ReadyPlanet.com


พฤติกรรมของคนบางคนที่ไปบ้านสวน ใครเคยทำอย่างนี้บ้าง


 บ้านสวนพีระมิด

 คือ ประเทศไทยจำลอง

 

ดังนั้น

บุคคล ที่เข้ามาบ้านสวน

ก็เป็นเสมือนตัวละคร ที่มาแสดง

บทบาทชีวิตจริง

 

สะท้อนปัญหา

และ พฤติกรรม ของคน ในประเทศไทย

หรือ

อาจจะรวมไปถึงโลกใบนี้ด้วย

ซึ่งคนที่เข้ามา จึงมีหลากหลายรูปแบบ

 

หลายปัญหา  

หลายอารมณ์ หลายเหลี่ยม หลายคม

หลายปม หลายความต้องการ

 

บางคน

ต้องการมาสร้างสมบูญบารมี

เพราะรู้ว่าที่นี่ บุญแรง บางคนอยากหายป่วย

เพราะคนมากันแล้วหายป่วย

 

บางคนอยากรวย

เพราะเห็นมีคนมาแล้วรวย

 

บางคนมีทุกข์อยากพ้นทุกข์

เพราะมีคนมาแล้วพ้นทุกข์

 

ซึ่งแน่นอน

ในบรรดาคนที่มา

ต้องมีคนที่คิดไกลไปกว่านี้แอบแฝงเข้ามา

ไม่หยุดหย่อน

เพื่อสะท้อนประเทศไทย

 

มีคนที่ต้องการมาค้าขาย

มาหาลูกค้า เพราะว่า

ไม่ต้องลงทุนเช่าสถานีโทรทัศน์

แต่ อ.อุบล คนโง่

แกจ่ายค่าทำรายการ มีคนศรัทธา

 

เรามาตักตวงเอา

พวกมาศรัทธา อ.อุบล เลยดีกว่า

เพราะว่าเราฉลาดกว่า อ.อุบล

 

วิธีคิดอย่างนี้

มีมาตลอด ตั้้งแต่ตั้งบ้านสวน มาถึงวันนี้

บางคนมาอวดบารมีแข่ง อ.อุบล

แสดงฤทธิ์ แสดงความวิเศษ

เพื่อหาสาวก เพราะคนที่เข้ามาที่นี่

น่าจะหลอกง่าย

 

ดูแล้วมีแต่คนโง่ๆ



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-08-13 14:44:13


[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (1623866)

วันนี้

ออกไปดูลุงบุญทำงาน

แต่

ไม่เห็นช่างโป๊กมาทำงาน

เลยถามลุงุบุญว่า โป๊กไม่มาเหรอลุง 

 ครับ ไม่มาครับ

 

อ้าว  

เป็นอะไรรึเปล่า  

 

ไม่ทราบครับ อาจารย์

 

อ้าว

ทำไมไม่ทราบล่ะลุง

 

ก็เมื่อคืนโป๊กไม่กลับบ้านครับ 

 

 แล้วเค้าไปไหนล่ะลุง  

 

ไม่ทราบครับอาจารย์  

 

อ้าว  

แล้วเมื่อวานเค้าไม่ได้บอกลุงเหรอ

ว่าเค้าไปไหน

 

ไม่ได้บอกครับ  

 

อ้าว

แล้วโป๊กหายไปตอนไหนล่ะลุง

 

ไม่ทราบครับอาจารย์ 

 

 อ้าวลุงบุญ

ไม่ทราบอะไรเลยเหรอ 

 เอางี้ ถ้างั้น เราต้องตามหาโป๊ก

งั้นลุงบุญ บอก อ.ซิว่า เมื่อวาน

ลุงกลับจากบ้านสวนกี่โมง

 

ก็ ห้าโมงกว่า ครับ  

 

แล้วกลับไปถึงบ้านแล้ว

โป๊กเขาหายไปตอนไหน กับใคร  

 

เขาไม่ได้กลับกับผมครับ  

 

อ้าว

แล้วลุงบุญก็ ไป-กลับ

พร้อมกันทุกวันไม่ใช่เหรอ

 

ใช่ครับ อ.

แต่เมื่อวาน โป๊ก

ไม่กลับกับผมครับ

ผมกลับกับเสริฐสองคนครับ 

 

 ทำไมล่ะลุง  

อย่างนี้มันแปลกแล้วนะลุง

แสดงว่า ตอนที่ลุงกลับกับเสริฐ

โป๊กยังอยู่ในบ้านสวนหรือว่า

หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ลุง

 

ผมว่ายังอยู่ครับ

 

ทำไมลุงพูดแปลกๆ อย่างนี้ล่ะลุง 

 

 อาจารย์ครับ

ผม..........ผมเบื่อ.......คน  

 

ทำไมเหรอลุง

แสดงว่า ต้องมีใคร

มาทำให้โป๊กเป็นอย่างนี้ใช่ไหมลุง 

 ลุงต้องรู้สิ  

 

รู้ครับ รู้ทุกอย่าง

ผมห้ามโป๊กแล้ว มันไม่เชื่อผม

มันเจอคนคนนี้ไม่นาน  ไม่รู้ว่า

เขาเกลี้ยกล่อมอะไรมัน

มันเชื่อเขา เขาคุยกับมันเมื่อวานนี้

แล้วพอมันบอกผม ผมก็ห้าม

ว่าอยู่กับ อาจารย์

ทำอะไรให้เห็นหัวอาจารย์บ้าง

คนอื่นที่เขามานี่ เขามาทำบุญกันนะโป๊ก

แต่เรามาเป็นลูกจ้างอาจารย์

เราต้องให้เกียรติอาจารย์

อย่าข้ามหัวอาจารย์

ไม่ใช่ใครเอาอาะไรมาล่อหน่อย ก็เชื่อ

ก็ทำตาม อย่านะโป๊ก  

มันไม่กลับบ้านเลยทั้งคืนอาจารย์  

 

แล้วทำไมลุงไม่โทร.ตาม

 

ผมโทร.แล้ว

มันปิดเครื่องครับอาจารย์

 

 

ก็เลยไปถามเสริฐ

ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับโป๊ก

 

เสริฐก็บอกว่า

ทีแรกคนนี้ มาคุยกับผมก่อน

แต่ไมสำเร็จ ก็เลยหันไปหาโป๊ก ครับอาจารย์  

ก็ที่อาจารย์เห็นนั่นแหละครับ

ตอนผมทำงาน

เขาพยายามมาคุยให้ผมซื้อของเขา

เขาบอกว่า

จะเอาเงินมาทำบุญกับอาจารย์ทั้งหมด

แต่ผมไม่อยากได้ 

 

 เสริฐ

ตอนนี้ เราต้องช่วยตามหาโป๊กก่อน

อย่างอื่นเอาไว้ทีหลัง

อาจารย์ถือว่า โป๊กเป็นลูกหลาน

ที่่ อ.ต้องดูแล และไม่ควรจะต้องมารับเคราะห์กรรมจากการซื้อของคนที่เข้ามาขายในนี้ เพราะมีอันตรายมาก

ถึงขั้นหายนะ เลยนะเสริฐ

นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ

 

ครับอาจารย์

มันคุยกับเขาตั้งแต่เช้าเลยอาจารย์

ไม่รู้อะไรกันนักกันหนา 

 

 เสริฐ อย่าไปโทษน้อง

น้องยังเด็ก อ่อนต่อโลก ควรสงสาร

และหาทางช่วย

คนที่มาบ้านสวน

มีหลายรูปแบบเสริฐอยู่มาก่อนโป๊ก

ก็คงรู้ดี แต่ส่วนใหญ่ คนที่โดน

จะเป็นคนหน้าใหม่ๆ

ยังไม่ค่อยสนิทกับใคร ก็จะเป็นเหยื่อ

พวกเข้ามาหาประโยชน์

แม้แต่คนเก่า ที่นานๆ มาที

ยังโดนกันเลย 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 15:03:31


ความคิดเห็นที่ 2 (1623880)

วันนี้

ทำให่ได้รู้ว่า ลุงบุญนี่

สุดแสนผู้ดี และ มีความคิดประเสริฐ

และ

จิตใจสูงมาก

 

วันนี้

สิ่งที่ลุงบุญแสดงความรับผิดชอบ

และ เสียใจอย่างมาก

ในสิ่งที่โป๊กทำ

คือ

 

 

โป๊ก

เอาเวลาทำงาน

ไปพูดคุยกับคน คนนี้

คุยนานจนเกินความเหมาะสม

ลุงบุญเล่าว่า ผมทนไม่ได้ครับอาจารย์

ผมต้องเรียกโป๊กมาเตือนว่า

 

โป๊ก

นี่่มันเวลาทำงานนะ

ไม่ใช่เวลาคุย หัดมีความคิดบ้าง

เราโตแล้วนะโป๊ก คุยอะไรนักหนา รู้ไหม

เวลาแต่ละนาที่

ที่เราเอาไปคุย กับคนคนนี้  

เป็นเวลาทำงาน ที่อาจารย์ต้อง

จ่ายค่าแรงเรานะโป๊ก

 

แต่

คนที่เขามาคุยกับโป๊กเนี่ย

เขามาทำบุญ โป๊กไปทำให้เขาต้อง

มาเป็นบาป

เพราะแทนที่

เขาจะเอาเวลา

ไปสร้างบุญเหมือนคนอื่น

แต่ต้องมาสร้างบาป ด้วยการคุยกับโป๊ก

มันไม่ดีนะโป๊ก

เงินที่โป๊กได้มาจากอาจารย์ ได้เต็ม

 

แต่โป๊ก

คุยกับคนนี้ทั้งวัน

มันจะบาปมากนะโป๊ก

ผมก็เตือนมันไปอย่างนี้ครับอาจารย์

แต่ มันไม่เชื่อผม

โน่นมันไปคุยกันที่โน่น

 

นอกจากมันไม่เห็นหัวอาจารย์แล้ว

มันก็ไม่เห็นหัวผมเหมือนกัน

 

ลุงอย่าพึ่งโกรธโป๊กเลย

โป๊กยีงเด็ก อาจจะไม่ทันคน

ดีแล้วหละลุง

ที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้

โป๊กจะได้ฉลาดขึ้น

และให้โป๊กได้เจออะไรด้วยตัวเองบ้าง

ว่า

คนที่มาทำบุญที่นี่

เป็นแบบไหนกันบ้าง

หวังดีกับโป๊ก มากกว่าพ่อแม่

หรือ อ.อุบล จริงไหม

แล้วเขาจะให้ความช่วยเหลือ

หรือ

ให้เิงินทองโป๊กใช้ตลอดชีวิตได้ไหม

 

เขาบอกมันว่า อาจารย์พูดว่า

อีกสี่เดือนก็จะเกิดภัยพิบัติแล้ว

ให้มันรีบซื้อของเค้าไว้

เขาจะเอาเงินทั้งหมดที่มันซื้อของเขา

ไปทำบุญกับอาจารย์

มีเท่าไหร่ให้มันจ่ายมาก่อน

สองพันก็ได้

แล้วที่เหลือ ให้มันผ่อนให้ ในสี่เดือน

ก่อนภัยพิบัติ

 

อ้างชื่ออาจารย์

พูดอย่างนี้เลยเหรอลุง

งั้นลุงอย่าโทษโป๊กเลย

ชื่ออาจารย์อุบลนี่ขายดีนะ

 

เวลาคน

อยากได้ผลประโยชน์อะไร

จากใคร คนพวกนี้ เค้าก็จะอาศัย

ความศรัทธาที่คนมีต่ออาจารย์

หาผลประโยชน์

 

เป็นมานานแล้ว

แต่โป๊กเขามาใหม่

เขายังไม่มีประสบการณ์  

นี่ขนาดโป๊กทำงานอยู่กับอาจารย์นะ

ยังมีคนกล้าพูดกับโป๊กขนาดนี้

แล้วคนที่ไม่ได้มาบ้านสวน หรือมา

แต่ไม่มีโอกาสได้ถามอะไรอาจารย์

จะเจอขนาดไหน

ไม่เป็นไรหรอกลุง

ใครทำไว้อย่างไร ก็ต้องได้อย่างนั้น

ผลกรรม ไม่เคยส่งผลผิดตัวหรอกลุง

และสิ่งที่เขาทำกับโป๊ก

ทำกับครอบครัวของลุง ก็ถือว่า

เขาทำให้ลุงมีทุกข์ เขาก็ต้องได้รับทุกข์

เป็นรางวัลตอบแทน

 

อ.ไม่คิดว่า

ลุงจะได้รับการกระทำจากคนที่อ้างตัวว่า

มาทำบุญบ้านสวน

ด้วยศรัทธา อ.อุบล ขนาดนี้

 

ต่อไป

โป๊กจะฉลาดขึ้นเองแหละลุง 

 ดูอย่างเสริฐสิลุง เขามาพร้อมลุง

ไม่มีใครกินเสริฐได้

ขนาดมีคนมายุให้เสริฐโดดงาน

ลับหลังอาจารย์ เสริฐยังไม่ทำเลย

แสดงว่า เสริฐเขาฉลาด

เขาไม่พลาดท่าเสียทีใคร

 

แต่สำหรับโป๊ก

โดนต่อหน้าลุง ต่อหน้าเสริฐ และอาจจะ

ต่อหน้าใครๆอีกหลายคน

 

ก็แสดงว่า

โป๊กเขาไม่คิดว่าสิ่งที่เขาทำ

มันเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร  

 

ม่รู้ได้ยังไงอาจารย์ ผมก็บอกมันอยู่

ห้ามมันอยู่  

 

ถ้างั้น

ลุงก็จงอย่าห่วง

เดี๋ยวจะมีสิ่งที่จัดการช่วยลุงเอง

ไม่เห็นเคยพลาดสักราย

 

ความผิดพลาดของ.โป๊กอยู่ตรงที่

โป๊กไม่ได้มาถามอาจารย์

ว่า คนที่แอบอ้างอย่างนี้

อาจารย์เห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่

และ อ.รับรู้ หรือ ยินดีหรือไม่

และอยากได้เิงินทำบุญ

ด้วยวิธีมาแอบอ้างขายสิ่งของให้ใคร

ในบ้านสวนอย่างนี้หรือไม่

 

และ

โดยเฉพาะ

มันทำให้ครอบครัวของลุง แตกแยก

โดยที่

ทุกคนอยู่ในภาวะ อึดอัด น้ำท่วมปาก

เพราะ อ้างชื่ออาจารย์

 

โป๊ก พลาด

ที่ไม่ได้มาถามอาจารย์

ขนาด อ.อุบล อยู่บ้านเดียวกับ อ.มงคล

ยังมีคนพูดกับ อ.อุบล อย่างหนึ่ง

อ.มงคล อย่างหนึ่ง

 

แต่บังเอิญ พวกเราแก่วัด

 

เจอคนแบบนี้

อ.มงคล ไม่เคยปล่อยให้ลอยนวล

จัดการต่อหน้าคนมากๆ ทุกที

 

เพราะ

อ.มงคล มีเหตุผลว่า

การพูดความจริง ต้องพูดต่อหน้าคนมากๆ และ

ให้มีพยานรู้กันทั่ว

 

ไม่ได้ใส่ร้ายใคร

ต้องกล้าพูดต่อหน้าคน

 

 

 

ลุงบุญ

อย่าคิดมากเลยนะ และอย่าไปว่าโป๊กนะ

ลุงให้กำลังใจโป๊นะ เขายังเด็ก

 

เด็กอะไรล่ะอาจารย์

เกินยี่สิบ ไม่เด็กแล้ว มันมีลูกแล้ว

มันต้องมีความคิดบ้าง

ทำอะไร ไม่ใช่้ เอาแต่ได้

มันต้องรู้จักอะไรควร อะไรไม่ควรมั่ง

ผมเตือนมันไม่เชื่อผมหรอกอาจารย์

มันเชื่อคนอื่น

 

นี่แสดงว่า ลุงโกรธโป๊กนะซี

 ลุงเปลี่ยนจากโกรธ มาห่วงโป๊ก

ตามหาโป๊กดีกว่านะลุง

 

มันปิดเครื่องครับอาจารย์  

 

เดี๋ยวลองคิดดูว่าเขาชอบไปไหนบ้าง

แล้วลองโทร.ถามดูก่อนนนะลุง

 

นี่เป็นครั้งแรก

ที่ได้รับรู้ถึงความเดือดร้อน

ในครอบครัวของลุงบุญ อันมาจาก

คนที่อ้างว่า มาทำบุญบ้านสวน

แต่ ไม่รู้ว่า จะได้บุญหรือเปล่า

 

เพราะบัดนี้

มันทำให้ครอบครัวของลุงบุญ

ซึ่งมีสันติสุขมายาวนาน

ต้องมามีความทุกข์ ความเดือดร้อน

โดยที่

มีคนมาทำบุญเป็นต้นเหตุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 16:26:51


ความคิดเห็นที่ 3 (1623914)
ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 18:01:25


ความคิดเห็นที่ 4 (1623916)

กราบขออนุญาตขยายตัวอักษรจาก คห.1 ค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 18:02:44


ความคิดเห็นที่ 5 (1623918)

กราบขออนุญาตขยายข้อความ และแก้วรรณยุกต์ ค่ะ


ความเห็นที่ 1 (1623866)

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 18:17:04


ความคิดเห็นที่ 6 (1623924)

 ความผิดพลาดของโป๊ก

อยู่ตรงที่โป๊กไม่ได้มาถามอาจารย์ ว่า

คนที่แอบอ้างอย่างนี้

อาจารย์เห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่

และ อ.รับรู้ หรือ ยินดีหรือไม่

และอยากได้เงินทำบุญ

ด้วยวิธีมาแอบอ้างขายสิ่งของให้ใคร

ในบ้านสวนอย่างนี้หรือไม่ 

*************

เมื่อวานนี้

คุณเกสรบอกคุณป้าขวัญว่า

จะนำเงิน 50% ของรายได้มาทำบุญกับท่านอาจารย์ 

แต่คุณป้าก็ไม่ได้มาถาม ปรึกษาท่านอาจารย์ถึงข้อเท็จจริงค่ะ 

คุณป้าเล่าอีกว่า ตอนที่ท่านมองคุณเกสร

คุณเกสรก็กระสับกระส่าย 

แต่คุณป้าก็ไม่ได้ติดใจอะไร

ตอนกินข้าว

ท่านอาจารย์ชวนคุณป้าคุย คุณป้าก็ไม่กล้าคุย

นอกจากนี้ คุณป้าก็ให้เบอร์คุณเกสรไป

แล้วก็อยู่ คุยกับคุณเกสรเป็นส่วนใหญ่ตอนอยู่ที่บ้านสวน

ทำให้พลาดการสร้างบุญใหญ่

เหมือนมีอกุศลกรรมขัดขวางทำให้ไม่พิจารณาให้รอบคอบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 18:56:26


ความคิดเห็นที่ 7 (1623927)

ขออนุญาติขยายเนื้อความหัวข้อค่ะ

พฤติกรรมของคนบางคนที่ไปบ้านสวน ใครเคยทำอย่างนี้บ้าง

แจ้งลบกระทู้


 


 

 
ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 19:03:11


ความคิดเห็นที่ 8 (1623928)

จิตใจผู้คนทำไมถึงได้ตกต่ำเพียงนี้ ทั้งๆที่มีตัวอย่างให้เห็นมากมายแล้ว กับคนที่มาหากินในเขตบุญ หน้าไหว้ หลังหลอก

ทำบุญอยากให้คนอื่นรับรู้ว่าตนเองทำบุญ ใช้เล่ห์กลสารพัดวิธี เพื่อหลอกล่อผู้คน แต่สุดท้ายผมไม่เคยเห็นใครได้ดี หรือรอดสักคน เพราะ...เจ๊งทั้งคนซื้อและคนขาย

น่าคิดนะครับ อะไรเป็นสาเหตุให้พี่โป๊กเป็นถึงขนาดนี้ และใครกันนะ ที่ช่างกล้าหาญมาสร้างบาปในบ้านสวนฯขนาดนี้

อย่าอ้างกันเลยนะครับ ว่าหวังดี อาจารย์เตือนกี่ครั้งแล้วเรื่องซื้อขายของกันในบ้านสวนฯ

ที่สำคัญทำอะไรทำไมต้องอ้างชื่อท่านอาจารย์เสมอ ซึ่งก็ไม่ค่อยแปลกใจหรอกครับ เพราะว่าชื่อท่านอาจารย์มีพลังครับ เพราะทุกคนเคารพ ศรัทธาท่านอาจารย์

แต่หากคนดี คิดดี พูดดี ทำดี ไม่แอบแฝง ทุกอย่างก็มีแต่จะดียิ่งๆขึ้นไป

แต่พวกผู้ร้ายปากแข็ง ชอบหากิน อ้างชื่อท่านไปทั่ว เพื่อประโยชน์ตนเอง เฮ่อ...คิดแล้วน่าสงสารที่สุดคนแบบนี้ เพราะตอนมีชีวิตก็จะได้รับทุกข์ทรมาน ตายไปแล้วก็จะต้องไปที่ต่ำอีก

ยิ่งผมอ่านธรรมทานในกระทู้ข่าวรายวัน ซึ่งน้องครองขวัญก็มาเล่าอีกแล้วว่ามีคนมาอ้างว่า ขายของแล้วจะนำเงินมาทำบุญกับท่านอาจารย์ 50% อ้างอีกแล้วววว พวกนี้เวลาอยากไปนรก กล้าทำทุกอย่างเลยนะครับ

มาอ่านเจอกระทู้นี้อีก เฮ่อ...ยิ่งใกล้วันเกิดภัยพิบัติใหญ่ ผู้คนที่แอบแฝงยิ่งแสดงธาตุแท้ออกมาชัดเจนยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นการแยกคนดี คนชั่วออกจากกันอย่างชัดเจนเลยทีเดียว...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 19:04:09


ความคิดเห็นที่ 9 (1623944)

คนที่ทำไม่ดีกับท่านอาจารย์แม่อุบลและบ้านสวนฯ ไม่เคยรอดซักรายขนาดแค่จาบจ้วงล่วงเกินในใจ ยังดังไกลถึงสวรรค์ ประสบเคราะห์กรรมมากมาย แล้วลงมือทำจนสำเร็จจะได้รับพระเมตตาจากเสด็จพ่อท่านท้าวเวชสุวรรณระดับไหน ไมอยากจะคิดเลยค่ะ เขาคงลืม หรือไม่ก็ไม่รู้ว่าท่านอาจารย์แม่อุบลท่านเป็นลูกสาวพระองค์ใดบ้าง มาทำเยี่ยงนี้ได้อย่างไร

หรืออาจจะคิดว่าเหลือเวลาหายใจอีกไม่กี่เดือน งัยก็ต้องตาย ขอกอบโกยดีกว่า ตายแล้วเดี๋ยวอด อยากทำไรก็ทำซะเรย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 20:10:08


ความคิดเห็นที่ 10 (1623945)

เขาบอกมันว่า อาจารย์พูดว่า

อีกสี่เดือนก็จะเกิดภัยพิบัติแล้ว

ให้มันรีบซื้อของเค้าไว้

เขาจะเอาเงินทั้งหมดที่มันซื้อของเขา

ไปทำบุญกับอาจารย์

มีเท่าไหร่ให้มันจ่ายมาก่อน

สองพันก็ได้

แล้วที่เหลือ ให้มันผ่อนให้

ในสี่เดือน ก่อนภัยพิบัติ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

อ้า 5555+++

คิดได้เน๊อะ..วางแผนนานมั๊ยคะ

คุณน้ำผึ้ง ( อาบยาพิษ )

ภัยพิบัติใกล้มาแล้ว

แล้วทำไม

ไม่ไปขาย..ที่ร้านรับซื้อ

จะได้เอาเงินมาทำบุญ

เร็ว ๆ

ไม่กล้วตายก่อนหรือคร๊า

ส่วน

โป๊ก จะรู้ป่าวจ๊ะ

ว่า กำลังเป็นหนี้บุญ ( คุณ )ด้วยนะ

มีเงินอย่างเดียวไม่พอนะ

ต้อง โง่ ด้วย ถึงจะได้สินค้า

ของเดี้ยนไป 555++

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 20:15:32


ความคิดเห็นที่ 11 (1623953)

      เหมี่ยว เตรียมกลับบ้านราว 17.15 น. ฝนตกพรำๆ เหมี่ยว รีบวิ่งหลบฝนเข้าไปวิหารสามชั้น ได้ยินเสียงลุงบุญ กำลังดุ โป๊ก

       ว่า.. มึงจะเอาไปยังไง มันมืดค่ำฝนก็ตก   เหมี่ยว ก็เลยถามไปว่า..  เป็นไรหรือเปล่าลุง  ลุงบุญบอกว่า ... ผมบอกอะไรมันมันไม่ฟังผมเลย คุณเหมี่ยว

       แล้วโป๊กจะทำอะไรล่ะ..  เหมี่ยวถาม..  

       ก็พี่เกสรให้ผมเอารถไปขาย จะให้ผมซื้อเอง ผมไม่เอา แล้วก็จะให้ผมเอารถไปขายข้างนอก โป๊กพูดแบบเครียด ๆ  แบบหนักใจเหมือนถูกกดดัน

     ทำให้เหมี่ยวรู้สึกว่า พูดอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโป๊กและลุงบุญ  เหมี่ยวเลยไม่ออกความเห็นใดต่อ  งั้นเหมี่ยว ขอตัวกลับบ้านก่อนละกันค่ะ  

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 21:19:38


ความคิดเห็นที่ 12 (1623955)

ตั้งแต่ลุงบุญมาเป็นช่างบ้านสวน

พึ่งเห็นลุงบุญโกรธ วันนี้ เอง ปกติลุงบุญจะเงียบๆ พูดน้อย สุภาพ ใจเย็น

เป็นคนธรรมะ ซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่อู้งาน

มีความรับผิดชอบสูง ขยัน มาก่อน กลับหลัง

นี่คืออีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ อ.อุบล อยากให้โบนัสลุงบุญ ไม่ใช่แค่เป็นโบนัสตามประเภณี แต่เป็นโบนัส

จากใจที่อยากให้ ควรให้ เต็มใจให้ ให้แล้วมีความสุขมาก นึกถึงทีไร ก็ปลื้มใจสุขใจ กับการได้ให้โบนัสลุงบุญ 

และคิดเสมอว่ามีสิ่งใด

ที่จะช่วยลุงบุญได้ ก็จะช่วย มีสิ่งใดที่ลุงบุญมีทุกข์ ก็จะแบ่งเบา

 

วันนี้ ลุงบุญ พูดกับ อ.อุบล มากมายหลายอย่าง

กับพฤติกรรม

ของคน และ ที่สุด แกก็มาลงที่ความโง่ของโป๊ก

และ เสียใจมากที่สุด ที่ไม่สามารถทำให้โป๊กเชื่อฟังได้

และทำให้โป๊ก มาล่วงเกิน อ.โดยที่

ทำอะไรไม่ปรึกษา อ.ทั้งที่ มาพึ่งพิง ของาน อ.ทำ

ที่มีกินมีใช้อยู่่่ทุกวันนี้ เพราะใคร

ถ้าไม่ใช่ อ.ใครจะให้มันทำงาน คนอื่นเขาเจอมันไม่กี่วัน มันไปเชื่อเขา มันทิ้งให้ผมกลับบ้านกับเสริฐสองคน

เขาสั่งให้มันทำอะไร มันก็ทำ แล้วมันไม่เคยคิดว่า

ที่มันหายไปนี่ พ่อแม่จะเป็นห่วง

มันทิ้งงาน ไม่ได้ลางานอาจารย์ มันทำได้ยังไง ทำไมคนคนนี้ ถึงทำให้มันเป็นได้ขนาดนี้ ผมไม่เข้าใจ อาจารย์

ผมเสียใจมากครับอาจารย์  


อ.มงคล บอกว่า เมื่อวานนี้ ลุงบุญ บอกว่า

วันนี้ผมจะทำงาน โดยไม่ขอรับค่าแรง 

ไม่ไ้ด้นะ อย่ายอมนะ

แกบอก แกขอทำบุญบ้าง  แกก็ทำอยู่แล้ว วันก่อน

แกก็เอาเงินวิระทะโยมาทำแล้ว

นี่ค่าแรง ต้องรับ  แกไม่ยอมเลย แกบอกแกจะไม่รับค่าแรง


อันนีี้พึ่งรู้จาก อ.มงคล วันนี้เอง

 

ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่า

ทำไมลุงบุญต้องบอกว่า จะทำงานโดยไม่ขอรับค่าแรง ไม่รู้ว่า ท่านผู้อ่านคิดยังไง อ.อุบล พึ่งทราบ เลยไม่ได้ถามลุงบุญ จะเกี่ยวกับการที่ โป๊กทำงานไม่เต็มที่ มัวแต่คุยทั้งวันรึเปล่าก็ไม่รู้ ทำให้ลุงบุญ ไม่ยอมรับค่าแรง วันนี้ ก็อยู่จนมืด ทำไมหนอ คนดี ก็ดีเสียจน หาที่ติไม่ได้เลย แล้วคนที่มาใกล้คนดี ไม่ได้ซึมซับความดีของคนดี อย่างลุงบุญกันบ้างเลย  แล้วอย่างนี้ จะให้ อ.อุบล นิ่งเฉย ต่อความทุกข์ของครอบครัวลุงบุญได้อย่างไร

 

ในโลกนี้

ที่เต็มไปด้วยคนบาป คนชั่ว คนนึกถึงแต่ตัวเอง

คนเห็นแก่ตัว แต่บ้านสวน

ก็มีคนอีกซีกหนึ่งอย่างลุงบุญ และ อีกหลายคน

ให้ได้เห็น ว่า ยังมีคนดี อยู่ในโลกนี้อีกมากมาย ดังนั้น เรามาช่วยกัน

สนับสนุน ส่งเสริม คนดี

ให้มีความสุข ช่วยขจัดปัดเป่า ความทุกข์ให้กันดีไหม

ใครก็ตาม ที่ดี เหมือนอย่างลุงบุญ

เราต้องหาทางช่วย เมื่อมีคนมาละเมิด

มาสร้างความแตกแยก สร้างความเดือดร้อนให้ ดัไหมจ๊ะ

 

คนที่ได้ร่วมงานกับ

ลุงบุญ

จะมีแต่ความสงบใจ มีแต่ความสุข

ไม่เคยสร้างปัญหา

นำพาแต่ความชื่นใจให้ตลอดเวลา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 21:35:23


ความคิดเห็นที่ 13 (1623957)

ขอบคุณมากครับพี่เหมี่ยว ถึงบางอ้อเลยครับ...

สุดท้ายเรื่องแห่งความร้าวฉาน ที่ทำให้ลุงบุญและพี่โป๊กผิดใจกัน มีปัญหากันจนกระทั่งพี่โป๊กไม่มาทำงาน หายไปทั้งคืน ติดต่อก็ไม่ได้ มาจากพี่เกสรนี่เอง

พี่เกสรทำอะไรอยู่เหรอครับ พี่ติดต่อขายพี่เสริฐแต่พี่เขาไม่เล่นด้วย พี่ก็กลับมาหาทางขายต่อที่พี่โป๊ก อีก

เรียกว่าพี่เกสรใช้กำลังที่สูงมากทีเดียวในการทำบาปครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวที่เคยอบอุ่นมีปัญหากันจนได้

ทำไมจะทำอะไรต้องแอบอ้างชื่อท่านอาจารย์อุบลด้วยล่ะครับ เห็นคุณภาเขียนเล่าว่า พี่แอบอ้างอีกว่า ท่านอาจารย์อุบลให้เปลี่ยนจากรถมอเตอร์ไซค์ มาเป็นเงินสดในการทำบุญ

ช่างกล้ามากนะครับพี่สร ที่ทำอย่างนี้ และพี่กล้ามากสุดๆที่แอบอ้างชื่อท่านอาจารย์ทำให้พี่โป๊กต้องเป็นถึงเพียงนี้

พี่พูดอะไรเหรอครับ ทำไมพี่เหมี่ยวถึงได้ยินอย่างนี้ พี่โป๊กก็ไม่ซื้อ แต่เหมือนพี่เขาต้องเอารถไปขายให้พี่สร เหมือนกับว่าพี่โป๊กได้รับข้อมูลอะไรบางอย่างมาอย่างแน่นอน

การค้าขายในการสวนฯมีตัวอย่างให้เห็นมากมายแล้วนะครับ ว่าจุดสุดท้ายคือ เจ๊ง และก็ เจ๊ง ได้รับทุกข์สุดๆทุกด้าน

แต่สิ่งที่พี่สรทำนั้น แสดงให้เห็นเลยว่าพี่ไม่เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนมีจริง และพี่ก็ไม่ได้เคารพท่านอาจารย์อุบลเลย

การที่พี่ขอเบอร์ใครต่อใคร แล้วชวนเขาไปที่ร้านเพื่อซื้อของร้านพี่ และพี่ยังมาบอกใครต่อใครในบ้านสวนฯอีกว่า หากขายของหมดจะเอาเงินมาทำบุญที่บ้านสวน 50% สิ่งนี้ชัดเจนเลยครับว่า

พี่สรบอกคนอื่นเรื่องนี้เพื่อหวังผลประโยชน์ให้คนไปซื้อของร้านพี่ โดยแอบอ้างว่าจะเอาเงินไปทำบุญกับบ้านสวนหรือท่านอาจารย์อุบล

ตัวใครตัวมันล่ะครับ งานนี้...ไม่เข็ดไม่จำเลย พฤติกรรมเช่นนี้ และดูท่าจะหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเสียด้วยซิ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 21:36:22


ความคิดเห็นที่ 14 (1623958)

    เช้าวันเสาร์ พี่เกสรเข้าบ้านสวน เดินมาทักทายเหมี่ยว แล้วบอกว่า .. พี่เอารถมอเตอร์ไชค์ มามอบให้อาจารย์อุบล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในบ้านสวน

     เหมี่ยวบอกว่า....  อนุโมทนาสาธุด้วยนะคะพี่สร    เหมี่ยวเพิ่่งมาคิดได้ว่า เรื่องที่ พ่อดุลูก เสียงดัง เป็นเรี่อง  รถมอเตอร์ไชค์พี่เกสรที่บอกนำมาให้บ้านสวนพีระมิด แล้วบอกขายให้โป๊กหรือไม่ก็ขายใครก็ได้ 

     มันคืออะไร พี่เกสร พี่นำเรื่องบุญมาบอก ยังไม่ข้ามวันพี่เกสรทำเรื่องเดียวกันให้เป็นบาป พี่เกสรกำลังทำอะไร คิดอะไรอยู่ค่ะพี่เกสร 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 21:40:50


ความคิดเห็นที่ 15 (1623962)

คนที่ได้ร่วมงานกับ

ลุงบุญ

จะมีแต่ความสงบใจ มีแต่ความสุข

ไม่เคยสร้างปัญหา

นำพาแต่ความชื่นใจให้ตลอดเวลา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จริงที่สุดเลยครับ

ลุงบุญเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนอยากเข้าใกล้ และอยากทำงานด้วยจริงๆครับ

ลุงบุญเป็นคนที่ใจเย็นมากๆ แล้วยังมีความเป็นผู้ดีสูงด้วยครับ 

เรียกได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือและเอาเป็นแบบอย่างเลยทีเดียว

เวลาทำงานกับลุงบุญจะรู้สึกมีความสุขไปเอง

แม้ว่างานจะหนักแดดจะร้อน

แต่ว่าจะสบายใจ รู้สึกสงบ และมีความสุขที่ได้ช่วยงานลุง

เห็นลุงบุญแล้วก็จะเป็นอย่างลุงบุญบ้าง 

 

เพราะลุงบุญใจเย็น มีความเป็นผู้ใหญ่ อีกทั้งยังซื่อสัตย์ และขยันมากๆีครับ

และการที่ลุงบุญไม่ต้องการจะรับค่าแรงนั้น ก้เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า

ลุงบุญมีความซื่อสัตย์มาก 

ไม่รู้ว่าคนที่มาทำครอบครัวของลุงบุญแตกแยกนี่ไม่กลัวบาป กลัวกรรมบ้างหรือไง

ถึงมาทำให้คนที่ทุกคนรักและเคารพ เป็นทุกข์ได้ขนาดนี้ 

 

เห้อออ  ฟังแล้วเหนื่อยใจ ระอา  สงสารลุงบุญจังครับ T____T

  

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 21:59:12


ความคิดเห็นที่ 16 (1623971)

แปลก แต่ จริง

คนที่อุส่าห์ เดินทาง เสียเวลา เสียค่ารถ

มาถึงบ้านสวน

แต่

พอมาถึง กลับ มาสร้างบาป ไม่สนใจสร้างบุญ

แล้วก็ยังชวนคนอื่นให้บาปตาม 

 

มิน่า

เมื่อวันเสาร์ น้องมะเหมี่ยว

ที่มาจาก ร.พ.รามาธิบดี มีอาการ ตัวร้อน มาปีกว่า

ไม่มีวิธีรักษาให้หายได้

ขึ้นไปสารภาพกับพ่อใหญ่ธนา  อ้้อ กับจี้สฟิงซ์ ที่พ่อใหญ่ธนาถือไว้

แต่นึกกรรมไม่ออก ว่าอาการตัวร้อนนี้ เกิดจากกรรมใด

อ.อุบล ก็เลยแนะกรรมให้ ว่าเคย ใช้ความร้อน ฆ่าสัตว์ หรือไม่

เช่น เผา ลวก อะไร ทำนองนี้

น้องมะเหมี่ยวบอกว่า เคยค่ะ

เคยเอาน้ำร้อน ฆ่ามด เคยเอาหอยแครง

เผาไฟทั้งเป็นกินกับเพื่อนๆค่ะ

ถ้างั้นดูซิ ดีขึ้นไหม หรือว่า หายไหม

ดีขึ้นนิดเดียวค่ะ แค่ 10 % ค่ะ

 

ถ้างั้น ก็แปลได้ 2 อย่าง คือ

 

1.ยังบอกกรรมไม่หมด

 

2.บุญที่มาทำบ้านสวนวันนี้ ไม่พอที่เขาจะรับได้

 

น้องมะเหมี่ยวบอกว่า นึกไม่ออกแล้ว ค่ะ

ถ้างั้นลองพิสูจน์ให้เป็นหลักวิทยาศาตร์ โดย

อ.อุบล ถามว่า ตั้งแต่มาัวันนี้

ทำบุญอะไรบ้างหรือยัง

พึ่งไปขุดด้านหลัง กำลังจะเริ่ม ก็มานี่ก่อนค่ะ

คือได้เวลาอาหารก่อน

ขุดได้กี่จึ๊ก

แค่ 3 จึ๊กเองค่ะ 

ถ้างั้น ไม่พอหรอก หอยแครงตั้งกี่ตัว  เยอะค่ะ

มดตั้งกี่ตัว 1 ตัว ก็ 1 วิญญาณ

ขุดดิน 3 จึ๊ก จะให้เขาแบ่งกันบุญกันยังไง มันไ่ม่พอหรอก

พิสูจน์นะ ให้หนูไปขุดดินให้ได้มากกว่านี้

กะเอา 1 วิญญาณ 99 จึ๊ก กะทำให้เต็มที่ แล้วดูสิ

จะหายตัวร้อน ไหม แล้วมาบอก อ.อีกที

ค่ะ

*****************

วันรุ่งขึ้น วันอาทิตย์

ให้น้องมะเหมี่ยว ขึ้นไปรายงานผล บนเวที

บอกว่า หายตัวร้อน แล้ว 100 %

(ตัวร้อนมาตั้งปีกว่า มาหาย ซะ ด้วยการขุดดิน 555)

*************

ให้ท่านทั้งหลายที่มาบ้านสวนแล้วมัวแต่

ไปนั่งคุย กับคนนั้น ปั่นหัวคนนี้

โรคมันจะหายได้ไหม

ให้ดูน้องมะเหมี่ยว ลูกคุณแดง เป็นตัวอย่าง

แล้วก็ลองดูคนที่มานานแล้ว

ทุกข์ไม่หาย แต่ก็ยังมา แสดงว่า มาแล้ว

ทำอย่างไร ทำไมไม่หาย

เหมือนคนอื่น เขาหายให้เห็น ไม่เว้นวัน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 22:44:26


ความคิดเห็นที่ 17 (1623974)

ผมถึงบางอ้ออีกเรื่องเลยครับ

เพราะตอนเย็นๆมาถึงโรงทานหลังใหม่ เจอพี่เกสร แกก็บอกผมว่า "พอดีพี่ติดงานในครัว เลยไม่ได้ไปช่วยข้างหลัง"

ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะไม่ได้สนใจว่าใครจะทำบุญส่วนไหนของบ้านสวนฯ ก็เป็นบุญใหญ่ทั้งนั้น

แต่พอได้มารับรู้เรื่องราวก็เลยรู้ว่า ที่พี่สรอยู่ในห้องครัว ชวนคนนั้นคนนี้คุย ชวนพี่โป๊กและคนอื่นๆคุยอยู่นี่เอง

ที่สำคัญการคุยของพี่สรนั้นทำให้เกิดปัญหาตามมาให้คนอื่นเดือดร้อน จากการผิดศีลของพี่สร แบบว่า ผิดแบบตั้งใจ หรือเรียกว่า โหดร้าย เหลือเกินครับ เพราะพี่สรตั้งใจแอบอ้างชื่อท่านอาจารย์และคนอื่นๆเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองต้องการหรือคิดเองทั้งนั้น...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 23:02:11


ความคิดเห็นที่ 18 (1623983)

    พี่เกสรต้องออกมาเคลียตนเองเองแล้วล่ะ เพราะไปพาดพิงหลายคนเหมือเกิน เพื่อใช้เป็นเหตุผลอ้างเพื่อให้ตนเองกระทำบาปได้แรง ๆ

    พี่เกสร ย้ายเข้ามาบ้านนาไม่นานมานี้เอง พี่เกสรบอกว่าจะต้องเร่งสร้างบุญ หนีห่างจากการความทุกข์ที่สลัดไม่ออก พี่เกสรบอกว่ามีความสุขมากเมื่อได้ย้ายมาอยู่บ้านนา ใกล้บ้านสวนได้แวะเวียนมาทำบุญได้บ่อยขึ้น  

      สิ่งที่พี่เกสรทำ มากมายหลายเรื่อง การอ้างชื่ออาจารย์อุบล เพื่อแสวงหาประโยชน์  มาหาลูกค้าในบ้านสวน  อ้างชื่อบุคคลอื่นมาทำบาปกับตนเองทั้งที่เขาก็ไม่รู้เรื่อง ชวนผู้ตั้งใจมาสร้างบุญ พูดคุยให้เสียเวลาสร้างบุญ   เป็นคนที่ทำให้ลุงบุญ กับโป๊ก ทะเลาะกัน 

     ผมไม่เข้าใจคำว่า ความสุข ที่พี่เกสรบอกว่า มีความสุขมากเมื่อมาบ้านสวนฯ มันเป็นความสุขที่พี่เกสร กำลังเลือกทำอยู่ตอนนี้หรือเปล่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 00:31:39


ความคิดเห็นที่ 19 (1623995)

 ไม่คิดเลยจริงๆนะคะ

ว่าคนที่บอกว่ารัก ศรัทธา ท่านอ.แม่

จะมาแทงข้างหลังได้ขนาดนี้

ความคิดนี้มันเข้ามาในหัวพี่สรตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ

ตั้งแต่แรกเลยที่รู้จักบ้านสวน หรือตั้งแต่จิตคิดอยากได้

อยากมี เลยปล่อยให้ความโลภครอบงำ

จนกล้าทำได้ถึงขนาดนี้ กรณีเรื่องเหรียญตั้มๆ

ก็เห็นพี่สรออกมาพูด มาปกป้องท่านอ.แม่ซะดิบดี

การกระทำเหล่านั้นมันไม่ได้ดูดีเลยนะคะ เมื่อความจริงปรากฎออกมา

ยิ่งทำให้เห็นชัดไปอีกว่า พี่สรเป็นคนยังไง

ท่านอ.แม่ ไม่เคยอยากได้สิ่งของๆใคร ไม่เคยบังคับใครให้ทำบุญด้วยวิธีต่างๆนาๆ

แต่พี่สรพูดซะไม่มีอะไรดีเลย คิดว่าคนฟังเขาจะอยากซื้อหรอคะ

คนจะซื้อก็คงต้องเป็นพวกเดียวกับพี่นั่นแหละค่ะ

ตัวอย่างผู้ที่เข้ามาหาผลประโยชน์ในบ้านสวนก็มีหลายราย ...ปางตายแทบทุกราย

โชคดีหน่อยก็มีโอกาสมาขอขมาถึงบ้านสวนก่อนสิ้นลม

แต่ตอนนี้คงต้องออกสื่ออย่างเดียวแล้ว

แค่คิด ก็มืดมิดแล้วค่ะ .....พี่เกสร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 05:19:04


ความคิดเห็นที่ 20 (1624008)

 


ลุงบุญเป็นคนหนึ่งที่ทุกครั้งที่ไปบ้านสวน
เราต้องรีบมองหาแกและต้องสวัสดีแก
ทุกครั้งทีสวัสดี การไหว้ของเรารู้สึกว่าลุงบุญ
เป็นผู้ที่ควรไหว้จริงๆค่ะ
และเหตุการณ์นี้ ทำไมถึงต้อง
มาเกิดกับครอบครัวลุงบุญก็ไม่รู้
น่าเห็นใจลุงมากๆ ค่ะ ไหนจะความเป็นห่วงลูก
ไหนจะเกรงใจท่าน อ.อุบลอีก
คนที่ทุกข์ที่สุดไม่ใช่ใคร ก็คือลุงบุญนั่นเอง

ส่วนผู้เป็นชนวนเหตุของเรื่องนี้
กลับเป็นคนที่มาบ้านสวนเป็นประจำ
และบอกว่าเชื่อมั่น ศรัทธาบ้านสวน
ถึงกับย้ายเข้ามาอยู่ใกล้เขตบุญ
แต่สิ่งที่พี่เกสรทำ กลับตรงกันข้าม
ฟังแล้วก็หดหู่ เศร้าใจเหลือเกิน
ในความเป็นจริง เราก็รู้ดีอยู่ว่า
การนำสิ่งของ หรือธุริกจใดๆ มาทำที่บ้านสวนนั้น
ผู้ที่ละเมิดจะเกิดเหตุเภทภัยอะไรกันบ้าง
 
 
สิ่งเหล่านี้ เราก็รู้ก็เห็น
กันมานักต่อนักแล้ว
แต่ก็ยังมีคนคิดจะทำ
ด้วยคำว่ากิเลสเพียงคำเดียว
ขอให้พี่เกสรออกมาสู้ความจริง
และพูดเรื่องราวทั้งหมดเถอะค่ะ
ดีกว่าปล่อยเงียบอึมครึม
ทำให้ครอบครัวของคนดีๆ 
อย่างลุงบุญต้องเป็นทุกข์ 
นับว่าบาปหลายเด้งเลยค่ะ 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 09:10:50


ความคิดเห็นที่ 21 (1624012)
ส่วนผู้เป็นชนวนเหตุของเรื่องนี้
กลับเป็นคนที่มาบ้านสวนเป็นประจำ
และบอกว่าเชื่อมั่น ศรัทธาบ้านสวน
ถึงกับย้ายเข้ามาอยู่ใกล้เขตบุญ
แต่สิ่งที่พี่เกสรทำ กลับตรงกันข้าม
ฟังแล้วก็หดหู่ เศร้าใจเหลือเกิน
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
 
ตุ้ยเอ้ย...ไม่ต้องเศร้า
 
เพราะ
คนที่มา บ้านสวนเป็นประจำ
และร้อนรน ต้องการที่จะ
เข้ามาอยู่ใกล้ บ้านสวนฯ
แต่ มันมีอะไรที่ลึกกว่า นั้น
ในขณะที่เข้ามาเป็นประจำ
แต่เที่ยวกลับไปบอก
คนที่ นาน ๆ มาครั้ง หรือ
ไม่ได้มาเป็นประจำ  ว่า
ทำบุญที่ไหนก็ได้
ไม่จำเป็นต้องมาบ้านสวนฯ
โอนเงินมาทำก็ได้
เป็นปะโยคที่พี่เกสร
ได้บอกกล่าวกับ
ลูกบ้านสวนฯ ที่พี่สร
คิดว่า เค้ากล่อมได้...แต่
ดีแล้ว ที่พี่สร
คิด ทำ แทงข้างหลัง
อ.อุบล และ บ้านสวนพิรามิด
แบบนี้ ต้องขอบคุณ
ขอบคุณนะคะ
 
แต่อยากให้พี่สร ระวัง
ตัวเองนะคะ
ดูพี่สรเป็นคนที่ไม่มีเลือด
ที่จะนำไปเลี้ยง สมอง
และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายแล้ว
คิด และ ทำ
ในสิ่งดี ๆ ที่เรียกว่า บุญ
ให้บริสุทธิ์ บ้างสักครั้ง
เพื่อตัว พี่สรเองนะ
เลือดพี่จะได้ สะอาด
ไม่รักคนอื่น ทำร้ายคนอื่น
หากเห็นแก่ตัวแล้ว
ก็ต้อง ก็ต้องให้สิ่งที่ดีจริง ๆ
กับตัวเองบ้าง
ทำให้เห็นว่า...
สิ่งที่พี่สรทำ
เป้นการทำร้ายตัวเอง อย่างแรง
ระวัง !!!
กระอักเลือด ตาย
ทั้ง ๆ ที่ในตัว ไม่มีเลือด
 
 
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 09:41:19


ความคิดเห็นที่ 22 (1624016)

หัวใจของผู้เป็นพ่ออย่างคุณลุงบุญ ตอนนี้คงเจ็บมาก หัวอกคนเป็นพ่อแม่คงไม่มีอะไรจะทำให้ทุกข์มากเท่ากับเห็นลูกหลงเชื่อคนผิดเดินลงเหว แล้วช่วยลูกไม่ได้ ใจแทบสลายเลยนะคะ ไม่เชื่อฟังคำเตือนที่เต็มไปด้วยความห่วงใยมากมายของครอบครัว แต่ไปเชื่อคนปากหวานพูดดี หารู้ไม่เคลือบไปด้วยยาพิษ ขอให้ความสุขกลับคืนมาสู่ครอบครัวของคุณลุงบุญเร็วๆนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 09:57:16


ความคิดเห็นที่ 23 (1624028)

ได้รับรู้ถึงการกระทำของพี่สร แล้วรู้สึกเสียใจ

แสดงว่าทุกกระทู้ที่พี่สรเคยบอกว่า

เคารพรักท่านอาจารย์ต่างต่าง นานา

ก็เป็นโมฆะสิค่ะ

ใช้ชื่อท่านอาจารย์อ้างโน่นนี่เพื่อผลประโยชน์เข้าตัว

ตัวอย่างมีให้เห็นตั้งหลายราย พี่ก็เห็น แต่ก็ยังทำ

แถมยังจะทำให้ลุงบุญและครอบครัว

จากที่เคยมีความสุขต้องเป็นทุกข์อีก

ที่พี่สรขึ้นไปสารภาพบนเวทีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

แล้วอาการดีขึ้นนิดเดียว แต่ไม่หาย

ทั้งที่คิดว่าตัวเองนึกกรรมหมดแล้ว ยังไม่ฉุกคิดได้อีกเหรอค่ะ

หรือว่าพูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้เชื่อ หรือสำนึกอยู่แล้ว

เพราะถ้าพี่เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อในท่านอาจารย์

พี่ก็คงไม่ทำแบบนี้...

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 11:03:10


ความคิดเห็นที่ 24 (1624062)

ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่าพี่เกสรทำได้ขนาดนี้

อาจเป็นไปได้หรือปล่าวค่ะว่าคนที่มาบ้านสวนแล้ว

ได้รับพลังบุญ ให้มีเงิน มีงาน มีสภาพคล่องมากขึ้น

ทำให้หลงไปกับสิ่งเหล้านี้

ทำให้หน้ามือตามัวยอมทำปาบหนัก

โดยลืมคิดถึงความเจ็บป่วยปัญหาต่างๆ

แต่เก่าก่อนของตัวเองก่อนที่จะได้รับพลังบุญจากบ้านสวนพีระมิด

เพราะก่อนมาบ้านสวนมีทุกข์มา

แต่พอมาพึ่งบุญท่านอาจารย์ชีวิตดีขึ้นกลับลืมพระคุณอาจารย์ 

 

ที่พี่แมวเคยบอกมันจริงที่สุดเลยค่ะ ว่าถ้ารักอาจารย์อุบลจริง

ควรดูที่การกระทำมากกว่าค่ะ  ไม่ใช่แค่พูดว่ารักอาจารย์

 

ขอเป็นกำลังใจให้ลุงบุญนะคะขอให้พี่โป๊กรีบกลับตัวได้ทัน

เพราะลุงบุญเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่น ใจดี ทำงานไม่เคยหยุดไม่เคยบ่น

ไปบ้านสวนทีไรจะเห็นลุงบุญมาทำงานแต่เช้า

ทำงานด้วยแล้วมีความสุขจริง ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 13:33:28


ความคิดเห็นที่ 25 (1624083)

   ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว  รู้สึกช็อกค่ะ

ว่าอะไร  ที่ทำให้พี่สรเป็นไปได้ขนาดนี้

เพราะเห็นพี่สรลงทุนย้ายมาอยู่บ้านนา

เพื่อมีโอกาสได้มาสร้างบุญที่บ้านสวนบ่อย ๆ

ยังนึกทึ่งเหมือนกัน  ที่พี่เค้าตัดสินใจ

"เพื่อมีโอกาสสร้างบุญ"

แล้วทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้

หรือว่าที่ผ่านมา  พี่ไม่เคยพูดความจริงเลย

ดิฉันกำลัง  "งง" 

     ขอไปนั่งทบทวนตัวเองก่อนนะคะ

ว่ามี  มารร้าย เข้ามาแอบแฝงในตัว

จนทำให้เราเห็นผิดเป็นชอบ อีกหรือเปล่า

เดี๋ยวตามไม่ทัน  พลาดอีกแย่เลยเรา

     กราบขอบพระคุณท่าน อ. อุบล และทุก ๆ ท่าน

ที่ได้นำเหตุการณ์ในบ้านสวน  มาให้เรา

ได้พิจารณาตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 15:07:00


ความคิดเห็นที่ 26 (1624092)

 

เป็นคนนึงเหมือนกันค่ะที่ ช๊อค ความรู้สึกนี้

เคยชมพี่สรต่อหน้า ว่า พี่เก่งจังเลยที่กล้าย้ายมาอยู่บ้านนาคนเดียว กล้าทิ้งบ้านช่องที่เคยอยู่มาแต่เล็กแต่น้อย เพื่อที่จะได้สร้างบุญให้เต็มที่

พี่สรบอกว่า พี่สรเป็นคนขี้กลัว กลัวทุกอย่าง พี่ต้องรวบรวมกำลังใจอย่างมากที่จะย้ายมาบ้านนา แล้วพี่ก็ทำสำเร็จ

แต่มีอะไรดลใจพี่ค่ะ ที่ทำให้ช่างกล้าทำในสิ่งที่ผิดมหันต์ขนาดนี้

น่าเสียดายโอกาสที่พี่จะได้สร้างบุญเพราะระยะทางใกล้แล้ว แต่พี่กลับใช้โอกาสในการสร้างบาปแทน

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 15:39:12


ความคิดเห็นที่ 27 (1624100)

รู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ ตอนแรกยังชื่นชมพี่สร

ว่ามุ่งมั่นในการสร้างบุญที่บ้านสวนฯจริงๆ

อุตส่าห์ย้ายบ้านจากภาคใต้มาอยู่บ้านนา

ไฉนมาก่อเหตุร้ายแรงซะได้

พี่ออกมาเคลียร์ตัวเองเร็วๆ

พี่กรุณาออกมาชี้แจงให้กระจ่างด้วยค่ะ

เดือดร้อนกันทั่วหน้าเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 16:04:51


ความคิดเห็นที่ 28 (1624144)

 เรื่องรู้หน้าไม่รู้ใจนี่นะ

ขอเล่าสักหน่อย 

เดี๋ยวลืม กำลัง ได้อารมณ์


เมื่อคืนที่ผ่านมา

ระหว่างดูข่าวแผ่นดินไหวเสร็จ

ก็คุยกับบุญตา

เรื่องที่มีคนพูดกับ อ.อุบล ว่า

เมื่อก่อนเขามาบ้านสวน

เห็นบุญตา มาทำบุญ

หน้าตาสดชื่นมากมาก

 

แต่พอเริ่มมาอยู่ใหม่ๆ

เห็นหน้าตาเคร่งเครียดไม่ค่อยยิ้มเลย

 

หลังจากค่าย 12 มา

ก็เห็นบุญตา กลับมาสดใสอีกครั้ง

ก็เลยเล่าให้เขาฟังว่า

บุญตาไม่สู้คน โดนข่มตลอด  

 

พอเล่ามาถึงตอนนี้

บุญตาก็เลย บอกว่า

 

โห่ อาจารย์คะ

เมื่อก่อนหนูไม่เคิยยิ้มเลยค่ะ

หนูยิ้มไม่เป็น ทำเป็นแต่หน้าบึ้งค่ะ

 

หนูพึ่งมายิ้มเป็น

ตอนมารู้จักบ้านสวนนี่แหละค่ะ

 

ทำไมล่ะบุญตา

ชีวิตมันรันทดขนาดนั้นเลยเหรอ

 

ค่ะอาจารย์

หนูเครียดตลอด เครียดเรื่องแฟนหนู

เขาทำกับหนูสารพัด

 

มีเมียน้อย

ซึ่งหนูไม่คิดเลย ว่าเขาจะทำกับหนูได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่หนูไว้ใจ

อยู่บ้านในซอยเดียวกัน ไม่ไกลกันเลย

เป็นเพื่อนของหนูเอง

 

หนูไม่เคยสงสัย

ไม่เคยระแวงเลย หนูไปเล่า

ให้ พ่อ แม่เขาฟัง

พ่อ แม่เขาบอกว่า

แม่มีลูกสะใภ้ แค่คนเดียว จำไว้

 

แล้ววันหนึ่ง

หนูก็ไปบ้าน พ่อ แม่เขา

หนูก็เห็นผู้หญิงคนนี้

อยู่กับสามีหนูในบ้าน พ่อ แม่เขา

และ อยู่กันพร้อมหน้า

 

เท่านั้นแหละค่ะ

หนูด่าเลย

เนี่ยเหรอ

บอกว่าแม่มีลูกสะแภ้แค่คนเดียว

แล้วนี่อะไร พูดจาหมาๆ

อะไรประมาณนี้ค่ะ

หนูด่าเป็นชุด อ.คะ หนูนี่แหละค่ะ

ด่าเก่งมาก แฟนหนู หนูก็ด่า

 ไอ้หน้าตัวเมีย ไอ้ เหี้.....ไอ้สัตว์

หนูด่าเพราะหนูแค้น

เขาบอก หนูคิดไปเอง เขาไม่มีอะไรกัน

แต่ไปอยู่ด้วยกัน

 

เสื้อผ้ามัน

หนูก็ไม่ซักให้ หนูเอาโยนทิ้งหน้าต่าง

 

พ่อแม่เขา ช่วยกันจับหนู

แล้วให้แฟนหนู ตีหนู ซ้อมหนู

ที่หนูไปด่าเขา หนูโดนตี

โดนซ้อม อย่างหนักหลายครั้ง

พ่อแม่เขายุให้แฟนหนู ไปตีหนูที่บ้าน

 

เขามาหนูอยู่กับลูก

กับพ่อแม่ ตอนกลางคืน

มาถึงก็เตะเอา ตบเอา จนหนูแทบตาย

คนข้างบ้าน

ต้องพาหนูส่งโรงพยาบาล

 

หนูมีแต่ความแค้นค่ะอาจารย์

หนูเลยยิ้มไม่เป็น

และ

ด่าเก่งที่หนึ่ง

 

ดีนะ

ที่หนูมาเจออาจารย์ก่อน

ไม่งั้นไม่รู้ว่าหนูจะอยู่ขุมไหนมั่ง

 

 เท่านั้นยังไม่พอนะอาจารย์

หนูคิดหาทางเอาคืนตลอด

เพราะตัวหนูเล็ก

หนูสู้เขาซึ่งหน้าไม่ได้

หนูก็เลย รอทีเผลอ

 

วันหนึ่ง

แฟนหนูนั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนๆเขา

ล้อมเป็นวงเลยค่ะ หนูก็เดินไป

แล้วเอาไม้รวกผ่าซีกแบบตัน

ตีหัวสุดแรงเลยค่ะ

แล้วหนูก็รีบวิ่งหนี

เข้าบ้าน ปิดบ้าน ปิดห้อง

ล๊อกประตูเลยค่ะ

 

พวกเพื่อนๆ

ที่กินเหล้า วงแตกเลยค่ะ  

 

อ้าว

แล้วเพื่อนเขาไม่บอกเขาเหรอ

ว่าบุญตาจะตีเขา

 

ก็เขาไม่รู้

คิดไม่ถึงว่าหนูจะทำไงค่ะ

เพราะหนูเดินไปเฉยๆ แต่วางแผนไว้

หนูตีอย่างเร็ว

จนเขาบอกกันไม่ทันค่ะ  

 

โอ้โห

บุญตา คิดได้ไงเนี่ย วิธีเนี๊ยะ

 

เรื่องชั่ว

คิดไม่ยากค่ะอาจารย์

ตอนนั้นทำแต่เรื่องชั่วค่ะ

ใจไม่เคยสงบสุข โกรธ แค้น

หาทางแก้แค้นอย่างเดียวค่ะ

 

 หนูพึ่งมาใจเย็น

ตอนหนูมาเจออาจารย์นะคะ

 

โห

ระหว่างบุญตา กับป้าเทิงนี่

ไม่รู้ใครจะเก่งกว่ากันซะแล้วนะเนี่ย

 

ตอนแรก

นึกว่าป้าเทิงนี่สุดยอดแล้ว

เพราะ แกบอกว่า

แกทะเลาะกับคนแถวบ้าน แกว่าสามีแก

ว่า ไม่เห็นช่วยแก

เหมือนผัวคนอื่นมั่งเลย 

 

 สามีแกบอกว่า

จะต้องช่วยทำไม

เห็นมากันกีีคน ก็แพ้กลับไปทุกคน  

 

ฮ่าๆๆๆ

บุญตา เปลี่ยนได้ขนาดนี้

แต่ป้าเทิงบอก

ป้าเทิง ยังปล่อยวางไม่ได้

 

 

 แล้วถ้าบุญตาปล่อยวางไม่ได้

แล้วอยู่กับป้าเทิง

โอ้ย

ไม่อยากคิด

ถึงสวัสดิภาพหัวป้าเทิงเลย

เพราะป้าเทิง

ชอบดุ ชอบข่ม บุญตา

 

บุญตาจะเงียบ

สงบเสงี่ยมเหมือนคนไม่สู้คน

 

ที่ไหนได้

วีรกรรมเหนือป้าเทิงอีกแน่

 

โห

ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้นะอาจารย์

ยายเทิงตายแน่

ตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้วค่ะ

เย๋ยยยยย

บุญตา

 

 

 ฟังบุญตาไป ก็ขำกันไป

อ.มงคล เป็นแผนกแซว

บุญตาแผนกเล่า

อ.อุบล แผนกขำ

(แบ่งหน้าที่กันชัดเจน)

 

ไปๆ มาๆ ขำกันกลิ้ง ทั่วหน้า

ด้วยวีรกรรม

ความซ่าส์ของบุญตาในอดีต

 

สุดท้ายบุญตา

ก็มาจบตรงบ้านสวนพีระมิด

ขอบคุณอาจารย์มากเลยค่ะ

ที่ทำให้หนูยิ้มเป็น อภัยได้

ไม่งั้นใจหนูทุกข์มาก

 

ตั้งแต่อาจารย์ให้หนูอภัยเขา

แรกๆ หนูทำใจไม่ได้

พอวันหนึ่งหนูทำได้

หนูมีความสุขมาก หนูพ้นทุกข์ได้

ไม่คิดแค้นเขาอีกเล

 

แฟนเขา หนูก็พูดดีด้วยแล้ว

หนูขายของ แฟนเขาก็ซื้อของหนูด้วย

 

ทุกวันนี้

ชีวิตเขาสองคน ก็ย่ำแย่

ทำมาหากินอะไรก็ไม่ขึ้นเลยค่ะอาจารย์

หนูก็เลยสงสารเขาแล้ว

ไม่โกรธแล้ว เขาไปจากเรา

ใช่ว่าเขาจะมีความสุข

 

 เมื่อก่อนนี้

ตอนแฟนหนูยังไม่มีผู้หญิง

ชีวิตหนูดีมากเลยค่ะอาจารย์

มีเงิน มีทอง มีเงินให้คนยืมเยอะแยะ

ทุกวันนี้ ก็ยังไม่ได้คืนเลยค่ะ

 

แต่พอแฟนหนูเริ่มมีผู้หญิง

หนูเริ่มด่า ตีกัน เลิกกัน

หนูก็ไปผิดศีลข้อ 3 กับผัวชาวบ้าน

เขาหลอกหนูว่า

เขาไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว

แค่ยังไม่หย่ากัน เขาบอก

เขาแอบชอบหนูมาตั้งนานแล้ว

ตั้งแต่หนูเป็นเด็กวัยรุ่น

ตอนนั้นหนูมาบ้านสวนแล้ว

รับปากว่าจะรักษาศีล 5

แต่พอหนูไปเจอกับเขา

ก็มีอะไรกันอีก จนหนูเจ็บแสบ

เดินขาถ่าง อายก็อาย

ชีวิตหนู

ตกต่ำมาเืรื่อยๆเลยค่ะอาจารย์

เปลี่ยนงาน ไม่ค่อยมีเงิน

ทำมาหากินอะไรก็ไม่ขึ้น

 

หนูไม่ฟื้นเลยค่ะ มาจนถึงทุกวันนี้

 

หนูพึ่งมาเป็นคนใหม่

ตอนมาเจออาจารย์นี่แหละค่ะ

หนูตัดผู้ชายคนนี้ได้

มาทำบุญบ้านสวน หนูก็ถึงเริ่มดีขึ้น

เคลียหนี้สินไปได้

 

โอ้โหบุญตา ยังกะนิยาย

ไม่เล่าเป็นธรรมทานล่ะจ๊ะ

วีรกรรมเด็ดเนี่ย

 มิน่า ทำไมบุญตา มีชื่ออยู่โลกันต์

หนาวสั่นจนฟันกระทบกัน

 

 บุญตาบอก อ.เล่าไปเลยนะคะ

จ้า เดี๋ยวถ้าว่าง

จังหวะเหมาะ จะเขียนให้

แต่ถ้าจะให้ดี เขียนเอง

จะไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจ้า

 

นี่เอามาเล่าสู่กันฟัง

มันเข้ากันได้กับ

เรื่อง

รู้หน้า ไม่รู้ใจ

 

ใครอย่าเผลอ

ไปข่มเหง รังแกบุญตาเข้านะ

เดี๋ยวอารมณ์เดิมกลับมา

จะหาว่า ไม่เตือน

เด้อ ค่า เด้อ

555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 21:36:13


ความคิดเห็นที่ 29 (1624145)

ลืมเล่า อีกนิด อ
อ.อุบล ถามบุญตาว่า แล้วแฟนหนู เป็นยังไง

หลังจากเจอไม้รวกผ่าซีก แบบตัน ลงไป จากคนตัวเล็กอย่างบุญตาสุดแรง

ก็แตกเลือดอาบส่งโรงพยาบาลซีคะอาจารย์

ไม้รวกตันๆผ่าซีก หนูตีซะเสียงดังโป๊งเลยค่ะอาจารย์

 

 แล้วบุญตารู้ได้ไง

ว่าเขาเป็นขนาดนั้น ก็เห็นด้วยแต่รีบวิ่ง

แล้วเขาก็ร่ำลือกัน หนูก็รู้ค่ะ  

 

 

นอกจากนั้นชีวิตบุญตา

ยังไม่หาหมอทำเสน่ห์ เกี่ยวข้องกับคุณไสย

 

บุญตา

ที่หนูความจำสั้นนี่

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโดนซ้อม โดนตีมากนี่เอง

เขาตีหัวหนูด้วยรึเปล่า ตีหมดแหละค่ะอาจารย์

จนไม่รู้ว่า ตรงไหนบ้าง จนหนูจุก ทรุดลงไปกองเลยค่ะ

หายใจไม่ออกเลยค่ะ

ต้องหามส่งโรงพยาบาลเลยค่ะ

 

โอ้ อนิจา ชีวิต คิดไฉน

ใครหนอใครลิขิต

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 21:50:48


ความคิดเห็นที่ 30 (1624156)

ป๊าดด อย่างนี้ต้องเรียกว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ ของแท้ก๊าบบ

พี่บุญตาของจริง ของเขาแร็งส์จริง ว่าแระก็...ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคร้าบบพี่บุญตา อันไหนลืมได้ก็ลืมไปน๊าา 55555

โอ้ พี่บุญตานี่เรียกว่า มืดมา สว่างไป ชีวิตก็มีแต่ความสุข น้อมเอาคำสอนที่ท่านอาจารย์สอนมาพัฒนาตัวเอง จากที่ทำผิดมามากกลายเป็น กลัวชั่วกลัวบาป หนีบาป จนปล่อยวางเรื่องในอดีต ให้อภัยแฟนเก่าได้สำเร็จ

แต่ว่าไปเรื่องการแย่งแฟนชาวบ้านที่พี่บุญตาโดนนี่ น่าสงสารเหมือนกันนะครับ คนที่ทำนี่ช่างไม่สงสารเขาเลยนะครับ ยิ่งเป็นเพื่อนและบ้านอยู่ใกล้ๆกันอีก ยิ่งทำใจลำบากเลย แต่ดีนะครับที่พี่บุญตาตอนนี้ให้อภัยเขาหมดแล้ว

แต่ชีวิตของแฟนเก่าและผู้หญิงที่แย่งแฟนพี่บุญตาไปนี่สิ ต้องทนรับทุกข์ทรมาน ไม่มีความสุขเลย ตรงกันข้ามพี่บุญตาของเรายิ้มเป็นแว้วว ชีวิตมีแต่ความสุข Happy...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 22:20:29


ความคิดเห็นที่ 31 (1624157)

กระทู้นี้ เป็นกระทู้เล่าพฤติกรรม

คนที่มาบ้านสวน  ซึ่งมีหลากหลายรูแบบ

 

ให้เห็น มีทั้ง ผู้ดีมีชาติตระกูลสูงส่ง

มีทั้งฐานะทางการงาน การเงิน สังคม

จิตใจอ่อนโยนสูงส่ง

 

มาจนถึง

ต่ำสุด ทั้งใจ และ คุณธรรม

 บางคนมาถึง ก็มองหาว่า จะทำบุญอะไร มีอะไรต้องทำ

ต้องช่วยบ้าง

 

บางคน มาถึง

ก็มาคอยสืบหาข่าว ว่าค้นนั้น

คนนี้ มารึเปล่า ใครเป็นยังไงบ้าง

มีใครหายไปบ้าง โทร.ไปหาคนนั้น คนนี้

เรียกว่า เป็นนักข่าว นักสืบเข้ามาก็มี

 

แล้วอีกไม่นาน

คนเหล่านี้ ก็จะหมดสิทธิ์เข้าบ้านสวน

ไปตลอดชีวิต และ จะต้องไปเป็นนักข่าวนอกบ้านสวน

ตามคำสั่ง ร่างทรง กันต่อไป

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 22:23:54


ความคิดเห็นที่ 32 (1624184)

วันนี้ ลุงบุญเล่าว่า

เมื่อคืนโป๊กกลับมา ตี 3

ลุงบุญเลยตื่น ตี 3

 

แล้วก็เล่าถึง

นิสัยลูกแต่ละคน

ไม่เหมือนกันเลยสักคน

ทั้งที่เลี้ยงมาเหมือนกัน

กินเหมือนกัน สอนเหมือนกัน  

 

อันนี้

เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ที่เราเห็นเสริฐกับโป๊ก

เป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

เสริฐนี่นะ

ถ้าทำงาน ใครจะมาคุยด้วย

ก็ไม่หยุดทำงาน

มือทำงานไป ใครจะคุยก็คุยไป

แต่เสริฐจะไม่ยอมหยุดงาน

เพื่อหันไปตั้งหน้าตั้งตาคุย 

 จะเป็นคนตรงเวลา

มีวินัย ไม่เกรงใจคนทำผิด

กล้าปฎิเสธ คือ วิธีคิด ดี  

 

ส่วนโป๊ก

ถ้ามีคนมาคุยด้วย ในเวลางาน

โป๊กจะหยุึดทำงาน และ ตั้งหน้าคุยไปเลย

ซึ่ง ลุงบุญจะไม่ชอบใจมากๆ

 

 

อ.อุบล เลยบอกว่า

ลูกสองคน

ไม่เหมือนกันเลยเน๊าะลุง

 

ไม่เหมือนเลยครับ

อาจารย์

 

เมื่อวาน

แฟนผมด่าซะไม่มีดีเลย

 

 

 เราก็นึกถึงหน้าป้า

แฟนลุงบุญ

ซึ่งดูใจดี มีเมตตา ใจเย็น

เคยมา วันปีใหม่ก็มา

แต่วันนี้ลุงบุญบอกว่า

 แกด่าโป๊ก ซะยับเยินเลย  

 

วันนี้

โป๊กมาทำงาน

ยังนึกเลย เมื่อคืนกลับมา ตี 3

จะทำงานได้ยังไง

แต่ปรากฎว่าทำได้

 

เลยได้คุยกับโป๊ก

ในสิ่งที่ทำให้ พ่อแม่เสียใจ

เชื่อคนอื่นมากกว่า

พ่อ แ่ม่

 

เลยถามโป๊กว่า

โป๊ก ตอนโป๊ก ไม่มีงานทำ

 ใครเลี้ยงโป๊ก  

พ่อ กับ แม่ครับ

 

แล้วถ้าโป๊กเดือดร้อน

ใครที่จะช่วยโป๊ก

พ่อ กับ แม่ครับ

 

แล้วถ้าเรื่องที่โป๊กทำ

มันทำให้โป๊กไม่มีงานทำหรือตกงาน

โป๊กคิดว่า ใครที่จะเลี้ยงโป๊ก 

 หรือ ให้เงินโป๊กใช้

พ่อ กับ แม่ครับ

 

 แล้วโป๊กคิดว่า ระหว่าง

พ่อ กับ แม่ กับคนอื่น

โป๊กควรเชื่อใครมากกว่ากัน

พ่อ กับ แม่ ครับ

แล้วโป๊กได้ทำอย่างนั้นหรือเปล่า

(โป๊กก็เลยเล่าเหตุผล

แต่ขอยังไม่เล่าตอนนี้ก็แล้วกัน)

 

 อันนี้เล่าย่อๆ ให้อ่าน

บางอย่าง ไม่ขอเล่าก็แล้วกัน

ขออุบไว้ก่อน

555

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 00:46:01


ความคิดเห็นที่ 33 (1624185)

เรื่อง

เสริฐ กับ โป๊ก

ทำให้เรารู้ได้ว่่า

 

คนที่เป็นพี่น้องกัน

ไม่ใช่ว่า

จะต้องมีนิสัยเหมือนกัน

เสมอไป

 

อาจแตกต่างกัน

ราว ฟ้า กับ เหว ก็ได้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 00:53:33


ความคิดเห็นที่ 34 (1624186)

 

555++

บุญตา  มหาโหด

เอิ๊ก ๆๆ..ขำอ่ะ

หลับตานึกภาพ..ตอนที่

ลอบไป ตีหัวสามี แล้ววิ่งหนี

เก่งจังอ่ะ..คงประมาณ

ดุ๊กดิ๊ก  ดุ๊กดิ๊ก น่าดู

ช่วงสั้น แต่ซอยขาได้ไวล่ะซี่

อยากบอกค่ะว่า

แมวก็เคย ตีหัวสามีเหมือนกัลล์ 

เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบค่ะ

และก็ใจหายวาบ...เมื่อเห็น

เลือดไหล มาที่หน้า

ทั้ง ๆ ที่เค้าไม่ได้ทะเลาะด้วย

เพียงแค่กลับบ้านผิดเวลา ครั้งแรก

เป็นช่วงปีใหม่  บริษัทจัดงานเลี้ยง

แมวไม่ได้ไปด้วยเนื่องจาก

ท้องแก่ ประมาณ 7 - 8 เดือน

ไม่โทรมาบอก .. ว่ากลับดึกมาก

แหม..ตื่นมากลางดึก ยังไม่กลับบ้าน

ปล่อยให้เราเป็นห่วง

นั่งแปรงผมคอย ถึงตี 4

พอกลับมา ยื่นหน้ามายิ้ม

เลยเจอแปรง แปรงผม

แมวก็ไม่พูดไม่จา..

สับเข้าให้ที่หัว...แรง

จนเลือดไหลเป็นทาง

ตกใจ นั่งทำไรไม่ถูก

เค้าไม่ว่า สักคำ

นี่ถ้าไม่ท้อง..คงโดนสวนแล้วแหละ

เฮ่อ...โทสะ ในอดีต

ขอสารภาพบาปกรรม

ที่ลืมการกระทำของตัวเองไปแล้ว

ขอบคุณ บุญตา ที่มากระตุก

สำนึกบาปได้อีก 1 ข้อค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 01:03:10


ความคิดเห็นที่ 35 (1624190)

เรื่อง

เสริฐ กับ โป๊ก

ทำให้เรารู้ได้ว่่า

 

คนที่เป็นพี่น้องกัน

ไม่ใช่ว่า

จะต้องมีนิสัยเหมือนกัน

เสมอไป

 

อาจแตกต่างกัน

ราว ฟ้า กับ เหว ก็ได้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 00:53:33

จริงที่สุดเลยค่ะ อาจารย์ขา

เหมือนอย่าง

คุณสิทธิ์ กับ พี่สร

ฟ้า กับ เหวลึก จริง ๆ ค่ะ

จากการที่ได้สัมผัส พี่น้องคู่นี้

คุณสิทธิ์น่ารัก พูดน้อย ยิ้ม มีน้ำใจ

เรียกว่า ไม่มีอะไรกับใคร

และที่สำคัญ

ตลอดเวลา คุณสิทธิ์

รัก เคารพอาจารย์ทั้ง 2 มาก

แต่ไม่พูดพร่ำ ...

วัดได้จากการกระทำ

และ กริยา + มารยาท

เวลาที่อยู่ต่อหน้า / ลับหลังอาจารย์

คำพูด..เมื่อลับหลัง

ก็ไม่มีแม้แต่น้อยที่จะแสดง

ความไม่เคารพ ออกมาจากปาก

แม้แต่คำน้อย...นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่ง

ที่คุยกับคุณสิทธิ์แล้ว สนิทใจค่ะ

ก็คงเป็นอย่างที่ อ.อุบล บอกนะคะ

ว่า คนเรา มาจากคนละที่

แล้วก็ไปกัน คนละที่

ถึงจะเป็นพี่น้องคลานตามกันมา

ก็ไม่ใช่ว่า...นิสัย สันดาน

จะเหมือนกัน ใช่ไหมคะ

ตำว่าพี่ น้อง มันก็คือ

คนละคนกัน..อยู่แล้ว

แต่กรณีนี้..พี่สร ทำอะไร

ไม่คิดถึง น้องบ้างเลย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 01:16:20


ความคิดเห็นที่ 36 (1624222)

 

พี่แมวของเราก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

องค์ลงเมื่อไหร่งานเข้า

เมื่อวันจันทร์ 13/8/55

มีเพื่อนบ้านมาหาถามหาป้าเทิง

ว่าไม่มาด้วยหรือเราบอกว่า

กลับมาตั้ง 2 -3 อาทิตย์แล้ว

เค้าบอกว่าไม่เคยเห็นเลย

พ่อต้นอ้อบอกเห็นอยู่ที่บ้านนั่นแหละ

เพื่อนบ้านบอกยายเทิงนี่มาแปลก

เก็บเนื้อเก็บตัวไม่มีใครเห็น

โชคดีที่ป้าเทิงกลับบ้านซะก่อน

ถ้าช้ากว่านี้อาจจะเหลือไม่เท่าเดิม

เจอของจริงอย่างป้าตา

ไม่อยากคิดต่อเลยสภาพจะเป็นอย่างไร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 09:42:35


ความคิดเห็นที่ 37 (1624254)

กราบสวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์อุบล

เห็นคุณเกสร

บอกว่ามาบ้านสวน

แล้วไม่ต้องไปร.พ.อีกเลย

แล้วคุณเกสรทำอย่างนี้

ไม่ต้องไปนอนอยู่ ร.พ.เลยเหรอค่ะ

เงินทองนี่ไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ 

สามารถเรียกความโลภ อยากมี อยากได้

ที่แอบซ่อนอยู่ในใจ  ให้เผยออกมาให้ได้เห็นกันจะ ๆ

โดยไม่ต้องแแอบซ่อนอีกต่อไป

ทั้ง ๆ ที่ธรรมะที่ท่านอาจารย์

ให้มีประโยชน์มหาศาล

ไม่คิดจะนำมาขัดเกลาจิตให้ละเอียดขึ้น

เพื่อหาความสงบ เย็น

แล้วที่บอกว่าจะรักษาศีล 5

จะไปนิพพาน จะเป็นไปได้หรือ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เยาวลักษณ์ เกิดมีทรัพย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 11:43:19


ความคิดเห็นที่ 38 (1624256)

คุณอัง

มาเล่าให้ขำ อีกแย้ววว

พอบุญตาเล่านะ คิดถึงป้าเทิงก่อนเลย แล้วบุญตาก็บอกเองว่า

อย่างป้าเทิงนี่่นะ ปากดี อย่างนี้ ชอบข่มหนูอย่างนี้

ถ้าเป็นตอนที่หนูยังไม่เจออาจารย์

หนูยังไม่เปลี่ยนนะอาจารย์

หนูเล่นปัาเทิงตั้งแต่ 2-3 วันแรกแล้ว

ยังไม่ถึงอาทิตย์หรอกค่ะอาจารย์

แป่ววววว

..................

ป้าเทิง

บอกบุญตาว่า บุญตา

ถ้าวันไหน ฉันทำไม่ดี หรือเถียงอาจารย์นะ บุญตา

ใช้เท้าถีบฉันเลยนะ บุญตา ฉันอนุญาตไว้ก่อนเลย

 

แหม่ ๆ วันนี้ พึ่งรู้ว่า

ป้าเทิงบอกได้ถูกคนจริงๆ

แต่บุญตา ไม่ถนัดถีบ ถนัดใช้เครื่องทุ่นแรง

 

เมื่อเช้าระหว่างทานอาหารเช้า

เห็นหน้าบุญตา ก็ขำกันอีก แล้วก็เอาเวปให้บุญตาดู ที่พ่อใหญ่ธนาขอฝากเนื้อฝากตัว ที่คุณแมวเขียนขอบคุณ ที่กระตุก ทำให้คิดกรรมออก บุญตาขำใหญ่

 

ก็เลยเล่าเพิ่มเติมว่า

อ.คะ หนูตีเขาในงานศพแม่หนูด้วยนะคะ

แล้วอย่างนี้แม่หนูจะได้ขึ้นสวรรค์ไหมคะเนี่ย

หนูเนี่ยนะ ตีสามีในงานศพ

ค่ะ เขามาขู่หนู ให้คืนดีกับเขา

ไม่งั้นเขาจะมาแย่งลูกหนูไป แล้วให้หนูอยู่คนเดียว

 

ตอนนั้น อยู่ในครัว

ก็เลย เอาไม้พาย ที่ใช้คนอาหาร ตีเขาค่ะ

เขาสู้รึุเปล่าล่ะ ไม่สู้ค่ะ มีแขกอยู่เยอะแยะ เขาช่วยกันห้าม

ช่วยกันจับหนู ว่า ปล่อยมัน อย่าไปตีมัน ให้มันเป็นไปตามกรรมมันเถอะ  

 

บุญตา

แล้วไม้พายทำกับข้าวเนี่ย

มันใหญ่ขนาดไหน ขนาดเท่า ไม้พายกวนกระยาสาร์ท

กระทะใบบัวรึเปล่า (หรือว่าจะ ไม้พาย พายเรือ คิดในใจ)

ก็น้องๆ น่ะค่ะ เล็กกว่าหน่อยค่ะอาจารย์  

 

อ.มงคล

แผนกแซว ว่า แล้วตกลง

บุญตากับแฟนนี่ ใครแพ้ ใครชนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บุญตาบอกว่า อีตอนเขาตีหนู เขาตีลับหลังคน

ไม่มีใครเห็น

 

แต่อีตอนหนูตีเขา

ต่อหน้าคนค่ะ หนูต้องเล่นเขา ต่อหน้าคน

เพราะ ต้องตอนเขาไม่ตั้งตัวค่ะ

 

5555

 ป้าเทิง

มาหาบุญตา ด่้วน

บุญตาคิดถึงป้าเทิงมากค่ะ เพราะตอนนี้

บุญตา เจอไม้พาย สำหรับทำอาหาร ในบ้าน อ.อุบล มากมาย อันไม่ค่อยใหญ่หรอกค่ะ ป้าเทิง กลับมาเร็วๆนะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 11:48:24


ความคิดเห็นที่ 39 (1624263)

วีรกรรม ยายบุญตา นี่เยอะมาก

เล่าเท่าไหร่ก็ไม่หมด เมื่อครู่ ทำงานไป ก็เล่าไป

ว่า

เมื่อก่อนตอนทำงาน เพื่อนร่วมงานจะไปถอนเงิน

ต้องเอาบุญตาไปเป็นเพื่อน

พอเพื่อนคนอื่นรู้ เขาก็ว่า คนนั้นว่า

แกจะเอายายตาไปทำไม

มันจะช่วยอะไรแกได้ ถ้าโจรมาแย่งเงินน่ะ

ทำไมจะไม่ได้

เห็นมันอย่างนี้เหอะ มันตีหัวผัวมันแตก เลือดอาบมาแล้วนะ

 

นั่นมันผัวมัน

โจรที่ไหน จะมาให้ยาแยตา ตีเอาได้

เออน่า มันไวก็แล้วกัน

 ฉันเชื่อมือมัน

 

555

 

ยายบุญตา

เคยเป็นคนคุ้มกันเงินมาแย้ววววว

ด้วยยยยยย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 12:48:04


ความคิดเห็นที่ 40 (1624265)

เห็นคุณเกสร

บอกว่ามาบ้านสวน

แล้วไม่ต้องไปร.พ.อีกเลย

แล้วคุณเกสรทำอย่างนี้

ไม่ต้องไปนอนอยู่ ร.พ.เลยเหรอค่ะ

-*-*-*-*-*-*-*

555555++

ขำ บุญตา ก็ขำ

แต่

ประโยคข้างต้นนี้ ขำกว่าอ่ะค่ะ

แต่ก็คิดนะคะ ว่าตอนนี้

ถนน สายบายพาร์ท เยอะ

จากบ้านสวนฯ แล้ว

จะเลย ไปที่ ๆ ควรไป

เลยหรือเปล่า นี่ซิน่าคิดค่ะ

ขอให้คิด...สักนิด

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 12:49:46


ความคิดเห็นที่ 41 (1624266)

ยายบุญตา เริ่ม มีปัญหา

"ธรรม"

เมื่อ อ.อุบล บอกว่า

บุญตาความจำไม่ดี เพราะตีหัวสามีมาก

อ้าว อาจารย์ แล้วทีเขาตีหนูล่ะอาจารย์ เขาไม่บาปมั่งเหรอคะ  

ก็บาปซีจ๊ะ ก็ที่เขาเจออยู่ไง ครอบครัวใหม่ก็ไม่มีความสุข

ทำมาหากินไม่ขึ้น แล้วร่างกายเขาก็ต้องเจ็บปวดทั่วตัวแหละ

อยู่ที่ว่าเขาจะบอกเรารึเปล่า เราจะรู้ได้ไง

ความเจ็บปวด มันมองไม่เห็นนะ คนเราเจอกัน

ถ้าเขาไม่พูดเราก็ไม่รู้ว่า เขาป่วย เจ็บ ตรงไหน แล้ว

 

ไอ้ที่ต้องกินเหล้าไม่เลิกน่ะ

ก็เป็นทางหนึ่ง ที่ต้องหาทางทำร้ายตัวเอง ให้ต้องทุกข์ เมียใหม่เขานั่นแหละ ที่ต้องร่วมทุกข์ด้วย    

 

จริงค่ะอาจารย์

ตอนนี้ เมียเขา มาปรับทุกข์กับหนู เรื่องผัวเขากินเหล้าหนัก ทะเลาะกัน พูดกันไม่รู้เรื่อง  ญาติแฟนหนูเขามา

บอกหนูว่า

พ่อ กับ แม่ แฟนหนู บอกว่า

จะมาขอหนูกลับคืนไปให้แฟนหนู เขาไม่ชอบสะใภ้คนนี้แล้ว

เขาเลยบอกว่า ยายตามันไปทางธรรมแล้ว มันไม่กลับมาคืนดีกับลูกชายแกแล้วหละ          

 

บุญตา คิดว่า

เมื่อแฟนตีตัวเอง ตัวเองตีบ้าง ก็หายกัน

แต่กฎแห่งกรรมมันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก บุญตา

เราตีเขา เราก็ต้องรับ เขาทำเรา เขาก็ต้องรับ

ต่างคนต่างรับ

ในสิ่งที่ทำกับคนอื่นด้วยกันทั้งนั้น เรื่องหายกัน ไม่มี  

 

หนูตีหัวเขา

หนูก็ต้องเจอเคราะห์กรรมที่หัวหนู  

เขาซ้อมหนู เขาก็ต้องเจอเคราะห์กรรมในส่วนที่เขาซ้อมหนูตามร่างกายส่วนไหน ต้องรับส่วนนั้น  

 

จริงค่ะอาจารย์

พอหนูตีหัวเค้าได้ไม่นาน

หนูไปนั่งร้านอาหาร เก้าอี้ตัวนี้ ดันหักลงไป

แล้วหนูก็ตกเก้าอี้ หงายท้อง หัวไปฟาดประตูเหล็กอย่างแรง อย่างดัง คนเต็มร้านเลยค่ะ มองหนู เขาจะขำกัน ก็ขำไม่ออก ได้แต่มองเป็นตาเดียวเลยค่ะ อ๋อ กฎแห่งกรรมเป็นอย่างนี้ นี่เอง

แต่ตอนนั้นหนู ไม่คิดค่ะอาจารย์  

 

เห็นรึยังว่า ไม่ได้ดีทั้งคู่

ต่างคนต่างทุกข์ แล้วอย่างนี้ เราจะมาตีกันทำไม

ต่างคนต่างต้องชดใช้กรรมกันทั้งนั้น

 

นี่ทำให้คิดไปถึงพวกทำสงครามกัน

ก็เหมือนกัน ไม่มีใคร ได้ดี เลย

จะคิดว่า ได้เงินจากการขายอาวุธ แต่สุดท้าย

ทุกคนก็เป็นโรคร้าย มะเร็ง

เงินที่ขายอาวุธได้ ก็ัรักษามะเร็งไม่ได้ แล้ว จะนิยมการรบ

เพื่อให้เป็นมะเร็งกันไปทำไม  

 

ดูชีวิต บุญตา กับสามี ให้เป็น ตัวอย่าง

ว่า

สุดท้ายแล้ว แพ้ ทั้งสองคน แพ้ทั้งคู่ นั่นเอง

 

 นี่ถ้าคนที่รบกันรู้ความจริงนะว่า

ทำให้พวกเขาต้องเจอโรคร้าย ทั้งมะเร็ง เจ็บปวดร่างกาย

เขาคงจะไม่ทำสงครามกันแน่นอน

เน๊าะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 13:06:57


ความคิดเห็นที่ 42 (1624275)

เห็นรึยังว่า ไม่ได้ดีทั้งคู่

ต่างคนต่างทุกข์ แล้วอย่างนี้ เราจะมาตีกันทำไม

ต่างคนต่างต้องชดใช้กรรมกันทั้งนั้น

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

อ่านแล้วก็โดนอีก

โดนแบบเต็ม ๆ

อย่างกรณีของ  บุญตา

คือเหมือนคู่ชก

เขาทำเรา เราทำเขา

แต่กรณีของแมวนี่

ตอนนี้รู้สึกผิดหนักกว่าเก่ามาก

ทำเค้า แบบไม่ให้ตั้งตัว

หนำซ้ำ ยังต้องมาขอโทษเราอีก

ที่ทำตัวให้ต้องเป็นห่วง

เศร้า   ..พ่อ แม่เค้า

ยังไม่เคยตีลูกหัวแตก

ตอนนี้ก็คิดอีกว่า

แล้วถ้าใครมาทำลูกเราแบบนี้ล่ะ

เราจะทนได้หรือเปล่า

 เราเป็นใคร ?

ทำไมทำไปได้

ตอนนี้ อยากกราบ

ขอขมา ขอโทษ แต่ว่า

มันเขิลล์ ค่ะอาจารย์ 

แบบนี้ แมวแอบทำ

ตอนเค้าหลับได้ไหมคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 14:07:39


ความคิดเห็นที่ 43 (1624289)

ไม่ดีค่ะคุณแมว ทำได้ค่ะ ตอนหลับน่ะ

เหมือนเอาอาหารไปตั้งไว้ให้คนหลับกิน

คนหลับจะกินได้ไหมจ๊ะ

 

เอ้อ

แต่ ก็ไม่แน่นะ

อาจละเมอมากินก็ได้

555

 

ดังนั้น

ถ้าอยากทำ ก็ทำต่อหน้า จ้า

นี่แหละ ตัว อัตตา นี่แหละ ที่ฟ้าจะอภัย

ถ้าละได้นะ

 

แต่ถ้าละไม่ได้

ก็ต้องรับกรรม ต่อไปนะซีจ๊ะ

คุณแมวน้อย 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 14:59:48


ความคิดเห็นที่ 44 (1624311)

 

กราบขอบพระคุณค่ะ

เขิลล์จัง

แต่จะต้องทำให้ได้ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 15:49:38


ความคิดเห็นที่ 45 (1624315)

    กราบอนุโมทนากับธรรมทาน

จากท่าน อ. อุบลด้วยค่ะ  ที่ได้นำเรื่องครอบครัวคุณบุญตา

มาสะท้อนความจริงของสังคม

"ใครทำคนนั้นก็รับไป  ไม่มีคำว่าหายกัน"

กราบ กราบ  กราบ

++++++++

     คุณแมวขา  อยากเห็นหน้าคุณแมว

ตอนเขิลล์อ่ะ  จะเป็นยังไงน้า

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 16:09:39


ความคิดเห็นที่ 46 (1624336)

บุญตา คิดว่า

เมื่อแฟนตีตัวเอง ตัวเองตีบ้าง ก็หายกัน

แต่กฎแห่งกรรมมันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก บุญตา

เราตีเขา เราก็ต้องรับ เขาทำเรา เขาก็ต้องรับ

ต่างคนต่างรับ

ในสิ่งที่ทำกับคนอื่นด้วยกันทั้งนั้น เรื่องหายกัน ไม่มี

"""""""""""""""""""""""

กราบขอบพระคุณในคำสอนของท่านอาจารย์ค่ะ เมื่อก่อนพจน์ก็คิดแบบพี่บุญตาเหมือนกันค่ะ ประมาณว่าในเมื่อคุณทำให้ฉันเสียใจได้ ฉันก็ทำให้คุณเสียใจได้เหมือนกัน เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ยอมไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่เคยมีอะไรดีขึ้น ทำเค้าได้ก็ใช่ว่าตัวเราเองจะมีความสุข ตรงกันข้ามทุกข์อยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มความทุกข์ให้มากขึ้นไปอีก คิดว่าทำแล้วจะหายกัน ที่ไหนได้กลับสร้างบาปสร้างกรรมเพิ่มให้กลับตัวเองอีก แต่ยังโชคดีค่ะที่ได้มารู้จักบ้านสวนฯทำให้เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ทำให้ได้รู้จักกับความสุข ได้ยิ้มเป็นยิ้มแบบว่าออกมาจากใจที่มีความสุขจริงๆ ซึ่งจะตรงข้ามกับเมื่อก่อนเลยค่ะ ลูกขอขอบพระคุณท่านอาจารย์แม่และบ้านสวนพีระมิดที่ทำให้ลูกได้กลับมารู้จักกับความสุขอีกครั้งค่ะ

..................................................................

อ่านเรื่องคุณเกสรแล้ว รู้สึกอึ้งเหมือนกันค่ะ ยิ่งทำให้ครอบครับคุณลุงบุญต้องมาทะเลาะกันด้วยแล้ว รู้สึกหดหู่ค่ะ คุณลุงบุญคงทุกข์ใจมาก คุณเกสรทำได้อย่างไรคะเนี่ย?

จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วท่านอาจารย์ได้เขียนถึงเรื่องมารหรือบุคคลที่ไม่ใช่ซึ่งจะร้อนรนจนทนไม่ได้และจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ท่านอาจารย์ให้สำรวจตัวเอง สำรวจบุคคลที่เข้ามาหาเราแล้วให้เอาศีล 5 เข้าไปจับ และที่จะเห็นชัดที่สุดก็คือศีลข้อ 4 ตอนนั้นอ่านแล้วก็ต้องรีบกลับมาสำรวจตัวเอง สำรวจใจตัวเองว่ามีมารแฝงอยู่หรือเปล่าบอกตรงๆค่ะว่ากลัวมารในใจของตัวเองเป็นที่สุด เพราะมารนี้จะสามารถทำให้ใจของเราเห็นผิดเป็นถูกได้ สามารถทำให้เราทำในสิ่งที่ผิดโดยที่ตัวเราเองอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่ทำนั้นผิด ถ้าเป็นแบบนี้แล้วล่ะก้อน่ากลัวที่สุดเลยค่ะ และสิ่งที่ท่านอาจารย์ได้พูดได้สื่อสารออกไปแล้ว ก็มีทั้งพยาน ทั้งหลักฐาน รวมทั้งจำเลยมายืนยันครบสูตรเลยค่ะ มารนี่น่ากลัวจริงๆเลยนะคะ และที่น่ากลัวที่สุดก็มารในใจตัวเราเองนี่แหล่ะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 16:57:09


ความคิดเห็นที่ 47 (1624350)

คุณพจน์คะ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียน

เป็นธรรมทาน  ในการดูคน ซึ่งที่ผ่านมา พวกเราชอบ

ใช้ความรู้สึก และ เหตุผลแวดล้อม ตัดสินคน

แต่ไม่ได้ใช้ศีล

มารยาท ความควร ไม่ควร

ตัดสินคน

 

ซึ่งจริงๆ แล้ว

คนเราเนี่ย ไม่ได้ดูยากเย็นอะไรเลย

พูดคุยไม่กี่คำ เราก็รู้แล้ว แต่ที่เราไม่รู้

เป็นเพราะเราไปตั้งความหวังไว้ว่า คนนั้นต้องเป็นอย่างนั้น

คนนี้ น่าจะเป็นอย่างนี้

คนโน้น คงจะดี

 

เพราะ

อย่างนั้น อย่างนี้

แต่ถ้าเรามองแค่สิ่งที่เราพบเจอ เห็น ดู สังเกตุ 

เราจะพบความผิดปกติ ของพฤติกรรมคน

ซึ่งก็จะแสดงออกมาให้เห็น

 

แต่ที่บางคนไม่เห็น

เพราะจิตใจไม่ปกติ ไม่เป็นกลาง

คือจิตมีความโน้มเอียงไปในทางใดทางหนึ่งเสียแล้ว

ตาชั่งเลยไม่ได้มาตรฐาน

ถ้าทำจิตให้เป็นตาชั่งที่ได้มาตรฐาน เห็นอะไร

ที่ไม่ใช่ น้ำหนักกรรม ไปทางใด มันจะชัดเจน

ในจิตของเราเอง  


คราวนี้

พวกเราจะได้รู้ว่า ทำไม

พระพุทธเจ้า 

ท่านถึงสามารถรู้ได้ ถึงเรื่องที่มา ที่ไป ของคน

เพียงแค่ เห็นหน้า รู้ชื่อ ได้ยินเสียง

แสดงว่า ทุกอย่างมันฟ้อง

พระพุทธเจ้า

ท่าน

มีวิธีดู ซึ่ง อ.อุบล ก็ได้บอกไปหมดแล้ว

แต่พวกเรา ก็ไม่เคยเห็นว่า

จะใข้กันเลย


ได้แต่มาบอกว่า นึกไม่ถึง ช๊อค งง

ถ้าเราทบทวนดูดี ดี 

จะไม่มีคำว่า

งง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 18:20:39


ความคิดเห็นที่ 48 (1624372)

ขอเล่าเรื่อง

อัจฉริยะ การประหยัด พลังงาน

ของป้าเทิง

*************

ก่อนนอน เวลาบุญตาสวดมนต์

ท่องคาถา ป้าเทิงจะบอกให้บุญตา สวดดังๆ ท่องดังๆ

แล้วป้าเทิง

ก็นอนพนมมือ ถ้าเสียงเบา ป้าเทิงก็จะดุบุญตา

ว่า ท่องดังๆ เดี๋ยวฉันไม่ได้บุญ

 

พอบุญตาสวดจบ ท่องจบ

ป้าเทิง ก็จะบอกว่า สาธุ แล้วก็หลับ

 

 บางวันบุญตาเหนื่อย

ป้าเทิงบอกให้สวดมนต์

แกจนนอนพนมมือฟัง บุญตาบอกวันนี้ง่วง

ไม่สวดหรอก ขอให้เหมือนเดิมแล้วกันนะ หลวงพ่อ

ป้าเทิงบอกว่า

 

อ๋อ

ทำอย่างนี้ก็ได้เหมือนกันเหรอบุญตา

555

 

นี่เป็นความสามารถเฉพาะตัว

ห้ามลอกเลียนแบบ

นะจ๊ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 20:03:53


ความคิดเห็นที่ 49 (1624405)

 วันรุ่งขึ้น วันอาทิตย์

ให้น้องมะเหมี่ยว ขึ้นไปรายงานผล บนเวที

บอกว่า หายตัวร้อน แล้ว 100 %

(ตัวร้อนมาตั้งปีกว่า มาหาย ซะ ด้วยการขุดดิน 555)

********

หนูขอรายงานตัวอีกครั้งคร้าอาจารย์

หลังจากเงียบหายไปหลายวันตั้งแต่กลับจากบ้านสวน

ไม่ได้เขียนธรรมทานเรื่องตัวเองหายตัวร้อน จนตัวเองรู้สึกว่าเหมือนอาการจะกลับมา

แต่ให้คุณแม่จับดูแม่ก็บอกว่าปกติไม่ร้อน สงสัยว่าหนูจะรู้สึกไปเองแล้วล่ะ

(นี้แหละผลของการลืมไม่ใส่ใจ วันแล้ววันเล่ามัวแต่นึกว่าค่อยเขียนๆ มัวอ้างแต่เรื่องไม่มีเวลา)

วันนี้หนูได้เขียนประสบการณ์ของตัวเองเกี่ยวกับการสร้างบุญด้วยแรงกายแล้วหายจาก

อาการตัวร้อนไว้ในห้องสารภาพบาปและประสบการณ์กฎแห่งกรรม

โดยตั้งชื่อกระทู้ว่า ให้ความร้อนแก่สัตว์ทำให้ตัวร้อนแบบหาสาเหตุไม่ได้มาเป็นปีกว่า แล้วค่ะ

รู้สึกเลยว่า ทำไมเน้อ มาทำงานทำสวน ที่บ้านสวนพีระมิดแล้วมันสนุกจัง

ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย แถมมีความสุขหายจากโรคอีกต่างหาก 

ทั้งๆที่ตัวเองอยู่ที่บ้าน ไม่เคยเข้าไปเหยียบสวนเลยเพราะไม่ชอบป่า ไม่ชอบหญ้า

ไม่ชอบความลำบากชอบความสบาย อะไรที่ต้องเหนื่อยต้องลุยๆขอเลี่ยงจะดีกว่า

ต้นไม้ก็ไม่เคยปลูก สรุปว่าอะไรที่เข้าสวน แฮะๆ หนูปฏิเสธทั้งน่านนน

แต่มาที่บ้านสวน ทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ ปลูกข้าวปลูกชะอม นั่งๆยืนๆ ก้มๆเงยๆ

ฮ่าา สนุกดีหนูชอบบ

เพราะหนูทำ หนูอยากทำ ตอนนั้นก็ไม่คิดสักนิดว่าอยากหายป่วย

คิดว่าอยากทำ แล้วก็จะทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่แรงจะทำได้ ก็คิดแค่นั้น

เรื่องตัวร้อนลืมไปเลย ตอนนั้นไม่อยู่ในหัวสักนิดเดียว แฮะๆๆ

ต้องขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์บ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์

ที่เมตตาอนุญาตให้หนูและคุณแม่ได้เข้ามาสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิดแห่งนี้

ถ้าสิ่งที่หนูและคุณแม่ได้ทำสิ่งใดที่ไม่เหมาะไม่ควรโดยที่ไม่รู้ตัวลงไป

ภายในบริเวณบ้านสวนพีระมิดหนูขอขมาสิ่งศักดิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด

ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคณท๊อปด้วยนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 23:40:51


ความคิดเห็นที่ 50 (1624421)

ขวัญเป็นคนหนึ่งที่วางจิตไม่เป็นกลางค่ะ

เอนเอียงไปในแง่ดีเกินไป

ด้วยเหตุผลที่ว่าพี่เกสรเป็นพี่สาวพี่สิทธิ์

คิดว่าเป็นพี่น้องคู่บุญบารมี 

 

ทราบว่าพี่เกสรมีเจตนาหวังผลในคำพูดแต่ละประโยค

แต่ขวัญคิดแค่ว่า

เขาอยากให้ตัวเองดูดีในสายตาคนอื่น เพื่อให้คนชอบเขา

ไม่คาดคิดว่าเขามีเจตนานี้

เพื่อหวังผลประโยชน์ ให้คนมาซื้อผ้า

 

แล้วก็คาดหวังตลอดว่าพี่เกสรเป็นคนดี เพราะเวลาพูดเหมือนคนใจเย็น ก็เรียกได้ว่าใจเย็นเรื่องการวางแผน แต่หลังๆใจร้อนนะคะ การกระทำของพี่มันแปลกเยอะเลย

เห็นพี่เกสรเขียนในเว็บอย่างหวานเลี่ยน

ก็คิดว่าเป็นการแสดงความรักของพี่

เห็นมาเขียนในเว็บบ่อย

ก็คิดเอาเองว่าพี่เกสรคงใกล้หลุดกรรม

เพราะเจ้ากรรมนายเวรเปิดทางให้มาเขียนเว็บได้บ่อย

ตอนกำลังหั่นผักที่ห้องครัว

คุยกันไปๆมาๆ พี่ก็พูดว่า

พี่รู้ว่าใครที่มาประจำแต่คิดไม่ดีกับบ้านสวน เนียนเชียว 

ตอนพี่เกสรบอกว่าโดนยุงกัดแล้วขวัญเอายากันยุงให้แต่ยาใกล้หมดแล้ว พี่เกสรก็ทำหน้านิ่ง

แต่ก็ไม่ได้เอามาติดใจอะไร คิดว่าคนส่วนใหญ่ก็มีอารมณ์ไม่ชอบใจเป็นธรรมดาแหละ

ตอนกลางคืน พี่เกสรเข้ามานั่งสมาธิในวิหารองค์ปฐมนานมากๆ

ที่ๆขวัญ แม่ แล้วก็ป้านอน

ตอนพี่เกสรเพิ่งมาถึงบ้านสวน ก็พูดตลอดว่าจะปอกผลไม้ให้ท่านอาจารย์

ก็เห็นให้พี่บุญตามาช่วยปอก สุดท้ายบอกให้ขวัญยกไปบ้านอาจารย์ ก็นึกว่าอยากจะให้ขวัญได้บุญบ้าง

ที่ไหนได้กลัวอาจารย์

พี่เกสรก็เคยเอาเครื่องปรุงมาประกอบอาหารบ่อย ดังเรื่องทำอาหาร ท่านอาจารย์ก็เคยชมว่าทำอาหารเก่ง

หรือว่าตอนนั้นพี่ยังไม่ถูกความโลภครอบงำ

หรือว่าพี่วางแผนทำทั้งหมดตั้งแต่ต้น

ยาวนานเป็นปีเพื่อซื้อใจทุกคน 

พอทราบความจริง

ถึงจะเข้าใจพฤติกรรมปริศนาของพี่เกสรทุกอย่างเลย 

ถ้าขวัญทำใจเป็นกลางตั้งแต่แรก

จิ๊กซอคงสมบูรณ์ตั้งนานแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 02:44:55


ความคิดเห็นที่ 51 (1624423)

พี่เองก็ท่าทางจะเหมือนน้องขวัญนะคะ

 

เคยคิดว่าพี่สรรักอาจารย์มาก เหมือนที่พี่สรพูดย้ำอยู่บ่อย ๆ

อยากมาอยู่บ้านนาเพราะอยากมาทำบุญบ้านสวนฯ

ทำบุญเป็นหลัก ทำงานเป็นรอง มีพี่สาวออกค่าห้องให้

ขายได้ไม่ได้ ก็ไม่เดือดร้อนอะไร อยู่ได้อย่างสบาย

ไม่โลภ ไม่อยากได้ อยากมีอะไร

อยากรักษาศีล ต้องการเลิกเป็นเมียน้อยให้ได้

 

แต่สักพักเริ่มเห็นความสับสนในคำพูดของพี่สร

ที่เปลี่ยนมาบอกว่า เราต้องทำงานหาเงิน

จะมางอมืองอเท้าอยู่ได้อย่างไร

ถึงรู้ว่าภัยพิบัติจะเกิด ก็ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ รอวันตาย

(ซึ่งนั่นคงเป็นพฤติกรรมขี้เกียจ แย่ ๆ ของแหวนเองคะ)

 

พี่สรดูดิ้นรนอยากทำมาหากินมาก

ดูเหมือนจิตใจไม่ค่อยสงบ ว้าวุ่นตลอด

บ่นว่ามาอยู่ที่นี่ ขายของไม่ได้

ไม่ค่อยได้ทำบุญเยอะ ๆ เหมือนเมื่อก่อน

 

บอกว่าเราต้องกระจายกันไปเผยแพร่รหัสที่อื่น

ไม่ต้องมากองรวมกันอยู่ที่บ้านสวนก็ได้

ทำงานหาเงินส่งมาแบบเดิมก็ได้

มาบ้านสวนมาก ๆ ก็เป็นการรบกวนอาจารย์

ไปบ้านท่าน ท่านก็ต้องเหนื่อย ออกมาคุยกับเรา

 

เรื่องเป็นน้อย ก็เล่าให้ฟังว่าทั้งสามีและภรรยารักพี่สรมาก

พี่สรปฏิเสธพี่ผู้ชายมาตลอด เมื่อก่อนพี่สรทั้งสวยและหุ่นดี

แต่พยายามปล่อยตัว เพื่อให้พี่ผู้ชายไม่มาสนใจ

แต่ผู้ชายก็ยังมารัก มาห่วงตลอด

ตั้งใจจะเลิกให้ได้ ถึงมาอยู่บ้านนา

แต่เท่าที่เห็นก็คงไม่มีประโยชน์อะไรเพราะยังติดต่อ

กับพี่ผู้ชายอยู่ตลอด ถึงแม้จะบอกว่าไม่มีอะไรก็ตาม

ก็น่าจะสงสารภรรยาเค้าบ้าง ถ้าเป็นเราเราก็คงไม่ชอบเหมือนกัน

ยิ่งเขาดีกับเรามากเท่าไหร่ เราน่าจะยิ่งรู้สึกผิดมากเท่านั้นนะคะ

 

ซึ่งดูแล้วพฤติกรรมต่าง ๆ มันขัดแย้งกับคำพูด

ความตั้งใจที่เคยบอกไว้หรือป่าวคะ

หรือว่าความตั้งใจจริง ๆ ตั้งแต่แรกมันไม่ใช่สิ่งที่บอกกับทุกคน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 04:03:56


ความคิดเห็นที่ 52 (1624424)

 มันเขิลล์ ค่ะอาจารย์  

แบบนี้ แมวแอบทำ

ตอนเค้าหลับได้ไหมคะ

*******************************

ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดได้ไงคะพี่แมว

น่ารักอ่าค่ะ อิอิ

และกราบขอบพระคุณสำหรับคำตอบด้วยค่ะอแม่

หนูจะพยายาม ลด ละ เลิก อัตตาในตัวเองให้ได้ค่ะ

อ่านแล้วมันสะเทือนค่ะ

เพราะเวลาตัวเองผิด ก็ไม่ค่อยยอมรับผิด

แล้วไม่ค่อยขอโทษ

ถ้าทำได้ใจก็จะไม่เป็นทุกข์ 

หนูจะต้องทำให้ไดค่ะ

ขอบพระคุณพี่แมวด้วยค่ะ

ที่ตั้งคำถามแล้วทำให้นึกถึงสิิ่งที่

ตัวหนูเองยังละไม่ค่อยได้

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 04:32:04


ความคิดเห็นที่ 53 (1624435)

โป๊กมาทำงาน

ยังนึกเลย เมื่อคืนกลับมา ตี 3 จะทำงานได้ยังไง

แต่ปรากฎว่าทำได้

 

เลยได้คุยกับโป๊ก ในสิ่งที่ทำให้ พ่อแม่เสียใจ

เชื่อคนอื่นมากกว่า พ่อ แม่

 

เลยถามโป๊กว่า

โป๊ก ตอนโป๊ก ไม่มีงานทำ ใครเลี้ยงโป๊ก  

พ่อ กับ แม่ครับ

 

แล้วถ้าโป๊กเดือดร้อน ใครที่จะช่วยโป๊ก

พ่อ กับ แม่ครับ

 

แล้วถ้าเรื่องที่โป๊กทำ

มันทำให้โป๊กไม่มีงานทำหรือตกงาน

โป๊กคิดว่า ใครที่จะเลี้ยงโป๊ก  หรือ ให้เงินโป๊กใช้

พ่อ กับ แม่ครับ

 

 แล้วโป๊กคิดว่า ระหว่าง

พ่อ กับ แม่ กับคนอื่น

โป๊กควรเชื่อใครมากกว่ากัน

พ่อ กับ แม่ ครับ

แล้วโป๊กได้ทำอย่างนั้นหรือเปล่า

(โป๊กก็เลยเล่าเหตุผล แต่ขอยังไม่เล่าตอนนี้ก็แล้วกัน)

.................................

ชอบวิธีการสอนของท่านอาจารย์

ด้วยการตั้งคำถามให้ตอบจริงๆ

เพราะคนส่วนใหญ่

ถ้าเห็นคนทำผิด(โดยเฉพาะคนใกล้ตัว)

ก็ใส่เละ และชี้ถูก ชี้ผิดให้ด้วย

แต่คนฟัง ก็คงรู้สึกเหมือน

ถูกปรักปรำว่าเป็นจำเลย ไปแล้ว

 

แต่สิ่งที่อาจารย์เขียน

ทำให้ชนิดาคิดได้ว่า

เราควรจะตั้งคำถาม

ให้เค้าค่อยๆคิดและพิจารณา

แล้วเค้าก็จะได้คำตอบ

ที่ถูกต้องหรือถูกตรง

ว่าสิ่งใดควร หรือไม่ควร ด้วยตัวเอง

 

แล้วยังเป็นการให้โอกาสเค้า

ได้อธิบายเหตุและผลในสิ่งที่ทำไปด้วย

.............................

กราบอนุโมทนาในทุกๆธรรมทาน

จากท่านอาจารย์และพี่น้องทุกๆท่านด้วยนะคะ

เพราะทั้ง

เรื่องราวของคุณบุญตา และ พี่เกสร

คงสอนพวกเราได้เป็นอย่างดีเรื่อง

รู้หน้า...ไม่รู้ใจ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 07:52:29


ความคิดเห็นที่ 54 (1624449)

 

เรียกว่าตอนนี้ทุกอย่างเห็นภาพชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร เพราะผมก็สงสัยมากว่า

อืม..ทำไมนะพี่โป๊กในเมื่อไม่ซื้อรถของพี่เกสร แต่เกิดอะไรขึ้นทำไมพี่โป๊กต้องตั้งหน้าตั้งตาไปขายรถให้พี่เกสรให้ได้ จนต้องผิดใจทะเลาะกับลุงบุญได้ ถึงขนาดต้องหายไปไม่ยอมกลับบ้าน และไม่มาทำงาน

น่าแปลกใจว่า พี่เกสรและพี่โป๊กคุยอะไรกัน อะไรทำให้พี่โป๊กเป็นไปได้ขนาดนั้น อยากรู้ประดับปัญญาจริงๆครับ ว่าคนฉลาดๆเขาคุยกันอย่างไรทำให้อีกฝ่ายหนึ่งถึงยอมทะเลาะกับพ่อตัวเองได้เพียงนี้

ว่าแล้วบักจ่อยก็ขอเกาะเหตุการณ์เพื่อหาเหตุผลมาประดับปัญญาให้ได้ จะได้รู้และระวังตัวเองให้มากขึ้น เพราะตัวเองยังโง่อยู่มั่กกกก...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 10:20:01


ความคิดเห็นที่ 55 (1624450)

 

มีคนสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในบ้านสวนมากมาย

ทั้งๆที่เป็นบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์อุบล

พากันมาสร้างบุญพร้อมกับสร้างบาปไปด้วย

ที่ไหนมีคนเยอะปัญหาก็เยอะไปด้วย

เรื่องความสะอาด อาหาร ห้องน้ำฯลฯ

คนดีก็มี คนมักง่าย เห็นแก่ตัวก็เยอะ

มาหาผลประโยชน์ก็มากเกิดปัญหาสารพัด

หนูไม่เคยเห็นท่านอาจารย์เป็นทุกข์เลย

ท่านอาจารย์มีแต่ความเมตตา ยิ้ม หัวเราะได้ตลอด

ไม่เคยแสดงความโกรธแค้นใครเลย

พวกเรายังได้รับอานิสงฆ์ในการแสดงธรรมทาน

สอนคนทำผิดในแต่ละกรณีอีก

ถ้าเป็นบ้านหนูเองหนูเริ่มกลุ้มใจ

ตั้งแต่เห็นคนมากันเยอะแยะแล้วค่ะ

ต้องใช้กำลังใจสูงมากๆๆๆๆ ในการทำกิจนี้

เกิดมาไม่เคยพบเห็นบุคคลอย่างท่านอาจารย์

หนูชื่นชมท่านอาจารย์จากใจจริงค่ะ

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 10:34:18


ความคิดเห็นที่ 56 (1624465)

 คราวนี้

พวกเราจะได้รู้ว่า ทำไม

พระพุทธเจ้า 

ท่านถึงสามารถรู้ได้ ถึงเรื่อง

ที่มา ที่ไป ของคน

เพียงแค่ เห็นหน้า รู้ชื่อ ได้ยินเสียง

แสดงว่า ทุกอย่างมันฟ้อง

 

 

พระพุทธเจ้า

ท่านมีวิธีดู ซึ่ง อ.อุบล

ก็ได้บอกไปหมดแล้ว

แต่พวกเรา ก็ไม่เคยเห็นว่า

จะใช้กันเลย


ได้แต่มาบอกว่า

นึกไม่ถึง ช๊อค งง

 

ถ้าเราทบทวนดูดี ดี 

จะไม่มีคำว่า

งง

***้

กราบขอบพระคุณในธรรมทานจากท่านอาจารย์อุบล

ตอนแรกที่น้องขวัญ ได้มาเล่าให้ฟังเรื่องพี่สร ผมเองก็ยังไม่คิดเลย ว่าพี่สร จะทำแบบนี้ได้ เพราะตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ เกี่ยวกับเรื่องการมาหาผลประโยชน์ในบ้านสวน พี่สร ไม่น่าจะเป็นไปได้ขนาดนี้

บวกกับคิดว่า พี่สร เป็นพี่สาวของพี่สิทธิ์ คงจะไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่ๆ จึงไม่ปักใจเชื่อในครั้งแรกเพราะไม่ได้รู้เรื่องราวละเอียดขนาดนี้

เพิ่งจะได้มาไล่อ่าน ก็ "ช๊อค และ งง" จริงๆ ครับ
***
ส่วนเรื่องพี่บุญตา ก็ ช๊อคเหมือนกันครับ ธรรมทานจากท่านอาจารย์ ให้ข้อคิดว่าเราไม่ควรมองคนแค่ผิวเผินจริงๆครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 12:26:27


ความคิดเห็นที่ 57 (1624478)

ซึ่งจริงๆ แล้ว

คนเราเนี่ย ไม่ได้ดูยากเย็นอะไรเลย

พูดคุยไม่กี่คำ เราก็รู้แล้ว แต่ที่เราไม่รู้

เป็นเพราะเราไปตั้งความหวังไว้ว่า คนนั้นต้องเป็นอย่างนั้น

คนนี้ น่าจะเป็นอย่างนี้

คนโน้น คงจะดี

 

เพราะ

อย่างนั้น อย่างนี้

แต่ถ้าเรามองแค่สิ่งที่เราพบเจอ เห็น ดู สังเกตุ

เราจะพบความผิดปกติ ของพฤติกรรมคน

ซึ่งก็จะแสดงออกมาให้เห็น

 

แต่ที่บางคนไม่เห็น

เพราะจิตใจไม่ปกติ ไม่เป็นกลาง

คือจิตมีความโน้มเอียงไปในทางใดทางหนึ่งเสียแล้ว

ตาชั่งเลยไม่ได้มาตรฐาน

ถ้าทำจิตให้เป็นตาชั่งที่ได้มาตรฐาน เห็นอะไร

ที่ไม่ใช่ น้ำหนักกรรม ไปทางใด มันจะชัดเจน

ในจิตของเราเอง

"""""""""""""""""""""""""""""

กราบขอบพระคุณในคำสอนของท่านอาจารย์ค่ะ เป็นจริงอย่างที่ท่านอาจารย์สอนเลยค่ะ เพราะจิตลูกเองก็เป็นตาชั่งที่ไม่ค่อยได้มาตรฐานสักเท่าไหร่ เพราะชอบไปตั้งความหวังว่าคนนั้นคนนี้จะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ไปเสียก่อน คือคิดไปเองก่อนแล้ว พอได้เข้าไปคุยไปสัมผัส ด้วยจิตที่ลำเอียงก็มักจะมองให้คนอื่นเป็นไปในแบบที่เราคิด แต่กลับไม่ใช้จิตอยู่กับปัจจุบันที่ได้รู้ได้เห็นและสัมผัสได้จากตรงหน้าเรา จึงทำให้มองอะไรๆไม่ค่อยชัดเจน ถึงตาไม่บอดแต่กลับเป็นคนใจบอดไปเสียแล้ว ลูกขอน้อมนำคำสอนของท่านอาจารย์มาปฏิบัติและปรับเปลี่ยนใจตัวเองให้เป็นตาชั่งที่เที่ยงตรงและได้มาตรฐานให้ได้ค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 13:37:49


ความคิดเห็นที่ 58 (1624485)

 

มีคนสร้างปัญหา

ให้เกิดขึ้นในบ้านสวนมากมาย

ทั้งๆที่เป็นบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์อุบล

 

พากันมาสร้างบุญ

พร้อมกับสร้างบาปไปด้วย

 

 

ที่ไหนมีคนเยอ

ะปัญหาก็เยอะไปด้วย

 

 

เรื่อง

ความสะอาด อาหาร ห้องน้ำ

ฯลฯ

 

 

คนดีก็มี

คนมักง่าย เห็นแก่ตัวก็เยอะ

 

 

มาหาผลประโยชน์ก็มาก

เกิดปัญหาสารพัด หนูไม่เคยเห็น

ท่านอาจารย์เป็นทุกข์เลย

 

ท่านอาจารย์

มีแต่ความเมตตา ยิ้ม หัวเราะได้ตลอด

ไม่เคยแสดงความโกรธแค้นใครเลย

 

พวกเรา

ยังได้รับอานิสงฆ์

ในการแสดงธรรมทาน

สอนคนทำผิดในแต่ละกรณีอีก

 

ถ้าเป็นบ้านหนูเอง

หนูเริ่มกลุ้มใจตั้งแต่เห็นคนมากัน

เยอะแยะ...แล้วค่ะ

 

ต้องใช้กำลังใจสูงมากๆๆๆๆ

ในการทำกิจนี้

 

เกิดมาไม่เคยพบเห็น

บุคคลอย่างท่านอาจารย์

หนูชื่นชมท่านอาจารย์จากใจจริงค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 10:34:18

 คุณอังจ๋า

นี่แค่บ้านสวนพีระมิดนะ

ยังขนาดนี้

 

แล้วลองคิดต่อไปซี

ถึงประเทศไทย ถึงในหลวง จะขนาดไหน          

 

 บอกแล้วไง

ว่า

บ้านสวนพีระมิด

คือ ประเทศไทยจำลอง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 14:25:39


ความคิดเห็นที่ 59 (1624500)

บุญตา

เจ้าของฉายา

"ตด มหาภัย ดังสนั่น วันกราบพระ"  

 

บุญตาได้ถามว่า

ไม่ทราบว่าหนูกรรมเวรอะไร

อาจารย์คะ

ตอนทำงานอยู่มินิแบร์

เพื่อนชวนไปหาพระ ไปดูดวง พอจะลาท่านกลับ ก็ก้มกราบพระ ครั้งที่ 1 หนูก็ "ตด" ออกมาเองเสียงดังมาก  

 

หนูต้องทำนิ่งเฉ

ยแล้วก้มลงกราบครั้งที่ 2

มันก็ "ตด" อีก

เสียงดังยิ่งกว่าเก่าอีกค่ะ

 

ทั้งที่หนูก็ขมิบแล้ว

แต่มันออกมาเอง หนูก็ทำ"อึน"

ทำไม่รู้ไม่ชี้

 

แล้วหนูก็คิดหนักเลยว่า

กราบไปแล้ว 2 ครั้ง "ตด" สองครั้ง

ดังระเบิดเลย

แล้วจะกราบต่อดีไหมเนี่ย ถ้าตดอีก จะทำยังไง

 

แต่มันก็ไม่ได้ปวด ตด นี่นา

 

ก็เลยตัดสินใจ กราบอีก เป็นครั้งที่ 3

แล้วสิ่งที่หนูไม่คาดคิดก็คือ

หนู "ตด" อีก

 

คราวนี้

ดังกว่าเดิม ดังยาว กว่าเดิม

อีกค่ะอาจารย์

หนูก็ทำเฉย

 

แล้วก็นึกในใจว่า

โอ้ โห

นี่เราตดทั้งกราบ

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เลยเหรอเนี่ย

 

กราบทุกครั้งตดทุกครั้ง

ทั้งที่ไม่ได้ปวด ไม่รู้ตัว อะไรกันเนี่ย  

แล้วเพื่อนหนูว่าไงบ้างล่ะ  

 

โอ้ โฮ

อาจารย์คะ

เพื่อนหนู รีบคลานหนีหนู

ตั้งแต่หนูดตด ปู๊ดแรกแล้วค่ะ

คลานหนีกันหมดเลย กี่คนจ๊ะ  

4 คนค่ะ

 

แล้วมีคนอื่นอยู่ไหม

เพียบเลยค่่ะ คนไปรอคิวดูดวงกับพระน่ะค่ะ

 แล้วเขาทำยังไงกัน หนูไมกล้ามองหน้าใครเลยค่ะ

ได้แต่ชำเลืองมองพระ

 ท่านทำยังไง ท่านก็คงกลั้นหัวเราะนะหนูว่า

ท่านพูดว่า

"ไม่เป็นไรหรอกโยม มันเป็นเรื่องธรรมชาติ"

 แล้วกลับพร้อมเพื่อนรึเปล่า

กลับพร้อมกันค่ะ เพื่อนก็มารอข้างนอก ที่รถ

 

พอหนูไปเจอเพื่อนเท่านั้นแหละค่ะ  

หนูโดนรุมเลย

พวกเขาพูดกันว่า

ไอ้ตา ทีหลัง ข้าจะไม่ไปไหนกับแกเด็ดขาด

ข้าอาย ขายหน้า

เอ็งตดเสียงดัง แล้วเอ็งยังทำเฉย ไม่รู้ไม่ขี้

ทำให้คนเขาคิดว่า พวกข้าตด กันนะซี

ข้าถึงได้รีบหนี ออกมาเนี่ย  

 

กลับมาที่ทำงาน

พวกเพื่อนก็เล่า เกียรติคุณ ของบุญตา

เรื่องตดมหาปลัย ให้คนที่ไม่ได้ไปด้วยฟัง

 พวกเพื่อนๆ ก็เลยพูดว่า

ข้ารู้แล้ว ที่ผัวเอ็งเขาเลิกกับเอ็งอเนี่ย

เพราะเขาทน ตด เอ็งไม่ไหว เขาคงอาย

คงหนวดหูนะซี  

 

เฮ้ย

ตอนข้าเลิกกับผัวข้า

ข้ายังไม่เคยตดแบบนี้เลย

แล้วแกตดแบบไหนล่ะ  

ตดแบบ มีแต่กลิ่น แต่ไม่มีเสียงโว้ย  

 

เออ

ยังไงข้าก็ว่า ดีแล้วหละ

ที่เขาเลิกกับแกไปซะได้ ไม่งั้น

ต้องมาฟังแกตด ไม่มับันยะบันยัง

อายคนตายห่า

*************

 

สิงห์ป้อมเอ๋ย

อ.อุบล ว่า

พ่อสิงห์เจอเนื้อคู่ที่แท้จริง

แล้วหละนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 16:00:44


ความคิดเห็นที่ 60 (1624531)

 

ธรรมทานจาก..บุญตา

เธอคือแม่พระ ผู้เสียสละ

บุญตาได้เคยแอบชื่นชม ที่พี่สรเล่าว่า

อุตสาห์เสียสละแฟนตัวเองให้กับผู้หญิงอื่น

แล้วมาอยู่คนเดียวเพื่อสร้างบุญได้เต็มที่

( พี่เค้าบอกว่างั้น ) โธ่ สงสัยยังคิดไม่ตก

ถึงว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา อาสาหุงข้าวให้อาจารย์

ข้าวแฉะ ทานไม่ได้เลย เป็นเพราะ เม่อลอย

คิดถึงอะไรอยู่ รู้นะ คิดถึงแฟนอยู่แน่ๆเลย

เห็นเล่าอยู่บ่อย ๆ กับคนโน่น คนนี้ เรื่องแฟน

ดูซิขนาดสังขารอย่างนี้นะ ไม่รู้ว่า รักอะไรพี่นักหนา

โทรมาหาทุกวัน บางทีก็โทรมาร้องไห้ คิดถึงพี่สร

อีกเรื่อง ชวนหลายครั้ง ย้ำหลายหน

ให้ไปนวดพี่สรหน่อย ที่บ้านเช่า แล้วให้แวะไป

ตอนที่บุญตากลับบ้าน หรือก่อนเข้าบ้านสวนฯก็แวะ

นวดให้พี่ก่อน

ขนาดอยู่รับใช้อาจารย์ ยังไม่มีเวลาได้นวดให้อาจารย์

จะเอาเวลาไหนไปนวดให้พี่สรล่ะ คิดหนักน๊า

อยากบอกว่า ร้านนวดเยอะแยะ ไม่ไปนวดล่ะคะ

เฮ่อ น่าเป็นห่วง

ลงชื่อ  บุญตา  โปรยเงิน

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 19:23:11


ความคิดเห็นที่ 61 (1624582)

คนเราเนี่ย ไม่ได้ดูยากเย็นอะไรเลย

พูดคุยไม่กี่คำ เราก็รู้แล้ว แต่ที่เราไม่รู้

เป็นเพราะเราไปตั้งความหวังไว้ว่า คนนั้นต้องเป็นอย่างนั้น

คนนี้ น่าจะเป็นอย่างนี้

คนโน้น คงจะดี

 

เพราะ

อย่างนั้น อย่างนี้

แต่ถ้าเรามองแค่สิ่งที่เราพบเจอ เห็น ดู สังเกตุ

เราจะพบความผิดปกติ ของพฤติกรรมคน

ซึ่งก็จะแสดงออกมาให้เห็น

 

แต่ที่บางคนไม่เห็น

เพราะจิตใจไม่ปกติ ไม่เป็นกลาง

คือจิตมีความโน้มเอียงไปในทางใดทางหนึ่งเสียแล้ว

ตาชั่งเลยไม่ได้มาตรฐาน

ถ้าทำจิตให้เป็นตาชั่งที่ได้มาตรฐาน เห็นอะไร

ที่ไม่ใช่ น้ำหนักกรรม ไปทางใด มันจะชัดเจน

ในจิตของเราเอง

*****************

ธรรมสะกิดใจ

ถ้าเราไม่หลงมัวเมาจนเกินไป

สัมผัสแล้ว

เข้าใจได้ง่ายๆ

ไม่ยาก

ไม่ซับซ้อน

ธรรมของพระพุทธองค์

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 22:42:05


ความคิดเห็นที่ 62 (1624775)

คนเราเนี่ย ไม่ได้ดูยากเย็นอะไรเลย

พูดคุยไม่กี่คำ เราก็รู้แล้ว แต่ที่เราไม่รู้

เป็นเพราะเราไปตั้งความหวังไว้ว่า คนนั้นต้องเป็นอย่างนั้น

คนนี้ น่าจะเป็นอย่างนี้

คนโน้น คงจะดี

......................

ก็พี่สรเป็นคนพูดเบาๆๆหวาน พูดจาดี

พออยู่ไกล้ๆถึงรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร

มาบ้านสวนเพื่อหาผลประโยชย์ให้ตัวเอง

ปากก็บอกว่ารักท่านอาจารย์

แต่การกระทำตรงกันข้าม

..........

ขอบคุณพี่แมว คุณอัง คุณธนา

และทุกๆๆท่านสำหรับธรรมทาน

ที่อ่านแล้วใด้ความกระจาง ชัดเจน

ในการคบคน รู้หน้าไม่รู้ใจ

กราบขอบคุณท่านอาจารย์อุบลอย่างสูงค่ะ

สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-18 13:23:45


ความคิดเห็นที่ 63 (1624837)

อ่านเรื่อง ตดมหาภัย ของคุณ บุญตา

แล้วก็มานั่งคิดว่า ผลกรรมนี้

เกิดจาก"เหตุ"อันใดหนอ

ที่ทำให้ คุณบุญตา ไม่สามารถ

บังคับและควบคุม"ลมตด"ได้

จึงต้องอับอายต่อคนมากมาย

ในที่สาธารณะ เช่นนั้น

 

แต่เท่าที่อ่าน

ประสบการณ์อันร้ายกาจเกินตัว

ที่อาจารย์เมตตาเขียนมา

น่าจะเป็นผลมาจากการที่ คุณ บุญตา

มักจะไปทำร้าย หรือ ตีหัวคุณอดีตสามี

ต่อหน้าประชาชีมากมาย

 

จนทำให้เค้ารู้สึกทั้งเจ็บตัว

และเจ็บใจอย่างรุนแรง

เพราะอายเพื่อนฝูง

ที่นั่งล้อมวงกินเหล้ากันอยู่มากมาย

 

ประมาณว่า เสียเชิงชาย

ที่ถูก"เมียตัวน้อยๆ"มาตีหัว...รึเปล่าหนอ


กราบอนุโมทนากับทุกๆธรรมทาน

จากท่านอาจารย์ด้วยนะคะ

เพราะหลายๆเหตุการณ์อ่านแล้ว

ก็สร้างรอยยิ้มให้

อ่านไป ขำไป ทั้งๆที่เป็นเรื่อง

ที่น่าเห็นใจพอสมควร

 

แต่ก็ดีใจไปกับคุณ บุญตา ด้วยนะคะ

ที่ได้มาพบท่านอาจารย์และบ้านสวนฯ

จึงทำให้มี"รอยยิ้ม"บนใบหน้าได้...แล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 03:55:05


ความคิดเห็นที่ 64 (1625795)

            กราบท่านอ.อุบลที่เคารพ  ได้อ่านเรื่องราวท้้งหมดแล้วสะเทือนใจที่มีคนทำให้ท่านอ.อุบล ไม่สบายใจ..........และขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของคุณลุงบุญให้ได้พบกับความเข้าใจและมีความสุขในเร็ววันค่ะ

 

                                  ด.ญนิดหน่อย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 17:28:25


ความคิดเห็นที่ 65 (1625846)

คุณวัณณิตาคะ

คนเรา ที่เข้ามา และ ไม่เข้ามา

บ้านสวนพีระมิด

มีวิธีหากิน หลอกลวง ผู้คนที่ศรัทธา

อ.อุบล หลายรูปแบบ

 

ซึ่ง

อ.อุบล ได้รับรู้แล้ว

ก็เป็นห่วงพวกเขาเหล่านี้มาก

เพราะ

ยังไม่เห็นว่า จะมีใครรอดพ้น

พระเนตร พระกัณฑ์ ไปได้ สักรายเดียว

 

ดูอย่างพ่อโจ

เงินที่เขาอธิษฐานเองแท้ๆ

อ.อุบล ไม่ได้รับรู้สักหน่อย ยังเกือบตาย

 

แล้วที่ตั้งอกตั้งใจ

หาประโยชน์ ด้วยการ หลอกลวง

ประโยชน์ทับซ้อนบ้างหละ

ค้ากำไร หารายได้

จากคนในบ้านสวนบ้างหละ

 

หาประโยชน์

จากบ้านสวนบ้างหละ

ทุกรูปแบบ มีมานานแล้ว และมีอยู่

 

พวกเราลองคิดสิ

ว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 21:55:25


ความคิดเห็นที่ 66 (1625847)

ห่างแต่กาย หัวใจคิดถึงท่านอาจารย์ตลอดเวลา พอมีวาสนา โอ้โฮ! เกิดอะไรขึ้นมากมายในบ้านสวนพีระมิดแดนสวรรค์ ป้าติ๋มก็เกือบช๊อคเหมือนกันเรื่องที่คุณลุงบุญต้องปวดร้าวจากการกระทำของน้องสร แต่จากที่เคยได้เจอเรื่องเสาตกน้ำมันมาก่อนแล้ว จึงเพียงสลดใจกับพฤติกรรมของน้องสรคนอ่อนหวานวาจา น้องสรจ๊ะ ป้าติ๋มว่าออกมาเคลียร์ดีกว่า  เพราะน้องสรเคยบอกป้าติ๋มว่า ได้มาอยู่ใกล้อาจารย์แล้วน้องสรมีความสุขมาก...น่าจะจริง หรือเปล่า?

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิริกัญญกรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 22:00:22


ความคิดเห็นที่ 67 (1625848)

 พวกเราลองคิดสิ

ว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

 +++++++++++++++++++

เบสคิดว่าคนเหล่านี้จะต้องได้รับผลกรรมมากมาย

เช่นมีปัญหาด้าน การงาน การเงิน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาครอบครัว ปัญหาความรัก

และอื่นๆอีกมากมายครับ

เรียกได้ว่า คงไม่มีความสุขเลย เพราะในเมื่อไม่เกรงกลัวผลของบาป

ก็คงต้องรับผลกรรมที่ทำไว้กันไปตามสภาพครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 22:01:07


ความคิดเห็นที่ 68 (1625851)

 

พวกเราลองคิดสิ

ว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

 

***********************

สำหรับความรู้แบบควายแก่ของป้าติ๋ม  ผลก็คือต้องได้พบกับปัญหา อุปสรรคต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องครอบครัว  การงาน  การเงิน  สุขภาพ   ชีวิตที่เหลือคงจะไม่มีโอกาสพบกับความสุข  เพราะ คำว่า "บาป" เขาไม่เข้าใจ  ไม่รับรู้  ความมืดมิดในจิตมากเกินจะแก้ไข  ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิริกัญญกรณ์ ธนิศรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 22:11:51


ความคิดเห็นที่ 69 (1625868)

แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาโกยบุญ

แต่กลับตั้งหน้าตั้งตา

หาผลประโยชน์ส่วนตัว

กับคนมีบุญที่ตั้งใจมาสร้างบารมี

ในบ้านส่วนตัวของท่านอาจารย์อุบล

พระอริยเจ้าผู้ทรงศีลทรงธรรม

ผู้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาลปกปักรักษา

ผลของการกระทำที่สิ้นคิดขาดปัญญานี้

จะทำให้ชีวิตของคนๆนั้นมืดไปทุกด้าน

มาหาเงินไม่ว่าด้วยวิธีใด ก็จะหมดเงิน

จนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว

สามารถพิสูจน์ได้

เพราะมีคนพิสูจน์แล้ว

เจ๊งทั้งคนซื้อและคนขาย

และอย่างพ่อคุณโจที่ปางตาย

มีแต่เสียกับเสีย

เพราะไม่ใช่แค่ทุกข์ในชาตินี้

แต่หลังความตาย

ต้องไปใช้กรรมในขุมนรก

ดังนั้น

สงสารตัวเองเถอะ

อย่าปล่อยให้ ความอยาก ครอบงำ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 23:15:25


ความคิดเห็นที่ 70 (1625869)

 

พวกเราลองคิดสิว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

.............................

กราบท่านอาจารย์ครับ ตัวอย่างที่ผ่านมามีเห็นมากมายครับ สำหรับผู้ที่มาหาผลประโยชน์ในบ้านสวน ไม่ว่าจะประสบปัญหา การงาน การเงิน  สุขภาพ ครอบครัว ทุกข์ทรมานทั้งกายและใจสารพัดรูปแบบ ไม่ตายก็เหมือนตาย หรือเรียกง่ายๆ 

"ตายทั้งเป็น" ครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 23:17:20


ความคิดเห็นที่ 71 (1625900)

พวกเราลองคิดสิว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

.............................

ชนิดาเคยอ่านธรรมทานของ

คนบางคนในเว็บพลังจิต

ที่เค้าเคยเห็นกรรมของคนที่ผิดสัจจะ

กับ"เทวดาระดับเจ้าที่"

แล้วถูกลงโทษให้สิ้นเนื้อประดาตัว

ชนิดที่ว่า ไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวเลย

 

คือ อยู่ดีๆ ก็มีเหตุให้บ้านสุดหรู

มอดไปทั้งหลังหมดสิ้นเลย

 

แต่ตอนนั้นก็ยังพอมีเงินเก็บอยู่

ก็สร้างบ้านใหม่อีกที

แต่อยู่ได้ไม่นาน ก็เกิดไฟไหม้บ้าน

มอดทั้งหลังอีก

สุดท้ายไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน

ต้องให้คนแถวๆบ้าน

ช่วยเหลือ ให้ที่อยู่ที่กิน ไปวันๆ

 

แล้วพอมานึกถึง

คนที่คิดมาหาประโยชน์ในบ้านสวนฯ

หรือใช้กลลวงหลอกเงิน

กินกำไรจากท่านอาจารย์

ผู้มีบุญบารมีสูงส่งและปลายทางอยู่ที่นิพพาน

 

คงไม่ต้องเดาเลยนะคะว่า

หลังความตาย ปลายทางของพวกเค้าเหล่านั้น

ก็คงอยู่แถวๆแกนโลก..ชั่วนิรันดร์

 

ส่วนชีวิตก่อนตาย

ก็คงจะถูกโรคภัยรุมเร้า

ครอบครัวมีแต่เรื่องวุ่นวาย

เงินทองก็ขัดสน

มีแต่ความทุกข์กายทุกข์ใจ

ไม่เว้นแต่ละวันแน่ๆ


นี่มิใช่ ความคิดลอยๆ

เพราะเห็นตัวอย่างกันมาแล้ว

ที่ชัดๆ ก็ คุณพ่อโจ

นี่แค่ระดับผิดสัจจะในใจเท่านั้นนะคะ...

 

ฉะนั้น ดูแลจิตใจตัวเอง

อย่าให้"ความโลภ"ครอบงำ

ไม่งั้น...ทุกข์ยาวววว...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 04:56:13


ความคิดเห็นที่ 72 (1626117)

พวกเราลองคิดสิว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

"""""""""""""""""""""""

คงจะต้องได้รับความทุกข์ท้้งกายและใจเลยค่ะ ทางกายก็จะมีปัญหาด้านสุขภาพ ป่วยเป็นโรคร้าย การเงินฝืดเคือง ทำอะไรก็เจ๊ง ขาดทุน อาจถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวเลยก็ได้ ไม่มีความสุข มีแต่เรื่องเดือดร้อนเข้ามา ครอบครัวแตกแยก คือทุกปัญหาน่าจะถาโถมเข้ามาชนิดไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น หลังจากความตายก็มีนรกเป็นที่ไปค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 15:25:59


ความคิดเห็นที่ 73 (1626152)

พวกเราลองคิดสิว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

"""""""""""""""""""""""

คงไม่เข้าใจว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร สมบัตินอกกายที่เพียรไขว่คว้ามาทั้งชีวิต ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มานั้น สุดท้ายก็ไม่เคยมีใครเอาไปด้วยได้ แม้ร่างของตัวเองค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 20:08:13


ความคิดเห็นที่ 74 (1626179)

หาประโยชน์

จากบ้านสวนบ้างหละ

ทุกรูปแบบ มีมานานแล้ว และมีอยู่

 

พวกเราลองคิดสิ

ว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

----------

ถึงคนหา(คน)กิน

ท่านมาผิดทีแล้ว

ทำเลวกับคนมีศีลเห็นผลฉับพลันทันที

คน ปกติ เค้าไม่ทำกัน

ไฉนท่านถึงเดินส่วนทางเช่นนี้

เงินที่หรอกลวงเค้าไป

ท่านรู้ไหมมันเป็นเงินร้อน

ไม่ใช่เงินญี่ปุ่น อิอิ เงินเย็น

ใหนจะโรคมะยิง เอ้ย มะเร็ง

สังเกตุตัวเองด่วน

ผอม น้ำหนักลดรวดเร็ว

ผิวคล้ำ เงินหมดตัว บ้านแตก

อีกเยอะ

รีบสำนึกอาจจะทัน

คนเค้าจะไป สวรรค์ นิพพาน

ดันไปถ่วงเวลาเค้าอีก

กรรมเป็นผู้กำหนดชะตา

ว่าแต่คนที่มันทุกข์เค้าจะรู้ไหมว่าตัวเองทุกข์

แต่ส่วนใหญ่จะรู้ตอน

จะหายใจเข้าแล้วลมไม่เข้า

หายใจออกก็ไม่ได้

อึดอัดจนขาดใจ

จะขอร้องว่า

สำนึกได้แล้ว

สักคำก็ไม่ได้พูด

ตายก่อน

อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย

กลับใจซะอย่าให้ถึงวันนั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 23:45:31


ความคิดเห็นที่ 75 (1626187)

หาประโยชน์

จากบ้านสวนบ้างหละ

ทุกรูปแบบ มีมานานแล้ว และมีอยู่

 

พวกเราลองคิดสิ

ว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

...............

คนที่หากิน ทำธุรกิจ แบบเนียนๆที่บ้านสวน

ก็มีแต่เจ็งกับเจ็งค่ะท่านอาจารย์

การงาน การเงิน สุขภาพย่ำแย่

ทางทางหลุดพ้นไม่เจอแน่นอนค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-25 01:03:09


ความคิดเห็นที่ 76 (1627101)

ตั้งแต่เห็นคุณเกสรมาโดยตลอด คิดว่าคุณเกสรเป็นคนดีคนหนึ่งนี่คือการดูคนจากเปลือกนอก อีกอย่างหนึ่งก็คือเป็นพี่สาวคุณสิทธิ์ ไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกันมากนัก แม้บางครั้งจะนอนพีระมิดองค์เดียวกันก็ตาม คุณเกสรเคยบอกว่ามาอยู่ที่ใหม่ขายของไม่ได้เลย จะย้ายไปอีกที่หนึ่ง เห็นพ่อดุลูกทั้งตกใจ และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็มาคิดได้ว่าการปกครองคนหมู่มากต้องมีกฎระเบียบ ไม่เช่นนั้นทุกคนก็จะสร้างแต่ปัญหาก่อความวุ่นวายไม่สิ้นสุด ได้อ่านกระทู้นี้เข้าใจแล้วค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 12:14:29


ความคิดเห็นที่ 77 (1627157)

คุณเกสรบอก อ.อุบล ว่า

ไม่น่าเชื่อเลยว่า ตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านนา

ขายของได้ทุกวัน ได้ทั้งค่ากับข้าว

ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ

อ.อุบล ยังถามว่า พึ่งมาไม่กี่วัน

มีลูกค้าแล้วเหรอ เก่งนะเนี่ย

เขาบอกคนแถวนี้แหละ ที่ผ่านไปผ่านมา

ก็มาแวะซื้อ

------------------------

คุณเกสรบอกว่า

เตรียมเสื้อไว้ให้ อ.อุบล 4 ตัว

ซึ่ง อ.อุบล ไม่ทราบว่า ต้องการขายให้

หรือว่า เตรียมไว้เพื่ออะไร

ปกติ

ไม่ชอบของฟรี

และไม่นิยมการขายของแบบ

ชั้นสูง คือ ยัดเยียดแบบเนียนๆ

อันนี้รังเกียจมาก

ก็เลยควักเงินให้ไป 5000 บาท

เพราะไม่ทราบว่า

ตัวละเท่าไหร่

 

คุณเกสรบอกว่า

มากเกินไป

 

ถ้างั้นเท่าไหร่ล่ะที่คุณ

ไม่ขาดทุน ยังไง อ.อุบล ก็ไม่รับฟรี

เขาบอกตั้งใจให้ค่ะ

 

แต่ ในที่สุด อ.อุบล

ก็วางเงินไว้ให้เขา 2000 หรือ 3

จำไม่ได้ แล้วก็ขับรถกลับ

 

เสื้อก็ไม่ได้เอามา

 

ตอนกลางคืน

เห็นบุญตาบอกว่า

คุณเกสร เอาเสื้อมาให้ อ.ค่ะ

 

อ.อุบล

ก็ไม่แน่ใจว่า อย่างนี้

ถือว่าคุณเกสรขายของได้รึเปล่า

 

เพราะ

เท่าที่ฟังจากหลายคน

ก็อย่างหนึ่ง

 

บอกอาจารย์อุบล

ก็อีกอย่างหนึ่ง แล้วนี่

อ.อุบล ก็ได้ซื้อเขาแล้ว

ซึ่งเสื้อก็ใส่ไม่ได้หรอก ไม่พอดีตัว

แต่ก็ไม่ว่ากัน ถือว่า เราซื้อเค้าเอง

ก็แล้วกัน

 

ถ้าคุณเกสรบอกว่า

ขายของไม่ได้เลย

 

ก็แสดงว่า

ที่บอก อ.อุบล มานั้น

โกหก

 

หรือไม่ก็

อ.อุบล มาพูดโกหกเสียเอง

 

ถ้าจะให้ดี

สรุปว่า อ.อุบล โกหกดีกว่านะ

หรือว่า หูไม่ดี ฟังไม่ดี

ก็แล้วกันนะ

 

ทุกคน

ควรจะแยกแยะ

ระหว่างคุณเกสร กับคุณสิทธิ์

เพราะ คนละคนกัน

แล้วก็นิสัยก็แตกต่างกันมากที่สุด

แบบสุดขั้วเลยด้วย

 

อย่าเหมาว่า

คุณเกสร ต้องเหมือน คุณสิทธิ์

 

หรือ

คุณสิทธิ์ ต้องเหมือน คุณเกสร

 

พวกเรา

ก็เคยมีพี่ มีน้อง ท้องเดียวกัน

นิสัยใจคอ เหมือนกันไหมล่ะ

ตอบหน่อย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 19:42:36


ความคิดเห็นที่ 78 (1627176)

 พวกเรา

ก็เคยมีพี่ มีน้อง ท้องเดียวกัน

นิสัยใจคอ เหมือนกันไหมล่ะ

ตอบหน่อย

+++++++++++++++++++

เบสคิดว่าไม่เหมือนกันเลยครับ อาจารย์

บางครั้งเลี้ยงดูมาเหมือนกัน

แต่นิสัยก็ยังไม่เหมือนกันอยู่ดี

ดังนั้น น่าจะขึ้นอยู่กับว่า

ใครจะทำตัวอย่างไร

ถึงเป็นพี่น้องกัน ก็ถือว่าเป็นคนละคนกัน

นิสัยนั้นเกิดจากความคิดในหัว

และสั่งการออกมาให้เป็นการกระทำ

ดังนั้น ถ้าหากคิดไม่เหมือนกัน นิสัยก็ไม่เหมือนกัน

แม้จะเป็นพี่น้องกันก็ตาม

และในอีกแง่หนึ่ง หากคิดเหมือนกัน

ไม่ว่าในด้านดี หรือไม่ดี

การกระทำของคนเหล่านั้นก็อาจจะเหมือนกันก็ได้

ดังนั้นการที่เป็น พี่ น้อง กัน จึงไม่ได้แปลว่า นิสัยจะเหมือนกันครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 20:55:59


ความคิดเห็นที่ 79 (1627248)

อย่าเหมาว่า

คุณเกสร ต้องเหมือน คุณสิทธิ์

 

หรือ

คุณสิทธิ์ ต้องเหมือน คุณเกสร

 

พวกเรา

ก็เคยมีพี่ มีน้อง ท้องเดียวกัน

นิสัยใจคอ เหมือนกันไหมล่ะ

ตอบหน่อย

#####

       ถ้าเป็นแต่ก่อน จะคิดแบบเหมารวมค่ะ

แต่ตอนนี้  พอจะมีความคิด (ดีๆ) บ้าง  เพราะถ้ามาเทียบ

กับพี่น้องเรา  เราก็จะเห็นความแตกต่างของคน

ในครอบครัวเรา เช่น  คนนี้เลี้ยงไม่โตสักที รบกวน

พ่อแม่ตลอด  คนนี้คอยช่วยเหลือประสานพี่น้องทุกคน

คนนี้เห็นแก่ตัวจังเอาเปรียบพี่ ๆ ตลอด  เริ่มจะเข้าใจ

ขึ้นมาอีกนิดหนึ่งค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 09:55:21


ความคิดเห็นที่ 80 (1627258)

ถ้าคนที่เป็นพี่น้องกัน

ต้องนิสัยเหมือนกันละก็ โลกนี้คงดีกว่านี้

ในกรณีที่ พี่เป็นหมอ น้องไม่ยักกะเป็นหมอด้วย

น้องเป็นตำรวจ พี่เป็นผู้ร้ายก็ถมไป

 

แม้แต่คนที่

เป็นพ่อ เป็นแม่ ยังต่างกับลูก

หรือ

ว่าลูกต่างกับพ่อแม่

 

ไม่งั้น

คงไม่มีพวกที่

พ่อเป็นตำรวจ แต่ลูกเป็น

โจร

หรอกนะ

 

เมื่อไม่นานมานี้

มีนายตำรวจ ยศใหญ่โต

คนหนึ่ง มาบ้านสวนพีระมิด

พร้อมด้วยลูกชาย

 

อันนี้พวกเราหลายคน

ได้พบเจอกับตำรวจผู้นี้

 

บอกว่า

จะพาลูกชายมาส่ง

ฝากให้ อ.อุบล ช่วยดัดแก้

สันดาน

 

บอกว่า

ลูกชาย เป็นคน ขี้ขโมย

เป็นที่สุด แก้ไม่หาย

เป็นที่อิดหนาระอาใจ

ของพ่อ

 

ของแม่ และ ญาติพี่น้อง

เพราะทำแต่เรื่องเดือดร้อนใจมาให้

 

แถมยังทำให้

มีผลกระทบต่ออาชีพ

และ

ตำแหน่งหน้าที่การงานของพ่อ

 

มันขี้ขโมยยังไม่พอ

มันยังชอบเอาพ่อที่เป็นตำรวจ

ไปแอบอ้าง ในการทำชั่ว

ของมันอีกด้วย

 

ทำให้พ่อต้องซวย

ซ้ำซ้อน

 

ทำให้คนมองว่า

นอกจากพ่อแม่มัน

จะไม่อบรมสั่งสอนแล้ว

 

พ่อแม่มัน

ยังส่งเสริมลูกให้เป็นโจร

ให้เอาตำแหน่งหน้าที่การงาน

ของพ่อ ไป ข่มเหง รังแก คนอื่น

 

แอบอ้างว่า

พ่อกูเป็นตำรวจ

พ่อกู อย่างโน้น อย่างนี้

กูไม่กลัวคดี เดี๋ยวพ่อกูเคลียได้

พ่อกูใหญ่ มึงอย่าหือ

 

คิดดูสิ

ว่าถ้าเราเป็นนายตำรวจคนนี้

แล้วมีลูกแบบนี้ จะรู้สึกยังไง

จะอับอาย อดสูไหม

 

ดังนั้น

การที่ใคร จะเป็นพ่อแม่ลูก

หรือเป็นพี่น้องกัน

มันก็คนละคนกัน แม้จะเกี่ยวกัน

ในสายเลือด แต่กมลสันดาน จริงๆของคน

มันมาจากต้นกำเนิด ก่อนเกิดแล้วหละ

 

แต่ละคนเกิดมา

มีที่มา ไม่เหมือนกัน

ที่ไป ก็ไม่เหมือนกัน

 

ชีวิตความเป็นอยู่ ก็ไม่เหมือนกัน

ฐานะความเป็นอยู่ ก็ไม่เหมือนกัน

 

วิธีคิด ก็ไม่เหมือนกัน

 

อาชีพ ก็ไม่เหมือนกัน

 

สภาพการดำเนินชีวิต ก็ไม่เหมือนกัน

 

อย่างคุณสิทธิ์ กับคุณสร

อ.เห็นใจคุณสิทธิ์มาก

พูดไม่ออก เพราะ เป็นพี่สาว

แต่ปวดร้าว เจ็บอยู่ข้างใน

 

น้องพยายามรักษาศีล

ทำความดี

 

แต่พี่ทำผิดศีล ทำให้แม่และพี่น้อง

ต้องเสียใจ อับอาย กับการที่

คุณสรไปเป็นเมียน้อย

ของข้าราชการ

ที่ตรัง

 

แล้วก็ยังนำมาเล่า

ให้คนบ้านสวนฟัง จนคนฟัง

อิดหนาระอาใจ

 

กับการที่มาบอกเล่าว่า

สามีคนนี้ หลงเสน่ห์ตนเองมาก

ถึงกับโทร.มาร้องไห้

ทำให้คุณสร

ต้องพยายามทำตัวเองให้

ทรุดโทรม

เพื่อผู้ชายคนนี้จะได้เลิกสนใจ

 

แต่เหตุใด

คุณสร จึงใช้ห้องครัว

บ้านสวนพีระมิด

เป็นสถานระบายอารมณ์รัก

จากการผิดศีลข้อ 3

จนเป็นที่เลื่องลือว่า ถ้าใครเข้าครัว

แล้วเจอคุณเกสร

ต้องมาทนรับฟัง นิยายรักน้ำเน่า

เป็นประจำ แม้แต่บุญตาเอง

 

ก็ยังฟังมาจนหูชา

แล้วบุญตา ก็สงสัยมากจนต้อง

มาถามผู้คนว่า

ทำไมคุณสร ต้องพูดถึงแต่เรื่อง

แฟนเขา ผู้ชายคนนี้ตลอดเลย

 

เขาบอกว่า

เขาเป็นแม่พระ ผู้เสียสละ

เขายอมให้ผู้ชายคนนี้ ไปอยู่กับผู้หญิงอื่น

เขายอมเป็นผู้หลีกทางให้

 

อ้าว

แล้วทำไม บอก อ.อุบล

อีกอย่างหนึ่งล่ะ

 

สำหรับ

อ.อุบล เขาบอกว่า

เขาทำเสน่ห์ยาแฝดเพื่อให้

ผู้ชายคนนี้ ทั้งที่มีภรรยาแล้ว

มาหลงรักเขา

 

อันนี้

มีในคำสารภาพบาป

ของคุณเกสรด้วยนะ ลองไปหาอ่านดู

แล้วทุกครั้งที่มาบ้านสวน

ก็จะบอกว่า

หนูยังตัดใจ จากการผิดศีลข้อ 3 ไม่ได้สักที

ออกไปสารภาพบาปหน้าเวที

ก็พูดอย่างนี้ มีใครจำได้มั่ง

 

วันที่สามีเขามาส่ง

ที่บ้านสวนพีระมิดพร้อมกับ

ภรรยาเขา

 

มีคนเห็นกันมากมาย

ต่างก็ต้องอุทานกันในใจว่า

โอ้

เขาสามัคคีกันดีนะ

เมียหลวงมาส่งเมียน้อย

สามีก็มาด้วย

เขาทำใจกันได้นะ

 

มันก็มาขัดกับ

สิ่งที่บุญตาได้ข้อมูลมา

ว่า

คุณสร เป็นผู้เสียสละ ยกสามีให้เขา

 

หลังจากวันนั้น

คุณสรก็เล่าให้ อ.อุบล ฟังเอง

ว่า

สามี และ ภรรยา คู่นี้

มาส่งตนเองด้วย ขับรถมาจากตรังเลย

 

แล้วก็มาค้างที่ร้าน

ที่เขาเปิดอยู่บ้านพริกด้วย

 

อ.อุบล

เคยทราบมาตั้งแต่แรกแล้ว

ว่า

ภรรยาเขาไม่เคยรู้

เรื่องความสัมพันธ์ของสามี

กับคุณเกสร

 

แต่เมื่อคุณสร

พยายามทำให้คุณสิทธิ์

ทำให้พี่น้อง และ ชาวบ้านสวน

เข้าใจว่า ภรรยา เขาเห็นดีด้วย

อ.อุบล ก็เลย ไม่พูดอะไร

ปล่อยไปตามกรรม

ของใครก็แล้วกัน

 

แต่

ระหว่างที่

คุณเกสร ได้เริ่มรู้จักบ้านสวนนั้น

 

อ.อุบล

ก็รับรู้มาตลอดว่า

คุณสร ป่วยด้วยโรค ทาลัสซีเมีย

คือโรคเลือด

 

และ

มีหนี้สิน ปลดไม่ได้

จนกระทั่งได้ส่งผ้าพันคอมาให้

5 ผืน หลังจากนั้น

คุณสิทธิ์บอกว่าพี่สาวขายของ

วันเดียว ใช้หนี้ได้หมด

 

ต่อจากนั้น

คุณสรมาบ้านสวน

ก็ได้ถามถึงเรื่องอาชีพ

ที่ทำให้มีหนี้สินมากมายปลดไม่ได้

คุณสรเล่าว่า

ธุรกิจ ที่ทำ ไม่ดีมาตลอด

เข้าโอทอปก็แล้ว ทำทุกอย่างก็แล้ว

ก็ไม่ดี มีหนี้ พอกพูนมาก

อันนี้เขาเล่าเอง

 

เราก็มาพิจารณา

และ

ได้บอกเขาไปด้วยว่า

ตราบใด ที่ผิดศีล ไม่ว่าข้อไหน

การงาน การเงิน พังหมดแหละ

ยิ่งศีลข้อ 3 ด้วยแล้ว

มีเงินเท่าไหร่ ก็หมด ทำอะไรก็ไม่รุ่ง

 

คุณสรก็บอก

หนูจะพยายายาม

 

ตอนนั้น อ.อุบล ถามว่า

แล้วแฟนเขา ว่ายังไง ทำใจได้หรือ

 

คุณสรบอกว่า

แฟนเขาไม่รู้ค่ะ อาจารย์

 

ต่อมา

เมื่อคุณสิทธิ์ ชาวบ้านสวน

มาลงความเห็นว่า

ลูก และ ภรรยาเขา รักคุณสร

เขายอมรับคุณสรได้

ในฐานนะเมียอีกคน

 

มันขัดกับสิ่งที่คุณสร

เคยบอก อ.อุบล ไว้ตั้งแต่แรก

 

นี่คือสิ่งที่

คุณสร มาพูดมาบอก

อ.อุบล อย่างหนึ่ง คนอื่น อย่างหนึ่ง

 

ทำให้ผู้คน

สับสน เรื่องคุณเกสร

 

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้คน

จะมาสนใจเรื่องชีวิตคุณสรกันมากมาย

เพราะเรามาสร้างบุญ ไม่ได้มา

ศึกษาอัตชีวประวัติ

คุณเกสร

 

แต่คุณเกสร

ได้ทำการเรียกร้องความสนใจ

โดยทำตนเองให้เป็นดาวเด่น

ตลอดเวลา ด้วยการ

ตีสนิท พูดจา กับผู้คน ที่มาบ้านสวน

จนผู้คน สงสัย เอะใจ

กับบทบาท ความจุ้นจ้าน จัดการ

กับทั้งคนที่มา ทั้งช่างของบ้านสวน

พยายามเข้ามามีบทบาท

ควบคุมบงการ

ทั้งคุณแมว คุณธนา ช่าง

แม้แต่บุญตา

คุณเกสร ก็ต้องการ ควบคุม

ไว้ในบัญชาของคุณสรให้ได้

 

อันนี้

ไม่ได้พูดเอง

แต่ทุกคนได้รับสิ่งเหล่านี้มาแล้ว

 

ยกตัวอย่างบุญตา

คุณสร พูดแล้ว พูดอีก

ที่จะให้บุญตา ไปนวดให้คุณสร

ที่บ้านพริกให้ได้

 

ทั้งที่คุณสรรู้ดี

ว่าบุญตา เป็นคนทำงาน

ในบ้าน อ.อุบล

เรียกว่า เป็นแม่บ้านส่วนตัว

อ.อุบล เลยทีเดียว

 

แต่คุณสร

ก็เซ้าซี้ บุญตา ให้ไปนวดให้

ทำให้บุญตาอึดอัดใจ

และ

ปฏิเสธไปแบบผู้ดีว่า

หนูไม่มีเวลาหรอก ต้องทำงานให้

อ.อุบล ขนาดจะนวด อ.

ยังไม่มีเวลาเลย

 

แต่คุณสรไม่หยุด

พยายามหาทางต่อไปอีก

บอกว่า

ถ้างั้น เวลาบุญตาจะกลับบ้าน

ก็ให้แวะนวดให้พี่ก่อน

 

แล้วพอกลับจากบ้าน

ก่อนเข้ามาบ้านสวนพีระมิด

ก็แวะนวดให้พี่ก่อน

 

บุญตา

อึดอัด จนไม่รู้จะทำยังไง

จนต้องหาที่ปรึกษาหลายคน

ว่า

คุณสร พูดมาอย่างนี้

จะทำยังไง

 

ทำไมหมอนวด

ที่บ้านนา ที่วิหารแดง

ที่เขาอยู่ก็เยอะแยะ ถ้าเขา

แค่อยากจะนวดจริงๆ

ทำไมเขาไม่ไปจ้าง

ทำไม

ต้องเจาะจง บุญตา

แม่บ้านส่วนตัว อ.อุบล เท่านั้น

 

อันนี้

คงต้องถามความเห็น

ท่านผู้อ่านกันหน่อย

ว่าคุณสร ต้องการอะไร มีแผนอะไร

 

ส่วนเรื่องสามีคุณสร

คุณสรก็บอก อ.อุบล เองอีกว่า

หนูยังตัดไม่ได้ ยังคุยโทรศัพท์อยู่

 

ซึ่งมันก็มาขัดแย้ง

กับข้อมูลที่คุณสรพยายาม

บอกผู้คนที่มาบ้านสวนพีระมิดว่า

สามีพี่ ไม่รู้ว่าหลงอะไรพี่นักหนา

ตัดพี่ไม่ขาด ร้องไห้

ทั้งที่สังขารพี่ก็เป็นอย่างนี้

พี่ก็พยายายามทำตัวให้โทรมแล้วนะ

 

คุณสร

จะพูดแต่เรื่องสามีหลง

ในบ้านสวนพีระมิด

 

จนลืมไปว่า

สถานที่แห่งนี้ ผู้คนเขามา

เพื่อดับกิเลส และ ตัณหา

แต่คุณสร

มีความภูมิใจ ที่ได้อวดสิ่งเหล่านี้

 

จนวันที่

ไปที่ร้านคุณสร

เพราะคุณสร พูดจาพยายาม

ย้ำแล้ว ย้ำอีก ว่าให้ไป ที่ร้านเขาหน่อย

 

ซึ่ง

ในที่สุด อ.อุบล

ก็ไป แล้วเขาก็บอกว่า

เขาเตรียมเสื้อไว้ให้ 4 ตัวนั่นแหละ

 

ซึ่ง อ.อุบล ก็คิดเอาเองว่า

นี่เป็นวิธีการขายของอีกอย่างหนึ่ง

ซึ่งถือเป็นการบังคับผู้ซื้อ

ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ ก็ต้องจ่าย

แม้ว่า

จะพยายามพูดว่า

ตั้งใจ จะให้ฟรีก็ตาม เพราะในที่สุด

เราก็ต้องจ่ายเงินให้เขาอยู่ดี

 

ที่วิเคราะห์อย่างนี้

เพราะว่า คนที่ตั้งใจให้จริง

คงไม่ต้องให้ไปที่ร้าน

ถ้าไม่ต้องการสร้างสถานการณ์

หรือ

ใช้การไปของ อ.อุบล ไว้เพื่อ

อะไรบางอย่าง

 

หรือ

เพื่อเป็นการปูทาง

ให้คนที่มาบ้านสวนรับรู้ว่า

ขนาด อ.อุบล ยังไปซื้อเลย

คนอื่นก็ควรไปซื้อ

เหมือนกัน

 

ไม่ทราบว่า

คุณสรต้องการอย่างนั้นหรือเปล่า

 

วันนั้น

คุณเกสร ก็ได้พูดถึงเรื่อง

สามีของเขาอีก

 

เราเห็นได้ว่า

ทุกลมหายใจคุณสร

ไม่เคยคิดที่จะตัดศีลข้อ 3 ได้

เพราะได้พยายาม

ย้ำเตือน พูดถึงอยู่ตลอดเวลา

 

อ.อุบล

จึงถามไปว่า

ถามจริงๆเถอะคุณสร

ภรรยาเขาว่ายังไงบ้างกับการที่

สามีเขามามีความสัมพันธ์

กับคุณสรอย่างนี้

 

เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ

 

เขาเห็นดีเห็นงามหรือ

 

หนูก็ไม่ทราบค่ะ

 

อ้าว

แล้วคุณสรเคยคุยกับเค้ารึเปล่า

 

ไม่เคยค่ะ

 

แล้วตอนผู้ชายคนนี้

มาหา คุณสร ภรรยาเค้ารู้ไหม

 

คิดว่าไม่รู้ค่ะ

 

ถ้าอย่างนั้น

ที่ผ่านมาทั้งหมดที่เกิดขึ้น

จนมาถึงวันนี้ ภรรยาเขาคิดว่า

คุณสร ไม่ได้มีอะไรกับสามีเขาใช่ไหม

นอกจากคนรู้จัก เพื่อนฝูง

 

ใช่ค่ะ

เวลาเขาโทรหาหนู

ต่อหน้าภรรยาเขาก็โทร

ก็พูดคุยกันธรรมดาเหมือนญาติ

 

แล้วคุณสรคิดว่า

ถ้าภรรยาเขารู้ว่าสามีเขา

มามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคุณสร

คุณสรคิดว่า ภรรยาเขา

จะทำยังไง รู้สึกยังไง

 

หนูว่าเค้าคงไม่ยอมค่ะ

ถ้าเป็นหนู

ก็ต้องบ้านแตกล่ะค่ะ

หนูก็คงไม่ยอมค่ะ

 

อันที่จริง

อยากจะถามต่อด้วยว่า

แล้วคุณสร

ไม่นึกถึงหัวอกภรรยาเขาบ้างหรือ

 

แล้วเลือดเย็นจังนะ

ที่ทำให้คนทั้งหลายรวมทั้ง

น้องชายคิดว่า

ครอบครัวผู้ชายคนนี้

ยอมรับคุณเกสรเป็นเมียน้อยได้

อย่างพึงพอใจ

 

แต่สิ่งที่ อ.อุบล

รับรู้ได้ มันคนละเรื่องกัน

 

อ.อุบล

รู้ว่า คุณสร เข้ามาอ่าน

 

ดังนั้น

คุณสร ต้อง ออกมา

ชี้แจงเรื่องนี้

 

อ.อุบล โกหก

หรือ คุณสร โกหก

 

ถ้า อ.อุบล โกหก

ยินดีกราบเท้าคุณสรต่อหน้า

ผู้คนทั้งโลก

 

แล้วคุณสรล่ะ

 

ที่ต้องเขียนเรื่องนี้

เพราะคุณสร สร้างเรื่อง สร้างปม

ไว้ในบ้านสวนพีระมิด

มากมาย หลายเล่ห์ หลายเหลี่ยม

หลายซับ หลายซ้อน

 

ที่ผ่านมา

เห็นแก่พี่มหา เลยอดทน

ให้คุณศร เหยียบย่ำ มาตลอด

รวมทั้ง เหยียบย่ำ คนของ อ.อุบ

 

ดูถูกคนที่มาบ้านสวน

เห็นคนเหล่านี้ เป็นแค่เหยื่อ ไม่จริงใจ

แต่ใช้คำหวานหว่านล้อม หลอกใช้

 

แม้แต่ ดร.อั๋น

ที่พึ่งเจอกันครั้งแรก

คุณสร ก็ประกบแจ ไม่ห่างเลย

 

กับป้าน้องขวัญ

คุณสรก็ประกบ ประชิด

จนลืมไปว่า คุณสรทำ ท้าทาย

สายตา ใคร ต่อใคร

ไม่เคยแคร์

แม้แต่ ต่อหน้า อ.อุบล อ.มงคล

หรือใครๆ โดยใช้

เวทีบ้านสวนพีระมิด

เป็นสถานที่

หาลูกค้า หาบริวาร ของตน

 

โดย

เอาบริวาร ของ อ.อุบล

ทุกคน ให้สวามิภักดิ์คุณสรให้หมด

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 11:31:28


ความคิดเห็นที่ 81 (1627273)

ยังมีคนอีกมากมาย

ที่ได้รับผลกระทบ จากการกระทำของ

คุณเกสร แต่ ยังไม่ได้ออกมา

เล่าข้อเท็จจริงทั้งหมด

 

รวมทั้งคุณโอ๋

ที่คุณเกสร ก็โทร.ไปสร้าง

ความเดือดร้อนรำคาญให้

แล้วนำคุณโอ๋

มากล่าวอ้าง

 

จนต่อมา

คุณโอ๋ต้องใช้วิธี ไม่รับโทรศัพท์

คุณสร เพราะ

ทนความปลิ้นปล้อนไม่ไหว

 

การที่คุณโอ๋

ได้อยู่ในมุมเงียบๆ ที่ผ่านมา

ทำให้เราได้รู้ว่า ใครเป็นยังไง กันบ้าง

ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านสวนเนี่ย

คนที่เห็นคุณโอ๋เป็นเหยื่อ

อันโอชะ

คิดว่า จะเอาเป็นเหยื่อ

เป็นแหล่งข่าว เป็นแนวร่วม

เอาผลประโยชน์ไป

ล่อ

คุณโอ๋

แล้วก็ไม่ให้ หักหลัง

 

ด้วยหมายจะกินคุณโอ๋

 

 

แต่พอจะกิน เจอกระดูก เข้าไปเต็มๆ

เขี้ยวที่งอกยาว

เลยหักกันเป็นแถว เป็นแนวเลย

 

เดี๋ยวคงได้เห็นรอย

เขี้ยวทีหัก

โชว์กันเร็วๆนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 12:33:26


ความคิดเห็นที่ 82 (1627314)

                                                                                    พวกเราลองคิดสิ

 

ว่า

คนเหล่านี้ จะได้รับผล อย่างไร

ใครรู้ ช่วยบอกที เอาบุญ

นะจ๊ะ

 +++++++++++++++++++

กราบเรียนท่านอาจารย์ อุบล


ขอตอบด้วยเจ้าค่ะว่า ตอนยังมีชีวิต เขาจะเผชิญกับ สภาพชีวิตแบบนรกบนดิน ถ้ายังกลับตัวไม่ทัน พอตายแล้วก็คงไม่พ้นนรกโลกันต์ เพราะพี่เขาทำผิดซ้ำซาก และต่อเนื่องเจ้าค่ะ


อ่านธรรมทานทั้งหมดมาถึงตอนนี้ ลูกมีความหวังว่า ตอนนี้ถ้าหากพี่เค้าอยู่ในช่วงของการสำนึก ผิด พวกเราจะให้โอกาสเค้ายุติพฤติกรรม ที่เคยทำในทันทีทันใด จะยังทัน และได้มั้ยคะอาจารย์เจ้าคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 14:51:31


ความคิดเห็นที่ 83 (1627334)

อ่านธรรมทานทั้งหมดมาถึงตอนนี้ ลูกมีความหวังว่า ตอนนี้ถ้าหากพี่เค้าอยู่ในช่วงของการสำนึก ผิด พวกเราจะให้โอกาสเค้ายุติพฤติกรรม ที่เคยทำในทันทีทันใด จะยังทัน และได้มั้ยคะอาจารย์เจ้าคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 14:51:31

 

 

ใครจะให้โอกาสใคร

ไม่สำคัญเท่ากับการที่ บุคคคล คนนั้น

ปิดกั้นโอกาสตัวเองหรอกค่ะ

คุณแหล๋น

 

ชีวิตคน

ไม่ใช่ใครจะไปบงการ

ชีวิตใครได้

 

แม้แต่ลูกเราแท้ๆ

เราก็ให้โอกาสลูกเราเสมอ

แต่ลูกเขารับโอกาสนั้นหรือเปล่า

ต่างหากล่ะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 18:34:48


ความคิดเห็นที่ 84 (1627363)

 

อ.อุบล

รู้ว่า คุณสร เข้ามาอ่าน

 

ดังนั้น

คุณสร ต้อง ออกมา

ชี้แจงเรื่องนี้

 

อ.อุบล โกหก

หรือ คุณสร โกหก

 

ถ้า อ.อุบล โกหก

ยินดีกราบเท้าคุณสรต่อหน้า

ผู้คนทั้งโลก

 

แล้วคุณสรล่ะ

 

ที่ต้องเขียนเรื่องนี้

เพราะคุณสร สร้างเรื่อง สร้างปม

ไว้ในบ้านสวนพีระมิด

มากมาย หลายเล่ห์ หลายเหลี่ยม

หลายซับ หลายซ้อน

******************************

ที่ผ่านมาพี่เกสรเข้ามาเขียนธรรมทานบ่อยมาก

แต่ทำไมตั้งแต่เกิดเรื่องราวมากมาย

ถึงไม่ออกมาเขียน

มาบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ว่า ได้ทำ  หรือ ไม่ได้ทำ

ในทุกสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบล

และหลายๆท่านได้เขียนเล่าไว้

ถ้าเราทำผิดจริง

เราก็ออกมายอมรับความจริงดีกว่า

นี่เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้สำรวจตัวเอง

อย่างจริงจัง ว่าเรายังชั่ว ยังโง่ตรงไหนบ้าง

ทุก Feedback ที่ทุกคนเขียนถึงพี่สร 

ในเวปบ้านสวนพีระมิดนี้ 

เป็นสิ่งที่สะท้อนการกระทำจริงๆของพี่สร

  อ้อยเชื่อว่าทุกคนหวังดีต่อพี่สร 

ยินดีที่จะเป็นกระจกเงาให้พี่

ทั้งๆที่พวกเราไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียกับพี่ 

  ดีไม่ดีอาจทำให้พี่ไม่พอใจด้วยซ้ำ

เราต้องกล้าหาญยอมรับความผิดอย่างจริงใจ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 22:19:14


ความคิดเห็นที่ 85 (1627453)

การที่พี่สรไม่เข้ามาเขียนชี้แจงอะไรเลย

ทั้ง ๆ ที่ได้อ่านเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

มันก็เป็นคำตอบชัดเจนอยู่ในตัว

ว่า ไม่ได้รัก ไม่ได้แคร์ความรู้สึก ของอ.อุบล

อย่างที่เคยบอกเลย

และไม่สงสารน้องชายที่ต้องเป็นคนรับหน้าความผิดแทน

ทั้ง ๆ ที่เคยบอกว่ารักน้องสิทธิ์มาก เป็นห่วงมากที่สุด

 

ถ้าพี่ได้อ่าน อยากให้ลองทบทวนดูนะคะ

ว่าอาจารย์ทั้งรัก และเมตตาพี่แค่ไหน

คุณสิทธิ์และครอบครัว พี่น้องของพี่ทุกคน

ทำเพื่อพี่มาแค่ไหน

ทุกคนต่างรัก และเป็นห่วงพี่

อยากให้พี่มีความสุข หลุดจากความทุกข์ทั้งนั้น

แต่พี่กลับเห็นความรักความจริงใจที่ทุกคนมีให้

เป็นแค่เครื่องมือหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง

 

ตั้งสติ คิดให้ยาว ๆ นะคะ

อยากได้ความสุขแบบหยาบ ๆ แค่มีเงิน มีหน้ามีตา

หรือจะเอาพ้นทุกข์แบบถาวร มันดีกว่ากันคะ

อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลยคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-01 23:08:21


ความคิดเห็นที่ 86 (1627456)

ตามความคิดเห็น

ความเห็นที่ 74 (1626179)

 กราบขออภัยพี่ สิทธิ์ ถ้าความคิดเห็นของผมส่งผลถึงพี่

ผมลองมาคิดดูถ้าเป็นญาติของผมเองจะทำอย่างไร

ผมต้องลำบากใจแน่นอน

แต่สุดท้ายแล้วไม่มีใครหนีความจริงไปได้ ไม่วันใดก็วันนึง

จะทำอย่างไรเพื่อให้เค้าหยุด

เราคงทำทุกอย่าง

ถ้าจิตไม่เปิด ไม่ยอมรับ หรือยอมรับไม่ได้

นี่คือความเห็นผิด

ลูกขอบารมีพระพุทธองค์

เบิกบุญที่ลูกทำมาตั้งแต่ตนจนถึงปัจจุบัน

ส่งผลบุญให้เทวดาที่คุ้มครอง พี่เกสร ให้ร่วมอนุโมทนาบุญ

และโปรดดลบรรดาลให้จิตของ พี่เกสร

เปิดรับธรรมของพระพุทธองค์

โดยฉับพลันทันที

อาจารย์ อุบล ช่วยด้วย

สาธ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 01:14:59


ความคิดเห็นที่ 87 (1627460)

อ.อุบล

เคยทราบมาตั้งแต่แรกแล้ว

ว่า

ภรรยาเขาไม่เคยรู้

เรื่องความสัมพันธ์ของสามี

กับคุณเกสร

 

แต่เมื่อคุณสร

พยายามทำให้คุณสิทธิ์

ทำให้พี่น้อง และ ชาวบ้านสวน

เข้าใจว่า ภรรยา เขาเห็นดีด้วย

อ.อุบล ก็เลย ไม่พูดอะไร

ปล่อยไปตามกรรม

ของใครก็แล้วกัน

................................

ถ้าเป็นเช่นนี้ แสดงว่าพี่สรคนนี้

มาเหนือเมฆมากๆเลยนะคะ

คือทำผิดศีลข้อสามมานานแสนนาน

แม้กระทั่งพ่อแม่พี่น้องตัวเองแท้ๆ

ก็ยังไม่รู้เรื่องราวเบื้องลึกแบบจริงๆเลย

 

เพราะพี่เค้าสร้างภาพลวงๆ

คุมตัวเองอยู่ตลอดเวลา

 

 

ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงมาก

ที่พี่มหาจะไม่อาจรู้ถึงเบื้องลึก

ในจิตใจของพี่สรมากนัก

เผลอๆอาจจะรู้พฤติกรรมต่างๆ

อันยากจะ"รับได้"ของพี่สาวตนเอง

ที่ได้สร้างวีรกรรมไว้ในบ้านสวนฯ

พร้อมๆกับพวกเราทุกๆคน..ก็ได้


โห...คิดแล้ว บาดลึกในใจ

น้ำตาตกในเลยทีเดียว

 

ทำไมพี่สรใจร้ายกับน้องชาย

ของตัวเองได้ถึงเพียงนี้คะพี่

 

บอกตามตรงนะว่าถ้าเป็นชนิดา

ชนิดายังไม่รู้เลยว่า

จะคุมจิตตัวเองให้นิ่งและมั่นคงพอ

อย่างที่พี่มหาทำได้..อยู่ในขณะนี้ รึเปล่านะคะ 


แต่ก็อย่างว่านะคะ

คนตั้งใจจะไปนิพพาน

คงจะไม่มาหวั่นไหว

และเปลี่ยนเป้าหมายของตนไป

เพียงเพราะได้รับผลกระทบ

จาก"บาปกรรม"ที่คนอื่นสร้างไว้แน่ๆ


ถ้าที่ผ่านมาพี่มหาพยายามฉุดช่วยพี่สร

และทำมาดีที่สุดแล้ว

สุดท้ายก็ต้อง"อุเบกขา"ให้ได้นะคะ

เป็นกำลังใจให้พี่มหา

 

แล้วก็ยังหวังอยู่ว่า พี่เกสร

จะกลับตัวกลับขั้วหัวใจ

แล้วให้โอกาสตัวเอง

 

และที่สำคัญ กลับมาแก้ไขตัวเอง

และทำอะไรเพื่อพ่อแม่

พี่และน้องชายตัวเองบ้าง...นะพี่นะ

 

ขนาดการเป็นเมียน้อยคนอื่น

พี่ยังเคยกล้าหาญออกมา

ประกาศสิ่งที่แย่ที่สุดนี้ได้เลย

 

ฉะนั้น ก้าวออกมาอย่างกล้าหาญอีกครั้งนะคะพี่

กล้าทำ...ก็ต้องกล้ารับ


 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 04:08:42


ความคิดเห็นที่ 88 (1627483)

     พี่สรค่ะ  ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด

อย่างตัวหนูเอง  ก็ได้ทำผิดอย่างมหันต์ในบ้านสวน

ทำผิดต่อท่าน อ. อุบล ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่

หนูรู้ว่ามันทุกข์  ทรมานมาก  แต่ถ้าเรากล้าที่จะ

ยอมรับความจริง  แม้เราจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าอาย

ทำไมเราถึงทำแบบนี้ได้  ทำไมเราคิดแบบนี้

ถ้าพี่กล้าที่จะมองตัวเองแบบไม่ลำเอียง

  และนำความรู้สึกของพี่ทั้งหมด  มาตีแผ่ให้ทุกคนได้รับรู้

นั่นคือธรรมทานอันสูงสุด  เพราะทุกคนจะได้ศึกษา

ว่าทำไมพี่ถึงคิดเช่นนี้  ทำไมพี่ถึงทำเช่นนี้  ทุกคนก็จะได้

ระวังตัว  ระวังใจ  ไม่ให้ตกเป็นทาสแก่ฝ่ายมาร

พี่สรต้องตั้งสติ  รวบรวมกำลังใจทั้งหมด

เพื่อที่จะก้าวข้ามสิ่งนี้ไปให้ได้ นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 11:50:49


ความคิดเห็นที่ 89 (1627571)

ที่ อ.อุบล

ต้องมาทนเหน็ดเหนื่อย

ปากเปียก ปากแฉะ อยู่ทุกวันนี้

ก็เพราะ

อยากเห็นคนที่มีทุกข์

ได้มีโอกาสพบทางพ้นทุกข์

 

แต่

ผู้คนจำนวนมาก

ที่มีทุกข็ และ อยากพ้นทุกข์

ทั้งที่

มาหา อ.อุบล ที่บ้านสวน

และ

เกาะเวปไซด์

 

และ หรือ

ไม่ได้รับรู้เรื่องบ้านสวน

ก็ตามที

 

ก็ล้วนแล้วแต่

เป็นผู้มีความทุกข์

เป็นผู้อยากพ้นทุกข์ อยากมีสุข

 

แล้วก็ยังหาทาง

ดับทุกข์

ไม่ได้จริงๆ จังๆ แต่ก็ยัง

ไม่มีบางคน หรือ หลายคน

ที่

มีแต่ความอยาก

แต่

ไม่ลงมือปฏิบัติตาม

ทางพ้นทุกข์

แม้ว่า

จะเห็นผู้คนเขาทำกัน

เขาพ้นทุกข์กันได้จริงๆจังๆ

 

ป่วย

เขาก็หาย ก็ดีขึ้น

 

จน

เขาก็หลุด เขาก็เริ่มมีเงิน

มีสภาพคล่อง

บางคนได้เป็นก้อนใหญ่ๆ

หลายล้าน หลายสิบล้าน

 

บางคน

ก็พ้นทุกข์ทางใจ

ครอบครัว การงาน สังคม

เข้าถึงธรรม บรรลุธรรม

ก็มีให้เห็นอยู่

ไม่ใช่แค่ คน สองคน

 

แต่

เป็นแสน เป็นล้านคน

 

แต่

ในเมื่อ

มีแต่คนอยากพ้นทุกข์

แต่ไม่อยากปฎิบัติ

ตามคำสอน

ของ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ก็ไม่ใช่ธุระอะไร

ที่ อ.อุบล และ พวกเราทั้งหลาย

จะไปเดือดร้อน

 

ในเมื่อ

เจ้าตัวเขา

ทน

ความเดือดร้อนได้

ก็ให้เขาทนต่อไป ชีวิตใคร ชีวิตมัน

 

เราพ้นทุกข์ได้แล้ว

เราก็จะไม่หยุด ฉุดช่วยคน

ที่อยากพ้นทุกข์

แต่

เขายังไม่พบช่องทาง

เรามีหน้าที่ฉุดช่วย

คนเหล่านี้

ตะหาก

ล่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 10:17:39


ความคิดเห็นที่ 90 (1627578)

คนจำนวนมาก

ที่มีปัญหาชีวิต แล้วแก้ไม่ตก

ทั้งการงาน การเงิน ครอบครัว สังคม

ความสำเร็จในธรรม

 

โดย

ไม่เคยรู้ตัวเลยว่า

ตนเอง เป็นผู้ทำให้เกิด ปัญหาเหล่านี้

แล้วตัวเอง ก็ไม่เคยคิดแก้ไข

หรือไม่

ก็ไม่เคยเฉลียวใจว่า

อุปสรรค และ ปัญหา เหล่านี้

มีสาเหตุ มาจาก อะไร

กันแน่ แก้อย่างไร

 

และ

เมื่อ บ้านสวน ฯ

ได้บอก สาเหตุที่แท้จริง

ของปัญหา ก็กลับ ไม่เชื่อ

ไม่ลองทำตาม

ก็เลย ไม่เคย แก้ปัญหาได้ สักที

ทั้งที่ เกาะติด บ้านสวน

ทั้งเข้ามาเอง

 

บางคนเข้าเองไม่ได้

ขับรถผ่านด้านหน้า ก็เอา

โทร.เข้ามา หาช่าง หาคนในบ้านสวน

ก็ทำ

หาทางติดต่อ

กับคนสนิท ของ อ.อุบล

เสนอผลประโยชน์ให้ หลอกล่อ

ใช้เหลี่ยม ใช้อุบายทุกวิธี

 

บางคน

ก็ใช้ญาติพี่น้อง ที่ตนเอง

บังคับได้ ให้เข้ามาบ้านสวน

เพื่อมาหาข่าว สืบข่าว

ว่าตอนนี้ บ้านสวน ทำอะไร

มีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง

 

ใคร

ที่เป็นคนที่ อ.อุบล

ไว้วางใจ ตีสนิทได้ไหม

ถ้าได้ ก็ให้ทำ

 

ถ้าไม่ได้ จะได้ หาช่องทาง

กำจัด

คนเหล่านี้ ด้วยวิธีต่างๆ

เท่าที่สติปัญญา และ เงิน จะอำนวย

 

ทั้งที่รู้ว่า

ยิ่งทำ ก็ยิ่งซวย ตกต่ำ

ย่ำแย่ ยากจน ค่นแค้น แสนสาหัส

ก็ยังไม่ละความพยายาม

 

บางคน

หาข่าวในเวปไซด์

ศึกษา ว่า คนไหน มีบทบาท

อย่างไร แล้วเก็บข้อมูลไว้

ใช้งาน สนอง ความต้องการ

 

เห็นคนที่ทำอย่างนี้แล้ว

มีทั้งตาย มีทั้ง ฉิบหาย ล่มจม

แต่

ก็หลงตัวเองว่า

เราคงได้รับการยกเว้น

เราคงไม่เป็นอย่างพวกนั้นหรอก

เราเคยให้นั่น ทำบุญนี่

ไว้แล้ว อ.อุบล และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ต้องเกรงใจเราซี

 

นี่เขาเรียกว่า

ทำบุญเจือด้วยกิเลส

ที่พระพุทธเจ้า

ท่านว่า

เป็นการทำทาน ที่เลว

เพราะอารมณ์ใจ

เลว

 

ทำบุญ

เพื่อเอาไว้ทวงบุญคุณ

ไม่ได้ อยากได้บุญ

แต่

อยากได้บุญคุณ

อยากดัง

อยากให้คนเกรงใจ อยากเป็นใหญ่

อยากให้ใครๆ รู้ว่า ฉันทำบุญ

 

บุญ

มันจึงไม่ส่งผล

แต่

มันได้บาป ได้โทษ แทน

เหมือนที่

ผู้คนทั้งหลาย ที่ทำบุญกัน

แต่บุญไม่เคยส่งผล

หรือ

ไม่เคยพ้นทุกข์ หายเจ็บ หายจนเลย

ทั้งที่ดิ้นรน ไปทำทั่วทิศ

 

ดิ้นรนหา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ กระทั่ง

ตำหนักทรง รับขัน รับองค์

ทรงเจ้า เข้าผี พิธีกรรม นอกรีด

นอกรอย พระพุทธเจ้าไม่เคยสอน

แต่ก็ดิ้นรน ด้น ดั้น หากันเอง

 

แล้วชีวิต

ก็มีแต่เจ๊ง กับ เจ๊ง

ก็ยังคิดไม่เป็น คิดไม่ได้

ไม่เข็ด ไม่หลาบจำ

 

การมาบ้านสวน

ก็บอกไว้หมดแล้วว่า

ทำอย่างไร

จะเห็นผลบุญฉับพลันทันที

 

ทำอย่างไร

จะไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

 

แต่ก็ยังเลือก

ที่จะทำแบบ ไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

 

แปลก แต่จริง

 

เอ

หรือว่า ทำกัน

จนไม่แปลก แต่เป็นเรื่อง

ชาชินแล้วก็ไม่รู้

 

หรือ

ใครรู้ ช่วยบอกที

 

หรือ

ตัวท่านผู้อ่านเอง

มาด้วยอารมณ์แบบไหน

ช่วยบอกที

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 11:06:04


ความคิดเห็นที่ 91 (1627594)

ก็บอกไว้หมดแล้วว่า

ทำอย่างไร

จะเห็นผลบุญฉับพลันทันที

 

ทำอย่างไร

จะไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

 

แต่ก็ยังเลือก

ที่จะทำแบบ ไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

ผมเห็นบางคนก็เข้ามาบ้านสวนฯด้วยอัตตา และเต็มไปด้วยโรคภัย สารพัดทุกข์ อยากหายแต่ว่ามันละทิ้งสันดานเดิมๆไม่ได้ คือ มีภาพลักษณ์สูง ไม่อยากให้ใครด่าว่า มองตนเองไม่ดี ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคนที่มาบ้านสวนฯนั้นเขามาเพราะรู้ว่าตนเองไม่ดี ยังชั่วอยู่ และอยากเป็นคนดีถึงมาบ้านสวนฯกัน

พอเข้ามา ความอยากรวย อยากหายโรคอยากพ้นทุกข์ความอยากมันมีมาก แต่ว่ามันน้อยว่านิสัยเดิมๆที่ทำมาเป็นมา แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ คนเหล่านี้ที่ปากบอกว่าเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น "ไม่จริง" เพราะหากเชื่อจริงๆว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงเขาก็จะไม่ทำบาปเหล่านั้นเลย

แต่ที่ทำเพราะคงชั่งใจดีแล้วว่า ทำไปก็คงไม่มีไรเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย หากเขาเชื่อเรื่องบาป กลัวผลของบาป จะหยุดทันที ไม่คิดแม้จะทำเลย แต่นี่ยังกล้าทำ แสดงว่า "ไม่เชื่อบาปบุญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์" อืม...งั้นเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไรล่ะ เพราะบ้านสวนฯเขาเชื่อเรื่องสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนทั้งหมด ต่างกับคนเหล่านี้สิ้นเชิง

ก็คงหนีไม่พ้น หาแหล่งทำกิน เช่น หาลูกค้า หารายได้ ขยายตลาด เหงา เปลี่ยว อยากหาสาวกของตนเองโดยเริ่มจากสถานที่ได้รับการยอมรับแล้ว จะได้ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ แล้วค่อยๆไปเปิดสำนักตนเองต่อไป 555

หรือบางคนไม่ได้ศรัทธาหรอก แต่เข้ามาสืบข่าว หาความลับเพื่อคอยทำลายบ้านสวนฯ ไม่ว่าจะเกาะหน้าเวป ลงทุนปลอมตัวเข้ามาหาข้อมูล แต่มักลืมเก็บหาง เลยโดนผู้คนเดินผ่านไปมา เหยียบหาง ร้องเอ๋งๆจนความแตก 555

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 12:20:42


ความคิดเห็นที่ 92 (1627598)

ก็บอกไว้หมดแล้วว่า

ทำอย่างไร

จะเห็นผลบุญฉับพลันทันที

 

ทำอย่างไร

จะไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

 

แต่ก็ยังเลือก

ที่จะทำแบบ ไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

ผมเห็นบางคนก็เข้ามาบ้านสวนฯด้วยอัตตา และเต็มไปด้วยโรคภัย สารพัดทุกข์ อยากหายแต่ว่ามันละทิ้งสันดานเดิมๆไม่ได้ คือ มีภาพลักษณ์สูง ไม่อยากให้ใครด่าว่า มองตนเองไม่ดี ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคนที่มาบ้านสวนฯนั้นเขามาเพราะรู้ว่าตนเองไม่ดี ยังชั่วอยู่ และอยากเป็นคนดีถึงมาบ้านสวนฯกัน

พอเข้ามา ความอยากรวย อยากหายโรคอยากพ้นทุกข์ความอยากมันมีมาก แต่ว่ามันน้อยว่านิสัยเดิมๆที่ทำมาเป็นมา แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ คนเหล่านี้ที่ปากบอกว่าเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น "ไม่จริง" เพราะหากเชื่อจริงๆว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงเขาก็จะไม่ทำบาปเหล่านั้นเลย

แต่ที่ทำเพราะคงชั่งใจดีแล้วว่า ทำไปก็คงไม่มีไรเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย หากเขาเชื่อเรื่องบาป กลัวผลของบาป จะหยุดทันที ไม่คิดแม้จะทำเลย แต่นี่ยังกล้าทำ แสดงว่า "ไม่เชื่อบาปบุญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์" อืม...งั้นเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไรล่ะ เพราะบ้านสวนฯเขาเชื่อเรื่องสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนทั้งหมด ต่างกับคนเหล่านี้สิ้นเชิง

ก็คงหนีไม่พ้น หาแหล่งทำกิน เช่น หาลูกค้า หารายได้ ขยายตลาด เหงา เปลี่ยว อยากหาสาวกของตนเองโดยเริ่มจากสถานที่ได้รับการยอมรับแล้ว จะได้ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ แล้วค่อยๆไปเปิดสำนักตนเองต่อไป 555

หรือบางคนไม่ได้ศรัทธาหรอก แต่เข้ามาสืบข่าว หาความลับเพื่อคอยทำลายบ้านสวนฯ ไม่ว่าจะเกาะหน้าเวป ลงทุนปลอมตัวเข้ามาหาข้อมูล แต่มักลืมเก็บหาง เลยโดนผู้คนเดินผ่านไปมา เหยียบหาง ร้องเอ๋งๆจนความแตก 555

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 12:25:59


ความคิดเห็นที่ 93 (1627617)

 น่าเสียดายสำหรับบางคน

ที่ได้พบเจอสถานที่ ที่สามารถสร้างบุญอันยิ่งใหญ่

ให้แก่ตนเองพ้นทุกข์ได้

ซึ่งบางคนเขายังค้นไม่พบ

ยังต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่รู้หาทางออกอย่างไร

ให้กับชีวิต

แต่คนที่เจอแล้ว กลับทำบาปเสียนี่

แล้วบาปนี้ มันมีผลทวีคูณ มากกว่าไปทำในที่อื่น

ตัวอย่างก็มีให้เห็น อยู่เนื่อง ๆ ว่าผลมันเป็นอย่างไร

คนที่จะไปบ้านสวนฯ ก็คงยกสติ ตั้งไว้บนหัวมั้ง

ก่อนไปต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า

จะไปบ้านสวนฯ เพื่ออะไร

ถ้าสติยังไม่มี ปัญญาัยังไม่เกิด

ก็อย่าไปเลย แทนที่จะได้บุญ คุณอาจจะได้บาปมาแทน

อ. อุบลก็ต้องตามแก้ปัญหา

แทนที่จะมีเวลา ไปช่วยผู้สมควรพ้นทุกข์ ให้พบกับความสุข

ผู้แสดงความคิดเห็น เยาวลักษณ์ เกิดมีทรัพย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 13:33:05


ความคิดเห็นที่ 94 (1627722)

แต่ก็ยังเลือก

ที่จะทำแบบ ไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

 

แปลก แต่จริง

 

เอ

หรือว่า ทำกัน

จนไม่แปลก แต่เป็นเรื่อง

ชาชินแล้วก็ไม่รู้

 

หรือ

ใครรู้ ช่วยบอกที

 

หรือ

ตัวท่านผู้อ่านเอง

มาด้วยอารมณ์แบบไหน

ช่วยบอกที

...................................

ขอใช้"ความไม่รู้"ตอบนะคะ

เพราะถนั๊ดถนัด

และมีอยู่ในตัวเยอค่ะอาจารย์

สำหรับ"ความหลง"หรือ"ความไม่รู้"....เนี่ย

 

คือก่อนพบบ้านสวนฯ

ชนิดาก็เคยเป็นคนนึง

ที่ทำบุญเจือด้วยความอยากทุกครั้ง

 

ประมาณว่าทำสังฆทาน1ถัง

อธิษฐานขอเป็นสิบเรื่อง

และคิดเสมอว่าเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่มหาศาล

ที่จะทำให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย

ยอมรับและอโหสิกรรมให้เรา

โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ

 

หึ หึ แต่ในความเป็นจริงแล้ว

จิตที่ทำทานนั้นก็ใช่จะบริสุทธิ์

เงินที่นำไปทำบุญนั้นก็ใช่จะบริสุทธิ์

ส่วนเนื้อนาบุญก็ดูยากจริงๆ ค่ะ

 

ฉะนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า

ที่ไม่พ้นทุกข์ซักทีนั้น

เพราะทำบุญแบบส่งเดช

และไม่เคยไปแก้ที่สาเหตุ

ของทุกข์จริงๆเลย แม้แต่ครั้งเดียว


พอพบบ้านสวนฯแล้ว

ได้รู้ถึงการทำบุญที่เห็นผล

โดยฉับพลันทันที

 

แต่จิตที่เคยผิดปรกติมาช้านาน

ก็ยังทำบุญเจือด้วยความงก

และความอยากอยู่บ้าง

 

ฉะนั้น ก็ได้รับบุญไปตามอัตรา

ของความบริสุทธิ์ของจิต

 

แต่ก็ยังโชคดีที่ได้ฟังคำสอนจากท่านอาจารย์

และตาเริ่มสว่าง ถึงได้รู้ว่าแน่ชัดว่า

จะพ้นทุกข์ทั้งหมดได้ ต้องรู้ถึงสาเหตุของมัน

และไม่กลับไปทำเรื่องเลวๆเหล่านั้นอีก...

 

สรุปว่า ตอนแรกที่เกาะติดเว็บบ้านสวนฯนั้น

ทำบุญก็ยังเจือด้วยความอยากอยู่มาก

เพราะอยากทุกอย่างเลยค่ะ

ทั้งอยากหายป่วย อยากรวย

อยากสวยด้วย(น่านนนน)

 

แล้วพอไปบ้านสวนฯ กิเลสมันทำตัวเนียนๆนะ

คิดว่าตัวเองไม่ได้อยากอะไร

แต่หารู้ไม่ว่า จริงๆแล้วก็ยังทำอะไร

ที่เจือด้วยความอยากอยู่ดี

(อยากเด่น อยากเหนือใคร อยากเป็นที่รัก ฯลฯ)

 

ฉะนั้น ผลบุญที่ได้ จึงไม่เต็มใบ

ก็ต้องมาฝึกจิตฝึกใจตัวเองใหม่

และให้รู้เท่าทันความคิด

ความรู้สึกของตัวเองให้ได้

ถ้าตามทันก็ไม่ทุกข์

แต่ถ้าตามไม่ทัน ก็"ทุกข์"ไปตามระเบียบ  


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 04:50:53


ความคิดเห็นที่ 95 (1627804)

ขอยอมรับว่า โง่ค่ะ ไม่เคยรู้ถึงอานิสงค์ของการทำบุญว่า ทำบุญแบบไหน อย่างไร กับใคร บุญที่ทำนั้นถึงส่งผลทั้งตอนมีชีวิตอยู่ และหลังความตาย และผลของการละเมิดศีล 5จะมีผลต่อชีวิตของเรา ณ ตอนมีลมหายใจอย่างไร หลังความตายนั้นไม่ต้องคิดเลย เพราะไม่เคยมีบุคคลที่เรารู้จักที่ตายไปแล้ว กลับมาบอกหรือมาเข้าฝัน ว่านรก มีจริงๆ

การทำบุญ ก็ทำตามๆคนอื่นตามประเพณี ตามโอกาส ฟังพระเทศน์ รับศีลรับพร กรวดน้ำ หลังพระฉันข้าวเสร็จ ก็กลับบ้าน แถมแย่งกันเอาข้าวของติดมือกลับด้วย ไปกี่วัดๆก็แบบนี้ ไม่มีพระสงฆ์แสดงธรรมะ แบบที่ท่านอ.แม่อุบลบอกเลยว่า การละเมิดศีลแต่ละข้อจะส่งผลในด้านใดบ้าง เอ...ชักสงสัย หรือพระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่รู้ เลยบอกญาติโยมไม่ถูก และเพราะไม่เคยรู้ธรรมที่แท้จริงนี่แหละ ถึงได้จน ได้ทุกข์สารพัด

หากไม่เพราะ มีบ้านสวนฯ ไม่ได้รับเมตตาอันยิ่งใหญ่จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากท่านอ.แม่อบล ป่านนี้คงเพลิดเพลินกับการก่อกรรมไม่หยุด ไม่มีทางคิดได้เอง เพราะคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ผิดใครๆก็เป็นก็ทำ

มาด้วยความอยากกกกก.... เต็มพุงเลยค่ะท่านอ.แม่ สารพัดอยาก อยากพ้นทุกข์แต่ขี้เกียจฝึกจิตบังคับใจ อยากสวยอยากมีตังค์แต่ไม่ตั้งใจรักษาศีลทำทาน อยากมีความสุขแต่ดันหาแต่ทุกข์ใส่ตัว ตั้งแต่มาบ้านสวนฯ ความอยากเหล่านั้นแม้มันยังอยู่ แต่ก็เบาลงไปมาก ทั้งที่เมื่อก่อนความอยากเหล่านี้มีแต่จะมากขึ้นๆ  เริ่มหันมาพิจารณาตัวเองมากขึ้น แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ และตั้งใจจะทำให้ดีขึ้นทุกวัน

 

แต่ก็ยังเลือก

ที่จะทำแบบ ไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

 

แปลก แต่จริง

 

เอ

หรือว่า ทำกัน

จนไม่แปลก แต่เป็นเรื่อง

ชาชินแล้วก็ไม่รู้

 

หรือ

ใครรู้ ช่วยบอกที

 

หรือ

ตัวท่านผู้อ่านเอง

มาด้วยอารมณ์แบบไหน

ช่วยบอกที

...................................

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 19:02:06


ความคิดเห็นที่ 96 (1627818)

หรือบางคนไม่ได้ศรัทธาหรอก

แต่เข้ามาสืบข่าว

หาความลับเพื่อคอยทำลายบ้านสวนฯ

ไม่ว่าจะเกาะหน้าเวป ลงทุนปลอมตัวเข้ามาหาข้อมูล

แต่มักลืมเก็บหาง เลยโดนผู้คนเดินผ่านไปมา

 เหยียบหาง ร้องเอ๋งๆ

จนความแตก 555

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 12:25:59

 

อ่านเจอบทความของ

พ่อใหญ่ธนา

ต้องนั่งขำซะก่อน ถึงจะอ่านอย่างอื่น

คิดได้ไงเนี่ยพ่อใหญ่

โดนคน

เดินผ่านไปผ่านมา

เหยียบหาง

จนร้องเอ๋งๆ จนความแตก

เนี่ย

555

 

************

เดี๋ยวเราต้องไปสำรวจ

หาง

เจ้าบิ๊ก เจ้าแบ๊ง และหลานๆ

ซะหน่อย ออกมากัน

อีก 9 หน่อ

แน่ะ

 

ลูกคุณเลดี้ 6

คุณแบล๊คลี่ 3

ตั้งฟาร์มได้เลยนะเนี่ย

 

แต่ไม่รู้

หางยังอยู่รึป่าว

เดี๋ยวไปดูก่อนนะพ่อใหญ่ธนา

555 555 555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 20:20:50


ความคิดเห็นที่ 97 (1627859)

 

แต่ก็ยังเลือก

ที่จะทำแบบ ไม่หาย ไม่เห็นผลบุญ

 

แปลก แต่จริง

 

เอ

หรือว่า ทำกัน

จนไม่แปลก แต่เป็นเรื่อง

ชาชินแล้วก็ไม่รู้

 

หรือ

ใครรู้ ช่วยบอกที

 

หรือ

ตัวท่านผู้อ่านเอง

มาด้วยอารมณ์แบบไหน

ช่วยบอกที

...................................

 เป็นคนหนึ่งที่เวลาไปทำบุญก็มักจะขอโน่นนี้นั้นตลอดคะ  และไม่เคยสำรวจตนเองว่าการที่เราทำแบบนั้นเป็นเพราะเราปล่อยให้ความโลภนำหน้าตลอดเวลาและคิดว่ามันสิ่งที่เราจะต้องทำหลังจากทำบุญเสร็จทุกครั้งไป

นอกจากนี้ในทุกครั้งที่ทำบุญเสร็จก็จะอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรโดยประดิษฐ์คำพูดสวยหรู

คือ

ได้แต่อุทิศบุญตามธรรมเนียมปฏิบัติแต่จิตมิได้สำนึกหรือละอายกับสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไปทำให้ไม่เคยแม้แต่จะขอขมากับเจ้ากรรมนายเวรแต่อย่างไรคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 22:53:53


ความคิดเห็นที่ 98 (1627874)

เดี๋ยวเราต้องไปสำรวจ

หาง

เจ้าบิ๊ก เจ้าแบ๊ง และหลานๆ

ซะหน่อย ออกมากัน

อีก 9 หน่อ

แน่ะ

 

ลูกคุณเลดี้ 6

คุณแบล๊คลี่ 3

ตั้งฟาร์มได้เลยนะเนี่ย

................................

อิอิ แม้แต่จำนวนลูกแมวในบ้านสวนฯ

ยังลงด้วย ตัวเลข

รหัสแก้กรรมเลยนะคะอาจารย์

โห...คุณแบ๊งค์ เจ๋งอ่ะ ผลิตลูก(แมว)บ้านสวนฯ

ได้9ตัว พอดี๊ พอดี...

 

 

สงสัยพ่อใหญ่ธนาจะได้แรงบันดาลใจ

มาเขียนเรื่อง"หางๆ"

เพราะมองเห็น"หาง"ของน้องๆแมวเหมียว

ในบ้านสวนฯบ่อยๆ แน่ๆเลย ฮ่า ฮ่า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-05 04:31:42


ความคิดเห็นที่ 99 (1628354)

ขอร่วมอนุโมทนากับทุกธรรมทานด้วยครับ

อาจารย์อุบลต้องมาเสียเวลากับเรื่องที่ไม่ควรเกิด เสียเวลากับเรื่องจุกจิกกวนใจมากเหลือเกิน ผมก็เป็นคนโง่การแสดงความคิดอาจจะไม่สมควร ขอยกเอาธรรมทานของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาร่วมด้วยส่วนหนึ่ง

"สำหรับพวกเราก็เหมือนกัน ถ้าจะแสดงเมตตาจิต ก็ดูเสียก่อนว่าคนประเภทนั้นเราควรจะเมตตาไหม ถ้าเห็นว่าแนะนำแล้วไม่ได้ผล ก็จงอย่าสงเคราะห์คนประเภทนั้น หลีกไปเสีย อย่างพระพุทธเจ้าทรงหลีก ตัวอย่างก็มี อุปกาชีวก เป็นต้น เขาพบองค์สมเด็จพระบรมสุคต ไม่เชื่อพระสัพพัญญู สมเด็จพระบรมครูก็ไม่ทรงสั่งสอน นี่ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ใครไปใครมาก็เมตตาเสียดะ เมตตาโง่ ๆ แบบนั้นน่ะจะสร้างความเดือดร้อน เหมือนกับเราจะให้ของเขาเขาไม่รับ ไปให้เขาทำไม ไม่ต้องไปอ้อนวอน ไม่ต้องไปแค่นเขาให้รับ
และอีกประการหนึ่ง วัดเรากำหนดระเบียบวินัยเป็นของสำคัญ จงอย่าเมตตาคนเกินกว่าระเบียบวินัย ดูตัวอย่างองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดามีพระมหากรุณาไม่มีขอบเขต แต่องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ก็วางวินัยไว้ลงโทษพระลงโทษเณร ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าถ้าไม่มีระเบียบวินัย คนนั้นเราเมตตาไม่ได้ เพราะเป็นคนเลว พระพุทธเจ้าทรงวางวินัยไว้กี่พันข้อ ๒๒๗ ข้อนี่มันยังไม่หมด ยังมีส่วนอภิสมาจารบ้าง ยังมีส่วนธรรมะบ้าง ที่พระองค์ทรงห้าม นี่เป็นอันว่าพระพุทธเจ้ามีพระมหากรุณาธิคุณก็จริงแหล่ แต่ทว่าทรงเลือกเอาแต่เฉพาะคนดีเท่านั้น ไม่ใช่เลวก็ทำ นี่เมตตาของเราเหมือนกัน ใครจะมาจากไหนก็ช่าง จะมียศฐาน์บรรดาศักดิ์ฐานะเช่นใดก็ช่าง ถ้าผิดระเบียบวินัย อันนี้เราจงถือว่านั่นเขาเป็นคนเลว ไม่ควรแก่การเมตตา จำไว้ให้ดีนะ แม้แต่พระก็เหมือนกัน พระที่บวชอยู่พรรษานี้นะบางองค์ก็ลืมตัวไปก็มี จงระวังให้ดีนะว่าเราเป็นพระ ถ้าหากว่าผิดพระธรรมวินัยเกินไป ผมก็จะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงขับพระวักกลิได้ฉันใด ผมก็จะขับทั้งพระทั้งคนที่ไม่รักระเบียบวินัยเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าเหมือนกัน
นี่เป็นอันว่าเมตตาเราต้องมีขอบเขต คือ เมตตาเฉพาะคนดี ไม่ใช่ไปเมตตาคนเลว ไอ้คนเลวถ้าหากว่าจะดีได้เราเมตตาได้ ถ้าอย่างพวกเราที่อยู่ในที่นี้รับฟังกันอยู่ตลอดเวลายังเลวได้ละก็ ไม่ต้องเมตตาแล้ว คำสั่งคำเดียว คือ ไปจากที่นี่ แล้วก็ต้องไปทันที เพราะการที่จะติดตามคำสั่งสอนกันไม่มีแล้ว นี่เป็นอันว่าขอบเขตของการเมตตาปรานีนี่มีอยู่ ไม่ใช่สักแต่ว่าเมตตา ใครจะมาจากไหนก็ช่างในเมื่อเข้ามาในขอบเขตนี้จะต้องอยู่ในระเบียบทุกอิริยาบท จะถือว่าเป็นแขกมาไม่รู้ไม่ได้ ถ้าคนดีนี่เขาต้องเคารพในระเบียบวินัยของสถานที่ จะถือว่าอยู่ที่บ้านฉัน ฉันไม่ได้ทำอย่างนี้ ที่โน่นไม่ได้ทำอย่างนั้น นั่นมันที่อื่นไม่ใช่ที่นี่ ถ้าคนไม่รักระเบียบวินัยจงอย่าปรานี ช่วยกันจัดการไปให้พ้นทันที โดยไม่ต้องบอกผมก็ได้ แล้วคนประเภทนี้เป็นคนเลว
และอีกประการหนึ่ง คนพูดมากปากพล่อยทำลายศรัทธาของคน พระก็มี คนก็เหมือนกัน มีบ้างไหมพระของเรา มีปากเลว ๆ ไม่ได้ใช้ปัญญา คือ พูดก่อนคิด ใครเขาทำอะไรผิด ใครเขาทำอะไรถูก ต้องคิดว่าถ้าเขาทำด้วยเจตนาดีอันนี้เราควรให้อภัยการพลั้งพลาดเป็นของธรรมดา การมีความรู้สึกให้อภัยซึ่งกันและกัน รู้สึกสงสารในการพลั้งพลาด ทั้ง ๆ ที่เขาทำด้วยเจตนาดี แต่ว่ามันผิดไปบ้าง อันนี้เราก็ต้องมีจิตให้อภัย อย่างดีที่สุดก็ควรจะปลอบกำลังใจว่าเราทำผิดไปแล้ว วันหน้าความดียังมีอยู่ เพราะเราเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระบรมครู เราก็ควรจะยับยั้งตนใช้ปัญญาเสียใหม่ สำหรับวันนี้เราก็คงจะได้กันแต่เพียงขอบเขตของการเมตตาเท่านั้น ความจริงแล้วละก็เรื่องเมตตานี่ไม่ต้องสอนกันก็ได้ แต่ว่าไม่สอนก็เห็นจะไม่ไหว เพราะว่าทั้งเก่าทั้งใหม่ มอง ๆ ดูแล้วบางท่านก็แสนดี แต่บางคนอยู่กับผมมาตั้ง ๑๐ ปี ก็ยังเอาดีไม่ได้ก็มี"
ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-08 10:14:06


ความคิดเห็นที่ 100 (1631812)

 ลูกกราบขอบพระคุณสำหรับคำตอบให้ลูกกระจ่างใจค่ะท่านอาจารย์

 

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-01 11:02:40



[1] 2 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.