ReadyPlanet.com


สารภาพบาปหนี้แผ่นดิน


ตอนดิฉันบรรจุรับราชการใหม่ๆ เมื่อปี 2548  ไฟแรงอยากทำนั่นทำนี่ให้เป็นประโยชน์ให้ถูกต้องตามระเบียบ แต่ปลัดกลับมองว่าการกระทำของดิฉันนำความยุ่งยากมาให้บอกดิฉันให้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรมาก ดิฉันมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับแผนงานโครงการ เมื่อท่านปลัดไม่ได้นำโครงการในแผนงานไปตั้งงบประมาณรายจ่าย ดิฉันก็ไม่ต้องทำงานโครงการ ท่านปลัดก็จะมอบหมายงานอื่นๆ ให้ทำแทนโดยเฉพาะงานในตำแหน่งหน้าที่ธุรการ ดิฉันจะไม่ยอมทำงานที่ปลัดมอบหมายและยังโบ้ยงานไปให้เจ้าของตำแหน่งทำเอง เมื่อไม่มีงานในตำแหน่งหน้าที่ให้ทำ ดิฉันก็มานั่งฆ่าเวลาไปวันๆ เบื่อก็เล่นเกมส์ คุยโทรศัพท์ สุมหัวนินทานาย/เพื่อนร่วมงาน พักเที่ยงนาน เอาเวลางานไปช้อปปิ้ง สิ้นเดือนรับเงินเดือนเต็ม ดิฉันทำอยู่อย่างนี้เป็นเวลา 2 ปีเต็ม ตอนหลังมีปัญหาขัดแย้งกับผู้บริหารดิฉันจึงตัดสินใจโอนย้ายสถานที่ทำงาน



ผู้ตั้งกระทู้ สาวิตรี คงศรี กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2013-12-11 13:42:37


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1672491)

การทำงานในสถานที่ทำงานใหม่ ท่านปลัดชอบทำงาน ขยันขันแข็ง และไว้วางใจให้ดิฉันรับผิดชอบบริหารงานโครงการต่างๆ ดิฉันเองก็รู้สึกสนุกไปกับการทำงาน มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานออกมาให้ดีที่สุด ผู้บริหาร (นายก) ให้ดิฉันเขียนโครงการเบิกงบประมาณตามหน้าที่ แต่ไม่ให้ดิฉันบริหารเงินงบประมาณในการจัดทำโครงการ กลับมอบหมายให้พนักงานพัสดุเป็นผู้จัดซื้อของในการจัดทำโครงการทั้งหมด แล้วจัดทำเอกสารให้ดิฉันเซ็นต์เป็นผู้สั่งซื้อ แม้แต่โครงการก่อสร้างก็ให้ดิฉันเซ็นต์เป็นผู้ตรวจรับงานจ้างร่วมกับนายช่างโยธา ทั้งๆ ที่ดิฉันไม่เคยได้รับการบอกกล่าวให้ออกไปตรวจงาน แต่ก็คิดว่านายช่างโยธามีความรู้ด้านนี้เป็นอย่างดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรดิฉันก็เซ็นต์เอกสารตรวจรับงานจ้างให้ตลอด มาทราบทีหลังว่ามีข้าราชการชั่วบางตำแหน่ง ร่วมมือกับนักการเมืองเลวทุจริตคอรัปชั่น โกงเงินแผ่นดิน งาบงบประมาณโครงการ วานให้เราเซ็นต์เอกสาร (เท็จ) มาตลอด 3 ปี

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-11 13:54:37


ความคิดเห็นที่ 2 (1672496)

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง คราวนี้ได้ฝ่ายข้าราชการขี้โกง ในขณะที่ผู้บริหารฝ่ายการเมือง(นายก)  มีความมุ่งมั่นเข้ามาทำงานรับใช้บ้านเมือง ดิฉันเองก็อยากให้ระบบราชการใสสะอาดปราศจากการทุจริตคอรัปชั่น  จึงมุ่งมานะทำงานรับใช้บ้านเมืองเคียงข้าง(นายก) อย่างไม่ย่อท้อแม้จะโดนบีบคั้นจากฝ่ายข้าราชการที่เสียผลประโยชน์ ข้าราชการฝ่ายที่เสียประโยชน์ก็ดิ้นทุกวิถีทางเพื่อให้นายกซึ่งเป็นผู้บริหารงบประมาณอยู่ในกำมือตนเอง เช่น นายกสำรองเงินเพื่อปรับถมที่และก่อสร้างโรงจอดรถประจำสำนักงาน เมื่องานเสร็จท่านนายกจึงขอเบิกเงินงบประมาณในการก่อสร้าง พวกข้าราชการก็รวมหัวกันไม่ให้เบิกอ้างข้างๆ คูๆ ว่าบริเวณที่นายกไปสร้างโรงจอดรถเจ้าของที่ดินยังไม่ได้ทำการโอนให้เป็นของ อบต.(พอสร้างเสร็จพนักงานข้าราชการพารถเข้าไปจอดกันตรึม)  ที่ดินผืนที่ตั้งเทศบาลตำบลมะกรูดทุกวันนี้ เป็นที่ดินของคุณยายพิณ ทายะพิทักษ์ คุณยายได้ยกที่ดินผืนดังกล่าวให้เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานราชการมากว่า 20 ปีแล้ว และเจตนาอันบริสุทธิ์ของคุณยายก็เป็นที่รับทราบของประชาชนทั้งตำบล สุดท้ายนายกก็เป็นฝ่ายยอมชดเงินตัวเองในการสร้างโรงจอดรถ เท่านี้ยังไม่พอค่ะทุกปีดิฉันจะพาผู้พิการในตำบลไปร่วมงานวันคนพิการสากลในตัวจังหวัด ซึ่งในการพาผู้พิการไปร่วมกิจกรรมแน่นอนค่ะว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าจ้างเหมารถไปร่วมกิจกรรม นายกก็ใจดีจัดหารถให้ก่อนพอเสร็จงานก็เหมือนเดิมค่ะ บอกว่าเบิกไม่ได้ไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้เพื่อการนี้ นายกก็ต้องชดเงินอีก และก็เป็นเช่นนี้อีกหลายโครงการ แม้ดิฉันจะบอกให้นายกใช้อำนาจผู้บริหารสูงสุดจัดการกับข้าราชการที่ร่วมกันกระทำผิดให้หลาบจำ นายกก็ไม่ตัดสินใจใช้อำนาจที่มีกำหราบคนชั่ว ในที่สุดการต่อสู้เพื่อสร้างระบบราชการไทยให้ใสสะอาดก็ต้องยุติลง หลังจากที่ดิฉันกับนายกได้ต่อสู้ด้วยกันมา 2 ปี นายกเปลี่ยนไปฟังข้าราชการทุจริต คราวนี้อยากเบิกงบประมาณเท่าไหร่เขาก็จัดให้ อิ่มกันถ้วนหน้าทั้งคนเบิกและคนให้เบิก ดิฉันในฐานะผู้รับผิดชอบงานโครงการต่างๆ ต้องมาร่วมรับรู้ร่วมทำและเซ็นต์เอกสาร(เท็จ) ในการเบิกจ่ายเงินโครงการมาใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-11 15:36:41


ความคิดเห็นที่ 3 (1672497)

ดิฉันเคยเขียนโครงการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดอบรมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในชุมชน แต่เมื่อเบิกงบประมาณออกมาแล้วกลับไม่ได้นำไปใช้ในเรื่องดังกล่าว นายกจะพาประชาชนทั้งหญิงและชายไปสนองกิเลสโดยการเหมารถทัวร์ จำนวนหลายคัน พาไปเที่ยวแพเทคที่จังหวัดกาญจนบุรีบ้าง ในขณะอยู่ในรถก็เปิดวงไพ่ ดื่มเหล้าเบียร์กันอย่างสำราญ ไปเที่ยวแต่ละครั้งก็หมดงบประมาณแผ่นดินไปครั้งละหลายแสนบาท และโครงการดังกล่าวก็มีกระแสตอบรับอย่างดีจากชาวบ้าน ทำให้ท่านนายกคิดว่าถ้าได้พาชาวบ้านไปเที่ยวอย่างสำราญทุกกลุ่มเป้าหมายท่านก็จะยิ่งได้รับความนิยมจากชาวบ้านเมื่อคิดเช่นนั้น การเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆ ก็ผิดวัตถุประสงค์ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณส่งเสริมอาชีพ งบประมาณในการแก้ไขปัญหายาเสพติด งบประมาณที่ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพและควบคุมป้องกันโรคระบาดในชุมชน งบประมาณฉุกเฉินยามเกิดภัยพิบัติ แม้กระทั่งงบประมาณที่ใช้ในการเดินทางไปราชการ ก็ถูกโอนและบิดเบือนข้อเท็จจริงมาใช้เพื่อการท่องเที่ยวจนหมด

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-11 15:45:43


ความคิดเห็นที่ 4 (1672498)

ดิฉันมีส่วนร่วมในการทำให้ประเทศชาติขาดทุน เสียทรัพย์สินเงินทองไปในทางเสื่อมประมาณสองล้านบาท อีกทั้งสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่ไม่มีศักยภาพจนเต็มบ้านเต็มเมือง ปัญหายาเสพติดในชุมชนก็ระบาดหนักไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง บางครั้งดิฉันได้เดินทางไปกับทัวร์ท่องเที่ยวด้วยในขณะที่ชาวบ้านเขาสนุกสนานเต้นกันอย่างเมามันในแพเทค ดิฉันก็ขาดสตินึกอยากสนุกไปร่วมเต้นกับเขาด้วย (สรุปแล้วดิฉันเลวมากกว่าพวกเขาด้วยซ้ำไปเพราะดิฉันเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่างบประมาณที่นำมาใช้นั้นมาจากไหนและจะต้องนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร แต่ดันไปเมามันร่วมกับชาวบ้านซะงั้นเรียกได้ว่าทั้งเลวทั้งโง่เลยค่ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-11 15:54:22


ความคิดเห็นที่ 5 (1672501)

นอกจากนี้ดิฉันยังขโมยเวลางานหลวง ไปช้อปปิ้ง นั่งเล่นเกมส์ เล่นอินเตอร์เน็ต ดูแคตตาล็อกสินค้า คุยโทรศัพท์ พักกลางวันนาน    รับ-ส่ง ลูกไปโรงเรียน มาสายกลับก่อน หยุดงานบ่อย ใช้ทรัพย์สินในที่ทำงานฟุ่มเฟือย เช่น ปากกา ดินสอ ยางลบ ลิขวิด กระดาษ แม็ก กาว กรรไกร ฯลฯ ใช้แล้วไม่เก็บรักษาให้เรียบร้อยทำหายบ่อยไม่รับผิดชอบ หายแล้วก็เบิกของใหม่มาใช้ นำของหลวงกลับบ้าน ทำเอกสารผลงานเท็จ(อยากได้เงินโบนัสประจำปี) เบิกเงินเดินทางไปราชการเกินจริง 

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-11 16:18:53


ความคิดเห็นที่ 6 (1673241)

ดิฉันสำนึกผิดแล้วค่ะ จะไม่ทำอีกแล้ว และยินดีให้ธรรมทานแก่เพื่อนพ้องข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ในสำนักงานซึ่งยังประพฤติปฏิบัติตนเหมือนที่ดิฉันเคยทำ ปรากฎว่าไม่เป็นผลค่ะเพราะพวกเขาเหล่านั้นมีดวงตาเห็นกรรมเสียแล้ว ไม่รู้และไม่ยอมเปิดใจรับรู้ว่าสิ่งที่ตนได้กระทำนั้นผิดศีลข้อ2 ส่งผลให้ผู้กระทำยากจนข้นแค้น หนี้สินท่วมหัว ทรัพย์สินถูกทำลายให้เสียหายด้วย ภัยจากน้ำท่วม ไฟไหม้ โดนขโมย ถูกฉ้อโกง ฯลฯ ยิ่งจนก็ยิ่งดิ้นรนแสวงหาทางออกด้วยการทุจริต เอาเท่าไหร่ก็ไม่พอ  ทั้งข้าราชการและลูกจ้างต่างพากันหารายได้เสริมด้วยการเอาเวลาหลวงไปประกอบธุรกิจส่วนตัว น่าสงสารค่ะ ไม่มีใครมีเงิน คนที่เป็นข้าราชการก็ใช้สิทธิกู้เงินสวัสดิการกันถ้วนหน้า ดอกเบี้ยก็สุดโหดค่ะครึ่งต่อครึ่ง สมติกู้ 500,000 บาท ต้องจ่ายคืน 1,000,000 บาท ส่วนใหญ่จะกู้กันเต็มวงเงินคนละ 800,000 บาท หลายคนจำทนให้หักเงินเดือนไปจนกว่าจะเกษียณอายุราชการ บางคนนอกจากจะเจอปัญหาความยากจนแล้ว ปัญหาครอบครัวก็รุมเร้า เช่น สามี/ภรรยา มีกิ๊ก คนในครอบครัวติดการพนันงอมแงม ผลอันเผ็ดร้อนเหล่านี้ล้วนเกิดมาจากเหตุที่ทุกคนมีส่วนร่วมกระทำผิดในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินไปใช้ในการมอมเมาประชาชนนั่นเอง ตอนพา ลูก เมีย ผัวเขา ไปดื่ม ไปร้อง ไปเต้น ไปเล่น(การพนัน) สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวเขาเรากลับไม่สะทกสะท้าน ไม่เดือด ไม่ร้อน เพราะไม่ใช่ ลูกเรา ผัวเรา เมียเรา ขณะนี้ทั้งผู้สนับสนุนความคิด ผู้จัดทำเอกสารเท็จ ผู้รับผิดชอบโครงการ ตลอดไปจนถึงผู้อนุมัติโครงการในครั้งนั้น ต่างก็ได้รับบทเรียนกรรมกันถ้วนหน้า ดิฉันได้แต่หวังว่าบทเรียนกรรมอันแสนสาหัสที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของดิฉัน จะช่วยให้บรรดาเพื่อนพ้องข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ในสำนักงาน สามารถหาทางออกจากทุกข์และมีดวงตาเห็นธรรม

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-16 15:27:37


ความคิดเห็นที่ 7 (1673250)

โมทนาบุญกับน้องเอ็มนะค่ะ พี่คิดว่าไม่มีใครรอดเลยเรื่องหนี้แผ่นดินนะค่ะ  เช่นทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลอง  ไปสถานที่ราชการใช้น้ำไฟ ไม่ประหยัด  แถมบางครั้งยังเอากระดาษชำระติดกับมาด้วซิ และยังมีอีกเยอะฯลฯ  จ้าน้องเอ็มมันปรานีตมากๆ  แค่ศีลหยาบกว่าเราจะรู้จัก และทำได้ต้องใช้เวลาฝึกกันจริงจัง บางครั้งพี่เองก้ต้องเริ่มถึง 2 ครั้ง  กว่าจะสำเร็จต้องใช้กำลังใจที่สูงมากๆค่ะ พี่ตุ๊กนครศรีฯ เป็นกำลังใจให้นะค่ะน้องเอ็ม

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-16 20:21:36


ความคิดเห็นที่ 8 (1673284)

ทุกวันนี้ดิฉันก็ไม่ได้สุขสบายไปเสียทุกอย่าง ดิฉันเองก็ต้องรับผลกรรมจากการผิดศีลข้อ 2 โดยการรับชำระหนี้สินที่ตนเองไม่ได้สร้าง เป็นหนี้สินที่คุณตากับคุณยายทำเรื่องกู้ยืมเงินจากธนาคาร จำนวน 150,000 บาท ให้กับแม่และน้าสาวของดิฉัน  โดยเอาโฉนดที่ดินบ้านที่อาศัยอยู่ปัจจุบันเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทุกวันนี้แม่กับน้าสาวยังไม่มีเงินไปผ่อนชำระหนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารแนะนำให้รีบชำระหนี้ทั้งหมด เนื่องจากโฉนดที่ดินดังกล่าวยังเป็นชื่อของคุณยาย และคุณยายก็อายุมากแล้ว (76 ปี)   ดิฉันได้ไปติดต่อที่ธนาคารเพื่อเคลียร์เรื่องหนี้สิน ในระหว่างการติดต่อดิฉันได้เรียกรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยให้ดิฉันได้รับความช่วยเหลือในการติดต่อเจรจาประนอมหนี้ ได้ผลเกินคาดค่ะตอนแรกดิฉันคาดหวังแค่ให้ทางเจ้าหน้าที่ลดอัตราดอกเบี้ยให้แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารไม่คิดดอกเบี้ยค่ะให้ดิฉันชำระคืนเฉพาะเงินต้น ดิฉันติดต่อขอทำเรื่องกู้เงินเพิ่มกับทางธนาคารในวงเงินเท่ากับจำนวนหนี้สินที่ต้องชำระแต่เจ้าหน้าที่บอกว่าตอนนี้ทางธนาคารยังไม่เปิดให้กู้ ดิฉันจึงตัดสินใจโทรไปหาน้องสาวที่กรุงเทพให้น้องสาวทำเรื่องกู้ยืมเงินให้และได้บอกเหตุผลการกู้ยืมเงินกับน้องสาวอย่างตรงไปตรงมา คราวนี้ดิฉันเรียกรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยให้น้องสาวทำเรื่องกู้ยืมเงินให้ดิฉัน  ปรากฎว่าน้องสาวไม่สามารถกู้เงินให้ได้เนื่องจากเลยกำหนดระยะเวลาที่ทางโรงเรียนเปิดให้กู้แล้ว แต่น้องสาวได้ติดต่อประสานไปยังน้องชาย  ให้น้องชายทำเรื่องกู้ยืมเงินให้แทน (ดิฉันมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน) ซึ่งทางโรงเรียนที่น้องชายดิฉันสอนอยู่ จะให้ทำเรื่องกู้ยืมเงิน ในเดือน มกราคม 2557   ที่สำคัญดิฉันไม่ต้องแบกรับภาระหนี้สินแต่เพียงลำพัง เพราะน้องสาวกับน้องชายจะช่วยดิฉันชำระหนี้คนละ 50,000 บาทด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-17 10:44:08


ความคิดเห็นที่ 9 (1673365)

วันนี้ขออนุญาตนำความฝันเรื่องผีเฝ้าทรัพย์ (แผ่นดิน) มาเล่าสู่กันฟังค่ะ ดิฉันฝันว่ามีผู้หญิงวัยกลางคนมาบอกกับดิฉันว่า เจ้าพนักงานพัสดุร่วมกับส่วนโยธา โกงวัสดุประปา มาบอกให้ดิฉันช่วยเพราะเขามีหน้าที่เฝ้ารักษาทรัพย์ ในฝันดิฉันได้บอกเขาไปว่าดิฉันช่วยอะไรไม่ได้หรอกเพราะดิฉันไม่ได้มีอำนาจพอที่จะจัดการเรื่องนี้ ผู้หญิงวัยกลางคนที่ดิฉันเห็นในความฝันนั้นได้เดินจากไปด้วยความทุกข์ (หน้าเศร้ามากๆๆ) หลังจากที่ดิฉันฝันได้ไม่นาน ทั้งเจ้าพนักงานพัสดุ และช่างโยธาอีก 2 คน ก็มีแต่เรื่องให้ทุกข์ใจ หัวหน้าส่วนโยธาเดินทางไปประชุมที่หาดใหญ่ด้วยรถยนต์ส่วนตัว พารถไปจอดไว้ใต้โรงแรม ปรากฎว่าช่วงกลางคืนมีฝนตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้รถของหัวหน้าส่วนโยธาที่จอดอยู่ใต้โรงแรมจมน้ำได้รับความเสียหายทั้งคัน ลืมบอกไปค่ะก่อนหน้ารถคันที่จมน้ำหัวหน้าส่วนโยธาเมาสุราขับรถไปชนกับกำแพง รถได้รับความเสียหายทั้งคัน (ผ่อนกุญแจอยู่นานเหมือนกัน) พอผ่อนหมดก็ตัดสินใจกู้เงินถอยรถป้ายแดงคันที่สอง ถอยออกมาได้ไม่ถึงเดือน รถก็โดนน้ำท่วมเสียหายทั้งคัน พี่ช่างก็ถอยรถป้ายแดงคันที่สามออกมาใช้ ปรากฎว่ารถคันที่สามก็ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุอีก (แต่ชนคราวนี้แบบว่าซ่อมได้ค่ะ)  ช่างโยธา(ลูกน้อง) ที่ร่วมด้วยช่วยกันโกงก็มีปัญหาครอบครัวค่ะครอบครัวแตกแยก ทิ้งลูก ทิ้งภรรยาไปมีใหม่ คราวนี้ได้คนคอเดียวกันค่ะคือทำงานส่วนท้องถิ่นเหมือนกัน รู้ช่องทางในการแสวงหาเงินรายได้จากหน่วยงานหลวงเป็นอย่างดี สองสามีภรรยาคู่นี้จึงตัดสินใจเปิดร้านจำหน่ายสินค้าประเภทสิ่งก่อสร้างด้วยกัน เอาเวลาหลวงไปทำธุรกิจชนิดตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต ก็ยังไม่รวยเป็นหนี้เป็นสินมากมาย  พี่พัสดุก็โดนไม่น้อยค่ะขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์คนขับรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บรถเสียหายทั้งคัน งานนี้เลยต้องรับผิดชอบไปแบบเต็มๆ  และพี่พัสดุยังเป็นโรคเก๊าท์ด้วยค่ะ ปวดกระดูกมาก ปวดจนต้องคลาน (พี่เค้าบอก) ดิฉันได้ทีเลยเล่าความฝันให้ฟังแล้วถามพี่เค้าว่าเชื่อมั้ยว่ามีผีคอยตามพี่ มาทำให้พี่ปวดกระดูก และยังคอยขัดขวางเรื่องการงาน การเงินทุกอย่าง พิสูจน์ได้นะ (ดิฉันนำพีระมิดรุ่นชำระหนี้แผ่นดินมาด้วยพร้อมให้ทุกคนได้พิสูจน์วัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด) ถ้าผีกัดกินกระดูกพี่อยู่จริงเมื่อได้พิสูจน์โดยการใช้วัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิดของอาจารย์อุบลแล้ว ผีจะยอมถอยออกไปก่อนอาการปวดกระดูกของพี่จะดีขึ้นหรือหายเจ็บทันที  นอกจากพี่พัสดุจะไม่ยอมพิสูจน์แล้วพี่แกยังบอกว่า พี่เชื่อนะ เชื่อว่าผีมีจริง ตามพี่อยู่จริง เชื่อมากด้วยเรื่องแบบนี้ แต่ผีที่ตามไม่สามารถเข้ามาทำอะไรพี่ได้หรอกพี่กล้าท้าได้เลยประมาณว่าพี่เค้ามีของขลังกันผี ที่พี่ปวดกระดูกเพราะว่าพี่เป็นโรคเก๊าท์ ไม่ใช่ผีหรอกเพราะผีทำอะไรพี่ไม่ได้แน่นอน นอกจากพี่พัสดุจะไม่กลัวแล้วยังกล้าที่จะเดินหน้าโกงชาติบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องต่อไป (ถ้าตำแหน่งเจ้าพนักงานพัสดุไม่ร่วมด้วยช่วยกันโกงตำแหน่งอื่นก็โกงยากค่ะ เพราะเจ้าพนักงานพัสดุมีหน้าที่ควบคุมดูแลและตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างทุกประเภท)

ผู้แสดงความคิดเห็น สาวิตรี คงศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-19 11:38:22


ความคิดเห็นที่ 10 (1673673)

ว้าว  ว้าว  ว้าว

ยิ่งอ่านธรรมทาน

เรื่อง หนี้แผ่นดินของคุณสาวิตรี

ยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่ายังมีข้าราชการ

เป็นแสน ๆ คนที่ยังคงโกงแผ่นดินอย่างนี้

แล้วพวกเขาก็ยังเจ็บ ยังจน อับโชค

มีโรคร้ายเบียดเบียน และครอบครัวแตกแยก

แต่พวกเขาก็ไม่เคยหาสาเหตุ

ว่าทำไมจึงต้องเป็นแบบนี้

 

กลับตั้งหน้าตั้งตา

สร้างหนี้แผ่นดินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

แพมเองก็ติดหนี้แผ่นดินเยอะ

เนื่องจากรับราชการมานานถึง 17 ปี

ช่วงสิบปีแรก

ก็ไม่ได้สร้างกรรมมากเท่าไหร่

แต่เจ็ดปีหลังก่อนลาออก

สร้างกรรมหนี้แผ่นดินอย่างมากและต่อเนื่อง

เช่น เบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยง

ในการเป็นวิทยากรผู้ให้การอบรบเกินจริง

โดยเฉพาะค่าที่พัก และค่าพาหนะ

บางครั้งไม่ได้จ่ายค่ารถเลยสักบาท

เพราะไปกับรถเพื่อนแต่เบิกเงินหลวงเต็มพิกัด

เรียกว่าเอาให้หมดเท่าที่มีสิทธิ์เบิกได้

 

บางโครงการตัวเองเป็นผู้เข้ารับการอบรม

ก็เบิกเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก และค่าพาหนะเกินจริงเช่นกัน

 

นอกจากนี้ยังไปทำงานสาย

แต่กลับก่อนเป็นประจำ

เอาของหลวงกลับไปใช้ที่บ้าน

เท่าที่จำได้ เช่น สมุดแจกฟรี ดินสอ ปากกา 

กาว กระดาษสี  กระดาษโรเนียว สแต็ปเปิ้ล

พร้อมกับลูกสแต็บเปิ้ล หลาย ๆ กล่อง

ผลคือ มีหนี้สินล้นพ้นตัว

หาเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอใช้หนี้

 

หลังจากที่ได้รู้จักท่านอาจารย์อุบล

และบ้านสวนพีระมิด

จึงได้รู้ว่าการทำแบบนี้คือการสร้างหนี้แผ่นดิน

เดี๋ยวนี้ ลูกได้สำนึกผิดแล้ว จะไม่สร้างหนี้แผ่นดินอีกต่อไป

 

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

อย่างที่สุดที่ชี้ทางสว่าง และทางพ้นทุกข์ให้แพมค่ะ

กราบ กราบ กราบ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-29 01:47:18


ความคิดเห็นที่ 11 (1684633)

ตอนนี้ คุณสาวิตรี อยู่ยังไงคะ

อยากรู้ว่า ถ้าไม่อ่อนข้อให้พวกขี้โกง

จะยังคงรับราชการอยู่ได้ยังไง

เพราะมีแต่คนพูดว่าจริง ๆ แล้วก็ไม่เห็นด้วยหรอก

แต่ถ้าไม่เอาหูไปนา เอาตาไปไร่

ก็อยู่ไม่ได้ ก็คนเขาทำกันทั้งนั้น

เราไม่ทำก็เป็นหมาหัวเน่า

ขอให้คุณสาวิตรีช่วยตอบด้วยนะคะ

จะได้เป็นธรรมทาน เอาไปบอก

ลูกหลาน ญาติ ๆ

และลูกศิษย์ทั้งหลาย

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-08-19 21:20:52



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.