จะว่าไป ความรู้สึกช้าเนอะ

เค้าปิดกันไปตั้ง5ขุมแล้ว

ตัวเองเพิ่งจะเริ่ม...

โอ๊ย น่าละอาย เจงๆ

แล้วจะค่อยๆเข้ามารายงาน

และประจาณความเลว

ของตัวเองไปเรื่อยๆนะคะ 

แต่วันนี้ ขอกล่าวคำว่า

ราตรีสวัสดิ์ ก่อนนะคะ

พี่น้องชาวไทย

 ขออนุโมทนากับพี่ชนิดา ล่วงหน้านะครับ 

บาปกรรมที่ทำผิดศีลห้า

ศีลข้อที่หนึ่ง

กรรมที่ทำกับคน

- มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง โดยการไปร่วมนั่งเป็นกำลังใจให้รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยกินยาขับเลือด รวมถึงได้ให้กำลังใจน้องอีกสองคนที่มาเล่า ปรับทุกข์ หลังจากที่ได้ไปทำแท้งมาแล้ว ทั้งๆที่เค้าไปทำในสิ่งที่ผิดมหันต์มาแท้ๆแต่เรากลับไปให้กำลังใจเค้า

- เคยมีส่วนทำให้พ่อกับแม่ทะเลาะกัน ปรกติคุณพ่อจะใจเย็น ไม่เคยโมโหหรือโกรธให้ลูกๆเห็นเลย แต่ครั้งนั้นคุณพ่อโกรธมาก ที่คุณแม่มาบ่นว่าชนิดาเรื่อง หุงข้าวแฉะ ปรากฏว่า วันนั้น วงข้าวกระจาย จำได้แม่นเลย เพราะถือว่า แรงสุดๆ แล้ว

- เคยใช้เท้าเตะก้นสามีเล่นๆ และใช้เท้าเขี่ยก้นหลานสาวตัวเล็กๆ ให้หัวคะมำ เพราะตัวเองรู้สึกสนุก

- เคยดุและตีหลานสาว

- เคยแสดงอาการโกรธและตำหนิสามีอยู่บ่อยๆ เค้าทำอะไรให้ก็ไม่เคยพอใจ คิดแต่ว่า เค้าต้องทำอะไรเพื่อเรามากกว่านี้อีก..

- บังคับ ควบคุมความประพฤติสามีทุกๆอย่าง บ้าอำนาจชอบทำตัวเหนือกว่าสามี เพราะเห็นว่าเค้าอายุน้อยกว่า

- ขี้หึง ขี้เหนียว และ ขี้ใจน้อยมาก อีกทั้งเป็นคน โกรธง่าย เครียดเร็ว แต่ไม่รู้ตัวและไม่แสดงออก  

- เคยหักอกผู้ชายมาแล้วอย่างน้อย 2 คนคือ แฟนชาวญี่ปุ่น และแฟนคนไทย โดยเฉพาะแฟนคนไทย หักอกแบบตั้งใจ และไม่สนใจความรู้สึกเค้าเลยแม้แต่น้อย  รวมทั้งเคยพูดทำร้ายจิตใจเพื่อนผู้หญิงที่เคยมาชอบเรา แถมยังให้เค้ามาคอยดูแลทำโน่น ทำนี่ให้บ่อยๆ เช่น ล้างจาน และขับรถคอยรับ คอยส่งตลอด

- ชนิดาทำตัวขี้วีนกับแฟนคนไทย คนนั้นมากๆ จนเค้าเคยบอกว่า เค้ากลัวชนิดามากๆ กลัวจะโกรธ กลัวจะงอน และชนิดาก็ได้รับผลกรรมนั้น และเข้าใจแล้วว่ามันเป็นความรู้สึกอย่างไร เพราะบางครั้ง ความรู้สึกลึกๆชนิดาจะกลัวสามีจะโกรธ หรือ อารมณ์เสียมากๆ ทั้งๆที่จริงแล้ว ก็ไม่ได้”กลัวหรือเกรงใจ” เค้าขนาดนั้นเลย

- เคยหยอกล้อกับเพื่อนด้วยการ ตบไหล่ ตีหัวและเตะ

-         แม่ชีทศพร เคยบอกว่า ในอดีตชาติประมาณสมัยพระนารายณ์  ในฐานะเอกอัคราชทูตของอังกฤษ ชนิดาเคยทำร้ายร่างกาย เชลยศึกต่างชาติที่เราจับมาไว้ในเรือ แล้วก็ทรมานพวกเค้า ด้วยการกรีดและลอกเส้นเอ็นขาพวกเค้าออก ให้เจ็บปวดและ ทรมาน ตอนนี้ก็มีอาการปวดเมื่อยทั้งตัว โดยเฉพาะ หลัง เอว ขา เข่า

-         เป็นคนขี้รำคาญ รู้สึกหมั่นไส้ และคิดอิจฉาคนอื่นอยู่บ่อยๆ

กรรมที่ทำกับสัตว์

- มีส่วนฆ่า เพราะ เคยทานเนื้อสัตว์แทบจะทุกชนิดเป็นอาหาร เช่น กุ้ง ไก่ หอย ปู ปลา ปลาไหล อาหารทะเล วัว ควาย หมู กบ ตั๊กแตน  แมลงต่างๆ

- ถึงแม้ตัวเองจะทานมังสวิรัติมานานแล้ว แต่ทุกๆวันก็ยังส่งเสริมให้สามีผิดศีลอยู่ดี เพราะต้องทำอาหารจากเนื้อสัตว์ให้เค้าทานทุกวันและหลายๆครั้ง ก็ยังซื้ออาหารที่ทำจากสัตว์ไปฝากคนอื่นอยู่

- ฆ่ามดด้วยการใช้ไฟเผา และใช้น้ำราด

- ฆ่าแมลงสาบโดยใช้ยาฉีด

- ใช้ไม้ช็อตยุงอย่างเมามัน

- เอาไส้เดือนมาเล่นขายของ

- ไล่นกที่มาอาศัยให้ออกไปจากระเบียงคอนโดและปล่อยลูกนก ให้อยู่ตามยถากรรม โดยไม่ใส่ใจดูแล

- ตอนเด็กๆ ที่บ้านจะมีแมวจรจัด มาอาศัยที่บ้านเยอะมากๆ แต่พอออกลูกออกหลานเยอะๆ ที่บ้านก็จะนำไปปล่อยที่วัด และถึงแม้จะเลี้ยงดูให้อาหารแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจหรือให้ความรักต่อสัตว์เหล่านี้เลย

- มีส่วนทำให้งูเขียวหางไหม้ ถูกทำร้ายหรือถูกฆ่า เพราะเค้ามาหลบในตู้เสื้อผ้าของชนิดา แล้วชนิดาก็เป็นคนมาเจอ หลังจากนั้นก็มีคนมาช่วยจับ(ตาย)

- ได้รับการบอกกล่าวจากอาจารย์เมาท์ แห่งเว็บเขากะลาว่า หนึ่งในอดีตชาติ ชนิดาเคยใช้ผ้ารัดคอนกพิราบจนตายคาที่ (ด้วยความสนุก สะใจ) โดยที่เค้าไม่ทันได้ตั้งตัว

..................................

ผลกรรมที่ได้รับจากการผิดศีลข้อนี้ คือ มีโรคประจำตัว คือ โรคไทรอยด์ และผ่าตัดใหญ่มาแล้ว สองครั้ง  ซึ่งทุกครั้งที่ฟื้นจากการผ่าตัดจะทรมานมาก ทานอาหารเข้าไปแต่ละครั้ง ก็เหมือนมีมีดบาดลึกอยู่ในลำคอ

และการผ่าตัดครั้งที่สอง แผลติดเชื้อจนเป็นหนอง หมอต้องกรีดแผลสดๆ โดยไม่ฉีดยาชา อยากบอกว่า สุดยอดของความทรมานเลย รู้เลยว่า สัตว์ต่างๆเค้าทรมานแค่ไหน

มีอาการปวดเมื่อยแทบทุกส่วนของร่างกาย 

มีอาการคันที่หน้าแข้งบ่อยๆ เพราะผิวบริเวณนั้นจะแห้งที่สุด ซึ่งบางครั้งคันมาก แล้วก็เกา อย่างเมามัน ดังนั้น บริเวณนั้นจึงมีรอยคล้ำ ที่เป็นแผลจากการเกา

ซึ่งอาการนี้ น่าจะเป็นผลมาจากที่เราทำร้ายมด เพราะก่อนหน้านี้ ประมาณเกือบยี่สิบปีที่แล้ว อยู่ดีๆชนิดา ก็มีอาการคันคะเยอะทั้งตัว เป็นผื่นแดงๆ ทายาก็ไม่หาย เพราะเป็นแทบทั้งตัว พอได้รับกรรมอย่างสาสม สุดท้ายก็หายได้ง่ายๆ ด้วยการทา "ขมิ้น" สมุนไพรไทย นอกจากจะหายจากอาการคันแล้ว ยังได้ผิวสวยๆอีกด้วย

และหลายๆครั้งในชีวิต พอจะมีเรื่องอะไรดีๆเข้ามา ก็จะีมีเหตุการณ์ หรือ เหมือนมีอะไรมาตัดหน้า ทำให้เราไข้วเขวและไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิตอยู่บ่อยๆ

และหลังจากที่เคยหักอกคนอื่นมา ช่วงหลังๆมานี้ ชนิดาก็มีอาการคล้ายๆจะเป็นโรคหัวใจเลย เพราะรู้สึกขี้กลัว และ ขี้ตกใจมากๆ

ผิดศีลข้อที่2 ลักทรัพย์

- ยืมของเพื่อนแล้ว ไม่ยอมคืน เช่น ที่อบตัวด้วยสมุนไพร

- หยิบของคนอื่นไปใช้โดยไม่ขอ หรือ ไม่ยืมก่อน รวมทั้งกินของคนอื่นโดยไม่ขอก่อนบ่อยมากๆ

- ชอบกินของฟรี และ ชอบอยากได้ของฟรี

- เคยเอาของที่ทำงานไปใช้ที่บ้าน

- ไปทำงานสาย และแอบกลับก่อน ใช้โทรศัพท์ในเวลางาน เข้าห้องน้ำก็บ่อย

- ให้เพื่อนรูดบัตรแทน แต่ตัวเองก็ไปทำงานสายๆ

- ชอบเอาเปรียบเพื่อนๆ แต่เพื่อนๆก็ยัง”รัก”อีก ยิ่งทำให้เราได้ใจใหญ่เลย โดยเฉพาะมีเพื่อนทีทำงานเก่าคนนึง บ้านเค้าอยู่ ซอยอารีย์ แต่เค้าต้องขับรถมารับชนิดาที่แถว พระนั่งเกล้าฯ ทุกๆเช้า เพื่อไปทำงานที่ ไอบีซี ราชวัตร ซึ่งชนิดาไม่เคยช่วยออกค่าน้ำมันเลยมั้ง แถมเวลาที่เค้ามารับก็ไม่เคยเตรียมพร้อมเลย เค้าต้องมานั่งรอ เราแต่งตัวอีก.. แล้วก็ไม่เคยสำนึกเลย

- เคยไปช่วยน้องสาวดูแลกิจการร้านอาหาร ตอนที่เรียนอยู่อังกฤษ แต่ก็มีเหตุให้เลิกกิจการไป ซึ่งทำให้ไม่ได้ชำระค่าของที่สั่งจากร้านไทย งวดสุดท้าย แต่เขาก็ไม่เคยถามหรือทวงเลย

- น้องสาวเป็นหนี้สามีชนิดา(ตอนนั้นยังเป็นแค่แฟนกัน ยังไม่ได้แต่งงาน) และน้องสัญญาว่าจะผ่อนคืนให้เดือนละ 200 ปอนด์ แต่ก็จ่ายอยู่เพียงเดือนเดียว ส่วนชนิดาก็เคยบอกว่าจะช่วยจ่ายแทนให้ก็ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยจ่ายเลย จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน

- ชนิดาเขี้ยวกับสามีมากๆ โดยเฉพาะเรื่องเงิน คือ เรามีกฏว่า ถ้าชนิดาใช้เงินของตัวเองไปซื้ออะไรก็ตาม สามารถเอาบิลมาเบิกเงินคืนได้ ซึ่งชนิดาก็เบิกเงินคืนทุกบาททุกสตางค์ ไม่ว่าจะซื้อของเล็กๆน้อยๆ  

.....................................

ผลกรรมที่ได้รับจากการผิดศีลข้อนี้

ตอนเรียนอยู่ที่อังกฤษ มีคนเอาบัตรเครดิตของชนิดาไปใช้ รวมแล้วเป็นเงิน เกือบ5,000ปอนด์ ซึ่งกว่าจะรู้นานมาก เพราะเราย้ายที่อยู่ แต่ไม่ได้แจ้งเปลี่ยนที่อยู่กับ ธนาคารของบัตรเครดิตนี้

แต่หลายเดือนผ่านไป เจ้าหน้าที่ธนาคาร โทรมาที่ทำงานแจ้งยอดหนี้ที่ต้องชำระแล้ว ใจสั่นมากๆ เพราะชีวิตนี้ กลัวการเป็นหนี้ที่สุด และที่สำคัญจำได้ว่า ตัวเองใช้บัตรนี้ครั้งล่าสุด ซื้อเสื้อกันหนาว แค่ 45 ปอนด์เอง แต่ยอดมา ตั้ง สี่พันกว่าปอนด์ (ลมแทบจับ)

ตอนนั้นเกือบจะไม่ได้เรียนป.โท เพราะตัดสินใจ จะเอาเงินที่คุณพ่อโอนไปให้ค่าเรียนไปใช้หนี้เครดิตก่อน แต่สุดท้ายเพื่อนรุ่นพี่ก็ให้สติ บอกให้ไปผ่อนผันหนี้ แล้วก็ตั้งใจเรียนให้จบดีกว่า 

ถึงจะไม่ขัดสนเรื่องการเงิน มีกิน มีเก็บ มีใช้ แต่ก็ไม่สะดวกใช้เงิน เพราะผลพวงจากการที่ชนิดาเขี้ยวกับสามีมากๆ คุณสามี็ก็เขี้ยวกับชนิดาเหมือนกัน โอ้ววว..ชัดๆเต็มๆ 

นอกจากนี้ มีคนยืมตังค์แล้วไม่ใช้คืนบ่อยๆ หนึ่งในนั้นก็คือ น้องสาวของเราเอง ก็เลยทำใจแล้วว่า่ น่าจะไม่ได้คืน แน่ๆเลย

 อนุโมทนากับพี่ชนิดาด้วยนะคะ

อ่านแล้วเพลินมากๆ

และแทบทุกข้อที่เขียนรูสึกได้เลยว่า

ทำไมนิสัยเราช่างเหมือนกันจริงๆ 

รอคุณพี่มาเขียนต่อนะค๊า

และคิดว่าอีกไม่นานคุณน้องก็จะตามมา

สารภาพบ้างเหมือนกัน

กำลังรวบรวมข้อมูลหน่ะ อิอิ

อนุโมทนากับพี่ชนิดาด้วยนะคะ

อ่านแล้วเพลินมากๆ

และแทบทุกข้อที่เขียนรูสึกได้เลยว่า

ทำไมนิสัยเราช่างเหมือนกันจริงๆ

...........................................

ฮ่า ฮ่า ที่ว่า นิสัยที่เหมือนกันเนี่ย..

ดี...หรือ เลว... จ๊า

สงสัยจะข้อหลังมากกว่าเนอะ

.................

ว่าแล้วก็ รอติดตามผลงานบาป

จากคุณน้องเหมือนกัลล์...เน้อ

ไงก็อย่ารวบรวมผลงานนานมากนะจ๊ะ

เอาของเน่าๆมาอวดกันซะให้หมด

แล้วจะได้ทิ้งมันไป

ให้ไกลจากใจซักที

ว่าแล้วก็ ต่ออีกซักข้อ ดีฝ่า

ผิดศีลข้อที่ 3 กาเมฯ

- เคยคบกับสามีคนอื่น ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าเค้ามีภรรยาแล้ว แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้เค้าเข้ามาในชีวิต และคบกันอยู่ช่วงสั้นๆ

- นอกจากนี้ ยังมีแฟนคนอื่น มากุ๊กกิ๊กกับเราด้วย ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่า เค้าคิดกับเราแบบน้องหรือแบบไหนกันแน่ แต่มาชัวร์ ก็ตอนที่เค้าไปส่งที่บ้าน แล้วอยู่ดีๆ ก็มาหอมแก้มเราเฉยเลย เราก็ช็อคๆ งงๆ แต่ก็ ปกป้อง ตัวเองไม่ทันซะแล้ว  

- มีช่วงที่คบผู้ชายซ้อนสองคน คือดูใจคนใหม่ไปด้วย ก่อนที่จะบอกเลิกกับคนเก่า

- มีแฟนเป็นผู้ชายอยู่แล้ว แต่เมื่อมีเพื่อนผู้หญิงมาชอบ ก็ไม่ได้ปิดโอกาส ถึงแม้ว่าเรา จะคิดกับเค้าเป็นแค่เพื่อน แต่ก็รู้อยู่ว่า เค้ามีใจให้เราแบบชู้สาว ก็เก็บเธอไ้ว้ทั้งสองคน (แถมสองเพศอีกต่างหาก เฮ้อ...)

ซึ่งช่วงนั้นก็ ไปดูหนัง หรือไปไหนด้วยกันสามคนบ่อยๆ  ชนิดาก็ไม่เคยสนใจความรู้สึกของใครเลย แต่ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันไปหมดแล้วทุกๆคน   

-ก่อนแต่งงาน ได้ล่วงเกินผู้ชายมาแล้วทั้งหมด3คน

- อยู่กับสามีก่อนที่จะแต่งงานกัน และไม่ได้บอกให้คุณพ่อ คุณแม่ทราบตั้งแต่แรก

- ถึงแม้ว่าจะแต่งงานแล้ว แต่เมื่อก่อนก็ยังมีแอบกรี๊ด แอบมอง แอบชอบผู้ชายคนอื่นอยู่บ้าง

- ชอบพูดแซว พูดจีบคนไปทั่วทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ประมาณว่า หว่านเสน่ห์ ไปทั่ว

.................................

ผลกรรมที่ได้รับ

หลังจากที่ไปเป็นกิ๊กกับสามีชาวบ้านในช่วงสั้นๆ และวันหนึ่ง วันที่เราต้องรับผลกรรมก็มาถึง พอเหตุและปัจจัยเหมาะสม สามีเราก็ไปมีกิ๊กบ้าง

โอ้วว...ถ้าใครทำเช่นนี้อยู่ อยากจะบอกว่า หยุดเถอค่ะ เพราะมันเจ็บปวดมากๆ หัวใจแทบสลาย กินไ่ม่ได้ นอนไม่หลับ อยากจะร้องไห้ ก็ร้องไม่ออก บอกใครก็ไม่ได้ เพราะต้องการคิดแก้ปัญหา ด้วย"ปัญญา"ของตัวเองก่อน

เพราะถ้าปรึกษาคนอื่น เค้าอาจจะพูดเข้าข้างเรา จนทำให้เราคิดแก้ปัญหาแบบผิดๆก็ได้ 

เพราะเหตุการณ์นี้ ถึงแม้จะเลวร้าย แต่มันก็มีผลดีมากๆกับ ความสัมพันธ์ของเรา เพราะมันทำให้สามี พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เ้ค้าเคยอัดอั้น ตันใจ และเก็บไว้นานแสนนาน เพราะมีหลายๆอย่างที่เค้าไม่่ชอบในตัวเรา แต่ก็ไม่กล้าบอกตรงๆ เพราะกลัวจะทำร้ายจิตใจเรา แต่พอมันสะสมมากๆ ก็ทำให้เค้า ไม่อยากจะทน แต่กลับคิด มีคนใหม่แทน 

ตอนนั้นอยากจะบอกคุณพ่อ คุณแม่ ให้รู้ แต่ก็ยั้งใจไว้ก่อน เพราะถ้าสุดท้ายเรายังอยู่ด้วยกันอยู่ ก็กลัวว่า ทุกๆคนจะเกลียดสามี และไม่เอ็นดูสามีเหมือนเดิม คงจะไม่ดีแน่ๆ

แต่พอหนึ่งเดือนผ่านไป สามีเค้าก็รู้สึกผิดและคิดเลิกกับผู้หญิงคนนั้นเอง เพราะผู้หญิงคนนั้น พูดถึงชนิดาในทางที่ไม่ดี ไม่เคารพ และเหมือนไม่แคร์ความรู้สึกของชนิดา

ทั้งๆที่เค้ากับสามี ทำผิดต่อชนิดาแท้ๆ แต่ชนิดาไม่เคยพูดถึงเค้าในทางที่ไม่ดีเลย แต่ก็มีโกรธ มีโมโห มากๆ เหมือนกัน   

และตอนนั้น คงจะเป็นเพราะว่า ชนิดาคิดอยู่อย่างเดียวว่า ที่สามีไปมีกิ๊ก เป็นความผิดของชนิดาทั้งหมด จึง ตั้งใจว่า จะทำทุกอย่างให้ดี ที่สุด

ถ้าสุดท้ายจะต้องเลิกกัน ก็ต้องจบกันด้วยดี ตอนนั้นก็แอบแพลนแล้วว่า จะไปอยู่ไหนดี จะกลับไทย หรือ จะไปอยู่ อังกฤษ

ลึกๆ ก็เริ่มคิด เริ่มตื่นเต้นอยู่ว่า ชีวิตก็น่าจะมีสีสันมากกว่านี้ ก็ได้ แต่สุดท้าย ก็ยังอยู่ด้วยกันจ๊า

รู้ซึ้งแล้วว่า สร้างเหตุไว้เช่นไร ก็จะได้รับผลเช่นนั้น จริงๆ เพราะย้อนกลับมาแบบ เท่าๆกัน ไม่มีบิดพลิ้วเลย

ส่วนผู้หญิงคนนั้น หลังจากนั้นไม่นาน คุณแม่เค้าก็ป่วยหนักและ ตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง และสุดท้ายก็เสียชีวิตไปไม่กี่เดือนหลังจากนั้น

ทั้งๆที่เค้าได้รับผลกรรมแล้ว แต่ชนิดาก็ยัง"อภัย"ให้เค้าไม่ได้ซักที ตอนแรกก็เคยคิดว่า ตัวเองอภัยให้เค้าแล้ว แต่พอเมื่อวันศุกร์ที่ 13เม.ย. ที่ผ่านมา ไปเจอเค้าโดยบังเอิญที่ร้านอาหาร ความรู้สึกเดิมๆมันก็กลับมาหลอกหลอนอีก และคิดไม่ดีกับเค้ามากๆ

แต่ชนิดาก็ขอโทษเค้าในใจทุกครั้งที่มีความคิด ไปล่วงเกินเค้า รวมทั้ง หลายๆครั้งก็ยังพูดพาดพิงถึงเค้าบ่อยๆเหมือนกัน 

ซักวัน ชนิดาจะ"อภัย"ให้เค้าให้ได้...ค่ะ

ขอบคุณพี่ชนิดามากๆ ค่ะ

ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา 

เมื่อเสาร์ล่าสุด ตุ้ยเอง

เพิ่งพูดกับน้องเอิ้นว่า

น่าจะตั้งกระทู้สารภาพบาป

ขึ้นมาซะเลยเพราะน้องเอิั้้น

เขายังอยากจะเล่าบาปกรรม

ของเขาให้ละเอียดทุกซอกทุกมุมกว่านี้

ตัวเองก็สนับสนุนแบบเอาเลย

เด๋วพี่ไปเขียนด้วย ตอนสารภาพ

มีอีกเยอะที่ไม่ได้พูดเพราะมันตื่นเต้น

จนลืมบทหมดเลยค่ะ

เรียกว่าความชั่วของตัวเอง 

พูดภายในคืนเดียวไม่จบค่ะ

พี่ชนิดามาตั้งกระทู้ได้แบบให้ความรู้สึกว่า

ลูกบ้านสวนเรานี่มีโทรจิตถึงกันเน๊อะ

แค่คิดจิตก็ถึงกันแล้วอ่ะ

เดี๋ยวขอเรียบเรียงความชั่วตัวเอง

อีกสักนิดค่ะ แล้วจะเอามาแฉ

เอ๊ย มาเล่าเป็นธรรมทาน

แบบเจาะลึกเลยทีเดียว

อนุโมทนา

กับสำนึกดีของคุณชนิดา

จริงอย่างหนูตุ้ยว่า

น้องเอิ้น ยังมีธรรมทาน

ที่จะเป็นประโยขน์อีกมาก ว่างๆ

อ.อุบล จะมาคุยเรื่อง เอิ้น

ด้วยคนนะ

รู้ซึ้งแล้วว่า สร้างเหตุไว้เช่นไร ก็จะได้รับผลเช่นนั้น จริงๆ เพราะย้อนกลับมาแบบ เท่าๆกัน ไม่มีบิดพลิ้วเลย

อนุโมทนาบุญสำหรับธรรมทาน

ของพี่ชนิดาด้วยนะค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ....

น้องทรายก็คิดอยากจะสภาพบาปของตัวเองเหมือนกันค่ะ

รวบรวมยังงัยก็คงไม่หมดเพราะว่ามันเยอะมากค่ะ

(แต่จะไม่มีวันรวบรวมหมดหากน้องทรายยังไม่หยุดสร้างกรรม)

ยังงัยก็พยายามจะรวบรวมให้ได้ทุกเรื่อง

เพื่อเป็นธรรมทานให้กับคนอื่นนะค่ะ

ขออนูโมทนากับธรรมทานของพี่ชนิดาด้วยนะคะ

หนูก็เป็นอีกคนที่ปาบหนายังสารภาพไม่หมดยังค้างคาใจ

กรรมเยอะบัญชีนรกก็ไม่มีโอกาสไปปิดซักขุม

สงสัยต้องเร่มสำรวจกรรมตัวเองมาสารภาพบ้างค่ะ

ขอขอบคุณพี่ชนิดาด้วยนะคะที่เปิดกระทู้นี้

     ขออนุโมทนากับธรรมทานจากพี่ชนิดา ด้วยนะครับ ไว้จะรอติดตามอ่านธรรมทาน จากน้องหญิง พี่ตุ้ย และทุกๆท่านด้วยครับส่วนเรื่องของตัวเองต้องขอเรียบเรียง ซึ่งเสาร์นี้ คงเป็นการสารภาพบาป ภาค 2  เพราะท่านอาจารย์ได้เมตตา เกริ่นๆไว้ ซึ่งก็เหมาะพอดี กับการปิดขุม 6 อบายมุขเลยครับเพราะทำมาอย่างสุดๆ บางทีโลกเรามันก็มีอะไรหลายๆอย่างที่เราคาดไม่ถึงครับ

     การเล่าเรื่องบาปกรรมของตัวเองครั้งแรกๆ ก็กลัวนะครับแต่ตอนนี้รู้สึกว่า มันเหมือนเป็นการปลดปล่อย ทำำให้ใจเราสบาย และโล่งสุดๆ ครับ

โมทนากับธรรมทาน จากชีวิตจริงๆ

ของพี่ชนิดาด้วยนะคะ

อ่านแล้วเห็นภาพเลยนะคะ

ละเอียดทุกกรรม ประกอบกับตัวหนังสือใหญ่

อ่านง่ายไม่ต้องรีบอ่าน

เขียนวันละนิด เช็คเรทติ้งไปด้วยในตัว

ว่าแล้ว

ก็รอธรรมะชุดต่อไป 4  และ 5555

สาธุ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์

เป็นอย่างสูงค่ะ ที่เมตตาให้กำลังใจ

ในการทำความดีทุกๆครั้ง

ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม

หรือผ่านทางคำสอนต่างๆ

ที่ถ่ายทอดจากจิตที่บริสุทธิ์ของอาจารย์

อ่านข้อความของอาจารย์แล้ว

รู้สึกปลาบปลื้มดีใจ

และเป็นแรงบันดาลใจ

ที่ส่งเสริมให้ชนิดาคิดว่า

จะสู้จนกว่า จะถึงขั้น

"ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอย่างสูงสุด"ให้ได้

แหะ แหะ แต่ว่า อย่างน้อยตอนนี้

ยังอยู่ในขั้นมี"สำนึกดี"

ก็ถือว่า อยู่ในช่วงกำลังกลับลำ ค่ะ

แต่ถ้าช้ามากๆ อาจจะต้อง

"โค้งหักศอก"แน่ๆเลยค่ะ

...........................................

เห็นด้วยกับหนูตุ้ยนะ ที่ว่า

ลูกบ้านสวนฯส่วนใหญ่ เนี่ย

"จิตใจตรงกัน"บ่อยมั่กๆ

แล้วก็มีหลายๆเหตุการณ์เหมือนกัน

ที่ทำให้มั่นใจว่า มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

ฉะนั้น ส่งเสริมเต็มที่ให้น้องๆทุกคน

ทั้งน้องทราย ร่ายเรียงมาให้หมดเลย

เรื่องบาปกรรมเนี่ย มันจะยาวแค่ไหน

ถ้าตั้งใจจะเขียนจะเล่า ก็อย่าไปกั๊กนะจ๊า

รวมทั้ง น้องหญิง น้องเิ้อิ้น หนูตุ้ย

น้องมยุรฉัตร และ คุณวิ ด้วยนะคะ 

เพราะอาจจะมีหลายๆท่านกลัวว่า

มาเขียนแล้วจะไม่มีคนอ่าน

อาจจะไม่เกิดบุญธรรมทานก็ได้

ได้โปรดอย่าได้คิดเช่นนั้นค่ะ

เพราะวิธีการ"ปลดทุกข์"ด้วยการเขียน

ถึงบาปกรรมของตัวเองแบบนี้

คนแรกที่ได้รับประโยชน์

อย่างสูงสุดเลย ก็คือ ตัวเราเอง 

หลายๆท่านคงจะได้สัมผัส

กับความรู้สึกโล่งๆ โปร่งๆ ใจเบาสบาย

จากการทำเช่นนั้นมาแล้ว

แต่ชนิดาเพิ่งจะทราบ

ก็ตอนที่มานั่งคิด นั่งเขียน

และนั่งนึกถึงบาปกรรม

ของตัวเองอย่างละเอียด

ก็ตอนที่ สมัครเข้าค่ายครั้งที่11 นี้เอง

คือ พอเขียนจบตอนนั้น

รู้สึกโล่ง และรู้สึกสำนึกผิดต่อหลายๆคน

หลายๆอย่างและที่สำคัญ

รู้สึก"ผิด"ต่อสามีมากๆ

เพราะตอนที่ยังไม่เขียน

เราไม่เคยไปนั่งนึกถึงเลยว่า

เราเคยทำอะไรกับเค้าไว้บ้าง

โอ้วว..จำได้ว่าพอเขียนจบนะ

รู้สึกขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

อ.มงคลและคุณท็อปมาก

แล้วก็ไปยืนใกล้ๆสามี(ที่นอนหลับไปแล้ว)

แล้วพูดในใจเป็น ร้อยๆครั้ง ว่า

"ชั้นขอโทษ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

ฉะนั้น ถ้าตั้งใจทำความดี

ก็ทำทันทีเลยค่ะ และอย่า"หยุด"ทำ

สารภาพบาปรายวันเลยได้ยิ่งดี

เช่น วันนี้คิดไม่ดีกับคนนั้น คนนี้

ยังไง ก็ว่าไป  มีคนอ่านก็ดี

หรือไม่มีคนอ่าน ก็ไม่เป็นไร

เพราะคนที่ได้ก็คือเรา อยู่ดี ....

แต่ชนิดาน่ะชอบอ่านนะ

แต่บางครั้ง

อาจจะอ่านทีเดียวได้ไม่ทั้งหมด

ก็จะทะยอยๆอ่าน

แต่ด้วยเวลามีจำกัด

บางทีพลาดไปหลายกระทู้ก็บ่อย..

อนุโมทนาล่วงหน้ากับทุกๆท่านด้วยนะคะ

......................................

ว่าแต่การสารภาพบาป ภาคสอง

จากน้องเิอิ้น ก็น่าติดตาม ที่สุ๊ดดด...

เป็นกำลังใจให้เสมอนะ น้องเอิ้น

 ศีลข้อ1 ของตุ้ยนั้นยังมีอีกเยอะค่ะ

อนุโมทนาบุญสำหรับธรรมทานของพี่ต้ยด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

........

การผิดศีลข้อ 1

ของพี่ตุ้ยคล้ายกับของน้องทรายมาก ๆ เลยค่ะ

เพียงแต่ของน้องทรายมันมากกว่านั้นค่ะ เพราะตอนเรียนมหาวิทยาลัย

น้องทรายเองก็มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้งของเพื่อน ๆ

(เพื่อนที่ว่ามากว่า 1 คน)

คนแรกน้องทรายไม่ทราบว่าเขาได้ไปทำอะไรมา

แต่รู้อีกทีคือเขาทำไปแล้วค่ะ

ส่วนคนที่สองคือเพื่อนที่นอนห้องเดียวกัน

เรียนห้องเดียวกันสนิทกันมาก

ตอนนั้นพยายามบอกเขาว่าคิดให้ดีก่อนจะทำ

แต่ไม่วายก็ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

คือตอนที่เขาท้องเกิดอาการแพ้ท้องอย่างมาก

เราก็ต้องเป็นคนดูแลเขา

คอยหาข้าวหาน้ำให้ถึงแม้ว่าน้ำแก้วนั้นเขาเอามากันกับยาขับเลือด

และเคยไปเป็นเพื่อนเขาเพื่อติดต่อคลีนิคทำแท้ง

ถึงแม้วันนั้นไม่สามารถทำได้เนื่องจากหมอเรียกเก็บเงินราคาแพงมาก ๆ สำหรับนักศึกษาค่ะ

เลยมีคนอื่นติดต่อคลีนิคที่ปัตตานีให้เขาค่ะ

วันที่เขาไปทำแท้งเกิดเหตุการณ์วุ่นวายกันพอสมควรกันในวันนั้นค่ะ

1.คือประตูบ้านดันเปิดไม่ออกค่ะต่อให้ทำยังงัยก็เปิดไม่ได้จนต้องพังประตูบ้านค่ะถึงจะได้ออกไป 2.น้องทรายเป็นคนขับมอไซด์ฯไปส่งเขาในวันทำแท้ง แต่เจ้ากรรมขับได้ครึ่งทางมอไซด์ฯ ยางรั่วค่ะน้องทรายเลยส่งเขาได้แค่ครึ่งทางหลังจากนั้นเขาก็เดินไปเองค่ะ

แต่กระนั้นกรรมที่น้องทรายร่วมด้วยก็ไม่ได้หยุดแค่นี้นะค่ะเพราะเพื่อนคนที่ 3ก็พักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันทราบว่าเขาท้องแต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร ก็ไม่พ้นต้องร่วมกรรมกันอีกล่ะค่ะ เพราะวันที่เขาไปทำแท้งนั้นเขากลับมาที่บ้านพักที่น้องทรายได้อาศัยอยู่ด้วยกันค่ะ คืนวันนั้นน้องทรายไปกินน้ำชากับเพื่อน ๆ ที่เหลืออยู่อีก 6 คน (บ้านหลังนี้มีผู้หญิงอาศัยด้วยกันทั้งหมด 7คนค่ะ) ก็เจอเพื่อนที่ไปทำแท้งมาเลยถามว่าเขาเป็นงัยบ้าง เขาก็ตอบว่าไม่เป็นไร แต่สิ่งที่น้องทรายเห็นมันคือไม่ใช่เพราะเพื่อนน้องทรายคนนี้ปากซีดมาก เหมือนคนตกเลือดเลยค่ะ และมันก็จริง ๆ ด้วยในห้องน้ำเต็มไปด้วยเลือดเยอะมาก ๆ ก็ดูไม่ได้ล่ะค่ะงานนี้เลยจะเพื่อนคนนี้แต่งตัวและขับมอไซด์ไปส่งที่โรงพยาบาล คุณหมอบอกกับพวกเราว่าหากมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อยเขาคงต้องไปจากพวกเราเนื่องจากช๊อกเพราะร่างกายขาดเลือด

ยังไม่จบยังไม่หมดนะค่ะยังมีอีกขอรวบรวมก่อนค่ะ

เจอแล้วกระทู้สารภาพบาปและคำขอบคุณกำลังหาอยู่พอดี

ขอบคุณคุณชนิดานะคะที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

วันนี้ขอขอบคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

เทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

มีสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้า ท่านท้าวเวสสุวรรณ

หลวงพ่อฤษีลิงดำ หลวงพ่อปาน ฯลฯ

1. มื่อวานมองด้านข้างต้นอ้อเห็นขนตาล่าง

มันเด้งออกมาเป็นปกติไม่แทงเข้าลูกตา

เหมือนก่อนตาหายอักเสบหายบวมแดง

มหัศจรรย์จริง ๆ แต่ก่อนหมอจะผ่าตัดเปลือกตา

ให้ขนตาชี้ออก ตอนนี้หายแล้วจ้ะ

หายเพราะท่านอาจารย์ให้นำพีระมิดรุ่น

บวงสรวงท่านท้าวเวสสุวรรณวางไว้หัวนอน

ขอบารมีท่านให้ช่วยต้นอ้อได้ผลค่ะ

ขอบพระคุณเสด็จพ่อและท่านอาจารย์ค่ะ

2. เสก็ดแผลบนหัวต้นอ้อหายจนเกือบปกติ

ขอบารมีพระพุทธเจ้าใช้สบู่พาเมลาสระผม ฟอกตัว

ใส่เสื้อบ้านสวนฯนอน น้ำพีระมิดหยอดตา ทาหัวฯลฯ

3.นิสัยขี้วีนหายเป็นปลิดทิ้งค่ะ

อารมย์ดีมาก ร้องเพลงหงิงๆ พูดเพราะ ทานอาหาร

ได้หลายชนิด ชอบฟังเพลงของบ้านสวนที่สุด

4.วันนี้หมอนัดฉายแสงวันแรก

คอร์สนี้ให้ทำทั้งหมด 12 ครั้ง

ขอเลื่อนนัดไปอาทิตย์หน้าขอพาต้นอ้อ

ไปเวียนเทียนสวรรค์วันวิสาขบูชา

และพาไปพบคุณแม่ก่อนไม่เห็นเค้าว่าอะไร

จนท.บอกว่าไปทำใจก่อนเหรอ อนุญาติโดยดี

5.ตัวเองเป็นภูมิแ พ้มา 20 กว่าปี กินยาจนติด

ตอนนี้หายสนิทแล้วค่ะ

ขอบารมีพระพุทธเจ้าลูกขออุทิศบุญ

ที่ลูกทำมาทุกภพชาติและบุญที่ทำที่บ้านสวนฯ

ขอถวายบุญนี้แก่เทวดาที่รักตัวท่านอาจารย์อุบล

อาจารย์มงคล คุณท้อป  และเจ้ากรรมนายเวร

ของต้นอ้อและข้าพเจ้า ขอให้เจ้ากรรมนายเวรรับบุญ

และโปรดอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด สาธุ...

โอกาสหน้าจะมาสารภาพบาป เยอะค่ะ

อนุโมทนากับทุกๆปาฏิหาริย์

ที่เกิดขึ้นกับน้องต้นอ้อ

ด้วยนะคะ... คุณอัง

หวังว่าช่วงนี้ จิตใจของคุณแม่

คงจะชื่นมื่นและเข้มแข็งขึ้นแล้วนะค๊า

......................................

โอ้ววว...ส่วนหนูตุ้ย และ น้องทราย

แข่งกันสาธยายกรรม

กันใหญ่เลยนะเนี่ย

เห็นได้ชัดๆเลยนะคะว่า

แม้เพียงศีลข้อแรก ข้อเดียว

พวกเราก็มีเอี่ยวทั้งแบบตั้งใจ

และไม่ตั้งใจ ตั้งมากมายก่ายกองเลยทีเดียว

แค่เรื่อง"การทำแท้ง" เรื่องเดียว

ขนาดไม่ได้ทำเอง ก็ยังอุตส่าห์

ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ

อีกตั้งหลายคน

เฮ้อ เวรกรรม เจงๆ

จะว่าไป ชนิดาว่า เปิดกระทู้

สารภาพบาปของตัวเองเลย ดีไหมคะ

จะได้เป็นระเบียบด้วย

ทุกๆครั้งที่เข้า่ไปกระทู้ของตัวเอง

ก็จะได้อ่านและได้เห็นกรรม

ของตัวเองได้ชัดๆ

ว่าตนเคยทำอะไรกับใครไว้บ้าง

เพราะดูท่าทางแล้ว

แต่ละท่านจะมี เรื่องเหลา อีกยาวแหงมๆ อิอิ 

แต่ถ้ารู้สึกอุ่นใจ

หรือสะดวกใจที่จะเข้ามาเล่า

หรือเข้ามาเขียนใน กระทู้นี้ร่วมกัน

ก็ยินดีนะค๊า... อย่าได้เกรงใจค่ะ

อนุโมทนากับธรรมทานจากคุณอัง

หนูตุ้ย และน้องทรายด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผิดศีลข้อที่ 4 มุสาฯ

ศีลข้อนี้รู้สึกจะเป็นข้อที่ชนิดาทำผิดบ่อยและเป็นอัตโนมัติมากที่สุด  และคิดว่าตัวเองน่าจะสร้างกรรมทางคำพูดได้เก่งมาหลายภพหลายชาติแล้วแน่ๆเลยค่ะ

เพราะตัวเองเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องฟัน ปาก เสียงและคอ อยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่า น่าจะตั้งแต่เกิดเลยกระมัง เพราะตอนที่คุณแม่ท้องชนิดา คุณหมอที่ร.พ.ราชวิถี ก็แนะนำให้คุณแม่ทำแท้งเอาชนิดาออกจะดีกว่า เพราะคุณแม่เป็นไทรอยด์อย่างรุนแรง ฉะนั้น โอกาสที่ลูกจะออกมาปัญญาอ่อนหรือ ไม่ครบอาการ 32นั้นเป็นไปได้สูงมาก

แต่ด้วยเดชะบุญ โชคดีที่คุณแม่ไม่ยอมเอาออก ยอมเสี่ยงแล้วก็เตรียมพร้อมทำใจยอมรับ

แล้วก็โชคดีค่ะที่ชนิดา ออกมาปัญญา(หัว)แข็ง และ อวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ผลจากการที่คุณแม่ใช้ยาเยอะ ก็เลยส่งผลต่อกระดูกและฟัน เพราะฟันจะกร่อนเร็วและไม่สวยเลย..

กรรมทางคำพูด

- บ่นและว่าสามีเรื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่อยู่บ่อยๆ รวมถึงเรื่องที่เค้ามักจะเฉไฉไม่ยอมล้างจาน รวมทั้งชอบพูดให้สามีเสียความมั่นใจอยู่บ่อยๆ และเคยขึ้น F-wordกับสามีเกิน 20ครั้งได้ เวลาโมโหมากๆ

- พูดประชดสามี แล้วก็ไปพาดพิง ถึงกิ๊กของสามีอยู่บ่อยๆ เพื่อตอกย้ำให้เค้ารู้สึกผิด ซ้ำแล้วซ้ำอีก รวมทั้งเป็นการให้ร้าย ผู้หญิงคนนั้นอีกด้วยในตัว บาปสองต่อเลย

-เคยว่าน้องสาวแรงๆ เวลาเค้าทำตัวเกเร ถึงแม้จะไม่หยาบคาย แต่ก็น่าจะทำร้ายและทำลายความรู้สึกมากๆ

-เคยเขียนอีเมลไปว่า พี่ชาย เพื่อเตือนสติ แต่ก็น่าจะแรง เพราะพี่ชายก็เขียนกลับมาด้วยความไม่พอใจเหมือนกัน

- เคยพูดและแซวให้คนอื่นเสียความมั่นใจอยู่บ่อยๆ

- เคยเถียงพ่อกับแม่ และเคยคิดตำหนิคุณแม่ ที่ชอบบ่น และเคยด่าว่าแบบไร้เหตุผล

- เคยโกหก เพื่อนๆ เพื่อทำให้ตัวเองดูดีในหลายๆเรื่อง

- ปิดบังพ่อแม่ เรื่องที่อยู่กับสามีก่อนแต่งงาน

- โกหก หรือ ปิดบัง สามีเรื่องเงินอยู่บ่อยๆ เช่น เอาเงินไปลงทุน ก็บอกยอดน้อยกว่าจริง แล้วก็โดนโกงไป

- พูดจาเพ้อเจ้อ ไร้สาระบ่อยมากๆ

- ชอบพูดอวดรู้ อวดเก่ง ทั้งๆที่จริงๆแล้ว โง่ มากๆ

- เคยพูดจาประชดประชันสามี รวมทั้งคุณพ่อ คุณแม่ พี่ชายและน้องสาวด้วย

- เคยนินทา เรื่องดาราและคนดังๆบ่อยมากๆ แถมเป็นการเมาท์ เป็นอาชีพเลยก็ว่าได้ เพราะบางครั้ง บางข่าวที่เราเขียนอาจจะจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เราก็เขียน แล้วก็เอาไปเล่าต่อ แถมภาษาที่เขียน รวมทั้งคำถามที่ใช้สัมภาษณ์ ก็จะเป็นการแซว จิก กัด หรือ กดดัน วิพากษ์วิจารณ์ ซะเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งตอนนั้นทำไปด้วยความสะใจ ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของพวกเค้าเลย

แต่ชนิดาว่า นักข่าวบันเทิงรุ่นหลังๆนี้ "แรงส์กว่าชนิดาเย๊อะเลย"

- เคยนินทาเรื่องของสามีอย่างสนุกปาก ให้เพื่อนๆและคนที่บ้านฟัง

- นินทาเจ้านาย และเพื่อนร่วมงานบ่อยมากๆ

- พูดถึงน้องสาว และ พี่ชาย ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี กับคุณแม่อยู่บ่อยๆ

- เรียกได้ว่า มีส่วนร่วมในการนินทา คนทุกคน ที่ชนิดารู้จักเลยก็ว่าได้

- ชอบพูดแก้ตัวไว้ก่อน เวลาที่มีคนมาตักเตือน เพราะชนิดามักจะรู้สึกว่า คำพูดเหล่านั้น คือ การติเตียน จึงรู้สึกรำคาญ

ฉะนั้น จึงไม่เปิดใจยอมรับฟัง เพื่อนำมาแก้ไขความเลวของตัวเองเลย ยิ่งถ้าเป็นสามีด้วยแล้ว ชนิดาจะรีบสวนและกระแทกกลับทันที

- ตอนอยู่ที่อังกฤษ เคยใช้ศาสตร์การดูดวงแบบกราฟชีวิตไปทำนาย เพื่อนคนไทยและต่างชาติหลายๆคน รวมแล้วน่าจะเกิน 20 คนได้ ก็พูดไปตามความคิดความรู้สึก ซึ่งหลายๆคำพูดอาจจะไปทำลายความรู้สึกของผู้ฟัง และตอนนี้ทราบแล้วว่า การทำนายทายทัก เป็น บาป ใหญ่หลวงนัก

- พูดเรื่อง ธรรมะให้คุณแม่ฟังบ่อยๆ ซึ่งหลายๆครั้ง ก็ล้ำเส้น กลายเป็น สอนคุณแม่ ไปอีก และบางที พยายามพูดและผลักดันให้คุณแม่ ทำสมาธิ และใส่ใจในศีลมากขึ้น ไม่รู้ว่า พูดบ่อยจนคุณแม่ รู้สึกอึดอัดใจรึเปล่า

...................................................................

ผลกรรมที่ได้รับ

นอกจากจะมีปัญหาเรื่องปาก ฟัน คอ อยู่บ่อยๆแล้ว ผลกรรมใหญ่ที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ เสียง เพราะหลังจากผ่าตัดไทรอยด์ครั้งที่สองแล้ว ทำให้พูดได้ไม่ชัด ฉะฉาน และเส้นเสียงอีกเส้นนึงก็ไม่ทำงาน ทำให้เสียงเบา แต่ก็ยังพูดได้

แต่เมื่อปี 2008 คุณหมอตั้งใจจะซ่อมเส้นเสียงให้ โดยการฉีดสารบางอย่างไปกระตุ้น แต่ผลปรากฏว่า พอฟื้นขึ้นมารอบนี้ เสียงหายไปเลย ไม่มีเสียงเปล่งออกมาเลย ความรู้สึกตอนนั้น เหมือนตัวเองกลายเป็นคนพิการไปเลย

แต่พอเวลาผ่านไป ก็เริ่มมีเสียงกลับมา แต่ก็แหบๆหายๆ พล่าๆ เครือๆ และจะพูดแต่ละคำ แต่ละครั้งนั้น ก็เหนื่อยมากๆ

เวลาจะพูดกับใคร ก็มีแต่คนเกรงใจไม่อยากคุยด้วย เพราะเค้าอยากให้เรารักษาเสียง ยิ่งรู้สึกอึดอัด

ตั้งแต่บัดนั้น ก็เริ่ม คิดลบกับตัวเองอย่างจริงจัง เกลียดเสียงตัวเอง กลายเป็นปมด้อย แล้วก็ทำให้ พลังลบนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะเริ่มคิดไม่ดี และลามไปคิดลบกับคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ

เป็นทุกข์ จิตฟุ้งซ่าน

ขาดความมั่นใจ ไร้ความเชื่อถือ

พูดอะไร สามีก็ไม่ค่อยอยากจะฟังเลย ต้องพูดน้อยๆ สั้นๆ ให้ได้ใจความมากที่สุด

และหลายๆครั้ง คำพูดของเค้า(สาีมี)ก็ย้อนกลับมาแบบ ทำร้ายจิตใจเราเช่นกัน

เห็นผลสะท้อนกลับของแต่ละกรรมแล้ว จำจนขึ้นใจเลยค่ะว่า "สร้างเหตุไว้เช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น" สาธุ

 ขอบคุณทุกธรรมทานที่ได้อ่านค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

อนุโมทนากับคุณครู สุกันยา

ที่แวะเข้ามาอ่านเช่นกันค่ะ

ว่าแต่เมื่อไหร่ จะหาเวลา

แวะเข้ามาเขียน ให้พวกเรา

ได้ร่วมอนุโมทนาบ้างล่ะจ๊า

เห็นหายหน้า หายตา

จากเว็บไปพักใหญ่เลยนะคะ

.................................

อิอิ ส่วนคุณตุ้ย รีบๆเรียบเรียง

ความชั่วของตัวเองนะคะ

เพราะชนิดาก็กะว่า

ก่อนที่จะถึงวันเสาร์นี้

ชนิดาจะสารภาพให้ครบ

ถึง ศีลข้อ6 เพื่อให้ทัน

ปิดขุมนรกพร้อมกับ

พี่น้องท่านอื่นด้วยเลย

ว่าแต่ ที่เขียนๆไปเนี่ย

ยังไม่ได้เสี้ยวของบาปกรรม

ที่ทำมาเลยนะคะเนี่ย

แล้วจะค่อยๆเขียน ค่อยๆค้น

และ ค่อยๆทิ้งกรรม

ด้วยการ"หยุด" ทุกพฤติกรรม

ที่เห็นแล้วว่า เป็นบ่อนทำลาย

ความมั่นคงของจิตใจ...ไปเรื่อยๆค่ะ

ว่าแล้วก็ขอสารภาพบาปกรรมข้อต่อไป

ที่ชนิดาเคยทำผิดมาบ่อย

และยาวนานพอสมควร

ผิดศีลข้อ5 สุราฯ

-         เคยดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ และของมึนเมามาแล้วแทบจะทุกชนิด ตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ๆ 1993 จนถึงปี 2010 เพราะเพิ่งจะเลิกได้เด็ดขาดตอนที่รู้จัก บ้านสวนฯ นี่เอง

- เวลามีการเลี้ยงที่บ้าน ไม่ว่าจะ งานวันเกิดตัวเอง หรือสามี หรือวันสำคัญอื่นๆ ก็จะมีแอลกอฮอล์เลี้ยงแขกทุกทุ๊กงาน

-         ยุงยงส่งเสริมให้คนอื่นดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการ ขอชนแก้ว และรินแอลกอฮอล์ให้บ่อยๆ

- ดื่มยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมเป็นแอลกอฮอล์ แล้วก็ซื้อฝากคนอื่นๆด้วย

- เวลามีอาการอกหัก หรือ อยู่ในอารมณ์ hurt sad mad ก็จะชวนเพื่อนไปดื่มทุกครั้ง หรือแม้กระทั่งเวลามีความสุข ก็มีเหตุผลที่จะดื่มอีกเช่นกัน

- ซื้อของขวัญให้กับญาติของสามี ในเทศกาลต่างๆ เป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ บรั่นดี และว็อดก้า บ่อยมากๆ

- แม้ช่วงหลังๆ ชนิดาจะเลิกดื่มแล้ว แต่บางครั้งเวลาไปงานปาร์ตี้ ที่มีคนเยอะๆ ชนิดาก็จะตัดความรำคาญ ด้วยการรับแก้วแชมเปญมาเพื่อชนแก้วอวยพรเจ้าของงานอยู่บ่อยๆ แล้วก็ แกล้งจิบ แต่การแกล้งจิบนี้แหล่ะ ทรมานมากๆ เพราะออกอาการปวดร้อนและแสบท้องมากๆ

-         ช่วยออกเงินบางส่วน ให้น้องสาวเปิดร้าน มินิมาร์ท ซึ่งในร้านก็ขายเหล้า เบียร์ บุหรี่

   ถึงแม้ตอนนี้จะพยายามขอร้องให้น้องสาวเลิกขายสิ่งเหล่านี้ แต่เค้าก็ไม่ยอมเลิก ซึ่งจากผลกรรมตรงนี้ น่าจะส่งผลให้ คนใกล้ตัวชนิดาอย่าง สามี ที่จากเดิมไม่ได้สูบบุหรี่เป็นประจำ แต่หลังจากนั้น เค้าก็เริ่มสูบบ่อยมากขึ้น เรียกได้ว่า สูบๆหยุดๆ ทั้งๆที่บอกจะเลิกตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ก็เลิกไม่ได้ซักที

-         เคยเล่นไพ่ เล่นหวยใต้ดิน ซื้อล็อตเตอรี่ ซื้อสลากออมสิน

-         คุณแม่เคยขายหวยส่งเจ้ามือใหญ่ ชนิดาจึงมีโอากาสได้ช่วยขายบ้าง บางครั้ง

-         ที่ร้านขายยา ขายเข็มฉีดยา ซึ่งบางครั้งก็ไม่แน่ใจว่า ลูกค้าที่มาซื้อเข็มนั้น เค้าเอาไปใช้ในการเสพยาหรือไม่

- เคยลองสูบบุหรี่ 1 ครั้ง

..........................................

ผลกรรมที่ได้รับ

กลายเป็นคนขี้ลืม คิดช้า ขี้หงุดหงิด ไร้ไหวพริบในการทำงาน

เสียงแหบหาย คอแห้งตลอดเวลา เหมือนกับว่า ชีวิตที่ผ่านมากลืนน้ำทองแดงมามาก จนทำลายคอไปหมดแล้ว

 ศีลข้อ 1 ต่อค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้

พี่สรจะมาประจาญความชั่วตัวเอง

ด้วยคนค่ะ

พยายามลดชั่วทำดีให้มาก ๆ

กลัวนรกค่ะ คุณน้องนิดา เพราะ

ตอนนี้ก็ตกนรกอยู่แล้วไม่ต้องรอตายค่ะ

เชิญเลยจ๊าพี่สร เราต้องใช้

ความสามารถพิเศษที่เรามี

นำมาใช้ ให้เป็นทางบุญค่ะ

แหม่..ก็เมื่อก่อน"นินทา"คนอื่น

ซะปากมันเลย ตอนนี้ก็หันมานั่ง

นินทาตัวเองอย่างเป็นจริงเป็นจัง

ดีกว่านะคะ ได้บุญด้วย

กระทู้นี้เป็น กระทู้รวมพล

คนชอบนินทาตัวเอง ค่ะ

ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ก็เชิญได้ทุกเมื่อนะคะ

อนุโมทนากับหนูตุ้ยและน้องทรายด้วยนะคะ

อ่านแล้วก็ทำให้ชนิดานึกขึ้นมาได้อีก

เรื่องผิดศีลข้อที่หนึ่ง เพราะตัวเอง

ก็เป็นมือวางอันดับหนึ่งในการ

ตีแมลงวันเหมือนกัน เห็นแว๊บเข้ามา

ในบ้านไม่ได้เลยเชียว

ส่วนเรื่องหมัดๆเห็บๆ

ไม่เคยหาเองนะคะถ้าจำไม่ผิด

แต่ช่วยเอาแก้วไปใส่น้ำ

ให้คนอื่นที่กำลังจะหาเห็บ

หาหมัดให้หมา

ประมาณส่งเสริมการฆ่าอีกแล้ว

แล้วก็เคยพาลูกหมาไปร้านหมอสัตว์

ให้คุณหมอจัดการฆ่า

หมัดและเห็บเหมือนกัน บาปเต็มๆเลย

ว่าแล้วชนิดาก็เดินหน้าสารภาพต่อนะคะ

บาปกรรมที่เคยเกี่ยวข้อง

กับอบายมุขทั้งปวง (นรกขุมที่ 6)

 - เคยเล่นไพ่กับเพื่อนๆ และ ญาติๆ ทั้งกินตังค์และไม่กินตังค์

- คุณแม่ชอบเล่นไพ่มาก แล้วก็ตั้งวงเล่นไพ่ที่บ้านบ่อยๆ ลูกๆก็ไปนั่งเกาะแกะแถวนั้นแหล่ะ แล้วก็ลุ้นให้คุณแม่ได้ ไม่เสียตังค์

 - เคยเล่นหวยหลายครั้ง น่าจะเกิน 20 ครั้ง

 - เคยซื้อล็อตเตอรี่ รวมแล้วน่าจะเกิน 50 ครั้ง

 - ช่วยคุณแม่ขายหวย และบางทีก็มีคนฝากเราซื้อหวยกับคุณแม่บ่อยๆ

 - หลายๆครั้งก็บอกให้คุณแม่หรือคนอื่นๆซื้อหวย ตัวที่เราฝันหรือคิดว่าจะ"ออก"

 - เคยเข้าไปใน คาสิโน สองครั้ง แต่ไม่ได้เล่น โชคดีที่ไม่ีมีผีพนันโดดเกาะหลังมาด้วย

 - ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

 - เที่ยวกลางคืน เที่ยว ผับ บาร์ ดิสโก้เธค สวนอาหาร เป็นประจำตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีสองจนถึงปัจจุบัน เพราะบางครั้งก็ยังไปกับสามีอยู่บ้าง ถึงจะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ก็ตาม

 - ทำตัวเป็นมิตรชั่ว ชักชวนเพื่อนๆ ญาติๆไปเที่ยวกลางคืนบ่อยๆ

 - ชอบดูหนัง ดูละคร และรายการทีวีเป็นประจำ ยิ่งเมื่อก่อนนอกจากจะ"ดู"แล้ว ยังเป็นผู้ผลิตให้คนอื่นๆดูด้วย รายการที่ทำก็มีสาระบ้าง ไร้สาระมากหน่อย 

- เกียจคร้าน นอนดึก ตื่นสาย ช่วยงานสามีไม่เต็มที่ ดูแลบ้านได้ไม่ดีพอ

น่าจะยังมีอีกนะคะ แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออก

...........................................

ผลกรรมที่ได้รับ

 ทำให้เสียเวลาเกือบค่อนชีวิต ไปกับเรื่องไร้สาระ ที่ไม่ก่อเกิด"ปัญญา"เลย แถมยังจะสร้าง"ปัญหา" มากมายให้กับตัวเองอีก

ทำให้เสียทรัพย์มากมายไปกับการใช้จ่ายในการเล่นหวย เที่ยวกลางคืน ดื่มแอลกอฮอล์

“ลูกขอ บารมีพระพุทธเจ้า ขอเบิกบุญ ศีล ทาน ภาวนา ที่ข้าพเจ้าทำมาทุกภพ ทุกชาติ จนถึงชาติปัจจุบัน ตลอดจนบุญทุกบุญที่มาทำในบ้านสวนพีระมิด ขออุทิศให้กับสรรพสัตว์ที่ข้าพเจ้าเคยฆ่า เคยเบียดเบียน ด้วยความโง่ ด้วยความไม่รู้

บัดนี้ข้าพเจ้าสำนึกแล้ว และขออุทิศบุญนี้ให้ท่าน ขอให้จิตวิญญานทั้งหลายของสรรพสัตว์ จงอนุโมทนารับบุญกุศลของข้าพเจ้า จงขึ้นไปเสวยสุขบนภพภูมิที่สุขยิ่งขึ้นและสูงยิ่งขึ้น

ข้าพเจ้าได้บอกเล่าเรื่องราวที่ข้าพเจ้าเคยผิดพลาดเป็นธรรมทานให้ผู้คนทั้งหลายรับรู้ และหยุดยั้งการประกอบกรรมเลิกเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ทั้งคน สัตว์และทุกสรรพสิ่งอีกต่อไป

ข้าพเจ้าขอดำรงตนเป็นแบบอย่างของคนไทยที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น จะรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ขอเป็นพระโสดาบันเพื่อปิดประตูนรกทุกขุม จากนี้เป็นต้นไป ”

สาธุ สาธุ สาธุ

(ขอบคุณ น้องครองขวัญ ที่เขียนคำอุทิศบุญในแบบฉบับท่านอ.อุบล ให้อย่างละเอียด ในกระทู้ วันนี้ใครดูรายการคุยไป แจกไปบ้าง)

“ลูกขอ บารมีพระพุทธเจ้า ขอเบิกบุญ ศีล ทาน ภาวนา ที่ข้าพเจ้าทำมาทุกภพ ทุกชาติ จนถึงชาติปัจจุบัน ตลอดจนบุญทุกบุญที่มาทำในบ้านสวนพีระมิด ขออุทิศให้กับสรรพสัตว์ที่ข้าพเจ้าเคยฆ่า เคยเบียดเบียน ด้วยความโง่ ด้วยความไม่รู้

บัดนี้ข้าพเจ้าสำนึกแล้ว และขออุทิศบุญนี้ให้ท่าน ขอให้จิตวิญญานทั้งหลายของสรรพสัตว์ จงอนุโมทนารับบุญกุศลของข้าพเจ้า จงขึ้นไปเสวยสุขบนภพภูมิที่สุขยิ่งขึ้นและสูงยิ่งขึ้น

ข้าพเจ้าได้บอกเล่าเรื่องราวที่ข้าพเจ้าเคยผิดพลาดเป็นธรรมทานให้ผู้คนทั้งหลายรับรู้ และหยุดยั้งการประกอบกรรมเลิกเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ทั้งคน สัตว์และทุกสรรพสิ่งอีกต่อไป

ข้าพเจ้าขอดำรงตนเป็นแบบอย่างของคนไทยที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น จะรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ขอเป็นพระโสดาบันเพื่อปิดประตูนรกทุกขุม จากนี้เป็นต้นไป ”

สาธุ สาธุ สาธุ

 (ขอบคุณ น้องครองขวัญ ที่เขียนคำอุทิศบุญในแบบฉบับท่านอ.อุบล ให้อย่างละเอียด ในกระทู้ วันนี้ใครดูรายการคุยไป แจกไปบ้าง)

ขอcopyข้อความจากด้านในของพี่ชนิดานะค่ะ

เมื่อวานนี้ ที่บ้านจัดงานเลี้ยงสังสรร

ชนิดาทำอาหารมังฯให้ทาน

แต่คุณสามีนั้นรับรอง

เลี้ยงดูเพื่อนๆ ด้วย"สุรา"อีกแล้ว

ตามธรรมเนียม

หนีไม่พ้นซักที 

ลูก นางสาว ชนิดา เชิงสะอาด ขอกราบขอขมา สมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา พร้อมองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านพระยายมราช ท้าวมหาราชทั้งสี่ องค์เทพสฟริงซ์ ท่านอ.อุบล อ.มงคล และคุณท็อป ถ้าลูกเคยมีความคิดไปปรามาสล่วงเกินทุกๆพระองค์ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนาก็ดี ได้โปรดเมตตาอดโทษให้ลูกด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

และลูกกราบขอขมาทุกๆคนที่ลูกเคยมีความคิดไปล่วงเกิน ทั้งที่เคยรู้สึกน้อยใจ อิจฉา ริษยา ตำหนิติเตียน ไม่พอใจ และความคิดที่ไม่ดีทั้งหมดทั้งมวลต่อทุกๆคน

รวมถึงทุกๆคนที่ลูกเคยพูดทำร้ายจิตใจ กระแทกแดกดัน กดดัน วิพากษ์วิจารณ์ โต้เถียง สั่งสอน พูดจาไม่สุภาพ โกหกหลอกลวง ทำนายทายทัก เพ้อเจ้อ ทุกๆคนที่ลูกเคยนินทา ล้อเลียนเสียๆหายๆ  ลูกขอขมากรรมกับทุกๆท่านที่ลูกเคยล่วงเกินด้วยความคิดและคำพูดจากทุกภพทุกชาติด้วยเถิด

และกราบขอขมาทุกๆคน ทุกๆชีวิต ทุกจิตวิญญาณ ที่ลูกเคยทำร้ายเบียดเบียนชีวิตทั้งคนและสัตว์ ทุกๆคนที่ลูกเคยหักอก ไม่แยแสใส่ใจในความรู้สึก ทุกๆคนที่่ลูกเคยกินแรง เอาเปรียบ ทำให้เสียทรัพย์ ไม่ใช้หนี้

ขอขมาภรรยาและลูกของคนที่ชนิดาไปเป็นกิ๊กด้วย ขอขมาทุกๆคนที่ลูกเคยชวนไปเที่ยวกลางคืน ไปดื่มแอลกอฮอล์ และทุกๆคนที่มาอุดหนุนซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ที่ร้านของน้องสาวชนิดา

รวมถึงทุกๆคนที่ลูกเคยชวนเล่นไพ่ ส่งเสริมให้เล่นหวย  ลูกขอขมากับทุกๆท่านที่่ลูกเคยล่วงเกินด้วย"การกระทำ" จากทุกภพทุกชาติด้วยเถิด

บัดนี้ลูกได้"สำนึกในความผิด"ของตนทั้งหมดแล้ว และจะไม่กระทำผิด"เยี่ยงนี้"อีกแล้ว

ลูกขอกราบอาราธนาบารมีพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทุกๆพระองค์ได้โปรดเมตตา บันดาลบุญที่ลูกสั่งสมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งทาน ศีล ภาวนา และขอให้บุญรวมตัวกับทุกๆบุญที่ลูกทำกับบ้านสวนพีระมิด ทั้งปัจจัย แรงกาย และบุญที่เกิดจากทุกๆธรรมทาน

ขอถวายบุญนี้แด่ สมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา พร้อมองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านพระยายมราช(ลุงพุฒิ) ท้าวมหาราชทั้งสี่ ท่านมเหสักขา ท่านดตาจินิน มนุษย์ต่างดาว องค์เทพสฟริงซ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ในสากลจักรวาลนี้

พระอาจารย์รัตน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และบรมวงศานุวงศ์ทุกๆพระองค์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ท่านอ.อุบล อ.มงคล และคุณท็อป

เทวดาผู้รักษาทุกๆคนที่ลูกเคยล่วงเกินทั้งทางความคิด คำพูดและการกระทำ ขอให้ทุกๆท่านได้โปรดอนุโมทนารับบุญจากลูกด้วยเถิด

และขอบุญนี้จงถึงแก่ทุกๆจิตวิญญาณที่ลูกเคยล่วงเกินทั้งความคิด คำพูดและการกระทำในทุกภพทุกชาติที่ผ่านมาด้วยเถิด ขอให้ท่านได้โปรดอนุโมทนารับบุญ และขอบุญนี้ หนุนนำให้ท่านไปสู่ภพภูมิที่สุขและสูงยิ่งขึ้นด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

คำขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

1.วันนี้มีโอกาสได้คุยโทรศัพท์กับน้องสาว อยู่ดีๆเค้าก็บอกว่า อาจจะเลิกกิจการ"มินิมาร์ท" เร็วๆนี้แล้วนะ ชนิดาก็ฟังๆ งงๆอยู่ น้องก็รีบพูดออกมาทันทีว่า ก็ตัวเองอยากให้เค้าเลิกขายตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ...

โอ้ววว... ไม่คาดคิดมาก่อนเลย เพราะไม่คิดว่าเค้าจะเลิกได้ เพราะกิจการก็ค่อนข้างดี แต่สุดท้ายเค้าก็มีทางออก ไปทำ"กิจการ"อย่างอื่นที่ดีกว่า(บาปน้อยกว่า) 

ชนิดาคิดว่า การเข้ามาสารภาพบาปทั้งหมดนี้อีกครั้งในเว็บบอร์ดนี้ ส่งผลให้"น้องสาว"ชนิดา มีความคิดที่เปลี่ยนไปในทันที และมีทางออกให้กับสิ่งที่ชนิดา รู้สึกผิดมากๆด้วย

เพราะจะว่าไป"กิจการนี้" ต่างก็ทำให้ทุกๆคนในครอบครัว ต้องมีส่วนร่วมในบาปนี้ตลอดเวลา

เพราะเงินที่นำมาลงทุนส่วนหนึ่งก็มาจากคุณพ่อ คุณแม่ด้วย

โดยเฉพาะ คุณพ่อนั้น ถึงแม้จะเกษียณแล้ว แต่ก็ต้องมาเหนื่อย คอยไปช่วยซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่มาให้น้องสาวอยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่าโดยรวมแล้ว ถ้าทำต่อไป ก็มีแต่บาปกับบาป

2. เมื่อเดือนที่แล้ว ได้คุยโทรศัพท์กับคุณแมว คุณแมวบอกว่า เสียงชนิดาใสขึ้นเยอะเลยค่ะ คือตัวชนิดาเองก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ คือเวลาที่ทำบุญมากๆ เสียงจะดี และพูดได้ชัดถ้อยชัดคำ แต่ถ้าบางที ที่มีโมโห หรือกำลังจะนินทา หรือกำลังจะพูดที่ออกจะเป็นการสอน คุณแม่ เสียงก็จะเครือขึ้นมาทันที

แต่ที่แน่ๆ อาการที่เป็นอยู่นี้ ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนมากๆเลยทีเดียว

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์แห่งบ้านสวนฯ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอ.อุบล อ.มงคลและคุณท็อป ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

วันนี้ขอนำคำสารภาพบาปของ

นาง ลำจวน โฉมจันทร์

ขออนุโมทนาบุญธรรมทานของ

น้องนางงามตุ้ย(นุ้ย)สวมมงกุฏบ่งบอกค่ะ)

และน้องนิดาด้วยค่ะ

ขอเริ่มสารภาพความชั่วตัวเองเลยนะคะ

...........................................

ศีลข้อ 1.ฮิตมาก ทำแท้ง 2 ครั้ง ทำร้านอาหาร สั่งฆ่าปลา

ปลาดุก ปลาช่อน กุ้ง ทุกวันที่ไม่ปิดร้าน ส่งเสริมการฆ่า

หมู ไก่ ฆ่าสัตว์ตัวน้อย มด แมลง ขับรถเหยียบก็มีเยอะ

ศีลข้อ 2.     ลักขโมยเงินคุณแม่แจกเพื่อน ตอนเด็ก พออายุ

ยี่สิบกว่า ๆ นั่งกรรมฐานมือหงิกแก้ไม่ออก จนพระอาจารย์

บอกว่าไปทำอะไรมาโยม มานึกได้ตอนหลังอาย

พระอาจารย์มาก แล้วท่านบอกวิธีคลายมือหงิก+ตัดกรรม

คือไม่ผิดศีลอีก  ชอบของฟรี สนุกกับเพื่อนๆขโมยของกิน

ศีลข้อ3.       เป็นเมียน้อย(ทำชั่วไม่มีสิทธิ์ใช้คำว่าภรรยา)

ข้าราชการท่านนึง 9 ปี แม้พยายามสงบเสงี่ยมอย่างไร

ไฟก็สุมเต็มอก  จึงขอดับที่เหตุคือ  ดับราคะกำหนัด

ขออาราธพระบารมีสมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

และถวายบุญต่อเทวดาท่านอาจารย์ทั้งสอง โปรดระงับ

ความผิดศีลข้อ 3 ด้วยเทอญ  

 แม้แก่จะเข้าโลง หน้าตาซีดโทรม  แม้อัปลักษณ์

หรือเลิกคนนี้อาจผิดใหม่อีก  เพราะคนที่มีจิต

เป็นสัตว์นรกขุม3 บนโลกมนุษย์นี้มากมาย 

ถ้าดับตัณหาราคะไม่ได้ ก็เป็นทุกข์อยู่ร่ำไป

 แม้ยังทำได้ไม่สะอาดแต่ก็ชนะใจตนเองแบบไม่

คิดว่าชาตินี้จะทำได้ เป็นเพราะบารมีของท่าน

อาจารย์ทั้งสองและเทวดาประจำกายของท่านทุก

พระองค์ที่เมตตา

ตอนนี้พี่สรพบความสงบร่มเย็นขึ้นแล้ว ผล

ของการดับที่เหตุ

ศีลข้อ 4.  ร้ายมาก  ใส่ร้ายป้ายสี  ปลิ้นปล้อน ตอแหล

เขียนบิลบิดเบือนความจริงโกงชาติ บอกคุณแม่กรวด

น้ำคว่ำขันกับคุณพ่อ โมโหร้ายปากร้าย  

ศีลข้อ 5.  ก่อนนี้ทำร้านอาหาร สั่งเหล้า-เบียร์มาขาย  

เคยจิบๆ กับลูกค้าในร้าน  และเพื่อน ๆ

เลี้ยงสุราตอบแทนน้ำใจเมื่อผู้อื่นช่วยทำงานในแปลง

ผักไฮโดรโปรนิกส์

........................................................................................

การที่ลูกไม่เชื่อฟังและผิดศีลห้าทุกข้อ

กราบขอขมาต่อ

สมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

และพระพุทธเจ้าทุกพระองค์และขออาราธนา

พระบารมีโปรดระงับความคิดชั่วที่ทำให้

ผิดศีล ห้า ด้วยเทอญ

ต่อไปลูกจะรักษาศีลห้าและกาย วาจา ใจ

ขอทำแต่คุณงามความดี

ถวายต่อท่านอาจารย์อุบลและ

เทวดาประจำกายของท่านอาจารย์อุบล

ท่านอาจารย์มงคลและคุณท๊อปทั้งหมดเจ้าค่ะ

สาธุ

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากคุณแม่ ลำจวน โฉมจันทร์

ที่ถ่ายทอดผ่านคุณลูกหัวดื้อ

ที่ชื่อตุ้ย ด้วยนะค๊า

ยิ่งอ่านมาถึงคำฝากส่งท้าย

ถึงลูกๆทุกคนแล้ว "จุก" เลย

เพราะคำพูดจากใจคุณแม่

คมบาดใจ คุณลูกทุกคน เต็มๆ

..............................

อนุโมทนากับพี่สร ด้วยนะคะ

มาสั้น กระชับ แต่"ชัด"ทุกข้อ

เพราะแสดงให้เห็นว่า "คนสารภาพ"

ตระหนักเป็นอย่างดี

ในความผิดของตน และผลที่ได้รับ

..........................

ขอให้พวกเรา ลืมความมืด

และเดินร่วมเส้นทางสว่าง ไปด้วยกัน

จนถึงจุดหมายนะคะ สาธุ

ขออนุโมทนา กับธรรมทาน

ของทุกท่านนะครับ

จะทยอยๆอ่านครับ

..............................................

เพราะอาจจะมีหลายๆท่านกลัวว่า

มาเขียนแล้วจะไม่มีคนอ่าน

อาจจะไม่เกิดบุญธรรมทานก็ได้

ได้โปรดอย่าได้คิดเช่นนั้นค่ะ

เพราะวิธีการ"ปลดทุกข์"ด้วยการเขียน

ถึงบาปกรรมของตัวเองแบบนี้

คนแรกที่ได้รับประโยชน์

อย่างสูงสุดเลย ก็คือ ตัวเราเอง 

หลายๆท่านคงจะได้สัมผัส

กับความรู้สึกโล่งๆ โปร่งๆ ใจเบาสบาย

จากการทำเช่นนั้นมาแล้ว

.....................................................

ขอยืนยันว่า

ถ้าเราได้พูดได้ระบายออกมา

เหมือนกับว่า

เราได้ชำระสิ่งสกปรก

ที่ติดอยู่ในใจ

ให้หลุดออกไปให้หมด

เรื่องราวที่คาอยู่ใจ

หลายสิบปี

แค่ได้พูด ให้คนอื่นฟัง

กลับหายไปในขณะนั้นเลย

จิตใจเราก็จะใสสะอาด

โล่ง สบาย

สุข ๆๆๆๆ ใจ

....................................

ขออนุโมทนา กับธรรมทาน ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

กราบ กราบ กราบ

ขอโมทนากับธรรมทานของทุกๆ ท่านนะครับ

ส่วนตัวผมเองเคยทำชั่วละเมิดศีลมาทุกๆ ข้อเลยครับ

ก่อนนั้นพอคิดถึงความชั่วที่ตนเองเคยทำก็จะทุกข์ใจมากๆ

จิตตก เศร้าหมอง นึกถึงแต่กรรมชั่วของตนเอง

คือถ้าตายตอนนั้นก็พุ่งหลาวลงนรกแน่เลย ทุกข์ใจมากๆ

จนได้ธรรมะของพระพุทธองค์นี้แหละครับเป็นที่พึ่ง

จากครูบา อาจารย์ ถ่ายทอดสืบๆ กันมา

โดนใจที่สุดก็ แนวของหลวงพ่อฤาษีครับ

ธรรมะของพระพุทธองค์ โดยหลวงพ่อบอกว่า

ให้ละความชั่ว ทำความดี ทำจิตให้บริสุทธิ์

สิ่งที่ทำชั่วผ่านมาแล้วไม่ต้องตามนึกถึง

ขึ้นชื่อว่าความชั่วเราจะไม่ทำอีกเลย

ปฎิบัติอยู่ในกรอบของ ทาน ศีล ภาวนา

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังข้ามพ้นบ่วงกรรม

และทุกท่านที่ข้ามพ้นสิ่งกีดขวางได้แล้ว

ขอโมทนากับทุกท่านที่

มีโอกาสได้ปฎิบัติ รับใช้ใกล้ชิดครูบาอาจารย์

ทำบุญกุศลทุกอย่างเพื่อพระนิพพาน

ขอความเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นครับ

นิพพานะ สุขขัง

นิพพานะ สุขขัง

นิพพานะ สุขขัง

อนุโมทนากับคุณ อดิศักดิ์

คุณกิตติคุณ

และ คุณ ชุณหพงศ์ ด้วยนะคะ

ที่แวะเข้ามาทักทายกันในกระทู้นี้

แถมยังมีข้อคิดและหลักธรรมดีๆ

มาให้พิจารณาอีกด้วย

เดิมทีเดียวชนิดาก็เคยคิด

ที่จะทำเนียนๆ ไม่สารภาพบาป

ไม่ไปนึกถึงบาปกรรมที่ตนทำมาค่ะ

เพราะคิดแต่ว่า ก็ไปแก้ทุกเหตุ

ด้วยการปฏิบัติตามศีลห้าเลย

ไม่เห็นจะยาก....

แต่...พอเอาเข้าจริงๆ

ขอบอกค่ะว่า มันไม่ง่ายเลย

เหมือนเรากำลังเดินขึ้นเขา

แต่แบกสัมภาระทุกอย่าง

ไว้เต็มมือ เต็มหลัง เต็มตัวไปหมด

คือ ถ้าพลังกายเข้มแข็ง กำลังใจมั่นคง

จะหนักแค่ไหน ก็ไม่มีปัญหาค่ะ

บังเอิญว่า จิตมันไม่ได้เข้มแข็ง

มั่นคงตลอดเวลาน่ะสิคะ

มันถึงพลาดง่าย

แล้วเจ้ากรรมนายเวรเค้าก็เก่งสุดยอด

รู้ดีว่า เราแบกน้ำหนักตรงไหนไว้เยอะ

เค้าก็ไปกระโดดทับบริเวณนั้น

ให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก..

ตอนนี้ถึงได้รู้ว่า

ถ้าจะเดินขึ้นเขาสูงๆ แบบสบายๆ

ต้องเริ่มทิ้งสัมภาระทุกอย่าง

ที่แบกอยู่นั้นให้ได้

ด้วยการสารภาพบาป

ไม่งั้นถ้าเหนื่อย หนัก

และ ท้อเมื่อไหร่

ตกเขาตายได้ง่ายๆค่ะ

ฉะนั้น ทุกคนมีทางเลือก

ให้กับตัวเองเสมอ

และชนิดาคิดว่าแนวทาง

ที่ท่านอ.อุบลแนะนำนั้น

ง่ายและถูกต้องที่สุดแล้ว...

แต่ต้องใช้ใจที่"สำนึก"จริงๆ

ขออนุโมทนากับธรรมทาน

คุณ ชนิดา

คห.ที่41

อ่านแล้วรู้สึกได้ถึง

ภูมิธรรม

คุณชนิดา

ช่างมีปัญญาเลิศล้ำ

ทำให้คนอ่านปัญญาน้อย

อย่างผมพออ่านแล้ว

สว่างเลย

แจ้งจ่างป่าง

ขอคารวะ 3 จอก

..................

ขอชื่นชม คุณ ชนิดา

หาคำมาเปรียบเปรย

พออ่านแล้วก็เห็นภาพ

เข้าใจง่าย

สาธุครับสาธุ

..............................................

ขอบคุณและอนุโมทนาธรรมทานของพี่ชนิดา และทุกๆท่านนะคะ สาธุ

ขออนุญาตนำการสมาทานศีลของพี่ชนิดาเป็นตัวอย่างหนึ่งนะคะ ขวัญก็ตั้งใจจะสารภาพบาปค่ะเร็วๆนี้

เดี๋ยวนี้ทุกคนต่างพากันสารภาพบาป ความชั่วมีไว้เปิดเผยจริงๆเพราะเป็นประโยชน์ทำให้ตัวเองไม่ต้องการทำผิดอีกและทำให้คนอื่นกลัวบาปด้วย ที่สำคัญเจ้ากรรมนายเวรมีความสุข

แล้วก็ไม่ต้องกลัวเสียหายเพราะจิตเราจะเบาสบาย มีแต่กำไร ได้อานิสงส์สูงเพราะใช้กำลังใจสูง เอาชนะมารในใจน่าภูมิใจที่สุด 55 กำลังให้กำลังใจตัวเอง

ตามคุณอดิศักดิ์ไปอ่านคห. 41 สาธุ ๆ ค่ะ วิเคราะห์ออกมาได้ดีเยี่ยมจริงๆค่ะ 

แจ้งจ่างป่าง
ขอคารวะ 3 จอก

555 ขอคารวะด้วยคนค่ะ 

สำหรับขวัญ ถึงเทียบกับคนอื่น บาปน้อย แต่ก็มากกว่าคนอื่นๆเหมือนกัน

แต่ก็ยังเอาชนะใจตัวเองไม่ได้เต็มร้อย ยังมีความกลัว ความไม่กล้า 

ตอนนี้ไม่รู้กำลังใจมาจากไหน ขอไปนิพพาน(ความจริง)ด้วยคนค่ะ 

เพื่อท่านอาจารย์อุบล เทวดารักษาท่านอาจารย์ทุกพระองค์ และเพื่อองค์ในหลวง

ตอนนี้ถึงได้รู้ว่า

ถ้าจะเดินขึ้นเขาสูงๆ แบบสบายๆ

ต้องเริ่มทิ้งสัมภาระทุกอย่าง

ที่แบกอยู่นั้นให้ได้

ด้วยการสารภาพบาป

ตอนแรกก็คิดแบบนั้นจริงๆค่ะพี่ชนิดา

เราก็ตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์

แล้วทำดีให้ถึงที่สุดก็คงได้กระมัง

แต่พอถึงเวลาเดินขึ้นเขาเข้าจริงๆ

อยากจะบอกว่าตกเขาไปหลายรอบแล้วค่ะ

แต่ด้วยความที่อยากไปที่สูง

ก็ตะเกียกตะกายขึ้นมาใหม่

โดยไม่เคยคิดที่จะทิ้ง

กระเป๋าสัมภาระของตัวเองเลย

มันเลยทำให้เหนื่อย ให้ท้อแท้

จนบางทีแรงแทบไม่มีที่จะเดินขึ้นเขาต่อไป

ว่าแล้วก็ขอตัวไปทิ้งสัมภาระที่แบกมาก่อนนะคะ

เดินไปไม่ไหวแล้วค่ะ

หนักจริงๆ 55555555555+

สู้ว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

อนุโมทนาบุญธรรมทานกับเจ้าของกระทู้ นอ้งชนิดา ด้วยนะค่ะ
น้องตุ้ย และน้องๆทุกคนด้วยค่ะ เป็นแรงบันดาลใจให้คนแก่ อยากเขียนบ้าง ขอไปเรียบเรียงความดีแบบไม่มีที่ติกอ่นนะค่ะ คือชั่วแบบหาที่ติไม่ได้นะ
โมทนาสาธุค้า

คติเตือนใจ...พ่อสอนไว้

" ..จงอย่าประมาทในชีวิต  จงคิดว่าร่างกาย
มันจะตายเดี๋ยวนี้ไว้เสมอ  เราคือจิตที่สิงสถิตย์
อยู่ในกาย  กายมันจะตายเป็นเรื่องของมัน
มันพังเมื่อไรเราจะไปนิพพาน.."

อนุโมทนาบุญกับธรรมทานของพี่ชนิดาด้วยครับ

เป็นตัวอย่างที่ดีของลูกบ้านสวนที่ดีอย่างแท้จริง

ก็ถามตัวเองเหมือนกันว่าอยากเป็นลูกบ้านสวนกับเค้าบ้างไหม

ถ้าอยากแล้วทำไมไม่เดินตาม

ขออนุญาตกระทู้ของพี่ชนิดดา เดินตามรอยลูกบ้านสวนด้วยนะครับ

จะมาประจานตัวเองบ้าง ว่าทำเลวกับเจ้ากรรมนายเวรไว้เช่นไร

ตอนนี้ขอไปนึกข้อแรกก่อนครับ และจะหาโอกาสมาเขียนให้ครบทุกข้อ

ถ้าพี่อนุญาต

แฮ่ แฮ่ จะได้ไม่ต้องไปตั้งกระทู้ใหม่

เดี๋ยวเรตติ้งตก 

อนุโมทนาบุญกับธรรมทานของพี่ชนิดาด้วยครับ

เป็นตัวอย่างที่ดีของลูกบ้านสวนที่ดีอย่างแท้จริง

ก็ถามตัวเองเหมือนกันว่าอยากเป็นลูกบ้านสวนกับเค้าบ้างไหม

ถ้าอยากแล้วทำไมไม่เดินตาม

ขออนุญาตกระทู้ของพี่ชนิดดา เดินตามรอยลูกบ้านสวนด้วยนะครับ

จะมาประจานตัวเองบ้าง ว่าทำเลวกับเจ้ากรรมนายเวรไว้เช่นไร

ตอนนี้ขอไปนึกข้อแรกก่อนครับ และจะหาโอกาสมาเขียนให้ครบทุกข้อ

ถ้าพี่อนุญาต

แฮ่ แฮ่ จะได้ไม่ต้องไปตั้งกระทู้ใหม่

เดี๋ยวเรตติ้งตก 

แหม่..คุณ เกียรติศักดิ์ เชิญเลยค่ะ

ไม่ว่าจะตั้งกระทู้ใหม่

หรือใช้กระทู้นี้ สารภาพบาป

ชนิดาก็ยินดีสนับสนุนอย่างยิ่งค่ะ

ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็เริ่มได้เลย

ความคิดกำลังร้อนๆอุ่นๆแบบนี้

บรรยายออกมาเป็นจานๆ

แบ่งเป็นอาหารคาว หวาน เ็ค็ม ขม

ก็เชิญเสิร์ฟเลยค่ะ

เพราะท่าทางจะ"แซ่บนัว" แน่ๆ อิอิ

...........................................

อนุโมทนากับคำสอนคมๆ

จากท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ที่พี่นนทพร (เจ๊นนนี่) นำฝากด้วยนะคะ

แล้วก็"รออ่าน"ผลงานบาปของเจ๊อยู่น๊า ..

น่าจะมีอะไรเด็ดๆ มาฝากน้องๆ มิใช่น้อย

........................................

ส่วนน้องหญิง หลังจากที่

"ยอมเหนื่อย หนัก" แบกสัมภาระเน่าๆ

ไร้ประโยชน์อยู่นาน

ในที่สุดก็ยอมผ่าตัดเอา"เนื้อร้าย"

ที่เป็นบ่อนทำลายเซลล์ของร่างกาย

และ จิตใจ ออกได้แล้ว

สาธุ สาธุ อนุโมทนาด้วยนะคะ

....................................

ส่วน น้องครองขวัญ คนสวย

ก็ถล่มตัวที่สุ๊ด เพราะบอกตามตรงนะ

ว่าน้องขวัญ ก็เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ

ที่ทำให้ชนิดาออกมาเปิดเผย

ความชั่วของตัวเอง

หลังจากที่ได้อ่านคำสารภาพบาป

การผิดศีลข้อสี่ ของน้องขวัญแล้ว

เพ่ก็ต้องยอม"ซูฮก"

ในความกล้าของน้องมั่กๆ

เพราะข้อความที่ถ่ายทอดออกมา

"ไม่บิด" สร้างภาพให้ตัวเองเล๊ย

และยังมี คุณตุ้ย อีกคน

ที่สารภาพบาปศีลข้อสอง ข้อสามแล้ว

ชนิดาต้องเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ในความคิดของเค้า

ที่เคารพใน"ความเป็นจริง" จริงๆ

ส่วนน้องใหม่มาแรง อย่างคุณพจน์ ก็เป็นคนนึง

ที่สารภาพบาปได้จริงจังและจริงใจมากๆ

คืออ่านแล้ว เลือดชั่วในตัว

มันพลุ่งพล่าน อยู่นิ่งไม่ได้

ต้องรีบ"กระจายข่าว

และ ประจาณความชั่วของตัวเอง" ด่วน

.......................................

ส่วน คุณ อดิศักดิ์ เนี่ย

จิตคุณสว่าง อยู่แล้วรึเปล่าคะ

ฉะนั้น ไม่ว่าจะอ่าน จะฟัง

คำพูดของใคร จิตใจก็พร้อม

จะ แจ้ง จ่างป่าง อยู่แล้วแหล่ะ่ค่ะ

...................................

อ่านความผิดพลาด และความชั่ว

ของตนและคนอื่น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ

ให้เราไม่เดินหลงทางอีกต่อไป

และเช่นกัน ถ้าเห็น คนทำความดี

ก็ควรจะ สนับสนุน เต็มที่

และ ปฏิบัติตาม โดยไม่ลังเล สงสัย

ดีกว่านะคะ

เพราะเราคงสัมผัสได้ด้วยตัวเองแล้วว่า

ปฏิบัติแบบไหน

ทำให้เราพ้นทุกข์ได้..จริง 

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ได้อ่านถึงบาปกรรมที่คุณเกีรยติศักดิ์

ได้ทำกับสัตว์น้อยใหญ่

แต่ละชนิดแล้ว ต้องบอกว่า

สะเทือนใจมากๆค่ะ

คำพูดที่คุณใช้ถ่ายทอด

มันสะท้อนถึงความรู้สึก

ความทรมานของสัตว์เหล่านั้น

ได้ชัดมากๆค่ะ

ความรู้สึกคล้ายๆกับตอนที่

ชนิดาอ่านคำสารภาพบาป

ของคุณพี่อมรเลย

เศร้า และสะเทือนใจแทนสัตว์

ที่ถูกทำร้าย ถูกเบียดเบียนชีวิต

เหล่านั้นมากๆ 

แต่พอมาอ่านผลกรรม

ที่คุณได้รับแต่่ละอย่างแล้ว

ก็สะเทือนใจเช่นกันค่ะ

อนุโมทนาด้วยนะคะ

ว่าแต่ คุณเคยคิดไหม๊ว่า

ซักวันนึง(เร็วๆนี้) มือขวาของคุณ

อาจจะกลับมาใช้งานได้อีกก็ได้ นะคะ

ชนิดาคาดหวัง และขอให้คุณ

พบกับปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่ในชีวิตนะคะ

สาธุ

อนุโมทนากับคุณเกียรติศักดิ์ด้วยนะคะ

อ่านแล้วก็สะเทือนใจเหมือนกันค่ะ

และเขียนบรรยายแบบนึกภาพออก

ถึงความทรมานที่ทำกับสัตว์

และความเจ็บปวด ทรมานที่คุณได้รับ

หากย้อนเวลากลับไปได้คิดว่าพวกเรา

ก็คงจะไม่ทำมันอีกแล้ว

แต่ในเมื่อเราแก้อดีตไม่ได้

แต่เราทำอนาคตเราให้ดีได้ค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณได้พบปาฏิหาริย์เช่นกันนะคะ

และนับว่าคุณเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งจริงๆ

อนุโมทนากับพี่ชนิดา และทุก ๆ ท่าน

ที่มาเขียนสารภาพบาปและขอบคุณสิ่งศักดิ์ด้วยคะ

ยังอ่านไม่จบนะคะ

แต่ก็ทำให้ระลึกถึงความชั่วที่ตัวเองทำไว้ในชาตินี้ได้มากมาย

หลาย ๆ ข้อเราทำมาคล้าย ๆ กันเลยคะ

ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ เพื่อ กระตุ้นให้เราทุกคน

ละ ความทุกข์ ทุกอย่างออกไปจากใจให้ได้จริง ๆ

ขอบคุณและอนุโมทนาคะ

และแน่นอนตัวเองก็ต้องสารภาพให้ละเอียดในเร็ววันนี้คะ

ขอบคุณอีกหนึ่งเรื่อง สำหรับความรู้สึกดี ๆ เหมือนเป็นพี่น้อง

ที่พี่ชนิดาอุตส่าห์โทรข้ามประเทศมาหาแหวน

เพราะหายไปจากหน้าจอนาน..

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเน็ตนะคะ

แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ บ้านสวนฯตลอด คิดถึงทุกคนนะคะ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเน็ตนะคะ

แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ บ้านสวนฯตลอด

คิดถึงทุกคนนะคะ

...............................

ยังคงนึกถึง

และคิดถึงหนูแหวนเสมอนะจ๊ะ

แหม่..วันนั้นไม่อยากจะบอกเลยว่า

พอวางหูจากหนูแหวนแล้ว

ยังคิดแซวตัวเองในใจเลย

"เหวยๆ ไปห่วงหนูแหวน ที่ไหนได้

ห่วงตัวเองก่อนเถ๊อะชนิดาเอ๊ย"

เพราะหนูแหวน จัดการตารางชีวิต

ได้อย่างลงตัวแล้ว

ทั้งทางโลกและทางธรรม

เพราะมีโอกาสไปสร้างบุญ

ที่บ้านสวนฯแทบทุกวัน 

ไม่ห่วงแล้วล่ะ

แต่ดีใจกับหนูแหวนจริงๆ

อนุโมทนาในทุกๆบุญ

กับหนูแหวนและคุณแม่ด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ยินดีและดีใจกับพี่แหวนเหมือนกันค่ะ

อือ ว่าแต่เมื่อไหร่ชีวิตตัวเอง

มันจะลงตัวเหมือนคนอื่นๆบ้างก็ไม่รู้ ฮ่าๆ

ขอขอบคุณ พี่ชนิดาและน้องญิง ที่ให้กำลังใจ

คนที่เค้าลำบากกว่าเรามีอีกเยอะ ผมก็ได้กำลังใจจากเค้าเหล่านั้น

โดยเฉพาะเรื่องราวชีวิตจริงของลูกๆ บ้านสวนทุกท่าน เมื่อได้เข้ามาเรียนรู้แล้ว

เป็นผลให้เราต้องกลับมาคิด และหยุดกรรมชั่วทั้งหลายทันที

อนุโมทนากับคำสารภาพบาปเิพิ่มเติม

และ ทัศนคติในการมองชีวิต

จากคุณ เกียรติศักดิ์ด้วยนะคะ

จริงค่ะ พวกเรา"โชคดี"กว่าคนอีกตั้ง

หลายพันล้านคนทั่วโลก

ฉะนั้น เราควรจะ พอใจในสิ่งที่เรา

มี และ เป็น

เพื่อ"ความสุขใจ"ของตัวเองให้ได้  

 วันนี้ ณัชชาพึ่งจะได้มีโอกาสเข้ามาอ่านกระทู้ของคุณชนิดา 

อนุโมทนากับธรรมทานของคุณชนิดาและทุกๆท่านด้วยนะคะ สาธุ 

กระทู้ของคุณชนิดา ทำให้ณัชชานึกถึงกรรมและการกระทำที่ชั่ว

ของตัวเอง ทำให้คิดได้ว่า ยังสารภาพความเลวยังไม่หมด 

วันนี้ขอสารภาพบ้างนะคะ 

ตอนสมัยเรียน ก็อยู่กินกันกับผู้ชาย เหมือนสามีภรรยา 

โดยที่พ่อแม่และทางบ้านไม่รู้ 

สุดท้ายก็เลิกกัน 

ตอนคบกันกับผู้ชาย ก็ยังไปคบกับสามีชาวบ้าน

เพียงเพื่อหวังเงินทอง เอามาใช้สอย ให้ตัวเองสะดวกสบาย 

เคยพูดจารับปากใครไว้ก็ไม่ทำตามที่พูด คือผิดสัจจะ บางที่รับปากแล้วก็ลืม

อิจฉาริษยา คนอื่น เห็นคนอื่นได้ดีกว่าเป็นไม่ได้ จะเกิดอาการทันที พฤติกรรมแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ 

ปล่อยตัวปล่อยใจมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย โดยเห็นเป็นเรื่องธรรมดา และไม่สนใจว่าผลกรรมที่ตามมา

จะร้ายแรงแค่ไหน 

วันนี้ได้สารภาพบาปของตัวอีกครั้ง โล่งใจ จริงๆค่ะ สาธุ

 และมีอีกเรื่อง เพิ่งจะนึกขึ้นได้ เฮ้อ บาปกรรมจริงๆ

ตอนที่ณัชชาอยู่เมกา ก่อนกลับไทย ณัชชาก็ติดหนึ้บัตรเครดิต เป็นจำนวนเงิน 

$170 ทางธนาคารเขาก็ส่งเอกสารมาให้ไปชำระ

ณัชชาก็ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่จัดการให้เรียบร้อย

จนสุดท้ายก็เดินทางกลับประเทศไทย 

พอโทรติดต่อกลับไปว่าจะทำการชำระ 

ก็ต้องได้เดินทางไปติดต่อที่ธนาคารด้วยตัวเอง

จนมาถึงวันนี้ยังไม่ได้ไปทำการติดต่อเลยค่ะ

เพราะมาอยู่แคนาดา แต่ติดหนึ้ที่เมกา

รู้สึกเสียใจ มาจนถึงทุกวันนี้ 

นับจากวันนั้นมา ณัชชามีเงินเท่าไหร่ ก็ใช้จ่ายใช้สอย

จนไม่มีเก็บ มีเรื่องให้ต้องใช้จ่ายตลอด 

เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลยนะคะ 

เป็นหนึ้แล้วไม่ยอมใช้ 

หลังจากวันนั้นมา ณัชชาติดหนึ้ หรือยืมตังค์ใคร 

ณัชชาก็จะรีบใช้คืนทันที 

ไม่อยากสร้างเหตุที่ไม่ดีอีกแล้วค่ะ

ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ หนูณัชชา

ถ้ากระทู้นี้ มีประโยชน์

และทำหน้าที่เป็น

กระจกสะท้อนกรรม

ให้กับผู้อ่านทุกๆท่าน

นำไปพิจารณาอดีตของตน

จนทำให้"กล้า"สารภาพบาปเหล่านั้น

ออกมาอย่าง"มั่นใจ" โดยไม่แคร์ว่า

ใครจะมองว่า เราเลว หรือ ดี

อย่างที่หนูณัชชา

และหลายๆคน กำลังทำอยู่นี้