กิตติพศ กับ ธรรมทาน ตอนที่ ๒

เรื่อง ชีวิตที่ทุกข์ทรมาร

ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ ถึงปี ๒๕๕๗  เป็นระยะเวลา ๔ ปี

กิตติพศ ได้รับผลกรรมบาปมามากอยู่แล้ว

เคราะห์กรรมซ้ำเติม ทำให้ชีวิตทรมารหนักมากขึ้น

 เมื่อคุณละม่อม ซึ่งเป็นภรรยาของกิตติพศเอง

ได้มาเปิดใจเรื่องธรรมะบำบัดของอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

คุณละม่อม เล่าให้ฟังว่า  อาจารย์อุบล ช่วยให้คนพ้นทุกข์ได้

ด้วยการมีธรรมะ รักษาศีล ๕ เว้นอบายมุข

ทำความดี เชื่อ และศรัทธาอาจารย์อุบล

เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

และม่ีจ่ี้ พีระมิด วัตถุมงคล ที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด

กิตติพศเองก็ทำตัวเป็นบัวเหล่าที่ ๓ และบัวเหล่าที่ ๔

คือ กิตติพศ ไม่สนใจ ไม่สนใจ ไม่สนใจ

ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ ไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น 

กิตติพศ คิดว่า เป็นเรื่องที่หลงงมงาย หลอกลวง

เป็นเรื่องที่เอาศาสนามาแอบอ้าง บิดเบือนหลักศาสนา

ผี ไสยศาสตร์ เหล่านี้ เป็นต้น

 คุณละม่อม เล่าให้กิตติพศ ฟัง

เรื่องอาจารย์อุบลอยู่เสมอทุกครั้งที่เจอ

 กิตติพศ ก็เริ่มรู้จัก ชื่อ อาจารย์อุบล  บ้านสวนพีระมิด มากขึ้น

แต่กิตติพศก็ไม่สนใจไม่เชื่อ ให้หยุด หยุด หยุด !!! 

ขณะนั้นกิตติพศ เร่ิมวิจารณ์

อาจารย์อุบล ว่า ตัวแทนร่างทรงของใคร  

ถูกหลอกอีกแล้ว เป็นผี ซาตามหรือเปล่า

คุณละม่อมไปบ้านใคร กิตติพศ ก็พูดทุกครั้ง

ว่าคุณละม่อม นำผีเข้ามาในบ้าน

สบปรามาส อาจารย์อุบล มาตลอดเวลา ๔ ปี

หลังจากนั้นมา กิตติพศ ก็เริ่ม ปวดหัว หนักหัว

เป็นความดันโลหิตสูง ทั้ง ๆ ที่่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เพราะกิตติพศ เป็นนักกีฬามาตั้งแต่ ป.๔ ถึงปัจจุบัน

ก็เป็นนักกีฬา วิ่งมาราธอน ๔๒ กิโลเมตร

ฮาร์ฟมาราธอน ๒๑ กิโลเมตร มินิมาราธอน ๑๐ กิโลเมตร

 ฟันรัน ๕ กิโลเมตร ร่างกายแข็งแรงมาตลอด

หลังจากวิจารณ์ อาจารย์อุบล ด้วย กาย วาจา ใจ

ปรามาสอาจารย์อุบล มาอย่างต่อเนื่อง

จึงทำให้กิตติพศ เร่ิ่มมีอาการเครียด ทางสมอง

ปวดหัว หนักหัว เป็นความดันสูงมากขึ้น

ปวดคอ ปวดโรคกระเพาะ ทางเดินอาหารลำไส้

ทำให้ปวดข้อ ปวดไหล่ ปวดสะเอว ตาพล่า ตามัว

ไม่มีรายได้ ทุกข์ ทรมารเป็นอย่างมาก

กิตติพศ จึงฉุกคิด ถามตัวเองว่า

ทำไมทุกข์ทรมารอย่างนี้

กิตติพศ ทำกรรมอะไร ไว้หรือเปล่า?

จึงมีแต่ทุกข์ ทรมารอย่างนี้ ตลอดมา

ทุกข์ทรมาร ทุกข์ทรมาร ทุกข์ทรมาร

กิตติพศ รับเต็ม เต็ม คร๊าบ

 กิตติพศ กับ ธรรรมทาน  ตอนที่ ๓

เรื่อง  ศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบล

จากเนื้อความเดิม ตอนที่ ๑ และตอนที่ ๒ กิตติพศ ไม่พ้นทุกข์

เพราะทำบาบ สะสมบาป สร้างกรรมชั่วเอาไว้มาก

จึงตกอยู่ในกองทุกข์ ไม่สามารถพ้นทุกข์ได้

และแล้ว ในความพยายาม อดทนของคุณละม่อม

ที่จะให้สามีของตัวเอง พ้นทุกข์ให้ได้

ที่ผ่านมา ๔ ปี ทำให้ครอบครัว ขัดแย้งกัน

ไม่สามารถทำให้ครอบครัว เจริญรุ่งเรืองได้

ก็ทำให้ชีวิตและครอบครัวเป็นทุกข์

และแล้วเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๗

คุณละม่อม  ได้เอ่ยปากชักชวนให้กิตติพศ

ไปต้อนรับท่านอาจารย์อุบล

ที่สนามบินหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

 ก็ได้พบกับท่านอาจารย์อุบล

ครั้งแรกที่ได้พบท่านอาจารย์อุบล  

กิตติพศก็ได้มองเห็นที่ดวงตาของท่าน

ก็เห็นเป็นประกายแวววาว  ออกมา

รัศมี ที่บ่งบอกถึงความเมตตาต่อมนุษย์

 กิตติพศก็ยืนคิดอยู่ในใจว่า

 ผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแน่!!!  

พอท่านอาจารย์เดินเข้าใกล้  

คุณละม่อมก็คุกเข่าไหว้ท่านอาจารย์อุบล

แล้วกิตติพศ ก็ได้กระซิบกับคุณละม่อม ต่อมาว่า

ทำไมคุณละม่อม  จึงคุกเข่า

กราบท่านอาจารย์อุบล อย่างนั้น

 ขอร้องได้มั้๊ย ไม่ต้องถึงขนาดนั้น หรอก?  

ตอนนั้นกิตติพศเริ่มศรัทธา ท่านอาจารย์อุบล ๕๐ เปอร์เซ็นต์

แล้วรุ่งขึ้น วันที่ ๒๑ เมษายน

กิตติพศ ก็ได้ติดตามท่านอาจารย์อุบล

ไปธรรมะบำบัด สัญจร ที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์  จังหวัดปัตตานี

กิตติพศก็เป็นคนนำกราบท่านอาจารย์เป็นคนแรก

 กิตติพศก็เริ่มศรัทธาท่านอาจารย์อุบลเพิ่มขึ้น ถึง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ 

ีุ้รุ่งขึ้นวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๗

คุณละม่อม ได้จัดให้มีธรรมะบำบัดที่อาคารปฏิบัติการโรงแรม

 วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา  กิตติพศก็ได้มีโอกาส

ร่วมเป็นพิธีกรร่วมกับคุณละม่อม

 และกิตติพศได้มอบพวงมาลัยข้อมือ ๗ สี สวยงามมาก

กิตติพศ ไม่คิดว่าจะมีพวงมาลััยสวย ๆ อย่างนี้ อย่างนี้

ในเมืองสงขลาในตอนเช้า ๆ ปกติไม่ขาย

นอกจากสั่งล่วงหน้า (ได้มายัง งง งง )

แล้วกิตติพศ  ก็คุกเข่าลงกราบท่านอาจารย์

เพื่อขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล

แล้วธรรมมะบำบัดที่สงขลา วันนัั้นก็สำเร็จลงด้วยดี

หลังจากนั้น  กิตติพศก็ได้เพิ่มความศรัทธา

ต่อท่านอาจารย์อุบล เป็นล้าน ล้าน เปอร์เซ็นต์ ไม่มีลิมิต

เกิดความศรัทธาฉับพลันทันที อย่างรวดเร็ว

ขอพูดว่า ศรัทธา ศรัทธา ศรัทธา  สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

กิตติพศ ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์อุบล เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ทุก ๆ พระองค์ พระเจ้าข้า

 กิตติพศ กับ ธรรมทาน  ตอนที่ ๔

เรื่อง สารภาพบาป

เมื่อกิตติพศ เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบเดิม ๆ

คือทำกรรมชั่ว เป็นความผิดหรือทำบาปกรรมแบบซ้ำซาก  

ทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม

ทางกาย เช่น ใช้เท้าแตะหมา คากคก กบ เขียด อึ่งอ่าง กิ่งก่า จิ้งเหลน 

วจีกรรม ก็ใช้วาจาไม่สุภาพ หยาบคาย

เช่นเคยด่าคนอื่น ที่มาทำ เราไม่สบาย

เคยด่าพระ วิจารณ์พระที่ทำตัวไม่เหมาะสมในการเป็นสมณะ

 เคยด่าคนขับรถบนท้องถนนที่ขับรถประมาท

 เคยด่าวิจารณ์ชาวบ้าน และนักการเมือง

มโนกรรม ก็เคยคิดไม่ดีต่อภรรยา  ต่อลูก

ต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อพระภิกษุสามเณร

เช่นคิดว่า ทำไมเขาจึงเป็นคนอย่างนั้น

เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว เช่นการเจ็บป่วย

 การถูกหลอก ถูกฉ้อโกงเรื่องเงินมาหลายครั้ง

ปล่อยเงินให้ คนกู้ก็ทำไม่สำเร็จ  

บริษัทแชร์ลูกโซ่ โกงไปถึง ๗ บริษัท

ทำให้เกิดความสิ้นหวังหลายครั้ง

ชีวิตของกิตติพศ ในชีวิตประจำวัน

พฤติกรรมที่แสดงออกมาทางบาปหรือนรก

มากกว่าบุญหรือทางแห่งสวรรค์

 มีธรรมะก็ไม่ได้ยึดมั่น มีศีล ๕ ก็ทำผิดทุกข้อ

มีอบายมุขทุกวัน ชีวิตเป็นอย่างนี้มาตลอด ๖๐ ปี

โดยไม่มีจิตสำนึก ที่จะยกระดับการพัฒนาจิตให้สูงขึ้นได้เลย

 จิตมีแต่เศร้าหมอง ผิวพรรณที่ดำ

หมองคล้ำ ก็จะดำ หมองคล้ำ ไปจนตาย

กิตติพศ ต้องขอขอบพระคุณ คุณละม่อม  ทองเจือ

ซึ่งเป็นภรรยา ของกิตติพศ ที่พยายามแล้วพยายามอีก

หลาย ๆ วิธี ที่จะเปิดใจสามีตัวเอง เข้าสู่หลักธรรม

ศีลธรรม อันดีงามหรือธรรมะบำบัด

ของท่านอาจารย์อุบล เช่น ให้ความรู้เรื่องศีล ๕

 ธรรมะบำบัด โรคภัยไข้เจ็บ ให้คนพ้นทุกข์ได้

เรื่อง ผี นรก สวรรค์ นิพพาน เรื่องความจน

ความรวย การช่วยเหลือคน ให้พ้นทุกข์

เรื่องอาจารย์อุบลคนสวยที่สุด

เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

 และแล้ว คุณละม่อม ภรรยาที่แสนดี แสนน่ารัก สุดที่รัก

สุดที่ีปรารถนาของ กิตติพศ ก็ได้ใจได้กาย 

ของกิตติพศ ผู้เป็นสามีเข้าสู่นิพพาน สวรรค์บนดิน

แห่งเมืองมนุษย์ได้ ได้เกิดดวงตาเห็นธรรม และได้เกิดความศรัทธา

 ต่อท่านอาจารย์อุบลอย่างแรงกล้าและฉับพลันทันที

 กิตติพศจึงขอสารภาพบาป และขอขมากรรม

ต่อท่านอาจารย์อุบลอย่างสูงสุด ไว้ ณ โอกาส

พ้นกรรมและสารภาพบาปนี้ด้วยเถิด

สาธุ สาธุ สาธุ

กิตติพศ ขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์อุบล

ขอกราบลงแทบฝ่าพระบาท องค์พ่อดตาจินิน องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา       องค์เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ พระนางเนเฟอร์ตารี และท่านรามเสสที่สอง กิตติพศ กล่าวขอบพระคุณ ด้วยการ

สาธุ สาธุ สาธุ