ReadyPlanet.com


วันนี้ ใครดูรายการ คุยไปแจกไปบ้าง


ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

เพื่อจะให้ท่านที่เป็นแฟนรายการ

คุยไปแจกไป

ได้มาร่วมกันแสดงความเห็น

เพิ่มอรรถรสให้กับ นักแสดง ในละครเวที

บ้านสวนพีระมิด

(ดูละครเรื่องเดียวกัน แล้วก็มาเล่าสู่กันฟัง)

แต่อย่าตีกันเพราะละครนะจ๊ะ

แล้ววันนี้ 6 มี.ค.54

มีใครดูบ้าง

แล้วนักแสดงได้ดูตัวเองกันบ้างหรือเปล่าจ๊ะ

ทั้งนักแสดง และ คนดู

มาร่วมวงกันหน่อย

เร้ว



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-03-06 23:53:22


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 12 13 14 15 16 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 901 (1597864)

เมื่อครู่นี้

พิมพ์เสร็จ ส่งไม่ได้

เน๊ทล่มอีกแล้ว...บ้านสวนฯ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-16 23:39:15


ความคิดเห็นที่ 902 (1597865)

หนูตั๊ก

ต้องลองค้นหา

ให้ทั่วโลกก่อน ค่อยสรุป

ว่า ที่อื่นมีหรือไม่

 

ตอนนี้

จะขอตอบแบบ

ที่เกิดขึ้น ที่บ้านสวนฯ

เท่านั้น

 

แต่จะไม่ขอสรุป

ว่า

มีที่เดียวล

หรือว่า

อ.อุบล เป็นผู้วิเศษ

 

แต่

ต้องช่วยกัน

ค้นหาข้อมูล จะได้นำมา

ประกอบการตัดสิน

ว่า

เกิดเพราะอะไร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-16 23:42:44


ความคิดเห็นที่ 903 (1597866)

 เบื้องบนอาจจะอยากให้ท่านอาจารย์พักผ่อนมากๆ ก็ได้นะครับ...แต่ผมก็ว่าดึกมากแล้วเช่นกัน ท่านอาจารย์พักผ่อนเถอะนะครับ นานน๊านจะได้หลับก่อนเที่ยงคืนบ้าง...นะครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-16 23:43:42


ความคิดเห็นที่ 904 (1597867)

ปรากฎการณ์

บ้านสวนพีระมิด

อ.อุบล ไม่มีบทสรุปว่า

เกิดเพราะอะไร แต่จะเล่า

สิ่งที่ตนเอง ทำ ปฎิบัติ ดีกว่านะ

 

ว่าแต่ว่า

จะเริ่มยังไงดี

เริ่มตั้งแต่ตอนเริ่มสร้าง

บ้านสวนพีระมิด

ดี

 

หรือว่า

เริ่มตั้งแต่เกิดดี

 

โอ้ ท่าจะ ยาว

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-16 23:45:55


ความคิดเห็นที่ 905 (1597868)

ไม่มีใครตอบ

พี่มหา ก็บอกให้ ไปนอนซะ

สงสัย พี่มหา นั่นแหละ

ง่วงเอง ใช่ม้ายยย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-16 23:48:20


ความคิดเห็นที่ 906 (1597869)

แต่ก่อนอื่นนะ

ต้องบอกว่า อ.อุบล

โชคดีอยู่มากๆ เลยอย่างหนึ่ง

คือ เกิดมาก็มีครูบาอาจารย์ดีเลย

และ

ไม่เคยแสวงหาครูบาอาจารย์อีกเลย

 

หลวงพ่อ

สอนทางลัด ทางตรง

มุ่งนิพพาน อย่างเดียว

 

หลวงพ่อ

ไม่ให้เล่นฤทธิ์

ไม่ให้ติด ปาฎิหาริย์

 

ให้มุ่งทำสมาธิ ยกจิตใจ

คำว่า

ยกจิตใจ ของหลวงพ่อ

นี่ยิ่งใหญ่มาก คือ

ทำตัวเอง

ให้เป็นคนใจสูง

 

อย่าจิตใจต่ำ

(อันนี้หลวงพ่อไม่ได้พูด พูดเอง)

นับตั้งแต่เกิดมาพบ

หลวงพ่อเสงี่ยม โอภาสี ลพบุรี

 

หลวงพ่อ

ให้ใช้ปัญญา ไม่ให้ใช้

ความงมงาย

ไม่ให้เชื่ออะไร ไร้สาระ

ไม่มีเหตุผล ผิดจากคำสอน

ของพระพุทธเจ้า

ผิดจากศีล 5

หลวงพ่อบอกไม่เอา

 

ทำอะไรก็ได้

หลวงพ่อบอกสั้นๆ ง่ายๆ

ว่า

เอาศีล 5 มาจับ

ถ้ามันไม่ผิดศีล ทำได้

ถ้าผิดศีล อย่าทำ

 

จะได้ไม่ต้องเที่ยว

ถามคนโน้น ปรึกษาคนนี้

คนที่เราไปถาม ก็โง่พอๆกับเรา

บางทีก็โง่น้อยกว่าเรา

แต่ก็ยังโง่อยู่ดี

ก็ไปเชื่อเขา ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า

 

บางคนโง่หนักกว่าเรา

ไม่พอ บ้าด้วย

บ้าเรื่อง ยุ แยง คะแคงรั่ว

อ้าว นอกเรื่องอีกแระ

 

เอาเป็นว่า

อ.อุบล เกิดมา

ได้พบครูดี เลย คือ

หลวงพ่อเสงี่ยม สอนตรง

สู่นิพพาน ไม่ให้เล่นฤทธิ์

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-16 23:56:42


ความคิดเห็นที่ 907 (1597870)

พี่มหาราตรีสลบไปแล้วมั้งคะอาจารย์

หายว้าบไปแล้ว

..........................

อาจารย์แม่ขา

ยาวแค่ไหนพวกเราก็อยากที่จะฟังค่ะ

มีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟังอาจารย์แม่

สอนและเล่าเรื่องต่างๆค่ะ

แต่ถ้ายาวมาก

สงสัยวันนี้จะไม่จบ

หนูเห็นด้วยกับพี่มหานะคะ

ว่าเพลานี้ดึกมากแล้ว

อยากให้อาจารย์แม่ได้พักผ่อน

แบบเย๊อะเยอะหน่อยค่ะ^^

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ ((ตั๊ก)) (ktkanlayani-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-16 23:57:58


ความคิดเห็นที่ 908 (1597872)

หลวงพ่อเสงี่ยมน่ะ

ไม่ธรรมดา ไม่ชอบให้เราเล่นฤทธิ์

แต่ หลวงพ่อ มีฤทธิ์ เราก็แปลกใจ

เอ หรือว่า

หลวงพ่อ

หวงฤทธิ์ไว้คนเดียวป่าวเนี่ย

 

เพราะว่า

ใครคิดอะไร อยู่ไหน หลวงพ่อก็รู้

 

เราคิดจะฆ่าคน

กำลังจะยกหูโทร.จ้างมือปืน

หลวงพ่อก็รู้ รีบโทร.ดักหน้าเลย

อย่านะ อย่านะลูก

ถ้าลูกทำลูกจะพ่ายแพ้ภัยตัวเอง

 

อะไรกัน

ยังไม่ได้บอกใครเลย

แค่คิดคนเดียว ทำคนเดียว

แต่หลวงพ่อรู้

เพราะพระพรหมไปบอก

 

เอ

อย่างนี้

เรียกว่า หลวงพ่อ

มีฤทธิ์รึเปล่าเนี่ย

 

แล้วสมัยเด็กๆนะ

อายุยังไม่ 10 ขวบเลย

หลวงพ่อเล่าเรื่องยักษ์ให้ฟัง

หลวงพ่อเจอยักษ์

จับขายักษ์ นึกว่าต้นไม้

 

หลวงพ่อเดินป่า

เจอรุกขเทวดา นางฟ้า

ใส่บาตร ข้าวหอมกรุ่น 3 ทัพพี

ฉันแล้ว ชุ่มชื่น ไม่ต้องมีกับข้าว

ฯลฯ

สารพัด ที่หลวงพ่อ

เล่าให้ฟัง ตั้งแต่เด็ก และก็เชื่อ

มาตลอด ไม่รู้ว่าทำไมเชื่อ

ทั้งที่เป็นคนดื้อ

แต่เชื่อหลวงพ่อเสงี่ยมคนเดียว

 

แต่

หลวงพ่อ

ก็ไม่ให้เราเล่นฤทธิ์

 

มีคนบอกว่า

หลวงพ่อ เหาะได้

ก็ไปขอร้อง อ้อนวอน

ให้หลวงพ่อ เหาะให้ดู

คิดดูสิ เมื่อก่อน อ.อุบล ก็เหมือนๆ

กับพ่อใหญ่ธนา พี่มหา นั่นแหละ

ชอบความตื่นเต้น เหนือธรรมชาติ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 00:06:16


ความคิดเห็นที่ 909 (1597873)

เวลาออกรถใหม่

ก็ไปให้หลวงพ่อเสงี่ยมเจิม

 

แล้วก็ถามท่านว่า

หลวงพ่อคะ

วันนี้องค์ไหนมาคะ

หลวงพ่อบอกว่า

เชิญพระแม่ธรนี

แต่ องค์เดิมท่านมาเอง

 

องค์เดิม

คือ

พระอินทร์

ซึ่งท่านมาปกปักรักษา

รถ อ.อุบล ทุกคัน

 

อันนี้หลวงพ่อบอก

 

และ

บอกเรื่องที่

ต้องช่วยคน หลวงพ่อบอกมา

ตั้งแต่จำความได้

 

แต่ไม่รู้ว่า

ช่วยยังไง

 

มีอยู่วันหนึ่งประมาณ

ปี 2536-7

ตอนนั้นสัมผัสเทพเทวดาได้ใหม่ๆ

มีแต่คนมาหา เอาพระมาให้

ปลุกเสก จริงๆ คือการอธิษฐานจิต

 

หลวงพ่อก็รู้อีก

โทรจากลพบุรี มากรุงเทพเลย

บอกว่า

 

ไม่เอา ไม่เอา ลูก

ยังไม่ถึงเวลา เดี๋ยวปี 50

ก็ต้องช่วยคนอยู่แล้ว

หน้าที่เรายิ่งใหญ่กว่านี้

หยุดนะ ไม่ให้ทำแบบนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 00:13:08


ความคิดเห็นที่ 910 (1597874)

เมื่อปี 52

หลวงพ่อบอกอีกว่า

ปี 56 จะมีปรากฎการณ์สำคัญ

เกิดขึ้น อีกครั้งหนึ่ง และ ปี 62 อีกครั้ง

 

ดังนั้น

ปรากฎการณ์

บ้านสวนพีระมิด

ที่ท่านว่า ไม่เคยเห็นที่ไหน

ปีหน้า 56

จะได้เห็นยิ่งกว่านี้

(ถ้ารอดถึงนะ)

 

และถ้าหลวงพ่อ

ทำนายแม่นนะ ก็คงต้อง

มีข่าว ที่คาดไม่ถึง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 00:17:10


ความคิดเห็นที่ 911 (1597884)

สาธุ

กราบขอบพระคุณในธรรมทาน

ที่อาจารย์แม่กรุณา

นำมาเล่าให้ฟังค่ะ

.............................................

ปี 56 จะมีปรากฎการณ์สำคัญ

เกิดขึ้น อีกครั้งหนึ่ง และ ปี 62 อีกครั้ง

ถ้าลูกยังมีบุญพอ

ก็คงจะได้เห็นปรากฎการณ์สำคัญนี้

และก็คงจะได้อยู่สร้างสมบุญอีกต่อไป

แต่เวลานี้

จะอยู่หรือจะไป ลูกก็ไม่ห่วงแล้วค่ะ

จะขอยึดมั่นในคำสั่งสอนของอาจารยแม่อุบล

จะตั้งมั่นรักษาศีล 5 ให้ดียิ่งๆขึ้นไป

ชีวิตที่เหลืออยู่นี้

ขอทำความดีให้มากๆค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ ((ตั๊ก)) (ktkanlayani-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 01:15:40


ความคิดเห็นที่ 912 (1597894)

 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ที่ให้ธรรมทาน เรื่องฤทธิ์  เพื่อสอนลูกหลานไม่ให้ หลง เดินอ้้อมๆ มาเดินแบบ ตรงๆ ถึงจุดหมาย ไวกว่า

 

สิ่งที่ได้รับจากบ้านสวน คือ ธรรมมะที่ใช้ภาษา เข้าใจง่ายๆ แต่มีประโยชน์ และนำมาให้ได้จริง ในชิวิตประจำวัน ถ้าปฏิบัติตามได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็สามารถ พ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง ให้เรายึดมั่นในความดี และสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราได้อย่างแท้จริง โดยส่วนตัวคิดว่า ที่นี่แหละ ถูกแล้ว แต่อยู่ที่ตัวเราจะปฏิบัติหรือเปล่า ยังไงก็จะพยายามเปลี่ยนแปลงให้ได้มากที่สุดครับ  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 09:26:01


ความคิดเห็นที่ 913 (1597900)

อนุโมทนากับธรรมทานที่ให้ปัญญาดีเหลือเกินครับ สาธุ

นับวันผมยิ่งมั่นใจในสิ่งที่พระพุทธองค์สอนโดยท่านอาจารย์นำมาถ่ายทอด และรู้ว่าสิ่งที่มีค่าและทรงพลังยิ่งกว่าอิทธิฤทธิ์ใดๆก็คือ ปัญญา

ซึ่งอานุสาสนีปาฏิหาริย์ เป็นการสอนให้เรารู้จักคิด ใช้ปัญญา และปัญญาคือแสงสว่างที่ทรงพลังนุภาพที่สุด เหนือกว่าสิ่งใด

ผมและเพื่อนๆอีกหลายคนยังมีบุญอยู่บ้างที่ได้มีโอกาสได้รับธรรมะที่เป็นแก่นจริงๆ มีหวังได้กลับบ้านดังที่ปรารถนา มิใช่หลงเชื่อ โง่ งมงาย อยู่กับความไม่รู้ เปลือกนอก มิฉะนั้นคงเสียเวลาไปอีกนานแสนนาน  

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ และครอบครัวศุภาเดชาภรณ์

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 09:58:03


ความคิดเห็นที่ 914 (1597901)

 

กราบขอบพระคุณในธรรมทานของอาจารย์ค่ะ

ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดถึงได้ดูปรากฎการณ์ที่อ.พูดถึง

ได้หรือเปล่า  .......เอ...ถ้าคนอยู่ไม่ถึงจะมีโอกาส

ได้รู้ก่อนหรือเปล่าคะ  ลุ้นอยู่ว่าจะมีตอนต่อไปหรือเปล่า

ยังงัยก็จะรออาจารย์เล่าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล (mamlak-w-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 09:58:44


ความคิดเห็นที่ 915 (1597903)

กราบขอบพระคุณท่านอาจาร์ยอุบล  กับธรรมทานที่เล่าให้ฟังค่ะ  สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา กาลมัชฌิมา (jantira_123-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 10:12:27


ความคิดเห็นที่ 916 (1597907)

สาธุ..กราบขอบพระคุณธรรมทานค่ะอาจารย์

จะอยู่ถึงหรื่อไม่ถึงก็ขอสร้างสมบุญต่อไปค่ะ

ตายวันนี้หรื่อพรุ่งนี้ก็ต้องตาย...สาธุ

กราบขอบพระคุณกับธรรมะดีๆแบบนี้ค่ะอาจารย์

เมื่อก่อนก็อยากรู้เหาะเหินเดินบนอากาศ

เป็นอย่างไร..ความอยากนี้ ทุกข์จริงๆ

ไม่เอาแล้วค่ะ..ความอยาก..

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 10:28:31


ความคิดเห็นที่ 917 (1597919)

หลวงพ่อเป็นพระทรงอภิญญา

 

เรื่องอภิญญาเป็นเรื่องธรรมดาของพุทธสาวก  ไม่ใช่ของวิเศษมหัศจรรย์อะไรเลย 

เป็นของธรรมดาสามัญแท้ ๆ หนังสือ ตำราเขียนยกย่องเลยพอดีไปเองต่างหาก 

เลยทำให้นักศึกษาภายหลังท้อถอยคิดว่ายากลำบากเต็มที เลยพากันไม่เอาเสียเลย 

 อภิญญาโลกีย์เป็นเรื่องของคนที่เกิดมาในโลกมีสิทธิ์จะทำให้เกิดได้ 

เพราะเมื่อมาเป็นคนได้เหมือนกัน  สิ่งที่มีสิทธิ์เสมอกันตามปกติธรรมดา

สามารถมองเห็นกันง่าย ๆ มีอยู่คือ จะเป็นคนในตระกูลใดก็ตาม

มีฐานะ มีความรู้ ศักดิ์ศรีเพียงใดก็ตาม มีสิทธิ์แก่ ป่วย ตาย เหมือนกันหมด

เพราะเป็นโลกียวิสัย คือเป็นวิสัยของคนที่เกิดในโลกจะทำได้ 

ทีนี้มาพูดกันเรื่องฌานและอภิญญา  ท่านบอกแล้วว่า

เป็นฌานโลกีย์และอภิญญาโลกีย์  เป็นทรัพย์สินที่คนเกิดมาในโลกจะพึงทำให้มีเกิดขึ้นได้

ไม่ใช่ของยากเกินไป  เพียงแต่ทำให้ถูก ทำพอดี ทำตรงต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

 ไม่เห็นต้องลงทุนลงรอนอะไรเลย  เสียเวลารวบรวมกำลังใจนิดเดียวก็ได้ 

ที่ว่าทำไม่ได้ก็เพราะอยากดีเกินไปหรือขี้เกียจเกินไป  รู้มากเกินไป

หลงลาภ ยศ สรรเสริญ และกามสุขมากเกินไป จึงทำไม่ได้ 

เรื่องความดีทางใจ คนจนพวกจนยศ จนพระเน้าพะนอ ทำได้ดีกว่าคนที่รวยประเภทนั้น

เพราะเมาน้อย คนเมามากขาดสติมาก เมาน้อยขาดสติน้อย ไม่เมาเลยมีสติสมบูรณ์

....................................................................................................................................

(จากหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปาน หน้า๔๔-๔๕)

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 11:32:33


ความคิดเห็นที่ 918 (1597921)

อภิญญามีสภาพไม่เหมือนกัน

 

เรื่องของอภิญญา คนส่วนใหญ่เมื่อฟังว่าอภิญญาแล้วก็มักจะคิดว่า

ท่านที่ได้อภิญญา จะต้องมีความรู้แจ่มใสเหมือนพระพุทธเจ้าเสียทุกอย่าง 

เป็นการเข้าใจผิดถนัด  พระพุทธเจ้าทรงเป็น สัพพัญญู คือมีบารมีเป็นจอมอรหันต์ 

ย่อมทรงอภิญญาดีเลิสเป็นพิเศษ  สำหรับพระสาวกที่ได้มีกำลังไม่เท่ากัน 

และไม่มีทางจะไปเปรียบเทียบกับพระพุทธเจ้าได้เลย 

จะเปรียบให้ฟังเอาเพียงทิพจักขุญาณอย่างเดียว  อย่างอื่นให้เข้าใจว่าเหมือนกัน

๑. ทิพจักขุญาณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความสว่างคล้ายพระอาทิตย์ส่งแสงจัด ไม่มีเมฆบัง ไม่มีเผลอ ไม่มีพลาดในการเห็น

๒. ของพระปัจเจกพุทธเจ้า มีความสว่างเหมือนวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง มองเห็นคนกลางคืนเมื่อเดือนหงายมีสภาพอย่างไน ต่างกับกลางวันอย่างไร  พิสูจน์เอาเอง

๓. พระอัครสาวกทั้งสอง  มีความสว่างเหมือนคบเพลิงดวงใหญ่สว่าง แต่แสงสว่างไม่ไกลเหมือนความสว่างของดวงจันทร์

๔. ของพระอรหันตสาวก สว่างเหมือนแสงตะเกียงดวงน้อย

๕. ของท่านที่ได้ฌานโลกีย์ สว่างเหมือนอากาศเมื่อพระอาทิตย์ลับแล้ว กำลังมัว ตามองดูอะไรก็ไม่เห็นถนัดนัก

ข้อเปรียบเทียบนี้ยังไม่ละเอียดพอ  แต่เกรงว่าลูกหลานจะเบื่อฟัง

เอามาเปรียบเทียบเพียงย่อ ๆ ท่านที่ได้ฌานและอภิญญาไม่ใช่รู้อะไรหมด

ยิ่งเป็นฌานโลกีย์ด้วยแล้วยิ่งมีจังหวะพลาดง่ายเหลือเกิน  เพราะมีอุปาทานมาก 

ต้องระวังให้มาก ถ้าไม่ประมาทคิดว่าตัวดีไม่เป็นไร  ถ้าประมาทเมื่อไรเจ๊งเมื่อนั้น 

สำหรับพระอริยะท่านรู้ว่าท่านไม่ดีเสมอ  ไม่มีความประมาท เรื่องเจ๊งไม่มี 

ทีนี้เรามาพูดกันถึงเรื่องที่เล่ามาแล้ว  ที่ฉันบอกเห็นอะไร  ไปไหน  คิดอะไร

แล้วหลวงพ่อปานรู้เรื่องที่บอกมา  ไม่ใช่ฉันอวดตัว 

ที่บอกก็เพื่อให้ทราบว่าหลวงพ่อปานท่านรู้อภิญญา 

ที่เราเรียกว่าทิพจักขุญาณ แต่แท้แล้วญาณต่าง ๆ ของอภิญญามีชื่อหลายอย่าง

จะนำมาเล่าให้ฟัง

 

...................................................................................................................................

(จากหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปาน)

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 11:50:56


ความคิดเห็นที่ 919 (1597925)

โลกียอภิญญา

 

โลกียอภิญญานี้ ท่านแยกเรียกว่าวิชชา ๘ อภิญญา ๕ ก็มี

จะเอามารวมไว้ที่เดียวกันและบอกวิธีปฏิบัติโดยย่อไว้ด้วย 

ใครอยากได้  เดินไปหาอาจารย์ที่ทำได้แล้วก็เรียนแล้วกัน 

คนที่อ่านหนังสือจำได้  แต่ทำไม่ได้  อย่าไปขอเรียน  จะพากันเลอะใหญ่ 

ฉันเคยเป็นนักเทศน์สอนคนจนตัวฉันเกือบลงนรกมาหลายที 

ทั้งนี้เพราะตีความหมายของตำราไม่ตรง  เมื่อทราบแล้วต้องกลับไปเทศน์แก้ใหม่เกือบแย่ 

อยากหุงข้าวเป็นก็ไปเรียนกับพ่อครัว อย่าไปเรียนกับลิงที่ไม่มีวิชาความรู้เรื่องหุงข้าว 

อยากเดินป่า  จงอย่าเอาปลาในทะเลเป็นครู

อยากได้อภิญญาถ้าไปหาคนที่ไม่ได้จะเอาอะไรมาสอน 

ตัวเองก็ยังสอนตัวเองไม่ได้  จะเสียเวลาเปล่า

 

ชื่ออภิญญาโลกีย์

๑. อิทธิวิธี                แสดงฤทธิ์ได้

๒. ทิพโสตญาณ      มีประสาทหูเป็นทิพย์

๓. มโนมยิทธิ            มีฤทธิ์ทางใจ

๔. ทิพจักขุญาณ      มีอารมณ์เป็นทิพย์คล้ายตาทิพย์

๕. จุตูปปาตญาณ     รู้สัตว์ที่ตายแล้วไปเกิดที่ไหน  สัตว์ที่มาเกิดนี้มาจากไหน

๖. เจโตปริยญาณ     รู้อารมณ์ใจของคนและสัตว์

๗. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ       ระลึกชาติที่เกิดมาแล้วได้ตามความต้องการ

๘. อตีตังสญาณ           รู้เหตุการณ์ที่ล่วงมาแล้ว

๙.อนาคตังสญาณ         รู้เรื่องราวที่ยังไม่ได้เกิด

๑๐. ปัจจุปปันนังสญาณ     รู้เรื่องราวในปัจจุบันที่ปรากฏขึ้นในที่ไกลหรือโลกอื่น

๑๑. ยถากัมมุตาญาณ        รู้กฏของกรรม

 

..................................................................................................................................

(จากหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน)

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 12:11:22


ความคิดเห็นที่ 920 (1597926)

วิธีฝึก

 

อิทธิฤทธิ์ฝึกด้วยการทรงกสิณ ๑๐ อย่างครบถ้วน

นอกนั้นทรงกสิณอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นบาท  แล้วก็สามารถทำให้เกิดได้ไม่อยากเลย 

ที่ทราบว่าหลวงพ่อปานท่านเป็นพระทรงอภิญญา 

ในอันดับแรกทราบจากท่านรู้อารมณ์คิด  คิดว่าจะทำอะไร  ผิดหรือถูก 

ท่านทราบก่อนเสมอ  ตามที่ลูกหลานฟังมาแล้วในตอนต้น 

จะเห็นว่าท่านรู้ก่อนบอกเสมอ แถมรู้ก่อนฉันเกิดด้วย 

ที่ท่านกล้าบอกว่า  พวกแกบำเพ็ญบารมีด้านพุทธภูมิกันมาคนละมาก ๆ แล้ว 

อันนี้ท่านรู้ก่อนฉันเกิด  ท่านจะพูดตามความเป็นจริงหรือไม่ก็ช่าง 

แต่ที่พบในปัจจุบันท่านพูดตรงทุกอย่าง  ฉันเชื่อว่าท่านทรงอภิญญา

 

คำว่า  อภิญญา  แปลว่า  รู้ยิ่งกว่าความรู้ปกติ

ความรู้ปกติจะรู้อารมณ์คิดโดยตรงไม่ได้ นอกจากเดาจากอาการ

มันก็ไม่แน่นักว่าจะถูกเสมอไป  เท่าที่ท่านใช้ ส่วนใหญ่ท่านใช้ เจโตปริยญาณ

ได้คล่องมาก  พวกฉันตั้งอารมณ์กรรมฐานอยู่ในป่าผิด  ไม่มีใครพูดบอกใคร

พอพบท่านตอนเช้าท่านเตือนทันทีว่าตั้งอารมณ์ผิดควรแก้ไข เป็นอย่างไรก็บอกกันเลย

ไม่ใช่มานั่งสอบอารมณ์ศิษย์  ปล่อยหรือหัดให้ศิษย์เป็นคนชอบโกหกครู

ตามที่พระองค์หนึ่งห่มจีวรคร่ำหาว่าฉันเป็นเถรส่องบาตร  ทำตามแบบเก่าไม่ทันสมัย

ท่านเองปล่อยให้ศิษย์โกหกเล่นตามสบายใจ  ทำกันไม่เท่าไหร่ก็สำเร็จ

อย่างนี้พุทธสาวกท่านไม่ใช้

ครูกรรมฐานถ้าไม่ได้เจโตปริยญาณ ฉันคิดว่ามีผลแก่ศิษย์น้อยเหลือเกิน

เรื่องนี้ขอพักไว้เท่านี้  มาพูดกันถึงปฏิปทาของหลวงพ่อปานต่อไป

คำว่าปฏิปทาแปลว่า ความประพฤติ คนอื่นเขาแปลว่าอย่างไรก็ช่างเขา

ฉันพอใจแปลอย่างนี้ มันฟังง่ายดี

 

................................................................................................................................

(จากหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปาน)

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 12:28:53


ความคิดเห็นที่ 921 (1597929)

เรื่องอภิญญา เป็นเรื่องปกติของคนที่ครองใจอยู่ในความดี

 ไม่ประมาทแล้ว พึงเกิดได้

การได้อภิญญา ไม่ใช่รู้เท่ากันไปหมดทุกคน

ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าจึงจะสว่างชัดมาก ไม่มีอะไรที่ไม่รู้...

การฝึกให้ประสบผลสำเร็จ

ต้องฝึกกับครูที่สำเร็จด้วยตัวท่านเองก่อนแล้ว จึงจะไม่หลงทาง

ครูที่สำเร็จแล้ว จะใช้วิชาเหล่านี้ช่วยเหลือลูกศิษย์ได้จริง

และจะนำวิชานี้ไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่การพ้นทุกข์เพื่อส่วนรวมเป็นที่สุด

 

รู้สึกว่ามีบุญจัง ที่ได้พบ อ.อุบล คะ 

กราบ กราบ กราบ

...................................................................................................................

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 12:47:43


ความคิดเห็นที่ 922 (1597930)

กราบ ๆ ๆ

หลวงพ่อเสงี่ยม โอภาสี

อ.อุบล ค่ะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ทำอะไรก็ได้

หลวงพ่อบอกสั้นๆ ง่ายๆ

ว่า

เอาศีล 5 มาจับ

ถ้ามันไม่ผิดศีล ทำได้

ถ้าผิดศีล อย่าทำ

 

จะได้ไม่ต้องเที่ยว

ถามคนโน้น ปรึกษาคนนี้

คนที่เราไปถาม ก็โง่พอๆกับเรา

บางทีก็โง่น้อยกว่าเรา

แต่ก็ยังโง่อยู่ดี

ก็ไปเชื่อเขา ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า

 

บางคนโง่หนักกว่าเรา

ไม่พอ บ้าด้วย

บ้าเรื่อง ยุ แยง คะแคงรั่ว

อ้าว นอกเรื่องอีกแระ

 

เอาเป็นว่า

อ.อุบล เกิดมา

ได้พบครูดี เลย คือ

หลวงพ่อเสงี่ยม สอนตรง

สู่นิพพาน ไม่ให้เล่นฤทธิ์

-*-*-*-*-*-*-*-

ความมั่นใจ

ในครูบาอาจารย์

มั่นคง เต็มเปี่ยม..

คงเหลือแต่..ความมั่นใจในตัวเอง

และจะพยายามขยับเดิน..ตามคำครู

ด้วยปัญญา

นับว่าเป็นบุญอย่างล้นเหลือค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 13:13:57


ความคิดเห็นที่ 923 (1597931)

เรื่องอภิญญา เป็นเรื่องปกติของคนที่ครองใจอยู่ในความดี

 ไม่ประมาทแล้ว พึงเกิดได้

การได้อภิญญา ไม่ใช่รู้เท่ากันไปหมดทุกคน

ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าจึงจะสว่างชัดมาก ไม่มีอะไรที่ไม่รู้...

การฝึกให้ประสบผลสำเร็จ

ต้องฝึกกับครูที่สำเร็จด้วยตัวท่านเองก่อนแล้ว จึงจะไม่หลงทาง

ครูที่สำเร็จแล้ว จะใช้วิชาเหล่านี้ช่วยเหลือลูกศิษย์ได้จริง

และจะนำวิชานี้ไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่การพ้นทุกข์เพื่อส่วนรวมเป็นที่สุด 

**********

 

ขอโมทนากับธรรมทานของพี่แหวนค่ะ

อาจารย์แม่ขา ลูกปูเสื่อนั่งรออาจารย์แม่

มาเล่าธรรมทานต่อนะคะ

มีขนม หลายอย่างเลย

ขอบคุณอาจารย์แม่ค่ะ

 

อ้อยคั่ว ถั่วควั่น

ฝรั่งปิ้ง ลูกชิ้นดอง

******

ลูกขออนุญาตเกาะหนึบ ไม่ไปทางไหนแล้วค่ะ

ทุกสิ่ง ทุกอย่างพบได้ที่บ้านสวนฯ แห่งนี้ที่เดียว

ทุกคนมีกรรมเป็นตัวกำหนด ต่างคนก็ต่างกรรมกันไป

ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไป

อาจารย์แม่ขา ลูกขอเกาะกระแสธรรมของ

อาจารย์แม่ไปจนตราบวันสุดท้ายของลูกนะเจ้าคะ

กราบขอบคุณอาจารย์แม่เจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) (aungpao-dot-benjy-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 13:18:38


ความคิดเห็นที่ 924 (1597936)

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลค่ะ

ในชีวิตนี้ลูกได้รับเมตตาจากอาจารย์มากมาย

ได้รับธรรมะ ได้รับคำสอน ชีวิตดีขึ้น

ทำให้ความทุกข์น้อยลง

ทำให้จิตใจดีขึ้นมาก รู้จัดความดี รู้จักความชั่ว

ไม่หลงทาง มีความสุขที่แท้จริง

ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ลูกขอเกาะติดบ้านสวนพีระมิดตลอดไปค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ (mayurachut-dot-ch-at-rd-dot-go-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 14:29:13


ความคิดเห็นที่ 925 (1597939)

ลูกขอกราบ

อนุโมทนาอ.แม่อุบล เจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 14:48:50


ความคิดเห็นที่ 926 (1597978)

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อเสงี่ยมเจ้าค่ะ

กราบขอบพระคุณในธรรมทานเจ้าค่ะท่าน อ.อุบล

อ่านแล้วพิจารณาตามช่วงอ่านเหมือนไม่ได้หายใจ

สุขหนอ คลายทุกข์ ปิติหนอ

รู้ทั้งรู้ว่าท่านอาจารย์งานเยอะมากแต่ก็รออ่านอยู่เจ้าค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 18:17:40


ความคิดเห็นที่ 927 (1598007)

กราบขอบพระคุณในธรรมทานของท่านอาจารย์อุบล

ค่ะ พอได้อ่านแล้วเกิดอาการปิติมากๆเลย

กราบขอบพระคุณมากค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญาพัชญ์ ไชยว้ฒน์รัตนา (nid_pinyapat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 21:06:39


ความคิดเห็นที่ 928 (1598014)

ผมขอกราบขอบพระคุณธรรมทานจาก คุณแม่อุบล ครับ

และ ขอขอบคุณ คุณแหวน ที่นำเรื่องราวของอภิญญา ชนิดของอภิญญา และ การฝึกปฏิบ้ติ มาบอกเล่าให้กับลูกบ้านสวนพีระมิด ทุกๆ ท่านได้อ่าน ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา (kunagorns-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-17 22:08:44


ความคิดเห็นที่ 929 (1598024)

เวปล่มอีก

เลยไม่ได้มาเขียนต่อเลย

 

วันนี้

ไปส่งคุณตา

ไปหาคุณพ่อ ดร.อาจอง

เอาเอกสารประกันภัยชั้น 1 ไปให้

 

เห็นท่านขับรถ

ที่พวกเราทั้งหลาย

รวมใจกัน ซื้อให้ท่าน แล้วชื่นใจ

 

แล้วก็ขอเล่าสักนิด

เรื่องที่เกิดขึ้น

วันไปซื้อรถ

 

อ.อุบล

เป็นคนไปขับมาเอง

จาก กทม. ถึง นย.

 

ก่อนขับมา

ก็อธิษฐานขอบารมีพระพุทธเจ้า

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล

มาสถิตย์ในรถคันนี้

เพื่อคุ้มครอง ปกปักรักษา

คุณพ่อ ดร.อาจอง

ให้ปลอดภัย ขับไปไหนก็มีแต่

ความสุขสวัสดี

ฯลฯ

 

ปรากฏว่า

ขับมาถึงบ้านสวนพีระมิด

อ.มงคล ไปเห็นว่า

มีรอยหินกระเด็นใส่

รถสีถลอก ประมาณ 2-3 ที่

 

เราก็รู้สึกไม่ค่อยดี

คือว่า

ไม่อยากให้มีตำหนิก่อนมอบท่าน

 

ก็ไปหาซื้อสี

ก็ไม่มีขาย สรุปว่าแก้ไม่ได้

 

ทำได้แค่

เช็ดรถเท่านั้น

 

วันนั้นคุณแมว

กับตัวเล็ก มาช่วยทำโบว์

ผูกรถให้ท่าน สวยเชียว

 

อ.อุบล

ขับรถไปจอดหน้าเวที

เพื่อเช็ดฝุ่น และเช็ดล้อ

 

ก็เช็ดไปเรื่อย

จนถึงรอยที่หินกระเด็นใส่

เช็ดไปเช็ดมา

อ.มงคล เดินมาดู แล้วถามว่า

อ้าว

รอยถลอก หายไปไหน

 

เราคนเช็ด

ก็ไม่ได้สังเกตุ

ตอนเช็ด คิดอยู่แต่ว่า

ตรงไหนมีฝุ่น มีสิ่งแปลกปลอม

เช็ดหมด ต้องการให้

สวย สะอาด ทั้งคัน

 

เป็นอันว่า

สีที่ถลอก บุ๋มลงไปนั้น

หายเป็นปกติ

เหมือนไม่เคยถลอกมาก่อน

สวยงามสมบูรณ์แบบ

ทั้งคัน ไม่มีที่ติ

 

อันนี้

เป็นปรากฏการณ์

บ้านสวนพีระมิด ที่เกิดขึ้น

เป็นครั้งที่ 2

 

ท่านผู้อ่านท่านใด

ทราบบ้าง ว่า สิ่งนี้เรียกว่าอะไร

เป็นฤทธิ์ เป็นปาฏิหาริย์

รึเปล่าเนี่ย

ช่วยบอกหน่อยจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 00:48:46


ความคิดเห็นที่ 930 (1598029)

กราบขอบพระคุณในธรรมทาน

ของท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ

ผมขอตอบสิ่งที่ท่านอาจารย์ถาม

ว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็น

ปาฏิหาริย์  " อนุสาสนีปาฏิหาริย์ "

ปาฏิหาริย์ที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ

เปรียบเสมือนการแสดงธรรม

ที่ทำให้เห็นว่าธรรมะของพระพุทธองค์

ปฏิบัติตามแล้วได้ผลจริง

สามารถพิสูจน์ได้ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 01:31:17


ความคิดเห็นที่ 931 (1598034)

 กราบอนุโมทนากับอ.แม่ค่ะ

เมื่อก่อนก็เป็นคนนึง

ที่หวังอยากจะมีอิทฤทธิ์กับเค้าค่ะ

อยากเหาะได้บ้าง หายตัวได้บ้าง 

อยากสารพัด แต่ไม่เคยดูตัวเองเลย

และพวกอิทธิฤทธิ์

เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ

เพราะส่วนมากคนที่ได้อิทฤทธิ์

ก็มักจะหลงมัวเมากับสิ่งที่ตัวเองทำได้-

เหนือกว่าคนทั่วไป หลงใช้ไปในทางที่ผิด

และไม่มีประโยชน์อะไร

ไม่สามารถนำมาช่วยผู้คนได้

โชว์ได้อย่างเดียว

ซึ่งต่างจากอนุศาสนีปาฏิหาริย์

ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ 

เพราะเราสามารถช่วยได้ทั้งตนเอง

และผู้อื่นอีกด้วย

เราสามารถค้นหาสาเหตุ และพิสูจน์สิ่งต่างๆ

ที่เกิดขึ้นกับเรา

และหากเราค้นหาสาเหตุเจอ

และคิดที่จะเปลี่ยนตัวเอง

ก็สามารถทำให้เราพ้นทุกข์ได้

เมื่อพ้นทุกข์ความสุขก็อยู่ไม่ไกล

อนุศาสนีย์ปาฏิหาริย์

จึงเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ

และอ.แม่ก็คอยสอนคอยบอกมาตลอด

สาธุ สาธุ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 05:51:59


ความคิดเห็นที่ 932 (1598036)

 ในความรู้สึกแรกเบลล์คิดว่าเป็นการใช้ฤทธิ์

กสินปฐวีกสินเข้ามาช่วย

แต่คิดไปคิดมาก็คงเป็นเพราะว่าปาฏิหาริย์

เมื่อใดที่คนดี(อาจารย์อุบล  ฯลฯ)

ตกอยู่ในความยากลำบากใดๆ  ทั้งกาย

  ใจ  คือแม้เพียงความกังวลเล็กๆน้อยๆ  

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทรงช่วยสงเคราะห์

เพราะรถที่อาจารย์และลูกบ้านสวนพีระมิดตั้งใจมอบให้ท่านอาจารย์  ดร.อาจอง  

ใช่เพียงเป็นรถธรรมดา

 แต่เป็นเสมือนราชรถที่จะให้พวกเราลูกบ้านสวน

ได้เกาะบุญทุกๆครั้งที่ท่านอาจารย์  ดร.อาจองใช้รถ

 ตามที่อาจารย์มงคลกล่าว

ลูกขอเปรียบเสมือนว่ารถคันนี้เป็นมรรค

คือจะนำไปสู่ผลทั้งปวงตามแต่ความปราถนา

เป็นรถแห่งธรรม  เป็นรถที่ศักดิ์สิทธิ์  

ได้รับพระพรจากพระทุกๆพระองค์

ตามที่อาจารย์อุบลได้กราบอาราธนาพระพุทธ

 พระธรรม  พระสงฆ์  เทพพรหม  สถิตย์รักษารถนี้

จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า  

ธรรมะที่พระพุทธเจ้าได้เมตตา  เป็นผลจริง

เป็นการแสดงว่าหากประกอบแต่เหตุที่ดีๆ  ผลย่อมดีแน่นอน

เป็นพระเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ที่ทำให้คนดีมีบุญ

(อาจารย์อุบล  ฯลฯ)มีความอิ่มสุข  

ปีติในบุญได้เต็มร้อยเปอร์เซ็น

จากการที่ตั้งใจมอบรถคันนี้ให้ท่าน  ดร.อาจอง

 ใช้เป็นพาหนะ  มอบธรรมะแก่ทุกๆคน  ต่อไป

สาธุ  อนุโมทนาด้วยนะครับ




 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 07:50:36


ความคิดเห็นที่ 933 (1598047)

กราบอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

ลูกก็เป็นคนหนึ่งที่อยากมีฤทธิ์ในการอ่านใจคน จะได้รู้ว่าใครคิดกับเราอย่างไร

จะได้หลีกเลี่ยงคนที่ไม่เป็นมิตร เคยรู้สึกว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี

ไอ้งานที่อยากทำก็ไม่ได้ทำ ไอ้งานที่ไม่อยากทำต้องมาทำ

และงานที่เราทำ คนอื่นกลับได้ผลงาน เหมือนปิดทองหลังพระ

เชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับหลายคน และมีหลายคนที่ท้อแท้กับชีวิต

จนอยากมีฤทธิ์เสกนู่นนี่ได้เหมือนแนนนี่ ในละคร

เพราะถ้าเป็นจริงได้คงมีความสุขไม่น้อย

แต่ถ้าหากนำมาใช้ในทางที่ผิดก็อาจนำภัยมาสู่ตัวได้เช่นกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 11:43:45


ความคิดเห็นที่ 934 (1598098)

คิดว่าเป็น บุญฤทธิ์ คะ

เพราะอาจารย์สร้างบุญเป็นปกติ ตลอดเวลา

ปฏิบัติตามครูบาอาจารย์สอนทุกอย่าง

ทรงกสิณทั้ง ๑๐ อย่างจริง

ผลจึงเกิดขึ้นจริง

 

ดังที่อาจารย์พยายามสอนพวกเราให้ปฏิบัติ

ทั้งจิตทรงสมาธิ ทรงกสิณ จิตทรงความดีตลอดเวลา

เมื่อถึงวันที่ต้องใช้ วันที่เกิดภัย เราก็จะสามารถใช้ช่วยเหลือตัวเอง

และผู้อื่นได้ ดังเช่น หัดกสิณไฟ จะช่วยให้อบอุ่นเมื่อเกิดภัยหนาว ฯลฯ

 

...................................................................................................................

เมื่อเราปฏิบัติจริง ผลก็จะเกิดขึ้นจริง

ดังรอยรถที่ถลอกกลับเป็นปกติได้ เพียงแค่ใช้ผ้าถู

 

กราบขอบพระคุณอ.อุบล และครูอาจารย์ของท่าน ทุก ๆ พระองค์คะ สาธุ

(ปัญหาอยู่ที่ตัวพวกเราเองว่า ปฏิบัติได้จริงแค่ไหน มั่นคง มุ่งมั่นเพียงใดแล้วคะ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 13:55:34


ความคิดเห็นที่ 935 (1598111)

กราบขอบพระคุณในธรรมทาน ที่ท่านอาจารย์อุบล นำมาสอนลูกหลานครับ

คิดว่า เป็น "บุญฤทธิ์" ครับ เพราะ ในคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ เคย กล่าว เรื่อง ทาสทาน สหายทาน สามีทาน เพราะอานิสงส์ ของ"บุญ" ที่ท่านอาจารย์อุบล สร้างไว้ เป็น"เหตุ" มาส่ง"ผล" ถ้าเราทำบุญด้วยของเลิศ เราก็ย่อมได้รับของที่เลิศ ตอบแทน

ได้ดูรายการคุยไปแจกไป แล้วรู้สึกว่า คุณตา ยังดูแข็งแรง มากๆ ทั้งที่ อายุ 91 ปี และธรรมทานจากพี่ธนา ทำให้คลายสงสัย ในหลายๆเรื่อง ขออนุโมทนากับท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ และคุณมาร์ค คุณเพชร ด้วยครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 15:32:09


ความคิดเห็นที่ 936 (1598134)

กราบเรียนอาจารย์อุบลที่เคารพรักอย่างสูงค่ะ    

 

                     ขอขอบคุณในทุกๆคำสอนของอาจารย์นะค่ะ

     

                                     วิภาดา คุ้มสวัสดิ์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วิภาดา คุ้มสวัสดิ์ (gunda2553-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 21:19:53


ความคิดเห็นที่ 937 (1598136)

บุญฤทธิ์

แปลรวมกัน(เอง)

ว่า

อำนาจพิเศษ หรือ ปรากฏการณ์

เหนือธรรมชาติ ที่เกิดขึ้น

ด้วยบุญ หรือ ด้วยความดี เท่านั้น

*****

     หนูคิดว่าน่าจะเป็น บุญฤทธิ์ เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เหนือธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นได้ก็เพราะบุญบารมี  ที่ท่านอาจารย์ได้สั่งสมมา  จึงทำให้เกิดสิ่งอัศจรรย์เช่นนี้ได้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-18 22:47:16


ความคิดเห็นที่ 938 (1598145)

กราบคุณแม่ และ คุณพ่อ

                และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                       ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน องค์สฟิงค์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                       ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                       ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                       คืนนี้ ได้ชมคลิป วันที่ 19 กุมภาพันธ์ แล้ว ครับ

                       ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ลูกบ้านสวนพีระมิด ที่ไปใช้กำลังกาย ช่วยสร้างวิหารเอนกประสงค์ 3 ชั้น ครับ เห็นความก้าวหน้าไปอย่างมากมายครับ ก็ขอร่วมปิติยินดี ครับ        

                       ขอขอบพระคุณ ท่านด๊อกเตอร์อาจอง ที่ท่านเมตตามาให้ความรู้แก่ลูกบ้านสวน  ในเรื่องภัยพิบัติ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และ ในประเทศไทย ครับ

                        โดย ท่านได้ให้เหตุผล ที่จะเกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม ฝนจะตกมาก ว่าเกิดขึ้นจาก การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก อุณหภูมิที่สูงขึ้น และ การละลายอย่างรวดเร็วของน้ำแข็ง ในประเทศไทย ภาคเหนือ ก็จะเกิดแผ่นดินไหว แต่ไม่รุนแรงมากนัก ประมาณ 5 ริกเตอร์ และ ในภาคใต้ ทั้งทางด้านอ่าวไทย และ ด้านอันดามัน อาจจะเกิดสึนามิ  ถ้าประเทศฟิลิปปินส์ เกิดแผ่นดินไหว  และ ที่จังหวัดกาญจนบุรี ก็ให้ระมัดระวังเรื่องแผ่นดินไหว เพราะ เป็นแนวรอยเลื่อน ที่ต่อเนื่องมาจากประเทศพม่า

                        และ ขอขอบคุณ คุณธนา และ พี่ชนิดา ที่ได้สอบถามถึงเรื่องการใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ว่าทำไม ถึงใช้ได้ผล และ สามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา และ พร้อมๆกันจากคนจำนวนมากๆ ได้ ท่านได้ให้คำตอบว่า เป็นเรื่องพลังของจิต(ความเมตตา)

                       การที่เราเอ่ยชื่อของอาจารย์ที่เราเคารพและนับถือ นั้น บางครั้งเราไม่ได้เอ่ยจากความเชื่อมั่น อาจจะเนื่องมาจากการที่เราไม่ได้ใกล้ชิดหรือได้สัมผัสกับอาจารย์ที่เราเอ่ยชื่อท่านเหล่านั้น แต่สำหรับอาจารย์อุบล นั้น เราได้สัมผัสและได้ใกล้ชิดกับท่าน เราก็มีความเชื่อมั่น และ มีความใกล้ชิดกับท่านอาจารย์อุบล ความเชื่อเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเชื่อมั่นมากๆ ก็ย่อมมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ  

                     การที่คนเรายังรักษาศีล5 ไม่ได้ มีความโลภ ความโกรธ ความหลง ความอิจฉาริษยา เราอาจจะโดนกรองออกไป(ตายไป) แต่ถ้าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง มั่นสร้างความดี ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น และ หัดมาปฏิบัติธรรม กรรมที่ไม่ดีของเรา ก็เบาบางลงไปได้ และ มีโอกาสที่อยู่รอด 

                     ขออนุโมทนาบุญ กับ อ.สิทธิพันธิ์ กับการเป็นผู้แนะนำและให้ความรู้แก่ลูกบ้านสวนพีระมิด ในการปลูกผัก และ การดูแล ครับ เห็นแปลงผักแล้ว รู้สึกถึงความสุขที่ได้เห็นผักเจริญเติบโต และ นำมาปรุงเป็นอาหาร ทานได้อย่างสบายใจ ครับ

                    ขออนุโมทนาบุญ กับ คุณแม่อุบล ที่ท่านทำการฝึกสมาธิและแนะนำให้ลูกบ้านสวนพีระมิดได้แผ่กุศลบุญจากแรงกายให้เจ้ากรรมนายเวร ญาติที่เสียขีวิต ของลูกบ้านสวนฯ ในทุกๆคืนวันเสาร์ ครับ

                                       ขอร่วมปิติยินดีกับ อาจารย์สำเภา วาระนุช (คุณตา) ซึ่งเป็นคุณพ่อของคุณแม่อุบล ครับ ท่านเป็นผู้สูงอายุที่มีเมตตาและใจดีมากๆ ครับ

                  และ ขอขอบคุณ ธรรมทานจาก คุณธนา ที่พี่เค้ามาขอบคุณคุณแม่อุบล ในเรื่อง ร่างกาย จิตใจ การเงิน และ สุขภาพของพี่เค้า ที่ดีขึ้นทุกด้าน ครับ

                  และ พี่ได้เล่าถึง เรื่องที่หารถที่จอดไว้ชั้นใต้ดินของห้างฯไม่เจอ แต่เมื่อใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ก็หารถเจอ ครับ และ เรื่องที่นิ้วมือ โดยบาดจนเลือดไหล ต้องไปโรงพยาบาล แต่ตัดสินใจไม่เย็บ หรือ ฉีดยากันบาดทะยัก แต่ใช้น้ำพีระมิดล้างบาดแผล และ ใช้บอดี้โลชั้นทา แผลก็สามารถสมานตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

                  และ เรื่องที่พี่เค้าได้กล่าวถึง เรื่องของความคิด ที่เมื่อก่อนคิดว่า คิดคนเดียวในใจ คนอื่นก็ย่อมไม่รู้ และ ไม่บาป แต่เมื่อพี่ธนาได้มาเป็นลูกบ้านสวนพีระมิด พี่เค้าก็สามารถตัดความคิดและการอยากทำในสิ่งไม่ดีไปได้ และ ยังสามารถผลักความคิดเหล่านี้ออกไปได้

                  โดยคุณแม่ได้กล่าวเสริมให้ฟังว่า เราไปวัด เราไปศีกษาธรรมะ ไปหาความรู้ แต่เราไปเพียงแต่การฟัง หรือ เพียงแต่ไปอ่าน แต่เราไม่ได้นำความรู้ที่ได้รับหรือเกิดขึ้น มาฝีกปฏิบัติ(รู้แต่ขาดการปฏิบ้ติ)

                   และ ขอขอบคุณ พี่ธนาสำหรับ การที่บอกกล่าวว่า เรามีพระพุทธองค์อยู่กับตัว แต่เราทำตัวไม่เหมาะสมกับที่ท่านจะเสด็จมาอยู่ในจิตใจของเรา เพราะว่า กาย ใจ และความคิดของเรา ยังไม่มีความเหมาะสม และ พูดถึงเรื่อง กฎธรรมชาติ ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ ซึ่งเป็นหลักที่พิสูจน์ได้ในทางวิทยาศาสตร์ "พลังแห่งความดี"

                   คุณแม่ยังได้บอกกล่าวว่า การที่เรามีหิริโอตัปปะ ก็จะให้เราเป็นเทวดาได้ และ เมื่อเรามีพรหมวิหาร 4 ก็จะทำให้เราเป็นพรหมได้ เมื่อเราเตือนและบอกกล่าว และ เมื่อเราตัดรัก ร่างกาย มีแต่เมตตา เราก็จะอยู่ในอารมณ์นิพพาน      

                   นิพพาน "พ้นทุกข์" 

                   และ คุณแม่ได้กล่าวถึง การไปขุดดินแล้วจะพาคนไปนิพพาน ได้อย่างไร โดยยกตัวอย่าง พี่คนที่มดลูกไหล  นั้นคือ ให้เค้าไปสร้างเหตุโดยการไปขุดดิน แต่เมื่อไปขุดดินแล้ว อาการมดลูกไหลหายไปได้ การหายก็คือการหายทุกข์ เมื่อเห็นผล ก็สนใจว่า คุณแม่ทำอะไร นั้นคือ ให้เรารักษาศีล ให้ทาน และ ทำสมาธิ เว้นการทำความชั่ว ทำใจให้เบิกบาน เมื่อบอกอะไรก็เชื่อ ก็ทำด้วยศรัทธา ก็เกิดอานิสงค์ เพราะ คนเราเมื่อมีความทุกข์ ก็ย่อมต้องคิดหาทางให้พ้นทุกข์ในเรื่องการเงิน สุขภาพก่อน ไม่มีใจที่จะคิดไปนิพพาน

              และ คุณแม่ยังได้กล่าวถึงเรื่องสำนึกบุญคุณครูบาอาจารย์ที่ท่านได้ส่งความรู้มาให้เราได้เผยแผ่ แต่เมื่อเรามีอัตตาของตนเอง เราก็ได้รับความรู้แค่นั้น แต่คนที่เค้าไม่หลงอัตตา ครูบาอาจารย์ก็ส่งความรู้ใหม่ๆ ให้เรื่อยๆ

              และ คุณแม่ได้กล่าวถึงเรื่องผ้าขาวที่มันสกปรก (จิตของเราที่ก่อกรรมทำความไม่ดีมา) ท่านได้กล่าวว่า เราต้องนำผ้านั้นมาซักก่อน ให้ผ้าขาวก่อน แล้วถึงจะย้อมเป็นสีชมพูได้ ท่านต้องการให้เราได้ทราบว่า คนเราต้องขจัดความไม่ดีในจิตใจ ชำระความชั่วของเราก่อน ถ้าเราเอาแต่ทำบุญ ก็เหมือนผ้ายังไม่ขาวสะอาด แต่นำไปย้อม ก็ย่อมดำกระด่าง แต่ถ้าเราชำระจิตใจ ให้จิตมันสะอาดก่อน ก็พร้อมที่จะย้อมเป็นสีชมพูได้ (นั้นคือไปนิพพาน) 

               และ เรื่องความดุ ของคุณแม่อุบล นั้น คือ วิธีในการปกครอง เพื่อให้เราได้แก้ไขปรับปรุงตนเอง ท่านได้กล่าวว่า คนเราต้องมีเมตตา และ มีอุเบกขา แต่ การมีเมตตาของเรานั้นคือ เราต้องเมตตาช่วยตักเตือนสำหรับผู้ที่กระทำไม่ถูกต้อง และ คำว่าอุเบกขา นั้นไม่ได้หมายถึง เราต้องทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ตัวใครตัวมัน แต่ให้วางเฉย แบบวางใจเป็นกลาง

             และ ขอน้อมกราบต่อธรรมะ จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องอบายภูมิ 

                  

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา (kunagorns-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 00:03:33


ความคิดเห็นที่ 939 (1598148)

ขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร มากๆค่ะ ที่ได้ลงรายการวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ให้อย่างรวดเร็ว

รู้สึกว่าเนื้อหาตอนนี้ เต็มเปี่ยม อัดแน่น(ไม่รู้จะใช้คำไหนดีค่ะ ทั้งๆที่รายการทุกตอนก็มีสาระมากอยู่แล้ว)

คุณตาหรือคุณพ่อของอ.อุบล อายุ 91 ปี ยังดูแข็งแรง สวดมนต์คล่องเสียงดังฟังชัด
การบรรยายของดร.อาจอง
แกนโลกจะเปลี่ยนมั้ย?
เปลี่ยนมี2แบบ คือ แบบกระทันหัน(แย่) หรือ ค่อยๆเปลี่ยน
น่าจะเป็นแบบค่อยๆเปลี่ยน  ขึ้นกับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น การละลายของน้ำแข็ง
สึนามิ?
ไทยมีโอกาสเกิดทั้งฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ ระนอง) และฝั่งอ่าวไทย (ฟิลิปปินส์แผ่นดินไหว)
แผ่นดินไหว?
จากสถิติทั่วโลกเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้น 6 เท่า
เกิดพราะเปลือกโลกเคลื่อนที่
ภาคเหนือ (แม่จัน เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน อุตรดิตถ์ ตาก) อาจเกิดการเขย่าบ้าง ไม่ใหญ่มาก
กาญจนบุรี มีเขื่อนศรีนครินทร์ควรลดน้ำ
ภาคใต้ มีรอยร้าวตั้งแต่ประจวบ ระนอง กระบี่ ภูเก็ต สุราษ ค่อนข้างปลอดภัย
พบรอยเลื่อนใหม่แถวนครนายก
***ถ้าเกิดแผ่นดินไหวให้หลบข้างเสาค้ำยันที่แข็งแรง ไม่ใช่มุดใต้โต๊ะที่อยู่กลางห้อง***
พายุสุริยะ
มีผลต่อโลกประมาณสิ้นปีเยอะมาก ทั้งแผ่นดินไหว น้ำมาก พายุเกิดมาก
น้ำท่วม
อาจเริ่มตั้งแต่ เม.55 ฝนเร่มตกหนัก พายุ ความชื้นมากกว่าเดิม
ไล่มาจากภาคเหนือ(น้ำไหลเร็วกลาง(โดนกันน้ำ จะหนักหน่อย) และใต้
ปี 54 ถือเป็นบทเรียน ถ้าปล่อยน้ำลงทะเลได้เร็ว จะไม่ยืดเยื้อ
สิ่งที่ควรทำ
***ยึดมั่นในความดี ทำบุญ ทำจิตสงบ นั่งสมาธิ ภาวนา ปฎิบัติธรรม แผ่เมตตา ทานมังสะวิรัติ(ลดโลกร้อน) รัก/ช่วยเหลือ/นึกถึงส่วนรวม รักธรรมชาติ รักน้ำ ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย***
*พีระมิดดูดพลังงานดีๆเข้ามา ป้องกันภัยปัญหารอบด้าน สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องช่วยเหลือ
*ยิ่งวิตกกังวลมากจะเจอหนักขึ้น ทุกอย่างเป็นบทเรียนสอนเรา*
ผู้แสดงความคิดเห็น อรศรี ชุติเนตร (aurasri05-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 01:36:00


ความคิดเห็นที่ 940 (1598149)

 

คุณธนา
ฉายาพ่อใหญ่เพราะธรรมะธรรมโม
ทำธนบัตรขวัญถุงให้โดยไม่หักค่าใช้จ่าย(ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ)
มาบ้านสวนแล้วทุกอย่างดีขึ้น ทั้งสุขภาพ การเงิน จิตใจ มีความสุข สงบขึ้น
ก่อนรู้จักบ้านสวน เรียนรู้ธรรมะด้วยการท่องจำ ใช้สมองซีกขวาอย่างเดียว ไม่ได้กล่อมเกลาขูดกิเลศออกจากใจ
เมื่อมาบ้านสวนได้ปฏิบัติ ให้ทาน รักษาศีล ใช้สมอง 2ซีกคิดวิเคราะห์ ละเอียดในศีลมากขึ้นทั้งกาย วาจา ใจ เกรงกลัว ละอายต่อบาป(เทวธรรม)
               
***อาจารย์อุบลพาคนไปนิพพานได้ยังไง***
นิพพาน คือ พ้นทุกข์ ไม่มีทุกข์
บุญแรงกาย เช่น ขุดดิน = การสร้างเหตุ=เส้นทางสู่นิพพาน
ถ้าทำบุญแรงกายแล้วหายทุกข์ ก็เริ่มสนใจว่าทำอะไร อย่างไร มีศรัทธาเชื่อมั่น มีอานิสงค์ ประตูจิตเปิด
.อุบล ให้ ให้ทาน รักษาศีล ทำสมาธิ ทำบุญ ความดี ทำใจให้แจ่มใส ถ้าทำตามแล้วหายทุกข์ ก็มีอารมณ์นิพพานแล้ว
                คนทำบาปมาเปรียบเหมือนผ้าขาวที่สกปรก ถ้าเปรียบนิพพานเป็นผ้าสีชมพู การจะเปลี่ยนผ้าขาวเป็นสีชมพูก็ต้องผ่านการซัก ขจัดคราบสกปรก(ความชั่ว) โดยการอุทิศบุญบ่อยๆเพื่อชำระหนี้กรรมเก่า จนจิตขาวสะอาดหรือผ้าเป็นสีขาว แล้วจึงไปย้อมสีชมพู
พระพุทธเจ้าให้อ.อุบลช่วยคน โดยเริ่มตั้งแต่ การไต่สวนกรรม ทำบุญใช้แรงกาย แตะไหล่ ยกมือแผ่ไป ดูรายการแล้วศรัทธาอนุโมทนาก็หายได้ รหัสอ.อุบลช่วยด้วย
การรักษาศีล ทำให้มีความสุขชาตินี้ หลังความตาย และเข้าสู่นิพพานได้ง่าย
ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์ คือ สุขที่ใจ/ จิตที่หลุดพ้น
พลังพีระมิด ช่วยให้เข้าถึงธรรมได้ง่าย
 
**เมตตา อุเบกขา ไม่ใช่การนิ่งเฉย ปล่อยให้คนล่วงเกิน
สิ่งไหนผิด เป็นบาป เราต้องเมตตาให้ธรรมะกลับไป(ไม่ใช่โกรธ เครียดแค้น เอาคืน วางเฉย ตัวใครตัวมัน)
ถ้าพบว่าผิดแล้วปล่อยให้ผิดต่อไป=ขาดเมตตา ควรช่วยก่อน ถ้าช่วยไม่ได้ค่อยปล่อย (บัว4เหล่า)
(อ่านเพิ่มเติมที่ พระไตรปิฏกฉบับที่ทำให้ง่ายแล้ว หน้า 47-56”)
 
เสียงธรรมของหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ทำกำลังใจให้ก้าวสู่นิพพานโดยเร็วเพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ได้กี่วัน ยอมรับนับถือปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เหตุผล ละอายชั่ว กลัวบาป รักษาศีล จิตยึดศีลเป็นอารมณ์
ผู้แสดงความคิดเห็น อรศรี ชุติเนตร (aurasri05-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 01:56:46


ความคิดเห็นที่ 941 (1598163)

สมกับเป็นอาจารย์หมอค่ะคุณหมออรศรี

ดึกดื่นแล้วเขียนธรรมทานให้คนได้

อ่านสะดวกเพื่อการพ้นทุกข์

อนุโมทนาบุญค่ะคุณหมอ

สาธุ...

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 11:36:04


ความคิดเห็นที่ 942 (1598205)

มาเข้าสู่การสนทนาธรรม

เรื่อง

บุญฤทธิ์ ต่อดีกว่า

เพราะ

พ่อใหญ่ธนา

มาเปิดประเด็น ความสงสัยไว้

ว่า

ทำไม อ.อุบล พูดอะไร

มันต้องเป็นอย่างนั้น

(ก็ไม่โกหกไงจ๊ะ)

 

เอาสดๆร้อนๆ

ดีกว่านะ

 

วันนี้

วันอาทิตย์ที่ 19 ก.พ.55

เวลาประมาณ 6 โมงเย็น

ทุกท่านที่มาทำบุญ

กับบ้านสวนพีระมิด กลับกันแล้ว

 

คงเหลือแต่

ครอบครัว คุณโอ๋

ซึ่งมีลูกชายสุดหล่อ 2 คน

คือพี่ อเล็กซ์ และ น้องเอริค

 

อ.อุบล

นั่งอยู่หน้าจอคอมฯ

มองจอ มอนิเตอร์ เห็น

คุณท้อป ไปเตะตะกร้อ กับ

อเล็กซ์ และ เอริค

อยู่ตรงแถวกองทราย

ลานใกล้ที่พวกเราจอดรถ

 

สักครู่

อ.มงคล ก็มาเล่าให้ฟังว่า

เมื่อครู่นี้

 

เอริค

เล่นรถเข็ญทราย

แล้วพลาดหล่นลงมา

หน้าคว่ำ นอนแน่นิ่ง

หัวปูด

 

อ้าว

เป็นอะไรมากไหม

 

เห็นท้อปบอกว่า

นิ่งไปเลย ต้องอุ้มขึ้นมา

หัวปูดเท่านี้

(ทำมือประกอบ)

 

เอาแล้ว

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

เมตตตา เอริค อีกแล้ว

 

ทันทีทันใดเลย

 

ทำไมเหรอ

 

ก็เมื่อเย็นนี้

ยังพูดกับคุณโอ๋อยู่เลยว่า

เอริค กับ เอเล็กซ์

นี่แปลกนะ เขาผลัดกันดื้อ

 

จริงค่ำอาจารย์

 

อ.รู้สึกว่า ช่วงนี้

เอริค จะซนมาก และไม่ค่อยฟัง

ช่วงก่อนหน้านี้อเล็กซ์เป็น

 

จริงค่ะ อ.

 

วันนี้นะ

ก่อน อ.จะเดินเข้ามาเนี่ย

เห็น เอริค ซน เอาดอกไม้พลาสติค

ที่เขาแช่ไว้ในอ่างผสมปูน

เพื่อจะล้าง แต่เขาแช่ไว้ก่อน

เอริค กำไป กำใหญ่ๆ

แล้วก็เอาไปเหวี่ยงวิ่งเล่น

 

อ.อุบล

เรียก ก็ทำไม่ได้ยิน

ถามว่า จะเอาไปไหน ก็ไม่ตอบ

ดอกไม้ก็ร่วง หล่น

 

จนเสด็จพ่อฯ

บอก อ.อุบล ว่า เดี๋ยว

ข้า...เอง

 

อ.อุบล

นึกสงสาร เอริค ทันที

ก็เลย บอกเขาไปว่า

เอริค ระวังนะ เดี๋ยวโดนอีก

เดี๋ยวต้องเป็นอะไร

คราวที่แล้ว ไข้ตัวร้อน

คราวนี้ เอริค จะเป็นอะไรรู้ไหม

ถ้าซนอย่างนี้

 

เดี๋ยวเสด็จพ่อ

จะเตือนเองนะ ถ้าไม่ฟัง อ.

 

ว่าแล้ว

เอริคก็เอาดอกไม้

มาเก็บที่อ่างน้ำ เหมือนเดิม

 

ทั้งหมดนี้

ได้เล่าให้คุณโอ๋ฟัง

ก่อนเกิดเหตุ ไม่กี่นาที

 

เดี๋ยวมาต่อนะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 21:37:39


ความคิดเห็นที่ 943 (1598210)

ขอเข้ามารออ่านธรรมทานจากท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

                             ##########

จนเสด็จพ่อฯ

บอก อ.อุบล ว่า เดี๋ยว

ข้า...เอง

   ถ้าเป็นแต่ก่อนเราก็จะคิดแค่เพียงว่า เด็กดื้อ  เด็กซน ก็จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้  เป็นเรื่องธรรมดา  แต่ทุกวันนี้ต้องคิดมากกว่านั้น  ว่า  ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้  ไม่ว่าจะเกิดกับตัวเอง  หรือผู้อื่น  สาธุ  สาธุ  ค่ะท่านอาจารย์ ขอบพระคุณในคำเตือนสติ  ให้ดูตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 22:27:08


ความคิดเห็นที่ 944 (1598217)

ตอนดูภาพ

จากกล้องวงจรปิด

ย้อนหลังนี่ เอริค ออกอาการเลย

เค้าจำเหตุการณ์ ได้แม่นยำ พากไปด้วย

 

แต่

อ.มงคล

อ.อุบล คุณโอ๋

ดูแล้ว แปลกใจมาก

ว่า

เอริค

เอาหน้าลง แบบคว่ำกับพื้นดิน

ในท่าเอาส่วนอวัยวะ

ด้านหน้าทุกส่วน

ลงพร้อมกันหมด

คุณท้อปบอกว่า ดังตั๊บเลย

 

แล้วแถม

ตัวรถเข็นฟาดหัวอีก

แต่ทำไม รอดมาได้ แค่จุก

หัวโน นิดหน่อย

 

ท่านผู้อ่าน

ลองช่วยวิเคราะห์

หน่อยเถอะว่า

ทำไมเป็นเช่นนี้

 

แล้วอย่างนี้

ใช่ปาฏิหาริย์หรือ

บุญฤทธิ์

 

ตามที่พ่อใหญ่ธนา

ตั้งข้อสงสัยรึเปล่าว่า

ทำไม อ.อุบล พูดอะไรแล้ว

ต้องเป็นอย่างนั้น

 

หรือว่า

บังเอิญ กันแน่

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 23:13:37


ความคิดเห็นที่ 945 (1598222)

           ได้ดูคลิปวันที่ 19 ก.พ คุณตาแข็งแรงมาก  ถ้าอ.จ อุบลไม่บอกว่าคุณตาอายุ 91  นันเดาว่าคงประมาณ 70 ต้นๆอยากรู้เคล็ดลับทำไมคุณตาถึงแข็งแรงกว่าคนอายุ 70    โมทนาบุญกับ ธรรมทานของคุณ ธนา ด้วยนะดูในคลิปคุณ ธนาเดี๋ยวนี้หน้าตาแจ่มใส อิ่มบุญมากยิ้มทีเห็นแก้มป่องเปล่งประกายดูมีความสุขกายและใจ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธันยนันท์ กิตยานพลักษณ์ (tyk246-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 23:44:01


ความคิดเห็นที่ 946 (1598227)

แล้วอย่างนี้

ใช่ปาฏิหาริย์หรือ

บุญฤทธิ์

 ตามที่พ่อใหญ่ธนา

ตั้งข้อสงสัยรึเปล่าว่า

ทำไม อ.อุบล พูดอะไรแล้ว

ต้องเป็นอย่างนั้น

 หรือว่า

บังเอิญ กันแน่

*-*-*-*-/*-*-*-*

ทุกอย่างที่ท่านได้พูดไว้

แล้วเกิดเหตุนั้นๆ

มิใช่เป็นเหตุบังเอิญไม่

แต่เป็นบุญฤทธิ์ทั้งสิ้น

เคยได้ยินเต็มสองรหูว่า

ท่านอาจารย์อุบล

สามารถรู้มีสิ่งใดที่จะเกิดขึ้น

สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่เข้ามาหา

แต่ละท่านคิดอย่างไร

ต้องการอะไร

มีเหตุที่จะเกิดขึ้นต่อไปอย่างไร

เพราะ

ท่านอาจารย์อุบล

มิใช่แค่บำเพ็ญเพียรมาแค่ชาตินี้

ชาติเดียว แต่บำเพ็ญเพียรมา

หลายภพ หลายชาติ

แล้ว

ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ที่มาผ่านท่านอีกมากมาย

ท่านยังมีเมตตาคอยเตือน

พวกลูกศิษย์ที่โง่ๆอย่างพวกเรา

แต่ก็ไม่ค่อยปฏิบัติตามกัน

ตัวเล็ก

ขอเป็นศิษย์ที่โง่ๆอีกคน

ที่ขอปฏิบัติตามคำสอน

ของท่านตลอดไป

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 00:02:44


ความคิดเห็นที่ 947 (1598245)

 

แล้วอย่างนี้

ใช่ปาฏิหาริย์หรือ

บุญฤทธิ์

 ตามที่พ่อใหญ่ธนา

ตั้งข้อสงสัยรึเปล่าว่า

ทำไม อ.อุบล พูดอะไรแล้ว

ต้องเป็นอย่างนั้น

 หรือว่า

บังเอิญ กันแน่

*****

กราบขอบพระคุณสำหรับธรรมทานที่ท่านอาจารย์อุบล นำมาสอนลูกหลานครับ

เชื่อว่าทุกสิ่งในโลกนี้ ไม่มีเรื่อง บังเอิญ แน่ๆ ครับ ทุกอย่างล้วนเกิดจาก เหตุ และ ผลก็ตามมา เหมือนที่เรา ได้ทราบกันมาว่า"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ" คิดเหมือนพี่ ตัวเล็ก คือเป็น บุญฤทธิ์ เป็นฤทธิ์ที่เกิดจากบุญและบารมี ที่ท่านอาจารย์อุบลสร้างมาแต่อดีต จนสามารถเกิดเป็น "บุญฤทธิ์" ได้ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 09:04:11


ความคิดเห็นที่ 948 (1598257)

อ่านธรรมทานของท่านอาจารย์อุบลแล้ว

ต้องรีบมาปฏิวัติการเลี้ยงดูต้นอ้อเสียใหม่

ลูกเห็นเค้าป่วยหนักตั้งแต่เด็กก็เลยค่อนข้างตามใจ

ดูการ์ตูนบนเตียงคนไข้เป็นกิจวัตรจนติดเป็นนิสัย

เดินซนไปทั่ว ทำเหมือนบ้านตัวเอง มั่นใจมาก

ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่น่าจะตายด้วยโรคมะเร็ง

คงโดนท่านท้าวเวสสุวรรณลงโทษทั้งแม่ทั้งลูกเลย

ในฐานะเป็นแม่ไม่สั่งสอนลูกให้ดีต้องโดนจัดหนักกว่า

ต่อไปนี้ลูกจะพยายามดูแลต้นอ้อให้เข้มงวดที่สุดค่ะ

(ไม่รู้ได้แค่ไหน Control ยากเหลือเกินค่ะ)

สิ่งใดที่ลูกและต้นอ้อได้ผิดพลาดไปแล้ว

ลูกกราบขออภัยท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว

ท่านท้าวเวสสุวรรณ และสิ่งศักดิ์ทุกพระองค์ในบ้านสวนฯ

ญาติธรรมทุกคนด้วยใจจริงค่ะ บ้านสวนฯให้บุญที่ยิ่งใหญ่

แต่ถ้าทำไม่ถูกต้อง บาปก็ยิ่งใหญ่เช่นกัน

ธรรมทานที่พบในบ้านสวนฯได้ช่วยขัดเกลานิสัยเลว ๆ

ของลูกให้เลวน้อยลงเรื่อย ๆ สักวันคงเป็นคนดีกับเค้ามั่ง

ลูกกราบขอบพระคุณพระพุทธเจ้า

สิ่งศักดิ์ทุกพระองค์ที่บ้านสวนฯ

ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว

เทวดาที่ปกปักรักษาท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว

ที่ให้ความเมตตาปราณีลูกและต้นอ้อเป็นที่สุดค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก (angkhana-s2011-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 10:50:40


ความคิดเห็นที่ 949 (1598261)

เอาอีกแล้ว หลานชายจอมซน เอริคเดี๋ยวนี้เป็นเด็กช่างพูด ร่าเริง แจ่มใส บางครั้งก็ซนมาก บางวันก็ตั้งใจทำงานมาก แล้วแต่อารมณ์ตามประสา

มาคราวนี้ โดนเบื้องบนจัดหนักให้แบบนี้คงเข็ดน่าดู แค่อ่านที่ท่านอาจารย์บรรยายมาก็เสียวแทนแล้วเด๊ ก็น่าคิดนะครับโดนลักษณะแบบนี้คงอ่วมเอาเรื่องเลย แต่กลับแค่จุกกับหัวโนนิดหน่อย

คงไม่แปลกใจหรอกครับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ ขนาดลุงบุญที่เลือดกระฉูดในบ้านสวนฯ ยังสามารถหยุดไหลได้ทันทีที่อาจารย์บอกให้เลือดหยุด ไหนคนจะปวดนั่น ปวดนี่ สารพัดมาหา พอท่านอาจารย์บอกให้หายนะลูก ก็หายดื้อๆซะงั้น

บุญที่ท่านอาจารย์สร้างมาทุกภพชาติ เบื้องบนทุกพระองค์ที่ทรงพระเมตตา และพระพุทธองค์ที่ทรงเป็นประธานอยู่กับอาจารย์ตลอดเวลา

ผมจึงคิดว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น คงไม่สามารถสรุปหรือเรียกได้อย่างเดียวว่า บุญฤทธิ์ แต่มีทั้ง อิทธิฤทธิ์ อยู่ในตัวที่สมบูรณ์แบบ

เหมือนที่อาจารย์สอนมาแหละครับ กสิณฝึกมาอย่างดี เวลาใช้งานไม่ต้องตั้งท่าคิดทีละขั้นตอน แค่นึกปุ๊บก็ได้ปั๊บเลย

ยิ่งบุญอันยิ่งใหญ่ที่ท่านอาจารย์สั่งสมสร้างมาจนถึงชาตินี้ รวมทั้งการฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐานที่ท่านอาจารย์ปฏิบัติอยู่ทุกลมหายใจ ผมถึงไม่รู้ว่าจะให้นิยามสิ่งที่เกิดขึ้นว่าอะไรดี หากจะว่าบุญฤทธิ์อย่างเดียวก็คงไม่ใช่ ถึงแม้ว่าบ้านสวนฯจะเห็นปรากฏการณ์ของบุญฤทธิ์ชัดเจนแบบที่ไม่เคยพบเห็นในที่อื่นมา แต่ก็เห็นจะจะเหมือนกันว่านี่คือ อิทธิฤทธิ วนไปวนมาก็ชักเยิ่นเย้อ

สรุปส่วนตัวผมก็แล้วกันครับ  อย่างที่หลวงพ่อฤาษีฯเคยกล่าวถึงอนาคตข้างหน้าไว้แล้ว ผมว่าวันนี้มาถึงชัดเจนแล้วครับ

บ้านสวนพีระมิด คือ อภิญญาใหญ่ และบุญฤทธิ์ ที่สมบูรณ์แบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 11:15:55


ความคิดเห็นที่ 950 (1598265)

เรื่องเข็ดนี่

ไม่ใช่นิสัยเด็กหรอก

พ่อใหญ่ธนา

 

ดูอย่างวัยรุ่นอย่างพวกเราสิ

เข็ดกันที่ไหน ออกจากเรืองนี้

ก็มีเรื่องใหม่

มาให้เร้าใจตลอดแหละ

 

แต่ก็คงขยาดเรื่องรถเข็นไป

แต่ซนเรื่องอื่นไม่แน่ใจ

เพราะตัวเอริคเอง

เวลาแม่เค้าซักฟอก

 

เค้าต้องนึกก่อน

เพราะทำไว้หลายเรื่อง

ไม่รู้ว่าโดนเรื่อไหนบ้าง

 

ระหว่างดู

เทปจากกล้องวงจรปิด

เอริค นั่งหัวเราะตัวเอง

มากกว่าใคร

 

สรุปว่า

การดูเทปย้อนหลังนี่

เหมือนดูหนังตลก

 

ที่ตลกเพราะ

ตัวเอง เห็นความ ซน

ของตัวเอง และโดนจัดหนัก

แต่ รอด แบบ

ปาฎิหาริย์ไง

 

อ.อุบล

เลยคุยกับ อ.มงคล

และคุณโอ๋

ว่า

 

มีสิ่งที่มาช่วย เอริคไว้

เพราะไม่งั้น

เอริค ต้องสลบ หรือไม่

ก็คงตาย

 

เพราะ

แค่หน้า และ ทั้งตัว

คว่ำกระแทกลง ก็แย่แล้ว

ไหนจะรถเข็นฟาดหัวอีก

 

อ.มงคล พยายาม

วิเคราะห์ว่า

รถเข็นอาด ฟาด ลงมา

แต่ไม่โดนหัวก็ได้

 

ไม่โดนยังไง หัวโน

 

อ.มงคล เลยบอกว่า

แต่ ว่า

ถึงรถเข็นจะไม่ฟาด

แค่หล่นลงมา ก็น่าจะแย่แล้ว

 

เลยขอ อ.มงคล

ว่า

คลิปนี้ ขอให้ ตัดเทป

มาลง ให้คนได้ดู

เป็นธรรมทานหน่อยได้ไหม

 

อ.มงคล บอกว่า

ได้ ถ้าว่าง จะทำให้

 

เอ

แล้วใครจะเป็นคน

ลงเวปให้ล่ะ

เพราะ สปีด ความเร็ว

เน๊ทบ้านสวน ลงคลิปไม่ได้

ใครจะอาสาจ๊ะ

 

อ้อ แล้วก็

คำขอบคุณของ

คุณหมอศิริพรด้วย

ยังไม่ได้ฝากคุณมาร์คลงเลย

ใครช่วยเตือนด้วยนะ

สัปดาห์หน้า

นะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 11:36:19


ความคิดเห็นที่ 951 (1598275)

กราบเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ท่านอ.อุบลที่เคารพค่ะ เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านสวนพีระมิด ลูกคิดว่า มีปราฏิหารย์ เกิด ครบทั้ง3อย่าง เริ่มจากอนุสาสนีย์ปฏิหารย์ก่อน คือ.การแสดงให้เห็นจริง ตาม เหตุ ตามผลของการกระทํานั้นๆ ไม่ว่าดีหรือชั่ว และมี อิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์  เข้ามาแสดงให้เห็นตาม ลูกกราบอนุโมทนาสาธุบุญท่านอ.อุบลทุกๆบุญ กราบในความเมตตาของเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณและสิ่งศักสิทธิ์ทุกพระองค์       

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี (aon_aunsri-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 12:55:37


ความคิดเห็นที่ 952 (1598318)

กราบเรียน  ท่านอาจาร์ยอุบลที่เคารพ  ลูกได้รับของที่สั่งและเงินคืนเรียบร้อยแล้วค่ะ เมื่อวันที่ 20/2/55.  เวลา 15.30  น.  ขอบพระคุณมากค่ะ  และลูกก็รอคอยธรรมทานของท่านอาจาร์ยทุกๆ ตอนค่ะ  สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา กาลมัชฌิมา (jantira_123-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 16:15:44


ความคิดเห็นที่ 953 (1598322)

กราบขอบพระคุณในธรรมทานของท่านอ.อุบลค่ะ

สิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านสวนพีระมิด หนูคิดว่าเป็นทั้งอิทฤทธิ์และบุญฤทธิ์ค่ะ สรุปได้โดยไม่ต้องมีข้อโต้แย้งหรือสงสัยใด ๆ เลย

แต่เท่าที่เคยได้ยินใด้ฟังมาและเห็นได้ด้วยตัวเองก็มี (บางครั้งค่ะ) ครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบก็มีอภิญญาหรือมีฤทธิ์หลายองค์ หรือหลายท่าน แต่ท่านช่วยได้ไม่เกินกฎแห่งกรรม  และต้องใช้เวลานาน เป็น วัน เป็นเดือน หรือเป็นปี แต่ที่บ้านสวนพีระมิดเป็นสิ่งเดียวในโลกมนุษย์ใบนี้ ที่สามารถช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้นให้พุ้นทุกข์ได้ โดยฉับพลันดันใด (โดยฉับพลันทันใดจริง ๆ ค่ะ) และเดี่ยวนั้นเวลานั้น จริง ๆ ถ้าเพียงแต่ท่านอ.อุบล เมตตาพูดออกมาโดยการให้พร เช่น ให้หายจากโรคนั้น โรคนี้ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุรดา ศรีสุข (นก) (su_rada-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 17:04:34


ความคิดเห็นที่ 954 (1598329)

มาคุยเรื่อง

บุญฤทธิ์ หรือ ปาฏิหาริย์

บ้านสวนพีระมิด

(ต่อ)

-----------------------

ก่อนคุยต่อ

บังเอิญมีคนส่งเงินมา

เป็นสกุล ยูโร และ ปอนด์

จากอังกฤษ

ชื่อคุณอรุณ คอลิน แคทริน วันวิสา

เพอร์รอทท์

 

เขาเขียนแบบนี้มานะ

เขียนตาม รู้สึกยาว ไมทราบว่า

ชื่อนี้หมายถึง คนเดียว หรือว่า

สองคน

 

เขาบอกว่า ที่อังกฤษ

ตอนนี้ หนาวมาก แล้วก็

เขียนมาเล่าเรื่องราวชีวิตของเขา

ที่มีทุกข์

 

และบอกว่า

วันที่ 23 ก.พ.นี้เป็นวันเกิด

ได้ส่งเงินมาร่วม

ทุกบุญ 40 ปอนด์

 

สุขสันต์วันเกิดนะคะ

 

ส่วนอีกท่านหนึ่ง

จำไม่ได้ว่า ชาติไหน ชื่ออะไร

ส่งมา 15 ยูโร

 

ขออนุโมทนา

ทั้งสองท่าน และ

 

ท่านอื่นๆ

ที่เป็นคนในเมืองไทย

หรือเมืองนอก ที่โอนมา ส่งมา

แต่ไม่ได้นำมาเอ่ยนาม

ท่านได้รับบุญเต็ม

ตามเจตนารมย์ของท่าน

อย่างแน่นอน

--------------------------------

อ.อุบล

เดาเอานะว่า

ท่านที่อ่าน รออ่าน หรือ

อยากจะอ่านต่อ

 

รอว่า

เมื่อไหร่ อ.อุบล

จะบอกวิธี ที่ทำให้มีฤทธิ์

หรือ

เกิดบุญฤทธิ์

แบบง่ายๆ ชัดๆ ตรงๆ เร็วๆ

สักที มัวแต่เยิ่นเย้อ

อยู่นั่นแหละ

 

แหะ แหะ

อันนี้ บอกได้เลยว่า

ไม่รู้วิธีแบบนั้นหรอก แต่จะบอก

ได้เพียงว่า อ.อุบล ทำมาอย่างไร

จึงได้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้

อันนี้บอกได้ เล่าได้

ก็จะเล่าไปเรื่อยๆ

 

อันที่จริง

ถ้าท่านช่างสังเกตุนะ

คงใช้วิธีค้นหาไม่ยาก

 

ก็ดูนิสัย อ.อุบล

ดูความประพฤติ ดูการกระทำ

ดูรายการ ดูเวปไซด์

ทั้งหมด ก็คือ การตอบโจทย์ได้

 

แต่บางคน

อาจบอกว่า โอ้ย มันเยอะ

ไม่รู้จะอ่านยังไงไหว

ไม่รู้จะดูยังไงหมด

 

อยากเอาแบบสั้นๆตรงๆ

บอกปุ๊บ มีฤทธิ์ปั๊บเลยน่ะ มีป่ะ

 

ถ้ามี

สงสัย เหาะ ได้

เหาะชนกัน สนั่นเมืองเลย

 

บุญ

บารมี

ต้องสะสม

ให้เป็นสันดาน

ไม่ใช่แค่เป็นนิสัยนะ

 

แต่

ไม่ได้แปลว่า

อ.อุบล แกมีสันดานดีนะ

 

ก็คิดง่ายๆว่า

ขนาด อ.อุบล สันดานแก

ไม่ดี ไม่เป็นที่ พอใจคน บางคน

แกยังได้อะไรมาตั้งหลายอย่าง

 

แล้วทำไม

ท่านทั้งหลาย ที่ทำดีมา

มากกว่า อ.อุบล

บำเพ็ญบารมีมาเข้มข้นกว่า

นานกว่า หรือ ว่า เร็วกว่าแต่มากกว่า

ทำไม จะไม่ได้อะไร

ที่มากกว่า อ.อุบล ล่ะ

 

มันมาติด มาขัดตรงไหน

มันถึง พูดแล้ว บอกแล้ว เขาไม่หาย

หรือ ว่า

ปาฎิหาริย์ มันไม่เกิด

มันมีอะไร ที่ซ่อนอยู่ ที่ท่านอยากรู้

 

อ.อุบล

ก็ไม่รู้ เพราะ ไม่รู้ว่า

ท่านทำอะไรกันมามั่ง

 

แต่ถ้าจะบอกว่า

อ.อุบล ทำอะไรมามั่ง

อันนี้บอกได้

 

แต่บอกแล้ว

มันจะเป็นการโฆษณาตัวเอง

อันนี้ ต้องขอบอกว่า เสียใจ

โฆษณาไม่ได้เลย

ขายไม่ออก

เพราะ ไม่มีดี จะโฆษณา

 

เอาเป็นว่า

คำถามที่ท่านอยากรู้

แล้ว

อ.อุบล ตอบไม่ได้

 

อ.อุบล จะถามพระให้

ถามหลวงพ่อให้

ถามเสด็จพ่อให้ ดีไหม

 

ใครอยากถามอะไร

ถามมาเลย วิธีที่ทำให้

อ. อุบล มีบุญฤทธิ์

จนเกิดปรากฏการณ์

บ้านสวนพีระมิด

 

เหมือนสวิทไฟ

เปิดปุ๊บ ติดปั๊บ หายทันที

ไม่ต้องมียากิน ยาฉีด

ไม่ต้องผ่าตัด

มะเร็ง โรคร้าย แค่ไหน

ก็หายได้ทันที

อันนี้

 

ที่ใครๆ ว่ามีที่เดียว(รึป่าว)

มันต้องฝึกยังไง

อ.อุบล แกฝึกกับครูคนไหนหว่า

แกฝึกตอนไหนหว่า

ตอนแกฝึก แกแต่งตัวยังงี้หรือหว่า

 

อ้าว

อย่างนี้

ต้องแต่งตัวเหมือนแกก่อนป่าวหว่า

 

ยายเหมี่ยว ยายแมว

ตายแน่ ตายแน่

ใส่ชุด อ.อุบล ไม่ได้

 

ไม่จริงนะขอบอก

ยายแมว ใส่ชุด อ.อุบล ได้สบาย

หลวมด้วย

 

นี่เป็นปาฏิหาริย์รึเปล่าเนี่ย

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 18:12:05


ความคิดเห็นที่ 955 (1598332)

เอ้า

เอาใจแฟนๆหน่อย

 

อ.อุบล ฝึกยังไง

เอาตอนท้าย ไปหาตอนต้นละกัน

นะวันนี้

 

อ.อุบล

แกมีครูดี อีกนั่นแหละ

แกมาเจอครู คนต่อจาก

หลวงพ่อเสงี่ยม โอภาสี ลพบุรี

 

ก็คือ

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

 

อ.อุบล

อ่านหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ตอบปัญหาธรรม

ประวัติหลวงพ่อปานปุ๊บ

สนุกปั๊บ

ชอบวิธีสอนธรรม ของหลวงพ่อ

 

จริตมันตรงกับ

ลีลาของหลวงพ่อ

ก็เลยสนุก กับการอ่าน

 

อ่านแล้ว สดุดใจ เรื่องฤทธิ์

หลวงพ่อสุ่น หลวงพ่อปั้น

หลวงพ่อปาน

 

ครูบาอาจารย์

ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

 

แล้วท่านก็บอกอะไรเรา

ตรงๆ ไม่ปิดบัง

 

ไอ้เรามันคน

1.ชอบลอง

2.คนหูเขา เชื่อง่าย

3.แล้วก็เป็นคนโง่

 

อันนี้

เข้าข่ายเลย

หลวงพ่อปานบอกว่า

ถ้าเอ็งจะเรียนกับข้า

เอ็งต้องเรียนแบบคนที่โง่ๆ

ห้ามฉลาด

 

ถ้าฉลาด ข้าจะไม่สอนเอ็ง

 

อันนี้

อ.อุบล เกิดอาการ

กระหยิ่ม ยิ้มย่อง ผ่องใส ในใจเลย

 

เราทั้งนั้นเลยนี่หน่า

คุณสมบัตินี้น่ะ ไม่ต้องพยายามเลย

โง่เป็นปกติอยู่แล้ว

 

แล้วท่านให้ใช้ศรัทธา

อันนี้เต็มร้อย ศรัทธาแบบไม่สงสัย

ไม่ระแวงเลย 100 %

 

แต่ไม่ใช่พวกศรัทธาจริต

 

หลวงพ่อบอกจริต

มี 6 อย่าง

ขี้เกียจบรรยาย

เดี๋ยวออกนอกเรื่องอีก

 

พูดถึงแค่

ศรัทธาจริตแล้วกัน

นอกนั้นไปค้นหากันเอาเอง

 

ศรัทธาจริต

หลวงพ่อบอก คือพวก

เชื่อง่าย ไร้เหตุผล

(สิ้นคิด อันนี้เติมเอง จะไม่ให้บอกว่า

สิ้นคิดได้ไง พวกนี้ เห็นอะไรแว๊บๆ

เชื่อหมด เห็นคนเขาบอกว่า

เขาได้มโน เห็นโน่น เห็นนี่ ก็เชื่อเขา

ทั้งที่ตัวเองก็ไม่เห็น พิสูจน์อะไรก็ไม่ได้

แต่เชื่อ แล้วก็ไปเดินตามเขา บ้า...)

 

แต่ อ.อุบล

เป็นพวก ดื้อรั้น ไม่เชื่อใครง่ายๆ

กล่อมยาก ชักจูงยาก

ไม่สนสิ่งล่อ เอาประโยชน์มาล่อ

ก็ไม่สน ยิ่งต่อต้าน นี่คือ

สันดาน อ.อุบล นะ

 

ยกตัวอย่าง

ใครบอก มาขอพบ

วันธรรมดา

จะเอาเงินมาทำบุญด้วย

หรือ

จะมาหา ผิดกฏ มาซื้อพาเมล่า

อันนี้ บอกเลย อย่าฝัน

และ

อ.อุบล จะถือว่า ดูถูก

และ

อ.อุบล จะถือเอาเป็นเหตุผล

ส่วนตัว ที่จะไม่อนุญาต บุคคลดังกล่าว

ให้เข้าบ้านสวน+มาพบ อ.อุบล

 

เพราะ

มาอ้างว่า จะมาซื้อของด้วย

จะเอาเงินมาทำบุญด้วย

แล้วมาขอ

สิทธิพิเศษ ไปไกลๆเลยนะ

---------------

ยาวอีกแระ

 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

บอกว่า

ฤทธิ์ ต้อง ทรงกสิณ 10

อันนี้ ตรง เผงเลย

 

ผู้ใด

ฝึกกสิณ 10 อย่าง

ต้องมีฤทธิ์ แน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์

 

อ.อุบล

ฝึกครั้งแรก

ฝึกแค่กสิณดินอย่างเดียว

เพราะเราพวก ไม่หวังผลทางฤทธิ์

 

คิดแค่ว่า

หน้าอย่างเรา จะไปเอาฤทธิ์

มาจากไหน เป็นไปไม่ได้หรอก

เราไม่ใช่พระ ไม่ใช่ชี ไม่ใช่คนดี

ไม่ใช่ผู้ปฎิบัติ เราเป็นแค่

ชาวบ้านธรรมดา

 

แต่หลวงพ่อบอกว่า

คำสอนพระพุทธเจ้า

ไม่ได้สงวนไว้สำหรับนักบวช

หรือพระเท่านั้น

 

ชาวบ้านก็ฝึกได้

 

พระอริยเจ้า

ขั้นต่ำสุด คือ พระโสดาบัน

ก็คือชาวบ้านขั้นดีนั่นเอง

 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เป็นผู้จุดประกาย ให้ความหวัง

ว่า

การฝึกกรรมฐาน ทั้ง 40 กอง

เราก็ทำได้

 

อ.อุบ

ก็เลย ลองฝึก กสิณดิน ก่อน

ฝึกจากเทปหลวงพ่อนั่นแหละ

หลวงพ่อสอนง่ายๆ

เราก็ทำแบบ ง่ายๆ

 

หลวงพ่อบอกให้ฝึกแบบ

โง่ๆ ห้ามฉลาด

เราก็ฝึกแบบโง่ๆ เราไม่ฉลาด

เราไม่คาดหวัง เราไม่อยากเห็น

เราไม่อยากรู้ เราจะฝึกตะพึดตะพือ

ฝึกทุกวี่ทุกวัน แต่ไม่เคร่งเครียด

 

อ้อ

เล่าผิด ไม่ถึงกับ

ทุกวัน หรอก บางวันมีธุระ

ก็ไม่ได้ฝึก

 

บางวันสาระแนเรื่องชาวบ้าน

ก็ไม่ได้ฝึก

 

บางวัน

แด่ แด๊ ก็ไม่ได้ฝึก

 

แต่ถ้าวันไหน

ใจมันว่างๆ ก็จะฝึก

 

แถมตอนฝึกนี่นะ

นอนฝึกตลอด ขอบอก

 

ไม่เคยนั่งฝึกเล้ยยย

 

อันนี้เรื่องจริง

 

นี่บอกแล้ว

จะให้บอกวิธีฝึกที่ถูกต้อง

บอกไม่ได้หรอก

 

แต่ถ้าบอก

วิธี ที่ อ.อุบล ฝึกละก็

สบายบื๋อเลย

 

น่าเอาอย่างไหมล่ะ

 

คนขี้เกียจอย่าง

อ.อุบล เนี่ย

 

เอ

อ่านมาถึงตรงนี้

ยังคิดอยากอ่านต่อไหมเนี่ย

 

คิดแล้วเราจะเอาอย่าง

อ.อุบล แกดีไหมเนี่ย

ดูแก ไม่เห็นน่า ได้ฤทธิ์เลย

หรือ

ท่านผู้อ่านว่าไง

โดยเฉพาะ พ่อใหญ่ธนา

ไปหาฝึก ที่อื่นดีกว่า มารออ่าน

จาก อ.อุบล มั้ง

 

555

อ.อุบล

นอนฝึกกสิณ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 18:46:12


ความคิดเห็นที่ 956 (1598339)


แล้วใครจะเป็นคน

ลงเวปให้ล่ะ

เพราะ สปีด ความเร็ว

เน๊ทบ้านสวน ลงคลิปไม่ได้

ใครจะอาสาจ๊ะ

***

ถ้ายังไม่มีใครอาสา ผมขอสมัครครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 20:13:11


ความคิดเห็นที่ 957 (1598341)

โดยเฉพาะ พ่อใหญ่ธนา

ไปหาฝึก ที่อื่นดีกว่า มารออ่าน

จาก อ.อุบล มั้ง

 

555

อ.อุบล

นอนฝึกกสิณ

พอได้อ่านปุ๊บ ต้องยิ้มแล้วยิ้มอีกครับ หัวเราะคนเดียวใครเห็นคงหาว่าผมบ้าแน่ๆ

เมื่อก่อนนั้นผมลีลาเยอะเหลือเกินครับ จะสวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็ต้องตั้งท่าลีลาก่อน กลัวว่าจะไม่ขลัง ไม่ได้ผล อย่างนั้นอย่างนี้

พอมาบ้านสวนฯ ได้ฟังท่านอาจารย์สอนนานมาแล้วล่ะครับว่า ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ทำที่ใจ ไม่ต้องลีลาเยอะ ไม่ทันกิน ทำได้ทุกเวลา ไม่เลือกสถานที่ ถ่ายก็ทำได้ นอนก็ทำได้ ไม่ว่าจะสวดมนต์หรือนั่งสมาธิก็เหมือนกัน

หลังจากได้ปัญญา ตาสว่าง วันนั้นจนถึงวันนี้ ผมก็เลยไม่สนใจท่าทางไรมากมาย อยากปฏิบัติท่าไหนก็ทำ ทั้งนั่ง ทั้งนอน สบายใจ โล่งใจสบายใจสุดๆแบบว่าไม่มีอะไรกดดันเลย ไม่ต้องพิธีรีตรองเหมือนก่อน ยิ่งหลังๆมานี้ผมชอบนอนสวดมนต์+ทำสมาธิมากเลย

พอได้อ่านท่านอาจารย์เขียนแบบนี้ เลยอดอมยิ้ม หัวเราะตัวเองไม่ได้ แต่ของผมอาจชอบเพราะว่าตัวเองรู้สึกสบายใจ ไม่เครียดหรือง่ายๆก็คือ ผมขี้เกียจครับ  ฮ่าๆๆๆ

สรุปคือ

ชอบมั่กกก ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 20:22:58


ความคิดเห็นที่ 958 (1598344)

พอ พ่อใหญ่ธนา

พูดถึงเรื่อง ท่าเยอะ ลีลาเยอะ

เลยนึกถึง คุณโฆษิต

แกจบปริญญาโท

ท่าแกเลยเยอะ ลีลาแกเลยเยอะ

แต่

แกไม่ได้เนื้อเลย

มันไปเป็นลีลาหมด

 

เมื่อวันเสาร์

ตอนสมาทานศีล

แกเลยไม่หายสักที

เพราะ

เบื้องบนท่าน บอก ผิดวิสัย

ในความเป็นธรรมชาติ

 

ท่านบอก

ไอ้หมอนี่ ดัดจริต

ไม่เป็นธรรมชาติเลย

ท่าเยอะ ลีลาเยอะ แต่สาระไม่มี

 

จนกระทั่ง

ต้อง เท๊ค ใหม่ หลายรอบ

กว่าจะสอบผ่าน กว่าจะหาย

 

ธรรมทาน

ช่วงคุณโฆษิตนี่

น่าเล่าที่สุด เพราะมีประโยชน์มาก

 

 

แล้วเจ้าตัว

ต้องเล่าเองด้วยนะ

 

 

เพราะอะไร

เพราะก่อนกลับ คุณโฆษิต

มาลา

ให้พร ไปหลายพร

 

ตัวเขาเลยเสริม

ว่า

ขอให้หายโง่ด้วยครับ

 

อ.อุบล

เลยบอกว่า

เออ ต่อไปนี้ ต้องให้พร

ว่า

ขอให้ฉลาดๆ ด้วย

 

เอาเป็นว่า

ขอให้เก่งเหมือนพระโมกขลาฯ

ให้มีปัญญาเหมือนพระสารีบุตร ทุกคน

ก็แล้วกันนะ

 

-------------------------

ด้วยความที่

คนเรา ท่ามาก ลีลามาก

บางคนนะ

ก่อนสวดมนต์

ต้องแต่งชุดขาว ไม่งั้นสวดไม่ได้

 

ป๊าดโธ่

ถ้าน้ำพาโคลนพัดมา

เสื้อผ้า มันเลอะหมด เป้นอันว่า

ไม่ต้องสวดมนต์นะ

เพราะชุดไม่สวย ไม่สะอาด

 

แต่

เห็นคนที่

แต่งชุดขาว ปฎิบัติธรรม

แล้วมีทุกข์ แล้วสงสาร

 

ไหนจะกลัวชุดเลอะ

นั่ง นอน เดิน ก็ห่วงชุดเปื้อน

ใจมันกังวลแค่นี้ ก็ไปนรกได้แล้ว

 

ผิดกับพวก

แต่งตามสบาย สวดได้

ภาวณาได้ ทุกที่

 

พวกนี้มันใจสบาย

ไม่มีความกังวล กุศลเลยได้มาก

 

เพราะ

กุศล หรือ บุญ

ที่แท้จริง คือ ความหลุดพ้น

 

ที่เราทำทุกอย่าง

บำเพ็ญทุกอย่าง เป้าหมาย

มีอย่างเดียว คือ ความหลุดพ้น

 

หรือเรียกให้เทห์หน่อย

ก็คือ

เพื่อให้ มีจิตหลุดพ้น

 

ถ้าใครปฎิบัติธรรมแล้ว

สวดมนต์เก่งแล้ว

ยังทุกข์ ยังเศร้าหมอง ยังเครียด

อันนี้ ถือว่า ยังห่างไกล

พระพุทธเจ้า

 

ไอ้ที่เล่ามาทั้งหมด

ว่ารู้ธรรมเยอะ

พวกนี้ สรุปได้เลยนะ

ขี้คุย ขี้โม้

แต่ไม่ได้ปฎิบัติ

หรือ

ปฎิบัติไม่ได้ ไม่สำเร็จ

 

หรือ

ไม่สำเร็จในธรรม

นั่นเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 20:55:33


ความคิดเห็นที่ 959 (1598345)

บุญฤทธิ์

ของ อ.อุบล เกิดตอนไหน

 

มีคนอยากรู้เยอะ

 

มีคนอยาก

เป็นอย่าง อ.อุบล เยอะ

 

อ.อุบล

ก็ปรารถนาให้

มีคนเป็นอย่างนี้เยอะๆ

(จะได้ไม่ต้องเหนื่อย เพราะมีคนช่วยแบ่งเบา)

 

และโลกจะได้ไม่ต้อง

เกิดภัยพิบัติไง

 

เบื้องบน

ท่านก็เลย สงสาร อ.อุบล

จึงประทาน รหัสจักรวาลมาให้

 

อันที่จริง

รหัสนี้ ยิ่งกว่ารหัสสวรรค์

เพราะ ฤทธิ์นี้ เป็นฤทธิ์ระดับ

จักรวาลนะ

 

เพราะ

ใช้ได้ผล ทั้งกับคน

กับสัตว์

 

กับเทพ พรหม เทวดา

เชื่อมถึงกันได้หมดทั้ง

16 ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน

 

เดี๋ยวมาโม้ใหม่นะ

เอ

สงสัยไม่มีคนอ่านมั้งเนี่ย

คุณชนิดา

ไปไหนแล้วเนี่ย

กลับโปแลนด์รึยังจ๊ะ

อ้อ

ยังอยู่ ร้อยเอ็ด ไม่มีเน๊ท

ให้เข้ามาเม้นต์

555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 21:14:37


ความคิดเห็นที่ 960 (1598349)

 อ.อุบล แกฝึกกับครูคนไหนหว่า

แกฝึกตอนไหนหว่า

ตอนแกฝึก แกแต่งตัวยังงี้หรือหว่า

อ้าว

อย่างนี้

ต้องแต่งตัวเหมือนแกก่อนป่าวหว่า

ยายเหมี่ยว ยายแมว

ตายแน่ ตายแน่

ใส่ชุด อ.อุบล ไม่ได้

ไม่จริงนะขอบอก

ยายแมว ใส่ชุด อ.อุบล ได้สบาย

หลวมด้วย

นี่เป็นปาฏิหาริย์รึเปล่าเนี่ย

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ปาฏิหาริย์ค่ะ..ปาฏิหาริย์

555++

ฮุ้ย.ย.ย.ย

มิหนำซ้ำ ชุดที่ อ.อุบล ให้มาใส่นี่นะคะ

ได้เมตตา มหานิยมด้วยอ่ะค่ะ ก๊าก ๆๆ

ขึ้นรถเมล์ มีคนลุกให้นั่ง ตาล๊อด.ด.ด


 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 21:41:25


ความคิดเห็นที่ 961 (1598350)

กุศล หรือ บุญ

ที่แท้จริง คือ ความหลุดพ้น

ที่เราทำทุกอย่าง
บำเพ็ญทุกอย่าง เป้าหมาย
มีอย่างเดียว คือ ความหลุดพ้น
หรือเรียกให้เทห์หน่อย
ก็คือ
เพื่อให้ มีจิตหลุดพ้น
ถ้าใครปฎิบัติธรรมแล้ว
สวดมนต์เก่งแล้ว
ยังทุกข์ ยังเศร้าหมอง ยังเครียด
อันนี้ ถือว่า ยังห่างไกล
พระพุทธเจ้า 

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

 

เส้นทางแห่งการหลุดพ้น 

เพียงเท่านี้ที่ต้องการ..

  สาธุ ๆๆ ค่ะ

 


ขอบพระคุณมาก ๆ นะคะ

 

 

อ.อุบล คำสอนของ อ.อุบลนี้

 

อ่านแล้ว ฮา...แบบ สาระแน่นเอี๊ยดค่ะ

-*-*-*-*-*-*-*-

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 21:46:32


ความคิดเห็นที่ 962 (1598355)

สาธุ  ค่ะ

อ.แม่อุบล ที่เคารพ

หนูรออ่านต่อเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 22:13:56


ความคิดเห็นที่ 963 (1598359)

 

กราบ คุณแม่อุบล ครับ

                  ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่  สำหรับคำสอนทุกสิ่งทุกอย่างจากคุณแม่ ครับ

                      มาขออนุญาตอ่าน  พร้อมกับลูกบ้านสวนฯ ทุกๆ ท่าน ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา (kunagorns-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 22:40:03


ความคิดเห็นที่ 964 (1598363)

 มีครับท่านอาจารย์ เชื่อว่ามีคนแอบอ่านอยู่เยอะ แอบเอารหัสไปใช้ก็เยอะ อย่างน้อยผมคนนึงละครับ ที่แอบใช้อยู่ประจำ แต่ก็แอบอุทิศบุญให้กับท่านเทวดาที่ดูแลรักษาท่านอาจารย์อุบลอยู่เหมือนกัน...เอ๊ะ หรือไม่ต้องแอบอุทิศครับ 

ผมขอเป็นศิษย์โง่ๆ ฟังธรรมะจากท่านอาจารย์ และนำไปปฏิบัติให้เกิดปัญญานะครับ...แต่บางทีก็เกิดปัญหาซะนี่ ตอนแรกๆ เข้ามาบ้านสวนฯ กะว่าจะได้ฝึกสมาธิอย่างที่เคยฝึกมาก่อน แต่อยู่ไปก็มีแต่ใช้แรงงาน หนักขึ้นทุกวัน ทุกอาทิตย์ ก็คิดว่าไหนล่ะเวลาฝึกปฏิบัติอยู่ตรงไหนล่ะ...คือตัวผมมันโง่คิดไม่ออก ว่าทุกอิริยาบถนั่นแหละ คือการฝึกสมาธิ ไม่ใช่ว่าต้องนุ่งขาว นั่งนิ่งๆ เดินเนิบๆ พูดนิ่มๆ หัวก็อ่อนนิ้มนิ่ม...สุดท้ายตอนนี้ ก็ยังโง่เหมือนเดิม...อ้าว แล้วจะพูดทำไมล่ะเนี่ย

แต่ถึงวันนี้ก็พอจะรู้สึกได้เองว่า ตั้งแต่มาบ้านสวนฯ จิตใจเข้มแข็งขึ้น ความวิตกกังวลลดน้อยลง ลดอัตตาตัวตนได้มากขึ้น...แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้น รวมทั้งโน้น ตัวผมเองก็มิอาจจะฝึกให้ตัวเองมีฤทธิ์หรือบุญฤทธิ์ได้ ถ้าจิตและใจ ยังคงหลงอยู่ในกิเลสทางโลก สนุกสนานอยู่กับโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ก็อย่าได้หวังเลยว่าจะมีฤทธิ์ทางธรรม...ดีไม่ดีอาจจะมีน้องริดซี่ดวงมาเยือน น่าจะง่ายกว่ามั้งครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 22:50:15


ความคิดเห็นที่ 965 (1598371)

ด้วยความที่

คนเรา ท่ามาก ลีลามาก

บางคนนะ

ก่อนสวดมนต์

ต้องแต่งชุดขาว ไม่งั้นสวดไม่ได้

 กราบขอบพระคุณค่ะ ที่ให้ความกระจ่างอีกครั้ง กับคำว่า

ทำความดี  ทำได้ทุกที่  ทุกเวลา  สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 23:21:03


ความคิดเห็นที่ 966 (1598372)

พี่มหา เข้าใจผิดนะ

ริดสีดวง ไม่ใช่จะเป็นกันได้ง่ายๆนะ

 

กว่าจะได้เป็นริดสีดวงนี่นะ

มันต้อง

1.รังแก ทำร้าย ก้นสัตว์ ก้นคน

2.ใช้ก้นของตน ในทางที่ผิดนะ

3...............ไม่บอก ปล่อยให้งง

 

สรุปว่า

สมาธิจริงๆ

ตอนใช้ ไม่ต้องหลับตา

 

ตอนนี้

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

มาโปรด

 

ให้ อ.อุบล

ใช้สมาธิ ลืมตา กับลูกหลาน

หลวงพ่อ ที่มาฝึกบ้านสวนฯ

โดยเริ่มตั้งแต่

เสาร์ ที่ผ่านมา 18 ก.พ.55

ปรากฏว่า แต่ละคนชอบ

ไม่ง่วง ไม่หลับ ได้แนวปฎิบัติ

ได้รับคำตอบ สิ่งที่สงสัย

ได้หาย เจ็บป่วยไข้ ไม่สบาย

 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

สุดยอดจริงๆ

 

รู้อารมณ์ใจศิษย์

ว่า

พวกใช้แรงกาย พวกมารเยอะ

ต้องทำสมาธิ แบบลืมตา

ไม่งั้น

ไปเฝ้าพระอินทร์หมด

 

ที่พี่มหาได้รับนั้น

คือ

ผลอันยิ่งใหญ่

คือ

การมีจิตใจเข้มแข็ง

การละอัตตา

 

ต่อให้หลับตาทำสมาธิ

สักแสนชาติ แต่ จิตใจอ่อนแอ

มีอัตตาสูง ก็ยังไม่หลุดพ้น

ยังอยู่ในวังวนทุกข์

ยังไปนรกอยู่

 

แต่การละอัตตาได้

การมีจิตใจเข้มแข็งนี่นะ

เป็นยอดปรารถนา

ของทุกคน

 

ที่พระพุทธเจ้า

หาอุบายให้เราปฎิบัติ

ก็เพื่อ

เป้าหมายเดียวเท่านั้น

คือ

ความหลุดพ้น

 

การจะหลุดพ้นได้

จิตใจต้องเข้มแข็งก่อน

 

ต้องทนต่อแรงเสียดทานได้

การทนได้ ยังไม่ถือว่าหลุดพ้น

เป็นแค่สมถกรรมฐาน

ยังทุกข์อยู่ แต่ระงับกิริยาได้

เท่านั้นเอง

 

และ

ถ้าเมื่อไร ไม่ต้องทน

ต่อแรงเสียดทานทุกชนิด

นั่นคือ

ความหลุดพ้น ที่แท้จริง

ซึ่งก็คือ จิต เข้าสู่ อารมณ์

นิพพาน นั่นเอง

 

คำว่า

ไม่ต้องทน

ไม่ได้หมายความว่า

หลบผู้คน หลบสังคม ไปอยู่ป่า

อันนี้

ถือว่า อ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง

ไม่สู้ปัญหา เผชิญปัญหาไม่ได้

เห็นแก่ตัว

 

แต่การไม่ต้องทน

คือ

ไม่รู้สึกทุกข์ หรือ เครียด

หรือกังวล กับแรงเสียดทาน

หรือ ปัญหาทุกชนิด

 

จิต

เข้าถึงธรรม

คือ ธรรมชาติ ของคน

ของโลก มันก็เป็นเช่นนั้นเอง

 

และ

ใช้โอกาสนั้น

ให้เกิดอารมณ์เบื่อหน่าย

ในการเกิดเป็นคน

หรือ

เกิดเป็นอะไรก็ช่าง

 

เราจะไม่อยากเกิดอีก

เพราะ

เห็นทุกข์ เห็นปัญาหา จากการเกิด

 

อันนี้เรียกว่า

ใช้ปัญญา พิจารณา

แรงเสียดทาน ที่เข้ามาหา

แล้วไม่ต้องทน

ต่อแรงเสียดทาน

 

แต่ใจ ทรงอารมณ์ อุเบกขา

ได้เป็นปกติ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 23:22:10


ความคิดเห็นที่ 967 (1598406)

กราบขอบพระคุณ อ.อุบลสำหรับคำสอนทุกสิ่ทุกอย่างค่ะ

หนูมักจะทำสมาธิตอนทำงาน

เวลาหนูนวดให้ลุกค้า หนูก็ทำสมาธิพร้อมๆกับท่องคาถานวดของหลวงพ่อ

ฤาษีไปด้วยคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ระพีร์ เพอร์รี่ (rapeeperry-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 04:18:29


ความคิดเห็นที่ 968 (1598410)

 รู้อารมณ์ใจศิษย์

ว่า

พวกใช้แรงกาย พวกมารเยอะ

ต้องทำสมาธิ แบบลืมตา

ไม่งั้น

ไปเฝ้าพระอินทร์หมด

*********************************

กราบขอบพระคุณหลวงพ่อ และอ.แม่ค่ะ

รู้ใจลูกหลานจริงๆเลยค่ะ อิอิ

ยอมรับค่ะว่าแทบทุกครั้งที่นั่งสมาธิ หลับตานานๆ

มักจะขึ้นไปเข้าเฝ้าพระอินทร์เป็นประจำ

ยังสู้กับนิวรณ์ไม่ได้ซักที แพ้มันอยู่เรื่อย

ถึงสู้ไม่ได้ แต่ได้วิธีรบแบบใหม่

ไม่ต้องพ่ายแพ้ให้กับนิวรณ์อีกแย้วววววว 

กราบขอบพระคุณค่ะ สาธุ สาธุ

****************************

และ

ถ้าเมื่อไร ไม่ต้องทน

ต่อแรงเสียดทานทุกชนิด

นั่นคือ

ความหลุดพ้น ที่แท้จริง

ซึ่งก็คือ จิต เข้าสู่ อารมณ์

นิพพาน นั่นเอง

 *********************************

จะพยายามทำให้ได้ค่ะ

บางทีเจออะไรเข้ามากระทบจิตใจตัวเอง

ก็มักจะบอกกับตัวเองเสมอว่า

ทนๆเอาน่า  ช่างมันเถอะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

ก็กลายเป็นว่าเราทน และไม่ได้หลุดพ้นอย่างแท้จริง

โง่เขลามาตั้งนาน ต่อไปจะรู้จักปล่อยวาง

และคิดให้ได้ว่าทุกสิ่งตั้งอยู่และดับไป

อะไรๆที่เกิดขึ้นล้วนเป็นธรรมชาติที่เราต้องเจออยู่แล้ว

และก็ไม่ได้มีแค่เราที่ต้องเจอ

ทุกคนก็ล้วนต้องเจอสิ่งเหล่านี้กันหมด

เพียงแต่จะมาในรูปแบบไหน แค่นั้นเอง

จะพยายามอุเบกขาให้ถูกวิธี และจะทำใจให้เป็นปกติ

เหมือนที่คนปกติจะต้องเป็นให้ได้ค่ะ

กราบขอบพระคุณอ.แม่อีกครั้งนะคะ

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 05:24:48


ความคิดเห็นที่ 969 (1598412)

กราบคุณแม่อุบล

              ขอน้อมกราบ ต่อการมาโปรด ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ให้ลืมตาทำสมาธิ ครับ 

              กราบต่อคำสั่งสอน แนะนำ และ บอกกล่าว ของคุณแม่อุบล ครับ

              เพราะ บ่อยๆ ที่ทำสมาธิ ต้องไปเข้าเฝ้าท่านเทวดา พระอินทร์ เป็นประจำ ครับ

              สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา (kunagorns-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 06:47:32


ความคิดเห็นที่ 970 (1598423)

ขอกราบขอบพระคุณ สำหรับธรรมทานจากท่านอาจารยอุบล ครับ อ่านแล้วโดนใจมาก

บางทีก็รู้สึกว่าตัวเอง อ่อนแอ เวลาเจออะไรที่ไม่ถูกใจเราก็ หลบๆเลี่ยงๆ หนีปัญหา ทั้งๆที่ความจริงโลกนี้ เราก็ต้องพบเจอกับสิ่งที่เรา"ชอบ" และสิ่งที่เรา"ไม่ชอบ" เป็น "ธรรมดา" อยู่แล้วแต่ใจเราเองที่ไม่ยอมรับความจริงฝืนกฏของธรรมดา เมื่อเจอสิ่งที่ น่าพอใจ ก็ "สุข" เมื่อเจอสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ก็ "ทุกข์"  ทุกๆครั้ง ตัวเองก็ทำได้แค่ หนี กับ ทน ยังปล่อยวางจริงๆไม่ได้สักที กำลังใจยังไม่สูงพอ อ่านแล้วมานั่งคิดตาม ว่าการเกิดมันเป็นทุกข์ ถึงสุข ก็สุขปลอมๆ ชั่วคราวแค่นั้นเองจริงๆ  

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 09:22:58


ความคิดเห็นที่ 971 (1598509)

 

กราบเท้าขอบพระคุณธรรมทานค่ะ

ท่านอาจารย์

ตอนนี้หนูฝึกไม่ให้ติดทุกอย่างที่ขวาง

ทางพระนิพพาน

ตั้งแต่ได้พบกับท่านอาจารย์อุบลดีขึ้นมาก ๆ

แต่

ตอนนี้ที่หนักขึ้นทุกวันคือ

ติดคำสอนท่านอาจารย์ค่ะ

กราบ กราบ กราบ  สาธุ...

ปูเสื่อรออ่านต่อเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 13:44:09


ความคิดเห็นที่ 972 (1598530)

 

กราบขอบพระคุณที่ท่านอาจารย์ชี้ทางสว่างในแนวปฏิบัติแบบลืมตา เพราะถูกจริตมาก ทำสมาธิแบบเดิมจิตมันมักจะชอบคิด โน่น นี่ นั่น ตลอด สิ่งที่ลืมไปแล้วดันมานึกได้ตอนนั่งสมาธิทุกที หรือไม่ก็จะสัปงก คำนับอาจารย์ หลวงพ่อท่านคงสังเวชลูกศิษย์ที่ไม่ได้เรื่องซะที จนท่านต้องเมตตาหาวิธีอื่นแทน กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิทุกๆพระองค์ด้วยค่ะ

ลูกจะตั้งมั่นมุ่งสู่ นิพพาน ให้ได้ ตามรอยพระพุทธองค์ และท่าน อ.อุบล แม้ว่าอุปสรรคขวากหนาม สิ่งที่ทดสอบจิตเข้ามามากเหลือเกิน บางครั้งก็สอบได้บ้าง  ไม่ได้บ้าง จะพยายามสู้ต่อค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ (fareastinn-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 15:41:00


ความคิดเห็นที่ 973 (1598539)

กราบขอบพระคุณค่ะ ท่านอาจาร์ยอุบล  ลูกจะรออ่านต่ออีกค่ะ  สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา กาลมัชฌิมา (jantira_123-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 16:24:50


ความคิดเห็นที่ 974 (1598581)

อ.อุบล

เริ่มฝีกกสิณดิน

ได้ไม่นาน ก็ได้รับการสื่อสาร

แปลกๆ ที่ตัวเอง ก็ไม่ทราบ

ว่า คืออะไร

-------------------------------

ตามที่เคยเล่าไปแล้ว

คือ

 

มีข้อความขึ้น

หน้าจอทีวี ที่ไม่ได้เปิด

ว่า

ดตาจินิน

 

เห็นชัดเจนมาก

จนต้องจดไว้ เพราะกลัวลืม

 

สักครู่

มีข้อความใหม่

ว่า

เจ้ากรรมนายเวร

99

 

ซึ่งก็ไม่ทราบว่า

เกี่ยวข้องกับการฝึกกสิณ

หรือว่า บังเอิญ

 

ตั้งแต่นั้นมา

ก็มีปาฎิหาริย์เกิดขึ้น

มากมาย จนตัวเอง ตั้งตัวไม่ติด

 

แล้วตอนนั้น

ก็ยังไม่ได้คิดว่า

นี่เพราะฤทธิ์ของ

กสิณดิน

ที่เราฝึกกับ

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

 

อันที่จริง

ฝึกคนเดียว แต่รู้สึกว่า

หลวงพ่อเมตตา

มาฝึกให้

 

หลวงพ่อรู้ว่าเราคิดอะไร

 

พอเราคิดว่า

เอ เราคิดไปเอง รึเปล่า

 

หลวงพ่อ

ก็สร้างสาเหตุ

สร้างหลักฐานให้เราแน่ใจทันที

 

โดย

ดัดสันดานเรา

เรื่องคอขาดบาดตาย

จะได้ไม่ลังเลสังสัย คิดว่าอุปทาน

 

โดย

ให้สามีเสียชีวิต

ให้ลูกประสบอุบัติเหตุ

หมอบอกลูกต้องเสียชีวิตคืนนี้

 

นี่

หลวงพ่อ

เล่นแรงแบบนี้เลย

จะได้เชื่อ ซะที

 

ถ้ามัวให้คิดเอง

มันโง่ คิดไม่ได้ ไม่เชื่อความดี

ไม่เชื่อว่า ไอ้ที่ตัวเองฝึกนั้น

มันมีฤทธิ์ทางใจจริง

ก็ลองให้

ลูกผัวมันลองตายดู

 

แล้วให้มันขอให้พระพุทธเจ้า

ให้หลวงพ่อช่วยดู

 

แล้วแถมตอนนั้น

ท่านมีข้อต่อรองกับเรา

ว่า

ถ้าช่วย ให้ลูกรอดตาย ไม่พิการ

ต้องไปเล่าในรายการทีวี.

ต้องช่วยคนต่อไป

 

ไอ้เราก็รับเลย

แล้วเมื่อเรากล้ารับ

ท่านก็กล้าช่วย ให้เห็นจะจะ

ให้หมองง

 

ปิดกั้นการรักษา

ของหมอ

ทุกวิธีเลย ให้ใช้บุญ

บารมีพระพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์

อย่างเดียวเลยที่ช่วย

 

นี่คือการเริ่ม

เห็นฤทธิ์ ของกสิณ

และบุญ

แบบ ชัดเจนมาก ครั้งแรก

 

และ

เป็นจุดเริ่มต้น

ของการต้องขยายความดี

ขยาย เผยแพร่ วิธี

ช่วยคนให้หายป่วย ให้รอดตาย

ได้ด้วย

บารมีพระพุทธเจ้า

และ

สร้างความดีด้วยตัวเอง

 

 

หลวงพ่อ

ก็ให้เรามั่นใจท่าน

มั่นใจพระพุทธองค์

 

แล้วในที่สุด

หลวงพ่อ ก็ให้เรา

มั่นใจว่า

เราติดต่อกับท่านได้

ติดต่อกับพระพุทธองค์ได้

จริงๆ พิสูจน์ได้

ด้วยผล ของการ รักษา

ซึ่งเกิดขึ้น

ทันที ทันได

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 22:33:01


ความคิดเห็นที่ 975 (1598583)

บุญฤทธิ์

ที่เกิดกับ อ.อุบล

ตามที่พ่อใหญ่ธนา อยากรู้

 

ว่ามีเหตุผลใด

ที่เป็นเหตุปัจจัยสำคัญมาก

ที่ทำให้เกิดขึ้น

ที่นี่ ที่เดียว ในโลก

(รึเปล่าไม่แน่ใจ พูดตามพ่อใหญ่ธนาก่อน)

 

อ.อุบล

ก็ไม่ทราบ ไม่แน่ใจ

ว่า จุดไหน เพราะ ทำมา

หลายอย่าง

 

แต่

เมื่อหลายคน อยากรู้

แต่

อ.อุบล ไม่รู้

 

ก็เลยกราบทูลถาม

พระพุทธองค์ให้แล้ว

 

พระพุทธองค์

ทรงเมตตา ตรัสตอบ

มาแล้ว

 

แต่คนอยากรู้

ไม่ทราบว่า เบื่อกันหรือยัง

 

ส่งเสียงหน่อยนะ

ถ้ายังอยู่

 

เพราะ

จะเข้าสู่คำตอบสำคัญ

แล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 22:40:10


ความคิดเห็นที่ 976 (1598590)

พระพุทธองค์

ทรงเมตตา ตรัสตอบ

มาแล้ว

 แต่คนอยากรู้

ไม่ทราบว่า เบื่อกันหรือยัง

*-*-*-*

ไม่เคยที่จะเบื่อกับสิ่งที่

ท่านอาจารย์แม่อุบล

จะให้คำตอบแก่

ญาติธรรมบ้านสวนเลยครับ

แล้วยิ่ง

พระพุทธองค์

 

ทรงเมตตา ด้วยแล้ว

ขอติดตามคำตอบ

และ

ปฏิบัติและติดตามเท่าที่จะทำได้

ทุกภพทุกชาติตลอดไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:08:29


ความคิดเห็นที่ 977 (1598599)

 

 

ท่านอาจารย์ของลูก ๆ

อย่านอนดึกนะคะหนูรอได้เจ้าค่ะ

กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:24:24


ความคิดเห็นที่ 978 (1598600)

แต่คนอยากรู้

ไม่ทราบว่า เบื่อกันหรือยัง

 

ส่งเสียงหน่อยนะ

ถ้ายังอยู่

*****

       ขอเข้ามาเสนอหน้าว่ายังอยู่ค่ะ  และไม่เคยเบื่อเลยค่ะ  แต่ก็เกรงใจท่านอาจารย์มากเลยค่ะ  เพราะอาทิตย์นี้  ท่านอาจารย์ให้ธรรมทานเยอะมาก ๆๆ  เขียนหลายกระทู้  อ่านไปก็นึกไปว่า  สงสัยจะใกล้ถึงเวลา  ที่เราต้องเจอสิ่งที่เราไม่อยากเจอ  ไม่อยากให้เกิด  เพราะทุกธรรมทาน  เตือนตลอด  กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:28:06


ความคิดเห็นที่ 979 (1598601)

ยังรอลุ้นคำตอบอยู่ค่ะ อาจารย์ขา

ทุกสิ่งที่เกิดเป็นบุญฤทธิ์ของผู้มีบุญ

หนูเห็นว่ามีที่นี่ที่เดียว (สำหรับความคิดหนู) ที่สอนคนให้เข้าใจถ่องแท้ในเรื่องของบุญ

วิธีการทำบุญ และการค้นหาเหตุแห่งทุกข์

เท่าที่เคยพบมาตนเองเคยไปสถานที่อื่นๆ นั้นก็ยังไม่สอนหรืออธิบาย

เรื่องของบุญให้เข้าใจเหมื่อนที่ อ.แม่สั่งสอนลูกศิษย์เลยค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:30:14


ความคิดเห็นที่ 980 (1598602)

อยากรู้ครับ...กราบขอบพระคุณในพระเมตตาของพระพุทธองค์ และท่านอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูงครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:34:05


ความคิดเห็นที่ 981 (1598603)

หนังตาตื่นเลยค่ะ รอติดตามคำตอบอย่างไม่มีทางเบื่อแน่นอน

กราบพระบาทพระพุทธองค์ กราบขอบพระคุณ ในความเมตตา ของ อ.แม่ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร (ananya-an-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:37:04


ความคิดเห็นที่ 982 (1598605)

 ลูกขอรับธรรมทานจากอาจารย์อุบลครับ

รออ่านครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 23:38:17


ความคิดเห็นที่ 983 (1598614)

กราบพระบาท

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ด้วยบุญฤทธิ์ ปาฎิหาริย์

ในบ้านสวนพีระมิดนี้

มีลูกหลาน และผู้คน จำนวนมาก

สงสัยว่า

เกิดขึ้นได้เพราะเหตุใด

ลูกไม่สามารถตอบเขาได้

 

ลูกขอความเมตตา

พระองค์ทรงตอบด้วยเถิด

พระพุทธเจ้าข้า

 

อันที่จริง ตถาคต

เคยบอกเธอไปแล้วเพียงแต่เธอ

ไม่กล้าบอกคนอื่นเอง เท่านั้น

เพราะนิสัยเธอ เป็นอย่างนี้ ส่วนหนึ่ง

เธอจึงได้รับ วิชาความรู้

จากตถาคต ไม่สิ้นสุด

 

คำว่านิสัยข้าพระพุทธเจ้า

เป็นเช่นนี้ คือ อย่างไร พระพุทธเจ้าค่ะ

 

คือ

เธอไม่ชอบโอ้อวด

ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ที่มีดี

หรือแม้แต่เขาไม่ค่อยมีดี

หรือ

ไม่มีดีเลย แต่เขาชอบอวดกัน

 

แต่เธอ

ไม่ชอบอวด

คนไหนชมเธอ เธอไม่บอกใคร

เธอรู้เธอเห็นอะไร

ถ้าสิ่งนั้น ไม่ช่วยให้ใคร หายป่วย

พ้นทุกข์ พิสูจน์ต่อหน้าคนได้

เธอไม่พูดเลย

 

นี่เป็นคุณสมบัติ

สำคัญยิ่งประการหนึ่ง

ที่จะทำให้ได้

บุญฤทธิ์

 

สาเหตุที่ลูก

ไม่โอ้อวด เพราะว่า

ลูกไม่เคยรู้สึกเลยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้

เป็นความสามารถของลูกเอง

อันนี้เป็นความจริงแท้

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

และ

เป็นความจริง

ที่พิสูจน์ได้เช่นกัน

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เธอพิสูจน์อย่างไร

ว่าไม่ใช่ ความสามารถของเธอ

ในเมื่อ คนทั้งโลก ก็ทำไม่ได้อย่างเธอ

 

ด้วยความสัจจริง

ลูกไม่ได้เป็นผู้ทำให้เกิด

เหตุการณ์นั้นแน่นอนเจ้าค่ะ

 

แล้วทำไมเธอคิดเช่นนั้น

 

เพราะ

ความจริงเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ

เพราะลูก ขอบารมีพระพุทธเจ้า

ตลอดเวลา บำเพ็ญตาม

คำสอน และ คำสั่ง

ของหลวงพ่อ

ของพระพุทธองค์

 

ดังนั้น

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น

ก็เกิดตามที่พระพุทธองค์

ทรงค้นพบไว้ แล้วบอกไว้แล้ว

ในการฝึก

 

ฝึกอะไรหรือ

 

ฝึกกรรมฐานเจ้าค่ะ

ทั้ง 4 หมวด

 

อะไรบ้าง

 

1.สุขวิปัสโก

2.เตวิชโช

3.ฉฬภิญโญ

4.ปฏิสัมภิธาญาน

เจ้าค่ะ

 

แล้วเธอช่วยบอกหน่อยได้ไหม

ว่า อันไหน ทำให้เธอ

ได้ บุญฤทธิ์

 

ไม่ทราบเจ้าค่ะ

 

อ้าว แต่ละหมวด

เธอไม่ทราบหรือ ว่า อันไหน

ได้อะไร

 

ทราบเจ้าค่ะ

แต่ลูกไม่ทราบว่า

อันไหน ที่ทำให้ลูกได้

แบบที่เป็นอยู่นี้เจ้าค่ะ

 

อันที่จริง เธอรู้ แต่เธอ

ไม่กล้าพูดต่างหาก

ตถาคตทราบว่า เธอทราบ

หรือเธอจะปฎิเสธ

 

ไม่กล้าเจ้าค่ะ

แต่ลูกไม่กล้าพูดจริงๆ

เจ้าค่ะ

 

ทำไมหรือ

 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

สอนไม่ให้อวดเจ้าค่ะ

 

ทำไมหลวงพ่อไม่ให้อวด

 

อวดเมื่อไหร่ท่านว่า

จะเสื่อม จะไปนรก เจ้าค่ะ

 

เธอ เชื่อ

หลวงพ่อของเธอ

มากนะ

 

เจ้าค่ะ เชื่อทุกอย่าง เจ้าค่ะ

 

นี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญ

มากอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เธอ

ได้วิชาพิเศษ จากตถาคต

เพราะ

คนส่วนใหญ่

ที่เขาไม่ได้ แม้ฝึกเหมือนเธอ

แต่เพราะ เขามักนอกครู

ไม่เชื่อครู

เขาคิดว่า เขาเก่งกว่าครู

 

แต่เธอ

เป็นคนนอบน้อมครู

ไม่นอกครู ไม่ทำเกินครูสั่ง

ไม่อกตัญญูต่อครู

และ

เธอยกย่องเชิดชูครู

ไม่ยอมให้ใครเหยียดหยามครู

อันนี้ คือ

สิ่งที่เป็นธรรมชาติ

ของเธอ ที่ทำให้เธอ ได้วิชา

จากหลวงพ่อของเธอ

จนครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อเธอ

มาร่วมอนุโมทนากับเธอ

มาคอยช่วยเธอ

ตลอดเวลา

 

แล้วพระพุทธองค์

ไม่ทรงช่วยลูกเองหรือเจ้าคะ

 

เพราะ

ตถาคตเห็นชอบ

ทุกพระองค์จึงมาช่วยเธอ

มาให้วิชาใหม่ๆกับเธอเสมอมา

 

การฝึกฝนของเธอ

ไม่ได้ฝึกจากหลักการตามตำรา

แต่เธอฝึก จิต ของเธอ

ตลอดเวลา

 

แล้วถ้าคนอื่น

อยากฝึกให้เป็นอย่างลูกบ้าง

จะได้ไหมเจ้าคะ

 

ได้ ทำไม จะไม่ได้

แต่เขาจะทำอย่างเธอได้ไหมล่ะ

 

ต้องเริ่มยังไงเจ้าคะ

 

อย่าพึ่งถามว่าเริ่มยังไงเลย

 

เอาเพียงให้เขาไปคิด

กันเล่นๆ ก่อนว่า ที่เธอทำอยู่นี้

ที่เขารู้ได้ เห็นได้ ด้วยตา ด้วยใจ

ของเขาอยู่นี้ เขาทำอย่างเธอ

ได้หรือไม่ เอาเท่านี้ก่อน

 

แต่ตถาคต

ยังบอกเธอไม่หมดเลย

เรื่องที่ ตถาคต มอบบุญฤทธิ์

วันพิเศษสุดนี้ ให้แก่เธอ

ด้วยเหตุผลใด

 

หรือเธอไม่อยากรู้กันแล้ว

 

อยากเจ้าค่ะ

แต่ลูกใจร้อน อยากให้

หลายคนทำได้กันเจ้าค่ะ

 

อันที่จริงก็ไม่เห็นจะยาก

ก็แค่ ศึกษาว่า เธอ

เป็นคนนิสัยอย่างไร ทำอย่างไร

แล้วก็ทำอย่างเธอ

คิดอย่างเธอ พูดอย่างเธอ

โดยไม่มีข้อสงสัย

ไม่มีข้อโต้แย้งเท่านั้น

ก็จะได้อย่างเธอแล้ว

อันที่จริงมันง่าย

แต่เขาจะทำได้หรือไม่ล่ะ

 

เหตุใด

พระองค์จึงคิดว่า

เขาจะทำไม่ได้เจ้าคะ

 

ก็คนส่วนใหญ่

ที่ตถาคต เคยลองให้ วิชา

นิดๆ หน่อยๆ เป็นการลองใจ

เขามักจะบอกว่า

อันนี้ เป็นของเขาเอง

เขารู้เอง เห็นเอง เก่งเอง

เขาไม่มีครู เขาตรัสรู้ได้เอง

เขาทำตัวเทียบเท่า

พระพุทธเจ้า

 

เขาทำตัว

เหนือกว่า เทพ พรหม เทวดา

 

วิชาที่ตถาคต

ให้เขามานั้น มันจึงเสื่อมเอง

 

แล้วก็มักจะ

เอาไปแสวงหาลาภสักการะ

ส่วนตัว เรียกร้องเงินทอง

อันนี้

เป็นทางเสื่อมยิ่งนัก

แต่เธอ

ไม่เรียกร้อง ไม่ต้องการ

 

เธอรู้ไหมว่า

ถ้าเธอเป็นหมอ

เธอจะเป็นหมอที่ร่ำรวย

ที่สุดในโลก

 

เพราะอะหรือเจ้าคะ

เพราะวิชาของเธอสามารถ

รักษาได้ทุกโรคโดยไม่ต้องเจ็บตัว

ไม่ต้องฉีดยา ไม่ต้องผ่าตัด

เพียงแค่เธอรับรักษา

เธอเรียกเงินเท่าไร ก็จะมีคนยอมจ่าย

อย่างมะเร็ง เป็นแล้วต้องตาย

แต่เธอช่วยให้เขาหายได้

เธอคิดดูสิว่า

เงินทอง จะหลั่งไหล มาหาเธอ

สักเพียงไหน ถ้าเธอเป็นหมอ

หรือ เธอ โลภ อยากได้เงิน

แต่เธอไม่ทำ

 

ก็ลูกไม่ใช่หมอนี่เจ้าคะ

และ

การหาย ก็ไม่ได้ทำเองด้วยเจ้าค่ะ

พระองค์ เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

และ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล

เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ลูกจะแอบอ้างได้อย่างไรเจ้าคะ

 

ก็นั่นคือเธอ

เธอจึงได้ บุญฤทธิ์

และอิทธิฤทธิ์ และ อำนาจพิเศษ

จากตถาคต เพราะ เธอไม่นำไป

ใช้ในทาง สร้างลาภสักการะ

ให้ตัวเธอเอง

แต่เธอนำไปใช้เพื่อความ

สิ้นทุกข์ ให้ผู้อื่น

เธอทำให้ผู้คน ละชั่ว กลัวบาป

เธอยึดคำสอนของตถาคต

เท่านั้น เธอไม่หวั่นกลัว

ไม่เกรงใจคนบาป

 

เธอยอมเหน็ดเหนื่อย

ยอมเสียเงินส่วนตัว

ยอมเสียเวลาส่วนตัว และ

ครอบครัว เพื่อให้ความพ้นทุกข์

แก่ผู้คนทั้งโลก โดยแบกภาระ

ไว้แต่เพียงผู้เดียว

 

ตถาคตจึงได้

ให้วิชา อันวิเศษนี้แก่เธอ

และ

ยังจะให้อีกเรื่อยๆ

ตราบเท่าที่เธอ ไม่หลง

 

ลูกปฏิญานกับตัวเอง

เสมอมาว่า ลูกจะไม่มีวันหลง

ไม่มีวันยอมรับว่า

ความดี และ บุญฤทธิ์นี้

เป็นของลูกเองเจ้าค่ะ

ไม่มีวันเจ้าค่ะ

 

ถ้าเช่นนั้น

เธอคงไม่มีวันสิ้นฤทธิ์

ไม่มีวันเสื่อมฤทธิ์

มีแต่ จะมีฤทธิ์ มากขึ้นทุกวัน

จงคอยดู

 

แต่ลูกก็ไม่ได้

ปรารถนาฤทธิ์เจ้าค่ะล

 

เพราะเธอ

ไม่ปรารถนา

เธอจึงได้มากที่สุด

 

คนที่อยากได้มาก

ไม่เคยมีใครได้

 

คนที่อวด

ไม่เคยมีใครมีฤทธิ์

จริง แต่เป็น ฤทธิ์ลวง

 

อันที่จริง

ลูกอยากถามอีกหลายอย่าง

แต่วันนี้ลูกขอรบกวน

พรองค์เท่านี้ก่อนเจ้าค่ะ

 

เจริญพร

 

สรุปว่า

ประเด็นสำคัญ

คือ ความกตัญญูต่อครู

และ

ไม่หลงตัวเองใช่หรือไม่เจ้าคะ

ที่จะทำให้ได้ฤทธิ์

หรือบุญฤทธิ์

 

อันนั้นเป็นเหตุผลสำคัญมาก

แต่ยังมีอย่างอื่นอีก

วันนี้พอก่อนเถอะนะ

แล้ววันหน้า ตถาคตจะบอกอีก

 

กราบนมัสการ

แทบพระบาทในพระมหา

กรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เจริญพร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 00:49:34


ความคิดเห็นที่ 984 (1598616)

   รออ่านด้วยคนอยากฟัง อ.อุบลเล่าต่อค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธันยนันท์ กิตยานพลักษณ์ (tyk246-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 00:58:50


ความคิดเห็นที่ 985 (1598620)

 สาธุกราบพระบาทพระพุทธองค์

ในพระธรรมคำสอนที่ถ่ายทอดผ่านอาจารย์อุบล

ขอบคุณอาจารย์อุบลมากๆครับ

ที่เมตตาสอนลูกๆเสมอมา  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 01:07:59


ความคิดเห็นที่ 986 (1598626)

สาธุกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลมากๆค่ะ

ที่เมตตาสอนธรรม ให้คนโง่ๆอย่างหนูเข้าใจง่ายๆ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ระพีร์ เพอร์รี่ (rapeeperry-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 04:18:34


ความคิดเห็นที่ 987 (1598687)

แต่เธอ

เป็นคนนอบน้อมครู

ไม่นอกครู ไม่ทำเกินครูสั่ง

ไม่อกตัญญูต่อครู

และ

เธอยกย่องเชิดชูครู

ไม่ยอมให้ใครเหยียดหยามครู

อันนี้ คือ

สิ่งที่เป็นธรรมชาติ

ของเธอ ที่ทำให้เธอ ได้วิชา

จากหลวงพ่อของเธอ

จนครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อเธอ

มาร่วมอนุโมทนากับเธอ

มาคอยช่วยเธอ

ตลอดเวลา

 -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

 

อ่านแล้ว... ชื่นใจมั๊ก.ก.ก.ก

เพราะ

ได้สัมผัส อ.อุบล มา

ถึงไม่นานเท่าไหร่นะคะ

แต่สิ่งที่ได้ยิน อ.อุบล พูด

อ.อุบล จะไม่เคยลืม

ครู 

แม้แต่วินาทีเดียว

จะได้ยิน อ.อุบลพูดเสมอ ๆ

ว่า

ปาฏิหาริย์ และปรากฏการณ์

ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดจาก

อ.อุบล นะ

ที่เกิดขึ้นได้เป็นเพราะ

บารมีสมเด็จองค์พระปฐมฯ

บารมีหลวงพ่อฯ

ฯลฯ

ตลอดทุกครั้งไป

-*-*-*-*-*-*-

และขอถือโอกาสนี้

บูชาครู ของแมวเช่นกัน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 10:35:17


ความคิดเห็นที่ 988 (1598700)

กราบพระบาท

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

กราบเท้า ท่าน อ.อุบล ท่าน อ.มงคล

นับเป็นบุญของลูกเหลือเกิน

ที่ได้พบ ครูบาอาจารย์ที่ประเสริฐยิ่ง

ขอน้อมนำ คำสอน และการปฏิบัติ

ของท่าน อาจารย์ มาเป็นแบบอย่าง

ล้างความชั่วออกจากจิตใจให้มากที่สุด

ขอบูชาคุณครู เหนือเกล้า

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร (ananya-an-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 11:32:24


ความคิดเห็นที่ 989 (1598704)

สาธุ ๆ ๆ

กราบพระพุทธองค์

กราบอาจารย์อุบลคะ

 

ถ้าเราอยากสุขเหมือนท่าน อยากพ้นทุกข์ทั้งปวงเหมือนกัน

เราต้องเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์

ท่านครูอาจารย์อย่างแท้จริง

เชื่อมั่นโดยการปฏิบัติตนตามคำสอนของท่าน

ฝึกจิตของเราให้คิดแบบเดียว มองแบบเดียว

ทำแบบเดียวกันท่านให้ได้

ทำให้ใกล้ได้มากเท่าไหร่ ก็พ้นทุกข์ได้มากเท่านั้น  สาธุคะ..

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 11:48:51


ความคิดเห็นที่ 990 (1598706)

กราบขอบพระคุณในธรรมทานของท่าน อ.อุบล ที่อ่านสนุก ไม่เบื่อ ติดตามได้เรื่อยๆ และให้ประโยชน์แก่ลูกศิษย์ได้นำไปปฎิบัติ เดินตามรอยท่านอาจารย์

หนูขอเดินตามรอยท่านอาจารย์ จะเป็นคนโง่ ที่จะทำตามคำชี้แนะของอาจารย์อย่างไม่มีข้อสงสัย ไม่สู่รู้ หรือคิดว่ารู้ดีกว่าท่านอาจารย์

เป็นบุญที่สุดแล้ว ที่ได้มีโอกาสเจอครูสุดประเสริฐ ซึ่งมีแต่คำว่า " ให้ "  ตลอดมา

หนูขออนุโมทนาบุญทุกๆบุญกับท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ (fareastinn-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 12:10:07


ความคิดเห็นที่ 991 (1598709)

กราบพระบาทองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และกราบพระบาทครูบาอาจารย์ของท่านอาจารย์ อุบล

ทุกพระองค์

กราบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์ อุบลเจ้าค่ะ

สาธุ....

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 12:18:06


ความคิดเห็นที่ 992 (1598739)

กราบขอบพระคุณในธรรมทานของอ.อุบลค่ะ

เป็นประโยชน์ อ่านแล้วสนุกมากค่ะ อยากอ่านเรื่อย ๆ

และดีใจที่ได้พบครูบาอาจารย์ที่ประเสริฐที่สุด ลูกรู้สึก

เป็นบุญเหลือเกินค่ะที่ได้มารู้จักบ้านสวนพีระมิด รู้จัก

ท่านอาจารย์อุบล และจะขอรับใช้อาจารย์ตลอดไป

จนกว่าชีวิตจะหาไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล (mamlak-w-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 14:51:48


ความคิดเห็นที่ 993 (1598746)

ยังไม่ได้เข้ามาคอมเม้นต์รายการวันที่ 19 ก.พ. 55 เลยคะ

ทั้งที่ได้ดูตั้งแต่วันเสาร์แล้ว รู้สึกติดอยู่ในใจตลอดเวลา

เหมือนเราเอาแต่ได้ อ.อุบล อ.มงคล ตั้งใจทำรายการให้ปัญญาแก่เรา

แต่เราเอาแต่ดู ได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว ละอายใจมากคะ

 

ขออนุญาติเล่าความประทับใจในเทปนี้นะคะ

ซึ่งจริง ๆ ชอบทุกอาทิตย์เลยคะ

แต่อาทิตย์นี้มีพิเศษ ที่ได้เห็นการมุทิตาจิตต่อ

คุณพ่อของอ.อุบล

ซึ่งหนูเห็นท่านแล้ว รู้สึกยิ้มได้ รู้สึกท่านน่ารักมาก ๆ เลยคะ

ตั้งแต่ตอนสวดมนต์กับอ.อุบล ตอนรดน้ำ

และตอนที่คุณตา ให้พรแก่ลูกหลาน(และตัวท่านเองด้วย)

รู้สึกว่าท่านน่ารัก และอบอุ่นมาก ๆ เลยคะ

และท่านอายุ 91 ปีแล้ว แต่แข็งแรงดีทุกอย่าง

เพราะท่านเป็นบุคคลที่ประเสริฐ แถมบุญบารมีที่ลูก(อ.อุบล)ทำ

มันมากมายมหาศาล อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมท่านถึง

แข็งแรงและดูมีความสุขมากมายขนาดนี้

(แถมยังเผื่อแผ่ความสุขผ่านหน้าจอมาให้คนทางบ้านด้วยคะ)

หนูอยากให้คุณตามาอยู่ที่บ้านสวนฯ แบบถาวรเลยคะ ^_^

 

 

อีกช่วงที่ประทับใจมากก็ตอนที่สนทนากับพ่อใหญ่ธนาคะ

เรื่องเกี่ยวกับนิยามของพระนิพพาน

และเส้นทางเดินที่นำพาในแบบฉบับบ้านสวนพีระมิด อ.อุบล

ซึ่งแตกต่างจากที่อื่น โดยมีวิธีการที่แยบยล เป็นลำดับขั้นตอน

ตามที่พระพุทธองค์ และเบื้องบนเมตตามาให้ ผ่านอ.อุบล

 

และที่ประทับใจมาก คือ เรื่องผ้าขาวคือชีวิตของเรา

ซึ่งเราได้ทำเปื้อนมามากมายแล้ว เราจึงต้องซักที่เปื้อนออกให้หมดก่อน

จึงพร้อมที่รับสิ่งดี ๆ อันใหม่เข้ามา แล้วเราก็เป็นผ้าสีใหม่

ที่สวยได้จริง ไม่มีรอยกระดำกระด่างอีก

ฟังแล้วมันอินมากเลยคะ   รู้สึกว่าคนชั่วอย่างเราก็ยังมีหวัง

รู้สึกถึงความเมตตา ปรารถนาดีของพระพุทธองค์ และเบื้องบน

 

และรู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสรับฟัง และฝึกฝนธรรมะ

จากอ.อุบล ผู้เป็นเนื้อนาบุญที่แท้จริง

หนูกราบขอบพระคุณอาจารย์มาก ๆ คะ

 

เรื่องการเตือนภัยจากดร.อาจอง พวกเราฟังกันบ่อย ๆ

ก็จะละความประมาทลงไปได้มากทุกครั้ง

ทำให้ระลึกได้ว่า เราเหลือเวลาน้อยลงไปทุกทีแล้ว

แล้วก็เร่งปฏิบัติดี และเร่งเผยแพร่ช่วยเหลือผู้อื่นให้มากและเร็วกว่านี้ด้วย

 

อนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมบุญทุกบุญกับบ้านสวนพีระมิดด้วยคะ

กราบขอบพระคุณอ.อุบล อ.มงคล คุณท้อป

ขอบพระคุณ คุณเพชร คุณมาร์ค มาก ๆๆๆ คะ

..........................................................................................................

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 15:14:52


ความคิดเห็นที่ 994 (1598755)

ลูกขอกราบพระบาทสมเด็จองคพระปฐมบรมธรรมบิดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

กราบพระบาทครูบาอาจารย์ของท่านอาจารย์อุบล

และกราบเท้าขอบคุณอาจารย์ อุบล ที่ได้เมตตาค่ะ  สาธ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น (coffe-dot-i-joker-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 15:40:56


ความคิดเห็นที่ 995 (1598771)

สาธุ สาธุ สาธุ กราบแทบพระบาทเสด็จพ่อองค์ปฐมบรมบิดาพร้อม

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์และท่านอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูงที่นำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาสอนลูกหลานลูกจะน้อมรับไปปฎิบัติตามทุกๆอย่าง สาธุ สาธุ สาธุ

นิด ภิญญาพัชญ์

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญาพัชญ์ ไชยว้ฒน์รัตนา (nid_pinyapat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 16:12:50


ความคิดเห็นที่ 996 (1598824)

เธอจึงได้ บุญฤทธิ์

และอิทธิฤทธิ์ และ อำนาจพิเศษ

จากตถาคต เพราะ เธอไม่นำไป

ใช้ในทาง สร้างลาภสักการะ

ให้ตัวเธอเอง

แต่เธอนำไปใช้เพื่อความ

สิ้นทุกข์ ให้ผู้อื่น

เธอทำให้ผู้คน ละชั่ว กลัวบาป

เธอยึดคำสอนของตถาคต

เท่านั้น เธอไม่หวั่นกลัว

ไม่เกรงใจคนบาป

 

เธอยอมเหน็ดเหนื่อย

ยอมเสียเงินส่วนตัว

ยอมเสียเวลาส่วนตัว และ

ครอบครัว เพื่อให้ความพ้นทุกข์

แก่ผู้คนทั้งโลก โดยแบกภาระ

ไว้แต่เพียงผู้เดียว

 

ตถาคตจึงได้

ให้วิชา อันวิเศษนี้แก่เธอ

และ

ยังจะให้อีกเรื่อยๆ

ตราบเท่าที่เธอ ไม่หลง

_________

กราบพระบาทองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และกราบเท้าท่านอาจารย์อุบล

ที่เป็นครูคอยช่วยเหลือลูกศิษย์

เสียสละทุกอย่าง  เพื่อลูกศิษย์

หนูขอกราบบูชาครูของหนูด้วยหัวใจค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 21:19:58


ความคิดเห็นที่ 997 (1598833)

กราบพระบาทองค์พระปฐม

พระพุทธองค์ พระพุทธเจ้า

ทุกพระองค์ หลวงพ่อปาน

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เสด็จพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิสิทธิ์

ทุกพระองค์ อ.อุบล อ.มงคล

ลูกจะเชื่อฟัง อ.อุบล ไม่ติด

ใจสงสัยคำสอนใดๆ ทั้งสิ้น

เป็นครูที่ประเสริฐที่สุดของลูก

ตลอดชีวิต เจ้าค่ะ
 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 22:41:27


ความคิดเห็นที่ 998 (1598837)

บ้านสวนฯพีระมิดจึงเป็นสถานที่สมบูรณ์แบบด้วย บุญฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ และ อำนาจพิเศษ ด้วยผู้นำที่เป็นที่เพียบพร้อมปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม ที่จะนำพาผู้คนหลังกึ่งพุทธกาลให้เจริญรอยตามพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับพระนิพพานในชาตินี้

ขอกราบบูชาพระคุณทุกๆพระองค์ที่ได้เมตตาให้ลูกหลานได้พบครูบาอาจารย์ผู้เป็นเนื้อนาบุญ ชี้ทางสว่างในชีวิตในชาตินี้

ขอกราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ผู้นำยุคใหม่ ที่เสียสละทุกอย่างเพื่อคนทั้งโลก กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (Nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 22:49:15


ความคิดเห็นที่ 999 (1598842)

สมัยเป็นนักเรียน

เคยเป็นนักร้อง เพลงสอนศาสนา

ของยุวพุทธิกสมาคม ลพบุรี

จำเนื้อเพลงหนึ่งขึ้นมาได้

เลยอยากร้องให้ฟัง

ทางตัวหนังสือ

555 555

-----------------------------

อยากฟังป่ะ

 

อยากหรือไม่อยาก

ก็จะร้องให้ฟัง

ละนะ

----------------------

กตัญญู กตเวที นั้นดีเลิศ

เป็นเครื่องเชิด ชูหน้า มีราศรี

เป็นเครื่องหมาย บอกให้รู้ ว่าผู้ดี

หากใครมี ดีเลิศ ประเสริฐเอย

-------------

จบแล้ว

สั้นๆ แค่นี้แหละ

 

แต่

ช๊อบ ชอบ อ่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-22 23:06:04


ความคิดเห็นที่ 1000 (1598859)

กราบนมัสการ

พระปฐมบรมธรรมบิดา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าข้า

 

เจริญพร

 

วันนี้ ลูก มาขอ ความเมตตา

ประทานพุทธโอวาท

เรื่อง

ปาฏิหาริย์ และ บุญฤทธิ์

ที่เกิดขึ้นกับ บ้านสวนพีระมิด

ต่อ

พระพุทธเจ้าข้า

 

อันที่จริง

เธอต้อง พูดว่า

เกิดขึ้น กับตัวเธอ จึงจะถูก

เพราะ

ถ้าไม่มีเธอ ก็ไม่เกิด

 

แล้วถ้าไม่มีบ้านสวนพีระมิด

มีแต่ลูก

จะเกิดได้ หรือเจ้าคะ

 

เธออยู่ที่ไหน

ก็เกิดได้ ที่นั่น เพราะ

ปาฏิหาริย์นี้ เริ่มที่ตัวเธอ

ไม่ใช่เพียงเพราะ สถานที่เท่านั้น

แต่บังเอิญ

ตัวเธอ และ สถานที่นี้

ถูกกำหนดไว้ มาก่อนแล้ว

เมื่อเธอมาอยู่ จึงทำให้สถานที่

แห่งนี้ มีสิ่งศักดิสิทธิ์

เสด็จมาปกปักรักษา และ มาคอย

อนุโมทนาบุญกับเธอ มากมาย

 

แล้วถ้าลูกไปอยู่ที่อื่น

จะเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้

หรือไม่เจ้าคะ

 

ตถาคตบอกเธอแล้ว

ว่าเธอ ไปอยู่ที่ไหน ก็เกิด

แต่สถานที่ตรงนี้

สมบูรณ์ ที่สุด สำหรับเธอ

และ

สำหรับผู้ปรารถนา

ความหลุดพ้น ในเวลาอันรวดเร็ว

 

ลูกขอทูลถาม

เรื่อง การเกิด บุญฤทธิ์

ที่เกิดกับลูก ที่มีผู้คนสงสัย

ว่า

ทำไม เวลา ลูกพูดว่า

หายนะลูก แล้วเค้าหายได้

แต่คนอื่นพูด ทำไมไม่หาย

แล้วก็เรื่องอื่นๆ

เช่น

คนมาทำบุญที่นี่

แล้วเห็นผลบุญทันทีทันใด

ทำไมที่อื่นไม่มี ทำไมที่วัดไม่มี

เจ้าค่ะ

 

อันที่จริง

ที่ไหนก็มีได้ ถ้าทำอย่างเธอ

 

แต่ที่ไม่มี

เพราะที่อื่น

เขาไม่ได้ทำอย่างเธอ

 

ทำอะไรหรือเจ้าคะ

ก็ทำทุกอย่าง อย่างที่เธอทำ

 

ลูกทำตั้งหลายอย่าง

ตรงไหนเจ้าคะ ที่เป็นประเด็น

สำคัญที่สุดเจ้าค่ะ

 

ไม่สามารถระบุ

ว่าส่วนไหนที่เธอทำ

สำคัญมาก น้อย แล้วจะละเลย

ส่วนที่น้อย หรือ ทำแต่ส่วนที่มาก

ต้องทำทุกอย่างเหมือนเธอ

 

ลูกไม่ค่อยได้ไปวัด

หรือที่อื่น ลูกจึงไม่ทราบ

ความแตกต่างเจ้าค่ะ

ขอความเมตตา พระองค์ทรง

ยกตัวอย่างได้ไหมเจ้าคะ

 

ยกตัวอย่าง

การทำกิจกรรมบุญของเธอ

เธอทำครบ

ตามคำสั่งของตถาคต

คือ

ทาน ศีล ภาวณา

อุทิศบุญ

แล้วเธอให้ทำ ด้วยกำลังใจเต็ม

เธอกวดขัน เคี่ยวเข็ญ

เด็ดขาด จริงจัง

 

แต่

ที่วัดส่วนใหญ่

ทำแต่ทาน ขั้นต่ำสุด

แล้วทานก็ไม่บริสุทธิ์

แล้วก็ผิดหนี้สงฆ์กันเป็นประจำ

ทรัพย์ที่ไปทำ ไม่บริสุทธิ์

 

ไปสร้างอกุศลในวัด

ทั้งคำพูด

ความคิด การกระทำ

นำสิ่งของ อาหาร กลับบ้าน

 

ทาน

จึงเป็นทานโทษ

ที่ไม่ได้อานิสงส์เลย

 

แต่คนมาหาเธอ

เขารู้อานิสงส์ของทาน

เธอพาทำทั้ง ทานบุคคล

สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน

เธอบอกอานิสงส์

ให้เขารู้

 

คนจน

ก็มีโอกาส มีเงิน

เพราะ เธอ ไม่ให้ใช้เงิน

แต่ให้ใช้แรง ซึ่งวัดส่วนใหญ่

คนแต่งตัวสวย เอาอาหารไป

แล้วใจ ก็ไม่สงบ แค่ได้ไป

ทำบุญเท่านั้น

แต่สัมผัสบุญไม่ได้ทันที

เหมือนการมาหาเธอ

 

ส่วนศีล

หรือการสมาทานศีล

คนไปวัด ไม่เข้าใจ ความหมาย

และ ไม่เชื่อ ไม่คิดว่า

การผิดศีล จะมีโทษ เพียงใด

 

วัด

ไม่ได้แสดงโทษ

ของการผิดศีล ให้คนกลัวบาป

เพียงแต่ สมาทานศีล

 เป็นบาลี

ไปตามประเภณี

พระเอง สิกขาบท ก็ไม่ครบ

 

ไม่เด็ดขาด ไม่เข้มงวด

ไม่จริงจัง กลัวคนไม่ไปทำบุญ

แต่เธอไม่กลัว เธอไม่ง้อ

 

ตถาคต

ไม่เคยสั่ง หรือสอน

ให้ง้อคนเลว คนที่ไม่ต้องการ

เปลี่ยนแปลงตนเอง

 

ดังนั้น

การสมาทานศีล

ที่ทำกันอยู่ในวัดที่ผ่านมา

คนไปวัด

ไม่ได้รู้สึกว่า  ต้องรักษาศีล 5

 

แต่คนมาหาเธอ

เขากลัวผิดศีลกันมากขึ้น

เขาระวัง มากขึ้น เขาจริงจัง

กันมากขึ้น

 

ส่วนสมาธิ

บางวัดก็พาทำ บางวัด

ไม่เคยพาญาติโยมทำสมาธิเลย

 

แค่ทำทาน รับศีล

เป็นอันเสร็จ

 

ไม่ว่าสมาธิหลับตาหรือลืมตา

วัดส่วนใหญ่ ทำกิจกรรมบุญ

ไม่ครบ ทุกส่วน

ไม่เหมือนอย่างที่เธอพาทำ

 

สุดท้าย

คือการอุทิศบุญ

อันนี้ น้อยวัด เหลือเกิน

ที่จะพาทำ

 

เมื่อทำบุญแล้ว

จึงไม่เกิดความปิติในบุญ

ไม่เห็นผลบุญ

ฉับพลันทันที หรือ ระยะยาว

ก็ไม่เกิดอานิสงส์เลย

 

เพราะ

ขาดองค์ประกอบที่ว่ามา

แล้วยังขาดองค์ประกอบ

อีก 3 ส่วน

คือ

 

1.ผู้ให้ บริสุทธิ์

2.วัตถุทาน บริสุทธิ์

3.เนื้อนาบุญ บริสุทธิ์

 

ที่อานิสงส์ของบุญ

หรือ

ปาฏิหาริย์ไม่เกิดฉับพลันทันที

เพราะ

ขาดองค์ประกอบ 3 ส่วนนี้

เป็นสำคัญ

 

ตถาคตบอกไว้แล้วมิใช่หรือ

 

เพคะ

 

แล้วใยจึงสงสัยกันอีก

 

หลายคนอาจลืมเพคะ

 

ที่จริงแล้ว

เธอ

ไม่ได้ทำสิ่งที่แปลก อะไรเลย

คนทั้งหลาย ที่สงสัยเธอ

นั่นแหละที่แปลก

 

ทุกคนในโลกนี้

ปกติแล้ว ควรทำอย่างที่

เธอทำ จึงจะถือว่า เป็นปกติ

แต่เขากลับเห็นว่า

เธอไม่ปกติ พวกเขาปกติ

 

แสดงว่า

คนทุกคน น่าจะมีฤทธิ์

หรือบุญฤทธิ หรือเพคะ

 

ถูกแล้ว

สมัยพุทธกาล

สาวกของตถาคต

มีฤทธิ์

เหาะเหิรเดินอากาศได้

เป็นเรื่องปกติ

 

แต่เหตุใดสมัยนี้

คนจึงไม่มีฤทธิ์เพคะ

 

เพราะ

คนขาดความจริงจัง

ในการปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ

แต่

ต้องการความสุข

ต้องการความสมหวัง

ต้องการความร่ำรวย

ต้องการหายเจ็บป่วย

 

ทั้งๆที่

ตถาคต

บอกวิธีที่ต้องการ

ไว้ทั้งหมดแล้ว

แต่เขาไม่ทำกันเอง

 

พอเธอทำตาม

ที่ตถาคตบอกไว้

แล้วเกิดผล ตามที่ตถาคต

บอกไว้แล้ว เธอก็กลายเป็น

คนแปลกประหลาด

แต่แท้จริงแล้ว เธอคือคนปกติ

คนธรรมดา ที่คนควรเป็นกัน

 

แล้วที่เขาสงสัยกันว่า

คนอย่างลูกนี้

มีคนเดียว ทำอย่างนี้

ได้คนเดียว นั้น เป็นความจริง

หรือไม่เพคะ

 

ถ้าคนทำอย่างเธอ

มีคนเดียว

คนอย่างเธอ ก็ต้องมีคนเดียว

 

แต่

ถ้ามีคนทำอย่างเธอ

หลายคน

 

คนอย่างเธอ

ก็ต้องมีหลายคน

 

แต่ที่เขาไม่พบคนอย่างเธอ

เพราะ

คนเขาไม่ทำอย่างเธอ

 

เพราะเหตุใดหรือเจ้าคะ

 

อันนี้

ต้องไปถามเขาดู

ว่าทำไม เขาไม่ทำอย่างเธอ

แต่เหตุใด

เขาอยากเป็นอย่างเธอ

 

นี่แหละเพคะ

ที่ผู้คนเขาอยากทราบ

ว่า

จะให้ทำอย่างไรบ้าง

เจ้าค่ะ

 

ทำกำลังใจ

ให้เหมือนเธอ

 

ทำการกระทำ

ให้เหมือนเธอ

 

พูด ให้เหมือน เธอ

เท่านี้ ก็จะเป็นอย่างเธอ

 

ขอความเมตตา

บอกเป็นข้อๆ ได้หรือไม่

พระพุทธเจ้าข้า

จะได้ง่ายต่อการที่คนทั้งหลาย

จะได้ปฏิบัติตามได้

ง่ายขึ้นเจ้าค่ะ

 

ตถาคต

และเบื้องบนทุกพระองค์

ทรงทราบวาระจิต

ของมนุษย์

ว่า

คิดอะไร ต้องการอะไร

เพราะ

คนส่วนใหญ่ ต้องการฤทธิ์

ต้องการปาฏิหาริย์

ต้องการวิเศษ

ต้องการพ้นทุกข์

แต่

ไม่ต้องการ

ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ

 

ต้องการแต่

สิ่งที่สำเร็จรูปแบบที่เธอเป็น

เขาอยากเป็นอย่างเธอ

แต่เขาไม่อยากทำอย่างเธอ

 

แค่ความกตัญญูต่อครู

ตถาคตยังมองไม่เห็นเลย

ข้อเดียวก็สอบตกกันแล้ว

แล้วข้ออื่น จะทำไหวหรือ

 

คนมีเงินมากว่าเธอ

ยังไม่กล้าทำอย่างเธอเลย

 

แล้วจะอยากได้อะไร

อย่างเธอ

 

เมื่อพระองค์ทรงทราบ

วาระจิตของมนุษย์แล้ว

พระองค์ทรงเมตตาอย่างไร

หรือเจ้าคะ

 

ก็ประทานรหัสศักดิ์สิทธิ์

มาให้ ไม่จำกัด จำนวนผู้ใช้

คือ

รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

ยังไงล่ะ

 

อันนี้

จะทำให้มีฤทธิ์อย่างเธอ

แต่ไม่เท่าเธอ

และ มีเงื่อนไขการใช้

 

จริงด้วยเจ้าค่ะ

รหัสนี้ วิเศษจริงๆเจ้าค่ะ

แต่ความวิเศษ ไม่ได้เกิดจาก

ตัวลูกเองเลยเจ้าค่ะ

 

ใครว่าล่ะ

ถ้าเธอไม่บำเพ็ญ

บารมีมาอย่างเข้มข้น

รหัสนี้ จะไม่เลือกใช้ ชื่อเธอ

 

ลูกไม่เห็นได้บำเพ็ญ

อะไรที่มากจนกระทั่งสมควร

ได้ถูกเลือกให้ใช้ชื่อ

กับรหัสศักดิ์สิทธิ์นี้เลยเพคะ

 

เพราะเธอคิดเช่นนี้

บารมีเธอจึงเข้มข้น

 

เธอทำมาก แต่คิดว่า ทำน้อย

เธอจึงทำไม่หยุด

ทำเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

อันนี้ ตรงตาม คำสั่ง ตถาคต

ที่บอกว่า

ให้ทำแบบง่ายๆ

ทำทันที ทำอย่างสม่ำเสมอ

ทำอย่างต่อเนื่อง และ ทำให้มากขึ้น

 

เธอทำครบสูตร

แต่คนส่วนใหญ่ไม่ครบสูตร

จึงไม่ได้เท่าเธอ

 

คนที่ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง

เดี๋ยวไม่ว่าง เดี๋ยวไม่ทำต่อ

ไม่ครบสูตร

บารมีจึงไม่เข้มข้น

 

เหตุผล

มากมายหลายอย่าง

ในการเลือกชื่อเธอ เพื่อใช้เป็น

รหัสจักรวาล

ไม่ใช่ว่า

นึกจะใช้ชื่อใครก็ได้

 

ทำไมพระองค์

ไม่ทรงเลือก พระ ผู้บำเพ็ญ

กรรมฐาน มีอภิญญา

มากกว่าลูก กับรหัสนี้เจ้าคะ

 

แล้วตถาคตจะตอบ

วันหลัง

 

วันนี้

ให้พวกเธอ

ไปคิดกันก่อน ว่าเพราะเหตุใด

เผื่อใครคิดออก

ให้มาบอกตถาคตด้วย

 

วันนี้

ลูกขอกราบพระบาท

ที่เมตตา ประทานพุทธโอวาท

ตอบข้อสงสัยของ

ข้าพเจ้าทั้งหลาย ลูกจะทำความดี

ถวาย ทดแทน พระคุณ

ตราบเข้านิพพาน

เจ้าค่ะ

 

เจริญพร

------------------------

เชิญเข้าเฝ้า

สมเด็จองค์พระปฐม

บรมธรรมบิดา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เพื่อทูลถาม และตอบปัญหา

ธรรมที่พระองค์ทรงถาม

โอกาสนี้ ไม่มีบ่อยนัก

 

เชิญค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-23 00:38:53



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 12 13 14 15 16 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.