสูงสุดในมนุษย์ คือ ในหลวง เพราะการทำบุญจะได้รับผลทันที  เมื่อองค์ประกอบครบ 3 ประการ คือ เนื้อนาบุญบริสุทธ์  วัตถุทานบริสุทธิ์  เจตนาบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว  

-         ถ้าไม่ได้บูชา  เข้าเว็บไปมองจี้สามาร่มโพธิ์ศรี  มองก็หาย  แต่อีก 1 ขั่วโมงก็จะกลับมา

-         เน้นพลังปราณ  ธาตุชีวิต จี้รุ่นนี้ทำน้ำพลังปราณ  ไปแก้ไขธาตุชีวิต ช่วยคลี่คลายความทุกข์ทางกายได้ทุกชนิด  การทำผิดศิลไม่มีอะไรลบล้าง  ท่านพ่อให้ท่านอาจารย์ทำหน้าบนโลกมนุษย์ไม่ต้องไปรอไปรับผลกรรมในนรก

ท่านพ่อดตาจินิน

-         ท่านพ่อดตาจินิน เป็นผู้ให้กำเนิดพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  ให้กำเนิดท่านอาจารย์อุบล และให้กำเนิดทุกสรรพิสิ่ง เป็นผู้อยู่เหนือกฎแห่งกรรม

-          เป็นผู้ส่งท่านอาจารย์มาเกิดในชาตินี้ 

-         เป็นผู้อยุ่เบื้องหลัง ปรากฎการณ์ของบ้านสวนพีระมิด  ที่พิสูจน์กฎแห่งกรรมเห็นผลฉัพพลันทันที 

-         ท่านพ่อดตาจินิน  อยู่ไกลโพ้น ใครยังไปไม่ถึง  เป็นดินแดนอีกแห่งที่อยู่เหนือแดนนิพพาน

-         ปรากฎการณ์บ้านสวน  เป็นต้นกำเนิดของศาสนาเลย  คือ จากท่านพ่อดตาจินิน 

-          ท่านอาจารย์สามารถย้ายพลังงานไปที่ไหนก็ได้   เปิด - ปิด server ได้  

-         สามารถส่งพลังไปที่อยู่ไกลโพ้นได้   ก็จะได้รับพลังบุญ  เหมือนเป็นออร่าแสงบุญที่ยิ่งใหญ่  

-         ยกเว้นจิตไม่เกาะเกี่ยวท่านอาจารย์อุบล  พลังงานนี้ก็เข้าไม่ได้

-         วัตถุมงคลทุกอย่างท่านตั้งราคาเอง

จี้รุ่นท่านพ่อดตาจินิน

-          เป็นบุคคลที่ท่านอาจารย์ได้พูดถึงแล้วทั้งหมด  เป็นผู้ส่งท่านอาจารย์มาเกิด 

-         พุทธคุณของท่านไม่ต้องพูดถึง  ท่านย่อมอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง

-         ท่านเห็นแล้วว่าโลกมนุษย์ใกล้ถึงกาลอวสาน  พวกทุกข์หาทางพ้นทุกข์ไม่ได้ 

-         ท่านต้องการบอกว่าพระไม่ได้อยู่ที่ฟอร์ม  อยู่ที่จิตที่ยิ่งใหญ่

-          ท่านสร้างท่านอาจารย์มาทำหน้าที่ไม่ใส่ชุดขาว แต่งตัวเซ็กซี่สร้าง  คุณสมบัติผิดจากพระ 

-         คุณพ่อ คุณแม่ท่านอาจารย์อุบล  ไม่ได้มีความสามารถเหมือนท่านอาจารย์ ก็ยังสร้างท่านอาจารย์ได้

-           ไม่ต้องสร้างเงื่อนไขใดๆ   

-         ให้ทำตัวปกติทุกอย่าง

-           ผู้ที่จะไปนิพพานได้ ก็คือ ไม่ผิดไปจากคนปกติ

-          เป็นชีวิตง่ายๆๆ  ไม่เรื่องมากลีลามาก  ไม่ทำเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก  เรื่องเล็กไม่เป็นเรื่องเป็นเรื่องใหญ่

-          เเล้วชีวิตจะง่าย ได้อะไรง่าย 

-         ท่านปรารถนามาปลดล็อกทุกข์ทางใจเป็นสำคัญ  ต่อให้ร่างกายสวยหล่อ  แต่มีทุกข์ทางใจก็ไปนิพพานไมได้

-         ไปนิพพานต้องทิ้งหมด บ้าน รถ เพชร  แล้วคุณจะหาอะไรกันนักหนาในเมื่อต้องทิ้ง 

-         ท่านเน้นการปลดล็อดทางใจสำคัญ เครียดง่าย โกรธง่าย จิตตกง่าย ทุกอย่างทุกทางใจ

-         แสดงว่าถ้าจิตสงบ ไม่โกรธจะสวยทันที

-         ท่านพ่อมาปลดล็อกทุกอย่าง  มาปลดล็อคปัญญา  เพราะทุกข์โง่  กรรมโง่ มาจากการผิดศีล

-          คนไม่มีสติปัญญา ปัญญาไม่มี  เชื่อง่าย โดนหลอกง่าย  เพราะ ขาดมโนธาตุ คือ ธาตุรู้

-         ท่านมาเติมมโนธาตุให้ 

โมทนาบุญกับธรรมทานของน้องตุลย์ น้องมิ้ม  น้องภา  อ.พันธ์ อ.นี และทุกๆท่านค่ะ 

ขอแสดงความยินดีกับคุณทิพย์ที่ได้รับความสุขจากการไปใช้บุญแรงกายทำให้สุขภาพแข็งแรง ยินดีกับน้องแก้วที่เป็นสะพานบุญให้คุณทิพย์

หลายวันไม่ได้เข้ามาเขียนธรรมทานพอได้อ่านก็มีความสุขจังเลยและขอแสดงความยินดีกับพี่น้องบ้านสวนและชาวเกาะทุกๆท่านค่ะสาธุๆๆ

 นำบุญมาฝาก

          วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาผมกับลุงเบิ้ม จ่าจรัน ได้ลากสายไฟปักเสาไฟฟ้าเื่พื่อจ่ายไฟให้กับเครื่องผสมปูน สร้างอาคาร นั้นเสร็จแล้ว

          ท่านใดอยากใช้แรงกายสร้างวิหารทาน ขอเชิญแจ้งชื่อขอเข้าบ้านสวนตาม

     [กระทู้ปักหมุด] ใครจะขออนุญาตไปบ้านสวน เชิญแจ้งที่นี่ค่ะ 

และอย่าลืมอย่าพลาดรับพลัง ไฟทิพย์จากแดนนิพพาน ถ่ายทอดสดทางเฟสบุค

   รับชมการถ่ายทอดสดจากบ้านสวนพีระมิด

(ติดตามกำหนดการถ่ายทอดล่าสุดได้จาก เฟสบุ๊กบ้านสวนพีระมิด) 

 รายการถ่ายทอดสดของวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2556 

สำหรับพี่น้องที่พลาด ไม่ได้ชม 
สรุปมาได้คร่าวๆ ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะค๊า

***นิพพาน***

นิพพานหน้าตาเป็นยังไง ไปได้จริงไหม จะไปแล้วต้องมีวิธีกาารยังไง

นิพพานแปลว่าอะไร

** นิพพานคือ ท่านอ.เมตตาแปลด้วยความเข้าใจของตนเองและประสบการณ์ตนเอง ท่านอ.เคยไปเที่ยวและเคยไปอยู่ปัจจุบันก็อยู่บนนิพพาน

นี่คือร่างของท่านอ.แต่จิตวิญญาณอยู่นิพพาน

หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านสอนให้ตั้งเป้าชีวิตว่าถ้าตายในชาตินี้ต้องไปนิพพานให้ได้

แต่รู้สึกว่ามันยาก

แต่พอมาติดตามเรื่องราวของหลวงพ่อฤาษี

เป้าหมายท่านคือนิพพานเช่นกัน

ท่านอ.ก็เริ่มสนใจ วิธีสอน วิธีคิดของหลวงพ่อฤาษี

*************************
ความสุขยังน่าเบื่อ เพราะว่ามันก็ยังมีเจ็บ ป่วย มีแก่ มีเกิด เจ็บ ตาย

ยังไงวันนึงก็ต้องพลัดพราก ความทุกข์ก็ยังมีในนาทีสุดท้าย

หรือผู้ที่อยู่ต่อก็ยังทุกข์ความสุขเหล่านั้นมันไม่ได้ยั่งยืน

เมื่อเกิดเบื่อความสุข พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า อุเบกขา หรือทุกขตารมณ์

เป็นดินแดนที่ยิ่งกว่าสุข--นิพพาน

เป็นสถานที่ที่วิเศษสุด ไม่มีการงานให้ทำ ไม่มีหน้าที่ให้ทำ

ยังมีดวงจิตอยู่ ยังมีความรักความเมตตา กรุณาอยู่ แต่ว่าไม่มีกิเลสแล้ว

พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา

มนุษย์ที่ติดอยู่ในกิเลสต้องกลับมาเกิดอีก ติดในสุขก็ต้องมาเกิดอีก

แต่หากอยู่บนนิพพานไม่ต้องลงมาเกิด แต่ลงมาโปรดได้

บ้านสวนเคยอาราธนาบารมีท่านมา

ขอเห็นพระองค์ท่านด้วยใจ เป็นอะไรก็หายประจำ

นี่คือบารมีของพระองงค์

นิพพานอยู่นอกเหนือ 31 ภพภูมิ

ไปจริงใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาที ระยะทางไม่ได้ใกล้ แต่เราไปด้วยดวงจิตได้

การไปนิพพานคือไปด้วยดวงจิต ไม่ต้องเอาอะไรไปทั้งนั้น

สังขารที่มีอยุ่ไม่ต้องเอาไปทั้งนั้น

พวกเรายึดถือไม่ถูกต้อง

พระนี่ถือว่าโกนผม ห่มเหลือง

พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าการเปนพระอยุ่ที่ความประพฤติ

ใช้จิตอย่างเดียว ไม่ใช้เครื่องแบบ

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 15-16 มิถุนายน 56

เสาร์อาทิตย์นี้ มีกิจกรรมคือทำความสะอาด เกษตร ก่อสร้าง และวัตถุมงคล ซึ่งฐานนี้เป็นการทำความเข้าใจในพุทธานุภาพและการใช้วัตถุมงคลของแต่ละชนิด ให้ถูกต้องตรงกันเพราะมีหลายๆคน บูชาไปแล้วแต่ยังไม่เข้าใจวิธการใช้หรือพุทธานุภาพเลย หรืออาจจะเข้าใจแบผิดๆ จึงต้องซักซ้อมความเข้าใจให้ถูกต้อง เพราะจะมีผลต่อการใช้บำบัดต่อตัวเราเองและคนอื่น

ส่วนฐานก่อสร้างวันนี้ พวกเราเทปูนคลุกลงไปในคานเพื่อรอเทปูนทับอีกชั้น ซึ่งตอนแรกไม่เข้าใจ พวกเราก็ระดมเทกันยกใหญ่ เมื่อเทหินคลุกมากไป เนื้อปูนที่จะเทลงไปก็จะได้น้อย จะทำให้คานล่างไม่แข็งแรง พวกเราต้องระดมกันใช้เมือเขี่ยโกยหินคลุกกันขึ้นมา ตอนเอาหินคลุกขึ้นยากกว่าตอนเอาหินคลุกลง เพราะเกะกะเหล็กที่ผูกลวดที่อยู่ในคาน กว่าเราจะเอามือเขี่ย กอบ โกยหินคลุกขึ้นมา เล่นเอาถุงมือขาดกันไปเลยค่ะ

เสาร์นี้คุณแก้วได้พาสมาชิกใหม่มา ชื่อคุณสำราญ เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง มา 4 ปี ซึ่งมีอาการพูดไม่ชัด ฟังไม่รู้เรือ่งว่าพูดอะไร และขาเดินลากต้องคอยหาสิ่งที่จะยึดจับ พยุงตัว จึงจะเดินได้ ลักษณะการเดินเหมือนอ่าง เชิญยิ้ม ช่วงทำกิจกรรมก่อสร้างเขาใช้จอบโกยหินคลุกตลอด เพราะเดินไม่ไหว ปรากฏว่า เมื่อหมดชั่วโมงฐานก่อสร้าง ลักษณะการเดินของเขาดีขึ้น เมื่อเปลียนฐานไปฐานวัตถุมงคล ทั้งคุณธนา อ.พันธ์ น้องชิม และอีกหลายคนต่างก็ช่วยกันบำบัดให้คุณสำราญ ปรากฏว่าคุณสำราญพูดชัดขึ้น ฟังรู้เรื่อง แถมคุณสำราญก็ร่ายกลอนยาวให้เราฟังอีก เป็นที่สนุกสนาน เขาคงจะอัดอั้นตันใจมานาน เพราะพูดให้ใครฟังเขาก็ฟังไม่รู้เรื่อง เลยไม่มีใครฟังแก แต่วันนี้มีคนฟัง มีคนเข้าใจในสิ่งที่แกพูด แกมีความสุขมาก ขาก็เดินได้แข็งแรงขึ้น ไปหาหมอทำกายภาพมาหลายปี มีแต่ขาจะเปลี้ยไปเรื่อยๆ แกบอกว่าตระกูลของแก ตั้งแต่พ่อของแก พี่ของแกก็เป็นโรคนี้ และเขาก็ตายไปแล้วด้วย เหลือแต่แกเท่านั้น 

ท่านอาจารย์เมตตาบอกกรรมของคุณสำราญเกิดจากการผิดศีลข้อ3  ผิดศีลข้อ4 และผิดศีลข้อ5 ชอบกินเหล้า กินจนเดินโซเซ กรรมเลยส่งผลให้เดินเซไปมา โดยไม่ต้องดื่มเหล้า ซึ่งสร้างความทุกข์ให้แกมาก เพราะไม่ว่าจะเรียกรถรับจ้างหรือมอไซด์รับจ้างไปไหนๆ ก็ไม่มีใครกล้ารับแก เพราะคิดว่าแกเมาจัด

ช่วงค่ำมีการถ่ายทอดสด ท่านอาจารย์ทำน้ำทิพย์และส่งพลังไฟทิพย์จากแดนนิพพาน ซึ่งท่านพ่อดตาจินินได้ส่งมาให้ท่านอาจารย์ใหม่ล่าสุด ท่านอาจารย์ได้ส่งไฟทิพย์ให้พวกเราทุกคนเพื่อเผากิเลสที่ฝังสะสมทับถมอยู่ในใจของเรามาช้านาน แต่ไฟทิพย์แดนนิพพานไม่สามารถเผากิเลสครั้งเดียวแล้วหมดไปเลย ไฟทิพย์จะเผากิเลสมอดไหม้ไปเรือยๆ เหมือนไฟเผากองกระดาษหนาๆ ซึ่งจะค่อยๆลามไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด ดังนั้นพวกเราต้องหมั่นรับไฟทิพย์จากท่านอาจารย์เรื่อยๆ เพื่อจะได้เผากิเลสเราให้ได้มากที่สุด

 ช่วงที่เจี๊ยบได้รับไฟทิพย์นิพพานจากท่านอาจารย์นั้น รับสัมผัสทางกายได้มีความรู้สึกอุ่นๆที่มือ และมีความรู้สึกเหมือนเป็นพลังงานนุ่มๆ หนักๆอยู่ในกลางฝ่ามือทั้ง 2 ด้าน ส่วนทางใจมีความรู้สึกสุขใจ สบายใจและมีความเชื่อมั่นว่าปัญหาที่เราทุกข์ใจอยู่นี้ จะได้รับการแก้ไขได้แน่นอน กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอ.อุบลค่ะ

พระที่มีชั้นยศสูงๆก็ไปนรกเยอะแยะ

พระอยู่ที่จิต ใครก็เป็นพระได้ เด็ก ผญ คนแก่ โสเภณี กระเทย

พระในความหมายของพระพุทธเจ้าคือพระอริยเจ้า

คือพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์

1.รักษาศีล 5 บริสุทธิ์

2.ปรารถนานิพพาน

3.มีปัญญาเล็กน้อย คือคิดเสมอว่าเราต้องตาย มีความตายเป็นอารมณ์

นี่คือความคิดของพระโสดาบัน

ระดับที่สูงขึ้นไปคือพระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์

เป้าหมายก็คือนิพพาน ไม่ปรารถนามาเกิด

ผู้ที่ไม่รู้รสชาติของความทุกข์ ก็ไม่ปรารถนาพ้นทุกข์ 

เมื่อไม่ปรารถนาพ้นทุกข์ก็ไม่อยากไปนิพพาน

ผู้ที่อยากไปนิพพานต้องผ่านความทุกข์มาอย่างแสนสาหัส 

จึงจะมีจิตคิดอยากพ้นทุกข์

หากชีวิตเราเกิดมาสมหวังทุกอย่าง เราก็คงไม่ปรารถนาที่จะพ้นทุกข์

แม้แต่ความสุขก็เปนสิ่งที่ไม่แน่นอน

ความทุกข์เปนสิ่งที่แน่นอนกว่าความสุขด้วยซ้ำไป

ตราบใดที่เรายังมีกิเลสอยู่ เราก็ยังเปนทุกข์

มนุษย์เกิดมามีความทุกข์ทุกคน จะทุกข์มากทุกข์น้อยขึ้นอยู่กับปัญญา

เช่น หากเราตั้งเป้าไว้ว่าอยากเข้า ร.ร. ดีๆ กลัวว่าจะเข้าไม่ได้

เราก็ทุกข์แล้ว เพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิด ว่าเข้า ร.ร. ไหนก็ได้

แค่เปลี่ยนวิธีคิด ทุกอย่างก็เปลี่ยนแล้ว

เมื่อไหร่ที่เราทำทุกอย่าง ยังประโยชน์ให้ตัวเองด้วย ให้ผู้อื่นด้วย ตาม

คำสอนพระพุทธเจ้า ทุกข์เราจะทุกเบาบาง หรือน้อยที่สุดเลย

นิพพาน สภาพที่อยู่บนโน้นคือ ไม่ต้องปลูกบ้าน

ไม่ต้อง มีหิน ดิน ทราย 

บ้านนี้มันจะเกิดขึ้นตอนเราเปนมนุษย์ ทุกครั้งที่เราทำความดี 

ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ คามคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วมีจิตปรานานิพพาน

วิมานก็ะจะเกิดขึ้น ความสำเร็จของวิมานจะเกิดสภาวะเปนทิพย์ของจิตเรา

เป็นดินแดนที่ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก

บางคนไปจุฬามณี วิมานก็จะเปนทอง

อย่างชั้นจาตุ เปนเงินล้วน ซึ่งความงามงามกว่าพระราชวังในเมืองมนุษย์ 

แล้วนิพพานจะขนาดไหน

***วิมานนี่เปลี่ยนแปลงได้ เปรียบเสมือนบ้านอยู่

แค่สวรรค์เค้าก็ไม่ใช้พาหนะ ใช้ความเปนทิพย์ แค่คิดก็ไปได้แล้ว

***นอกจากพาหนะแล้วอาหารการกิน อาหารหยาบก็ไม่มี

อาหารก็เปนทิพย์ บนนิพพานกินทิพย์ กินบุญ ก็คืออาหารทิพย์ที่เราทำชาตินี้

ร่างกายคือใสเหมือนแก้ว ใช้แค่ดวงจิตอยู่กับดวงจิต ยังมีความรู้สึก มีจิตใจ

แต่ไม่ยึดติดกับสังขาร อยู่ได้ด้วยจิตที่อิ่มเอ็มทุกอย่างแล้ว 

***อาชีพบนนิพพาน

ทำมาหากินอะไร หาเงินที่ไหนมีธนาคารมั้ย

บนนิพพานไม่มีกิจการงานอะไรที่ต้องทำเลย

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนขี้เกียจ ไม่มีความรับผิดชอบ เพราะไม่มีงานต้องทำ

มนุษย์ทุกคนมีสัญชาติของความขี้เกียจ เพราะมีงานจี้ก้นอยู่

ก็เลยต้องขยัน ต้องรับผิดชอบบนนิพพานก็คืออยู่แบบสุข

เกินกว่าคำว่าสุข บนนั้นจะไม่มีคำว่าเบื่อหน่ายไม่ต้องกิน ไม่ต้องถ่าย 

***ความรัก ครอบครัว บนนิพพาน

เมื่ออยู่บนนั้นแล้วเค้าไม่ปรารถนาที่จะมีครอบครัวแล้ว

เพราะการมีครอบครัวมันทุกข์ จะมีวิมานของตนเอง ต่างคนต่างอยู่

แต่พบกันได้ จิตใจก็ยังมีความผูกพันธ์อยู่ได้

แต่เค้าไม่ปรานาที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแบบเสพกามแล้ว

เพราะหลุดพ้นแล้ว สิ่งเหล่านี้เค้าจะลืมไปหมดแล้ว

 คนที่ปรารถนาอยู่ก็ไปไม่ได้

นิพพานไม่ใช่สถานที่หรือความรู้สึกที่น่าเบื่อ

แต่มันเป็นความรู้สึกที่ทรงอารมณ์อุเบกขาอยู่ได้ 

เอกัคคตารมณ์ คืออารมณ์ที่เป็นเอกเป็นหนึ่ง จะเป็นแบบนั้นตลอด

อารมณ์ไม่เคลื่อน ถ้ายังเบื่อแปลว่าอารมณ์เรายังเคลื่อน

บนนิพพานจะไม่มีอารมณ์ที่ขึ้นลงเลย

นิ่งเฉย คือ เฉยไม่ได้แปลว่าไร้อารมณ์ เฉยคือไม่ยินดียินร้ายกับความสุขแล้ว

มันมีสิ่งที่เหนือกว่าสุขแล้ว

ผู้ที่จะไปนิพพานได้ บุญก็ไม่ได้เท่ากัน

หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็บอกว่า ขึ้นไปบนนั้นวิมานของท่าน

ก็ไม่ได้เท่าพระพุทธเจ้า วิมานของบุคคลที่เป็นศิษย์หลวงพ่อที่ขึ้นไปได้

ก็ไม่ได้เท่าหลวงพ่อ แต่ก็อยู่ในดินแดนที่ไม่ต้องวนเวียนอยู่ในวัฏสงสาร 

ไม่ว่าวิมานจะขนาดไหนผู้ที่อยู่ก็เป็นสุขเหมือนกัน

นิพพานมีเขตและขนาดที่ไม่เหมือนกัน
วิมานของแต่ละคนก็ไม่ได้เท่ากัน แต่อยู่ในดินแดนที่

ไม่ต้องวนเวียนอยู่ในวัฆสงสารมีเขตไม่เหมือนกัน 

นิพพานที่ท่านอ.อุบลไปอยู่ เหนือกว่าคำว่าบรมสุข

-มีเขตที่ท่านพ่อดตาจินินอยู่ 

-เขตที่องค์พระปฐมบรมธรรมบิดาท่านอยู่ 

-มีเขตนิพพานที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ท่านอยู่ 

-เขตนิพพานที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายที่ขึ้นไปได้แล้วไปอยู่ 

-มีเขตนิพพานที่บุคคลธรรมดาที่ปฏิบัติจนบรรบุมรรคผลนิพพานได้แล้วไปอยู่

ดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล แบ่งเปนโซนๆเหมือนหมู่บ้าน

แต่สามารถไปไหนได้ทุกที่

ปัจจุบันนี้ทุกคนที่ฝึกมโนได้ ก็ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าที่ดาวดึงส์กัน

ทุกคนสามารถไปเข้าเฝ้าได้ 

พระพุทธเจ้าก็ยังสามารถมาโปรดในสถานที่ต่างๆได้

วิชาพระพุทธเจ้าเปนวิทยาศาสตร์ที่เป็นวิยาศาสตร์แท้เหนือโลกมนุษย์

ไม่ต้องใช้เครื่องมือ ใช้จิตอย่างเดียว 

การวัดอะไร พระพุทธเจ้าท่านใช้จิตวัด

แต่นักวิทยาศาสตร์ยังต้องใช้เครื่องมือวัด

อย่างวัตถุมงคลบ้านสวน ก่อนที่ท่านอ.จะสร้างแต่ละรุ่น

ท่านอ.จะบอกก่อนล่วงหน้าว่า รุ่นนี้จะมีบารมีพระองค์ใดบ้าง

เมื่อบูชาไปแล้วจะมีอานุภาพยังไง สารภาพบาปอาการก็จะหายได้

เอามาแตะก็จะหายทันที เอามาทำน้ำดื่มก็จะหายทันที

นี่คือสิ่งที่ท่านอ.บอกไว้ล่วงหน้า 

เพราะท่านอ.ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ และขอพุทธานุญาตสร้างรุ่นต่าง

และขอให้มีอานุภาพต่างๆ และจะนำมาบอกพวกเรา

วิธีพิสุจน์อ.คือ พระพุทธเจ้าบอกว่า 

"ถ้าใครก็ตามแต่ มาเข้าเฝ้าตถาคตได้จริง 

และได้ขอให้ตถาคตมีพุทธานุญาตให้สิ่งที่ไปสร้างมีพุทธคุณ

หรือมีอานุภาพอย่างนี้จริง ตถาคตจะรับรองผล"

แต่วัตถุมงคลบ้านสวนท่านอ.จะขออนุญาตก่อน แม้กระทั่งราคาท่านอ.ก็จะขอ

ให้พระองค์ทรงวินิจฉัยว่าราคาไหนเหมาะสม ไม่แพง ไม่ถูกจนเกินไป

คุ้มค่ากับการบูชา จริงๆแล้วเกินคุ้มทุกอย่าง ไม่ใช่คุ้มค่า

หลังจากที่ท่านอ.ไปเขียนแล้ว ท่านอ.จะบอกว่าใครก็ตามที่เข้าเฝ้าพระองค์

และพระองค์อนุญาตจริง มีคุณสมบัติตามที่ขอมา จะพิสูน์ได้ 

อ.เมตตาบอกว่า เข้าเฝ้าจริง เข้าเฝ้าไม่จริง มีพุทธานุญาตจริง หรือไม่จริง

ลองใช้วัตถุมงคลดูว่าเป็นแบบนั้นมั้ย เช่น บอกว่ามองก็หาย

แล้วเคยมีคนมองแล้วหายรึป่าว หรือจับก็หาย เป็นเป็นไปตามนั้นมั้ย

สารภาพบาปแล้วหาย เป็นจริงตามบอกมั้ย 

ถ้าเป็นจริงก็แปลว่าสิ่งที่ท่านอ.บอกมาก็ไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เป็นเรื่องจริง

แต่ใครที่บอกว่าไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ ก็คือมีแค่คำบอกเล่า

แต่ไม่มีบทพิสูจน์อะไรเลย พระพุทธเจ้าท่านถือว่า โม้อย่างเดียว

เป็นอันตรายสำหรับผู้โม้ด้วย

สิ่งที่บ้านสวนทำทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้

ต้องเป็นวิทยาศาสตร์ทุกอย่าง พูดอะไรต้องพิสูจน์ได้หมด

ไฟทิพย์จากแดนนิพพาน

คำว่า ไฟ คือความร้อน แต่ปรากฏว่า ไฟที่มาจากแดนนิพพานเนี่ย

มันไม่ได้ร้อนมาก เป็นความอบอุ่น ไฟที่ได้มาเป็นพลังงานความอบอุ่น

เพราะมนุษย์มันขาดความอบอุ่น อาการที่เกิดเศร้าหมอง โดดเดี่ยว

เดียวดาย คือขาดความอบอุ่น เพราะฉนั้นพลังงานมาชดเชยตรงนี้ให้

ทำให้เกิดความอบอุ่นทั้งกายและใจ ซึ่งจริงๆแล้วต้องการให้มาเกิดที่ใจ

แต่ให้มาที่ร่างกายก่อนพอมือเย็นใจก็ไม่สบาย

แต่พอมืออุ่นใจก็เริ่มมีความสุข กายมันสุขก่อน แล้วใจมันก็สุขตาม 

ไฟอย่างเดียวไม่พอ ความอบอุ่นอย่างเดียวไม่พอ ทิพย์ อีก

* ทิพย์ * แปลว่า เล่นๆ เล่นๆคือมันง่าย ทำเหมือนทำเล่นๆ

แต่มีผลจริงไฟนี้มาจากแดนนิพพาน สิ่งที่มาจากแดนนิพพานต้องเป็นของดี

แสดงว่าไฟนี้เชื่อมโยงกับนิพพาน เมื่อส่งมาให้ใครก็ตาม

ก็จะเข้าไปถึงความทุกข์ที่อยู่ข้างใน ความทุกข์นี้เรารู้แล้วว่าเพราะเรามีคู่กรณี

มีเจ้ากรรมนายเวร จึงมาพาให้เราทุกข์แบบนี้ เพราะฉนั้นแสดงว่ามีจิตวิญญาณ

มาเกาะที่ร่างกาย จิตใจ หรือธาตุทั้ง 6 ของเรา ไฟทิพย์จากนิพพานพอส่งเข้ามา

ร่างกายของใคร จิตวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวรนั้น 

เห็นความอบอุ่นอันนี้ก็อนุโมทนารับทันที เพราะรู้ว่ากระแสบุญนี้มาจากไหน

 เค้าอยากขึ้นไป เป็นกระบุญพิเศษไปนิพพานได้ง่าย

เจ้ากรรมนายเวรขึ้นหมด ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรไหนที่ปฏิเสธนิพพาน

เพราะปกติคู่กรณีเจ้ากรรมนายเวรที่เจรจากันได้ก็ไปสวรรค์

หรือไปเป็นบริวารของท้าวเวสสุวรรณแต่นี่ได้สิทธิพิเศษ

ตีตั๋วด่วนไปนิพพาน ไปแล้วไม่กลับ อาการที่หายไม่กลับมา

ยกเว้นว่าก่อกรรมใหม่ ปลดล็อคที่ปลดได้จริงๆ

แต่ต้อง 99 บาทเหมือนกัน ถ้าเกิดไม่อยากเสีย 99 บาท

อาการนี้จะเกิดได้ 1 ชม. เพื่อพิสูจน์ว่ามันปลดจริงหรือไม่

แต่ถ้าหลัง 1 ชม.แล้วอาการก็จะกลับมา

แต่ทีนี้เรามีเวลา 24 ชม.สำหรับการตัดสินใจว่า 

จะรับความสุขที่เค้าไปจริงๆมั้ล หลังจากได้รับความสุขไฟทิพย์

เจ้ากรรมนายเวรขึ้นไปปุ๊บเราก็ต้องโอนเงินให้เจ้ากรรมนายเวร 99 บาท

ต่อ 1 ระดับที่ดีขึ้น ดีขึ้นกี่ครั้งก็คูณ 99 ไป 

แต่ถ้าเกิดมันหายเลยคุณก็ทำแค่ 99 บาท ภายใน 24 ชม.

ถ้าเกิน 24 ชม. ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมพร้อมดอกเบี้ย

และกลับมามากกว่าเดิมพิสูจน์ได้เป็นรูปธรรมทันที

นิพพานคือไม่ต้องมาวนเวียนเกิดอีกใน 31 ภพภูมิ

ภพภูมิที่ว่านี้ก็แบ่งหยาบๆเป็น 

** สุคติภูมิ และ ทุกขคติภูมิ**

ไม่ว่าภูมิใด้ก็ยังวนเวียน ต้องมีเกิด ตาย มีความทุกข์ในการพลัดพราก

มีความเสียใจ มีความเศร้าสลด อย่างสุขคติภูมิคือ เกิดมาเป็นมนุษย์

เกิดเป็นเทวดา เป็นพรหม อันนี้ถือว่าสุขคติภูมิ 

- เป็นมนุษย์ก็ยังไม่พ้นทุกข์ ยังมีความพลัดพราก ผิดหวังมีความเสียใจ

ทุกขเวทนา มีความไม่สมหวัง เพราะฉนั้นแม้แต่จะอยู่ในสุขคติภูมิจริงๆแล้ว

มันก็ยังอยู่ในกองทุกข์ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด

- เป็นเทวดาทั้ง 6 ชั้นก็ยังไม่สิ้นทุกข์ การเปนเทวดานั้นเป็นเพราะว่าสมัยที่

เป็นคนนั้นสร้างกองกุศลไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างบาปไว้ด้วย 

จึงยังไปนิพพานไม่ได้ แต่จิตสุดท้ายตอนที่จะตาย นึกถึงบุญกุศล

และจิตใจไม่เศร้าหมอง จึงขึ้นไปเป็นเทวดาได้ก่อน

ทีนี้การไปเสวยสุขเป็นเทวดาชั้นใดก็ตาม เมื่อหมดบุญก็จะต้องดิ่งลงนรกทันที

ถ้าการอยู่บนสวรรค์นั้นไม่มีความชาญฉลาด

จะมีเทวดาที่ฉลาดกับเทวดาที่หลงระเริงในความสข พระพุทธเจ้าถึงบอกว่า 

"แม้เธอจะมาเป็นเทวดา มาเสวยสุขอย่างเดียว

ถ้าเธอหลงเพลิดเพลินกับความสุข วันนึงเธออยู่จนหมดอายุขัยของการเป็น

เทวดาเธอก็ตองดิ่งลงนรกอยู่ดี" 

ไม่ใช่สุขนิรันดร์ แต่จะมีเทวดากลุ่มนึงที่ฉลาด ไม่เพลิดเพลินกับความสุข

เช่น สมมติว่าเค้าจะต้องเป็นเทวดาอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 30 กัปป์

เค้าก็จะไม่รอจนครบ 30 กัปป์ ถ้าไม่รอจนครบ 30 กัปป์

เค้าสามารถที่จะลงมาเกิดได้ เพื่อที่จะมาสร้างบุญต่อ โดยไม่ต้องไปนรก

ไม่หมดบุญเลือกลงมาก่อนได้ แต่ถ้าหมดบุญต้องไปนรกทันที

แต่ถ้าไม่หมดบุญเลือกลงมาเกิดได้ด้วยกำลังบุญที่มีอยู่ได้

มองลงมาข้างล่างได้เลย เลือกเอาว่าจะเอาตระกูลไหน

แล้วส่วนมากการที่เค้าลงมาแบบนี้เค้าจะไม่เลือกตระกูลที่ร่ำรวย

เพราะการที่เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย มีเกียรติยศ ชื่อเสียง นั่นคืออุปสรรค

ของการที่จะกลับนิพพาน เค้าก็จะมาหลงอีกรอบนึง

หลงคราวนี้มีโอกาสดิ่งไปนรกสูงมาก

เพราะฉนั้นผู้ที่เลือกลงมาเกิด เค้าจะเลือกในตระกูลที่มีอุปสรรค

เพื่อให้มีความทุกข์ แล้วหาทางหลุดพ้น

แล้วพวกนี้เค้าจะรู้ว่าเค้าจะกลับนิพพาน

เพราะเค้ามาเจอความทุกข์ มาเจอความปรารถนาที่ไม่สมหวัง 

เพราะฉนั้นการเป็นเทวดาก็ยังไม่สิ้นทุกข์ 

-การเป็นพรหมก็ยังต้องวนเวียนใน 31 ภพภูมิ

ก็ต้องกลับมาเกิดอีกเมื่อหมดอายุขัยของความเป็นพรหม

ส่วนมากการเปนพรหมเค้าจะไม่รอจนหมดอายุไข

เพราะมันนานแสนนาน แต่ยังไงก็มีวันที่จะลงนรก

***ทุคติภูมิ***

สำหรับคนที่ทำบาปมามากมาย แล้วจิตสุดท้ายที่จะเสียชีวิตนี้ใจเศร้าหมอง