ReadyPlanet.com


ค่าย 13 ธรรมบำบัด+ชมบารมีพระศรีอาริย์+เตือนภัยพิบัติ+พบ ดร.จิตรา 6-7 ต.ค.55


ค่าย 13

- ธรรมบำบัด

- ชมบารมีพระศรีอาริย์

- เตือนภัยพิบัติขั้นวิกฤติ

- พบ ดร.จิตรา

องค์ปรีดาเทพ สุรทิน

 

6-7 ต.ค.55

บ้านสวนพีระมิด

 

รับจำนวนจำกัด

รายละเอียดจะแจ้งต่อไป

 

เชิญร่วมสนทนา

และ

ร่วมแสดงความเห็นได้

ตามอัธยาศัย

 

ด้วยเป็นเรื่องสืบเนื่องจาก

งานที่ กทม. 21 ก.ย.55

 

ผู้สนใจค่ายนี้

เชิญเข้ามาคุยกันก่อนได้

จ้า

 



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-24 22:19:53


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 [6] 7 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 501 (1633198)

 

กร็ดธรรมะค่าย 13.

@ชาวพุทธทุกคนควรจะหาโอกาสอ่านพระไตรปิฏก

@กรรมที่ทำให้มนุษย์ต้องเผชิญภัยพิบัติทั้งทางดิน-น้ำ-ลม-ไฟ เกิดจากการผิดศีลข้อ2อทินนา ซึ่งเหตุการณ์ที่น้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วจุดไหนที่มีการผิดศีลข้อที่ มาก็ให้ทำน้ำท่วม

@เรามี 2ทางให้เลือกเกี่ยวกับภัยพิบัติคือ เลือกที่จะสนใจการมาของพระศรีอาริย์เพื่อให้ภัยพิบัติเบาบางลง หรือ ไม่สนใจการมาของพระองค์แล้วรับมือกับภัยพิบัติที่รุนแรง

@จี้สฟิงซ์ไม่ได้แค่ดึงดูดพลังของจักรวาล แต่เป็นการดึงดูดพลังของอนันตจักรวาล (จักรวาลทุกๆจักรวาลมารวมกัน)

@การดึงดูดพลังของอนันตจักรวาลที่สุดผ่านที่จี้นั้น จิตต้องมีพื้นฐานความเมตตา

@เสื้อบ้านสวน : จะป้องกันภูต ผี ปิศาจและคุณไสยได้ ปิระมิดทุกรุ่นมีพุทธคุณและเป็นการเชื่อมญาณกรรมฐานกับท่านอ.อุบล (รุ่นบวงสรวงเสด็จพ่อเวสสุวรรณ สามารถใช้ต่ออายุได้ องค์ต่อ ชีวิต)

@พีระมิดที่พักในบ้านสวนนั้น ก่อนจะโบกปูนท่านอ.ได้มีการติดคาถาปะโตเมตังทุกหลัง

@การช่วยเหลือผู้อื่นโดยใช้จี้บำบัดอย่าเน้นที่หายป่วยทางกาย แต่ให้เน้นที่จิตด้วย

@ศรัทธาคือสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำให้สามารถเชื่อมญาณถึงกันได้

@ทุกธรรมทานที่มาเขียนในเว็ปบ้านสวน ท่านอ.จะอ่านทุกๆกระทู้ทุกความคิดเห็นแล้วก็แผ่เมตตาอุทิศบุญผ่านตัวอักษรของเรา ดังนั้นคุณที่ไม่เขียนธรรมทานท่านก็ไม่สามารถให้บุญได้เช่นกัน

@อย่าหาข้ออ้างในการเขียนธรรมทานเพราะท่านอ.ก็จะเขียนทุกๆครั้งที่มีโอกาส

@ก่อนลุกออกจากที่นอน และ ก่อนนอน ให้สวดมนต์ไหว้พร (ก่อนนอนให้สวดไปจนหลับเพราะจิตเราจะทรง)

สวดอิติปิโส  ปะโตเมตัง  คาถาเงินล้าน – ท้าวเวสสุววรรณ  พระศรีอาริย์

นอกจากนี้ตั้งแต่นี้ให้สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์วันละ 99 จบเป็นเวลาติดต่อกัน 9 วันเพื่อเป็นการปรับ DNA ในร่างกายเพื่อให้รับเอาพลังงานใหม่ๆเข้าไปแทนพลังงานลบ โดยคนที่สวดก็จะมีอาการถ่ายท้อง

@ถ้าอยากจะอยู่รอดในวันเกิดเหตุและไม่พิการ : ให้รักษาศีล 5 ให้มั่นคงและต้องปกป้องร่มโพธิ์ศรี

@ต่อไปนี้ให้มีใจเป็นพรหมเพราะเทวธรรมไม่เพียงพอคือ มีเมตา-กรุณา-มุฑิตาและอุเบกขา

@การใช้จี้บำบัดห้ามแทรกแซงกรรมโดยเด็ดขาด เช่น ตั้งใจจะเดินทางไปหาผู้อื่นเพื่อให้เขาหายจากโรค แต่ถ้าเดินทางไปทำธุระแล้วพบเจอก็ไม่เป็นไร

@คนส่วนใหญ่มักจะปรุงจิตของตนเองและใช้ความรู้สึกในการตัดสิน ถ้าคนที่เราคบหาอยู่ไม่ใช่พระโสดาบันก็ไม่ควรเชื่อใจ

@ถ้าเราไม่รู้จักช่วยเหลือคนอื่นในวันที่เกิดเหตุก็จะไม่มีใครช่วยเหลือเรา

@ปัญหาเรื่องครอบครัวไม่สนับสนุนทางธรรม : เป็นสัญญาณบอกให้เรารู้และต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับการพลัดพราก

@ในทุกๆวันท่านอ.จะอุทิศบุญกุศลให้กับสัมพวิญญาณทั้งในและนอกบ้านสวนขอให้บุญกุศลถึงแก่เทวดาที่รักษาคุ้มครองท่านและขอให้ทุกๆท่านมีรัศมีกายที่สว่างไสว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 02:02:29


ความคิดเห็นที่ 502 (1633199)

มหัศจรรย์จริงๆ

บุญจัดสรรจริงๆๆปรากฎว่าพี่แมวจัดสรรให้ได้นอนพีระมิดองค์

ใหญ่ร่วมกับป้าอุ๊ ดูจากภาพ ค่าย 13 หน้าเด็ก สวยมาก เหมือน

เบื้องบนต้องการให้มาสื่อสารอะไร  ยิ่งได้สัมผัสตัวจริง

มหัศจรรย์นั้นก็ได้ถูกเปิดเผย.....

ผลที่ได้รับ หน้าอ่อนกว่าวัย สวยกว่าวัยมาก อายุห้าสิบเจ็ด

อ่อนกว่าวัยมากรุ่นสาว สาวสิบยังแจ๋ว แจ๋วเสียกะไร

เหตุเกิดจาก

การปกป้อง 3 ร่มโพธิ์ศรี

ชาติ    ศาสนา    พระมหากษัตริย์

นั่นก็คือ บุญจัดสรรได้นำนายทหารกล้า

ญ.ผู้หญิงออกมาแสดงตัวให้โลกรู้ว่า

ความดี

แม้นไม่อยากเปิดเผย

แต่พลังงานอนันตจักรวาล

บารมีพระองค์ท่าน

ต้องนำมาเป็นตัวอย่าง

วิธีปฏิบัติป้าอุ๊ได้รู้จักWebsiteบ้านสวนพีระมิดเมื่อสองปีก่อน แต่ไม่ได้มาที่บ้านสวนฯ

แต่เป็นทหารกล้า ต่อสู้ ภัยมืด (พลังงานลบ) ปกป้อง Website อยู่เบื้องหลัง กล้าหาญ

ถ้ามีการ โพสต์ ข้อความ ที่ไม่สร้างสรรค์ หวังสร้างความแตกแยก ทำร้ายร้าง...........

ป้าอุ๊จะจัดการโดย โพสต์ ให้ข้อความนั้นตกไปหรือรายงานความไม่เหมาะสม.......

ขออนุโมทนาบุญกับป๊าอุ๊ค่ะ ช่างฉลาดนี่กะไร

เพราะห้าสิบกว่าๆๆๆยังแจ๋วนี่เอง

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 02:04:59


ความคิดเห็นที่ 503 (1633200)

Workshop วิธีใช้จี้สฟิงส์บำบัดโรค
การแบ่งกลุ่มวิพากษ์ วิจารณ์ แสดงความเห็นเหล่านี้ เป็นการเรียนรู้ทางลัดที่ดีมากๆ เพราะมีโอกาสทราบว่า ลูกบ้านสวนแต่ละท่านใช้เทคนิคอะไรได้บ้างในการบำบัดและได้ผลหรือไม่

กลุ่มที่จุ๋มร่วมอยู่ รอบแรกเราถามปัญหาชีวิตติดขัดของแต่ละคนก่อนก็กินเวลาโขอยู่ แต่สมาชิกในกลุ่มก็ใจกว้าง ร่วมกันรับฟังปัญหาของแต่ละคน ต่อมาคนที่เคยมีประสบการณ์ใช้จี้รักษาได้ผล ก็มี น้องหนึ่ง คุณเจิดฤทัย ที่เพียงขอบารมีจากจี้และอ.อุบลเจ้าของ เอาจุ่มน้ำให้ลูกเล็กๆ อายุ 1 ขวบทาน อาการท้องเดิน เจ็บป่วยก็หายทันที
ในกลุ่มมีป้าเตือน ท่านมีขันติในการบำเพ็ญภาวนา ท่านสวดคาถาสำคัญต่างๆของบ้านสวน 108 จบ เมื่อท่านเจ็บป่วยจากอะไร เช่นท้องเดิน จิตของท่านแวปขึ้นมาได้ว่าเป็นเพราะ เคยใส่สลอดลงในส้มตำให้คนอื่นทาน แล้วเขาก็ท้องเดิน ป้าเตือนพอรู้ตัว เจ้ากรรมนายเวรถูก ก็สามารถ อุทิศบุญให้ และขอขมาถูก มีผลรักษาให้โรคหายได้
แต่ อ.อุบลบอกว่า ถ้ามีภัยมา มัวแต่ภาวนาก็คงตายกันหมด แต่ก็ขอเล่าไว้ในที่นี้ เพราะรู้สึกทึ่งในภาวนาบารมี ว่าทำให้เกิดญาณที่จะระลึกเห็นบาปบุญคุณโทษได้

แต่สุดท้ายของ workshop ที่กลุ่มเมื่อเวลาจะหมด เรารวมพลังจี้สฟิงส๋ของทุกคน  ใช้ความเมตตาปรารถนาดีที่จะให้เพื่อนในกลุ่มพ้นทุกข์ อธิษฐานขอบารมีจาก อ.อุบล และบารมีพระศรีอารย์ที่อัญเชิญจากอ.อุบล มารักษาทุกคนพร้อมกัน ให้กายแบบฉับพลันทันที ฌ ตอนนั้นทุกคนก็รู้สึกดีมาก หายเจ็บปวดพร้อมกันตอนนั้น  นอกจากนี้ พวกเราก็รวมกันขอบารมีจากจี้อย่างเดิม ให้พวกเรามีการงาน การเงินดีขึ้น โดยเป็นการขออย่างเดียวโดยไม่สารภาพบาปใดๆ และพวกเราในกลุ่ม ถ้าได้ผลอย่างไร ก็จะ email บอกผลกันต่อไป

สำหรับ รายงานของ workshop กลุ่มอื่นที่ประทับใจ ก็คงเป็น คุณเหมี่ยว ที่มีประสบการณ์รักษาคนพิการมาก็หลายคน เมื่อเอาจี้หลายอันมารวมกันแปะไปที่ตาคุณก๊อต ตาก็หายเจ็บ อาการบวมลดลง ทั้งนี้คุณก๊อตสารภาพบาปเองแล้วด้วย  นอกจากนี้ที่เห็นผลชัดคือ การสามารถรักษา ผิวหนังบริเวณเข่าของคุณเจี๊ยบที่หนาแข็งดำและมีอาการคัน จนหายคัน และขาวนิ่มลง ได้อย่างฉับพลัน เป็นกลุ่มที่มีผลให้เห็นเป็นรูปธรรมมาก คุณหมอเหมี่ยว

ส่วนกลุ่มคุณครองขวัญ ซึ่งเคยใช้จี้รักษาคนมาประมาณ 85 คน เธอจึงสามารถสัมผัสพลังอุ่นถึงร้อน วุบวาบในตัวเธอ ในช่งที่เธอบำบัด

จากข้อสังเกตุที่ว่าเมื่อรวมพลังจี้หลายๆอัน เช่นสร้อยคอ 9 องค์ ของคุณซิม หรือ คุณเหมี่ยวถอดของทุกคนมากำไว้แปะไปบริเวณที่จะรักษา จะมีอานุภาพมาก
ท่านอ.อุบล จึงสอนให้อธิษฐานเชื่อมญานกับท่านที่ใช้จี้รักษาคนได้มาก เพราะเป็นจี้ที่มีพลัง หรือแม้เชื่อมญานกับท่านองอุบลเอง ก็จะได้ผลดี ซึ่งที่กลุ่มจะใช้อัญเชิญบารมี จากอ.อุบล มาก่อนบำบัดทั้งสิ้น
ท้ายสุด อ.อุบล กำชับว่า เมื่อกลับไปจากค่าย 13 ให้ลูกบ้านสวนใช้จี้รักษาผู้คนทันที
กราบขอบพระคุณในคำสอนศิลปะการใช้จี้รักษาโรค จะพยายามหาที่ใช้ให้ได้โดยเร็วค่ะ

จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 02:06:22


ความคิดเห็นที่ 504 (1633203)

นายพิชัย ภูกิ่งพลอย ค่าย 13 วันอาทิตย์ท่านอ.อุบล เมตตา

ให้รับสัมผัสพระบารมีพระศรีอาริย์เมตไตร

ผมมีอาการแสบในลำคอ คันคอ พอได้รับพระบารมีพระ

ศรีอาริย์ รู้สึกว่าขนลุกไปทั้งตัวแล้วอาการที่เป็นข้างต้นก็หาย

และเรื่องขอบารมีพระศรีอาริย์ และรหัสอ.อุบลช่วยด้วย ในการ

จะพูดเรื่องธรรมะ คือมี 2 กรณีที่แตกต่างกัน เหตุการณ์แรก

ได้ขอบารมีพระศรีอาริย์และรหัสอ.อุบลช่วยด้วย ให้คุ้มกาย

ถึงเวลาจะพูดธรรมะให้คนงานฟัง ขอให้ทุกคนอย่าได้ขัดขวาง

เลยแล้วพอถึงเวลาทำงาน ผมก็พูดเรื่องธรรมะให้ทุกคนฟัง

ปกติแล้วจะมีคนแอนตี้มากเวลาพูดธรรมะแต่ละครั้งนั้นยิ่งพูด

ให้คนงานฟังเหมือนมีพลังดึงดูดคือ ทุกคนตั้งใจฟังมากจะไม่มี

ใครโต้แย้งเลย และอีกเหตุการณ์หนึ่งตอนกลับไปจากบ้านสวน

พีระมิดก็ถึงบ้านตอนเช้าก็อยากพูดธรรมะให้คนฟังอีกแต่ตอน

นั้นไม่ได้อาราธนาบารมีพระศรีย์และให้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

พอพูดได้ไม่กี่คำ ก็ถูกคนฟัง เขาแอนตี้อย่างหนักเลย เขาไม่

ปล่อยให้เราพูดเลย ก็พอสรุปได้ว่าเราไม่ได้ขอบารมีพระศรี

อาริย์เมตไตรคุ้มกายเราก่อน

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 02:56:18


ความคิดเห็นที่ 505 (1633204)

 ค่าย 13

นายพิชัย  ภูกิ่งพลอย หลังจากออกจากบ้านสวนพีระมิดทีได้

เข้าค่ายที่ 13 ผมได้ขึ้นรถทัวร์ เพื่อจะกลับบ้านที่จังหวัดอุดรธานี

พอดีได้นั่งข้างๆผู้ชายคนหนึ่งเขาก็จะลงที่จ.อุดรฯเหมือนกันจึง

การที่บอกเรื่องรหัสอ.อุบลช่วยด้วย ให้เขาไปใช้บ้างมาถึงตอน

นี้ผมก็ได้ขอบารมีพระศรีอาริย์เมตไตรคุ้มกายผมขอให้เขามี

จิตเปิดเพื่อรับฟังเรื่องดีๆจากผม เพราะมีประสบการณ์เรื่องนี้

แล้วก็พูดกับคนที่นั่งข้างไปเรื่อยๆๆสอดแทรกเรื่องธรรมะไป

เรื่อยเขาก็ฟังเราโดยไม่ต่อต้านจนเหนื่อยพูด จนผมนั่งหลับตา

ปกติผมก็จะใช้พุทโธเวลาภาวนาในอิริยบถต่างๆ แล้วก็ได้เห็น

เปลวไฟและเห็นสัมเภสี ในสมาธินั้น ผมจึงได้อุทิศบุญกุศลที่

ได้ทำมาทั้งหมดนั้นให้เขาเหล่านั้น พอถึงบขส.จ.อุดรฯน้องเขย

ได้มารับกลับบ้านพอใกล้ถึงบ้านเราได้เจอรถคนอื่นได้รับ

อุบัติเหตุ รถพลิกคว่ำ น้องสาวพยายามพูดให้แฟน(น้อยเขย)

จอดรถลงไปดู แต่น้อยเขยไม่ยอมจอด ผมจึงไม่สามารถลง

ไปได้ จึงได้ภาวนา รหัสอ.อุบลช่วยด้วย ขอให้คนในรถจง

ปลอดภัย และได้อุทิศบุญที่ผมมีทั้งหมดให้สัมเภสี ที่อยู่บริเวณ

นั้นด้วย

จึงอยากเรียนถามญาติธรรมทั้งหลายสิ่งที่ผมทำไปนั้น

เป็นวิธีการถูกต้องหรือไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 03:15:22


ความคิดเห็นที่ 506 (1633205)

 กราบเรียนอ.อุบล และชาวบ้านสวนพีระมิด

อยากจะมาเล่าประสบการณ์ส่วนหนึ่งที่ได้เข้าค่าย 13 นี้ครับ

ในวันเสาร์ที่ 6 ต.ค. ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่มีโอกาสได้มาบ้านสวนพีระมิด ซึ่งการเดินทางผมก็ภาวนาและอธิฐานอยู่เสมอว่า อ.อุบล ช่วยด้วย ให้ผมได้ถึงค่ายและได้เข้าค่ายด้วยเถิด ผมก็มาด้วยรถตู้จากกทม. มาถึงตัวเมือง อ.บ้านนา ผมก็ถามคนในระแวกนั้น ว่ารู้จักบ้านสวนพีระมิดมั้ย? แล้้วไปยังไง? ก็แปลกดีนะครับ ว่าทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ถึงไม่รู้จักบ้านสวนพีระมิด เขาก็เลยแนะนำให้ผมไปถามพี่วินมอไซด์ ที่อยู่แถวนั้น พี่เขาก็อ๋อและพาไปส่งผมอย่างปลอดภัยดี และเขาก็ให้เบอร์โทรศัพท์เผื่อเรียกใช้เขา พอเข้ามาถึงข้างหน้าบ้านสวนเท่านั้นแหละครับ ขนลุกทันที รู้สึกดีมาก ๆ ครับ และก็เข้ามาอย่างเหวอๆ ทำตัวไม่ถูกๆ ถึงบ้านสวนฯเวลาราวๆ 9.30 น.โดยประมาณ (ตามจริงควรจะมาให้เร็วกว่านี้ ผมก็เสียดายที่พลาดการปฐมนิเทศไป) เข้ามาก็พบกับชาวบ้านสวนต่างยิ้มแย้มมีความสุขกันดี เป็นสังคมที่น่าอยู่มากครับ ผมก็ลงทะเบียนเข้าบ้านที่โรงครัวกับคุณพี่แมว จากนั้นก็รับประทานอาหารพอรับประทานอาหารเสร็จก็ ติดต่อเกี่ยวกับที่พักแล้วน้องมาร์คเด็กน้อยผู้น่ารักก็มาผมไปหาที่พักได้ตรงบ้านไม้ไผ่ น้องมาร์คก็ช่วยผมกางมุ่ง เก่งมากๆ พอจัดที่พักเสร็จก็มาสร้างบุญแรงกายโดยผมได้เหมือนงานหลักเลยก็คือการดัดเหล็ก ที่จะใช้เพื่อเป็นคานทำอาคาร เป็นอะไรที่ผมไม่เคยทำมาก่อน สนุกมากครับที่ได้ทำ จนพี่ธนาแซวเลยว่า เจ้านี่ดูมีความสุขในการทำงานมากเลยนะเน๊ยะ ในช่วงที่ทำรู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวมาก ๆ ครับ แล้วก็พักทานอาหารเที่ยง เป็นอาหารมังสวิรัติที่อร่อยมาก ๆ ติดใจมากเลยครับ แล้วพี่ธนามีเมตตามาสอนวิธีล้างจานแบบคนยุคใหม่ให้ดู เพื่อป้องกันเชื้อโรคและอันตรายที่เกิดจากเศษอาหาร และการล้างภาชนะไม่ถูกวิธี พอรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จทุกคนก็ต่างพากันทำบุญแรงกายกันต่อและผมก็เช่นกัน ต่างพากันด้วยความตั้งใจกันอยากให้งานออกมาดีและได้ปริมาณเยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมก็ทำด้วยความต้ังใจ งานที่ผมทำช่วงบ่ายนี้เริ่มด้วยกันดัดเหล็กและตัดเหล็ก ซึ่งกระบวนการขอการตัดเหล็กนั้นจะต้องใช้เหล็กที่มีความยาวให้ได้ตามที่ออกแบบไว้ ซึ่งในตอนแรกผมก็เป็นคนตัดเหล็กอย่างเดียวจึงไม่ได้วัด แต่แล้วพี่คนนึงเค้าอยากจะมาช่วยทำจุดนี้ เขาก็เป็นคนวัดและผมเป็นคนตัด จากนั้นก็สลับกันโดยผมเป็นคนวัดบ้าง โดยผมก็ไม่ได้้ใช้ความรอบคอบว่าต้นแบบที่ผมใช้วัดเป็นแบบเพื่อตัดนั้นได้ความยาวมาตรฐานหรือยังโดยในในใจไว้ใจผู้วัดก่อนหน้านี้ทำให้ผิดพลาดในการทำงาน เพราะว่าเมื่อเหล็กที่ถูกตัดออกไปนั้น มันยาวไปเกินมาตรฐานไปมาก ทำให้สูญเสียทรัพยากรเกินความจำเป็น ซึ่งทำให้ผมรู้สึกผิดมากที่ทำงานขาดความรอบคอบเพราะไว้ใจและชะล่าใจเกินไป ทำให้งานผิดพลาดไปเป็นผลให้เป็นหนี้สงฆ์ครับ ผมก็อยากจะให้กรณีของผมนี้เป็นอุทาหรให้นักบุญทุกท่านนะครับ อย่าให้ผิดพลาดเหมือนผมได้ อยากให้ได้บุญกันอย่างเดียว ไม่ต้องได้บาปกลับไปเหมือนผมครับ 

 

หลังจากนั้นทุกคนก็อาบน้ำแต่งตัว เตรียมทำกิจกรรมต่อในตอนเย็น คนที่มีหน้าที่แสดงก็เตรียมตัวแสดง
ส่วนคนที่ไม่มีหน้าที่ก็เตรียมร่างกายจิตใจ พร้อมรับชมการแสดงและ Workshop ต่างๆ 
ระหว่างการเตรียมการแสดงก็จะได้ดูวิดิโอตัวอย่างภัยพิภัยเป็นน้ำจิ้มเท่านั้น
พอการแสดงมาถึง การแสดงแต่ละแสดงนั้น แสดงได้เหนือความคาดหมายจริง ๆ ทั้งๆที่เวลาซ้อมน้อยมากแต่ออกมาได้เหมือนซ้อมมานาน จากนั้นก็รับWordshop กันได้ฉกถึงปัญหาและวิธีแก้ไขกัน
จากนั้นก็ไปกินBBQ และถ่ายรูปรวมกัน จากนั้นอ.อุบลก็ให้แยกย้ายไปพักผ่อน ใครอยากอยู่ต่อก็ต่อ
ใครอยากกลับไปนอนก็นอน แต่ผมรู้สึกคุ้มมากๆที่ไม่ได้ไปนอนก่อน ทั้งๆที่พักผ่อนน้อย แต่เหมือนที่นี่จะมี
ยาวิเศษให้ผมมีพลังมากกว่าปกติ ซึ่งประทับใจมาก ในช่วงนี้ก็จะได้พบปาฎิหาริย์มากมายเกี่ยวกับจี้สฟิ้งค์
ซึ่งทำให้หลายคนหายได้ในทันตา หายขาดบ้าง ดีขึ่นบ้าง แล้วแต่ศรัทธาและแรงกรรม จากนั้นก็แยกย้าย
กันไปนอนเตรียมตัว Workshop วันต่อมา

ในเช้าวันอาทิตย์ ที่ 7 ต.ค. ก็ได้ตื่นกันมาเริ่มแต่เช้าก็ออกกำลังกายกัน ทุกคนจะต้องออกมาเป็นผู้นำท่ากายบริหาร สนุกมากแม้จะง่วงก็ตาม จากนั้นก็อาบน้ำ ทานข้าวเตรียม Workshop ช่วงเช้าและบ่าย
เมื่อ Workshop กันเสร็จแล้ว ก็ถึงช่วงสุดท้ายของค่าย คือ ชมบารมีพระศรีอาริย์ ทำให้หลายๆคนหายขาด
และหลายๆคนอาการป่วยก็ดีขึ้น ผมเองก็เช่นกัน คือ ระหว่างWorkshop ทั้งวันนั้นผมมีอาการเมื่อยหลังมาก
เมื่อยไหล่ เมื่อยแขน เมื่อยขา อาจจะเพราะทำบุญแรงกายเมื่อวาน เมื่อ อ.อุบลท่านให้ชมบารมีพระศรีอาริย์
ระยะต้ังแถวรอนั้น อาการของแต่ละส่วนก็ค่อยๆ ดีขี้นๆ ตามลำดับ เริ่มจากแขนอาการเมื่อยตึงค่อยๆหาย
อย่างปลิดทิ้ง ต่อมาอาการเมื่อยไหล่ ก็ค่อยๆหายทีละข้างเริ่มจากไหล่ขวา แล้วไปไหล่ซ้าย พอยืนรอต่อไปอีก
ขาที่เมื่อยค่อยๆหายจนหายสนิท ส่วนอาการเมื่อยหลังยังมีอยู่ ระยะรอนั้นดีขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้ๆกับเวที
อาการหายได้ถึง 90% ซึ่งดีขึ้นอย่างอัศจรรย์ใจ พอขึ้นเวทีรับบารมีพระศรีอาริย์ อาการก็ดีขึ้นอีก 5% รวม
ดีขึ้น 95% อ.อุบลท่านบอกว่าอยากหายขาดต้องเขียนธรรมทานเพิ่ม ^^ ขอบคุณอ.อุบลและสิ่งศักดิ์มากๆครับ
ที่เมตตาผม
จากกิจกรรมครั้งนี้ทำให้ผมรู้เลยว่า ธรรมทานเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นบุญใหญ่มีอานิสงค์มากครับ 



ผู้แสดงความคิดเห็น นราธิป กิมไพบูลย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 03:27:11


ความคิดเห็นที่ 507 (1633208)

 กราบเรียน ท่าน อ.อุบล และ อ.มงคล

 ต้องขอบพระคุณ ท่าน อ.อุบล ที่เมตตา

อนุญาตให้หนูได้มีโอกาสเข้าค่าย 13 ค่ะ

การเข้าค่ายครั้งนี้ หนูตั้งใจจะมาทำบุญแรงกาย

ถวายพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอาริย์

ท่านท้าวเวสสุวรรณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แบบจริงจังค่ะ

และ ก็ไม่ผิดหวัง มีโอกาสได้ร่วมทำบุญหลายอย่าง

ทั้งบริจาคเงิน สร้างวิหารทาน ดัดเหล็กเส้น

เช็ดเก้าอี้ในหอประชุม   แยกขยะสด ทำไบโอแก๊ส

เกี่ยวหญ้าในแปลงเกษตร ใส่ปุ๋ยนาข้าว

แต่ที่ปลื้มที่สุด คือ มีโอกาสได้ร่วมเช็ดทำความสะอาด

รูปปั้นท่านท้าวเวสสุวรรณค่ะ

แถมยังได้รู้จัก พี่จุ๋ม & พี่จิ๋ม  , น้านี & อ.พันธ์ ซึ่งใจดีกับหนู

ที่เพิ่งมาบ้านสวยเป็นครั้งแรกอย่างมากเลยค่ะ

 

และที่จะลืมไม่ไ้ด้ คือ ความกรุณาของท่าน อ.อุบล

 

 

ที่กราบอาราธานาบารมี พระศรีอาริย์ มาช่วยขจัดทุกข์

 

 

 

 

ให้กับลูกบ้านสวนพีระมิด แบบเห็นผลฉับพลันทันที

 

 

 

 ท่านยังเมตตา ให้ความรู้กับพวกเราชาวค่าย 13

 

 

 

ในหลายๆเรื่อง ทั้ง การเตือนภัยพิบัติ

 

 

 

ธรรมทาน ธรรมบำบัด  ประโยชน์ของการทำบุญ

 

ที่แก้ปัญหาที่เหตุ ดับทุกข์ในหลายประเด็น

ชอบที่สุด ก็เรื่อง แก้ปัญหาความยากจน และ ขาดสภาพคล่องทางการเงินค่ะ 

ตอนจะกลับบ้าน หนูแอบไปถาม ท่าน อ.อุบล ถึงกรรม ที่ทำให้ไม่มีคู่ด้วย ป๊าอุ๊ก็อยู่ด้วยค่ะ

ท่านทั้งคู่ แอบหัวเราะหนูใหญ่เลยค่ะ....อายจัง

แต่ อ.อุบล ก็เมตตา ตอบว่า ต้องรู้จักรักคนอื่นอย่างจริงใจก่อน แต่สมัยนี้อยู่คนเดียวจะคล่องตัวกว่านะ

 

ส่วนความรู้ที่ีได้จากการเวิร์คชอปนั้น หนูไ้ด้ตระหนักว่า

ความสำนึกในบุญคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

การเร่งสร้างความดีถวายพระองค์ ลดการทำบาป

ต้องร่วมปกป้องดูแล 3 ร่มโพธิ์ศรี

"ชาติ ศาสน์ กษัตริย์"

 

รู้จักรวมพลังให้เกิดสามัคคี  เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ต้องรู้จักรัก เมตตา เป็นห่วง ผู้อื่น เหมือนที่รักตัวเอง

สิ่งนี้จะช่วยให้คนไทย

รอดพ้นจากภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

งานนี้ หนูยังได้เห็นว่า ลูกบ้านสวนพีระมิด

 มีความรัก ความปราถนาดีให้กับผู้อื่นอย่างจริงใจ

เห็นได้จากการที่ทุกคน ยอมใช้จี้้สฟิงซ์ อธิษฐานจิต เพื่อให้

คนอื่นหายเจ็บ หายจน หายจากความทุกข์ค่ะ

ตอนนี้ หนูยังเหลือภารกิจ อีก 1 อย่าง คือ รายงานผลจากการร่วมตั้งจิตอธิษฐาน ต่อจี้สฟิงซ์  

ขอให้สมาชิกกลุ่ม 2 ที่มี พี่จุ๋มเป็นหัวหน้า หายจากปัญหาทางการเงิน มีความคล่องตัวทางการเงินค่ะ

หนูตั้งใจว่า จะรอให้ครบ อาิทิตย์ สังเกตุการเปลี่ยนแปลงทางฐานะการเงิน จึงรายงานผลค่ะ

 

แต่เมื่อวานนี้ ( 8 ตค ) ขณะกำลังนอนเพลินๆ ก็มีลูกค้าโทรศัพท์มาซื้อของ เป็นเงิน 1,350 บาทค่ะ

ล่าสุด ณ วันที่ 11 ตุลาคม หนูขายของได้ 7,500 บาทแล้วค่ะ 

จากปกติทั่วไปขายได้ประมาณอาทิตย์ละ 3,000 บาทค่ะ

ดีใจจริงๆ  ตอนนี้อยากจะขายให้ได้มากๆ  เพื่อหาเงินไปทำบุญกับบ้านสวนพีระมิดอีก และบอกกับทุกคนว่า แรงอธิษฐานจิต

ของสมาชิกกลุ่ม 2 ได้ผลจริงๆค่ะ

 

ตอนนี้ หนูรู้สึกมีความสุข อยากทำอะไรเพื่อตัวเอง

และ เพื่อผู้อื่นบ้าง ให้สมกับเป็นลูกบ้านสวนพีระมิดค่ะ

 

 กราบขอบพระคุณมากๆค่ะ




 

ผู้แสดงความคิดเห็น กรภัทร์ อคะรินทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 05:37:09


ความคิดเห็นที่ 508 (1633210)

  คุณนราธิป กิมไพบูลย์ ความคิดเห็นที่ 507 กรุณาคลิกซ่อน อีเมลล์ของคุณด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 06:26:06


ความคิดเห็นที่ 509 (1633211)

 ข้อความนี้เหมือนกับที่อาจารย์อุบลและป้าอุ๊ได้นำมาบอกในค่าย13ค่ะ

ช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ ผู้ที่กินเนื้อสัตว์จะทรมานมาก !!!

 

 

สำหรับผู้ที่รับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ กรดอะมิโนจากโปรตีนของสัตว์ต่างๆ จะไวต่อรังสีแกมม่า ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวิทยาพบว่า เซลล์ที่มีกรดอะมิโนจากเนื้อสัตว์ เมื่อสัมผัสกับรังสีแกมม่าที่มากับแสงอาทิตย์ จะไหม้กลายเป็นสีม่วงคล้ำแล้วเซลล์จะเน่า
วิธีแก้ไข ก่อนวิบัติกาลของโลกจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 6 เดือน ให้งดกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันรังสีต่างๆที่โลกเกิด Earth Wobble อยู่เป็นประจำ จึงเปิดโอกาสให้รังสีแกมม่าและอื่นๆ ลงมาบนผิวโลกบ่อยขึ้น และยิ่งเข้าใกล้วิบัติกาลของโลกมากเข้า โลกจะเกิด Severe Wobble โอกาสสัมผัสรังสีแกมม่ายิ่งจะมีมากขึ้น จึงเป็นอีกสาเหตุที่คนจะเสียชีวิต เนื่องเพราะเซลล์เน่านี่เอง

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 06:30:32


ความคิดเห็นที่ 510 (1633214)

โอ้ววว..แม่เจ้า เห็นชาวค่าย13

มารวมพลังกันเพื่อเขียนธรรมทาน

กันอย่างอุตลุตเช่นนี้

 

แหม่...ต้องขอเรียกกำลังเสริมซะแล้ว

งั้น...ชาวเกาะทั้งหลาย 

ว.2ทราบแล้วเปลี่ยน

ขอให้ชาวเกาะ

มาระดมกำลังหน้าจอ...ด่วนจ๊า อิอิ 

 

เดี๋ยวชาวค่ายจะหาว่า

ชาวเกาะไม่เจ๋งจริง

แต่วันนี้ยอมรับว่า

ตามอ่านแทบไม่ทันจริงๆค่ะ

แต่ก็ได้ความรู้ ได้รู้ความลับ

และได้รู้หลักธรรมมากมาย

จากชาวค่ายทุกๆคน

อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว

 

 

โชคดีที่ได้อ่านธรรมทาน

ที่มาเขียนตั้งแต่เมื่อคืนไปบ้าง

เรื่องที่่ท่านอาจารย์แนะนำ

ให้สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์

ให้ได้อย่างน้อย

วันละ 99ครั้งขึ้นไปติดต่อกัน 9วัน

 

จริงๆชนิดาก็เริ่มสวดตั้งแต่วันแรก

ที่ท่านอาจารย์เมตตา

มาเขียนบอกแล้วล่ะค่ะ

 

แต่ว่าก็สวดไปเรื่อยๆเวลาว่างๆ หรือนึกได้

แต่บางทีก็ขำตัวเองนะ

มีบางครั้งที่ชนิดา

ก็มีอารมณ์โกรธแว๊บๆขึ้นมา

แต่เชื่อไหม๊คะว่า

จิตบางส่วนยังท่องคาถาอยู่เลย

คือ บางทีก็ท่องไปโดยไม่ได้ใช้สมาธิเต็ม

แต่ท่องบ่อยจนชินไปเอง..

 

ประมาณว่าจิตส่วนดี

ก็ท่องคาถาอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่จิตบางส่วนก็แบ่งภาค

มาโกรธได้เฉยเลย..เฮ้อ...

 

แว๊บออกนอกเรื่องอีกแล้ว

คือจริงๆจะบอกว่า

ปรกติก็ท่องทุกวันตลอดเวลาที่นึกได้

แต่ก็ไม่เคยนับว่า แต่ละวันตัวเองท่องได้กี่รอบ

 

และที่สำคัญก่อนนอนทุกวัน

ชนิดาก็ตั้งใจว่า

จะท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์จนหลับ

 

แต่ก็จะอธิษฐานถวายบุญ

ที่เกิดจากการท่องคาถานี้

แด่เบื้องบนทุกๆพระองค์ไว้ก่อน

 

คือประมาณว่า

จะเป็นบุญเล็กบุญใหญ่ไม่รู้

แต่ขอขยายบุญ

ด้วยการถวายเบื้องบนซะก่อน

แล้วค่อยอุทิศให้กับเทวดาประจำตัว

และเจ้ากรรมนายเวรอีกที 


วันนี้ก็เลยท่องไปด้วย

แล้วก็มีกระดาษ

ติ๊กๆแบบนี้ //// เพื่อนับไปด้วย

 

สรุปว่า จะท่องให้ได้ 99รอบต่อวัน

ไม่ยากเลยค่ะ

เพราะคาถาสั้น จำง่าย

 

เพราะที่ชนิดาท่องๆไป

ที่ตั้งใจนับก็เกินร้อยแล้ว 

แต่ที่ท่องแต่ไม่ได้นับก็เยอะมาก

 

สรุปว่า ลูกบ้านสวนฯ

ทั้งชาวค่ายและชาวเกาะ

จะสามารถเปลี่ยนแปลง DNA  ของตนได้

แน่นอนค๊า...



ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 07:22:48


ความคิดเห็นที่ 511 (1633215)

 

ความเห็นที่ 482 (1633167)

ขอย้ำอีกครั้งครับ!!

ก่อน เขียนธรรมทานใดๆขอให้พิจารณาให้ดีๆว่าสิ่งใดที่ท่านอาจารย์อุบลอนุญาติให้ เขียน และสิ่งใดที่ท่านไม่อนุญาติให้เขียน เพราะบางสิ่งสำคัญมากเป็นความลับที่ให้รับรู้เฉพาะคนที่เข้าค่าย13เท่านั้น

การ ฝ่าฝืนจะทำให้ท่านได้รับเคราะห์กรรมอย่างหนัก และส่งผลต่อครอบครัวและคนรอบข้างของท่านเอง เรื่องรอดในวันเกิดภัยใหญ่นั้น...หมดหวังครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 00:05:27

 

 

 

ได้อ่านคำเตือนของพ่อใหญ่ธนาแล้ว

ก็น่าต๊กกะใจมากๆค่ะ

 

ชนิดาก็ไม่แน่ใจนะคะว่า

ท่านอาจารย์ได้แจ้งก่อนจบค่ายหรือไม่ว่า

มีเรื่องใดบ้างที่ไม่ควรเปิดเผยต่อสาธารณะ

 

หรือว่าท่านอาจารย์

ต้องการให้ชาวค่ายทุกคน

ใช้วิจารณญาณของตนพิจารณาเอง

ว่า เรื่องใดควร หรือ ไม่ควร....

 

ถ้าเป็นเช่นนั้น

ชนิดาขออนุญาตนำเสนอเคล็ดลับ

ดังนี้ค๊า

 

ในการเขียนธรรมทานทุกๆครั้ง

ขอให้ท่าน ขอบารมีพระพุทธองค์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

ก่อนที่จะเขียนนะคะ

(เคล็ดลับนี้ พี่น้องบ้านสวนฯ

หลายๆท่านน่าจะใช้อยู่)

 

อย่างเช่น ลองอธิษฐานในใจ

ก่อนส่งก็ได้ว่า

ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเขียน

ก็ขอให้ลูกโพสต์ไม่ผ่าน

อะไรประมาณนี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 07:48:06


ความคิดเห็นที่ 512 (1633216)

ขอบอกว่าความปลื้มปิติ,ความสุข,ความมหัศจรรย์ มันเป็นแบบนี้เอง ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลที่เมตตาได้ให้เข้าร่วม

กิจกรรมในค่าย 13นี้ค่ะ ได้พบอาจารย์

ครั้งแรก  ที่โรงแรมเดอะแทร์เวลเลอร์ ตอนที่ให้สัมผัสบารมีของพระศรีอาริย์ อาการก็เริ่มขนลุก น้ำตาไหล มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา โดยเฉพาะอาการปวด(เป็นประจำ)ที่สบักและไหล่ขวา ก็หายแว็บทันที และน้ำตาลในเลือด + ความดัน ก็ลดลง (หลังจากไปพบแพทย์มา)

ครั้งที่สอง ที่ค่าย13 ก่อนมาเมื่อเย็นวันศุกร์ปวดหัวแปล็บที่หลังใบหู (ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน) ก็เลยนึกถึงใบหน้าอาจารย์ และ

ขอบารมีพระศรีอาริย์ เหมือนมีอะไรร้อนวูบๆตรงที่ปวด สักพักก็หายแว็บทันที และที่สำคัญคือขออย่าให้เจอพายุและฝนตกหนัก

ลูกจะมาเข้าค่ายที่บ้านสวนพีระมิด ปรากฎว่าที่อื่นฝนตกโครมๆ แต่ที่บ้านแห้งสนิท ในระหว่างเดินทางมาก็มีแค่ปรอยๆเป็นช่วงๆ

แถมหลงทางอีก เกือบได้ไปแก่งคอยแล้วค่ะ เพราะถามใครก็ไม่มีใครรู้จัก  จนต้องขอบารมีพระองค์อีกแล้ว คราวนี้มีคนรู้จักด้วย

เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสัตว์อะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ ก็เลยได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ได้

สิ่งที่ประทับใจเป็นครั้งแรกคือความเอื่อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ความมีมารยาทที่ดีคือทุกคนยกมือไหว้ซึ่งกันและกัน  อีกทั้งสถานที่ก็ร่มเย็น สบายตาสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งตอนทำบุญแรงกาย มันช่างมหัศจรรย์ ถึงแม้จะเหงือออกจนหัวเปียก ก็ไม่

รู้สึกว่ามันเหนื่อยนะ มันหนักนะ ทุกคนสนุกสนาน หน้าตายิ้มแย้ม และตัวเองน้ำตาลก็ไม่ลง (ปรกติถ้าออกกำลังขนาดนี้ น้ำตาลจะลดระดับลงฮวบ และจะหน้ามืดมาทันทีเลยคะ)

สำหรับกิจกรรมต่างที่มีในค่ายนี้ ก็เป็นอีกสิ่งที่บอกได้เลยว่า ธรรมะจัดสรรจริงๆ ทุกคนได้มาแชร์ประสบการณื ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว

ไม่คิดว่ามีเหตุเป็นปัจจัยได้ถึงขนาดนี้ อนุโมทนากับทุกธรรมทานที่ได้มาเผยแพร่ ให้คนที่รู้น้อยอย่างตัวเอง ได้หูตาสว่างขึ้นมาก

โดยเฉพาะบทสรุปในทุกๆหัวข้อที่อาจารย์อุบลได้เมตตาให้ความกระจ่างค่ะ

อีกทั้งยังได้แนะข้อปฏิบัติเรื่องการสวดมนต์ (สวดได้ทุกที่ทุกเวลาทุกอิริยาบถ) และการบำบัดแบบเฉียบพลันทันใดโดยใฃ้อุปกรณ์ มันได้ผล ต้องเรียกว่าเป็นความอัศจรรย์จริงๆ แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความศรัทธาด้วยค่ะ

เดี๋ยวมีต่อนะคะ ขอไปทำงานก่อนค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รมิดา ทองสุทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 07:53:54


ความคิดเห็นที่ 513 (1633218)

 
ความเห็นที่ 513 (1633216)
แจ้งลบความคิดเห็น

ขอบอกว่าความปลื้มปิติ,ความสุข,ความมหัศจรรย์ มันเป็นแบบนี้เอง ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลที่เมตตาได้ให้เข้าร่วม

กิจกรรมในค่าย 13นี้ค่ะ ได้พบอาจารย์

ครั้งแรก  ที่โรงแรมเดอะแทร์เวลเลอร์ ตอนที่ให้สัมผัสบารมีของพระศรีอาริย์ อาการก็เริ่มขนลุก น้ำตาไหล มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา โดยเฉพาะอาการปวด(เป็นประจำ)ที่สบักและไหล่ขวา ก็หายแว็บทันที และน้ำตาลในเลือด + ความดัน ก็ลดลง (หลังจากไปพบแพทย์มา)

ครั้งที่สอง ที่ค่าย13 ก่อนมาเมื่อเย็นวันศุกร์ปวดหัวแปล็บที่หลังใบหู (ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน) ก็เลยนึกถึงใบหน้าอาจารย์ และ

ขอบารมีพระศรีอาริย์ เหมือนมีอะไรร้อนวูบๆตรงที่ปวด สักพักก็หายแว็บทันที และที่สำคัญคือขออย่าให้เจอพายุและฝนตกหนัก

ลูกจะมาเข้าค่ายที่บ้านสวนพีระมิด ปรากฎว่าที่อื่นฝนตกโครมๆ แต่ที่บ้านแห้งสนิท ในระหว่างเดินทางมาก็มีแค่ปรอยๆเป็นช่วงๆ

แถมหลงทางอีก เกือบได้ไปแก่งคอยแล้วค่ะ เพราะถามใครก็ไม่มีใครรู้จัก  จนต้องขอบารมีพระองค์อีกแล้ว คราวนี้มีคนรู้จักด้วย

เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสัตว์อะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ ก็เลยได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ได้

สิ่งที่ประทับใจเป็นครั้งแรกคือความเอื่อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ความมีมารยาทที่ดีคือทุกคนยกมือไหว้ซึ่งกันและกัน  อีกทั้งสถานที่ก็ร่มเย็น สบายตาสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งตอนทำบุญแรงกาย มันช่างมหัศจรรย์ ถึงแม้จะเหงือออกจนหัวเปียก ก็ไม่

รู้สึกว่ามันเหนื่อยนะ มันหนักนะ ทุกคนสนุกสนาน หน้าตายิ้มแย้ม และตัวเองน้ำตาลก็ไม่ลง (ปรกติถ้าออกกำลังขนาดนี้ น้ำตาลจะลดระดับลงฮวบ และจะหน้ามืดมาทันทีเลยคะ)

สำหรับกิจกรรมต่างที่มีในค่ายนี้ ก็เป็นอีกสิ่งที่บอกได้เลยว่า ธรรมะจัดสรรจริงๆ ทุกคนได้มาแชร์ประสบการณื ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว

ไม่คิดว่ามีเหตุเป็นปัจจัยได้ถึงขนาดนี้ อนุโมทนากับทุกธรรมทานที่ได้มาเผยแพร่ ให้คนที่รู้น้อยอย่างตัวเอง ได้หูตาสว่างขึ้นมาก

โดยเฉพาะบทสรุปในทุกๆหัวข้อที่อาจารย์อุบลได้เมตตาให้ความกระจ่างค่ะ

อีกทั้งยังได้แนะข้อปฏิบัติเรื่องการสวดมนต์ (สวดได้ทุกที่ทุกเวลาทุกอิริยาบถ) และการบำบัดแบบเฉียบพลันทันใดโดยใฃ้อุปกรณ์ มันได้ผล ต้องเรียกว่าเป็นความอัศจรรย์จริงๆ แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความศรัทธาด้วยค่ะ

เดี๋ยวมีต่อนะคะ ขอไปทำงานก่อนค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รมิดา ทองสุทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 07:53:54
 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 08:20:53


ความคิดเห็นที่ 514 (1633220)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ธรรมทาน และ

ขอขอบพระคุณผู้ร่วมให้ธรรมทานทุกๆ ท่านด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 08:28:25


ความคิดเห็นที่ 515 (1633229)

ความเห็นที่ 7535 (1633160)
แจ้งลบความคิดเห็น

 

ค่าย 13 ค่ายแห่งการเปลี่ยนแปลงเตรียมพร้อมสู่ยุคพระศรีอาริย์
1.          บรรยากาศใหม่ของบ้านสวนพีระมิด
ความรู้สึกที่เข้ามาบ้านสวนพีระมิดครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆอย่างมาก เพราะที่นี่เหมือนดินแดนบนสวรรค์ที่งดงาม เต็มไปด้วยดอกไม้สวยงามมากมาย เดินไปทางใดก็รู้สึกสดชื่น อิ่มเอิบ ผ่อนคลาย มีความสุข
เหมือนเป็นดินแดนพระศรีอาริย์
เพราะมีเพื่อนสัตว์ทั้งหลายอยู่รวมกันมากมาย เช่น
มีลิงน้อยห้อยโหนบนต้นไม้ทำให้รู้สึกถึงความร่าเริงมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยพลังแห่งความสุข
มีนกน้อยสีสันสดใสน่ารัก
สุนัขที่ดูงามสง่าอยู่หน้าธรรมจักร ทำหน้าที่ปกป้องพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้รู้สึกถึงความซื่อสัตย์ และกตัญญูต่อพระพุทธองค์
กระต่ายที่แสนน่ารักและอ่อนโยนอยู่หน้าพีระมิดองค์ใหญ่ด้านหน้าทำให้รู้สึกถึงมิตรภาพที่ดีงาม
เหมือนจะแสดงให้เห็นว่ามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายจะอยู่ร่วมกันในโลกนี้ด้วยความรักและเมตตาต่อกันในอนาคตอันใกล้  เป็นบรรยากาศที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น และมีชีวิตชีวามาก ...ถึงแม้เพื่อนสัตว์ที่เห็นจะไม่ใช่ของจริงก็ตาม
ม่านน้ำตกหน้าบ้านท่านอ.อุบล ก็งดงามมากจริงๆ ใครได้มาเห็นบ้านสวนพีระมิดตอนนี้คงต้องร้องว้าวววเป็นแน่
ท่านอ.อุบล เป็นผู้นำที่ได้เนรมิตบ้านสวนพีระมิดให้เหมือนแดนสวรรค์ภายในระยะเวลาไม่กี่วันได้อย่างอัศจรรย์ สวยมากๆค่ะ
2.          ค่าย 13 ค่ายแห่งมหาสติ
การมาเข้าค่าย 13 ครั้งนี้ ลูกได้สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์ตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ท่องอยู่ในใจ   รู้สึกมีความสุข และจิตมีสติในการทำสิ่งต่างๆ อย่างมาก
แต่ก็ยังพลาดเหยียบหอยทากไป 1 ตัว ทำให้ตัวเองต้องระมัดระวังและตั้งสติให้มากยิ่งขึ้นไปอีกในทุกย่างก้าว เมื่อขอโทษและอุทิศบุญให้หอยทากแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะระมัดระวังอย่างยิ่ง
เมื่อท่านอ.อุบลแนะนำว่าตั้งแต่นี้ให้สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์อย่างน้อยวันละ 99 จบ ก็รู้สึกประหลาดใจว่าเหมือนกับที่จิตของเราได้ท่องไว้ตลอดเวลาเลย เพราะจิตรู้สึกอยากท่องเองอย่างไม่มีเหตุผล  หรือท่านอ.อุบลจะสื่อสารผ่านจิตของลูกไว้ล่วงหน้าแล้ว
 
3.          ค่าย 13 ค่ายแห่งการเปิดปัญญา
วันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค.2555
ค่ายนี้มีคลิปวีดีโอที่ทำให้ผู้ชมได้รับปัญญาอย่างมาก  
และท่านอ.อุบล จะให้ข้อคิดเอาไว้
คลิปที่ 1 ฝูงควายกับลูกเสือ
ลูกเสือหลายตัวกำลังรุมลูกควายตัวหนึ่ง เมื่อควายอีกตัวเห็นก็รีบวิ่งไปตามเพื่อนควายมากันเป็นฝูงใหญ่ แต่ทุกตัวก็ไม่กล้าทำอะไรเลยได้แต่ยืนดูอยู่เฉยๆทั้งที่พวกของตนก็มีขนาดใหญ่กว่า มีจำนวนมากกว่า แต่เพราะใจที่ขี้ขลาด หวาดกลัว จึงไม่มีใครกล้าช่วย   แต่มีควายอยู่ตัวหนึ่งที่เป็นผู้นำ มีความกล้าหาญวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อนที่กำลังถูกรุม ทำให้ลูกควายตัวนั้นปลอดภัย
ข้อคิด   ศัตรูจะเลือกทำร้ายผู้ที่อ่อนแอที่สุด
ผู้นำจะต้องกล้าหาญ กล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง
 
คลิปที่ 2 จระเข้กินงู งูเหลือมกินจระเข้
ข้อคิด เธอกินฉันได้ ฉันก็กินเธอได้
เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เหมือนกับคนเราถ้าชาตินี้ฉันกินเธอ(กินเนื้อสัตว์ต่างๆ)
ชาติหน้าเราก็อาจเกิดเป็นสัตว์ถูกเขากินเช่นกัน เราสามารถระงับการจองเวรด้วยการเลิกกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพื่อยุติกรรมจากการอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน
 
คลิปที่ 3 สิงโตเจ้าป่ากับม้าลาย 
สิงโตตัวหนึ่งกำลังกัดคอม้าลายตัวหนึ่งอยู่ แต่ม้าลายซึ่งเป็นสัตว์ที่อ่อนแอกว่าแต่เพราะใช้พละกำลังที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ใช้ขาถีบสิงโต ทำให้สามารถเอาชีวิตรอดมาได้
ข้อคิด ถ้าใช้สมอง ใช้ปัญญาอย่างสุดกำลังก็สามารถรอดพ้นภัยได้
ตัวเล็กแต่ใจสู้ ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมตาย
ม้าลายต้องต่อสู้ตามลำพังไม่มีเพื่อนมาช่วยเลย (ข้อคิด ถ้าเราไม่เคยช่วยใคร ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมาช่วยเรา จึงต้องดิ้นรนต่อสู้ตามลำพัง)
 
คลิปที่ 4 ฉลามมากินคนริมหาดทราย
ผู้ชายคนหนึ่งกำลังแอ็คท่าถ่ายรูปที่ริมหาดทราย จู่ๆก็มีฉลามใหญ่ตัวหนึ่งกระโจนเข้ามางับร่างชายคนนี้ลงทะเลถึงริมหาด
ข้อคิด คนที่ถึงเคราะห์กรรม สถานที่ที่ไม่อันตราย ก็สามารถได้รับอันตรายได้
 
คลิปที่ 5 คนถ่ายรูปสิงโต โดนสิงโตขย้ำ
มีครอบครัว 2 ครอบครัว ไปเที่ยวสวนสัตว์เปิด ชายคนหนึ่งได้ลงจากรถเพื่อจะเข้าไปถ่ายรูปสัตว์ จึงถูกสิงโตตัวใหญ่ขย้ำ แต่ภรรยา ลูก และเพื่อนที่ไปด้วยกัน ไม่มีใครกล้าช่วย หรือทำอะไร เพราะขาดสติ ได้แต่กรีดร้อง จึงไม่มีใครคิดช่วยเลย
ข้อคิด เมื่อถึงภาวะฉุกเฉิน แม้รักกันมากแต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะทุกคนก็รักตัวเองและกลัวตาย
เมื่ออยู่ในภาวะฉุกเฉินต้องมีสติ ใช้ปัญญาแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วจึงจะรอดได้
 
คลิปที่ 6 คนเลี้ยงสิงโตถูกสิงโตกิน
มีชายคนหนึ่งเข้าไปให้อาหารสิงโต แต่ถูกสิงโตลากไปกิน ทั้งที่มีคนอยู่กันหลายคนแต่ไม่มีใครคิดช่วยทันที มีอยู่คนหนึ่งโทรให้เจ้าหน้าที่มาช่วย  แต่ก็สายเกินไป เขายิงสิงโตทิ้งแต่ก็ช่วยชีวิตผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้
ข้อคิด ถ้าชายคนนั้นใส่เสื้อบ้านสวนพีระมิดคงจะปลอดภัย เพราะสรรพสัตว์ทุกอย่างจะยอมให้เฉพาะองค์สฟิงซ์และผู้สร้างพีระมิดเท่านั้น
 
คลิปที่ 7 ฮิปโป 1 ตัวเจอลูกเสือโคร่งหลายตัวรุม
ลูกเสือโคร่งหลายตัวกำลังแย่งกันรุมจะกินฮิปโป 1 ตัว ทั้งเกาะ ทั้งงับ แต่ฮิปโปก็พยายามเดินหนีอย่างเชื่องช้า เพราะฮิปโปมีหนังหนา ลูกเสือโคร่งจึงกินไม่ได้ กัดไม่เข้า ฮิปโปจึงปลอดภัย
ข้อคิด เราต้องหนังหนาเหมือนฮิปโป
คือใครทำอะไรก็ทำไม่ได้ สามารถทนต่อแรงเสียดทานจากพลังลบทุกชนิดได้ ไม่สนใจ ไม่รู้สึกอะไร มีจิตใจที่มั่นคงเข้มแข็ง
 
คลิปที่ 8 คนผ่าท้องจระเข้
พบซากขา ซากแขน ซากมือ มนุษย์ เป็นท่อนๆ แล้วหยิบออกมาจากท้องจระเข้
ข้อคิด คนกินจระเข้ จระเข้ก็กินคนได้
 
คลิปที่ 9 กระสือปริศนา
เป็นภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดของโรงงานแห่งหนึ่งที่จ.ปทุมธานี เป็นดวงไฟสีแดงวาบๆ ใช้ไส้ตวัดจับนกเข้าปาก เมื่อมองผ่านมือถือเห็นเป็นรูปหน้าคนเหมือนหญิงชราอายุ 90 ปี เจ้าของโรงงานบอกว่าใบหน้าสามารถเปลี่ยนไปได้บางครั้งหน้าเหมือนกบ ปากเหมือนนก หรือเป็นคนแก่
ข้อคิด บางสิ่งที่เราคิดว่าไม่มีจริง ก็มีจริง
กระสือกินสัตว์ และอาจกินคนที่อ่อนแอ จิตใจไม่เข้มแข็งได้
 
4.          ค่าย 13 ค่ายแห่งความอัศจรรย์ใจในบารมี
พระศรีอาริย์ที่ท่านอ.อุบล อาราธนามาสถิตย์ที่กาย วาจา ใจ ของท่านอาจารย์
ช่วงชมบารมีพระศรีอาริย์ ผู้เข้าค่ายต่างก็ได้เห็นความอัศจรรย์ในบารมีพระศรีอาริย์อย่างถ้วนหน้า
เมื่อเดินผ่าน และเข้ามาใกล้ท่านอ.อุบล โรคและความเจ็บป่วย ความเจ็บปวด ต่างๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
เช่น น้องคนหนึ่งข้อเท้าบิดเอียงเข้าด้านใน ก็สามารถกลับมาตรงได้อย่างอัศจรรย์ภายในเวลาไม่กี่วินาที
ป้าพรมีอาการหูตึง ต้องใส่เครื่องช่วยฟัง ถ้าใครถามอย่าง ป้าพรก็จะตอบอีกอย่าง แต่วันนี้อาการหูตึงและมีเสียงดังรบกวนในหูก็หายไป 
ป้าพรได้ยินชัดขึ้น ด้วยความดีใจป้าพรก็รีบเข้าไปกราบท่านอ.อุบล
เป็นภาพที่ซาบซึ้งใจมากค่ะ
ไม่เคยคิดว่าจะมีหมอวิเศษในโลกนี้ให้เราได้เห็นได้สัมผัสจริงๆ
บ้านสวนพีระมิดมีปรากฎการณ์หลายอย่าง
ที่ไม่เคยคิดว่าจะมีในโลก ก็มี ก็เกิดขึ้นจริงแล้ว
 
คนที่ปวดหัว ปวดหลัง ปวดขา ปวดไหล่  ปวดแขน ก็หายอย่างฉับพลันทันที
ลูกก็มีอาการปวดตึงที่แขนก็หายเป็นปลิดทิ้ง
อาการปวดไหล่ก็ดีขึ้น 80%
ท่านอ.อุบลเมตตาเตือนว่า ให้เขียนธรรมทานมากขึ้น
เมื่อยอมรับว่ายังเขียนธรรมทานน้อยไป 
และตั้งใจจะเขียนให้มากขึ้นอาการก็ดีขึ้น แล้วก็หายปวด
กราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์ และท่านอ.อุบลเป็นอย่างสูง
ที่เมตตาให้ลูกได้มีโอกาสเข้าค่าย 13 ในครั้งนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น ปาริชาติ เฟื่องไพบูลย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 23:26:43

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 09:10:26


ความคิดเห็นที่ 516 (1633230)

ความเห็นที่ 19 (1633213)
แจ้งลบความคิดเห็น

ท่านอาจารย์ขา...

ธรรมทานเรื่อง ควาย 3 ประเภท ได้ฝังอยู่ในจิตและสมองอย่างแนบแน่นค่ะ

คำพูดของท่านอาจารย์ ดังก้องในใจในตัวหนู..ตลอดเวลา ...

ลูกบ้านสวน ควรกระทำตนให้เหมือน ควายประเภทไหน

1. ลูกควาย / ควายที่อ่อนแอ - ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

(ถ้าเราเลือกควายประเภทนี้ ก็จงยอมรับชะตากรรมว่า เราต้องต่อสู้ดิ้นรนแต่เพียงลำพังเพื่อรักษาชีวิตให้รอด  แต่อย่าหวังว่าจะมีใครมาช่วยเหลือมาปกป้องคุ้มครอง)

2. ฝูงควาย ที่เอาแต่ยืนห้อมล้อมกันเฉย แต่ไม่ทำอะไรเลย ไม่ออก Action อะไร ขี้กลัวขี้ขลาด ไม่กล้าลุยเพื่อปกป้องและช่วยเหลือเพื่อน

(ถ้าเลือกควายประเภทนี้ ก็จงยอมรับว่า ตัวเราขี้ขลาด เห็นแก่ตัว รักแต่ตัวเอง safe ตัวเองสุด เราก็ต้องเจอคนอยู่รอบกายที่เป็นประเภทเดียวกัน ฉะนั้นอย่าหวังว่าจะมีใครมากางแขนปกป้องเรา)

3. ควายผู้นำ/ควายจ่าฝูง ที่ลุยที่เตะไล่เสือไล่สิงโต ไม่ขี้ขลาด กล้าเผชิญหน้าศัตรูเพื่อปกป้องและช่วยเหลือลูกควายให้รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อของเสือและสิงโต  ซึ่งที่สุด ควาย 1 ตัว สามารถช่วยชีวิตลูกควายให้รอดพ้นจากฝูงเสือ 4-5 ตัวที่มารุมล้อมได้  แต่ฝูงควาย 10-20 ตัวกลับไม่ได้ช่วยชีวิตลูกควายเลย) 

(ถ้าเลือกเป็นควายประเภทนี้ เราจะรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองที่ชาตินี้เกิดมาได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ เมื่อปากและใจเราบอกว่ารักและเทิดทูน เราก็ต้องกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวอะไร พร้อมที่จะอ้าแขนปกป้องและต่อสู้เพื่อรักษา 3 สถาบันหลัก , ท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวน ให้มั่นคงและปลอดภัย)

ธรรมทานเรื่องนี้ เป็นบทเรียนเป็นสิ่งที่เตือนใจเรา..ถามตัวเองบ่อยๆ ย้ำตัวเองบ่อย .. เวลาที่บอกว่า รักและศรัทธาท่านอาจารย์และบ้านสวน รักและเทิดทูนในหลวงยิ่งกว่าชีวิต รักและเทิดทูน 3 สถาบัน ร่มโพธิ์ศรีเป็นที่สุด..แต่เราได้ออก Action อะไรบ้างหรือยัง ที่แสดงว่าเรารู้สึกเช่นนั้นจริง เราได้พิสูจน์ตัวเราเองหรือยัง ต่อนี้ไปเราจะไม่พูดเพียงลมปาก แต่เราต้องแสดงความจงรักภักดีต่อ 3 ร่มโพธิ์ศรี , ท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวน ที่มีพระคุณต่อพวกเราอย่างสุดประมาณ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 07:04:26

 

 

ก๊อปมาจาก

ห้องตามหาพระศรีอาริย์

กระทู้ใหม่

ที่พ่อใหญ่ธนาไปเปิดไว้ หลังค่าย 13

เพื่อต้องการ

ตามหาพระศรีอาริย์อย่างเป็นรูปธรรม

 

มีคนไปเขียนเรื่องค่าย 13

ไว้หลายกระทู้ พีเหมือนกัน แต่อยากให้คนอ่าน

กระทู้ค่าย 13 ได้รับข้อมูลด้วย

ก็เลยก๊อปมาวางจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 09:25:55


ความคิดเห็นที่ 517 (1633231)

ความเห็นที่ 18 (1633209)
แจ้งลบความคิดเห็น

ขออนุญาตเล่าบรรยากาศการเข้าค่าย 13 ไว้ในกระทู้นี้ของคุณธนา

ก่อนหน้านี้หลายท่านบอกว่า ค่าย 13 ย่อมไม่ธรรมดา
ใช่เลย ! ไม่ธรรมดาจริงๆ
ทั้งรูปแบบกิจกรรม ความเข้มข้นของกิจกรรม เพิ่มเท่าทวีคูณกว่าค่ายก่อนๆ
 
เริ่มกิจกรรมวันแรก - เราร่วมกันสร้างบุญด้วยแรงกายเต็มที่เต็มกำลังและเต็มวัน  ซึ่งล้วนเป็นงานที่อาศัยกำลังใจและแรงศรัทธาเกิน 100  มีทั้งงานตัดเหล็ก ดัดเหล็ก ผูกโครงเหล็กทำเสาของอาคาร งานขนทราย-หิน-ปูนใส่เครื่องโม่ผสมปูน งานเทปูน งานก่ออิฐฐานเสา งานขนเศษหินเศษกระเบื้องมาถมหลุมให้เต็ม บ้านสวนใช้ทรัพยากรสุดคุ้มค่าคุ้มประโยชน์จริงๆ และงานที่จงละเลยคือ เมื่อเรามองไปตรงไหน เดินไปที่ใด เมื่อเห็นเศษใบไม้ใบหญ้าหล่นอยู่บนพื้น อย่ารอช้า..รีบเก็บรีบโกยใส่ถุึงเพื่อไว้สำหรับทำปุ๋ยชีวะภาพ
 
สิ่งมหัศจรรย์ใจที่สุด ทั้งเกิดกับตัวเองและได้ยินคนอื่นพร่ำบอกกัน คือกิจกรรมสร้างบุญใช้แรงกายตลอดทั้งวันนี้ ดูจะเหน็ดเหนื่อยเอาการ แต่ทุกคนกลับทำงานด้วยความรู้สึกเบาสบาย ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลยซะนิด
 
เป็นเพราะอะไร ? ก็เพราะพระบารมีและความเมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกพระองค์ และของท่านอาจารย์อุบล ที่ช่วยให้พวกเรารวมใจสามัคคีกัน ลุยงานกันด้วยความอึด ไม่มีคำว่าเหน็ดเหนื่อยเลย
 
อีกทั้งท่านอาจารย์ได้เมตตาบอกเคล็ดลับพวกเรางัยล่ะ..
เวลาพวกเราทำงานนะ มือก็ทำไป ปากก็อย่ามัวแต่คุยกัน แต่ให้ท่องคาถาพระศรีอาริย์ตลอดเวลาที่ทำงาน ใครที่สวดคาถาได้ครบวันละ 99 จบ ติดต่อกัน 9 วัน  จะพบความมหัศจรรย์อย่างเหลือประมาณ
 
ขอบอกว่า..เพียงแค่วันแรกที่พวกเราท่องคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วยทำงานไปด้วยตลอดทั้งวัน..พวกเราก็ได้รับอานิสงค์ฉับพลันแล้วล่ะ คือสามารถทำงานลุยงานหนักได้ตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเลย
 
แล้วไม่ใช่ท่องคาถาแค่วันนี้พอแล้ว แต่ท่านอาจารย์เมตตาสอนว่าทุกวัน จะเวลาไหน จะทำอะไร ก็ให้พวกเราท่องคาถานี้ให้คล่องใจคล่องปาก ยิ่งท่องคาถาได้มากเท่าไหร่ อานุภาพยิ่งมากเท่าทวีคูณ  ดังนั้นไม่ว่าขณะขับรถ รถติดไฟแดง เข้าห้องน้ำ เดินไปเดินมา คือทุกอริยาบท ก็ให้เราท่องคาถาพระศรีอาริย์ตลอดเวลา  ถ้าเรื่องนี้เราคิดว่า จะไหวเหรอท่องคาถาวันละ 99 จบให้ครบ 9 วันต่อเนื่องกัน  ขอบอกว่าชิลๆ เลยล่ะ เพราะได้พิสูจน์แล้ว ขณะขับรถไป ท่องไปเรื่อยๆ ลองจับเวลาทุก 1 นาที เราจะท่องคาถาได้ 7-10 รอบ ดังนั้นแต่ละวันหากเราใช้เวลาระหว่างขับรถไปทำงาน ขับรถกลับบ้าน เราสามารถท่องคาถานี้ได้มากกว่า 99 จบต่อวัน และเมื่อเราทำทุกวันจนเป็นนิสัย ต่อให้ท่องคาถาวันละ 99 จบใน 99 วัน / 999 วัน / 9ล้าน99วัน ย่อมทำได้แน่นอนค่ะ
 
และลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกพระองค์ และท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตาพวกเราค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 06:21:41

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 09:28:27


ความคิดเห็นที่ 518 (1633232)

Work  Work  Work

ปฏิบัติการแบบ Workshop

ที่ท่าน อ.อุบล จัดขึ้น

ในค่าย ฯ 13 นี้

อึ่ม...

 

 

อำนาจนี้เกี่ยวข้องกับการ

ทำลายล้างกฎเกณฑ์เก่าๆ

 หรือโอกาสที่ท้าทาย

ปรับเปลี่ยนความล้มเหลวสู่ความสำเร็จ

ที่สำคัญ ผู้ที่จะกุมบังเหียน

ขอพลังจากเลข 13

มาเป็นคุณประโยชน์ได้

จะต้องเป็นผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรม

และมีความเข้มแข็งมั่นคงในจิตเป็นอย่างยิ่

นับว่าเป็นการพลิกโฉม

ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น

พื้นที่สวนสวย ซึ่งก่อนหน้านี้

เป็นพื้นที่มุมอับ..กองดินก้อนกองมหึมา

หายไปในพรบตา 555++

งานนี้ขอเรียกว่า เจ้าเงาะ ถอดรูปอ่ะค่ะ

อาจารย์ และท่านผู้อ่านคะ ขอเปรียบเทียบ

ด้วยรูปภาพเชิงประมาณการ นะคะ

ก่อน                                   หลัง

นี่แค่พื้นที่หน้าห้องน้ำนะคะ

ความรู้สึกส่วนตัว ว่า

ก่อนหน้าการปรับแต่ง เหมือนเจ้าเงาะดำสนิท

แต่

หลังการปรับแต่ง สวย..ชุ่มชื่น น่าอยู่ น่ามอง

สวนสวยเหมือนสีทอง ผ่องอำไพ อ่ะคะ

555++

ค่ายฯ 13  นับได้ว่าเป็นการปรับเปลี่ยนที่สุด

อีกครั้ง ท่าน อ.อุบล นำทีมพวกเราซึ่ง

ตั้งใจ กันสุด ๆ เช้า - ดึก

ทุกอย่างเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

ท่านที่มาเป็นประจำจะเห็น

ความแตกต่างแบบที่พลิกขั้ว

 ส่วนท่านที่พึ่งมาเป็นครั้งแรก

ก็จะพบแต่ความ สวย สดชื่น

ทุกมุมมอง ของการพัฒนาครั้งนี้ค่ะ

  

 

เลข 13 เป็นเลขแห่งการเปลี่ยนแปลง

 

ชนิดพลิกผันโดยสิ้นเชิง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 09:28:46


ความคิดเห็นที่ 519 (1633240)

 ค่ายฯ 13 

บ้านพักหลังใหม่

ที่ท่าน อ.อุบล เร่งสร้างให้ทันค่ายฯนี้

ก็สำเร็จ...โดยที่

ท่านเป็นผู้ลงมือ ปูพื้นด้วยตนเอง

กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

เป็นการพลิกโฉม รูปแบบ

เรียกว่า พลิกหน้าดินกันเลยเชียวค่ะ

ภูเขากองดิน  กองมหึมา หายไป

ด้วยรถแบล็กโฮ ...ที่ทำงานจนค่ำ

ปรับหน้าดิน ราบเรียบ  ไร้ร่องรอย

ของภูเขาดิน

555++

จากภูเขาดิน กลายเป็น เขาดิน

ตุ๊กตาสัตว์น้อยใหญ่ ถูกลำเรียง มาประดับ

ตามกิ่งก้านของต้นไม้ 

ต้นไม้่ใหญ่ ถูกประดับจัดแต่ง

โดย อ.อุบล ปีนประดับ

ด้วยตัวเองอีกเช่นกัน

555++

แม้ในยามค่ำ บรรยากาศก็ยังคงมีสรสรร

 กระเบื้องปูพื้น .... ที่บรรจงจัดวาง

จากลานดิน กลายเป็น ลานธรรม

ให้พวกเราได้นั่งฟัง

ธรรม 

จากท่านอ.อุบล

ในค่ำคืน วันเสาร์ที่ผ่านมาอย่างมีความสุข

และแล้ว

ท่อน้ำ ซีแมนต์ ที่วางกองโดยไม่มีค่า

ท่าน อาจารย์ก็นำมา

จัดเรียงใต้ต้นไม้ใหญ่

ให้พวกเราได้นั้ง เสวนา พักผ่อน คลายร้อน

ได้อย่างลงตัว ที่สุด

จะขอเล่าบรรยากาศ บริเวณลานธรรม

ในค่ำคืนวันศุกร์..

บริเวณนี้อากศเย็น สดชื่น สบายมาก ๆ

พวกเราที่ทำงานกัน ก็มานั่งพักผ่อน

ชื่นชมสวนสวยกัน

ก็รู้สึกว่า มีลม พัดมากระทบตัว

เย็นสดชื่น แต่พอ สังเกตุไปที่ใบไม้

ก็แปลกใจว่า เอ ทำไมลมพัดขนาดนี้

ใบไม้ไม่กระดิกนะ นิ่งมาก

เป้นไปได้งัย....

เป็นไปแว้ว.ว.ว.ว.ว.ว.

โคนต้นไม้ใหญ่ ท่าน อ.อุบล

ได้ลงมือจัดตกแต่ง

ได้อย่างงดงาม ลงตัว

และนี่คือ ต้นขนุน ที่ท่านได้นำต้นกล้วยไม้

มาประดับที่โคนต้น 

เป็นอะไรที่ชอบมากที่สุด

ลงตัวด้วย รูปแบบ และ สีสรร ค่ะ

เห็นทีไร ต้องยิ้มให้ กับมุมนี้ทุกครั้ง

ชอบจริง ๆ สวยอ่ะค่ะ

อ้อ !!!! ลืมบอกไปว่า

ไม่เฉพาะพวกเราที่ได้บ้านหลังใหม่

เจ้าไก่อู ก็ได้เหมือนกันค่ะ

แล้วรู้สึกว่า

เจ้าไก่อู 2 ตัวนี้

จะรัก และหวงแหน

บ้านหลังใหม่มาก ๆ เลย

ไก่ป่า มาขอเกาะดัวย ก็ไม่ได้ ไล่กระเจิง

ทำให้ ได้ อรรถรส ในการพักผ่อนมากขึ้นค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 10:36:14


ความคิดเห็นที่ 520 (1633245)

 ค่ายฯ 13 

กับ

บรรยากาศวันเปิดค่าย

ค่ายนี้

ท่าน อ.อุบล ได้กลั่นกรอง

ผู้ที่ต้องการ ให้ และผู้ที่มีภาวะ ผู้นำ

มีผู้ที่เดินทางมาจำนวนประมาณ ครึ่งร้อย

ในวันศุกร์...ส่วนใหญ่คือผู้ที่มาประจำ

และมาสมทบอีก ในวันเสาร์ 

จนครบตามจำนวน ..ส่วนใหญ่คือ ผู้ที่มาเป็นครั้งแรก

วันเสาร์ ทุกท่านได้ทำบุญด้วยแรงกายกัน

อย่างสนุกสนาน เทปูนลงหลุม เพื่อสร้างวิหาร

ผูกเหล็ก เพื่อก่อเสา วิหาร ฯลฯ

ขออนุโมทนา สาธุ ค่ะ

อีกมุมหนึ่ง ในโรงครัว

แม่ครัวก็จัดเตรียม อาหาร

สำหรับพวกเรา โอ้ย อาหร่อยท่ีสุด

มื้อเช้า ...ก๋วยจั๊บ มังสะวิร้ติ...

โดยเจ้าภาพสุดสวย  สวยสุดตลอดกาล

คุณอัม  บรรจงปรุง ให้พวกเราได้ลิ้มรสชาด

ขอบอกว่า จะไม่ลืมเลยนะคะ คุณอัมขา

พิซซ่ส...ของน้อง ๆ  ที่นำมาร่วมบุญ

น่ารัก + อร่อย ขอบอกว่า นุ่มมาก ๆ ค่ะ

มื้อกลางวัน เป็นขนมจีนน้ำยา  + ไตปลา + น้ำยาป่า

ซู๊ด ....อร่อยอีกแระ 

และอร่อยมื้อนี้ ก็ขออนุโมทนากับ คุณอร + พ่อใหญ่ธนา ด้วยคร๊า

โอ้ย...ขอบอกว่า อาหาร ก็เหมือนภูเขา

กินเท่าไหรก็เหลือเฟือ...สาธุ  ๆ ๆ นะคะ

เรียกได้ว่า

ที่อยู่  ที่กิน อุดมสมบูรณ์

สุขกาย  สบายท้องกันทั่วหน้า

แต่

ก็ยังมีบางท่าน ที่ยังคงไว้ ซึ่ง อัตตา

นู่น นี่ นั่น ลดละเลิก ไม่ได้ในเรื่องนี้

( ยังมีอีกมาก ขอตัวก่อนประเดี๋ยวนะคะ )

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 11:18:00


ความคิดเห็นที่ 521 (1633251)

อีกอย่างหนึ่งที่ผมประทับใจมากก็คือว่า เวลาทำงานผมเห็นภาพที่ผู้คนพากันยืนต่อแถวกันทำงานกลางแจ้งแบบไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย ยังคงมีสีหน้าแจ่มใส ยิ้มมีความสุข

บางท่านมีอายุมากแล้ว เหลือบมองไปอีกจุดก็เห็นเด็กเล็กๆยืนรับถังปูนด้วย ขอบอกว่า ขยันสวดยอดด

ปกติทุกสัปดาห์จะมีแต่สมาชิกหน้าเก่า แต่ครั้งนี้หน้าใหม่เยอะมากๆ แต่ที่สำคัญคนเหล่านี้บางท่านดูน่าจะไม่เคยทำงานหนักแบบนี้มาก่อน ซึ่งผมก็ได้ถามบางท่าน ก็ได้ทราบว่า ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย

แต่ทุกคนทำไมกลับไม่เหนื่อย กลับยิ้มแย้มแจ่มใส ทำงานร่วมกันยังกะคนรู้จักกันมานาน ไม่มีเคอะเขินกันเลย

ว้าววว...นี่แหละมั้งครับ พลังบุญสร้างปาฏิหาริย์เสมอ

บางคนผมก็เหลือบไปเห็น เช่นน้องตุลย์ เห็นทำงานไปยิ้มไป บางท่านก็สีหน้าแบบว่า อย่ามาแย่งงานฉันนะ งานนี้ฉันจอง 555

บรรยากาศแบบนี้มีความสุข สวดดดยอดดดด....

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 12:19:39


ความคิดเห็นที่ 522 (1633263)

ข่าวดี!!!!

สัปดาห์นี้ 13-14ตุลาคม

บ้านสวนพีระมิด

จะมีกิจกรรมพิเศษ

ชมบารมีพระศรีอาริย์

ส่วนกิจกรรมลับสมองอื่นๆ

หรือจะมีอะไรพิเศษนั้น

ขออุบเป็นความลับไว้ก่อนเด้ออ

นับต่อจากนี้ไปในแต่ละสัปดาห์ท่านอาจารย์อุบลเมตตาให้สมาชิกเก่าที่ไปบ้านสวนฯเป็นประจำ ท่านสามารถพาญาติ พี่น้อง เพื่อน ลูกศิษย์ มาร่วมกิจกรรมต่างๆในบ้านสวนฯได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านสมาชิกที่พาคนใหม่มา ต้องชี้แจงกฏระเบียบต่างๆ และดูแลผู้ที่ท่านพามาด้วย เพื่อมิให้เกิดความปัญหาการละเมิดกฏระเบียบ และทำผิดต่างๆในบ้านสวนฯ

เอ้า โอกาสในการสร้างบุญใหญ่ สร้างคนดีสู่สังคมมาถึงแล้วนะครับ อย่ามัวเห็นแก่ตัว มีความสุขและรอดคนเดียวอยู่เลยนะคร้าบบ ลุยยยย....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 13:54:04


ความคิดเห็นที่ 523 (1633269)

 อาจารย์อุบลขา

หนูดีใจมาก และขอกราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบลเป็นอย่างสูงเลยค่ะที่ ท่านเมตตาตอบอนุญาติและ สนับสนุนให้กำลังใจ หนูตั้งใจไว้ว่าจะขอเขียนในรูปแบบนิทานนะคะ จากนี้หนูก็ขอตัวไปเริ่มลงมือเขียนเค้าโครงร่างนิทานก่อนคะ กลัวจะลืมซะก่อนเจ้าค่ะ

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์ทั่วทั้งจักรวาล ที่สถิตย์ ณ บ้านสวนพีระมิด และท่านเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวอีกครั้งค่ะ

กราบ กราบ กราบ

 

ในโอกาศนี้หนูก็ขอโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ กับธรรมทานของทุกๆท่านด้วยนะเจ้าค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 14:08:50


ความคิดเห็นที่ 524 (1633271)

 

ก่อน                                   หลัง

นี่แค่พื้นที่หน้าห้องน้ำนะคะ

 

 

******************

คิดได้ไงเนี่ย

คุณแมว

555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 14:17:53


ความคิดเห็นที่ 525 (1633272)

น้องบัวลุย

น้องบัว สู้ สู้ เย้

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 14:21:00


ความคิดเห็นที่ 526 (1633276)

 

บรรยากาศค่าย13ต่อค่ะ

ท่านอาจารย์ให้ท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์ให้มากๆและตลอดเวลา

ซึ่งก็ได้ทำตามที่ท่าน อ.บอกในขณะทำงานและไม่รู้สึกเหนื่อยเลย

เช้าวันอาทิตย์ตื่นนอนแล้วก็อยากจะเข้าห้องน้ำทันที

และก็ปลดปล่อยอย่างสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ปกติเวลาไปนอนค้างที่อื่นจะกังวลเรื่องท้องใส้เพราะมันจะหยุดทำงาน

ตอนนั่งรถคุณอรกลับบ้านก็ท่องบทบูชาพระศรีอาริย์ไปเกือบตลอดเวลา

พอเช้าวันจันทร์ก็มีอาการเช่นเดียวกัน ต้องรีบเข้าห้องน้ำก่อนเลย

ซึ่งปกติจะต้องหลังจากทานอาหารซักพัก

คิดว่าต้องเป็นอานิสงฆ์ของการสวดบูชาพระศรีอาริย์อย่างแน่นอนเลยค่ะ

เพื่อนๆใครมีอาการแบบนี้ไหมคะ

 

อ้อ..ท่านอาจารย์คะ ตอนที่จะไปเข้าห้องน้ำมีคุณป้าหรือใครจำไม่ได้แล้ว

ค่ะบอกว่าห้องน้ำมันอึดๆไม่ค่อยลงและได้ปิดผาชักโครกไว้เป็นห้องที่3

จึงไปเข้าห้องถัดไปคือห้องที่2นับจากบันไดห้องน้ำด้านหน้านะคะ

แต่ห้องนี้ก็อืดเช่นเดียวกัน ทำเอาเหงี่อแตกเลยค่ะ

เพราะราดเท่าไหร่ๆก็ไม่ลงใช้น้ำของท่านอาจารย์ไปตั้ง2ถังกว่าเห็นจะได้

และขอบารมีท่านช่วยตลอดเลย 

แล้วก็มีห้องน้ำที่ล๊อกไม่ได้อีก1ห้องห้องที่3นับจากพีรามิดด้านหน้า

คือไม่แน่ใจจริงๆค่ะว่าด้านหน้ามีกี่ห้องจำได้เเต่ด้านที่จะเข้าว่าเป็นห้อง

ที่เท่าไหร่ และต้องขอขมาต่อสื่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยค่ะ

เงินที่แม่ และลูกฝากทำบุญ แต่ด้วยกิจกรรมที่แน่นและรีบเลยลืม

แต่ได้โอนเข้าบัญชีบุญแล้วค่ะ ตั้งแต่เมื่อวานคือโอนเข้าวันที่9/10/55

จำนวนเงิน1060บาทค่ะ ตื่นมาคันหัวค่ะทำให้นึกขึ้นได้

 ขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมตตามาเตือน ทำให้ค้นหาสาเหตุ

ว่าได้ทำผิดสิ่งใด อาการคันก็หายแล้วค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 14:39:26


ความคิดเห็นที่ 527 (1633279)

work shop  ตอนเช้าวันอาทิตย์

แบ่งกลุ่มประมาณ 10 คน

1.มีใครมีปัญหาอะไรบ้างในขณะนี้

2.จะช่วยบำบัดแต่ละคนในกลุ่มอย่างไร

3.เมื่อทำการบำบัดแล้ว ให้รายงานสรุปผล

ในกลุ่มของแหม่ม ก็จะมีพี่เหมี่ยวเป็นหัวหน้ากลุ่ม ร่วมด้วย ป้าน้อย(แม่คุณแหวน)        พี่จิต พี่เจี๊ยบ คุณนก คุณอ๋อย คุณก้อย คุณเปลว

คนที่มีอาการอยู่ในขณะนั้นก็มี

1.ป้าน้อย มีอาการปวดขา  โดยแหม่มจะใช้จี้สฟริ้งค์ในการรักษา โดยให้ป้าน้อยสารภาพบาป เมื่อสารภาพแล้วป้าน้อยมีอาการดีขึ้น 60 % แล้วนึกกรรมไม่ออก พี่เจี๊ยบได้ให้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย ขอให้นึกกรรมออก ป้าน้อยบอกว่าเคยเหยียบเหรียญที่มีรูปพระเจ้าอยู่หัว และใช้มือตีขาเด็ก พอนึกกรรมออกป้าน้อยหาย 100%

2.คุณนก(สุรดา) เจ็บคอ เส้นเอ็นที่คอพลิก ปวดบ่า ปวดไหล่ คุณก้อยได้ใช้จี้สฟริ้งค์บำบัด คุณนกเคยมีจิตล่วงเกินท่านอ.อุบล เคยรู้เห็นในการทำแท้ง เนื่องจากตัวเองครรภ์เป็นพิษ (ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นกรรม) สารภาพทุกอย่างแล้วหาย 95%  ก็เลยลองเอาจี้สฟริ้งค์ทั้งหมด 14 องค์มาให้คุณนกแล้วอธิฐานจิต อาการดีขึ้น สุดท้ายก็หาย 100 %

พี่เจี๊ยบ มีอาการคันที่หน้าแข้ง เกาจนเป็นปื้น แข็ง ๆ และมีสีดำด้วย เป็นมานานหลายปี เมื่อพี่เจี๊ยบนำจี้สฟริ้งค์ 14 องค์ มาอธิฐานจิตอาการคันก็หายไป พี่เจี๊ยบมีเหงื่อเต็มหน้าไปหมด สงสัยพลังจะเยอะมาก และพออีกสักพัก รอยเป็นปื้นสีดำก็จางลงอย่างมาก จนสังเกตได้

4. คุณก๊อต มีอาการเคืองตา ตาอักเสบ ตาแดง ขอบตาล่างบวมแดง  เนื่องจากใช้สายตาไปในทางที่ไม่ดี ดูหนังโป๊ จับผิดผู้อื่น ก็ใช้จี้สฟริ้ง 14 องค์ในการรักษา ปรากฏว่าขอบตาที่บวมหาย อาการอักเสบและเคืองนัยน์ตาหายไป ยังเหลือแดงที่บริเวณหัวตานิดหน่อย จนเกือบหายสนิท

5. คุณอ๋อย มีอาการปวดแขน เมื่อสารภาพกรรมมีอาการดีขึ้น 90 % ระหว่างที่สารภาพคุณอ๋อยบอกว่าเคยตอกบัตรแทนคนอื่น พอดีว่าแหม่มเคยทำแต่ว่าลืมไปแล้ว ก็เลยได้สารภาพกรรมกับจี้สฟริ้งค์ก็เลยหายจากอาการปวดแขนไปด้วย แล้วนำจี้สฟริ้งมาอธิฐานจิต 14 องค์ ก็หาย 100%

สรุป ในกลุ่มก็ได้ร่วมกันปฏิบัติการเพื่อรักษาคนที่มีอาการเจ็บป่วย โดยใช้จี้สฟริ้งค์ ให้สารภาพกรรม และได้ใช้จี้สฟริ้งค์หลาย ๆ องค์เหมือนคุณชิม โดยไม่ต้องสารภาพก็หายเช่นกัน ซึ่งเราสามารถนำไปใช้ช่วยเหลือคน เมื่อเกิดภัยพิบัติได้ เพราะขณะนั้นคนที่ได้รับบาดเจ็บ คงไม่มีใครมาสารภาพบาป ซึ่งอาจจะตายก่อนได้ ซี่งเป็นการเรียนรู้วิธีใหม่เพื่อนำไปใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงได้อย่างทันท่วงที

(พรุ่งนี้มาต่อค่ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 14:43:50


ความคิดเห็นที่ 528 (1633285)

6 - 7  ต.ค. 2555

วันศุกร์เดินทางถึงบ้านสวน 3 ทุ่มกว่า ท่านอาจารย์และคนที่มาถึงก่อนยังช่วยกันปรับแต่งภูมิทัศน์และงานอื่น ๆ กันอยู่ บริเวณที่เคยมีกองดินใกล้กับบ่อน้ำ เปลี่ยนไปอย่างมาก ทั้งสวยงาม น่ารัก น่าเอ็นดู ร่มรื่น สบายตาสบายใจ เพราะมีต้นกระท้อน ต้นมะม่วงใหญ่ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ ต้นไม้ขนาดเล็ก และสัตว์หลากหลายชนิด เช่นกระรอก ลิง ชะนี  นก กวาาง ฯลฯ สุ่มไก่ประดับด้วยดอกไม้แล้วนำขึ้นไปแขวนไว้กับกิ่งไม้ดูสวยน่ารักดี มีกระจาดผลไม้ขนาดย่อมแขวนกับกิ่งไม้ห้อยลงมาให้หยิบกินได้ตลอดเวลา บริเวณโคนต้นไม้ล้อมรอบด้วยเก้าอี้นั่งที่ทำจากท่อระบายน้ำที่มีอยู่แล้ว นั่งได้หลายคนแข็งแรงทนทานด้วย บริเวณนี้คงเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีพลังมาก ขณะที่ท่านอาจารย์และพวกเรานั่งสนทนาเรื่องต่าง ๆ กันอยู่ มีกระแสลมเย็นพัดมาสัมผัสร่างกายจนรู้สึกหนาวนิด ๆ แต่ใบไม้กิงไม้ไม่สั่นไหวเลย บริเวณนี้กลายเป็นจุดเด่นในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลายอีกจุดหนึ่งของบ้านสวน 

กลางคืนวันเสาร์พวกที่มีภาระกิจด้านการแสดงบนเวที ต่างซุ่มซ้อมกันอย่างขมักเขม้น ละครเรื่องพระสังข์รจนาซ้อมกันไปขำกันไป และทุกคนก็พยายามหาคำพูด และมุขต่าง ๆ มาสอดแทรกเพื่อให้ผู้ชมทุกท่านได้รับความสุข สนุก  ควบคู่กับสาระสำคัญที่มีประโยชน์ต่อผู้ชมด้วย

6 โมงเช้า คุณธนาเป่านกหวีดปลุกให้ทุกคนมาร่วมกิจกรรมออกกำลังกาย โดยคุณธนาจะเรียกทีละคนให้ออกมานำท่าบริหารร่างกายคนละ 1 ท่า เป็นช่วงที่มีความสุขและสนุกอีกช่วงหนึ่ง เพราะแต่ละคนที่ออกมานำออกกำลังกายช่างสรรหาท่ามาโดนใจกันจริง ๆ มื่อออกกำลังกายเสร็จแล้ว แยกย้ายกันอาบน้ำ ทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จ จึงไปทำงานตามจุดต่าง ๆ งานเกษตรมีถางหญ้า พรวนดินเพื่อเตรียมปลูกผักคะน้า และงานด้านอื่น ๆ ได้เวลาพอสมควรจึงกลับมาทานอาหารเช้าร่วมกัน

หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย พวกเรามานั่งพร้อมกันที่บริเวณหน้าเวที เพื่อฟังการปฐมนิเทศจากท่านอาจารย์ ท่านถามว่าเมื่อคืนใครนอนไม่หลับบ้างมีคนยกมือแต่ไม่มาก และใครบ้างที่นอนหลับยกมือกันเยอะ คนที่นอนไม่หลับยังมีกรรมมากต้องทำงานเยอะ เมื่อกรรมลดน้อยลงครั้งต่อไปจะนอนหลับได้ดีเอง คนที่นอนหลับกรรมน้อยแต่ก็ต้องเร่งสร้างบุญกันต่อไป ทุกคนที่มาวันนี้ต้องแก้ไขตัวเองให้ได้ เวลาที่ทำงานแล้วเหนื่อยท้อรู้สึกไม่อยากทำ ให้ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอบารมีพระศรีอาริย์ ขอให้ชนะมารให้ได้ มีเหตุการณ์บังคับให้จัดค่ายครั้งนี้ ส่วนหนึ่งของคนที่มามีหน้าที่สำคัญที่จะช่วยคนอื่น ๆ ต่อไป

ท่านอาจารย์ทำบ้านสวนและบุญทุกอย่างถวายพระเจ้าอยู่หัว เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อเรารู้สึกโกรธไม่พอใจ ต้องหยุดโกรธให้ได้ อะไรมากระทบต้องไม่หวั่นไหว ทำจิตให้เป็นบุญตลอดเวลา เวลาที่มีคนมาด่าแล้วเราทนได้ เขามาทำให้เรารู้ว่าเราจะไปนิพพานได้หรือไม่ได้ ผู้ที่มีกรรมผิวพรรณ สิ่งที่จะแก้กรรมคือเก็บของทุกอย่างที่เห็น เช่นถุงมือ ขยะ ใบไม้ เครื่องมือที่ใช้ในการทำงานต่าง ๆ การที่เรามาบ้านสวนแล้วไม่พัฒนาตนเอง ไม่ใช้จี้ช่วยคนอื่น ไม่เผยแพร่รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ต้องพิจารณาตนเองว่าควรมาอีกหรือไม่

ในขณะที่ทำงานให้ท่องคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วย อย่างน้อยวันละ  99 จบ 9 วัน หรือจะท่องเวลาไหนก็ได้ทุกอริยาบท นั่ง ยืน นอน เดิน อาบน้ำ กินข้าว จะทำให้สาวขึ้น สวยขึ้น ปลดหนี้ สุขภาพดีขึ้น ปลดพลังมืดออกจากตัวแต่คาถาสวดบูชาท่านท้าวเวสสุวรรณ คาถาเงินล้าน คาถาปะโตเมตัง ก็อย่าทิ้งให้แบ่งเวลาสวดใหครบทุกบท

เราควรสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ถ้านั่งสวดไม่ได้ก็นอนสวด โดยเริ่มจาก ตั้งนะโม 3 จบ สวดบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ต่อด้วยสวดอิติปิโส และบทสวดทุกบทของบ้านสวน เมื่อสวดคาถาปะโตเมตัง คาถาบูชาท่านท้าวเวสสุวรรณ คาถาเงินล้าน ครบอย่างละ 9 จบ แล้ว เรามีจริตชอบบทสวดใดมากกว่าบทอื่น  ก็สวดบทนั้นจนหลับไปเลยยิ่งดีตื่นนอนตอนเช้าก่อนลุกจากที่นอนก็สวดทุกบทของบ้านสวนก่อนแล้วจึงลุกจากที่นอน

  ยังมีต่อ



 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 15:03:31


ความคิดเห็นที่ 529 (1633288)

 ชื่อ นาง ตุ๊ดตู่  เพลาวัน (ขออนุญาตพิมพ์แทนค่ะ)

        ได้ไปร่วมเข้าค่าย 13 เพราะความเมตตาของอาจารย์อุบล

หนูขอกราบขอบพระคุณค่ะ

                                .......................................................

               หนูขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล ที่มีความเมตตาให้กับหนูและครอบครัว ได้ไปเข้าร่วมค่าย 13 นี้ หนูมีความประทับใจมาก ที่ได้ร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่บ้านสวนพีระมิดจัดขึ้นในค่ายนี้ และหนูมีความประทับใจมากที่อาจารย์ให้มีกิจกรรมเป็นกลุ่ม เพราะถ้าให้ออกไปแสดงความคิดเห็นส่วนตัว โดยขึ้นไปพูดบนเวที หนูไม่หล้า กลัวจะพูดผิด

                                                                                                   ขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นัยนา ชมภูบุตร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 15:18:16


ความคิดเห็นที่ 530 (1633293)

 

ก่อนเข้าช่วงประชุมในคืนวันเสาร์ อาจารย์มงคลได้เปิดสารคดีเรื่องแรก

เกี่ยวกับภัยพิบัติของธรรมชาติที่เกิดจากเหตุการณ์จริงๆ

ดูแล้วชอบมากๆเลยค่ะ อาจารย์ช่างสรรหามาให้กับลูกบ้านสวน

ดูแล้วน่ากลัวมาก ทั้งแผ่นดินไหว ตึกถล่ม คิดว่าชุดนี้คงจะเป็นแผ่นcdหรือ

dvdใช่ไหมคะ อยากทราบว่าชื่อเรื่องอะไรคะจะไปซื้อมาให้ที่บ้านดูน่ะค่ะ

 

ช่วงเล่าธรรมทานจากนักแสดงบนเวทีก็ประทับใจมากกับประสพการณ์

ของหลายๆท่านซึ่งก็มีผู้เล่าไปแล้ว

 

ช่วงที่ท่านอาจารย์พาไปทานบาบีคิวมันเผาที่ลานธรรม

ได้รับรู้ความมหัศจรรย์และอานุภาพขององค์จี้สฟิ๊งค์

แค่กิจกรรมช่วงกลางคืน ทำให้รุ้สึกว่า ช่่างเป็นกิจกรรมที่อัดแน่นไปด้วย

สาระทุกอณู ช่างเป็นบุญเหลือเกินที่ได้มาพบ และได้สัมผัส

และได้ลองสวมจี้ของน้องชิมแต่อาการดีขึ้นไม่มาก

แต่ก็ดีใจกับหลายๆท่านที่ได้รับปาฏิหาริย เช่นป้าพร น้องลิน

คุณอุ๊และอีกหลายๆท่าน

วันต่อมาช่วงสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์  และได้ขึ้นไปขอรับบารมี

อาการดีขึ้น 40% ก็ยังสร้างบุญน้อยอยู่ค่ะ

จะเร่งสร้างไม่ห่วงทางโลก จะทำดีละชั่วให้ได้ค่ะ

ตอนช่วงที่ท่านอาจารย์กล่าวถึงบางคนใช้ปุ๊บได้ผลปั๊บเพราะได้ทุ่มเท

สร้างบุญด้วยการไปช่วยคนและบอกรหัส แต่ตัวเองยังทำน้อยอยู่

โดยเฉพาะบุญธรรมทาน ท่านอาจารย์เน้นมากเพราะอยากให้ลูกบ้านสวน

ได้ปลดทุกข์เร็วๆ

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างที่สุดที่เมตตา

ลูกเข้าใจแล้ว และจะนำไปปฏิบัติในสิ่งที่ท่านอาจารย์เมตตาสั่งสอน

และเห็นหลายท่านเข้ามาเขียนธรรมทานกันแบบอ่านไม่ทันเลย

ลูกจะเขียนธรรมทานทุกวัน เว้นแต่ไม่ได้อยู่บ้านบางครั้งไปนอนบ้านแม่

 

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล

และกราบขอบคุณท่านอาจารย์อุบล

และครอบครัวที่เสียสละ ที่เหน็ดเหนื่อยเพื่อพวกเราค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 15:40:29


ความคิดเห็นที่ 531 (1633297)

มาต่อครับ

3.กิจกรรมภาคกลางคืนวันเสาร์

หลังจากทานอาหารเย็นและพักผ่อนกันตามอัธยาศัย แล้วมารวมกันที่อาคารประชุม ระหว่างนี้พี่ธนาได้เปิดภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ ดูแล้วน่ากลัวและเสมือนจริงมากๆครับ

ช่วงการแสดง

ชุดแรกเต้นรำประกอบเพลงแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกนำโดยคุณอัม ซึ่งชุดนี้เป็นพิเศษแสดงเพื่อมอบแด่ท่าน อ.อุบล  ชุดที่2 นำโดยป้าอุ๊ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเฉพาะกิจแต่ละท่านอยู่คนละจังหวัด คนละทิศแต่สามารถมารวมกันและใช้เวลาซ้อมกันไม่กี่ชั่วโมง แต่แสดงกันได้พร้อมเพรียงและสวยงามมาก และชุดที่ใส่ก็น่ารัก สีสันสดใส และที่สำคัญภรรยาผมร่วมแสดงด้วยครับ..อิอิ

ชุดที่2เป็นการแสดงเรื่องสังข์ทอง ตอนรจนาเลือกคู่ โดยผู้กำกับมือทอง พี่โฆษิต นั้นเอง เป็นการแสดงที่เรียกเสียงฮาเป็นอย่างมาก มีรจนาที่รับบทโดยน้องเบส เจ้าเงาะโดยพี่โฆษิต สังข์ทองโดยน้องวิน ร่วมด้วยนักแสดงกิตติมศักดิ์หลายท่าน มีพี่เหมี่ยว ดร.จุ๋ม คุณตาโต๊ะ คุณแหม่ม คุณสมจิต อ.พัน คุณเจี๊ยบ คุณอดิศักดิ์  สนุกจริงๆครับ

ระหว่างนี้ผมได้ไปเตรียมก่อไฟเตาบาบีคิว เตรียมปิ้งมันและฟักทองที่สวนสวรรค์บนดิน แต่อุปสรรคในการก่อไฟก็คือถ่านที่ใช้มีความชื้นทำให้ติดไฟยากมาก ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและพัดลมมาช่วยในการก่อไฟด้วยครับ นี้ถ้าเกิดวันที่เกิดภัยพิบัติแล้วเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีไฟฟ้า ปัจจัยต่างๆไม่เอื้ออำนวย เราจะก่อไฟให้ติดได้อย่างไร ต้องใช้ปัญญามากครับ

จากนั้นได้มีโอกาสร่วมทำ Work Shop เรื่องท่านจะจัดการอย่างไรต่อผู้ที่ปรามาสพระอริยะสงฆ์ ผู้ทรงศีลทรงธรรม ทั้งต่อหน้าและทางเวปไซด์ ซึ่งแต่ละท่านก็ได้ระดมสมองและแสดงความคิดเห็นกันหลายแง่มุมมาก เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีครับแต่ผมคิดว่าในสถานการณ์จริงผู้ที่จ้องทำลายผู้ทรงศีลทรงธรรม เป็นพวกบัวเหล่าที่4ซะส่วนใหญ่จึงสามารถจูนกันติดง่ายมาก รวมตัวกันใช้คำหยาบคาย คำลามก และใช้คำถามที่มุ่งทำลายผู้ทรงศีลทรงธรรม ถึงแม้จะอธิบายความจริงอย่างไรก็ไม่ฟัง จึงต้องใช้มาตรการตอบโต้โดยใช้ความรู้ และทำให้คนพวกนั้นรู้ว่าสิ่งที่พวกเค้าทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่โง่(อวิชชา)และทำให้คนพวกนั้นสูญเสียความมั่นใจว่าตนเองด้อยกว่าก็จะเลิกทำ ครับ

ต่อจากนั้นได้ย้ายกันไปที่สวนสวรรค์บนดินด้านหลังเวที ท่านอาจารย์นั่งอยู่ที่ชิงช้า แล้วพวกเรานั่งล้อมรอบท่านอาจารย์ บรรยากาศช่วงนี้เหมือนอยู่ในป่าที่มีลานแสดงธรรม อากาศเย็นสบาย แล้วคุณชิมก็ได้ออกมาเล่าธรรมทานหลังจากได้รับพัสดุจี้องค์เทพสฟิงซ์ 12องค์ทำให้มีลูกค้าเข้าร้านไม่ขาดสาย จนรับไม่ไหว ต้องย้ายที่พัสดุไม่งั้นลูกน้องไม่ได้ทานข้าวแน่ๆ และพี่แมวได้ออกมาเล่าธรรมทานว่า คุณสมจิต จากชลบุรี ได้โทรมาเล่าให้ฟังว่า ได้บูชาจี้องค์เทพสฟิงซ์ 3 องค์ นั่งทำสมาธิพบแสงสีขาว จึงไปตามแสงนั้น และได้พบคำตอบว่าจักรวาลคืออะไร จากนั้นญาติธรรมแต่ละท่านที่ยังมีอาการเจ็บป่วยได้ใส่จี้ของคุณชิมที่มีจี้อยู่9องค์ ต่างก็ได้รับความสุขกันอย่างถ้วนหน้าครับ

(เดี๋ยวมาต่อครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 16:06:51


ความคิดเห็นที่ 532 (1633301)

        ต่อน่ะครับ

    กิจกรรมช่วงเช้าวันอาทิตย์ พี่ธนาพาพวกเราออกกำลังกายครับ ในกิจกรรมนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ที่จริงผมมองว่าเป็นการฝึกให้ล่ะอัตตาครับ คือ พี่ธนาจะเชิญแต่ละท่าน ออกมานำท่าออกกำลังกายครับ ไม่ง่ายเรยน่ะครับ ผมยังแอบลุ้นๆอยู่เรยครับ อย่าเรียกผมน่ะๆ ผมอาย.... แต่ทุกท่านที่ออกมานั้น ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีครับไม่มีเขิ้นสักเท่าไหร่ครับ ยิ่งพี่อ้อยเนี่ยะ ผมชอบใจแกหลายๆ เพราะแกออกมานำท่ากายบริหารแต่ละท่า เด็ดๆทั้งนั้น ทั้งส่ายเอว แกว่งขา ไม่นึกเรยครับ ว่าแกจะทำไปได้ แกบอกว่า อยากเรียกดีนัก งั้นเอาท่านี้ล่ะกัน แบบว่าแก้เผ็ดไปเรย คราวหน้าดูซิ๊ จะเรียกมาอีกม่ะ 55+

    หลังจากนั้นนั้นก็แยกย้าย กันไปอาบน้ำและทานอาหารเช้ากันครับ แล้วก็เริ่มกิจกรรมภาคเช้ากันต่อครับ เราต่อเนื่องการทำWork shop#2ครับ คราวนี้พวกเราแบ่งกันออกเป็นกลุ่มๆเหมือนเดิมครับ และหัวข้อของการทำ work shop ก็คือ ให้ถามสมาชิกในกลุ่มว่าตอนนี้กำลังมีปัญหาอะไร และให้ทุกท่านบำบัดในปัญหาดังกล่าว โดยใช้วิธีหรือหลักการ และประสบการณ์ที่เคยเห็นท่านอาจารย์ หรือเหตุการณ์อื่นๆที่บ้านสวนฯได้เคยใช้ แล้วบำบัดรักษา พร้อมกับสรุป บนเวที.....แต่ล่ะกลุ่มก็มีไอเดียแตกต่างกันออกไป แต่ที่ผมประทับใจที่สุด ก็จะเป็นกลุ่มของพี่เหมียวครับ...หลังจากที่แก สำรวจกับสมาชิกในกลุ่มแล้วว่า มีปัญหาอะไรนั้น ก็ปรากฎว่ามีคนหายเรยทันที 3 คน คือหายปวดคอ ปวดไหล่  นี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยน่ะ เอ้..หายได้ไงเนี่ย สงสัยไหมล่ะ นี่ทีเด็ดก็เป็นคุณก็อตครับ แกมีอาการตาแดงและบวม ทางกลุ่มพี่เหมี่ยวให้กลยุทธรวมจี้หลายๆเส้นของสมาชิก เป็นการรวมพลัง คุณก็อตก็เรยเอาจี้ไปวางประคบไว้ที่ลูกกะตาครับ แช่ไว้ประมาณ1-2 นาที ปรากฎว่า ตาหายเจ็บแดง มากกว่า90% ..........โอ้ยๆ...ไอเดียบรรเจิดจริงๆครับ......อย่างนี้มันต้อง Copy and Develop …..ฮ่าๆ..เสร็จโจร...เดี๋ยวมาใหม่อีกทีน่ะครับ   
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 16:09:20


ความคิดเห็นที่ 533 (1633304)

              พระศรีอารย์ทรงโปรดเมตตาลูกหลานหาที่สุดมิได้

      จะเห็นได้ว่าทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นในค่าย 13 ถูกจัดสรรไว้หมดแล้วอย่างลงตัว ทุกคนที่ได้เข้าค่ายครั้งนี้ ได้รับประโยชน์มากมายมหาศาล จากเบื้องบน ในการทําเวิร์คชอป ทั้งความรู้ในการที่จะอยู่ร่วมกัน จะช่วยเหลือกันได้อย่างไร ตรงนี้แหละทําให้อรมีความรู้สึกสนิทกัน มีความรัก เมตตา ห่วงใย และผูกพันธ์ต่อกันมากขึ้น อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และที่หน้าประทับใจมาก ก็คือเด็กๆที่เข้าค่ายนี้ มีความคิดเห็น จากคําถามที่ว่า จะช่วยคนได้อย่างไร บางคนบอกว่า ก็ใช้ รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้ยซิ บางคนก็บอกว่าให้มาใช้แรงกายบ้านสวน บางคนก็บอกว่าใช้จี้ก็ได้  ซึ่งผู้ใหญ่ต้องอายกันเลยทีเดียว  ตอนนั้นน้องมาร์คมีอาการปวดหลัง น้องต้นกล้าก็ใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์ บําบัด น้องมาร์คสารภาพบาปว่า เคยตีหลังหมา เคยสั่งฆ่าไก่ ฆ่าปลา ด่าเพื่อน ผลที่ได้รับคือ หาย100% และมีคําถามที่พวกเราต้องตอบให้ได้อย่างมีเหตุผล ด้วยว่า

ถ้าหากคุณพบเจอ ผู้ที่ปรามาส พระพุทธเจ้า ในหลวง  ผู้ทรงศีลทรงธรรม หรืออาจารย์อุบล คุณจะทําอย่างไร

 เราจะรู้ได้ทันทีเลยว่าบุคลคนนี้เป็นสาวกพระเทวทัต ท่านอาจารย์อุบล เคยสอนให้ ใช้ปัญญา ใช้ลีลาในการสอน หรือบางคนอาจต้องใช้คําพูดกระแทกใจให้  คนเนี๊ยรู้สึกว่าสิ่งที่คุณทํา เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแล้วจึงบอกในสิ่งที่ถูกที่ควรกับเขา 

ยกตัวอย่างเช่น หากได้ยินคนปรามาส ในหลวงหรือราชวงค์ เราต้องถามกลับไปว่า ท่านเป็นใคร แล้วคุณเป็นใคร ทุกวันนี้คุณใช้อะไรหาสิ่งใดเพื่อ ดํารงชีวิตเลี้ยงปาก ท้องของคุณ เงิน ไช่หรือไม่ ถ้าใช่ แล้วมีรูปใครอยู่ คนที่ไม่สํานึกบุญคุณ แม้กระทั้งแผ่นดินที่คุณอยู่ ก็เป็นแ่ผ่นดินพ่อ ซึ่งบรรพบุรษ เอาชีวิต เหลือด เนื้อเข้าแลกมา จึงมีให้คุณได้อยู่อาศัยได้จนถึงทุกวันนี้ แล้วทุกวันนี้ ระหว่างคุณ กับท่านใครดีกว่ากัน

หากได้ยินคนปรามาส ท่านอาจารย์อุบล หรือผู้ทรงศ๊ลทรงธรรมอย่างท่าน ดร.อาจ อง  ท่าน ว.วัชรเมธี ก็ถามกลับไปเลยว่า ท่านไปทําอะไรให้คุณเดือดร้อนหรือค่ะ 

  ท่านอาจารย์สอนให้ สวดมนต์ตลอดทั้งวัน จนซึมเข้าไปในสายเลือด มีบท

1.บทอิติปิโส

2.คาถาปะโตเมตัง

3.บูชาท้าวเสสุวรรณ

4.คาถาเงินล้าน

5.คาถาบูชาพระศรีอาริย์  ให้สวดได้ตลอดทั้งวัน

และการได้ดู คลิปวีดีโอ ต่างๆ ทําให้ได้อะไรมากมายจริง โดยเฉพาะ คลิปสิงโตกินควาย จะมีควายอยู่ตัวหนึ่งที่ หัวใจนักสู้พยายามเข้ามาช่วยลูกควายที่กําลังถูกสิงโตกิน ส่วนควายตัวอื่นๆทั้งฝูงกับยืนดูอยู่ห่างๆ ไม่กล้าช่วย เพราะกลัวตาย ท่านอาจารย์ให้เราย้อนนึกถึงตัวเอง หากเราเป็นควายตัวที่ถูกกิน เราต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ คําตอบคือ ต้องการค่ะ แล้วในเมื่อเราไม่เคยช่วยใคร แล้วใครจะมาช่วยเราหละ 

แล้วก็คลิป ฮิปโป โดนเสือทั้งฝูงกําลังไล่กิน ทั้งงับ ทั้งขี่หลัง ทั้งรุมทึ่ง ถูกกระทําสารพัด ฮิปโปก็ยังเดินเฉย ไม่รู้สึกอะไรเลย เสือทําอะไีรไม่ได้ เพราะฮิปโปหนังหนา เคี้ยวไม่ออก จะเห็นได้ว่าถ้าเราหนังหนาหน้าด้านให้ได้ ทําตัวแบบฮิปโป  ทนต่อแรงเสียดทานต่างๆได้ ไม่โกรธ ไม่แค้น ศรัตรู เอาแบบว่าให้ด่าไม่เข้าอ่ะ สวดดยอดแล้วว 

สัมผัสได้ถึง ความสุข ทั้งทางโลก และทางธรรม อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด ในค่าย13นี้ค่ะ กราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์ กราบท่านอาจารย์อุบล ผู้ให้ไม่มีที่สิ้นสุด สาธุ กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 16:29:30


ความคิดเห็นที่ 534 (1633308)

มาต่อจากเมื่อวานค่ะ....

กิจกรรมวันอาทิตย์

เช้านี้ตื่นมาก็มาออกกำลังกายร่วมกันเหมือนเดิมค่ะ หลังจากนั้นแยกย้ายกันทำภาระกิจส่วนตัว และมาเริ่มกิจกรรมช่วงเช้ากันด้วย workshop ในหัวข้อ เมื่อท่านมาบ้านสวนฯแล้วได้เห็นการบำบัดจากท่าน อ.อุบล และเหตุการณ์คืนวันเสาร์แล้ว ท่านจะมีวิธีช่วยบำบัดผู้อื่นอย่างไร โดยได้แบ่งกลุ่ม 10 คน โดยพอจะสรุปภาพรวมได้ดังนี้

- สารภาพกับจี้ของทุกคนในกลุ่ม โดยนำจี้ออกมาทุกคน ทำให้มีพลังทั้งจากจี้ และจิตที่เมตตา อยากจะช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์ของคนในกลุ่ม เป็นพลังสามัคคี ซึ่งผลที่ได้น่าทึ่งมากค่ะ ทั้งหายทันที 100 % และในส่วนที่ดีขึ้นจะเกิน 50% กันแทบทุกคนเลยค่ะ

- กลุ่มของเด็กๆ ที่ความคิดไม่เด็กเลย ซึ่งน้องๆได้สรุปวิธีช่วยบำบัดไว้ดังนี้ค่ะ ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย,สารภาพบาปกับจี้,ทำบุญแรงกาย,อนุโมทนาบุญ,ดูรายการคุยไปแจกไปให้ครบ 9 ตอน,เขียนธรรมทาน,เล่าธรรมทานบนเวที,เลิกกินเนื้อสัตว์,รักษาศีล 5 ค่ะ โอ้วว้าวว...ได้เห็นความคิดของเด็กๆแล้ว สว.อย่างเราๆอายม้วนต้วนกันไปเลยค่ะ เล็กพริกขี้หนูกันจริงๆ ตอบได้ครอบคลุมทุกอย่างที่ท่าน อ.อุบล ได้สอนเลยค่ะ นี่แหล่ะค่ะ เจเนอร์เรชั่นใหม่แห่งยุคชาววิไลย์ เรานี้อ๊ายอายยค่ะ

- และอีกกลุ่มที่ถูกใจทุกๆท่าน คือกลุ่มของพี่เหมี่ยวที่ได้นำจี้ของทุกคนมารวมกันได้จี้ 14 องค์ แล้วใช้บำบัดผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยอยู่ ที่เห็นเป็นรูปธรรมก็มีคุณก็อตที่มีอาการตาบวมจนแดงและระคายเคือง โดยคุณก็อตได้ขอบารมีพระศรีอาริย์และนำจี้ทั้งหมดมาประคบที่ตาประมาณ 5 วินาที พอเปิดออกมาทุกคนต่างตกใจ เพราะตาคุณก็อตหายบวมและหายจากอาการระคายเคือง คือดีขึ้นประมาณ 95% เหลือแค่อาการตาแดงอีกนิดหน่อย และได้สารภาพบาปเพิ่ม ปรากฏว่าหาย 100% ค่ะ และอีกคนคือพี่เจี๊ยบมีอาการคันที่เข่าและหนังที่เข่าด้านและหนาเหมือนหนังช้างและยังมีสีดำๆอีกด้วย หลังจากที่พี่เจี๊ยบได้อธิษฐานกับจี้ทั้งหมด ปรากฏว่ามีอาการเหงือออกและอาการคันหายไปหมดเลยค่ะ และเข่าที่ดำก็ดูขาวขึ้นและนิ่มขึ้นค่ะ ซึ่งทั้งสองท่านนี้ทุกคนได้เห็นปาฏิหาริย์ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากเลยค่ะ

- การที่จะบำบัดให้ได้ผลมากที่สุดนั้น ทั้งผู้ที่ทำหน้าที่บำบัดและผู้ที่ได้รับการบำบัดจะต้องมีศรัทธาเต็ม 100% จึงจะได้ผลเต็มที่ค่ะ

- จุดประสงค์ของการทำ workshop ครั้งนี้เพื่อต้องการหาวิธีที่จะช่วยบำบัดผู้อื่นโดยวิธีที่ ง่าย รวดเร็ว ไม่ยุ่งยากและเห็นผลทันที เพื่อจะช่วยผู้อื่นได้ทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉินค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ลงความเห็นว่าชอบวิธีของกลุ่มพี่เหมี่ยวมากที่สุดค่ะ

กิจกรรมช่วงบ่าย เริ่มด้วยการดูคลิปต่างๆ ดังนี้ค่ะ

1.ควาย+สิงห์โต คลิปนี้ตอนที่ดูรู้สึกตัวเองเหมือนควายยังไงก็ไม่รู้ค่ะ เนื้อหาคือ สิงห์โตมากินลูกควาย ส่วยควายโตวิ่งหนีแต่จริงๆแล้วไปตามพวกมาช่วยลูกควาย มากันเป็นฝูงเลยค่ะ แต่พอมาถึงก็ไม่กล้าทำอะไรสิงห์โตทั้งที่มากันตั้งเยอะแยะ แต่มีควายเจ้าฝูงอยู่ตัวหรือสองตัวนี่แหล่ะค่ะที่กล้าวิ่งไล่สิงห์โตและก็ทำให้สิงห์โตกลัววิ่งหนีกระเจิดกระเจิงเลยค่ะ สุดท้ายก็ช่วยลูกควายไว้ได้ค่ะ ท่านอาจารย์ได้ให้ธรรมะว่า ศรัตรูจะเลือกทำร้ายคนที่อ่อนแอที่สุดก่อนเปรียบเสมือนลูกควาย และพวกเราจะเลือกเป็นควายจ่าฝูงหรือควายที่ยกพวกมาแต่ไม่กล้าสู้กับสิงห์โตถ้ามีศรัตรูมารุกรานหรือมาทำร้ายเพื่อนของเรา มาทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้พวกเราเปรียบเทียบและเลือกว่าจะเป็นควายประเภทไหนค่ะ

2.งู+จระเข้ ครั้งแรกจระเข้กินงู ถัดมางูกินลูกจระเข้ สรุปได้ว่า เมื่อเธอกินฉันได้ ฉันก็กินเธอได้ หรือก็คือเรากินหมู หมูก็กินคนอย่างที่มีข่าวเมื่อเร็วๆนี้ พอมีข่าวหมูกินคนก็ว่าหมูโหดร้าย แต่ตอนที่คนไปกินหมูกับไม่คิดว่าคนนี่แหล่ะโหดร้ายยิ่งกว่า กินสัตว์ได้ทุกอย่างจริงๆ แม้แต่คนด้วยกันยังกินเลย แล้วคิดดูสิคะว่าใครกันนะที่โหดร้ายตัวจริง

3.ม้าลาย+สิงห์โต ม้าลายกำลังต่อสู้กับสิงห์โตที่จะมากินตน ตามลำพัง แต่สุดท้ายม้าลายตัวนี้โชคดีหนีรอดได้ ทำให้เห็นว่าม้าลายตัวนี้ต้องสู้ด้วยตัวเอง สู้ด้วยกำลังใจแม้ไม่มีใครช่วย จะเปรียบเทียบได้ว่า ถ้าคุณไม่เคยช่วยใคร ก็อย่าหวังว่าใครจะช่วยคุณ

4.คนถ่ายรูป+สิงห์โต มีกลุ่นคนไปเที่ยวสวนสัตว์เปิด และมีหนึ่งคนลงจากรถเพื่อไปถ่ายรูปใกล้ๆ แล้วโดนสิงห์โตลุมกัดกิน โดยที่คนในรถไม่มีใครกล้าลงไปช่วย สุดท้ายทุกคนก็รักแต่ตัวเอง ท่านอ.อุบลได้ให้แง่คิดว่าจริงๆแล้วถ้าทุกคนจะช่วยชีวิตเขาก็ย่อมทำได้โดยต้องมีสติก่อนแล้วจะทำให้เกิดปัญญาโดยท่านอาจารย์บอกว่าถ้าขับรถไปค่อมผู้ชายคนนี้ไว้สิงห์โตก็จะไม่สามารถทำร้ายเขาได้ค่ะ สิ่งสำคัญก็คือสติค่ะ

5.คน+สิงห์โต สิงห์โตกินคนที่เลี้ยงในกรง โดยมีคนที่อยู่นอกกรงมากมายแต่ไม่มีใครช่วยเขาได้ สุดท้ายคนที่อยู่ด้านนอกตัดสินใจยิงสิงห์โต ดูแล้วก็สงสารทั้งคนทั้งสิงห์โตเลยค่ะ ถ้าเราไม่ใช้สติ+ปัญญาในการแก้ปัญหาสุดท้ายก็มีแต่ความสูญเสียค่ะ

6.ฮิปโป+เสือโคร่ง เสือโคร่งหลายตัวลุมกัดกินเจ้าฮิปโปตัวอ้วนหนังหนา เจ้าฮิปโปก็ไม่สนใจเดินหนีท่าเดียว สุดท้ายเสือโคร่งคงจะเหนื่อยและเซ็งค่ะ เพราะทำอะไรฮิปโปไม่ได้เลย ก็เลยต่างหนีกันไปหมด ฮิปโปก็รอดปลอดภัย เปรียบเหมือนพวกเรานี่แหล่ะค่ะ ต้องทำตัวให้เหมือนฮิปโป คือ หนังหนา หน้าด้าน ทนต่อแรงเสียดทานได้ ไม่จิตตก ไม่สนใจ ไม่รู้สึกอะไร ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้ อิอิ คลิปนี้ชอบมากค่ะ

7.จระเข้กินคน จระเข้โดนฆ่าตายพอแหวกท้องออกมา เจอชิ้นส่วนคนแยกเป็นชิ้นๆเลยค่ะ

8.ผีกระสือ ถ่ายได้โดยกล้องวงจรปิดที่ปทุมธานี โดยผีกระสือสามารถเปลี่ยนหน้าได้หลายๆหน้าเลยค่ะ

ภัยพิบัติที่จะเกิดมีดังนี้ แผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ หลุมยุบ สัตว์มีพิษเช่นงู ออกมาอาละวาด ภัยจากน้ำ ภูเขาไฟระเบิด เขื่อนแตก หนาวเย็น โรคระบาด ขาดแคลนอาหาร หิวโหย แห้งแล้ง ฯลฯ

หลังจากดูคลิปกันแล้วเราได้มีการทำ workshop กันต่อค่ะ ด้วยหัวข้อ

- พระศรีอาริย์จะมีวิธีปราบมารอย่างไร

- พระศรีอาริย์จะนำพาพวกเราให้เข้าสู่ยุคศิวิไลย์ได้อย่างไร

ขอสรุปรวมได้ดังนี้ค่ะ

พระศรีอาริย์จะมีวิธีปราบมารอย่างไร

- ให้ธรรมะในการปรับเปลี่ยนจิตใจ

- ทำให้คนชั่วได้รับผลกรรมหรือความเจ็บปวดก่อน แล้วใช้ธรรมะและบุญรักษา

- โดยใช้บุญฤทธิ์ คือคนที่ทำชั่วจะต้องได้รับผลทันที ธรรมฤทธิ์ คือคนทำดีก็ต้องได้รับผลทันทีค่ะ

พระศรีอาริย์จะนำพาพวกเราให้เข้าสู่ยุคศิวิไลย์ได้อย่างไร

- คัดแยกคนดีคนชั่วก่อน เพื่อนำคนดีมาเป็นแนวร่วม มาเป็นกองกำลัง

- โดยรวมสรุปได้ว่าทำอย่างวิธีของบ้านสวนฯทุกอย่างค่ะ

workshop คืนวันเสาร์ เกี่ยวกับการปรามาส 3 ร่มโพธิ์ศรี เราจะมีวิธีจัดการอย่างไร

- ถ้าเจอซึ่งๆหน้า ก็ถามเขาว่ารู้ข้อมูลมาจากไหน แล้วอธิบายข้อเท็จจริง

- ถ้าเป็นประเภทบัวเหล่าที่ 4 ก็ไม่ต้องอธิบายแต่ให้ถามกลับไปว่าบุคคลที่เขาปรามาส ท่านไปทำอะไรให้คุณ

- ถ้าทางเวปไซด์ก็กดรายงายค่ะ แต่ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ เพราะดูแล้วกฏหมายพึ่งไม่ได้ค่ะ คนทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนไม่ให้ความสนใจหรือร่วมมือในการจัดการค่ะ

- สุดท้ายก็ให้ใช้ปัญญาและการกระทำของเราในการจัดการค่ะ

การปฏิบัติตัวในแต่ละวัน ทั้งก่อนนอนและตื่นตอนเช้า โดยให้สวดมนต์ ไหว้พระทุกวัน จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็สวดได้ทุกเวลาค่ะ เริ่มด้วย

- อิติปิโส 1 จบ

- คาถาปะโตเมตัง

- คาถาเงินล้าน

- คาถาบูชาท่านท้าวเวสสุวรรณ

- คาถาบูชาพระศรีอาริย์ โดยท่องให้ได้วันละ 99 จบขึ้นไป

หลังจากนั้นให้อุทิศบุญให้เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เหล่าสรรพวิญญาณที่มารอรับผลบุญ โดยไม่มีประมาณค่ะ และทุกท่านจะตามปกปักรักษาเราเองค่ะ

ชมบารมีพระศรีอาริย์

ท่านอ.อุบลได้เมตตาให้คนที่ยังมีอาการเจ็บป่วยที่หลงเหลืออยู่ได้เดินผ่านท่านเพื่อสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์ ซึ่งแต่ละคนก็มีทั้งหาย ดีขึ้นและส่วนใหญ่ที่อาการดีขึ้นแต่ไม่หายแม้ว่าจะเดินผ่านท่านแล้วก็ตาม เป็นเพราะว่า ไม่ค่อยเขียนธรรมทานกัน แต่พอทุกคนรับปากว่าจะเขียนธรรมทานให้ได้ทุกวัน อาการที่หลงเหลืออยู่ก็หายจนหมดสิ้นทันทีค่ะ ทั้งหมดนี้ด้วยพระเมตตาขององค์พระศรีอาริย์และท่าน อ.อุบล ที่ต้องการให้พวกเราทุกคนได้สร้างบุญใหญ่โดยการสร้างบุญธรรมทาน เพื่อให้พวกเราได้หลุดพ้นจากความทุกข์และอุปสรรคต่างๆได้โดยเร็วค่ะ

เดี๋ยวมาต่อนะคะ...

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 16:55:07


ความคิดเห็นที่ 535 (1633311)

 มาต่อค่ะ


และในค่าย 13 นี้ นับว่า
เป็นค่ายที่มีความเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านค่ะ
ทั้งจากการที่ท่าน อ.อุบล
ให้พวกเราได้มีการทำ workshop
โดยที่ผ่านมา ท่าน อ.อุบลเป็นผู้บำบัดอาการ
และปัญหาต่างๆ ให้พวกเรา
แต่ครั้งนี้ ท่าน ให้พวกเราได้จัดกลุ่ม
แล้วทำหน้าที่ตามโจทก์ที่ได้รับ
โดยแต่คนที่มีปัญหา ก็ได้รับการบำบัด
เรียกว่าให้ผลสำเร็จกันเกิอบทุกกลุ่ม
แต่พวกเราบางครั้งอาจตีโจทย์กันไม่ออก
และคิดลึกมากไปค่ะ
จึงได้ผลสรุปออกมาแบบ คิดเยอะ
กลายเป็นกลุ่ม เด็กๆ แทน
ที่กลับใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย
ได้ใจความ เรียกว่าพวกเด็กๆ 
มีความคิดเห็นและมุมมองที่
พวกผู้ใหญ่อย่างเราต้องอายทีเดียวค่ะ
เด็กๆ ใช้ถ้อยคำที่เข้าใจง่าย ภาษาพื้นๆ ไม่ต้องคิดลึก
แต่พวกผู้ใหญ่อย่างไร มัวแต่อ้อมค่ะ
แถมใช้ศัพท์สูง เป็นคำพระ แหม อายเด็กจริงๆ

และค่ายนี้ยังเห็นได้ชัดว่า คนมาใหม่
คนที่ยังไม่เคยมาบ้านสวน
เรียกว่าหน้าใหม่ใสกิ๊ก มีจำนวนเยอะทีเดียวค่ะ 
ส่วนหน้าเก่าๆ นี่ถ้าไม่ปรับปรุงตัวเอง
ไม่หันมาเขียนธรรมทาน
ซึ่งท่าน อ.อุบล ย้ำนักย้ำหนา
ให้เราสร้างบุญใหญ่
ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อตัวพวกเราเองทั้งนั้น
นับว่าค่ายนี้ ให้ข้อคิดหลายๆ อย่างค่ะว่า
ถึงจะมาบ่อย หน้าเดิมๆ
หรือเราจะมีความสำคัญแค่ไหน
แต่ก็สามารถหาคนใหม่ได้เสมอ
หากเราไม่ปรับปรุง แก้ไขตัวเอง
นับว่าเป็นค่ายที่เราต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ค่ะ
โดยเฉพาะเรื่องธรรมทาน ซึ่งท่านเน้นมากเป็นพิเศษ


และการช่วยคน
ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องเป็นคนมีความรู้
หรือมีภูมิธรรมสูง ขอให้เรามีความรัก
และเมตตา มีศรัทธา
ที่จะช่วยให้เขาพ้นทุกข์
สำนึกกรรมและเชื่อในกฎแห่งกรรมได้
นั่นก็เพียงพอแล้ว
เสื้อบ้านสวนทุกตัวใส่แล้ว
จะสามารถกันคุณไสย มนต์ดำได้
ตลอดจนพีระมิดจำลองทุกรุ่น
จะช่วยในเรื่องภัยพิบัติได้แน่นอน
ดังที่เราเคยเห็นกันมาเมื่อช่วงน้ำท่วมปีที่แล้ว
ลูกบ้านสวนที่บ้านน้ำท่วม ก็ท่วมน้อยกว่าบ้านข้างๆ 


และช่วงท้าย เป็นการสัมผัสบารมีของพระศรีอาริย์
โดยใครยังมีอาการเจ็บป่วยใดๆ อยู่
ก็ให้เดินผ่านท่าน อ.อุบล
บ้างก็หาย บ้างก็ดีขึ้น
และใครที่ยังเหลืออาการอยู่
ท่าน อาจารย์ก็ให้ถือองค์จี้สฟิงซ์ถุงใหญ่
ซึ่งมีจำนวนหลายองค์ไว้
ปรากฎว่าอาการที่เหลือนั้น
ดีขึ้นกว่าเดิม บางคนก็หายสนิท
ปริมาณและจำนวนของจี้ มีผลมากเลยค่ะ
ซึ่งตรงนี้เวลาที่เราช่วยคน ก็สามารถใช้จิตคิด
ถึงบุคคลที่เรารัก ที่มีจี้ห้อยคอ
หรือคนที่เคยใช้จี้ช่วยคนมามากๆ
อย่างน้องขวัญ พี่เหมี่ยว
พี่อมร และอีกหลายๆ ท่าน
ก็สามารถช่วยผู้คนได้อีกทาง
พลังก็จะมากขึ้นไปด้วย
 
 
 
 

และตอนที่ถึงคิวพี่จิ๋มเดินผ่านท่าน

และอาการยังไม่หายสนิท
ท่านจึงได้ถือถุงจี้ไว้ด้วย
ตุ้ยก็นั่งดูอยู่พร้อมกับใช้จิตคิดตาม
ถึงหลายๆ ท่านที่เคยใช้จี้ช่วยคน มามากมาย
ปรากฎว่าตัวเราที่ยังมีอาการคันขึ้นมา
ก็หายคันแบบกดปุ่มเลยค่ะ
และทุกคนได้สัมผัสบารมีพระศรีอาริย์กันถ้วนหน้า
และค่าย 13 นี้ ก็ได้เสร็จสิ้น
ในเวลาประมาณ 6 โมงกว่า
ซึ่งฝนก็ได้ตกโปรยปรายลงมา
นับเป็นเรื่องอัศจรรย์มากค่ะ
เพราะวันทั้งวัน ครึ้มตลอด
เหมือนฝนจะตก แต่ไม่ตก
แต่พอปิดค่ายฝนก็ตกลงมาเหมือนรู้ค่ะ
ต้องอำลากลับบ้าน ด้วยความรู้สึก
เหมือนทุกครั้งที่จะกลับค่ะ
คือคิดถึง ผูกพัน เหมือนเป็นบ้านของเราเองค่ะ

สรุปความรู้สึกสำหรับค่าย 13 นี้ 
เป็นค่ายที่ท่าน อ.อุบล ให้ทุกคน
ได้ฝึกภาวะความเป็นผู้นำ ให้พวกเรา
ได้ทำหน้าที่ช่วยคนได้ด้วยตัวเราเอง
ให้เน้นการสร้างบุญใหญ่ด้วยธรรมทาน
ย้ำเตือนเรื่องการปกป้อง 3 ร่มโพธิ์ศรี
และ เน้นย้ำถึงอานุภาพขององค์จี้สฟิงซ์
ขอเพียงพวกเรามีใจศรัท มีความรัก
และเมตตากับผู้อื่น
พลังบวกเหล่านี้จะไม่มีสิ่งใด
มาต้านทานได้เลยค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 17:28:24


ความคิดเห็นที่ 536 (1633314)

หลังจากปฐมนิเทศแล้ว แยกย้ายกันทำงาน ตามจุดต่าง ๆ ที่แปลงเกษตร เทปูนฐานเสาอาคารหลังใหม่ จนได้เวลาพักทานอาหารกลางวันมีทั้ง ข้าว แกง ขนมจีน ก๋วยจั๋บ ขนม ผลไม้ ไอติม ฯลฯ หลังจากทานอาหารเสร็จก็เริ่มงานกันต่อ ขนอิฐหักที่เคยขนไปกองไว้ที่โคนต้นมะม่วงโดยมีลุงเบิ้มใช้รถแมคโครตักใส่รถเข็นให้มาถมในหลุมที่ก่ออิฐเสร็จแล้ว จนได้เวลาอาบน้ำ

กิจกรรมภาคกลางคืน มีการแสดง 2 ชุด ชุดแรกเป็นการเต้นรำของคุณอัมและผู้ร่วมแสดง ชุดสีสันสวยงามน่ารัก แต่งแล้วเหมือนสาวรุ่น ๆ กันทุกคน ชุด 2 เป็นการแสดงของผู้กำกับมือทองคุณโฆษิตและเพื่อน ๆ ในชุดสังข์ทองตอนรจนาเลือกคู่ งานนี้สเก็ดดาว รจนา ดร.จุ๋ม และผู้ร่วมแสดงทุกคนมีความสุข เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของผู้ชมทุกท่า

ลานธรรม ท่านอาจารย์อุบลนั่งบนเก้าอี้ชิงช้าถ่ายรูปกับกลุ่ม work shop ทีละกลุ่ม  หลังจากนั้นคุณชิมได้ออกมาเล่าให้ฟังว่า กล่องพัสดุที่ตนเองสั่งจี้ 11 องค์มาส่งจึงรับและวางไว้ที่ร้านของตัวเองซึ่งขายอุปกรณ์ปักเย็บ และตัวเองใส่อยู่ที่คออีก  1 องค์ รวมเป็น 12 องค์ มีลูกค้ามาซื้อสินค้าในร้านอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาจนออกันแน่น ลูกน้องไม่มีเวลากินข้าว จึงนำกล่องจี้ไปไว้ที่อื่นลูกค้ากลับมาเป็นปกติ ไม่เคยขายดีแบบนี้มาก่อน คุณแมวได้ออกมาเล่าถึงคุณสมจิต อยู่สัตหีบ ชลบุรี ใส่จี้ 3 องค์ ไม่เคยรู้เรื่องมโนยิทธิ และระบบของจักรวาลว่าเป็นอย่างไร เมื่อก่อนนั่งสมาธิไม่ได้ แต่ครั้งนี้มีความรู้สึกอยากนั่งสมาธิ ก็นั่งได้ขณะนั่งภาวนา นะมะพะธะ เห็นลำแสงสีขาว จึงพุ่งตามไป จนเห็นในสมาธิว่าระบบจักรวาลเป็นอย่างไ

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 17:44:54


ความคิดเห็นที่ 537 (1633315)

ว๊ะ ว๊ะ ว๊าวว!!...กระทู้นี้ครึกครื้นมากเลย เผลอแป็ป ๆ ไปหน้า 6 ไวมาก 

ต้องรีบเล่ากิจกรรมค่าย 13 ต่อจากเมื่อวานซะแล้ว...

เช้าวันอาทิตย์ ท่านอาจารย์ให้พวกเราร่วมกิจกรรม workshop อีกครั้ง โดยให้แบ่งกลุ่มละ 10 คน 

ให้ช่วยกันซักถามปัญหาของคนในกลุ่ม เช่น สุขภาพ การเงิน การงาน จิตใจ 

กลุ่มเรานำทีมโดยพี่เหมี่ยว พวกเราเริ่มปฏิบัติการร่วมกันช่วยบำบัด  

เริ่มจากคนที่มีอาการเจ็บป่วยให้เห็นชัดเจนก่อน

คนแรก คือ แม่น้อย (แม่คุณแหวน) เป็นคนแรกที่มีอาการปวดเข่า ได้สารภาพ อาการดีขึ้น 60% เมื่อใช้รหัส อ. อุบลช่วยด้วยขอให้นึกกรรมออก ก็นึกได้ทันทีว่าเคยเหยียบเหรียญ และเคยตีขาหลาน อาการก็หาย 100%

คนต่อมาก็บำบัดพี่นก สุรดา ที่มีอาการเส้นเอ็นพลิกที่คอและปวดไหล่ เมื่อรับสารภาพอาการดีขึ้น 95% และพวกเราทั้ง 10 คนได้รวมจี้กัน จำนวน 14 องค์ แล้วให้พี่นกไปวางไปที่คอและบ่า อาการที่เป็นก็หาย

คุณก็อต มีอาการระคายเคืองตาขวา เนื่องจากมีแมลงบินเข้าตา เมื่อนำจี้ทั้ง 14 องค์ไปแนบที่ตา ทุกคนถึงกับตกใจที่อาการดีขึ้นอย่างชัดเจน

พี่อ๋อย มีอาการปวดแขนขวา รับสารภาพว่าเคยใช้มือหยิกตีเพื่อน สามี ลูก และใช้มือตอกบัตรเข้างานแทนเพื่อน เมื่อรับสารภาพก็หายเช่นกัน

ตอนนั้นพี่แหม่มก็เริ่มปวดแขนขึ้นมา นึกกรรมได้จากพี่อ๋อยว่าเคยตอกบัตรแทนเพื่อนเหมือนกัน ก็ขออโหสิ อาการหายทันที

และพี่เหมี่ยวที่ปวดขา ก็หายขณะที่นั่งฟังเพื่อน ๆ สารภาพกรรม

คนสุดท้าย คือพี่เจี๊ยบ มีอาการคันที่เข่าขวา ที่เกิดจากการแผลที่หกล้ม พอแผลหายก็คัน หมอก็หาสาเหตุไม่พบ นานเข้าผิวหนังที่คันก็มีสีเข้มและหนาขึ้น เมื่อสารภาพกรรมที่ได้ใช้เท้าเป็นมือที่ 3 ใช้ยาฆ่าแมลงฉีดปลวกตายยกรัง และมักโกรธ โมโหคนในบ้านบ่อย ๆ อาการคันก็ดีขึ้นมาก

พลังของจี้มาจากพลังอนันตจักรวาลที่ส่งมาที่จี้ทุกชิ้น ถ้ามีหลายองค์พลังก็จะคูณเพิ่ม

และถ้าทำบาปทำชั่ว ก็จะเร่งให้เจอเคราะห์เร็วขึ้น เพื่อช่วยให้เราสำนึกในกรรมได้

พลังของจี้แต่ละชิ้นเป็นพลังที่มาจากอนันตจักรวาลที่นำมารวมกันมา

วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้มาเล่าใหม่ค่ะ...อิอิ

บายๆ ลาก่อน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 17:47:07


ความคิดเห็นที่ 538 (1633320)

 ข่าวดี!!!!

สัปดาห์นี้ 13-14ตุลาคม

บ้านสวนพีระมิด

จะมีกิจกรรมพิเศษ

ชมบารมีพระศรีอาริย์

ส่วนกิจกรรมลับสมองอื่นๆ

หรือจะมีอะไรพิเศษนั้น

ขออุบเป็นความลับไว้ก่อนเด้ออ 

โอ้โฮ อ.อุบลเจ้าขา

หนูต้องกราบขอบพระุคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ  หนูรอโอกาสนี้มา 2 วัน นับตั้งแต่วันจันทร์

เพื่อนที่จะไปด้วยก็ถามทุกวันว่าอาทิตย์นี้จะไปได้ไหม หนูก็ตอบว่าไม่ทราบว่า อาจารย์จะอนุญาตเมื่อไหร่

พอมาเห็นข้อความนี้ อาจารย์ค๊ะหนูจะร้องให้ ขนลุุก ปลื้มปิติมากเลยค่ะ

หนูรีบโทรบอกเพื่อนและพี่ที่เตรียมตัวจะไป เค้าดีใจกันใหญ่เลยค่ะ พรุ่งนี้หนูจะเข้าไปเขียนขออนุญาต

เพราะตอนนี้ขอดูรายชื่อก่อนว่าจะมีใครบ้างหนูต้องกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์ บารมีพระศรีอาริย์ อ.อุบล-อ.มงคล  ศุภาเดชาภรณ์และคุณท๊อป ที่ให้โอกาสนี้แก่หนูและเพื่อน ๆ พี่ ๆ และขอขอบคุณคุณธนาที่เป็นสพานบุญมาบอกเรื่องนี้ให้ทราบค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญ/วรินทร์ธร รัศมีจรัสฐากร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 18:20:21


ความคิดเห็นที่ 539 (1633321)

 

ค่ายฯ 13

 คนที่จะมาร่วมงานนี้

ควรเป็นคนที่

มีหน้าที่สำคัญ มั่นใจ มั่นคง

ไม่หลงไหล หลงทาง

พร้อมแล้ว

ที่จะเป็นผู้นำ รู้หน้าที่ของตน

ไม่ใช่มาเพราะอยากรู้

ความลับอะไรบางอย่างเท่านั้น

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

 

โอ้ย...ขอบอกว่า อาหาร ก็เหมือนภูเขา

กินเท่าไหรก็เหลือเฟือ...สาธุ  ๆ ๆ นะคะ

เรียกได้ว่า

ที่อยู่  ที่กิน อุดมสมบูรณ์

สุขกาย  สบายท้องกันทั่วหน้า

แต่

ก็ยังมีบางท่าน ที่ยังคงไว้ ซึ่ง อัตตา

นู่น นี่ นั่น ลดละเลิก ไม่ได้ในเรื่องนี้

ที่บ้านสวนพิรามิด

จัดได้ว่าเป็นสถานที่ฝึกเกลาจิตใจ

โดยให้มีจิตเป็นสาธารณะ

( เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว )

สำหรับลูกบ้านสวนฯ ตัวจริง เสียงจริง

ที่ทุ่มเท  โดยที่พูดได้ว่า

ให้

อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย

โดยมี อ.อุบล เป็นแบบอย่างเสมอ

555++ พูดแล้วขำ

ทำงาน เหนื่อย ๆๆ  เหมื่อย ๆๆ

แต่เมื่อหันมามอง แม่ทัพ

ก็มีกำลังใจ ว่า

สู้โว้ย !!!!

จะไม่ให้สู็้ได้ยังงัย...

ผลงานที่ออกมา เห็นแล้วชื่นอก ชื่นใจ

แล้วอีกอย่าง  

ท่าทีของ แม่ทัพ

ซึ่งทำงานมากกว่า หนักกว่า

ไม่มีทีท่า อิดโรย เหน็ดเหนื่อ

โห...แม่เจ้าเว้ย...

ใส่ถ่านยี่ห้อ อะไรก้นนี่

ก็มีการหยอกล้อ 

ท่าน อ.อุบล ว่า

อ.ใส่ถ่านไว้ที่ไหนคะ

ขอถอดถ่านออก สักก้อนได้ไหมคะ

555++

ทั้ง ๆ ที่ รู้ว่า

ร้อน ก็ ร้อน

เหมื่อย ก็ เหมื่อย

แต่ท่าน คือ ผู้ที่มี บารมีอย่างสุด ๆ

( กำลังใจ สุดยอด )

พวกเราก็เลยได้

บารมีจากท่าน ไปด้วย เย้ย.ย.ยย.

จะเห็นได้ว่า

อ.อุบล ท่านละอัตตา

ให้พวกเราได้เห็นกันเป็นประจำ

เฮ่อ...ฮ่า...เห็นแล้วก็อดที่จะนำภาพ

มาให้ชม  ให้ชื่นใจกันนะคะ

เป็นวันที่ อ.อุบลไปเลืือกซื้อต้นไม้

เพื่อมาประดับบริเวณ ธรรมจักร

อ.อุบลช่วยแม่ค้า จัดกระถางดอกไม้อ่ะค่ะ

555++

นี่คือ สุดยอดตัวอย่างที่ทำให้เห็นถึง

บุคคลที่จะมีภาวะ ผู้นำ

คือไม่ใช่ว่า

อ.อุบล จะจ่ายเงินเพื่อ ออกคำสั่งซื้ออย่างเดียว

เหมือนลูกค้าคนอื่น ๆ

แล้วพวกเรา  ( บางคน )

ที่คิดว่า เสียเงิน มาเข้าค่ายฯ

ก็คงต้อง ชี้นิ้วได้

คุณคิดผิด....เพราะลูกบ้านสวนฯ

ยังงัยก็ได้ กับเรื่อง

การกิน การอยู๋ รวมถึงเรื่องที่พัก

( ขอฝากกับสมาชิก คนใหม่ ๆ )

ที่ยังศึกษา หรือ รู้จัก

บ้านสวนพิรามิด ไม่ดีพอ

หากต้องการสบาย ก็อยู่บ้าน

ไม่ต้องมารู้จัก หรือเตรียมความพร้อม

ที่พวกเราจะอาจจะต้องเผชิญ

เมื่อภัยพิบัติมาถึง

เวลาเหลือน้อยแล้ว

เปลี่ยนกันเถอะนะคะ

และอยากฝาก สโลแกน ไว้สักประโยค

แต่ฟังดูอาจจะไม่เข้าหู

เปลี่ยนสันดาน  เหตุการณ์เปลี่ยน

( เดี๋ยวมาต่อนะะคะ )

 

  

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 18:22:59


ความคิดเห็นที่ 540 (1633322)

สวัสดีค่ะ


ลินขอเล่าธรรมทานที่บ้านสวนของงานค่าย 13 ช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมานะค่ะ ลินมาถึงช่วงวันศุกร์เย็นค่ะ

วันแรกที่ไปถึงประหลาดใจมากค่ะ เห็นบริเวณหน้าห้องน้ำตรงด้านหน้า มีการจัดแต่งสวนไว้อย่างสวยงาม มากมาก ค่ะ กองดินกองโตหายไป พื้นที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนน่ารักมากมาก ที่อยู่ของน้องไก่ ก้อดูกระทัดรัดน่ารักทีเดียวเชียว ^^ มีน้องลิง ห้อยโหน อยู่ใต้ต้นไม้ นำเอาปูนที่ใช้วางท่อระบายน้ำมาดัดแปลงเป็นเก้าอี้นั่งล้อมรอบต้นไม้ ทำให้พวกเรามีที่นั่งเพิ่มมากขึนด้วยค่ะ ทั้งหมดนี้ เป็นฝีมือของท่านอาจารย์ ร่วมกับ ลุงเบิ้ม, คุณแหวน, คุณแม่ของคุณแหวน เริ่มทำกันตั้งแต่วันจันทร์ค่ะ พอวันพุธ ก็มีพี่แมว พอวันพฤหัส น้องปอ พี่อมร พี่เหมี่ยว ก็มาร่วมอีก พอตกเย็นคุณพ่อ (อ.พันธ์) กะ คุณแม่ (อ.นี) ก้อมาร่วมกันช่วยกันทำสวนแห่งนี้ค่ะ
ลินไปถึงก็ ได้ช่วยงานเก็บกวาดเศษใบไม่ในองค์พีระมิด ที่เรียงรายตรงทางเข้าบ้านสวนค่ะ และช่วยงานในครัว อีกนิดหน่อย ท่านอาจารย์ยังคงนำดอกไม้ประดิษฐ์ มาจัดบริเวณสวนต่อค่ะ วันศุกร์นี้เริ่มมีคนมามากแล้ว พวกเราช่วยกันจัดต่อไปจนมืดค่ำ มีความสุขที่ได้ทำค่ะ ^_____^

วันเสาร์เช้าพวกเราตื่นมาออกกำลังกายบริเวณสวนใหม่กันค่ะ หลังจากนั้นก็ไปถากหญ้าบริเวณสวนผัก และ ไร่เผือกกันค่ะ ได้เหงื่อกันเยอะทีเดียว เวลา 8.30 น.ท่านอาจารย์ก็ได้มากล่าวเปิดค่าย 13 ค่ะ ท่านอาจารย์​มี คำแนะนำใหม่มาให้พวกเราด้วยค่ะ ท่านบอกให้พวกเรา ท่องบทบูชา พระศรีอารย์ (เมตตานะ ศรีอาริยะเมตโต พุทธานะมะ สันติเกโล อนาคามิ) ให้ได้ 99 จบติดต่อกัน 9 วันค่ะ เราจะผิวพรรณวรรณะ ผ่องใส มีจิตใจเป็นสมาธิ สามารถท่องได้ตลอดวัน ตั้งแต่ตื่นเช้า ทำธุระส่วนตัว เดินทาง คือสามารถท่องได้ทุกเวลาค่ะ วัน 9 โมงเช้ารับประทานอาหารเช้ากัน เช้านี้มีก๋วยจั๊บแสนอร่อยจากพี่อัม ค่ะ ขอย้ำ อร่อยมากจริงจริงค่ะ ลินคอนเฟิม ^^ ขอบคุณพี่อัมด้วยนะค่ะ หลังจากอิ่มอร่อยจากมื้อเช้า พวกเราก็ลุยงานหนักกันต่อเลยค่ะ มีงานเทปูนบริเวณโรงทานเก่าค่ะ มีงานตัดลวด ผูกลวดทำคานค่ะ งานนี้มีช่างเสริฐเป็น คุณครูช่วยสอนค่ะ พวกเราเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว จนทำได้กันทั้งหมด 8 คาน (เช้า - เย็น) ค่ะ ช่วงกลางวันมีขนมจีนแสนอร่อย อีกตามเคย ^^ ตกบ่ายยังลุยงานผูกลวดทำคานต่อ ระหว่างที่เราผูกลวดกัน ก็มีการท่องบทบูชาพระศรีอาร์ยไปด้วยค่ะ มีท่านอาจารย์มานั่งให้กำลังใจ เรียกลมให้พวกเราได้ด้วยค่ะ ช่วงนั้นอากาศร้อนอบอ้าว ท่านบอกให้ท่องเยอะเยอะ แล้วจะเย็น หลังจากนั้น หนูก็รู้สึกว่ามีลมเย็นเย็น ท่านก็ถามว่า เย็นไหม พอเงยหน้าขึ้นดู ปรากฏว่าท่านไปนำพัดลมมาเปิดให้พวกเรา พวกเราเลยได้รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ เพิ่มมาด้วยค่ะนอกจากความเย็นแล้ว ขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ ^_____^

ช่วงเย็น มีกิจกรรม workshop ลินอยู่กลุ่มอ. อภิชัยค่ะ พวกเราได้หัวข้อคำถาม "ถ้ามีคนมาปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ท่านเคารพนับถือ อย่างเช่น พระพุทธองค์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านเคารพท่านจะโต้ตอบเค้าว่าอย่างไร " กลุ่มอื่นๆ ก็มีคำถามที่แตกต่างกันออกไปค่ะ เช่น ปรามาสท่านอาจารย์อุบล, ท่านดร.อาจองและ ท่าน ว.วชิรเมธี ด้วยค่ะ
 

นอกจากนี้มี มันปิ้ง อร่อย อร่อย ระหว่างทำกิจกรรมด้วยค่ะ 

เดี่๋ยวมาเหลาต่อนะคร้าา ^__________^

ผู้แสดงความคิดเห็น ลิน (อลินนันท์ อัครวิชนนท์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 18:28:09


ความคิดเห็นที่ 541 (1633324)

ถึงบ้านสวนฯแปดโมงกว่าค่ะ ลงทะเบียนเสร็จคุณแมวให้พักที่พีระมิดสีขาวองค์กลาง ก็ต้องร้องโอ้โห...แม่เจ้า สวรรค์บนดินแท้ๆ มาบ้านสวนฯแต่ละครั้ง จะงดงามวิจิตรมากขึ้นเรื่อยๆด้วยฝีมือท่านอ.อุบล เหมือนไปเที่ยวรีสอร์ทมากกว่าจะเป็นสถานที่สร้างบุญ และบรรยากาศที่ สุดยอดดด...หากใครได้ไปแดนบุญแห่งบ้านสวนฯ ต้องประทับใจแน่นอนค่ะ

มัวแต่ชื่นชมความน่ารักของสิงสาราสัตว์ ต้องรีบสร้างบุญก่อน รีบขึ้นไปทำความสะอาดบนวิหาร เพราะข้างบนนั้นมีนกพิราบมาอาศัยหลายตัวและถ่ายมูลลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้พื้นสกปรกและเหม็น เสร็จแล้วก็ไปยืนต่อแถวส่งถังปูน มีญาติธรรมหน้าใหม่ๆมากันมาก มากันเป็นครอบครัว น่ารักมากค่ะ หลายคนไม่เคยทำไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต แต่ทุกคนก็เต็มที่ไม่มีใครยอมใคร เทปูนเสร็จ ก็ไปช่วยกันผูกลวดอย่างสนุกสนาน

อ๋อยมาบ้านสวนฯทุกครั้งก็ประทับใจในกิจกรรมบุญทุกบุญของบ้านสวนฯ คงเป็นที่เดียวในโลกค่ะ ที่ผู้คนแย่งกันสร้างบุญแบบนี้  

ชมบารมีพระศรีอาริย์

ตื่นเต้นดีใจไปกับป้าพร ที่มีอาการหูตึงต้องใส่เครื่องช่วยฟังตลอดแต่ก็ยังได้ยินไม่ถนัด เพราะถามอย่างป้าจะตอบอีกอย่าง ได้หายเป็นที่อัศจรรย์ หลังคล้องจี้องค์เทพสฟิงซ์ของคุณชิม ยิ่งเขยิบเข้าใกล้ท่านอาจารย์ ป้าพรบอกด้วยเสียงตื่นเต้นสั่นเครือว่า ได้ยินเสียงอาจารย์ชัดแล้วๆ ก้มกราบท่าน ด้วยความดีใจ ระหว่างนั้นอ๋อยขนลุกไปทั้งตัวหัวพรึ่บเลยอ่ะค่ะ ยินดีกับป้าพรด้วยนะคะ เอ...แต่คนที่หูไม่ตึง เวลาท่านอาจารย์ถามอย่างก็ตอบอีกอย่าง ก้อมีให้เห็นอยู่นะคะ อิอิ

กิจกรรม workshop

ดีมากๆเลยค่ะ ได้เห็นความสามัคคีร่วมใจรูปแบบใหม่ สุมหัวกันเต็มที่กับหัวข้อที่แต่ละกลุ่มได้รับมา แข่งกับเวลาที่กำหนด หมดเวลาต้องส่งงานทันที เหมือนทำข้อสอบเลยอ่ะค่ะ ลุ้นๆๆ และก็มีแอบชำเลืองมองกลุ่มอื่นๆ ทุกคนมีความตั้งใจจริงจัง แบ่บบ..ไม่ยอมเสียเวลากันเล้ย เข้าค่ายครั้งนี้ แก้มแทบปริตามเคย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 18:56:30


ความคิดเห็นที่ 542 (1633325)

 

เปลี่ยนสันดาน  เหตุการณ์เปลี่ยน

 บ้านสวนพิรามิด

เปรียบเสมือน วัคซีน

และในขณะที่ให้วัคซีน

พวกเรา เจ็บ

และหากยอมรับความเจ็บได้ 

หมายถึง เปลี่ยนตัวเองได้

ความสุข อย่างถาวร ก็จะเป็นของเรา

ค่ายฯ 13 นี้

ก็ยังคงเห็น

ความเมตตา  บนความเด็ดขาด

ของท่าน อ.อุบล อยู่อีก

ทั้งนี้ท่านได้ให้โอกาส

อบรม สั่งสอน ตอกย้ำ

ความเป็น ผู้นำ ผู้ให้กับพวกเรา

และขณะนี้จะเห็ฯได้ว่า

ท่าน เด็ด บัวเหล่าที่ 3 และ 4

ออกจาก ระบบ

ครั้งนี้  คงเหลือไว้เพียงบัว เหล่าที่ 1 และ 2

และก็ยังคงคิด ต่ออีกนะคะว่า

การที่ท่านได้ทำ Workshop ครั้งนี้

เป็นการวัดผลระดับหนึ่ง

ให้ทุกท่านได้ ระดมสมอง

เพื่อการพัฒนา จริง ๆ

ขอบอกค่ะ ว่า สนุก และได้สาระมากมาย

เฮ่อ ..น่าเสียดายที่ได้เข้าร่วมกลุ่ม ช่วงสุดท้าย

แต่ก็มองเห็นภาพค่ะ 

ว่า สิ่งที่ได้มากมาย...โดยเริ่มจากตัวเรา

ที่ได้มีโอกาส พัฒนาจิต  พัฒนาความคิดอ่าน

ทำให้รู้รัก สามัคคี เป็นๆันเฟืองเล็ก ๆ ที่ไม่เล็ก

ในการพัฒนา และ รักษาไว้ซึ่ง

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ที่พวกเราบอกว่า รัก และ หวงแหน

ท่าน อ.อุบล ได้นำ คลิป VDO สารคดี

เกี่ยวกับสัตว์ มาให้ได้ชมกัน

เอาเป็นว่า  ดูแล้ว หัวใจ หล่นตุ๊บ

และเปรียบ เทียบ กับ การกระทำของเรา อย่างชัดเจนค่ะ

โปรดรอสักครู่ จะนำคลิปมาฝาก

เด็กนอก ( ค่ายฯ ) ให้ได้ชมกันนะคะ




 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 19:00:31


ความคิดเห็นที่ 543 (1633326)

 ธรรมทานของแม่ตั๊ก

ชื่อ ทองดี ทิมขาวประเสริฐ (สาว)
        วันไปค่าย 13 ไปวันศุกร์ที่ 5/10/55 ถึงบ้านสวนประมาณ 4โมงเย็น พอลงจากรถตุ๊กๆ ก็เจออาจารย์อุบลพอดี ก็เข้าไปกราบก็รู้สึกเหมือนเดิมที่เคยเป็นมา คือเกิดปิติน้ำตาไหลพูดไม่ออก อาจารย์ถามว่ากินข้าวมากันหรือยัง น้องตั๊กเป็นคนตอบว่ายังไม่ได้กิน แต่ซื้อขนมกินมาแล้ว อาจารย์ก็บอกให้ไปกินข้าว ซึ้งใจมากในความห่วงใยของอาจารย์ที่มีต่อลูกหลาน ต่อจากนั้นได้สร้างบุญด้วยแรงกายคือ เทปูนฐานอาคารหลังใหม่ หลังจากนั้นก็ได้เจอกับอาจารย์มงคล ท่านก็มีเมตตาถามถึงหลวงพ่อตุ้ม พ่อน้องตั๊กรู้สึกใจชื้นขึ้นมามาก และต่อไปก็ไปสร้างบุญด้วยแรงกายมี ดายหญ้า ปลูกมัน ปลูกข่าตะไคร้ กะชาย ขุดร่องเผือก ประทับใจอีกตอนหนึ่งคือ ตอนแบ่งกลุ่มมันรู้สึกคุ้นเคยกันมากขึ้น จนรู้สึกอบอุ่นเหมือนทุกคนเป็นลูกพ่อเดียวแม่เดียวกันอย่างนั้นเลย แต่หันมามองดูแม่ ท่านเสียสละเวลาทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ท่านใช้เสียงมากจนเสียงแหบแห้ง ก็เพื่อจะขนลูกขนหลานให้พ้นทุกข์ เข้านิพพาน ลูกหลานเป็นหนี้บุญคุณของครอบครัวท่านมาก จึงจะขอทำความดี ทำตัวให้มีประโยชน์ ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทุกข์ให้มากขึ้น 
           ขอบคุณพระพุทธองค์ ขอบคุณอาจารย์อุบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 19:06:16


ความคิดเห็นที่ 544 (1633328)

 ธรรมทานของค่าย 13       

ลูกขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์ และท่านเทวดาที่รักษาท่านและครอบครัว ที่ท่านเมตตาให้โอกาสลูกและครอบครัวได้มาร่วมค่าย13 นี้ทั้งๆที่คุณสมบัติกระพร่องกระแพร่ง แต่ลูกภูมิใจและ ดีใจ จะปฏิบัติตามที่ท่านสอนสั่ง แนะนำทุกประการเจ้าค่ะ  

ลูกขออนุญาตินำหนึ่งในสิ่งที่ระทึกขวัญ แต่ประทับใจจากค่าย 13นี้ คือข้อคิดที่ได้จากการชม คลิบดังนี้เจ้าค่ะ

Clipที่ 1: แสดงแสนยานุภาพอันน่าหยดหยอง และเหลือเชื่อของงูที่สามารถกลืนกินเหยื่อที่ใหญ่กว่า เช่น คน จระเข้ ข้อคิดคือจงอย่าประมาท และรักษาความดีเป็นเกราะแก้วกำบังตัวจะได้ไม่ถูกกำจัดโดยการโดนกิน เพราะพวกเค้าอาสามารอคอยปฏิบัติการในภัยพิบัติครั้งนี้แล้ว

Clipที่ 2: ลูกควายที่โดนฝูงสิงโต ตามมาด้วยจระเข้ รุมทึ้งเพื่อเป็นอาหาร แต่ในที่สุด กลับรอดราวปาฏิหารย์ ด้วยความกล้าหาญ องอาจ และรับผิดชอบของจ่าฝูงควาย เพียงลำพัง ท่ามกลางฝูงควายนับร้อยที่ทำได้เพียงแต่เฝ้ามองใกล้ๆตาปริบๆด้วยความกลัวๆกล้าๆ

เรื่องนี้ให้ข้อคิดว่า: 1) ศัตรูจะมุ่งทำร้ายจุดที่อ่อนแอที่สุดเป็นอันดับแรก 2) ถ้าพรรคพวกที่เหลือมีสติ มีน้ำใจ และความกล้าหาญที่จะเข้าไปช่วยให้เร็วที่สุด ก็จะทันท่วงที และเสียหาย/บาดเจ็บน้อยกว่านี้ ในกรณีนี้สถานการณ์อาจพลิกผัน และสำเร็จได้เร็วกว่านี้ ถ้าเพียงแต่บรรดาฝูงควายเป็นร้อยที่เหลือจะรวบรวมความกล้ากรูกันเข้าไปรุมกระทืบเหล่าฝูงสิงโต เพียง 4 – 5ตัวให้กระเจิงไปเลย ฉันใดก็ฉันนั้น พวกเราก็เช่นกัน จงอย่านิ่งดูดาย ไม่สู้ไม่ดิ้นรน ไม่ปกป้อง คิดว่าธุระไม่ใช่ แต่จงรวบรวมความกล้าที่จะร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ครูบาอาจารย์ ผู้ทรงศีลทรงธรรม ทรงคุณงามความดี ท่านอาจารย์อุบล สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตรย์ ต้องกางปีกปกป้อง เวลาที่มีคนโจมตี ปรามาส ต้องตอบโต้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง หนักหน่วง ต่อเนื่อง และทำให้สุดความสามารถ แสดงให้ฝ่ายตรงข้ามประจักษ์ว่าเราไม่ยอมให้เขาทำเยี่ยงนี้ แสดงกระแสต้านให้ถึงที่สุด จึงจะถือว่าเป็นผู้มีความกตัญญูรู้คุณ

Clipที่ 3: งูและจระเข้ ผลัดกันกินซึ่งกันและกัน

ข้อคิดคือ: 1) เป็นกงกรรมกงเกวียนไม่รู้จบ อยากยุติวงจรอบาตว์นี้ก็ต้องเปลี่ยนตนเองในฉับพลันทันที่ ปฏิบัติตนมุ่งสู่นิพพานให้ได้ในชาตินี้ 2) กระตุกใจผู้ที่ยังไม่เลิกกินเนื้อสัตว์ด้วยว่า ภัยพิบัติครั้งนี้แหละ ที่เค้าจะมากินเราเฉกเช่นเดียวกันค่ะ

Clipที่ 4: สิงโตพยายามจะกินม้าลาย แบบตัวๆ แต่ม้าลายสู้ตายไม่ยอมเป็นอันขาด ถึงแม้จะสู้อยู่นานเพราะเพียงลำพัง แต่ท้านที่สุดก็รอด ข้อคิดคือ: 1) ต้องสู้ ต้องสู้จึงจะชนะ 2) ถ้าเราแล้งน้ำใจปล่อยให้เพื่อนสู้เพียงลำพัง ทั้งๆที่เราก็อาจช่วยได้ กรรมก็จะสนองเรากลับ เวลาเราต้องการความช่วยเหลือ เราก็จะถูกทอดทิ้งให้สู้เพียงลำพัง อย่างเดียวดาย  จะโชคดีรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เพราะฉะนั้น จงมีน้ำใจๆ  

Clipที่5: ปลาฉลามกินคนต่อหน้าต่อตาคนรัก ทั้งๆที่ยืนบนบกชายหาดแท้ๆ ข้อคิดจะคล้ายๆกับ clip ที่2 ที่ท่านอ.อุบลสอนว่า ผู้ที่ยังไม่เลิกกินเนื้อสัตว์ด้วยว่า ภัยพิบัติครั้งนี้แหละ ที่เค้าจะมากินเราเฉกเช่นเดียวกันค่ะ ให้ดูเหตุการณ์สึนามิที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างค่ะ

Clipที่ 6และ 7: เกี่ยวกับสิงโตตะปปคนกินเป็นเหยื่อทั้งจากในกรง และที่สวนสัตว์เปิด ข้อคิดคือ:  1) ความประมาท ความชะล่าใจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 2) ขาดสติ และสัญชาติญาณ ปฏิพาน ไหวพริบ ความว่องไวในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า กระหน่ำด้วยความเห็นแก่ตัว รักตัวกลัวตายของคน  จึงนำมาซึ่งผลร้ายคือการสูญเสียชีวิต 

Clipที่ 8: บันทึกภาพผีกระสือได้ในย่านจังหวัดปทุมธานี และพบได้โดยชาวบ้านหลายๆคนในละแวกนั้น แต่ยังโชคดีที่เค้ายังกินแค่นก แต่ต่อไปไม่แน่ เพราะพวกเขาก็เป็นหนึ่งในบรรดาผีจากนรกที่อาสามากำจัดผู้ที่ยังผิดศีล อ.อุบลว่า ผีกระสือเขาจะรู้ว่าใครกลัว และเลือกที่ตรงดิ่งจะมาจัดการโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อเรารักษาความดี ถือศีลให้มั่นคง งดเนื้อสัตว์ จงมั่นใจเถิดว่าพลังแห่งความดี และพระพุทธคุณ (พระคาถาลุงพุฒ พระคาถาศรีอริยเมตไตร รหัสอ.อุบลช่วยด้วย) จะเป็นเกราะแก้วป้องกันภัยคุ้มกันตัว ผีกระสือ และหรือผีอื่นๆก็มามีความจำเป็นต้องมายุ่งกับเราเองค่ะ

ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักในทันทีทันใดว่าเราต้องยึดมั่นในความดี เมื่อท่านอาจารย์อุบลสอน บอกกล่าวให้ทำอะไร จงภูมิใจดีใจ และทำทันที่ไม่ต้องสงสัย ใดใด เพราะหมดทั้งชีวิตของท่านอาจารย์อุบลนี้มีแต่ให้ เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจอันงดงาม เพราะมันสะท้อนให้พวกเราเห็นในแววตา ในรอยยิ้ม ในสัมผัส ว่ามีแต่ความรักความเมตตา ความหวังดีไม่มีประมาณเลยค่ะ

(รู้สึกลูกจะเรียงลำดับผิดขออภัยอย่างน่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยเจ้าค่ะ)

 

ฮาฮ้า ขอเบรคกลับบ้านก่อนนะเจ้าคะ จะมืดแย้ว จะมาต่อเจ้าค่ะ


กราบ กราบ กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 19:09:21


ความคิดเห็นที่ 545 (1633329)

 นางสาวกัลยาณี  ทิมขาวประเสริฐ (ตั๊ก)

กิจกรรมเข้าค่าย13วันที่ 6-7 ต.ค 55 
        

      ก่อนอื่นหนูต้องกราบขอบพระคุณองสมเด็จพระศรีอาริยเมตตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่รักษาตัวท่านอ.อุบลและท่านอ.อุบล ที่เมตตาให้หนูไปร่วมกิจกรรมเข้าค่าย 13 ครั้งนี้ค่ะ
         ตั๊กเดินทางไปถึงบ้านสวนวันที่ 5 ถึงเวลาสี่โมงครึ่ง ก็ได้ไปร่วมช่วยพี่ๆเทฐานเสาอาคาร แล้วก็ได้สังเกตุเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างมากที่บ้านสวนพีระมิด ในช่วงเวลาประมาณสองเดือนที่ไม่ได้ไปบ้านสวน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายและรวดเร็วจนผิดหูผิดตาไปหมด แล้วก็ได้เห็นน้ำตกเล็กๆประดับด้วยดอกไม้หลากสีรวมทั้งสัตว์เล็กสัตว์น้อย โดยเฉพาะด้านหลังเวทีที่เป็นกองดิน ตอนนี้ท่านอ.เนรมิตให้เป็นสวรรค์บนพื้นดินไปแล้วและมีการนำท่อระบายน้ำมาวางเป็นที่นั่งเล่น อันนี้ชอบมากๆเลยค่ะ ซุ้มไก่ที่เคยวางอยู่โดยที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร อ.ก็ได้นำไปแขวนเป็นโมบายอยู่บนต้นกระท้อนประดับด้วยดอกไม้ บริเณพื้นที่ที่อยู่หน้าองค์พีระมิด อ.ก็ได้นำกระเบื้องไปปูเป็นพื้นและมีโต๊ะหินอ่อนไว้นั่งเล่น ซึ่งกลายเป็นที่ชุมนุมเล็กๆแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของแต่ละคน ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันเลยค่ะ
    

          เช้าวันเสาร์ก่อนที่พวกเราจะไปทำงานกันก็ได้ออกกำลังกายกันก่อน จากนั้นก็ได้ไปถางหญ้าที่แปลงผัก แล้วพักทานข้าวจากนั้นก็ฟังอ. ปฐมนิเทศน์ค่าย 13 จากนั้นก็ได้ไปช่วยกันทำฐานเสาอาคาร ยืนเรียงกันส่งถังปูนแล้วก็สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์กันไป ทำให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น สติก็อยู่กับตัวมากขึ้น พอช่วงเย็นก็มีการแสดงสองชุด มีเวลาซ้อมกันน้อยมาก แต่ทุกคนก็ทำออกมาได้อย่างสวนงาม และอ.ก็ได้ให้จับกลุ่มทำ workshop เกี่ยวกับการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทุกคนก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ก็รู้สึกว่าทุกคนต่างก็มีความคิดเห็นที่คล้ายๆกัน จากนั้นอ.ก็ได้พาไปนั่งบนิเวณสวนหน้าองค์พีระมิด ซึ่งมีอาหารให้เลือกทานมากมายทั้งมันเผา ฟักทองเผาและขนมอื่นๆอีกเยอะมาก               
         บรรยากาศดูอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันเลยค่ะ แล้วแต่ละคนก็ได้มาเล่าประสบการณ์ของตนเอง มีพี่ชิมได้ออกมาเล่าเกี่ยวกับจี้องค์เทพสฟิงซ์ เห็นพี่เค้าคล้องจี้หลายองค์มาก ตัวเองก็คิดว่าคงบูชาไปฝากคนอื่นด้วย แต่ที่ไหนได้ของตัวเองหมดเลย ตั๊กเองก็สงสัยเหมือนกันค่ะว่าคล้องหนึ่งองค์กับหลายองค์ผลมันแตกต่างกันอย่างไร สุดท้ายก็มาได้คำตอบจากอ.ว่าจี้หนึ่งองค์จะดึงดูดพลังจากจักรวาลมาไว้ที่จี้แล้วถ้ามีจี้หลายองค์จี้แต่ละองค์ก็จะดึงดูดพลังงานมาซึ่งจะทำให้มีพลังมากมายมหาศาล แต่ถ้าผู้ที่มีจี้หนึ่งองค์เราสามารถเพิ่มพลังให้กับจี้ของเราได้ โดยการนึกถึงจี้ของคนที่่เรารัก พลังจากจี้ของคนนั้นก็จะมาเสริมพลังให้กับจี้ของเรา แล้วยิ่งเป็นผู้ที่ใช้จี้รักษาคนมามากมายแล้ว พลังก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น แล้วอ.ก็ให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยอยู่ออกมาแล้วนำจี้ของพี่ชิมซึ่งมีทั้งหมด
9 องค์ ไปคล้อง ปรากฎว่ามีอาการหายกันเกือบทุกคน โดยอ.ให้จับเวลานับถึงสิบ บางคนไม่ถึงสิบก็หายแล้ว บางคนถึงสิบก็หาย และบางคนก็มากกว่าสิบแต่ไม่ถึง 1 นาทีก็หาย และผู้ที่ทำให้ทุกคนต้องอึ้งไปตามๆกันก็คือ ป้าพรกับน้องลิน ป้าพรจะมีอาการหูตึง อ.ถามอย่างหนึ่งก็ไปตอบอีกอย่างหนึ่ง พอสวมจี้แล้วหูที่ตึงอยู่ก็ได้ยินเสียงขึ้นมาอย่างชัดเจน ใบหน้าป้าพรมีความสุขมากๆเลยค่ะ ทุกคนต่างก็ยินดีและมีความสุข ส่วนน้องลินมีอาการเท้าบิดไปข้างในตั้งแต่เกิด อ.ให้สวมจี้แล้วเดินไปเดินมาหลายรอบ เท้าของน้องลินก็ค่อยๆตรงขึ้นเรื่อยๆจนเดินเป็นปกติ เคสนี้ก็สร้างความฮือฮาให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก และพี่อีกคนนึง มีเนื้องอกเป็นก้อนที่เข่า พอใส่จี้แล้วนับถึงสิบเท่านั้นเอง ก้อนเนื้อก็ยุบลงไปแต่ยังไม่หาย

มีต่อค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 19:11:30


ความคิดเห็นที่ 546 (1633332)

 นางสาวกัลยาณี  ทิมขาวประเสริฐ (ตั๊ก)

ต่อค่ะ(2)
           เช้าวันอาทิตย์ พวกเราก็ได้ตื่นขึ้นมาออกกำลังกายกันอีกตามเคย ซึ่งแต่ละคนก็มีลีลาท่าทางไม่แพ้กันเลยทีเดียว โดยเฉพาะพี่อ้อย สงสัยครั้งหนาทุกคนคงต้องเรียกร้องให้ออกมานำเป็นคนแรกแน่ๆเลย ^^ หลังจากออกกำลังกายอาบน้ำทานข้าวเสร็จ ท่านอ.ก็ได้มาพูดถึงเรื่องภัยพิบัติและการตามหาพระศรีอาริย์

 

ในพุทธทำนายระบุไว้ว่า

      1.ถ้าตามหาพระศรีอาริย์ให้พบ ถ้าพบภัยพิบัติใหญ่ก็จะไม่เกิด แต่จะเกิดเป็นบางที่บางจุด เฉพาะกลุ่มเท่านั้น จะไม่เกิดพร้อมกันทั่วโลก

  

      2.ถ้ายังตามหาพระศรีอาริย์ไม่พบ ภัยพิบัติใหญ่จะเกิดแน่นอน และผู้ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะต้องพบภัยจากเหตุต่างๆ ทั้งอุบัติเหตุ โรคระบาด สัตว์ร้ายและอื่นๆ และในกรณีที่ไม่มีใครสนใจที่จะตามหาพระศรีอาริย์ จะสังเกตุได้จากกระทู้ตามหาพระศรีอาริย์ จะไม่ค่อยมีใครเข้าไปโพสเลย ท่านก็จะช่วยเป็นคนๆไปเท่านั้น เฉพาะผู้ที่ตามหาท่านอย่างจริงจัง 

      จากนั้นอ.ได้ให้ดูคลิปงูกินคน ต่างคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ากลัว อ.บอกว่าถ้าเรากลัว เราไม่อยากที่จะเจ็บ ไม่อยากจน ไม่อยากทุกข์ เราก็จะต้องตัดความอยากให้ได้มันจะได้ไม่เป็นไร

คลิปต่อไป คือลูกควายถูกฝูงสิงโตไล่กัด ความทุกตัวต่างตกใจวิ่งหนีเอาตัวรอด ปล่อยให้ลูกควายต้องเผชิญชะตากรรมอยู่เพียงลำพัง แต่ไม่น่าเชื่อว่าที่พวกเค้าวิ่งหนีนั้น พวกเค้าวิ่งไปตามเพื่อนๆในฝูงมากันจนดำไปหมด แต่ก็ต้องเศร้าใจเพราะถึงจะมากันมากมาย แต่ทุกตัวยืนดูลูกควายถูกสิงโตลุมกัดกันหมด ไม่มีใครคิดที่จะช่วยเลย ทั้งๆที่ถ้าพวกเค้ารวมพลังกัน ก็จะสามารถจัดการกับพวกสิงโตได้อย่างไม่ยากเลย แต่มีเพียงควายแค่สองตัวเท่านั้น ที่เป็นผู้กล้าไล่สิงโตไป ตัวนึงวิ่งไล่ ตัวนึงเตะ จนสามรถช่วยลูกความได้ คลิปนี้ทำให้ตั๊กรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนควายที่อยู่ในฝูง ไม่ยอมทำอะไรเลย ถึงแม้จะรู้จะเห็นว่าสถาบันที่เรารัก ครูอาจารย์ที่เรารัก กำลังถูกโจมตีจากบุคคลกลุ่มหนึ่ง แต่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเพื่อที่จะเป็นการปกป้องเลย คลิปนี้ตั๊กคิดว่าสามารถทำให้ผู้คนมีจิตคิดสู้เพื่อปกป้องสถาบันและครูอาจารย์ที่นเรารักได้เป็นอย่างมากเลยค่ะ

คลิปต่อไปเป็นจรเข้กินงูและงูกินจรเข้
สองภาพนี้สื่อถึงเรื่องการจองเวร เธอกินฉันได้ ฉันก็กินเธอได้ เป็นการจองเวรที่ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนตอนนี้ที่เรายังกินหมูอยู่ และมีข่าวออกมาว่าหมูกินคน พอเห็นข่าวแบบนี้ทุกคนก็ว่าโหดร้าย แต่ทำไมไม่คิดกันเลยว่าทีเรายังกินเค้าได้และถ้าเรายังกินเนื้อสัตว์อยู่เราก็ต้องพร้อมที่จะถูกเค้ากินเหมือนกัน
คลิปสิงโตกินม้าลาย ม้าลายพยายามสู้จนหลุดมาได้โดยลำพัง ซึ่งก็สอนให้รู้ว่า ถ้าเราเป็นคนไม่เอาใคร เราก็ต้องต่อสู้ด้วยตนอง ถ้าไม่ช่วยใครก็อย่าหวังว่าใครจะช่วยเรา

คลิปฉลามวาฬกินคนที่ยืนอยู่ริมชายหาด อ.บอกว่าถ้าใครยังไม่หยุดกินปลา ก็ต้องเตรียมตัวโดนเค้ากิน

คลิปสิงโตกินคนที่ออกมายืนถ่ายรูป คนในครอบครัวต่างก็นั่งมองดูอยู่ในรถส่วนเพื่อนก็มัวแต่ถ่ายเพื่อนตัวเองที่กำลังโดนกัดกิน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะช่วยผู้ชายคนนั้นได้ แต่ไม่มีใครช่วยเลยเพราะเมื่อถึงเวลานั้นทุกคนต่างรักตัวเองกันทังนั้น ถ้าตอนนั้นทุกคนมีสติก็จะสามารถช่วยผู้ชายคนนั้นได้ อ.จึงเน้นเรื่องการทำสมาธิ ซึ่งจะทำให้เรามีสติและปัญญาก็จะเกิดเราก็จะหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ต่างได้

คลิปสิงโตที่เลี้ยงไวกัดคน ทุกคนต่างก็ร้องตะโกน แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยเลย ต้องรอจนเจ้าหน้าที่มาถึงแล้วก็ต้องยิงสิงโตตัวนั้นจนตาย ถ้าในตอนนั้นทุกคนต่างพร้อมใจกันเข้าไปจับขาสิงโตคนละข้าง ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน ชายผู้โชคร้ายคนนั้นก็คงไม่เป็นอะไรมาก 

คลิปเสือลุมจะกินฮิปโป มีเสือหลายตัวมากทั้งลุมกัดทั้งตะปบ แต่ก็ไม่สามารถที่จะกินหรือทำอะไรฮิปโปได้เลย เพราะหนังของฮิปโปหนา เสือพวกนั้นเหนื่อยก็ได้ถอยหนีกันไปเอง อ.บอกว่าถ้าเราทำหน้าให้หนาให้ด้านเหมือนกับหนังของฮิปโป ทนต่อแรงเสียดทาน ไม่ว่าใครจะมาด่ามาว่ามาทำร้ายเรา เราก็ไม่จิตตก ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้

คลิปคนช่วยกันกลีดท้องจรเข้เพื่อเอาชิ้นส่วนคนที่ถูกกินออกมา ตอนนี้พวกเค้าก็ได้มารอเพื่อทำหน้าที่แล้ว

คลิปผีกระสือ เค้าจะจับนกจับสัตว์กิน แต่ถ้าเราเป็นคนอ่อนแอ เราก็อาจจะถูกเค้าทำร้ายก็ได้ ฉะนั้นเราควรฝึกจิต เตรียมพร้อมรับกับทุกสถานการณ์ให้ได้

มีต่อค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 19:19:28


ความคิดเห็นที่ 547 (1633333)

 นางสาวกัลยาณี  ทิมขาวประเสริฐ (ตั๊ก)

ต่อค่ะ(3)

   อ.บอกว่าถ้าโลกกลับขั้วจากเหนือไปใต้ ผู้คนจะตายมากมายมหาศาล แต่ถ้ากลับเพียงครึ่งเดียวคือจากตะวันตกปตะวันออก คนก็จะตายน้อยกว่า
สาเหตุที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ

     พระพุทธเจ้าสอนว่า

คนที่ผิดศีลข้อใดข้อหนึ่ง จะทำให้มีทุกข์+มีปัญหา

ถ้าผิดศีลข้อสอง ทรัพย์ของตนก็จะถูกทำลาย ทั้งจากน้ำไฟลมพายุโจร

ศีลข้อสองเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ อ.พูดถึงน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ถ้าจะทำให้น้ำยุบเดี๋ยวนั้นก็ทำได้ โดยทุกคนจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ เหมือนอย่างมือพี่อมรที่บวมเป็นลูกปิงปอง แต่ก็สามารถยุบลงแบบทันตา ทุกคนก็อาจจะสงสัยว่าน้ำที่อยู่ในมือที่บวมหายไปไหน อ.บอกว่าน้ำไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่เค้าย้ายที่อยู่เท่านั้นเอง จากที่อยู่ที่มือก็ย้ายไปอยู่ตามร่างกาย เหมือนน้ำที่ท่วมก็สามารถลดลงได้โดยทันที น้ำนั้นไม่ได้ไปไหนเพียงแต่ย้ายที่อยู่โดยการระเหิดระเหยขึ้นไปบนท้องฟ้านั้นเอง

      เบื้องหลังของการเกิดภัยพิบัติสาเหตุหลักก็คือ เป็นการเสด็จของพระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 และอีกสาเหตุคือผู้คนผิดศีลทุกข้อรวมทั้งอบายมุด้วย
อฺบอกว่าให้เราสวดมนต์ให้ได้ตลอดเวลา ทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินยัน นั่ง นอน ทานอาหาร เข้าห้องน้ำหรือทำอะไรก็แล้วแต่ ให้เราภาวนาไปเรื่อยๆ ให้จิตเกาะเกี่ยวกีบบุญกุศลให้มากๆ และก่อนนอนรวมทั้งตอนตื่นก่อนลุกจากที่นอน ก็ให้สวดบท

1.อิติปิโส 2.ปะโตเมตัง 3.คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ 4.คาถาบูชาพระศรีอาริย์ 
โดยเฉพาะคาถาบูชาพระศรีอาริย์ ให้สวดเยอะๆ วันนึงสวดให้ได้ 99 ครั้ง 9 วัน

 

สวดครั้งแรกๆ จะเป็นการขับของเสียที่อยูในร่างกายของเราออกมา อาจจะมีอาการถ่ายท้องบ้าง แต่เป็นการถ่ายท้องปกติ ไม่มาก สำหรับผู้ที่ท้องผูกก็จะถ่ายได้สบายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการปรับร่างกายให้พร้อมรับพลังงานที่ดี 
มีต่อค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 19:24:13


ความคิดเห็นที่ 548 (1633334)

 นางสาวกัลยาณี  ทิมขาวประเสริฐ (ตั๊ก)

ต่อค่ะ(4)

      พอช่วงสุดท้ายอ.เมตตาให้ได้ชมบารมพระศรีอาริย์ โดยให้ผู้ที่มีอาการเจ็บปวดต่างๆตามร่างกาย ให้ได้สัมผัสบารมีพระองค์ท่าน โดยการเรียงแถวขึ้นไปบนเวที ตั๊กเองก็มีอาการปวดไหล่และแขนทั้งสองข้าง ก็ได้ออกไปยืนต่อแถวเหมือนกัน

 

      ตอนที่อ.อารธนาบารมีพระศรีอาริย์มา รู้สึกมีอาการปิติ ขนลุก น้ำตาคลอ และรู้สึกว่าตัวจะโยกเยกเล็กน้อย หลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้นมา 20% ระหว่างที่ยืนรอในแถว ก็ได้อนุโมทนากับคนที่หาย อารการปวดก็ดีขึ้นตามลำดับ และยิ่งเดินเข้าไปใกล้อ. อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ พอเดินผ่านอ.อาการดีขึ้นมาถึง 95% อ.ก็ให้ถือจี้ที่อยู่ในถุงแล้วก็อธิฐาน อาการดีขึ้นมาอีกประมาณ97% อ.บอกว่าให้เขียนธรรมทานบ่อยๆ เพราะตั๊กไม่ได้เขียนเลย และถ้าไม่เขียนก็จะไม่มีโอกาสได้มาบ้านสวนอีก ตั๊กก็รับปากว่าจะเขียนให้มากขึ้น อาการก็ดีขึ้นมาอีก 99% เกือบจะหายหมดเลย ซึ่งก่อนหน้านั้นตั๊กเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าเราได้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยก็ไม่หาย ขอบารมีพระศรีอาริย์ก็ไม่หาย อุทิศบุญก็ไม่หาย สารภาพบาปเองก็ไม่หาย สารภาพบาปกับพี่เอิ้นแขนข้างหนึ่งหาย แต่สักพักก็ปวดอีก ก็สงสัยว่าเป็นเพราะอะไร จนตอนท้ายก็ได้รู้ว่า พระศรีอาริย์ท่านต้องการเน้นเรื่องธรรมทานมาก และอ.บอกว่าที่อ.เน้นย้ำให้ทุกคนเขียนธรรมทานก็ไม่ได้เพื่อใครเลยเพื่อตัวเราเองทั้งนั้น เพราะการเขียนธรรมทานเป็นการสร้างบุญใหญ่ เมื่อมีคนมาอ่านธรรมทานของเรา บุญก็จะเพิ่มมากขึ้น แล้วอ.ก็ได้ส่งบุญให้กับผู้ที่เขียนธรรมทานทุกคน 

ต่อไปนี้ลูกจะตั้งใจเขียนธรรมทานให้มากขึ้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 19:29:10


ความคิดเห็นที่ 549 (1633341)

              เปลี่ยนสันดาน  เหตุการณ์เปลี่ยน

                                               ใช่ค่ะพี่แมว

         กรรมแก้ไม่ได้ แต่นิสัย แก้ได้ เปลี่ยนได้  ถ้าใจพร้อมที่จะเปลี่ยน

       ถ้าผู้คนพร้อมใจกันเปลี่ยนตัวเองได้ (เดี๋ยวนี้) หันมารักษาศีล

       ทําสมาธิ ก็คงดี จะได้ มีปัญญา ในการใช้ชีวิตให้เป็นสุขได้

ท่านอาจารย์อุบล ให้เราทุกอย่าง ทุกเรื่อง ทั้งความเป็นอยู่

การใช้ชีวิต จะกิน จะนอน จนแทบจะป้อนอยู่แล้ว ให้จนถึงหลังความตาย จะต้องไปอยู่ในที่ บรมสุขคือนิพพาน ท่านแผ่วถางทางเดินไว้ให้จนราบเรียบหมดแล้ว ส่วนพวกเรายังขาดปัญญา

ยังจะเดิน แวะเวียน ชมนก ชมใม้ กันอยู่ลํ่าไป 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:06:42


ความคิดเห็นที่ 550 (1633343)

 ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ ที่ได้ใช้จี้ช่วยคนในการสารภาพกรรรม

        ในวันงานค่าย 13 ที่อ.อุบลแสดงบารมีของพระศรีอาริย์

พอถึงตอนนั้นก็รู้สึดปวดบริเวณต้นขาข้างขวา 

ผมก็เลยออกไปเข้าแถวขอบรรมบัด ช่วงที่ออุบลอาราธาบารมีพระศรีอาริย์เสร็จ

อาการปวดต้นขาข้างขวาก็หายปวดทันที แล้วก็รู้สึกปิติ โล่งขึ้นมาทันที

อาการปวดขาที่มีคงเป็นกรรมจากการชอบใช้ขาไปทำสิ่งไม่ดี ใช้ขาแทนมือ

แล้วก็ใช้ขาเดินไปทำสิ่งไม่ดีอยู่เยอะมาก

   ผมขอกราบขอบพระคุณบารมีพระศรีอาริย์ที่ออุบลอารธนามา ที่ได้เมตตาช่วยผมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ

และหายจากอาการเจ็บป่วยมากมายจากการทำกรรมด้วยครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาชวินท์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:11:00


ความคิดเห็นที่ 551 (1633345)

 โปรดรอสักครู่ จะนำคลิปมาฝาก

เด็กนอก ( ค่ายฯ ) ให้ได้ชมกันนะคะ

*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

คลิปที่  1

ภาพขนาดย่อ

 

 
ลักษณะ  และวิธีการ ขณะที่ งูกินคน
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:19:28


ความคิดเห็นที่ 552 (1633346)

  การเข้าร่วมค่าย13นี้ครั้งนี้

ก่อนอื่นต้องขอกราบขอขมากรรม

ต่อท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกๆท่านที่บ้านสวน ในด้าน วจีกรรม

 กายกรรมและมโนกรรม

หรือการกระทำใดที่ถือเป็นข้อผิดพลาด

ต่อไปลูกจะขอสำรวจ กายและใจตลอดเวลา...

 

 

            ค่าย 13 ที่ผ่านมาทำให้เกิดการ

เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก

และทำให้รู้สึกว่าเป็นการทดสอบ

ตัวเองเป็นอย่างสูง

ในด้านแนวคิด และด้านคำพูด

ที่ได้กระทำออกไป ให้ต้องสำรวจ

กาย วาจา และใจเป็นอย่างมาก

ทุกสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอ

 

 

บุคคลที่เห็นเป็นตัวอย่างที่ดีในค่ายนี้คือ ป้าอุ๊

แม้ขณะทำงานขนส่งลำเลียงปูน

ป้าอุ๊ก็กำหนดลมหายใจ เป็นสมาธิ

ไม่หายใจทิ้งขณะทำงาน รู้ตัวเองตลอด

พูดในสิ่งที่ควรพูด และรู้ว่าควรพูดเวลาใหน..

 

 

สำหรับการเข้าร่วมค่าย13 ในครั้งนี้

เป็นรุ่นที่ต้องการสร้างผู้นำ

ที่ต้องออกไปเผชิญปัญหา

สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้

สภาวะของผู้นำควรต้องเป็นไร

ที่อาจารย์ต้องการสอนให้เรารู้

ค่ายนี้เป็นแบบทดสอบ และสามารถบอกได้ว่า

ผู้นำจะต้องมีลักษณะอย่างไร...

 

ช่วงกลางคืน ช่วงที่นั่งรวมตัวกัน

ในลานนั่งเล่นของ บ้านพักหลังใหม่  

ได้มีการนำจี้องค์สฟิงซ์หลายๆองค์

รวมกันเพื่อใช้รักษาโรค

 

ได้เกิดสิ่งที่เราไม่คาดฝันว่า

อานุภาพ จะเกิดขึ้นอย่าง ฉัพพลันทันที

และได้เกิดขึ้นกับหลายๆคนที่ได้รับการรักษา

พออาการหายหรือดีขึ้น

พวกเราก็ออกเสียงอู้ฮู้...ตื่นเต้นกัน

 

แต่อีกด้านหนึ่ง เหล่าบรรดาท่านๆก็มาร่วมด้วย

ท่านๆก็ร่วมยินดี กับพวกเราด้วยล่ะ..

ท่านมากันเยอะมาก

 

..แม้แต่ช่วงที่เราช่วยกันขนเทปูนกัน

ท่านๆ ก็มาร่วมโมทนากัน

กับงานวิหารทานที่พวกเราได้ช่วยกันสร้าง

การมาร่วมโมทนาบุญยินดีกับพวกเรา

 

ความสว่าง แสงในตัวท่านก็จะเพิ่มความสว่างมากขึ้น

เราสัมผัสได้โดยที่พวกเราส่วนใหญ่

ไม่ค่อยเหนื่อย ไม่ค่อยหิวกัน

ร่มรื่น ลมพัดสบาย  ทำงานกันเพลิน

อิ่มบุญกันถ้วนหน้าทั้งท่านและพวกเรา...

 

 

ส่วนการทำWorkshop ของแต่ละทีมนั้น

ก็ทำให้รู้วิธีการช่วยเหลือคนอื่นด้วยตัวเอง

ในกรณีเกิดวิกฤติหรือเกิดเหตุการณ์อื่นๆได้

ทำให้เรารู้จักใช้ จี้องค์สฟริงซ์ รักษาคนอื่น

โดยใช้รหัสจักวาล อ.อบลช่วยด้วย และ

ขอบารมี พุทธานุภาพ ของพระศรีอาริย์

ให้พวกเรารู้วิธีใช้ เพื่อที่จะนำไปปฏิบัติใช้ให้เกิดผล

 

เป็นความโชคดีเป็นอย่างมาก

ที่ได้รับโอกาสที่ได้เข้าค่ายครั้งนี้ครับ

มีต่อครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:21:09


ความคิดเห็นที่ 553 (1633348)

อนุโมทนาบุญกับคุณเอก

แต่ช่วยกาช่องไม่ต้องการให้แสดงอีเมลด่วนด้วยค่ะ

เดี่ญวอาจจะเป็นการชักศึกเข้าบ้านได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:27:16


ความคิดเห็นที่ 554 (1633349)

 อานุภาพจี้องค์เทพสฟิงค์ และบารมีพระศรีอาริย์  UFO 

        หลังจากกิจกรรมภาคกลางคืนเสร็จ ท่านอาจารย์ได้พาพวกเรามานั่งทานมันเผา ขนม ผลไม้ น้ำดื่มช่วงกลางคืนที่ด้านหลังเวทีโซนสวรรค์บนดินหน้าองค์พีระมิด มันเผาหอมอร่อยมากๆค่ะ บรรยากาศก็ร่มรื่นเย็นสบาย อบอุ่น มีความสุข  ^__^

        หลังจากนั้นคุณชิมก็ได้ออกมาเล่าเหตุอัศจรรย์พลังจี้พีระมิดที่คุณชิมบูชาไปรวมของคุณชิมด้วย12 องค์ซึ่งมีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นก็คือ เมื่อพัสดุมาถึงร้านปรากฏว่าลูกค้าเข้าร้านแน่นไปหมด ขายของดีมากๆจนลูกน้องทำงานแทบไม่ทัน  และเมื่อย้ายจี้ออกจากหน้าร้านคนถึงเบาลง  มิ้มฟังแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นมากเลยค่ะ พึ่งจะรู้ว่าอำนาจของจี้มีอำนาจในการดึงดูดโชคลาภด้วยนะคะเนี่ย ^__^

        อีกเหตุการณ์ที่น่าทึ่งก็คือ  พี่แมวได้มาเล่าเรื่องของคุณสมจิต ชลบุรีค่ะ ท่านโทรมาเล่าให้ฟังด้วยความตื่นเต้นว่า ท่านบูชาจี้ไป 3 องค์ แล้วห้อยพร้อมกัน 3 องค์ที่คออธิษฐานจิตนั่งสมาธิ ถามว่าจักรวาลคืออะไร แล้วภาวนา นะมะ พะทะแล้วคุณสมจิตก็เห็นแสงสีขาว  ก็ตามแสงสีขาวไป แล้วก็เห็นได้รู้ทั้งจักรวาลเลยค่ะ  ก่อนหน้านี้คุณสมจิตก็เคยนั่งสมาธิแต่ก็ไม่เคยได้ไปเห็นจนวันที่ได้ใส่จี้ก็ได้เห็นค่ะ  ฟังแล้วรู้สึกดีใจไปกับคุณสมจิตด้วยจังค่ะ  มิ้มอยากเห็นบ้างจังค่ะ  แต่ถ้ามีความอยาก มีกิเลสสงสัยจะไม่เห็นแน่ๆเลยค่ะ 555

        คุณครูยุ้ย ก็ได้อธิษฐานกับจี้องค์เทพสฟิงค์ ทำให้รังต่อที่สร้างรังขนาดใหญ่ย้ายรังไปค่ะ

        คุณกระเต็น  ไปเยี่ยมเพื่อนพ่อที่เป็นมะเร็งที่ไขสันหลัง อธิษฐานจิตนำจี้ไปสัมผัส และดื่มน้ำพีระมิด ทำไปเพื่อนของคุณพ่อจากไปอย่างไม่ทุรนทุราย อานุภาพของจี้ซึ่งรับพลังมหาศาลจากอนันตจักรวาล คงส่งพลังเป็นแสงสว่างนำทางให้คุณพ่อของเพื่อนคุณกระเต็นได้ไปในภูมิที่ดี  สาธุ ด้วยค่ะ

        คุณนนทพร เล่าว่าสามารถสารภาพบาปกับแหวนองค์เทพสฟิงค์ได้ผลเหมือนกับจี้เลยค่ะ สุดยอด !!! ^__^

       เป็นความรู้ใหม่ๆที่มิ้มได้รู้เพิ่ม รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากๆเลยค่ะที่ได้มาค่ายนี้  เราควรใส่ทั้งจี้และแหวน เพราะแหวนช่วยให้เรานึกถึงบาปได้  ส่วนจี้ก็ช่วยเราในการสารภาพบาป ดึงดูดโชคลาภ  และอนุภาพต่างๆอีกมากมายมหาศาลเพราะเป็นสื่อในการดึงพลังจากอนันตจักรวาล ยิ่งมีหลายองค์ก็ยิ่งดึงดูดพลังได้มาก

 

เมื่อจี้ 9 องค์อานุภาพพลังก็ยิ่งมหาศาล อีกทั้งได้รับพระบารมีพระศรีอาริย์ยิ่งเกิดผลอัศจรรย์มากๆเลยค่ะ

         แต่ละคนที่ได้ไปคล้องจี้ 9 องค์(ของคุณชิม) และรับพระบารมีพระศรีอาริย์ต่างหายกันอย่างอัศจรรย์

         อัศจรรย์ที่สุด คือ ป้าพรที่หูตึงมานาน  กลับมาได้ยินชัด

และพี่ลินซึ่งกระดูกขอเท้าเบี้ยวแต่กำเนิดกลับมาหายเป็นปกติ คนสายตาสั้นสายตาก็ดีขึ้น เป็นที่อัศจรรย์ ทึ่งมากๆๆๆๆๆๆเลยค้าๆๆ สาธุ สาธุ

  UFO  มิติในบ้านสวน

        คืนนี้ UFO ท่านก็ได้ขับผ่านมาร่วมโมทนาบุญกับเราอยู่หลายครั้งเลยค่ะ ถึงจะเห็นบ่อยในบ้านสวนแต่ท่านมาทีไรก็ตื่นเต้นทุกทีเลยค่ะ ^__^

         เรื่องที่น่าแปลกอีกเรื่องก็คือ  ในเวลากลางคืน บริเวณใกล้สระน้ำขนาดใหญ่เมื่อยืนบริเวณตรงนี้จะหนาวเยือกแตกต่างจากบริเวณอื่นๆๆมากเลยค่ะ  พอเดินผ่านไปยืนบริเวณอื่นก็อุ่น  แต่ถ้ายืนหน้าสระกลับหนาวจะเยือกเอๆๆ หรือ บริเวณนี้เป็นประตูมิติหรือเปล่าคะเนี่ย (เดาเองอะค่ะ )  ทุกอย่างในบ้านสวนล้วนเป็นเรื่องอัศจรรย์ชวนให้ตื่นเต้นตลอดเวลาเลย ก็คงเพราะแดนศักดิ์สิทธิ์นี่คงมีประตูมิติหลายมิติซ้อนกันอยู่รึเปล่า????น้า

เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:29:45


ความคิดเห็นที่ 555 (1633352)

 กิจกรรมเข้าค่าย 13

วันอาทิตย์

     ขอมาเหลาต่อครับ เพราะกิจกรรมค่าย 13 ในครั้งนี้ หนาแน่นไปด้วยธรรมทานดีๆ กิจกรรมเด็ด อย่าง workshop ที่เหมือนให้พวกเราแสดงพลังความสามัคคี เพิ่อ ร่วมปกป้อง 3 สถาบัน อย่างเป็นรูปธรรม เป็นค่ายที่เรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จริงๆ ครับ คิดว่าคนที่มีโอกาสได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ต้องได้อะไรดีดี กลับไปเยอะทีเดียว กิจกรรมนี้ได้ข้อคิดเลยว่า สามัคคี คือพลัง 

     วันนี้ตื่นมา กิจกรรม ออกกำลังกายภาคเช้าก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ละคนก็ งัดท่าเด็ดๆ ออกมาประชันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ที่เด็ดสุด เห็นจะเป็นพี่อ้อย ของเราครับ ละอัตตา ทำท่าโก๊ะๆ ตรงข้ามกับหน้าหวานๆ ถ้าไม่เห็นกับตา คงไม่มีคนเชื่อว่า บางคนอาจจะอุทานทันทีว่า ทำไปได้!!! ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง ต้องถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ คนที่เห็นคง ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน เป็นกิจกรรมที่ไ้ด้สุขภาพและได้เสียงหัวเราะดีครับ

     หลังจากอาบน้ำ ทานข้าวเสร็จแล้วก็ มาเข้าสู่กิจกรรม workshop ซึ่งจะแบ่งกลุ่มเป็น 10 กลุ่ม หัวข้อก็จะมี

- แต่ละคนมีปัญหาอะไรบ้าง

- เราจะมีวิธีใช้จี้ช่วยคนอื่นอย่างไร โดยแสดงความคิดเห็น

ที่เห็น เป็นรูปธรรม และคนลงความเห็นว่าเป็นวิธีที่ดี ก็คือ กลุ่มของพี่เหมี่ยว คือใช้วิธี รวมจี้ของแต่ละคน โดยได้ไอเดียมาจากเมื่อคืนวันเสาร์

- โดยใช้กับน้องก๊อต ที่มีอาการตาบวมแดง อักเสบ  ก็ให้สารภาพบาป และก็เอาจี้ รวมกัน แล้วมาโป๊ะที่ตา แล้วก็หาย เห็นถึงพลังความรัก ความปรารถนาดี ของกลุ่มเลยครับ

- อีกคนก็คือพี่เจี๊ยบ ที่มีอาการที่หัวเข่า คัน ผิวหนังสาก หลังจากที่ทุกคนอฐิษฐานร่วมกัน ผิวหนังจากที่ดำ ก็ขาวขึ้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ไปบอกใครก็คงไม่มีใครเชื่อ แต่ก็เข้าใจเขาครับ คำว่าปาฎิหาริย์ ถ้าเกิดบ่อยๆ จะเรียกปาฏิหาริย์หรือ 

     โดยสรุปกลุ่มพี่เหมี่ยวสามารถนำเอาไปใช้ได้จริง เพราะเมื่อเกิดภัยพิบัติ ฉุกเฉิน ให้มานั่งสารภาพบาปคงช้าไป แต่ถ้าเราอยู่คนเดียวก็มี วิธีทำให้จี้เราที่อันเดียว เหมือนมีหลายอันได้ ก็คือ นึกถึงท่านอาจารย์อุบล หรือ เพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ ที่ผ่านการใช้จี้มาเยอะ อย่างพี่กุหลาบ พี่เหมี่ยว น้องขวัญ ก็เหมือนเราได้รวมขอพลังจากเพื่อนๆได้ ที่สำคัญก็คือศรัทธา และ ความรู้สึกที่เรามีต่อ เจ้าของจี้นั้นด้วย ยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งเห็นผลมาก

     หลังจากจบกิจกรรมช่วงเช้า เราก็รับประทานอาหารกัน เสร็จแล้วก็มาต่อด้วยกิจกรรมภาคบ่าย โดยมีคลิป ให้พวกเราได้ดูและ ได้ข้อคิดไปด้วย

ลูกควายกับสิงโต และจรเข้

     คลิปนี้ เป็นคลิปลูกควายกำลังโดนสิงโตไล่ จนมาถึงริมน้ำ็่ก็ดันไปเจอจรเข้อีก เข้าสุภาษิต "หนีเสือปะจระเข้" หลังจากนั้น ฝูงสิงโดก็เป็นฝ่ายดึงลูกควายไปได้สำเร็จ หลังจากนั้น ควายตัวนึงก็วิ่งหนีไปเรียกพวกมาช่วยเพราะ สิงโต มีจำนวนมากกว่า คิดว่าควายตัวนี้ มีปัญญาและมีสติ ดีมาก เพราะถ้าไปช่วยโดยไม่ึิึิใช้ปัญญาก่อน ก็เหมือนไปตายฟรี พอฝูงควายมา ก็มีที่ตามมา แค่ ตัวเดียวเอง ส่วนฝูงควายตัวอื่นๆ ก็ยืนเฉย ด้วยความกลัวทั้งๆ ที่มีจำนวนเยอะกว่า จากนั้นควายตัวนั้นก็ช่วยลูกควายได้สำเร็จ ส่วนลูกควายที่ดูอ่อนแอก็มักจะเป็นเหยื่อเสมอๆ เห็นแล้วก็ได้ข้อคิดเอามาปรับใช้กับตัวเองจริงๆ ในเรื่องความกล้า ความสามัคคี การที่ไม่วัดกันที่เปลือกเพราะทุกอย่างอยู่ที่ใจ ถ้าใจสู้ซะอย่างก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ควรทำตัวให้เข้มแข็ง และการใช้ปัญญา

งูกับจรเข้

     คลิปนี้ก็เป็น จรเข้ลากงู ลงมาเพื่อกินเป็นอาหาร สุดท้ายก็โดนงาบซะเอง ได้ข้อคิดว่า อย่าวัดกันที่ขนาด งูถึงจะตัวเล็กกว่าแต่ก็กินจรเข้ได้ และก็ให้ข้อคิดว่า เธอกินฉันได้ ฉันก็กินเธอได้ ไม่มีอะไีีรแน่นอน วันนี้ ที่เราทานเนื้อสัตว์ วันนึง พวกเขาอาจจะมาทานเราก็ได้

ปลาวาฬกินคนที่อยู่ริมชายหาด

     คลิปนี้เป็นคลิปผู้ชายคนนึง ยืนแอคท่าถ่ายรูปอยู่ อยู่ดีดี ปลาวาฺฬตัวใหญ่ที่อยู่ดีดี ก็มาตามคลื่นแล้วก็ลากผู้ชายคนนั้นไป ในมุมมองของคนทั่วไปอาจจะคิดว่า ปลาโหดร้าย และดุ แต่จริงๆแ้ล้วคนเรานี่แหละ น่ากลัวที่สุดกินสัตว์ทุกชนิด พอเขามาเอาคืนบ้างก็ ว่าเขาโหดร้าย และก็โยงไปถึงเรื่อง หมูกินคน และอีกไม่นาน พวกเขาอาจจะมาเอาคืนเราก็ได้

ม้าลายกับสิงโต

     คลิปนี้ เป็นคลิปม้าลายกำลังจะโดนสิงโตกิน สุดท้าย ม้าลายก็เอาตัวรอดได้ สำเร็จโดยใช้ขาถีบ แล้วก็วิ่งหนีมาได้ ได้ข้อคิดว่า ถ้าคุณไม่เคยช่วยใครก็ไม่มีใครช่วยคุณเหมือนกัน ต้องต่อสู้คนเดียวเหมือนม้าลายตัวนี้ ให้เราหมั่นอุทิศบุญให้เทวดา เจ้ากรรมนายเวร สรรพวิญญาณ เพราะเทวดาเขาเป็นผู้มีความกตัญญู เมื่อเราอุทิศบุญให้แล้ว พวกเขาก็จะมาคอยปกปักษ์รักษาเรา ให้หมั่นอุทิศบ่อยๆ เพื่อที่ท่านจะได้มีกำลังมากๆ 

สิงโตกินคน

     คลิปนี้เป็นคลิปที่คนไปเที่ยว ซาฟารี ด้วยความประมาทที่อยากได้รูปใกล้ๆ ก็โดนฝูงสิงโต ก็มาตะปบทางด้านหลัง ภรรยาและลูกก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกแทนที่จะมีสติ แล้วก็ขับรถไปครอบตัวคนเพื่อให้อยู่ท้องรถ ส่วนเพื่อนอีกคนก็มัวถ่ายวิดีโอ กว่าเจ้าหน้าที่จะมาก็สายไปเสียแล้ว คลิปนี้ให้ข้อคิดในเรื่องการมีสติ และการใช้ปัญญา ได้ดีทีเดียว

คนให้อาหารสิงโต

     คลิปนี้เป็นคนที่ประมาทเข้าไปให้อาหารสิงโตแล้วก็โดนกิน มีเพื่อนอยู่หลายคน แต่ไม่ทำอะไรเลย มัวแต่ตกใจ ไปเรียกคน แต่กว่าจะมาก็ ไม่ทันแล้ว คลิปนี้ก็ ให้ข้อคิดเรื่อง สติ ปัญญาอีกแล้วครับ

จระเข้กินคน

     คลิปนี้ เป็นคลิปที่ผ่าท้องจรเข้ออกมาเป็นคน สภาพก็ออกมาเป็นชิ้นๆ คลิปนี้ก็เหมือนเป็นเครื่องเตือนเราว่าให้ระวัง เพราะ ปีที่แล้ว มีจรเข้ที่หลุดออกมามากที่ไม่ได้เป็นข่าว และเขาก็ รอเวลาอยู่

คลิปฮิบโปกับฝูงสิงโต

     คลิปนี้เป็นคลิปที่ฝูงสิงโตกำลังไล่กินฮิปโป งับก็ไม่เข้า (เพราะหนังหนา) แต่ฮิปโปก็วิ่งหนี้ไปได้ เรียกได้ว่า ถ้าเป็นตัวเมีย ก็เรียก สวย ถึก บึกบีน หนังหนา ได้ข้อคิด ให้เอาเป็นคนตัวอย่างเลยครับ ว่าคนที่จะมีชีวิตรอดได้นั้น แต่เป็นผู้ที่ ทรหด อดทน ทนต่อทุกแรงเสียดทาน ขอคารวะ หนึ่งจอก อิอิ 

คลิปกระสือ

     คลิปนี้เป็นคลิปที่ถ่ายได้ แถวๆ โรงงานย่านจังหวัดปทุมธานี ด้วยกล้องวงจรปิด เวลาซูมหน้ามาก็เป็นคนแ่ก่บ้าง เป็นกบ เป็นนก บ้าง แล้วก็เห็นเป็นภาพกระสือใช้ไส้รัดนกเอามากินเป็นอาหาร ส่วนผีนั้นเขาก็จะเล่นงานคนที่อ่อนแอ คนที่ขี้กล้ว

หลังจากนั้นก็มาเริ่มกิจกรรม workshop แบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 20 คน หัวข้อ

 

- พระศรีอาริย์จะมีวิธีปราบมารอย่างไร

- พระศรีอาริย์จะนำพาพวกเราให้เข้าสู่ยุคศิวิไลย์ได้อย่างไร

แต่ล่ะทีมก็มีความเ็ห็นคล้ายๆ กันคือใช้ธรรมะ เป็นเครื่องมือ เปลี่ยนคนให้ได้เข้าสู่ในยุคของท่าน

ช่วงชมบารมีพระศรีอาริย์

ช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายๆคนรอคอยที่จะสัมผัสบารมีของท่านโดยที่แต่ล่ะคน ก็ได้สัมผัสบารมีของท่าน

โดยส่วนตัววันนั้นมีอาการปวดขาขวาและเป็นหวัด คัดจมูก + เจ็บคอ ครับ

     อาการปวดขา ตอนที่เข้าแถวพอเดินเข้าก็ค่อยๆ ดีขึ้นจนมาถึง ตรงบันไดก็หาย 100 เปอร์เซนต์ครับ ส่วนเป็นหวัด เจ็บคอก็ดีขึ้น 95 เปอร์เซนต์ครับ เพราะยังติดกรรม คิดลบ พูดมาก นินทา เลยยังไม่หายทั้งหมด เก็บไว้เตือนใจครับ อีกทั้งธรรมทานก็เขียนบ้างก็ไม่ได้เขียนบ้าง แถมบาปก็หนามากๆ อีก ยังทำบุญน้อยไม่เพียงพอกับบาปที่ทำเลย ช่วงที่เข้าแถวยังได้กลิ่นหอมๆ เหมือนดอกไม้ หอมแบบเย็นๆ ยังถามกับ พี่หนึ่ง กับพี่วิ ไหม ทั้งสองคนก็ได้กลิ่นเหมือนกัน  

     ส่วนใหญ่ท่านจะเน้นให้พวกเรามาจริงจังกับเรื่องบุญธรรมทานกันมากขึ้น โดยให้เขียนให้บ่อยๆ

ทำไมจึงต้องเขียนธรรมทาน

- ธรรมทานเป็นบุญใหญ่ ทำให้ หายเจ็บป่วย รวยเร็ว มีอานิสงส์มาก เป็นบุญที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอด ลงทุนน้อยได้ผลมาก

- ถ้าไม่รู้จะเขียนอะไรก็เล่าเรื่องที่ตัวเองพบเจอ ผลของกรรมที่ตัวได้รับ เพราะทำกรรมอะไรมา

- ท่านอาจารย์อุบล จะคอยอ่านธรรมทานของพวกเราและคอยส่งบุญให้ เป็นสิ่งที่เชื่อมบุญกับท่านได้เพราะเราอยู่ต่างที่กัน

- ทำบุญก็เหมือนการกินข้าว เรากินทุกวัน บุญเราก็ต้องทำทุกวันเช่นกัน เป็นบุญที่ทำง่ายๆ

- การเขียนธรรมทานก็ควรเขียนแบบว่า ใส่ความรู้สึกให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมไปด้วยไม่ควรเขียนทื่อๆ

กราบขอบพระคุณพระศรีิอาริย์ ท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่ได้ให้ผมได้มาร่วมเข้าค่าย 13 ที่เป็นค่ายที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแย่ๆ ของตัวเอง จริงจังในการละบาป สร้างบุญให้มากขึ้น และ ทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มากขึ้น 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:36:23


ความคิดเห็นที่ 556 (1633354)

 คลิปที่ 2

ภาพขนาดย่อ

ควาย สู้สิงห์ ปะ พี่เข้

http://www.youtube.com/watch?v=DXQnP2ysOWk&feature=fvst

คลิปนี้สอน อะไร

แล้วมันก็คล้าย ๆ ควายบ้านสวนฯ

555++

ขอคาระวะ ควายจ่าฝูง

เห็นชัดค่ะว่า 

ทุกอย่างอยู่ที่ใจ

สิงโต ซึ่งตัวเล็กกว่า ควาย

สามารถเป็นผูไล่ล่า

เป็นเพราะ สติ และ ปัญญา

ส่วนควาย...ซึ่งรูปร่างใหญ่กว่า

แต่อ่อนแอกว่า

ภาพที่เห็น ควายมีจ่าฝูง

ซึ่งได้รวบรวมพล เป็นกำลัง

แต่ พลพรรคควาย ที่จู่โจมมา

ก็ยังมีความกลัว 

ปล่อยให้จ่าฝูงเป็นผู้เผชิญ

และในขณะที่ลูกควายต้องดิ้นรน

ต่อสู้ สุดชีวิต เพื่อความอยู่รอด

ให้พ้นปากสิงห์ และ ปากพี่เข้

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:40:33


ความคิดเห็นที่ 557 (1633356)

ตั้งแต่นั่งไล่อ่านธรรมทานมาวันสองวันนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ทุกคนกล่าวถึงและถูกจริตกับทุกคนจริงๆ เพราะได้ปัญญาอย่างแท้จริง คือ

1.การทำ Workshop - ทุกคนได้ทำจริง ลองจริง เห็นผลจริง ไม่ต้องสงสัยคอยถามใคร เรียกว่า On the job training กันเลย

2.คลิปวีดีโอ นี่คือสิ่งที่ท่านอาจารย์ตีโจทย์แตกกระจุย ดึงความรู้สึก อารมณ์ร่วม และจิตสำนึกของทุกคนออกมา ด้วยภาพเหตุการณ์จริง ชีวิตแลกด้วยชีวิต เป็นสิ่งที่อาจทำให้หลายๆคนใจระทึก กลัวกับสิ่งที่ได้เห็น ในขณะเดียวกันก็เกิดสำนึกและปัญญาขึ้นมาพร้อมๆกัน และพากันตั้งใจว่าจะเปลี่ยนตนเอง เพราะไม่อยากเจอเหตุการณ์เช่นนี้กับตัวเองและครอบครัว ผมอึ้งสุดๆกับสิ่งที่ท่านอาจารย์ให้ปัญญาแบบสุดๆกับแต่ละคลิปแบบที่ไม่มองเห็นภาพอย่างชัดเจนเลยว่า "ใช่" สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:44:10


ความคิดเห็นที่ 558 (1633357)

 คลิปที่ 3

ภาพขนาดย่อ

งู กิน เข้  - เ ข้กิน งู

http://www.youtube.com/watch?v=tkD89SEu6As

กงกรรม กงเกวียน

เธอกินชั้นได้  ชั้นก็กินเธอได้เหมียนกัลล์

เปรียบได้กับ

คน ที่ยังคงทานเนื้อสัตว์

ซึ่งวันนี้ ก็มีข่าวออกมาแล้วว่า

หมู กิน คน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:44:11


ความคิดเห็นที่ 559 (1633363)

 คลิปที่ 4

ภาพขนาดย่อ

ผู้ไม่ยอมแพ้ ที่โดดเดี่ยว และ เดียวดาย

http://www.youtube.com/watch?v=cJJe76womq0

คลิปนี้ได้ให้แง่คิด ถึงผลของ

การที่ไม่เคยเป็นผู้ให้

ไม่เอาใคร

ผลก็คือ 

ต้องต่อสู้เพียงลำพัง

ผิดกับ ลูกควาย ในคลิปที่ 3 จ้า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 20:52:24


ความคิดเห็นที่ 560 (1633364)

 คลิปที่ 5

ภาพขนาดย่อ

ฟ้องด้วยหลักฐาน

http://www.youtube.com/watch?v=aTZ6fsrfRQQ

พวกเราได้รับสัญญาณ

เรื่อง จระเข้ กินคน

ซึ่ง เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากภัยน้ำท่วม

เมื่อปีที่แล้ว และ 

คาดว่า จำนวนจระเข้ที่หลุดออกมา

ทั้งที่เป็นข่าว และ ไม่เป็นขาว

จำนวนมากมาย

มารอซุมตัวคอยอยู่แล้ว

ขอให้ทุกท่าน พึงเผ้าระวัง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:00:28


ความคิดเห็นที่ 561 (1633367)

 ขออนุญาตเขียนแทนคุณบุญเรือน กุลพญา ค่ะ

ข้าพเจ้าบุญเรือน กุลพญาถือว่าค่าย13นี้เป็นค่ายที่พิเศษกว่าค่ายที่ผ่านๆมามีความหลากหลายในหลายด้าน เช่นด้านสถานที่สวยและแปลกตากว่าเดิมรูปแบบการบำบัดก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นการทำwork shop โดยอาจารย์อุบลให้โจทย์มาเป็นข้อๆ สถานที่บ้านสวนฯข้าพเจ้าเปรียบเสมือนหนึ่งเป็นแดนสวรรค์มีแต่สิ่งที่ดีและสิ่งที่สวยงาม เข้ามาสถานที่แห่งนี้แล้วได้รับแต่ความสุขความสบายทั้งกายและใจ บ้านสวนฯข้าพเจ้าถือว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ข้าพเจ้าและหลายๆคนก็ได้ประสบมากับตนเอง คือก่อนที่จะมาบ้านสวนฯก็จะมีความกังวลกันว่ากลัวจะเจอกับฝยตกหนักเพราะกรมอุตุรายงานว่าจะมีฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 5-7 ต.ค. ปรากฏว่าทุกคนมาถึงบ้านสวนฯด้วยความปลอดภัยจะเจอฝนก็ปะปรายนิดหน่อย เป็นเรื่องที่แปลกมาเพราะบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านสวนฯมีฝนตก ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเพราะบารมีของพระศรีอาริย์และตอนกลับบ้านก็เช่นกัน ก่อนจะออกจากบ้านสวนฝนเริ่มตกหนาเม็ดมากขึ้น ทุกคนรีบร้อนที่จะกลับบ้านกันพอออกจากบ้านสวนฯคิดว่าฝนจะตกหนักแต่ปรากฎว่าฝนตกนิดหน่อยและก็เป็นบางช่วงด้วย จนเดินทางไปถึงบางบัวทองด้วยความปลอดภัย เมื่อรถพี่เจี๊ยบวิ่งเข้าเขตบางบัวทองก็เห็น UFO และพอจะถึงซอยเข้าบ้านก็เห็น UFOอีก เป็นเพราะบารมีพระศรีอาริย์ที่ทำให้ลูกบ้านสวนเดนทางปลอดภัยทั้งไปทั้งกลับ

- บารมีพระศรีอาริย์ทำให้ลูกชาวบ้านสวนทำบุญด้วยแรงกายอย่างไม่มีความเหน็บเหนื่อยเนื่องจากอากาศไม่ร้อนอบอ้าวและฝนก็ไม่ตกหนักทั้งๆที่กรมอุตุเตือนว่าฝนจะตกหนัก

-ในยุคพระศรีอาริย์จะมีแต่สิ่งดีๆผู้คนจะมีมิตรไมตรีต่อกันไม่ทะเลาะกัน มีเมตตาต่อกันในยุคปัจจุบันใครมีความศรัทธาพระศรีอาริย์ ก็จะพบแต่สิ่งดีๆ

ค่าย 13นี้ข้าพเจ้าเองก็พบกับสิ่งแปลกๆแต่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวข้าพเจ้าคือ ก่อนจะใช้แรงกายที่บ้านสวนจะอธิฐานว่าเวลาทำงานอย่าให้เหนื่อยเร็ว

ตอนวันเสาร์ข้าพเจ้าช่วยคุณเสร็ฐขนอิฐและดัดเหล็ก และตักเศษหญ้าที่ลุงเบิ้มตัดไว้ทำงานไปเรื่อยๆยังไม่ทันเหนื่อยมากคิดว่ายังไม่กี่ชั่วโมงปรากฏว่ามีคนเรียกไปทานอาหารกลางวัน บ่ายโมงกว่าเกือบ2โมงยังไม่ทันเหนื่อยเลยทั้งๆที่ดัดเหล็กออกแรงมาก คิดว่าเวลาผ่านไปแป๊บเดียว พอตอนบ่ายไปกวาดเศษหญ้าต่อ และเก็บใบไม้ใส่ถุงแล้วนำไปเก็บไว้ด้านหลังใกล้ๆแปลงผัก เศษหญ้าที่ลุงตัดไว้มีค่อยข้างเยอะมากข้าพเจ้ากลัวว่าจะทำงานเสร็จไม่ทัน5 โมงเย็น เพราะเมื่อกวาดเสร็จแล้วต้องเก็บใส่ถุงนำไปไว้ด้านหลัง แต่ข้าพเจ้ามีความตั้งใจจะทำให้เสร็จก็จะเก็บตอนเช้าแล้วเอาไปไว้ด้านหลังปรากฎว่าเสร็จก่อนเวลา 5 โมงเย็น ข้าพเจ้าแปลกใจมากคิดว่ายังไงๆก็ไม่ทัน 5 โมงเย็น ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเพราะบารมีพระศรีอาริย์ช่วยยืดเวลาทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายและให้มีแรงทำงานอย่างไม่เหนื่อย

- คืนวันเสาร์มีการแสดงบนเวทีและย้ายไปทำการบำบัดบริเวณลานกว้างด้านหลังเวที ท่านอาจารย์อุบล คุณแหวนและแม่คุณแหวน และคนอื่นๆช่วยกันทำลานกว้างนี้ให้สวยงาม มีดอกไม้สวยๆแขวนอยู่ มีม้าหินอ่อนมีพื้นปูด้วยกระเบื้องสวยงามและร่มเย็นมาก ข้าพเจ้าขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยที่ทำลานกว้างนี้ให้สวยงาม 

ตอนมีการแสดงบนเวทีชุดของคุณอัม ข้าพเจ้าประทับใจและทราบซึ้งมาก เพราะเนื้อเพลงแสดงถึงท่านอาจารย์อุบลเปรียบเสมือนแม่ เป็นผู้ให้ของลูก แม่เหน็บเหนื่อยแม่ทำให้ลูกทุกอย่างโดยไม่หวังผลตอบแทน ข้าพเจ้านั่งดูการแสดงนี้แล้วน้ำตาซึม ในบทเพลงที่แต่งเพื่อท่านอาจารย์อุบลโดยตรง ท่านอาจารย์อุบลเกิดมาเพื่อช่วยให้คนทุกคนพ้นจากทุกข์ ข้าพเจ้าขออนุโมทนากับนักแสดงของคุณอัม ทุกท่านและทุกชุดการแสดงบนเวทีด้วย 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:07:07


ความคิดเห็นที่ 562 (1633370)

 คลิปที่ 6

DO NOT CLICK!!! HUMAN GETS DEVOURED BY WHALE mammals gone wild!

เป็นไปได้งัย..วาฬ กินคน

น่ากลัวมาก

http://www.youtube.com/watch?v=L8f5FvQZP0k&feature=related

โหด ๆๆๆๆๆๆๆๆ

น้อยกว่า คน

การเอาคืน ที่ดูหวาดเสียว

และไม่น่าที่จะเกิดขึ้นได้

เพราะปลาขนาดใหญ่เช่นปลาวาฬ นี้

จะเกยติ้น มา งาบ คน

ไป ต่อ หน้า ต่อ ตา

แต่ทางกลับกัน

กรรมวิธีที่ คน 

ทำกับ สัตว์ 

กับไม่คิด

โดนซะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:13:57


ความคิดเห็นที่ 563 (1633375)

 คลิปที่ 7

ภาพขนาดย่อ

http://www.youtube.com/watch?v=fqpKDEYdqro

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:24:09


ความคิดเห็นที่ 564 (1633376)

 คลิปที่ 8

ภาพขนาดย่อ

http://www.youtube.com/watch?v=nhROq77qDcM

คลิปที่ 7 -8 นี้

สอนให้รู้ว่า

ความประมาท คือ บ่อเกิดแห่ง ความตาย

หากมีสติ  ปฏิพาน ไหวพริบ

ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี

ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ที่เศร้าสลด

และทั้งนี้ คนเราก็ยังคงไว้ซึ่ง

ความเห็นแก่ตัว รักตัวกลัวตาย

 จึงนำมาซึ่งผลร้ายคือการสูญเสียชีวิต 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:25:40


ความคิดเห็นที่ 565 (1633380)

 คลิปที่ 9

ภาพขนาดย่อ

http://www.youtube.com/watch?v=6YSHs699QTA

555++

รอดมาได้เพราะ

บึกบึน หนังหนา  หน้าด้าน

แต่ อ.อุบล บอกว่า

อาจารย์น่ะ

บอบบาง xxx xxx  คร๊า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:37:50


ความคิดเห็นที่ 566 (1633384)

ธรรมทานของคุณนก (สุรดา) ครับ

กราบเรียนท่านอ.อุบล และกราบขอขมาท่านอ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธ์บ้านสวนพีระมิดทุก ๆ พระองค์
ที่หนูไม่ค่อยได้เขียนธรรมทาน และถ้าเขียนก็เขียนแบบแก้บน เขียนแบบไร้ความรู้สึก ต่อไปนี้หนูจะเขียนธรรมทานให้บ่อยขึ้น ถึงแม้ไม่มีโอกาสได้ไปบ้านสวนพีระมิดตลอดชีวิตของหนู แต่หนูขอความเมตตาจากท่านอ.อุบลได้โปรดมีเมตตาให้หนูได้เขียนธรรมทานด้วยค่ะ
ธรรมทานค่าย 13 มีดังต่อไปนี้ค่ะ
 เริ่มด้วย บรรยากาศรอบ ๆ บ้านสวนได้เปลี่ยนไปมาก และมีสิ่งก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น เริ่มจากโรงทานใหม่ และที่กำลังจะสร้างขึ้นใหม่ และที่พัก ทุก ๆ อย่างได้ถูกจัดขึ้นอย่างลงตัว และสวยงาม ตั้งแต่ ที่พักที่เป็นบ้านไม้ใผ่ ที่เรียงอยู่ 3 หลังข้างที่พักหรือห้องประชุมบ้านไม้ไผ่ที่จัดเรียงรายได้สวมงามและเหมาะสมอย่างยิ่งที่สวนผลไม้ ต้นขนุน ต้นมะม่วง ก็มีได้ดอก ไม้ประดับจัดเรียงรายได้สวยงามสะดุดตา โดยเฉพาะบริเวณ หน้าพีระมิดองค์ใหญ่ 5 องค์ด้านหน้าทางเข้าบ้านสวน นั้นสวยงามมากกกกก...ค่ะ และที่ไอเดียกิ๊บเก๋ ก็ตรงที่ท่านอาจารย์ นำเอาสุ่มไก่ มาเป็นเครี่องประดับสวนนั้น เป็นไอเดียที่บอกได้ว่าสุดยอดดดดดจริง ๆ ค่ะ เสียดายแทนคนที่ไม่ได้มา และก็เสียใจที่ทำให้ตัวเองไม่ได้มีโอกาสเข้ามาบ้านสวนอีก (เพราะไม่เคยให้ธรรมทานผู้อื่นเลย เป็นคนที่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้อื่นจริง ๆ สมควรแล้วที่ไม่ได้มาบ้านสวนฯ) แต่หนูจะขอเก็บความทรงจำที่ดีที่ท่านอ.อุบลมีความเมตตาให้โอกาสหนูเข้ามาร่วมบุญแรงกาย ปัจจัยสิ่งของ กับบ้านสวนพีระมิดค่ะ และจะขอทำความดีอยู่นอกบ้านสวนพีระมิด ทุกลมหายใจเข้าออกค่ะ    ส่วนกิจกรรมที่ทำในบ้านสวน (ค่าย 13 ) เริ่มต้นด้วยการสร้างบุญด้วยแรงกาย โดยทุก ๆ คนร่วมกันสร้างอาคารหลังใหม่ ช่วยกันทำสวนหลังบ้านคืน ถากหญ้า ตัดหญ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย จนถึงตอนเย็น และทุก ๆคน ก็มารวมกันหน้าวิหาร เพื่อร่วมกิจกรรมตอนเย็น ซึ่งมีการแสดงเหมือนกับทุก ๆ ค่าย ที่ผ่านมาเพื่อให้ทุกคนที่เข้าร่วมค่าย ได้มีความสุขจากการแสดง ได้พักและหายเหนื่อยจากการให้แรงกายในการสร้างบุญ นี่ก็ถือว่าเป็นความเมตตาอีกอย่างของอ.อุบลที่มีต่อลูกบ้านสวนฯ ทุก ๆ คน และพอจบการแสดง อ.อุบลก็มีเมตตาให้ทุก ๆ ไปนั่งพัก กินบาบีคิว มันปิ้ง ฝักทองปิ้ง กันอย่างเอร๊ดอร่อย เป็นบรรยากาศที่มีความเป็นกันเองและดูทุก ๆ คนมีความสุข มาก กว่าทุก ๆ ค่ายที่เคยเข้ามา และท่านอ.อุลก็มีเมตตาบำบัดให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย เข้ารับการบำบัดให้ต้นมะม่วงโดยมีม้านั่ง ที่จัดไว้อย่างลงตัว โดยให้ทุกคนเข้ามา โดยใช้จี้ของน้องชินซึ่งมีอยู่ 9 องค์ ให้ผู้เข้ารับการบำบัดถือไว้ในมือ แล้งให้ทุกคนช่วยกันนับ ว่าใช้เวลากี่นาที แล้วหายจากอาการเจ็บป่วย แต่ที่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างได้ชัดเจนก็คือการบำบัดอาการของน้องริน ลูกสาวอ.นี ซึ่งมีอาการของเท้าที่เดินไม่ตรงมาตั้งแต่เกิด อาจารย์ให้น้องริน ถือจี้ไว้ในมือ และรองเดินไปกลับให้อาจารย์ดู ซึ่ง ทุก ๆ คนในค่ายได้ร่วมกันดูและเป็นสักขีพยาน ปรากฎว่าเท้าน้องรินที่เดินผิดรูปได้เข้าเข้ารูปและหายแบบฉับพลันทันทีโดยใช้จี้ 9 องค์ บำบัดโดยที่ยังไม่ได้สารภาพบาป โดยหายเวลากี่นาทีหนูจำไม่ได้ค่ะ เพราะมัวแต่รุ้นอาการเดินของน้องริน และทุก ๆ ก็ช่วยกันเปล่งวาจาว่า สาธุ สาธุ สาธุ ดีใจด้วยนะค่ะน้องรินที่หายจากอาการผิดปกติจากเท้าค่ะ
ส่วนกิจกรรมในวันที่ 7/10/55 เริ่มจากคุณพ่อใหญ่ธนา ได้ให้ทุก ๆ คนร่วมกันออกกำลังกายโดยการให้ทุกคนได้ออกมาคิดท่าออกกำลังกายตรงกลางวง ทุก ๆคนเข้าร่วมกันออกกำลังกาย ถึงจะไม่พร้อมเพียงกันเท่าไหร่แต่ทุกคนก็ให้ความร่วมมือดีค่ะ ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีเข้ามาใหม่ สดๆ
ร้อน ๆ คือการทำ work shop โดยให้ทุกคน ๆ แบ่งกลุ่มและทำการบำบัดเพื่อนร่วมกลุ่ม และสรุปผลดังนี้ กลุ่มของหนู มีหัวหน้ากลุ่มคือพี่เหมี่ยว และพี่เหมี่ยวก็บอกว่าใครมีอาการเจ็บตรงไหน ขอให้บอก และจะได้ทำการทดลองบำบัดดู (ขอเล่าตอนบำบัดกับหนูนะค่ะ) คือหนูมีอาการเจ็บคอบ่าไหล่ และให้หนูใช้วีธีการสารภาพบาปออกมาโดยให้นึกถึงกรรมที่เราได้สร้างไว้กับคนกับสัตว์ แต่หนูสารภาพออกไปโดยยังยิ้มอยู่เลยทำให้พี่เหมี่ยวคิดว่าหนูไม่สำนึกบาปที่ได้ทำลงไป ความจริงก็คือหนูสำนึกบาปอยู่แล้วทุก ๆ วัน และขอขมาทุก ๆ วัน อยู่แล้วแต่พออยู่ในกลุ่มสารภาพออกไปโดยใบหน้ายังยิ้มอยู่เลยถูกเข้าใจผิด แต่อาการที่เจ็นคอบ่าไหล่ ก็เบาขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัดประมาณ 70 % ส่วนวิธีการต่อไปคือ ให้ทุก คนเอาจี้สฟิงที่ติดตัวมารวมกันทุก ๆ คน และรวมได้ 14 องค์ และให้หนูใช้จี้ถือไว้ในมือและขออาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ที่มีอ.อุบลเป็นผู้อาราธนามาให้รักษาอาการบำบัด ผลออกมาว่าอาการเจ็บคอบ่าไหล่ของหนู เบาขึ้นอีก 95 % และก็ทดลองกับคุณก๊อตที่มีอาการเจ็บตา ตาแดง บวม และเห็นได้ชัดคุณก๊อตเอาจี้สฟิง 14 องค์รวมกันมาทาบไว้ที่ตาที่เจ็บอยู่ ผลที่ได้รับคืออาการเจ็บตา และตาแดงของคุณก๊อต แทบจะให้เป็น 100 %  และได้สอบถามคุณก๊อตว่าหายเจ็บตาไหม หายระคายเคืองตาไห คุณก๊อกบอกว่าหายแล้ว และที่เห็นได้ชัดเจนอีกคนหนึ่งคือคุณเจี๊ยบ ซึ่งมีอาการคันที่เข่า เข่าดำและด้านเพราะเนื่องจากเกา และได้ให้คุณเจี๊ยบอธิฐานรักษาเข่าผลออกมาว่าอาการคันทีเข่าหาย และเข่าเปลี่ยนสีจากดำ เป็นสีออกน้ำตาลและจากเข่าที่ด่านเป็น อ่อนนิ่มลง นี่คือผลที่ได้เห็นเป็นรูปธรรมจากจากตัวเอง และตาของเพื่อน ๆ อีกหลายคนในกลุ่ม
ส่วนกลุ่มอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือกลุ่มของอ.อภิชัย ซึ่งมีเด็ก ๆ เป็นเพื่อร่วมกลุ่ม มีการตอบปัญหา ในการช่วยผู้อื่นอย่างไรให้เขาพ้นทุกข์หรือหายเจ็บป่วย เด็ก ช่วยกันตอบได้ดีและเก็บรายละเอียดได้ดีกว่าผู้ใหญ่ซะอีก ซึ่งที่เด็ก ๆ ตอบนั้นก็เป็นการบำบัดแบบฉบับที่บ้านสวนพีระมิดใช้ในการบำบัดอยู่แล้วเช่น ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย,สารภาพกับจี้,สารภาพกับอ.อุบล,มาทำบุญแรงกายที่บ้านสวน,อนุโมทนาหน้าจอ,ดูรายการให้ครบ 9 ตอน,เขียนธรรมทานในเวปบ้านสวนฯ,ขึ้นมาเล่าธรรมทานบนเวที,เลิกทานเนื้อสัตว์ ,รักษาศิล 5 
สรุปผลที่ได้จากการเข้าค่าย 13 นี้คือ
1. ได้รู้วิธีการรักษาหรือช่วยผู้อื่นที่เขามีความทุกข์กายทุกใจ โดยบอกให้เขาใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย หรือใช้จี้บำบัดโดยให้เขาสารภาพกับจี้ รวมจี้หลายๆ องค์รวมกันและใช้ในการรักษา
2. ทุก ๆ คนต้องรวมพลัง รักและสามัคคี มีความเมตตาต่อกันช่วยเหลือกัน
3. ทุก ๆ คนต้องช่วยกันรักษา 3 รุ่มโพธิ์ศรี คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 
4. ทุก ๆ คนต้องรักษาศิล 5 ให้บริสุทธิ์ มีพรหมวิหาร 4 ลดการสร้างบาป ทางกาย วาจา ใจ ลดความอยาก
5. ส่วนภัยพิบัตินั้น อาจเกิดเป็นที่ ๆ จะร้ายแรงแค่ไหนมิอาจรู้ได้แต่ทุกคนได้ดูคลิปภัยพิบัติแล้ว และคิดว่าทุก ๆ คนคงเตรียมตัว เตรียมใจไว้บ้างแล้ว และหาวิธีเอาตัวรอดกัน และช่วยผู้อื่นให้รอดพ้นด้วย
สุดท้ายลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล และสิ่งศักดิ์บ้านสวนพีระมิดทุก ๆ พระองค์ ที่มีเมตตาให้ลูกได้เข้ามาร่วมบุญด้วยแรงกาย และบุญอื่น ๆ อีกมากมายและกราบขมาท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุก ๆ พระองค์ และทุก ๆ อย่างที่เคยล่วงเกินท่านอ.อุบล ด้วยทางกาย วาจา ใจ และไม่ค่อยได้เขียนธรรมทาน นี่คงเป็นธรรมทานที่ยาวที่สุดเท่าที่หนูได้เขียนมา และนี่เป็นบทเรียนที่สำคัญในชีวิตหนูที่ทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงที่ไม่เขียนธรรมทาน ทำให้เป็นสาเหตุไม่ให้ไปที่บ้านสวนตลอดชีวิตนี้ ถึงจะไม่ได้ร่วมบุญที่บ้านสวนฯ แต่หนูก็จะขอเป็นคนดีทุกลมหายใจเข้าออก และขอน้อมถวายบุญนี้แด่เทพ พรหมเทวดาที่รักษาท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล และคุณท๊อป และน้อมถวายความดีแด่ท่านอ.อุบล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ค่ะ
                                                                                   สุรดา ศรีสุข
 
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:46:56


ความคิดเห็นที่ 567 (1633385)

 คลิปที่ 10

ภาพขนาดย่อ

กระสือ ในกล้องวงจรปิด

ที่โรงงาน ย่านปทุมธานี

http://www.youtube.com/watch?v=rYDQy2fdK40

พุทธคุณ คือสิ่งยึดเหนี่ยว

หากเจอกระสือ....จ๊าก.ก.ก.ก

อ.อุบล ช่วยด้วย

เพราะเป็นสิ่งที่ อ.อุบล เตือนมานาน 

และ

บ่อย ๆ  ว่า จิตวิญาณ

ผีร้าย จะเข้ากรุง

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ที่ปทุมฯอีก

ที่เป็นข่าวว่า มีคราบเลือด ระยะทางกว่า 2 กม.

ชาวบ้านก็เชื่อว่า เป็นผีกระสือ

จ๊าก.ก.ก.ก

กระสือ โหดร้าย น่ากลัว

ระวังตัว คืนนี้ อาจมาเยือน

อย่าลืม...อ.อุบลช่วยด้วยนะคะ พี่น้อง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:48:45


ความคิดเห็นที่ 568 (1633387)

มาต่อค่ะ

เมื่อวานเจี๊ยบเล่าถึงตอนทำ workshop ในตอนเช้าของวันอาทิตย์ ซึ่งท่านอาจารย์ตั้งโจทย์ว่า เรื่องการบำบัดคนที่เจ็บป่วยจะช่วยเหลือเขาได้ยังไง โดยที่ไม่มีท่านอาจารย์อยู หลังจากท่านอาจารย์ให้เวลาประมาณ 35 นาที อาจารย์ก็ได้ให้หัวหน้ากลุ่มทุกกลุ่มมาสรุปผลงานของกลุ่มว่าได้ผลอย่างไรบ้าง

1.กลุ่ม ดร.จิ๋ม ใช้วิธี ให้ทุกคนบอกปัญหาสุขภาพวนกันทุกคน จากนั้นรอบที่ 2 ให้ทุกคนบอกกรรมที่เคยทำมา สำนึกผิดด้วย และให้สารภาพบาปกับจี้ของน้องชิมซึ่งมีอยู่ 9 องค์ ซึ่งก็มีคนในกลุ่มท่านหนึ่ง สารภาพบาปว่า เคยฆ่ามด มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นบาปใหญ่ เลยไม่สำนึกผิด 

กลุ่ม ดร.จิ๋มยังไม่ได้สารภาพบาปครบทุกคนได้เพียง 2 คน และรายงานผลการบำบัดยังไม่มี

2.กลุ่ม ดร.จุ๋ม ใช้เวลาสมควรในการบอกปัญหา อาการของแต่ละคน กลุ่มนี้ใช้จี้ของแต่ละคนยกขึ้นมาพร้อมกันแล้วบำบัดหมู่ ใช้ความสามัคคีพร้อมเพรียงในการช่วยกันรักษา

3.กลุ่ม อ.อภิชัยซึ่งเป็นหัวหน้าของกลุ่มเด็กๆโดยเฉพาะ กลุ่มนี้เด็กเขามีความคิดน่าทึ่งมาก ที่สมควรให้ส.ว.ต้องแทบมากราบเด็กๆ ซึ่งความคิดของเด็กในการที่จะรักษาบำบัดช่วยเหลือคน แต่ละคนมีความคิดดังนี้

     1.ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย

     2.สารภาพบาปกับจี้

     3.สารภาพบาปกับ อ.อุบล

     4.ไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนฯ

     5.อนุโมทนาหน้าจอ

     6.ดูคลิป 9 ตอน

     7.เขียนธรรมทาน

     8.เล่าธรรมทานบนเวที

     9.เลิกกินเนื้อสัตว์

    10.รักษาศีล 5

    11.สัตว์ไหนไม่ตายอย่าไปซื้อ

สุดยอดเลยค่ะ สำหรับความคิดของเด็กๆ เจนเนอเรชั่นใหม่ของบ้านสวนฯ ซึ่งเข้าใจแล้วว่าค่ายนี้ท่านอาจารย์คัดเฉพาะผู้ที่จะเป็นผู้นำเข้ามาทำหน้าที่เท่านั้น ทำไมถึงมีเด็กๆได้รับการคัดเลือกเข้ามาด้วย เพราะความคิดของเขาจะเป็นผู้นำรุ่นต่อไปต่อจาก ส.ว.นั่นเอง

ในภาพรวม เด็กๆทั้งหมด 15 คน ซึ่งมีอาการเจ็บ ปวดแทบทุกคน หาย 100% = 11 คน ดีขึ้น 90% = 2-3 คน และเหลืออีกนิดเดียว 1-2 คน

และน้องต้นกล้าได้ใช้จี้รักษาให้น้องมาร์คลูกคุณอร มีอาการปวดหลัง น้องมา์ร์คได้สารภาพว่าเคยฆ่าไก่ เหยียบหลังของพ่อ ปู่ ย่า เมื่อสารภาพบาปก็หายทันทีค่ะ

4.กลุ่มพี่เหมี่ยว ซึ่งเจี๊ยบอยู่ในกลุ่มนี้ ได้สรุปว่า หายทันที 3 คนโดยไม่ต้องสารภาพบาปเพียงนั่งฟังคนอื่นสารภาพบาปกรรมแล้วก็คิดตามก็หายเอง ส่วนอีก 4 คนก็ใช้วิธีสารภาพบาปกรรมและใช้จี้ของทุกคนรวมพลังกันให้คนที่มีอาการถือจี้ และสารภาพกรรมก็หายหมดค่ะ ซึ่งท่านอาจารย์ได้ให้เจี๊ยบขึ้นไปบนเวทีเพื่อให้ไปโชว์หัวเข่้าที่คันและมีผิวหนังที่ดำ หนาเป็นปื้น เมื่อเจี๊ยบจะขึ้นเวทีก็ถลกขากางเกงเพื่อจะได้ให้คนอื่นเห็นหัวเข่า ปรากฏว่าสีผิวของเข่าจางลงอย่างเห็นได้ชัด และหนังที่หนา แข็ง ก็นิ่มลงด้วยค่ะ

สรุป จี้ที่ใช้รักษา 14 องค์นั้น แต่ละองค์มีพลังอนันตจักรวาล เมื่อรวมจี้หลายองค์ พลังอนันตจักรวาลก็ยิ่งทวีคูณและพี่เหมี่ยวใช้จี้รักษาคนเยอะ ทำให้มีบารมีพระพุทธองค์เต็มตัว การรักษาจึงได้ผล 100 %

*ค่าย 13 นี้ จะเปลี่ยนกฏเก่าหมดและใช้กฏใหม่ทั้งหมด ที่พลังอนันตจักรวาลจะมาช่วยทุกคน

5.กลุ่มคุณเอกลูกป้าเตือน ใช้จี้รวมพลังกันรักษาให้กับคนที่ศรัทธาและอาราธนาบารมีพระศรีอารย์มารักษา ซึ่งวิธีนี้ เป็นวิธีที่ดี แต่ต้องใช้เวลาในการรักษา

ท่านอาจารย์เน้น ให้เราสวดบารมีพระศรีอารย์อย่างน้อยวันละ 99 จบ ขอบารมีคลุมกาย วา ใจ ให้สวดมนต์บารมีพระศรีอารย์ให้ได้

ก่อนนอนให้สวดมนต์ทั้ง 4 บท คือ คาถาปะโตเมตัง  คาถาท้าวเวสสุวรรณ คาถาเงินล้าน และคาถาพระศรีอริยเมตไตรย์ จะนอนท่อง นั่งท่อง ก็ได้ให้ท่องไปจนหลับเลย

ส่วนตอนเช้าตื่นนอนก็อย่าเพิ่งลุกจากที่นอน ให้ท่องคาถาทั้ง 4 คาถาให้ครบก่อนจึงจะลุก หรือถ้ารีบก็ให้ท่องตอนอาบน้ำ แปรงฟัน เข้าส้วมด้วย ให้ท่องตาถาพระศรีอริยะเมตไตรย์ให้มากหน่อย 99 ครั้งต่อวัน คาถาเหล่านี้จะซึมเข้ากระแสเลือด

ในเวลาฉุกเฉินให้รวมพลังกันรักษาโดยใช้จี้ยกโชว์ออกมา รวมพลังกันรักษาคนป่วยขอให้หาย

6.กลุ่ม รศ.เบ็ญจรัตน์  กลุ่มนี้มีปัญหาการเงินเป็นส่วนใหญ่ ต้องติดตามผลต่อไป

7.กลุ่มป้าอุ๊ ให้ทุกคนบอกปัญหาของตัวเอง แล้วมาสรุปปํญหาว่าสาเหตุที่เกิด เพราะศีล 5 ไม่ครบ ใช้วิธีรักษา โดยคนในกลุ่มชูจี้ขึ้นมาแล้วใช้จิตรักษา

8.กลุ่มน้องขวัญ จากการที่น้องขวัญใช้จี้ช่วยรักษาคนเยอะตั้ง 80 กว่าคนจะรับรู้พลังที่วิ่งอยู่ในตัวของน้องขวัญ ซึ่งจะรู้สึกร้อนและเกิดอาการปิติ ใช้วิธีรักษาโดยนำจี้ของทุกคน รวมทั้งอุปกรณ์ ธนบัตรขวัญถุงใส่รวมกันอยู่ที่น้องขวัญ คนที่นั่งติดกับน้องขวัญ ซึ่งมีอาการปวดแขนที่2 ข้าง แขนข้างที่ิติดกับน้องขวัญหายสนิท ส่วนแขนข้างที่ไม่ติดกับน้องขวัญหายน้อยกว่า ส่วนคนอื่นหาย 50 % โดยยังไม่ได้สารภาพบาปเลย เพราะสามารถรับพลังอนันตจักรวาลได้ โดยขวัญทำตัวเองเป็นที่สะสมพลังงาน

9.กลุ่มอาจารย์พันธ์ กลุ่มนี้เมื่อมาทำงานในวันเสาร์ อาการเจ็บที่ปวดมาก็หายหมดแล้วตั้งแต่วันเสาร์

10.กลุ่มคุณอมร ซึ่งเรียกตัวเองว่ากลุ่มบ้ากาม ใช้วิธีศึกษาปัญหา และใช้วิธีการรวมพลัง โดยคิดว่า อ.อุบลนั่งอยู่ด้วย แล้วรวมพลังจี้เข้าด้วยกัน แล้วสารภาพบาป อาการดีขึ้นระดับหนึ่ง

ซึ่งท่านอาจารย์สรุปให้ฟังว่า ทุกกลุ่มทำได้ดี แต่วิธีการที่จะรักษาคนอื่น และช่วยเหลือได้ทันท่วงที นั้นเป็นวิธีของกลุ่มพี่เหมี่ยว ซึ่งใช้วิธีรวมจี้รักษา

จากนั้นช่วงพักเที่ยงทานข้าว มีอาหารเป็นข้าวหน้าเป็ดเจ อร่อยสุดยอดเหมือนและอร่อยมากค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับแม่ครัวและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ

พรุ่งนี้จะมาต่ออีกค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:53:03


ความคิดเห็นที่ 569 (1633388)

 Work Shop ระดมวิธีการใช้จี้ช่วยคน และดับเหตุแห่งทุกข์

 

        ในวันอาทิตย์พวกเราได้ทำ work shop แบ่งกลุ่มระดมความคิดการใช้จี้บำบัดทุกข์  โดยกลุ่มที่น่าสนใจที่สุดต้องยกให้กลุ่มของพี่เหมี่ยวเลยค่ะ  เพราะว่าเป็นวิธีการที่ง่าย ใช้เวลาน้อย เกิดผลทันที เหมาะกับการใช้ช่วยผู้คนเมื่อเกิดภัยพิบัติ  

        เช่น  กรณีคุณก๊อตซึ่งตาบวมแดง  ก็มีการรวมจี้ 14 องค์นำมาทาบที่ตาคุณก๊อต  โอ้โห !! อัศจรรย์มากค่ะ ตาที่บวมแดงหายเกือบหมด  ที่เหลือก็ให้คุณก๊อตสารภาพบาป คุณก๊อตสารภาพว่า เคยดูสิ่งที่ไม่ดี ดูหนังโป๊  ค้อนภรรยา หลังจากสารภาพอาการหาย 100 % ค่ะ สาธุ

       ส่วนคุณเจี๊ยบซึ่งคันที่เข่ามา 7 ปี เกาจนเข่าดำหนาด้าน  แต่เมื่อนำจี้ทั้ง 14 องค์มาสัมผัส อาการคันก็หาย เข่าที่หนาก็ขาวขึ้น  สุดยอดแห่งพลังแห่งอนันตจักรวาลจริงๆค่ะ ^__^

       

สำหรับบางท่านอาการยังไม่หาย 100% ก็ต่อด้วยการอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์มาโปรดค่ะ  แต่เคล็ดลับที่ต้องรู้ก็คือ  ถ้าขอบารมีพระองค์ท่านต้องศรัทธากำลังใจเต็ม 100% ถึงจะหาย 100%

การสารภาพก็เช่นกันค่ะ  ผู้สารภาพจิตต้องเปิด สำนึกบาปและต้องการจะเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างแท้จริงถึงจะเกิดผล 100 % ค้า ^__^

       

สำหรับกลุ่มของน้องขวัญซึ่งน้องขวัญเล่าให้ฟังว่าหลังจากใช้จี้ช่วยคนมาเยอะก็สัมผัสว่าจี้อุ่นและมีพลังงานไหลเวียนทั่วร่างกาย  และเมื่อได้ใส่จี้พร้อมกันถึงประมาณ 10 องค์ ก็รู้สึกร้อนและเกิดปีติขึ้น และช่วยคนให้พ้นทุกข์อย่างรวดเร็วน่าอัศจรรย์ สุดยอดค้า

 

        อีกเรื่องหนึ่งที่มิ้มรู้มาแล้วตื่นเต้น !!!  มากๆ ก็คือ หากใช้จี้ร่วมกับรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ด้วยความศรัทธาจะยิ่งเกิดอัศจรรย์ ช่วยให้เด็กที่ไปแข่งโอลิมปิกชนะได้อีกด้วยค่ะ  โอโหๆๆๆๆๆๆ สุดยอดแห่งพลังจริงๆๆนะคะเนี่ย ^__^ ต่อไปประเทศไทยของเราคงได้เป็นแชมป์โอลิมปิกแน่ๆเลยค่ะงานนี้

       

จากที่ฟังมามิ้มก็สรุปได้ว่า จี้เป็นอุปกรณ์รับพลังมหาศาลจากอนันตจักรวาล โดยต้องใช้ร่วมกับจิต และผู้ช่วยต้องมีความเมตตาอยากที่จะช่วย  ทำให้ส่งพลังงานบวกไปมากและรับพลังได้มากขึ้น 

 

ยิ่งช่วยคนมากเท่าไรจี้ก็จี้ก็จะมีพลังมาก  ขณะเดียวกันเมื่อรวมจี้หลายองค์ไว้ด้วยกันก็จะยิ่งรับพลังงานจากอนันตจักรวาลได้มหาศาลเพิ่มมากขึ้น

ยิ่งรู้มิ้มก็ยิ่งรู้สึกทึ่งกับพลังของจี้องค์เทพสฟิงค์ว่ามีพลังมหาศาล  นำมาช่วยเหลือผู้คนได้มากมายมหาศาลเหลือเกิน  กราบขอบพระคุณในความเมตตาของเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ที่ส่งพลังงานมหาศาลจากอนันตจักรวาลมาช่วยเหลือผู้คนให้พ้นทุกข์กราบขอบพระคุณค่ะ สาธุ  สาธุ สาธุ

เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ ^__^

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 21:56:41


ความคิดเห็นที่ 570 (1633391)

 คลิปที่ 11

คำเอื้อย + คำอ้าย

ได้อะไรกับคลิปนี้

ได้แต้ม

น่ารักซะ...555 ++

และในช่วงกิจกรรมบนเวที

ของค่ำคืนวันเสาร์ที่ 6

มีการแสดง 2 ชุด

และชุดในภาพที่เห็น

เป็นละครที่น่ารัก ได้สาระ

ในเรื่อง 

รถดำนา เลือกคู่

เอ้ย ม่าย ช่าย

รจนา เลือกคู่ค่ะ

อิ อิ สังเกตุให้ดี ๆ นะคะ

ในภาพน่ะ จะเห็นนางรจนาด้วย

แต่

ถึงยังไง ก็ สวยสู่ เด็ดพี่ทั้งสองไม่ด้าย

และอีก 1 การแสดง 

คือ เพลง มอบให้แม่

เป็นอะไรที่ ตระการตามาก

งานนี้ มีน้องใหม่ ใสกิ๊ก

แบบ

ป้าอุ๊...คนสวย 

โห..เราดูไปก็ลุ้นไป

ที่ไหนได้ พริ้ว ซะ 

เด็ก อาย

และอีก 1 คน 

ที่ก้าวขึ้นเวทีครั้งแรกขอเธอ

เธอคือ เวียน เวียนม่า

น่ารักอ่ะ ตัวเอง

ใช้เวลาซุ่ม ซ้อม กันแค่ช่วงข้ามคืน

ผลงานที่ออกมา...สวด.ด.ด.ด  ยอด

ขอ ตรบมือให้อีกครั้งนะคะ

ทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหน้า 

และ เบื้องหลังการแสดงค่ายฯ 13 นี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 22:06:45


ความคิดเห็นที่ 571 (1633392)

คลิปที่ 7

ภาพขนาดย่อ

http://www.youtube.com/watch?v=fqpKDEYdqro


คลิบที่ 7

เป็นเรื่องราวของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวสวนสัตว์เปิด

และต้องการได้ภาพสัตว์ป่าใกล้ ๆ จึงลงจากรถไป

ผลคือ โดนสิงโตรุมขย้ำ โดยเพื่อนและภรรยาของเค้าเอง

ได้แต่ตกใจ ไร้สติ ไม่เข้าไปช่วย เอาแต่ถ่ายภาพเก็บไว้

ซึ่งท่านอาจารย์บอกว่า ถ้าเพื่อนของเค้าแค่ขับรถฝ่าไปจอด

คร่อมชายคนนั้นไว้ ก็อาจรอดตายได้ แต่ไม่มีใครทำ

ทุกคนคิดแต่เอาตัวรอด แม้แต่ภรรยาที่รักของเค้าเอง

เปรียบเทียบกับในหลวงของเราถูกทำร้าย

แต่เราไม่เข้าไปช่วยพระองค์ท่าน

ทุกวันนี้พอมีบุญโดยเสด็จพระราชกุศล

ทุกคนรู้ว่าเป็นบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์สูง ก็จะทำบุญกัน

เรามัวแต่มารับบุญของในหลวง กินบุญของท่าน

แต่ไม่คิดจะช่วยพระองค์ท่านเลย

หันมาปรับเปลี่ยนตัวเองจากผู้รับเป็นผู้ให้บ้าง

อย่างน้อยก็ทำความดีเพื่อพ่อหลวงของเรา

โดยการเลิกเห็นแก่ตัว หันมาทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม

คนที่กินเงินเดือนหลวงก็ตั้งใจทำงานให้คุ้มค่า

คนที่ทำธุรกิจส่วนตัวก็เสียภาษีให้ถูกต้อง เป็นต้น

เลิกนิสัยมักง่าย ทิ้งขยะไม่ถูกที่

เลิกทะเลาะกัน หันมารักและสามัคคีกัน

ดูแลลูกหลานให้เป็นคนดี ไม่ทำตัวเป็นภาระของสังคม

กลับมาเป็นพลเมืองดีของประเทศ

อนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

และขอบคุณรูปสวย ๆ จากคุณแมวนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 22:22:28


ความคิดเห็นที่ 572 (1633396)

ความรู้สึกและสิ่งที่ได้รับจากการเข้าค่าย 13 ค่ะ

ก่อนมาบ้านสวนฯป่วยหนักเลยค่ะ รู้สึกว่าร่างกายแย่มาก ไม่อยากทำอะไรเลย มันไม่มีแรง จะนอนอย่างเดียว และคิดว่าจะไปบ้านสวนฯไหวไหมเนี่ย และมีจิตแว๊ปขึ้นมาว่าไม่อยากไป พอได้สติ ก็คิดใหม่ ใช้กำลังใจใหม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องไปเข้าค่ายให้ได้ และขอบารมีพระศรีอาริย์ ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ให้อาการป่วยดีขึ้นและไปเข้าค่ายให้ได้ อาการก็ดีขึ้นมานิดนึงค่ะ และในใจมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า ถ้าเราพาตัวเองไปให้ถึงบ้านสวนฯได้ อาการป่วยจะต้องหายแน่นอน 555 แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ โดยไปถึงคืนวันศุกร์พอไปถึงอาการดีขึ้นประมาณ 95% พอเช้าวันเสาร์หายป่วย 100% เลยค่ะ

ตอนที่ทำ workshop มีอาการปวดเมื่อยตามตัว หลังจากการบำบัดอาการดีขึ้น 95% ค่ะ และมีอาการปวดบ่า ได้คุณแหวนมาเป็นผู้บำบัดให้ ได้สารภาพบาปว่าเคยขายยาสตรีให้กับคนที่คิดจะนำไปขับเลือดเพื่อทำแท้ง โดยไม่ได้พูดคัดค้าน ก็เท่ากับว่าเรามีส่วนเห็นด้วยกับการกระทำของเขา ขายยาคุมฉุกเฉิน พาหมาแมวไปทำหมันกว่า 20 ตัว พอสารภาพแล้วอาการดีขึ้น 95% ค่ะ และก็ได้บำบัดให้คุณแหวนด้วยอาการเดียวกันค่ะ พอคุณแหวนสารภาพก็ดีขึ้นประมาณ 95% ค่ะ

กิจกรรม workshop เป็นกิจกรรมรูปแบบใหม่ที่เราทุกคนไม่เคยทำมาก่อน โดยส่วนตัวชอบกิจกรรมนี้มากค่ะ ทำให้ทุกคนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในมุมมองของตัวเอง ได้แสดงออกโดยไม่ต้องเขินอาย ได้ความสามัคคี ทำให้เราได้มุมมองใหม่ๆจากความคิดเห็นที่แตกต่างทำให้ได้ไอเดียใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ ทำให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม และที่สำคัญไม่ทำให้ง่วงด้วยค่ะ ทั้งสนุกและได้สาระมากเลยค่ะ และสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม และกิจกรรมนี้ยังทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้สร้างภาวะผู้นำให้กับตัวเองอีกด้วยค่ะ

การมาเข้าค่ายในครั้งนี้สิ่งที่ได้รับมีแต่ความสุข สุข สุขค่ะ หรือแม้แต่ครั้งอื่นๆที่ได้มาบ้านสวนฯก็มีความสุขทุกครั้ง เหมือนได้กลับบ้านมาเจอญาติสนิท มิตรสหายที่คุ้นเคยกันมาแสนนาน และเหมือนได้กลับมาเจอแม่ที่เป็นผู้ให้ที่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ ท่านทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเราได้พ้นทุกข์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นทุกๆด้าน ที่ผ่านมาลูกคนนี้ทำหน้าที่รับได้สมบูรณ์แบบ แต่ยังขาดตกบกพร่องในหน้าที่ของการเป็นผู้ให้อย่างมาก และกิจกรรมค่าย 13 นี้ ได้ปลุกลูกให้ตื่นขึ้นมา เพื่อที่จะทำหน้าที่ของการเป็นผู้ให้อย่างจริงๆจังๆแล้วค่ะ ลูกจะตั้งใจทำความดีเพื่อความดี อย่างที่ท่านอาจารย์เคยสอนค่ะ และลูกคนนี้ขอน้อมกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ องค์พระศรีอาริยเมตไตรย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล ที่เมตตาให้ลูกได้เข้าร่วมกิจกรรมค่าย 13 นี้ ตลอดจนให้ได้รับความสุขในทุกๆด้าน ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 22:29:12


ความคิดเห็นที่ 573 (1633400)

 พระเมตตาพระศรีอาริย์ท่านทรงเปี่ยมล้น 

      ช่วยผลักดันให้ผู้คน

           ที่ยังมีกิเลสในจิตตน

                   ได้หลุดพ้นไม่เวียนวาย

                       ตายเกิดในภพหน้าเอ่ย

       ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นางยุวรัตน์  พันธุวงษ์     

       ที่ตั้งใจ ตามหา พระองค์อีกหนึ่งคนพระเจ้าค่ะ    

อันความเมตตาที่เปี่ยมล้นนั้น  เหล่าชาวค่าย 13 พากัน ได้เคล็ดลับภาวนาในทุกวัน

พร้อมใจกัน สวดพระคาถา พระศรีอาริย์เมตไตร

ให้ได้วันละ 99 จบ ตั้งแต่ 9 วันขึ้นไป

ชีวิตดีขึ้นได้อย่างพลังอนันตจักรวาล

พระคาพระศรีอาริย์ว่าได้ดังนี้

          เมตตานะ       ศรีอาริย์เมตโต

          พุทธานะมะ     สันติเกโล 

                   อนาคามี

              สาธุ  สาธุ   สาธุ

           กราบ    กราบ    กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 22:31:49


ความคิดเห็นที่ 574 (1633406)

พระเมตตาพระอริยบุคคลช่างเปี่ยมล้น

     ที่ใครๆหลายคนต่างเรียกนามท่านว่า

            อาจารย์อุบล

                   ผู้มีปัญญาอันแหลมเฉียบคม

                      ขัดเกลากิเลสให้ลูกศิษย์ตน

                          เพื่อหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน

              ในชาติปัจจุบันนี้เอ่ย

                         (เกือบลงไม่ได้ แฮะ ๆๆๆๆๆๆๆๆ)

            ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์

ขอกราบงามๆๆๆ 3 ครั้ง

กราบ กราบ กราบ

อาจารย์อุบลช่วยด้วย

อาจารย์อุบลสวยจริงๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 22:47:58


ความคิดเห็นที่ 575 (1633410)

ความแปลกใหม่ในค่าย 13

            มีพลังงานมหาศาล    ที่เรียกว่าพลังอนันตจักรวาล

พลังงานนี้ถ้าไม่มีเครื่องรับที่ดีก็คงรับไม่ได้ไม่ชัดเจน ดังนั้น

สิ่งที่ดึงดูดพลังงานอนันตจักรวาลนี้ได้ดีคือ

จี้องค์เทพสฟิงค์ที่มีตั้งแต่ 9 องค์ขึ้นไป

ได้รับความเมตตาให้ได้รับทราบ  ถ้าใครมีจี้องค์เทพสฟริงซ์ไม่

ถึง 9 องค์ ให้ใช้วิธีใช้จิตนึกถึงคนที่เรารักที่มีจี้เหมือนกันนึกถึง

พลังงานจี้ที่เพื่อนนั้น หรือนึกถึงท่านอ.อุบลจะทำให้พลังงานด้าน

บวกจะมารวมตัวกันที่จี้ของเราทำให้ปริมาณของจี้จะมากกว่า

เดิมมีพลังงานมากกว่าเดิม สามารถนำช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยได้

ทันที  

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 23:02:55


ความคิดเห็นที่ 576 (1633414)

  พอเลี้ยวรถเข้าบ้านสวนก็พบความแปลกตาไปมาก

  มีการก่อสร้างขุดหลุมวางตอหม้อสร้างอาคารเพิ่ม

  ได้เห็นสวนสวรรค์งดงามตามาก แถมอากาศเย็นสบาย

  ซึ่งท่านอาจารย์บอกว่าอยู่ใกล้องค์พีระมิดจึงมีพลังดึงดูดมาก

  เช้าวันเสาร์ก่อนเริ่มพิธีต่างคนก็รีบโกยบุญทำทุกอย่างที่ให้สถานที่สะอาด

  หลังท่านอาจารย์เปิดพิธีต่างก็เริ่มสร้างบุญใหญ่ยกปูนเทตอหม้อ

  เป็นสายพานแทบไม่มีช่องว่างให้หลุดมือ เหนื่อยหยุดพักมัดเหล็กต่อ

  พักเที่ยงทานก๋วยจั๊บกันอย่างอร่อย ต่องานก่อสร้างอีกครั้งมีฝนโปรยปลาย

  เข้าภาคกลางคืน มีฉายเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างให้ดู ผมเองนั้นไม่ได้ดู

  มัวแต่งองค์ทรงเครื่องรอทำการแสดงละคร

  ซึ่งมีการแสดง 3 ชุด ระบำของคุณอัน ชุดเต้นต้อนรับสมาชิกใหม่ และชุดละครสังข์ทอง

   จบการแสดงแล้วท่านอาจารย์ไห้ทำการแยกกลุ่มเพื่อทำกิจกรรม workshop

   ระดมความคิด เมื่อเจอโจทย์ปรามาสพระเจ้าอยู่หัว ปรามาส ดร.อาจอง

  ปรามาสพระ ปรามาสอ.อุบล เราจะมีวิธีโต้ตอบอย่างไร

  ช่วงที่ระดมความคิดกัน ท่านอาจารย์ได้เลี้ยงบาบีคิว มัน ฟักทองปิ้ง

   สนุกสนานอย่างกับออกตั้งแค้มกัน ที่ลานหน้าองค์พีระมิด

 ท่านอาจารย์เมตราให้ถ่ายรูปหมู่ และแต่ละกลุ่ม workshop

 และท่านอาจารย์ให้นั่งล้อมวงฟังธรรมทานแชร์ประสบการณ์

 ใช้จี้องค์เทพสฟริค์ มีท่านหนึ่งบอกว่าใส่ใว้ 3 องค์ทำงานแล้วไม่รู้จักเหนื่อย

 เบาสบายมาก มีคุณซิม พบประสบการณ์ไดรับพัสดุที่มีจี้ วางอยู่ที่หน้าร้าน

 ปรากฏว่าลูกค้าเข้าร้านซื้อของมากมาย พอย้ายกล่องพัสดุออกไปวางที่อื่น

 ลูกค้าลดลง ปรกติพัสดุกล่องนี้เป็นของคนอื่นฝากสั่งจอง

 แล้วมาบูชาเพิ่มใส่เองรวมเป็น 9 องค์ มีหลายคนสงสัยพลังจากการแขวนหลายองค์

 ท่านอาจารย์เลยให้มาพิสูจน์แบบไม่ต้องสารภาพ

 ป้าปุ๊คนแรกปวดแขน ปวดขา ลองสวมไม่ถึง 30 วินาที หายปวดทันที

 คุณรินทร์ลูกสาวอาจารย์พัน ขาบิดเข้าหาตัวตั้งแต่เกิด ลองสวมใส่

 แล้วเดินไปมาขาบิดออกมาเหมือนคนปรกติทั่วไป

 อีกคนป้าพรใช้เครื่องช่วยฟังมานาน ก็ได้ยินเสียงชัดเจน

 ผมเองนั่งเยื้องท่านอาจารย์ยังได้บารมีพระศรีอาริย์หายปวดเมื่อย

 ดึกแล้วต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน.

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 23:13:20


ความคิดเห็นที่ 577 (1633415)

             อาทิตย์นี้ เหมี่ยวเข้าบ้านสวนวันพฤหัสเย็นเพื่อเตรียมงานเข้าค่าย 13 ได้มีโอกาสได้ช่วยท่านอาจารย์ จัดสถานที่แปลงโฉมหน้า ห้องน้ำใหม่ ให้เป็นสถานที่ลานธรรมที่สวยงามร่มเย็นบรรยายดีมาก เลยต้นไม้แต่ละต้น ท่านอาจารย์ก็ได้ตกแต่งซะสวยงามตระการตา มีดอกไม้ขึ้นตามต้นไม้ บานสะพรั่ง พร้อมด้วย ฝูงนก ฝูงลิง เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ หน้าห้องน้ำใหม่ก็มีวิมานหลังใหม่ที่เนรมิตรเสร็จ รวดเร็วเหมือนโกหก หน้าวิมานก็ปูกระเบื้องเต็มพื้นที่ มีโต๊ะนั่ง เพื่อชมบรรยากาศด้วยนะคะ

        ส่วนวันศุกร์ช่วงบ่ายโมง เราก็ได้เทปูนกันโดยการใช้โม่ผสมปูนโดยมีพี่อมรกับช่างโป๊กเป็นคนโม่ วันนี้มีแต่ ส.ว. ทั้งหมด 13 คน ช่วยกันเทปูน ใส่หลุม หลุมละ 3 โม่ เทเสาปูนกันได้ 16 หลุม เหลืออีก 6 หลุม เพื่อให้ญาติธรรมที่เข้าค่าย 13ได้สร้างบุญกันบ้าง

        วันเสาร์ที่ 6 ค่าย 13 เป็นค่ายที่เปลี่ยนแปลงในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น สถานที่รูปแบบของการเข้าค่าย

        กิจกรรม

        หกโมงเช้า เสียงนกหวีดดังขึ้น ทุกคนมารวมตัวกัน ที่ลานธรรม ซึ่งเกิดขึ้นใหม่ (ที่หน้าห้องน้ำใหม่) เพื่อออกกำลังกาย รวมตัวกันเพื่อจะได้เห็นหน้ากันทุกคน ออกกำลังกายเสร็จก็ได้ไปใช้แรงกายกันที่สวนเผือก ถากหญ้า ยกร่องเผือก เพื่อไม่ให้น้ำท่วม 9 โมง ก็หยุด กลับมาอาบน้ำ กินข้าว  วันเสาร์จะเป็นการทำบุญเพื่อใช้แรงกายทุกคนใช้แรงกายเต็มที่โม่ปูน เทตอม่อเสาที่เหลือกจากกลุ่ม ส.ว. อีก 6 หลุม ถึงบ่ายโมง ก็หยุดกินข้าว อาหารก็โดยฝีมือคุณอัม เป็นเจ้าภาพ ก๊วยจั๊บ อร่อยมาก ผลไม้ ขนม ที่พวกเราร่วมกันเอามา เยอะแยะไปหมด เรียกว่า อุดมสมบูรณ์ก็ว่าได้ กินเสร็จ ก็ช่วยกันก่ออิฐเป็นเสาที่อยู่ในหลุม ทั้งหมดจนเสร็จ ก็ไปเอาอิฐ หิน มาเทใส่ปากหลุม ข้างหลุมจนเต็ม แต่ก็ไม่หมดทุกหลุมเพราะค่ำก่อน

       หนึ่งทุ่ม เรามารวมตัวกันอีกครั้ง ที่ห้องประชุม มีกิจกรรม การแสดงบนเวทีเพียง 2 ชุด เพื่อความกระชับ เสร็จแล้วมีการจับกลุ่มเพื่อ แสดงความคิดเห็นเหมี่ยวอยู่ในกลุ่ม อ.อภิชัย ในหัวข้อ ถ้ามีคนปรามาสพระพุทธเจ้า และท้าวเวสสุวรรณ เราจะปกป้องอย่างไร ที่ท่านอาจารย์ได้กำหนดขึ้นทำเป็นทีมในแต่ละทีมก็ได้แสดงความคิดและความรู้ที่ได้ประสพมาช่วยกันอย่างแข็งขัน

ผู้แสดงความคิดเห็น สุนีย์ ศิริมาศกูล (นู๋เหมี่ยว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 23:17:42


ความคิดเห็นที่ 578 (1633417)

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

และขอบคุณรูปสวย ๆ จากคุณแมวนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 22:22:28

 

ไม่เป็นไร มิได้ค่ะ เด็ดพี่

รูปสวย ๆ น่ะ รูปนี้อ่ะป่ะัจ๊ะ

 

555++ ดูดีกว่า ตัวจริง จริง ๆ คร๊า

คุณพี่โฆ ขา....

และเป็นอ่ะไรที่ ใช่

แต่น่าเสียดาย ลิปสติกอ่ะ

เจ้าเงาะ พอขึ้นเวที

หัน ตูด ให้ชม ตาหลอด

เฮ่อ .... วัยรุ่นเซ็ง อ่ะ

แต่ ฮาสุด ๆ อ่ะพี่

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

ที่ทำให้พวกเรามีความสุข

ลอง เลื่อน แท็ป ขึ้น ๆ ลง ๆ

แล้วท่านจะพบ

เสียงฮา...คร๊าบผม


ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 23:33:01


ความคิดเห็นที่ 579 (1633419)

 บรรกาศค่าย 13

- ธรรมบำบัดแบบเห็นผลแบบฉับพลันทันที

- ชมบารมีพระศรีอาริย์

- เตือนภัยพิบัติขั้นวิกฤติ

เป็นการเข้าค่ายที่เข้มข้นที่สุด เริ่มตั้งแต่เตรียมค่าย กิจกรรมค่าย จนจบค่าย เป็นการเรียนรู้ด้วยการกระทำที่ผู้เข้าค่ายได้ทำกิจกรรมค่ายอย่างครบถ้วน

การเตรียมงานเตรียมสถานที่ก่อนค่ายแม้ว่าจะมีคนมาน้อยแต่ได้เนื้องานมาก ทุกคนเตรียมงานด้วยหัวใจ ผู้ที่ตรากตรำเหน็ดเหนื่อยก่อนเข้าค่ายทุกๆ ค่าย คือ อาจารย์อุบล ผู้เก็บรายละเอียดงานทุกงานอย่างสมบูรณ์แบบ เช่น มุม ม่านน้ำตก มีพรรณไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายพันธ์ พร้อมกับเสียน้ำตก ดังซ่าน เย็นฉ่ำถึงหัวใจ  และ การจัดสวนก็งามตา ร่มรื่น กลายเป็นลานธรรม ที่เราเห็น ความสวยงาม ความเป็นระเบียบ ความอลังการ ทำให้แปลกตาทุกครั้ง แปลกใจทุกค่าย

กิจกรรมบุญ ผู้มาร่วมกิจกรรมค่าย 13 ได้สร้างบุญอย่างเต็มที่ ผู้ที่มาก่อนตั้งแต่วันพฤหัส วันศุกร์ ได้สร้างบุญ งานความสะอาดสถานที่ ปรับพื้นปูกระเบื้อง จัดสวน วางที่นั่งเล่นตามมุม ตามโคนต้นไม้ เทปูนฐานล่างทำตอม่อ งานเกษตร

เช้าวันเสาร์ ออกกำลังกายเสร็จ ไปสร้างบุญที่แปลงเกษตร เข้าหอประชุมปฐมนิเทศค่าย 13  แยกย้ายกันสร้างบุญต่ออย่างเต็มที่ทั้งวัน เช่น เทปูนฐานล่างทำตอม่อ ที่เหลืออีก 6 หุลม ด้วยกำลังลำเลียงปูนเป็นสายพาน ส่งเสียงเป็นจังหวะ เฮว เฮว สลับกับเสียงหัวเราะสนุกสนานกันเหมือนเดิม พร้อมทั้งก่ออิฐเพื่อเทเสาเตรียมเป็นงานขั้นต่อไป งานดัดเหล็ก ตัดเหล็ก ผูกเหล็ก เตรียมทำคานรับน้ำหนักฐานล่าง แม้ว่าบางคนจะยังไม่เคยทำงานผูกเหล็กมาก่อน ก็สามารถทำได้ เป็นการร่วมแรงร่วมใจ ได้งานออกมาอย่างสมบูรณ์

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 23:46:29


ความคิดเห็นที่ 580 (1633421)
image

 การแสดง 2 ชุด ชุดแรก รีวิวประกอบเพลง

และชุดที่สอง เจ้าเงาะเลือกคู่

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 23:48:16


ความคิดเห็นที่ 581 (1633422)

     เตรียมย่างมัน ย่างฟักทอง ย่างไข่ เป็นบรรยากาศสบายสบาย ที่ลานธรรม มีการถ่ายรูปร่วมกัน

ครูยุ้ยได้ออกไปเล่าธรรมทานเกี่ยวกับการใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และให้เด็กนักเรียนใช้รหัส ใช้แล้วได้ผล รวมถึงก่อนเรียนหนังสือทุกวันต้องท่องบทบูชาพระศรีอาริย์ก่อนเสมอ ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ มีต่อหัวเสือรังใหญ่อยู่ที่บ้านครูยุ้ย ต้องการให้ต่อย้ายออกไปที่อื่น โดยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย การอุทิศบุญ และขอบารมีพระศรีอาริย์ ต่อย้ายออกไปภายในหนึ่งเดือน

คุณชิม ออกมาเล่าความอัศจรรย์ของจี้สฟิงซ์ ที่มีคนฝากบูชาสิบเอ็ดองค์แล้วคุณแมวส่งพัสดุไปให้ ทำให้วันนั้นมีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้ามากเป็นพิเศษ ถือว่ามากกว่าปรกติ เชื่อว่าจี้สฟิงซ์ 11 อันในกล่องอยู่บริเวณนั้นมีพลังทำให้มีลูกค้ามาก ลองเอากล่องจี้ไว้ที่อื่น ลูกค้าลดลงทำให้คนงานได้กินข้าว หลังจากนั้นเอากล่องจี้สฟิงซ์มาไว้ที่เดิม ลูกค้าไม่รู้มากจากไหน มาสั่งของซื้อของไม่ขาดสายดังเดิม

จึงมีความมั่นใจและเชื่อว่าต้องบูชาจี้สฟิงซ์แล้วแขวนจี้ทั้ง 9 องค์ อาจารย์อุบลให้ลองทดสอบดูว่า จี้ทั้ง 9 องค์ ทรงอานุภาพอย่างไร มีผู้ทดสอบที่มีอาการเจ็บป่วยแขวนจี้สฟิงซ์ทั้ง 9 องค์แล้วหาย เช่น ป้าอุ๊ เจ็บที่แขนเกิดจากการฝึกซ้อมยิงปืน อาการเจ็บหาย ป้าปุ๊ มีอาการปวดขา ปวดน่อง ก็หาย ป้าพร มีอาการหูดับไม่ค่อยได้ยิน แขวนจี้แล้ว หูได้ยินชัดเจนขึ้น น้องลิน ขาผิดรูปทำให้เดินส้นเท้าแบะออกด้านข้าง ทำให้ส้นเท้ากลับเข้าที่เดินเป็นปรกติได้

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-09 23:49:22


ความคิดเห็นที่ 582 (1633426)

 

มาต่อค่ะ หลังจากทำบุญด้วยแรงกาย จนบุญชุ่มไปทั้งตัว ก็ได้ดูคลิปภัยพิบัติ และการแสดงซึ่งเหมือนมืออาชีพทั้งเสื้อผ้า หน้า  ผม ลูกบ้านสวน เก่งจริงนะ และก็ร่วมทำ workshop ต่อ แต่ยังไม่เสร็จ จานมันเผาก็มาอยู่ตรงหน้า น้องปอนำมาเสริฟเอง แต่เหมือนรู้ทันว่าเราจะหยิบ 2ชิ้น น้องก็เลยบอกคนละ 1ชิ้นค่ะ ตอนแรกก็แปลกใจนะคะว่าบาบีคิวของอาจารย์มีแบบมังสวิรัติด้วยเหรอ ถึงบ้างอ้อก็ตรงเห็นจานมันอยู่บนเตานี่แหละค่ะ  จากนั้นอาจารย์ก็ได้เมตตาในเรื่องธรรมบำบัดแบบเฉียบพลันทันที เห็นผลกับตา ความมหัศจรรย์ไม่ได้เกิดได้กับทุกคน แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว

รุ่งขี้นตื่นแต่เช้า  รีบไปอาบน้ำก่อน แต่ได้ยินเสียงเป่านกหวีด เรียกออกกำลังกาย ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เลยเป็นเรื่องสนุกไปเลย จากนั้นก็เป็น workshop พร้อมกับดูคลิปเกี่ยวกับความอยู่รอดของชีวิต  ตัวที่อ่อนแอกว่าก็จะโดนเขมือบไปก่อน ตัวที่แข็งแรงก็มีชีวิตรอดต่อไป ในคริปแต่ละเรื่องก็ให้ข้อคิดที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองในมุมไหน ดีมากเลยค่ะ

ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในค่าย13 และเป็นสุขทุกครั้งที่นึกถึงทุกๆสิ่งที่บ้านสวนพีระมิด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ลูกบ้านสวนทุกคนและ อาหาร (อร่อยมากค่ะ)ที่มีผู้ใจบุญได้เอื้อเฟื้อมาให้ ขอกราบอนุโทนากับบุญทุกบุญที่ร่วมกันทำทั้งแรงกาย แรงศรัทธาที่บ้านสวนแห่งนี้  และขอน้อมถวายบุญที่ทำนี้ให้แก่เทวดาที่รักษาอาจารย์อุบล,อาจารย์มงคล และคุณท๊อปด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รมิดา ทองสุทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 00:04:48


ความคิดเห็นที่ 583 (1633427)

 เตรียมย่างมัน ย่างฟักทอง ย่างไข่ เป็นบรรยากาศสบายสบาย ที่ลานธรรม

/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

พี่อมร เจ้าขา

เสาร์ -อาทิตย์ ที่จะถึงนี้

เราต้องเตรียม จุดไฟ ก่อเตาอีก อ่ะป่ะจ๊ะ

เพราะ ได้ข่าวว่า

พี่ อมร จะ ย่าง 3 ขุม

555+++

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 00:06:58


ความคิดเห็นที่ 584 (1633428)

(ต่อจากเมื่อวาน...เขียนเป็นหัวข้อนะคะ)

คลิปวีดีโอเช็คสภาพจิตใจตัวเอง

ได้ดูคลิปภัยพิบัติตัดต่อ หนังเรื่อง 2012+ หนังเรื่อง The Day after Tomorrow (ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งแสดงเหตุการณ์น้ำท่วม ตึกถล่ม แผ่นดินไหว และอื่นๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่ให้มนุษย์ได้ตั้งตัว คนที่ไม่เตรียมจิตเตรียมกายให้พร้อมก็ตกใจหวาดกลัววิ่งหนีตาย แต่ก็ไม่ทัน  มีตอนหนึ่งที่น้ำได้ท่วมถนนสูงระดับหนึ่งแล้ว แต่บางคนก็ห่วงทรัพย์สินจนลืมว่าตัวเองกำลังประมาท จนกระทั่งคลื่นลูกยักษ์ซัดเข้ามา

ข้อคิดจากอีกหลายๆคลิป ดังนี้

คลิปจระเข้กินงู งูกินจระเข้ = กรรมสนองกรรม ไปฆ่าเขา เขาก็มาเอาคืน เปรียบได้กับมนุษย์ที่กินสัตว์ สัตว์ก็จะต้องมาเอาคืนแน่นอน ตอนนี้ก็ใกล้เวลาแล้วที่สัตว์จะมากินมนุษย์ อย่างข่าวล่าสุดที่หมูกินคน ไม่อยากติดเคราะห์กรรมอย่างนี้ ก็ต้องเลิกเบียดเบียน เลิกฆ่าเลิกเบียดเบียนเขา

คลิปงูยักษ์ถูกผ่าท้องออกมาข้างในเป็นอวัยวะมนุษย์ ขา แขน ลำไส้ = งูที่กินคนมีอยู่จริง ลุงเบิ้มก็เคยเจองูยักษ์มาแล้วซึ่งกินคนได้สบายๆ งูยักษ์กำลังรอเวลามากำจัดคนชั่วที่ประพฤติผิดศีล

คลิปหนังตัดต่ออนาคอนด้า ในหนัง หญิงชาย 2 คนถูกคนร้ายจับมาเป็นเหยื่อล่อเพื่อฆ่าอนาคอนด้า โดยการมัด 2 คนไว้ด้วยเชือกและราดด้วยเลือดเพื่อล่องู พองูมา คนร้ายก็ออกมาตั้งท่าจะยิง งูเห็นเลยเปลี่ยนเป้าหมาย หันมากินคนร้ายแทน หญิงชายทั้งคู่แก้มัดเชือกได้ ลุ้นสุดๆ สุดท้ายหนีได้และฆ่างู = สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงในเวลาภัยพิบัติใหญ่ คงไม่ต่างจากในหนัง

คลิปฝูงควายถูกฝูงสิงโตไล่ ลูกควายที่อ่อนแอที่สุดในฝูงถูกฝูงสิงโตรุมกัด ลูกควายพยายามหนีลงน้ำก็โดนจระเข้กัดอีก = ผู้ที่ผิดศีล ทำความชั่ว ไม่ทำความดี คือผู้ที่มีจิตอ่อนแอ ที่จะต้องได้รับผลกรรม อาจจะต้องเจอเหตุการณ์หนีเสือปะจระเข้อย่างในคลิปนี้

คลิปฝูงควายล้างแค้นฝูงสิงโต ควายมากันทั้งฝูงจำนวนมากกว่าสิงโต แต่ไม่กล้าทำอะไร มีแต่จ่าฝูงตัวเดียวที่กล้าออกมาสู้ = คนที่ไม่กล้ารบกับมารที่มาทำลายสามร่มโพธิ์ศรี ก็เปรียบเสมือนฝูงควายที่ไม่กล้าสู้สิงโต ตอนที่ท่านอ.อุบลถามว่าใครจะช่วย หลายคนที่ออกมาบอกว่าจะช่วย แต่พอถึงตอนที่ควรช่วย กลับมีแค่ส่วนน้อยที่ช่วยจริงๆ ส่วนใหญ่ก็จะรอแต่อนุโมทนา เฮฮาสังสรรค์เวลามีงานบุญ

คลิปม้าลายถูกสิงโตกิน ตัวอื่นหนีไปหมด, คลิปคนมาเที่ยว ลงจากรถเพื่อถ่ายรูปฝูงสิงโต แต่โดนจับกิน ครอบครัวและเพื่อนที่นั่งในรถกลับไม่ช่วยเหลือ ทั้งที่สามารถช่วยได้หากมีสติ คือขับรถไปคร่อมคนที่กำลังโดนรุมเพื่อกันสิงโต แล้วโทรเรียกเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ที่เห็นคือทุกคนนั่งในรถรักตัวกลัวตาย ถ่ายคลิปเพื่อน/ครอบครัวตัวเองถูกกินไปต่อหน้าต่อตา และคลิปคนเข้าไปในกรงสิงโตเพื่อให้อาหารแต่โดนสิงโตฆ่า คนอื่นข้างนอกไม่กล้าเข้าไปช่วย ที่จริงสามารถช่วยได้เพราะจำนวนคนหลายคนต่อสิงโตตัวเดียว วิธีช่วยคือเข้าไปล๊อคสิงโตไว้ไม่ให้ขยับ ในคลิปทุกคนรอจนมีคนถือปืนมายิงสิงโตตาย แต่ก็ช่วยคนไม่ทันแล้ว

สามคลิปนี้เตือนใจให้พวกเรารักกัน สามัคคีกัน พี่น้องคนไหนที่กำลังทำผิด ก็ต้องช่วย อย่านิ่งดูดายจนสายเกินไป ในอีกมุมหนึ่ง ก็แปลได้ว่าใครที่ไม่เคยช่วยคนอื่น เมื่อถึงคราวลำบากก็จะไม่มีใครมาช่วยเรา

WORKSHOP

จากที่ได้ทำ 3 เวิร์คช็อป สรุปได้ดังนี้ค่ะ

#1 หากมีใครมาปรามาสพระพุทธองค์ เกจิอาจารย์ พระอริยเจ้า ผู้ทรงศีลทรงธรรมช่วยสามร่มโพธิ์ศรีที่มีบุญบารมีมาก เราก็ต้องบอกคนๆนั้นไปด้วยเนื้อหาประมาณว่า ท่านไปทำอะไรให้คุณๆถึงมาพูดอย่างนี้/คุณดีกว่าท่านหรือ/สิ่งที่ท่านทำมีผลกระทบอะไรต่อคุณๆถึงพูดเช่นนี้ อีกวิธีนึงที่ทำได้ในกรณีมารเขียนผ่านทางสื่อ (copy จากป้าอุ๊ค่ะ) คือไม่โต้ตอบ โพสเรื่องดีๆมีสาระเพื่อให้ข้อความของมารตกลงไป

#2  วิธีช่วยเหลือคนเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็วและดีกว่าเดิมด้วยจี้ที่เรามีองค์เดียว คือคิดถึงท่านอ.อุบล ทุกท่านที่ช่วยคนด้วยจี้ แล้วจี้ของเราก็จะเชื่อมญาณกับท่านอ.อุบล และจี้ของคนอื่นๆ จี้ของเราก็จะมีพลังมากขึ้น คิดว่าสามารถช่วยคนที่เคสหนักๆได้ สำหรับเวิร์คช็อปนี้ กลุ่มขวัญ ได้ทดลองโดยขวัญนำจี้ของทุกคน (รวมของขวัญเป็น 9 องค์) ซึ่งสร้อยแต่ละคน รวมแล้วมีธนบัตรขวัญถุง 1 อุปกรณ์พีระมิด 13 องค์ จี้พีระมิด 1 องค์ แหวนองค์เทพสฟิงซ์ 2 องค์ มาคล้องคอ ปรากฏว่ารู้สึกถึงพลังงานไหลตามร่างกาย แผ่ออกมาเหมือนร่างกายตัวเองโดยเฉพาะบริเวณใกล้วัตถุมงคลร้อนเหมือนเตาไฟ ทุกคนในกลุ่มสัมผัสได้ รู้สึกปิติขนลุก และทำให้ขวัญหายปวดแขน 2 ข้าง และคนที่อยู่ข้างๆก็ดีขึ้น เช่น พี่วิวนั่งทางด้านขวา หายปวดแขนทั้ง 2 ข้าง 50% โดยแขนซ้าย(แขนที่ใกล้ขวัญ) หายมากกว่าแขนอีกข้างหนึ่งที่อยู่ห่างจากขวัญ อาการปวดของพี่ณัฐากาญจน์ก็ดีขึ้น พอขวัญพูดเล่นๆว่า ไม่ถอด(สร้อยที่มีวัตถุมงคลมากมายเหล่านี้)ออกได้มั้ย อาการปวดกลับมานิดนึงทันที แล้วขวัญก็สำนึกผิดทันทีที่พูดเล่นอย่างนี้ ก็หายปวดค่ะ

นอกจากนี้ พี่อีกคนจำชื่อไม่ได้ ก็ได้ลองสวมบ้าง พี่แหล๋นที่นั่งข้างๆสัมผัสพลังงานแผ่ออกมาได้ รู้สึกเหมือนพี่คนที่สวมเหมือนเตาไฟ และพี่ปอก็ได้ลองสวมเหมือนกัน อาการปวดก็หาย 90% สุดยอดมากๆค่ะ

นอกจากนี้ก็ได้สัมภาษณ์ความทุกข์ของสมาชิกทุกคนในกลุ่ม ผลคือ ทุกคนยกเว้น 1 คน มีปัญหาด้านการเงิน, ส่วนใหญ่ยังละความโกรธไม่ได้ จิตใจไม่เข้มแข็ง, ครอบครัวของทุกคนไม่เข้าถึงธรรมอย่างที่อยากจะให้เป็น และบางคนในกลุ่มยังทานเนื้อสัตว์อยู่ค่ะ ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือทำทาน ศีล ภาวนาให้เข้มข้นที่สุด แล้วจะมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมแน่นอน

กลุ่มพี่เหมี่ยว ทำผลงานโดดเด่นที่สุด นั่นคือ พี่ก็อตมีอาการเจ็บตา ถุงใต้ตาบวม นำจี้ 14 องค์มาแปะตาของพี่ก็อต  แล้วตาก็ดีขึ้นทันที อาการบวมลดลงอย่างเห็นได้ชัด และหายเจ็บตา และหัวเข่าของพี่เจี๊ยบที่สีคล้ำกว่าสีผิว ด้วยบารมีพระศรีอาริย์ ทำให้อาการคันหายไป และสีจางลง(ทุกคนลงความเห็น)

#3  หลังจากตัวเองขึ้นไปสรุปเวิร์คช็อปนี้ รู้สึกตัวว่าคิดผิดหลายอย่าง ขอแก้ตัวใหม่ค่ะ กลุ่มขวัญได้รับหัวข้อว่า(จำตัวอักษรเป๊ะๆไม่ได้) พระศรีอาริย์จะทรงนำพาผู้คนเข้าสู่ยุคทองอย่างไรยุคทองคือยุคศิวิไลที่ทุกคนสวยหล่อ ไม่เจ็บไม่ป่วย สมหวัง ซึ่งธรรมที่จะทำให้คนเข้าสู่ยุคแห่งความสันติสุขนี้ได้คือ ธรรมที่ทำให้คนเป็นพระอริยะเจ้า เริ่มจากการมีศีล มีพรหมวิหารเป็นปกติ การจะทำให้คนมีอารมณ์ใจเช่นนี้ได้ ขวัญคิดเอาเองว่าเบื้องต้นต้องทำให้คนมีอารมณ์ใจเทวดา มีหิริ โอตัปปะ(ลอกคำสอนของท่านอ.อุบล) หมายถึงคนต้องไม่อยากทำบาป มีความเชื่อในกฏแห่งกรรม วิธีที่จะทำให้คนเชื่อ เข้าใจ พิสูจน์ด้วยตัวเองในเรื่องกฏแห่งกรรมอย่างรวดเร็วคือเหมือนที่ท่านอ.อุบลทำ คือ แสดงกฏแห่งกรรมการผิดศีล+อบายมุข โดยคนสารภาพบาปด้วยความสำนึกผิดเพื่อดับเหตุ ผลก็ดับนั่นคืออาการเจ็บป่วยจากเหตุนั้นๆหายไปทันที เมื่อคนเชื่อในกฏแห่งกรรม = เชื่อพระพุทธเจ้า คนๆนั้นต้องเปลี่ยนตัวเองทรงพรหมวิหาร 4 ตั้งใจรักษาศีลและไม่มีเจตนาที่จะทำลายศีล นอกจากนี้คนต้องเตรียมตัวตายตลอดเวลาในโลกที่ไม่เที่ยงนี้  อยากไปพระนิพพานสม่ำเสมอที่ๆไม่ต้องมาดูแลร่างกายอีกต่อไป ไม่มีการเกิด-ดับๆ เช่น คิดถึงสมเด็จองค์ปฐมพระวิสุทธิเทพแก้วสว่าง ทรงประทับนั่งห้อยพระบาทในวิมานของท่านใหญ่โตสุดลูกหูลูกตา ทุกอย่างเป็นแก้วประกายไปหมด ให้คิดว่าอยากไปกราบเข้าเฝ้าท่าน

หลักธรรมเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในธรรมที่พระศรีอาริย์ท่านจะทรงแสดงในแบบที่ทำให้คนเปลี่ยนใจได้ พ้นทุกข์ได้ฉับพลันทันทีค่ะ ซึ่งทำให้คนมีคุณสมบัติที่จะอยู่ในยุคทองที่พระองค์จะทรงพาเข้า

ที่สำคัญ หากคนไม่ตระหนักถึงการเสด็จมาปราบมารและช่วยสรรพสัตว์ของพระองค์ ไม่ตามหาท่าน ไม่ศรัทธาท่าน คนๆนั้นก็คงเป็นหนึ่งในกลุ่มที่พระศรีอาริย์ไม่สามารถพาเข้าสู่ยุคทองได้ค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของขวัญ ขอกราบขอขมาพระศรีอาริย์หากลูกคิดผิดพลาดประการใดค่ะ

ช่วงชมบารมีพระศรีอาริย์ก่อนปิดค่าย

พระศรีอาริย์ทรงเมตตาเสด็จเพื่อช่วยลูกหลานที่ยังมีอาการเจ็บป่วยหลงเหลืออยู่ โดยให้ผู้ที่มีอาการเดินผ่านท่านอ.อุบล(นั่งอยู่บนเวที)ค่ะ

สำหรับขวัญมีอาการปวดแขน ปวดหัวนิดหน่อย หลังจากท่านอ.อุบลอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ อาการปวดแขนขวาหายทันที อาการปวดแขนซ้ายดีขึ้น หลังจากเดินผ่านท่านอาจารย์ อาการปวดแขนซ้ายหาย 95% และคิดว่าปวดหัวหายค่ะตอนนั้น  

ทุกคนที่มีอาการปวดก็พากันหายหรือดีขึ้นกันหมด และนอกจากคนแล้ว คุณบิ๊กก็เดินผ่านท่านอาจารย์เหมือนกัน

สารสำคัญจากพระศรีอาริย์คือ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเขียนธรรมทาน/เขียนแก้บน (ธรรมทานคือทานสูงสุดรองจากอภัยทานที่ไม่ต้องลงแรง) การชมบารมีพระศรีอาริย์ครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าการไม่เขียนธรรมทานมีส่วนทำให้มีอาการปวด เพราะเมื่อคนบอกว่าจะเขียนบ่อยขึ้น/เขียนทุกวัน จะนำเรื่องราวที่มาเข้าค่าย 13 มาเขียนธรรมทานในเว็บไซต์ อาการปวดที่เหลือก็หายทันทีค่ะ สาธุ

ขอกราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์ ท่านอ.อุบล เทวดารักษาท่านอ.อุบลทุกพระองค์ค่ะในความเมตตาความช่วยเหลืออันประมาณมิได้

หลังจากกดส่งธรรมทาน อาการปวดแขนซ้ายหาย 100% สาธุค่ะ

กราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 00:07:01


ความคิดเห็นที่ 585 (1633436)

มาต่อค่ะ

    คืนวันเสาร์หลังดูคลิป มีการแสดงเต้นประกอบเพลง 2 ชุด มีผู้ชมนอกเหนือจากพวกเราเยอะเลย วันหน้าจะนำรูปมาลงให้ดู(แฮะๆ ลงไม่เป็นรอลูกกลับจากหอก่อน) อีกชุดเป็นการแสดงเรื่องสังข์ทอง ตอนรจนาเลือกคู่  นักเต้น นักแสดงทั้งหมดสุดยอดไปเลย ทั้งชุดอลังการ ให้ความบันเทิงและสอดแทรกธรรมมะครบครัน 

   ค่าย 13 เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากๆ  ทั้งรูปแบบกิจกรรมค่าย เพราะได้ดูคลิปภาพเหตุการณ์ภัยพิบัติ  คลิปภัยจากสัตว์กับสัตว์  สัตว์กับคน  สอดแทรกข้อคิดสะกิดใจ  ดูแล้วโดนจริงๆ  โดยเฉพาะควาย ๆๆ  การทำ Workshop คืนวันเสาร์และในวันอาทิตย์ ทำให้สมาชิกในกลุ่มได้แสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วม การสร้างเครือข่าย มีบาร์บิคิวมันและฟักทอง   ท่าน อ.เมตตาให้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกันที่แดนสวรรค์  มีการแชร์ประสบการณ์การใช้จี้  รหัสลับจักรวาล และสุดท้าย คุณชิมบูชาจี้ไปและได้สวมคออยู่  9 องค์  สามารถช่วยเหลือผู้มีอาการเจ็บป่วยหลงเหลืออยู่โดยใช้จี้สวมคอ เช่น พี่ปุ๊  ป้าอุ๊(ที่ยังสาวมากๆ) น้องลิน  ป้าพร ฯ  เกือบหายและหายได้อย่างอัศจรรย์โดยไม่ได้สารภาพบาปกรรม  การแบ่งกลุ่มทำ Workshop วันอาทิตย์ ทำให้ได้แนวทางการใช้จี้ไปช่วยผู้อื่นต่อๆไป  ตอนเย็นท่าน อ.ได้ให้ทุกคนได้สัมผัสพระบารมีพระศรีอาริย์  ผู้มีอาการเจ็บป่วยหลงเหลืออยู่ ได้เข้าแถวขึ้นเวทีเดินผ่านท่านอาจารย์ ส่วนใหญ่หาย  ที่หลงเหลืออยู่ยังสร้างบุญยังไม่พอ  เจ้ากรรมนายเวรไม่ปล่อย  หรือให้หลงเหลืออยู่เพื่อมาเขียนธรรมทาน  เกือบหกโมงเย็นข้าพเจ้ากับพีเปลวได้เดินทางกลับก่อนปิดค่าย 

   ข้าพเจ้าและพี่เปลวขอถวายบุญทุกบุญที่มาทำที่บ้านสวนแด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ เทวดาที่รักษาท่าน อ. อุบล อ.มงคล และคุณท็อป และขออนุโมทนาบุญกับลูกบ้านสวนทุกๆท่านที่ร่วมเตรียมงาน/ร่วมกิจกรรมค่าย 13 ในครั้งนี้  สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย(แป้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 00:41:56


ความคิดเห็นที่ 586 (1633439)

 ได้รับโอกาสให้เข้าค่าย#13 ซึ่งต้องถือว่าเป็นค่ายแห่งการเปลี่ยนแปลง อย่างที่ หลาย ๆ ท่าน  ได้กล่าว  กลับบ้านมาพร้อมความสุข ความอิ่มเอมความประทับ อย่างแรงจริง ๆ ค่ะ บรรยายไม่ถูกเลย เริ่มตรงไหนก่อนดีน๊า

บ้านพักหลังใหม่ สไตล์รีสอร์ท

ด้วยความรัก และ ความเมตตา ที่ท่าน อ.อุบล มีให้กับลูกหลาน ท่านได้เนรมิต บ้านพักหลังใหม่ พร้อมตกแต่ง ทำสะอาด ประดับประดา อย่างงดงาม ด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และสัตว์นานาชนิด สวยงามอลังการเหมือนป่าหิมพานต์ (ท่านอาจารย์คงกลัวควายจะเหงาเลยหาเพื่อนมาให้)  เพื่อต้อนรับทุกคนที่ไปร่วมงานค่าย 13 นี้ ขนาดคนที่ไปทุกอาทิตย์อย่างอัญ ยังต้องร้อง โอโห เปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรือเนี๊ยะเสียดายที่ไปถึงช้าเลยไม่ได้มีส่วนร่วมในงานนี้เลย 

work shop

ประทับใจกับกิจกรรมนี้มาก เพราะทุก ๆ คน ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตามหัวข้อ ต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่ม  ทั้งยังเป็นการแสดงถึงพลังความรัก ความสามัคคี และภาวะผู้นำ ได้อย่างดีเยี่ยม

คลิปวีดีโอ

ดูแบบผิวเผิน ก็ตื่นเต้น รุ้นระทึก และหวาดเสียว แต่พอ ท่านอ.อุบล สรุป ประเด็นแต่ละคลิปเรียกว่า โดนเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว ส่วนตัวชอบคลิปที่ 4 ผู้ไม่ยอมแพ้ โดดเดี่ยวและเดียวดาย ก็เพราะเมื่อก่อนตัวเองไม่เคยเป็นผู้ให้ และไม่เอาใคร เวลามีปัญหาจึงต้องต่อสู้เพียงลำพังเหมือนม้าลาย จริงๆ แล้วก็คลิปที่ 9 ทำตัวเองให้เหมือนฮิปโป บึกบึน หนังหนา และหน้าด้าน ทนทุกสภาพการณ์ แถมท้าย

ขอเส้นหมุน ๆ อีกชามค๊า

มาจากลูกสาวคนสวยของ ท่าน อ. (น้องต้นอ้อ) ที่ติดใจในรสชาติของก๊วยจั๊บแสนอร่อย  ของเจ้าภาพคือ พี่อัม จนต้องบอกแม่พี่เลี้ยงให้ตักเส้นหมุน ๆ ชามแล้วชามเล่า  นอนกลางวันตื่นมาปุ๊บ ก็ขอเส้นหมุนอีก  อร่อยจนหยุดไม่ได้จริง ๆ  แล้วก็ยังมี ขนมจีน แกงไตปลา น้ำยากระทิ น้ำยาป่า ขนมทับทิมกรอบ(เจ้าภาพพี่อร พี่ธนา) ข้าวหน้าเป็ด ผลไม้นานาชนิด ขนมหวาน ไอติม พิชช่า โอ๊ย..! บรรยายไม่หมด เยอะแยะมากมายจริง ๆ ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

ป้าพร ตอบตรงคำถามแล้วจ้า

ช่วงคืนวันเสาร์ หลังจากแบ่งกลุ่มทำ work shop  อัญได้มาช่วยพี่แมว พี่อมร น้องก๊อต จุดเตาไฟ เพื่อย่างมัน ย่างฟักทอง  สักพักทุกคนก็ได้ย้ายมาบริเวณสวนที่ตกแต่งใหม่หน้าองค์พีระมิด และ มีธรรมทานการใช้ รหัส อ.อุบลช่วยด้วย และอื่น ๆ ช่วงเด็ดก็ตอนที่ใช้จี้ของคุณชิมทั้งหมด 9 องค์ รักษาผู้ที่ยังป่วยอยู่ แต่ละท่านก็หายบ้าง ดีขึ้นบ้าง แตกต่างกันไป แต่ประทับใจป้าพร ที่บอกว่าได้ยินเสียงท่าน อ.แล้ว และใบหน้ายิ้มสดชื่นบ่งบอกว่ามีความสุขมาก ๆ จากนี้ไปป้าพรของเราตอบตรงคำถามแล้ว..  อีกราย ก็คุณลินที่ขาเดินไม่ตรง  พอสวมจี้แล้วลองเดินใหม่ ปรากฏว่าเดินได้ตรงอย่างอัศจรรย์  ขอยินดีกับป้าพร คุณลินและท่านอื่น ๆ ด้วยที่ได้รับบารมีพระศรีอาริย์กันทุกคน

วันอาทิตย์

จัดหนักกับเนื้อหาสาระต่าง ๆ ที่ทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับเบื้องลึกเบี้องหลังของการเกิดภัยพิบัติ ซึ่งทุกอย่างมีบอกไว้ในพระไตรปิฎกแต่เราไม่อ่าน เรามักใช้ความรู้สึกตัวเองในการเชื่อ โดยไม่ใช้หลักกาลามสูตร น้องใหม่ไฟแรง ป้าอุ๊ ของเราที่รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับบ้านสวนโดยมีประโยคเด็ด ที่ว่า ให้มีความจริงใจกับบ้านสวน เพราะที่ผ่านมาเราก็เห็นตัวอย่างคนที่ไม่จริงใจกันมามากแล้วเนอะ

ช่วงสุดท้ายที่ท่าน อ.อุบล ขออาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ตัวอัญเองเริ่มรับสัมผัสได้ตั้งแต่คำว่า ขอ เลยทีเดียว มีอาการชนลุกตลอด ตัวโล่งเบาสบาย

แต่ละท่านที่ยังมีอาการเจ็บป่วยอยู่ส่วนใหญ่ก็หาย หรือ ดีขึ้น แต่ยังไม่ ร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากว่าที่ผ่านมาพวกเราไม่ค่อยชอบเขียนธรรมทานดังนั้นถ้ากลับไปเขียนธรรมทาน ก็ให้รายงานด้วยว่าอาการที่เหลือเป็นยังงัย ซึ่งแต่ละท่านก็ได้รับเมตตากันทุกคน

งานค่าย 13 จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ ครบทุกรสจริง ๆ ความเปลี่ยนแปลงทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้น เพื่อนำพาพวกเราทุกคนก้าวสู่ยุคใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ      

กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 01:39:27


ความคิดเห็นที่ 587 (1633442)

ต่อตอนที่ 3

เช้าวันอาทิตย์มีกิจกรรมรวมพลคนออกกำลังกายที่บริเวณลานธรรม ยืนล้อมเป็นวงได้วงใหญ่ที่เดียว แล้วก็ออกกำลังกายกันอย่างสนุกสนานตามผู้นำแต่ละคนที่ผลัดกันออกไป(โดยเสียงเรียกของคุณธนา)แต่ละคนก็มีท่านำออกกำลังกายที่หลากหลายตามสไตล์ มีเสียงฮาตลอด เสร็จแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันทำภารกิจส่วนตัวและรับประทานอาหารเช้า

เริ่มกิจกรรมเข้าค่ายเช้านี้ด้วยการทำworkshop โดยแบ่งกลุ่มๆละประมาณ 10 คน ในกลุ่มให้มีทั้งวัยรุ่น วัยกลางๆ(คน)แล้วก็ผู้สูงวัย ส่วนเด็กจะแยกเป็นอีกกลุ่มหนึ่งต่างหาก  โจทย์ที่ได้รับคือสมาชิกในกลุ่มแต่ละคนมีปัญหาอะไรบ้างในเรื่องสุขภาพ การเงิน การงาน และจิตใจ และจะช่วยบำบัดอย่างไร

ในกลุ่มมีคุณเอกเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ให้แต่ละคนบอกปัญหาที่ตัวเองมีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องของสุขภาพ เมื่อทุกคนเล่าปัญหาของตัวเองครบทุกคนแล้วก็ถึงขั้นตอนของการบำบัด โดยการสารภาพบาปกับจี้ สลับกันเป็นผู้บำบัดและถูกบำบัด และขณะบำบัดให้อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ด้วย  คุณกระเต็นมีอาการชาที่มือ  เมื่อได้สารภาพว่าได้ใช้มือทำในสิ่งที่ไม่ดีเช่นเคยลักทรัพย์ อาการชาที่มือก็หายทันที ทุกคนที่ได้สารภาพบาปกับจี้อาการก็ดีขึ้นและหายทันที ส่วนตัวเองนั้นมีอาการชาที่มือเพราะใช้มือทำในสิ่งที่ไม่ดีมามากเช่น ตีหลาน ตีสุนัข ที่หนักๆก็คือเอาของหลวง(วัสดุสำนักงานต่างๆ)ไปใช้ที่บ้าน ทำเอกสารเบิกจ่ายเงินเท็จ(เบิกเกินจำนวนที่จ่ายจริง) เมื่อสารภาพกับจี้แล้วอาการดีขึ้นประมาณ80%  ส่วนคุณทัศนีย์ที่สารภาพว่าได้ฆ่าสัตว์เพื่อทำเป็นอาหารมามากมายหลายชนิด มีอีเห็นที่อยู่ในกรงแล้วเอาไปแช่น้ำให้มันตายด้วย เมื่อสารภาพแล้วอาการเจ็บปวดร่างกายที่เป็นอยู่ไม่ดีขึ้น ทุกคนในกลุ่มเลยลงความเห็นว่าควรนำจี้องค์เทพสฟิงซ์ของทุกคนมาช่วยกันโดยแต่ละคนก็ถือของตัวเองไว้แล้วให้คุณทัศนีย์สารภาพบาปอีกครั้ง ปรากฎว่ามีอาการดีขึ้น   จากนั้นตัวแทนแต่ละกลุ่มก็ออกไปรายงานผลหน้าเวที

จบตอนที่ 3 ก่อนนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 03:20:06


ความคิดเห็นที่ 588 (1633444)

กราบเรียน ท่าน อ.อุบล และ อ.มงคล

ค่าย 13 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับชีวิตจริงค่ะ

ตั้งแต่กลับมา รู้สึกว่ามีความสุขกับชีวิตมากขึ้น

ใจก็สงบลง ไม่ค่อยโกรธ จิตไม่ตกเวลาเกิดปัญหา

แถมยังขายของได้ทุกวันอีกต่างหาก

ตอนนี้ เหลือการบ้าน รายงานผล จากการขอบารมีจี้สฟิงซ์

ช่วยให้สมาชิกกลุ่ม 2 หลุดพ้นจากปัญหาความยากจน

ขาดสภาพคล่องทางการเงินค่ะ

ตั้งใจว่า อยากให้ผลที่จากคำอธิษฐานที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

เป็นธรรมทานกับคนอื่น

และเกิดศรัทธาแบบ 100 %

กับพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

พระศรีอาริย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์มหาเทพพีระมิด

 ท่าน อ.อุบล และ บ้านสวนพีระมิด

เพื่อจะได้รับโอกาสแห่งความโชคดี

รอดพ้นจากภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นค่ะ

ตอนนี้ กำลังพยายามท่องบทบูชาพระศรีอาริย์

ให้ได้ วันละ 99 จบ

เพื่อจะได้เกิดสิ่งดีดี ตามที่ อ.อุบล กรุณาเล่าให้ฟังค่ะ

 

ขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กรภัทร์ อคะรินทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 04:01:00


ความคิดเห็นที่ 589 (1633447)

 ความอัศจรรย์ใจ+ธรรมมะ จากค่าย 13

ธรรมทานของ คุณเบ็ญจกาญจน์ (วิ) ศุภศิริวัฒนา

                 กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์และครอบครัว พร้อมทั้งลูกบ้านสวนฯ ทุกคนที่เดินทางไปช่วยงานท่านอาจารย์ก่อนวันเข้าค่ายฯ เนรมิตรบ้านสวนฯ ให้เป็นดินแดนสวรรค์ มีดอกไม้ มีสวนสัตว์สัตว์นาๆชนิด เช่นกวาง ม้าลาย นก กระต่าย ฯลฯ 

ลูกเดินทางถึงบ้านสวนฯ ในตอนสายของวันเสาร์เกือบไม่ทันช่วงที่ท่าน ปฐมนิเทศแน่ะ(ลูกกราบขอขมาเจ้าค่ะ) ท่านอาจารย์เมตตาบอกให้ภาวนาคาถาบูชาพระศรีอาริย์ไปด้วยในระหว่างที่ใช้แรงกาย ทำงานต่างๆ จิตจะได้เป็นสมาธิ ไม่มีเวลาไปคิดถึงความชั่ว ให้ภาวนาวันละ 99 จบ ติดต่อกัน 9 วัน

        วันเสาร์ช่วงเช้าได้ใช้แรงกาย ช่วยกันสร้างฐานอาคารหลังใหม่โดยมีผู้นำทั้งหัวขบวน(พี่ธนา พี่อมร และอีกหลายท่าน)ช่วยกันผสมปูนและลำเลียงส่งมาเป็นระยะ และท้ายขบวน(อาจารย์พัน) เทปูนลงแต่ละหลุม จนงานเสร็จ ระหว่างที่ทำงานก็ท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์ไปด้วย มีทั้งแดด ทั้งฝน แต่พวกเราเป็นควาย ก็มีความอดทนอยู่แล้ว ไม่รู้จักเหนื่อย แต่มอมแมมนิดนึงพร้อมทั้งกลิ่นกายที่หอมหึ่ง

        ตอนเที่ยงเราพักทานอาหารกัน ด้วยรสชาติอาหารที่อร่อยสุดยอด ฝีมือคุณอัม คุณอัง ฯลฯ มีขนมหลายอย่าง น้ำแข็งใส (อ.พันใสนำแข็งใส่กระติก และได้ยินเสียงของตกพื้น เห็นขวดนำหวานแตกกระจาย แต่เองรู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ได้เข้าไปช่วยท่านเก็บ ด้วยทานอาหารอยู่ใกล้ๆ และมีคนรอทานอาหารต่อจึงรีบทานอาหารให้เสร็จ เลยไม่ได้ช่วยท่านเก็บเห็นมีคุณโฆษิตช่วยท่าน) ผลไม้ และไอติมเย็นๆ ที่ช่วยให้สมองสดชื่นขึ้น

ช่วงบ่ายได้ลงไปช่วยในแปลงเกษตร ดายหญ้าที่ขึ้นรกในแปลงเกษตรการช่วยกันหลายคนก็ทำให้ แปลงที่ถูกปกคลุมด้วยหญ้า ราบเป็นหน้ากลอง หลังจากนั้นได้กลับมาช่วย ขนอิฐหักใส่รถเข็น มาถมในหลุมที่ก่ออิฐเสร็จแล้ว หลังจากนั้นแยกย้ายกันทำภารกิจส่วนตัว

ช่วงกลางคืนมีงานแสดง ที่มีทั้งน้ำตาในชุดของคุณอัม เป็นความรู้สึกที่เหนือคำบรรยาย(รักเทิดทูน) อาจารย์อุบล และเสียงหัวเราะ ตอนรจนาเลือกคู่ นำแสดงโดยน้องเบสรจนา พ่อสังข์ทองคุณโฆษิต และทีมงานอีกหลายท่าน นับวันยิ่งชำนาญในการแสดง เริ่มแรกเราเตรียมตัวตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านสวนฯ ต่อมาเตรียม 1 วันก่อนการแสดง ต่อมา ในวันที่มีการแสดง และขยับมาใกล้ขึ้น ครั้งนี้น่าจะประมาณ 1 ชม.ก่อนแสดง (คิดเล่นๆนะคะ การแสดงแรกๆเราก็ตื่นเต้น หัวใจเต้นโครมครามแทบกระเด็นออกมาข้างนอก ต่อมาขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธ์ช่วย ดีขึ้นไม่ตื่นเต้น และหากเราได้แสดงบ่อยๆ ก็ไม่ต้องซ้อม ขึ้นแสดงสดเลย เปรียบกับเรื่องภัยพิบัติ หากเรามีการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจไว้แล้ว เวลาเกิดเหตุการณ์จริง เราก็มีสติไม่ตื่นตระหนก มีปัญญา แก้ไขเหตุการณ์ต่างๆได้ )

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 04:44:14


ความคิดเห็นที่ 590 (1633448)

 ความอัศจรรย์ใจ+ธรรมมะ จากค่าย 13

ธรรมทานของ คุณเบ็ญจกาญจน์ (วิ) ศุภศิริวัฒนา 

วันอาทิตย์ได้ชมคลิปต่างๆ

คลิปงูกินคน (คนก็ยังกินงูเลย แล้วงูจะกินคนบ้างทำไมว่างูน่ากลัว) จริงๆ แล้วคนน่ากลัวกว่างูมากๆเลย ลิ้นก็มีตั้งหลายแฉก (งูมีแค่ 2 แฉก)

คลิปลูกควายถูกฝูงสิงโตไล่กัด คลิปนี้ถูกใจควายอย่างหนูค่ะ เนื่องจากเป็นควายโง่ วิ่งหนีมารหากจุกก้น ทิ้ง ไม่ยอมช่วยเหลือพวกพ้องรักตัว กลัวตาย   

คลิปสิงโตกินคนที่ออกมายืนถ่ายรูป คนในครอบครัว เวลาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คนเรามักขาดสติ ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก กับอีกอย่างนึง รักตัวกลัวตายเหมือนกัน

*** เพิ่มคลิปเหตุการณ์จริงในสังคมทุกวันนี้ เวลาเกิดเหตุคนจะฆ่ากันตายก็ไม่ค่อยมีคนสนใจ ต่างคนต่างอยู่ ขาดจิตที่มีเมตตาต่อกันโดยแท้

 

คลิปเสือลุมจะกินฮิปโป คลิปนี้ก็เรียกน้ำย่อยได้ดีค่ะ สัตว์ดุร้ายอย่างเสือไม่สามารถรุมสกรรมทำร้ายฮิปโปได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษ คือหนังหนา จึงรอดตาย

กราบขอบคุณคำสอนท่านอาจารย์ค่ะ เราต้องทำหน้าเราให้หนาเหมือนหนังฮิปโป ทนได้ทุกอย่าง เมื่อทนได้จิตเราก็เบิกบาน

 

คลิปคนช่วยกันกรีดท้องจระเข้เพื่อเอาชิ้นส่วนคนที่ถูกกินออกมา

ทริปนี้ อาจารย์บอกว่า ตอนนี้พวกเค้ามารอเพื่อทำหน้าที่แล้ว รอผู้คนไปเที่ยวชมอยู่ ดูแล้วเสียวใส้(โดนจระเข้สับเป็นชิ้นๆไม่ต้องใช้มีดเลย เข้าปากขบ 2 ที แยกเป็นส่วนๆ)
       
คลิปผีกระสือจับนก จับสัตว์กินเป็นอาหาร แล้วหากกระสือจับเราได้จะเอาไปทำอะไรล่ะ (ต้องตกเป็นทาสกระสือหรือเปล่า)

ยุคพระศรีอาริย์ได้เริ่มขึ้นแล้ว และค่ำคืนที่แสนอบอุ่น ใต้แสงไฟ+ ร่มเงาต้นมะม่วง กระท้อน + ปิ้งมัน ฟักทองทานกัน ด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น ท่านอาจารย์อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์มาให้ลูกหลานทุกคนได้รับสัมผัสกันถ้วนหน้า และอนุโมทนากับคุณชิมด้วยที่บูชาจี้สฟิงซ์ทั้งหมด 9 องค์ ซึ่งพลังจะเพิ่มไปอีก 9 เท่า ตัวอย่างที่เห็นแล้วอัศจรรย์ใจที่สุดคือ

น้องลิน ลูกสาวอ.พัน+อ.นี(ทั้งครอบครัวมาร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนฯอย่างต่อเนื่อง) มีลักษณะการเดินผิดปกติ(ปลายเท้าบิดเข้าด้านใน)ตั้งแต่เล็ก ขณะนี้เธออายุ 30 กว่าแล้ว หลังจากใส่จี้สฟิงซ์ 9 องค์ ในระยะเวลาชั่วอึดใจนึง เท้าของเธอก็เดินได้ตรงเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป

ป้าพร (มาจากเชียงราย)หูตึงมาหลายปีได้มาร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนฯหลายครั้งแล้ว(ป้าพรเพียรสร้างบุญอย่างต่อเนื่อง)หลังจากที่ท่านอาจารย์อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ มาให้ลูกหลานได้สัมผัส หลังจากใส่จี้สฟิงซ์ 9 องค์ ป้าพรดีใจมาก!!!! บอกว่าได้ยินเสียงท่านอาจารย์ชัดแล้ว ป้าพรก้มกราบท่านอาจารย์ด้วยความปิติ

ป้าปุ๊ มีอาการไหล่ติด หลังจากได้สวมจี้สฟิ้งส์แล้ว อาการก็หายในทันทีเช่นกัน

ป้าอุ๊(พี่อุ๊)แต่ใจอย่างเรียกว่าน้องอุ๊เลยค่ะ เธออายุ 58 ปี แต่หน้าเธออ่อนกว่าวัยมากๆ ป้าอุ๊เจ็บบริเวณข้อศอก(เส้นเอ็นอักเสบ) หลังจากใส่จี้สฟิงซ์ 9 องค์ อาการที่เป็นอยู่ก็หายในทันที

สำหรับตัวเองก็มีอาการเจ็บเข่าทั้ง 2 ข้างเนื่องจากหกล้มเข่ากระแทกพื้นอย่างแรง 2 ครั้ง หลังจากสวมจี้แล้ว อาการเจ็บเข่านั้นหายทันที แต่อาการหูอื้อ(เสียงดังรบกวนตลอดเวลา) ดีขึ้นโดยรวมแล้วประมาณ 70 %

และอีกหลายๆ ท่านที่ร่วมสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์ อาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ก็หายในทันที (ในระยะเวลาที่แตกต่างกัน )

สุดท้าย ผู้ครอบครองจี้ทั้ง 9 องค์ คุณชิม มีอาการเจ็บเข่าข้างขวา ไม่หาย ท่านอาจารย์เมตาให้คุณชิมสารภาพบาป....คุณชิมสารภาพว่าได้ทำผิดศีลข้อ 3 เที่ยวคาราโอเกะ+มีความสัมพันธ์กับนักร้อง หลังสารภาพ อาการที่เป็นอยู่ก็หายในทันที

ลูกกราบพระบาทขอบคุณในความเมตตาของพระศรีอาริย์ ท่านอาจารย์ ที่มีให้กับลูกหลานทุกคน .......^ _ ^

 

*****************

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 04:44:38


ความคิดเห็นที่ 591 (1633450)

 (ต่อเนื่องจากคห. 281) 

                  ร่างทรงพญานาค(ที่บอกหวย)

จากการสอบถามพี่ชาย นายพิชัย  ภูกิ่งพลอย พี่ชายสรุปผลการ

ติดตามร่างทรงพญานาคว่าผลที่บอกหวยไม่ถูกในงวดวันที่ 1 ต.ค 55

แต่ผู้ที่มีความศรัทธาก็ยังศรัทธาเตรียมแก้ตัวกันในงวดนี้ 16 ต.ค 55

ส่วนงวด 1 ต.ค 55 ที่ผ่านมานั้น คนที่ขนาดหาเช้ากินค่ำก็หมดเงินใน

การซื้อหวยไปประมาณ 5,000 - 10,000 บาท คนฐานะดีขึ้นมาอีก

หน่อยซื้อหวยหมดประมาณ 20,000 - 50,000 บาท ส่วนคนที่เงิน

มากหน่อยซื้อหมดประมาณ 60,000 - 500,000 บาท แล้วถ้าคน

มีเงินจริงๆจะหมดเท่าไร ขณะนี้ก็ยังตั้งหน้า ตั้งตา รอคอยกันเพื่อแก้

ตัวกันใหม่ ช่วงนี้ได้ยินข่าวว่าเริ่มมีการขโมยวัว ควาย กันในพื้นที่

แล้ว ส่วนร่างทรงฯดังกล่าวก็ยังมีรายได้ไม่ลดละเพราะก่อนเข้าไป

แต่ละครั้งต้องมีเงินค่าบูชาครั้งละประมาณ 270 บาท สรุปแล้วร่าง

ทรงฯคงรวยกว่าใครเป็นแน่ ..........................................................

และการให้หวยพฤติกรรมของร่างทรงฯดังกล่าวก็อาการหนักกว่าเดิม

โดยร่างทรงฯอ้างว่าใครได้เลขเด็กแล้วห้ามบอกใคร เพราะถ้าบอก

จะซื้อหวยไม่ถูกยิ่งเป็นผู้หญิงสวยๆแล้ว ร่างทรงฯที่ว่านี้จะลวนลาม

มีการจับตามเนื้อตามตัวส่วนบน ส่วนล่าง ของสงวนอย่างเข้มข้น

เพราะร่างทรงฯบอกว่ายิ่งให้จับของสงวน ยิ่งให้มีการหลับนอนกับ

ร่างทรงฯด้วยแล้วยิ่งจะถูกหวยมาก ผมจึงไม่รู้ว่าคนที่ให้ร่างทรงฯ

ดังกล่าวกอดจูบลูกไล้นั้นผมจึงรู้ว่าพวกเธอเหล่านั้นต้องการเลขเด็ด

หรือต้องการกามารมณ์กันแน่ ร่างทรงฯดังกล่าวปัจจุบันมีการจ้าง

ตำรวจคอยอารักขาทุกวัน ค่าจ้างวันละ 2,000 บาท ...................

                                  จบข่าว....ประจำวัน  

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 05:02:46


ความคิดเห็นที่ 592 (1633451)

ในฐานะ"เด็กนอก(ค่าย)"

ขอเป็นตัวแทนกล่าวขอบพระคุณ

เด็กค่ายทุกๆท่าน

ที่เมตตามาเล่าธรรมทาน

ให้พวกเราได้อ่านกันอย่างจุใจ

ด้วยนะคะ

 

แบบว่า วัน สองวันนี้แทบจะไม่มีเวลา

ไปอ่านกระทู้อื่นๆเลย

เพราะมาปักหลักอ่านอยู่ที่กระทู้นี้

ก็ยาว...แล้ว แต่ก็ คุ้มค่ากับชีวิตที่สุดค่ะ

 

 

แล้วก็ขอบคุณทุกๆภาพ

และทุกๆคลิปจากคุณแมวด้วยนะคะ

ได้ดูเป็นบางคลิป

แต่ได้อ่านหลักธรรมประจำคลิป

ที่หลายๆท่านนำมาเขียนสรุปให้อ่านแล้ว

ก็ต้องบอกว่า

เป็นการเรียนรู้ธรรมะแบบรวบรัดสุดๆ

เพราะหลังจากชมปั๊บ

ต้องรีบย้อนกลับมาสำรวจตัวเองโดยด่วน

ว่าเรามีความคิดและการกระทำ

เหมือนสัตว์หรือคนในคลิปบ้างหรือไม่...

 

สรุปว่า

ถ้ายังทำตัวขี้กลัว ขี้ขลาดเช่นเดิมอยู่

ก็คงเห็นผลลัพธ์ชัดๆในคลิปแล้วว่า

อาจจะต้องตายแบบโดดเดี่ยว

และ เอน็จอนาจใจสุดๆแน่ๆ...

 

 

เ่อ่อว่าแต่ พี่โฆ..อ่ะ

แปลงกายเป็นเจ้าเงาะป่า

ได้เหมือนม๊ากกก..

อยากจะบอกว่า

เพ่..เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เจงๆนะ อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 05:13:09


ความคิดเห็นที่ 593 (1633454)

พระบารมีพระศรีอาริย์และความเมตตาท่าน

อ.อุบลจากการเข้าค่าย 13

วันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค 55 วันเวลาเริ่มมืดทุกคนเริ่มทยอยกันกลับบ้าน

แต่ความรู้สึกน้อยตอนนั้นยังไม่อยากกลับบ้านมีความรู้สึกว่าอยากร่วม

กิจกรรมถึงเวลาสุดท้าย ถ้าออกไปนั่งทัวร์จากบขส.สระบุรีไปอุดรฯ

ก็คงไม่นาน พระบารีพระองค์ช่างตามคุ้มครองลูกหลานจริงๆเจ้าค่ะ

น้อยไม่ได้วางแผนว่ารถที่อำเภอบ้านไปบขส.สระบุรีหมดช่วงไหน

แต่ในใจถึงยังงัยวันนี้ก็ต้องมีรถกลับบ้านเป็นแน่แท้ ในบ้านสวน

พีระมิดฝนเริ่มตกปรอยๆๆ แต่พอออกมาข้างนอกบ้านสวนฯ ฝนเริ่มตก

มากขึ้น มาถึงหน้าโลตัสอำเภอบ้านนา ปรากฎว่าไปถามแม่ค้าขาย

ปลาหมึกย่าง กลิ่นปลาหมึกย่าง ช่างแตะจมูกทดสอบจิตใจว่าเรายัง

อยากจะกินเนื้อสัตว์อยู่อีกหรือไม่ ฮะ ฮะ  ๆๆๆๆๆๆ ฉันไม่กินอีกแล้ว

ระหว่างที่รอรถอยู่นั่น มีน้อย พี่ชาย และพี่หน่อย ที่ซึ่งมาจากจ.อุบลฯ

ทุกคนต่างกลัวไม่มีรถน้อยก็ให้ทุกคนช่วยกันใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

และพระบารมีพระศรีอาริย์ น้อยพยายามค้นหาเบอร์มือถือคนขับรถ

ตู้แต่แล้วไม่เจอ แต่นึกขึ้นได้ว่าเราสามารถเหมารถปิกอัพคันเล็ก

ไปส่งที่บขส.สระบุรีได้ ลุงกู๋รับโทรศัพท์ยินดีไปส่งค่าบริการ 500บาท

หารกันสามคนทุกคนตกลง น้อยโทรฯยืนยันกับลุงกู๋ทุกคนพร้อมให้

ไปส่งที่บขส.สระบุรีค่ะลุง แต่ลุงบอกว่าเดี๋ยวมาน่ะแต่ขอทำธุระให้

เสร็จก่อนเหมือนเป็นการถ่วงเวลาไว้ เพราะยังเหลือรถตู้ไปบ้านนา

อีกหนึ่งคันและแล้ว ก็ยังคงเหลือรถตู้คันสุดท้ายจริงๆๆๆ เลยไม่ต้อง

จ่ายตังค์ 500 บาท ได้จ่ายแค่ 35 บาท พอถึงบขส.สระบุรีน้ำที่

บขส.เริ่มแห้ง เข้าไปซื้อตั๋ว น้อยตัดสินใจเปลี่ยนแผนวันนี้จะไม่ขึ้นรถ

ของบริษัทเดิมเปลี่ยนไปขึ้นรถบริษัทใหม่ปรากฎว่าอีกไม่นานประมาณ

สิบนาทีรถจะมา ได้ขึ้นรถเร็ว ค่ารถก็ถูกกว่าเดิมที่เคยขึ้นบริษัทเดิม

ได้กลับถึงบขส.อุดรธานีโดยปลอดภัยฝนก็ตกตลอดทาง กลับถึง

บ้านโดยปลอดภัย  น้อยกราบขอบพระคุณบารมีพระศรีอาริย์ พระบารมี

ท่านอ.อุบล ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน

บ้านสวนทุกๆพระองค์ น้อยขอพระบารมีพระพุทธเจ้าเบิกผลบุญทาน

ศีลภาวนาตั้งแต่อดีตชาติ ชาติปัจจุบัน บุญทั้งหมดที่ทำในบ้านสวนฯ

ถวายบุญกุศลนี้แด่เทวดาที่รักษาท่านอ.อุบล อ.มงคล คุณท๊อป

และเทวดาทุกพระองค์ในบ้านสวนฯ ท่านเวสสุวรรณ ท้าวมหาราช

ทั้งสี่ องค์เทพสฟิงซ์ หลวงปู่ฤาษีลิงดำ พระองค์ปฐม พระศรีอาริย์

เมตไตร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ท่านในบ้านสวนพีะมิดค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 05:27:02


ความคิดเห็นที่ 594 (1633461)

ความมหัศจรรย์ ๑๓ ประการ   ที่อุบัติขึ้นนับจนถึงวันที่ค่าย ๑๓

ผลสำเร็จของการเข้าค่าย ๑๓ มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นมากมาย หลายๆสิ่งเกินความคาดหวัง  สร้างความตื่นเต้นและพลังศรัทธาอย่างเหลือล้นจริงๆ ผมลองนึกดูว่าได้รับอะไรบ้าง ก็สรุปมาได้ ๑๓ อย่างพอดีที่ผมประทับใจ

๑ การได้สัมผัสกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์( สวรรค์ พรหม นิพพานบนพื้นโลก ) บ้านสวนพีระมิดเป็นที่สถิตของ สมเด็จองค์ปฐมฯ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอาริย์   ท้าวเวสสุวรรณ  พระอินทร์ พระพรหม และทวยเทพเทวดาตลอดจน   สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วทั้งจักรวาล พวกเราจะสัมผัสได้ด้วยการเกิดปิติและเห็นผ่านท่านผู้ที่สำเร็จมโนมยิตทิ ถือเป็นวัดของชาวต่างดาวเลยที่เดียว  

 ท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์ เป็นผู้เดียวในโลกที่ได้รับมอบหมายจากมติของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล ให้มีและทรงไว้ซึ่งพลังอันแสนอัศจรรย์ ผ่านทางกาย วาจา และใจของท่าน ให้เป็นผู้นำลูกบ้านสวนฯและต่อผู้ที่มีจิตศรัทธาและยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์ เคารพในกฏแห่งกรรม ให้ได้พบกับธรรมที่เป็นสัจธรรมที่ช่วยให้ทุกคนพ้นจากความทุกข์บนโลกอย่างยั่งยืน และรู้วิธีหนีให้พ้นอบายภูมิ และสามารถพิสูจน์ได้ในฉับพลันทันที และวิธีการสอนของอาจารย์อุบลก็ถึงลูกถึงคน  มีกลเม็ดเด็ดพรายหลากหลายวิธีที่จะทำให้พวกเราเข้าใจธรรมได้อย่างง่ายๆและตรงประเด็น

 รหัสจักรวาล  “ อาจารย์อุบลช่วยด้วย   เป็นรหัสที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาลท่านได้มีพระเมตตาให้ไว้สำหรับช่วยเหลือมนุษย์ทุกคนบนพื้นโลกไม่ว่าจะเป็นผู้ที่นับถือศาสนาใดๆ ก็สามารถใช้ได้อย่างสัมฤทธิ์ผลด้วยศรัทธาที่บริสุทธิ์

 ได้สัมผัส และชื่นชนพระบารมีพระศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านอาจารย์อุบลได้อารธนาพระบารมีพระศรีอาริย์ให้พวกเราได้สัมผัสกันทั่วทุกคน  เป็นการเน้นย้ำถึงการเสด็จมาของพระองค์ท่านในการนำผู้คนเข้าก้าวเข้าสู่ยุคใหม่

 ปาฏิหารย์จี้องค์เทพสฟิ้งค์ รวมวัตถุมงคลทั้งหลายของบ้านสวนพีระมิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วทั้งจักรวาลท่านได้มีเมตตาเพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือลูกบ้านสวนและผู้ที่มีจิตศรัทธา โดยให้ท่านอาจารย์อุบลสร้างอุปกรณ์ และวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิที่เปี่ยมไปด้วยบารมีของพระพุทธคุณ เพื่อช่วยเหลือลูกบ้านสวน และทุกคนบนโลกได้อย่างสะดวก และง่าย

 ความสามัคคี คือ พลัง ทุกครั้งที่พวกเราร่วมกันทำงานไม่ว่าภารกิจใดใด ไม่ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญหนักหน่วงขนาดไหน ท้ายที่สุดงานก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี และทุกคนก็สามัคคีช่วยเหลือกันด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส ร่าเริงเบิกบาน ด้วยศักยภาพของลูกบ้านสวนทุกอย่างทำได้

สร้างบุญด้วยแรงกาย  เป็นวิธีการที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นกันมากนัก  ส่วนใหญ่จะคุ้นชินกับการใช้เงินหรือปัจจัยในการทำบุญ  แต่ที่บ้านสวนฯถือเป็นวิธีปฏิบัติหลักในการสร้างบุญบริสุทธิ์ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อแสดงความกตัญญูต่อบูรพกษัตริย์และต่อแผ่นดิน และปิดท้ายเสมอด้วยการอุทิศบุญให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่บ้านสวน ที่รักษาท่านอ.อุบล และครอบครัว ให้กับเทวดาที่รักษาพ่อแม่พี่น้องลูกหลาน ดวงจิตดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ ของเจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ถูกเรากินเป็นอาหาร  การสมาทานศีล เพื่อแสดงความเสียใจและสำนึกผิดในบาปกรรมชั่วที่ตนเคยกระทำมา ด้วยความจริงใจ และตั้งเป็นสัจจะไม่ทำอีก จากนั้นจึงเขียนเป็นธรรมทานเพื่อเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบเป็นกรณีศึกษา

 โรงเรียนผู้นำคนรุ่นใหม่  บ้านสวนพีระมิดเป็นเสมือนโรงเรียนที่ฝึกฝนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพความเป็นผู้นำของคนยุคใหม่ที่จิตใจเปี่ยมด้วยธรรมะ มีเมตตา กรุณา มุฑิตาและอุเบกขา ลดอัตตา ลดกิเลส จิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ละเมิดและเบียดเบียนผู้อื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา มีทัศนะคติที่ดี มีจิตอาสา มีมารยาท มีวินัย มีความอดทน หนักแน่น ฝึกฝนทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และระยะยาวอย่างชาญฉลาด ด้วยสติไตร่ตรองอย่างรอบคอบและยั่งยืน ทั้งนี้ทั้งนั้นบนพื้นฐานของการรักษาศีล  กินมังสวิรัติ  มีการฝึกการระดมพลังความคิด ฝึกฝนการใช้พลังสมองผ่านการทำ Workshop หรือสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  เพื่อหาข้อสรุปวิธีที่ดีที่สุดอย่างเป็นรูปธรรม ล้วนแล้วแต่เป็นแนวทางใหม่ในการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้นำในยุคพระศรีอาริย์นั่นเอง

 ปฎิบัติธรรมและฝึกสมาธิด้วยกิจวัตรประจำวัน และผ่านการทำงาน  ที่บ้านสวนจะไม่ใช่แนวทางที่หลับตานั่งสมาธิแต่จะฝึกสมาธิแบบเปิดตา จับลมหายใจเข้าออก  และสวดภาวนาในใจในขณะที่จดจ่อกับงานที่ได้รับมอบหมาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ

๑๐ เราตั้งปณิฐานที่จะทำทุกวิถีทางในอันที่จะช่วยกันปกป้องรักษา๓ ร่มโพธิศรี อันได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัติย์

๑๑ การเตรียมตัวสำหรับภัยพิบัติ พวกเราได้รับข้อมูลเรื่องภัยพิบัติอย่างเข้มข้นและชัดเจน เพื่อเตรียมความพร้อมตลอดเวลาเพื่อฝึกการรับมือกับปัญหาและภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นอย่างมีสติ  หลายๆครั้งพวกเราได้รับข้อมูลภัยพิบัติจากการรับสื่อจากพระพุทธองค์โดยผ่านท่านอาจารย์อุบลด้วยความเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ และได้รับบทเรียนผ่านการทดสอบโดยใช้สติปัญญา ปฏิภาณ ไหวพริบ   ในการรับมือกับสถานะการณ์ที่ไม่คาดคิด  การเตรียมสถานที่ และอุปกรณ์ในการดำรงค์ชีพ  การเตรียมพื้นที่บ้านสวนพีระมิดสำหรับการเตรียมการรับมือและช่วยเหลือผู้คนจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น

๑๒ การพ้นจากความทุกข์ ปราศจากโรคภัย และปัญหาทางโลก ให้ตระหนักถึงผลกรรมในทันทีไม่ต้องรอถึงชาติหน้า 

๑๓ สู่แดนนิพพาน แน่นอนจุดมุ่งหมายสูงสุดคือท่านอาจารย์อุบลมีความประสงค์ที่จะนำทุกคนไปยัง นิพานให้ได้ในชาตินี้

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารยอุบล อาจารย์มงคล คุณท๊อป 

สมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระศรีอาริยเมตไตรย์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่สถิตอยู่ในบ้านสวนพีระมิด

ให้ผมและครอบครัวได้มีโอกาสพบและสัมผัสสิ่งดีๆ

ที่เป็นมงคลในชิวิต

สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 07:49:51


ความคิดเห็นที่ 595 (1633472)

 

อภาธิณี  ( น้องปอ )

ก่อนอื่นขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์  ที่บ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์และครอบครัว เจ้าหน้าที่บ้านสวนในการดำเนินงานค่ายนี้ และอนุญาตให้ร่วมค่ายนี้ค่ะ

ได้มีโอกาสไปช่วงเตรียมงาน ได้เห็นความตั้งใจของท่านอาจารย์ ที่ทุ่มเทเพื่อต้อนรับผู้ที่มาเยือนเต็มที่


กิจกรรมค่ายในวันเสาร์ ทำบุญแรงกายกันเต็มที่ทุกท่าน แม้แดดจะร้อน แต่หน้าตาทุกคนยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มนะคะ พอเย็นก็ไปซ้อมกิจกรรมบนเวที ในตอนแรกยอมรับว่าจำใจ แต่พอได้ฟังเพลงที่ใช้ในการแสดง ก็ตั้งใจมากขึ้น และยินดีทำเต็มที่ค่ะ ตอนแต่งตัวมีเคอะเขินบ้าง เพราะไม่เป็นตัวเอง คุณพี่อมร กับอ.อภิรักษ์ ก็บอกว่านี่เป็นเรื่องดีทำให้เราได้หัดลดอัตตาในตัวเองลง ทั้ง 2 ท่านบอกว่า ท่านทำมาแล้ว ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณ พี่ๆทุกคนที่ช่วยทำให้ร่วมแสดง เป็นเกียรติมากเลยค่ะ

หลังจากแสดงเสร็จ ท่านอาจารย์ ก็ให้เกียรติมอบ อุปกรณ์ ทั้งปิติและรับรู้ได้ถึงบารมีเพราะเหมือนมีพลังงานบางอย่างวิ่งไปตามแขนที่มีอุปกรณ์อยู่ แล่นไปทีหลัง ปวดอยู่ก็ดีขึ้นค่ะ


การแสดงชุด 2 เป็นเพลงเชิญชวนให้หันมาทานผัก และละครก็สนุกสนาน (แอบเห็นตอนซ้อม เปลี่ยนแต่ชุดหน้ายังไม่ทันล้างก็รีบมานั่งดู) ขอบอกว่า รจนา แซ่บเว่อร์ เนื้อหาสอดแทรกธรรม ได้ลงตัวจริงๆค่ะ


เริ่มเข้มขึ้นด้วย work shop เพื่อการนำไปใช้ เน้นเชิงรุก ในการรักษา 3 ร่มโพธิ์ศรี ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์


หัวข้อเน้นเรื่อง เมื่อพบเจอผู้ปรามาสพระอริยะเจ้า อริยะบุคคล  เราจะทำอย่างไร
ตอนแรก จะออกเป็นแนวต้องรับ แล้วก็มาเปลี่ยนเป็นลักษณะของการการตอบโต้ในเชิงรุก
- ท่านเหล่านั้นทำอะไรให้คุณเดือดร้อน
- คุณรู้จักท่านเหล่านั้นดีพอแล้วหรือ
- ถ้าไม่ศรัทธา แล้วมาหาท่านทำไมกัน


แล้วก็ย้ายมาปิ้งบาบีคิว กันที่สวรรค์จำลองค่ะ อากาศตรงนี้เย็นจนเรียกว่าหนาวได้เลยทีเดียว มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นช่วงเสวนากันเรื่องคุณชิม ได้เช่าจี้องค์สฟิงซ์ 9 องค์ ได้ให้ผู้ที่มีอาการป่วยมาทดลองคล้องสร้อยดูว่าถ้า มีจี้มากขึ้น พลังงานจะเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร เคสที่ชัดๆ ก็คือป้าพร หูตึงมานาน กลับได้ยินชัดเจนขึ้นกว่าเดิม อ.ณี นั่งพับเพียบไม่ได้ พอคล้องแล้วก็ดีขึ้น ส่วนเคสคุณลิน นั้นมาไม่ทันได้แต่เห็นตอนที่หายเป็นปกติ ขากลับมาตรง เป็นที่น่าตื่นเต้น ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารับรู้ได้ถึงพลังที่ถ่ายทอดออกมาว่ามากกว่าที่คล้องอยู่เพียงองค์เดียวประจำตัวของแต่ละคน อนุโมทนากับทุกท่านที่อาการดีขึ้นด้วยนะคะ


ก่อนจะมาต่อ ขอบอกว่า อากาศเย็นจริง แต่บรรยากาศอบอุ่นมากกกก แถมมันปิ้ง ฟักทองปิ้งหอม อร่อยมากกกกกค่ะ

มีต่อค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 08:43:47


ความคิดเห็นที่ 596 (1633474)

ปอ ... ขอเล่าต่อคร๊า

ขอขอบคุณพี่แมวมากนะคะ ทั้งลงธรรมทาน ทั้งช่วยเรื่องลงทะเบียน อาหารการกิน ไข่ลูกเขยอร่อยนะคะ เรากินก่อนกลับบ้าน แหะๆ ขอบคุณมากสำหรับขนมปัง** 4 แผ่นนั้น ^^~

เช้าวันอาทิตย์

การออกกำลังกายตอนเช้า ช่วยปลุกให้ร่างกายสดชื่นดีจริง ประทับใจท่าพี่อ้อย ที่ซู๊ดดดดด ดูซิ ครั้งหน้าจะเรียกอีกมั้ย น่าจะเรียกนะคะ เพราะใครๆ ก็ชอบท่าพี่อ้อย อิอิ

เริ่มกิจกรรมของวันด้วย work shop การบำบัด ช่วยผู้ที่มีทุกข์ด้วย จี้สฟิงซ์ ได้อยู่กลุ่มเดียวกะน้องขวัญ ที่มีประสบการณ์ในการช่วยคนมากว่า 80 คน ตอนที่ทุกคนในกลุ่มทดลองรวบรวมจี้ของทั้งกลุ่มไปให้น้องขวัญแขวน ก็เหมือนมีมวลอุ่นๆ ออกมาจากตัวน้องขวัญ ซึ่งทั้งกลุ่มรับรู้ได้คนที่นั่งติดน้องขวัญ ปวดแขนก็ดีขึ้น อย่างอัศจรรย์

พอภาคบ่าย หลังจากรับประทานอาหารแสนอร่อยจากทีมแม่ครัวเอกทั้งหลายอย่างอิ่มแปร้ ยังกังวลว่าจะหลับ แต่เจอทางทีมงานเตรีนมคลิปไว้ให้ดูแล้ว น่าตื่นเต้นจนไม่ง่วงเลยค่ะ

คลิป สิงโต+ควายป่า+จรเข้ : ทำให้คิดพิจารณา มองย้อนมาที่ตัวเอง ว่าเราควรทำอย่างไร ให้สมกับที่บอกเอาไว้ว่าจะพิทักษ์ 3 ร่มโพธิ์ศรีอย่างจริงจัง และความ"สามัคคี" พาให้เรารอดได้/ จะปรับปรุงตัวให้เป็นอย่างควายที่ไล่สิงโต ความกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง

คลิปงูกินจรเข้ ~ จรเข้กินงู : เป็นการจองเวรกัน ก็เหมือนคนที่ไม่พ้นจาก กงกรรมกงเกวียนซะที

คลิปสิงโตกัดม้าลาย : การเอาตัวรอด ... ต้องเข้มแข็งเพื่อพิทักษ์พวกพ้องอย่าปล่อยให้สู่เพียงลำพัง

ฉลามวาฬกินคน ทั้งที่น้ำตื้น : ไม่คิดว่าน้ำตื้นจะเจอ ทำให้ได้เตือนตัวเองว่าอย่า "ประมาท"

แต่ที่สุดสำหรับช่วงบ่ายอาทิตย์นี้คงเป็นคลิปกระสือ...!!! จะจะ

การนำเสนอ ผลของการระดมสมองของแต่ละกลุ่มทำให้ได้ ไอเดียดีๆ ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และความคิด และแนวทางการใช้จี้ไปช่วยคนอื่นๆ ได้เยอะ

พอมาถึงช่วงชมบารมีพระศรีอาริย์ที่ท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้อัญเชิญมา อาจารย์ท่านได้เมตตาให้ผู้ที่ยังมีอาการเจ็บป่วยอยู่ได้รับบารมีอย่างใกล้ชิด ทุกคนก็ดีขึ้นและหายกันถ้วนหน้า... ขออนุโมทนากับทุกคนที่หายเจ็บป่วยนะคะ

**การใช้จี้สฟิ้งบำบัด สารภาพบาปที่เคยทำมา แม้จะมีจี้องค์เดียว แต่ขอให้ตั้งจิตเชื่อมมายังอาจารย์และหรือผู้คนที่เราเคารพรัก ที่ช่วยเหลือคนมามากมายมีบุญเยอะ จี้ที่อยู่กับเราก็จะมีพลังสามารถรับพลังงานจากท่านเหล่านั้นส่งผ่านมาที่จี้เราด้วย ทำให้การบำบัดได้ผลมากยิ่งขึ้น

**ท่านอาจารย์แนะนำให้สวดบทบูชาพระศรีอาริย์ 99 จบ ต่อวันเป็นเวลา 9 วัน คนที่ท่องวันแรกอาจจะถ่ายท้องเพราะมีการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ของร่างกาย ขับของเสียออกมา... และระหว่างเดินทางกลับได้ท่องมาตลอดทางหลับก็หลับไป ตื่นมาก็ท่องต่่อ พอถึงบ้านถุงใต้ตาขวาบวมปูดเหมือนเป็นกุ้งยิง ก็สารภาพกับองค์จี้สฟิงซ์ แค่หายเจ็บแต่ยังคงระคายเคืองอยู่ เลยถอดองค์จี้มาแช่น้ำ พร้อมทั้งนำองค์พีระมิดจำจอง มาวางบนขวดน้ำแล้วนำมาล้างตา ตื่นเช้ามาก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งหมดหลังจากท่องบทบูชาพระศรีอาริย์ คงเพราะชอบใช้สายตาในทางที่ไม่ดี ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เลยบวมซะให้ได้รู้ว่าอย่าทำอีก ตอนนี้ และที่เขียนอยู่นี่อาการเป็นปกติแล้วค่ะ

ขออนุโมทนาในทุกธรรมทานนะคะ อ่านแล้วระลึกถึงตอนทำกิจกรรมจนเห็นภาพตลอดเลยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 08:48:07


ความคิดเห็นที่ 597 (1633475)

ปอ ... ขอเล่าอีกนะคะ

ขอบคุณพี่แมวมากค่ะ ยกบุญให้พี่แมวด้วยและอนุโมทนาในบุญด้วยนะคะ สาธุ รบกวนตลอดเลย

 

ในวันอาทิตย์ที่ 7 หลังจากส่วนใหญ่กลับไปหมดแล้ว ได้เข้าไปนั่งกินข้าวเย็น มีพี่อัญ กะ พี่บุญตา ก็นั่งยกขามาบนเก้าอี้ แล้วก็รู้สึกไม่ถนัดเท่าไหร่ ขยับไปขยับมา จนกินเสร็จ ลุกเอาจานไปล้างจึงสังเกตเห็นว่าหลังเท้าบวมปูดดั่งผู้มีอันจะกินเช่นเดียวกับท่านอ.อภิชัย บวมจนไม่มีตาตุ่มเลย

พอเห็นปุ๊ป รีบบอกพี่อัญหยุดก่อนขอสารภาพกะจี้พี่อัญ โดยที่ลืมไปว่าจี้ที่คอตัวเองก็แขวนอยู่ พอสารภาพไปว่าไปช่วยอ.อภิชัย ขึ้นไปบนฐานสมเด็จองค์ปฐมเห็นนะคะว่าอาจารย์ไหว้ก่อนขึ้นแต่ก็ไม่ได้ถามว่าท่านพูดอะไร พอจะขึ้นไปก็เพียงแต่ใช้คำว่าขออนุญาตและกราบพระแบบธรรมดา มิได้ขอขมา หลังจากลงมาแล้ว ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ และปากหนัก... พอสารภาพกับจี้พี่อัญหลังเท้าซ้ายก็ยุบลงอย่างเห็นได้ชัด หลังเท้าขวาก็ยุบแต่ไม่เท่าเท้าซ้าย เลยลองสารภาพกับจี้ตัวเอง หลังเท้าขวาก็ยุบลง

พี่อัญและพี่บุญตาก็เห็นกัน ทั้งตื่นเต้น พอเป็นเช่นนั้นก็ขอบพระคุณองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า พระศรีอาริย์ และเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล แล้วก็ไปกราบสมเด็จองค์ปฐมในโรงทาน สาธุ

ยังคงไม่ยุบเป็นปกติ ยังคงตึงๆอยู่นิดหน่อย แล้วก็ใช้รหัสอ.อุบล ช่วยด้วย และก็อุทิศบุญแล้วก่อนนอนก็สวดบทบูชาพระศรีอาริย์ ตื่นเช้ามาก็หายตึงไปเยอะเลยค่ะ สาธุ

กราบ กราบ กราบ

Paulz J.

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 08:51:08


ความคิดเห็นที่ 598 (1633488)

 


ขอบคุณพี่แมวที่นำภาพคลิปวันงาน
และภาพนักแสดง สวย หล่อ แปลก 
มาให้พวกเราชมกันค่ะ อิๆ

ในส่วนของคลิปที่ 2 
หนีสิงห์ปะจรเข้นี้
ช่างเป็นคลิปถ่ายทอดเรื่องราว
ความเป็นลูกบ้านสวนได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมจริงๆค่ะ
ให้ความรู้เปรียบเทียบในมุมมอง
ของตัวเองดังนี้นะคะ


ลูกควาย เปรียบเหมือนคนที่อ่อนแอ
ทั้งตัวลูกควายเอง ที่ถูกเสือไล่กวด และขย้ำ
โดยสิงโตเหล่านี้เขาเลือกฆ่าตัวที่อ่อนแอที่สุด
ได้ข้อคิดว่าลูกบ้านสวน หากอ่อนแอไม่เข้มแข็ง
ยอมให้กิเลส ตัณหาครอบงำ ไม่มั่นคง
ยอมให้ผู้อื่นมาย่ำยี รังแก
ก็ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนที่จ้องจะทำร้าย
ทั้งพวกมาร รวมทั้งคนที่มีปัญญา
เข้มแข็งกว่าได้อย่างแน่นอน


สิงโต เปรียบเหมือนผู้รุกราน
พวกจ้องทำลาย 3 ร่มโพธิ์ศรี
เขาจะเลือกโจมตีคนที่อ่อนแอที่สุด 
เขามีภาวะความเป็นผู้นำ
และทำงานเป็นทีม มีความสามัคคี
อดทน เฝ้ารอ แบ่งหน้าที่กันทำ
สภาพร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็ง
กล้าหาญถึงตัวเองจะเล็กกว่าก็ไม่กลัว


จ่าฝูงของควาย  เปรียบเหมือนผู้นำ
ที่มีทั้งความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง
ทั้งร่างกายและจิตใจ
ไม่สนใจว่าคนที่มารุกรานจะเป็นใคร
เอาตัวเองเข้าสู้ แบบตัวคนเดียวก็ยอม
ยอมเอาชีวิตของตัวเองเข้าแลก
เพื่อปกป้องให้ทุกคนอยู่อย่างปลอดภัยมีความสุข
ถึงแม้จะต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ลำพัง
แต่ก็ยังคงทำหน้าที่ผู้นำอย่างกล้าหาญ 
ไม่ย่อท้อ ไม่ปริปากบ่น 


สมาชิกฝูงควาย  เปรียบเหมือนคนทั่วไปในสังคม
ที่ปากบอกว่าจะปกป้องทั้ง 3 ร่มโพธิ์ศรี
แต่ก็แค่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ เวลามีเรื่องมีราว
ก็ไม่กล้า กลัวตัวเองจะเดือดร้อน
เซฟตัวเองไว้ดีกว่า
ที่จะออกหน้าไปปะทะกับใคร ทำไม
ลัวว่าเขาจะเกลียด กลัวมีปัญหา
อยู่้เฉยๆ ดีกว่า
ขอเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ
 

ดูคลิปแล้วย้อนดูตัวเองจริงๆค่ะ
ช่างเป็นความเหมือนที่แตกต่างอะไรเช่นนี้
เราจะเลือกเป็นตัวไหนดีกันล่ะคะ
แต่ที่แน่ๆ เราจะไม่ยอมเป็นลูกควายที่อ่อนแอ
และถูกกระทำอย่างแน่นอน ชิมิคะ
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 09:42:54


ความคิดเห็นที่ 599 (1633551)

     ไม่อยู่บ้านหลายวัน  กลับมาไม่รู้จะเริ่มต้นอ่านตรงไหนดี

เลยขอปักหลักกระทู้นี้ก่อน  ก่อนอื่นในฐานะชาวนอก (ค่าย)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานของทุกท่าน  ที่ได้ถ่ายทอด

เหตุการณ์  บรรยากาศ  ความรู้สึก ในวันเข้าค่าย ทำให้

ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในค่าย  สามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้  ซึ่งมีทั้ง

วิธีการช่วยคนโดยรวมพลังอนัตจักรวาล   บรรยากาศการ

ทำกิจกรรมกลุ่ม  การแสดง  คลิปต่าง ๆ  การเป็นผู้ให้ ฯลฯ

 และที่สำคัญทำให้รับทราบถึงพระเมตตาอันมากล้น

ของพระศรีอาริย์  ที่พระองค์ท่านมีต่อมวลมนุษย์  

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 14:39:20


ความคิดเห็นที่ 600 (1633575)

กราบเรียน อ.อุบล อ.มงคล คุณท๊อป

และสวัสดีลูกบ้านสวนทุกคนค่ะ

ความประทับใจในค่าย 13

วิวไปถึงบ้านสวนพีระมิดเช้าวันเสาร์ที่ 6 ต.ค. 55

พอยกกระเป๋าเข้าไปเก็บที่พัก (ห้องใหม่ล่าสุดหน้าห้องน้ำ)

ก็สะดุดตากับสวนสวยงาม

มีดอกไม้ มีสัตว์มากมาย มีชิงชา โต๊ะนั่งเล่น

ดูแล้วรู้สึกเพลิดเพลิน ยิ่งดูยิ่งมีความสุข 

และเมื่อมองไปยังบ้าน อ.อุบล

ก็เห็นน้ำตก ช่างสวยงามจริง ๆ ค่ะ

เหมือนอยู่ในป่าหิมพานเลยค่ะ

น้องแหวนและแม่น้อย บอกว่า

อ.อุบล เป็นคนจัดตกแต่งสวนเองทุกอย่าง

มีน้องแหวน แม่น้อย และคนอื่น ๆ เป็นลูกมือ

อ.อุบล ปีนขึ้นไปบนต้นไม้เองด้วย

ห้องพักใหม่ อ.อุบล ก็เป็นคนปูเสื่อน้ำมันเอง

อ.อุบล วัดและตัดเสื่อน้ำมันเอง

ฟังแล้วน้ำตาจะไหลค่ะ

อ.อุบล ตั้งใจต้อนรับพวกเราทุกคนขนาดนี้เลยหรือ

ชาตินี้วิวรู้สึกว่าไม่เสียชาติเกิดเลยค่ะ ที่ได้มาเป็นลูกบ้านสวนฯ

วิวตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้

และช่วยเหลือคนอื่น เพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่ของ อ.อุบล ค่ะ

และคืนวันเสาร์วิวหลับฝันเห็น อ.อุบล ด้วยค่ะ

ใส่ชุดสีแดงสด กีบเฮ้าล์ ของจีน สวย มาก ๆ ๆ ๆ

น้องแหวนบอกว่า ตรงที่พี่วิวนอน อ.อุบล

ได้ลองทดลองนอน และให้ทุกคนนอน

เพื่อจะได้เช็คดูว่าห้องนี้นอนได้กี่คน

อ.อุบล ช่างใส่ใจทุกรายละเอียดจริง ๆ ค่ะ

ต่อไปเราต้องเป็นคนละเอียดรอบคอบ

ในทุก ๆ เรื่อง อย่าทำงานอย่างหยาบ ๆ

เหมือนที่ อ.อุบล สอนในเรื่องล้างจาน

ให้สะอาดและล้างฟองน้ำให้สะอาดด้วย

เพื่อเป็นการป้องกันโรคติดต่อ โรคระบาด

ในค่าย 13 นี้ วิวถือว่าเป็นค่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ ค่ะ

เริ่มจากการให้ใช้แรงกายอย่างเต็มที่ในวันเสาร์

เพราะปกติแล้วจะเห็นว่าการมาเข้าค่ายจะไม่ค่อย

มีกิจกรรมให้ใช้แรงกายเต็มวัน

และครั้งนี้วิวได้ฝึกก่ออิฐด้วยค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะทำได้

ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยทำมาก่อนเลยค่ะ

อ.อุบล อธิบายว่า การที่เราได้ฝึกงานก่อสร้าง

ก็เพื่อให้เราเกิดความรู้ เพราะหลังจากภัยพิบัติ

บ้านเรือนจะเสียหาย และอาจจะไม่มีช่างมาซ่อมแซมบ้าน

เราได้รับความรู้จากบ้านสวน ก็จะได้นำมาความรู้

เรื่องการก่อสร้างบ้านมาช่วยกันสร้างบ้านได้ค่ะ

เรื่องการแสดง จะเห็นได้ชัดเจนว่าการแสดงแต่ละชุด

ต้องมีความหมายที่ดี ใช้เวลาอย่างกระชับ

ไม่มีจำนวนมากเกินไป เพราะจะทำให้เสียเวลาในการ

ทำกิจกรรมอันมีประโยชน์อย่างอื่น

ครั้งนี้วิวได้แสดงร่วมในชุดของคุณอัม

รู้สึกดีใจและมีความสุขมาก ๆ ด้วยค่ะ

การทำ work shop เป็นสิ่งที่ชอบมากที่สุดในค่าย 13 นี้

เพราะทำให้ทุกคนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

โดยเฉพาะกลุ่มของเด็ก ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิด

ของเด็ก ๆ ว่าเป็นการคิดเป็นตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมวกวน

ไม่มีการปรุงแต่งเหมือนผู้ใหญ่

การสอนธรรมะของท่าน อ.อุบล ผ่านคลิปวิดีโอ

ชอบคลิปฝูงควายและฝูงเสือรุมกินฮิปโปมากที่สุดค่ะ

มีความหมายชัดเจนบ่งบอกถึงความสามัคคี

ความกล้าหาญ ของจ่าฝูงของควาย

และความมั่นคงของฮิปโป ที่อดทนต่อทุกสภาวะ

เคี้ยวอันแหลมคมของเสือไม่สามารถกัดผิวของ

ฮิปโปได้เลย เปรียบเทียบให้เห็นว่า

ลูกบ้านสวนฯ ต้องมีจิดใจที่มั่นคง

ทนต่อแรงเสียดทานทุกอย่าง

อย่ามีอาการจิตตกเป็นอันเด็ดขาด

เวลาประมาณ 18.00 น. ปิดค่าย

ค่าย 13 นี้ใช้เวลา 2 วันเต็ม ๆ

คุ้มค่าอย่างที่สุด ท่าน อ.อุบล เมตตา

ลูกบ้านสวนให้ค้างคืนได้อีก 1 คืน

สำหรับคนที่ไม่สามารถเดินทางกลับได้

ท่าน อ.อุบล ท่านเมตตาลูก ๆ ทุก ๆ คนเสียเหลือเกิน

วันที่ขับรถกลับเชียงใหม่ ออกจากนครนายก 17.30 น.

ถึงเชียงใหม่ ตี 2 ตลอดเวลาที่นั่งรถวิว และทุกคน

ที่นั่งรถ ได้ท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์ ตลอดทาง

รู้สึกได้ว่ามีบารมีพระศรีอาริย์คุ้มครองอยู่ตลอดเวลา

เพราะไม่เจอฝนตกเลย น่าอัศจรรย์ใจจริง

เพราะคุณเกตุแฟนน้องแหวนขับรถตามหลัง

ประมาณ 1 ชั่วโมง เจอฝนตกหนักตลอดทาง

ถนนก็โล่ง ไม่เจอรถติดเลยค่ะ ขับแบบสบาย ๆ

ขณะขับก็รู้สึกง่วงนอนมากก็ท่องคาถาพระศรีอาริย์

ขออาจารย์อุบลช่วยด้วยตลอดทาง

น้ำมันรถก็ประหยัดมาก ๆ ค่ะ

ปกติจะใช้รถเก๋งน้ำมันขากลับประมาณ 2,000 กว่าบาท

แต่ครั้งนี้ใช้รถกะบะ ใช้น้ำมันประมาณ 1,000 กว่าบาท

แต่ระหว่างทางเจอแมววิ่งตัดหน้ารถมาทางซ้าย

วิวเบรคไม่ทันก็พยายามหมุนพวงมาลัยซ้าย

เพราะคิดว่าแมวคงจะรีบวิ่งไปทางขวามือของเรา

แต่ปรากฎว่ามันกลับหลังวิ่งเข้ามาข้างทาง

ก็พยายามแตะเบรกแล้วค่ะโชคดีที่แมวอยู่ใต้ท้องรถ

แต่ก็รู้สึกผิดมาก ๆ เพราะได้ยินเสียงตุ๊บตับ

แมวมันคงจะเจ็บมาก ๆ มันคงโดนเหล็กใต้ท้องรถ

เทียบกับเราแค่โดยกระดาษบาดมือยังรู้สึกเจ็บ

แล้วรถวิ่งความเร็วประมาณ 90 - 100 กม./ชม.

กระแทกตัวแมวเล็กนิดเดียวมันคงจะเจ็บมาก ๆ

แล้ววิวก็รีบส่องดูทางกระจกหลัง

ก็เห็นแมวมันเดินไปเดินมา วิวรีบของบารมี

พระศรีอาริย์ช่วยคุ้มครองแมวให้หายเจ็บปวด

และขอ อ.อุบลช่วยด้วย ให้แมวรีบเดินเข้าข้างเท้า

ให้เร็วที่สุดกลัวว่าจะมีรถคันที่ตามหลังมาทับ

และอุทิศบุญให้แมวด้วยค่ะ

ตั้งใจว่าถึงเชียงใหม่แล้วจะรีบไปทำบุญให้แมว

ด้วยค่ะ รู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ เลยค่ะ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญ

ทุกท่านที่ช่วยเตรียมสถานที่ เตรียมอาหาร

จัดเตรียมกิจกรรมทุก ๆ กิจกรรม ฯลฯ

ในค่าย 13 นี้ด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ดาเรศ เจริญศิลป์ (วิว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 17:20:04



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 [6] 7 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.