ReadyPlanet.com


อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ ของบุญธรรมทาน ทานสูงสุด ที่ต้องเร่งทำทันที


 ทาน

มีหลายชนิด ทั้งสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน อภัยทาน

ธรรมทาน เป็นทานสูงสุด ถ้าไม่นับอภัยทาน ซึ่งอภัยทานต้องใช้กำลังใจอย่างเดียว แต่ ทานอื่นๆนอกนั้น ต้องใช้ ปัจจัย สิ่งของ กำลังใจ ดังนั้นอานิสงส์ของทาน จึงมากน้อย ต่างกัน ตามเจตนาและ กำลังใจ ทานที่ใช้สิ่งของ ใช้เงิน ไม่ต้องใช้กำลังใจมาก จึงได้บุญน้อยที่สุด ในบรรดา ทานที่ยกตัวอย่างมา สำหรับวิหารทาน ได้ 100 เท่าของสังฆทาน ส่วนธรรมทาน เป็นทานที่ไม่ต้องลงทุน หรือลงก็ไม่มาก แต่ใช้กำลังใจสูงมาก จึงได้บุญ เป็นร้อยเท่าของ วิหารทาน คนในสังคมส่วนใหญ่ทำกันมากแต่สังฆทาน ทานบุคคล ส่วนวิหารทานก็มี แต่น้อยกว่า ยิ่งธรรมทานด้วยแล้ว แทบจะน้อยเต็มทน ส่วนหนึ่งเพราะไม่รู้อานิสงส์ แต่บางคนรู้ทั้งรู้แต่ทำไม่ได้ เพราะมีเจ้ากรรมคอยสกัดกั้น  กรรมที่ผิดศีลมามาก จะดลใจไม่ให้สร้างบุญทานที่สูงสุดได้ เพราะ ถ้าเราทำได้ เราจะพ้นทุกข์ เขาไม่อยากให้เราพ้น เขาจึงคอยหาเหตุดลบันดาลให้เรา สร้างบุญธรรมทานไม่ได้ บางคนนอกจากไม่สร้างธรรมทานแล้ว  ยังสร้างกรรมทานอีก คือให้อกุศลกรรมเป็นทาน  หรือ เผยแพร่สิ่งไม่ดี สิ่งที่เป็นความชั่ว พาตัวให้ตกต่ำลงร่ำไป อันนี้ เพราะ มีสิ่งที่บังคับกระแสจิตได้ จิตของตัวเขาหมดอิสรภาพในการต่อสู้กับ อธรรมเสียแล้ว ดังนั้น ผู้ที่ยังสร้างธรรมทานได้อยู่ พึงรีบสร้างสมให้เร็ว ก่อนที่กรรมเก่า จะไล่ล่าทัน ก่อนจะไม่มีโอกาสได้ทำ

มีต่อเรื่องอานิสงส์ของบุญการสร้างธรรมทานค่ะ เชิญร่วมแสดงความเห็นค่ะ และเล่าประสบการณ์การสร้างธรรมทาน ที่ทำมาแล้วค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-08-09 21:32:18


[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (1623418)

 ธรรมทาน คือ อะไร

ธรรมะ คือ ธรรมชาติ หรือ กฎแห่งกรรม กฏแห่งธรรมชาติ หรือ พระธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

ทาน คือ การให้ ดังนั้น ธรรมทาน จึงแปลรวมกันว่า การให้ธรรมะ เป็นทาน ซึ่งชนะการให้ทั้งปวง ส่วนอานิสงส์หรือ ผลที่่จะได้รับ จากการสร้างบุญธรรมทาน มีดังนี้

1.พ่อ-แม่ จะอายุยืน    

2.บุตรจะเฉลียวฉลาด เจริญรุ่งเรือง    

3.กรรมเวรจากอดีตชาติจะได้ลบล้าง    

4.โรคภัยไข้เจ็บจากเจ้ากรรมนายเวรจะพ้นไป

5.ผิวพรรณจะผ่องใส มีราศรี สิว ฝ้า กระ จะค่อยจางหายไป    

6.ลูกหลานที่เกเร จะเปลี่ยนเป็นคนดี    

7.วิญญาณทุกข์ของบรรพบุรุษจะพ้นจากการถูกทรมานไปสู่สุคติ

8.หนี้เวรจะได้คลี่คลาย พ้นจากทะเลทุกข์    

9.สุขภาพร่างกายจะแข็งแรงขึ้น โรคภัยไข้เจ็บที่เป็นมานาน จะบันเทา จะหายได้     

10.กิจการงานจะราบรื่น 

11.จะมีความสุขขึ้นทุกด้าน ทั้งทางกาย ทางใจ จะประสบแต่โชคลาภตลอดไป    

12.สามีภรรยา ที่แตกแยกกัน จะคืนดีกัน

13.วิญญาณของเด็กที่ถูกทำแท้ง หรือ มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง จะได้ไปเกิดใหม่ ไม่จองเวร ถูกปลดปล่อย    

14.จะมีปัญญา ดวงตาเห็นธรรมได้ง่ายขึ้น

15.ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงิน    

16.ทำให้เกิดโชคลาภอย่างอัศจรรย์ หลังจากที่ติดขัดมายาวนาน  

17.ทำให้สมองปลอดโปร่งแจ่มใส ไม่อาฆาตรแค้น

18.ทำให้ก้าวขึ้นไปสู่ทานสูงสุด คือ อภัยทาน ได้โดยง่าย  

19.ทำให้หลุดพ้นจากบาปกรรมทั้งปวงได้ง่าย และเร็วขึ้น มีโอกาสได้เป็นพระอริยเจ้าได้ง่ายและเร็วขึ้น

ดังนั้น ธรรมทาน จึงเป็นสิ่งที่หลายคนทำไม่ได้ ด้วยกำลังใจถูกตัดรอนด้วยบาป อกุศลเดิม ถ้าจิใจเข้มแข็งจริงๆ มีบญหนุนจริงก็จึงจะทำบุญธรรมทานได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-09 21:49:34


ความคิดเห็นที่ 2 (1623419)
ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-09 21:53:08


ความคิดเห็นที่ 3 (1623422)

 อนุโมทนาค่ะ คุณอ้อย เดี๋ยวนี้ เป็นเจ้าแม่ธรรมทาน

แล้วก็เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีิวิตจริงๆ ทำให้เรามั่นใจว่า

บุญ เป็นสิ่งจับต้องได้ ไม่ใช่เป็นแค่คำสอน แต่ไม่เคยเห็นผลบุญได้จริงเลย เพราะว่าเมื่อก่อน

เราทำบุญกันไม่เป็น สักแต่ว่าทำ แต่สร้างกรรม ตั้งอกตั้งใจสร้าง โกรธแค้นเคืองใคร ตั้งใจเอาคืนให้ได้

ถ้าเราวางแผนการสร้างบุญ เหมือนวางแผนทำความชั่ว ป่านนี้ชีวิตพวกเราคงไปนิพพานกันแล้ว

ยิ่งบุญธรรมทาน นี่ยิ่งหนักเลย แต่ก่อน อายที่จะเล่าเรื่องชั่วของตัวเอง อยากให้คนมองว่าเราดี ทั้งที่เราก็รู้เต็มอก

ว่าตัวเราเลวขนาดไหน ยังจะหลอกตัวเอง หลอกใครต่อใคร คิดดูเถอะใจเรา แล้วจะเอาความเจริญรุ่งเรืองมาจากไหน แค่คิดก็ผิดแล้ว

ทุกข์แล้ว นี่แหละ พระธรรมอันงดงามของพระพุทธเจ้า ที่อยู่แต่ในพระไตรปิฎก ไม่ได้อยู่ในกมลสันดานเราเลย

เราคิดว่าเราฉลาด รู้ธรรมะ ที่จริงรู้แต่ทฤษฎี แต่ไม่นำมาปฎิบัติ แถมไอ้ที่รู้ก็แค่หางอึ่ง แต่ทนงตนว่ารู้เยอะ ขำจริงๆ ชีวิต

โชคดีที่คุณอ้อย ผ่าน ก้าวข้ามอัตตา อันขวางทางนิพพานมาได้ก้าวหนึ่งแล้ว อ้อ ไม่ใช่ก้าวหนึ่งซินะ ถ้าขยันสร้างธรรมทานขนาดนี้ รับรอง คุณอ้อยไปไกลแน่นอน สาธุ

ค่ะคุณอ้อย คนสวย รวย ฉลาด

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-09 22:02:33


ความคิดเห็นที่ 4 (1623423)

 ขอบคุณ คุณก๊อต ค่ะ ที่ช่วยขยายตัวอักษร

ขอตัวใหญ่กว่านี้ได้ไหมคะ และ ยังอยากถามคุณก๊อตเรื่อง

พระศรีอาริย์อยู่นะ ว่า ตอนนี้ ยังเห็นพระองค์ท่านอีกไหม

เอ หรือ เรามาถามผิดกระทู้นะเนี่ย

ไปคุยที่กระทู้พระศรีอาริย์ก็ได้จ้า คุณก๊อต ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-09 22:04:57


ความคิดเห็นที่ 5 (1623429)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ครับ

เมื่อก่อนผมก็ไม่กล้าเขียนธรรมทานครับ

เพราะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร

เขิน อาย กลัวคนอื่นจะรู้ว่าเราภูมิธรรมน้อย

เดี๋ยวเขียนไปแล้วไม่น่าอ่าน สำนวนไม่ไพเราะ

แต่พอได้เริ่มเขียน ผิดบ้างถูกบ้าง

และท่านอาจารย์ก็ได้แนะนำสิ่งที่เราขาดตกบกพร่อง

ผมก็เอาพิจารณาปรับปรุง เดี๋ยวนี้ก็เขียนออกมาจากความรู้สึก

ภาษาเข้าใจง่าย เนื้อๆไม่ต้องน้ำ และก้าวข้ามความเขินอายไปแล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-09 22:23:00


ความคิดเห็นที่ 6 (1623436)

 

โชคดีที่คุณอ้อย ผ่าน ก้าวข้ามอัตตา อันขวางทางนิพพานมาได้ก้าวหนึ่งแล้ว อ้อ ไม่ใช่ก้าวหนึ่งซินะ ถ้าขยันสร้างธรรมทานขนาดนี้ รับรอง คุณอ้อยไปไกลแน่นอน สาธุ

**********************

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ให้กำลังใจค่ะ

ตอนนี้เรื่องก้าวข้ามอัตตา

น่าจะเป็นแค่ก้าวแรกค่ะ

ยังค่อนข้างเอาแต่ใจ

เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นหลักอยู่

ยังมีตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกๆเรื่องอยู่ 

ยังก้าวข้ามไม่พ้นเรื่องตัวเอง 

เลยทำให้ไม่ได้

ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่ควร

ก็พยายามอยู่ค่ะ

  แต่ก็เชื่อมั่นว่า

ตราบใดยังมาทำบุญที่บ้านสวนฯ

พยายามทำตามคำสอนของอาจารย์

อยู่ในสายตาของอาจารย์ 

ถ้าจะออกนอกลู่นอกทาง 

 ท่านอาจารย์คงช่วยตบ

กลับมาให้อยู่ในเส้นทางได้

แต่สังหรณ์จังเลยว่า

บททดสอบเกี่ยวกับอีโก้

  อัตตาตัวตนกำลังจะเข้ามา

ให้อ้อยพิสูจน์ตัวเอง

สาธุ  ขอเบาๆหน่อยนะคะ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-09 22:46:57


ความคิดเห็นที่ 7 (1623437)

 ที่คนส่วนใหญ่ ไม่กล้าเขียนธรรมทาน

เพราะคิดว่า ตัวเอง ต้องเอาธรรมะพระพุทธเจ้าไปเที่ยวสั่งสอนคนอื่น

อันนี้เข้าใจผิดถนัด ศาสดา แปลว่า ครู มีพระพุทธเจ้า เท่านั้น ที่มีสิทธิ์ใช้ธรรมะสั่งสอนคน เพราะท่านเป็น

จอมอรหันต์ เป็นยอดสรรพัญญู เป็นผู้ตรัสรู้ดี ตรัสรู้ชอบ ด้วยพระองค์เอง เป็นผู้บรรลุธรรมแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบแล้ว

แต่เรา ยังมีความเลวอยู่ ดังนั้น เราจะเอาอะไรไปสอนใครเขาได้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ที่ทุกคนจะไม่ต้องกลัวผิดพลาดเลย

คือเล่าเรื่องของตัวเอง เรื่องไม่ดี ที่เคยผิดพลาดมา แล้วต้องได้รับทุกข์อย่างไร ปัจจุบัน มีปัญหาอะไรบ้าง 

เช่นป่วย เจ็บ ปวด ร่างกาย ตรงไหนบ้าง มีปัญหาการเงิน อย่างไร การงาน ครอบครัวลูก สามี ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง

หรือปัญหา   ความสำเร็จในธรรม นั่งสมาธิได้หรือไม่ได้ นิสัยเป็นอย่างไร ละ เลิกโกรธได้แล้วหรือยัง วันนี้ทำผิดพลาดอะไร

นี่แหละ เรียกว่าธรรมทาน ไม่ใช่ว่า ต้องทำตัวเป็นคนดี ไปสั่งสอนใคร บางคน อ้างว่าตัวเองยังไม่ดี จะเขียนธรรมทานได้อย่างไร ก็บอกตั้ง

แสนครั้งแล้ว ว่า ให้เขียนเรื่องตัวเอง ตั้งแต่เกิด จนถึงเดี๋ยวนี้ ถ้านึกไม่ออก ก็น่าจะไปลาหมาแกตายได้แล้วนะ แล้วเรื่องไม่ดีน่ี่มันมีทุกวันแหละ

ทั้งกายกรรม วจีกรรม  มโนกรรม หรือถ้าอยากเล่าเรื่องดี ก็มีให้เขียน วันนี้ใช้จี้ช่วยใคร ผลเป็นอย่างไร บอกรหัสใคร กี่คน เขาตอบรับอย่างไร ฯลฯ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-09 22:48:02


ความคิดเห็นที่ 8 (1623462)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ครับ

สิ่งที่ท่านอาจารย์พร่ำสอนให้เราทำ

ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงสมัยยังเป็นนักเรียนครับ

พอคะแนนสอบจะผ่านไม่ผ่านแหล่

คุณครูจะคอยช่วยทุกวิถีทาง ทั้งให้ส่งรายงาน

ส่งการบ้าน ดูชั่วโมงเรียน เพิ่มคะแนนจิตพิสัย

ทุกอย่างที่เป็นคะแนนได้

เพื่อให้ลูกศิษย์มีคะแนนผ่านวิชานั้นไปให้ได้

เหมือนกับที่ท่านอาจารย์ได้พร่ำสอน

ชี้แนะ ลูกบ้านสวนให้ทำได้เป็นอย่างดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 00:02:04


ความคิดเห็นที่ 9 (1623473)

 ขอบคุณ คุณมาร์คค่ะ ที่ปรับปรุง ห้องต่างๆ

ให้เป็นหมวดหมู่ ง่าย สะดวก ประหยัดพื้นที่ ขอบคุณสำหรับการเป็นเจ้าภาพ

เป็นเวปมาสเตอร์ แล้วยังดูแลเวปไซด์ ด้วยคุณธรรม

คิดพัฒนา จัดระบบ ไม่หยุดหย่อน

ขออนุโมทนาในมหาธรรมทาน สะพานบุญใหญ่ ที่มีผลกว้างไกล ไปทัั่วทั้งโลก

ด้วยพลังศรัทธามุ่งมุั่นของคุณเพชร และ คุณมาร์คค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 00:25:33


ความคิดเห็นที่ 10 (1623477)

       แรก ๆ ก็ไม่กล้าเขียนเหมือนกันค่ะ

เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยจะมีธรรมะในหัวใจ

ไม่รู้จะเขียนอย่างไร  ต้องใช้ภาษาแบบไหน

ก็ดูตัวอย่างคนอื่น ๆ มาตลอด  เขียนแรก ๆ

กว่าจะได้  ใช้เวลาเป็นชั่วโมง  เดี๋ยวดีขึ้นมานิดหนึ่ง

เพราะเป็นการเขียนเรื่องตัวเอง  ก็ใช้ภาษาเราเอง

แต่อาจจะยังไม่ตรงประเด็น  จะพยายามพัฒนาตัวเอง

ให้มากยิ่งขึ้นค่ะ

    กราบขอบพระคุณท่าน อ. อุบล และครอบครัว

ที่เสียสละทุกอย่าง  เพื่อฉุดลากคนอย่างหนู

ให้มีโอกาสได้สร้างบุญ  และรู้จักการทำบุญที่ถูกวิธีค่ะ

กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 01:16:56


ความคิดเห็นที่ 11 (1623492)

พูดถึงความรู้สึกที่เริ่มเข้ามาในเว็บใหม่ๆ ชนิดาก็ก็อปคำสอนและธรรมทานดีๆ มาเผยแผ่เท่านั้น แต่ไม่กล้าเขียนอะไรมากเลย เพราะก็รู้ตัวอยู่ว่าภูมิธรรมตัวเองก็ต่ำต้อยอยู่มาก

 

แต่พอท่านอาจารย์เริ่มเข้ามาเขียนในเว็บบ่อยขึ้น มากขึ้น ชนิดาก็เพียงแค่อ่านแล้วก็คิดตาม แล้วก็แสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาเท่านั้นเอง ได้เนื้อบ้าง น้ำบ้าง ก็แล้วแต่ สภาวะจิต ของตนในแต่ละวัน

 

เพราะมันก็ไม่ได้สุข สดใส สว่างทุกๆวันหรอกนะคะ แต่ในวันที่เคยรู้สึกท้อแท้ แย่และหมดกำลังใจ แค่เพียงได้เข้ามาอ่านข้อความของท่านอาจารย์ จิตใจที่ต่ำตกอยู่นั้น ก็ถูกยกขึ้นมาให้สูงได้

 

 

ฉะนั้น จึงตั้งใจมาตลอดว่า จะเข้ามาเขียนในเว็บทุกวัน เท่าที่จะทำได้ ถ้ามีเวลามากก็อ่านและเขียนได้มาก แต่บางวันก็อาจจะได้เพียงกระทู้หรือสองกระทู้ ก็ตามอัตภาพ ไม่เบียดเบียนตัวเอง

 

สำหรับชนิดาเห็นถึงอานิสงค์ของธรรมทานได้อย่างชัดเจน ว่าส่งผลให้ชีวิตคล่องตัวในทุกๆด้าน มีความสุขตามอัตภาพ ไม่เดือดร้อน ไม่ขัดสนแต่อย่างใด คนรอบข้างส่วนใหญ่ก็มีเมตตา ไปที่ใดก็มีแต่คนเกื้อกูลตลอด 

 

 

และต้องบอกว่า บุญที่ชนิดาทำบ่อยที่สุด ก็คือ ธรรมทาน ส่วนวิหารทาน สังฆทาน นั้นถือว่าน้อยมากค่ะ

 

กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์และทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 07:12:03


ความคิดเห็นที่ 12 (1623494)

 กราบสวัสดีอ.อุบลและครอบครัวอาจารย์ค่ะ(ยังอายอาจารย์อยู่ค่ะ)

ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มีเรื่องอยากเล่าค่ะ

ไม่รู้ว่าเข้ามาถูกห้องรึเปล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 07:52:45


ความคิดเห็นที่ 13 (1623520)

กราบขอบพระคุณ ท่าน อ.เป็นอย่างสูงค่ะ

ที่เมตตา ให้อาหาร  ป้อนใส่ปากให้ด้วย แต่

อัญ ก็ยังไม่อยากเคี้ยวแล้วกลืนลงคืออีก

อัญก็เป็นคนหนึ่งที่เข้ามาบ้านสวนตั้งนาน แต่จ้องอ่านอย่างเดียว

อ้างแต่เขียนไม่ได้  ไม่รู้จะเขียนอะไร

เพราะทำบาปทำชั่วมาเยอะ พอจะทำดี กลับคิดมาก

จะปรับปรุงตัวเองค่ะ

แสนครั้งแล้ว ว่า ให้เขียนเรื่องตัวเอง

ตั้งแต่เกิด จนถึงเดี๋ยวนี้ ถ้านึกไม่ออก

ก็น่าจะไปลาหมาแกตายได้แล้วนะ

แล้วเรื่องไม่ดีน่ี่มันมีทุกวันแหละ

 

ไม่อย่างนั้นก็สมควร ไปลาหมาแก่ตาย จริง ๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 10:37:29


ความคิดเห็นที่ 14 (1623536)

 คุณอัญจ๋า

อ.อุบล ไม่แปลกใจหรอกว่า ทำไม คนไม่ค่อยเขียนธรรมทาน

เหตุผล น่ะ อ.รู้อยู่แก่ใจแล้ว แต่ก็ยังอยากให้รอด เหตุผล ก็คือ

1.ธรรมทาน เป็นทานสูงสุด ถ้าทำได้ง่ายๆ ก็คงไม่เรียกว่า ทานสูงสุด เพราะ บางคน ขนาดทานขั้นต่ำสุด ยังทำไม่ได้เลย จะไปทำทานขั้นสูงสุดได้ยังไง ศีลก็ยังรักษาไม่ได้ ดังนั้น มันขวางกั้น กันชัดชัด อยู่แล้ว

2.คนมีบุญ กับคนมีบาป ท่านให้เปรียบเทียบดูกับสัตว์ที่มาเขา  คนบุญ หรือ คนดี มีเท่ากับเขา  ส่วนคนบาป มีเท่ากับขน ดังนั้น คนเขียนธรรมทานได้ ก็น่าจะมีเท่ากับเขาสัตว์ ส่วนคนเขียนไม่ได้ ก็น่าจะมีเท่ากับ ขนสัตว์ อ.อุบล ก็ไม่ได้จัดตัวเองอยู่ในประเภทเขาสัตว์นะ แต่อยู่ในประเภท รวมทั้งเขา ทั้งขน ทั้งตัวเลย เรียกว่าเป็นสัตว์มีอวัยครบทั้งเขา ทั้งขน เพราะ ยังทำไม่ได้ดีที่สุด ดังนั้น จึงต้องมุ่งหน้าทำต่อไป เท่าที่โอกาสจะอำนวย แบ่งเวลาจาการทำงานก่อสร้าง วางแผน งานช่วยคน บำบัด งานตัดต่อรายการ งานบ้าน งานสวน งานธรรมะบำบัด งานดูแลทุกอย่างในบานสวน งานสงเคราะห์คน งานอีกหลายอย่าง ทั้งงานอาชีพ ทำมาหากิน ซึ่งไม่ค่อยได้ให้เวลาเท่าไหร่ และรู้ว่างานบุญ เป็นงานที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเราต่างสัญญามาว่า เมื่อได้มาเกิดเป็นคน จะมาเพื่อสร้างบารมี มาต่อบุญ ไม่ใช่มาสร้างฐานะ มาตั้งหลักปักฐาน อยู่ในเมืองมนุษย์  จะทำมาหากินเพียงแค่เลี้ยงชีพ ให้ได้ใช้สังสาร สร้างสมความดีเท่านั้น ไม่ใช่สะสมทรัพย์ ที่เอาติดตัวไปไม่ได้ แต่จะเร่งสะสมอริยทรัพย์ คือทรัพย์ภายใน ที่เอาไปได้แน่นอน

3.เพราะคนที่จะรอด เพียง มีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น ในเวลานี้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเข็ญอย่างไร ก็คงเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา ในที่สุดแล้ว เราก็คงต้องทำของเราไป เพราะเรารู้ดีกว่าใคร   แลล้วก็ทำให้้คนมมีปััญญาา  เห็นแลล้วเอาไปคิด เอาไปพิจารณา ทำตามก็ได้ ไม่ทำตามก็ได้ เพราะ ของดี ไม่ต้องไปยัดเยียดใคร ต้องไขว่คว้าหากันเอาเอง แต่ของชั่ว มันยั่วยวนใจ มันหอมหวาน ไม่มีใครบอก ไม่มีใครสอน ก็คิดทำกันเองได้  พยายามหาเรื่องอ้างอิงจนทำชั่วให้ได้ อ้างคำพูดของคนที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ตัวเองทำ สนองความต้องการตัวเองก็เอาาาา คราวนี้จะได้รู้ว่า ทำไมบุญธรรมทาน ทำกันได้น้อย เพราะ จะรอดน้อยนั่นเอง หรือ ระหว่างนี้ ก็มีความุขสมหวังน้อย นั่นเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 12:34:05


ความคิดเห็นที่ 15 (1623538)

 สำหรับขวัญ หลังจากทราบอานิสงส์ของธรรมทาน ก็อยากเขียนให้มากๆ

ทราบว่าตัวเองภูมิธรรมต่ำ

แต่ก็ขอเขียนให้ดีที่สุด โดยศึกษาเทคนิคการเขียนและเนื้อหาของคนอื่น

แล้วนำมาปรับปรุงความคิดและการเขียนของตัวเอง

แต่ส่วนใหญ่ ขวัญจะแพ้ความขี้เกียจ

บางทีอ้างกับตัวเองว่า เนื้อหาที่เราจะเขียน ก็คล้ายๆกับคนอื่นแหละ

ไม่ต้องเขียนหรอก 

บางทีคิดว่าทำสมาธิก็ได้บุญมากเหมือนกัน

คิดอย่างนี้ ก็เข้าทางกิเลส

แพ้ครั้งเดียว ก็จะโดนดึงไปยาวเลย

กว่าจะซมซานกลับมา 

หลังจากขวัญอ่านธรรมทานของท่านอาจารย์

เกี่ยวกับ เขียนธรรมทานอย่างน้อย 99 ตอน ภายใน ก.ย.นี้

ทำให้ขวัญมีกำลังใจขึ้นมากว่า จะทำให้ได้ 

สังเกตว่า เมื่อตั้งใจจะเขียนให้ดีที่สุด เขียนให้มากขึ้น

ทำให้มีกำลังใจทำสมาธิได้มากขึ้น

และทำได้ดีขึ้น คือ จิตนิ่งขึ้น ทรงอารมณ์อุเบกขาได้ดีขึ้น

ตัดร่างกายได้เร็วขึ้น ตัดได้ทันทีเมื่อคิดว่าเรากำลังจะตาย

เหมือนกิเลสเบาบางลงค่ะ

นอกจากนี้ สร้างบุญธรรมทานมากขึ้นทำให้มีอารมณ์ไม่พอใจน้อยลงค่ะ 

ทำให้ทำอภัยทานได้

ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีอารมณ์พยาบาท

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอ.อุบลค่ะ

ที่ทำให้หนูมีวันนี้ กลับใจ ทำดีได้มากขึ้นค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 12:43:08


ความคิดเห็นที่ 16 (1623539)

 ความเห็นที่ 14 (1623536)

แจ้งลบความคิดเห็น

 คุณอัญจ๋า

อ.อุบล ไม่แปลกใจหรอกว่า

ทำไม คนไม่ค่อยเขียนธรรมทาน

เหตุผล น่ะ อ.รู้อยู่แก่ใจแล้ว

แต่ก็ยังอยากให้รอด

เหตุผล ก็คือ

1.ธรรมทาน เป็นทานสูงสุด ถ้าทำได้ง่ายๆ ก็คงไม่เรียกว่า ทานสูงสุด เพราะ บางคน ขนาดทานขั้นต่ำสุด ยังทำไม่ได้เลย จะไปทำทานขั้นสูงสุดได้ยังไง ศีลก็ยังรักษาไม่ได้ ดังนั้น มันขวางกั้น กันชัดชัด อยู่แล้ว

2.คนมีบุญ กับคนมีบาป ท่านให้เปรียบเทียบดูกับสัตว์ที่มีเขา  คนบุญ หรือ คนดี มีเท่ากับเขา  ส่วนคนบาป มีเท่ากับขน ดังนั้น คนเขียนธรรมทานได้ ก็น่าจะมีเท่ากับเขาสัตว์ ส่วนคนเขียนไม่ได้ ก็น่าจะมีเท่ากับ ขนสัตว์ อ.อุบล ก็ไม่ได้จัดตัวเองอยู่ในประเภทเขาสัตว์นะ แต่อยู่ในประเภท รวมทั้งเขา ทั้งขน ทั้งตัวเลย เรียกว่าเป็นสัตว์มีอวัยครบทั้งเขา ทั้งขน เพราะ ยังทำไม่ได้ดีที่สุด ดังนั้น จึงต้องมุ่งหน้าทำต่อไป เท่าที่โอกาสจะอำนวย แบ่งเวลาจาการทำงานก่อสร้าง วางแผน งานช่วยคน บำบัด งานตัดต่อรายการ งานบ้าน งานสวน งานธรรมะบำบัด งานดูแลทุกอย่างในบานสวน งานสงเคราะห์คน งานอีกหลายอย่าง ทั้งงานอาชีพ ทำมาหากิน ซึ่งไม่ค่อยได้ให้เวลาเท่าไหร่ และรู้ว่างานบุญ เป็นงานที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเราต่างสัญญามาว่า เมื่อได้มาเกิดเป็นคน จะมาเพื่อสร้างบารมี มาต่อบุญ ไม่ใช่มาสร้างฐานะ มาตั้งหลักปักฐาน อยู่ในเมืองมนุษย์  จะทำมาหากินเพียงแค่เลี้ยงชีพ ให้ได้ใช้สังสาร สร้างสมความดีเท่านั้น ไม่ใช่สะสมทรัพย์ ที่เอาติดตัวไปไม่ได้ แต่จะเร่งสะสมอริยทรัพย์ คือทรัพย์ภายใน ที่เอาไปได้แน่นอน

3.เพราะคนที่จะรอด เพียง มีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น ในเวลานี้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเข็ญอย่างไร ก็คงเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา ในที่สุดแล้ว เราก็คงต้องทำของเราไป เพราะเรารู้ดีกว่าใคร   แลล้วก็ทำให้้คนมมีปััญญาา  เห็นแลล้วเอาไปคิด เอาไปพิจารณา ทำตามก็ได้ ไม่ทำตามก็ได้ เพราะ ของดี ไม่ต้องไปยัดเยียดใคร ต้องไขว่คว้าหากันเอาเอง แต่ของชั่ว มันยั่วยวนใจ มันหอมหวาน ไม่มีใครบอก ไม่มีใครสอน ก็คิดทำกันเองได้  พยายามหาเรื่องอ้างอิงจนทำชั่วให้ได้ อ้างคำพูดของคนที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ตัวเองทำ สนองความต้องการตัวเองก็เอาาาา คราวนี้จะได้รู้ว่า ทำไมบุญธรรมทาน ทำกันได้น้อย เพราะ จะรอดน้อยนั่นเอง หรือ ระหว่างนี้ ก็มีความุขสมหวังน้อย นั่นเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 12:34:05

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 12:44:22


ความคิดเห็นที่ 17 (1623632)

แต่เรา ยังมีความเลวอยู่ ดังนั้น เราจะเอาอะไรไปสอนใครเขาได้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ที่ทุกคนจะไม่ต้องกลัวผิดพลาดเลย

คือเล่าเรื่องของตัวเอง เรื่องไม่ดี ที่เคยผิดพลาดมา แล้วต้องได้รับทุกข์อย่างไร ปัจจุบัน มีปัญหาอะไรบ้าง

.......................

ท่านอาจารย์ขา...ท่านหยั่งรู้จิตใจ"คน"ดีแท้

เป็นจริงอย่างที่ท่านเมตตาสั่งสอนตักเตือน

การเล่าเรื่องของตัวเอง..ง่ายกว่าพูดเรื่องของผู้อื่น เพราะเราย่อมรู้แก่ใจดีว่าสิ่งใดจริงสิ่งใดเท็จ

ขอเพียงซื่อสัตย์และกล้าหาญที่จะเล่าความเลว ความผิดพลาด ความพลั้งเผลอ ของตนเองแก่ผู้อื่น เพื่อเป็นอุทธาหรณ์และเป็นประโยชน์สำหรับผู้อื่นที่คิดหรือกำลังจะทำเช่นเดียวกันนี้

จะได้เกิดปัญญา พิจารณาไตร่ตรอง ไม่เห็นผิดเป็นชอบ กลับตัวกลับใจได้ทันการณ์

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาชี้แนะหนึ่งในหลายๆวิธีในการทำความดีสำหรับชาตินี้ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 09:15:35


ความคิดเห็นที่ 18 (1623638)

หนูได้ดูรายการคุยไปแจกไปตอนคุณพ่อของคุณโจ สารภาพเรื่องนำเงินใส่บาตรวิระทะโยไปใช้ส่วนตัวยามฉุกเฉิน ทำให้ได้รับเคราะห์กรรม เจ็บป่วย รักษาไม่หาย นั้น

ธรรมทานครั้งนี้..โดนใจอย่างจัง เพราะหนูได้อธิษฐานจิตทำบุญกับบ้านสวน วันละ 20 บาท โดยจะใส่บาตรวิระทะโยทุกวัน และเมื่อไปบ้านสวน ก็จะนำเงินบุญนี้ถวายท่านอาจารย์

แม้ว่าหนูได้ถวายเงินบุญดังกล่าวกับบ้านสวนทุกครั้ง โดยไม่เคยหยิบยืมไปใช้ส่วนตัวเลย ก็ตาม

แต่หนูก็ได้ทำผิดพลาด คือ ไม่ได้หยอดเงินในบาตรวิระทะโยอย่างสม่ำเสมอทุกๆวัน เพราะลืมสนิทจริงๆ หรือไปต่างจังหวัดบ้าง แต่พอนึกได้ก็จะหยอดเงินสมทบครบบ้างไม่ครบบ้าง

การที่หนูละเลย หลงลืม ไม่รักษาวินัย ไม่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามที่ได้อธิษฐานจิตไว้นั้น...จึงส่งผลให้หนูได้รับเคราะห์กรรมต่างๆ ได้แก่

1. ขาดสภาพคล่องทางการเงิน แต่ละเดือนหมุนเงินจนเหนื่อย ไม่เคยมีเงินเดือนเหลือเก็บ ได้เงินเดือนทีไรมีเหตุให้ต้องใช้จ่ายหมดทุกที

2. ตามลำตัวมีผดผื่นขึ้นเต็ม เดี๋ยวยุบ เดี๋ยวผุด คันและเป็นแผลเต็มตัว

3. ตั้งแต่ต้นปี 2555 มาจนถึงเดี๋ยวนี้ เจองานหนักสุดๆ งานเร่งงานด่วน งานยุ่งยากซับซ้อน ที่ต้องเร่งสะสางโดยเร็วตลอด

ผลกรรมนี้ เกิดจากการกระทำของตัวหนูเอง ที่ได้ทำผิดสัจจะวาจาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนและต่อท่านอาจารย์อุบล ผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ นั่นเอง

บัดนี้หนูได้รู้สำนึกในบาปกรรมที่ทำลงไปแล้ว นับแต่นี้จะไม่ทำผิดพลาดเช่นนี้อีก จะรักษาสัจจะวาจาและรักษาวินัยการใส่บาตรวิระทะโยทุกวันอย่างเคร่งครัด

หนูกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนและท่านอาจารย์อุบล  ขอบคุณคุณพ่อคุณโจ และอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ที่ให้ธรรมทานในครั้งนี้ ทำให้หนูเกิดสติ นึกถึงความผิดพลาดของตนเองได้ ทำให้มีโอกาสสารภาพบาปต่อจี้องค์เทพสฟิงซ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 10:11:50


ความคิดเห็นที่ 19 (1623647)

หนูเคยได้รับธรรมทานจากบ้านสวน เรื่องการไม่รักษาศีล 5

โดยศีลข้อ 1 ท่านอาจารย์ได้ถามว่า ใครเคยทุบตีหรือเตะหมา,แมว เคยทำร้าย/ฆ่างู เคยเด็ดขากบ บ้าง  เพราะผลกรรมที่ได้รับคือ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา ปวดเท้า เป็นต้น

สำหรับเรื่องนี้ หนูเจอเคราะห์กรรมกับตัวเองอย่างแท้จริง คือเมื่อซัก 5 ปีที่แล้ว หนูขับรถเพื่อไปที่ทำงาน ประมาณตี 5 ระหว่างทางนั้นขับด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ทั้งมืดและทางเคี้ยวคดอีกทั้งขับเร็วด้วย ได้มองเห็นงูเหลือมตัวใหญ่เลื้อยพลาดอยู่กลางถนนก็เมื่ออยู่กระชั้นชิดจนเบรครถไม่ทันซะแล้ว จึงทับงูตัวนั้นเต็มที่ .. รู้สึกผิดและเสียใจจริงๆ ที่ตัวเองขับรถประมาททำให้งูตาย/บาดเจ็บได้รับทุกข์ทรมาน

ต่อมายังสร้างบาปซ้ำอีก คือระหว่างขับรถไปที่ทำงานต้องผ่านถนนร่มเกล้า ช่วงนั้นซักตี5ครึ่ง รถบรรทุกใหญ่วิ่งกันเยอะมาก ขณะที่ขับหลบรถบรรทุกเพื่อเข้าช่องซ้ายสุดนั้น ได้เฉี่ยวสุนัขที่ยืนอยู่ริมถนนอย่างแรง โธ่เวรกรรม..เพราะความประมาท ความใจเร็วใจร้อนของหนูอีกแล้ว ทำให้สุนัขตัวนั้นได้รับบาดเจ็บทุกข์ทรมานหรือตายไปแล้ว

ทั้ง 2 กรรมนี้ ส่งผลให้หนูต้องชดใช้กรรม คือ อาการปวดหลังปวดเอวทุกครั้งนอนราบ จะหงายตัวลุกขึ้นจะพลิกซ้ายพลิกขวา รู้สึกทรมานเหลือเกิน เป็นมาเช่นนี้เกือบ 6 ปี ... แม้จะเปลี่ยนที่นอนคุณภาพดีเพียงใดก็ตาม ก็ไม่ทำให้หายปวดหรือดีขึ้นได้เลย  แถมเพื่อนบอกว่าถ้าใครเคยฉีดยาชาบล็อคหลัง จะได้รับผลข้างเคียงโดยเกิดอาการปวดหลังปวดเอวทั้งนั้น รักษาอย่างไรก็ไม่หายหรอก (หนูเคยถูกฉีดยาชาบล็อคหลังเพื่อส่องกล้องที่กระเพาะอาหาร)

จนเมื่อเดือนมิ.ย.55 หนูได้รับธรรมะบำบัดรวมจากท่านอาจารย์ อีกทั้งหนูได้สารภาพบาปต่อจี้องค์เทพสฟิงซ์ด้วยสำนึกต่อความผิดและเสียใจที่ทำไป พร้อมทั้งขอขมางูเหลือมและสุนัขที่หนูได้ทำร้ายโดยมิได้เจตนา    จากวันนั้นมาหนูหายจากอาการปวดหลังปวดเอวอย่างปาฏิหารย์จริงๆ  และนี่คือการยืนยันว่า "ผล" ย่อมเกิดมาจาก "เหตุ" เมื่อค้นหาและดับ "เหตุ" ได้ ... "ผล" ย่อมดับตาม ... สาธุ

หนูกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน ท่านอาจารย์อุบล และท่านเทพสฟิงซ์ ที่เมตตาและกรุณาให้หนูได้พ้นจากทุกข์ทรมานครั้งนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 11:34:03


ความคิดเห็นที่ 20 (1623649)

เรื่องการไม่รักษาศีล ข้อ 2

เมื่อซัก 20 ปีที่แล้ว ตอนทำงานใหม่ๆ ตอนนั้นเคยอยู่แผนกการเงิน ด้วย 2 มือและใจที่สกปรกจึงคิดต่ำช้า เลวทรามและไม่รู้สึกละอายต่อบาปเลย

แม้เคยเตือนตัวเองว่า ทำงานอยู่กับเงิน ต้องยืดถือความซื่อสัตย์เป็นหลัก แม้จะไม่คดโกงเงินของลูกค้า แต่หนูกลับทำสิ่งที่เลวร้ายกว่า นั่นคือ หนูฉ้อโกงเงินที่ทำงาน ยักยอกเงินค่าธรรมเนียมครั้งละร้อยสองร้อยบาท จนได้พอซื้อนาฬิกาปลุก อันละ 380 บาท จำนวน 2 อัน ตอนนั้นได้รับเงินเดือน 4,090 บาท แม้เงินเดือนไม่ได้มากแต่ก็ไม่ถึงกับไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน  แต่ทำไมหนูถึงชั่วเลวทรามขนาดนี้ เต็มไปด้วยกิเกส อยากได้อยากมี จนสิ้นคิดถึงกับทำความผิดร้ายแรง ที่ผ่านมา หนูกลับนึกถึงความชั่วเลวทรามในเรื่องนี้ไม่ออกเลย จนเมื่อหลังสวมแหวนองค์เทพสฟิงซ์  อยู่ๆ ทำให้นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้  รู้สึกเสียใจเหลือเกินกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป เพราะทุกวันนี้หนูจะสอนลูกน้องเสมอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ใจซื่อสัตย์และมือสะอาด แต่ในอดีตหนูกลับใจคดและมือสกปรกซะเอง หนูรู้ว่าสิ่งที่กระทำลงไปมันเป็นบาปหนักและยอมรับการชดใช้ หนูได้รับมอบหมายงานที่ต้องเหน็ดเหนื่อย มีอุปสรรคมากมาย เพื่อชดใช้บาปกรรมที่ได้ทำไว้

หนูกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน ท่านอาจารย์อุบล และเทพองค์สฟิงซ์ ที่เมตตาให้โอกาสหนูสารภาพบาปต่อจี้องค์เทพสฟิงซ์ หนูสำนึกในความผิดที่เคยทำทั้งการยักยอกเงินหลวง 760 บาท และนำปากกา ดินสอ ยางลบ ที่เย็บกระดาษ แฟ้มเอกสาร ซองกระดาษ กระดาษ A4 ของที่ทำงานไปใช้ส่วนตัวที่บ้าน 

ปัจจุบันนี้หนูเลิกทำโดยเด็ดขาดแล้วค่ะ หากเดือนไหนที่เงินเดือนเหลือเก็บ หนูจะซื้อเครื่องเขียนเหล่านี้ทะยอยคืนธนาคาร หรือหากธนาคารมีกิจกรรมทำบุญหรือทำเพื่อประโยชน์แก่สังคม หนูจะบริจาคเงินร่วมทำบุญทำกิจกรรมกับธนาคาร อย่างน้อยบาปในใจของหนูจะได้ลดน้อยลงได้บ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 12:57:45


ความคิดเห็นที่ 21 (1623652)

เรื่องการไม่รักษาศีล ข้อ 3

การผิดศีล ข้อ 3 ของหนู คือการนำแมวไปทำหมันบ้าง ไปฉีดยาคุมกำเนิดบ้าง รวมๆ แล้วเกือบ 7-8 ตัว ตอนนั้นกลับเห็นผิดเป็นชอบเพราะความไม่รู้จริงๆ คิดว่าการทำอย่างนี้ถือเป็นการทำบุญ

เพิ่งมาตาหูสว่าง ก็เมื่อได้ฟังธรรมะจากท่านอาจารย์อุบล ท่านชี้ธรรมว่าใครที่เคยทำหมันเคยฉีดยาคุมกำเนิดแมวหมา จะได้รับผลกรรมคือ ลูกน้อง/ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เชื่อฟังและกระด้างกระเดื่อง อีกทั้งพูดจาอะไรไม่มีใครเชื่อถือ

สำหรับหนู ทั้ง"เหตุ" และ "ผล" เป็นเช่นที่ท่านอาจารย์กล่าวไว้โดยแท้จริง

ที่ผ่านมามีลูกน้อง 4 คน บางคนก็เคารพเชื่อฟังดี บางคนก็แข็งข้อ ต่อต้าน ดื้อดันทุรัง บางคนก็ดื้อเงียบ

จนเมื่อหนูสารภาพบาปต่อจี้องค์เทพสฟิงซ์ ด้วยความสำนึกในความผิดที่ได้นำแมว 7-8 ตัวนั้น ไปทำหมันหรือไปฉีดยาคุมกำเนิด หนูได้ทำความผิดที่ได้ล่วงเกินชีวิตของผู้อื่น ต่อไปหนูจะไม่ทำผิดเช่นนี้อีกแล้ว   เดี๋ยวนี้ลูกน้องที่เคยก้าวร้าว ที่ดื้อ กระด้างกระเดื่อง เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อ่อนน้อมมากขึ้น ไม่เถียง และเชื่อฟังคำสั่ง

หนูกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน ท่านอาจารย์อุบล และองค์เทพสฟิงซ์ ที่เมตตากรุณาให้โอกาสหนูได้หลุดพ้นจากบาปครั้งนี้

บุญและความดีทั้งหมดที่หนูเคยทำไว้ทุกชาติภพ ขอพระพุทธองค์โปรดเมตตาให้กุศลดีรวมตัวกันเพื่อหนูขอถวายแด่เทวดาที่ปกปักษ์รักษาท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ ตลอดจนขอถวายแด่เทวดาที่ปกปักษ์รักษาตัวหนูด้วยเจ้าค่ะ..สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 13:34:48


ความคิดเห็นที่ 22 (1623665)

หนูขอเล่าเรื่อง วิธีคิดของคนขายต้นโมก

นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันที่พบเห็นบ่อยๆ

ติดต่อซื้อต้นโมก ขนาด 1 เมตร

ครั้งแรก บอกขาย ต้นละ 40 บาท (ถ้าให้ปลูกด้วยคิดเพิ่มต้นละ 10 บาท) + ค่าขนส่งครั้งละ 500 บาท  - ได้สั่งซื้อ 100 ต้น

ครั้งที่ 2 บอกขาย ต้นละ 45 บาท (ค่าปลูก,ค่าขนส่ง ราคาเดิม) - ได้สั่งซื้อ 200 ต้น

ครั้งที่ 3 บอกขาย ต้นละ 48 บาท (ค่าปลูก, ค่าขนส่ง ยังราคาเดิม) - ได้สั่งซื้อ 400 ต้น

ครั้งที่ 4 พอบ้านสวนสอบถามว่าหากต้องการเพิ่มอีกซัก 500 ต้น จะคิดเท่าไหร่  ทางร้านบอกขายค่าต้นโมกพร้อมปลูก โดยคิดแบบเหมารวมในราคาต้นละ 60 บาท และค่าขนส่ง 500 บาท - เป็นราคาที่แจ้งบ้านสวน

เมื่อหนูทราบเรื่องดังกล่าวจึงโทรศัพท์ถึงเจ้าของร้าน ถามว่าทำไมคุณคิดแบบเหมารวมให้บ้านสวน(60 บ./ต้น)แล้วกลับแพงกว่าที่เคยคิดให้ดิฉัน(58 บ./ต้น)  หากคิดแบบเหมารวมจะต้องราคาถูกกว่าเดิมสิ

เจ้าของร้านตอบว่า ก็คิดแบบง่ายๆ แบบเหมารวมๆ ไปน่ะ

พอฟังคำตอบ..แล้วรู้สึกงวยงงกับความคิดของเขา จึงพูดกับเขาว่าคุณยิ่งขายดีขายได้มากขึ้น แทนที่จะยิ่งคิดราคาถูกลงหรือคิดราคาพิเศษให้ลูกค้า กลับคิดเหมารวมไปรวมมาแล้วแพงกว่าเดิม

หากคิดราคาแบบเอาเปรียบกับท่านอาจารย์และบ้านสวน คุณเอ้ย..เวรกรรมนะ.. ขอเถอะอย่าทำเลย..อย่างน้อยก็คิดเท่ากับดิฉันเถอะ

แล้วนั่นล่ะ เจ้าของร้านต้นโมก ถึงเริ่มคิดได้ และตอบตกลง ..

ดูเถอะ ! แว่บเดียวที่ละโมบ พอขายได้มาก ยิ่งอยากได้เงินมาก จนลืมคุณธรรมคือ การไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น และการเป็นผู้ให้..เพราะยิ่งให้ ยิ่งจะได้รับคืนกลับพันเท่าทวีคูณ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 14:56:05


ความคิดเห็นที่ 23 (1623668)

เรื่องการไม่รักษาศีล ข้อ 3

ขอเล่าเรื่องความชั่วความเลวของตัวเองในอดีต  เรื่องนี้เจอกรรมทันตาเห็น ไล่ตามติดๆ รดต้นคอเลย

คือเมื่อปี 38 ครอบครัวมีปัญหา หนูจึงหันมามัวเมากับการเล่นอินเตอร์เน็ท จนติดแช็ทเน็ทงอมแงม เริ่มหลงระเริงกับกิเลสตัณหา คบหาเพื่อนทางเน็ท ทั้งๆ ที่ขณะนั้นมีแฟนอยู่แล้ว แรกๆ รู้สึกสนุกสนาน ต่อมาเริ่มไม่สนุกอีกแล้ว รู้สึกสำนึกผิด รู้สึกทุกข์ทรมานใจเหมือนจมดิ่งสู่นรก ในที่สุดตัดสินใจเลิกพฤติกรรมแบบนี้ดีกว่า  แต่นั่น..เวรกรรมวิ่งมารดต้นคอ รอการชดใช้ซะแล้ว แฟนมีหญิงอื่น ตัวเองจึงรู้ "เหตุ" และ "ผล" ดีที่สุดนั่นเอง  ยอมรับผลแห่งกรรมชั่วที่กระทำไว้..ตัดสินใจหย่าและขอขมาต่อกันและกันไม่จองเวรจองกรรมอีกต่อไป

จนถึงวันนี้..คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจเช่นนั้น เพราะ

ชีวิตที่ไม่มีกิเลสความหึงความหวง ไม่รู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของใคร

เพราะ..ตัวเราร่างกายของเรา ยังไม่ใช่ของเราเลย

แล้วเราจะไปยึดติด ไปครอบครองผู้อื่นผู้ใดได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 15:20:28


ความคิดเห็นที่ 24 (1623677)

เมื่อก่อนหนูช่างโง่เขลาเบาปัญญา ทำเป็นว่าตัวเองมีอุดมการณ์

เห็นข้อความที่โพสต์ลงในอินเตอร์เน็ทโดยติเตียนบุคคลที่หนูศรัทธาด้วยถ้อยคำหยาบคายก้าวร้าว หนูจะโพสต์ข้อความโต้กลับเพื่อคัดค้าน โต้แย้งและต่อต้าน แม้หนูจะไม่เคยใช้ถ้อยคำหยาบคายเลยก็ตาม แต่เพราะหนูใช้นิ้วใช้มือกระทำสิ่งที่ไม่ดีต่อบุคคลอื่น จึงต้องรับการชดใช้ผลกรรมนั้น โดยมีอาการนิ้วล็อคบ้าง มือชาบ้าง และเคยผ่าตัดข้อมือข้างซ้ายไปแล้ว พอหายก็กลับมาเป็นข้างขวาอีก

ท่านอาจารย์อุบล ได้เมตตาชี้แนะว่าการที่หนูนิ้วล็อค นิ้วชา มีปัญหาบาดเจ็บเกี่ยวกับนิ้วมือนั้น เพราะหนูเคยพิมพ์หรือเขียนข้อความที่ไม่จริง หรือเขียนเพื่อตำหนิติเตียนผู้อื่น หรือเขียนเพื่อใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น  ซึ่งเป็นกรรมที่เกิดจากการใช้นิ้วใช้มือกระทำสิ่งที่ไม่ดี ทำร้ายจิตใจและล่วงเกินผู้อื่น

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 16:35:19


ความคิดเห็นที่ 25 (1623678)

เมื่อซัก 10 ปีที่แล้ว หนูเคยซื่อบื้อเหลือเกิน

ตอนนั้นยังเต็มไปด้วยกิเสลตัณหาอยากดูโน่นดูนี่

พอได้ข่าวใครมีซีดีเด็ดๆ เดี๋ยวไปตามมาเปิดดูให้ได้

ทั้งซีวีโป๊ ซีวีแอบถ่าย ซีดีลับ สารพัดที่เป็นเรื่องของผู้อื่น

ที่ผ่านมาไม่เคยสำนึกเลยว่า เป็นสิ่งที่เลวเหลือเกิน

การไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผู้อื่น เป็นการล่วงเกินต่อผู้อื่น

ผลกรรมที่ได้รับ - สายตาผิดปกติ ทั้งสายตายาวและเอียง  นั่นเพราะหนูใช้สายตามองสิ่งที่ไม่ควรมอง กว่าจะรู้ว่าผลเป็นอย่างนี้ เพราะเหตุใด..ก็สายไปเสียแล้ว

จึงขอเป็นอุทธาหรณ์สำหรับท่านที่ยังไม่เคยทำผิดเช่นนี้ แต่คิดจะทำ โปรดหยุดทันที เพราะผลกรรมที่จะได้รับหนักหนา ไม่คุ้มค่ากับความสนุกแค่แว๊บเดียวเลย 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 16:57:18


ความคิดเห็นที่ 26 (1623681)

การไม่รักษาศีลข้อ 5

ในอดีตหนูเคยสำมะเลเทเมา เสาร์อาทิตย์ทีไร

กอดขวดเบียร์ ดื่มเบียร์ นั่งฟังเพลงเปิดดูคอนเสิร์ต

แต่ละศุกร์ตุนเบียร์เต็มตู้เย็น แพงก็แพง ประโยชน์ก็ไม่มี

ทำไม๊ตอนนั้นหนูโง่บรมเลย

เข้าใจคำที่ว่า..มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วย ถึงทำอย่างงี้ได้

ไหนจะหวังลมๆ แร้งๆ ซื้อหวยใต้ดิน ซื้อล็อตตารี่

ใครบอกเลขอะไร เชื่อเค้าไปหมด ซื้อตามเค้าไปเรื่อย

หมดเงินทุกที เสียเงินกี่สิบกี่ร้อยหน

เข็ดแป๊บเดียว เดี๋ยวซื้อใหม่อีกแล้ว

พอเมื่อหนูรู้จักบ้านสวน ได้ฟังธรรมะและคำสอนของท่านอาจารย์อุบลเรื่องการรักษาศีล 5  หนูได้ตัดสินใจเลิกทันทีเลิกเด็ดขาดทั้งเหล้าเบียร์ หวย,ล็อตตารี่,แชร์ เพราะความรักและด้วยศรัทธาต่อท่านอาจารย์ จึงเชื่อในคำสอนคำตักเตือนของท่าน หนูทำสำเร็จแล้วและมั่นใจว่าสามารถรักษาศีลข้อนี้ได้ตลอดทั้งชีวิตที่เหลือนี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 17:18:34


ความคิดเห็นที่ 27 (1623740)

หากคิดราคาแบบเอาเปรียบกับท่านอาจารย์และบ้านสวน คุณเอ้ย..เวรกรรมนะ.. ขอเถอะอย่าทำเลย..อย่างน้อยก็คิดเท่ากับดิฉันเถอะ

แล้วนั่นล่ะ เจ้าของร้านต้นโมก ถึงเริ่มคิดได้ และตอบตกลง ..

ดูเถอะ ! แว่บเดียวที่ละโมบ พอขายได้มาก ยิ่งอยากได้เงินมาก จนลืมคุณธรรมคือ การไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น และการเป็นผู้ให้..เพราะยิ่งให้ ยิ่งจะได้รับคืนกลับพันเท่าทวีคูณ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 14:56:05

.......................................

ยิ่งอ่านยิ่่งได้เห็น ความโลภ

ในจิตของคนจริงๆด้วยค่ะ พี่กระเต็น

เพราะยิ่งขายดี

แทนที่จะคิดเหมาแบบลดราคา

เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า

 

แต่นี่กลับคิดเหมา

แบบเอาเปรียบลูกค้าซะนี่

กิเลสในใจคน ไม่รู้จักคำว่า"พอ" จริงๆ

 

อนุโมทนากับธรรมทาน

และการสมาทานศีลทุกข้อ

ของคุณพี่กระเต็นด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-12 06:06:44


ความคิดเห็นที่ 28 (1623771)

การเขียนธรรมทานเป็นเรื่องที่เริ่มยากจริง ๆ

เพราะมักคิดว่าเรื่องของเรามันเล็ก ๆ น้อย ๆ ดูไม่น่าสนใจ

แต่การอ่านของคนอื่น ... ดูแล้วสบายดี

ซึ่งเป็นความคิดที่ีไม่ถูก ไม่คิดที่จะพัฒนาตนเอง

ตนเองได้ติดตามเว็บบ้านสวนแบบเกาะติด

เป็นชาวเกาะแบบตีนตุ๊กแก

บางครั้งมีเรื่องอยากจะแสดงความคิดก็ขี้เกียจพิมพ์

วันนี้จะขอสลัดตัวขี้เกียจออกไปบ้าง

เรื่องแรกที่อยากจะแสดงความคิดเห็นก็คือเรื่อง

การสารภาพบาปกับจี้สฟริงซ์

นับเป็นความเมตตาของเบื้องบนที่มีต่อลูกหลานเป็นอย่างสูง

เพราะเป็นการให้สมาทานศีลตลอดเวลา

เป็นสีลานุสสติกรรมฐาน

ขอคัดลอกของหลวงพ่อฤๅษีมาอ้างหน่อย

สีลานุสสติ แปลว่า ระลึกถึงคุณศีลเป็นอารมณ์ คำว่าศีล แปลว่า ปกติ สิกขาบทของ ศีล เป็นสิกขาบทที่บังคับให้เป็นไปตามปกติของความรู้สึกและพอใจของมวลชนโลก ทั้งที่เป็นสัตว์ และมนุษย์ จะได้พูดให้ฟังแต่โดยย่อ

ปกติของสัตว์และ มนุษย์ที่เกิดมาร่วมโลกนี้ แม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างศาสนา ต่างเพศ ต่างตระกูลกันเพียงใดก็ตาม สิ่งที่มีความปรารถนาเสมอกันเป็นปกติ มีอยู่ ๕ ข้อ คือ

๑. ไม่ต้องการให้ใครมาฆ่าตน และไม่ปรารถนาให้ผู้ใดมาทำร้ายร่างกาย แม้ไม่ถึงตาย ก็ตาม

๒. ไม่ต้องการให้ใครมาลักขโมย หรือยื้อแย่ง หลอกลวงเอาทรัพย์ของตนไปโดยที่ตนไม่ เต็มใจอนุญาต

๓. ไม่มีความประสงค์ให้ใครมาทำลายหัวใจในด้านความรัก จะเป็นสามีภรรยา บุตร หลาน หรือแม้แต่คนในปกครองที่มิใช่บุตรหลาน โดยที่ตนเองยังไม่เห็นชอบด้วย

๔. ไม่ปรารถนาให้ใครมาใช้วาจาที่ไม่ตรงความจริง ในเมื่อในขณะนั้นต้องการรู้เรื่องราว ตามความเป็นจริง

๕. ไม่ต้องการให้ใครเห็นว่าตนเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ด้วยอาการที่เป็นคนคุ้มดีคุ้มร้ายเพราะ เหตุใดก็ตาม

 

การที่ท่านสอนให้ระลึกถึงศีลเนืองๆ นั้น หมายถึงให้สำรวมใจ ระมัดระวังความประพฤติศีล เพื่อมิให้ศีลบกพร่อง เพราะศีลเป็นบาทที่จะสนับสนุนใจให้เข้าถึงสมาธิ ศีลนี้ผู้ใดปฏิบัติไม่ขาดตกบกพร่องแล้วย่อมมีอานิสงส์คือ จะไม่ได้รับความเดือดร้อน เพราะอำนาจอกุศลกรรม จะเป็นที่รักของ ปวงชน จะมีเกียรติคุณความดีฟุ้งไปในทิศานุทิศ จะเป็นผู้แกล้วกล้าอาจหาญ ในเมื่อมีคนโจษจันถึง เรื่องศีล เมื่อใกล้จะตายอารมณ์จิตจะผ่องใส อกุศลกรรมไม่สามารถเข้ามาข้องได้ เมื่อตายแล้วจะได้ เกิดในสวรรค์

ก่อน ตายศีลนี้จะเป็นสะพานใหญ่ให้อารมณ์สมาธิหลั่งไหลมาสู่จิต จะทำให้จิตตั้งมั่นใน สมาธิ เป็นพื้นฐานให้ได้วิปัสสนาญาณ ได้ถึงพระนิพพานในที่สุด ท่านที่คิดถึงศีลและระมัดระวังรักษา ศีลเป็นปกติ แล้วใคร่ครวญพิจารณาศีลเป็นปกติอย่างนี้ ท่านว่าจะมีอารมณ์สมาธิถึงอุปจารสมาธิ และ อัปปนาสมาธิเป็นที่สุด

เมื่อเข้าถึงสมาธิตามที่กล่าวแล้ว ถ้าท่านน้อมเอาวิปัสสนาญาณมาพิจารณา ท่านก็จะได้ บรรลุมรรคผลภายในไม่ช้า

จาก หนังสือ คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน

 

นั่งคิดอยู่ที่บ้านว่า

ท่านอาจารย์อุบลช่างมีวิธีที่ช่วยคนไม่ว่าศาสนาไหนก็ตาม

ทรงอารมณ์ในกรรมฐานโดยไม่รู้ตัวว่า

กำลังปฏิบัติธรรมอยู่ตลอดเวลา

ในที่สุดแล้วเมื่อทำจนชิน ต่อไปก็จะไม่ผิดศีลห้า กรรมบทสิบ

ก็เป็นพระโสดาบันได้แบบไม่รู้ตัว

และท่านก็สามารถที่จะพาลูกหลาน

กลับบ้านนิพพานได้โดยง่าย

สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-12 19:29:09


ความคิดเห็นที่ 29 (1623772)

เรื่องที่สองคือเรื่อง

การใช้จี้สฟริงซ์ช่วยคนอื่น

นี่ก็นับเป็นความเมตตาของเบื้องบนที่มีต่อลูกหลานเป็นอย่างสูง

เพราะผลที่ได้หลายต่อเหลือเกิน

คนที่ได้รับการช่วยเหลือก็มีความสุข หายโรค หายเจ็บ

คนที่ช่วยนี่สิ

ได้ทั้งบุญ

ได้ทั้งการเจริญก้าวหน้าในธรรม

เพราะเป็นการฝึกพรหมวิหารสี่

ขอคัดลอกของหลวงพ่อฤๅษีมาอ้างหน่อย

พรหมวิหาร วิหารแปลว่า ที่อยู่ พรหม นี้แปลว่าประเสริฐ หมายความว่า เอาใจไปจับอยู่ในอารมณ์ แห่งความประ เสริฐ หรือเอาใจไปขังไว้ในความดีที่สุด ที่เรียกว่า ประเสริฐ ประเสริฐนี้แปลว่า ดีที่สุด พรหมวิหาร 4 อย่างคือ
1. เมตตา ความรัก
2. กรุณา ความสงสาร
3. มุทิตา มีจิตอ่อนโยนไม่อิจฉาริษยาใคร
4. อุเบกขา วางเฉย

ความจริงพรหมวิหาร 4 นี้เป็นธรรมะกลาง ที่ว่ากลางก็เพราะว่า ถ้าบุคคลใดมีอารมณ์ใจ ทรงอยู่ในพรหมวิหาร 4 เป็นปกติ บุคคลนั้น จะมีศีลบริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา จะมีจิตทรงฌานอยู่ตลอดเวลา และก็จะเป็นคนมีความฉลาดในด้านปัญญาสามารถ ตัดกิเลส เป็นสมุจเฉทปหานได้โดยง่าย ถ้าจะกล่าวกันว่า กรรมฐานบทนี้ เป็นกรรมฐานใหญ่ก็ว่าได้ นี้กล่าวกันโดยนัยหนึ่ง ก็คือว่า พรหมวิหาร 4 เป็นอาหาร อาหารเลี้ยงศีลให้อ้วน มีกำลัง เป็นอาหารเลี้ยง สมาธิให้มีกำลัง อาหารเลี้ยง ให้มีปัญญาคมกล้า สามารถจะฟาดฟันกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานเมื่อไหร่ก็ได้ ...

...ถ้าจะแสดงเมตตาจิต ก็ดูเสียก่อนว่า คนประเภทนั้นเราควรจะเมตตาไหมแต่เห็นว่าแนะนำแล้ว ไม่ได้ผล ก็จงอย่าสงเคราะห์ คนประเภทนั้น หลีกไปเสีย อย่างพระพุทธเจ้าทรงหลีก แต่ทว่าเขาไม่เลื่อมใส ในองค์สมเด็จ พระบรมสุคต ไม่เชื่อพระสัพพัญญู สมเด็จพระบรมครูก็ไม่ทรงสั่งสอน นี่ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ใครไปใครมาก็เมตตาเสียดะ เมตตาโง่ๆ แบบนั้นจะสร้างความเดือดร้อน เหมือนกับ เราจะให้ของเขา เขาไม่รับ ไปให้เขาทำไม ไม่ต้องไปอ้อนวอน ไม่ ต้องไปแค่นเขาให้รับ...

...พระพุทธเจ้ามีพระมหากรุณาธิคุณ ก็จริงแหล่ แต่ทว่า ทรงเลือกเอาแต่เฉพาะคนดีเท่านั้น ไม่ใช่คนเลวก็ทำนี่ เมตตาของเราก็เหมือนกัน ใครจะมาจากไหนก็ช่าง จะมียศถาบรรดาศักดิ์ ฐานะเช่นใดก็ช่าง ถ้าผิดระเบียบวินัย อันนี้เรา จงถือว่า นั่นเขาเป็นคนเลว ไม่ควรแก่การเมตตา

===========

การใช้จี้ช่วยเหลือคน ก็เพราะรักและสงสารเขาไม่อยากให้เขาทุกข์ยากลำบาก

แต่ถ้าเขาไม่สนใจ หรือถ้าช่วยแล้วไม่สำเร็จเพราะอะไรก็ตามเช่น

เขาไม่เปิดใจยอมที่จะสารภาพบาปที่เคยทำมา

หรือเขานึกไม่ได้ว่าทำบาปอะไร

หรือบางครั้งเขาก็คิดว่าที่ทำมาไม่เป็นบาป

เพราะเขาดูว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนในโลกนี้บางจำพวกยังทำอยู่

ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องอุเบกขา

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-12 19:57:56


ความคิดเห็นที่ 30 (1623797)

วันนี้มีญาติมาที่บ้านค่ะ เนื่องจากเป็นวันแม่

เขาก็มาฉลองกันด้วยเนื้อสัตว์เต็มบ้าน หนูก็ไม่ได้ทานเป็นปกติค่ะ

ประเด็นคือ ลืมเผยแพร่รหัสอ.อุบลช่วยด้วย 

ลืมแจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ

ลืมเล่าว่าทำบุญกับท่านอ.อุบลแล้วพ้นทุกข์อย่างไร

ทั้งที่เป็นโอกาสที่จะได้ช่วยพวกเขา แต่เรากลับโง่คิดไม่ได้

คงเป็นเพราะอกุศลกรรมที่ทำมามากปิดกั้นปัญญาค่ะ 

************

แล้ววันนี้ก็มีอารมณ์โกรธ(อีกแล้ว)ค่ะ แบบไม่ชอบสุดๆ แล้วเอาไปบ่นกับแม่อีก 

ผิดศีลข้อ 1+4 เรียบร้อยค่ะ

แล้วการเอาพลังลบให้แม่ กรรมยิ่งหนักขึ้นอีก 

ไม่แปลกใจเลยที่ผิวพรรณตัวเองไม่ดีค่ะ 

คิดตลอดว่าตัวเองเลิกโกรธได้แล้ว อภัยให้ทุกคน

แต่เจอบททดสอบนิดเดียวก็เจ๊งแล้วค่ะ 

จะพยายามสอบผ่านให้ได้ค่ะ ไม่มีอารมณ์ทั้งพอใจ/ไม่พอใจ 

แต่เป็นอารมณ์พระนิพพาน เข้าใจกฏของธรรมดาค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 03:11:42


ความคิดเห็นที่ 31 (1623996)

ขอเล่าควมเลวของตัวเองที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะสมบาปสมทบกันจนนับไม่ถ้วน

คือการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน/เวลาของทางราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตน ถือเป็นการสร้างกรรมชั่ว เบียดเบียนต่อที่ทำงาน หากเป็นของรัฐยิ่งถือว่าเบียดเบียนคุณแผ่นดิน ... เพราะเรารับเงินเดือนจากราชการ(จากหลวง/แผ่นดิน) แต่ไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน

เมื่อก่อนหนูเคยคิดว่า การนำรถยนต์ของที่ทำงานไปใช้เรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น   เช่น ทำใบแจ้งว่าขอเบิกรถเพื่อไปตรวจงาน/ไปพบลูกค้า  แต่ที่จริงแล้วนำรถไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว เช่น ไปสำนักงานเขตฯ,โรงพยาบาล,ช้อปปิ้งห้างสรรพสินค้า,ตระเวณซื้ออาหารจากร้านดัง,รับ-ส่งลูกไปโรงเรียนไปเรียนพิเศษ,เยี่ยมญาติ/เพื่อน,ไปงานศพ/งานแต่งงาน,เที่ยวต่างจังหวัด ฯลฯ

นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำบาป สะสมความชั่วกันมากมาย เพราะ เห็นคนอื่นทำได้ ไม่ได้ถูกลงโทษ ก็ทำบ้าง ทำตามกันต่อๆ มา รุ่นแล้วรุ่นเล่า..จนมาถึงตัวเอง..ครั้งแรกๆ ก็เหมือนตกกะไดพลอยโจน คือติดตามไปด้วย .. พอหลังๆ ทำกันทุกวันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องปกติ

เพิ่งได้ใจสว่าง-ตาเลิกบอด-หูเลิกหนวก ก็หลังจากได้รับธรรมทานคำสอนจากท่านอาจารย์อุบล ท่านตักเตือนว่าการเบียดบังเวลางาน เบียดบังทรัพย์สินของราชการ มีบาปหนักเสมือนได้ทำการเบียดเบียนแผ่นดิน

ผลกรรมที่ได้รับ เจอกับตัวเองจังๆ คือ ทุ่มเททำงานหนักเหนื่อยเท่าใด ผู้บังคับบัญชาไม่เห็นความดีความชอบ เพื่อนร่วมงานเอาเปรียบ ลูกค้าไม่พอใจ ... นี่ล้วนเป็นอุปสรรคในการทำงาน .. หนูสำนึกในความผิดที่ได้กระทำไปทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่รับธรรมทานจากท่านอาจารย์ หนูไม่ยอมให้กิเสลมาครอบงำจิตให้ใฝ่ต่ำ ไม่ยอมหลงผิด เบียดบังเวลางาน เบียดบังทรัพย์สินของที่ทำงานทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวอีกแล้ว...

อย่าไปคิดหรือโทษว่า โลกนี้ไม่มีความยุติธรรม ... โปรดย้อนคิด พิจารณาว่าที่ผ่านๆ มา เราทำความดีด้วยใจบริสุทธิ์ เต็มที่แล้วหรือยัง เราเคยเบียดเบียนผู้อื่น เบียดบังเวลาและทรัพย์สินของผู้อื่นหรือไม่

ผลกรรมที่ได้รับ..ล้วนมีสาเหตุมีที่มาทั้งสิ้น อย่าโทษฟ้าอย่าโทษใคร รีบปรับเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ชดใช้กรรมเก่า ไม่สร้างกรรมใหม่ รีบสร้างบุญกุศลเพื่อหนีกรรมชั่วให้ห่างไกล..

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 07:13:47


ความคิดเห็นที่ 32 (1624001)

ตอนแรกก่อนจะเริ่มเขียนธรรมทาน

ณัชชาไม่กล้าเขียน เพราะบอกตามตรงเลยว่า

กลัวคนรอบข้าง คนภายนอก รับรู้เรื่องกรรมชั่วของตัวเอง

เพราะณัชชาถือได้ว่า เป็นคนที่ทำผิดศีลข้อสามมากที่สุด

เป็นเรื่องน่าละอาย แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเขียน

เรื่องราวของตัวเองให้คนอื่นรับรู้

ตอนนั้นณัชชาคิดว่า เป็นไงเป็นกัน รู้กันไปเลยความชั่ว

ความเลวที่ตัวเองได้กระทำมา พอเขึยนแล้ว รู้เลยว่า ได้ตัดสินใจถูกต้องและมีค่าที่สุด

ที่ได้เขียนเรื่องราวของตัวเองให้คนอื่นได้รับรู้

เพราะผลที่ได้หลังจากนั้น คือความสุขทางใจ ปรอดโปร่ง โล่ง เบา สบาย

และทำให้ได้เตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ความชั่วแบบนี้ อย่าได้ทำอีก

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตา ณัชชา เป็นแรงใจ ให้ณัชชาได้ทำคุณงามความดี

ได้รู้ว่า บุญและความดีที่ถูกต้อง ต้องทำอย่างไร สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 08:32:54


ความคิดเห็นที่ 33 (1624207)
วันนี้หนูเพิ่งนึกออกว่าเมื่อตอนเป็นเด็ก  เคยก่อเวรสร้างกรรมอะไร ทำไมวันนี้หนูถึงมีอาการปวดแขนทั้ง 2 ข้าง ปวดร้าวระบมไปจนถึงไหล่ ทำกายภาพก็ไม่หาย เพราะ
 
  1. เมื่อตอนเด็ก เห็นแมลงปอทีไร ใจบาปขึ้นมาทันที คิดแต่อยากจับมาใส่ขวดไว้ดูเล่น แต่จับทีไร ปีกของแมลงปอหักหรือหลุดทุกที ตอนนั้นไม่เคยนึกถึงว่าแมลงปอเหล่านั้นจะรู้สึกทุกข์ทรมานหรือไม่  แต่วันนี้หนูได้รู้แล้ว สำนึกผิดแล้ว เข้าใจแล้วว่า แมลงปอที่ถูกหนูทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ต้องเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมาก เพียงเพราะความคึกคะนองและสนุกของหนูที่ได้เล่นได้จับแมลงปอไว้ดูเล่น
  2. ผลกรรมที่ได้รับไม่ได้หายไปไหน วันนี้กลับมาสนองตอบเพื่อให้ชดใช้บาปที่ได้ทำไว้ คือทำให้มีอาการปวดแขนทั้ง 2 ข้าง ปวดร้าวระบมจนถึงทั่วไหล่และลำตัว  แทบจะรู้สึกว่าถ้าไม่มีแขนซะเลย น่าจะทุกข์ทรมานน้อยกว่านี้ ... ความรู้สึกนี้คงไม่แตกต่างไปจากความรู้สึกของเหล่าแมลงปอที่หนูได้เคยทำร้ายให้บาดเจ็บ ลักษณะและความรู้สึกเจ็บปวด ทุกข์ทรมานก็คงเป็นเช่นเดียวกันนี้ 

หนูสำนึกในความผิดที่ได้ก่อเวรสร้างกรรมไว้กับแมลงปอทุกตัวเลย เพียงเพราะใจอกุศล ขาดความเมตตาปราณีต่อผู้อื่น คิดแต่ความสนุกของตัวเอง ไม่คำนึงถึงความทุกข์ที่ผู้อื่นจะได้รับ 

หนูกราบขอขมาแมลงปอทุกตัวที่หนูเคยทำร้ายด้วยค่ะ และขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนและเทพองค์สฟิงซ์ ที่เมตตาให้หนูได้รับการชดใช้กรรมนี้เพื่อให้เกิดปัญญา สามารถระลึกถึงความผิดที่ได้กระทำไว้ได้  ต่อไปหนูจะไม่ล่วงเกินชีวิตของผู้อื่นทั้งทางกาย วาจา และใจ   และจะหมั่นทำความดี สร้างบุญกุศล เพื่อุทิศบุญให้แก่แมลงปอที่หนูได้เคยล่วงเกินชีวิตไว้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 06:57:06


ความคิดเห็นที่ 34 (1624283)

 เราต่างสัญญามาว่า

เมื่อได้มาเกิดเป็นคน

จะมาเพื่อสร้างบารมี มาต่อบุญ

ไม่ใช่มาสร้างฐานะ

มาตั้งหลักปักฐาน อยู่ในเมืองมนุษย์  

จะทำมาหากินเพียงแค่เลี้ยงชีพ

ให้ได้ใช้สังสาร สร้างสมความดีเท่านั้น

ไม่ใช่สะสมทรัพย์ ที่เอาติดตัวไปไม่ได้

แต่จะเร่งสะสมอริยทรัพย์

คือทรัพย์ภายใน ที่เอาไปได้แน่นอน

*************************************

กราบขอบคุณ ที่ ท่าน อ.เมตตา

ย้ำเตือนในสัญญา

ว่าที่พวกเราขอเกิดมา

เพื่อ...ทำหน้าที่อะไร ?

อ่านแล้วจุกค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 14:24:27


ความคิดเห็นที่ 35 (1624508)

...ถ้าจะแสดงเมตตาจิต ก็ดูเสียก่อนว่า คนประเภทนั้นเราควรจะเมตตาไหมแต่เห็นว่าแนะนำแล้ว ไม่ได้ผล ก็จงอย่าสงเคราะห์ คนประเภทนั้น หลีกไปเสีย อย่างพระพุทธเจ้าทรงหลีก แต่ทว่าเขาไม่เลื่อมใส ในองค์สมเด็จ พระบรมสุคต ไม่เชื่อพระสัพพัญญู สมเด็จพระบรมครูก็ไม่ทรงสั่งสอน นี่ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ใครไปใครมาก็เมตตาเสียดะ เมตตาโง่ๆ แบบนั้นจะสร้างความเดือดร้อน เหมือนกับ เราจะให้ของเขา เขาไม่รับ ไปให้เขาทำไม ไม่ต้องไปอ้อนวอน ไม่ ต้องไปแค่นเขาให้รับ...

...พระพุทธเจ้ามีพระมหากรุณาธิคุณ ก็จริงแหล่ แต่ทว่า ทรงเลือกเอาแต่เฉพาะคนดีเท่านั้น ไม่ใช่คนเลวก็ทำนี่ เมตตาของเราก็เหมือนกัน ใครจะมาจากไหนก็ช่าง จะมียศถาบรรดาศักดิ์ ฐานะเช่นใดก็ช่าง ถ้าผิดระเบียบวินัย อันนี้เรา จงถือว่า นั่นเขาเป็นคนเลว ไม่ควรแก่การเมตตา

===========

ขอขอบคุณและอนุโมทนากับคุณเบญจรัตน์ด้วยค่ะ จะนำคำพระ มาสอนตัวเองค่ะ จะพิจารณาเป็นรายๆไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 16:24:04


ความคิดเห็นที่ 36 (1624612)

 ขอเล่าเรื่องจี้องค์เทพสฟิงช์ เมือปลายเดือน มิ.ย 55ได้ฝากน้องจิ๋มเช่าองค์เทพสฟิงซ์

1 องค์ โทรวันพฤหัสเพราะน้องจิ๋มไปวันอาทิตย์(ยังไม่ได้รับองค์เทพสฟิงซ์เลย)

ปฎิหารย์ก็เกิดขี้น เย็นวันศุกร์แฟนบอกไปเบิกเงินกันก้เฉยๆคิดว่านิดหน่อย

ที่ไหนได้ตั้ง หนึ่งแสนบาท ปาฎิหารย์ขององค์ท่านก็ยังไม่หมดท่านได้ประทานให้อีก

วันเสาร์แฟนเบิกให้อีก หนึ่งแสนบาท (ยังไม่ได้รับองค์เทพสฟิงซ์)

เพราะน้องจิ๋มไปวันอาทิตย์

กราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล และจี้องค์เทพสฟิงซ์ที่ช่วยให้ได้รับโชคสิ่งนี้

เพราะไม่เคยคิดว่าจะได้รับเงินส่วนนี้  สาธุยังไม่ได้รับองค์ท่านๆก็ประทานโชคให้แล้ว สาธุ สาูธุ สาธุ

ขอกราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนบ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-17 07:47:00


ความคิดเห็นที่ 37 (1624685)

หนูขอสารภาพบาปค่ะ

เมื่อ2-3วันก่อน ช่วงใกล้เลิกงาน ประมาณบ่าย 4 โมงครึ่ง เกิดฟ้ามืดมัวดิน ฝนตกหนักมาก ...

ขณะเตรียมตัวกลับบ้าน เพื่อนที่ทำงานได้โทร.มาหา

บอกว่าขอติดรถกลับบ้านด้วย ซึ่งหนูก็ยินดีรับเพื่อนติดรถกลับบ้านด้วยกัน

ในระหว่างขับรถกลับบ้านนั้น เพื่อนจะเล่าเรื่องส่วนตัวของคนที่ทำงาน..คนนั้นคนนี้

(คงเพราะเราไม่ได้เจอกัน..นานมาก พอเจอเลยเล่าสารพัดเรื่องให้ฟัง)

และหนูพยายามชวนคุยเรื่องธรรมะ, เรื่องผลกรรมหรือปาฏิหารย์ที่หนูได้รับ

ซึ่งไปๆมาๆ เพื่อนก็พูดถึงพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

หนูไม่รู้สึกยินดี ไม่นิยมและไม่เห็นชอบด้วยกับการกล่าวถึงพระองค์ท่านในทางไม่ดีงาม

เพราะหนูเคยได้รับธรรมทานและคำสอนจากท่านอาจารย์อุบล ... หนูจำจนขึ้นใจ

ท่านสอนว่า ก่อนที่เราไปจะไปติเตียน นินทาว่าร้ายหรือกล่าวถึงพระองค์ท่าน นั้น

ถามตัวเองก่อนหรือไม่ว่า ตัวเรามีคุณงามความดีอะไรบ้างที่เหนือกว่าพระองค์ท่าน

หากเราดีจริง ดีกว่าพระองค์ท่านจริง  เราคงไม่เกิดมาเป็นราษฏรหรือข้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทของพระองค์

ส่วนพระองค์ท่านเกิดมามีฐานันดรศักดิ์เป็นพระบรมศานุวงศ์ในพระมหากษัตริย์ หรอก

จากวันนั้นที่หนูรู้สึกสำนึกผิดจริงๆ และกราบขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

และต่อพระบรมศานุวงศ์ ที่หนูได้เคยจิตทราม นินทา กล่าวร้าย

พูดติเตียนต่อพระบรมวงศานุวงศ์

พอมาวันนี้ ได้ยินเพื่อนพูดถึงพระองค์ท่านในทางไม่ดีเช่นนั้นอีก

หนูจึงพูดห้ามปราม และให้เหตุผลตามคำสอนของท่านอาจารย์

แต่เขาจะเชื่อหนูหรือไม่ จะไม่กล่าวร้ายไม่ติเตียนพระองค์อีกหรือไม่

คงเป็นบุญทำ-กรรมสร้างของเขาเองแล้วค่ะ

 

พอวันถัดมา ช่วงใกล้เลิกงาน ฝนก็ตกหนักเช่นวันก่อนๆ อีก

เพื่อนก็โทรมาอีก แต่ใจหนูไม่ปกติสุขเลย

ไม่อยากรับโทรศัพท์ ไม่อยากรับเพื่อนคนนี้ติดรถกลับบ้านวันนี้เลย

เพราะเมื่อวานที่ได้ฟังเขานินทาเรื่องส่วนตัวของผู้อื่น

หนูเกิดความรู้สึกไม่ดีเลย เพราะฟังคำพูดที่ไม่ดี คำพูดก้าวล่วงถึงผู้อื่น

หนูจึงไม่รับโทรศัพท์ แล้วรีบกลับบ้านทันที

ระหว่างทางขับรถกลับบ้าน ฝนตกหนักมาก มากกว่าวันก่อนๆ อีก

อดคิดถึงเพื่อนคนนี้ไม่ได้ เขาคงเดินทางกลับบ้านอย่างลำบาก

ทำไมหนูใจคับแคบเหลือเกินค่ะ

หนูรู้เลยว่าตัวเองสอบไม่ผ่านอีกแล้ว

หนูขาดความเมตตากรุณา ... ศีลข้อ 1 หนูสอบตกซะแล้วค่ะ

ต่อไปนี้..หนูต้องพยายามให้มากขึ้น ต้องลดความเห็นแก่ตัว

ลดความหยาบกร้านของจิตใจให้สำเร็จ..ให้ได้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-17 16:21:39


ความคิดเห็นที่ 38 (1624962)

...สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ที่ทุกคนจะไม่ต้องกลัวผิดพลาดเลย

คือเล่าเรื่องของตัวเอง เรื่องไม่ดี ที่เคยผิดพลาดมา แล้วต้องได้รับทุกข์อย่างไร ปัจจุบัน มีปัญหาอะไรบ้าง 

เช่นป่วย เจ็บ ปวด ร่างกาย ตรงไหนบ้าง มีปัญหาการเงิน อย่างไร การงาน ครอบครัวลูก สามี ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง

หรือปัญหา   ความสำเร็จในธรรม นั่งสมาธิได้หรือไม่ได้ นิสัยเป็นอย่างไร ละ เลิกโกรธได้แล้วหรือยัง วันนี้ทำผิดพลาดอะไร

นี่แหละ เรียกว่าธรรมทาน...

 

*********

 

กราบ กราบ กราบ

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะที่ได้เพียรชี้แนะแนวทาง

ให้ลูกหลานได้สร้างธรรมทาน

ซึ่งเป็นทานขั้นสูงสุด

 

ธัญญาภรณ์กราบขอขมาท่าน อ.อุบล

และ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ค่ะ

 

ทั้งรู้ว่าอาจารย์เมตตาเตือนมาโดยตลอด

ให้หมั่นสร้างธรรมทาน

แต่ศิษย์คนนี้ขี้เกียจและหาข้ออ้างได้ทุกครั้ง

ไม่มีเวลาบ้าง

ฯลฯ

ผลัดวันประกันพรุ่ง

สิ้นคิด

คอยแต่คิดหาวิธีที่จะแก้ปัญหา

(ที่มีผลมาจากสิ่งที่ตนเองได้ก่อเหตุไว้ทั้งสิ้น)

หาวิธีเอาชนะกันด้วยเหตุผลทางโลก

ขาดสติระลึกถึงเหตุผลทางธรรม

 

ผลที่ได้รับ

คือ

 

ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนนึง

ธัญญาภรณ์ได้รับบทเรียนอันยิ่งใหญ่

อยู่ๆก็เข้าไปแก้ไขข้อมูลในระบบสมาชิก

ทำให้ไม่สามารถเข้าระบบได้อีก

 

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

เหมือนกับว่า

ความทุกข์ที่มีอยู่

กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับชีวิต

 

ทำให้ตนเองรู้สึกว่า

สิ่งที่ต้องการจริงๆสำหรับชีวิตนี้

คือ

ต้องการเข้าบ้าน

บ้านสวนพีระมิด

ต้องการกลับบ้านของเรา

 

เขียนมาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกตื้นตันมากค่ะ

 

ต่อไปนี้ลูกจะเล่า

เล่าทุกอย่างถึงสิ่งที่ตนเองได้ทำกรรมชั่วไว้ในอดีต

เท่าที่จะสำนึกได้

อาจจะมีประโยชน์ต่อคนอื่น

มากบ้าง น้อยบ้าง

ต่อไปเรื่อยๆค่ะ

 

*********

 

กราบขอบพระคุณ

สมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

เทวดาที่รักษาท่าน อ.อุบล อ.มงคล และคุณท้อป

สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกๆพระองค์ทั่วทั้งจักรวาล

 

ที่ทำให้ลูกได้มีวันนี้

วันที่มีโอกาสเข้ามาเขียนธรรมทาน

ในเวปไซต์บ้านสวนฯอีกครั้งค่ะ

 

กราบ กราบ กราบ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 06:11:06


ความคิดเห็นที่ 39 (1625046)

 

หนูละอายใจเรื่องการเขียนธรรมทานเหลือเกิน

เพราะใช้เน็ตและเวลาของที่ทำงานดูเหมือนท่านอาจารย์รู้

สบตาท่านอาจารย์ทีไรสดุ้งทุกทีกำลังเก็บตังค์ซื้อคอมอยู่ค่ะ

ตอนนี้ชำระหนี้แผ่นดินไปก่อนที่ทำงานเป็นเวลาที่เป็นส่วนตัวปลอดจากลูก

และงานบ้านกลับไปบ้านมีแต่เรื่องทางโลก ซักผ้า ถูบ้าน ทำอาหาร

สอนการบ้านฯลฯ ทำภารกิจทุกอย่างให้เสร็จสิ้นเร็วๆ

เพื่อให้ลูกนอนหัวค่ำ ตื่นเช้า

ไปโรงเรียนจะได้ไม่งอแง วันธรรมดาหนูพักที่กรุงเทพ

เย็นวันพุธกลับไปเยี่ยมบ้านที่สมุทรสาคร

เย็นวันศุกร์แพ็คกระเป๋ามาบ้านสวนฯ

เย็นวันอาทิตย์กลับกรุงเทพหรือบางทีก็สมุทรสาคร

จนต้นอ้อถามวันละหลายหนว่า"แม่พี่เลี้ยงวันนี้เราจะไปไหนกัน"

หนูก็ขำต้นอ้อว่าคงเริ่มงงกับชีวิตแล้ว

เกิดเป็นคนนี่มันวุ่นวายเหลือเกินถือคติว่า

เหนื่อยนักนอนพักเดี๋ยวก็หายยังมีบุญที่มารู้จักบ้านสวนฯ

และท่านอาจารย์อุบล เหนื่อยแบบมีเป้าหมายชัดเจน

มุ่งมั่นอธิษฐานจิตไปนิพพานดูเหมือนหวังสูงเกินตัว

แต่มีกำลังใจจากท่านอาจารย์สอนว่าจะไปได้หรือไม่ได้

ก็อีกเรื่องหนึ่งชาตินี้ไปไม่ได้ก็ชาติต่อ ๆ ๆ ๆ ไป

เมื่อก่อนเหนื่อยแบบไร้เป้าหมายเหนื่อยไปเรื่อยๆ

ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้เหนื่อยไปจนตายแล้วก็เกิดใหม่

คงเป็นแบบนี้หลายร้อยภพหลายร้อยชาติมาแล้ว

อาจารย์ขาหนูเหนื่อยแต่กายเท่านั้น

ใจไม่ได้เหนื่อยด้วยเลยค่ะดูเหมือนว่า

มีพลังในการทำความดีมีเป้าหมายชีวิตชัดเจนขึ้น

มองแต่ตัวเองคิดว่าเหนื่อยมากมายลองมองไป

ที่คนอื่นโดยเฉพาะท่านอาจารย์คนละเรื่องกันเลย

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มาก ๆ

ที่ทำให้หนูมีดวงตาเห็นธรรมและมีแรงทำความดีค่ะ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 16:03:32


ความคิดเห็นที่ 40 (1625112)

วันนี้ลองวิเคราะห์กรรมของญาติผู้ใหญ่นิดหน่อยค่ะ

(เพราะมีปัญญานิดหน่อย)

ว่าทุกข์หรือสุขที่มีอยู่ น่าจะเกิดจากกรรมใด 

ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง บางครั้ง ชอบพูดจาเสแสร้ง

เวลาตัวเองไม่พอใจใคร ก็พยายามพูดให้คนนั้นรู้สึกแย่

ใส่อารมณ์โกรธ แสดงกิริยาท่าทางไม่พอใจ

ปัจจุบัน ไอบ่อย เหมือนเจ็บคอ

ซึ่งคงเป็นเพราะกรรมเบียดเบียนคนอื่นทางคำพูด

แต่ ญาติคนนี้และอีกคนชอบทำทาน

ชอบซื้อของมาฝากคนอื่น ชอบทำอาหารเลี้ยงคนอื่น

ทั้งสองคนเลยมีสภาพคล่องทางการเงิน มีพอกินพอใช้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 01:01:58


ความคิดเห็นที่ 41 (1625671)

ได้อ่านพระธรรมจากพระไตรปิฎกในเว็บพลังจิต เรื่อง 5 อาชีพ ที่ควรห้ามเด็ดขาด

1.ค้าสุรา 2.ค้าอาวุธ 3.ค้ายาพิษ 4.ค้าเนื้อสด 5.ค้าสัตว์

และควรหลีกเลี่ยง อาชีพที่สร้างความบันเทิง เพราะไปมอมเมาให้ผู้อื่นลุ่มหลง

ทำให้คิดถึงเมื่อก่อน ที่ชอบส่งเสริมการค้า

เคยซื้อสุรา ให้เพื่อนซื้อสุรา เพิกเฉยเวลาเห็นใครซื้อ-ดื่มสุรา เคยขโมยสุรา ผิดศีล 2 ข้อในทีเดียว

เลยทำให้เป็นคนขี้หลงขี้ลืม ไม่ค่อยมีสติ สมาธิสั้น เป็นโรคไมเกรน(ปัจจุบันหายแล้ว) มีอุปสรรคในชีวิต

แล้วก็ส่งเสริมการค้าเนื้อ

เมื่อก่อนกินเนื้อสัตว์ ให้คนอื่นกิน ให้คนอื่นซื้อให้ เพิกเฉยเมื่อคนอื่นซื้อหรือกิน กินของคนอื่นโดยไม่ได้ขออนุญาต

ซึ่งคิดว่าทำให้เป็นคนซุ่มซ่าม ชอบมีรอยแผลฟกช้ำ ประสบอุบัติเหตุ ผ่าตัดไส้ติ่ง ผิวพรรณไม่ดี

การค้าสัตว์ เคยค้าแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขายไป ตอนนั้นจะขายจิงโจ้บิน (sugar glider) 1 ตัว เพราะได้ราคาสูงด้วย (โลภ) ก็ไปโพสในเว็บไซต์ขายจิงโจ้บินโดยเฉพาะ แต่ก็มีคนติดต่อขอซื้อเยอะ สุดท้าย คุณป้าไม่ยอมให้ขายเพราะสงสารมัน

เราก็รู้สึกรำคาญ เซ็งคุณป้า แต่ก็ได้คิดค่ะว่าเราเห็นแก่ตัวมากๆ ตอนนั้นความโลภครอบงำ ไม่มีความเมตตาสงสาร คิดเข้าข้างกิเลสว่า คนที่ซื้อไปคงเลี้ยงดีแหละ จิตใจตอนนั้นมืดบอดสุดๆ ทำตรงกันข้ามกับคำสอนของพระพุทธเจ้า

ผลของกรรมโทสะ ก็คือผิวพรรณไม่ดีจริงๆค่ะ ทุกวันนี้ยังมีสิว ผิวไม่เรียบ ผิวหนังลอกที่ฝ่าเท้าด้วยค่ะ และความอยาก ทั้งหลาย ก็เป็นอุปสรรคในทางธรรม ทำให้ไม่มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม จิตฟุ้งซ่าน ชอบเพ้อเจ้อ ไร้สาระค่ะ

แล้วขวัญก็ส่งเสริมอาชีพที่สร้างความบันเทิง ชอบดูหนัง มีชอบดาราคนนั้น คนนี้ ล้วนแล้วแต่ไปเพิ่มกิเลสความหลง

ทำให้ไม่เจริญก้าวหน้าทางโลก(ผลการเรียนไม่ดี)และทางธรรม 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 02:01:34


ความคิดเห็นที่ 42 (1625887)

 เมื่อวาน (22/8/55) ได้ไปบริจาคเลือดกับพี่รัช

กรอกเอกสารเสร็จก็รอเจาะเลือด (ดูว่ากรุ๊ปไหน จะบริจาคได้ป่าว)

แต่พยาบาลมีคนเดียว คนรอต่อคิวเพียบ (พยาบาลดูหน้าตึง ๆ ไม่ยิ้มเลย คงเหนื่อย)

คนอื่น พอยื่นนิ้วให้ก็จิ่ม ๆ แล้วบอก เลือดจม - เลือดลอย (ผ่าน-ไม่ผ่าน)

พอถึงคิว อัญกับพี่รัช พี่เค้าเปลี๊ยนไป๊..

ชวนคุยเฉยเลยค่ะ  เล่าโน้นเล่านี่ให้ฟัง เช่น 

  "พวกเด็กแว้นเีนี๊ยะ ตัวดี เกิดอุบัติเหตุที ต้องใช้เลือดมาก

 

  แต่ก็ว่ามากไม่ได้ลูกพี่ก้ออยู่ในวัยนี้เหมือนกัน กลัวโดนกับตัวเอง

 

ชีวิตพี่นี่นะปกติก็อยู่แต่กับเลือดไม่เคยได้เห็นคน เพราะทำงาน ที่ธนาคารเลือด ฯลฯ"

แต่อารมณ์นั้นคือ อัญ ไม่สามารถสัมภาษณ์พูดคุยกับพี่เค้าได้มาก

ก็อย่างที่บอก ทุกคนมองมาที่เรา เพราะแถวเริ่มยาวขึ้นเรื่อย ๆ

เลยยิ้ม ๆ แล้วลุกออกมา  นึกสงสัยว่า ทำไมพยาบาลเค้าคุยกับเรามากเป็นพิเศษ ?

ถึงบางอ้อ ว่า เหมือนอยากจะสารภาพบาปกับจี้องค์เทพสฟิงค์  นั่นเอง 

ถึงนาทีระทึกตอนพยาบาลเรียก โห..ทำงัยก็ไม่ชิน (กลัวเข็มมันใหญ่)

พยาบาลต้องตบแขนหาเส้นตั้งนาน  เลยนึกถึงคำพูด ป้าแก้ว(พยาบาลผู้บอบบาง)

ว่าเรามีของดีเยอะ ต้องบอกเทวดาประจำตัว

ได้ผล  นะคะขอบอก..เจอเส้นทันที   ระหว่างบริจาคก็ภาวนา รหัส อ.อุบลช่วยด้วยไปตลอด

และอุิทิศบุญ ให้เทวดาที่รักษา ท่าน อ.อุบล ท่าน อ.มงคล และ คุณท้อปค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 00:42:42


ความคิดเห็นที่ 43 (1626106)

ขออนุโมทนาบุญกับน้องอัญ

ที่บริจาคเลือดช่วยชีวิตคน

เพราะการบริจาคเลือดต้อง

ใช้กำลังใจขั้นสูงมาก 

ถ้าอยากบริจาคง่ายๆ 

ให้พยาบาลหาเส้นเลือดง่ายๆ

ขอแนะนำที่พี่ใช้ได้ผลมาแล้ว

ดื่มน้ำให้ครบ 6 แก้วก่อนโดนเจาะเลือด

พอไปถึงที่บริจาค ดื่มก่อน 2 แก้ว

กรอกแบบฟอร์มเสร็จ ดื่มอีก 2 แก้ว

ตรวจทุกอย่างเสร็จ ก่อนไปที่เตียง ดื่มอีก 2 แก้ว

รับรอง

เจาะเลือดง่าย

เลือดไหลออกรวดเร็ว สดชื่น

ไม่มีอาการหน้ามืด วิงเวียน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 14:56:54


ความคิดเห็นที่ 44 (1626267)

ขออนุโมทนาบุญกับคุณอัญ คุณอ้อยค่ะ

ถ้ามีโอกาสได้บริจาคเลือดจะได้ดื่มน้ำ

ลองดูค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-26 00:33:27


ความคิดเห็นที่ 45 (1626331)

ขออนุโมทนากับทุกธรรมทานด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-26 16:13:04


ความคิดเห็นที่ 46 (1626432)

 

                                                                                ความผิดบาปที่ตนเองได้ก่่อไว้

                                           ตอนเด็กเคยใช้มือบีบคอไก่จนตายคามือผลกรรมที่ได้รับคือเมื่ออายุสี่สิบหกต้นปีสองพันห้าร้อยห้าสิบสาม

                                   ได้ไปตรวจสุขภาพจึงรู้ว่าเป็นต่อมไทย์รอยด์โต มีอาการใจสั่น มือสั่นพอปลายปีห้าสามเริ่มได้รู้จักรายการคุยไปแจกไป

                            ท่านอาจารย์อุบลได้นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มาสอนว่าทำกรรมอย่างไรย่อมได้ผลอย่างนั้นก็มานั่งนึกทบทวนตนเองว่าที่

                     มาของเหตุก็คือการได้ฆ่าบีบคอไก่นี่เอง รู้สึกเสียใจและละอายต่อบาปที่ได้กระทำมากทำบุญทุกครั้งก็อุทิศให้แก่ไก่และขออโหสิกรรมกับสิ่งที่ได้ทำ

                                                                     ทุกวันนี้ตั้งใจทำความดีเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอีกต่อไปค่ะ

                   

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 14:23:05


ความคิดเห็นที่ 47 (1626565)

วันนี้โกรธญาติคนหนึ่ง พอโกรธปุ๊บ ก็ฟุ้งซ่านต่อ ไม่พอใจไม่เกินครึ่งนาที ก็หยุด

ต่อมา ญาติคนนี้ฝากน้องสาวซื้อของแล้วยังไม่คืนเงิน เกิดจิตอบายภูมิ รู้สึกเดือดร้อนแทน แล้วก็พูดระบายอารมณ์โกรธออกมา 2 ประโยค

แต่ใจก็ยังขุ่นมัวต่ออีกนิดหน่อย พอเขาพูดอะไร เราก็รู้สึกไม่ชอบใจอีก แล้วระงับ

อีกเรื่องหนึ่งที่สอบตกวันนี้คือ ลูกพี่ลูกน้องมาขอใช้ปริ้นเตอร์

ที่หมึกชุดหนึ่ง ราคาประมาณ 8000 บาท 

ปกติมาขอใช้ เราก็รู้สึกไม่อยากให้ใช้เสี้ยววินาที แล้วก็รู้สึกยินดีให้ใช้

แต่วันนี้ กลับอยู่ในอารมณ์ใจแคบนานกว่าเดิม แล้วก็หยุด 

อารมณ์อบายภูมิเกิดขึ้น เพราะช่วงนี้ แทบไม่ได้ฝึกจิต ทำสมาธิ ปล่อยให้กิเลสครอบงำ ปัญญาเลยถอยหลัง 

ได้เห็นข้อบกพร่องของตัวเอง เลิกโกรธและทำอภัยทานไม่ได้ 100% และยังไม่รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง 

ซึ่งเป็นการเบียดเบียนตัวเองโดยตรง ใจเป็นทุกข์ รุ่มร้อน ถ้าตายด้วยอารมณ์ใจอย่างนี้ ลงนรกแน่นอน 

แสดงให้เห็นว่า ตัวเองประมาทในความตาย และควรปรับปรุง ฝึกให้ใจทรงอารมณ์นิพพานให้ได้ตลอด

ผลของกรรมโทสะ คือกรรมผิวพรรณจริงๆ ปัจจุบัน หน้าก็ยังมีผื่นแดง เห็นเส้นเลือดฝอย ผิวหนังลอกที่ฝ่าเท้า 

กรรมขี้เหนียว ก็คงทำให้มีคนขี้เหนียวกับเรา ของที่เราจำเป็น ต้องการ คนก็คงไม่เต็มใจให้เรา หรือเราอาจไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใครตอนที่เราต้องการ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-27 23:09:44


ความคิดเห็นที่ 48 (1626691)

 ขอเล่าธรรมทานของตัวเองบ้างนะคะ

         เมื่อ  สอง  อาทิตย์ก่อนด้วยภาระงานที่ต้องรับการประเมินโครงการสายใยรักและด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการดูแลลูกสาวทั้งสองทำให้เกิดความหงุดหงิดให้กับคุณแม่ของสามีและได้บ่นออกมาเพื่อให้ตัวเองได้ระบายความเครียด.....พอตอนเช้าก็พบกับความเจ็บปวดที่ไหล่ด้านซ้ายลักษณะเหมือนคอตกหมอนนอนผิดท่า    แต่ก็ต้องพบกับความสงสัยว่าถ้าคอตกหมอนก็ต้องปวดตรงบริเวณคอ  แต่นี่ทำไมถึงปวดบริเวณไหล่   ก็ได้เล่าให้สามีฟังสามีจึงบอกว่าเพราะเราบ่นให้แม่สามีกรรมจึงตามทัน.....หลังจากนั้นก็ให้สามีนวดให้    และก่อนนอนก็ได้สารภาพบาปกับจี้สฟิงส์ และกราบขอขอมาต่อองค์พระปฐม   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว   เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ   อาจารย์อุบล  เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล    หลวงพ่ปาน  หลวงพ่ฤาษีลิงดำ  เทวดาที่รักษาตัวลูก  องค์เทพสฟิงส์   พลังปิระมิด  สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล   ตอนเช้าอาการหายไป   95  %  คงหลงเหลืออาการระบมอีก   5  %  สงสัยสิงศักดิ์สิทธิ์อยากเอาไว้ให้ระลึกถึง    เพื่อไม่ให้กระทำอีก

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์   และท่านอาจารย์อุบล  ที่ได้เมตตาลูก   สาธุ   สาธุ   

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 15:26:27


ความคิดเห็นที่ 49 (1626765)

 

                                                          

                                                           เมื่อดิฉันอายุยี่สิบห้าตอนนั้นวัยยังเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาได้เคยไปทำงาน

                                   ที่บังกาโลแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัดทำหน้าที่เป็นพนักงานทำบัญชีเช็คสต๊อกสินค้าเครื่องดื่มและทำบัญชีแขกที่มาพัก

                              และเผอิญว่าที่ใกล้โต๊ะทำบัญชีมีโต๊ะวางทีวีไว้ให้สำหรับเปิดหนังให้แขกหน้าที่นี้ก็ต้องเป็นของดิฉันวันหนึ่งได้เปิดหนังให้

                         แขกแล้วด้วยความอยากรู้และง่วงเพราะเข้ากะดึกจึงเปิดดูผลกรรมอันนีัี้เองที่ดูหนังต้องห้าม หนังเอ๊ก  หนังอาร์ทำให้ดิฉันสายตา

                  ไม่ค่อยดีทั้งสายตายาว เวลา/ม่ใส่แว่นตาก็มองไม่ค่อยถนัด นั่นเเป็นเพราะดิฉันเคยใช้สายตามองสิ่งที่ไม่ดีนั่นเองเมื่อรู้ถึงเหตุก็สายเกินไป

                      จึงขอเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่คิดจะทำและผู้ที่ยังไม่ได้ทำโปรดอย่าเอาเยี่ยงอย่างเพราะผลกรรมที่เกิดกับตัวเรานั้นมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 21:15:21


ความคิดเห็นที่ 50 (1626775)

 

                                                                            

                                                                                เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

                                                                        ดิฉันได้ไปซื้อของที่พ่อค้าในตลาด

                                                                  ได้มีการพูดคุยกันเรื่องการค้าขายไม่ค่อยดี

                                                             เลยได้้จังหวะดีถือโอกาสบอกระหัสจักรวาลให้เค้าไป

                                                  พร้อมทั้งได้อธิบายให้เค้าเข้าใจวิธีใช้ระหัสอ.อุบลช่วยด้วยให้สัมฤทธิ์ผล      

                                   และแนะนำให้เค้าดูรายการคุยไปแจกไปทางช่องเอ็มวีสตาร์ปรากฏว่าเค้าสนใจมากและรับปากว่าจะดู

                    รู้สึกดีใจมากที่ได้เผยแพร่ระหัสจักรวาลโดยที่คนที่เราบอกนั้นมีความกระตือรือล้นอยากจะฟังและรับเอาสิ่งที่ดีๆกลับไปปฏิบัติ

                                    

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 21:48:59


ความคิดเห็นที่ 51 (1627715)

กราบสวัสดีท่านคุณแม่อาจารย์อุบล และคุณพ่อมงคล

ขอน้อมกราบต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม พระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อาจารย์อุบล คุณพ่อมงคล และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร
วันนี้ ได้ดูคลิป ชมพระบารมีพระศรีอาริย์ ณ บ้านสวนพีระมิด ครั้งที่ 2 เพราะเข้าใจว่ายังไม่ได้ดู จึงรู้ว่าตนเองยังไม่ได้มาเขียนขอบคุณที่ได้ชมพระบารมีพระศรีอาริย์
ลูกขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ชมพระบารมีพระศรีอาริย์ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ตอนที่ท่านคุณแม่อาจารย์อุบล ได้อาราธนาขอพระบารมี ของพระศรีอาริย์ มาแสดงฤทธิ์ แสดงบุญฤทธิ์ แสดงธรรมฤทธิ์ โดย ผ่านทางกาย ทางใจ และทางวาจา ของท่านคุณแม่อาจารย์อุบล ให้ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ได้รับพระเมตตาจากพระองค์ท่าน โดยให้ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ออกมาบอกกล่าว
1.ตอนแรกมีอาการเจ็บคอแล้วก็คิดว่า น่าจะเป็นเพราะโดนฝน แต่ยิ่งดูเทปบันทึกแล้วยังไม่มีจิตคิดจะเขียนขอบพระคุณพระเมตตาพระศรีอาริย์ก็มีอาการเจ็บคอบริเวณโคนลิ้นมาก ขยับแทบไม่ได้ จึงตั้งใจว่าหลังดูเทปบันทึกเสร็จจะเขียนขอบพระคุณที่ลูกได้รับพระบารมีพระศรีอาริย์ อาการหายไปประมาณ 50 %
2. ขณะที่กำลังเขียนขอบพระคุณ ลูกจะใช้คำแทนกล่าวถึงท่านคุณแม่อาจารย์อุบลว่า คุณแม่อุบลก็มีอาการเจ็บที่โคนลิ้นขึ้นมาอีก ลูกขอกราบขอขมาเจ้าค่ะ
3. ขณะที่ท่านคุณแม่อาจารย์อุบล ได้อาราธนาขอพระบารมี ของพระศรีอาริย์ มาแสดงฤทธิ์ แสดงบุญฤทธิ์ แสดงธรรมฤทธิ์ โดย ผ่านทางกาย ทางใจ และทางวาจา ของท่านคุณแม่อาจารย์อุบล ให้ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ได้รับพระเมตตาจากพระองค์ท่าน ลูกพนมมือตามเทปบันทึกมีอาการมือสั่น มีอาการเหมือนตอนนั่งสมาธิแล้วตัวโยกโคลง แต่ลูกก็ไม่อยากจะเขียนบอกเล่าเป็นธรรมทาน เพราะกลัวคนอื่นว่า หนูบ้า แต่หนูก็ปวดบ่า จึงคิดเองว่าควรต้องเล่าค่ะ
4. ท่านคุณแม่อาจารย์อุบลได้มีเมตตา เฉลยปริศนาธรรม ให้กับลูกหลานบ้านสวนได้รับทราบในกรณีของคุณเอิร์ธเพื่อเป็นธรรมทานแก่ลูกหลานบ้านสวน
" ทุกคนจะต้องต่อสู้กับมาร มารคือระหว่างที่เราจะเดินทางไปสู่ความสำเร็จจะต้องมีคน หรือสิ่งที่จะต้องมาฉุดให้ออกกลางทาง ถ้าต่อสู้กับมารได้ก็จะมีชัยชนะ" ลูกได้ปรามาสในใจว่าเหตุใดท่านคุณแม่อาจารย์จึงต้องถามเพื่อให้เล่ามากมาย ซึ่งลูกเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่เห็นถึงความมีเมตตาของท่านคุณแม่อาจารย์ที่กำลังแสดงธรรมให้เห็นถึง สิ่งที่มนุษย์ต้องเจอทุกคนในการเดินทางสะสมบุญบารมีเพื่อเข้าพระนิพพาน ลูกขอขมาโทษทั้งปวงด้วยเจ้าค่ะ ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดงดโทษและอดโทษให้แก่ลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ และด้วยกรรมนี้ทำให้กรรมส่งผลให้หนูยังเจ็บคออยู่ยังไม่หาย 100 % จึงต้องเขียนสารภาพบาปค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรารัตน์ สุขดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 01:14:54


ความคิดเห็นที่ 52 (1627880)

ณัชชาขอกราบขอบพระคุณองค์ทวยเทพประจำตัวและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั่วจักรวาล

ที่ปกปักษ์รักษาท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล น้องท๊อป ศุภาเดชาภรณ์ 

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ ท่านนิรยบาล

องค์ทวยเทพเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั่วจักรวาลที่สถิตย์อยู่ที่บ้านสวนพีระมิด 

ท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล น้องท๊อป ศุภาเดชาภรณ์ 

ที่มีความเมตตกรุณาให้อภัย ที่ณัชชาได้ทำความผิด ไม่ว่าจะด้วยทางกาย ทางวาจา 

ทางใจ ทั้งที่เจตนาก็ดี ไม่ได้เจตนาก็ดี ทั้งที่จำได้ และจำไม่ได้ก็ดี 

และเมตตาณัชชาในเรื่องความรัก การงาน การเงิน ทุกๆสิ่งที่ดีและปาฎิหารย์ ที่เกิดกับณัชชา ค่ะ สาธุ

ณัชชา ขอสารภาพบาป

เมื่อก่อนณัชชาเป็นคนที่มีจิตใจโลเล

ไม่มั่นคงในจิตใจ ทำอะไรก็มักจะลังเล และเป็นคนไม่รักษา สัจจะ ให้ความหวังต่างๆนานา

ทำให้บุคคลหลายๆคนที่เกีี่ยวข้องในชีวิตต้องเป็นทุกข์ทางใจ 

ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ผู้ชายหลายคนที่เคยคบมา และเพื่อนๆ ไม่มีความซื่อสัตย์ ในเรื่องของความรัก

ผลกรรมที่ได้รับ

ทำให้คนรัก (แฟน) ปัจจุบันของณัชชา เป็นคนโลเลในจิตใจ เมื่อเกิดความลังเล ก็ทำให้ไม่มีความซื่อสัตย์

ไม่มีความมั่นคงในอารมณ์ อะไรมากระทบนิดหน่อยใจก็เปลี่ยน  ทำให้ณัชชาทุกข์ใจอย่างมาก และทำให้จิตตก 

และเกิดความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ใจไม่เป็นสุข 

ทุกสิ่งที่ไม่ดี ที่ณัชชาได้กระทำต่อบุคคลที่รักณัชชาในอดีตได้ย้อนกลับมาให้ได้รับ 

เป็นดังเช่นกระจกที่สะท้อนการกระทำของณัชชาทั้งหมดในอดืต 

กรรมตามส่งผลแบบเห็นได้ชัดเจน 

ดังเช่นคำสอนขององค์พระสัมมา สัมมาพุทธเจ้า  สร้างเหตุไว้เช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ได้ 

จริงแท้ และแน่นอนที่สุด 

และณัชชาขอกราบขอขมาต่อองค์ทวยเทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆพระองค์ที่ปกปักษ์รักษา

ท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์  และกราบขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์  อีกครั้ง

ที่จิตของณัชชา เผลอคิดไม่ดี ต่อท่านอาจารย์อยู่บ่อยๆ 

กราบขอขมาค่ะ สาธุ 

ผลกรรมจากสิ่งที่เผลอคิดไม่ดีต่อท่านอาจารย์ 

เมื่อไหร่ที่จิตคิดไม่ดี และปล่อยให้เลยเถิด ไม่รีบระงับ เมื่อนั้น ณัชชาก็จะได้รับความทุกข์ทางด้านความรัก เช่น แฟนบอกว่าจะมาหา พอใกล้จะมาก็เปลี่ยนใจไม่มา พอแฟนมีเรื่องสะกิดใจ และไม่เชื่อใจ เขาก็คิดจะคบคนใหม่  การงาน เช่น มีปัญหากับนายจ้าง และการเงิน เช่น เงินไม่พอใจ มีเท่าไหร่ก็มีเรื่องให้ต้องจ่าย

ทุกเรื่องจะติดขัดโดยทันที ค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-05 06:42:44


ความคิดเห็นที่ 53 (1628320)

 หลังจากได้รู้จักบ้านสวน

ได้ประมาณ

  หนึ่งเดือน ก็ได้โอนเงินมาร่วม

ทำบุญโดย

ได้โอนเข้าบัญชีของท่านอาจารย์อุบล

ตอนนั้นน่าจะโอนไปจำนวน   299 + 1  บาท

พอเดินออกจากธนาคารมาถึงร้านทอง

เพื่อซื้อทองให้ลูกค้าคนขายร้านทอง   4   คน

 ก็บอกอยากเป็นลูกค้าและนัดทำสัญญากัน

ในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา   และนี่คือ

 อานิสงค์ของทานที่ได้ทำกับ

ท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด

อาชีพจริงๆคือรับราชการ

 ส่วนธุรกิจที่ทำก็คือเปิดร้านคอมพิวเตอร์

และขายทุกอย่างเท่าที่ลูกค้า

ต้องการไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง  

เครื่องใช้ไฟฟ้า  ทุกชนิด   ทอง

 โทรศัพท์   ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการขายหมด

 แม้กระทั่งปล่อยเงินกู้โดยการทำสัญญาผ่อน

 ก็คิดกำไรกับลูกค้าไม่มากเพราะ

ท่านอาจารย์เคยสอนว่า  

ถ้าเราเอากำไรกับลูกค้าไม่มาก

ต่อไปลูกค้าจะเข้ามาหาเราเอง

  บางคนส่งเร็วก็ลดดอกให้ไม่ได้คิดดอกเต็มราคา

  จึงทำให้ลูกค้ามาใช้บริการที่ร้านมาก

ยิ่งช่วงเดือนกรกฎาคม

 หลังจากกลับจากเข้าค่าย    12

    ลูกค้าโทรมาเกือบทุกวันเพื่อสั่งของ

  จนทำให้คิดว่านี่คืออานิสงฆ์ของทานที่เราทำ

  ทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน  

และมีเงินใช้ไม่ขาดมือหลัง

จากนั้นก็ร่วมบุญกับบ้านสวนมาตลอด

และนำเงินที่ได้จากการใส่บาตรวิระทโย

มาร่วมบุญกับบ้านสวนด้วย  

  จึงขอเล่าเพื่อเป็นธรรมทานให้

ลูกบ้านสวนทุกคนได้มาอ่าน

ลูกขอกราบขอบพระคุณ

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

  เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ  

 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

  ท่านอาจารย์อุบลลูกขอกราบ

ขอบพระคุณมากค่ะสาธุ      สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-07 19:54:27


ความคิดเห็นที่ 54 (1629492)

สาธุ  กราบแทบเท้าท่านอาจารย์อุบล  ที่ท่านได้เมตตาขยายความคำว่า ธรรมทาน  เพราะทำให้คนอีกหลายคนที่ยังไม่กระจ่างเรื่องนี้ได้เข้าใจและสบายใจขึ้นมากมาย  สำหรับป้าติ๋มเองมีเรื่องเยอะแยะ  ทั้งดีและชั่ว ซึ่งกำลังขัดเกลาความจำของตัวเองเรียกเรื่องราวทั้งดีและชั่ว  ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและผลจากการกระทำเหล่านั้น มาเขียนเป็นธรรมทาน  และ ณ เวลานี้ป้าติ๋มสรุปได้แล้วว่า บุญไม่แพ้บาป จริงๆ พระพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนพีระมิด พระศรีอาริย์  เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ เทพสพริงซ์และอาจารย์อุบล ท่านให้ความถูกต้องแก่คนที่ทำดี ประพฤติปฏิบัติดี  ให้อภัยให้โอกาสคนที่เคยทำชั่วสร้างความเลวได้แก้ไข  และสร้างความดี กรรมดี  โดยมีท่านอาจารย์อุบลผู้แสนประเสริฐยิ่งนัก  คอยเติมเต็มความรักแบบไม่มีเงื่อนไขให้  พร้อมกับท่านอาจารย์มงคลที่ท่านมีความเมตตาเหลือล้น และคุณท๊อปที่ให้ความรักแก่ทุกคนที่ขอเข้ามาพึ่งใบบุญและร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด  อย่างที่ไม่แบ่งแยกว่าคนนั้นมาจากไหน  กราบขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิริกัญญกรณ์ ธนิศรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-15 06:10:02


ความคิดเห็นที่ 55 (1629588)

  2-3   ปีที่ผ่านมามีอาการปวดเข่าด้านซ้าย

ทำยังไงก็ไม่หายปรึกษา

และรักษากับนักกายภาพ

อาการก็พอทุเลา  ไม่ก็ทรงตัว

แต่ไม่นานอาการก็กำเริบ

ขึ้นมาอีก เข้าใจมาโดย

ตลอดว่าสาเหตุนั้นน่าะเกิด

จากการชอบใส่รองเท้าส้นสูงเวลาทำงาน 

จึงทำให้ข้อเข่าอักเสบเรื้อรัง

แต่ปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้นกับลูกอีกครั้ง

เมื่อได้มารู้จักกับ้านสวนพีระมิด

โดยคำบอกเล่าจากพี่ที่ทำงาน

แต่พี่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดต่างๆ

มากนัก  ตนเองจึงได้ไปค้นหาจากอินเทอร์เน็ท

และได้รู้จักเว็บบ้านสวนพีระมิด  

และทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งว่า

ที่พี่ไม่ได้ให้รายละเอียดนั้นเพราะ

ถ้า

คนที่มีบุญสัมพันธ์กับบ้านสวน

และท่านอาจารย์จริงเท่านั้นที่จะ

ร่วมบุญกับบ้านสวนได้

ขณะนั่งรีดผ้าอยู่นั้นเองก็นึกถึงคำ

ของท่านอาจารย์ว่าทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ

เหตุดับผลจึงดับ    จึงนั่งไตร่ตรองว่า

ขาข้างนี้ไปก่อกรรมอะไรมาบ้าง

กรรมถึงย้อนมาทำร้าย

ต้องทุกข์ทรมานกับการ

ปวดเข่าเรื้อรังมาได้ตั้ง  2-3  ปี

จึงทำให้คิดได้ว่าขาข้างนี้

เคยเตะสามีและลูกทั้งเตะจริง

และเตะเล่น  อีกทั้งใช้ทำ

หน้าที่แทนมือ   เปิด - ปิดพัดลม

ดังนั้นจึงได้กราบขอขมาต่อองค์พระปฐม

  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล

ท่านอาจารย์อุบล พร้อมทั้งสามี - ลูก

และการใช้ขาทำหน้าที่แทนมือและ

ได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ขอให้ลูกหายจากอาการปวดเข่าด้วยเจ้าค่ะ

ปาฏิหาริย์เจ้าค่ะ  อาจารย์ขา

ไม่น่าเชื่อว่าเข่าด้านซ้ายที่ลูก

เป็นเรื้อรังมาตั้ง  2-3  ปี

อาการจะหายเป็นปกติไม่มีอาการปวดขึ้นมา

อีกเลยตั้งแต่วันนั้นจนถึงบัดนี้

นับเป็นเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอาจารย์

ที่ได้ให้โอกาสลูก  และลูกก็ไม่เคยใช้ขา

ก่อกรรมเช่นนั้นอีกเลยด้วยกลัวกรรมย้อนกลับ

อีกทั้งกรรมสมัยนี้ติดจรวดเห็นผลเร็วกว่าที่คิด

ไม่ต้องรอผลถึงชาติหน้า 

แค่ชาตินี้ก็รับจะไม่ไหว

ลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และ

ท่านอาจารย์อุบลอีกครั้งนะเจ้าค่ะ

กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

สาธุ  สาธุ  สาธุ



 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-15 19:10:35


ความคิดเห็นที่ 56 (1629619)

 หลังจากได้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงพระศรีอาริย์

ก็ได้ตั้งใจจะไม่ทานเนื้อสัตว์อีก

และจะทานมังสวิรัตตามคำแนะนำ

ของอาจารย์พอกลับมาทำงานได้  1  วัน

ก็ได้รับหนังสือเชิญประชุม

โอ...ท่านอาจารย์ขา

คราวนี้จะทำยังไงดี

ตะบะจะแตกก็คราวนี้แหละค่ะ

(เอ๊ะแต่สั่งไข่เจียวทานก็ได้นี่นา)

ก่อนนอนก็ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และใช้

รหัสอาจารย์อุบลช่วยลูกด้วย

ขอให้ลูกมีอาหารที่เป็นผักทานด้วยเถอะเจ้าค่ะ

สาธุ

เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน

สิ่งปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นกับลูกอีกเจ้าค่ะ

เมื่อมีอาหารอยู่จานนึง

ในจานจะมีแครอท  กะหล่ำ  คะน้า เห็ดหอม

วางเรียงไว้แล้วก็มีน้ำราดเหนียวๆ

อีกจานก็มีผักสดมีแตง  ถั่วพลู  

ลูกก็ใช้ผักที่มีจิ้มกับพริกน้ำปลา

อร่อยมากค่ะ

ทุกครั้งที่ลูกมีเรื่องเดือดร้อนทุกข์ใจ

ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์

และท่านอาจารย์ช่วยท่านก็ไม่เคยปฏิเสธ

และทำให้ลูกผิดหวังเลยซักครั้ง

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

อีกครั้งในหลายๆครั้ง

ที่ได้ช่วยลูกมาตลอดนะเจ้าคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

แล้วจะมาเล่าธรรมทานอีกนะคะ

อย่างน้อยก็วันละเรื่อง

อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-16 09:32:56


ความคิดเห็นที่ 57 (1629776)

เมื่อวานด้วยความเป็นคนเจ้าระเบียบ

ทำอะไรต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย

มีอัตตาสูง

ทำให้เห็นอะไรวางไม่เป็นที่เป็นทาง

ก็ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด

ทั้งทั้งที่ตั้งใจจะมีจิตใจที่สงบนิ่ง  

ไม่ทำให้ความโมโห

มาครอบงำจิตใจได้  

แต่เมื่อวานอารมณ์ร้ายก็เข้าครอบงำ

จิตใจของลูกจนได้  ทำให้ดุเด็กตาดำๆ  2  คน

 คนนึงอายุ  ย่าง 5  ขวบ

 และอีกคนอายุย่าง 9  ขวบ

ที่วางของไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยซน

อีกทั้งตรวจการบ้านลูกแล้วก็โมโหที่

เขียนตัวหนังสือไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย  

แต่หลังจากดุเด็กทั้งสองคน

  ก็กลับมาคิดได้ทีหลังว่า

เด็กก็คือเด็ก  แต่ทำไมก่อนทำร้ายจิตใจ

ลูกทั้งสองถึงไม่ฉุกคิดก่อนว่า

เค้าเป็นแค่เด็ก   ปล่อยให้อารมณ์

ชั่ววูบเข้าครอบงำจิตใจ

อาจารย์ขา  

ขอบารมีให้ลูกมีจิตใจเข้มแข็งกว่านี้

ด้วยเถิด  เจ้าค่ะ

ส่วนผลกรรมที่ได้รับ   ก็ทำให้เกิดความทุกข์ใจ

ไม่สบายใจพอตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็เจ็บคอ

นี่คงเป็นกรรมที่ดุด่าเด็กน้อย  สองคนแน่นอน

เจ้าค่ะ

ก่อนไปทำงานจึงได้ขอขมาต่อจี้องค์เทพสฟิงส์

และท่านอาจารย์อุบลที่ลูกไม่สามารถ

ควบคุมอารมณ์โกรธโมโหได้

ลูกขอกราบขอขมาท่านอาจารย์ด้วยเจ้าค่ะ

ต่อไปลูกจะไม่ให้อารมณ์โกรธ

และโมโหมาครอบงำจิตใจของลูกอีกเจ้าค่ะสาธุ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-17 19:48:06


ความคิดเห็นที่ 58 (1630104)

 ลูกก็ใช้ผักที่มีจิ้มกับพริกน้ำปลา

อร่อยมากค่ะ

----------------------

คุณลดาวัลย์ค่ะ  

พริกน้ำปลา  ทำจากปลา ทานไม่ได้ค่ะ ต้องถามก่อนนะค่ะ ต้องเป็น พริก ซอสถั่วเหลื่อง นะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ละม่อม ทองเจือ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-19 21:23:11


ความคิดเห็นที่ 59 (1630141)

 

                                                                                                                           ด้วยความดีใจมากเกินไป

ลืมไปว่าน้ำปลาก็ได้มา

จากผลิตภัณฑ์ของปลา

วันนั้นก็ทานมังสวิรัต

แบบ

ไม่บริสุทธ์ไปแล้วสิคะ

คราวหน้าต้องรอบคอบกว่านี้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณละม่อมมากๆนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-20 10:02:26


ความคิดเห็นที่ 60 (1630418)

   22  กันยายน 2555  วันนี้เป็นวัน

คล้ายวันเกิดเกิดของลูกสาวคนเล็ก

จึงปลุกลูกสาวสุดที่รักไปใส่บาตรที่

หน้าหมู่บ้านมีพระมาบินทบาตร 3  รูป

  ก่อนใส่ก็สวดคาถาเงินล้าน  1   จบ

และอวยพรให้ลูกสาว

ขอให้หนูเป็นเด็กดีเป็นคนดี

 มีดวงตาเห็นธรรมนะจ๊ะ

วันนี้จึงทั้งรูู้้้้้ืืืื้้้้้้้้้้้้สึกสบายใจ  และ จิตใจก็สงบ 

มีความสุขที่ได้ทำบุญเจ้าค่ะ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-22 10:03:01


ความคิดเห็นที่ 61 (1631100)

 เมื่อวันที่ 19  กันยายน  2555

ไดใช้จี้สฟิงส์และเผยแพร่รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ช่วยน้องในกลุ่มงานโดยแต่ก่อนนั้น

น้องเค้าจะปฏิบัติงานอยู่ที่ฝ่ายการพยาบาล

เพิ่งขอย้ายลงมาทำงานที่เดียวกัน

คือกลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัว

และชุมชน ก่อนหน้านั้นน้องเค้าก็เจอ

เรื่องราวร้ายๆมาเยอะมาก

แต่ด้วยไม่ได้สนิทมากจึงเพียง

ได้ยินเรื่องราวแค่ผ่านๆ

แต่หลังจากน้องเค้าย้ายลงมาทำงาน

ที่เดียวกันก็ได้ประจักษ์และ

พบเห็นด้วยตนเองว่าสิ่งที่น้องเค้าเจอ

นี่มีแต่เรื่องต่างๆเข้ามาตลอดไม่ว่าจะเป็น

อุปสรรคด้านการเงิน   การงาน  ความรัก

จนเรียกได้ว่า

 "ความวัวยังไม่ทันหาย

 

ความควายก็เข้ามาแทรก"

ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆทำ

ให้ต้องเสียทั้งเงินทอง

เสียใจ  เสียเวลา  เสียความรู้สึก

ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่น้องต้อง

 

 

1.กลายเป็นคนไข้วัณโรคเพราะดูแลคนไข้วัณโรคจนติดเชื้อ

 

 

 

2.โดนกลุ่มวัยรุ่นทุบรถจนเสียหายทั้งๆที่ไม่ได้ไปทำอะไรให้

 

 

 

3.เพื่อนสนิทผูกคอตาย

 

 

 

4.มีคดีฟ้องร้องเรื่องบ้านจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

 

5.ล่าสุดขับรถอยู่ดีๆก็มีคนขับรถมาชนด้านคนขับจนรถพังเสียหายต้องนำรถเข้าศูนย์เพื่อซ่อม

นี่คือเหตุการณ์ภายในระยะเวลาแค่  2 ปี   ที่ได้รับทราบ

แล้วก่อนหน้านี้ที่น้องเค้าเจอมาอีกมากมาย

จึงบอกให้น้อง     สารภาพกับจี้องค์เทพสฟิงค์

ถึงบาปที่ไปก่อมาว่าไปทำอะไรมาบ้าง

และขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อท่านอาจารย์อุบล

ต่อบิดามารดาที่ได้ล่วงเกิน  

และให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

โดยการใช้ต้องมีจิตตั้งมั่น

 มีความเชื่อว่าจะพบแต่สิ่งดีๆต่อจากนี้ไป

ให้รักษาศีล  5

และเมื่อหายให้มาเล่าเป็นธรรมทาน

และเผยแพร่รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยให้คนอื่นด้วย

และเมื่อวันที่  20  กันยายน 55

ตอนเช้าเมื่อมาถึงโรงพยาบาล

น้องเค้าก็เข้ามาบอกว่า

ใช้รหัสอาจารย์อุบลแล้วได้ผล

ไปเปิดคลินิกแล้วมีคนไข้มารักษาที่คลินิก

ได้เงินเข้าคลินิก  ประมาณ  2,900   บาท

ก็เลยบอกน้องเค้าไปว่าอย่า

คิดค่ารักษากับคนไข้แพงนะ

และให้ไปเล่าเป็นธรรมทาน

และขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และ

ท่านอาจารย์อุบลที่ได้ช่วยเหลือ

เพื่อเป็นการแสดงถึงความกตัญญูที่

ท่านช่วยเหลือ

และให้ไปสมัครเป็นสมาชิกเว็บบ้านสวน

เพื่อจะได้เขียนธรรมทานในเว็บ

และให้ไปดูคลิปรายการให้ครบ   9   ตอน

จะได้ไปร่วมบุญแรงกายที่บ้านสวนได้

โดยไม่ผิดกติกา

น้องเค้าก็รับปากและยังบอกว่า

ถ้าไปบ้านสวนเมื่อไหร่ให้บอกน้องเค้าด้วย

เค้าจะได้ฝากเงินที่ใส่บาตรทุกวัน

ไปร่วมทำบุญด้วย

ก็เลยอนุโมทนาบุญกับน้อง

และบอกน้องว่าให้เชื่อด้วยความ

บริสุทธิ์ใจแล้วปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น

และวันนี้น้องเค้าก็ไปรับรถที่

เข้าศูนย์เพื่อซ่อมและเสร็จทันเวลาพอดี

ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอาจารย์อุบล

ที่ได้ช่วยเหลือน้องเค้าและปลดเปลื้องทุกข์

แล้วลดาวัลย์จะมาเล่าเรื่องราวของน้องเค้า

กับปาฏิหาริย์ที่จะเกิดขึ้นกับน้องเค้าต่อไป

เจ้าค่ะเพราะคิดว่าต่อไปว่า

น้องเค้ากำลังจะเจอกับเหตุการณ์

ที่ไม่น่าเชื่ออีกมากเจ้าค่ะ

 






 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-26 13:59:59


ความคิดเห็นที่ 62 (1631237)

 

                    กราบแทบพระบาท สมเด็จพ่อองค์ปฐม องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศรีอาริย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์  เทวดาทุกพระองค์ที่ดูแลรักษาอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ในทุกภพทุกชาติจนชาติปัจจุบันนี้ ท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์  อาจารย์มงคล  รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งหลายที่บ้านสวนพีระมิด  ที่ได้มอบโอกาสให้นัชญ์ได้เขียนธรรมทาน ในครั้งนี้

                 ภัคณัฐฎ์  ธรณ์วรรธ์ธนา  นัชญ์   ได้มีสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตคือ  นัชญ์ ได้รับความรู้ด้านธรรมะมาจากบุคคลท่านหนึ่ง ซึ่งต่อมาในภายหลังก็ได้รับทราบว่า  บุคคลผู้นั้นไม่ได้เป็นดังที่เข้าใจ  เราก็คิดว่าเราเสียเวลาในการปฏิบัติธรรมในทางที่ผิดมานานมาก  และก็ทำให้เราได้ผิดพลาดในการช่วยบุคคลผู้นั้นได้เผยแพร่หลักคำสอนของเขาให้แก่ผู้คนทั่วไปเป็นจำนวนมาก  และเราก็เริ่มที่จะรู้สึกโกรธบุคคลนั้น   แล้วนัชญ์ก็ได้คุยกับพี่คนหนึ่ง   ที่ได้สอนแนะนำนัชญ์ว่า  ไม่ควรไปโกรธ  ให้ถือว่าเขาก็เป็นครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง  ซึ่งนัชญ์ก็ได้ทำดังนั้น   และก็คิดว่าเขาก็เป็นครูบาอาจารย์ที่สอนให้นัชญ์ได้มีโอกาสรู้จักพระบรมบิดาและสมเด็จพ่อองค์ปฐม   และนัชญ์ก็สามารถให้อภัยในความโกรธของนัชญ์ได้  ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เขาก็เป็นครูบาอาจารย์ของนัชญ์ท่านหนึ่งเช่นกัน   ซึ่งในความผิดพลาดของนัชญ์   ก็คงเป็นบาปของนัชญ์เอง  เป็นชีวิตที่นัชญ์ต้องพบเจอ  เป็นประสบการณ์ชีวิต  แต่ขณะนี้นัชญ์ก็พยายามไม่มองการปฏิบัติในช่วงเวลาดังกล่าว  เพราะทุกคนต้องมีประสบการณ์และความผิดพลาด  จนทุกวันนี้ นัชญ์ก็ยังไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่ต้องการ นัชญ์ก็ยังเป็นคนเลวที่พยายามจะปรับปรุงแก้ไขความผิดให้เบาบางที่สุด   และจากคำสอนของอาจารย์ท่านนั้น    นัชญ์ก็ได้ทำความผิด นัชญ์เล่ารายละเอียดไม่ถูก  แต่เป็นในทำนองว่า  สวรรค์นรกคือสิ่งที่จิตใจของเราสร้างขึ้นมาเพื่อบังคับให้เราไปอยู่  หากเรายึดติดในความดีหรือความเลว  และหากเราไม่ยึดติดความดี ความเลว และอธิษฐานไปนิพพานทุกวัน เราก็ไปนิพพานได้ โดยไม่ต้องไปนรกหรือสวรรค์  โดยศีล 5  ไม่มีความสำคัญ   และจากคำสอนดังกล่าว  นัชญ์ก็ได้ประพฤติปฏิบัติดีทุกอย่าง  ความผิดก็คือเมื่อนัชญ์เดือดร้อนทางการเงิน นัชญ์ก็ได้หยิบเงินคุณป้าไปใช้โดยทำใจว่า   เราไม่ยึดติดในความผิดนั่น   ซึ่งผลกรรมที่นัชญ์ได้รับก็คือ  นัชญ์ก็ยังมีปัญหาทางการเงินมาตลอด   เงินที่หยิบไปไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเงินได้  ปัญหาทางการเงินหนี้สินก็วนเข้ามาหาชีวิตนัชญ์แบบเดิมอีก  หนี้ที่มากกว่าเดิมก็วนเข้ามาอีก และนอกจากนั้นทำให้นัชญ์ไม่ได้รับเงินโบนัสประจำปีจากผู้บังคับบัญชาอีกหลายพัน  แต่ก็มีบุญมาช่วยนัชญ์ทัน  เพราะเพื่อน ๆ รักนัชญ์มาก  ช่วยกันใส่ซองให้นัชญ์แทนเงินโบนัส  บุญที่ว่าอาจเป็นเพราะว่า  นัชญ์ชอบทำบุญและบริจาคเงินอยู่เสมอ และช่วยเหลือในกิจการของเพื่อน ๆ   แม้ว่าเงินนัชญ์จะไม่บริสุทธิ์  เพราะนัชญ์มาทำงานสาย และได้หยุดงานโดยไม่ได้ป่วย  แต่นัชญ์ก็พยายามแก้ไขความผิดของนัชญ์ พยายามทำให้เงินนัชญ์บริสุทธิ์ คือ  นัชญ์โอนเงินเดือนของนัชญ์ส่วนหนึ่งเข้าไปในบัญชีของนายจ้าง  เพื่อชำระหนี้จากการมาสายและหยุดงาน  แม้อาจไม่พอ  แต่นัชญ์ก็จะพยายามใช้หนี้หน่วยงานไปเรื่อย ๆ และพยายามมาไม่ให้สายมาก  ที่นัชญ์ได้แก้ไขเรื่องเงินก็เพราะนัชญ์และคุณแม่และคุณป้าได้ดูรายการของท่านอาจารย์อุบลทางโทรทัศน์ทุกสัปดาห์ ได้รับความเมตตากรุณาจากท่านอาจารย์ในการเผยแพร่ธรรมะอันงดงามขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ถูกต้อง  ทำให้นัชญ์มีความคิดที่ถูกต้อง  จากคำสอนของท่านอาจารย์อุบลทำให้นัชญ์ได้มีแนวทางที่ถูกต้อง   นัชญ์อยากให้ทุกท่านได้ทราบว่า   ศีล 5 คือหนทางสำคัญสู่พระนิพพาน  ให้ทุกคนปฏิบัติตามแนวทางของท่านอาจารย์อุบลที่ถูกต้อง  อย่าได้ละเลยศีล 5  อย่าได้ประพฤติผิดแนวทางดังเช่นที่นัชญ์เคยทำเลย  นอกจากนี้  ที่สำคัญมากที่สุด ในเรื่องของการให้อภัย   นัชญ์อยากให้ทุกคนให้อภัยกับคนต่าง ๆ ได้ทั้งหมด  ให้อภัยกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต   ให้ถือว่าเป็นประสบการณ์  เป็นบทเรียนให้ชีวิตของเราได้ดีและพัฒนาไปสู่ความดีงามยิ่งขึ้น  ให้พยายามมองว่า  เราได้เรียนรู้ว่าสิ่งใดผิด  เราจะได้มั่นใจอย่างเต็มที่ว่า  สิ่งที่เราทำอยู่ในขณะนี้ถูกต้องและดีงามเพียงไร   รวมถึงที่สำคัญให้อภัยตัวเราเองด้วย  เพราะอภัยทานคือทานสูงสุดดังเช่นที่อาจารย์อุบลได้เมตตาสั่งสอนพวกเราทุกคนไว้    นัชญ์ หวังว่า เรื่องของนัชญ์คงมีประโยชน์ต่อทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านด้วย

                ในสุดท้ายนี้  นัชญ์ขอกราบแทบพระบาท ขอบพระคุณสมเด็จพ่อองค์ปฐม องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศรีอาริย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์  เทวดาทุกพระองค์ที่ดูแลรักษาอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ในทุกภพทุกชาติจนชาติปัจจุบันนี้ ท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์  อาจารย์มงคล  รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งหลายที่บ้านสวนพีระมิด ที่ได้มอบโอกาสอันสำคัญยิ่งให้ นัชญ์ได้เล่าธรรมทานในครั้งนี้

      จาก  ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา  ผู้โง่เขลาเบาปัญญา

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 09:31:46


ความคิดเห็นที่ 63 (1631308)

 

 

              กราบแทบพระบาท สมเด็จพ่อองค์ปฐม องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศรีอาริย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์  เทวดาทุกพระองค์ที่ดูแลรักษาอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ในทุกภพทุกชาติจนชาติปัจจุบันนี้ ท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์  อาจารย์มงคล  รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งหลายที่บ้านสวนพีระมิด 

                หลังจากที่นัชญ์ได้เขียนเล่าเรื่องธรรมทานไปแล้วสักพัก   นัชญ์ก็รู้สึกปิติมากอย่างบอกไม่ถูก   รู้สึกเหมือนอยากร้องไห้  นี่คงเป็นผลบุญจากที่นัชญ์ได้เล่าธรรมทานออกไป   นัชญ์ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลเป็นอย่างมาก   ขณะนี้ นัชญ์ก็ยังอยากร้องไห้อยู่เลย  รู้สึกปิติมากบอกไม่ถูก

              ในสุดท้ายนี้  นัชญ์ขอกราบแทบพระบาท ขอบพระคุณสมเด็จพ่อองค์ปฐม องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศรีอาริย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์  เทวดาทุกพระองค์ที่ดูแลรักษาอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ในทุกภพทุกชาติจนชาติปัจจุบันนี้ ท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์  อาจารย์มงคล  รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งหลายที่บ้านสวนพีระมิด ที่ได้มอบโอกาสอันสำคัญยิ่งให้ นัชญ์ได้เล่าธรรมทานในครั้งนี้

 

 

      จาก  ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา  ผู้โง่เขลาเบาปัญญา

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-27 10:38:50


ความคิดเห็นที่ 64 (1631588)

 

ขอเล่าความชั่วครับวันที่24กันยายนช่วงเช้า ผมอยู่ที่ทำงานผมเดินไปกินน้ำ

ผ่านโต้ะที่พี่ที่ทำงานเปิดคอมพิวเตอร์ฟังเพลง ผมเดินผ่านเลยมองดู

คอมพี่เขาแต่ภาพในคอมเป็นหนังโป้ผมเลยยืนดูแบบผ่านๆ2-3ครั้ง

ช่วงบ่ายมีอาการคันอวัยวะเพศ และที่ตามีอาการร้อนจนถึงช่วงเย็นก่อนนอน

จึงนึกได้ ได้สารภาพกับจี้อาการที่คันอวัยะเพศดีขึ้น ตาที่ร้อนหาย ต่อไปต้องระวัง

ตัวเองให้ดีๆ อย่าประมาทเพราะจริงๆแล้วผมก็อยากดู ยังเลิกไม่ได้เด็ดขาด

เราคิดว่าไม่ได้เจตนาแท้จริงแล้วเราตามกิเลส คืออยากดูนั่นเอง

ต่อไปจะระวังตัวเองให้มากกว่านี้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น จรัล ยาตรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-28 21:37:09


ความคิดเห็นที่ 65 (1631612)

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล และคุณท๊อป รวมทั้งลูกบ้านสวนทุกท่าน คุณทัศนีย์ พยาบาล รพ.ทหารผ่านศึก ฝากจิ๋ม ชัชวลี ลงธรรมทานใน web กับผลกรรมของเธอ เชิญติดตามได้ค่ะ

ขอแนะนำตัวเองค่ะข้าพเจ้าชื่อน.ส.ทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล อาชีพพยาบาล ขอยืนยันว่าไม่มีใครหนีพ้นกฎแห่งกรรม
      ชีวิตวัยเด็กในชนบทที่ต่างจังหวัด  สัตว์แทบทุกชนิดจะถูกจับฆ่าเป็นอาหารหมด เมื่อเห็นคุณพ่อและพี่ชายทำอะไรก็อยากทำได้อย่างคนอื่นแม้กระทั่งการฆ่าสัตว์เพื่อนำมาประกอบอาหารก็ลงมือทำเอง    มีการกระทำอย่างโหด***ม ทารุณ เลือดเย็นและอำมหิตเกินกว่าที่จะเรียกตัวเองว่าคนหรือสัตว์ประเสริฐโดยไม่ได้นึกถึงชีวิตของคนอื่นเลย    ซึ่งเป็นความเลวระยำและความผิดอย่างมหันต์ที่ยากจะให้อภัยได้   ชีวิตของสัตว์ที่ถูกฆ่ามีตั้งแต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย ( มด ยุง มอด แมลงสาบ แมลงป่อง ตั๊กแตน ตะขาบ ตะเข็บ จิ้งจก ฯลฯ  ) กุ้ง หอย ปู ปลาจนถึงสัตว์ใหญ่ จับลูกหนูตัวแดงๆให้แมวกิน ทุบหัวปลา ปลาไหล ต้มปูเป็นๆในกระทะ ลวกหอยแครง ผัดหอยลาย  มีการฆ่างู ตะกวดโดยวิธีตีให้ตายเนื่องจากมันมากินไก่ที่เลี้ยงไว้ แล้วเอางูไปฝังดิน    ส่วนตะกวดเอาไปต้มให้สุนัขกิน ส่วนไม่เร็วก็ช้า  แต่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อ  เพราะเห็นคนที่ก่อกรรมทำชั่วตลอดก็ยังมีชีวิตที่สุขสบาย   ขอเล่าเรื่องกฎแห่งกรรมที่ตัวเองได้รับในชาตินี้เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้ทุกคนละเว้นการทำบาปอีกต่อไปสัตว์ใหญ่ที่ฆ่าเพื่อนำมาประกอบอาหารมีเต่า ตะพาบน้ำ กบ กระรอก อีเห็น เหยี่ยว นกฮูก โดยเอาเต่าไปเผ่าบนเตาไฟเพื่อให้ตัวทากในตัวเต่าตาย ตัดคอตะพาบน้ำแล้วเอาไปลวกในน้ำร้อน   ฆ่ากระรอก เหยี่ยว นกฮูกด้วยการเอาเชือกรัดคอ เอาอีเห็นที่อยู่ในกรงถ่วงน้ำให้ตาย    ถลกหนังกบและดึงเอ็นที่หลังเพื่อไม่ให้กบกระโดดหนี    หลังจากนั้นก็เอาสัตว์ดังกล่าวไปประกอบอาหาร ทั้งหมดนี้คือวีรกรรมที่ตัวเองได้ทำกับสัตว์อย่างโหด***ม ทารุณ เลือดเย็นและอำมหิตที่สุด

         ปัจจุบันข้าพเจ้ามีปัญหาปวดทั้งตัว (หลัง คอ เข่า ขา ต้นแขน กระดูกนิ้วมือ) โรคภูมิแพ้ ไทรอยด์ ท้องผูก    เฉพาะอาการปวดหลังเป็นมา 20 กว่าปีรักษาไม่หาย   15 ปีหลังยกของหนักไม่ได้ ต่อมาหากยืนนานๆหรือทำงานแบบก้มๆเงยๆจะมีอาการปวดเสียวหลัง ต้องทานยาแก้ปวดและใช้อิริยาบถนอนเป็นหลัก (หลังเลิกงาน) อาการปวดจึงทุเลา จึงเป็นเหตุทำให้มีปัญหากับผู้ร่วมงาน เพราะไม่สามารถยกถังน้ำยา(น้ำยาล้างไต)ที่หนัก 4-5 ก.ก. จำนวน 24-30 ถัง/วัน    เคยพยายามฝืนทำ  แต่ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดเสียวหลังทุกครั้งนานเป็นอาทิตย์    ถึงแม้เราจะพยายามทำงานส่วนอื่นทดแทนก็ยังมีคนไม่เห็นใจ คอยจับผิด กลั่นแกล้ง พูดใส่ร้ายป้ายสีตลอดจนหัวหน้าเชื่อตาม (แม้กระทั่งพี่สาวก็ไม่ค่อยเห็นใจเรื่องปวดหลัง)    ทำให้ชีวิตมีแต่ความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ  ทุกข์ถึงขนาดไม่อยากมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้บ่อยครั้ง เพราะเกิดความท้อแท้ในชีวิตด้านการงานและสุขภาพ แม้ในชีวิตจะตั้งใจทำงานตลอด ไม่เคยเอาเปรียบใคร ทำงานเป็นที่ถูกใจของแพทย์และคนไข้    แต่กลับถูกหัวหน้าและผู้ร่วมงานกลั่นแกล้งสารพัด
     3 ปีที่ผ่านมาอาการปวดหลังรุนแรงขึ้น มีอาการปวดเสียวหลังมากจนเดินไม่ได้ถึง 2 ครั้ง ต้องนอนพักรักษาตัวในรพ.เพื่อทำกายภาพ จากนั้นมามีอาการปวดหลังตลอด ยืนและนั่งนานไม่ได้ ก้มๆเงยๆ นั่งพื้นไม่ได้ ต้องเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1/2-1 ชม.  แพทย์บอกว่ากระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกทรุดลงมากดทับเส้นประสาทหลัง ผ่าตัดไม่ค่อยได้ผล  แนะนำให้ไปว่ายน้ำ
   นี่เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงกฎแห่งกรรมที่ได้ฆ่าสัตว์แม้จะเป็นการฆ่าเพื่อนำมาประกอบอาหาร ปกป้องสัตว์เลี้ยงหรือตัวเราเองก็ตาม  คุณก็ต้องรับวิบากกรรมที่ตนเองก่อขึ้น  ความทุกข์ทรมานที่ข้าพเจ้าได้รับยังไม่สาสมกับที่ทำกับสรรพสัตว์ที่ได้รับความเจ็บปวด ทุรนทุรายอย่างทรมาน
      บัดนี้ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดและเสียใจจริงๆถึงบาปกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นอย่างโหด***ม เลือดเย็น อำมหิตและทารุณสัตว์ที่ไม่มีทางสู้    ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้ฆ่าในชาตินี้และอดีตชาติจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า  และข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันตลอดจนถึงบุญจากการใช้แรงกายและปัจจัยที่บ้านสวนพีระมิดแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เต่าที่ถูกเผาไฟ ตะพาบน้ำที่ถูกตัดคอ อีเห็นที่ถูกถ่วงน้ำ ปลาที่ถูกทุบหัว งู ตะกวดและสัตว์อื่นๆที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บปวด ร้อน อึดอัด ทุรนทุรายและทรมานอย่างแสนสาหัสก่อนเสียชีวิต    และขอให้ดวงวิญญาณของสรรพสัตว์ทั้งหลายจงอยู่ในภพภูมิที่สุคติและสูงขึ้นด้วยเทอญ
 
ขออนุโมทนาในธรรมทานของคุณทัศนีย์ด้วยค่ะ เขียนได้เยี่ยมยอดมาก ขอบุญกุศลนี้ส่งผลให้คุณทัศนีย์มีอาการดีขึ้นนะคะ  ชัชวลี
      
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-29 07:34:06


ความคิดเห็นที่ 66 (1631636)

 ขออนุโมทนาบุญกับคุณทัศนีย์และ

ดร.จุ๋มที่ช่วยเขียนธรรมทานด้วยนะคะ

สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-29 11:43:45


ความคิดเห็นที่ 67 (1632208)

 

                             วันนี้ดิฉันได้ไปทำบุญใส่บาตรตอนเช้าได้ถวายบุญที่ได้ทำให้แก่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

                และเทวดาที่รักษาอ.อุบลทุกพระองค์ และเทวดาที่รักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและถวายแก่เทวดาที่รักษา

               ตัวดิฉันและน้องบอส ถวายแก่เทวดาที่รักษาบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ตอนสายได้พาน้องบอสไป รพ.ขากลับนั่งแท๊กซี่

               ได้มีโอกาสบอกรหัสจักรวาล อ.อุบลช่วยด้วยแก่คนขับไปดูท่าทีแล้วคุณลุงคนขับมีความสนใจมากพูดจาถามตอบ

               กันอย่างเป็นมิตรที่ดี และได้คุยเรื่องราวแสดงกฏแห่งกรรมที่บ้านสวนพีระมิดและเรื่องราวของบารมีพระศรีอาริย์ที่

               อ.อุบลได้อัญเชิญมาที่บ้านสวนพีระมิดให้คุณลุงคนขับฟังด้วยค่ะแต่เนื่องจากว่าระยะเวลาการเดินทางมันสั้นจึงพูดคุย

               กันได้ไม่ละเอียดเท่าที่ควรถึงบ้านก่อน ก่อนที่จะลงคุณลุงยังกล่าวคำขอบคุณที่ดิฉันได้บอกเล่าเรื่องราวและรหัส

              จักรวาลให้ฟังอีกด้วยค่ะ ( ดีใจจังที่ได้เจอคนดี )          

 

             

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-02 23:24:06


ความคิดเห็นที่ 68 (1632467)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆธรรมทานด้วยค่ะ  

ผู้แสดงความคิดเห็น นัยนา ชมภูบุตร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 09:50:40


ความคิดเห็นที่ 69 (1632778)

       เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วลูกสาวปั่นจักรยานเล่นอยู่หน้าบ้าน

ด้วยความซนจึงปั่นด้วยความประมาทและปั่นเร็วมากคุณย่า

 คุณแม่  คุณพ่อ ก็ได้ห้ามว่าอย่าปั่นเร็วมากเดี๋ยวรถจะล้ม

ไม่ทันขาดคำ   เสียงรถจักรยานล้ม พอออกมาดูก็พบลูกสาวคนโตนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆรถจักยานสงสัยจะเจ็บโขเพราะน้องร้องไห้เสียงดังมากก็เลยถามว่าเจ็บตรงไหนบ้าง  น้องก็ชี้ไปที่บริเวณขาหนีบด้านขวา

ด้วยไม่ได้เห็นบาดแผลเพราะเกิดจากการกระแทกภายใน  

และคิดว่าคงแค่ตกใจก็เลยร้องเสียงดังจึงบอกให้น้องไปอาบน้ำ

หลังจากอาบน้ำเสร็จกำลังจะเข้านอน ก็ถามน้องอีกว่ายังเจ็บอยู่มั้ย

น้องบอกว่ายังเจ็บอยู่  ก็เลยให้น้องพนมมือตั้งใจอธิษฐาน   และบอกให้น้องใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้หายปวด  พอถามน้อง   อาการเจ็บเป็นยังไงบ้าง น้องบอกว่า   หายแล้วค่ะคุณแม่   

  สาธุ    ก็เลยให้น้องกล่าวขอบคุณท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่ได้ช่วย  

       พอตอนเช้าตื่นขึ้นมา  น้องถอดเสื้้้้อผ้าจะไปอาบน้ำ   สายตาก็มองไปที่ที่น้องชี้ไห้ดูบริเวณที่โดนกระแทกโอแม่เจ้า   บริเวณที่ถูกกระแทกมีลักษณะเป็นสีแดงช้ำๆ  และออกม่วงๆ ตอนที่น้องถูกกระแทกคงเจ็บน่าดู   แต่พอน้องใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยน้องกลับหายและไม่เจ็บเลย  ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มากนะเจ้าคะ  สาธุ   ตอนนี้น้องหายดีแล้วตรงที่ถูกกระแทกเวลาไปจับจะเป็นก้อนๆ  แต่น้องก็บอกไม่เป็นไรและไม่เจ็บเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-05 19:04:25


ความคิดเห็นที่ 70 (1633127)

มีเรื่องอยากเล่าเกี่ยวกับศีลข้อ 3 ค่ะ 

ตอนใช้จี้ช่วยคน มี 2 คนค่ะที่หลานที่ยังเด็กๆอยู่ด้วย ซึ่งหลานของทั้ง 2 คน ดื้อและซนมากๆ ซึ่งสิ่งที่เหมือนกันเกี่ยวกับเด็ก 2 คนนี้คือ พ่อแม่ชิงสุกก่อนห่าม และได้สอบถามคนที่ได้บำบัดหนึ่งในสองคน ปรากฏว่า พ่อแม่เด็กยังชอบทะเลาะกัน และบริวารกระด้างกระเดื่อง

ตรงกับที่ท่านอ.อุบลสอนค่ะว่า ผิดศีลข้อ 3 ทำให้ลูกดื้อ บริวารกระด้างกระเดื่อง 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 21:12:24


ความคิดเห็นที่ 71 (1634535)

 

                  วันนี้สามีเล่าให้ฟังว่าเมื่อวันที่   14   ตุลาคม  55    ได้ขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์  และเจ้ากรรมนายเวรที่ได้ล่วงเกินมาทั้งอดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน   ขอให้หายเจ็บเข่าซึ่่งเข่านี้เจ็บมานานแล้วและเจ็บเรื้อรังมาตลอด  บางครั้งปวดมากถึงขนาดเก็บไปฝันว่า  (ต้องเดินคุกเข่า  พอตื่นมาจากความฝันก็ยังปวดอยู่)   พอกำลังจะหายก็มีเหตุทำให้บาดเจ็บขึ้นมาอีกทุกที    จนบางครั้งมานั่งคุยกับสามีว่าอดีตชาติเราทำบาปทำกรรมอะไรมาถึงได้มามีอาการปวดเข่าเหมือนกัน   แต่อาการปวดเข่าของตนเองได้หายไปแล้วหลังจากได้  ขอขมาต่่อสิ่งศัดิ์สิทธิ์    องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา  พระอรหันตสาวกทุกๆพระองค์   เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ   ท่านอาจารย์อุบล   เจ้ากรรมนายเวร ทั้งอดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน ตลอดจนสามีและลูกที่ได้ใช้เท้าเตะทั้งเตะเล่นและเตะจริง   รวมทั้งการใช้เท้าผิดหน้าที่   เข่าของตนเองก็ได้หายเจ็บ   และไม่มีอาการปวดเลยนับแต่นั้นมา   พอสามีได้เล่าให้ฟังว่ากราบขอขมาแล้วอาการเจ็บเข่าดีขึ้นจนกระทั่งเกือบหาย เวลาเตะฟุตบอลก็รู้สึกดีกว่าทุกครั้งไม่รู้สึกเจ็บหรือขัดในเข่า  และได้มาเล่าให้ฟังตอนกินข้าวเที่ยงวันนี้ คือวันที่  15  ต.ค.  55   ด้วยความดีใจแทนสามี    จึงได้พลั้งปากพูดออกไปว่าจะเขียนธรรมทานในเว็บไซด์บ้านสวนพีระมิดเล่าเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นให้    หลังจากพูดเสร็จและนั่งกินข้าวอยู่ดีๆ

       เอ๊ะ.....  ก็มีความรู้สึกว่าเข่าที่หายปวดไปแล้ว   ออกร้อนขึ้นมาเฉยๆ   รวมถึงมีอาการตึงๆที่เข่าพอให้รำคาญๆ   แต่อาการออกร้อนเริ่มมีอาการชัดขึ้นทุกทีๆ  จนกระทั่งกินข้าวเสร็จอาการก็ยังคงอยู่   แต่ด้วยความคิดแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงคิดว่าคงไม่เป็นอะไร   ก็กลับมาทำงานต่อ   จนกระทั่งหลังเลิกงานแล้วและกลับมาถึงบ้านก็ยังมีอาการออกร้อนอยู่    ตามที่ได้รับปากกับสามีว่าจะเขียนธรรมทานให้ในตอนเย็นหลังเลิกงาน   ประมาณ  เกือนหกโมงเย็นก็มานั่งเขียนธรรมทานให้สามียิ่งเขียนยิ่งมีความรู้สึกว่าอาการออกร้อนเริ่มรุนแรงขึ้นรุนแรงขึ้น   เขียนไปได้ประมาณ  7- 8  บันทัด  จึงได้หยุดเขียนและได้โทรไปปรึกษาพี่ที่ไปบ้านสวนด้วยกัน   ว่าการที่เราเขียนธรรมทานแทนแบบนี้จะเป็นไรรึเปล่า ?    พี่ก็ให้คำแนะนำว่า   ลูกที่ยังเขียนหนังสือไม่ได้   และบุคคลอื่นที่เขียนธรรมทานใส่กระดาษมาฝากไว้ให้เขียนธรรมทานแทนได้   ตนเองจึงได้ไปลบธรรมทานที่คิดและเขียนแทนสามีทั้งหมดออก    

      โอ๊ะ ?..ไม่น่าเชื่อเลยแค่กำลังโทรศัพท์ปรึกษาและขอคำแนะนำพี่อยู่อาการออกร้อนเข่าก็เริ่มทุเลา  และค่อยๆหายไปหลังจากลบข้อความที่เขียนธรรมทานแทนสามี  แต่ก็ยังมีอาการออกร้อนอยู่เล็กน้อยพอให้เตือนสติตนเองว่าอย่าได้แทรกแซงกรรมของผู้อื่น อีกทั้งท่านอาจารย์ได้ตักเตือนไว้เสมอว่าอย่าไปแทรกแซงกรรมของผู้อื่นมิเช่นนั้นเจ้ากรรมนายเวรก็จะเล่นงานเราแทน  

     บัดนี้ลูกได้เจอด้วยตนเองแล้ว...ต่อจากนี้ไปจะทำอะไรคงต้องใช้ปัญญาพิจารณามากว่านี้...ด้วยความดีใจแทนสามีตนเองจึงไม่ทันได้คิดและทำให้ขาดสติปัญญาขาดการพิจารณาโดยถ้วนถี่

 

     ลูกจึงขอกราบขอขมาต่อองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา  เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ  องค์เทพสฟิงซ์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล  เทพพรหมเทวดา  ท่านอาจารย์อุบล   ศุภาเดชาภรณ์ พระศรีอาริยเมตตรัยที่ได้แทรกแซงกรรมของผู้อื่น (ซึ่งเป็นสามีของตนแท้ๆ)จากนี้ไปเมื่อจะทำการณ์ไดลูกจะใช้สติและปัญญาพิจารณาให้รอบคอบกว่านี้เจ้าค่ะ  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 18:39:18


ความคิดเห็นที่ 72 (1634927)

เมื่อก่อนนี้ พอได้ฟังข่าว/เรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมือง, ฆาตกรรม, จี้ปล้น, ปัญหาปากท้อง, ปัญหาถูกหลอกถูกฉ้อโกง ฯลฯ

เราจะรู้สึกเครียด และคิดในใจหรือบ่นว่าทำไมเขาถึงทำกันอย่างนั้น ไม่กลัวบาปเลยเหรอ !

หรือแม้แต่ได้รับฟังเรื่องทุกข์ใจจากแม่หรือญาติพี่น้อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปัญหากระทบกระทั่งกันจากการอาศัยอยู่ร่วมกัน การดูแลเอาใจใส่-แคร์กันและกัน

ก็จะรู้สึกทุกข์ใจ ร้อนรนใจ เหนื่อยใจและเครียดกับเรื่องราวสารพัดนั้น

แต่หลังจากได้ฟังธรรมทานจากท่านอาจารย์และบ้านสวนบ่อยๆ

ความคิด ความรู้สึก ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไป .. ไม่เครียด ไม่ร้อนใจอีกแล้ว

ไม่ว่าจะได้รับฟังเรื่องราวเศร้าสลดใจจากผู้ใด จะค่อยๆ ใช้สติคิดพิจารณาซะก่อน

เมื่อผลเกิดขึ้นแบบนี้ สาเหตุล่ะเกิดจากอะไร ต้องแก้ไขที่สาเหตุ ..ต้องแก้ไขอย่างไรได้บ้าง

ตัดความร้อนรนใจออกไป จะได้มีสติคิดออก ว่าเหตุการณ์เช่นนี้เราจะรับมืออย่างไร

ทุกเรื่อง ล้วนมีสาเหตุมีที่มา จึงก่อให้เกิดผลเช่นนั้นๆ

เราสามารถคิดออก คิดได้ คิดเป็น .. ถึงเหตุแห่งทุกข์นั้น

แต่เราอาจไม่สามารถหาวิธีดับที่เหตุเพื่อกำจัดทุกข์ทั้งหมดหรือทุกเรื่องทุกครั้ง

ดังนั้นหากได้ใช้ความพยายามเต็มที่แล้ว รู้เหตุแห่งทุกข์แล้ว

แต่ไม่รู้แจ้งถึงวิธีดับทุกข์  หรือรู้ถึงวิธีดับทุกข์ แต่เจ้าของทุกข์ไม่พร้อมดับทุกข์

สุดท้ายคือ ใจเราต้องปล่อยวาง .. กับเรื่องนั้น กับบุคคลนั้น

ที่สำคัญ! อย่าลืมย้อนกลับมาดูตัวเอง สำรวจตัวเองทุกครั้ง

ปัจจุบันนี้เราดีพอแล้วหรือยัง ที่จะไปแนะนำเขา ให้ความเห็นแก่เขา ไปช่วยชี้ทางดับทุกข์ให้แก่เขา

เพราะคำสอนของท่านอาจารย์ดังก้องในสมองตลอดเวลา...ว่า

เราไปตักเตือน วิพากวิจารณ์ ติฉินนินทา ว่าร้าย/ปรามาสผู้ใด

โดยที่เราไม่ได้มีความดีมากกว่าเขา เรายังบกพร่องในศีลในธรรมมากกว่าเขาทุกเรื่อง

เรานั่นล่ะ..ต้องรับชดใช้กรรม ที่ล่วงเกินผู้อื่นนั้น

ดังนั้นเราต้องมุ่งพัฒนาและยกระดับจิตใจของตัวเองให้ดีขึ้นก่อน

หากยังอ่อนแอ ยังไร้สติ เราจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 07:47:58


ความคิดเห็นที่ 73 (1635136)

ความตั้งใจเดิม ตั้งใจจะมาเขียนขอบคูณ และขอโทษ นางฟ้าแมว ในหลายๆเรื่อง

แต่พอมาห้องนี้ทีไร ไปใหนไม่ได้เลย อ่านข้อความที่ท่านอาจารย์เขียน บอกกล่าวลูกบ้านสวนแล้วรู้สึกดีใจมากที่ได้มาเป็นลูกบ้านสวนอีกคน(ไม่รู้ท่านรับหรือยังแต่ขอตู่ไว้ก่อนเพราะจะไม่ไปใหนแล้วหลงรักท่านจนหมดใจ)อ่านไม่รู้กี่เที้ยวแล้วก็ยังอยากอ่านอีกไม่รู้เบื่อ ทั้งๆที่อ่านง่ายเข้าใจง่าย แต่อ่านแล้วมันประทับใจ ติดทุกตัวอักษร อ่านแล้วมีความสูขใจ อ่านอี่ก อ่าน อ่าน อ่าน จนวันนี้ได้เลิดเขียนสะที

ก่อนอื่นต้องกราบขอขมา อาจารย์ก่อน ครั้งแรกที่น้องชิมส่งลิงค์มาให้ดู ไ้ด้เห็นรูป องค์ปฐม หลวงพ่อ หลวงปู่ปาน ยังไม่ทันได้เห็นรูปท่านอาจรย์ เพราะน้องเค้าถามว่ารู้สึกอย่างไร เห็นอำไรม้ย ย้งไม่เห็นแต่รู้ว่ามีสี่งศักดิ์สิทธิ์เยอะมาก แน่นไปหมด แต่พอมาถึงรูปท่านอาจารย์ แรกเห็นออร่ารอบตัว (ติ๋มได้ไปเข้าคอดส กายและจิต) แวบแรกคือของจริง แต่พอจิตมันปรุงแต่งไม่แน่นอนแระ

แต่พอดูไปเป็นรายการคูยไปแจกไปมีขายของ จิตหยาบคิดไปในทางลบอ้อค้าขายหรอ จิตระเอียดบอกดูไปก่อนอย่างเพิงตัดสีน จิตระเอียดชนะ ยังไม่ทันขอบารมีพระ ท่านสงค์เคราะห์ให้เห็นว่ามีองค์ใหนบ้างแบบแวบแวบ ก็กราบที่คอม แต่จิตหยาบคิดอิทฉาบอกกราบพระนะ แค่นั้นและรู้สึกเสียใจ ใจมันหายแวบ จิตระเอียดชนะ กราบอนุโทนาในความดีของท่านคะ น้ำตาแห่งความปิติซืม เลยทราบว่าของจริงเจ้าค่ะ

      เลยตอ้งขอขมาที่จิตมันแวบแบบไม่ได้ตั้งใจ ยี้งมาได้รู้จ้กตัวตนของท่านยี้งหลงรักหัวปักหัวปำ ไม่ไปใหนแล้วค่ะ รู้ว่ามาถูกที่ถูกทางแล้วเจ้าค่ะ

  เลยเรืองของคูณแมวขาต้องขอยกยอดไปก่อนนะค้า ขอไปทำหน้าที่ทางโลกก่อน เพราะมันมีเยอะมากที่ต้องเขียน พอดีก่อนมาเขียนได้ทราบว่าตัวเองได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมในวันที่19 ตค 2555 ด้วย เย้ยยย ดีใจ กราบขอบพระคูณท่านอาจารย์ที่เมตตาเจ้าค่ะ

   พิมย์ก็ช้า อ่านก็ช้า เนทก็ช้า เลยได้ทีละนิดทีละหน่อยนะเจ้าค่ะ พยยามฝึกฝนอยู่เจ้าข้า^_^

กราบขอบคูณท่านอาจารย์ เทวดาที่รักษาตันท่านและครอบครัว และสี่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด เจ้าค่ะ กราบถวายบูญ ศิล ทาน ภาวนา ที่ทำมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจุบันและบูญที่ได้ทำที่บ้านสวนพีระมิดทุกอย่าง ถวายทุกท่านเจ้าค่ะ ขอบารมีพระศรีอาริย์ ได้โปรดช่วยคู้มครอง กาย วาจา ใจ ของลูก ให้มีสติ ปัญญา ใหวพริบ รู้เท่าทันทุกเหตุการ เพื่อรู้กลับบ้านนิพพานในชาตินี้เทอญ สาธุ สาธุ สาธู_/l_

ผู้แสดงความคิดเห็น เจนมณีรัตน์ นาคชยานันท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 08:36:39


ความคิดเห็นที่ 74 (1635630)

 กราบสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย  ทั่วทั้งจักรวาล ท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์  ณ  บ้านสวนพีระมิด   ลูก จิรภัทร หมายใหญ่กลาง เป็นบุคคลหนึ่ง  เมื่อวัยเยาได้เดินหลงทาง ทำตัวเหลวไหลไร้สาระ  แต่ ณ ตอนนี้ลูกมีความศรัทธา ใน พระพุทธศาสนา ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ พระอริยะสงฆ์สาวกทั้ง หลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย  ที่ช่วยชี้แนวทางให้พบแสงแห่งธรรม ในครั้งนี้ลูกรู้สึก เป็นสุขกาย สุขใจ ที่ได้ไปบ้านสวน พีระมิด จากที่คิดว่าเราคงไม่ได้ไปแล้ว ด้วยปัจจัยหลายประการ ในที่สุด การที่เราติดตามพระพุทธองค์ เรื่อยมาตั้งแต่ที่ได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด ศึกษากฎแห่งกรรม ที่เราล่วงเกินผู้อื่นมา ซึ่งบ้านสวนพีระมิดจะเน้นในเรื่องกฎธรรมชาติ ที่มีอยู่ คือกฎแห่งกรรม ใครสร้างเหตุแห่งกรรม ผู้นั้นย่อมเป็นไปตามเหตุที่ตนกระทำ ปวดหัว-แขน-ขา-ยากจน-เจ็บป่วย อันเกิดจาก สาเหตุอะไร และจุดสำคัญ อาจารย์ อุบล ท่านสามารถ แสดงกฎแห่งกรรม ให้ทุกคนได้รู้ ได้เข้าใจ ว่าสิ่งที่ตนกำลังประสบ ปัญหา ต่างๆในชีวิต ล้วนแล้วมาจากการที่เราทั้งหลายล้วนผิดศีลมาทั้งหมด 5 ข้อ ทั้งนั้น ถึงได้มีอาการที่เป็นอยู่ และ ท่านอาจารย์ อุบล ยังมีวิธี ให้พวกเราสำนึกบาป ที่ตนเคยทำมา    ศีล1-5 ข้อที่ทำผิด แล้วไม่กลับไปทำแบบเดิมอีก ก็จะหายในทันที ให้มีจิตสำนึกจริงๆ ไม่ใช่ แค่อยากหาย ถ้าจิตเปิด สารภาพบาป กับท่าน อาจารย์ อุบล  ศีลที่ละเมิดทั้งหมด 5 ข้อ อาการที่เจ็บป่วย ทางร่างกาย ทุกส่วน จะดีขึ้นตามกำลังบุญ และ ศรัทธา ของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ต้องสร้างบุญ เสริมบุญ อุทิศ บุญ ให้เจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลาย เรื่อยๆ หากเขาหมดบุญที่เราส่งไปให้ เขาจะมาทวงจากเรา แล้วจะกลับมาเป็นแบบเดิมอีก หากเรารู้ข้อนี้แล้ว  หากเราถึงฝั่งแล้วก็ใช้เขาให้หมด แต่คนเขียนยังไปไม่ถึงไหนยังต้องศึกษาในทางธรรม ยังต้องใช้ร่างกาย เราก็สร้างบุญไปเรื่อยๆ จนถึงที่สุด                                                                             *** 19. 2555 ลูกได้เข้าร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัด ณ บ้านสวนพีระมิด  ได้ร่วมบุญแรงกาย พอไปถึงก็ได้ร่วมฟังคำชี้แจง แล้วแบ่งกลุ่ม ออกเป็นกลุ่มๆ ตามแต่ปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น มีปัญหา สุขภาพร่างกาย ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ต้องไปทำบุญอะไร หน้าเป็นสิวเป็นฝ้า ,ขาดสภาพคล่องทางการเงิน,หน้าที่การงาน,ผมบาง,สายตาสั้น,อีกมากมาย                        ***ส่วนลูกเองมีปัญหาเรื่องเจ็บป่วย ทางร่างกาย ขาหักสองข้างยังมีอาการขัดๆ เดินไม่สะดวก การงาน การเงิน ครอบครัวมีปัญหา ชอบทะเลาะกัน พี่สาวพี่ชายมีหนี้สิน (สรุปเจ็บป่วยทั้งบ้าน และ มีปัญหาทางการงานการเงิน)และอยากเจริญในทางธรรม  ตอนแบ่งกลุ่มใครมีปัญหาอะไร ก็ออกไปกับผู้นำ ณ ตอนนั้น ใครผมบาง การงานการเงิน ก็ลุกเลยอัตโนมัติ ก็ไม่รู้ว่าที่ออกไปจะต้องได้ดายหญ้า  พอไปถึงพี่เขาบอกให้ดายหญ้าที่แปลง แค่นั้นแหละ คิดในใจ (ร้องอ๋อเลย) ก็จากที่บ้าน นั่งรถมาจนถึงบ้านสวน รู้แต่ว่าต้องดายหญ้า ก็คิดอยู่คนเดียวแหละ เขาคงอยากให้เราไปออกแรงกลางแดด ให้เหงื่อมันออก พอไปถึงแปลงรู้เลย ก็ตั้งใจทำ สุดความสามารถ ฝั่งที่ลูกทำมีสามคน ลูกอยู่กลาง ทำไปเรื่อยๆพี่เขาก็มาถาม ก็ลองเช็คตัวเอง จากที่ปวดขาขวา มันบวมๆ ขัดๆ เดินก็รู้สึกเจ็บๆเพราะไปย้ายเสาร์อากาศ จึงทำให้เจ็บ และหายภายใน  20 นาที ลองเดินก็ไม่ขัด วิ่งเยาะๆ กลับไปกลับมา ได้จากที่เจ็บไม่กล้าวิ่ง เพราะมันวิ่งไม่ได้ เลย ข้ามถนนยังต้องเดินเร็วๆคิดดูนะ ถ้าข้ามแบบกระชั้นชิด ประมาท คงไม่เหลือ ลองวิ่งเยาะๆได้ไม่เจ็บ  แต่ดายหญ้าไปเรื่อยๆ ใจมันเต้นเร็ว กินกาแฟมาด้วย สงสัยจะหิวข้าว หิวน้ำ คอมันแห้ง แบบว่าคุณยายๆให้ช่วย พาว่าคาถาพระศรีอาริย์ แล้วแกก็พูดตามน่ะ แต่ก็เต็มใจน๊ะ  แต่ ก็คิดในใจว่าเราเคยไปหักอกใครหรือเปล่า มันคิดขึ้นมาเอง พอท่านอาจารย์ อุบล เอาน้ำมาให้ โหมีแรงต่อเลย ใจเต้นเร็ว ก็บอก อาจารย์ อุบลช่วยด้วย ก็เบาลง หายตอนไหนจำไม่ได้ คุณยายที่นิ้วล็อก แกบอกมันกระตุกงอได้เป็นๆหายๆ ก็ตอนสวดคาถาพระศรีอาริย์ แกจะพูดไม่ชัดท่อนนึง  พุทธานะมะ เป็น….?ว่าไป  ก็เลยบอกยาย ลองพูดให้ชัดๆ ตั้งใจดู นิ้วแกหายล็อกตอนไหน ไม่รู้ไม่ได้ถาม น่ะพอฟังผลแกหาย 100%  โห สาธุกับแก เขาตั้งใจจริงๆ อีกคนก็บอกลูกดื้อ พาสวดคาถาพระศรีอาริย์ แล้วก็ให้ยาย อธิษฐานเอา มีช่วงนึงขุดลงแรงแบบไม่ยั้งมือ กอหญ้ามันก็ไม่ใหญ่มากกะว่าให้มันออกทีเดียว โห !คราวนี้ ดันได้เรื่องเลยเรา มันโดน…? ทำไงดีเนี่ย เราจะเป็นไรมากไหมเนี่ย รีบบอกพี่เขาให้มาดู  พี่หนู…? ทำท่อแป๊บน้ำแตกน่ะ ^_^! พี่ผู้ชายเขาก็นิ่งไปพักนึงบอกไม่เป็นไร เราก็ขอขมาในใจตลอดเลย ก็รู้ๆว่าถ้าทำของแตกหรือพังในสถานที่ศักดิ์สิทธิ แบบนี้มันจะเหลืออะไร ก็สำนึกผิดที่ทำตลอด ไม่สบายใจ เป็นอย่างมาก ๆจึงมาเขียนบอกด้วย เผื่อบุคคลอื่น เขาทำแล้วไม่สำนึกปกปิด ในสิ่งที่ตนเองทำ ไม่แจ้งให้ผู้ดูแลทราบ มันจะต้องมีผลที่ตามมาเป็นแน่  และเล่าเป็นธรรมทานว่าเรารู้สึก สำนึกกับสิ่งที่ตนทำจริงๆ ถ้ามีอุปกรณ์ เครื่องมือและเวลาอยากซ่อมให้ อยู่บ้านก็ต่อก๊อกน้ำเอง เกือบทุกอย่างแหละ ที่บ้านไม่มีคนทำก็ต้องทำเอง แหละว่าไป ที่บ้านทำนาว่าแล้วก็อยากช่วย เกี่ยวข้าว หลายคนคงสนุกดี เพราะเราตั้งใจทำ แค่วันเดียว เรายังมีความสุขได้ขนาดนี้ แล้วพี่ๆน้องๆ ที่เขามีโอกาส ไปทำทุกวัน  เขาจะมีความสุขมากขนาดไหน ก็สุดแล้วแต่เบื้องบนท่านจะมีมัตติว่า  ผู้ใดควรมีหน้าที่ทำอะไร  ก็ขอโมทนาบุญ กับทุกๆท่าน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ ทำความดี เพื่อช่วยเหลือเพื่อน มนุษย์โลก ต่อไป สาธุจ้า ***สรุป*** ดายหญ้าหาย 90% เหลืออีก10%หัวเข่าซ้ายมันขัดนิดๆเพราะเส้นเอ็นข้างนี้มันมีปัญหา แบบกระดูกหักทิ่มเนื้อ ฉีกขาดผ่าก็สองสามครั้ง แถมติดเชื้อมานาน ****ทานข้าวเสร็จ ก็มาร่วมฟังผล ของแต่ละกลุ่ม แต่ละคน  หนึ่ง สอง สาม สี่ ไม่ใช่อะไรหรอกเรามาแสดงผลข้อของกฎของกรรม *นึกว่าดูท็อกโชว์ แต่ละกลุ่มนี่ ฮาแบบ หัวเราะแล้วมันมีความสุขที่เขาหายเจ็บหายป่วย กัน ต่างคนต่างมีเรื่องเล่าของตัวเอง มากมาย บอกตรงๆ ได้ทั้งบุญ ทั้งสนุก มีความสุข จริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องลองเองน๊ะ จากที่ดูรายการมา ยังไม่เท่าวันที่19.55 เราได้ไปสัมผัสสถานที่จริงมีความรู้สึกอย่างนี้เอง *จิตเราเปิด พอท่านอาจารย์พูดอะไรออกมาเราก็น้อมรับโดยไม่โต้แย้ง  แล้วเวลาท่านยิ้มหัวเราะ ภาพนี้มันติดตาไปตลอดทางพอนึกเห็นเรายังนั่งยิ้มอยู่คนเดียวแล้วยังบอกพี่ที่คุยกันไปพี่หนูนึกเห็นหน้าตอนท่านยิ้ม มีความสุขพี่เป็นไหม ! เขาก็บอกว่า อาจารย์ สวย แต่งตัวสวย ยิ้มสวย   **ต่อจากที่ร่วมฟังผลว่าแต่ละกลุ่มใครดีขึ้นกี่เปอร์เซ็น  ก็ร่วมโมทนากับเขาไปเรื่อยๆ ส่วนอื่นก็เบา ที่ว่าเจ็บเข่าซ้ายก็หาย แต่อาการชาขายังมีอีก10%สงสัยรอชมบารมีพระศรีอาริย์ พอดีพี่เขาบอกน้องเหลือ10%ออกไปเลย ก็แบบว่าเกรงใจอยู่ไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ แต่พออาจารย์บอกใครจะขึ้นมาชมบารมีจี้สามร่มโพธิ์ศรี หนึ่งองค์เท่ากับ สาม แล้ว สามองค์ก็เท่ากับว่าสัมผัสครั้งเดียวเก้าองค์  ลุกแบบอัตโนมัติเลย สงสัย อยากเข้าใกล้อาจารย์ เขาเลยจัดให้ พอรับจี้ นับ1-6 เส้นที่มันตึงๆชาๆมันโล่งแบบมันเบา แบบหลวงพ่อท่านจัดให้ ก็ว่าไปคิดอย่างนั้น เสียอย่างเดียว อยากกราบแต่ไม่ได้กราบรีบจังเลยเรา                                                   **สรุปหลายรอบแล้วเรา** ทุกคนหายเจ็บป่วย100%หลายคนรวมทั้งยายที่เป็นตุ่มที่คอ พอชมบารมีพระศรีอาริย์ ท่านอาจารย์เรียกให้ไปดูผล ออกมาก้อนเนื้อยุบลง แล้วท่านอาจารย์ถามว่าด่าเก่งใช่ไหม เขาก็ยอมรับว่าด่าแฟน แล้วท่าอาจารย์ให้ยกตัวอย่าง คำที่ด่า พอยายพูด ก้อนเนื้อก็ยุบลงหายหมด  ส่วนป้าอีกคนหนึ่ง แกพูดไม่ชัด อาจารย์ก็ยกตัวอย่างว่าด่าเก่งใช่ไหม  เขาบอกว่าบ่นเก่ง อาจารย์ให้ถือจี้สามร่มโพธิ์ศรี  แล้วอาจารย์ก็ถามว่า บ้านอยู่ไหน ชื่ออะไร กินข้าวกับอะไร รักอาจารย์ไหม แกพูดชัดขึ้นเรื่อยๆ ก็เคยคุยกับป้ายังไม่ชัดเท่านี้เลย ก่อนกลับบ้านแบบแกล้งถามหยอกเล่น ยายบ้านอยู่ไหนเหรอ แกตอบชัดแจ๋วเลยแล้วแกก็ยิ้มใหญ่***สรุปอีกและ*** การไปร่วมบุญใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด ด้วยความศรัทธา100% จิตเปิดยอมรับในข้อของกฎของกรรมในแต่ละคนที่รู้อยู่แล้ว ว่าเราต้องทำอะไรเขาถึงจะปล่อยเรา เราต้องตั้งใจใช้เขาด้วยความจริงใจ ทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อสงสัย  แล้วเขาจะปล่อยเราอย่างที่เราตั้งใจทำ ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง การที่คุณไปแล้วทำแบบขอไปที แก้บน หยิบจับเล็กๆน้อยๆ คอยแจมคนอื่น เจ้ากรรมเขาเห็น เขาอยู่กับเราตลอด แล้วคนที่ไม่หายจะไปโทษใครได้ ถ้าคนมีจิตสำนึก ฟังคำอธิบายครั้งเดียว ก็เข้าใจ   ถ้าเพื่อนๆมีความทุกข์ ความเจ็บป่วย  หรือมีปัญหาต่างๆ ในชีวิต ที่คิดว่าไม่มีทางออก ลองกลับมาดูตัวเราเองก่อน  ว่าเราเคยละเมิดศีลมาทั้ง 5 ข้อไหม แล้วก็ยอมรับในเหตุที่ตนกระทำ แต่ยังไม่สายเกินไปให้เพื่อนๆกลับจิตกลับใจ เปลี่ยนการกระทำ คำพูดของตนเองเสียใหม่ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคศรีวิลัย สวยหล่อ หน้าใส สุขกาย สุขใจ ร่ำรวยเงินทอง**เพียงสารภาพบาป สำนึกที่ทำผิดศีลทั้งหมด สร้างบุญ สร้างกุศลแบบง่ายๆ แต่ต้องใช้กำลังใจ คือเขียนเล่าเรื่องราวของตัวเองที่ทำผิดเล่าเรื่องผู้ที่พบเห็น คนในบ้านสวนพีระมิด ว่าเขาหายป่วยด้วยวิธีใด แล้วทุกอย่างจะค่อยๆปลดล็อก เป็นอัตโนมัติ หากเขียนตลอดก็จะมีแต่สิ่งที่ดีๆ***9_9***ลูกขอกราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา  พระศรีอาริยเมตไตร พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ทั้งหลาย หลวงปู่ปาน(วัดบางนมโค) หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วัดท่าซุง) สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ทั่วทั้งจักรวาล ครูบาอาจารย์ ท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ณ บ้านสวนพีระมิด  (^_^)  ลูกขอบารมีทุกๆพระองค์ที่แผ่กว้างไกลมิอาจประมาณ คุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อม ของข้าพเจ้า ตลอดจนวงศ์ษาคณาญาติ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ อยู่ในศีลธรรม ให้มีความสุข ให้พ้นจากทุกข์ สิ้นอาสวกิเลศ เข้าถึงหลักธรรม หลุดพ้นจากกรรม สร้างแต่กรรมดี ให้มีมงคล ตลอดจนถึงพระนิพพาน ในปัจจุบันชาตินี้ เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ     

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรภัทร หมายใหญ่กลาง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 02:00:50


ความคิดเห็นที่ 75 (1635721)

กราบเรียน อ.อุบล  ที่เคารพ

วันนี้ดิฉันได้ดูรายการคุยไปแจกไป ตอนเข้าค่าย 13  ตอนที่อาจารย์ กล่าวนำอันเชิญพระศรีอาริย์ ก็ให้รู้สึก ขนลุกจนสดุ้งเลยค่ะ และทุกครั้งที่อนุโมทนาหน้าจอพร้อมกับสมาชิกทุกท่านที่ได้บำบัดกับอาจารย์ ก็จะขนลุกทุกครั้งเลยและรู้สึกตัวเบาด้วยค่ะ อาการปวดไหล่ก็เบาขึ้นแม้จะไม่หายร้อยเปอร์เซนต์ ก็ตามแต่ก็รู้สึกดีมากเลยค่ะ ขณะที่เขียนอยู่นี้ก็มีอาการร้อนๆขึ้นมาค่ะ  ขออนิสงน์ในการเล่าครั้งนี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ขอให้ทุกท่านมีความสุข และอยู่ในภพภูมิ ที่สูงๆๆยิ่งขึ้นไปและจนถึงพระนิพพานเทอญค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อรุุณรัตน์ เปรมฉัตรปริพัต (khanthaly-at-hotmail-dot-fr) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 21:12:46


ความคิดเห็นที่ 76 (1635840)

กระผมนายผดุง สุดจิตต์

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลครับที่ได้เมตตาสอนอานิสงฆ์ของการเขียนธรรมทานครับ

ไปบ้านสวนหลายครั้งใครๆ ก็ขึ้นไปสารภาพปาบบนเวที แต่ผมขี้ขลาดมากเลยครับ

ไม่กล้าสารภาพ แต่วันนี้ได้รับรู้อานิสงฆ์ของการเขียนธรรมทานและขอให้ภรรยาเขียนเล่าความชั่วของผมให้

กระผมขออนุญาตเล่าความชั่วของตัวเองครับ

ผมเคยทำผิดมากมายตั้งแต่จำความได้

ตอนเป็นวัยรุ่น ผมเคยเหยียบเงินเหรียญ ผมเคยคิดปรามาสในหลวง ปรามาสรัชกาลที่ 8  และปรามาสพลเอกเปรม

ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาครับไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

กระผมขอกราบแทบพระบาทขอขมากรรมต่อในหลวง       รัชกาลที่ 8 และผลเอกเปรมครับ

 ศิลข้อ 1 ผมเคยนำลูกนกมาเล่น และทำให้แม่นกบินหนีจากลูกนกไป ตอนเล็ก ๆ กระผมซนมากเล่นดินระเบิด และระเบิดใส่ตัวเองทำให้ไม่สบายทำให้แม่ต้องลำบากคอยดูแลผม 3-6 เดือน แม่ไม่เคยได้นอน เคยฆ่าไก่จำนวนมาก เลี้ยงเป็ดและฆ่าเป็ดจำนวนมาก และเลี้ยงหมู ฆ่าปลาจำนวนมาก ฆ่าใส้เดือนเพื่อเป็นเหยือสำหรับตกเบ็ด เคยมีการเทาะเลาะวิวาทและตบตีกันกับผู้หญิง

ผมไล่ยิงจิ้งจก ทำร้ายจิ้งจกจนตาย ผมทำร้ายหมาแมว  และชอบโยนแมวขึ้นและลงจนมันหอบและเหนื่อย และผมชอบยิงนก และไก่ป่าเพื่อความสนุก  ยิงแย้ ล่าสัตว์  ชอบแกล้งครู  กระผมชอบทะเลาะวิวาทกับเพื่อนและชกต่อยกัน  กระผมฆ่างู ตีงูหลายตัว  และเอางูไปเผาในเตาแก๊ส ตีงูเหลือมใหญ่  ยิงตะกวด เคยใช้ปืนยิงคนเกือบตาย ร่วมรับรูในฆ่าหมาจำนวนมาก (ร่วมงานกับศูนย์ควบคุมโรคสุนัขบ้า)  และฉีดยาคุมทำหมั่นหมาแมว  ตบยุงโดยใช้ไม้ช็อตยุง ฆ่าแมลงจำนวนมากมาย แตะหมา และตีลูกบ่อย  ขับรถทับหมาตัวเองตาย ขับรถชนแมว  ทำร้ายรับปลวก ใช้ยาฆ่าแมลง มด ยุง เผาป่า เคยพูดจาให้ภรรยาไม่สบายใจ และยืมเงินแม่บ่อยทำให้แม่ไม่สบายใจ ใช้ไฟเผารังแตน และรังต่อ  เคยล่าสัตว์ป่าหลายตัว จับลูกแมวทำให้แม่มันไม่สนใจลูกและลูกแมวตาย ตัดต้นไม้ใหญ่เกิน 5,000 ต้น  กวาดหยากใย่ทำร้ายรังแมลงมุม  ภรรยาคนแรกเคยแท้งลูกและก็เลิกร้างกันไป  คิดไม่ดีกับแม่ และแม่ยาย เคยดักหนูด้วยกาวยาง ยิงนกเหยี่ยวตาย เคยทำลายจอมปลวกจำนวนมาก

ศิลข้อ 2  ไปทำงานสาย นินทานาย กลับก่อนเวลา  ยืมเงินแม่บ่อยและคืนช้า เคยขโมยเงินแม่ตอนที่เป็นเด็กเก็บปืนของคนข้างบ้านได้แล้วไม่คืน เพื่อนเคยวางแผนลักทรัพย์ (เป็นโจร) และเห็นดีเห็นงามด้วย เคยเบิกเงินเท็จ และเบิกเงินหลวงเกินความจริง หาทางลีกเหลี่ยงภาษี

ศิลข้อ 3 สมัยวัยรุ่นเคยเที่ยวผู้หญิงประมาณ 400-500 คน  หลอกลวงผู้หญิง  อยู่กับภรรยาก่อนแต่งงาน เคยดูหนังโป้ ดูรูปโป้ ตอนวัยรุ่นชอบแกล้งผู้หญิงให้เค้าอับอาย ลวนลามผู้หญิงหลายคน พูดจาหยาบคายพูดเรื่องลามก พูดสองแง่สองง่าม เคยลวนลามผู้หญิงด้วยสายตาและความคิด

ศิลข้อ 4 พูดจาไม่ดีกับแม่ พูดให้แม่เสียใจ นินทาหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน พูดโกหก ไม่รักษาคำพูด  เคยบนกับเจ้าพ่อโคดมว่าจะบวช 3 เดือน พอสำเร็จตามปรารถนาแล้วก็ไม่บวชตามที่เคยบนไว้

ศิล 5  ผมเคยดื่มเหล้าตั้งแต่เช้าจนเย็นแบบหัวราน้ำ เล่นไพ่ทั้งวันทั้งคืน เคยสูบบุหรี่วันละซอง  เที่ยวกลางคืน เล่นหวยใต้ดินและรัฐบาล บรรพบุรุษเคยต้มเหล้าขาย ตอนเป็นวัยรุ่น เคยทดลองเสบยาบ้า เคยสูบกัญชา เคยเคี้ยวใบกระท่อม เคยฉีดเฮโลอีน และฝิ่นให้คนอื่น(เค้าร้องขอแต่ไม่ได้ห้ามกลับให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้พวกติดยาโดยให้เข็มและอุปกรณ์ในการฉีด) ชอบเอาเหล้าเป็นของขวัญให้ผู้ใหญ่ที่นับถือเป็นประจำ

สำหรับผลกรรมที่ผมได้รับครับ

ด้านสุขภาพ เป็นโรคกระเพาะอาหาร ปวดขา เคยโดนรถสิบล้อเหยียบขา 2 ข้างหัก และเป็นโรคไซนัสอักเสบ ความรู้สึกช้าปลายประสาทมีปัญหา  มีปัญหาเรื่องที่ดินของแม่และถูกลอบยิง หงุดหงิดบ่อย ฝันผุบ่อย

ด้านการงาน การงานไม่ก้าวหน้า ทำธุรกิจไม่ประสบผลสำเร็จ

ด้านการเงิน มีปัญหาด้านการเงินขาดสภาพคล่อง มีหนี้สินเยอะ

ด้านครอบครัว ลูกดื้อไม่ค่อยเชื่อฟัง 

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนทุกพระองค์ และท่านอาจารย์อุบลครับที่ได้เมตตาให้ผมรู้จักบ้านสวน ทำให้ผม

รู้จักและสำนึกในปาบกรรมทำให้รู้ว่ากรรมเวรมีจริง ปาบกรรมมีจริง และไม่กลับไปทำความชั่วแบบนั้นอีก 

 ผดุง สุดจิตต์ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 16:07:56


ความคิดเห็นที่ 77 (1635866)

 กราบเรียน ท่านอาจารย์ อบุล และครอบครัว ข้าพเจ้านางสาวนิศากร ผิวขำ  ขออนุญาติเล่าความชั่วของตัวเองคะ เคยกระทำผิดศิล 5 มาทุกข้อ

 เคยฆ่า สัตว์ ปลา กบ เขียด มด แมลง จิ้งหรีด จี้งจก อึ่งอ่าง ปลวก ปู ด้วงหนอน หอย กุ้ง เพลี้ย เหา ตบยุง เคยทอดแหจับปลากับพี่ชาย ช่วยหิ้วคุถังใส่ ใส้เดือนเป็นเหยื่อติดเบ็ดให้พี่ชาย เคยเห็นการฆ่าสัตว์ใหญ่ แล้วกินเนื้อสัตว์นั้น เคยตีกันกับพี่ชาย และน้องสาวตอนเด็ก ๆ  แกล้งกัน ทะเลาะกัน แย่งของกัน เคยตีนักเรียน เคยนินทาเพื่อน ครู อาจารย์ นินทาเจ้านาย ติเตียนพระเพราะพระท่านฉัน เครื่องดื่มชูกำลังเยอะ  ออกอาการเหมือนคนประสาทหลอน จนครอบครัวต้องเปลี่ยนไปทำบุญที่วัด อื่น ที่ทำให้เกิดศรัทธามากกว่า เคยกินยาลดความอ้วน น้าโทรเตือน ก็โกหกว่าไม่เคยกิน มีจิตอิจฉาริษยา คนที่ได้ดีกว่า เคยพูดสองแง่สองง่ามกับกลุ่มเพื่อน เพราะความคึกคะนอง  เคยดูำภาพโป้ การ์ตูนโป้ หนังโป้ เคย เอาตะุใคร้ ของเพื่อนบ้านก่อน แล้วค่อย ขอทีหลัง ตอนเด็กเดินผ่านวัด ไปโรงเรียน เคยเด็ดกินลำใยวัด ทั้งที่รู้ว่าบาปก็ยังทำ  เคยยืมของเพื่อนหนังสือนิยาย อ่านแล้วไม่ส่งคืน และเคยหัดดื่มเหล้ากับเพื่อนตอนเป็นนักศึกษา ดื่มสปาย  ขี้เกียจ เป็นคนมักไม่เป็นระเบียบ ทำให้การงานไม่เจริญก้าวหน้า เป็นคนวิตกกัลวล และมักโดนหลอกให้เสีัยทรัพย์ เชื่อคนง่าย ไม่ทันคน ขาดปัญญา ขี้ลืมง่าย อ่านหนังสือแล้วไม่จำ เป็นคนขี้กัุงวล โมโหง่าย  เป็นทุกข์ใจ แม้ทำบุญใส่บาตร จิตก็มักแวบไปในทางอกุศล บ่อย ถ้าทำบุญหรือฝึกนั่งสามาธิ            จิตมักแว็ปไปในเรื่องอกุศล ใม่เจริญในทางโลกและทางธรรม  เคยใช้รหัสอาจาย์อุบลช่วยด้วย ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง เคยใช้รหัสหาของหาย แล้วเจอ  เคยแนะนำให้เพื่อนสนิท ใช้แล้ว ไม่ได้ผลเพราะ เธอไม่ศรัทธา เล่าให้เธอฟัง เธอบอกเฉย ๆ  เคยแนะนำให้น้า สองคนที่ทำงานที่กรุงเทพฯ เข้าดูเว็บบ้านสวนรายการคุยไปแจกไป โทรถามเค้าบอกว่า เฉย ๆ  เคยเล่าให้คุณครูที่โรงเรียนฟังแนะนำให้เข้าดูในเว็ป ไม่รู้ว่าผลเป็นอย่างไร เคยสอบถาม เค้าบอกเข้าดูแล้ว เป็นเว็ปขายเครื่องสำอาง .. โดยส่วนตัวศรัทธาท่านอาจารย์อุบล แต่จิตมักแว็ป เกิดความสงสัยอยู่ตลอด แต่เวลาดูคลิปจะเกิดศรัทธา ในเวลาที่ดู   เคยซื้อแหวนสฟิงส์ ให้คุณยาย และคุณแม่  เพราะคุณยายกับคุณแม่สุขภาพไม่ค่อยดี แม่ทำหาย ยายไม่ได้ติดตามว่าเป็นอย่างไร แต่ช่วงนี้ยายสุขภาพดี คะ ขอขอบคุณท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวและสมาชิกบ้านสวนพีระมิดทุกท่าน และเทวดารักษาตัวท่านอาจารย์อุบล ดิฉันเข้ามาดูรายการคุยไปแจกไป รู้สึกว่า ได้รู้อะไรเยอะขึ้น ปกติศิล 5 จะรู้ไม่ละเอียด ชอบของฟรี นึกว่าไม่ผิด ได้ข้อปฏิบัติเยอะขึ้น ตอนนี้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ฝึกให้ขยันขึ้น ฝึกทานมังสวิรัต พยายามรักษาศีล 5 รายการคุยไปแจกไปยิ่งดูยิ่งเกิดศรัทธา แต่ทำใมจิตหนูยังแว็ปสงสัย คงจะทำกรรมมาเยอะ  พบรายการแจกคุยไปแจกไปครั้งแรกทางอินเตอร์เน็ต เพราะว่าตนเองเป็นคนเชื่อว่าจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่จริง และเป็นห่วงพี่ชาย น้าชาย และน้าสาว ที่อยู่ชัยนาท กรุงเทพฯ และปทุมธานี เลยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติในอินเตอร์เน็ต จนได้ดูรายการคุยไปแจกไป ก็ยังลังเลสงสัยไม่เชื่อ เพราะเหลือเชื่อจริงๆ  ในคลิปพิเศษ การสื่อสารเตือนภัยพิบัติจากท่านดตาจินิน ผ่านคุณอ้อย ณ บ้านสวนพีระมิด พอดูรายการหลายตอน จึุงเกิดศรัทธา

ผู้แสดงความคิดเห็น นิศากร ผิวขำ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 20:07:46


ความคิดเห็นที่ 78 (1636133)

              เมื่อวันที่   22   ตุลาคม  2555    ได้ไปเยี่ยมน้องที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล  เนื่องจากน้องเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่  3 จึง ได้เล่าเรื่องท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด  ให้น้องฟัง  และแนะนำให้น้องดูคลิปวีดีโอให้ครบ  9  ตอนและขออนุญาติก่อนไปบ้านสวนพีระมิด 3  - 7  วันเพื่อไปร่วมบุญกับบ้านสวนพีระมิดเพื่อร่วมบุญด้วยแรงกายและปัจจัยตามศรัทธา  และไปพบท่านอาจารย์อุบล  แล้วปาฏิหาริย์จะเกิด   ถ้าน้องเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจ   น้องก็บอกว่าพยายามดูคลิปแล้วดูไม่ได้  เพราะอินเตอร์เน็ทไม่เร็วเวลาดูจะสะดุด   น้องจึงวานให้ช่วยกอบ***ลงแผ่น   CD  ให้จึงบอกน้องว่าต้องขออนุญาตท่านอาจารย์ก่อนเพราะจะทำโดยพละการไม่ได้เดี๋ยวจะผิดกฏบ้านสวน

               วันนี้คือวันที่   23   ตุลาคม   2555   จึงได้โทรไปเพื่อปรึกษาคุณแมวว่าสามารถทำได้หรือไม่   ก็ได้รับคำตอบจากคุณแมวว่าสามารถทำได้และวันนี้จึงได้มากราบขออนุณาตท่านอาจารย์อุบลทางเว็บเพื่อ  อัดคลิปวีดีโอให้น้องซึ่งกำลังป่วยและต้องการมาร่วมบุญกับบ้านสวนพีระมิดกับท่านอาจารย์ด้วยนะคะ    กราบขอบารมีองค์พระปฐมบรมธรรมบิดาเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักวาล  ท่านอาจารย์อุบล    ขอให้น้องเค้าหายด้วยเถอะเจ้าค่ะ     สาธุ   สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 22:09:39


ความคิดเห็นที่ 79 (1636200)

เมื่อวานนี้ ได้เกิดเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น

กับเด็กที่ณัชชาดูแลอยู่ แต่ว่าตอนนั้นเด็กอยู่กับแม่

เด็กผู้หญิงอายุ 1 ขวบครี่ง  ได้ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไป

ซึ่งขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ ไม่ได้ปิดขวด ไม่ทราบแน่ชัดว่า

ได้ดื่มไปปริมาณมากน้อยเท่าไหร่ แม่รีบพาเด็กไปส่งโรงพยาบาล

เด็กอาเจียน และร้องให้ ณัชชา ได้ขอรหัส อาจารย์อุบล ช่วยด้วย และพลังจี้องค์เทพสฟิงค์

ช่วยเด็กให้ปลอดภัย  

หลังจากนั้นเด็กก็กลับมาจากโรงพยาบาล ปรากฎว่า อาการของเด็กดีขึ้นมาก อย่างเห็นได้ชัด 

พอวันรุ่งเช้า เด็กหายเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

ณัชชากราบขอบพระคุณ

รหัสอาจารย์ อุบล ช่วยด้วย จี้องค์เทพสฟิงค์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆพระองค์

ที่มีความเมตตากรุณาต่อน้อง อิสเบลล่า ให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ค่ะ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 08:30:39


ความคิดเห็นที่ 80 (1636383)

ขอสารภาพบาปบ้างค่ะ

ขอเล่าเหตุการณ์ตอนเด็กอายุสักประมาณ 6-7ขวบ ไปเล่นบ้านเพื่อน แล้วกับไปหยิบเงินของพ่อแม่ของเพื่อน

เค้าจับได้ว่าเป็นคนขโมยเงิน แต่ไม่ยอมรับว่าความเป็นจริง (โกหกครั้งที่ 1)เค้าเลยไปบอกกับพ่อ พ่อจับโยงกับ

ขื่อไม่รับอีก(โกหกครั้งที่ 2) ยังไม่พอนะขณะขโมยเงินนั้นใช้วิธีการใช้เท้าเหยียบเหรียญ 5 บาทไว้ใต้เท้า ดูเอา

เถอะไม่รู้จักบาปกรรมเลย  พอโตขึ้นมาสัก 13-14 ปี ทำความชั่วเดิมขึ้นอีกขโมยเงินแม่เพื่อนอีก คราวนี้ขโมยเป็น

ร้อย พิธีการเหมือนเดิมใช้ซ่อนไว้ในรองเท้าที่ใส่อีก ที่สำคัญไม่ยอมรับว่าเป็นคนขโมยไปเหมือนเดิม (เลวขนาด)

ยังไม่จบมีอีกไอ้เรื่องขโมยเงิน พ่อให้ช่วยนับเงินยังขโมยซึ่งๆหน้าโดยการเอาเงินซ่อนไว้ใต้ขา ลูกสำนึกผิดกับ

การโกหกพ่อทุกๆอย่าง ลูกกราบขอขมาพ่อด้วย

ขอสารภาพในการเล่าเรื่องความเลวของตนเองได้น้อยนิด แต่กับใช้เวลาถึง 2-3 ชม.ที่จะบอกความเลวของตนเอง

ทั้งๆที่ความเลวของตัวเองตั้งมากมาย

ลูกกราบขอขมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบ กราบ กราบ

ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์ที่บ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว   

ที่ให้ลูกมีโอกาสสารภาพความเลวของตนเอง ลูกขอ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางรัชตวรรณ พิกุล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 21:35:04


ความคิดเห็นที่ 81 (1636652)

ความชั่วที่เคยว่าคิดใช่..ใครๆก็ทำเป็นปกติ ไม่บาป

ศีลข้อ1.จับและล่าสัตว์ทุกชนิดมาประกอบอาหาร เพราะคิดว่านี่คืออาหารของคน ธรรมชาติสร้างมาเพื่อเลี้ยงมนุษย์ กุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด  ตั๊กแตน ฆ่าโดยการ ทุบ ลวก ปิ้ง ย่าง เผา กบเขียดทุบหัวแล้วถลกหนัง เขียดตัวเล็กๆ เทลวกน้ำร้อนทั้งเป็น ลูกอ๊อด บีบท้องให้แตกจนไส้ทะลัก แมลงต่างๆ ทั้งๆที่สัตว์เหล่านั้นไม่เคยพูดเลยว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของคน แมงดานา แมงกุ๊ดจี่ แมงอินูน จิ้งหรีด จิโป่ม คั่วทั้งเป็น

            สัตว์ใหญ่ แม้จะไม่ได้ลงมือฆ่า แต่ก็ทานเนื้อของเขา หมู ไก่ เป็ด วัว ควาย ตอนเป็นเด็กเคยเห็นพ่อฆ่าวัวควายเอาเนื้อมาขาย หรือไม่ก็ตามงานบุญ งานแต่งมักจะเชือดสัตว์ใหญ่เพื่อเลี้ยงแขก เวลาวัวหรือควาย ที่พ่อจะนำมาฆ่า วันสุดท้ายเหมือนเขารู้ว่าจะต้องตาย เขาจะน้ำตาไหล และไม่ยอมกินอะไรทั้งสิ้นแม้แต่น้ำ เราก็ยังกินเนื้อเขาอย่างอร่อย แม้จะสงสารบ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดไรมาก ขี้อิจฉา แช่งให้ผู้อื่นตาย อยากให้ตาย ขี้โกรธอาฆาต จองเวร ทำแท้ง รู้เห็นการทำแท้ง สนับสนุนจัดหายาขับเลือดเพื่อให้แท้ง

         ศีลข้อ 2.ขโมยผลไม้ตามสวนร้าง หยิบฉวยของผู้อื่นเมื่อมีโอกาส ทำเอกสารเท็จ ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้ทรัพย์ของผู้อื่น หลอกให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ขโมยเงินออมสินของพ่อซื้อขนม

         ศีลข้อ 3. ตอนแยกกันอยู่กับอดีตสามี ไปเป็นเด็กเสริฟ์ร้านอาหารที่ภาคใต้ ถูกข่มขืน คิดหาแฟนใหม่เพื่อประชดสามีที่เขามีพฤติกรรมเจ้าชู้ สุดท้ายก็เลิกกันกับสามี และในใจก็ยิ่งดิ้นรนคิดหาคนรักมากขึ้น

          ศีลข้อ 4. โกหกตอแหลทุกเรื่อง เพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ

              ศีลข้อ5. ดื่มสุรา เบียร์ ตั้งแต่ อายุ16ปี กินเหล้าเข้าเธค ผับบาร์ เล่นหวย ไพ่

               ผลกรรมที่ได้รับอย่างสาสมและยุติธรรมที่สุด

ร่างกายไม่แข็งแรง มีอาการเวียนหัว หัวปัก หน้ามืด ปวดท้องปางตาย ไมเกรน  มีหนี้สิน ถูกข่มขืนสามครั้ง เมื่อแต่งงานใหม่ ก็มีเหตุให้ต้องแยกกันอยู่เพราะหน้าที่การงาน  ตั้งแต่ปี 45 จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องดูแลตัวเอง อย่างโดดเดี่ยว อ๋อยคิดว่า ผลกรรมที่ทำแท้ง และรู้เห็นการทำแท้งถึง5 ชีวิต ทำให้ตัวเองต้องพรัดพรากจากของรัก ลูก สามี อยู่กันคนละทาง ทุกข์ใจมากเหลือเกินค่ะ เมื่อกลางปี 54 จับได้ว่าสามีคนใหม่ นอกใจมีกิ๊ก หัวใจแทบสลาย และอ๋อยตัดสินใจจะหย่า แต่สามีขอโอกาสแก้ตัวและสัญญาต่อเว็ปบ้านสวนฯและท่านท้าวเวสสุวรรณ ว่าจะไม่ทำอีก หากผิดสัญญาจะฆ่าตัวตาย และขอเลิกเหล้า บุหรี่ ตั้งแต่วันนั้นเลย

            ยังโชคดีที่เจ้ากรรมนายเวรยอมเปิดทางให้อ๋อย ได้เจอกับบ้านสวนพีระมิด และท่านอาจารย์อุบล นับว่ายังให้โอกาสให้คนเลวๆคนนี้ ได้สร้างบุญในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ขอขอบคุณเจ้ากรรมนายเวรค่ะที่เมตตา

               หลังจากพบบ้านสวนฯและท่านอาจารย์อุบล

สุขภาพดีขึ้น ไม่อ่อนแอเหมือนเก่า เข้าใจกฏแห่งกรรมกฏแห่งธรรมชาติมากขึ้น เลิกต่อว่าฟ้าดิน เข้าใจเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง เราทำเลวทำชั่วไว้ จึงต้องรับผลไม่ดี จิตใจเข้มแข็งขึ้น พยายามแก้ไขตัวเอง รู้จักความสุขที่แท้จริง นั่นคือธรรมะ

           ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ที่มาโปรด ณ บ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ

            

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 21:48:21


ความคิดเห็นที่ 82 (1636813)

          ด้เล่าเรื่องท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด  ให้น้องฟัง  และแนะนำให้น้องดูคลิปวีดีโอให้ครบ  9  ตอนจึงได้โทรไปเพื่อปรึกษาคุณแมวว่าสามารถทำได้หรือไม่   ก็ได้รับคำตอบจากคุณแมวว่าสามารถทำได้และวันนี้จึงได้มากราบขออนุณาตท่านอาจารย์อุบลทางเว็บเพื่อ  อัดคลิปวีดีโอให้น้องซึ่งกำลังป่วยและต้องการมาร่วมบุญกับบ้านสวนพีระมิดกับท่านได้ดู

*****************************************

        เมื่อขออนุญาตเสร็จแล้วก็เลยเลือกคลิปวีดีโอให้สามีก๊อป***ใส่แผ่นซีดี   ประมาณ   11    ตอน   ด้วยความหวังดีจะให้น้องได้ดูหลายๆตอน   แต่ลืมไปว่าตนเองได้ขออนุญาติท่านอาจารย์ทำคลิปวีดีโอให้น้องได้ดู    9       ตอน

   พอเช้าวันที่    26    ตุลาคม    2555    คุณสามีบอกว่า   ไฟล์คลิปวีดีโอที่ให้ทำให้ก๊อป***ลงแผ่นได้แค่   9   ตอนนะทำยังไงก็ไม่ได้ครบ  11   ตอนมันฟ้องว่าเกิดความผิดพลาด   พอตนเองได้ยินและฟังยังงั้นก็นึกขึ้นได้ว่า   เอ๊ะ!!!!   เราขออนุญาตท่านอาจารย์ว่าจะทำซีดีให้น้องดู  แค่   9   ตอน    ก็เลยบอกสามีว่าไม่เป็นไรได้   9  ตอน   ก็เอาแค่นั้น  แต่ตนเองทราบสาเหตุแล้วว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร    ดังนั้นจึงได้กราบขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์   ท่านอาจารย์อุบล   ที่ลูกได้ละเมิดไม่ปฏิบัติตามที่ได้กราบขออนุญาตไว้      สาธุ   

                            

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-26 15:39:13


ความคิดเห็นที่ 83 (1636920)

เมื่อสมัยเป็นเด็ก มีเหตุที่ทำให้เกิดกรรมคือ

             ตอนเป็นเด็กนั้นแม่ใช้ให้ไปซื้อของที่ร้านชำในหมู่บ้าน   พอซิ้อเสร็จก็ออกมาจากร้านชำพอถึงบริเวณหน้าร้านสายตาก็เหลือบไปเห็นแบงค์ธนบัตรไม่รู้ว่ากี่บาทรู้แต่ว่าเยอะมากเป็นหลายๆแบงค์ยี่สิบบาทพับซ้อนๆกัน   ตอนนั้นจำได้ว่าใจนึงก็อยากจะเอาเงินเหล่านั้นไปถามเจ้าของร้านว่าใช่เงินของเจ้าของร้านรึเปล่า    อีกใจนึงก็คิดว่าถ้าเราเก็บเอาเงินเหล่านี้กลับบ้านเราก็จะมีเงินใช้เยอะแยะ  นี่คงจะเป็นบททดสอบว่าเราจะเลือกกรรมดีหรือว่าเราจะก่อกรรมชั่ว

      ในที่สุดจิตที่เป็นมารก็เก็บเงินที่หล่นอยู่กลับบ้านแล้วเอาไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าเก่าๆ  แม้กระทั่งแม่ตัวเองก็ไม่ได้บอกว่าเก็บเงินได้   แล้วก็ทยอยเอาเงินเหล่านั้นออกมาใช้จนกระทั่งเงินหมดเหตุการณ์นี้ยังจำได้ดีจนกระทั่งโตก็ยังจำได้ไม่ลืม

ผลของกรรมคือ

           - ขาดสภาพคล่องทางการเงิน   ขัดสน   ยากจน

           - มีเหตุทำให้กระเป๋าตังค์หายในโรงพยาบาลและก็ไม่มี เจ้าหน้าที่คนไหนเอามาคืนเลยซึ่งในกระเป๋าตังค์ก็มีบัตรเลขที่นั่งสอบที่จะต้อง  นำไปแสดงในวันสอบเข้ามหาวิทยาลัย

                         - เกิดความทุกข์ใจไม่สบายใจ

                           - มีเหตุให้เสียทรัพย์เก็บเงินไม่อยู่เวลา  มีเงินก็มีเหตุให้เสียเงินแล้วก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน

 หลังจากได้รู้จักบ้านสวนพีระมิดแล้ว

   ก็ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองทำบุญทำทานให้มากขึ้นไม่คิดที่จะเอาของของคนอื่นมาเป็นของตน    เพิ่มการบริจาคเท่าที่จะทำได้และไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน    บริจาคทุกอย่างที่พอจะช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า   อาหาร   เงิน  ถึงจะไม่มากแต่ก็ทำให้ได้ทำบุญสม่ำเสมอ   ทำบุญบ่อยขึ้น  และทำทันทีที่มีโอกาส   โดยแต่ก่อนพอเห็นซองบุญจะรู้สึกและคิดในใจว่า   "เอาอีกแล้ว" วันนี้เสียเงินอีกแล้ว     แต่ปัจจุบันความคิดได้เปลี่ยนไป    รู้สึกดีใจที่จะได้ร่วมบุญ   คิดอยากจะทำบุญอยากทำทานยิ่งทำยิ่งอยากทำเพิ่มขึ้น  ๆ  ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นก็คือ  มีสภาพคล่องทางการเงิน  หนี้ก็ยังมีอยู่แต่ว่ามีเงินใช้หนี้และมีเงินใช้ไม่ขาดมือ  ลูกค้าที่ร้านก็เยอะและลูกค้าก็เกรงใจ  เป็นหนี้ก็มาใช้หนี้ตามนัด  ที่ร้านค้าขายดีขึ้นเรื่อยๆลูกค้าสั่ง  ออเดอร์  เป็นหางว่าว (แต่ว่าวเล็กๆนะคะ)  อิอิ  แต่ก็ภูมิใจ  อุปสรรคปัญหาต่างๆก็เบาบางและบางครั้งไม่มีเลย  แต่ก่อนเก็บเงินไม่อยู่  พอมีเงินลูกค้าก็มาสั่งของ  ก็เลยต้อง  นำเงินไปหมุนในกิจการจนบางครั้งหมุนเงินไม่ทัน    แต่ ณ  ปัจจุบัน  ถึงจะมีลูกค้ามาสั่งของมาก  แต่เงินก็ยังมีเก็บในธนาคาร  จนน่าอัศจรรย์ใจ  นี่คงเป็นผลบุญที่ได้จากการทำทาน  และการเขียนธรรมทานอยู่ทุกสัปดาห์   จึงตั้งใจที่จะทำทานให้เพิ่มมากขึ้นๆ  โดยเฉพาะธรรมทานที่ท่านอาจารย์อุบล  ท่านคอยเป็นห่วงและต้องการให้ลูกบ้านสวนทุกคนเขียนกันมากๆ   จะได้พ้นทุกข์พบแต่สิ่งมหัศจรรย์และปาฏิหาริย์ก็จะเกิดกับเราเองเพราะอานิสงฆ์ของธรรมทานช่างมากมายเหลือเกิน

        กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว     เทวดาที่ปกปักรักษาท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล  องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา  เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ    มากมากนะเจ้าคะ   ที่ทำให้ลูกได้มาเจอบ้านสวนพีระมิด  และได้พบเจอสิ่งมหัศจรรย์และปาฏิหาริย์จนบางครั้งพูดไม่ออกบอกไม่ถูก  คงต้องให้ทุกคนมาพบเจอด้วยตนเอง   สาธุ

 

          

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-27 08:00:30


ความคิดเห็นที่ 84 (1636949)

ขอขอบคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว เทวดารักษาตัวอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด   จากการที่ได้ฝึกทานมังสวิรัติ  ปกติเป็นคนอ้วน เมื่อทานแล้วได้ประมาณอาทิตย์กว่า ๆ รู้สึกสบายตัวขึ้น คล่องตัวขึ้น และน้ำหนักลดลง และมีปัญหาเกี่ยวกับหู  ขี้หูแห้ง และเยอะ ต้องแคะ ทุกวัน ขอใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้หาย  ปรากฎว่าตอนนี้หายแล้ว ดีแล้ว ขอบคุณมาก ค่ะ และขอขอบคุณรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยที่ทำให้สมหวังในการสอบ  และอื่น  ๆ และขอให้มีคนมาใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่ร้านในวัน นี้ ปรากฎว่า  มีคนมาใช้บริการเยอะขึ้น ขอบคุณมากคะ ขออุทิศบุญทั้งหมดที่ได้ทำในวันนี้ ได้ใส่บาตรวิระทะโย และบุญทุกบุญที่ทำแต่ต้นชาติถึงปัจจุบันชาติให้แก่เทวดารักษาตัวท่านอาจารย์อุบลด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิศากร ผิวขำ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-27 12:28:51


ความคิดเห็นที่ 85 (1637395)

 ก่อนที่จะได้รู้จักบ้านสวนพีระมิดและท่านอาจารย์อุบล

ได้ทำผิดศีลข้อ  1   โดยเคยฆ่ามด  แมลงวัน   ยุง   แมลงสาบ   แมงมุม   หนอน   กิ้งกือ  ปลวก  ปู  แมลงหวี่  แมลงเม่า   เหา   เคยนำหนูตัวเล็กๆที่คลอดออกมาใหม่ๆมาเล่น  ฆ่าเห็บ   ตะขาบ   แมลงป่อง    แมงปอ    หมัด   โดยเฉพาะยุงยิ่งเห็นมันกินเลือดจนท้องป่องจะรู้สึกหมั่นเขี้ยวอยากฆ่ามันให้ตาย  อาฆาต   วิ่งไล่ตีไล่เอาที่ชอตไฟฟ้าชอตมันให้ตาย   

ผลกรรมที่ได้รับ    ก็คือ    จะมีผื้นขึ้น   ตามตัว  และแพ้พิษยุง   จะเป็นตุ่ม   ใหญ่มากมีลักษณะะคล้ายลมพิษ   ผิวพรรณไม่สวย    ขาเป็นแผลพุพอง     เป็นหนอง   ขาลาย  ชีวิตพบแต่อุปสรรค  ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น  

ปัจจุบัน   หลังจากได้รู้จักบ้านสวนและนำคำสอนของท่านอาจารย์อุบลมาปฏิบัติ     ก็พบความเปลี่ยนแปลง   ยุงที่เคยอาฆาตเวลามันกัดท้องมันจะป่อง   ก็จะปล่อยมันไป    บางครั้งมันจับที่แขน  และนิ่งไม่ยอมบิน   ก็จะเปิดประตูออกไปส่งมันข้างนอกบ้าน    ไม่เคยตบยุงอีกเลย   ยกเว้นบางครั้งจะรู้สึกว่าคันแต่ไม่รู้ว่ายุงกัด   ก็จะเอามือไปปัดทำให้พลาดโดนตัวมันตาย     แต่ด้วยความไม่ตั้งใจและไม่รู้ว่าเป็นยุง   พอเห็นมันตายก็จะแผ่เมตตาให้กับมัน   มดและแมลงต่างๆก็จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากทำให้มันตายรู้สึกเกรงกลัวต่อปาบมากขึ้น   เพราะเมื่อก่อน เห็นตัวมันเล็กๆก็เอามือไปปัดเอาไม้กวาดไปกวาดจนทำให้มันตายเป็นร้อยๆคิดว่ามดตัวเล็กๆและเป็นสัตว์น่ารำคาญ   คงจะบาปอยู่แต่คงบาปน้อย   แต่เมื่อฟังท่านอาจารย์สอนแล้วก็มาได้สำนึกว่าสัตว์ทุกชีวิตไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่มันก็เป็นชีวิตชีวิตหนึ่ง   ดังนั้นจึงตั้งปณิธานไว้ว่า   จะไม่ฆ่าสัตว์และทรมานสัตว์อีกตลอดชีวิตนี้เพื่อดับเหตุแห่งทุกข์   สาธุ

และปาฏิหาริย์ที่พบ   ก็คือ   ผื่นแพ้  ลดลงและมีอาการน้อยลงมาก   อาการเป็นแผลพุพองเป็นหนองไม่ปรากฏให้เห็นอีกเลย  ขาที่ลายๆไม่สวย   ก็กลับมาขาวเรียบเนียน  (ต้องดูหลังจากไปแวกซ์ขน  ออกเพราะเป็นคนขนขาเยอะมาก มาก อิอิ)    ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ  อุปสรรคต่างๆก็หมดไป   การค้าขายดีมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น  มีเงินใช้ไม่ขาดมือ    

     กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักวาล   เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล   และครอบครัว  ที่ทำให้ชีวิตของลูกได้พบการเปลี่ยนแปลงที่นับวันยิ่งดีมีความสุขมากขึ้นมากขึ้น  กราบ   กราบ  กราบ  เจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-30 09:52:05


ความคิดเห็นที่ 86 (1637772)

 อุปกรณ์สารภาพบาป **ตั้งแต่บูชาจี้สารภาพบาปมาจนถึงทุกวันนี้ จากแรกมีความลังเลสงสัยว่าจะใช้ได้ไหมหนอ เพราะตอนที่อธิษฐานขอบูชา ร่างกายตอนนั้นไม่เจ็บอะไร แต่ก็ตั้งใจบูชาเพราะราคาไม่เกินความสามารถสำหรับคนป่วย ไว้สารภาพเป็นส่วนตัวซึ่งใช้ได้คนเดียว ใส่กรอบพลาสติกห้อยคอ และ สารภาพบาปที่ทำผิดศีลมาทั้ง 5 ข้อ แบบไม่ปราณี ผลที่ได้รับเขาก็ไม่ปราณีเราเหมือนกัน พูดก่อนนั่งสมาธิ และเวลาที่เผลอไปเหยียบ มด แมง เตะแมวเวลามันหิวข้าวมันชอบวิ่งตัดหน้าแล้วให้เราเตะแรงด้วย รู้สึกไม่ค่อยดี ก็สารภาพ  ขาที่           เจ็บก็หาย วันนี้31/10/55 อ่านหนังสือที่ได้มาจากบ้านสวน วิธีใช้รหัส จักรวาล และ การสะสมบุญ การอุทิศบุญ และใช้รหัส ขอให้นึกกรรมออกให้หมด จากที่ติดขัดจำชื่อคนที่เราทำให้เขาเสียใจที่ผิดหวังไม่ได้พอใช้รหัสนึกชื่อออกทันทีทั้งที่แต่ก่อนใช้รหัสก็ยังนึกชื่อไม่ออก จากที่บอกว่าผิดศีล1-3จะทำให้เจ็บป่วย ยอมรับว่าโดนเต็มๆใช้เขาแบบเกือบเอาชีวิตไม่รอด ยอมรับว่าเลวฆ่าสัตว์ แกล้ง และ นำมาเป็นอาหาร ทุกอย่าง ตอนนี้รู้ผลและสิ่งที่ตนเองทำมามากมายจริงๆ ปัจจุบันยังมีเหล็กอยู่ในโพลงกระดูก มีสกลูที่ก้น เดินแล้วติดๆขัดๆที่บริเวณขาขวาที่หัก ไปบ้านสวนก็หายมา พอกลับบ้านไปเตะแมว เพราะมันจะวิ่งมากินอาหารที่เราให้สุนัขอยู่ต่อหน้ามัน เลยเตะแบบอัตโนมัติเพราะมันขู่แมวกลัวแมวโดนกัด **จากที่ลูกบูชาอุปกรณ์มามีวันนี้เห็นผลชัดเจนจากที่เดินแล้วเจ็บ สารภาพ ลองเดินหายเจ็บทันที และ ก่อนนั้น เวลานั่งสมาธิจะชาขา ปวดขา ตอนนี้ใช้อุปกรณ์มาไม่รู้สึกชาขาขณะนั่งสมาธิแต่พอ ออกจากสมาธิถึงชา นั่งได้นานขึ้น แล้วก็มีโอกาสได้ไปบ้านสวนพีระมิด สมใจ **พอมาอ่านเจอต้องมีองค์ประกอบหลายประการถึงจะได้เข้าไปสร้างบุญในบ้านสวนได้  *คือต้องทำบุญให้ทาน รักษาศีล ภาวนา สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำทุกวัน  อาจารย์ อุบล รับรองว่ากรรมทุกอย่างจะเบาบางลง และเมื่อเหตุและปัจจัยเหมาะสม ลงตัว บุญนั้นจะนำพาคุณมาที่ (บ้านสวนพีระมิด) เอง อ่านเจอท่อนนี้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะ จากที่หาจุดหมายในการใช้เขาโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะให้อภัย แต่ก็ไม่ได้หวังอะไรที่จะให้เขาให้อภัย พยายามสร้างบุญตามความสามารถ เท่าที่จะทำได้ และ ขอคำชี้แนะจากครูบาอาจารย์ ทุกท่านที่ปฏิบัติแล้วเกิดผลดีแก่จิต เพื่อความหลุดพ้น ในวัฏ ซึ่งจิตนี้อาศัยร่างกายที่เจ็บป่วย เพื่อมี ครูบาอาจารย์ช่วยชี้แนะตามจริตนิสัยอยากพ้นทุก แต่ยังมีความ ลังเล สงสัย ในความเป็นไปโดยไม่มีผู้ชี้แนะตามจริตที่อยากรู้ในการปฏิบัติ ให้ถูกทาง    *** ลูกขอกราบขอบพระคุณ สมเด็จองค์พระปฐมฯ พระศรีอาริยเมตไตรย์  พระเจ้าอยู่หัว  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย องค์เทพสฟิ้งซ์ ครูบาอาจารย์ ท่านอาจารย์ อุบล และทุกๆท่าน ที่เมตตา มาสงเคราะห์จิตนี้ (เป็นที่สุด) 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรภัทร หมายใหญ่กลาง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 18:36:01


ความคิดเห็นที่ 87 (1638163)

 เมื่อก่อน

               จะเป็นคนโกรธง่าย  เครียดคิดมาก  วิตกกังวล    ขี้ใจร้อน  ขี้โมโห   ขี้หงุดหงิด   ขี้โกง  ขี้บ่น    ขี้อิจฉา   รวมทุกขี้ที่ไม่ดีอยู่ในคนคนเดียว  เคยแม้กระทั่งทะเลาะกับหัวหน้างานเพราะเห็นว่าเป็นคนชอบกินโดยเฉพาะกินแรงลูกน้อง   ไม่ทำอะไร  ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม   ไม่สนใจในหน้าที่การงาน  วันวันนั่งคุยแต่โทรศัพท์    ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กแอคทีฟสูงและความคิดแรงส์มาก  จึงทะเลาะกับหัวหน้างาน  ทำทุกอย่าง   ไม่ว่าจะ  ประชดประชัน  นินทากาเล  โกรธและเคียดแค้น  อีกทั้งไม่ให้ความเคารพยำเกรง      โดยไม่เคยคิดว่าการกระทำตอนนั้นจะก่อให้เกิดกรรมกับตนเอง  โกรธและทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน    บางทีโกรธสามี    สามีพูดอะไรนิดอะไรหน่อย ก็น้อยใจ  วิ่งหนีเหมือนหนังแขก   ขับรถหนีไปนอนที่บ้านพี่สาวก็มี   มีนิสัยชอบเก็บได้ยินคำพูดของคนอื่นก็เก็บเอามาคิดไม่ปล่อยวางคิดแต่ว่า    เขาพูดว่าเรารึเปล่า  บางครั้งโกรธ  โมโหหงุดหงิดให้พ่อและแม่  เถียงพ่อกับแม่ก็มี  

กรรมที่ส่งผล

               ก็คือทำให้ใจเป็นทุกข์   ทุกข์กายทุกข์ใจ  มีความโกรธและเคียดแค้นอยู่ตลอดเวลา  กลายเป็นคนเครียด   วิตกกังวล   คิดมาก    ผิวพรรณทราม    มีสิว  ฝ้า  กระ   ที่ใบหน้า   ลำตัวแขนและขา    ผิวพรรณไม่กระจ่างใส   การเงินการงานมีแต่อุปสรรค    พบแต่คนไม่จริงใจ   ทำอะไรก็ไม่เคยสำเร็จ   โชคลาภไม่ปรากฏ

ปัจจุบัน

          หลังจากได้รับฟังธรรมะที่ท่านอาจารย์ท่านนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มาแสดงให้เห็นว่าคนที่มักโกรธ   จะมีผิวพรรณทราม  กรรมผิวพรรณเกิดจากกรรมโทสะเกิดจากอารมณ์โกรธ  เคียดแค้น   โมโห  หงุดหงิด  นี่เอง  และท่านอาจารย์ท่านก็เป็นให้เห็น   และทำให้หายได้   จนกระทั่งเห็นท่านอาจารย์ที่เว็บไซด์บ้านสวนพีระมิดอาจารย์รูปร่างและหุ่นดีมากอีทั้งยังสวยสวยมากด้วยทั้งทั้งที่อาจารย์ก็มีอายุมากแล้ว   จึงอยากสวยบ้าง  จึงได้เปลี่ยนตัวเองโดยการนำหลักธรรมของพระพุทธองค์มาปฏิบัติ  โดยเลิกโกรธ  เลิกแค้น เลิกโมโหและหงุดหงิด  และท่านอาจารย์ก็พูดอยู่ตลอดว่า  "อยากสวยต้องรักษาศีล"  พระพุทธองค์ท่านพิสูจน์แล้วว่าทุกสิ่งเกิดแต่เหตุเมื่อเหตุดับผลจึงดับ   ดังนั้นจึงพยามที่จะดับเหตุแห่งทุกข์ของตน   พยายามคิดบวก   คิดดี  พูดดี   ทำดี   และทำใจให้สดชื่นแจ่มใส    ปล่อยวางมากขึ้น  ไม่ถือแล้ว  (เพราะมันหนักค่ะ)   อีกทั้งอยากสวย (แต่คงสวยได้ไม่เท่าอาจารย์... อิอิ) จึงเปลี่ยนแปลงตนเอง และปฏิบัติตามอาจารย์    โดยเริ่มรักษาศีล  5  รับประทานมังสวิรัติ   อีกทั้ง ลดความโกรธเคียดแค้น   คิดว่าเราจะไปโกรธ  ไปโมโห  ทำไมในเมื่อทำแล้วมันเป็นทุกข์   ไม่ได้มีประโยชน์กับตัวเอง   มีแต่บั่นทอนสุขภาพกายและใจ   จนในที่สุดอารมณ์ก็นิ่ง   ความโกรธ  โมโห  หงุดหงิด   คิดมาก  ลดลงมาก   เปลี่ยนตัวเองให้หัวเราะบ่อยขึ้น   ทำอารมณ์ให้ดี  นิสัยช่างเก็บก็ยังเป็นอยู่แต่เปลี่ยนมาเก็บเอาเฉพาะสิ่งดีดีของคนอื่นมาคิดมาปฏิบัติแทน   สิ่งไม่ดีก็ให้มันผ่านไป  ซึ่งอารมณ์เหล่านี้ไม่ใช่จะหมดไปในทันทีทันได  ก็ยังมีบ้าง   บางครั้งก็หลุดเหมือนกัน   แต่ก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าเมื่อก่อนมาก  

     สิ่งที่ได้พบ

       เมื่อสามารถลดและละความโกรธได้ก็คือ  จิตใจอารมณ์ดี  มีความสุข   ไม่คิดที่จะโกรธจะแค้นใครอีกเกรงกลัวกรรมที่จะส่งผลตามมา  มีคนรักและเคารพมากขึ้น   พบเจอคนที่มีความจริงใจต่อเรามากขึ้น   ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น    ฝ้ากระจางลง  สวยขึ้น  (ความสวยที่ว่านี้ก็คือความสวยที่ปรากฏขึ้นจากภายใน...ก็คือจิตใจของเรานี่เอง...มองอะไรก็ดูสวยงาม)  มีโชคมีลาภเข้ามาตลอด   ปัญหาและอุปสรรคด้านการเงินการงานเบาบางลงจนแทบจะไม่มี  ชีวิตพบเจอแต่สิ่งดีๆ  มีผู้ใหญ่เอ็นดู              ถ้าวันไหนมีคนมาทำให้อารมณ์เริ่มหงุดหงิด   และกำลังจะเข้าสู่สภาวะโกรธ  จะคิดถึงหน้าอาจารย์  และจะมานั่งเขียนธรรมทานเมื่อเขียนธรรมทานแล้ว   จะรู้สึกว่าจิตเป็นสมาธิ   สบาย  ไม่คิดฟุ้งซ่าน   อารมณ์ที่กำลังจะตึง   ก็จะเริ่มคลายลงๆ     จนในที่สุดความคิดสุดท้ายที่เหลือก็คือ  ให้อภัยคนคนนั้นซะ  แล้วก็ยิ้ม 

       กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล   ท่านอาจารย์อุบล  และเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์ที่ทำให้ลูกมีกำลังใจที่เข้มแข็งสามารถก้าวผ่านความโกรธได้   สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 22:01:54


ความคิดเห็นที่ 88 (1638304)

 

ได้แนะนำเพื่อนที่ทำงานคนหนึ่งเข้าชม web บ้านสวน ถ้าอยากให้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น  เพราะเห็นชีวิตของเพื่อนมีแต่อุปสรรคเข้ามาไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่ปัญหาโรคสะเก็ดเงิน การเจ็บปวดตามร่างกายที่มีอยู่เป็นประจำ ปัญหาทางด้านการเงิน การงานติดขัด เพื่อนคนนี้เคยมาที่บ้านสวนเมื่อตอนพิธียกเสาเอก แต่เขาไม่กลับไปปฏิบัติ  แต่เขาสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกที่มีแต่สิ่งดี ดี เข้ามาในชีวิต (พึ่งมาคิดได้เมื่อไม่นาน)  เมื่อเช้าเพื่อนแอบมาคุยให้ฟัง เพราะกลัวคนอื่นเขาหาว่าโม้ เขาได้ดูคลิป VDO ธรรมสัญจรที่เวชศาสตร์เขตร้อน เขาทึ่งและงงกับอาการเจ็บปวดตามร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าของเขาที่หายเกือบ 100 % เพียงแค่เขารับสารภาพบาปในใจไปพร้อมๆกับผู้เข้ารับธรรมบำบัดที่เวชศาสตร์เขตร้อนเมื่อท่านอาจารย์ไต่สวนกรรม  ไล่ตั้งแต่ปวดศีรษะทุบหัวปลา ปวดบ่า ปวดไหล่ ปวดเอว ปวดหลัง ไล่ลงไปจนถึงเท้า เขาทำกรรมมาทุกอย่างก่อนหน้านี้เพื่อนคนนี้จะต้องทานยาคลายกล้ามเนื้อเป็นประจำ เขาไม่เคยคิดว่ากรรมที่เขาทำร้าย ทำลายสัตว์จะส่งผลกับชีวิตของเขาได้ขนาดนี้  แต่ที่เขางง  ทึ่ง และอัศจรรย์ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ก็คือทำไมแค่เขารับสารภาพอยู่หน้าจอ Com และคิดตามทำไมเขาหายจากการเจ็บปวดตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ เขาไม่ต้องทานยาแก้ปวดเหมือนเมื่อก่อน นับตั้งแต่ได้ดูรายการมา ลูกจึงแนะนำให้เขาเข้าไปดู Web บ้านสวนเรื่อยๆ บ้านสวนมีสิ่งอัศจรรย์มากมายเกิดขึ้นให้เห็นเป็นประจำ การเจ็บป่วยที่ไม่ต้องใช้ยาเพียงแค่คุณมีศรัทธา มีความเชื่อ ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นมงคลกับชีวิตก็จะเกิดกับคุณเอง ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส รับประทานมังสวิรัติได้อานิสงค์ผลบุญก็จะยิ่งเกิดกับคุณมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

น้อมกราบแทบพระบาทขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์  ท่านอาจารย์อุบลที่เมตตาต่อลูกหลานที่เผชิญกับความทุกข์กายทุกข์ใจมาโดยตลอด แม้ไม่ได้มาบ้านสวนก็สามารถบำบัดทุกข์ได้ถ้ามีความเชื่อ และพลังศรัทธา เจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ดวงรัตน์ จันทร์ใสย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 16:10:20


ความคิดเห็นที่ 89 (1638368)

 

และต่อไปนี้
จะถือเป็นกฏข้อหนึ่ง
ซึ่งเป็นข้อสำคัญยิ่ง
ในการที่ใคร
จะเข้าไปบ้านสวนพีระมิด
จะต้องมีธรรมทาน
ชีวิตตัวเอง
ถ่ายเอกสารเตรียมไปแจกด้วย
ทุกคน
ต้องส่ง อ.อุบล ก่อน
แล้ว อ.อุบล จะเป็นผู้ให้ทีมงาน
กลั่นกรอง และ
แจกธรรมทานของคุณเอง
ส่วนใครจะมีสำเนา
จากในเวปที่คนอื่นเขียนไปแจกด้วย
ก็ยิ่งดี แต่ยึด ของตนเอง เป็นหลัก
เริ่มสัปดาห์นี้เลย
ก็แล้วกัน
ส่งข่าว
ไปหลายๆกระทู้ด้วยนะจ๊ะ
และ
ถ้าคุยกันได้ ก็บอกกันด้วยนะ
มิฉะนั้น
หมดสิทธิ์เข้าบ้านสวน
นะจ๊ะจะบอกให้
******
 
อย่าไปมือเปล่า 
นำเอาธรรมทานที่ตัวเองเขียน
หรือ พริ้นท์ ออกมา
ถ่ายเอกสาร ไปแจกจ่ายด้วย
 
ที่บ้านสวนฯ
เป็นแหล่งรวมผู้คน
ที่เป็นนักแสวงบุญ ปรารถนาบุญใหญ่
เมื่อแจกจ่าย เขาจะอ่านแน่นอน
และนำไปแจกต่อแน่นอน
 
(นี่แหละที่ว่า คนเขียน+คนแจก
ก็จะรอดปลอดภัย จากภัยพิบัติ
 จะหายเจ็บ หายจน)
 
พวกเรา
ต้องต่างคนต่างแลกเปลี่ยนกันอ่าน
แลกเปลี่ยนกันแจกจ่าย
รีบเร่งถ่ายเอกสาร
แจกทั้งของเรา และ ของเพื่อนเรา
ที่เขาแจกเรามา
 
เหมือนการต่อเทียน
ถ้าเราแจกคนเดียว หรือ แจกแต่
เฉพาะของเรา ก็เท่ากับ
มีเทียนส่องสว่างเล่มเดียว
 
แต่ถ้า
เราแจกออกไป
รับคนที่แจกเรามาแล้ว
ช่วยกันแจกต่อ
 
ก็เท่ากับว่า
เรามีเทียนส่องสว่าง
หลายดวง ยิ่งมีเทียนมาก
แสงสว่างก็ยิ่งมาก
 
ความสุข+ความดี+ความสมหวัง
ก็จะบังเกิดขึ้นมากมาย
ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์
  
เริ่มตั้งแต่บัดนี้
วันนี้+อาทิตย์นี้เลยนะจ๊ะ
 
ดูสิว่า
บุญธรรมทาน ส่งผลทันที
เป็นอย่างไร
 
นี่เป็น
ปรากฎการณ์ใหม่
นะจ๊ะ
 
แล้วเรามาพิสูจน์ผลกัน
สัปดาห์นี้เลย
 
หรือใคร
ได้อานิสงส์ก่อน
ก็รีบมาเล่าเลยนะจ๊ะ
 
                                                                                                          ผู้แสดงความคิดเห็นอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 22:28:57


ความคิดเห็นที่ 90 (1638398)

 ขออนุโมทนาบุญธรรมทานกับพี่ดวงรัตน์   ด้วยนะคะ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-03 07:03:17


ความคิดเห็นที่ 91 (1638399)

 ขออนุโมทนาบุญธรรมทานกับพี่ดวงรัตน์   และลูกบ้านสวนทุกคนด้วยนะคะ  สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-03 07:04:09


ความคิดเห็นที่ 92 (1638400)

      กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์

ที่เป็นห่วงลูกบ้านสวนทุกคน  

เน้นให้พยายามเขียนธรรมทาน

  อยากบอกลูกบ้านสวนทุกคน

ให้เร่งเขียนธรรมทานตามที่ท่านอาจารย์

 

ย้ำเตือนอยู่เสมอและเขียนให้มากๆนะคะ

 

 

   แล้วปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น

 

 

กับทุกคน  เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับแป๋ว

 

 

  แล้วเราทุกคนจะหายป่วย  หายจน

 

  พ้นทุกข์    แน่นอนค่ะ  

สาธุ   

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-03 07:13:21


ความคิดเห็นที่ 93 (1638468)

         วันนี้ไปทำความดีมาค่ะ

          โดยพาครอบครัวไปร่วมบุญกฐินที่วัดห้วยกุ่ม  จังหวัดชัยภูมิ   ห่างจากตัวจังหวัดที่อยู่  ก็ประมาณ  เกือบ  140   กม. ทางที่ไปลำบากมาก  เป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ   ไม่รู้ว่า  อบต.ที่รับผิดชอบกินอิฐ   กินหิน  กินปูน  กินทราย    เหมือนที่เราๆท่านๆทราบกันดีรึเปล่าไม่รู้  ?   ถ้าใช่ก็หนี้แผ่นดินล่ะครับท่าน    (กรรมใครกรรมมันล่ะครับพี่น้อง)   จึงขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาลและท่านอาจารย์อุบล   ขอให้ลูกเดินทางโดยสวัสดิภาพและปลอดภัย  อย่าได้หลงทางไป  และอย่าได้ลืมทางกลับนะเจ้าคะ    ตอนไปก็ได้ซื้อซาลาเปาไปแจกผู้มาร่วมบุญที่วัดซื้อไปทั้งหมด  น่าจะประมาณ   80   ลูก  ไปถึงวัดก็เกือบจะ   11.00  น.  ที่วัดมีโรงทานเยอะมาก คนก็เยอะ   ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้     คิดในใจว่าแล้วซาลาเปา  ที่ซื้อมานี่จะเอาไปให้ใคร   โรงครัววัดก็ไม่เคยเห็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ไป   พอดีมีน้องมาเดินแจกน้ำโอวัลตินไข่มุก  (น่าจะเรียกอย่างนี้นะ    เพราะมีน้ำโอวัลติน  กับไข่มุกอยู่ในแก้ว)  หน้าตาหมวย  ขาว  สวย  ก็เลย  ถามน้องว่าน้ำนี่ของใครคะ     น้องบอกว่าเป็นน้ำของเสี่ย...(อะไรซักอย่างแต่จำชื่อไม่ได้)  ก็เลยได้ไอเดียว่า   อ้าว....^_^   งั้นซาลาเปาของเราที่เอามานี่ถ้าเราเดินแจกผู้มาร่วมบุญในงานบ้างล่ะ     ความคิดบรรเจิด    การกระทำรวดเร็วดังความคิด

          ก็เลยชวนลูกสาวสองคน  และคุณแม่สามี  เดินแจก ในงานโดยเฉพาะกลุ่มที่เค้ากำลังเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอรับแจกกระเพาะปลา     "  อั๊ยอย๋า"  เดินแจกไม่ถึง  10  นาที   ซาลาเปา  80  ลูก  ก็หมดเกลี้ยง    วันนี้รู้สึกมีความสุขมากมาก     แจกไปก็ยิ้มไป   ^_^   เฮ้อดีใจจังที่ได้ทำบุญ  และทำทาน   ทำให้คนอื่นได้อิ่มและทำให้คนอื่นได้มีความสุขในการกิน     แจกเสร็จก็เลยไปนั่งพักไม่เท่าไหร่ก็เหลือบไปเห็น    กลุ่มที่ต่อแถวรอกระเพราะปลา  แตกแถวไม่เป็นท่ากระจายไปคนละทิศละทาง     ก็เลยสังเกตุดูว่าเป็นเพราะอะไร ?      ตะกี้ยังต่อแถวกันซะล้นโรงทาน  

       อ๋อ..และแล้วก็ถึงบางอ้อ...ก็เพราะกระเพราะปลาหมดนี่เองเฮ้อน่าสงสารจังอุตส่าห์มายืนต่อแถวรอตั้งนานทั้ง  เด็ก  ผู้ใหญ่    และ  คนแก่   แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กิน   คิดขึ้นมาได้ว่านี่ถ้าไม่มีซาลาเปาเรารองท้องก่อนเค้าคงจะหิวกันมากกว่านี้    เฮ้อคิดแล้วก็น่าจะเอามาเยอะๆกว่านี้    

          ตอนที่เดินแจกมันมีความสุขมากจนบรรยายไม่ถูกมันเหมือนเราเดินขายของแล้วมีคนมาซื้อเยอะแยะไปหมด        แต่สิ่งที่เราได้กับไม่ใช่เงิน     แต่มันเป็นความสุข    เป็นความสุขที่เงินก็หาซื้อไม่ได้    นี่เองเหรอที่เค้าเรียกว่าสุขจากการให้  ให้คนอื่นมีความสุข   แล้วเราก็สุขด้วย    ขนาดเรายังสุขขนาดนี้แล้วท่านอาจารย์ล่ะจะสุขขนาดไหนเพราะที่อาจารย์ทำมันมากกว่าเราร้อยเท่าพันทวีมาก     ทั้งให้ใช้บ้านของอาจารย์เป็นสถานที่บำบัด  และอาจารย์ก็ให้ทานโดยใช้อาหารของอาจารย์  เลี้ยงคนเป็นร้อยเป็นพัน  ไม่ใช่แค่วันสองวันแต่ท่านอาจารย์ทำทุกวันทำมานานเป็นหลายๆปี    อีกทั้งช่วยให้ลูกศิษย์ทุกคน  หายป่วย   หายจน   พ้นทุกข์   อาจารย์ขาหนูรับรู้และสัมผัสได้แล้วล่ะคะว่าความสุขที่เราได้ให้มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน   อาจารย์ถึงได้เป็นผู้ให้มาตลอด   อย่างนี้สิคะทั้งแป๋วและลูกศิษย์บ้านสวนทุกคนถึงทั้งรักเคารพและเชื่อฟังท่านอาจารย์มาก และ จะรักและปฏิบัติตามท่านอาจารย์อย่างนี้ตลอดไป  เจ้าค่ะ    

          สุดท้ายก็กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอาจารย์อุบลที่ได้ช่วยให้ลูกเดินทางไปและกลับโดยสวัสดิภาพและปลอดภัยนะเจ้าคะ  และขออุทิศบุญที่ลูกได้ทำตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบันให้กับเทวดาที่ปกปักรักษาท่านอาจารย์อุบล  และครอบครัว   สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั่วสากลจักรวาล บิดา  มารดา  และผู้มีบุญคุณทุกท่านด้วยนะเจ้าคะ   สาธุ

       

     

                          

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-03 21:30:48


ความคิดเห็นที่ 94 (1638617)

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบลที่เคารพ

และสวัสดีญาติธรรมบ้านสวนพีระมิดทุกท่านครับ

ห่างหายไปจากการแสดงความคิดเห็น และเล่าเรื่องของตัวเองเป็นธรรมทานด้วยอัตตาที่คิดว่าคนเขียนกันเยอะแล้วเหมือนคนอื่นๆ ตอนนี้ดวงตาพอจะเห็นธรรมบ้างแล้วว่า ถ้าเราไม่สร้างบุญด้วยตนเอง ชีวิตก็จะติดอยู่กับกรรมตลอดชีวิต

ครั้งล่าสุดของการร่วมกิจกรรมที่บ้านสวนพีระมิด คือการไปใช้แรงงาน 9 วัน 9 คืน เมื่อช่วงสงกรานต์ปี 54 ครับ หลังจากกลับมา ผมก็เริ่มผอมลง จนทุกวันนี้ เอวลดไปสามนิ้ว ใครที่เคยเห็นผมตอนนั้น ถ้าได้เจอกันอีกครั้งต้องผิดตาไปแน่ครับ หลังจากนั้นก็ได้พบร่างปู่ตาก และขายทาวน์เฮาส์ไปได้หนึ่งหลังแม้จะขาดทุน แต่ก็พอมีเงินมาก้อนหนึ่ง แต่ก็หลงระเริงไปทำธุรกิจเพื่อจะให้ได้เงินเพิ่มขึ้น ไม่ได้นำเงินมาทำบุญต่อ เพราะคิดว่าให้เงินมันงอกมาก่อนค่อยนำมาทำบุญต่อ สุดท้ายเงินก้อนนั้นก็หาย ไม่สามารถสร้างเงินใหม่ขึ้นมา และหาเงินมาทำบุญต่อได้ จึงขอให้ข้อมูลของผมเป็นตัวอย่างให้ญาติธรรมทุกท่านศึกษานะครับ ถ้าได้เงินใหม่มาต้องรีบมาทำบุญใหม่นะครับ อย่ามัวแต่รอ หรือคิดว่าจะหามันเพิ่มขึ้นได้ ไม่มีอะไรแน่นอนครับ บุญกุศุลต่างหากที่จะนำพาเราไปในหนทางที่ดีขึ้นได้นะครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับญาติธรรมทุกๆ ท่าน ด้วยนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เสฏฐพัฒน์ รัตนวารินทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 09:30:16


ความคิดเห็นที่ 95 (1638622)

มีอยู่วันหนึ่งได้ดูรายการคุยไปแจกไป มีเรื่องเกี่ยวกับผู้ที่มีปัญหากับเท้า ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ชอบใช้เท้ากับทั้งคน สัตว์ สิ่งของ แล้วท่านอาจารย์อุบลให้ขอขมากรรม ผมก็ขอขมากรรมไปด้วย ว่าถ้าเข่าผมที่มีปัญหาเจ็บ และเสียงดังกอบแกบนะครับ หลังจากขอขมากรรมหน้าจอ อาการเจ็บที่หัวเข่าขวา และมีเสียงดังเวลาขยับ หายไปเลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เสฏฐพัฒน์ รัตนวารินทร์ (prshop999-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 09:59:54


ความคิดเห็นที่ 96 (1638809)

คุณ เสฏฐพัฒน์ รัตนวารินทร์ กรุณา  

แก้ไข  ติกที่ช่องไม่แสดงอีเมล์ด้วยนะครับ  ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 09:08:07


ความคิดเห็นที่ 97 (1639078)

ธรรมทานชีวิตของน.ส.ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ชื่อเล่น ขวัญ อายุ 21 ปี ปัจจุบันอยู่จ.สระบุรี ว่างงาน จบการศีกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ความยาว 2 หน้ากระดาษA4)

โกรธคนอื่นเขา เหมือนจุดไฟเผาตัวเอง

ข้าพเจ้าเคยเป็นคนอาฆาตพยาบาท ขี้โกรธ ไม่ชอบใจก็จะพูด ด่า ด้วยถ้อยคำหยาบคาย แสดงกิริยาโดยเจตนาให้คนอื่นเสียใจ คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร ฉันพอใจก็พอ ระบายอารมณ์โกรธกับคน สัตว์เลี้ยง สิ่งของ อีกทั้งยังนิ่งเฉยหรือผสมโรงเมื่อคนอื่นโกรธ ทะเลาะกัน ข้าพเจ้าทำบาปกับคนรอบข้างแทบทุกคนในชีวิต โดยเฉพาะกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะพูดด้วยโทสะ เถียง แสดงกิริยาก้าวร้าว ไม่เชื่อฟัง โกหกเป็นประจำ ทำให้ท่านเสียทรัพย์เพราะความโง่เขลาของข้าพเจ้า และเสียใจนานนับปี ข้าพเจ้าทราบดี แต่ก็ทำต่อไป เหยียบย่ำจิตใจพ่อแม่และหลายๆคน เปรียบเหมือนคนที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว โดยที่นึกไม่ถึงว่า บาปกรรมใหญ่หลวงนี้ ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน ข้าพเจ้าเจอสารพัดทุกข์ รับกรรมแบบไม่ต้องรอชาติหน้า ข้าพเจ้าโดนทำร้ายจิตใจเป็นประจำ โดยเฉพาะจากคนที่ข้าพเจ้ารัก เรื่องเล็กน้อย ก็จะเสียใจมากเกินปกติ เหมือนหัวใจโดนบีบ ทะเลาะกับแฟน เพื่อน ครอบครัวบ่อย ทำให้คนอื่นๆเดือดร้อนไปด้วย ครอบครัวไม่สงบสุข ชีวิตมีอุปสรรค ผลการเรียนไม่ดี สังคมไม่ดี พากันทำบาป ขนาดเคยมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมตั้งแต่เด็ก ก็ไม่เข้าถึงธรรม กลับไปสร้างบาปมากกว่าสร้างบุญ เรียกได้ว่า มืดมนทั้งทางโลกและทางธรรม นอกจากนี้ ข้าพเจ้าเคยฆ่า สั่งให้คนอื่นฆ่า นิ่งเฉยเมื่อคนอื่นฆ่าหรือเบียดเบียนสัตว์ เคยกินเนื้อสัตว์ทั้งสัตว์ใหญ่และเล็ก และธุรกิจของครอบครัวทำให้แมลงโดยเฉพาะมอดโดนฆ่าเป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้เป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์ เมื่อนำไปทำบุญ อานิสงส์ก็น้อย และไม่เกิดฉับพลันทันที(การทำบุญให้ทาน ถ้ามีความบริสุทธิ์ทั้ง 3 ส่วน เจตนา วัตถุทาน และเนื้อนาบุญ อานิสงส์จะเกิดในวันนั้นเลย ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า)

กรรมเหล่านี้ยังส่งผลให้ข้าพเจ้ามีผิวพรรณทราม คำสอนของพระพุทธเจ้าถูกต้องจริงๆว่า กรรมผิวพรรณ เกิดจากกรรมโทสะ” มีผื่น เส้นเลือดฝอยแดงเห็นได้ชัดเป็นจ้ำๆบนใบหน้า ผิวแพ้ง่าย สิวและผื่นขึ้นง่ายและเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะบนใบหน้า ต้นขา หลัง หน้าอก พอร้องไห้ เส้นเลือดฝอยก็แตกบนหน้าเหมือนตกกระ ออกกำลังกายนานๆแล้วจะมีอาการคันตามผิวหนัง โดนยุงกัดบ่อยมากเพราะเกลียดและชอบตบยุง 

แต่ทุกวันนี้ ผิวพรรณดีขึ้น ดีใจมากๆ เพราะภาวนาคาถาบูชาพระศรีอาริย์ เมตตานะ ศรีอาริยะเมตโต พุทธานะมะ สันติเกโล อนาคามิ อย่างต่อเนื่อง รู้สึกเหมือนของเสียถูกขับออกจากร่างกาย และหลังจากปฏิบัติตามคำสอนจากท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ โดยเริ่มแรกศึกษาจากทางwww.baansuanpyramid.com และอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ ทำให้ได้เข้าใจว่า โกรธไปก็มีแต่ใจเราที่รุ่มร้อน มีแต่ทำให้คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี แล้วเราจะโกรธเพื่อทำร้ายตัวเองและผู้อื่นต่อไปทำไม คิดถึงพระพุทธเจ้าที่ท่านทรงรัก ทรงสอนธรรมะเพื่อความหลุดพ้นให้ลูกหลาน ทำให้ไม่อยากจะทำบาปอีกต่อไปแล้ว อยากทำดีเพื่อจะได้ไม่ต้องเกิดอีก ได้เข้าพระนิพพานไปเข้าเฝ้าท่าน ทำให้ข้าพเจ้าโกรธน้อยลง ทำอภัยทานได้มากขึ้นอย่างชัดเจน และเมื่อภาวนาอ.อุบลช่วยด้วย ขอพระบารมีพระศรีอาริย์ และสามร่มโพธิ์ศรี อย่างต่อเนื่อง วันนี้ เชื่อว่าทำอภัยทานให้คนๆนั้นได้ 100และใจเบาสบาย เบิกบาน มีความสุขทุกวัน และเมื่อธรรมะปลุกจิตสำนึกดีของข้าพเจ้า ได้ไตร่ตรองถึงความดีความรักที่บริสุทธิ์ของพ่อแม่ ที่มีต่อข้าพเจ้ามากมายมหาศาล ในขณะที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ข้าพเจ้ามีแต่ทำชั่วมากกว่าทำดีกับท่าน เมื่อคิดได้ จึงรีบเปลี่ยนแปลงตัวเอง ชีวิตที่เหลือนี้ขอทำดีเพื่อท่าน ขอยกบุญที่ทำมาทั้งหมดแด่ท่าน สาธุ

บาปของข้าพเจ้าไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ ข้าพเจ้ายังเคยขโมยเงินคุณย่า ร่วมกับเพื่อนขโมยของจากร้านขายของ เคยคิดจะขโมยเงินคุณพ่อ เคยขโมยและยืมของๆคนอื่นไปโดยไม่ขออนุญาต บางครั้งก็ลืมคืน ใช้น้ำใช้ไฟเปลืองโดยที่เราไม่ได้จ่าย เคยไม่เต็มที่กับการเรียน ทั้งที่พ่อแม่จ่ายเงินค่าเล่าเรียนหวังให้เราตั้งใจเรียน เคยอู้งานแต่รับเงินเดือนเต็ม ยังชอบของฟรี มีความโลภ ที่สำคัญเกิดมาบนแผ่นดินไทย แต่แทบไม่เคยปกป้องแผ่นดิน ใครดูหมิ่นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็นิ่งเฉยเสียส่วนใหญ่ บาปเหล่านี้ทำให้ข้าพเจ้าเคยโดนขโมยของ เช่น โทรศัพท์มือถือ เพื่อนยืมของไปแล้วไม่คืน เก็บเงินไม่อยู่ มีเหตุให้เสียเงินเรื่อยๆ ต้องใช้จ่ายสิ่งที่ไม่จำเป็นบ่อยมาก และบ้านไม่มีความสะดวกสบาย

โกหกจนเข็ด

ตั้งแต่เด็ก ข้าพเจ้าเคยโกหก กะล่อน ปลิ้นปล้อน ตอแหล แทบทุกวัน วันละหลายครั้ง พาคนอื่นโกหกไปด้วย ทั้งเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการและให้คนอื่นสบายใจ และเคยผิดสัจจะ บิดเบือนคำพูด เขียนข้อความเท็จ นินทาบ่อยมากๆ ซึ่งผลกรรมที่เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ทำคือ ใจรุ่มร้อน ไม่สงบ ไม่มีความสุขเลยจริงๆ ตอนประถม เคยมีฟันเขี้ยว 2ซี่ขึ้นตรงเหงือกบน ดูเหมือนยักษ์ รูปปากแปลกๆ ทำให้ต้องดัดฟัน แล้วฟันก็เยอะมากเกินไป จึงต้องโดนถอนออกหลายซี่ และดึงฟันเขี้ยวที่เหงือกลงมาแทนที่ ตอนดัดฟัน ก็มีอาการปวดหัวและเครียดบ่อยๆ โตขึ้น ก็โดนผ่าเหงือก ถอนฟันอีก และผ่าเนื้อใต้ลิ้นเนื่องจากพูดไม่ชัด จำได้ว่าผ่าเนื้อนี่ เจ็บยิ่งกว่าตอนผ่าตัดไส้ติ่ง นอกจากนี้ บางครั้งก็มีอาการเจ็บคอ และมีกลิ่นปากด้วย ใครพูดอะไรดีๆ แนะนำสิ่งที่ดี พูดความจริงกับเรา เราไม่เชื่อ แต่ไปเชื่อคนที่โกหกเรา คนที่บอกให้เราทำชั่ว ซึ่งทำให้เราทำบาปเพิ่มอีกมากมาย และน้อยครั้งที่คนจะเชื่อคำพูดของเรา ผลกรรมชัดเจนมากๆจากการใช้ปากไปในทางที่ผิด เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น แต่เมื่อข้าพเจ้าตั้งใจประพฤติตนให้อยู่ในศีลให้ดีที่สุด ตั้งแต่นั้นมา ไปตรวจฟันทุกครั้ง ก็ปกติดีทุกอย่าง ไม่เคยมีฟันผุ และฟันเรียงกันเป็นปกติ ผิดกับเมื่อก่อนราวฟ้ากับดิน ทำตามพระพุทธเจ้าแล้วได้รับอานิสงส์อย่างนี้นี่เอง

สำหรับการผิดศีลข้อ 5 ข้าพเจ้าเคยสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ยินดีและเฉยเมื่อคนอื่นทำ เคยซื้อแอลกอฮอล์ ให้เพื่อนซื้อ เคยขโมยมาดื่ม และเคยดื่มจนอาเจียน ทำให้คนอื่นต้องทำความสะอาดให้ ลำบากมาดูแลข้าพเจ้า และทำให้ไปยุ่งกับแฟนคนอื่นด้วย แอลกอฮอล์ ทำให้ทำบาปมากมาย และทำให้ข้าพเจ้าเป็นโรคปวดหัวไมเกรนมานานนับปี หลังจากข้าพเจ้าตั้งใจรักษาศีล เลิกดื่มอย่างเด็ดขาดมาประมาณ 2ปี และเมื่อได้ออกมาเล่าว่าเคยดื่มแอลกอฮอล์และบาปอื่นๆ ด้วยความสำนึกผิด เป็นธรรมทานให้ท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์และคนอื่นฟัง ซึ่งเป็นการดับที่เหตุของอาการปวดที่เกิดจากกรรมรวมตัว แล้วอาการปวดหัวก็หายประมาณ 50เนื่องจากบอกกรรมไม่หมด

ข้าพเจ้าดีใจมากที่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจากท่านอ.อุบล ทำให้ชีวิตข้าพเจ้าในวันนี้ ดีขึ้นในทุกด้าน ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ปวดหัวแล้ว มีสภาพคล่องทางการเงิน และมีความสุขสมหวังทั้งในสังคมครอบครัวและเพื่อน อีกทั้งมีสติและสมาธิมากขึ้น ใช้ปัญญาพิจารณามากขึ้น หากข้าพเจ้าไม่ได้มาเข้าใจพระธรรม ข้าพเจ้าคงแบกทุกข์ และเพิ่มทุกข์ให้ตัวเองต่อไปไม่สิ้นสุด ขอกราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ เบื้องบนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ และท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ครูบาอาจารย์ที่รักและเคารพค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 10:43:34


ความคิดเห็นที่ 98 (1639133)

 ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานของคุณเสฏฐพัฒน์  

และคุณครองขวัญด้วยนะคะ    

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 14:19:28


ความคิดเห็นที่ 99 (1639505)

            เมื่อวาน   ได้อ่านเฟสบุ๊คที่เพื่อนโพสขึ้นมา   ว่า   "การเลี้ยงดูบิดามารดา    เป็นมงคลอย่างสูง"  เห็นข้อความนี้แล้วทำให้คิดถึงพ่อกับแม่    คิดถึงตนเองว่ายังไม่ได้ดูแลและทดแทนบุญคุณของท่านอย่างเต็มที่เลย   ทั้งทั้งที่ท่านดูแลเรามาตั้งแต่เล็กจนโตเป็นอย่างดี    จนกระทั่งเรามีครอบครัวแล้วท่านก็ยังเป็นห่วงเราอยู่เสมอ    ซึ่งวีรกรรมตั้งแต่เล็กจนโต   ที่ทำไว้กับพ่อแม่นั้นมากมายเหลือเกินไม่ว่าจะ   โกหก  หลอกลวง  ปลิ้นป้อน  ตอแหล    เถียงพ่อเถียงแม่  โมโห  หงุดหงิด    หน้าบูดหน้าบึ้ง ประชดประชันและแสดงออกชัดเจนเมื่อไม่พอใจ ชิงสุกก่อนห่าม  และ  จะคิดว่าพ่อกับแม่รักแต่พี่สาวกับน้องชายมาตลอด  ด้วยความคิดเด็ก  เด็ก

        โอกาสที่จะได้ดูแลพ่อกับแม่ก็ยิ่งน้อยลงทุกที   เมื่อหลังจากเรียนจบ    ก็ได้บรรจุเข้าทำงาน  ทำงานไม่นานก็แต่งงาน  มีครอบครัว   มีลูก  มีภาระ  เมื่อมีภาระ  ก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อปลดภาระหนี้สิน  จนไม่มีเวลาที่จะดูแลพ่อกับแม่     เพราะเมื่อมีครอบครัวเวลาที่เหลือส่วนใหญ่ก็ให้ครอบครัวเกือบหมด   ซึ่งบ้านของพ่อแม่จะอยู่อีกอำเภอนึงห่างจากตัวจังหวัด   ประมาณ  50  กม . แต่ก็ไม่ค่อยมีโอกาสกลับไปเยี่ยมท่าน   ท่านซะอีกที่ต้องขับรถมาเยี่ยมลูกและหลานเป็นประจำ     พ่อมีโรคประจำตัวคือเป็นเบาหวาน    คิดจะซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลให้พ่อครั้งนึง  แต่ด้วยไม่มีเวลาไปรับเครื่องก็เลยฝากเงินให้กับพี่สาวไปรับเครื่องแทน   แต่เผอิญวันที่พี่สาวไปรับเครื่องร้านดั๊นปิด   จนกระทั่ง  ณ  บัดนาว  พ่อก็ยังไม่ได้เครื่องตรวจน้ำตาลเลย  

       เมื่อวานเห็นโพสต์ข้อความนี้เข้าก็เลยโทรไปหาพ่อบอกจะซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลให้ใหม่   น้ำเสียงของพ่อบ่งบอกถึงความรู้สึกได้ว่าท่านดีใจมาก   และด้วยความเป็นห่วงลูกอีกเช่นเคย  ก็ถามกลับมาว่า   " มีเงินซื้อให้พ่อมั้ย?"  โห  แค่ได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกตื้นตันใจในความเป็นห่วงของพ่อ  ที่ห่วงลูกได้ทุกขณะ จิต   T_T   ขอบคุณนะคะพ่อที่พ่อกับแม่ห่วงใยหนูเสมอมา  

        และหนูขออโหสิกรรมที่หนูได้ปฏิบัติตัวไม่ดี   ทำให้พ่อกับแม่ต้องทุกข์กายทุกข์ใจมาตลอด    หนูกราบขอบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาลเบิกบุญที่หนูได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบันและที่ได้ร่วมบุญกับบ้านสวนพีระมิดทุกบุญ   ขออุทิศบุญให้เทวดาที่ปกปักรักษาพ่อกับแม่  ของลูกด้วยเทอญขอให้พ่อกับแม่มีความสุข  สุขภาพร่างกายแจะจิตใจแข็งแรงเป็นที่รักของลูกๆตลอดไป  สาธุ  สาธุ  สาธุ

     กรรมส่งผลที่ทำไม่ดีกับพ่อแม่  

                     เมื่อมีลูกลูกก็ดื้อ   ไม่เชื่อฟัง    พูกโกหกกับเรา    เวลาใช้ให้ทำอะไรก็จะบ่น   จะเถียง   หน้าบูดหน้าบึ้งเมื่อไม่พอใจ  และสองสาวก็จะทะเลาะกันบ่อยมาก  เห็น  แล้วเหนื่อยใจ    กลุ้มใจเศร้าใจ  อีกทั้งชีวิตพบกับความขัดสน  เป็นหนี้เป็นสิน หยิบนั่นยืมนี่มาใช้ตลอด   T_T    เฮ้อก็เลยรับรู้ความรู้สึกของพ่อกับแม่แล้วล่ะว่า  พฤติกรรมที่ทำสมัยเด็กของเรา   พ่อกับแม่รู้สึกยังไงบ้าง  ทุกข์ใจแค่ไหน   เพราะตอนนี้กรรมได้ส่งผลแล้ว

 

เมื่อได้พบบ้านสวนพีระมิดและท่านอาจารย์อุบล

                    อาจารย์ได้คอยย้ำเตือนอยู่เสมอให้กตัญญูต่อบิดามารดา   สิ่งศักดิ์สิทธิ์   และผู้มีพระคุณ  ก็เลย ยกเครื่องตนเองใหม่หมด   อะไรดีดีที่ยังไม่ทำกับพ่อกับแม่   ก็เร่งทำ   เช่นพาท่านไปเที่ยว    พาท่านไปหาอะไรอร่อยๆทาน  และชวนพี่สาวกลับไปเยี่ยมท่านบ่อยขึ้น  วันสงกรานต์  ก็กลับบ้านไปกราบขอขมา ขอ   อโหสิกรรมที่ทำไม่ดีกับท่านทุกๆปี   พูดดี  คิดดี   ทำดี   กับท่าน  เล่าเรื่องบ้านสวนพีระมิดให้ท่านฟัง   และให้ท่านดูคลิปบ้านสวนเป็นประจำ  เพราะที่บ้านจะดูช่อง    48 MV  STAR  ได้  แนะนำให้ท่านใช้     "รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย "   เพราะเชื่อแล้วว่าทำอะไรได้อย่างนั้น    ในอนาคตลูกสาวทั้งสองจะได้ทำดีดีแบบนี้กับตนเอง   พ่อกับแม่ท่านมักจะให้พรเสมอ   ก็จะน้อมรับ   และสาธุกับพรที่พ่อกับแม่ให้    พรที่ท่านให้เป็นประจำ  คือ   " ขอให้  รวยๆ   ขอให้เจริญ ๆ  ขอให้มีความสุข"  

 

ปัจจุบัน

         หลังจากได้ปฏิวัติตนเองใหม่  นำคำสอนของท่านอาจารย์มาปฏิบัติตาม   ก็เกิดปาฏิหารย์ขึ้นกับลูก    อยากจะบอกพ่อกับแม่ว่าพรที่พ่อและแม่ให้มาทุกครั้งนั้นเห็นผลแล้ว  ลูกได้รับแล้วค่ะ   และชีวิตของลูกก็เป็นไปตามคำอวยพรของพ่อกับแม่ทุกประการ   ครอบครัวของลูกมีความสุข   ค้าขายดี   มีเงินใช้ไม่ขาดมือ   มีเงินใช้หนี้   ไม่ขัดสน   เกิดสภาพคล่องทางการเงิน   ลูกสาวสองคนก็เป็นเด็กดีขึ้นทุกวันๆ    รักและผูกพันธ์กับลูกมากขึ้น   อุปสรรคปัญหาต่างๆ  คลี่คลายและหมดไป     ลูกขอ

กราบขอบพระคุณพ่อกับแม่อีกครั้งนะคะ ที่ได้สร้างลูกคนนี้ขึ้นมา  อบรมบ่มนิสัยให้ลูกเป็นคนดี    จนลูกได้ดีในที่สุด  

กราบ  กราบ  กราบ

      สุดท้ายลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล   ที่ได้ให้ลูกได้พบหนทางแห่งการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ  จนเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูก  และทำให้ลูกมีดวงตาเห็นธรรม

นะเจ้าคะ   สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 11:22:30


ความคิดเห็นที่ 100 (1639845)

รรมทานของ ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย

ชื่อเล่น สีนวล ค่ะ

ขอสารภาพบาปที่เคยทำในอดีตและผลที่ได้รับ ดังนี้


ทำผิดศีลข้อ 1 ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

เท่าที่จำได้ในช่วงวัยเด็กเคยช่วยน้าชายเอากะละมังใส่น้ำแล้วตั้งไว้กลางนอกชานบ้านในตอนกลางคืนวันฝนตกเพื่อดักให้แมลงเม่าตกลงมาแล้วตอนเช้าก็นำมาคั่วกิน

และเคยช่วยน้าชายไปจับกบ เขียด มาทำอาหาร

เคยจับไส้เดือนมาตัดเป็นท่อนเพื่อใส่เบ็ดตกปลา ลองคิดย้อนหลังใจร้ายได้โล่ห์จริงๆ ผลที่ได้รับ เป็นริดสีดวงทวาร

เคยเอาถุงพลาสติกมัดใส่ปลายไม้แล้วนำไปครอบแมลงปอ และบางทีก็เอามาขังไว้ในถุง  เคยจับ ผีเสื้อนำมาใส่ในหนังสือเล่มหนาๆทับไว้ โดยไม่คิดว่าพวกเขาจะรู้สึกทรมาณแต่อย่างใด

เคยจับแมงกวางมาเล่นเอาเขาชนกัน

เคยฆ่า เหา,ไข่เหา, หนอน, บุ้งที่มีขนคันๆ, แมงป่อง, ด้วง,แมลงหวี่, แมลงวัน, ตะขาบ

เคยเอายาฉีดฆ่า มด, ยุง, ปลวก, แมลงสาบ ผลที่ได้รับจะเป็นไข้หวัดทุกครั้งหลังจากฉีดยา และคัดจมูกบ่อยๆ

เคยเอาน้ำฉีดเพื่อฆ่า แมงมุมขายาว, ลูกตะขาบเล็กๆ

เคยเอากาวดัก หนู ภาพที่จำได้ติดตาคือหนูตัวเล็กๆดิ้นกระเสือกกระสนเพื่อจะให้หลุดจากกาว พอจะหลุดเราก็ขยับกาวให้ไปติดกับตัวหนูอีก  รู้สึกสำนึกผิดมากมายหลังจากนั้นไม่ดักหนูอีกเลย

เคยฆ่าปลาโดยการทุบหัว ถ้าตัวเล็กก็บีบเอาไส้ออก 

เคยฆ่ากุ้ง และสั่งให้คนอื่นฆ่าเพื่อนำมาทำเป็นอาหาร

เคยฆ่าเองและสั่งให้คนอื่นฆ่าหอย, ปู โดยการต้ม ย่างเป็นๆ

มีส่วนร่วมในการฆ่าหมู ไก่ เป็ด นก กระต่าย วัว ควาย นกกระจอกเทศ แพะ แกะ โดยการซื้อเนื้อสัตว์มาทำเป็นอาหาร

เคยทำแท้ง 1 ครั้ง และมีส่วนรู้เห็นในการทำแท้งหลายครั้ง โดยไม่ห้ามปราม ผลที่ได้รับชีวิตมีแต่ปัญหาและอุปสรรคไม่มีความสุขอย่างแท้จริง สุขภาพปวดบ่า หลัง เอว

เคยรับรู้เรื่องของเพื่อนที่ไปฆ่าคนตายโดยไม่รู้สึกว่าเป็นบาป หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนคนนั้นอยากบวช ก็ไปถูกฆ่าตายเหมือนกัน

เคยคิดอยากทำร้ายคนอื่น เคยแช่งให้คนที่ทำไม่ถูกใจเรามีอันเป็นไปต่างๆนาๆ ผลที่ได้รับคือบางคนจะแสดงอาการไม่ชอบหน้าเราอย่างไม่มีสาเหตุแม้ว่าจะแค่เจอกันครั้งแรก

 

บัดนี้ข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกผิดในบาปกรรมที่ผ่านมาที่เคยเบียดเบียนล่วงเกินชีวิตของพวกท่านทั้งหลาย

ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมและจะละเว้นไม่ทำเช่นนั้นอีก

 

 

ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

สมเด็จองค์พระปฐม

พระศรีอาริยเมตไตรย์ที่ท่าน อ.อุบล อันเชิญมา

พระบารมี 3 ร่มโพธิ์ศรี

ท้าวเวสสุวรรณ พระยายมราช

หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีฯ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล

ขอทุกท่านมาเป็นพยาน

 

ลูกขอเบิกบุญตั้งแต่ต้นชาติจนถึงปัจจุบัน

รวมกับทุกบุญที่ร่วมทำในบ้านสวนพีระมิด

ขอบุญนี้มารวมตัวกัน

และขอนำส่งบุญนี้ถึงแก่เทวดาที่รักษาท่าน อ.อุบล

เทวดาที่รักษาองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทุกดวงจิตวิญญาณและสรรพสัตว์

ที่ลูกเบียดเบียนชีวิตด้วยกาย วาจา ใจ

ขอทุกท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญ

และไปสู่ภพภูมิที่สูงยิ่งขี้นไปด้วยเทอญ

สาธุ

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 07:55:40



[1] 2 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.