ReadyPlanet.com


ค่าย 13 ธรรมบำบัด+ชมบารมีพระศรีอาริย์+เตือนภัยพิบัติ+พบ ดร.จิตรา 6-7 ต.ค.55


ค่าย 13

- ธรรมบำบัด

- ชมบารมีพระศรีอาริย์

- เตือนภัยพิบัติขั้นวิกฤติ

- พบ ดร.จิตรา

องค์ปรีดาเทพ สุรทิน

 

6-7 ต.ค.55

บ้านสวนพีระมิด

 

รับจำนวนจำกัด

รายละเอียดจะแจ้งต่อไป

 

เชิญร่วมสนทนา

และ

ร่วมแสดงความเห็นได้

ตามอัธยาศัย

 

ด้วยเป็นเรื่องสืบเนื่องจาก

งานที่ กทม. 21 ก.ย.55

 

ผู้สนใจค่ายนี้

เชิญเข้ามาคุยกันก่อนได้

จ้า

 



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-24 22:19:53


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 [7]

ความคิดเห็นที่ 601 (1633576)

การทำ work shop เป็นสิ่งที่ชอบมากที่สุดในค่าย 13 นี้

เพราะทำให้ทุกคนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

โดยเฉพาะกลุ่มของเด็ก ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิด

ของเด็ก ๆ ว่าเป็นการคิดเป็นตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมวกวน

ไม่มีการปรุงแต่งเหมือนผู้ใหญ่

ความเห็นจากคุณดาเรศ

ขอกด Like ให้ 1000 ครั้งก๊าบบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 17:28:35


ความคิดเห็นที่ 602 (1633579)

 

ไปค่าย 13 มาแล้ว ได้อะไรกันบ้าง
 
ความสำคัญของการเขียนธรรมทาน
 
-                  ท่าน อ.อุบลยกตัวอย่างกรณีของ อ.พันธุ์ ว่า    ไม่ค่อยเขียนธรรมทาน จนกระทั่งพี่ชายไม่สบายอาจเสียชีวิตได้ จากความไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะช่วยพี่ชายให้หายได้   จึงใช้วิธีการของท่าน อ.อุบล รักษาจนอาการดีขึ้น และมาเขียนธรรมทาน     ซึ่งท่านได้ตั้งคำถามว่า ทำไมเราต้องรอให้เวลาเหลือน้อยแล้วจึงค่อยทำ
 
-                   บางท่านอาจบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาต้องทำงาน ฯลฯ เมื่อเทียบกับภาระงานที่ท่าน อ.อุบลต้องทำในแต่ละวัน ของท่าน เยอะมากๆ แต่ท่านก็ยังมีเมตตาเขียนธรรมทานให้พวกเราอ่านทุกๆ วัน ๆ ละเยอะมาก  เพราะท่านคิดว่ายังมีบุญน้อยอยู่    จึงต้องเร่งสร้างธรรมทาน  ท่าน อ.อุบลบอกว่าท่านไม่เคยตั้งเวลาที่จะเขียนธรรมทาน หรือ กำหนดกฏเกณฑ์ในการเขียน  รู้แล้วหนาวใจจริงๆ ค่ะ
 
-                    ท่าน อ.อุบลจะเปิดเวปไว้ตลอดเวลา       ขนาดท่านนุ่งกระโจมอกจะไปอาบน้ำ ท่านก็ยังแวะเขียนธรรมทานก่อน หลังจากอาบน้ำเสร็จก็แวะเขียนธรรมทาน   ก่อนไปแต่งตัวหรือแม้แต่ท่านเดินผ่านเพื่อจะไปหยิบของ   ก็จะแวะเขียนธรรมทาน สังเกตท่านจะเขียนเป็นช่วงๆ ยามท่านว่าง       ไม่ได้รับแขก     ท่านก็จะหาเวลาเขียนแม้เวลาเพียงนิ๊ดหนึ่งก็เอา   แต่อย่างเราซิ  เห็นแก่ตัวคอยรออ่านจากท่านท่าเดียวคอยแต่รับ   ไม่รู้จักให้บ้าง ต้องรอว่างจริงๆ จึงจะเขียนได้ แม้แต่ก่อนจะนอนท่านก็ยังเขียนธรรมทาน ตื่นนอนตอนเช้าก็เขียนอีก แล้วท่าน อ.อุบล ก็เมตตาบอกว่า
 
-                   ท่าน อ.อุบล จะส่งบุญให้กับคนที่เขียนธรรมทาน   ซึ่งเป็นการเชื่อมญาณ โดย อ.อุบลจะไล่เปิดอ่านทุกกระทู้ใหม่ๆ เพื่อส่งบุญให้กับคนเขียนธรรททาน     และจะเชื่อมญาณขอบารมีจากจักรวาล มาเชื่อมญาณกับท่าน อ.อุบล      ส่งไปที่ตัวอักษรให้มีพลังงาน ซึ่งไม่มีกระทู้ไหนที่ท่าน อ.อุบลไม่ได้อ่าน  ดังนั้นคนที่ไม่ค่อยเขียน  จึงมักมีปัญหาที่เป็นแล้วหาย หายแล้วก็กลับมาเป็นอีก เพราะท่าน อ.อุบลไม่สามารถเชื่อมบุญเข้าไปในธรรมมะที่ไม่ค่อยมาเขียนได้    ฉะนั้นพวกเรารู้แล้วซินะว่า ธรรมทานเป็นกำลังบุญที่สูงมากๆ ต้องรีบเร่งเขียนกันให้มากๆ 
 
-                     ธรรมทานที่เราเขียน ถ้ามีคนเข้ามาอ่านเป็นล้านๆ คน แล้วเขารู้ว่าเพราะทำกรรมอะไรจึงได้รับผลอย่างนั้น       แล้วพร้อมเปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น ก็จะมีพลังบวกเพิ่มมากขึ้น อานิสงค์ก็มากตาม เป็นการตอบแทนพระคุณ    ของพระพุทธองค์ได้ด้วย ดังนั้นพวกเรามาร่วมด้วยช่วยกันเขียนธรรมทานให้กันมาก ๆ เขียนทุกวันได้ยิ่งดีวันละเล็กละน้อย ดีกว่าไม่ได้เขียนน่ะค่ะ
 
-                     คนใหม่ที่มาบ้านสวนเห็นอะไรในบ้านสวน พบปาฏิหาร์อะไร เห็นกิจกรรมอะไรบ้างก็สามารถเขียนเล่าได้  แต่แปลกทำไมบางคนเข้ามาแล้วบอกไม่รู้จะเขียนอะไร เขียนหรือพิมพ์ไม่ได้ ก็สามารถให้ผู้อื่นทำให้ก็ได้ แต่อย่างว่าค่ะ คนที่ไม่ยอมเขียนมักมีเหตุผลที่จะเขียนไม่ได้เสมอ (เป็นมาแล้วค่ะ)   เพราะบุญนี้ทำได้น้อยคนแต่ก็ไม่น่าจะเกินความพยายามของเรา ถ้าอยากหลุดพ้นทุกข์ไวๆ     ก็รีบสร้างธรรมทานให้มากๆ นะคะ อนุโมทนาสาธุ กับท่านที่เขียน        และคิดจะเริ่มเขียนธรรมทานด้วยค่ะ  สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 17:32:41


ความคิดเห็นที่ 603 (1633582)

 

ขออนุญาตเล่าต่อ...........

             ช่วงเย็นวันเสาร์หลังจากที่ทุกคนได้รับประทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว พวกเรา

สมาชิกค่าย 13 ก็เตรียมตัวเข้าห้องประชุม  ส่วนนักแสดงก็เตรียมตัวสำหรับการแสดง          

ในวันนี้   ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชุดด้วยกัน

ชุดแรก  เป็นการแสดงที่คุณอัมและทีมงานจัดเพื่อคุณแม่ของพวกลูกๆบ้านสวนฯ                  

 ฟังเพลงแล้วประทับใจมากจริงๆพร้อมชุดและท่ารำที่สวยงาม  ชุดที่สอ  ก็เป็น                

 การแสดงที่สวยงาม และอลังการมากเช่นกัน/

  ส่วนชุดที่สาม เป็นการแสดงละครชุดเจ้าเงาะ – รจนา ซึ่งในชุดนี้ขอบอกว่า  ดังอีกแล้ว            

  ผู้กำกับคนเก่งเลือกตัวแสดงได้เหมาะสมจริงๆ   ลูกสาวท้าวสามลแต่ละคนและ                

 

  นางมณฑาสวยได้ใจไม่แพ้กันเลย (สงสัย...สวยเหมือนเสด็จแม่น๊ะ!) จนทำให้เจ้าชาย

 

  ทั้ง 3 คน หลงรักกัน.. โอ้ว..เจ้าเงาะโผล่มาจากไหน?   (น่าสงสารเจ้าชายแขกจัง....)  

 

ทำไม.......รจนาถึงเสี่ยงพวงมาลัยให้  อ๋อ...เพราะ รหัสลับแห่งจักวาล  อ.อุบลฯช่วยด้วย        

นี่เอง /  สนุกมากเลยค่ะ/                                                                                                                                         (ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ)

 

                                     *********

              หลังจากนั้นพวกเราก็มาทำ   Work  shop กัน  โดยมีท่าน อ.อภิชัยเป็น    

หัวหน้าทีม  ในหัวข้อที่พวกเราต้องช่วยกันระดมความคิดว่า  ถ้ามีใครมาลบหลู่ดูหมิ่น

สิ่งศักสิทธิ์ ที่เราเคารพบูชา เช่นลบหลู่พระพุทธเจ้า ฯท่านท้าวเวสสุวรรณ ฯลฯ เราจะ            

ทำอย่างไร?พวกเราก็ช่วยระดมความคิดกันหลากหลายอย่าง แต่ก็มาสรุปตรงที่คำตอบ        

ของ อ.อุบลฯว่า

                      -  คุณเป็นใคร   ทำความดีอะไรกับเขาบ้าง

                      -  คุณทำความดีได้  เท่ากับท่านเหล่านั้นมั้ย

                                   -  คุณมีสิทธิ์อะไรที่ไปลบหลู่พระพุทธเจ้า หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ฯลฯ

                               ซึ่งคำพูดเหล่านี้เป็นแนวทางที่สามารถพูดโต้ตอบได้ทันที/

               สุดท้ายก็ย้ายมาด้านหลัง มีบาร์บีคิว ที่แสนอร่อย ซึ่งทุกคนได้รับประทาน

แล้วเรียกว่าไม่ผิดหวังกันจริงๆ    แล้วก็มาถึง  ปาฏิหาริย์ ของบารมีพระศรีอาริย์

และจี้องค์เทพสฟิงซ์จากที่   คุณซิม ได้ ซื้อมา 9 องค์ มาให้พวกเราได้รับสัมผัสกัน          

อย่าง มหัศจรรย์จริงๆอย่าง ไม่รู้ลืม   สำหรับตัว อ.นี เองนั้นปกตินั่งพับเพียบไม่ได้

จะมีอาการเจ็บเสียวที่หัวเข่า แต่ ตอนนี้นั่งได้แล้วค่ะ ส่วนลูกสาว น้องลิน  ซึ่งมี

อาการเดินขาบิดไปทางด้านขวา  มองเห็นได้ชัด  พอได้แขวนองค์จี้สฟิ้งซ์  (9+1) รวม            

ทั้งบารมีของพระศรีอาริย์  ทำให้ขาตรงเป็นปกติเลยค่ะ  (คือตั้งแต่เด็ก   คุณแม่ถือ              

โอกาสขอ สารภาพว่า...  เคยไปบิดขาเขาตั้งแต่เล็กๆ  เพราะอยากให้ขาสวย  ผลก็

เลยออกมาเป็นแบบนี้เลยค่ะ)  ก็ต้องขอขมา  น้องลิน ด้วยค่ะ และขอกราบขอบ          

พระคุณพระศรีอาริย์ฯและองค์จี้สฟิงซ์ทั้ง (9 +1) องค์รวมตัวกัน  ที่ คุณชิมซื้อมา                

และท่าน อ.อุบลฯ ด้วยค่ะ

                                                     กราบ  กราบ   กราบ     

      (ยังมีต่อค่ะ)                      

                                                              *********

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 17:45:36


ความคิดเห็นที่ 604 (1633590)

  [ ผมได้อะไรไปบ้างจากค่าย13นี้ ]

1.ได้บุญ --> 55+อันเนี่ยะได้ชัวร์
2.ได้ใช้ปัญญาจากการทำกิจกรรมเวิร์คช๊อป ซึ่งยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาใช้ปัญญาน้อยซะเหลือเกิน ชีวิตมันก็เรยเป็นแบบเนี๊ยะ ก็ยังไม่หลุดพ้นเหมือนเดิม
3.ได้เห็นบทบาทของผู้นำของจริง ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัตินั้น คือ การให้หรือความเสียสละนั่นเอง ให้..โดยไม่หวังผลตอบแทน ตรงกันข้ามกับตัวผมที่...อยาก..ได้..แต่ฝ่ายเดียว
4.อย่าเชื่อ!!..เมื่อสิ่งนั้น ยังไม่ได้พิสูจน์ ที่ผ่านมาผมเชื่อคนง่าย ใครเค้าว่าอย่างนั้นดี เราก็ว่าดี ก็เชื่อ โดยไม่พิสูจน์ ไม่ใช้ปัญญา จากกิจกรรมที่บ้านสวนฯเห็นได้ชัดว่า ทุกอย่าง เป็นเหตุเป็นผล และพิสูจน์ได้อย่างเป็นวิทยาศาตร์ และเป็นรูปธรรม
5.ความลับไม่มีในโลก แต่แค่เรายังไม่รู้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะรู้ .....จี้องค์เทพสฟิงค์มีความลับอะไรอีกน้า..555+
6.จงมีระเบียบวินัยต่อตนเองและเคารพผู้อื่น...เพราะโอกาสนั้นมีจำกัด
   แค่นี้ก่อนน่ะครับ เดี๋ยวขอไปคิดต่อก่อนน่ะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 18:02:22


ความคิดเห็นที่ 605 (1633596)

 

ป้าเตือนขอแจม   ค่าย 13 : วันที่ 5-7 ต.ค. 55
      พอไปถึง วันศุกร์ เวลา 9 โมงของวันที่ 5  เพื่อจะได้ช่วยงานท่าน อ.อุบลบ้าง เพราะงานใหญ่ท่านทำเกือบหมดแล้ว ก็เหลือปูกระเบื้องเล็กน้อย มองไปทางไหนก็เห็นแต่ดอกไม้บานสะพรั้งที่ท่านอาจารย์ประดับตกแต่งตามใต้ต้นกระท้อน ขนุน มะม่วง  มันอลังการมากจนบรรยายไม่ถูกเลย ท่านอาจารย์ได้บำบัดสายตาและหัวใจไปในตัว ที่ได้เห็นของสวยๆงามๆแบบนี้ คงเหลือแต่สุขภาพนิดหน่อย มีน้ำตกที่น้องสัตว์ต่างๆ หลากหลายพันธุ์โชว์ตัวอยู่ข้างๆลานธรรม
           งานบุญแรงกายทุกอย่างก็ได้ทำเต็มที่ ถึงคนมีน้อยแต่ก็ทำงานได้มาก หนัก แต่ไม่เหนื่อยเลย อัศจรรย์จริงๆ ด้วยความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอาจารย์ พวกเรารักและสามัคคีกัน มีความอบอุ่น และพวกเราก็ได้ท่องคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วย ท่านอาจารย์บอกว่า “จะได้ขับพลังมืดที่อยู่รอบตัวเราออกไป” ต้องท่องอย่างน้อยวันละ 99 จบขึ้นไป ให้ได้ครบ 9  วัน ลูกบ้านสวนทุกคนเรามาร่วมใจรวมพลังกันท่องตลอดไปดีกว่าเนาะ สิ่งไหนที่ท่านอาจารย์ย้ำคงมีความหมายที่ยิ่งใหญ่.
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 18:21:17


ความคิดเห็นที่ 606 (1633615)

 โดยนายพิชัย  ภูกิ่งพลอย    (จากที่ผมได้ร่วมเข้าค่าย 13)

ร่วมทำบุญด้วยแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ ไปแล้วนั้น จากที่ผมได้ฟังคำ

สอนของท่านอ.อุบลอย่างใกล้ชิดจึงพอให้ผมเกิดปัญญาเพิ่มขึ้นและ

ได้บุญเพิ่มขึ้น ขอยกตัวอย่างสักตอน คือเมื่อวานวันที่ 9 ต.ค 55

ผมได้เอาอาหารที่ทำจากมันสำปะหลังไปส่งฟาร์มหมูพอพบเจ้าของ

ฟาร์ม ผมจึงได้ถามเขาว่า คุณเชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าไหม...

เจ้าของฟาร์มตอบว่าเชื่อ 50% พอได้ยินอย่างนั้น ผมยิ่งพูดกับเขา

ให้เขาเข้าใจ ผมจึงถามเขาว่ารู้ไหมว่าความอยากเป็นอย่างไร

เขาตอบว่า เดี๋ยวนี้เขาอยู่อย่างพอเพียงแล้ว ถ้ามีเครื่องวัดได้ตัวเขา

ผ่านตลอด แต่เขายังบอกอีกว่าถ้าเดี๋ยวนี้มีเงิน 1 ล้านบาท เขาคง

สบายแล้วเพราะที่ไม่สบายตอนนี้ต้องหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือจึง

เก็บไม่ได้ 1 ล้านสักที ผมจึงถามเขาว่าที่หามานี่เกิน 1 ล้านหรือยัง

เขาตอบว่าหาได้เกินห้าล้านบาทแล้ว ผมจึงถามต่ออีกว่าที่ดินที่คุณ

มีคุณได้จ้างคนทำไหวไหม คุณมีรถยนต์ รถสามล้อ รถจักรยานยนต์

ที่คุณซื้อมาได้ใช้งานคุ้มค่าหรือไม่ บ้านคุณทำแค่พออยู่ได้ไหม

แล้วผมก็ให้เขาคิดโดยที่ผมลงของเสร็จก็เดินหาซื้อขนมน้ำมากิน

เพื่อรอเวลาจากนั้น จึงได้มาถามเอาคำตอบจากเขาแล้วเขาก็ตอบว่า

เขารู้แล้วที่เขาเก็บเงินไม่ได้ 1 ล้านสักที ทั้งที่หาเงินมาได้เกิน

ห้าล้านแล้ว เขาก็พูดว่าก็เพราะความอยากก็เลยไม่พอสักที

และผมก็ได้เข้าใจเขาว่าที่เชื่อพุทธเจ้าแค่ 50% ก็เพราะเขายังตัด

กิเลสไม่ได้ รักษาศีล 5 ข้อยังไม่ได้ ทั้งที่ตอนแรกก็นึกฉุนเขา

เรานี่โง่จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 19:52:37


ความคิดเห็นที่ 607 (1633617)

สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้ คือ

1. ได้ฝึกภาวะความเป็นผู้นำ
2. ได้ความสามัคคี เรียนรู้การทำงานเป็๋นกลุ่ม
3. ได้แสดงความคิดเห็น ใช้เหตุผลวิเคราะห์โจทย์ที่ได้
4. รับรู้ถึงความจริงใจต่อกัน และความรักโดยปราศจากเงื่อนไข เช่น ตอนที่ช่วยกันใช้จี้บำบัดให้เพื่อน ทุกคนต่างตั้งใจอยากให้เพื่อนหาย
5. ได้ทราบความลับของจักรวาลเยอะมากกกก...
6. กิจกรรม workshop ที่ได้ สามารถนำไปใช้ได้จริง กับผู้คนรอบข้างที่พบปะกันในชีวิตประจำวัน
7. มีพลังที่จะทำดีเพื่อผู้อื่นมากขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 20:30:03


ความคิดเห็นที่ 608 (1633626)

ขออนุญาติเหลาต่อค่ะ

หลังจากทำ workshop การบำบัดช่วยเหลือคนแล้ว ท่านอาจารย์ก็ให้ทำ workshop เรื่องตามหาพระศรีอารย์ โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆละประมาณ 20 คน มี2 หัวข้อคือ

1.ปราบมาร พระศรีอารย์จะปราบมารอย่างไร

2.พระศรีอารย์จะนำพาผู้คนเข้าสู่ยุคทองได้อย่างไร

 1.กลุ่ม ดร.จิ๋ม ได้เรื่องปราบมาร ใช้วิธีปราบมารโดยใช้พรหมวิหาร 4 และทำให้เกิดการเจ็บปวดเสียก่อน จึงจะใช้พลังบารมีรักษา

 2.กลุ่ม รศ.เบ็ญจรัตน์ ใช้วิธปราบมารโดยใช้บุญฤทธิ์ และธรรมฤทธิ์ ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เหตุดับผลก็ดับ

ส่วนกลุ่มอื่นทำการบ้านไม่ตรงกับคำถาม เลยยังไม่สรุปค่ะ เพราะความเข้าใจในโจทย์ยังไม่ถูกต้อง

จากนั้นเป็นช่วงชมบารมีพระศรีอารย์ ท่านอาจารย์อารธนาอัญเชิญบารมีพระศรีอารย์ มาช่วยเหลือลูกหลานเพื่อให้ลูกหลานได้หายจากทุกข์ ซึ่งก็มีพี่น้องหายจากอาการเจ็บป่วย ส่วนคนไหนที่ไม่หายก็เข้าแถวเดินผ่านท่านอาจารย์ ซึ่งทุกคนก็หายกันถ้วนหน้า

และท่านอาจารย์ได้เมตตาตักเตือนด้วยวิธีเข้มข้นเรื่องการเขียนธรรมทาน ว่าต้องเขียนธรรมทานทุกวัน เพราะท่านอาจารย์จะอ่านธรรมทานของทุกคนทุกกระทู้ และผู้ที่เขียนธรรมทานจะได้เชื่อมญาณกับท่านอาจารย์ และท่านอาจารย์จะส่งบุญให้ผู้ที่เขียนธรรมทานทุกครั้ง เพราะพระศรีอารย์ทรงเข้มงวดเรื่องธรรมทานมาก เราต้องปฏิวัติตัวเองใหม่ เขียนธรรมทานทุกวันอย่าคิดว่าไม่มีอะไรจะเขียน ถ้าเขียนบ่อยๆจะทำให้เกิดปัญญาเขียนได้มากมาย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 21:15:34


ความคิดเห็นที่ 609 (1633635)

 

ไปค่าย 13 มาแล้ว ได้อะไรกันบ้าง

อันดับแรกเลยคือ ได้ความรักที่ไม่มีขอบเขต ปราศจากเงื่อนไข จากท่านอาจารย์อุบล ที่ให้ลูกหลานมาโดยตลอดได้สัมผัส พลังจากเบื่องบนอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งไม่เคยพบกับความสุขเช่นมาก่อนเลยในชีวิต และที่ประทับใจมากคือ ความเปลี่ยนแปลง ทุกๆอย่างตั้งแต่สถานที่ ลานธรรม การทํา  เวิร์คชอป ทําให้ เกิดความรัก ความสามัคคี ได้เรียนรู้วิธีช่วยเหลือ ผู้ที่ ทุกข์ หรือเจ็บป่วย จากพลังที่เหนือธรรมชาติ ปรากฎการณ์ สะท้านโลก ของจี้องค์เทพสฟิงค์ ได้คติธรรมจากการที่ได้ดู คลิปวีดีโอ แต่ละตอน สอนใจได้ดีมาก ได้รู้วิธี ที่จะช่วยกอบกู้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รู้วิธีที่จะตอบโต้ฝ่ายอธรรม รู้วิธีที่จะช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น หากเกิดภัยพิบัติ ได้ชมบารมีพระศรีอารย์ อรมีอาการปวดหัว ตอนเดินไปเข้าแถว พอท่านอาจารย์ อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ยังไม่ทันจบ อาการปวดหัวก็หายทันที  พระองค์ทรงเมตตาให้ลูกหลาน เขียนธรรมทานกันให้ได้ทุกวัน เพราะธรรมทานเป็นบุญใหญ่ ท่านอาจารย์ จะส่งบุญให้ผู้ที่เขียนนธรรมทานทุกคน

กราบขอบพระคุณพระศรีอารย์ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อปทุกพระองค์ เจ้าค่ะ     

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 21:54:55


ความคิดเห็นที่ 610 (1633637)

อ่านธรรมทานหลายท่าน

หลังค่าย 13 แล้ว

 

เห็นได้เลยว่า

ค่าย 13 เป็นค่ายแห่ง

ความเปลี่ยนแปลงพลังงานเก่า

เข้าสู่พลังงานใหม่จริงๆ

 

เพราะ

หลายคนปรับปรุงตัวเอง

เรื่องการเขียนธรรมทานและการ

ใช้ปัญญา มากกว่า ใช้ตัณหา

 

สิ่งที่เห็นชัด

คือ เด็กๆ อายุ 6 ขวบ

ถึง 10 กว่าขวบ มีวิสัยทัศน์

ที่ผู้ใหญ่ต้อง "อึ้ง"

 

สิ่งที่เด็กถ่ายทอดมา

แสดงว่า เขาซึมซับ สิ่งที่เขาเห็น

สิ่งที่เขาสัมผัสได้ไว้ทั้งหมด

เขานำออกมาใช้เป็น

ตรงเหตุการณ์

 

น้องต้นกล้า

ใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์

บำบัดให้น้องมาร์คหายปวดขาทันทีได้

และ

เด็กอีกหลายคนต่างบำบัดกันได้

หาย ดีขึ้น คือ มีผลเปลี่ยนแปลง

 

นี่คือ

ยุคพระศรีอารยิ์

อภิญญาใหญ่ เกิดขึ้นแล้ว

ตั้งแต่กับเด็กเล็กๆ

 

หลวงพ่อดูอยู่

คงชื่นใจ ไม่เสียแรงที่

หลวงพ่อเหน็ดเหนื่อยมายาวนาน

บัดนี้ สิ่งที่พระปฐมฯ

ขอหลวงพ่อว่า

อย่าหยุด หยุดไม่ได้คุณ

อีก 20-30 ปี

อภิญญา 6 จะมามาก นั้น

 

บัดนี้

วันที่หลวงพ่อบอกไว้

ก็ได้มาถึงแล้ว

และ

จะยิ่ง มาก ยิ่งๆขึ้นไป

 

กราบเท้าหลวงพ่อ

ที่ให้วิชากสิณ วิชาสาม อภิญญาหก

 และกรรมฐาน 40 กับลูก

แล้วได้นำมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์

ให้ผู้คนได้จริงจัง

กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 22:01:06


ความคิดเห็นที่ 611 (1633640)

 คลิป VDO

กิจกรรมค่ายที่ให้ข้อคิดกับมิ้มมากๆๆ ก็คือ การดูคลิปวิดีโอ 

 

คลิป 1 ควาย เสือ  สิ่งที่ได้ก็คือ ศัตรูจะทำร้ายผู้ที่อ่อนแอที่สุดก่อน  เหมือนเสือที่ไล่กัดลูกควาย และลูกบ้านสวนเปรียบเสมือนฝูงควายที่ไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้กับศัตรู  ปล่อยให้หัวหน้าควาย คือ ท่านอาจารย์ต้องเป็นคนสู้ต่อผู้มาปรามาสสามร่มโพธิ์ศรีแต่เพียงผู้เดียว

 

คลิป 2 งูกินจระเข้ - จระเข้กินงู  เป็นการเตือนว่า คนที่กินเนื้อสัตว์อยู่ต้องพร้อมที่จะถูกสัตว์กิน เหมือนหมูที่กินคน น่ากลัวจริงๆค่ะ บรื๋อๆๆๆ

 

คลิป 3 ม้าลาย สิงโต  การใช้สติปัญญา และกำลังใจในการต่อสู้ พยายามสู้ สู้สุดแรงไม่ย้อท้อเหมือนม้าลายแล้วเราจะพบทางออกหนีได้ในที่สุด  และที่ต้องจำไว้เลยค่ะ ถ้าคุณไม่ช่วยใครก็อย่าหวังให้ใครมาช่วยคุณ

 

คลิป 4  ผู้ชายถูกปลาฉลามกินที่ชายทะเล  เหลือเชื่อมากๆๆค่ะเพราะเป็นชายหาด  สิ่งนี้คงเป็นสัญญาณเตือนว่า ใครยังไม่หยุดกินปลา คุณก็จะถูกปลากิน

 

 คลิป 5 ผู้ชายที่มาเที่ยวสวนสัตว์ถูกสัตว์ทำร้าย ทั้งที่ภรรยาของเค้าอยู่ในรถและสามารถช่วยสามีได้  แต่เพราะเค้าไม่มีสติ จึงไม่ได้ใช้ปัญญาขับรถไปคร่อมคนให้อยู่ใต้รถสัตว์จะได้ทำร้ายไม่ได้  ต่อไปเรานี้เราจึงควรทำสมาธิให้มากเพื่อเราจะได้มีสติ สมาธิ ปัญญา ช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้ สู้ ๆๆ ค่ะ

 

คลิป 6 เสือพยายามจะกัดกินฮิปโป  ฮิปโดปเดินหนีไม่สะทกสะท้าน  ซึ่งเตือนสติลูกบ้านสวนให้เป็นคนบึกบึน หนังหนา หน้าด้าน ซึ่งก็คือ ให้เราเป็นคนที่ทนต่อแรงเสียดทาน  ใจไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งกระทบ ใจยังคงผ่องใส ก็จะไม่มีใครทำอะไรเราได้

 

คลิป 7  คลิปผ่าเอาชิ้นส่วนคนออกจากท้องของจระเข้  เป็นเสมือนสิ่งย้ำเตือนว่าจระเข้ตอนนี้กระจายอยู่เต็มไปหมด และรอเวลาที่จะจัดการกับคนที่ทำร้ายเค้า

 

คลิป 8  คลิปผีกระสือ  เป็นภาพผีกระสือจริงๆ น่ากลัวมากๆๆเลยค่ะ  เป็นหลักฐานย้ำเตือนว่า ผี ออกมาจัดการกับผู้ที่อ่อนแอแล้ว  เราต้องมีจิตใจเข้มแข็ง ไม่กลัวผี ให้บุญเทพและวิญญาณเสมอท่านจะไม่ทำร้ายเรา  โลกแห่งวิญญาณไม่มีการโกหก ทั้งเทพและวิญญาณต่างมีความกตัญญู  ท่านจะคุ้มครองช่วยเหลือเราเมื่อเราหมั่นให้บุญท่านค่ะ

 

และที่ตอกย้ำจิตใจมิ้มมากๆๆ คือ คลิปภัยพิบัติ !!!!!!!!! น่ากลัว รุนแรงเกินความคาดหมายในทุกเรื่อง ทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ หลุมยุบ สัตว์ร้าย เขื่อนแตก ความหนาวเย็น โรคระบาด ขาดแคลนอาหาร เป็นเสมือนภาพที่ย้ำเตือนให้มิ้มเลิกสนใจกับทรัพย์สินเงินทอง องค์ประกอบภายนอก  เพราะเมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้น  สิ่งที่สร้างมามันก็สูญเปล่าทั้งหมด  มีเพียงบุญเท่านั้นที่ช่วยเราได้  และเราเองต้องเรงช่วยกันเปลี่ยนผู้คนจากการทำผิดศีลโดยใช้จี้เพื่อเป็นการดับที่เหตุ  ป้องป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จากการถูกปรามาส  ตามหาพระศรีอาริย์เพื่อช่วยให้ภัยพิบัติเบาบาง  การสูญเสียจะได้เกิดน้อยที่สุดค่ะ สาธุ

 

เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ ^__^

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 22:11:51


ความคิดเห็นที่ 612 (1633643)

 กราบเท้าหลวงพ่อ

ที่ให้วิชากสิณ วิชาสาม อภิญญาหก

 และกรรมฐาน 40 กับลูก

แล้วได้นำมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์

ให้ผู้คนได้จริงจัง

กราบ กราบ กราบ

*********************************

กราบขอพระคุณ สมเด็มพระบรมธรรมบิดา สมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ 

ที่เมตาให้ความรู้วิชา เพื่อช่วยลูกหลานให้พ้นทุกข์  

รากฐานที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้อดทน เสียสละพากเพียร ถ่ายทอด

และคำพร่ำสอน กระทำให้เป็นเเบบอย่างของท่านอาจารย์อุบล

ได้ให้ชีวิตใหม่ ชีวิตที่ปลดเปลื้องทุกข์ พบความสุข เพื่อจะได้กลับบ้านนิพพาน 

ลูกจะตั้งใจ ปรับปรุงพัฒนาตนเอง

นำวิชาความรู้เพื่อปลดเปลี้องทุกข์ให้ตนเองและผู้คนให้มากที่สุด

เพื่อตอบเเทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของทุกพระองค์ และท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ  สาธุ


ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 22:24:33


ความคิดเห็นที่ 613 (1633644)

มาต่อครับ

4.กิจกรรมวันอาทิตย์

ตื่นเช้าขึ้นมาก็ได้ตั้งวงออกกำลังกายยามเช้ากันเหมือนเช่นเมื่อวานครับ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮามากที่สุดคือการออกมานำออกกำลังกายโดยพี่อ้อยที่ต้องเรียกว่าสวดดยอดดมากก ออกแนวว่าอยากเรียกฉันออกมานักใช่มั้ยเจอท่าเต้นสะบัดเอวเข้าไป สนุกกันเลยครับ จากนั้นก็แยกย้ายกันทำธุระส่วนตัว แล้วทานข้าว และไปพร้อมกันที่อาคารประชุม

กิจกรรมภาคเช้าเราได้แบ่งกลุ่ม ร่วมกันระดมสมองและเสนอความคิดเห็นในหัวข้อ ท่านจะมีวิธีบำบัดผู้อื่นในกลุ่มได้อย่างไร กลุ่มผมประกอบด้วย พี่เหมี่ยว คุณแหม่ม คุณสมจิต แม่คุณแหวน คุณก้อย คุณนก คุณเจี๊ยบ คุณอ๋อย และผม จากตอนแรกที่ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยคือแม่คุณแหวน คุณอ๋อย คุณนก เราได้ใช้วิธีให้สารภาพกับจี้ทีละคน อาการก็ดีขึ้นจนหาย แต่กว่าจะได้ทีละคนต้องใช้เวลามาก แต่พอถึงผมซึ่งมีอาการตาแดง อักเสบ บวม ระคายเคือง ซึ่งเกิดจากแมลงเข้าตา ดูแล้วถ้ามานั่งสารภาพกันอีกคงไม่ทันกาลแน่ พี่เหมี่ยวเลยเสนอให้พวกเรานำจี้มารวมกันได้14องค์ (ทำเหมือนเมื่อคืนที่ใช้จี้9องค์ของคุณชิม) แล้วยื่นมาให้ผม ผมก็เลยอธิษฐานขอบารมีพระศรีอาริย์ จากนั้นก็ประคบไว้ที่ตา ขณะที่ประคบอยู่นั้นมีความรู้สึกมีพลังบางอย่างพุ่งเข้าตา ในขณะเดียวกันคุณแหล๋นเดินผ่านด้านหลังผมพอดี ก็ได้บอกผมว่ามีพลังความร้อนออกมาจากตัวผม หลังจากที่เอาจี้ทั้ง14องค์ออกจากตา ผมก็ต้องตะลึงเมื่อพี่ๆทำหน้าตกใจกันใหญ่เลยครับ และได้บอกกับผมว่าอาการบวมแดง ดีขึ้น95% และผมเองก็รู้สึกว่าอาการแสบระคายเคืองหายทันทีเลยครับ จากนั้นพี่ๆก็เลยบอกให้ลองสารภาพมาสิว่าเคยใช้ตาไปทำอะไรมา ผมก็ได้บอกว่า เคยดูหนังโป๊ ภาพโป๊ ใช้สายตาดูถูกผู้อื่น มองผู้หญิงเซ็กซี่ มองค้อนภรรยา หลังจากสารภาพอาการตาแดงหายฉับพลันเลยครับ อีกท่านหนึ่งคือคุณเจี๊ยบ มีอาการคันที่หัวเข่า เป็นมา7ปี ก็ใช้วิธีอธิษฐานกับจี้14องค์ปรากฏว่าอาการคันหายทันที และมีอาการเหงื่อออกบริเวณใบหน้าอย่างเห็นได้ชัดครับ นี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งถ้าเราเจอสถานการณ์จริงที่ผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยและไม่สามารถจะมีเวลาในการสารภาพบาปก็ต้องใช้วิธีที่สามรถช่วยเหลือได้ทันท่วงทีครับ

กิจกรรมภาคบ่าย เป็นการดูคลิปต่างๆ ซึ่งแมวได้นำมาลงให้ได้ดูกันนั้น มีทั้งคลิปควาย+สิงห์โต งู+จระเข้ ม้าลาย+สิงห์โต คนถ่ายรูป+สิงห์โต คน+สิงห์โต ฮิปโป+เสือโคร่ง จระเข้กินคน ผีกระสือ แต่ละคลิปท่านอาจารย์ก็จะสอนและสอดแทรกธรรมะให้เราได้คิดตาม และที่ผมชอบและโดนใจคือคลิปควาย+สิงห์โต เป็นสิ่งที่ทำให้ผมคิดได้ว่าแต่ก่อนเราคงเป็นลูกควายที่อ่อนแอ และวันนี้ผมคงเป็นส่วนหนึ่งของฝูงควาย พอได้ดูคลิปและได้รับคำสอนของท่านอาจารย์แล้ว ก็รู้สึกฮึกเหิมครับตั้งใจว่าวันหน้าเราจะพัฒนาตนเองเป็นควายจ่าฝูงให้ได้ครับ

จากนั้นก็ได้ร่วมกันระดมสมองกันอีกครั้งด้วยหัวข้อพระศรีอาริย์จะมีวิธีปราบมารอย่างไรและพระศรีอาริย์จะนำพาพวกเราให้เข้าสู่ยุคศิวิไลย์ได้อย่างไร หลายท่านต่างก็เสนอความคิดเห็นกันได้ดีมากครับ แล้วให้ตัวแทนของกลุ่มออกไปนำเสนอบนเวทีครับ

ถึงช่วงสำคัญชมบารมีพระศรีอาริย์ โดยท่านที่ยังมีอาการเจ็บป่วยหลงเหลืออยู่ให้ออกมาตั้งแถว ท่านอาจารย์ก็ได้อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์มาสถิตย์ที่ท่านอาจารย์ แล้วให้แต่ละท่านเดินผ่านท่านอาจารย์แต่ละท่านก็หายจากอาการเจ็บป่วยและรับความสุขกันอย่างถ้วนหน้าครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 22:25:16


ความคิดเห็นที่ 614 (1633652)

 กราบขอบพระคุณบารมีพระศรีอาริย์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

 

ก่อนลูกไปค่ายลูกมีอาการปวดที่ระหว่างหลังและต้นคอ

เมื่อเดินทางมาถึงบ้านสวนอาการปวดก็หายไป

เจ้ากรรมนายเวร ต่างพากันเตือนด้วยอาการเจ็บป่วยต่างๆ

เตือนแรกวันเสาร์ คือ ปวดแขน เมื่อใส่จี้ 9 องค์ รับบารมีพระศรีอาริย์

อาการปวดก็หายไปเพียงแค่นับถึง 3

เตือนวันที่อาทิตย์ คือ เจ็บคอ ปวดแขน ปวดเอว ปวดขา และปวดส้นเท้า  เมื่ออาราธนาบารมีพระศรีอาริย์อาการดีขึ้น 60 %

และเมื่อเดินผ่านท่านอาจารย์อุบลรับบารมีพระศรีอาริย์

อาการดีขึ้นอีก 85 %

เมื่อได้รับพลังจี้จากท่านอาจารย์ ประมาณ 20  องค์ อาการดีขึ้น 95%

เมื่อลูกบอกว่าลูกจะกลับไปเขียนธรรมทานอาการดีขึ้นถึง 98 %

และเมื่อลูกเขียนธรรมทานแล้วอาการเจ็บป่วยทั้งหมดก็หายไปทั้งหมดค่ะสาธุ

ก่อนไปลูกมีปัญหากับคนรัก เมื่อกลับมาจากสร้างบุญคนที่ลูกรักก็คิดได้

ใจลูกมีความสุขมากๆๆ ตั้งแต่กลับมาสติ สมาธิ ปัญญา พรหมวิหาร

ทรงได้เกือบตลอดเวลา มีหลุดไปบ้างก็เตือนสติตนเองกลับมา

ความสุข ปัญญา ใบหน้าสดใส

 

 สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ด้วยเพราะบารมีก็พระศรีอาริย์

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

 ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

ลูกกราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 22:49:36


ความคิดเห็นที่ 615 (1633663)

เล่าต่อคะ(ตอนที่4)

ภาคเช้าของวันอาทิตย์ เมื่อแต่ละกลุ่มทำworkshop การบำบัดสมาชิกในกลุ่มที่มีปัญหาทั้งด้านสุขภาพ การงาน การเงิน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตัวแทนแต่ละกลุ่มก็ออกไปรายงานหน้าเวทีถึงวิธีการบำบัดและผลที่ได้จากการบำบัดว่าเป็นอย่างไร

ขอกด like....สักล้านครั้งให้กับสมาชิกกลุ่มเด็กทุกๆคนที่ช่วยกันระดมความคิดว่าจะช่วยผู้อื่น(ให้พ้นทุกข์)ได้อย่างไร (โดยมีคุณธนาเป็นผู้สรุปของกลุ่มเด็ก)

เริ่มตั้งแต่ให้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย สารภาพบาปกับจี้ สารภาพบาปกับอาจารย์อุบล ทำบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวน อนุโมทนาหน้าจอ ดูรายการคุยไปแจกไปให้ครบ 9 ตอน เขียนธรรมทานในเว็บ เล่าธรรมทานที่บ้านสวน เลิกกินเนื้อสัตว์ รักษาศีล 5

ได้ฟังความคิดของเด็กแล้ว ผู้สูงวัยอย่างตัวเองยังอายเลย เด็กคิดได้อย่างไงเนี่ย เรายังคิดไม่ถึงเลย และก็ไม่ทันคิดด้วย สมกับเป็นเด็กยุคใหม่ ยุคทองจริงๆ ฟังแล้วต้องพิจารณาตัวเองแล้วว่าด้วยวัยที่อยู่มาถึงป่านนี้ได้ทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นได้มากน้อยแค่ไหน (ยังน้อยอยู่) สมควรได้รับโอกาสได้มีชีวิตอยู่หรือไม่(จะรอดจากภัยพิบัติหรือเปล่า)

ส่วนกลุ่มของผู้ใหญ่(หลายวัย) ที่ประทับใจ(โดนใจมากที่สุด)คือกลุ่มของน้องเหมี่ยวที่ผลการบำบัดของสมาชิกในกลุ่มเห็นผลแบบฉับพลันทันทีอย่างเป็นรูปธรรมเป็นที่ตื่นเต้นของคนในกลุ่ม ด้วยวิธีการนำจี้ของแต่ละคนมารวมกันได้14องค์เพื่อใช้ในการบำบัดอาการที่เจ็บป่วย ในรายของคุณก็อตที่มีอาการตาแดง เคืองตา และบวมแดง เมื่อนำจี้มาประคบที่ตาที่มีอาการและอธิษฐานขออาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ อาการแสบเคืองตาก็หายทันที และอาการบวมแดงยุบลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

ส่วนอีกรายคือคุณเจี๊ยบที่มีอาการคันที่หัวเข่ามาหลายปีผิวหนังบริเวณที่คันเป็นปื้นสีดำและหนา ซึ่งคุณเจี๊ยบได้ขึ้นไปเล่าบนเวที ด้วยว่าหลังบำบัดด้วยจี้ทั้ง 14 องค์ อาการคันที่เป็นอยู่ก็หาย และให้ดูหัวเข่าว่าจากปื้นสีดำก่อนบำบัด ตอนนี้จางลงมากและผิวหนังก็นุ่มขึ้น เป็นสิ่งที่เห็นด้วยตาเปล่า

สรุปตามความเข้าใจเมื่อได้ฟังจากอาจารย์:เมื่อนำจี้มารวมกันหลายๆองค์พลังอนันตจักรวาลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ยิ่งผู้ใช้และผู้รับมีความศรัทธาเต็มร้อยการบำบัดก็ได้ผลแบบที่เห็น ซึ่งวิธีการนี้ใช้ได้ผล รวดเร็ว  เห็นผลแบบฉับพลันทันที ในกรณีที่เราประสบเหตุฉุกเฉินพบคนบาดเจ็บ จะให้สารภาพบาปก็ไม่ทันการณ์ ถ้าเรามีจี้องค์เดียวเมื่อจะรักษาผู้อื่นให้นึกถึงหน้าคนที่เรารักที่มีจี้เหมือนกันโดยเฉพาะคนที่ได้ใช้จี้รักษาผู้อื่นมามากอย่างเช่นน้องขวัญ หรือนึกถึงท่านอาจารย์อุบล ทำให้ได้รับพลังจากผู้นั้นมารวมตัวที่จี้ของเราช่วยรักษาผู้อื่นได้ผลเหมือนกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 23:01:48


ความคิดเห็นที่ 616 (1633686)

 กราบเท้าหลวงพ่อ

 

ที่ให้วิชากสิณ วิชาสาม อภิญญาหก

 และกรรมฐาน 40 กับลูก

แล้วได้นำมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์

ให้ผู้คนได้จริงจัง

กราบ กราบ กราบ

***

กราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ครูบาอาจารย์ทุกๆท่าน

ท่านอาจารย์อุบล

ที่ได้ช่วยลูกหลายให้ได้มีโอกาสใช้ธรรมมะบำบัดให้กับผู้อื่นบุญกุศลที่ลูกได้สร้างมาขอถวายครูบาอาจารย์ทุกๆท่านครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 00:19:18


ความคิดเห็นที่ 617 (1633688)

 สิ่งที่มิ้มได้รับจากการเข้าค่าย 13

 

  มิ้มได้รับสิ่งดีๆๆมากมายเหลือเกินจากค่ายนี้

สิ่งแรก คือ ได้โอกาสสร้างบุญ ด้วยแรงกาย ปัจจัยและธรรมทาน

ไม่ได้มาบ้านสวนนาน พี่แหวนทักว่าแรงตกไปเยอะเลยนะคะ^_^  

       ทำให้มิ้มได้คิดว่าการใช้แรงกายบ้านสวนนอกจากได้บุญ ได้ความสุขแล้ว

สิ่งสำคัญที่ได้อีกก็คือ ความแข็งแรงของร่างกายเพื่อพร้อมรับภัยพิบัติ  ช่วงที่มิ้ม

มาใช้แรงกายที่บ้านสวนสม่ำเสมอรู้สึกตนเองแข็งแรงและแรงเยอะมาก 

อานิสงส์ที่ได้จากการใช้แรงกายนี่มากมายมหาศาลจริงๆค่ะ

ห่างบุญแรงกายไม่ได้เลยนะคะเนี่ย ^__^

 

สอง คือ รู้ถึงพลังอำนาจที่มหาศาลของจี้ที่ได้รับพลังจากอนันตจักรวาลที่

สามารถช่วยเหลือผู้คนให้พ้นทุกข์ได้อย่างน่าอัศจรรย์จริงๆค่ะ และยังได้เรียน

รู้วิธีการใช้จี้เพื่อช่วยเหลือผู้คนด้วยการดับที่เหตุ ผลก็จะดับ 

อีกทั้งการรวมจี้หลายองค์เพื่อเพิ่มพลัง การใช้จี้สัมผัสร่างกาย

ในส่วนที่ต้องการรักษา การใช้จี้จุ่มในน้ำแล้วนำมาดื่ม การอธิษฐานและใช้รหัส

อาจารย์อุบลช่วยด้วยกับจี้เพื่อขอความช่วยเหลือ โอโหๆๆๆๆๆ สุดยอดแห่งพลัง

มหาศาลจริงๆค่ะ ยกนิ้วให้ทั้งสิบนิ้วเลยค่ะ 5555

 

สาม คือ ได้รู้สาเหตุของการเกิดภัยพิบัติ ที่เกิดจากการผิดศีลของผู้ค

การปรามาส 3 ร่มโพธิ์   และการอุบัติขึ้นของพระศรีอาริย์ซึ่งคนที่จะอยู่ในยุค

ท่านได้ต้องเป็นผู้มีศีล 5 พรหมวิหาร 4 และปรารถนาจะกลับบ้านนิพพาน  ความ

รู้ที่ได้รับนี้เป็นสุดยอดทั้งนั้นจริงๆค่ะ 

 

สี่ คือ ตระหนักถึงหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อช่วยให้ภัยพิบัติเกิดเบาบางที่สุด โดยร่วม

กันตามหาพระศรีอาริย์ให้ผู้คนได้รับรู้ว่าพระองค์ได้อุบัติขึ้นแล้ว ผู้คนจะได้พากัน

เปลี่ยนตนเองเพื่อเข้าสู่ยุคของพระองค์  ต่อไปมิ้มจะตั้งใจตามหาพระองค์ให้มาก

ขึ้นค่ะ  เพราะถ้าพบพระองค์ก่อนภัยพิบัติจะเกิดขึ้น  ภัยพิบัติจะเกิดเป็นหย่อมๆ

เกิดเฉพาะกับกลุ่มคนไม่ดี เพื่อล้างคนไม่ดี  ไม่เกิดพร้อมกันทั่วโลก

 

ห้า คือ การใช้จี้เพื่อช่วยให้ผู้คนได้รู้กฎแห่งกรรมและเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองมี

ความสำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ  เป็นภารกิจที่ต้องทุ่มเทสุดกำลังจริงๆ

เพราะจะช่วยผู้คนและลดความรุนแรงของภัยพิบัติเพราะพลังงานลบบนโลกลด

ลง และสิ่งที่ต้องแนบไปพร้อมจี้ก็คือ รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย แจกคู่มือหนี

กรรมผิวพรรณ เพื่อช่วยคนให้พ้นทุกข์ คนที่เข้าสู่ยุคใหม่จะเป็นผู้สมหวังเต็มไป

ด้วยความสุข

 

หก คือ ปกป้องสามร่มโพธิ์ศรีไม่ให้ใครมาปรามาส เมื่อใครมาปรามาสเราต้อง

ปกป้อง การพูดปกป้องก็เช่น

-          ท่าน...... ไปทำอะไรให้คุณ

-         คุณไปละเมิดท่าน....ทำไม

-         คุณทำได้ดีกว่าท่าน.....หรือเปล่า

-         คุณได้รับผลกระทบอะไรจากการกระทำของท่าน

 

เจ็ด คือ ให้เขียนธรรมทานทุกวัน เพราะธรรมทานเป็นบุญใหญ่ ที่จะช่วยคุ้มครอง

เรา และได้ช่วยให้ผู้เข้ามาอ่านได้เกิดปัญญาเห็นธรรมพ้นทุกข์ไปด้วย ธรรมทาน

ทุกธรรมทานท่านอาจารย์จะเข้ามาอ่านและส่งบุญให้กับเราผ่านตัวอักษร หาก

ใครไม่เขียนธรรมทานท่านอาจารย์ก็จะเชื่อมบุญไม่ได้      
       

ท่านอาจารย์พยายามทุกอย่างเพื่อช่วยให้เราพ้นทุกข์แต่เรากลับไม่ช่วยตนเอง

และเป็นผู้ให้กับผู้อื่นไม่เป็นคือไม่เขียนธรรมทาน ท่านจึงต้องใช้มาตรการขั้นเด็ด

ขาด คือ ใครไม่เขียนธรรมทานต่อไปจะไม่มีสิทธิเข้าบ้านสวน  ลูกกราบ

ขอบพระคุณท่านอาจาย์อุบล เทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ค่ะที่

พยายามทุกวิธีการที่จะช่วยให้ลูกหลานได้พ้นทุกข์ค่ะ ^__^

 

แปด คือ รู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของสิ่งศักดิ์และท่านอาจารย์ที่ช่วยพวกเรา

ทุกวิธีการจากภัยพิบัติ  ซึ่งก็คือ วัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด

พีระมิดจำลองทุกรุ่น à ช่วยให้รอดจากภัยพิบัติได้ แต่ต้องรักษาศีล 5 และศรัทธา

พีระมิดรุ่นท่านท้าวเวสสุวรรณจะเชื่อมญาณกับท่านอาจารย์อุบล à ช่วยต่อชีวิต

คนได้ 1 องค์ ต่อ 1 คน

กำไล มีคาถาคุ้มกันภัยปะโตเมตัง

และวัตถุมงคลบ้านสวนก็สามารถนำมาทำน้ำพีระมิดได้อีกด้วย สุดยอดครบวงจร

ที่จะช่วยเหลือลูกหลานจริงๆๆค่ะ ลูกกราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ สาธุ ^__^

 

เก้า คือ ต้องขยันให้บุญเทวดาที่รักษาท่านอาจาย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพ เทวดา

ที่คุ้มครองรักษาเรา และดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลายทั้งปวงให้ท่านมีฤทธิ์มี

อำนาจ มีแสงที่สว่างยิ่งขึ้น ได้ขึ้นสู่ภพภูมิที่สูงยิ่งขึ้น โลกทิพย์เป็นโลกที่กตัญญู

เมื่อเราหมั่นให้บุญท่านท่านจะมีฤทธิ์ที่สามารถช่วยเราให้ยามเกิดภัยพิบัติได้ ว่า

ไปแล้วคนในโลกทิพย์นี่น่าคบกว่าคนในโลกมนุษย์มากๆๆๆๆๆๆเลยนะคะเนี่ย หัน

ไปคบโลกทิพย์ดีกว่าค่ะ ^__^

 

สุดท้าย คือ ต้องเชื่อผู้นำ ผู้นำสั่งให้ไปทางไหน ทำอะไรต้องทำทุกอย่างไม่มี

เงื่อนไข ไม่คิดเองทำเอง แล้วเราจะรอดค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ^___^

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 00:27:47


ความคิดเห็นที่ 618 (1633690)

 ต่อครับ

รุ่งเช้าวันอาทิตย์อากาศเย็นสบาย ออกกำลังกายรอบต้นมะม่วง

มีคุณธนาให้แต่ละคนออกมานำ

ทำท่ากายบริหารสลับกันไป สนุกสนานหัวเราะมากกว่าออกกำลัง

ได้เวลาช่วงเช้าทำ workshop กันต่อแบ่งเป็นกลุ่มในกลุ่มคละกันตั้งแต่วัยรุ่นไปถึงคนสูงอายุ

ผมอยู่กลุ่มพี่จิ๋ม ได้โจทย์ในกลุ่มใครมีปัญหาอะไรทั้งปัญหาสุขภาพ การงาน การเงิน

ไล่เรียงอาการแต่ละคนแล้วใช้เวลามาก ใกล้จะหมดเวลาแล้วก็เลย ใช้วิธีจับคู่ใช้จี้สารภาพ

ผมเองจับคู่กับพี่จตุพล ผมถามอาการก่อนปัญหาสุขภาพมีอะไรบ้าง มีปวดหลัง

สายตาสั้น ปาก ฟัน เหงือก

พี่แกนึกกรรมที่ทำมาเคยยิงนก ตกลงมาตายหลายตัว บินไปตายที่รังก็มี ทำร้ายสัตว์มามาก

ถึงตอนนี้หลังหายเจ็บไปเลย อาการอื่นๆยังไม่ชัดเจนเวลาหมดก่อน

ถึงเวลาสรุปท่านอาจารย์ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาสรุปประเด็น

ได้ข้อคิดแต่ละกลุ่มมากที่ระดมความคิดในการแก้ปัญหา 

ภาคบ่ายมีคลิปเหตุการณ์จริงให้ดูโดยท่านอาจารย์บรรยายเสริมแต่ละตอน

ทั้งแง่คิดวิธีการต่างๆซึ่งแต่ละตอนโดนใจกันทั้งนั้น

แล้วมีการรวม2กลุ่มเป็นกลุ่มเดียวทำ workshop ในหัวข้อ

- พระศรีอาริย์ต้องปราบอธรรมชั่วใช้อะไรปราบอธรรมเป็นรุปะรรม

- พระศรีอาริย์นำพาสู่ยุคทองได้อย่างไร

- พระศรีอาริย์นำเข้าสู่ยุคศิวิไลได้อย่างไร

หลังจากนั้นให้ส่งตัวแทนมาสรุป

และถึงช่วงรอคอยชมบารมีพระศรีอาริย์ แต่ละท่านที่ยังมีอาการเจ็บป่วย

ได้ออกไปขอบารมีเดินผ่านท่านอาจารย์หายเจ็บหายป่วยกันหมด

บางท่านก็หายเจ็บป่วยตั้งแต่ยืนรอเข้าแถว

ก่อนจบรายการท่านอาจารย์เชิญบารมีพระศรีอาริย์ส่งทุกคน

กลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัย ซึึ่่งเวลานั้นฝนตกแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 00:41:30


ความคิดเห็นที่ 619 (1633691)

ต่อจาก ความเห็นที่ 582

กิจกรรมวันอาทิตย์

ตื่นเช้าจิตแจ่มใสออกมาละลายความพฤติกรรม ชอบนอนตื่นสาย การออกท่ากำลังกาย แต่ละคนออกมาเป็นคนนำท่ากายบริหารทำให้ได้รับเสียงหัวเราะที่ทำให้ลืมทุกข์ไปเลยสลัดทุกข์ทิ้งไปกับท่าต่าง ๆ เหมือนกับว่าจงใจจะให้เกิดความสุขด้วยเสียงหัวเราะ

ดูคลิปสิงโตลุมลูกควายป่า  แม่ควายป่านำฝูงควายป่าเพื่อมาไล่สิงห์โต แต่ควายป่าทั้งฝูงไม่กล้าเข้าไปไล่สิงโต มีควายป่าที่กล้าหาญเพียงตัวเดียวเข้าไปไล่ ต้องไล่โดยลำพังทั้งฝูงยืนดูไม่กล้าเข้าไปช่วยกัน ควายป่าผู้กล้าสามารถไล่สิงโตให้ลูกควายป่ารอดพ้นจากสิงห์โตได้

สะท้อนให้เห็นว่า แม้ว่าจะเกิดมีความสามัคคี มารวมพลังกันได้ การต่อสู้ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของผู้นำคนเดียว  ไม่ใช่ผู้นำต้องเป็นผู้ต่อสู้โดยลำพัง ทุกคนมีหน้าที่ช่วยกันปกป้อง รับคำสั่ง หรือรับสัญญาณจากผู้นำ ออกไปสู้แทนผู้นำ หรือเคียงบ่าเคียงไหลต่อสู้ร่วมกับผู้นำ

คลิป จระเข้กินงู งูกินจระเข้

สะท้อนให้เห็นว่า การกินผู้อื่นเป็นอาหาร  คิดว่าเขาด้อยมีกำลังน้อยกว่า คงไม่ได้ วันหนึ่งข้างหน้า อาจเป็นผู้มีกำลังน้อยมากินผู้มีกำลังมากก็ได้

ม้าลายสู้กับสิงโต

สะท้อนให้เห็นถึง ความพยายามเอาตัวรอด ด้วยการฮึดสู้ไม่ยอมท้อแท้ แม้ว่าทุกคนจะมองว่าหมดโอกาสรอด แต่ก็ด้วยกำลังใจตัวเองดิ้นสู้เต็มที่ให้สุดกำลัง จะต้องรอดให้ได้ แล้วก็รอดได้จริงจริง

สิงโตขย้ำเจ้าของกำลังให้อาหาร

สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อสัตว์ทำร้ายคน คนมักจะไม่กล้าเข้าใกล้ต้องให้ผู้เชียวชาญมาจัดการกับสัตว์นั้น กว่าเขาจะมา คนถูกสัตว์ทำร้ายอาจตายก่อน ผู้ที่อยู่ที่เกิดเหตุต้องมีสติ ใช้วิธีการหลอกล่อให้สัตว์มาสนใจคนอื่นแทน หรือไม่ก็คนหลายคนเข้าไปช่วยกันดึงขาดึงหางเบนความสนใจ

คลิปกระสือ

กระสือแม้ว่าจะเป็นเพียงตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา ประจักษ์พยานที่นำมาเป็นหลักฐานยังไม่สามารถทำให้คนเชื่อว่า เป็นกระสือจริง คนที่เห็นกับตามีน้อยคนบางครั้งก็ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน แต่คนที่ต้องการเห็นแต่ไม่เห็นมีมากว่า คนจำนวนมากที่ไม่เห็นเหล่านั้น ก็ยังคงสงสัยตามสมมุติฐานของตนเอง ออกไปทางไม่เชื่อว่ากระสือมีจริงเสียส่วนใหญ่

การออกมาบอกว่า กระสือไม่มี นั่นไม่ใช่กระสือ ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้คนแตกตื่น หลงเชื่องมงาย แต่ก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องกับประชาชนได้ ว่าเป็นอะไร แล้วถ้าหากว่า เกิดมีกระสือที่มีแสงหรือไม่มีแสง มาทำร้ายเรา แล้วเราจะทำอย่างไร

การทำ work shop

ผมไม่เคยได้ร่วมกิจกรรมลักษณะนี้มาก่อนครับ เมื่อได้ร่วมทำ work shop ผมร่วมทำหัวข้อ วิธีบำบัดของอาจารย์อุบล จะช่วยให้หายได้อย่างไร และพระศรีอาริย์ จะนำพาคนเข้าสู่ยุคทองได้อย่างไร  นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากมาย ผมเห็นสิ่งที่ผมต้องแก้ไขตนเองในการทำกิจกรรมนี้ เช่น

1.  การฟัง ถือว่ามีความสำคัญ เพราะต้องฟังอย่างตั้งใจ คนในกลุ่มได้พูดแสดงความคิดเห็น หรือบอกเล่า เราสามารถจับประเด็นมาตอบโจทย์เพราะว่าการฟังทำให้ผมได้เรียนรู้ไปด้วย ผมทำได้ไม่ดีขาดสมาธิในการรับฟังผมต้องตั้งใจและฝึกเรื่องการรับฟังผู้อื่น

2.  การเล่าประสบการณ์เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ คนที่เล่าก็มีความตั้งใจที่จะเล่า ควรเล่าให้เป็นลำดับขั้นตอน ถ้าเป็นเหตุการณ์ ก็ต้องลำดับก่อนหลัง พี่น้องในกลุ่มเล่าได้ดี ผมเข้าใจว่า ผมเล่ายังไม่ได้ดีต้องฝึก

3.  การระดมความคิดเพื่อหาเหตุผลเพื่อมาสนับสนุนให้ได้ข้อสรุป  ความเข้าใจในโจทย์ต้องเข้าใจไปในทางเดียวกัน การสรุปยังจับประเด็นที่เป็นหลักใช้มานำเสนอยังไม่ตรงประเด็น เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขอย่างมาก

การชมบารมีรพระศรีอาริย์

ขณะที่อาจารย์อุบล อัญเชิญพระบารมีนั้น ผมรู้สึกสัมผัสได้ วูปวาบตัวโยก โล่งเบาสบายตัวไม่มีอาการเจ็บปวดร่างกายแต่อย่างใด ได้ยินคนข้างๆ สะอื้นฮักฮัก ด้วยความปิติ  อาจารย์ให้ขึ้นบนเวลาแล้วเดินผ่านด้านหน้าอาจารย์ เพื่อสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์ แล้วอาการปวดหาย ผมยิ่งมีปิติยินดีและกราบขอบพระคุณไปด้วยสาธุครับ

อาจารย์อุบล เน้นย้ำเรื่องการเขียนธรรมทาน ต้องทำทุกวันต้องทำเป็นประจำ ผมรู้ตัวดีว่าต้องทำ ต้องทำอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 00:45:31


ความคิดเห็นที่ 620 (1633705)

 กราบเท้าหลวงพ่อ

ที่ให้วิชากสิณ วิชาสาม อภิญญาหก

 และกรรมฐาน 40 กับลูก

แล้วได้นำมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์

ให้ผู้คนได้จริงจัง

กราบ กราบ กราบ

***********************

กราบขอบพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำและหลวงพ่อเสงี่ยม โอภาสี

ผู้เป็นครูบาอาจาย์ของท่านอ.อุบล

ศิษย์ที่เคยดื้อเคยมีจิตคิดแว่บกับหลวงพ่อคนนี้ขอขมากรรมจากใจจริงๆ

และ

จะขอตั้งใจปฏิบัิติไม่ดื้อรั้นกับครูบาอาจารย์และรักษาศีลให้มั่นคง

เพื่อช่วยงานท่านอ.อุบลกอบกู้พระศาสนา-ชาติ-และพระมหากษัิตริย์

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 06:00:45


ความคิดเห็นที่ 621 (1633710)

กราบเท้าหลวงพ่อ

 

ที่ให้วิชากสิณ วิชาสาม อภิญญาหก

 และกรรมฐาน 40 กับลูก

แล้วได้นำมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์

ให้ผู้คนได้จริงจัง

กราบ กราบ กราบ

..............................

ขอกราบทั้งเท้าหลวงพ่อ

และเท้าท่านอาจารย์อุบลด้วยค่ะ

 

เพราะมีท่านหลวงพ่อ

จึงมีท่านอาจารย์อุบล

ที่เปี่ยมด้วยความเมตตา

 

และมีความสามารถ

ในการใช้ทุกวิชาของหลวงพ่อ

มาปลดเปลื้องทุกข์

ให้ลูกหลานอย่างพวกเรา

กราบ

กราบ

กราบ

 

ไม่งั้น ชนิดาอาจจะไปงมโข่ง

อยู่แถวไหนก็ไม่รู้ค่ะ

........................................

 

อ่านธรรมทานหลายท่าน

หลังค่าย 13 แล้ว

 

เห็นได้เลยว่า

ค่าย 13 เป็นค่ายแห่ง

ความเปลี่ยนแปลงพลังงานเก่า

เข้าสู่พลังงานใหม่จริงๆ

 

เพราะ

หลายคนปรับปรุงตัวเอง

เรื่องการเขียนธรรมทานและการ

ใช้ปัญญา มากกว่า ใช้ตัณหา

...............................

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะว่า

หลังจากค่าย"พลิกผัน"นี้

เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากๆ

และที่สำคัญหลายๆท่าน

ฉายแวว"เพชร"ให้เห็นเด่นชัดจริงๆ


แล้วก็รู้สึกว่า

มีหลายๆท่าน ที่เข้ามาเขียนทุกวัน

แล้วก็จับประเด็นที่แตกต่างจากเดิมด้วย

 

ไม่เหมือนค่ายก่อนๆ

ที่ส่วนใหญ่จะเข้ามาเขียน

แค่ครั้งสองครั้ง พอเป็นพิธีเท่านั้น....เอง

 

 





 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 06:16:43


ความคิดเห็นที่ 622 (1633731)

                                                                              กราบเท้าหลวงพ่อ

ที่ให้วิชากสิณ วิชาสาม อภิญญาหก

 และกรรมฐาน 40 กับลูก

แล้วได้นำมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์

ให้ผู้คนได้จริงจัง

กราบ กราบ กราบ

หลังจากกลับจากค่าย 13 ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมากหลาบๆเรื่อง

ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองและรวมถึงคนอื่น

ที่เกี่ยวข้องกับตัวเราด้วย

การช่วยบำบัดรักษาคนอื่นแม้ว่าจะไม่เกิดผลเต็มร้อยเปอร์เชนต์

แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมก่อนช่วยเขา

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแก่ตัวเราคือเราทรงอารมณ์พรหมวิหาร 4 ได้

โดยไม่สนใจว่าคนที่เราช่วยจะสำเร็จผลเสมอไป

และตัวเขาจะรู้สึกอย่างไร เมื่อผลรักษาไม่สำเร็จผลทั้งหมด

อาจเป็นองค์ประกอบอื่น

เช่น ตัวบุคคลที่เราช่วยเหลือ

เขาไม่ช่วยเหลือตัวเขาเองด้วย

ศีล 5 เขายังไม่สามารถทำได้เกิน 2 ข้อเลย

เมื่อสารภาพบาปที่เคยทำแล้ว

ก็ยังกลับไปผิดศีลข้ออื่นต่ออีก

ก็คงอยู่ที่จิตเราว่าเราพยายามช่วยคนอื่นๆต่อไป

โดยที่คิดว่ายังมีคนอื่นๆที่รอเราช่วยอีก

และก่อนที่ช่วยคนใหม่ ก็จะขอพึ่งบารมีพระศรีอาริย์

ขอให้การช่วยคนอื่นสำเร็จผลด้วยเทอญ

เมื่อเราคิดได้ ส่วนอื่นที่ส่งผลดีให้เราได้...

 

ซึ่งก่อนเข้าค่าย 13 ก็เริ่มจะเกิดขึ้นบ้างแล้ว

คือการที่พออ่านใจผู้อื่นได้บ้างโดยใช้จี้องค์สฟริงซ์

แต่ไม่ค่อยได้ใชับ่อย เกรงว่า เราจะทึกทักเข้าข้างตัวเอง

เช่น พอมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เราก็เอามือแตะจี้องค็สฟริงซ์ กดกับหน้าอกเรา

กำหนดจิตดูว่าจะเป็นใครโทรเข้ามา

ก็ทายถูก รู้ว่าใครโทรเข้ามา

และถ้ามีใครโทรเข้ามาคุยกับเรา

ก็ถามนำไปก่อนว่า โทรมาเรื่องนี้หรือเปล๋า

ก็ตรงตามที่เขาจะโทรมา

บางครั้งเขามาหาเรา ก็ถามเขาว่า

มาหาด้วยเรื่องนี้ ใช่หรือเปล่า

ก็ตรงตามที่ เราถามไป

ล่าสุดนี้ ก็ลองกำหนดจิต ถามเขาว่า

ถูกล็อตเตอรี่ ทำไม ไม่เอาไปขึ้นรางวัล

ซึ่งตัวเขาลืมไปแล้วว่าชื้อล็อตตเตอรี

และเมื่อเขาเอาออกมาตรวจ

 ก็ถูกรางวัล แม้ว่าเป็นรางวัลเล็กๆ

ซึ่งเป็นพุทธานุภาพ พระบารมีขององค์สฟริงซ์และพระศรีอาริย์

แต่เวลาใหนถ้าเกิดอารมณ์ใหนที่เรา

มีความรู้สึกว่าอยากจะรู้ก่อน

ก็จะไม่ตรง คงเป็นเพราะอารมณ์" อยาก "จะรู้ ของเรา...

กราบขอบพระคุณพระบารมีของพระศรีอาริย์

และบารมีของทุกๆท่านทุกพระองค์ รวมทั้ง

องค์หลวงพ่อพระราชพรหมญาณ(หลวงพ่อฤษีลิงดำ)

ที่ได้ถ่ายทอด วิชากสิณ วิชาสาม

อภิณญาหก และกรรมฐาน40  ให้แก่ลูก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 08:49:45


ความคิดเห็นที่ 623 (1633735)

ต่อค่ะ

work shop ตอนบ่ายวันอาทิตย์ ในหัวข้อ "พระศรีอาริย์จะนำพวกเราสู่ยุคทองได้อย่างไร" โดยแบ่งกลุ่ม ๆ ละ ประมาณ 20 คน แหม่มได้อยู่กลุ่มของพี่เหมี่ยว คุณแมว น้องขวัญ คุณอ้อย พี่เจี๊ยบ ฯลฯ

ผลสรุปของกลุ่ม เมื่อพระศรีอาริย์ได้แสดงกฏแห่งกรรมแบบเห็นผลฉับพลันทันที และผู้คนเปลี่ยนจิต มารักษาศีล 5 ได้ครบ และมีพรหมวิหาร 4 ได้กันทุกคน ก็จะสามารถเข้าสู่ยุคทองได้  แต่รู้สึกว่าผลสรุปที่ออกมายังไม่ค่อยตรงประเด็นเท่าไหร่ เพราะเป็นการทำ workshop ครั้งแรก ต่อไปท่านอ.อุบล ก็จะให้ทำบ่อย ๆ เพื่อพัฒนาสมองและปัญหาของพวกเรา

เพราะอะไรจึงเกิดภัยพิบัติ

1.เพราะเกิดจากการผิดศีล 5  คนที่ผิดศีลธรรมมาก ๆ ยังไม่ได้รับกรรม ภัยพิบัติใหญ่จะมาล้างคนเลวที่ผิดศีลให้ออกไป จะเหลื่อประมาณ 1 ใน 10 ที่จะรอด คนที่รอดจะต้องเป็นพระโสดาบันเท่านั้น

2. เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น จะต้องมีแต่คนดีมีศีลธรรม ซึ่งแต่ก่อนก็เคยเกิดขึ้นแล้วเหมือนกัน

ต่อไปนี้ให้พวกเราก่อนนอนก็ท่องคาถาอิติปิโส ปัตโตเมตัง คาถาเงินล้าน คาถาพระศรีอาริย์ ท่องได้ตลอด และตื่นนอนยังไม่ต้องลุกจากที่นอนก็ให้ท่องก่อนจะลุกจากที่นอน 

และควรจะท่องคาถาพระศรีอาริย์ให้ได้อย่างน้อยวันละ 99 จบ เป็นเวลา 9วัน ท่องได้ทุกอิริยาบท เดิน นั่ง นอน อาบน้ำ ท่องไปเรื่อย ๆ

ควรเขียนธรรมทานซึ่งเป็นบุญที่ใหญ่มาก ที่จะทำให้เราหลุดพ้นกรรมได้ไวที่สุด และท่านอ.อุบล ก็จะส่งบุญมาทางตัวอักษรที่เขาเขียน

เดี๋ยวมาต่อนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 09:06:13


ความคิดเห็นที่ 624 (1633738)

ความเห็นที่ 44 (1633697)
แจ้งลบความคิดเห็น

 กราบท่านอ.อุบล และครอบครัวเป็นอย่างสูง

          หนูและสามีรวมทั้งลูกน้อยทั้ง 3  ซาบซึ้งเป็นที่สุดที่อาจารย์ได้กล่าวถึงใน คห.ที่ 6 หนูรวมทั้งลูกสาวและลูกชาย  ได้รับบารมีพระศรีอาริย์อัญเชิญโดยท่าน อ.อุบล  

          ในขณะนั้นลูกชายมีอาการปวดต้นขาด้านหลังทั้ง 2 ข้าง  เมื่อท่านได้เมตตาให้เดินเข้ามาใกล้ๆและตอบคำถามกับท่านด้วยตนเองว่าซนวิ่งเล่นหรือเปล่า  ลูกชายตอบว่า  "ไม่ได้ซนครับ"  อาการก็หายทันที

    

          ส่วนลูกสาวเท้าซ้ายบิดตั้งแต่เด็ก  ท่านอ.อุบล อนุญาตให้เดินผ่านไป-มา

หลายครั้ง  ในขณะนั้นหนูสังเกตเท้าซ้ายของลูก  อาการเดินเท้าตรงขึ้นเรื่อยๆ จนหนูออกอาการดีใจ  "หายแล้วค่ะ หายจริงค่ะ"   ดีใจมากๆ ค่ะ  เพราะเคยจะพาน้องไปรักษาหลายครั้งแต่ทราบดีว่าต้องใช้เวลามากและจำนวนเงินที่มากพอดู

    

            หนูนั้นมีอาการปวดหัวและแสบเบ้าตามาก  โดยในขณะนั้นที่เข้าแถวอยู่อาการก็ค่อยๆ คลายลงจนเมื่อยืนบนเวที อาการแสบตาและปวดหัวก็หายทันที  คงเหลือแต่อาการปวดหัวไหล่จนถึงแขนและนิ้วมือด้านขวา  เมื่อเดินผ่านท่านอ.อุบล ไม่กี่วินาทีอาการวูบทั้งแขนหายปวดทันที  รู้สึกตัวเองขนลุก เสียงสั่นมาก  ดีใจและกล่าวขอบคุณในความเมตตาของท่านพระศรีอาริย์และอ.อุบลเป็นอย่างสูงค่ะ

            

            และหนูมีเรื่องเล่าค่ะ  ในวันที่แยกย้ายกลับบ้าน  สามีแยกตัวไปนำรถออกจากลานจอดรถ  ได้นำรถมารับลูกและช่วยกันจัดของขึ้นรถ  ขณะนั้นฝนตกและมืดแล้ว  เมื่อขึ้นรถมาหนูมีอาการปวดหัวเตือนทันที  ก็เอะใจรถก็วิ่งออกมาได้สักพัก  เริ่มสังเกตเห็นมีใบไม้แห้งติดมาที่ใบปัดน้ำฝน  จึงรีบบอกสามีหยุดรถและหันรถกลับบ้านสวนทันที   เพื่อนำใบไม้ไปคืนอาการหายเลยค่ะ  หนูขอขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านเท้าเวสสุวรรณ อ.อุบลที่เมตตาเตือนทันทีค่ะ  ต่อไปต้องระวังและรอบคอบให้มากกว่านี้ค่ะ

     

                            ผมนายกชพล  สันติทวัสุข   ขอเล่าธรรมทานด้วยครับ

           หลังจากผมและครอบครัวได้ไปออกแรงกายส่งปูน,  ผูกเหล็ก,  เก็บใบไม้ตามทางใส่ถุงปุ๋ย, งานเกษตรดายหญ้า   ตลอดการทำงานอาการที่ปวดเรื้อรังที่ขาและหลังไม่ปวดอีกเลย เหงื่อออกมากเท่าไหร่ยิ่งกลับรู้สึกตัวเบาสบาย  สนุกทั้งครอบครัว  เด็กๆมีความสุขมาก  และมือซ้ายที่เป็นหูดมานานกลับหายเป็นปกติครับ

     ขอกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์  พระศรีอาริย์  ท่านท้าวเวสสุวรรณ และอ.อุบลเป็นอย่างสูงครับ  กราบ  กราบ  กราบ 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิตจุฑา จิรนิธิ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 03:06:47

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 09:15:34


ความคิดเห็นที่ 625 (1633757)

                     ไปค่าย 13 มาแล้วได้อะไรกันบ้าง

-        *******   ได้พบวิธีตามหาพระศรีอาริย์

-         ******  ได้พบบารมีพระศรีอาริย์อันยิ่งใหญ่

-        .******   ได้พบอภิญญาใหญ่เกิดขึ้นแล้ว

-         ******  ได้พบมิติใหม่ในการบำบัด + การรวมพลัง

-           *****ได้เห็นพลังลูกบ้านสวนฯ ลุกขึ้นเป็นผู้นำ

-         ******  อ.อุบลฯได้ให้พลังลูกบ้านสวนสู้ๆๆๆๆ

-         *****  ได้คติสอนใจที่ควายรวมพลังกลับมาสู้สิงห์โตช่วยลูกควายได้

-         ***** ได้คติการต้อสู่ของม้าลายให้หลุดรอดได้

-        ***** ได้เห็นกฎแห่งกรรม งูกินจระเข้ /จระเข้กินงู

-          ***** ได้เห็นภาพภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างไรและอันตรายต่างๆ                        จากสัตว์ร้ายที่ท่านอ.อุบลฯได้คอยนำมาเตือนให้ลูก                           บ้านสวนฯอยู่ตลอดเวลาให้รู้ล่วงหน้า

-           ******ได้รับทราบ รหัส 99 สวดบูชาพระศรีอาริย์ จำนวน9วัน

-           ***** ได้พบพลังบุญในบ้านสวนฯที่ทุกคนทำงานแล้วไม่เหนื่อย                    และหายจากอาการเจ็บป่วยต่างๆที่เป็นอยู่

-          ****** ได้ทราบหน้าที่ตัวเองต้องเป็นผู้นำ, ผู้ให้, และต้อง                              เขียนธรรมทานทุกวัน

-           ******    ต้องเขียนธรรมทานเผยแพร่เกษตรธรรมะบ้านสวนฯ                          (ได้เขียนแล้วครับ)

                                       ******************

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 10:30:37


ความคิดเห็นที่ 626 (1633761)

อนุโมทนา กับธรรมทาน

และ บุญทุกบุญของทุกท่าน ค่ะ สาธุ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นรินทร นิยมาคม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 10:39:44


ความคิดเห็นที่ 627 (1633772)

ค่าย 13 กับประสบการณ์ใหม่

ปกติเวลาทำงานเช่นในโรงทาน

เมื่อเดินเช็ดโต๊ะต่างๆ จัดของตามโต๊ะ

จะปวดส้นเท้ามากป้าก็จะเปลี่ยนงาน

มานั่งเช็ดถาดเช็ดช้อนเหมือน

ให้ขาได้พักแล้วจึงจะไปกวาด

ไปถูต่อแต่อาการปวดจะยังอยู่ตลอด

พอค่าย 13 วันศุกร์เทก้นหลุมกัน

หลังจากช่วยยกหินเตรียมผสมปูน

ไป 8 หลุม ก็เปลี่ยนเป็นส่งต่อกัน

เพราะรถส่งเข้าไม่ถึง

ช่วยส่งกระป๋องปูนได้พัก..ก็ปวด

ขา เข่า ส้นเท้า แขนกล้ามขึ้นแข็งปวด

นึกเป็นไงเป็นกันไม่ยอมเลิก

ก็อุทิศบุญ..ขอบุญที่ทำงานแรงกายนี้

ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ปวด

ขา เข่า ส้นเท้า แขน ขอให้ได้รับบุญ

ของข้าพเจ้าแล้ว ....ขออาราธนา

สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย์ที่

ท่านอาจารย์อุบลอาราธนามาอยู่

ในบ้านสวนพีระมิดโปรดช่วยให้ลูก

มีกำลังใจเข้มแข็ง ลูกมีปัญหา

ปวดขา เข่า ส้นเท้า แขน

ขอให้ลูกทำบุญแรงกายได้เสร็จ

ด้วยเถิด

ปรากฏว่าสามารถทำงานต่อได้

จนเลิกงาน

เลยใช้วิธีนี้ต่อไปในวันเสาร์ก็สามารถ

ทำงานปูนต่อจนเสร็จ

แล้วไปต่อผูกเหล็กได้จนหมดเวลา

เลยนำมาเล่าบอกเผื่อมีใครที่มีปัญหา

เหมือนป้าจะได้ใช้ค่ะ

 

ลูกขอกราบพระบาทสมเด็จพระศรีอริย์ฯ

 

พระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวน

ทุกพระองค์ และเทวดาที่รักษาท่านเจ้าของบ้านสวนทุกท่าน

ขอกราบท่านอาจารย์อุบลค่ะ

กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 11:09:23


ความคิดเห็นที่ 628 (1633780)

ขอกราบท่านอาจารย์อุบล

ลูกขออนุโมทนาสาธุ กับลูกบ้านสวนทุกท่าน

ที่ได้ไปสร้างบุญค่าย13

สุดยอดแห่งค่ายจริง ค่ายนี้ให้ความรู้

อัดแน่น สติปัญญาในการแก้ไข้

สิ่งต่างๆ ตอบโจทย์ต่างๆ

ได้รู้วิธีในการบำบัด ผู้คนภายนอก

โดยผ่านการขอการรวมพลัง

ความดีและความเมตตา

จากจี้องค์เทพสฟิง

รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ขอบารมี พระศรีอริยะเมตตัย

และอาจารย์ อุบล ช่วยสอนเรื่องสำคัญ

ในการกตัญญูต่อถูกมีพระคุณแม้เพียงน้อยนิด

และความสามัคคี การเสียสละช่วยผู้อื่น

ลูกจะขอปฏิบัติ ตาม ขยันสร้างบุญเพื่อ

ตามหาพระศรีอริยะ ครับ

กราบขอบพระคุณอาจารย์แม่อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป

สิ่งศักดิ์สิทธบ้านสวน

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรพุทธ ศรีคุ้ม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 11:42:03


ความคิดเห็นที่ 629 (1633838)

 ด้วยบารมีพระศรีอาริย์ 

บ่ายวันศุกร์ มีการเทปูนทำตอม่อฐานล่าง บ่ายวันนี้แรงงานน้อย ส่วนใหญ่ที่มามีแต่ผู้สูงวัย ผมกับช่างโป๊ก รับหน้าที่เป็นคนยกหิน ยกทราย ยกปูน ใส่โม่ ช่างโป๊ก โม่ไป 25 โม่ ผมรับไป 15 โม่ เป็นงานที่หนักมากครับ  มารู้สึกเอาตอนเลิกทำงานว่า “งานหนัก” เป็นยังไงตอนอาบน้ำเสร็จเริ่มขัดยอก ปวดตามร่างกาย เหมือนจะเป็นไข้ เริ่มหนาวๆ ร้อนๆ พรุ่งนี้วันเสาร์ต้องแย่ และคงทำงานไม่ได้อย่างแน่นอน

ผมไปนั่งคุยกับลุงเบิ้มที่กระท่อม ลุงเอาสมเด็จองค์ปฐมที่บูชาที่บ้านสวนพีระมิด ที่ใส่กรอบพร้อมสร้อยคอมาให้ดู ดูแล้วสวยงามมาก  ลองจับดู ทำให้ขนลุกขนชัน  ป้าตู่ บอกว่า ลองใส่ดูว่าจะดูดีไหม  ทันทีที่ใส่ ทำให้ขนแขน ขนที่แก้มลุก จนเป็นตุ่มผื่นมองเห็นได้ชัดเลย ป้าติ๋ม อุทานว่า "อะไรจะขนาดนั้น"  ผมอธิษฐานในใจว่า อาจารย์อุบลบช่วยด้วย ขอบารมีพระศรีอาริย์ที่อาจารย์อุบลเป็นผู้อัญเชิญ ขอให้ผมหายเป็นปรกติด้วยเถิด พรุ่งนี้จะได้สร้างบุญต่อครับ

อาการคั่นเนื้อคั่นตัว ปวดเมื่อย ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แถมยังก้าวขาเดินไม่ค่อยออก ต้องเดินช้า ๆ แบบไม่ไหวจริง ๆ นั่งแบบสลึมสะลือ  จึงเข้านอนดีกว่า นอนหลับรวดเดียวตื่นตีห้าครึ่ง

ตื่นเช้ารู้สึก สดชื่น กระ***กระเป่า อาการปวดตามร่างกาย ขัดยอกไม่เหลืออาการให้รู้สึกเลยครับ อัศจรรย์มากเลยครับ ผมทำงานปูนต่อได้สบายมากเลยครับ

กราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์ และอาจารย์อุบลผู้อาราธนาพระบารมี ที่เมตตาให้ผมสัมผัสได้ด้วยการหายเป็นปรกติ กราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 15:28:13


ความคิดเห็นที่ 630 (1633870)
กิจกรรมค่ายนี้ มีผลพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์
 
เพราะผลจากการทำ workshop ซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง

เมื่อนำจี้จำนวน 14 องค์ มาใช้บำบัดโรคกับหลาย ๆ ท่าน ด้วยการถือไว้ ก็หายทันที

ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น คุณก็อตที่หายจากอาการตาที่บวมแดง  

พี่เจี๊ยบหายจากผิวหนังหนาจากอาการคัน แม้แต่หมอก็ไม่พบสาเหตุ 

รวมถึงจี้จำนวน 9 องค์ของคุณชิม ที่นำมาทดลองให้หลาย ๆ ท่าน
 
ที่มีอาการเจ็บป่วย ทุกคนก็ดีขึ้นทันที  

ยิ่งไปกว่านั้นที่ตะลึงสุด คืออาการพิการ ของป้าพรที่หูไม่ได้ยินมานานก็หาย

และพี่ลินที่เท้าบิดมาตั้งแต่เด็ก ๆ เวลาเดินจะคล้ายการเดินของเป็ด
 
ก็กลับมาเดินไปเป็นเหมือนคนปกติทั่วไป  

ส่วนตัวเองที่มีปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่องทางการเงิน ก็ดีขึ้น

ที่จริงเรื่องการเงินดีขึ้นตั้งแต่กลับจากพิธีงานบวงสรวงพระศรีอาริย์

ที่ทำงานเพิ่มค่าคอมมิชชั่นจาก 5% เป็น 10% และได้ปรับเงินเดือนขึ้นด้วย

ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสาเหตุที่ต้องพิจารณาเพิ่มให้ และควรจะต้องไปปรับตอนปลายปีด้วยซ้ำ 

บารมีพระศรีอาริย์เป็นอะไรที่มหัศจรรย์ที่ได้เห็นกับตา และรับรู้ได้ด้วยใจ 

แอบคิดเล่น ๆ ว่า หรือพวกเราได้ก้าวมาสู่ยุคพระศรีอาริย์กันแล้ว ก็อาจเป็นได้...
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 17:46:21


ความคิดเห็นที่ 631 (1633871)

 

            ไปค่าย 13 มาแล้ว ได้อะไรกันบ้าง

            -            ได้เป็นผู้ให้โดยการมาช่วยเตรียมงานก่อน

  -                -             ได้ร่วมสร้างบุญเทปูนสร้างโรงทานอันยิ่งใหญ่ 

-                 -            ได้รู้จักการผูกสร้างโครงเหล็กทำเสาปูน

-                 -           ได้เห็นทุกคนมีความสุขจากการสร้างบุญและหายจากอาการเจ็บป่วย                                     จากบารมีพระศรีอาริย์ฯและจี้สฟิงซ์ หลายๆอย่าง

-                 -         ได้เห็นความตั้งใจของแต่ละคน ที่เตรียมตัวเข้าสู่สภาวะผู้นำทุกคนได้ช่วย                               กัน ตอบคำถาม-ปัญหาที่แต่ละกลุ่มได้รับมา

-                  -        ได้เห็นการรวมพลัง อย่างเข้มแข็ง ในการที่จะขจัดปัดเป่าปัญหาให้สิ้น                                   ไป  เรียกว่า   เราทำได้จริงๆ

-                  -         รับทราบการเป็นผู้นำต้องเป็นผู้ที่ไปช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้กับผู้คนให้มากที่สุด                    โดยเฉพาะ การรักษาศีล 5 เป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดเพราะเป็นเส้นทางที่จะนำพา                    ให้ทุกคนมีความสุข/

-                 -        ได้รับความมั่นใจและเชื่อมั่นว่าตนเองต้องปฎิบัติได้แน่นอนถ้าเกิดเหตุการณ์

-                 -      ได้รับปรากฏการณ์ บารมีพระศรีอาริย์ องค์จี้สฟิ้งซ์(9+1)และท่าน อ.อุบลฯ                             ที่ให้นั่งพับเพียบได้และลูกสาวที่เดินขาบิดมาตั้งแต่เกิดก็กลับมาปกติได้                                มีความสุขมากๆๆเลยค่ะ/

   กราบขอบพระคุณบารมีพระศรีอาริย์และองค์จี้สฟิ๊งซ์(9+1)และเทวดาที่                        ดูแลรักษาอ.อุบลฯและท่านอ.อุบลฯค่ะ/

                                       กราบ   กราบ    กราบ

                                                 *************

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 17:54:06


ความคิดเห็นที่ 632 (1633877)

 

ป้าเตือนขอบคุณ ดร.จิ๋มมากค่ะ ที่ยกย่องป้าซะขนาดนั้น แต่ป้าเตือนกลับคิดว่าป้าเป็นแค่เพียง คนแก่กินข้าว  เฒ่าเกิดนาน เท่านั้นเองค่ะ หาได้มีภูมิธรรมสูง หรือมีญาณหยั่งรู้อะไรหรอกค่ะ ต้องอย่างท่าน ดร.อาจอง ถึงจะเป็นผู้หยั่งรู้ที่แท้จริง สำหรับป้าเตือนพึ่งเรียนรู้ระดับอนุบาลอยู่เลย ความรู้ไม่เท่าเทียมคนอื่นที่ระดับปริญญาหรอกค่ะ   ป้าเตือนได้ยินแล้วละอายใจตัวเองมากค่ะ เพราะรู้ตัวว่ายังเป็นคนโง่ เลว ชั่ว บาปหนา อยู่มากเลยค่ะ แต่ก็อยากเป็นคนดีทำตามคำสอนท่าน อ.อุบล จะได้หลุดพ้นวัฏฏะสงสารซะทีค่ะ
ค่าย 13 นี้ป้าภูมิใจมากที่ได้เข้าร่วม และได้พบอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก ที่พระศรีอาริย์ท่านช่างเมตตาต่อผู้พิการ เช่น ป้าพรซึ่งเป็นน้องสาว ได้หลุดพ้นจากความทุกข์ของการได้ยินไม่ชัดเจน จากคนที่ตอบคำถามท่าน อ.อุบล แหวกแนว ทำให้ผู้อื่นต้องหัวเราะป้าพรที่เข้าใจผิดในคำถาม แต่ในคืนนั้นค่ะปาฎิหาร์ที่ป้าถึงกับตะลึง เต้นใจ ตื้นตันใจ ในช่วงชมบารมีพระศรีอาริย์
ที่จู่ๆ ป้าพรเอ่ยขึ้นว่า ป้าได้ยินเสียง อ.อุบลชัดเจนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ป้าอยากได้ยินชัดอย่างนี้ไปตลอด ด้วยเสียงอันสั่นเครือ พร้อมกับก้มกราบบารมีพระศรีอาริย์ และท่าน อ.อุบล จากนั้นมาก็นั่งฟังบรรยายอย่างรู้เรื่องขึ้น ป้าเตือนไม่ต้องพูดกันเสียงดังแล้ว เพราะหูป้าพรได้ยินชัดเจนขึ้น
และอีกคนที่เห็นชัดเจนคือ น้องลินลูก อ.นี ซึ่งเวลาเดินแล้วเท้าขวาจะบิดเข้าด้านในและเป็นมาตั้งแต่เกิด พอท่าน อ.อุบลให้สวมสร้อยคอของน้องซิม และให้เดินไปเดินมา เพียงแค่ไม่กี่รอบ ป้าเห็นกับตาเลยว่า น้องเริ่มเดินดีขึ้นอย่างชัดเจน ประมาณรอบที่ 4 เท้าที่เคยบิดเข้าก็เดินตรงอย่างอัศจรรย์ใจ น้องลินดีใจมากกระโดดกอด อ.นี อย่างตื่นเต้น

ป้าเตือนต้องขอกราบขอบพระคุณ ท่าน อ.อุบล พระศรีอาริย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ที่เมตตาครอบครัวของป้ามาโดยตลอด ค่ะ กราบ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 19:24:27


ความคิดเห็นที่ 633 (1633899)

ไปค่าย 13 มาแล้วได้อะไรบ้าง

1.ได้ใช้แรงกายสร้างบุญค่ะ มีบุญให้เราได้ทำมากมายในบ้านสวนฯ

2.ได้ลด อัตตา ของตัวเอง กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เช่น เล่นละคร เมื่อก่อนจะเป็นคนขี้อายมาก ไม่กล้าไม่เคยทำสิ่งบ้าๆบอๆ  ภาพลักษณ์ต้องดูดี เดี็ยวนี้เป็นคนง่ายๆ สบายๆ สิ่งที่ไม่เคยทำก็จะลองทำดู ที่นี่ฝึกความกล้าในทางที่ถูกที่ควร

3.ได้แสดงความคิด ความรู้ใหม่ๆ จากการทำ workshop ได้รวมพลังสมองเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม

4.ได้เห็นความรัก ความสามัคคีของลูกบ้านสวนฯ ในการรวมพลังแก้ปัญหา

5.ได้ทราบวิธีการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยวิธีใหม่ๆที่รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์คับขัน

6.ได้ข้อคิดสกิดใจ กระแทกใจ ในการดูคลิปหลายๆเรื่องที่ให้ข้อคิดมากมาย

7.ฝึกการเป็นผู้นำ ให้เรารู้จักแก้ปัญหา รู้จักคิดวิเคราะห์ปัญหาและมีสติในการช่วยเหลือผู้อื่น

8.รับบารมีพระศรีอารย์ในการรักษาเข่า จนกระทั่งดีขึ้น

9.ได้มาเขียนธรรมทานทุกวันค่ะ

เจี๊ยบกราบขอบพระคุณในความเมตตาของบารมีพระศรีอารย์ เทวดาประจำตัวของท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลค่ะ .

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 20:50:03


ความคิดเห็นที่ 634 (1633912)

กราบเท้าหลวงพ่อ

ที่ให้วิชากสิณ วิชาสาม อภิญญาหก

 และกรรมฐาน 40 กับลูก

แล้วได้นำมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์

ให้ผู้คนได้จริงจัง

กราบ กราบ กราบ

...................................

กราบพระบาทสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และครูบาอาจารย์ท่าน อ.อุบล กราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล ที่เมตตาต่อครอบครัวลูก และชาวโลก ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ และท่าน อ.อุบลที่เหน็ดเหนื่อย ยอมเสียสละเพื่อ

พวกเราแล้วไซร้  ชีวิตพวกเราจะเป็นอย่างไร  ลูกจะขอทำความดี เพื่อตอบแทนพระคุณท่าน (ถึงแม้จะเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับท่านแล้ว)จนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่?

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย(แป้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:07:36


ความคิดเห็นที่ 635 (1633919)

 ในคืนวันเสาร์หลังจากที่ท่านอาจารย์ให้ร่วมถ่ายรูป

 ก็มีแต่ละท่านออกมาเล่าประสพการณ์ในการใช้จี้องค์เทพสฟริงซ์

 และได้ลองสวมใส่จี้ 9 องค์ของคุณซิม ไม่ต้องสารภาพบาป

 ก็หายอาการเจ็บป่วยไปตามกัน ด้วยพระบารมีของพระองค์ท่าน

 ที่อยากให้ทุกคนพ้นทุกข์มีความสุขไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ 

 เจ็บป่วยมากน้อยก็ตาม ผมเองนั่งอยู่ข้างชิงช้าใกล้ท่านอาจารย์

 ยังได้รับบารมีพระศรีอาริย์ที่ผ่านท่านอาจารย์ หายปวดเมื่อย

 จากการทำงานทั้งวัน ปัญหากรดใหลย้อนก็ไม่มีหายไปแล้ว

 กลับจากค่ายพยายามกำหนดจิตท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์

 เผลอเมื่อไรพยายามดึงกลับมาท่องอีก ทำให้จิตมีสมาธิแน่วแน่

 กับงานที่ทำอยู่

 ลูกขอกราบขอบพระคุณในความเมตราของพระศรีอาริย์

 และอาจารย์อุบลผู้อาราธนาพระบารมี ที่ให้ผมสำผัสหายจาก

 อาการต่างๆ และขอกราบท่านอาจารย์มงคล 

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:21:58


ความคิดเห็นที่ 636 (1633931)

 บัดนี้ สิ่งที่พระปฐมฯ

ขอหลวงพ่อว่า

อย่าหยุด หยุดไม่ได้คุณ

อีก 20-30 ปี

อภิญญา 6 จะมามาก นั้น

 

บัดนี้

วันที่หลวงพ่อบอกไว้

ก็ได้มาถึงแล้ว

******************

เคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อ เรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ

ด้วยความด้อยปัญญา ยังแอบคิดว่า

จะไปได้ยังงัยว่าจะมีผู้ที่ได้อภิญญา6 กันมาก

เพราะดูจากสภาพสังคมในปัจจุบัน

และใครกันหนอจะเป็นผู้ฝึกสอน

มาตอนนี้ถึงบางอ้อแล้วค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:52:08


ความคิดเห็นที่ 637 (1633935)

 ตอนที่  2

วันอาทิตย์

        หลังจากทำภารกิจต่างๆ เสร็จ ก็เข้าห้องบรรยายธรรมได้แบ่งกลุ่มทำ work shop แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม เหมี่ยวได้เป็นกลุ่มที่  3  แล้วพี่น้องก็จัดให้เป็นหัวหน้าทีมในหัวข้อ

        ใครมีปัญหาอะไรบ้าง การงาน, การเงิน, สุขภาพ, เรื่องปัญหาการงานการเงิน กลุ่มเราจัดไว้ทีหลังเพราะยังไม่สามารถเห็นผลทันที เลยเอาเป็นปัญหาสุขภาพ ที่มีอาการอยู่ในขณะนี้ แม่น้อยเป็นคนแรกที่มีอาการปวดขา แม่น้อยก็สารภาพบาป โดยการใช้ขาเหยียบขาสัตว์ แม่น้อยจะหายทันที 60% แม่น้อยนึกไม่ออกว่ามีอะไรอีก ก็ได้ขอ บารมีอาจารย์อุบล ก็เลยนึกออกว่าใช้เท้าไปเหยียบเหรียญ แล้วก็หมุนๆ ก็หายไปอีก 40%

        คุณนก มีอาการตรึงคอบ่าไหล่ เธอสารภาพบาปว่า - เคยคิดอยากได้สามีคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองก็มีสามี - จิตใจคิดประมาทอาจารย์อุบล ด้วยคำหยาบ คิดตำหนิอาจารย์ แล้วอาจารย์ไปทำอะไรให้เธอ เหมี่ยวถาม  เธอทำไมไม่คิดที่จะหยุดจิตใจตัวเอง แล้วดูตัวเองดูซิว่า เธอมีอะไรที่ดีกว่าท่าน - เคยทำแท้ง - เหยียบหอยทากตาย  - ทุบไข่นกที่แม่กกอยู่ - เอาปลิงมาตากแดดแล้วแช่น้ำเกลือ

        เมื่อคุณนกพูด เหมี่ยวก็ถามต่อว่าแล้วตอนนี้หายไปกี่เปอร์เซ็นต์ เธอบอกว่า 60% ยังมีอีก -เถียง ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่  - เถียงพระผู้มีศีล  - มีความคิดที่ไม่ดีกับพระพุทธเจ้า ถึงตรงนี้ 80% ที่ดีขึ้น -แล้วให้เธอ ขอโทษขอขมา อาจารย์อุบล แล้วไข่นกที่ทุบ ก็หายอีกเป็น 95% เหลืออีก 5% ให้เธอคงเหลือไว้เตือนใจ จะได้คิดทำดี

        พอถึงตอนนี้ เหมี่ยวรู้สึกว่า ถ้าเกิดภัยพิบัติขึ้น พวกเราจะมานั่งถามคนป่วย กว่าจะเสร็จแต่ละคนคงไม่ทันการ ใช้วิธีรวมจี้สฟิงซ์ 14 องค์ ของคนในกลุ่ม โดยขอบารมีพระศรีอาริย์ โดยมีอาจารย์อุบลเป็นผู้อาราธนา ขอท่านให้ช่วยคุณก้อต ซึ่งมีอาการตาแดง ปวดตา  ขัดตา ซึ่งมีอาการที่เห็นเป็นรูปธรรม ให้คุณก็อต นำองค์จี้สฟิงซ์ไว้ที่อุ้มมือ แล้วก็ยกขึ้นประกบที่เข้าตา ไม่ถึง 1 นาที ก็เอาออกจากตา พวกเราตกใจ เพราะตาของคุณก็อต ได้หายแดง และถุงใต้ตาที่บวมก็หายทันที เช่นกัน เหมี่ยวถามคุณก๊อตว่า รู้สึกอย่างไร ตอนเอาจี้โปะไปที่เบ้าตา ก๊อตบอกว่ารู้สึกเหมือนมีอะไรมาดูดแล้วก็โล่งเลย

        อีกคนก็คือ คุณเจี๊ยบ คุณเจี๊ยบคันหัวเข่า ขึ้นมาทันที หนังที่หัวเขาก็หนาและดำด่าง คุณเจี๊ยบขอบารมีมั่ง ได้ผลทันที หัวเข่าหายคัน ตามตัวและที่หน้า ได้รับพลังจากจี้สฟิงซ์ 14 องค์ เหงื่อแตกเป็นเม็ดๆ เห็นได้ชัดเจนเลย แล้วหัวเขาที่ดำด่างก็หายกลายเป็นสีขาว เหมือนสีผิวปกติที่แข็งๆ ก็นิ่มลง โอ้ย!!! สุดยอดเลยค้า

        ในกลุ่มมี 10 คน แต่มี 3 คน ที่หายจากอาการปวดขา ปวดเข่า ปวดแขน โดยไม่ต้องบำบัด สาธุด้วยจ๊ะ

       สวนในครัวก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วย อาหาร ผลไม้ ขนมต่างๆ อีกทั้งพิชซ่า น้ำแข็งใส เยอะแยะเต้มไปหมด ฯลฯ สมแล้วที่บ้านสวนฯ เราอยู่ในยุคพระศรีอาริย์ อาหารไม่อดไม่อยาก ไม่มีโรคแล้วที่สำคัญคือ  มีแต่คนหนุมสาว ไม่แก่ด้วย....

ผู้แสดงความคิดเห็น สุนีย์ ศิริมาศกูล (นู๋เหมี่ยว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 23:05:32


ความคิดเห็นที่ 638 (1633946)

 มาต่อแล้วค่ะ  อาจารย์ขาาหนูขอกราบขอโทษท่านอาจารย์ ที่มาเล่าต่อช้า.........



ใกล้ถึงตอนสำคัญ สิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตของหนูที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นค่ะ  เริ่มจากที่น้องชิมได้เล่าถึงปาฎิหารย์จากการมีจี้องค์เทพสฟิงค์​ไว้ทั้งหมด 12 องค์ในคราวเดียว ทำให้ลูกค้าเข้าร้านต่อเนื่องไม่หยุด จนกระทั่งคุณชิมคาดว่าจะเป็นเพราะเจ้ากล่องไปรษณีย์ ที่ได้สั่งซื้อจี้องค์เทพสฟิงค์นั่นเอง พอคุณชิมลองหยิบออกไปนอกร้าน ก็ทำให้ลูกค้าค่อยค่อยลดลงค่ะ  ฟ้งแล้วหุหุ อัศจรรย์ใจมากค่ะ  เป็นเหตุให้คุณชิมห้อยจี้องค์สฟิงค์ในขณะนี้รวมทั้งหมด 9 องค์ค่ะ  

หลังจากนั้น ท่านอาจารย์ได้ให้ลองสวมสร้อยของน้องชิมที่มีจี้องค์เทพสฟิงค์ทั้งหมด  9 องค์ กับหลายหลายท่าน รายที่น่าอัศจรรย์ใจ ก็คือ ป้าพรค่ะ ซึ่งหูหนวกมานานหลายปี แต่พอได้สวมจี้ก็มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ขัด ป้าพร ดีใจมากมาก 

 

พอมาถึงตัวหนูเอง ปัญหาของหนูก็คือ ปลายเท้าด้านขวา จะเดินบิดเข้าค่ะ คล้ายเป็ด เป็นตั้งแต่เกิด เวลาเดินจะทำให้เดินปลายเท้าขวาปัดเข้าค่ะ  พยายามเดินให้ตรง ตอนเด็กเด็กคุณแม่ก็ให้ฝึกเดินบนเส้นตรง แต่ก็ยังทำไม่ได้ ทำยังไงก็ไม่ได้สักที หนูได้สวมจี้องค์เทพสฟิงค์รวมทั้งหมด 10 องค์ค่ะ รวมของตัวหนูเองด้วยอีก 1 องค์ค่ะ   และได้ขอบารมีของพระศรีอารย์ที่ท่านอาจาย์อุบลอัญเชิญมาที่บ้านสวนขอให้หนูหายจากอาการนี้ พอหลังจากนั้นก้อเริ่มเดินค่ะ ท่านอาจารย์จะให้เดิน และนับไปเรีือยเรื่อย แล้วดูว่ามะไหร่จะเดินได้ตรง  ยอมรับตามตรงว่า ณ เวลานั้น จำไม่ได้เรยขณะนั้นว่านับไปถึงเลขไหนแล้ว ได้ยินแต่ว่า ตรงแล้ว ตรงแล้ว  ขาตัวเองเดินไปก็ไม่ได้มองค่ะ พอมองอีกที ก็ประหลาดใจ บวกกะดีใจมากมาก เลยก้มลงกราบท่านอาจารย์อุบลค่ะ รู้สึกเหมือนใครมาช่วยหนูดึงขา พยายามให้มันเดินตรงอะค่ะ และรู้สึกเจ็บด้วยหลังจากนั้น  ก็จะให้ไม่เจ็บได้ยังไง ก็มันเป็นมาตั้ง 34 ปี นี่นาก็คงต้องมีการบิดกระดูก จัดรูปกันเล็กน้อย  มันเป็นปาฏิหารย์มากมากค่ะ สำหรับชีวิตหนู  ตอนนี้เวลาเดินก็พยายามสังเกตุตัวเองอยู่เรื่อยเรื่อย ค่ะ เอ นี่เราเดินตรงแล้วหรือนี่ มันเป็นอะไรที่ สุดยอดมากจริงจริงค่ะ

ขอบคุณจี้องค์สฟิงค์ทั้ง 9 องค์ของน้องชิมด้วยนะค่ะ

ลูกขอกราบขอบพระคุณพระบารมีของพระศรีอารย์และ ท่านอาจารย์อุบล ที่ทำให้หนูสามารถเดินตรงได้เป็นปกติค่ะ ลูกขอถวายบุญทุกบุญที่ลูกได้มาทำที่บ้านสวนแด่สิ่งศักดิ์ทุกๆพระองค์ เทวดาที่รักษาท่านอ.อุบลและครอบครัวค่ะ 

 

กราบ/ กราบ/กราบ

 

 

 

 

เช้าวันอาทิตย์ พวกเราก็ตื่นมาออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายกันเหมือนเช้าวันเสาร์ค่ะ ฟิตฟิต  (^_^)// 

 

 


วันนี้ท่านอาจารย์มีจัดกลุ่มทำ work shop  โดยท่านอาจารย์ได้ให้หัวข้อกับพวกเรา เพื่อให้พวกเรานำไปฝึกเพื่อใช้งานได้จริง เป็นwork shop ที่เยี่ยมมากค่ะ เพราะทำให้เราได้รับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มอื่นอื่น มารวมกันทำให้เราเกิดความเข้าใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เราได้แสดงถึงพลังความสามัคคี อีกด้วยค่ะ 

 

หลังจากนั้นมีการชมคลิปวีดีโอที่แฝงไปด้วยปัญญาให้พวกเราได้คิดกันค่ะ 

 

โดยส่วนตัวชอบคลิป ควายกะสิงโตค่ะ ท่านอาจารย์ได้ให้ปัญญากับพวกเราว่า พวกเราต้องมีความสามัคคีกันถึงจะชนะได้ อีกคลิปที่ประทับใจคือ คลิป ฮิปโปกะสิงโต คลิปนี้ดูตอนแรกนึกว่าเค้าหยอกกัน ดูน่ารัก แต่พอดูไปดูมา กลับกลายเป็นว่าสิงโต 4-5 ตัว (ไม่แน่ใจ)​กำลังพยายามที่จะกิน ฮิปโปอยู่ค่ะ แต่ว่าฮิปโปตัวนั้นไม่ได้สนใจอะไรเลย กลับเดินต่อไปอย่างหน้าตาเฉยเพราะหนังของมันช่างหนา และบึกบึน ทำให้มันไม่รู้สึกเจ็บปวด ตอนท้ายท่านอาจารย์ให้ปัญญากับพวกเราว่า พวกเราจะตัอง เป็นเหมือนน้องฮิปโปตัวนี้ คือ บึกบึน หนังหนา หน้าด้าน และทนทุกสถานการณ์ ค่ะ 

 

ช่วงสุดท้าย ท่านอาจารย์อุบล ขออาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ตัวลินเองมีปัญหาปวดข้อมือขวาและปวดไหล่ซ้ายค่ะ ก็เลยออกมาเข้าแถวค่ะ หลังจากที่ท่านอาราธนาเสร็จ หลังจากนั้น อาการที่หายก่อนเลยก็คือ อาการปวดข้อมือขวาค่ะ แต่อาการปวดไหล่ซ้ายยังมีอยู่อีก 20% พอท่านอาจารย์ให้เดินผ่านท่านอาการก้อดีขึ้นเป็น100 % ค่ะ 

 

ลูกกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อีกครั้งค่ะ ที่ทำให้ลูกได้มีโอกาสมาเข้าค่าย 13 นี้ ทำให้หนูได้รับสิ่งดีดีไปมากมาย ทำให้หนูได้รับสิ่งอัศจรรย์ในชีวิต ขาหนูกลับมาเดินตรง และ ทำให้อาการปวดข้อมือขวาและไหล่ซ้ายหายเป็นปลิดท้ิง สุดท้ายหนูอยากบอกท่านอาจารย์ว่า หนูจะพยายามเขียนธรรมทานให้มากขึ้นเหมือนที่หนูได้ให้สัจจะกับท่านค่ะ  

 

 

 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลิน (อลินนันท์ อัครวิชนนท์) (kutebookka-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 23:46:27


ความคิดเห็นที่ 639 (1633955)

 

สิ่งที่ลินได้จากค่าย 13 ค่ะ 

 

1. ได้ความอัศจรรย์ที่สุดในชีวิต ที่ขาขวากลับมาเดินตรงได้  จากการสวมจี้เทพองค์สฟิงค์ทั้งหมด 10  องค์ และบารมีของพระศรีอาริย์ที่่ท่านอาจารย์อุบลอัญเชิญมาที่บ้านสวนค่ะ 

2.  ได้รับบารมีของพระศรีอาริย์ที่ทำให้ลูกหายจากอาการปวดข้อมือและไหล่ซ้าย

3. ได้ทราบถึงความสำคัญของการเขียนธรรมทานอย่างชัดเจน

4. ได้รับโอกาสที่ให้ลูกได้มาสร้างบุญแรงกายได้ทำเสาคาน(เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน) เป็นความรู้ใหม่และได้ปัญญาค่ะ  และเตรียมงานค่ายช่วงศุกร์เย็นอีกเล็กน้อย

5. ได้มีสติ มีสมาธิมากขึ้นจากการท่องบทสวดบูชาพระศรีอาริย์ตั้งแต่เริ่มตื่นเช้า ทุกครั้งที่มีสติรู้ตัวก็จะท่องไปตลอดค่ะ 

6. ได้ปัญญา ที่จะตามหาพระศรีอาริย์จากกิจกรรม workshop 

7. ได้ปัญญา ที่จะตอบโต้กลุ่มบุคคลที่ปรามาสพระพุทธองค์,บ้านสวนพีระมิด, และท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกทุกพระองค์ที่ลูกเคารพนับถือ 


ผู้แสดงความคิดเห็น ลิน (อลินนันท์ อัครวิชนนท์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 00:12:18


ความคิดเห็นที่ 640 (1633964)

 ช่วงธรรมทาน+ประสบการณ์การใช้จี้ ให้ทุกคนที่มีอาการเจ็บป่วยทดลองคล้องจี้ 9 องค์ ของ  คุณชิม เมื่อคนที่มีอาการเจ็ยป่วยสวมจี้แล้วอาการดีขึ้น บางคนก็หายหมดเลย

 ป้าปุ๊ปวดไหล่ใส่จี้แล้วอาการดีขึ้นเกือบ 100%

 ที่น่าอัศจรรย์มากคือน้องลินที่เดินขาบิดมาตั้งแต่เด็ก พอคล้องจี้แล้วเดินนับไปเรื่อย ๆ พวกเรา  ช่วยกันสังเกตุที่ขาน้องลิน ปรากฏว่าหายบิดเดินได้ตรงเป็นปกติ น้องลิน และพ่อ แม่ ดีใจมาก

 อีกคนหนึ่งคือป้าพรหูตึงมา 5 ปี คล้องจี้แล้วหูหายตึง ซึ่งป้าพรก็ดีใจมากเช่นกัน     

work shop กลุ่มละ 10 คน

หัวหน้ากลุ่มคือ คุณเหมี่ยว ใครมีปัญหาอะไรก็มาแชร์กัน

ป้าน้อย มีอาการปวดขา เคยเหยียบสัตว์เล็กสัตว์น้อย หันเท้าไปทางพระ ใช้เท้าแทนมือ ตีขาเด็ก เหยียบเหรียญ

คุณนก ตึงคอ บ่า ไหล่ ชอบของฟรี เอาของวัดกลับบ้าน จับลูกนกผูกขาแล้วนกบินหนีไปพร้อมเชือกไม่รู้ว่าตายหรือเปล่า ปรามาสผู้มีพระคุณ มีส่วนรู้เห็นการทำแท้ง เคยทำแท้งตัวเองเพราะครรภ์เป็นพิษหมอเลือกชีวิตแม่ไว้ ฉีดยาฆ่ามด ปลวก ยุง ทุบไข่นก ฆ่ากระรอก  ปลา นำปลิงตากแดด จับปลิงใส่น้ำปูน ใช้ไส้เดือนตกปลา พูดคำหยาบ เถียงพระ เถียงตายาย 

คุณเปลว เป็นด่างขาวมุมปาก ปวดขา ภูมิแพ้ คันคอ ไอ เวลากินของเย็น ๆ จะไอมาก เคยด่าเก่ง เถียงพ่อ แม่ ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยเยอะมาก ดีดตูดมดแดง เอาปลิงไปตากแดด ขูดปลิง  เขวี้ยงขาไก่หัก ขี้โกรธ เถียงพระ ติพระ ใช้พระทำงาน 

คุณอ๋อย ปวดแขนขวา ชอบแกล้งตบ หยิก เพื่อน สามี ลูก ทำเอกสารเท็จ ตอกบัตรให้เพื่อน ตีลูกด้วยไม้แขวนเสื้้้อจนเลือดออกซิบ ๆ

คุณก็อต แมลงเข้าตา มีอาการบวมแดง ระคายเคืองตา เคยขายยาฆ่าแมลง ดูหนังและภาพโป๊ะ ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นด้วยสายตา มองค้อน แอบดูผู้หญิงอื่น ใช้สายตาจับผิดคนอื่น และรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีปัญญา เคยขายเหล้าเบียร์ และดื่มเองด้วย 1 เดือนจะดื่ม 25 วัน ตื่นเช้ามาก็ดื่มได้เลย

คุณเจี๊ยบ คันหัวเข่าเกาจนหนังหนาและดำ เมื่อก่อนจะคันเฉพาะหน้าหนาว เดี๋ยวนี้คันทุกวัน ไปหาหมอเพื่อรักษาหมอบอกว่าไม่เป็นไร แต่คุณเจ๊ยบคันมา 7 ปีแล้ว เคยหันเท้าไปทางพระ ใช้เท้าแทนมือ เหยียบเหรียญและแบงค์ ใช้ยาฆ่าปลวก แมลง ขี้โกรธ ขี้โมโหเฉพาะกับแม่และคนในบ้าน

ทุกคนในกลุ่มจะนำจี้มารวมกันได้ 14 องค์ ผลัดกัน บูชาไว้บนฝ่ามือทีละคนจนอาการเจ็บป่วยหายกันทุกคน คนที่ไม่ได้สารภาพเช่นคุณเหมี่ยว คุณแหม่ม สมจิต แค่นำจี้มาบูชาในมือแล้วอธิฐานโดยไม่ต้องออกเสียงก็หายปวดขา ปวดไหล่ ปวดเข่า คุณก็อตพิเศษกว่าคนอื่น ๆ ตรงที่นำจี้ประคบบริเวณตาจนตาหายบวมแดงเต็ม 100 %

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 00:20:18


ความคิดเห็นที่ 641 (1633973)

ความเห็นที่ 100 (1633532)
แจ้งลบความคิดเห็น

การเข้าค่าย 13 อาจารย์อุบลให้สร้างบุญโดยใช้แรงกาย ในการสร้างอาคารเอนกประสงค์ โดยการช่วยหิ้วถังปูนส่งต่อๆกันๆไป ว่างก็ไปช่วยกันถางหญ้า บ้างก็ไปช่วยกันมัดลวดเหล็กซึ่งไม่ได้ง่ายเลย

สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกแรงยกของหนักๆ โดยทั่วไปจะมีอาการปวดเมื่อยตามแขนขา แต่หมอกลับไม่มีอาการอะไรมาก เพียงแต่ไหล่ขวารู้สึกขัดนิดหน่อย ซึ่งก็มีอาการมาก่อนที่จะมาบ้านสวนพีระมิดอยู่แล้ว

พอหลังจากอาจารย์อุบล อารธนาบารมีพระศรีอาริย์ อาการที่ขัดๆที่ไหล่ขวาก็เบาไปเกือบ 80% พอเดินผ่าน อาจารย์อุบล อาการขัดที่ไหล่ขวาก็หายไปหมด

ขอบคุณอาจารย์อุบลที่อารธนาบารมีพระศรีอาริย์ให้มาโปรดลูกหลาน หายจากความเจ็บป่วยเป็นอัศจรรย์ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 13:13:50

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 01:06:19


ความคิดเห็นที่ 642 (1633974)

ความเห็นที่ 97 (1633526)
แจ้งลบความคิดเห็น

วันนี้มีคนไข้มาพบด้วยสารพัดโรคทั้งเบาหวานและความดัน ที่สำคัญคือปวดแขนมากอ้างว่ายกของหนัก หมอก็เลยยกตัวอย่างตัวเองออกแรงกายตั้งหลายอย่างที่บ้านสวนพีระมิดก็ยังไม่ปวด แถมที่ขัดๆก็ยังหายได้ เพราะบารมีพระศรีอาริย์

คนไข้ถามว่าเขาเป็นคริสตัง จะอธิษฐานได้ไหม ก็เลยบอกเขาไปว่าบ้านสวนพีระมิดไม่จำกัด ศาสนา ขอให้มีศรัทธาก็หายได้ ก็เลยให้เขาสารภาพบาปที่ชอบไล่ตีจิ้งจกและแมลงสาป

คนไข้สนใจขอซื้อจี้องค์เทพสพิงซ์ ก็เลยให้เขาเอาแต่อุปกรณ์ อันละ 100 บาท ไปแทน แล้วจดเวปบ้านสวนพีระมิดและ รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยไปก่อน ให้เขาเข้าไปดูสนใจก็ค่อยสั่งซื้อเอาเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 12:20:40

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 01:12:22


ความคิดเห็นที่ 643 (1633975)

ความเห็นที่ 98 (1633528)
แจ้งลบความคิดเห็น

ผู้ช่วยพยาบาลที่รพ. แม่ฟ้าหลวง เป็นโรคปวดหัว ไมเกรนรุนแรงมาหลายปี หมอก็เลยให้เขาสารภาพบาปที่ได้ฆ่าปลามามากกับจี้องค์เทพสพิงซ์เพราะเป็นอาชีพ อาการทุเลาลงมาก พอรู้ว่าหมอจะไปบ้านสวนพีระมิดก็ฝากเงินมาทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด 100บาท

อีกคนเป็นพยาบาลเป็นฝีในที่ลับ หมอก็ได้สั่งฉีดยา พร้อมกับยากิน แล้วให้เขาสารภาพบาปที่อาจจะสวนปัสสาวะคนไข้โดยขาดเมตตา อาการน่าจะดีขึ้นเพราะเขาก็ได้ฝากเงินมาทำบุญ 100 บาทคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 13:01:38

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 01:13:11


ความคิดเห็นที่ 644 (1633976)

ความเห็นที่ 99 (1633529)
แจ้งลบความคิดเห็น

พยาบาลอีกคนไม่ได้รักษาโรคอะไรได้ฝากเงินมาทำบุญกับบ้านสวนพีระมิดด้วย100บาท

อนุโมทนา สาธุ คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-10 13:01:42

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 01:13:53


ความคิดเห็นที่ 645 (1633977)

ความเห็นที่ 102 (1633716)
แจ้งลบความคิดเห็น

 

 
ตอนรับบารมีพระศรีอาริย์ ในวันเข้าค่าย 13
                ตอนสุดท้ายของงาน เป็น climax ที่ทุกคนรอคอย ที่อาจารย์อุบลได้อัญเขิญบารมีพระศรีอารืย์ มาสถิตที่กาย วาจา ใจ แล้วให้แต่ละคนที่เดินผ่านท่านอาจารย์ บอกอาการก่อนจะเดินผ่าน แล้วดูหลังจากนั้นว่าหายหรือไม่อย่างไร สำหรับจิ๋ม มีอาการปวดหลัง และเจ็บฝ่าเท้า เพราะว่าเดิน และ ยืนมาก รวมทั้งอาการเจ็บคอ เพราะเป็นหวัด พอท่านอาจารย์ได้อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์มา และให้คนเข้าแถวรอกันขึ้นเดินผ่านท่านอาจารย์พบว่า ขณะที่จิ๋มยินรอจะเดินผ่าน ก็พบว่าหลังหายปวดลงมาสัก 70% พอขึ้นไปต่อหน้าอาจารย์ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหาย ส่วนอาการที่ฝ่าเท้าก็เบาลงมาก รวมทั้งคอที่เจ็บเพราะอาการเป็นหวัดก็เบาลงตามลำดับ ตอนยืนอยู่บนเวที อ้อ ลืมบอกไปว่าขณะที่อาจารย์ดูอาการว่าจิ๋มยังไม่หาย ท่านก็เมตตานำถุงจี้องค์สฟิงค์ ซึ่งมีประมาณ 2 กำมือ มาให้เราถือ ด้วย คงเป็นพลังจากจี้ด้วยทำให้เรามีอาการดีขึ้นมาก จิ๋มก็พูดว่าสงสัยจะโกหกเอาไว้มาก อาจารย์ก็บอกว่าชอบโกหกเพราะเกรงใจคนอื่น เข่น โกหกว่าจ่ายเงินไป 1000 แต่จริง ๆ จ่ายไป 2000 ซึ่งทำเพื่อมิให้คนอื่นต้องกังวลกับเรา และไม่ต้องการให้คนอื่นว่า ว่าตัวเองโง่ เป็นต้น
                บารมีพระศรีอาริย์ของจิ๋มก็มีประสบการณ์เช่นนี้เอง รับจากบ้านสวนมาประมาณ 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 –ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ที่ได้อัญเขิญบารมีพระศรีอาริย์มาข่วยรักษาพวกเรา และขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบ้านสวนพีระมิดด้วย ลูกจะตั้งใจช่วยอาจารย์อุบลให้ดีที่สุดค่ะ

จิ๋ม ชัชวลี

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 07:01:25

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 01:16:24


ความคิดเห็นที่ 646 (1633998)

 ไปค่าย 13 มาแล้ว ได้อะไรกันบ้าง

สิ่งที่ได้รับจากค่าย 13 มันมากมายเลยคะ

1.เรียนรู้และฝึกฝนทักษะการเป็นผู้นำ

2.ฝึกฝนระบบความคิดอย่างเป็นรูปธรรม

3.เรียนรู้พลังความรัก-ความสามัคคี-ความศรัทธา

4.เรียนรู้วิธีการใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์แบบใหม่

5.เกิดความรักความสามัคคีในหมู่คณะ

6.ได้รับความสนุกสนานจากกิจกรรมคะ

7.ได้รับความรู้และธรรมะจากท่านอ.คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 05:42:58


ความคิดเห็นที่ 647 (1634011)

 สิ่งที่ได้รับจากค่าย 13

ประโยคคำสอนของอาจารย์ที่สอน

บอกกล่าวให้รู้ประโยคหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ

" อาจต้องมีการพลัดพลาด-สูญเสียของรัก "

ถ้าเกิดภัยพิบัติแล้วมีการสูญเสียเกิดขึ้น

พวกเราจะฝึก เตรียมตัวและเตรียมใจรับ อย่างใร

เช่น สูญเสียคนที่รักมาก

พ่อ-แม่ สามี-ภรรยาหรือลูกๆ

สูญเสียทรัพย์สิน-สมบัติที่เรามีอยู่

สูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานที่เรามี

ตกงาน จะไม่มีงานทำแล้ว

 คนที่เรารักหรือตัวเราต้องพิการ

ให้เราฝึกคิดหรือเตรียมใจรับอย่างไร

ถ้าเกิดขึ้นกับเรา

หรือถ้าเกิดเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ใดขึ้นแล้ว

เหลือแต่ ตัวเราคนเดียว เราจะอยู่อย่างไร

เพราะทุกอย่างมีโอกาสเกิดขึ้นได้

อย่างใดอย่างหนึ่ง

ว่าเราจะฝึกเตรียมใจรับอย่างไร

อาจารย์สอนให้เราฝึกรับกับการที่อาจจะเกิดขึ้น

แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็สอนให้รู้ถึง

ของความไม่แน่นอน ในความไม่เที่ยง

เป็นธรรมะ สอนพวกเรา ให้ฝึกคิด

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 08:45:49


ความคิดเห็นที่ 648 (1634038)

จากการได้มาเข้าค่าย 13 ข้าพเจ้าได้รับความสุขกาย สุขใจ

และความรู้มากขึ้นมากมาย จากการระดมสมอง

ช่วยกันคิดหาคำตอบ เพื่อตามหาพระศรีอาริย์ 

และช่วยกันป้องกัน ตอบโต้ ผู้ที่ปรามาสพระเจ้าอยู่หัว

พระอริยสงฆ์ อ.อุบล ดร.อาจอง และจะได้นำความคิด

จากการสนมนาในกลุ่มไปใช้ ถ้าพบเห็นการกระทำดังกล่าว

นอกเหนือจากนี้ก็ยังจะนำคำสอนของ อ.อุบล ไปปฏิบัติ

ให้ละเอียดมากขึ้น จะไม่โกรธมากเหมือนอดีต

พยายามให้ความรัก ความเมตตา และตักเตือนผู้อื่น

ได้บอกรหัสอ.อุบล ช่วยด้วยได้เพิ่มอีก 9 คน

 

ขอกราบขอบพระคุณ อ.อุบล มากคะ

ที่กรุณาเปิดโอกาสให้เข้ามาทำบุญในบ้านสวนพีระมิด

 

รัชนีพร  เจริญศิลป์

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 10:09:21


ความคิดเห็นที่ 649 (1634043)

สิ่งที่ได้รับจากการเข้าค่าย 13

ได้ถูกกระตุ้นจิตใจให้เป็นผู้ให้มากกว่าเดิม

รักพี่รักน้อง รักพวกพ้อง มีจิตกตัญญูอย่างเต็มที่

มีจิตเมตตาต่อทุกชีวิต เผยแพร่วิธีพ้นทุกข์ ช่วยเหลือผู้อื่น

ยึดมั่น ศรัทธา และรักษาความดียิ่งชีพ

 

ได้รับชมบารมีพระศรีอาริย์ที่อ.อุบลอาราธนาบารมีมาให้ชม

เห็นถึงพระเมตตาของท่านเป็นอย่างมาก

มี่เมตตาให้ผู้คนหายเจ็บป่วยทันทีแค่เดินผ่าน อ.อุบล

แม้คนขาพิการแต่กำเนิด ก็สามารถหายได้

 

และบารมีพระศรีอาริย์ก็สถิตย์อยู่ในจี้สฟิงค์อย่างเต็มที่

เพราะมีผลจากการคล้องจี้ 9 องค์ ให้คนขาพิการหายเป็นปกติ

ได้เช่นเดียวกับวิธีเดินผ่านอ.อุบล เช่นกัน

 

เห็นปรากฏการณ์เหล่านี้แล้ว

รู้สึกว่า ยุคพระศรีอาริย์ ซึ่งจะไม่มีคนเจ็บป่วยเลย

นั้นเริ่มเกิดขึ้นเป็นจริงแล้ว

ได้รับชมแล้วรู้สึกยินดีต่อทุก ๆ คนเป็นอย่างมากคะ

 

จากการทำ เวิร์ค ช้อป

ทำให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการช่วยเหลือผู้คน

ด้วยการใช้จี้มากขึ้น  และถึงแม้เราจะไม่มีจี้หลายองค์

แต่หากเราต้องการพลังจากจี้มากขึ้น

ก็สามารถทำได้ ด้วยการส่งจิต นึกถึง อ.อุบล

หรือคนที่เคยใช้จี้ช่วยคนมาจำนวนมากแล้ว

เช่น น้องครองขวัญ พี่เหมี่ยว ฯลฯ

(เพราะบุคคลเหล่านี้ ได้รับพลังอนันตจักรวาล

ผ่านร่างกายเป็นประจำจากการใช้จี้ช่วยคน

ทำให้พลังงานเหล่านั้นมาอยู่กับคนนั้นแล้ว)

เมื่อเรานึกถึงคนที่มีพลังงานนั้น พลังก็จะถูกส่งผ่าน

มาให้เราใช้ช่วยผู้อื่นได้เช่นกัน

 

อีกหนึ่งหน้าที่ของเรานอกเหนือจากการช่วยผู้อื่น

เราทุกคนยังมีหน้าที่หลักในการเป็นคนกตัญญู รู้คุณอีกด้วย

ที่เรามีชีวิตที่ดี มีความสุขอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะใคร

เราจึงต้อง ปกป้องรักษา ชาติ ศานา พระมหากษัตริย์

และผู้ทรงศีลทรงธรรม ครู อาจารย์ และผู้รักษาความดีทุก ๆ คนอีกด้วย

โดยการใช้สิตปัญญาโต้ตอบต่อผู้ทำลาย ทุกวิธี

เพื่อหยุดยั่งการประกอบกรรมชั่วของเขา

ซึ่งนั่นก็คือ การเมตตา ต่อเขานั่นเอง

 

ค่ายนี้ ยังเห็นว่าเบื้องบนและอ.อุบล

เน้นย้ำเรื่องการเขียนธรรมทานเป็นหลัก

เพราะธรรมทานเป็นทานที่ยิ่งใหญ่

ลงทุนน้อย แต่ได้ผลมาก

หากเราละเลย เราก็จะเสียโอกาสในการสร้างบุญ

และเราเองก็จะหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ยาก

อย่าลืมว่า หากเรายังไม่พ้นทุกข์

เราก็จะยังไม่พร้อมเต็มที่ ที่จะนำประสบการณ์ความสุข

ของเราไปถ่ายทอด เพื่อช่วยผู้ที่ยังทุกข์ได้เต็มที่นะคะ

 

ค่าย 13 ครั้งนี้

ถือเป็นการฝึกกาย ใจ ให้พร้อมเผชิญภัยพิบัติ

รับรู้หน้าที่ของตน และลงมือปฏิบัติจริง

 

รู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่ อ.อุบล

ทำเพื่อคนไทย และคนทั้งโลก

จะพวกเราจะเร่งหน้า เดินตามท่านต่อไปคะ

กราบขอบพระคุณอ.อุบล และครอบครัว

และทุกพระองค์ที่คุ้มครองท่านคะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 10:26:20


ความคิดเห็นที่ 650 (1634052)
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 10:45:35


ความคิดเห็นที่ 651 (1634072)

 ขอเล่าต่อค่ะ!

                   ในเช้าวันอาทิตย์ พวกเราได้แยกกลุ่มกันทำ workshop กันซึ่งใน

แต่ละกลุ่มก็มีปัญหากันทั้งทางด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และการงาน  ต่างคนก็                      

มาเล่า ให้กันฟัง  แล้วแต่ละคนก็ระดมความคิดที่จะช่วยบำบัดและแก้สถานการณ์              

 ส่วมาก ก็จะมาในรูปรวมพลังองค์จี้สฟิ้งซ์ที่มีในกลุ่ม  แล้วบำบัดกัน  ซึ่งก็ได้ผล                  

แทบทุกราย แต่ก็จะมีบางรายที่ได้ผลไม่ครบ100%  เพราะนึกกรรมไม่ออก                        

การรวมพลังจี้สฟิ้งซ์  นี้ ก็มีตั้งแต่ 9 – 10 และ 14 องค์ก็จะทำให้ได้พบบารมี                            

พระศรีอาริย์ + จี้สฟิงซ์ที่ยิ่งใหญ่  หายจากอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่อย่างฉับพลัน

ทันที  จากที่หลายคนมาเล่า ก็มีความ ประทับใจหลายราย เช่น คุณเจี๊ยบ                          

มีอาการคันที่หัวเข่า  มานาน 7 ปี จนผิวหนังที่หัวเข่า ด้าน หนามาก  หลังจาก

ที่สารภาพบาปแล้ว + กับการรวมพลัง องค์จี้สฟิ้งซ์ 14 องค์ ก็กลับ กลายเป็น                  

ผิวหนังนิ่ม ผิวขาว ขึ้นและหายจากอาการคันภายในพริบตา  ส่วนในราย                    

 คุณก๊อต ก็เช่นกันมีอาการตาบวมแดง เมื่อนำองค์จี้สฟิงซ์ 14 องค์มาวางที่ตา  

แล้ว ก็ อารธนาบารมี พระศรีอาริย์ + องค์จี้สฟิงซ์ 14 องค์ ภายในพริบตา อาการ

ก็หายไป 100 % เลย นอกจาก  นั้นรายอื่นๆก็มีปวดขา ปวดแขนกัน เมื่อรวมพลัง

จากองค์จี้สฟิ้งซ์ก็ทำให้หลายคนหาย/

       แต่ที่น่ายินดี  อีกอย่างก็คือเด็กอย่างน้อง ต้นกล้า ก็สามารถบำบัดน้องมาร์ค          

ให้หายจากการปวดขาได้ /

         ลูกขอกราบขอบพระคุณบารมีพระศรีอาริย์และองค์จี้สฟิ้งซ์และท่านอ.อุบลฯ

ที่เมตตา มาสื่อให้พวกเราลูกบ้านสวนฯ รู้ เห็นว่า เมื่อเกิดเหตุเราต้องสามารถช่วยคน          

ได้จริงและมีความเชื่อมั่นว่าต้องทำได้/

                                   สาธุ   สาธุ    สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 12:37:28


ความคิดเห็นที่ 652 (1634115)

           ไปค่าย 13  มาแล้วได้อะไร

 1.  ได้ใช้แรงกายสร้างบุญ  ปัจจัยสิ่งของ  และธรรมทานงานบุญที่บ้านสวนมีหลากหลายให้ทำ  ยิ่งทำก็ยิ่งมีแรง  มีความสุขกับ งานที่ทำ  มีความว่องไวและแข็งแรง  เพื่อเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ                        

 2.  ได้รับเทคนิคแนวใหม่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สร้างสรรค์โดย การใช้พลังจี้องค์เทพสฟิงซ์หลายองค์รวมกันกำไว้ในมืออธิษฐาน  ถึงพระศรีอาริย์  เรียกอ.อุบลช่วยด้วย   จะสามารถรับพลังพลานุภาพมหาศาลช่วยรักษาโรคภัย  บำบัดความทุกข์ต่างๆ  นานาได้อย่างน่าอัศจรรย์  เช่นกรณีคุณชิม วัชระ  นำจี้องค์เทพสฟิงซ์  9  องค์  บารมีพระศรีอาริย์บำบัดให้ลูกบ้านสวนจากเดินขาบิดตั้งแต่เกิดให้เดินตรงขึ้น  ประจักษ์ด้วยตาตนเอง  ลูกบ้านสวน ร้อง โอ้โห  พร้อมเพรียงกัน  น่าตื่นเต้นมาก

3.    ช่วยกันระดมความคิดค้นหาคุณพระสมบัติของพระศรีอาริย์ว่าควรมีอะไรบ้าง  แล้วหาข้อสรุปว่า  พระศรีอาริย์ท่านมีบุญฤทธิ์  และธรรมฤทธิ์  ท่านทรงมีความเมตตาและความเด็ดขาด  สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้  หากผู้ใดศรัทธาไม่ลังเลสงสัย  ศีล 5 บริสุทธิ์ ท่านจะประทานความสำเร็จสมความปรารถนา  หายเจ็บป่วยได้อย่างฉับพลันทันที

4.    ช่วยกันระดมความคิดว่า  ถ้ามีใครมาลบหลู่ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพบูชา เช่น ลบหลู่พระพุทธเจ้า  ท่านท้าวเวสสุวรรณ  ฯลฯ  เราจะทำอย่างไร

       สรุปโดยท่าน อ.อุบล ดังนี้   - คุณเป็นใคร  เคยทำความดีอะไรกับเขาบ้าง

                                                 - คุณทำความดีได้เท่ากับท่านเหล่านั้นมั๊ย

                                                 - คุณมีสิทธิ์อะไรที่ไปลบหลู่พระพุทธเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

                                         คำพูดเหล่านี้เป็นแนวทางที่จะสามารถพูดตอบโต้ได้ทันที

5.    ช่วยกันแจ้งหรือเสนอว่าใครบ้างที่น่าจะเข้าข่ายว่าเป็นองค์พระศรีอาริย์  ท่านอ.อุบล  และลูกบ้านสวนต่างก็อยากจะพบองค์ท่านศรีอาริย์ให้เร็วที่สุด  ก่อนที่ภัยพิบัติจะเกิด  เพราะหากเราตามพบเจอ  ภัยพิบัติอาจจะไม่เกิดหรือเกิดอาจะเบาบางได้  ต่อไปนี้จึงต้องตามหาอย่างจริงจัง  แต่ท้ายที่สุดอยู่ที่ตัวเราทุกคนว่าเรามีท่านอยู่ในใจมั๊ย  ยอมรับความผิดบาปที่กระทำมามั๊ยและสารภาพบาปจงยอมรับความจริง  เป็นธรรมทานเพื่อสร้างบุญ  ชีวิตก็จะพบความสุขทุกด้าน  โรคภัยไม่มี  สมความปรารถนาทุกประการพร้อมเข้าสู่ยุคทองกันทุกคน

6.     ฝึกความเป็นผู้นำ  กล้าหาญที่จะช่วยเหลือคนรอบข้างโดยใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์ , อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์, รหัสจักรวาล อ.อุบลช่วยด้วย, กล้าคิดใช้ปัญญา  ตีโจทย์ปัญหาให้แตกและรวดเร็วทันสถาณการณ์กับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิด

7.     ได้ฝึกสติ  สมาธิ  จิตใจจดจ่อกับการทำงาน  จึงทำให้งานออกมมีประสิทธิภาพทำได้อย่างรวดเร็วอย่างที่ตั้งใจไว้  เพราะลูกบ้านสวนทุกคนต้องมีความว่องไว  กำหนดงานต้องตรงตามเป้าหมายไว้  อย่างเช่นดิฉันดายหญ้ากับ ลูก ๆ  และเพื่อนๆ บ้านสวน  ทำแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ผ่านไปไม่นานหญ้าโล่งเตียนจนตนเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน

8.      ท่านอ.เมตตาบอกคาถาที่ต้องมั่นท่องทุกวันตอนตื่นนอน คือ  อิติปิโส 1 จบ,  ปะโตเมตัง, คาถาเงินล้าน, คาถาท้าวเวสสุวรรณ, พระศรีอาริย์  โดยเฉพาะบทพระศรีอาริย์ให้ท่อง  99 จบต่อวัน  และต่อเนื่อง  9 วัน  โดยในแต่ละวันจะแปรง,  ซักผ้า,  ถูบ้าน, ให้ท่องไปเรื่อยๆได้  จะพบความสุขทุกประการเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคทอง

9.     ได้ฝึกความมีระเบียบวินัย  รักษากฎให้มั่น  ทุกจุดของบ้านสวนเน้นย้ำความสะอาดเป็นสำคัญและต้องนึกถึงผู้อื่นที่ต้องอยู่ร่วมกัน  หากสะอาดก็จะปราศจากโรคติดต่อร้ายแรง  เช่น  ถ้วยน้ำดื่ม  ล้างจานต้องล้างฟองออกให้หมดจด  โดยเฉพาะฟองน้ำต้องซับฟองออกให้หมด  หากโอกาสต่อไป  แก้วน้ำดื่มนำไปเองได้ก็จะดีไม่น้อย

10.  ได้สัมผัสถึง  “สวรรค์บนดิน”  สัมผัสได้จริงมีความสุข  บรรยากาศอบอุ่น  อากาศดี  ผู้คนจิตใจดีหาได้ยากในสังคมนี้  ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันรู้สึกถึงความจริงใจ  ช่วยเหลือกันอย่างเต็มใจ

        กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์  องค์ปฐมธรรมบิดา  ท่านท้าวเวสสุวรรณ  องค์เทพสฟิงซ์  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  และอ.อุบลและครอบครัวค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จิตจุฑา จิรนิธิ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 16:16:27


ความคิดเห็นที่ 653 (1634136)

 

ไปค่าย 13 มาแล้ว ได้อะไรกันบ้าง 

 

*******************
 
ได้แน่นอนเลยค่ะ อย่างแรก
ได้สร้างบุญ ทาน ศีล ภาวนา   
ได้ใช้จี้ช่วยคน เพราะบางคนตั้งแต่บูชาจี้ไป
ยังไม่เคยใช้ช่วยใครอย่างจริงๆ จัง ๆ เลยค่ะ
 พอมีงานนี้ ได้รู้วิธีการใช้จี้ 
แบบปฏิบัติจริงด้วย ถือเป็นโอกาสดีจริงๆค่ะ
และที่สำคัญได้รู้วิธีการเผยแพร่ธรรมะของบ้านสวน
 วิธีการช่วยผู้คนได้แบบเป็นรูปธรรมชัดเจนมาก


โดยที่ตัวเองประทับใจมากๆ เลยก็คือวิธีการ
ของท่าน ผศ.เบญจรัตน์ และคุณครูยุ้ย ปาริชาติค่ะ
ซึ่งทั้งสองท่าน จุดประกายการช่วยผู้คน
และแสดงให้เห็นในความเป็นลูกบ้านสวน
ได้อย่างชัดเจนมากๆ ค่ะ โดยทั้งสองท่าน
ได้นำหลักธรรมไปใช้ในองค์กรของตัวเองได้จริง 
ประยุกต์ใช้กับอาชีพ กับคนรอบข้าง
 ได้แบบไม่เคอะเขินไม่มีอุปสรรคใดๆ 
ไม่ต้องกลัวว่าใครจะว่าจะคิดอย่างไร
 กับหลายคนที่คิดว่าอาชีพของชั้น
ไม่สะดวกที่จะเผยแพร่ธรรมมะ 
ติดผู้บังคับบัญชา กลัวคนว่าบ้าบ้างอะไรบ้าง
แต่ทั้งสองท่านลงมือทำแล้ว แล้วก็ได้ผลดีด้วย
 ทุกคนที่ทำตามคำสอนก็ได้ผลกันทุกคน นับว่าค่าย 13 นี้ 
ได้จุดประกายให้ตัวเองหันมาเร่งรีบ
ขอลอกเลียนแบบวิธีของท่านบ้างค่ะ 


แต่ท่านอื่นๆ ก็ไม่ได้น้อยหน้ากันนะคะ
แต่ละคนก็มีวิธีช่วยผู้คนแตกต่างกันไป
ตามกำลังและโอกาสของตัวเอง
สรุปว่าค่าย 13 เป็นค่ายแห่งความเปลี่ยนแปลง
 มีพลังผลักดัน ให้ทุกคน
ก้าวไปข้างหน้าในทางที่ดีขึ้นค่ะ
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 17:46:36


ความคิดเห็นที่ 654 (1634146)

(จากน้องมาร์ค ครับผม) รู้สึกตื่นเต้นจังเลยครับผม ที่พิมพ์เองเป็นครั้งแรก

กราบเท้า ท่านอาจารย์ อุบล ตอนค่าย13มาร์คปวดหลังมาก น้องต้นกล้าใช้ จี้องค์เทพสฟิงซ์บําบัด  มาร์คสารภาพบาปว่า เคยตีหลังหมา เตะหมา กินไก่ เคยฆ่ามด ตีแมว แล้ว อาการก็หายทันทีเลยครับ ขอบคุณน้องต้นกล้านะครับผม มาร์คชอบค่าย13มากจังเลยครับผม อยากให้มีแบบนี้อีกครับผม

กราบขอบพระคุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ท่านอาจารย์์์์์ อุบล มากๆครับผม 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 19:54:09


ความคิดเห็นที่ 655 (1634177)

เล่าต่อคะ(ตอนที่5)

คราวที่แล้วได้เล่าถึงการทำwork shop ช่วงภาคเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งผลการสรุปของแต่ละกลุ่มที่ออกไปนำเสนอก็เป็นแนวทางปฏิบัติได้โดยเฉพาะกลุ่มของน้องเหมี่ยวที่นำจี้องค์เทพสฟิ้งซ์ของทุกคนในกลุ่มมารวมกันแล้วบำบัดได้เห็นผลทันที เป็นวิธีที่เหมาะที่จะใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่มีเวลาสารภาพบาป

การแบ่งกลุ่มทำwork shopโดยที่สมาชิกในกลุ่มมีหลายวัย(ยกเว้นเด็ก) แล้วช่วยกันระดมความคิดและปฏิบัติตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมายนั้นเป็นรูปแบบใหม่ที่ต่างไปจากเดิม ที่นั่งฟังบางครั้งก็นั่งหลับบ้าง

สิ่งที่ได้รับ :การทำwork shop  ทุกคนได้มีส่วนร่วมช่วยกันคิด แสดงความเห็น ตื่นตัวตลอดเวลาไม่ง่วงนอนเพราะต้องช่วยกันทำภารกิจให้สำเร็จ ฝึกการเป็นผู้ฟังที่ดี ยอมรับความเห็นของผู้อื่น ยอมรับความเห็นของเสียงส่วนมาก มีความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจกันที่จะทำให้งานที่ได้รับมอบหมายนั้นสำเร็จ มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และที่สำคัญได้ฝึกการเป็นผู้นำ ผู้ให้ การช่วยเหลือผู้อื่น การปกป้อง 3 สถาบัน

อีกทั้งได้ฟังจากกลุ่มอื่นๆด้วยทำให้ได้ข้อคิดวิธีการที่แตกต่างกันไป และได้รับฟังข้อสรุปจากท่านอาจารย์ทำให้เกิดปัญญาและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง

ยังมีต่อนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 22:39:46


ความคิดเห็นที่ 656 (1634183)

ขอเหลาการทำ Workshop ในกลุ่มค่ะ

   ได้อยู่กลุ่มที่ 4   มีสมาชิกรวม 9 ชีวิตโดยมีคุณเอกลูกป้าเตือนเป็นกัปตันทีม เริ่มจากให้แต่ละคนบอกปัญหาที่ประสบอยู่   เช่น ปัญหาสุขภาพ การเรียน เช่นน้องตุลย์เรียนมา 6 ปีแล้วยังไม่จบ  หลายคนอยากก้าวหน้าทางธรรม เช่น ครูยุ้ย   คุณหน่อย รวมทั้งดิฉันด้วย  พวกเราได้ผลัดกันบำบัดสมาชิกในกลุ่ม  มีคุณทัศนีย์ที่ดูเหมือนว่าอาการจะไม่ดีขึ้น เจ้ากรรมนายเวรเยอะ  คงจะยังสร้างบุญไม่พอ  ทีแรกดิฉันไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร แต่ทำกิจกรรมไปเริ่มปวดต้นแขนซ้าย  แสดงว่าเจ้ากรรมนายเวรเขาอยากได้บุญกระมัง  ท่าน อ.อุบล บอกว่าเหลือเวลาอีก 10 นาทีสรุปได้แล้ว น้องอัมพรที่มีอาการชาปลายมือเพราะใช้มือทำผิดศีลมาเช่น ทำเอกสารเท็จ เอาของหลวงไปใช้ที่บ้าน เป็นต้น ถึงตัวเรารีบสารภาพใหญ่เลยเพราะในกลุ่มดูแล้วตัวเราทำผิดศีลมามากกว่าใคร 

ข้อที่ 1 ฆ่าสัตว์ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา หนู กบ มด แมลงวัน  แมลงสาบ ยุง  จิ้งจก  ตุ๊กแก  หนอน กิ้งกือ ไส้เดือน ทาก ขับรถทับงู เขียด คางคก ลูกหมา ลูกแมว ตี เตะสัตว์เช่น ควาย หมา แมว และเคยทำแท้ง 1 ครั้ง  ทำให้ปวดหลัง ปวดแขน ถีบสามี 1 ครั้ง ใช้เท้าแทนมือ ทำให้ปวดขาและชาเท้าขวา เป็นๆ หายๆ ไม่หายขาด

ข้อ 2 ลักทรัพย์ เอาของหลวงกลับบ้าน เช่น กระดาษ ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด  แม็กซ์ ลวดเสียบกระดาษ ตัวคลิบคัดเตอร์   ยาและอุปกรณ์ทำแผล เบิกเงินไม่ตรงความจริงเช่น ไปราชการ เอาของสงฆ์กลับบ้าน  ผิดหนี้สงฆ์ หนี้แผ่นดินเยอะมาก  เคยเสียทรัพย์เป็นก้อนเช่น ถูกหลอก  ถูกโกงแชร์ 2 ครั้ง

ข้อ 3 ตอนโสดเคยเป็นกิ๊กกับสามีชาวบ้าน  กับสามีอยู่ก่อนแต่ง  เคยดูหนัง ภาพโป๊ ทำให้ลูกดื้อ มีปัญหาสายตา ถอดแว่นอ่านหนังสือไม้ได้

ข้อ 4 ทำเอกสารเท็จ พูดโกหก ส่อเสีอด เพ้อเจ้อ   จู้จี้ขี้บ่น ดุด่าสามี ลูก ลูกน้อง  นินทาว่าร้าย เถียงพ่อแม่ พี่ ไม่เชื่อฟังครูบาอาจารย์ ร่วมนินทาราชวงศ์  ทำให้คนอื่นไม่เชื่อถือ   ลูกน้องไม่เชื่อฟัง  ลูกดื้อ

ข้อ 5 เคยดื่มเบียร์ ไวน์ ซื้อหวย ซื้อลอตเตอรี่ เล่นแชร์ เล่นไพ่  ทำให้ขี้หลงขี้ลืม ความจำไม่ดี

ยังมีอีนๆอีกเช่น หันเท้าไปทางพระ ใช้เท้าเหยียบเหรียญ ติดหนัง ติดละคร คบคนชั่วเป็นมิตร 

พอสารภาพไปๆ อย่างรวดเร็ว  คุณเอกถามว่าอาการปวดต้นแขนพี่หายหรือยัง  เราก็เช็คปรากฏว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ประมาณ 90% ได้

เพราะอานุภาพจี้พลังอนันตจักรวาลโดยแท้ ถ้าเรามีศรัทธา และสำนึกด้วยใจจริง เจ้ากรรมนายเวรยอมอโหสิกรรมให้ผลจะเกิดฉับพลันทันที

ช่วงท่าน อ.อุบลอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์  รับรู้สัมผัสได้เพราะมีอาการตัวโยกโคลง รู้สึกตัวเบา อาการปวดต้นแขนหายไป พี่เปลวบอกว่ารู้สึกมีลมเย็นพัดมาปะทะที่ตัว  กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ บารมีพระศรีอาริย์ ท่าน อ.อุบล ท่าน อ.มงคล ที่เมตตาลูกและพี่เปลวให้ได้เข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 13 นี้ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย(แป้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 23:29:04


ความคิดเห็นที่ 657 (1634189)

 อ่านธรรมทานของแต่ละท่าน ที่พยายามกลั่นกรองออกมาจากใจ อารมณ์เหมือนตัวเองได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ ด้วยเลย ถึงแม้ความรู้สึกจะแตกต่างจากของจริงบ้าง แต่รับรู้ได้ถึงความตั้งใจ และมุ่งมั่นของแต่ละคนในการที่จะช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่ม ให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่เผชิญมานาน ถึงแม้จะดีขึ้นบ้าง บรรเทาลงบ้าง หรือบางท่านก็หายขาดเลยก็มี

สิ่งเหล่านี้ย่อมพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ธรรมะพระพุทธองค์นั้นวิเศษแค่ไหน เราสามารถพิสูจน์ด้วยตัวของเราเองได้โดยไม่ต้องพึ่งตำรา หรือการบอกกล่าวจากใครๆ ด้วยการปฏิบัติจริง เห็นจริง โดยท่านอาจารย์อุบลได้นำพาพวกเราให้พ้นทุกข์ได้ถึงเพียงนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ แต่ทำให้เราเห็นผลลัพธ์ได้ถึงเพียงนี้ แล้วเราจะละทิ้งการทำความดี หรือสร้างความดีเพื่อส่วนรวมไปได้อย่างไร

หลายท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านตอนหลังๆ ผมอยากให้ย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวในช่วงแรกๆ ของบ้านสวนฯ ด้วยนะครับ แล้วท่านจะพบว่าสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลได้เขี่ยวเข็ญลูกหลานนั้น ท่านทำเพื่ออะไร และผลดีที่เราได้รับนั้น มากมายมหาศาลเพียงใด ไม่ใช่แค่ทำให้เราๆ ท่านๆ เปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจมามุ่งมั่นทำความดีเท่านั้น แต่เรายังสามารถช่วยสังคมส่วนรวมให้หันกลับมากระทำในสิ่งที่จรรโลงจิตให้สูงขึ้นอีกด้วยครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 00:37:10


ความคิดเห็นที่ 658 (1634201)

ข้าพเจ้า นางกนกพร โรจนัสถ์สกุล 

ได้มีโอกาสร่วมเข้าค่าย 13 กับทางบ้านสวนพีระมิดเป็นครั้งแรก ซึ่งเดิมข้าพเจ้าได้ตั้งใจที่จะมาบ้านสวนพีระมิดเพื่อทำบุญโดยใช้แรงกาย สารภาพบาปและขอขมาท่าน อ.อุบล ในช่วงระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม

และโชคดีที่ทางท่าน อ.อุบล ได้มีการจัดค่าย 13 ในวันดังกล่าว ทำให้ดิฉันและลูกชายได้มีโอกาสทำบุญโดยใช้แรงกาย สารภาพบาปและขอขมาท่าน อ.อุบล ตามที่ตั้งใจไว้

ซึ่งเหตุที่ดิฉันต้องมาขอขมาท่าน อ.อุบล เพราะครั้งแรกที่ดิฉันได้ยินเรื่องของท่าน อ.อุบลและบ้านสวนพีระมิด จากน้องวิวซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานโดยที่ยังไม่ได้ดูเว็บไซด์ของทางบ้านสวนฯ ดิฉันไม่ได้มีความเชื่อหรือศรัทธา และเมื่อจะใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย เป็นครั้งแรกในการหาสิ่งของที่หาไม่เจอ ดิฉันก็ได้คิดว่าถ้าใช้ได้ผลจริงดิฉันจึงจะเชื่อถือในสิ่งที่ได้ยินมา ซึ่งเหมือนกับเป็นการท้าทาย และผลที่ได้คือดิฉันใช้ไม่ได้ผล ไม่สามารถหาสิ่งของที่ต้องการได้

และเมื่อรู้ว่ามีเว็บไซด์ของทางบ้านสวนฯ ดิฉันจึงได้เข้ามาดูและเกิดความเชื่อและศรัทธาในตัวของท่าน อ.อุบลและบ้านสวนฯ และมีความตั้งใจที่จะมาบ้านสวนในช่วงที่ลูกชายปิดภาคเรียนคือเดือนตุลาคม และเมื่อดิฉันมีความศรัทธาและเชื่อถือ ดิฉันได้ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วยใหม่ในการหาเอกสารที่หาไม่พบ ซึ่งดิฉันสามารถหาเอกสารดังกล่าวได้ในทันทีที่ดิฉันใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย

ซึ่งในการเข้าค่าย 13 ดิฉันได้มีโอกาสร่วมกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในการแสดงโชว์รีวิวประกอบเพลงเพื่อแสดงมุทิตาจิตกับท่าน อ.อุบล และได้มีโอกาสขอขมาท่าน อ.อุบล และเล่าสาเหตุที่ต้องมาขอขมา บนเวทีหลังจากการแสดงจบ      

โดยทาง อ.อุบลได้ให้ดิฉันมาพิมพ์เรื่องนี้เป็นธรรมทานเพื่อบอกกับทุกคน นอกจากนี้สิ่งที่ดิฉันได้รับจากการเข้าค่าย 13 นอกจากที่ตั้งใจไว้ว่าจะมาทำบุญโดยใช้แรงกาย สารภาพบาปและขอขมาท่าน อ.อุบลแล้ว ดิฉันยังได้รับเมตตาบารมีจากพระศรีอารีย์ ซึ่งท่าน อ.อุบล ได้อารธนามา ช่วยให้ดิฉันหายปวดไหล่จากการที่ได้ใช้แรงกายในการทำงานขนอิฐ หิ้วถังปูน ก่ออิฐเสาโรงทาน ซึ่งหายทันทีหลังจากเดินผ่านหน้าท่าน อ.อุบล ซึ่งดิฉันไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัวเอง เหมือนกับหลาย ๆ คน ที่อยู่ในคลิปของบ้านสวนที่ดิฉันได้ดูก่อนจะมาบ้านสวนฯ

และเมื่อดิฉันเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่น ๆ ฟังทุกทั้งดิฉันจะขนลุกทุกครั้ง และดิฉันได้ตั้งใจและอธิฐานจิตว่าต่อไปนี้ดิฉันจะพิมพ์ธรรมทานมาก ๆ จะพยายามรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ และจะปกป้อง 3 ร่มโพธิ์ศรี อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามคำสอนของท่าน อ.อุบล นอกจากนี้แล้วดิฉันยังจะได้ปกป้อง อ.อุบลและบ้านสวนพีระมิด ตามกำลังความสามารถของดิฉัน

ผู้แสดงความคิดเห็น ดาเรศ เจริญศิลป์ (วิว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 08:35:20


ความคิดเห็นที่ 659 (1634290)

กระผมนายผดุง สุดจิตต์

สิ่งที่ได้จากการมาเข้าค่าย 13

ได้รับความรู้ และ  ได้แนวความคิดปริศนาธรรม หลายเรื่องเช่นความรักความสามัคคี ความแข็งแกร่งในจิตใจ

และได้รับความรู้หลากหลายจากการทำ work shop 

 ได้เรียนรู้วิธีช่วยผู้อื่นจากการใช้จี้ ทำให้ผมมีความกล้ามากชึ้น

  ได้รับสัมผัสพระบารมีพระศรีอารีย์ โดยมีอาการปวดขา

พอท่านอาจารย์อุุบลอารธนาพระบารมีแล้วรู้สึกอาการปวดขาหายเองโดยไม่ต้องไปเข้าแถว

และมีความรู้่สึกว่ามีความสุขใจ ร่างกายแข็งแรง มีกำลัง        ไม่เหนื่อย (ก่อนมาบ้านสวนได้อดนอนหลายคืน)

ปกติจะเพลียมากแทบจะขับรถไม่ไหว พอได้รับพระบารมีพระศรีอารีย์ และตอนอยู่ในบ้านสวนและหลังจากกลับจากบ้านสวน

มีกำลัง สุขภาพดี สุขภาพจิตดี มีความสุข มาก ครับ

กระผมขอกราบขอบพระคุณ พระศรีอารีย์ เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อปและทุก ๆ ท่านที่ได้ให้โอกาสผมมาร่วมงานครั้งนี้ครับ

ผดุง สุดจิตต์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 20:50:32


ความคิดเห็นที่ 660 (1634405)

**รายงานผลการติดตาม งานกลุ่ม workshop วันอาทิตย์ภาคเช้า โดยมีพี่จุ๋มเป็นหัวหน้าทีม ในการร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอให้ปัญหาต่างๆของสมาชิกในกลุ่มคลี่คลาย

สมาชิกกลุ่มประกอบด้วย : ดร.พี่จุ๋ม - ป้าเตือน - ป้าทองดี (แม่น้องตั๊ก) - คุณอร - อ.ณี-หนึ่ง-น้องมะเหมี่ยว-น้องกุ้ง-พี่เอิบ ฉันทนา  

สรุปผลหลังจากค่าย 13 ผ่านไปได้ 1 อาทิตย์

 1.ผลที่คุณเจิดหทัย (หนึ่ง) ได้รับ : เนื่องจากลูกชายหนึ่งได้รับเชื้อ RSV ซึ่งจะทำให้มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ คือจะหายใจติดๆขัดๆ บางครั้งก็ได้ยินเสียงครืดคราดในช่องอกหรือโพรงจมูก และทุกครั้งที่ฝนตกน้องก็จะจามและมีน้ำมูก แต่ตั้งแต่กลับมาจากค่าย 13 เสียงหายใจที่ติดๆขัดๆก็หายไปและอาทิตย์ที่ผ่านมามีฝนตก แต่น้องไม่มีน้ำมูกแต่อย่างไรคะ

นอกจากนี้หลังจากที่หนึ่งได้พยายามพูดคุยขอเจรจากับเดย์แคร์เพื่อให้น้องงดทานเนื้อสัตว์และไม่เอาลักษณะที่เขี่ยออก ซึ่งทางเดย์แคร์ก็ไม่ยินยอมมาโดยตลอดแต่อาทิตย์ที่ผ่านมาปรากฏว่าทางเดย์แคร์ยินยอมตามข้อตกลงของหนึ่งอย่างง่ายดายแต่ยังขอติดตามเรื่องผลพัฒนาการทางร่างกายของน้องอยู่คะ

2.ผลที่คุณกรภัทร (น้องกุ้ง) ได้รับ : ปกติทางน้องกุ้งซึ่งมีอาชีพหลักเป็นนักข่าวแต่ทำอาชีพเสริมคือค้าขาย  ปกติสินค้าที่น้องกุ้งขายได้ประมาณ 1-2 ชิ้น / สัปดาห์ หรือมีรายรับ 3000 บาท/สัปดาห์

 แต่หลังจากค่าย 13 ตั้งแต่วันจันทร์-วันพุธ มีรายรับเป็น 7500 บาทสัปดาห์

ส่วนท่านอื่นยังไม่เห็นผลที่ชัดเจนซึ่งจะทำการติดตามผลอีกครั้งคะ

ขอเป็นตัวแทนสมาชิกกลุ่ม 2 กราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์ที่เมตตาช่วยปลดล็อคบรรเทาทุกข์ของลูกหลานคะ และบุญกุศลอันใดที่ลูกหลานได้สร้างไว้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันขอถวายบุญนี้แก่พระองค์และจะตั้งใจปกป้อง 3 ร่มโพธิ์ศรีเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 06:09:35


ความคิดเห็นที่ 661 (1634490)

ายงานผลการอธิษฐานจิตค่าย 13

เช้าวันนี้ได้ SMS จากคุณหนึ่ง (เจิคหทัย) ว่าถ้าได้รับผลบุญด้านการเงินแล้วไม่รายงานจะกลายเป็นคนอกตัญญู คำนี้มันแทงใจเพราะคิดว่าตนเองไม่มีความคิดนี้ในหัว แต่การกระทำเพิกเเฉย ไม่อยากบอกเรื่องส่วนตัว นำไปสู่การไม่รู้คุณคน จึงเริ่มตั้งใจจะเขียนบอกเล่า ลาภลอยของครอบครัว และขอขอบคุณ น้องหนึ่งที่หวังดีมาเตือน

ก่อนอื่นขอเอาคำแนะนำที่น้องหนึ่งเตือนพี่มา post ดังนี้
"อะไรที่เป็นการแสดงความกตัญญูถึงแม้ว่าเราจะไม่แน่ใจว่าเกิดจากบุญไหนใน บ้านสวน หรือเกิดจากการตั้งจิตร่วมกันอธิษฐาน เราคิดง่ายๆว่าเราต้องบอกเล่าความสุขทั้งทางใจและทางฐานะการเงินอะไรที่เรา ได้รับให้ผู้อื่นได้รับเพื่อให้เขาเปิดใจก็ควรจะต้องรีบทำอ่ะคะเพราะจำที่ ท่านอ.พูดได้ว่าถ้าเราได้รับความสุขแล้วไม่ขอบคุณไม่แสดงความกตัญญูความสุข นั้นจะหายไป"

ในค่าย 13 กลุ่ม workshop ของจุ๋ม ได้รวมพลังจี้มาขอบารมีพระศรีอารย์เรื่อง การงาน การเงิน และตั้งใจกันว่า ถ้าใครได้รับผลอันใดให้มาเล่าสู่กันฟัง ตนเองนั้นทางคุณแม่ขายที่ดิน แถวเกษตร นวมินทร์ จำนวน 300 ตารางวาได้ ความจริงแม่ไม่เคยประกาศขาย แต่มีคนมาขอซื้อ 1คนและให้ราคายุติธรรม เขาจึงขาย ส่วนจุ๋มรีบยุว่า ควรขาย เพราะกรุงเทพ น้ำอาจท่วมอยู่ไม่ได้ ประกอบกับปีที่แล้วนำท่วมจริง แม่จึงตัดใจขาย จริงแล้วเขาขายได้ 6 เดือนมาแล้ว โดยมามัดจำเงินไว้ แต่จะโอนเงินกันปลายเดือนนี้ หลังค่าย 13 พอดี เงินของคุณแม่ที่จะได้มาก็ทำให้ฐานะการเงินที่บ้านดีขึ้นอีก เพราะคุณแม่ หลังเกษียณ ท่านก็ใช้เงินอย่างเดียว ไม่มีเงินเข้า

เงินทองที่ได้นี้นอกจากจะเป็นบุญที่คุณแม่ทำมามาก เช่น ท่านได้ไปสร้างตึกหอประชุม รร. ที่อุดร มูลค่ากว่า 2 ล้าน น่า จะรวมตัวกับบุญที่ลูกทั้งสองทำให้กับบ้านสวนพีรามิด อย่างต่อเนื่องมารวมตัวกัน เพราะเงินจำนวนนี้ได้เพิ่มความมั่นคงแก่ครอบครัวตนเองด้วย

นอกจากนี้จิ๋มเขาได้มีโอกาสออกรถใหม่ เพราะใน ช่วงหลังต้องซ่อมรถ toyato ที่ใช้มา10ปีกว่า บ่อยมากๆ จนคิดว่าถึงเวลา จิ๋มเขาพูดเสมอว่าเพราะเขาได้มีโอกาสร่วมทำบุญ รถรุ่นนี้กับ ดร.อาจอง ทั้งนี้ต้นบุญผู้นำคือ ท่านอาจารย์ทั้งสองของบ้านสวน เขาจึงซื้อรถ รุ่นเดียวกันได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ

กราบขอบพระคุณท่านเจ้าของบ้านสวนพีรามิดทุกท่าน และเทวดาของท่านทุกพระองค์ที่ให้โอกาสให้ลูกทำทุกบุญที่บ้านสวน จนได้รับอานิสงค์ต่างๆมากมาย

จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 14:22:07


ความคิดเห็นที่ 662 (1634623)

ขอเล่าต่อคะ

ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ดูคลิปวีดีโอเรื่องแรก "ควายหนีสิงห์ปะจระเข้"

ฝูงควายถูกพวกสิงห์โตไล่ล่าหนีกันกระเจิงมีแต่ลูกควายตัวเดียวที่หนีไม่ทันถูกทำร้ายวิ่งหนีจนตกลงไปในน้ำแล้วยังถูกจระเข้กัดอีก (เข้าตำราหนีเสือปะจระเข้จริงๆเลย)ลูกควายผู้โชคร้ายก็ถูกรุมทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้งจระเข้และสิงห์โต จนในที่สุดฝ่ายสิงห์โตก็กัดลากลูกควายพ้นจากปากจระเข้ขึ้นมาได้(เป็นฝ่ายชนะจระเข้)ลูกควายก็ถูกพวกสิงห์โตรุมกัดต่อ จนมีฝูงควายจำนวนมากวิ่งกันมาที่เกิดเหตุ(น่าจะเป็นควายที่หนีไปตอนแรกไปตามพรรคพวกมาช่วยกัน) ก็มุงดูอยู่ยังไม่ได้ช่วยอะไร จนมีควายใจกล้าอยู่ตัวหนึ่งออกมาเตะสิงห์โตกระเด็นไป แล้วก็มีอีก 1-2 ตัว จากหลายๆสิบตัวที่ยืนเอาใจช่วยอยู่ ออกมาวิ่งไล่ขวิดพวกสิงห์โตที่กำลังทำร้ายลูกควายจนหนีไป ในที่สุดลูกควายก็ปลอดภัย(อย่างหวุดหวิด แทบจะเอาชีวิตไม่รอด)

เมื่อเปรียบเทียบถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์นี้ เราจะเป็นควายตัวไหน

ลูกควาย: อ่อนแอ ช่วยตัวเองไม่ได้จนถูกทำร้าย(ศัตรูจะทำร้ายผู้ที่อ่อนแอที่สุดก่อน)แล้วก็ต้องต่อสู้เพียงลำพัง กว่าจะมีควายใจกล้าซักตัวมาช่วยก็ถูกสิงห์โตรุมกัดแทบเอาชีวิตไม่รอด นอกจากเข้าตำราหนีเสือปะจระเข้แล้ว ยังต้องยึดสุภาษิต ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนด้วย

ฝูงควาย:เป็นพวกควายมุงมากกว่าที่จะคิดช่วย ทั้งๆที่รักพวกพ้อง เป็นห่วง หรืออาจจะสงสาร เห็นใจลูกควายที่ถูกทำร้ายก็ตาม แต่ก็ไม่กล้าที่จะช่วย รักตัวเองมากว่าที่จะเสี่ยงเพื่อช่วยผู้อื่น ถ้ารวมพลังกันก็จะช่วยได้เพราะมีจำนวนและกำลังมากกว่าศัตรูหลายเท่า

ควายใจกล้า: มีควาย 1-2 เท่านั้นที่เป็นผู้นำ เสียสละ คิดช่วยเหลือผู้อื่นไม่กลัวตัวเองว่าจะเป็นอย่างไร กล้าที่จะเผชิญ ปกป้องผู้ที่อ่อนแอ หรือผู้ที่ถูกทำร้าย ควายประเภทนี้ถึงจะเรียกว่ารักเพื่อนพ้องอย่างจริงใจ พร้อมที่จะช่วยผู้ที่เดือดร้อนทุกเมื่อ

สำหรับตัวเองนั้นยังเป็นประเภทควายมุง ยังกล้าๆกลัวๆ รักและหวังดีต่อผู้อื่นน้อยกว่าที่รักตนเอง(เห็นแก่ตัว) นิ่งดูดายเมื่อเห็นคนอื่นเดือดร้อน

 ข้อคิดและปฏิบัติ:ผู้ที่ไม่เคยช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเวลาตัวเองเดือดร้อนก็อย่าหวังว่าจะมีผู้อื่นมาช่วยเรา และพวกเราต้องมีความรักและสามัคคีช่วยกัน ปกป้อง ตอบโต้ผู้ที่ปรามาส ล่วงเกิน ลบหลู่ 3 สถาบันและครูบาอาจารย์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 03:32:58


ความคิดเห็นที่ 663 (1634637)

 ถึงคุณพี่เกียรติพงศ์ และญาติธรรมทาน

น้อยไม่ได้ลืมนะค่ะที่ทำ Work shop กันในค่าย 13

ที่มีปัญหาทางการเงิน สุขภาพ เผอิญกลุ่มของพวก

เราเน้นกันที่ปัญหาการเงิน เพราะทุกคนที่มารวม

กลุ่มกันนั้น ที่เด่น ๆ คือ ปัญหาการเงิน

ไปติดพัน work shop 13 - 14ต.ค55 มาค่ะน้อยขอแชร์ประสบการณ์

ใน Website นี้แล้วและน้อยก็จะพิมพ์วิธีปฏิบัติส่งไปให้คุณพี่นะค่ะ

จากการเก็บสะสมสิ่งดีๆๆๆจากท่านอ.อุบลบอกกล่าวมาน่ะค่ะทั้งหมด

ทั้งมวลอ.อุบลแนะนำมาค่ะตัวเองไม่มีอะไรค่ะ ชีวิตถึงได้แย่อย่างนี้

ละค่ะ โฆษณาซะนาน เข้าเรื่องเลยแล้วกัน

แนวทางแก้ไขปัญหาทางการเงินจากวิธีท่านอ.อุบลแนะนำค่ะ

1. ลงมือตั้งใจรักษาศีล 5 ตลอดชีวิต (ลงมือทำขณะที่อ่านข้อความนี้เลยค่ะ)

2. ตั้งใจทานมังสวิรัติตลอดชีวิต (ลงมือทำขณะอ่านข้อความนี้เลยค่ะ)

      เพราะส่งผลให้ศีล 5 ของเราละเอียดๆๆๆบริสุทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆค่ะ

3. ตักบาตรวิระทะโย ใช้กระปุกหรือบาตรติดคาถาด้านข้างหรือด้าน

    บนว่า(พุทธะ มะอะอุ)หรือเขียนในกระเป๋าใบเล็กๆด้วยเผื่อติดตัวไป

    ไหนด้วยจะได้ตักบาตรวิระทะโยทันที (ทำทันทีได้ทันทีค่ะ)

    ก่อนนำ เงินใส่ในบาตรวิระทะโยกำเงินไว้ในมือบวกกับสวด

    คาถาวิระทะโยไปด้วย 9 จบค่ะ และตามด้วยคาถาเงินล้านด้วย

    9 จบยิ่งดีมากค่ะ

4. นำคาถาวิระทะโย หรือคาถาเงินล้านมานั่งสมาธิค่ะ แต่ท่าน

    อ.อุบลจะเน้นให้นำคาถาเงินล้านมานั่งสมาธิค่ะ และขณะนั่งสมาธิ

    ไม่ต้องอยากรวย อยากได้ อยากมี ทำเผื่อให้จิตใจสงบ สบาย

    แล้วทุกอย่างจะตามมาเองค่ะ

    (ส่วนรายละเอียดของคาถาต่างๆ น้อยจะพิมพ์ส่งไปให้ค่ะ) ปล.

    ขออนุโมทนาบุญกับท่านอ.อุบลและทุกๆท่านค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 06:37:02


ความคิดเห็นที่ 664 (1634807)

*รายงานผลการติดตาม งานกลุ่ม workshop วันอาทิตย์ภาคเช้า โดยมีพี่จุ๋มเป็นหัวหน้าทีม ในการร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอให้ปัญหาต่างๆของสมาชิกในกลุ่มคลี่คลาย

สมาชิก กลุ่มประกอบด้วย : ดร.พี่จุ๋ม - ป้าเตือน - ป้าดวง (แม่น้องตั๊ก) - คุณอร - อ.ณี-หนึ่ง-น้องมะเหมี่ยว-น้องกุ้ง-พี่เอิบ ฉันทนา  

สรุปผลหลังจากค่าย 13 ผ่านไปได้ 1 อาทิตย์

ปัญหาที่ตั้งจิตอธิฐานคือ ขอให้มีสภาพคล่องทาง การงาน การเงิน

ผลที่ คุณอร  อุ่นศรี ได้รับคือ จากก่อนหน้าที่จะเข้าค่าย13 ยอดขายต่อ 1 สัปดาห์

ประมาณ 7แสนกว่า พอมาสัปดาห์นี้ ยอดขายเพิ่มขึ้น เป็น 1ล้านบาทแล้วค่ะ 

ตอนนี้เริ่มหมุนเงินได้ ผ่านเช็คได้ตลอดสัปดาห์เลยค่ะ

พระองค์ทรงเมตตาลูกเหลือประมาณ อย่างหาที่สุดมิได้

กราบขอบพระคุณ พระศรีอาริย์ สิ่งศักดิสิทธิ์ ทั่วมหาจักรวาล เทวดาที่รักษา

ท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์  กราบขอบคุณท่านอาจารย์อุบล อย่างสูงเจ้าค่ะ

                                 กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 19:50:31


ความคิดเห็นที่ 665 (1634868)
image

คุณเหมี่ยว ที่ส่งตาหวานให้น่ะ  ของรจนาเขานะ  เคลียร์คุณมรด่วน!

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย(แป้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 23:20:16


ความคิดเห็นที่ 666 (1634893)

 ผลที่ คุณอร  อุ่นศรี ได้รับคือ จากก่อนหน้าที่จะเข้าค่าย13 ยอดขายต่อ 1 สัปดาห์

ประมาณ 7แสนกว่า พอมาสัปดาห์นี้ ยอดขายเพิ่มขึ้น เป็น 1ล้านบาทแล้วค่ะ 

***************

ยินดีกับคุณอรด้วยนะคะ ยิ่งมาเขียนธรรมทานแบบนี้ด้วยขอให้พ้นจากปัญหาเรื่องหนี้สินเร็วๆนะคะ

 

ขออนุญาติฝากข่าวถึง "คุณแม่น้องตั๊ก ป้าทองดี" ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือคุณป้าได้รับผลอย่างไรก็ฝากให้น้องตั๊กมาเขียนเป็นธรรมทานเพื่อแสดงความกตัญญูต่อสิ่งศักด์สิทธิ์ที่ท่านเมตตา 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 00:08:53


ความคิดเห็นที่ 667 (1634894)

*รายงานผลการติดตาม งานกลุ่ม workshop วันอาทิตย์ภาคเช้า โดยมีพี่จุ๋มเป็นหัวหน้าทีม ในการร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอให้ปัญหาต่างๆของสมาชิกในกลุ่มคลี่คลาย

สมาชิก กลุ่มประกอบด้วย : ดร.พี่จุ๋ม - ป้าเตือน - ป้าดวง (แม่น้องตั๊ก) - คุณอร - อ.ณี-หนึ่ง-น้องมะเหมี่ยว-น้องกุ้ง-พี่เอิบ ฉันทนา  

สรุปผลหลังจากค่าย 13 ผ่านไปได้ 1 อาทิตย์

ปัญหาที่ตั้งจิตอธิฐานคือ ขอให้มีสภาพคล่องทาง การงาน การเงิน

ผลที่ คุณวรางคณา พุฒศรี (น้องมะเหมี่ยว) ได้รับคือ

ปัญหาการงาน  ราบรื่น เจ้านายใจเย็นลงบ้างเล็กน้อย เพื่อนร่วมงานช่วยเหลือเรื่องงานดีค่ะ

ปัญหาการเงิน   ทำงานที่โรงพยาบาลรามาธิบดีโดยจะได้เงินเป็นรายเดือน ก็จะไม่มีเงินส่วนอื่นเข้ามา รายจ่ายยังเยอะเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าไม่เดือดร้อน ใช้จ่ายได้พอดีค่ะ

ปัญหาสุขภาพ  โรคภูมิแพ้ก็ดีขึ้น หายใจโล่งขึ้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 00:13:45


ความคิดเห็นที่ 668 (1634902)

 ขอเล่าต่อค่ะหลังจากหลงหากระทู้ไม่เจอ

จากworkshopช่วงเช้า ได้อยู่กลุ่มคุณจุ๋มจากหัวข้อที่ว่า

เห้นเหตุการณ์วิธีบำบัดจากอ.เมือ่คืนแล้วจะช่วยแก่ปัญหา การเงิน

การงาน สุขภาพได้อย่างไร จึงสรุปว่า ให้ทุกคนในกลุ่มได้บอกเล่า

เรื่องของตัวเองให้ทุกคนรู้กันก่อนที่จะบำบัดกันต่อไป

1.. รวมพลังจี้ได้ให้ทุกคนเอาจี้ออกมาห้อยข้างนอกเพื่อส่งพลังช่วยคนนั้น

2.อาราชธนาบารมีพระศรีอาริย์อัญเชิญให้ช่วยก่อน

ป้าเตือน ที่ได้รู้กรรมของตัวเองจากที่ได้อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์

ขอให้นึกกรรมออกว่าได้เอาน้ำกระทิกรอกปากไก่โดยขุดหลุมขังไก่ไว้

-นำปลาเป็นๆ มาคั่นตัวปลาแล้วเอาเกลือทาทำให้ปวดแสบท้อง

-ขัดปีกไหล่ลูกไก่แล้วหนีบไว้ จึงทำให้ปวดไหล่ ปวดคอถึงหลัง

-และก่อนที่จะมาบ้านสวนฯท้องเสีย ก็นึกได้ว่าได้เอาสลอดตกใส่สัมตำ

ก็ไม่หยิบออก หลังจากส่งบุญเสร็จปัีบก็เจ็บข้อศอกต่อก็นึกได้ว่าเอาไม้ไล่่ตีลิง

3. ขออาราชธนาบารมีรวมทุกอย่างขอให้แก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน

ให้ดีขึ้นหลังอธิษฐานให้ทุกคนรับสัมผัสได้

คุณอร -ขนลุก  ป้าทองดี-มีอาการปิติ  อ.นี-หายเสียวเข่า น้องกุ้ง-หายปวดแขน

น้องหนึ่ง-โล่งคอ อาการปวดหายเป็นชาแทน   ฉันทนา-หายปวดไหล่ คอดีขึ้น

มีอาการชาที่ท้องน้อย  น้องเหมียว-รู้สึกโล่งจมูกขวา ป้าเตือน- ขนลุกทั้งตัว

สรุปปัญหาแต่ละคน

-น้องหนึ่ง ได้อ่านข้อความไม่ดีของราชวงค์ มองจิกค้อนเวลาไม่พอใจ ด้วยสายตา

ปวดบ่าคอ (กรรมจากการตีคอหมา) เบิกเขียนข้อความเป็นเท็จ  พูดเสร็จอาการดีขึ้น80%

ฉันทนาเองได้นึกอนโมทนาตามก็รู้สึกอาการดีขึ้น 80%เช่นกัน ส่วนป้าทองดีมีอาการ

แปลบที่หลังก็ดีขึ้น  สายตาสั้น มีกรรมผิวพรรณ การงาน-ลูกน้องดื้อต้อง

คอยควบคุม มีคนคอยจับผิด สามีหน้าที่การงานดีขี้นได้ปรับเงินเดือนแบบ

ก้าวกระโดด ลูกมีปัญหาสุขภาพ ป่วยบ่อย

-คุณอร มีหนี้สินจากกิจการงานที่หลังหบุดใช้รหัสต้องขอเปิดใหม่ กิจการก็ดีขึ้น

-ป้าเตือน ขี้หลงขี้ลืม ขอให้มีความคล่องตัวทางการเงิน กรรมผิวพรรณ สามีดีขึ้น

-อ.นี  สายตายาว เสียวหัวเข่า สามีใจร้อน อยากให้ลูกเรียนจบไวๆ

-พี่จุ๋ม  มีอุปสรรคในการทำงานเยอะ สายตายาว ไขมันสูง(โกรธง่าย) อยากให้พ่ออายุยืน

-ฉันทนา  สายตาเอียง ปวดท้องน้อย สามีเป็นโรคบ้านหมุน ปัญหาความมั้่นคงทาง

การงานของสามีที่บริษัทแม่อยู่ต่างประเทศ อยากขายบ้านเก่า 

-ป้าทองดี การงาน-เงินดีขึ้นหลังจากเลิกขายเหล้าเบียร์ (ขายดีแต่เงินไม่พอใช้)

พอมาขายของชำทั่วไปดีขึ้น อยากมีรถไว้ซื่อของ สายตามีความดันทำให้อาชีพ

ช่อมผ้ามีปัญหา  จิตไม่มีสมาธิ ปวดขา สารภาพว่าทำแท้งมา กระทืบมือแม่ ฆ่าสัตว์เล็ก

สัตว์น้อย ใช้เท้าขยี้เหรียญ เสียบตูดแมงปอ (ทำให้ท้องเสีย) ร้อยตาปลา(ทำให้ปวดตา)

หลังสารภาพ อาการดีขึ้น ตัวฉันทนาเองก็มีอาการชาซ่าๆที่ท้องน้อยตลอดเวลา

-น้องกุ้ง ไม่ถูกใจหัวหน้า คิดว่าหัวหน้าไม่มีคุณภาพ มีปัญหากระเพาะ-ลำไส้ได้หาย

ที่รร.แทรลเวลเลอร์ มีรายได้เสริมจากการขายตรงดีขึ้น

-น้องเหมียว ได้งานทำแล้วแต่ไม่มีงานทำเพราะขาดอุปกรณ์ ทำเรื่องขอจะได้เดือน

ต.คนี้ คนอื่นต้องรอ 1ปี เงินไม่พอใช้ไม่มีเงินเก็บ สุขภาพอาการตัวร้อนดีขึ้น ภมูิแพ้

แสบผิว ไซนัส ได้ดูดหนอง 2 ครั้ง ปวดหัวเข่าขวา ปวดหัว จิตตกง่าย จิตแว๊บ

ไม่สมหวังในรัก อยากให้ครอบครัวย้ายจากนราธวาส


สรุปปัญหาจากworkshop อาจารย์ได้เมตตาบอกไว้คือ

-การรับฟังปัญหาของพวกเรายังตีโจทย์ไม่แตก ทำให้แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

ซึ่งสำคัณมากเวลาที่เกิดวิกฤต ถ้าเราฟังคำสั่งผู้นำไม่ชัดเจนก็ทำให้การ

แก้ใขล่าช้า ไม่ทันกาลและเกิดผิดพลาดได้ง่าย-

-ทุกคนต้องมั่นฝึกฝน วิเคราะห์ในครั้งต่อไป บ้านสวนฯต้องเปลี่ยนกิจกรรมใหม่

เพื่อให้พัฒนาวิธีคิด และปัญญา วิธีแก้ปัญหาให้ถูกต้องรวดเร็วและฉับไว

ให้ทันเหตุการณ์ให้ได้ ซึ่งก็มีกลุ่มคุณเหมียวกลุ่มเดียวที่สามารถใช้แก้ปัญหา

ได้อย่างรวดเร็ว เอาไว้เป็นตอนต่อไปค่่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 00:47:40


ความคิดเห็นที่ 669 (1634909)

(ต่อเนื่องจากความคิดเห็น281)(ช่องนักข่าวอีสานแชลแนลจำเป็น)

ให้พี่ชายไปสืบข่าว (ร่างทรงพญานาค) ใบ้หวย

(ณ งวด วันที่ 16 ตุลาคม 2555)

วันนี้หวยออกจึงได้ติดตามข่าวร่างทรงฯใบ้หวย

ต่อในระยะนี้ หวยที่ใบ้ให้ ผู้ศรัทธาก็ไม่ถูก

สักตัวเดียวและขอพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าไว้ว่า

ไม่มีที่อยู่แน่นอน..อาจารย์ใบ้หวยคนนี้ยังงัย

(กลับไปได้เมียเด็ก)

ได้ยินคนว่าเมียเด็กที่อ.ใบ้หวยหมายมั่นเป็น

แม่ศรีเรือน..แต่เป็นฉะไนได้...เมียเด็กคนนี้

กลับมาหลอกเอาเงินจากอ.ใบห้วยทะเลาะกัน

กับน้องสาวตัวเองเหมือนกับที่เขาหลอกเอา

เงินชาวบ้านนั้นแหละน๋า...

โอ้ละหนอกฎแห่งกรรม

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 01:22:17


ความคิดเห็นที่ 670 (1635089)
เข้าค่าย 13 มาแล้ว ได้อะไรกันบ้าง ******************* สิ่งที่ได้จากการมาเข้าค่าย 13 ป้าได้รับประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกมากมาย จากความกรุณาของท่านอาจารย์ที่ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ทุกๆคน ซึ่งทุกท่านก็คงทราบดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภัยพิบัติ เรื่องบารมีพระศรีอาริย์ เรื่องการใช้จี้สฟริงค์ ฯลฯ สิ่งที่ป้าได้พบประสบการณ์กับตนเองที่บ้านสวนพีระมิดมีดังนี้ 1. วันอังคารที่ 9 ตุลาคม ป้าได้ไปตัดหญ้าที่แปลงเกษตรตอนบ่าย ฝนตกหนักมาก ก็เลยขอบารมีพระศรีอาริย์และอาจารย์อุบลช่วยด้วยให้หยุดฝนชั่วคราวเพราะป้าจะไปล้างห้องน้ำดีกว่ามานั่งหลบฝนใต้ต้นมะม่วง ท่านก็หยุดฝนชั่วคราวให้ป้าจริงๆ 2. ป้าสวดมนต์นั่งสมาธิตามที่อาจารย์สอนได้เห็นหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ซึ่งท่านมรณะภาพไปแล้ว ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา ท่านมาบอกว่า ป้ามาถูกทางแล้ว บ้านสวนพีระมิดแห่งนี้แหละที่จะนำทุกคนไปสู่นิพพาน 3. ขอบคุณอาจารย์ที่เมตตาให้เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณมาส่งป้ากลับบ้าน แล้วป้าก็หาทางลัดเข้าวังน้ำเขียวบ้านป้าไม่เจอ ป้าจึงต้องขับรถอ้อมเข้าตัวเมืองโคราชที่เป็นทางอ้อม แต่มีไฟฟ้าสว่าง ถ้าไปทางลัดจะมืดและเปลี่ยว จนมาถึงที่บ้านตอนหกทุ่ม จึงขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลและเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณอย่างสูงค่ะ ป้าขอกราบขอบพระคุณ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ในดินแดนพระนิพพาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อปและทุก ๆ ท่านที่ได้ให้โอกาสป้ามาทำบุญใช้แรงกายและเข้าค่าย 13 ในครั้งนี้ด้วยค่ะ กราบเท้ามาด้วยความเคารพอย่างสูง นางณัฐสินี พสิษฐ์ศรี
ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐสินี พสิษฐ์ศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 22:45:18


ความคิดเห็นที่ 671 (1635203)

 กลุมคุณเหมี่ยว)ต่อ)

ในกลุ่ม 10 คน จากที่ได้พังเพื่อน สารภาพไปเรื่อย ยังไม่ได้อาราธนาบารมี

มีอาการปวดแขน ขา เข่า ได้หายทันที 3 คน ป้าน้อยหาย 60%หลังจากสารภาพ

กับจี้ต่อว่าใ้ฃ้ขาทำอะไรมา พอมาคุณก็อต มีอาการตาแดง ขัดเคืองตา บวมเป็น

ถุงใต้ตา ได้รวมพลังจี้ 14 อัน ขอบารมีพระศรีอาริย์ที่อ.ได้อาราธนามาแล้วนำจี้

มาแปะตาไว้ พอเอาออกอาการบวมแดงหาย95*/* จึงสารภาพต่อว่ามองค้อนเมืย

ชอบมองสาว ดูหนังโป็ อาการหายหมดเลย คุณเจี้ยบคันเข่าจนหนังหนาแข็งเป็นปื้นดำ

รักษามา 7 ปีไม่หายขณะใช้จี้มีเหงื่อแตกออกมาซิป..ซิป อาการคันหายไป ได้ขอบคุณ

สิ้งศักดิ์สิทธิ์พออ.เรียกออกมาโชว์หน่อยปรากฎว่ฝิวหนังนิ่มขึ้นและหายดำออกสีเทา.

.เทาขาวเหมือนใกล้หายแล้ว แม่น้อยออกมาพูดทุกคนได้อานิสงฆ์อาการได้หายไปด้วย

คุณนก ปรามาสอาจารย์ ดุว่าพ่อ แม่ ทำให้อาการที่คอไม่หาย  ตั้งสติขอขมาใหม่

อาการดีขึ้นแต่คุณแหม่มไม่แน่ใจให้คุณนกพูดใหม่ด้วยความจริงใจ อาการหาย 100*/*

กลุ่มคุณเอก

ใช้วิธีบำบัดให้แต่ละคนสารภาพอาการหายไป 60-70-90*/*จึงมาวิเคราะห์ต่อว่าให้ขอใช้

และอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ครอบร่างก่อนไม่ต้องถามทำให้ได้รับฝลเพิ่มขึ้จาก

60*/*เป็น90-100*/* บ้าง อาจจะเกิดการอายหรือพูดไม่หมด นึกไม่ออก ต่อจากนั้นจึง

ใช้จี้ทุกคนรวมกันได้ฝลเพิ่มยกเว้นคุณทัศนีย์ที่มีกรรมข้อปาณาติบาตเยอะมาก

ทำให้ได้ไม่เต็ร้อย เพราะเจ้ากรรมไม่ยอม ส่วนพี่แป้นเล่ายังไม่ทันเสร็จก็หายทันที

ด้วยศรัทธาเต็มร้อยการขออาราธนาบารมีจะไม่สามารถช่วยคนที่ไม่ตั้งใจเปลี่ยนแปลง

ตัวเอง จิตไม่เปิด

สรุปไดว่าพลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ต้องเกิดจาก

1.ศรัทธาที่จะใช้

2.ต้องอาราธนาบารมีโดยท่านอ.อุบล

การสารภาพต้องสำนึกฝิดด้วยไม่คิดกลับไปทำอีกซึ่งในกรณีฉุกเฉินหรือ

ภัยใหญ่ใกล้เอามาแล้วต้องใช้วิธีคุณเหมียวที่ต้องช่วยทันที เพื่อให้เกิดพล

ฉับพลันทันที กรณีที่เจออบัติเหติหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินให้ใช้จี้ของเราช่วยทันที่

พรอ้มกับนึกถึงคนที่เรารักเช่นอ.อุบลหรือคนอื่น เพื่อรวมพลังจี้ของทุกคนมา

อยูที่เราซึ่งเป็นพลัง"อนันตจักรวาล"ที่ช่วยใ้ห้พลการรักษาได้อย่างรวดเร็ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 15:10:35


ความคิดเห็นที่ 672 (1635224)

 กลุ่มรศ.เบญจรัตน์

ได้สรุปปัญหาจากการขาดสภาพคล่อง  โดนคุณไสย เจ็บป่วย

จากปัญหาสภาพคล่อง อ.ได้เมตตาพูดว่าสาเหตุหลักเกิดจากการ

ศีลขอที่ 2 ลักทรัพย์ เอาของหลวง โกงภาษี  ชอบของพรี ชอบกิน

เอาของวัดกลับบ้าน โดยเฉพราะของพรีต้องรอการอนุญาติก่อนกถึงจะ

เอามาได้ ต้องต่อสู้กับกิเลสตัณหาให้ได้ ไม่คิดโลภ คิดอยากได้ในของฝู้อื่น

น้องภาบอกว่าได้ทำตามคำสอนของอ.ทำให้ฐานะดีขึ้น เคยมีหนี้บัตรเครดิต

ต้องจ่ายด.บ 18*/* ตอนนี้เหลือ 5*/*แล้ว ซึ่งก็ต้องติดตามฝล+รายงานพลกันต่อไป

กลุ่มเด็ก

มีอายุตั้งแต่ 7-8 ขวบถึง12ปี เด็ก..เด็กได้แสดงออกกันแบบว่าคนมีอายุอย่างเราต้อง

อึ่ง ทึ่ง ไปตามตามกันซึ่งสรุปวิธีแก้ปัญหาของเด็กก็คือ

1.  อธิฐานขอใช้รหัส "อ.อุบลช่วยด้วย"

2.  เข้าไปสารภาพกับอ.อุบลกันเลยให้อ.บำบัดให้

3.  สารภาพกับจี้

4.  มาทำบัญแรงกายที่บ้านสวนฯซิ

5.  ให้สารภาพกรรมที่หน้าจอ ทีวี ในรายการคุยไปแจกไป

6.  ดูคลิปให้ครบ 9 ตอน

7.  เขียนธรรมทานในเวปดีกว่า

8.  ให้มาพูดธรรมทานที่หน้าเวที

9.  เลิกกินเนี้อสัตว์ซิ

10.  รักษาศีล 5 กันด้วยครับ

11.สัตว์ที่ยังไม่ตายอย่าซื้อให้ซื้อที่ตายแล้ว

น้องต้นกล้าช่วยบำบัดให้น้องมาร์คสารภาพกับจี้หาย 100*/*

ในกลุ่ม15 คนหลังจากที่ได้สารภาพว่า ฆ่าไก่ครับ  ขโมยดินสอเพื่อน

ตีหลังหมา แกล้งเพื่อน  หาย 100*/*และอาการดีขึ้น90*/* มี 11 คน

อีก 2-3 คนก็เหลือกันนิดเดียว  ขอกด like ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 16:27:59


ความคิดเห็นที่ 673 (1635253)

 กลุ่มป้าอุ๊

ได้สรุปปัญหาเกิดจากการรักษาศีล 5ไม่ครบ 

ทำหน้าที่ของตัวเองยังไม่ดี ต้องทำให้ดีที่สุดก่อน

ท่องคาถาเงินล้านอธิษฐานจิตทีไ่ด้สร้างบุญสังฆทาน วิหารทาน

โดยไม่อยาก-ลด เลิกการกินเนื่อสัตว์   ทำให้แม้ว่าจะมีรายได้เท่าเดิม

แต่ก็มีความสุขมากขึ้น ค่าใช้จ่ายก็เพียงพอจากที่มีหนี้และไม่พอใช้

จากนั้นทุกคนได้ยกจี้ขึ้นพร้อมกันเพื่อจะสารภาพ มีคนหนึ่ง"จำชื่อไม่ได้

ขอโทษด้วยค่ะ"ได้รู้ขึ้นมาว่ากรรมหนี้สินขณะนี้เกิดจากบรรพบุรุณได้ทำไว้

ทุกคนเคยไม่เห็นด้วยกับการทำโรงน้ำปลาในครอบครัว ซึ่งตอนนี้ได้ทำการ

แบ่งแยกกิจการกันไปแล้ว ก็อยากเลิกทำก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรแทน หลังจาก

ที่ได้ใช้รหัสก็เกิดสติปัญญาว่าน่าจะทำหมักถั่วเืพื่อทำซีอิ้วแทนจะได้ไม่ิพิดศีล

ป้าอุ๊มีอาการเอ็นแขนอักเสบเรื่อรัง รักษามานานมาก ได้ใช้จี้น้องชิมในคืนวันเสาร์

9 องค์ยังไม่หายทันที มีอาการชา่ ก่อนออกไปกดยังเจ็บอยู่และเมื่อยแขนจากการ

ทำงานพอมาเช้าวันอาทิตย์อาการก็หายแล้ว อ.ได้แนะนำว่าเวลาทำงานให้ใช้สติ

อยู่กับงาน และกำหนดลมหายใจเข้า-ออกก็รู้เป็นอานาปานุสติกรรมฐาน จะทำให้

ไม่เหนื่อยไม่เพลีย

กลุ่มน้องขวัญ

จากการที่น้องขวัญได้ใช้จี้บำบัดคนมาได้ 80 กว่าคนเกือบจะครบ99 คนแล้วซึ่ง

ท่านอ.ได้บอกว่าใช้ครบ 99 คนเมื่อไรก็ไม่ต้องใช้จี้แล้วเพราะในร่างกายจะได้รับ

พลัง..ซึ่งจะไหลเวียนในร่างกายทำให้ตัวอุ่นหรือร้อนอยู่ตลอดเวลา  น้องขวัญ

เคยเป็นคนจิตตกง่าย ก็เข็มแข็งขึ้น

จากนั้นได้รวมพลังในกลุ่มที่มีทั้งจี้ ธนบัตร แหวน อุปกรณ์ รวมสิ่งศักดิ์สิทธ์ของ

บ้านสวนได้ 14 อัน มาใใช้พิสุจน็  คนที่ถือก็รู้สึกร้อนและทุกคนที่อยู่ใกล้ก็ได้รับ

พลังนี้เช่นกันทำให้หายปวดแขน 50*/* คนที่อยู่ใกล้ได้รับก่อนหายก่อน ส่วน

คนอื่นก็รู้สึกดีขึ้น โดยไม่ต้องสารภาพ หรือดูรายการ น้องปอหาย90*/*

กลุ่มอ.พันธ์

สรุปได้ว่า1.  ปัญหาด้านสสุขภาพทุกคนได้แจ้งว่าหลังจากมาทำงานเสร็จแล้ว

อาการหายกันหมดแล้ว

2.ใช้วิธีบำบัดช่วยโดย-พูดในเรื่องกฎแห่งกรรม

                                    -สารภาพกรรม

                                    -ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

                                    -ขอบารมีพระศรีอาริย์

                                    -เขียนธรรมทาน

                                    -ใช้วิธีดูจากซีดีแล้วอนุโมทนา

                                    -พิมพ์ธรรมทานจากเว็ปแล้วแจกเพื่อจะได้ทำตามและอนุโมทนา

                                       ก่อนถามความรู้สีกและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร้บ้าง

อ.พันธ์ไม่เคยเขียนธรรมทาน พี่ชายได้ไม่สบายจึงนำซีดีไปให้ดูแล้วอนุโมทนา

ทำตามอาการก็ดีขึ้นและหาย แต่อ.พันธ์ไม่ได้มาเขียนธรรมทานจึงทำให้พี่่ชายอ.พันธ์

เปํนฯหายฯ ท่านอ.อุบลบอกว่าองค์พระศรีอาริย์ต้องการให้ทุกคนเขียนธรรม เพราะทุก

กระทู้อ.อุบลท่านได้ส่งบุญไปช่วยทุกธรรมทานเพื่อเชื้อมบุญให้กับทุกคนจึงมีฝลดี

มหัศจรรย์ทั้งฝู้อ่านและฝู้เขียน 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 19:22:51


ความคิดเห็นที่ 674 (1635258)

 กลุ่มคุณอมร

โดยเริ่มแรกได้บอกทุกคนรวมพลังและพูดว่าขณะนี้อ.อุบล

อยู่ตรงนี้แล้วและให้ทุกคนได้สารภาพเหมือนอยู่ต่อหน้าท่านอ.

และได้ใช้ศีลข้อ 3 เป็นตัวกำหนดที่ทำให้มีความทุกข์ ขาดสภาพคล่อง

ทางการเงินและการงานทีเกิดจากการทำแท้ง  ชอบสร้างภาพและสรุป

คือเป็นพวกบ้ากามทั้งหลาย 55 "เค้าบอกเองค้า" หลังจากกพูดแล้ว

คุณอมรอาการหลังยอกหาย คุณมิ้นดีขึ้น 80*/* น้องแหวน ป้าติ๋มก็อาการ

ดีขี้นในระดับหนึง จากนั้นเป็นการรวมจี้ของทุกคนและอ.อุบลช่วย

คุณมิ้นหายเจํบคอ 80*/* พอหลังจากที่คุณอมรขึ้นมาพูดรายงานคุณมิ้นบอก

หาย100*/*แล้วค่ะ

จากเหตุการณ์เมื่อคืนวันเสาร์ได้มีการพิสูจน์พลังจี้หลายองค์รวมกัน เหตูเกิดจาก

น้องชิมได้รับอานิสงฆ์จากการรับกล่องพัสดุที่ส่งจี้มาให้ทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

จนไม่ได้กินข้าวกันเลย  หลังจากที่ได้ช่วยแต่ละคนหายเจ็บป่วย ดีขึ้นกันแล้วไม่ว่า

ป้าพรที่ดีใจจนเกือบร้องให้ น้องลิน อ.นีและคนอื่น  ปรากฎว่าน้องชิมบอกว่า

อ.ครับฝมปวดขา ท่านเลยถามว่าเอาขาไปทำอะไรมาน้องชิมสารภาพว่าเดินไปในที่

อโคจร เที่ยวกลางคืืน แต่ก็ยังไม่หาย เพราะไม่ยอมบอกให้หมดก่อนทีจะสารภาพว่า

ไปทำมิดีมิร้ายกับสาวโอเกะมา อาการจึงหายหมด 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 19:55:00


ความคิดเห็นที่ 675 (1635399)

หลังกลับจากค่าย 13 สิ่งที่ได้รับ

ได้เขียนถึงปัญหาที่ว่าสุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้ป่วยบ่อย พอหลังกลับมาจากค่าย 13 สิ่งที่เปลี่ยนแปลง คือใจของหนูเองค่ะ เนื่องจากจะมีแมวที่ป่วยเป็นโรคชักอยู่หนึ่งตัว หนูต้องคอยขังให้เขาอยู่ในกรงตลอด กลัวว่าถ้าปล่อยไปแล้วเขาขึ้นหลังคา เกิดชักขึ้นมาแล้วตกลงพื้น จะเป็นอันตรายต่อชีวิตเขาได้ และแม่ก็จะว่าบ่อยๆว่ามันบาปนะ และแม่ก็พูดขึ้นมาคำนึงว่า จะไปขังมันทำไม ปล่อยมันเถอะ ถ้ามันถึงเวลาตายมันก็ตาย แต่ถ้ายัง มันก็รอด พอหนูฟังคำพูดนี้ ตอนนั้นมันจุกเลยค่ะ น้ำตาคลอเลย และเหมือนคิดได้ ว่าจริงอย่างที่แม่พูดนะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม่ก็มักจะพูดบ่อยๆ แต่มันไม่เข้าใจ ไม่เข้าหัว ได้แต่คิดในแบบที่ตัวเองเข้าใจ คำพูดของแม่ในครั้งนี้ทำให้จิตของหนูเริ่มปล่อยวางได้มากเลยค่ะ และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ หนูก็เลิกขังแมวแต่ก็ยังมีบ้างบางเวลา แต่ไม่มาก แต่ที่สำคัญแมวตัวนี้ไม่ค่อยชักแล้วค่ะ พึ่งจะมาชักเมื่อหลายวันก่อนแค่ครั้งเดียว แต่ก็ไม่เป็นอะไร ทั้งที่เมื่อก่อนชักถี่มาก 3 วันชักที แต่นี่เป็นเดือนๆแล้วพึ่งชักแค่ครั้งเดียว และแมวตัวอื่นๆที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว บางตัวก็มีอาการทรุด หนูก็พาไปหาหมอ และก็เลือกที่จะใช้น้ำพีระมิดที่ได้มาจากบ้านสวนฯ ขออาราธนาบารมีขององค์พระศรีอาริย์ ท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ จี้องค์เทพสฟิงซ์ อธิษฐานขอให้น้ำพีระมิดนี้ เป็นน้ำทิพย์โอสถให้น้องแมวตัวที่ป่วยได้กิน ถ้าหากเขายังไม่ถึงอายุขัยก็ขอให้เขาอาการดีขึ้น กินอาหารได้ หลังจากที่กินน้ำพีระมิดนี้ไปแล้ว แต่ถ้าเขาจะถึงอายุขัยแล้ว ก็คืออาการจะเหมือนเดิมคือไม่ยอมกินอาหารแต่ให้ทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นกับเขา จงอย่าได้มี ขอให้เขาไปสบายที่สุดค่ะ พอหลังจากที่แมวได้กินน้ำพีระมิดแล้ว เขาก็ยังไม่กินอาหารเหมือนเดิม แต่ดูเขาก็ไม่ทรมานนะคะ และอีกไม่กี่วันเขาก็จากไป และมีอีกหนึ่งตัวเริ่มทรุดจากโรคเดียวกัน ก็ใช้วิธีเดิมด้วยค่ะ แต่ตัวนี้เริ่มกินอาหารได้เอง กินมากด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นค่ะ ถึงแม้ว่ายังไม่ปกติ 100% และสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ จิตใจของหนูไม่ทุกข์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในเรื่องที่เกี่ยวกับน้องแมว อาจจะมีบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนทั้งจิตตก กังวล เป็นห่วงสารพัด ทุกข์มาก เข้าขั้นวิตกจริตเลยค่ะ ทุกข์จนวันๆไม่ยอมทำอะไรเลย ทำทุกวิธีที่จะให้แมวรอด ถึงขั้นเริ่มเบียดเบียนตนเอง ซึ่งทำถึงขนาดที่คุณพ่อพูดว่า หนูจะเอาชนะความตายหรอ (ซึ่งในความหมายก็คือ มันเป็นไปไม่ได้) แต่ตอนนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้วค่ะ และตอนนี้ทำให้หนูคิดได้อีกหนึ่งเรื่อง ที่หนูเขียนขอบารมีพระศรีอาริย์ ให้หนูมีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิตใจของหนูในเรื่องนี้ ทำให้หนูพึ่งรู้ว่า นี่เราเข้มแข็งขึ้นแล้วนิ เราไม่ทุกข์ใจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และเราสามารถที่จะมีความสุขได้ทุกสถานะการณ์ เพราะเริ่มยอมรับกฏของความเป็นจริงในเรื่องของไตรลักษณ์ได้แล้ว และสิ่งที่ขอไปมันได้เกิดขึ้นกับเราแล้วจริงๆค่ะ

และอีกเรื่องค่ะ คือคุณพ่อที่ป่วยหลายโรค มีสุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้นค่ะ ดูท่านมีความสุขทั้งกายและใจ แต่วันนี้มีเหตุ เพราะเมื่อช่วงสายๆได้เข้าไปคุยกับคุณพ่อ แล้วพ่อบอกว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ท่านก็นอนหลับดีทุกคืน พจน์เลยถามว่าได้คล้องจี้องค์เทพสฟิงซ์หรือเปล่า พ่อบอกว่าคล้องนะ ตอนนี้ก็คล้องคออยู่ ก็เลยบอกให้พ่อใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วยค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านจะใช้หรือเปล่า เห็นฟังแล้วก็เงียบๆไป แต่สิ่งที่พจน์คิดได้คือ เรายังไม่ได้มาเขียนธรรมทานเรื่องนี้เลย มัวแต่พลัดวันประกันพรุ่ง ขี้เกียจ ตอนนี้ท่านคงมาเตือนเราแล้ว จริงๆปัญหาเรื่องที่คุณพ่อป่วยหลายโรคนี้ พจน์เขียนขอพระเมตตาจากองค์พระศรีอาริย์มาโดยตลอด น่าจะทุกครั้งที่ได้ไปบ้านสวนฯเพื่อชมบารมีพระองค์ท่านเลย และก็ได้รับผลที่ทำให้คุณพ่อสุขภาพดีขึ้นมาตลอด แต่ยังไม่เคยมาเขียนในเรื่องนี้เลย มีแต่มาเขียนเรื่องที่บูชาจี้องค์เทพสฟิงซ์ให้คุณพ่อ และได้รับผลคือคุณพ่อมีสุขภาพดีขึ้น ทำให้รู้สึกตัวเลยค่ะ ว่าเรานี่ชั่งอกตัญญูเหลือเกิน ที่ได้รับความสุขแล้วไม่ยอมมาเขียนธรรมทานเพื่อขอบคุณพระองค์ท่าน กว่าจะทำได้ต้องรอจนกว่า กลับไปทุกข์เหมือนเดิม ลูกสำนึกได้แล้วค่ะ ลูกขอน้อมกราบขอขมาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ องค์พระศรีอาริยเมตไตรย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลค่ะ ที่ลูกอกตัญญู ขี้เกียจ ผัดวันประกันพรุ่ง ไม่รีบเขียนธรรมทานในสิ่งที่ได้รับ ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป จนต้องได้รับสัญญาณเตือนถึงจะคิดได้ ลูกจะปรับปรุงตัวเองใหม่ค่ะ ลูกขอน้อมกราบขอขมาอีกครั้งค่ะ

และลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ องค์พระศรีอาริยเมตไตรย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ กราบขอบพระคุณท่านอาจาย์อุบลค่ะ ที่ช่วยให้ลูกและครอบครัวได้รับความสุข มีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น รวมทั้งปัญหาต่างๆได้รับความคลี่คลายให้ดีขึ้น กราบขอบพระคุณในพระเมตตาที่ได้มาเตือนลูกให้ได้รู้ตัวและมีโอกาสได้ปรับปรุงแก้ไขตัวเองใหม่ในครั้งนี้และทุกๆครั้งที่ผ่านมาค่ะ ขอกราบขอบพระคุณอย่างที่สุดเลยค่ะ

และต้องขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับธรรมทานจากพี่สิงห์ป้อมด้วยค่ะ (ไม่แน่ใจว่าอยู่ในกระทู้ไหนค่ะ) ที่ทำให้ตัวพจน์เองได้หันกับมามองดูตัวเอง สำรวจตัวเอง และได้เห็นตัวเพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไขตัวเอง จากกระจกเงาที่เกิดจากธรรมทานของพี่ป้อม ขอขอบคุณจริงๆค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 14:54:04


ความคิดเห็นที่ 676 (1635411)

หลังกลับจากค่าย 13 สิ่งที่ได้รับ

ปัญหาที่เขียนขอรับพระเมตตาจากองค์พระศรีอาริย์ในการร่วมกิจกรรมเข้าค่าย 13 มีดังนี้ค่ะ ปัญหาหนี้สิน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เกียจคร้าน คุณพ่อป่วยหลายโรค สุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้ป่วยบ่อย ขอให้จิตใจเข้มแข็ง กล้าหาญ เด็ดเดี่ยวในการทำความดีให้มากขึ้นค่ะ

ซึ่งจาก คห. 676 ปัญหาที่ลูกได้รับพระเมตตาแล้วก็มี คุณพ่อป่วยหลายโรค สุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้ป่วยบ่อย ขอให้จิตใจเข้มแข็ง กล้าหาญ เด็ดเดี่ยวในการทำความดีให้มากขึ้นค่ะ ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ ได้รับผลให้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้วค่ะ

แต่ว่ายังคงมีปัญหาหนี้สิน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เกียจคร้าน ที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งตัวหนูเองยังนึกไม่ออกเลยค่ะว่า จะคลี่คลายยังไงในเรื่องปัญหาหนี้สินและการเงิน แต่พอเมื่อสักพัก คุณสามีพึ่งมาเล่าให้ฟังว่า ได้คุยโทรศัพท์กับน้องชายเมื่อหลายวันก่อน แล้วน้องบอกว่า เงินที่ยืมไป ที่คุณสามีจะใช้คืนให้ปลายปีนี้ หลังจากที่ได้เงินคืนภาษีรถคันแรกแล้ว แต่น้องบอกว่ายังไม่ต้องคืน ให้เอาไปหมุนเป็นเงินทุนก่อน (เหมือนประมาณว่าขอฝากไว้ก่อนนะ ถ้าเอามาคืน เดี๋ยวกลัวว่า จะเอาไปใช้หมด อันนี้หนูคิดเอาเองอ่ะค่ะ แต่บังเอิญว่าคิดดังไปหน่อยค่ะ อิอิ) ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เรามีทุนมาหมุนเวียนภายในร้านแล้วค่ะ คือก่อนหน้านี้ตอนที่ยังขายยาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลงอยู่นั้น เราจะไปรับของจากร้านที่เราสนิทสนมกับเถ้าแก่ แล้วซื้อขายกันแบบเครดิต คือไปเอาของมาขายก่อน พอขายได้ ไปเอาใหม่ก็เอาเงินของเก่าไปจ่ายค่ะ ก็คือเหมือนให้เขาลงทุนให้ แต่พอเลิกขาย ทุนของตัวเราเองที่มีอยู่ก็ไม่มากค่ะ พอจะเปลี่ยนไปทำอะไร คุณสามีก็มักจะบอกว่าเราไม่มีทุนนะ คือทำให้จะไปทำอะไรใหม่ๆก็ยังทำไม่ได้หรือถ้าทำก็เหมือนกั๊กๆไว้แบบทำได้ไม่เต็มที่ แต่พอน้องมาบอกอย่างนี้แล้ว ก็เริ่มเห็นหนทางแล้ว ถึงแม้ว่าเงินก้อนนี้ยังไม่ได้รับคืนก็ตาม ซึ่งถึงตอนนี้แล้ว หนูรู้แล้วค่ะว่า พระองค์ทรงเมตตาช่วยให้ปัญหาเรื่องการเงินของหนูจะคลี่คลายได้ยังไงค่ะ ส่วนเรื่องเกียจคร้านนี่ หนูคิดว่าคนที่จะเป็นผู้แก้ไขก็คือตัวของเราเองนี่แหล่ะค่ะ ถ้าเราไม่คิดที่จะขยันแล้ว มันก็คงจะขี้เกียจอยู่แบบนี้ อยู่ล่ำไปค่ะ ตัวเราก็ต้องแก้ไขตัวเราเองนี่แหล่ะค่ะถึงจะถูก

และขออีกเรื่องค่ะคือ เมื่อคืนวันพุธหนูได้ขอบารมีพระศรีอาริย์ช่วยให้หนูหายจากอาการคันตามตัวและแขน พอมาเมื่อวานในระหว่างวันก็ได้ท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์ มาสังเกตุดูตัวเองอีกที อาการคันหายหมดแล้วค่ะ แต่พอมาช่วงกลางคืนก็กลับมาคันอีก แล้วแขนนี่ เกาจนเป็นแผลเต็มไปหมด เมื่อคืนเลยขอใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วยค่ะ ขอให้แขนหายคัน และแผลที่เป็นอยู่ขอให้มีอาการดีขึ้นด้วยเถิด และตอนที่ขอก็ได้ทายาไปด้วยค่ะ พอเช้ามาอาการโดยรวมดีขึ้นค่ะ ประมาณ 80% แผลที่เป็นอยู่ไม่อักเสบและแขนดูเรียบเนียนขึ้น และอาการคันก็หายไปประมาณ 80% ยังคงเหลืออยู่นิดหน่อย ซึ่งอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจจะมีบางท่านคิดว่าเกิดจากยาที่ทาหรือเปล่า ขอยืนยันค่ะว่า ไม่ใช่แน่นอน เพราะยาตัวนี้ทาก่อนนอนทุกวัน ตั้งแต่มีอาการมา แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าจะดีขึ้นเลย อันนี้ขอยืนยันอีกทีค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะบารมีของทุกๆพระองค์ที่ได้ช่วยลูกแน่นอนค่ะ

ขอเพิ่มเติมอีกนิดค่ะ พึ่งจะนึกขึ้นได้เดี๋ยวนี้เองค่ะว่า ตั้งแต่กลับจากค่าย 13 หนูก็ได้ท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์มาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 ต.ค.วันละ 99 จบขึ้นไป ท่องทุกวัน จนถึงวันนี้เกิน 9 วันแล้วก็ยังท่องอยู่และคิดว่าจะท่องไปเรื่อยๆให้ได้ทุกวันเลยค่ะ และการที่หนูได้ท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์ตามที่ท่านอาจารย์ได้แนะนำทุกคน ในวันเข้าค่ายว่า ให้ท่องวันละ 99 จบ ให้ได้ 9 วัน แล้วปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลาย ซึ่งตอนแรกที่หนูท่องไปก็ไม่ได้คิดอะไรนะคะ และก็ไม่ได้คิดถึงด้วยว่าจะได้รับผลอะไร คิดแค่ว่าท่องเพื่อฝึกสมาธิและสติเท่านั้นเอง ซึ่งตอนนี้หนูขอยืนยันกับทุกท่านค่ะว่า หนูได้ทำตามที่ท่านอาจารย์บอก และก็ได้รับผลตามที่ท่านอาจารย์บอกแล้วค่ะ และก็เห็นผลแบบชัดเจนมากๆเลยค่ะ ขอยืนยัน and คอนเฟิร์มเลยค่ะ

ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณในพระเมตตาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ บารมีพระศรีอาริยเมตไตรย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่รักษาท่านอาจารย์อุบล บารมีของท่านอาจารย์อุบลที่ได้เมตตาช่วยให้ปัญหาต่างๆของลูกได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นทุกๆด้านเจ้าค่ะ ลูกจะตั้งใจทำความดีทุกทางตามที่ท่านอาจารย์ได้สั่งสอนให้ได้ค่ะ ขอน้อมกราบขอบพระคุณอย่างที่สุดเลยเจ้าค่ะ สาธุ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 16:38:46


ความคิดเห็นที่ 677 (1635529)

หนูยังไม่ได้เขียนสองเรื่องสำคัญค่ะ จากการไปทำบุญด้วยแรงกายและร่วมกิจกรรมต่างๆตอนเข้าค่าย 13

เรื่องแรก ผิวหน้าหนูดีขึ้นมาก จากตั้งแต่เด็กที่เหมือนเป็นโรคเรื้อรัง มีผดผื่น และเส้นเลือดฝอยแดงเห็นได้ชัดที่แก้ม หน้าจะแดงมากเหมือนแพ้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อน ออกกำลังกาย มันเหมือนเห่อขึ้นมาค่ะ แต่หลังจากเข้าค่าย13 ปฏิบัติตามโปรแกรมกิจกรรม หน้าแดงน้อยลงมากอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

แต่ว่ากลับจากค่าย ลืมเขียนอานิสงส์เรื่องผิวพรรณ ทำให้หน้าหนูกลับมาแดง สิวขึ้น แต่วันก่อนนึกขึ้นได้และนำไปเขียนในเว็บพลังจิต หน้าหนูกลับมาดีขึ้นมากค่ะแทบจะเหมือนตอนวันค่าย 13 แต่พอยังไม่ได้เอามาเขียนที่เว็บบ้านสวน วันต่อมา สิวก็ขึ้นอีก พอตอนนี้กำลังเขียน หน้าก็เริ่มดีขึ้นค่ะ

เรื่องที่สอง คืนวันศุกร์ก่อนวันเข้าค่าย หนูนอนไม่ค่อยหลับ มาวันเสาร์ ท่านอาจารย์เมตตาบอกตอนปฐมนิเทศน์ว่า คนที่นอนไม่หลับ เพราะยังมีกรรมเยอะ (จำคำพูดเป๊ะๆไม่ได้นะคะ) เตือนสติหนูให้สร้างบุญให้มากขึ้น แล้วในคืนวันเสาร์ หนูได้เล่าเรื่องใช้จี้ช่วยคนให้ท่านอาจารย์ฟัง แล้วไปนอน ปรากฏว่าหลับสนิทเลยค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล พระศรีอาริย์ และเทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ค่ะในความเมตตาอันประมาณมิได้ ท่านมีแต่ให้สิ่งที่ดีกับหนูมากมาย

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 14:09:20


ความคิดเห็นที่ 678 (1635662)

      หลังจากกลับค่าย 13แล้วได้รับความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

         ปัญหาที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินและสุขภาพต่างๆ ได้เริ่มรับการคลี่คลายอย่างต่อเนื่อง

 โดยวันเข้าค่ายได้จัดกิจกรรมอยู่ในกลุ่มของ รศ.เบญจรัตน์ และคุณภาและท่านอื่นๆ ซึ่งสมาชิก

ขาดสภาพคล่องทางการเงิน  เจ็บป่วย  โดน คุณไสย  หนูขอรายงานผลค่ะ   ซึ่งหลังจากวันกลับ

ได้ไม่กี่วันหนูก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าโทรมาติดต่อขอสั่งสินค้าจำนวนมาก  ซึ่งสินค้าตัวนี้เคย

ติดต่อกันมาตั้งนานแล้วแต่ก็เงียบหายไปนึกไม่ถึงว่าลูกค้าคนนี้จะติดต่อกลับมาอีก   และวันศุกร์

ที่ผ่านมาหลานสาวติดต่องานมาให้อีกกำลังจะขอติดต่อลูกค้าเร็วๆนี้  ถึงยังไม่ได้เห็นเป็นตัวเงิน

แต่ก็ดีใจที่งานติดต่อมาไม่ได้ขาดเลย

        หนูและสามีจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดค่ะ  และยังมีเรื่องของสามีที่อยากจะเล่าประสบการณ์ด้วย

ตนเองค่ะ

       กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระศรีอาริย์  ท่านท้าวเวสสุวรรณและสิ่งศักดิ์

สิทธิ์ทุกๆพระองค์  เทวดารักษาท่านอ.อุบล  และอ.อุบลและครอบครัว  กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น จิตจุฑา จิรนิธิ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 11:50:43


ความคิดเห็นที่ 679 (1635671)

                  หลังจากกลับค่าย 13 แล้วได้รับความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

        ผม นายกชพล   สันติทวีสุข   ขอรายงานตัวและรายงานผลจากที่ได้ร่วมกลุ่มกับอ.พันธ์  เรื่อง

ปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน  ตั้งแต่กลับมาลูกค้าที่เคยมีปัญหาเรื่องค่าว่าจ้างได้โทรกลับมา

หาใหม่อีกครั้งตกลงเจรจากันด้วยดี  ซึ่งผมกำลังจะตกลงงานเร็วๆนี้  และขณะที่ผมออกไปทำงาน

ผมห้อยจี้องค์สฟิงซ์ไปด้วยทุกครั้ง  รู้สึกถึงการเจรจากับลูกค้าราบรื่นมากขึ้น

ลูกค้าตอบตกลงทำงานง่ายขึ้นทั้งๆที่ผมลองเจรจาดูปรากฎว่าเขาก็เออออง่ายมาก " ทำก็ทำ "

แถมยังมีญาติลูกค้าเชียร์แทนผมอีก  ส่วนเรื่องสุขภาพด้วยอานิสงส์บุญแรงกล้านี้ทำให้หูดทางนิ้ว

กลางขวาหายทั้งๆที่เป็นมานานเรื้อรัง  และต่อมาหูดที่มือก็หายตาม  

         ผมขอกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์พระสัมสัมพุทธเจ้า  พระศรีอารืย์  ท่านท้าวเวสสุวรรณและสิ่ง

ศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์  เทวดาที่รักษาอ.อุบล  อ.อุบลและครอบครัว  กราบ  กราบ  กราบ   

 

            

 

           

ผู้แสดงความคิดเห็น จิตจุฑา จิรนิธิ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 12:36:52


ความคิดเห็นที่ 680 (1635714)

 

*รายงานผลการติดตาม งานกลุ่ม workshop วันอาทิตย์ภาคเช้า โดยมี ดร.จุ๋มเป็นหัวหน้าทีม ในการร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอให้ปัญหาต่างๆของสมาชิกในกลุ่มคลี่คลาย
สมาชิก กลุ่มประกอบด้วย : ดร.พี่จุ๋ม - ป้าเตือน - ป้าดวง (แม่น้องตั๊ก) - คุณอร - อ.ณี-หนึ่ง-น้องมะเหมี่ยว-น้องกุ้ง-พี่เอิบ ฉันทนา  
สรุปผลหลังจากเข้าค่าย 13 ผ่าน   ปัจจุบัน ป้าเตือน พบว่า
ปัญหาที่ตั้งจิตอธิฐานคือ  ขอให้หายจากการมีกลิ่นปาก,ระบบท้องไส้,มีดวงตาเห็นธรรม
 
   1. จากเดิมที่เคยมีกลิ่นปากตอนนี้กลิ่นปากหายไปแล้วค่ะ
   2. สภาพคล่องทางการเงินไม่ติดขัด พอมีพอใช้ตลอดไม่ขัดสน
   3. แต่ก่อนจะมีเรื่องให้ชวนขึ้นปากเสียงกับสามี เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ปะทะคารมกันแล้ว  หรือถ้า
       สามีเริ่มหาเรื่องก่อน ป้าเตือนก็จะคิดว่านั่นเรานี่นา เคยไปด่าว่าทำเขาก่อน ไม่โต้ตอบดีกว่า
       เฉยไว้ ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไปโต้เถียงกัน  ใจนิ่งขึ้นมากๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องโต้คารมกันแล้วค่ะ
   4. ตั้งแต่ที่มีอาการถ่ายท้อง ก็รู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาก เบาสบาย โล่ง  จิตใจเยือกเย็นขึ้นเยอะค่ะ
       ที่สำคัญ มีโอกาสได้ถ่ายทอดธรรมทาน โดยจะเขียนใส่สมุดบันทึกไว้เรื่อยๆ  พอน้องอัญมาหา
       ก็จะให้พิมพ์แทน  บางครั้งก็โทรให้น้องอัญเขียนให้หากนึกได้  ป้าจะพยายามเขียนธรรมทานให้ได้ทุกวันเพื่อเป็นการตอบแทนคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ของบ้านสวนพีระมิด และท่าน อ.อุบลค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 20:39:41


ความคิดเห็นที่ 681 (1635727)

    รายงานกลุ่ม workshop วันอาทิตย์ภาคเช้า โดยมี ผศ.เบญจรัตน์ ศรีทองสุข  เป็นหัวหน้าทีม ในการร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอให้ปัญหาต่างๆของสมาชิกในกลุ่มคลี่คลาย  ซึ่งกลุ่มอัญ แปลกมากไม่มีใครที่มีอาการเจ็บป่วยในขณะนั้น  แต่ปัญญาของสมาชิกกลุ่มส่วนใหญ่กลับเป็นเรื่องของ  การขาดสภาพคล่องทางการเงิน  ยังมีหนี้สิน  ปัญหาทางการงาน ปัญหาทางครอบครัวไปซะส่วนใหญ่

     หลังจากกลับจากค่าย 13 แล้ว  ก็พบว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับตัวเองดังนี้.-

1. ตอนที่ไปเข้าค่ายเป็นไข้หวัดใหญ่ยังไม่หายดี แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน และไม่ค่อยปรากฏอาการเด่นชัด  กลับมาก็มีอาการดีขึ้นและหายได้  โดยไม่ต้องทานยาที่หมอให้มา 

2. ก่อนมาเข้าค่ายได้ให้เงินสามีไปซื้อรถไถ ยังกังวลว่าจะขายได้เมื่อไหร่ไม่รู้ ถ้าสามีขายไม่ได้หรือติดมือนาน คงเครียดแน่ๆ ในการหมุนเงิน  เพราะสามีบอกว่าคนซื้อรถไถรอเงินกู้จาก ธกส.อยู่ทำเรื่องไว้จะ 2 เดือนแล้วยังไม่อนุมัติเลย   พอกลับจากเข้าค่าย สามีบอกว่าขายรถไถได้แล้วนะ 2 คัน ส่วนลูกค้าที่รอเงิน ธกส.ก็ได้เงินแล้ว  โล่งอกเลยค่ะ

3.ปกติเวลามาทำกิจกรรมบุญที่บ้านสวนทุกครั้งกลับบ้าน สามีจะมีอาการงอนนิดๆ บางครั้งไม่ยอมมารับ-มาส่งขึ้นรถ  หนนี้สามีไม่แสดงอาการอะไรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  จากแต่เดิมจะไปบ้านสวนต้องคอยโกหกเพื่อมาทำบุญ  อ้างสารพัด  พอรู้ว่า   ท่าน อ.อุบลประกาศว่าใครที่มาบ้านสวนแบบ แอบหนีสามี-ภรรยามา โกหกมา  มาแบบไม่โปร่งใส ท่านไม่ให้เข้าบ้านสวน  ตั้งแต่นั้นก็มาจึงต้องใช้ รหัส อ.อุบลช่วยด้วยก่อนจะขออนุญาติสามีมาทำบุญ  ซึ่งได้ผลว่า สามียอมให้มาแต่ต้องต่อรองเรื่องเวลา ใจอัญอยากมาทุกเดือน จ้องจะลาพักร้อนมาทำบุญเป็นอาทิตย์  ซึ่งสามีบ่นไม่มีเวลาให้กับเขา พักร้อนก็ไปแต่ทำบุญ  ฉุกคิดได้ค่ะว่าบางครั้บเราต้องสายกลางบ้าง เพื่อไม่ให้เสียทั้งทางโลก และทางธรรม  ท่าน อ.มงคลก็เคยแนะนำอัญในตอนนั้น อย่าให้กระทบกับทางครอบครัว  ถือว่า ณ.ตอนนี้กับสามีพอใจแล้วค่ะ  แม้เขาไม่สนใจมาทางธรรมะ แต่ไม่ขัดขวางการทำบุญของอัญ ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ

        ต้องขอกราบขอบพระคุณครอบครัวท่าน อ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ รวมทั้งเทวดาประจำตัวท่าน อ.อุบล , บารมีพระศรีอาริย์ที่ทรงเมตตาอัญให้ก้าวเดินมาถึงตรงจุดนี้ได้ค่ะ

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 21:30:15


ความคิดเห็นที่ 682 (1635730)

หลังกลับจากค่าย  13

แล้วเขียนธรรมทานเรื่องขาอาการที่เคยเป็น

นั่งนาน ๆ เท้าจะบวม ปวดส้นเท้า ปวดโคนขา

หายไปหมดแล้ว ดีใจมาก ๆ เลย

ลูกขอกราบพระบาทขอบพระคุณ

 

สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย์

 

ที่ท่านอาจารย์อุบลอาราธนามา

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ในบ้านสวน

ที่ได้โปรดเมตตาให้ลูกหายจากอาการเจ็ยป่วยต่าง ๆ

อาการตามัว ตาฟางดีขึ้นนิดหน่อย

เพราะได้ใช้ตาดุ ค้อน ตำหนิ ลูกศิษย์ ลูก สามี

ใช้ตาดูภาพโป้ ภาพลามก หนังสือลามก

ดูคลิบโป้ อนาจาร ทั้งเคยเปิดห้องน้ำดูลูกชาย

ขณะป่วยอยู่โรงพยาบาล  ดูตรวจสอบเอกสารเท็จ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

และท่านเจ้าของบ้านสวนทุกท่าน

ลูกขอกราบถวายบุญ ศีล ทาน ภาวนา ที่ตั้งใจทำ

ทุกภพ ทุกชาติ และบุญที่ทำที่บ้านสวน

แด่ทุกทุก พระองค์

และถวายแด่เทวดาที่รักษาท่านเจ้าของบ้านสวน

ทุกท่านด้วยนะเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 21:41:51


ความคิดเห็นที่ 683 (1635770)

 หลังกลับจากค่าย 13 สิ่งที่ได้รับ

สิ่งที่ได้รับเห็นผลคือ

1.ผลของการปฏิบัติจิตสงบและไปได้เร็วขึ้น

2.อารมณ์จิตนิ่ง สงบมากขึ้น

แม้ว่ามีอารมณ์อื่นมากระทบอย่างแรง

ทำให้ปัญญาเกิด มองเป็นเรื่องธรรมชาติ

ของเรื่องนั้นๆ มากระทบจิตเรา

ไม่คล้อยตามภาวะอารมณ์ที่เราไม่ชอบ

แม้จะเจอเรื่องที่ไม่ถูกใจเรา

3.บุคคลรอบข้างที่ไม่ค่อยเห็นด้วย

หรือมีความเห็นแย้งกับเรา

เริ่มเห็นด้วยกับวิธีปฏิบัติของตัวของเรา

4.ลูกนิสัยเปลี่ยนไปดีขึ้น และสอบถามวิธีปฏิบัติธรรม

อยากลองปฏิบัติเหมือนพ่อ

5.งาน คล่องตัวมากขึ้น

งานบางอย่างที่จะไม่สำเร็จ

ลูกค้าก็เปลี่ยนใจไปแล้ว กลับเปลี่ยนใจ

มาสนใจและตกลงใจทำกับเรา

และงานบางอย่างที่คิดว่าลูกค้าคงไม่ทำหรอก

แต่ก็ขอทำกับเราทั้งๆที่ที่อื่นให้ราคาถูกกว่าเราเยอะ

ลูกค้าให้เหตุผลสั้นๆคือ อยากทำกับเรา ทำแล้วรู้สึกสบายใจดี

5.โรคริดสีดวงที่จะชอบ เป็นๆหายๆ

ก็เหลือเพียงนิดเดียว..

วิธีปฏิบัติส่งผลให้สำเร็จ ทุกๆครั้งก็จะเอามือ กดองค์จี้สฟริงซ์แนบกับอก

และขอรหัสอ.อุบลช่วยด้วยทุกครั้งครับ

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล

และสิ่งศักดิ์ทุกๆพระองค์ที่สถิตย์ที่บ้านสวน

ครอบครับของอ.อุบลด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 08:50:12


ความคิดเห็นที่ 684 (1635879)

โพสต์แทน

ธรรมทานจาก คุณไพศานต์ จันทร์ศรีเจริญ จ.พิษณุโลก
เรื่องที่ 1    เมื่อแรกเข้าบ้านสวนฯ
คุณไพศาลได้ร่วมเข้าค่าย 13 ที่ผ่านมา ประทัยใจมาก วันแรกมาถึงบ้านสวนก็ได้ใช้
แรงกายทันทีทั้งที่อ่อนเพลียกับการเดินทาง แต่พอทำงานไปก็หานเหนื่อย เพราะทุก
คนมุ่งมั่นขยันขันแข็ง และอ.อุบลก็ใจดีมาก บรรยายเข้าใจง่าย ทำให้กลัวเรื่องบาปบุญ
มากขึ้น ครั้งต่อไปเมื่อมีโอกาสก็จะหาโอกาสมาอีก

เรื่องที่ 2    เรื่องวินมอเตอร์ไซด์
ตอนมาส่งเอกสารให้คุณแมวได้ว่าจ้างมอเตอร์ไซด์รับจ้างจากบ้านนา มาบ้านสวน
ระหว่างทางเขาเล่าว่า ที่บ้านสวนนี่ จะเป็นการระดมทุนหรืออะไรซักอย่างหรือเปล่า
ประมาณนี้ ผมก็นึกในใจ เอทำไมปากไม่ดี สงสัยอยู่ใกล้แค่นี้ไม่เคยมา พอวันเข้าค่าย
ผมเดินทางมาบ้านนา เพื่อต่อรถลงมาบ้านสวน ก็มาเจอมอเตอร์ไซด์คันเดิม เมื่อจะ
ว่าจ้างผมก็ให้เขารอ ผมก็ไปทานข้าวในตลาด พอออกมาก็ไม่เจอมอเตอร์ไซด์คันนั้น
แต่มาเจอรถมอเตอร์ไซด์อีกคันซึ่งจอดรออยู่ ผมนึกในใจคงเจอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษที่
ปากไม่ดีก็ไม่ต้องได้เงินเพราะราคาเหมาก็ 150 บาท ถ้าแกพูดว่ามากกว่านี้อาจจะ
เจอหนักกว่านี้ก็ได้

เรื่องที่ 3
ผมขับรถไถนา พอดีมือไปขัดกับเหล็กทางด้านหัวแม่มือ ซึ่งตอนแรกก็เจ็บน่าดู พอผม
ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยสักพักใหญ่ อาการเจ็บก็ค่อยๆทุเลาลงไม่บวม ไม่เจ็บ
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณสิ่งศักดิสิทธิ์ที่ประทานผ่าน อจ.อุบล มาให้ช่วยเหลือมนุษย์

เรื่องที่ 4
เมื่อเดือนที่แล้วผมอยู่ก็ปัสสาวะเป็นเลือดโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นอยู่ประมาณ 1 วัน
ซื้อยามาทานก็ไม่หาย เลยนึกขี้นได้ขอใช้รหัส อจ.อุบลช่วยด้วย ปรากฎว่าพอวันรุ่งขึ้น
ไปหาหมอที่ รพ. หมอเอ็กซเรย์ ตรวจป้สสาวะ ก็ไม่พบอะไร ก็เลยทำใบส่งต้วต่อไปที่
รพ.ประจำจังหวัด ผมกะว่าอีก 2-3 วันค่อยไป แต้อาการผมดีขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้
ผมก็ยังไม่ได้ไป กระผมรู้สึกว่า รหัสอจ.อุบลช่วยด้วยนี้ศักดิ๋สิทธิ์จริงๆ และจะพยายาม
บอกต่อกับคนอื่นต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 21:35:11


ความคิดเห็นที่ 685 (1635883)

จากความคิดเห็นที่ 676 หลังจากที่ได้เขียนธรรมทาน ถึงผลที่ได้รับ เกี่ยวกับสุขภาพของคุณพ่อแล้ว หลังจากที่ได้รับผลแห่งความสุข แล้วไม่ยอมมาเขียน และได้รับความเมตตาเตือน จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ด้วยอาการนอนไม่หลับของคุณพ่อ โดยไม่มีสาเหตุ แต่หลังจากที่มาเขียนแล้ว ปรากฏว่าคืนนั้นคุณพ่อเริ่มนอนหลับได้ แต่มีอาการไอ คืนถัดมาก็ดีขึ้นจากคืนแรก คือหลับแต่ก็ยังไออยู่แต่น้อยกว่าคืนแรก และคืนที่สาม คือเมื่อคืนนี้ คุณพ่อบอกว่านอนหลับได้ดี แต่ยังมีอาการไออีกนิดหน่อยค่ะ ซึ่งดูจากสีหน้าของท่านแล้วดูสดชื่น มีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าสองคืนแรกมากเลยค่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ลูกต้องขอน้อมกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ องค์พระศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่ได้เมตตาคุณพ่ออีกครั้งและให้โอกาสลูกได้ปรับปรุงแก้ไขตัวเองค่ะ ขอน้อมกราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 21:45:31


ความคิดเห็นที่ 686 (1635957)

 

 

 

 ธรรมทานของคุณบุญเรือน (พี่เรือน)กุลพญา

ชมบารมีพระศรีอาริย์ พบปาฎิหาริย์มากมายในค่าย 13

        ธรรมบำบัดในคืนวันเสาร์ ข้าพเจ้าได้ชมบารมีพระศรีอาริย์หลากหลายรูปแบบ โดยตัวของผู้เข้ารับการบำบัดคล้องสร้อยที่มีจี้ 9 องค์ของคุณชิม ขออนุโมทนากับคุณชิมด้วยที่จี้ 9 องค์ ได้บำบัดให้คนหายป่วย

ôป้าปุ๊ มีอาการปวดขา เดินไม่ถนัดและแขนยกขึ้นได้ไม่สุดแขน ปรากฎว่าเมื่อคล้องจี้ 9 องค์แล้ว อาการปวดขาและแขนยกขึ้นได้ไม่สุดก็หาย

ôป้าพร หูฟังเสียงไม่ค่อนได้ยิน มาหลายปี เมื่อคล้องจี้ 9 องค์ปรากฎว่า หูได้ยินชัดขึ้น

ô น้องรินลูกอ.พัน เท้าขวาเดินไม่ตรง เมื่อคล้องจี้ 9 องค์ ปรากฎว่า เท้าเดินได้ตรง

ô น้องวิ หูฟังอะไรไม่ค่อยได้ยิน เมื่อคล้องจี้ 9 องค์ ปรากฏว่า หูได้ยินชัดขึ้น

ฯลฯ

 

 

******************

การทำ Work shop

            การรวมกลุ่มแสดงความคิดเห็นในการเข้าค่าย 13 นี้ ข้าพเจ้าได้รับความรู้มาอีกอย่างหนึ่งคือถ้าเรามีจี้หลายๆองค์ มารวมกันแล้ว จะทำให้มีพลังมาก สามารถรักษาคนให้หายในฉับพลันทันที เช่นในกลุ่มของคุณเหมี่ยว คุณเจี๊ยบ มีอาการคันที่หัวเข่า ใช้จี้ 14 องค์ในกลุ่ม รวมกันแล้วอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ โดยไม่ได้สารภาพบาปเลย และปรากฏว่า คุณเจี๊ยบมีอาการเหงื่อแตกและอาการคันที่หัวเข่าก็หาย ผิวหนังที่คล้ำ ก็จางลง เนื้อกลางบริเวณหัวเข่าก็นิ่มด้วย

² คุณก๊อต มีอาการเจ็บและอักเสบตา ใช้จี้ 14 องค์ อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ และสารภาพบาป อาการอักเสบที่ตาก็หายแบบฉับพลันทันที เลย

² คุณตุ๊ดตู่ แฟนลุงเบิ้ม มีอาการปวดหลังมานาน อยู่กลุ่มเดียวกับข้าพเจ้า ได้สารภาพกับจี้ในกลุ่มหลายอัน และอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ปรากฏว่าอาการดีขึ้น 80 % เมื่อขึ้นไปรับบารมีพระศรีอาริย์และเดินผ่านท่านอาจารย์ ผล หาย 95 % เหลือเขียนธรรมทาน

          วันอาทิตย์หลังกลังจากบ้านสวนฯ ข้าพเจ้ามีอาการเจ็บที่ไหล่นิดหน่อย ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนธรรมทานวันจันทร์อาการที่ไหล่ก็หายเจ็บ

          ดีใจกับคุณแหวนด้วยค่ะที่มีชีวิตดีขึ้นทุกๆด้านและสามีก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ดีขึ้น หลังจากกลับจากการเข้าค่ายแล้ว สังเกตตัวเองชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง ใจเย็นลง การเงินก็ดีขึ้นมาบ้าง แล้วก็ท่องบท พระศรีอาริย์ 99 บทต่อวัน ติดต่อกันประมาณวันที่ 5 มีอาการผิดปรกติในท้อง คล้ายๆกันท้องจะเสีย

          การใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย ถ้ามีใจตำหนิติเตียน แล้วรหัสจะใช้ไม่ได้ผล เราอย่าไปจิตตกกับคนที่ไม่เชื่ออ.อุบลเลย เพราะว่าขนาดพระพุทธเจ้าคนฟังยังไม่เชื่อท่านทุกคนเลย เพราะสัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนเอง อย่าลังเล และสงสัยในความดีของพระพุทธองค์ จงช่วยกันเผยแพร่และขยายความดีของพระพุทธองค์

****************

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 03:17:56


ความคิดเห็นที่ 687 (1636169)

 

รายงานผล work shop 13 หลังจากกลับบ้านหน่อยนะคะ
หลังจากกลับจากค่าย 13 ที่ท่านอ.อุบลให้พวกเราท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์ 99 จบ / วันนะค่ะ คือ นู๋ได้ท่องจบแล้วรู้สึกว่าอาการที่เคยเจ็บตรงบ่าไหล่ เนี่ย เวลานอนตื่นมาตอนเช้าจะรู้สึกตึง ๆ และปวดแต่พอสวดจบครบ 9 วัน อาการตึง และปวดหายและดีขึ้น 90 % ส่วนเรื่องงานและเรื่องครอบครัวก็ดีขึ้นตามลำดับ การเงินก็มีสภาพคล่องขึ้น ปัญหาต่างในชีวิตประจำวันก็คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนอาที่ชอบปรามาสพระรัตนไตรก็ดีขึ้นรู้สึกจะควบคุมความคิดได้ (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า) และคิดอย่างไรก็จะได้อย่างนั้นถ้าไม่ผิดศิลธรรม(คล้าย ๆ มีฤทธิ์ทางใจ) อันนี้น่าจะเกิดจากจี้ ซึ่งหนู๋รู้สึกอย่างนี้มาตั้งแต่สวมจี้แล้วค่ะ ยกตัวอย่างเช่นที่จำได้นะคะ คือ หนูเอาจี้ (อุปกรณ์)ไปเลี่ยมกรอบ คนเลี่ยมเค้าคิดเงินองค์ละ 150 หนูเลี่ยม 3 องค์ ก็จะเป็นเงิน 450 บาท พอหนูจะไปรับจี้ระหว่างเดินไปก็นึกว่า “ขอให้คนขายเขาลดให้หนูสัก 50 บาททีเถอะ” พอไปถึงร้านหนูก็รับจี้มาแล้วบอกเขาว่า 400 บาทได้ไหมลด 50 บาท คนขายเขาก็ลดให้โดยไม่ต้องใช้เวลาคิดเลยค่ะ และอีกหนึ่งตัวอย่างคือ หนูจะจ่ายค่าแรงคนงานซึ่งจำนวนเงินที่รับมาประมาณ 8 แสนกว่าบาทกลัวเงินไม่พอจ่าย หนูก็คิดในใจโดยนึกถึงจี้ที่ห้อยอยู่ในคอว่า ขอให้ค่าแรงงวดนี้ ไม่เกิน 6 แสนก็พอ โอ้โฮไม่น่าเชื่อแต่ต้องเชื่อค่ะ พอโทรไปถามคนคิดค่าแรงเค้าบอกว่าให้เอาเงินมาจ่ายประมาณ 6แสนก็พอ  เพราะจ่ายค่าแรงแค่ 5แสนกว่า ๆ ไม่เกิน 6 แสนบาท ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพลังงานของจี้สฟิงส์ของบ้านสวนพีระมิดแท้เลยค่ะลูกขอกราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาอ.อุบลทุก ๆ พระองค์ โดยเฉพาะบารมีพระศรีอาริย์ที่ท่านอ.อุบลที่เป็นผู้อัญเชิญมาอยู่ในจี้สฟิงส์ และที่สำคัญที่สุดคือผู้อัญเชิญคือท่านอ.อุบลค่ะ
กราบ กราบ กราบ
มีอีกตัวอย่างค่ะ คือพริกเข้าตาหนูใช้จี้ประกบไว้ที่ตาแล้วบอกว่าอ.อุบล ช่วยด้วย ขอให้หายแสบตา ระหว่างนั้นหนูก็นับเลขในใจประมาณ 120 ครั้งหรือ 2 นาที ก็หายแสบตาค่ะ
สุรดา ศรีสุข ผู้แสดงความคิดเห็น
 
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 00:13:06


ความคิดเห็นที่ 688 (1636664)

จิ๋ม ชัชวลี ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับค่าย 13 ด้วยคนว่า

ค่าย 13 เป็นการบูรณาการงานสอนคนขึ้นมาใหม่ โดยใช้คนที่เป็นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และให้เรียนกันเอง โดยการป้อนคำถาม และใช้ความคิด และประสบการณ์ของแต่ละคน มารวมกัน เพื่อที่จะได้ตำรา หรือ วิชาการใหม่ ๆ ขึ้นมา การเรียนแบบนี้ ไม่ต้องใช้หนังสือเรียน หรือตำรา ก็ได้ แต่ให้ผู้เรียนคิด และแต่งตำรามาเอง โดยครูผู้สอน จะเป็นผู้แนะแนวให้เท่านั้น  จิ๋มจำได้ว่าตอนอยู่มหิดลนั้น เขาพยายามที่จะจัดรูปแบบการเรียนการสอนให้เป็นแบบนี้ เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักใช้สมองส่วนหน้า คือ ความคิด มากกว่าสมองส่วนหลัง คือ ความจำ การคิดเยอะ ๆ ก็จะทำให้คนฉลาดขึ้น พอคิดเป็น ครูก็ช่วยตลบๆ ให้คิดถูกต้องตรงตามธรรม ไม่ให้เฉไฉ ไปในทางต่ำก็เท่านั้น

แต่การเรียนแบบนี้ เราต้องมีเวลาทำการบ้าน และค้นคว้ามาก่อน เช่น การเรียน ปริญญาโท หรือ เอก อาจารย์อาจให้แค่ หัวเรื่อง นักศึกษา ก็ต้องไปอ่านและค้นคว้ามาเอง การค้นเอง คิดเอง จะทำให้การเรียนรู้ซึมลึกเข้าไปในกายใจ ได้ดีกว่าท่องจำ

ขอยกย่องท่านอาจารย์อุบล ที่ได้เปลี่ยนแนวทางการสอนธรรมะ มาเป็นการทำ workshop เป็นการเรียนธรรมะ ที่ทันสมัย และนำธรรมเข้าไปในใจ ได้ดี พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ตามที่ท่านอาจารย์สังเกตเห็น

ขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล และคุณท๊อป ที่เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อข่วยผู้คนให้เข้าถึงธรรม

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 22:37:28


ความคิดเห็นที่ 689 (1637684)

 

ปรามาสในหลวงควรทำยังไง ดี เล่าโดย จิ๋ม ชัชวลี
ใน workshop ค่าย 13 มี หัวข้อนึงที่เราร่วมกันทำ โดยมีคำถามที่ว่า ถ้าพบคนมาปรามาส พระเจ้าอยู่หัวของเรา พวกเราจะช่วยยังไงที่ทำให้เขาได้สติ ไม่ทำบาปเช่นนั้น
      จำได้ว่าตั้งแต่อยู่บ้านสวนฯมา การที่ทำกรรมกับพระเจ้าอยู่หัวนั้น ผลรุนแรงมาก เช่น ทำให้เจ็บป่วย การงาน การเงิน ขัดข้อง ไม่ราบรื่น และอื่น ๆ อีก แม้กระทั่งเหยียบเหรียญบาท หรือเหยียบแบงค์ ก็ได้อานิสงค์เช่นกันแล้ว ดังนั้นเพื่อที่จะสกัดกั้นกรรมชั่ว ในฐานะลูกบ้านสวนพีระมิด ที่ได้ก่อตั้งขึ้นมาทำบุญถวายในหลวง เราจะทำยังไงกันดี ลองมาติดตามใน workshop ค่าย 13 กัน
      ขั้นแรก เราก็ต้องทราบก่อนว่าเขามีประเด็นอะไรที่จะมาปรามาสท่าน
1 ประเด็นลวงโลก เขาจะคิดว่าภาระกิจที่ในหลวงทำนั้น ไม่จริง เป็นการทำหลอก ๆ
2. เป็นการสร้างภาพ การที่ท่านช่วยคนต่าง ๆ มากมายเพียงเพื่อท่านสร้างภาพพจน์ให้ประชาชนรัก
3.ในหลวงอยู่เบื้องหลังการปลงพระชนม์ ร.8
4.เขาคิดกันว่าท่านยังเล่นการเมืองอยู่ ยังอยู่เบื้องหลังรัฐบาล
      ถ้ามีคนพูดเช่นนั้น ให้ท่านรีบตอบไปว่า
-     คุณใช้เงินใครอยู่ เงินที่คุณใช้ทุก ๆ วันมีรูปพระเจ้าอยู่หัวใช่มั๊ย ทำไมไม่สำนึกบุญคุณ
-     คุณอาศัยแผ่นดินของใครอยู่ แผ่นดินไทยได้ถูกปกป้องโดยพระมหากษัตริย์ไทยทุก ๆ พระองค์ จนมาถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 ของเรา เราเป็นพสกนิกรที่อาศัยแผ่นดินท่านอยู่ ทำไมยังจะมีจิตคิดปรามาสท่านอีกหรือ
-     เราดีเท่าท่านหรือยัง ที่จะคิดลบหลู่ท่าน เราไม่มีอะไรดีกว่าท่าน ยังจะกล้าพูดเช่นนี้อีก
-     ให้ลองยกตัวอย่างกฎแห่งกรรมของคนที่เคยปรามาสท่าน ชีวิตหลังจากนั้น จะมีแต่ความทุกข์ยาก เจ็บป่วยและพบปัญหาชีวิตมากมาย
ที่สำคัญขอให้ท่านโต้ตอบทันที อย่ารีรอ เพราะให้นึกเสมอว่าถ้าใครมาว่าพ่อของเรา เราต้องสู้เพื่อท่าน
ตัวอย่างขอคนในทีมที่ร่วม workshop เขาได้ถวายอายุขัยของเขา 1 ปี ในทุก ๆ 10 ปีที่เขามีชีวิตอยู่ให้แก่พระเจ้าอยู่หัว พบว่าชีวิตของเขาดีขึ้นมีแต่ความสุข
พวกเราอย่าช้าอยู่ใย ถ้าเจอใครปรามาสพระเจ้าอยู่หัว ต้องช่วยกันค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 08:08:10


ความคิดเห็นที่ 690 (1638151)

 นางสาวกัลยาณี  ทิมขาวประเสริฐ

 

สิ่งที่ได้รับจากค่าย 13
อย่างแรกเลยก็คือความสุขค่ะ สุขใดเล่าจะมาเท่าสุขใจ บุญกุศลที่เราสร้าง ผลบุญที่ได้รับอย่างแรกก็คือความสุขทางใจ ต่อจากนั้นก็คือจิตใจที่เปลี่ยนไป จากก่อนหน้านี้จิตใจจะฟุ้งซ่านบ่อย ไม่ค่อยมีสมาธิ ถ้าเจอกับปัญหาที่มากระทบ จิตตกเลยค่ะ จะต้องคิดโน่น นี่ นั่นสารพัดเลย แต่เดี๋ยวนี้ก็ลดลงไปแล้วค่ะ เริ่มที่จะปล่อยวางได้แล้ว ก็เป็นผลมาจากการได้ไปทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด ได้ขอบารมีพระศรีอาริย์ และการสวดบทบูชาพระศรีอาริย์ และค่าย 13 นี้ ทำให้ได้เห็นถึงพลังความรักความสามัคคีของพี่น้องบ้านสวนได้เป็นอย่างดีจากการทำ workshop. ได้รู้วิธีการรวมพลังจี้ 1 องค์ สามารถเพิ่มเป็นหลายๆองค์ได้ เพียงแค่เรานึกถึงจี้ของลูกบ้านสวน ก็จะสามารถเพิ่มพลังให้กับจี้ของเราได้ และได้เรียนรู้ธีรการใช้จี้ช่วยเหลือผู้อื่นจากพี่น้องบ้านสวน ทำให้มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น และได้รับรู้ถึงพระเมตตาของพระศรีอาริย์ที่มีต่อลูกหลานอย่างสุดประมาณ ขนาดคนพิการพระองค์ยังทรงเมตตาให้หายเป็นปกติได้
ปัญหาอีกอย่างที่ขอนอกเหนือจากสมาธิก็คือปัญหาผิวพรรณคือภูมิแพ้ผื่นคันและเป็นสิวบนใบหน้า หลังจากกลับจากค่าย 13 หนูก็ได้เขียนธรรมทานวันเข้าค่าย แต่ว่าไม่ได้เขียนในสิ่งที่ตนเองได้รับกลับมา คือหลังจากกลับจากค่าย 13 สิ่งที่หนูเห็นได้ชัดที่สุดก็คือ จิตใจที่เป็นสมาธิมากขึ้น แต่เรื่องสิวหนูก็ไม่แน่ใจเพราะรู้สึกว่ามันเหมือนเดิม และภูมิแพ้ที่ไม่คันมาระยะนึงแล้วก็ไม่แน่ใจว่ามันหายไปแล้วหรือเปล่า เพราะหายไปตั้งแต่ก่อนที่จะไปค่าย13 นานแล้วเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้เพิ่งกลับมาคันโดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนแรกหนูคิดว่าคงเป็นผลจากการสวดบทบูชาพระศรีอาริย์ ที่จะขับของไม่ดีออกมา เพราะว่าสิวหนูขึ้นเยอะกวาเดิม เรียงแถวกันมาเลย บริเวณใบหน้าที่ไม่คิดว่าจะขึ้น ก็ขึ้นมาเม็ดเบ่อเร่อเลย ตอนนี้หนูรู้แล้วค่ะว่าเป็นเพราะหนูอกตัญญู ได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่เคยแสดงความกตัญญูเลย หนูกราบขอขมาต่อองค์พระศรีอาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และท่านอาจารย์อุบลต่อไปนี้หนูจะแสดงความกตัญญูโดยการมาเขียนธรรมทานให้มากขึ้นค่ะ
หนูกราบขอบพระคุณในพระเมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ พระศรีอาริย์และท่านอาจารย์อุบลค่ะ
 
กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 21:23:11


ความคิดเห็นที่ 691 (1638152)

 นางทองดี   ทิมขาวประเสริฐ

 

สิ่งที่ได้รับจากการเข้าค่าย 13 คือ ได้ปัญญา รู้วิธีการช่วยเหลือผู้อื่นแบบเร่งด่วน ทันเหตุการด้วยการบอกรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยให้ใช้ทันทีที่มีอาการเจ็บหรือปวด เมื่อก่อนเวลาเผยแพ่หรัสบางคำถามที่เค้าถาม บางครั้งก็จะอธิบายไม่ค่อยได้ ตอนนี้มีความมั่นใจและตื่นตัวในการเผยแพร่รหัสมากขึ้น รู้จักวิธีใช้จี้ช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างถูกต้อง และมีความมุ่งมั่นด้วยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือคนให้มากขึ้น
และสิ่งที่อธิฐานขอบารมีพระศรีอาริย์ หลังจากกลับจากบ้านสวน สายตาก็มองเห็นชัดเจนขึ้น ประมาณ 60-70% ส่วนเรื่องความดันสูง ตอนนี้ก็ดีขึ้น ไม่รู้สึกปวดหรือมึนหัวแล้วค่ะ ตั้งแต่เริ่มสวดบทบูชาพระศรีอาริย์ เวลานั่งสมาธิรู้สึกว่าจะหายใจได้โล่ง เต็มอิ่ม เพราะเมื่อก่อนจะรู้สึกหายใจไม่ค่อยเต็มอิ่ม และเวลาทำงานต่างๆจะไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยและจิตไม่ค่อยฟุ้งซ่านเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ
ลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ พระศรีอาริย์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวมากๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 21:24:08


ความคิดเห็นที่ 692 (1638364)

 

และต่อไปนี้
จะถือเป็นกฏข้อหนึ่ง
ซึ่งเป็นข้อสำคัญยิ่ง
ในการที่ใคร
จะเข้าไปบ้านสวนพีระมิด
จะต้องมีธรรมทาน
ชีวิตตัวเอง
ถ่ายเอกสารเตรียมไปแจกด้วย
ทุกคน
ต้องส่ง อ.อุบล ก่อน
แล้ว อ.อุบล จะเป็นผู้ให้ทีมงาน
กลั่นกรอง และ
แจกธรรมทานของคุณเอง
ส่วนใครจะมีสำเนา
จากในเวปที่คนอื่นเขียนไปแจกด้วย
ก็ยิ่งดี แต่ยึด ของตนเอง เป็นหลัก
เริ่มสัปดาห์นี้เลย
ก็แล้วกัน
ส่งข่าว
ไปหลายๆกระทู้ด้วยนะจ๊ะ
และ
ถ้าคุยกันได้ ก็บอกกันด้วยนะ
มิฉะนั้น
หมดสิทธิ์เข้าบ้านสวน
นะจ๊ะจะบอกให้
******
 
อย่าไปมือเปล่า 
นำเอาธรรมทานที่ตัวเองเขียน
หรือ พริ้นท์ ออกมา
ถ่ายเอกสาร ไปแจกจ่ายด้วย
 
ที่บ้านสวนฯ
เป็นแหล่งรวมผู้คน
ที่เป็นนักแสวงบุญ ปรารถนาบุญใหญ่
เมื่อแจกจ่าย เขาจะอ่านแน่นอน
และนำไปแจกต่อแน่นอน
 
(นี่แหละที่ว่า คนเขียน+คนแจก
ก็จะรอดปลอดภัย จากภัยพิบัติ
 จะหายเจ็บ หายจน)
 
พวกเรา
ต้องต่างคนต่างแลกเปลี่ยนกันอ่าน
แลกเปลี่ยนกันแจกจ่าย
รีบเร่งถ่ายเอกสาร
แจกทั้งของเรา และ ของเพื่อนเรา
ที่เขาแจกเรามา
 
เหมือนการต่อเทียน
ถ้าเราแจกคนเดียว หรือ แจกแต่
เฉพาะของเรา ก็เท่ากับ
มีเทียนส่องสว่างเล่มเดียว
 
แต่ถ้า
เราแจกออกไป
รับคนที่แจกเรามาแล้ว
ช่วยกันแจกต่อ
 
ก็เท่ากับว่า
เรามีเทียนส่องสว่าง
หลายดวง ยิ่งมีเทียนมาก
แสงสว่างก็ยิ่งมาก
 
ความสุข+ความดี+ความสมหวัง
ก็จะบังเกิดขึ้นมากมาย
ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์
  
เริ่มตั้งแต่บัดนี้
วันนี้+อาทิตย์นี้เลยนะจ๊ะ
 
ดูสิว่า
บุญธรรมทาน ส่งผลทันที
เป็นอย่างไร
 
นี่เป็น
ปรากฎการณ์ใหม่
นะจ๊ะ
 
แล้วเรามาพิสูจน์ผลกัน
สัปดาห์นี้เลย
 
หรือใคร
ได้อานิสงส์ก่อน
ก็รีบมาเล่าเลยนะจ๊ะ
 
                                                                                                         ผู้แสดงความคิดเห็นอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 22:16:51



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 [7]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.