ReadyPlanet.com


วันนี้ ใครดูรายการ คุยไปแจกไปบ้าง


ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

เพื่อจะให้ท่านที่เป็นแฟนรายการ

คุยไปแจกไป

ได้มาร่วมกันแสดงความเห็น

เพิ่มอรรถรสให้กับ นักแสดง ในละครเวที

บ้านสวนพีระมิด

(ดูละครเรื่องเดียวกัน แล้วก็มาเล่าสู่กันฟัง)

แต่อย่าตีกันเพราะละครนะจ๊ะ

แล้ววันนี้ 6 มี.ค.54

มีใครดูบ้าง

แล้วนักแสดงได้ดูตัวเองกันบ้างหรือเปล่าจ๊ะ

ทั้งนักแสดง และ คนดู

มาร่วมวงกันหน่อย

เร้ว



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-03-06 23:53:22


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 [14] 15 16 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1301 (1622134)

คุณแมว

อ.อุบล ขอโทษด้วยนะ

ที่โยนงานให้มากมาย

เป็นงานที่หนักหนา สาหัสทั้งนั้น

โดยเฉพาะงาน ที่ต้องปฎิสัมพันธุ์

กับคนหลากหลายที่มา

หลากหลายอัตตา หลากหลายอารณ์

ซึ่งแต่ละคนก็มีทุกข์มาทั้งนั้น

จึงต้องการหาที่พ้นทุกข์

แต่ตอนนั้น ความทุกข์มันคงอัดแน่น

จนทำให้ลืมไปว่า

สิ่งที่กำลังมาทำ

มาหาทางดับทุกข์นี่แหละ

มันก็กำลังทำการเพิ่มทุกข์ให้ตนเองอีกแล้ว

อีกทางหนึ่ง

จากคำพูดที่ว่า 

 "ทำไมที่นี่ไม่มีเมตตา" 

 คำนี้แกก็ใช้ยกขึ้นมา

เพื่อประโยชน์ของตัวแกเอง 

 ถ้าวันนั้นบังเอิญ อ.อุบล เจอเอง

ไม่ใช่คุณแมว กับคุณอัญ นะ

อ.อุบล จะต้องบอกแกว่า

เชิญคุณไปหา คนที่เมตาคุณที่อื่น

 ที่นี่เป็นที่ของคนบาปหนา

ปัญญาทราม ใจดำต่ำช้า

คุณจะมาทำไม

และ

คงจะบอกแกให้แก

ไปส่องกระจกเงา ดูใจของแก

ว่าแกเป็นคนมีเมตตา มีมารยาทหรือไม่  

หรือว่า เป็นคนเอาแต่ได้

ใช้เหตุการณ์บีบบังคับ

แต่นี่ดีนะเจอคุณแมว กับคุณอัญ

ยังสถานเบา

แล้วสิ่งที่แกได้รับ จากการก้าวร้าว

ล่วงเกินคุณแมว กับคุณอัญวันนั้น

แกกลับไปก็ขายของไม่ได้เลย

และทั้งคู่ก็ป่วยอีก อาการที่หายแล้ว

ก็กลับมาเป็นอีก

ที่ยกเรื่องราวคุณโชค กับ คุณอาต

มาเป็นธรรมทานนี่ เพื่อให้ทั้งสองคน

ได้อานิสงส์จากเรื่องของเขา

ที่เคยผิดพลาด เป็นกระจกเงาให้คนอื่น

บุญนี้แรง ถึงเค้าสองคนแน่นอน

เพราะปัญหาที่เกิดกับครอบครัวคุณโชค

ก็คือสิ่งทีี่คนที่มาบ้านสวนหลายคน

ชอบทำ พยายามทำ คิดหาทาง

หาอุบายทำอยู่ตลอดมา

ขออนุโมทนากับเรื่องราวของ

ครอบครัวคุณโชค กะ คุณอาตค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 11:41:13

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 12:14:16


ความคิดเห็นที่ 1302 (1622140)

 

โอโห..อ.อุบล ขา

แมวอยากบอกค่ะว่า

แมวต้องขอกราบขอบพระคุณ

อย่างหาที่สุดไม่ได้

กับการที่ อ.อุบล เมตตา

มอบหมายงาน ให้แมว

ได้มีโอกาสแบ่งเบา ภาระ

ของอาจารย์บ้าง เล็ก ๆ น้อย ๆ

และที่สำคัญ..โอกาสแบบนี้

ทำให้แมวได้ศึกษา

คน

ที่เข้ามาหลาย หลากรูปแบบ

ได้พิจารณา..อย่างใกล้ชิด และ ชัดเจนค่ะ

บทเรียน เดินเข้ามาหาเองเลย

ไม่ต้องไปหาซื้อ หรือแสวงหา

ทั้งนี้เพื่อ..การแก้ไขตัวเองคร๊า 

และ

หากมีอะไร ผิดพลาด

แมวขอกราบอภัย อ.อุบล

มา ณ.ที่นี้นะคะ

และพร้อมที่จะปฏิบัติงาน

ที่ได้รับมอบหมายเต็มกำลัง

เต็มสติปัญญา ที่มีอยู่จริง ๆ ค่ะ

-----------------------

ขอ สาธุ

กับครอบครัว คุณโชค

ที่ได้มอบธรรมทาน

ที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม

อย่างที่สุดค่ะ สาธุ ๆ ๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-01 12:22:22


ความคิดเห็นที่ 1303 (1622348)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล ครับ

                         อ่านข้อความ ที่คุณแม่ขยายเรื่อง เกี่ยวกับ คุณโชค และ คุณทรงชิน ครับ ทำให้ได้เห็นมุมมองอีกด้านของทั้งสองท่าน ครับ เพราะว่า ตอนดูคลิป ก็ฟังเพลินถึงการพูดของทั้งสองท่าน แต่ สิ่งที่คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติม ทำให้เราได้เห็น จิตใจคนที่เค้าพูดออกมา อย่างที่เรียกว่า ไม่ระวังตัว พูดไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เราได้เห็นว่า จิตใจของคนเรานั้น ไม่ค่อยยอมรับว่า ตนเองเป็นผู้ก่อให้ตัวเราเดือดร้อนด้วยตัวเอง แต่ ไปยกความไม่ดีให้คนอื่น แม้นกับคนที่เป็นแม่ (ผมนั่งพิจารณาอีกครั้ง อาจจะเป็นว่า พี่โชคเป็นผู้ทำมาหาเลี้ยงครอบครัวหรือเปล่า นะครับ) ทำให้ เค้าอยากจะตำหนิแม่ของตนเอง ก็ทำไป โดยไม่คิดว่า กำลังพูดต่อหน้าคุณแม่อุบล และ เพื่อนๆบ้านสวนพีระมิด

                            และ การได้ดูคลิปในแต่ละคลิป  ยิ่งคลิประยะหลังๆ สิ่งที่คุณแม่ได้บอกกล่าวไว้ตั้งแต่ตอนระยะแรกๆ ก็ได้เห็นตัวอย่างจริงๆ จากชีวิตคนจริงๆ และ ก็ประสบปัญหาอย่างที่กรรมเค้าก่อไว้ และ ได้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนที่ได้รับชมว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆไม่ใช่เรื่อง เขียนเสือให้วัวกลัว

                            และ สิ่งที่ผมซึ้งใจมากๆ  คือ ผมได้มาเป็นลูกบ้านสวนพีระมิด เนื่องจากได้พบเพื่อนๆ พี่ๆ มากมาย หลายประเภท ทั้งที่เป็นตัวอย่างที่ดี และ เป็นตัวอย่างที่ต้องปรับปรุงตัวเอง และ ก็ต้องนำการกระทำต่างๆ เหล่านั้น มาปรับปรุงตัวของผมเองด้วย

                                                     พี่ๆ ที่ผมมักติดตามอ่านข้อคิดของพวกท่าน คือ พี่แมว พี่มหา คุณธนา พี่ชนิดา คุณน้องหญิง  พี่อมร และ พี่ๆน้องๆ อีกหลายท่าน(ต้องขออภัยที่เอ่ยนามไม่หมด ครับ) เพราะ พี่ๆ เหล่านี้ เป็นบุคคลที่เขียนแล้ว ต้องอ่านแล้วต้องไปคิดพิจารณา  เพราะ เป็นรวงข้าวที่เมล็ดเต็ม แต่รวงโน้มลงสู่พื่้นดิน ให้ความอ่อนน้อม และ กตัญญูต่อพื้นดินผู้ให้กำเนิด (เปรียบดั่งพี่ๆ ที่น้อมนอบและเดินตามแนวทางที่คุณแม่อุบลท่านได้บอกกล่าวให้นำคำสั่งสอนและธรรมะของพระพุทธองค์ไปประพฤติปฎิบ้ติ เป็นตัวอย่างที่ดี ของลูกบ้านสวนฯ) ครับ 

                                                    และ สิ่งที่ผมประทับใจและสำนึกในพระคุณตลอดมา คือ การที่ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล และ คุณท๊อป มีใจเมตตาและความรัก ต่อ เพื่อนมนุษย์   ทุกชนชั้น อย่างไม่เลือกปฏิบัติ โดยที่ ท่านทั้งสาม ก็ให้ความรัก ความเมตตา และ ความปรารถนาดีต่อทุกคน

                            ทุ่มเททั้ง กำลังทรัพย์ กำลังกาย เวลาของครอบครัว และ สถานที่ ให้มวลมนุษย์ โดยไม่ท้อถอย  ต่อ ความเหน็ดเหนื่อย

                             และ ได้เห็นการเข้ามาเขียนในกระทู้ของ คุณแม่ เพื่อให้ความกระจ่างชัด และ ขยายความในบางเรื่อง แล้ว ผมยิ่งทึ้งในความอดทน และ ความรักของคุณแม่ เนื่องจาก บางกระทู้ เห็นช่วงเวลาแล้ว ค่อนข้างจะดึกมากๆ แต่ ท่านก็เข้ามาเขียน เพื่อลูกบ้านสวนฯ

                           ผมก็อ่านทุกครั้งและทุกข้อความ จนบางครั้ง เข้าไปนอนแล้ว ก็ยังนึกตำหนิตนเองว่า อ่านแล้ว ทำไมไม่เคยขอบพระคุณท่าน ต่อข้อเขียนของคุณแม่ ที่นำแสงสว่างมาสู่ดวงจิต และ ข้อคิดเห็นของพวกพี่ๆ ทุกๆคนที่มาแสดงความคิด ทำให้ผมขอมากราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล และ คุณท๊อป และ ขอขอบคุณต่อพี่ๆและน้องๆ ทุกๆ ท่าน ครับ

                          เพราะว่า สิ่งที่คุณแม่ มักจะแซวเล่นๆ เสมอๆ ในเรื่อง ขอค่าบำบัดโรคละ 350,000 บาท นั้น ผมว่า ถ้าเป็นเงินจำนวนนี้ สำหรับการรักษาที่โรงพยาบาล ผมว่ายังน้อยไป แต่ท่านกลับให้การบำบัดฟรี แล้วให้นำคำสั่งสอนและธรรมะ ของพระพุทธองค์ ไปประพฤติปฏิบ้ติอีก (ซึ่งมีน้อยสถานที่มากๆ ที่จะสอนให้ปฏิบ้ติด้วยถ้อยคำที่ฟังแล้วง่ายต่อการปฏิบ้ติ และ สามารถคิดตามด้วยเหตุและผลได้)

                          ผมคิดว่า เป็นเมตตาของคุณแม่ และ ครอบครัวมากๆ ที่ท่านจัดรายการแล้ว ก็ยังมาเปิดเวปฯ ให้ได้ออกความเห็น และ ได้ให้ลูกหลานได้มาสอบถามสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อครอบครัว และ สังคม  ครับ

                           ขอน้อมกราบ ต่อเทวดาผู้รักษาตัวของคุณแม่อุบล และ ครอบครัว ที่ท่านได้เมตตาให้ คุณแม่และครอบครัว"ศุภาเดชาภรณ์" ต่อมวลมนุษย์บนโลก 

                           สาธุ สาธุ สาธุ       

                            

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-02 22:34:51


ความคิดเห็นที่ 1304 (1622364)

 ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ

ที่เมตตา อบรมสั่งสอน ควายตัวนี้

ซึ่งปัญญา ก็มีแค่หางอึ่ง

แต่จะขอรับใช้ และช่วยงาน ท่านอาจารย์ทุกอย่าง

ให้เต็มกำลังความสามารถ ที่มีค่ะ


ขออนุโมทนาบุญ และ ขอขอบพระคุณพี่แมวด้วยนะคะ

สำหรับ กรณีศึกษา "ครอบครัวจอมผิดกฎ"

เพราะถ้าวันนั้นไม่มีพี่ ลำพัง ปัญญาน้อยนิดของอัญ ต้องไม่รอดแน่


ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทาน

ของครอบครัว ป้าแต๋ว ,คุณโชค , คุณอาร์ท 

ที่ให้ทุกคนได้รู้ว่า ไม่ว่าเราจะไปที่ใดก็ตาม 

เราควรมี มารยาท  ให้เกียรติเจ้าของสถานที่

โดยการศึกษากฎระเบียบ และ

ปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎของสถานที่นั้น ๆ  สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-03 00:28:25


ความคิดเห็นที่ 1305 (1622545)

กราบอนุโมทนากับธรรมทาน

จากท่านอ.อุบล

ที่มีเมตตามาเขียนอธิบายเพิ่มเติม

ถึงความผิดอันซับซ้อน

ของคุณโชคและครอบครัวด้วยนะคะ

 

ทำให้พวกเราได้รู้ว่า

แม้คุณโชคจะออกไปสารภาพบาปแล้ว

แต่ก็ยังไม่รู้ถึง บาปกรรม

ทั้งหมดของตนอยู่ดี

แถมยังคิดโทษ ผู้มีพระคุณซะอีก

 

และที่สำคัญ จนบัดนี้

ก็ยังไม่เห็น ท่านใดในครอบครัวนี้

เข้ามาเขียนแสดงความคิดเห็น

ในเรื่อง ความผิดบาปของตนแต่อย่างใด....

 

 

แล้วก็อนุโมทนากับธรรมทาน

ที่เขียนเนื้อหา เกี่ยวกับรายการ

จากพี่น้องทุกๆท่านด้วยนะคะ

ทั้งเจ๊ตาล คุณขวัญ และพ่อหนุ่มกร

 

รวมทั้งคุณแมว และ หนูอัญ

ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น

และประสบการณ์ตรงของตน

 

เพราะเป็นหน้าด่าน

ที่ต้องปะทะกับผู้มาเยือนบ้านสวนฯ

อันหลากหลายแนวจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-05 03:53:44


ความคิดเห็นที่ 1306 (1622780)

 ขอแจ้งข่าว การรีรัน รายการ คุยไปแจกไป หน่อยนะจ๊ะ

เมื่อวาน อาทิตย์ที่ 5 ส.ค.55 รายการย้ายไปช่อง เอ็ม วี สตาร์ เป็นครั้งแรก แต่ เวลาเดิม คือ บ่าย3 ถึง 5 โมงเย็น

แต่ตอนออกอากาศซ้ำ แจ้งผิดไป พึ่งมาดูหนังสือแจ้งผังใหม่ เมื่อคืนนี้ 

คือ

เขาออกอากาศซื้อ เที่ยงคืน วันอาทิตย์ คือวันเดียวกัน ไม่ใช่วันจันทร์ อย่างเก่าแล้ว

ดังนั้น

คนที่คอยดู เที่ยงคืนวันนี้(จันทร์ที่ 6) คงรอเก้อ เพราะออกอากาศไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้

ช่วยแจ้งหลายๆกระทู้ให้ด้วยนะจ๊ะ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยขยายตัวอักษรค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-06 23:26:21


ความคิดเห็นที่ 1307 (1622783)

 ขออนุญาติ ขยายตัวอักษรครับ

ความเห็นที่ 1306 (1622780)
แจ้งลบความคิดเห็น

 ขอแจ้งข่าว การรีรัน รายการ คุยไปแจกไป หน่อยนะจ๊ะ

เมื่อวาน อาทิตย์ที่ 5 ส.ค.55 รายการย้ายไปช่อง เอ็ม วี สตาร์ เป็นครั้งแรก แต่ เวลาเดิม คือ บ่าย3 ถึง 5 โมงเย็น

แต่ตอนออกอากาศซ้ำ แจ้งผิดไป พึ่งมาดูหนังสือแจ้งผังใหม่ เมื่อคืนนี้ 

คือ

เขาออกอากาศซื้อ เที่ยงคืน วันอาทิตย์ คือวันเดียวกัน ไม่ใช่วันจันทร์ อย่างเก่าแล้ว

ดังนั้น

คนที่คอยดู เที่ยงคืนวันนี้(จันทร์ที่ 6) คงรอเก้อ เพราะออกอากาศไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้

ช่วยแจ้งหลายๆกระทู้ให้ด้วยนะจ๊ะ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยขยายตัวอักษรค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-06 23:26:21
 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-06 23:44:36


ความคิดเห็นที่ 1308 (1622791)

รับทราบค่ะอาจารย์

ว่า รายการคุยไปแจกไป

ฉายซ้ำในคืนวันอาทิตย์ เวลาเที่ยงคืน

ไม่ใช่ วันจันทร์ อย่างที่เข้าใจ..ค๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-07 03:41:35


ความคิดเห็นที่ 1309 (1622899)

 

ความเห็นที่ 718 (1577908)

แจ้งลบความคิดเห็น

พอได้ดูรายการวันที่ 25 กันยา 54

คุณเสรี ใจซื่อตรง เจ้าของหอพัก นครปฐม

ที่บอกว่า ถูกหวย เลยนำธนบัตรขวัญถุงไปวางไว้ใกล้หวยอีก

เผื่อจะได้ถูกอีก แล้วพออาจารย์บอกว่า ท่านไม่ช่วยในเรื่องผิดศีลนะ

ทำให้คิดได้ว่า ยอดขายตกไปเพราะอะไร?? เพราะเหตุนี้นี่เอง

 

อาจารย์ท่านบอกว่า คุณอย่าเรียก อ.อุบลเพื่อไปเพิ่มกิเลสให้คุณอาชีพที่ใช้ เงิน ต่อ เงิน เป็นอาชีพที่พระองค์ไม่สรรเสริญ

ไม่ได้ใช้น้ำพักน้ำแรงหากิน เป็นเบี้ยต่อเบี้ย ถือเป็นบาปมหันต์

 

เราได้ความสุขมามากมายแล้ว อย่าไปอยากได้ในสิ่งที่ไม่ควร

 

พอคนเราปฏิบัติธรรมไปได้สูงขึ้นแล้วจะมีมารมาทดสอบเรา ให้เราไขว้เขวถ้าเราหลงเชื่อ เราก็จะกลับไปตกนรกเหมือนเดิม

 

.............................................................................................

หนูขอสารภาพบาป ความโลภ และความโง่มาก ๆ ของตัวเองด้วยเลยคะ

ว่าตัวเองได้นำธนบัตรขวัญถุงไปไว้ใน ที่เก็บเงิน เก็บสมุดบัญชีและเก็บสลากออมสินด้วย

อ๊าย..อาย คะ โง่มาก ๆ แค่นี้ก็คิดไม่ได้ ถ้าไม่ได้ดูตอนนี้ คงโง่ไปอีกนานเลยนะคะ

 

พอได้ดู และมาคิดสังเกตย้อนไป  ผลก็คงคล้าย ๆ กับคุณเสรีคะ

รายได้ลดน้อยลง   ไม่ได้เกิดมาจากออเดอร์ที่ลดลง

แต่เกิดเหตุขัดข้องให้ของมาส่งตามออเดอร์ไม่ได้

นี่แหละคะ ผลแห่ง ความโลภ และความโง่ไม่เกิดทางตรง ก็ทางอ้อม

ลูกกราบขอบพระคุณเบื้องบนที่ส่งแบบทดสอบมาให้แล้วลูก ก็สอบตก อย่างสิ้นเชิงเลยคะ

 

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล และคุณเสรีที่มาให้ธรรมทานด้วยคะ

หนูจะละความโลภให้ได้คะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-11 20:20:49

 

กราบเรียนท่าน อ. อุบล ที่รักและเคารพอย่างสูง

 

สืบเนื่องมาจากความเห็นที่ 718 (1577908) จึงอยากขอขอบคุณคุณเสรี ใจซื่อตรง และคุณพัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ลูกก็เช่นกัน ขอสารภาพบาป ความโลภ และความโง่มาก ๆ ของตัวเองด้วยเลยคะว่าตัวเองได้นำธนบัตรขวัญถุงไปไว้ใน ที่เก็บเงิน เก็บสมุดบัญชี และเก็บสลากออมสินด้วย อ๊าย..อาย คะ โง่มาก ๆ แค่นี้ก็คิดไม่ได้ ถ้าไม่ได้ดูตอนนี้ คงโง่ไปอีกนานเลยนะคะ ผลที่ได้รับก็เป็นไปในทางตรงกันข้ามเช่นเดียวกันค่ะ

ลูกกราบขอบพระคุณเบื้องบนที่ส่งแบบทดสอบมาให้แล้วลูก ก็สอบตก อย่างสิ้นเชิงเลยคะ จากนี้ไปลูกตระหนักในบทเรียนครั้งนี้ และจักขัดเกลาตัวเองเรื่องศีลให้ละเอียดอ่อนที่สุดค่ะ

 

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล คุณเสรี และคุณพันธ์ธีราที่มาให้ธรรมทานด้วยคะ

ลูกจะละความโลภให้ได้คะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-07 16:21:54


ความคิดเห็นที่ 1310 (1623134)

กราบอนุโมทนาบุญ อ.อุบลค่ะ

ตั้งตารอมาสองวันแล้วค่ะ วันนี้เข้าเวปบ้านสวนพอเห็นรายการคุยไปแจกไปโพสต์ไว้แล้ว ดีใจมากค่ะ ตอนนี้ท่านอ.อุบลไปโคราช ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่มีโอกาสได้บำบัดทุกข์กับท่าน อ.อุบลด้วยนะค่ะ ดูแต่ละตอนล้วนให้มองเห็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จับต้องได้เสมอ ขอบคุณท่าน อ.อุบลค่ะที่เสียสละเพื่อผู้มีทุกข์ทุกคนที่มีความศรัทธาในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและในท่าน อ.อุบลและบ้านสวนพีระมิดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลวรรณ์ ตาสาโรจน์ (tintan-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-08 14:55:11


ความคิดเห็นที่ 1311 (1623163)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                               ขอน้อมกราบ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยมโอภาสี พระอาจารย์รัตน์ องค์สฟิงซ์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด 

                                                                ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                                ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                                วันนี้ ได้ดูคลิปของวันที่ 5 สิงหาคม ครับ

                                เป็นการไปบรรยายธรรมะ ธรรมบำบัด ที่ บ้านไร่ปลายตะวัน อำเภอ วังน้ำเขียว จังหวัด นครราชสีมา

                                 "ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม"

                                 "ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ถ้าเหตุดับผลก็ดับ"

                                 คุณแม่ได้บอกกล่าว กับญาติธรรมแห่งบ้านไร่ปลายตะวันว่า คุณแม่ก็ทุกข์ทรมานกับ  การเป็นฝ้าที่ใบหน้า หมดเงินในการรักษาใบหน้าไปเกือบล้านบาท ก็ไม่หาย

                                 แต่ ในที่สุด คุณแม่ก็ได้อ่านพระไตรปิฎก  ได้ทราบว่า พระพุทธองค์ ท่านได้ทรงค้นพบว่า ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับผิวพรรณ  นั้นเกิดจากการมีกรรมโทสะ ความโกรธแค้น พยาบาทต่อผู้อื่น

                                  เมื่อ ท่านละความโกรธ พยาบาท และ ให้อภัยทาน และ หันมาทานอาหารมังสวิรัติ ใบหน้าที่ดำ มีฝ้าก็จาง และ หายไปได้ในที่สุด ท่่านก็บอกกล่าวให้ญาติธรรม ฟังว่า ให้ทำทาน รักษาศ๊ล ทำสมาธิ ให้เกิดปัญญา

                                   ท่านได้สอบถาม ญาติธรรมว่า ใครได้ใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ก็มีคุณป้าแส ที่ออกมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อใช้ระหัส ขอให้หนูออกไปจากบ้าน ก็ปรากฎว่า ไม่มีหนูในบ้านอีกเลย  ขอให้หายจากอาการที่ปวดขา ก็หายได้ 

                                                                         และ คุณกุหลาบ ได้มาบอกเล่า ให้ฟัง ถึงแม่ค้าที่ทำอาหารตามสั่งขาย ได้ใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ทำให้ขายอาหารได้มาก เป็นจำนวน ถึง 4,000 บาท เพราะ ความเห็นแก่ตัวไม่ยอมบอกระหัสนี้กับผู้ใด ก็ปรากฎว่า การขายของก็ไม่ได้เหมือนตอนใช้ระหัส  คุณแม่ได้บอกกล่าวให้ฟังว่า คนที่ใช้ระหัสแล้วไม่บอกใคร จะใช้ได้แค่ 3 ครั้ง ถ้าอยากใช้ได้ตลอด ก็บอกต่อไปเรื่อยๆ และ ให้อุทิศบุญให้กับเทวดาที่รักษาคุณแม่อุบลด้วย

                                      และ อย่าลบหลู่คุณแม่อุบล โดย คุณกุหลาบ ได้เล่าให้ฟังว่า มีคนที่ไปบ้านสวนพีระมิด แล้วมาบอกกล่าวผู้อื่นว่า ไปแล้วก็ไม่หายปวดขา ไม่ต้องไปบ้านสวนฯ ปรากฎว่า ปากเป็นแผล มีอาการปากเจ็บ คอเจ็บ ไปหาหมอก็รักษาไม่หาย  

                                      คุณแม่ได้บอกกล่าวต่อไปว่า คุณแม่เป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อเสงี่ยม ที่ท่านสอนกรรมฐาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ท่านสอนธรรมะผ่านการสื่อสารหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพไปแล้ว พระอาจารย์รัตน์  ในเรื่องพลังพีระมิดร่วมกับการนั่งสมาธิ เพื่อให้จิตสงบ  และ ธรรมะจากองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์สูงสุด

                                      คุณแม่ ยังบอกกล่าวว่า พระพุทธองค์ยังทรงลงมาโปรด แม้นพระองค์ท่านได้ดับขันธ์ไปแล้ว

                                      ดังคำที่ว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" พระองค์ไม่เคยสอนให้เราเชื่ออะไร โดยไม่ได้พิสูจน์ ท่านอัลเบิร์ด ไอน์สไตน์ จึงยกย่องว่าศาสนาพุทธว่าจะเจริญรุ่งเรือง

                                       หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้บอกกล่าว ไว้ว่า ถ้าทำบุญ ให้ทาน สงเคราะห์ใคร ช่วยเหลือใคร ถ้ามีความบริสุทธิ์ 3 อย่าง อานิสงค์จะบังเกิดฉับพลันทันทีในวันนั้น จะมีความสุขทันที พ้นทุกข์ทันที นั้นคือ

                                          1. ศรัทธาบริสุทธิ์

ใจเราต้องบริสุทธิ์ ใจที่ไม่ทุกข์กังวล(จะไปทำบุญ ไม่ใช่ไปดุด่าลูกดุสามี) ต้องมีใจที่ร่าเริงแจ่มใส

                                          2.  วัตถุทานบริสุทธิ์

สิ่ง ของ,ข้าวปลาอาหาร,เงิน ต้องบริสุทธิ์ (ทำนาต้องฆ่าหนู ฆ่าแมลง ฆ่าหอย) รับราชการ(ไปสาย,กลับก่อนเวลา,ลางาน,เอาของที่ทำงานไปใช้ที่บ้าน,ทำเอกสาร เท็จ)ค้าขาย(ขายของแล้วชอบตอแหล,โกหกลูกค้า) เป็นนักเรียนนักศีกษา(เอาเงินไปซื้อของฟุ่มเฟือย) ย่อมไม่บริสุทธิ์

                                          3.  เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์

ผู้รับทาน ผู้รับความช่วยเหลือของเรา ถ้าเราช่วยคนบาป คนไม่มีศีล ย่อมไม่ใช่เนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์

                                        เมื่อเรามาทำงานใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด บางครั้งเราคิดว่า แรงกายเราต้องบริสุทธิ์ แต่ คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า บางครั้ง เราก็ทำงานไปด้วยความสงสัย ว่า ถางหญ้ง ล้างห้องน้ำ ก่อสร้าง ทำนา เพาะกล้าต้นไม้ แล้วจะหายทุกข์ หายป่วยได้หรือ การคิดอย่างนี้ ก็ย่อมทำให้แรงกายเราไม่บริสุทธิ์

                                        คุณแม่ได้แนะนำว่า เราควรใช้แรงกายด้วยการภาวนาให้แรงกายของเรา จงเป็นแรงกายที่บริสุทธิ์ เป็นอานิสงค์ให้กับตัวเรา ในวันนี้ด้วยเถอะ

                                        เมื่อมาถึงตอนที่ "สารภาพบาปกับองค์สฟิงซ์ เห็นผลฉับพลันทันทีเหมือนสารภาพกับ อาจารย์อุบล"

                                        ก็มีพี่คนหนึ่ง มีอาการไอ เมื่อพี่เค้าออกมาสารภาพบาปที่ตนเองกระทำ ต่อหน้าจี้สฟิงค์ ที่คุณธนาได้ถือไว้ อาการที่ไอก็หายได้

                                         ลูกชาย ของ อาจารย์อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ได้ออกมาสารภาพ อาการปวดแขน อาการก็หายได้

                                         เมื่อ อาจารย์อภิชัย ออกมาแสดงความคิดเห็น ท่านก็ให้ความเห็นว่า การที่อาการเจ็บปวดของลูกชายหายได้นั้น เกิดจาก เราสำนึกกรรมของเราได้ และ สารภาพ โดยที่เราอาจจะไม่ต้องใช้สฟิงซ์ก็ได้ น้้นคือ เราใช้จิตของเราสื่อสารกับพระพุทธองค์โดยตรง  ซึ่งกรณีของการยกตัวอย่างอันนี้ คุณแม่อุบล ขอให้มีการพิสูจน์ โดยการขอให้องค์สฟิงซ์ของท่านอาจารย์อภิชัย ยุติการแผ่บารมีลงชั่วคราว และ ให้ ด๊อกเตอร์ชัชวลี กะลัมพะเหติ ซึ่งมีอาการเจ็บที่เท้า ออกมาสารภาพ

                                          ครั้งที่ 1 ให้สารภาพกับอาจารย์อภิชัย ก็ปรากฎว่าอาการเจ็บไม่หายเลย

                                          ครั้งที่ 2 ให้สารภาพกับพระพุทธองค์โดยตรง อาการเจ็บก็คงอยู่

                                           ครั้งที่ 3 ให้สารภาพกับจี้สฟิงซ์ของอาจารย์อภิชัย อาการก็ดีขึ้นหน่อย

                                           ครั้งที่ 4  ให้สารภาพกับจี้สฟิงซ์ของด๊อกเตอร์เอง อาการก็ดีขึ้นมามากหน่อย

                                           เมื่อผลการพิสูจน์ออกมาว่า ต้องสารภาพต่อจี้สฟิงซ์  คุณป้อม(คุณกฤษณะ) ได้ให้ข้อคิดเห็นกับลูกบ้านสวนพีระมิด ได้ฟังว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะ องค์สฟิงซ์ เป็นสื่อในการเชื่อมญาณ เป็นการอาศัยกำลังขององค์ท่านในการสื่อสารผ่านไปยังพระพุทธองค์         

                                            ซึ่ง คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า มนุษย์ทั้งหลาย ไม่สามารถสื่อสารโดยตรงกับพระพุทธองค์ เพราะ สภาวะจิตไปไม่ถึง ยกเว้น ผู้ที่มีกรรมฐานขั้นสูงเท่านั้น

                                           คุณเบส ซึ่งเป็นอิสลาม เมื่อออกมาสารภาพ ว่าฆ่าสัตว์ ขี้โกรธ ขี้โมโห ต่อหน้าองค์สฟิงซ์ อาการเป็นหวัดก็หายได้

                                           คุณวีรดา อยู่นวล(พี่แหม่ม) ออกมาเล่าว่า แฟนพี่เค้าปวดฟัน ทานยาแล้วก็ไม่หาย ได้นำเอาองค์สฟิงซ์ของน้องต้นกล้า มาสวมใส่ อาการที่เจ็บปวด ปวดเมื่อย ปวดขา ปวดฟัน ก็หายได้

                                            น้องต้นกล้า ใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ใช้ในการสอบเข้าเรียนชั้นประถม 1 สามารถสอบได้ในห้องที่เป็นเด็กเก่งๆ โดย ที่ขณะที่น้องต้นกล้าเรียนอนุบาล3 อ่านหนังสือไม่ได้

                                                                                          ขอขอบคุณ พี่แมว คุณป้อม และ คุณธนา ที่ช่วยแบ่งเบาภาระ ในการไปช่วยคุณแม่อุบล ในการไปบรรยายธรรม ที่บ้านไร่ปลายตะวัน ครับ

                                             ขอขอบคุณ พี่แมว ในการแบ่งเบาภาระ ในการช่วยจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ จี้สฟิงซ์ ให้กับลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ครับ

                                                                                        ขอ น้อมกราบต่อธรรมะ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องการทำดี การทำดี ดีน้อย ดีมาก อย่าประมาท เมื่อเรารู้สึกว่าเราดี เมื่อไร เราก็เลวเมื่อนั้น  "จงกล่าวโทษโจทก์ความผิดตนเองไว้เสมอ" อย่าให้นิวรณ์ 5 มาสิงใจเราได้ ไม่ว่าเวลาใดเวลาหนึ่ง ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อทำได้แล้ว ก็เข้าไปสู่สังโยชน์ 10 ประการ ถ้าพิจารณาวิปัสสนาญาณแล้ว จิตค่อยปลดอารมณ์ที่ยึดถือได้ครบ 10 ประการ โดยไม่กำเริบอีกแล้ว ผู้นั้นย่อมบรรลุอรหันตผล และท่านได้กล่าวถึง กสิณทั้ง 10

                 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-08 16:02:52


ความคิดเห็นที่ 1312 (1623170)

 

ขออนุญาตขยาย ข้อความให้ใหญ่ขึ้นนะครับ

ความเห็นที่ 1310 (1623134)
    
กราบอนุโมทนาบุญ อ.อุบลค่ะ

ตั้งตารอมาสองวันแล้วค่ะ วันนี้เข้าเวปบ้านสวนพอเห็นรายการคุยไปแจกไปโพสต์ไว้แล้ว ดีใจมากค่ะ ตอนนี้ท่านอ.อุบลไปโคราช ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่มีโอกาสได้บำบัดทุกข์กับท่าน อ.อุบลด้วยนะค่ะ ดูแต่ละตอนล้วนให้มองเห็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จับต้องได้เสมอ ขอบคุณท่าน อ.อุบลค่ะที่เสียสละเพื่อผู้มีทุกข์ทุกคนที่มีความศรัทธาในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและในท่าน อ.อุบลและบ้านสวนพีระมิดค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น กมลวรรณ์ ตาสาโรจน์ (tintan-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-08 14:55:11

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-08 16:14:48


ความคิดเห็นที่ 1313 (1624317)

 กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                     และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุก ท่าน ครับ

                     ขอน้อมกราบพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม พระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                     ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                     ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                                           วันนี้ ได้ชมคลิป ของวันที่ 12 สิงหาคม แล้ว ครับ

                     คุณแม่อุบล ได้เดินทางไปบรรยาย ธรรมบำบัด ที่บ้านไร่ปลายตะวัน ที่ อำเภอ วังน้ำเขียว จังหวัด นครราชสีมา เมื่อ วันที่ 20 กรกฎาคม 2555

                                           คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครปวดเอว

                      คุณลุงทำใหม่ อายุ ประมาณ 68,69 ปี ออกมาด้วยสภาพหลังโก่งงอ ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองปวดแอล(ปวดเอว) ได้สารภาพว่า เคยฆ่าแมว ฆ่ากบ ฆ่าเขียด เคยตีหลังวัว หลังควาย ไม่เคยมีกิ๊กมาก่อน แต่งงานแล้วก็ไม่เคยมีกิ๊ก อาการปวดเอวก็ดีขึ้นมาหน่อย ไม่หาย เมื่อสอบถามต่อ ก็ยอมบอกว่าแค่คิด(มีใจ)และใช้สายตาเกี้ยวพาราสีต่อหญิงอื่น อาการปวดเอวก็ดีขึ้นมาหน่อย แต่หลังที่โก่งงอก็เริ่มตรงขึ้น เมื่อสารภาพว่าก่อนแต่งงานเคยมีแฟนมาก่อน อาการที่ปวดเอวก็หายไป

                                              แต่โดยสรุปแล้ว คุณลุงไม่ค่อยให้ความร่วมมือ คุณแม่อุบล ต้องคอยกระตุ้น ก็ค่อยๆบอก ออกมาทีละเรื่อง ไม่ยอมบอกอะไรออกมาเอง

                        คนต่อมา คือ คุณสัญญา พี่เค้าออกมาบอกเล่าว่า ตอนเองเคยมีแฟนก่อนและหลังแต่งงาน แต่ทุกวันนี้ เป็นแค่ชู้ทางใจ ไม่ได้มีความสัมพันธ์อื่นๆอีก เนื่องจาก ป่วยเป็นมะเร็งที่ลำไส้ และ มะเร็งที่ตับ พี่เค้าก็สารภาพว่า เมื่อเจอเคราะห์กรรมก็หยุดทำบาป ตอนนี้ก็เหลือแค่ความฟุ้งซ๋าน เวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง ยอมรับว่า เคยใช้มีดฟันหลังสุนัข ฆ่าปลา ไม่เคยฆ่าคน ไม่เคยพาใครไปทำแท้ง ไม่เคยสนับสนุนให้ใครทำแท้ง หรือว่า รู้เห็นเป็นใจในการทำแท้ง แต่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิง เกิน 200 คน เมื่อสารภาพทุกอย่าง อาการที่ปวดเอวก็หาย

                          พี่สัญญา บอกกล่าวว่า เมื่อเราทำกรรมไรไว้ เราก็ย่อมได้รับผลกรรมที่เราเป็นผู้ก่อ        

                          คุณแม่อุบล ได้กล่าวในส่วนนี้ว่า เมื่อเราดับที่เหตุ ผลก็ย่อมดับ แต่เมื่อเราไปสร้างเหตุใหม่ ก็จะเกิดผลขึ้นมาอีก

                          พี่ผู้ชายอีกคน ออกมาสารภาพ ว่า เคยจับกบเอาเถาวัลย์มัดกบแขวนไว้ที่ต้นไม้ อาการปวดเอวก็หายไปหน่อย แต่เมื่อสารภาพว่า เคยนอกใจภรรยา โดยการคิดกับผู้หญิงอื่น แต่ฝ่ายเดียว โดยผู้หญิงเค้าไม่ได้รับรู้ด้วย อาการปวดเอวก็หายไปได้

                           "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"

                           เมื่อ คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใคร ปวดขา ปวดเท้า ชาเท้า ไหม โดย คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า เคยใช้เท้าถีบคน ใช้เท้าเหยียบสัตว์ ตีขาคน ตีขาสัตว์ ใช้เท้าเขี่ยสิ่งของ ใช้เท้าเหยียบเหรียญสตางค์ และ จะไม่ใช้เท้าในการทำลายความดี เมื่อสำนีกว่ากระทำผิด ก็ขอให้อาการที่เป็นหาย

                            ก็ปรากฎว่า มีกลุ่มคนที่นึกกรรมออก และ สำนึกกรรมที่ตนเองก่อแล้ว ยังไม่หาย ก็ออกมาสารภาพ ว่าเคยหักขากบ ขาเขียด ถีบลูก ถีบสามี ก็ยังไม่หาย ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ที่ไม่หายนั้น เนื่องจากว่า ยังไม่บอกกรรมที่ตนเองก่อไว้จนหมด  และ ยังโกหก ไม่พูดความจริง จึงขอให้ คุณธนา ได้บอกกล่าววิธีในการที่จะให้หายได้

                            คุณธนา ได้บอกกล่าวต่อกลุ่มคนเหล่านั้นว่า ให้พูดด้วยความศรัทธาในคุณแม่อุบล และ ด้วยความจริงใจ คือ ให้ใช้ระหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ก็ปรากฎว่า ยังเหลือคนที่ยังไม่หาย คุณธนา ก็จึงแนะนำให้กราบ คุณแม่อุบล สามครั้ง 

                                                         มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเคยล้อเลียนคุณแม่ของตนเอง ว่า "ยังไม่แก่ ก็ปวดขาแล้ว" หลังจากนั้นไม่นาน น้องผู้หญิงคนนี้ก็เกิดอาการปวดที่ขา

                            คุณแม่อุบล ก็สอบถามว่า เคยขอโทษหรือเคยขอขมาต่อแม่ของตนเองไหม น้องเค้าก็บอกว่า เคยขอโทษและขอขมาต่อแม่ของตนเอง แต่อาการที่ปวดขาก็ไม่หาย แต่เมื่อมาสารภาพต่อคุณแม่อุบล อาการที่ปวดขาก็หายไป

                            พี่สาวอีกคน ก็ออกมาบอกกล่าวว่า ตอนที่นาฬิกาทองตนเองหายไป โดยนึกไม่ออกว่า วางไว้ตรงไหน ก็ใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ก็หานาฬิกาทองของตนเองเจอ

                             มีผู้หญิงอีกคน ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเอง สายตาฝ้าฟาง ไม่รู้ว่าเกิดจากเหตุใด คุณแม่อุบลได้สอบถามว่า เคยใช้สายตาทำอะไรใครไหม พี่เค้าก็บอกว่าเคยใช้สายตาด่าผู้อื่น และ เคยดูหนังโป๊ เมื่อสารภาพออกมา สายตาที่ฝ้าฟางก็ดีขึ้นมาได้ แต่ยังสงสัย ในการแต่งกายของคุณแม่อุบล

                              เมื่อ คุณแม่ได้ขอให้ นายกเทศมนตรี สืบ ออกมาให้ความเห็นต่อปรากฎการณ์อันนี้ ท่านนายก ได้กล่าวว่าเป็น บารมีของพระพุทธองค์ที่ท่านประทานให้อาจารย์อุบล  และ การแต่งกายไม่ใช่สิ่งที่บอกกล่าวว่า จะช่วยใครได้หรือไม่

                                                           "ทุกสิ่งสำเร็จแล้ว มาจากใจ"

                                                              คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ดี ชั่ว ไม่ได้อยู่ที่เปลือก อยู่ที่ใจ ความคิด การกระทำ ขอให้บริสุทธิ์ ชุดขาวเป็นชุดที่เตือนใจเรา ให้ใจเราขาวเหมือนชุดที่สวมใส่ ให้ชุดขาวเตือนเราวา เราใส่ชุดที่บริสุทธิ์ กาย วาจา ใจ เราบริสุทธิ์เหมือนชุดไหม

                               องค์เทพสฟิงซ์ ท่านกุมความลับทุกสิ่งในโลก เราใช้พีระมิดเพื่อทำให้ใจเราสงบ เพื่อสามารถทำสมาธิได้

                                คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวว่า พระพุทธองค์ ท่านได้กล่าวว่า การค้นพบของพระองค์ท่าน เป็นแค่การกอบใบไม้แค่กอบเดียว (ศาสดามีมากมาย แต่ทุกพระองค์ ทุกศาสนา ต่างก็สอนให้ทุกคนเป็นคนดี)

                                                                 จี้สฟิงซ์ จึงได้จัดทำมาเพื่อ คนที่ไม่มีเวลาในการใช้ระหัส และ จะได้ใช้สารภาพการกระทำที่ไม่ดีของตนเองได้ โดยไม่ต้องมาสารภาพต่อท่านอาจารย์ ให้สารภาพต่อจี้สฟิงซ์ของตนเอง

                                 คุณป้อม (คุณกฤษณะ) ได้มาเล่าให้ฟังว่า หัวหน้าตนเอง ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่  คุณป้อมให้จี้สฟิงซ์ไปสวมใส่ อาการที่ป่วยก็หาย

                                  คุณกุหลาบ มาเล่าให้ฟังว่า คุณแม่ของพี่เค้า ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ชอบพูดคนเดียวทั้งวันทั้งคืน เมื่อพี่กุหลาบ ให้คุณแม่ห้อยจี้องค์สฟิงซ์ คุณแม่พี่เค้าก็นอนหลับได้ ไม่พูดมากๆเหมือนเดิม และ ตอนที่ คุณกุหลาบและลูก ตกบันได้ ก็ใช้ระหัส และ สวมห้อยจี้องค์สฟิงซ์ ก็ทำให้การตกจากบันได สะดุดหยุดอยู่ ก้นไม่กระแทกกับพื้น

                                                                   คุณแม่อุบล จึงขอให้ นายก สืบ ซึ่งห้อยจี้องค์สฟิงซ์ ลองให้คนที่เจ็บป่วย มาสารภาพต่อจี้สฟิงซ์ของท่านนายก ปรากฎว่า ทุกท่านที่ออกมาสารภาพต่อจี้องค์สฟิงซ์ของนายก สืบ ทุกท่านก็หายเจ็บป่วยได้

                                  คุณแม่อุบล ได้สรุปให้ทุกท่านว่า ให้รักษาศีลห้า ให้ทานด้วยใจที่บริสุทธิ์ เลือกเนื้อนาบุญ รักษาศีลให้บริสุทธิ์  กาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ ทำจิตใจให้สงบ มีจิตใจที่สดใสร่าเริง อย่าลบหลู่ผู้มีบุญ มีศีล ให้เห็นพระพุทธเจ้า ด้วยใจของเราเอง ไม่อยากเจ็บไข้ได้ป่วย ก็อย่าละเมิดผู้อื่น  ทำลายผู้อื่น ไม่อยากจน ก็อย่าไปลักขโมย อย่าชอบของฟรี อย่าทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์โดยที่เค้าไม่เต็มใจ อย่าอยากได้ของที่เจ้าของไม่ยกให้ อย่าเอาของวัดกลับมาบ้าน จะเป็นการติดหนี้สงฆ์ จะทำให้ลำบากยากจน เจ็บไข้ได้ป่วยรักษาไม่หาย

                                    เมื่อจิตใจไม่สงบ ก็ให้ใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" อย่าประกอบกรรมใหม่ ไม่ปรามาส ดูหมิ่น ท่านอาจารย์อุบล หรือ ผู้อื่น ทำให้ต้องรับกรรม เมื่อใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย"

                                     1. ได้ผลกับการใช้ระหัส ก็ให้บอกระหัสนี้ ต่อบุคคลอื่นๆไปเรื่อยๆ

                                     2.  ให้อุทิศบุญกุศลให้กับเทวดาผู้รักษาตัวของท่านอาจารย์อุบล ด้วย 

                                                                         เพราะ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ที่นี้ เกิดจากการที่คุณแม่อุบลได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ ในการแสดงให้เห็นกฎแห่งกรรม

                                     ที่ บ้านสวนพีระมิด ลุงเบิ้ม ได้มาบอกกล่าวว่า ลุงเคยบูชาองค์พีระมิดจำลองรุ่นมวลสารบ้านสวนพีระมิดไป เวลา ลุงขับรถ ไม่เคยเจอฝน ในขณะที่รถที่สวนทางมาเจอฝน

                                                                             และ ลุงเบิ้มได้บูชา เสื้อบ้านสวนพีระมิดไป แล้ว ได้พบร่างทรงของปู่ศรีสุโธ ท่านก็ก้มกราบต่อเสื้อบ้านสวนพีระมิด ในขณะที่เสื้อก็ยังถูกพับเก็บอยู่ ท่านปู่บอกว่า ท่านท้าวเวชสุวรรณ เสด็จมากับลุงเบิ้มด้วย ให้ลุงนำเสื้อขี้นหิ้งบูชา 

                                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อมงคล

                                         และ ขอขอบคุณ คุณพี่แมว คุณธนา คุณกฤษณะ(คุณป้อม) ที่ไปช่วย ทำให้การทำหน้าที่ของ คุณแม่ ในการทำ ธรรมบำบัด ที่บ้านไร่ปลายตะวัน ลุล่วงตามที่ได้รับมอบหมายจากพระพุทธองค์

                                        ขอขอบคุณ คุณพี่แมว ในการแบ่งเบาภาระ ในการจัดส่งองค์พีระมิดจำลอง รุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ

                                         ขอน้อมกราบ ต่อ ธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่อง กสิณดิน หลวงพ่อให้ความหมายของคำว่า กสิณ แปลว่า เครื่องหมาย

                                          สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 16:20:21


ความคิดเห็นที่ 1314 (1624433)

มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง

ได้ออกมาบอกกล่าวว่า

ตนเองเคยล้อเลียนคุณแม่ของตนเอง ว่า

"ยังไม่แก่ ก็ปวดขาแล้ว" หลังจากนั้นไม่นาน

น้องผู้หญิงคนนี้ก็เกิดอาการปวดที่ขา

.............................

กรรมล้อเลียนผู้มีพระคุณนี่แรงจริงๆนะคะ

ชนิดาก็เคยล้อคุณแม่ประจำ

เวลาท่านดูละคร พอถึงตอนเศร้า

คุณนายก็นั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเลย

เลยถูกลูกๆและสามี ล้อ ตาหล๊อด

พวกเราก็ล้อไปขำไป

 

และแล้วชนิดาก็เป็นเอง

ถ้าเห็นใครมีน้ำตาไม่ว่าจะในจอ นอกจอ

ชนิดาก็พร้อมที่จะ ปี่แตกไปด้วยบ่อยๆ

 

จะไม่ล้อคุณแม่และใครๆอีกแล้วค่ะ


อนุโมทนากับคุณ คุณากร ด้วยนะค๊า

ที่ชมรายการแล้ว

ก็มาเขียนธรรมทานแบ่งปันทุกๆครั้ง

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 07:22:03


ความคิดเห็นที่ 1315 (1624705)

ขอบคุณ คุณคุณากรที่เล่าเรื่องรายการคุยไปแจกไปของวันที่ 12 สค.ได้อย่างละเอียด เพราะหมอเปิดดูแล้วไม่มีภาพคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-17 20:15:28


ความคิดเห็นที่ 1316 (1626242)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                      และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                      ขอน้อมกราบ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม พระอาจารย์รัตน์ ท่านดตาจินิน องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                      ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                      ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร 

                                             เย็นนี้ ได้ดูคลิป วันที่ 26 สิงหาคม 2555

                       ธรรมบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที ณ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่  17 สิงหาคม 2555 และ ชมบารมีพระศรีอาริย์ ที่บ้านสวนพีระมิด

                                              คุณ แม่ ได้กล่าวตอนแรก ก่อนที่จะเริ่มบรรยายว่า ที่ขอให้ คุณธนา ไม่ต้องบรรยายประวัติของคุณแม่มาก นั้น เพราะ การทราบประวัติของคุณแม่ ไม่ได้ช่วยให้ใครหายเจ็บหายป่วย หรือ ทำให้สิ้นทุกข์

                        และ การที่ทุกๆท่าน ที่ีมาฟังบรรยายในครั้งนี้ ก็เคยไปทำบุญที่วัด ฝังลูกนิมิต ไปปิดทอง ทอดผ้าป่า แต่ทำแล้ว เคยหายทุกข์ หายป่วยฉับพลันทันทีหรือไม่

                        ธรรมะ + สัจจะธรรม คือ ธรรมชาติ + ความจริง

                        การทำบุญ หรือ การสงเคราะห์ผู้ใด ต้องประกอบด้วยความบริสุทธิ์ 3 อย่าง คือ

                         1ใจต้องบริสุทธิ์

                                                   2. วัตถุที่ให้ต้องบริสุทธิ์

                          3. เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์ 

                        คุณแม่ได้่เริ่มสอบถาม ว่า มีใครปวดหัว ปวดไหล่ ปวดขา ไหม ก็มีผู้คนมากมาย ต่างก็ยกมือขึ้น ซึ่งท่านก็สอบถามว่า เคยทำอะไรกันมาบ้าง 

                                                 ต่าง ก็พูดว่า ตนเองเคยมาทำงานสาย แต่กลับบ้านตรงเวลา เอาเวลางานไปดูคลิปบ้านสวนพีระมิด อยากไปทำธุระส่วนตัว ก็แจ้งลาป่วย นินทาเจ้านาย นินทาเพื่อนๆ

                         คุณแม่ได้ สอบถามว่า เคยให้ของขวัญกับเจ้านาย แล้ว เคยมีความปรารถนาอยากให้ท่่านเหล่านั้น มีความสุขไหม

                         หรือ ให้กับเจ้านาย ก็หวังเพียงแต่ต้องการให้ท่านจดจำเราได้ ให้ท่านคิดถึงบุญคุณของเรา ให้ท่านเพื่อให้ท่านเกรงใจเรา ไม่ลงโทษเราเมื่อเรากระทำผิดไปวัด ก็อยากให้ทางวัดประกาศชื่อเราว่า เรามาทำบุญด้วยทรัพย์จำนวนมากๆ

                                                 เงินที่ำนำไปทำบุญ นั้น เป็นเงินบริสุทธิ์ไหม มาทำงานสาย กลับก่อนเวลา ลาป่วยเป็นนิจ ลากิจเป็นประจำ แต่รับเงินเดือนเต็ม

                         ค้าขาย สินค้าไม่ดี ก็บอกว่าเป็นสินค้าดี กำไรมากมาย แต่กลับบอกว่ากำไรน้อย ทำให้ลูกค้าซื้อของโดยที่เค้าไม่เต็มใจซื้อ ไม่ต้องการซื้อ

                         พระที่เราไปทำบุญ หรือ คนที่เราให้การสงเคราะห์ เค้าเป็นคนดีหรือไม่ (พระพุทธองค์ ท่านให้ตรวจสอบได้ โดยการเอาศีลเข้าไปจับ)

                          ทุกท่านที่มาฟังการบรรยาย ต่างก็พากันตอบว่า การทำบุญของพวกเค้า ไม่เคยทำให้บริสุทธิ์ได้ทั้งสามอย่าง

                           คุณแม่ ก็บอกว่า เพราะสาเหตุอันนี้ ทำให้การทำบุญของพวกเรา จึงไม่สามารถทำให้เกิดอานิสงค์ฉับพลันทันทีในวันนั้น

                           พี่ผู้หญิงคนหนึ่้ง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองปวดไหล่ ซึ่งก็ยอมรับว่า มาทำงานสาย แต่เลิกงานตรงเวลา นินทาเจ้านาย ไปธุระแต่ลาป่วย ในเวลาทำงานก็เอาเวลามานั่งดูเวปบ้านสวนฯ เมื่อสารภาพออกมา อาการที่ปวดไหล่ก็หายไป 95%  คุณแม่ให้คุณธนาช่วยแนะนำวิธีที่จะให้หายได้ ก็คือ การใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย"  อาการที่ปวดก็หายไปได้

                            แต่ คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ที่ไม่ให้ใช้ระหัสในทันที ก็เพราะ อยากให้ทุกคนละชั่ว กลัวบาป (สำนึกในการกระทำของตนเอง ว่า ที่กระทำนั้นเป็นการทำบาป ก่อน และ ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง แก้ไขตนเอง ไม่กระทำอีก) 

                            ถ้าให้ใช้ระหัสทันที และ ก็หายทันที ทุกคนก็ไปทำบาปทำชั่วกันโดยไม่มีความเกรงกลัว เนื่องจาก คิดว่า เมื่อกระทำแล้วได้รับกรรม รับความทรมานเจ็บปวด ก็ใช้ระหัสก็หายได้ 

                                                         คุณแม่ได้สอบถามต่อไปว่า ถ้าคุณแม่เป็นเนื้อนาบุญสำหรับผู้มาฟังบรรยายจริงๆ แต่เมื่อคุณธนาได้แนะนำว่า คุณแม่เป็นอาจารย์อุบล นั้น

                            มีใครคิดว่า อ้อนี้นะหรือ อาจารย์อุบล แต่งตัวก็ไม่สวย  อายุก็มากแล้ว ทำไมยังตัดผมทรงหน้าม้า ตาก็ดุ พูดก็ไม่ไพเราะ

                            ทุกคนต่างก็หัวเราะ สำหรับคำถามนี้ ซึ่ง คุณแม่ก็บอกให้ฟังว่า เมื่อเรามีจิตที่ไม่บริสุทธิ์  จิตที่ควบคุมไม่ได้ แล้วก็ยังไม่พูดความจริง เราก็ย่อมไม่ได้รับอานิสงค์ในการหายเจ็บ หายจน หายป่วยได้ในฉับพลันทันที เพราะว่า ผู้ที่ทำให้หายได้นั้น ย่อมไม่ใช่อาจารย์อุบล แต่เป็นพระพุทธองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายๆพระองค์ ที่เสด็จมาพร้อมอาจารย์อุบล

                             ซึ่ง คุณแม่ได้สอบถามความเห็นจาก ดร.วิชิต ซึ่งเป็นเจ้าภาพ ในปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เมื่อสารภาพออกแล้ว อาการเจ็บปวดได้หายไปได้

                              ซึ่ง ท่านด๊อกเตอร์ ได้ให้ความเห็นปรากฎการณ์อันนี้ ตามหลักวิชาการ ว่า เกิดจากจิตใจของผู้ที่มีความเจ็บปวดเอง เมื่ออาจารย์อุบลได้สอบถามตรงประเด็น เมื่อจิตเค้าเปิด ไม่มีการต่อต้าน เค้าก็ย่อมหายได้ แต่ด๊อกเตอร์ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ หรือ ต่อต้าน แต่ด๊อกเตอร์ขอพิสูจน์

                                                           ที่บ้านสวนพีระมิด

                              คุณแม่ได้อาราธนาขอให้ พระศรีอาริย์ ได้มาแสดงฤทธิ์ แสดงพระบารมี และ แสดงความเมตตา ผ่านทางกาย วาจา ใจ ของคุณแม่อุบล ให้ลูกหลานบ้า่นสวนฯ ไ้ด้ชมพระบารมี เพื่อ แสดงให้เห็นว่า พระองค์มีจริง

                                                             อ.อภิชัย ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองนันขนลุกซู่ อาการปวดหลัง ก็เบาโล่ง

                               ดร. จุ๋ม ก็ออกมาบอกกล่าวว่า อาการที่ปวดที่แขนมา ร่วมเกือบ 10 ปี ก็หาย และ ได้เห็นแสงที่เกิดจากความเมตตาของพระศรีอาริย์    

                               ดร. จิ๋ม ก็ออกมาบอกกล่าวว่า อาการปวดหัว ปวดไหล่ ก็หาย

                               พี่แก้ว ก็ออกมาบอกกล่าวว่า อาการที่ปวดหัวก็เบาลงไป

                               พี่เหมี่ยว ก็ออกมาบอกกล่าวว่า อาการก๊อกแก๊กที่มือก็หาย

                               คุณเบส ก็ออกมาบอกกล่าวว่า ปลื้มปิติ อาการที่เป็นไซนัสก็หาย

                                คุณอัญ ก็ออกมาบอกกล่าวว่า เห็นแสงของพระศรีอาริย์

                                คุณเอิ้น ก็ออกมาบอกกล่าวว่า อาการที่เจ็บคอ จมูกก็หายใจดีขึ้น ซึ่้งคุณแม่ได้บอกกล่าวว่า

                                พระธรรมิกราช ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่หมุนกงล้อธรรม กงล้อจะหมุนสำหรับผู้ที่เคารพและประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์(ความทุกข์ทั้งทางกาย ทางใจ การเงิน การงาน จะได้รับพระเมตตา) และ กงล้อจะหยุดหมุน เมื่อพบกับผู้ที่ไม่ประพฤติปฏิบัติ เพราะ ไม่เคารพและนับถือ ย่อมไม่ได้รับพระเมตตา

                                 น้องตันอ้อ ออกมาบอกกล่าวว่า อาการปวดขาก็หาย อาการที่ขนตาแทงดวงตา ขนตาก็ไม่แทงดวงตาแล้ว

                                 คุณอร ก็ออกมาบอกกล่าวว่า อาการที่ปวดหัว หันคอไม่ได้ ตอนนี้ ก็หายและหันคอได้แล้ว

                                 คุณธนา ก็ออกมาบอกกล่าวว่า เกิดอาการเหมือนมีพลังดึงให้ศีรษะโน้มไปข้างหน้า ไม่สามารถฝืนได้ และสายตาที่เคยสั้น มองอะไรไม่ชัด อาการก็ดีขึ้น สามารถมองเห็นได้ดีขึ้น

                                 คุณกฤษณะ ออกมาบอกกล่าวว่า เห็นแสงหมุน และ เห็นวัตถุทรงกลม เหนือศีรษะตัวเอง อาการที่ปวดที่อกก็หาย

                                  คุณอมร ที่เคยปวดข้อมือ ก็หาย

                                  คุณมงคล ก็เห็นภาพท่าน ปลื้มปิติจนร้่องไห้

                                  คุณริน อาการปวดท้องก็หาย

                                  คุณอาจารย์กันต์สินี ตัวเบา จากที่เคยนั่งแล้วลุกลำบาก ก็ลุกได้สบายๆ ไม่ลำบากเหมือนเดิม คันที่คอที่เป็นตุ่ม ตุ่มก็ยุบหายไป

                                  คุณสมจิต ที่สายตาสั้นก็มองชัดขึ้น นิ้วล๊ํอคก็หาย

                                  คุณอติศักดิ์ ปวดข้อมือ ก็หาย

                                  สิ่งที่ทุกท่านได้รับความเจ็บป่วยทรมานก็หายได้ เมื่อได้รับพลังบารมีของพระศรีอาริย์ นั้่นย่อมแสดงให้ ลูกบ้านสวนฯ ได้รับทราบว่า พระศรีอาริย์ท่านมีจริงและท่านก็เมตตาต่อผู้คน       

                                                                     คุณ กุหลาบ ได้ออกมาบอกกล่าวให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้ทราบว่า พี่เค้าได้ช่วยเหลือผู้คน โดยการให้มาสารภาพบาปต่อองค์จี้สฟิงซ์ของพี่เค้า และ ใช้การสารภาพบาปผ่านโทรศ้พท์ โดยการให้ตำแหน่งของโทรศัพท์อยู่ตรงองค์จี้สฟิงซ์ ทำการบำบัดให้คุณยายของพี่เค้า ทำให้หายเจ็บปวดเอว ปากที่ชาก็หาย

                                   ขอขอบคุณ พี่แมว(คุณประวีณา) ที่ช่วยแบ่งเบา ช่วยจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ ช่วยจัดส่งองค์จี้ัสฟิงซ์ให้ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ครับ

                                  เห็นบรรยากาศการร่วมแรงร่วมใจของลูกหลานบ้านสวนฯในการจัดย้ายวิมานบ้านไม้ ไผ่ และ เห็นองค์สมเด็จพระปฐมธรรมบิดา ใกล้จะเสร็จตามวัตถุประสงค์ ก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วย ครับ

                                   ขอน้อมกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องการระงับความฟุ้งซ่าน ด้วยการเจริญอานาปานุสติกรรมฐาน (กำหนดรู้ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก)

                                    สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-25 20:10:49


ความคิดเห็นที่ 1317 (1626424)

ขอบคุณคุณคุณากรค่ะ

ที่เขียนเล่าเรื่องราวรายการคุยไปแจกไปได้ละเอียดมาก

เหมือนได้ดูด้วยตัวเองเลยค่ะ

พอดีโทรทัศที่บ้านรับสัญญาณ ไม่ได้เลยไม่ได้ดู

แต่ได้มีโอกาสติดตามตามธรรมทานของคุณคุณากร

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 12:56:46


ความคิดเห็นที่ 1318 (1626587)

อนุโมทนากับธรรมทาน

อันละเอียดละออ

จากพ่อหนุ่ม คุณากร ด้วยนะค๊า

 

ชนิดาก็ได้ชมเทปล่าสุดนี้แล้วเช่นกันค่ะ

ยิ่งได้ฟังธรรมะอันงดงาม

ของพระพุทธองค์ที่สื่อผ่าน

ทางคำพูดของท่านอาจารย์แล้ว

 

ต้องบอกว่า

เรียบเรียงคำพูดมาได้ลงตัวมากๆ

พร้อมทั้งมีตัวอย่างประกอบ

ที่ทำให้ผู้ฟังเห็นภาพ

และนึกตามได้อย่างชัดเจน

ในเรื่อง การทำบุญที่จะเห็นผล

ได้ฉับพลันทันทีนั้น

ต้องมีความบริสุทธิ์ ทั้งสามอย่าง

คือจิตผู้ให้ทาน วัตถุทาน

และเนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์

 

คือได้ฟังการแสดงธรรมในวันนั้นแล้ว

ชนิดาคิดว่า

ในจำนวนผู้ไปร่วมงานประมาณ 200คน

ต้องมีผู้จิตเปิดและมีดวงตาเห็นธรรม

เกิน 95%แน่นอน ค่ะ

 

มิน่าล่ะ อานิสงค์อันยิ่งใหญ่

จากการที่คุณพี่จุ๋ม

เป็นแม่งานในการจัดงานครั้งนี้

จึงส่งผลให้คุณพี่จุ๋ม ได้พบพระศรีอาริย์

แบบชัดเจนที่สุดเลย

อนุโมทนากับพี่จุ๋มด้วยอีกครั้งค่ะ สาธุ

 

และได้มาฟังลูกบ้านสวนฯ

แต่ละท่านออกมาถ่ายทอด

ภาพที่เห็นและความรู้สึก

ที่ได้จากการสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์แล้ว

ก็ยินดีกับทุกๆท่านอีกครั้งค่ะ

 

และชนิดาก็เชื่อเหมือนกันค่ะว่า

พระศรีอาริย์มีจริง ล้านเปอร์เซ็นต์ค๊า

เพราะแค่เพียงชมรายการหน้าจอ

ก็รับสัมผัสบารมีของพระองค์ได้เช่นกัน

 

เพราะจะรู้สึกโล่งหัวและตัวมากๆ

เหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่าง

ผ่านจากหัวถึงเท้า

ระหว่างที่ชมรายการตั้งแต่

ช่วงที่ท่านอาจารย์อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์

ตลอดเวลาจนถึงที่พี่น้องทุกๆท่าน

ออกมารายงานอาการต่างๆจนครบเลย

 

อยากให้ผู้ชมทุกๆท่านลองสังเกตุดูนะคะ

ว่าจริงหรือไม่

ชนิดาอาจจะอุปทานไปเองก็ได้

 

แต่จะว่าไป ถ้าแบบนี้เรียกว่า อุปทาน

งั้นพวกเราก็น่าจะอุปทานต่อไปนะคะ

เพราะอุปทานแล้วมีความสุข

คลายทุกข์ได้ นี่เนอะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 06:44:26


ความคิดเห็นที่ 1319 (1627481)

ได้ดูรายการคุยไปแจกไปวันอาทิตย์ที่26 สิงหาคม 2555

น้องเอิร์ท อายุ 18 ปี พิการมาแต่กำเนิด ต้องคลาน ได้เล่าความฝันว่าอาจารย์อุบลให้เลี้ยงเสือและสิงโต และเห็นเสือและสิงโตมารวมกัน น้องเอิร์ทได้วาดรูป อาจารย์อุบลมือขวาถือธรรมจักร และมือซ้ายถือพีระมิด ระหว่างที่วาดรูปมีอาการปวดแขนปวดขา และพยายามวาดรูปขาของอาจารย์อุบลซึ่งวาดยังไงก็ไม่ตรง อาจารย์อุบลเมตตาบอกว่าน้องเอิร์ทต้องวาดให้สำเร็จและให้วาดใหม่แล้วน้องเอิร์ทจะหาย

คุณณัฐพร ฝันเห็นองค์ปฐมปางพระนิพพาน คือเป็นแก้วใส ใต้ฐานมีคำว่าอาจารย์อุบลช่วยด้วย 4 ภาษา ได้รับคำสั่งให้วาดรูปที่เห็นในฝัน ซึ่งสื่อถึงคำทำนาย ว่าคนในยุคพระศรีอาริย์ จะมาแสดงบารมี คนในยุคนั้นจะไม่พิการ สวยหล่อ ใบหน้าคล้ายกัน

คุณสิงห์ป้อมเวลาไปงานบุญ มักจะเจ็บหน้าอก เคยไปหาหมอได้ยามากินก็ไม่หาย เพราะกรรมจากเคยทำให้ผู้หญิงเสียใจ และมีหนี้ประมาณ 50000 บาท หลังจากมาสร้างบุญ สมาทานศีล ว่าผิดศีลข้อ 3 ทำให้การงานกับลูกน้องดีขึ้น ตาข้างขวาที่มองไม่ชัด เพราะชอบดูหนังโป๊

พี่สิทธิ์บอกว่าปวดข้อมือ เพราะยกของเยอะ เมื่อออกมาพูดใกล้อาจารย์อุบลก็หายปวด

คุณอมรเจ็บเข่า เคยถอนฟันทำให้สมองสั่งงานช้า  มีอาการคันที่คอเพราะชอบพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เช่นอนุโมทนาเวลาคนถูกหวย ต้องใส่สร้อยจี้ตลอด

ผู้หญิงเคยกระโดดจากตึกทำให้ปวดหลัง และเข่าด้านซ้าย เพราะเคยทำกับแมว

ดร.จิ๋ม ปวดหัวมีอาการดีขึ้น

คุณแหม่มมือหายล็อก จากกรรมชอบเอาของที่ทำงานกลับบ้าน

คุณสมจิต สายตาไม่ดี เพราะมีมโนกรรมเยอะ

คุณแหม่มสายตายาว ต้องกินยานอนหลับ เป็น 1 ปี เคยออกเงินกู้

คุณแก้วปวดไหล่ ปวดหัว เคยคิดไม่ดีกับอาจารย์อุบล

ดร.จุ๋มเคยฆ่าหนูมาเยอะ ทำให้ปวดแขน

หนูรินเวลาเดินปลายเท้าเอียง

น้องเอิ้นเป็นเอดส์ ตาข้างขวาบอดสนิท ตาข้างซ้ายมัว ฉี่ติดขัด เพราะผิดศีลข้อ 3 เป็นภูมิแพ้ เป็นหวัด เนื่องจากชอบนินทา

คุณอทิศักดิ์ เจ็บข้อมือเพราะเคยขโมยของ

คุณอร ปวดบ่า เพราะกรรมทำแท้ง หลงในลาภทำให้ห่างบุญ

คุณเจี้ยบ คัน  ทำบัญชีเท็จ ชอบเครียดหงุดหงิดง่าย

น้องต้นอ้อ ขนตาแทงเข้าไปในตา ปวดขา และยังมีอีกหลายท่าน ซึ่งหลังจากสมาทานศีลและรับเมตตาบารมีของพระศรีอาริย์ ก็ทำให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ มีอาการดีขึ้น และหาย

อนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมสมาทานศีลและสร้างบุญด้วยแรงกาย ปัจจัยที่บ้านสวนพีระมิดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 11:43:03


ความคิดเห็นที่ 1320 (1627691)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                      และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                      ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่้งบ้านสวนพีระมิด และ องค์สฟิงซ์

                      ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                       ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                       วันนี้ ได้ดูคลิป ของ วันที่ 2 กันยายน 2555

                                               ตอน ธรรมบำบัด แบบฉับพลันทันที ศรัทธาก็ได้ผล ไม่ศรัทธาก็ไม่ได้ผล ณ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ที่บ้านสวน

                        ณ  คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล วันที่ 17 สิงหาคม 2555

                         คุณแม่อุบล ได้ให้ ดร.วิชิต ให้ความเห็นต่อปรากฎการณ์ ที่ผู้คนได้หายเจ็บหายปวดทางร่างกายฉับพลันทันที เมื่อได้สารภาพบาปที่ตนเองได้กระทำมา

                          ท่านด๊อกเตอร์ ท่านได้บอกกล่าวว่า โดยตัวของท่านเอง ไม่ได้ต่อต้าน หรือ จะบอกว่าไม่เชื่อ แต่ท่านเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม             

                                                      แต่ ท่านเชื่อว่า เป็นเรื่องของจิตของคนเรา โดยกล่าวว่า เมื่ออาจารย์อุบลสอบถามตรงประเด็น ใจของคนที่ถูกถามเปิด ไม่มีการต่อต้านของจิต อาการที่เจ็บปวด ก็หายได้

                            ซึ่ง คุณแม่อุบล ก็เลยรบกวนขอให้ ท่านด๊อกเตอร์ เป็นผู้ไต่สวนกรรมให้กับลูกศิษย์ของคณะของด๊อกเตอร์(ซึ่งพี่ผู้หญิง คนนี้ เป็นนักวิทยาศาสตร์)

                             ซึ่ง พี่ผู้หญิง ก็ออกมาสารภาพกรรม ต่อ ด๊อกเตอร์วิชิต ว่า เคยฆ่าหนู เพื่อทำงานวิจัยมาประมาณ 200-300 ตัว และ กล่าวคำขออโหสิกรรม และ ขอขมา กับ บรรดาหนูทั้งหลายที่ได้เคยฆ่า อาการปวดไหล่ ก็บรรเทาเบาลงไปได้หน่อย

                                                     และ คิดว่า ที่อาการเจ็บปวดที่ไหล่ นั้น อาการบรรเทาเบาบาง ลงไปได้บ้างนั้น เกิดจาก

                              เมื่อเราได้พูด ทำให้จิตใจเราสบาย กายเราก็จะสบายไปด้วย    อาการเจ็บปวดก็อาจจะหายไปได้บ้าง แต่ก็เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม แต่ไม่เชื่อว่า อาการเจ็บปวดจะหายไ้ด้ทันทีทันใด

                                                              เพื่อ เป็นการพิสูจน์ ว่า ถ้าสารภาพบาปกับคุณแม่อุบล แล้วอาการเจ็บปวดจะหายได้ฉับพลันทันทีหรือไม่ คุณแม่ก็ให้ลองสารภาพกับคุณแม่ดู แต่เมื่อสารภาพเรื่องการฆ่าหนูไปแล้ว คุณแม่ไ้ด้สอบถามพี่คนนี้(เสื้อสีชมพู) ว่าอาการเจ็บปวดที่ไหล่เป็นอย่างไรบ้าง พี่เค้า ก็บอกว่า ไม่หายไปกว่าเดิม และ ยังบอกว่า อาจจะเป็นไปได้ไหม ที่ เมื่อเรากำลังพูด ใจเราจดจ่อกับการพูด ไม่ได้กังวลกับอาการเจ็บปวด อาการก็เหมือนจะหายไปได้

                                คุณแม่ได้บอกกล่าวกับพี่คนนี้ว่า จิตพี่เค้าต่อต้าน ประตูจิตไม่เปิด และ ได้บอกว่า เมื่อคืนก่อนจะมาบรรยายธรรมบำบัดที่นี้ ก็ได้อารธนาพระบารมีของพระศรีอารย์  ซึ่งจะใช้ธรรมะหมุนจักร ซึ่งจะหมุนกับผู้ที่ใจหมุนตาม(ผู้ที่มีใจเปิดรับ และ ไม่ต่อต้าน) แต่จะหยุดหมุนกับคนที่ใจไม่หมุนตาม(ใจต่อต้าน) เป็นปรปักษ์

                                                                ซึ่งพี่ผู้หญิงคนนี้ ใจเค้ามีการต่อต้าน ก็ไม่สามารถทำให้อาการปวดไหล่หายได้

                                และ พี่คนนี้เค้าเชื่อว่า การฆ่าหนู เพื่องานวิจัย ไม่ได้ทำเพื่อความสนุก คงไม่เป็นบาปกรรม เพราะ ขาดเจตนา  และ ไ้ด้ไปทำสังฆทานให้กับบรรดาหนูที่ถูกฆ่า

                                 คุณแม่อุบล จึงบอกว่า ถ้ามีใครมาให้สังฆทานกับเรามากๆ แล้วขอฆ่าเรา เราจะยอมไหม แล้วพูดให้ฟังว่า ถ้าเราไปละเมิดคนอื่น เราเจตนาหรือไม่ เราก็ต้องรับกรรม แล้วยกต้ัวอย่างว่า ถ้ามีคนเปิดประตูเข้ามา และ เกิดการทำให้ประตูกระแทกกับผู้อื่น และ ทำให้ผู้อื่นล้มลงไป หัวกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บทางสมอง เค้าย่อมโกรธแค้น และ เดือดร้อน  เราจะมาบอกว่าเราไม่เจตนาไม่ได้

                                 แต่ พี่เค้าก็ยังแย้งว่า ตามกฎหมายแล้ว เมื่อเราไม่ไ้ด้เจตนา ก็มีเหตุอันควรลดโทษ คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า เราต้องเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา อย่าพยายามยกเหตุผลมาอ้างเพื่อเข้าข้างตนเอง เพื่อไม่ต้องร้ับกรรม นั้นคือ เราต้องมีความสำนึกผิด ว่าเรากระทำอะไรลงไป

                                  สำหรับ พี่สาวคนนี้ เค้าไม่ได้สำนึกว่าการกระทำของเค้าเป็นบาปกรรม ดังนั้น อาการเจ็บปวดก็ไม่หาย

                                   ด๊อกเตอร์วิชิตให้ความเห็นอีกครั้งว่า จิตของเราถ้ามีการต่อต้าน ก็ย่อมไม่เห็นผล จิตต้องลงมาระดับหนึ่ง แต่ต้องประกอบด้วยสติปัญญาด้วย

                                   คุณแม่ไ้ด้เล่าเรื่องเพิ่มเติมว่า มีคนสองคนเป็นพาคินสัน มาขอให้คุณแม่บำบัด แต่คนหนึ่งบอกกล่าวทุกอย่าง ก็หาย แต่อีกคนพยายามปิดบัง และต่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำไมให้สารภาพแต่บาป ไม่เห็นให้สารภาพบุญบ้าง ชื่อ ยศ ตำแหน่งก็ไม่ยอมบอก ก็ไม่หาย

                                    ต่อมา คุณแม่ได้สอบถามว่า ใครปวดไหล่ ก็มีคนยกมือมากมายหลายคน สอบถามว่า เคยฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ทำแท้ง รู้เห็นการทำแท้ง ทำร้ายร่างกายคน ทำเอกสารเท็จไหม  เคยใช้มือทำความไม่ดีหรือไม่

                                    เพราะ จิตที่ศรัทธาต่ออาจารย์อุบล คือ จิตที่ิบริสุทธิ์  การยอมรับการกระทำบาปกรรม เป็นวัตถุทาน เนื้อนาบุญ คือ การที่คุณแม่ไ้ด้กระทำทุกสิ่งทุกอย่างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเจ้าอยู่หัว

                                                                         ถาม มีใครปวดหัว มึนหัว ไมเกรน สอบถามว่า เคยทำร้ายคน ทำร้ายสัตว์ หรือวางแผนคิดไม่ดีต่อคนอื่น ทุบหัวปลา ตีหัวสัตว์ ตบหัวคน คิดไม่ดี สาระแนเรื่องชาวบ้าน คิดไม่ดีต่อผู้ทรงศีล กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ราชวงศ์

                                    สอบถามว่า ใครปวดไหล่ ปวดเอว ไหม เคยฆ่างู เหยียบสัตว์ ตีลูก ตีสามี ทำร้ายร่างกายคน ทำร้ายสัตว์ ทำแท้ง อยากให้คนอื่นตาย สมน้ำหน้าเมื่อคนอื่นมีเคราะห์กรรม

                                   สอบถามว่า   มีใครปวดขา เคยกระทีบเท้าใส่พ่อแม่ ใช้เท้าแทนมือ เตะ ถีบคนอื่น ใ้ช้เท้าเหยียบเหรียญ หักขากบ หักขาเขียด ขาปู ตีผู้อื่นที่ขา

                                  สอบถามว่า เคยคิดจะทำอะไรหรือไม่ (มโนกรรม) อยากถีบเมียน้อย อยากถีบสามี

                                  สอบถามว่า เคยพูดสิ่งไม่ดีไหม(วจีกรรม)

                                   เมื่อสอบถามว่าเคยทำ และ ยอมรับ และทำการขอขมาต่อการกระทำความผิดทั้งทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ อาการเจ็บปวดก็ดีขึ้นบ้าง บางคนก็หายเจ็บปวดไปเลย แต่ต้องอยู่ที่สารภาพเพื่อหาย หรือสารภาพเพราะสำนึกผิด                                         ต่อมา พีสาวพี่แก้ว ออกมาบอกว่า เคยตีขาสุนัขหัก และ ต่อมาอีกสิบปี พี่สาวพี่แก้วก็ตกบันไดขาหัก

                                   เมื่อขอขมาด้วยคำพูดที่ไพเราะ และ สำนึกผิดแล้ว อาการที่ปวดขาก็ดีขึ้น

                                   แต่เมื่อสอบถามความเห็นจากด๊อกเตอร์วิชิต ท่านก็บอกว่าท่านไม่เชื่อ เพราะว่า เป็นเรื่องความเจ็บปวด ไม่มีหลักฐานที่เห็นชัดเจน แต่ถ้าเป็นเรื่องหลังโก่งงอ ขาเป๋ แล้วหาย ท่านอาจจะเชื่อ

                                    คุณแม่ ได้บอกกล่าวว่า ท่านก็ไม่ได้มาทำให้ใครเชื่อ แต่ท่านมาเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ ว่า การที่เรากระทำอะไร เราก็ได้รับผลของการกระทำนั้นๆ

                                    ที่บ้่านสวนพีระมิด

                                     คุณกระรอก ได้ออกมาบอกว่า วันที่คุณแม่ไปบรรยายธรรม ที่ คณะเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นั้น ตอนออกไปห้องน้ำ พี่เสื้อชมพู มาสอบถามว่า คุณกระรอกหายจริงหรือ  และพี่เสื้อชมพูมาพูดคุยกับเพื่อนๆว่า ตอนออกไปเถียงกับอาจารย์อุบล อาการปวดหัวหายไป และ คิดอยากจะมาบ้านสวนพีระมิด และคุณกระรอก เห็นหัวหน้าเค้าเขียนโน๊ตลงในสมุด เวลาอาจารย์อุบลท่านสอบถามว่า ใครเคยทำกรรมอะไรบ้าง

                                      คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า จี้สฟิงซ์ นั้นไม่สามารถซื้อไปฝากใครได้ นอกจาก พ่อ แม่ ลูก และ ผู้มีพระคุณ เท่านั้น และ ไม่ใช่เจ้าของสฟิงซ์ ก็ไม่สามารถนำไปสารภาพเองได้ ต้องสารภาพกับเจ้าของ และ พูดสารภาพดังๆ (นั้นคือ เจ้าของจี้สฟิงซ์เอาไปช่วยคนอื่นๆได้) และ เจ้าของก็พูดสารภาพบาปได้ตลอดเวลา

                                       แต่อุปกรณ์สมาทานศีล นั้น สามารถใช้สารภาพกรรมที่ไม่ได้เจตนาได้ โดยเจ้าของไม่ต้องพูดออกมา สารภาพในใจได้

                                        โดย ลองให้อาจารย์กันต์สินี ซึ่งมีอาการเจ็บต้นคอ เอี้ยวคอไม่ได้ ออกมาทดลองกับอุปกรณ์สมาทานศีล โดยไม่ต้องออกเสียง สารภาพในใจ ก็ปรากฎว่า ดีขึ้น 50% แต่ต่อมา คุณแม่แนะนำให้ขอขมาต่อรุกขเทวดาของยอดตำลึง และ รุกขเทวดาประจำต้นไม้ ที่ตันตำลึงพันขึ้น (เพราะ อาจารย์กันต์สินี ท่านได้หักกิ่งต้นไม้เพื่อเอายอดตำลึง) ก็ดีขึ้น 60%

                                        เมื่อสอบถามลูกบ้านสวนฯ ก็มี  ทั้งที่มีอาการปวดไหล่ ปวด   เื้ท้า ปวดแขน ปวดขา ค้นที่แขน ปวดบ่า ปวดหลัง ชาที่มือ สายตามัว น้องต้นอ้อ ก็มีอาการไอ

                                        หลังจากอาราธนาบารมีของพระศรีอาริย์ และระลึกถึงบุญกุศลที่กระทำที่บ้านสวนฯ ในการมาช่วยเตรียมงานต้อนรับพระศรีอาริย์ ก็มีบางคนอาการดีขึ้น บางคนก็หาย

                                        แต่เมื่อคุณแม่อุบลได้มอบอุปกรณ์อาราธนาศีล ซึ่งมีบารมีของพระศรีอาริย์ ให้กับลูกบ้านสวนฯ ที่ได้ไปใช้แรงกายช่วยเตรียมงานรับพระศรีอาริย์ ทุกคนก็เกิดปิติกันทุกคนอาการที่เจ็บปวดก็หายกันทุกคน

                                         ขอขอบคุณ พี่แมว(พี่ประวีณา) ที่แบ่งเบา ในการจัดส่งองค์พีระมิดจำลอง และ จี้สฟิงซ์ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ครับ

                                         ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ที่ได้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด ในการเตรียมงานรับพระศรีอาริย์

                                                                                 ขอน้อมกราบต่อธรรมะ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ท่านได้บรรยายธรรมะ เกี่ยวกับเรื่องกสิน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 18:47:32


ความคิดเห็นที่ 1321 (1627783)

รายการคุยไปแจกไป 2 ก.ย. 2555

ตอน    ธรรมบำบัด แบบฉับพลันทันที

ศรัทธาก็ได้ผล  ไม่ศรัทธาก็ไม่มีผล

ณ ม.มหิดล และบ้านสวนพีระมิด

 

 

กราบอ.อุบล กราบในบารมีพระพุทธองค์

กราบองค์พระศรีอาริยเมตไตร

 

ได้ชมรายการตอนนี้แล้ว เห็นถึงพระบารมีของพระศรีอาริย์

และอ.อุบล ที่ได้พยายามช่วยมนุษย์ผู้โง่เขลาทั้งหลาย

ให้ตาสว่างพบความจริง ด้วยการใช้ปัญญาพิจารณาตาม

 

เข้าใจแล้วว่า กงจักร ซึ่งเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้า

ทำงานอย่างไร

การจะเผยแพร่ธรรมให้บุคคลใดเข้าใจได้ประสบผลสำเร็จ

ผู้ฟังจะต้อง ตั้งสติ และคิดตามที่ผู้บรรยายอธิบาย 

แล้วใช้ปัญญาพิจารณาว่า ที่ผู้พูด พูดมานั้นเป็นจริงมั้ย?

เช่น คิดตามว่า ถ้าเราเป็นผู้ถูกกระทำได้รับความเสียหาย

เราจะโกรธเขามั้ย เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ถ้าเราจินตนาการตาม เราก็จะเข้าใจธรรมะได้แล้ว

 

แต่ที่เข้าไม่ถึงธรรม  เพราะเราไม่ยอมวาง ความเชื่อ

ความรู้ หรือวิชาการต่าง ๆ ที่เราเคยรู้มา

แถมด้วยยึดอัตตา

ไม่ฟังคำอธิบายแต่รีบเถียงออกไปก่อน

มองทุกอย่าง ตามที่เราคิด 

โดยไม่ยอมเปิดใจ ลองจินตนาการตามผู้พูด

ได้แต่คิดตามใจตัวเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง

คิดเข้าข้างตัวเอง และมันก็คือ

การปิดกั้นความรู้ใหม่ ๆ ทำให้เรารู้เท่าเดิมตลอดไป

และทำลายโอกาสของตัวเอง

ที่ควรจะได้พบวิทยาการใหม่ที่ล้ำหน้าและได้ผลดีกว่าเดิม

 

นักวิทยาศาสตร์ที่ประสบผลสำเร็จในทุกด้านก็มีให้เห็น

เป็นตัวอย่างเช่น ดร.อาจอง ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก

คุณสมบัติในตัวท่านที่ดีเยี่ยมสำหรับนักวิทยาศาสตร์ คือ

ท่านฟัง ท่านเปิดใจ เปิดโอกาส รับศาสตร์ความรู้ใหม่ ๆ เสมอ

ทดลองความรู้ใหม่ ๆ ตามหลักวิทยาศาสตร์ ตามเหตุและผล

 

คิดดูว่า ถ้าท่านเป็นคนที่มักคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ..แล้วจบ

ท่านคงจะไม่มีวันนี้ ที่นำการทำสมาธิมาช่วย

ให้หยั่งรู้ได้ในทุก ๆ เรื่อง

ใช้วิธีทำสมาธิในการทำวิจัย จนจบดร.มาได้

และก็นำมาช่วยพัฒนาจิตใจเด็ก ๆ และท่านก็มั่นใจว่า

สามารถต่อยอดให้ทุกอย่างในชีวิตดีขึ้นประสบความสำเร็จได้

 

ธรรมะเป็นเรื่องของจิตใจล้วน ๆ

การสารภาพบาป ที่ได้ผล

น่าจะเกิดจากจิตที่สำนึกผิดที่ได้ละเมิดผู้อื่นไว้ 

ความรู้สึกสำนึกผิด จะเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา

หรือเมื่อเราถูกกระทำแบบนั้นบ้าง คือเมื่อกรรมตามสนองนั่นเอง

 

ดังนั้น ถ้ารู้ว่าทำบาป แต่คิดว่าเราไม่ผิด (ตามเหตุผลของเรา)

ก็คือการไม่สำนึกอยู่ดี การสารภาพบาปแบบนี้ จึงไม่มีผล

หรือเกิดผลน้อยมาก เพราะใจไม่สำนึก ใจไม่เข้าถึงธรรม

 

หรือบางคนอาจเชื่อเรื่องบาปกรรมส่งผลจริง

แต่ไม่เชื่อว่าจะมีวิธีทำให้บาปหยุดลงได้ทันทีทันใด

เมื่อไม่เชื่อ จิตมันต้าน คิดว่าไม่มีทาง มันก็คงไม่มีทางจริง ๆ

ชื่อว่า ธรรมะบำบัด ก็ต้องบำบัดที่จิตของเราเป็นอันดับแรกก่อน

 

แต่เหนือเรื่องความเชื่อไม่เชื่อ 

มนุษย์ทั้งหลายก็มีความอยากเป็นที่ตั้งสูงสุดอยู่ดี

เชื่อไม่เชื่อไม่รู้  ศรัทธารึเปล่าไม่รู้ 

ที่แน่ ๆ คือทุกคน ..อยากหาย

ธรรมะยุคใหม่ จากบารมีพระศรีอาริย์ จึงนำความ "อยาก"

ของคนทุกคน  มาเป็นอุบายนำทางให้หันหน้าเข้าหาธรรม

ซึ่งเห็นแล้วว่าได้ผลดีมาก ๆ ด้วย

 

การไปบรรยายนอกสถานที่ทุก ๆ ครั้ง รวมถึงครั้งนี้

ท่านอาจารย์ได้นำคนเข้าสู่ธรรมะ แบบถูกตรง

อีกเป็นจำนวนไม่น้อย

แม้บางท่านอาจไม่แสดงออกต่อหน้าว่า..ยอมรับ..นะ

แต่ก็แอบมีจดสารภาพบาปกรรม แอบมีคุยนอกรอบว่าได้ผล

อยากไปบ้านสวนบ้าง ฯลฯ 

แบบนี้เรียกว่า ใจน่ะยอมรับ แต่ปากมันแข็งอยู่ ใช่มั้ยคะ

............................................................................

 

กราบอนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลบุญสูงสุดของท่านอ.อุบล

และครอบครัว รวมถึงคณะติดตาม และผู้จัดงานทุกท่านด้วยคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 14:52:25


ความคิดเห็นที่ 1322 (1627879)

อนุโมทนากับธรรมทาน

ทั้งจาก พ่อหนุ่มคุณากร

และ หนูแหวน ด้วยนะค๊า

 

แบบว่าอ่านจากทั้งสองท่านเขียนมาแล้ว

ได้เนื้อหาทั้งแนวกว้างและเชิงลึกเลย

 

แต่ยังไงๆ ก็จะหาโอกาสชมด้วยตัวเองให้ได้

เพราะแค่ได้ฟังตัวอย่าง

พระธรรมคำสอนที่ท่านอาจารย์

ถ่ายทอดมาบางส่วน

ก็ชวนให้พิจารณามิใช่น้อย...แล้ว

 

ฉะนั้น ถ้าได้ฟังเอง

ดวงตาจะได้สว่าง รุ่งโรจน์ โชติช่วง

ด้วยแสงแห่งธรรม ซักที

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-05 06:29:55


ความคิดเห็นที่ 1323 (1628397)

 วันที่ 9 กันยา 55 ตอนบารมีพระศรีอาริย์ ทรงบันลือสีหนาท ทุกสถานที่

ช่วงแรกคุณธนาถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใช้ไสยศาสคร์ หรือมายากลหรือไม่

ท่านอาจารย์พูดถึงพระไตรปิฎก หน้า 106 ถึงปาฏิหารย์ 3 อย่างที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้

1.อิทธิปาฏิหาริย์ (เน้นแสดงอิทธิฤทธิ์)   เช่นเหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ไม่เป็นหนทางสิ้นทุกข์

2.อาเทศนาปาฏิหาริย์ คือรู้ใจคนใครคิดอย่างไร  ไม่เป็นหนทางสิ้นทุกข์

3.อานุสาสนีย์ปาฏิหาริย์ แสดงผลของกรรมทุกอย่างเกิดแก่เหตุ ดับที่เหตุ จึงเกิดผล ซึ่งเป็นหนทางดับทุกข์

สิ่งที่อาจารย์แสดงในวันนี้เป็นหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงพุทธานุญาต และเป็นผู้กำกับ  การที่พระพุทธเจ้าเข้าสู่นิพพาน คือการสูญสิ้นแห่งกิเลสไม่ต้องมาเวียนว่าย ตายเกิด  การเสด็จมาของพระพุทธเจ้า อาจารย์เปรียบเสมือน คลื่นโทรศัพท์ ส่งสัญญาณมายังเครื่องรับ โดยเรามองไมห็นตัวคลื่น และก็คือเกิดเสียงที่เครื่องรับ 

คุณธนาถามทำไมการมาสารภาพกับอาจารย์หรือเดินเข้ามาใกล้อาจารย์ก็หายจากอาการต่างๆ

ท่านอาจารย์จึงพิสูจน์ใครมีอาการต่างๆให้เดินขึ้นมา บนเวที และบอกว่าวันนี้ท่านอาจารย์เชิญบารมีของพระศรีอาริย์มาเมตตา ไม่ต้องไต่สวน ถ้ากรรมไม่หนักและศรัทธาก็จะหาย คนที่ขึ้นมามีอาการ ปวดเข่า ปวดข้อ ปวดขา ปวดหลังปวดไหล่ ชาที่เท้าหรือปวดหัว บางคนแค่ตอนท่านอาจารย์อาราธนาบารมี ของพระศรีอาริย์ก็หาย คนอื่นๅ หาย 70  80  85 98 เปอร์เซ็น  บางคนก็ขอกราบท่านอาจารย์ และยิ่งเข้าใกล้ท่านอาจารย์ อาการต่างๆก็หายมากขึ้น นั่นเป็นเพราะบารมีของพระศรีอารย์ พระศรีอารย์เสด็จมาจริงๆ

บางคนกรรมหนักที่ไม่หายเพราะกำลังบุญไม่มี ให้สร้างบุญกุศลถ้ามีโอกาสก็ให้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนเพราะที่นั่นบุญจะแรง และเป็นบุญที่บริสุทธิ์ ท่าน อาจารย์ยกตัวอย่าง ดร.จิ๋มและ ดร.จุ๋ม ที่เป็นโปลิโอตั้งแต่เด็ก ไปบ้านสวนครั้งแรกจะเดินขาไม่ตรง และใช้ไม้เท้า ท่านทั้งสองทำบุญทั้งปัจจัยแรงกาย และสม่ำเสมอ จนถึงปัจจุบันสุขภาพท่านแข็งแรงเดินได้ตรง และไม่ต้องใช้ไม้

ท่านดร.วิชิตสรุปที่ทุกคนหายจากอาการต่างๆ เพราะอำนาจของพุทธคุณ ธรรมคุณ  และสังฆคุณ

- การไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน เพราะการผิดศีลข้อ 2  เป็นภัยร้ายแรงต่อทรัพย์ เคยลักขโมยมาตั้งแต่เด็ก เป็นหนี้สินที่ปลดไม่ได้ ใครอยากรวยให้ทำทาน  โดยทานมี  3  อย่างตือ  

1.ทาสทาน  ให้ทานสิ่งของที่เราไม่ต้องการแล้ว  ผลก็คือสิ่งที่เราได้มาก็จะไม่ดี 

2.สหายทาน ให้ทานในสิ่งที่เรากินเราใช้  ผลก็จะกลับมาหาเราปานกลาง

3.สามีทาน ให้ทานสิ่งของที่เดีกว่าเรากินเราใช้ ผลก็คือเราจะได้แต่สิ่งที่ดี ๆกลับมา  อื่นๆ ที่ทำให้เราเป็นหนี้สินคือ

-ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์ ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นเสียเงิน โดนไม่จำเป็น

-ไปที่ไหนทำให้ตรงนั้นสิ้นเปลืองทรัพย์ เช่น การใช้น้ำ ใช้ไฟ ทิ้งขยะทำให้สถานที่สกปรก

-ชอบของฟรี ตะหนี่ ถี่เหนียว ใครให้ของเราต้องหาทางตอบแทนให้มากกว่าเดิม

-ไปวัดเอาของวัดกลับบ้าน ทำให้ติดหนี้สงฆ์  ให้สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ทำไปเรื่อยๆ ตลอดไป

-ยืมของ ยืมเงินคนอื่นแล้วไม่ใช้

-ไปไหน ถ้าเขาไม่เชิญไม่เรียก ก็อย่าไปกิน ต้องดูด้วยว่าเขาเรียกเพื่อมารยาทหรือเรียกอย่างจริงใจ

-ใช้ของหลวง วัสดุสำนักงานต่าง ๆ ใช้น้ำใช้ไฟ หลวง ให้คืนโดยซื้อของไปให้สำนักงาน หรือสร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน

-คำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ให้ตักบาตรวิระทโย ทุกวันกี่บาทก็ได้โดยไม่เบียดเบียนตัวเอง มีโอกาส ก็นำไปถวาย กับองค์กรสาธารณ หรือที่เราศรัทธา อธิษฐานจิตบุญนี้เพื่อถวายเป็น ธรรมทาน  วิหารทาน  สังฆทาน และทานใหญ่น้อย

-ความทุกข์ทางใจ ละเมิดทางไหนก็จะได้ทางนั้น เช่นอิจฉาริษยา  ไม่ได้อย่างเขาใจเราก็จะหงุดหงิด

-การอนุโมทนาบุญ จะได้ผลทันที 90 เปอร์เซ็นต์  โดยไม่ต้องลงทุน หรือออกแรงใดๆ 

-การซ้ำเติมคนอื่น กรรมหนักทำให้เป็นถึงโรคมะเร็งได้

-มโนกรรมให้ใช้ปัญญา ทำตัวให้เหมือนภูเขา อย่าเป็นเหมือนยอดหญ้า

-คุณธนาถาม พีระมิดเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าอย่างไร

-ท่านอาจารย์ยกตัวอย่างพระอาทิตย์เป็นของทุกศาสนา และพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้เขียนไว้ในพระไตรปิฎกว่าห้ามใช้ ท่านอาจารย์ได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์คือพระอาจารย์รัตน์ และท่านดร. อาจอง และนำมาใช้ที่บ้านสวนและแสดงผล มีพลังปราณ และพลังมโนธาตุที่นำมาใช้

-พีระมิดเป็นเครื่องขยายบุญและบาป กลับคืนเป็นร้อยเท่าพันทวี

-พีระมิดเป็นเครื่องย่นเวลา ทำวันนี้ได้ผลวันนี้ ไม่ต้องรอถึงภพชาติหน้า

-ท่านอาจารย์สรุปคนที่เป็นโรค ที่ไม่หายในวันนี้ ให้ศึกษาในเวปไซด์ บ้านสวน และดูรายการจากเคสตัวอย่างต่างๆ และมีโอกาสก็ให้ไปสร้างบุญที่บ้านสวน ก่อนกลับท่าน อาจารย์เมตตาให้ทุกท่านได้มาเดินใกล้ท่านอาจารย์เพื่อรับพระบารมีของพระศรีอาริย์อีกรอบ

ก็พยายามสรุปเท่าที่จำได้ หากมีสิ่งใด ตอนใดที่ลูกฟังผิดไป ขอสิ่งศีกดิ์สิทธิ์จงเมตตาและอภัยให้แก่ลูกด้วยเทอญ ขอให้ลูกจงมีปัญญา และดวงตาเห็นธรรมมากยิ่งๆขึ้น ด้วยเทอญ  สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รมภ์รวินท์ กระสวย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-08 21:12:29


ความคิดเห็นที่ 1324 (1628403)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                        ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                         ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                         และ ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                         คืนนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 9 กันยายน 2555

                          "บารมีพระศรีอาริย์ ทรงบันลือสีหนาท ทุกกาลสถานที่" 

                                                 เป็นคลิปที่ คุณแม่ได้ไปบรรยายธรรมบำบัด ที่  คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2555 

                          คุณธนา ได้สอบถามคุณแม่ว่า การมาบรรยายธรรมครั้งนี้ เป็นการใช้มนต์มายาหรือไม่ ที่ทำให้คนที่เจ็บปวดหายได้ และ ที่บอกว่า พระพุทธเจ้าท่านเสด็จมานั้น เป็นไปได้อย่างไร ก็ท่านได้นิพพานไปแล้ว

                          คุณแม่ จึงได้ขอให้ ด๊อกเตอร์วิชิต ได้เปิดพระไตรปิฎก ที่หน้า 106 ซึ่งได้กล่าวถึงเรื่องที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสเกี่ยวกับปาฎิหาริย์ 3 อย่าง คือ

                          1. อิทธิปาฎิหาริย์

                                                                     เช่น ผู้เดียวทำเป็นหลายคน เหาะได้

                                     เป็นอิทธิฤทธิ์ที่นักมายากลก็ทำได้ คนที่เรียนวิชาคันธารีก็ทำได้ แต่ไม่ได้เป็นไปเพื่อการสิ้นทุกข์ ไม่ได้ทำให้หายเจ็บหายป่วยได้

                                                   2. อาเทสนาปาฏิหาริย์

                                      เช่น การดักรู้ใจคน

                                      คนที่เรียนวิชามณิกา ก็ทำได้ ก็ไม่ได้ช่วยให้ใครสิ้นทุกข์ได้ หายเจ็บป่วยได้

                           ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ พระพุทธเจ้า ท่านไม่ทรงสรรเสริญ

                           3. อนุศาสนีปาฎิหาริย์

                                       เป็นการแสดงผลของกรรม แสดงให้รู้ ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ให้ค้นหาเหตุ และ ดับเหตุ คือ การขอขมา การขออโหสิกรรม และ การทำบุญให้   

                           พระพุทธองค์ ท่านทรงสรรเสริญปาฏิหาริย์ นี้

                           การดับเหตุ เป็นไปเพื่อการสิ้นทุกข์  เมื่อฝ่าฝืนก็ย่อมเกิดทุกข์       

                           คุณแม่ได้กล่าวว่า แค่การรับสารภาพ เป็นแค่บุญเล็กๆ น้อยๆ  ทำให้ได้รับผลไม่เต็มร้อย ทำให้อาการเจ็บปวด ยังไม่หมด ซึ่้งอาจจะเกิดจาก

                           1. ค้นหาเหตุยังไม่หมด

                           2. กำลังบุญที่ทำให้เค้ายังไม่พอ เนื่องจากยังไม่ได้สร้างบุญกุศลให้เค้าเลย

                           คุณธนาได้สอบถามว่า แล้วจะทราบได้อย่างไร ว่า พระพุทธองค์ท่านเสด็จมา 

                           คุณแม่ได้กล่าวว่า การมาบรรยายธรรมครั้งนี้ คุณแม่ได้แสดงหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์  ซึ่งเป็นการได้รับพุทธานุญาตจากพระพุทธองค์ให้แสดง และ พระองค์กำกับการแสดง จึงจะเกิดปาฎิหาริย์ เมื่อสารภาพกับคุณแม่ หรือ สารภาพกับจี้สฟิงซ์ แล้ว อาการเจ็บป่วยก็หาย  เพราะ ได้รับพุทธานุญาตจากพระพุทธองค์ ซึ่งการจะเกิดปาฎิหาริย์ได้นั้น                                                

                                                  ซึ่งคุณแม่ได้บอกกล่าวว่า การที่เราได้รับทราบว่า พระพุทธเจ้า ท่านได้นิพพานแล้ว  เป็นการละสังขาร สิ้นกิเลส ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก แต่พระเมตตาของพระพุทธองค์ก็ยังคงอยู่ แต่เราไม่สามารถเห็นได้ เพราะ ท่านไม่ได้มีสังขารอีกต่อไปแล้ว แต่เราสามารถรับทราบได้ จากผลที่เกิดขึ้น เช่นอาการที่เจ็บปวดหายได้

                             คุณแม่ได้กล่าวว่า ถ้าเราทำมโนยิทธิให้จิตอยู่ระหว่าง ฌาน3 และ ฌาน4 เราจะเห็นพระพุทธองค์ เห็นจุฬามณี ก็เหมือนกับการที่เราดูทีวี ฟังวิทยู เราก็ไม่สามารถมองเห็นคลื่นภาพ และ คลื่นเสียงได้ แต่ถ้าเรามีเครื่องรับ เช่น ทีวี เมื่อเราเปิดทีวี เราก็มองเห็นภาพ และ เสียง ได้ 

                                                       เมื่อ คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า คุณแม่ได้อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ มาอยู่ที่ กาย วาจา ใจ และ ให้พี่ผู้หญิง คนหนึ่ง ที่มีอาการปวดที่เข่า ให้เดินเข้ามาใกล้ๆ อาการที่ปวดเข่าก็ดีขึ้น เหลือแต่อาการชาเท่านั้น เมื่อคุณแม่แตะไหล่ ก็เหลืออาการชาเพียงเล็กน้อย  แต่เมื่อให้ใช้ระหัส และ การขอพระบารมีของพระศรีอาริย์ ขอให้อาการที่ชาหายด้วย แต่ปรากฎว่า อาการชาไม่ได้หายไป

                             แต่เมื่อให้คนอื่นๆ ที่มีอาการปวดท้อง ปวดหลัง ปวดขา ออกมาสัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ บางคนก็หาย บางคนก็เหลืออาการแค่เล็กน้อย พวกพี่ๆ ก็ขอกราบคุณแม่ อาการก็หายกันทุกคน ซึ่งคุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ถ้ามาขอกราบเพื่อจะได้หายจากความเจ็บปวด ย่อมไม่ได้ผล แต่ต้องขอกราบโดยไม่ขออะไร ก็จะหายได้ ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่า เราต้องสร้างบุญด้วยพระกรรมฐาน ซึ่งเป็นบุญที่ใหญ่ แต่ถ้าสร้างไม่ได้ก็ให้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด เพราะ เป็นบุญแรง แต่อย่าไปทำแบบทำไปบ่นไป หรือ ทำด้วยความขี้เกียจ หรือ ทำไปก็เกิดความสงสัยไป จะทำให้เป็นบุญที่ไม่บริสุทธิ์

                              ซึ่งคุณแม่ได้ยกตัวอย่าง ด๊อกเตอร์จิ๋ม ซึ่งเป็นโปลิโอ ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ที่มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ โดยการขุดดิน หิ้วปูน อาการที่ปวดหลัง ก็หายโดยไม่ต้องไปนวดอีก ขาที่เคยเหวี่ยง ก็ไม่เหวี่ยง ขาก็เดินไม่แบะ ไม่ต้องใช้ไม้เท้า ขาก็ตรงขึ้น โดย ด๊อกเตอร์สุวัฒน์ รุ่นน้องของด๊อกเตอร์จิ๋มออกมาบอกกล่าวยืนยัน ซึ่งด๊อกเตอร์สุวัฒน์บอกว่า ด๊อกเตอร์จิ๋มมีความศรัทธาต่ออาจารย์อุบลและบ้านสวนฯ มาก จะเห็นทุกครั้งที่ หาที่จอดรถที่ ปตท. ด๊อกเตอร์จิ๋มจะใช้ระหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ทำให้มีที่จอดรถทุกครั้ง

                              เมื่อสอบถามด๊อกเตอร์วิชิต ถึงเรื่องของการหายของด๊อกเตอร์จิ๋มด๊อกเตอร์วิชิต ก็บอกว่าเชื่อใน พุทธคุณ ธรรมคุณ และ สังฆคุณ

                                                        เมื่อ คุณแม่ได้สอบถาม ถึง เรื่องสภาพคล่องทางการเงิน ก็มีคนจำนวนมากมายที่ยกมือขึ้น ว่าตนเองมีปัญหาการเงิน ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่า การทำทานต้องให้มีความบริสุทธิ์สามส่วน ผลจึงจะเกิดฉับพลันทันที อยากสวยให้รักษาศีล อยากรวยให้ทำทาน อยากฉลาดให้ทำสมาธิ ทำวิปัสนากรรมฐาน

                              คุณแม่บอกว่า การทำทานนั้นแบ่งเป็น 3 อย่าง

                              1. ทำทานแบบ ทาสทาน คือ การให้ของที่ไม่ดีกับผู้อื่น

                                   ทำให้เรามีกิน มีใช้ สิ่งของที่แย่ๆ

                               2. ทำทานแบบ สหายทาน คือ การให้ของที่เท่าของตนเอง

                                   ทำให้เรามีกิน มีใช้ สิ่งของปานกลาง

                                                           3. ทำทานแบบ สามีทาน(นาย) คือ การให้ของที่สูงกว่า

                                    ทำให้เรามีกิน มีใช้ ที่ดีเลิศ

                                    นั้นคือ การที่เราทำทานเพื่อละอัตตาของตนเอง ยกจิต

                                การที่เรามีหนี้สิน เพราะ เราไม่ขยันทำทาน ทำบุญ หรือ ทำทานไม่เป็น ทำลายโอกาสในการสร้างทาน หรือ ผิดศีลข้อสอง(ลักทรัพย์) เป็นกรรมที่สร้างแล้วยกเลิกไม่ได้ ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์(ไปทานข้าวด้วยกัน แต่เราพยายามควักเงินให้ช้าๆไว้) ใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้า ทิ้งขยะ ไปวัดก็เอาอาหารกลับบ้านด้วย

                                ค้าขาย ก็ยัดเยียดของที่จะขายให้กับลูกค้า ก็จะทำให้เรามีอุปสรรคทางการเงิน

                                 การที่เจ้านายเลี้ยงข้าวเรา ถ้าเรามีโอกาสก็ให้ซื้อของไปฝากเจ้านายบ้าง (รู้จักการรับ ก็ต้องรู้จักการให้)

                                                              ถ้าไม่มีเงินทอง ก็ให้ใช้แรงกายตอบแทนเค้า

                                 ยืมเงินใคร ก็ควรไปใช้คืนเค้า ผ่อนใช้เค้า แล้วก็ไม่ควรก่อหนี้ใหม่

                                  ซึ่งในโลกมนุษย์ มีกฎ 2 อย่าง คือ

                                  1. กฎที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น กฎหมาย กฏระเบียบ ซึ่งเป็นกฎที่ยกเลิก เปลี่ยนแปลงได้

                                  2. กฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นกฎที่ยกเลิก แก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้

                                  คุณแม่ได้กล่าวว่า คนที่ไปวัดแล้วชอบนำของวัดกลับบ้าน ต้องทำบุญโดยการชำระหนี้สงฆ์ โดยการสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ หน้าตัก 4 ศอก หรือ นำเงินไปหยอดตู้ชำระหนี้สงฆ์ โดยทำไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิต เมื่อทราบแล้วอย่าทำผิดอีก ถ้าทำอีก 2 หรือ 3 ครั้ง ก็ต้องไปโลกันต์

                                   ไปใช้ห้องน้ำ อย่าทำห้องน้ำสกปรก ไม่ทิ้งขยะ

                                    หนี้แผ่นดิน ชอบโกงภาษี เลี่ยงภาษี เอาของหลวงกลับบ้าน ให้สร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน ถ้าสร้างไม่ได้ ก็ให้ใส่บาตรวิระทะโย ให้ใส่ทุกวัน โดยให้เป็นเงินที่ไม่เบียดเบียนตัวเอง ทำแล้วไม่เดือดร้อน เวลาใส่ก็ให้อธิษฐานว่า

                                    "ปัจจัยจำนวนนี้ ข้าพเจ้าขอสร้างสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน และ ทานใหญ่น้อยทุกทาน"(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านบอกไว้)

                                     เมื่อรวบรวมได้แล้ว ก็ให้นำไปทำบุญ สถานที่ที่เรามีศรัทธา เช่น โรงพยาบาล องค์กรสาธารณะกุศล

                                    อย่าไปอยากกินของผู้อื่น โดยที่เค้าไม่อนุญาต หรือ เค้าไม่ให้ และ เวลาเค้าเรียกให้เราทานอะไร ก็ควรจะพิจารณาด้วยว่า เค้าเรียกเราตามมารยาทหรือเปล่า

                                    ทางใจ เราก็ตรวจสอบด้วยว่า เราเคยอิจฉาใครไหม เคยมีความคิดไม่อยากเห็นใครได้ดี เพราะ ทำให้เราไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

                                    คุณแม่ ได้ให้นิยามว่า

                                    อิจฉา คือ อยากเป็นอย่างเค้า แล้วเป็นไม่ได้  แล้วหงุดหงิด เป็นแค่ วาจา ใจ ไม่ถึงขั้นทำร้ายเค้า

                                     ริษยา คือ ไม่อยากเห็นเค้าเป็นอย่างนั้น อยากทำลายเค้า อยากให้เค้าวิบัติ

                                     มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ออกมาบอกว่า ปวดหลัง คุณแม่ลองให้อนุโมทนากับด๊อกเตอร์จิ๋ม กับการที่ด๊อกเตอร์หายจากการเจ็บป่วย แต่เมื่อโมทนาแล้ว ก็ปรากฎว่าอาการปวดหลังไม่หาย คุณแม่ให้เหตุผลว่า พี่เค้าไม่ได้มีความคิดโมทนายินดีจริงๆ

                                     คุณแม่ได้สรุปให้ฟังว่า การประสบปัญหาการเงิน นั้น ก็เกิดได้จากทั้ง กาย วาจา ใจ  เราอย่าไปคิดอิจฉาริษยาใคร ซึ่งมโนกรรม ก็ต้องใช้คุณธรรม จริยธรรม คือ ใช้ปัญญาหาเหตุ อยากรวยก็ต้องหาสาเหตุว่า ทำไมเค้าถึงรวย เพราะ ที่สุดของคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า คือการพ้นทุกข์ มีความสุข

                                      ที่เราทุกข์นั้น เกิดขึ้น เพราะ คนอื่น หรือ ว่าเกิดขึ้นเพราะตัวเราเอง ซึ่งพระพุทธองค์ให้เราแก้ไขที่ตัวเราเอง

                                       หลวงพ่อเสงี่ยมได้บอกคุณแม่ว่า ให้ทำดัวเป็นภูเขา อย่าทำตัวเป็นยอดหญ้า เพราะ ยอดหญ้า น้ำท่วมก็เน่า ลมพัดก็ไหวเอน ถูกเหยียบก็ยุบ ฝนตกใส่ก็เปียก ภูเขาไม่ไหวเอน ไม่ยุบ ไม่เปียก

                                        คุณแม่บอกว่า ให้เรารับรู้ ไม่รับเอา ใครจะเป็นอะไรก็ช่างเค้า อย่าไปหย่อนจิตไปตาม ทุกคนมีกรรมเป็นของแต่ละคน นิสัยของเค้ามาจากภพภูมิที่เค้ามา ปากจัด ด่าเก่ง มาจากขุม4 ขี้ขโมย มาจากขุม2 เจ้าชู้ลามก มาจากขุม3 ขี้เหล้า มาจากขุม5 ฆ่าสัตว์ มาจากขุม1 เราไปเปลี่ยนแปลงที่มาของเค้าไม่ได้ ให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเรา กำหนดตัวเราได้ เปลี่ยนแปลงที่ไปของเราได้

                                      คุณธนาได้สอบถามว่า ปิรามิดเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาหรือศาสนาพุทธอย่างไร

                                      คุณแม่ได้บอกว่า ในพระไตรปิฎก ก็ไม่ได้เขียนไว้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไว้ พระพุทธองค์ก็ทรงบอกว่า ความรู้ที่ท่านมีเปรียบเสมือนกับใบไม้เพียงกอบมือเดียว เมื่อเปรียบกับใบไม้ที่มีอยู่ในโลกนี้ทั้งหมด

                                      พระอาทิตย์ก็ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ

                                      พระพุทธเจ้า ท่านก็ไม่ได้ทรงห้าม ไม่ให้ใช้ปีรามิด หรือ ไม่ให้ใช้รถ

                                      คุณแม่ ถามว่า เป็นคนไทย ทำไมไม่ทานผัดไท ทำไมทานเห็ดชินตาเก๊ะ ทานเห็ดเข็มทอง ทานลอดช่องสิงคโปร์ ทานขนมจีน

                                      คุณแม่บอกว่าที่่ท่านใช้พีระมิดนั้น เนื่องจาก พระอาจารย์รัตน์ ท่านได้บอกกล่าวว่า พีระมิดสามารถดึงพลังปราณ และ พลังมโนธาตุ และ ด๊อกเตอร์อาจอง บอกกล่าวว่า พีระมิดทำให้กล้วยไม่เน่า เนื้อสัตว์ไม่เน่า เพียงแต่แห้งเท่านั้น เมื่อไปวางไว้ที่ตำแหน่ง 1/3 ของความสูงของพีระมิด และ พีระมิดมีพลังงานเร้นลับที่ทางวิทยาศาสตร์พยายามค้นคว้า แต่ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า พลังงานเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อเอาน้ำมาตั้งไว้ใกล้ๆ หรือ ไว้ภายในพีระมิด เมื่อนำน้ำมาตรวจจะพบว่าโมเลกุลและผลึกของน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลง

                                        ซึ่งในพระไตรปิฎก ยังกล่าวถึง พลังปราณ และ พลังมโนธาตุไว้ ซึ่งเราได้ทราบแต่เพียงว่า ร่างกายเราประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่แท้จริงแล้ว ร่างกายเรา ยังมี อากาศธาตุ และ วิญญาณธาตุ

                                         พลังปราณ คือ พลังงานชีวิต

                                         พลังมโนธาตุ คือ ธาตุรู้ คือ ความรู้สึกของจิตใจ

                                         เมื่อเราเกิดความทุกข์ ความสุข ก็ไม่มีเครื่องมือทางการแพทย์ในการตรวจวัด แต่เราก็มีความรู้สึกถึงความทุกข์ และ ความสุข

                                          ซึ่ง พลังปราณจะมาทดแทนสำหรับคนที่บกพร่องในศีล ที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วย

                                          มโนธาตุ ก็มาทดแทนผู้ที่ทำมโนกรรมไว้ จิตใจไม่สงบ มาช่วยทำให้จิตใจสุขสงบ 

                                         คุณแม่ไม่ได้นำพีระมิดมาทำลายล้มล้างศาสนาพุทธ แต่นำมาส่งเสริมให้เข้าถึงธรรมะ เวลาทำสมาธิจิตใจไม่สงบมีความคิดฟุ้งซ่าน ลองทำสมาธิในพีระมิด หรือ นำเอาพีระมิดจำลองมาวางใกล้ๆ ทำให้จิตสงบ  สัมผัสพลังพีระมิด ทำให้ละวางความโกรธได้ เมื่อเรามีความสุข ทำอะไรก็ดีไปหมด  ทุกอย่างก็จะดี การพูด การคิด การทำ ก็ดี เพราะ จิตใจมันดี ทุกสิ่งสำเร็จแล้ว มาจากใจ

                                          คุณแม่ค้นพบว่า พลังพีระมิดช่วยขยายทุกสิ่งทุกอย่าง ทำบุญเล็กน้อย พีระมิดก็จะขยายบุญให้มากมายมหาศาล ขยายทั้งกรรมดี และ กรรมชั่ว พีระมิดช่วยย่นย่อเวลา ทำให้ทำบุญแล้วเห็นผลทันที แต่ให้ใช้ร่วมกับความเมตตาและความดี

                                         ถ้าวันนี้ อาการเจ็บป่วยยังไม่หาย ให้ไปดูคลิป ศึกษาจากเวปบ้านสวนฯ แล้วนำไปปฎิบัติ โดยให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง ก็จะหายปวดหายป่วยได้ ให้ทาน รักษาศีล ทำสมาธิ ละเว้นการทำความชั่ว ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส

                                         ที่บ้านสวนพีระมิด

                                          คุณแหล๋น ได้ออกมาบอกกล่าวว่า นำจี้สฟิงซ์และแหวนไปให้คุณพ่อและคุณแม่ ทำให้คุณพ่อที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ที่ถ่ายปัสสาวะไม่ได้ ต้องโดนสวนมาตลอด เมื่อห้อยองค์สฟิงซ์แล้วก็ปัสสาวะไม่ติดขัด คุณแม่ก็นอนหลับได้

                                          น้องที่ทำงานกับคุณแหล๋น ปวดหัวจากการเป็นหวัด เมื่อห้อยจี้สฟิงซ์แล้วอาการปวดหัวก็หาย แต่เมื่อจะเอาจี้ออกก็ปวดอีก ก็เลยให้ยืมใส่ไปครี่งวัน อาการก็หายไป

                                           ขอขอบคุณทีมงานที่ช่วยทำให้ คุณแม่อุบลได้ไปบรรยายธรรมะได้สำเร็จลุล่วง

                                           ขอขอบคุณ พี่แมว ที่แบ่งเบาภาระในการจัดส่งจี้สฟิงซ์และองค์พีระมิดจำลอง ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ

                                              ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ที่ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ทำให้งานต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปอย่างมากมาย ครับ

                                           ขอน้อมกราบ ต่อธรรมะ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องกสิน

                                            สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-09 01:28:17


ความคิดเห็นที่ 1325 (1628460)

มี พี่ผู้หญิงคนหนึ่ง

ออกมาบอกว่า ปวดหลัง

คุณแม่ลองให้อนุโมทนากับด๊อกเตอร์จิ๋ม

กับการที่ด๊อกเตอร์หายจากการเจ็บป่วย

 

แต่เมื่อโมทนาแล้ว ก็ปรากฎว่า

อาการปวดหลังไม่หาย

คุณแม่ให้เหตุผลว่า

พี่เค้าไม่ได้มีความคิดโมทนายินดีจริงๆ

 

 

 

คุณแม่ได้สรุปให้ฟังว่า

การประสบปัญหาการเงิน นั้น

ก็เกิดได้จากทั้ง กาย วาจา ใจ 

 

เราอย่าไปคิดอิจฉาริษยาใคร

ซึ่งมโนกรรม ก็ต้องใช้คุณธรรม จริยธรรม

คือ ใช้ปัญญาหาเหตุ

อยากรวยก็ต้องหาสาเหตุว่า

ทำไมเค้าถึงรวย

 

เพราะ ที่สุดของคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

 

 คือการพ้นทุกข์ มีความสุข

ที่เราทุกข์นั้น เกิดขึ้น เพราะ คนอื่น

  หรือ ว่าเกิดขึ้นเพราะตัวเราเอง

ซึ่งพระพุทธองค์ให้เราแก้ไขที่ตัวเราเอง

 


 

หลวงพ่อเสงี่ยมได้บอกคุณแม่ว่า  

ให้ทำดัวเป็นภูเขา   อย่าทำตัวเป็นยอดหญ้า


เพราะ ยอดหญ้า น้ำท่วมก็เน่า  

 ลมพัดก็ไหวเอน

ถูกเหยียบก็ยุบ

 

ฝนตกใส่ก็เปียก

ภูเขาไม่ไหวเอน ไม่ยุบ ไม่เปียก

..........................

อนุโมทนากับธรรมทานจากพ่อหนุ่มกร

และคุณ รมภ์รวินทร์ ด้วยค่ะ

 

เพราะชนิดาก็ยังม่ายล่ายดูเทปนี้เหมือนกัน

แต่ก็ได้รับธรรมะอันประเสริฐ

จากพระพุทธองค์

จากหลวงพ่อเสงี่ยม

และจากท่านอ.อุบลอย่างชัดแจ้ง

 

โดยมีคุณผู้ชมที่สุดแสนใจดี

อย่างคุณๆทั้งสองมาช่วยเขียน

แบ่งปัน"แสงสว่างนี้"แก่เราทุกคน

ขอให้หล่อ รวย สวย สุข

สุขภาพดีและสมปรารถนา

ทุกประการนะค๊า สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-10 02:00:06


ความคิดเห็นที่ 1326 (1629678)

ขออนุโมทนา

กับทุกท่านด้วยนะค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

วันนี้เกดได้ดู

รายการคุยไปแจกไป

ตอนงานบวงสรวงพระศรีอาริยเมตไตรย์

มีความปิติมากค่ะ ยิ่งได้ฟังท่านที่ได้มโนมาเล่า

ว่าเห็นอะไรบ้าง ได้สัมผัสอะไรบ้าง เช่น น้องญาญ่า

เห็นพระศรีอาริย์ทรงซ้อนร่างของอ.แม่อุบลอยู่

ยิ่งรู้สึกปราบปลื้มว่าเราก็โชคดีเหมือนกัน

นะที่ได้รับความเมตตาจากเบื้องบน

ที่ให้เราได้รู้จักอ.แม่อุบล

ลูกจะตั้งใจทำตาม

คำสั่งสอนของอ.แม่อุบลเจ้าค่ะ

และก็คุณชื่ออะไรไม่แน่ใจค่ะที่ได้กลิ่นหอม

และอีกหลายๆ ท่านก็ได้กลิ่น และได้เห็นนางฟ้า

มาโปรยดอกไม้ ตอนรับทุกพระองค์ที่เสด็จมา ณ

บ้านสวนพีระมิด เพื่อมาโปรดลูกหลาน ขออนุโมทนา

กับทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ เรื่องของ

คุณอร อุ่นศรี ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เกด

ได้น้ำตาคลอด้วยค่ะ ซาบซึ้ง

ในความเมตตาของ

ทุกๆ พระองค์ในบ้านสวนพีระมิด

ที่ได้เมตตาลูกหลานอีกแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นอีก

เรื่องหนึ่งที่ทำให้เกดเป็นเจ้าหนูจำไม  คือว่า

ช่วงแรกๆ ที่ได้รหัสนี้มา ก็ใช้ได้ผลตลอดค่ะ และ

ก็ได้บอกกับคนรู้จักตลอดเมื่อมีโอกาส แต่ช่วงหลังๆ

ไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แต่บ้าน ก็ทำให้ไม่ค่อยได้บอก

ใคร นอกจากจะมีใครมาหาเราก็บอก ซึ่งทำให้

เกดใช้รหัสได้บ้างไม่ได้บ้าง และเกดก็

ยอมรับว่าผิดที่เราเองที่เรา

บางครั้งอาจจะไม่กล้า

บอกบางคน

เรื่องที่เกดใช้รหัส

อ.อุบลช่วยด้วย ได้ผล

มักจะเป็นเรื่องนอกตัวเรา ค่ะ เช่น

เรื่องน้ำจะท่วมบ้าน แล้วเกดขอให้ฝนหยุด

สักพักก็หยุดค่ะ และเรื่องที่ใช้ไม่ค่อยได้ผลก็จะเป็น

เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเกดทำผิด

อะไรหรือเปล่าค่ะ แล้วเกดต้องทำอย่างไรบ้าง

ที่จะทำให้ใช้รหัสได้ทุกเรื่องอย่างเดิม

กราบขอบพระคุณมากค่ะ

เกดต้องขออภัยด้วยค่ะที่มาถาม

คำถามในกระทู้นี้ พอดีมันต่อเนื่องกัน

ลูกขอกราบพระบาทในความเมตตาของเบื้องบน

ทุกพระองค์ในบ้านสวนพีระมิด รวมถึงกราบขอบพระคุณ

อ.อุบล อ.มงคล และคุณน้องท๊อป ด้วยค่ะ

ที่อนุญาติให้เกดได้ไปบ้านสวนพีระมิด

กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-16 23:05:27


ความคิดเห็นที่ 1327 (1629689)

รายการคุยไปแจกไป วันที่ 16 ก.ย. 55

 

 

กราบ ขอบพระคุณในพระมหาเมตตาอันล้นพ้นแห่งเบื้องบนทุกๆพระองค์ องค์พระศรีอาริยเมตไตรย ท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล คุณท็อป คุณเพชร และ คุณมาร์ค เป็นที่สุดค่ะ

 

ที่เป็นสื่อผ่านพลังความเมตตาอันมหาศาลนี้ต่อผู้คนทั่วโลก ที่จะมีโอกาสได้รับทราบและรับพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้อย่างชัดเจน นับแต่นี้เป็นต้นไป

 

ได้ชมเทปล่าสุดนี้แล้วค่ะ ในช่วงพิธีบวงสรวงอาราธนาบารมีองค์พระศรีอาริย์มาสถิตที่กาย วาจา ใจของท่านอ.อุบลอย่างเป็นทางการ

 

ใน ฐานะผู้ชม(ทางไกลมาก) รู้สึกปลาบปลื้มใจ อยากจะร้องไห้ รู้ซึ้งในพระมหาเมตตาแห่งองค์พระศรีอาริย์ทั้งๆที่ส่วนหนึ่งของจิต ก็รู้สึกสำนึกผิดและคิดเสมอว่า ตนยังทำตนและทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอที่พระองค์จะเมตตาซะด้วยซ้ำ

 

ลูก จะรักษากาย วาจา ใจ ให้สงบ อยู่ในศีลห้าอย่างเคร่งครัด จะไม่เบียดเบียนผู้อื่น และจะไม่ทำตัวเป็นปัญหาต่อสังคมและประเทศชาติเป็นอันขาดค่ะ

 

 

ยินดี กับทุกๆท่านอีกครั้งนะคะที่ได้สัมผัสบารมีของพระศรีอาริย์ทั้งจากภาพที่เห็น ได้จากตาใน หรือ ตาเนื้อ หรือ จากความรู้สึกปลาบปลื้ม ปิติ ยินดี และหายจากโรคภัย รวมทั้งอุปสรรคต่างๆในชีวิตก็คลี่คลายลงได้ ด้วยบารมีของพระองค์ค่ะ

 

 

นับว่าเป็นการจัดพิธีบวงสรวงฯที่เรียบง่าย รวบรัด แต่มีคุณค่าทุกขั้นตอน ตามคอนเซ็ปต์ของบ้านสวนฯจริงๆ คือ ท่านอาจารย์และลูกบ้านสวนฯ แสดงให้เราทุกคนได้เห็นว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน นั้นเป็นอย่างไร

 

เพราะงานทุกส่วน ผลงานทุกชิ้น ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของผู้ร่วมงานทั้งหมด ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำทั้งสิ้น คือถ้าเป็นที่อื่น อาจจะจ้าง นางรำ มืออาชีพมาำรำอวยพร หรือ สั่งร้านดอกไม้ เพื่อจัดทำบายศรี หรือ จัดดอกไม้ประดับต่างๆ ก็ได้

 

แต่ ที่บ้านสวนฯ ทำเองทุกอย่าง ทั้งๆที่คนที่ทำ ก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆเสียด้วยซ้ำ แต่ผลงานทุกอย่างที่ออกมา ดูดี ลงตัว และน่าชมมากๆค่ะ

 

 

ได้ฟังการรายงานจากทุกๆท่านที่ได้มโนฯ มาอธิบายถึงภาพที่เห็นว่า กายทิพย์ขององค์พระศรีอาริย์อยู่ซ้อนในกายท่านอ.อุบล ตลอดเวลา

 

 

ได้ฟังแล้ว ทุกๆท่านก็คงจะมั่นใจได้ว่า องค์พระศรีอาริย์ได้มาสถิตที่กาย วาจา ใจ ท่านอ.อุบล จริงๆ

 

ซึ่ง ท่านอาจารย์อุบล บอกว่า ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากองค์พระศรีอาริย์ได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาที่บ้านสวนฯเสียด้วยซ้ำ ขอเพียงมีใจเคารพ และ ศรัทธา พระองค์ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดในโลก คุณก็จะสัมผัสบารมีพระองค์ได้เท่าเทียมกัน ไม่ได้อยู่ที่ความใกล้ ไกลของระยะทาง แต่อยู่ที่"จิต"ของท่านเอง

 

 

เมื่อใดที่ท่านเปิดจิตรับพระองค์ เมื่อนั้นท่านก็จะได้รับความเมตตาและสามารถปลดเปลื้องทุกปัญหาได้ทันที...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 05:26:30


ความคิดเห็นที่ 1328 (1629690)

และหลักฐานคนสำคัญที่ทำให้

ผู้ชมทุกคนต้องตะลึง

ก็คงจะ ไม่พ้น

อดีตปากห้อยคล้ำของน้องสต๊อป

ได้หายเป็นปลิดทิ้ง

 

โดยปากบนและปากล่างกลับมาเท่ากัน

ได้อย่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก

 

อยู่เหนือเหตุผลของทางโลกที่จะอธิบายได้

เพราะสีปากล่างที่เคยคล้ำ

ก็กลายเป็นสีเดียวกันกับปากบนอย่างเห็นได้ชัด

โดยที่ไม่ได้รับการรักษาใดๆแม้แต่น้อย

 

ยิ่งท่านอาจารย์ตัดต่อนำภาพในอดีต

มาเปรียบเทียบให้เห็นกันจะๆ แล้ว

รู้เลยว่า Before and After

ต่างกันลิบลับเลยทีเดียว....

 

 

เท่าที่ดูในคลิป รู้สึกว่า

น้องสต๊อปเองยังงงๆอยู่เลย

ที่ทุกคนมาฮือฮา

กับปาฏิหาริย์ที่น้องเค้าได้รับครั้งนี้

 

สงสัยเจ้าตัวเอง ก็แทบจะ

ไม่ทันจะรู้ตัวเสียด้วยซ้ำ

 

แบบนี้คงไม่ต้องสงสัยเลยนะคะว่า

บารมีพระศรีอาริย์

มีจริงหรือไม่....

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 05:27:17


ความคิดเห็นที่ 1329 (1629691)

จริงๆชนิดาอยากแนะนำให้ทุกๆท่าน

ที่ยังมีความทุกข์อยู่

ไม่ว่าจะเรื่องใดๆก็ตาม

 

ขอให้จัดแจงเวลา

มาชมคลิปนี้อย่างตั้งใจนะคะ

 

และในช่วงที่ท่านอาจารย์ให้ทุกคนในพิธี

ได้อธิษฐาน และ ให้บอกว่า

เรายังทุกข์เรื่องอะไรบ้าง

 

ท่านผู้ชมก็ลอง

อธิษฐานและทำตามดูนะคะ

แล้วหลังจากนั้น ก็ลองสังเกตดูว่า

บารมีของพระองค์

จะส่งผลต่อชีวิตของท่านอย่างไร

 

 

ต้องชมด้วยตัวเองนะคะ

และอย่าลืมว่า

เมื่อได้รับความเมตตาในเรื่องใดๆแล้ว

 

ห้ามลืมที่จะเข้ามาแสดงความกตัญญู

ต่อองค์พระศรีอาิริย์

ต่อท่านอ.อุบลและครอบครัวนะคะ

 

เพราะความกตัญญู

เป็น เครื่องหมายของ

"คนดี" ค่ะ

 

 

ขอให้ทุกท่านที่มี(บุญ)ได้ชมคลิปนี้

เป็นผู้ที่จะได้อยู่ในยุคพระศรีอาริย์ นะคะ

สาธุ

.......................................

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากทุกๆท่านในคลิปด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

ป.ล. ชอบวิธีการออกมาเหลาธรรมทาน

ของเจ๊เหมี่ยวมั่กๆ น่ารักดี

มีท่าทางประกอบซะด้วย

แค่ได้ฟังเสียงหัวเราะของเจ๊เหมี่ยวระหว่างเล่า

ก็มีความสุข ด้วยแล้วจ๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 05:29:27


ความคิดเห็นที่ 1330 (1629735)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                      และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                      ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                                            ขอกราบ ขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                      ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                      ขอขอบคุณ พี่ชนิดา ที่ได้มาเขียนธรรมทาน ครับ

                      วันนี้ ได้มาชมคลิป ของ วันที่ 16 กันยายน ครับ

                      "พิธีบวงสรวง อาราธนาบารมี พระศรีอาริย์ สถิตย์ ณ บ้านสวนพีระมิด"

                      เป็นการบวงสรวง ที่ทำเรียบง่าย และ กระชับ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพและนอบน้อม ต่อ พระพุทธองค์ พระศรีอาริย์ และ สิ่งศักดิ์สิทธ์ ทั้งหลายที่ท่านได้เสด็จ มาเมตตาต่อลูกหลานบ้านสวนพีระมิด

                      โดยการกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย บทสวดถวายพรพระ และ บทอาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ และ อาราธนาเสียงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สวดกล่าวในพิธี

                       และ ได้มี การรำถวายต่อพระศรีอาริย์ โดย ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ซึ่งเป็นการแสดงที่งดงาม ด้วยเครื่องแต่งกายที่สวยและอลังการ ด้วยความพร้อมเพรียง แสดงออกถึง ความเคารพและนับถือต่อพระศรีอาริย์ แม้นจะมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มาก แต่ทุกท่านก็มาด้วยจิตอาสา และ ทำเพื่อบ้านสวนพีระมิด 

                        ธรรมจักร และ ดอกไม้ ก็จัดได้สวยงาม เหมือนกระทำโดยมืออาชีพ

                        ซึ่ง คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวต่อลูกหลานบ้านสวนฯ ว่า ถ้า เรามีใจที่เคารพสักการะ ต่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด แค่ขับรถผ่านด้านหน้าบ้านสวนฯ  อาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็หายได้ ต้องการความสุข หรือ สิ่งที่ค้างคาใจก็จะได้

                                                    ถ้ามีโอกาส ก็มาใช้แรงกาย ให้ปัจจัย ให้สิ่งของ

                          ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่แพทย์รักษาไม่หาย  ก็มาใช้แรงกาย 9 ชั่วโมง ต่อ หนึ่งโรค ก็หายได้ ถ้าเป็นโรคที่เกิดจากกรรมในอดีตชาติ ก็ใช้แรงกาย 99 ชั่วโมง ก็หายได้ 

                           คุณแม่ได้บอกกล่าวต่อว่า  ให้เราอธิษฐาน ตั้่งใจทำความดี และ ตอบแทนพระเมตตาของพระศรีอาริย์ โดยการทำบุญถวายแรงกายต่อพระศรีอาริย์

                           ถ้าเรามีปัญหา ที่ติดขัดไม่ว่าเรื่องสุขภาพร่างกาย การเงิน เรื่องครอบครัว ก็ให้บอกกล่าวปัญหากับพระศรีอาริย์ ว่า ปัญหาของเราเป็นเรื่องอะไร อย่าไปกล่าวขออะไร จากพระองค์ท่าน และ เมื่อได้รับพระเมตตาจากท่าน และ สมความปรารถนาแล้ว ก็ขอให้กล้าบอกกล่าวต่อผู้อื่น ว่าเป็นพระเมตตาจากพระศรีอาริย์

                            ขอขอบคุณ ธรรมทาน จากพี่เหมี่ยว ที่ออกมาบอกกล่าวเล่าเรื่อง ของคุณลุงที่ท่านเดินเหมือนนกเพนกวิน เนื่องจากปวดขา ที่เกิดจากโรคความดัน ซึ่ง พี่เหมี่ยวได้สอบถาม คุณลุงท่านนี้ว่า เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรมไหม

                            เมื่อ คุณลุงท่านเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม คุณเหมี่ยวก็ให้คุณลุงท่านนี้ ไปสารภาพบาปกรรมที่เคยกระทำมาต่อรูปของคุณแม่อุบล(ที่พี่เหมี่ยว ได้ขยายภาพของคุณแม่ ขนาด 20 นิ้ว ที่ติดไว้ที่เสา)

                             คุณลุง สารภาพว่า เคยใช้เท้าบี้ไส้เดือน ใช้เท้าเตะภรรยา และ ได้ให้คุณลุงขอขมาต่อภรรยาของตนเอง  และ สารภาพว่าตอนเป็นเด็ก ก็ชอบปีนเข้าไปขโมยของ ของพระ และ ของเณร นอนหันเท้าไปทางพระพุทธรูป หลังจากสารภาพแล้ว ก็เดินขาตรงได้ พี่เหมี่ยวก็ขอให้คุณลุงกล่าวคำขอบคุณต่อรูปภาพของคุณแม่อุบล

                             คุณลุง ยังบอกว่า แขนยกไม่ขึ้น ยอมสารภาพว่า เคยตบลูก เคยลักขโมย และ พูดไม่ค่อยชัด เมื่อจิตลุงเปิด และ สารภาพสิ่งที่ตนเองเคยกระทำ อาการที่ยกแขนไม่ขึ้น และ พูดไม่ชัด ก็หายเป็นปกติ  และ กราบคำขอบคุณต่อรูปคุณแม่

                              พี่เหมี่ยว ก็บอกกล่าวกับคุณลุงว่า ถ้าอยากหายอย่างถาวร คุณลุงต้องไม่กลับไปกระทำอีก  และ ต้องบอกกล่าวต่อผู้อื่นต่อไปเรื่อย ในเรื่องที่ตนเองได้รับความเมตตาจากคุณแม่อุบล และ จากสิ่งศํกดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                              พี่เหมี่ยวก็บอกต่อว่า มีคุณป้าอีกคนหนึ่ง ที่เดินไม่ค่อยจะดี ขึ้นบันไดก็ลำบาก คุณป้าก็อยากหาย เมื่อสารภาพว่า เคยตีขาวัว ขาควาย เมื่อไปกราบและสารภาพบาปกับรูปของคุณแม่อุบล ขาที่เดินลากก็หาย และ คุณป้าก็ยังบอกว่า จะไปบอกคนอื่นๆให้มาหาพี่เหมี่ยวอีก

                               ขอขอบคุณ ธรรมทานจากคุณสมพร ที่เป็นซีส(ก้อนเนื้อใต้ผิวหนังที่แขน) บอกกล่าวว่า ตอนที่คุณแม่อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ และ พอคุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ให้ลูกบ้านสวนอธิษฐาน ว่าตนเองมีปัญหาในเรื่องใด ก็ให้บอกกล่าวต่อพระองค์ท่าน คุณสมพรก็ลองคลำก้อนซีสของตนเองดู   ปรากฎว่า     ก้อนซีสได้ยุบหายไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นการหายฉับพลันทันที เพราะ ตอนเช้าก่อนมาร่วมพิธี ก้อนซีสยังมีอยู่

                               ขอขอบคุณธรรมทานจาก คุณอร อุ่นศรี ที่ได้ออกมาบอกกล่าว ว่า ตอนที่ตนเองใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" การค้าขายก็ดีมากๆ ได้รับเงินจากการขายเสื้อผ้า เป็นจำนวน ถึง สามแสนบาทต่อวัน ตอนเดือนกุมภาพันธ์ 55 ทำเงินได้ถึง แปดล้านบาท ก็เลยมาขอหยุดใช้ระหัสกับคุณแม่อุบล ตอนกลางเดือนมีนาคม 55 ซึ่งคุณแม่ก็เคยบอกกล่าวว่า ถ้าใช้ระหัสแล้วจะรับเงินจนเหนื่อย และ ขอให้คุณอร อย่าห่างบุญที่บ้านสวนฯ ปรากฎว่า ตอนต้นเดือนมีนาคม ก็ทำงานจนไม่ได้แวะมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ปรากฎว่าเมื่อ หยุดการใช้ระหัส(ซึ่งคือการปิดการใช้) ก็ไม่มีออเดอร์จากลูกค้าอีกเลย เลยมาขอบารมีท่านพระศรีอาริย์ในการขอใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" อีกครั้้ง

                                                              และ ขออนุโมทนากับ น้องชาย ลูกของผู้หมวดประวัติ ที่ปากที่เคยห้อยและคล้ำดำ ตอนนี้ รูปปากสวยและไม่คล้ำดำอีก

                                ขอขอบคุณ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ในการทำให้งานบวงสรวงสำเร็จลุล่วงได้อย่างงดงาม

                                 และ ขอขอบคุณ พี่แมว ที่ได้ทำการจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์ให้กับเพื่อนๆ พี่ๆบ้านสวนพีระมิด ครับ

                                                                  ขอกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งหลวงพ่อท่านได้มากล่าวถึงเรื่องกสิน

                                 สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 13:52:33


ความคิดเห็นที่ 1331 (1629884)

ได้ดูรายการคุยไปแจกไป ตอนพิธีบวงสรวง อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์

ได้ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอบารมีพระศรีอาริย์ ทำให้ได้เห็นพระศรีอาริย์ทรงสถิตในกายของท่านอ.อุบล กายของพระองค์เป็นแก้วประกาย มีฉัพพรรณรังสีออกมาสว่างจ้ามากหลายสี แผ่คลุมทั้งสถานที่ และเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นแก้วระยิบระยับประทับอยู่เต็มพื่นที่ เห็นหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ 

ตอนที่พี่ใส่ชุดไทยมารำบวงสรวงข้างหน้า เห็นกายแก้วกายอื่นมารำด้วย เห็นดอกไม้แก้วถูกโปรยตรงพื้นที่ที่รำ

แล้วตอนสวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์ พระองค์ท่านทรงเมตตามาปรากฏพระวรกายให้เห็นในจิตค่ะ ทรงเครื่องเหมือนพระรูปที่อยู่ในวัดท่าซุงที่มีสีทองอร่ามค่ะ และตลอดการดูรายการ(แต่ดูไม่จบ)และอนุโมทนาไปด้วย ตัว+ใจเบาสบาย มีขนลุกเป็นระยะๆ ไม่มีอาการเจ็บป่วย ลูกขอกราบแทบพระบาทพระศรีอาริย์และขอกราบท่านอ.อุบลค่ะ

พอเขียนเสร็จอาการหนักๆแปลกๆที่หัวก็หายไปค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 12:44:14


ความคิดเห็นที่ 1332 (1629894)

กราบสวัสดีครับอาจารย์อุบล และทุกๆ ท่านครับ

 

ผมได้ชมรายการคุยไปแจกไป ตอนพิธีบวงสรวง อาราธนาบารมี พระศรีอาริย์ สถิตย์ ณ บ้านสวน

พีระมิด รู้สึกปีติ ขนลุกอยู่ตลอดเวลา ทุกช่วงตั้งแต่พิธีบวงสรวง สวดคาถาบูชา การสัมผัสบารมีของ

พระศรีอาริย์จากทุกๆ ท่าน

 

ได้อนุโมทนากับทุกท่านและสัมผัสบารมีพระศรีัอาริย์ ทำให้การมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น

มองไกลๆ ได้ชัดขึ้นครับ ขอกราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์

ท่านอาจารย์อุบล และผู้มีพระคุณทุกๆ ท่าน

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยครับ ที่มีโอกาสใกล้ชิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารย์

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุณหพงศ์ ทองศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 13:44:37


ความคิดเห็นที่ 1333 (1630478)

 ธรรมทานจากคุณบุญเรือน  กุลพญา

รายการคุยไปแจกไป 16 ก.ย. 2555
***************

ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมในพิธีด้วยและได้มาดูรายการคุยไปแจกไปอีกรอบ

ทำให้ได้ความรู้และความคิดใหม่ๆขึ้นมาอีก

ขอบารมีพระศรีอาริย์บังคับจิตของลูก

ให้สร้างแต่กรรมดีละเว้นความชั่

 

 

ตอนท่านอ.อุบลอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์

ทุกคนสัมผัสพระบารมีของพระองค์ท่านได้

บางคนมีปิติ ร้องไห้ ขนลุกขนพอง บางคนได้กลิ่นหอม

และบางคนมีอาการเจ็บป่วยอยู่ก็หาย

และบางคนยังมีอาการหลงเหลืออยู่เมื่อเดินผ่านท่านอ.อุบลก็หาย

บางคนอนุโมทนาก็หาย และบางคนมีอาการร้อน

(แสดงถึงสัญญาณของการไปนรก) ทำผิดกฎบ้านสวนฯ

 

 

คุณผู้หญิง จบป.โท จากจ.อุตรดิตถ์ ต้องการมาชมบารมีพระศรีอาริย์

มีปิติอยากร้องไห้ บอกว่าเจ้ากรรมนายเวรยังไม่ปล่อย

ให้มาเกี่ยวข้าวที่บ้านสวนก่อนละต้องการให้มีวินัยในตัวเอง

เมื่อถึงเวลาจะทำอะไรแล้วไม่รีบร้อน จะทำให้ปวดขา

คุณเขาสัมผัสได้ตั้งแต่ดูทางเว็บไซต์แล้ว

 

 

อ.อุบลบอกว่า พิธีบวงสรวงนี้ มีองค์เทพมาจากทุกชั้นฟ้า

ศาสดาทุกศาสนา มนุษย์ต่างดาวก็มาด้วย

ถ้าใครมีใจเคารพและศรัทธาต่อพระศรีอาริย์แล้ว

ถ้ามีกรรมเบาบาง แค่ผ่านหรือเข้ามาบ้านสวนฯก็หายได้ทันที

ถ้าทำบุญด้วยแรงกายครบ 9 ชม.ก็หายได้ 1 โรค(กรรมเบาบาง)

แต่ถ้ากรรมหนักก็ทำบุญด้วยแรงกาย 99 ชม./โรค

ถ้ากรรมบางเบาและมีจิตเป็นกุศลแค่อธิฐานจิตก็หายได้

เพราะบารมีท่านมีอยู่ทุกอนูของบ้านสวนฯ

 

 

ลูกชายคุณกุหลาบมีปากผิดรูปมาหลายปี

หมอบอกว่ารักษายากแต่พอมาร่วมงานบวงสรวงฯ

และใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ปรากฏว่าปากมีรูปร่างดีขึ้น 70-80 %

 

 

คุณอ๊อดเคยขอบคุณผิดจึงมีอาการปวดก้นขึ้นมาอีก

เคยมาหาท่านอาจารย์อุบลแล้ว อาการปวดก้นหายเป็นปกติ

แต่ไปเขียนขอบคุณ คุณหมอศิริพรในเว็ปไซต์

จึงทำให้มีอาการปวดที่ก้นขึ้นมาใหม่

เมื่อมาร่วมพิธีบวงสรวงฯ และเดินผ่านท่านอ.อุบล อาการก็หายเป็นปกติ

พระบารมีของพระองค์มีมากมาย

 

 

ขอขอบคุณท่านอ.อุบล เทวดาที่คุ้มครองท่านอ.อุบลและครอบครัว

ขอบคุณคุณแมว คุณธนา และทุกๆท่านที่ช่วยเหลืองานบ้านสวนฯ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-23 03:36:28


ความคิดเห็นที่ 1334 (1630700)

วันที่ 23 กันยายน 55 

เพราะกรรมใดจำทำให้เจ็บป่วยและยากจน

            จี้องค์เทพสฟริงรุ่นแรกได้รับการ UPDAT พลังบารมีพระศรีอาริย์ แล้วทั้งมามาร่วมงานและไม่ได้มาร่วมงาน ถ้าช่วยคนหายทุกข์ เจ็บป่วย 99 คน ขึ้นไป ก็ไม่ต้องใช้จี้ เหมือนท่านอาจารย์อุบล แล้วจะได้อภิญญาใหญ่อีกท่าน

อาจารย์บอกวิธีปลดล็อก ท่านที่มี ปัญหาการเงิน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาอุปสรรคการงาน ปัญหาครอบครัว

 ปัญหาการเงิน สาเหตุมาจากเคยเป็นคนตะหนี่ถี่เหนียว อยากรวยอยากมากแต่ไม่สมหวัง  ผิดศีลข้ออทินนาทาน เช่นการลักทรัพย์ ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์โดยไม่เต็มใจ ชอบของฟรี เอาเปรียบคนอื่น ให้หยุดการกระทำเหล่านี้ แล้วพยายามให้ทาน ทำบุญกับคนที่เป็นเนื้อนาบุญมากๆ อานิสงจะได้ไว  แต่ก็ไม่ละลืมที่จะทำบุญเล็กต่างๆ เช่นทำบุญกับคนทั่วไปหรือกับคนดี

 ที่คนไทยมีปัญหาทุกข์ยากกันมากเพราะทำกรรมติดเรื่อง หนี้สงฆ์และหนี้แผ่นดิน กันมาก

หนี้สงฆ์ คือ การนำของวัด ของพระกลับบ้าน ทำให้ยากจน เจ็บป่วยมีอุปสรรคทุกด้าน ไม่สามารถตีเป็นตัวเงินได้ ถึงชำระเป็นเงินคืนก็ได้แค่เป็นการผ่อนผัน แต่ต้องทำตลอดชีวิต เช่น อาจตั้งเป้าว่าเงินเดือนนี้หักใว้ทำบุญเดือนละ เท่าไรก็ได้ที่เราไม่เดือดร้อน ทำทุกเดือน และต้องการล้างบาปหนี้สงฆ์ต้องสร้างพระอย่างน้อย 4 ศอก

หนี้แผ่นดิน คือเอาของหลวงกลับบ้าน เบิกจ่ายเงินไม่ตรงความจริง ทิ้งขยะลงถนน คูคลอง เลี่ยงภาษี ทำให้หลวงต้องเสียเงินมาจ้างคนเก็บขยะ หรือต่างๆ  ต้องการล้างบาปหนี้แผ่นดินต้องสร้างพระชำระหนี้แผ่นดินสูง 10 ศอกขึ้นไป ในโลกนี้ยังไม่มีที่ใดสร้างนอกจากที่บ้านสวนพีระมิด

            ทุกศาสดาสอนเรื่องสามัญสำนึกในการดำรงชีวิต มีวินัยในชีวิต รักสะอาด ทำอะไรให้สุข ตลอดเป็นผู้รู้ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

 ปัญหาสุขภาพ สาเหตุเราฆ่าสัตว์ฆ่าคนมาก่อน ทำแท้ง ลงมือฆ่า สั่ง ใช้ ให้เขาฆ่า ยินดีที่เขาฆ่า ออกอุบายให้คนอื่นทำแทน วางแผนฆ่า  ผิดศีลข้อ 3 เจ้าชู้มีกิ๊ก สาระแนเรื่องชาวบ้าน ยังพูดคำหยาบมึง กู เป็นการกดให้ด้อยกว่า โกหก กระล่อน ปลิ้นปล้อน พูดจาเพื่อหวังผลทำให้มีปัญหาผิวพรรณ ปวดหัว ดื่มสุรา ซื้อให้เขาดื่ม นายบังคับให้ดื่มสุรา อยากชั่วเองก็โทษคนนั้นคนนี้

 ปัญหาอุปสรรคการงาน   คิดไม่อยากให้ให้คนอื่นได้ดี ไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ร่วมงาน อิจฉา ขัดขวางคนอื่น กลั่นแกล้ง คิดไม่ดี ไม่มีมนุษย์สำพันธ์ที่ดี

 ปัญหาครอบครัว  ลูกดื้อ มีคนใดคนหนึ่งนอกใจครอบครัว  ไม่สมหวังในความรัก เพราะชอบขัดขวางคนอื่น งี่เง่า

 คุณอมรทรัพย์ เฟื่องฟู พี่สาวคุณแก้ว มีอาการปวดท้องข้างขวา ความดันสูง ไขมันสูง  ปวดขาข้างซ้าย  ตอนที่ไป ม.มหิดล เขตร้อน ขอบารมีพระศรีอาริย์เดินผ่านท่านอาจารย์ อาการปวดที่ขาหาย สารภาพเคยตีหมาขาหัก แล้วกลับมาปวดอีก เพราะอาศัยบุญท่านอาจารย์อุบล เจ้ากรรมนายเวรต้องการบุญเพิ่มจึงมาทำให้เจ็บปวดที่ขาอีก อาการปวดท้อง สารภาพเคยเบื่อหนู ฆ่าตุ๊กแก ติดกาว ตีงู ฆ่าปลาแต่เล็กจนโต เคยบอกให้คนไปตาย 2 คน หลังจากนั้น 2 คนนั้นก็ตายจริง เล่าธรรมทานออกอากาศอาการเจ็บป่วยทุกอย่างที่เป็นอยู่ก็โล่งหายหมด

 ภาคกลางคืนท่านอาจารย์ขอบารมีพระศรีอาริย์สถิตที่กายวาจาตัวอาจารย์ 

ทุกคนสำผัสได้หายจากอาการเจ็บป่วย

 

 หลวงพ่อฤๅษี เทศน์สอนการทำ

กสินแสงสว่าง ใช้แสงสว่างของอากาศให้ติดตาติดใจ แสงสว่างกลายเป็นสีขาว ๆ ๆ ๆ จนทึบเต็มที่ ย้ายไปตรงไหนก็ได้อย่างนี้เป็นขั้นอุปจารสมาธิ ฝึกต่อใสเป็นประกายถึงขั้นอนาสมาธิ

อนุภาพของกสิน

ปฐวีกสิน  มีอนุภาพทำของอ่อนให้แข็ง เดินบนน้ำอธิฐานก้าวขาลงบนน้ำก็ขอให้แข็งตัว เช่นเดียวกันเดินบนอากาศ

อาโปกสิน มีอนุภาพ ไปที่ใดไม่มีน้ำดื่มกินก็ขออธิฐานให้เกิดน้ำ  ฝนไม่ตกก็อธิฐานให้ตก (ห้ามทำเล่น)

เตโชกสิน มีอนุภาพที่มืดทำให้สว่างได้ ของที่เย็นทำให้ร้อน อุ่นขนาดไหนก็ได้ หรือทำให้เป็นไฟลุก

วาโยกสิน  มีอนุภาพ ของหนักทำให้เบาได้ ทำตัวให้เบาเหาะได้

 

บุญนี้ถวายพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และพระศรีอาริย์

ขออุทิศบุญนี้ให้เทวดารักษาอาจารย์อุบล อ.มงคล คุณท๊อป

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล อ.มงคล  คุณท๊อป ที่จัดเทปธรรมะเป็นธรรมทาน

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 22:22:48


ความคิดเห็นที่ 1335 (1631434)

 

กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                       และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                       ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                       ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                       ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                        คืนนี้ ได้ดูคลิป วันที่ 23 กันยายน 2555

                         "เพราะกรรมใด จึงทำให้เจ็บปวดบ่อย และ ยากจน"

                        ตอนเริ่มต้นรายการ คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า อยากให้ทุกคนที่มีจี้สฟิงซ์ ได้ทำการช่วยเหลือผู้คนให้ได้อย่างน้อย 99 ครั้ง ต้องทำการช่วยเหลือผู้อื่น จะได้รับอภิญญาที่ยิ่งใหญ่ และ อาจจะทำการช่วยเหลือผู้อื่นได้เหมือนคุณแม่อุบล

                         คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครบ้างที่ปัญหาทางการเงิน (มีหนี้สิน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน)

                          คุณแม่ได้บอกว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่า เรายังมีความเห็นแก่ตัว มีความตระหนี่ถึ่เหนียว มีความงก มีความอยากรวย มีความอยากแยะ ทำให้ไม่สมความปรารถนา ผิด ศีลข้อสอง คือ ลักทรัพย์ มีเล่ห์เหลี่ยมในการค้าขาย ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์โดยที่เค้าไม่ยินยอม เอาเปรียบผู้อื่น พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนให้เรา ให้รู้จักการให้ทาน ให้การสงเคราะห์ผู้อื่น แต่บุญที่เกิดจากการสงเคราะห์สัตว์ เป็นบุญที่น้อย ให้สงเคราะห์คนที่มีบุญมากๆ อานิสงค์ของบุญก็จะได้มาก เหมือนการเก็บเงิน ถ้าเก็บเงินได้น้อย ก็ต้องใช้เวลาในการเก็บนาน 

                            การทำบุญให้สัตว์ ก็ย่อมได้บุญน้อยกว่าการให้คน การให้พระสงฆ์ย่อมได้มากกว่าการให้กับคนธรรมดา แต่พระสงฆ์ที่พระพุทธองค์ทรงยกย่องว่าเป็นพระนั้น ต้องเป็นขั้นโสดาบัน คือ รักษาศีลห้าได้บริสุทธิ์ ปรารถนานิพพาน เชื่อว่าเกิดมาแล้วต้องตาย(คิดถึงความตายให้เป็นอารมณ์)

                                                     การ ผิดศีลข้อสอง คือ การเอาเปรียบผู้อื่น ชอบเอาของวัดกลับบ้าน ซึ่งจะทำให้เราติดหนี้สงฆ์ ซึ่งจะต้องทำการชำระหนี้สงฆ์ โดยการสร้างพระชำระหนี้สงฆ์หน้าตักกว้าง 4 ศอก ปิดทองให้ครบถ้วน แต่ ถ้าเราไม่สามารถสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ได้ ให้เราทำการชำระหนี้สงฆ์ ด้วยการนำเงินไปชำระหนี้สงฆ์ ไม่ต้องมาก แต่ให้ทำตลอดชีวิต ชำระไปเรื่อยๆ

                            การติดหนี้แผ่นดิน คือ การเลี่ยงภาษี เอาของหลวงมาใช้ส่วนตัว  เบิกจ่ายเงินไม่ตรงความจริง ทิ้งขยะลงบนพื้นที่สาธารณะ ทำให้สถานที่สกปรก

                            ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่า ถ้าเรามีสามัญสำนึก เรื่องต่างๆ เหล่านี้เราย่อมคิดได้ โดยแก้ไขที่ความประพฤติของเรา แก้ไขความมักง่ายของเรา

                            ท่านได้ยกตัวอย่างว่า การที่เรามาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ เราจะพยายามเลี่ยง งานที่ยากลำบาก งานที่ต้องทำงานท่ามกลางความร้อน พยายามทำงานในที่ร่มๆ งานสบายๆ คุณแม่บอกว่า แค่งานพื้นฐานง่ายๆ เรายังหลบเลี่ยง แล้วเราจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างไร

                            งานการที่ไม่เคยทำ แต่ก็อยากลองทำ แต่ใช้ทรัพยากรของผู้ อื่น เพราะ ถ้าของเสีย ก็ไม่ต้องกังวล เพราะ ไม่ใช่ของๆตนเอง ไม่ใช่เงินของตนเองซื้อหามา(ท่านได้ยกตัวอย่าง เรื่องการแกงส้ม แต่ใส่มะนาวมากเกินไป ต้องเททิ้ง ทำให้เสียของไปโดยใช่เหตุ ทำให้เกิดบาปกรรมโดยไม่รู้ตัว)

                            คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า หนี้แผ่นดินนั้นหนักกว่าหนี้สงฆ์ เพราะว่า ถ้าสร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน ต้องสร้างพระสูง 10 ศอก แต่ถ้าแก้ด้วยหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ นั้นแก้ได้ นั้นคือ เราต้องหยุดการคอรัปชั้น หยุดลักทรัพย์ หยุดการชอบของฟรี หยุดการเลี่ยงภาษี และ ให้พยายามชำระหนี้แผ่นดิน โดยชำระไปเรื่อยๆ

                            คุณธนาได้สอบถามว่า มีเพื่อนๆบางคนที่ทำงานเอกชน องค์กรที่ไม่ใช่เป็นของรัฐ บอกว่า เค้าก็ทำงานเต็มที่ และ เชื่อว่า ไม่มีใครสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เงินที่เค้าได้รับมาก็ย่อมบริสุทธิ์

                            คุณแม่ได้บอกว่า ก็ต้องกลับไปดูว่า เค้าเหล่านั้น มีปัญหาการเงินไหม มีปัญหาเรื่องสุขภาพไหม ชีวิตเค้ามีอุปสรรคไหม

                             คุณแม่ได้บอกกล่าวสำหรับคนที่ทำการค้าขาย อย่าใช้เล่ห์กล เล่ห์เหลี่ยม อยากให้ลูกค้าซื้อของเยอะ ก็ต้องขายของที่ดีมีคุณภาพสมราคา อาจจะแพงหน่อย แต่ของที่มีคุณภาพสมราคา ใครๆก็ย่อมจะซื้อ

                              คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครมีปัญหาเรื่องสุขภาพไหม เพราะ คนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพนั้น เกิดจากการที่เราเคยฆ่าสัตว์ ฆ่าคน(ทำแท้ง รู้เห็นเป็นใจ ยุยงส่งเสริมให้เค้าทำแท้ง)

                               และ การผิดศีลข้อสาม เจ้าชู้ มีกิ๊ก (ทำให้เกิดการปวดหลัง ปวดขา ปวดก้น เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นมะเร็งรังไข่ เป็นมะเร็งเต้านม)

                               ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่า หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เหนือกว่าทางการแพทย์ เพราะ รักษาได้ทุกโรค

                                                          เพราะ การผิดศีลห้า และ การยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข(ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านการทำงาน คบคนชั่วเป็นมิตร) จะทำให้สุขภาพไม่ดี

                               อุปสรรคในการทำงาน เราต้องพยายามฝ่าฟัน ต้องยกจิตของเราให้สูงขึ้น จิตที่ก้าวข้ามหลุดพ้น ย่อมเป็นสุข

                                ผิดศีลข้อสี่ คือ เรายังชอบการสาระแนกับเรื่องของผู้อื่น เราไม่ยอมหันกลับมามองดูตัวเราเอง ไม่พัฒนาตัวเราเอง พูดหยาบคาย ชอบการโกหก ปลิ้นปล้อน พูดจาทำลายผู้อื่น

                                                           ผิดศีลข้อห้า เรายังดื่มเหล้า ซื้อให้ผู้อื่น ส่งเสริมให้ผู้อื่นดื่มเหล้า เพราะ

                               การผิดศีลข้อหนึ่ง ผิวพรรณไม่สวย ไม่หล่อ ไม่สวย

                               การผิดศีลข้อสอง ทำให้เรายากจน มีปัญหาทางการเงิน ปัญหาทางสุขภาพ

                               การผิดศีลข้อสาม ทำให้ลูกดื้อ ทำให้ลูกน้องกระดากกระเดื่อง สุขภาพก็แย่

                               การผิดศีลข้อสี่ ปากเหม็น พูดจาไม่มีคนเชื่อถือ เจ็บป่วย

                               การผิดศีลข้อห้า เป็นประสาท เป็นอัลไซเมอร์ ความจำไม่ไดี เป็นบ้า มีปัญหาสุขภาพ

                               การผิดในเรื่องอบายมุข ก็ทำให้เจ็บป่วย ยากจต สุขภาพแย่

                               ดังนั้น การผิดศีลห้า และ การผิดในเรื่องอบายมุขจะก่อให้เกิดการเจ็บป่วย

                               คุณธนาได้สอบถามว่า ถ้านายบังคับให้ลูกน้องดื่มเหล้า ลูกน้องจะผิดศีลห้าไหม ในเมื่อลูกน้องก็ไม่อยากจะดื่ม แต่ขัดใจนายไม่ได้ กลัวตำแหน่งหน้าที่การงานไม่ราบรื่น

                               คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า เราต้องหันมาดูตัวเราเอง อย่าให้ใครมามีอิทธิพลเหนือจิตใจเรา เราต้องทำให้ผู้อื่น ได้รับทราบว่า เราจะไม่กระทำเรื่องที่ไม่ถูกไม่เหมาะสม เราต้องเข้มแข็ง และ เด็ดเดี่ยว ต่อสิ่งที่ไม่ดี การที่เรากระทำความผิด อย่าไปโทษผู้อื่น ให้โทษตัวเราเอง เพราะ ไม่มีใครมาง้างปากเราให้ดื่มเหล้า เอาปืนมาจ่อห้วเราให้เราดื่มเหล้า

                                คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครมีปัญหาอุปสรรคในการทำงานไหมเพราะ การที่คนเรามีปัญหาอุปสรรคในการทำงานนั้น เพราะว่า เราเคยไม่ชอบใจเพื่อนร่วมงาน ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี เราต้องพยายามขจัดความคิดด้านลบออกไป(อย่าคิดไม่ดีต่อผู้อื่น) เราต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน มีจิตเอื้อเฟื้อเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อย่าเอาพฤติกรรมของคนอื่นมาใส่ในใจของเรา

                                 สำหรับคนที่มีปัญหาครอบครัว ปัญหาความรัก นั้นเกิดจากการที่เราเคยขัดขวางความรักของผู้อื่น ไม่รักคนอื่นจริง(รักคนอื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ) เราต้องหัดคิดถึงข้อบกพร่องของเราเอง หัดยอมรับความผิดพลาดของผู้อื่น

                                 คุณธนาได้สอบถาม ว่า มีเพื่อนๆบางคนสอบถามว่า ทำไมมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ แล้ว ทำไมปัญหาการงาน การเงิน สุขภาพไม่คลี่คลายลงไป

                                 คุณแม่ได้กล่าวว่า เค้ามาด้วยความอยาก ความอยากเป็นกิเลสคนที่เค้ามาแล้วมีแต่ให้ เค้าก็ย่อมได้รับผลที่ดี แต่คนมาบางคน วิธีปฏิบัติ ความคิดของเค้า ยังมีความสงสัยลังเล ความประพฤติยังไม่เหมาะสม การเสียสละ การแบ่งปัน การรีบทานก่อนผู้อื่น (คุณแม่ได้ยกตัวอย่าง ไข่สองฟอง แต่มีคนเป็นสิบ เราปฏิบัติอย่างไร) บ้างก็เข้ามาเพื่อทำมาหากิน หาลูกค้าในบ้านสวนฯ ซึ่งในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ท่านก็มีพระธรรมคำสั่งสอน แต่พระองค์ก็ได้แต่สอน บอกกล่าวให้ แต่ไปบังคับใครให้ปฏิบัติไม่ได้ ได้แต่บอก ทำหรือไม่ทำอยู่ที่ตัวของเราเอง

                                 พี่ผู้หญิงคนหนี่้ง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเป็นความดันสูง เป็นไขมันในเลือดสูง ปวดท้อง ปวดขาข้างซ้าย  แต่วันนี้ มีอาการปวดท้อง

                                  คุณแม่ได้บอกว่า เพราะ ใช้ขาไปในสถานที่ไม่ดี ใช้ขาไปหาคนไม่ดี ซึ่งตอนที่ไปฟังธรรมะบำบัดที่มหาวิทยาลัยมหิดล ก็เคยสารภาพว่าขาเคยหัก เพราะไปตีขาสุนัขหัก และ อาการปวดก็หายไป  เมื่อได้สารภาพและได้รับพระบารมีของพระศรีอาริย์ แต่ ก็กลับมาปวดอีก เพราะ ยังไม่ได้สร้างบุญและอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร จึงมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ อาการที่ปวดก็หายได้ เพราะว่า ได้เล่าธรรมทาน และ ได้มาใช้แรงกาย อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร

                                                       แต่ที่ยังมีอาการปวดท้อง เพราะ ยังไม่ได้เล่าธรรมทาน  พี่เค้าก็สารภาพว่า เคยใช้ยาเบื่อหนู ฆ่างู ขอให้คุณพ่อฆ่างู  ฆ่ากบ ยิงนกกระจอก ฆ่าปลาเป็นจำนวนมากมาย บอกให้คนไปตายซะ(เพราะโกรธที่เค้ามาทำให้ตื่นจากการนอน) ปรากฎว่าคนนั้นเกิดการตายจริงๆ

                                 ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่าสาเหตุดังกล่าวข้างต้น เป็นกรรมที่มารวมตัวกัน ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด และ เมื่อสอบถามว่า เมื่อเล่าธรรมทานแล้ว อาการปวดเป็นอย่างไรบ้าง พี่ก็บอกว่า อาการปวดหายไปแล้ว คุณแม่บอกว่า เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องทางไสยศาสตร์ ซี่งเป็นอวิชา(ความไม่รู้) แต่เป็นเรื่องที่คุณแม่พิสูจน์กฎแห่งกรรม ซึ่งการค้นหากรรมไม่เจอ หากรรมเจอแต่ไม่ครบ หากรรมครบ แต่ไม่สำนึกผิด ไม่เสียใจในการกระทำ ไม่รู้สีกว่าการกระทำนั้นเป็นสิ่งผิด และ บุญที่สร้างไม่พอ ก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของการเจ็บป่วย ปัญหาการเงิน การงาน

                                 เพราะ การสร้างบุญธรรมทาน และ การทำบุญ(ด้วยปัจจัย แรงกาย สิ่งของ) ก็เหมือนเราทานข้าว ถ้าเราทานข้าวทุกวัน ร่างกายเราก็แข็งแรง แต่ถ้าเราไม่ทานสักอาทิตย์ เราอาจจะป่วย หรือ ตายได้

                                  เจ้ากรรมนายเวรของเรา เค้าก็ต้องการบุญที่เราสร้างให้เค้า เป็นอาหาร ทำให้เค้าไม่ต้องมาทวงบุญกุศลจากเรา ถ้าเราหมั่นทำบุญ และ การทำบุญกุศล ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง มีสภาพคล่องทางการเงิน มีความสุข มีดวงตาเห็นธรรม เพราะ เจ้ากรรมนายเวรไม่มาจองเวรเรา

                                  คุณแม่บอกว่า คนเราทุกวันนี้ ไม่เห็นบุญคุณผู้อื่น ไม่รู้จักการขอบคุณ ไม่สำนึกในบุญคุณของผู้อื่น ที่เค้ากระทำให้เรา

                                   เราต้องสำนึก และ ระลึกถึงบุญคุณของ

                                    พระสงฆ์ เพราะ เป็นสาวกของพระพุทธองค์ และ เป็นสื่อนำพระธรรม คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแผ่ให้เรา

                                    พระธรรม เป็นแนวทางปฏิบัติ ให้เราเข้าถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

                                    พระพุทธ เป็นผู้เสียสละ ค้นคว้าหากฎแห่งกรรม รวบรวมพระธรรมคำสั่งสอน ทำให้เราได้พบช่องทางในการหลุดพ้นจากความทุกข์ พบความสุข พบความสมหวัง

                                    แม้นกระทั่ง บุญคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ท่านได้ทรงกระทำเพื่อปวงประชาของท่าน คนบางกลุ่มบางเหล่า ก็ยังไม่สำนึกในพระคุณของพระองค์ท่าน นับว่าเป็นบาปอันใหญ่หลวง

                                    ขอขอบคุณ คุณธนา ที่เป็นสื่อกลางในการสอบถามปัญหาต่างๆ ของลูกบ้านสวนฯ ครับ

                                     ขอขอบคุณ พี่แมว(พี่ประวีณา) ในการแบ่งเบาภาระ ในการช่วยจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์ให้ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ครับ 

                                                                       ขอน้อมกราบต่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องกสิณ

                                      สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

     

 

  

 



 

  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 21:55:52


ความคิดเห็นที่ 1336 (1631888)

กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                     และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                     ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                     ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                     ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                      วันนี้ ได้มาชมคลิป วันที่ 30 กันยายน

                      "การอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ที่พบปาฏิหาริย์ทันที ที่บ้านสวนพีระมิด & กทม."

                      ธรรมบำบัด ที่โรงแรมเดอะแทรเวลเลอร์ ที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ ได้เจ้าภาพผู้มีเมตตาและห่วงใยเพื่อนมนุษย์ 2 ท่าน คือ ด๊อกเตอร์ชัชวลี กะลัมพะเหติ และ คุณธนา อรุณภิญโญพล  

                      โดยมีวัตถุประสงค์ ต้องการช่วยเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย เพื่อเตือนภัยพิบัติขั้นวิกฤต โดยเฉพาะ กับเพื่อนๆที่อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ อยากให้คนจำนวนมาก ได้มีชีวิตรอด โดยได้กราบเรียนเชิญ คุณแม่อุบล ได้ไปบรรยายธรรมบำบัด

                       และ ได้มี ด๊อกเตอร์ จิตรา องค์ปรีดาเทพสุรทิน และ อาจารย์อู่ มาร่วมในการบรรยายครั้งนี้ด้วย

                        ตอนเริ่มรายการ คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครป่วย และ มีใครอยากหายเจ็บป่วยบ้าง ก็มีคนจำนวนมากมายที่เจ็บป่วยและต้องการหายเจ็บป่วย

                                                โดย คุณแม่ ได้บอกกล่าวต่อผู้คนทั้งหลายว่า คุณธนา ได้มาเป็นศิษย์บ้านสวนฯ ตั้งแต่ ปี 2553 โดย ตอนเริ่มแรกที่คุณธนา มาที่บ้านสวนฯ นั้น คุณธนาไม่สามารถนั่งขัดสมาธิได้ เพราะ ขาจะโก่งงอขึ้นมา แต่เมื่อได้รับการบำบัด(สมัยเริ่มแรก ยังมีการบำบัดอยู่ ครับ) ก็ปรากฎว่า ขาที่โก่งงอ ก็กลับไปสู่สภาพปกติได้

                        และ ด๊อกเตอร์ ชัชวลี (คุณพี่จิ๋ม) ก็เข้ามาบ้านสวนฯ โดยที่ไม่มีใครทราบว่า คุณพี่เค้าเป็นถึงด๊อกเตอร์ แต่ก็ได้แวะมาทำบุญที่บ้านสวนฯ เกือบสามเดือน ทุกคนก็ถึงมาทราบว่า คุณพี่เป็นด๊อกเตอร์ และ ทราบว่า คุณพ่อและคุณแม่คุณด๊อกเตอร์ป่วย โดย คุณพ่อซึ่งเป็นคุณหมอทางด้านประสาท ได้ล้มป่วย โดยได้รับการผ่าตัดสมอง โดยลูกศิษย์ของท่านเอง 

                                                  คุณ แม่ได้บอกกล่าวว่า คุณแม่ไม่ได้เห็นชอบ กับการธรรมบำบัดนอกบ้านสวนฯ เพราะ ท่านบอกว่า คนที่เจ็บป่วย ต้องเป็นคนที่ขวนขวายหาสถานที่จะบำบัดด้วยตนเอง แต่เมื่อเห็นวัตถุประสงค์ของทั้งสองท่านที่ร่วมเป็นเจ้าภาพ ท่านก็ยินดีที่จะมาบรรยายให้

                          คุณแม่ได้เริ่มต้นกล่าวว่า

                           คุณแม่ ท่านมีครูบาอาจารย์คนแรก ตั้งแต่ ท่านเป็นเด็ก ซึ่งสอนท่านเรื่องการรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ คือ ท่านหลวงพ่อเสงี่ยม โอภาสี  และ อบายมุขทั้งหก  คือ ดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านการทำงาน คบคนชั่วเป็นมิตร เข้ามาจับร่วมด้วย

                           ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่ง คุณแม่อุบลได้พบกับหลวงพ่อเพียงหนึ่งครั้ง ที่ซอยสายลม และ คุณแม่ได้อ่านหนังสือ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอบปัญหาธรรม" ซึ่งคุณแม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้มาโดยตลอด และ ได้ลองฝึกกสิณดิน(ปฐวีกสิณ) เป็นกสิณแรก ซึ่งตอนที่ฝีกนั้น คุณแม่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับผลอะไรจากการฝึก ไม่ได้หวังฤทธิ์เดช  แต่ ตอนที่เกิดเหตุการณ์ลูกบ้านสวนฯ คนหนึ่ง โดนไม้ไผ่บาดมือ เลือดไหลกระฉูด คุณแม่ ท่านได้ใช้น้ำพีระมิดราดแผลให้ เลือดก็หยุดไหล ซึ่งก่อนหน้านั้น คุณเตี้ย (แม่ครัวบ้านสวนฯ) ได้ใช้น้ำพีระมิดราดก่อนหน้านั้น แต่เลือดไม่หยุดไหล

                            ท่านพระอาจารย์รัตน์ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องพลังพีระมิด และ ได้แสวงหาความรู้เพิ่มเติม จาก ด๊อกเตอร์อาจอง ด๊อกเตอร์เทพพนม ด๊อกเตอร์จิตรา และ จาก อาจารย์อู๋

                            คุณแม่ได้เล่าต่อว่า ก่อนหน้าที่จะมาทำหน้าที่นี้ คุณแม่เห็นข้อความที่ปรากฎที่จอทีวี ที่ปิดอยู่ ว่า "ดตาจินิน"  และ สักครู่ก็มีข้อความขึ้นมาอีกว่า "เจ้ากรรมนายเวร 99" ก็อยากรู้ว่ามีความหมายอย่างไร แต่เมื่อให้ด๊อกเตอร์เทพพนมนั่งสมาธิ ปรากฎว่า ด๊อกเตอร์แจ้งให้คุณแม่ทราบว่า เค้าไม่ให้บอก ให้คุณแม่ไปแสวงหาความรู้เอาเอง แต่ก็ได้แนะนำให้คุณแม่ ไปสอบถามจาก ด๊อกเตอร์จิตรา 

                              คุณแม่จึงได้มาศีกษาธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ศึกษาเกี่ยวกับปิระมิด จึงได้ค้นพบพลังงานปิระมิด และ ได้ติตตามผลงานการวิจัยของท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ หาความรู้เพิ่มเติมจาก ด๊อกเตอร์จิตรา และ อาจารย์อู๋ และ ได้นำเอาองค์ ความรู้ต่างๆ เหล่านี้มาบูรณาการ 

                                                              วัน หนึ่ง ลูกชาย(คุณท๊อป) ประสบอุบัติเหตุ  หลอดลมรั่ว แต่หาจุดรั่วไม่เจอ ก็ไม่สามารถผ่าตัดได้ คุณหมอทุกคนลงความเห็นว่า คุณท๊อปต้องเสียชีวิต

                                คุณแม่เห็นว่าทางการแพทย์ไม่สามารถให้การรักษาได้แล้ว ก็หันหน้าพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้าห้องพระ แต่คุณแม่ได้ระลึกถึงคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่อง การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ว่าเป็นของธรรมดา ให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจไว้เสมอ ไม่ร้องไห้คร่ำครวญ ต้องมีสติ ให้มีสติในการดำเนินชีวิตต่อ

                                 คุณแม่ จึงได้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ซึ่งเบื้องบน ท่านก็มีข้อแลกเปลี่ยนในการช่วย และ ถ้าคุณท๊อปหาย ขอให้คุณแม่ทำสองสิ่ง คือ

                                  1. ต้องเล่าเรื่องนี้ ในรายการทีวี ที่คุณแม่จัดทำ

                                  2. ต้องช่วยเหลือคนอื่นต่อไป (เหมือนที่ได้รับการช่วยเหลือในเรื่องของลูกตนเอง)

                                  คุณแม่ ก็ได้ไปเล่าเรื่องของลูก ที่ได้รับการช่วยเหลือ ในรายการของตนเอง แต่ไม่ได้กระทำในข้อที่สอง ที่รับปากเบื้องบนไว้

                                  วันหนึ่ง ขณะที่ครอบครัวของคุณแม่ จะเดินทางไปร่วมกฐินพระราชทาน คุณแม่อาบน้ำ คุณพ่อมงคลก็จัดของขึ้นรถ คุณท๊อปนอนหลับอยู่ แต่ขณะที่คุณแม่นวดผมอยู่ ก็ได้ยินเสียงเสือร้องที่ในห้อง คุณแม่คิดว่า คุณท๊อปแกล้งทำเสียง ก็ออกมาดู ก็ไม่เห็นอะไร ก็เดินหาคุณพ่อมงคลที่ชั้นบน ก็ไม่เจอ แต่ลงมาหาชั้นล่าง ก็ปรากฎว่า เห็นคุณพ่อมงคลนอนตัวเขียว เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่ง คุณแม่ ตอนนั้นก็คิดแต่เพียงว่า คนที่ใกล้จะเสียชีวิต นั้น ให้เค้าระลึกถึงพระพุทธเจ้า คนนั้นๆ อย่างต่ำที่สุด ก็ได้ไปสวรรค์ ก็ไปกระซิบข้างหู คุณพ่อมงคล และ ได้นำน้ำพีระมิด มาฉีดพ่นที่ใบหน้าของคุณพ่อมงคล ก็ปรากฎว่า คุณพ่อมงคลก็ลืมตา ฟื้นขึ้นมา และ ก็นั่งรถเพื่อไปร่วมงานกฐิน โดยเมื่อไปถึงก็เข้าพักในโรงแรม ให้คุณพ่อมงคลได้พักสักระยะหนึ่ง ไม่ได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

                                    วันหนึ่ง คุณแม่ ท่านได้รับการสื่อสารจากเบื้องบน ให้สร้างมหาพีระมิด จำนวน 99 องค์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คุณแม่รับดำเนินการทันที (โดยคุณแม่ได้กล่าวติดตลก ว่า ไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวคุณท๊อปกำพร้าแม่ กลัวคุณพ่อมงคลกำพร้าภรรยา)

                                      วันที่ 9 มกราคม 2553 คุณแม่ได้เริ่มก่อสร้างฐานพีระมิด โดย ในวันที่ทำพิธี ทุกคนที่มาร่วมในพีธี ต่างก็หายเจ็บหายป่วยกันถ้วนหน้า โดยในวันนั้น ก็แค่สวดคาถาปะโตเมตัง ดื่มน้ำพีระมิด และ บางคนก็ได้แค่ทาบอดี้โลชั่นเท่านั้น เป็น เบาหวาน ความดัน มะเร็งต่อมลูกหมาก ก็หายได้

                                        เมื่อ คุณแม่ได้สอบถามว่า ใครยังไม่หายจากการเจ็บป่วยให้ยืนขึ้น ทุกคนก็ยืนขึ้นกันมากมาย คุณแม่สอบถามว่า เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริงไหม พระศรีอาริย์มีจริงไหม ทุกคนก็ตอบว่า เชื่อ

                                         คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ทุกคนได้รับความเมตตาจากเบื้องบนนั้น เกิดจากหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และ เมื่อมีคนจำนวนมากยังไม่หาย คุณแม่ก็ได้ขออาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์มาให้ทุกคนได้สัมผัส ผ่านทางกาย วาจา ใจ ของ คุณแม่อุบล

                                         บางคน ขณะที่คุณแม่กำลังอาราธนา ก็หายเจ็บปวด  บางคน ก็ได้มาขอสัมผัสพระบารมี โดยการเดินผ่านคุณแม่อุบล เพื่อขอสัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ที่คุณแม่ได้อาราธนาท่านมา ทุกคนที่มีอาการปวดหัว ปวดหัวเข่า มึนหัว ปวดเอว ปวดหลัง เมื่อได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ ก็หายจากการเจ็บปวดกันทุกคน

                                      เมื่อ ด๊อกเตอร์จิตรา ได้ออกมาบอกกล่าวว่า คุณแม่อุบลนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก กับ พระนางเนเฟอตารี ซึ่งพระนางเป็นมเหสีของท่านรามเสสที่ 2 แห่งอียิปต์ พระนางเป็น คนที่มีเมตตา และ เป็นที่เคารพรักของประชาชนชาวอียิปต์แต่โบราณกาล เมื่อท่านได้ละสังขาร ท่านก็ได้มาเกิดในโลกมนุษย์ อีกครั้ง เพื่อมาช่วยมวลมนุษยชาติอีกครั้ง

                                       ซึ่ง ด๊อกเตอร์จิตรา เรียกตัวเองว่า "ครู" ท่านครูได้เชื่อในจิตของท่านเสมอ ว่ายุคพระศรีอาริย์ได้อุบัติแล้ว และ พระศรีอาริย์ ท่านเป็นผู้หญิง และ เป็นมนุษย์เหมือนเราๆ ได้กำเนิดแล้ว ท่่านจะเป็นคนที่มีเมตตา และ เปี่ยมด้วยความรัก แต่ ครูท่านขอว่า พวกเราอย่าหลงในตัวบุคคล เพราะ จะมีคนมากมายกล่าวอ้างว่าตนเองเป็นพระศรีอาริย์

                                         และ ในอนาคต ประเทศไทยจะเป็นเสาหลักของโลก ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศลาว ประเทศกัมพูชา จะมาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับประเทศไทย ประเทศต่างๆ ในโลกจะมาพึ่งพาประเทศไทย

                                          ที่บ้านสวนพีระมิด

                                         คุณอมร ศิริมาศกูล ได้ออกมาบอกกล่าวว่า พี่ได้รับอุบัติเหตุ โดนฆ้อนปอนด์ ขนาด 8 ปอนด์ ทุบถูกนิ้วมือ ขณะทุบกำแพงโรงทาน

                                          ทำให้พี่อมร นึกถึงการที่พี่เค้า ผิดศีลทั้งห้าข้อ ทำให้ต้องได้รับการเตือนถึงการต้องรับการชดใช้กรรมที่กระทำผิด เมื่ออยู่ที่บ้านสวนฯ และ ได้สัมผัสบารมีของพระศรีอาริย์ ขณะที่คุณแม่ได้อัญเชิญมาให้ลูกหลานได้สัมผัส อาการที่เจ็บปวดก็หาย

                                         แต่ เมื่อขณะขับรถกลับบ้าน อาการที่เจ็บปวดก็กลับมาอีก เมื่อกลับถึงบ้าน ก็ได้อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ สารภาพบาปกับจี้สฟิงซ์ ใช้ระหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ก็ปรากฎว่าอาการที่เจ็บปวดก็ไม่หาย แต่นิ้วมือยังบวมเท่าลูกปิงปอง 

                                                                                  ใน ที่สุด จิตของพี่อมร ก็ระลึกคิดได้ว่า ลองใช้คำพูดใหม่ โดยการขออาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่ท่านอาจารย์อุบล ได้ขออาราธนา อัญเชิญมาที่ กาย วาจา ใจ ของอาจารย์อุบล  ปรากฎว่า อาการบวมที่นิ้วมือ ก็เกิดอาการลมขับออกมา จนนิ้วหายบวม

                                         ซึ่งปรากฎการณ์นี้ คุณแม่ได้บอกกล่าวต่อลูกบ้านสวนฯ ว่า อาจจะเป็นการบอกให้พวกเราทราบว่า บางครั้ง ตัวเราอาจจะรับพลังจากพระศรีอาริย์โดยตรงไม่ได้ แต่ต้องรับผ่านทางคุณแม่ ซึ่งท่านได้ยกตัวอย่างให้ฟังว่า เหมือนคุณแม่เป็นโอ่งน้ำ รับน้ำจากพระศรีอาริย์ และ พวกเราลูกบ้านสวน ฯ ก็มาตักน้ำในโอ่งไปใช้อีกทีหนึ่ง (คุณแม่เป็นสื่อกลาง ในการรับพลังจากพระศรีอาริย์)

                                           ดังนั้น คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า เพราะ พวกเราไม่มีใครเคยเห็นพระศรีอาริย์ แต่ทุกคนเห็น คุณแม่อุบล ก็สามารถระลึกถึงรูปหน้าตาของคุณแม่ได้ หรือ บุคคลใดๆที่ เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ได้ 

                                             แต่ เพื่อที่เราจะสามารถรับพลังจากพระศรีอาริย์ได้นั้น  คุณแม่ได้ขอให้ทุกคนที่เคารพรักคุณแม่ อย่าได้คลางแคลงสงสัยคุณแม่ จะได้รับพลังเต็ม และ เราก็จะหายเจ็บ หายป่วย ได้

                                           คุณแหล๋น ได้ออกมาบอกกล่าวว่า คุณพ่อที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ต้องโดนสวนปัสสาวะเสมอ เมื่อได้สวมจี้สฟิงซ์ ก็ปัสสาวะออก

                                           คุณแม่ที่นอนไม่หลับ เมื่อได้สวมจี้สฟิงซ์  ก็นอนหลับได้สบาย

                                          น้องที่ทำงาน ปวดหัวจากอาการหวัด เมื่อได้สวมสฟิงซ์ครึ่งวัน อาการปวดหัวก็หายได้

                                          ขอขอบคุณ คุณพี่แมว(พี่ประวีณา ) ที่แบ่งเบาภาระในการจัดส่งองค์พีระมิดจำลอง รุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์ให้ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ครับ

                                           ขอขอบคุณ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านที่ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ในการรื้อถอนศาลาโรงทาน และ ช่วยงานต่างๆ ของบ้านสวนฯ ครับ

                                           ขอน้อมกราบต่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องกสิณ

                                            สาธุ สาธุ สาธุ      

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 17:16:47


ความคิดเห็นที่ 1337 (1632940)

กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                     และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                     ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                      ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และขอขอบคุณ คุณท๊อป

                      ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                      เย็นนี้ ได้ดูคลิป วันที่ 7 ตุลาคม 2555

                      "คุณไสยพ่ายบารมีพระศรีอาริย์ ผู้มีความกตัญญู ย่อมพบปาฏิหาริย์ ที่บ้านสวนพีระมิด"

                       ตอนเริ่มต้นรายการ คุณปวริศา (คุณนุ๊ก) จากสัตหีบ ซึ่งมีอาการน้ำมันไหลซึมออกมาจากศีรษะ มีอาการปวดแสบปวดร้อน ค้นตามบริเวณผิวหนัง นอนไม่หลับในตอนกลางคืน

                                                            เมื่อทำบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนฯ และ คุณแม่อุบลได้แนะนำใหอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ก็ปรากฎ ว่าเมื่อมานั่งใกล้คุณแม่ อาการที่โคนผมมีน้ำมันไหลเยิ้มออกมา ก็หายเป็นปกติ

                                                              แต่ เมื่อให้ไปนั่งห่างจากคุณแม่ อาการที่น้ำมันไหลเยิ้มที่โคนผม ก็กลับมามีอีก ซึ่งหลังจากบูชาจี้สฟิง์ ให้ขอขมาต่อหน้าจี้สฟิงซในบาปกรรมที่เล่นคุณไสยในอดีตชาติ และ อุทิศบุญกุศลที่ได้มา ใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด และ ขอบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อมารับวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวรของคุณนุ๊กไป เสวยสุขในสรวงสวรรค์ และ ศรัทธาที่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนฯ และ ต่อคุณแม่อุบล  อาการที่มีน้ำม้นเยิ้มที่โคนผมก็หายไป

                        คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติร่างกายของเราก็ขับสิ่งสกปรกภายในร่างกายของเราออกมา ในรูปของเหงื่อไคล  เราจึงต้องอาบน้ำ สระผม ทุกวัน และในรูปของอุจจาระ ปัสสาวะ และ ทางจิต ด้วยการคิดดี พูดดี และ ทำดี อย่าได้มีความโกรธ เพราะ ความโกรธเป็นอารมณ์ที่ดึงสิ่งที่ไม่ดีมาเข้าตัวเรา ให้รู้จักการให้อภัยทาน สมองจะได้ปลอดโปร่ง และ ออกกำลังกาย เพื่อจะได้ช่วยร่างกายขับสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย

                        คุณแม่ ท่านได้บอกกล่าวว่า บุญที่มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ เป็นบุญที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการ แต่ที่ต้องมาด้วยการทำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบที่ตั้งไว้

                        ที่โรงแรม เดอะแทรเวลเลอร์

                        พี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ได้ออกมาบอกกล่าวว่า เคยไปบ้านสวนฯ และ ได้เล่าให้คุณแม่ฟังว่า ตนเองเป็นโรคหัวใจโต เวลาเจ็บปวดก็ได้อธิษฐานขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนฯ ให้ช่วย  อาการที่หัวใจเต้นไว อาการก็ดีขึ้น สามารถวัดคลื่นหัวใจได้ 

                        และ วันนี้มีอาการปวดไหล่ เมื่อได้ไปสารภาพต่อจี้สฟิงซ์ ว่าตนเองเคยผิดศีลข้อสี่ เพราะ โกหกว่าจะไปหาหมอ แต่ความจริงจะมาคุณแม่อุบล อาการที่ปวดไหล่ก็หายไป และบอกว่า เวลาเจ็บป่วยก็ได้เอาพีระมิดจำลองมาแตะ มาแช่น้ำดื่ม

                        ด๊อกเตอร์จิตรา ท่านแทนตัวเองว่า ครู ท่านได้ออกมาบอกว่า ท่านเชื่อด้วยดวงจิตของท่านว่า พระศรีอาริย์ได้ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ เป็นผู้หญิง เป็นมนุษย์ และ อยู่ที่ประเทศไทย  และ ครู ได้บอกกล่าวว่า ให้เราเชื่อว่า โลกไม่แตก แต่โลกกำลังเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์ เป็นโลกยุคใหม่ และ จะเต็มไปด้วยบุคคลที่กล่าวอ้างว่าตนเองเป็นพระศรีอาริย์ ครูบอกเราว่า เราอย่างได้หลงไปเชื่อในตัวบุคคลเหล่านี้

                          ที่บ้านสวนฯ

                           น้องผู้หญิงคนหนึ่ง ได้มาบอกเล่าว่า ตนเองเคยไปฟังธรรมบำบัดที่โรงแรมเดอะแทรเวลเลอร์ และ ได้ก้มลงกราบคุณแม่ ทำให้อาการที่ปวดหลัง เนื่องจากหลังคู้งอ หลังก็ตรงได้ และมีอาการดีขึ้นเกือบ 80% แต่เมื่อได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่คุณแม่อุบล  ได้อาราธนามาสถิตย์กายวาจาใจ อาการที่ปวดหลังก็หายได้เป็นปกติ แต่เมื่อออกจากโรงแรมอาการที่ปวดก็กลับมาอีก

                            คุณแม่ได้สอบถามว่า เคยทำผิดศีลหรือไม่ น้องเค้าก็สารภาพว่า เคยผิดศีลในการมีส่วนร่วมในการฆ่างูจงอาง โดย คุณพ่อเอาก้อนอิฐโยนใส่เค้าจนร่างกายของงูขาดเป็นสองท่อน อาการที่เจ็บไหล่ก็ดีขึ้น อาการปวดหลังก็ดีขึ้น 80% โดยสารภาพว่า เคยทำให้ผู้ชายอกหัก ทำให้เป็นโรคหัวใจ โดยจังหวะการเต้นของหัวใจ มีการหยุดชั่วขณะ ทำให้หายใจไม่ทัน เคยกระทืบแมลงสาป

                             วันที่มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ก็โยนก้อนอิฐไปแล้วพลาดหล่นมาใส่เท้าตัวเอง แต่ พี่อ้อยได้ช่วยใช้ระหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ทำให้นิ้วเท้าไม่แตก แต่มีความเจ็บปวดหลงเหลือ แต่เมื่อได้อนุโมทนาบุญ และ ขอบคุณพี่อ้อยที่ให้การเตือนสติในการให้ใช้ระหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ทำให้อาการที่ปวดหายไปได้

                              คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ที่อาการปวดหลังไม่สามารถหายได้อย่างถาวร เพราะว่า เจ้ากรรมนายเวร เค้าต้องการให้มาเล่าเป็นธรรมทาน และ ต้องการให้มาสร้างบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนฯ

                             เมื่อมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ อาการที่ปวดก็ดีขึ้นอีก 10% เป็น 90% หลังจากมาสารภาพ เรื่องที่ทำให้ผู้ชายอกหัก เคยผิดศีลข้อสาม ก็ดีขึ้นอีก 5% เป็น 95% 

                              คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ที่ยังไม่หายจนเป็นปกติ เนื่องจาก นึกกรรมได้ยังไม่หมด บุญที่มากระทำยังไม่พอ คุณแม่ได้บอกกล่าวให้พวกเราได้ทราบอีกว่า เวลานั่ง ให้พยายามนั่งให้ตัวตรง จะได้ไม่ปวดหลัง และ มีบุคคลิกที่ดี

                               และ การที่เราหายเจ็บหายปวดได้ นั้น เป็นเรื่องของการพิสูจน์ให้เราเห็นกฎของกรรม ถ้าเราค้นพบสาเหตุ ก็สามารถดับผลได้หมด เพราะ เจ้ากรรมนายเวรของเรา เค้าต้องการบุญกุศลที่เราอุทิศให้เค้า และ ถ้าเราอยากหายอย่างต่อเนื่อง นั้นให้เรา

                              1. ต้องสำนึกออกมาจากใจ

                              2. ต้องสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่ให้กับเค้า นั้นคือ การทำธรรมทาน

                              3. เล่าเรื่องที่เราเคยกระทำไม่ดีต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือ กับคนอื่น ให้ผู้คนทั่วไปฟังอย่างเป็นสาธารณะ เพื่อเป็นการหยุดยั้งการกระทำในสิ่งที่ไม่ดี

                               และ ต้องเป็นการเล่าออกทางทีวี และ เราต้องไปช่วยเหลือคนอื่นๆ ด้วยวิธีเดียวกัน อย่างน้อย 99 ครั้ง

                              พี่อ้อย ได้ออกมาบอกเล่าว่า พี่อ้อยได้มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ เป็นเวลา เกือบ 1ปี 3 เดือน

                              โดยก่อนหน้าที่จะมาบ้านสวนฯ นั้น พี่อ้อย ไม่เคยขายเครื่องมือแพทย์ได้ตามเป้าเลย

                              แต่เมื่อมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง พี่อ้อยไปอธิษฐานต่อท่านท้าวเวชสุวรรณ พี่อ้อยก็ทำเป้าไตรมาสได้ และ ทำได้เกินเป้ามาตลอด ทำให้พี่อ้อยได้รับเงินคอมมิสชั่น ซึ่งไม่น่าจะได้รับอนุมัติจากบริษัท

                              ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า การกระทำในอดีตส่งผลต่อปัจจุบัน และ การกระทำปัจจุบันส่งผลต่ออนาคต

                              อย่าได้หลงใหลกับเงินทองที่ได้รับ แล้วขาดการทำบุญที่บ้านสวนฯ ต้องทำบุญตลอดอย่าได้หยุด

                              พี่วีรดา ออกมาบอกกล่าวว่า คุณสามีขอยืมจี้สฟิงซ์ของน้องต้นกล้าไปใช้ ทำให้หายจากอาการปวดหลัง ปวดเอว และ ปวดฟัน และ ใช้ระหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยในการค้าขาย

                              ขอกราบต่อคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องการทรงอารมณ์  อารมณ์ของผู้ที่ได้สมาธิ ย่อมปฏิบัติได้ง่ายกว่าคนที่เป็นคนเลว แต่ให้ปฏิบัติด้วยกำลังใจที่สูง อารมณ์ที่เด็ดเดี่ยว ต้องมีความรู้สึกว่า ทำไม่ได้ก็ให้ตายไป ต้องคิดไว้เสมอว่า ร่างกายไม่มีอะไร ไม่ทรงตัว จิตต้องตั้งไว้ จิตที่บริสุทธิ์ ไม่ได้ก็ตายไป เราต้องการพระนิพพาน ต้องไม่มีเชื้อของ โลภะ โทสะ โมหะ ต้องการเป็นอรหันต์

                              ขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ที่ได้มีส่วนร่วมในการขุดหลุม ที่โรงทานเดิม และ การใช้แรงกายในการทำงานเพื่อบ้านสวนพีระมิด ครับ

                              สาธุ สาธุ สาธุ       

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-07 16:18:54


ความคิดเห็นที่ 1338 (1632970)

อนุโมทนากับทุกๆธรรมทาน

จากคุณ คุณากร ด้วยนะคะ

เพราะเป็นคนเดียว

ที่ยังทำหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง

และลงรายละเอียดของเนื้อหารายการ

ได้อย่างครบถ้วน

แล้วก็มาเขียนก่อนใครเพื่อนทุกเทปเลย

 

แบบว่า ยังคงรักษาแชมป์

ได้ทุกสมัยเลยทีเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 01:33:40


ความคิดเห็นที่ 1339 (1632977)

ขออนุโมทนากับทุกๆ ธรรมทาน

ของทุกท่านด้วยค่ะ

 

**********

 

ตอนท้ายๆ มีเหตุขัดข้องให้ธัญญาภรณ์ไม่ได้ดู

ก็แอบอาศัยธรรมทานของคุณคุณากรนี่ล่ะค่ะ

ที่ทำให้ไม่ตกข่าว

 

เห็นด้วยกับคุณชนิดานะคะ

ที่คุณคุณากรเข้ามาเขียนก่อนใคร

แถมยังเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนทีเดียว

สาธุค่ะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 05:52:27


ความคิดเห็นที่ 1340 (1633873)

ได้ดูรายการคุยไปแจกไป ออกอากาศวันที่ 7 ตุลาคม  2555 แล้วค่ะ

อนุโมทนากับคุณคุณากรด้วยค่ะ แหมเล่าซะละเอียดได้ใจจริง ๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 18:05:26


ความคิดเห็นที่ 1341 (1633885)

หมอเห็นด้วยคะว่าคุณคุณากรสามารถให้รายละเอียดได้ดีมากๆและสม่ำเสมอ ขออนุโมทนาคะ

เรื่องปากของน้องสต๊อปนี่อัศจรรย์จริงๆคะ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นชัดเจนมากจากการดูรูปเปรียบเทียบcatt7

ศัลย์แพทย์มือทองก็ไม่มีทางทำได้รวดเร็วอย่างนี้แน่นอน

รายการวันที่ 7 ตค. อาจารย์อุบลพูดถึงกลิ่นเหงื่อที่ขับออกมาหลังจากใช้แรงกายทำงานแล้ว ก็ดีใจจังที่หมอได้ขจัดสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายซึ่งสะสมอยู่ในร่างกายมานานออกไป แถมผมที่มีน้ำมันออกมาเยอะต้องสระผมบ่อยๆเพื่อชะล้างออกไปจากตัวเราอีกหละ

โชคดีที่ยังไม่มากขนาดน้องที่มีเรื่องคุณไสยเข้ามาเกี่ยวข้อง

สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 19:58:08


ความคิดเห็นที่ 1342 (1634342)

หนูขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ พระศรีอารีย์ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท็อปค่ะ

ที่ได้เมตตาให้ลูกได้ชมรายการคุยไปแจกไปในวันนี้ได้ชมรายการตอน ค่าย 13

ได้ชมคุณอัม ป้าอุ๊ คุณแหวน และหลายท่านได้แสดงรีวิวประกอบเพลงในงานค่าย 13 สวยงามและพร้อมเพรียงมากเลยค่

และท่านอาจารย์ได้สอบถามคนที่แสดงว่าเคยใช้รหัสอาจารย์อุบลหรือไม่ได้ผลอย่างไร

ท่านแรกมาจากเชียงใหม่จำชื่อไม่ได้ แต่คุณพี่ท่านนี้เคยปรามาสอาจารย์ ไม่ศรัทธา สงสัย จึงใช้รหัสไม่ได้ผล แต่พอเปลี่ยนใจดูรายการคุยไปแจกไป และศรัทธาอาจารย์อุบลก็ใช้รหัสได้ผล

สำหรับคุณแหวนดูรายการคุยไปแจกไปครั้งแรก ก็รู้สึกชอบ และก็มาทำบุญบ้านสวนโดยตลอด  และทำให้ชีวิตคุณแหวนดีขึ้่นทุกด้าน เดิมทีสามีไม่ค่อยสนับสนุน เมื่อสามีคุณแหวนไม่สบายมากได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ได้ผล ก็ศรัทธาและยินดีให้คุณแหวนและครอบครัวมาทำบุญที่บ้านสวน

และท่านอาจารย์ได้สอนว่า การทำความดี ต้องทำด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองไม่เบียดเบียนใคร ทำด้วยทรัพยของเราเอง

คุณอัม เป็นคนที่ทำบุญแบบปิดทองหลังพระ เป็นเจ้าภาพอาหารทุกครั้งที่มีกิจกรรม และเป็นเจ้าภาพสร้างวิหาร และคุณอัมเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน อ่อนโยน จิตใจเข้มแข็ง

คุณอ๋อย ใส่จี้ และโดนสุนักกัด แต่ไม่เป็นไร ไม่มีแผล 

คุณมิ้ม ได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยได้ผลดีมาก  เนื่องจากได้มีการบอกต่อจำนวนมาก และคุณมิ้มได้เล่าว่าเคยมีปัญหาเรื่องการขอย้ายที่ทำงานทำอย่างไรก็ไม่ได้ย้าย เคยมีพระทักว่ามีคนทำให้ไม่ได้ย้ายเป็นวิญญาณของคนที่คุณมิ้มเคยขับรถชนเค้าตาย แต่คุณมิ้มไม่ได้สำนึกว่าตัวเองผิด คิดเข้าข้างตัวเองตลอดเวลาว่าตัวเองไม่ผิดวิญญาณของลุงที่ตายก็ไม่ปล่อยคุณมิ้มคอยขัดขวาง เมื่อคุณมิ้มได้มาร่วมงานส่งวิญญาณแค้น ที่ท่านอาจารย์อุบลได้จัดและพาลูกหลานส่งวิญญาณแค้น หรือเด็กที่ถูกทำแท้ง และคุณมิ้มก็สำนึกผิดและร่วมพิธีส่งวิญญาณแค้นทำให้วิญญาณของลุงให้อภัย และทำให้คุณมิ้มได้ย้ายที่ทำงานดังปรารถนา คุณมิ้มได้มีโอกาสเล่าเรื่องตัวเองและเผยแพร่รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ที่หน้าเสาธงที่มีคนเยอะ ๆ มีคนสนใจรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และคู่มือหนีกรรมหลายคน มีผลทำให้คุณมิ้มใช้รหัสได้ผลดีมาก ยังไม่ทันได้ขอแค่คิดก็ประสบผลสำเร็จ

นองบัวใช้ไม่ได้ผลเพราะน้องบัวไม่ได้บอกรหัส ต่อ และน้องบอกว่าน้องชอบเล่นเกมส์ ดูการ์ตูน อาจารย์อุบลได้แนะนำว่ารหัสอาจารย์อุบลให้ใช้ควบคู่กับการทำความดี

อาจารย์ได้สอนว่าความกตัญญูเป็นเครื่องเหมายของคนดี  เช่นทุกท่านที่ได้แสดงด้วยความเต็มใจ เป็นการแสดงความกตัญญูู  ป้าอุ๊ก็กตัญญูโดยการปกป้องเวบบ้านสวน 

บรรยากาศการทำ Work Shop ดูทุกท่านสนุกสนาน มีความสุขกับการทำกิจการเป็นกลุ่มค่ะ

และได้มีการแบ่งกลุ่มทำ Work shop การเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ โดยที่อยู่บ้่านตัวเอง โดยไม่มีอาจารย์อุบล จะช่วยตัวเอง หรือ มีคนป่วยจะช่วยคนอื่นได้อย่างไร

อาจารย์ได้แนะนำให้ทำตามแบบอย่างกลุ่มพี่เหมี่ยว  และพี่เหมี่ยวได้ใช้จี้ช่วยคน และมีรูปอาจารย์ที่บ้านพี่เหมี่ยว  ซึ่งพี่เหมี่ยวได้ใช้จี้ช่วยคนหายทุกคน

กลุ่มพี่เหมี่ยวได้มีแนวคิดและวิธีช่วยคนโดย พี่เหมี่ยวบอกว่าในกลุ่ม มี 10 คน  ครั้งแรกพีเหมียวขอพระบารมีพระศรีอารีย์ที่ท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้อาราธนาอัญเชิญ และให้สามาชิกในกลุ่มสารภาพปาบกับจีัและก็หายเอง บางคนนั่งฟังเพื่อน           สารภาพปาบหก็หาย ขั้นแรกใช้จี้ 1 องค์ ใช้เวลานาน  และครั้งที่ 2 ใช้จี้หลายองค์ของสมาชิกทุกคนรวมกันได้ 14 องค์ โดยได้ลองรักษาคุณก๊อตซึ่งตาอักเสบบวมแดง มีน้ำตา  โดยขอพระบารมีพระศรีอารีย์ที่ท่านอาจารย์อุบลอัญเชิญ และนำจี้ 14องค์ แปะที่ตาคุณก๊อต พอเอาจี้ออก   ตาคุณก๊อตหายแดง ไม่มีอาการอักเสบ น้ำตาหยุดไหล และเหลืออาการอีกนึดหน่อย โดยไม่ต้องสารภาพปาบ   พอคุณก๊อตสารภาพปาบว่าได้ใช้่ตาดูสิ่งทีไม่ดี ทำให้อาการที่เหลือยู่หาย 100 เปอร์เซนค่ะ

และคนต่อมาพี่เจี๊ยบ คันขาซึ่งมีสีดำและแข็ง เป็นมา 7 ปี รักษาไม่หาย พอใช้จี้ 14 องค์บำบัดแล้วแผลนิ่ม อาการคันหาย และขาวขึ้น และพี่เจียบได้ขอบคุณสิ่งสิทธิื ขอบคุณพระศรีอารีย์ ท่านอาจารย์อุบล ทำให้อาการที่เหลืออยู่หายหมดเลย  

พี่เหมี่ยวได้ให้คำแนะนำว่า การที่จะขอพระบารมีพระศรีอารีย์ที่ท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้อัญเชิญ ถ้าใจไม่ศรัทธาเต็ม ใจไม่เปิดเต็ม 100 ถึงแม้จะมีจี้หลายองค์ ก็ไม่อาจจหายได้ แต่ถ้ามีศรัทธาเต็ม 100 ใจเปิดเต็ม 100  ก็อาจหายโดยไม่ต้องสารภาพปาบได้

สำหรับกลุ่มเด็ก ๆ จะช่วยคนโดย

ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย    สารภาพปาบจับจี้     สารภาพปาบกับอาจารย์อุบล    ไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวน    อนุโมทนาหน้าจอกับรายการคุยไปแจกไป ดูคลิบวีดีโอ 9  ตอน   เขียนธรรมทานในเวบบ้านสวน  เล่าธรรมทานบนเวทีบ้านสวน  เลิกทานเนืิ้อสัตว์   และรักษาศิล และเด็ก ๆ ได้ใช้จี้ช่วยกันเอง และเด็ก ๆ ก็หายจากอาการเจ็บป่วย 100 ทุกคน

ท่านอาจารย์ อุบลได้อาราธนาพระบารมีพระศรีอารีย์หให้ลูกหลานได้สัมผัส ทุกคนเดินผ่านก็จะหายป่วยทุกคน แม้แต่คนที่เดินไม่ตรงตั้งแต่เกิดพอเดินผ่านได้รับพระบารมีพระศรีอารีย์ก็สามารถเดินตรงได้ในฉับพลันทันที

 และอาจารย์ได้แนะนำว่า ให้ทุกคนหมั่นเขียนธรรมทานทุกวัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเน้นย้ำให้ลูกหลานเขียนธรรมทาน เพราะธรรมทานเป็นบุญใหญ่ทำให้ปลดล็อกกรรมได้ และการเขียนธรรมทานต้องใช้ดุลพินิจด้วยว่าอะไรควรเขียน อะไรไม่ควรเขียน

อาจารย์ได้ยกตัวอย่างพี่เจี๊ยบจะเขียนธรรมทานทันที่เมื่อกลับถึงบ้าน

และช่วงธรรมจากหลวงพ่อฤาษี  หลวงพ่อได้สอนว่า  ไม่โกรธ จะโกรธก็ควรจะโกรธจิตของตัวเองดันเกิดมาในดินแดนที่มีความเร่าร้อนและห่ำหั่นใจ

พระพุทธเจ้าสอนให้ปฏิบัติในปัจจุบันเป็นสำคัญ วาจาของคนพูดจบเดียวเดียวก็หายกลายเป็นอดีต 

และพรบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดำรัสว่า  ทรงทำงานกับปัจจุบันตลอดเวลา  อดีตที่ล่วงเลยมาแล้วอย่านึกถึง อนาคตยังมาไม่ถึงอย่าสนใจ แต่ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด  จะดีหรือชัวอยู่ที่ตัวเรา เราจะดีหรือชัี่วอยู่ที่การปฏิบัติของเรา 

หากผิดพลาดประการใด ลูกกราบขออภัยด้วยค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-14 21:11:37


ความคิดเห็นที่ 1343 (1634355)

วันนี้ใด้ดูรายการคุยปแจกไปของวันที่ 7ตุลาคม55

คุณนุก จากจังหวัดสุรินทร์ หัวเป็นมันมันๆๆ เป็นก้อนๆๆออกมาจากหัว เกิดจากมนต์ดำ มาจากอดีตชาติ

เพราะปัจจุบันไม่ใด้ทำบาปอะไร ช่วงวันโกน วันพระจะปวดเฉพาะจุด ตามกระดูก ตามร่างกาย  ร้อนเหมือนมีคนจุดไฟเผ่า

นอนไม่หลับ หลับช่วงหกถึงเจ็ดโมงเช้า  สวดมนต์ไหว้พระเกือบทุกคืน ก็ไม่หาย

ไปเรียนที่อังกฤษ มีกลิ่นเหมือนแขก ติดตามตัว กรรมก็ติดตามตลอดแม้อยู่ไกลแค่ไหน ต้องสระผม เช้าเย็นเพื่อลดความมันของเส้นผม

พอมาบ้านสวนทำบุญแรงกาย อาจารย์อุบลส่งดวงวิญญานคุณไสย ขึ้นข้างบนอาการก็ดีขึ้น น้ำมันในหัวก็จางลง

เวลานั่งห่างท่านอาจารย์เหลือนิดๆๆแต่นังไกล้ท่านอาจารย์ก็หายหมดเลย

-ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร ขอบคุณสมเด็จพ่อองค์ปฐม พระศรีอาริย์ พระอาจารย์ฤๅษีลิงดำ และสิ่งศักดิ์สิทธ์ทุกๆพระองค์

ดร จิตรา ท่านพูดเกียวกับพระศรีอาริย์ท่านลงมาเกิดแล้ว เป็นหญิงที่เมืองไทย เป็นผู้ใหญ่แล้ว

รู้สึกขนลุกมากตอนดร. จิตราร้องเพลง แต่เราก็หากันจนเจอ ท่านเน้นว่าพวกเราหย่าหลงทางนะ

น้องปอ พบท่านอาจารย์อุบลที่รร เทรเวลเลอร์แล้วเข้าไปก้มกราบอาการปวดหลังหลังงอผิดรูป ดีขึ้น 60%

มาสารภาพกับดร จิ๋ม เคยผิดศีล ห้า ฆ่างู แมลงสาบ โดยกายการบอกให้พ่อฆ่างู  อาการปวดบ่า ไหล่ หลัง อาการดีขึ้น 80%

ท่านอาจารย์เมตตาบอกว่ายังไม่หมด เหลือศีลข้อสาม เคยชอบมองผู้หญิง ชาย ปลื้มพระ พูดคุยโทรศัพย์กับพระ

เเละมาใช้แรงกายที่บ้านสวน และมาเล่าธรรมทานที่บ้านสวน อาการดีขึ้น 95%

คุณอ้อย มา ขอบคุณเรื่องใด้รับบความเมตตาเรืองการงานการเงิน  จากการขายของอดีตไม่ถึงเป้า  พอมาบ้านสวนก็ประสบความสำเร็จ ใด้เกินเป้าหมาย  ขอพรท่านท้าวเวสสุวรรณ  ใด้คอมมิสชั่นสมความปรารถนา

ท่านอาจารย์บอกว่าคุณอ้อย ใ้รับความเมตตาเพราะ คุณงามความดี จริงใจกับบ้านสวน ไม่เสเเสร้ง พร้อมที่จะปกป้องบ้านสวน เสมอต้นเสมอปลาย

คุณวีรดา มาขอบคุณที่แฟนหายทุกโรค จากอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดฟัน หลังจากเอาจี้สฟิ้งของต้นกล้าลูกชายมาไส่

ขอร่วมโมทนากับพี่แมวที่ช่วยงานท่านอาจารย์อุบล จัดส่งพัสดุ อย่างเต็มกำลังความสามารถ สาธุ

กราบขอบคุณท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณท้อป คุณเพชร คุณมาร์ค เวปมาสเตอร์บ้านสวนพีระมิต

กราบขอบพระคูณเทวดาที่รักษาท่านอาจาย์อุบลทุกๆๆพระองค์

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-14 22:47:17


ความคิดเห็นที่ 1344 (1634392)

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากคุณภา

 

และ ธรรมทานจากเทปล่าสุด

สดๆร้อนๆ

จาก คุณ มยุรฉัตร ด้วยนะค๊า

.......................

อิอิ เห็นหมอวัฒน์ เขียนว่า

มีอาการน้ำมันออกที่ผมเหมือนกัน

 

ไม่รู้ว่า มีใครเคยเอาน้ำมันพราย

มาป้ายคุณหมอวัฒน์คนสวย

บ้างรึเปล่า...เนอะ

 

อิอิ อันนี้แซวเล่นนะค๊า

เพราะเห็นคุณหมอเป็นหนึ่งใน

สว.ที่หน้าละ่อ่อน

แถมโสดอีกต่างหาก

 

ฉะนั้น อาจจะมีหนุ่มมาแอบชอบ ก็ได้น๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 03:56:38


ความคิดเห็นที่ 1345 (1634419)

    ได้มีโอกาสดูรายการช่วงสุดท้ายที่ อ.อุบลได้เมตตาให้ผู้ที่มีความทุกข์ทั้งหลายเดินผ่าน เพื่อสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์

- น้องผู้ชายบอกปวดเมื่อยขา หลัง และใหล่  แค่ช่วงที่ยืนรอเข้าแถวจะขึ้นเวที ก็เริ่มหายไปทีละอย่าง จนถึงคิวปรากฏว่าเหลือแค่อาการปวดเมื่อยขา เมื่อท่าน อ.อุบลให้เดินผ่าน อาการปวดเมื่อยก็หาย  95%  เหลืออีก 5%  ท่านจึงแนะนำให้ไปเขียนธรรมทาน  สังเกตว่า หลังๆ  บางคนที่อาการยังหลงเหลือต้องกลับไปเขียนธรรมทานจึงจะหาย 100% นี่แสดงให้เห็นถึงความเมตตาของพระศรีอาริย์อย่างไม่มีประมาณ  เพราะการเขียนธรรมทานเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ และช่วยปลดล๊อกกรรมได้ ส่วนใหญ่คนที่อาการหายนอกจากจะไม่กตัญญูขอบคุณ แล้ว ก็ไม่ได้เผยแพร่สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองเพื่อเป็นธรรมทานกับผู้อื่น อาการโรคต่างๆ ก็กลับมาเป็นๆ หายๆ    บางท่านก็หายเงียบไปเลย ประมาณว่าถ้าฉันมีทุกข์ค่อยนึกถึง อย่างนั้นหรือเปล่า

- มีผู้หญิงท่านหนึ่งพึ่งมาบ้านสวนเป็นครั้งแรกมีอาการปวดเมื่อยร่างกาย พอท่าน อาจารย์ให้เดินผ่านอาการปวดเมื่อยก็หายไป แต่ก็ยังมีความอยากรู้ว่า คนที่ตายไปตอนนี้อยู่ที่ไหน  ท่าน อ.อุบลกล่าวว่าหากอยากรู้ต้องฝึกปฏิบัติเอาเอง  หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านไม่ให้ทำตัวเป็นขี้ข้าชาวบ้าน   เพราะหาก บอกไปก็ไม่ใช่แนวทางที่จะทำให้คนพ้นทุกข์  

        อันนี้เห็นด้วยอย่างมากๆ ค่ะ  เพราะตอนที่ไปบ้านสวนใหม่ๆ จำได้ว่ามีคนเข้ามาถามในเรื่องที่ตนเองอยากรู้  เช่น น้องปุ๋ย ถามว่ากรรมอะไรทำให้ตนเองถึงเป็นคนที่ฟังคนอื่นอย่าง แล้วกลับไปทำอีกอย่าง  และคุณกัญญวิญาน์ อยากรู้ว่าเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณอภัยให้ตนเองแล้วหรือยัง   พอเขาถามเสร็จ   อัญก็ได้ยินเสียงเข้ามาในหัวเลยค่ะว่า "เอ็งอย่าทำตัวเป็นทาสชาวบ้าน"  จึงเลี่ยงไปคุยเรื่องอื่นแทน    เพราะคนเรามีแต่ความอยากที่จะสนองตัณหาตัวเอง  แต่เมื่อมีผู้เมตตาบอกทางปฏิบัติให้ว่าทำอย่างนี้แล้วจะเห็นผลอย่างนั้น  ก็ขึ้เกียจทำกัน จะเอาแบบ ฉันไม่ทำแต่อยากได้ผลเลย ให้ปฏิบัติทำอย่าง อ.อุบลเหรอไม่หรอก       ขี้เกียจทำแต่อยากได้ฤทธิ์เป็นเหมือน ท่าน อ.อุบล อ่ะ สวยขึ้น สาวขึ้น  ช่วยคนให้หายได้  ประมาณนั้น   คิดแล้วเหนื่อยใจแทนท่าน อ.อุบลจริงๆ  เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะที่ว่าท่าน อ.อุบล    ต้องคัดเลือกสำหรับผู้ที่ใช่เท่านั้น ในเวลาที่เหลือน้อยนิด     สำหรับใครที่ยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ถือว่าท่านเลือกทางเดินแล้วที่จะไม่เดินตามทางพระพุทธเจ้า 

- การอยู่กับปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญ   หากใครมาด่าเราคำพูดนั้นผ่านไปแล้วเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบันเสียงด่าหายไป จิตเราก็ไม่ต้องไปยึดถืออะไร  อนาคตก็ยังไม่เกิด  ถ้าเราเอาจิตอยู่กับปัจจุบันได้ก็จะไม่ทุกข็ใจ  คนส่วนใหญ่ชอบยึดติดกับอดีตทั้งๆ ที่มันผ่านมาแล้ว  และก็คิดล่วงหน้าทั้งๆ ที่มันยังไม่เกิด  พึ่งรู้ว่าที่ผ่านมาตัวเองทุกข์เพราะไม่เอาจิตจับกับปัจจุบันนั่นเอง  กราบสาธุ หลวงพ่อค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 08:33:15


ความคิดเห็นที่ 1346 (1634479)

อุ้ย คุณชนิดา พูดเสียน่ากลัว  ไม่ใช่อย่างนั้นดีกว่า  

ข้าเจ้าบ่อเจื่ออีกแล้ว สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 13:42:52


ความคิดเห็นที่ 1347 (1635055)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆท่าน ครับ

                        ขอน้อมกราบ ต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                         ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                          ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                           คืนนี้ ได้ชมคลิป วันที่ 14 ตุลาคม

              "ค่าย 13 ชมบารมีพระศรีอาริย์ พบปาฎิหาร์ยมากมาย" 

           ขอชื่นชม ต่อการแสดงของลูกบ้านสวนฯ ครับ เพราะ เป็นการแสดงที่ทุกท่านร่วมใจร่วมแรงในการแสดง เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อ คุณแม่อุบล และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด ครับ

            ลูกบ้านสวน ที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองยอมรับ ว่า เมื่อมีลูกบ้านสวนฯ คนหนึ่ง มาบอกกล่าวถึงเรื่องบ้านสวนพีระมิด ตนเองไม่เคยเชื่อ ไม่ศรัทธา แต่เมื่อได้ใช้ระหัส ก็มีความเลื่อมใส แต่ก็ใช้ไม่ค่อยได้ผลทุกครั้ง 

             ซึ่ง คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า เมื่อ ไม่ศรัทธา ก็มักจะใช้ระหัสไม่ได้ผล หรือ เมื่อใช้ได้ผลแล้ว ก็ไม่ยอมบอกต่อ ก็สามารถใช้ได้เพียง 3 ครั้ง แล้วต่อไปก็จะใช้ไม่ได้ผลอีกเลย และ ไม่ต้องไปตามจิก ตามว่า กับ กลุ่มบุคคลที่เค้าไม่ศรัทธา ต่อ คุณแม่อุบล และ บ้านสวนพีระมิด และ ก็ปรามาสคุณแม่อุบล เพราะ ในปัจจุบัน นี้ ก็ยังมีผู้คนที่ยังรักษาศีลห้า ได้กันทุกคน แสดงว่า ผู้คนเหล่านี้ เค้าก็ไม่ได้ศรัทธา หรือ เชื่อในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า กันทุกๆคน แล้วทำไมเค้าจะไม่ปรามาสคุณแม่อุบล ปล่อยให้เค้ากระทำไป ไม่ต้องสนใจ

              คุณแหวน ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองนั้น รักและศรัทธาต่อคุณแม่อุบล ไม่ว่า คุณแม่บอกกล่าวอะไร พี่แหวนเค้าก็เชื่อ และนำไปปฎิบัติ แม้น แฟนคุณแหวน ห้ามคุณแหวนไม่ให้มา คุณแหวนก็ยอมที่จะโกหกแฟน เพื่อจะมาบ้านสวนฯ

               คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า  หน้าที่ของคุณแม่ นั้น เกิดมาเพื่อช่วยคนอื่น และการทำบุญ ไม่อยากให้เราต้องเบียดเบียนผู้อื่น ให้พยายามทำอะไร ด้วยกำลังของตนเอง 

                               คุณ อัม ได้ออกมาจะบอกกล่าว แต่ พี่ก็ไม่สามารถบอกกล่าวได้ด้วยตนเอง  เพราะ คุณอัม ท่านตื้นตันใจ ในความรัก และ ความเมตตาของคุณแม่อุบล มากๆ จะร้องไห้  คุณแม่อุบล จึง ได้บอกกล่าวต่อลูกบ้านสวนฯว่า คุณอัม นั้น ในอดีตนั้น คุณอัม ต้องอยู่ใต้การควบคุม ไม่สามารถทำอะไรได้่ด้วยตนเอง จิตใจไม่เข้มแข็ง ทำอะไรต้องมีอุปสรรค เหมือน พระพุทธองค์ ตอนที่พระองค์ท่านบำเพ็ญเพียรบารมี ก็มีมารผจญ

                                แต่ คุณอัม ท่านมีจิตศรัทธา ในบ้านสวนฯ ท่านได้บริจาคเงิน เพื่อสร้างอาคาร 3 ชั้น ถึง สามแสนบาท และ ได้มาทำอาหารให้การเข้าค่ายทุกครั้ง ไม่ต้องการให้ประกาศให้ผู้ใดทราบ และ ในปัจจุบันนี้ คุณอัม ท่านก็มีจิตใจเข้มแข็ง และ มีความอ่อนน้อมถ่อมตัว(คนที่เป็นลูกบ้านสวนฯ ทุกท่าน ต้องรู้จัก คุณอัม เพราะ คุณอัม อัธยาศัยดี และ เป็นคนที่มักจะถ่ายทอดความรู้ในการประกอบอาหารเจ ให้กับลูกบ้านสวนฯ)

                 คุณเวียน เวียนมา (ชาวพม่า) เป็นแม่บ้านของ คุณอัม ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองกลัวฝนตกมากๆ ก็ใช้ระหัส ทำให้ฝนหยุดตก แดดก็ออก

                 คุณอ๋อย ออกมาบอกกล่าวว่า ใช้ระหัส ฝนก็หยุดตก และ ถูกสุนัขกัดตรงนิ้วมือ แต่ ปรากฎว่า กัดไม่เข้า มีแต่อาการชาๆเท่านั้น เพราะว่า ห้อยจี้สฟิงซ์

                  คุณกัลยาณี ออกมาบอกกล่าวว่า ใช้ระหัสขอให้ ตนเองได้นั่งด้านหน้ารถตู้ที่จะมาบ้านนา เพราะว่า มีสัมภาระมากมาย ก็ปรากฎว่า คุณกัลยาณี ได้นั่งด้านหน้ารถสมความปรารถนา 

                                     คุณครูมิ้ม ได้ใช้ระหัส ขอให้หายปวดหัว หายปวดท้องรอบเดือน ขออย่าให้ฝนตก และ ขอย้ายตำแหน่ง ก็ปรากฎว่าได้รับสมความต้องการ

                   แต่ คุณมิ้ม ได้บอกกล่าวเพิ่มเติม ว่า เคยขับรถชนคนตาย(คุณลุงเฉลียว) แต่ ตนเองไม่เคยสำนึกผิด และ ได้มาเข้าค่ายที่บ้านสวนฯ ได้รับความเมตตาจากคุณแม่อุบล ได้อุทิศบุญกุศลให้กับเด็กๆที่ถูกทำแท้ง และ วิญญาณของคนที่เสียชีวิต ก็ปรากฎว่า คุณมิ้ม ได้สำนึกเสียใจในการกระทำของตนเอง และ ได้เห็น ภาพกายแก้วของคุณลุงเฉลียว ที่ท่านได้อโหสิต่อคุณมิ้ม และได้ไปเสวยสุขในภพภูมิที่สูงขึ้นไป และ ไม่กี่วันต่อมา คุณมิ้มก็ได้รับการย้าย หลังจากที่รอคอยมาเป็นเวลา ถึง 3 ปี

                 และ ในการอำลาตำแหน่ง คุณมิ้มได้มีโอกาสพูดหน้าเสาธง ต่อหน้าครูบาอาจารย์ และ นักเรียน คุณมิ้ม ได้บอกกล่าวถึงเรื่องของตนเอง เรื่องระหัส เรื่องคู่มือผิวพรรณ และ เรื่องบ้านสวนฯ

                  น้องบัว ได้ออกมาบอกกล่าว ว่า ตนเองมีอาการปวดเมื่อย เรื่องการใช้ระหัสเพื่อช่วยหนูแฮมสเตอร์ ที่กำลังป่วย และ เรื่องการทำรายงานของตนเอง นึกเรื่องที่จะเขียนไม่ออก  

                   คุณแม่ได้บอกกล่าวต่อน้องบัวว่า น้องบัวชอบดูการ์ตูน ไม่บอกระหัสต่อให้ผู้อื่น ไม่เขียนธรรมทาน ทำให้น้องบัวไม่ประสบผลสำเร็จในเรื่องการเรียน ดังนั้น การใช้ระหัสนั้น ต้องใช้ร่วมกับความดี

                    และ มีเพื่อนๆ พี่ๆ อีกหลายท่าน ได้ออกมาบอกกล่าว ถึง เรื่องการใช้ระหัส และ การใช้จี้สฟิงซ์

                     แต่ สิ่งหนึ่งที่ คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวต่อลูกบ้านสวนฯ นั้นคือ ความกตัญญู

                     จิตใจที่จะกระทำ กิจกรรมที่กระทำ เพื่อ คุณแม่อุบล นั้น คุณแม่ขอชื่นชมกับลูกบ้านสวนฯทุกคนที่มีส่วนร่วม คุณแม่บอกว่า คุณแม่นั้น ทำหน้าที่ในการนำธรรมะและคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาเผยแพร่ให้ทุกๆคนมีสิ่ง ดีๆในชีวิต

                     "ความกตัญญู เป็นเครื่องหมายของคนดี"

                      การทำ work shop ที่บ้านสวนพีระมิด

                      เป็นการระดมสมองของลูกบ้านสวนฯ ทุกคน ในการคิดและหาวิธีในการแก้ปัญหาเวลาเกิดภัยพิบัติ เพื่อ ช่วยตนเอง และ ผู้อื่น

                       เพราะ เวลาเกิดภัยพิบัติ ทุกคนไม่สามารถเดินทางมาบ้านสวนฯ และ มาพบและขอช่วยเหลือจากคุณแม่อุบลได้                          เวลาเกิดเจ็บป่วยฉับพลันทันที จะทำอย่างไรในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น

                         พี่เหมี่ยว ตัวแทนของกลุ่ม ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ได้ใช้จี้สฟิงซ์ร่วมกับพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่คุณแม่อุบลได้อาราธนามาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่

                         ทำให้ สมาชิกในกลุ่มถึง 3 คน หายทันที โดยไม่ต้องสารภาพบาปที่ตนเองกระทำ ขณะที่นั่งฟังเพื่อนสมาชิกในกลุ่มออกมาบอกล่าวการทำบาปของตนเอง

                         ป้าน้อย ปวดเข่า ก็ให้สารภาพบาปต่อจี้ อาการก็หายไป 60% ให้เล่าต่อ ว่าใช้ขาไปทำอะไรมาบ้าง เมื่อเล่าจนหมด อาการก็หายไปทันที โดยใช้แค่จี้เพียงหนึ่งองค์ร่วมกับพระบารมีของพระศรีอาริย์ที่อาราธนาโดยคุณ แม่อุบล

                          แต่ เมื่อใช้จี้สฟิงซ์ร่วมกันถึง 14 องค์ คุณก๊อต ที่มีอาการตาบวมแดง ก็หายได้เกือบ 95% ซึ่งเป็นอาการที่เป็นปัจจุบัน และ สามารถเห็นผลได้ด้วยตาของตนเองของทุกคน ซึ่ง คุณก๊อต สารภาพเพิ่มเติมว่า เคยใช่้ตาดูหนังโป๊ และ ใช้ตาค้อนภรรยาตนเอง อาการที่บวมและแดงก็หายเป็นปกติ

                                                     คุณ เจี๊ยบ ที่มีอาการคันที่หัวเข่า เกาจนหนังหนา และ เป็นมาเกือบ 7 ปี เมื่อใช้จี้สฟิงซ์ 14 องค์ ร่วมกับพระบารมีของพระศรีอาริย์ ก็ปรากฎว่า หายคัน และ อาการหนังหนาและดำ ก็นุ่มและขาวขึ้น อย่างเห็นได้ชัด เมื่อมาปรากฎกายบนเวที

                           คุณนพ ที่เจ็บคอ ที่เกิดจากการปรามาสคุณแม่อุบล และ ต่อว่าพ่อแม่ เมื่อขอขมาและขอโหสิ อาการก็ดีขึ้นถึง95% แต่เมื่อขอบารมีพระศรีอาริย์ ก็หายเป็นปกติ

                           ซึ่ง คุณเหมี่ยว ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่เราขอบารมีพระศรีอาริย์ นั้น ให้ทำด้วยใจที่เต็มร้อย ก็จะได้รับผลเต็มร้อย

                           น้องๆ ที่เป็นเด็ก ก็ได้ทำ work shop ได้ข้อสรุป ว่า ให้ใช้ระหัส ให้ใช้จี้สฟิงซ์ สารภาพบาปกับคุณแม่อุบล ใช้แรงกายทำงานที่บ้านสวนฯ อนุโมทนาหน้าจอ ดูคลิปให้ครบ 9 ตอน เขียนธรรมทานที่ได้รับความเมตตาจากบ้านสวนฯ ขึ้นมาเล่าธรรมทานบนเวที เลิกกินเนื้อสัตว์ รักษาศีลห้าด้วยครับ สัตว์ที่ยังไม่ตายก็ไม่ซื้อ

                            น้องมาร์ค มีอาการปวดหลัง และให้ น้องต้นกล้า ช่วยทำการบำบัด โดยการสารภาพบาป ว่า เคยตีหลังสุนัข ฆ่าไก่ ขโมยดินสอไม้บรรทัดของเพื่อน เมื่อสารภาพบาปหมด อาการปวดหลังก็หาย

                            คุณแม่อุบล ได้อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์มาสถิตย์ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ เพื่อให้ลูกหลานบ้านสวนฯที่มีอาการเจ็บปวดได้สัมผัสพระบารมีของพระองค์ท่าน

                             ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่มีอาการ ปวดแขน ปวดขา ปวดหลัง ปวดเข่า เจ็บคอ ปวดนิ้วมือ ปวดหัว ขณะที่คุณแม่อุบลอัญเชิญพระบารมี บางคนก็หายเป็นปกติ บางคนที่ยังมีอาการปวดหลงเหลือ เมื่อ คุณแม่ ได้ให้เดินผ่านและบอกอาการที่ตนเองเจ็บปวด ปรากฎว่า เมื่อได้สัมผัสพระบารมี ขณะเดินผ่านคุณแม่ ก็หายเป็นปกติเกือบทุกคน แต่คนที่ยังมีอาการหลงเหลือ ส่วนมาก ก็เกิดจากการที่ เคยได้รับพระเมตตาจากพระศรีอาริย์ฯ แล้ว ไม่เคยไปเขียนธรรมทานในเวปฯ เพื่อขอบคุณต่อพระองค์ท่าน

                       คุณแม่อุบล ท่านมีเมตตา บอกกล่าวให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่อาการเจ็บปวดยังไม่หายนั้น ให้ไปเขียนธรรมทานที่ตนเองได้รับพระเมตตาของพระศรีอาริย์ ให้ไปเขียนว่าตนเองได้รับพระเมตตาอย่างไรบ้าง และ อาการเป็นอย่างไรบ้าง

                       ขอกราบต่อธรรมะ ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่หลวงพ่อ ท่านบอกกล่าวว่า ดีชั่วอยู่ที่ความประพฤติปฎิบัติของตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่คำสรรเสริญเยินยอ หรือ คำติฉินนินทาของผู้อื่น ให้เราอยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดี สาธุ สาธุ สาธุ

                        ขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ในการเทฐานของโรงทานเก่า และ งานเกษตร และ ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานกิจกรรมเพื่อคุณแม่อุบล

                         ขอขอบคุณ คุณธนา คุณด๊อกเตอร์จิ๋ม และ คุณพี่แมว และ เพื่อนๆพี่ๆ อีกหลายๆท่าน ที่มีส่วนร่วม ในการทำงานของบ้่านสวนฯ เพื่อให้คุณแม่ได้เผยแพร่ธรรมะของพระพุทธองค์          

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 20:33:29


ความคิดเห็นที่ 1348 (1635081)

วันนี้ผมได้ดูวิดิโอรายการคุยไปแจกไปของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อนุโมทนาสาธุกับธรรมทานของทุกๆท่านนะครับ

ได้ชมพระบารมีพระศรีอาริย์ที่ท่านอาจารย์อุบลได้อัญเชิญมา

สถิตย์ยังกายวาจาและจิตใจของท่านอาจารย์

แล้วทำให้ผู้ที่เจ็บป่วยหายจากอาการเจ็บป่วย

เป็นหนึ่งเดียวที่ผมเคยเห็นมาครับ

และข้อสังเกตคือทุกคนที่มีอาการหลงเหลือต้องเขียนธรรมทาน

และตั้งใจจะไม่กลับไปทำผิดศีลอีกครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 22:10:27


ความคิดเห็นที่ 1349 (1635627)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆท่าน ครับ

                        ขอน้อมกราบ ต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                        ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                        คืนนี้ ได้ชมคลิปของวันที่ 21 ตุลาคม

"อานุภาพ จี้สฟิงซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี อานิสงค์ กิจกรรมกลุ่ม บุญแรงกายที่บ้านสวนฯ"

                         คลิปนี้ คุณแม่อุบล ได้ให้แต่ละกลุ่มมาเล่าสรุป การ work shop ที่ได้รับหัวข้อไปทำ และ รายงานผลการทำมา

                          กลุ่มที่ 1 พี่เหมี่ยว เป็นตัวแทนกลุ่ม ออกมาบอกเล่า work shop ที่เกี่ยวกับ"ปัญหาผิวพรรณ"

                           ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ปัญหาผิวพรรณ นั้นเกิดขึ้นได้จากที่เราไม่ชอบทำความสะอาดสถานที่ ทำสถานที่ให้ความสวยงาม และ มีปัญหาเรื่องความโกรธ

                                                                       ซึ่งปัญหาผิวพรรณ นั้น คุณแม่ได้กล่าวว่า แก้ไขได้ด้วย การเลิกโกรธ บริจาคเสื้อผ้า ถวายไตรจีวร ล้างห้องน้ำ รักษาห้องครัวให้สะอาด

                                                                       พี่ เหมี่ยวได้สรุปว่า ระหว่างที่ทำกิจกรรมเรื่องกรรมผิวพรรณนั้น ก็ให้สวดคาถาพระศรีอาริย์ และ ขอบารมีของพระศรีอาริย์ ที่คุณแม่เป็นผู้อาราธนามาใช้ร่วมกัน

                             โดยไปทำความสะอาดบริเวณองค์พีระมิดองค์ใหญ่หลังบ้านของคุณแม่ และ จัดตกแต่งให้สวยงาม

                             หมอแป้น เป็นฝ้า หน้าดำ ภายในหนึ่งชั่วโมง ที่ทำความสะอาดอยู่ หน้าที่เป็นฝ้าและดำ ก็ค่อยๆหายดำ หายฝ้า

                             คุณศักดิ์ ที่มีอาการปวดแสบ ปวดร้อน คันตามร่างกาย หน้าดำ ก็หายคัน หน้า ที่ดำ ก็ขาวขึ้น

                             คุณเจี๊ยบ ผิวที่หัวเข่าที่ดำ ทำงานผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หัวเข่าก็เริ่มขาวขึ้น

                              พี่เหมี่ยว  ที่มีอาการแขนแห้ง คัน แขนก็เริ่มนิ่ม

                               พี่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่มีอาการเป็นโรคสะเก็ดเงิน รอยตรงตีนผมที่เป็นโรคสะเก็ดเงินก็หาย

                               น้องกระต่าย  ที่คันตรงแขนขวา ก็หาย   ซี่งคุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า น้องกระต่าย เคยชอบฆ่าแมลง ก็เลยต้องมีกรรมในเรื่องการคันผิวหนัง

                                                                              กลุ่มที่ 2 พี่อ้อย เป็นตัวแทนของกลุ่ม ออกมาสรุป ในหัวข้อ"กรรมผิวพรรณ"

                               โดย ไปทำความสะอาดห้องน้ำด้านหน้าที่องค์พีระมิดที่พัก(ใกล้เวที) และ เก็บย้ายกระเบื้องใต้บันได เขี่ยปูนให้เรียบ ทำความสะอาดชั้นสองที่พัก ล้างถังเก็บน้ำในห้องน้ำ

                                พี่อ้อย มีปัญหา คันที่คอ เป็นสิว1เม็ด กระฝ้าที่ใบหน้า ทำงานผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สิวฝ้ากระ ที่ใบหน้าก็หายไป

                                คุณก้อย มีสิว บวมแดงและมีสิวเสี้ยน ก็หาย

                                คุณอัญ เป็นสิว แต่ทำงานได้1ชั่วโมง ก็ต้องไปทำงานครัว แต่เมื่อได้รับพระบารมีของพระศรีอาริย์ สิวที่เป็นก็หาย

                                 คุณเบญ เป็นสิวตรงคาง เป็นกระ ที่หลังมือทั้งสองข้างก็จางหายไป20% เมื่อได้รับพระบารมีพระศรีอาริย์ก็หายหมด

                                 คุณเปลว  เป็นด่างขาวที่มุมปากทั้งสองข้าง และ ที่ปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง จางหายไป 90%

                                 ซึ่งพี่อ้อย ได้บอกกล่าวว่า เป็นอานิสงค์ที่เกิดจากการทำความสะอาดห้องน้ำ จัดสถานที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อย่าทำให้ห้องครัวรก น้ำแข็งหมด ก็ควรจะหามาเติมให้เต็ม อย่าทิ้งไม้ไอติมลงที่พื้น อย่าทิ้งเศษกระดาษของฮอลล์ที่อมไปแล้ว ทิ้งลงพื้น

                                คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า คนดี คนสะอาด คนมีระเบียบวินัย เค้าเดินผ่านไปตรงไหน สถานที่ก็จะสะอาด จะมีระเบียบ คนที่ไม่รักษาความสะอาด ไม่มีระเบียบวินัย (คนที่ชอบทิ้งขว้างสิ่งของ)จะเป็นคนที่มีปัญหา มีอุปสรรค และ ฐานะการเงินจะแย่

                                                                                  กลุ่มที่ 3 "ปัญหาผิวพรรณ เจ็บป่วยด้านอื่นๆ" คุณญา เป็นตัวแทนของกลุ่มออกมาสรุป

                                 ให้จัดตกแต่งและทำความสะอาดห้องน้ำด้านหลังบ้านของคุณแม่ ทำให้มีระเบียบเรียบร้อย

                                 คุณวิน มีปัญหาปวดหัว หายปวดหัวประมาณ 70 % ยอมรับว่า ทำงานไม่เต็มที่

                                  คุณญา   มีปัญหาปวดหัว ขณะทำก็มีอาการปวดหัว แต่ เมื่อทำเสร็จก็หายปวดหัว

                                  คุณสมจิตร คันที่แขนมาเกีอบ 7 ปี ในระหว่างที่ทำก็เกิดอาการคันมากๆ ก็พยายามทำ จนหายคัน

                                  คุณแหม่ม ปวดหัว ทำไปก็หายปวดหัว

                                  คุณทัศนีย์ ปวดหลัง หน้ามืด มีอาการวูบ ก็หาย

                                  คุณญา ได้เล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่ลากตู้สำรองไฟฟ้า ก็โดนไฟฟ้าดูด แต่โชคดีที่ระหว่างทำงานก็สวดคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วย และ พี่แหม่มช่วยใช้ระหัส" อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ทำให้มีอาการแค่บวมนิดหน่อย เมื่อใช้จี้สฟิงซ์ช่วย อาการที่บวมก็ยุบหายไป ก็ยอมรับว่า ไม่ค่อยชอบเขียนธรรมทาน

                                  ช่วงอานุภาพของ จี้สฟิงซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี

                                                                                      คุณแม่ ได้ให้ลูกหลานที่มีอาการเจ็บปวดออกมาทดลองอานุภาพของจี้

                                   ลุงเบิ้ม ที่มีอาการของการปวดไหล่ซ้าย เนื่องจากการไปตัดหญ้า

                                   ให้คล้องจี้ 3 องค์ ของคุณธนา นับถึง 20 ก็ไม่หาย

                                   ให้คล้องจี้สฟิงซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์ นับไปได้แค่ 9 ก็หายปวด

                                                                                        คุณป้อม ที่มีอาการตาแดงและแฉะ และมีอาการคัน

                                   ลองห้อย 4 องค์จี้สฟิงซ์ นับถึง 20 อาการคันดีขึ้น 70 % แต่ตาที่แดงไม่หาย

                                    คุณแม่ ให้ลองถือ องค์จี้สฟิงซ์รุ่น3ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์ นับถึง 7 อาการคันหาย

                                    นับถึง 20 ตาที่แดงดีขึ้นและแต่หายตาแฉะ 

                                     คุณแม่ก็ให้ลองเอาจี้ แตะที่ตา นับถึง 20 ตาที่แดงดีขึ้นเรื่อยๆ ให้สวมจี้ร่มโพธิ์ศรี ทั้ง3องค์ ก็หาย

                                     ด๊อกเตอร์จิ๋ม ไอ ปวดหลัง ปวดขา

                                      ให้คล้องจี้ 3 องค์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี 

นับถึง 20 อาการไอดีขึ้น 80 % ไม่มีอาการคันที่ในคอ

                                                                                               อาการปวดหลัง นับถึง 20 ดีขึ้น 50% แต่เมื่อผ่านไป ก็ดีขึ้นถึง 70 % พอผ่านไปอีกประมาณ 50 วินาที อาการปวดหลังก็หายเลย

                                      อาการปวดขา เริ่มเดินดีขึ้น เดินแล้วตัวไม่โยก ไหล่ตรงขึ้น ขาเริ่มตรง อาการปวดขาก็หาย

                                       เมื่อ คุณแม่ให้ลอง 9 องค์ ก็เดินเริ่มคล่องขึ้น ฝ่าเท้าเจ็บน้อยลงไปเกือบ 70%

                                       เมื่อลองที่ 20 องค์ โดยให้ถือไว้ ไม่มีอาการเจ็บที่ฝ่าเท้า เท้าเริ่มแนบไปกับพื้นได้

                                       หมอแป้น อาการปวดหลังก็หาย เมื่อห้อยจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี

                                       คุณอมร ที่มีอาการพูดได้ช้า ติดขัด ต้องนึกก่อนพูด คุณแม่ ให้ลองพูดว่า "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ติดต่อกันไปหลายๆ ครั้ง หลังจากนั้น ให้ห้อยจี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี และให้พูดอีก ก็ปรากฎว่า เริ่มพูดคล่องดีขึ้น และ ให้ลองเล่าเรื่องคุณลุงที่มีอาการเป็นอัมพาต คุณอมรก็เล่าได้อย่างไม่ติดขัด

                                       กลุ่มที่ 4 ซึ่ง คุณเบส ได้รับโจทย์ที่คุณแม่อุบล ได้สอบถามว่า

                      "มีคน ที่เค้าเข้ามาที่บ้านสวนฯ และ แสดงตนเองว่า เค้าเคารพรัก อาจารย์อุบล และ แสดงตนเองว่า ตนเป็นนักปฏิบัติ จนมีคุณวิเศษ อวดอ้างว่าตนเอง สามารถสื่อสารกับเบื้องบนได้ ขอเบอร์โทรศัพท์ของท่าน และ พูดจาให้ลังเลสงสัยอาจารย์อุบล และ บ้านสวนฯ ได้แอบติดต่อชักชวนท่านว่าเบื้องบนคัดเลือกท่านให้ทำงานลับให้ท่านอาจารย์ อุบล"

                        ท่านคิดว่า คนอย่างนี้ เป็นคนอย่างไร

                        และ ท่านจะทำอย่างไรถ้ามีคนเชื่อและทำตาม

                        และ คิดว่าคนๆนั้นเป็นคนอย่างไร

                        และ ในฐานะที่ท่านเป็นลูกบ้านสวนฯ ท่านจะจัดการคน คนนี้อย่างไร

                        คุณเบสได้ตอบว่า

                        คนๆนี้ คงเข้ามาหาผลประโยชน์จากบ้านสวนฯ เป็นคนเสแสร้ง หลอกลวง คิดจะทำลายชื่อเสียงของอาจารย์อุบล และ บ้านสวนฯ และ ทำให้ลูกบ้านสวนฯแตกความสามัคคี แสดงตนอยากมีความโดดเด่น

                        จะจัดการคนๆนี้ โดยใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ให้เค้าแสดงพฤติกรรมที่แท้จริงออกมา และ มาแจ้งบอกเล่าให้อาจารย์อุบล  ได้ทราบ

                        สำหรับ คนที่เชื่อเค้าและทำตาม แสดงว่า คนที่เชื่อเค้านั้น มีจิตใจที่ไม่มั่นคง มีความโลเล เป็นคนจับปลาสองมือ ขาดปัญญาที่จะไตร่ตรอง ไม่ใช้หลักกาลามสูตร เชื่อคนง่าย ไม่มีความศรัทธาที่แท้จริงต่ออาจารย์อุบล สงสัยอาจารย์

                        คุณธนา ก็ขอสอบถามว่า ถ้าเค้า คนนั้น อาจจะอ้างว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำนั้น ทำเพื่ออาจารย์อุบล และ บ้านสวนฯละ จะทำอย่างไร

                        คุณเบส ได้ตอบว่า จะดูว่าเค้าทำอะไรให้อาจารย์อุบล ไม่ใช่แค่พูด แต่ไม่ทำอะไรเลย และ จะไปถามอาจารย์อุบลว่า ที่เค้ากล่าวมานั้นจริงเท็จแค่ไหน ถ้าเป็นเรื่องจริง ทำไมอาจารย์อุบลไม่มาบอกเอง ทำไมเค้าต้องเป็นคนมาบอก

                        และ จะจัดการกับคนๆนี้ โดย ไปถามเค้าตรงๆ ว่า ต้องการอะไร ต้องการผลประโยชน์อะไร ทำแบบนี้ทำไม

                        คุณแม่อุบล ก็แซวว่า เค้าอาจจะบอกว่า ช่วยให้ไปนิพพาน และ คุณแม่ได้ถามต่อว่า คุณสมบัติของคนที่จะมาช่วยอาจารย์ต้องเป็นอย่างไร

                        คุณเบส บอกว่า ต้องจริงใจ ไม่ลังเลสงสัยอาจารย์ 

                        ถ้าเกิดเค้าบอกว่า ถ้ามีเค้า จะทำให้บ้านสวนฯดีขึ้น หรือ ว่ามีเค้า แล้วเค้าสามารถทำให้ดีขึ้น 100% ล่ะ

                        คุณเบส บอกว่า ไม่เชื่อ เพราะ บ้านสวนฯก็ดีอยู่แล้ว และ ไม่เชื่อว่า มีใครที่ทำไดัดีกว่าอาจารย์อุบลแล้ว ก็เหมือนกับคลิปที่เสือ ย่อมกินลูกควาย ไม่กินจ่าฝูงก่อน

                         คุณแม่ก็ถามต่อไปว่า ถ้าเป็นคนที่เค้าจะหลอกมาลวงเราละ จะรู้ได้อย่างไร

                          คุณเบสก็ตอบว่า ถ้าลูกบ้านสวนฯ คนนั้น เค้าเป็นคนลังเลสงสัย ไม่ศรัทธาในตัวอาจารย์ และ บ้านสวนฯ ก็ให้เค้าไปกับคนๆนั้น ที่มาหลอกมาลวงไปเลย ไม่ต้องมาอยู่ที่บ้านสวนฯ

                           คุณแม่ก็เลยกล่าวว่า คุณแม่ก็คิดว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ไม่กังวล แต่ที่เห็นเป็นอยู่นั้น ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะว่า คนที่ไม่เชื่อไม่ศรัทธาในตัวคุณแม่อุบล นั้น  เค้าก็ยังคงมาบ้านสวนฯ 

                          คุณแม่ยังยกตัวอย่างว่า ถ้าคุณธนา เป็นคนป่วนบ้านสวนฯ และ ได้กำจัดคุณธนาไปแล้ว(ห้ามไม่ให้มาบ้านสวนฯอีก) แต่คนที่ไม่ได้ศรัทธาและไม่เคารพรักและไม่จริงใจยังคงมาบ้านสวนฯ อยู่

                                                                   และ ก็เกิดมี คนใหม่ที่เค้าเข้ามาที่บ้านสวนฯและ ก็เริ่มป่วนอีกจะทำอย่างไร

                                                                   ซึ่งคำถามของคุณแม่อุบล คำถามนี้ ลูกบ้านสวนฯ ทุกคนได้ยิน ก็ต้องคิดและตอบตัวเองให้ได้ก่อน

                                                                     ขอขอบคุณ คุณพี่แมว ที่แบ่งเบาภาระ ในการรับและจัดส่งจี้สฟิงซ์และองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ ครับ

                            ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไปใช้แรงกายในการทำงานเพื่อบ้านสวนฯ

                            ขอน้อมกราบต่อธรรมะ ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่อง ดีชั่วอยู่ที่ตัวเรา ประพฤติปฏิบัติ ไม่ได้อยู่ที่คำสรรเสริญเยินยอ หรือ คำติฉินนินทาของผู้อื่น

                             และ  การฆ่าอะไรได้แล้ว ย่อมนอนเป็นสุข

                                    การฆ่าอะไรได้แล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก

                                                                                            ซี่งหลวงพ่อ ท่านได้ยกคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาว่า พระองค์ท่านทรงบอกกล่าวต่อพราหมณ์ผู้หนึ่งว่า "ฆ่าความโกรธ"

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 01:00:05


ความคิดเห็นที่ 1350 (1635713)

วันนี้ได้ชมรายการคุุยไปแจกไป ตอน อานุภาพจี้สฟิ้งซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี อานิสงฆ์กิจกรรมกลุ่ม บุญแรงกายบ้านสวน

กลุ่มพี่เหมี่ยว หลุ่มที่ 1 กลุ่ม มีปัญหาผิวพรรณ ปัญหาผิวหนังทุกชนิด  อาจารย์ให้ คำความสะอาด พีระมิด จัดตกแต่งสถานที่ จัดระเบียบ  แต่งสวน  ระหว่างทำ ได้ท่องคาถาพระศรีอารีย์ และได้ขอบารมีพระศรีอารีย์ที่ท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้อาราธนาอัญเชิญขอให้หาย และกลุ่มพี่เหมี่ยวได้รายงานผลดังนี้ 

พี่แป้น เป็นฝ้า พอร่วมกิจกรรมแล้วหน้าขาวขึ้น                                                                                                                                               และท่านอาจารย์ได้เมตตาสอนว่า คนที่มีปัญหาผิวพรรณมักจะเกิดจากรรมโทสะ  และให้ทำความสะอาด จัดตกแต่งสถานที่    จัดระเบียบ บริจาคเสื้อผ้า ทำบุญด้วยผ้าไตรจีวร                                                                                                                                     คุณศักดิ์ คันและแสบรัอนหลัง  ได้ขอบารมีพระศรีอารีย์ และท่องคาถาระหว่างร่วมกิจกรรม หายคัน หายแสบ และหน้าขาวขึ้น

 พี่เจ๊ยบ หัวเข่าดำเป็นอาการที่เหลือจากสัปดาห์ที่แล้ว ขาวขึ้นสีดำเปลี่ยนภายในชั่วโมงแรกที่ได้ร่วมกิจกรรม                                                 

พี่เหมี่ยว ผิวหนังที่แขนเรียบไม่คัน ไม่แห้ง ปกติจะคันและแห้ง 

                                                                                                                     คุณพี่อีกท่านหนึ่ง เป็นสะเก็ดเงินที่มอเห็นชัดคือบริเวณใบหน้า อาการหาย 100 เปอร์เซ็น เหลื่อบริเวณแขนบ้างเล็กน้อย                           

น้องกระต่าย เป็นผื่่นที่แขน 2 ข้าง เคยฆ่ายุง ฆ่ามด  และเมื่อร่วมกิจกรรมกลุ่มผื่นหาย                                                                                     

อาจารย์ได้เมตตาสอนว่า คนที่ไม่มีระเบียบ ทำงานแล้วไม่เก็บข้าวของ  ไม่รู้จักตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม เห็นใบมะม่วง ใบขนุนหล่น เศษขยะ เศษเปลือกลูกอมไม้ไอติม ไม่รู้จักเก็บ และไม่เก็บของเข้าที่ จะทำให้ไม่มีเงิน และ จะทำให้มีปัญหาผิดพรรณ และท่านอาจารย์ได้เป็นแบบอย่างที่ดีของพวกเราอาจารย์ได้ตกแต่งสถานที่อย่างสวยงามและมีระเบียบ ทั้งที่งานอาจารย์มีมากมาย 

กลุ่มที่ 2 นำโดยคุณอ้อย  โจทย์เดียวกัน คนที่มีปัญหาผิวพรรณ ให้จัดตกแต่งหน้าห้องน้ำด้านหน้า ใต้บรรได ล้างห้องน้ำ ย้ายกระเบื้อง ความความสะอาดชั้น 2    

คนที่ 1 คุญเบ็ญมีปัญหา สิวอักเสบที่คาง เป็นกระที่มือ จางลง แต่พอขอพระบารมีพระศรีอารีย์ ดีขึ้่้นกระทีหลังมือจางลงทันที กลุ่มนี้ไม่ได้ขอบารมีพระศรีอารีย์ก่อนทำกิจกรรม แต่มาขอบารมีพระศรีอารีย์หลังทำกิจกรรมเสร็จ พอขอบารมีพระศรีอารีย์ทำให้ผลบุญรวมตัว 

คนที่ 2 คุณก้อย มีสิวอักเสบ เจ็บแดง ตอนทำกิจกรรมยังไม่หาย หายตอนขอบารมีพระศรีอารีย์ ดีขึ้นและสิวเสี้ยน เม็ดเล็ก ๆ หาย หน้าเกลี้ยงขึ้น  

คนที่ 3 พี่เปลวมีด่างขาวที่มุมปาก พอร่วมกิจกรรมอาการดีขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์ พอขอบารมีพระศรีอารีย์ดีขึ้น 90 เปอร์เซ็นต์

คนที่ 4 คุณอ้อย มีสิวอักเสบมีน้ำเหลือง ทำกิจกรรมกุล่ม แล้วยังไม่หายดี  พอขอบารมีพระศรีอารีย์ทำให้หน้าขาวขึ้น

คนที่ 5 คุณอัญ คุณอัญเป็นสิวอักเสบ และอาการหายตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ร่วมกิจกรรม และหน้าคุณอัญขาวขึ้นผิวผ่องขึ้น และเนียนขึ้้น  ปกติคุณอัญจะผิวคล้ำ

อาจารย์อุบลได้เมตตาสอนว่าถ้าคนไหนอยากปลดเปลื้องกรรมผิวพรรณ ให้ทำความสะอาดโรงทาน จัดระเบียบโรงทานให้สะอาดเอี่ยม

 สรุป ผลจากการทำความสะอาด จัดระเบียบสถานที่ อานิสงฆ์ส่งผลให้ผิวพรรณสวยงาม  คุณอ้อยแนะนำให้คนที่มาบ้านสวน ช่วยกันเก็บ ช่วยกันดูแลความสะอาด อย่าทำตัวเป็นแขก ขอให้ช่วยกันเก็บข้าวของ และมีคนชอบทิ้งไม้ไอติมลงพื้น เปลือกลูกอมก็ทิ้งลงพื้น  อาจารย์อุบลได้สอนว่า สิ่งที่ทิ้งคืออุปสรรค์และปัญหา และให้นำความรู้ที่ได้จากบ้านสวนไปปฏิบัติทั้งในและนอกบ้านสวน  ผลกรรมที่ไม่มีระเบียบ ไม่สะอาด จะทำให้มีปัญหา ยากจน  ซึ่งทานอาจารย์ได้ทำเป็นแบบอย่าง และพยามสอนให้มีระเบียบ

กลุ่มที่นำโดยคุณญาญ่า 3 มีปัญหาผิวพรรณและเจ็บป่วยด้านอื่น  ให้จัดตกแต่งทำความสะอาดห้องน้ำด้านหลัง เก็บขยะ  ก่อนทำได้ขอบารมีพระศรีอารีย์ และท่องคาถาพระศรีอารีย์

คนที่ 1 มีอาการคันที่แขน ระหว่างทำกิจกรรมคันมาก พอทำไปเรื่อย ๆ ก็หายคัน ปกติจะคันมากเกาจนมีเลือด  ลองจับเวลาอาการคันหายตอนทำกิจกรรมด้ 1 ชั่วโมงบุญส่งผลให้หาย

คนที่ 2 ปวดหลัง หน้ามืดวูบ ทำกิจกรรมล้างห้องน้ำ ตอนร่วมกิจกรรมอาการได้หายและไม่เหลืออาการเลย

คนที่ 3 คุณญาญ่า ปวดหัวมาก ขณะร่วมกิจกรรมก็ปวดหัว ได้ขอบารมีพระศรีอารีย์ ก็หายปวดหัว

คนที่4 น้องวิน ปวดหัว ระหว่างร่วมกิจกรรมปวดหัว พอทำไปเรื่อย ๆ อาการหาย 70 เปอร์เซ็นต์ ตอนแรก ๆ รู้สึกเหนื่อยทำงานได้ไม่เต็มที่

คนที่ 5 พี่แหม่ม ปวดหัวนิดหน่อย พอร่วมกิจกรรมก็หาย

บรรยากาศภาคกลางคืน

อาจารย์ได้ให้ลูกหลานสัมผัสบารมีจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี

คนแรกลุงเบิ้ม มีอาการปวดไหล่ซ้าย ลองสวมจี้รุ่นแรก นับ 1- 20 ไม่หาย แต่พอสวมจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรีนับ 1- 9 อาการหายและมีอาการปิติ

อาจารย์ได้บอกว่า จี้รุ่น 3 รุ่งโพธิ์ศรี 1 มีพลังองค์เท่ากับ 9 องค์ของรุ่นปกติ

คนที่ 2 คุณป้อม ตาแดง ลองสวมจี้รุ่นปกตินับ 1- 20 ไม่หาย

พอคล้องจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์ อาจารย์ได้เมตตาบอกว่า จี้รุ่นนี้รวมพลังอนันต์จักรวาลเข้มข้นที่สุด แค่นับ 1-7 อาการหาย  และคุณป้อมได้สารภาพว่าได้ใช้ตาในทางที่ไม่ดี ใช้ตามมองสาว ๆ ดูหนังโป้ เวลาใครเดินผ่านไปผ่านมาก็มองและคิด

คนที่ 3 ดร.จิ๋ม มีอากรเจ็บคอ ได้สวมจี้ นับ 1- 20 ดีขึ้นและหาย

                    อาการปวดหลังนับ 1-20 ดีขึ้น และหาย 100 เปอร์เซ็น

                   อาจารย์ได้ลองให้ดร.จิ๋มบำบัดที่ขา ตอนคล้องจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี ไหล่ตรง  ขาตรง เหยีบพื้นได้ หายปวด

                     เพิ่มจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี 6องค์ ดร.จิ่มเดินคล่อง ขึ้น เจ็บฝ่าเท้าน้อยลง ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์

                      เพิ่มจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี 20 องค์ อาการดีขึ้นมาก เดินเก่งขึ้น และเดินเร็วขึ้นถอดรองเท้าเดินได้ และใส่รองเท้าแตะเดินได้ เหมือนคนปกติค่ะ

                    ดร.จิ๋มรับปากจะเขียนธรรมทานเรื่องตัวเอง  ดร.จิ๋มเป็นโปลิโอตั้งแต่อายุ 6 เดือน ปัจจุบันอายุ 52 ปี

คนที่ 4 พี่อมร ได้บำบัดด้วยจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี  ตอนยังไม่สวมจี้ท่านอาจารย์ได้ให้พี่อมรลองพูดอาจารย์อุบลช่วยด้วยบ่อย ๆ จะพูดได้ไม่คล่อง

พอได้สวมจี้แล้วพี่อมรพูดคล่องขึ้น

ทานอาจารย์ได้ให้กลุ่มน้องเบสทำกิจกรรมกรณีทีีมีคนมาบ้านสวนแล้ว แบบเนียน ๆ อ้างว่าเคารพอาจารย์ แอบแจกเบอร์โทรศัพท์ บอกว่าสื่อสารกับเบื้องบนได้ บอกว่าได้ทำงานลับให้อาจารย์  อาจารย์ได้ตั้งคำถามว่าคนแบบนี้เป็นคนอย่างไร และจะทำอย่างไรเมื่อมีคนเชื่อและทำตาม และจะจัดการกับคนแบบนี้อย่างไร

น้องเบสได้ตอบว่า คนๆ นั้นคงจะมาหาผลประโยชน์ เป็นคนแสแสร้ง หลอกลวง ต้องการทำลาย ท่านอาจารย์อุบล ต้องการทำลายความสามัคคีของลูกบ้านสวน มาโอ้อวดตัวเองมีความวิเศษ ทำให้คนอื่นอยากรู้อยากเห็น

น้องเบสจะใช้ รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของเค้า

และคนที่เชื่อคนลักษณะแบบนี้ คงเป็นคนที่มีจิตใจไม่มั่นคง โลเล ไม่มีปัญญาไตร่ตรอง ไม่ใช้หลักกาลามสูตร  ไม่ศรัทธาท่านอาจารย์อุบล เคลือแคลงสงสัย พอมีคนมาชักจูงก็ไปตามคำชักจูง

พี่ธนาถามว่าถ้าเค้าอ้างว่าที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อบ้านสวน เพื่อช่วยอาจารย์อุบล จะทำอย่างไร

น้องเบสได้ตอบว่าให้ดูว่าเค้าทำอะไรให้อาจารย์ ไม่ใช่แค่พูด และให้เรียนถามท่านอาจารย์ว่าที่เค้าพูดนั้นจริงหรือไม่ และการที่เค้ามาอ้างว่าสื่อสารกับสิ่งสักดิ์สิทธิ์ได้ไม่ให้สนใจฟัง เพราะถ้าของจริงต้องมาจากท่านอาจารย์อุบลเท่านั้น

อาจารย์ได้ถามว่าถ้าเค้ามาบอกว่าบ้านสวนมีสิ่งที่ดีน้อย และเค้าจะมาช่วยให้บ้านสวนดีขึ้นให้มาก

น้องเบสได้ตอบว่า ไม่เชื่อเพราะบ้านสวนดีอยู่่แล้ว ไม่มีใครที่จะทำได้ดีกว่าท่านอาจารย์อุบล

และจะจัดการกับคนที่มาเนียนๆ ลักณะดังกล่าวได้อย่างไร

และจากการดูคลิบวีดีโอเรื่องลูก*** ทีจะถูกสิงห์โตกิน สิงห์โตเปรียบเหมือนคนที่จ้องเข้ามาทำลาย และจะมาทำลายลูกควายคือคนที่ยังอ่อนแอ โลเล  เพราะจัดการได้ง่าย

และจากกิจกรรมนี้สอนให้รู้ว่า กลุ่มคนที่ไม่รู้ภัยมาจากคนที่มาเนียน ๆ  มาหลอกล่อลูกบ้านสวน ได้ คนที่จะถูกหลอกได้คือคนที่ไม่เคารพ       ไม่เชื่อไม่ ศรัทธาท่านอาจารย์ และคนเหล่านี้ควรจะคิดให้ดีว่าควรจะมาบ้านสวนอีกหรือไม่ เพราะ ถ้าจะให้จัดการกับคนที่เข้าป่วนมาทำลายสวนพอจัดการคนนีัได้ ก็มีคนใหม่ก็เข้ามาอีก  

ช่วยธรรมหลวงพ่อฤาษี

 อย่าสนใจอนาคต และอดีต ให้สนใจปัจจุบัน คนเราจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราประพฤติ ปฏิบัติ 

บุคคลฆ่าความโกรธได้ย่อมเป็นสุข

บุคคลฆ่าความโกรธได้แบ้วย่อมไม่เศร้าโศก

บุคคลฆ่าความโกรธได้เป็นที่น่าสรรเสริญ

ลูกขอกราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ พระศรีอารีย์ หลวงพ่อฤาษี ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและ  คุณท็อปค่ะ

หากผิดพลาดประการใดลูกขอกราบขออภัยด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 20:35:56


ความคิดเห็นที่ 1351 (1635726)

วันนี้ 21ต.ค.55ได้ดูรายการคุยไปแจกไป

ของวันที่ 13-14 ต.ค.55

อ่านจากลูกบ้านสวนที่ไปมารายงานแล้ว

13-14 Workshop การช่วยคนรอบข้าง+ตัวเอง จากการเจ็บป่วย+ความจน+ภัยพิบัติ แบบเห็นผลทันที

ที่ประทับมาก ๆ คือเคสของ

ด๊อกเตอร์จิ๋ม ไอ ปวดหลัง ปวดขา   

 

ให้คล้องจี้ 3 องค์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี 

 

 

นับถึง 20 อาการไอดีขึ้น 80 % ไม่มีอาการคันที่ในคอ

 

 

       อาการปวดหลัง นับถึง 20 ดีขึ้น 50% แต่เมื่อผ่านไป

 

ก็ดีขึ้นถึง 70 % พอผ่านไปอีกประมาณ 50 วินาที

อาการปวดหลังก็หายเลย อาการปวดขา เริ่มเดินดีขึ้น

เดินแล้วตัวไม่โยก ไหล่ตรงขึ้น ขาเริ่มตรง อาการปวดขาก็หาย

 

 

       เมื่อ ท่านอาจารย์ให้ลอง 9 องค์ ก็เดินเริ่มคล่องขึ้น

ฝ่าเท้าเจ็บน้อยลงไปเกือบ 70%

 เมื่อลองที่ 20 องค์ โดยให้ถือไว้ ไม่มีอาการเจ็บที่ฝ่าเท้า

เท้าเริ่มแนบไปกับพื้นได้ดี  ลองสวมรองเท้าของ

ด๊อกเตอร์จุ๋มก็เดินได้คล่องทั้งที่แต่ก่อนบอกว่าใส่ไม่ได้

ใส่แล้วเดินจะหลุด สีหน้าของด๊อกเตอร์จิ๋มตอนที่

เดินดูมีความสุข มาก มาก เลย เป็นความสุขที่

ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ประสบกับตัวเอง

(คิดแทนด๊อกเตอร์จิ๋มนะค่ะ)

เหมือนกับเหตุการณ์ของป้าพร กับ น้องลิน

ในค่าย 13  เลย ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะขอให้ทุกท่านหายถาวรเลยนะค่ะ

พอดูรายการจบก็ไปโอนเงินบูชาจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรีทันที่ค่ะ

จะนำไปช่วยญาติที่เจ็บป่วยอยู่ ให้สารภาพ

ก็คิดกรรมกันไม่ค่อยได้ กับไปทำบุญที่วัดเห็นคนเดิน

ไม่ค่อยถนัดเหมือนตัวเองตอนก่อน

อยากให้เขาหายเหมือนเราบ้าง

ขอบารมีสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย์

ที่ท่านอาจารย์อุบลอาราธนามา

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ในบ้านสวน

โปรดเมตตาให้ลูกทำได้สำเร็จตามที่ตั้งใจด้วยเถิด

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

และท่านเจ้าของบ้านสวนทุกท่าน

ลูกขอถวายบุญที่ตั้งใจทำแด่ทุกทุก พระองค์

ด้วยนะเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 21:26:03


ความคิดเห็นที่ 1352 (1635782)

รายการคุยไปแจกไป วันอาทิตย์ที่ 21 ตค.2555 มีเรื่องอัศจรรย์มากมาย โดยเฉพาะ อาการเจ็บที่เท้าและมีปัญหาในการเดินของดร. จิ๋ม สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ได้ชัดเจนมาก

ด้วยพระบารมีของพระศรีอาริย์ และสิ่งศักดิ์ทุกๆ พระองค์ ในบ้านสวนพีระมิด ที่อาจารย์อุบลได้อัญเชิญมาสถิต ในบ้านสวนพีระมิด

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 10:03:26


ความคิดเห็นที่ 1353 (1635783)

อาจารย์อุบลได้เน้นย้ำเรื่องความสะอาดและความมีระเบียบ จะนำแต่สิ่งดีๆมาให้เรา นั้นเป็นสิ่งที่เห็นผลจากการเข้า ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ซึ่งจะมีผล ให้หายจากโรคโดยเฉพาะกรรมผิวพรรณได้ทันทีอย่างไรบ้าง 

แต่ก็ควรจะดูแลไปหมดไม่ใช่เฉพาะแต่ที่บ้านสวนพีระมิด เพราะจะเกี่ยวกับเงินทอง จะได้ไม่ติดขัดด้วย 

ได้ผลดีแน่นอน ดีกว่าไปคอยโชคชตาจ้ะ ท่านเชิญมาพิสูจน์

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 10:08:07


ความคิดเห็นที่ 1354 (1636073)

วันนี้ใด้ชมรายการคุยไปแจกไป ตอนที่21ตุลาคม 2555   อนุภาพจี้สฟิ้ง 3ร่มโพร์ศรี

ขอร่วมโมทนากับทุกๆๆท่านที่ทำกิจกรรท workshop

เรื่องกรรมผิวพรรณ

กลุ่มพี่เหมี่ยว 

เริ่ม ด้วยการทำความสะอาด ทำให้มีระเบียบ ตกเเต่งสถานที่ให้้สวยงามที่ องค์พีระมิดหลังใหญ่หลังบ้านอาจารย์อุบลใด้ผลภายในหนึ่งชั่วโมงอาการต่างก็ หาย( เสร็จงานภายไนสามชั่วโมง)

1คุณหมอแป้นหน้าขาวขึ้น ฟ้าหายไปอย่างเห็นใด้ชัดเจนมาก

2คุณศักดิ์ หายจากอาการปวดแสบ ปวดร้อนตามผิวหนัง พร้อมกับหน้าขาวขึ้นกว่าเดิม หล่อขึ้นโดยพี่เหมี่ยวคอนเฟริม

3 คุณเจี้ยบ หายจากอาการหัวเข่าดำ

4คุณพี่เหมียว มือที่แห้ง คันเป็นขุ่ยก็หายไป

5 น้องกระต่าย คันตามแขนเนื่องจากชอบฆ่าแมลง มด อาการคันก็หาย

กลุ่มคุณอ้อย

เรื่องกรรมผิวพรรณเช่นกัน

โดยการเกลี่ยกระเบืองให้เรียบ ตกแต่งจัดระเบียบสถานที่ล้างห้องน้ำด้านหน้าไกล้องค์พีระมิด 

อาการต่างๆๆก็หายภายใน หนึ่งชั่วโมงเช่นกัน

คุณอ้อยอาการคันที่ คอ สิวอักเสบ ฟ้ากระที่หน้า ดีขึ้น

คุณเบญ ปัญหาสิวที่คาง กระหลังมือ สองข้าง จางลง

คณก้อย เป็นสิวเเดงมากที่ใบหน้า สิวเสี้ยนเม็ดเล็ก หายไป

คุณอัญ เป็นสิวที่หน้าหายไป และหน้าก็ขาวขึ้น

ท่าน อาจารย์อุบลบอกว่าคนมีระเบียบเดินไปใหนก็จะมีพลังบวกติดตามตัว เห็นความไม่เป็นระเบียบก็จะชอบเก็บ แต่คนไม่มีระเบียบก็จะตรงข้าม แม้กระทั้งกินไอติม ก็ทิ้งขว้างให้คนคนอื่นเก็บกวาด

ตอนจี้ สามร่มโพร์ศรี

ลุงเบิ้มปวดใหล่ซ้าย คล้องจี้สามองค์ นับ 1-20ไม่หาย เปลี่ยนมาคล้อง 9องค์นับ 1-9 หายเลย

คุณป้อม ตาเเดง และคัน เนื่องจากมีดวงตาแต่ไม่เห็นธรรม มองภาพลามกมาเยอะค่ะ

คล้องจี้ 4องค์นับ 1-20 ไม่หายแต่ดีขึ้น  คล้องจี้ 9องค์นับ1-7อาการคันก็หาย นับ 1-20 อาการตาเเดงดีขึ้นมาก

ดร .จิ๋ม คล้องจี้สามองค๋

-ไอมีเสลด คล้องสามองค์ นับ 1-20 อาการดีขึ้น 80%

-บำบัดหลังนับ1-20 อาการดีขึ้น 50% พอใส่ต่ออีกสักพักอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ เป็น 70% และ100%เต็ม

-บำบัดขา ใด้ใหล่ตรง ขาเดินตรงมากขึ้น ยืนตรงมากขึ้น และขาหายปวด

เพิ่มเป็น เก้าองค์ เจ็บฝาเท้าน้อยลง เดินคล่องขึ้น

เพิ่มเป็น ยี่สิบองค์ เดินใม่เจ็บฝ่าเท้า เดินเร็วขึ้น ดร สนุกกับกับการเดินมากขึ้น พร้อมกับกับหน้าที่ยิ้มแย้มของดร เห็นแล้วมีความสุขจังค่ะ

คุณอมร มี่ปัญหาในการพูดช้า

คล้อง จี้สามองค์ ให้พูดคำว่าอาจารย์อุบล ช่วยด้วย ไปเรื่อยๆๆและพูดถึงตอนบำบัดคนพิการ พี่อมรก็พูดไปเรื่อยแบบไม่หยุด แล้วก็ไม่ติดขัดเลย ไม่มีการหยุดคิดด้วย พูดปร๋อเร็วมากค่ะ

อาจารย์เมตตาบอกว่า ทำจี้สามร่มโพร์ศรีเพื่อคุณอมร ดร .จิ๋มโดยเฉพาะเพื่อบำบัดคนพิการ

น้อง เบสออกมาพูดเรื่อง คนที่มาบ้านสวนแล้วแสดงความเคารพท่านอาจารย์อบล แต่เดินเเจก จ่ายเบอร์โทร ขอเบอร์โทร พูดจาให้ลังเลส่งสัย ชักชวนว่าสามารถสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธ์ใด้เราควรทำอย่างไรกับสองคนนี้ กับคนชวน และคนถูกชวน

คนชวนต้องการให้ลูกบ้านสวนแตกความสามัคคี ต้องการมาหาผลประโยชย์จากบ้านสวน เป็นคนเสเเสร้งไม่จริงใจทำลายความศรัทธาเชื่อมั่น

ทำ อย่างไรเพื่อรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร ใช้ระหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วย เพื่อรู้พฤติกรรมที่แท้จริง แล้วนำไปบอกท่านอาจารย์อุบล ว่าคนนี้เป็นแบบนี้

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านกล่าวว่าอดีตอย่าไปคิดถึงให้อยู่กับปัจจุบัน เราจะดีจะชั่วอยู่ที่การปฏิบัติ

อนิสงค์ของการดูรายการคุยไปแจกไปในวันนี้ส่งผลให้ข้่าพเจ้าหายปวด หายเมื่อยตามร่างการ หายคันตามผิวหน้า เเละผิวกาย

กราบ ขอบพระคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ทุกๆๆพระองค์ ขอบคุณท่านอาจารย์มงคล อาจารย์อุบล คุณท้อป คุณเพชร คุณมาร์ก เวปมาสเตอร์แห่งบ้านสวนพีระมิดอยางสูงค่ะ

ขอโมทนากับญาติธรรมทุกๆๆท่านที่ร่วมบุญที่บ้านสวน สาธุ






ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 16:20:52


ความคิดเห็นที่ 1355 (1636357)

ได้ดูรายการคุยไปแจกไป ออกอากาศเมื่อวันที่ 21 ตค. 55

ท่านอาจารย์อุบล แบ่งกลุ่ม 3 กลุ่มทำกิจกรรม

กลุ่มที่ 1 จัดตกแต่งสวน ทำความสะอาด จัดระเบียบบริเวณบ้านอาจารย์อุบล และรายงานผล เพื่อแก้กรรมพิวพรรณ นำโดยคุณเหมี่ยว

คุณศักดิ์ คุณเจี้ยบ คุณ....

-คุณเหมี่ยวมีอาการคันที่มือ เมื่อทำงานเสร็จบอกว่าหายแล้ว

-คุณศักดิ์มีอาการคันปวดแสบปวดร้อนที่หลัง เมื่อทำงานเสร็จบอกว่า

หายแล้ว

-คุณเจี้ยบ บริเวณหัวเข่ามีรอยดำ เมื่อทำงานเสร็จ หัวเข่าขาวขึ้น

-คุณที่กลับบ้านไปก่อนเป็นสะเก็ดเงินตรงหนังหัว มีอาการแสบคัน เมื่อทำงานเสร็จก็หาย

ท่านอาจารย์อุบลบอกว่ารักษาด้วยการบริจาคเสื้อผ้า ถวายจีวร ล้างห้องน้ำ ทำความสะอาด เลิกโกรธ

-น้องกระต่าย มีอาการคันเป็นตุ่มแดงตามผิวหนัง เคยทำกรรมฆ่าแมลงมาเยอะ ทำงานเสร็จแล้วหาย

-คุณโอบ คันที่คอ มีสิวที่มุมปาก ทำงานเสร็จแล้วก็หาย

กลุ่มที่ 2 ทำความสะอาด จัดระเบียบบริเวณบ้านอาจารย์อุบล และห้องน้ำ

-คุณเปรว มีด่างขาวที่มุมปาก เมื่อทำงานเสร็จก็หาย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 18:46:02


ความคิดเห็นที่ 1356 (1636416)

 

รายการคุยไปแจกไป ออกอากาศเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 55
รายงานผลการทำwork shop กลุ่ม“กรรมผิวพรรณ
กลุ่มที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณ เช่น เป็นฝ้า กระ สิว ด่างขาว ผื่นคัน สะเก็ดเงิน ได้ช่วยกันทำความสะอาดสถานที่ (ห้องน้ำ,องค์พีระมิด) จัดสิ่งของให้เป็นระเบียบและจัดตกแต่งสวนให้สวยงาม ระหว่างทำงานก็ขอบารมีพระศรีอาริย์ให้ท่านช่วย ส่วนกลุ่มของน้องเหมี่ยวได้ท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์ขณะทำงานด้วย
หลังจากทำงานเสร็จแล้ว(บางคนก็ภายใน 1 ชั่วโมง) ปรากฎว่าปัญหาผิวพรรณที่ทุกคนเป็นนั้น ดีขึ้นทุกคน บางคนก็หาย 100 % อย่างเช่นครอบครัว ป.ปลา (สองพี่น้อง)พี่แป้นฝ้าจางลงทุกคนบอกหน้าขาวขึ้น ส่วนพี่เปลวเป็นด่างขาวที่มุมปากก็แทบไม่เห็นรอยด่าง(ดีขึ้น90%)
คุณเบ็ญหน้ามีสิวอักเสบเวลาจะกดเจ็บก็หายเจ็บ น้องก้อยที่เคยเจ็บรอยสิวที่แกะก็ดีขึ้นไม่เจ็บอีก ส่วนคุณอ้อยบอกว่าสิวเสี้ยนบนใบหน้าหายเกลี้ยงไปเลย
ที่มีอาการคันที่แขนอย่างน้องกระต่าย และคุณอดิศักดิ์แสบร้อนที่หลังอาการที่เป็นก็หาย และอีกหลายๆคนอาการที่เป็นก่อนเริ่มทำงานนั้น ก็ดีขึ้นและหายเป็นปกติเช่นกัน
ท่านอาจารย์อุบลบอกว่าอานิสงส์ของการที่ทุกคนได้ทำกิจกรรมจัดตกแต่งสถานที่ ตกแต่งสวน จัดระเบียบ ทำความสะอาดห้องน้ำ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวพรรณได้จริงๆ(เห็นผลชัดเจน)
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า"กรรมผิวพรรณเกิดจากกรรมโทสะ
คนที่มักโกรธจะมีผิวพรรณทราม"
ให้แก้โดย:บริจาคเสื้อผ้าอาภรณ์ ถวายผ้าไตรจีวรให้พระ ทำความสะอาดล้างห้องน้ำ
 ตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม เป็นระเบียบและเลิกโกรธ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 23:48:31


ความคิดเห็นที่ 1357 (1636516)

กราบขอบพระคุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระศรีอาริยเมตไตร หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคง คุณท้อป ท่านดตาจินิน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ที่ทำให้ลูกได้เห็นเจ้ากรรมนายเวรของลูกว่าเป็นใคร

หลังจากได้ดูรายการคุยไปแจกไปออกอากาศเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2555 และได้เขียนธรรมทาน ท่องคาถาพระศรีอาริย ร่วมบุญกับบ้านสวนพีระมิด และพยายามสร้างบุญเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่อย ๆ เมื่อเช้าลูกก็ได้ฝันเห็นว่าลูกได้ดูกระจกแต่หน้าในกระจกไม่ใช่ตัวลูกแต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งเค้าพูดว่า เค้าจะตามจองเวร มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ช่วยลูกได้ 

ลูกขออุทิศบุญที่ลูกได้ทำมาแล้วทุกภพทุกชาติให้ผู้หญิงคนที่ลูกฝันเห็นมีส่วนในบุญที่ลูกได้ทำด้วย และขออโหสิกรรม ขอให้ท่านได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 11:22:55


ความคิดเห็นที่ 1358 (1637450)

 

กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                     และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆท่าน ครับ

                     ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                     ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                      ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                      วันนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 28 ตุลาคม

                  "บารมีพระศรีอาริย์ อานุภาพ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี"

เป็นคลิปของ "กิจกรรม ธรรมบำบัดแบบเห็นผลแบบพลันทันที ชมพระบารมีพระศรีอาริย์" เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555

                    ขอขอบคุณ คุณธนา อรุณภิญโญพล และ ด๊อกเตอร์จิ๋ม (ด๊อกเตอร์ ชัชวลี กะลัมพะเหติ) ที่ ท่านทั้งสองเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อให้ คุณแม่อุบล ได้เผยแพร่ธรรมะและ คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่บ้านสวนฯ

                     โดย คุณแม่อุบล ได้กล่าวตอนเริ่มกิจกรรมว่า การทำบุญ ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ท่านได้เห็นนั้น ก็มีได้หลายทาง คือ โดยการบริจาคทรัพย์ บริจาคสิ่งของ การใช้แรงกาย และ การมีใจพลอยยินดี(การร่วมอนุโมทนา) โดยที่ประตูจิตต้องเปิด เพื่อรับธรรมะเข้าไปในจิตใจ

                      โดยท่านได้ยกตัวอย่าง ของพี่คนหนึ่งที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่พี่เค้ามีปัญหาในเรื่องเป็นสะเก็ดเงินที่ใบหน้าและตามแขน และร่างกาย เมื่อมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ แค่ 1 ชั่วโมง สะเก็ดเงิน บริเวณที่ใบหน้าก็หาย 100 % และ ตามร่างกายก็หายประมาณ 90%

                      คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า จะเกิดภัยพิบัติทั่วโลก ไม่ว่า จากน้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด ไฟไหม้ เกิดสึนามิ และ ภัยจากสัตว์ร้ายต่างๆ ในราววันที่ 21-22 ธันวาคม 2555 ซึ่งลูกบ้านสวนฯ ต่างก็มั่นใจว่า ตนเองจะรอดพ้นจากภัยพิบัติในครั้งนี้ได้ โดยการใช้ระหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย"

                       ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ คุณแม่ได้จัดหัวข้อของปัญหาที่ลูกหลานบ้านสวนฯ ประสบและและมีปัญหา เป็น 20 หัวข้อ  และลูกหลานบ้านสวนฯ จะแบ่งกลุ่มออกเป็น 20 กลุ่มๆ ละ 8-9 คน ให้ไปใช้แรงกายตามปัญหาที่ตนเองประสบและทุกข์ทรมาน

                       กลุ่มที่ 1 พี่เหมี่ยวเป็นหัวหน้ากลุ่ม ออกมาสรุปผลการปฏิบัติ โดย คุณแม่ให้ลูกกลุ่มขึ้นมาบนเวที และ พูดถึงปัญหาที่ตนเองประสบและผลของการใช้แรงกาย และ ปัญหาของตนเองเป็นอย่างไรบ้าง

                      เป็นกลุ่มที่ปัญหาเรื่องผิวพรรณและการเงิน ไปใช้แรงกายในการทำความสะอาดหน้าบ้านสวนฯ โดยพี่เหมี่ยวได้กล่าวว่า ได้ขอให้ลูกกลุ่มได้ใช้ระหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ระหว่างที่ใช้แรงกายในการทำความสะอาด โดยให้จิตมีความระลึกถึงอาจารย์อุบลตลอดเวลา

                      พี่พร ซึ่งมีปัญหาหน้าเป็นฝ้าดำ เมื่อไปถอนหญ้า ตัดกิ่งไม้ เก็บขยะไปทิ้ง ประมาณ 1 ชั่วโมง ฝ้าที่เป็นก็จางหายไปเกือบ 70 %

                      น้องวิน มีปัญหาหน้าแดง แก้มแดง จมูกปูด ทำงานไม่ถึงชั่วโมง หน้าก็เริ่มเป็นสีชมพู จมูกที่ปูดก็ยุบลง หายไปเกือบ 50-60%

                       คุณนิลลดา มีปัญหาผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง เหงื่อออกง่าย เป็นสิวง่าย ทำงานประมาณ 1 ชั่วโมง รูขุมขนที่กว้างก็ตื้นกระชับขึ้น สิวก็จางลงไป 70 %

                       คุณยาย ที่ปัญหาเรื่องตาไม่สว่าง ก็ใช้แรงกายแล้วตาก็สว่างขึ้น

                        คุณน้องผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่อง ผดผื่นคัน สิวเสี้ยนดำ มาเกือบ 3 ปี ก็ดีขึ้น

                        คุณพี่ผู้หญิงที่เป็นคุณครูเอกชน มีปัญหาผิวหน้า ผิวหน้าก็ผ่องใสขึ้น เกือบ 90%

                         คุณพี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่องสิวที่แข็ง ก็ใช้ระหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยร่วมกับการใช้แรงกาย สิวก็อ่อนตัวลง หายไปเกือบ 90 %

                         คุณพี่ผู้หญิงที่ปัญหาเป็นฝ้าหน้าแดง มาเกือบ 10 ปี เมื่อใช้แรงกาย หน้าก็เริ่มไม่แดง หายไปเกือบ 70 %      

                                                            คุณพี่ผู้หญิงที่เป็นกระ เป็นมาแต่เด็กๆ ก็หายเกือบ 90 %

                          คุณพี่ผู้หญิงที่มีปัญหาปวดหลัง หันหลังไม่ได้มา 3 เดือน ก็อาการดีขึ้น 90 % 

                          กลุ่มต่อมา มีพี่อ้อยเป็นหัวหน้ากลุ่ม ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ได้ไปทำวิหารทาน โดยการขนดินไปทำตรงโรงทานเก่า มีลูกกลุ่มที่หายทันที 100 % 3 คน

                          มีป้าเพียร ซึ่งปวดหัว ปวดคอ ทำงานไป 30 นาที ก็หาย จากการไปขุดดิน

                          ป้าลาย มีปัญหาเป็นต่อมไทรอยด์ มา 4 ปี กลืนข้าวจะเจ็บคอ ทำงานไป หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ไปทานข้าว ก็ไม่มีอาการเจ็บคออีกเลย

                          หนูเล็ก มีปัญหาปวดคอ ปวดไหล่ ปวดขา ทำงานแค่ครึ่งชั่วโมง ขาก็ดีขึ้น 100% ไหล่ดีขึ้น 90 %

                          คุณยาย ที่ปวดคอปวดไหล่ ดีขึ้น 50 % ตาที่โปนหนังตาปิด ทำงานไปครึ่งชั่วโมง หนังตาก็เปิด ตาก็ไม่โปน หายไปเกือบ 90 %

                          คุณเกวิกา มีปัญหาปวดหัว ปวดร่างกายซีกขวา มา9 ปี ก็ดีขึ้น70% ขณะที่เล่าบนเวที ก็หายไปเกือบ 90 % 

                         คุณยายที่ปัญหา ปวดหัว ปวดเข่ามา2ปี อาการก็ดีขึ้น 80 %

                         พี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่องปวดหัว ปวดไหล่ ปวดท้อง มาเกือบ 2 ปี ทำงานไป 30 นาที ก็หายปวดท้อง ปวดไหล่ ก็หายไปเกือบ 70 % ปวดหัวก็หายไปเกือบ 50 %  ขณะที่เล่าบนเวที ก็หายไปเกือบ 70 %

                         คุณยายที่มีปัญหาปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดขา มาเกือบ 1 ปี ก็หายไปเกือบ 70 %

                         คุณยาย ที่มีปัญหาเรื่องการปวดคอ ก็หายไปเกือบ 50 %

                         คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้รับทราบว่า กรรมที่ต้องรับทรมานจากการปวดหัว ปวดไหล่ ปวดตามร่างกายนั้น เกิดจากการที่เคยทุบหัวปลา ตีหัวหมา หัวแมว หัวผัว หัวลูก ใช้หัว ไปคิดไม่ดีต่อผู้อื่น อิจฉา ริษยา ชอบด่า ชอบว่าคนอื่น

                          ให้เลิกด่า และ เวลาทำงานใช้แรงกายก็อย่าไปกลัวป่วย กลัวเจ็บ ทำงานไม่เต็มที่ ไม่ต้องไปกลัวร้อน    

                           กลุ่มต่อมา คุณอติศักดิ์ เป็นหัวหน้ากลุ่มออกมาสรุปว่า ลูกกลุ่มมีปัญหาเรื่องปวดเอว ปวดหลัง ปัญหาการเงิน

                           คุณยายสุจี ปวดหัวมาเกือบ 4 ปี ทำงานแค่ครึ่งชั่วโมง ก็หายปวดหัว 100 %

                            คุณแหม่ม ปวดหัว ปวดขา ปวดเอว มา 3-4ปี ปวดเอวก็ดีขึ้น

                            คุณยาย ปวดหัวเข่า มา 5 ปี ขุดดินครึ่งชั่วโมง ก็หายปวดเข่า

                            คุณลุง ปวดขาปวดเข่ามาเกือบ ปีกว่าๆ ขุดดินครึ่งชั่วโมง หายปวดเกือบ 100 %

                            คุณป้า ปวดขาปวดคอปวดเอว  เมื่อออกมาเล่าบนเวทีก็หาย 100%

                           คุณพี่ผู้หญิง ปวดหัว ปวดต้นแขน ดีขึ้น50%  เมื่อนั่งฟังธรรมทานคนอื่นๆ ก็หาย 100 %

                           คุณยาย ปวดแขน ปวดหลัง ปวดเอว เมื่อมานั่งบนเวทีก็หายหมด

                           คุณพี่ผู้หญิง  มีอาการปวดเข่า ปวดหัว เมื่อมานั่งบนเวที ก็หายหมด

                           พี่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง มีปัญหาปวดเอว มีเรื่องของโรคหัวใจ ก็หายปวดเอว ตอนทำงาน และ ไม่รู้สึกเหนื่อยระหว่างทำงาน 

                            สรุป ลูกทีมกลุ่มนี้ เมื่อออกมาพูดบนเวที ทุกคนต่างก็หายจากอาการปวดต่างๆ 100 % 

                            ช่วงที่คุณแม่ให้ลูกบ้านสวนฯ ได้สัมผัสพลังของ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี

                            มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นม้ง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองพูดไทยไม่ชัด คุณแม่ได้ให้ลองถือ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี และให้ลองพูด ก็สามารถพูดไทยได้ชัดขึ้น และ พี่เค้าได้บอกกล่าวว่า ได้บูชาองค์พีระมิดจำลอง รุ่น มวลสารบ้านสวนฯ ไป และได้เอาไปใช้กับลูกที่เป็นปานแดงมาแต่ตั้งแต่อายุ 1 เดือน  ก่อนหน้านั้น เคยพาลูกไปยิงเลเซอร์ 4 ครั้ง ตอนอายุได้ 4 เดือน ก็ไม่หาย ยิ่งยิงยิ่งบวม ให้ทานสเตอร์รอยด์ ก็ไม่อยากให้ลูกทาน แต่เมื่อใช้พีระมิดรุ่นมวลสาร ปานแดงของลูกก็หายได้

                          คุณยายที่ปวดขา ปวดเอว ให้ถือจี้ ไว้แค่ 4วินาที  อาการปวดต่างๆ ก็หายไป

                          คุณพี่ ที่มีอาการชาที่ขาที่เกิดจากการขาหัก ให้ถือจี้ เพียง 5 วินาที ขาก็หายชา

                          พี่ผู้หญิงที่ปวดหัว ให้ถือจี้ 9 วินาที ก็หาย

                          คุณยาย ที่ปวดเข่า ถือจี้ 3 วินาทีก็หาย

                          คุณยายที่ปวดหัว ให้ถือจี้ 7 วินาที ก็หาย

                          คุณยายที่ออกมาบอกว่า ตนเองพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เมื่อได้ถือจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี ก็พูดรู้เรื่องขึ้น ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวให้ลูกบ้านสวนได้ทราบว่า เกิดจากการที่ด่าเก่ง ชอบบ่นชอบว่า ลูก และ สามี

                          ช่วงที่คุณแม่อุบล  ได้อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ เพื่อให้ลูกหลานบ้านสวนได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์

                         ซึ่งลูกหลานบ้านสวนฯ ส่วนมากที่นั่งข้างล่างเวทีที่ได้สัมผัสและชมพระบารมีของพระองค์ท่าน ก็หายจากอาการเจ็บป่วย

                         ส่วนลูกหลานที่ยังไม่หาย คุณแม่ได้ให้มาเดินผ่านคุณแม่ เพื่อได้สัมผัสพระบารมีของพระองค์ท่าน บนเวที ก็หายจากการเจ็บ การปวด 

                          ช่วงที่คุณแม่ อยากให้มีการพิสูจน์ว่า การกราบรูปของคุณแม่อุบล ก็สามารถทำให้อาการเจ็บป่วยก็หายได้ โดยคุณแม่อุบล ได้ให้พี่เหมี่ยว ได้นำรูปของคุณแม่ ที่คุณเหมี่ยวได้นำไปช่วยผู้คนที่พิการที่ร้านของตนเอง ขึ้นมาตั่งไว้บนเก้าอี้ บนเวที และ ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ยังเจ็บป่วยได้ขึ้นมาทดสอบบนเวที

                          คุณยายที่มีอาการเดินกะเผลก ให้ออกมาทดสอบการกราบรูปของคุณแม่บนเวที โดยให้พูดว่า"อาจารย์อุบลช่วยด้วย ให้ขาของลูกหายจากการปวดขา จากโรคอัมพาต" เมื่อกราบรูปของคุณแม่อุบล อาการปวดขาก็หายได้

                          คุณพี่ผู้หญิง ที่มีอาการปวดแขน ปวดขา ให้กราบรูปของคุณแม่อุบล ก็หายไปเกือบ 90 %

                          พี่ทัศนีย์ ที่ปวดนิ้ว ก็หายไป 40 % พี่บุญภิบาลที่ปวดบ่าทั้ง 2 ข้าง ก็หายไปเกือบ 99 %

                          คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ลูกหลานที่อยากหายได้อย่างถาวร ไม่มีความเจ็บความปวด ให้เลิกฆ่าสัตว์ เลิกสั่งฆ่าสัตว์  เลิกรู้เห็นเป็นใจในการฆ่าสัตว์ เลิกกินเนื้อสัตว์ เพราะ วิญญาณของสัตว์เหล่านี้ เค้ามาเกาะเกี่ยวกับร่างกายของเรา  และ อย่าบกพร่องในศีลห้า อย่าเอาข้าว เอาขนมของวัดกลับบ้าน ทำให้เราติดหนี้สงฆ์ 

                          อย่าลักทรัพย์ อย่าทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ 

                          อย่ามีกิ๊ก อย่าเป็นชู้กับสามีภรรยาของผู้อื่น

                          อย่าโกหกหลอกลวง ทำให้ฟันไม่ดี มีกลิ่นปาก พูดไม่ชัด  อย่านินทา ว่าร้ายป้ายสี ส่อเสียด ตอแหล

                          อย่าดื่มเหล้า ซื้อเหล้าให้ผู้อื่น อย่าใช้ผู้อื่นไปซื้อเหล้า อย่าส่งเสริมให้ผู้อื่นดื่ม อย่าผิดอบายมุข ทั้ง6 คือ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านทำงาน คบคนชั่วเป็นมิตร

                          ถ้าอยากพ้นทุกข์ ให้เล่าเรื่องที่พบเห็นที่บ้านสวนฯ ให้ผู้อื่นฟังเพื่อเป็นธรรมทาน 

                          บนเวที คุณป้าที่มีอาการที่คอบวมจากการเป็นไทรอยด์เป็นก้อน ตอนนี้บริเวณคอที่เป็นก้อนก็เล็กลงไปจนแทบมองไม่ออก คุณแม่ได้ให้คุณป้าถือจี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่ 28 วินาที ก้อนที่บวมก็หายสนิท เมื่อกลืนน้ำลายก็ไม่เจ็บปวดแล้ว

                           ขอกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่หลวงพ่อ ท่านได้บอกว่า การศีกษาวิชาความรู้ ให้มีความรู้และปฎิบัติให้ครบ เพราะ ถ้าเราปฎิบัติไม่ครบก็เกินวิสัยที่จะทำให้ดีได้ ซึ่งพระพุทธองค์ได้ตรัสว่า " ตถาคตเป็นเพียงผู้บอกเท่านั้น ไม่ใช่เป็นผู้ยกให้ใครเป็นอะไรได้ "

                            หลวงพ่อบอกว่า ให้ทำอะไร ก็ให้ทำตามก็มีผล ความดีความชั่วไม่ได้อยู่ที่คนสอน อยู่ที่ตัวเราเอง ฟังแล้ว ปฏิบัติหรือไม่ ให้กำหนดจิตให้เป็นสมาธิ รู้หายใจเข้า รู้หายใจออก ให้เป็นสมาธิ เพื่อตัดกิเลส กิเลส(โทสะ) ความโกรธ อย่าให้เกิดในจิต ฆ่าความโกรธ ก็นอนเป็นสุข นั่งก็เป็นสุข ตื่นก็เป็นสุข โกรธเค้า เค้าโกรธเรา ต่างก็เลว ต่างคนต่างไม่โกรธก็ดี  การนินทา สรรเสริญเป็นธรรมดาของโลก การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้หวังดีอาจจะกลายเป็นหวังร้าย สร้างความเสียหายต่อผู้มีกิเลส ให้ระมัดระวังอารมณ์ของความโกรธ ทำงานให้ครบถ้วนในปัจจุบัน ทำให้ดี ให้ถือคำว่าช่างมัน ใครชม ใครนินทาว่าร้าย ให้ใช้ว่าช่างมัน อยู่ที่การกระทำของตัวเรา

                      ขอขอบคุณ พี่แมว ที่แบ่งเบาภาระในการจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ

                      ขออนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนฯทุกท่านที่ได้ไปใช้แรงกายในการขุดดิน และ ทำงานการเกษตร ที่บ้านสวนพีระมิด ครับ

                      สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-30 13:14:27


ความคิดเห็นที่ 1359 (1638965)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                        ขอน้อมกราบพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                         ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                         ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                          เย็นนี้ ได้ดูคลิปของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2555

"สร้างบุญเต็มกำลัง ก็เกิดผลปาฎิหาริย์ ขัดบัญชาสวรรค์ ปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิด"

                           การแบ่งกลุ่ม ทำ workshop

กลุ่ม คุณกุหลาบ ได้ไปทำความสะอาดวิหารเรือนไม้ไผ่

                           น้องผู้หญิง ซึ่งมีปัญหาเรื่องเกลื้อน มาเกือบ 3 เดือน  ทำงานเสร็จ เกลื้อนก็หาย

                            พี่ผู้หญิงที่มีปัญหา ผดผื่น คันตามมือ ก็หาย100%

                            น้องผู้หญิงที่มีปัญหา คันมือ ใช้ระหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย"  ทำงานเพียง 30 นาที ก็หายคันมือ

                                                   พี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่องคันและเป็นฝ้า มาเกือบ สองสามเดือน ทำงานไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ ฝ้าก็จาง หน้าไม่คัน

                              พี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาปวดหัวไหล่ เมื่อทำงานเสร็จ หายปวดไปเกือบ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อออกมาพูด ก็หายเป็นปกติ

                               คุณครูมิ้ม หน้าเป็นสิว มีรอยแดง ระคายเคืองที่ใบหน้า เมื่อทำงานเสร็๋จ สิวก็แห้ง หายไปเกือบ เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์

                               พี่ผู้หญิง มีปัญหาเป็นภูมิแพ้ ผื่นแดง คันมาก เป็นมาเกือบสี่ปี ต้องทายามาตลอด ไม่ทานยาก็มีอาการ ทำงานแค่ครึ่งชั่วโมง ก็หายจากปัญหาต่างๆ

                               คุณแม่อุบล ได้กล่าวเพิ่มเติมให้ฟังว่า ปัญหาผิวพรรณ สาเหตุเกิดจาก ระงับความโกรธไม่ได้ เคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่น ยุง แมลงต่างๆ ปากร้าย ปากจัด ทำผิดศีลข้อสี่ โกหกปลิ้นปล้อนตอแหล

                                ปัญหาการเงิน เกิดจากการลักทรัพย์ ไม่ชอบทำบุญ เอาของวัดกลับบ้าน ชอบของฟรี เอาของที่ทำงานกลับไปใช้ที่บ้าน    

                                ให้แก้ที่ต้นเหตุ ให้ทำบุญ ก็จะสามารถปลดกรรมได้ แต่ ถ้าทำแต่บาปก็ไม่มีทางปลดล๊อคได้

                                 กลุ่มต่อมา ได้ไปขุดดิน

                                 พี่ผู้หญิง ที่ปวดขา เมื่อทำงานเสร็จ ก็หายปวดขา

                                 คุณป้าถนอม ปวดเข่า สี่ห้าปี ปวดไหล่ปวดสะโพกมาสักหนึ่งปี ทำงานเสร็จก็หายปวด

                                  คุณป้า ปวดขามาหนึ่งปี มาขุดดิน ก็หายปวด

                                  คุณป้า ปวดขา ปวดเอว ปวดสะโพก ขุดดินแล้ว อาการปวดที่ขาหาย แต่เท้ายังปวดอยู่ คุณแม่บอกกว่า คุณป้าเคยถีบผัว ถีบลูก เมื่อยอมรับ อาการที่ปวดขาก็หาย

                                   คุณป้า ที่มีปัญหาปวดโคนแขน มาเกือบหนึ่งเดือน ปวดหัวเข่า ทำงานแล้วดีขึ้น แต่หัวไหล่ยังมีอาการขัดๆ คุณแม่สอบถามว่า เคยตีลูก ทุบหัวปลา เคยลักขโมยไหม หันเท้าไปทางพระไหม  เมื่อยอมรับว่าเคยทำ อาการก็หาย

                                    คุณป้า ที่มีปัญหาปวดเอว ปากเป็นฝ้าขาวๆ ไปขุดดิน ปัญหาปวดเอวดีขึ้น ปัญหาที่ปากก็ดีขึ้น คุณแม่บอกว่า ป้าด่าเก่ง โกหกเก่ง ก็เลยมีปัญหาเรื่องปาก

                                     แต่กลุ่มนี้ คุณแม่ได้ บอกกล่าวว่า ทำงานไม่ค่อยเต็มที่ ยังกลัวร้อน กลัวเหนื่อย ลูกกลุ่มเลยได้รับผลไม่เต็มร้อย

                                     หัวหน้ากลุ่ม ไม่เข้มแข็ง จึงไม่บรรลุเป้าหมาย ลูกกลุ่มก็ไม่ทุ่มเทกำลังใจในการทำงาน เลยรับผลที่ไม่ค่อยจะหาย

                                     กลุ่มด๊อกเตอร์จิ๋ม ไปขุดดิน

                                     คุณชัยรัตน์ ปวดหลัง ปวดคอ ทำงานไป ยี่สิบนาที ก็หายจากการปวด แต่มีปัญหาเรื่องไขมัน คุณแม่บอกว่า เลิกโกรธ ปัญหาเรื่องไขมัน ก็จะหายไปได้

                                      คุณดวงเดือน มีปัญหาปวดหลัง มาสองสามปีแล้ว แต่เมื่อมาขุดดิน ไปสักสี่สิบนาที ก็หายปวด ทำงานก็ไม่เหน็ดเหนื่อย

                                      คุณลุงชัน ปวดท้อง ชาขา ขุดดินแล้วก็ดีขึ้น พอออกมาเล่า ก็หายไปเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์

                                       คุณป้าสุพิน ปวดเอวมาเกือบสามปี ปวดคอ ปวดไหล่ มีลมในท้องทำให้ท้องบวม ทำงานแล้วดีขึ้น เมื่อออกมาพูด ปัญหาต่างก็หมดไป

                                        คุณทัศนีย์ ปวดหลัง ปวดช่องท้อง ปวดทั้งตัว คุณแม่บอกว่า คุณทัศนีย์ทำกรรมแยะและหนัก เพราะ ฆ่าอีเห็น ฆ่ากระรอก ฆ่างู เคยทำแท้ง เมื่อเล่าแล้ว อาการก็ดีขึ้นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์

                                        คุณจั๊ม(น้องด๊อกเตอร์จิ๋ม) ปวดไหล่ เมื่อทำงานไปประมาณ สี่สิบนาทีก็หายปวดไหล่ แต่เล่าว่ามีอาการหายใจไม่ออก คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะ ด๊อกเตอร์จิ๋ม ให้ คุณจั๊ม เอาจี้ไปทำกรอบ แต่เมื่อได้มาแล้ว และ พบด๊อกเตอร์จิ๋มแล้ว คุณจั๊ม ไม่ยอมถอดจี้องค์สฟิงซ์ของด๊อกเตอร์จิ๋มคืนให้ ทำให้เกิดอาการหายใจไม่ออก

                                         ด๊อกเตอร์จิ๋ม ออกมาบอกกล่าวว่า เมื่อมาใช้แรงกายและสวมจี้สฟิงซ์ รุ่น 3 โพธิ์ศรี ทำให้เดินตรงขึ้น และ รู้สึกว่า รองเท้าที่เคยสวมเดินของตนเองทุกครั้ง นั้น มีความรู้สึกว่า สูงขึ้น(คุณแม่บอกว่า กระดูกที่เท้าเริ่มยาวเท่ากับเท้าอีกข้างแล้ว)

                                        พี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่องปวดหัว ปวดหลัง ปวดหัว ก็หายเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ปวดหลังไม่หาย คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า เคยตีลูก

                                                                     คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า การปวดหัว ปวดไหล่ นั้น เกิดจากกรรมที่เคยฆ่าสัตว์ ทำแท้ง มีความคิดอยากให้คนอื่นตาย เคยใช้ยาฆ่าแมลง

                                        กลุ่มของคุณป้อม มีปัญหาปวดหัว ปวดฟัน ปัญหาทางการเงิน ภูมิแพ้ ปวดหลัง มีความดันโลหิตสูง  มีอาการเหนื่อยง่าย เวียนศีรษะ ซึ่ง คุณป้อมได้บอกกล่าวว่า ลูกหลานบ้านสวนฯ คนใดที่เคยรับปากกับคุณแม่ ว่าจะไม่ทำสิ่งอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์แล้ว กลับไปทำอีก อาการที่เจ็บป่วย ก็จะกลับมาเป็นอีก พร้อมกับ จะมีอาการหนักขึ้น

                                       ช่วงรับบารมีของจี้สฟิงซ์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี

                         พี่ผู้หญิง ซึ่งเป็นนักข่าวของTNN ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองปวดบ่า แต่ตนเองก็สวมจี้สฟิงซ์รุ่นพระบารมีพระศรีอาริย์ คุณแม่ได้สอบถามว่า เคยมีอาการจิตแวบไหม พี่เค้าก็ยอมรับ  เมื่อให้มองจี้สฟิงซ์แค่ ห้าวินาที อาการที่ปวดก็หาย

                          พี่ผู้หญิง อีกคนหนึ่ง มีอาการปวดต้นคอ เมื่ออยู่ห่างจากคุณแม่ ดีขึ้น พอห่างประมาณ สองเมตรครึ่ง ก็ดีขึ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พอห่างประมาณ สองเมตร อาการดีขึ้น แปดสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อมานั่งใกล้ๆคุณแม่ก็ดีขึ้นถึง เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ พอมองจี้สฟิงซ์ แค่แปดวินาที ก็หายปวด

                           อาจารย์อภิชัย ซึ่งเคยมีอาการเท้าบวมและตึง บอกเล่าว่า เคยไปเขียนแบบที่วัดในประเทศอังกฤษ แต่ไม่ได้ขอขมาต่อพระประธาน ก่อนขึ้นไปวาดแบบ ขึ้นไปนั่งอยู่เหนือองค์ท่านเลย

                            ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่า อาการเท้าบวมตึง จะหายได้ ต่อเมื่อ ทำการสร้างพระ ซึ่งอาการก็หายไประยะหนึ่งแล้ว แต่กลับมาบวมอีกครั้ง เกิดจากการที่ได้ไปทุบพระหัตถ์ของพระปฐมบรมธรรมบิดา และ ใช้เท้าเขี่ยผงปูนที่ร่วงหล่นจากการทุบพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน ทำให้เท้าบวม มีอาการปวดที่ไหล่

                             แต่ตอนนี้ อาการเท้าที่่บวมยุบหายไปแล้ว

                             คุณพิมพ์ประพันธ์ เดินทางมาจากจังหวัดระยอง ออกมาบอกเล่าว่า ตนเองเป็นไตวายระยะสุดท้าย ต้องทำการฟอกเลือด อาทิตย์ละสองครั้ง แต่ดูรายการคุยไปแจกไป ก็เกิดศรัทธา อนุโมทนาหน้าจอ อาการก็ดีขึ้น มีโอกาสก็แวะมาบ้านสวนฯ และ เมื่อเข้ามาแล้ว รู้สึกปลื้มปิติ รู้สึกสดชื่น หายใจได้เต็มปอด เมื่อ มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ก็เริ่มมีความหวัง ก่อนหน้านั้ิน เวลาทำงานรู้สึกเหนื่อย เมื่อมาทำงานที่บ้านสวนฯ ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย หายใจได้ไม่ติดขัด มีเรี่ยวแรง

                               กลุ่มคุณก๊อต มีปัญหาเรื่องเจ็บป่วยหนัก ภูมิแพ้ มีปัญหาการเงิน ทำความสะอาดลานจอดรถ ทำงานเกษตร งานก่อสร้าง

                               พี่ดารา มีปัญหาความดันสูง ปัญหาการเงิน

                               พี่มงคล มีปัญหาภูมิแพ้ คันผิวหนังบริเวณเท้าขวา ปัญหาการเงิน

                                คุณยุวรัตน์ เป็นภูมิแพ้ มีปัญหาการเงิน

                                คุณจารุวรรณ เป็นไวรัสตับอักเสบบี มีปัญหาการเงิน

                                คุณก๊อต มีปัญหาการเงิน และ ปัญหาเรื่องปัญญา

                                 คุณแม่ได้บอกกล่าวให้ฟังว่า เมื่อคุณแม่ได้บอกให้ทำอะไร ก็ไม่ค่อยอยากทำตามที่คุณแม่บอกให้ทำ นั้นก็คือ การขัดบัญชาสวรรค์ ทำให้ได้ผลตอบรับในเรื่องปัญหาต่างไม่ค่อยเต็มร้อยกันสักคน

                                  คุณแม่ได้บอกว่า ท่านมเหสักขา ท่านทำหน้าที่ในการบันทึกบัญชีความดีของมนุษย์แล้วรายงานต่อพระอินทร์

                                  ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านทำหน้าที่ในการบันทึกความชั่วของมนุษย์ แต่ท่านก็มีความเมตตาในการตักเตือน เวลาที่เรากระทำสิ่งที่ไม่ดี ท่านก็ทำให้เราได้รับความเจ็บป่วย แล้วให้เราค้นหาสาเหตุ แล้วแก้ไขตนเอง

                                   กลุ่มพี่อมร ได้รับเคสปัญหากรรมหนัก เจ็บป่วยหนัก

                                   คุณทัศนีย์ ปวดหัว ปวดมือ

                                   แม่เล็ก ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดหัว(คุณแม่บอกว่า ในอดีตชาติ แม่เล็กฆ่าคนมาแยะ)

                                   แม่ทองดี ปวดหัว

                                   คุณตาโต๊ะ มีปัญหาสายตายาว

                                   คุณพิชัย มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณแม่ของพี่เค้า

                                    คุณอมร ออกมาบอกกล่าวว่า มีปัญหาเคล็ดยอก ซึ่งไปพิจารณากรรมด้วยตนเอง ก็พบว่า ใช้ของแล้วไม่นำไปเก็บไว้ เมื่อนำของที่ตนเองนำออกมา ไปจัดเก็บให้เรียบร้อย ก็หายจากการยอก

                                    สำหรับ คุณทัศนีย์ นั้น คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า คุณทัศนีย์ ทำผิดศีลระดับจุลศีล แต่เป็นบาปที่ค่อนข้างหนัก เพราะ ไปฆ่าสัตว์ที่พระพุทธองค์ทรงห้ามไว้ คือ ฆ่าเต่า ฆ่าตะพาบ ฆ่าเสือ ฆ่าจระเข้ ฆ่าช้าง โดยพี่เค้าฆ่าเต่า โดยการเอาไฟเผา ฆ่าตะพาบ โดยการตัดคอแล้วเอาไปลวกน้ำร้อน ฆ่าอีเห็น โดยการจับใส่กรง แล้วเอาไปถ่วงน้ำให้ตาย จึงทำให้การปลดล๊อคกรรมยากกว่าคนอื่นๆ ทำให้อาการที่เป็นทรง และ บางครั้งก็เป็นมากกว่าเดิม แม้นมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ

                                    คุณแม่ยังบอกกล่าวว่า ความหงุดหงิด ทำให้เราจน และ มีปัญหาอุปสรรคไม่คลี่คลาย

                                    และ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนที่เค้ามีภาวะผู้นำนั้น จะดิ้นรนหางานทำ โดยไม่ต้องมีคนมาบอกกล่าวให้ทำ

                                    แต่ คนที่ขาดภาวะผู้นำนั้น จะรอคำสั่ง จะไม่เริ่มต้นทำงานอะไรด้วยตนเอง และ เมื่อรับคำสั่งมาแล้ว ก็ทำแบบขอไปที ทำแบบไร้จิตวิญญาณ

                                    กลุ่มอาจารย์พัน รับเคสปัญหา ขาดปัญญา

ซึ่งอาจารย์พัน ได้บอกกล่าวให้ฟังว่า ปัญญาเกิดจากการลงมือกระทำ แค่การดูแล้วไม่ลงมือทำ ไม่ก่อให้เกิดปัญญา ท่านยกตัวอย่าง

                                    ถ้าเราไปทำแปลงเกษตร แล้วเห็นหญ้าขี้นและเป็นหญ้าที่ขึ้นยาวแล้ว ควรทำอย่างไร(ทำแบบใช้ปัญญา)

                                     ก็ปรากฎว่า มีคนที่ทำโดยใช้ปัญญาได้แค่คนเดียวจากทั้งกลุ่ม

                                     ซึ่งอาจารย์พัน ได้บอกกล่าวว่า การกำจัดหญ้าที่ถูกต้องนั้นคือ ทำการขุดให้เป็นดินก้อนใหญ่ แล้วพลิกกลับด้านเสีย ต้นหญ้าที่ยาวๆก็ตายแล้วเป็นปุ๋ย หรือ ทำให้ต้นหญ้าที่ยาวๆนั้นล้มลงไปก่อน แล้วนำดินที่ขุดมานั้นมากลบทับต้นหญ้า ก็ตายเป็นปุ๋ยไป

                                     คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหานั้นเกิดจาก การสอนแล้วไม่ยอมทำตาม ขาดความกระตือรือร้นที่จะกระทำ คนเราทำงาน ต้องทำงาน อย่างมีเป้าหมาย ทำอะไรอย่าทำตัวอ้อยอิ่ง 

                                                                   อย่า ทำตนเองให้เป็น น้ำที่ล้นแก้ว น้ำมันล้นนักก็เทออกเสียบ้าง อย่าทำตนเองเป็นคนฉลาด มีภูมิปัญญาสูง เค้าสั่งให้ทำอะไร ก็ทำไป ทำไปอย่างคนโง่ๆ รับคำสั่งมา ก็ทำไปก่อน   

                                                                   คุณธนา ออกมาสรุปถึงผลการทำงานของลูกหลานบ้านสวนฯ ว่า

                                      มีความกระชุ่มกระชวยขึ้นมามากกว่าวันเสาร์ เนื่องจาก มีการเปลี่ยนฐาน แต่เวลาทำงานในแต่ละฐาน ขอให้รักษาเวลา อย่าทำช้า ทำให้กลุ่มอื่นๆต้องมารอ

                                       มีความอึดในการทำงานมากกว่าเดิม เพราะ มีสุขภาพที่ดีขึ้น

                                       ลูกทีม เริ่มรู้จักการเปลี่ยนฐาน ว่า หลังจากฐานนี้แล้ว จะไปฐานใดต่อ ซึ่งวิธีการมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะ เห็นว่า เมื่อมีหลายฐานให้ทำ ก็สามารถทำงานได้ดีขึ้น กว่า การที่ให้ทำแค่ฐานเดียว ทำให้เหนื่อย เพราะ ลุ้นอยากให้งานเสร็จ

                                        คุณแม่ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ยังปลดล๊อคกรรมไม่ได้นั้น ก็ต้องพิจารณาว่า เมื่อไม่ทำตามที่บอกกล่าว ซึ่้งเป็นขัดต่อบัญชาสวรรค์ บอกให้ทำอย่างนี้ แต่อยากไปทำแบบที่ตนเองคิด ทำตามปัญญาของตนเอง ก็ไม่สามารถปลดล๊อคกรรมได้ ก็ได้เห็นแล้วว่า บางคนก็ปลดได้ บางคนก็ปลดไม่ได้

                                         เมื่อเราปลดล๊อคกรรมของเราได้ เราก็จะได้พบพระศรีอาริย์ตัวจริง

                                         เพราะฉะนั้น ให้ทำอะไร ก็ทำไป ทำไปอย่างคนโง่ๆ และ ให้มีวินัยในการทำงาน เป็นคนตรงเวลา   

                                                                        ขอ ขอบคุณ พี่ประวีณา(พี่แมว) ที่เป็นธุระในการจัดส่งองค์พีระมิดจำลอง รุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จัดส่งจี้สฟิงซ์ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ

                                         ขออนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนฯในการทำงานในการจัดเตรียมพื้นที่ในการก่อสร้าง และ ทำงานเกษตร 

                                                                          ขอกราบ ต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในการเทศน์เรื่องนิพพาน ซึ่งเป็นทางแห่งความสุขอย่างยิ่ง คำว่าสูญ ที่แปลว่า ว่าง และ การจะว่างได้นั้น ก็คือ ว่างจากโลภะ โทสะ โมหะ นั้นคือว่างจากกิเลสทั้งปวง

                                          สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 19:26:12


ความคิดเห็นที่ 1360 (1639212)

วันนี้ได้ดูรายการคุยไปแจกไปที่ออกอากาศ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2555

ก็ยังเป็นเรื่องของการทำ work shop แก้กรรมผิวพรรณกันซะเป็นใหญ่ มีทั้งหาย 100 % เพราะทำงานเต็มกำลัง

และยังเหลือไว้สร้างบุญกันต่อ

ดิฉันขอพูดเรื่องคุณทัศนีที่เจ็บที่มือเพราะถือเป็นความรู้ใหม่ ท่านอาจารย์อุบลท่านเมตตาบอกว่าที่คุณทัศนีไม่หายทั้งที่ได้ทำงานเหมือนคนอื่นเพราะคุณทัศนีได้ฆ่าและทำร้ายสัตว์ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามอย่างทารุณ ซึ่งได้แก่ นำเต่าไปเผาไฟ นำตะพาบไปตัดคอแล้วลวก นำอีเห็นใส่กรง และขุดหลุมใส่น้ำให้เต็มแล้วกดถ่วงน้ำ และยังมีสัตว์ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามฆ่าคือ เสือ จระเข้ ช้าง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 21:44:49


ความคิดเห็นที่ 1361 (1639911)

วันนี้ได้ดูรายการคุยไปแจกไป ตอน มโกรรม นำพาให้ทุกข์ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายทุกข์ได้

ได้ดูตอนที่ลูกบ้านสวนสรุปการทำงานรักษากรรมผิวพรรณแล้วแต่หาย 100 %  และบางท่านดีขี้นบางส่วนต้องสร้างบุญกันต่อไป

ดูมาถึงตอนสารภาพบาป ส่วนมากจะเป็นบรรดาคุณผู้ชายที่ดูกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิมคือความเจ้าชู้ ทั้งทางมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม เช่น น้องชิม ที่เจ้าชู้ และคิดเตะอาจารย์อุบล แม่ และทุกคนที่มาสร้างบุญในบ้านสวนพีระมิด เพราะเคยเป็นสาวกของพระเทวทัต เมื่อสารภาพมีอาการดีขึ้น

ซึ่งส่วนมากจะได้รับกรรมคือปวดเอว ปวดขา  และพวกที่ชอบใช้งานคนอื่นเช่น พ่อ แม่ สามี ก็ต้องปวดเมื่อยตามเนื้อตัว

ดูมาจนถึงตอนที่ท่านอาจารย์อุบลให้มองจี้ที่ท่านอาจารย์อุบล สวมอยู่พร้อมกัน และให้นับ 1.....40 ปรากฏว่าคนที่เจ็บป่วยก็หายและมีอาการดีขึ้น รวมทั้งตัวลูกด้วย นับ 1-30  ก็รู้สึกว่าก้อนที่คางหลุดออกดังกึก  ส่วนพี่ชายที่ดูอยู่ด้วยอาการปวดข้อเท้าดีขึ้น

เมื่อาจารย์นำจี้ของคุณธนามารวมกัับอาจารย์และเริ่มนับใหม่ 1-60  อาการมึนหัวและปวดไหล่ก็ของลูกก็ดีขึ้น

กราบขอบพระคุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลที่ช่วยให้ลูกหายจากเจ็บป่วยค่ะ แค่มองก็หายได้นี่ขนาดว่ายังไม่ได้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิดนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 14:45:17


ความคิดเห็นที่ 1362 (1639968)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆทุกท่าน ครับ

                        ขอน้อมกราบ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                        ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                        เย็นนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2555

              "มโนกรรม นำพาให้ทุกข์ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายทุกข์ได้" 

               เป็นการทำงาน work shop โดยการให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้ไปทำงานในแต่ละฐาน ประมาณฐานละ 1 ชั่วโมง

               คุณลุง ที่มาจากจังหวัดพังงา มีอาการปวดขา และ ปวดหลังมาเกือบ 20 ปี มาทำงานใช้แรงกาย ยกหิน เทปูน ดายหญ้า พรวนดิน ประมาณ 3 ชั่วโมง อาการปวดขาก็หาย แต่อาการปวดหลังยังมีอาการปวดอยู่

               คุณแม่ได้สอบถามว่า เจ้าชู้ไหม คุณลุงบอกว่า ตอนหนุ่มๆ เคยเจ้าชู้ แต่แต่งงานแล้วไม่ได้กระทำอีก แต่ยังคงมีมโนกรรม และ วจีกรรมบ้าง เมื่อยอมรับก็หายปวดหลัง สำหรับโรคเบาหวาน นั้น คุณแม่ บอกว่า เพราะ เลี้ยงไก่ และ เลี้ยงหมู ไว้เพื่อขายและฆ่า ก็ย่อมเป็นโรคเบาหวาน

               น้องผู้ชาย ปวดหลัง ยอมรับว่าเป็นคนเจ้าชู้ ทั้งกระทำ ทั้งคิด ทั้งพูด แต่เมื่อฟังคุณลุงเล่า อาการปวดหลังก็หาย

                คุณนงนุช มีอาการปวดเมื่อยตามตัว ปวดหลังเรื้อรัง อาการปวดเมื่อยตามตัว หายเกือบ 80%  แต่อาการปวดหลัง หายไปเพียง 50%

                คุณแม่บอกกล่าวว่า ที่มีอาการปวดเมื่อยตามตัว นั้น เกิดจากการใช้สามีทำงาน

                 และ ที่มีอาการปวดหลัง นั้น เกิดจากการที่เคยตีสุนัข และ ตีแมว และ เคยตีงู ซึ่งเป็นบริวารของท้าวมหาราช คุณแม่ให้ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอเบิกบุญศีลทานภาวนา และ บุญแรงกายที่มาทำงานที่บ้านสวนฯ อุทิศให้ งูที่ถูกตีจนตาย อาการดีขึ้นเกือบ 90% เมื่อกล่าวคำขอขมาต่อ สามี และ ขอโทษต่อลูกที่เคยเตะ เคยตี อาการก็ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังต้องไปขอโทษลูกคนโตและคนเล็ก  ขอโทษแม่ของตนเอง ที่เคยไม่พอใจแล้วกระทืบเท้าใส่แม่ตนเอง และ ต้องไปเขียนธรรมทาน   

                                 ป้าปุ๊ ตาฝ้ามัว เป็นเบาหวาน เป็นไขมันในเส้นเลือด เป็นความดัน ปวดท้อง ปวดเข่า เท้าบวม ปวดหลัง

                   คุณแม่บอกกล่าวให้ฟังว่า ที่เป็นไขมัน เป็นความดัน นั้นเกิดจากเป็นคนโกรธง่าย ขี้วีน

                    เป็นเบาหวาน เพราะ เคยทำแท้ง เลี้ยงหมู

                    มีอาการปวดเข่า เกิดจากการไปเข้าบ่อน เป็นคนล้างไพ่ แจกไพ่ เล่นไพ่แทนคนอื่น

                     มีอาการปวดหลัง เกิดจากการผิดศีลข้อสาม เคยมีแฟนหลายคน เคยชิงสุกก่อนห่าม

                      เมื่อสารภาพในเรื่องที่เคยกระทำผิดมาก่อน อาการปวดหลัง ปวดเข่า ก็หาย

                      กลุ่มคุณป้อม เรื่อง ผิวพรรณ สุขภาพ ปัญหาทางการเงิน การงาน ได้รับภาระกิจทำความสะอาดวิหารไม้ไผ่ รื้อพื้นวิหารไม้ไผ่ เก็บสิ่งของในอาคาร และ จัดให้สะอาด

                      คุณพี่ผู้หญิง ที่มาจากจังหวัดนครสวรรค์ ปวดคอ บ่า เอว เท้าชา 2 ข้าง เส้นตึง เจ็บปวดมากๆ ระหว่างที่ทำงาน ก็ใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" อาการก็ดีขึ้น

                      เมื่อสารภาพว่า เคยทำแท้ง 2 ครั้ง เคยเหยียบแมวตาย เคยทุบหัวปลา เคยลักเงิน 300 บาท เมื่อตอนเป็นเด็ก เคยสั่งหัวหมูมาแก้บน เคยเผาพริกเผาเกลือแช่งคนที่มาขโมยสร้อยทอง เมื่อสารภาพ อาการต่างๆ ก็ดีขึ้น

                       คุณแม่ ได้แนะนำให้อุทิศบุญกุศลให้หมู อุทิศบุญให้ลูกที่ทำแท้งไป 2 คน เส้นที่ตึงๆอยู่ก็หาย อุทิศบุญให้แมว อาการต่างๆ ก็หายไป

                        อาจารย์ณีย์ ต้องการหน้าใส ภายใน 3 ชั่วโมง หน้าก็ดีขึ้นถึง 70%

                        พี่นนนีย์(จากอเมริกา) เป็นฝ้า กระ อ้วน ทำเสร็จ ฝ้าที่เป็นก็หายไปเกือบ 70%

                         คุณธันวารินทร์  เป็นสิวเสี้ยน ฝ้า กระ ก็ดึขึ้น 40%

                         คุณมาร์ค(เวปมาสเตอร์) อ้วน ขอติดตามผล

                         คุณเพชร(เวปมาสเตอร์ร่วม) ผอม อยากอ้วน ขอติดตามผล

                         คุณป้อม มีอาการหัวใจเต้นตึ๊กตั๊ก เกิดอาการขาดความเชื่อมั่นในตนเอง  ก็ดีขึ้น

                         กลุ่มพี่มหา (คุณสุรสิทธิ์)

                         คุณจตุพล ปวดเข่า ทำงานไป ช่วงบ่ายๆ ก็หาย

                         คุณลุงเปี๊ยก ปวดเอว แต่ตอนก่อนทำงานไม่เป็นไร แต่เมื่อทำไปสักพัก ก็เกิดอาการปวดเอว 

                          คุณแม่สอบถามว่า เคยผิดศีลข้อ3 ไหม คุณลุงก็นิ่งเงียบ อ้ำอึ้งไปนาน กว่าจะสารภาพว่า เคยผิดลูกเมียชาวบ้าน เคยมีกิ๊ก 1คนตอนเป็นหนุ่มๆ ก็ฟันผู้หญิงมาเยอะ เคยให้ภรรยาทำแท้ง 2 ครั้ง อาการปวดเอวก็ดีขึ้น ไม่หายสนิท เพราะว่า สารภาพไม่หมด

                          พี่เล็ก ปวดแขน ปวดสะบัก ปวดฝ่าเท้า มานั่งพูดก็ดีขึ้น 50%  เมื่อสารภาพว่าเคยเหยียบลูกแมวตาย ใช้เท้าเปิดพัดลม เคยเตะน้องชาย อาการดีขึ้น

                           กลุ่มพี่อ้อย กรรมผิวพรรณ ทำภาระกิจ ทำความสะอาดศาลาไม้ไผ่ รื้อพื้นวิหารไม้ไผ่ งานก่อสร้าง ทำความสะอาดลานจอดรถ แปลงเกษตร ความสะอาดกระท่อม

                           พี่วรรณวิภา มีอาการคันท้อง เป็นก้อนที่หัวเข่าข้างขวา สารภาพว่า ชอบเตะ อาการคันที่ท้อง เมื่อทำงานก็หาย

                            ป้าเตือน(จากเชียงราย) ผอม เป็นฝ้า เป็นกระที่มือ เมื่อทำงานเสร็จ กระที่มือก็หายไปเกือบ 70%

                            คุณครูมิ้ม เป็นสิว มีอาการใบหน้าอักเสบ ที่เป็นสิวก็ดีขึ้นถึง 80%   

                                                  คุณโฆสิต เป็นกระ สายตายาว พ่อแม่ป่วย มีหนี้สิน มีปัญหาครอบครัว ที่เป็นกระ ดีขึ้น 50% สายตายาวไม่มีการเปลี่ยนแปลง

                             คุณรัชยา เป็นสิวอักเสบ สามีโดนคุณไสย นอกใจภรรยา สิวอักเสบดีขึ้น 80%

                             พี่เจี๊ยบ เป็นฝ้า เป็นกระ คันตามผิวหนัง อ้วน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน (เคยทำบัญชีเท็จ) เข่าที่ดำด้านหนา สายตาสั้น ฝ้ากระดีขึ้น

                              ป้าพร มีกระที่มือ นอนกรน ตามัว เมื่อทำงานแล้ว กระดีขึ้น หูก็ดีขึ้น

                               คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ให้ทำงานในแต่ละฐานเพียงฐานละ 1 ชั่วโมง นั้น เป็นพระประสงค์ของพระศรีอาริย์ ที่พระองค์ท่านต้องการให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้ทำงานหลายๆอย่าง เพื่อจะได้ปลดล๊อคกรรมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าในเรื่อง ฐานะทางการเงิน เรื่องสุขภาพ เรื่องครอบครัวที่อบอุ่น ผิวพรรณดี

                                คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า พระพุทธองค์ พระองค์ก็ทรงเทศน์ไม่จบ เพื่อให้ไปคิดพิจารณาด้วยตนเอง เพื่อก่อให้เกิดปัญญา

                                                         พี่ อมร ทำงานก่อสร้าง พี่อมรได้ออกมาบอกกล่าวว่า งานการก่อสร้าง เป็นงานที่มีขั้นตอนในการทำงาน ซึ่งการจะเทปูนได้นั้น จะต้องเริ่มด้วยการไปขนทราย ขนหินมาก่อน

                                  แต่ลูกหลานบ้านสวนฯ บางท่าน เห็นว่า งานของตนเองที่รับมอบหมายมา คือ งานที่นำปูนไปเท ก็ได้แต่ยืนรอ ไม่ค่อยอยากไปช่วยขนหินขนทราย  

                                   ซึ่ง คุณแม่ได้แนะนำว่า เราต้องมีจิตอาสา ต้องทำงานอื่นๆไปก่อน อย่ารอแต่งานของตนเอง ทำอะไรได้ต้องทำไปก่อน

                                   กลุ่มอาจารย์พัน ทำงานด้านแปลงเกษตร

                                   คุณตุลย์ มีอาการปวดหลัง ปวดข้อมือ เจ็บคอ(เป็นคนเจ้าชู้ ชอบการเกี้ยวพาราสี) อาการปวดหลัง เจ็บคอ ดีขึ้น 90%

                                    น้องเหมี่ยว มีอาการปวดเมื่อยต้นคอ เจ็บคอ (กรรมที่เคยเถียงพ่อแม่ ชอบนินทา) ปวดหัวเข่า ระหว่างทำงาน แต่พอกลางคืน อาการต่างๆ ก็หาย

                                     คุณชิม หัวเข่ามีเสียงดัง  ปวดส้นเท้า ปวดมือทั้งสองข้าง สารภาพว่า เคยฟันสาวคาราโอเกะ 3 คน สาวสปา 1 คน  สาวไซด์ลายน์ 1 คน ตอนเรียนหนังสือ กับแฟน 1 คน วจีกรรม(ชอบเกี้ยวพาราสี) มโนกรรม นั้น เคยคิดอยากเตะอาจารย์อุบล พี่ธนา พี่อมร และ แม่ของตนเอง  คุณแม่อุบลบอกกล่าวว่า คุณชิม เป็นสาวกของพระเทวทัต ให้ลาออกจากการเป็นสาวกของพระ เทวทัต และ ให้ขอมาเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าเสียก่อน และ ขอบารมีของพระพุทธองค์ และ อุทิศบุญให้พระเทวทัต และ ให้ขอขมาต่อแม่ของคุณชิม และ ขอขมาต่อเพื่อนๆลูกบ้านสวนฯทุกคนที่ คุณชิมเคยคิดอยากเตะพวกเค้า และ ให้คุณแม่ของตนเองและเพื่อนๆลูกบ้านสวนรับการขอขมา และ ให้อภัย

                       คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า กรรมที่เกิดจากความคิด(มโนกรรม) นั้น เป็นกรรมที่พระศรีอาริย์ ท่านได้ทรงเล็งเห็นว่า อยากให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ปลดล๊อคในเรื่องความคิดให้ได้

                       คุณป้าชลอ (จากจังหวัดนครสวรรค์) ขายผัดไท มีอาการปวดข้อเท้า ขาบวมมาเกือบ 10 ปี เริ่มใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ช่วยในการค้าขาย ทำให้ขายผัดไท ได้มากกว่าเดิมและขายได้หมดไวกว่าเดิม เมื่อมาทำงานใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ อาการปวดข้อเท้าก็หาย ใบหน้าก็ขาวนวลกว่าเดิม

                      คุณมนัส มีอาการนิ้วซ้น (ชอบชูนิ้วด่าเพื่อนๆ) อาการดีขึ้น 90% คุณแม่แนะนำให้เขียนธรรมทานให้มาก

                       อาจารย์พัน ท่านได้สรุปให้ฟังว่า อยากให้ลูกหลานบ้านสวนฯ สามารถที่จะทำการขุด และ พรวนดินได้อย่างถูกต้อง สามารถนำความรู้ที่อาจารย์พัน ได้ถ่ายทอด ไปสอนคนอื่นๆ ได้ 

                        ช่วงรับบารมี 3 ร่มโพธิ์ศรี

                        คุณยาย มีอาการปวดขา ปวดเอว เมื่อได้ถือจี้เพียง 5 วินาที ก็หายปวดขาและปวดเอว

                        คุณน้องผู้หญิง มีอาการขาข้างซ้ายชา(เกิดจากขาเคยหัก เนื่องจากกรรมเคยตีขาสุนัขหัก) เมื่อถือจี้ เพียง 5 วินาที ก็หายชา

                        ป้าผู้หญิง มึนหัว ถือจี้เพียง 9 วินาที ก็หายมึนหัว

                        คุณยาย ปวดหัวเข่า ถือจี้เพียง 13 วินาทีก็หายปวด

                        คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า ปรากฎการณ์ที่ผ่านมาของบ้านสวนฯ

                        1. ใช้จี้รุ่นแรก มาสารภาพบาปของตนเอง อาการเจ็บป่วยก็หายได้

                        2. ต่อมาแค่ ใช้จี้รุ่นบวงสรวงพระศรีอาริย์ รวมกันหลายๆองค์ แค่ให้จับ ไม่ต้องสารภาพ อาการเจ็บป่วยก็หายได้

                        3. ต่อมาแค่ ใช้จี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ให้สวม ก็หายเจ็บป่วยได้

                        4. ต่อมาแค่  ใช้จี้  รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ไม่ต้องสวม แค่ให้จับก็หายได้

                         5. ต่อมาก็แค่ ให้มองเฉยๆ ไม่ต้องจับต้อง ก็หายเจ็บป่วยได้

                          ช่วงให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ยังมีความเจ็บป่วย ได้รับบารมีของพระศรีอาริย์ โดย คุณแม่อุบลได้สวมจี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์ และให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้เพ่งมองที่จี้ ลูกหลานจำนวนหนึ่งก็หายจากอาการเจ็บป่วย

                           ต่อมา คุณแม่อุบล ได้สวมจี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ถึง 8องค์ ลูกหลานบ้านสวนฯ ส่วนที่เหลือ ก็หายเจ็บป่วยกันทุกคน

                            ขอกราบต่อธรรมะ ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่หลวงพ่อท่านได้กล่าวถึง เรื่องการทรงอารมณ์ของบุคคลที่ได้สมาธิ ซึ่งหลวงพ่อบอกว่า คนเลว ไม่สามารถทำได้ เปรียบเหมือน ลิงได้เพชร ไก่ได้พลอย ย่อมไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่ตนเองได้รับ ย่อมอยากได้มะม่วง หรือ เมล็ดข้าวแทนมากกว่าที่อยากได้รับเพชรหรือพลอย

                             ต้องมีกำลังใจที่สูง อารมณ์ที่เด็ดเดี่ยว ต้องตั้งใจว่า ถ้าทำไม่ได้ จะตายก็ให้ตายไป ตายไปอย่างดี ก็ได้เป็นเทวดา เป็นพรหมณ์ หรือ ไปนิพพาน อย่าไปห่วงร่างกาย ต้องดับเชื้อ คือ ดับโลภะ โมหะ โหสะ

                             ขอขอบคุณ คุณประวีณา ในการเป็นธุระจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ จี้สฟิงซ์ ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ

                             ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ที่ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ในการจัดสร้างสิ่งก่อสร้าง และ แปลงเกษตร

                             สาธุ สาธุ สาธุ       


 

 

       




           





                      


                 

 






 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 19:31:18


ความคิดเห็นที่ 1363 (1641061)

วันนี้ได้ชมเทปที่ออกอากาศวันที่ 11 พ.ย.

ตอน มโกรรม นำพาให้ทุกข์

จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายทุกข์ได้

แล้วเช่นกันค่ะ

 

รู้สึกว่าเทปนี้จะเน้นย้ำเรื่อง

กรรมทางความคิด เป็นพิเศษ

อย่างน้องชิม จากนครสวรรค์

แม้จะมาสร้างบุญเต็มที่ ทั้งแรงกาย

แจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ

และเผยแพร่รหัส อ.อุบล ช่วยด้วยอยู่เป็นประจำ 

ก็ยังมีกำลังบุญไม่พอ

ที่จะปลดกรรมได้ทั้งหมด

ซึ่งเทปนี้ทำให้พวกเราได้รู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่า

 

กรรมทางความคิดนั้น

เป็นกรรมหนักที่ปลดล็อค

ได้ยากกว่ากรรมทางคำพูด

และการกระทำซะอีก

 

เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามันคือ บาป

เพราะคิดว่ายังไม่ได้พูดออกมา

หรือลงมือทำก็ไม่น่าจะบาป

ก็เลยทำให้รู้สึกไม่สำนึกผิดด้วยใจจริง

ฉะนั้น ทุกข์ทางกาย ทางใจ

จึงไม่ได้รับการปลดเปลื้องซักที

 

แต่ท่านอาจารย์ก็มีวิธีการ

ให้เราได้รู้และพิสูจน์

อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ อีกแล้วว่า

กรรมทางความคิด นั้นส่งผลยิ่งใหญ่ต่อชีวิต

 

 

โดยมีคุณพ่อ น้องปอ จากจ.พังงา

มาเป็นเจ้าของธรรมทานว่า

แม้คิดก็ผิดแล้ว เพราะเคยคิดลามก

และพูดเกี้ยวพาราสีหญิงอื่น

ที่มิใช่ ภรรยาตน มาหลายๆคน

จึงส่งผลให้มีอาการปวดหลังมา20ปี

แล้วเมื่อได้พูดสารภาพบาปออกมา

อาการก็หายทันที...สาธุ

 

ส่วนมโนกรรมของน้องชิมนั้นหนักมาก

เพราะ มีอาการจิตแว๊บ

คิดอยากเตะผู้บริสุทธิ์และบารมีสูงส่ง

อย่างท่านอ.อุบล

และพี่น้องบ้านสวนฯทุกๆคนที่ได้พบเจอ

รวมถึงคุณแม่ตนเองด้วย...

 

และบวกกับเจ้าชู้ผิดศีลข้อสามมา

จึงทำให้มีอาการหัวเข่ามีเสียงดังเวลาที่งอเข่า

แต่หลังจากสารภาพบาปเรื่องเจ้าชู้แล้ว

อาการดีขึ้นมาก

แต่กรรมหนักทางความคิด

แม้จะขอขมาท่านอ.อุบล

คุณแม่ และพี่น้องบ้านสวนฯทุกคนแล้ว

ก็ยังหลงเหลืออาการอยู่

เพราะบุญยังไม่มากพอ

ที่จะปลดล็อคกรรมนี้ได้ 

 

ส่วนกิจกรรมเวิร์คช็อป

ที่มีการเปลี่ยนฐานทุกหนึ่งชั่วโมง

ตามแบบที่เบื้องบนบัญชามา

ก็รู้สึกว่าฟีดแบคที่ทุกๆทีมออกมารายงาน

ก็ชื่นชอบวิธีการนี้กันทุกๆคน

ผลการบำบัดก็ได้ผลดีกว่า

แล้วก็ผลงานก็ออกมาดีกว่า

การทำงานแบบเดิมๆด้วย

แถมทุกคนยังจะได้ฝึกงาน

หลากหลายรูปแบบ

เพื่อจะได้มีความรู้ในทุกๆด้าน

เป็นกำไรของชีวิตอีกด้วย

เรียกได้ว่า มีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสีย

 

แต่กลุ่มคุณอ้อย ก็แอบเสนอข้อคิดเห็นว่า

น่าจะให้เวลาในแต่ละฐาน

เพิ่มขึ้นจากหนึ่งชม. เป็นชม.ครึ่งแทน

เพราะจะได้ทำงานบางส่วนให้มันเสร็จๆไป

 

ท่านอาจารย์อุบล ก็เลยเมตตาแนะนำว่า

นี่เป็นสิ่งที่พระศรีอาริย์คิด

และออกแบบมาให้อย่างลงตัวแล้ว

เพื่อเป็นการสร้างปัญญาให้กับทุกๆคน

(แต่พวกเราก็ยังแอบใส่ความคิดเห็นของตนอีกอยู่ดี)

 

เพราะทุกคนจะได้นำเอางาน

ส่วนที่เหลือหรือที่ทำค้างๆไว้ ไปคิดต่อ

เพื่อให้เกิดปัญญาด้วยตัวเอง

แล้วครั้งต่อไป ก็อาจจะวางแผนการทำงาน

ที่รัดกุมและลงตัวกับเวลามากกว่านี้...

งานก็จะเกิดการพัฒนาขึ้น

 

ได้ดูจากเทปนี้เพิ่งรู้ว่า

เว็บมาสเตอร์ของเราทั้งสอง

ก็ได้ไปร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปกับเค้าด้วย

 

แหม่..ไอ้เราก็อ่านธรรมทาน

เกี่ยวกับกิจกรรมเวิร์คช็อปแต่ละสัปดาห์มา

แต่ก็ไม่มีใครเขียนถึงเว็บมาสเตอร์เลย

หรือเว็บมาสเตอร์ก็ยังไม่ได้มาเขียน

รายงานผล การบำบัดเลย

 

ว่าแล้วก็รอติดตามผลเหมือนกันนะคะว่า

คุณมาร์คน้ำหนักลดลงบ้างหรือยัง

ส่วนคุณเพชร ก็น้ำหนักขึ้นแล้วหรือยัง..

ไงก็มารายงานให้แฟนคลับได้รับรู้ด้วยนะคะ

 

และเช่นกัน ถ้าเทปนี้ท่านอาจารย์

ไม่ัตัดต่อ นำการรายงานผลการทำเวิร์คช็อป

กลุ่มพี่มหา (คุณ สิทธิ์)มาให้ชม

 

ชนิดาก็ไม่รู้เลยนะคะ

ว่ามีกลุ่มพี่มหาร่วมกิจกรรมด้วย

เพราะอ่านธรรมทานที่ผ่านๆมาแล้ว

ไม่มีธรรมทานจากพี่มหา

หรือสมาชิกกลุ่มของพี่มหา

มาเขียนธรรมทานให้ได้อ่านเล๊ย

หรือว่า ชนิดาอาจจะอ่าน

ตกหล่นไปรึเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ...

..............................................

ส่วนช่วงท้ายๆที่มีการพิสูจน์

บารมีจี้สามร่มโพธิ์ศรี

ยิ่งดูยิ่งทึ่งค่ะ

เพราะทุกอาการหายได้อย่างอัศจรรย์

ด้วยการนับเป็นวินาที

หรืออย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งนาที

ก็ส่งผลให้หายทั้งหมด

หรืออย่างน้อยๆก็ดีขึ้น 70%ขี้นไป

 

ให้คิดหรือค้นหาทั่วสากลโลกนี้แล้ว

ชนิดาว่าหาไม่เจอหรอกค่ะว่า

จะมี วัตถุมงคล จากที่ไหนๆ

ที่ทรงอานุภาพเกินคำบรรยายได้เช่นนี้

 

เพราะพลังบุญบารมีที่บริสุทธิ์จากท่านอ.อุบล

ที่สามารถอัีญเชิญบารมี

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

องค์พระศรีอาริย์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

และบารมีอันยิ่งใหญ่

ของพ่อหลวงของเราด้วย

 

ซึ่งพวกเราก็ได้รับการการันตีคุณภาพ

ด้วยตัวเองกันแทบทุกคนแล้ว

ทั้งได้เห็นด้วยตา

หรือบางคนก็ได้สัมผัสด้วยตัวเอง

มาแล้วว่าหายจริงๆ...จ๊า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-18 07:20:20


ความคิดเห็นที่ 1364 (1641080)

ดูรายการคุยไปแจกไป ของวันที่ 11 พ.ย. แล้วทำให้เห็นความน่ากลัวของความคิด มากๆ

หมอเคยมีความรู้สึกว่า คุณชิมดูไม่ค่อยจะเป็นมิตร นึกไม่ถึงว่าที่แท้ในใจคืออยากเตะทุกๆคนไม่เว้นแม้กระทั้งอาจารย์อุบล และคุณแม่ของคุณชิมนั่นเอง

แสดงว่าแม้จะอยู่ในใจก็ยังสามารถเห็นได้ทางกริยา ทั้งที่จริงๆก็ไม่มีใครรู้เนาะถ้าเขาไม่พูด

สาธุ สาธุ ขอบคุณอาจารย์อุบลที่ได้แสดงให้เห็นเหตุ และผลของความเจ็บป่วย และความทุกข์ เป็นวิทยาศาสตร์

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-18 12:29:19


ความคิดเห็นที่ 1365 (1641973)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                        ขอกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                         ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                          ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                          วันนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2555

"ส่งคุณพ่อสำเภา วาระนุช สู่นิพพาน พระผู้สร้าง อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังรหัส อ.อุบล ช่วยด้วย"

                           ได้ดูคลิป ของบางกอกโพสต์ มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล และ นำเสนอปรากฎการณ์ ของ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี  และ รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการสร้างบ้านสวนฯ เพื่อ ช่วยเหลือให้ผู้คนที่มีการเจ็บป่วย ทางร่างกาย ทางจิตใจ และ ปัญหาต่างๆ โดย หลักของเรื่องกฎแห่งกรรม และ การรักษาศีล และ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ซึ่งต้องมีศรัทธาจริงๆ และ เมื่อใช้ได้ผลแล้ว ต้องบอกต่อให้คนอื่นๆได้ใช้ด้วย ถ้าไม่บอกต่อ ก็จะใช้ได้ผลเพียงสามครั้งเท่านั้น

                              "คิดถึงพ่อ ก็มาดูที่นี่นะลูก"

                    คุณแม่อุบล ท่านได้มีเมตตาต่อลูกหลานบ้านสวนฯ อย่างมากมาย ท่านได้นำเสนอภาพของคุณตาสำเภา(คุณพ่อของ คุณแม่อุบล) ตอนที่คุณตาแวะมาพักที่บ้านสวนฯ และ ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้แสดงมุทิตาจิตในการรดน้ำดำหัวต่อคุณตาสำเภา

                    คุณตา ท่านมีความสุขและสดใสร่าเริง หัวเราะ พูดคุยกับลูกหลานบ้านสวนฯ และ คุณตาท่านได้ให้พรแก่ลูกหลานว่า ให้มีความสุข ความเจริญ ด้วยการสวดมนต์บทคาถาชินบัญชร และ กำแพงแก้วเจ็ดชั้น ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ

                     โดย คุณตาได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่สายตาท่านยังดีและอ่านตัวหนังสือตัวเล็กๆ ได้ เนื่องจาก ท่านไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ และ ไม่เล่นการพนัน    

                     "พระผู้ให้ชีวิต ผู้ให้กำเนิด ผู้ให้ อ.อุบล มีวันนี้ คือ คุณพ่อสำเภา วาระนุช"

                      คุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า ที่คุณแม่มีทุกวันนี้ เพราะ คุณตาสำเภา คุณแม่จึงมาทำหน้าที่ ในการช่วยให้ลูกหลานบ้านสวนฯ มีความสุข ปลดเปลื้องความทุกข์ ทั้งทางกายและทางสุขภาพ ให้ได้หลุดพ้น

                       "วันที่พ่อสัญญาว่า จะมาอยู่กับพวกเราที่บ้านสวนพีระมิด แล้ววันนี้ พ่อก็รอเราอยู่ที่แดนนิพพานแล้ว พวกเราจะกลับบ้านไปหาพ่อ ให้ได้ในชาตินี้ ลูกสัญญา"

                         ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ คณะ ได้มาเป็นประธานในการสวดอภิธรรม คุณตาสำเภา วาระนุช

                         และ ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้ไปร่วมในงานสวดอภิธรรม ครับ

                          และ ได้ไปช่วยเผยแพร่เรื่องการรักษาศีล และ ทำให้มวลมนุษย์ ได้รับทราบผลของกรรมของตนเอง ที่เป็นเหตุให้เจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ  เห็นบรรยากาศ ที่ ลูกหลานบ้านสวน ไปช่วยกันทำงาน คนละมือละไม้ รู้สึกปลื้มในความรักความสามัคคี ของลูกบ้านสวนฯ ในการทำงานเพื่อคุณตา และ คุณแม่อุบล ครับ

                          ช่วงที่่ให้การช่วยเหลือต่อชาวบ้านที่เจ็บปวดและได้มาร่วมในงาน เพื่อนๆพี่ๆ ก็เป็นกำลังให้ซึ่งกันและกัน ในการช่วยให้การใช้จี้ ได้สัมฤทธิ์ผล และ กระตุ้นให้ชาวบ้านเค้านึกถึงกรรมของตนเองออก และ ได้สำนึกบาปของตนเองได้ ต่างคนต่างก็หัวเราะ เป็นภาพที่ดูอบอุ่น ครับ

                                         ที่บ้านสวนฯ(อานุภาพของจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี)

                        คุณเจี๊ยบ ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองมีอาการเจ็บที่นิ้ว และ มีอาการบวม ซึ่งเกิดจากการที่เส้นยึด ไม่ได้ใช้งานนานๆ คุณแม่ได้มีเมตตาให้ คล้องจี้ ถึง 9 องค์ แค่ 20 วินาที ก็หาย

                         คุณน้องวิน มีอาการนิ้วกลางซ้น กำนิ้วแล้วรู้สึกตึงๆ คล้องจี้ เพียง 3 องค์ แค่ 30 วินาที ก็หาย

                         คุณน้องบัว เป็นตะคริว คล้องจี้ 3 องค์ แค่ 30 วินาที ก็หายเป็นตะคริว และ น้องเค้าได้บอกกล่าวว่า ตนเองอยู่กลุ่มที่ทำกิจกรรมด้านปัญญาและการเงิน แต่ ปรากฎว่าสิวเสี้ยน ที่จมูกก็จางหายไปด้วย

                          คุณแม่ได้ มีเมตตาบอกกล่าวต่อน้องบัวว่า ที่น้องบัวเป็นตะคริว เพราะ น้องบัว ยังทำงานไม่เต็มที่ ซึ่งน้องก็ยอมรับว่า ตัวเองขี้เกียจ และ กลัวร้อน

                           คุณเปลว ปวดหัวไหล่ คล้อง จี้ 3 องค์ แค่ 9 วินาที ก็หาย และ กล่าวว่า ด่างขาวที่มุมปากทั้งสองข้างก็จางหายไปด้วย เมื่อได้มาทำงานกิจกรรมกลุ่ม

                             พี่ผู้ชาย ที่มีอาการฟันโยกคลอน คล้อง 3 องค์ อาการไม่ดีขึ้น พอคุณแม่เมตตาให้ถือ จี้ เพิ่มขึ้น อาการที่ฟันโยกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคุณแม่ได้บอกกล่าวว่า คนที่ผิดศีลข้อสี่ มักมีอาการเจ็บเหงือก เจ็บฟัน รูปปากไม่สวย

                              คุณธนิยา(ดีไซเนอร์ แห่ง Index เฟอร์นิเจอร์)  ซึ่งรู้จักบ้านสวนฯ มาเกือบสองปี ผ่านทางรายการ คุยไปแจกไป ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ได้ดูรายการแล้ว ทำให้สุขภาพ และ ฐานะทางการเงินดีขึ้น เพราะ มีงานที่ได้ทำพิเศษเพิ่มขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านั้น ไม่เคยมีงานพิเศษให้ทำเลย จิตใจก็เยือกเย็นขึ้น ก่อนหน้านั้น เป็นคน หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย

                               พี่ผู้จัดการเขต ของ Index ก็บอกกล่าวว่า ตนเองได้ไปร่วมในงานที่มหาวิทยาลัยมหิดล และได้รับความเมตตาจาก คุณแม่อุบล บำบัดรวม สอบถามถึงอาการเจ็บป่วยของตนเอง ที่มีอาการปวดคอจนถึงหัวไหล่ และ ทำให้ตนเองนึกถึงกรรมที่เคยขโมยเงินของพ่อแม่  และ โกหกพ่อแม่ขอเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียน แต่ปรากฎว่า นำไปใช้ในการซื้ออย่างอื่น และ ยอมรับว่าตนเอง เคยเป็นคนโมโหง่าย เห็นแก่ตัว ไม่เคยสนใจคนอื่น เป็๋นคนตระหนี่เหนียว มีความดัน และ เป็นไขมันในเส้นเลือด ซึ่ง คุณแม่ได้แนะนำว่า โรคเหล่านี้ เกิดจากความโกรธ ให้เลิกโกรธ แล้วจะหาย

                          คุณนัฐชามณี(คุณกระรอก) (ผู้จัดการสาขาIndex) ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเป็นโรคเส้นจม ทำให้เวลาหันหน้า จะได้ยินเสียงกระดูกลั่น และ ได้ไปร่วมงานที่ ม.มหิดล และ ทำให้ตนเองได้นึกกรรมของตนเองออก เรื่องที่เคยสะบัดหน้าเวลาโกรธคุณพ่อของตนเอง และ เคยขโมยเงินของพ่อแม่ ที่ท่านจะนำไปทอดผ้าป่า ทำให้เจ็บปวด ต้องไปนวด ด้วยวิธีการรีดเส้น และ ต้องเข้ารับการผ่าตัด เพื่อให้เส้นขึ้นมา

                          คุณกระรอก ได้เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะได้มาพบ คุณแม่อุบล นั้น ตนเองก้มตัวลงไม่เคยได้ เวลาคันหลัง ก็เอื้อมไปเกาไม่ได้ ต้องใช้ไม้บรรทัดเหล็กเกา หรือ หันหลังเข้าพนังห้องช่วยเกาหลัง

                                               เมื่อ ได้มาพบ คุณแม่ และ ได้ทราบกรรมของตนเองแล้ว เมื่อกลับบ้าน ก็ได้ไปสวดมนต์ และ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย รุ่งเช้ามา อาการกระดูกลั่น ก้มตัวไม่ได้ คันหลังแล้วเกาเองไม่ได้ ก็หายไปได้

                            และ ที่นัดกับคุณหมอ เพื่อรับการผ่าตัด ก็ไม่ต้องไปผ่าตัด

                            คุณกระรอก จึงได้มาเล่าถึงอานุภาพของรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ให้กับเพื่อนๆ ลูกน้อง ได้ทราบ และ ได้บอกให้ลูกน้องคนหนึ่งที่ชอบมาทำงานสาย และ กำลังมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขให้ลูกค้าในการนำเฟอร์นิเจอร์เข้าตำแหน่งที่ จะติดตั้งได้ และ เมื่อลูกน้องใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยไปแล้ว ก็ปรากฎว่า ลูกค้าก็ไม่ได้โทรศัพท์มาต่อว่า และ ณ ปัจจุบันนี้ ลูกน้องคนนี้ ก็ไม่มาทำงานสายอีกเลย

                             และ ปรากฎการณ์ที่ คุณป้า คุณยาย ที่มีปัญหาในการเจ็บปวดทางร่างกาย เมื่อได้มาถือ จี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี แล้ว ปรากฎว่า อาการเจ็บป่วยหายได้ ภายในไม่กี่วินาที

                             และ ปรากฎการณ์ ที่จี้แต่ละรุ่นได้มีอานุภาพในการช่วยในการทำให้ความเจ็บปวดหายได้ ตั้งแต่

                              รุ่นแรก ให้สารภาพบาปของตนเองแล้ว อาการเจ็บป่วยก็หายได้

                               รุ่นบวงสรวงพระศรีอาริย์ เมื่อมารวมกันหลายๆองค์ แค่ให้่จับ อาการเจ็บป่วยก็หายได้

                                รุ่น จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี หายป่วย หายพิการได้ แค่สวมไม่ต้องสารภาพ

                                 รุ่นต่อมา แค่ถือไว้ ไม่ต้องสวม ก็หายได้

                                 และ รุ่นต่อมา แค่มอง ไม่ต้องจับ ไม่ต้องสวม อาการเจ็บป่วยก็หายได้

                                 ขอขอบคุณ คุณพี่แมว(พี่ประวีณา) ที่แบ่งเบาในการจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท้าวเวชสุวรรณ จี้องค์สฟิงซ์ ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ ครับ

                                 ขออนุโมทนาบุญกับ ลูกหลานบ้านสวนฯทุกท่านที่ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ครับ

                                  ขอกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

                                  สาธุ สาธุ สาธุ    

    

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 15:37:01


ความคิดเห็นที่ 1366 (1642384)

รายการคุยไปแจกไป วันที่ 18 พ.ย. 2555

 

ในช่วงที่ท่านอาจารย์ให้ผู้ที่มีปัญหาเจ็บป่วยที่ยังไม่หาย

มองจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรีของท่านที่คล้องคออยู่

ธัญญาภรณ์ก็มองด้วยค่ะ

ตอนนั้นมีอาการคัดจมูกพอดี

ก็ภาวนาขอให้หาย

ปรากฏว่ารู้สึกโล่งคอและโล่งจมูกทันทีค่ะ

 

กราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล

ทุกๆพระองค์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล

บารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

กราบ กราบ กราบ

 

*********

 

ในคลิปช่วงที่เป็นงานสวดพระอภิธรรมของคุณตา

เห็นลูกหลานบ้านสวนฯ หลายท่าน

พร้อมใจกันช่วยแบ่งเบาภาระของท่านอาจารย์

ในการบริการแขกที่มาร่วมงาน

อีกทั้งยังช่วยบำบัดผู้คนที่มีปัญหาเจ็บปวดร่างกาย

และเห็นถึงความพร้อมใจช่วยกันเชียร์ให้กำลังใจผู้ป่วยอีก

รู้สึกได้ถึงพลังสามัคคีของลูกบ้านสวนฯ

ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นตัวอย่างที่ดี

ที่ทำเป็นแบบอย่างให้ชาวเกาะแดนไกล

ได้มีโอกาสโมทนาบุญ

และ

เพื่อจะนำมาปรับประยุกต์ใช้กับตนเองและคนรอบข้าง

เท่าที่โอกาสจะอำนวยต่อไปค่ะ

สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-24 22:13:37


ความคิดเห็นที่ 1367 (1642422)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านทุกธรรมทานค่ะ

ทำให้ชาวเกาะที่ไม่ได้ดูรายได้ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเหมือนได้ดูรายการเองเลยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-25 14:49:30


ความคิดเห็นที่ 1368 (1642919)

วันนี้ได้ดูรายการคุยไปแจกไป ตอนอานิสงค์บุญธรรมทาน อพยพสู่โลกอวกาศ สมาธสร้างอัจฉริยะ

ได้ชมการแสดงที่คุณธนาบอกว่ายังไงก็เหมือนคนแคระทั้ง 7

ได้ฟัง ดร.อาจอง ท่านพูดเรื่องดวงจันทร์ และดาวอังคารที่มนุษย์ได้ไปสำรวจ และพูดถึงแนวโน้มว่าต่อไปอีกประมาณ 35 ปีข้างหน้าทรัพยากรของโลกจะหมดไป ไม่มีให้ใช้อีกแล้ว มนุษย์ก็จะต้องไปอยู่ในบนยานอวกาศต้องไปสร้างทรัพยากรใหม่ทั้งหมด

และได้ฟังการสารภาพบาปอดิศักดิ์ ที่ได้บอกว่าประทับใจที่ได้เข้ามาบ้านสวนเพราะเห็นมีการสวัสดีกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่เกี่ยงวัยซะด้วยที่เดี๋ยวนี้แทบจะไม่ค่อยได้เห็นกันแล้ว และที่คุณอดิศักดิ์เข้ามาบ้านสวนเพราะตนเองนั้นทำกรรมไว้เยอะ

ส่วนคุณจุ๋มได้บอกเล่าถึงสาเหตุการเข้ามาบ้านสวนเพราะน้องสาวคือคุณจั๋มป่วยตัวร้อนไปหาหมอแล้วก็ไม่หาย คุณจุ๋มก็เลยมาหาท่านอาจารย์อุบลเอาเงินส่วนที่เป็นของคุณจั๋มมาร่วมทำบุญ สาเหตุที่ไม่เอาเงินของตนเองเพราะคิดว่าคุณจั๋มต้องสร้างบุญด้วยตัวเอง

ส่วนคุณหมอวัฒนาเมื่อมาสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิดบ่อย ๆ ก็หายจากอาการปวดบ่าทั้งสองข้างซึ่งเกิดจากกรรมทำแท้ง และสำไส้ไหลออกจากทวารหนัก

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-28 19:22:52


ความคิดเห็นที่ 1369 (1643005)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                        ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวชสุวรรณ หลวงพ่อเสงี่ยม พระอาจารย์รัตน์ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์ิสิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                        ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                         วันนี้ ได้ดูคลิป ของ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2555

         "อานิสงค์ บุญธรรมทาน, อพยพสู่โลกอวกาศ, สมาธิสร้างอัจฉริยะ"

                  ขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล คุณท๊อป และ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้ไปร่วมทอดมหากฐิน เมื่อ วันที่ 17 พฤศจิกายน 55 ณ วัดใหม่สันติธรรม จังหวัด ลพบุรี

                   ขอ ร่วมอนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้ไปช่วยคุณแม่อุบล ในการไปบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ ให้กับ ชาวบ้านที่เค้ามาร่วมทำบุญในงานทอดกฐิน โดย การให้มองที่ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี ครับ

           ขอขอบคุณ คุณแม่อุบล ที่ได้ให้ชมคลิปที่ ด๊อกเตอร์อาจอง ท่าน ได้ให้ความรู้ แก่ ลูกหลานบ้านสวนฯ ในเรื่องแผนการอพยพ มนุษย์ไปอาศัยอยู่ในอวกาศ ในอนาคต

            เนื่องจาก ทรัพยากรในโลกของเรา เริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษยชาติ น้ำมัน ก็ประมาณการว่า จะสามารถใช้ได้อีกเพียง 35ปีถ่านหินที่ใช้ในอุตสาหกรรม นั้น มีแยะ แต่ว่าก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน แก๊สธรรมชาติ ก็เหลือให้ใช้อีกเพียง 20ปี                          

                     ดังนั้น จึงมีการค้นคว้าและหาแนวทางที่จะไปอยู่ที่ดวงดาวดวงอื่น  สร้าง เมืองซึ่งสามารถอาศัยได้ ประมาณ 100,000 คน บนยานอวกาศ ซึ่งสามารถปลูกต้นไม้ เพื่อทำให้มีก๊าซอ๊อกซิเจน ที่เพียงพอให้มนุษย์สามารถอยู่อาศัยได้

            ดวงดาวที่เรากำลังสำรวจ ก็คือ ดวงจันทร์ และ ดาวอังคาร แต่ ดวงจันทร์ของโลกเรานั้น มีอุณหภูมิติดลบ ไม่สามารถเก็บความร้อนได้ แต่ ตรวจสอบพบว่า มีน้ำ ซึ่งเป็นน้ำแข็งอยู่ที่ ขั้วโลกเหนือ และ ขั้วโลกใต้ ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยเราสามารถนำ น้ำมาแยกโดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อแยกก๊าซอ๊อกซิเจน และ ก๊าซไฮโดรเจน เพื่อไปใช้ในการเป็นพลังงานใช้ในจรวดเพื่อการเดินทาง และ สามารถใช้แร่ธาตุที่ดวงจันทร์ มาพัฒนาทางอุตสาหกรรมได้

              สำหรับ ดาวอังคาร นั้น เราสามารถอาศัยได้ เพราะ มีสภาพอากาศคล้ายโลกของเรา แต่ ดาวอังคาร มีก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์มากกว่าก๊าซอ๊อกซิเจน ถ้าเราทำเรือนกระจก และ ปลูกต้นไม้ ซึ่ง อาศัยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ในการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว  และ ผลิตก๊าซอ๊อกซิเจนออกมา  

              แต่ มนุษย์ที่จะไปอาศัยที่ดาวดวงอื่นๆ นั้น ต้องมีสุขภาพและร่างกายแข็งแรง

              บนดาวอังคารนั้น มีน้ำเยอะมาก ก้อนหินก็ประกอบด้วยแร่ธาตุคล้ายบนโลก เพียงแต่มีก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์มากเท่านั้น แต่ ถ้าเราสร้างอาคารเรือนกระจกและปลูกต้นไม้ ซึ่งสามารถผลิตก๊าซอ๊อกซิเจนได้ ในปี 2020 เราจะส่งนักบินอวกาศไปอาศัยอยู่ที่ดาวอังคาร

              ซึ่งในปัจจุบันนี้ ประเทศต่างๆ ก็ศึกษาค้นคว้าในเรื่องการจะย้ายเมืองไปอยู่ที่อวกาศ เช่น ประเทศอเมริกา รัสเซีย จีน อินเดีย และ ประเทศทางยุโรป

               ที่บ้านสวนพีระมิด ได้จัดให้มีการเข้าค่าย 13 เมื่อวันที่ 6-7 ตุลาคม ซึ่งมีการแสดงของลูกหลานบ้านสวนฯ

               ซึ่ง ลูกหลานบ้านสวนฯ ต่างก็มาเพื่อสร้างบุญ และ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองให้ดีขึ้น ที่เจ็บป่วยก็หาย หรือ ดีขึ้น คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวว่า ท่านสร้างบ้านสวนฯ เพื่อพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ เพื่อถวายบุญกุศลเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และ เพื่อทุกคนบนโลกใบนี้ ส่งผ่านลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้เห็นสิ่งต่างๆที่บ้านสวนฯได้ทำ ไปบอกกล่าวและเผยแพร่ต่อมวลมนุษยชาติ

               คุณด๊อกเตอร์จุ๋ม ได้ออกมาบอกกล่าวว่า คุณจั๋ม เมื่อกลับมาจากประเทศอเมริกา นั้น เกิดอาการไข้ขึ้นสูง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล คุณหมอหาสาเหตุ แห่งการที่เจ็บป่วยไม่ได้

               แต่ ด๊อกเตอร์จิ๋มและด๊อกเตอร์จุ๋ม มีความศรัทธาในบ้านสวนฯ จึงได้นำเงินของคุณจั๋ม จำนวน 100 ดอลลาร์ มาทำบุญที่บ้านสวนฯ เพื่อเป็นการทำบุญของคุณจั๋ม และ คุณแม่อุบล ได้มีเมตตาให้ยืมบุญของคุณแม่ ช่วยอุทิศให้เจ้ากรรมของคุณจั๋ม ทำให้คุณจั๋ม หายได้อย่างอัศจรรย์ และ ด๊อกเตอร์จุ๋มได้เข้ามาเขียนธรรมทานบอกเล่า  

                          พญ.วัฒนา ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองก็เคยหายจากการเจ็บป่วยได้โดยไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกัน ก่อนหน้ามาบ้านสวนฯ ก็หายเจ็บปวดจากโรคปวดเข่า และ เมื่อมาบ้านสวนฯ ก็หายจากอาการ เวลาถ่ายแล้วต้องเบ่งทำให้ไส้ไหลออกมา โดยที่หายได้จากการที่ คุณแม่อุบล ได้บอกให้ทราบถึงเหตุแห่งกรรมที่ทำให้ต้องไส้ไหลเวลาเบ่งถ่าย คือ คุณหมอไม่เคยมีเมตตาเวลาตรวจล้วงก้นของคนไข้ หรือ ไม่บอกให้คุณพยาบาลทำการตรวจล้วงก้นคนไข้ด้วยความเมตตา ไม่เคยขออนุญาตและสอบถามว่า คนไข้เจ็บปวดไหม เวลาโดนล้วงก้น เคยปวดไหล่ เพราะ กรรมที่เคยทำแท้งให้ผู้ป่วย และ คันหูมาเกือบ 2-3ปี เพราะ ชอบฟังเรื่องเล่านินทาที่เกี่ยวกับราชวงศ์

             คุณเบส ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองโดนผีอำ พอใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ผีก็กระเด็นออกไปเลย

              คุณแหม่ม ออกมาบอกกล่าวว่า เคยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยในการช่วยหาจี้ ที่ตนเองหาไม่เจอ เมื่อใช้รหัสก็สามารถหาจี้ได้

              และ เคยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ในการขอเข้าไปพักในห้องพักของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อคราน้ำท่วมกรุงเทพฯ เพราะ ตนเองเป็นหน่วยงานต่างหน่วยกับที่เค้าจะอนุญาตให้ใช้ห้องพักได้ ก็ปรากฎว่า เมื่อใช้รหัส ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าใช้ห้องพักได้ ส่วนเพื่อนๆจากหน่วยเดียวกัน ไม่ได้รับอนุญาต

             คุณสมจิตร ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ทำให้กิจการเจียร์จานเบรค ทำรายได้วันละเกือบ 3,500 บาท

             คุณพี่เหมี่ยว ใช้ จี้ ในการช่วยรักษาคนพิการ ได้มาแล้ว 4 คน

             คุณเจี๊ยบ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ทำให้นิ้วที่โดนคานทับ ตอนที่ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ที่เลือดไหลกระฉูด ได้รับความเมตตาจากคุณแม่อุบล ขอบารมีพระศรีอาริย์ ทำให้เลือดไม่ไหล และไม่เจ็บปวดเวลาที่นำน้ำพีระมิดมาล้างแผล แต่เมื่อไปถอดเล็บ และใช้ยาชาฉีด ปรากฎว่า ปวดและต้องทานยาแก้ปวด เมื่อตัดสินใจไม่ทานยาแก้ปวด ก็ไม่ปวดอีกเลย

             อาจารย์พัน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความตั้งใจในการนำความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์และการใช้ปุ๋ย ที่บ้านสวนฯ ได้ออกมาบอกกล่าวว่า เมื่อก่อนก็ใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ เมื่อ มาทำการเกษตรที่บ้านสวนฯ ก็เริ่มคิดว่า เมื่อเกิดภัยพิบัติ จะไปหาวัตถุดิบมูลสัตว์มาจากไหน ก็เลยคิดว่า ควรใช้ใบไม้ มาทำเป็นปุ๋ยดีกว่า

             คุณตาโต๊ะ ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองทำงานเกี่ยวกับบำรุงรักษาที่โรงงานน้ำตาลกลุ่มวังขนาย ก็ได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ในการทำงานด้วย และ ก็ประสบผลสำเร็จมาตลอด

             ขอขอบคุณ คลิปที่ได้กล่าวถึงการทำแก๊สจากการหมักเศษอาหาร และ ขยะเปียกที่เกิดขึ้นที่บ้านสวนฯ โดยการย่อยสลายในถังซึ่ง เป็นถังหมักและถังเก็บแก๊สในถังเดียวกัน และ มีระบบกำจัดกลิ่น โดย ด๊อกเตอร์ เฉลิมชัย เรืองชัยนิคม จาก บริษัท ปตท. และ ยังสามารถนำน้ำหมักที่ได้เกิดขึ้นในถังนี้เป็นปุ๋ยได้ด้วย

                          และ คลิปที่คุณแม่อุบลได้มีเมตตา สอบถามถึงการทำสมาธิของด๊อกเตอร์อาจอง แล้วทำให้ ท่านด๊อกเตอร์เรียนหนังสือเก่งและสามารถจบปริญญาตรีและปริญญาโท ในเวลาเพียง 2 ปี

             ซึ่ง ท่านด๊อกเตอร์ ท่านได้บอกว่า ตอนเด็กๆ ตอนไปเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ท่านเป็นเด็กเกเรมากๆ ชอบการชกต่อย ทะเลาะกับเพื่อนๆ เมื่ออายุได้ 15 ปี ท่านได้ตกใจตื่นขึ้นมาในคืนหนึ่ง และ เห็นแสงสว่างที่อีกด้านหนึ่ง และ มีเสียงเรียกชื่อของท่าน 3 ครั้ง และ พูดว่า

                 "Why are you doing this?(ทำไม คุณทำเช่นนี้)

                        คืน ที่สาม ก็นอนไม่หลับ ก็เกิดมีความคิดขึ้นมาว่า เราชอบชกต่อย เกเร ไม่ชอบเรียนหนังสือ จึงคิดหาทางออก และ การแก้ไข เปลี่ยนแปลงตนเอง เช้าขึ้นมา จึงไปปรึกษาท่านบาทหลวง ท่านได้รับความแนะนำให้ไปสวดมนต์ในโบสถ์ จึงไปศึกษาพระคัมภีร์

             แต่ไม่นาน ก็ทะเลาะกับบาทหลวง ด้วยเรื่องที่บาทหลวงให้ไปสวดมนต์ในโบสถ์ด้วยเสียงดังๆ แต่ท่านด๊อกเตอร์ แย้งว่า สามารถไปสวดที่ห้องนอนของแต่ละคนได้ บาทหลวงท่านโกรธด๊อกเตอร์มากๆ ไล่ออกจากโบสถ์ ท่านก็เลยไปปรึกษาอาจารย์ใหญ่ ได้รับคำแนะนำให้ไปค้นคว้าหาความรู้ที่ห้องสมุด และ ท่านด๊อกเตอร์ได้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการฝึกสมาธิ และ นำมาฝึกสมาธิด้วยตนเอง โดย การเพ่งที่ลมหายใจเข้าออก ฝึกหนึ่งเดือน วันละครึ่งชั่วโมง ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ทำให้เลิกโกรธ เลิกเกเร ฝึกไปอีกหนึ่งปี ก็เรียนหนังสือได้ที่หนึ่ง สามารถ สอบเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และ ก็ทำสมาธิ วันละหนึ่งชั่วโมง สามารถเรียนจบปริญญาตรีได้ภายใน 2 ปี และ ทางมหาวิทยาลัยมอบปริญญาโทให้อีกหนึ่งปริญญาด้วย

               ต่อมา ท่านด๊อกเตอร์อาจอง มาเข้าเรียนปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย อิมพิเรียล คอเลค ด้านเทคโนโลยี แต่ สองปีที่ผ่านไปนั้น ท่านไปเป็นนายกพุทธสมาคม นายกสมาคมค้นคว้ามนุษย์ต่างดาว จานบิน นายกค้นคว้าเรื่องวิญญาณและสิ่งเร้นลับ เอาเครื่องมือไปจับผี นายกสมาคมนักเรียนไทย และ วันหนึ่ง ท่านก็นึกขึ้นมาได้เองว่า ตนเองควรจะเรียนจบได้แล้ว และ ควรกลับมารับใช้ประเทศชาติ แต่ตนเองยังไม่มีหัวข้อทำวิทยานิพนธ์ และ การทำงานวิจัย จึงนั่งสมาธิ และ เกิดแว๊บขึ้นมาว่า ควรทำหัวข้อวิจัยอะไร และ ทำวิจัยเรื่องอะไร

                จึงได้ทำ"เครื่องมือขยายคลื่นไมโครเวพ" สร้างขึ้นมาตามแบบที่ตนเองเข้าใจและใช้ได้ผลด้วย แต่ อาจารย์ของด๊อกเตอร์โกรธมาก ที่ท่านด๊อกเตอร์ ยังไม่ได้ส่งหัวข้อวิจัย และ ยังไม่ได้รับการอนุมัติในหัวข้อที่จะให้ทำวิจัย แต่ เมื่อได้อ่านงานวิจัย และ เห็นผลงานวิจัย ท่านก็ประหลาดใจมากๆ และ อนุมัติหัวข้อวิจัยย้อนหลังให้ และ ได้จัดคณะกรรมการภายนอกเข้ามาสอบวิทยานิพนธ์ แต่ตอนสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ คณะกรรมการไม่ได้สอบถามอะไรเลย และ ท่านด๊อกเตอร์ได้รับปริญญาเอก และ ท่านด๊อกเตอร์ได้กลับมาเมืองไทย มาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์

                   ต่อมา ท่านด๊อกเตอร์ได้สมัครไปทำงานที่องค์การนาซ่า ตอนแรก องค์การนาซ่า ก็ไม่อยากรับท่าน เพราะ เป็นคนต่างชาติ เพราะ กลัวความลับทางเทคโนโลยีรั่วไหลไปยังชาติที่ไม่เป็นมิตร แต่เมื่อ ท่านด๊อกเตอร์เข้าไปทำงานในองค์การ ท่านก็ได้รับความไว้วางใจให้เข้าถึงความลับระดับสุดยอดได้

                    ที่บ้านสวนพีระมิด

                     คุณยาย คุณป้า ที่ได้รับทุกข์ทรมานจากการเจ็บปวดทางร่างกาย เมื่อ คุณแม่อุบลให้ถือจี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ก็หายจากการเจ็บปวด

                     ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ยังมีการเจ็บปวดทางร่างกาย เมื่อได้แค่จ้อง จี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ก็หายจากการเจ็บป่วยได้   

                                    ขอ ขอบคุณพี่แมว(คุณประวีณา) ในการแบ่งเบาภาระในการจัดส่ง องค์พีระมิดจำลอง รุ่นท้าวเวชสุวรรณ จี้สฟิงซ์ทั้งรุ่นเก่า และ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ ครับ

                      ขออนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ เพื่อการก่อสร้างและงานเกษตร

                      ขอน้อมกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

                      สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-29 15:47:28


ความคิดเห็นที่ 1370 (1643440)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                        ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณท่านดตาจินิน องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                                          ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                        ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                        วันนี้ ได้ดูคลิปของวันที่ 2 ธันวาคม 2555

"มหากฐิน บ้านสวนฯ ณ วัดคลองไทร พัฒนาการปาฏิหาริย์ บ้านสวนพีระมิด"

                         ขออนุโมทนาบุญกับ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล คุณท๊อป และ ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ในการได้ไปร่วมทอดกฐินที่ วัดคลองไทร  อ.วิหารแดง จ.สระบุรี

                          และ ขออนุโมทนาบุญ ที่ คุณแม่อุบล และ ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้ช่วยกันทำการบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ ให้กับผู้มาร่วมทำบุญกฐินที่วัดคลองไทร  ซึ่ง เมื่ออาการเจ็บอาการป่วย เค้าหายหรือดีขึ้่น ก็ได้ทำการกราบขอบคุณต่อเทวดาผู้รักษาตัวของคุณแม่ และ ขอบคุณคุณแม่อุบล

                           ขอขอบคุณ รายการ"รู้ค่าพลังงาน" ของ ทีวีช่อง 3 ที่นำเสนอ การใช้ก๊าซชีวภาพ จากขยะเปียกและเศษอาหาร (Bio Gas) ของบ้านสวนฯ ที่มีถังหมักและถังเก็บก๊าซในถังเดียวกัน และ ยังมีระบบกำจัดกลิ่นก๊าซไข่เน่า ทำให้ปราศกลิ่น เวลาใช้ก๊าซขณะประกอบอาหาร และ ยังได้ปุ๋ยหมัก นำไปรดต้นไม้ ซึ่งได้จากการหมักด้วย ซึ่ง ดร. เฉลิมชัย เรืองชัยนิคม และ ด๊อกเตอร์จุ๋ม และ ด๊อกเตอร์จิ๋ม เป็นผู้มีอุปการะคุณต่อบ้านสวนพีระมิด ในการทำให้ขยะมีคุณค่าขึ้นมาอย่างมากมาย และ ไม่ก่อให้เกิดมวลภาวะเป็นพิษ

                           ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์(ภาคภาษาอังกฤษ) ที่ เผยแพร่ วัตถุประสงค์ของบ้านสวนพีระมิด ซึ่งมีเป้าหมายในการทำให้ทุกคนพ้นทุกข์ทั้งปวง ด้วยวิธีการพิสูจน์กฎแห่งกรรม   

                           ขออนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ร่วมมาใช้แรงกาย ปัจจัยสิ่งของ ทำให้สิ่งก่อสร้าง และ สวนเกษตร บ้านสวนฯ รุดหน้าอย่างรวดเร็ว และ มีผู้มาขอดูงานอย่างมากมาย ทั้งในเรื่องของการพิสูจน์เรื่องกฎแห่งกรรม และ พัฒนาการในการทำการเกษตร เช่น คณะผู้ใหญ่บ้าน รัชพล แห่ง ตำบลหนองแขม อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 55

                            ซี่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวให้ลูกหลานบ้านสวนฯ และ คณะของผู้ใหญ่บ้าน ได้รับทราบว่า ภัยพิบัติใหญ่ ใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่ง แฟนของพี่แมว(คุณประวีณา) ซึ่ง นับถือศาสนาคริสต์  แต่ได้ใช้รหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ทำให้มีงานเข้ามาให้ทำอย่างมากมาย และ ได้ขอให้พี่แมว มากราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล แทนแฟนพี่เค้า

                              และ คุณพ่อบาทหลวง ได้บอกกล่าวให้สานุศิษย์ ให้ร่วมสวดมนต์หมู่ เพื่อรวมจิตในการรวมเป็นพลังในการให้พ้นภัยจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในเร็ว วันนี้ และ ขอให้สวดกันในครอบครัว อย่างน้อยร่วมกันสวดอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป เพื่อให้ครอบครัว บ้านเรือน ทรัพย์สินปลอดภัยจากภัยพิบัติ เพราะ สวดคนเดียว พลังจะไม่ค่อยมีพลังเท่ากับการสวดเป็นหมู่คณะ

                              และ คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า คนที่ไม่สวดมนต์ ชอบการด่า ชอบการทำบาป ทำผิดศีล ผลการวิจัย ผลึกของน้ำจะไม่สวย แต่ คนที่มีความคิดที่ดี ทำที่ดี และ พูดดี ผลึกน้ำจะเรียงตัวกันสวย

                              คุณพ่อน้องปอ ซึ่งมีอาการปวดหลัง ซึ่งก็เคยตีงู ตีสุนัข ตีแมว และ สารภาพว่าเคยเจ้าชู้ มีกิ๊ก แต่เป็นแค่เรื่องความคิดเฉยๆ และ มีใจเฉยๆ ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางร่างกาย เมื่อสารภาพว่ามีแค่มโนกรรมเท่านั้น อาการปวดหลังก็หายไป

                              ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า มโนกรรม เป็นกรรมทางความคิด แต่เป็นกรรมที่ เกิดขึ้นบ่อยๆ โดยไม่มีการลงมือกระทำ ดังนั้น คุณแม่ได้บอกกล่าว่า คนที่ทำบุญมาโดยตลอดและสม่ำเสมอ แต่ยังมีความทุกข์ ก็ให้พิจารณาว่า ความคิดของตนเอง นั้นเคยคิดแว๊บในเรื่องไม่ดีหรือไม่   

                                                   ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านสวนพีระมิด"พิสูจน์กฎแห่งกรรม" นั้น คุณแม่ได้บอกกว่า มีการพัฒนาการขึ้นมาตามลำดับ ซึ่งก่อนหน้านั้น เริ่มด้วย

                             การไต่สวนกรรม และ ให้สารภาพบาปที่ตนเองเคยกระทำ ด้วย ความสำนึกผิด เสียใจต่อการกระทำนั้น และ จะไม่กลับไปทำกรรมอย่างนั้นอีก ถ้า เจ้ากรรมของตนเอง เค้ายอมให้อโหสิ การเจ็บป่วยนั้นก็จะหาย หรือ ดีขึ้น

                             ต่อมา คุณแม่ ก็ใช้แค่การใช้มือแตะ ตรงที่เจ็บปวด ก็หายปวดได้

                             ต่อมา ก็แค่ใช้มือแตะที่บ่า แม้นจะมีอาการปวดที่บริเวณอื่นๆ ก็หายปวดได้

                              ต่อมา คุณแม่ แค่ยกมือขึ้นมาแผ่พลังบารมี ให้กับคนที่มีอาการเจ็บปวด ก็หายได้

                              ต่อมา แค่ให้ผู้ชมที่อยู่ทางบ้าน ที่่ได้ชมทีวี รายการ "คุยไปแจกไป" อนุโมทนาบุญ หน้าจอทีวี กับ คนที่เค้ามาบอกเรื่องราวของตนเองเป็นธรรมทาน ก็หายเจ็บหายป่วยได้

                              ซึ่ง คุณจอย เป็นไตวายระยะสุดท้าย ต้องฟอกเลือดทุกอาทิตย์ เมื่อ อนุโมทนาหน้าจอ อาการที่เหนื่อยง่าย ก็ดีขึ้น จนได้มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ได้ และ ได้พบปรากฎการณ์ที่ ผิวดำ หน้าคล้ำ ไม่มีแรงในการทำงาน เมื่อมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ อาการต่างๆ ก็ดีขึ้นเป็นลำดับได้

                              คุณลลิวาพร ซึ่งมีอาการหายใจไม่ทั่วท้อง เนื่องจากเป็นพังพืดในปอด เส้นเลือดในปอดตีบ นิ้วมือเริ่มจะหดสั้นลง ข้อต่างๆเริ่มจะยึดติด เป็นมาเกือบ 3 ปี เนื่องจากเป็นโรคเอสแอลอี ก็มีอาการดีขึ้น ก็ออกมาบอกเล่า และ ได้มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ แค่ 2-3 ชั่วโมง อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ

                             ต่อมา แค่ใช้รหัสจักรวาล "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" สำหรับ คนที่บ้านไม่มีจานดาวเทียม ไม่มีซีดีดู  และ ไม่มีอินเตอร์เนทที่บ้าน ก็สามารถใช้รหัส ทำให้หายเจ็บหายปวดได้ แต่มีข้อแม้นว่า ขอให้มีความศรัทธาต่อคุณแม่อุบล ไม่มีความระแวงสงสัยในตัวท่าน และ เมื่อใช้รหัสได้ผล ขอให้บอกต่อผู้อื่น ถ้าไม่บอกต่อ ก็ใช้รหัสได้ผลแค่เพียง 3 ครั้งเท่านั้น หลังจากนั้นก็ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป และ ต้องกราบขอบพระคุณต่อเทวดาผู้รักษาตัวคุณแม่อุบล และ ต่อคุณแม่อุบล         

                              ซึ่ง คุณป้าซึ่งเป็นชาวนา อยู่จังหวัดนครราชสีมา ใช้รหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย"  ทำให้ นาข้าวของคุณป้า ไม่มีหนูมารบกวนเลย

                              ต่อมาก็เป็นการให้ลูกหลานบ้านสวนฯ สามารถใช้จี้สฟิงซ์ มาห้อยคอตนเอง และ สารภาพบาปในใจของตนเองได้ และ สามารถนำจี้ของตนเองไปช่วยบำบัดให้คนอื่นๆ ได้ แต่ คนที่จะมาสารภาพบาปนั้น ต้องพูดออกมาดังๆให้ได้ยิน

                              ต่อมาก็ เป็นจี้ รุ่น อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่า เป็นบารมีของพระศรีอาริย์ ก็ให้แค่เดินผ่านคุณแม่อุบล ก็ได้รับพระเมตตาของพระศรีอาริย์ ทำให้ผู้คนหายเจ็บหายป่วยได้

                                ซึ่งน้องแสตมป์ ที่มีอาการริมฝีปากดำ ห้อย ก็มีรูปปากสวย เมื่อเดินผ่านคุณแม่ที่ได้อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่อุบล

                                คุณริน(ลูกสาวของ อ.พัน) ซึ่งเดินขาเหมือนเป็ดมาแต่กำเนิด เกือบ 35 ปี เมื่อได้รับพระบารมีของพระศรีอาริย์ ก็เดินได้เหมือนคนปกติได้

                               ต่อมาก็เป็น จี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่ให้ถือไว้เฉยๆ ก็หายเจ็บหายป่วย

                               คุณ ด๊อกเตอร์จิ๋ม ซึ่งเป็นโปลิโอ มาแต่กำเนิด เมื่อถือองค์จี้สฟิงซ์ อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนเดินได้เกือบปกติ

                                ต่อมา จี้สฟิงซ์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ไม่ต้องถือ แค่มองเฉยๆ ก็ทำให้อาการเจ็บป่วยหายได้

                                แต่ คุณแม่ได้แนะนำว่า สำหรับคนที่สวมจี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี หลายๆองค์ นั้น ขอให้ห้อย จี้รุ่นอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ร่วมด้วย เพื่อช่วยรับกันกระแทกพลังงานที่มาจากทั่วจักรวาล

                                 ซึ่ง คุณพี่เหมี่ยว ได้ออกมาบอกเล่าให้ฟังว่า มีพี่ผู้ชายคนหนึ่ง เค้าชอบดูพระ และ ทดสอบพุทธคุณของพระ เมื่อมีคนแตะ อุปกรณ์ช่วยบำบัดของบ้านสวนฯ(เป็นรูปของคุณแม่อุบล) ปรากฎว่า คนแตะนั้นเกือบหงายหลัง ด้วยแรงพลังพุทธคุณของอุปกรณ์ของบ้านสวนฯ ซึ่งในตอนแรก คนที่แตะอุปกรณ์บ้านสวนฯ ก็สบประมาทว่า เป็นแค่รูปของผู้หญิง และ เป็นผู้หญิงเปรี้ยวด้วย

                                 และ ต่อมา พี่ชายคนนี้ ก็ได้นำอุปกรณ์ของบ้านสวน ไปช่วยบำบัดคนในครอบครัว และ ชาวบ้านทั่วๆไป

                                จี้สฟิงซ์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี นั้น ได้อาราธนา พระบารมีของ องค์พระปฐม พระศรีอาริย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สิ่งศ้กดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล

                                คุณธนา ที่สวมจี้รุ่นนี้ ถึง 8 องค์ ได้ทำการบำบัดให้คุณลลิวาพร ซึ่งมีอาการเจ็บปวดหน้าอก แค่ 14 วินาทีเท่านั้น ก็หายเจ็บปวดหน้าอกได้ ซึ่ง พี่เค้าได้สารภาพว่า เคยฆ่าปลาดุก โดยการเอาปลาดุกใส่กะลามัง โรยเกลือลงบนตัวปลา แล้วปิดกะลามัง ทำให้ปลาดุกตาย เคยทำแท้งลูกไปหนึ่งคน แค่หมั่นไส้เขียดที่ลอยน้ำมา ก็จับมาฉีกแข้งฉีกขาเค้าแล้วโยนทิ้งน้ำไป และ คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวว่า คนที่มีผิวหนังที่แข็ง เกิดจากการที่เคยเอาสัตว์เข้าไปเผาไฟ ลวกเค้าด้วยน้ำร้อน

                                 ซึ่ง คุณลลิวาพร ก็สารภาพว่า เคยลวกไก่ เอาปูเข้าไปเผาในกองไฟ เพื่อเป็นอาหาร ซึ่งเจ้ากรรมนายเวร เหล่านี้ เค้าต้องการบุญที่เป็นพระกรรมฐาน และ บุญที่เกิดจากธรรมทาน

                                  ขอขอบคุณ พี่แมว(พี่ประวีณา) ที่แบ่งเบาภาระในการจัดส่ง องค์พีระมิดจำลอง รุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์รุ่นต่างๆ ใหักับลูกหลานบ้านสวนฯ

                                   ขออนุโมทนาบุญ กับลูกหลานบ้านสวนฯ ทุกท่านที่มาใช้แรงกาย ในการก่อสร้างและทำเกษตรที่บ้านสวนฯ

                                  ขอกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องการทำให้หลุดพ้นทุกข์ทั้งปวง เพื่อไปสู่นิพพาน

                                   สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-03 18:33:48


ความคิดเห็นที่ 1371 (1643799)

เชิญเข้าไปอ่านกระทู้ "คำเตือน แค่รับคนไม่ดีเป็นเพื่อนทางเฟสบุ๊ค ก็ทำให้เจอเคราะห์กรรมหนักได้"

ที่ห้องข่าวประชาสัมพันธ์หรือคลิ๊๊กตามลิงค์นี้

 http://www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show

เผื่อใครที่ยังนึกถึงเหตุที่ช่วงนี้ต้องมาเจ็บไข้ได้ป่วยใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยแค่ดีขึ้นแต่ยังไม่หายจะได้กระจ่างๆๆๆๆคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-06 16:29:42


ความคิดเห็นที่ 1372 (1644764)

 

กราบ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล

        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                      ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม พระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                       ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                       ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                       คืนนี้ ได้ดูคลิป

                       "ธรรมะบำบัด ม.ราชภัฏนครปฐม , สำนึกในอกุศลกรรมทำให้พ้นทุกข์"

                        ของวันที่ 9 ธันวาคม 2555

                        ขอโมทนาบุญ กับ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล คุณท๊อป และ เพื่อนๆ พี่ๆ บ้านสวนพีระมิด ในการจุดเทียนชัยถวายพระพรมงคล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2555 ครับ

                         ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด เรื่อง รหัสจักรวาล "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายเจ็บป่วยได้ทันที

                          บ้านสวนพีระมิด ได้ต้อนรับ คณะจาก ม.ราชภัฏนครปฐม เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 โดยการนำของ รศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก

                           และ คณะของลูกหลานที่มาจากจังหวัดนครราชสีมา

                           โดยวัตถุประสงค์ ของ คณะของ รศ.เบญจรัตน์นั้น มีวัตถุประสงค์อันดับแรก เพื่อ มาใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด เพื่อถวายบุญ แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555

                                                             และ

                            อยากให้คนในหน่วยงาน เป็นคนดี มีความเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม มีศีลห้า สำนึกในเรื่องบาปบุญคุณโทษ ที่เรากระทำนั้น จะย้อนมาหาเรา รู้จักการทำงานในหน้าที่ของตนเอง ให้เลิกมีความคิดที่ผิดๆ ในเรื่องทำงานให้น้อย และ เลิกการกระทำที่เอาของ ขององค์กรกลับไปใช้ในเรื่องส่วนตัวที่บ้าน ซึ่งก่อปัญหาให้ตนเอง ทั้งเรื่อง การงาน การเงิน สุขภาพ และ เลิกความแล้งน้ำใจต่อ เพื่อนร่วมงาน และ องค์กรของตนเอง ซึ่งมีความคิดว่า เราจะทำในสิ่งที่เราคิดว่าเรามีกำไร(เอาเปรียบผู้อื่น) ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า การทำทาน คือ การสงเคราะห์ต่อผู้อื่น ไม่ได้หมายความแต่เพียงการบริจาคทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการที่เราช่วยให้คำแนะนำแนวทางที่ดีต่อผู้อื่นด้วย  เรา สร้างเหตุของตัวเรา ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ถ้าเราดับเหตุได้ ผลก็ดับได้ เราชอบอ้างว่า เราเป็นชาวพุทธ แต่เราไม่เคยอ่านพระไตรปิฎกกันเลย ทำให้เราไม่เข้าใจเกี่ยวกับพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเลย

                        ที่บ้านสวนพีระมิดนั้น เรามีการทำกิจกรรม 3 ด้าน คือ งานเกษตร งานก่อสร้าง และ งานด้านทำอาหารและไบโอแก๊ส ซึ่งแต่ละฐาน นั้นเกี่ยวข้องกับ วิหารทาน ธรรมทาน และ สังฆทาน

                        งานก่อสร้าง ก็ คือ การสร้างวิหารทาน

                        งานเกษตร ก็ คือ การทำการปลูกพืชผัก นำมาทำเป็นอาหาร ทำบุญเลี้ยงคนที่มาทำบุญทั้งสังฆทาน บุญธรรมทาน บุญวิหารทาน

                                                         งาน ครัว ก็ คือ การทำอาหารมาให้ผู้คนได้ทานกัน แต่ที่บ้านสวนพีระมิดนั้น ทำอาหารมังสวิรัต์ และ นำขยะซึ่งก่อปัญหาในเรื่องกลิ่น เป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม มาทำเป็นไบโอแก๊ส

                                                           คุณ แม่ได้บอกกล่าวว่า เวลาเรามาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ นั้น ขอให้ทำงานด้วยความสุข สดใสร่าเริง อย่าทำงานไปก็คิดสงสัยไปว่ามาทำงานเพื่ออะไร

                           และ การกระทำความผิด ทำสิ่งไม่ดีนั้น เกิดได้ทั้ง ทางวจีกรรม กายกรรม และ มโนกรรม

                           แต่กรรมที่เกิดจากมโนกรรม นั้น เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมื่อเรามีความคิดที่ไม่ดี ดังนั้น มโนกรรม จึงเป็นกรรมที่มีความรุนแรงมาก เพราะ เป็นบ่อเกิดทั้งวจีกรรม และ กายกรรม

                           คณะของลูกหลานที่มาจากโคราช

                           มิสเตอร์ Thomas ได้ออกมากล่าวคำขอขอบคุณต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนฯ และ ต่อคุณแม่อุบล

                           เพราะ ภรรยาของคุณโทมาส ได้ใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย ในการขอให้คุณโทมาสหายจากการกรน ขณะนอนหลับ

                                                            และ คุณโทมาส ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  ในการสมัครเข้าทำงาน

                           คุณภรรยาของคุณโทมาส ได้บอกเพิ่มเติมว่า ตนเองขณะที่เดินทางกลับมาเมืองไทย ก็เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน ก็ได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และ นำน้ำที่เกิดจากการแช่แหวนสฟิงซ์ นำมาดื่ม ทำให้หายจากอาการท้องเสียได้     

                                                              และ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ในการหางานทำที่ต่างประเทศตอนไปอยู่ที่ต่างประเทศ

                            โดยคุณแม่ได้บอกกล่าวว่า การใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยให้ได้ผลนั้น ต้องมีความศรัทธาในตัวคุณแม่  เมื่อใช้ได้ผลแล้ว ให้กราบขอบคุณต่อเทวดาผู้รักษาตัวคุณแม่ และ ทำบุญอุทิศให้กับเทวดาผู้รักษาตัวคุณแม่ด้วย ขอบคุณคุณแม่อุบล และ ทำบุญรักษาศีล และบอกรหัสต่อผู้อื่นด้วย

                              คุณจินภัทร (แม่บ้านของ ม.ราชภัฏ) มีอาการปวดหัวเข่า เมื่อทำงานด้านครัวและไบโอแก๊ส แค่ใส่ขยะลงไปในเครื่องทำแก๊ส แค่กระป๋องที่สาม อาการปวดเข่าก็หายได้ ซึ่งในอดีต ต้องทานยา แต่ก็ไม่หาย ต้องหยุดงานไปหาหมอก็หลายครั้ง

                               คุณสถาพร (พนักงาน) มีอาการปวดหัว ปวดแขน มาเกือบ 1 ปี กินยาแก้ปวดเวลาปวดหัว แต่เมื่อมางานด้านไบโอแก๊สที่บ้านสวนฯ ไม่ถึง 10 นาที ก็หายปวดหัว แต่อาการปวดแขนไม่ดีขึ้น ก็พยายามนึกว่าไปทำผิดอะไรมาบ้าง ก็พยายามอุทิศบุญแรงกายที่มาทำที่บ้านสวนฯให้เจ้ากรรมนายเวร ก็หายไปได้เกือบ 50 % และ เมื่อมาจ้องมองจี้สฟิงซ์ก็หาย 100% การที่เรานึกกรรมออก มีความเสียใจต่อการกระทำ อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และไม่กลับไปทำกรรมอย่างนั้นอีก จะทำให้เราหายจากการเจ็บป่วยได้

                                 คุณอารีรัตน์ มีอาการนิ้วชี้ ทั้งสองข้างเกิดอาการนิ้วล๊อก กำมือไม่ได้ มาเกือบ 2 ปี สารภาพว่า เคยนำหอยทากที่มากินผัก ไปทิ้งที่ทุ่งหญ้า เคยเหยียบหอยทากตาย เมื่ออุทิศบุญให้หอยทาก อาการก็ดีขึ้นเกือบ 70 % เมื่อสารภาพว่า เคยทำเอกสารเท็จในการเบิกจ่ายเงิน เอาของหลวงกลับไปที่บ้านใช้ทำงานส่วนตัว ก็หายได้ 100 %

                                 คุณจุฑามาศ (ข้าราชการสรรพกร) เป็นรูมาตอยด์ เกือบ 10 ปี เจ็บหัวเข่า สารภาพว่า เคยฆ่าแมลงสาป และ มีอาการชาที่มือ มาเกือบ 1 ปี เคยเอากาวไปดักหนู ฆ่าแมลงวัน ฆ่าหอยทาก เมื่อมานั่งใกล้คุณแม่อุบล อาการที่ชาก็เริ่มดีขึ้น เพราะ คุณแม่อุบลมีจิตที่ปรารถนาให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ทุกคนหายเจ็บหายป่วยด้วยกันทุกคน โดยการรับฉับพรรณรังสีของพระพุทธองค์ ที่ส่งผ่านมายังคุณแม่อุบล ส่งต่อให้ลูกหลานบ้านสวนฯ

                                  คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า ความชั่วความไม่ดีของเรานั้น ไม่อาจลบล้างให้หายไปได้ แต่ให้เราหมั่นทำบุญทำทาน ก็จะสามารถท่วมกรรมไม่ดีของเราได้ เปรียบเสมือน ชีวิตของเราเป็นเรือ การทำความดีเป็นน้ำ ถ้าหมั่นทำความดี ก็เหมือนน้ำที่ท่วมสูงกว่าตอ ตอที่เปรียบเหมือนความไม่ดี ทำให้เรือแล่นผ่านไปได้     

                                                                             คุณ สมรักษ์ (รับราชการที่ ม.ราชภัฏ) มีอาการสายตาสั้น เมื่อมาทำงานขนดิน ขุดดิน อาการก็ดีขึ้น 20 %  แต่เมื่อมาโมทนา และ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ตอนที่กำลังนั่งฟังคุณแม่ สายตาก็ดีขึ้นอีก และ อาการเจ็บคอ นั้น ก็สารภาพว่า อยากจะใช้จี้สฟิงซ์ช่วยเหลือสามีของตนเอง แต่ก็ประวิงเวลาในการให้ความช่วยเหลือต่อสามีของตนเอง ทำให้ตนเองเกิดอาการเจ็บป่วย และ ชอบนินทาว่าร้าย

                                    คุณแม่ได้บอกว่า การปิดขุมนรกแต่ละขุมนั้น เราต้องสำนึกบาปเก่าก่อน และ ต้องไม่กลับไปทำกรรมอีก รักษาศีลห้า เราก็ปิดขุมนรก ขุมต่างๆได้แล้วนั้นเอง

                                                                                  ทำ ให้เราเป็นโสดาบัน และ พระสกีทาคามีได้ ซึ่งเราสามารถไปสวรรค์ ไปพรหมได้ แย่ที่สุด เราก็ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นสัตว์ หรือ ต้องลงนรก และ ทรงอภิศีล ยืดถือศีลห้าเป็นที่ตั้ง

                                     เป็นพระอนาคามี ซี่งทรงอภิจิต มีจิตเมตตา มีจิตที่ฉลาด ละวางสิ่งต่างๆ เข้าใจสิ่งต่างๆได้

                                     เป็นพระอรหันต์ ซึ่งทรงอภิปัญญา มีปัญญาล้ำเลิศ เห็นอะไร ก็มองได้ทะลุปรุโปร่ง

                                    ขอขอบคุณ รายการ "รู้ค่าพลังงาน" ทางช่อง 3 ที่นำเสนอ เรื่องของการนำขยะของบ้านสวนฯ ไปทำเป็นไบโอแก๊ส ให้เป็นพลังงานในการใช้เป็นแก๊สหุงต้มได้

                                    คุณนงค์ มีอาการเป็นฝีที่ก้น ทุกข์ทรมานมาเกือบ 4 ปี ทานยาแก้อักเสบมาโดยตลอด ไม่หาย แต่เมื่อมาฟัง คุณแม่อุบลบรรยายธรรมะ ก็หายจากการเป็นฝีที่ก้นได้

                                    เมื่อไปทำงานที่่แปลงเกษตร ก็รู้สึกมีอาการติดขัด ก็ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย อาการติดขัดก็ดีขึ้น หัวเข่าก็เบาลง สารภาพว่า เคยฆ่าสัตว์ ฆ่าสุนัข ฆ่าแมว ฆ่าพังพอน ถีบวัวลงจากรถให้เค้าฆ่าที่โรงฆ่าสัตว์ เอาไม้เสียบก้นแมงปอ เตะผู้อื่น เมื่ออุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร อาการปวดเข่า ปวดแขน ฝีที่ก้น ก็หาย คงเหลืออาการปวดหลัง

                                    ขอขอบคุณ คุณพี่แมว ในการเป็นธุระจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ

                                    ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไปใช่้แรงกายในการก่อสร้าง และ งานการเกษตร

                                    ขอน้อมกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่อง จตุธาตุววัตถาน ซึ่งเป็นกรรมฐานในการพิจารณา ซึ่งอาศัยการใช้สมาธิในการควบคุม ถ้าปราศจากสมาธิควบคุม ปัญญาก็ไม่อยู่ในขอบเขตที่จะบรรลุได้ ซึ่งเป็นการพิจารณา ธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ซึ่งประกอบขึ้นเป็นร่างกายของคนเรา

                                      สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-10 23:24:22


ความคิดเห็นที่ 1373 (1644824)

  อนุโมทนากับคุณกรด้วยค่ะ

ยังไม่ได้ดูเลย  เข้ามาอ่านรายละเอียดจากคุณกรก่อน

สาธุ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-11 10:36:20


ความคิดเห็นที่ 1374 (1644859)

 แจ้งข่าว สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม

 "ปลดล๊อกกรรม และ เตรียมกายเตรียมใจสู่ภัยพิบัติ"

ศุกร์ที่ 14 ธ.ค.55

ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกิจกรรมนักศึกษา

ม.ราชภัฏนครปฐม เวลา 10.00-17.00 น.


สามารถนำส่งเอกสารได้ที่หน้างานก่อนเวลา 09.30 น.คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-11 15:07:43


ความคิดเห็นที่ 1375 (1645622)

อนุโมทนา กับ คุณพี่ตาล ครับ

และ ขอขอบคุณ คุณ เจิดหทัย สุวรรณากาศ (คุณหนึ่ง) ที่มาแจ้งข่าวสารของบ้านสวนพีระมิด เกี่ยวกับ กิจกรรม ในวันที่ 14 ธันวาคม 2555 ครับ

ขออนุโมทนาบุญ กับ คุณเจิดหทัย ครับ ที่ช่วยเผยแพร่ให้ผู้คนได้รับทราบถึงกิจกรรมของบ้านสวนฯ และ ของคุณแม่อุบล ที่ท่านจะได้ทำภาระกิจเผยแผ่ พระธรรม คำสั่งสอน ของพระพุทธองค์ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-15 19:33:43


ความคิดเห็นที่ 1376 (1645707)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                                                     ขอ น้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                        ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร

                        คืนนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 16 ธันวาคม 2555

    "รับกรรมเพราะทำเอง ไม่ใช่มรดกกรรม, ศรัทธาจริงใจ ก็หายได้จริงๆ"

    ได้ชมในคลิป เห็นภาพพี่น้องลูกหลานบ้านสวนฯ เริ่มฝึกซ้อมการหนีภัยพิบัติ ก็แสดงให้เห็นว่า อีกไม่นาน พวกเราก็คงได้ใช้วิธีการและขั้นตอนในการหนีภัยกัน ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน ขออนุโมทนาบุญกับความเมตตาของคุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล และ คุณท๊อป ที่ให้ความรักและความเมตตาต่อลูกหลานบ้านสวนฯ ครับ เพราะ หลังจากนี้ ทุกคนก็มีแต่กรรมของตนเองเท่านั้น ที่จะนำพาให้ตนเองพ้นภัย หรือ ต้องจบชีวิตของตนเอง

              ขอ ขอบ คุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์(ภาคภาษาอังกฤษ) ที่ เผยแพร่ วัตถุประสงค์ของบ้านสวนพีระมิด ซึ่งมีเป้าหมายในการทำให้ทุกคนพ้นทุกข์ทั้งปวง ด้วยวิธีการพิสูจน์กฎแห่งกรรม         

                การ ใช้รหัสจักรวาล "อาจารย์อุบลช่วยด้วย"   ขอให้มีความศรัทธาต่อคุณแม่อุบล ไม่มีความระแวงสงสัยในตัวท่าน และ เมื่อใช้รหัสได้ผล ขอให้บอกต่อผู้อื่น ถ้าไม่บอกต่อ ก็ใช้รหัสได้ผลแค่เพียง 3 ครั้งเท่านั้น หลังจากนั้นก็ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป และ ต้องกราบขอบพระคุณต่อเทวดาผู้รักษาตัวคุณแม่อุบล และ ต่อคุณแม่อุบล   และ การใช้จี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี เห็นผลทันที

       คุณอมรินทร์ โฉมแฉล่ม (จาก จังหวัดนนทบุรี)  อดีตเป็นพนักงานของ  ธนาคารกรุงไทย ฝ่ายสินเชื่อ ออกมาบอกกล่าวว่า มือปวดอย่างฉับพลัน ก่อนที่จะได้มาพบ คุณแม่ ตอนอาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์ ที่โรงแรมเดอะเทรเวลเลอร์      

       ระหว่างที่เข้าแถวรอเพื่อสัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ ก็เริ่มหายจากอาการปวดที่มือ เมื่อยิ่งเดินเข้ามาใกล้ คุณแม่อุบล ที่ได้อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ อาการก็เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

        ทั้งที่ตอนแรกเริ่ม ที่จะมา มาเพื่อสัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ นั้น อยากมาทำการบำบัด เกี่ยวกับเรื่องมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งคิดว่าตนเองน่าจะเป็น เพราะ ได้ดูรายการหนึ่งในทีวี ที่บอกอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายของคนที่จะเป็นมะเร็ง เพราะ เห็นว่า ส้นเท้าของตนเองแตก มีการแตกของเส้นเลือดในจุดต่างๆ ของร่างกาย   

        ซึ่ง คุณแม่อุบล ก็มีเมตตาสอบถามว่า แล้วคุณอมรินทร์ มีอาการปวดท้อง ปวดอะไรที่ไหนในร่างกายหรือไม่ คุณอมรินทร์ ก็บอกว่า ไม่มีอาการปวดที่ไหนหรอก มีแต่เพียงอาการท้องผูก ถ่ายแล้วมีสีดำ   

        คุณแม่ก็บอกกล่าวว่า วิตกจริตไปเองหรือเปล่า เพราะ การที่เราฟังอาการของการเกิดของโรคต่างๆ แล้ว เรานำมาคิดพิจารณาเอง โดยไม่ไปทำการตรวจโดยแพทย์ ก็จะทำให้เราเกิดการป่วยเป็นโรคนั้นๆ ได้เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว (คิดไปเอง ว่าเราเป็นโรคนั้นๆ ก็ทำให้ป่วยได้)

       คุณอัมรินทร์ ได้เล่าว่า เมื่อสัมผัสได้ถึงบารมีของพระศรีอาริย์นั้น ตนเองรู้สึกได้ถึงการเย็นที่ร่างกาย และ วันพฤหัสก็เริ่มปวดมือ ก่อนที่จะได้มาพบกับคุณแม่ในวันศุกร์ เมื่อครั้งที่ คุณแม่ไปบรรยายที่โรงแรมเดอะแทรเวลเลอร์ เมื่อได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ที่คณแม่อุบลอาราธนามาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ คุณอัมรินทร์ ก็หายปวดมือ

       คุณลุงวินันท์ นาคถนอม ออกมาบอกเล่าพร้อมกับลูกสาว ว่า เมื่อมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ และ พักค้างคืนที่บ้านสวนฯ โดยการพักที่องค์พีระมิด และ ได้รับการสื่อสารจากบรรพบุรุษ ของคุณลุง โดยการผ่านร่างของคุณลุง โดย ลูกสาวของคุณลุง ได้ยินคำพูด ที่บอกว่า อยากได้บุญกุศลของคุณแม่อุบล ที่จะอุทิศให้กับบรรพบุรุษของคุณลุง

       ซึ่ง คุณลุงวินันท์ มีความเชื่อมั่นว่า ที่ตนเองเจ็บป่วย นั้น เกิดจากการโดนกลั่นแกล้งจากบรรพบุรุษของตนเอง และ คิดว่าเป็นมรดกกรรมที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของตนเอง ที่อาจจะเคยเป็นนายทาส แล้วใช้งานพวกทาสด้วยความโหดร้ายทารุณ

       คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวให้ฟังว่า ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ บรรพบุรุษของแต่ละคน จะมากลั่นแกล้งลูกหลานของตนเอง และ ที่กล่าวว่าตนเอง ต้องเจ็บป่วย นั้น เป็นมรดกกรรม คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า การจะเป็นมรดกกรรมนั้น เกิด ขึ้นได้จาก ตัวเราต้องมีส่วนในการกระทำกรรมนั้นๆ ร่วมกับบรรพบุรุษของเราด้วย ซึ่งเป็นในภพใดภพหนึ่งก่อนหน้านั้น และ ต้องมาเกิดเป็นญาติพี่น้องกันอีก และ ต้องรับกรรมอันนั้นร่วมกัน จึงจะเป็นมรดกกรรม  

        ลูกสาวของคุณลุง ยังสารภาพว่า ก่อนหน้านั้น ก็ไม่ได้ศรัทธาต่อคุณแม่อุบล มีความเคลือบแคลงสงสัยในตัวของคุณแม่ ก่อนมาบ้านสวน ก็เกิดอาการถ่ายท้อง ถึง 2 ครั้ง

        คุณแม่อุบล ได้พิสูจน์ให้ทั้งสองท่านเห็นว่า เป็นไปได้ไหมที่ว่า บรรพบุรุษของคุณลุง นั้นต้องการบุญของคุณแม่อุบล

        โดยการขออนุญาตท่านท้าวเวชสุวรรณ ในการเบิกนำดวงวิญญาณของ บรรพบุรุษของคุณลุงมารับบุญกุศล ที่เกิดจากมาทำบุญแรงกายที่บ้านสวนฯ ของคุณลุง อุทิศให้กับดวงวิญญาณ ของ คุณทวดกำนันเอี่ยม คุณตาปี และ คุณยายน้อย ปรากฎว่า เมื่อดวงวิญญาณทั้งสามดวงได้รับบุญกุศลจากการมาทำบุญแรงกายของคุณลุง ดวงวิญญาณก็ยังเป็นร่างที่เป็นเงาดำๆ (ซึ่งคุณแม่ บอกว่า เค้ายังทุกข์ทรมาน ยังไปไหนไม่ได้)

       แต่ เมื่อ คุณแม่อุบล ได้ให้ยืม บุญกุศลของคุณแม่ อุทิศให้ดวงวิญญาณทั้งสามดวง ปรากฎว่า ร่างของทั้งสามก็กลับกลายเป็นร่างที่สวยงามทันที ซึ่งก็เป็นการพิสูจน์ว่า บุญกุศลของคุณแม่ เป็นบุญที่จิตวิญญาณต่างๆ ที่เค้ามารับการโมทนาที่บ้านสวนฯนั้น เป็นบุญที่เค้าต้องการ 

       ต่อมา คุณลูกสาวของคุณลุง ก็สารภาพว่า เคยพาคุณลุงมาบ้านสวนฯ ก่อน หน้านั้นแล้วครั้งหนึ่ง แต่ ตอนนั้น คุณลุงยังดูไม่ครบตามข้อกำหนด แต่อยากมา ปรากฎว่า อาจารย์นีย์ ได้แนะนำว่า เมื่อยังไม่ทำให้ถูกกฎระเบียบ  ก็ไม่ควรเข้ามาอยู่ในเขตบ้านสวนฯ    ลูกสาวก็เลยต้องพาคุณลุงกลับบ้าน คุณลุงก็เกิดอาการความดันลดลงอย่างมากมาย เมื่อกลับถึงบ้านของตนเอง

         คุณดีนญาภัทร (เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ของ มหาลัยราชภัฎนครปฐม)  ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเป็นคีรอยด์(แผลเป็นนูน) ที่บริเวณหัวไหล่  และ ที่หน้าอก รู้สึกเจ็บปวดมาก เมื่อโดนแสงแดด หรือ เมื่อมีเหงื่อออก แต่เมื่อมาทำงานที่บ้านสวนฯ ที่แปลงเกษตร ทำงานไปเพียง 30 นาที อาการที่เจ็บปวดก็หาย

                   ก่อนหน้า เคยไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลยันฮี โรงพยาบาลสมิตเวช ทำการฉีดยาตรงคีรอยด์ ก็รู้สึกเจ็บปวดมากๆ แม้นจะฉีดยาชาตรงบริเวณคีรอยด์

        ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า เกิดจากที่เป็นคนขี้โกรธ มีความคิดที่อยากจะฆ่าคน คิดอยากให้คนอื่นตาย เคยทำร้ายสัตว์ให้บาดเจ็บ ทำให้เค้าทรมาน ทำให้เค้าตาย ซึ่งต้องเป็นกรรมที่ใหญ่ๆ จึงจะมาเกิดขึ้นกับเรา เคยแช่งชักหักกระดูกผู้อื่น ซึ่งต้องทำการขอขมา และไม่ทำกรรมอย่างนี้อีก และ ต้องอุทิศบุญให้กับคนที่เราเคยละเมิดล่วงเกิน    

                 คุณ แม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า ตามหลักวิทยาศาสตร์ สสารในโลกนั้นยังคงอยู่ แต่มันเปลี่ยนที่อยู่เท่านั้นเอง ไม่ได้หายไปไหน และ ตามพุทธศาสนาแล้วนั้น ร่างกายของคนเรา ประกอบด้วย ธาตุทั้ง 6 นั้นคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ ดิน ก็คือ เลือดเนื้อกระดูกเล็บเส้นผม น้ำ ก็คือ เลือด น้ำเหลือง ลม ก็คือ อากาศที่เราหายใจ ซึ่งแทรกอยู่ในเซลล์ของร่างกาย ไฟ ก็คือ ความร้อนและความอบอุ่นภายในร่างกายของเรา อากาศธาตุและวิญญาณธาตุ ก็คือ ปราณและมโนธาตุ ที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด

        คุณแม่ได้ยกตัวอย่าง คุณอมร ที่โดนฆ้อนทุบถูกที่นิ้วมือบวมเบ่งเท่าลูกปิงปอง แต่คุณอมร ไม่ได้เจาะเอาเลือดเอาน้ำหนองออก แต่ ได้ใช้การขอบารมีของพระศรีอาริย์ที่คุณแม่ได้อาราธนามาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ มาช่วยในการทำให้หายบวม ซึ่งแค่ลืมตาขึ้นมา อาการบวมก็หายไปได้ ซึ่งก็คือ การที่เลือดน้ำเหลือง ได้กลับคืนไปสู่ร่างกายของคุณอมรเหมือนเดิม

        คุณอัญมณี (ลูกสาว รศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก) ได้ออกมาขอขอบคุณ คุณแม่อุบล ที่ได้เมตตาให้คุณอัญมณี ได้เข้ามาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ได้เล่าให้ฟังว่า ไปเที่ยวภูเขา และ ตอนลงจากภูเขา ได้นำกิ่งไม้ มาช่วยพยุงในการเดินลงมา ปรากฎว่า เหยียบถูกก้อนหิน ทำให้ล้มตกลงมา ขาบวมเดินไม่ได้ ก็เกิดสำนึกว่า อาจจะเกิดจากการที่นำเอากิ่งไม้ของเจ้าป่าเจ้าเขามา ก็คืนไปให้ท่านไว้เหมือนเดิม และ ยังมีมโนกรรม ที่ตอนขึ้นภูเขา เห็นคุณยายท่านหนึ่ง นั่งขายของริมทางเดิน ก็เกิดความคิดว่า คุณยายจะขายของได้หรือ มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ก็คิดว่า ทำไม ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม ถึงทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงานมากมายอย่างนั้น  ดร.จิ๋ม ขาก็เป็นโปลิโอ ทำไมมาใช้แรงกาย คิดว่า ทำไม คุณแม่อุบล ต้องเอาเวลาของครอบครัว มาช่วยเหลือคนอื่นๆ และ การแสดงอิทธิฤทธิ์ของคุณแม่อุบล คงเป็นเรื่องของมารมาเบี่ยงเบนจากคำสอน

            และ การที่ตนเองเป็นโรคต่อมไร้ท่อ ก็เกิดจาก คุณแม่ คุณยายตามใจ ทำอาหารอร่อยๆให้ทาน และ เป็นเบาหวาน ไม่มีประจำเดือน จนต้องทาน ฮอร์โมน เพื่อให้มีประจำเดือน แต่ ก็กลัวว่าทานฮอร์โมนมากๆ จะทำให้เป็นโรคมะเร็ง ก็เลยหยุดทาน ทำให้ประจำเดือนไม่มาอีก

            แต่เมื่อได้พบคุณแม่อุบล ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ก็เกิดความศรัทธา ก่อนหน้านั้น เคยมาบ้านสวนฯ กับคุณแม่(รศ.เบญจรัตน์) ก็ไม่เคยศรัทธา แต่ก็ตามคุณแม่มาเท่านั้น ก็กราบคุณแม่อุบล ด้วยความจริงใจและศรัทธา ก็ปรากฎว่า หลังจากนั้น ไม่นาน ประจำเดือนก็มาปกติ โดยไม่ต้องทานฮอร์โมนอีกเลย และยังสารภาพว่า ทานมังสวิรัติ แต่เมื่อไปเที่ยวทะเล ก็ไปกิน และ ยังปิ้งย่างปูให้เพื่อนๆ เคยใช้เท้าในการเปิดปิดพัดลม เคยใช้เท้าในการเขี่ยสุนัขเล่น และ คุณแม่อุบล ได้แนะนำว่า ต้องขอขมาต่อคนที่ตนเองเคยมีความคิดล่วงเกิน เช่น คุณย่า คุณยาย คุณแม่ คุณแม่อุบล ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม และ ทุกคนที่คุณอัญมณีเคยคิดล่วงเกิน

            คุณชุมพล(รับราขการที่ สวท.สุราษฎร์ธานี) มีอาการคันตามร่างกาย ซึ่งก็สารภาพว่า เคยฆ่ามด ฆ่าเห็บ ฆ่าเหา และ เคยอธิษฐานว่า อยากให้หายคัน ก่อนวันที่ 1 ธันวาคม แต่ก็ไม่ขอให้หายจนหมด ขอเหลือไว้เป็นเครื่องเตือนใจ และ ขอชดใช้กรรมบ้าง เพื่อความเป็นธรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร ซึ่ง คุณแม่ได้บอกว่า อาการคันนี้ เกิดจากการผิดศีลข้อห้า

              พี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเป็นก้อนซีสต์ แต่เมื่อมาใช่้แรงกายที่บ้านสวนฯ ก้อนซีสต์ก็ยุบหายไปแล้วถึงสองก้อน แต่ก่อนหน้านั้น ก็เคยหายจากโรคไมเกรน และ ภูมิแพ้ แต่เมื่อห่างหายจากการมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ เกือบ 6 เดือน เนื่องจากติดธุระในการทำงาน ทำให้อาการภูมิแพ้กลับมาเป็นอีก

             ขอขอบคุณ รายการ"รู้ค่าพลังงาน" ที่ออกทางช่อง 3 ที่เผยแพร่ การใช้พลังงานแก๊ส ที่เกิดจากการหมักขยะเปียก เศษอาหาร ในถังหมักของบ้านสวนฯ ทำให้ไม่เกิดมวลภาวะเป็นพิษ และ ช่วยกำจัดขยะที่จะส่งกลิ่นเหม็น ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และ ได้น้ำหมักไปทำเป็นปุ๋ย

              ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้รับความเมตตาจากคุณแม่อุบล ในการหายจากการเจ็บการปวด โดยการถือจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรีไว้ในมือ

              และ ปรากฎการณ์ของจี้ของบ้านสวนฯ ในรุ่นต่างๆ ที่พลังบารมีที่มีอานุภาพที่ดีขึ้นมาตามลำดับ

             ขออนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ใช้มาแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ ให้กับบ้านสวนฯ ทั้งทางด้านการเกษตร และ การก่อสร้าง

             ขอขอบคุณพี่แมว ในการแบ่งเบาภาระในการจัดส่งจี้สฟิงซ์ และ พีระมิดจำลองของบ้านสวนฯ ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ ครับ

             ขอน้อมกราบต่อพระธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่อง ความแก่ ซึ่งเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ ทำให้เกิดความเหี่ยวย่นตามร่างกาย สายตาไม่ดี หูฟังไม่ชัด ผมเริ่มหงอกขาว สมองเริ่มจำอะไรไม่ได้

            สาธุ สาธุ สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-16 23:37:27


ความคิดเห็นที่ 1377 (1645748)

ได้ดูรายการคุยไปแจกไปของวันที่ 16  ธค. 55

ได้ดูตอนน้องผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคีรอยน์คือมีรอยแผลเป็นนูนตามบ่อและคอซึ่งปกติจะมีอาการปวด หลังจากได้สร้างบุญแรงกายที่บ้านสวนพีระมิดก็ไม่ปวดอีก

ชายหนุ่มจากสุราษธานีที่ปกติจะกินเหล้าติดยาเสพติดได้พบอาจารย์อุบลที่มหิดลและที่โรงแรมรู้สึกศรัทธาท่านอาจารย์อุบลที่ทำให้ชีวิตตนเองเปลี่ยนได้พยายามเลิกเหล้า มากราบขอบคุณอาจารย์อุบลด้วยตนเองที่บ้านสวนพีระมิด

ลูกสาว รศ.เบญจรัตน์  ศรีทองสุข  ได้ไปปีนเขากับเพื่อน เห็นยายคนหนึ่งพิการนั่งขายของอยู่ก็คิดว่ามาขายที่นี่ทำไมจะขายได้เหรอ และเคยคิดกับ ดร.จิ๋ม  ตอนที่มาสร้างบุญแรงกายที่บ้านสวนว่าแกจะทำอะไรกันมากมายเนี่ยทั้งที่แกก็ขาไม่ดี  กรรมเตะหมา ใช้เท้าปิดพัดลม ใช้เท้าทำงานแทนมือ กรรมรวมตัวส่งผลให้ตนเองขาเดาะ น้องเค้ากราบขอขมาทุกท่านรวมทั้งท่านอาจารย์อุบลที่คิดว่าท่านไม่เห็นจะสวยเลย

และคิดโทษแม่ที่ทำให้ตนเองฮอโมนไม่ปกติ ประจำเดือนไม่มานาน เมื่อได้กราบอาจารย์ประจำเดือนก็มาเป็นปกติ

คิดโทษยายว่าทำอาหารอร่อยทำให้ตนเองอ้วน (ถึงน้องจะอ้วนก็น่ารักอยู่นะจ๊ะเรียนเก่งอีกต่างหาก)

และอีกสองคนพ่อลูกที่ได้เข้าไปนอนในพีระมิดและได้เห็นเงาของญาติที่เสียชีวิตแล้วมาบอกว่าต้องได้รับบุญจากท่านอาจารย์อุบลเท่านั้น ท่านอาจารย์อุบลก็เมตตาอุทิศบุญให้

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-17 09:02:56


ความคิดเห็นที่ 1378 (1647341)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                       ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                         ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์บ้านสวนพีระมิด

                         เย็นนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 23 ธันวาคม 2555

      "กิจกรรมธรรมะบำบัด ปลดล๊อกกรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม"

          ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล ที่นำเพลงอวยพรปีใหม่ ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ปี 56 ใน ตอนเริ่มรายการ ครับ

      ความรัก ความเมตตา ความปรารถนาที่อยากให้ทุกคนบนโลกนี้ ได้พ้นจากความเจ็บความปวดทางร่างกาย ทางจิตใจ หลุดพ้นจากปัญหา การงาน การเงิน ความรัก ด้วยการให้ค้นหาเหตุแห่งทุกข์ และ เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม รักษาศีล ทาน ภาวนา และ นำคำสอน และ ธรรมะ ของพระพุทธองค์มาเผยแพร่ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ และ ผู้คนมาโดยตลอด  

          ผม ที่เป็นลูกหลานบ้านสวนฯ ก็รู้สึกสำนึกในความรักและความเมตตาของ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล และ คุณท๊อป มาโดยตลอด ก็ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสากลโลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด อำนวยอวยพรให้ คุณแม่ และ ครอบครัว"ศุภาเดชาภรณ์ " มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นร่มไม้ชายคาให้ลูกหลานบ้านสวนฯ และ ผู้คนทั่วโลก เพื่อ การเผยแพร่ พระธรรม คำสอน ของพระพุทธองค์ ตลอดกาลนาน ครับ

       ขอขอบคุณ หนังสือบางกอกโพสต์ ที่มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่อง รหัสจักรวาล "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" และ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายเจ็บป่วยได้ทันที ซึ่งเริ่มออกอากาศ วันพุธ ที่ 7 พ.ย. 55

       ขอขอบคุณ สำนักวิทยบริการ ร่วมกับ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ที่เรียนเชิญ คุณแม่อุบล ได้ไปบรรยายธรรมะที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ครับ

       โดย รศ. เบญจรัตน์ สีทองสุก ได้กล่าวในรายงานของการจัดกิจกรรมการบรรยาย ในครั้งนี้ว่า ท่าน รศ.เบญจรัตน์ ได้เคยมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯมาก่อน และ ได้เป็นผู้นำ นำบุคคลากรของมหาวิทยาลัย มาทำกิจกรรม ที่บ้านสวนฯ และ ผลปรากฎว่า บุคคลากรที่ได้มาพิสูจน์ในเรื่องกฎแห่งกรรม และ ทราบเหตุแห่งทุกข์ และ สำนึกผิดของการกระทำของตนเอง และ ไม่กระทำผิดอีก ก็หายเจ็บหายปวด หลุดพ้นจากความทุกข์ทางการเงิน การงาน เป็นจำนวนมาก

            ท่าน รศ. เบญจรัตน์ ได้กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของการเชิญ คุณแม่อุบล มาบรรยายธรรมะ ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพื่อ ให้บุคคลกรในหน่วยงาน เป็น คนดี คนเก่ง มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ดำรงชีวิตอยู่ในกรอบของศีลธรรม อุทิศตนให้ส่วนรวม ทำให้องค์กรและประเทศรุ่งเรือง และ ให้ผู้คนที่ร่วมกิจกรรม มีความรู้ ความเข้าใจ วิธีการดำเนินชีวิตในกรอบศีลธรรม ให้ทราบและเข้าใจ การกระทำของมนุษย์ ที่มีผลกระทบต่อธรรมชาติ และ ได้รับการปลดล๊อกกรรม โดยใช้ธรรมะบำบัด ในการแก้ปัญหา ที่ประสบ และ เตรียมกาย เตรียมใจ สู้ภัยพิบัติ

        ท่านอธิการบดี ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้กล่าวเปิดงานว่า ท่านได้เคยชมรายการ "คุยไปแจกไป" ของ คุณแม่อุบลมาก่อน และ รู้สึกชื่นชม ในตัวคุณแม่อุบล เพราะ คุณแม่ได้บอกกล่าวในรายการว่า ตนเองเป็นคนที่เคยทำความผิด ความไม่ดีมาก่อน ให้ผู้อื่นได้รับทราบ และ ค้นพบ เหตุแห่งความทุกข์ของตนเอง และ ท่านอธิการบดี ก็มีความยินดีที่ คุณแม่มาบรรยายธรรมในครั้งนี้ เพราะ ท่านอธิการบดี เคยบวชช่วงสั้นๆ มาถึง 3 ครั้ง เพื่อทำให้จิตใจสงบ และ ท่านเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม

        คุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า คุณแม่ ก็ไม่เคยคิดจะออกมาบรรยายธรรมะ นอกสถานที่ เพราะ การเผยแพร่ธรรมะที่บ้านสวนฯ ก็มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย แต่ เพื่อลูกหลานบ้านสวนฯ และ มวลมนุษย์ คุณแม่ก็อยากให้ผู้คนได้พบหนทางแห่งการพ้นทุกข์ โดยการพิสูจน์กฎแห่งกรรม โดยต้องมี คุณธรรม จริยธรรม และ ธรรมะอยู่ในจิตใจ

         คุณแม่ได้ สอบถามผู้มาร่วมกิจกรรมในวันนั้นว่า มีใครทุกข์จากการเจ็บป่วยทางกาย ทางใจ ทุกข์จากปัญหาทางการงาน การเงิน และ ทุกข์จากความรัก ก็มีผู้คนจำนวนมากที่ต่างยกมือขึ้น ในแต่ละปัญหาของตนเอง

         คุณแม่ได้ บอกกล่าวว่า ก่อนหน้านั้น คุณแม่ก็ตามหาพระศรีอาริย์ ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ แต่ก็ยังตามหาไม่พบ 

        คุณพ่อมงคล จึงได้เสนอความคิดว่า ทำไม คุณแม่ไม่อาราธนาบารมีของพระศรีอาริย์ คุณแม่จึงได้พิสูจน์ว่า ถ้าพระศรีอาริย์มีจริง ก็ขอบารมีของพระศรีอาริย์ มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ ในวันที่ไปทำการเผยแพร่ธรรมะ ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ทำให้ ผู้ที่เจ็บป่วย ด้วยการทำการบำบัดด้วยวิธีต่างๆ แล้วไม่หายเจ็บหายปวด ขึ้นมาบนเวที เพื่อสัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของ คุณแม่อุบล และ หายเจ็บหายปวดได้ ซึ่ง ทุกคนที่ได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ ต่างก็หายกันถ้วนหน้า บ้างก็แค่รออยู่ในแถว หรือ แค่เดินผ่านคุณแม่อุบล ที่ได้อาราธนาพระบารทีของพระศรีอาริย์ มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ บนเวที

          คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า ถ้าเราทำตัวให้เป็นคนปกติธรรมดา ทุกคนก็จะมีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ถ้าทำใจให้ปกติ ใจก็จะสงบ เมื่อ คุณแม่ถามถึงสิ่งเร่งด่วน ที่ทุกคนต้องการ ทุกคนก็อยากให้ร่างกายของตนเองปกติ

         คุณแม่อุบล ได้กล่าวถึง ที่คุณธนา ได้สอบถามว่า ทำไมทำให้ผู้คนหายเจ็บหายปวดได้ แค่ พูด "หายนะลูก" ก็หายได้ แตะตัวก็หายได้ แค่เดินผ่านคุณแม่ที่อาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์ มา สถิต ณ กาย วาจา ใจ ของ คุณแม่ ก็หายได้ กราบคุณแม่อุบลก็หายได้ ต่อมาก็แค่กราบรูปของคุณแม่อุบลก็หายได้

        คุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า พระพุทธองค์ ท่านได้สอนว่า ถ้าคนเราทำบุญ ให้มีความบริสุทธิ์ 3 อย่าง คือ มีศรัทธาที่บริสุทธิ์ วัตถุทานที่บริสุทธิ์ และ เนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ อนิสงค์จะเกิดฉับพลันทันที ในวันนั้นเลย

        คุณแม่ได้สอบถาม ผู้ที่มีอาการเจ็บปวดที่ขึ้นมาบนเวที ว่า มีความศรัทธาในตัวคุณแม่ไหม ซึ่ง แต่ละคนต่างก็มีความศรัทธา แตกต่างกัน ซึ่งก็มีผลทำให้ความเจ็บปวดหายแตกต่างกัน เมื่อ คุณแม่อุบล ได้ใช้ คำพูด"หายนะลูก" เช่น

               พี่ ผู้หญิงที่มีอาการมึนหัว ก็มีอาการโล่งขึ้นเกือบ 50% คุณแม่บอกว่าที่หายไม่หมด เนื่องจาก อาจจะเกิดจากการมีอนันตริยกรรม คือ การทำผิดศีลมากกว่า 5 ข้อ นั้นคือ การที่เคยทำร้ายหัวผู้อื่น ซึ่ง พี่ผู้หญิงก็สารภาพว่า เคยทุบหัวปลา แต่ไม่เคยตีหัวคน อาการมึนหัวก็ดีขึ้น

              พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดแขน ก็ดีขึ้น เกือบ 30% เพราะ ยังไม่ค่อยศรัทธาเต็มร้อย

        น้องนักศึกษาที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากภูมิแพ้ ก็หายเจ็บคอ 100% เนื่องจากน้องเค้ามีความศรัทธาเต็มร้อย  

        น้องผู้ชายที่อยู่ข้างล่างเวที ก็หายเจ็บคอ เมื่อได้สาธุ (มีใจพลอยยินดี) กับ น้องผู้หญิงที่หายจากการเจ็บคอบนเวที

        ต่อมา คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครที่เจ็บป่วยร่างกายแต่เป็นเจ็บภายนอกไหม และ เป็นอาการที่ยังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เท่านั้น 

                โดย คุณแม่ให้ใช้ รหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ซึ่งใช้ในกรณีฉุกเฉิน เจ็บปวดทรมาน ซึ่งนำไปใช้ที่ใดๆก็ได้ โดยไม่ต้องใช้การบำบัดจากคุณแม่ซึ่งสามารถใช้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด แต่ ขอให้ใช้ด้วยความศรัทธา และ ลองใช้ด้วยการไม่ลบหลู่

          พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดขา มาเกือบ 10 ปี ใช้รหัสแล้ว อาการปวดขาดีขึ้นเกือบ 50%

          พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดนิ้วมือ ก็ดีขึ้น 50%(คุณแม่บอกว่าประตูจิตยังไม่เปิด) แสดงว่า ศรัทธายังไม่เต็มที่

          พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดหัว และ แน่นหน้าอก อาการปวดหัวดีขึ้นตั้งแต่แรก แต่อาการแน่นหน้าอก เมื่อใช้รหัสแล้ว อาการก็หาย

          คุณแม่อุบล ได้สาธิต การทำน้ำพลังพีระมิด โดยการนำพีระมิดจำลองในรุ่น บวงสรวงท่านท้าวเวชสุวรรณ รุ่นบวงสรวงพระปฐมบรมธรรมบิดา รุ่นมวลสารบ้านสวนพีระมิด รุ่นอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ มาวางล้อมขวดที่ใส่น้ำเปล่าๆ เพื่อให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้นำไปทำที่บ้านของตนเอง เพื่อดื่มกินล้างเซลล์ดำ กำจัดสิ่งไม่ดีในร่างกาย ทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ และ คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับคนที่ไม่มีพีระมิดจำลอง ให้ตั้งจิตคิดถึงคุณแม่ ก็สามารถทำน้ำพีระมิดได้

         เมื่อ คุณแม่อุบล นำน้ำพีระมิด ที่ล้อมด้วยองค์พีระมิดจำลอง มาให้พี่ผู้หญิงทื่มีอาการกำมือแล้วคัน ทาที่มือที่มีอาการคัน ปรากฎว่า เมื่อทาน้ำพีระมิดแล้ว อาการคันก็หาย

          พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดหัวเข่า เมื่อคุณแม่ให้เอาน้ำพีระมิดทาแล้ว อาการปวดหัวเข่าก็หายปวดได้

           ขอขอบคุณรายการ "รู้ค่าพลังงาน" ที่ออกทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ซึ่งได้เสนอนำ การนำขยะเปียกประเภทผักผลไม้ ที่จะเกิดการเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น มาทำการหมักในถังหมัก ที่มีเชื้อแบคทีเรีย และ ทำให้เกิดเป็นก๊าซ ใช้ในการหุงต้มทำอาหาร ที่บ้านสวนพีระมิด และ นำน้ำหมักที่ได้ มาทำเป็นปุ๋ยใส่พืชผักได้

           และ อานุภาพของจี้สฟิงซ์ แค่ถือในมือ ก็หายเจ็บ หายปวดได้

           และ คุณแม่ได้กล่าวถึงอานุภาพของจี้สฟิงซ์ที่มีความพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ  ตามลำดับ

           ขอน้อมกราบ ต่อธรรมะของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ท่านได้กล่าวถึง ความไม่อนิจจังของร่างกายของเรา ที่ธาตุดินเริ่มทรุดลงไปทุกวัน ซึ่งท่านได้กล่าวถึง ความแก่ 3 ประการ คือ

                ความแก่บน คือ ผมหงอก หูฝ้า ตาฟาง ฟันหัก ฟันหลอ ซึ่งทุกคนก็ยอมรับได้

                ความแก่ล่าง คือ เท้าเดินไม่ไหว ยันไม่อยู่ เดินเซไปเซมา ทุกคนยอมรับได้

                 แต่ ความแก่กลาง คือ ใจ เราไม่ยอมแก่ ทำให้ขาดสติสัมปชัญญะ ทำให้จิตไม่ระลึกถึงความตาย

                 หลวงพ่อกล่าวว่า ถ้าร่างกายเราเที่ยง เราก็ต้องเป็นเด็ก ตลอดไปได้ แต่ เพราะ ไม่เที่ยง รางกายนี้จะสุขหรือทุกข์ เมื่อไม่มีการทรงตัว

                  สาธุ สาธุ สาธุ

                  ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่มาใช้แรงกาย สิ่งของ ปัจจัย ที่บ้านสวนพีระมิด ครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-27 19:23:36


ความคิดเห็นที่ 1379 (1647388)

อนุโมทนากับคุณคุณากรด้วยนะคะ

ตำแหน่งเสือปืนไวนี้

ยกให้คนอื่นไปไม่ได้จริงๆ

แถมยังเสมอต้นเสมอปลายอีกต่างหาก

สาธุค่ะ

 

*********

 

รายการคุยไปแจกไปประจำวันที่ 23 ธ.ค.นี้

พอเปิดรายการมา

ก็ได้ยินเสียงเพลงปีใหม่ทำให้นึกถึงบรรยากาศ

ของบ้านสวนพีระมิด

(ช่วงเข้าค่าย 11)

ซึ่งถือว่าเป็นค่ายแรกที่ได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมค่ะ

 

ส่วนเนื้อหารายการในคลิป

เป็นการไปบรรยายนอกสถานที่ของท่านอาจารย์

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

ในหัวข้อ

"กิจกรรมธรรมะบำบัด ปลดล๊อกกรรม"

ซึ่งรายละเอียดก็เป็นไปตามที่คุณคุณากรเขียนไว้ค่ะ

 

 

สรุปโดยรวมคร่าวๆ ก็คือ

 

คนที่เข้ารับการบำบัดนั้นจะได้ผลดีหรือไม่เพียงใด

ขึ้นอยู่กับ

 

1.ศรัทธาบริสุทธิ์

(ศรัทธามากหายมาก ศรัทธาน้อยหายน้อย)

2.วัตถุทานบริสุทธิ์

3.เนื้อนาบุญบริสุทธิ์

(ท่าน อ.อุบล ทำบุญถวายในหลวงซึ่งเป็นเนื้อนาบุญ)

 

**********

เคล็ดลับสำหรับใช้รหัสสวรรค์

ควรพูดด้วยว่า

"อาจารย์อุบลช่วยด้วย"

ขอให้หายจาก...(อาการที่เป็น)...100% ทันที

 

 

ซึ่งจากงานนี้ธัญญาภรณ์ก็ได้อานิสงค์

คือระหว่างดูรายการ

ก็ได้ร่วมน้อมจิตตามคนที่ขึ้นไปบำบัด

โดยนึกตามว่า

"อาจารย์อุบลช่วยด้วย"

ขอให้หายจากอาการคัดจมูก 100% ทันที

 

ปรากฏว่าโล่งจมูกทันทีเลยค่ะ

ปาฏิหารย์จริงๆ

 

ขอกราบขอบพระคุณพระบารมีของ 3 ร่มโพธิ์ศรี

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

ท่าน อ.อุบล อ.มงคล และคุณท้อป

 

กราบสาธุค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-28 06:08:37


ความคิดเห็นที่ 1380 (1647533)

อนุโมทนากับธรรมทานของคุณคุณากรด้วยค่่ะ

วันนี้ได้ดูตอนล่าสุดคือตอนกิจกรรมธรรมบำบัด ปลดล๊อคกรรม

ณ มหาวิทยลัยราชภัฎตอนที่่ ๒

ได้ฟังตอนหนึ่่ง ท่านอาจารย์บอกว่าท่านมาจากอนาคต และในอนาคตข้างหน้าจะไม่ต้องใช้ยา หาหมอ ฉีดยา อีกต่อไป

ตอนนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนยุคระหว่างยุคพระสมนโคมกับยุคพระศรีอาริยเมตไตร

ได้ดูตอนที่คุณครูท่านหนึ่งปากเบี้ยว เพราะกรรมจากชอบด่า  และได้รับการบำบัดจากท่านอาจารย์อุบล ให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยช่วยให้หาย ๑๐๐ %  เดี๋ยวนี้ด้วยเถืด ทำให้คุณครูท่านนั้นอาการดีขึ้น

เดี๋ยวนี้พอจะดูรายการคุยไปแจกไปทีไรจะมีอาการหงุดหงิดทุกครั้ง 

ก็ได้แต่คิดว่าเจ้ากรรมนายเวรยังไม่ยอมปล่อย  แต่ก็จะพยายามดูต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-29 22:47:00


ความคิดเห็นที่ 1381 (1647545)

ว่าแต่ คุณ คุณากร เนี่ย

ยังครองแชมป์เสือปืนไว ได้ตลอดกาล

เพราะไม่มีใครมาแย่งตำแหน่งได้เลย

อนุโมทนาด้วยนะคะ

เพราะชนิดายังไม่มีโอกาสได้ดูเลย

 

แต่ได้มาอ่านธรรมทานทั้งจากพ่อหนุ่ม กร

เจ๊สีนวล และ ความคิดเห็นเพิ่มเติม

จากคุณ ถนอมขวัญ แล้ว

ก็ได้เนื้อหาสาระธรรมมากมายแล้วล่ะค่ะ

เพราะได้อ่านธรรมทาน

เกี่ยวกับกิจกรรมบุญใหญ่นี้ มาบ้างแล้วค่ะ

 

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ

เพราะความศรัทธา คือ ประตูด่านสำคัญที่สุด

ที่จะเปิดจิตเราให้สามารถ

รับ พลังบุญ พลังธรรม

เข้ามาบำบัดกายและบำบัดใจของเรา

ให้กลายเป็นคนปรกติ ที่มีความสุขได้ ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-30 07:39:23


ความคิดเห็นที่ 1382 (1647592)

 

กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                      และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                      ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ องค์สฟิงซ์ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                      ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                      ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เว๊ปมาสเตอร์

                      คืนนี้ ได้ชมคลิป ของวันที่ 30 ธันวาคม 2555

"กิจกรรมธรรมะบำบัด ปลดล๊อกกรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม ตอนที่ 2 "

            ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล ที่นำเพลงสวัสดีปีใหม่ มาอวยพรให้กับ ลูกหลานบ้านสวน เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2556 ครับ

            ขอขอบคุณ หนังสือบางกอกโพสต์ ที่มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด เรื่อง รหัสจักรวาล "อาจารย์อุบล ช่วยด้วย"และ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มอง ก็หายเจ็บหายปวดได้      

            ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

            น้องนักศึกษาผู้หญิง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองปวดท้อง เมื่อ คุณแม่อุบล ให้ใช้รหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย" อาการปวด ก็หายไปเกือบ 80%  คุณแม่ ได้แนะนำ ว่าให้ลอง ใช้รหัสใหม่ อีกครั้ง โดยให้ใช้คำพูดว่า "อาจารย์อุบล ช่วยด้วย ขอให้หายปวดท้อง 100% ด้วยเถิด" ปรากฎว่า หายปวดทันที 100%

              พี่ผู้หญิง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองปวดเข่า เมื่อใช้รหัสในครั้งแรก ก็หายปวดได้เกือบ 80 % แต่เมื่อ ลองใช้รหัสครั้งที่ 2 โดยใช้ คำพูดว่า"อาจารย์อุบล ช่วยด้วย ขอให้หายปวดหัวเข่า 100% ด้วยเถิด"    ก็ปรากฎว่า อาการปวดหัวเข่าก็หายได้ 100 %

              พี่ผู้หญิง ที่มีอาการ ปวดขา ปวดแขน เป็นฝีที่ก้น ก็ใช้รหัสโดยการบอกกล่าวว่า ขอให้อาการที่ปวดขา ปวดแขน และ เป็นฝีที่ก้น หายทันที 100% ก็ปรากฎว่า อาการปวดขา ปวดแขน หายทันที และ ฝีที่ก้นก็คลำก็ไม่เจออีกแล้ว

               คุณยาย ที่ออกมาบอกว่า ตนเองปวดท้อง มาเกือบ 2-3ปี ที่เกิดจากการเป็นโรคกระเพาะ ต้องใช้รหัสถึง 3 ครั้ง ก็มีอาการดีขึ้น แต่ไม่หาย เนื่องจาก เมื่อ คุณแม่ได้แนะนำให้ใช้คำพูด ว่า "อาจารย์อุบล ช่วยด้วย ขอให้ยายหายจากการปวดท้อง 100 % ทันทีเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด" คุณยายก็พูดตกโน่นตกนี้ ไม่ครบ ทำให้อาการที่ปวดไม่หายทันที

               อาจารย์ปิยะวรรณ(อาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฎ) ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเจ็บคอไอ มาเกือบ 2 ปี เมื่อ คุณแม่บอกให้ใช้รหัส ก็ใช้รหัส ปรากฎว่า ดีขึ้น ไม่รู้สึกระคายคออีก

               คุณลุง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองปวดกระดูก มาเกือบ 2 ปี แค่ได้พูดคุยกับคุณแม่อุบล ก็หายปวดกระดูก คุณแม่ บอกว่า ที่หายได้นั้นเกิดขึ้นจาก ที่คุณลุงมีความศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวคุณแม่

                คุณป้า ที่ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองปวดขา เมื่อได้ให้ใช้รหัส ถึง 3 ครั้ง อาการก็ดีขี้น เกือบ 50 %

                                     พี่ผู้หญิง(จากราชบุรี)  ที่มีอาการปวดหัว ปวดคอ ปวดไหล่ ใช้รหัสครั้งแรก อาการปวดก็หายไปเกือบ 50 % เมื่อให้ใช้รหัสครั้งที่สอง ก็หายปวดหัว ปวดคอ ปวดไหล่ ทันที

                 น้องเด็กผู้หญิง ที่บอกว่า ตนเองปวดแขน คุณแม่อุบล ท่านได้มีเมตตาสอบถามน้องว่า เคยตีเพื่อน เคยเอาของๆเพื่อนหรือไม่ น้องเค้าสารภาพว่า เคยกระทำ ก็ปรากฎว่า แค่สารภาพ อาการปวดแขนก็หายทันที

                                      คุณ จุฑามาส (เป็นสรรพากร)  ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเอง ปวดเข่า ปวดข้อเท้า คุณแม่ได้มีเมตตาสอบถามว่า เคยฆ่ามด ฆ่าแมลงไหม พี่เค้าก็บอกว่า เคยฆ่าแมลงสาป ตีขาสุนัข อาการที่ปวดก็หายไปเกือบ 90 %

                 คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า วิธีการที่สามารถช่วยให้ผู้คนหายเจ็บ หายปวดได้นั้น ก็มีหลากหลายวิธี เช่น การพูดว่าหายนะลูก ใช้รหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วย การใช้อุปกรณ์ช่วย และ การไม่ได้ใช้อุปกรณ์ช่วยเลย แต่การที่เราใช้รหัส นั้น เราก็ใช้ในกรณีฉุกเฉิน แต่ ไม่ได้ถอนรากถอนโคนของบาปกรรม การที่จะถอนราก ถอนโคนได้นั้น จิตของเราต้องเปิด เราต้องยอมรับในสิ่งที่เรากระทำ เราต้องมีความรู้สึกสำนึกผิด เราต้องคิดได้ เราต้องอยากเปลี่ยนกรรมของเราทันที

                                            คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า มีอุปกรณ์ที่สามารถช่วยให้ผู้คนหายเจ็บ หายปวดได้ เช่น

                     อุปกรณ์รุ่นคุ้มเกล้า คุ้มกระหม่อม โดยการให้คุณธนา ออกมาเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้คน

                     คุณธนาได้แนะนำให้ พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดขา มาเกือบ 10 ปี กราบ 3 ครั้ง ที่อุปกรณ์ที่เป็นรูปภาพของคุณแม่อุบล กราบครั้งแรก อาการก็ดีขึ้นเกือบหาย คุณแม่ก็แนะนำว่า ให้ลองกราบ 3 ครั้ง อีกครั้ง ก็ปรากฎว่า เมื่อกราบครั้งที่สอง อาการที่ปวดขาก็หายทันที

                      ต่อมา พี่ผู้หญิงที่เป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ ออกมาบอกว่า ตนเองมีอาการชาที่นิ้วมือ ก็ให้สารภาพบาปกับจี้สฟิงซ์ของคุณธนา โดยการพูดออกเสียงว่า ตนเองเคยฆ่าปลวก ฆ่ามด เมื่อสารภาพบาปแล้ว อาการที่ชา ก็หาย

                       ต่อมา พี่ผู้หญิงที่มีอาการนิ้วล๊อก แค่ให้จ้องมองจี้สฟิงซ์รุ่นอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ 2 องค์ ของคุณธนา แค่ 40 วินาที อาการที่นิ้วล๊อก ก็ดีขึ้นเกือบ 50 % ครั้งที่สอง คุณแม่ได้แนะนำให้ มองดูจี้สฟิงซ์ทั้ง 9 องค์ (ประกอบด้วย จี้รุ่นอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี และ รุ่นแรก) แค่จ้องมองเพียง 20 วินาที อาการก็ดีขึ้น ถึง 70 %

                       อาจารย์ปิยะวรรณ ที่มีอาการเจ็บคอ เหลือ อีก 20 % เมื่อให้จ้องมองจี้ที่คุณธนาสวมที่คอ แค่ 20 วินาที อาการที่เจ็บคอก็หาย

                       คุณป้า ออกมาบอกกว่า ตนเองปวดเข่ามาปีกว่าๆ เมื่อได้มองจี้สฟิงซ์ ก็ดีขึ้นเกือบ 70 % เมื่อได้สารภาพว่าเคยเชือดเป็ด เชือดไก่ และ ฆ่างู อาการก็ดีขึ้นอีก

                       พี่ผู้หญิง(เป็นอาจารย์ที่เกษียณแล้ว) ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเป็นอัมพฤกษ์ที่ใบหน้า ทำให้รูปปากไม่สวย สารภาพว่า ตนเอง เคยด่าผู้คน ดุลูกศิษย์ นินทาว่าร้ายผู้อื่น เคยเถียงพ่อแม่ เมื่อสารภาพแล้วอาการรูปปากไม่สวยก็ดีขึ้น เมื่อได้จ้องจี้สฟิงซ์ไปประมาณ 60 วินาที ดีขึ้นเกือบ 80 % เมื่อคุณแม่อุบลได้เมตตาให้ถือองค์พีระมิดรุ่นอาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริ ย์ ก็เกิดอาการอบอุ่นขึ้นที่มือ

                      คุณพี่ผู้ชายที่เป็นตำรวจ ออกมาด้วยอาการลำตัวไม่ตรง ไหล่เอียง ปวดสีข้าง บอกว่า เคยน้ำท่วมปอด และทำการเอาน้ำออกจากปอด ก็เลยเกิดผลข้างเคียง เมื่อให้จ้ององค์จี้สฟิงซ์ และ คุณธนาได้ช่วยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย อาการที่ปวดสีข้างก็ดีขึ้นเกือบ 60 %

                       คุณแม่ได้แนะนำให้ คุณพี่ตำรวจพูดรหัสเอง เมื่อคุณแม่ได้ให้จ้องที่องค์จี้สฟิงซ์ไปด้วย และ ให้สารภาพว่า เคยฆ่าค่าง ฆ่าลิง หรือ รู้เห็นเป็นใจในการทำแท้ง หรือไม่ พี่เค้าสารภาพว่าเคยฆ่าค่าง ฆ่าลิง แต่ เรื่องการทำแท้งไม่แน่ใจว่าเคยทำไหม เคยซ้อม เคยตบ เคยเตะผู้ต้องหาคุณแม่ได้แนะนำให้กล่าวคำขอโทษต่อค่าง ที่เคยฆ่าเค้าเล่น อาการที่ปวดก็หาย คงเหลือแต่อาการตึง

                                                     คุณ แม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมกับพี่ตำรวจว่า พี่ตำรวจอาจจะมีเรื่องที่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าบอก แต่ก็ขอให้ได้รับผลของการหายปวดหายเจ็บ เท่าที่ได้รับสารภาพ การให้ความร่วมมือ และ การสำนึกในเรื่องที่ตนเองกระทำมา เมื่อ คุณแม่ให้พี่เค้าถือองค์พีระมิด พี่เค้าก็มีอาการสั่น และ บอกกล่าวว่า เหมือนองค์พีระมิดจะดันมือของพี่เค้าลงสู่ข้างล่างตลอดและ รู้สึกจะหนัก คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ลำตัวของพี่เค้าจะตรงเหมือนเดิมได้ ถ้าพี่เค้าเข้าใจถึงพระธรรมที่ได้มาฟัง

                                                       ขอ ขอบคุณ รายการ "รู้ค่าพลังงาน" ทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดย ท่านด๊อกเตอร์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ที่ได้ออกอากาศ เผยแพร่การทำก๊าชหุงต้ม ด้วยขยะเปียกของบ้านสวนพีระมิด และ ยังได้ปุ๋ยหมักที่เกิดจากการหมักของเศษอาหาร

                         และ ปรากฎการณ์ของจี้องค์สฟิงซ์ ที่ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้สัมผัสแล้วหายเจ็บหายปวดกันทุกคน

                         และ ปรากฎการณ์ของจี้สฟิงซ์ในแต่ละรุ่น ที่มีการพัฒนาในด้านอานุภาพขึ้นมา จนถึงขั้นแค่มองไม่ต้องแตะต้องก็หายเจ็บหายปวดได้

                         ขอขอบคุณ ท่าน รศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก ที่ได้เรียนเชิญ คุณแม่อุบลไปบรรยายธรรมะที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

                          ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้ไปใช้แรงกาย ปัจจัย สิ่งของ ที่บ้านสวนพีระมิด ครับ

                         ขอน้อมกราบต่อพระธรรมของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่หลวงพ่อได้เทศน์ ให้เราได้เห็นอนิจจังในเรื่องสังขารร่างกายของเรา เพราะ หลวงพ่อท่านได้กล่าวว่า ตอนเราเป็นเด็ก เราก็อยากเป็นหนุ่มเป็นสาว แต่การที่เราจะเติบโตได้ ร่างกายเราก็ต้องการอาหารมาหล่อเลี้ยงให้ร่างกายเจริญเติบโต ซึ่ง เราก็ต้องแสวงหาอาหารมาหล่อเลี้ยงร่างกายของเรา ก็ทำให้เราเป็นทุกข์ในการแสวงหาอาหาร เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้สอย ที่อยู่อาศัย  เพื่อการดำรงชีวิต

                                                            สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-30 23:24:10


ความคิดเห็นที่ 1383 (1648057)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                          และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                          ขอน้อมกราบ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                           ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                            ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์​บ้านสวนพีระมิด

                            คืนนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 6 ธันวาคม 2556

                    "ธรรมะกับทางรอด เตรียมกายเตรียมใจสู้ภัยพิบัติ"

                  ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล ที่อวยพรในวันขึ้นปีใหม่ ด้วยเพลง แด่ ลูกบ้านสวนพีระมิด ครับ

         ขออนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ที่ได้มีโอกาสไปใช้แรงกาย ปัจจัย สิ่งของ กับบ้านสวนฯ และ ได้ร่วมฉลองปีใหม่ที่บ้านสวนฯ และ มีกิจกรรมบนเวที เพื่อแสดงถึงความกตัญญูของลูกบ้านสวนฯ ที่มอบให้แด่ คุณแม่ คุณพ่อ และ คุณท๊อป ที่ท่านรักและเมตตาต่อลูกบ้านสวนฯ

                  ขอ ขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนฯ เรื่อง รหัสจักรวาล อ.อุบลช่วยด้วย จี้สามร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายเจ็บหายปวดได้

          ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

           พี่ผู้ชายออกมาบอกเล่าว่า ตนเองมีอาการชาที่มือ เนื่องจากเป็นปลายรากประสาทอักเสบ ตึงที่ช่วงน่อง ซึ่ง คุณแม่ได้ให้คุณธนาช่วยบำบัด โดยการให้พี่ผู้ชายมองที่จี้สฟิงซ์ แค่ สามสิบห้าวินาที่ อาการที่ชาที่มือก็หายเป็นปกติ

           คุณพี่วราภรณ์ ซึ่งมีอาการปวดทั้งร่างกาย เรื่องจากเป็นรูมาตอย์ มาเกือบ ยี่สิบสามปี เมื่อคุณแม่ได้อาราธนาฉับพลันรังสีของพระพุทธองค์ ส่งให้กับคุณพี่ ปรากฎว่า อาการที่เจ็บปวดหลังก็หายได้ทันที และ นิ้วมือก็เริ่มมีแรง และ สามารถนั่งลงกับพื้นได้ ซึ่งก่อนหน้านั้น ไม่เคยนั่งลงกับพื้นได้ คุณแม่ได้ขอให้พี่สาว ได้ใช้รหัสจักรวาล ช่วยให้การเจ็บปวดเมื่อขณะนั่ง ได้บรรเทาไปได้บ้าง และ ให้ใช้รหัสอีกครั้ง อาการที่เจ็บปวดก็หายไป และ ให้ใช้รหัสช่วยให้บิดขาที่ไม่เคยบิดได้

            ปรากฎการณ์ของการบำบัด ซึ่ง เมื่อก่อนต้องมองจี้ ก็หายเจ็บหายปวดได้ ก็มาเป็น แค่ ฟังธรรมะของพระพุทธองค์ก็หายเจ็บหายปวดได้แล้ว

            ท่านด๊อกเตอร์ ใกล้รุ่ง ได้ขออนุญาตสอบถาม ถึง เรื่องภัยพิบัติที่กำลังใกล้เข้ามา ว่า จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และ ควรปฎิบัติตัวอย่างไร

             คุณแม่ได้กล่าวว่า เรื่องภัยพิบัตินั้น ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่อย่าไปกังวลให้มากนัก ขอให้เป็นคนดี หมั่นทำบุญ ทำทาน ทำสมาธิ แต่ ทุกวันนี้ คนเรามีทุกข์ ซึ่งเกิดขึ้นจากที่คนเรา ผิดศีลทั้งห้าข้อ ผิดอบายมุข และ ทำผิดอนันตยกรรม

             ศีลข้อที่หนึ่ง เราก็ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตผู้อื่น ฆ่าคน ซึ่งระดับของบาปกรรมนั้น ก็ย่อมแตกต่างกันไป เพราะ ขึ้นอยู่ที่เจตนา และ ผู้คนที่เราฆ่าเค้านั้น เค้าเป็นผู้มีความดีหรือไม่ เราอาจจะเป็นคนทำแท้ง สนับสนุนให้เค้าทำแท้ง หรือ รู้เห็นเป็นใจในการทำแท้งของผู้อื่น ซึ่งการกระทำความผิดนั้น อาจจะเกิดได้จาก ที่เราลงมือกระทำด้วยตนเอง ยุยงส่งเสริมให้เค้ากระทำ ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นกระทำผิดแล้ว

             ศีลข้อสอง ลักทรัพย์ ทำให้ผู้อื่นเสียทร้พย์ โดยที่เค้าไม่ยินยอม หรือ เต็มใจ เอาของวัดกลับบ้าน เอาของที่ทำงานมาใช้ส่วนตัวที่บ้าน ชอบของฟรี ชอบเอาเปรียบผู้อื่น ซึ่งเป็นสาเหตุแห่งความยากจน เป็นเหตุที่เร่งให้เกิดภัยพิบัติ  ทำให้ทรัพย์สินของเราเสียหาย ซึ่ง ทานที่เหนือทานทั้งปวง นั้นคือ การให้อภัยทาน เลิกโกรธ เลิกแค้น เลิกพยาบาทจองเวรซึ่งกันและกัน

             ศีลข้อสาม กระทำความผิดทางเพศ สำส่อน ทางเพศ ทั้งทางกายวาจาใจ มีกิ๊ก มีชู้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกหลานดื้อ ไม่เชื่อฟัง ไม่มีคนจริงใจกับเรา ทำอะไรก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้ต่อมลูกหมากโต ไส้เลื่อน

             ศีลข้อที่สี่ ชอบการโกหก ปลิ้นปล้อน เอาความดีใส่ตัว เอาชั่วให้ผู้อื่น เป็นเหตุให้ รูปปากไม่สวย ปวดฟัน ฟันบิด เจ็บลิ้น ปากเหม็น พูดจาไม่มีใครเชื่อถือ

             ศีลข้อที่ห้า   ชอบดื่มสุรา ของมึนเมา ทำให้เกิดเป็นโรคปวดหัว ขี้หลงขี้ลืม มึนงง

              คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ที่จริงภัยพิบัตินั้น เกิดขึ้นเพื่อล้างคนชั่ว คนบาป เพื่อให้เหลือแต่คนดี คนที่รอดชีวิตจะเป็นคนที่จะเป็นอริยเจ้า คนที่เป็นโสดาบัน

               เวลาที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ นั้น คุณแม่ ได้แนะนำให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย เมื่อมีความเจ็บปวดทางร่างกาย ก็ใช้รหัสข่วยบรรเทาอาการเจ็บอาการปวดได้

               ด๊อกเตอร์อาจอง ได้บอกว่า เหตุการณ์นั้น ให้ระมัดระวังในเดือนธันวาคม มกราคม จะเกิดภัยพิบัติหนัก และ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะ คนเรายังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้พวกเราเตรียมเสบียงอาหาร เพราะ เมื่อเกิดพายุสุริยะ นั้นจะก่อให้เกิด แผ่นดินไหว เกิดสีนามิ เนื่องจากมีแรงกระแทก จากพลังของคลื่นรังสี

              คุณแม่ บอกว่า ถ้าเรามีความเชื่อในเรื่องนี้ ก็ให้เตรียมตัวเตรียมเสบียง แม้นไม่เกิดก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเรารู้ แต่เราไม่เชื่อ เราก็ไม่เตรียมตัวเตรียมเสบียง ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ เราก็ต้องเสียใจ

              ให้เรามีองค์พีระมิด อยู่ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ที่ในรถ เมื่อเกิดเหตุการณ์เราจะได้ลดผลกระทบลงได้ เพราะ เราอาจจะตกอยู่ในภาวะแวดล้อมที่เกิดเหตุการณ์ได้ แต่ตัวเราจะไม่เป็นอันตรายอะไร เพราะ ที่ปลอดภัยที่สุด คือ ที่ๆมีองค์พีระมิด แต่ คุณแม่บอกว่า ถ้าเราไม่มี ก็ให้ใช้จิตของเราจินตนาการว่าตัวเรา มีพีระมิดที่เป็นแก้ว ครอบตัวเราอยู่ และ ให้ท่องคาถา "ปะโตเมตัง" ด้วย และ ให้เอาคาถานี้ ไปแปะติดรอบๆ บ้านของเรา  ถ้าเราบาดเจ็บ ก็ให้เราใช้รหัสจักรวาลในการบรรเทาอาการเจ็บปวดของเรา

               ถ้าเราตกอยู่ในภาวะแวดล้อมที่ไม่มีอาหาร ก็ให้ใช้รหัสจักรวาล ในการขอให้เราไม่รู้สึกหิว ให้เรารู้สึกอิ่มท้อง อยู่ด้วยจิตที่สงบ อยู่ด้วยอาหารอภิญญา อยู่ด้วยธรรมะปิติ

               ลูกอม ที่ผ่านการอาราธนา ฉับพลันรังสี ผ่านการอาราธนาบารมีของพระศรีอาริย์ ทำให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่มีความรู้สีกหิว เมื่อได้อมลูกอมแล้ว รู้สึกไม่หิว รู้สึกอิ่ม โดยการที่เราสามารถทำด้วยตัวเราเอง โดยใช้รหัสจักรวาล ในการขอให้ลูกอมของเรา เมื่อเราอมแล้ว ไม่รู้สึกหิว รู้สึกอิ่ม เหมือนเราได้ทานอาหารแล้ว

              เมื่อเกิดพายุสุริยะ จะทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด ดาวเทียมก็จะตก สื่อสารกันไม่ได้ ให้เราเตรียมไฟฉาย ถ่านไฟฉาวย เตรียมเอาไว้ในบ้าน ไว้ในหลายๆ ที่ และ ให้ทุกคนในบ้านของเราได้ทราบว่า ตำแหน่งที่วางไว้อยู่ที่ไหน เตรียมเสบียงอาหารไว้ในแต่ละที่ของบ้าน และ ให้เตรียมตัวเตรียมใจ ยอมรับกับความตาย เพราะ คนเราอย่างไร ก็ต้องตายด้วยกันไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะ คนเราก่อนจะตาย บาปกรรมที่เคยกระทำมา ก็จะผุดขึ้นมา ถ้าเรากระทำแต่ความดี จิตใจเราก็จะมุ่งสู่พระนิพพาน เตรียมตัวไว้ อย่าให้จิตใจเราห่อเหี่ยว ให้เราคิดว่า การเกิด ภัยพิบัตินั้น ก็คือการเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ อย่าไปคิดว่า โลกจะสูญสิ้นไป และ ภัยพิบัติก็ไม่ได้เกิดขึ้นแต่เพียงวันที่ ยี่สิบเอ็ด ยี่สิบสอง ธันวาคม เท่านั้น แต่จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ และ จะหนักขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่คนชั่ว คนบาป เค้ายังไม่สำนึก เปลี่ยนแปลงตัวเอง สำหรับ ลูกหลานที่เป็นคนดี คุณแม่ บอกว่าจะอยู่รอดปลอดภัย

            ปรากฎการณ์ของจี้สฟิงซ์ ที่นับวัน อานุภาพก็ยิ่งพัฒนาขึ้น คือ แค่มองก็หายเจ็บหายปวดได้

            หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้บอกกล่าวว่า เมื่อธาตุทั้งสี่ที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายของคนเรานั้น ไม่เที่ยง มีแต่ทรุดลงไปเรื่อยๆ  พระพุทธองค์ ท่านได้แนะนำว่า ให้คิดโดยใช้ปัญญา อย่าไปใช้ความจำ ว่า ธาตุทั้งสี่นั้น ไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ แล้วก็ตาย เป็นธรรมดาของคนเรา เราห้ามปรามไม่ได้

             ถ้าจะตาย ก็ห้ามไม่ได้ พระองค์ทรงแนะนำให้ยอมรับนับถือ ความจริงที่ว่าร่างกาย ประกอบด้วยธาตุทั้งสี่ ไม่มีความเที่ยง ความแก่ ความป่วย ก็จะไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจสำหรับเรา จะตายเมื่อไรก็ตาม เราก็จะมีความสุข เพราะ เรายอมรับนับถือกฎแห่งความเป็นจริงได้ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-06 20:43:21


ความคิดเห็นที่ 1384 (1648076)

อนุโมทนากับคุณ กร ด้วยนะคะ

ไม่ได้ดูรายการมาเดือนหนึ่งแล้วค่ะ

เพราะคอมที่บ้านเปิดไม่ได้

ก็ได้แต่มาอ่าน  จากคุณ กร นี่แหละค่ะ

สาธุ  สาธุ  สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-07 08:47:12


ความคิดเห็นที่ 1385 (1649651)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                       และ ขอสวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                       ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หสวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                       ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                       ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์

                       คืนนี้ ได้ดูคลิปของวันที่ 13 มกราคม 2556

                "พิสูจน์ อภิญญาบารมี ด้วยตนเอง ณ บ้านสวนพีระมิด"

                   ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่ได้มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่อง จี้สฟิงซ์ แค่มองก็หายเจ็บหายปวดได้

         คุณแม่อุบล ท่านได้กล่าวให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้ฟังว่า อานิสงค์ของการรักษาศีล5 และ การปิดนรกทั้ง 5 ขุม ได้ ท่านจะได้เป็นพระโสดาปฏิมรรค

         คุณแม่ได้สอบถาม ท่านอาจารย์ที่สอนวิชาพุทธศาสนา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐมว่า นิพพาน แปลว่าอะไร

         ท่านอาจารย์ ท่านก็ได้ตอบแบบวิชาการว่า คือการดับกิเลส ละความโลภ โกรธ หลง และ ทำให้จิตให้สงบ

         คุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า นิพพาน คือการพ้นทุกข์ทั้งปวง และ กล่าวว่า ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กล่าวไว้ว่า ใครที่ปรารถนาจะไปนิพพาน  สามารถไปได้ทุกคน ยกเว้นแต่คนโง่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้บอกว่า ท่านเป็นพระที่เลว เป็นพระที่ระยำ เป็นพระที่บ้า ท่านเล่าความไม่ดีของตนเองให้เป็นธรรมะทานให้คนอื่นได้ฟัง และ ท่านได้เขียนประวัติของตนเองไว้ในหนังสือ ประวัติของฉันและมโนมยิทธิ ท่านไม่ปรารถนาให้ใครมาเขียนประวัติของท่านตอนที่ท่านมรณภาพ ไม่ต้องมาอ่านประวัติตอนงานศพของท่าน เพราะว่า ท่านบอกว่า คนที่ตายไปแล้วไม่มีใครเอาความไม่ดีมาบอกกล่าวให้ใครฟังหรอก ทุกคนที่ตายไปแล้วเป็นคนดี ทำแต่ความดีทั้งนั้น  ถึงแมัน ตอนมีชีวิตจะเป็นคนไม่ดีอย่างไร

                คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวต่อไปว่า ท่านด๊อกเตอร์อาจอง ก็ให้นิยามของคำว่านิพพานว่า คือ ความจริง ผู้ใดที่กล้าพูดความจริงอย่างหมดเปลือก จะพ้นทุกข์ทั้งปวง และ ไปถึงนิพพานได้

               คุณแม่อุบลได้กล่าวว่า เมื่อป่วยก็เป็นทุกข์ เมื่อจนก็ทุกข์ ให้หาสาเหตุแห่งทุกข์ และ ดับหาทางดับทุกข์

               ท่านกล่าวว่า คนเราต้องมี หิริโอตัปปะ(เทวธรรม) ธรรมที่ทำให้คนเป็นเทวดา คือ ละอายต่อการทำบาป และ เกรงกลัวต่อผลของบาป เพราะ ถ้าเป็นเทวดาเมื่อหมดอายุขัย ก็ไม่พ้นการเกิด ต้องกลับมาเกิดเป็นคนอีก ถ้าเป็นพรหม ก็ยังคงมีการเวียนว่ายในวัฎจักรสงสาร ยกเว้นแต่เป็นชั้นดุสิตบุรี ซี่งรอการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปฎิบัติจนเข้าสู่พระนิพพาน ซึ่งความตายเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน แต่ตายเมื่อไรนั้นไม่แน่นอน ให้เรารักษาศีล5 ปรารถนาพระนิพพาน คิดว่าเราเกิดมาแล้วต้องตายกันทุกคน จะได้เป็นพระโสดาปฎิผลกันทุกคน ได้ไปสวรรค์ ไปพรหม อย่างแย่ที่สุด ก็กลับมาเกิดเป็นคน แต่จะไม่มีทุกข์ มีความมั่งคั่ง สมปรารถนาทุกประการ

               คุณทัศนีย์ได้ออกมาบอกกล่าวว่าได้ทำworkshop และ บรรดาสมาชิกในกลุ่มต่างก็มีผลที่เกิดขึ้นกับตนเอง คือ

              คุณเหมียวนั้นไม่มีปัญหาอะไร

              คุณจิตงาม นั้นออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองขากรรไกรค้าง เมื่อทำกิจกรรมทั้ง 2 วันสำเร็จแล้ว   อาการที่ขากรรไกรค้างก็ดีขึ้น ทำให้อ้าปากได้กว้างขึ้นกว่าเดิม และ เมื่อได้ทานลูกอมอภิญญา อาการก็ดีขึ้นจนถึงเกือบ 70 %

              คุณแม่อุบล ได้กล่าวถึงน้องฟลุ๊คที่เป็นเอดส์มาตั้งแต่เด็ก และ น้องเค้าได้กดไลท์ในเฟสบุ๊คของบ้านสวน และ ได้ทำการสารภาพบาปตามแบบบ้านสวนฯ ทำให้ผลการตรวจเลือด ออกมาเป็นค่าปกติ

               คุณทัศนีย์ ได้บอกกล่าวว่า ตนเองเป็นนิ้วล๊อค ต้องทานยาคลายเส้น ต้องฉีดสเตอรอยด์ และได้สารภาพว่า เคยฆ่าเต่า ฆ่าตะพาบน้ำ โดยการนำไปเผาแล้วตัดคอ ฆ่าอีเห็นโดยการจับใส่กรงแล้วเอาไปถ่วงน้ำให้ตาย เคยฆ่ากระรอก เพื่อมาทำเป็นอาหาร เมื่อได้รับการอมลูกอม ทำให้นิ้วที่ล๊อกหายล๊อกและนิ้วหายบวม 

                ที่บ้านสวนพีระมิด คุณแม่อุบลให้ลูกหลานบ้านสวนฯ หยิบเอาลูกอมไปคนละ 3 เม็ด และ ให้นำมามอบคืนให้คุณแม่อุบล คนละ 1 เม็ด(เพื่อทำเป็นตัวส่ง) ให้เก็บไว้ที่ตนเอง 2 เม็ด เม็ดหนึ่งให้ทำเป็นตัวรับ และ อีกเม็ดเพื่อทำลูกอมอภิญญาบารมีด้วยตนเอง โดย ไม่ต้องตั้งจิตอธิษฐานใดๆทั้งสิ้น เพราะ ลูกหลานบ้านสวนฯ ต่างก็เคยฝึกทำกสินมาแล้ว ฝึกทำทานให้เต็มกำลังมาแล้ว ได้ฝึกการรักษาศีลมาแล้ว ให้ใช้ผลของการที่ได้รับการฝึกมาในการทำลูกอมอภิญญา

               เมื่อ คุณแม่ได้ให้แกะลูกอมที่ตนเองถือไว้และทำอภิญญาด้วยตนเอง ปรากฎว่า ทุกคนต่างออกมารายงานผลว่า

               คุณเต้ อมแล้วอาการที่เย็นที่ศีรษะ ก็มีความอบอุ่น อาการปวดหัวก็ดีขึ้น

              พี่อ้อย หายปวดคอ หายปวดแขน

              พี่ผู้ชาย หายจากการหนาวที่เกิดจากความเย็นของแอร์

              คุณธนา ก็หายจากการไอ ที่เกิดจากความเย็นที่ได้รับจากแอร์

              คุณเหมียว ที่มีอาการปวดปัสสาวะ จนขนลุก เมื่อทานลูกอม ก็หายจากอาการปวดปัสสาวะ

                               คุณก้อย เสียงที่แหบ เจ็บคอ อมแล้วดีขึ้น ไม่ไอหลังจากอมลูกอม และ ยอมรับว่าตนเองเคยผิดศีลข้อ 4

              คุณอัญ หายหนาว ร่างกายอบอุ่นขึ้น

              คุณตุ้ย อมลูกอมแล้วหายหนาว อบอุ่นขึ้น

              คุณเบส ร่างกายอบอุ่นขึ้นเมื่อได้อมลูกอม

              น้องบัว เกิดอาการขนลุก ปากที่เคยคล้ำดำก็ดีขึ้น

              คุณจ๋าว มือที่เคยแห้ง ก็มีเหงื่อออกมา

              คุณเจี๊ยบ มีอาการคอตึง คอแข็ง

     คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อป้องกันความสงสัยว่า เราจะเอาอะไรใส่ในลูกอม ที่เราแจกให้เพื่อนๆของเรา ก็ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ แนะนำให้เพื่อนๆของตนเอง ได้นำลูกอมของเค้ามาเอง ให้ลูกหลานบ้านสวนแค่ถือไว้ในมือเท่านั้น แล้วส่งมอบคืนให้เค้านำไปอมเป็นลูกอมอภิญญา

           เมื่อ คุณแม่ได้ให้นำลูกอมที่ได้รับการเชื่อมญาณจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และจากคุณแม่ ลองไปอมดูว่ามีอาการอย่างไรบ้าง

          พี่อ้อย มีอาการขนลุกจนถึงศีรษะ ร่างกายเบาโล่ง สบายไม่มีความกังวลอะไรอีกเลย

          พี่ผู้ชาย ออกมาบอกว่า ตนเองมีความรู้สึกหนักแน่น และ มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น

         น้องผู้ชายอีกคน ก็ออกมาบอกว่า ตนเองมีพลังงานอยู่ที่ศีรษะ

         น้องผู้ชายอีกคน ก็ออกมาบอกว่า ตนเองขนลุก รู้สึกปิติ แขนที่ปวดก็หายไป

          คุณแหล๋น มีอาการเลือดลมไหลได้สะดวก ร่างกายอบอุ่นขึ้น รู้สึกตัวเบาขึ้น 

          พี่ผู้หญิงอีกคน ก็ออกมาบอกว่า ตนเองรู้สึกเบาที่ศีรษะ ใจเต้นแรงขึ้น รู้สึกปิติยินดี

          คุณตุ้ย มีอาการขนลุก เบาโปร่งโล่ง เหมือนได้นั่งสมาธิมา

          คุณมะเหมี่ยว หายคันคอ หายคันจมูก

          ดร.จิ๋ม บอกว่า ทานเม็ดแรก ตาก็สว่างขึ้น เม็ดที่สองทำให้ตัวรู้สึกเบา สบายใจ หายปวดหลัง หายปวดเท้า

           คุณอัญ รุ้สึกว่ารสชาติของลูกอมนุ่มอร่อย ตัวเบา ตาสว่าง หน้าสว่างยิ่งขึ้น

           อาจารย์พัน ได้ออกบอกกล่าวว่า เม็ดแรกรู้สึกซ่า ลูกอมเม็ดที่สอง ทำให้จิตสงบนิ่งยิ่งขึ้น

           อาจารย์นีย์ เกิดอาการขนลุก ร่างกายอุ่นขึ้น เมื่อทานเม็ดที่สองก็ยิ่งอุ่นขึ้น แขนเหมือนมีพลังหมุนเวียน

         คุณจ๋าว เม็ดแรกทำให้มีเหงื่อออกที่มือ แต่เม็ดที่สอง ทำให้เหงื่อแห้ง ร่างกายอบอุ่น

           พี่แก้ว ออกมาบอกว่า หายหนาว เม็ดที่สอง ร่างกายอุ่นขึ้น มือที่เคยชาก็หายชา อาการปวดที่ขมับก็ดีขึ้น

            คุณอัญ ออกมาบอกว่า เสียงที่แหบก็ดีขึ้นอีก

            คุณทัศนีย์ ทานเม็ดแรก ร่างกายอบอุ่น ทานเม็ดที่สอง นิ้วที่ล๊อกก็ไม่ล๊อกแล้ว กำมือได้

            คุณเจี๊ยบ คอหายแข็ง ร่างกายมีพลัง ร่างกายอบอุ่นขึ้น

            คุณสมจิตร ทานเม็ดแรก หายปวดหัว ทานเม็ดที่สอง รู้สึกโล่งโปร่งสบาย

             คุณพี่ผู้หญิง ทานเม็ดแรก ขนลุก หายเจ็บจิ๊ดๆ เม็ดที่สอง เกิดอาการขนลุก ตัวที่เคยเอี้ยวไม่ได้ ก็เอี้ยวตัวได้แล้ว

            คุณตุลย์ ทานเม็ดแรก ขนลุก ทานเม็ดสอง ขนลุกทั้งตัว ตัวเบา จิตนิ่ง ร่างกายอบอุ่น

            อาจารย์เบญจรัตน์ ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ทานเม็ดแรก ก็เกิดอบอุ่น หายหนาว เมื่อทานเม็ดสอง ตาสว่าง เนื้อตัวที่ปวดเมื่อยก็หายปวด ท่านได้ให้ความเห็นว่า อภิญญา5 สามารถเสื่อมได้ ถ้าเรามีความริษยา เห็นแก่ตัว มีความโลภ โกรธ หลง ซึ่ง คุณแม่อุบล ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ท่านเทวทัต ก็เป็นเช่นนั้น เพราะว่า นำอภิญญาไปแสวงหาลาภสักการะ

           คุณธนา คอมีอาการโล่ง ตาสว่างขึ้น มีความร้อนทำให้เกิดความอบอุ่นในร่างกาย และ ให้ความเห็นว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะได้เห็นอภิญญาด้วยตนเอง และ สาธารณชนทั้งหลายได้รับอภิญญาด้วยการรับการเชื่อมญาณ ได้จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ จาก คุณแม่อุบล

          ป้าเตือน ทานเม็ดแรก ตื่นเต้น สั่น ทานเม็ดสอง รู้สึกตัวพองโต อบอุ่น ร้อนๆ หนาวๆ ศีรษะใหญ่ขึ้น

          คุณอมร ทานเม็ดแรกรู้สึกซ่า เม็ดสองไม่มีความซ่า ร่างกายอบอุ่น มีความเห็นต่ออภิญญาว่า งึด(อัศจรรย์ใจ) อยากคงสภาพที่ได้รับอภิญญาไว้ตลอดไป โดยต้องสำรวมกายวาจาใจ มีความถี่ถ้วนในเรื่องศีล และ อยากรักษาสิ่งที่ คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวให้ประพฤติปฎิบัติ(รักษาศีล5ให้บริสุทธิ์)

           คุณเหมียว ทานเม็ดที่สองไม่ปวดเกร็งจากการปวดฉี่่ ตัวเบา ไม่มีอาการร้อนที่ใบหน้า แม้นออกไปทำงานตากแดดมา

           พี่แมว อาการที่ปวดน่อง ปวดขา ปวดข้อเท้า เมื่อทานเม็ดที่สองไปแล้ว อาการต่างๆ ก็หายเจ็บหายปวดไป พี่แมวให้ความเห็นต่ออภิญญาว่า ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้เห็น เกินความคาดฝัน ไม่เคยรู้จักอภิญญามาก่อน และ ไม่เคยคิดว่าจะได้อภิญญา

           คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า ลูกบ้านสวนฯ สามารถทำได้ทุกคน แต่จะแตกต่างกันในเรื่องความเข้มข้นในแต่ละคน เพราะ เกิดจากการทำบุญ ทำทาน และ การรักษาศีลได้เพียงไร

            และ ปรากฎการณ์ของจี้ในแต่ละรุ่นของบ้านสวนฯ ก็มีอานุภาพที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

            ขอขอบคุณ รายการ"รู้ค่าพลังงาน" ที่ออกอากาศทางทีวี ช่อง3 ที่นำเสนอ การทำแก๊สด้วยการใช้ขยะเปียกหมักบ่มในถังหมัก  ของ บ้านสวนพีระมิด ช่วยลดโลกร้อน เพราะ ไม่ได้นำขยะไปทิ้ง ยังได้ปุ๋ยหมัก จากการหมักขยะเปียกอีก

            ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้ร่วมแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ เพื่อบ้านสวนฯ ทำให้มีพืชผักในแปลงเกษตรที่งอกงามสวยงาม ปลอดสารพิษ และ การก่อสร้างรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ครับ

            ขอน้อมกราบต่อคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่มาเทศน์สอนสั่งในเรื่อง "การเจริญเบื้องต้น" นั่้นคือ สมถะภาวนา และ วิปัสสนาภาวนา ทำให้จิตใจสงบ ใน นิวรณ์ 5 ประการ คือ สิ่งขวางกั้นจิตทำให้สมาธิไม่อาจเกิด นั้นคือ

            1 .กามฉันทะ

            2. ความโกรธ ความพยาบาท ความไม่พอใจ ขัดเคือง

            3. ความง่วงเหงาหาวนอน

            4. ความฟุ้งซ่านของจิต

            5. ความสงสัยในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

                 สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-15 23:26:23


ความคิดเห็นที่ 1386 (1650191)

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ ท่านอาจารย์อุบล

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

ที่ช่วยให้ลูกได้รู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรเป็นใครค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-21 23:05:35


ความคิดเห็นที่ 1387 (1650283)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                        และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                        ขอน้อมกราบ ต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                         ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์

                          วันนี้ ได้ดูคลิปของวันที่ 20 มกราคม 2556

                           "ทำอาหารธรรมดา ให้เป็นอาหารอภิญญา"  

                 ขอ ขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่ได้มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่อง รหัสจักรวาล อาจารย์อุบลช่วยด้วย และ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายเจ็บป่วยได้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่ปรารถนาให้ทุกคนพ้นทุกข์ทั้งปวง

                      ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม วันที่ 14 ธันวาคม 2555

          คุณแม่อุบล ได้กล่าวบรรยายให้นักศึกษาและผู้สนใจที่มาร่วมในงานได้รับฟังว่า เราสามารถปิดนรกทั้ง 5 ขุมได้ โดยการไม่ผิดศีลทั้ง 5 ข้อได้แล้ว เรายังมีนรกขุม 6 นั้นคือ อบายมุขทั้ง 6 คือ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น(ติดละคร ติดหนัง ติดเกมส์) เล่นการพนัน(หวย) เกียจคร้านการทำงาน คบคนชั่วเป็นมิตร ทำให้เราไม่สามารถปิดนรกขุม 6 ได้

          นรกขุม 7 คือ การผิดศีลทั้ง 5 ข้อและยังผิดอบายมุขทั้ง 6 ด้วย

          นรกขุม 8 คือ คนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ อยากให้พ่อแม่ตายไวไว ทำให้สงฆ์แตกแยกกัน ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ทำให้พระองค์แค่ห้อพระโลหิต คิดไม่ดีต่อผู้ทรงศีล ทรงธรรม คิดไม่ดีต่อพระพุทธเจ้า (อนันตริยกรรม) พูดไม่ดี คิดไม่ดี ทำไม่ดี ต่อ พระพุทธเจ้า ต่อพระเจ้าอยู่หัว ต่อผู้เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ต้องไปนรกขุม 8 มีเพื่อน คือ พระเทวทัต ซึ่งเคยทำร้ายพระพุทธเจ้า อิจฉาริษยาพระองค์ โดยมีลางบอกเหตุ คือ มีความทุกขเวทนา ทั้งการเงิน การงาน ทางร่างกาย จิตใจทุกด้าน ไม่สามารถคลี่คลายได้ แม้นจะปิดนรกทั้ง 5 ขุมได้

          พระเจ้าอชาตศัตรู ได้เข้ามาเฝ้าพระพุทธเจ้า และ ได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า มีความซาบซึ้งใจ และ เสียใจที่ปลงพระชนม์พระราชบิดาของพระองค์  ซึ่ง พระพุทธเจ้า ท่านทรงสรรเสริญว่า คนที่ทำผิดแล้ว สำนึกผิดได้เป็นสิ่งประเสริฐ แต่ พระพุทธเจ้าไม่สามารถช่วยพระเจ้าอชาตศัตรูได้ เพราะ พระเจ้าอชาตศัตรู ท่านได้ฆ่าพระบิดา เมื่อ พระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จกลับแล้ว พระพุทธเจ้า ท่านได้ทรงตรัสต่อเหล่าพระภิกษุสงฆ์ว่า พระอชาตศัตรู มาฟังธรรมและเข้าถึงพระธรรม ถ้าไม่ฆ่าพระราชบิดา  ก็จะได้เป็นพระโสดาปฏิผลได้ในวันนี้ แต่ เพราะ ทำอนันตริยกรรมมา จึงไม่สามารถเป็นพระโสดาบันได้ ต้องไปใช้กรรมในอเวจีมหานรก

                 คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวต่อนักศึกษา ว่า นรกขุม 5 ขุม 6 พอจะช่วยได้ แต่ นรกขุม 7 และ ขุม 8 นั้น ไม่สามารถที่จะช่วยได้โดยสิ้นเชิง เพียงแต่ช่วยให้ได้รับความบรรเทาเบาบางได้เท่านั้น

                  โลกันต์นรก คือ นรกสำหรับคนที่ทำผิดศีลข้อใดข้อหนึ่งเกิน 2-3 ครั้ง ผิดศีลหลายๆข้อพร้อมกัน เช่น ไปลักขโมยวัวควาย แล้วก็บอกว่าไม่ได้ลัก(ผิดศีลข้อ2 และ ยังมาผิดศีลข้อ 4) หรือ ผิดศีลข้อเดียวแต่หลายๆครั้ง โดย คุณแม่ได้ยกตัวอย่างของ คุณป้อม ที่ทำผิดศีลข้อ3 มาเกือบห้าร้อยครั้ง ทำให้อาการเจ็บป่วยไม่หายอย่างสิ้นซาก แม้นผลการตรวจทางการแพทย์จะบอกว่าหาย แต่ ในความรู้สึกของตนเองนั้น ยังมีอาการเหล่านั้นอยู่ ซึ่งเป็นสัญญาณของโลกันต์นรก

                   คุณแม่ได้กล่าวต่อไปว่า มีคนมาสอบถามว่า ทำไมเกจิอาจารย์ที่เก่งๆหลายๆท่าน ทำไมท่านทำให้คนหายทันทีไม่ได้ คุณแม่บอกว่า คุณแม่ไม่ทราบ แต่ ถ้าถามว่า ทำไมคุณแม่อุบล สามารถทำให้คนที่เจ็บคนที่ปวดหายได้ทันที คุณแม่ตอบได้ เพราะ คุณแม่ทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และ ไม่ปิดกั้นความรู้จากทุกศาสตร์ ไม่เลือกความรู้ของศาสดาของศาสนาใดๆ  เคารพศาสดาของทุกศาสนา ไม่ปิดกั้นวิชาความรู้ใดๆที่จะทำให้มีความสุข และ พ้นทุกข์ได้ รวมศาสตร์ของทุกศาสนามาใช้ประโยชน์ รวมความรู้ของครูบาอาจารย์ทุกคนที่ทำให้เจริญรุ่งเรืองนำมาใช้ แม้นความรู้ของพีระมิด องค์สฟิงซ์ ซึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งได้กล่าวถึง ความลับของพีระมิด องค์สฟิงซ์ ในยุคอิยิปต์ ยุคไอยคุปต์ ว่า ผู้ใดมีจิตใจเปิดกว้าง รับศาสตร์ทุกศาสตร์ที่สร้างสรรค์ในจักรวาล ผู้นั้นจะพบความลับของจักรวาล  คุณแม่ได้กล่าวต่อไปว่า ถ้าเราไม่ยอมรับศาสตร์ใหม่ๆใดๆเลย เท่ากับว่าเราปิดกั้นตัวเราเอง เราก็ไม่ได้รู้ในสิ่งที่ควรรู้ คุณแม่จึงต้องเปิดใจรับศาสตร์ใหม่ๆ ความรู้ของศาสดาของศาสนาอื่นๆไม่ว่า คริสต์ ซิกซ์ อิสลาม และ ทุกศาสตร์ที่ทำให้เรามีความสุขและพ้นทุกข์ได้ คุณแม่ยังได้ยกตัวอย่างว่า เราเป็นนักเรียน ยังต้องเรียนหลายวิชา ทำไมเราไม่เรียนแค่วิชาใดเพียงวิชาเดียว เพราะ การที่เรามีความรู้กว้างขวาง เมื่อเราจะนำความรู้มาใช้ เราก็สามารถใช้ประโยชน์ ได้คล่องตัว และ ประกอบอาชีพอะไรก็ได้ เรารอบรู้ เก่งทุกด้าน  ทำอะไรได้หมด พระพุทธเจ้า ท่านไม่ได้ทรงสอนให้เราปิดกั้น ให้ศึกษาแต่ธรรมะ พระธรรมที่ท่านทรงรวบรวมไว้ คุณแม่อุบล จึงได้เป็นคนที่ค้นพบความลับของจักรวาล และ ได้นำมาแสดงให้เห็นในวันนี้ โดยอยู่บนพื้นฐานของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งกล่าวไว้ว่า ถ้าเหตุดับ ผลก็ย่อมดับ และ นำมาตีความ เช่น ถ้าเราปวดหัว เราไปหาหมอ หมอให้ยาแก้ปวดมาทาน อาการปวดหัวก็หายได้ แต่เป็นการหายแค่ช่วงสั้นๆ แล้วก็กลับมาเป็นอีก แต่ที่บ้านสวนฯ อาการปวดหัว นั้น อาจจะเกิดจากการที่เราเคยทำร้ายศีรษะของผู้อื่น (ตีหัวเพื่อน ตีหัวสุนัข) หรือ เคยคิดไม่ดีกับผู้อื่น คุณแม่บอกว่า ทุกคนสามารถนำไปบำบัดด้วยตนเองพร้อมอุปกรณ์ชนิดต่างๆของบ้านสวนฯ และ สมาทานศีล5ทุกวัน และ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็ให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย หรือ ด้วยวิธีการอื่นๆ ที่ได้แสดงให้ดูไว้แล้ว สำหรับฐานะการเงิน ให้ทำทาน และ ใส่บาตรวิระทาโย(ใช้อุปกรณ์ใดๆก็ได้ที่หาได้ ไม่ว่า ขัน ถุงพสาสติก) โดยการหยอดเงินลงไปทุกวันมากน้อยแล้วแต่ละคน เมื่อรวบรวมได้พอสมควรก็ให้นำไปทำบุญ และ ให้อธิษฐานว่า"ปัจจัย นี้  ขอสร้างบุญสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน  และ ทานใหญ่น้อยทุกทาน ให้อานิสงค์ผลบุญนี้ให้เทวดาผู้รักษาตัวของข้าพเจ้า และ เทวดาผู้รักษากิจการค้า อาชีพ อาคาร บ้านเรือน เรือก นา ไร่สวนของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าที่ติดตามมาทุกภพทุกชาติ จนถึงชาตินี้"

                 จะทำให้มีสภาพคล่องทางการเงิน เป็นอัศจรรย์ แต่ คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า เงินที่ตักบาตรวิระทาโยนี้ ห้ามนำไปใช้โดยเด็ดขาด เพราะ เป็นเงินที่้ต้องนำไปทำบุญเท่านั้น

                 คุณแม่ได้ แสดงวิธีการทำน้ำพลังพีระมิด ให้ลูกหลานได้ชม โดยการนำน้ำธรรมดา ใส่ขวดและนำองค์พีระมิดจำลองในรุ่นต่างๆ ของบ้านสวนฯ มาวางไว้ 4 จุดล้อมขวดน้ำไว้ เพียงครู่เดียว คุณแม่บอกว่า ถ้าไม่มีองค์พีระมิดจำลอง ก็สามารถนำกระดาษมาทำเป็นพีระมิดได้ แต่ ต้องวางขวดน้ำไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง

                  แต่ถ้าเป็นน้ำที่ล้อมรอบด้วยองค์พีระมิดจำลองของบ้านสวนฯ แค่วางเพียงชั่วครู่ ก็มีผลแล้ว แต่เมื่อวางไว้นานๆ โมเลกุลของน้ำจะเล็กลงเรื่อยๆ คุณแม่ได้ให้พี่ผู้หญิงที่มีอาการคันมือ เมื่อกำมือนานๆ มาลองทามือด้วยน้ำพลังพีระมิด ปรากฎว่า อาการคันมือเมื่อกำมือนานๆ หายทันที และ พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดหัวเข่ามาเกือบ 2 เดือน มาทาเข่าด้วยน้ำพลังพีระมิด ปรากฎว่า อาการปวดหัวเข่าหายทันที

                   ที่บ้านสวนพีระมิด

                   คุณแม่อุบลได้ให้ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ นำอาหาร ขนม ลูกอม มามอบให้คุณแม่ แค่คนละหนึ่งชิ้น คุณแม่บอกว่า เป็นการให้เพื่อเป็นการทำบุญคุณให้กับคุณแม่ เวลาที่ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านสอบถามว่า ทำไมต้องให้การช่วยเหลือคนๆนี้ คุณแม่จะได้บอกได้ว่า คนนี้มีบุญคุณต่อคุณแม่ โดยการให้ลูกอม 1 ชิ้นต่อ คุณแม่ และ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านจะได้พิจารณาวินิจฉัยการช่วยเหลือได้ 

                   และ คุณแม่อุบลได้กล่าวว่า การมอบอาหารต่อคุณแม่ในมื้อนี้ ขอให้อาหารที่ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้จัดเตรียมไว้ที่บ้าน จงเป็นอาหารอภิญญาด้วย และ ให้นำไปคิดเป็นปัญญากรรมฐานด้วยว่า ทำไมการให้อาหารเพียงน้อยนิด กับ คุณแม่อุบล แต่มีอานิสงค์มากมายได้อย่างนี้) และ ต่อมา คุณแม่ได้ให้ลูกหลานลองทานลูกอมของเพื่อนๆ ว่าจะหายเหนื่อยจากการทำงานในช่วงกลางวันหรือไม่

                  คุณธนา และ คุณอมร ได้ออกมาบอกเล่าว่า ในการทำงานใช้แรงกายในครั้งนี้ ปรากฎว่า ไม่ได้รับอันตรายหรือรับบาดเจ็บอะไรเลย ถึงแม้นว่า การทำงานครั้งนี้ น่าจะเกิดอันตรายหรือได้รับบาดเจ็บก็ตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย เหมือนมีอะไรมาปกป้องป้องกันไว้ให้ และ เมื่อ คุณแม่อุบล บอกให้นอน ก็นอน เมื่อลุกขึ้นมาทำงานก็รู้สึกมีแรง ไม่เหนื่อย

                  คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า การไปทำบุญในสถานที่ต่างๆนั้น จะมีบุญอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ

                   บุญที่ทำแล้วเท่าทุน คือ ไปทำบุญ แล้ว เราไม่ไปทำสถานที่สกปรกเลอะเทอะ

                   บุญที่ทำแล้วได้กำไร คือ ไปทำบุญ แล้ว เมื่อเราเห็นสถานที่เค้าสกปรก มีคนทิ้งเศษขยะ เราก็ทำการช่วยเก็บกวาดให้

                   และ บุญที่ทำแล้วขาดทุน คือ ไปทำบุญ แล้ว เราก็ไปทิ้งขยะ ทำให้สถานที่เค้าสกปรก

                   คุณแม่ได้ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ออกมาบอกกล่าวว่า เมื่ออมลูกอมของตนเอง หรือ ที่เพื่อนๆให้แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง

          พี่แมว บอกว่า อมลูกอมแล้ว รู้สึกสดชื่น ตาสว่าง

          ดร.จิ๋ม อมโอเล่แล้ว ตาสว่าง หายง่วง ฝ่าเท้าที่เจ็บก็เบาขึ้น 

          พี่ผู้หญิง อมโอเล่แล้ว รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น

          น้องผู้ชาย อมลูกอมแล้ว มีเรี่ยวแรง แผลที่โดนมีดดายหญ้าฟันถูกที่หน้าแข้ง คุณแม่อุบลนำน้ำอภิญญาล้างแผลให้ ก็มีแค่อาการคันที่แผลเท่านั้น    

          คุณตุ้ย อมลูกอมแล้ว ก็หายปวดหัว

          ดร.จุ๋ม ก็หายคันคอ

          คุณเอิ้น รู้สึกสดชื่น อาการที่โดนปูนกัดมือก็หายเกือบ 90%

          พี่แก้ว จิตใจเบาสบาย

          พี่ผู้หญิง หายปวดฝ่ามือ

          พี่อ้อย ตาสว่าง อาการที่ปวดท้องก็หาย

          พี่ผู้หญิง  บอกว่ารู้สึกโล่งเบาสบาย ตาสว่าง

          พี่เหมี่ยว    หายแสบ หาคัน จากการที่โดนหนามเกี่ยวตอนดายหญ้า

          พี่ผู้หญิง ที่เคยกำมือไม่ได้ ก็กำมือได้ หายปวดนิ้วมือ

          น้องกระต่าย     หายง่วง รู้สึกสดชื่น

          พี่ผู้ชาย ก็หายตามัว ที่เกิดจากการทำงานกลางแดด

          พี่ผู้หญิง อมซูกัสแล้ว เสียงใสขึ้น รู้สึกโล่ง

          พี่ผู้หญิง รู้สึกสดชื่น สายตาดีขึ้น หายปวดหัว

          พี่ผู้หญิง หายปวดมือ

          คุณอัญ   หายปวดตึงศีรษะ หายแสบหายคันจากการโดนหญ้าบาด

          คุณพี่ผู้หญิง หายแสบมือจากการไปดายหญ้า

          อาจารย์นีย์ หายปวดหลังเท้า รู้สึกสดชื่น

          อาจารย์พัน  ศีรษะรู้สึกซู่ หายปวดข้อเท้า

          ลูกหลานบ้านสวนฯ พูดมาถึงตอนนี้ คุณแม่ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นิสัยคนไทย เวลาได้รับสิ่งอัศจรรย์ ก็ไม่รู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดค้นคว้า หาความเป็นไปได้ ไม่สอบถามว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วทำได้อย่างไร ที่ทำให้ตนเองหายเจ็บหายปวดได้

           คุณอมร ก็หายจากอาการที่มือตึง ที่เกิดจากการทำงานดึงเหล็ก ดึงแผ่นปูพื้นในช่วงใช้แรงกาย และ ได้กล่าวบอกว่า เมื่อก่อน พี่อมรไปทำบุญที่ไหน ก็อยากได้ของกลับไปบ้านเยอะ อยากได้วัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ แต่เมื่อมาบ้านสวนฯ ก็ไม่คิดอยากได้อะไรตอบแทน

                  คุณแม่อุบลได้กล่าวว่า อยากให้ทุกคนคิดพิจารณา ถึงการให้อะไรต่อใคร อยากให้มีความคิดแบบ ให้แบบที่รู้จักการให้ บอกให้ทำอะไรก็ให้ทำ

           คุณมิ้ม ได้ออกมาบอกกล่าวว่า มีความสุข ตาสว่าง มือที่ถูกปูนกัดมือก็ดีขึ้น มือที่โดนหญ้าบาดก็ดีขึ้น เพราะ เชื่อมั่นว่า คุณแม่อุบลเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ เพราะ ทำบุญแล้ว เห็นผลทันที 

                  คุณ ธนา ออกมาบอกกล่าวว่า มีความรู้สึกซ่านขึ้นที่ศีรษะ มือที่ตึงปวดจากการลากแผ่นปูพื้น ก็กำมือได้ปกติ  และ รู้สึกปิติยินดีที่เห็นอภิญญาที่คุณแม่ได้บอกกล่าว และ แสดงให้เห็นเกี่ยวกับอภิญญา ซึ่ง คุณธนาคิดว่า ต้องเป็นอริยะสงฆ์ ครูบาอาจารย์ที่เก่งเท่า นั้นที่ทำได้ แต่เมื่อมาเห็นด้วยตาตนเอง ด้วยการสร้างบุญ กับ คุณแม่อุบล แล้วท่านเป็นสะพานบุญเชื่อมให้ ทำให้บุญที่ฝากไว้ พระพุทธองค์ เทพพรหมองค์อินทร์  ส่งมอบให้กับเราได้

                ปรากฎการณ์ของอานุภาพบารมีของจี้รุ่นต่างๆ ของบ้านสวนฯ ที่มีบารมี แค่มองก็หายเจ็บหายปวดได้

                            ขอ ขอบคุณ รายการ "รู้ค่าพลังงาน" ที่ออกทางช่อง 3 ที่นำเสนอการนำขยะเปียก ที่บ้านสวนฯ มาทำเป็นไบโอแก๊ส โดยการหมักในถังหมัก แล้วได้ก๊าซมาใช้หุงต้ม และ ได้น้ำหมักมาเป็นปุ๋ย ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ 

                ขออนุโมทนาบุญ กับลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ไปใช้แรงกาย ปัจจัย สิ่งของ กับ บ้านสวนพีระมิด ครับ

                ขอกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องสมถะภาวนา เพราะ ทุกกอง ต่างก็เจริญแล้วมีผลเสมอกัน คือ มีจิตเป็นสมาธิ และ จริต6 นั้นคือ ราคจริต โทสจริต โมหจริต วิตกจริต สัทธาจริต และ พุทธิจริต

                สาธุ สาธุ สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-22 16:45:27


ความคิดเห็นที่ 1388 (1650461)

อนุโมทนากับธรรมทานของคุณคุณากรด้วยค่ะ  สาธุ สาธุ สาธุ

จะว่าไปการที่ลูกบ้านสวนได้ดูรายการคุยไปแจกไป

ก็เป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ

เพราะระหว่างดู  ใจเราก็จะจดจ่ออยู่กับรายการที่กำลังดู

ไม่ได้ไปนินทาใคร ว่าร้ายใคร หรือทำอะไรที่ไม่ดี  แถมยังได้บุญด้วยค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-24 13:02:02


ความคิดเห็นที่ 1389 (1650553)

โมทนาบุญกับคุณคุณากรหนุ่มลำบากผู้ที่มีความสามารถเขียนได้ละเอียดมากๆ  สำหรับคนที่ได้ดูแต่ไม่ติดต่อกันแล้วมาอ่านจากคุณคุณากรแล้วเสมือนหนึ่งได้ดูด้วยตัวเอง  โมทนาบุญกับคุณถนอมขวัญค่ะ  และทุกท่านๆ ค่ะสาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-25 09:51:15


ความคิดเห็นที่ 1390 (1650686)

 

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                       และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆ ท่าน ครับ

                       ขอน้อมกราบ พระพุทธองค์ องค์พ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                                                   ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                       ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์

                       คืนนี้ ได้ชมคลิปของวันที่ 27 มกราคม 2556

                    "เมื่อจิต เชื่อมั่น ศรัทธา ก็รับอภิญญาได้โดยง่าย"

                                              ขอ ขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่อง รหัสจักรวาล"อาจารย์อุบลช่วยด้วย" และ การใช้จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี เห็นผลทันที

                     ที่บ้านสวนพีระมิด

                     คุณแม่ได้ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่มีอาการเจ็บปวดเมื่อยตามร่างกายออกมา เล่าอาการของตนเองให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ฟัง

                      คุณพี่อ้อย ได้นำข้าวสาร และ ลูกอม มามอบให้ คุณแม่อุบล และ พี่อ้อยได้ทานลูกอม อาการที่ปวดแขน ปวดหลัง และ ปวดท้อง แค่ 10 วินาที อาการปวดเมื่อยตามร่างกายก็หาย ลูกอมที่พี่อ้อยเตรียมไว้ที่บ้าน เมื่ออมแล้ว ก็มีอาการตาสว่าง และ การส่งบุญบารมีของคุณแม่ทาง Facebook ก็ทำให้พี่อ้อย เมื่อไปทำสมาธิทำให้จิตนิ่งสงบ และ ทำให้เห็นภาพในสมาธิได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดย พี่อ้อย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า บุญบารมีที่คุณแม่อุบล ได้ส่งผ่านทางเฟสบุ๊ค นั้น ตัวเราต้องมีความเชื่อมั่น ศรัทธา และ ต้องปฎิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ตามที่คุณแม่ได้บอกให้เราปฎิบัติ จิตเราต้องเปิด เราถึงจะได้รับพลังบารมี และ เห็นผลที่ปรากฎแก่ตัวเราอย่างชัดเจน

                         พี่เหมี่ยว นำเอาสาหร่ายมาให้คุณแม่  ทานลูกอมแล้ว อาการที่ปวดเอวก็หาย คุณแม่อุบล ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่เราทำงานอยู่ให้ ทำการสวดคาถาปะโตเมตัง คาถาพระศรีอาริย์ และ คาถาเงินล้านไปด้วย และ พี่เหมี่ยวได้เล่าให้ฟังว่า ที่ร้านของพี่เค้า มีลูกครึ่งฝรั่ง มีอาการเจ็บท้อง เมื่อได้ให้ไปกราบรูปของคุณแม่อุบล ให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้หายเจ็บท้อง แล้วอมลูกอมอภิญญา อาการที่เจ็บท้องก็หายไปทันที และ ได้เล่าว่า อาหารที่นำมาให้คุณแม่อุบล ปรากฎว่า อาหารที่เตรียมไว้ที่บ้านก็เป็นอาหารอภิญญาด้วย

                          พี่เจี๊ยบ นำข้าวสาร ครีมทาผิว และ ลูกอม มาให้คุณแม่อุบล เมื่อเคี้ยวช๊อกโกแล๊ต เคี้ยวแค่ 2 ครั้ง อาการที่ปวดแขนก็หายไป และ รู้สึกดีใจที่ได้รับความรักและความเมตตา ทำให้หายเจ็บปวดได้

                            พี่อมร นำสาหร่ายมาให้คุณแม่อุบล  ทานชิ้นแรกก็ยังรู้สึกเฉยๆ แต่เมื่อทานชิ้นที่สอง อาการที่ปวดก้นกบก็ดีขึ้น คุณแม่ได้สอบถามว่า "เอาก้นกบไปทำอะไรมา" ทุกคนฟังก็หัวเราะกันใหญ่ และ คุณแม่อุบลได้สอบถามต่อไปว่า "คิดอะไรกับใครหรือเปล่า" พี่อมร ก็บอกว่า แค่มองก้นของคุณก้อย ที่ไปนั่งแล้วเปื้อนอะไรก็ไม่รู้ เล่า เรื่องนี้แล้ว อาการที่เจ็บก้นกบก็ดีขึ้น พี่อมรก็เล่าต่อไปว่า เมื่อกลับบ้าน เมื่อลงจากรถจะรู้สึกสะบักสะบอมทุกครั้ง แต่เมื่อได้อมลูกอภิญญาแล้ว ก็หายเจ็บปวดได้ในทุกครั้ง และ รู้สึกดีใจที่สามารถสัมผัสอภิญญาได้ด้วยตนเอง และ จะพยายามรักษาอภิญญาไว้ให้ได้นานๆ คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกคนสามารถได้รับอภิญญาได้ทุกคน เหมือนกับที่ เราสามารถช่วยรักษาผู้คนทึ่้เจ็บป่วย ด้วยการใช้จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แต่ เราต้องค้นหาคำตอบ และ วิเคราะห์ เราก็จะสามารถค้นพบได้ ให้เรามีความกล้าหาญ มีความมั่นใจ ให้ทำอะไรก็ให้ทำตามที่ได้บอกกล่าวให้ทำ

                         คุณพี่ตุ้ย นำข้าวสาร นมเปรี้ยว มาให้คุณแม่อุบล แค่กินนมเปรี้ยว แค่ 3 วินาที อาการปวดแขน ปวดหลัง ปวดสบักหลังก็ดีขึ้น และเมื่อฟังพี่อ้อยเล่าธรรมทาน อาการก็หายปวดหมดทุกอย่าง ตอนที่ได้รับพลังบารมีผ่านเฟสบุ๊ค อาการที่เป็นหวัดมีน้ำมูก ปวดเมื่อย ก็หายหมด เมื่อก่อน คิดว่า อภิญญานั้น คนที่จะรับได้คือ ลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ติดตามทำบุญกับหลวงพ่อเท่านั้น และ อัศจรรย์ที่ได้มาเห็นและสัมผัสด้วยตนเองที่บ้านสวนพีระมิด

                         คุณก้อย นำช๊อกโกแล๊ตมาให้ แต่ทานนมเปรี้ยว อาการปวดแขนก็หาย อีกข้างที่ปวด เมื่อฟังธรรมทานของพี่อ้อยแล้วก็หายปวด และ ลูกอมที่เตรียมไว้ที่บ้าน เมื่อพี่ชายทานแล้วไม่มีอาการรู้สึกหิวข้าว และ น้ำอภิญญาได้นำไปทาให้คุณตาที่มีอาการคันหลัง ก็หายคันหลังทันที

                         พี่ผู้ชายที่มาจากจังหวัดอุดร นำข้าวสารและลูกอมมาให้คุณแม่อุบล เมื่อทานลูกอมไปแค่ครึ่งเม็ด อาการน้ำมูกไหล ก็หายทันที อัศจรรย์ใจที่อาการที่เป็นน้ำมูกหายไปได้ ลูกอมอภิญญาที่ได้รับพลังบารมีจากคุณแม่ผ่านเฟสบุ๊ค อมแล้วทำให้หายจากอาการปวดท้อง ไข้หวัดก็หาย นำไปให้ลูกชายทานก็หายดื้อ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แค่ทานคนละเม็ดสองเม็ด

                          คุณก๊อต นำลูกอมและข้าวมาให้คุณแม่อุบล เมื่อทานลูกอมแค่ 5 วินาที อาการปวดหลังก็ดีขึ้น เมื่อได้ฟังธรรมทานจากพี่อ้อยอาการปวดหลังก็หายหมด รู้สึกอัศจรรย์ใจ เพราะ ในชีวิตไม่เคยพบเจอ แต่เมื่อมาบ้านสวนฯบ่อยๆ เห็นบ่อยๆ ก็เคยชิน คุณแม่ก็บอกว่า ข้าวที่เป็นอภิญญาจะอร่อย ทานไม่หมดสักที และ ขายข้าวเท่าไรก็ไม่หมด (บ้านคุณก๊อตขายข้าวสาร)

                          พี่จรัล ที่เป็น ตชด. ทานลูกอมแล้ว อาการปวดหลังดีขึ้น 80 % เมื่อสารภาพว่า เคยผิดศีลข้อ3 เคยพากิ๊กไปทำแท้ง เคยรู้เห็นเป็นใจในการทำแท้ง เคยฆ่าคน(ทำตามหน้าที่) อาการที่ปวดหลังก็หายทันที

                           อาจารย์พัน นำข้าวมาให้คุณแม่อุบล เมื่อทานลูกอมไปแค่ 1 วินาที อาการปวดหัวไหล่ก็หายปวด รู้สึกซู่บนศีรษะ เมื่อทานลูกอมอภิญญาที่เตรียมไว้ที่บ้าน ก็หายปวดเมื่อย ครั้งที่ไปบรรยายเรื่องเกษตร ให้นักศึกษาฟัง ก็ได้แจกลูกอมอภิญญาให้นักศึกษา ก็หายปวด ได้ใช้จี้ ในการช่วยบำบัดผู้คน แค่มองจี้ 5 ถึง 10 วินาที ก็หายป่วยได้

                             อาจารย์นีย์ นำข้าวสารมาให้คุณแม่อุบล ไม่มีอาการเจ็บปวดที่ใด คุณแม่ได้บอกว่า เพราะ ห้อยจี้ ถึง 11 องค์ ทำให้ทำอะไรก็ไวขึ้น ทานลูกอมของคุณธนา ก็รู้สึกสดชื่น ลูกอมที่เตรียมไว้ที่บ้าน เมื่ออมแล้วทำให้สดชื่น มีเรี่ยวแรง และ คุณแม่ได้บอกว่า อาจารย์นีย์มีพัฒนาการที่ดีขึ้น จากที่ไม่ชอบการจัดโต๊ะ ก็สามารถจัดได้ ทำอะไรที่ไม่เคยเป็น ก็ทำเป็นแล้วในตอนนี้ หน้าตาก็สดใสขึ้น

                             คุณเบส นำข้าวสารมาให้ แต่ทานลูกอมของคุณอัญ ทานแล้ว แขนขวาที่ปวดเมื่อยก็หาย แขนซ้ายก็ดีขึ้นตามลำดับ รู้สึกดีใจตื่นเต้นที่ได้เห็นปรากฎการณ์ในเรื่องอภิญญา

                             คุณอัญ นำข้าวสาร และ ลูกอม มาให้ เมื่อทานลูกอมแล้ว อาการที่เจ็บฝ่าเท้า อาการที่โดนยุงกัด อาการที่มือโดนปูนกัด ก็ขึ้นเมื่อทานผ่านไป 2 วินาที แต่ พี่เค้าบอกว่า อาการดีขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้ทานเลยด้วย ขณะที่ทำงานยกปูน รู้สึกมีเรี่ยวแรง ทำงานแล้วไม่เหนื่อย มีแต่ความสดชื่น เหมือนมีคนมาช่วยยกปูน ตอนที่คุณแม่อุบลมานั่งดู

                              คุณแม่อุบล ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า คุณบุญศิริ ที่มีอาการหูทะลุ ทำให้มีเสียงดังในหู ทานลูกอมอภิญญาไปหนึ่งเม็ด ยังไม่ได้รับผล ให้ทานอีกเม็ด เสียงที่ดังในหูก็ดีขึ้น คุณแม่เลยให้ทานอีกเม็ด พร้อมกับให้กลับบ้านไปทั้งถุง

                               คุณนวลเพ็ญ จากจังหวัดอุดร นำข้าวสาร ลูกอมมาให้ มีอาการน้ำมูกไหล มา 3 วัน ทานลูกอมแล้ว ก็หายใจโล่ง ปลื้มใจที่ได้มาพบความอัศจรรย์ที่บ้านสวนฯ ลูกชายที่ปวดฟัน เมื่อทานลูกอมแล้วก็หายปวดฟัน

                                  พี่สมจิต นำข้าวสารมาให้ สารภาพว่าเคยตีลูก ตีงู ตีตะขาบ อาการที่ปวดแขนก็หายทันที่ แต่ตอนที่ทานลูกอม อาการก็แค่ดีขึ้นเท่านั้น ดีใจที่ได้มาทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด

                                   คุณพี่แก้ว นำน้ำดีโด้ มาให้คุณแม่ อาการปวดแขน เมื่อทานน้ำดีโด้ ก็หายไป 50 % ทานท๊อฟฟี่ของพี่อ้อย อาการก็ดีขึ้นแยะเลย ซึ่้ง คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวว่า การได้รับอภิญญาของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน

                                   คุณพี่แมว ไม่มีอาการปวดใดๆ เลย แต่ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตอนที่มานอนพักที่บ้านสวนฯ ในวันพฤหัส นั้นเกิดเป็นตะคริว ปวดขาเป็นพักๆ เมื่อได้อมลูกอมอภิญญาแล้ว อาการที่ปวดขาก็หายไป

                                    น้องบัว ไม่ได้นำอะไรมาให้คุณแม่ และ ทานลูกอมของน้องกระต่าย อาการที่ปวดแขนก็หายไป

                                     น้องกระต่าย นำลูกอมมาให้ เล่าให้ฟังว่า ทานลูกอมของพี่ชิมแล้วอาการปวดไม่หาย แต่ทานลูกอมของตนเองแล้วอาการปวดก็หายไป 95 %  เมื่อมานั่งใกล้คุณแม่อุบลแล้ว อาการปวดต่างๆก็หายหมดเลย

                                    คุณตุลย์ นำข้าวสาร และ นมกล่องมาให้คุณแม่อุบล อาการที่เจ็บไหล่ จากการก่อสร้าง ปวดเมื่อยไหล่ข้างซ้ายก็หายเมื่อได้ทานนมกล่อง ไหล่ ข้างขวา เมื่อมาฟังธรรมทานจากพี่อ้อย ก็หาย อาการนิ้วตึง นิ้วบวม เมื่อมานั่งใกล้คุณแม่อุบลก็หายตึงหายบวม แต่อาการปวดตา นั้น เมื่อสารภาพว่า เคยดูภาพโป๊ (คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า คนที่ดูภาพโป๊แล้วชอบ แล้วปลื้ม แสดงว่า เทวดาผู้รักษาตัว ยังไม่เข้มแข็ง) แต่คุณตุลย์บอกว่า ถ้าใส่จี้ จะไม่มีอาการอยากดูภาพโป๊ แต่ก็สารภาพว่า เคยปรามาสคุณแม่อุบลในเรื่องทางเพศ เมื่อพูดแล้วอาการก็ดีขึ้นทุกอย่าง

                            ด๊อกเตอร์จุ๋ม นำข้าวสาร และ ลูกอม มาให้ บอกว่ามีอาการไอ เจ็บหลังก็ดีขึ้น สารภาพว่าเคยดูภาพโป๊ พูดแล้ว อาการที่เจ็บหลังก็หายทันที คุณแม่อุบลได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ให้ลองไปพิจารณาดูว่าทำไมถึงชอบดูภาพโป๊ มีความคิดอะไรเกิดขึ้นบ้างไหม และ คุณแม่ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อได้พูดต่อสาธาณะชนแล้ว อาการที่ปวดหลังก็หายได้ อาจเป็นเพราะ เจ้ากรรมนายเวรได้ให้อภัย เรื่องอาการไอนั้น ให้ละเว้นการไปนินทาผู้อื่น

                             คุณธนา ได้นำข้าวสาร ซอส และ ลูกอม มาให้ เมื่อทานลูกอมแล้ว อาการที่คอมีความระคายเคืองก็หายไป คอรู้สึกโล่ง ทานไปแค่ 5 ถึง 10 วินาที อาการปวดเมื่อยก็หายไป เมื่อทานเม็ดที่สอง ทำงานก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เหมือนมีใครมาช่วยทำงาน โดยเฉพาะตอนที่คุณแม่อุบลมานั่งดู ทำงานแล้วมีพลัง ทำแล้วยังรู้สึกสดชื่น

                             คุณแม่อุบลได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานไม่ให้เหนื่อยนั้น มีหลักการทำงานคือ เมื่อรู้สึกเหนื่อย ให้สลับเปลี่ยนหน้าที่กันทำในแต่ละตำแหน่ง จะทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อย

                              คุณธนาบอกว่าทึ่งในอภิญญาที่ได้รับจากการส่งบารมีจากที่ไกลๆ ของคุณแม่อุบลผ่านทางเฟสบุ๊ค ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่เคยเห็นเหมือนที่คุณแม่อุบลได้ทำ เลยมีความมั่นใจว่า เป็นอภิญญาใหญ่ที่ส่งข้ามโลกข้ามประเทศได้ ขอให้เปิดใจรับ อาหารที่เตรียมไว้ที่บ้านก็เป็นอาหารอภิญญาได้ อย่าปรามาสคุณแม่อุบล เราก็สามารถเชื่อมบุญบารมีของคุณแม่อุบลได้

                               ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

                    คุณแม่อุบลได้ทำน้ำธรรมดาให้เป็นน้ำที่มีพลังพีระมิด ให้นักศึกษาได้ดู โดยการนำขวดน้ำมาวางไว้ในวงล้อมของพีระมิดจำลองที่มีมวลสารต่างๆของบ้านสวนฯ  แค่วางปุ๊บ ก็มีพลังในการรักษา นำมาทามือที่มีอาการกำมือแล้วคัน ก็หายคัน ทาหัวเข่าที่มีอาการปวด ก็หายปวดได้

                    ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไปใช้แรงกาย ปัจจัย สิ่งของ ที่บ้านสวนฯ ทำให้งานแปลง เกษตร และ งานก่อสร้างรุดหน้าอย่างรวดเร็ว และ องค์ท่านมเหสักขามีความสมบูรณ์และงดงามอร่ามด้วยสีทองและ ปลื้มปิติที่เห็นภาพ คุณแม่อุบล ท่านได้มาร่วมทำงานในการเทปูนกับลูกหลานบ้านสวนฯ ครับ

                     ขอน้อมกราบต่อธรรมะ ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่อง  พุทธจริต อานาปานสติกรรมฐาน  การทรงฌาณ4 ทำให้กาย และ จิต แยกจากกันได้ ทำให้การปวดทางกายไม่กระทบทางจิต และ  กำหนดรู้ถึงความตายได้ว่า ตายอย่างไร ตายเมื่อไร

                      สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-27 21:29:51


ความคิดเห็นที่ 1391 (1650701)

คุณ ธนา ได้นำข้าวสาร ซอส และ ลูกอม มาให้

เมื่อทานลูกอมแล้ว

อาการที่คอมีความระคายเคืองก็หายไป

คอรู้สึกโล่ง ทานไปแค่ 5 ถึง 10 วินาที

อาการปวดเมื่อยก็หายไป

เมื่อทานเม็ดที่สอง

 

ทำงานก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย

เหมือนมีใครมาช่วยทำงาน

โดยเฉพาะตอนที่คุณแม่อุบลมานั่งดู

ทำงานแล้วมีพลัง ทำแล้วยังรู้สึกสดชื่น

                            

คุณแม่อุบลได้กล่าวเพิ่มเติมว่า

การทำงานไม่ให้เหนื่อยนั้น

มีหลักการทำงานคือ เมื่อรู้สึกเหนื่อย

ให้สลับเปลี่ยนหน้าที่กันทำในแต่ละตำแหน่ง

จะทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อย

..............................

อนุโมทนากับพ่อหนุ่ม

คุณากร ณ ลำปางด้วยนะคะ

เพราะชนิดาก็ไม่ได้ดูรายการ

มาหลายเทปมากๆเลย แต่วันนี้มีเวลา

เลยเลือกชมเทปล่าสุดเลยแล้วกัน

 

ตอนที่ชมรายการก็แอบคิดตามอยู่ว่า

ทำไมพอท่านอาจารย์มานั่งดูการทำงาน

 

แล้วพ่อใหญ่ธนา และหนูอัญ

ก็ทำงานยกถังกันได้แบบมีพลังเหลือเฟือ

ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อย ไม่ปวดแขนเลย

 

และยังรู้สึกได้ชัดมากๆว่า

เหมือนมี"คน"มาช่วยยก

แต่อาจารย์ก็ยังไม่เฉลยว่า

"อาจารย์มาำนั่งดู แล้วทำอะไร"

จึงทำให้ทุกคนไม่เหนื่อย..

รอฟังคำตอบ..กันต่อไป...


แต่สิ่งที่ท่านอาจารย์แนะนำว่า

ให้ทำงานแบบพอดีๆ

พอรู้สึกว่ากำลังจะเหนื่อย

ก็ให้พักหรือสับเปลี่ยนหน้าที่กัน

อันนี้พอจะใช้สมองซีกซ้ายวิเคราะห์

ตามหลักการและเหตุผลได้ว่า

 

น่าจะเป็นการสอนธรรมอย่างหนึ่งว่า

ให้พวกเราฝึกตามดูจิตในทุกขณะที่ทำงาน

เพื่อให้"รู้"กำลัง ขีดจำกัด

ความสามารถของตัวเอง

 

พอเหนื่อยก็พัก ก็หยุด

ไม่ควร"ฝืน"กำลังของตัวเอง

คือให้ฝึกเดินทางสายกลาง

หาความพอดีให้เจอ

แล้วจะเป็นสุขทั้งกาย ทั้งใจ

ทำงานกันได้อย่างเป็นสุข สนุกสนาน

 

และเมื่อทุกคนทำตามคำสั่ง อย่างสิ้นสงสัย

ผลที่ได้ ก็คือ ทำงานกันได้อย่างเป็นสุข สงบ โล่งใจ

 

เพราะจะว่าไป ถ้าเราคิดอยาก"ฝืน"

หรือคิด"โลภ"ในบุญ

อานิสงค์ก็อาจจะไปได้แค่ สวรรค์

 

หรือ ถ้าทำไปเหนื่อยไป แอบบ่นในใจ

อันนี้อ่านจะ พลิกบุญ เป็น"บาป"แทนก็ได้

 

แต่ลูกบ้านสวนฯ มุ่งนิพพาน

จึงควรจะฝึกทำงานแบบพอดีๆ

ด้วยใจที่โล่ง โปร่ง สบาย  ....

และฝึกทรงอารมณ์เช่นนี้ให้ได้..ตลอดเวลา

 

 

 

ต้องบอกว่า ไม่ได้ดูรายการมาหลายๆเทป

ก็เลยไม่ได้เห็นโฉมหน้าของพี่น้องเท่าไหร่

แต่พอมาชมเทปนี้

 

โอ้ววว...อยากจะบอกว่า

พี่น้องบ้านสวนฯเดี๋ยวนี้

เค้าพัฒนากันไปไกลจริงๆ

 

เหมือนผ่านพิธีชุบกาย ชุบใจกันมาแล้วเลยอ่ะ

ทุกคนดูหน้าตาสวย ผ่องใส

อ่อนวัยกันทุกๆคนเลย จริงๆนะ

 

ทั้งพี่เหมี่ยว คุณอ้อย หนูก้อย

หนูตุ้ย หนูอัญ

 

โดยเฉพาะ อ.นี เห็นด้วยกับ

ท่านอาจารย์อย่างยิ่งค่ะว่า

ดูสวยสาวขึ้นเยอะจริงๆค่ะ

แถมดู น่ารัก จิ้มลิ้มมั่กๆ...

ยินดีด้วยนะค๊า

..........................................

แล้วก็ิยินดีกับทุกๆท่าน

ที่ได้สัมผัสกับพลังอภิญญา

แบบชัดๆเต็มๆด้วยค่ะ 

 

ส่วนคนที่ยังรับไม่ได้

ก็คงจะได้รู้สาเหตุกันไปแล้วว่า

เพราะเหตุใด......

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-28 06:06:09


ความคิดเห็นที่ 1392 (1650819)

รายการคุยไปแจกไปตอน เมื่อจิตเชื่อมั่น ศรัทธา ก็รับอภิญญาได้โดยง่าย

เร่ิ่มด้วยคุณอ้อย  บอกว่าหลังจากที่ได้ทานอาหารอภิญญา ได้เห็นภาพจากการได้มโนชัดขึ้น และเวลาฝึกสมาธิจะนิ่งขึ้้น

คุณเหมี่ยว  ได้บอกให้หลานที่ไม่่สบายกราบรูปท่านอาจารย์อุบล และให้หลานพูดรหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย  ปรากฏว่่าหลานก็หายป่วยทันที

คุณอมร มีอาการปวดก้นกบเมื่อตอนอยู่ที่บ้าน  เวลามาบ้านสวนพีระมิดไม่ปวด 

เป็นกรรมมาจากชอบมองก้นสาว ๆ

อาจารย์อุบลบอกว่าไอ้ที่เราอยากจะพบก็จะได้พบ  (มั่นใจว่าลูกหลานบ้านสวนพีระมิดทุกท่านได้พบแล้วค่ะ)

พระพุทธองค์ท่านบอกว่าลูกหลานของท่านต้องกล้าหาญในทุกที่ และเชื่อฟังและทำตามคำสั่งสอนของท่าน คำสอนของท่านสามารถพิสูจน์ได้ บัญลือสีหนาถ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-29 13:34:20


ความคิดเห็นที่ 1393 (1650838)

วันนี้ได้ดูรายการคุยไปแจกไป วันที่  27  มกราคม  2556

ตอน "เมื่อจิตเชื่อมั่น ศรัทธา ก็รับอภิญญาได้โดยง่าย"

ในรายการ อาจารย์ได้เมตตาบอกว่า  คนที่จะฝึกอภิญญาและปฏิบัติให้ได้นั้น ต้องมั่นใจ ต้องกล้า ต้องพูดออกไปด้วยเสียงที่ดังฟังชัด ให้บรรลือสีหนาญ  ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่กินใจ เพราะตนเองยังห่างไกลข้อนี้อยู่มาก

อาจารย์ได้ให้ลูกบ้านสวนออกมาเล่าผลของการที่ได้รับประทานอาหารอภิญญาที่ทำที่บ้านสวน และทำเองที่บ้าน เล่าประสบการณ์ที่สัมผัสได้หลังจากที่ได้ทานอาหารอภิญญา  เพื่อเป็นธรรทานให้คนที่ไม่รู้ เป็นธรรมทานผ่านทางรายการให้ผู้อื่นได้ฟัง  มีหลายคนดังนี้ค่ะ

1.คุณก็อต  มีอาการปวดหลัง  หลังจากที่ทานลูกอมอภิญญา 5 นาที อาการหายเป็น    ปลิดทิ้ง

2.ผู้ชายที่เป็น ตชด. อาการปวดเอว  ได้ทานลูกอมของคุณแมว ประมาณ 5 นาที หายเกือบหมด  อาการหลงเหลือตึง ๆ  เล็กน้อย  หลังจากที่ได้สารภาพต่อว่า ในอดีต เคยทำผิดศีลข้อ 3 เยอะ  ผลอาการหายหมดเลยค่ะ

3.อ.พันธ์  อาการปวดไหล่  นำอาหารอย่างอื่นมา ไม่ได้นำลูกอมมา  ได้ทานลูกอมอภิญญาของคนอื่น หายหมดเลยอาการที่ปวดไหล่ 

4.อ.นี  ได้สวมจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี 11 องค์  อาการปัจจุบันไม่มีอะไร  แต่สังเกตว่าหน้าตาสวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก  เนื่องจากปรับปรุงตัวใหม่ ยอมรับความจริง ไม่โกรธ  จากกรณี ท่าน อ.อุบลได้ให้ อ.นีจัดโต๊ะ แต่ อาจารย์ไม่ได้จัดตามที่อาจารย์บอกไว้  เพื่อน ๆ ช่วยกันเตือน  อ.นี กลับยอมรับผิด ยอมรับความจริง แก้ไขตัวเองใหม่  จากที่ทำอะไรไม่ค่อยไป  ก็ทำเป็นได้หลายอย่าง  อ.นี สารภาพว่า ปัจจุบันไม่มีเรื่องให้คิดมาก หน้าตาก็เลยออกมาสวยขึ้น  และอานุภาพจากที่ได้คล้องจี้ 11 องค์ด้วย

5.น้องเบส  เอาข้าวสารมาให้ อ.อุบล  ทานลูกอมของคุณอัญ  อาการที่เมื่อยที่แขนหายไปเลย

6.คุณอัญ  เจ็บฝ่าเท้า  และหลังเท้า  ทานอาหารอภิญญา อาการหายเร็วมาก  ประมาณ 2 วินาทีก็หาย  และเล่าว่า  ทำงานที่บ้านสวน สร้างองค์พระปฐมฯ มีแรงยกถังโดยไม่เหนื่อย ปกติแล้วทำไม่ได้ขนาดนี้  เหมือนมีใครมาช่วยออกแรงเยอะ

7.ผู้หญิง จ.อุดร  เป็นหวัด น้ำมูกไหล  ได้ทำบุญที่บ้านสวน อาการหายไป 80%  พอทานลูกอมอภิญญาเข้าไป  อาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล โล่งหายหมดเลย  สารภาพว่าดีใจมาก ตื่นเต้น ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน

และได้ให้ลูกชายที่ปวดฟันทานลูกอม  ปรากฎว่าหายเหมือนกัน ปลื้มใจมาก ตื้นตันใจ น้ำตาไหล

8.พี่ผู้หญิงเสื้อเหลือง  นำข้าวสารมาให้อาจารย์  ทานลูกอม ที่มีอาการปวดแขนหายเกือบหมด  พอสารภาพเพิ่มว่าใช้แขนตีลูก ฆ่าสัตว์ต่าง ๆ สัตว์เล็ก สัตว์น้อย อาการที่เหลือหายหมดเลยค่ะ

9.คุณแก้ว  เอาดีโด้มาให้อาจารย์ กินดีโด้ ผลอาหารปวดแขน 2 ข้าง หายประมาณ 50%  และทานลูกอมคุณอ้อย  ดีขึ้นมากเลยกว่าของตัวเอง  สักพักอาการก็หายหมดเลย  จากผลวิเคราะห์  อภิญญาของแต่ละคนที่ทำนั้นมีอานุภาพไม่เท่ากัน

10.คุณแมว  ไม่มีอาการอะไร ณ ตอนนั้น  แต่บอกว่าเมื่อคืนเป็นตะคริว หลายรอบ  เนื่องจากอาการเย็นจัด ประมาณ 14องศา  ทานลูกอมอภิญญาที่ทำรุ่นแรก  ได้อฐิฐานอาการหายแล้ว อาการไม่กลับมาเป็นอีก เลยได้ขอบคุณทาน อ.อุบลด้วยค่ะ

11.น้องบัว ไม่ได้นำอะไรมา  แต่ทานลูกอมของน้องกระต่าย อาการที่เป็นก็หาย  อาจารย์เมตตาว่า  คราวหน้าให้เผื่อแผ่อาหารให้คนอื่นด้วย

12.น้องกระต่าย นำลูกอมมาให้อาจารย์ ปวดแขน แต่อมลูกอมคุณชิม ปรากฎว่า ไม่หาย  พออมของตัวเองหาย ประมาณ 95%

13.คุณตุลย์  นำข้าวกล้องและนมกล่อง อาการเจ็บที่กล้ามเนื้อตรงหัวไหล่  2 ข้าง  ทำกิจกรรมที่บ้านสวนแล้ว อาการดีขึ้น  ได้นำอาหารมาให้ อ.อุบล ได้ทานนมกล่อง อาการปวดไหล่ดีขึ้น แต่ยังไม่หาย  ได้ทานลูกอมคุณชิม  อาการไม่ดีขึ้นเท่าไหร  แต่พอได้ฟังธรรมทานของอีกหลาย ๆ ท่าน อาการดีขึ้นอีก และหายหมดเลยค่ะ

และยังเล่าว่า  อาจารย์ให้พรว่า ให้มีแรง 7 กำลังช้างสาร  จากทีทำงานมาแล้วรู้สึกว่าล้าแล้วไม่มีแรงแล้ว  พออาจารย์ให้พรกลับมีแรงเพิ่มมาก เหมือนไม่ได้ทำงานมาก่อนเลย  อัศจรรย์มาก ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน 

และสารภาพว่า ชอบดูหนังโป้ คลิปโป้ และได้ลองสภาพจิตใจของตัวเองว่าเข้มแข็งมั้ย  เวลาเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ต  ตกลงว่าจิตใจยังไม่เข้มแข็งพอ  พอได้ดูทำให้เคลิ้มไปกับรูปภาพนั้น  พอมาทำงานที่บ้านสวนผลจากการผิดศีล  ทำให้เจ็บหลัง  สารภาพต่อว่าต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว  อาการหายเป็นปลิดทิ้ง  และยังสารภาพว่าคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์ด้วยเรื่องศีลข้อ 3  ได้กราบขอขมาอาจารย์ที่คิดแบบนั้น

14.ดร.จุ๋ม สารภาพในอดีต  ชอบดูภาพโป้ ภาพลามก ชอบดูรูปผู้หญิงด้วยกัน  อาการที่เป็นบ่อยและเป็นมานานแล้วแต่ไม่เคยสารภาพคืออาการปวดหลัง หายหมดเลย 

เพิ่งมาสารภาพที่บ้านสวนได้ค้นหาเหตุที่ทำให้ปวดหลัง  พอสารภาพแล้วอาการที่ปวดหายไปหมดเลยค่ะ  อาการอื่นที่ยังเหลือคือ เจ็บคอ ไอ  ทานลูกอมอภิญญาแล้วหาย 

แต่อาจารย์เมตตาว่าถ้ากลับไปทำอีกอาการก็กลับมาเป็นอีก ถ้ายังไม่เลิกนินทาอยู่ก็ไม่หายค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรนันท์ เดิมหมวก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-29 16:56:31


ความคิดเห็นที่ 1394 (1650840)

ต่อค่ะ 

15. คุณธนา  นำซอส ข้าว มาให้อาจารย์ ได้ทานลูกอมแล้ว คอที่ระคายเคือง พอลูกอมแตะที่คอคอนิดเดียว อาการหายโล่งไปเลย  ส่วนอาการปวดไหล่เรื่อยมาถึงแขน ทานแล้วเบามาเรื่อย  ตอนสร้างองค์พระปฐมฯ  ตอนยกของ และตอนที่อาจารย์มานั่ง  สัมผัสได้ว่าเหมือนมีใครมาช่วยยกหลานคนมาก  อาจารย์เมตตาว่า เวลายกปูน 1 กระบะแล้วให้ย้ายไปทำตรงอื่นต่อ  จะไม่เหนื่อยจะพอดี  เพราะคงจะมีผู้กำหนดมาแล้วว่า เท่านี้พอเหมาะแล้ว  แต่ถ้าเหนื่อยก่อนก็สามารถหยุดได้ค่ะ

แต่ความรู้สึกที่หนูได้ดูรายการคุยไปแจกไป ขนลุกตลอดเลยค่ะ  ตอนอาจารย์ให้ลูกบ้านสวนขึ้นไปเล่าประสบการณ์เป็นธรรมทาน หลังจากที่ได้ทานลูกอมอภิญญา  อาหารอภิญญา  ทั้งทื่เป็นอาหารที่อยู่ที่บ้าน และที่อยู่บ้านสวน 

อานิสงค์ของอาหารอภิญญาของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน  บางคนมีมาก บางคนมีน้อย  บางคนทานอาหารของตัวเองแล้วหายไม่หมด  ทานของคนอื่นหายหมด  อย่างอาหารของคุณชิม  อาหารอภิญญาที่ทำแล้วไม่เป็นอาหารอภิญญา  เพราะคุณชิมคิดไม่ดีกับท่าน อ.อุบล  เลยไม่สามารถรับอภิญญาที่ท่านส่งไปให้ค่ะ

และหนูก็ขออนุโมทนากับธรรมทานของทุกท่านด้วยค่ะ

ที่นำมาเล่าให้ชาวเกาะได้นำไปปฏิบัติให้เป็นผลดี

ที่สำคัญต้องขอขอบคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

อ.มงคล และน้องท๊อปด้วยค่ะ 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรนันท์ เดิมหมวก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-29 17:15:35


ความคิดเห็นที่ 1395 (1651161)

ได้ชมเทปรายการที่ออกอากาศ

วันที่ 3 ก.พ. 2556

 

ตอน ท่านพ่อดตาจินิน

ผู้ให้กำเนิดทุกสิ่งในจักรวาล

แล้วค่ะ

......................

 

ต้องขอขอบคุณเว็บมาสเตอร์

ที่สุดแสนจะใจดีด้วยนะคะ

ที่อัพโหลดรายการมาให้พวกเรา

ได้ชมอย่างรวดเร็วทันใจ

ก่อนวันออกอากาศจริงเสียอีก

 

 

บอกตามตรงค่ะว่า เมื่อได้ชมเทปนี้แล้ว

คุณจะเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้น

ชนิดาท้าไว้เลยก็ได้

แค่คุณคิดตั้งคำถามอะไรไว้ในใจก็ได้นะ

ที่เป็นคำถามที่อยากรู้ เดี๋ยวคุณชมเทปนี้จบ...

 

รับรองคุณจะได้รับ

ทุกคำตอบที่คุณอยากรู้.... แน่นอน ...

(แหม่..กล้าท้าพิสูจน์ขนาดนั้นเชียว อิอิ)

 

ฉะนั้น ขอแนะนำว่า

โปรดชมด้วยตัวท่านเองจะดีกว่าค่ะ.......

 

 

 

แต่ชนิดาก็ไม่ใจร้ายพอ

ที่จะไม่แบ่งปันเนื้อหาต่างๆ

ในเทปนี้เลย..หรอกนะคะ

 

แต่ก่อนที่จะไปพูดถึง ประเด็นใหญ่ๆ

ขอย้อนความเดิมจากตอนที่แล้ว

(อิอิ ยังกะซีรีส์เกาหลี)

 

คือ จากเทปที่แล้ว

มีบางประเด็นที่ชนิดาก็ตั้งตารอฟังคำเฉลยอยู่

 

มาถึงเทปนี้ท่านอาจารย์

ก็เมตตาตอบคำถามที่ค้างคาใจแล้ว....

 

ในเรื่องที่ว่า

ท่านอาจารย์มานั่งทำอะไร

จึงทำให้พ่อใหญ่ธนา และ หนูอัญ

ทำงานหนักๆได้อย่างสบายๆ

โดยไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด...

แถมยังรู้สึกได้ชัดๆว่า

เหมือนมี"คน"มาช่วยยกเลย  

 

 

คำตอบก็คือ...

ท่านอาจารย์ขอให้

จิตวิญญาณจากขุมนรกทั้งหกขุม

และ ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิ

ที่หลังจากได้รับการอุทิศบุญ

จากท่านอาจารย์และลูกบ้านสวนฯแล้ว

 

และตอนนี้กลายเป็นเทวดาแล้ว

ซึ่งมารอรับบุญที่บ้านสวนฯ

ท่านอาจารย์ก็เลยบอกให้

ท่านเทวดาเหล่านั้น ให้ไปช่วยยก

หรือไปประจำการอยู่ที่แขน

หรือ ส่วนต่างๆของร่างกาย

ของผู้ที่มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯ

 

โดยอย่าให้"ผู้สร้างบุญ"

รู้สึกว่าหนักหรือเหนื่อยแต่อย่างใด

 

โดยท่านอาจารย์

เริ่มขอให้ไปช่วยหนูอัญก่อน

แล้วก็ตามด้วยพ่อใหญ่ธนา

และหลังจากนั้น ก็ให้ไปช่วยทุกๆคนที่ทำงาน

โดยเฉพาะคนที่ทำงานหนักๆ...

....................................................

แล้วพวกเราก็ได้รับคำตอบสำคัญ

ที่ได้จากการพิสูจน์

ตามแนวทางวิทยาศาสตร์ ว่า

 

แท้ที่จริงแล้ว ท่านพ่อดตาจินิน

องค์พระศรีอาริย์

และ ท่านอ.อุบล

ก็คือ ดวงจิตดวงเดียวกัน

 

 

และท่านอาจารย์ก็บอกว่า

พวกเรา(ที่อยู่ ณ บ้านสวนฯตอนนั้น)ทุกคน

ต่างก็เป็นดวงจิตดวงเดียวกัน

ไม่เช่นนั้น จะมาหาอ.อุบลทำไม..กัลล์

......................................................

กรณีของคุณวิ ที่มีปัญหาเรื่อง"หู"

ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้านโลก

ทั้งๆที่คุณหมอทางโลก วินิจฉัยแล้วว่า

ไม่สามารถจะรักษาได้

เพราะประสาทหูเสื่อมไปแล้ว

 

แต่คุณวิ ก็มาหายร้อยเปอร์เซ็นต์ได้

จากการรับบารมีจากท่านพ่อดตาจินิน

องค์พระศรีอาริย์ และ ท่านอ.อุบล..

 

..................................

 

ท่านอาจารย์ แนะนำให้ทุกคน

ขยันเขียนธรรมทานให้มากๆ

ทั้งทางเว็บไซต์และทางเฟซบุ๊ค 

แล้วจะสามารถรับบารมีจากท่านพ่อดตาจินิน

พระศรีอาริย์ และท่านอ.อุบลได้มากๆ

 

ผู้ที่มีใจที่ไม่อยากจะเขียน

พลังจากพระองค์ ก็จะไม่สามารถไหลเข้าไปได้

 

ยิ่งถ้าใครร่วมออกรบมากๆ

ก็จะสามารถรับ"ญาณ"จากพระองค์ได้เต็มๆ

 

โดยพลังบารมีเหล่านี้

จะไปฝังอยู่ใน ตัวกันแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเลือด กระดูก เนื้อ

 

เพราะท่านเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่

ซึ่งลูกๆของท่านก็ต้องเป็นนักรบ

ที่กล้าหาญด้วย

 

ท่านบอกว่า

ใครที่ขี้ขลาดก็จะไม่สามารถ

กลับบ้าน ไปหาท่าน ในชาตินี้ได้

.............................

จริงๆเทปนี้

มีแต่ประเด็นสำคัญๆทั้งนั้นเลยนะคะ

ทั้งการมาถ่ายทอดเรื่องราว

"ความเชื่อ"ที่เปลี๊ยนไป๋

ของคุณออมสิน (น้องสะใภ้หนูอัญ)

 

จากที่เคยมองว่า

ท่าทางหนูอัญจะเพี้ยนไปแล้ว

เพราะเห็นหนูอัญหายหน้า

มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯแทบจะทุกอาทิตย์

 

แต่ตอนนี้ปรากฏว่า

ทั้งหนูอัญและ คุณออมสิน

กลายเป็น "แนวร่วม"เดียวกันซะแล้ว

 

เพราะอะไรลองฟังเองนะคะ

คือฟังแล้วชอบมาก

เพราะเค้าเป็นคนกล้า และ "คนจริง" เจงๆ....

 

ทุกประโยคที่ตอบ ตรงๆ จากใจ

ไม่ต้องประดิษฐ์"คำ"

เพื่อสรรหาคำตอบหรูๆแต่อย่างใด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-03 02:35:04


ความคิดเห็นที่ 1396 (1651199)

1 ผู้หญิงใส่เสื้อสีชมพู มีอาการปวดหูรักษามานานไม่หาย  ได้ทานอาหารอภิญญาบารมีท่านดตาจินิน พระศรีอารยเมตไตร ท่านอาจารย์อุล กราบท่านอาจารย์อุบลก็หาย  หาย 99% อาจารย์ให้อธิษฐานว่าใช่พระศรีอาริยเมตไตรมั้ย  สรุปว่าหาย 100%

2 น้องสาวคุณอัญ  มีกรรมทำแท้ง ทุบหลังพ่อ  ด่าพ่อ ทำให้ปวดหลัง ชอบวูบ หายใจไม่ออก ปวดหัว  ใช้รหัสอาจารย์อุบฃช่วยด้วย  เข้าเล่มธรรมทานบ้านสวน กราบท่านอาจารย์อุบล ก็หาย  แฟนมีอาการปวดท้องใช้รหัสอาจารย์อุบลช่่วยด้วยก็หาย

3 คุณอมรรักษาหลวงพ่อ ให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย หาย 50%  ถามว่าเชื่อเรื่องกรรมมั้ยหลวงพ่อตอบว่าเชื่อก็หายอีก  ให้กราบรูปท่านอาจารย์อุบล หาย 100%

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-03 13:36:36


ความคิดเห็นที่ 1397 (1651203)

 

กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                       และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                       ขอน้อมกราบต่อ ท่านพ่อดตาจินิน พระบรมธรรมบิดา พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                       ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                       ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์

                        วันนี้ ได้ดูคลิปบ้านสวนฯ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556

                        "ท่านพ่อดตาจินิน ผู้ให้กำเนิดทุกสิ่งในจักรวาล"   

                               ขอ ขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่มา สัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่อง รหัสจักรวาล อาจารย์อุบลช่วยด้วย และ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายเจ็บหายป่วยได้ทันที โดยมีจุดมุ่งหมายของบ้านสวนพีระมิด คือ เพื่อพาคนพ้นทุกข์ทั้งปวง

                  ที่ บ้านสวนพีระมิด

                  คุณแม่อุบล ได้ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้มาร่วมบุญด้วย แรงกาย ปัจจัย สิ่งของ ออกมาบอกกล่าว ถึง ปรากฎการณ์ที่ลูกหลานได้รับจากการมาร่วมบุญที่บ้านสวนฯ

                  คุณวิ ได้นำเอาแคร๊กเกอร์ และ ข้าวสาร มาให้คุณแม่อุบล ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองทานลูกอมของตนเอง อาการปวดแขนก็ไม่หาย ทานลูกอมของพี่อ้อย อาการปวดแขนก็ดีขึ้น 

                  คุณแม่อุบล จึงได้ให้ทานลูกอมของท่านดตาจินิน อาการที่ปวดแขนก็หาย 100% อาการที่หูเสื่อมดีขึ้นขึ้น 90%

                  คุณแม่อุบล ให้ทานลูกอมของพระศรีอาริย์ อาการหูก็ดีขึ้น

                  คุณแม่อุบล จึงให้ทานลูกอมของคุณแม่ อาการทางหูก็ขึ้นอีก 5% เป็นอาการดีขึ้นเกือบ 95% เมื่อ คุณวิ ทำการกราบ คุณแม่อุบล อาการทางหูก็ดีขึ้นถึง 99% 

                   ซึ่ง คุณแม่อุบล ท่านได้กล่าวว่า ท่านพ่อดตาจินิน พระศรีอาริย์ และ คุณแม่อุบล ก็คือ ดวงจิตดวงเดียวกัน ทำให้อาการทางหูของ คุณวิ ดีขึ้นทันที 100% ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ของโลก เพราะ อาการหูเสื่อมของคุณวิ ทางการแพทย์ ก็ไม่มีวิธีที่จะทำการรักษาให้หายได้ แต่เมื่อได้รับบารมีความเมตตาจาก ท่านพ่อดตาจินิน พระศรีอาริย์ และ จาก คุณแม่อุบล อาการหูเสื่อมของคุณวิ หายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

                    คุณแม่อุบล ได้แนะนำว่า ถ้าลูกหลานบ้านสวนฯ ขยันเขียนธรรมทาน ให้มากๆ ทั้งทางเวปบ้านสวนฯ และ ทางเฟซบุ๊คของบ้านสวนฯ จะได้รับพระบารมีของ ท่านพ่อดตาจินิน พระศรีอาริย์ และ ของคุณแม่อุบล ได้อย่างเข้าถึง เลือด เนื้อ และ กระดูก และ คุณแม่อุบล ยังได้กล่าวว่า ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้มาร่วมทำบุญกับบ้านสวนฯ ทั้งแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ ณ เวลานั้น ต่างก็เป็นดวงจิตดวงเดียวกัน เพราะ ได้มาร่วมทำบุญด้วยกันและ ขอให้เชื่อและทำตามที่คุณแม่อุบลได้แนะนำ จะประสบผลสำเร็จทุกประการตามที่ปรารถนา 

                   คุณแม่อุบล ยังได้เฉลยให้ฟังว่า ที่ คุณอัญ และ คุณธนา ทำงานแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยและมีพลังในการทำงานได้ต่างจากปกติที่เคยกระทำตอน ที่คุณแม่อุบลได้มานั่งดูการทำงาน นั้น เพราะ 

                    คุณแม่อุบลได้ขอให้จิตวิญญาณ จาก ขุมนรกทั้งหกขุม และ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิ ที่ได้มารับบุญที่บ้านสวนฯ จาก คุณแม่อุบล และ จากลูกหลานบ้านสวนฯ และ ตอนนี้ ได้กลายเป็นเทวดา ให้มาช่วยยก ไปช่วยประจำการอยู่ที่แขน ส่วนต่างๆของร่างกายของผู้มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯ ทำให้ ผู้มาสร้างบุญไม่รู้สึกเหนื่อย และ ไม่รู้สึกหนักในการยกสิ่งของ

                   คุณออมสิน(น้องสะใภ้ คุณอัญ) ได้ออกมาบอกกล่าวว่า มีอาการปวดหลัง และ ยอมรับว่า ในอดีตเคยทุบหลังพ่อของตนเอง เคยด่าว่าพ่อของตนเอง เพราะ พ่อชอบเมาเหล้า เคยทำแท้ง เมื่อสารภาพบาปกับจี้ และ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย อาการปวดหลังก็หาย

                    และ บอกว่า ตนเองมีอาการชอบวูบ เป็นลมง่าย เมื่อครั้งที่มาบ้านสวนฯ ก็เกิดอาการหายใจไม่ออก ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ก็ไม่หาย เมื่อ คุณอัญแนะนำให้ไปกราบคุณแม่อุบล ที่มาร่วมในงานศพของคุณย่า อาการหน้ามืดจะเป็นลมก็หายทันที

                     สามีของคุณออมสิน มีอาการปวดท้อง นอนไม่หลับ เมื่อแนะนำให้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ในตอนแรกสามีของพี่เค้าก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่เมื่อใช้รหัส แล้ว อาการปวดท้องก็หาย นอนหลับได้

                     เมื่อครั้งที่ทำน้ำทิพย์ ผ่านทางเฟซบุ๊ค คุณออมสิน ก็มีอาการปวดท้องประจำเดือน ก็หายจากอาการปวดท้อง และ นำน้ำทิพย์ไปให้คุณแม่ที่มีอาการไอดื่ม อาการไอก็หาย

                      คุณออมสิน ยอมรับว่า เมื่อก่อน คิดว่า คุณอัญ เป็นคนบ้า ที่บ้านค้าขาย ก็ไม่ยอมช่วยพ่อแม่ ค้าขาย แต่กลับไปทำบุญที่บ้านสวนฯ แต่เมื่อได้มีโอกาสได้คุยกับคุณอัญ ก็ทราบว่า คุณอัญ อยากหลุดพ้นจากความทุกข์ อยากไปนิพพาน และ รักษาศีลห้าได้ ตนเองก็เริ่มมีใจกับบ้านสวนฯ และ ได้รับความเมตตา ทั้งทางด้านการงาน สุขภาพ และ ความเจ็บป่วยของคุณพ่อคุณแม่ของตนเองก็ดีขึ้น และ อยากมาทำบุญที่บ้านสวนฯ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับพ่อของตนเอง เพราะ เคยทำไม่ดีต่อคุณพ่อของตนเอง และ รู้สึกอัศจรรย์ในความเมตตาของ คุณแม่อุบล ที่ทำให้ตนเองหายเจ็บป่วยได้ แค่ตนเองกราบคุณแม่อุบลก็หายเจ็บหายป่วยได้ และ เชื่อมั่นว่า การรักษาศีลห้าของคุณแม่อุบลต้องบริสุทธิ์ เพราะ ทำให้ผู้คนที่เจ็บป่วยหายป่วยได้ และ บอกกล่าวว่า เคยมาส่งพี่อัญที่บ้านสวนฯ ก็หลายครั้ง แต่ไม่เคยแยแสต่อบ้านสวนฯเลย เมื่อตนเองมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ก็ไม่มีอาการหน้ามืด หรือ มีอาการวูบ โดนมดกัดก็ไม่มีอาการแพ้มด(ปกติจะมีอาการแพ้ เมื่อโดนมดกัด โดยเป็นปื้นตามร่างกาย) และ จะปฎิบัติตนให้เป็นคนที่คิดดี ทำดี พูดดี และ จะพยายามไปบอกกล่าวต่อ คุณพ่อ คุณแม่ และ สามีของตนเอง ว่า ควรดีใจกับคุณอัญ กับ บุญกุศลที่คุณอัญได้มาทำที่บ้านสวนฯ

             พี่อมร ได้ออกมาบอกกล่าวว่า พี่ได้ช่วยบำบัด พระสงฆ์ที่มีอาการปวดหัวเข่า และได้ไปทำการฝังเข็มมาแล้ว แต่อาการปวดก็ไม่หาย โดย พี่ อมรได้แนะนำให้พระ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ในการขอให้อาการปวดที่หัวเข่าหาย อาการปวดก็หายได้เกือบ 50% และ ให้พระสารภาพว่าเคยใช้เท้าไปทำอะไรมาหรือเปล่า พระท่านก็บอกว่า เคยเตะเมีย อาการปวดหัวเข่าก็ดีขึ้นอีกเป็น 80%(เพื่อเป็นการพิสูจน์กฎแห่งกรรม) และ เมื่อพี่อมร แนะนำให้ไปกราบรูปของคุณแม่อุบล อาการที่ปวดหัวเข่าก็หายทันที พระท่านก็บอกกล่าวว่า มองข้ามไปได้ ใครจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ทำให้หายได้ก็ขอขอบคุณ พระท่านก็ขอขอบคุณต่อรูปของคุณแม่อุบล

                  ป้าเตือน ออกมาบอกกล่าวว่า ตอนทำลูกอมอภิญญาผ่านทางเฟซบุ๊ค ป้ามีอาการปวดที่นิ้วหัวแม่มือ ก็ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนฯและ จากคุณแม่อุบล ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย อาการปวดที่นิ้วก็หายปวด เมื่อนิ้วเท้ามีอาการปวด ก็อธิษฐานผ่านทางรายการ "คุยไปแจกไป"อาการปวดที่นิ้วเท้า ก็หายปวดได้

                                คุณ แม่ได้อนุญาตให้ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้ไปติดกระจกท่านพ่อดตาจินิน ออกมาบอกกล่าวถึงปรากฎการณ์ที่ได้รับความเมตตาจากท่านพ่อดตาจินิน

                   คุณเอิ้น มีอาการน้ำมูกไหล เมื่อไปติดกระจกแค่ 2 เม็ด อาการน้ำมูกไหลก็หาย

                   คุณสาว มีอาการกรามอักเสบ อ้าปากแล้วรู้สึกตึง ไปขัดพระ ทานลูกอมก็หายไปเกือบ 95% คุณแม่แนะนำให้ไปมองที่พระหัตถ์ของท่านพ่อดตาจินิน และ ขอว่า ถ้าพระศรีอาริย์อยู่ที่นี้ ขอให้อาการหาย 100%ได้ไหม

                   คุณหนึ่ง มีอาการปวดบ่า มา 2-3 วัน เมื่อไปยกไม้สำหรับทำนั่งร้านที่ท่านพ่อดตาจินิน อาการปวดบ่าก็หาย ระหว่างทำงาน ท่อนไม้ก็หล่นมาทับนิ้วเท้า นิ้วมือ กำลังใช้รหัส อาการที่ควรเจ็บปวดก็เป็นแค่อาการชาสักครู่แล้วก็หาย

                   คุณมยุรฉัตร มีอาการปวดท้อง เมื่อขัดองค์พระ อาการก็ดีขึ้น 80%  ไปติดกระจกได้แค่ 2-3 เม็ด มือที่โดนหินเจียร บาดแผลเลือดก็ไหลไม่แยะ และ บาดแผลก็ไม่ลึก และ ไม่เจ็บปวด อาการปวดท้อง ปวดหลังก็หายไป

                   คุณแม่อุบลได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้นไม่ได้ไปขัด ไปเจียร ทำความสะอาด แต่มีส่วนร่วมในการมาทำบุญกับบ้านสวนฯ ก็ได้รับความเมตตาด้วย เหมือนกับ คุณอำ ที่มาทำงานด้านครัว

                   คุณเบส มีอาการปวดแขน เมื่อไปติดกระจกแค่ 2-3 เม็ด อาการปวดแขนก็หาย โดยที่มีจิตใจที่ปรารถนาอยากทำงานการติดกระจกให้ดีที่สุด และ บอกว่า ปกติต้องสารภาพบาปก่อนถึงจะหาย แต่ครั้งนี้แค่ติดกระจกท่านพ่อดตาจินิน อาการปวดก็หาย

                                  คุณ พี่แมว ออกมาบอกกล่าวว่า ช่วยไปปัด ทำความสะอาดท่านพ่อดตาจินิน ปกติเป็นคนแพ้ฝุ่นง่าย จะจาม แต่ครั้งนี้ไปอยู่ใต้ฝุ่น ใต้ลมฝุ่น ก็ไม่มีอาการแพ้ ไม่คันผิวหนัง โดนกระจกทิ่ม เลือดก็ออกไม่แยะ แผลก็หายไว แต่ไม่โดนกระจกบาด

                   คุณก้อย ออกมาบอกกล่าวว่า โดนกระจกทิ่มมือ แต่เลือดไม่ออกแยะ ไม่รู้สึกเจ็บ แต่สารภาพว่า ตอนที่ติดกระจก นั่งอ้าขามากเกินไป ทำให้รู้สึกปวด แต่เมื่ออาบน้ำแล้วก็หายปวด 

                                 พี่ แก้ว ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเป็นไซนัสอักเสบ ต้องทานยา แต่เมื่อทานลูกอมอภิญญา ก็หาย แต่เมื่อวันศุกร์ก็ทานยามา ซึ่งปกติทานยาตัวนี้แล้วจะทำให้นอนไม่หลับ แต่เมื่อมาบ้านสวนฯ ก็นอนหลับสบาย เมื่อมาปิดท่านพ่อดตาจินิน อาการไซนัสก็หายไป หายใจได้โล่ง

                   คุณพิมพิชา(คุณปุ๊ก) ได้ไปช่วยขัดพระบาทท่านพ่อดตาจินิน ติดกระจกองค์ท่านมเหสักขา พอดีต้องออกไปซื้อของ ไปล้างหน้า ก็เห็นว่าหน้าตาของตนเองผ่องใสขึ้น หน้าก็ดูเด็กลง(ซึ่งเมื่อก่อนมีแต่ผดขึ้นเต็มหน้า) และ บอกกล่าวว่า จะมีอาการขนลุก เมื่อมีคนเอ่ยพระนามของพ่อดตาจินิน สัมผัสได้ถึงความเมตตาของท่านพ่อดตาจินิน

                   คุณแม่อุบลได้กล่าวว่า พระพุทธองค์ได้ทรงกล่าวถึงนางวิสาขาที่มีความงาม ทั้ง 5 ส่วน

                   ผมงาม เพราะ ทำความสะอาดพระพุทธรูป ซ่อมแซมพระพุทธรูปที่ชำรุด

                   ผิวงาม

                   เนื้องาม ริมฝีปาก ไม่คล้ำดำ สีชมพู ริมฝีปากบนล่างเสมอกัน

                   กระดูกงาม มีฟันงดงาม การทรงตัว สรีระงดงาม

                   วัยงาม มีลูกถึง 20 คน คลอดลูกคนที่ 20 แล้ว ก็เหมือนไม่เคยคลอดลูกมาก่อน

                  คุณปุ๊ก ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่เคยพบปรากฎการณ์อย่างนี้ที่ไหน เมื่อมาบ้านสวนฯ ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้รับอะไร อยากมาทำบุญ ทำการค้าขายก็ดีขึ้น อย่างมากมาย ก่อนมาพบคุณแม่อุบล ก็เคยแจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณไป 600-700 ชุด ให้กำลังใจ ให้ธรรมทานของลูกหลานบ้านสวนฯที่พิมพ์แจกไปกับลูกค้า ก็สามารถทำบุญร่วมกับบ้านสวนฯได้โดยที่ตนเองอยู่ที่บ้าน ใจมีความสงบ สบายใจ ไม่กลัวสามีของตนเองอีกเลย ตอนใส่แหวนสฟิงซ์ ก็รู้สีกร้อนวูบวาบที่ขา เอาแหวนใส่นอนก็รู้สึกร้อนในอก เมื่อมาพบคุณแม่อุบลครั้งแรก ในใจก็กลัว ใจสั่น อยากร้องไห้ หลังจากคุณแม่อุบลได้ให้บุญกับคนที่ติดตามมาด้วย ใจที่สั่นก็หาย

                 น้องผิง เอาไม้ขึ้นไปบนองค์ท่านพ่อ ศีรษะก็ไปชนกับเหล็ก รู้สึกปวดคอ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และ เอาบุญที่มาช่วยสร้างองค์พระ อาการต่างๆ ก็ดีขึ้น   

                  คุณสาว ได้กลับมารายงานผลว่า อาการที่ตึง ก็ดีขึ้นอีก แต่ไม่หาย แต่เมื่อมานั่งใกล้คุณแม่อุบล อาการต่างๆก็หาย   

                                คุณ พี่จรัล ที่เป็นตำรวจ ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองรู้สึกคันที่อวัยวะเพศ มาเกือบ 4-5 ปีแล้ว อาทิตย์ที่ผ่านมา อาการเริ่มหนักขึ้น ยอมบอกว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะ มีความคิดทางเรื่องเพศกับคุณแม่อุบล และ เมื่อยกปูน ปูนก็ตกมาใส่ และ ผงปูนก็กระเด็นมาโดนใบหน้า ต้องลงไปล้างหน้า คุณธนาสอบถามว่า ที่คันๆนั้น เรียกว่า สังฆังใช่ไหม พี่จรัลยอมรับว่าใช่ และ ยอมรับว่า ตอนมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ก็มีความคิดไม่ดีต่อเพื่อนๆที่เป็นผู้หญิงทุกคน อาการคันก็เริ่มเป็นหนักขึ้น มีความทุกข์ใจ เพราะ หักห้ามใจตนเองไม่ได้

                   คุณแม่อุบลได้บอกกับคุณจรัลว่า คุณแม่อยากให้คุณจรัลได้รับความเมตตาจากจี้รุ่นพระบรมธรรมบิดา(ท่านพ่อดตาจิ นิน) ซึ่ง คุณแม่อุบลพึ่งได้รับคำเฉลย ว่า ท่านพ่อดตาจินิน เป็นผู้ใด ขณะที่เขียนข้อความในเฟซบุ๊คกับลูกหลานบ้านสวนฯ ก่อนหน้านั้น คุณแม่ไปสอบถามท่านด๊อกเตอร์หลายๆท่าน ก็ไม่มีใครบอกได้ ให้คุณแม่อุบลไปทำสมาธิ และ จะได้รับคำตอบด้วยตนเอง ท่านพ่อดตาจินิน ท่านก็มาบอกว่า ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา ผู้ให้กำเนิดพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ผู้ให้กำเนิดพระศรีอาริยเมตไตร ผู้สร้างทุกสรรพสิ่งในโลก ทุกสรรพสิ่งในอนันตจักรวาล ซึ่ง ตอนที่คุณแม่อุบลได้สอบถามในเฟซบุ๊ค คุณธนาเป็นผู้ตอบได้ถูกคนเดียว เพราะ คุณธนาบอกว่า ผู้ที่มีรังสีได้ถึง 7 สี ย่อมต้องเหนือผู้อื่น เนื่องจากสีขาว นั้นหุ้มเหนือทุกสีไว้ และ ต้องเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งในจักรวาลได้

                   คุณธนาได้ช่วยถือองค์จี้รุ่นท่านพ่อดตาจินิน และ ให้คุณจรัลจ้องมอง แค่ 15 วินาที อาการที่คันของคุณจรัลก็หายไป

                                   คุณแม่อุบลได้กล่าวว่า คุณแม่ไม่เคยโกรธใครเลย ให้อภัยตั้งแต่ยังไม่เอ่ยปากขออภัยคุณแม่ คุณแม่หลุดพ้นจากความโกรธ

                    ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้ไปร่วมทำบุญ กับ บ้านสวนพีระมิด ทั้ง ปัจจัย สิ่งของ แรงกาย ทำให้งานก่อสร้างอาคาร องค์ท่านพ่อดตาจินิน และ องค์มเหสักขา สวยงามและเปล่งพระเมตตาต่อปวงชนทั่้วไปที่ได้พบและมารับความรักและความเมตตา ของพระองค์ท่าน

                     ขอน้อมกราบต่อธรรมะ ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่อง อานาปานสติกรรมฐาน ในการควบคุมอารมณ์จิตใจที่ฟุ้งซ่าน โดยการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ให้ปล่อยให้การหายใจเป็นปกติ ไม่ต้องสนใจว่าหายใจสั้นหรือยาว หายใจเข้าพุท หายใจออกโ ให้จิตตั้งอยู่ เป็นสมาธิ

                     สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-03 15:07:35


ความคิดเห็นที่ 1398 (1651204)

กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                       ผมขอน้อมกราบต่อพระเมตตาของ ท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด และ เทวดาผู้รักษาตัวของคุณแม่อุบล

                       เพราะ ความรักและเมตตา ที่ผมได้รับจากบ้านสวนพีระมิด นั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อตัวของผม

                       และ ครั้งนี้ ท่านได้เมตตาต่อ คุณแม่ของผม เพราะ ประมาณต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณแม่ของผม นั้น ท่านนอนไม่ค่อยหลับ ตอนกลางคืน มีความรู้สึกว่า เหมือนมีใครมาบีบคอท่าน ผมก็ได้แต่ชอบพูดเล่นว่า อาจเป็นผมบีบคอท่าน เพื่ออยากได้เงินของท่าน  แม่ก็นิ่งเงียบไม่ตอบอะไร แต่ ท่านก็เอ่ยมาว่า อยากได้อะไรมาสวมใส่ ผมกับพี่สาว ก็เลยนำจี้องค์สฟิงซ์มาให้ท่านสวมใส่

(ซึ่ง แม่ของผม ท่านรู้จักบ้านสวนพีระมิด และ ท่านก็ทราบว่า ถ้าผมลงไปกรุงเทพฯ ผมมักจะเดินทางไปที่บ้านสวนพีระมิด และ ท่านก็มักอยู่เป็นเพื่อนผม เวลาที่ผมนั่งดูรายการของบ้านสวนฯ และ พิมพ์เนื้อเรื่องที่ได้ดูมา บางครั้ง แม่ก็มาดูรายการกับผม  และ ท่านชอบแซวว่า ไปหาและเป็นลูกศิษย์อาจารย์อุบลแล้ว ห้ามพูดโกหกกับแม่นะ) ก็ปรากฎว่า หลังจากสวมจี้องค์สฟิงซ์ ท่านนอนหลับได้ยาวนานขึ้น ไม่ตื่นขึ้นมาบ่อยๆ

                       และ ช่วงวันนี้ ขณะที่ผมกำลังนั่งดู รายการ "คุยไปแจกไป" ท่านก็มีอาการมึนศีรษะ และ ไม่อยากทานอาหารเช้า ผมก็พาท่านมานอนใกล้ๆผม ขณะที่ผมก็ดูรายการ และ ผมก็คิดว่า ผมยังได้รับความรักและความเมตตาจากบ้านสวนฯ ผมก็เลยตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านสวนฯ ว่า ขอให้คุณแม่ผมหายจากอาการมึนศีรษะ และ สามารถนอนหลับได้ ปรากฎว่า อธิษฐานได้ไม่นาน คุณแม่ก็นอนกรน แสดงว่า ท่านนอนหลับไปแล้ว ผมก็มีความสบายใจ เพราะ ถ้าท่านไม่นอนหลับ อาการมึนก็คงไม่ดีขึ้น

                       ผ่านไปสองชั่วโมง คุณแม่ก็ตื่นขึ้นมา บอกว่า อยากทานข้าว ก็เอาโจ๊กให้แม่ทาน แม่ทานได้มากจนหมดชามที่ผมเตรียมไว้ให้ และ ทานยาได้ ผมก็คิดว่าจะพาท่านมานอนอีก ปรากฏว่า ท่านไม่อยากนอนแล้ว จะอ่านหนังสือพิมพ์ แลัวยัง อ่านเรื่องของคุณแพนเค้ก ให้ผมฟังอีก ผมก็รู้สึกสบายใจและโล่งใจ 

                       จึงขออนุญาต มาเขียนกราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนบ้านพีระมิด เทวดาผู้รักษาตัวคุณแม่อุบล และ คุณแม่อุบล ครับ

                        และ ขอขอบคุณ คุณพี่ชนิดา ครับ ที่วันนี้ พี่มาเขียนธรรมทานให้อ่านครับ ระลึกคิดถึง ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-03 15:09:53


ความคิดเห็นที่ 1399 (1651222)

อนุโมทนากับธรรมทานของคุณชนิดาและคุณธนากรด้วยค่ะ 

ทั้งสองคนเขียนได้เข้าใจง่าย สมแล้วที่เป็นลูกหลานบ้านสวนตัวจริงเสียงจริง

 เห็นแล้วอายจังเขียนทีไรไม่เคยจบซักที

คงจะเป็นเพราะยังรักษาศีล 5 ได้ไม่ครบ และยังขาดความอดทน ไม่มีความละเอียด

เรื่องที่ทุกคนพึงกระทำ

1 กินแล้วต้องล้างจานและต้องให้สะอาด ไม่ใช่เฉพาะจานนะคะหมายถึงทุกที่ที่ท่านไปท่านอยู่ต้องสะอาดไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่น 

จะทำให้มีสภาพคล่องทางการเงิน

2 การสวมใส่เสื้อผ้า อย่าใส่ซ้ำเพราะจะทำให้เป็นโรคผิวหนัง

3  การให้สิ่งของผู้อื่นควรให้สิ่งที่ดี เพราะเราจะได้รับสิ่งที่ดีกลับมาเช้นกัน

4  ให้อภัยกับคนที่ไม่น่าให้อภัย

5 ไม่ฆ่าสัตว์ มนุษย์  เพราะทุกชีวิตก็รักชีวิตของตนเองเช่นกัน ผู้ฆ่าย่อมได้รับความเจ็บป่วย

6  ไม่พูดเพ้อเจ้อ  โกหก ปลิ้นปล้อนกะล่อนตอแหล พูดเรื่องคนอื่น ด่าว่าทั้งในใจและโดยตรง จะทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับปาก  เช่นปากเหม็น ฟันไม่ตรง ไทรอยด์ ทอมซิล ปากแตก

7 ไม่คบคนชั่วเป็นมิตร

8 ให้สังเกตว่าเรานิสัยอย่างไรมักจะได้อยู่กับคนแบบนั้น เช่นหากเราขี้เกียจ เราก็จะได้อยู่กับคนขี้เกียจเหมือนกัน

9 ไม่ดื่มของมึนเมา เพราะจะทำให้กลายเป็นคนโง่ มึนหัว จำอะไรไม่ค่อยได้

10  รู้จักขอบคุณผู้มีพระคุณกับตนเอง  ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ

11 ไม่ดูภาพโป๊ ไม่มีชู้ มีกิ๊ก ทั้งทางร่างกาย ความคิด  ทำให้ปวดหลัง ปวดเอว ผิดหวังด้านความรัก

12  ไม่เที่ยวกลางคืน  ทำให้ปวดขา เพราะเอาขาไปทำเรื่องไม่ดี

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-03 20:34:45


ความคิดเห็นที่ 1400 (1651604)

ได้ดูรายการคุยไปแจกไป ตอนท่านพ่อดตาจินินผู้ให้กำเนิดทุกสิ่งในจักรวาล ดังนี้

1.ผู้หญิงเสื้อสีชมพู ชื่อคุณวิ  มีปัญหาเรื่องหู ได้บำบัดโดยทานอาหารอภิญญา เรียกชื่อ 3 ชื่อ คือพระศรีอาริย์ อ.อุบล ท่านพ่อดตาจินิน จากอาหารชิ้นเดียว  สารภาพว่ารักษาหูมานานเป็นปี ไม่หาย ได้มาทำงานที่บ้านสวนก็ยังหายไม่หมด   มาหายตอนนี้  โดยพิสูจน์ทานอาหารอภิญญา จากท่านพ่อดตาจินิน พระศรีอาริย์ และท่าน อ.อุบล ถึงจะหายหมด เป็นการพิสูจน์ว่า ทั้ง 3 คือจิตดวงเดียวกัน  หลังจากหาย 95 %  แล้ว อีก 5 % ที่เหลือได้กราบท่าน อ.อุบลแล้ว หาย 100% ค่ะ

2.ผู้หญิงญาติคุณอัญ เล่าว่ามาบ้านสวนครั้งแรก ความจริงมาหลายครั้งแล้ว แต่จิตไม่เปิดไม่อยากเข้ามาภายในเขตบ้านสวน แต่พอเจอเหตุการณ์กับตัวเอง ทำให้ศัทธาจิตจึงเปิด  เคยใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย โดยสารภาพว่า ทุบหลังพ่อ ด่าพ่อ  ทำแท้งมา  คุณอัญให้สารภาพกับจี้ และใช้รหัส หลังที่ปวดหายหมดเลย  แต่มีครั้งหนึ่งปวดหัวมากไม่หาย ทำงัยก็ไม่หาย แค่ได้กราบท่าน อ.อุบลตัวจริง  ก็หายเป็นปลิดทิ้ง  และก็ได้แนะนำให้แฟนใช้รหัส ขอให้หายปวดท้อง ทั้งที่แฟนยังไม่รู้จัก อ.อุบล อาการปวดท้องหายไปเลย  สารภาพว่าตอนนี้สำนึกผิดแล้ และอยากทำบุญอุทิศให้พ่อที่เคยทำไม่ดีกับท่านไว้ แต่ท่านก็ได้ล่วงลับไปแล้ว

3.คุณอมร  เล่าเรื่องที่คุณเหมี่ยวไปช่วยบำบัดหลวงพ่อ อาการปวดหายหมดเลย บอกว่ายังใช้ได้ไม่ครบกระบวนการก็หายหมดแล้ว

4. ป้าเตือนดูรายการคุยไปแจกไป สงสัยว่าไม่ได้นำอาหารไปให้อาจารย์ แล้วจะสามารถรับบารมีอภิญญาได้มั้ย ทดลองอฐิฐานผ่านทางหน้าจอดู ปรากฎว่าใช้ได้ผลสามารถรับบารมีได้

5.คุณเอิ้น เล่าอาการที่ขึ้นไปติดกระจก หายจากอาการปวดต่าง ๆ หมดเลย

6. คุณสาว ปัญหาปากอักเสบ ได้ไปขัดองค์พระ และทานลูกอม อ.อุบล อาการที่เป็นหาย 95% อ.อุบลถามว่าอยากหายหมดมั้ย ให้ไปขอต่อหน้ารูปพระองค์ท่าน พูดว่าถ้าพระองค์ท่านอยู่ตรงนี้ให้หาย เรียกดัชนีไฉไล  พระองค์ต้องการสื่อว่าจริง ๆ แล้วพระองค์คือใครกันแน่

7.คุณหนึ่ง ปวดหลัง ยกไม้แล้วหาย และมีอุบัติเหตุ โดนไม้ทับนิ้วมือ นิ้วเท้า ใชรหัส อ.อุบล อาการที่โดยชาทันที แล้วหายไปหมดเลยไม่มีอาการหลงเหลือ

8.คุณมยุรฉัตร ปวดหลัง ปวดท้อง เป็นลมดันแข็งๆ ขึ้นมา  ได้ไปติดกระจก 3-4 เมตร หายหมดเลย ส่วนลูกคุณมยุรฉัตรเห็นแสงมากจากองค์พระจนแสบตา ซึ่งคงเป็นบารมีพระองค์ท่าน

9.คุณเบส ปวดแขน 2 ข้าง ได้ไปติดกระจกองค์พระ อาการปวดแขนหายหมดเลย ติดกระจกประมาณ 20 เมตร รู้สึกตกใจ และแปลกมาก

10.คุณแมว ช่วยขัดพระองค์ท่าน ปกติดจะแพ้ฝุ่น จะต้องคันผิวหนัง ไอจามด้วย แต่ปรากฎว่าไม่คัน ไม่จาม แถมมีคนกวาดฝุ่นใส่อีก และยังโดยกระจกบาดแต่ไม่มีแผลเลย ไม่เห็นแผล

11.คุณก้อย ติดกระจก กระจกทิ่มมือ หลายครั้งเยอะมาก แต่ไม่มีแผล ไม่มีเลือดออกเลย

12.คุณแก้ว ก่อนมาบ้านสวนเป็นไซนัทอักเสบ เป็นมากฟุบกับโต๊ะ ได้อมลูกอมอภิญญา อาการดีขึ้นแต่ยังไม่หาย พอมาบ้านสวนได้ไปขัดพระองค์ท่าน และช่วยงานอื่น ๆ ยังไม่ทันได้ติดกระจก และได้ทานยาไป 1 เม็ดซึ่งในยานี้มีส่วนผสมของสารเสพติด ปกติจะต้องมึน และหลับ แต่อาการปรากฎว่าไม่หลับ และอาการไซนัทที่เป็นหายโล่งไปเลย

13.คุณปุก งานหลักทำในครัว ได้ขัดพระองค์ท่าน ขัดพระบาท และได้ติดกระจก 2-3. ชิ้น สังเกตว่าพอมองหน้าตัวเองรู้สึกหน้าเด็กลงมาก หน้าตาดีขึ้น และสัมผัสได้ว่าเวลาใครพูดถึงท่านพ่อดตาจินิน แล้วขนทุกสัมผัสได้

14.น้องผิง ขนไม้ขึ้นไปที่องค์พระ  หัวโดนเหล็ก รู้สึกมึน ๆ งง ๆ ใช้รหัส อ.อุบล หายหมดเลย

15.คุณจรัล ยาตรา คันตรงอวัยวกะเพศ คันมา 4-5 ปี และเป็นหนักเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ได้ทำงานที่บ้านสวน กำลังยกปูน หิ้วปูนอยู่  ปูนหกกระเด็นเข้าหน้า ตา ต้องลงไปล้างหน้า ล้างตา ผลจากการคิดไม่ดีกับคนอื่น  ได้สารภาพว่า คิดไม่ดีกับท่าน อ.อุบล ตอนอาบน้ำ เกิดจากมโนกรรมคิดไปเอง ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากคิด  อ.อุบลจึงขอพิสูจน์บารมีท่านพ่อดตาจินิน โดยได้ทำจี้รุ่นของท่านขึ้นมาและให้คุณธนาจับ แล้วให้คุณจรัลมองที่จี้  ตอนอาราธนาบารมีท่านดตาจินิน ให้หายทุกกาย ทุกข์ใจ  อ.อุบลอธิบายเพิ่มว่า ตอนแรกท่าน อ.อุบลก็ไม่ทราบว่า ท่านดตาจินินคือใคร  อยู่ดี ๆ ก็รู้ขึ้นมาเอง  ตอนแรกอยากรู้ถามคนโน้นคนนี้ก็ไม่มีใครตอบให้ได้ว่าท่านคือใคร  ท่านพ่อดตาจินินคือ  ผู้ให้กำเนิดองค์พระปฐมฯ พระพุทธองค์ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ (22,200 กว่าพระองค์)  พระศรีอาริยเมตไตร สิ่งมีชีวตทั่วอนันตจักรวาล พิสูจน์ อ.อุบบได้ทำจี้รุ่นท่านพ่อดตาจินิน เพื่อช่วยเหลือคนที่มีทุกข์ทางกาย ทางใจด้วย ให้คุณจรัสมองแล้วนับเป็นวินาที ประมาณ 15 วินาที คุณจรัลที่คันตรงอวัยวะเพศ หายคันหมดเลย สารภาพว่าทุกข์ทางใจก็หายไปด้วย  โล่งหายไปหมดเลย  นับเป็นพระบารมีของท่านพ่อดตาจินินโดยแท้  สาธุ สาธุ สาธุ ยินดีกับคุณจรัลด้วยค่ะ              และขอโมทนากับลูกบ้านสวนที่ได้ไปช่วยงานติดกระจกพระองค์ท่าน และโมทนากับทุกธรรมทานด้วยค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรนันท์ เดิมหมวก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-02-06 13:51:13



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 [14] 15 16 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.