ReadyPlanet.com


โรคสะเก็ดเงินหายได้


ดิฉัน  นางสาวปัญจกานต์  วรรณทอง  ชื่อเล่น แพม   อายุ  48 ปี

การศึกษา     ปริญญาตรี   การศึกษาบัณฑิต เอกภาษาฝรั่งเศส  โท ภาษาอังกฤษ

อาชีพ   อดีตรับราชการครู 17 ปี  ปัจจุบัน  นักแปล  ล่าม   ครูสอนภาษาไทย

ที่อยู่   เป็นคนกาฬสินธุ์   แต่มาอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย  ประเทศสหรัฐอเมริกา

ท่านที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน

       คงจะรู้ซึ้งว่ามันชอกช้ำระกำใจแค่ไหน โรคนี้ไม่ทำให้ตายแต่มันทำให้คนที่

เป็นอยากตาย  เพราะมันน่ารังเกียจ น่าอาย และน่าอดสูเป็นที่สุด  โรคนี้หมอแผนปัจจุบันบอกว่ารักษาไม่หาย ต้องกินยาทายาไปจนตาย

        กินยาทายาก็จะดีขึ้น ถ้าเครียด พักผ่อนไม่พอก็จะกลับมาเป็นอีก ยิ่งเครียดมาก อาการยิ่งเป็นมาก จึงขอเล่าเรื่องตัวเองเลยนะ

 

เริ่ม เป็นโรค เมื่อไหร่

       ปกติจะเป็นคนที่สุขภาพดี แข็งแรงมาตลอด ไม่ค่อยเป็นโรคภัยไข้เจ็บกับใครเขาเลย  เริ่มเป็นโรคสะเก็ดเงินเมื่ออายุ 30 ปีกว่า ๆ  ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร  อาการเริ่มแรกจะเป็นเมือกเหนียว ๆสีเหลือง ที่ศีรษะ มีกลิ่นเหม็นมาก  ต้องสระผมทุกวัน เว้นไม่ได้เลย พยายามรักษากับหมอแผนปัจจุบัน ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ และคลีนิคต่างๆ หมอก็จะให้ยาสระผม และยาทาที่เหมือนกัน  เหมือนทั้งสีและกลิ่น อาจจะมีตัวยาบางอย่างที่แตกต่างกันนิดหน่อย (อ่านจากส่วนประกอบของยาที่เป็นภาษาอังกฤษ) ก็เป็น ๆ หาย ๆ มาเรื่อยๆ

      หลังจากนั้นได้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เอกภาษาอังกฤษ ต้องเรียนทุกวิชาเป็นภาษาอังกฤษหมด เรียนหนักมากต้องทำการค้นคว้า เขียนรายงานทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ ตลอดเวลา บางวันทำรายงานตั้งแต่หกโมงเย็น ยันหกโมง เช้า 

      พอนอนดึก พักผ่อนไม่พอแถมเครียดอีก ทำให้เกิดรอยโรคสะเก็ดเงินที่ท้องแขนเป็นครั้งแรก เริ่มแรกจะเป็นผื่นแดง ๆ ก็คิดว่าตัวเองเป็นลมพิษ ก็เลยซื้อคาลามายด์มาทา แต่ก็ไม่ดีขึ้น แต่กลับเป็นสะเก็ดและลอกออกเป็นแผ่น ๆ คล้ายรังแคแต่ขนาดจะใหญ่กว่า  หลังจากไปหาหมอ ทายาแล้วก็หาย  แต่อาการที่ศีรษะยังเป็นอยู่

กรรมหนุนทำให้เป็นโรคมากขึ้น

      เมื่อเรียนจบวิชาต่าง ๆ แล้ว เหลือเพียงทำวิทยานิพนธ์ก็จะจบปริญญาโท  ชะตากรรมก็ผลักดันให้สอบโครงการครูแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมได้  จึงได้ไปอเมริกาเป็นครั้งแรกในชีวิต  ไปอยู่กับผู้อุปถัมภ์ ที่รัฐมินเนโซต้าอยู่เกือบปี จึงทำให้ไม่จบปริญญาโท

            ตอนนี้แหละคร้าบท่านผู้ชม  อาการของโรคสะเก็ดเงินเต็มรูปแบบเกิดขึ้นเลย เริ่มเป็นรอยปื้นแดง ๆ ที่หน้าผาก ขมับและข้อศอกทั้งสองข้าง  แล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใส ๆ หลังจากนั้นจะแตกแล้วลอกเป็นสะเก็ด ก็หายามาทาพอประทังไปเรื่อย ๆ

          เมื่อจบโครงการกลับไปเมืองไทย ก็รีบไปหาหมอทันที  แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หมอให้ยาแรงไป เกิดอาการผิวไหม้  ต้องงดทายาอยู่เกือบสองอาทิตย์  หลังจากนั้นก็เป็น ๆ หาย ๆ

        ผ่านไปประมาณเจ็ดแปดปี เกิดอาการดื้อยา ยาที่เคยทาแล้วหาย  กลับไม่หาย  นอกจากไม่หายแล้ว กลับเป็นมากขึ้น ทั้งคัน ทั้งปวดแสบปวดร้อน ก็ประคองอาการโดยทาโลชั่นอย่างเดียวเพื่อไม่ให้ผิวแห้งเกินไป  หลังจากค่อยยังชั่วขึ้นหน่อย  สามเดือนต่อมาจึงตัดสินใจไปใช้ยาของหมอเจ้าประจำอีก เพราะมีอาการคันมาก  และใช้มาเรื่อย ๆ อาการมีแต่ทรงกับทรุด ไม่ดีขึ้น

             อาจจะเป็นโชคชะตาหรือท่านเจ้ากรรมบันดาลก็ไม่รู้ ทำให้ตัดสินใจลาออกจากครู และมาทำงานที่อเมริกา การมาครั้งนี้เตรียมยามาจากเมืองไทย  โดยให้น้องสาวส่งยามาให้ทุกเดือน

     งานที่ทำครั้งแรกคือเป็นผู้ช่วยแม่ครัว ทำงานวันละ 14 ชั่วโมง ทำงานหนักมาก  บางวันทำจนแทบจะไม่มีเวลากิน แถมยังพักผ่อนน้อย ทีนี้ละค่ะถูกจัดให้เต็มรูปแบบ  ปรากฏรอยโรคเพิ่มขึ้นที่ อก กลางลำตัว สองข้างสะโพก หลัง ขา และ หน้าแข้ง 

     ตอนนี้ละค่ะท่านผู้ชม นรกบนดินเป็นยังไง ได้รู้เลย เพราะอยู่หน้าเตาไฟตลอด  พอร้อนมาก ก็เริ่มคัน พอเหงื่อออกก็ปวดแสบปวดร้อน ทรมานสุด ๆ  ทำอยู่ได้ประมาณ สองเดือน ก็ได้ออกจากร้านนั้น เพราะเขาขายไม่ดี  เห็นไหมคะ  คนที่มีกรรมมาก ไปทำอะไรกับใครก็ไม่รุ่ง แถมลากคนที่ช่วยเราแย่ไปด้วย

        หลังจากนั้นก็ได้งาน ตกงานมาเรื่อย ๆ ทำแทบจะทุกอาชีพที่ทำได้ ตั้งแต่คนล้างจาน คนทำความสะอาด พนักงานเสิร์ฟ ฯลฯ ส่วนอาการของโรคเมื่อลามไปทั่วตัวแล้ว ก็ทรงตัวมาเรื่อย ๆ

        คงจะมีความดีอยู่บ้างสวรรค์จึงบันดาลให้ได้พบกับสามีและได้แต่งงานในที่สุด หลังจากแต่งงานแล้ว ประมาณห้าเดือน ยาที่เอามาจากเมืองไทย ทาแล้ว ไม่ดีขึ้นเลย กลับมีอาการมากกว่าเดิม จึงหยุดใช้ และหันไปใช้ยาสำหรับโรคสะเก็ดเงินที่อเมริกาแทน 

       ล่าสุด(ก่อนกลับเมืองไทย) มีกลุ่มหมอโรคผิวหนังกลุ่มหนึ่งทำการวิจัยและผลิตยาทาโดยไม่มีสารสเตียร์รอยปนเลยออกจำหน่าย ปรากฏว่าคนที่ใช้หายกันมากมาย เราก็ซื้อมาใช้บ้าง ทั้งๆ ที่แพงแสนแพง ใช้ อยู่หลายเดือน ก็ไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว   กำไม่แบจริงๆ เลยค่ะพี่น้องทั้งหลาย

      พยายามรักษาอยู่หลายปี จึงเลิกรักษา เพราะได้ของแถมคือเริ่มแพ้นั่นแพ้นี่  และที่ต้องหยุดใช้ยา  เพราะแพ้ยาที่ใช้รักษาอีก เวรกรรมมีจริงนะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

ทำไมจึงเป็นโรคนี้

      อาจารย์อุบล บอกว่า คนที่เป็นโรคนี้จะเป็นขี้โมโห โกรธง่าย ใจร้อน หงุดหงิด อิจฉา ริษยา อาฆาต พยาบาท จองเวร  เอาแต่ใจตัวเอง รวมทั้งผิดศีลด้วย

     เมื่อพิจารณาดูแล้ว เรามีเกือบครบทุกอย่างยกเว้นอิจฉาริษยา และเอาแต่ใจตัวเอง เพราะเกิดมาชีวิตนี้มีแต่ต้องเอาใจคนอื่นตลอดเวลา แล้วเก็บความคับแค้นใจเอาใว้ตลอด ส่วนอิจฉาริษยานี้ไม่มี เพราะพ่อแม่สอนและทำให้ดูเป็นตัวอย่างตลอดชีวิตของท่าน     ลองมาดูเรื่องผิดศีลซิจ๊ะ ดิฉันก็ไม่เบาเชียวนะจะบอกให้

ศีลข้อหนึ่ง 

     นี่หนักเลย ตอนเด็ก ๆ เลี้ยงปลากัดไม่รู้กี่รุ่น ทำอยู่เกือบปีจึงเลิก  ชอบเอาแมงกว่าง มาชนกัน  เอาน้ำราดรังมดง่าม รวมทั้งเอากระดาษจุดไฟเผารังเขาด้วย ฆ่ายุง ปลวก และแมลงสาบไม่รู้กี่ร้อยกี่พันตัว ทุบหัวปลา หัวกบ เขียด เพื่อฆ่าเป็นอาหาร หักก้ามปูเล่น เด็ดก้นแมลงปอแล้วเอาหญ้าเสียบ และที่สำคัญเคยชกปากเด็กผู้ชายคนหนึ่งจนปากแตกและฟันบิ่นมาแล้ว ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย

       กรรมที่คิดว่าน่าจะส่งผลต่อการเป็นโรคนี้มากที่สุดน่าจะเป็นกรรมที่ช่วยพ่อเลี้ยงไก่ชน  เพราะรอยโรคที่เป็นและบริเวณที่เป็น จะเหมือนผิวของไก่ ตอนที่เป็นบาดแผลจากสังเวียน เพราะ บาดแผลจากการต่อสู้ จะมีบริเวณ หัว หน้า  หน้าอก หลัง และขา ซึ่งตรงกับบริเวณที่เราเป็นรอยโรคเปี๊ยบ...เล ส่วนที่ลำคอไม่มีรอยโรค และที่คอไก่ชนก็ไม่มีแผลเช่นกัน แปลกไหมคะ ท่านผู้ช้ม....

ศีลข้อสอง

          ตอนเป็นเด็กเคยขโมยเงินแม่สิบบาทครั้งหนึ่ง ขโมยฝรั่งของลุงข้างบ้านหลายครั้ง ตอนเป็นครูโกงเวลาราชการ ไปทำงานสายบ่อย แต่รับเงินเดือนเต็ม

เอาของหลวงมาใช้ที่บ้านเช่น กระดาษ และ สีต่างๆ  ทำเรื่องเบิกเงินเบี้ยเลี้ยงเกินความจริง ขอเบิกมากกว่าที่จ่ายไป  คิดแต่ว่าเบิกตามสิทธิ์  บางครั้งตัวเองไม่ได้จ่ายเลย แต่ทำเรื่องเบิกเงินเต็มจำนวน

เวลาไปวัดชอบเอาอาหารที่วัดกลับบ้าน  เก็บมะม่วงที่หล่นในวัดไปกินโดยไม่ได้ขออนุญาตเลย สอยดอกจำปาที่วัดไปทำพวงมาลัย ตอนเทศกาลสงกรานต์ ทำอยู่หลายปีมาก จนไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ จึงได้เลิกไป นอกจากนี้ยังปลอมลายเซ็นแม่เป็นประจำและ ทำต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีเช่นกัน

           กรรมจากการเป็นหนี้แผ่นดิน และหนี้สงฆ์ส่งผลอย่างมากมาย  เนื่องจาก

ทำเป็นอาจิณ(ทำเป็นประจำ)  ทำให้เป็นหนี้มากมายมหาศาล หาได้เท่าไรก็ไม่เคยเหลือ ต้องทำงานหนัก แต่ได้ผลตอบแทนน้อย

ศีลข้อสาม 

         มีอะไรกันกับสามีก่อนแต่งงาน แล้วคิดลามกกับคนที่ชอบหลายคนหลายครั้ง  เคยดูรูปโป๊  วีดีโอโป๊

        กรรมข้อนี้ทำให้จิตแว๊บลบหลู่คิดลามก ผู้มีคุณธรรมสูงเช่นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายรูป รวมทั้งท่านอาจารย์อุบลด้วย

ศีลข้อสี่ 

         ส่วนมากจะเป็นกรรมทางความคิด เช่น เคยคิดแช่งให้คนที่ไม่ชอบตาย เห็นคนที่ไม่ชอบได้รับความทุกข์แล้วสะใจ คิดอาฆาต จองเวรกับคนที่เคยทำให้เราเจ็บใจ  แต่ที่ทำด้วยวาจาจริง ๆ คือชอบพูดโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจ   อ้อ...เคยพูดให้น้องคนหนึ่งหย่าจากสามีเพราะสามีเขาชอบพูดทำร้ายจิตใจเขา แต่โชคดีที่เขาไม่ได้หย่ากัน

      กรรมในข้อนี้ทำให้เรื่องทะเลาะกับสามีบ่อย ๆ และมีคนพูดให้เจ็บใจเป็นประจำ รวมทั้งเป็นโรคเกี่ยวกับปากและฟัน บ่อย ๆด้วย

ศีลข้อห้า 

           เคยชิมเหล้า เบียร์ และไวน์ ประมาณ สองสามครั้งในชีวิตนี้ เท่าที่จำได้

ที่ไม่ดื่มเพราะไม่ชอบ  แต่ส่งเสริมคนอื่นให้ทำมากเช่นกัน เช่น เห็นเพื่อนดื่มแล้วไม่ห้าม  ซื้อเหล้าเป็นของขวัญ และซื้อให้เพื่อนนี่บ่อยมากเลย อย่างไรก็ตาม
รู้สึกว่าศีลข้อนี้จะรักษาได้มากที่สุดเมื่อเปรียบกับข้ออื่น ๆ

        ผลของกรรม ทำให้เป็นคนหลงๆ ลืม ๆ ความจำไม่ค่อยดี เรียนหนังสือก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก แต่ได้ผลน้อย

หายได้อย่างไร

       มีโอกาสกลับเมืองไทยเนื่องจากคุณแม่ถึงแก่กรรม และจับพลัดจับผลูได้รู้จักบ้านสวนฯจากเว็บพลังจิต หลังจากดูวีดีโอเก้าตอนแล้ว รู้สึกศรัทธาอาจารย์อุบลมาก ๆ อยากไปกราบอาจารย์สักครั้งและร่วมทำบุญกับอาจารย์เพื่อจะได้อุทิศส่วนกุศลให้กับคุณแม่

       เมื่อไปบ้านสวนจึงตั้งใจทำเต็มที่ เพราะศรัทธา และมีเวลาน้อย ในขณะที่ทำก็ท่องคาถาพระศรีอาริย์ตลอด สลับกับการอุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และคุณแม่ คุณพ่อ ถึงแม้ว่าจะตากแดดทำงานและไม่สวมหมวกแต่ไม่มีอาการคันเลยแม้แต่นิดเดียว ที่แปลกที่สุดคือมีอาการปวดศีรษะ มาก และมีเหงื่อออกเฉพาะที่ใบหน้ามาก ๆ ไหลเหมือนสาดน้ำใส่หน้าเลย

      เมื่อครบเวลานัดห้าโมงเย็น หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วรู้สึกเบาหน้ามาก ขณะที่เดินไปรายงานผลที่กลุ่มจึงเอามือคลำดูรอบ ๆหน้า  รู้สึกว่าผิวเรียบเนียน  จึงแน่ใจว่าหายทั้งๆ ที่ไม่ได้ส่องกระจกดูเลย  พอไปถึงกลุ่มก็เปิดหน้าผากให้เพื่อนในกลุ่มดูทุกคนก็บอกว่าหาย  ส่วนรอยโรคที่อื่น ก็หายเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์  เราดีใจมากๆ ทั้งอัศจรรย์ ทึ่ง งุนงง ไปหมด มันหายได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทายา

 

วิเคราะห์ผล

       คิดว่าที่ตัวเองหายเนื่องจากเหตุผล สามประการ คือ หนึ่งมีศรัทธาในพระพุทธองค์ พระศรีอาริย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ  ท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่บ้านสวน  สองได้ทำบุญแรงกาย(บุญที่ทำบริสทธุิ์ )ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์   สามผู้ที่เป็นเนื้อนาบุญรับบุญจากเราคือในหลวง 

        ที่สำคัญที่สุดคือไปทำบุญไม่ได้หวังว่าจะหายเลย แต่ทำเพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และคุณพ่อคุณแม่  ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำบุญแรงกายแล้วหายโรค  สรุปคือศรัทธาบริสุทธิ์   บุญและสถานที่ทำบุญบริสทธุิ์ และผู้รับบุญของเราก็บริสุทธฺุิ์ จึงเห็นผลฉับพลันทันที

              ท่านผู้อ่านคิดว่าดิฉันหายเพราะอะไรคะ ช่วยวิเคราะห์เพิ่มเติมด้วยค่ะ จะได้มีมุมมองที่หลากหลาย  และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้มากขึ้น

               ขอขอบคุณ พระพุทธองค์ทุกองค์ พระศรีอาริย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ  ท้าวมหาราชทั้งสี่ ในหลวง  ท่านอาจารย์อุบล เทวดาที่รักษาอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และ คุณท๊อปที่ทำให้ดิฉันได้มีโอกาสไปทำบุญที่บ้านสวนและหายจากโรคสะเก็ดเงินค่ะ

 

         ท้ายสุดนี้ขออุทิศบุญทั้งหลายที่ทำมาทุกภพชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุญที่ทำในบ้านสวนพีระมิด ให้กับไก่พันธุ์เนื้อทุกตัวที่เคยเลี้ยงขาย และไก่ชนทุกตัวที่พ่อเคยเลี้ยง สัตว์ทั้งหลาย รวมทั้งสัตว์เล็ก สัตว์น้อย ที่ข้าพเจ้าเคยทรมาน เคยฆ่า โดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม  ขอให้พวกท่านทั้งหลายจงได้รับบุญผลนี้ แล้วได้โปรดอโสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ปัญจกานต์ วรรณทอง กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-11-17 13:27:47


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1641071)

อนุโมทนากับคุณปัญจกานต์ ค่ะ

คำว่า "โรค" ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่อวัยวะภายในหรือภายนอกร่างกาย

ก็เกิดความทุกข์..ทั้งนั้น

ยิ่งโรคที่ปรากฏให้เห็นตามร่างกายด้วยแล้ว

เห็นเมื่อใด รู้สึกเมื่อใด ยิ่งเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน ..

โชคดีเหลือเกินค่ะที่คุณปัจกานต์ได้รู้จักบ้านสวนพีระมิดและได้พบท่านอาจารย์อุบล

ท่านอาจารย์เมตตาช่วยเหลือทุกคนให้พ้นทุกข์ด้วยการแสดงธรรมทานซึ่งได้พิสูจน์ความจริงเรื่องกฏแห่งกรรม ... ท่านอาจารย์สอนเสมอว่า เหตุดับ..ทุกข์ก็ดับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-18 09:32:18


ความคิดเห็นที่ 2 (1641944)

ขออนุโมทนา ที่คุณปัญจกานต์ เล่าเรื่องโรคเสก็ดเงินเป็นธรรมทาน

หมอขออนุญาติถ่ายเอกสารส่งไปให้คนไข้ที่เขาไปที่ ร.พ.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ด้วยโรคเสก็ดเงินอย่างหมดหวัง

เผื่อว่าเขาจะได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด แล้วมีโอกาศหายเหมือนกับคุณคะ

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 12:48:45


ความคิดเห็นที่ 3 (1642467)

ด้วยความยินดีอย่างยิ่งค่ะคุณหมอ

แพมอยากให้เรื่องตัวเองเป็นกรณีตัวอย่าง มาก ๆเลย

เพราะคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินที่เมืองไทยมากขึ้นทุกวัน โรคนี้มันทำให้

คนเป็นหดหู่ อับอาย และหมดความมั่นใจในตัวเองมาก ๆ เลยค่ะ

แพมอยู่ในแวดวงครูกับหมอมาตลอดชีวิต

พ่อแม่และน้องหนึ่งคนเป็นครู น้องอีกคนเป็นพยาบาลวิชาชีพ

น้องลูกของน้าเป็นหมอ

และเป็นอาจารย์หมอที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าโรคนี้ต้องกินยาและทายาตลอดชีวิตไม่มีวันหายขาด

แพมพยายามหาทางรักษาตัวเองมากว่าสิบปีแต่ไม่เคยได้ผลถาวรสักครั้ง

จนปลงแล้วว่าเราคงจะตายไปพร้อมกับโรคนี้

แต่พอได้มีบุญมารู้จักและทำบุญแรงกายและบุญปัจจัย

กับท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด

อาการของโรคหายไปเหมือนโกหกหนู

เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลยค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-26 05:50:07


ความคิดเห็นที่ 4 (1642486)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทาน คุณ ปัญจกานต์ ด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นัยนา ชมภูบุตร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-26 09:44:00


ความคิดเห็นที่ 5 (1643402)

ยินดีและขออนุโมทนากับพี่แพม

ที่หายจาก โรคสะเก็ดเงิน ที่เป็นมากว่า 10 ปี

 ก็ด้วยอานิสงของบุญแรงกายที่ได้ทำที่บ้านสวนฯ

บวก พลังศรัทธา และ จิตที่ปราศจากความอยาก

จึงทำให้โรคสะเก็ดเงินหายได้ในฉับพลันทันที

และขออนุโมทนากับคุณหมอวัฒน์ด้วยนะคะ

ที่มีทางเลือกให้คนป่วย 

เมืองไทยน่าจะมีคุณหมอที่น่ารักแบบนี้มาก ๆ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-03 14:19:59


ความคิดเห็นที่ 6 (1647382)

ความคืบหน้าเรื่องโรคสะเก็ดเงิน

ตั้งแต่กลับมาอเมริกาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม

จนถึงเดี๋ยวนี้ วันที่ ๒๗ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

อาการรอยโรคที่ผวหนังบริเวณหน้าผาก

ก็ยังคงหายเป็นปกติ

ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทายา

ส่วนรอยโรคที่ผิวหนังบริเวณอื่นก็ค่อยๆ หาย

ที่เห็นชัดที่สุดคือบริเวณสะโพกทั้งสองข้าง

หายเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์

แต่ที่ ที่เราอยากให้หายเร็ว ๆบริเวณแขนกับขา

กลับหายทีละน้อยจนแทบจะไม่สังเกตเห็นเลย

สงสัยบุญที่ทำยังไม่มาก

ท่านเจ้ากรรมจึงให้ทรมานต่อไป

ก็จะขอทำบุญต่อไปเรื่อยๆ รวมทั้งรักษาศีลไม่ให้ด่าง พร้อย

เผื่อท่านเจ้ากรรมจะอโหสิกรรมให้เราเร็วขึ้น

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-28 00:43:41


ความคิดเห็นที่ 7 (1647542)

อนุโมทนากับธรรมทานของคุณแพมด้วยค่ะ

 

เท่าที่อ่านและลองนึกภาพตาม

สังเกตุว่า

คุณแพมไม่หายตรงแขนขาที่อยากหายนะคะ

หรือว่า

เบื้องบนท่านคงต้องการสื่อบอกอะไรรึเปล่าคะ

อิอิ...อันนี้ธัญญาภรณ์คิดเองจ้า

 

 

แต่คิดว่าในที่สุดแล้วคุณแพมจะหายโดยเร็ววัน

ด้วยอานิสงค์ของบุญธรรมทานค่ะ

 

สาธุ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-30 05:10:18


ความคิดเห็นที่ 8 (1647634)

ขอบคุณ คุณธัญญาภรณ์

ที่ร่วมอนุโมทนาบุญนะคะ

แพมรู้แต่ว่าท่านเจ้ากรรมเขาอยากจะให้เราอาย

อยากให้ทรมานต่อไป เพราะบุญที่เราทำยังไม่มากพอ

ตอนนี้คิดว่าเขาก็คงจะได้บุญเพิ่มบ้าง

เมื่อเขาได้พอแล้วเขาคงจะปล่อยเราในที่สุด

อย่างไรก็ตามคิดว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว

จะเดินทางธรรมนี้

ตามรอยท่านอาจารบย์อุบลตลอดไปค่ะ

ขอให้โชคดี รอด ปลอดภัยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-01 01:29:26


ความคิดเห็นที่ 9 (1661863)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานอันยิ่งใหญ่ของคุณปัญจกานต์ ค่ะ ดิฉันเองก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับกรรมผิวพรรณด้วยโรคอีสุกอีใสต้องทำใจยอมรับกับแผลเป็นชนิดนูนตะปุ่มตะป่ำเหมือนหนังคางคกทั่วร่างกาย แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีได้รับการบำบัดจากท่านอาจารย์อุบลและได้สร้างบุญธรรมทานในเว็บไซต์บ้านสวนพีระมิด ทำให้แผลเป็นที่เป็นอยู่ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ลูกขอก้มกราบแทบพระบาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ และท่านอาจารย์อุบลที่เมตตา และขอขอบคุณคุณปัญจกานต์สำหรับธรรมทานที่ทำให้ดิฉันได้สำนึกในบาปกรรมและได้ตระหนักถึงโทษอันร้ายแรงของกรรมโทสะ ดิฉันขออุทิศบุญจากการอนุโมทนาบุญธรรมทานของคุณปัญจกานต์ให้กับเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลและเจ้ากรรมนายเวรของดิฉันทุกตัวตน ทุกภพ ทุกชาติ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-01 08:55:44


ความคิดเห็นที่ 10 (1662173)

โมทนาบุญด้วยนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภรร์จิตร์ สัจธรรมธนพิธ (jew_707-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-06 01:16:10


ความคิดเห็นที่ 11 (1677856)

 

รายงานผลโรคสะเก็ดเงิน

หลังจากที่กลับจากบ้านสวนได้ไม่นาน

ก็สามารถกินเจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

ทำให้รอยโรคที่เป็นมีอาการดีขึ้น

นอกจากนี้ยังบูชาวัตถุมงคลต่างๆ

ของบ้านสวนพีระมิด

เช่นจี้พระศรีอาริย์ จี้ท่านพ่อดตาจินิน

และพีระมิด รุ่นบวงสรวงพระศรีอาริย์

บวงสรวงพระปฐม บวงสรวงท้าวเวสสุวรรณ 

และรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี

หลังจากกินเจได้ปีกว่า ๆ

และบูชาวัตถุมงคลได้ไม่นาน

ก็มีความรู้สึกอยากติดต่อขอรักษาแพทย์ทางเลือก

กับคุณหมอทัศนัย เผือกพิพัฒน์

(ทั้งๆ ที่รู้จักคุณหมอมาหลายปีแต่ก็ไม่เคยติดต่อคุณหมอเลย)

 

พอทำตามที่คุณหมอแนะนำ

อาการของรอยโรคก็ดีขึ้นอีก

กราบขอบพระคุณ

ท่านอาจารย์อุบล เทวดาที่รักษาอาจารย์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ช่วยชี้แนวทางให้ข้าพเจ้า

ได้รู้กฎแห่งกรรมอย่างละเอียด

และได้รู้จักการแก้ไขปัญหาในชีวิต

 

ขอบพระคุณ

คุณหมอทัศนัย เผือกพิพัฒน์

ที่แนะแนวทางรักษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ตอนนี้รอยโรคทั่วร่างกายดีขึ้นมาก

คาดว่าจะหายขาดในไม่ช้านี้

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-03-25 06:27:57



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.