ReadyPlanet.com


กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนและท่านอาจารย์อุบล


เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 28 ต.ค.55 ได้เกิดปาฏิหาริย์ในชีวิตเกี่ยวกับกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง เป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ

คือขณะกำลังนั่งรถไปซื้ออาหารเย็นให้คุณแม่
มือก็กำกระเป๋าสตางค์ไว้
แต่พอใกล้ถึงร้านขายอาหาร คุณแม่ส่งเงินให้(ไม่ยอมให้หนูควักสตางค์ตัวเองไปซื้อ)
ยื้อกันไปยื้อกันมาหลายรอบ..จนหนูปลงใจยอมรับเงินจากคุณแม่
ขณะที่ยื่นมือไปรับเงิน ก็วางกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ตักของตัวเอง
ตอนก้าวลงออกจากรถเพื่อเดินไปซื้ออาหารนั้น…
ก็ลืมสนิทว่าได้วางกระเป๋าสตางค์ไว้บนตัก
พอลุกลงจากรถ..กระเป๋าสตางค์จึงหล่นอยู่ที่พื้นถนนข้างรถยนต์ที่จอดรออยู่
 
และตอนนั้นหนูไม่ได้นึกถึงรื่องกระเป๋าสตางค์ด้วยซ้ำ
จนเดินกลับมาขึ้นรถ..คุณแม่จึงเล่าให้ฟังว่า
เมื่อกี้มีผู้ชายขับรถมอเตอร์ไซด์มาจอดข้างรถของเรา
เขาเก็บกระเป๋าสตางค์ของหนู แล้วยื่นมาคืนคุณแม่
และบอกว่ากระเป๋าหล่นอยู่ที่พื้นตรงประตูรถนี่ล่ะ
ต้องเป็นของคนที่ลงจากรถเมื่อกี้แน่เลย
คุณแม่ดีใจมาก และขอบคุณที่เขานำกระเป๋าสตางค์มาส่งให้
คุณแม่ตอบแทนน้ำใจเขา 200 บาท และขอเบอร์โทรศัพท์เขา
เพื่อจะให้หนูได้โทรกลับไปขอบคุณเขาด้วย
 
พอหนูทราบเรื่องจากคุณแม่..
สิ่งแรกที่คิดถึงคือ นี่เพราะความเมตตากรุณาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนและท่านอาจารย์อุบล
นี่คือปาฏิหารย์ที่ท่านทรงมอบให้แก่หนู
หนูขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิดและท่านอาจารย์อุบล ที่หนูเคารพรักและศรัทธาเต็มหัวใจ
แม้แต่คุณแม่ยังเอ่ยปากเดี๋ยวนั้นเลยว่า หนูรู้มั้ย! ได้กระเป๋าสตางค์คืนเพราะ อ.อุบล นะ  เพราะในกระเป๋าสตางค์หนูมีรูปท่านอยู่…ท่านจึงคุ้มครองหนู ดลใจให้หนูได้กระเป๋าคืน
 
หนูบอกคุณแม่ว่านี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่หนูได้รับกระเป๋าสตางค์คืน
เพราะในกระเป๋าสตางค์ของหนู มีทั้งธนบัตรขวัญถุง(สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกพระองค์), รูปภาพท่านอาจารย์อุบล 2 รูป และรูปภาพคุณแม่ของหนูด้วย  ทุกท่านนี้ได้เมตตากรุณาแก่หนูอย่างที่สุดค่ะ
และหนูได้โทรศัพท์ขอบคุณผู้ชายที่เก็บกระเป๋าสตางค์คืนให้ด้วย
 
ทั้งนี้บุญกุศลทั้งปวงที่หนูได้สร้างสมมาทุกภพทุกชาติจนถึงปัจจุบันนี้ ขอจงรวมตัวกัน เพื่อขอน้อมถวายบุญทั้งหมดนี้แด่เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่ปกปักษ์รักษา
ท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์  อีกทั้งหนูขอถวายบุญทั้งหมดแด่ท่านอาจารย์อุบล และคุณแม่ ตลอดจนคุณผู้ชายที่เก็บกระเป๋าสตางค์นั้นด้วยค่ะ


ผู้ตั้งกระทู้ ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-29 11:51:10


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1637259)

       อนุโมทนาบุญกับธรรมทาน คุณ กระเต็น ด้วยค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นัยนา ชมภูบุตร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-29 16:14:06


ความคิดเห็นที่ 2 (1637261)

โมทนาบุญกับธรรมทานของน้องกระเต็น ปาฏิหาริย์เกิดกับลูกบ้านสวนฯ ถือว่าเป็นปกติไปแล้วค่ะ และเป็นนความโชคดีของน้องกระเต็นที่มีคนเอากระเป๋าสตางค์มาคืนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-29 16:45:09


ความคิดเห็นที่ 3 (1637312)

 กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์  เทพเทวาทุกพระองค์ และท่านอาจารย์อุบล

  หนูเป็นสมาชิกใหม่ แต่รู้จักบ้านสวนตั้งแต่ปี 2553 โดยการแนะนำของหัวหน้าที่ชื่อว่า ป.นก ซึ่งตอนนั้นหัวหน้าได้ชวนลูกน้องที่มีใจเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ ซึ่งการชวนทำบุญในครั้งนั้นเป็นการชวนทำบุญสร้างพีระมิด ซึ่งหนูก็หนึ่งในนั้นที่ได้ร่วมทำบุญ  ทุกครั้งที่หัวหน้าได้ไปทำบุญที่บ้านสวน จะกลับมาเล่าให้ลูกน้องฟังถึงความศักดื์สิทธิ์ของบ้านสวน ทำให้หลายคนอยากไปบ้านสวน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหนู  แต่หัวหน้าได้บอกว่าถ้าใครอยากไปต้องดูรายการของท่านอาจารย์อุบล พร้อมทั้งความศรัทธา และการทำถูกระเบียบของบ้านสวน ซึ่งประจวบเหมาะก่อนหน้านี้หนูได้มีโอกาสดูรายการของอาจารย์ ซึ่งเป็นบุญอย่างมากหนูจึงมีโอกาสได้ติดตามไป หนูได้กรอกแบบสอบประวัติ ก่อนที่จะเข้าบำบัดกับท่านอาจารย์ ข้อความที่กรอกคือ หนูเป็นคนบาปหนา เนื่องจากเป็นคนขี้โรค แทนที่จะอาศัยโลกกับให้โรคอาศัย ก็เลยสมกับคำว่าบาปหนา  ตอนนั้นหนูตั้งท้องอ่อนๆ มีภาวะเลือดออกตลอดคุณหมอเรียกว่าภาวะแท้งคุกคาม มีโอกาสหลุดเกิน 50%  เดินทางราบ  ขึ้นบันได ขับรถ แม้กระทั่งนั่งอยู่เฉยๆ ยังมีเลือดออก ขนาดหมอบอกให้เผื่ิอใจ  แต่เชื่อไหมคะว่าหนูทำบุญแรงกายที่บ้านสวน หนูไม่มีเลือดออกแม้แต่นิดเดียว มหัสจรรย์ไหมคะ นี่ละคะแดนศักสิทธิ์  ส่วนเรื่องที่ได้บำบัดคือ  โรคความดันสูง ไทรอย และการตั้งครรภ์ท่ีเสี่ยงแท้งสูง จริงแล้วหนูมีโรคอาศัยอยู่ในตัวอีกหลายอย่าง แต่วันนั้นเอาแค่นี้ก่อน ความดันสูงเกิดจากนิสัยของตนเอง ขี้โมโห  โกรธ ขี้น้อยใจ หงุดหงิด  โรคไทรอย เกิดจากเถียงพ่อแม่ พูดจาไม่ดีต่อเบื้องสูงและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ทุกอย่างท่ีท่านอาจารย์บอก ตรง100% เป็นสิ่งที่ได้กระทำ ส่วนการตั้งครรภ์ท่านอาจารย์อุบลได้ให้พรพร้อมทั้งลูบที่ท้องเบาแล้วบอกว่าให้แข็งแรง  พอบำบัดเสร็จยังไม่ทันไร หนูก็มีอาการมึนหัว ปวดหัวออกมา ท่านอาจารย์เลยถามว่าไปตบหังใครมาละ  หนูก็เลยตอบไปว่าหัวหลานๆ ท่านอาจารย์ถามว่าใครอีก 55 สามีค่ะ แต่เป็นการตบเล่ยทั้งหมด  ท่านอาจารย์บอกว่าเวรกรรมไม่เล่นด้วยหรอก ท่านอาจารย์ให็สารภาพบาปทั้งหมเ พร้อมทั้งขออโหสิกรรม ทุกอย่างดีขึ้นและหาย แต่ ท่านอาจารบ์บอกว่าถึงหายแล้วก็ห้ามกลับไปทำเหมือนเดิมอีก ไม่งั้นไม่หายจะกับมาเป็นอีก ส่วนหลังจากนั้นหนูได้ไปตรวจครรภ์ ผลตรวจปกติ เด็กแข็งแรงดีค่ะ ครังนี้เป็นการไปบ้านสวนครั้งแรก

    ส่วนครั้งที่สอง ก็มีความตั้งใจจะไปเล่าสิ่งที่เจอให้กับชาวบ้านสวนฟัง และทำบุญให้ลูกที่อยู่ในครรภ์ แต่ครัั้งที่สองมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น มาจากตัวเองล้วนๆ หนูกะสามีได้ไปที่บ้านสวนและได้เกิดมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เรื่องการเงินของที่บ้านแฟน ประโยคที่หนูพูดขึ้นคือ ถ้าพ่อสามีตายขึ้นมาเรื่องขึ้นจะทำงัย นี่ไม่ได้แช่งนะแค่สงสัย พอพูดไปจึงคิดได้ว่าท่านอาจารย์ได้เตือนทุกคนที่มาที่นี่ว่า กาย วาจา ใจ ต้องบริสุทธ์ิ ขนาดคิดได้ยังปากหนักไม่ขอขมา  กลับบ้านไปเกิดเรื่ิองเลย  เกิดภาวะครรถ์เป็นพิษต้องคลอดตอน 31 สัปดาห์ นำ้หนักแรกคลอด 1150 กรัม น้อยมาก ก่อนคลอดคุณหมอบอกว่าอาการไม่ดีทั้งแม่และลูก ในขณะนั้นคิดออกเลยว่าต้องขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวน พร้อมทั้งตั้งจิตอทิธานให่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก  จะร่วมทำบุญสร้างพีระมิด  เป็นอย่างที่ขอ แข็งแรงปลอดภัยค่ะ   พอหนูหายดีลูกแข็งแรงจึงไปร่วมทำบุญอย่างที่บอกไว้ ทุกอย่างเป็นเหมือนที่ท่านอาจารย์ได่ตักเตือนอลับอกกล่าวง

ผู้แสดงความคิดเห็น ขวัญตา บุญชุ่ม (Nuta_t_jang-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-29 22:26:10


ความคิดเห็นที่ 4 (1637315)

ถึงผ่านมานานแล้วแต่ก็ยังไม่สายที่จะเล่าเป็นธรรมทานใช่ไหมค่ะ หนูกราบขอขมาท่านอาจารย์และเทพเทวดา บ้านสวนทุกพระองค์ที่เพิ่งจะเขียนธรรมทานเอาป่านนี้  และการเขียนครั้งนี้อาจมีเนื้อหาที่สะกดผิด หนูต้องขอขมาไว้  ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ซึ่งเป็นการพิมพ์ในโมรศัพท์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขวัญตา บุญชุ่ม (Nuta_t_jang-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-29 22:36:52


ความคิดเห็นที่ 5 (1637317)

ถึงผ่านมานานแล้วแต่ก็ยังไม่สายที่จะเล่าเป็นธรรมทานใช่ไหมค่ะ หนูกราบขอขมาท่านอาจารย์และเทพเทวดา บ้านสวนทุกพระองค์ที่เพิ่งจะเขียนธรรมทานเอาป่านนี้  และการเขียนครั้งนี้อาจมีเนื้อหาที่สะกดผิด หนูต้องขอขมาไว้  ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ซึ่งเป็นการพิมพ์ในโมรศัพท์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขวัญตา บุญชุ่ม (Nuta_t_jang-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-29 22:37:30


ความคิดเห็นที่ 6 (1637318)

 กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์  เทพเทวาทุกพระองค์ และท่านอาจารย์อุบล

  หนูเป็นสมาชิกใหม่ แต่รู้จักบ้านสวนตั้งแต่ปี 2553 โดยการแนะนำของหัวหน้าที่ชื่อว่า ป.นก ซึ่งตอนนั้นหัวหน้าได้ชวนลูกน้องที่มีใจเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ ซึ่งการชวนทำบุญในครั้งนั้นเป็นการชวนทำบุญสร้างพีระมิด ซึ่งหนูก็หนึ่งในนั้นที่ได้ร่วมทำบุญ  ทุกครั้งที่หัวหน้าได้ไปทำบุญที่บ้านสวน จะกลับมาเล่าให้ลูกน้องฟังถึงความศักดื์สิทธิ์ของบ้านสวน ทำให้หลายคนอยากไปบ้านสวน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหนู  แต่หัวหน้าได้บอกว่าถ้าใครอยากไปต้องดูรายการของท่านอาจารย์อุบล พร้อมทั้งความศรัทธา และการทำถูกระเบียบของบ้านสวน ซึ่งประจวบเหมาะก่อนหน้านี้หนูได้มีโอกาสดูรายการของอาจารย์ ซึ่งเป็นบุญอย่างมากหนูจึงมีโอกาสได้ติดตามไป หนูได้กรอกแบบสอบประวัติ ก่อนที่จะเข้าบำบัดกับท่านอาจารย์ ข้อความที่กรอกคือ หนูเป็นคนบาปหนา เนื่องจากเป็นคนขี้โรค แทนที่จะอาศัยโลกกับให้โรคอาศัย ก็เลยสมกับคำว่าบาปหนา  ตอนนั้นหนูตั้งท้องอ่อนๆ มีภาวะเลือดออกตลอดคุณหมอเรียกว่าภาวะแท้งคุกคาม มีโอกาสหลุดเกิน 50%  เดินทางราบ  ขึ้นบันได ขับรถ แม้กระทั่งนั่งอยู่เฉยๆ ยังมีเลือดออก ขนาดหมอบอกให้เผื่ิอใจ  แต่เชื่อไหมคะว่าหนูทำบุญแรงกายที่บ้านสวน หนูไม่มีเลือดออกแม้แต่นิดเดียว มหัสจรรย์ไหมคะ นี่ละคะแดนศักสิทธิ์  ส่วนเรื่องที่ได้บำบัดคือ  โรคความดันสูง ไทรอย และการตั้งครรภ์ท่ีเสี่ยงแท้งสูง จริงแล้วหนูมีโรคอาศัยอยู่ในตัวอีกหลายอย่าง แต่วันนั้นเอาแค่นี้ก่อน ความดันสูงเกิดจากนิสัยของตนเอง ขี้โมโห  โกรธ ขี้น้อยใจ หงุดหงิด  โรคไทรอย เกิดจากเถียงพ่อแม่ พูดจาไม่ดีต่อเบื้องสูงและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ทุกอย่างท่ีท่านอาจารย์บอก ตรง100% เป็นสิ่งที่ได้กระทำ ส่วนการตั้งครรภ์ท่านอาจารย์อุบลได้ให้พรพร้อมทั้งลูบที่ท้องเบาแล้วบอกว่าให้แข็งแรง  พอบำบัดเสร็จยังไม่ทันไร หนูก็มีอาการมึนหัว ปวดหัวออกมา ท่านอาจารย์เลยถามว่าไปตบหังใครมาละ  หนูก็เลยตอบไปว่าหัวหลานๆ ท่านอาจารย์ถามว่าใครอีก 55 สามีค่ะ แต่เป็นการตบเล่ยทั้งหมด  ท่านอาจารย์บอกว่าเวรกรรมไม่เล่นด้วยหรอก ท่านอาจารย์ให็สารภาพบาปทั้งหมเ พร้อมทั้งขออโหสิกรรม ทุกอย่างดีขึ้นและหาย แต่ ท่านอาจารบ์บอกว่าถึงหายแล้วก็ห้ามกลับไปทำเหมือนเดิมอีก ไม่งั้นไม่หายจะกับมาเป็นอีก ส่วนหลังจากนั้นหนูได้ไปตรวจครรภ์ ผลตรวจปกติ เด็กแข็งแรงดีค่ะ ครังนี้เป็นการไปบ้านสวนครั้งแรก

    ส่วนครั้งที่สอง ก็มีความตั้งใจจะไปเล่าสิ่งที่เจอให้กับชาวบ้านสวนฟัง และทำบุญให้ลูกที่อยู่ในครรภ์ แต่ครัั้งที่สองมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น มาจากตัวเองล้วนๆ หนูกะสามีได้ไปที่บ้านสวนและได้เกิดมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เรื่องการเงินของที่บ้านแฟน ประโยคที่หนูพูดขึ้นคือ ถ้าพ่อสามีตายขึ้นมาเรื่องขึ้นจะทำงัย นี่ไม่ได้แช่งนะแค่สงสัย พอพูดไปจึงคิดได้ว่าท่านอาจารย์ได้เตือนทุกคนที่มาที่นี่ว่า กาย วาจา ใจ ต้องบริสุทธ์ิ ขนาดคิดได้ยังปากหนักไม่ขอขมา  กลับบ้านไปเกิดเรื่ิองเลย  เกิดภาวะครรถ์เป็นพิษต้องคลอดตอน 31 สัปดาห์ นำ้หนักแรกคลอด 1150 กรัม น้อยมาก ก่อนคลอดคุณหมอบอกว่าอาการไม่ดีทั้งแม่และลูก ในขณะนั้นคิดออกเลยว่าต้องขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวน พร้อมทั้งตั้งจิตอทิธานให่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก  จะร่วมทำบุญสร้างพีระมิด  เป็นอย่างที่ขอ แข็งแรงปลอดภัยค่ะ   พอหนูหายดีลูกแข็งแรงจึงไปร่วมทำบุญอย่างที่บอกไว้ ทุกอย่างเป็นเหมือนที่ท่านอาจารย์ได่ตักเตือนอลับอกกล่าวง

ผู้แสดงความคิดเห็น ขวัญตา บุญชุ่ม (Nuta_t_jang-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-29 22:37:34


ความคิดเห็นที่ 7 (1637681)

ปาฏิหารย์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

เนื่องจากเมื่อ 2 ปีก่อน แม่ได้มอบเงินที่ท่านสะสมไว้เกือบ 1.5 ล้านบาท

มอบให้แก่หนู ด้วยเพราะท่านคิดว่าหนูมีแต่เงินเดือน 4-5 หมื่นบาท

ไม่มีโอกาสได้ร่ำรวยเหมือนพี่ๆ ที่มีรายได้เกือบแสนต่อเดือน

ทั้งที่หนูพูดกับแม่เสมอว่า เงิน ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง

เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่บันดาลความสุขชั่วครั้งชั่วคราว

แต่ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ ความไม่ทุกข์กับเรื่องใดๆ ที่เราต้องประสบพบเจอ

ความสงบของจิตใจ การละ-เลิก-หยุดทำบาปชั่วทั้งหมด นั่นตะหากคือความสุขที่แท้จริง

ฉะนั้นหากหนูมีเงินเพียงแค่พอกินพอใช้..เราก็รู้จักใช้ให้พอ คือ 

1. แบ่งเงินสำหรับตอบแทนพระคุณพ่อแม่(ให้เงินเดือนประจำแก่แม่ และซื้อของ/อาหารที่ป๋าชอบ) 

2. แบ่งเงินสำหรับการทำบุญการให้ทาน

3. แบ่งเงินเพื่อเก็บสะสม(เล็กน้อย)สำหรับเป็นทุนไว้ใช้จ่ายในอนาคต

3.ที่เหลือเป็นเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

ชีวิตทางโลกก็เท่านี้เอง  ... ชีวิตทางธรรม ตะหากที่หนูต้องมุ่งมั่นต้องฉุดกระชากตัวเองต้องยกระดับจิตใจและความคิดของตัวเอง มุ่งสู่นิพพานให้สำเร็จ   นี่..เป็นคำพูดที่พร่ำพูดกับแม่เสมอ..ทุกครั้งที่แม่พูดว่า แม่ห่วงหนูมากที่สุด แม่จึงเก็บเงินไว้ให้ลูก...

แล้วพอมาวันนี้..แม่รู้สึกกังวลว่าหนูจะนำเงินไปใช้ต่างๆ นาๆ  จึงสอบถามถึงเงินก้อนนั้น

หนูรู้สึกไม่สบายใจที่แม่มีความกังวลในเรื่องนี้ หนูจึงนำเงินทั้งหมดคืนให้แม่ เงินต้น 1.5 ล้านบาท+ดอกเบี้ยหรือเงินปันผลใดๆ ที่เคยได้รับจากเงินต้นนั้น หนูคืนเงินเข้าบัญชีของแม่ทั้งหมด ขณะที่ทำ ใจมีความแน่วแน่ว่าต้องการทำเช่นนี้ เพื่อเคลียร์ตัวเองและเคลียร์กับแม่...

แต่พอกลับถึงบ้านตอนเย็น ใจหนูรู้สึกตุ๊มๆ ต้อมๆ เอ๊ะ ! สิ่งที่เราทำนี้ แม่จะเข้าใจเรามั้ยนะ แม่จะโมโห น้อยใจ เข้าใจเราผิดมั้ย เดี๋ยวเกิดเข้าใจว่าเราประชดประชันโดยคืนเงินเข้าบัญชีทั้งหมดเพียงแค่แม่ถามถึงเงินและอยากรู้ว่ารายละเอียดเท่านั้น

หนูจึงตั้งจิตอธิษฐานใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ขอให้แม่เข้าใจเจตนาของหนูด้วยเถิด ขอให้แม่ยินดีที่หนูคืนเงินทั้งหมดให้แม่ และอย่าให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันเลย

ปรากฏว่าหลังจากหนูแจกแจงเรื่องเงินทั้งหมด และแสดงใบสลิปที่หนูโอนเงินเข้าบัญชีแม่แล้ว  แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย เพียงแต่พูดกับหนูว่า หนูอย่าเข้าใจแม่ผิดนะที่แม่ถามเรื่องเงิน เพียงเพราะแม่ห่วงหนู กลัวหนูรู้ไม่ทันคนอื่น จะโดนหลอกเรื่องเงิน ...

นี่ช่างปาฏิหารย์จริงๆ .. ที่แม่ไม่โกรธไม่โมโหไม่โวยวายอะไรเลย เป็นเพราะความเมตตากรุณาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกๆพระองค์และท่านอาจารย์อุบล ที่ดลใจให้หนูหลุดพ้นจากความทุกข์ใจในครั้งนี้ ... หนูสำนึกในพระคุณของทุกพระองค์และท่านอาจารย์อุบล เป็นที่สุดเจ้าค่ะ

ทุกบุญกุศลและทุกความดีที่หนูได้กระทำในทุกๆ ชาติ ตลอดจนถึงปัจจุบันนี้ หนูขอถวายบุญทั้งหมดแด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกพระองค์และเทวดาที่ปกปักษ์รักษาท่านอาจารย์อุบล และขอถวายบุญแด่ท่านอาจารย์อุบล เจ้าค่ะ

กราบ..กราบ..กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 07:13:02


ความคิดเห็นที่ 8 (1643050)
ชื่อ - น.ส.ภวยา  เส็งพานิช
ชื่อเล่น - นกกระเต็น
การศึกษา - จบปริญญาตรี  คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หน้าที่การงาน-  ตำแหน่งหัวหน้าส่วนสนับสนุนสินเชื่อแฟลตและสินเชื่อพัฒนาโครงการ  ฝ่ายสนับสนุนสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
จังหวัดที่พักอาศัย- กรุงเทพมหานคร
 ...........................................
ดิฉันเคยก่อเวรสร้างกรรมไว้สารพัด เมื่อทบทวนความประพฤติของตัวเองในอดีต น่าตกใจเหลือเกินที่ประพฤติตนเหลวแหลกมากมาย
หากไม่เป็นเพราะเมื่อ 2 ปีก่อน ดิฉันได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด (www.baansuanpyramid.com) และได้พบท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ป่านนี้ชีวิตคงทุกข์ทรมานสาหัสสากรรจ์และไม่แคล้ว กระโจนดิ่งลงขุมนรกอเวจีไปนานแล้ว ดิฉันจึงขอโอกาสนี้ถ่ายทอด ประสบการณ์ชีวิตที่เคยทำผิดพลาด พลั้งเผลอ โง่เขลาไร้สติปัญญา ผสมด้วยจิตอกุศล จึงก่อกรรมทำชั่วจนได้รับผลกรรมตอบสนอง คือ
1. ตอนอายุ 7-8 ขวบ เรียนโรงเรียนอนุบาล พอเห็นถุงผ้าสำหรับ ใส่ช้อน-ช้อนซ่อมของเพื่อน เกิดความอยากได้ ก็ขโมยซะเลย แต่พอ ทำไปแล้วเกิดกลัวความผิดกลัวถูกจับได้ จึงทำผิดหนักเข้าไปอีกโดย เอาถุงใบนั้นไปแอบทิ้งข้างโรงเรียน
Ø    ผลของกรรม – การขโมยของผู้อื่นเป็นบาป ผิดศีลข้อ 2 ทำให้ทุกวันนี้เงินเดือนที่ได้รับมีเหตุให้ต้องใช้จ่ายเกือบหมด ไม่เคย เหลือเก็บออม   แถมพอซื้อวิทยุซื้อเครื่องฟังซีดีเพลงก็ถูกคนขโมยไป ทุกที จับคนขโมยของไม่ได้ด้วยสิ นี่แหละเรียกว่า..กฏแห่งกรรม! “ทำกรรมชั่วใดไว้ ย่อมต้องรับชดใช้กรรมนั้นเช่นเดียวกัน”
 
2. ชีวิตช่วงวัยเรียนไม่เคยตั้งใจเรียนหนังสือ แถมแอบหนีเที่ยว ทำให้ผลการเรียนคาบเส้นมาตลอดจนพ่อแม่ทุกข์ใจในความเหลวใหล ของดิฉัน  ที่สำคัญ!พ่อแม่อุตส่าห์เก็บออมเงิน ใช้จ่ายประหยัดสุดๆ เพื่อส่งเงินมาให้ลูกเรียนหนังสือเรียนพิเศษ แต่ดิฉันกลับตอบแทน ด้วยการทำให้ท่านผิดหวังเสียใจ
หลังจบมหาวิทยาลัย เริ่มทำงานมีเงินเดือนก็หลงระเริงเที่ยวผับ ซ้ำร้ายริดื่มเหล้าสูบบุหรี่นึกว่าเท่เหลือเกิน แถมหลังเลิกงานยังไป เที่ยวกลางคืนต่อ กว่าจะกลับบ้านหลังเที่ยงคืนแล้ว พ่อแม่ต้องทุกข์ใจ รอจนดิฉันกลับบ้านแล้วท่านจึงนอนหลับได้  ส่วนเงินเดือนก็ใช้เที่ยว เตร่และซื้อของสุรุ่ยสุร่ายตลอด
ผลกรรม – ดิฉันประพฤติตัวเป็นลูกที่เลวมากทำให้พ่อแม่ทุกข์ และเสียใจ แถมโยงให้ทำบาป ผิดศีลข้อ 4 และข้อ 5 เพิ่มด้วย เพราะทำให้ต้องโกหกปลิ้นป้อนและพูดไม่ดีกับพ่อแม่  แล้วที่โง่ที่สุด คือใช้จ่ายเงินซื้อเหล้าซื้อบุหรี่ที่มีแต่ให้โทษทำร้ายร่างกายอีกด้วย
กรรมตามสนอง ! ไม่แตกต่างกันเลย คือ ไม่มีใครเชื่อถือคำพูด ของข้าพเจ้าเลย มักเจอคนโกหกหลอกลวงไม่จริงใจ หน้าที่การงาน มีอุปสรรคตลอด ต้องเหน็ดเหนื่อยแก้ปัญหาโดยลำพัง   เพื่อนร่วมงาน บ่ายเบี่ยงไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่รับผิดชอบงาน
 
3. พอเริ่มทำงานได้ 2-3 ปี ก็สะสมบาปมาเรื่อย ทำผิดสารพัด โดยไม่รู้ว่านี่คือ บาป ได้แก่
·      
การทำผิดศีลข้อ 1
1. ที่บ้านเคยเลี้ยงแมวทั้งตัวผู้-ตัวเมีย ประมาณ 5-6 ตัว พอช่วง ผสมพันธุ์ ก็นำแมวไปคลินิกสัตวแพทย์ ให้คุณหมอฉีดยาคลุมกำเนิดหรือทำหมัน บางทีช่วยออกเงินค่าฉีดยาคลุมกำเนิดและทำหมันด้วย  
Ø    ผลที่เกิดขึ้นการฉีดยาคลุมกำเนิดแมว ซ้ำ 2 - 3 หนขึ้นไปจะทำให้แมวเป็นมะเร็งที่มดลูก มีอาการท้องบวมเพราะเป็นฝีหนองในท้องและมดลูกเน่า ในที่สุดต้องตายด้วยความทรมาน  ส่วนการทำหมันแมวตัวผู้เพื่อไม่ให้สืบพันธุ์เพิ่มลูกหลาน ข้าพเจ้าทำผิดเรื่องนี้ไม่ ต่างจากการทำแท้ง/สนับสนุนการทำแท้ง ไม่ว่าจะลูกคนหรือสัตว์ ถือเป็นการปิดกั้นโอกาสของหลายจิตวิญญาณที่รอคอยการมาเกิดใหม่ในครรภ์ของแมว จึงเป็นการก่อเวรสร้างกรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวรหลายสิบชีวิตโกรธแค้นและจองเวรโดยทำให้เกิดโรคต่างๆ แก่ข้าพเจ้า
Ø          กรรมตามสนอง! 1. ปัจจุบันเป็นมะเร็งที่มดลูกและเป็นซีส 4-5 จุดที่ปีกมดลูก    2. เคยผ่าตัดช่องท้องเพื่อรักษาโรคแผลใน กระเพาะอาหาร   3.ไม่มีใครเชื่อถือคำพูดของข้าพเจ้า     4. ลูกน้องกระด้างกระเดื่อง ไม่เคารพเชื่อฟังคำสั่ง
 2. ขับรถยนต์ทับงูเหลือมตัวใหญ่เลื้อยผ่านถนนซอยช่วงเช้ามืด กว่าจะเห็นงูก็เบรครถไม่ทันซะแล้ว รู้สึกผิดเหลือเกิน
 3. ขับรถเฉี่ยวชนสุนัขที่ยืนอยู่ข้างถนนร่มเกล้าช่วงเช้ามืดเพราะ ขับหลบรถบรรทุก 6 ล้อ โดยเบี่ยงเข้าเลนท์ซ้ายสุด สุนัขร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด  แต่ข้าพเจ้ากลับขี้ขลาด ไม่รับผิดชอบนำสุนัขไปรักษา … ข้าพเจ้าเลวเหลือเกิน!
 4. ที่บ้านมีต่อหัวเสือมาทำรังที่ต้นไม้ 2 รัง ขนาดใหญ่เท่าลูกบาส แถมรังหนึ่งมีตัวอ่อนเป็นพันตัว) มาวันนึงต่อได้ต่อยแขนเพื่อนบ้านจนได้รับบาดเจ็บแขนบวม ข้าพเจ้าจึงจ้างคนแถวบ้านทำลายรังต่อ เขาเลือกใช้วิธีเผาไฟรังตอนกลางคืน ต่อและตัวอ่อนตายหมดทั้งรัง
 5. เคยคลั่งไคล้เลี้ยงปลาตู้ ทั้งปลาหมอสีมากกว่า 200 ตัว ปลาหางนกยูงมากกว่า 1,000 ตัว ปลามังกร 2 ตัว และอีกสารพัดปลาที่ว่าสวยงาม ดูแล้วเพลิดเพลินใจ ก็หาซื้อมาเลี้ยงเต็มตู้ 60 นิ้ว และ 24 นิ้ว ตอนนั้นไม่คิดซักนิดว่านี่เป็นบาป จนเมื่อซื้อลูกปลาช่อน/ลูกปลาหมอนับร้อยๆตัวเพื่อเป็นอาหารเลี้ยงปลามังกรนั่นล่ะ  เริ่มสำนึกได้ เอ๊ะ ! นี่เราให้อาหารปลาด้วยลูกปลา มันไม่ถูกต้องแล้วล่ะ แบบนี้สร้างเวรสร้างกรรม สร้างสมบาปชัดๆ  เลิกเลี้ยงปลา..บัดนั้นเลย
Ø    ผลแห่งการทำร้ายสัตว์ทั้งเจตนาและไม่มีเจตนา ทำให้ สัตว์ต่างๆได้รับบาดเจ็บ  รวมถึงกักขังหลายร้อยพันชีวิตในตู้ปลาทำให้ ได้รับทุกข์ทรมานจนตายนับไม่ถ้วน
Ø    กรรมตามสนอง !  1. ทำให้ปวดหลังมากและทรมานนานหลายปี(ผลของการขับรถทับงู) 2.เคยเป็นไทฟรอยด์ติดเชื้อแบคทีเรีย(ผลของการเลี้ยงปลาตู้ ปลาติดเชื้อเป็นโรคตาย) 3. เป็นโรคภูมิแพ้ 4. เป็นโรคเส้นประสาทอักเสบเพราะติดเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่สามารถ ควบคุมกล้ามเนื้อซีกซ้ายบนใบหน้า ทำให้ปากเบี้ยว, ตาและมุมปาก ข้างซ้ายปิดไม่สนิท ต้องรับทุกข์ทรมานนาน 3 เดือน(ผลของการขับ รถเฉี่ยวชนสุนัข)
         จะเห็นได้ว่าการทำชั่ว คือ กรรมไม่ดี ซึ่งไม่หนีไม่หายไปไหน ทำเช่นใด ก็ต้องรับชดใช้กรรมเช่นนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
Ø ทางออกจากทุกข์ : จนเมื่อ 2 ปี ก่อน ดิฉันได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด(www.baansuanpyramid.com) และได้พบท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์  คำว่า “กฎแห่งกรรม” ที่เคยค้างคาใจ เคยสงสัย เคยไม่แน่ใจ  บัดนี้ท่านอาจารย์ได้พิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ด้วยตนเองจนหมดสิ้น ความสงสัย ไม่มีความคลางแคลงใจอีกต่อไป คือ “ผล”ของความทุกข์ ที่ดิฉันได้รับวันนี้ ล้วนเกิดมาจาก ”เหตุ” นั่นคือ ดิฉันได้เคยกระทำไม่ดี /เคยเบียดเบียนผู้อื่นไว้ เหตุเหล่านั้น จึงก่อผลให้เกิดความทุกข์สนองกลับ แก่ดิฉันเพื่อให้รับการชดใช้คืนเช่นกัน ดังนั้น จุดสำคัญ!จึงอยู่ที่ว่า ดิฉันสามารถคิดออกหรือไม่ว่าเคยสร้างเหตุอะไรไว้ เมื่อรู้ต้นเหตุแล้ว ยอมรับความผิดและสำนึกในความผิดที่เคยทำอย่างจริงใจ พร้อมทั้ง ตั้งใจแน่วแน่ไม่ กลับไปทำชั่วทำผิดนั้นอีก   นี่คือสิ่งท่านอาจารย์เมตตา ชี้แนะว่า การขจัดความทุกข์ นั่นคือกลับไปแก้ไขที่ต้น”เหตุ” เมื่อดับเหตุ ผลย่อมดับ 
          ดิฉันได้พิสูจน์ด้วยตนเองโดยการนึกทบทวนว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา แต่จำความได้จนถึงวันนี้ เคยทำสิ่งไม่ดีอะไรบ้าง (ตามที่กล่าวข้างต้นนั้น) ดิฉันยอมรับผิดและสำนึกในบาปนั้นด้วยการตั้งจิตอธิษฐานกราบขอขมาต่อพระพุทธองค์และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ดิฉันได้เคยเบียดเบียนเคย ทำให้ได้รับทุกข์ทรมานด้วยเจตนาและไม่มีเจตนาก็ตาม    ปาฏิหาริย์ ! ได้เกิดขึ้นกับดิฉัน อย่างแรกคืออาการปวดหลังที่เคยเป็นมาหลายปีหายทันที และอาการเจ็บไข้ได้ป่วยในปี 2555 ก็แทบไม่มีเลย
·      
การทำผิดศีลข้อ 2 : ใครอย่าคิดว่าเรื่องเล็กๆ ไม่เป็นไร …ทุกวันนี้ที่คนเป็นทุกข์เรื่องปากท้อง หาเช้ากินค่ำ ชักหน้าไม่ถึงหลัง มีหนี้ท่วมตัว ค้าขายขาดทุน ถูกโกงเงิน เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจาก เหตุของการกระทำที่เข้าข่ายผิดศีล ข้อ 2 ทั้งนั้น
ยกตัวอย่างเรื่องของดิฉันที่เคยผิดพลาดทำเรื่องชั่วๆ เช่น
 1.เคยลักทรัพย์/ยักยอกเงินของที่ทำงานเป็นเงินที่ลูกค้าชำระ ค่าธรรมเนียมซื้อแคชเชียร์เช็คฉบับละ 20 บาท ดิฉันขโมยเงินครั้งละ 100-200 บาท  หลายครั้งรวมกันได้เกือบ 1,000 บาท เพื่อไปซื้อนาฬิกาปลุกเป็นรูปไก่ 2 เครื่อง เพียงเพราะ อยากได้ เท่านั้นเอง ทำให้ขาดสติยับยั้งใจ ไม่ละอายในการทำผิด ไม่เกรงกลัวบาป กล้าลักขโมยเงิน ยิ่งเป็นเงินหลวงถือเป็นกรรมหนักมาก
2.เคยหยิบเครื่องใช้สำนักงานของที่ทำงานกลับไปใช้ส่วนตัวที่บ้าน เช่น ลวดเย็บกระดาษ, ลวดเสียบกระดาษ, ยางลบ, ปากกา, ดินสอ, กระดาษ A4, กาว, น้ำยาลบคำผิด, แฟ้มใส่เอกสาร, ซองใส่เอกสาร ทำอย่างนี้นานเกือบปี เหมือนเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น ทำโดยไม่คิดถึง บาป ด้วยซ้ำ
3.เคยใช้เวลาทำงานออกไปข้างนอกเพื่อทำธุระส่วนตัว เมื่อก่อน ทำบ่อยมาก และหลายครั้งยังใช้รถของที่ทำงานออกไปทำธุระส่วนตัว อีกด้วย รวมถึงการใช้โทรศัพท์ของที่ทำงานเพื่อติดต่อเรื่องส่วนตัว ตลอดจนใช้คอมพิวเตอร์ของที่ทำงานพิมพ์และPrintงานส่วนตัว ดิฉัน ทำผิดเช่นนี้มานานเพราะเห็นใครๆก็ทำกันทั้งธนาคารจนเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งหมดนี้คือ การเบียดบังของหลวง ทั้งสิ้น ย่อม บาป ! แน่นอน
ทั้ง 3 ข้อเป็นกรรมชั่วมากเพราะไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ เบียดบัง เงิน สิ่งของ และเวลาของหลวงของแผ่นดิน
Ø    กรรมตามสนองตลอดชีวิตการทำงาน 20 ปีของดิฉัน ต้องเหนื่อยหนักต่อการหมุนใช้เงินเดือนแทบชักหน้าไม่ถึงหลัง และมี อุปสรรคปัญหาการทำงานตลอด นั่นเพราะเหตุปัจจัย!ที่ดิฉันก่อกรรม ชั่ว 3 ข้อดังกล่าวจึงส่งผลสนองกรรมกับชีวิตเช่นนี้
Ø          แนวทางแก้ไขด้วยธรรมทานที่ดิฉันได้รับจากท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด ซึ่งท่านพิสูจน์ให้เห็นความจริงว่าเพราะเหตุปัจจัยที่ดิฉันทำชั่วดังกล่าว จึงส่งผลให้เกิดทุกข์กับชีวิตเช่นนี้ เมื่อดิฉันได้สารภาพบาปในความผิดที่เคยกระทำและรู้สำนึกผิดอย่างจริงใจแล้ว ดิฉันกราบขอขมาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบขอขมาต่อในหลวงต่อแผ่นดิน และนับแต่นี้ดิฉันจะไม่กลับไปทำชั่วดังกล่าวอีก ดิฉันยินยอมรับชดใช้กรรมนี้ให้หมดสิ้นในชาตินี้และด้วยความสำนึกในความผิดที่เคยทำชั่วไว้จึงขอตอบแทนพระคุณของแผ่นดินด้วยการบริจาคเงินประจำทุกเดือนให้แก่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์และมูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อสร้างประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติตามพระราชประสงค์ของในหลวง
ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-30 08:38:48


ความคิดเห็นที่ 9 (1643065)
การทำผิดศีลข้อ 3 : เมื่อ 20 ปีก่อนดิฉันเคยแต่งงาน แต่ด้วยชีวิตครอบครัวไม่ราบรื่นเจอปัญหาค่าใช้จ่ายในครอบครัว แล้วยังโง่เขลาไร้สติปัญญาเพราะหาทางระบายทุกข์ด้วยการเล่นแช็ททางอินเตอร์เน็ต แช็ทกับผู้ชายมากมายหลายคน หยอกล้อกันเรื่อยเปื่อย ไม่จริงจังไม่จริงใจ แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องขึ้น! สังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงของแฟน จนรู้ว่าเขาคบกับผู้หญิงอื่น นี่ล่ะ..กรรมสนองกรรม!ทำกรรมชั่วใดไว้ย่อมต้องรับชดใช้กรรมเช่นนั้น เหตุการณ์นี้ทำให้ดิฉันยอมรับทันทีว่า“กฎแห่งกรรม”มีจริง และผลกรรมตามสนองทันทีในชาตินี้ โดยไม่รอชาติหน้าหรือชาติไหนๆ ดิฉันยินยอมชดใช้หนี้กรรมครั้งนี้ด้วยการขอหย่าและขออโหสิกรรมแก่กันและกันเพื่อตัดเวรสิ้นกรรมชาตินี้ ไม่ขอจองเวรจองกรรมต่อไป
แต่หลังจากหย่าร้างแล้ว แทนที่ตัวเ้องจะสำนึกผิด ประพฤติตัวใหม่ ไม่เลย!ยังคิดไม่ได้อยู่ดี..ยังสนุกและหลงระเริงกับชีวิตโสดรอบ 2 เพราะคิดว่าคบคนที่ไม่มีแฟนไม่มีภรรยาก็ไม่ผิดไม่บาป ไม่ผิดศีลข้อ 3 แล้ว จึงคบเผื่อเลือกมากมาย ไม่จริงจัง โกหกหลอกลวงผู้ชายไปเรื่อย นี่ล่ะี!ชีวิตที่กำลังเดินริมปากเหวนรกเลยล่ะ แต่เพราะได้รับธรรมทานจากบ้านสวนพีระมิด ที่แสดงให้เห็นความจริงว่าการทำผิดศีลข้อ 3 ทำให้ชีวิตล้มเหลวทุกด้านทั้งการเงิน ครอบครัว ที่ทำงานทำให้ ดิฉันคิดใหม่ กลับตัวกลับใจเลิกคบมั่วซั่ว เลิกกุ๊กกิ๊กเล่นหูเล่นตากับใครๆ เลิกหมดแล้ว! นับแต่นี้จะยึดมั่นรักษาศีลข้อ 3 อย่างมั่นคงแข็งแรง
Ø          ผลที่เกิดขึ้นกับชีวิต 1. ชีวิตคู่ชีวิตคู่ล้มเหลว  2. มักเจอคนไม่หวังดี ไม่จริงใจ โกหกหลอกลวง ไม่รักษาสัจจะ
Ø       กรรมตามสนอง 1. เป็นมะเร็งที่มดลูก   2. ไม่มีใครเชื่อถือคำพูด   3. ลูกน้องกระด้างกระเดืองไม่เชื่อฟัง
  แนวทางแก้ไข บ้านสวนพีระมิดได้ชี้ทางสว่างแก่ดิฉัน ท่านอาจารย์อุบลสอนว่า 1.ต้องกล้าในการทำดี ต้องละอายและ เกรงกลัวการทำชั่ว 2.เมื่อทำผิดต้องกล้ายอมรับผิด และสิ่งสำคัญต้องสำนึกผิดด้วยความจริงใจ   บัดนี้ดิฉันสำนึกในความผิดที่ได้ทำไปนั้น จึงกราบขอขมาต่อผู้ชายทุกคนที่เคยล่วงเกินด้วยวาจา เคยปลิ้นปล้อนหลอกลวง เคยทำให้ผิดหวังเสียใจ ดิฉันจะไม่ทำบาปเช่นนี้อีกแล้ว และจะยึดมั่นในความซื่อสัตย์ต่อผู้อื่นตลอดไป
ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-30 11:26:08



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.