|
สารภาพบาปของผมนะครับ | |
การสารภาพบาปของผมในการทำผิดศีลข้อ 1 ผมเคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยครับ เช่นหอยทาก ปลาทอง ปลาหางนกยูง รวมทั้งพวกแมลง ต่างๆ เช่น มด ยุง แมลงวัน ตะขาบ แมลงสาป ฯลฯ โดยเฉพาะพักนี้รู้สึกว่าจะฆ่ามดบ่อยมาก โดยไม่ได้ตั้งใจ และตั้งใจ เนื่องจากมดเยอะ แต่ผมก็รู้สึกเสียใจ การทำร้ายคน ก็มีครับเคยชกต่อยกับเพื่อน 2-3 คน ก็ทำร้ายเขาบ้าง ต่อยกระทืบเขา เช่น ต่อยหน้า กระทืบที่หัว แทงเข่าบริเวณใบหน้า ถีบเขา รวมถึงการทำร้ายเพื่อนที่เราไม่ได้จงใจ ( เล่นกับเพื่อน ) เช่นตบหัวเพื่อน ถีบกัน เตะก้นกัน เตะขา ต่อยแขน สัตว์ที่เคยกินเป็นอาหาร ก็มีเกือบทุกชนิดที่คนส่วนใหญ่กินกัน เช่น หมู ไก่ เนื้อวัว กุ้ง ปู หอย ปลา เนื้อนกกระจอกเทศ ฯลฯ แล้วก็จะสารภาพบาปที่ได้มังขาด โดยตอนที่ไปทัศนศึกษากับโรงเรียนนั้นผมได้กินเนื้อสัตว์ไปโดยเจตนา หักห้ามใจไม่อยู่ เช่น พวก ไก่ทอด คอหมูย่าง สุดท้ายผมจะพยายามควบคุมตัวเอง ทั้งทายกาย วาจา ใจ ในการที่จะไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น และฆ่าสัตว์และแมลงต่างๆ รวมถึงการทำร้ายผู้อื่น จะพยายามไม่ให้สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับตนเองครับ ผลจากการกระทำผิด ผลจากการกระทำผิดของผมนั้นมีอยู่หลายรูปแบบครับ ทั้งการเจ็บป่วยทางกาย เช่นปวดตรงนู้นตรงนี้ บางคนอาจจะคิดว่าไม่เห็นเกี่ยวกันเลย แต่ผมว่าเกี่ยวกับ กับสิ่งที่เคยประสบมาท่านอ.อุบลเมตตาทำธรรมะบำบัดหมู่ครับ ตอนนั้นเจ็บจี๊ดๆ ที่หลัง ผมนึกไม่ออกครับ ว่าทำอะไรมา แต่สารภาพไปพร้อมๆกัน ปรากฏว่าหายครับ หายแว๊บไปเลย ยังมีการเจ็บป่วยต่อร่างกายอีกนะครับ แต่ว่าไม่สาหัสมาก เช่น เป็นไข้ ตัวร้อน ปวดหัว ปวดคอ ปวดตามแขนตามขา ตามเนื้อตามตัว กล้ามเนื้อซ้น ต่างๆนานาครับ แต่ก็มาเตือนเป็นระยะๆ ถือว่าท่านเมตตาแล้วครับ ที่ไม่จัดเต็มมาตูมเดียว ก็มีประมาณนี้นะครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ณภัทร ภิรมย์รักษ์ :: วันที่ลงประกาศ 2012-08-10 20:42:50 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1623600) | |
เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการทำผิดศีลข้อ สอง ผมเหมือนจะรู้ด้วยตนเองครับ เรื่องนี้ แบบว่าจับเรื่องชนปลายเอง แต่คิดว่าน่าจะใช่ เล่าเลยดีกว่า เปิดเทอมตอนเทอมสอง ผมติด ร. สองวิชา ก็เลยจะแก้ร. หนึ่งในนั้นเป็นวิชาพระพุทธศาสนา ก็คือเดิมทีนั้นอาจารย์เขา จะให้เขียนแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่ดูในวีดีโอ ก็ประมาณ 10 เรื่องได้ครับ ปัญหามีอยู่ว่าผมหาสมุดที่เคยทำทั้งสิบเรื่องนั้นไม่เจอ งานเข้าแล้วเรา เลยไปปรึกษาหารือกับอาจารย์ว่าจะทำอย่างไรดี ผมว่าผมฝากน้องบัวไปส่งแล้ว แต่ดันไม่มี อาจารย์ท่านบอกว่าก็คงต้องทำใหม่ ( (( นี่เป็นสิ่งที่ไม่พึงที่จะได้ยินมากที่สุกครับ ) กลับมาที่หอ ผมก็หาสมุดพระพุทธฯ จ้าละหวั่น หาตรงนู้นที ตรงนี้ที ใช้รหัสอ.อุบลด้วย ก็ยังหาไม่เจอ หมดหนทางครับ ก็เลยมานั่งพัก คิดไปคิดมา มีความผิดอันหนึ่งมันแว๊บเข้ามาครับ อยากรู้แล้วละซี้ เอาหละครับ ก็คือสิ่งที่เข้ามาแล้วทำให้นึกได้คือ ความผิดตอนสมัย ป. 4 ป. 5 มั้งครับ ก็คือตอนนั้นโกรธแค้นเพื่อนคนหนึ่งมาก เลยหาวิธีแก้แค้น เดินผ่านรถจักรยานเขา เห็นกระดาษอะไรสักอย่างตรงตะกร้า ผมเลยขโมยกระดาษนั้นมา ไม่แน่ใจว่าเอาไปเผาทิ้งเสร็จแล้วก็เอาไปฝังดิน หรือว่าแค่ฝังดินอย่างเดียว เอาเป็นว่าผมทำลายไปละกัน พอคิดได้อย่างนั้นแล้ว ผมก็เลิกวิตกกังวลครับ ผลของกรรมสมัยเด็กจริง มาเอาคืนตอน ม. 6 นานนะครับ ไปขโมยของของเขามา เวลาจะส่งงานที หายครับ หาไม่เจอ สรุป วันนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาทำใหม่ครับ 10 เรื่อง ภายในคืนเดียว แล้ววันรุ่งขึ้นก็นำไปส่งอาจารย์ สิ่งที่อยากให้ผู้ที่มาอ่านธรรมทานนี้นะครับ ก็จะได้เป็นเครื่องเตือนใจครับ เพราะว่าเราอาจไม่เชื่อเรื่องกรรมเพราะว่าไม่มีข้อพิสูจน์ แต่ธรรมทานของแต่ละท่านนี่ไงครับ ข้อพิสูจน์ ที่แต่ละท่านเขียนๆ กันมา คือข้อพิสูจน์ที่ว่า กฎแห่งกรรมมีจริง และเราต้องชดใช้กันจริงๆ ไม่ช้าก็เร็ว | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ณภัทร ภิรมย์รักษ์ วันที่ตอบ 2012-08-10 22:03:54 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1623629) | |
ปรกติพี่ก็เชื่อเรื่อง กฏแห่งกรรมอยู่แล้วนะ ยิ่งได้มาอ่าน คำสารภาพบาปจากน้องณัฐแล้ว พี่ยิ่งเชื่อขึ้นไปอีกว่า
กฏแห่งกรรมนั้นยุติธรรมที่สุด แค่เพียงรอวันเวลาและโอกาส ที่เหมาะสม ที่จะมาเอาคืนเท่านั้น
แต่น้องณัฐก็เก่งนะ ทำคืนเดียวสิบเรื่องได้เสร็จทันส่ง แสดงว่า ก็ยังเป็นเด็กดี มีบุญคุ้มตัวอยู่ มิใช่น้อย ชิมิ ชิมิ
อนุโมทนากับธรรมทานด้วยนะคะ น้องณัฐ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2012-08-11 06:50:16 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1449855 |