เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวผม ซึ่งก็ผ่านมาหลายปีแล้ว คือประมาณ ปี2539 ช่วงที่ผมอายุ 25-33ปี ผมคบผู้หญิงหลายคน เป็นความเลวและเห็นแก่ตัวของผู้ชายทุกยุคทุกสมัย ไม่เลือกยากดีมีจน ผมมีภรรยาที่ไม่จดทะเบียนอยู่หนึ่งคน แล้วก็มีเด็กๆ 3-4คน ถ้าเป็นสมัยนี้เรียกว่ามีกิ๊ก ก็น่าจะใช่ ผมทำบาปขึ้นนะในเรื่องผู้หญิง(สมัยหนุ่มๆ) คุยกับหญิงคนไหนก็มาชอบผมไปหมด ที่ทำงานเดียวกันผมก็มีถึง สองคน น้องที่ทำงานแม้จะรู้ว่าผมมีแฟนแล้ว ผมไปจีบญาติของน้องเค้า เค้าก็ไม่ห้าม แถมยังสนับสนุนอีก เฮ้อความเลวของผมก็เข้าขั้นนะครับ สนุกสนานเพลิดเพลินกับเรื่องบาปกรรมอย่างนี้ ทั้งดื่ม เที่ยวกลางคืน เล่นการพนัน(สนุ๊กเกอร์) เป็นกิจวัตร เงินทองก็ใช้ไปในเรื่องอบายมุขดังที่ว่ามานั่นแหละ ไม่มีเหลือเก็บหรอกครับ โชคดีหน่อยที่ผมมีเงินเดือน และรายได้อื่นที่มากพอสมควร มากพอที่จะใช้สอยได้อย่างสุรุ่ยสุร่าย  แล้วเค้าลางของความเสื่อม ความวิบัติก็มาถึงครับ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เป็นหลักสากลที่เที่ยงแท้แน่นอน ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบความจริงข้อนี้

      ผมมีเรื่องผิดใจกับผู้หญิงคนนึง(ซึ่งไม่ใช่ภรรยา)ถึงขั้นเลิกคบกัน น้องเขามาขอเงิน ผมก็ให้ไป เพื่อไม่ต้องมีพันธะ และเป็นการตัดรำคาญด้วย(เห็นแก่ตัวดีเนาะ) ไหนๆก็จะเลิกกันอยู่แล้วนิ ผ่านไปประมาณ สองสัปดาห์ เพื่อนของน้องคนนั้นมาบอกผมว่า น้องเอาเงินไปทำแท้ง...เฮ้ย! ผมใจหายนะ ระคนตกใจด้วยแหละ เพราะในชีวิตไม่เคยจะเกี่ยวข้องกับเรื่องพรรค์นี้ แต่ก็ไม่ปักใจเชื่อว่าน้องเค้าจะทำจริง เพื่อนของน้องก็ยืนยัน ผมก็ปล่อยเลยตามเลยครับ....

     เวลาผ่านไปไม่นานเลยครับ กรรมเริ่มเห็นผล ติดจรวดเร็วมาก ผมมีปัญหาเรื่องงานทะเลาะ กันกับผู้จัดการ ปัญหาการทำงานหยุมหยิม เล็กๆน้อยๆจนขยายใหญ่แบบไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น จนเกิดแรงกดดัน ทำให้ผมเสียใจ น้อยใจ เจ็บใจ หลายๆอย่างครับ เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ถ้าไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอก(เชื่อว่าวิญญาณเด็กเริ่มจะแผลงฤทธิ์แล้ว)   ที่สุดผมลาออกจากงานโดยตัดสินใจแบบปุบปับ ไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ย อย่างโบราญว่าไว้ไม่มีผิด...ออกจากงานก็เคว้งคว้างซีครับ เงินเก็บก็มีแต่น้อยมาก เริ่มคิดมาก ทุกข์ใจสารพัด  ผีซ้ำด้ำพลอย ภรรยาที่คบกันมา 5-6ปี มีท่าทีเปลี่ยนไป แล้วความจริงที่ทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจ ก็ซ้ำเติมผมอีก เธอไปมีผู้ชายอื่น ผมพยายามทำใจ(มันยากนะ)ปล่อยไป ข้อดีของผมพอจะมีอยู่บ้างคือ ผมจะไม่ด่าว่า หรือทุบตีผู้หญิง ถึงแม้จะจับได้ว่าเธอมีชู้ ผมไม่ว่า ไม่ด่า ซักคำ คงจะสะใจเจ้ากรรมนายเวร(เด็กแท้ง) ได้ในระดับนึง หลังจากนั้นชีวิตผมก็ลุ่มๆดอนๆ ระหกระเหินไปตามแรงกรรมของตัวเองละครับ ไม่ต้องไปโทษใครที่ไหนหรอก  การงานก็เปลี่ยนบ่อย อายุเริ่มมากขึ้น บรรดาน้องๆกิ๊กทั้งหลาย หายหมด มีน้องคนนึงผมตั้งใจจะจริงจังด้วย เค้าก็แสดงท่าทีรังเกียจให้เห็นแบบชัดเจนมาก ผมแทบผงะเลยนะ โอ้โห! ช่างไม่นึกถึงวันที่เคยคบกันเลย .... ชีวิตที่อยู่ในช่วงขาลงผมก็ยังไม่รู้ว่าเกิดจากการมีส่วนในการทำแท้งนะ แต่ในใจก็นึกสงสัยตะหงิดๆ โดยไม่ทราบว่าจะหาคำตอบได้อย่างไร จนกระทั่งวันนึงเมื่อสองปีที่แล้ว ผมได้พบกับคนที่มีเซ้นท์เรื่องการมองเห็นวิญญาณ(น้าหมวย) เค้าบอกว่ามีเด็กร้องไห้เดินตามผมอยู่ ทั้งร้อนทั้งหนาว ทั้งหิวสารพัด ไม่มีแม้เสื้อผ้าจะสวมใส่ เขาฟ้องว่าผมให้เงินแม่เขาไปทำแท้ง  เด็กโกรธผมมาก แล้วแสดงภาพให้น้าหมวยดู ตอนหมอเถื่อนใช้เข็มฉีดยาจิ้มเข้าไปในตัวเค้า(ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจ)แล้วเดินยาเพื่อให้เขาตาย เขาฟ้องว่าเจ็บปวดทรมานมาก ผมได้ฟังแล้วน้ำตาซึมครับ ผมบอกเด็กโดยผ่านทาง น้าหมวย ว่าต้องการให้ผมทำบุญอะไรให้ ที่แรกเด็กยังไม่ยอมครับ ต้องใช้เวลาสื่อสารพอสมควรครับ เด็กถึงยอม โดยผมต้องทำสังฆทาน ซึ่งต้องมีชุดเสื้อผ้า รองเท้า ขนม ของเล่นเด็ก ประมาณนี้ครับ แล้วผมก็ทำบุญให้เด็กมาตลอด เวลาสวดมนต์เด็กบอกว่า พ่อตัวร้อนจัง อยู่ใกล้พ่อไม่ได้เลย ให้ผมถอดสร้อยพระออก ผมก็ทำตามนะ

ผมเข้าใจว่าเด็กยังมีบุญบารมีไม่พอจึงเข้าใกล้วัตถุมงคลบางอย่างไม่ได้ (ผมแขวนพระหลายองค์) ปัจจุบันนี้ทราบจากน้าหมวยว่า เด็กไปสบายแล้ว ส่วนนึงก็มาจากผมทำบุญให้บ่อยๆ ผมสร้างพระให้เด็กด้วย...เรื่องนี้ขอให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เด็กๆทั้งหลายที่กำลังอยู่ในวัยรุ่นวัยคะนอง หากพลาดพลั้งไป แก้ไขยาก และที่สำคัญทำให้ชีวิตถึงความวิบัติได้ ขอฝากเอาไว้ครับ