ก่อนบำบัดให้เขา ให้เขามองแหวนองค์เทพสฟิงค์ด้วยว่าสัมผัสเห้นอะไรได้บ้าง เขาบอกว่า "มองลึกลงไปเป็นชั้นๆ ชั้นแรกๆ เห็นเป็นใบหน้าองค์เทพสฟิงค์ แต่ยิ่งมองเหมือนยิ่งลึกลงไป ในใจเริ่มกลัวจนลึกเข้าไปเรื่อยๆเห็นเป็นแสงที่จ้ามากจนกลัวไม่กล้ามองต่อ" เขาสัมผัสได้ถึงอนุภาพที่ยิ่งใหญ่มาก เขาบอกว่ากลัวมากจึงมองต่อไม่ไหว

     ตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะใช้แหวนองค์เทพสฟิงค์เป็นตัวแทนสิ่งศักดิ์ได้ ก็เลยลองเอาแหวนองค์เทพสฟิงค์หันหน้าไปทางเพื่อนเพื่อรับพลังสิ่งศักดิ์ที่นึกถึงดู

     มีเพื่อน มีปัญหาสายตา แพ้แสง ต้องใส่แว่นตาปัดแสงตลอดเวลาที่เล่นมือถือ อยู่หน้าจอคอม หรือ ออกแดด หากไม่ใส่จะมีอาการปวดเบ้าตา และแสบตามาก

     วันนี้ลองให้เขาสารภาพบาปดู ปารกฎว่าเขาทำทุกอย่างที่เป็นบาป เช่น การมองพระพุทธรูป พระสงฆ์ ผู้ทรงศิล ด้วยสายตาคิดตำหนิ ติเตียน(ไม่พูด ติเตียนในใจ โดยประมาท)การใช้สายตาดูถูกคนอื่น มองผู้อื่นด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร มองค้อน มองจิก มองด้วยความอิจฉา ริษยา มองร้ายต่างๆนาๆ

     ปรากฎว่าอาการปวดรอบเบ้าตาหายทันที เหลือแต่อาการแสบตา ทีนี้ เราก็ให้เขาได้ลองอุทิศบุญกุศลขอขมาผู้ที่ได้ล่วงเกินทางสายตาโดย ให้อฐิษฐานจิต ฟังที่เราพูดและนึกตามว่า

     ขออาราธนาบุญบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่บ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์ ขออาราธนาบุญบารมีของทุกๆพระองค์ ขอเบิกบุญที่ได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติขออุทิศให้กับคนที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินไว้และให้กับเจ้ากรรมนายเวรทุกท่านทุกคน ขอให้อโหสิกรรมกับข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าหายจากอาการเจ็บปวดที่ตาขอให้หายฉับพลันทันทีด้วยเทอญ สาธุ

     ปรากฎว่าอาการปวดตาแสบตาไม่มีเหลืออยู่อีกเลย และอาการหายป่วยก็เป็นผลรับรองได้ว่า เรื่องการทำบาป ส่งผลในชีวิตจริง//กรรมตามสนองจริง(กรรมเกิดจากการกระทำ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว, บุคคลหว่านพืชเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น

(คำสอนของพระพุทธเจ้า = ธรรมะของพระพุทธเจ้า คือ สัจธรรมในโลก ไม่มีธรรมใดที่พระพุทธองค์สอนแล้วพิสูจน์ไม่ได้)

     สรุปได้ว่า บารมีขององค์เทพสฟิงมีจริง สิ่งศักดิ์มีจริง บุญ-บาปมีจริง ถ้าไม่อยากเป็นทุกข์

ต้อง

ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด

รักษาศิล เพื่อควบคุม กาย วาจา ใจ ไม่ให้ทำบาปอีก

ปัญหาในชีวิตจะไม่เกิด และชีวิตจะมีความสุขนิรันดร์สาธุ