รายงานสถานการณ์ในอู่ซ่อมรถต่อค่ะ

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 วันนี้มีรถเข้ามาซ่อม 3 คันค่ะ

คันแรก บริการทำฝาท้าย ค่าบริการ 500 บาท

คันที่สอง บริการขันน๊อต ค่าบริการ 30 บาท

คันที่สาม บริการดึงโซ่รถสามล้อพ่วงข้าง ค่าบริการ 20 บาท

วันนี้ทั้งวันได้ 550 บาท แต่เบิกจ่ายเงินเดือนลูกน้องไปหลายบาท (แบบนี้เค้าเรียกว่ารายรับเท่าขี้มดแต่รายจ่ายเท่าขี้ช้างค่ะ)

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2556 วันนี้มีรถเข้ามาซ่อมที่อู่จำนวน 4 คันค่ะ มีรายได้ประมาณ 3,000 - 4,000 บาท ท่าทางสามีดูจะมีความหวังขึ้นมาเล็กๆ ค่ะ เพราะมีเงินรายได้มากกว่า 4 วันแรก

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2556  วันนี้มีรถตู้เข้ามาเปลี่ยนผ้าเบรคค่ะ สามีของดิฉันคิดค่าบริการไป 400 บาท ถือเป็นงานชิ้นใหญ่สุดสำหรับวันนี้ค่ะ นอกจากรถตู้แล้วก็มีรถสามล้อพ่วงข้างเข้ามาซ่อม 3 คัน รถจักรยานยนต์อีก 2 คัน เข้ามาซ่อมเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ ประเภทดึงโซ่ เปลี่ยนโซ่ เปลี่ยนยาง วันนี้ทั้งวันมีรายได้ไม่ถึงหนึ่งพันบาทค่ะ

           วันนี้ดิฉันได้โทรศัพท์ไปหาน้องชายที่กรุงเทพ บอกน้องชายว่ารถแทบไม่เข้าอู่เลยตั้งแต่ที่ดิฉันนำพีระมิดออกไปจากอู่ ขอให้น้องชายช่วยพูดกับสามีให้หน่อย ให้ยอมขึ้นไปพิสูจน์กับท่านอาจารย์อุบลว่าพลังพีระมิดช่วยให้มีงาน มีเงิน จริงมั้ย วันศุกร์ ที่ 8 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้อาจารย์จะเข้ามาจัดกิจกรรมธรรมะบำบัดที่ประตูน้ำ ถ้าน้องชายเข้าร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดของท่านอาจารย์อุบลด้วย ดิฉันจะให้เงินหนึ่งหมื่นบาท น้องชายปฏิเสธค่ะเพราะไม่เชื่อว่าสาเหตุที่มีงานซ่อมลดน้อยลงเป็นเพราะดิฉันนำพีระมิดออกจากอู่ซ่อมรถ บอกดิฉันให้สังเกตุดูไปซักระยะก่อน ปรกติน้องชายของดิฉันเป็นคนขี้งกค่ะ ดิฉันให้เงินพันสองพันบาทใช้ให้ทำอะไรน้องชายก็จะรีบทำทันทีค่ะไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่ามันจะทำให้ดิฉันรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่โดนน้องชายปฏิเสธ เพราะสิ่งที่น้องชายคิดมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยสำหรับคนที่ไม่รู้อานิสงค์บุญบ้านสวนพีระมิด แต่คุณยายนี่สิคะบอกดิฉันว่าสามีของดิฉันพูดกับคุณยายว่า ไม่รู้ว่าพีระมิดจะช่วยหาเงินเลี้ยงลูกได้จริงรึเปล่า ดิฉันเริ่มจะมีความหวังรีบถามคุณยายว่าคุณยายบอกให้สามีของดิฉันไปพิสูจน์ดูตามที่ดิฉันบอกรึเปล่า คุณยายตอบว่า ไม่ได้บอกกลัวสามีดิฉันโกรธ ดิฉันรู้สึกน้อยใจคุณยายขึ้นมาทันที ทั้งๆ ที่คุณยายเคยป่วยเป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาทบริเวณต้นคอมา 20 ปี รักษาไม่หาย มาหายตอนที่ดิฉันและคุณแม่ชักชวนไปทำบุญแรงกายสร้างองค์พระในเขตบุญบ้านสวนพีระมิด แต่คุณยายกลับเพิกเฉยไม่ใช้โอกาสที่สามีของดิฉันถามบอกเล่าถึงอานิสงค์บุญบ้านสวนพีระมิดที่สามารถพิสูจน์ได้จริงเพื่อเป็นธรรมทานให้กับสามีของดิฉันบ้าง

 โอ้โห...อนุโมนทนากับคุณสาวิตรี กับการรายงานผลด้วยนะครับรายงานได้ละเอียดมากเลยครับ

ทำให้เห็นชัดเจนถึงพลังบุญบ้านสวนพีระมิด และพีระมิดจำลองบ้านสวนพีระมิด ว่าทำให้มีผลต่อธุรกิจจริงๆ

ยังไงก็เอาใจช่วยคุณสามี ของคุณสาวิตรีให้มีดวงตาเห็นธรรมเร็วๆนะครับ 
ขอส่งความรักจากพีระมิดรุ่นความรักของ2พระองค์  และพีระมิดทุกๆรุ่นที่มีอยู่ ให้กับสามีคุณสาวิตรีให้ดวงตาเห็นธรรมเดี้ยวนี้ด้วยเถอะครับ สาธุครับ

*****
ยังไงคุณสาวิตรี เข้าไปเขียน ในกระทู้ ข่าวรายวันบ้านสวนพีระมิด และกระทู้ ค่ายชำระหนี้สงฆ์ ด้วยนะครับ เพราะมีคนอ่านเยอะดีครับ 

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

น้องเอ็มสุดยอดไปเลย  พี่เป็นกำลังให้นะค่ะ  สาธุๆๆ

 อนุโมทนากับคุณสาวิตรีด้วยนะคะ

ไม่แปลกใจเลยค่ะ ว่าทำไมวัตถุมงคลบ้านสวน

จึงช่วยให้ครอบครัวคุณสาวิตรีมีรายได้เป็นหลักหมื่น

ตกเดือนละหลายแสนเลยทีเดียว

เคล็ดไม่ลับอยู่ที่ ใจ นี่เอง

ที่ทำโดยไม่หวังผล 

คิดแต่จะตอบแทนท่านอาจารย์ ยิ่งไม่โลภ ก็ยิ่งได้

แต่ว่าคุณสาวิตรีก็เป็นคนที่เด็ดขาดดีนะคะ ขอชื่นชมค่ะ

ที่ยอมเอาพีระมิดออกมา เพื่อพิสูจน์ให้คุณสามีได้รู้

แม้จะทำให้รายได้ต่อวันขาดไปหลายพัน - หมื่นเลยทีเดียว

แต่เป็นการลงทุนที่คุ้ม และฉลาดมากๆค่ะ

เพราะถ้าสักวันนึง สามีคุณสาวิตรีคิดได้

และยอมมาขอขมาท่านอาจารย์อุบล แล้วหันมาทางธรรมด้วยกัน

แบบนี้ ยิ่งกว่าได้เงินล้านอีกเนอะ

ครอบครัวมีความสุข เข้าใจกัน เป็นความสุขที่ทุกครอบครัวปรารถนา

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณสาวิตรีต่อไปนะค๊าาา

แอบลุ้นด้วยคนค่ะ 

ยอดขายที่ปรากฏคงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ

เชื่อว่าสักวันเขาคงต้องยอมจำนนต่อหลักฐานแน่ๆ

เอาใจช่วย และรอติดตามนะคะ อิอิ

ขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจค่ะ อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ดิฉันจะไม่ย่อท้อและจะขอทำหน้าที่นำพาสามีกลับมาเป็นสาวกของพระพุทธองค์ให้ได้ค่ะ

วันที่ 4  พฤศจิกายน  2556

วันนี้มีรถเข้ามาสาดสี 2 คัน ดิฉันไม่ทราบว่ามีรายรับเข้ามาเท่าไหร่แต่การสาดสีเป็นงานเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ ใช้เวลาทำไม่นานลูกค้าสามารถรอรับรถในวันนั้นได้เลยค่ะ แต่ถ้าเป็นการทำสีทั้งคันลูกค้าจะต้องรอรับรถประมาณหนึ่งสัปดาห์ค่ะ แล้วก็ขายรถกระบะได้ 1 คันค่ะ สามีไม่บอกค่ะว่าได้กำไรเท่าไหร่ แต่ดิฉันได้ยินสามีพูดกับคุณแม่ว่าช่างมันเถอะขายๆ ไปเถอะได้ไม่เท่าไหร่ก็ดีกว่าไม่ได้ต้องแบ่งให้คนนั้นบ้างคนนี้บ้าง (ก็คงจะแบ่งให้นายหน้าบอกขายรถนั่นแหละค่ะ)

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2556

วันนี้มีรถเข้ามาถ่ายน้ำมันเครื่อง 2 คันค่ะ ค่าบริการถ่ายน้ำมันเครื่องคันละ 100 บาท วันนี้ทั้งวันมีเงินรายได้ 200 บาทค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่มีความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์

และไม่นิ่งดูดาย เมื่อเห็นคนในครอบครัวทำสิ่งที่ผิด

ปรามาสครูบาอาจารย์ ไม่สำนึกในบุญคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขอให้สิ่งที่คุณสาวิตรี กำลังทำ ประสบความสำเร็จโดยเร็วที่สุดค่ะ

 ขอบคุณคุณสาวิตรีค่ะ

ที่เข้ามารายงานอัพเดทให้ทราบ

ตั้งแต่เอาพีระมิดออกไป

รายได้ก็ลดลงอย่างชัดเจนเลยนะคะ

อ.อุบลช่วยด้วย ขอส่งความรักให้ท่านอ.อุบล

ขอส่งต่อให้มาร อสูร วิญญาณร้าย ไข่แมงมุม

ที่ขัดขวางครอบครัวคุณสาวิตรี และสามีคุณสาวิตรีด้วยค่ะ

ขอให้สามีคุณสาวิตรี ยอมรับและเชื่อในพีระมิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ที่อู่ซ่อมรถตอนนี้บรรยากาศเงียบเหงาค่ะ ไม่ค่อยมีงานช่างต้องมานั่งรองาน โดยเฉพาะช่างทำสีพลอยได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ค่ะ เพราะช่างทำสีไม่มีเงินเดือน หากมีงานทำสีรถกำไรที่ได้จะแบ่งกันคนละครึ่งกับสามีของดิฉัน ดิฉันได้บอกช่างทำสีเกี่ยวกับเรื่องที่ดิฉันนำพีระมิดออกไปจากอู่ซ่อมรถและรถยกเพื่อพิสูจน์บุญบ้านสวนพีระมิด และเพื่อต้องการให้สามีของดิฉันได้สำนึก ว่าการประกอบธุรกิจอู่ซ่อมรถที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอาจารย์อุบลจริงไม่ได้เป็นเพราะความสามารถของตนเองเพียงอย่างเดียว หลังจากที่ดิฉันเล่าให้ฟังพี่เค้าก็เริ่มสังเกตุและสัมผัสได้ว่างานไม่ค่อยมีจริงๆ  ที่ทำอยู่ก็เป็นงานค้าง หรือถ้าจะมีงานใหม่เข้ามาก็ไม่ได้งานชิ้นใหญ่ สรุปว่าพี่เค้าเชื่อค่ะและพร้อมที่จะเดินทางไปพิสูจน์พลังอัศจรรย์แห่งพีระมิดกับท่านอาจารย์อุบล แต่เนื่องจากสามีของดิฉันยังมีดวงตาเห็นกรรมอยู่ ยืนกระต่ายขาเดียวไม่ยอมพิสูจน์ ตอนนี้ทุกคนเลยต้องนั่งร้องเพลงรอ รอไปจนกว่าสามีของดิฉันจะมีดวงตาเห็นธรรมนั่นแหละค่ะ แต่ดิฉันเชื่อมั่นในรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และเชื่อว่าสักวันสามีของดิฉันจะยอมไปพิสูจน์บุญบ้านสวนพีระมิดกับดิฉัน  

ตอนนี้ทางอู่เป็นไงบ้างครับคุณสาวิตตี กำลังรออ่านติดตามอยู่ครับ 

แทบจะไม่มีงานเลยค่ะน้องตุลย์ จะมีบ้างก็เล็กๆ น้อยๆ ค่ะ และตั้งแต่นำพีระมิดออกไปจากรถยก นี่ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ แล้วค่ะที่ไม่มีงาน ยกรถ เข้ามาเลย ตอนนี้สามีของพี่กำลังอ่วมค่ะ ปัญหารุมเร้าทุกด้าน ลูกค้าที่ค้างจ่ายค่าซ่อมรถอยู่หมื่นกว่าบาทก็ไม่มีเงินมาจ่ายมีแต่มาขอผัดผ่อนค่ะ แถมเจอปัญหางานซ่อมจุกจิก ประเภทซ่อมแล้วซ่อมอีกไม่เสร็จซักกะที แต่ก็มีเรื่องดีๆ ให้อนุโมทนากันค่ะ หลังจากที่ได้บูชาพีระมิดที่สาขาของคุณอร อุ่นศรี เพิ่ม (เดิมจะวางพีระมิดไว้ในห้องนอนเพียง 9 องค์ ตอนนี้ได้บูชามาเพิ่มอีก 28 องค์ค่ะ ซึ่งได้บูชารุ่น พระนางเนเฟอร์ตารี 6 องค์ + ที่มีอยู่เดิม ครบ 9 ค่ะ รุ่นท่านรามเสสที่2  9 องค์ รุ่นบารมีคู่ 1 องค์ รุ่นพระศรีอาริย์ 1 องค์ รุ่นบวงสรวงพระปฐม 4 องค์ รุ่นบวงสรวงเสร็จพ่อท้าวเวสสุววณ 5 องค์ และรุ่นความรักสองพระองค์  จำนวน 2 องค์ ค่ะ หลังจากที่ได้จัดวางพีระมิดที่บูชามาทั้งหมดไว้ในห้องนอน ปรากฎว่า คุณสามีตกลงยอมไปพิสูจน์บุญบ้านสวนพีระมิดแล้วค่ะ และจะเดินทางไปร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดที่บ้านสวนพีระมิดสาขา1 ของคุณอุ๊  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในวันที่ 2 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ค่ะ นอกจากพี่จะชักชวนสามีได้สำเร็จแล้ว ยังมี แม่ของสามี น้องสาวสามี และช่างทำสีที่อู่ ขอติดตามไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วยค่ะ

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2556  ดิฉันจอดรถเก๋งที่ใช้ขับมาทำงานประจำไว้ที่บ้านให้สามีเปลี่ยนลูกปืนล้อและตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถก่อนใช้เดินทางไกล ปรากฎว่าสามีซ่อมไม่เสร็จ สามีจึงนำรถของลูกค้าที่ซ่อมเสร็จแล้วไปรับลูกสาวกลับจากโรงเรียน งานเข้าเลยครับพี่งานนี้ รถลูกค้าเครื่องพังต้องไปลากกลับมาช่วยกันหาเหตุ และแล้วก็พบว่ามีน๊อตตกหล่นลงไปในตัวเครื่อง ซึ่งลูกน้องในอู่ทำตกลงไปแต่ไม่ได้บอกให้ช่างทราบ แก้ปัญหาเองโดยการหาน๊อตตัวอื่นใส่แทน แล้วบังเอิญว่าลูกน้องคนที่ทำน๊อตตกลงไปเป็นลูกชายของช่างทำสีที่อู่เสียด้วยสิ พอสามีของดิฉันโทรสอบถามราคาเครื่องตัวใหม่ที่อาจจะต้องซื้อมาเปลี่ยนให้ลูกค้า ทราบว่าราคา 70,000 บาท จากที่โกรธอยู่แล้วก็โกรธมากขึ้นไปอีก โกรธลูกพาลไปถึงพ่อ ทั้งพ่อและลูกเลยพากันกลับบ้าน ดิฉันพยายามโทรติดต่อช่างทำสีเพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้นก็ไม่รับสาย (ดิฉันกลัวช่างทำสีไม่กล้าเดินทางไปร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดพร้อมกับสามีของดิฉัน) ดิฉันเลยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ช่วยให้มารที่คอยขัดขวางไม่ให้เราเดินทางไปร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  อนุโมทนาบุญและยอมปลดปล่อยให้พวกเราไปร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้สำเร็จด้วยเถิด ปรากฎว่าเช้าวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ช่างทำสีและลูกชายมาทำงานตามปกติ และตั้งใจพาลูกชายมาขอโทษและขอโอกาสกับสามีของดิฉัน แล้วยังบอกดิฉันว่าจะชักชวนพี่สาวและน้องชาย ซึ่งอยู่ที่ จังหวัดสุราษฎร์ ไปร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยโดยเฉพาะพี่สาวโดนทำคุณไสย์มนต์ดำมาหลายปี เจอหน้าใครพี่สาวคนนี้จะด่าว่า กับพ่อแม่ก็ด่า ด่าไม่มียกเว้นว่างั้นเถอะ   ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นและดีใจสุดสุด และมั่นใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดและท่านอาจารย์อุบลคอยปกปักรักษาและช่วยเหลือครอบครัวของดิฉันอยู่ตลอดเวลา  สาธุ  สาธุ สาธุ  

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2556  สามีตัดสินใจขายรถยกในราคาถูกๆ ขายแบบขาดทุน สาเหตุลึกๆ ที่ขายสาเหตุแรกก็เนื่องจากไม่พอใจดิฉันที่เอาพีระมิดออกไปจากรถยกแล้วพูดย้ำให้เค้ารู้ว่าที่ไม่มีงานยกรถเป็นเพราะดิฉันเอาพีระมิดออก (ดิฉันพูดเพราะต้องการให้สามียอมรับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดมีจริง) ส่วนสาเหตุที่สองนั้น ก็เพราะโกรธลูกชายช่างทำสีที่ทำงานผิดพลาด และเห็นว่าช่างทำสีและลูกชายใช้รถยกคันดังกล่าวมาทำงานเป็นประจำทุกวัน สรุปแล้วสามีของดิฉันตัดสินใจขายรถยกเพราะต้องการประชดนั่นเอง

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556  วันนี้แม่และน้องสาวสามีมาพักค้างคืนที่บ้านของดิฉันเพื่อเตรียมเดินทางไปร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดที่ร้านคุณอุ๊มินิมาร์ท จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พอแม่และน้องสาวสามีเดินทางมาถึง สามีถามแม่ว่า "มาทำไม" แม่ตอบว่า "เอ้าก็ลูกจะไปประจวบไม่ใช่เหรอแม่จะไปด้วย"  "จะไปเชื่ออะไรกับเอ็ม งมงาย" สามีตอบห้วนๆ  "ลูกอย่ามาพูดแบบนี้นะแม่ไม่ชอบเชื่อหรือไม่เชื่อให้ไปพิสูจน์ดูก่อน แล้วจะไปรึเปล่า ถ้าลูกไม่ไปแม่จะได้กลับจะได้ไม่เสียเวลา"  แม่ถาม   " ไม่ต้องกลับหรอก ไหนๆ ก็มากันแล้ว ไปก็ไป"  สามีทำหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จา แสดงออกทางสีหน้าและท่าทางว่าไม่พอใจที่จะต้องไปพบท่านอาจารย์อุบลอย่างชัดเจน ทำตัวเป็นคนเจ้าอารมณ์ หงุดหงิด ไร้เหตุผลอย่างที่สุด

วันที่ 1 ธันวาคม 2556  เรานัดกันว่าจะออกเดินทาง 6 โมงเช้า พอถึงเวลานัด สามีของดิฉันไม่ยอมลุกจากที่นอน ดิฉันจึงพาแม่และน้องสาวของสามีออกไปรับประทานอาหารเช้าก่อน แล้วกลับมารับสามี แม่ของดิฉันบอกว่ามีทีท่าว่าจะไม่ไปแต่แม่ก็บอกแกมบังคับว่าให้ไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมเดินทางไปประจวบฯ สามีของดิฉันมีความรู้สึกว่าตัวเองถูกบีบคั้น โดนบังคับ ทั้งๆ ที่ไม่อยากไป ไม่ได้ศรัทธา แต่อยู่ในสถานะจำยอมต้องไป สรุปแล้วเราเริ่มออกเดินทางจากบ้าน ประมาณ 7.30 น.  สามีของดิฉันขับรถด้วยความเร็วประมาณ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง  ถนนหนทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อพี่แกเก็บทุกหลุม (คนที่นั่งในรถรู้สึกกระเทือนไปจนถึง ตับ ไต ไส้ พุง กันถ้วนหน้า) สามีของดิฉันไม่สนใจว่าคนที่นั่งในรถจะรู้สึกอย่างไร ขับรถไปก็พูดตะคอกใส่แม่ว่า"ตนเองไม่ศรัทธา คนที่ไม่ศรัทธาแม่จะมาบังคับได้เหรอ ขนาดคนจะบวชถ้าไม่เต็มใจบวชเขายังไม่บังคับให้บวชเลย" แม่สามีพยายามพูดให้เหตุผลว่า  "การที่ลูกทำธุรกิจแล้วอยู่ๆ ธุรกิจมีปัญหาเราก็ลองไปดู ไม่ได้เสียหายอะไรเลย แม่ไม่ได้บอกให้ลูกเชื่อ ให้ลูกไปดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ" แทนที่สามีดิฉันจะเงียบและยอมสยบด้วยเหตุผลที่แม่พูด กลับทำสีหน้าว่าตัวข้านี้หงุดหงิดและรำคาญใจสุดๆ แถมยังพูดว่า "เออ เออ ต่อไปนี้กับพระก็ไม่ต้องไปไหว้มัน แล้ว" (พูดประชดดิฉันล้านเปอร์เซ็นเพราะดิฉันจะพาไปไหว้อาจารย์อุบล) พูดจบก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถแบบไม่บันยะบันยัง  ขนาดแม่บอกว่า "ขับรถแบบนี้แม่เวียนหัว" พี่แกก็สวนกลับด้วยน้ำเสียงตะคอกใส่แม่ว่า "เวียนหัว แล้วมาทำไม"  ทุกคนได้แต่นั่งทำใจ ในที่สุดเราก็เดินทางไปถึงบ้านของพ่อสามีที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงประมาณ บ่าย 2 โมง

วันที่ 2 ธันวาคม 2556   วันนี้ดิฉันตั้งใจจะออกเดินทางจาก อำเภอทับสะแก ในเวลา 11 โมงตรง เพื่อไปร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดสัญจรให้ทันเวลาบ่ายโมงตรง ที่ร้านคุณอุ๊มินิมาร์ท ซึ่งอยู่ที่อำเภอปราณบุรี พอถึงเวลาที่จะต้องออกเดินทาง สามีเจ้าปัญหาก็สุดแสนจะเรื่องมาก ไม่ยอมออกเดินทางเวลา 11 โมง บอกว่าขับรถแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึง เลยเลื่อนเวลาเดินทางออกไปอีกครึ่งชั่วโมง  ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นว่ายังมีเวลาเนื่องจากได้สอบถามเส้นทางและระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง จากอำเภอทับสะแก กับคุณอุ๊เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเดินทางไปถึงก่อนเวลาจัดกิจกรรมประมาณครึ่งชั่วโมง  พอใกล้ถึงเวลาออกเดินทาง (11.30 น. ) ดิฉันได้บอกให้ทุกคนเตรียมพร้อมเดินทาง คุณสามีก็สร้างปัญหาอีก เสื้อผ้าที่ดิฉันรีดเตรียมไว้ให้แล้วก็ไม่ใส่ไม่อยากใส่ อยากจะใส่ตัวที่ยังไม่รีด ดิฉันก็ต้องเสียเวลารีดเสื้อตัวใหม่ให้ใส่ กว่าจะได้ออกเดินทางกัน พอขับรถออกไปเกือบถึงปากซอย คุณสามีบอกว่าลืมโทรศัพท์ ดิฉันบอกสามีว่าไม่ต้องกลับไปเอาหรอกค่อยกลับมาเอา เพราะเอาไปก็ต้องปิดเครื่องอยู่ดี นี่ก็ใกล้เวลาจัดกิจกรรมแล้ว พี่แกไม่พูดพร่ำทำเพลงยังอุตส่าห์ขับรถกลับไปเอาโทรศัพท์ กว่าจะได้ออกเดินทางจากทับสะแกเที่ยงพอดี  ฟ้ามีตาจริงๆ ค่ะ โทรศัพท์ที่สามีหวงนักหวงหนาจนต้องขับรถกลับไปเอามาให้ได้นั้น จู่ๆ โทรศัพท์ก็เสียโดยไม่มีสาเหตุ ทั้งๆ ที่มีสัญญาณแต่กลับโทรออกไม่ได้ รับสายไม่ได้ เมื่อขับรถมาถึงสี่แยกไฟแดงอำเภอกุยบุรี ดิฉันบอกสามีว่าถ้าถึงสี่แยกไฟแดงอำเภอปราณบุรีให้เลี้ยวขวา คุณสามีก็พูดว่านึกว่าเลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดงอำเภอกุยบุรี ถ้าปราณบุรีก็ต้องไปอีก สรุปแล้วไปไม่ทันเวลาบ่ายโมงค่ะเสียเวลาไปครึ่งชั่วโมง (ด้วยความเป็นห่วงคุณอุ๊ได้โทรมาถามระหว่างการเดินทาง)  ดิฉันต้องกราบขอโทษท่านอาจารย์อุบล คุณธนา และคุณอุ๊ เป็นอย่างสูงค่ะ

สามีของดิฉันยอมสารภาพกับท่านอาจารย์อุบล ว่าเมื่อก่อนตอนที่มีพีระมิดอยู่ในอู่ มีรายได้จากการซ่อมรถสูงสุด หลักแสนต่อวัน รายได้ต่ำสุดนั้นอยู่ที่หลักหมื่นต่อวัน  แต่พอดิฉันนำพีระมิดออกไปจากอู่ซ่อมรถปรากฎว่ามีรายได้สูงสุดต่อวันแค่หลักร้อย และเงินที่ได้มานั้นก็ไม่เพียงพอกับค่าแรงรายวันของลูกน้อง  พออาจารย์ถามว่ารายได้ต่ำสุดเท่าไหร่ สามีนั่งนิ่งไม่ตอบ ดิฉันเลยถามสามีว่าไม่ได้เลยสักบาทมีมั้ย สามีตอบว่า มีครับ  โอ้ โห ตอนมีพีระมิดกับไม่มีพีระมิดวางอยู่ในอู่ซ่อมรถ ยอดเงินรายได้มันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ ในที่สุดสามีของดิฉันก็ยอมกราบเท้าขอขมาท่านอาจารย์อุบลและขอเปิดใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยเหมือนเดิมค่ะ ดิฉันรู้สึกดีใจ ชื่นใจที่สุด ที่สามีสำนึกผิดไม่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวเหมือนที่ผ่านมา

ตอนแรกดิฉันก็คิดว่าหมดทุกข์หมดโศกกันเสียทีกับสามี ที่ไหนได้พอเลิกกิจกรรมธรรมะบำบัดกำลังขับรถกลับเลยสี่แยกปราณบุรีไปหน่อย อารมณ์หงุดหงิดก็กลับมาเหมือนเดิม หน้าบึ้งตึง ไม่พูดไม่จากับใคร ขามาขับรถอย่างไรขากลับก็ขับอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง พอกลับไปถึงบ้านพ่อที่ทับสะแก สามีนั่งดื่มเหล้า  (ปกติไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน) ในขณะที่คนอื่น กุลีกุจอรีบนำน้ำทิพย์ที่ได้มาจากการเข้าร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดมาใช้อาบ พอกลับไปถึงบ้านที่จังหวัดปัตตานี ทั้งน้ำทิพย์และพีระมิดที่บูชามาก็ไม่ได้เอาไปใช้วางทิ้งไว้ในรถ ไม่นอนห้องเดียวกับดิฉัน นอนคนละบ้าน (บ้านมีสองหลัง)  คืนวันที่ 3 ดิฉันฝันว่าต้องให้สามีใช้น้ำให้หมดทั้งสามขวด

วันที่ 4 ธันวาคม 2556  ก่อนไปทำงานดิฉันนำพีระมิดที่สามีวางไว้ในรถออกมาวางในจุดที่สามีสามารถมองเห็นได้ชัดเจน เพราะดิฉันอยากให้สามีเป็นคนนำพีระมิดที่บูชามาไปวางไว้ในอู่ซ่อมรถด้วยตนเอง วิธีนี้ได้ผลค่ะ  แต่สามีไม่สนใจที่จะใช้น้ำทิพย์ทั้งสามขวด วันนี้เป็นไงเป็นกันค่ะ ดิฉันจะต้องให้สามีใช้น้ำทิพย์ให้หมดทุกขวด    ปรากฎว่าสามีไม่ยอมกลับไปนอนที่ห้องเหมือนเดิมค่ะดิฉันรอจนถึงเวลาประมาณห้าทุ่ม จึงตัดสินใจนำน้ำทิพย์ทั้ง 3 ขวด ไปให้สามีที่บ้านอีกหลังหนึ่ง (เรียกรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ให้สามีใช้น้ำทิพย์) คุณสามีตัวดีจึงยอมรับน้ำทิพย์จากดิฉันไปใช้ค่ะ

วันที่ 5 ธันวาคม 2556  เช้าวันนี้สามีของดิฉันดูสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี จากที่เคยเป็นคนพูดจาเหมือนมะนาวไม่มีน้ำ ก็กลับพูดจาดีมีสติ คือเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยค่ะ  ตอนนี้ธุรกิจอู่ซ่อมรถก็กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ขณะนี้สามีของดิฉันกำลังขยับขยายกิจการ โดยการปรับปรุงสถานที่และเครื่องไม้เครื่องมือให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับรถลูกค้าที่หลั่งไหลเข้ามาซ่อมค่ะ ลูกขอกราบแทบพระบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์ และขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์อุบลที่เมตตาให้ครอบครัวของลูกมีวันนี้

สุดยอดหญิงเลยค่่า

คุณสาวิตรี

เป็นกำลังใจให้ชนะมารนะคะ

อ.อุบล

ค่ะ

อนุโมทนาบุญกับคุณสาวิตรีด้วยครับ สาธุ

อ้อ อย่าลืมนะครับ ตามที่สัญญาไว้ ว่าหากทุกอย่างเปลี่ยนแปลงคือกิจการกลับมาดี ก็ให้มาเล่าและขอบคุณที่บ้านสวนพีระมิด ผมว่าค่าย16นี้ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่สุด ที่จะได้ตอบแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอาจารย์อุบล และถือว่าเป็นธรรมทานของขวัญปีใหม่ที่ยอดเยี่ยมสุดๆในเรื่องของการปลดล็อคความจนที่เห็นผลฉับพลันทันที ที่จะช่วยคนอื่นให้ปลดล็อคความจนได้อย่างดีเลย

คุณสาวิตรีและสามีไม่ควรพลาดค่าย16นี้นะคร๊าบบบ

หนูต้องกราบขออภัยท่านอาจารย์อุบล  คุณธนา  และชาวค่าย16   ทุกท่านเป็นอย่างสูงค่ะ ที่ไม่สามารถพาครอบครัวโดยเฉพาะคุณสามีไปเข้าร่วมกิจกรรม และให้ธรรมทานในเรื่องของการปลดล็อคความจนที่เห็นผลฉับพลันทันทีเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกท่านได้  เนื่องจากสามีไม่ยอมไปช่วงปีใหม่    แม้ว่าสามีของดิฉันจะเชื่อในเรื่องของปรากฎการณ์บ้านสวนพีระมิดที่เห็นผลแบบฉับพลันทันทีแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่สามีของดิฉันกลัวที่สุดในชีวิตก็คือ การที่ต้องออกไปยืนถือไมล์พูดต่อหน้าคนมากๆ ค่ะ (ยังทำใจไม่ได้) อยากไปสร้างบุญแรงกายอย่างเดียวกลัวการสร้างบุญธรรมทานที่สุด (หนูขอเวลาอีกหน่อยนะคะขอสัญญาว่าจะพาสามีไปให้ถึงบ้านสวนพีระมิดให้ได้ค่ะ) 

เอาใจช่วยคุณสาวิตรีครับ

อาจารย์อุบลช่วยด้วยครับ ขอให้แฟนคุณสาวิตรียอมมาค่าย 16 ด้วยเถิดครับ และขออารธนาจักรแก้ว พระขันธ์แก้วของพระศรีอาริย์ประหัตประหารมารที่คอยควบคุมไม่ให้แฟนคุณสาวิตรีมาค่าย16ได้ ให้ราบคาบด้วยเถิด สาธุครับ

อนุโมทนาบุญ

คุณสาวิตรี  คงศรี

ยอดหญิงเก่ง แกร่ง ฝ่าฝันอุปสรรค  สำเร็จลุล่วงด้วยดี

เพราะสู้ สู้ถึงที่สุด สู้ด้วยบุญ บารมี บ้านสวนพีระมิด

( ตัวอุ๊เองขอชิดซ้ายค่ะ นับถือใจคุณสาวิตรีจริงๆค่ะ )

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ดิฉันจะพาครอบครัวและลูกน้องที่อู่ซ่อมรถไปร่วมสร้างบุญแรงกายประกอบรถสามล้อพ่วงข้างและไปกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล จะไปบอกเล่าประสบการณ์ปลดล็อคความจนที่เห็นผลฉับพลันทันที ได้รับความสุขทันที หายจนเพียงข้ามคืนด้วยบุญบ้านสวนพีระมิดในค่าย16 นี้แน่นอนค่ะ เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์ หนูขอน้อมกราบแทบเท้าท่านอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูงที่ได้เมตตาเตือนสติ ตลอดจนคอยให้ความช่วยเหลือทุกวิถีทางเพื่อให้หนูรีบทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทันทีหลังจากที่พาสามีไปกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลแล้วกิจการอู่ซ่อมรถมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นทันที (ถ้าไม่ได้ท่านอาจารย์อุบลคอยเมตตาช่วยเหลือคอยเตือนสติหนูก็คงจะพลาดพลั้งใจอ่อนยอมทำตามที่มารร้องขอคือขอขึ้นไปบ้านสวนพีระมิดหลังปีใหม่) สาธุ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนาบุญ

กับธรรมทานของคุณสาวิตรีมาก ๆค่ะ

วันนี้ได้ดูรายการคุยไปแจก

ไปเกี่ยวกับเรื่องคุณสาวิตรีทั้งสองตอน

รู้สึกประทับใจมาก

ในขณะที่ดูสามีก็ถามว่าดูอะไรหรอ

เราก็ตอบว่าดูรายการธรรมะของอาจารย์ฉัน

เขาก็พูดแค่ว่าอ๋อเหรอเท่านั้น

ซึ่งปกติถ้าเราดูรายการจะติ ตลอดเวลา

เพราะเขาบอกว่า เมื่อไรที่เราดูวีดีโอภาษาไทย

จะพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง

แต่วันนี้นอกจากจะไม่ติแล้ว

ยังถามอีกว่าเรื่องที่ดูเกี่ยวกับอะไร

จึงเล่าเรื่องคุณสาวิตรีให้เขาฟัง

เขาแสดงความเห็นว่า

ถ้าคิดว่าพีระมิดช่วยธุระกิจขนาดนั้น

ทำไมคุณสาวิตรีจึงกล้าเสี่ยง

ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนขนาดนั้น

เราก็พูดคุยตอบโต้กันไปมาพอสมควร

สุดท้ายจึงพูดกับสามีว่า

แต่ละครอบครัวมีการแก้ปัญหาที่ต่างกัน

แล้วจึงจบการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องคุณสาวิตรี 

ที่ดีใจที่สุดคือ

ครั้งนี้เป็นครั้งแรก

ที่สามีสนใจที่อยากจะรู้

เกี่ยวกับเรื่องวีดีโอรายการคุยไปแจกไป

ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดีมาก

หวังว่าเขาคงจะเปิดใจรับมาขึ้น

ขอขอบคุณธรรมทานของคุณสาวิตรี

และชื่นชมในความกล้าหาญของคุณด้วยค่ะ 

พรอันศักดิ์สิทธิ์

         ในวันที่สามีของดิฉันไปกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลด้วยความสำนึกผิดนั้น ท่านอาจารย์ให้พรว่า ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิม แล้วท่านก็บอกว่ากลับไปพรุ่งนี้มีงานแน่นอน พอกลับไปถึงบ้านมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ค่ะ มีรถมาจอดรอซ่อมอยู่ 2 คัน (หลังจากที่ไม่มีงานมาเป็นเดือน) และที่พิเศษไปกว่านั้น ช่วงก่อนวันขึ้นปีใหม่มีลูกค้ามาฝากขายรถ จำนวน 3 คัน คิดเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,900,000 (หนึ่งล้านเก้าแสนบาทถ้วน) ปรกติธุรกิจซื้อขายรถมือสองผู้ประกอบธุรกิจจะต้องซื้อรถเป็นเงินสดเท่านั้น คือ ต้องมีเงินทุนสำรองก้อนโตจึงจะสามารถทำธุรกิจแบบนี้ได้

        เมื่อก่อนสามีของดิฉันจะต้องวิ่งไปประมูลรถมือสองตามสนามประมูลมาขาย ประมูลได้บ้างไม่ได้บ้าง คู่แข่งประมูลเยอะส่วนใหญ่เป็นนายทุนกระเป๋าหนัก เป็นเจ้าของเต๊นท์รถ คันไหนที่เขาไม่ประมูลนั่นแหละค่ะถึงได้เรา โอกาสได้เราน้อยมาก ส่วนใหญ่เขาประมูลหมดเหลือคันที่สภาพไม่สวยจริงๆ เพราะเขาขี้เกียจเอาไปซ่อม รวมทั้งปีสามีของดิฉันได้รถประมูลไม่เกิน 3 คัน ได้มาแล้วก็ต้องซ่อมกันยกใหญ่ กว่าจะได้ขายแสนเหนื่อยยาก ทุกวันนี้สบายแล้วค่ะ สามีของดิฉันไม่ต้องวิ่งประมูลรถอีกแล้วค่ะ       งานซ่อมก็มีเข้ามาไม่ขาดสาย งานขายก็ได้มาแบบไม่ต้องลงทุน บางวันมีเงินรายได้จากการซ่อมและขายรถประมาณ 300,000 - 400,000 บาท ตอนนี้ธุรกิจอู่ซ่อมรถของครอบครัวดิฉัน ประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิม สมปรารถนาดั่งพรที่ได้รับจากท่านอาจารย์อุบลแล้วทุกประการ ไม่มีพรวิเศษอันใดที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ไปกว่าพรจากพระศาสดาอีกแล้วค่ะ

       ลูก นางสาวิตรี  คงศรี และครอบครัวขอน้อมกราบแทบพระบาทท่านพ่อดตาจินิน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระศรีอริยะเมตไตรย เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ และขอน้อมกราบแทบเท้าท่านอาจารย์อุบลด้วยความเคารพอย่างสูง

 ขอซูฮกให้กับคุณสาวิตรีที่มีใจที่เด็ดเดียว

เชื่อมั่นและศรัทธาท่านอาจารย์อุบล

จึงประสปผลสำเร็จรวยข้ามคืน

อยากเด็ดเดี๋ยวเหมื่อนคุณสาวิตรีจัง

สาธุ อ.อุบลช่วยด้วยช่วยให้จิตใจ

อ็อดเข็มแข็งและกล้าหาญด้วยเทอญ

ขอบคุณธรรมทานคุณสาวิตรีค่ะ

และขอซูฮกให้จริงๆค่ะ

***หญิงแก่ง***

อัพเดทข้อมูลภาพธุรกิจอู่ซ่อมรถค่ะ

ทุกวันนี้มีลูกค้ามาใช้บริการที่อู่ซ่อมรถไม่ขาดสายดิฉันรู้อยู่แก่ใจดีว่าที่ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้ทุกวันนี้เป็นเพราะบุญบ้านสวนพีระมิดล้วนๆ และมั่นใจเกินล้านว่าถ้าเอาใจออกห่างบุญเมื่อไหร่ธุรกิจอู่ซ่อมรถของครอบครัวจะต้องกลับไปอยู่ในสภาพเดิมๆ เหมือนตอนที่เริ่มเปิดอู่อย่างแน่นอน

ภาพรถภายในอู่(ภายในอู่จอดไม่มีที่จอดแล้วค่ะต้องจอดข้างถนน)

ภาพรถภายในอู่ (จอดทุกซอกทุกมุมบ้านเลยค่ะ)

ภาพรถภายในอู่(บริเวณรอบๆ บ้าน)

บุญบ้านสวนพีระมิดได้สร้างปรากฎการณ์รวยแบบข้ามคืนให้กับครอบครัวของดิฉันจริงๆ ค่ะ สาวิตรี คอนเฟิร์ม