ReadyPlanet.com


ธรรมทานสำนึกผิด สารภาพบาป ของนางรุจิกาญจน์ ทับสุวรรณ


 

ข้าพเจ้านางรุจิกาญจน์  ทับสุวรรณ

อายุ59ปี อยู่ อ.เมือง จ.ราชบุรี

จบการศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี

เดิมอาชีพรับราชการแล้วลาออก 

ต่อมาเปิดกิจการส่วนตัวจนถึงปี2553

 

สารภาพบาปผิดศีลข้อ 1(ฆ่าสัตว์)

 ตั้งแต่จำความได้เคยเอากระดาษจุดไฟ

แล้วไปรนมดที่เดินตามทาง

เอาไม้กวาดแข็งตีคางคก อึ่งอ่าง เล่นตามน้องชาย ตบยุง

ตีแมลงวัน เหยียบแมลงสาบ เหยียบมดเอาน้ำราดรังมด

เหยียบหอยทาก ทำจิ้งจกหางขาด จับตั๊กแตนมาเล่น

จับแมลงอีมูนมาต้มกินตามเพื่อน

จับปูนามาต้มจะทำน้ำยาขนมจีนสุดท้ายก็ไม่ได้ทำ

ให้สามีซื้อกาวดักหนู ออกเงินค่ากำจัดปลวกให้พี่สาว

ฉีดยาให้แมว

เป็นเหตุให้ลูกแมวตายในท้องต้องผ่าออก

บาปหนักคือข้าพเจ้าได้ทำแท้ง เคยพาน้องไปแล้วออกเงินให้ก่อน

เคยบอกทางให้น้องชายพาแฟนไป

ข้าพเจ้ารู้ไม่เท่าถึงการณ์จริงๆ

คิดเพียงว่าต้องการไม่ให้มีปัญหาเท่านั้นเอง

มาคิดได้ก็รู้สึกเสียใจ เหมือนเป็นคนใจดำไม่มีคุณธรรม เห็นแก่ตัว

ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงพยายามทำบุญรักษาศีล

ปฎิบัติธรรมทุกอย่างที่เป็นบุญ

ข้าพเจ้าจะตั้งใจทำ แล้วอุทิศบุญนั้นๆให้ลูกที่ทำแท้งตลอด

แม้กระทั่งรับเป็นเจ้าภาพบวชพระปีละ1องค์ตลอดชีวิต

และสวดมนต์ไหว้พระตลอดชีวิตก็ทำเสมอ

เพื่ออุทิศให้ลูกแท้ง ทุกวันนี้ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อลดบาปกรรมได้บ้าง

อะไรที่ปฎิบัติแล้วบุญถึงเขาได้ก็ทำให้ทุกกรณีไปต่อเนื่องตลอดๆมา

สังเกตุตัวเองมาตลอดว่า

ถึงแม้จะทำบุญสร้างบุญอะไรๆก็ตาม

ก็ไม่สามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ทั้งกายและใจ

ได้เป็นสุขเท่าที่ควรเลย

สุขภาพกายเป็นๆหายๆแต่อาการก็เบาไม่หนักพอทนได้

ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อถึงการค้าขายร่ำรวย งานดีมีกำไร

แต่ก็ไม่เหลือ ได้มากจ่ายมาก

จนที่สุดต้องยอมเลิกกิจการค้าอย่างถาวร

 

ถึงยังไงก็มีเรื่องน่าภูมิใจอยู่เรื่องหนึ่ง

เมื่อตอนทำงานบริษัท

 ได้มีโอกาศช่วยชีวิตน้อยๆ 1 ชีวิตค่ะ

ซึ่งผู้ที่จะเป็นแม่คนจะไปทำแท้งลูก เมื่อข้าพเจ้าทราบ

จึงพยายามพูดคุย ยกตัวอย่าง

อธิบายจนทำให้เขาหยุดคิดเรื่องจะไปทำแท้ง

เขาเป็นเด็กผู้ชายปจุบันนี้เป็นหนุ่มแล้ว

วิบากกรรมที่ข้าพเจ้าได้รับอยู่ทุกวันนี้ ถ้ามันเป็นบาป

ที่ข้าพเจ้าได้เคยทำแท้งก็ดี เคยพาไปเอาออกก็ดี

บอกทางให้ก็ดี

เจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี

และเคยเบียดเบียน ทำร้ายสัตว์เล็กสัตว์น้อย

ให้ถึงตายด้วยมือ หรือความคิดของข้าพเจ้าก็ดี

ทั้งหมดทั้งปวงในชาตินี้

บัดนี้ข้าพเจ้ารู้สึกผิดอย่างมหันต์

จึงขออโหสิกรรมต่อลูกที่ทำแท้ง

และเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าทั้งหมดทั้งปวง ณ.ที่นี้ด้วย

ขออารธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จงบันดาลบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา

ตั้งแต่ชาติต้นๆจนถึงปัจจุบันชาติ และตลอดชาตินี้

ขออุทิศทั้งหมดทั้งปวงนี้ให้แก่ลูกแท้ง

และให้เจ้ากรรมนายเวร ของข้าพเจ้าที่เกาะเกี่ยว

อยู่ที่ตัวข้าพเจ้าก็ดี ติดตามมาถึงแล้วก็ดี

กำลังเดินทางมาก็ดี ได้รับผลบุญนี้แล้ว

ได้โปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญ

ของข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญทั้งหมดนี้ด้วยเถิดสาธุ

ขอตั้งสัจจะว่าต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะรักษาศีลข้อ1ให้มั่นคง

จะไม่ทำอีก ทั้งไม่ส่งเสริม

สนับสนุนให้ผู้ที่กำลังจะทำผิดศีลข้อ1อีกต่อไปค่ะ

(นางคนึงนุช พงษ์ดี ผู้พิมพ์ธรรมทานแทน)

 

มีต่อค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ คนึงนุช พงษ์ดี กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2013-04-25 23:53:10


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1657401)

 

สารภาพบาปผิดศีลข้อ2(ลักทรัพย์)

ข้าพเจ้าเคยชอบของแจก ของแถม เคยเอวของใช้ที่ทำงานมาใช้ที่บ้าน

เอาเปรียบเวลางาน ลาป่วยเป็นนิจ ลากิจประจำ มาสายกลับก่อน

ใช้ไฟใช้น้ำในที่ทำงานอย่างฟุ่มเฟือย

โลภ เคยขโมยเงินสามีทั้งๆที่ได้มามากแล้วเคยทำถ้วยกาแฟ ชามใส้แกง

พานใส่ดอกไม้ของวัดแตกเสียหาย

 ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานว่าจะสำรวมกาย ใจไม่ให้เกิดความโลภ

ไม่คิดอยากได้อีก ไม่สะสม คิดว่าจงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ให้รู้จักคำว่าพอ

 

เมื่อวันที่16,17 กุมพาพันธ์ 2556

ข้าพเจ้าได้มีโอกาศทำบุญใช้หนี้แผ่นดิน ใข้หน้สงฆ์ที่บ้านสวนพีรามิด

ได้ครั้งหนึ่งแล้ว และข้าพเจ้ามีโอกาศไปทำบุญที่วัดใดๆก็ตาม

ข้าพเจ้าจะช่วยบริจากต่าน้ำ ค่ากระแสไฟ

พร้อมทั้งชำระหนี้สงฆ์เป็นประจำไม่เคยลืม

 

สารภาพบาปผิดศีลข้อ 3 มีชู้

ข้าพเจ้าเรียนจบทำงานและแต่งงาน ด้วยความที่อายุน้อยทั้งคู่

ขาดความรับผิดชอบไม่เข้าใจชีวิตคู่ ไม่อดทน อดกลั้น

ไม่ใช้เหตุผลใช้แต่อารมณ์

จึงทำให้ชีวิตครอบครัวไม่เป็นสุข

การที่ข้าพเจ้าเชื่อคนง่ายตามใจตัวเอง ประชดชีวิต

เป็นผู้หญิงที่น่าเกลียดที่สุด ปล่อยตัว เผลอใจ

คิดนอกใจสามีและแอบมีชู้ในที่สุด บางครั้งก็คิดได้ว่า

ทำไมเราถึงทำตัวเลวขนาดนี้ ไม่มีความละอายใจ เกรงกลัวบาป

ความรู้สึกผิดที่ทำชั่วลงไป ไมมีใครรู้

แต่มันเป็นสนิม เกาะกินใจตลอดมา มันเป็นบทเรียนราคาแพง

แต่ข้าพเจ้าก็คิดปลอบใจตัวเองว่าผิดเป็นครู

บัดนี้ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดแล้ว หากข้าพเจ้าเคยทำร้ายจิตใจผู้ใดก็ตาม

ที่มาเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าให้ได้ทุกข์ใจ ลำบากกาย

ที่ผ่านมาทั้งหมดนั้นจะเจตนาก็ดี ทั้งต่อหน้าลับหลังก็ดี

ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมซึ่งกันและกันต่อทุกๆชีวิต

ที่ข้าพเจ้าได้นำความทุกข์ไปให้ อย่าได้จองเวรกันเลย

ขอตั้งสัจจะอธิษบานว่า

ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะไม่ประพฤติตัวเลว ทำร้ายจิตใจ

และเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอีกต่อไป

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-26 10:01:20


ความคิดเห็นที่ 2 (1657402)

 

สารภาพบาปผิดศีลข้อ4(โกหก)

เท่าที่ข้าพเจ้าจำได้สมัยที่อยู่ชั้นประถมและมัธยม

ชอบแกล้งเพื่อนที่อ่อนแอกว่าเคยเขียนบัตรสนเท่ฟ้องผู้อำนวยการโรงเรียน

เคยให้เพื่อนเอาหมามุ่ยไปโรยโต๊ะทำงานของครูที่ดุมากๆ

สมัยทำงานเคยซื้อสรอทให้เพื่อนไปใส่ในผงโอวันตินให้เพื่อนชงกิน

โกหกผู้บังคับบัญชา ขออนุญาตเวลางานไปดื่มกิน

เอาเปรียบเวลาราชการ ไม่ป่วยก็ลาป่วย

ชอบรับปากเพียงปลายลิ้น ไม่รักษาคำพูดอ้างเหตุผลเรื่อยไป

โกหกสามีเป็นกิจวัจรประจำวัน ทั้งๆที่ไม่น่าโกหก

มีความรู้สึกว่า ถ้าพูดความจริงแล้วจะเป็นผิดไป

กลัวที่จะพูดเรื่องจริงกับสามีตั้งแต่เรื่องเล็กจนเรื่องใหญ่

ยอมที่จะสาบานดีกว่าพูดความจริงออกมา

ไม่รู้ว่าตอนนั้นทำไมถึงคิดอย่างนั้น

มีบางเรื่องที่มากระทบโดยตรงก็จะเก็บเอามาคิด เรื่องเก่าเล่าใหม่

ไม่มีใครเข้าใจ และเห็นใจ สร้างทุกข์ให้ตัวเองตลอด

บางครั้งก็พูดให้คนอื่นเสียใจใช้คำพูดแรงไปก็เคย

บางเรื่องก็พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น

คิดเอง.. เออเอง.. วิเคราะห์เรื่อยไป ตัวเองก็เป็นทุกข์

ทั้งเคยนินทาราชวงศ์ ติเตียนพระสงฆ์ แม่ชี คนถือศีลที่เห็น

และคิดเองว่าไม่เหมาะสม ไม่สำรวม และเคยพูดแดกดัน สอดเสียด

เพ้อเจ้อ และพูดคำหยาบบ้าง  ข้าพเจ้าสำนึกผิดคิดได้แล้ว

 

ขอตั้งจิตอธิษฐานว่า

หากผู้ใดก็ตามที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินต่อท่านทั้งหลาย

ด้วยกาย วาจา ใจทั้งต่อหน้า ลับหลังก็ดี

ที่เจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี

ผิดด้วยประการทั้งปวง ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลายไว้ ณ.ที่นี้ด้วย

อย่าได้จองเวรกันต่อไปอีกเลย

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปข้าพเจ้าจะสำรวมกาย  วาจา ใจ มิให้พลั้งเผลอ

คิดร้าย พูดให้ร้าย จะมองโลกในแง่ดี

รักษาน้ำใจของผู้ที่มาเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าให้ดีเสมอ

ก่อนสวดมนต์และตื่นนอน

ข้าพเจ้าจะอารธนาบารมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

และพระศรีอาริยะเมตไตยที่ท่านอาจารย์อุบลได้อัญเชิญมาได้โปรดครอบคลุม

กาย วาจา ใจของลูกให้คิดดี พูดดี ทำดี มีคุณธรรม

ขออานิสงค์ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิตไว้นี้ จงสำเร็จแก่ตัวลูก

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขอให้การกระทำและวาจาของลูกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขอให้การกระทำ และวาจาของลูก

จงเป็นประโยนช์แก่ลูก และผู้อื่นด้วยเถิด

 

 

 

สารภาพผิดศีลข้อ 5 (สุราเมรัย)

ช่วงชีวิตการทำงานมีสังคม ได้รู้จักการดื่มเบียร์ เหล้า ดูดบุหรี่

คิดว่าเป็นสิ่งโก้หรู ทำให้เข้าสังคมกับเพื่อนได้ดี มีความสนุกสนาน

เคยเลี้ยงเหล้าในงานวันแต่งงาน ให้เพื่อนยืมเงินไปซื้อเหล้าดื่ม

เคยให้เหล้าเป็นของขวัญเจ้านาย

และเคยให้เพื่อนมานั่งร่วมวงกินเหล้าหน้าบ้านพักประจำ

ชอบกินข้าวหมากหวาน กินของดอง

การที่ข้าพเจ้าได้เข้าสังคมดื่มเหล้า ดื่มเบียร์นั้น

ก็เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าขาดสติ

ทำผิดศีลข้อ2 ,3 ,4 แถมอีกด้วย

ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดแล้วที่เคยร่วมกันทำผิดต่อท่านทั้งหลาย

ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำไปเพราะความโง่เขลา

ขาดสติ  ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

      ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมไว้ ณ. ที่นี้ด้วยตั้งแต่วินาทีนี้ไป                       

ข้าพเจ้าจะ ไม่กระทำผิดศีลข้อ 5 อีกแน่นอน   

 

(มีต่อค่ะ)

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-26 10:01:36


ความคิดเห็นที่ 3 (1657817)

ผลของกรรมชั่ว

ข้าพเจ้าได้นั่งคิดย้อนไปในอดีตถึงความผิดพลาด

ที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย

รู้สึกเสียใจ ละอายใจ

ไม่อยากให้อภัยตัวเองเลย

โง่ว้ำโง่ซาก รู้ว่าบาปก็ยังทำ ดื้รั้นกับพ่อ แม่ที่เป็นห่วงเรา

ไม่มีใครรู้ว่าเราเลวแค่ไหน ด้วยเป็นคนนิสัยไม่ดี ตามใจตัวเอง

ไม่แคร์ อวดดีทั้งที่ไม่มีดีจะอวด

จึงไม่ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นตามมา

ได้แต่โทษคนนั้น คนนี้เรื่อยไป

ประพฤติตัวผิดศีลทั้ง5ข้อ ผลกรรมชั่วที่ตามทันที

ที่ได้รับคือ

หน้าที่การงานไม่ก้าวหน้า ถูกกลั่นแกล้ง ถูกเบียดบัง ถูกใส่ร้าย

(พูดเอาดีใส่ตัวเอง เอาชั่วให้เรารับ)

ผู้บังคับบัญชาไม่ชอบหน้า เพื่อนร่วมงานก็เอาแต่ประโยชน์จากเรา

ไม่มีใครจริงใจด้วย จะถูกระแวงไม่ไว้วางใจ

ทำบุญกับใครก็ไม่ขึ้น ถูกหลอก ถูกโกง ต้องใช้หนี้แทนเพื่อน

สุดท้ายก็ต้องอย่ากับสามี เราใช้ชีวิตร่วมกันมา14ปี มีลูก2คน

ต่อมาข้าพเจ้ามีสามีคนที่2 เปิดกิจการค้าขาย

เราใช่ชีวิตร่วมกัน22ปีไม่มีปัญหาหนัก แต่สุดท้าย

ก็ต้องเลิกกิจการอย่างถาวร

สามีออกบวชไม่มีกำหนดสึก

ข้าพเจ้าไม่ได้เตรียมตัว เตรียมใจไว้จึงทำให้ทุกข์เหลือเกิน

ไม่มีงานทำ ได้ตั้งคำถามมาตลอดว่า

เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเรา?

ทำไม?

 

ในความสับสนวุ่นวาย

แต่ก็มีความโชคดีตามมา ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จักบ้านสวนพีรามิด

สถานที่แห่งนี้นี่เองที่เป็นประตูทางออกให้ชีวิต

ของข้าพเจ้าได้พบหนทางเดินต่อไปอย่างมีความหวังและมั่นคง

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-30 11:47:37


ความคิดเห็นที่ 4 (1657841)

สิ่งมหัจรรย์ที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า

เมื่อข้าพเจ้าได้รู้จักบ้าบสวนพีรามิดโดยเพื่อนแนะนำ

ให้ซีดีของบ้านสวนพีรามิดมาดูก่อน

ต่อมาข้าพเจ้าก็ดูรายการคุยไปแจกไปทุกวันอาทิตย์

และได้บูชาจี้รุ่นพระศรีอาริยเมตไตยมา1องค์

พร้อมร่วมทำบุญสร้างเทพ พรหมทันที

หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ได้รับจ้างเช็ดใบตอง

ได้ค่าจ้างที่บริสุทธิ์มา300บาทดีใจมาก

จึงเก็บไว้เพื่อจะเอาไปทำบุญที่บ้านสวนพีรามิด

ปกติทุกวันข้าพเจ้าจะสวดมนต์ภาวนาก่อนนอน

มีวันนหึ่งข้าพเจ้าสวดมนต์เสร็จก็รู้สึกใจเศร้าใจและหดหู่

ซักพักคิดได้จึงลองสารภาพบาปที่เคยทำแท้ง

พูดไปเรื่อยๆสักพักเดียวก็เกิดอาการซุ่ซ่าทั้งตัว และขนลุกซู่

ทางด้านซ้ายของลำตัวลงไปตลอดแนวขาซ้าย

จนไปถึงนิ้วเท้าข้างซ้าย เหมือนมันไปจุกรวมกันอยู่ที่นิ้วเท้า

ปวดมากๆจึงเอายาหม่องมานวดและรีบเข้านอน

พอตื่นเช้ามาอาการปวดก็หาย

และอาการที่ข้าพเจ้าตึงที่ต้นคอ ปวดสะบักหลังลึกๆไปนวดก็ไม่หาย

และปวดหัวซีกซ้ายบ้าง

และเจ็บในทรวงอกเหมือนมีของแหลมมาทิ่มแทง

ก็หายไปเลย ไม่รู้ว่าหายไปได้ตอยไหน

ดีใจจึงรีบโทรเล่าให้เพื่อนฟังทันที

ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าอยากไปใช้แรงกายที่บ้านสวนพีรามิดให้เร็งยิ่งขึ้น

พอวันอาทิตย์ก็ได้ดูรายการคุยไปแจกไปอีก

พอดีท่านอาจารย์อุบลบอกว่าอนุญาตให้ทุกคนไปบ้านสวนได้

เพราะเป็นวันทำบุญครบ100วันของคุณตา

ข้าพเจ้าดีใจมากโทรนัดเพื่อนเตรียมตัวไปทันที

 

ก่อนถึงวันที่จะไปบ้านสวนพีรามิด

ข้าพเจ้าคุยกับเพื่อนว่าจะทำอย่างไรดีกับการที่ข้าพเจ้าติดกาแฟมากๆ

ถึงขนาดไม่ได้กินก็ขอดมก็ยังดี

เพื่อนเล่าให้ฟังว่าท่านอาจารย์อุบลบอกว่า

กาแฟไม่ดีเป็นของดำอย่าเอาของดำเข้าตัว

หลังจากที่คุยกัน รุ่งขึ้นข้าพเจ้าก็ชงกาแฟกินตามปกติ

พอดื่มเข้าไปทันทีนั้นก็รู้สึกขมคอ

และไม่ได้กลิ่นของกาแฟเลย

ถามคนที่กินด้วยกันก็ปกติ ข้าพเจ้าก็ดันทุรังกินต่ออีกวัน

เท่านั้นเองขมคอไม่ได้กลิ่นคราวนี้ปวดท้องมากอีกด้วย

จึงคิดได้ว่าเราคงต้องเลิกและต้องงดกาแฟตลอดไปแน่นอน

แต่มาถึง ณ.วันนี้ก็ลองกินใหม่ก็แค่มึนๆหัวบ้าง

ก็ต้องขอโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย

ที่ไม่เลิกให้เด็ดขาดแต่ก็ได้พยายามอยู่ค่ะ

ครั้งแรกที่ไปบ้านสวนพีรามิด16-17กพ.56

ข้าพเจ้าและเพื่อนได้เดินทางไปบ้านสวนพีรามิด

ได้ถ่ายเอกสารกรรมผิวพรรณไป19ชุด

ซื้อข้าวสาร กระดาษทิชชู่ น้ำยาล้างจานสก๊อตไบร์ท

เมื่อไปถึงหน้าบ้านสวนพีรามิดข้าพเจ้าก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัว

จึงรีบยกมือไหว้แล้วรีบขอราธนา

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

พระศรีอาริยเมตไตยที่ท่านอาจารย์ได้อัญเชิญมา

ได้โปรดครอบคลุมกาย วาจา ใจของลูกให้คิดดีพูดดีด้วยเถิดสาธุ

ข้าพเจ้ากลัวใจตังเองว่าจะพรั้งเผลอคิดผิดๆ

ในระหว่างที่อยู่บ้านสวน

จึงอธิษฐานกันไว้ก่อนเพื่อความมั่นใจและสบายใจเพราะตั้งใจมาก

ได้พบคุณอ้อยจัดที่พักให้เรียบร้อยแล้ว

จึงออกมาจัดกลุ่มกับคุณธนา ได้อยู่กลุ่มที่9

กิจกรรมแรกได้ไปเก็บกวาดขใบไม้ข้างบ้านท่านอาจารย์อุบล

และขัดห้องน้ำ นาทีแรกที่ข้าพเจ้าได้จับคราดเพื่อมาคราดใบไม้

ตอนนั้น รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้โฮออกมา

เหมือนกำลังจะได้สารภาพผิดอะไรบางอย่างก็ไม่รู้

พอดีคุณอ้อยมาบอกว่าขณะทำงานให้สวดคาถาพระศรีอาริยเมตไตย

ข้าพเจ้าจึงสวดไปทำงานไปอย่างมีความสุขใจมากเลย

มาช่วงที่2

ก็ไปเก็บกวาอหน้าบ้านสวนพีรามิด ขณะทำไปมีคนแนะนำว่า

ให้อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรที่มาเกาะเกี่ยวกับตัวเรา

ข้าพเจ้าอุทิศทันที

ทันใดก็ก็รู้สึกขนลุกปิติมากมาย พร้อมดีใจมากๆ

คิดทันทีว่าที่แห่งนี้สุดยอดจริงๆ

ทำทันทีได้ทันทีน่าอัศจรรย์จริงๆ

ใครไม่มาสัมผัสไม่รู้หรอกว่ามันมีความสุขใจขนาดไหน

นี่แหละที่เขาเรียกว่า

ฉับพลันทันทีเป็นอย่างนี้เอง

เช้าวันอาทิตย์ก็ได้ไปช่วยยกหิน ยกทรายเพื่อทำการโม่แล้วไปเทพื้น

ตลอด1ชั่วโมงกลางแดด คิดว่าเช้าพรุ่งนี้หน้าคงลอก

มือคงแตกและผิวคงดำแน่นอน

แต่อัศจรรย์อีกแล้ว

ทำจนเสร็จก็ไม่มีคำว่าเหนื่อยหอบเลย

ไม่รู้สึกร้อนและมือก็ไม่แตก

เคยไปกวาดลานวัดนิดหน่อยมือก็แตกเจ็บไปหลายวัน

แต่ทำที่บ้านสวนพีรามิดไม่เป็นอะไรเลย

ปกติทุกอย่าง พอเสร็จกิจกรรมแล้ว

ได้ไปบูชาจี้ท่านพ่อดตจินิน และเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพ

ข้าพเจ้าพยายามจัดของด้วยความระมัดระวัง

เพราะได้นำธรรมทานของผู้ที่เขียนแจกกลับไปอ่านเพื่อศึกษา

ในหนังสือธรรมทานมีรุปพระเจ้าอยู่หัว รูปท่านอาจารย์อุบล

ข้าพเจ้าจึงเอาไว้ด้านหน้าของกระเป๋า

แต่พอขึ้นรถตู้ก็ได้เผลอเอากระเป๋าวางไว้ข้างๆเท้า

ตั้งแต่รถออกจากบ้านนามาตลอดทาง

ข้าพเจ้าปวดหัวซีกขวามากจึงเรียกอาจารย์อุบลช่วยด้วย

หลายครั้งที่มีอาการปวดก็ไม่หายแต่บรรเทานิดหน่อย

ก็คิดโทษอากาศร้อน พอมาถึงกรุงเทพก็ปวดหนัก

คิดโทษว่าอากาศกรุงเทพแย่มากๆ

พอเข้าที่พักวางกระเป๋าวางกระเป๋าไว้ตรงปลายที่นอนอีก

คราวนี้ปวดไม่หาย รีบอาบน้ำสวดมนต์ตามปกติก็ไม่หาย

เรียกอาจารย์อุบลก็แล้ว

หันมาเห็นกระเป๋าจึงลุกขึ้นมาจัดกระเป๋าเพื่อเอาของออก

พอเปิดกระเป๋าเท่านั้นแหละ

คำตอบอยู่ตรงนี้เอง

ตกใจรีบเอาหนังสือธรรมทานออกมากราบแล้ววางไว้ที่หัวนอน

ก็หายปวดหัวเป็นปลิดทิ้งทันทีเหมือนกัน

พอรุ่งเช้าเดินทางด้วยรถตู้ไปหาป้าเช็ง

คนขับรถตู้เปิดเพลง " เมียพี่มีชู้ "

ปกติได้ยินเพลงนี้จะเฉยๆแต่ตอนนั้นรู้สึกขึ้นมาว่าอยากร้องไห้

แล้วก็สะอื้นออกมา น้ำตาก็ไหล

รู้สึกตกใจ เกิดอะไรขึ้นกับเราแน่ๆ

พอได้สติก็กำจี้ทั้ง2องค์ แล้วสารภาพบาปที่เคยนอกใจสามี

สารภาพไปเรื่อยๆมันมีความรู้สึกว่าเราคิดถึงความดีของสามีมากมาย

และอยากจะกลับไปกราบแทบเท้าสามี และขอโทษอย่างมาก

ในขณะเดียวกันก็รู้สึกรักๆๆๆๆๆๆๆ

คิดถึงหน้าท่านอาจารย์อุบลขึ้นมาทันที

 

เหมือนกับอยากจะไปกอดท่านอาจารย์จริงๆ

น้ำตาก็ไหลพราก

ดีนะตรงที่ข้าพเจ้านั่งไม่มีคนแล้ว เลยเช็ดน้ำตาได้สบาย

และก็รู้สึกโล่งอก สบายใจพร้อมดีใจนั่งยิ้มคนเดียว

เหมือนได้ปลดอะไรบางอย่างออกไปอย่างอัศจรรย์อีกแล้ว

จึงรีบโทรไปบอกเพื่อนทันที

(มีต่อค่ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-30 13:48:05


ความคิดเห็นที่ 5 (1658321)

 

ธรรมทานจากคุณรุจิกาญจน์  ทับสุวรรณ(ต่อค่ะ)

หลังจากนั้น พอกลับมาอยู่ราชบุรีก็พยายามเขียนสารภาพบาป

และเขียนเรื่องที่เกิดขึ้น   กับข้าพเจ้าตั้งแต่ก่อนไปบ้านสวนพีรามิด

จนเดินทางกลับมาราชบุรี

 

และเมื่อวันที่3เมษายน2556

ประมาณบ่าย2โมง ข้าพเจ้าก็ปวดหน้าอกด้านซ้าย 

ปวดหลังปวดน่อง ตึงน่ารำคาญเป็นๆหายๆ ทายาก็แล้ว ไปนวดก็แล้ว

บริหารก็ไม่ดีขึ้น พอคิดได้ก็สารภาพบาปตั้งแต่ข้อ1,2,3 ก็เฉยๆ

พอมาถึงขัอ4 เท่านั้นเองก็รู้สึกขึ้นมาว่าเสียใจ

เคยพูดให้ร้ายกับพี่ๆน้องๆ บางเรื่องก็คิดเอง สรุปเอง  โทษคนนั้น โทษคนนี้

ฟุ้งซ่านไม่เคยหันมาโทษตัวเอง คิดว่าตัวเองถูกตลอด  ระหว่างที่คิดได้

ก็ขนลุกซู่ซ่าเป็นระยะๆที่กำลังสารภาพผิด

แล้วขออโหสิกรรมต่อทุกคน ที่ข้าพเจ้าเคยทำร้ายจิตใจ

และขอตั้งใจว่าต่อไปนี้จะสำรวมกายวาจาใจจะไม่ทำอีก

อาการที่เป็นอยู่ก็หายทันที

 

พอมาวันที่7 เมษายน2556

ข้าพเจ้าก็ตั้งใจดูรายการคุยไปแจกไปเหมือนเคย

ระหว่างที่ตั้งใจดูท่านอาจารย์อุบลกำลังบำบัดในจอทีวีอยู่ๆ

ข้าพเจ้าก็รู้สึกเหมือนใครเอาเชือกมามัดใต้ราวนมข้างซ้ายแล้วดึงให้ตึง

ข้าพเจ้าเจ็บมาก จึงรีบยกมือพนมตามในทีวีพูดตามคุณธนา

ที่กำลังบำบัดผู้ชายที่เจ็บปวดหลังอยู่

โดยให้พูดว่าอาจารย์อุบลช่วยด้วย..............

ข้าพเจ้าทำตามและบอกว่าช่วยเรื่องเจ็บใต้ราวนมซ้าย

ข้าพเจ้ารู้สึกขนลุกออกด้านข้างๆลำตัวทั้งสองข้างแต่ขนลุกแบบหยาบๆหนึดๆ

ไม่ออกแบบหนักๆซู่ซ่าเบาสบายเหมือนทุกครั้ง 

ไม่รุ้จะอธิบายอย่างไรแต่ก็หายเหมือนกันดีใจมาก

 

อยู่ต่อมาข้าพเจ้าก็มีอาการเก่าๆกลับมาอีก คราวนี้ไปให้หมอนวด

กลับมาเจ็บปวดกว่าเก่าอีกจึงมานั่งคิดว่าทำไมไม่หายขาดทั้งที่มีจี้ทั้งสองรุ่น

แขวนอยู่และสวดมนต์ กราบอาจารย์ทุกวันสวดมนต์ของบ้านสวนทั้งเช้าเย็น

แต่มาคิดได้ว่าตั้งแต่กลับจากบ้านสวนฯครบ2เดือนแล้วคือวันที่15เมษายน

ยังไม่ได้พิมพ์ธรรมทานให้เรียบร้อยสักที(หาร้านพิมพ์งานที่รับพิมพ์ให้ไม่ได้)

ได้แต่เขียนแล้วเก็บเอาไว้ และได้เล่าให้เพื่อนและพี่สาวฟังเท่านั้น

พอคิดได้จึงอธิษฐานเรียก

" อาจาย์อุบลช่วยด้วยขอให้เขียนธรรมทานเสร็จและหาร้านพิมพ์ได้ด้วยเถิด."

 

แล้วลงมือเขียนคัดลอกของเก่าที่เขียนเก็บเอาไว้ก็เสร็จทันเวลา5โมงเย็น

ของวันที่12เมษายน56ดีใจมากที่เขียนเสร็จทัน

จึงรีบอุทิศบุญให้เทวดาที่รักษาอาจารย์อุบลทุกพระองค์ทันที

เมื่อเขียนเสร็จทันเวลาจึงเอามาอ่านให้พี่สาวฟังทันที อาการที่เป็นอยู่ก็หายจริงๆ

ด้วยหายนิทเลยไม่ประสพกับใครไม่รู้หรอกว่ามันจริงๆ มันเป็นปัจจัตตัง

คือรู้ได้ด้วยตนเอง แล้วรีบเอาไปพิมพ์ทันที 

พอเช้าวันที่13เมษายน56ได้มีโอกาศไปทำบุญที่วัดหนองแช่เสา ราชบุรี

จึงอุทิศให้เทวดาที่ที่รักษาอาจารย์อุบลอีกด้วย 

ทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าได้ประสพมาตั้งแต่แรกและตลอดมา

ทุกวันอาทิตย์ข้าพเจ้าจะตั้งใจดูรายการคุยไปแจกไปเสมอมา

เพราะข้าพเจ้าอยากทราบการบำบัด  การทำอาหารอภิญญาและน้ำทิพย์

พยายามหาข้อมูลในการใช้จี้ให้ถูกต้องจะได้บำบัดตัวเองแต่กับพี่น้องยังไม่กล้า

เพราะยังไม่มีให้แน่ใจก่อนว่าการบำบัดที่ถูกต้องทำอย่างไร 

เพราะข้าพเจ้าไม่มีคอมพิวเตอร์ ได้แต่รอดูรายการคุยไปแจกไปเพียงจุดดียว

จึงทำให้รู้ข้อมูลล่าช้ากว่าคนอื่น แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ย่อท้อ

ได้โทรถามเพื่อนอยู่ตลอดเวลา

 

มา ณ.วันนี้ข้าพเข้ารู้สึกว่าความตั้งใจดี

ความจริงใจของข้าพเจ้าได้เกิดปาฎิหาริย์แล้ว

คือท่านอาจารย์อุบลจะมาเปิดสาขาของบ้านสวนพีรามิดที่ราชบุรีแล้วในวันอังคารที่23เมษายน56

ขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

และบารมีพระศรีอาริยเมตไตย ลูกขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนาที่ได้บำเพ็ญ

ตั้งแต่ชาติต้นๆจนถึงปจุบันชาติและตลอดชาติ 

ขออุทิศถวายให้กับเทวดาที่รักษาอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ 

พร้อมขออุทิศบุญนี้ให้แก่ญาติสาโลหิตของข้าพเจ้าผู้ล่วงลับ ครูอาจารย์ 

ผู้มีพระคุณ เจ้ากรรมนายเวร เทวดาที่รักษาข้าพเจ้า  

และเชื้อโรคที่อยู่ในกายข้าพเจ้า และผู้ที่ไม่ได้เอ่ยนาม 

จงมารับผลบุญนี้ด้วยเถิด  สาธุ

 

ขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ 

และพระศรีอาริยเมตไตยที่อาจารย์อุบลได้อัญเชิญมา 

ได้โปรดครอบคลุมกาย วาจา  ใจของลูกให้คิดดี พูดดีทำดี มีพรหมวิหาร4

พร้อมด้วยเถิด..สาธุ  สาธุ สาธุ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-05-06 14:31:35


ความคิดเห็นที่ 6 (1658322)

คุญรุจิกาญจน์ได้กรุณาส่งหนังสือคู่มือการบำบัด รหัสเจ้ากรรมนายเวร99

และคู่มือการใช้วัตถุมงคลบ้านสวนพีรามิดมาให้นุช

เพราะไปร่วมงานเปิดสาขา จ.ราชบุรี

และแนบธรรมทานที่ได้ไปร่วมงานมาฝากเล่าด้วยค่ะ

และขอขอบคุณสำหรับหนังสือที่ส่งมาให้มากๆค่ะ

 

ธรรมทานจากคุณรุจิกาญจน์  ทับสุวรรณ

ข้าพเจ้าได้ไปร่วมเปิดสาขาบ้าบสวนพีรามิด จ.ราชบุรี

เพราะเป็นคนราชบุรี จึงได้มีโอกาศไปร่วมเปิด

พอท่านอาจารย์อุบล และคณะมาถึงข้าพเจ้าดีใจมาก

การบำบัดเป็นไปอย่างเช่นเคยที่ได้เห็นในทีวี มาช่วงสุดท้าย

อาจารย์เมตตาทำน้ำทิพย์ทำลูกอมอภิญญา

พอทำน้ำทิพย์เสร็จท่านอาจารย์ก็ให้พิสูจน์น้ำทิพย์ 

ทุกคนตั้งใจทำตาม คือเอาน้ำทิพย์ของตนเองใส่ผ่ามือลูบไล้

  ข้าพเจ้าทำก็ทำตามนั้นเหมือนกัน

ข้าพเจ้ารู้สึกฝ่ามือที่ลูบไล้อยู่นั้นมันออุ่นๆเกือยร้อน จึงบอกคุณธนา

ถึงอาการที่ได้รับท่านอาจารย์อุบลจึงบอกว่า

ข้าพเจ้าอาจจะเพิ่งขึ้นมาจากนรกก็ได้

ในขณะที่บางคนก็มีอาการเย็นเหมือนน้ำเย็นในตู้เย็น

และบางคนก็พูดเช่นเดียวกันว่า รุ้สึกอุ่นๆ บางคนก็ขนลุก

อาการที่สัมผัสของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน

จึงเขียนมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-05-06 15:07:39


ความคิดเห็นที่ 7 (1658638)

ขออนุโมทนาบุญและขอบคุณสำหรับธรรมทานของคุณครูรุจิกาญจน์ด้วยนะค่ะ

สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัสนีวา ทองภูธรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-05-10 21:29:04



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.