|
ให้ความร้อนแก่สัตว์ทำให้ตัวร้อนแบบหาสาเหตุไม่ได้มาเป็นปีกว่า | |
หนูมีอาการตัวร้อนมาปีกว่าๆซึ่งเป็นอาการตัวร้อนแบบไม่ทราบสาเหตุเนื่องจากไม่ได้เจ็บป่วยไม่สบายแต่อย่างใด ในวันเสาร์ที่11 สิงหาคม ท่านอาจารย์ได้เปิดโอกาสให้คนที่มีปัญหาเจ็บป่วยขึ้นมาสารภาพกับจี้องค์สฟิ้งซ์ ว่าได้ทำกรรมอะไรมาบ้างให้สารภาพแล้วตรวจสอบผลทันทีตอนนั้น พอถึงคิวหนูก็สารภาพว่าได้ฆ่ายุง ฆ่าแมลงสาบ ตะขาบ ฆ่าไส้เดือน แล้วก็นึกไม่ออก ท่านอาจารย์ได้เมตตาถามว่าหนูเคยเผาอะไร เคยทำอะไร ที่ร้อนๆไหม (หนูไม่แน่ใจนะค่ะว่าเผาๆร้อนๆอะไรนี้แหละที่ท่านบอกแล้วหนูนึกกรรมออก) หนูได้บอกว่าเคย ฆ่าหอยแครงโดยเอาหอยแครงเป็นๆไปแช่น้ำทะเล เพื่อให้คายดิน จากนั้นเอาโยนเข้ากองไฟ แล้านำมากินกัน กับเพื่อนๆ แล้วก็มีการเอาน้ำร้อนไปราดมดคันไฟ หนูจึงได้รับผลกรรมจากการที่ทำกับสัตว์เหล่านั้นทำให้ หนูตัวร้อนโดยไม่รู้สาเหตุ พอสารภาพเสร็จก็ไม่หาย ท่านอาจารย์จึงถามว่าหนูได้ทำงานอะไรในบ้านสวน แล้วหรือยังหนูบอกว่า ทำแล้วค่ะ หนูไปขุดดินปลูกต้นโมกมากแล้ว ท่านอาจารย์ถามว่าขุดไปกี่จึ๊ก หนูบอกว่า 3 จึ๊กค่ะอาจารย์ (เขินจังได้3จึ๊กเอง) ท่านอาจารย์จึงบอกว่าให้หนูไปทำงานใช้แรงกาย แล้วมารายงานผล กับอาจารย์ว่าเป็นอย่างไร สรุปว่าหลังจากฟังธรรมทานจากท่านอาจารย์เสร็จก็ได้รีบไปสร้างบุญทันที โดยไปขุดดินปลูกต้นโมก แต่ตอนนั้นรู้สึกเลยว่าตัวเองไม่ค่อยเต็มที่ รู้สึกร่างกายอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง แต่ ก็ฝืนทำแต่ก็รู้ได้เลยว่าตัวเองทำไม่เต็มที่เท่าที่ควรแต่พอเช้าวันอาทิตย์รู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก ตอนเช้า ได้ไปปลุกต้นชะอม จำมะได้เหมือนกันว่ากี่ต้นแต่ก็นั่งๆยืนๆอยู่หลายครั้งในการก้มปลูก แดดตอนเช้า ร้อนมากแต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยคะ เสร็จจากปลูกชะอมก็ไปรับประทานอาหารเช้า จากนั้นก็ไปช่วยขนปูน ขนอิฐ สร้างองค์พระปฐม พอเริ่มใกล้จะเที่ยงก็ได้ไปปลูกข้าว รู้สึกว่าสนุกค่ะเป็นครั้งแรกในการปลูกเลย ตั้งแต่หนูปลูกชะอมจนมาถึงปลูกข้าว แปลกใจมากหนูไม่รู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ ทัังที่แดดร้อนมากๆ เสื้อแขนยาว ก็ไม่ได้ใส่ แถมกางเกงก็ยังขาสั้นอีกต่างหาก ร้อนมากๆ แต่รู้สึกสนุกมีความสุขไม่เหนื่อยเลยเวลาทำงาน เพราะหนูทำ หนูก็ไม่ได้คิดว่าจะทำให้หนูหายตัวร้อนแต่หนูทำเพราะหนูอยากทำ หนูชอบ หนูทำไป ก็เพลิน สนุกดีค่ะ มีความสุขมากเลย จนลืมไปเลยเกี่ยวกับอาการตัวร้อนของตัวเอง พอหนูเสร็จจากการทำงานทุกอย่าง ท่านอาจารย์ก็ถามหนูว่าหายตัวร้อนแล้วยัง หนูบอกว่าหนูหายแล้วค่ะ จากนั้นหนูก็ได้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องของหนูให้เป็นธรรมทานค่ะ หนูขอขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลมากๆนะค่ะ ที่เมตตาอนุญาตหนูกับคุณแม่ได้ไปร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด ได้รู้เรื่องกรรมที่ได้ทำลงไปในแต่ละอย่าง ได้รู้ผลของกรรมที่ทำไว้ และที่สำคัญได้สร้างบุญด้วยแรงกาย ที่เป็นบุญอันบริสุทธิ์ ทุกครั้งที่หนูไปทำงานสร้างบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวน หนูคิดทุกครั้งว่า ถ้าหนูตายไป ด้วยเหตุการณ์ภัยบัติจริงๆหนูจะภูมิใจมาก ว่าหนูก็เป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการสร้างเมืองใหม่แห่งนี้ ด้วยเหมือนกัน (คิดแบบนี้ทุกครั้งจะมีกำลังใจมีเรี่ยวแรงในการทำงานทุกครั้ง)^^ ขอบกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์เป็นอย่างสูงค่ะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ วรางคณา พุฒศรี :: วันที่ลงประกาศ 2012-08-15 23:10:50 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1624602) | |
คำสอนแห่งพระพุทธองค์ ที่อิงจากประสบการณ์ตรง ของผู้มาเยือนบ้านสวนฯ คงจะทำให้ผู้อ่านทุกท่าน ตระหนักในเรื่องของ "กฏแห่งกรรม" ได้มากยิ่งขึ้น
เพราะตลอดเวลา มีตัวอย่างไม่น้อย ที่ทำให้เราได้รับรู้ว่า การทำร้ายหรือทำลาย ชีวิตสัตว์เล็ก สัตว์น้อย ย่อมเป็น"บาป"ทั้งสิ้น
แล้วเรื่องราวของน้องมะเหมี่ยว วรางคณา ก็ยืนยันได้จริงว่า ถ้าเราทำอะไรไว้กับคนหรือสัตว์อย่างไร เราก็จะได้รับ ผลกรรมตอบสนอง ในแบบเดียวกัน ชัดๆ ตรงๆ อย่างนี้นี่เอง
อนุโมทนากับธรรมทานด้วยนะจ๊า.. น้องมะเหมี่ยว | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2012-08-17 05:08:08 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1624630) | |
การทำร้ายหรือทำลาย ชีวิตสัตว์เล็ก สัตว์น้อย ย่อมเป็น"บาป"ทั้งสิ้น ใช้ค่ะพี่ชนิดา หนูเชื่อว่าคนอื่นๆอีกหลายๆคน ก็คิดเหมือนกับหนูเมื่อก่อนเหมือนกัน ที่คิดว่า การฆ่าชีวิตสัตว์เล็กๆ คิดว่าไม่บาป ถึงบาปก็บาปนิดๆหน่อยๆ คิดว่าคงจะไม่เป็นไรไม่มีกรรมส่งผล แต่พวกเขาก็มีชีวิตจิตใจ จิตวิญญาณเหมือนกัน หนูไปเผาหอยโยนเข้ากองไฟ เอาน้ำร้อนราดมด เค้าก็ร้อนเค้าก็ทรมานเหมือนกัน ผลกรรมในครั้งนี้ทำให้ทราบด้วยตัวเองเลยว่า ไม่ว่าสัตว๋เล็กสัตว์ใหญ่ ย่อมมีชีวิตจิตใจย่อมมีความรู้สึก ทรมานเหมือนกันค่่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี วันที่ตอบ 2012-08-17 10:26:07 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1624844) | |
จริงจ่ะน้องมะเหมี่ยว เพราะสัตว์ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เค้าก็มีจิตวิญญาณ มีความรู้สึกเหมือนคนทุกประการ
เพราะแท้ที่จริงแล้ว จิตวิญญาณของเค้าเหล่านั้นก็คือ คน นั่นเอง แต่ด้วยบาปกรรมที่เคยทำไว้ในตอนเป็นคน จึงส่งผลให้พวกเค้า ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน นับชาติไม่ถ้วน
เพราะตอนเป็น"คน" แทนที่จะทำความดี แต่กลับไม่ทำตัว ขวางความดี..ซะนั่น | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2012-08-19 05:04:31 |
ความคิดเห็นที่ 4 (1624879) | |
ใช้ค่ะพี่ชนิดา หนูเชื่อว่าคนอื่นๆอีกหลายๆคน ก็คิดเหมือนกับหนูเมื่อก่อนเหมือนกัน ที่คิดว่า การฆ่าชีวิตสัตว์เล็กๆ คิดว่าไม่บาป ถึงบาปก็บาปนิดๆหน่อยๆ เคยคิดมาเหมือนกันค่ะ และความคิดแแบบนี้แหละ ที่ทำให้เราได้รับทุกข์อยู่ตลอดเวลา เพราะเราสร้างบาปด้วยการเข้าข้างตนเอง ว่าคงไม่บาปหรอก เพราะเค้าก็แค่สัตว์เล็กๆ ทั้งๆที่เราก็คงเคยเกิดเป็นสัตว์เล็กๆแบบนี้มาแล้ว และคงเคยโดนกระทำแบบนี้มาแล้ว แต่เราจำอดีตของตัวเองไม่ได้แค่นั้นเองเนอะ ทารกที่เกิดมาใหม่ ถ้าเปรียบเทียบดู ก็เหมือนสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆน้อยๆ เหมือนสัตว์เล็กเลย แต่เราก็ยังไม่คิดที่ฆ่ากันเอง เพราะรู้ว่าต้องเจ็บปวดทรมานแค่ไหน สัตว์เค้าก็คงไม่ต่างจากเรา เพียงแต่ต่างกันที่ ขนาดของตัว เท่านั้นเอง อนุโมทนาสาธุกับน้องมะเหมี่ยวด้วยค่า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี วันที่ตอบ 2012-08-19 16:56:28 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1449621 |