ReadyPlanet.com


ค่าย14 : งานบวงสรวงอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอร์ตารี+ปลดล็อคความจน+รวมพลคนมีหน้าที่ 14-16เมษายน2556


ปรากฏการณ์มหัศจรรย์มากมายที่เกิดขึ้นที่บ้านสวนพีระมิดที่นำคำสอนของพระพุทธองค์มาเผยแผ่และพิสูจน์ผลทุกอย่างอย่างเป็นรูปธรรม เห็นผลชัดเจนทันที หายก็หายทันที ซึ่งมุ่งเน้นให้คนรู้จักเหตุคือบาปที่สร้างไว้และดับที่เหตุคือเปลี่ยนแปลงตัวเองในทันที ผลก็ดับตาม คือความทุกข์ต่างๆ เช่น โรคต่างๆ รวมทั้งปัญหาที่มีอยู่ ก็ดับลงในทันทีเช่นกัน

ปรากฏการณ์เหล่านี้ล้วนมาจากพระ
บารมีอันประมาณมิได้ของท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าองค์พระปฐม พระศรีอาริย์ และพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั่วอนันตจักรวาลที่ท่านอาจารย์อุบลได้อาราธนาอัญเชิญมาสถิตย์ในกาย วาจา และใจของท่าน และที่บ้านสวนพีระมิด

แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เพร
าะมีความสำคัญและเกี่ยวเนื่องกันคือ การที่ท่านอาจารย์อุบลมาสร้างมหาพีระมิดและสร้างกิจกรรมบุญทุกอย่างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงนั้น ทุกอย่างล้วนได้รับการสื่อสารมาจากเบื้องบน ซึ่งสิ่งที่เห็นชัดเจนคือความเกี่ยวเนี่องกับพีระมิด องค์เทพสฟิงซ์ และมีผู้รู้บอกว่า ท่านอาจารย์อุบลคือพระนางเนเฟอร์ตารี พระราชินีแห่งอียิปต์โบราณซึ่งมีพระรูปพระโฉมที่งดงามยิ่งนัก และมีพระปรีชาสามารถเป็นเลิศสามารถปกครองอียิปต์โบราณจนรุ่งเรืองถึงขีดสุด ผู้คนไม่เจ็บป่วย ไม่ลำบากยากจน มีความสุขสมบูรณ์ทุกประการ

แต่กระนั้นหลายๆคนพยายามพิสูจน์
หลายต่อหลายครั้งเกี่ยวกับพระนางเนเฟอร์ตารีและท่านอาจารย์อุบลว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ โดยการอธิษฐานบำบัดว่า หากทั้งสองท่านเป็นคนเดียวกันเพียงแต่คนละภพชาติจริงก็ขอให้อาการเจ็บป่วย...ที่เป็นอยู่หายหรือดีขึ้นทันที ซึ่งทุกๆครั้งที่มีการอธิษฐานบำบัด พบว่าผู้คนหายทันที หรือดีขึ้นมากกว่า80%ก็จำนวนมาก

ยิ่งหลังๆมานี้มีการขอบารมีพระน
างเนเฟอร์ตารีช่วยบำบัดอาการเจ็บป่วยของผู้คนก็ยิ่งพบความอัศจรรย์คือ ผู้คนหายเจ็บป่วยอย่างรวดเร็ว เห็นผลอย่างชัดเจน บ้างก็หาย 100%ทันที หรือดีขึ้นจนแต่ละคนอัศจรรย์ใจ

แต่ท่านอาจารย์อุบลก็ไม่เคยยอมรั
บเลยแม้แต่ครั้งเดียวว่าท่านคือพระนางเนเฟอร์ตารี ซึ่งท่านก็คงมีเหตุผลของท่านเอง

แต่ด้วยบารมีของพระนางเนเฟอร์ตา
รีที่มีมากมายและเห็นผลประจักษ์ว่าช่วยเหลือผู้คนได้อย่างกว้างขวาง รวดเร็ว ท่านอาจารย์อุบลจึงได้รับการสื่อสารและจัดพิธีบวงสรวงบารมีพระนางเนเฟอร์ตารี ในค่าย14 นี้

แน่นอนการมาอาราธนาบารมีพระนางเ
นเฟอร์ตารีครั้งนี้ย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะหลายๆท่านอาจไม่เคยรู้จักพระนางฯมาก่อน แต่ที่ผ่านมาหลายๆท่านก็ได้รับความสุขจากบารมีพระนางฯอย่างมากมายมาแล้ว การอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอร์ตารีอย่างเป็นทางกายย่อมมีเหตุผลและปรากฏการณ์สำคัญที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ห้ามพลาด!!

ค่าย14 นี้เป็นค่ายที่มุ่งเน้นการช่วยเ
หลือปัญหาเร่งด่วนของผู้คนในตอนนี้คือ ปัญหาความจน หนี้สิน การงานมีอุปสรรค ซึ่งเป็นกันทั่วโลกไม่เฉพาะประเทศไทย ค่าย14นี้จึงเป็นค่ายที่พิเศษจริงๆเพราะบ้านสวนพีระมิดซึ่งสามารถทำให้คนหายได้ในฉับพลันทันทีด้วยพระบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ปัญหาการงาน การเงิน ก็จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นผลอย่างรวดเร็ว ชัดเจน ด้วยหลักคำสอนที่ถูกต้องและปฏิบัติได้จริงของพระพุทธองค์ ซึ่งที่ผ่านมาผู้คนแค่เพียงลูบๆคลำๆ จำมาพูดแต่ทำไม่ได้จริง หรือเข้าใจผิดอย่างมากมาย ค่ายนี้จึงมุ่งเน้นปลดล็อคความจนแก่ผู้คนให้เห็นผลอย่างรวดเร็วที่สุด

นอกจากนี้ค่ายนี้มีความพิเศษสุด
คือ เป็นการรวมผู้คนที่เคยตั้งจิตอธิษฐานลงมาทำหน้าที่สำคัญในยุคนี้เพื่อช่วยเหลือผู้คนทั้งประเทศไทยและทั่วโลก และสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลสามารถทำได้ ผุ้มีบารมีตั้งจิตอธิษฐานติดตามมาก็ย่อมสามารถจะทำได้เช่นกัน ดังที่ลูกศิษย์บ้านสวนพีระมิดในปัจจุบันก็สามารถบำบัดผู้คนทั้งหลายให้หายทันทีได้เช่นเดียวกัน 

โอกาสนี้จึงเป็นโอกาสที่พลาดไม่
ได้สำหรับผู้ที่กำลังค้นหาคำตอบในชีวิตของตนเองอยู่ว่าเกิดมาทำไม และเหมือนว่าตนเองเกิดมาเพื่อทำหน้าที่อะไรบางอย่าง หากท่านได้มาพบเจอค่าย14นี้ จิตสัญญาเดิมท่านต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างแน่นอน

ในค่าย14นี้ จะมีการทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งทุ
กท่านที่จะร่วมค่าย14นี้จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง เนื่องด้วยเวลาที่แต่ละคนมาเกิดนั้นจะมีการดื่มน้ำชนิดหนึ่งซึ่งทำให้ลืมภพชาติและอดีตที่ผ่านมา และทำให้จำสัญญาเดิมไม่ได้ ดังนั้นผู้มีสัญญาจิตมาทำหน้าที่ก็พากันหลงระเริง ลืมหน้าที่ ดังนั้นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จะทำในค่ายนี้.....(ติดตามในงานจริง และพิสูจน์ด้วยตนเองดีกว่า)

สรุปกิจกรรมสำคัญค่าย14
1.
พิธีบวงสรวงอาราธนาบารมีพระนา
งเนเฟอร์ตารี
2.
ปลดล็อความจน
3.
ธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทั
นที
4.
ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์
5.
ทำน้ำทิพย์ น้ำอภิญญา อาหารอภิญา ขอให้ท่านนำน้ำเปล่ามาจากบ้านเอ
งคนละ 5 ขวดหรือมากกว่าแล้วแต่ท่านต้องการ และอาหารแห้ง ลูกอมที่ต้องการจะทำอาหารอภิญญา
6.
สอนและพิสูจน์จริงวิธีการบำบั
ดฯด้วยวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิดแต่ละอย่างๆเพื่อท่านจะสามารถนำไปช่วยผู้คนได้อย่างทันที เห็นผลจริงและทำอย่างถูกต้อง
7.
ทุกท่านจะได้ร่วมบุญแรงกาย ทั้งสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน

***
ท่านที่มีสัญญาหน้าที่ทุกท่า
นที่เคยทำบุญมาทั้งชีวิตแล้ว แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้นเนื่องจากยังอาจติดหนี้แผ่นดิน จากการเอาของหลวงกลับบ้าน ทำลายของหลวง เลี่ยงภาษี ทำบ้านเมืองเสียหาย สกปรกและอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งกรรมนี้ยังคงทำให้ท่านไม่เจริญทางโลก ทางธรรม งานค่าย14นี้ท่านจะได้ติดกระจกประดับองค์พระฯชำระหนี้แผ่นดิน จะทำให้ทุกท่านสามารถปลดล็อคกรรมต่างๆได้อย่างรวดเร็ว***

8.
เล่นน้ำสงกรานต์บ้านสวนพีระมิ
 
9.
กิจกรรมการแสดงบนเวที
และอื่นๆอีกมากมาย

ท่านที่สนใจเข้าร่วมค่าย14 ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.
ต้องเป็นผู้ที่ตั้งจิตอธิษฐาน
มาทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้คน โดยท่านสามารถรู้ได้ด้วยวิธีการดังนี้
-
ตั้งจิตเสี่ยงทายอธิษฐานว่า หากท่านใช่คนที่อธิษฐานจิตมาทำห
น้าที่จริงก็ขอให้เกิดอาการปิติเกิดขึ้น เช่น บางคนอาจร้องไห้ บางคนขนลุก บางคนมีความสุข จิตใจสงบ หรือเกิดอะไรพิเศษบางอย่างขึ้น
-
รู้สึกมีความผูกพันธ์กับท่านอาจ
ารย์อุบล จิตใจอยากมาร่วมงานนี้ทันทีที่ได้อ่านข่าวค่าย14นี้
-
จิตท่านต้องปรารถนิพพานในชาตินี้

-
จิตท่านอยากช่วยผู้อื่น
-
ท่านยังมีปัญหาความทุกข์ทางกายแ
ละใจอื่นๆอยู่

2.
คุณสมบัติอื่นๆ
-
ดูรายการคุยไปแจกไปครบ9ตอนหรือไ
ม่ ไม่เป็นไร ขอให้มีจิตศรัทธาเป็นที่ตั้ง และสามารถทำตามกฏบ้านสวนพีระมิดได้

3.
ท่านสามารถลงทะเบียนได้ในเฟสบุ๊
คกระทู้นี้ หรือในเวปไซต์บ้านสวนพีระมิดได้เลย

4.หลักฐานการสมัครเข้าค่าย
-
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ขีดค่อมเขียนให้ชัดเจนป้องกันกา
รนำไปใช้ต่อว่า "สมัครเข้าค่าย 14 บ้านสวนพีระมิด"
-
เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
กระดาษ A4แนบมาพร้อมกับสำเนาบัตรประชาช
นเขียนข้อมูลคุณสมบัติดังนี้
-
ชื่อ สกุล ชื่อเล่น อายุ 
-
ที่อยู่ปัจจุบัน 
-
การศึกษา สาขาที่จบ
-
อาชีพ ที่ทำงาน

-
ผลการเสี่ยงทายและอื่นๆคือ
-
ตั้งจิตเสี่ยงทายอธิษฐานว่า หากท่านใช่คนที่อธิษฐานจิตมาทำห
น้าที่จริงก็ขอให้เกิดอาการปิติเกิดขึ้น เช่น บางคนอาจร้องไห้ บางคนขนลุก บางคนมีความสุข จิตใจสงบ หรือเกิดอะไรพิเศษบางอย่างขึ้น แจ้งผลระบุมา
-
รู้สึกมีความผูกพันธ์กับท่านอาจ
ารย์อุบล จิตใจอยากมาร่วมงานนี้ทันทีที่ได้อ่านข่าวค่าย14นี้ หรือไม่
-
จิตท่านต้องปรารถนิพพานในชาตินี้
หรือไม่
-
จิตท่านอยากช่วยผู้อื่นหรือไม่
-
ท่านยังมีปัญหาความทุกข์ทางกายแ
ละใจอื่นๆอยู่ ขอให้เขียนบอกปัญหาที่มีอยู่ เช่น การงาน การเงิน สุขภาพทางกาย ทางใจ ให้ชัดเจน

***งานกิจกรรมบุญบ้านสวนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12-16เมษายนนี้เลย*** 
วันที่ 12-13 จะมีการเล่นน้ำสงกรานต์ ทำบุญแรงกาย ติดกระจกองค์พระ ติดกระจกวิหารทาน(กิจกรรมต่ออายุ
) สร้างวิหารทาน ธรรทาน เกษตรอินทรีย์ และอื่นๆอีกมากมาย ท่านที่ว่างและสนใจสามารถติดต่อเดินทางมาบ้านสวนได้เลยตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนเป็นต้นไป

***
ท่านสามารถเขียนขออนุญาติเข้าบ้
านสวนพีระมิดได้ในกระทู้ขออนุญาติในเฟสบุ๊ค เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมค่าย14 หรืออื่นๆได้เลย***

หากมีปัญหา ข้อสงสัย ก็สามารถสอบถามได้ในกระทู้นี้ ขอให้ทุกท่านโชคดี พบทางพ้นทุกข์ในเร็ววัน พบกันค่าย14....

 



ผู้ตั้งกระทู้ ธนา อรุณภิญโญพล กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2013-03-28 12:08:13


<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความคิดเห็นที่ 101 (1657183)

ถึง เวลาที่พวกเราจะต้องหูตาสว่างเสียที กับ คุณอ้อย วันนี้ทำให้เห็นว่าคุณอ้อยมีการลำดับเหตุการณ์วางแผนมาอย่างแยบยล ในการทำลายท่านอาจารย์อุบล และพี่ธนา หรือหากมีโอกาสก็คงทำลายคนอื่นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปูพิ้นด้วยการแสดงว่าตนเองติดต่อสื่อสารกับท่านพ่อดตาจินิ นได้ การทำนายทายทัก หรือการพูดภาษาต่างดาวออกมา ซึ่งไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าคืออะไร ทำให้ลูกบ้านสวนหลงเชื่อ ประกอบกับคุณอ้อยได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้ากลุ่มบำบัด ทำ workshop ในทุกสัปดาห์ นั่นยิ่งเป็นการสร้างความเชื่อถือให้คุณอ้อยเป็นที่ยอมรับในบ้านสวนได้เป็น อย่างดี  สังเกตได้ว่าในหมู่ลูกบ้านสวน โดยเฉพาะพวกผู้ชาย จะปลาบปลื้ม แอบชอบคุณอ้อย ติดหนึ่งในนั้นแทบทุกคน และที่สำคัญ คุณอ้อยใช้ความฉลาดและฉะฉานของตัวเองเป็นอาวุธในการครอบงำผู้คน โดยแฝงความริษยาอยากมี อยากเป็น อยากได้ เป็นตัวผลักดันให้กระทำการอันชั่วช้าได้ถึงเพียงนี้ 

คน เราเมื่อได้รับคำชมมากๆ เข้า อาจเกิดการหลง ทำให้คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ หลายครั้งที่ท่านอ.ชื่นชมว่าคุณอ้อยเป็นผู้ที่กล้าสารภาพกรรมของตัว เองอย่างกล้าหาญ ได้เป็นผู้นำมอบหมายในหน้าที่สำคัญหลายอย่าง นั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความหลง บวกกับความอิจฉาริษยาที่มีอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ จึงทำให้ทุกอย่างรวมตัวและแสดงด้วยการทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายชื่อเสียงคนที่ มีสิ่งเหล่านี้ เพื่ออะไรไม่ทราบ แต่ต้องเป็นอะไรที่เลวร้ายแน่นอนในการคิดทำสิ่งแบบนี้  คุณอ้อยมีการวางแผนไว้อย่างแนบเนียน โดยใช้ช่วงเวลาที่ลูกบ้านสวนหลายคนเกิดอาการเบื่อหน่าย ในการเขียนธรรมทาน เกิดความขี้เกียจท้อแท้ ซึ่งในตอนนั้นเราก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงมีอารมณ์นี้กัน อารมณ์แย่ๆ แบบนี้จึงเกิดขึ้นกับพวกเรา และคุณอ้อยยังได้วางแผนเป็นขั้นตอนที่จะนำเรื่องนี้บอกเรื่องเกิดความเบื่อ หน่าย และกำลังคิดว่าตัวเองจะตายกับคนอย่างคุณชิม เพราะคุณชิมหัวอ่อน ชักจูงง่ายหรือเปล่า และถ้าคุณชิมรู้เรื่องสำคัญขนาดมีหรือเรื่องจะไม่ถึงหูพี่ธนา และก็เป็นไปตามคาด พี่ธนาถูกเชื่อมโยงให้ขอต่ออายุให้คุณอ้อย โดยใช้คำพูดของท่านอาจารย์ที่ว่า "จะไม่ยอมเสียใครไปอีกแล้ว" จากเหตุการณ์ของพี่เหมี่ยว  มาเป็นตัวเชื่อมโยง ให้ท่านอาจารย์ต้องแทรกแซงกรรมคุณอ้อย และดึงพี่ธนาเอี่ยวเข้าไปด้วย เรียกว่ายิงกระสุนนัดเดียวได้นกตั้งหลายตัว 

และ เมื่อค่าย 14 รวมพลคนมีหน้าที่สำคัญ เป็นค่ายที่รวมทหารกล้าไว้จริงๆ เพราะทุกท่านที่ไปวันนั้น ได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว ทั้งช่วยกันขอให้ท่านอ.อุบลยังอยู่กับพวกเราต่อ และยังได้มารวมตัวกันเปิดโปง หงายในสิ่งที่คว่ำให้เห็นกันชัดเจนอีกด้วย  และคุณอ้อยคือตัวเดินเรื่องสำคัญที่ทำให้ท่านอาจารย์ต้องยอมแลกชีวิตแทนคุณ อ้อย ซึ่งพวกเราทุกคนต่างช็อค ร้องไห้ในสิ่งที่เกิดขึ้น เฝ้าแต่โทษตัวเองว่าเราไม่เคยฉุกคิดเลย เจ็บใจตัวเอง แต่คุณอ้อยกับสีหน้าเรียบเฉย ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดคุณเป็นผู้ก่อแท้ๆ  หรือไม่ว่าจะเป็นก่อนวันค่าย ท่านอาจารย์ก็ได้ส่งสัญญาณทั้งในห้องแชตแล้วว่าจะขอแลกชีวิตกับคุณอ้อย แต่คุณอ้อยก็มิได้นำพา  หรือแม้กระทั่ง ตอนก่อนวันค่าย 14 ท่านอาจารย์ได้เรียกคุณอ้อยไปพูดว่า ถ้าคุณอ้อยเป็นอะไรไป อาจารย์ขอแลกชีวิตกับคุณอ้อย ตอนนั้นรู้สึกว่ามีคุณก้อยอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งตุ้ยเองก็เดินผ่านและได้ยินคำนี้อยู่พอดี แล้วทำไมคุณอ้อยถึงไม่ออกตัว ว่า ท่านอาจารย์อย่าทำอย่างนี้เลย หรืออะไรก็ว่าไป แต่คุณอ้อยก็นิ่งเฉย ยิ้มเจื่อนๆ แสดงให้เห็นว่าคุณอ้อยรับรู้มาตลอดว่าท่านอาจารย์ได้แลกชีวิตกับคุณอ้อย อย่างนี้จะอ้างไม่รู้ได้อย่างไร

เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่าคุณอ้อยวางแผนมาเป็นอย่างดี จิตในด้านลบที่อยู่ใน DNA ของคุณอ้อย ข้ามภพชาติและมาส่งผลแสดงออกในวันนี้แล้ว แต่ขอให้คุณรู้ไว้ว่า คุณไม่มีวันจะมาเทียบรัศมีบารมีกับท่านอาจารย์อุบลได้ หรือแม้แต่คนใกล้ชิดท่าน อ. ไม่ว่าจะเป็นพี่ธนา พี่แมว หรือใคร เพราะสิ่งที่คุณได้ทำกำลังเด้งกลับเข้าตัวคุณเป็นสองเท่าแล้ว อย่างที่บอกถ้าจะคิดต่อกรกับท่าน อ.อุบล คุณไปบำเพ็ญบารมีให้ได้ 4 อสงไขย กับอีกแสนกัป ซะก่อน วันนี้พวกเราทุกคนได้มีสติรู้เท่าทันคนชั่วคนพาล และกราบพระบาทขอขมาท่านพ่อดตาจินิน องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระศรีอาริยเมตไตร เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ และท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว ที่ลูกเคยหลงผิด เห็นกงจักรเป็นดอกบัว บัดนี้ลูกสำนึกแล้วจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกและขอให้ลูกมีสติ มีเกราะกำบังปกปักคุ้มครอง สิ่งไม่ดีไม่ให้เข้ามาทำอะไรได้ทั้งทางตรงทางอ้อม ด้วยเถิดเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 10:07:48


ความคิดเห็นที่ 102 (1657214)

ขอบคุณธรรมทานหลายๆ ข้อความค่ะที่ทำให้ตาสว่าง

สำหรับตัวเองแล้วหลังจากกลับจากค่าย 14

พยามคิดมาโดยตลอดว่าใครคือคนนั้น

ที่แฝงตัวมาเพื่อทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

วันนี้ก็ได้รับคำตอบแล้ว

คนที่มาบ้านสวนโดยแฝงตัวมาเนียน ๆ

ได้รับความรัก ความไว้ใจ พอถึงเวลาก็ลงมือทันที 

ซักวันก็เปิดเผยธาตุแท้จนได้

แต่ครั้งนี้รู้สึกจะร้ายแรงกว่าทุกครั้ง

ร้ายแรงกว่าป้าอุ๊กล่องดำ

เพราะเป็นครั้งที่ทำให้พวกเราทุกคนช็อคสุดๆ 

และคุณช่างกล้าที่จะเอาชีวิตเล็กๆ มาแลก

กับชีวิตทีี่่มีค่ายิ่งใหญ่มหาศาลต่อมวลมนุษย์และ

ทุกสรรพสิ่งในอนันต์จักรวาล

ถ้าเป็นอย่างหลายท่านวิเคราะห์รู้สึกว่า

คุณอ้อยและเป็นผู้มาเพื่อทำลายล้าง

ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำร้อย 

ไม่เข้าใจเลยว่าทำได้อย่างไร

ไม่คิดถึงความรักความเมตตาที่ท่านอาจารย์อุบลมีต่อคุณ

และพวกเราทุกคนอย่างมากมายหาประมาณมิได้เลยหรือ

คุณทำได้อย่างไรทั้งๆ

ที่ปากคุณก็บอกว่าัรักท่านศรัทธาท่าน

ชีวิตดีขึ้นมากมายเพราะบารมีท่าน

บารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์

อย่างนี้เท่ากับว่าเนรคุณสุดๆ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 15:44:26


ความคิดเห็นที่ 103 (1657219)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยครับ  สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุณหพงศ์ ทองศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 17:13:17


ความคิดเห็นที่ 104 (1657225)

หลังจากงานค่าย14 ชนิดาได้อ่านธรรมทาน

จากเฟสบุ๊คเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งแต่ละท่านที่ไปโพสต์ในนั้น

ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์

ที่ท่านอาจารย์เสียสละแม้กระทั่งชีวิตของท่าน

แก่คุณอ้อยมากนัก

 

ตอนนั้นอ่านแล้ว ก็ยังดีใจอยู่ว่า

อย่างน้อยท่านอาจารย์ก็ยังอยู่กับพวกเรา

แล้วก็แอบนึกๆอยู่ว่า

ลูกบ้านสวนฯคนนั้นคือใครหนอ

 

 

แต่พอมาวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ได้เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ คห.ของคุณธนา

ที่เล่าถึงเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นทุกอย่าง

 

พออ่านแล้วบอกตามตรงค่ะว่า

เป็นครั้งแรกที่อ่านแล้ว

ไม่สามารถเมนต์อะไรออกมาได้เลย

 

เพราะมันรู้สึกสับสน อึ้ง เศร้า เสียใจ

และรู้สึกผิดมากๆต่อท่านอาจารย์

 

เป็นความรู้สึกที่เศร้าลึกๆ

เพราะรู้สึกว่า

ได้สูญเสียท่านอาจารย์ไปแล้วจริงๆ

 

แล้วมันสะท้อนลึกๆว่า

ความเสียใจแบบนี้

พวกเราเคยประสบมาแล้วในอดีต

แล้วประวัติศาสตร์ก็เหมือนมาซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง

 

"ความเสียสละของท่านอาจารย์

และพระนางเนเฟอร์ตารี่ช่างยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ"

 

เมื่อเห็นภาพท่านอาจารย์

หรือบางครั้งที่นึกถึงท่านอาจารย์

มันก็รู้สึกเศร้าจนแทบอยากจะปล่อยโฮออกมา

....เป็นช่วงที่สับสนและหมดแรงอยู่หลายวันค่ะ 

 

 

 

แล้วในใจก็เกิดคำถามขึ้นมามากมาย

แล้วก็มีความคิดที่ผุดออกมาเยอะมาก

รู้สึกว่า คุณอ้อยไม่ได้รู้สึกซาบซึ้ง

ต่อความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของท่านอาจารย์มากนัก

เพราะข้อความที่เขียน

ก็ไม่ได้เขียนขอบคุณหรือสำนึกผิด

 

มีแต่รู้สึกอึ้งกับช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น

แต่ตอนนั้นก็พยายามบอกตัวเองว่า

ดูที่"จิต"ตัวเองก่อนเถอะ ...........

เราน่ะ อาจจะเลวกว่าเขาก็ได้......

เราอาจจะไม่"อึด"

กับการหมั่นไปสร้างบุญเช่นเขาก็ได้

ฯลฯ  

 

แต่พอมาอ่านเรื่องความคืบหน้า

เกี่ยวกับคุณอ้อยสัปดาห์นี้แล้ว

บอกได้คำเดียวค่ะว่า

จิตเรา น่ากลัวมาก มันเนียน

มันฉลาดลึกกว่าเรายิ่งนัก

ฉะนั้น "อย่าไว้ใจตัวเอง"มากนักนะคะ

เผลอๆเราอาจจะเป็น

หนึ่งในมารตัวแม่ หรือ ตัวพ่อ ก็ได้

 

มีทางเดียวคือ ต้องมั่นคงใน"ศีล"

รักษาศีลให้บริสุทธิ์ให้ได้ตลอดเวลา

และหมั่นตรวจตรา

ความคิดของเราบ่อยๆ

 

 

แล้วก็ต้องย้อนกลับไปถามใจตัวเองอีกครั้งว่า

"เรามาบ้านสวนฯเพื่ออะไร"

อย่างที่ท่านอาจารย์เคยถามย้ำ

กับพวกเราอยู่บ่อยๆ

 

เพราะชนิดาคิดว่า

ที่ผ่านๆมาสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนหมั่น

มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯอย่างขยันขันแข็ง

เพราะ"กลัวเรื่องภัยพิบัติ"

กลัวว่าตนจะไม่มีที่ปลอดภัยให้อยู่

ก็เลยต้องมาคอยเช็คชื่อที่่บ้านสวนฯทุกอาทิตย์

เผื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา

จะได้ไม่รู้สึกกระดากใจที่จะมาพึ่งใบบุญ

....................

แต่เราก็คงจะเห็นนะคะว่า

สุดท้าย อดีตขาประจำก็ค่อยๆหายไปที่ละคน

หลังจากที่ภัยพิบัติคลาดเคลื่อนไป

เพราะลึกๆแล้วเขาเหล่านั้น

ก็ไม่ได้มีความคิดที่จะมาช่วยเหลือ

หรือมาแบ่งเบาภาระท่านอาจารย์

ด้วยใจจริง  ........แต่อย่างใด

 

ซึ่งสุดท้ายภาระทางโลก

จึงดึงเขาเหล่านั้นให้ห่างจากบ้านสวนฯไป

 

 

 

......... แล้วก็เช่นกัน

มีคำถามหนึ่งที่คุณธนา

ถามท่านอาจารย์ถึงคุณสมบัติ

ของคนที่จะมาเป็นตัวแทนพาเมล่า

(ในคลิปใดคลิปหนึ่ง ไม่แน่ใจ)

ว่าต้องเป็นอย่างไร

 

ท่านอาจารย์ก็ตอบประมาณว่า

ก็ต้องดูก่อนว่า ลึกๆแล้ว

เขามาด้วย"ความอยาก"หรือไม่

ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่รุ่งแน่ๆ

เพราะยิ่งอยาก ยิ่งไม่ได้

แล้วคนที่มีแต่ความอยาก

ก็จะไม่เคารพกฏ สุดท้ายก็จะขายไม่ได้

แล้วก็"ไม่ได้ขาย"ต่อไป

(ชนิดาเขียนถ่ายทอดในสำนวน

และความเข้าใจของตัวเองนะคะ

อาจจะไม่ได้ก็อปคำพูดมาเป๊ะๆ) 

 

ฉะนั้น หมั่นสำรวจ"จิต"ของท่าน

บ่อยๆนะคะ ถ้ามันเริ่มติดดี

แสดงว่า เราเริ่ม"เลว"แล้วล่ะ


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 17:55:24


ความคิดเห็นที่ 105 (1657229)

 ได้อ่านธรรมทานทั้งหมดแล้ว รู้สึกอึ้งมาก ๆ 

มันอธิบายความรู้สึกไม่ถูกเลยค่ะ เศร้ามาก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น

คิดแต่ว่า ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ...


ต้องขอบคุณพี่อัญ และทุกท่านที่ร่วมค่าย

ที่ได้ร่วมกันตั้งจิตอธิฐาน ขอโอกาสจากท่านพ่อดตาจินิน

ให้ท่านอ. คืนกลับมาอยู่กับพวกเรา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันรุนแรงมากเกินไป

แต่ก็ทำให้เข้าใจไปถึงเหตุการณ์ในอดีตชาติได้อย่างดี

กระแทกเข้าไปในส่วนลึกของใจ ว่ามันผิดพลาดตรงไหน

เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดในชีวิตของลูกบ้านสวนทุก ๆ คน

ที่จะต้องใช้ปัญญา ในไตร่ตรอง ทุก ๆ การกระทำ ทั้งของตนเอง

และคนรอบข้าง ที่จะเข้าใกล้อาจารย์ของเรา  

คนใกล้ตัว... บทเรียน..  ปัญญา..  

มันต้องเกิดขึ้นมากกว่าเดิมให้ได้

ได้อ่านมาทั้งหมด ก็รู้สึกผิดที่ตนเองไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องท่านอ.เลย

จนทำให้ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น  

ลูกกราบขอขมาท่านอ.และท่านพ่อทุก ๆ พระองค์ด้วยเจ้าค่ะ


สำหรับคุณอ้อย  ได้เจอครั้งแรก ก็รู้สึกกลัว ๆ ผู้หญิงคนนี้มาก

เพราะพูดจาแรง ๆ และมีทีท่า แววตา แบบดุ ๆ 

ก็จะพยายามไม่เข้าใกล้  เป็นดีที่่สุด

และตัวเองก็ไม่มีโอกาสไปบ้านสวนบ่อย ๆ จึงไม่ได้คลุกคลี

แต่ต่อมาก็พยายามทำความเข้าใจ ว่าเป็นบุคลิกส่วนตัวของแต่ละคน

ถ้าจิตใจดีก็ดีแล้ว

และเห็นว่า เป็นผู้หญิงเก่ง ลักษณะเป็นผู้นำ ห้าวหาญ

ก็นึกชื่นชมที่เค้าเป็นเวิร์กกิ้งวูเม้น  เก่งไปทุกเรื่องเลย

 

ไม่คิดเลยว่า  จะเอาความฉลาด ความเก่ง กล้า มาใช้ในทางที่ผิดเช่นนี้

และคุณ ทำสิ่งที่ร้ายแรงมากเกินไปจริง ๆ  พวกเรารับไม่ได้เลยจริง ๆ 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-23 18:33:49


ความคิดเห็นที่ 106 (1657256)

ทุกครั้งที่ท่านอาจารย์สื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ได้ และมีผลพิสูจน์ออกมาตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนทุกครั้งเสมอ ไม่เคยเลือนลอย ก็แสดงว่าท่านรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปบอกใคร แล้วให้คนนั้นมาบอกท่านอาจารย์ต่อ...


***ชีวิตของท่านอ.อุบล ไม่มีใครคู่ควรที่ท่านจะแลกได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะคนอย่างพี่อ้อย!! ต้องขอชมว่าเธอเป็นคนเก่ง (ในทางที่ผิด) วางแผนปูทางมาเป็นปี ๆ เพื่อกระทำในสิ่งนี้ คือ การแทรกซึมเข้ามาบ่อนทำลายบ้านสวนฯ และท่านอ. อุบล ด้วยวิธีการที่แนบเนียน แสดงตัวเป็นผู้นำ เสียสละเพื่อบ้านสวนฯ พูดจาฉะฉานหนักแน่น สร้างเครดิตความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง จนก้อยเองก็หลงไหลได้ปลื้มไปด้วยในทุก ๆ เรื่อง

ย้อนเหตุการณ์ในคืนวันหนึ่ง ซึ่งก้อยก็ได้อยู่ด้วย ที่พี่อ้อยได้อ้างว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาสื่อสารเธอ และพูดข่มขู่ให้ท่านอาจารย์ยอมรับว่าท่าน คือ พระนางเนเฟอร์ตารีให้ได้ ถ้าไม่เช่นนั้น จะต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเหมือนเช่นเหตุการณ์ของพี่เหมี่ยวต่ไม่ยอมบอกเหตุผลว่าทำไมท่านอาจารย์ต้องยอมรับ...จนกระทั่งเราได้แยกย้ายกันไปนอน พี่อ้อยก็พูดกับก้อยและน้องเบสว่า "พี่รู้สึกว่าคน ๆ ที่จะต้องไปคือพี่ เพราะพี่มีอุบัติเหตุหลายครั้งแล้ว" เราสองคนได้แต่ฟัง และไม่ได้พูดอะไร เพราะตอนนั้นก้อยรู้สึกว่าเรารับไม่ได้แล้วที่จะสูญเสียคนที่เรารักไปอีก มันเลยพูดไม่ออก และก็ไม่ได้พูดให้ใครฟังต่อ...ดูเหมือนเรื่องนี้จะเงียบ.... (แผนการที่พี่อ้อยวางไว้ไม่สำเร็จ)

พี่อ้อยเธอก็เลยใช้คุณชิมเป็นเครื่องมือเพื่อจะประโคมข่าวนี้อีกครั้ง ซึ่งเท่าที่ก้อยเคยได้คุยกับเธอ เธอเคยบอกว่าเธอไม่เคยเอ็นดูคุณชิมเลย แล้วทำไมพี่อ้อยถึงไปบอกเรื่องสำคัญแบบนี้กับคุณชิมก่อน?? ทั้งที่เวลามีเรื่องอื่นที่สำคัญ เธอจะต้องปรึกษาพี่ธนา หรือไม่ก็คุยกับท่านอาจารย์ได้โดยตรง

จนกระทั่งคุณชิมได้บอกเรื่องนี้กับพี่ธนา...แผนการเริ่มสำเร็จ!! เพราะพี่ธนารู้สึกกลัวสูญเสียพี่อ้อย แทนที่จะคิดหาเหตุและผลว่า เจ้ากรรมนายเวรที่จะทำให้พี่อ้อยต้องเสียชีวิตคือใคร เหมือนทุกเรื่องที่เคยผ่านมา  ซึ่งผิดวิสัยพี่ธนา>>และพี่ธนาก็ได้นำความนี้ไปบอกท่านอาจารย์อีกที 

นเกิดเหตุการณ์ที่ท่านอาจารย์ยอมแลกชีวิตกับพี่อ้อย...ในวันเสาร์ก่อนเข้าค่าย 14 ท่านอาจารย์พูดกับพี่อ้อยอีกครั้งว่า ากมีอะไรเกิดขึ้น ท่านอาจารย์ขอแลกชีวิตกับคุณอ้อย ตอนนั้นก้อยก็ยืนอยู่ด้วย รู้สึกสลดในคำพูดของท่าน แต่ด้วยความโง่ คิดอย่างประมาทได้แค่ว่าเทวดาที่รักษาท่านคงไม่ทำเช่นนั้นแน่ >>>ส่วนพี่อ้อยได้แต่ยิ้มแบบแห้ง ๆ และไม่มีคำพูดที่จะห้ามท่านอาจารย์เลยสักนิดเดียว... 
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 00:51:04


ความคิดเห็นที่ 107 (1657257)

นเหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงค่าย 14 วันที่ท่านอาจารย์แต่งชุดดำมาอาราธนาบารมีของพระนางเนเฟอร์ตารี และเฉลยเหตุที่ต้องแต่งชุดดำ เพราะไว้ทุกข์แด่ดวงจิตของท่านอ.อุบล ที่ได้ขอแลกชีวิตกับพี่อ้อย สร้างความตกตะลึงและเสียใจแก่ทุกคนที่ได้มาร่วมค่ายนี้ 


พี่อ้อยก็ได้เข้าไปกอดท่านแสดงความเสียใจ แต่ความรู้สึกที่ก้อยเห็นมันดูไม่สุด เหมือนไม่ได้เสียใจจริง ๆ จากนั้นไม่ถึงชั่วโมง พี่อ้อยก็เปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้เร็วมาก เริงร่าเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งพี่แมวและพี่ธนาผู้ซึ่งใกล้ชิดท่านอาจารย์ ได้ขอความเมตตาจากท่านพ่อดตาจินิน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ เพื่อร้องงงขอให้ดวงจิตท่านอาจารย์กลับมาอยู่กับพวกเราเหมือนเดิม แต่ก็ไม่สำเร็จ
 
จู่ ๆ พี่อัญชลา บุตรโส ก็ลุกขึ้นมาขอให้พวกเรารวมจิตกันร้องขออีกครั้ง...แทนที่จะเป็นพี่อ้อย ที่อ้างว่าสื่อสารกับท่านพ่อได้ และเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ กลับนั่งเฉย...พฤติกรรมแบบนี้หมายความว่ายังไง....

ย้อนกลับไปตั้งแต่ที่พี่เหมี่ยวเสียชีวิต ก้อยเองรู้สึกขี้เกียจธรรมทาน ไม่ค่อยอยากคุยกับเพื่อน ๆ บ้านสวน และหลังจากเหตุการณ์ค่าย 14 ก็แปลกที่รู้สึกรักพี่อ้อยมากขึ้น ๆ รู้สึกว่าเธอเป็นแบบอย่างที่ดีให้เราได้ ไม่ว่าเธอจะพูด จะทำอะไรก็จะเชื่อไปหมด 

สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านอาจารย์ และพวกเราได้ร่วมกันพูดคุยเรื่องมนต์ดำคุณไสย์ ที่สามารถรับได้ทางการกิน การสัมผัส การเอ่ยชื่อ ฯลฯ ซึ่งมีเยอะหลากหลายวิธี และมีทุกวงการ และเราสามารถนำปรากฎการณ์บ้านสวนฯ มาเทียบเคียงได้ เช่น การใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย และวิธีอื่น ๆ ที่เราได้ใช้กันมาแล้ว หรือการนั่งใกล้ท่านอาจารย์ แล้วมีความสุข หรือหายเจ็บป่วยทันที นั้นแสดงว่าเป็นพลังงานความรัก ความบริสุทธิ์ หรือมนต์ขาวที่เราได้รับจากท่าน แต่ในทางตรงกันข้ามมนต์ดำก็สามารถทำได้เช่นกัน และมีอานุภาพแรงกว่าด้วย เพราะเป็นของต่ำ

ากเราอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำมนต์ดำคุณไสย์ใส่เรา สามารถรู้ได้ด้วยการขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน ถามคำถามในใจ และพิสูจน์ด้วยอาการหายเจ็บป่วยของผู้อื่นได้ 

ในคืนนั้นท่านอาจารย์ได้ทำน้ำทิพย์ช่วยถอนคุณไสย์มนต์ดำให้พวกเรา ซึ่งแทบทุกคนได้รับสัมผัส เช่น รู้สึกมีความร้อนออกจากตัว ปิติ ส่วนก้อยตอนนี้ที่ท่านอาจารย์อาราธนาบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก้อยก็โน้มหัวไปชิดขวดน้ำที่เราถืออยู่ ความรู้สึกเหมือนดีใจมากที่จะได้รับน้ำทิพย์นี้ และขนลุกมากกว่าปกติ

เมื่อกลับไปถึงบ้าน ก้อยได้ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน ขอถามคำถามในใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพิสูจน์ด้วยการบำบัดอาการปวดเข่าของคุณแม่แล้ว ดีขึ้น ทั้ง 2 คำถาม ทำให้แน่ใจว่า พฤติกรรมของก้อยหรือคนอื่น ๆ ที่แปลกไปหลังจากการเสียชีวิตของพี่เหมี่ยว จนมาถึงสัปดาห์หลังค่าย 14 นั้้น เป็นเพราะถูกครอบงำจากมนต์ดำคุณไสย์ จากคนที่ได้เข้ามาแทรกซึมอยู่ในบ้านสวนฯ และทำให้เราไว้วางใจนั่นเองค่ะ...
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 01:37:28


ความคิดเห็นที่ 108 (1657260)

 พอได้มาอ่านเหตุการณ์ในวันนั้นเพิ่มเติม

รู้สึกว่ามารมันมาได้เนียนมาก 

จริงๆแล้วการที่ท่านอาจารย์ยอมแลกชีวิตเพื่อใครนั้น

มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก 

ต่อให้เราชดใช้เป็นสิบๆชาติก็ไม่หมด

แต่เท่าที่อ่าน คห.พี่อ้อย ก็รู้สึกได้เช่นกัน

ว่าพี่อ้อยไม่ได้รู้สึกเสียใจ รู้สึกสลดหดหู่

หรือแม้แต่ความรู้สึกที่อยากจะขอบคุณ ที่มันมาจากใจ

เหมือนพิมแก้ขัดไปงั้น 

ท่านอาจารย์รัก เมตตาขนาดนี้

คุณก็ยังแทงข้างหลังอาจารย์ได้ 

แถมยังแทงได้แบบแนบเนียนเสียด้วย

โดยไม่คิดถึงความรัก ความเมตตา ความเสียสละ

ที่อาจารย์มีให้ 

แถมยังใช้ลูกๆบ้านสวนเป็นสะพาน

เพื่อเดินขึ้นไปทำลายอาจารย์

ทั้งๆที่แต่ละคนเมื่อรู้ว่าคุณจะต้องเสียชีวิต 

เขาก็รัก และเป็นห่วง

แถมท่านอาจารย์จะเอาชีวิตท่านแลก

คุณกลับยอมให้ท่านอาจารย์เอาชีวิตแลก

แล้วลึกๆคุณคิดอะไรอยู่

แล้วจะให้พวกเราคิดยังไงละคะ

หยุดคิด หยุดทำซะเถอะค่ะ

คุณไม่น่าเอาชีวิตตัวเองเข้ามาเสี่ยงเลย

สุดท้ายคนที่จะทุกข์ทรมานที่สุด

ก็คือคุณนั่นแหละค่ะ คุณอ้อย 

*****************************************

 

ดูที่"จิต"ตัวเองก่อนเถอะ ...........

เราน่ะ อาจจะเลวกว่าเขาก็ได้......

เราอาจจะไม่"อึด"

กับการหมั่นไปสร้างบุญเช่นเขาก็ได้

ฯลฯ   

ชอบข้อความนี้ของพี่ชนิดามากค่ะ

ว่าแล้วก็จะพยายามสำรวจจิตตัวเองบ่อยๆ

และจะพยายามรักษาศีลให้ดีที่สุดค่ะ

เพราะถ้าวันไหนที่มารอยู่เหนือจิตใจเรา

วันนั้นคงตกนรกทั้งเป็นจริงๆค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 03:01:37


ความคิดเห็นที่ 109 (1657279)

 เหตุการณ์ค่าย 14  “เปิดเผยสิ่งที่คว่ำ “

คุณอ้อย เข้ามาในบ้านสวนโดยมีการวางแผน  ทุกอย่างอย่างเป็นลำดับขั้นในการเข้ามาทำลาย  

....ซึ่งมิ้มได้พิสูจน์ความจริง  ด้วยการอธิษฐานจิตในใจถาม ขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน  ช่วยเมตตาตอบคำถาม หากสิ่งที่มิ้มถามนั้นเป็นจริง ขอให้อาการบวมและปวดที่เท้าและขาทั้งสองข้างของคุณยายเล็ก หายโดยฉัพพลันทันที 

.....ผลการอธิษฐานจิต เห็นชัดมากตั้งแต่คำถามแรก เพราะเท้าที่บวมของคุณยายเล็ก ฟีบเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด อาการปวด และบวมค่อยๆๆดีขึ้นเรื่อยๆๆในทุกครั้งที่ตั้งคำถาม จนในที่สุดดีขึ้นถึง 95 % หมดคำถามแล้ว  อาการที่เหลือมิ้มจึงให้คุณยายมองจี้แล้วจึงหาย 100 % ค่ะ 

.....จากการอธิษฐานถาม  และได้ขอพิสูจน์ด้วยอาการปวดและบวมที่ขาของคุณยายเล็กหาย  ได้คำตอบคือ

-      เหตุการณ์  การสูญเสียท่านอาจารย์อุบล โดยท่านอาจารย์เสียสละชีวิตตนเองเพื่อแลกชีวิตในครั้งนี้  เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยอิยิปต์โบราณ

-         คุณอ้อย มีเจตนาที่จะทำร้ายท่านอาจารย์อุบล 

-         เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น  คุณอ้อย ได้มีการวางแผน มาก่อนแล้ว

และในวันถัดมามิ้มก็ได้ มีโอกาสบำบัดคุณยายเล็ก อาการเท้าปวดเท้าของคุณยายเล็กอีก  โดยการอธิษฐานขอบารมีท่านพ่อดตาจินิน พระนางเนเฟอร์ตารี ขอถาม  ซึ่งการถามในใจนี้ก็เพื่อไม่ให้คุณยายเล็กรู้ว่ามิ้มอธิษฐานถามอะไร  เพื่อไม่ให้จิตคุณยายเล็กปรุงแต่ง  ปรากฎว่าคุณยายก็มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และหาย 100 %  โดยใช้คำถามเดิมค่ะ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 12:12:52


ความคิดเห็นที่ 110 (1657280)

 @@ เมื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ทราบเลยว่า @@

 คุณอ้อย ได้วางแผนทุกอย่างมาล่วงหน้าแล้ว

-  โดยการสร้างความน่าเชื่อถือ  ว่าตนเอง คือ คนพิเศษ  บุคคลที่ไม่ธรรมดา  เป็นคนระดับแนวหน้า เช่นเดียวกับพี่ธนา  โดยแอบอ้างว่าตนได้รับการสื่อสารจากท่านพ่อดตาจินิน  ในการเตือนภัยพิบัติ  ทั้งที่ท่านพ่อดตาจินินไม่ได้มาสื่อสารผ่านคุณอ้อยเลย

-  อิจฉา ไม่มีความเกรงใจต่อพี่ธนาเลย  สร้างเพาเวอร์ทำให้ทุกคนเห็นว่า  ตนเองไม่เกรงใดๆต่อพี่ธนา ถ้ามีการถกเถียงอธิปรายกันต้องชนะ  เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าตนเองนี่หละที่เป็นแม่ทัพระดับเดียวกับพี่ธนา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 12:13:32


ความคิดเห็นที่ 111 (1657281)

 @@@วางแผน ทำร้ายท่านอาจารย์อุบล  และคนใกล้ชิดซึ่งก็คือ พี่ธนา  เพราะถ้าไม่มีท่านอาจารย์ และพี่ธนา 

คุณอ้อยก็จะเป็นผู้ที่มีผู้คนให้การไว้วางใจ  เพราะได้สร้างเครดิตให้ตัวเองว่าสื่อสารกับเบื้องบนได้@@@

โดยการใช้ชิม  ซึ่งเป็นคนที่ปลื้มพี่อ้อยอยู่แล้ว เล่าให้ชิมฟังว่าตนเองหมดอายุขัย  เพื่อให้ชิมนำเรื่องราวนี้ไปเล่าให้พี่ธนาฟัง  พี่ธนาเองก็รักและเป็นห่วงพี่น้องทุกคนจึงไม่ได้คิดระเเวงสงสัย  ว่าคุณอ้อยไปทำอะไรมาเจ้ากรรมนายเวรของคุณอ้อยคือ ใคร  และ นำเรื่องราวนี้เล่าให้ท่านอาจารย์ฟัง  เพื่อหาวิธีการช่วยคุณอ้อย 

      การกระทำเช่นนี้ทำให้พี่ธนา  ได้รับผลกรรมไปด้วย  เพราะถือไปเค้าข้างฝ่ายมาร  ไม่ได้พิจารณาว่าเจ้ากรรมนายเวร ที่คุณอ้อยไปปรามาสล่วงเกินอย่างร้ายแรงคือ  ท่านพ่อดตาจินิน  ผู้ให้กำเนิดทุกดวงจิตดวงวิญญาณ  ส่งผลให้ ท่านอาจารย์ต้องขอแลกชีวิต  เพื่อช่วยทั้งคุณอ้อย และพี่ธนา

      ท่านอาจารย์ส่งสัญญาณให้พวกเรา  หลายครั้งเเต่พวกเราก็คิดไม่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 12:14:06


ความคิดเห็นที่ 112 (1657282)

 ****เหตุการณ์ วันอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอร์ตารี ******

      ท่านอาจารย์อุบลมาในชุดสีดำ  เพื่อไว้อาลัยให้การจากไปของท่านอาจารย์อุบล   ร่างที่อยู่นี้ก็คือ ร่างท่านอาจารย์อุบลแต่เป็นดวงจิตของพระนางเนเฟอร์ตารี  คุณอ้อยไม่มีอาการสำนึกผิด หรือ เสียใจใดๆๆ นอกจากการสร้างภาพชั่วขณะให้คนเห็น

1.  พิธีอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอร์ตารี  ท่านอาจารย์อุบลได้แจ้งให้ทุกคน  ได้ทราบว่า  ท่านอาจารย์ได้อุบลได้ยอมแลกชีวิตท่านอาจารย์กับคุณอ้อย  และดวงจิตที่อยู่ในร่างท่านอาจารย์อุบลคือ ดวงจิตของพระนางเนเฟอร์ตารี  คุณอ้อย  ได้ออกมาสร้างภาพให้ทุกคนเห็นว่าคุณอ้อยเสียใจ  แต่คำพูดที่ออกไปพูดกับท่านอาจารย์อุบลกับเป็นภาษาต่างดาวใครฟังไม่รู้เรื่อง

...ฟังรู้เรื่องแค่คำว่า “ I am sorry หลังจากนั้น ภาษาต่างดาว  เป็นภาษาไทยในตอนหลัง ว่าอ้อยเสียใจ  แล้วก็พูดอะไรไปเล็กน้อย  หลังจากนั้น พี่อ้อย ก็ตัดอารมณ์เป็นอารมณ์ปกติเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น  ซึ่งมิ้มเองยังแปลกใจมาก  เพราะตัวเราเองและพี่น้องหลายคนรู้สึกสะเทือนใจ ไม่อยากเชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  และคิดว่าจะทำอะไรต่อไป  แต่คุณอ้อย ดูแล้วกับเฉยๆๆ 

2.  มิ้มนอนห้องเดียวข้างๆๆ คุณอ้อย  รู้สึกได้ว่า  คุณอ้อยไม่ได้มีอารมณ์เสียใจ  หรือสึกนึกผิดใดๆๆเลย  ดูคุณอ้อยๆเฉยๆๆมากๆ ตัดอารมณ์ไปเบิกบานอย่างรวดเร็ว และในตอนเย็นมิ้มกับพี่หนึ่งพูดกันทำนองว่าร้องให้เครียดกันจนปวดหัวไปหมด คุณอ้อยได้ยินกลับพูดกลับมาว่า "เวอร์" ฟังเเล้วอึ้งค่ะ

3.  ทั้งที่คุณอ้อย  คือ เหตุที่ทำให้ท่านอาจารย์ต้องแลก  ชีวิต  คนที่ควรจะวิ่งเข้าไปร่วมขอชีวิตกับเบื้องบน  หลังจากที่พี่ธนา กับพี่แมว  ขอแล้ว  ควรเป็นคุณอ้อยที่วิ่งออกไปแสดงตัว  แต่กลับเป็นพี่อัญชลา บุตรโสแทน

สิ่งที่สังเกตย้อนให้คิดเพิ่มขึ้น  คือ ในการที่พวกเราร่วมปกป้องท่านอาจารย์ จากเพจปลอม หรือพวกปรามาสจะสังเกตได้ว่า พี่อ้อย ไม่ค่อยได้เข้าร่วมสักเท่าใดอีกด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-24 12:14:34


ความคิดเห็นที่ 113 (1657327)

ค่าย 14

บวงสรวงอาราธนาบารมีพระนาง

เนเฟอร์ตารี ปลดล๊อกความจน รวมพลคน

มีหน้าที่สำคัญ

...................................

จากเหตุการณ์เข้าค่าย 14 ได้รับบรรยากาศ เศร้า โศก

เสียใจม๊าก มีเหตุการณ์ให้ต้องร้องไห้จนสะอื้น

สะเทือนไปหมดทั้งห้องประชุม

ตลบอบอวนไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของลูกศิษย์

แต่ละคนที่ต้องสูญเสียท่านอาจารย์อุบลไป

แต่ละคนต่างร้องไห้ เสียใจม๊าก

เพราะท่านอาจารย์อุบลเสียชีวิตแล้ว

และต่อไปจะเป็นดวงจิตพระนางเนเฟอร์ตารีมาช่วยทำหน้าที่

กอบกู้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต่อไป

ความรู้สึกน้อยเป็นไปได้อย่างไร

ท่านอาจารย์อุบลจะจากพวกเราไปจริงๆหรือ

นี่พวกเราต้องสูญเสียท่านอาจารย์อุบลไปแน่ๆหรือ

แต่

ก็มีประโยคหนึ่งท่านอาจารย์ได้กล่าวว่า

เพราะได้ทำการแลกชีวิตกับคุณอ้อย

ที่ทำกรรมหนักถึงขั้นอนันตริกรรม

จิตยังบอกกับตัวเองว่าท่านอาจารย์อุบล

ทำไม

ถึงได้รัก มีเมตตาต่อลูกศิษย์มากมายเหลือคำบรรยาย

อย่างนี้ยอมแม้กระทั่งเอาชีวิตของตัวเองแลกกับลูกศิษย์

คนหนึ่งคือ พี่อ้อย

แล้วในระหว่างที่ทุกคนต่างเศร้าโศก เสียใจ กันอย่างถ้วนหน้า

อยู่นั้นในจิตของน้อยก็ถามตัวเองว่าแล้วเพราะเหตุอะไร

ที่พี่อ้อยสร้างวิบากกรรมถึงขั้นหนักอนันตริยกรรม

แล้วกรรมหนักต้องส่งผลให้ตายทันที

แล้วชีวิตท่านอาจารย์อุบลมีคุณค่าสร้างประโยชน์

ต่อมวลมนุษย์ เหล่าวิญญาณ เทพ เทวดา

และภพภูมิอื่นอีกมากมายทำไมต้องยอมมาแลกชีวิต

กับชีวิตลูกศิษย์คนหนึ่งถึงเพียงนี้

ความเมตตา ความรัก

มากมายเหลือคณานับจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 02:39:14


ความคิดเห็นที่ 114 (1657328)

ด้วยก่อนหน้านี้พี่เหมี่ยวได้เสียชีวิตลงแล้ว

ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่าไม่ต้องการให้ลูกศิษย์

คนไหนเสียชีวิตอีก

ได้มีกิจกรรมต่ออายุให้มาตลอด

ท่านอาจารย์อุบลทำไมถึงได้รัก เมตตา ต่อเหล่าลูกศิษย์

มากมายถึงเพียงนี้แล้วคุ้มค่าแล้วหรือ

ต้องเอาชีวิตท่านอ.อุบลมาแลกชีวิตกับ

ลูกศิษย์คนนี้เพื่อให้เขามีชีวิตรอดแต่ท่านอ.อุบลต้อง

จากไปแล้วเขาคนนั้นจะมาทำหน้าที่แทน

ท่านอ.อุบลได้หรือ

เปรียบเทียบกันไม่ได้เล้ยแม่แต่เพียงเล็กน้อย

นี่คืออะไรกันแน่

ก็เพราะ

ท่านอ.อุบลมีมหาเมตตาต่อ

เหล่าดวงจิตที่กิเลสหนาจริงๆ

แล้วเจ้าตัวไปไหนทำไมไม่ออกมาแก้ปัญหา

ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ท่านอ.อุบลต้องตาย

เอาชีวิตเข้าแลก

(โดยเฉพาะประโยคที่พี่แมวพูดบนเวทีว่า)

ชีวิตท่านอ.อุบลมีค่ามากมายมหาศาล

ไม่มีใครคู่ควรที่จะให้ท่านอ.อุบลนำชีวิตมาแลก

ท่านอาจารย์อุบลมีมหาเมตตา

มากมายเท่ากับอนันตจักรวาล

น้อยคิดว่าท่านอาจารย์อุบลต้องรู้มาตลอดว่า

อะไรคืออะไร

จะให้ท่านอาจารย์อุบลมากล่าวประกาศว่า

คุณอ้อย (ปาริชาติ ชมภู)

เธอเป็นมาร เธอคอยทำลายล้าง

ท่านอาจารย์อุบล

เธอจงออกไปจากบ้านสวนพีระมิดเดี๋ยวนี้

ท่านอาจารย์อุบลก็หากล่าวไม่

กลับหาวิธีเข้าช่วยเหลือ

ให้มีชีวิตรอด

แล้วทำไม

เจ้าตัว

ยังนิ่งเฉย

อยู่ตั้งนาน

น้อยยังงงเล้ยในระหว่างท่านอ.อุบล

กล่าวบนเวทีนั้นว่าท่านอ.อุบล

ตายจริงๆแล้วน่ะ

ไปดินแดนทิพย์แล้วน่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 03:27:19


ความคิดเห็นที่ 115 (1657329)

 จากประสบการณ์ที่ได้เข้าไปทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด

ครั้งแรกๆได้ทักทายพี่อ้อย

ว่าอยากรู้จักเพราะดูท่าทาง ภายนอกแล้ว

เธอมั่นใจ เป็นผู้หญิงเก่ง น้อยเองยังแอบชื่นชมมาตลอด

แถมในแต่ละสัปดาห์ท่านอาจารย์อุบล

ก็ยังได้ชมคุณอ้อยมาตลอดว่า

เป็นผู้หญิงเก่ง แกร่ง มีความมั่นใจสูง

แต่ทุกครั้งที่คิดว่าจะเข้าใกล้พี่อ้อย

คุยด้วยนิดหน่อยแล้วก็ถอยออกไป

กลับไม่อยากเข้าใกล้แล้วเพราะเมื่อเข้าไปใกล้แล้ว

ไม่มีความสุข

เหมือนมีพลังงานลบอยู่ในตัว

ดูเธอแข็งเกินไป ดุดัน น่ากลัว

แต่ในใจตัวเองก็ได้บอกตัวเองว่า

อย่าคิดอย่างนั้นเล้ย

เราเข้ามาทำบุญไม่ได้มาวิเคราะห์จงเกียจ จงชังใคร

คงเป็นนิสัยส่วนตัว ส่วนจิตใจ อาจจะดีก็ได้

ขนาดตัวเราเองก็ยังกิเลสหนา

ปัญญาทึบอยู่เช่นกัน

ล้วนมาฝึกฝน ขัดถู กิเลส ชั่วร้ายออกจากจิตใจของตัวตน

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 03:46:14


ความคิดเห็นที่ 116 (1657330)

จากการเข้าค่าย 14 บรรยากาศในงานเข้าค่าย

ล้วนงง สับสน ไปหมด

เศร้าโศก เสียใจ ร้องไห้ ทุกคนถ้าลุกขึ้นดิ้น

ลงไปนอนเกลือกกลิ้งเหมือนเด็กๆ

เพื่อเรียกร้องให้ดวงจิตท่านอาจารย์อุบลกลับมาได้

ทุกคนก็คงลงไปนอนเกลือกกลิ้งเป็นแน่ถึงจะได้สาแก่ใจ

กับเหตุการณ์ครั้งนี้

แล้วพี่สะใภ้ นางวันเพ็ญ ภูกิ่งพลอย

ในวันที่ 14 เมษายน 2556 ก่อนวันทำพิธีบวงสรวง

พี่สะใภ้กลับบอกว่าเห็นผู้หญิงใส่ชุดดำ

เดินตามท่านอาจารย์อุบล

ซึ่งปกติที่บ้านพี่สะใภ้ก็ไม่ได้ฝึกอะไรมากมาย

ที่ได้มโนมยิทธิเล้ย

แต่ก็สามารถสัมผัสวิญญาณต่างๆได้

เพราะจะเล่าให้ฟัง

อย่างเช่นขึ้นรถทัวร์เพื่อมาทำบุญบ้านสวนพีระมิด

ก็จะเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเห็นวิญญาณมาขอบุญ

ไม่ยอมหนี

แต่กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งสวยมากมาช่วยเหลือไว้

หรือ

เวลามานอนที่พีระมิดองค์ใหญ่หรือที่เต้นท์

ก็จะบอกว่าท่านอาจารย์มาเยี่ยมและสอบถามแล้วน่ะ

ว่ามากันกี่คน คนนั้น คนนี่มาไหม

มาถึงกันแล้วเหรอ

ประมาณนี่พี่สะใภ้จะสัมผัสได้ประมาณนี้

น้อยคิดว่า

สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ต้องสร้างหลักฐานเพื่อยืนยันอะไรบางอย่างเป็นแน่

และในวันที่ 15 เมษายน 2556

เป็นวันบวงสรวงจริงท่านอาจารย์อุบลได้สวมใส่ชุดดำจริงๆ

การใส่ชุดดำของท่านอาจารย์อุบลในวันนี้

ซึ่งเป็นวันบวงสรวงอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอร์ตารี

ทำไมถึงใส่ชุดดำ

แสดงว่าต้องมีปริศนาอะไรแอบแฝงอยู่เป็นแน่

และก็มีหลายๆท่านที่ได้ฝันเห็นท่านอ.อุบลสวมใส่ชุดดำ

ท่านอาจารย์อุบลได้เฉลยว่า

ท่านอาจารย์ได้แลกชีวิตกับคุณอ้อย

แล้วการส่วมใส่ชุดดำวันนี้

เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ดวงจิตของท่านอาจารย์อุบล

ที่ได้จากไปยังดินแดนทิพย์แล้ว

ในช่วงที่ท่านอาจารย์อุบลบรรยายสิ่งต่างๆไปนั้น

บางประโยคท่านอาจารย์อุบลจะกล่าวว่า

ท่านอาจารย์อุบลได้รับสื่อสารจากท่านพ่อ

ดตาจินินว่าจะต้องเป็นผู้มาเล่าประวัติศาสตร์ต่างๆ

เกี่ยวกับอียิปต์ที่ได้หายไปนานแล้ว

แล้ววันนี้มีพิธีบวงสรวงอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอตารี

เหมือนเหตุการณ์ในอดีตได้ย้อนเข้าพิธี

ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

เหมือนกับว่าในอดีตชาตินั้นพระนางเนเฟอร์ตารี

ก็ได้ทำการแลกชีวิตของพระนางกับลูกน้องข้าทาสบริวาร

ของพระนางเช่นกัน

แลัววันแรก 14 เม.ย 56 น้อยได้พูดคุยกับท่านอ.อุบล

ก็รู้สึกว่าท่านอ.อุบลเปลี่ยนแปลงไปมากไม่เหมือนเดิม

อาจารย์ผอมกว่าเดิมมาก นัยน์ตาของท่านอ.อุบล

ทำไมไม่เหมือนดวงตาดวงเดิมที่เราเคยสัมผัส

เหมือนดวงตาดวงใหม่มาแทนที

มีความเข้ม ลึก ของดวงตาม๊าก

แต่ดวงตาคู่นี้เมื่อได้สัมผัสก็เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก

ความเมตตามากเหมือนเดิม

ในใจคิดแต่ว่าทำไมท่านอ.อุบลไม่เหมือนคนเดิม

สวยกว่าเดิมมาก ดูมีพลัง บารมีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมมาก

แล้วในระหว่างที่ท่านอาจารย์อุบลกล่าวว่า

ดวงจิตวิญญาณของท่านอาจารย์ไม่กลับมาอีกแล้วน่ะ

แล้วคนที่จะขอให้ดวงจิตวิญญาณของท่านอาจารย์อุบล

กลับมาได้มีสองคนเท่านั้นคือ

พี่ธนา กับ พี่แมว

พี่ธนาจึงให้คนไปตามพี่แมวขึ้นมาบนเวทีเพื่อทำการ

ขอความเมตตาจากท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ให้ดวงจิตท่านอาจารย์อุบลกลับมา

แต่ก็ไม่สำเร็จ

จู่ๆพี่อัญลูกป้าเตือนที่มาจากเชียงราย

กลับวิ่งออกไปด้านหน้าพร้อมบอกว่าขอให้พวกเราทุกคน

ที่ได้มารวมตัวกันในวันนี้แล้วรวมพลังกันขอให้ความเมตตา

ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ดวงจิต ดวงวิญญาณ ของท่านอาจารย์อุบล

กลับมาสู่ร่างในระหว่างที่พี่อัญพูดนั้น

น้อยมีความรู้สึกว่า

มีความผูกผันกับคุณอัญขึ้นมาทันทีเหมือนเหตุการณ์นี้

เกิดขึ้นมาแล้ว

แล้วเมื่อพี่อัญป่าวประกาศออกมาอย่างนี้แล้ว

ทุกคนต้องส่งพลังจิตร่วมมือกันให้ดวงจิตท่านอ.อุบล

กลับมาให้ได้

และแล้วทุกอย่างก็สำเร็จ

ส่วนผู้เป็นต้นเหตุ เห็นกลับนิ่งเฉย ไม่เห็นออกมา

เรียกร้องขอดวงจิตวิญญาณท่านอ.อุบลกลับมาให้ได้

สมดั่งท่านอ.อุบลเอาชีวิตเข้าแลก

ในช่วงที่ทำพิธีบวงสรวงอาราธนาบารมีพระนางเฟอตารีอยู่นั้น

สักพักพี่อ้อยจึงเขาไปกราบท่านอ.อุบล

แล้วพูดภาษาอะไรไม่รู้เรื่องจับความได้แต่

I am sorry

น้อยได้ถามแฟนที่ได้เข้าร่วมค่ายนี้ว่าพี่อ้อยเขาพูดภาษาอะไร

ทำไมไม่พูดภาษาไทยให้เรารู้เรื่อง

พูดภาษาอะไรที่ฟังแล้วไม่รู้เรื่อง

แล้วพวกเราฟังภาษาไทยรู้เรื่องจะเข้าใจไหมเนี่ยะ

แล้วช่วงก่อนทำพิธีอาราธนาบารมีพระนางเนเฟอร์ตารีนั้น

ท่านอาจารย์อุบลยังได้กล่าวเน้นว่า

การมาเข้าค่าย 14 ในครั้งนี้

ทุกคนในนี้

ไม่ได้มาทำหน้าที่ที่ดีทั้งหมด

มีมารเข้ามาเพื่อทำลายล้างท่านอาจารย์อุบล

น้อยยังคิดว่าแล้วใครคือมารตัวจริงล่ะ

จะเหมือนเหตุการณ์คุณอุ๊กล่องดำหรือเปล่า

น้อยก็ยังเข้าใจว่ามารนั้นมีแต่พวกที่สร้างเฟสบุ๊คปลอม

ล้อเลียนบ้านสวนพีระมิดเท่านั้น และสร้างเวปไซค์

บ้านสวนพีระมิดปลอมเท่านั้น มารตัวใหญ่ๆอย่างอุ๊กล่องดำ

ก็โดนเขี่ยออกไปแล้ว

แล้วมีมารที่ไหนอีกล่ะ

น้อยคิดว่าท่านอาจารย์อุบลรู้ทั้งรู้ยังมีมหาเมตตา

ต่อมารตัวแม่

เพื่อให้มารนั้นสำนึกผิด

กลับตัวกลับใจ

แต่ก็ยังเห็นมารไปถ่ายรูป สนุกสนาน ต่อกับเพื่อนๆได้

ไม่เห็นต้องทุกข์ใจอะไรมากมายที่ท่านอ.อุบล

ต้องเอาชีวิตเข้าแลก

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 04:03:32


ความคิดเห็นที่ 117 (1657335)

ด้วยน้อยคนหนึ่งยังกิเลสหนาปัญญาทึบ

ไม่สามารถแยกแยะวิเคราะห์ใครคือมาร

ยังแอบชื่นชมฝ่ายมาร

ว่าได้ตั้งใจเข้ามาทำบุญที่บ้านสวนพีระมิดอยู่บ่อยๆ

เหมือนตั้งใจที่จะช่วยงานท่านอาจารย์อุบลด้วยใจจริง

มีความเป็นผู้นำ เสียสละสูง รัก เคารพ ท่านอ.อุบล

อย่างสุดซึ้งหาประมาณไม่ได้

ด้วยจิตที่เคยแอบชื่นชมฝ่ายมารนั้น

น้อยสำนึกผิดแล้วขอดึงจิตดึงใจกลับมายังฝ่ายดี

คือท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ

น้อยขอกราบขมาต่อท่านพ่อดตาจินิน พระองค์ปฐม

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

ขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล

คุณท๊อปที่ได้หลงผิดที่เคยคิดแอบชื่นชมฝ่ายมาร

ต้องทำให้ปัญหาภาระอันยิ่งใหญ่นั้นต้องตก

มาที่ท่านอาจารย์อุบลคนเดียว

เป็นผู้แก้ไขปัญหากรรมหนักขั้นอนันตริยกรรมนี้

และบุญอันใด

ที่ข้าพเจ้านางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ได้ทำไว้ถึงความดีนั้น

มีไม่มากมายเพียงน้อยนิด

น้อยขออาราธนาพระบารมีพระพุทธเจ้า

ทุกพระองค์เบิกผลบุญทาน ศีล ภาวนา

ตั้งแต่อดีตชาติ ชาติปัจจุบัน บุญที่ทำทั้งหมดในบ้านสวนพีระมิด

ขอถวายบุญนี้แด่ท่านพ่อดตาจินิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่ว

อนันตจักรวาลทุกพระองค์

ขอถวายบุญนี้แด่เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบล

ขอถวายบุญนี้แก่เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์มงคล

ขอถวายบุญนี้แก่เทวดาที่รักษาคุณท๊อป

ให้มีฤทธิ์ยิ่งๆขึ้นอีกมากมายช่วยปกป้องคุ้มครองให้

ท่านอาจารย์อุบลพร้อมครอบครัว

ปลอดภัยจากเหล่ามารร้ายทั้งหลาย

กราบ  กราบ  กราบ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 05:04:53


ความคิดเห็นที่ 118 (1657336)

(นายพิชัย  ภูกิ่งพลอย)

ในการเข้าค่าย 14 ตอนได้ยินท่านอาจารย์อุบลบอกกับ

ลูกศิษย์ทุกๆคนว่าสาเหตุที่ต้องใส่ชุดดำนั้นก็เพราะ

การไว้อาลัยให้กับดวงวิญญาณท่านอาจารย์อุบล

ที่ได้ไปแดนทิพย์แล้ว

ด้วยเหตุที่ได้แลกชีวิตกับคุณอ้อย

เพื่อช่วยคุณอ้อยให้มีชีวิตอยู่ตอนแรกที่ได้ยิน

ผมคนหนึ่งก็ถึงกับช็อคกับเรื่องที่ได้ยิน

เพราะทุกวันนี้ผมได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า

จะเดินทางสายนี้มีแต่ท่านอาจารย์อุบลเท่านั้น

ที่ได้สร้างกำลังใจให้ผมรักเคารพเรียกท่านอาจารย์ได้เต็มปาก

ถ้าจะมีใครสักคนอย่างเช่นคุณอ้อย

แม่แต่รักษาศีลก็ไม่บริสุทธิ์

แล้วจะให้ท่านอาจารย์อุบลช่วยเพื่อตัวเองอยู่รอดเท่านั้น

เห็นแก่ตัวเกินไป

ยิ่งตอนที่ท่านอาจารย์อุบลให้ดื่มน้ำแล้วให้ระลึกชาติได้นั้น

พอผมได้ยินคุณอ้อยพูดว่าเป็นทหารมั่วแต่ดื่มสุรา

มั่วนารี ไม่ช่วยคนอื่นรบ

วินาทีนั้นผมเข้าใจเลยว่าประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมแน่นอน

มารยังงัยก็เป็นมารวันยังค่ำดวงจิตที่ตัดกิเลสไม่ได้

ไม่ว่ากี่ภพ กี่ชาติ ก็ยังเป็นดวงจิตดวงเดิมอยู่ดี

เพราะคุณไม่พยายามที่จะแก้ไขดวงจิต ดวงเดิม

คุณเชื่อแต่มนึกของคุณอย่างเดียว

ผมอยากให้คุณอ้อยกลับไปพิจารณาตัวเอง

ปรับปรุงตัวเองใหม่

ถ้าทำได้ก็ค่อยเข้ามาบ้านสวนพีระมิดใหม่น่ะครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 05:19:48


ความคิดเห็นที่ 119 (1657341)

จุ๋มขออนุโมทนาบุญ กับ คุณน้อย_ยุวรัตน์ และคุณพิชัย

อยากจะสารภาพกับคุณน้อยด้วยว่า วันเสาร์ที่ 20 เมย. ตอนธรรมทานภาคกลางคืน ทั้งที่รู้และขุ่นใจมาตลอด ตอนเข้าค่าย 14 ว่าคุณอ้อยเป็นสาเหตุ ในเรื่องเศร้าทั้งหมดนี้ ตนเองยังมีจิตแวบไปเข้าข้างคุณอ้อย เพราะเห็นเขารุมว่าคุณอ้อยว่าเห็นรื่นเริงเบิกบาน เพราะตนเองเห็นผู้อื่นยังรื่นเริง ขำกับงานแสดง รวมทั้งตนเองด้วย เลยพาลไปว่าตนอื่น แต่กลับปกป้องคุณอ้อย

จิตลึกๆในตนเองยังสำนึกผิด รู้แต่ว่าต้องเอา ธูปเทียนแพ ไปกราบท่านเจ้าของบ้านสวนพีรามิดทุกท่าน เพราะสาเหตุไปเข้าข้างคนผิดนี้ที่ทำให้ อจ.อุบล ต้องจากไป  แต่ดูพฤติกรรมของคุณอ้อย แม่แต่คืนที่ 20 เมย. เขายังนึกไม่ออกเลยว่าทำอะไรลงไป จะกลับไปทบทวนว่าเขาผิดไหม มารยังคงเป็นมาร คิดไม่ได้ว่าทำผิด

หวังว่าการรวมใจกันวิจารณ์ตรงๆครั้งนี้จะกำจัดมารผู้นี้ออกจากบ้านสวนได้อย่างถาวร และต่อไปนี้พวกเราจะต้องระแวดระวัง แม้แต่ตนเอง ไม่ให้โดนคุณไสย มนตร์ดำอีกต่อไป เพราะนั่นอาจหมายถึงชีวิตของตัวท่านเอง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 09:47:38


ความคิดเห็นที่ 120 (1657345)

 "รู้หน้า   ไม่รู้ใจ" จริงๆ

 พวกเราลูกบ้านสวนฯ   หลงปลื้มฯ คุณอ้อยฯกัน

เพราะเธอแฝงมาอย่างแนบเนียนมากจริงๆ......

เธอใจร้ายมากๆๆๆ.........  

ร้ายมากกว่าที่พวกเราลูกบ้านสวนฯ  เกินความคาดคิด  

ขอให้เธอได้โปรด.......หยุดประกอบกรรมชั่วนี้เถิด!  

เธอคงรู้ดีว่า.......ผลกรรมของเธอน่าจะเป็นเช่นไร    

เธอต้องพิจารณาตัวเอง........

พวกเราลูกบ้านสวนฯไม่ต้องการเธอ

***********************

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 10:58:28


ความคิดเห็นที่ 121 (1657384)
ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 20:15:12


ความคิดเห็นที่ 122 (1657387)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานคุณมิ้ม
 

คุณแหวน คุณน้อย คุณพิชัย


และธรรมทานพี่ชนิดา อ่านแล้วได้ปัญญามาก ๆค่ะ


สุดยอดค่ะ เราต้องหมั่นตรวจสอบจิตเรา

ค่อยประคับประคองไม่ให้หลง


คอยย้ำเตือนตัวเอง ไม่ให้มันหลงระเริง

ไม่ให้คิดว่าเราดีเราเลิศเราเด่น

ถ้าหลงเมื่อไหร่ เราก็หลงทางทันทีค่ะ

และโอกาสที่พิเศษสุดอย่างนี้หาไม่มีที่ไหนในห้วงจักรวาลค่ะ

หลงแล้วหลงเลย เพราะตัวเองทำตัวเอง

และไม่รู้ว่าจะเกิดอีกสักกี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่นชาติ

หรือแสนชาติ ถึงจะมาเจอ ผู้นำที่มีบารมีมากล้นขนาดนี้

จะนำพาดวงจิตเรากลับบ้านได้

 
และมันอาจครอบงำให้เราเป็นนางมารร้ายได้เหมือนกัน

เพราะแรกๆ เห็นคนมาบ้านสวนมาด้วยความลำบาก ยากจน

(อย่างหนูเป็นต้น) ค่ะ บางก็มาด้วยความเจ็บป่วย ทุกข์ทรมาณ

แสนสาหัต แต่พอมารับพลังบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ชีวิตดีขึ้น ได้รับความสุขขึ้น

แต่กลับลืมผู้ทีทำให้เราได้รับความสุข

กลับลืมผู้มีพระคุณที่ได้ปลดเปลื้องทุกข์ให้เรา
 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-25 22:23:50


ความคิดเห็นที่ 123 (1657469)

   ขอขอบคุณสำหรับทุกๆธรรมทานที่ทำให้ หู ตา สว่าง มีสติ มีปัญญาขึ้นมาบ้างหลังจากที่โง่อยู่พักใหญ่   ยอมรับว่าวันเข้าค่าย 14 เหตุการณ์ในวันที่  14 15 ครั้งแรกรู้สึกเห็นใจคุณอ้อยเช่นกันค่ะเพราะว่าที่ผ่านมาเห็นพฤติกรรมที่เนียนมากในการเป็นลูกหลานบ้านสวนที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง ทั้งการทำงานที่เอาจริงเอาจัง ภาวะผู้นำ การเขียนธรรมทานที่เขียนได้อย่างน่าติดตาม และการกำหนดจิตแต่ละครั้งนี่คุณอ้อยก็จะเล่าถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวเองได้เข้าเฝ้า ได้รู้ ได้เห็นแบบคักขนาดเลยค่ะ ทำให้เราได้แต่สุขใจ อิ่มบุญและอนุโมทนาบุญตามไปด้วย (โดนเต็มๆไปแล้วคุณไสย์) แต่เมื่อความจริงปรากฏออกมาเยี่ยงนี้ เหมือนถูกตบหน้า นี่พวกเราถูกหลอกมาตลอดเลยเหรอ ? เธอผู้นี้เข้ามาบ้านสวนฯจุดประสงค์เพื่อทำลายบ้านสวนฯ ทำร้ายทุกๆคน เพราะความอยากได้ อยากมี อยากเป็นที่มันฝังลึกอยู่ใต้จิตสำนึกของเธอ   แล้วความรัก ความเมตตาที่ท่านอาจารย์มีต่อคุณอ้อยล่ะ ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงคนนี้ระลึกได้บ้างเลยเหรอ หรือ สำนึกผิดบ้างเลยเหรอคะ  มิน่าเมื่อวันที่ 15 ขณะที่ท่านอาจารย์   ได้บอกกับทุกคนว่าอาจารย์ได้แลกชีวิตอาจารย์กับคุณอ้อย บรรยากาศในตอนนั้นคือทุกคนร้องไห้ เศร้าโศกเสียใจ  แต่คุณอ้อยกลับนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่แบบเฉยๆก่อนที่จะวิ่งออกไปร้องไห้ต่อหน้าท่านอาจารย์อย่างที่ทุกคนเห็น  ตอนนั้นคิดแบบโง่ๆว่าคุณอ้อยกำลังควบคุมอารมณ์กระมังถึงเล่นโทรศัพท์??.... อดีตชาติที่คุณเคยผิดพลาด(ที่คุณอ้าง) คุณอ้อยก็นำติดตัวมาทำผิดซ้ำอีกในภพชาตินี้ และก็ไม่ได้สำนึกอะไรเลยสักนิด   มันคงฝังลึกใน DNA  ของคุณแล้วอย่างที่คุณตุ้ยได้บอกไว้   อนันตรยกรรมที่คุณกระทำต่อท่านอาจารย์ ดวงจิตที่เปี่ยมด้วยเมตตา สูงค่ามิอาจประมาณต้องมาแลกกับชีวิตกับดวงจิตที่มืดบอดของคุณ ท่านรู้ทั้งรู้ท่านก็ยอม ยอมที่จะแลก เพื่อที่จะให้คุณมีชีวิตอีกต่อไป  แต่คุณกลับไม่สำนึก ทำเนียนต่อไปได้อีก และก็ยังกระทำกรรมชั่วต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์อย่างไม่ละอายและเกรงกลัวต่อบาปกรรมแต่อย่างใด  ชีวิตของคุณอ้อยตั้งแต่นี้ไป จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณอ้อยบ้าง  To be continuous………… ช่างน่าเวทนายิ่งนัก   กับทุกอย่างที่ผ่านมาของคุณอ้อย ที่ได้พยายามสร้างเครดิตให้ทุกคนไว้ใจ เชื่อใจ ชื่นชม เสแสร้งแกล้งทำ ให้พวกเราหลงเชื่อ แต่สุดท้ายคุณก็จบแบบไม่สวยเพราะเหตุจากผลกรรมที่คุณได้ก่อไว้นั่นเอง

 เจอคุณอ้อยแรกๆเลยจะรู้สึกไม่ชอบแววตาที่ดูไม่เป็นมิตร  คำพูดที่ดุขาดเมตตา   ช่างแตกต่างจากท่านอาจารย์ เวลาดุแล้วทำให้ยิ้มได้ เพราะเกิดปัญญาขึ้นมาทันที  มิน่าท่านอาจารย์ถึงเคยพูดว่าคุณอ้อยมีมะนึกเก่ง ก็ได้แต่สงสัย ว่าทำไมท่านอาจารย์ถึงได้พูดแบบนั้น  ยิ่งมาทราบว่าคุณอ้อยยังทานเนื้อสัตว์ ศีลไม่บริสุทธิ์ แต่กลับมากล่าวอ้างติดต่อสื่อสารกับท่านพ่อดตาจินินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้  ยิ่งทำให้รู้สึกหดหู่มากขึ้นไปอีก  ..I  am  sorry  ค่ะ sorry จริงๆที่หลงเชื่อคุณอ้อย เพราะขาดปัญญาแท้ๆ  คุณอ้อยมักจะพูดเสมอว่าเมื่อก่อนคุณอ้อยจะทำอะไรก็มักจะคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่เคยรักใครเป็นแม้แต่กับพ่อแม่ก็ยังรักแบบมีเงื่อนไข  เมื่อก่อนคุณอ้อยเป็นย่างไรเดี๋ยวนี้ก็ยิ่งเป็นมากกว่าเดิมอีก วางแผนเตรียมการมาทำลายล้าง ข้ามภพข้ามชาติมาเลยทีเดียว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ดวงรัตน์ จันทร์ใสย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-27 09:03:49


ความคิดเห็นที่ 124 (1657512)

อ่านธรรมทานของน้อวแก้วแล้วเขียนได้ดีมากค่ะ คือตัวเราก็เหมือนขยะถ้าเราไม่อาบน้ำสัก 7 วัน คิดดูสิจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์แน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่อยากเป็นขยะสังคมลองมานั่งนอนทบทวนตัวเองก็น่าจะดีแล้วนะ ตัวเราเองนี่ที่คือขยะของแท้แน่นอน ถ้าไม่รักษาศีล 5  และอบายมุขทั้ง 6  บวกกับความวังดีประสงค์ร้ายมีความฉนาดน้อย ยังขาดเฉลียวต่างหาก บางครั้งก็เบื่อตัวเองเหมือนกัน  แต่เอาละให้กำลังใจตัวเองว่าทำมันให้ดีที่สุด เพราะนี่คือโอกาศสุดท้ายของชีวิตที่ได้มาเป็นมนุษย์

ขอบพระคุณสำหรับทุกๆ ธรรมทานค่ะ

สาธุๆๆอนุโมทามิ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-27 21:04:49


ความคิดเห็นที่ 125 (1657823)

ขอมารายงานผลเพิ่มค่ะ.....

หลังจากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมค่าย 14 และเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 เม.ย.56 ที่ผ่านมา ได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลทำน้ำทิพย์ล้างคุณไสยมนต์ดำ ให้กับผู้ที่ต้องการให้ท่านช่วย ซึ่ง 1 ในนั้นก็มีพจน์ด้วยค่ะ พอวันอาทิตย์ก็ได้กลับบ้านในช่วงเช้า มาเปิดร้านขายของตามปกติ และตัวเองก็ได้ดื่มน้ำทิพย์ล้างคุณไสย์อีก จิบไปเรื่อยๆค่ะ ช่วงกลางวันก็ยังดูเงียบๆ แต่พอช่วงเย็นมาลูกค้าเข้าร้านแบบว่าจอดรถกันเต็มหน้าร้านเลยค่ะ ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มานานมากๆแล้ว คือเมื่อก่อนเท่าที่สังเกตุดู ลูกค้าจะมาจอดรถหน้าร้านและพอสักพักก็กลับรถไปซื้อร้านอื่นบ้าง ขับรถออกไปเลยบ้าง เหมือนจะมาซื้อของร้านเรา แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ซื้อซะงั้น เป็นแบบนี้ค่อนข้างบ่อย เราก็ได้แต่คิดว่า มันมีอะไรหรือป่าวนะ แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ จนมาถึงตอนนี้คิดว่าได้คำตอบแล้วค่ะ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราโดนทำคุณไสยมนต์ดำนี่เอง และหลังจากที่ดื่มน้ำทิพย์ล้างคุณไสย์ที่ท่านอาจารย์เมตตาทำให้ พอกลับบ้านมาก็เห็นผลทันที คือขายของดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ

และเมื่อวานวันจันทร์อยู่ๆก็มีคนมาซื้อที่ ที่พ่อของพจน์บอกขายมานานแล้ว แต่ยังขายไม่ได้ จนพจน์เองก็ลืมไปแล้ว เรื่องขายที่เนี่ย คนที่มา เขามาซื้อแบบง่ายๆ ไม่มีต่อราคาเลยค่ะ ขายไป 160 ตร.ม. ราคาสามแสนบาท ทั้งที่ ที่ก็ยังไม่มีโฉนดนะคะ รู้สึกทั้งทึ่งและอัศจรรย์ใจมากๆเลยค่ะ ส่วนพจน์เอง พ่อก็ให้ค่าขนมนิดหน่อยค่ะ กะว่าเก็บไว้เป็นทุน ไว้เป็นเซ็นเตอร์พาเมล่าค่ะ อิอิ ส่วนเรื่องค้าขายทั้งของตัวเองและสามีก็ดีขึ้นอย่างชัดเจนมากเลยค่ะ และตอนนี้การเงินก็เริ่มคล่องตัวขึ้น ร่างกายและจิตใจก็ปลอดโปร่ง เบาสบายขึ้น เรียกได้ว่ามีความสุขทุกด้านเลยค่ะ

ทั้งหมดนี้ ลูกขอน้อมกราบแทบพระบาทขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระนางเนเฟอร์ตารี ท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตาปลดเปลื้องความทุกข์ให้กับลูกและทุกๆท่าน ความสุข ความสมหวังที่เกิดขึ้นก็ด้วยเพราะ พระบารมีของทุกๆพระองค์ ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณอย่างที่สุดเลยเจ้าค่ะ สาธุ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-04-30 12:11:23


ความคิดเห็นที่ 126 (1658470)

 วันนั้น หมอก็แปลกใจที่เห็นคุณอ้อยไม่ได้แสดงอาการ ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุกับเรื่องที่ช๊อค ลูกบ้านสวนขนาดนั้น มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เลย โชคดีที่เรายังมีหนทางที่จะสามารถนำท่านอาจารย์อุบลกลับมาได้ ไม่อย่างนั้นก็นึกไม่ออกเลยว่าเราจะทำอย่างไรกันดี 

ตั้งแต่เห็นคุณอ้อยมาพูดว่าสัมผัสอะไรได้ ครั้งแรก หมอบอกตามตรงว่า ไม่ค่อยจะศรัทธาเท่าไหร่ ก็ยังแปลกใจตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ก็รู้คำตอบแล้ว  สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-05-08 15:14:47



<< ก่อนหน้า 1 [2]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.