ReadyPlanet.com


ธรรมบำบัด+ชมบารมีพระศรีอาริย์+เตือนภัยพิบัติ กทม.ศ.21 ก.ย.55


ผศ.ดร.จิ๋ม + คุณธนา

ได้มีมุทิตาจิต

มาขอ

เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม

ธรรมบำบัด

สัญจร ที่ กทม.

ในหัวข้อ

-ธรรมบำบัด

แบบเห็นผลฉับพลันทันที

-ชมบารมีพระศรีอาริย์

-เตือนภัยพิบัติขั้นวิกฤติ

เพื่อ

อยากให้พี่น้องชาว กทม.

ที่มีความเสี่ยงสูง

ต่อ

ภัยพิบัติที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

และ

ชาว กทม.

จะได้รับผลกระทบมาก

 

ทั้งสองท่าน

(ดร.จิ๋ม + คุณธนา)

เห็นว่า ไม่มีสิ่งใด ที่จะช่วย

ระงับยับยั้ง ภัยพิบัติ

ครั้งนี้ได้

 

ตลอดจน

เห็นว่า พี่น้อง ชาว กทม.

ล้วนมีปัญหา สุขภาพ

เจ็บป่วย ยากจน มีทุกข์

แล้วยังหาทางดับทุกข์ไม่ได้

กันมากมาย

 

ด้วยความที่ ดร.จิ๋ม

ซึ่งเป็นนักวิจัย ของ สถาบันวิจัย ปตท.

ได้รับสัมผัสรสพระธรรม

มาแล้วด้วยตัวเอง

 

จากโรค โปลิโอ กระดูกคด

ขาเดินไม่ปกติ ปวดหลัง ไหล่

เมื่อได้รับ

ธรรมะ และ สร้างบุญ

แก้ที่เหตุ

อาการต่างๆ ดีขึ้น และ หายได้

เดี๋ยวนี้ เดินตรง

เมื่อก่อนเดินขาบิดข้างหนึ่ง

อาการปวดดีขึ้นมาก

ทั้งที่ -คุณพ่อ คุณแม่ เป็นหมอ

ตัวเอง-จบ ดร. -มีเงิน

แต่

ไม่สามารถช่วยให้พ้นทุกข์ได้

แต่บุญ ช่วยได้จริง

 

ส่วนคุณธนา

เคยได้รับอุบัติเหตุขาหัก

กระดูกผิดรูปเช่นกัน

ไม่สามารถนั่งสามาธิได้

ขาชี้ข้างหนึ่ง

เวลาเดิน ขาเป๋ ลาก

 

หลังจากมาบำบัด

ด้วยธรรมะ ขาของคุณธนา

หายได้ในพริบตา

 

อันที่จริง

คุณธนา เป็นวิศวกร

เงินเดือนสูง ความรู้ก็สูง

แต่ไม่สามารถใช้

ทั้งความรู้ และ เงินที่มีอยู่

รักษาขาตัวเองได้

 

แต่บุญ

กลับช่วยได้เป็นอัศจรรย์

ขาคุณธนา กลับมาตรงเข้ารูป

เดินตรง นั่งสมาธิได้

ในพริบตา

 

ด้วยเหตุนี้กระมัง

ทำให้

ทั้ง ดร.จิ๋ม และ คุณธนา

คิดถึงหัวอกคนอื่น

ที่ทุกข์

เหมือนอย่างที่ตัวเองเคยทุกข์

 

แต่ตัวเอง

พ้นทุกข์มาได้แล้ว

จึงอยากให้ พี่น้อง ที่อยู่ กทม.

ได้มีโอกาส เหมือนตัวเอง

และ

รู้ว่าภัยพิบัติใหญ่

ใกล้เวลาแล้ว ถ้าพี่น้อง

ยังไม่รู้วิธีดับทุกข์

ก็คงจะมีความเสี่ยงสูงต่อการ

เผชิญภัยพิบัติ

 

ไม่ใช่แค่น้ำท่วม กทม.

แต่มันจะยิ่งกว่านั้น

 

ยิ่ง

ได้สัมผัสพระบารมี

พระศรีอาริย์

ทั้ง ดร.จิ๋ม และ พ่อใหญ่ธนา

ก็ยิ่งคิดถึงพี่น้องชาวไทย

ที่ไม่มีโอกาสได้มา

บ้านสวนพีระมิด

 

ถึงกับ

ยอมลงทุนควักกระเป๋า

จ่ายค่าโรงแรมเอง

กันสองคน

 

ขอให้ อ.อุบล ช่วยไป

แสดงธรรมบำบัด

และ

เตือนภัยพิบัติหน่อยได้ไหม

 

เอ

เอาถึงขั้นเตือนภัยพิบัติ

ขั้นวิกฤติเลยเหรอ

ปกติ

จะเตือนแต่คนในเท่านั้น

คือ

คนที่เขาศรัทธา ที่มาหาจริงๆ

ส่วนคนทั่วไป ไม่อยากเตือน

เคยเตือนในรายการ

ทีวี.มาแล้ว

 

ดร.อาจอง ท่านก็เตือน

ดร.เทพนม ท่านก็เตือน

ใคร ต่อ ใคร ก็เตือน

 

คราวนี้

จะให้ อ.อุบล เตือน

แน่ใจนะ ว่าทนฟังกันได้

 

เพราะ

อ.อุบล เป็นคน พูดตรง

ไม่เกรงใจใคร

 

ถ้าอยากฟัง

ก็ตามใจ เมื่อไหร่ ที่ไหน

พ่อใหญ่ธนา ดร.จิ๋ม

 

แล้วแต่วัน อ.สะดวกครับ/ค่ะ

 

งั้นเอาศุกร์

ที่ 21 ก.ย.55 ดีไหม

เพราะถ้าช้ากว่านี้ พี่น้อง

ชาว กทม.จะเจออะไรมั่งก็ไม่รู้

 

ปีที่แล้ว

ลูกบ้านสวน ใน กทม.

รอดจากน้ำท่วมกันได้หมด

มีบางราย ที่เจอน้ำ

เพราะ

อยู่ท่ามกลาง แหล่งน้ำท่วม

และ

ไม่รักษาศีล ไม่เปลี่ยน

แต่ยังดี

ที่ไม่โดนเยอะเหมือนคนอื่น

 

พ่อใหญ่ธนา

คงห่วง พี่น้อง คน กทม.มาก

 

ส่วน ดร.จิ๋ม

ย้ายมาอยู่ นครนายกแล้ว

ก็ยังห่วงญาติพี่น้อง

เพื่อนฝูงอยู่ดี

 

เอาเป็นว่า

ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่

แสดงธรรมะบำบัดอย่างเดียว

ซะแล้วซี

 

ดูเหมือนจะ

3 รายการ

เลยนะ ดูแล้ว

 

1.แสดงธรรมบำบัด

แบบเห็นผลฉับพลันทันที

 

2.ชมบารมีพระศรีอารย์

 

3.เตือนภัยพิบัติ

 

ส่วนสถานที่นั้น

ให้พ่อใหญ่ธนา หรือ

ใครก็ได้มาบอกรายละเอียด

เรื่อง วันเวลา อีกทีนะจ๊ะ

 

ส่วนเงื่อนไข

การสมัคร ตอนนี้

ให้มาลงชื่อในเวปไซด์นี้ก่อน

 

 

ส่วนคนที่

เข้าเวปบ้านสวนไม่ได้

ให้สมัครที่ เฟสบุ๊ค บ้านสวน

เดี๋ยวคงมีคนก๊อปมาเอง

 

ใครจะไป

ก็มาลงชื่อที่กระทู้นี้ก่อนนะจ๊ะ

 

1.ชื่อ-สกุล มีคำนำหน้านาม

ไม่ปิดบัง

 

2.วุฒิการศึกษาสูงสุด

 

3.ตำแหน่ง - ที่ทำงาน

 

4.จังหวัดที่อยู่

 

5.ปัญหาที่ต้องการบำบัด

(บอกเท่าที่ต้องการบำบัด)

 

เดี๋ยวจะมาบอกเรื่อง

การส่งเอกสาร

ต่อจ้า

 



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-11 15:26:44


<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4] 5 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 301 (1630579)

หลังจากได้ไปร่วมงานธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันที่ รร.เดอะทราเวลเลอร์ รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ด้วยบารมีของพระศรีอาริย์ที่เสด็จมาโปรด อาการหนัก ๆ มึน ๆ ศีรษะก็ดีขึ้น รู้สึกโล่งศรีษะค่ะ ลูกขอกราบพระศรีอาริย์และท่าน อ. อุบล และได้ฟังธรรมะดีๆ จาก อ. ค่ะ

และขอขอบคุณ ผศ ดร. จิ๋ม และ คุณธนาที่ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมดี ๆ ในครั้งนี้ คุณแมว และ ดร.จิตราที่ได้มาเป็นแขกรับเชิญมาให้ความรู้ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นภสวรรณ นิวแมน ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 00:09:19


ความคิดเห็นที่ 302 (1630580)

 ดร.จิตรา บอกว่าความรู้สึกที่โรคหาย ดีขึ้นโดยฉับพลันเป็นพระเมตตาของพระพุทธองค์ที่ต้องการให้กำลังใจพวกเราก้าวเดินต่อไปอย่างคล่องแคล่วดีขึ้น เมื่อเราได้รักการช่วยเหลือแล้ว ก็ให้สำนึกบาป ทำความดี ช่วยเหลือคนอื่นต่อไป

ให้ทานสังฆทาน อานิสงฆ์ยิ่งใหญ่มาก แม้เพียงครั้งเดียว เกิดอีกกี่พบชาติก็จะไม่ได้รับความลำบากยากจน แม้เข้านิพพานแล้วอานิสงค์ของสังฆทานยังลอยอยู่

บุญธรรมทานใช้ทุนน้อย แต่บุญมาก คนทำกันไม่ค่อยได้ เพราะกรรมรวมตัวดึงจิตใจไว้ไม่ให้เขียน

ทานที่ยิ่งใหญ่เหนือทานทั้งปวง คือ อภัยทาน เลิกทำลายล้าง เลิกโกรธเกลียด หาเรื่อง แสนงอน 

เลิกโกรธ เงินดี งานดี มีโชค ความรักก็ดี  

เราไม่สามารถเปลี่ยนคนรอบข้างได้ ต้องเปลี่ยนตัวเราเอง

เป็นไปได้ไหมที่เราจะตบยุงทีเดียวให้ตายหมดทั้งโลก

เราต้องหามุ้งมากาง หายามาทาป้องกัน

คนที่โกรธคือคนที่น่ารังเกลียดที่สุด

เลิกสนใจภาพกายภายนอก ความประพฤติของคนอื่น ๆ 

เมื่อเราคิดที่จะทำความดีอานิสงค์เกิดตั้งแต่คิดแล้ว

ความตระหนี่ถี่เหนียวไม่ทำให้ใครร่ำรวย

สมาธิ แปลว่า ตั้งมั่น มีสมาธิก็จะตั้งใจฟัง คนไม่มีสมาธิเวลาเขียนจะมั่

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 00:31:54


ความคิดเห็นที่ 303 (1630581)

 จาก คห.ที่ 301 คุณนราธิป กิมไพบูลย์ ช่วยซ่อนอีเมลด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 00:36:17


ความคิดเห็นที่ 304 (1630582)

 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว

และขอบคุณ ผศ ดร.จิ๋ม และคุณธนา ที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมในวันที่ 21 ก.ย. 55 ดิฉันได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ นับว่าเป็นเกียรติแต่ชีวิตเป็นอย่างมาก ท่านอาจารย์อุบลได้ให้ธรรมบำบัิดไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้น แต่ธรรมที่ท่านให้เป็นการให้แสงสว่างในชีวิต กับทุกคนที่ตั้งใจทำดี และมีศีลธรรม เมื่อเดินทางมาถึงในงานรู้สึกมีความสุขมาก ทุกคนที่พบเหมือนพี่น้อง มีแต่รอยยิ้มให้กัน นี่แหละคือความสุขที่แท้จริง รู้สึกประทับใจมากค่ะ  วันนั้นมีอาการปวดที่เข่า และเจ็บตึงที่็น่องข้างขวา และได้บำบัดจากอาจารย์ ได้ขึ้นไปบนเวทีสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์ อาการต่าง ๆ ก็หายไป 

ผู้แสดงความคิดเห็น อริสรา แสงนรินทร์ (seangnarin-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 00:39:43


ความคิดเห็นที่ 305 (1630584)

 

งานนี้มี surprise เขียนโดย จิ๋ม ชัชวลี นักวิจัย ปตท.
                บรรยายไปได้สักพักนึง ท่านอาจารย์อุบล ก็ได้แจ้งแก่คุณธนาว่า งานนี้อาจารย์ได้ชวน ดร.จิตรา เข้ามาในงานด้วย ดูคุณธนา ท่าทางตื่นเต้นมากเลย น่าจะเป็นคนสำคัญคนนึง ท่านอาจารย์อุบลได้เชิญ ดร.จิตรามาพูดเกี่ยวกับ พระศรีอาริย์ เพราะท่านอยู่ด้วยขณะที่ท่าน อ.อุบล อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ และทำให้คนหายจากอาการเจ็บ ท่านได้ให้ความเห็นว่า ท่านเองก็มีหน้าที่รักษาคน คล้าย อ.อุบล แต่ท่านใช้พลังคอสมิค หรือพลังจักรวาล มารักษา ท่านเล่าว่าเมื่อคืนนี้ตอนตี 3 ลูกศิษย์ของท่านที่มาให้ท่านรักษา เพิ่งจะคิดกรรมออกเมื่อตอนตี 3 ที่ผ่านมา และในที่สุดท่านก็รักษาคนใข้คนนี้ได้   ดู ๆ แล้วท่านก็มีความเมตตา และทุ่มเทที่จะเป็นผู้ให้ รวมทั้งช่วยรักษาโรคให้กับผู้คนโดยใช้กฎแห่งกรรมคล้าย ๆ กับท่านอาจารย์อุบล เห็นบอกว่าไม่ค่อยได้หลับได้นอน เป็นนิจสิน เช่นกัน   ท่านบอกว่าที่รับเชิญจากอาจารย์อุบลให้มาฟังนี้ ก็เพราะอยากจะมาชมบารมีพระศรีอาริย์ และอยากฟังเรื่องภัยพิบัติว่าจะมีข้อมูลอะไรที่คืบหน้า หรือตรงกันกับท่านหรือไม่
ท่านเล่าว่า สำหรับการเกิดภัยพิบัติ เพื่อจะเปลี่ยนยุค เข้าสู่ยุคพระศรีอารืย์นั้น ไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลง โดยล้างคนชั่วออกไปให้เหลือแต่คนดี ในยุคใหม่นี้เท่านั้น ท่านอาจารย์จิตตรากล่าวว่า จริง ๆ แล้วไม่ใช่แต่ศาสนาพุทธที่ทำนายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ศาสนาคริสต์ และ อิสลาม ก็ทำนายไว้อย่างนี้เข่นกัน เขาใข้คำว่าจะมี The second coming หรือการกลับมาของพระเยซูคริสต์ อีกครั้ง ดังนั้นพวกเรากำลังอยู่ในระหว่างรอยต่อของการเปลี่ยนยุค ในอนาคตประเทศไทยจะเป็นเสาหลักของโลก ลาว เขมร จะขอมารวมกันเป็นดินแดนของไทย และดินแดนสุวรรณภูมิจะเป็นเสาหลักของโลก  แต่ขณะนี้พวกมาร จะพยายามที่จะทำลายดินแดนนี้ ท่านอาจารย์ขอให้พวกเรารักษาความดีไว้ ทำบุญ และรักษาศีล 5 เป็นนิจ พร้อมรับแผนของเบื้องบน
ท่านอาจารย์อุบลได้ถามว่า พระศรีอาริย์ที่จะมาสร้างบารมีนั้น ท่านได้มาแล้วหรือยัง มาแบบใด ท่านอาจารย์จิตราได้ตอบว่าท่านมาเกิดแล้ว เป็นมนุษย์ผู้หญิง และได้มีอายุ อานาม มากพอที่จะเป็นผู้นำของปวงคนได้ ท่านดร.จิตรา ได้มีญาณหยั่งรู้ และเห็นในนิมิตว่า ท่านเห็นท่านสันตะปาปา จอห์นพอล ซึ่งได้พยามตามหาพระเยซู องค์ที่เรียกว่า the second coming นี้ ท่านบอกว่าท่านพบแล้ว เป็นผู้หญิง ในภาพที่ท่านเห็นจะมีขบวนของ สันตะปาปา หลาย ๆ ท่านเดินตามผู้นำที่เป็นสตรีท่านนี้
ดร.จิตรา ยังได้กล่าวถึง พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ของเรา ซึ่งพวกเราก็ทราบกันดีว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีมาอย่างสูงส่ง ท่านกล่าวว่า งานของในหลวงสำเร็จแล้ว ท่านทำได้อย่างดี ไม่มีอะไรน่าห่วงอีกต่อไป จะมีคนที่ได้รับส่งต่อจากในหลวงและดูแลแผ่นดินนี้ต่อไป พระศรีอาริย์ท่านจะเป็นส่วนนึงที่จะเป็นผู้ที่ดูแลประเทศไทย และดินแดนสุวรรภูมิ ขอให้พวกเราอย่าไปคิดลบ ว่าจะเป็นการล้างโลก หรือเกิดภัยใหญ่ ให้คิดในแง่บวกว่า เรากำลังจะเปลี่ยนยุคแล้ว และจะก้าวไปสู่สิ่งดี ๆ ในยุคใหม่ต่อไป ที่น่าเสียดายของงานวันนี้ก็คือ ไม่มีเวลาที่จะพูดถึงเรื่องภัยพิบัติเลย คงต้องเป็นการจัดงานครั้งต่อไป ซึ่งท่านอาจารย์อุบลแจ้งว่า เรื่องนี้สำคัญ เบื้องบน ไม่อนุญาตให้มาพูด ณ สถานที่ข้างนอก ท่านจึงจะไปจัดที่ บ้านสวนพีรามิด เป็น ค่าย 13 เตือนภัยขั้นวิกฤต ในวันที่ 6-7 ตุลาคม นี้ค่ะ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ที่ได้เมตตาพวกเรา และปวงมนุษยชาติ ที่ให้เราได้มีโอกาสทราบเรื่องราวดี ๆ เหล่านี้
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 03:53:20


ความคิดเห็นที่ 306 (1630589)

เห็นคุณพี่จิ๋ม เกริ่นเรื่อง

ค่าย13 เตือนภัยขั้นวิกฤต

ก็ทำให้นึกถึง คลิปงานเสวนา

คาดการณ์ภัยพิบัติ

ที่คุณหนึ่งนำมาโพสต์ใน

กระทู้ ธรรมชาติเอาคืน

ซึ่งงานนี้จัดไปเมื่อวันอังคารที่ 18

ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางทีวีด้วย

 

ซึ่งทางผู้จัดงาน ต้องการเตือนอย่างจริงจัง

เพื่อผู้ชมจะได้มีเวลาเตรียมตัว

ในช่วง 2-3เดือนที่เหลือนี้

 

ซึ่งวิทยากรทุกท่าน ทั้งท่านพระอาจารย์รัตน์

ดร.ก้องภพ ดร.สมิธ และ ดร.เทพพนม เมืองแมน

ก็ต่างสรุปว่า วันที่ 21ธ.ค. นี้

มีแนวโน้มที่จะเกิดภัยพิบัติใหญ่แน่ๆ

แต่ยังไม่มีใครประเมินความเสียหายได้ว่า

จะหนัก หรือ เบา แค่ไหน

 

 

และพระอาจารย์รัตน์บอกว่า

ยังไงๆโลกนี้ต้องเกิดการ

พลิกกลับขั้วเหนือใต้ ไปเป็นแนว ออก..ตก

 

มิเช่นนั้น ดวงอาทิตย์ก็จะเกิดการระเบิดตัว

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นความเสียหายจะมหาศาล

เพราะจะไม่มีโลกใบนี้

หรือสิ่งมีชีวิตใดๆเหลือรอดได้เลย

 

 

สุดท้ายวิทยากรทุกท่าน

ก็เน้นให้เราเปลี่ยนจิตใจตัวเอง

ให้เป็นคนดีให้ได้

เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เรา

มีหนทางที่จะรอดจากภัยพิบัติได้

 

อย่างที่ท่านอาจารย์อุบล

พยายามปลูกฝังทุกๆคน

ที่ได้รับการคัดเลือกให้ร่วมงานนี้

รวมถึงลูกบ้านสวนฯทุกๆคน

 

ให้ละอายในการทำบาปทุกชนิด

และไม่คิดละเมิดศีลอีกต่อไป

 

เพราะถ้ายังทำไม่ได้

ยังไงๆ ก็"รอดยาก"

ฉะนั้น จะให้เตรียมเสบียงพร้อม กายพร้อม

แต่ใจไม่พร้อม ก็ไม่มีประโยชน์อันใดทั้งสิ้น

 

และอย่างที่ท่านอ.อุบลเน้นบ่อยๆช่วงนี้

ก็คือ

เวลาเหลือน้อยแล้วนะ

คำพูดนี้ คงจะกระตุ้นเตือนสติ

ให้พวกเราเร่งตัวเองได้เป็นอย่างดีนะคะ

............................

อนุโมทนากับธรรมทานจากทุกๆท่านด้วยนะคะ


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 07:26:47


ความคิดเห็นที่ 307 (1630609)

และเราก็หากัน..จนเจอ ลัลลา ลัลลา

ร้องเพลงนี้เมื่อไรก็เพราะมั่กมาย เพราะว่าเพลงนี้ท่อนนี้มีความหมายลึกซึ้งกินใจ จนน้ำตาหลายๆท่านจะท่วมไหลหากไม่พากันอายชาวบ้านซะก่อน

ต่อไปนี้หากใครร้องเพลงนี้ไม่ได้ ต้องขอบอกว่าเชยสวดยอด ฮ่าๆๆ

ขอเหลาธรรมทานในงานธรรมะบำบัดสัญจร หัวข้อเรื่อง ธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที + ชมบารมีพระศรีอาริย์ + เตือนภัยพิบัติขั้นวิกฤต ณ โรงแรม The traveller รัชดา

ที่มาของงานกิจกรรมฯสัญจร

ท่านอาจารย์ได้เมตตาเล่าถึงวัตถุประสงค์ที่ผู้จัดคือ ดร.จิ๋ม และผม ซึ่งต้องการให้โอกาสคนกรุงเทพและลูกบ้านสวนฯรวมทั้งผู้ที่สนใจ ที่ไม่มีโอกาสไปบ้านสวนฯด้วยเหตุผลต่างๆได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมฯสัญจร เพื่อนำธรรมะอันงดงามของพระพุทธองค์มาเปลี่ยนจิตใจเพื่อนำชีวิตตนเองให้ได้พบกับความสุขอย่างแท้จริง และได้รับรู้ รวมทั้งเตรียมตัวถึงภัยพิบัติใหญ่ที่กำลังจะมาและวิธีการแก้ไขไม่ให้เกิดหรือเกิดน้อยที่สุด รวมทั้งได้รับชมพระบารมีฯและรู้เรื่องราวของพระศรีอาริย์

ดร.จิ๋มนั้นเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่อายุได้6เดือน เวลาเดินเมื่อก่อนจะเหวี่ยงออกข้าง มีความเจ็บปวดขามานาน ตั้งแต่รู้จักบ้านสวนฯมาได้ร่วมบุญทุกอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าปัจจัย แรงกาย สิ่งของ จนทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ดร.จิ๋มเดินตรงขึ้น ขาที่มีปัญหามีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งบาปกรรมในอดีตชาติที่เคยขับรถชนคนตายแล้วหนี รวมทั้งเคยใช้ปืนยิงขาคนขาดกระจุย

ซึ่งกรรมเหล่านี้รวมตัวส่งผลให้ได้รับทุกข์ทรมานในชาตินี้ ซึ่งเรื่องนี้ท่านอาจารย์อุบลได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่ท่านได้รับรู้มานั้นจริงหรือไม่ หากจริงดร.จิ๋มก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทันที ทันทีที่ดร.จิ๋ม ได้อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรดังกล่าว อาการที่เจ็บปวดอยู่ก็ดีขึ้นอย่างชัดเจนแบบทันที

ส่วนผมนั้นก็เป็นชายน้อย เดินกระเผกมานานเรียกว่าขาเป๋มาประมาณ30กว่าปี เพราะได้รับอุบัติเหตุในวัยเด็ก จนมารู้ที่บ้านสวนฯว่าตนเองนั้นใช้ขาทำบาปไว้มากมายจริง เช่น ใช้ขาแทนมือ เตะข้าวของทำลายของคนอื่น ถีบคนอื่น หันเท้าไปทางพระ เดินกระทืบเท้าเวลาโกรธพ่อแม่ และอื่นๆอีกมากมาย และท่านอาจารย์อุบลก็ได้เมตตาใช้ธรรมะบำบัด ทำให้ขาซึ่งกระดูกผิดรูป เข่าชี้มานานหลายสิบปี ลงสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมในทันที สาธุ

นี่คือสาเหตุที่ทั้งสองคนได้รับความสุขอย่างมากมายและชีวิตเปลี่ยนแปลงดีขึ้นในทุกอย่าง จนอยากให้ทุกๆคนได้รับโอกาสเหมือนกับที่สองคนได้รับ จึงได้ขออนุญาติจัดงานและเรียนเชิญท่านอาจารย์อุบลเมตตาไปบรรยายในครั้งนี้

ประวัติย่อบ้านสวนพีระมิด

ท่านอาจารย์อุบลนั้นก็เหมือนคนทั่วไปปกติ มีหน้าที่การงานที่ดี เป็นผู้อำนวยการการตลาดของบริษัทใหญ่มากมาย เช่น สุพรีเดิร์ม ฯลฯ

วันหนึ่งท่านได้รับการสื่อสารจากเบื้องบน โดยจู่ๆเห็นจอทีวีที่ปิดอยู่ ขึ้นตัวอักษรว่า "ดตาจินิน"

และต่อมาจากนั้น ก็เห็นข้อความว่า "เจ้ากรรมนายเวร 99"

ทำให้ท่านอยากรู้ว่าท่าน ดตาจินินคือใคร และข้อความที่ขึ้นมาบนหน้าจอแปลว่าอะไร

ท่านก็พยายามเสาะหาผู้รู้มาช่วยไขคำตอบให้ จนสุดท้ายท่านก็ต้องหาคำตอบด้วยตนเอง

ต่อมาท่านได้รับการสื่อสารให้ช่วยเหลือผู้คน แต่ท่านก็ยังไม่ได้ปฏิบัติตาม จนกระทั่งลูกชายคือคุณท็อปได้รับอุบัติเหตุและกำลังจะเสียชีวิตตามวินิจฉัยของแพทย์

ซึ่งท่านก็ได้รับการติดต่อจากเบื้องบน และมีข้อต่อรองคือ

1.ให้นำเรื่องราวนี้ไปออกรายการทีวี ที่ท่านทำอยู่

2.ให้นำวิธีการนี้ไปช่วยผู้อื่นต่อ

และคุณท็อปก็รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ จนคณะแพทย์ต่างหาสาเหตุของการรอดชีวิตในครั้งนี้ไม่ได้

แต่ท่านอาจารย์ก็ยังไม่ได้ทำตามสัญญาในข้อ2คือนำวิธีการนี้ไปช่วยผู้อื่นต่อ ด้วยเหตุนี้ทำให้ท่านอาจารย์มงคลจู่ๆก็เสียชีวิตอย่างกะทันหันแบบไม่มีวี่แววใดๆมาก่อนเลย โดยท่านได้ยินเสียงเสือคำรามดังมากในบ้านขณะที่อาบน้ำ พอรีบออกมาดูพบว่าท่านอาจารย์มงคลเสียชีวิตแล้ว

แต่ท่านก็ได้นำน้ำพีระมิดฉีดพ่นให้ท่านอาจารย์มงคลซึ่งขณะนั้นสิ้นลมหายใจแล้ว และได้บอกกับร่างท่านอาจารย์มงคลให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเอาไว้

และเกิดปาฏิหาริย์ที่ไม่สามารถอธิบายได้คือ จู่ๆท่านอาจารย์มงคลก็ฟื้นขึ้นมา ทำเอาผู้ฟังนั่งอ้าปากค้างกับเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น

ท่านอาจารย์อุบลจึงได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเบื้องบน

นี่คือที่มาย่อๆของการมาสร้างบ้านสวนพีระมิดเพื่อช่วยผู้คน จนพวกเรามีที่พึ่งทางกาย วาจา ใจจนถึงทุกวันนี้

เดี๋ยวมาต่อครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 10:12:19


ความคิดเห็นที่ 308 (1630630)

การบำบัดก่อนเริ่มงานโดยใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์

มีหลายๆท่านมาจากทั่วทุกภาคของไทย อยากขอบำบัดโดยใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์ของอาสาสมัครลูกบ้านสวนฯ และต่างคนก็ได้สัมผัสกันแบบน้ำตาไหลไป สารภาพพร้อมไปด้วย เพราะจิตที่สำนึกผิดจริงๆ

ตัวอย่างเช่นสาวน้อยจากจังหวัดพังงา ที่ขึ้นไปเล่าประสบการณ์ว่า วันนี้มาถึงที่โรงแรม สักพักเห็นท่านอาจารย์อุบลมาถึงก็ทั้งตกใจทั้งดีใจทำไรไม่ถูก รีบกราบสวัสดีท่านอาจารย์อุบลในทันที

และเธอเล่าว่าปกติหนูจะต้องเดิน ยืนหลังค่อมๆหน่อยเพราะหนูปวดหลังมาก ยืดหลังตรงไม่ได้ปวดมากเลย แต่พอแค่กราบท่านอาจารย์ อาการของหนูก็ดีขึ้นทันที 60%ค่ะ หนูรู้สึกได้เลยว่าดีขึ้นชัดเจน หนูยืดหลังได้โดยไม่ค่อยเจ็บ ซึ่งปกติทำไม่ได้เลย

พอขึ้นมาที่ห้องจัดงาน ก็ขอบำบัดโดยใช้จี้ฯ หนูได้รับความกรุณาจาก ดร.จิ๋ม แต่หนูไม่รู้ว่านี่คือ ดร.จิ๋ม ซึ่งหนูพูดไปก็มองหน้าพี่เขาไป จนพี่เขาบอกให้หนูมองที่จี้และพูดไปเลย พูดความจริงนะ

ดร.จิ๋มเล่าให้ฟังภายหลังว่า น้องคนนี้เล่าไปร้องไห้ไปเพราะเสียใจที่ตนเองกระทำบาปไปเยอะ ไล่ศีลแล้วผิดทุกข้อเลย แต่สิ่งที่คาดว่าทำให้ตนเองปวดหลังคือ ตนเองเป็นสาเหตุให้พ่อต้องฆ่างูจงอาง พ่อใช้อิฐฟาดงูไปถึงสองครั้งจนตายคาที่เลย เพราะงูปรี่เข้ามาที่ตนเองและตนเองกลัวมาก พ่อเลยต้องฆ่าเพื่อปกป้องตนเอง

จากการใช้จี้บำบัด ตนเองมีอาการดีขึ้นถึง 80%เลย รู้สึกดีใจมีความสุขมาก และตั้งใจไว้ว่าตนเองไม่ได้ต้องการมารักษาให้หายขาดเลย เพราะรู้ว่าตนเองทำบาปไว้เยอะ ได้แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว

แต่พอเดินผ่านท่านอาจารย์ช่วงที่ท่านอาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์มา อาการที่เป็นอยู่ก็หายแบบทันทีเลย หายไปหมดเลย ตนเองเชื่อมั่นว่าพระศรีอาริย์มีจริงแน่นอน

แต่แล้วอาการของน้องเขาก็กลับมาเป็นอีก เพราะเหตุที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการให้สร้างบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนและพูดออกทีวี

นี่แหละครับผลของกรรมส่งผลไม่เคยผิดตัวเลย...

ธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที

ท่านอาจารย์อุบลได้สอนธรรมะเกี่ยวกับการละเมิดศีลที่ทำให้ชีวิตพวกเราแต่ละคนต้องได้รับผลกรรมต่างๆ เช่น โรคภัยไข้เจ็บ ปัญหาหนี้สิน การงาน การเงิน ไม่สมหวัง และอื่นๆ

ท่านได้ไล่ถามอาการเจ็บป่วยของทุกคนทีละส่วนๆ เช่น คนที่ปวดหัวในขณะนี้ ยืนขึ้น และให้ทุกคนสารภาพบาปที่กระทำมา ที่ได้ละเมิดศีล เช่นว่า คิดไม่ดีกับคนอื่น เคยตีหัวคนอื่น คนตบหัวเพื่อน สามี ภรรยา

ดูท่าทางไม่เวิร์ค แต่ละคนบ่นพึมพำ 555 จนท่านอาจารย์ต้องถามนำและตอบพร้อมๆกัน

เท่านั้นละครับได้เรื่องเลย พอสารภาพเสร็จขอบารมีพระพุทธเจ้า ทรงแสดงอานุสาสนีปาฏิหาริย์ ต่างคนต่างหายปวดหัวทันที บางคนก็อาการดีขึ้น 80%-90%ก็มี ต้องคิดและสารภาพกันบาปกันต่อเอง

และอาการอื่นๆก็เช่นกัน ซึ่งจากที่ผมดูครั้งนี้ถือว่าทุกคนให้ความร่วมมืดดีมาก ต่างคนต่างยอมรับและพยายามสารภาพบาปที่ตนเองเคยกระทำมา จนหายกันและดีขึ้นแบบทันทีจนเกือบทั้งหมดเลย ยกเว้นบางท่านนึกกรรมบ่ออกเด้อ 5555 อันนี้ตัวใครตัวมันเด้อพี่น้อง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 12:06:19


ความคิดเห็นที่ 309 (1630634)

การบำบัดก่อนเริ่มงานโดยใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์

มีหลายๆท่านมาจากทั่วทุกภาคของไทย อยากขอบำบัดโดยใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์ของอาสาสมัครลูกบ้านสวนฯ และต่างคนก็ได้สัมผัสกันแบบน้ำตาไหลไป สารภาพพร้อมไปด้วย เพราะจิตที่สำนึกผิดจริงๆ

ตัวอย่างเช่นสาวน้อยจากจังหวัดพังงา ที่ขึ้นไปเล่าประสบการณ์ว่า วันนี้มาถึงที่โรงแรม สักพักเห็นท่านอาจารย์อุบลมาถึงก็ทั้งตกใจทั้งดีใจทำไรไม่ถูก รีบกราบสวัสดีท่านอาจารย์อุบลในทันที

และเธอเล่าว่าปกติหนูจะต้องเดิน ยืนหลังค่อมๆหน่อยเพราะหนูปวดหลังมาก ยืดหลังตรงไม่ได้ปวดมากเลย แต่พอแค่กราบท่านอาจารย์ อาการของหนูก็ดีขึ้นทันที 60%ค่ะ หนูรู้สึกได้เลยว่าดีขึ้นชัดเจน หนูยืดหลังได้โดยไม่ค่อยเจ็บ ซึ่งปกติทำไม่ได้เลย

พอขึ้นมาที่ห้องจัดงาน ก็ขอบำบัดโดยใช้จี้ฯ หนูได้รับความกรุณาจาก ดร.จิ๋ม แต่หนูไม่รู้ว่านี่คือ ดร.จิ๋ม ซึ่งหนูพูดไปก็มองหน้าพี่เขาไป จนพี่เขาบอกให้หนูมองที่จี้และพูดไปเลย พูดความจริงนะ

ดร.จิ๋มเล่าให้ฟังภายหลังว่า น้องคนนี้เล่าไปร้องไห้ไปเพราะเสียใจที่ตนเองกระทำบาปไปเยอะ ไล่ศีลแล้วผิดทุกข้อเลย แต่สิ่งที่คาดว่าทำให้ตนเองปวดหลังคือ ตนเองเป็นสาเหตุให้พ่อต้องฆ่างูจงอาง พ่อใช้อิฐฟาดงูไปถึงสองครั้งจนตายคาที่เลย เพราะงูปรี่เข้ามาที่ตนเองและตนเองกลัวมาก พ่อเลยต้องฆ่าเพื่อปกป้องตนเอง

จากการใช้จี้บำบัด ตนเองมีอาการดีขึ้นถึง 80%เลย รู้สึกดีใจมีความสุขมาก และตั้งใจไว้ว่าตนเองไม่ได้ต้องการมารักษาให้หายขาดเลย เพราะรู้ว่าตนเองทำบาปไว้เยอะ ได้แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว

แต่พอเดินผ่านท่านอาจารย์ช่วงที่ท่านอาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์มา อาการที่เป็นอยู่ก็หายแบบทันทีเลย หายไปหมดเลย ตนเองเชื่อมั่นว่าพระศรีอาริย์มีจริงแน่นอน

แต่แล้วอาการของน้องเขาก็กลับมาเป็นอีก เพราะเหตุที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการให้สร้างบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนและพูดออกทีวี

นี่แหละครับผลของกรรมส่งผลไม่เคยผิดตัวเลย...

ธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที

ท่านอาจารย์อุบลได้สอนธรรมะเกี่ยวกับการละเมิดศีลที่ทำให้ชีวิตพวกเราแต่ละคนต้องได้รับผลกรรมต่างๆ เช่น โรคภัยไข้เจ็บ ปัญหาหนี้สิน การงาน การเงิน ไม่สมหวัง และอื่นๆ

ท่านได้ไล่ถามอาการเจ็บป่วยของทุกคนทีละส่วนๆ เช่น คนที่ปวดหัวในขณะนี้ ยืนขึ้น และให้ทุกคนสารภาพบาปที่กระทำมา ที่ได้ละเมิดศีล เช่นว่า คิดไม่ดีกับคนอื่น เคยตีหัวคนอื่น คนตบหัวเพื่อน สามี ภรรยา

ดูท่าทางไม่เวิร์ค แต่ละคนบ่นพึมพำ 555 จนท่านอาจารย์ต้องถามนำและตอบพร้อมๆกัน

เท่านั้นละครับได้เรื่องเลย พอสารภาพเสร็จขอบารมีพระพุทธเจ้า ทรงแสดงอานุสาสนีปาฏิหาริย์ ต่างคนต่างหายปวดหัวทันที บางคนก็อาการดีขึ้น 80%-90%ก็มี ต้องคิดและสารภาพกันบาปกันต่อเอง

และอาการอื่นๆก็เช่นกัน ซึ่งจากที่ผมดูครั้งนี้ถือว่าทุกคนให้ความร่วมมืดดีมาก ต่างคนต่างยอมรับและพยายามสารภาพบาปที่ตนเองเคยกระทำมา จนหายกันและดีขึ้นแบบทันทีจนเกือบทั้งหมดเลย ยกเว้นบางท่านนึกกรรมบ่ออกเด้อ 5555 อันนี้ตัวใครตัวมันเด้อพี่น้อง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 12:16:07


ความคิดเห็นที่ 310 (1630644)

 


ธรรมทานวันศุกร์ที่ 21 ก.ย.55
จากงานธรรมบำบัด  ณ
โรงแรม เดอะแทรเวลเลอร์

"กรรมตีลูกทำให้ซีกขวาชา"

ตุ้ยเองไปถึงงานเร็วหน่อยจึงได้ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ
และได้ช่วยบำบัดคุณพี่คนหนึ่ง 
ชื่อคุณสุกัญญา กอง.. ต้องขออภัย
ที่จำนามสกุลพี่เขาไม่ได้ค่ะ
พี่เขามีอาการชาตั้งแต่ศีรษะลงมา จนถึงปลายขา
ชาซีกขวาทั้งหมด
ตุ้ยก็ให้พี่เขาเริ่มสารภาพ พี่เขาบอกว่า
ไม่เคยฆ่าสัตว์อะไรเลย ก็มีบ้างเล็กๆ น้อยๆ
เคยใช้มือทำเอกสาร โดยการไปซือ้บิลให้เขาไปทำผิด
เหล้า เบียร์บุหรี่ พี่เขาไม่เคยเกี่ยวข้อง
ลักขโมยก็มีบ้างนิดหน่อย
ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการทำแท้ง ไม่เคยแนะนำ
แต่เคยให้คนยืมเงินไปซื้อยาบ้า แต่พี่เขามารู้ทีหลัง
สารภาพไปแล้วก็อาการชาก็ยังไม่ดีขึ้น เหมือนเดิม
แต่พี่เขาก็นึกกรรมออกทีละเรื่อง ละเรื่อง ๆ
จนพี่เขานึกกรรมออกอีกเรื่องคือ
ได้ใช้มือข้างนี้ตีลูก ลูกเจ็บและก็คงโกรธเราด้วย
เมื่อสารภาพถึงตรงนี้ ปรากฎว่า
พี่เขาบอกว่าเออ ดีขึ้นมากเลย 
เกือบ 80% เลยทีเดียว
จึงได้ให้พี่เขาขออโหสิกรรมกับลูกด้วย
และขอบคุณสิ่งศักดสิทธิด้วยค่ะ


"ธรรมบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที"

จากนั้น เมื่อถึงเวลางาน 
วันนี้มีถ่ายทอดสดด้วย เริ่มต้น 
ท่าน อ.อุบลได้เกริ่นนำที่มาของการจัดงานนี้
นำโดย ดร.จิ๋ม และพี่ธนา ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ
และพี่แมวที่เสียสละ
ทุ่มเทเพื่องานนี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
ที่มาของงานนี้ก็มาจากทั้งพี่จิ๋ม และ พี่ธนา ได้มาบ้านสวน
และประสบพบเจอกับปาฏิหารย์มากมายกับตัวเอง
โดยที่พี่จิ๋ม จากที่เป็นโปลิโอตั้งแต่ 6 เดือน 
ปลายเท้าที่เคยออกไปข้างลำตัว
เวลาเดินก็ไม่ค่อยมีแรงเหวี่ยง
แต่เดี๋ยวนี้ ปลายเท้ากลับมาตรง
เดินเกือบเหมือนคนปกติมาก
จนตัวเอง และคนรอบข้าง
เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน
ส่วนพี่ธนา จากที่เมื่อก่อนเป็นชายน้อย
นั่งสมาธิไม่ได้ ขายกขึ้นมาไม่ยอมลง 
เป็นมา 30 กว่าปี แต่มาหายได้
ในครั้งแรกที่มาบ้านสวน 
ทั้งสองท่านได้พบปาฏิหารย์
และสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต
จึงเป็นแรงบันดาลใจ อยากให้ผู้คนได้
รับรู้และพบเจอสิ่งเหล่านี้เหมือนที่ตนได้พบมา
จึงได้มีงานนี้ขึ้นมาค่ะ

ท่าน อ.อุบลได้เริ่มเข้าสู่ การใช้ธรรมบำบัดโดย
ถามว่าใครเจ็บป่วยตรงไหนบ้าง ให้สารภาพ
บ้างก็หายในทันที บ้างก็ยังไม่หาย
แต่ก็ดีขึ้นในภาพรวมค่ะ
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการสำนึกของแต่ละคน 
ขึ้นอยู่กับว่าเรานึกกรรมออกหรือไม่ 


"ดร.จิตรา แขกเซอร์ไพรส์ของงาน"

และสิ่งที่ เซอร์ไพรส์ที่สุดในงานนี้ก็คือ
ท่าน อ.อุบล ได้เรียนเชิญ ดร.จิตรา
และ อ.อู๋ มาในงานนี้ด้วย
ตุ้ยเองเมื่อได้ยิน ดีใจมาก อยากเห็นท่านมาก
อยากได้ฟังสาระธรรมต่างๆ จากท่าน
และเหมือนงานนี้ท่านมา
เพื่อมายืนยันสิ่งที่เราสงสัยอยู่
ให้กระจ่างชัดอีกด้วย
ซึ่งทีแรก ท่านก็คิดว่าอาจจะไม่ได้มาด้วยซ้ำ
แต่ก็มาได้ในที่สุด เพราะท่าน อ.อุบลของเรา
ได้ขอบารมี พระศรีอาริย์ไว้
ทุกอย่างจึงสมปรารถนาค่ะ


"แต่เราก็หากันจนเจอ"

และแล้ว สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง
ในขณะที่ทุกคนต่างกำลังสัมผัส
บารมีพระศรีอาริย์กันอยู่นั้น 
ตัวตุ้ยเอง จู่ๆ ก็เกิดร้อนผ่าวๆ บริเวณข้างหู 
เมื่อท่าน อ.อุบลได้อัญเชิญบารมี
ของพระศรีอาริย์มาให้พวกเรานั้น
อาการหูและหน้าที่ร้อนผ่าวอยู่นั้น
ก็หายไปทันทีค่ะ
นับเป็นบารมีของท่าน
ที่เข้มข้นและอบอวลไปทั้งห้องประชุมจริงๆ ค่ะ
และในขณะนั้นเอง
ดร.จิตรา ก็ได้แจ้งให้พวกเรา
กลับมานั่งที่ของตัวเอง
เนื่องจากท่าน มีข่าวสารบางอย่าง
จะบอกพวกเรา อยากให้พวกเราอยู่ในที่
และอาการที่เหมาะสม
มากกว่าการเดิน หรือ กินไปด้วย ฟังไปด้วย
เมื่อนั่งกันพร้อมแล้ว ท่านก็พูดว่า
ท่าน อ.อุบล ท่านมีความเกี่ยวข้อง
กับอียิปต์โบราณอย่างมาก
และเกี่ยวข้องกับ พระนางเนเฟอร์ตารีด้วย
ขอให้พวกเราอย่าสับสนระหว่าง พระนางเนเฟอร์ติตี 
ที่ชื่อคล้ายกัน แต่ นิสัยต่างกันมาก
โดยพระนางเนเฟอร์ตารี เป็นผู้ฝักใฝ่ในธรรม
เป็นที่รักยิ่งของอาณาประชาราษฎร์

และยุคของพระศรีอาริย์ ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ภายในห้องประชุมนี้ บารมีของพระองค์แผ่ไปทั่ว
ดังที่เราได้สัมผัสกัน ในยุคของท่าน
ท่านได้แสดงให้เห็นแล้วว่า
ผู้คนจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
ก็คือที่เรากำลังสัมผัสกันอยู่ตอนนี้
ประเทศไทยจะเป็นเสาหลักของโลก 
ประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม
จะมาขอรวมประเทศด้วย
ซึ่งเราไม่ใช่เป็นการไปรุกราน
แต่เขาจะขอมารวมเอง โดยไม่มีเสียเลือดเสียเนื้อ
พระศรีอาริย์ท่านมาเกิดแล้ว 
อยู่ในร่างผู้หญิง ที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
และเกิดในประเทศไทย ในดินแดนสุวรรณภูมิ
ซึ่งเป็นแผนของเบื้องบนที่จะเป็นดินแดนที่
มาช่วยชาวโลก 
และ ดร.จิตรา ท่านไม่ให้เราหลงที่ตัวบุคคล

และพวกเราที่นั่งอยู่ที่นี้ หรือที่อื่นๆ 
เราจะต้องเป็นผู้ที่ช่วยชาติต่อไป
ต้องช่วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในการนำพาประเทศชาติ และผู้คนต่อไป
ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ ดร.จิตราพูดมา
ท่าน อ.อุบลท่านก็พูดมาตลอดว่า
ให้เราเชิดชูไว้ ซึ่ง 3 ร่มโพธิ์ศรี
ซึ่งในขณะที่ท่านพูดนั้น ดร.จิตราท่าน
ตื่นเต้น และเหมือนกับท่านต้องออกมาพูด
เป็นสิ่งที่ท่าน รับรู้ และเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ต้องพูดให้พวกเราทราบให้ได้ค่ะ

งานในวันนั้นยังไม่จบค่ะ เพราะ
หัวข้อเตือนภัยพิบัติฯ นั้น ยังไม่ได้พูดกันเลย
แต่เราคงได้มีภาคต่อที่บ้านสวนฯ นะคะ
เพราะในเร็วๆ นี้ พวกเราจะได้
รับฟัง เรื่องนี้ กันแบบเต็มๆ ได้แน่
แต่ต้องรอฟังข่าวสารอีกทีค่ะ

ขอขอบคุณสิ่งศักดิสิทธิ์ และอนุโมทนาบุญ
กับทุกท่าน ที่ร่วมจัดงานนี้ขึ้นมาด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 13:50:20


ความคิดเห็นที่ 311 (1630646)

แขกรับเชิญพิเศษ ดร.จิตรา 

ท่านอาจารย์อุบล มีความเกี่ยวข้องกับพระนางเนเฟอร์ตารี และอียิปโบราณอย่างมาก พระนางเป็นผู้ฝักใฝ่ในธรรม เป็นที่รักของชาวอียิปต์โบราณ

พระศรีอาริย์ ท่านมาเกิดในไทยแล้วเป็นผู้หญิง เป็นผู้ใหญ่แล้ว พวกเราอย่าหลงตัวบุคคลมีคนชอบแอบอ้างเยอะมาก

อนาคตประเทศไทยจะเป็นเสาหลักของโลก ฝ่ายมารก็รู้แผน จึงสร้างปัญหาและความวุ่นวายในประเทศไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 14:23:07


ความคิดเห็นที่ 312 (1630647)

 กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล

            ดิฉัน นางสาวรุจาภา  สัมมา

ได้เข้าร่วมกิจกรรมธรรมบำบัดอย่างเห็นผลฉับพลันทันที เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมาที่โรงแรมเดอะทราเวลเลอร์ กรุงเทพฯ

ขอรับการบำบัดในส่วนของนิ้วนางข้างซ้ายที่ปวดเหมือนนิ้วล็อค โรคคันตามผิวหนังทั้งตัว และอาการหายใจผิดปกติเหมือนสูดหายใจไมได้เต็มที่ รวมทั้งอาการปวดอื่นๆ เช่นหัว คอ หัวไหล่ หลัง ขา

ได้รับการบำบัดจากท่านอาจารย์อุบลที่ได้ถามนำถึงสิ่งที่ได้เคยทำในอดีต พร้อมกับได้สารภาพความผิดที่เราเคยทำ รวมถึงการได้รับบารมีจากพระศรีอาริย์ นั้น ทำให้ดิฉันหายจากอาการดังกล่าว

จึงขอขอบพระคุณท่านอาจารย์มา ณ โอกาสนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 14:24:33


ความคิดเห็นที่ 313 (1630670)

โมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วยครับ

เห็นพี่น้องญาติธรรม หลายท่านเขียนธรรมทานกัน และพูดถึง ดร.จิตรา และ อ.อู๋ กัน ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ครับ
    “ ดร.จิตรา และอ.อู๋ ท่านเป็นใครหร๋อครับ ผมรู้แต่ว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านอียิปโบราณ แต่..เอ้..ทำไมท่านอาจารย์อุบล จึงเชิญท่านทั้ง2 มางานนี้ล่ะครับ หรือเพราะว่าท่านทั้ง2คนนี้ ท่านมีความสามารถพิเศษ หรือมีความเชี่ยวชาญทางด้านอื่นๆอีกน้า...อยากรู้อ่ะครับบบ
   ยิ่งหลังจากที่ท่าน อ.อุบล กล่าวขออารธนาพระบารมีองค์พระศรีอริยะเมตไตย ให้ลูกหลานได้รับสัมผัสนั้น ท่านอาจารย์ ได้เชิญ ดร.จิตรา ขึ้นกล่าวถึงปรากฏการณ์ ที่ได้เห็น  ดร.จิตรา ท่านออกอาการ อย่างเห็นได้ชัด จนต้องร้องเพลง ด้วยประโยคนึงขึ้นมา
     “ แต่เราก็หา...กันนน...จนเจอ “
    ผมงงมากเลยครับ....ดร.วิจิตรา เจอใครหร๋อครับ หาใครหร๋อครับ แล้วกล่าวเรื่องอื่นๆต่อ เช่น พระศรีอริยะเมตไตยท่านลงมาเกิดแล้ว เป็นผู้หญิง แถมบอกว่า ไม่ใช่เด็กด้วย และกล่าวด้วยอาการตื่นเต้น อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ ผมจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ท่านเป็นใคร และท่านต้องรู้อะไรแน่ๆ..
     ท่านอื่นพอทราบม่ะครับ ......อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ลูกได้คำตอบด้วยครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 17:13:47


ความคิดเห็นที่ 314 (1630672)

ธรรมบำบัดสัญจรกรุงเทพ  21 กันยา 55 นี้

นงนภัสได้พาพี่สาวไปด้วย พี่เป็นโรคปวดหัวไหล่ซ้ายและขวา

ซึ่งพี่รู้จักบ้านสวนมานานแต่ยังไม่เคยไปบ้านสวนเลย

ได้แต่ร่วมบุญกับครอบครัวทำกับบ้านสวน

พอเข้าห้องประชุม เห็นอาจารย์อุบลบนเวที

พี่บอกว่าอ.อุบล สวยมาก อาจารย์อิ่มบุญออร่าเปล่งประกาย

แล้วก็นึกอีกว่าอาจารย์เหมือนพระนางในเมืองอียิปแต่ก็นึกไม่ออกชื่ออะไร

พอดีแขกรับเชิญพิเศษ ดร.จิตรา ออกมาบอกว่า

 มีความเกี่ยวข้องกับพระนางเนเฟอร์ตารี

(บอกว่า ดร.จิตรา โดนจริงๆ)

ตอนดร.จิตรา เล่าถึงเรื่องของอาจารย์และพระศรีอารีย์

พวกเราเหมือนโดนสะกดนิ่งตั้งใจฟังกันอย่างเติมที่

และดร.จิตราบอกว่าพวกเราโชคดีที่เจอ อ.อุบล

ดร.จิตราเชื่อเรื่องการบำบัดของอ.อุบล(ดร.จิตราสัมผัสได้)

พวกเราอยากให้คนที่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้มาฟังจังเลย

จะได้ไม่หลงทาง

รู้สึกว่าธรรมมะบำบัดครั้งนี้มีความรู้ลึกเกี่ยวกับ

พระนางเนเฟอร์ตารี

เมื่อท่าน อ.อุบลได้อัญเชิญบารมีของพระศรีอาริย์

มาให้พวกเราสัมผัส

นงนภัส รู้สึกเหมือนไฟช๊อด ซู่จากศรีษะลงไปล่าง

รู้เลยว่าสัมผัสท่านได้(ปลึ้มปิติ)

ตอนบำบัดพี่เดินผ่าน ท่านอ.อุบล หัวไหล่ที่ปวดอยู่ก็หายไป

พี่คนนี้เขาเป็นคนเชื่ออยากพอได้ประสบแก่ตัวเอง

ก็ทึ่งและเชื่อทันที

ขอกราบขอท่านอ.อุบล อ.มงคล ดร.จิตรา

ขออนุโมทนาบุญกับดร.จิ๋ม คุณธนาคุณแมว และผู้ร่วมงาน

ทุกท่าน

ที่ทำให้สมาชิกได้รับความสุข หายโรคและได้ธรรมมะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นงนภัส จารุธนยศ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 17:41:10


ความคิดเห็นที่ 315 (1630673)

ธรรมบำบัดสัญจรกรุงเทพ  21 กันยา 55 นี้

นงนภัสได้พาพี่สาวไปด้วย พี่เป็นโรคปวดหัวไหล่ซ้ายและขวา

ซึ่งพี่รู้จักบ้านสวนมานานแต่ยังไม่เคยไปบ้านสวนเลย

ได้แต่ร่วมบุญกับครอบครัวทำกับบ้านสวน

พอเข้าห้องประชุม เห็นอาจารย์อุบลบนเวที

พี่บอกว่าอ.อุบล สวยมาก อาจารย์อิ่มบุญออร่าเปล่งประกาย

แล้วก็นึกอีกว่าอาจารย์เหมือนพระนางในเมืองอียิปแต่ก็นึกไม่ออกชื่ออะไร

พอดีแขกรับเชิญพิเศษ ดร.จิตรา ออกมาบอกว่า

 มีความเกี่ยวข้องกับพระนางเนเฟอร์ตารี

(บอกว่า ดร.จิตรา โดนจริงๆ)

ตอนดร.จิตรา เล่าถึงเรื่องของอาจารย์และพระศรีอารีย์

พวกเราเหมือนโดนสะกดนิ่งตั้งใจฟังกันอย่างเติมที่

และดร.จิตราบอกว่าพวกเราโชคดีที่เจอ อ.อุบล

ดร.จิตราเชื่อเรื่องการบำบัดของอ.อุบล(ดร.จิตราสัมผัสได้)

พวกเราอยากให้คนที่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้มาฟังจังเลย

จะได้ไม่หลงทาง

รู้สึกว่าธรรมมะบำบัดครั้งนี้มีความรู้ลึกเกี่ยวกับ

พระนางเนเฟอร์ตารี

เมื่อท่าน อ.อุบลได้อัญเชิญบารมีของพระศรีอาริย์

มาให้พวกเราสัมผัส

นงนภัส รู้สึกเหมือนไฟช๊อด ซู่จากศรีษะลงไปล่าง

รู้เลยว่าสัมผัสท่านได้(ปลึ้มปิติ)

ตอนบำบัดพี่เดินผ่าน ท่านอ.อุบล หัวไหล่ที่ปวดอยู่ก็หายไป

พี่คนนี้เขาเป็นคนเชื่ออยากพอได้ประสบแก่ตัวเอง

ก็ทึ่งและเชื่อทันที

ขอกราบขอท่านอ.อุบล อ.มงคล ดร.จิตรา

ขออนุโมทนาบุญกับดร.จิ๋ม คุณธนาคุณแมว และผู้ร่วมงาน

ทุกท่าน

ที่ทำให้สมาชิกได้รับความสุข หายโรคและได้ธรรมมะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นงนภัส จารุธนยศ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 17:41:10


ความคิดเห็นที่ 316 (1630674)

 

โอว...น้องสิงห์ป้อมพี่น่ะแค่แอบคิดสงสัยในใจเหมือนกันว่า ดร.จิตรา+อ.อู๋ ท่านมีความสำคัญ และเกี่ยวข้องอย่างไรกับท่านอาจารย์แม่อุบล และคิดว่าท่านต้องรู้อะไรดีๆแน่

แต่น้องป้อม คิดดังกว่าพี่อ่ะ..

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 17:47:43


ความคิดเห็นที่ 317 (1630675)

กราบขอบคุณ อ.อุบล และ ผศ.ดร.จิ๋ม คุณธนา และผู้้ร่วมจัดงานทุกท่าน ไว้เป็นอย่างสูง

ผมจุมพล บัวโต ได้เข้าร่วมกิจกรรม เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมาที่โรงแรมเดอะทราเวลเลอร์ กรุงเทพฯ ได้รับความเมตตาพระบารมีพระศรีอาริย์ ให้ดวงดวงตาใสสว่างขึ้น ซึ่งปกติมองด้วยตาเปล่าไม่ใส่แว่นจะมองตัวหนังสือที่ติดไว้ข้างหลังอ.อุบล จะซ้อนกันเล็กน้อย แต่ได้รับพระบารมีเดินผ่านอ.อุบล ดวงตาก็ใสขึ้น มองตัวหนังสือไม่ซ้อนกัน

ขอกราบขอบพระคุณพระศรีอาริยเมตไตร เทวดาที่รักษา อ.อุบล อ.อุบล และผู้ร่วมจัดงานในครั้งนี้ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 17:50:29


ความคิดเห็นที่ 318 (1630684)

สำหรับงานนี้มีผู้เข้าร่วมเต็มห้องเลยค่ะ

ก่อนเริ่มงานก้อยได้ใช้จี้องค์สฟิงซ์ให้คุณลุงท่านนึงได้สารภาพ ที่ได้หักคอปลา ยิงนก ฆ่าสัตว์เล็กน้อยมา ทำให้มีอาการปวดคอ และหลัง 

จนอาการดีขึ้นน่าจะประมาณ 30% คาดว่าคุณลุงคงจะงง ๆ กับการสารภาพจี้เป็นครั้งแรก และจิตยังไม่สำนึกพอ

ก้อยเลยให้คุณลุงนึกกรรมตั้งแต่จำความได้ไปก่อน เพื่อรอท่านอาจารย์บำบัดอีกครั้ง

เริ่มแรกท่าน อ. อุบลได้เกริ่นนำประวัติตวามเป็นมาที่ ดร. จิ๋ม และพี่ธนา ได้ร่วมกันจัดงานนี้ 

ดร. จิ๋ม เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ ปตท. มีพ่อแม่เป็นคุณหมอ มีเงินทองมากมาย แต่ไม่สามารถรักษาอาการโปลิโอที่เป็นตั้งแต่อายุ 6 เดือนได้

แต่เมื่อได้มาร่วมสร้างบุญทั้งแรงกาย และปัจจัยที่บ้านสวนฯ เป็นประจำ ทำให้การเดินดีขึ้น 

ก้อยเองได้เห็นวิวัฒนาการการเดินของ ดร. จิ๋ม ก็ยืนยันได้ว่า ขาข้างที่เป็นโปลิโอจะเดินปัดไปด้านข้าง บางครั้งก็ต้องให้ ดร. จุ๋ม (แฝดพี่) คอยประคอง แต่เดี๋ยวนี้เห็นชัดว่าขาที่ปัดออกไปกลับเข้าที่ เดินแทบจะเหมือนคนปกติ 

ท่านอาจารย์ได้เมตตาบอกว่า ดร. จิ๋ม ได้ก่อกรรมไว้ในอดีตชาติ ด้วยการยิงขาคนด้วยปืนสไนเปอร์ ทำให้ได้รับผลกรรมในปัจจุบัน

ส่วนพี่ธนา เคยประสบอุบัติเหตุมาก่อน ทำให้เข่าด้านนึงนั่งขัดสมาธิไม่ได้ เวลาเดินก็จะเดินลากขาข้างที่เจ็บ   แต่เมื่อท่านอาจารย์ได้บอกกรรมที่พี่ธนาเคยใช้ขาในทางที่ไม่ดี 
ใช้ขาและเท้าแทนมือ เช่น ใช้หยิบเขี่ยสิ่งของ, ปิดพัดลม ที่สำคัญหันเท้าไปทางพระพุทธรูป

เมื่อยอมรับกรรม และสำนึกผิด ขาที่เสียก็หาย นั่งขัดสมาธิได้ทันที

สิ่งเหล่านี้ที่พี่ทั้งสองได้รับ จึงเป็นแรงบันดาลใจอยากให้เพื่อนมนุษย์ได้รับโอกาสดี ๆ เหมือนเขาด้วย


เริ่มต้นจากธรรมบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที มีหลายท่านสำนึกในกรรมที่ตัวเองได้ก่อไว้ 

และหายจากอาการเจ็บป่วย หรือบางท่านก็ดีขึ้น

ส่วนก้อยหายจากอาการสายตาสั้น ไม่ต้องพึ่งแว่นอีกแล้ว เพราะเคยใช้สายตาดูรูปโป๊ คลิปโป๊ ใช้สายตาด่าคน มองค้อนคนอื่น

มาถึงช่วงชมบารมีพระศรีอาริย์ ก้อยมีอาการปีติ น้ำตาไหล (อีกแล้ว) ก่อนที่ท่านอาจารย์จะกล่าวอาราธนา

รู้สึกได้ว่าพระองค์ท่านอยู่กับท่านอาจารย์ตลอด

จนมาถึงแขกรับเชิญพิเศษ คือ ดร. จิตรา ที่ได้ขึ้นมาการเปลี่ยนยุค ที่มีข้อมูลตรงกัน ทั้งศาสนาพุทธที่จะก้าวเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์ และ second coming ของศาสนาคริสต์ ที่พระเยซูจะกลับมาอีกครั้ง รวมทั้งศาสนาอิสลามที่กล่าวในทำนองด้วยกัน

ต่อไปประเทศไทยจะเป็นเสาหลักของโลก และขอให้พวกเรายึดมั่นในความดี เพื่อพวกเรา แผ่นดินของเรา และต้อนรับคนต่างชาติที่จะเข้ามาพึ่งพาเรา

ฟังจากดร. จิตรา พูดมีข้อมูลตรงกันหลายอย่างกับที่ท่านอ. อุบล คอยสอนไว้ให้เราทุกคนต้องร่วมกันปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

และตื่นเต้นที่ท่านอ.อุบล ได้เชิญ ดร. จิตรา มาอีกครั้งที่บ้านสวนฯ

งานนี้ต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่มีส่วนร่วมทั้งแรงกาย ปัจจัย สำหรับงานในครั้งนี้ด้วยนะคะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 19:35:24


ความคิดเห็นที่ 319 (1630685)

  “ ดร.จิตรา และอ.อู๋ ท่านเป็นใครหร๋อครับ ผมรู้แต่ว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านอียิปโบราณ แต่..เอ้..ทำไมท่านอาจารย์อุบล จึงเชิญท่านทั้ง2 มางานนี้ล่ะครับ หรือเพราะว่าท่านทั้ง2คนนี้ ท่านมีความสามารถพิเศษ หรือมีความเชี่ยวชาญทางด้านอื่นๆอีกน้า...อยากรู้อ่ะครับบบ “ 

 

ความเห็น.............สิงห์ป้อม

*****************************

ตอบเท่าที่รู้นะจ๊ะ

พ่อสิงห์ป้อม

 

ดร.จิตรา + อ.อู๋

เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง

ประวัติศาสตร์อียิปต์มากกกกก

เป็นผู้

รู้เรื่องความลับของ

สฟิงซ์ + พีระมิด

เป็นอย่างดี

 

************

ทำไมจึงเชิญท่านมา

 

อ.อุบล

เคยไปหาท่านตามคำแนะนำ

ดร.เทพนม เมืองแมน

เรื่อง

หาคำตอบคำว่า

1.ดตาจินิน   2.เจ้ากรรมนายเวร 99

ที่เห็นปรากฎหน้าจอที.วี.ที่ปิดอยู่

 

ดร.เทพนม

ท่านนั่งสมาธิถามให้แล้ว

เขาบอกว่า

ไม่ให้บอก ให้ไปค้นหาเอาเอง

 

แต่ท่านก็มีน้ำใจ

หรือ

ไม่ก็กลัว อ.อุบล จะเสียใจ

เลยบอกให้ไปหา ดร.จิตรา + อ.อุ๋

ท่านบอกว่า 2 คนนี้เก่งกว่าท่าน

เรื่อง

ประวัติศาสตร์อียิปต์

มนุษย์ต่างดาว

 

แต่

อ.อุบล ก็ไม่ได้สรุปว่า

2 ประโยคที่ต้องการค้นหาคำตอบนั้น

เกี่ยวกับ อียิปต์หรือต่างดาว

แต่คำว่า "ดตาจินิน"

ดร.เทพนมท่านบอกว่า

ไม่น่าจะเป็นภาษาบนโลกมนุษย์

ท่านจึงแนะนำพร้อมให้เบอร์

ดร.จิตรา

 

นี่เป็นที่มาย่อๆ

ที่เคยเล่าไปแล้วในงาน

 

****************

ทีนี้ก็มาตอบคำถามที่ว่า

ทำไม อ.อุบล เชิญท่านมา

หรือ

เชิญท่านมาทำไม

 

จริงๆแล้ว

ขาดการติดต่อ ดร.จิตรา

ไป 4 ปีเห็นจะได้

การมาสร้างบ้านสวนพีระมิด

ก็ไม่เคยบอกท่านเลย

ปรากฎการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

ก็ไม่เคยบอกท่านเลย

 

เหมือนกับที่

ไม่เคยบอก ดร.เทพนม

ทั้งที่ติดต่อ พูดคุยกับท่านเสมอ

คือ

พบท่านมากกว่า ดร.จิตรา

บางครั้งท่านก็โทร.มาคุยถามเรื่อง

มนุษย์ต่างดาว เพราะมีคนเล่าให้ท่านฟัง

ว่า ที่บ้าน อ.อุบล พบมนุษย์ต่างดาว

ท่านก็เลยอยากคุยด้วย

แต่ยังไม่เคยมาบ้านสวนสักที

ทั้งที่ท่านบอกว่า

"อยากจะมา"

 

บังเอิญ

พ่อใหญ่ธนาหาเบอร์

ดร.จิตรา เจอในเวปไซด์หนึ่ง

ก็เลยดีใจ เอามาให้

จึงโทร.ไปหาท่าน แต่ปรากฎว่า

อ.อู๋เป็นคนรับ

 

ซึ่งธุระที่โทร.ไปคือ

จะถามท่านเรื่องการไปอียิปต์

เพราะท่านทำทัวร์อียิปต์

ดร.เทพนมเคยไปกับท่าน

 

แต่วันนั้น

อ.อุ๋ติดธุร ไม่ได้คุย

ท่านบอกจะโทร.กลับมา

แล้วท่านก็โทร.มา

 

ด้วยความที่ไม่พบท่านนาน

จึงมีเรื่องมากมาย คุยกับท่าน

แต่ไม่ได้คุยกับ ดร.จิตรา

เลยฝากความคิดถึง

 

เล่าเรื่องมาสร้างบ้านสวนพีระมิด

ให้ท่านฟัง แล้วเล่าเรื่อง

จะมีการจัดกิจกรรมธรรมบำบัด

ที่ กทม. 21 ก.ย.55

ให้ท่านฟัง พร้อมกับเรียนเชิญท่าน

ในฐานะที่ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญ

ด้านประวัติศาสตร์อียิปต์

และ

พีระมิด + สฟิงซ์

 

อยากให้ท่านเห็นปรากฎการณ์

หายทันที ซึ่งท่านยังไม่เคยเห็น

 

อ.อู๋ บอกว่า

เดี๋ยวเช็คก่อนว่าว่างรึเปล่า

แล้วฝากเรียนเชิญ ดร.จิตราด้วย

ท่านก็บอกว่า ยังไม่กล้ารับปาก

ว่าจะไปได้หรือไม่

 

พอวันงาน

ระหว่างก่อนเริ่มงาน

อ.อู๋โทรมาบอกว่า กำลังจะไป

ทันหรือไม่ เลยถามท่านว่า

อยู่ไกลหรือไม่ แต่ไม่เป็นไร

มาตอนท้ายๆงานก็ยังดี

 

ท่านบอกว่า

กำลังอยู่บนทางด่วน

คิดว่า สักพักใหญ่คงถึง

 

ได้เล่าให้พ่อใหญ่ธนาฟัง

แทบกริ๊ดเลย พ่อใหญ่อยากพบท่านมาก

 

แต่

ความเป็นจริง

ไม่ได้มีการเชิญท่านมาบรรยาย

เพราะ

ท่านยังไม่เคยทราบเรื่องราว

การจัดกิจกรรมของเรา

ก็คิดว่าให้ท่านมาเห็นบรรยากาศ

ว่าเราทำอะไร

 

พลังพีระมิด

ที่ท่านเชี่ยวชาญนั้น

อาจทำให้ท่าน เป็นสุขใจ

กับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งท่าน

ไม่เคยเห็นที่ไหนแน่นอน

 

ดังนั้น

การมาของ ดร.จิตรา ครั้งนี้

ไม่มีกำหนดการ ในการบรรยาย

หรือ

ขึ้นพูด ตามที่ตัวท่านเอง

ก็ออกตัวไว้ว่า ไม่ได้เตรียมมาพูด

 

แต่รอบแรก

ที่บำบัดเสร็จ อ.อุบล

ขอความเห็นท่านเอง

อยากให้ท่านแสดงความเห็น

 

แต่

ตอนหลังจาก

ชมบารมีพระศรีอาริย์จบ

ตอนนี้

ท่านยื่นมือมาขอไมล์เองเลย

ท่านบอกว่า ขอพูดหน่อยได้ไหม

เพราะ

ถูกสะกิดให้ต้องขึ้นไปพูด

 

ซึ่งหลายคนที่อยู่ในงาน

อาจไม่ทันจับใจความตรงนี้

 

อ.อุบล

ถามท่านว่า ใครสะกิดท่าน

เพราะใช้คำว่า

"ตัวช่วยขึ้นไปพูดหน่อยไป"

ถามท่านว่า อ.อู๋ หรือคะ

ท่านบอก ไม่ใช่

แต่เป็น "พระ" ที่ท่านสื่อสารด้วยได้

 

ตอบคำถาม

สิงห์ป้อมแล้วนะ

2 คำถาม ที่ว่า

ดร.จิตรา กับ อ.อู๋ เป็นใคร

อ.อุบล เชิญมาทำไม

 

คำตอบคือ

การพูดวันนั้นไม่อยู่ใน

"คิว"

เป็นเหตุการ "สด"

ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

ว่าท่านจะพูดเช่นนี้

 

อ.อุบล

ก็ยัง "งง" เหมือนกัน

แถมฟังไม่ค่อยต่อเนื่อง

เพราะ

1.อากาศหนาวมาก

2.ไปเข้าห้องน้ำ

 

เลยทำให้

อดฟัง บางช่วง ไปเลย

ส่วนบางช่วง

ก็อยู่ฟัง แต่ มัวแต่ หาทาง

หาสิ่งกำบังแอร์ เลยฟังแบบ

ไม่ปะติดปะต่อ

 

อยากอ่านจาก

ท่านที่ตั้งใจฟังมากกว่า

หรือไม่ก็

ขอดูเทปที่บันทึกมา

 

แต่ยังไม่ว่างดูเลย

 

ขออ่านที่ท่านๆที่ร่วมงาน

เขียนกันดีกว่า

นะ นะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 19:36:28


ความคิดเห็นที่ 320 (1630705)

ผู้มีหน้าที่สำคัญ

จะต้องไปพบกันตามสัญญา

อย่างแน่นอน

***********

พอวันงาน

ระหว่างก่อนเริ่มงาน

อ.อู๋โทรมาบอกว่า กำลังจะไป

ทันหรือไม่ เลยถามท่านว่า

อยู่ไกลหรือไม่ แต่ไม่เป็นไร

มาตอนท้ายๆงานก็ยังดี

********** 

หนึ่งเชื่อว่าการมาของดร.จิตราและอ.อู๋

คงจะเป็นเพราะเบื้องบนท่านจัดสรร มาอย่างแน่นอน

แถมท่านดร.จิตรา ยังร้องเพลง "แต่เราก็หากันจนเจอ"

 

ยิ่งมาได้ยินท่านพูดเรื่อง พระนางเนเฟอร์ตารี

และย้ำว่าเรากำลังยืนอยู่บนแผ่นดินของพระศรีอาริย์

ซึ่งทุกคนต้องทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วยแล้ว

เหมือนท่านมาช่วยกระตุ้นเตือนสัญญาให้กับทุกคนคะ

 

และประโยคที่ท่านพูดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ถึงเวลาที่เราทุกคนจะต้องช่วย

และตอบแทนพระคุณของพระองค์ท่านอย่างจริงๆจังๆ

ได้แล้วคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 23:08:23


ความคิดเห็นที่ 321 (1630709)

กิจกรรมธรรมบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที-ชมบารมีพระศรีอาริย์ และ เตือนภัยขั้นวิกฤต

วันศุกร์ที่  21 กย.55 ณ.โรงแรม The traveler

 

ได้มีโอกาสติดตาม ท่าน อ.อุบล ไปที่โรงแรมด้วยรถตู้ที่ ทางดร.จิ๋ม เป็นผู้จัดหาให้ รถออกจากบ้านสวนฯ ประมาณ 3 โมงเช้า และ ไปถึง โรงแรมประมาณ 5 โมงเช้า โดยมีญาติธรรมหลายท่านรออยู่ด้านหน้าแล้ว 

 

พอขึ้นไปห้องประชุม ก็จัดเตรียมเวที และส่วนการลงทะเบียน จากนั้น  ผู้คนที่ทยอยกันมาถึงก็เริ่มลงทะเบียนกันทันที ส่วนใหญ่จะศึกษากฏกติกามารยาท เป็นอย่างดี คือ ยื่นบัตรประชาชนและแจ้งลำดับที่ได้ถูกต้อง  ส่วนลูกหลานบ้านที่มีจี้องค์เทพสฟิงค์ก็เริ่มทำการบำบัดผู้ต้องการสารภาพบาป  

 

จะมีในส่วนของผู้ที่ไม่ได้ทำการบ้านมาบ้างแต่เล็กน้อย หนึ่งในนั้นจะมีน้องผู้ชายคนนึง ที่เป็นนักศึกษาแพทย์ อยู่ ม.รังสิต บอกว่าสมัครและส่งเอกสารเรียบร้อย แต่พอเช็ครายชื่อดูก็ไม่มี ถามน้องว่าได้ตรวจสอบรายชื่อก่อนมาหรือยัง ก็ตอบว่าไม่ได้เช็ค จึงให้กรอกรายละเอียดตอบคำถาม ซึ่งขณะนั้น ท่าน อ.อุบล ยืนอยู่ใกล้โต๊ะลงทะเบียนพอดี ท่านจึงถามน้องด้วยตัวท่านเอง ว่ามีรายชื่อไหม ส่งเอกสารตั้งแต่เมื่อไหร่  ถ้าไม่มีชื่อก็ไม่อนุญาตให้เข้างาน ดูแล้วน้องเค้าอยากเข้าร่วมงานมาก  ถึงขนาดกลับมาถามท่าน อ.อุบลอีกครั้ง คำตอบคือเข้างานไม่ได้ เพราะไม่ทำตามกฎกติกาได้ครบจึงทำให้ไม่มีรายชื่อ  อีกอย่างน้องคนนี้ก็ไม่ได้เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวท่าน อ.อุบล  ซึ่งก็สงสัยเหมือนกันว่า ไม่ศรัทธา แล้วจะเสียเวลา เสียเงินค่ารถ มาทำไม  น่าจะดูถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้านดีกว่า

 

ถือเป็นการผิดพลาดครั้งที่ 2 ของอัญอีกแล้ว นับจากกรณีคุณโชค ซึ่งถ้าท่าน อ.อุบลไม่อยู่ตรงนั้นก็คงใจอ่อนยอมให้น้องคนนี้เข้างาน  ต้องกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์ และ ท่าน อ.อุบล ด้วยค่ะ ที่มีเมตตาแบบผิด ๆ 

 

เริ่มงานท่าน อ.อุบล กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของเจ้าภาพจัดงานนี้ คือ ดร.จิ๋ม และ พี่ธนา ที่ได้รับความสุข และมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นหลังได้เข้ามาทำบุญที่บ้านสวน  โดย ดร.จิ๋ม เป็น ปอลิโอ ตั้งแต่เด็ก เวลาเดินขาจะแกว่งมาก และมีอาการปวด แต่ปัจจุบันเดินได้ตรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน  ส่วนพี่ธนา ก็ได้รับอุบัติเหตุที่ขา ทำให้ขาเป๋ แต่ปัจจุบันหายเป็นปกติ ซึ่งทั้งสองท่านทุ่มเท ทั้งแรงกายและกำลังทรัพย์ เป็นกำลังหลักที่สำคัญอย่างมาก  เมื่อได้ปลดเปลื้องทุกข์ ได้รับความสุข จึงอยากแบ่งบันให้คนในกรุงเทพ ฯ และ ผู้ที่สนใจทั่วไป ได้รับความสุขนี้เช่นกัน  และสัมผัสชมบารมีพระศรีอาริย์ด้วยตัวเอง  จึงขออนุโมทนากับมหาธรรมทานนี้กับพี่ทั้งสอง และ พี่แมวผู้ติดต่อประสานงานทุก ๆ อย่าง ด้วยค่ะ

 

จากนั้นท่าน อาจารย์ ก็กล่าวประวัติการสร้างบ้านสวนโดยย่อ ทำให้ทราบว่าก่อนจะมีบ้านสวนฯ  ท่านเกือบต้องแลกด้วยชีวิตของผู้เป็นที่รัก ทั้งสามีและลูก คือ ท่าน อ.มงคลและคุณท้อป  ซึ่งปัจจุบัน ทั้ง 3 ท่าน ก็ยังต้องเสียสละทุก ๆ อย่าง เพื่อช่วยเหลือพวกเราทุก ๆ คนบนโลกใบนี้ให้ พ้นทุกข์มีความสุขทุกด้าน และที่สำคัญรอดจากภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้น

 

และมีแขกพิเศษเข้าร่วมงานนี้ด้วย นั่นคือ ดร.จิตรา และ อ.อู๋ ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญเรื่องอียิป์ พลังพีระมิดและสฟิงค์ ทั้งยังใช้พลังจักรวาลหรือพลังครอสมิคในการรักษาคนป่วย  ควบคู่กับเรื่องกฎแห่งกรรม ที่สำคัญท่านต้องการชมบารมีพระศรีอาริย์เช่นกัน

 

จากนั้นท่าน อ.อุบล ก็เริ่มสอนธรรมมะ ให้สมาทานศีลแบบไม่มีที่ไหนในโลก ให้รับรู้ว่าการผิดศีลแต่ละข้อ ทำให้เรา เจ็บป่วยทางกายและใจ มีปัญหาหนี้สิน การงาน การเงิน ความรัก ให้ทุกคนได้มีโอกาสสารภาพบาปสำนึกผิด ที่ได้เคยละเมิดเบียดเบียนผู้อื่น  ทั้งทางกาย วาจา และ ใจ

 

ไฮไลท์ของงานก็มาถึงชมบารมีพระศรีอาริย์ พอท่านอ.อุบลเริ่มอาราธนาบารมีพระองค์ท่าน อัญเองก็เริ่มสัมผัสได้ เห็นแสงสว่างจ้ามากพุ่งตรงมาบริเวณหน้าผาก เย็นวาบบริเวณหลัง และ ขนลุก อาการปวดตึงบริเวณหลังหายฉับพลันทันที

ซึ่งทุก ๆ คนที่อยู่ในงานต่างได้รับสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์ ได้ทุกคน   รวมทั้งดร.จิตรา  ที่ท่านถึงกับต้องขอไมค์ขึ้นไปพูด รายละเอียดก็อย่างที่หลายท่านได้กล่าวไปแล้ว แต่ประเด็นสำคัญท่านยังบอกไม่หมดแน่นอน แต่เวลาหมดเสียก่อน น่าเสียดายอย่างมาก แต่อย่างที่รู้ ๆ กัน ว่าเบื้องบนท่านได้จัดสรรค์มาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องภัยพิบัติ ยังไม่มีการกล่าวถึงในเรื่องนี้เลย  จึงได้ยกยอดเรื่องราวทั้งหมดมาไว้ในค่าย 13 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ บ้านสวนพีระมิด ในวันที่....ไม่บอกดีกว่าให้ทุกท่านติดตามกันเอง   กราบสวัสดีค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 23:17:35


ความคิดเห็นที่ 322 (1630714)

เรื่องค่าย 13

ให้เข้าไปอ่านในห้อง

ข่าวประชาสัมพันธ์กันเองนะจ๊ะ

เปิดกระทู้แล้วจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-24 23:56:48


ความคิดเห็นที่ 323 (1630721)

ได้อ่านธรรมทานจากท่านอาจารย์เองแล้ว

ก็เพิ่งทราบนะคะว่า

การเชิญท่านดร.จิตรา และ อ.อู๋

มาร่วมงานในครั้งนี้

ที่แท้แล้วก็เป็น"หมายด่วน"

 

แต่กลับกลายเป็นว่า

เหมือนท่านถูกล็อคตัวจากเบื้องบน

ให้มาปรากฏตัวในงาน

พร้อมกับนำข้อความที่สำคัญยิ่ง

มาประกาศให้พวกเราได้ทราบกันชัดๆอีกที

 

... อย่างที่ทุกท่านได้เขียนมาแล้ว

ว่าตอนนี้พวกเราได้เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์แล้ว

และพระศรีอาริย์ได้มาเกิดแล้ว

เป็นผู้หญิง อยู่ในวัยผู้ใหญ่

โห...ข้อมูลเดาย๊ากยาก นะคะเนี่ย (อิอิ)

 

ว่าแล้วก็อยากฟังภาคต่อ

จากผู้นำสาส์นกิติมศักดิ์ท่านนี้เพิ่มขึ้นนะคะ ....

 

คงต้องรอติดตาม

จาก ค่ายพิเศษสุดๆๆ ครั้งที่ 13นี้ ต่อไป....

.....................................

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากพี่น้องทุกๆท่านด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 04:04:51


ความคิดเห็นที่ 324 (1630753)

กิจกรรมธรรมบำบัดสัญจร วันที่ 21 กันยายน 2555 ณ ร.ร.เดอะทราเวลเลอร์

นำโดยคุณธนาและดร.จิ๋ม ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นเพื่อคนกรุงเทพ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อภัยพิบัติที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

ท่านอ.อุบลได้เกริ่นถึงเจ้าภาพของงานก็คือ คุณธนา และดร.จิ๋ม ซึ่งทั้งคู่ก็ได้สัมผัสกับปาฎิหารย์จากการมาทำบุญที่บ้านสวน คุณธนาที่ขาเป๋ เป็นคุณชายน้อย ขานั่งขัดสมาธิไม่ได้ และได้รับการบำบัด ขาก็หายภายในวันนั้นเลย ส่วน ดร.จิ๋มเป็นโปลิโอตั้งแต่อายุได้ 6 เดือน เวลาเดินขาจะแบะออก เดินไม่ตรง เมื่อมาทำบุญที่บ้านสวนตอนนี้ขาเดินตรงขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นความสุขที่ทั้ง 2 ท่านได้รับ และต้องการแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่น จึงร่วมกันจัดงานนี้ขึนมา

ท่านอ.อุบลได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ท่านสร้างบ้านสวนพีระมิดโดยท่านต้องมาช่วยผู้คนจำนวนมาก โดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ใช้ชีวิตของคนที่ท่านรักทั้ง 2 คน มาเป็นเครื่องต่อรอง ท่านได้ใช้บ้านสวนพีระมิดในการบำบัดผู้คนที่มาสร้างบุญกุศล และผู้คนต่างหายจากโรคภัยไข้เจ็บเป็นจำนวนมาก

จากนั้นท่านก็ได้บำบัดให้กับผู้คนที่มาในงานที่เจ็บป่วยตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ซึ่งก็มีคนที่หายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ รวมทั้งได้รักษาโรคภายในต่าง ๆ อีก โดยการให้สารภาพสิ่งที่ทำมา และท่านได้บอกสาเหตุของโรคต่าง ๆ ด้วย โดยให้ไปตรวจทางการแพทย์อีก และเปรียบเทียบผลที่ออกมาว่าดีขึ้นหรือไม่

-โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ    เกิดจาก  มีมโนกรรมมาก

-โรคเกี่ยวกับสายตาต่าง ๆ สายตาสั้น สายตายาว ตาเป็นต้อ เกิดจากชอบดูหนังโป๊ ใช้สายตาด่าว่าคนอื่น ชอบจำผิดผู้อื่น

-โรคภูมิแพ้ ผื่นคัน     เกิดจาก การฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่น ยุง มด

-โรคไวรัสตับอักเสบบี  เกิดจาก  กรรมรวมตัว เพราะผิดศีลมาทุกข้อ เคยทำให้ผู้อื่นเสียเลือด

-โรคหัวใจ   เกิดจาก ทำให้คนที่รักเสียใจ เช่น พ่อแม่ แฟน

-โรคเกี่ยวกับลำคอ เสียง  เกิดจากเป็นคนชอบด่าว่าคน นินทาว่าร้ายคน ใช้ปากพูดในสิ่งที่ไม่ดี

ต่อจากนั้นท่านอ.อุบล ได้อาราธนาบารมีพระศรีอารย์มาที่ กาย วาจา ใจ แล้วให้คนที่ยังมีอาการหลงเหลืออยู่ได้เดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วบอกว่าหายหรือไม่ หายในระยะไหน ซึ่งมีคนจำนวนมากหาย หรือดีขึ้น

ท่านดร.จิตรา ได้มาในงานนี้ด้วย โดยเหมือนธรรมะจัดสรร จริง ๆ ท่านเหมือนมายืนยันให้ลูก ๆ บ้านสวนได้มั่นใจในพระศรีอาริย์ ซึ่งชาวบ้านสวนก็คงจะรู้อยู่แล้ว จากธรรมะที่ท่านนำมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้กับผู้คนจำนวนมาก และพิสูจน์ได้เป็นวิทยาศาสตร์ และพวกเราทุกคนได้เดินทางมาถูกทางแล้ว

เวลาหมดแล้ว ผู้คนก็ยังไม่กลับ และการเตือนเรื่องภัยพิบัติ ท่านอ.อุบลขอยกยอดไปคราวหน้าที่บ้านสวนค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 09:14:06


ความคิดเห็นที่ 325 (1630795)

กิจกรรมธรรมบำบัดสัญจร ณ.โรงแรมแทรเวลเลอร์ วันที่ 21 ก.ย 55

      ขอเล่าประสบการณ์จากการได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้และสิ่งที่ได้

รับธรรมทานจากอ.อุบล , ดร.จิตรา และผู้เข้าร่วมงานทุกๆท่าน

ในวันงาน ผมวางแผนการเดินทางจากบ้านนนทบุรี คิดว่าออกเวลา

11.30 น. และคงใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงคงถึงที่งาน แต่

ระหว่างทาง รถมีจำนวนมากติดแถวศาลากลางนนทบุรี ( คิดในใจ

เอาแล้ว เราจะไปถึงทันเวลาไหมเนี่ย ) ทันใดนั้น ผมก็คิดถึงรหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย ขอให้อาจารย์ช่วยให้รถไม่ติด ให้ไปถึงงานก่อน

เวลา ปรากฎว่ารถก็เคลื่อนตัวไปได้ดี แต่ก็มาติดตรงแถววงศ์สว่างอีก

ตอนนี้รถแน่นมาก ผมก็ภาวนาให้อ.อุบลช่วยลูกด้วยอีกครั้ง สักพัก

รถก็เคลื่อนไปได้และตอนนี้ก็วิ่งฉลุย และมาถึงงานเวลา 12.20 น.

( ซึ่งผมขอให้อาจารย์ช่วยให้ผมมาถึงเวลา 12.45 น.คิดในใจอีกว่า

อาจารย์ใจดีจัง ให้มาถึงเร็วกว่าที่ขออีก ) พอมาถึงก็ไม่มีที่จอดรถ

ต้องวนไป และก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าจอดได้ตรงไหนบ้าง เค้าก็บอกว่าให้

จอดตรงนี้ ซึ่งมีที่ว่างคือหน้าประตูทางเข้าเลย ซึ่งตอนแรกผมไม่กล้า

จอดเพราะเกรงว่าจะไปกีดขวางคนอื่น 

     และผมก็เข้ามาในงาน ลงทะเบียนแล้วได้เจออ.อุบล ก็เข้าไปไหว้

ท่าน วันนี้ท่านดูสวยและสง่างามมากเป็นพิเศษ ( กว่าที่ผมเจอตอนที่

พบท่านในงานบวงสรวงที่บ้านสวน ) ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร พอได้มา

ฟังดร.จิตรา พูดถึงอ.อุบลเกี่ยวกับว่าท่านเกี่ยวข้องกับพระนางเนอร์

ฟาตารี่ ทำให้ผมฉุกคิดว่าท่านเหมือนกับราชินีของอียิปต์ ซึ่งผมเคย

เห็นพระพักตร์และรูปร่างสง่างามไม่แตกต่างจากท่านอ.อุบลเลย ( ผม

พูดจากสิ่งที่ผมเห็น หากไม่ถูกต้อง ผมขอกราบขอขมาอาจารย์ด้วย

น่ะครับ ) 

      กิจกรรมธรรมบำบัดสัญจร  ( อ.อุบล )

      - อ.อุบล บอกว่าท่านพญานาคราชได้มาสื่อให้ท่านทราบว่าใน

ช่วงภัยพิบัติ จะมีงูออกมาเป็นจำนวนมาก

       - ขอให้พวกเราทุกคนรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ละเว้นอบายมุข

ทั้งหลาย ใครจะมาให้เราทำอะไร ให้เราเอาศีล 5 เข้าไปจับและ

พิจารณา

       - ท่านอ.อุบล ได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้ถวายมหาพีระมิด แด่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 99 องค์ 

       - เหตุปัจจัยที่ทำให้อ.อุบล ต้องมาช่วยเหลือคนคือการช่วย

ชีวิตอ.มงคล และคุณท๊อป ให้รอดพ้นจากการเสียชีวิต ( เบื้องบน

เอาชีวิตของทั้งสองท่านมาเป็นเครื่องต่อรอง ให้ท่านอาจารย์ต้อง

ต้องไปช่วยเหลือคนอื่นต่อเหมือนที่ได้รับการช่วยเหลือและเล่า

เป็นธรรมทานแก่ผู้อื่น )   อ.อุบล บอกกับพวกเราในงานว่า " บอก

ให้ทำอะไร ก็ต้องทำ "  เหมือนเป็นการเตือนสติลูกหลานบ้านสวน

ทุกคน

       - บุญธรรมทาน เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการ

( เล่าเป็นธรรมทาน และช่วยเหลือคนอื่นต่อ ) แต่ธรรมทานนี่ ทำยาก

กว่าทานอื่นมาก เพราะจะมีอุปสรรคต่างๆที่จะมาให้เราทำไม่ได้ ( ยก

ตัวอย่างเช่นผม ตอนแรกผมคิดว่าจะมาเล่าประสบการณ์เป็นธรรมทาน

ในวันแรก ก็มีสิ่งที่ทำให้ขี้เกียจบ้าง ผลัดบ้าง แต่ผมก็เอาชนะสิ่ง

เหล่านั้นได้ โดยมาเล่าได้สำเร็จ  ที่จริงแล้วมันไม่ยากหรอกครับ แต่

เราต้องฝึกและก้าวข้ามมันให้ได้ เพราะเรากำลังทำสิ่งที่เป็นคุณงาม

ความดีให้กับตัวเองและผู้อื่น ) 

      - อาจารย์ได้นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นหลักในการช่วย

เหลือคน  คือ การค้นหาเหตุ และดับเหตุ นั้น   การค้นหาเหตุ ก็คือ

การสำนึกและไม่ทำอีก และตั้งใจเผยแพร่เป็นธรรมทาน

      - เหตุของการเจ็บป่วย

        ปวดศีรษะ         เกิดจาก - คิดไม่ดีกับผู้อื่น

                                           - คิดทำร้ายผู้อื่น

        ปวดคอบ่าไหล่   เกิดจาก - สนับสนุนการทำแท้ง

                                           - นอนตื่นสาย , ขี้เกียจ

                                           - ตบไหล่คน,สัตว์

        ปวดหลังปวดเอว เกิดจาก - เคยตีคน ตีลูก ทำร้ายร่างกายคน

                                            - เคยมีกิ๊ก  ผิดศีลข้อ 3

                                            - นอนตื่นสาย ขี้เกียจ

                                            - ทำแท้ง ตีสัตว์ ฆ่าสัตว์

                                            - คิดทำร้ายร่างกายคนอื่น

         ปวดขา ปวดเท้า เกิดจาก - หันเท้าไปทางพระพุทธรูป พระ

                                               สงฆ์ , ผู้ทรงศีล พ่อแม่ ครูบา

                                               อาจารย์

                                             - เดินข้ามคน เดินเหยียบสัตว์ตาย

                                             - เคยเตะขัดขา ใช้เท้าทำร้ายหรือ

                                               ทำไม่ดีกับผู็อื่น

   **** เหตุของความเจ็บป่วย ก็คือ ละเมิดผู้อื่น และละเมิดศีล ****

        เจ๊บคอ กรดไหลย้อน คอแห้ง - ดุด่าเก่ง พูดคำหยาบ

                                                 - นินทาเก่ง พูดมาก ไร้สาระ

                                                 - สาระแหน่เรื่องคนอื่น

                                                 - สอดรู้สอดเห็น เสี้ยมให้ผู้อื่น

                                                   โกรธกัน

                                                 - พูดจาส่อเสียด เพ้อเจ้อ

       **** พระพุทธเจ้า สอนว่า ให้เลิกสนใจกายภายนอก คืออย่า

             สนใจเรื่องของคนอื่น  ให้สนใจกายภายใน คือ รำพีงความ

             รันทดชองตนเอง มองเพื่อปรับปรุงแก้ไข ****

       ไวรัสตับอักเสบ    เกิดจาก       - ผิดศีลทุกข้อ กรรมรวมตัวกัน

                                                  - โกรธรุนแรง ทำแท้ง หรือมี

                                                     ส่วนร่วม

                                                   - ทำอาชีพหรือเกี่ยวกับการ

                                                     ฆ่าสัตว์มาเยอะ

        มะเร็ง               เกิดจาก         - ฆ่าสัตว์

                                                   - ทำแท้งหรือมีส่วนร่วมในการ

                                                      ทำแท้ง

       ไขมันในเลือดสูง ปวดประจำเดือน - เจ้าชู้ , ผืดศีลข้อ 3 

         , เนื้องอกในมดลูก                     - *** เลิกโกรธ หายทันที**

       เบาหวาน                                - ฆ่าสัตว์ , เลี้ยงสัตว์ให้เขา

                                                      ไปฆ่า  - ทำแท้ง

       สายตาสั้น , ยาว                      - ใช้สายตาไปดูหนังโป๊ 

                                                    - ชอบมองค้อน ใช้สายตา

                                                       จิก ตำหนิติเตียนคนอื่น

       เนื้องอกในถุงน้ำดี                    - ฆ่าสัตว์ 

                                                    - คดโกงเพื่อน เอามาแล้วไม่

                                                      ใช้คืน

                                                    - ขี้โกรธ ด่า, ปากจัด

       โรคหัวใจ                เกิดจาก      - ทำให้ผู้อื่นเสียใจมากๆ

                                                       เช่น พ่อแม่ ผู้มีพระคุณ

       โรคกระเพาะ           เกิดจาก       - เอาของไม่ดีให้คนอื่นกิน   

     สรุป  ผิดศีลข้อ 1      ทำให้เจ็บป่วย ไม่สวย ไม่หล่อ

                           2       ทำให้ลำบาก ยากจน มีหนี้สิน

                           3       ทำให้บริวารกระด้างกระเดื่อง และลูกดื้อ   

                           4       ทำให้เป็นคนปากเหม็น พูดจาไม่มีคนเชื่อ

                                    ถือ  ถูกหลอก ถูกโกง

                           5       จะทำให้เป็นโรคปวดหัว  สติไม่ครบถ้วน

      ผิดอบายมุข              จะทำให้ชีวิตไม่สมปรารถนาทุกอย่าง

     -  อ.อุบล สรุปว่า  ให้พวกเรามีอารมณ์ , ใจ เป็นเทวดา  มีหิริ

        โอตัปปะ  ละอายต่อผลของบาป   เลิกใช้เล่ห์เหลี่ยมอุบาย

        ในการค้า  ใช้ความบริสุทธิ์ใจในการขาย

     -  ทำทาน  รักษาศีลอย่างมั่นคง ทำสมาธิ ตั้งใจมั่น

        ถ้าเรายังทำไม่ได้  ให้ย้อนกลับไปดูศีลว่ายังบกพร่องข้อ

        ไหนอยู่                                        (   ยังมีต่อครับ )   

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่วงโชติ ธีระเดชานันท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 12:03:42


ความคิดเห็นที่ 326 (1630806)

เรียน อาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณท๊อป และญาติธรรมลูกบ้านสวน นางสาวอภาธินี จินดาพล จาก จ.พังงา  ได้ฝากจิ๋ม เข้ามาโพสต์ค่ะ เพราะเขายังไม่ได้เป็นสมาชิกค่ะ

ข้อความจากคุณอภาธินี มีดังนี้

"ลูกต้องขอกราบขอขมาสมเด็จองค์พระปฐม สมเด็จองค์พระศรีอาริย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด ท่านอ.อุบล และลูกบ้านสวนทุกท่าน ทีืลูกได้ออกไปเล่าธรรมทานในวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2555 และอาการปวดหลังดีขึ้น แต่พอเสร็จพิธีการจากโต๊ะอ.อุบล ลูกมิได้กราบขอบพระคุณ ด้วยความตื่นเต้น เลิ่นเล่อ มิได้ไตร่ตรองให้รอบคอบ ไร้ความกตัญญูของลูกนี้ ลูกจึงกราบขอขมา มา ณ ที่นี้ ลูกได้สำนึกในบุญคุณที่ได้สอนให้ลูกได้รู้ถึงบาปกรรมที่ทำมาว่า ผลของกรรมจะมีผลต่อผู้กระทำอย่างลูกแค่ไหน
 
ลูกรู้สึกผิดมาก ที่มิได้ขอบคุณ ทันที แต่พอคุณอร พี่เจี๊ยบ พี่อมร ออกมาแล้วกล่าวขอบคุณ ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองทำพลาดไปมาก และอ.อุบลยังพูดเตือนสติอีกทีว่า ดีมากที่รู้จักขอบคุณ คนเราเดี๋ยวนี้ พูดขอบคุณกันไม่เป็นแล้ว ลูกยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ก่อนจะเลิกก็รีบกราบขอบคุณท่านอ.อุบล แล้วก็รีบขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปฐม ขอขมาท่านด้วยความไร้สติของเราจริงๆ ลูก "มึน" จริงๆค่ะ 
 
โอกาสนี้ลูกจึงขอกราบขอบพระคุณสมเด็จองค์พระปฐม สมเด็จองค์พระศรีอาริย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด ท่านอ.อุบล และลูกบ้านสวนทุกท่าน ที่ได้มีเมตตาช่วยให้ลูกอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมากค่ะ ขอขอบพระคุณเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ"
 
ข้าพเจ้านางสาวอภาธินี จินดาพล จาก จ.พังงา มีอาการปวดหลัง เนื่องด้วยสารีระไม่ปกติ ก้นงอน ทำให้เวลานอนหลังโก่ง ต้องเอาหมอนรองหลัง หมอไม่รักษาบอกว่าแค่เอาหมอนรองก็หาย แต่ไม่หายค่ะ 
เนื่องด้วยผิดศีลทุกข้อ
ขอเล่าธรรมทาน ณ กิจกรรมธรรมบำบัดที่ โรงแรม ดิทราเวลเลอร์ กรุงเทพฯ
 
- ขอบขอบคุณ คุณธนา ดร.จิ๋ม ที่ได้จัดงานนี้ ขอบคุณพี่แมวที่เป็นธุระจัดการ ขอบคุณอ.อุบล และลูกบ้านสวนทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้
- ได้ทราบข่าวจากการตามเฟสบุ๊คบ้านสวน(ตัวจริง) อยู่เรื่อยๆ จังหวะดีได้ขึ้นมากทม.พอดี จึงรีบลงทะเบียนผ่านทางเฟสบุ๊คเอาไว้ (ขอขอบคุณ คุณอัญ ที่ช่วยลงรายชื่อให้ในเวบบ้านสวนอีกที) ปาฏิหาริย์ที่ 1 อยู่ตั้งไกล(พังงา)มากรุงเทพฯทั้งที (บังเอิญ?)ดีจริงๆ
 
ไปถึงมีคนนั่งรออยู่ 3 ท่าน ทั้ง 3 ท่านก็ยิ้มเป็นมิตรมาเลย แต่ยังไม่ได้เดินไปหา มองหาป้ายสัมมนา ก็ไม่เห็น เลยไปถามพนง.ที่เคานเตอร์ให้แน่ใจว่าขึ้นไปได้เลยหรือไม่ เพราะอ่านในเวบบอกว่ามาเร็วก็ดี มาถึงประมาณ 10.30 ได้ พนง. สัมมนาเขาเปิด 11.00 ยังขึ้นไม่ได้ หรืออะไรประมาณนี้น่ะค่ะ เป็นคำพูดที่ได้ยินแล้วจะรับรู้ได้ทันทีว่า พนง.ไม่เต็มใจซักเท่าไหร่ คงเพราะเขาคุยโทรศัพท์ส่วนตัวอยู่ก็เป็นได้ เราไปรบกวนเค้าเอง เลยหันมาหามิตรที่ส่งยิ้ม ได้รับคำตอบว่าคุณธนา และทีมงานบางส่วนมาถึงแล้ว แต่ทั้ง 3 ท่านรอสมาชิกอีก 1 คน เลยขอขึ้นไปพร้อมพวกเขา พอครบ และกำลังตัดสินใจจะขึ้นไป ปาฏิหาริย์ที่ 2 บุคคลที่อยากพบมานานที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้น อ.อุบล เดินเข้ามา พร้อมกับทีมงานอีกหลายท่าน อ.มงคลก็มาด้วย ยังคงยืนอึ้งๆ มึนๆ อยู่ รัศมีเปล่งประกายมากค่ะ พี่ที่รออยู่ด้วยกันเขากรูเข้าไปกราบ จึงได้สติ แล้วกราบบ้าง 
 
ปาฏิหาริย์ที่ 3 หลังที่เวลาเดินต้องงออยู่ตลอดเวลาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ ถ้านั่งหรือยืนหลังตรงนาน เต็มที่ไม่เกิน 5 นาที ก็แทบไม่ไหว ต้องหาที่พิง แต่พอลุกจากกราบ อ.อุบล ยืนแล้วก็ตรงได้ เรียกว่าจาก 100% ก็เหลือประมาณ 60% (น้ำตาไหลตั้งแต่ได้เจอ ได้กราบ แล้วพอแค่กราบแล้วอาการที่ดีขึ้นขนาดนี้ ก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ค่ะ ไม่ได้ขนลุกที่ได้เจอ อ.อุบล แต่ความรู้สึกที่ได้รับเป็นความปิติทั้งสิ้นค่ะ แต่ขนมาลุกตอนลุกขึ้นยืนนี่ล่ะค่ะ)
 
พอขึ้นมาที่บริเวณงาน...ได้รับการต้อนรับที่ดีค่ะ เดินไปนั่งหน้า เพราะยังมากันน้อยมากๆ ๆ แล้ว ก็เห็นดร.จิ๋ม ณ ขณะนั้นไม่รู้ค่ะว่าคือ ดร. แต่เคยเห็นหน้าเวลาดูคลิปที่บ้านสวนบ่อยๆ (มึนอีกแล้ว !) เห็นกำลังติดตั้งเครื่องฉายสไลด์อยู่ แล้วไม่ลงตัวซักทีก็เดินออกไปช่วย แล้วก็มาดูที่จอคอมเพื่อจะโชว์สไลด์ แต่ไม่สามารถเพราะคนละเวอร์ชั่นกะที่ใช้ คุณธนา ขึ้นมาบนเวทีเพื่อประกาศว่า คนที่มาแล้ว ให้ไปหาเจ้าหน้าที่ที่รอรับฟังคำสารภาพบาป เพื่อเป็นการบำบัด ดร.จิ๋มก็เลยเดินออกมาจากหน้าคอม แล้วเดินมาบริเวณงาน ก็เลยรีบถามว่า "พี่ค่ะ จะสารภาพได้กับใครบ้างค่ะ ?" ดร.จิ๋ม "กับพี่ได้เลยค่ะ" 
 
แล้วก็ได้สารภาพบาปกรรมทุกข้อที่จำได้ให้กับ ดร.จิ๋มฟังค่ะ แล้วดร.จิ๋มก็บอกว่า ไม่ต้องจ้องหน้าพี่ซิค่ะ ให้จ้องที่จี้องค์สฟิงซ์ ก็จ้องไปทั้งสายตาที่พร่ามัวค่ะ น้ำตาแตก เพราะบาปกรรมที่ทำมา ตั้งแต่ศีลข้อ1. ถึงข้อ 5. และอีกหลายสิ่งอย่าง ดร.จิ๋มท่านก็บอกให้สำนึก นึกถึงเจ้ากรรมนายเวรของเรา และขอขมาเขา เราได้รับผลแล้ว ปาฏิหาริย์ที่ 4 ก็เกิดขึ้น ดร.จิ๋มถามว่าเป็นไงบ้างอาการก่อนและหลังต่างกันมากน้อยแค่ไหน อาการมันคงค้างที่หลังอีกประมาณ 20% ก็กราบขอบพระคุณดร.จิ๋ม ตรงนั้น
 
พองานเริ่ม คุณธนาก็ดำเนินงานว่าใครที่สารภาพกับจี้แล้วดีขึ้นบ้างให้ขึ้นมาเล่า ก็มีโอกาสได้ขึ้นไปเล่าแล้ว ปาฏิหาริย์ที่ 5 อาการก็ดีขึ้นเป็นลำดับ แน่นอนค่ะยังไม่หาย งานดำเนินไปเรื่อยจนถึงตอนที่ อ.อุบล อาราธนาบารมีพระศรีอาิริย์ให้ทุกคนที่มางานได้สัมผัสกัน ขนลุกค่ะ ตั้งแต่อาราธนา เดินขึ้นไปบนเวทีผ่านอ.อุบลไป 20% ที่ค้างอยู่หายค่ะ เหลือน้อยมากก จนแทบไม่รู้สึกเลย และสาธุขอบพระคุณในบารมีของพระศรีอาิริย์ที่อ.อุบลอัญเชิญมาให้พวกเราได้สัมผัสกัน
 
แล้วด้วยเมตตาของอ.อุบล บอกว่าใครที่มากิจกรรมในวันนี้ อนุญาตให้ไปบ้านสวนได้เฉพาะวัน เสาร์ที่ 22 - วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2555 เท่านั้น เลยรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ และได้มาใช้บุญแรงกายที่บ้านสวน ขุดหลุดเสาห้องน้ำเก่าได้ 1 หลุม ขนอิฐที่ทุบปรับพื้นที่ ปลุกตะไคร้ และไปสารภาพในตอนเย็นวันอาทิตย์อีกครั้ง ด้านข้างอ.อุบล
 
ข้าพเจ้าได้ทำผิดศีลข้อ 1.
- ฉีดยาฆ่าแมลง มด ยุง แมลงสาป และ แมลงรำคาญอื่นๆ 
- "กระทื้บ" แมลงสาป คือเห็นกันไม่ได้ ต้องให้แหลกกันไปข้าง
- กลัวงูมาก ทำงานที่บ้านกับพ่อ แล้วลูกงูจงอางพุ่งมาที่ข้าพเจ้า เพราะเขาอยู่ใต้อิฐก้อนที่ข้าพเจ้ายกขึ้น ด้วยความเป็นพ่อ และอยู่ฝั่งด้านหลังงู พ่อจับอิฐทุ่มลงไปกลางตัวงู ครั้งแรกยังไม่ขาด และยังคงแผ่แม่เบี้ยจ้องมาที่ข้าพเจ้า พ่อเลยซัดลงไปเต็มแรงอีกครั้ง แน่นอนลูกงูจงอางตายทันที
- จับยุงที่กัดมาแยกร่างดึงแขนขา แล้วค่อยบี้ให้ตาย เพราะคิดว่าเขาผิดที่มากัดเรา ทำให้เราคัน
- จับมดคันไฟมาดึงหัว เลือกตัวใหญ่ๆ แล้วก็บี้หัวบี้ตัว
- รดน้ำลงไปในรังมด ราดน้ำไล่มด
- ขย่มต้นไม้ให้มดหล่น เพราะมากัดกินผลไม้ที่ปลูกไว้ 
- เตะน้าชายเล่นๆ แต่น้าเจ็บจริงๆ
 
ทำผิดศีลข้อ 2.
- เคยหยิบของใช้เครื่องเขียน ของมหาวิทยาลัย มาเป็นของเรา
- หยิบของในห้าง 1 ครั้ง
- เอาเงินที่พ่อแม่ให้ใช้ใรเรื่องที่จำเป็นไปใช้ ในสิง่ที่ไม่จำเป็น
- ขอเงินพระ(ซึ่งเป็นลุง) ไปเรียน ไปใช้ในการซื้อของใช้ตอนเรียน !!!
- หยิบของพี่มาใช้ก่อนได้รับอนุญาต
 
ทำผิดศีลข้อ 3.
- ปลื้มพระที่ท่านเทศน์เก่ง สอนเก่ง ท่องบาลีเพราะ
- คุยโทรศัพท์กับพระเชิงชู้สาว เป็นปี
- เคยอกหัก และหักอกคนอื่น
- หมกมุ่นในกามรมณ์ ดูหนังโป๊ คลิปโป๊ เคยสำเร็จความใคร่ ชอบมองสารีระของผู้อื่น แล้ววิจารย์ แม้จะในทางที่ดีก็ตาม !!!
- ยุให้พี่สาว(ลูกป้า)เลิกกะพี่เขย เพราะคิดว่าเขาไม่ดีต่อพี่เรา
- ยุ่งเรื่องชาวบ้าน เพราะน้าชายมาชอบแฟนของพี่สาว(ลูกแม่ เป็นทอม) และน้าชายก็มีลูกอยู่แล้ว เราก็ไปวุ่นวาย ไปว่าเพื่อนพี่คนนั้น
- คบกับคนที่กำลังจะแต่งงาน (ตอนนั้นไม่รู้ พอรู้ก็เลิกนะคะ)
 
ทำผิดศีลข้อ 4.
- โกหก ปลิ้นปล้อน เอาตัวรอดไปคราวนึงๆ
- ส่อเสียด คำหยาบ ทำให้ผู้อื่นเจ็บใจ
- เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น
- ไร้สาระ เพ้อเจ้อ
- โกหก และหลอกตัวเอง จนเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง แต่เราก็รู้ว่ามันไม่มีอยู่จริง !!! "มึนไปนะ"
 
ทำผิดศีลข้อ 5.
- เล่นหวย
- กินเหล้า
- เที่ยวกลางคืน
- คบเพื่อนที่ชวนไปแต่ที่อโคจร เพื่อนที่ชวนไปที่ดีๆ ไม่คบ
- ตื่นสาย หงุดหงิดทุกครั้งที่มีคนมารบกวนเวลานอน
- หลบเลี่ยงงานหนัก เอาเปรียบเืพื่อนร่วมงาน
 
 
บาปกรรมหนักที่ทำกับพ่อแม่ และผู้มีพระคุณ
- คอยยะเย้ยพ่อแม่ที่ต้องมารับรู้ว่า พี่เป็นทอม น้องเป็นตุ๊ด เพราะเคยคิดว่าพ่อแม่รักเหลือเำกิน เข้าใจผิดมาตลอดว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน คอยแต่จะคิดในแง่ร้าย 
- พูดจาถากถางพ่อแม่ เวลาท่านเจ็บช้ำน้ำใจ จากการกระทำที่พ่อกะน้องทำให้เสียใจ
- พูดจากวนประสาทยาย ยั่วโมโห
 
กรรมรวมตัวจนมีอาการ ปวดหลัง ปวหัว มึนหัว ไม่มีหน้าที่การงานที่ดี ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน พอจะดีๆ ก็มีเหตุให้พลาดโอกาสไปทุกครั้ง
 
อ.อุบล ได้ทิ้งท้ายให้ให้ลูกได้คิด ว่าลูกยังผิดศีลข้อ 3. อีก ให้ไปนึกดูถ้าอยากหาย
แค่ที่หายที่บ้านสวนแค่นี้ก็มากที่สุด ดีมากแล้วสำหรับลูกค่ะ 
 
 
 
กราบ กราบ กราบ
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 13:00:55


ความคิดเห็นที่ 327 (1630812)

ข้อความจากคุณอภาธินี เขียนเพิ่มเติมต่อ มีดังนี้  (ชัชวลี เป็นผู้โพสต์แทน)

หลังจากสารภาพกับท่านอ.อุบล ที่บ้านสวนในวันอาทิตย์ อาการก็ดีขึ้นอีก คงค้างอีกแค่ 5% เท่านั้น นี่คือ ปาฏิหาริย์ที่ 6. และการไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวน ก็มีคุณธนาคอยบอกสอนเรื่องการอนุโมทนาบุญ และ ปาฏิหาริย์ที่ 7. คือการใช้รหัสจักรวาน "อ.อุบล ช่วยด้วย" ตอนขนปูนจากโรงทานที่ทุบทิ้ง ไปกองอีกที่ และจังหวะโยนก้อนปูนเหล่านั้นไม่ทันได้ดู ก้อนปูนที่คุณอ้อยหล่นทับเท้า (ก้อนใหญ่เท่าชามใส่ต้มจืดได้) ลูกเองก็ไม่ทันระวัง ไม่มอง คุณอ้อยใช้รหัสโดยอัตโนมัติ เรามัว "มึน" อยู่ คุณอ้อยขอโทษ และสอนว่า ต้องใช้ให้ทันทีนะ จำไว้ ลูกก็พูดในใจ หลังจากได้ใช้ไปอีก 3 ครั้งก็หยุด (แต่ถ้าโดยปกติแล้ว น่าจะมีกระดูกแตก บวมช้ำ) แต่ยังคงเดินทำงานต่อ เพราะรู้สึกว่าไหว มีตึงๆ นิดหน่อย แต่ไม่ได้เปิดถุงเท้าดู เดินไปขนไปมาอีกรอบ นึกขึ้นว่า ลูกขอขอบคุณพี่อ้อยทีได้สอนวิธีใช้ และขออนุโมทนาบุญนี้กับพี่อ้อยด้วย และความรู้สึกตึงๆเมื่อซักครู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง พอถึงเวลาพักอาบน้ำ ซึ่งก็ห่างกันหลายชม. เปิดถุงเท้าดู รอยช้ำไม่มีให้เห็น !!!
 
ลูกขอขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐม สมเด็จพระศรีอาริย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ หลาวงพ่อฤๅษีลิงดำ เสด็จพ่อท่านเท้าเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ อ.อุบล ลูกบ้านสวนทุกท่านที่ได้มีเมตตาใช้ปาฏิหาริย์สั่งสอนลูกให้ได้รับรู้ความจริงในบาปกรรม และสอนให้ได้รู้สิ่งทีเหนือธรรมชาต์ สามารถสัมผัสได้ทั้งในและนอกบ้านสวนถ้าเราปฏิบัติตนตามคำสอนของพระพุทธองค์ สาธุ กราบ กราบ กราบ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 13:11:04


ความคิดเห็นที่ 328 (1630846)

กราบนมัสการ สมเด็จองค์ปฐม พระศรีอารย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด  กราบสวัสดีท่าน อ.อุบล ท่าน อ.มงคล ค่ะ

    ชมพระบารมีพระศรีอารย์ ท่าน อ.จิตรา สัมผัสได้ค่ะ สารสำคัญมาก ท่าน อ.จิตราขนลุกหมด อยากให้ทุกคนได้ฟัง และอยู่ในอาการที่สมควร ไม่ได้อยู่ในหมายกำหนดการ ซึ่งอยู่ในเวลาอาหารว่าง ขอให้อยู่ในอาการที่สมควร เป็นหนึ่งในทีมช่วยเหลือกัน เพื่อมนุษย์             ท่าน อเทพพนมแนะท่าน อ.อุบล มาพบ ดร.จิตรา ขอรู้ตัวตนและจิตวิญญาณ ท่าน อ.อุบลเกี่ยวข้องกับจิตวิญาณอียิปต์ โบราณ  ตอนที่ท่าน อ.อุบลมาครั้งแรกพร้อม อ.มงคล ได้ให้รับทราบว่าท่าน อ.อุบลเกี่ยวข้องอย่างมาก กับ พระนางเนเฟอตารี รามเลสสที่ 2 ซึ่งไม่ใช่เนอเฟอร์ติติ(ไม่ดี)    พระนางเนเฟอตารีใฝธรรมและเป็นราชินีอียิปต์โบราณละสังขาร มากำเนิดเพื่อมนุษย์ชาติ ถือเป็นเทพีพระองค์หนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกันมาก

    พระศรีอารย์ครูรู้อยู่ในหัวใจมาตลอดและมีเหตุการณ์เชื่อว่ายุคพระศรีอารย์จะอุบัติขึ้นครบ 5000 ปี เราต้องศึกษาศาสนาหลักต่างๆด้วย ทุกอย่างที่อุบัติมีบันทึกในหลักคริสต์ การกลับมาครั้งที่ 2ของพระเยซูคริส   อิสลาม คริสมุสลิมก็มีว่าเยซูจะกบับมาอีกครั้งที่2      บอกตรงกับคริส    และพุทธยุคพระศรีอารย์  ครูเชื่อรู้อยู่เต็มหัวใจ          เราอยู่ในรอยต่อพระพุทธเจ้าองค์ที่ 4-5   เวลาที่ทุกท่านรับพลังได้โรคภัยหายไปสิ้น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีแสงสว่างท่านเป็นพยาน รู้สึกถึงการปลดเปลื้องโรคภัยขอท่านรับทราบเช่นนี้ 

   เกี่ยวกับท่าน อ.อุบล ครูคิดว่าอยากให้ อ.กิติชัยมาคนเดียว ครูอยู่ถึงเช้าต้องให้เวลาลูกศิษย์ได้สารภาพบาป เหมือนใช้เวลา 10 กว่าปี สารภาพตอนตี 3 เพศหญิง อายุ 68 ส่วนหนึ่งอณูของเทวทัต (ขอใช้วิจารณญาณ) ครูสอนให้ทุกอย่างเกือบ 20 ปี จึงยอมรับบาปอันเป็นที่สุด เมื่ออายุ 68 ตอนปี 3  เอ่ยปากสารภาพเหม็นเน่าคาวไปทั้งบ้าน ตี3 มารร้ายฉลองชัยกำจัดเยซูตายได้ เวลาเยาะเย้ยมาตลอด

   เรารับพลังอันบริสุทธิ์และความรักโดยไม่มีเงื่อนไข  เหล่าปิศาลมารร้ายไม่มีปาร์ตี้อีกแล้วรวมถึงเป็นเวลาลับมีดเชือดสัตว์ เราอยู่บนแผ่นดินทองศรีอาร์ยเมตไตร ประเทศไทยเป็นเสาหลักของโลก

   นานแล้วครูบาอาจารย์บอก ไทย ลาว กัมพูชา ยกเว้นพม่า รวมเป็นหนึ่งเดียวกับไทย         ไม่ใช่แย่งชิง แต่เขาจะมารวมกับเราเอง หมายถึงพวกตรงข้ามก็พยายามจะทำลาย       รักษาความบริสุทธิ์ใจไว้และทุกคนทั่วโลกจะมาพึ่งที่เราสุวรรณภูมิ เป็นแผนเบื้องบนมานานแล้วที่เราจะดูแล

  พระศรีอารย์กับผู้นำประเทศไทย  ความรู้ของครูเอง (โปรดพิจารณา)  ครูทราบในหัวใจ   พระศรีอารย์เกิดเป็นมนุษย์ และเป็นหญิง อย่าหลงตัวบุคคล เกิดที่ประเทศไทย ท่านมาเกิดแล้ว เป็นผู้ใหญ่พอ และสามารถนำพาผู้คนอื่น เป็นวัยผู้ใหญ่ และจะนำมนุษยชาติได้ เรารู้จักพุทธและสนับสนุนศาสนาอื่นด้วย

 พระสันตปาปา เคยรู้ว่าเยซูคริสมาเกิดแล้วในร่างสตรี พระเยซู Second Coming แต่ก่อนพระสันตปาปาตามหาพระเยซูในร่างปัจจุบัน  ครูเป็นคนไม่นิยมใช้ตาทิพย์เป็นมายา ครูเชื่อใช้จิตพิเคราะห์พิจารณา อะไรที่เหนือธรรมชาติครูจะรับรู้เฉพาะกิจ ไม่เกินกิจ วันนั้นครูดูพิธีการถวายพระศพจอร์นปอลที่ 2 คุณครูดูอัญเชิญพระศพ มองเห็นอีกมิติ (เฉพาะกิจ) เห็นขบวนหน้าสุดพระสันตปาปาเครื่องพระยศเต็ม  นำหน้าพระองค์เป็นหญิง เบื้องหลังวิญญาณพระสันตปาปาหลายพระองค์มา หญิงท่านนำพระสันตปาปาทุกพระองค์ มีพระสูงสุด ประทานอนุญาตให้พระสันตปาปานั่งประทับด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็นหญิง

 แต่เราก็พบกันจนเจอ (ท่าน อ.จิตรา ฮัม..เป็นเพลง)                                                    เราไม่มีวันสิ้นโลก  เรามีแต่วันโลกแตก โลกแตกเฉพาะผู้ที่แตกอยู่

 เกี่ยวกับผู้นำประเทศไทย  อย่าหลงทาง ในคัมภีร์ ในยุคปัจจุบัน การเชื่อมต่อ                  พระพุทธโคดม-พระศรีอารย์ จะมีศาสนาปลอมมากมาย ทุกซอย มีสำนักสงฆ์ อยู่ในชุด สงฆ์ บาทหลวง สุเหร่า ครูไม่ได้ลบหลู่ ผู้บริสุทธิ์ เมือถึงยุคนั้นจะได้รับรู้ศาสนาปลอมมากมาย  อย่าหลงทาง ดังที่พระศรีอารย์มาเกิดแล้วเป็นหญิง นายกคนปัจจุบันเป็น.... ให้พิจารณาสมอง อย่าคิดเป็นอย่านั้น

 ครูรักในหลวงยิ่ง แม้กระทั่งร้องเพลงถวายท่าน น้ำตาไหลริน ท่านคุ้มครอง ทำทุกอย่างให้แผ่นดินไทยรอด.....จนครูมายืนบนเวทีนี้ ท่านทำหน้าที่ได้สำเร็จสมบูรณ์  อเทพพนมเคยถามครูว่าเฝ้าทูลอะไรไหม  อยากนำ น้ำตาครูล้างพระบาท อยากทูลว่างานของท่านสำเร็จสมบูรณ์แล้ว อยากทูลท่านไม่ต้องห่วง และเราทั้งหมดที่นี้จะมีหน้าที่ดูแลแผ่นดินชั่วนิรันดร์ พระศรีอารย์ดูแล  ท่านจะดูแลเอง ไม่ต้องไปคิดว่าจะต้องมีการล้มล้าง พลังจิต มีพลังมหาศาลกำเนิดอุบัติสมบูรณ์ วันนี้พระศรีอารย์จะดูแลประเทศ ท่านเป็นมนุษย์จะมายืนพูดกับเรา เมื่อเวลานั้นจะพูดด้วย น้ำเสียง ดวงตา เปี่ยมไปด้วยเมตตา ความรัก ความดี

 ลูกกราบขอประทานโทษที่ไม่ได้พิมพ์ทันที (ท่าน อ. สอนแล้วว่าทำดีให้ทำทันทีแต่ไม่ทำ กรรมเยอะจริง) เพราะคอมพ์เด็กๆใช้เตรียมสอบและวันต่อมาไปพบทันตแทพย์อีก มันติดอยู่ที่ใจไม่ได้พิมพ์สักที ดูถ่ายทอดสด จดหน้าคอมไปด้วยได้ตั้ง 12 หน้ากระดาษเอ4  แล้วไปอ่านหัวข้อปาฎิหารย์เข้าค่ายถวายพระพร 3-5 ธันวา 53 เป็นประเด็นสนับสนุนที่มาที่ไปบ้านสวนพีระมิด ที่ลูกได้มาศึกษาธรรม    กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุระณี สิริมานุวัฒน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 15:38:09


ความคิดเห็นที่ 329 (1630848)

 

( ต่อจากความเห็นที่ 326 )

 - พระพุทธองค์ สอนให้เราทำทาน ศีล ภาวนา  ที่เรามีความทุกข์

    ส่วนมากเราทำบุญให้อาหาร เงินทอง แต่เราไม่ได้ทำบุญด้วยศีล

    และภาวนากัน

 - การทำสังฆทาน มีอานิสงส์มากกว่าการให้ทานกับบุคคลทั่วไป

   แม้ทำ 1 ครั้ง ก็จะไม่พบกับความลำบาก ณ.ที่นั้น แม้ชาติใดชาติ

   หนึ่ง ผู้ที่ทำสังฆทานแล้ว จะนิพพานแล้ว บุญจากสังฆทานก็ยัง

   ลอยอยู่

 - อ.อุบล บอกว่าให้พวกเราเลือกทำทาน บุญใหญ่น้อยให้ทำหมด

   บุญสังฆทาน พยายามทำให้ได้

 - บุญสังฆทานที่ยิ่งใหญ่แล้ว ยังไม่เท่ากับวิหารทาน  ทำสังฆทาน

   100 ครั้งยังไม่เท่ากับวิหารทาน 1 ครั้ง

 - ธรรมทาน คือ การให้ธรรมะเป็นทาน การบอกเล่ากรรมที่เราเคย

   ทำมาแล้วได้ผลกรรมแบบนี้ ทำให้คนอื่นที่ได้ฟังเรื่องของท่าน

   แล้วยังนึกถึงตัวเอง  บุญธรรมทานจึงเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ แต่ต้อง

   การกำลังใจมาก ไม่ต้องลงทุน คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ เพราะกรรม

   มันดึงเอาไว้ ผิดศีลข้อ 2,4 มาเยอะ กรรมมารวมตัวกัน ทำให้ไม่

   อยากบอกเล่า เป็นธรรมทาน  

 - บุญที่เรามาทำวันนี้ เราต้องสร้างบุญธรรมทานและต้องสร้างบ่อยๆ

    มีอีกหนึ่งบุญที่ยิ่งใหญ่ โดยไม่ต้องลงทุน ทานที่ยิ่งใหญ่เหนือทาน

    ทั้งปวง แล้วจะทำให้เราพ้นทุกข์ , พ้นความยากจน คือ " อภัยทาน

    อภัยทาน = เลิกโกรธ , แค้น เลิกอาฆาต พยาบาท  เลิกทำไม่ดีกับ

    ใคร จะได้พบกับตวามสุขอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน

 - โกรธ โมโห หงุดหงิดง่าย จะทำให้โชคลาภไม่เข้า กรรมจะมาปิด

   กั้น ที่จะได้ก็ไม่ได้  คนโกรธมักจะมีผิวพรรณทราม  ต้องเลิกโกรธ

   ทุกอย่างจะดีขึ้น   ต้องเปลี่ยนตัวเอง จะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน อย่า

   ไปเปลี่ยนคนอื่น ให้เค้าต้องเป็นเหมือนที่ใจเราคิดอยากให้เป็น

    หลังจากท่านอาจารย์ให้ธรรมะเป็นทานแก่พวกเราแล้ว ท่านมี

  เมตตาอัญเชิญบารมีพระศรีอาริย์มาให้พวกเราได้ชมบารมีของพระ

   องค์ โดยอ.อุบลได้บำบัดคนทีมีความทุกข์ เจ็บป่วย ให้ขึ้นมาบน

   เวทีเพื่อให้แต่ละคนได้สัมผัสบารมีพระศรีอาริย์ใกล้ๆ เพื่อช่วย

   บรรเทาทุกข์ของแต่ละคน  ผมเอง ก่อนไปร่วมงานก็ปวดที่ต้นคอ

   ใช้ยาฉีดเพื่อบรรเทา แต่ก็ยังไม่ค่อยหาย  วันนั้นก่อนขึ้นไปบนเวที

   ผมได้ตั้งจิตเพ่งไปยังรูปของพระศรีอาริย์ที่อัญเชิญมาอยุ่บนเวที

   อาการปวดต้นคอ ก็รู้สึกดีขึ้นมาก หายไปเกือบ 90% พอขึ้นไป

   บนเวทีผ่านท่านอ.อุบล อาการก็ดีขึ้นมาอีกเป็น 95%จนเกือบหาย

   หมด แต่ผมคิดว่าคงยังมีกรรมค้างอยู่ที่ยังทำให้ไม่หาย 100%

   แต่นี่ก็คือสิ่งที่ผมได้รับและสัมผัสได้ถึงบารมีพระศรีอาริย์และบารมี

   ท่านอ.อุบล  และคนอื่นๆที่ได้สัมผัสบารมีพระศรีอาริย์ก็ทำให้ทุกคน

   หายจากทุกข์และปลื้มปิติในความเมตตาของพระองค์ท่านที่ได้

   เสด็จมาโปรดพวกเราทุกคนในงาน

        หลังจากบำบัดทุกคนแล้ว อ.อุบลได้เชิญ ดร.จิตรา มาให้ความ

   คิดเห็นต่อบารมีพระศรีอาริย์ที่ท่านได้สัมผัสถึง

   - ดร.จิตรา เป็นผู้ที่รับพลังงานคอสมิค เหมือนกับที่ได้ประทาน

จากพลังพีระมิด ในการบำบัดช่วยเหลือคน

    - ท่านบอกว่า การที่เรารู้สึกว่าโรคหายไปโดยฉับพลัน เป้นพระ

เมตตาให้ลูกหลานมีกำลังใจ และได้รู้ว่าพลังอันบริสุทธิ์และความ

รักจากท่านมีอยู่กับเราตลอดเวลา และช่วยให้เราก้าวเดินต่อไป

อย่างคล่องแคล่ว ท่านก็ขอให้ฝากไว้ว่า เมื่อได้รับความช่วยเหลือ

แล้ว ขอให้เดินและช่วยเหลือคนอื่นต่อไป ( ทำกรรมดี )  เมื่อเรา

สำนึกบาปแล้ว  เราก็ควรขอขมากรรม  ด้วยการทำความดีทั้งคำพูด

เพื่อช่วยเหลือโลก และเพื่อนมนุษย์  จะทำให้กายและใจ  พลังกรรม

ไม่ดี ตัดทอนลงไปได้   *** กระทำความดีไปเรื่อยๆ  ละสิ่งที่เราสำนึก

ไปแล้ว ****

     -  ดร.จิตรา ท่านกล่าวว่า อ.อุบลเกี่ยวข้องกับอียิปต์โบราณอย่าง

มาก เห็นอ.อุบล ในความเป็นจิตวิญญาณหลัก เกี่ยวข้องกับพระนาง

เนเฟอร์ตารี่ พระนางในครั้งที่มีสังขาร ฝักใฝ่ทางธรรม  เป็นราชินีของ

อียิปต์ที่เคารพยิ่ง  ละสังขารไปแล้ว ปัจจุบันยังรับรู้ว่าอียิปต์โบราณ

มีจิตบริสุทธิ์ มาเกิดเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ เป็นเทพีโบราณ

     -  ดร.จิตรา ท่านบอกว่าท่านรู้อยู่ในใจตลอดว่า  ความเชื่อว่า ยุค

ของพระศรีอาริย์จะอุบัติขึ้นเมื่อครบ 5000ปี ทุกสิ่งที่อุบัติได้มีการบัน

ทึกไว้แล้ว  ยุดของพระศรีอาริย์ เป็นการกลับมาของพระเยซูคริสต์

เพื่อชำระล้างโลกให้บริสุทธิ์ แล้วเข้าสู่ยุคใหม่ เรากำลังอยู่ในช่วง

รอยต่อของพระสมณโคดมพระพุทธเจ้ากับพระศรีอาริย์ ( ซึ่งเป็นยุค

ที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ กินดีอยู่ดี )

       - ประเทศไทย จะเป็นเสาหลักของโลก  ทั่วโลกจะมารวมอยุ่ที่

นี้  ลาว,เขมร จะมาขอรวมเป็นหนึ่งกับประเทศไทย ( แต่ท่านไม่ได้

กล่าวถึงประเทศพม่า )   ซึ่ง ดร.จิตรา บอกว่าเป็นแผนของเบื้องบน

แต่เดิมที่ะให้ประเทศไทยรับดูแลคนทั่วโลก

       - พระศรีอาริย์ พระองค์ท่านได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วเป็นหญิง

แต่อย่าให้หลงตัวบุคคล  "ท่านเกิดในประเทศไทย เป็นผู้ใหญ่พอที่

จะนำทางได้ ที่จะนำมนุษยชาติดำเนินต่อไป "

       - ในยุคเชื่อมต่อของยุคพระสมณโคดมกับพระศรีอาริย์ จะมีพวก

ศาสดาปลอมมากมาย แล้วอ้่งตนเป็นนั่นเป็นนี่  ดร.จิตรา บอกว่าอย่า

หลงทาง หลงตัวบุคคล

        - ดร.จิตรา ท่านบอกว่าท่านอยากเข้าเฝ้าในหลวงของเรา และ

อยากเอาน้ำตาของท่านเช็ดฝ่าพระบาทของพระองค์ท่านที่ต้อง

เหยียบสิ่งสกปรกโสโครกที่คนไม่ดีทำไว้กับแผ่นดินของพระองค์

แล้วอยากราบทูลพระองค์ว่า ท่านได้ทำหน้าที่ของท่านเสร็จและ

สมบูรณ์แล้วยิ่ง ที่ท่านได้อาสาจากเบื้องบนคุ้มครองอภิบาล

ประชาชนและผืนแผ่นดินนี้  ไม่อยากให้พระองค์เป็นห่วงอีกแล้ว 

พวกเราจะช่วยกันดูแลผืนแผ่นดิน และนำพาประเทศชาติให้เจริญ

รุ่งเรืองตลอดไป

     - โลกใหม่กำลังกำเนิด อย่าไปเชื่อว่าโลกจะแตก  วันนั้น พระ

ศรีอาริย์จะดูแลประเทศชาติเอง ไม่ต้องคิดอะไร เมื่อถึงเวลานั้นก๊

จะรู้เอง   ท่านไม่ได้มาเป็นเทพเจ้า ท่านเป็นมนุษย์ และเมื่อเวลานั้น

มาถึง ท่านจะยืนพูดด้วยน้ำเสียงและดวงตา ที่เปี่ยมด้วยเมตตาและ

ความรักของท่านต่อมวลมนุษยชน

     ขอกราบขอบพระคุณอ.อุบล ,ดร.จิตรา  ที่ได้ให้

ความเมตตามาให้ธรรมทานแก่ผมและพวกเราทุก

คนที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานบุญที่ยิ่งใหญ่นี้ และขอ

ขอบคุณ ดร.จิ๋ม , คุณธนา พี่แมว และลูกหลานบ้าน

สวนทุกท่านที่มีส่วนช่วยทำให้มีงานนี้เกิดขึ้นและ

สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี สร้างความสุขและความปลื้มปิ

ติต่อผมและทุกๆท่านเป็นอย่างยิ่ง 

      ลูกขอกราบอัญเชิญพระบารมีของพระศรีอาริย์

ได้โปรดอภิบาลคุ้มครองอ.อุบล , อ.มงคล  ดร.จิตรา

 อ.อู๋ , คุณท๊อป , ดร.จุ๋ม . ดร.จิ๋ม , คุณธนา , พี่แมว

และลูกหลานบ้านสวนทุกท่าน  จงมีแต่ความสุข พ้น

จากความทุกข์และภัยพิบัติใดๆทั้งปวง ขอให้เจริญ

ทั้งทางโลกและทางธรรม และเข้าสูพระนิพพานโดย

เร็วด้วยเทอญ   สาธุ สาธุ สาธุ 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่วงโชติ ธีระเดชานันท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 15:48:01


ความคิดเห็นที่ 330 (1630854)

              ขอเล่าถึงบรรยากาศ วันธรรมสัญจร (21 ก.ย. 55) ที่ The Travaller Hotel ถ.รัชดา )   โดยได้ไปถึงเวลาประมาณ 11 โมง  เมื่อชึ้นไปถึงคณะจากบ้านสวนฯ     ก็มาถึงกันแล้วและกำลังชุลมุนในการ   ให้พวกที่มาในงาน   ลงทะเบียนกัน และเตรียม  แจกของชำร่วยสำหรับผู้มาร่วมงานกัน และบางท่านก็ได้ช่วยกันบำบัดสมาชิกที่  มาร่วม งาน โดยใช้ จี้องค์เทพสฟิ้งค์  สารภาพบาป  กันหลายท่าน  ซึ่งก็ได้ผลดีไปในระดับหนึ่ง   หลังจาก สมาชิกที่มาร่วมงาน   มาถึงกันเกือบครบหมดแล้ว  ก็ได้เวลาเปิดงานที่พวกเรา    ลูกบ้านสวนฯ ได้มาร่วมกันจัดขึ้น   โดยมี ดร.จิ๋มและคุณธนาเป็นเจ้าภาพ  ในการจัด

งานครั้งนี้  (ขออนุโมทนาบุญกับทั้ง  2 ท่านด้วยค่ะ)  แล้วท่าน  อาจารย์อุบลฯ  ก็ได้เมตตามาเล่า ถึง  สาเหตุที่ต้องมา   รับหน้าที่ต้องช่วยเหลือผู้คนมากมายเพราะ  ต้องแลกกับชีวิตของลูกและสามี ตามคำบัญชาฯ  ของเบื้องบนที่กำหนดมา  โดยให้ผู้เข้ารับการบำบัดได้รับฟังกัน ฯลฯ

          หลังจากนั้นท่าน อาจารย์อุบล ฯ ก็ได้พูดถึงสาเหตุ   ของแต่ละท่านที่ป่วยมา  ซึ่ง  แต่ละโรคน่าจะมีสาเหตุ  มาจากการไปทำบาป   อะไรกันมาและจากการที่ทำ  ผิดศีล          ทั้ง 5 ข้อ  เช่น…..

โรคสะเก็ดเงิน   เป็นคนขี้โกรธ   ต้องเลิกโกรธอย่างเดียว  ส่วนคนที่โกรธง่ายจะทำ

ให้มีปัญหาปิดกั้น เงินทองด้วย/

โรคไทยรอย/กระไหลย้อน   ผิดศีลข้อ4 เกิดจากมุสา พูดจาส่อเสียด พูดคำหยาบ นินทาเก่ง โกหก พูดมาก   พูดจาเหลวไหล พูดจาปลิ้นปล้อน กะล่อนตอแหล/

โรคมะเร็ง    ผิดศิลข้อ    1   เกิดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต   ทำแท้งหรือมีส่วนร่วมรู้           เห็น  ในการทำแท้ง/

โรคเบาหวาน    ผิดศิลข้อ  1   เกิดจากการเลี้ยงสัตว์แล้วให้เขาฆ่า    เช่นเลี้ยงกุ้ง           เลี้ยงปลา   ปู    หอย   ฯลฯ

โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก   ผิดศิลข้อ   3  ผิดลูกเมียผู้อื่น   นอกใจภรรยา

ปวดประจำเดือน   ผิดศิล ข้อ3   เกิดจากการ เจ้าชู้    มีเสน่ห์   

สายตายาว     เกิดจากการใช้สายตา  จิกมอง คนอื่น   อย่างตำหนิติเตียน

ไวรัสตับ B  เกิดจากการโกรธ ผิดศีลทุกข้อ (ทั้ง 5 ข้อ) ทำแท้ง รู้เห็นการทำแท้ง          

ช่วยเหลือ /  มีส่วนร่วมในการทำแท้ง ชอบโกรธอย่างรุนแรง

เนื้องอกในถุงน้ำดี    เกิดจากการคดโกงเงินเพื่อน  ใส่ยาพิษให้หมากิน  ยืมเงินเพื่อน     แล้วไม่ใช้    ต่อไปจะเป็นโรคท้องมาร

โรคไซนัส   เกิดจากการฆ่าสัตว์เล็ก  สัตว์น้อย  เช่น   ยุง มด  ปลวก  แมลงสาป ฯลฯ       โดยการฉีดยาฆ่าแมลง

โรคหัวใจเต้นผิดปกติ     เกิดจากการทำให้คนอื่นเสียใจมาก  เช่นพ่อ แม่หรือแฟน         และมีอีกหลายๆอย่าง

     ท่าน อาจารย์อุบลฯบอกว่า  ให้ทุกคนที่ได้พบเห็นเรื่องราว  แล้วนำไปเล่า

ต่อกัน ถือว่า  เป็นธรรมทานที่สูงมาก  สูงกว่าการสร้างวิหารทาน 100 เท่า และ      ท่านอาจารย์อุบลฯ ได้ขอ ให้ทุกคนรู้จักการให้อภัย    เพราะทานจากการให้อภัย  จะเป็นบุญซึ่งสูงมาก/

คือ เลิกคิดไม่ดีกับคนอื่น  เลิกอาฆาตพยาบาทผู้อื่น    แล้วชีวิตจะมีแต่ความสุขตลอดไป/

                                ***************

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 16:32:40


ความคิดเห็นที่ 331 (1630953)

ธรรมสัญจร

ที่ กทม. ครั้งนี้

เป็นอะไรที่บอกไม่ถูก

รู้แต่ว่า

ธรรมะจัดสรร แน่นอน

การจัดกิจกรรมของ

อ.อุบล บ้านสวนพิรามิด

แต่ละครั้งนับว่ามีอะไรที่

เกินความคาดหมาย

เป็นการจัดงาน ที่ไม่มีแผนงาน

หรือมี

ก็ไม่เคยได้เป็นไปตามแผนงาน

ครั้งนี้ก็เช่นกัน

เป็นเรื่อง ธรรมดาที่ไม่ธรรมดาไปแล้ว

ที่มีผู้ที่ศรัทธาเข้ารับการบำบัด

เข้าใกล้ อ.อุบล ก็หาย

แต่ที่ต้องอึ้ง เมื่อฟังแล้ว

อยากร้องไห้ ก็ตอนที่

ท่าน ดร.จิตรา ขึ้นพูดถึงว่า

ท่าน อ.อุบล ของพวกเรา

เป็นใคร ในอดีตชาติ

และที่สะดุด อีกก็ตอนที่ท่านพูดว่า

อย่าหลงทาง

อย่ายึดติดตัวบุคคล

โดยส่วนตัวคิดว่า

ท่าน ดร.จิตรา กำลังบอกเราว่า

เราเดินมาถูกทางแล้ว

อย่า!!!! ยึดติดในตัวบุคคล

ข้อนี้ส่วนตัวคิดเสมอว่า

รัก เคารพ ศรัทธา

อ.อุบล เพราะ

อ.อุบล คือ อ.อุบล

ไม่ใช่ใครอื่น / อย่างอื่นเลย

ไม่ใช่ว่าศรัทธา อ.อุบล

เพราะ

อ.อุบล คือพระนางเมเฟอร์ตารี

แต่ที่รัก เคารพเพราะ

อ.อุบล คือผู้ที่นำคำสั่งสอนของ

พระพุทธองค์

มาเผยแพร่ สั่งสอน

ได้ ตรง ชัด ลึก

เข้าใจง่าย พ้นทุกข์เร็ว

และด้วยคุณสมบัติ

ที่อาจารย์เป็นคนตรง

ทั้งการแสดงออก การพูดจา

ที่สำคัญ จริงใจ

เป็นสิ่งที่สัมผัสได้อย่างที่สุด

--------------------

กิจกรรมครั้งนี้

นับว่ามีผู้ที่เข้าร่วมหน้าใหม่ ๆ

เกินครึ่งของจำนวนผู้เข้าร่วม

และทุกท่านที่เข้าร่วมมีความสนใจ

มีศรัทธาอย่างที่สุด

ขอบอกว่า

ท่าน อ.อุบล เอาใจใส่ทุก

ระบบขั้นตอนของการจัดงาน

การกลั่นกรองผู้เข้าร่วมงาน

และวิธีการดำเนินการต่าง ๆ

อ.อุบล ดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ

ขอกราบเท้าขอบพระคุณยิ่งนะคะ

ผู้ที่ไม่ศรัทธา ก็ไม่ได้เข้าร่วม

อ.อุบล เก็บพื้นที่ไว้ให้กับ

ผู้ที่มีศรัทธา เท่านั้นคร๊าบผม

และกิจกรรมครั้งนี้

ทำให้แมวได้

สัมผัสบารมี อ.อุบล แบบเต็ม ๆ

ว่า

อ.อุบล มีบารมีมาก ๆ

ที่อันเชิญพระบารมี

องค์พระศรีอาริย์มา

ช่วยเหลือพวกเราได้พ้นทุกข์

แบบ ฉับพลันทันที

โดยมี อ.อู๋ + ดร.จิตรา

มาการันตี ว่า

เรา ได้เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์กันแล้ว

ในความคิดส่วนตัวก็เชื่อเช่นนั้น

องค์พระศรีอาริย์ได้

มาสถิตกับท่าน อ.อุบล นานแล้ว

แต่ ไม่สามารถจะอธิบายได้

ถึงลำดับภาพความคิด

ที่ตนเองได้สัมผัส

อ.อุบล บ้านสวนพิรามิด

คำบอกกล่าว

ของ ดร.จิตรา เหมือนทำให้

ความคิดเป็นรูปร่าง ชัดเจนขึ้น

ขอบพระคุณค่ะ

และภาพบรรยากาศก่อนที่

จะถึงเวลา

ก็จะมีการจับคู่

เพื่อการบำบัด สารภาพบาป

ช่างเป็นภาพที่น่าอบอุ่นค่ะ

บางคนสารภาพพร้อมน้ำตา

แสดงให้เห็นถึง

การสำนึกถึงบาปที่กระทำมา

ขออนุโมทนาค่ะ

มีน้องคนหนึ่ง..มีอาการปวดท้อง

( กระเพาะ อาการกำเริบ)

ได้พี่เหมี่ยว พี่อมร

เป็นหมอ รับ คำสารภาพบาป

แต่ อาการดีขึ้นระดับหนึ่ง

จนกระทั้ง น้องตัดสินใจ

บูชาจี้องค์สฟิงค์ 1 องค์

กำไว้ในมือ

จากนั้นเวลาผ่านไปเล้กน้อย

น้องเดินมาบอกว่า ดีขึ้นอย่างมาก

และที่สังเกตุได้คือ

หน้าที่ซึด มีสีเลือดแล้ว

น้องยิ้มออกแล้วก็บอกว่า

หนูชักหิวแล้ว..555++

เป็นไปแล้วค่ะ..อาจารย์ขา

------------------

และเนื่องจากเวลาหมด หมดเวลา

อ.อุบล ยังไม่ได้กล่าวถึง

หัวข้อเรื่อง ภัยพิบัติเลย

เสียดายจังค่ะ

แต่เท่าที่ได้ในวันนั้น

ก็เกินคำว่า พอเลยเชียวค่ะ

มีความสุขมาก...

แบบว่า .. ยิ้มคนเดียวก็ด้าย

ไม่เชื่อ ถามพ่อใหญ่ธนาก็ได้

ว่ามีอาการเหมือนกัลป่ะคะ

และ

ต้องขอขอบคุณ

พี่ ดร.ทั้ง 2 ที่น่ารัก

คุณธนา ผู้ที่มีหน้าตาเป็นอาวุธ

มอบธรรมทานที่ยิ่งใหญ่

ทำให้ได้สัมผัส

บารมี อ.อุบล อย่างชัดเจนอีกครั้ง

ขอบพระคุณนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-25 23:41:53


ความคิดเห็นที่ 332 (1630964)

 อนุโมทนาค่ะคุณแมว

คิดเหมือนกันเลย..

กราบขอบพระคุณท่านอ.มากค่ะ

มานั่งพิมพ์ข้อความได้ตั่งเยอะแล้วกำลังจะส่ง

ปรากฎว่ากดผิด หายไปหมดแล้วต่อหน้าต่อตา

เอาไว้พรุงนี้มาเขียนใหม่ค่ะ

ต้องขอขอบคุณเพิ่มอีกนะคะ คุณแมวและทึมงาน

คนอื่นที่ได้ช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่างกเช่น

น้องแหวน คุณโฆษิค น้องอัญ คุณอมร และเวปมาสเตอร์ ฯลฯ

ที่สำคัญ คืออ.มงคลและน้องท็อปที่เมตตาค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 01:07:37


ความคิดเห็นที่ 333 (1630966)

 

ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมธรรมบำบัด+ชมบารมีพระศรีอาริย์ เมื่อวันที่ 21 ก.ย.55 ที่ผ่านมา โดยการแนะนำของภรรยา ซึ่งอยู่ต่างจังหวัด โดยผมทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงได้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ผมเข้ามาฟังบรรยายของท่าน อาจารย์อุบล
เมื่อมาถึงสถานที่จัดกิจกรรม ห้องประชุมชั้น 10 ณ โรงแรม เดอะแทรเวลเลอร์ เมื่อเข้าไปถึงผมได้ไปลงทะเบียน ที่โต๊ะลงทะเบียน ซึ่งท่าน อาจารย์อุบล ได้ยืนอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น ผมรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็น และรู้สึกโล่งโปร่ง เบา และอิ่มเอิบอย่างบอกไม่ถูก และสิ่งที่ผมประทับใจคือลูกบ้านสวนฯทุกท่าน มีความเป็นกันเองมาก แม้จะไม่เคยพบเจอกันมาก่อน ก็ได้เข้ามาสอบถามถึงอาการเจ็บป่วยกับผม ซึ่งผมก็ได้สารภาพบาปต่อจี้องค์เทพสฟิงซ์ หลังจากนั้นอาการแพ้อากาศที่ผมเป็นอยู่ก็รู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
 
          จากนั้นท่าน อ. อุบล ก็ได้ใช้ธรรมบำบัดให้กับผู้คนที่มาร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้ ที่เจ็บป่วยตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า โดยมีหลายท่านหายจากอาการเจ็บป่วยตั้งแต่สารภาพบาปต่อจี้องค์เทพสฟิงซ์แล้ว
เมื่อท่าน อ.อุบลได้อัญเชิญบารมีของพระศรีอาริย์มาให้พวกเราสัมผัส ผมก็ได้มีโอกาสได้ขึ้นไปบนเวที โดยที่ผมมีอีกหนึ่งอาการเจ็บปวด คือปวดข้อเท้า และเมื่อขึ้นไปบนเวที ทันทีที่เดินผ่านหน้าท่าน อ. อุบล อาการข้อเท้าแพลงของผมก็รู้สึกดีขึ้น ประมาณ 80% เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
สิ่งที่ผมได้จากกิจกรรมธรรมบำบัดครั้งนี้ก็คือ ผมได้ธรรมะกลับไปเพื่อเตือนสติตัวเองได้แก่
- จะต้องมีเทวธรรมประจำใจ มีหิริโอตัปปะ คือความเกรงกลัว และละอายต่อบาป
- จะต้องรักษาศีล 5 อย่าให้พร่อง รวมไปถึงอบายมุขทั้งปวง
- ทำทานอย่างเต็มพิกัด ทำเท่าที่จะทำได้ 
ได้แก่ สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน  และที่สุดของทานคือ อภัยทาน(ทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด) จะต้องละความโกรธแค้น จองเวร ทำลายล้าง
 
ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับท่าน ผศ ดร. จิ๋ม และ คุณธนาที่ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมดี ๆ ในครั้งนี้ คุณแมว และ ดร.จิตราที่ได้มาเป็นแขกรับเชิญมาให้ความรู้ และสูงสุดของลูกบ้านสวนคือท่าน อ. อุบล ที่เผยแผ่หลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และใช้ธรรมบำบัดแบบฉับพลันรักษาผู้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น ฐากร วาศวุฒิกุล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 01:24:06


ความคิดเห็นที่ 334 (1630989)

 

ข้าพเจ้า นางสาวอภาธินี จินดาพล จาก จ.พังงา มีอาการปวดหลัง เนื่องด้วยสารีระไม่ปกติ ก้นงอน ทำให้เวลานอนหลังโก่ง ต้องเอาหมอนรองหลัง หมอไม่รักษาบอกว่าแค่เอาหมอนรองก็หาย แต่ไม่หายค่ะ 
เนื่องด้วยผิดศีลทุกข้อ
ขอเล่าธรรมทาน ณ กิจกรรมธรรมบำบัดที่ โรงแรม ดิทราเวลเลอร์ กรุงเทพฯ
 
- ขอบขอบคุณ คุณธนา ดร.จิ๋ม ที่ได้จัดงานนี้ ขอบคุณพี่แมวที่เป็นธุระจัดการ ขอบคุณอ.อุบล และลูกบ้านสวนทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้
- ได้ทราบข่าวจากการตามเฟสบุ๊คบ้านสวน(ตัวจริง) อยู่เรื่อยๆ จังหวะดีได้ขึ้นมากทม.พอดี จึงรีบลงทะเบียนผ่านทางเฟสบุ๊คเอาไว้ (ขอขอบคุณ คุณอัญ ที่ช่วยลงรายชื่อให้ในเวบบ้านสวนอีกที) ปาฏิหาริย์ที่ 1 อยู่ตั้งไกล(พังงา)มากรุงเทพฯทั้งที (บังเอิญ?)ดีจริงๆ
...........................................
อนุโมทนากับคุณพี่จิ๋ม ด้วยนะคะ
ที่เมตตาทำหน้าที่เป็นสะพานบุญ
ช่วยโพสต์ธรรมทานจากคุณ อภาธินี จากพังงา
 
ให้พวกเราได้รับทราบทุกเรื่องราว
ในมุมที่ลึกและกว้างยิ่งขึ้น
 
เพราะอ่านธรรมทานจากหลายๆท่าน
ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคุณ อภาธินีแล้ว
ถึงแม้จะได้เนื้อหาสาระพอสมควร
แต่ก็คงจะไม่ได้อารมณ์สมจริงเท่ากับ
เจ้าตัวมาอธิบายให้ฟังด้วยตัวเองแน่ๆ
 
ว่า ความคิด ความรู้สึกตอนที่หาย
ในแต่ละขั้นตอนที่ได้รับการบำบัดนั้น
มัน...ประมาณไหน...

แล้วก็ยินดีในทุกๆปาฏิหาริย์
ที่คุณ อภาธินี ได้รับด้วยนะคะ
 
ไม่รู้ว่า บังเอิ๊ญต้องมา ก.ท.มในช่วงนี้
พอดี๊พอดี หรือว่า เป็นอีกหนึ่งคน
ที่ถูกล็อคตัวมา เพื่อเหลาธรรมทาน
โดยเฉพาะ นะคะเนี่ย
 
.........................................................................
 
จากคห. 329 เขียนโดย คุณ สุระณี
 
วัน นั้นครูดูพิธีการถวายพระศพ
จอห์นปอลที่ 2 คุณครูดูอัญเชิญพระศพ
มองเห็นอีกมิติ (เฉพาะกิจ)
 
เห็นขบวนหน้าสุดพระสันตปาปา
ทรงเครื่องพระยศเต็ม 
นำหน้าพระองค์เป็นหญิง
เบื้องหลังวิญญาณพระสันตปาปาหลายพระองค์มา
 
หญิงท่านนำพระสันตปาปาทุกพระองค์
มีพระสูงสุด ประทานอนุญาต
ให้พระสันตปาปานั่งประทับด้านหนึ่ง
อีกด้านหนึ่งเป็นหญิง
....................................
 
ดีใจค่ะที่เกิดมาชาตินี้ได้มีโอกาส
ได้รู้จักท่านอาจารย์อุบล
แห่งบ้านสวนพีระมิด
 
แล้วก็ภูมิใจที่ได้มาอยู่โปแลนด์
ซึ่งเป็นแผ่นดินเกิดของท่านสันตปาปา
จอห์น ปอลที่สอง ...โป๊ป ที่ผู้คนทั่วโลก
รัก เคารพและสรรเสริญมากที่สุด
เพราะพระองค์เป็นโป๊ป ที่มีเมตตา
และทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์
ยังประโยชน์ต่อผู้คนทั่วโลกอย่าง
มากมายมหาศาล
 
.................................................
อนุโมทนากับธรรมทาน
จากทุกๆท่านด้วยนะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 07:35:38


ความคิดเห็นที่ 335 (1631032)

 

ธรรมบรรยาย และธรรมบำบัดวันที่ 21 ก.ย.โรงแรมเดอะแทรเวลเลอร์
ธรรมะที่ฟังง่ายๆฟังทุกครั้งโดนใจทุกทีไม่เคยเบื่อ
กระตุ้นเตือนให้หันกลับมาดูตัวเองเสมอๆ
ด้วยเหตุที่เราทำมานี่เอง
ทำให้ชีวิตทุกวันนี้สุขและทุกข์เคล้ากันไป
แต่ดูเหมือนทุกวันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่จะทุกข์ซะมากกว่า
สัจธรรมที่ท่านอาจารย์พาย้อนถอยหลังกลับไป
หากรู้สึกสำนึกผิดในการกระทำนั้นๆ
ทำให้หลายๆคนพบพานความสุขได้ในทันที
กอรปกับบารมีแห่งองค์พระศรีอาริยเมตไตรย์
ที่ท่านอาจารย์เมตตาขออาราธนามาอีก
ทำให้หลายคนได้หายเจ็บปวด พ้นจากความทุกข์ทรมานในทันที
สำหรับตัวเราเองอาการตึงๆที่บ่าก็ดีขึ้นเลย
วิธีสร้างเหตุที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่สะดวกและสบาย
ให้สร้างบุญอย่างเต็มพิกัด สม่ำเสมอ และต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน
ทั้งบุญกฐินที่กำลังจะมาถึง
มีอานิสงค์ยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าสังฆทาน
ทำให้ไม่ขาดแคลน ไม่อดอยาก
ขณะที่บุญเล็กๆ อย่างการเลี้ยงดูสัตว์ที่ตกยากก็อย่าได้ละเลย
ท่าน ดร.จิตรา+อ.อู๋  ผู้เชี่ยวชาญอียิปต์ และพลังจักรวาล
ทั้งสองท่านอยู๋ร่วมกับเราตลอดจนถึงนาทีสุดท้าย
เน้นย้ำการอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข
ใช้ชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด
ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ และไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ท่านได้ยกตัวอย่าง หากหิว ก็ต้องกิน
หากง่วง ก็ต้องนอน ถ้าร้อนก็ให้อาบน้ำ ลดอุณหภูมิในร่างกาย
อันเป็นกฎทางธรรมชาติ
ที่อาจฝืนได้บ้าง ... แต่ไม่ตลอดไป              
การได้รู้สึกสำนึกผิดในการกระทำของตน
แล้วขอขมา ละเลิกไม่กลับไปทำอีก
เป็นการลดพลังบาปให้เบาบางลง
หันกลับมาสร้างพลังบวกด้วยการ คิด พูด ทำดี
และมั่นคงในความดี ตลอดไป
จะช่วยโลกและมนุษย์ได้อย่างยั่งยืน
โลกนี้จะไม่แตก แต่กำลังเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ยุคของโลกใหม่
โลกที่มีแต่สันติสุขกันโดยถ้วนหน้า
องค์พระศรีอาริยเมตไตรย์ท่านจะเป็นผู้ขับเคลื่อนและปกครองโลกใหม่ด้วยพระองค์เอง
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบล อาจาย์มงคลและคุณท็อป
ขอบคุณและโมทนาบุญกับผู้ใหญ่ใจดีทั้งสอง พี่จิ๋มและคุณธนา รวมถึงทีมงานเบื้องหลังอย่างคุณแมว ที่ผลักดันและขับเคลื่อนงานมหากุศลนี้
และที่สุดกราบขอบพระคุณองค์พระศรีอาริยเมตไตรย์ พระพุทธองค์ สิ่่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนทุกพระองค์ที่ทรงเมตตาลูกหลานอย่างไม่อาจประมาณได้เลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 11:23:53


ความคิดเห็นที่ 336 (1631117)

 ธรรมบำบัดสัญจรครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลย

ไปถึงรร.ลงทะเบียนเสร็จจึงเข้าไปหาที่นั่งเพื่อทดสอบจี้สฟริงค์

ก่อนที่อ.จะมาบำบัดจริง เจอคุณแม่น้องไอซ์มีอาการปวดหลัง+เข่า

ใช้เวลาถามนำเล็กน้อยได้สารภาพว่าได้ฆ่าสัตว์มามี กุ้ง หอย ปู ปลา

ที่เป็นอาหารและสัตว์เล็กสัตวน้อย จึงถามถึงงูและการทำแท้งก็รับว่าได้ฆ่างู

และทำแ้ท้งลูก 1 คน ส่วนการรู้เห็นไม่มี จึงพาคุณแม่น้องฯอุทิศบุญและลอง

เช็คดู อาการดีขึ้น 20% จึงขอบารมีพระศรีฯที่อ.อุบลได้อัญเชิญมาก็อาการดี

ขึ้นอีก 20% จึงคุยเรื่องการสร้างบุญต่อว่าบุญเรายังน้อยต้องพยายามทำให้

มากขึ้นถ้ามีโอกาสและทำความดี รักษาศีล 5 ให้ได้ ก่อนที่คุณแม่ฯจะไปทานข้าว

คนที่ 2 เป็นคุณพ่อน้องพจน์ ขอโทษด้วยค่ะที่จำชื่อไม่ได้ กรรมขี้ลืมที่เกิดจากผิดศีล

ข้อ5 เพราะดื่มมาก็เยอะ คุณพ่อฯมีปัญหาทางสายตา ,มะเร็ง, เป็นไวรัส B,

จึงให้มองดูป้ายบนเวทีก่อนที่จะบำบัดตัวหนังสือจะติดกันพรึดไปหมด มองไม่ออก

คุณพ่อได้สารภาพว่าได้ฆ่าสัตว์มาเยอะมากทุกอย่าง รวมถึงูด้วย เคยช่วยทำแท้ง

มีคนมาขอให้ช่วยเพราะไปทำแท้งมาจึงใช้ถุงมือกดึงเอากระดูกแขนขาที่หักแล้วออกมา

อายุเด็ก 6 เดือน ทำหมันชาย 1000 คน และรู้เห็นการทำแท้งเพราะลูกน้องบอกลูกสาว

ท้องขอเงินทำแท้งจึงให้ไป 3000บาท 3 ครั้ง หลังจากนั้นจึงให้อุทิศบุญกุศล อาการ

ดีขึ้น20% ดูตัวหนังสือชัดเป็นตัวขึ้นแต่ยังมองไม่ออกว่าเป็นอะไร จึงของบารมีพระศรีฯ

ที่อ.อุบลอัญเชิญมา อาการดีัขึ้นอีก 20 % สามารถมองเห็นสระโอแถวล่างสุดได้ คุณพ่อฯ

ได้สำนึกบาปไม่ทำอีกแล้ว พยายามทำความดีมากขึ้น  

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 16:01:25


ความคิดเห็นที่ 337 (1631124)

ที่แท้ก็

คุณพ่อคุณก๊อตเองเหรอ

ที่เคยช่วยทำแท้ง อายุครรภ์ 6 เดือนเนี่ย

แล้วเคยทำหมันชาย 1000 คน

แจกผ้าขาวม้าเนี่ย

 

เห็นตอนเดินขึ้นไปบนเวที

เพื่อชมบารมีพระศรีอาริย์

บอกอ่านตัวอักษรเห็นหมดแล้ว

แต่ยังไม่เห็นลูกชายมาเขียนเล่าเลยอ่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 16:42:47


ความคิดเห็นที่ 338 (1631133)

 ปรากฎการณ์ที่ได้เกิดขึ้น

-กราบอนุโมธนาหน้าจอ หาย

-ปวดหลัง ไปบำบัดที่มหิดลหายจากการสารภาพว่าคิดอยากแตะลูกน้อง

และกิจการงานดีขึ้นหลังจากที่มามหิดลแล้ว

-อมทุกข์ ไม่มีความสุ๘ในชีวิต คิดปรามาสอ. หลังจากขอขมาแล้วหาย

-ปวดหัวไหล่ มีปัญหาการค้าจึงไปขับรถแท็กซี่เจอน้องตุ้ยบำบัดได้สารภาพ

กับจี้เรื่องที่ได้ไปทำแท้งมาหาย 30% ไม่รู้จักบ้านสวนมีความเชื่อ 70%

-หายปวดหัว+โรคกระเพาะ ไปสร้างบุญแรงกายที่บ้านสวนฯ

-ชีวิติดีขึ้นทุกด้าน หายปวดหัวไมเกรน หายหน้าแดง มีความโกรธน้อยลง(น้องขวัญ)

-หายปวดขา ไปถึงบ้านสวนฯหายปวด ชีวิตมีความสุึข

-หายปวดแขนหลังจากไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯ

-หายใจคัดจมูกเป็นหวัด ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

-ไทรอยด็หาย ใช้บุญแรงกายและเลิกโกหก กะล่อน ปลิ้นปล้อน ตอแหล

-มึนห้ว ใช้นำ้พีระมิด+พาเมล่าทาหาย รถมอเตอร์ไซด์ตัดหน้าเรียกอ.อุบบลช่วยด้วย

รอดไม่ถูกรถชน

-หายจากโรคหวามดัน  วัีดชีพจรไม่ได้ เคยท้องเสียเข้า รพ. วัดชีพจรไม่ได้หมอคิดว่า

ชํอค พอลูกบอกว่าจะไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯ วัดชีพจรได้ และตอนนี้ก็วัดได้แล้ว

-หายอาการปวดห้ว เพราะชอบแอบใช้คอมฯในที่ทำงาน

-ไปสร้างองค์พระปฐม รู้สึกปวดขา อ.ให้ขุดฐานพระ หายปวดขา

-หายอาการปวดแขนข้างขวามานานร่วม 20 ปี เพราะเรียนวิทยาศาสตร์ได้ฆ่าหนู 1000

ตัว ได้หายโดยบารมีพระศรีอาริย์(คุณจุ๋ม)

-มีนำ้มันออกจากหัวเป็นมา 2-3 ปี รักษาหมดเงินไป2 ล้าน ไม่หาย หนีไปอยู่อังกฤษ

โดนสามีทำคุณไสย นอนกลางคืนไม่ได้ จะนอนได้ก็ 6-7 โมงเช้า ได้ไปสร้างบุญที่

บ้านสวนฯ และอ.ได้ส่งวิญญานให้ขึ้นสวรรค์ อาการหายแล้ว มีผมสลวยแล้ว

-ปวดคอ ปวดไหล่ เคยดีหลังตีไหล่ รัดคอสัตว์ เคยขี่คอพ่อและขย่มตอนเป็นเด็ก พอ

สารภาพแล้วหาย เคยตีงู หาย 90% ตีตะขาบและขยี้ เพราะเกลียดกลัวมาก สารภาพดีขึ้น

อ.ให้ใช้รหัสแล้วหาย

-ปวดหลัง+ปวดเอว เคยกระทืบแมลงสาป ตึงู ตีลูก ฯลฯ นอนตื่นสาย ตีสัตว์ คิดทำร้าย

ร่างกายผู้อื่้่น คิดอยากให้เข้าตาย  รัดคออีเห็น ถ่วงน้ำโดยขุดบ่อลึกให้น้ำท่วมเอากรงไป

ใส่ไว้ , เผา ,เชื่อด เตา,ตะพาบ ตัดคอลวกน้ำร้อน  ตัวเงินตัวทอง ตีให้ตายเอาเป็นอาหาร

สุนุข กระรอก รัดคอ  ตีงู สารภาพอาการดีขึ้น 50% (คุณทัศนีย์เป็นพยาบาลร.พทหารผ่านศึก)

ที่เหลืออ.ให้ไปเล่าเป็นธรรมทานและต้องช่วยเหลือผู้อื่น

-ปวดขา+ปวดเท้า หันเท้าไปทางพระ พ่อแม่ เดินข้ามคน เดินเหยียบหอยทาก  เตะ ถีบ

หักแข้งขาสัตว์ ทำร้ายผู้อื่นหรือสัตว์ให้ได้รับความพิการ

-เคยเอาเชือกผูกขานกกระจิบนกกระจาบ สารภาพแล้วหาย 60%

-เหยียบหอยทาก เตะลงท่อน้ำ สารภาพหาย 90%

-มีท่านหนึ่ง บอกได้พูกไปหมดแล้วแต่ไม่หาย อ.ได้ถามว่า เคยเตะเมียมั้ย หาย 20%

จากที่ดีขึ้นจากการเจ็บเข่า 80% พอพูดสาำรภาพได้เพิ่มเป็น 90%

-เจ็บคอ สารภาพหาย 90%  ที่เหลืออีก 10% เกิดจากการที่คิดไม่ดีกับคุณธนาว่า จู้จึ้

ขี้บ่น เคือง แต่หายไม่หมด ได้ขอโทษคุณธนาแล้วยังมีอีกนิดหน่อย อ.ได้กถามว่าชอบ

นินทาอยู่มั้ย น้องเอิ้นได้สารภาพวายังชอบนินทาทุกคนอยู่แต่ลดลงมากแล้ว

-เคืองสามี ขี้บ่น จะเ้ดินหนีแต่ก็ยังคิดโกรธ อยากด่าตอบ พูดคำหยาบ  สารภาพหาย 50%

และหลังจากที่ได้พูดว่าบางครั้งก็ชอบนินทาบ้าง อาการหายเพิ่มเป็น 80%

-เป็นหวัด ร้องเพลงไม่ได้ โกรธ ด่าพนักงานร้านอาหารที่ห้างที่ิให้รอคิว ด่าลับหลัง

ดีขึ้นเกือบหายแต่เสียงแหบได้ 70-80% เพราะขณะบำบัดทำเกินคำสั่ง พูดมากไม่รอฟังอ.

ชอบเกี้ยวสาวเรื่อยเปื่อยเยอะแยะมาก สารภาพดีขึ้นเกือบ 90% ท่านอ.เตือนถ้ายังทำอยู้

จะทำให้หมดอาชีพร้องเพลง

-คอแห้ง เสียงแหบ เพราะพูกมากไร้สาระ เพ้อเจ้อ สารภาพดีขึ้นนิดเดียว อ.ให้นึกต่อ

ว่าชอบนินทาสามีให้ลูกฟัง , นินทาลูกคนหนึ่งให้อีกคนหนึ่งฟัง สารภาพ อาการดีขี้น 80%

-เจ็บคอ (อยาก)รอถูกหวยแล้วจะมีเมีย ทำให้ไม่หาย(คุณผู้ชายมีอายุแต่ยังไม่มีครอบครัว)

-เป็นเนื้องอกในถุงน้ำดี สารภาพฆ่าหมาใช้ยาเบื่อ คดโกงเงินเพื่อน ยืมแล้วไม่ใช้คืนเยอะมาก

ยังใช้หนี้ไม่หมด โกหกสามี  ชอบเล่นไพ่ (ทั้งป็อกเด้ง,เก้าเก) เสียเงินสุงสุดเป็น 10,000บ.

เล่นหมดก็ยืมบ้าง จำนำ t.v  สร้อยคอบ้าง เป็นคนขี้โกรธ ปากจัด ด่าเก่ง เวลาทานอาหาร

ท้องจะอืด สารภาพแล้วอาการดีขึ้น 50%  ไปอุลตร้าซาวด์ครั้งแรก ได้ 1 เซนต์ ครั้ง 2 หมอได้

นัดให้มาผ่าตัดทันทีที่พร้อม ไม่อยากผ่าจนมารู้จักบ้านสวนฯ ในวันนั้นรู้สึกว่า จะเป็นคุณเหมีียว

ช่วย ซึ่งอ.ได้ถามว่าตอนเที่ยงวันนี้ทานข้าวแล้วอืดมั้ย ปรากฏว่าไม่มีอาการ ธรรมดาทานนิด

เดียวก็จะอืดแล้ว

-โรคกระเพาะ  ชอบดื่มเหล้า และว่าแม่ว่าทำไมเรอบ่อย หลังจากที่พูดตัวเองก็เป็นเลย และ

ผิดสัจจจะว่าจะทานมังหลังจากที่มาบ้านสวนฯแล้วบอกว่าอาหารมังก็อร่อยดี  คุณเหมี่ยวได้

บำบัดให้ดีขึ้นและพอได้ออก T.V อาการก็หายเลย

-ปวดท้องเมนท์ เป็นมานานมากตั้งแต่เริ่มมีปจด.ใหม่ ได้ไปสร้างบุญแรงกายและทุกบุญ

ในบ้านสวนฯ อาการหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ เวลาปวดตรงกับสร้างบุญที่บ้านสวนฯจะใช้

รหัสอ.อุบลช่วยด้วย ตอนนี้หายแล้ว มีความสุข มีความรู้สึกว่า่หน้าตายิ้มแย้มมากขึ้น(ฉันทนาเองค่ะ)

-ดร.จิ๋ม เคยผ่าตัดตาปลามา 2 ครั้ง ครั้งแรกหมอลืมฉีดยาชาปวดทรมาณมาก

แต่ปรากฏว่าเชื้อยังไม่หมด จึงได้ผ่าอีกเป็นครั้งที่ 2 หมอไม่ได้ลืมฉีดยาชา

แต่ได้บอกกับดร.จิ๋มว่าครั้งนี้ไม่เจ็บหรอก สบาย สบาย ปรากฏว่า ปวดสุดๆ

อ.ได้เห็นภาพขณะที่ได้ขับรถตามหลังดร.มาจากสวนด้านหลัง เห็นภาพ ดร.จิ๋ม

ใช้ปืนไรเฟิลยิงขาคนทั้ง 2 ข้างจนพรุน และก็เคยขับรถชนคนตายแล้วหนี

ซึ่งเป็นกรรมจากอดีตชาติ  ต้วดร.จะเจ็บฝ่าเท้าตลอด ได้ขอขมาก็หาย 

ขาเคยไม่มีแรง จะเดินเอียงจนเจ็บไหล่ ตอนนี้เดินได้ตรงมากขึ้นไม่เหนื่อย

ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นหมอก็ป่วยเป็นอัมพาต และก็ไม่สามารถช่วยลูกให้

หายจากโปลิโอได้ ตอนนี้ก็ถูกลูกศิษย์มาผ่าตัดให้ซึ่งเกิดจากกรรมนั่นเอง

-คุณธนา ขาเป๋ อาการหายตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปหาอ.อุบล เกิดจากกรรมที่ได้

ใช้เท้าแทนมือ ปิด-เปิดพัดลม กระทืบเื้ท้าเวลาโมโหพ่อแม่ หันเ้ท้าไปทางพระ

เจอรั้ว หรือสิ่งของขวางทางก็จะเตะทำลาย ใช้เท้าทำลายความดี  จากที่

เคยรับอุบัติเหตุตั้งแต่ยังเด็กอยู่ ซึ่งครั้งแรกก็ไม่ค่อยจเเชื่อเท่าไหร่ แต่เคย

ดูทีวีแล้วเกิดศรัทธาในคำสอนของพระพุทธองค์ที่อ.ได้นำมากล่าวและเห็น

คนอื่นหาย  อ.ได้ใช้มือแตะเบาๆที่ขาคุณธนาที่เวลานั่งแล้วจะกระดกขึ้นมา

นั่นยุบลงและเดินได้ดีขึ้นทันที

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 17:52:16


ความคิดเห็นที่ 339 (1631142)

ที่แท้ก็

คุณพ่อคุณก๊อตเองเหรอ

ที่เคยช่วยทำแท้ง อายุครรภ์ 6 เดือนเนี่ย

แล้วเคยทำหมันชาย 1000 คน

แจกผ้าขาวม้าเนี่ย

 

เห็นตอนเดินขึ้นไปบนเวที

เพื่อชมบารมีพระศรีอาริย์

บอกอ่านตัวอักษรเห็นหมดแล้ว

แต่ยังไม่เห็นลูกชายมาเขียนเล่าเลยอ่ะ

..................................................

กราบเรียนท่าน อ.อุบลครับ เป็นคุณพ่อตาของผมครับ และคุณพจน์ได้เขียนบอกเล่าไว้ที่ความคิดเห็น 275และ278 แล้วครับ

ผมขออนุญาตเล่าเพิ่มเติมครับ  คุณพ่อตาชื่อ นายสมพงษ์ ฤทธิ์ประเสริฐ อายุ 70 ปี  ข้าราชการบำนาญ เคยเป็นหัวหน้าสถานีอนามัย

คุณพ่อตาป่วยด้วยโรคเบาหวาน ไวรัสตับอักเสบซี มะเร็งตับระยะแรกและผ่าตัดแล้ว เบาหวานขึ้นตาจนตาพร่ามัว

กรรมที่คุณพ่อตาได้สารภาพทั้งที่งานและขณะเดินทางกลับบ้าน ได้เล่าเพิ่มเติมอีกดังนี้ครับ

เคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยมามาก เพราะเคยเป็นหัวหน้าในการปราบมาลาเรีย ใช้ยาดีดีทีฉีดฆ่ายุงประมาณ 10 ปี ก็คงจะหลักหลายล้านตัวครับ เคยฆ่างู ตีหมา ตีแมว ตีวัว เคยใช้โซ่ตีหมาแล้วพลาดโดนตาหมาข้างหนึ่งบอด แล้วให้หมาตัวนี้กับเพื่อนบ้านไปและเพื่อนบ้านจับหมาอาบน้ำตอนเช้าแล้วผูกตากแดดไว้ ไปธุระกลับมาตอนบ่ายปรากฏว่าหมาตาย เป็นสิ่งที่คุณพ่อตาเสียใจและคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุด้วย และเคยใช้กาวดักหนู พอหนูมาติดก็ใช้เทียนจุดไฟรนไปที่หน้าของหนู ไฟก็ไหม้หนวด โดนตาของหนูจนตาย และยังมีใช้ไฟเผาพวกมดด้วยครับ

เคยทำหมันชายมาไม่น้อยกว่า1,000 คน ตอนนั้นเป็นโครงการของรัฐบาลให้ควบคุมประชากร โดยได้แจกผ้าขาวม้าคนละ1ผืน และมีเหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่งไปทำแท้งที่อื่นมา หลังจากนั้นหลายวันเด็กที่ตายในท้องยังไม่ออกแล้วผู้หญิงคนนั้นเกิดอาการปวดท้องจึงให้คนมาตามให้คุณพ่อตาไปช่วยเอาเด็กออก ตอนนั้นอายุครรภ์ 6เดือน เด็กเริ่มเน่า โดยคุณพ่อตาช่วยดึงเอาเด็กออกมาเป็นชิ้นๆเลยครับ เหตุการณ์นี้ทำให้คุณพ่อตารู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในการทำแท้งมาโดยตลอดครับ

เมื่อก่อนคุณพ่อตาได้เคยฉีดยาคนไข้มาเยอะมาก ประกอบกับท่านเป็นคนมือหนักทำให้คนไข้เจ็บ ผลกรรมจากตรงนี้ทำให้ทุกวันนี้ท่านต้องมาฉีดยาตัวเองทั้งเช้าและเย็น วันละ2ครั้ง เพราะต้องฉีดอินซูลินควบคุมเบาหวานครับ

และผมคิดว่าอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณพ่อตาเป็นไวรัสตับอักเสบซีและมะเร็งตับ เพราะเมื่อก่อนท่านได้ทำอาชีพค้าขายด้วยโดยได้ขายเหล้า บุหรี่ ทั้งขายส่งและขายปลีกครับ โดยที่ตัวท่านเองก็ไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ ซึ่งประเด็นนี้ได้บอกท่านแล้วแต่ท่านยังไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่

หลังจากที่ท่านได้ชมบารมีพระศรีอาริย์ โดยช่วงที่เดินผ่านท่านอาจารย์ ปัญหาสายตาที่พร่ามัวมองไม่เห็นตัวหนังสือด้านหลังท่านอาจารย์เห็นเป็นเพียงสีเขียวๆเป็นปรื้นๆ กลับเห็นได้ชัดเจนขึ้นและสามารถอ่านเป็นตัวหนังสือได้ครับ

คุณพ่อท่านขอกราบขอบพระคุณบารมีพระศรีอาริย์ ท่าน อ.อุบลและเทวดาที่รักษาท่าน อ.อุบลทุกพระองค์ และท่านตั้งใจจะรักษาศีล5 เพราะเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรมครับ กราบขอบพระคุณครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 19:11:35


ความคิดเห็นที่ 340 (1631150)

ขออภัย

คุณก๊อต + คุณพจน์ ด้วยค่ะ

อ.อุบล

ได้ย้อนไปอ่าน ธรรมทาน ดังกล่าว

ก่อนหน้าที่คุณก๊อตมาเขียนแล้ว

 

และตั้งใจจะมาขอโทษ

ที่จริงเขาเขียนเร็วกว่าใคร

แต่ไปหาว่าเขาไม่เขียน

ทั้งที่อ่านมารอบหนึ่งแล้ว แต่ลืม (สว.)

 

แล้วก็อ่าน คห.อื่น

เรื่อยมา จนมาเจอ คุณก๊อต

มาเขียนก่อนซะแล้ว

 

ที่จริง

คุณก๊อต + คุณพจน์

เป็นสุดยอดการเขียนธรรมทาน

ทั้งคู่เลยค่ะ

และอีกอย่างหนึ่ง

เป็นคนที่ ทุ่มเท จริงจังมาก

ในการทำบุญแรงกาย

มีวินัยสูงมาก

ในการมาร่วมกิจกรรมกับ

บ้านสวนพีระมิด

 

แสดงละครก็เก่ง

ตีบทแตกกระจุยทั้งคู่

 

และ

ตั้งใจปฎิบัติตาม

คำสั่งสอนของพระพุทธองค์

เป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตัว

คนอย่างนี้แหละ

ที่

ชาติต้องการ

และ

เหมาะที่จะอยู่ในยุค

พระศรีอาริย์

อย่างยิ่ง

จ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 19:59:26


ความคิดเห็นที่ 341 (1631174)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ครับ ผมและคุณพจน์ได้อ่านที่ท่านอาจารย์เขียนแล้วรู้สึกอายจังเลยครับ เพราะเราทั้งสองคนยังรู้สึกว่าตัวเองยังเลวอยู่มากครับ ยังดีไม่ได้ถึงครึ่งของที่ท่านอาจารย์เขียนเลยครับ

ที่ผมและคุณพจน์สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ก็เพราะคำสอนของท่านอาจารย์ และท่านอาจารย์ได้ปฏิบัติให้ดูให้เห็นเป็นตัวอย่างครับ ผมและคุณพจน์จะตั้งใจทำความดีในทุกทางให้ดียิ่งๆขึ้นไปครับ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ/ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 22:14:53


ความคิดเห็นที่ 342 (1631200)

 กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

 

ที่ลูกเข้ามาเขียนธรรมทานล่าช้า

 

**********

 

ธรรมบำบัด+ชมบารมีพระศรีอาริย์+เตือนภัยพิบัติ กทม.

เมื่อวันที่ 21-9-55

อันดับแรกขออนุโมทนา&ขอบคุณ

ผศ.ดร.จิ๋ม + คุณธนา

ได้มีมุทิตาจิต

เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมครั้งนี้

เพื่อชาวกทม.+ปริมณฑล

และผู้ที่สนใจทั่วไป

กราบอนุโมทนา

ท่านอาจารย์อุบล อ.มงคล คุณท็อป

พร้อมทั้งทีมงานทุกท่าน

ที่เมตตากับลูกหลานทุกคน

ท่านอาจารย์เล่าว่า

ท่านมี หลวงพ่อเสงี่ยม โอภาสี ครูคนแรก

ที่สอนพระกรรมฐาน

(รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ หลีกเลี่ยงอบายมุขทั้ง 6 )

ขออนุญาตขยายความเพื่อเตือนใจตัวเองอีกครั้งค่ะ

อบายมุข หมายถึง ช่องทางแห่งความเสื่อม ,ทางแห่งความพินาศ,หรือเหตุให้เกิดความย่อยยับแห่งโภคทรัพย์ เป็นสิ่งที่ควรละเว้น ประกอบด้วย

1. ติดสุราและของมึนเมา มีโทษ 6 ประการ

1.1 เสียทรัพย์ คือทรัพย์หมดไป ๆ เห็นชัด

1.2 ก่อการทะเลาะวิวาท

1.3 ทำลายสุขภาพ

1.4 เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียง

1.5 ไม่รู้จักอาย

1.6 บั่นทอนกำลังปัญญา

2. ชอบเที่ยวกลางคืน มีโทษ 6 ประการคือ

2.1 เป็นการไม่รักษาตัว

2.2 เป็นการไม่รักษาลูกเมีย

2.3 เป็นการไม่รักษาทรัพย์สมบัติ

2.4 เป็นที่ระแวงสงสัย เป็นผู้ต้องสงสัย

2.5 เป็นเป้าให้เขาใส่ความหรือเป็นที่เล่าลือของบุคคลอื่น

2.6 นำเรื่องเดือดร้อนมาให้ตนเองและครอบครัว

3. ชอบดูการละเล่น มีโทษคือทำให้การงานเสื่อมเสีย เพราะใจกังวลคอยคิดแต่การละเล่น และเสียเวลาเมื่อไปดูสิ่งนั้น

3.1 เต้นรำที่ไหนไปที่นั่น

3.2 ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น

3.3 ดีดสีตีเป่า(ดนตรี) ที่ไหนไปที่นั่น

3.4 เสภาที่ไหนไปที่นั่น

3.5 เพลงที่ไหนไปที่นั่น

3.6 เถิดเทิงที่ไหน ไปที่นั่น

4. ติดการพนัน เป็นนักพนัน เป็นคนที่ชอบเล่นการพนัน มีโทษ 6 ประการคือ

4.1 เมื่อชนะย่อมก่อเวร

4.2 เมื่อแพ้ก็เสียดายทรัพย์สินที่เสียไป

4.3 เสียทรัพย์ ทรัพย์หมดไป ๆ เห็นได้ชัด

4.4 เข้าที่ประชุม เขาไม่เชื่อถ้อยคำ

4.5 เป็นที่หมิ่นประมาทของเพื่อนฝูง

      4.6 ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของผู้ที่จะหาคู่ครองให้ลูกของเขา

5. คบคนชั่ว ทำให้เกิดโทษ โดยนำให้กลายไปเป็นคนชั่วอย่างคนที่ตนคบทั้ง 6 ประเภท คือ

5.1 นักการพนัน

5.2 นักเลงผู้หญิง

5.3 นักเลงเหล้าและสิ่งเสพติดต่าง ๆ

5.4 นักลวงของปลอม

5.5 นักหลอกลวง

5.6 นักเลงหัวไม้

6. เกียจคร้านทำการงาน มีโทษ โดยทำให้ยกเหตุต่าง ๆ เป็นข้ออ้าง ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่ทำการงานโภคทรัพย์ใหม่ก็ไม่เกิดโภคทรัพย์เก่าที่มีอยู่ก็หมดไป คืออ้างไปทั้ง 6 กรณีว่า

6.1 มักอ้างว่า หนาวนัก แล้วไม่ทำงาน

6.2 มักอ้างว่า ร้อนนัก แล้วไม่ทำงาน

6.3 มักอ้างว่า เย็นแล้ว แล้วไม่ทำงาน

6.4 มักอ้างว่า ยังเช้าอยู่ แล้วไม่ทำงาน

6.5 มักอ้างว่า หิว กระหายน้ำ แล้วไม่ทำงาน

6.6 มักอ้างว่า อิ่มนัก แล้วไม่ทำงาน

 

ขอบคุณที่มา dhammadelivery 

 

*************

 

ครูคนที่ 2 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เคยพท่าน 1 ครั้งหลังจากนั้นก็อ่านหนังสือของท่านเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้และได้ฝึกปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อโดยมิได้หวังผลจากการปฏิบัติ

และท่านอาจารย์อุบลก็ปฎิบัติได้ผลจริงตามคำสอนของหลวงพ่อ  

และพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ

ได้รับความรู้เรื่องพลังพีระมิด

ก่อนที่ท่านอาจารย์จะมาทำหน้าที่ตรงนี้

(1.เล่าทางทีวี 2.ช่วยเหลือผู้อื่น)

ท่านต้องเจอบททดสอบที่หนักที่สุดคือชีวิตของคนในครอบครัว

(อ.มงคล และคุณท็อป)

นับจากวันที่ท่านอาจารย์เริ่มเปิดบ้านสวนฯ

(9 ม.ค.53)เป็นต้นมา

ได้มีผู้คนที่มีความศรัทธา เดินทางมาจากที่ต่างๆ

มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯ ทำบุญด้วยปัจจัย อนุโมทนาหน้าจอ

ทำให้ได้สัมผัสถึงความอัศจรรย์ด้วยตัวเอง

คือหายจากโรคที่เป็นอยู่เช่น

โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคSLE

โรคมะเร็ง นิ้วล็อค หูอื้อ ไข้หวัด ภูมิแพ้ โรคผิวหนัง

ความเจ็บปวดทั่วร่างกาย

(ปวดหัว ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดเอว ปวดท้องเป็นต้น)

ปัญหาการงาน การเงิน ครอบครัว

ปัญหาทุกอย่างหายแบบฉับพลันทันที

ด้วยการสำนึกผิด สารภาพและไม่กลับไปทำอีก

สร้างบุญ อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรฯสม่ำเสมอ

และมีความกตัญญู ขอบคุณ&อุทิศบุญ

ให้เทวดาที่รักษาท่านอ.อุบล ทุกพระองค์

โรคที่เป็นอยู่นั้นก็จะหายแบบถาวร

แต่ถ้ากลับไปทำอีกอาการต่างๆก็กลับมาเหมือนเดิม

หรืออาจจะหนักกว่าเดิม

 

***********

   ธรรมมะจากท่านอาจารย์
   - อานิสงส์ของการทำทานมีตามลำดับจากน้อยไปมาก 
การทำทานกับพระพุทธเจ้า
การทำสังฆทาน
การสร้างวิหารทาน
การสร้างธรรมทาน
   - ทานที่มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่กว่าทานทั้งปวง คืออภัยทาน
(เลิกโกรธ เลิกแค้น เลิกทำไม่ดีกับคนอื่น)
วิธีการเลิกโกรธ : ต้องเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราเอง ช่างเขา 
คนเราต่างคนต่างมาเกิด คิดบวก
- ทาน จะมีอานิสงส์สมบูรณ์ เมื่อ
1.ผู้ให้ทานมีจิตบริสุทธิ์ 2.วัตถุทานบริสุทธิ์ 3.ผู้รับบริสุทธิ์

***********

สรุปสาเหตุการเกิดโรคต่างๆดังนี้ 
 

โรคธัยรอยด์ สาเหตุ โกหก ส่อเสียด นินทา ขี้โกรธ

 

โรคในช่องปาก กรดไหลย้อน สาเหตุ ชอบนินทา โกรธ สาระแน

 

โรคไวรัสตับอักเสบบี สาเหตุ ขี้โกรธ ทำผิดศีลทุกข้อ การแท้งลูก เลี้ยงสัตว์ไว้ขายหรือทรมานสัตว์

 
 โรคมะเร็งตับ สาเหตุ ฆ่าสัตว์ รู้เห็นการทำแท้ง ทำหมันสัตว์

 โรคเบาหวาน สาเหตุ การฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย เลี้ยงสัตว์ไว้ขาย 

โรคไขมันในเส้นเลือดสูง สาเหตุ โกรธ

 โรคในช่องท้อง สาเหตุ เจ้าชู้ ผิดศีลข้อ 3 การทำแท้ง การผิดสัจจะ
เอาของไม่ดีให้คนอื่นทาน ดื่มแอลกอฮอล์

 โรคนิ่วในถุงน้ำดี สาเหตุ ใช้ยาเบื่อ โกรธ โกหก ปากจัด ตอแหล

 โรคระบบทางเดินหายใจ สาเหตุ ขี้โกรธ ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย ฉีดพ่นยาฆ่าแมลง
 

  โรคหัวใจ สาเหตุ ทำให้คนอื่นเสียใจ เจ้าชู้

 โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สาเหตุ มีมโนกรรมไม่ดี
ฯลฯ


**********

- ให้ทำทานเต็มพิกัด รักษาศีล ทำสมาธิ( ความตั้งใจ)
แล้วจะเกิด

ปัญญา

********
พบดร.จิตราครั้งแรกในชีวิต ท่านแทนตัวท่านว่าครูทุกถ้อยคำที่ท่านมาพูดนั้น แฝงไว้ด้วยนัยยะ
ฟังแล้วตื่นเต้น + ตื้นตัน(จุก) ชวนให้ติดตามต่อไป
1.ตอนนี้เข้าสู่รอยต่อยุคพระศรีอาริย์แล้ว...
2.พระศรีอาริย์ มาเกิดแล้ว เป็นผู้หญิงและเป็นผู้ใหญ่แล้ว.....
3.ท่านอาจารย์อุบล.. มีความเกี่ยวข้องอย่างมาก
กับพระนางเนเฟอร์ตารี+องค์รามเสสที่2 
4.ต่อไปประเทศไทยจะเป็นเสาหลักของโลก
(ไทย ลาว เขมร รวมเป็นหนึ่งเดียว)
5.ท่านบอกว่าอยากไปกราบพระบาท...ในหลวงด้วยตัวเองว่า 
งานทุกอย่างที่พระองค์ทำนั้น บรรลุเป้าหมายแล้ว

**********
ก่อนหน้านี้เคยได้ยินอาจารย์แม่พูดว่า 

คนที่อาสาลงมาทำหน้าที่นั้นต่างคนต่างมาเกิด

อยู่กันละครอบครัว คนละอำเภอ คนละจังหวัด
ความคิดเห็นที่ 343 (1631202)

ขออภัย

คุณก๊อต + คุณพจน์ ด้วยค่ะ

อ.อุบล

ได้ย้อนไปอ่าน ธรรมทาน ดังกล่าว

ก่อนหน้าที่คุณก๊อตมาเขียนแล้ว

 

และตั้งใจจะมาขอโทษ

ที่จริงเขาเขียนเร็วกว่าใคร

แต่ไปหาว่าเขาไม่เขียน

ทั้งที่อ่านมารอบหนึ่งแล้ว แต่ลืม (สว.)

......................................

กราบอนุโมทนาในธรรม

ที่ท่านอาจารย์แสดง

ให้พวกเราได้เห็น ได้พิจารณา

และควรจะนำเอาไปเป็น

เยี่ยงอย่าง...อย่างแรง

ด้วยค่ะ


จริงๆทุกอย่างที่ท่านอาจารย์

ทำให้เห็นและเป็นให้ดู

ก็ล้วนแล้วแต่ เป็นสิ่งที่พวกเรา

นำเอาไปเป็นต้นแบบได้

ทุกอย่างอยู่แล้วนะคะ


ขนาดท่านเป็นระดับครูบาอาจารย์

เมื่อท่านพลาดไป

ท่านยังรีบมาเขียนขอโทษ

ขออภัยทันที

โดยไม่มีการแก้ตัว

หรือแกล้งทำเป็นเนียนๆเลย


แล้วระดับลูกศิษย์

มด ปลวกตัวน้อยๆอย่างพวกเรา

ที่เคยทำผิด ทำพลาดไป

ทำไมอัตตามันถึงได้หนา

และทำตัวพองใหญ่ซะจน

ไม่กล้าที่จะมากล่าว

"คำขอโทษ ขอขมา"

ได้หนอ

...........................................

แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีกับทั้งสองฝ่าย

คุณก็อตก็เพียงมาอธิบายทุกอย่าง

ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

 

แถมยังสบโอกาส

ได้มาเขียนธรรมทานเพิ่มเติมให้คุณพ่อตา

ได้รับบุญเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 05:31:39


ความคิดเห็นที่ 344 (1631205)

 ขออภัย

คุณก๊อต + คุณพจน์ ด้วยค่ะ

อ.อุบล

ได้ย้อนไปอ่าน ธรรมทาน ดังกล่าว

ก่อนหน้าที่คุณก๊อตมาเขียนแล้ว

 

และตั้งใจจะมาขอโทษ

ที่จริงเขาเขียนเร็วกว่าใคร

แต่ไปหาว่าเขาไม่เขียน

ทั้งที่อ่านมารอบหนึ่งแล้ว แต่ลืม (สว.)

......................................

กราบ กราบ กราบ

ท่านอ.ที่ได้ให้การอบรมส่งสอนลูกหลาน

และ

เป็นแม่แบบ แบบอย่างในการลด ละ เลย อัตตาในตนเอง

ให้ลูกหลานได้ปรับจิตและไปปฏิบัติตามคะ

 

ต่อไปจะจดจำเหตุการณ์นี้ไว้

ว่าแม้แต่ท่านอ.ที่สูงสุดยังไม่มีอัตตาในตนเอง

แต่เราเป็นใครทำไมยังยึดอัตตาในตนเองอยู่

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 05:52:24


ความคิดเห็นที่ 345 (1631216)

         จากการที่ป้าได้เดินทางไปเข้าร่วมธรรมะบำบัดสัญจรที่ กทม. ป้าขับรถออกจากบ้านและถูกเด็กนักเรียนขับรถจักรยานยนต์ตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด  คิดว่าอย่างไรเสียต้องชนแน่ๆ คงไม่ได้ไปกรุงเทพแล้ว  ก็เลยใช้คาถา อ. อุบล ช่วยด้วย  เหลือเชื่อจริงๆ  รถรอดมาได้แบบเส้นยาแดงเดียวจริงๆ  ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงสุดมากๆ  พอไปถึง บขส.  ก็ยังเกือบถอยรถไปชนกับเสาปูนอีก  วันนี้ฉุกเฉินจริงๆ แต่ก็รอดมาได้  เพราะบารมีของพระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดโดยแท้  ได้ชมบารมีของพระศรีอาริย์  การบำบัดทุกข์ให้สมาชิกบ้านสวนและผู้เข้าร่วมธรรมะบำบัดในครั้งนี้  ที่ทุกข์ทรมานตั้งแต่หัวจรดเท้า  ทั้งโรคเบาหวาน  โรคหัวใจ  คุณไสย ฯลฯ  น่าแปลกมากที่หายเจ็บปวดโดยฉับพลันทันที  ถ้าไม่เชื่อให้ไปพิสูจน์ได้ที่บ้านสวนพีะมิด  จังหวัดนครนายกนะค่ะ

          กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงและอนุโมทนากับธรรมทานของทุกท่านด้วยนะคะ  ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐสินี พสิษฐ์ศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 07:09:04


ความคิดเห็นที่ 346 (1631236)

 

อ่านธรรมทานของพ่อตาน้องก๊อตแ้ล้ว 

และที่ท่าน อ.อุบลพูดถึงน้องทั้งสองคนแล้ว

ก็เห็นจริงตามนั้นเลยค่ะ ไม่ต้องพูดมาก

น้องทั้งคู่ทำให้ผู้คนได้เห็นเองค่ะ

ส่วนเรื่องราวของคุณพ่อน้องพจน์นั้น

ทำให้พี่นึกถึงแม่ตัวเอง แม่พี่

ก็ค้าขายเหล้าเบียร์บุหรี่มาเป็น 10 ปี

ทุกวันนี้แกก็ต้องมาทุกทรมาน กับโรคตับแข็ง

วันดีคืนดี ก็ปวดตัว ปวดหัว ปวดขา ปวดแขน

เป็นประจำ นอนๆ อยู่ก็บอกปวดมาก

พยายามให้แกนึกกรรมแล้วสารภาพกรรม

แกก็นึกไม่ค่อยออก จนวันหนึ่งคุณลุงมาเยี่ยม

และได้มีโอกาสคุยกับแม่ถึงเรื่องในอดีตกัน

ปรากฎว่า สมัยแม่ยังสาวๆ นั้น

ได้มีนิสัยเป็น นักเลงประจำตลาดด้วย

ใครมีเรื่องมีราว ก็ยกพวก พร้อมพี่ชายไปตีเขา

เคยไปตีเขาที่ หัวหมากก็ไป (บ้านอยู่ เขตดุสิต)

แม่บอกว่าเขามาหาเรื่องเรา

เราก็บุกไปตีเขา ตีมาเยอะ 

ใช้ทั้งไม้ ทั้งเหล็ก ตีหัวเขา ตัว แขน ขา

เรียกว่าคว้าอะไรได้ก็ตีค่ะ

ตอนแกสารภาพ ก็ขอบารมีพระศรีอาริย์

ช่วยอาการเจ็บป่วยของแก

ผลคือบารมีท่านทำให้แม่ดีขึ้นมากจริงๆค่ะ

แม่ตุ้ยเป็นตัวอย่างคนที่ได้รับผลของกรรม

ได้ชัดเจนมากเลยค่ะ

ทุกวันนี้ท่านก็กำลังได้รับผลของกรรมอยู่ค่ะ

วันที่เขามาส่งผล ก็เป็นวันที่เราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว

ได้รับรู้แล้วเลยทำให้เรากลัวกับเวรกรรมจริงๆ ค่ะ

และขอเอาใจช่วยกับทุกท่าน ที่หายเจ็บป่วย

จากงานธรรมบำบัดนี้นะคะ

กราบขอบพระคุณบารมีของพระศรีอาริย์

และสิ่งศักดสิทธิทุกพระองค์ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริง ๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 09:29:00


ความคิดเห็นที่ 347 (1631379)

เมื่อสักครู่ ป้าดวงจันทร์  ดวงเกิด ได้โทรศัพท์มาหากุหลาบบอกว่ามีเรื่องปาฏิหารย์จะเล่าให้ฟัง  ก็เลยบอกว่าป้าเล่ามาหนูอยากฟัง  ป้าได้รับข่าวดี คือป้าและน้องชาย( หลานเขย ของกุหลาบ) ได้ขึ้นค่าแรงแล้ว  ทั้งๆที่เคยขอแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อนเค้าไม่ยอมขึ้นให้  และไม่ง้อให้ทำ  ( ป้าทำแปรงขัดห้องน้ำส่ง ) พอกลับจากไปรับบารมีพระศรีอาริย์มาก็เลยโทรไปขอเค้าอีก  คือปรกติเค้าให้โหลละ  15  ก็ขอเค้าเป็นโหลละ 20 เพราะมันก็ทำยาก  เมื่อวานนี้เค้าโทรมาหาว่าขึ้นให้แล้ว แต่ได้โหลละ 18 บาท  ป้าดวงจันทร์และหลานเขยดีใจมาก  และบอกว่าปาฏิหารย์มาก ซึ่งป้าบอกว่าเป็นเพราะตัวเองได้รับความช่วยเหลือจากพระศรีอาริย์แน่ๆ  ป้าก็เลยโทรมาเล่าด้วยดีใจ  ถึงจะไม่ถึงโหลละ 20 ก็ตาม  ก็ถือว่าได้เยอะอยู่  ป้าก็ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอ.อุบลยกใหญ่เลยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 15:43:06


ความคิดเห็นที่ 348 (1631417)

 

ธรรมทาน  กิจกรรมธรรมบำบัญสัญจร  ชมบารมีพระศรีอริยะ  เตือนภัยพิบัติขั้นวิกฤต  21 ก.ย.  2555   โรงแรมเดอะแทรเวลเลอร์

บรรยากาศในงานมี การสนทนาธรรมทาน สารภาพกับจี้องค์เทพสฟิงค์

งานเริ่มเวลา 13.00 น.

-ธรรมทานจากน้อง  จ.พังงา  -  เล่าเรื่องอาการปวดหลัง ปวดเอว  ได้สารภาพกับจี้องค์เทพสฟิงค์ เกิดจากเหตุการณ์พ่อปกป้องจากงูจงอาง ด้วยการขว้างก้อนอิฐโดนงูตาย ความกลัว เกลียดแมลงสาป เจอกระทืบจนเละ อาการปวดดีขี้น เมื่ออ.อุบลอาราธนาบารมีพระศรีอริยะมาสถิต  แล้วได้เดินผ่านอ. อาการปวดหายไป

-ธรรมทานจาก ดร.จิ๋ม  -  เล่าเรื่องอาการป่วยเป็นโรคโปลิโอ ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ได้มาสร้างบุญกับบ้านสวนฯ ทำให้ทราบถึงสาเหตุ ว่าเป็นเพราะขับรถชนคนแล้วหนี ใช้ปืนยิงขาคนจนพลุน จึงได้มาสร้างบุญกับบ้านสวนฯอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาการทางกายขาเดินตรงขึ้น จนเห็นได้อย่างชัดเจน

-ธรรมทานจากคุณธนา  -  เล่าเรื่องการใช้เท้าทำไม่ดี เตะ กระทืบ เขี่ย เปิด ปิด หันเท้าไปทางพระพุทธรูป ทำให้ประสบอุบัติเหตุ เดินขาไม่เท่ากัน นั่งขัดสมาธิไม่ได้  เมื่อได้ไปสร้างบุญกับบ้านสวนฯ พบอ.อุบล ทำให้ขากลับมาเป็นปกติ เดินปกติ นั่งขัดสมาธิได้

-อ.อุบล  ชี้ให้เห็นการกระทำที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วย มีดังนี้

   กรดไหลย้อน / โรคในช่องปาก  -  ทำผิดศีลข้อ 4  ดุด่า พูดคำหยาบคาย นินทาว่าร้าย  พูดส่อเสียด

   ปวดเอว / ปวดหลัง  -  ทำผิดศีลข้อ 1 และ 3  นอนตื่นสาย ขี้เกียจทำงาน

   ไวรัสตับอักเสบ บี  -  ทำผิดศีลทุกข้อ  กรรมรวมตัว  ทำแท้ง  ฆ่าสัตว์  โกรธอย่างรุนแรง

   เบาหวาน  -  เลี้ยงสัตว์ให้ผู้อื่นฆ่า

   ไขมันสูง / ความดัน  -  โกรธแรง

   ปวดประจำเดือน / เนื้องอกในรังไข่  -  เจ้าชู้

   ปัญหาสายตา  -  ดูสิ่งลามกอนาจาร

   เนื้องอกในถุงน้ำดี  -  ใส่ยาเบื่อในอาหาร

   ไซนัส  -  ฆ่าแมลง

   โรคหัวใจ  -  ทำให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์ใจ เสียใจ

   เยื่อหุ้มสมองอักเสบ  -  คิดเรื่องชั่ว

โรคภัยต่างๆที่เกิดขึ้น เกิดจากการตัวเราเองทำความชั่ว ไม่ทำความดี ไม่รักษาศีล ทำให้ต้องพบกับความทุกข์แบบนี้  ท่านอ.อุบลทำให้เราได้มีโอกาสเห็นทางสว่าง หนทางรอดจากโรคภัย เริ่มต้นด้วยการสำนึกในความผิดที่ตัวเองทำ สารภาพอย่างจริงใจ ละเว้นการทำชั่ว รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ทำบุญกับเนื้อนาบุญ ค่ะ

กราบขอบพระคุณ อ.อุบล  อ.มงคล  และคุณท๊อปเป็นอย่างสูงค่ะ

ขอขอบพระคุณ และอนุโมทนาบุญ กับ ดร.จิ๋ม  คุณธนา  คุณแมว และทุกๆท่านที่ ร่วมจัดกิจกรรมธรรมบำบัญในครั้งนี้ด้วยค่ะ

                                                     

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 19:09:04


ความคิดเห็นที่ 349 (1631451)

 ธรรมสัญจร ที่กรุงเทพฯ 21 ก.ย.55

        ก่อนถึงเวลาบ่ายโมง มีผู้มาร่วมงานมาก่อนเวลาจำนวนหนึ่ง หลายคนได้ทำหน้าที่เป็นพ่อหมอแม่หมอกัน คุณธนา ประชาสัมพันธ์ถึงผู้ร่วมงานต้องการสารภาพบาปเพื่อบำบัดการเจ็บป่วยที่เป็นมา ผมเห็นคุณหนึ่ง เจิดหทัย คุณฉันทนา ดร.จิ๋ม ได้เป้าหมายเข้าหาผู้แสดงตัวต้องการบำบัดทันที

        อ.อุบล บอกคุณเหมี่ยว ให้ดูแล คุณซู่เจิน ที่บอกว่ากำลังปวดท้อง คุณเหมี่ยวพาคุณซู่เจิน ไปนั่งแถวริมติดผนัง ผมกะว่าจะถ่ายรูปไว้ แต่ผมสังเกตเห็นคุณซู่เจิน มีอาการปวดท้องตัวงอเป็นกุ้งเลยครับ หน้าตาบอกอาการว่าปวดมาก ต้องบิดตัวไปมา จึงต้องเฝ้าดูอาการ ได้เข้าไปช่วยคุณเหมี่ยวซักถามคุณซู่เจิน

        คุณซู่เจิน บอกว่า.. เคยปวดแต่ไม่หนักขนาดนี้...    แสดงว่าการปวดครั้งนี้ต้องมีเหตุ แน่ ๆ คุณซู่เจิน คิดว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรครับ ...ผมถาม

        คุณซู่เจิน บอกว่า.. เป็นโรคกระเพาะ  หรือว่าผิดสัจจะว่าจะทานอาหารมังสวิร้ต แต่ก็ยังทานเนื้อสัตว์อยู่เลย เลยทำให้ปวดท้องอย่างรุนแรง

        คุณเหมี่ยวถาม คุณซู่เจิน ว่า... เชื่อกฎแห่งกรรมไหม และเชื่อว่าอาการปวดท้องคือผลของกรรมที่กำลังให้ผล หรือไม่   คุณซู่เจิน ตอบทันที่ว่า เชื่อค่ะ เชื่อค่ะ

        งั้น คุณซู่เจิน ต้องพิสูจน์ค่ะ คุณซู่เจินนึกกรรมของตนเองได้ไหมว่าเคยทำร้ายสัตว์ หรือคนมาไหม

        คุณซู่เจิน บอกว่าเคย ใช้ยาเบื่อหนู ใช้ยาฆ่าแมลงสาบ ฆ่ามด เคยรู้เห็นการทำแท้ง

        ขณะที่สารภาพ เธอเลอ เสียง เอิ๊ก เอิ๊ก ทั้งลมล่างลมบน ครับ เธอจะเขินเล็กน้อยถึงปานกลาง เธอบอกว่า ดีขึ้น 50%เลยครับ

        แสดงว่าถูกทางแล้วใช่ไหมครับคุณซู่เจิน   ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ มีอีกค่ะ ดิฉันเคยโกหกค่ะ เธอรีบพูดออกมา แต่ไม่บอกว่าโกหกใครเรื่องอะไร เธอไม่พูดต่อ

        คุณซู่เจิน บอกว่า เคยเป็นชู้กับผัวชาวบ้าน เดี๋ยวนี้เลิกแล้วค่ะรู้สึกผิดค่ะที่ทำ เคยพูดหว่านล้อม เพื่อให้ได้ทรัพย์จากผู้อื่น  และกินเหล้ากินเบียร์ เลี้ยงคนอื่นและคนอื่นเลี้ยง   คุณซู่เจิน สารภาพถึงตอนนี้บอกว่า ดีขึ้นเยอะเลย  และบอกว่านึกกรรมไม่ออก และได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ดีขึ้น90 % เลยครับ จึงขอกราบ ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดและอาจารย์อุบล ที่ทำให้อาการดีขึ้น

        จะเห็นได้ว่าคุณซู่เจินไม่หาย ผมได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า คุณซู่เจิน ไม่มีศรัทธากับผู้ทำการบำบัด ต้องการจะรับการบำบัดจากอ.อุบลเท่านั้น สังเกตจากการตอบคำถาม การสารภาพแบบไม่ใส่ใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่เต็มที่กับการสารภาพของตนเอง ทั้งที่พูดออกมาเคยโกหก มีขยักเอาไว้ไม่พูดต่อ บอกว่าคิดไม่ออก  ผมเองก็จนใจ คุณซู่เจิน เลือกเองครับที่จะพอแค่นี้

        คุณซู่เจิน ขอเช่าจี้สฟิ้งซ์ กำไว้ตลอด พอจะมองเห็นเธอยิ้มบ้าง เธอมาบอกว่า ตอนกำจี้สฟิ้งซ์ไว้ อาการดีขึ้นมากเลย และเธอก็ขึ้นไปรับบารมีพระศรีอาริย์ โดยเดินผ่านอาจารย์อุบล และเธอบอกว่า ปวดท้องหายแล้วค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-28 02:31:14


ความคิดเห็นที่ 350 (1631452)

 บรรยากาศระหว่างการบรรยาย

ผู้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เดินทางมาจากหลายจังหวัด เช่น พังงา เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สุราษฎร์ธานี ฯลฯ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย  หลากหลายอาชีพ ผู้ร่วมงานที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไปจะมีมากถึง 80 %

ผู้ที่ยังไม่เคยไปบ้านสวนพีระมิด ก็มีจำนวนมากกว่าผู้ที่เคยไปบ้านสวน มีคนจำนวนมากที่สนใจกิจกรรมของบ้านสวนพีระมิด เหมือนกับว่าการได้รับข้อมูลข่าวสารบ้านสวนพีระมิด ว่าการบำบัดโรคที่หายฉับพลันทันที เป็นอย่างไร การมาครั้งนี้เป็นการมาพิสูจน์ด้วยตนเอง

ผู้ร่วมกิจกรรม ผู้สูงวัยแถวหน้าๆ และแถวอื่นๆ จะสนใจฟังเป็นพิเศษ จดจ่อกับการฟัง และจดบันทึกไว้ ยิ่งช่วง อาจารย์อุบล ได้ถามผู้ร่วมกิจกรรมว่า ใครป่วยเป็นโรคอะไรบ้างให้ยกมือ  แล้วอาจารย์อุบลแจงให้ฟังว่า อาการเจ็บป่วยเป็นโรคที่ติดตัวมาวันนี้เกิดจากการผิดศีลมาทั้ง 5 ข้อ  เช่น เป็นโรค

ปวดหัว เกิดจาก    คิดไม่ดี คิดร้ายกับผู้อื่น ตบตี ทุบหัวคนหัวสัตว์

ปวดคอ ปวดไหล่ เกิดจาก การทำแท้ง รู้เห็น แนะนำ ให้เงิน บอกสถานที่ และไม่ห้ามคนไปทำแท้ง ขี้เกียจ ชอบนอน ตีบ่า ตบไหล่ผู้อื่น

ปวดหลังปวดเอว เกิดจาก การผิดศีลข้อ กาเม มีชู้มีกิ๊ก ทำแท้ง ตีงู ตีคน

ปวดขา ปวดเท้า เกิดจาก การหันเท้าไปทางพระ ใช้เท้าแทนมือ เดินไปที่ไม่เป็นกุศล ใช้เท้าทำร้ายเหยียบย่ำทำลาย สัตว์ สิ่งของ

โรคไทรอยด์ กรดไหลย้อน เจ็บคอ เสียงแหบแห้ง เกิดจาก การพูดโกหก ตอแหล นินทา ด่าเก่ง พูดคำหยาบ พูดยุยงให้คนทะเลาะกัน พูดเพ้อเจ้อ ส่อเสียด

โรคมะเร็ง ไวรัสตับอักเสบ เบาหวาน เกิดจาก  การฆ่าสัตว์ จำนวนมาก ฆ่าเป็นนิสัย ฆ่าเป็นอาชีพ ทำแท้ง รู้เห็น สนับสนุน มีส่วนในการทำแท้ง

สายตาสั้น สายตายาว สายตาพร่ามัว เกิดจาก การดูภาพลามก หนังโป้ แอบถ้ำมอง ใช้สายตาด่าจิก มองค้อน

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เคยไปบ้านสวนพีระมิด ได้แชร์ประสบการณ์หายจากอาการป่วย บางคนหายโดยการไปสร้างบุญแรงกาย ทำบุญด้วยปัจจัยสิ่งของ และอนุโมทนาหน้าจอ

อ.อุบล บอกว่า พลังของพีระมิด เป็นพลังที่มีส่วนในการทำให้ร่างกายแข็งแรง หายจากโรคภัยได้ โดยใช้ควบคู่กับความดีและการรักษาศีล อีกทั้งยังส่งเสริมให้การทำสมาธิได้ดียิ่งขึ้น 

การอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์  ตอนที่อ.อุบลบอกว่า ผู้ที่อยากสัมผัสพระบารมี ให้ยืนขึ้น  ทั้งห้องประชุมยืนทั้งหมด อ.อุบลบอกว่า การอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ทำได้จริงไหม ต้องพิสูจน์ได้ ด้วยการสัมผัสได้ โดยการหายจากอาการเจ็บป่วย ด้วยการตั้งแถวสองแถวเดินผ่าน อาจารย์อุบล บางคนหายตั้งแต่ยืนข้างล่าง บางคนหายตอนเดินมาถึงข้างหน้า บางคนเดินผ่าน เช่น

ดร.เพียงจันทร์ ที่เคยร่วมกิจกรรมที่ ม.มหิดล ใช้จี้สฟิงซ์กับรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย กับคุณแม่ ที่เป็นงูสวัสดิ์เป็นเริม คุณแม่หายป่วย  ดร.เพียงจันทร์ มีอาการคัน หายหมดเลย

ดร.จิตรา , ดร.อู๋ แขกรับเชิญ ท่านมีความรู้เรื่อง อียิปต์และพลังงานพีระมิด   ท่านได้มาพูดเปิดเผยถึงอาจารย์อุบล เป็นผู้มีความเกี่ยวข้องกับพีระมิด และอียิปต์โบราณ เป็นอย่างมาก กิจกรรมที่อาจารย์อุบลกำลังทำอยู่นี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ทุกคนต้องตั้งใจฟังและต้องฟังด้วยความเคารพ เหมือนดร.จิตราจะบอกว่า อ.อุบล มีบารมี สมเด็จองค์ปฐม สิ่งศักดิ์มากมาย มาเป็นศักดิ์ขีพยาน ในการ บำบัดรักษาผู้เข้าร่วมกิจกรรม ท่านรับสัมผัสได้ อยากบอกให้ทุกคนได้รู้ และอยากให้ทุกคนสัมผัสได้เช่นกัน

การชมพระบารมีของพระศรีอาริย์ ดร.จิตราเชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจ ว่าเป็นจริง ยุคของพระองค์ท่านจะไม่มีการเจ็บป่วย มีแสงสว่างอันบริสุทธิ์ เป็นอยู่ด้วยสันติสุข 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-28 02:37:06


ความคิดเห็นที่ 351 (1631505)

       ขอร่วมอนุโมทนาและขอบคุณอีกครั้งกับดร.จุ๋ม คุณธนา ที่เป็นเจ้าภาพจัดงานในวันนั้น

ซึ่งเกิดจากประสบการ์ณของทั้งสองท่านที่สัมผัสกับความสุขและหายป่วย อยากให้ผู้คนจำนวนมากที่ไม่ได้ไปบ้านสวนได้สัมผัสกับความสุขแบบนี้บ้าง  ด้วยการพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์โดยใช้หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับตาม  ซึ่งท่านทั้งสองพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง ไม่ได้เชื่อถืออย่างงมงาย และอยากให้ทุกคนพ้นทุกข์

  ในงานวันนั้นมีแขกรับเชิญพิเศษที่อ.อุบลเชิญมา คือ อ.จิตราและอ.อู๋  ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องมนุษย์ต่างดาว พลังพีระมิต เรื่องอียิปต์โบราณ (เกี่ยวข้องกับอ.อุบลอย่างมาก )และเรื่องอนาคตของประเทศไทยอีกมากมาย

  การแสดงธรรมบำบัด แสดงให้เห็นว่าการผิดศีลแต่ละข้อมีผลกรรมอย่างไร อาการเจ็บป่วยทั้งภายในและภายนอก เกิดจากเหตุ เช่น

    ไทรอยด์  - โกหก

    เบาหวาน -  ฆ่าสัตว์ เลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อฆ่า, ทำแท้ง

    ไขมันในเลือดสูง -  เลิกโกรธ หายทันที

    ปวดประจำเดือน  ซีทในรังไข่ มดลูก - เจ้าชู้ ผิดศีล ข้อ 3 เมื่อไหร่ขอขมากับพระพุทธเจ้า รักษาศีล ข้อ 3 หายได้

    สายตาสั้น สายตายาว - เอาสายตาไปดูหนังโป๊ รูปโป๊ หรือใช้สายตามองจ้อง มองค้อน จิกผู้อื่น

    ไซนัสอักเสบ - ทำผิดศีลมาทุกข้อ,โกรธ,ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยพวกแมลงมาเยอะมาก ฉีดยาฆ่าแมลง

    โรคหัวใจ - เกิดจากทำให้ผู้อื่นเสียใจมากๆ อาจจะเป็นพ่อแม่ เพื่อน ผู้มีพระคุณ

    ไวรัสตับอักเสบ - เกิดจากกรรมรวมตัวเนื่องจากผิดศีลมาทุกข้อ,โกรธรุนแรง,มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง ทำให้ผู้อื่นเสียเลือด ทำอาชีพเกี่ยวกับการฆ่าสัตว์มาเยอะ

    กรดไหลย้อน,เยื่อหุ้มสมองอักเสบ - เกิดจากมโนกรรม คิดไม่ดี ทำร้ายศีรษะคนและสัตว์

ดังนั้น   การผิดศีลแต่ละข้อมีผลกรรม 

      ผิดศีลข้อที่ 1  พระพุทธเจ้า ท่านมิให้ฆ่าคน ฆ่าสัตว์ ทรมานคนและสัตว์ ถ้าผู้ใดทำจะทำให้เจ็บป่วย เป็นผู้หญิงไม่สวย เป็นผู้ชายไม่หล่อ

      ผิดศีลข้อที่ 2  ลักทรัย์ ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์โดยไม่เต็มใจ ชอบของฟรี ใช้เล่ห์เหลี่ยมอุบายใช้เทคนิคทุกอย่างในการทำมาหากิน ถือเป็นการผิดศีลขั้น มหาศีล

      อาจารย์ได้อธิบายว่า ศีลมี 3 ขั้น คือ 1.จุลศีล 2.มัชฉิมศีล 3.มหาศีล

ส่วนผู้ที่พูดจาเพ้อเจ้อ ไร้สาระ หลอกลวง ถือว่าผิดศีลขั้นมหาศีล

ผู้ที่พูดชอบพูดเรื่องความรัก,อยากรวย พระพุทธเจ้า ท่านบอกว่าเป็นเดรัชฉานคาถา  ผิดศีลขั้นมัชฉิมศีล

ผู้ที่ชอบของฟรี ,ชอบกินฟรี, โลภ , เอาของวัดกลับบ้าน ไปที่ไหนอยากได้ของเขา  ทำให้ลำบากยากจน มีหนี้สิน

  แม้แต่การทิ้งขยะ ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะลงแผ่นดิน ก็ถือว่าเป็นผู้ที่ทำผิดต่อชาติต่อแผ่นดิน

เป็นหนี้แผ่นดิน  ทุกคนต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยการอย่าเป็นหนี้แผ่นดินอีก  ถ้าเป็นหนี้ก็ต้องพยายามใช้  ยืมเงินใครก็ต้องใช้ มีน้อยก็ให้น้อย แต่ต้องใช้

          ผิดศีลข้อที่ 3  จะทำให้บริวารกระด้างกระเดื่อง  ลูกดื้อ

          ศีลผิดข้อที่ 4  โกหก ทำให้ปากมีกลิ่นเหม็น พูดจาไม่มีคนเชื่อถือ ขายของดีบอกว่าดีก็ไม่มีโครเชื่อ จะถูกหลอกถูกโกง ผลกรรมจะไปเลือกเชื่อเฉพาะผู้ที่หลอกเรา ผู้ที่บอกเราเรื่องดีๆ เราจะไม่เชื่อ  

          ผิดศีลข้อที่ 5 ดื่มสุรา ของมึนเมาทุกชนิด จะทำให้เป็นโรคปวดหัว โรคเส้นประสาท โรคบ้า  โรคอัลไซเมอร์ หลงๆลืมๆสติสัมปะชัญญะไม่ครบถ้วน

         ส่วน อบายมุข ได้แก่ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน  ดูการละเล่น เล่นการพนันและคบคนชั่วเป็นมิตรนั้น จะทำให้ชีวิตไม่สมปรารถนาทุกอย่าง

        ถ้าอยากเป็นผู้ที่สมหวังทุกอย่าง คือแค่คิดก็เป็นอย่างนั้น เช่นเพียงแค่อยากนั่งก็มีเก้าอี้มารองรับ  คิดอยากได้สิ่งใด สิ่งเหล่านั้นก็ได้ เหมือนดังเช่นลูกบ้านสวนหลายๆท่าน คือท่านต้องมีอารมณ์ใจของเทวดาคือมีเทวธรรม ธรรมะที่ทำให้คนธรรมดาเป็นเทวดาได้ คือ หิริ-โอตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป ละอายผลของบาป

       สิ่งที่อาจารย์ท่านใช้ธรรมบำบัดในครั้งนี้คือ ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา

       ท่านให้ทำทานให้เต็มพิกัด

       คนที่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่มีใครร่ำรวย

       คนที่ชอบของฟรี ไม่ม่ใครหลุดพ้นจากกรรมปัญหาทางการเงินได้  ให้เลิกใช้อุบาย เล่เหลี่ยมทางการค้า เทคนิคการขายซึ่งพระพุทธเจ้า ท่านไม่เคยสอน มันไม่ใช่สิ่งจีรังยั่งยืนสู้ความบริสุทธิ์ใจไม่ได้  ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา

      รักษาศีลอย่างมั่นคง

      ทำสมาธิ  สมาธิแปลว่า ตั้งใจมั่น การตั้งใจจะทำให้ได้รับข้อมูลไม่ผิดพลาดหรือบิดเบือน

      คนที่รักษาศีลก็จะมีสมาธิ คนที่สมาธิไม่ดีให้ย้อนกลับไปดูว่า บกพร่องศีลข้อไหน ถ้าศีลบริสุทธิ์ จิตจะสงบเอง ถ้าสมาธิดี จะฉลาดไม่เสียรู้ใคร  ใครหลอกจะรู้ทัน ปัญญาเกิดเพราะสามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาทุกอย่างได้เอง  

    

           

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-28 13:00:10


ความคิดเห็นที่ 352 (1631538)

ในงานที่โรงแรมเดอะแทรเวลเลอร์ ถือว่าผิดความคาดหมายเป็นอย่างมากที่จู่ๆท่านอาจารย์ดร.จิตรา ก็ขอไมค์ขึ้นไปพูดเรื่องสำคัญ

ซึ่งก่อนพูดท่านให้ทุกคนกลับเข้านั่งที่ และหยุดกิจกรรมการกินและอื่นๆทั้งหมดเพื่อให้เกียรติกับเรื่องสำคัญที่ท่านกำลังจะบอก

ท่านบอกว่ามีพระ(ในอีกมิติหนึ่ง)มาสะกิดให้ขึ้นไปพูด ที่ผมรู้ว่าพระเพราะท่านอาจารย์อุบลเมตตาเล่าให้พวกเราฟังก็เลยทราบครับ

อาจารย์อุบลในอดีตชาติมีความเกี่ยวข้องกับพระนางเนเฟอตารีเป็นอย่างมาก ไม่ใช่พระนางเนเฟอติติ เพราะพฤติกรรมต่างกันสุดขั้ว

ซึ่งพระนางเนเฟอตารีนั้นมีจิตที่บริสุทธิ์ ชาวอียิปต์ถือว่าเป็นเทพีองค์หนึ่ง (เท่าที่อ่านมาคำว่าเทพี หมายถึงเทพเจ้าผู้หญิง)

แต่แปลกตรงที่ว่าเมื่อก่อนท่านดร.จิตราเคยบอกกับท่านอาจารย์อุบลไว้ว่า

มีดวงจิตสำคัญดวงหนึ่งจากอียิปต์มาเกิดในประเทศไทยเพื่อทำหน้าที่สำคัญ เพื่อพาประเทศไทยสู่การเป็นเสาหลักของโลก

และมีดวงจิตอีกจำนวนมากที่ขออาสาติดตามดวงจิตสำคัญดวงนี้ลงมาเพื่อทำหน้าที่สำคัญในครั้งนี้

เชื่อไหมครับ จู่ๆผมเห็นท่านอาจารย์ ดร.จิตรา ร้องเพลงเสียงหวานไพเราะว่า "และเราก็หากัน จนเจอ"

เสียงนี้มีความหมายมาก ไม่รู้ว่าท่านอื่นจะคิดเหมือนกันหรือไม่

แต่ผมก็อยากขอคำตอบที่ชัดเจนจาก ดร.จิตราอีกว่าสรุปว่า ดวงจิตดวงสำคัญจากอิยิปต์ดวงนั้น คือใคร???

ต่อมาท่านอาจารย์ดร.จิตรา ยังบอกเรื่องที่ทำให้หัวใจทุกคนปิติอิ่มเอิบ ด้วยคำพูดที่แจ้งว่า พระศรีอาริย์ลงมาเกิดแล้วในแผ่นดินสุวรรณภูมิแห่งนี้ เป็นผู้หญิง เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็ก

ที่หัวใจผมอิ่มเอิบ ปิตินั้นเพราะรู้สึกว่าแสดงว่าใกล้เวลาเต็มทีแล้วที่พวกเราจะได้พบกับพระองค์ท่าน แม้นว่าตอนนี้พระองค์ท่านจะอยู่ใกล้หรือไกล หรืออยู่หนใดก็ตาม

และข่าวสารที่สำคัญจากท่านอีกอย่างคือ ตอนนี้ฝ่ายมารทั้งหลายพ่ายแพ้แล้ว หมดเวลาเฉลิมฉลองของฝ่ายมารแล้ว ซึ่งตี3ถือว่าเป็นเวลาฉลองของมาร เพราะเป็นเวลาที่พวกเขาคิดว่าสามารถทำให้พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์ได้

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นบางอย่างทำให้ท่านรู้ว่า หมดเวลาสำราญของเหล่ามารแล้ว เรียกว่า มารร้องได้ว่า เซ็งๆๆๆๆโว้ยๆๆๆ 55555

สำหรับค่าย13 นี้ผมคิดส่วนตัวว่ามีนัยยะสำคัญมากมายจริงๆครับ เริ่มตั้งแต่ผู้ที่จะได้เข้าค่ายต้องได้รับการคัดเลือกเพื่อให้เห็นโฉมหน้าของผู้นำในยุคใหม่จริงๆ

และที่สำคัญ เลข 13 ถือว่าเป็นเลขที่เหล่าปีศาจ มารทั้งหลายภูมิใจกันนักหนาว่าตนเองมีชัยชนะเหนือพระสูงสุดได้ เพราะสัญลักษณ์ของจิตสูงสุดนั้นมี 12 เหลี่ยมมุม ดังนั้นมารทั้งหลายจึงถือเอาเลข13เป็นเลขมีชัยเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด

แต่ว่าบ้านสวนฯกลับกล้าจัดงานค่าย13อย่างเร่งด่วน และมีนัยยะซ่อนไว้ภายใต้งานนี้มากมาย

สำหรับผมแล้วถือว่า ถึงเวลาแล้วที่เข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มที่ด้วยการเริ่มค้นหาพระศรีอาริย์อย่างจริงจังเสียที และเป็นรูปธรรมที่สัมผัสได้ มิใช่กล่าวเลื่อนลอยและแอบอ้างเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ที่มีผู้กระทำการแอบอ้าง เพ้อเจ้อว่าตนเองเป็นพระศรีอาริย์มากมายทั่วโลกและทั้งในประเทศไทยก็มากมายจนนับไม่ไหวเลยทีเดียว

งานค่าย13นี้ต้องขอบอกว่า ไม่รู้ว่าใครจะได้ร่วมงานบ้าง เพราะคนที่ร่วมงานค่ายนี้นั้น ผมมั่นใจว่าคือคนที่จะมีหน้าที่สำคัญในยุคใหม่นี้อย่างแน่นอน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-28 15:13:06


ความคิดเห็นที่ 353 (1631597)

   กราบขอขมาโทษ ท่านอาจารย์อุบล ที่ส่งธรรมทานล่าช้าค่ะ

         ขอร่วมอนุโมทนาและขอบคุณอีกครั้งกับ ด.ร จิ๋ม คุณธนา ที่เป็นเจ้าภาพ จัดงานในวันนั้น เกิดจากประสบการณ์ของทั้งสองท่านที่สัมผัสความสุขและหายป่วย อยากให้ผู้คนจำนวนมากที่ไม่ได้มีโอกาศไปบ้านสวนได้สัมผัสกับความสุขแบบนี้บ้าง ด้วยการพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยใช้หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับตาม ซึ่งท่านทั้งสอนพิสูจน์แล้วว่า เป็นจริง ไม่ได้เชื่อถืออย่างงมงาย และอยากให้ทุกคนพ้นทุกข์

          ในวันนั้นมีแขกรับเชิญพิเศษที่อ.อุบล เรียนเชิญมา คือ อ.จิตราและ อ.อู๋  ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องมนุษย์ต่างดาว  พลังพีระมิต ประวัติอียิปต์โบราณ ( ที่เกี่ยวข้องกับ อ.อุบล อย่างมาก ) และเรื่องอนาคตของประเทศไทย อีกมาก

           การแสดงธรรมบำบัด แสดงให้เห็นว่าการผิดศีลแต่ละข้อได้รับผลกรรมอย่างไร อาการเจ็บป่วยจากสาเหตุต่างๆเช่น

           ไทรอยด์ - เกิดจากการโกหก

           เบาหวาน - ฆ่าสัตว์ เลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อให้เขาฆ่า ทำแท้ง

           ปวดประจำเดือน ซีสต์ในรังไข่ มดลูก - เจ้าชู้ ผิดศีลข้อ 3

           สายตาสั้น สายตายาว - ใช้สายตาดูหนังโป๊ รูปโป๊ ใช้สายตามองจ้องมองค้อนจิกผู้อื่น

           ไซนัสอักเสบ - ทำผิดศีลทุกข้อ  โกรธ  ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยพวกแมลงมามาก  ฉีดยาฆ่าแมลง

           โรคหัวใจ - เกิดจากทำให้ผู้อื่นเสียใจมากๆ อาจเป็นพ่อแม่ เพื่อน ผู้มีพระคุณ

           ไวรัสตับอักเสบ - เกิดจากกรรมรวมตัวเนื่องจากผิดศีลมาทุกข้อ  มีความโกรธอย่างรุนแรง  มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง  ทำให้ผู้อื่นเสียเลือด ทำกรรมเกี่ยวกับการฆ่าสัตว์มาเยอะ

           กรดไหลย้อน  เยื่อหุ้มสมองอักเสบ - เกิดจากมโนกรรมคิดไม่ดี  ทำร้ายศีรษะคนและสัตว์

           ดังนั้น การผิดศีลแต่ละข้อได้รับผลกรรม กล่าวคือ

           ผิดศีลข้อที่ 1  ทำให้เจ็บป่วย เป็นผู้หญิงก็ไม่สวย เป็นผู้ชายก็ไม่หล่อ

           ผิดศีลข้อที่ 2 ลักทรัพย์ ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์โดยไม่เต็มใจ ชอบของฟรี ใช้เล่ห์เหลี่ยม เทคนิคทุกอย่างในการทำมาหากิน  โลภ เอาของวัดกลับบ้าน ไปที่ไหนก็อยากได้ของเขา  ทำให้ลำบากยากจน มีหนี้สิน แม้แต่การทิ้งขยะ ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะลงแผ่นดิน ก็ถือว่าเป็นผู้ที่ทำผิดต่อชาติต่อแผ่นดิน เป็นหนี้แผ่นดิน  ถ้าเป็นหนี้ใคร ต้องพยามยามใข้ มีน้อยก็ให้น้อย แต่ต้องใช้

           ผิดศีลข้อที่ 3 ทำให้บริวารกระด้างกระเดื่อง  ลูกดื้อ

           ผิดศีลข้อที่ 4 โกหก ทำให้ปากเหม็น พูดจาจะไม่มีคนเชื่อถือ จะถูกหลอกถูกโกง

           ผิดศีลข้อที่ 5 ดื่มสุรา ของมึนเมา จะทำให้ปวดหัว เป็นโรคเส้นประสาท โรคบ้า โรคอัลไซเมอร์  หลงๆลืมๆ

           ส่วนอบายมุข  จะทำให้ชีวิตไม่สมปรารถนาทุกอย่าง  ถ้าอยากเป็นผู้ที่สมหวังทุกอย่าง  ต้องมีอารมณ์ใจเป็นเทวดาคือมีเทวธรรม  ธรรมะที่ทำให้คนธรรมดาเป็นเทวดา คือ หิริ-โอตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป ละอายผลของบาป

           ทำทานให้เต็มพิกัด

           ความตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ทำให้ใครร่ำรวย

           คนที่ชอบของฟรี ไม่มีใครหลุดพ้นจากปัญหาทางการเงินได้  เลิกใช้อุบายเล่ห์เหลี่ยมทางการค้า เทคนิคการขาย มันไม่ใช่สิ่งจีรังยั่งยืน สู้ความบริสุทธิ์ใจไม่ได้  เอาใจเขามาใส่ใจเรา

           รักษาศีลอย่างมั่นคง ทำสมาธิ คนรักษาศีลจะมีสมาธิ  คนที่สมาธิไม่ดีให้ย้อนกลับไปดูว่า บกพร่องศีลข้อไหน  ถ้าศีลบริสุทธิ์ จิตจะสงบ ถ้าสมาธิดีจะฉลาดไม่เสียรู้ใคร  ใครหลอกจะรู้ทันเพราะเกิดปัญญา สามารถวิเคราะห์ปัญหาทุกอย่างได้     

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-28 23:35:44


ความคิดเห็นที่ 354 (1631675)

อนุโมทนากับธรรมทานเพิ่มเติม

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

 

เพราะเรื่องราวจากมุมมอง

หรือประสบการณ์ของแต่ละท่าน

ก็ช่วยขยายเนื้อหาได้หลากหลายยิ่งขึ้น

 

อย่างประสบการณ์อันน่าระทึกใจ

ที่คุณป้า ณัฐสินี ได้พบ

และรอดมาได้แบบหวุดหวิด

ก็สะท้อนให้เราได้เห็นว่า

เวลาเราจะมาทำความดี

ที่จะทำให้เราพบทางพ้นทุกข์ถาวรนั้น

มันจะมี"ตัวคอยกั้น"เราเสมอ

 

แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เราได้รู้ว่า

การทำความดีก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คอยคุ้มครองเราให้แคล้วคลาดปลอดภัยเช่นกัน

 

 

ส่วนเรื่่องราวในอดีต

ของคุณแม่ของคุณตุ้ย

อ่านแล้วก็ชวนอึ้งนะคะ

เพราะบางทีกรรมหนักๆที่เราเคยทำไว้

แม้กระทั่งเจ้าตัวเองก็ยังนึกไม่ถึงเลย

 

ฉะนั้น เจ้ากรรมนายเวรเค้าคงรอจังหวะ

ที่จะ"เอาคืน"มานานพอสมควรแล้ว

 

ฉะนั้น เมื่อเราทำบาปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

หรือผิดศีลข้อใดข้อหนึ่ง

ก็เหมือนเป็นการเปิดช่องทาง

ให้ เจ้ากรรม เค้ามาสวมรอย

และร่วมทับถมในจุดอ่อนของเรานี่เอง

 

ส่วนเรื่องของคุณ ซู่เจิน ที่ดูเหมือนว่า

เค้าอาจจะไม่ได้ศรัทธาหรือเชื่อมั่น

ในตัวผู้บำบัด มากนัก

 

แต่ผลที่เค้าได้รับ

ชนิดาว่ามันก็เกินคาดมากๆเลยนะคะ

นั่นแสดงให้เราได้เห็นชัดๆว่า

ความศรัทธาเป็นส่วนเสริมในการรักษา

แต่ส่วนหลักหรือ แก่นจริงๆ

อยู่ที่ "วิธีการ" มากกว่า

ซึ่งวิธีการที่ว่านี้ ก็คือ การสารภาพบาป

ที่ท่านอาจารย์สอน

ซึ่งผู้ที่ต้องการบำบัด

ต้องมีจิตที่สำนึกผิดจริงๆ

และค้นกรรมให้ได้ตรงกับอาการที่เป็น

ก็จะหายได้...ทันที

ส่วนนัยยะสำคัญที่ซ่อนอยู่

ภายใต้งาน ค่ายที่ 13 ที่เป็นตัวเลข

ที่ฝรั่งส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยง

เพราะเป็นเลขแห่งซาตาน

 

แต่ชนิดาก็เชื่อว่า

คนที่จะได้มาร่วมงานนี้

คือ คนที่จะต้องมาช่วยกัน

กำจัดซาตานได้...แน่ๆ

 

ขอบคุณทุกๆเรื่องราว

และทุกๆมุมมองจากทุกๆท่านอีกครั้งนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-29 20:10:40


ความคิดเห็นที่ 355 (1631676)

ได้รับอีเมลจากคุณพี่ น้ำมนต์ ภู่ฟัก

ให้ช่วยนำประสบการณ์ของคุณพี่เค้า

มาโพสต์ในกระทู้ค่ะ

 

ซึ่งชนิดาสนใจมากๆ

และต้องการจะอ่านฟีดแบค

ของคนหน้าใหม่ๆ

ที่ไปร่วมกิจกรรมครั้งแรก

อีกทั้งไม่ได้รู้จักท่านอาจารย์

หรือไม่ได้อ่านเว็บไซต์ไปก่อน

 

อยากรู้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้

เค้าคิด หรือ เค้าได้อะไร

จากการไปร่วมงานนี้บ้าง 

.............................................

 

เข้าลงทะเบียนสายฝนตกหนัก
ก็เข้าไปนั่งฟังเลย
แต่บอกก่อนว่าไม่เคยรู้จัก
บ้านสวนปิระมิดมาก่อน
 
และไม่ได้อ่านข้อมูลในกระทู้
ไปเพราะเห็นน้องชนิดา
เป็นน้องของเพื่อนและเพื่อนบอกดี
 
ให้เหตุผลว่าเป็นแนวทางพระพุทธเจ้า
เป็นการปฏิบัติธรรม แก้กรรม
ซึ่งเราเองเชื่อในการปฏิติธรรมบัติ
การทำบุญ และกฏแห่งกรรม
 
บวกกับเพิ่งกลับมาจาก
การไปปฏิบัติธรรมมาไม่กี่วัน
 
จึงตอบตกลง แต่ยังสงสัย
เรื่องการแก้กรรมโดยฉับพลันทันใด 
 
 
จากการสังเกตุคนเยอะพอควร
และมีสมาชิกเก่าอยู่เกินครึ่ง
แต่รู้สึกดีมากเพราะเห็นรูปพระศรีอริยะเมตไตย
 
และเห็นอ.อุบล ครั้งแรกรู้สึกดี น่าศรัทธา
จากประวัติที่ อ.อุบล กล่าวในงาน
 
 
และจากการได้ทราบกิจกรรมคร่าวๆ  
จากคนที่เคยป่วยเกิดเหตุการณ์ต่างๆในชีวิต
 
ทราบว่าเกิดจากกรรมและแก้ไขแล้วได้ผล
 
ที่เชื่อและรู้สึกดี คือการนึกถึงกรรม
ที่ตัวเราเองเคยทำมา
และกล่าวออกมาโดยรู้สึกผิด
และอยากแก้ไข ขออโหสิกรรม
นั้นแหละที่รู้สึกดีมาก
 
เพราะบางการกระทำเล็กๆน้อยๆ
ไม่คิดว่าเป็นกรรมด้วยซ้ำ ไป
เช่นการแตะของ ตีลูก ตบหัว
 
 
ปกติที่มา เพราะ
อยากหายจากการเป็นไมเกรน
และวันนั้นมึนมากเลย
ปวดบ่าแต่ไม่ได้ปวดไมเกรน
 
เห็นจากหลายคนที่ป่วย
และพอบอกกรรมที่ตัวเองทำก็ค่อยดีขึ้น
บางคนก็หาย เราไม่หาย
ถึงช่วงที่ให้เดินผ่าน อ.อุบล ค่อยดีขึ้น
แต่เรายังไม่ดีขึ้นเลย
 
ยังงงทั้งที่เป็นคนเชื่อเรื่องกรรม
และกล่าวออกมาแล้วไม่เห็นดีขึ้น
ทำไมไม่ทราบ
 
 
แต่ศรัทธา อ.อุบล
เพราะเป็นคนปฏิบัติมานาน
และศรัทธาที่อาจารย์
ช่วยเหลือคนอื่นที่เดือดร้อน
 
 
อีกส่วนหนึ่งช่วง อ.วิจิตรา
ได้ทราบว่าในอนาคต
จะเป็นยุคพระศรีอริยะเมตไตย
รู้สึกดีมากกับประเทศไทยที่จะดีขึ้นและก็เชื่อ
 
 
สุดท้ายยังอยากแก้กรรมได้
และอยากจะไปบ้านสวนปิระมิด
เพื่อปฏิบัติธรรม
ไปบูชาจี้สฟริ้งค์ด้วยและศึกษาเพิ่มเติม



.............................................

คือถ้าไปครั้งแรกแบบนี้

แล้วทำให้คุณ พี่น้ำมนต์

มีความตระหนักในเรื่องศีล

และพยายามที่จะคิดค้นถึง

"บาปกรรม"ของตัวเองแบบนี้

 

ชนิดาคิดว่า

งานนี้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูงนะคะ

 

ทั้งๆที่ จริงๆแล้ว

อาการที่พี่เค้าเป็น ก็ไม่ได้ดีขึ้นซะด้วยซ้ำ

แต่พี่เค้าก็ไม่ได้มุ่งไปที่ความขลังของอาจารย์

แต่กลับคิดว่า เค้าอาจจะมี กรรมอะไรที่

หนัก มากๆ....แน่ๆ

จึงทำให้ไม่หายเหมือนคนอื่น

 

แต่ถ้าอ่านแล้ว พวกเราก็คงจะรู้ว่า

ที่พี่เค้าไม่หาย เพราะ เนื้อที่ของจิตที่เปิดรับ

และ ความสำนึกในบาปกรรม

อาจจะยังน้อยเกินไป

ก็เลยไม่เห็นผลเหมือนคนอื่น นั่นเอง

 

 

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์

และเจ้าภาพงานทุกๆท่านอีกครั้งค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-29 20:41:54


ความคิดเห็นที่ 356 (1631755)

เห็นหลายท่าน

มาเขียนธรรมทานหลังจาก

กลับจากร่วมกิจกรรม ขออนุโมทนาด้วย

บุญธรรมทาน เป็นบุญใหญ่ มีอานิสงส์มาก

แต่ทำกันได้น้อย เพราะ กรรมบัง

 

*******************

 

สิ่งหนึ่ง

ซึ่งหลายคนได้หยิบยก

เอาคำพูดของดร.จิตรามาเขียน

คือ

ดร.จิตราบอกว่า

มีสารสำคัญเกี่ยวกับ อ.อุบล

ที่ต้องบอกให้ทุกคน

ที่นี้ทราบ

แต่ขอให้มานั่ง

เพราะต้องฟังด้วยความ

เคารพ และ อยู่ในอาการที่สมควร

แล้วท่านก็พูดว่า

 

อ.อุบล

มีความเกี่ยวข้องกับ

อียิปต์

อย่างมาก

 

อ.อุบล

เกี่ยวข้องกับ

พระนางเนเฟอร์ตารี

อย่างมาก

 

 

พระนางคือ

พระชายาของท่านรามเศสที่ 2

ซึ่งชาวอียิปต์รักมาก

และถือว่าเป็นเทพอียิปต์

 

แล้วท่านก็บอกว่า

กรุณาอย่าสับสนกับ เนเฟอร์ตีติ

เพราะนี่ มีพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกัน

 

พระนางเนเฟอร์ตารี

ฝักไฝ่ในธรรม ช่วยเหลือผู้คน

 

แล้วพระนางเนเฟอร์ตีติ

จะเป็นไงล่ะเนี่ย

 

ตอนนั้น

อ.อุบล ก็ยังไม่ได้คิด

เรื่อง เนเฟอร์ตีติ เท่าไหร่

เพราะ

ไม่เกี่ยวกัน ก็เลยไม่สนใจ

แม้แต่

ที่ท่านบอกว่า พระนางเนเฟอร์ตารี

ที่ อ.อุบล เกี่ยวข้องอย่างมาก

ก็เป็นสิ่งที่ท่านเคยบอก

ตั้งแต่พบท่านครั้งแรกแล้ว

ตามที่เคยเล่าไป

เมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว

 

แต่

วันนี้ มีสารสำคัญ

ส่งมาถึง อ.อุบล เกี่ยวกับ

(พระนาง)เนเฟอร์ตีติ

 

ก่อนหน้านี้

เมื่อครังแรกที่พบกับ

ดร.จิตรา + อ.อู๋

อ.อู๋ท่านบอกว่า พระนางคลีโอพัตรา

ก็ได้มาเกิดแล้วในเมืองไทย

ท่านทั้งสองได้พบแล้ว

 

ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจ

ว่าเป็นใคร ที่ไหน เหมือนกัน

 

---------------

แต่วันนี้

ทำไมจึงได้รับสาร

เกี่ยวกับ พระนางเนเฟอร์ตีติ

ก็ไม่ทราบ อ๋อ......

 

พระนางเนเฟอร์ตีติ

ที่ ดร.จิตรา บอกว่า มีพฤติกรรม

ที่ตรงกันข้ามกับ พระนางเนเฟอร์ตารี

ก็ได้มาเกิดในเมืองไทยเช่นกัน

 

สารที่ได้รับคือ

เขามาเกิดเมืองไทย

เพราะต้องการมาทำลายล้าง

การเป็นมหาอำนาจ

ของประเทศไทย

 

เขาต้องการทำลาย

ความสุขของทุกคน

ต้องการเห็นความเดือดร้อนวุ่นวาย

ของคนไทยทุกคน

 

ต้องการเห็น

ความวิบัติ ความแตกแยก

 

เธอต้องการ

มาเพื่อกอบโกยประโยชน์

และ

ทำลายล้างคนที่

ขัดผลประโยชน์เธอ

 

สารจากเบื้องบน

ได้มาบอกให้ อ.อุบล รับทราบ

ว่า

เธอมาเพื่อทำลายล้าง

อ.อุบล ด้วยเช่นกัน

และเธอก็ได้เริ่มทำทันที

ที่เธอรู้จัก อ.อุบล ตั้งแต่วินาทีแรก

เรื่อยมา แล้วต่อมา

เธอก็

หลอกใช้คนที่เธอคิดว่า

โง่กว่าเธอ มาเป็นแนวร่วม

แล้วเธอก็นั่งหัวเราะ

ที่เห็นคนโง่ๆ

เหล่านี้ หลงกลเธอ

 

นี่คือ

สารที่ได้รับ

จากเบื้องบนเรื่อง

พระนางเนเฟอร์ตีติ

อ่านแล้ว

อาจคิดว่า โอนี่อะไรกันเนี่ย

เรื่องราวในอดีต

มันมาเกี่ยวกับปัจจุบันได้ขนาดนี้หรือ

 

ก็อ่านเล่นๆขำๆไปก่อน

ก็แล้วกันนะจ๊ะ

แต่

ต่อไปเมื่อความจริงเปิดเผย

อาจจะขำไม่ออกก็ได้

เพราะเรื่อง

การเวียนว่ายตายเกิด

พระพุทธเจ้าก็ยืนยันรับรอง

ว่าจริง

 

ส่วน

พระนางเนเฟอร์ตีติ

เบื้องบนท่านบอกว่า

เธอ

ไม่เคยนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เธอไม่เคยรักใครจริง

เธอหักหลังทุกคน

เธอทำทุกอย่างเพื่อเงินเท่านั้น

แต่เธอ

หลอกหากินกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทั้งที่เธอไม่นับถือ

แต่แสดงออกให้คนเห็นว่า

เธอนับถือ

 

โอ

เรื่องราว

ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจริงๆ

 

แล้วให้ อ.อุบล

มาเขียนเล่า ไม่ทราบว่า

เบื้องบนมีวัตถุประสงค์อะไร

ต้องติดตาม ตอนต่อไป

ก็แล้วกันนะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 00:27:39


ความคิดเห็นที่ 357 (1631758)

พระนางเนเฟอร์ตีติ

ได้มาเกิดในประเทศไทยแล้ว

เพื่อทำลายล้าง

 

เพื่อขัดขวาง การทำความดี

ของเหล่าคนดีมีศีลธรรม ขัดขวาง

การนำพาผู้คนเข้าสู่ยุค

ศิวิไลซ์

 

เพราะเธอรู้ดีว่า

ถ้าผู้คน

รู้จักพระนางเนเฟอร์ตารี

เธอจะพ่ายแพ้

 

ถ้าคนรู้จักพระศรีอาริย์

เธอจะถูกทำลาย พ่ายแพ้ในที่สุด

 

โอ้

ยังกะนิยายเลยนะเนี่ย

แต่ก็เป็นสารที่ อ.อุบล ได้รับมา

เช่นนี้ จริงไม่จริง

พิสูจน์ได้อยู่แล้ว

ในเมื่อพิสูจน์มาแล้วทุกเรื่อง

 

แสดงว่า

พระศรีอาริย์กำลังจะ

ปรากฎพระองค์แล้วจริงๆ

 

แสดงว่า

การที่เบื้องบน

มาสื่อสารเรื่องเกี่ยวกับ

พระนางเนเฟอร์ตีติ

ก็ต้องเกี่ยวข้องกับ การปรากฎ

พระองค์จริงของพระศรีอาริย์

 

แล้วพระนางเนเฟอร์ตารี

เกี่ยวข้องอะไรกับประเทศไทย

เกี่ยวข้องกันหรือไม่

กับการจะปรากฎพระองค์

ของพระศรีอาริย์

ในอีกไม่นานเท่าไหร่นี้

 

แล้วพระนางเนเฟอร์ตีติ

มาปรากฏให้ อ.อุบล รับรู้เรื่องเธอ

ทำไม เกี่ยวข้องกันหรือไม่

 

เอ

เราจะต้องถาม

ดร.จิตรา เพราะท่าน

เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องประวัติศาสตร์

อียิปต์

ที่รู้ทั้งอดีต และ ปัจจุบัน

ของทุกคน

 

เพราะท่านเคยบอก

ตั้งแต่ปี 2551 แล้วว่า

 

มีจิตวิญญาณดวงสำคัญ

ที่มาถือกำเนิดในเมืองไทยแล้ว

พร้อมด้วยจิตวิญญาณ

อีกมากมาย ที่ล่องลอยมาด้วย

ด้วยจุดมุ่งหมาย เพื่อร่วมภารกิจ

 

แล้วท่านก็บอกว่า

มาร

ก็รู้แผน จึงได้ พยายามขัดขวาง

ทำลายล้าง ทุกวิถีทาง

 

แล้ว ดร.จิตรา

ก็บอกว่า ตอนนี้ มาร เซ็งสุดๆ

เพราะหมดเวลา

ปาร์ตี้

ของมารแล้ว

 

ท่านที่มาอ่าน

อาจจะงงถ้าท่านพึ่งเข้ามา

รู้จักกับบ้านสวนพีระมิด

 

ส่วนท่านที่ติดตามมานาน

ก็คงต่อจิ๊กซอว์ได้แล้ว

 

ส่วน

อ.อุบล วันนี้

ได้คุยกับพวกเราบางคน

ว่า

อ.อุบล

ยอมรับว่า ตัวเอง

เกี่ยวข้องกับอียิปต์แน่นอน

เพราะมิเช่นนั้น

คงจะไม่มาสร้างพีระมิด

เช่นทุกวันนี้

 

แล้วพระพุทธเจ้า

ท่านก็สอนอตีตังสญาน

สอนเรื่องการระลึกชาติได้ตามต้องการ

จะกี่ชาติก็ได้

 

แล้วท่านสอนว่า

ให้เราค้นหาตัวเองให้พบ

ว่า

เราเป็นใคร มาจากไหน

มาทำหน้าที่อะไร แล้วจะไปไหน

 

บัดนี้

อ.อุบล ได้ค้นพบ

ทุกอย่างที่พระพุทธองค์ทรงสอนแล้ว

ไม่เสียชาติเกิดแล้ว ที่หาตัวเองพบ

 

ท่านทั้งหลาย

ขอให้ท่านรีบหาตัวเองให้พบนะ

อย่ามัวแต่ทำมาหากิน

เพราะกินแค่นิดเดียว

และเรามีเวลา

ต่อบุญ

แค่นิดเดียวเพื่อจะเลือกหา

บ้านใหม่ที่ถาวรยาวนาน

กว่าการอยู่บนโลกใบนี้

 

ถ้าท่านหาตัวเองพบ

ท่านจะไม่ลังเลสงสัยในการ

ทำหน้าที่ ที่อาสามา

ให้สมบูรณ์

 

เพราท่านย่อมรู้ดีว่า

ท่านจะทำหน้าที่เพื่ออะไร

แล้วท่านจะไปไหน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 00:50:23


ความคิดเห็นที่ 358 (1631760)

ตามที่

ดร.จิตรา บอก

เรื่องพระนางเนเฟอร์ตารี

กับ

พระนางเนเฟอร์ตีติ

 

เป็นเรื่องราวที่

มีในประวัติศาสตร์อียิปต์จริง

 

และ

เป็นผู้มีพฤติกรรมตรงกันข้ามกัน

จริง

อีกเช่นกัน

 

แล้วอย่างนี้

เป็นไปได้ไหมว่า

 

พระนางเนเฟอร์ตีติ

จะเป็นผู้ที่มีความอิจฉาริษยา

อย่างแรงกล้า

 

แล้วก็มีความริษยา

พระนางเนเฟอร์ตารีด้วยเช่นกัน

และอาจจะถึงขั้น

อธิษฐานจิตขอติดตาม

จองล้างจองผลาญทุกภพทุกชาติ

 

เอ

เขียนๆไป

ทำให้อดคิดถึงพระเทวทัตไม่ได้

ที่เคยเอามือกอบทรายขึ้นมา

แล้วพูดว่า

กูจะตามจองล้างจองผลาญมึงทุกชาติ

เหมือนกับเมล็ดทราบในมือกูนี้

1 ชาติ เท่ากับ เมล็ดทราย 1 เมล็ด

 

พระนางเนเฟอร์ติติ

จองล้างจองผลาญพระนาง

เนเฟอร์ตารีอย่างนี้

หรือเปล่าเนี่ย

 

แล้วเพราะอะไร

 

ทำให้ต้องหันไป

ดูพระเทวทัติอีกแล้ว

ว่าริษยาพระพุทธเจ้าเรื่องอะไร

พระพุทธเจ้าไปทำอะไรให้

พระพุทธเจ้า

บำเพ็ญแต่ความดี ช่วยเหลือผู้คน

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

 

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และ คอยทำลายล้าง

 

มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

เผื่อว่า

จะทำให้ท่านพ้นภัยพิบัติ

ด้วยอานิสงส์

ที่จะส่งผลถึงการตามหา

พระศรีอาริย์ เจอ

 

เอ

เกี่ยวกันไหมเนี่ย

แต่เบื้องบนท่านบอกว่า

เกี่ยว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 01:00:54


ความคิดเห็นที่ 359 (1631761)

อ.อู๋บอกว่า

คลีโอพัตรา ไม่ใช่คนสวยเท่าไหร่นะ

แต่

หนังเขาสร้างให้สวย เพราะ

อาลิซเบธ มาเล่น

เลยทำให้ คลีโอพัตราดัง

แต่ที่จริง คลีโอพัตรา เป็นหญิงฉลาด

ที่เอาตัวเอง กอบกู้ประเทศชาติ

ทำให้คนสนใจเธอ

---------------

 

ดร.จิตรา + อู๋

ได้พูดถึงความงามของ

พระนางเนเฟอร์ตารี

ว่า

สวยคนละแบบกับคลีโอพัตรา

 

ตอนนั้นเราไม่ได้ใส่ใจ

ว่า

ใครจะสวยหรือไม่ เพื่ออะไร

แล้วความสวยเธอ

มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องสนใจ

เพราะเราไม่ได้รู้จักเธอด้วย

และก็ไม่เกี่ยวกับเราด้วย

 

แต่วันนี้

ดร.จิตรา บอกว่า

พระนางเนเฟอร์ตารี

มีความเกี่ยวข้อง กับ อ.อุบล อย่างมาก

ทำให้เราต้องถามท่านซะแล้ว

ว่าเกี่ยวกันยังไง

 

เป็นญาติ

(อย่าให้ขี้กลากขึ้นนะ)

หรือว่า

อ.อุบล เคยเป็นคนใช้ท่าน

มาก่อน

(ก็ยังดี ที่มีวาสนาเป็นคนรับใช้คนดีมีศีลธรรม)

 

ถ้าเป็นคนใช้

พระนางเนเฟอร์ตีติ

ไม่เอาแน่ แล้วก็ น่าเศร้าใจมาก

 

เดี๋ยวค่าย 13

ต้องถามให้หายข้องใจ

อีกอย่าง

พวกเราชาวบ้านสวน

จะได้ หาย สงสัย ด้วยเหมือนกัน

 

ถ้าเฉลยแล้ว

ปรากฎว่า อ.อุบล เคยเป็นคนใช้

เคยเป็นนางต้นห้อง

ของพระนางเนเฟอร์ตารี

พวกเราจะว่าไง

5555

(แต่ อ.อุบล น่ะภูมิใจมาก)

เป็นคนล้างห้องน้ำ ขัดรองเท้าก็เอา

ถ้าพระนางเป็นคนดี มีศีลธรรม

เพราะ

ประวัติศาสตร์ และ ดร.จิตรา

บอกว่า พระนางฝักใฝ่ในธรรม

ใจดี มีเมตตา สวยสง่า ช่วยผู้คน

ถ้า อ.อุบล ได้เป็นคนใช้นะ

โห

เทห์ซะไม่มีอ่ะ

แค่คิดก็ปลื้มแล้วนะเนี่ย

 

แต่ตำแหน่งอาจไม่แน่นอนนะ

บางทีอาจไม่ได้เป็นคนใช้

แบบใกล้ชิดก็ได้

แต่

อาจเป็นคนสวน

คอยปลูกผัก ตักน้ำให้พระนาง

ก็ยิ่งภูมิใจอยู่ดี

เพราะ

ทำอะไรให้พระนาง

ก็ถือว่า ทำให้ คนดี มีศีลธรรม

เราต้องได้รับผลความดีนั้นด้วย

 

ไม่ว่า

จะเกี่ยวข้อง

โดยเป็นอะไรกับพระนาง

อ.อุบล ก็ยอมรับได้ และ ดีใจทั้งนั้น

 

และ

แต่ละคนที่ได้มา

ร่วมสร้างบุญกับบ้านสวนฯ

ก็คงจะเป็นผู้เกี่ยวข้อง

กับพระนาง

ด้วยเช่นกัน ก็ในเมื่อ

ดร.จิตรา

บอกว่า อ.อุบล เกี่ยวข้อง

กับพระนางเนเฟอร์ตารีอย่างมาก

 

ท่านทั้งหลาย

ก็ต้องเกี่ยวข้องด้วย

อย่างมาก

ที่ท่านมาเกี่ยวข้องกับ

อ.อุบล

อิ อิ อิ

พวกเรา สงสัย มาจาก

อียิปต์ กันทั้งน๊าน

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 01:18:12


ความคิดเห็นที่ 360 (1631766)

แต่ละคนที่ได้มา

ร่วมสร้างบุญกับบ้านสวนฯ

ก็คงจะเป็นผู้เกี่ยวข้อง

กับพระนาง

ด้วยเช่นกัน ก็ในเมื่อ

ดร.จิตรา

บอกว่า อ.อุบล เกี่ยวข้อง

กับพระนางเนเฟอร์ตารีอย่างมาก

..........................

ชนิดาคิดว่า ในค่าย13นี้

ดร.จิตรา คงจะมาบอกอะไร

ที่ค่อนข้างชี้ชัดกว่านี้แน่ๆค่ะ

 

ที่ว่า ท่านอาจารย์เกี่ยวข้อง

กับพระนางเนเฟอร์ตารี่อย่างมาก นั้น

แปลว่า อะไร

 

แต่ชนิดาว่าลูกบ้านสวนฯหลายๆคน

ก็ รู้ๆกันอยู่ว่า จริงๆแล้ว

คำว่า "เกี่ยวข้อง"ในที่นี้

น่าจะแปลว่า "เท่ากับ" รึเปล่าค๊า..อิอิ


ส่วนที่ว่า ลูกบ้านสวนฯส่วนใหญ่

สงสัยจะมาจากอียิปต์ กันทั้งน๊าน อิอิ

 

อันนี้ก็ท่าทางจะจริงค่ะ

และขอเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานดีกว่านะคะ

เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร

ที่ได้มารู้จักเว็บบ้านสวนฯ

พออาจารย์พูดถึงพลังพีระมิด

องค์เทพสฟริงซ์ หรือ เอ่ยพระนาม

พระนางเนเฟอร์ตารี่

หรือ พระเจ้ารามเศสที่สอง

 

พอได้ฟังแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกขัดอะไรเล๊ย

มีแต่อยากจะรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ

พลังและความเร้นลับเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้

รวมถึงบุคคลที่ยิ่งใหญ่นี้ ยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น

 

เคยลองแนะนำ

เพื่อนบางคนให้รู้จักบ้านสวน

แต่คิดว่า เค้า่ไม่ได้มีบุญสัมพันธ์

กับอาจารย์หรือบ้านสวนฯ

 

เพราะแค่เค้าได้ยินอาจารย์พูดถึง

พีระมิดและองค์เทพสฟริงซ์

เค้าก็บอกเลยว่า ไม่ได้ลบหลู่นะ

แต่ไม่ใช่ทางของเค้า

ส่วนเราก็บอกไปว่า..ไม่เป็นไร

 

เพราะจะให้คนอื่นมีความรู้สึกผูกพัน

เหมือนกับเรา มันก็คง..

ม่ายช่าย ม่ายช่าย..แน่ๆ

 

แต่ที่แน่ๆ

ถึงแม้จะพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่า

ชนิดาเคยมีอดีตที่เกี่ยวข้อง

กับท่านอาจารย์มาบ้างหรือไม่

 

แต่ที่แน่ๆ ณ ปัจจุบัน

จะทำตัวให้เกี่ยวให้ข้องกับอาจารย์

โดยไม่ให้ตัวเอง"หลุด"ไปได้ แน่ๆค๊า

เพราะจะขอเป็น"ลูกศิษย์"ตลอดไป

 

อิอิ อาจารย์จะใช้มือดีด

หรือ ใช้ไม้เขี่ยออก

ก็ไม่หลุดแล้วค่ะ

แบบว่า ติดหนึบ ติดหนึบ แย้ว

(พูดเหมือนตัวเอง

เป็นหนึ่งในสปีชีส์เดียวกับ

พวกเหา เห็บ เหลือบ ไร ไงก็ไม่รู้..เนอะ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 04:40:35


ความคิดเห็นที่ 361 (1631772)

พระพุทธเจ้า

บำเพ็ญแต่ความดี ช่วยเหลือผู้คน

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

 

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และ คอยทำลายล้าง

 

มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

เผื่อว่า

จะทำให้ท่านพ้นภัยพิบัติ

ด้วยอานิสงส์

ที่จะส่งผลถึงการตามหา

พระศรีอาริย์ เจอ

.....................................

ถ้าจะให้พูดถึงว่า

 

ทำไมท่านเทวทัติ

ถึงได้ตามจองล้างจองผลาญ

พระพุทธองค์๋ ทุกชาติไป

 

หรือ ทำไม พระนางเนเฟอร์ติติ

จึงได้อิจฉาริษยา พระนางเนเฟอร์ตารี่ นัก

 

และมาถึงยุคนี้ ทำไมกลุ่มเฟสบุ๊คปลอม

ถึงได้ ตามล้างตามผลาญตามขัดตามขวาง

ท่านอาจารย์ซะเหลือเกิน


ทั้งๆที่พระพุทธองค์

ก็ทำแต่ความดีช่วยเหลือผู้อื่น

 

พระนางเนเฟอร์ตารี่ ก็ใฝ่ในธรรม

มีเมตตาและคอยช่วยเหลือประชาชน

ของพระนางตลอด

 

และมาถึงท่านอาจารย์เอง

ถึงแม้จะแอบทำหน้าที่

ในรั้วบ้านของตัวเองแบบเงียบๆ

โดยหมั่นสร้างความดี

ช่วยเหลือผู้อื่นทุกวิถีทาง

แต่กลับมีกลุ่มคน คอยจ้องทำร้าย

ทำลายชื่อเสียง และความดีของอาจารย์

แทบจะทุกลมหายใจเลย ก็ว่าได้


คำตอบที่ได้ คือ

ทั้งท่านเทวทัติ

พระนางเนเฟอร์ติติ

และกลุ่มเฟสปลอม

 

ต่างเป็นฝ่าย"มารโดยกำเนิด"

และมาแสดงให้เราได้เห็นชัดๆว่า

เมื่อมีฝ่ายดี ก็จะมีฝ่ายชั่วมาขัดขวาง

เพื่อให้ฝ่ายดี ได้นำธรรมะ

มาขจัดมารเหล่านี้ให้สิ้นฤทธิ์ไปได้

 

เพราะยังไงๆ ไม่ว่ายุคใด สมัยใด

ธรรมะก็ย่อมชนะอธรรมแน่นอน

แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น จริงๆ


และเช่นกันอีกไม่นานนี้

ก็จะถึงเวลาที่องค์พระศรีอาริย์

จะมาปรากฏกาย

เพื่อปราบอธรรมทั้งหลาย

ให้มลายสิ้นไปจากจักรวาลนี้

สาธุ สาธุ สาธุ

 

เพราะหมดเวลาของเหล่ามาร

ที่จะได้มาโชว์ผลงานชั่วๆของตน

ได้อีกต่อไปแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 06:07:06


ความคิดเห็นที่ 362 (1631823)

หนูคิดว่าพระเทวทัตริษยาคอยทำลายล้างพระพุทธเจ้า เพราะตนทำไม่ได้อย่างพระพุทธเจ้า แต่อยากเป็นพระศาสดาค่ะ มีสัญญาอบายภูมิ มีความมักใหญ่ใฝ่สูง ซึ่งปิดกั้นปัญญาทำให้แทนที่จะสรรเสริญพลอยยินดีในความดีของพระองค์และปฏิบัติตาม กลับคิดพยาบาทจองล้างจองผลาญพระองค์ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรพระพุทธเจ้าได้ สุดท้ายก็แพ้ภัยตัวเอง ถูกธรณีสูบลงอเวจีมหานรก แต่ระหว่างที่ถูกสูบ พระเทวทัตเห็นคุณของพระพุทธเจ้า กุศลที่เคยสั่งสมมาทำให้สำนึกผิด ถวายคางเป็นพุทธบูชาก่อนจะตกนรก ซึ่งสายเกินไป

ขวัญขอทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าค่ะ ไม่ทำตามพระเทวทัตแน่ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 11:46:19


ความคิดเห็นที่ 363 (1631827)

 

พระนางเนเฟอร์ติติ

จองล้างจองผลาญพระนาง

เนเฟอร์ตารีอย่างนี้

หรือเปล่าเนี่ย

 

แล้วเพราะอะไร

+++++++++++

เบสคิดว่าอาจจะเป็นในลักษณะเดียวกับพระเทวทัตที่ริษยาพระพุทธเจ้าก็ได้ครับ

เพราะพระนางเนเฟอตารี่นั้นเป็นผู้มีเมตตาและใฝ่ในธรรม

ทำให้ประชาชนต่างรัก และเคารพพระนางเป็นอันมาก

พระนางทรงมีเมตตาคอยช่วยเหลือคนต่างๆที่ลำบากให้ได้รับความสุข

ด้วยเหตุที่เป็นที่รักของบุคคลเป็นอันมากนี้เอง....

จึงทำให้พระนางเนเฟอตีติเคียดแค้น

เหตุเพราะตัวเองอยากจะมีคนรัก คนมาสนใจ

อาจจะอยากให้สามีรักมากขึ้น อยากจะโดดเด่นกว่าคนอื่น

ไม่อยากให้ใครดีกว่าตัวเอง หรืออยากให้ประชาชนรักมากขึ้น แต่ไม่มีใครรักพระนาง

เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน ขาดเมตตา ทั้งต่อคน และสัตว์ อยากจะมีความสำคัญ อยากแต่จะได้อย่างเดียว

แต่ไม่อยากให้อะไรคนอื่น

เมื่อพระนางมองมาที่พระนางเนเฟอตารี ก็เกิดความอิจฉา ริษยา

เพราะทั้งอยากจะเป็นอย่างพระนางเนเฟอตารี แต่ก็เป็นไม่ได้

จึงหาทางขัดขวางทุกวิธีทาง ไม่ว่าจะใช้วิธีใดเธอก็ยอมหมด

ไม่ว่าจะผิดศีลธรรมเธอก็ยอม เพราะเป็นคนที่ไม่ได้ใฝ่ในธรรมอยู่แล้ว

อยากที่จะมาแทนที่พระนางเนเฟอตารี ใส่ร้าย ป้ายสีพระนางสารพัด

แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงคอยตามจ้องจะทำร้ายพระนางเนเฟอตารี

ไม่ว่าข้ามภพข้ามชาติแล้วความเครียดแค้นก็ไม่ได้น้อยลง

เพราะมีสัญญาเก่าเป็นเหมือนถ่านไฟเก่าที่พร้อมจะติดไฟได้ทุกเมื่อ

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าการเวียน ว่าย ตาย เกิดนั้น มีจริง

จึงไม่แปลกหากว่าพระนางเนเฟอตารีจะมาเกิด และมีพระนางเนเฟอตีติอธิฐานติดตามมาขอทำลายล้าง

เมื่อคิดย้อนไป ย้อนมา เรื่องราวของพระนางเนเฟอตารี กับพระนางเนอเฟอตีติ

ก็เป็นในลักษณะเดียวกันกับเรื่องของพระเทวทัติและพระพุทธเจ้า

แม้ว่าพระนางเนเฟอตารีจะทรงเมตตาต่อพระนางเนเฟอตีติมากเพียงใด

แต่พระนางเนอเฟอตีติก็ไม่ได้เห็นความเมตตานั้นเลย

กลับจะคอยคิดแต่ว่าพระนางเนเฟอตารีต้องการจะเยาะเย้ยตน

ต้องการจะประจานตนให้ได้รับความอับอาย

จึงทำให้ชีวิตของพระนางเนเฟอตีตินั้นไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย

(ผิด ถูก ประการใด ขออภัยด้วยนะครับ เดาล้วนๆเลย อิอิ )

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 12:16:39


ความคิดเห็นที่ 364 (1631932)

เป็นไปได้ไหม

น้องเบส

ที่ มาร เขาไม่รู้ตัวว่า เขาเป็น มาร

เขาคิดว่า เขา

ดีเลิศ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 20:09:53


ความคิดเห็นที่ 365 (1631933)

พระพุทธเจ้า

บำเพ็ญแต่ความดี ช่วยเหลือผู้คน

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

 

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และ คอยทำลายล้าง

 

มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

........................

ผมคิดว่าคนเราถ้าไม่เคยเจออุปสรรค

ไม่เคยเจอปํญหา  ก็คงไม่ได้ใช้

ความคิด ปํญญาก็คงไม่เกิด

ขอยกตัวอย่าง สหายคำมา ของเรา

ที่ใช้ชีวิตมาโชกโชน

ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกรูปแบบ

เมื่อได้เจอปัญหาบ่อยๆ ก็ต้องใช้

ความคิดมากขึ้นตาม

เมื่อใช้ความคิดมากๆแล้วปํญญาก็เกิด

พอมาถึงทุกวันนี้

สหายคำมา มีความรู้ความสามารถ

รอบด้านอย่างที่เราเห็นกันอยู่

และพระเทวทัติเองคงเป็น

อุปสรรคหรือบททดสอบ

หนึ่งของพระพุทธเจ้าที่ต้องใช้ปัญญา

ผ่านอุปสรรคนี้ไปไห้ได้

มารไม่มีบารมีไม่เกิด

.............................

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 20:13:33


ความคิดเห็นที่ 366 (1631940)

 เป็นไปได้ไหม

น้องเบส

ที่ มาร เขาไม่รู้ตัวว่า เขาเป็น มาร

เขาคิดว่า เขา

ดีเลิศ

 +++++++++++++++++

เบสคิดว่าเป็นไปได้แน่นอนครับอาจารย์

เขาน่าจะคิดว่าเขาดีเลิศกว่าคนอื่น

จะทำอะไรก็ได้ คงคิดว่าทุกคนต้องสยบให้เขา

คิดว่าตัวเองถูกทุกอย่าง

โดยไม่ได้ส่องกระจกหันมามองดูตัวเองเลยว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันดีหรือไม่ดี

มันควรทำหรือไม่ควรทำ

เขาคงคิดว่าตัวเองดีเลิศและเก่งมากนะครับ

เลยทำได้ถึงขนาดนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 20:49:12


ความคิดเห็นที่ 367 (1631973)

 

พระพุทธเจ้า

บำเพ็ญแต่ความดี ช่วยเหลือผู้คน

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

 

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และ คอยทำลายล้าง

 

มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

เผื่อว่า

จะทำให้ท่านพ้นภัยพิบัติ

ด้วยอานิสงส์

ที่จะส่งผลถึงการตามหา

พระศรีอาริย์ เจอ

***********************

อ้อยคิดว่าที่พระเทวทัตคอยอิจฉาริษยา

และตามทำลายล้าง

พระพุทธเจ้า

เป็นเพราะตัวเองไม่สามารถทำ

หรือเป็นอย่างที่

พระพุทธเจ้าได้

คือมีความเมตตา

ความรักอย่างไม่มีประมาณ

ไม่มีเงื่อนไข

  และคอยช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ

ในเมื่อตัวเองเป็นคนดีเทียบเท่าไม่ได้ 

ก็ใช้วิธีจัดการทำลายคู่แข่ง

ใช้วิธีคอยจ้องทำลาย

ใส่ร้ายป้ายสี

โดยหวังว่าจะทำใให้คู่แข่งเราตกต่ำ

เพื่อที่เราจะได้ดูดี

หรือดูสูงส่งกว่า

กรรมมาบังตาให้หลงผิด

  แทนที่จะแข่งทำดี

เพื่อจะดีเท่าคู่แข่ง 

 แต่กลับใช้วิธีทำลายคนอื่น 

เพื่อจะให้ตัวเองดูดี

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 22:54:23


ความคิดเห็นที่ 368 (1631976)

 

เป็นไปได้ไหม

น้องเบส

ที่ มาร เขาไม่รู้ตัวว่า เขาเป็น มาร

เขาคิดว่า เขา

ดีเลิศ

**************************

อ้อยคิดว่าเป็นไปได้ที่ มาร ไม่รู้ตัวว่า

ตัวเองเป็น มาร

เพราะในโลกนี้ไม่มีใครทำผิด

ถ้ามองจากมุมมองของเค้าเอง

เพราะเวลาเราจะทำอะไร ไม่ว่าจะดี หรือ ไม่ดี

เราจะเหตุผลเข้าข้างตัวเอง

ที่จะบอกว่าสิ่งที่เราจะทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องนะ

เรามีเหตุผลรองรับ

หรือ

เรามีความจำเป็นนะ

หรือ

เราไม่มีทางเลือกนะ

สรุปว่า ทำเลย

เราทำถูกแล้ว

ซึ่งเรามักคิดเอง

ทำเอง

คิดว่าเราทำสิ่งที่ดีอยู่แล้ว

ถึงแม้ว่าสิ่งที่เราทำ

จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน

เราก็ไม่นำพา

ดังนั้น

มาร

ย่อมไม่รู้ว่า

ตัวเอง

เป็น มาร

แถมพอมีคนที่หวังดีจะช่วยชี้แนะ

ตักเตือน

ว่าสิ่งที่ตัวเองทำ

ไม่ถูกนะ

มันเป็นพฤติกรรมของ

มาร นะ

ก็ไม่เชื่อ

กรรมมันคงบังตาจริงๆ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 23:06:42


ความคิดเห็นที่ 369 (1631983)

เป็นไปได้ไหม

น้องเบส

ที่ มาร เขาไม่รู้ตัวว่า เขาเป็น มาร

เขาคิดว่า เขา

ดีเลิศ

โดนใจอย่างแรงส์ครับ คำถามนี้

สำหรับผมช่ายเลยครับ มารมักจะคิดว่าตนเองฉลาด คนอื่นโง่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาเห็นคนอื่นมีความสุข เหล่ามารจะรับไม่ได้

จะคอยหาทางทำลาย และมักคิดว่าผู้คนเหล่านั้นโง่ ไม่ฉลาด และรู้ไม่เท่าทันคนอื่นเหมือนตนเอง

และคุณสมบัติที่สำคัญของมารอีกอย่างก็คือ มักคิดว่าตนเองเป็นพระพุทธเจ้า คือคอยเที่ยวสั่งสอนคนอื่น แบบว่ารู้หลักธรรมของพระพุทธองค์ดีหมดทุกอย่าง คนอื่นไม่รู้เหมือนตนเอง พยายามจะยกอ้างตำราขึ้นขู่คนอื่นฟ่อๆๆ 5555

แต่มารเหล่านี้ผมว่าดูไม่ยากครับ เพราะหากเอาศีล5ไปจับก็รู้ทันทีครับ พวกมารนี้มักจะพูดจาหยาบคาย ลามก หมกมุ่นไปทางเพศ แต่มารจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ปกติไม่ผิดอะไรเลย และจะยกอ้างธรรมะต่างๆเพื่อมาแสดงธรรมสอนคนอื่น ขณะที่ศีล5นั้นทำไม่ได้ซ๊ากกกข้อ 5555

นี่แหละครับที่เรียกว่ามาร คือ เลวแต่ไม่รู้ตัวเองว่าเลว รู้อย่างเดียวว่าคนอื่นโง่ ไม่ฉลาด ไม่เก่งเหมือนตนเอง 555 ครบเป๊ะหลักสูตรมารเลยก๊าบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 23:26:47


ความคิดเห็นที่ 370 (1631985)

พระพุทธเจ้า

บำเพ็ญแต่ความดี ช่วยเหลือผู้คน

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

 

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และ คอยทำลายล้าง

 

มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

พระเทวทัตนั้นถือว่าเป็นมาร ซึ่งธรรมชาติของมารนั้นมักไม่ชอบเห็นใครดีกว่าตนเอง เรียกว่าอิจฉาไม่พอ แต่ริษยาแร็งงงงส์มาก

จนต้องหาทางทำทุกอย่างเพื่อทำลายพระพุทธองค์ให้จงได้ ที่สำคัญเป็นเพราะทำไม่ได้อย่างพระองค์ท่านนั่นแหละครับ

เห็นคนรักและเคารพเทิดทูนพระพุทธองค์ ซึ่งตนเองทำไม่ได้

เห็นพระพุทธองค์ ประเสริฐเพรียบพร้อมบริบูรณ์ทุกประการ แต่ตนเองไม่มีและทำไม่ได้

เห็นพระพุทธองค์คือที่พึ่งสูงสุดของสามโลก ได้รับการยอมรับ ตนเองก็ทำไม่ได้

มีทางเดียวที่พระเทวทัตซึ่งก็คือมาร ต้องทำคือขัดขวาง หาทางทำลายพระพุทธองค์ให้จงได้

แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็คือ มหานรกอเวจี

ว่าไปแล้วในปัจจุบันเห็นเยอะนะครับ คนที่นำธรรมะของพระพุทธองค์มาช่วยผู้คนจนมีความสุข เหล่ามารก็อิจฉาริษยาที่ตนเองทำไม่ได้ ก็หาทางทำบาปไปอยู่กับพระเทวทัตเหมือนกัลล์เยยย 5555

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 23:36:11


ความคิดเห็นที่ 371 (1632019)

เป็นไปได้ไหม

น้องเบส

ที่ มาร เขาไม่รู้ตัวว่า เขาเป็น มาร

เขาคิดว่า เขา

ดีเลิศ

.................................

ชนิดาก็ว่าเป็นไปได้ค่ะ

เพราะได้ชื่อว่าเป็น"มาร"

ก็เกิดมาพร้อมกับความหลงอยู่แล้ว

 

ก็ในเมื่อ"หลง"หรือ"ไม่รู้"ซะขนาดนี้

ก็คงจะไม่ทันรู้ตัวเอง

หรอกว่า ตัวเองเป็น"มาร"

 

ก็ในเมื่อไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองอยู่แล้ว

ก็เลยอุปโลกน์ว่า ตัวเองเป็น "ผู้รู้" ซะเลย

ฉะนั้น ก็เลยได้ตำแหน่งเต็มๆเป็น

"มารผู้รู้ดี"ทุกเรื่อง

ยกเว้น ความเลวของตน

 

 

เฮ้อ...ก็คงจะเห็นๆกันอยู่

เพราะเห็นเข้ามาตั้งคำถาม

ที่ดูเหมือนว่า ตัวเองจะฉลาด

สามารถเปิดโปง

หรือ จับผิดฝ่ายเทพได้ว่างั้น 

 

ถามอยู่ได้ในเรื่องเดิมๆ

เข้ามาในเว็บบ้านสวนฯ

ก็ถามแต่เรื่อง พีระมิด

เรื่ององค์เทพสฟิงซ์ เรื่องวัตถุมงคล

 

ในเฟสบุ๊คก็ถามอีก

และลูกๆบ้านสวนฯ

ก็คงจะตอบกันจน"เอียน"ไปแล้วเนอะ 


แต่ฝ่ายเทพน่าจะได้เปรียบกว่า

เพราะรู้ไต๋ของมาร

ก็เลยพอจะรู้และดูออกว่า

ใครคือเทพ ใครคือ มาร ตัวจริง... 

 

แต่ฝ่ายเทพ

จะทำให้"มารกลับใจ"

ได้...หรือ..ไม่..หนอ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-02 06:47:30


ความคิดเห็นที่ 372 (1632054)

 พระพุทธเจ้าบำเพ็ญแต่ความดี

ช่วยเหลือผู้อื่น

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และคอยทำลายล้าง

มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

*******************

พระพุทธเจ้าสร้างสมบารมีคุณงามความดี เพื่อความพ้นทุกข์และช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์ด้วย มีผู้คนเป็นจำนวนมากมายมหาศาลที่รัก เคารพ เลื่อมใส ศรัทธาพระองค์ท่าน และปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ท่านจนสำเร็จมรรคผลในขั้นต่าง ๆ ในขณะที่ฝ่ายพระเทวทัติกลับนำพาผู้คนสร้างแต่กรรมชั่ว มีแต่ความทุกข์ หาหนทางพ้นทุกข์ไม่พบ พระเทวทัติคิดว่าพระพุทธเจ้าเป็นศัตรูหมายเลข 1 ที่ต้องกำจัดให้ได้ด้วยวิธีใด ๆ ก็แล้วแต่ เพื่อให้พระพุทธเจ้าพ้นไปจากเส้นทางชีวิตของตัวเองให้ได้ เพราะพระเทวทัติอยากให้มีคนมารัก เคารพ เลื่อมใส ศรัทธาตนเองเหมือนพระพุทธเจ้า แต่ตัวเองทำไม่ได้จึงอิจฉาริษยา และคอยทำลายล้าง ถึงแม้สำนึกได้ก่อนตายก็ไม่ทันกาลแล้ว เพราะสร้างอกุศลกรรมกับพระพุทธเจ้าและผู้คนไว้มากมายมหาศาล จึงต้องไปอยู่ในอเวจีมหานรก และผู้ที่ร่วมมือกับพระเทวทัติ ก็คงต้องตกนรกขุมต่าง ๆ กันมากมาย

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-02 10:08:40


ความคิดเห็นที่ 373 (1632219)

อนุโมทนา

กับ

ทุกท่านที่ร่วมกันวิเคราะห์

และ

เขียนธรรมทานค่ะ

 

ขอให้บุญธรรมทาน

ส่งผลทันทีนะคะ

 

************************

วันนี้

ได้รับการสื่อสาร

เกี่ยวกับ

 

พระนางเนเฟอร์ตีติ

อีกแล้ว

(ทำไมถึงต้อง...เป็นเรา)

 

โดย

มีสารมาว่า

พระนางเนเฟอรตีติ

เกี่ยวข้องกับ

แม่มด....หมอผี

 

แล้วจู่ๆ

ก็มีสารสำคัญมาต่อเนื่องกัน

ระหว่างคุยกับคุณแหวน

ถึงเรื่อง

พระนางเนเฟอร์ตารี

และ

พระนางเนเฟอร์ตีติ

 

มีสารส่งมาว่า

ให้ย้อนไปดูพระเทวทัต

ว่าทำไมริษยาพระพุทธเจ้า

แล้วเล่าให้คุณแหวนฟัง

 

ตอนนั้น

ก็นึกขึ้นมาได้และ

เห็นภาพ พระเทวทัต

หาบของขาย เดินผ่านบ้านคน

 

มียาย กับ หลาน 2 คน

หลานร้องไห้จะกินขนมในหาบ

พระเทวทัต

 

พระเทวทัต จึงหยุด

(ซึ่งครั้งนั้นยังไม่ได้เป็นพระนะ)

หลานก็วิ่งออกมา จะเอาขนม

แต่

ยายไม่มีเงินซื้อขนม

 

พระเทวทัตบอกว่า

ไม่มีเงิน ก็เอาของใช้มาแลกได้

ยายก็ไปหยิบออกมา

พระเทวทัติก็เอาเข็มกรีดดู

แล้วบอกยายว่า ของนี้ไม่มีราคา

ให้ไปเอามาอีก เอามามากๆ

จึงจะแลกขนมได้

 

ส่วนยาย

เห็นหลานร้องไห้

สงสารหลาน ก็จะไปขนของ

มาให้พระเทวทัติอีก

เพื่อให้เพียงพอที่จะแลกขนมได้

 

พระเทวทัตบอกว่า

เอามาเยอะๆนะ ขนออกมา

ยายบอกว่า ถ้าเช่นนั้น ต้องรอนะ

 

พระเทวทัติบอกว่า

ให้ยายไปขนมามากๆ ขนมาให้หมด

เดี๋ยวจะไปขายที่อื่นก่อน

แล้วจะกลับมา

 

ยายก็ตกลง

ด้วยความรักหลาน

 

ระหว่างนั้น

พระพุทธเจ้าก็หาบขนมผ่านมา

สมัยยังเป็นพ่อค้าอยู่นะ

 

หลานยายก็ร้องอีก

ด้วยความเป็นเด็ก เห็นขนม

ก็ร้องกิน ไม่รู้เรื่องที่ยายตกลง

กับพระเทวทัติไว้

 

พระพุทธเจ้าสมัยเป็นพ่อค้า

ก็แวะ วางหาบลง

ตรงหน้า ภาชนะ ที่เอามาให้

พระเทวทัติดู แล้วบอกไม่มีค่า

ซึ่งหลานก็ยืนอยู่

 

ยายก็เลยออกมา

บอกว่า หลานอยากกินขนม

แต่ยายไม่มีเงิน

มีแต่ของพวกนี้ แลกขนมได้ไหม

 

พระพุทธเจ้า

ได้เอาเข็มกรีดดูภาชนะ

แล้วบอกยายว่า

ยายจ๋า สิ่งของเหล่านี้

เป็นของดี มีราคา มหาศาล

ไม่ควรที่ยายจะเอามาแลกขนม

 

ขนมหมดหาบนี้

ยังมีค่าน้อยนิด ไม่เพียงพอ

ให้ยายได้คุ้มค่า กับภาชนะนี้เลย

 

ยายบอกว่า

จริงหรือพ่อคุณจ๋า

แต่ว่า คนที่หาบขนมมา

เมื่อตะกี้นี้ เขาบอกยายว่า

ของยายไม่มีราคา ให้ไปเอามาอีก

ยายก็กำลังจะไปเอามาเพิ่ม

แต่พ่อคุณผ่านมาเสียก่อน

 

ยายเก็บของเหล่านี้ไว้เถอะ

มันมีค่ามากมาย

ไม่ควรนำมาแลกขนม

 

พระพุทธเจ้า

ให้ขนมแก่หลานยาย

แล้วก็รีบจากไปโดยเร็ว

ด้วยทราบดีว่า

ผู้ที่มาหลอกยายนั้นเป็นใคร

 

สักครู่เดียว

พระเทวทัติก็ย้อนกลับมา

 

ไหนล่ะยาย

ของที่ฉันให้หามาเพิ่ม

เพื่อจะแลกขนมน่ะ

 

ยายไม่แลกแล้ว

เพราะคนเมื่อตะกี้นี้เขาบอกยาย

ว่า

ของยายมีค่ามหาศาล

ทำไมพ่อคุณมาหลอกยายได้

 

พระเทวทัติ

เกิดโทสะในบัดดล

โกรธเกลียดเคียดแค้นพระพุทธเจ้า

ที่ทำให้เสียโอกาส ในลาภก้อนใหญ่

 

คิดอาฆาตรมาดร้ายว่า

ถ้ามึงไม่มาบอกความจริงกับยาย

ถ้ามึงไม่มาทำเป็นคนดี

คนซื่อ อย่างนี้

กูจะต้องได้ดี มีเงินทองมากมาย

 

กูกำลังจะได้ลาภ

ก้อนใหญ่อยู่แล้วเชียว

มึงมาทำลายชีวิตกู ความหวังกู

มึงคนเดียว ถ้าไม่มีมึง

ก็ก็ไม่ต้องชวดโอกาสทองนี้

 

ว่าแล้ว

พระเทวทัติก็ใช้มือทั้งสองข้าง

กอบทรายที่พื้นขึ้นมา

แล้วพูด ด้วยจิต ที่อาฆาตรแค้นว่า

 

กูจะขอจองเวรมึงไปทุกชาติ

เมล็ดทราบในกำมือกู

1 เมล็ด เท่ากับ 1 ชาติ

ที่กูจะจองล้างจองผลาย ทำลายล้างมึง

 

นี่คือสิ่งที่

เป็นสาเหตุที่พระเทวทัติ

ริษยาพระพุทธเจ้า

 

คุณแหวนถามว่า

ทำไมพระเทวทัติต้องริษยา

พระพุทธเจ้า

ทั้งที่พระพุทธเจ้ามีแต่เมตตา

ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร

ไม่ได้ทำอะไรพระเทวทัติ

 

นี่คือสาระ

และการได้รับสารสำคัญ

ที่เบื้องบนให้ตอบคุณแหวนวันนี้

 

อันที่จริงเรื่องนี้

เราท่าน หลายท่าน ทราบดีแล้ว

แต่วันนี้ เบื้องบนท่าน

ส่งสารมาเตือน

เมื่อคุณแหวนถามถึง

เรื่อง

พระนางเนเฟอร์ตารี

กับ

พระนางเนเฟอร์ตีติ

 

ว่ามีพฤติกรรมตรงกันข้ามกัน

อย่างไร

 

ทำไม

พระนางเนเฟอร์ตีติ

จึงริษยา

พระนางเนเฟอร์ตารี

มากมาย จนคิดทำลายล้าง

ทุกชาติขนาดนี้

 

จึงมีสารสำคัญ

นี้ขึ้นมาในบัดดล และท่านให้เล่า

ให้คุณแหวนฟัง แล้วก็ต้องเล่า

ให้ใครต่อใครฟังต่อๆไป

 

เอ

นี่เราจะต้องเล่า

ประวัติศาสตร์อียิปต์

หรือว่า

พุทธประวัติกันแน่เนี่ย

 

แล้วมันก็เริ่มจะปะปนกัน

เหมือนเป็นเหตุการณ์

จำลองกัน

ยังไงชอบกลนะ

 

เบื้องบนท่านบอกว่า

เล่าไปตามคำบัญชา แล้วคนอ่าน

ที่มีปัญญา จะรู้เอง

 

โอ

ใครรู้ตัวว่า

รู้ความนัย ช่วยมาบอก

ด้วยได้ไหม

 

ว่าเรื่องราว 2 เรื่องนี้

เกี่ยวกันยังไง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-02 23:56:47


ความคิดเห็นที่ 374 (1632221)

วันนี้

ระหว่างนั่งรถไปซื้อต้นไม้

คุณแหวนถามว่า

ที่ อ.ว่าพระนางเนเฟอร์ตีติ มาเกิดแล้ว

ในประเทศไทย

อ.รู้จักเขาไหมคะ

 

รู้จักค่ะ

 

ถ้างั้น เขาก็ต้อง เกี่ยวข้อง

กับพีระมิดซีคะ

 

ค่ะ

 

อ.เคยเจอเขาไหมคะ

 

เคยค่ะ

 

เขาเป็นยังไงคะ

 

เขาไม่ชอบ อ.อุบล

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า

ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน

ไม่เคยพูดกัน

แต่เรารู้ด้วยสัญชาติญาณ

ว่าเขาไม่ชอบเรา

 

หลังจากนั้น

เขาก็จะพูดจาให้ร้ายลับหลัง

เรื่อยมา จนคนฟัง

เอะใจ สะดุด สะกิดใจ

 

เราก็คิดในใจนะว่า

นี่สัญญาเดิม

มาแล้ว

 

คนที่ไม่เคยเห็นหน้า

ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ไม่เคยมีเรื่องขุ่นเคืองกัน

เราไม่เคยทำอะไรให้เขา

แต่เขา

สามารถเกลียดชัง ทำลายล้าง

เราได้ เหมือนที่เคยทำมา

ในอดีตชาติ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 00:04:49


ความคิดเห็นที่ 375 (1632224)

 พระพุทธเจ้าบำเพ็ญแต่ความดี

ช่วยเหลือผู้อื่น

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และคอยทำลายล้าง

มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

จากที่พอจำได้จากฟังพระเทศน์มา  ผิดถูก ประการใด กราบขออโหสิกรรม ด้วย นะครับ

  พระพุทธเจ้า แต่ละพระองค์ ก่อนจะ บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ  พระองค์ จะมีคู่ปรับ

หมายเลข1 คือ   พยามาร    จะมีบางพระองค์ ที่มี ผู้จ้องผลาญ             

                        อย่าง  พระพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน คือ พระเทวทัติ

ผม คิดว่า น่าจะเป็น เพราะ   อดีต ที่พระเทวทัติ  อธิษฐาน จองเวร พระพุทธเจ้า 

เท่ากับ เม็ด ทราย ในกำมือ

ด้วยเหตุที่  จิตมีสภาพจำ +  กฎแห่งกรรม ( กรรม ที่ไม่ดี ) ส่งผล  ทำให้ พระเทวทัต เจอ

พระพุทธองค์ เมื่อไหร่ จิตที่เคยจำลงไปแล้ว ว่า ไม่ชอบ จะทำลายล้าง   ทำให้ เจอ

พระพุทธองค์ ชาติไหน ก็ ก่อกรรม ที่ไม่ดี  ทุกชาติ ลง อเวจี ทุกชาติที่เจอ 

 

พระเทวทัติ   แต่ละชาติ ก็ ทำดี บ้าง  ไม่ดีบ้าง   พอมาชาติสุดท้าย เจอ พระัพุทธองค์ อีก

   สัญญากรรมไม่ดีที่จิต จำได้ + กรรมไม่ดีส่งผล       ก็ กระตุ้นอีก  ทำให้ พระเทวทัติ ก่อกรรมหนัก   พระพุทธองค์ ทรงรู้ ทุกอย่าง  แต่ พระองค์ ก็ทรงเมตตา ให้พระเทวทัติ ได้บวช  

 

ตอนที่  ทรณีสูบ พระเทวทัติ  ตั้งใจ จะไปกราบขอขมา พระพุทธองค์ อยู่แล้ว

   (  กรรมดี  คงส่งผล ให้คิดดี )    พระภิกษุ ท่านก็ มากราบรายงานพระพุทธองค์ ว่า เวลานี้

พระเทวทัติ มาถึง สถานที่  นี้ ๆ แล้ว   พระพุทธองค์ ทรงบอกว่า ต่อให้ พระเทวทัติ จะเข้ามา

ใน บริเวณ วัดที่พระัองค์ ประทับอยู่ได้ ก็ จะไม่เห็น พระองค์   เพราะ กรรมไม่ดี ที่ทำไว้ กับ

พระองค์จะมาบดบัง  

พอพระเทวทัติ  ใกล้ถึง  จึงลงสรงน้ำ ชำระร่างก่ายให้สะอาด เพื่อไป

กราบขอขมาพระพุทธองค์   ทรณีก็ สูบ พระเทวทัต ลง     ตอนนั้น พระเทวทัต  สรรเสริญคุณ

ของพระพุทธองค์   ขอพระองค์ ทรงเป็นสรณะที่พึ่ง   ทรณีสูบถึงคาง พระเทวทัต ก็ตั้งเจตนา

ถวายกระดูกคาง บูชาพระพุทธองค์   ทรณีก็สูบลงอเวจี

ด้วยเหตุที่ พระเทวทัติ กลับใจ  ตั้งใจจะไปกราบขอขมา พระพุทธองค์ ขอพระพุทธองค์

เป็นสรณะที่พึ่ง  ถวายกระดูกคางเป็นพุทธบูชา และได้อภิญญา5  ผลบุญส่วนนี้

ทำให้ ท่านพ้นโทษจากอเวจีก่อนกำหนด

ผู้แสดงความคิดเห็น ทศวรรษ ฉิมวงศ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 00:06:10


ความคิดเห็นที่ 376 (1632226)

นี่ขนาดแค่

อ.อุบล มีส่วนเกี่ยวข้อง

กับพระนางเนเฟอร์ตารีอย่างมากนะ

ยังโดนขนาดนี้ แล้วถ้าเกิด

เป็นพระนางจริงๆ มาปรากฎ

จะโดนขนาดไหน

 

แล้วที่ผ่านมา

เขาก็แพ้มาทุกชาตินะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 00:07:59


ความคิดเห็นที่ 377 (1632234)

24 กันยายน 2555

กราบเรียน อาจารย์อุบล และคณะทำงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทน อ.

          ผม นายอัมรินทร์  โฉมแฉล้ม อายุ 58 ปี ได้เคยไปที่โรงแรม เดอะทราเวลเลอร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กย.55 และอ.อุบล ได้มีเมตตาให้ผมได้มาที่บ้านสวนพิระมิด เพื่อใช้แรงกายสร้างบุญ วิหารทานในวะนเสาร์และอาทิตย์ ต่อมา เนื่องจากที่ผมได้เคยแจ้งที่บ้านสวนพิระมิด และคุณฯแมวทราบแล้วว่า ผมยังไม่สามารถเข้าระบบสมาชิกได้ เราะติดขัดเรื่องอีเมลล์ ยังไม่มีเป็นของตนเอง ดังนั้นผมขอความเมตตาจากคณะทำงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากอ.อุบล หรือผู้เชี่ยวชาญอินเตอร์เนตของบ้านสวนฯ ได้โปรดลงธรรมทานที่ผมไปเห็นมาที่โรงแรม เดอะทราเวลเลอร์ และบ้านสวนฯดังนี้ ไว้ในเวป www.baansuanpyramid.com

- ที่โรงแรม เดอะ ทราเวลเลอร์ ตัวผมเองก่อนไปในวันพฤหัสฯตอนเย็น ตัวผมเกิดอาการผิดปกติ ปวดหลังมือซ้ายขึ้นมาทันทีอย่างไม่รู้สาเหตุ พอไปรับบารมีที่ อ.อุบล ขออันเชิญมาจากองค์พระศรีอาริย์ ตั้งแต่ตอนที่ท่าน อ.อุบล สั่งให้ทุกคนต่อแถวแล้วเดินผ่านบนเวที ผมก็เริ่มหายปวด ยิ่งเดินไปใกล้ อ.อุบลยิ่งหายปวดที่หลังมือซ้ายเลย และมีผู้หญิงคนหนึ่งถูกไสบศาสตร์เล่นงาน มีอาการน้ำมันเหนี่ยวเหนอะที่ผมบนศีรษะ ไม่ว่าจะล้างอย่างไรก็ไม่หาย ถึงขนาดบินไปที่ อังกฤษ ก็เปลี่ยนเป็นเจ็บปวดบริเวณอื่น แต่พอกลับเมืองๆทย ก็เกิดอาการน้ำมันเยิ้มที่ศีรษะอีก จนได้ใช้น้ำพลังพิรามิดของบ้านสวนฯ จึงหายจากอาการดังกล่าวไม่เป็นอีกต่อไป  และคนอื่น ๆ ที่มีอาการต่าง ๆ กัน เมื่อ อ.อึบลไต่สวนกรรม และทุกคนยอมรับ และด้วยบารมีแห่งองค์พระศรีอาริยเมตไตย ทำให้ทุกคนหายจากอารที่เป้นอยู่ ยกเว้นบางคน ที่มีอาการยังหายไม่หมด เพราะสารภาพกรรมไม่หมดหรือ กรรมจากอดีตชาติ ก็จะยังมีอาการเหลืออยู่บ้าง มากน้อยไม่เท่ากัน

 

- ที่บ้านสวนพิรามิด ในวันอาทิตย์ที่ 23 กย. 55

กระผมได้ขึ้นแสดงธรรมทาน แสดงเหตึการณ์ของวันศุกร์ที่ 21 กย.55 ดังเล่าแล้วข้างต้น ในเหตึที่เป็นเสมือนปาฏิหารย์แห่งองค์พระศรีอาริยเมตไตย และข้าพเจ้าเชื่อว่า พระองค์มีจริง และผมได้แจ้งอาการที่ผมคิดว่า ผมอาจเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เพราะมีอาการถ่ายเป็นสีดำอยู่บ่อยครั้ง อ.อึบล ท่านสรุปว่า ถ้าคิด ก็จะเป็น มำให้ผมกลับมาถึงบ้านแล้วคิดได้ว่า คตงเป็นตามกฏอิทัปปจยตา ที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับลงได้ นั่นคือ ผมคิดว่าเป็นมะเร็ง ก็จะเป็นได้ แต่ถ้าไม่คิดก็คือ เหตุดับ ผลที่ได้ก็คงดับไปด้วย คือ จะไม่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ๋ที่คาดไว้  ยังมีอีกเรื่อง อาจารย์ห้ามไม่ให้คนที่เป็นได้ แต่ผู้ตามไม่สามารถเป็นผู้นำได้ห้ามไปบ้านสวนฯ อีกต่อไป เพราะ อาจารย์ต้องการแต่ผู้นำเท่านั้น ผมดูตัวอย่างแล้วเห็นว่า เป็นผู้ตามในขณะนี้ นอกจากว่าผมจะเปลี่ยนนิสัย ให้เป็นผู้นำได้ จึงเข้าเขตบ้านสวนได้ต่อไปภายหน้า แต่ถึงกระนั้น ขอผมได้มีโอกาส ไปเข้าค่ายฯ 13 ด้ฟังบรรยายเรื่องภัยพิบัติด้วยสักคนเถืดครับ ขอความเมตตา กรุณา จากท่าน อ.อุบล อีกสักครั้งด้วยเถิดครับ และยังมีธรรมทานของคนอื่นอีก ที่จำได้ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่บ้านอยู่ใกล้ รพ. แห่งหนึ่งที่บางบัวทอง มือข้างหนึ่งไปแบกเสาปูน ถูกเสาทับนิ้วชี้ จนเลือดไหลมาก แต่ท่าน อ.อุบล ท่านด้ช่วยทำแผลให้ ซึ่งปกติแผลที่ล้างน้ำ จะแสบมาก แต่กลับไม่แสบเลย นอกนั้นก็มีธรรมทาน อีประมาณ 3 ท่าน แต่ผมขอเล่าเพียงเท่านี้ครับ  ผมทราบดีว่า ขณะนี้ตัวผมอยู่ในสถานะผู้ตาม คงจะรบกวนคณะผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนของอาจารย์อุบล ให้ช่วยลงเวปให้ผมบ้าง ไม่กี่ครั้งแล้วนอกจากผมจะทำตัวเป็นผู้นำให้ได้ และสามารถเขียนลงเวปไซด์ได้

ขอแสดงความนับถือและขอบพระคุณ อ.อุบลเป็นอย่างยิ่ง

ขอแสดงความขอบคุณต่อผู้ที่ลงเวปไซด์ให้ผม

ขอบคุณครับ

หมายเหตุ  ถ้าหากว่า ในการไปบ้านสวนพิระมิด ครั้งแรกของผมนี้ มีสิ่งใดที่เป็นเหตุให้ ทำผิดกฏ กติกา ระเบียบ แห่งบ้านสวนฯ ผมขอกราบขอขมา มา ณ. ที่นี้ด้วยครับ กราบขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยครับ

       

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 00:51:38


ความคิดเห็นที่ 378 (1632242)

พระเทวทัติ

เกิดโทสะในบัดดล

โกรธเกลียดเคียดแค้นพระพุทธเจ้า

ที่ทำให้เสียโอกาส ในลาภก้อนใหญ่

 

คิดอาฆาตรมาดร้ายว่า

ถ้ามึงไม่มาบอกความจริงกับยาย

ถ้ามึงไม่มาทำเป็นคนดี

คนซื่อ อย่างนี้

กูจะต้องได้ดี มีเงินทองมากมาย

 

กูกำลังจะได้ลาภ

ก้อนใหญ่อยู่แล้วเชียว

มึงมาทำลายชีวิตกู ความหวังกู

มึงคนเดียว ถ้าไม่มีมึง

ก็ไม่ต้องชวดโอกาสทองนี้

...................................

กราบอนุโมทนาสาธุค่ะอาจารย์

รู้สึกว่าเรื่องราวความแค้น

ในอดีตของท่านเทวทัติและพระพุทธองค์

ช่างมาสอดคล้องลงตัว

กับเรื่องราวในชาติปัจจุบัน

ของพระนางเนเฟอร์ตารี่

และพระนางเนเฟอร์ตีติ จริงๆเลยนะคะ


แล้วก็เป็นเหตุการณ์คุ้นๆ

ที่เคยเกิดขึ้นในรั้วบ้านสวนฯมากๆ

 

เพราะด้วยความเมตตา

แบบหาที่เปรียบไม่ได้ของท่านอาจารย์

ที่พยายามอุ้มชู ให้ที่อยู่ที่กิน

แก่แม่ลูก ผู้ตกยากคู่หนึ่ง

 

แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมา

คือ ความอกตัญญู

และการทำลายล้างทุกรูปแบบ 

 

ที่เห็นเบื้องหน้าก็ค่อนข้างชัดเจน

เพราะกัด เห่า

และ เกาะติดเว็บบ้านสวนฯทุกฝีก้าว

แล้วก็เอาข้อมูลดีๆไปยำให้เละ

 

ส่วนเบื้องหลังไม่รู้ไปพึ่งแม่มด หมอผี

ของดำ คุณไสย์

มาทำร้ายอาจารย์บ้างหรือไม่


คำถามของหนูแหวนวันนี้

คงทำให้พวกเราได้รู้ว่า

การเป็นคนดีของพระพุทธองค์

หรือ การเป็นคนดีของท่านอาจารย์นั้น

อาจจะไม่ได้ทำให้มีแต่คนรักเสมอไป

เพราะมันกลับทำให้คนเลวๆ

ที่เสียประโยชน์คนหนึ่ง

มีจิตฝังแค้นได้ตลอดกาล เลยทีเดียว....


แต่คิดดูอีกที

ก็ปลงอนิจังจริงๆเลยนะคะ

เพราะ ถ้าหญิงคนที่

ชนิดานึกถึงอยู่ในขณะนี้

คือ พระนางเนเฟอร์ตีติ

ที่กลับชาติมาเกิดจริงๆล่ะก็

 

โห...ทั้งหน้าตาและฐานะ

ความมั่งคั่งในครั้งอดีต

ไม่เหลือเคล้าเดิมใ้ห้เห็น

แม้เพียงเศษเสี้ยวเลยเหรอเนี่ย

 

อ้อ..เหลืออย่างเดียว

ที่ใกล้เคียงของเดิม

คือ ยังคงความติดหรู..อยู่

ถึงตังค์ไม่มี

แต่ก็ขอใช้ชีวิตแบบฟุ่มเฟือยไว้ก่อน

 

ก็เขียนไปตามความรู้สึกค่ะ

แต่จะเป็นคนละเรื่องเดียวกันหรือไม่

ต้องรอท่านอาจารย์

เมตตามาเผยเพิ่มเติมนะค๊า

...........................................

อนุโมทนากับธรรมทาน

จาก คุณ อัมรินทร์ ที่คุณแมว

นำมาโพสต์ด้วยค่ะ

 

อ่านแล้วรู้สึกได้ว่า

คุณ อัมรินทร์ มีความตั้งอกตั้งใจ

ที่จะเขียนมากๆเลยนะคะ เนี่ย..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 04:01:42


ความคิดเห็นที่ 379 (1632243)

 

พระพุทธเจ้า

บำเพ็ญแต่ความดี ช่วยเหลือผู้คน

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

 

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และ คอยทำลายล้าง

 มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

 

*****************************

ถ้าแม้ว่าพระพุทธเจ้าจะสงเคราะห์ยายหลานด้วยความเมตตา

แต่ผู้เสียผลประโยชน์กลับคิดมาจิตเคียดแค้นได้มากมายขนาดนี้

ถึงขนาดอธิษฐานจิตตามจองล้างจองผลาญกันทุกชาติ

ผลของความอาฆาตมันให้โทษรุนแรงแบบนี้เนี่ยเอง

บุญของอภัยโทษถึงได้ยิ่งใหญ่


นอกจากความเคียดแค้นในชาติสุดท้ายที่พระเทวทัตได้เจอกับพระพุทธเจ้าก็ยังเกิดความอิจฉาริษยาพระองค์

หนึ่งคิดว่าชาติสุดท้ายนั้น

พระเทวทัตต้องการได้รับการยอมรับ การเป็นหนึ่งเดียว

การเป็นเลิศในทุกด้านๆ

เพื่อให้ตนเองได้อยู่ในฐานะของ"ผู้ที่ได้รับ" ได้รับทั้งความเคารพ ได้รับความศรัทธา ได้รับเครื่องบูชาต่างๆ....

ในขณะที่พระพุทธองค์ทรงตั้งมั่นที่จะนำมนุษย์ทั้งหลายให้ข้ามพ้นทะเลแห่งความทุกข์ ให้หลุดพ้นจากเวียนว่าย ตาย เกิด

ให้หลุดพ้นจากสมมุติต่างๆบนโลกทรงอยู่ใน"ฐานะของผู้ให้"

โดยแท้จริง

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 04:35:45


ความคิดเห็นที่ 380 (1632245)

 แต่คิดดูอีกที

ก็ปลงอนิจังจริงๆเลยนะคะ

เพราะ ถ้าหญิงคนที่

ชนิดานึกถึงอยู่ในขณะนี้

คือ พระนางเนเฟอร์ตีติ

ที่กลับชาติมาเกิดจริงๆล่ะก็

 

โห...ทั้งหน้าตาและฐานะ

ความมั่งคั่งในครั้งอดีต

ไม่เหลือเคล้าเดิมใ้ห้เห็น

แม้เพียงเศษเสี้ยวเลยเหรอเนี่ย

**********************

ยิ่งอ่านข้อความของท่านอ. 

เรื่องที่ท่านอ.เจอจิตวิญญาณของพระนางเนเฟอร์ติตีแล้ว

คนที่คุณชนิดาคิด ต้องเป็นคนๆเดียวกับที่หนึ่งคิดแน่ๆเลยคะ

คนที่พยายามที่จะทำร้ายท่านอ.ทุกรูปแบบโจมตีทุกโอกาส

และก็คงจะหายใจเข้าออกเป็นแต่ท่านอ.แน่ๆ


ความมั่งคั่งในอดีตที่ไม่เหลือเคล้าเดิมไว้ให้เห็น

คงจะเป็นผลกรรมสืบเนื่องกันมาที่พระนางมักจะแสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ของผู้อื่นแน่ๆคะ

 

เนื่องจากตอนนี้มีบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อียิปต์ 3 ท่าน

พระนางคลีโอพัตรา - พระนางเนเฟอร์ตารี - พระนางเนเฟอร์ติตี

 

กราบเรียนถามท่านอ.คะ ไม่ทราบว่าแล้วท่านอ.มีโอกาสได้พบจิตวิญญาณของพระนางคลีโอพัตราหรือยังคะ แล้วพระนางจะมาเป็นฝ่ายช่วยสนับสนุนจิตวิญญาณของพระนางเนเฟอร์ตารีหรือไม่คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 04:46:45


ความคิดเห็นที่ 381 (1632277)

การเป็นคนดีของท่านอาจารย์นั้น

อาจจะไม่ได้ทำให้มีแต่คนรักเสมอไป

เพราะมันกลับทำให้คนเลวๆ

ที่เสียประโยชน์คนหนึ่ง

มีจิตฝังแค้นได้ตลอดกาล เลยทีเดียว....

/*/*/*/*/*/*/*/*/*/

ถูกต้องอีกแล้วคร๊า

อ่านเรื่อง ที่ อ.อุบล

นำมาเขียนวันนี้ทำให้

รับรู้ว่า...

คนโง่ ย่อมเป็นเหยื่อ ของ

คนฉลาด ( ขี้โกง )

ความสอดคล้องกันกับ

เหตุการณ์ของ

พระพุทธเจ้า&พระนางเมเฟอร์ตาลี

ที่ทำให้

พระเทวทัต & พระนางเมเฟอร์ติติ

คิดว่าเป็น ก้างขวางคอ

ทำให้เกิด

ความริษยา อาฆาตร

*************

 

 

 

กูกำลังจะได้ลาภ

ก้อนใหญ่อยู่แล้วเชียว

มึงมาทำลายชีวิตกู ความหวังกู

มึงคนเดียว ถ้าไม่มีมึง

ก็ไม่ต้องชวดโอกาสทองนี้

-*-*-*-*-*-*-*-

ต้องขอร้องเพลง

ไก่ย่าง ถูกเผา

เราจะเอาไม้เสียบ 555+++

เอ้า เสียบตูดซ้า เสียบตูดขวา

เสียบยังไงก็โดน

ไม่รู้ว่า เพลงนี้มันเข้ามาได้งัย

แต่ที่แน่ ๆ โดน ตรง ๆ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ไก่ย่าง คือใคร ???

ไม้เสียบ คือใคร ???

555++

ประวีณา ขอทิ้ง ปริศนา

ให้ผู้อ่าน อย่าได้ทอดทิ้ง

หาคำตอบกันนะคะ  

รับรอง ต้องมีผู้ตอบถูก

จิง จิง นะตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 09:00:12


ความคิดเห็นที่ 382 (1632280)

ข้อมูลเพิ่มเติม

การสื่อสารเรื่องประวัติศาสตร์อียิปต์

และ

เรื่องพระพุทธเจ้า - พระเทวทัติ

 

พระนางเนเฟอร์ตารี-พระนางเนเฟอร์ตีติ

มันมาโยงกันยังไงก็ไม่ทราบ

 

แต่

การสื่อสารที่ได้รับอีก

คือ

 

พระนางเนเฟอร์ตีติ

ในอดีตชาติ

 

นอกจาก

เกี่ยวข้อง กับแม่มด-หมอผี

แล้วยังมีความสามารถ

พิเศษสุด

ในการหาเหยื่อ

หลอกใช้ หรือ ยืมมือคนโง่

คนเลว มาทำลายล้างศรัตรูของตัวเอง

แทน เพราะ ลำพังตัวเอง

มีกำลังน้อย

 

ดังนั้น

บริวารของพระนาง

ก็ติดตามมา ทำหน้าที่

"ทำลายล้าง"

เป็นทาสรับใช้นางเช่นกัน

แต่

ในที่สุดพระนางเนเฟอร์ติติ

ก็จะถูกพวกที่ตนหลอกใช้

ทำลายล้างตัวเอง

ในที่สุด

 

หลังจาก

วันหนึ่ง ความจริง

ถูกเปิดเผยว่า ที่แท้จริงแล้ว

ที่สุดแล้ว ทุกคนถูกหลอกใช้

เพื่อสนองประโยชน์

ส่วนตัวล้วนๆ

 

แล้วก็จะพบว่า

พระนาง ไม่เคยรักใครจริง

ไม่เคยจริงใจกับใคร

ไม่เคยให้ใคร โดยไม่หวังผล

 

ไม่เคยเป็น "ผู้ให้"

ไม่เคยไว้ใจใครจริงๆจังๆ

ไม่เคยเป็นมิตรแท้กับใครจริงๆจังๆ

ไม่เคยช่วยเหลือ ปกป้องใคร

เมื่อภัยมาถึงมิตร

มีแต่

คอยเอาตัวรอด

 

พระนางเนอเฟอร์ตีติ

ที่ได้รับสารมา

เป็นคนขี้ขลาด หวาดหวั่น

แต่

ทะเยอทะยาน อยากเด่น

อยากเป็นที่ 1

 

ยอมไม่ได้

ที่จะเห็นใครดีกว่าตน

 

โดยเฉพาะ

พระนางเนเฟอร์ตารี

ที่อดีต มีแต่คนรัก คนบูชา

เพราะว่า

พระนางเป็นแต่ผู้ให้

ซึ่งตรงกันข้าม

กับนาง

 

สารที่ได้รับมา

คือ

พระนางเนเฟอร์ตีติ

จะพาสาวกของพระนาง

เดินเข้าสู่ขวากหนามอย่างที่สุด

ทุกคนที่หลงกลพระนาง

จะต้องเดือดร้อน

ทั้งชีวิต

ด้วย

ฝีมือพระนาง

เป็นผู้หยิบยื่นแผนการณ์ให้

หลอกใช้ให้ทำแทน

ให้ผิดแทน

ให้รับโทษทัณฑ์แทนนาง

 

แต่พระนาง

พลาดไป คิดว่า ไม่มีใครรู้

 

สิ่งที่แต่ละคนคาดเดามา

หรือวิเคราะห์มานั้น

เบื้องบนท่าน

บอกว่า

 

ยัง

ยัง เปิด ไม่ หมด

ยังมีสิ่งที่ผู้คนยังคิดไม่ถึง

แต่บัดนี้ ความไม่ดี ของพระนาง

ที่ทำอย่างย่ามใจนั้น

ได้ขยายวงกว้าง

เพื่อ

ทำลายล้างพระนาง

และ

พักพวกร่วมขบวนการ

ของพระนาง

แล้ววว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 09:32:38


ความคิดเห็นที่ 383 (1632300)

จากข้อความที่ท่านอาจารย์ได้รับการสื่อสารมานั้น ทำให้เห็นได้ว่า พระนางเนเฟอตีตินี่ เป็นคนน่าสงสารจริงๆครับ ความริษยาตัวเดียว ทำให้พระนางกล้าหาญในการสร้างบาปหนัก

ทำคนเดียวไม่พอ ยังลากบริวารลงไปนรกพร้อมกันอีก แต่ก็น่าคิดนะครับ พระนางได้กลับมาเกิดในชาตินี้แล้ว และยังเกี่ยวข้องกับพีระมิดอีก

โอว้วว...เรียกว่ากะจะจองล้างจองผลาญพระนางเนเฟอตารีทุกชาติจริงๆเลยสิ พับผ่า...พี่น้อง 5555

แสดงว่าใกล้จุดจบของความความเลวร้าย พลังงานลบแล้วสิครับท่านอาจารย์ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่า เกิดมากี่ชาติกี่ชาติ ความริษยานี่ทำให้คนตกนรกได้มากมายขนาดนี้เชียวหรือ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 10:33:20


ความคิดเห็นที่ 384 (1632336)

 จากการเสียลาภก้อนใหญ่ ทำให้พระเทวทัต

ถึงกับอธิษฐานขอจองล้างจองผลาญ

พระพุทธเจ้าทุกชาติ แสดงให้เห็นความโกรธและความโลภ

ของพระเทวทัตคงมากมายมหาศาล จนดวงจิตคงดำมืดสนิท

พอถึงชาิติที่โดนธรณีสูบ

ก็มีความอิจฉาริษยามาก ที่เห็นมีคนนับถือพระพุทธเจ้ามากกว่า

เห็นตัวเองด้อยกว่า ไม่เป็นที่  1 ก็ตั้งตนแข่งกับพระพุทธเจ้า

ส่วนพระนางเนเฟอร์ตีติ เป็นราชินีที่ร่วมกับพระสวามีองค์ฟาโรห์อาเคนาเตน

สมัยนั้นมีการปฏิรูปศาสนา มีการทะเลาะกับนักบวช

ที่นับถือเทพเจ้าแบบหลายองค์

ก็บังคับให้นับถือแบบองค์เดียวคือ สุริยเทพอาเตน

และจัดการกับผู้ต่อต้านแบบถอนรากถอนโคน

องค์ฟาโรห์ ก็ครองราชย์เพียง 17 ปี  

ส่วนพระนางก็ทำตัวเป็นผู้ปกครองร่วม ไม่ได้ทำตัวเยี่ยงราชินี

 ประวัติของพระนางก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเสียชีวิตอย่างไร

ไม่มีหลักฐานยืนยัน บางบทความก็เรียกว่าราชินีผู้สาบสูญ

ค้นพบมัมมี่ ก็ระบุไม่ได้ว่าใช่พระนางหรือเปล่า

ประวัติของพระนางไม่มีอะไรชัดเจน

พ่อแม่เป็นใครก็ระบุได้ไม่แน่ชัด

ตรงข้ามกับพระนางเนเฟอร์ตารี ราชินีขององค์ฟาโรห์รามเสสที่ 2

ผู้ครองราชย์ถึง 67 ปี  มีพระชนมายุอยู่ถึง 90 ปี

มีพระโอรสพระธิดาเป็น 100 พระองค์

ถือเป็นองค์ที่มีคำว่า มหาราชต่อท้ายพระนาม

และพระนางเป็นที่รักยิ่งของพระสวามี

มีรูปแกะสลักอยู่ที่ มหาวิหารอาบูซิมเบล 

ใกล้กับรูปแกะสลักของพระสวามี

ใครไปเยี่ยมชม ก็สามารถชื่นชมบารมีทั้ง 2 พระองค์ได้จนถึงปัจจุบัน

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พระนางเนเฟอร์ตีติ อิจฉาพระนางเนเฟอร์ตารีได้อย่างไร

ถ้าีคนนึงเปรียบกับน้ำเย็น อีกคนก็คงเป็นไฟ(ริษยา) ใครอยู่ใกล้คงมีแต่ความรุ่มร้อน

แล้วดวงจิตที่่แต่ความอิจฉาริษยา พยาบาท อาฆาต

ตายแล้วเกิด ๆ ชาติแล้วชาติเล่า เขาเอาความสุขที่ไหนมาหล่อเลี้ยงชีวิต

แล้วทำอย่างไรถึงจะให้ดวงจิตของเขาหลุดพ้นจากด้านมืด

ให้พบกับด้านสว่าง

คำว่าให้ อภัยหรือ 

แล้วเมื่อไหร่ถึงจะคิดได้ว่าให้อภัย

เพราะว่าคำว่าอภัย ไม่เคยผุดขึ้นมาในสมองเลย ไม่ว่าชาติไหน ๆ

หรือว่าต้องมีทางเดียวที่จะไม่ทำความเดือดร้อนให้ใครอีกคือ

อเวจี

ผู้แสดงความคิดเห็น เยาวลักษณ์ เกิดมีทรัพย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 13:45:47


ความคิดเห็นที่ 385 (1632356)

พระพุทธเจ้า

บำเพ็ญแต่ความดี ช่วยเหลือผู้คน

ที่ตกทุกข์ได้ยาก

 

แล้วทำไมพระเทวทัติ

จึงต้องริษยา และ คอยทำลายล้าง

 

มาช่วยกันตอบ

ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยนะจ๊ะ

เผื่อว่า

จะทำให้ท่านพ้นภัยพิบัติ

ด้วยอานิสงส์

ที่จะส่งผลถึงการตามหา

พระศรีอาริย์ เจอ

หนูคิดว่าพระเทวทัติ อยากมีบารมีเหมือพระพุทธเจ้า

อยากมีคนเคารพนับถือเหมือนพระพุทธเจ้า

และพระเทวทัติคือ พยามารตัวสำคัญที่คอยทดสอบพระบารมีพระพุทธเจ้า

เหมือนพระนางเนเฟอร์ตารี่ และพระนางเนเฟอร์ตีติ

และท่านอาจารย์อุบล ก็มีพยามารตัวแม่คอยทดสอบบารมีเช่นกันค่ะซึ่งตอนนี้กำลังทำลายอาจารย์อุบลทุกวิถีทางยิ่งมีคนนับถือและศรัทธาอาจารย์อุบลมากเท่าไหร่ เธอคนนั้งก็ยิ่งหากลวิธีทำลายอาจารย์อุบล      ทุกวิธีทางอัพเกรดตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ อาจารย์มีเวบไซด์ไว้คอยช่วยเหลือผู้คนให้ผู้คนมากมายได้ศึกษาธรรมะ เธอคนนั้นก็สร้างเวปปลอมคอยทำล้ายล้างอาจารย์ และล้อเลียนสิ่งศักดิ์สิทธิ์  แต่ยิ่งทำให้คนสนใจเวบบ้านสวนเพิ่มยิ่งขึ้น และยิ่งทำให้บารมีท่านอาจารย์อุบลมากขึ้น และไม่มีทางที่จะเอาชนะอาจารย์อุบลได้เลย เพราะบารมีคนละชั้น เธอคนนั้นไม่เคยคิดจะทำความดี แต่คอยคิดหาทางลงอเวจีและเธอกลัวเงาเลยหาเพื่อนร่วมแนวทางไปด้วยหลาย ๆ คน ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 16:06:59


ความคิดเห็นที่ 386 (1632440)

ยัง

ยัง เปิด ไม่ หมด

ยังมีสิ่งที่ผู้คนยังคิดไม่ถึง

แต่บัดนี้ ความไม่ดี ของพระนาง

ที่ทำอย่างย่ามใจนั้น

ได้ขยายวงกว้าง

เพื่อ

ทำลายล้างพระนาง

และ

พักพวกร่วมขบวนการ

ของพระนาง

แล้ววว

....................................

พอได้อ่านคำว่า ยังเปิดไม่หมด

ทำไมคำว่า แม่มด หมอผี

ผุดขึ้นมาในหัวทันที

 

ฉะนั้น สิ่งที่เบื้องบนพยายามที่จะสื่อสาร

น่าจะเป็นไปได้ไหม๊คะว่า

เมื่อครั้งอดีตชาติ

พระนางเนเฟอร์ตีติ

ก็เคยใช้เวทย์มนต์คาถา

หรือทำมหาเสน่ห์

เพื่อหลอกล่อใ้ห้คนมาติดกับ

แล้วก็หลอกใช้คนเหล่านั้น

ให้ทำทุกอย่างตามที่นางสั่ง

 

ฉะนั้น เมื่อมาถึงชาตินี้

ก็ทำให้นึกถึง เฟสปลอมนั้น

อาจจะลงมนต์ดำไว้

คือถ้าใครเข้าไปกด"ไลค์"โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่

หรือไปคิดไปคล้อยตามแม้เพียงเล็กน้อย

ก็จะถูกมนต์ดำครอบใจในทันที

เรียกว่า ถูกเล่นของเลยเห็นๆ 


ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า คนเหล่านี้

ล้วนแล้วแต่บังคับใจตัวเองไม่ได้

ยิ่งอ่าน จิตยิ่งถูกดึงให้ต่ำลง

ก็ยิ่งถูกเวทย์มนต์สะกดได้ง่าย

และยาวนานเลยที่นี้....


อ๋อ มิน่าล่ะ เค้าถึงพยายามปลุกปั่น

เด็กหัวอ่อนเหล่านั้น

ให้ไม่เคารพพระพุทธเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เพราะถ้าใครซักคน เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้มครองคนๆนั้นได้


แต่สำหรับใครที่เป็นคนฝึกกรรมฐานอยู่แล้ว

หรือเป็นคนที่มีครูบาอาจารย์

หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่

 

ถึงแม้จะเผลอเข้าไปอ่าน แต่"จิตแข็ง"

และไม่รู้สึกคล้อยตาม

และมองออกได้ในทันทีว่า

นั่นเป็นเฟสปลอม

ที่ไม่ควรให้ความเชื่อถือแต่อย่างใด...


โห..พระนางเนเฟอร์ตีิติ เนี่ย

น่ากลัวชะมัดเลย

คบไม่ได้เลยนะเนี่ย

ประมาณว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์

ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์

ก็ต้องเอาด้วย คาถา ว่างั้นเถอะ


แต่สุดท้าย"คนที่ทำ"นั่นแหล่ะ

โดนก่อนใครเลย แล้วจะโดนหนักซะด้วย...


ฝากถึงชาวเฟสปลอมด้วยนะจ๊ะว่า

จี้องค์เทพสฟิงซ์แห่งบ้านสวนฯ

มีจำนวนจำกัดนะจ๊ะ

ฉะนั้น หมั่นทำบุญไหว้พระสวดมนต์

ให้่ตัวเองกันบ้างนะ...

.......................................

เฮ้อ สงสารทุกฝ่ายเลยนะเนี่ย

ทั้งสงสารพระนางเนเฟอร์ตีติ

ที่มีแต่ความริษยา

และความแค้นฝังใจตลอดเวลา

แล้วจะมีช่วงเวลาแห่งความสุข

ของชีวิต ตอนไหนเนี่ย

 

 

แล้วก็ สงสารทุกคนที่ถูกหลอกใช้ด้วย

อยู่ดีไม่ว่าดี

ก็มาถูกหลอกใช้ ให้ทำชั่ว

โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า "โดนของ"ไปเต็มๆ 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 03:41:05


ความคิดเห็นที่ 387 (1632552)

เคยคิดสงสัยว่าทำไมจึงมีผู้ร่วมขบวนการกับพระนางมากมายนัก

ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วว่าพระนางคงใช้เสน่ห์มนต์ดำนี่เอง เท่าที่รู้

พระนางจะถนัดใช้เสน่ห์มนต์ดำเกี่ยวกับเรื่องเงินเป็นหลัก

ที่แท้พระนางก็ใช้เสน่ห์มนต์ดำในเรื่องให้คนมาเป็นแนวร่วมด้วย

อยากเห็นจุดจบของพระนางเนเฟอตีติ และเหล่าบริวารที่ร่วมขบวนการ

หลังจากที่พระนางและเหล่าบริวารได้สร้างวีระกรรม ทั้งอิจฉาริษยา

ใส่ร้าย ป้ายสี ทำลายล้าง ใช้เสน่ห์มนต์ดำ จนตกต่ำย่ำแย่ในทุกด้าน

ต่อไปจะเป็นอย่างไรอีกหนอ......

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 17:58:08


ความคิดเห็นที่ 388 (1632588)

 

ทุกคนที่หลงกลพระนาง

จะต้องเดือดร้อน

ทั้งชีวิต

ด้วย

ฝีมือพระนาง

เป็นผู้หยิบยื่นแผนการณ์ให้

หลอกใช้ให้ทำแทน

ให้ผิดแทน

ให้รับโทษทัณฑ์แทนนาง

 

แต่พระนาง

พลาดไป คิดว่า ไม่มีใครรู้

....................................

เรื่องของพระนางเนเฟอร์ตีติ..เนี่ย

ยิ่งอ่าน ยิ่งคิด ยิ่งเห็นถึงความซับซ้อน

ของเรื่องราวต่างๆนะคะ

คนนอกอย่างเรา

คงจะคาดเดาได้ยากว่าอะไรเป็นอะไร

 

แต่สำหรับ"คนวงใน" ที่ได้สัมผัส

และได้ร่วมงานกับพระนาง

คงจะเริ่มเห็นไส้เห็นพุง

และนิสัยที่แท้จริง

ของกันและกันบ้างแล้วนะคะ


ซึ่งสุดท้ายแล้ว

ทุกคนที่มาเกี่ยวข้องกับเธอ

ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่"ถูกหลอกใช้"

แล้วก็ ถูกวางแผน

ให้เป็นแพะรับบาปแทนเต็มๆ


คือคิดๆแล้ว

ทำให้ชนิดานึกย้อน

ไปถึงความรู้สึกของอาจารย์ว่า

อาจารย์ทำใจได้อย่างไร

เพราะถ้าพูดตรงๆแล้ว

 

ท่านอาจารย์รู้ทุกอย่างว่าใครเป็นใคร

มาบ้านสวนฯเพื่ออะไร

แุถมยังรู้อดีตชาติของคนๆนั้นด้วย


โห..คิดๆแล้ว ต้องบอกว่า

สุดยอดมากๆค่ะอาจารย์

ทั้งๆที่"รู้ลึก"ทุกอย่าง

แต่อาจารย์ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ซักอย่าง

และเล่นไปตามบท เนี่ย...

คนธรรมดาๆอย่างเรา

คงฝืนใจ..สุดฤทธิ์เลยนะคะเนี่ย...


และที่สำคัญ

ใช่ว่าจะมีเพียงรายนี้รายเดียวซะที่ไหน

เพราะที่ผ่านๆมา

เท่าที่นับได้...ก็ไม่น้อย..แย้ววว 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-05 03:33:11


ความคิดเห็นที่ 389 (1632634)

 แล้วก็ สงสารทุกคนที่ถูกหลอกใช้ด้วย

อยู่ดีไม่ว่าดี

ก็มาถูกหลอกใช้ ให้ทำชั่ว

โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า "โดนของ"ไปเต็มๆ 

*******************

อดนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเองคาดว่าน่าจะโดนของ

จากการไปอ่านข้อความที่มา post ว่าท่านอ.ที่กระทู้ในเฟสบุ๊ค

(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหนึ่งเคยธรรมทานในกระทู้แหวนองค์เทพสฟิงซ์ คห.338 คะ)

 

ยังจำความรู้สึกหลังจากได้รับพระบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เลย

พอตื่นมาตอนเช้ารู้สึกเหมือนร่างกายเราเบาขึ้น โล่งขึ้น

และรู้สึกเหมือนอะไรที่มาครอบเราไว้มันหายไปหมด 

 

ท่านอ.ก็เมตตาบอกว่าคนที่ขี้โกรธ ขี้หงุดหงิด มักจะรับเอาสิ่งไม่ดีเข้าตัวได้ง่าย

ซึ่งเมื่อก่อนที่จะรู้จักกับบ้านสวน หนึ่งมีคุณสมบัติแบบนี้ครบเลย

และคิดว่าสาวกทั้งหลายของพระนางเนเฟอร์ติตีโดนของ โดนคุณไสย

กันง่ายๆและไม่รู้ตัวก็คงจะเป็นคนที่มีลักษณะแบบนี้แน่ๆคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-05 10:31:36


ความคิดเห็นที่ 390 (1632971)

อดนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเองคาดว่าน่าจะโดนของ

จากการไปอ่านข้อความที่มา post ว่าท่านอ.ที่กระทู้ในเฟสบุ๊ค

(เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหนึ่งเคยธรรมทานในกระทู้แหวนองค์เทพสฟิงซ์ คห.338 คะ)

 

ยังจำความรู้สึกหลังจากได้รับพระบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เลย

พอตื่นมาตอนเช้ารู้สึกเหมือนร่างกายเราเบาขึ้น โล่งขึ้น

และรู้สึกเหมือนอะไรที่มาครอบเราไว้มันหายไปหมด

.....................................

เ่อ่อ คุณหนึ่งกระทู้ที่ 388ค๊า

ไม่ใช่ 338 เน้อ...

แต่เรื่องนี้ชนิดาพอจะจำได้นะ

เพราะคุณหนึ่งเคยมาเขียนถาม

ในกระทู้ ข่าวรายวัน ด้วย

 

ซึ่งชนิดายังจำได้เลยว่า

ได้เขียนตอบคุณหนึ่งเชิงล้อเล่นว่า

"สงสัยจะโดนของ"มั้ง

 

ทั้งๆที่ลึกๆแล้ว รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

แต่ต้องเขียนให้ดูเหมือนเล่นๆ

เพราะกลัวคุณหนึ่งที่ทุกข์และวิตกอยู่แล้ว

จะยิ่งทุกข์กว่าเดิม

 

แต่ยังไงก็ต้องเขียนเตือนไป

เพื่อให้คุณหนึ่ง ได้ฉุกคิด...บ้าง

แล้วจะไ้ด้หาวิธีตั้งรับ ได้ถูก...

 

 

และสุดท้ายคุณหนึ่ง

ก็ได้รับความเมตตา

จากพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของแหวนองค์เทพสฟิงซ์

 

ทำให้"พลังมืด"ที่มาครอบจิตอยู่

หลุดออกไปได้...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 02:05:57


ความคิดเห็นที่ 391 (1633627)

คุณชนิดา

คุณหนึ่ง+คุณสมจิต

คุณแมว+คุณธนา+คุณเยาวลักษณ์

 

สนใจประวัติศาสตร์

อียิปต์

กันใหญ่เลย

 

แต่....เอ

คุณแมว พูดถึง ไก่ย่าง

ทำให้คิดถึงไก่ย่างชื่อดังนะ

555 555 555

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 21:15:42


ความคิดเห็นที่ 392 (1633629)

                                                                                                                                                         4 ตุลาคม 55

กราบเรียน อาจารย์ที่นับถือ

           ดิฉันได้ไปฟังธรรมบำบัด รักษาโรคโดยฉับพลัน ที่โรงแรม เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.ย.55 และได้อ่านรายละเอียดเอกสาร

ที่อาจารย์ให้มา โดยบอกต่อรหัสจักรวาล "อ.อุบล ช่วยด้วย"

บอกคนต่อๆไป

           ดิฉันอยากให้คนทราบ รหัสจักรวาลนี้เยอะๆ ดิฉันจึงคิด

ย่อเป็นแผ่นพับเล็กๆ พกเก็บใสกระเป๋าได้สะดวกขึ้น พร้อมคาถา

พญายม สำหรับป้องกันภัยพิบัติ

           ดิฉันลืมไปเลย รีบไปสั่งพิมพ์แผ่นพับ จำนวน 2000 แผ่น

โดยลืมให้ อาจารย์ดูแบบก่อน เพราะใกล้หน้ากฐิน งานแต่งงาน

ลูกชายเพื่อนๆ งานวันเกิดหลวงพ่อวัดท่าซุง จะได้ไปแจกเพราะ

มีคนมาก

          ในวันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค.55 นี้ ดิฉันส่งมา 500 แผ่นก่อน

ส่วนอาจารย์จะแก้ไขอย่างไรให้ดูดีขึ้น เชิญอาจารย์แก้ไขได้เลยค่ะ จะได้น่าอ่านยิ่งขึ้น ดิฉันจะได้พิมพ์ต่ออีกเรื่อยๆ

กราบขออภัยโทษค่ะ

            ดิฉันอนุตรา พัฒนศรีวงศ์ เดิมป่วยเป็นความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะบ่อย ๆ ทุกวัน ไขกระดูกหักทับเส้นประสาทหัก

3 ข้อ ทำให้ปวดหลัง, ปวดเอว,ปวดขา โดยรักษาหมอกระดูก

และกายภาพบำบัด ได้ดูทางเคเบิลทีวี ช่อง 31 สตาร์ Chanal

          และอนุโมทนาบุญทาง ที.วี. พร้อมทำบุญสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม ทำบุญสร้างเทพทั้ง 4 และพระชำระหนี้สงฆ์ และใช้รหัส ขอให้ อาจารย์อุบล ช่วยด้วย !

           อาการต่างๆ ดีขึ้นประมาณ 60 %

ดิฉันเช่าจี้สฟิงซ์ สารภาพบาปกับองค์จี้สฟิงซ์

อาการดีขึ้นอีก 80 %

           แต่ยังปวดศีรษะกับก้านคอหลังอยู่

 

           เมื่อได้รับพลังแสงบารมีพระศรีอาริย์

บัดนี้ อาการต่างๆเช่น ปวดศีรษะ,ปวดขา,ปวดเอว

หายเป็นปกติแล้ว

 

          กราบขอบพระคุณ องค์สมเด็จสัมมาสัม

พุทธเจ้า,สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพดาทั้งหลายแห่งบ้าน

สวนพีระมิด และ อาจารย์อุบล

          ลูกขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

 

                         ขอแสดงความนับถือ

                          อนุตรา พัฒนศรีวงศ์

 

หมายเหตุ

ทางคุณแมวบอกให้ส่งมาทางบ้านสวนพีระมิด

 

********************************************************

อ.อุบล พิมพ์แทนค่ะ

ขออนุโมทนา ที่หายทุกโรค

ด้วยพุทธคุณทุกอย่าง และสุดท้าย

บารมีพระศรีอาริย์ค่ะ

บารมีท่านสุดพรรณาจริงๆค่ะ

อ.อุบล จะแจกแผ่นพับรหัสจักรวาลให้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 21:38:08


ความคิดเห็นที่ 393 (1633717)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์

ที่เมตตานำจดหมายจากคุณ อนุตรา

มาพิมพ์ให้พวกเรา

ได้ร่วมอนุโมทนาบุญ

กับจิตอันเป็นกุศลที่ตั้งใจ

จะพิมพ์เผยแพร่รหัสจักรวาล

 

แล้วก็ยินดีกับคุณ อนุตรา ด้วยนะคะ

ที่หายจากทุกโรคอย่างอัศจรรย์

จากพลังบุญในการอนุโมทนาทางทีวี

รวมทั้งใช้รหัสสวรรค์"อ.อุบลช่วยด้วย"

และท้ายสุด สุดวิเศษ

ทุกอาการก็หายทันที

เมื่อได้รับพลังบารมีจากพระศรีอาริย์

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 07:09:17


ความคิดเห็นที่ 394 (1633743)

 

กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะอาจารย์

สาธุ ๆ ๆ

ธรรมทาน ที่คุณอนุตรา

ได้ตั้งใจพิมพ์ ครั้งนี้

สืบเนื่องมาจาก

ได้รับความสุข

หายจากอาการเจ็บ ปวด

พลังบารมีที่

ที่ อ.อุบล ขออาราธนา

บารมีองค์พระศรีอาริย์

มาโปรด พวกเรา สาธุ ๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 09:42:29


ความคิดเห็นที่ 395 (1634074)

ก่อนไปงาน รู้สึกว่ามีปัญหาและอุปสรรคเพราะวันนั้นต้องพาคุณแม่และเพื่อนคุณแม่ไปหาหมอที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ม.มหิดล ศาลายา

วันที่ทราบข่าวได้บอกคุณแม่ว่าถ้าจะไปงานนี้ คุณแม่จะว่าอย่างไร ถ้าคุณแม่ไม่อยากไปด้วยก็ให้ไปพักรอที่คอนโดของหลานก่อน

แล้วจึงได้ อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์  และอธิษฐาน อาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้ได้ไปงานนี้ด้วยเทอญ

วันรุ่งขึ้นจึงได้พูดคุยกับคุณแม่ใหม่ ปรากฏว่าคุณแม่ตกลงไปและชวนเพื่อนไปด้วย 3 คน

จึงต้องรวบรวมเอกสารของทุกคน 5 คน และมาพิมพ์ขออนุญาต และส่งเอกสาร
ได้รับโอกาสจากท่านอาจารย์ ให้ได้ไปร่วมงานสัมนา ธรรมะบำบัดในครั้งนี้ ทั้งทีม 5 คน รู้สึกดีใจมาก

วันไป ต้องพาคุณแม่ไปหาหมอตามนัด มีนัดกับคุณหมอ 2 คน เวลา 9.30 และ 11.30 น.
พอตรวจเสร็จต้องรอรับใบนัดและรับยา ปรากฏว่าวันนั้นคิวรับยายาวมาก
เที่ยงแล้วยังไม่ได้ยาเลย จะทำอย่างไรดีจะไปทันไหมนี่
ก็อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ และใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วยตลอด ขอให้ทัน ขอให้ทัน
ระหว่างรอตรวจนั้นก็คิดว่าคงไปไม่ทันแน่ เลยโทรแจ้งคุณแมว ว่าอาจมาไม่ทันเวลา อาจมาช้านะคะ
เที่ยงครึ่งได้รับยา ออกจากศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกที่ศาลายา
ไปยูเทิร์นรถกลับเข้ากรุงเทพฯ เมฆฝนทมึนอยู่ข้างหน้า
ขับรถไปก็ภาวนาไป ว่าอาจารย์อุบลช่วยด้วย สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์ไป
ในที่สุดฝนก็ตกลงมาแรงมาก แต่ก็น่าแปลกใจมากว่ารถก็ไม่ติด

เคลื่อนตัวไปได้เรื่อย ๆ มาถึงโรงแรมบ่ายโมงครึ่ง

จากแยกประดิพัทธ์ มาถึงสน.สุทธิสาร ทางแคบและรถแยะมากในเวลาปกติ
แต่นี่ยังแถมฝนตกเข้าไปอีก และวันศุกร์อีกด้วย
มาถึงโรงแรม มีเจ้าหน้าที่โรงแรมเอาร่มคันโตมารอรับที่รถเลยไม่เปียกมาก
ขึ้นมาภึงชั้นสิบ ท่านอาจารย์อุบลกำลังเล่าที่มาของอาจารย์อยู่พอดี

พี่น้องบ้านสวนที่รับลงทะเบียน ทักทายอย่างเป็นกันเอง ทำให้บรรยากาศ อบอุ่นดีมากค่ะ วันนี้ท่านอาจารย์อุบล ของพวกเรา สวยมากกก เป็นพิเศษ

ท่าน อาจารย์กำลังเล่าเรื่องของท่านอาจารย์เองที่ได้มาเดินเส้นทางธรรม เริ่มตั้งแต่ครูสอนกรรมฐานคนแรก คือหลวงพ่อเสงี่ยม สอนมาตั้งแต่เด็ก ให้รักษาศีล ฯลฯ

จนมาอ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แล้วติดใจหนังสือของหลวงพ่อฤาษี เหมือนเด็กติดการ์ตูน จนต้องติดตัวเอาไปอ่านด้วยทุกที่ และได้ฝึกตามที่หลวงพ่อเขียนบอกไว้ โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ คือท่านอาจารย์เป็นคุณมุ่งมั่นตั้งใจ คือเชื่อครูบาอาจารย์ เลยประสบผลสำเร็จได้ทุกอย่างตามที่หลวงพ่อสอน
และได้เล่าเรื่องที่ต้องมาบำบัดให้ผู้คน เนื่องจากได้เกิดเหตุการณ์ที่คุณท๊อปเกิดอุบัติเหตุจนเกือบจะเสียชีวิต ต้องอยู่ห้องไอซียู  ท่านอาจารย์ได้ขอกับสิ่งศักดิืสิทธิ ซึ่งท่านมีเงื่อนไขว่าถ้าหายต้องเล่าเรื่องออกทีวี และ ต้องช่วยคนเหมือนกับที่ท่านได้รับการช่วยเหลือ

ตัดตอนมาถึงเรื่องสุดท้ายก่อนกลับคือ

ชมบารมีพระศรีอาริย์ที่อ.อุบลอัญเชิญมา

ได้ขึ้นไปรับสัมผัสโดยเดินผ่านท่านอาจารย์

วันนั้นตาเจ็บจากการที่มดแดงกัด ตาไม่บวมแต่มีขี้ตาออกจนรู้สึกรำคาญ

ไม่หายในทันที แต่กลับมาบ้านแล้วก็หาย

ความจริงเรื่องตานี่ได้ใช้จี้และแหวนบำบัดไปแล้ว

จึงไม่มีอาการอื่นนอกจากมีขี้ตาเท่านั้น

กราบขอบคุณพระศรีอาริย์และเทวดารักษาอ.อุบลและอ.อุบล

กราบขอบคุณพี่น้องบ้านสวนทุกท่านที่ช่วยอ.อุบล

ดำเนินงานทุกอย่างจนลุล่วงไปด้วยดี

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 13:12:08


ความคิดเห็นที่ 396 (1634196)

แหม่..ถึงงานจะผ่านไปนานแล้ว

แต่เมื่อมาอ่านบรรยากาศย้อนหลัง

ที่คุณ เบญจรัตน์ เหลามา

ก็ทำให้ลุ้นไปด้วยนะคะ

 

เพราะดูจากเวลา

ที่ต้องพบหมอ คิวที่สองแล้ว

แนวโน้มไม่น่าจะมาทันได้เลยนะคะ

แต่สุดท้ายก็

มาได้ทันเวลาแบบฉิวเฉียดสุดๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 05:12:37


ความคิดเห็นที่ 397 (1634515)

 

ชื่อนางสาวจีราวรรณ แซ่ซ่ง ซึ่งเป็นผู้ช่วยนักวิจัย จาก ปตท. ได้ไปฟังธรรมะสัญจร 2 ครั้งและใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยบ่อย เลยฝากให้มาโพสต์เป็นธรรมทานค่ะ  ชัชวลี
รู้จักอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิค จากดร.ชัชวลี กะลัมพะเหติ ในช่วงแรกนั้นพี่จิ๋มจะบอกว่าเอาบุญมาฝาก หนูก็จะพูดสาธุ แต่ก็ไม่รู้พี่จิ๋มไปไหนมา จนปลายปี พ.ศ. 2554 หนูได้ยินรหัสจักวาลครั้งแรกจากแม่บ้าน ว่าอาจารย์อุบลช่วยด้วยแม่บ้านบอกว่าพี่จิ๋มบอกมา แต่หนูก็ยังไม่รู้คืออะไร จนพี่จิ๋มส่ง Mail มาเล่าให้ฟัง ประสบการณ์ครั้งแรกที่ใช้รหัส มีอยู่คืนหนึ่งลูกหนูตื่นมาร้องให้เสียดังมาก ไม่รู้เป็นอะไร ทำอย่างไรก็ไม่เงียบ ร้องให้ไม่หยุด พอใช้รหัส ก็เงียบหลับต่อจนถึงเช้าต่อมาหนูได้ไปฟัง ธรรมะบำบัดแบบฉับพลันทันที ม.มหิดล หนูก็ยังงงๆอยู่นะ เพราะว่าหนูสังเกตเห็นคนที่บำบัดไปแล้วบอกว่าหายแล้ว 99 % พอรอบใหม่ยังจะเจ็บอีก 50 % คืนหนูยังคงไม่เข้าใจหลักธรรมะ หรือ กรรมของแต่ละคน แต่ก็รู้สึกดีมากๆที่ได้ไปฟังธรรม กลับมารู้สึกดี ต่อมาได้ไปฟังธรรมที่ โรงแรมเดอะแกรเวลเลอร์ อีกรู้สึกว่าเข้าใจมาขึ้น พอกลับมาลองใช้รหัสอาจารย์อุบล ขอให้มีออเดอร์เข้าด้วย พอบ่ายมีออเดอร์เข้า 44 ลัง ต่อมาหนูก็ใช้อีกเช่นเครื่องปรี๊นเตอร์ ปริ๊นไม่ได้ เวลาจะใช้ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง ทั้งที่ตั้งทุกอย่างเหมือนเดิมแล้ว แล้ววันนั้นในห้องแลปร้อนมากแอร์เสียมีแต่ลมร้อน มีกลิ่นด้วย เริ่มปวดหัว เพราะไม่มีอากาศ แอบบ่นว่า ปรับปรุงห้องแลปยังงัยแทนทีจะดีขึ้นกลับแย่ลงเสียเวลาตั้งปริ๊นเตอร์เป็นชั่วโมงๆ ไม่ปริ๊นแล้ว กลับลงมาที่โต๊ะทำงานเปิด Web บ้านสวนพีระมิด อ่านบทความสัก 10 นาที ใช้รหัส อาจารย์อุบลในใจ ขึ้นไปปริ้นได้เลยไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย และมีอีกไปจตุจักรหาที่จอดรถไม่ได้ ใช้รหัสหาที่จอดรถได้ทันที ไปซื้อของฝนจะตกลองใช้รหัสฝนอยู่ตกทันที ปวดข้อมือใช้รหัสก็หายทันที เห็นผลฉับพลันทันที แม้ทุกวันหนูยังรักษาศีล 5 ยังไม่ครบแต่จะพยายามทำผิดศีลน้อยลง  
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 16:41:01


ความคิดเห็นที่ 398 (1635229)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานของทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ ยิ่งได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัต และพระนางเนเฟอร์ตารีกับพระนางเนเฟอร์ตีติแล้ว ทำให้เข้าใจสัจธรรมว่าในโลกนี้มักจะมีอะไรที่มักจะตรงกันข้ามกันเสมอ เช่น มีคนดี ก็จะต้องมีคนชั่ว มีคนที่มีเมตตา ก็จะต้องมีคนที่คอยอิจฉา ริษยา เป็นต้น ทำให้นึกถึงโลกธรรม8 ที่ทุกอย่างก็คู่กันเสมอ เช่น มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข มีทุกข์ ซึ่งพระพุทธองค์ท่านก็ทรงมีเมตตาค้นหาวิธีที่จะทำให้พวกเราทุกคนได้พ้นจากทุกสิ่ง คือ นิพพาน โดยที่เราไม่ต้องไปค้นหาด้วยตนเอง นับว่าเป็นบุญอันใหญ่หลวงที่ได้เกิดมาในพุทธศาสนา เพราะธรรมะของพระพุทธองค์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถนำอะไรมาคัดค้านได้เลย เพราะกว่าพระองค์จะได้ค้นพบท่านต้องผ่านอะไรมามากมาย โดยเฉพาะ "มาร" ทำให้เกิดคำว่า "มารไม่มี บารมีไม่เกิด" หรือ ธรรมย่อมชนะอธรรมเสมอ ซึ่งทุกวันนี้ หากตัวเองต้องเจอเหตุการณ์อะไรที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต ก็จะต้องให้กำลังใจกับตัวเองว่า สุข ทุกข์อยู่ที่ใจ ไม่มีใครช่วยเราได้ หรือ มารไม่มี บารมีไม่เกิด ยึดหลักคำสอนของพระพุทธองค์ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้นำมาสอนเป็นธรรมทานให้ลูกหลาน โดยอัดไว้ในโทรศัพท์มือถือและเปิดฟังทุกวัน ทั้งเวลาทำงานและเวลานอน เพื่อจะได้เตือนสติและจะได้ปฏิบัติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้ชีวิตนี้รู้สึกว่ามีความสุข และยิ่งได้มีโอกาสได้รู้จักกับอาจารย์อุบล ที่มีเมตตากับลูกหลานบ้านสวนทุกๆคน ก็ทำให้ชีวิตนี้ได้สิ่งที่ดี ๆ มาเติมเต็มให้ชีวิตมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดที่อาจารย์อุบลได้มีเมตตาอาราธนาบารมีของพระศรีอาริย์มาให้ทุกคนได้สัมผัสเพื่อปลดเปลื้องความทุกข์จากการเจ็บป่วยต่าง ๆ   ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่า โชคดีที่ได้เกิดมาในชาตินี้ ที่มีโอกาสได้พบแต่สิ่งที่ดี ๆ ซึ่งบางคนมีโอกาสแต่ก็ไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ ลูกขอกราบขอบพระคุณองค์พระปฐม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระศรีอาริย์  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ท่านดตาจินิน องค์เทพสฟิงซ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล และที่สุดก็คือ อาจารย์อุบล และอาจารย์มงคล ที่เสียสละความสุขส่วนตัวทั้งหมด เพื่อลูกหลานทุกคน กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น กนกกร แดงเอม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 16:59:16


ความคิดเห็นที่ 399 (1635451)

จะเป็นไปได้ไหมครับที่พระนาง

เนเฟอร์ตารี

จะมาเป็นผู้นำในยุคนี้

เตรียมพร้อมเป็นพระพุทธเจ้า

พระศรีอาริย์

กราบขอ ขมา เบื้องบนทุกๆ พระองค์

ถ้าความคิดเดาของลูกเป็นการล่วงเกิน

ถ้าความคิดเห็นนี้ไม่เป็นสาระ

ขอให้ส่งไม่ผ่าน

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 01:21:18


ความคิดเห็นที่ 400 (1635458)

 ความแค้น ความอาฆาตของพระนางเนเฟอร์ตีติ

นี่มันแค้นข้ามภพ ข้ามชาติ จองเวร จองกรรม จริงๆเลยนะคะเนี่ย

จะว่าไปหนูก็คิดเหมือนพี่ชนิดาเลยค่ะ

ถ้าคนๆนั้นเป็นพระนางจริง มันไม่เหลือเค้าเดิมให้เห็นเลย

แต่ยังคงเหลือไว้ซึ่ง ความอาฆาต พยาบาท เคียดแค้น

ติดตามทุกชาติไป

เพราะรู้สึกว่าชีวิตพระนางตกต่ำลงมาทุกชาติ หากเปรียบเทียบกับชาติก่อนๆ

เป็นคนที่น่ากลัว + น่าสงสาร + น่าสมเพศ จริงๆเลยค่ะ

เกิดมาเพื่อเสริมบารมีพระนางเนเฟอร์ตารีจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 04:45:49



<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4] 5 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.