ReadyPlanet.com


13-14 Workshop การช่วยคนรอบข้าง+ตัวเอง จากการเจ็บป่วย+ความจน+ภัยพิบัติ แบบเห็นผลทันที


สัปดาห์

13-14 ต.ค.55 นี้

เราจะมีการทำกิจกรรมแบบเข้มข้น

เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาร่วมงาน

ได้เรียนรู้วิธีการ

ช่วยเหลือคนรอบข้าง

คนที่เรารู้จัก พบเจอ ตลอดจนตัวเราเอง และ ครอบครัว

 

จากอาการเจ็บป่วย

พิการเรื้อรัง

ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน

 

ตลอดจน

วิธีเอาตัวรอดจากภัยพิบัติ

สัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ

วิญญาณร้าย

คนพาลสันดานหยาบ

 

ถ้าต้องพบเจอ

 

ชมควิป วี.ดี.โอ

เรื่องจริง

ที่เราจะต้องพบเจอ

แล้วจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

อย่างไร

 

โดยจะร่วมกัน

ทำ Workshop ระดมสมอง

ให้เห็นผล เป็นที่ยอมรับได้

พิสูจน์ได้ทันทีทันใด

 

ส่วนเรื่อง

สภาพคล่องทางการเงิน

ต้องมีการติดตามผล

รายงานผล

 

งานนี้

เราจะเตรียมพร้อม

รับงานวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.55

 

ซึ่ง

ดร.จิ๋ม อาสา

เป็นเจ้าภาพจัดงานอีกครั้ง

โดยขอให้

เพื่อนฝูง ญาติมิตร

มาร่วมงานได้แบบที่โรงแรม

แต่

ย้ายมาเป็นบ้านสวนฯ

เดี๋ยวจะแจ้งข่าวต่อไป

 

สำหรับทั้ง 2 งานนี้

จะรับเฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติ

มีภาวะผู้นำ ฉับไวในการเขียน

ธรรมทาน แก้ปัญหา

 

สำหรับ

13-14 ต.ค.55 นี้

ไม่ต้องส่งรูปและสำเนา

เพียงขออนุญาต

ล่วงหน้า 2-3 วันโดยจะมี

กรรมการกลั่นกรอง

 

หลังจาก 13-14 ต.ค.55

เราก็จะมาแจ้งผล

หรือ

เขียนธรรมทาน

ในกระทู้นี้

และ

จะเปิดกระทู้ใหม่รายสัปดาห์

เพื่อบันทึกผลแยก

กิจกรรมแต่ละสัปดาห์ให้

ผู้อ่านหาอ่านง่ายขึ้น

 

ใครจะร่วมกิจกรรม

เชิญมาลงชื่อ แสดงความเห็น

ส่งเสียง และ เสนอแนะได้

ในกระทู้นี้จ๊ะ

 



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-09 20:37:36


<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4]

ความคิดเห็นที่ 301 (1635083)

อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด

แสดงอนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์

ก็เพราะว่า เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้คน

เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์

การแสดงกฏแห่งกรรม สอนเหตุและผล

คือสิ่ง อ.อุบล ทำมาตลอด

และวิธีการนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาลทรงสรรเสริญ

สิ่งที่พิสูจน์ว่าทุกพระองค์สรรเสริญวิธีนี้

คือ ปรากฏการณ์ที่คนหายป่วยทันที

 

แต่ถ้าอาจารย์ ทำบ้านสวนขึ้นมา แล้วแสดงปาฏิหาริย์อื่น ๆ

ที่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้คน แสดงอิทธิฤทธิ์ เหาะได้

หรือพูดอวดอ้างแต่ความดีของตน อย่างเดียว

เที่ยวบอกคนว่า ปฏิบัติถึงขั้นนั้นขั้นนี้

ซึ่งไม่ทำให้ผู้คนที่ฟังเกิดปัญญา หรือทางหาพ้นทุกข์

แก้ปัญหาในชีวิตอะไรให้ดีขึ้นได้เลย

อาจมีแค่คนมาสรรเสริญตัวเองอย่างเดียว

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคงไม่สรรเสริญ

และปาฏิหาริย์คนหายป่วยทันที คงไม่เกิดแน่

 

 

อ.อุบล ท่านคิดถึงแต่ความสุขของผู้อื่นตลอด

คิดแต่ตอนแทนพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าอยู่หัวตลอดเวลา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล ถึงได้มาอนุโมทนา มาอยู่กับท่านตลอด

 

 

ส่วนคนที่ยังคิดถึงแต่ตัวเอง สำคัญตัวเอง

อยากให้คนอื่นมาสรรเสริญตัวเอง

คนแบบนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านคงไม่รู้จะอนุโมทนาบุญอะไรด้วยได้

ท่านคงไม่อยากจะมาอยู่ด้วยหรอกคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 22:30:54


ความคิดเห็นที่ 302 (1635084)

 

ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

.........................................

 คุณสิงห์ป้อมไม่สำนึกในบุญคุณท่าน อ.อุบลและบ้านสวนพีระมิด  ยามทุกข์มีปัญหาคุณมาให้อาจารย์อุบลปลดเปลื้องให้ แต่ยามที่ชีวิตมีความสุข ไฉนเลยทำเพิกเฉย  ไม่แสดงความกตัญญู สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนท่านก็เลยจัดให้ เพื่อเป็นหนังตัวอย่างให้กับผู้อื่น ๆ เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ต้องเตือนแบบรุนแรงเพราะหลงทางไปไกล  ท่านคงเมตตาด้วยไม่เช่นนั้นก็คงไม่รู้  เดินเข้ารกเข้าพงไปเลย ท่านอาจารย์ตักเตือนเสมอเรื่องความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และอีกเรื่อง ใยจะมัวสงสัยว่าท่านสำเร็จระดับไหน ท่านนำพาพวกเราสำนึกในกฏกรรม และพยายามทุกวิธีทางที่จะช่วยให้ลูกหลานพ้นทุกข์ มีความสุข และแบ่งปันความสุขนั้นให้กับผู้อื่นต่อๆไป แค่นี้ก็ไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณท่านอย่างไรได้หมด

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย(แป้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 22:33:53


ความคิดเห็นที่ 303 (1635085)

 

เก็บตกจาก การทำ workshop ในตอนเช้าวันอาทิตย์ที่ 14 ตค เพิ่มเติม
กลุ่มของจิ๋ม มี จิ๋ม น้องญา และ น้องเบ็ญ (กำแพงเพชร) ซึ่งเป็นกลุ่มหุงข้าว คงจำกันได้ เราได้ลองทำการหุงในกระบอกไม้ไผ่ แทนหม้อหุงข้าว ผลก็คือ ได้ข้าวออกมาหอม อร่อย กินได้ ซึ่งน้องญา ได้เขียนเป็นธรรมทานให้อ่านอย่างละเอียด และเยี่ยมยอดจริง ๆ (พี่ดีใจมากที่อยู่กลุ่มเดียวกะน้องญานะคะ)
แต่ก็มีคำถามอีกอันนึงที่ พี่จดไว้ในกลุ่ม และเราก็ได้เขียนตอบกันไว้ แต่เรื่องหุงข้าวมาแรง แซงโค้ง เลยทำให้ประเด็นนี้ตกไป แต่ประเด็นดังกล่าว เป็นปัญหาโลกแตกที่ตัวจิ๋มเองก็ยังแก้ไม่ได้ คำถามนั้นก็คือ
ข้อ 1 ท่านคิดว่าจะมีวิธีใด ที่หยุดยั้งภัยพิบัติได้ เพราะอะไร และจะทำให้คนที่รักของท่าน ทำตามได้หรือไม่ ทำอย่างไร
ข้อ 2 ขอให้ท่านใข้ความรู้จากบ้านสวนทุก ๆ สิ่ง มาใช้ให้เกิดผลจริง เป็นรูปธรรม และการบอกเรื่องนี้แก่สังคม หรือ พี่น้องชาวไทย ที่ไม่มีทางออก ท่านจะบอกเขาอย่างไร ให้เขามีทางออกทันที และจะบอกด้วยวิธีใดบ้าง
ข้อ 1        จากความเห็นของกลุ่ม 3 รวมกับของจิ๋มเอง คิดว่า ถ้าจะหยุดภัยพิบัติได้ ก็ต้องให้ทุกคนเชื่อก่อนว่าจะมีภัยเหล่านี้เกิดขึ้นจริง และถ้าจะหยุดภัยพิบัติ ก็ต้องให้ทุกคนหันมารักษาศีล 5 ทำความดี และสอนให้เขาใช้รหัสจาล อาจารย์อุบลช่วยด้วย แต่จะทำยังไงให้คนที่ท่านรัก เชื่อ และทำตาม ข้อนี้ยาก เพราะ พ่อ แม่ ของจิ๋ม ไม่ห้ามที่มาทำบุญที่บ้านสวนก็จริง แต่ท่านก็ไม่เชื่อที่จะเกิดภัยพิบัติ เราเป็นลูกก็พูดไป แต่ถ้าท่านไม่เชื่อก็ทำอะไรไม่ได้ หน้าที่ของเราก็คือ ทำบุญให้มากที่สุด แล้วเอาบุญนั้นส่งมาให้เทวดาที่รักษาพ่อ กะ แม่ เท่านั้น 
                ไม่ต้องอะไรเลย แค่คนใน ปตท. ก็ยากที่จะเชื่อ หรือมาร่วมกิจกรรม เพราะเวลาจัดเป็นวันธรรมดา เขาก็ต้องทำงานกัน ใครเลยจะมา   จะมีก็แต่น้อง ๆ ลูกจ้างที่เขาเชื่อ และศรัทธา ซึ่งแค่นี้ก็ดีใจแล้วล่ะ เราช่วยเปลี่ยนจิตใจน้องให้เขาตั้งในความดี แม้เพียง  คนเดียว ก็จะรอดตั้งหลายชีวิตแล้วล่ะ สรุปข้อนี้ก็ต้องทำอย่างเต็มกำลัง พูดไปเรื่อย ถ้าไม่เชื่อก็ต้องวางอุเบกขาแล้วล่ะ กรรมใครกรรมมัน เวลามัน้อยลงทุกทีแล้ว
ข้อ 2   ต้องใช้ความรู้ในบ้านสวน มาเผยแพร่บอกเขาบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น รหัสจักรวาล อาจารย์อุบล ช่วยด้วย อานุภาพพีระมิดจำลอง จี้องค์สฟิงซ์ และการปรากฏบารมีของพระศรีอาริย์ในบ้านสวน ต้องพยายามเล่า หรือไม่ก็ให้เขาอ่านใน web site ให้มากๆ ในกลุ่มคิดกันว่า ให้ช่วยกันจัดกิจกรรมธรรมทาน ฟังธรรม บ่อย ๆ ที่บ้านสวนเอง หรือ จัดเป็นกลุ่มย่อยๆ ในองค์กรของเราเอง เช่น ตอนพักเที่ยง อาจเอารายการคุยไปแจกไป ไปเปิดให้เขาดู เป็นต้น และการเขียนธรรมทานบอกเล่าใน web ก็ยิ่งดี ทำให้เผยแพร่มากขึ้น
ข้อควรระวัง คือ ให้อดทนที่จะบอกกล่าวไปเรื่อย ๆ อย่านิ่งดูดาย หรือ จิตตก คิดไปเองว่าตอนนี้คนอื่น เขาคงหาว่าเราบ้าแล้วมั๊ง เราต้องละอัตตา และยอมบ้าไป แต่เพื่อให้คนอื่นรอด ก็น่าเสี่ยงอยู่ ใช้คาถา ช่างหัวมัน หัวเผือกไปก็แล้วกัน
สุดท้ายนี้ก็ขอให้กำลังใจทุก ๆ ท่านที่จะบอกกล่าวปรากฏการณ์ ปาฎิหารย์ต่าง ๆ ที่บ้านสวน ว่าขอให้พยายามให้เต็มที่ เหมือนท่านอาจารย์อุบลชองเรากำลังทำอยู่นะคะ ทุกวันนี้เข้าใจความรู้สึกของท่านอาจารย์แล้วว่า เวลาบอกสิ่งปาฎิหารย์ต่าง ๆ ที่เหลือเชื่อ แล้วมีคนมองเราแปลก ๆ นั้น ท่านอาจารย์จะรู้สึกอย่างไร
ตอนนี้จิ๋มเองก็รู้สึก  กระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อย ต้องคอยหาจังหวะดี ๆ เพราะถ้าโพล่งออกไปไม่ดูทางสะดวก ให้เหมาะแก่การพูดก่อน ท่านอาจหน้าแตกได้ และเขาอาจไม่กล้ามาคุยกับท่านอีกเลย ยังไงก็สู้ ๆ ทุกคนนะ ลูกบ้านสวนฯ

จิ๋ม ชัชวลี

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 22:36:29


ความคิดเห็นที่ 304 (1635086)

การเข้ามาของคุณป้าหน้าใสปิ๊ง administrator ของเว็ปไซด์ต้านภัยพิบัติ เป็นบทเรียนของชาวบ้านสวนทุกคนว่า การดูคนว่าดีจริงหรือไม่ ไม่ใช่ดูกันแค่ 1 วัน ตอนแรกตนเองยังชื่นชมที่เขาเป็นผู้พิทักษ์เวปบ้านสวน คอย post เรื่องอื่น ให้ข้อความเลวๆตกไป เขาดูขยันแต่ไม่สู้คน จิ๋มเขาทำ workshop ว่าจะปกป้องคนมอเตอร์ไซต์ ที่มาว่าร้าย เจ้าของบ้านสวนอย่างไร ลูกบ้านสวนเก่าๆ เช่นจิ๋ม กะคุณป้อม เตรียมไปจับตัวมาขู่ ให้กลัว เตรียมลุย แต่คนใหม่ใช้สันติ เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา จิ๋มเขานั่งเซ็งเลย จุ๋มคิดว่าตนเองจะใช้ไม้แข็งเช่นกัน ลงนรกก็ยอมเพื่อปกป้องครูบาอาจารย์ ลงนรกก็หลายรอบ เพื่อปกป้องครูบาอาจารย์อีกซักรอบก็ยอม

เคยได้ฟังธรรมทานจากท่านอจ. นานมาแล้ว ท่านได้แจ้งว่า พวกมารเขาประกาศตัว จะมาทำลาย ธรรมะ ถ้าพวกเราไม่มีสติ ไม่มั่นคงในครูบาอาจารย์ มารก็พาไปได้ ขอให้พวกเรามั่นคงในบ้านสวนพีรามิด รู้ความจริงแล้ว ต้องกลับตัวกลับใจใหม่ ทุกคนมีแต่อภัยทานที่จะมอบให้ตอบแทน สู้ๆนะคะ คุณป้อม น้องเอิ้น

จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 22:40:09


ความคิดเห็นที่ 305 (1635091)

 ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

------------------------------------

เพราะมีใจออกห่าง ที่ปากบอกได้รับความสุข ได้ชีวิตที่สมบูรณ์จากบ้านสวน

จะช่วยตอบแทนแบ่งเบาภาระของท่านอาจารย์ แต่การกระทำตรงกันข้าม

แบบมาเพื่อไม่ให้เสียคำพูด มาทำงานสายกลับก่อน

เมื่อไม่สนใจท่านเบื้องบนท่านก็ปล่อยวางที่เคยได้ก็ไม่ได้

ที่เคยหายป่วยก็กลับมาป่วยเหมือนเดิม

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 22:47:43


ความคิดเห็นที่ 306 (1635108)

อ่านเรื่องที่พี่เอิ้นเขียนแล้ว มันแปลกตั้งแต่เจาะจงชวนคน (ซึ่งในที่นี้คือพี่เอิ้น) ไปกินข้าวแล้วค่ะ อ้างว่าได้รับสื่อจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มาคุยกับคนนี้ ที่สำคัญอ้างชื่อท่านอาจารย์ด้วย แล้วคุยกันทางโทรศัพท์หรือข้อความไม่ได้ ต้องคุยกันหน้าต่อหน้า แล้วก็ถ้าขวัญตีความหมายข้อความพี่เอิ้นไม่ผิด พี่เอิ้นได้ปรึกษาพี่ป้อมก่อนไปกินข้าวกับพี่คนนี้ ซึ่งพี่ป้อมก็คงเล่าข้อมูลแปลกๆเกี่ยวกับพี่คนนี้ (ความคิดเห็นที่185) ให้พี่เอิ้นฟัง แล้วก็แปลกอีกที่พี่เอิ้นตัดสินใจไปเจอ คิดว่าคงเป็นธรรมะจัดสรรค่ะ ถ้าเป็นขวัญ ต่อให้ภาพลักษณ์ของเขาจะดูน่าเชื่อถือตั้งแต่ตอนเจอที่ค่าย13 ขวัญก็อยากจะเรียนถามข้อเท็จจริงและขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์ก่อนค่ะ

แล้วก็หลายอย่างที่พี่คนนี้พูดหรือทำ คิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลยตั้งแต่เล่าว่าสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เพื่อชักจูงพี่ป้อม คนดีจริงเขาจะทำเฉพาะสิ่งที่ช่วยคนให้พ้นทุกข์ได้ แต่พี่คนนี้น่าสงสารจริงๆ เช่น บอกว่าตัวเองสอนธรรมะ แต่แนะนำคนที่อยากตัดกาม ให้ไปใช้บริการหญิงขายบริการ แล้วก็น่าสงสารที่สุดที่อ้างชื่อท่านอาจารย์ อ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 00:01:29


ความคิดเห็นที่ 307 (1635110)

ความเห็นที่ 296 (1635059)
แจ้งลบความคิดเห็น

       ผมได้อ่านธรรมทานจากหลายๆท่านที่เกี่ยวกับจี้รุ่น 3ร่มโพธิ์ศรี รู้สึกว่ามหัศจรรย์ มากๆ เลยครับ เรยอยากรู้ว่าท่านอาจารย์ปลุกเสกอย่างไรครับ ทำไมจึงได้ขลังขนาดนี้ครับ 

     อย่างผมเองที่ไปเสาะแสวงหา ครูอาจารย์ดังๆ พระดัง พระดี ชีดัง ที่ไหนว่าดี ว่าวิเศษ ไปมันหมด และผมเองก็ได้รู้จักผู้คนมาก็ไม่น้อย ซึ่งบางที บางท่านก็มักบอกว่าตนเองนั้น ทำสมาธิได้ฌานสี่บ้าง ญาณแปด อย่างป้าอุ๊ก็บอกว่า ตัวเองสื่อสารกับสมเด็จฯองค์ปฐมได้ ท่านฤาษีลิงกังสามารถระลึกชาติบอกผมว่าป้าอุ๊เป็นแม่ลักษมี เป็นพระโพธิสัตย์บารมีเต็ม เท่านั้นเท่านี้ ใครเคยเป็นอะไรกันมา เกี่ยวเนื่องกันมาอย่างไร บอกได้หมด รู้หมด
    ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่านอาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ อย่างเรื่องจี้องค์เทพสฟิงค์ อาจารย์เข้าฌานไหนปลุกเสกครับ ถึงได้มีปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ โดยฉับพลันทันทีแบบนี้ครับ  ขอบความเมตตาให้ผมได้รู้ ด้วยครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 20:51:00

 

 

อยากรู้จริงๆเหรอจ๊ะ

พ่อสิงห์ป้อม

 

เดี๋ยวจะมาตอบ

ให้หายสงกะสัย นะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 00:10:06


ความคิดเห็นที่ 308 (1635116)

 

           กิจกรรม workshop 13 ต.ค 55

 กลุ่ม 8  ปัญหาการเงินและขาดปัญญา

 มีสมาชิก 5 คน จาว,คุณตาโต๊ะ,คุณโก้,น้องบัวและน้องปิง

      พวกเราได้งานทำที่แปลงเกษตร โดยเลือกงานกำจัดวัชพืชที่แปลงชะอม มีจำนวน 15 แถว

      ใช้เคียวเป็นอุปกรณ์ทำงาน ซึ่งพวกเราไม่มีความรู้ความชำนาญในการใช้เลย เราก็หัดใช้กันทันที ระหว่างการทำงาน จาวทำเคียวหักที่หัวนิดนึง คุณตาโต๊ะโดนเคียวบาดที่นิ้วถึงกับเลือดออกและพวกเราต้องต่อสู้กับแสงแดดที่ร้อนมากๆในวันนั้น ระหว่างทำงานช่วยกันสวดคาถาพระศรีอาริย์ 

      อุปสรรค มีหนามชะอมที่เราต้องระวังตอนทำงาน โดนเกี่ยวเป็นแผลเล็กแผลน้อยบ้าง แถมต้องระวังสัตว์เล็กๆที่อยู่บนพื้นดินตามพงหญ้าเช่น กิ้งกือ มดคันไฟ แมลงต่างๆ  มีโดนมดคันไฟกัด จึงใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขออย่าให้บวม ปรากฎว่า ไม่มีอาการคันและบวมเลยทั้งที่โดนกัดอีกหลายครั้ง จนลืม

       อาจารย์พันธ์ได้มาให้ความรู้แก่พวกเราในขณะทำงาน สอนวิธีเกี่ยวหญ้าใต้ต้นโดยให้เกี่ยวให้สั้นเกือบติดพื้นดิน ให้นำหญ้าที่เราเกี่ยวออกทิ้งแล้วนำมากลบใต้ต้นชะอมให้หนาเป็นทางยาวขนานกับแปลง เพื่อไม่ให้ หญ้าที่เราเกี่ยวเจริญเติบโตได้ภายใต้ต้นชะอม ความชื้นภายใต้การปกคลุมของหญ้าที่ตายแล้วจะทำให้ต้นหญ้าเปี่อยตายกลายเป็นปุ๋ย จึงเรียกว่า

    หญ้าตายฆ่าหญ้าเป็น อย่างนี้นี่เอง เด้อค่าเด้อ...

           งานครั้งนี้เสร็จตามกำหนดพอดี อาการที่เหนื่อยล้าไม่สบายก่อนมาร่วมกิจกรรมก็ดีขึ้นทันที สดชื่น หายเหนื่อย ทั้งๆที่แดดในวันนั้นร้อนมากๆ เหมือนจัดสรร มาชนิดจัดเต็มๆ จัดหนัก จนแทบจะทนทำไม่ไหว ก็อดทนทำจนเสร็จ พักกินน้ำก็หลายยกจนท้องอืด แต่พอยืนขึ้นแล้วท่องคาถาพระศรีอาริย์ออกเสียงดังๆ อาการท้องอืดดีขึ้นทันที เหมือนท้องยุบลงไม่แน่นท้อง 

         ขอบคุณหลายๆคุณธนาที่จัดมาให้อยู่กลุ่มนี้ โดยบังเอิญ  เอ..แล้วคุณธนาเลือกให้ได้ไงเนี่ย จัดเต็มๆเลย เด้อค่าเด้อ..

         งานเกษตรเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนสูงใช้ทั้งกำลังกายและวิธีคิดที่หาวิธีทำงานให้รวดเร็วเพื่อต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆโดยเฉพาะแสงแดดที่ร้อน การใช้อุปกรณ์ต้องระมัดระวัง ถ้าสิ่งนั้นเป็นของมีคมเรียนรู้ที่เพื่อใช้ให้ถูกวิธี ต้องมีการวางแผนทำงานทั้งสิ้นเพื่อให้งานเสร็จและทันเวลา  

          

          

       

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 01:44:51


ความคิดเห็นที่ 309 (1635117)

   มีคำพูดของอาจารย์อยู่ประโยคหนึ่ง ที่กินใจมาก

 

      "เห็นแต่ประโยชน์ ไม่เห็นหัว"

 

  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 02:07:11


ความคิดเห็นที่ 310 (1635123)
ความเห็นที่ 296 (1635059)
แจ้งลบความคิดเห็น

       ผมได้อ่านธรรมทานจากหลายๆท่านที่เกี่ยวกับจี้รุ่น 3ร่มโพธิ์ศรี รู้สึกว่ามหัศจรรย์ มากๆ เลยครับ เรยอยากรู้ว่าท่านอาจารย์ปลุกเสกอย่างไรครับ ทำไมจึงได้ขลังขนาดนี้ครับ 

     อย่างผมเองที่ไปเสาะแสวงหา ครูอาจารย์ดังๆ พระดัง พระดี ชีดัง ที่ไหนว่าดี ว่าวิเศษ ไปมันหมด และผมเองก็ได้รู้จักผู้คนมาก็ไม่น้อย ซึ่ง บางที บางท่านก็มักบอกว่าตนเองนั้น ทำสมาธิได้ฌานสี่บ้าง ญาณแปด อย่างป้าอุ๊ก็บอกว่า ตัวเองสื่อสารกับสมเด็จฯองค์ปฐมได้ ท่านฤาษีลิงกังสามารถระลึกชาติบอกผมว่าป้าอุ๊เป็นแม่ลักษมี เป็นพระโพธิสัตย์บารมีเต็ม เท่านั้นเท่านี้ ใครเคยเป็นอะไรกันมา เกี่ยวเนื่องกันมาอย่างไร บอกได้หมด รู้หมด
    ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่าน อาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ อย่างเรื่องจี้องค์เทพสฟิงค์ อาจารย์เข้าฌานไหนปลุกเสกครับ ถึงได้มีปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ โดยฉับพลันทันทีแบบนี้ครับ  ขอบความเมตตาให้ผมได้รู้ ด้วยครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 20:51:00

 

 

..........................................

อ่านคห.นี้ของ สิงห์ป้อม แล้ว

รู้สึกว่า ไม่ใช่คำพูดของสิงห์ป้อม เองนะคะ

 

ไม่รู้ถูกคนอื่น มาสวมรอย รึเปล่า

เพราะในวันที่มีการพิสูจน์

อานุภาพของจี้สามร่มโพธิ์ศรี

สิงห์ป้อมก็อยู่ด้วยอยู่แล้ว

แต่ข้อความนี้ ใช้้คำว่า

ได้อ่านธรรมทานจากหลายๆท่าน

อันนี้ มันดู..แปลกอยู่น๊า

 

 

ไงสิงห์ป้อมก็ส่งเสียงหน่อย

ว่าใช่เธอจริงๆรึเปล่า ที่ตั้งคำถามนี้

 

เพราะคำถามแนวนี้ มีกลิ่นตุๆ

คล้ายๆกลุ่มเฟสปลอมเลยอ่ะ 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 05:00:57


ความคิดเห็นที่ 311 (1635124)

 

ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

------------------------------------

เป็นผลจากการกระทำของตัวคุณสิงห์ป้อมเองคะ

1.ไม่มีความมั่นคงและไม่มีศรัทธาต่อท่านอ.อุบลและบุญบ้านสวนอย่างแท้จริง จึงได้ไปเสาะแสวงหาครูอาจารย์ท่านอื่นๆ ขนาดท่านอาจารย์เอาบุญใหญ่มากองให้ตรงหน้ายังเลือกที่จะไม่สนใจ(ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆ) 

2.ไม่มีความกตัญญูรู้คุณต่อครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียกว่าท่านเมตตาช่วยมาตั้งมากมายแต่ไม่สำนึกบุญคุณ แม้แต่เขียนธรรมทานบอกเล่าความสุขที่ตนเองได้รับก็เลือกที่จะไม่ทำ

3. คุณสิงห์ป้อมมัวแต่โลภอยากได้อยากมี พอใครว่าอะไรดีก็ว่าดีตามคนอื่นเขาโดยไม่ได้ใช้ปัญญาพิจารณา ไม่เข้าใจว่า ถ้าไม่มีปัญญาก็ไปนิพพานไม่ได้”.....

 เบื้องบนท่านคงเป็นห่วงกลัวคุณสิงห์ป้อมจะหลงทางไปมากกว่านี้แต่ไม่สามารถสื่อสารกับตัวคุณสิงห์ป้อมและลูกหลานบ้านสวนได้จึงเรียกว่าธรรมะจัดสรรอย่างต่อเนื่องจากค่าย 13

 ทั้งๆที่คุณสิงห์ป้อมและน้องเอิ้นและหลายคนที่ไม่ผ่านการคัดเลือกค่าย 13 จากท่านอ.อุบล แต่ก็มีเหตุให้พี่แมวลงชื่อผิด บางทีท่านอาจจะต้องการให้คุณสิงห์ป้อมรวมถึงน้องเอิ้นมาเจอบุคคลที่จะนำพาทั้งคู่ไปนิพพานได้เพียงแค่พูดคุยกับเขา เพื่อให้ทั้งคู่เกิดปัญญาและให้คุณสิงห์ป้อมได้รับยาขนานเอกเพื่อกระตุ้นให้กลับมาพิจารณาตนเองโดยเร็วที่สุด เพราะถ้ายังหลงทางเดี๋ยวจะกู่ไม่กลับซะก่อน

นึกถึงคำพูดของท่านอ.ที่ว่า ค่าย 13 เป็นค่ายของการเปลี่ยนแปลงและเป็นค่ายของการใช้ปัญญาอย่างแท้จริง บวกกับการมาของป้าอุ๊เพียงคนเดียวแต่ทำให้ลูกหลานบ้านสวนได้รู้จักใช้ปัญญาและได้รับบทเรียนเรื่อง อย่าหลงตัวบุคคล”  (ดร.จิตราคงจะบอกว่า เราเตือนคุณแล้ววววววววววว)

ขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่เมตตาลูกหลานด้วยการให้ป้าอุ๊ กล่องดำและเหตุการณ์ที่เกือบตายของคุณสิงห์ป้อมมาเป็นครูให้ลูกหลานคะ

************************** 

ฝากถึงคุณสิงห์ป้อมคะ : บางครั้งสิ่งที่เราได้รับจากบ้านสวนมันอาจจะไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นความสุขทางใจและปัญญา หรืออาจจะเป็นเรื่องสุขภาพของคนที่เรารัก แบบอย่างอาจจะมองไม่เห็นเป็นรูปธรรมแต่สามารถสัมผัสได้อย่างแน่นอน ถ้าเราลองสังเกตุและพิจารณาความเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังมาบ้านสวน

 ขอเอาใจช่วยและอนุโมทนาที่เอาตนเองมาเป็นธรรมทานเพื่อเตือนสติให้ทุกคนย้อนกลับมามองหรือพิจารณาตนเองคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 05:22:32


ความคิดเห็นที่ 312 (1635130)

ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

--------------------

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า

น่าจะมีหลายๆสาเหตุรวมกัน

 

1.การผิดสัจจะ

เพราะสิงห์ป้อมเคยเขียนว่า

เคยรับปากท่านอาจารย์ว่า

จะเขียนแบบอาคารให้เอง

แต่สุดท้ายก็ไม่ทำและไม่พูดถึง

แถมยังพยายามหลบหน้าอีก

 

แทนที่จะเรียนท่านอาจารย์ไปตรงๆว่า

ตัวเองทำได้ ทำไม่ได้ หรือ ไม่มีเวลา

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

ก็น่าจะเรียนท่านไปตรงๆ ตั้งแต่แรกๆ

 

เพราะท่านอาจารย์จะได้วางแผนได้ถูก

หรือจะได้หาคนใหม่มาทำ

แต่นี่เสียเวลาไปเปล่าๆเป็นเดือนๆ

ทั้งๆที่ท่านอาจารย์ก็มีภาระหน้าที่เต็มมือไปหมด

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระ

ท่านอาจารย์แต่อย่างใดเลย 

 

2. ไม่มีความกตัญญู

ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอาจารย์

เพราะไม่ได้สำนึกว่า ที่ตนเคยหายขาด

จากอาการโรคหัวใจได้นั้น

เพราะบุญที่มาสร้างในบ้านสวนฯ

และบารมีจากท่านอาจารย์

 

แต่ก็ไม่เคยออกไปแสดงความขอบคุณ

อย่างเป็นทางการ

แล้วก็ยังไม่เคยเขียนธรรมทาน

ขอบคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

 

3. จิตใจไม่มั่นคงต่อท่านอาจารย์

เพียงแค่ได้พบ"ป้าอุ๊"ยุให้ฟังว่า

มีทางให้ไปนิพพานได้ง่ายๆ

ก็หลงเชื่อ โดยไม่ใช้"ปัญญา"ไตร่ตรอง

กลับไปคล้อยตาม และคาดหวังว่า

จะเป็นที่พึ่่งอันยิ่งใหญ่สำหรับตน

 

แต่ที่ไหนได้ ป้าอุ๊เอง

ยังหาที่พึ่งให้ตนเองยังไม่ได้เลย

ขนาดสถานที่ปลอดภัยเพื่อพักพิง

จากภัยพิบัติ ป้าอุ๊ ยังไม่รู้...เลย

 

ซึ่งถ้าลูกบ้านสวนฯส่วนใหญ่ยังไม่มีจุดยืน

และหลักธรรมค้ำใจที่มั่นคงแล้ว

จะกลายเป็น"จุดอ่อน"ให้มารเข้ามา

ทำลายท่านอ.อุบลและบ้านสวนฯได้ง่ายๆ


4. ไม่เคารพท่านอาจารย์ด้วยความจริงใจ

แล้วก็ไม่เคารพกฏบ้านสวนฯ

ทั้งๆที่รู้กฏเกณฑ์ทุกอย่าง

แต่ก็ไม่คิดที่จะปฏิบัติตามกฏ

เพราะถือความสะดวกของตนเป็นหลัก

อยากมาตอนไหนก็มา

ทั้งๆที่ท่านอาจารย์ก็ระบุเวลา

ในการมาสร้างบุญไว้อย่างชัดเจน

 

 

ส่วนการไปฝึกจิตเกาะพระ

ชนิดาคิดว่าเป็นแค่ปลายเหตุนะคะ

เพราะต้นเหตุจริงๆมันคือ

"จิตที่ไม่มั่นคง"ของสิงห์ป้อมเอง

เพราะจะว่าไปแล้ว

การฝึกจิตเกาะพระ

ก็คือหนึ่งในกรรมฐาน40กอง

ที่พระพุทธองค์ทรงรวบรวมไว้

 

ไม่ใช่หนทางที่จะทำให้ผู้ฝึก"เสื่อม"

ซึ่งเราสามารถนำความรู้ที่ได้รับมา

มารวมหรือเสริมกับสิ่งที่ท่านอาจารย์สอนได้

 

เพราะชนิดาคิดว่า

อาจารย์ไม่เคยสอนให้พวกเรา

เปรียบเทียบว่าครูบาอาจารย์

ของใครดีกว่าใคร

 

แต่ให้ยึดที่หลักคำสอน

ถ้าถูกต้องและถูกตรง

ไม่ว่าจะถ่ายทอดโดยผู้ใด

เราก็สามารถเคารพผู้นั้นได้

 

 

 

แล้วท่านอาจารย์เองก็ไม่เคยผูกขาดว่า

จะต้องเคารพเฉพาะอาจารย์เ่ท่านั้น

 

เพียงแต่ว่า

พวกเราทุกคนต่างมีหน้าที่ร่วมกัน

จึงต้องมาเจอกัน

และทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ 

 

แล้วเวลาก็เหลือน้อยเต็มที่แล้ว

จึงไม่มีเวลามากพอให้พวกเรา

ไปเสาะแสวงหาอาจารย์อื่นใด

ที่ไหนอีกต่อไป 

 

 

และอาการเตือน"ปางตาย"

ที่สิงห์ป้อม ได้รับครั้งนี้

คงจะทำให้สิงห์ป้อม ตื่นรู้

ได้ฉับพลันทันที นะคะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 06:15:58


ความคิดเห็นที่ 313 (1635139)

ไงสิงห์ป้อมก็ส่งเสียงหน่อย

ว่าใช่เธอจริงๆรึเปล่า ที่ตั้งคำถามนี้

               ********************************************

55+ ผมเองครับ ผมตัวจริงเสียงจริงครับ อันที่จริงผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์ การใช้จี้ด้วยแหละครับ แต่ว่าไม่อยากอ้างตนเองคนเดียว ก็เลยอ้างจากธรรมทานจากหลายๆท่านดีกว่าครับ ขอบคุณทุกอย่างน่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นธรรมทานดีๆ ที่ให้สติและแง่คิดด้านต่างๆกับผม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 09:08:20


ความคิดเห็นที่ 314 (1635143)

  

 

 ท่านคิดว่า

 

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

 

  

 ท่านต้องการสอนให้รู้ว่า เมื่อท่านทำให้หายได้ ก็ทำให้เป็นใหม่ได้ ถ้ายังไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ และความกตัญญู และให้เปรียบเทียบว่าที่คุณไปค้นหาสิ่งใหม่ ๆ มานั้น มันสามารถทำให้คุณพ้นทุกข์ได้มั้ย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 09:26:04


ความคิดเห็นที่ 315 (1635148)

ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่าน อาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ

.................

อ่านข้อความข้างบนแล้วก็ขอแสดงความ

คิดเห็นนิดนึงนะครับ

ถ้าเรามัวแต่สนใจว่าคนนั้นปฎิบัติถึงขั้นใหน

เป็นพระอรหันต์หรือยัง ..?

หรือว่าเป็นอนาคามี .

สู้เอาเวลา เอาสมอง มาคิดว่าคำสอน

ที่อาจารย์พร่ำสอนมาเป็นจริงไหม

เอามาปฎิบัติตามแล้วชิวิตดีขึ้นไหม?

มีความสุขขึ้นไหม?

ถึงแม้คุณจะได้เจอ  เป็นลูกศิษย์ก้นกุฎิ

พระอรหันต์ แต่ถ้าคุณไม่ปฎิบัติ

ไม่เอาคำสั่งสอนไปทำตาม

มัวแต่นั่งจ้องพระอรหันต์

มันไม่ช่วยให้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

ได้นะครับ

ก็ถือว่าเสียชาติเกิดแท้ๆ

....................

ถึงแม้ว่าอ.อุบลจะเป็นคนธรรมดา

ไม่ได้เป็นพระอรหันต์

แต่ผมก็กราบท่านได้อย่างสนิทใจ

เพราะคำสอนที่อาจารย์สอนผมมา

มันทำให้ผมพ้นทุกข์ได้

ชีวิตมีความสุข

ขอ

กราบ  กราบ กราบ

ท่านอ.อุบล

......................

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 09:59:16


ความคิดเห็นที่ 316 (1635154)

ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่าน อาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++

อ่านคำถามนี้แล้ว

เบสก็สงสัยเหมือน คุณชนิดาเลยครับ

ว่านี่ตัวปลอมหรือป่าวนะ

แล้วถ้าวันไหน

อ.อุบลมาบอกว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์แล้วล่ะก็.......

ถึงคราวยุ่งแล้วล่ะครับ 

55555555 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 10:19:27


ความคิดเห็นที่ 317 (1635169)

ผมได้อ่านธรรมทานจากหลายๆท่านที่เกี่ยวกับจี้รุ่น 3ร่มโพธิ์ศรี รู้สึกว่ามหัศจรรย์ มากๆ เลยครับ เรยอยากรู้ว่าท่านอาจารย์ปลุกเสกอย่างไรครับ ทำไมจึงได้ขลังขนาดนี้ครับ 

     อย่างผมเองที่ไปเสาะแสวงหา ครูอาจารย์ดังๆ พระดัง พระดี ชีดัง ที่ไหนว่าดี ว่าวิเศษ ไปมันหมด และผมเองก็ได้รู้จักผู้คนมาก็ไม่น้อย ซึ่ง บางที บางท่านก็มักบอกว่าตนเองนั้น ทำสมาธิได้ฌานสี่บ้าง ญาณแปด อย่างป้าอุ๊ก็บอกว่า ตัวเองสื่อสารกับสมเด็จฯองค์ปฐมได้ ท่านฤาษีลิงกังสามารถระลึกชาติบอกผมว่าป้าอุ๊เป็นแม่ลักษมี เป็นพระโพธิสัตย์บารมีเต็ม เท่านั้นเท่านี้ ใครเคยเป็นอะไรกันมา เกี่ยวเนื่องกันมาอย่างไร บอกได้หมด รู้หมด
    ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่าน อาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ อย่างเรื่องจี้องค์เทพสฟิงค์ อาจารย์เข้าฌานไหนปลุกเสกครับ ถึงได้มีปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ โดยฉับพลันทันทีแบบนี้ครับ  ขอบความเมตตาให้ผมได้รู้ ด้วยครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++

อ่านคำถามนี้แล้ว

เบสก็สงสัยเหมือน คุณชนิดาเลยครับ

ว่านี่ตัวปลอมหรือป่าวนะ

 

..................

 

น้องเบส พี่คิดว่า ต้องเป็นตัวจริงแน่นอน

คนที่อยากรู้ และคิดแบบนี้ได้เขาต้องเป็น

คนที่มีจิตละเอียด ถึงจะคิดได้นะ

5555555555+

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 11:43:00


ความคิดเห็นที่ 318 (1635170)

ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่าน อาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ

อย่างเรื่องจี้องค์เทพสฟิงค์ อาจารย์เข้าฌานไหนปลุกเสกครับ ถึงได้มีปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ โดยฉับพลันทันทีแบบนี้ครับ  

-----------------------------------------------------------

อืม นั่นดิครับ เห็นสิงห์ป้อมถามคำถามนี้ ผมก็ชักอยากจะรู้ขึ้นมาเหมือนกัน 55555

อยากรู้เหมือนกันว่าท่านอาจารย์อุบลที่สามารถแสดงอนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนได้อย่างชัดเจน รู้ถึงเหตุถึงผลอย่างไม่มีข้อสงสัยแบบนี้ จะเหมือนครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆหรือเปล่าน๊าาา ที่ท่านนั่งสมาธิได้ขั้นนั้น ขั้นนี้

ที่สำคัญผมไม่เคยเห็นท่านอาจารย์ทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลอะไรเลยสักครั้ง จะว่าท่านอาจารย์แอบนั่งปรก บริกรรมคาถาปลุกเสกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน

เอาเป็นว่า อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆ ก๊าบบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 11:48:25


ความคิดเห็นที่ 319 (1635178)

ขอรอคำตอบจากคำถามด้วยคนคร๊าบ

ตื่นเต้นจังเลยคำถา้ำมก็เด็ดจากพี่สิงป้อม

และคำตอบทีเด็ด จากท่านอาจารย์แม่อุบล

แต่ที่สำคัญคำตอบจะแซบอย่างไร

ให้ชาวลูกบ้านสวนต้องติดตามตอนหลังจาก

ท่านอาจารย์แม่ว่างจากการเตรียมงาน

ผมควายน้อยๆขอปูเสื้อน้ำมันรอครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรพุทธ ศรีคุ้ม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 12:14:09


ความคิดเห็นที่ 320 (1635180)

                 จะขอเฝ้ารอคอยคำตอบ...จากท่านอ.อุบลด้วยคนค่ะ

                    แค่เขียนแค่นี้ก็ปิติแล้วค่ะ

                      กราบ  กราบ  กราบ  ค่ะท่านอ.อุบล

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 12:19:30


ความคิดเห็นที่ 321 (1635186)

ไงสิงห์ป้อมก็ส่งเสียงหน่อย

ว่าใช่เธอจริงๆรึเปล่า ที่ตั้งคำถามนี้

เพราะคำถามแนวนี้ มีกลิ่นตุๆ

คล้ายๆกลุ่มเฟสปลอมเลยอ่ะ


เห็นด้วยกับคุณชนิดา ว่าคำถามนี้ไม่เหมาะที่จะถามครูบาอาจารย์ เหมือนกับลองของให้อธิบายสรรพคุณ ถ้าอาจารย์ท่านต้องเมตตามาตอบคำถามของคุณ ว่าท่านบรรลุญาณอะไรของคุณ ท่านอาจารย์อาจต้องกลายเป็น โมฆะบุคคล เพราะท่านเคยสอนว่าคนที่บอกหรืออวดสรรพคุณตนเอง จะกลายเป็น โมฆะบุคคล

จำได้ว่าตนเองคิดในใจว่าจะไม่มีการถามคำถามนี้กับครูบาอาจารย์ของเราอีกต่อไป เพราะพวกเรานับถือที่ท่านเป็นคนธรรมดา ที่มีความสามรถถ่ายทอดธรรมะจากพระพุทธเจ้า ให้คนหันมากลัวบาป กลัวนรกกัน เลิกถามเรื่องที่ไม่ได้ทำให้เราดี เราหายเจ็บ มาเปลี่ยน ปรับปรุงตัวจะดีกว่าไหม?

จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 13:02:54


ความคิดเห็นที่ 322 (1635190)

 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของสิงห็ป้อมก็มีความเห็นเหมือน

น้องหนึ่ง ดูแล้วก็เกิดจากกิเลสความอยาก ไม่มีความมั่นคงในจิตใจ

สงสัยจึงเทียวแสวงหา พระดี อาจารย์ดัง เพื่อที่จะดูว่าปฏิบัติได้ในขั้นไหนแล้ว

เอาเป็นว่าเราดูที่จิตใจเราดีกว่านะค่ะ ว่าเราสิ้นทุกข์หรือยังมีความสุขมั้ย

จากการทีเราเดินตามท่าน ปฎิบัติตาม คำสอนอย่างไม่ลังเลสงสัย

ต้องมีศัีรทธาเป็นที่ตั้งเพื่อไม่ให้มารเข้าแทรก  ต้องมีสติเพื่อไม่ให้เฝลอไป

กับความอยากรู้ อยากเป็น เหมือนคุณศักดิ์บอก ถ้าเราไม่ฝึกตามไม่ลงมือ

ทำเอง เจอปาฎิหาริย์เองเราก็จะไม่รู้ สิ่งที่สิงห์ป้อมได้รับคือธรรมทานสำหรับ

ลูกบ้านสวนค่ะ และจะทำให้สิงห์ป้อม "รู้ตื่น"

ขอรอคำตอบจากอาจารย์ด้วยค่ะจะ ได้กระทุ้งจิตตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 13:17:55


ความคิดเห็นที่ 323 (1635198)

 ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่าน อาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ อย่างเรื่องจี้องค์เทพสฟิงค์ อาจารย์เข้าฌานไหนปลุกเสกครับ ถึงได้มีปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ โดยฉับพลันทันทีแบบนี้ครับ ขอบความเมตตาให้ผมได้รู้ ด้วยครับ

......................................................................

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นส่วนตัวครับ ผมคิดว่าถ้าเราทราบว่าท่านอาจารย์สำเร็จขั้นไหนได้ถึงญาณอะไร รู้ไปก็ไม่สิ้นทุกข์ครับ ดูที่ปฏิปทาของท่านอาจารย์ดีกว่าครับ

แต่ถ้าเราหันมามองตนเองว่าเราปฏิบัติได้ถึงขั้นไหนแล้วน่าจะเหมาะสมกว่าครับ ว่าขณะนี้เราปฏิบัติบรรลุโสดาปัตติผลได้หรือยัง สมาธิเราถึงขั้นไหนแล้วได้มโน วิชชาสาม อภิญญา ปฏิสัมภิทาญาณหรือเพียงแค่ขณิกสมาธิ เราได้ปฏิบัติตนตามที่ท่านอาจารย์ได้สอนได้ดีครบถ้วนหรือยัง น่าจะเป็นหนทางพ้นทุกข์มากว่าครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 14:35:12


ความคิดเห็นที่ 324 (1635205)

ในที่สุด คลิปฝูงควาย ที่โดนสิงโตคาบตัวลูกควายไปกิน

ก็มีความหมาย  ลึ๊กซึ่งตรึงใจ ซะเหลือเกินน

สิ่งศักดิสิทธิ์ พระศรีอาริย์ ท่านสุดดดยอด สัพภัญญูจริ๊งงเลยย

สาธุ  กราบ กราบ กราบ

พี่ป้อม(ตัวจริง)+น้องเอิ้น อยู่ใหนจ๊ะ รีบมารายงานตัวด่วนจ้าา

 ผมคิดว่าถ้าเราทราบว่าท่านอาจารย์สำเร็จขั้นไหนได้ถึงญาณอะไร รู้ไปก็ไม่สิ้นทุกข์ครับ ดูที่ปฏิปทาของท่านอาจารย์ดีกว่าครับ

เห็นด้วยกับคุณ ก๊อตค่ะ ท่านอาจารย์ของเรา ไม่เคยสอน ให้เรายึดติดกับสรรพสิ่งใดใด ทั้งลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ท่านต้องการเพียงอย่างเดียวคือ นําพาพวกเรากลับบ้านนิพพานเท่านั้น

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 15:14:25


ความคิดเห็นที่ 325 (1635209)

 ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่าน อาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ อย่างเรื่องจี้องค์เทพสฟิงค์ อาจารย์เข้าฌานไหนปลุกเสกครับ ถึงได้มีปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ โดยฉับพลันทันทีแบบนี้ครับ ขอบความเมตตาให้ผมได้รู้ ด้วยครับ

***

     ผมก็คิดเหมือนหลายๆ ท่านครับ ว่า การถามว่า ท่านอาจารย์ถึงขั้นไหน มันเป็นคำถามที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อความสิ้นทุกข์ ถึงรู้ไปก็ไม่ได้อะไร แต่สิ่งที่ท่านอาจารย์ถ่ายทอดแล้วทำให้เราพ้นทุกข์ จริงๆ ก็คือ "ธรรมมะ"

    แต่เรื่องจี้สฟิงค์นี่ ถึงไม่รู้ว่าปลุกเสกยังไง เมื่อเราได้สัมผัส อาุนุภาพแล้วก็ได้ผลดีก็เพียงพอแล้วครับ แต่ที่พี่ป้อมถามมานี่มีนัยยะ อะไรหรือเปล่าครับ อิอิ

***

รายงานตัวครับพี่อร คลิปนี้ ได้ถูกเอาออกมาฉายก่อน ให้พวกเราได้ดู แถมมีนักแสดงจริงประกอบอีก แต่ก็ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ครับ ไม่งั้น ละครก็ไม่สมบูรณ์ เหมือนทุกอย่างถูดจัดไว้ล่วงหน้าแล้ว

ผมรับบท เป็น ลูกควาย  ครับ แล้วคุณล่ะ?

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 15:24:50


ความคิดเห็นที่ 326 (1635214)

คืนวันเสาร์หลังจากเราทำ worksore กันเสร็จแล้ว อาจารย์เมตตาให้คุณแมวทำบาบีคิวเห็ดทานกันระหว่างที่นั่งกินกันเสร็จ อ.อุบลท่านเมตตานำจี้องค์เทพสฟิ้งซ์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี  มาให้พวกเราได้ชมบารมีของจี้รุ่นเดิม ที่เหมี่ยวสังเกตดูนะคะ

1. ไม่ต้องสารภาพบาป   

2. ใช้เวลาในการบำบัดเร็วสุด 7 วินาที นานสุด 20 วินาที

3. ถ้าผู้ใดมีอาการที่หนักหน่อยใส่จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรีนี้ไว้ก็จะดีขึ้นตามลำดับ

4.  ผู้ที่มีความดี พูดดี คิดดี ทำดีและเชื่อมั่นและศรัทธาใน อ.อุบลและบ้านสวนพีระมิด อานุภาพจะเร็วมาก ๆ เลย

        ขออ้างอิง อาการที่ พี่จิ๋ม ท่านเป็นโปลิโอตั้งแต่อายุ 6 เดือน ตั้งแต่ท่านมาสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด  อาการของพี่จิ๋มก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะบุญที่พี่จิ๋ม ทำท่านทำตั้งแต่บุญเล็ก จนถึงบุญใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบุญแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ พี่จิ๋ม ทำหมดอย่างไม่ลังเลสงสัย

พี่จิ๋ม ได้รับความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอ.อุบล ที่ได้ประทานจี้องค์เทพสฟิงซ์รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี เพื่อมาให้ พี่จิ๋มท่านได้พ้นทุกข์จากความเจ็บเท้า ปวดหลัง และขาทั้ง 2 ข้าง ของพี่จิ๋ม ที่สูงต่ำไม่เท่ากันไหล 2 ข้างของท่านก็สูงต่ำไม่เท่ากันเวลาท่านเดินจะตัวโยกปลายเท้าของพี่จิ๋ม ก็จะต้องเจ็บเพราะเวลาเดินต้องใช้กำลังเท้าเยอะมาก

ปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นแล้วบารมีพระศรีอาริย์โดยมีอ.อุบลเป็นผู้อาราธนา มีอยู่เต็มพื้นที่จริง พี่จิ๋มใส่จี้ 3 องค์ แล้วทดสอบเดินประมาณ 20 วินาที อาการที่เจ็บขา เจ็บส้นเท้า เจ็บสันหลัง หายประมาณ 70% แล้วอ.อุบลก็ให้พี่จิ๋ม นำไปถือไว้อีก 20 องค์

ไม่น่าเชื่อเลยสิ่งที่เหมี่ยวเห็น เหมี่ยวตกใจที่เห็นไหล่ของพี่จิ๋ม ยืดขึ้นต่อหน้าต่อตา ด้วยความดีใจ บอกว่า อาจารย์ไหล่  พี่จิ๋ม สูงเท่ากันแล้ว พี่จิ๋ม หันไปให้อาจารย์และคนอื่นดูทุกคนตื่นเต้นมาก รวมทั้ง พี่จุ๋ม ซึ่งเป็นพี่น้องคู่แฝด ออกมาดู พี่จุ๋มทำหน้างงมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อ.อุบลท่านให้  พี่จิ๋มเดินให้พวกเราดู  เดินได้ตรงและไม่โยก มองดูแล้ว หายสัก 90% อาการที่เจ็บขา เจ็บฝ่าเท้า ปวดหลัง ปวดเอว หายไม่เหลืออาการเหล่านี้ในตอนนั้น พี่จิ๋ม มีความสุขกับการเดินมากเดินไม่หยุด อ.อุบลท่านให้  พี่จิ๋มใส่รองเท้าแตะแบบสวม  ก็สามารถใส่เดินได้โดยรองเท้าไม่หลุด ซึ่งไม่เคยใส่ได้เลย จนอุทานออกมากว่า จิ๋ม ใส่รองเท้า จุ๋มได้แล้ว พร้อมทั้งเดินไปเดินมา ดร.มีความสุขกับการเดินมาก

ความปิติของพี่จิ๋ม ทำให้เหมี่ยว ดีใจกับพี่จิ๋มจนน้ำตาซึม เช่นกัน

        เหมี่ยวต้องขอขอบคุณ บารมีพระศรีอาริย์ โดยมี อ.อุบลเป็นผู้อาราธนา และขอขอบคุณอ.อุบลที่เมตตาให้เหมี่ยวและลูกบ้านสวนทุกคนในที่นี้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ พี่จิ๋ม ได้ชัดเจน ทุกขั้นตอนที่เหมี่ยวได้เห็นมีความสุข ปิติจนน้ำตาซึม สุดบรรยายเลยค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุนีย์ ศิริมาศกูล (นู๋เหมี่ยว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 15:40:47


ความคิดเห็นที่ 327 (1635217)

สัปดาห์

13-14 ต.ค.55 นี้

เราจะมีการทำกิจกรรมแบบเข้มข้น

เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาร่วมงาน

ได้เรียนรู้วิธีการ

ช่วยเหลือคนรอบข้าง

คนที่เรารู้จัก พบเจอ ตลอดจนตัวเราเอง และ ครอบครัว

 

จากอาการเจ็บป่วย

พิการเรื้อรัง

ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน

 

ตลอดจน

วิธีเอาตัวรอดจากภัยพิบัติ

สัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ

วิญญาณร้าย

คนพาลสันดานหยาบ

ว้าววว พอได้ย้อนกลับมาอ่านข้อความแรกของกระทู้นี้ ทำให้นึกได้ว่า กิจกรรมนี้มีครบทุกอย่างเจงๆ

เป็นบทเรียนสดๆ ไม่ต้องใช้สแตนด์อิน พิการจริง จิตใจร้ายและลบของจริง ทุกอย่างไม่ต้องเซ็นเซอร์ สวดดยอดดด

เรียกว่าพวกเราได้สัมผัสครบทุกรสชาติเลยแฮะ เห็นพี่จิ๋มเดินดีขึ้นแบบสุดๆเกือบเป็นปกติ มีแต่รอยยิ้ม

ได้รู้วิธีรับมือกับสิงหาราสัตว์ งูพิษ ภัยต่างๆ

ได้ปัญญาจากคนเนียนๆ ที่จิตใจไม่ได้เนียนๆเหมือนคำพูด มีแต่อัตตา หลงตัวเอง และไม่โปร่งใส จนเกือบทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่งหัวใจจะวาย เพราะโดนพิษคำหวานเข้าไป

โอ้วว...กิจกรรมนี้สวดดดยอดด พี่น้องว่ามะก๊าบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 16:00:46


ความคิดเห็นที่ 328 (1635228)

ช่วงสัปดาห์กิจกรรมค่าย13นั้น ผมมีโอกาสได้นั่งรถมากับป้าอุ๊คนงาม ก็ได้มีโอกาสคุยกันหลายๆเรื่อง ล้วนเป็นเรื่องที่น่าสนใจทั้งสิ้น

ทำให้รู้ว่าป้าอุ๊นั้นมีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างพลังบวกแก่ทุกคน

กลุ่มเซต้านั้นเป็นกลุ่มที่ป้าอุ๊เป็นแอดมินอยู่ ซึ่งป้าอุ๊ได้เล่าว่า กลุ่มนี้เมื่อก่อนมีพลังงานลบเยอะมาก ผู้คนในกลุ่มไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้

ป้าอุ๊เองเป็นคนที่ทำหน้าที่สร้างพลังงานบวกให้กับทุกคน และทุกคนที่คุยกับป้าอุ๊จะสัมผัสถึงพลังที่ป้าอุ๊ส่งไปให้อย่างชัดเจน

ป้าอุ๊จะรับเฉพาะพลังบวกเท่านั้น พลังลบต่างๆจะไม่เอาเด็ดขาด

กลุ่มเซต้าทุกวันนี้จึงมีพลังบวกเพราะป้าอุ๊เป็นคนที่ช่วยประสานทุกอย่างให้ เพื่อให้ทุกคนสามัคคีกัน รักกัน จึงมีแต่พลังบวก

จึงเห็นได้ว่าหน้าที่ของป้าอุ๊นั้นเป็นผู้ให้พลังงานบวกกับทุกกลุ่มจริงๆ ดังนั้นกลุ่มเซต้าเองที่มีพลังบวกได้ในวันนี้จึงเป็นผลจากความทุ่มเทของป้าอุ๊นั่นเอง

ก็ไม่น่าแปลกอะไรหากป้าอุ๊พยายามที่จะสร้างพลังงานบวกให้บ้านสวนฯ แต่บังเอิญว่าเรดาห์ที่จับพลังงานทำงานผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง หรือเครื่องคงเจ๊ง

เพราะปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านสวนฯนั้นเกิดจากตัวท่านอาจารย์อุบล ไม่ได้เกิดจากสถานที่ เพียงแต่ท่านอาจารย์อุบลนั้นเป็นพลังงานบวก ดังนั้นพลังงานบวกทั่วอนันตจักรวาลจึงได้เสด็จมาอยู่ที่บ้านสวนฯ ซึ่งสืบเนื่องมาจากตัวท่านอาจารย์อุบลนั่นเอง ไม่งั้นคงไม่เกิดปรากฏการณ์ต่างๆเช่นนี้ได้แน่นอน

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 16:53:53


ความคิดเห็นที่ 329 (1635236)

ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์อุบล หน่อยน่ะครับ ว่าตอนนี้ ท่าน อาจารย์ทำสมาธิได้ฌานไหน ขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้อาจารย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือยังครับ เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์บอกให้พวกเรารู้กันเลยครับ อย่างเรื่องจี้องค์เทพสฟิงค์ อาจารย์เข้าฌานไหนปลุกเสกครับ ถึงได้มีปาฏิหาริย์ มหัศจรรย์ โดยฉับพลันทันทีแบบนี้ครับ ขอบความเมตตาให้ผมได้รู้ ด้วยครับ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคนค่ะ อ่านคำถามนี้แล้วก็คิดเหมือนพี่ชนิดากับน้องเบสเลยค่ะว่า ใช่พี่ป้อมตัวจริงอ่ะเปล่า แต่ในเมื่อเจ้าตัวมายืนยันแล้วว่าตัวจริงเสียงจริงก็เชื่อแล้วกันนะคะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถามแบบนี้ เพราะดูไม่เหมาะสมอย่างมากเลยค่ะ เหมือนอยากลองของจริงๆอ่ะ เพราะบางคำถามท่านอาจารย์ก็เคยเมตตาตอบไปหลายครั้งแล้ว และการที่รู้ว่าท่านอาจารย์ถึงขั้นไหนแล้ว ได้ฌานขั้นไหนแล้ว เมื่อรู้แล้วจะทำให้พี่หรือคนอื่นๆสิ้นทุกข์หรือเปล่าคะ และอีกคำถาม อย่างเรื่องจี้องค์เทพสฟิงค์ อาจารย์เข้าฌานไหนปลุกเสกครับ ถ้ารู้แล้วจะได้ประโยชน์อะไรคะ แต่หนูคิดว่าท่านอาจารย์จะมีวิธีปลุกเสกอย่างไรไม่สำคัญหรอกค่ะ สำคัญที่ว่าเราๆท่านๆทั้งหลายใช้ได้ผลแบบฉับพลันทันทีก็แล้วกันค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 17:32:36


ความคิดเห็นที่ 330 (1635241)

 ตกลงปาฎิหาริย์


เกิดเพราะสถานที่หรือว่า

เกิดเพราะ อ.อุบล กันแน่

 ตอนนี้

มีคนมาบอกว่า

สถานที่บ้านสวน มีพลังบวก

ไม่ถึง 20 %

เลยทำให้แสดงปาฎิหาริย์

ได้ไม่มากเนี่ย


พ่อใหญ่ธนา

และ

พวกเราชาวบ้านสวนฯ

จะว่ายังไง


-----------------------------


ขอตอบดังนี้ค่ะ 
ปาฏิหารย์เกิดจากองค์ประกอบร่วมกันทั้งสองส่วนค่ะ
แต่ที่สำคัญอื่นใด ต้องเริ่มจากตัวบุคคลก่อนคะ
คือท่าน อ.อุบล เป็นผู้ที่มีกาย วาจาใจที่บริสุทธิ์ 
มีศรัทธาในพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง 
ปฏิบัติตามคำสอนไม่มีบิดเบือน
ปาฏิหาริย์จึงจะเกิด เมื่อบุคคลบริสุทธิ์แล้ว
ไปอยู่ที่ใด ก็จักทำให้สถานที่นั้น มีพลังบุญ
เป็นพลังความดี พลังบวกกระจายตัวอยู่ทุกอนู
ให้เห็นเป็นรูปธรรมก็คือ
ดูได้จากคนพิการ เจ็บป่วยหายเจ็บป่วย 
หายพิการ ภายในฉับพลันทันที
 หรือดูจากภาพที่ถ่ายออกมา
ก็จะติดดวงธรรม พลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
อยู่ในทุกอนูของอากาศบ้านสวน

แล้วที่บอกว่ามีพลังงานบวกไม่ถึง 20%
อันนี้คนพูดมีสองเหตุผลที่พูดค่ะคือ
 
1. รับสัมผัสได้แค่นั้นจริงๆ เพราะพลังงานในตัวของแกคงมีแต่พลังลบ จึงรับได้แต่พลังงานประเภทเดียวกัน หรือ
2. ป้าแกอาจสตอ พูดไปเรื่อยเปื่อย  โดยพูดเพื่อทำให้คนคล้อยตาม เป็นการใส่ร้าย ทำให้คนเห็นผิดเป็นถูก สร้างความแตกแยกให้ลูกบ้านสวน เกิดความลังเลสงสัยในตัวท่าน อ.อุบล และบ้านสวน

ถ้าเป็นจริงอย่างแกพูด 
ทำไมถึงทำให้คนพิการกลับมาเป็นปกติได้
ทำให้คนที่มีปัญหา การงาน การเงิน ความรัก 
สมหวังได้ กลับมาประสบความสำเร็จได้
ปรากฎการณ์ที่ดี  
ให้ความรู้สึกที่ดีเหล่านี้หรือ
ที่เรียกว่าพลังลบ
ถ้าเรามีปัญญาเราก็คงไม่ต้องคิดเลยค่ะ
ว่า ลบ หรือ บวก
ไปถามเด็กอนุบาล ก็คงจะตอบเหมือนกันค่ะ 
นี่มันพลังบวก พลังบุญ 100% ชัดๆค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 17:51:03


ความคิดเห็นที่ 331 (1635243)

 เมื่อวันที่13-14ตค.55 

เนื่องจากต่ายไม่ได้ไปบ้านสวน2อาทิตย์มาอีกทีก็วันที่13-14 พอเลี้ยวรถเข้าบ้านสวนก็ตะลึง! เพราะไม่

ได้ไปแค่2อาทิตย์บ้านสวนสวยขึ้นเยอะมากโดยเฉพาะตรงหน้าห้องน้ำใหม่ บ้านสวนพีระมิดมีการพัฒนา

ไปในทางที่ดีทุกอาทิตย์ขนาดไม่ได้ไปบ้านสวนแค่2อาทิตย์บ้านสวนดูสวยขึ้นเป็นกองเลย และพอมาถึง

ก็ได้มาช่วยล้างตุ๊กตาจัดสวนทำความสะอาดตรงพีระมิดหลังบ้านอ.อุบล ก็พึ่งรู้ว่าเค้ามีการ

ทำWorkshopก็ได้แบ่งกลุ่มได้ก็ได้ไปอยู่กลุ่มที่1ก็ทำไปเรื่อยๆทุกคนในกลุ่มที่ทำงานก็มีผลดีที่เข้ามาใน

ตัวทุกคนและเมื่อถึงเวลาที่ต้องออกไปพูดป้าเหมี่ยวก็ได้เป็นคนออกไปพูดค่ะ แต่ก่อนที่จะเริ่มออกไปพูด

ของแต่ละกลุ่มพี่ธนาก็ได้เปิดคลิปภัยภิบัติให้ดูและก็คลิปงูคลิปการรวมหมู่ฆ่าปลาและคลิปที่คนกินเนื้อ

สัตว์ต้องสยองคือคลิปที่คนฆ่าหมูไก้ปลา(และอีกมากมาย)เขาฆ่าโดยไม่มีการปราณี ต่ายดูเเล้วก็รู้สึก

กลัว และตอนกลางคืนก็มีการย่างเห็ดกินกันเเละก็มีการรักษาอาการเจ็บปวดพิการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเเละ

อีกหลายๆอาการ และก่อนแยกย้ายไปนอนอ.อุบลก็ให้ผู้ที่อยากสัมผัสพลังของจี้3ร่มโพธิ์ศรี ต่ายก็ได้ไป

ลองสวมสร้อยดูก็รู้สึกว่ามีพลังเยอะจริงๆค้า และวันถัดมาวันอาทิตย์ที่14ก็ได้มีการแบ่งกลุ่มworkshopอีก

ต่ายก็ได้อยู่กลุ่มที่8การแบ่งworkshopครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ต่ายก็ได้ช่วยคิดนิดๆหน่อยๆ

เพราะคิดไม่ออกค่ะ555 เเละเมื่อออกไปพรีเซนต์ป้าแหลนก็เป็นผู้พรีเซนต์ต่ายก็นั่งฟังเฉยๆ และพอทุก

กลุ่มพูดเสร็จก็ได้มีการเล่าเรื่องอะไรบางอย่าง(ขอไม่เปิดเผยค่ะ) และเมื่อพูดคุยกันเสร็จก็ลาอ.อุบลเเละ

แยกย้านกลับบ้านค่ะ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ด.ญ. ยุพินดา วรรณรักษ์ ( น้องกระต่าย) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 17:55:41


ความคิดเห็นที่ 332 (1635248)

 


ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

 
-------------------

คิดว่าคงเกิดจากกิเลสค่ะ 
แต่กิเลสของพี่ป้อมก็เกิดจากความประมาท
อยากสำเร็จในทางโลกและทางธรรม
ดังนั้นหากเจอใครที่คิดว่าพอจะมีภูมิธรรม
แกก็อยากพูดคุยแลกเปลี่ยนธรรมทานด้วย
เพื่อมาปรับปรุง พัฒนาตัวเอง
แต่ทั้งหมดต้องทำด้วยความมีสติรู้ทัน
ใช้ปัญญาประกอบไปด้วย
เป็นเรื่องฟังดูง่าย แต่ก็ยากสำหรับบางคน


และที่สำคัญเหนืออื่นใด 
ความไม่มั่นคงในจิตใจ 
ยังลังเลสงสัย เป็นคนอกตัญญู
ขออนุญาติที่ต้องใช้คำนี้นะคะ
เพราะถ้าเราปฏิบัติตามที่ท่าน อ.อุบลสอน
แล้วชีวิตเราดีขึ้นทุกด้าน
แต่เรายังนิ่งเฉย ทำเหมือนไม่เห็นหัว
เห็นที่นี่เป็นของตาย ที่จะไปจะมาเมื่อไรก็ได้
และเมื่อวันหนึ่ง โอกาสเหล่านี้ก็ไม่ได้มีให้เราทำได้บ่อยๆ
ดังนั้นเรื่องราวของทั้งพี่ป้อม และน้องเอิ้น
เป็นบทเรียนให้พวกเราได้ย้อนดูตัวเองได้ดีมากๆ
ถ้อยคำต่างๆ ที่แต่ละคนแสดงธรรมทานผ่านตัวอักษร
อาจทิ่มแทง และทำให้รู้สึกเจ็บปวด
แต่มันเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะมันทำให้เราเปลี่ยนตัวเอง
ได้อย่างรวดเร็ว 
เพราะถ้ามันเป็นคำพูดที่ไม่น่าฟัง
แต่ทำให้เราเปลี่ยนเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้
นั่นก็ถือว่าเราพัฒนาไปอีกขั้นแล้วค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 18:30:44


ความคิดเห็นที่ 333 (1635251)

 

ดังนั้นเรื่องราวของทั้งพี่ป้อม และน้องเอิ้น
เป็นบทเรียนให้พวกเราได้ย้อนดูตัวเองได้ดีมากๆ
ถ้อยคำต่างๆ ที่แต่ละคนแสดงธรรมทานผ่านตัวอักษร
อาจทิ่มแทง และทำให้รู้สึกเจ็บปวด
แต่มันเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะมันทำให้เราเปลี่ยนตัวเอง
ได้อย่างรวดเร็ว

 

................................................
 
ขอให้กำลังใจทั้งพี่ป้อม+พี่เอิ้นด้วยครับ
 
หนึ่งคำดุด่า....ที่ห่วงใย
 
ยังดีกว่า
 
ล้านถ้อยคำกำลังใจ...ที่หลอกลวงครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 19:06:44


ความคิดเห็นที่ 334 (1635257)
ดังนั้นเรื่องราวของทั้งพี่ป้อม และน้องเอิ้น
เป็นบทเรียนให้พวกเราได้ย้อนดูตัวเองได้ดีมากๆ
ถ้อยคำต่างๆ ที่แต่ละคนแสดงธรรมทานผ่านตัวอักษร
อาจทิ่มแทง และทำให้รู้สึกเจ็บปวด
แต่มันเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะมันทำให้เราเปลี่ยนตัวเอง
ได้อย่างรวดเร็ว

 

 

................................................
เห็นด้วยกับพี่ตุ้ยเลยค่ะ และต้องขอขอบคุณธรรมทาน
จากพี่ป้อมและพี่เอิ้นด้วยค่ะ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องทำให้เรา
หันกลับมามองดูตัวเองและสำรวจตัวเองให้มากขึ้นค่ะ
 
และขอยืมคำพูดของคุณก็อตด้วยคนค่ะ
 
 
ขอให้กำลังใจทั้งพี่ป้อม+พี่เอิ้นด้วยครับ
 
หนึ่งคำดุด่า....ที่ห่วงใย
 
ยังดีกว่า
 
ล้านถ้อยคำกำลังใจ...ที่หลอกลวงครับ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 19:46:03


ความคิดเห็นที่ 335 (1635259)

ผมขอถามเรียนถามท่านอาจารย์อุบลหน่อยครับ ว่าตอนนี้ท่านอาจารย์อทำสมาธิได้ ฌาณไหน ถึงขั้นขั้นไหนแล้วครับ หรือตอนนี้ท่านอาจารย์สำเร็จพระอรหันต์ หรือยังครับ  เพราะไม่เคยเห็นท่านอาจารย์อุบลบอกให้พวกเรารู้ กันเลยครับ  อย่างเรื่อง จี้องค์เทพสฟิ้งค์ อาจารย์เข้าฌาณไหนปลุกเสกครับ

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นด้วยคนค่ะ

คุณป้อมคิดยังไงถึงได้ถามคำถามนี้ออกมาค่ะ

ไม่มีพระอริยะที่ไหนหรอกค่ะมาประกาศตัวว่าตัวเองได้ขั้นนั้นขั้นนี้

เท่าที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส ปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่บ้านสวนก็ไม่เคยเห็นที่ไหนทำได้แบบบ้านสวนค่ะ

แล้วจะไปอยากรู้ทำไมว่าอาจารย์ถึงขั้นไหน

ท่านอาจารย์สามารถทำให้คนเราหายป่วยได้ทันที

ทำให้มีความสุข มีเงินมีสภาพคล่องง

ทำให้สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ทันทีจากที่เคยรักษาศิล 5 ไม่ได้

ทำให้เลิกทานเนื้อสัตว์ทันที กลัวเรื่องปาบกรรมทันที

และที่สำคัญอาจารย์อุบลทำให้มีความสุขทั้งทางกายทางใจไม่มีที่ไหนทำได้แบบนี้

และสำหรับจี้องค์เทพสฟิงค์จะไปอยากรู้ทำไมว่าอาจารย์ปลุกเสกอย่างไร แค่ใช้จี้รักษาอาการเจ็บป่วยได้ผล ทำให้สุขภาพดีทั้งกายทั้งใจ ทำให้มีความสุขแค่นี้ก็น่าจะพอใจแล้ว

สงสัยว่าคุณป้อมรัก เคารพและศรัทธาอาจารย์อุบลหรือปล่าวค่ะ

คิดว่าคนเราถ้ารักและศรัทธาอาจารย์ของตัวเองจริงไม่ต้องสงสัยท่านหรอกค่ะ และมีที่ไหนทำได้แบบท่านหรือปล่าวค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 20:05:01


ความคิดเห็นที่ 336 (1635261)

ตอนนีั มีคนบอกว่าสถานที่บ้านสวนมีพลังงานบวกไม่ถึง

20 เปอร์เซ็นต์ เลยทำให้แสดงปาฏิหาริย์ได้ไม่มาก

หนูขออนุญาตแสดงความคิดเห็นค่ะ

ว่าพลังงานบวกที่บ้านสวนมีมากค่ะมากเสียจดอัดแน่น และนับวันจะมากขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะบารมีท่านอาจารย์อุบลเพิ่มขึ้น ๆ เรื่อย ๆ

แต่คนรับต่างหากค่ะที่ไม่สามารถรับพลังงานบวกได้ 100 เปอร์เซ็นต์

เนื่องจากอาจจิตใจไม่บริสุทธิ์ ไม่ศรัทธา ลังเลสงสัยจึงไม่สามารถรับพลังงานบวกจากท่านอาจารย์อุบลได้

สำหรับคุณป้าหน้าใสหนูคิดว่า

คุณป้าเค้ามีจุดประสงค์อะไรหรือปล่าวค่ะ

และที่สำคัญการที่คุณป้าหน้าใสเข้ามาเพื่อลองใจลูกบ้านสวนหรือปล่าวค่ะว่าจะมีจิตใจมั่นคงแค่ไหน

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 20:16:54


ความคิดเห็นที่ 337 (1635263)

 เห็นด้วยกับน้องตุ้ยค้าและขอเป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ

สู้..สู้..นะคะ น้องป้อม น้องเอิ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 20:32:56


ความคิดเห็นที่ 338 (1635264)

 

ป้าอุ๊จะรับเฉพาะพลังบวกเท่านั้น พลังลบต่างๆจะไม่เอาเด็ดขาด

......................

มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

ก็คุณป้า เค้ามีหน้าที่รับแต่พลังบวกไงคะ

ใครที่ยังหลงเหลือพลังบวกอยู่ เค้าจะดึงดูดเอาไปเองหมด

ให้คนเหล่านั้นเหลือเก็บแต่พลังลบไว้เอง 555+

 

ส่วนคำถามของคุณป้อมนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถามมาได้ไง..

เพราะคำถามมันก็จะสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของคน ๆ นั้น ออกมา

พี่เค้าคง ไม่ได้อยากแสวงหาความจริง ทางพ้นทุกข์ ของชีวิตตัวเอง

แต่คงอยากดูคนเหาะโชว์ หรือ เสกโน่นนี่ได้ แบบมายากล มากกว่ามั้ง

จะไปนิพพานก็แค่คุยกับคนที่วิเศษ ๆ  เสกปุ๊บ ก็ไปได้ปั๊บเลย ง่ายดี

ไม่ต้องมานั่งเหนื่อยปฏิบัติกันเองหรอก แบบบ้านสวนฯมันช้าไป

ก็คงต้องตามหาผู้วิเศษสุด ๆ คนนั้นต่อไปนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 20:42:22


ความคิดเห็นที่ 339 (1635275)

 ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

----------------------------

เหตุที่ทำให้คุณสิงห์ป้อม มีอาการปางตายนี้เนื่องจากตัวคุณสิงห์เอง

ที่ได้รับพลังบวกเข้าไปมากเกินพิกัด ทำให้เกือบช็อค

ใครนะบังอาจมากเลยที่มาบอกว่าพลังบวกในบ้านสวนฯ เหลือเพียง 20 %

โถๆ พูดมาได้อย่างไร ไม่อายเทวดานางฟ้าบ้าง

นี่พลังบวกเพียง 20 % ยังทำให้ป้าพรหายจากหูตึง

น้องลินเดินได้ตรง(จากเดิมที่เป็นมาแต่เด็ก)

ฯลฯ

หากพลังพวกเต็มร้อย พวกเราคงจะเหาะได้หน้าตาหนุมสาวขึ้นเท่าน้องบัวเลย

และมีลูกบ้านสวนฯ บางคนนำพลังลบเข้ามา

คนที่เหี่ยวเฉาอยู่แล้วคงยิ่งเหี่ยวใหญ่เลย แต่นั้นเป็นเป้าหมายให้มารเข้า

แทรกแบบไม่รู้ตัว จะรู้ตัวอีกทีก็ปางตายแล้ว

โชดดีที่คุณสิงห์ป้อมมีปัญญา หาทางดับที่เหตุทัน

ม่ายงั้นต้องเป็นคุณสิงห์ถูกควันรมแน่เลย

ต้องขอบคุณคุณสิงห์ป้อม คุณป้ากล่องดำ

ที่เอาชีวิตตัวเองเป็นธรรมทาน ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ

ได้เกิดปัญญาจริงๆค่ะ

แล้วป้าอุ๊ จะเป็นงัยบ้างเนี่ย กล่องดำ ต้องเปลี่ยนเป็น โลง หรือเปล่า

ข้อความที่โพสต์ในเฟสบุค

ป้าอุ๊ เฒ่ากล่องดำ ป้าอุ๊ขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม ให้ฟังหน่อยนะคะ ในขณะที่ท่านอาจารย์กำลังบรรยายเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับภัยพิบัติและการเตรียมการสำหรับลูกบ้านสวนนั้น ป้าก็ได้รับสัญญาณถึงการใช้จี้สฟิงซ์ในเวลาที่เกิดภัยพิบัติขั้นอุกฤต โดยสัญญาณให้ต้องไปบอกเดี๋ยวนี้ ป้าเลยลุกขึ้นจากที่นั่งและก็ได้เดินไปขออนุญาติท่านอาจารย์ แล้วก็บอกกับลูกบ้านสวนถึงการใช้จี้สฟิงส์ (รายละเอียดขอไว้จะเล่าให้ฟังนะคะเรื่องการข้ามมิติเวลา) ป้าอุ๊รู้สึกผิดมากเลยที่ไม่มีกาละเทศะที่เดินไปพูดในขณะที่ท่านกำลังพูดอยู่ ป้าอุ๊กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิที่ปกปักรักษาท่านอาจารย์และบ้านสวนปิรามิดมา ณ ที่นี้ ที่ป้าอุ๊กระทำการอันมิสมควรค่ะ

8 ตุลาคม เวลา 11:40 น. · เลิกชอบ · 7

 

ลูกกราบขอขมาท่านอาจารย์ค่ะ

ที่ขาดปัญญาพิจารณา กดไลท์ในข้อความของป้าอุ๊

ซึ่งคุณป้าสามารถเข้าไปแสดงความเห็นในเว็บได้ ทำไม

ป่านนี้ยังไม่เข้าไปกราบขอโทษท่านอาจารย์อีก

หากมีความสำนึกผิดจริง มีความโปร่งใส

ต้องกล้ามาสารภาพในสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อมาพิจารณาที่ข้อความอีกครั้ง

ในขณะที่ท่านอาจารย์กำลังบรรยายเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับภัยพิบัติและการเตรียมการสำหรับลูกบ้านสวนนั้น ป้าก็ได้รับสัญญาณถึงการใช้จี้สฟิงซ์ในเวลาที่เกิดภัยพิบัติขั้นอุกฤต โดยสัญญาณให้ต้องไปบอกเดี๋ยวนี้

เรื่องจี้สฟิงซ์ เป็นของท่านอาจารย์อุบล

แต่ทำไมป้าอุ๊ ได้รับสัญญาณจากใคร....

ว่าต้องบอกวิธีใช้เดี๋ยวนี้....

สัญญาณจาก... พญามารหรือเปล่านะ

------------

สำหรับตัวลูกเอง ได้มีโอกาสอยู่กลุ่มเดียวกับป้าอุ๊ ตอนเข้าค่าย 13

คือตั้งใจเลยแหละ เพราะได้ยินว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ช่วยเหลืองานท่านอาจารย์ อยากฟังวิธีการแนวความคิดของป้าอุ๊

โชคดีที่พลังลบของหนูมีมาก จึงไม่อยู่ในสายตาป้าอุ๊

ซึ่งจริงจริงแล้วคนที่ทำจริง เขาจะไม่มาประชาสัมพันธ์ตัวเองเลย

ผลงานจะเห็นๆกันอยู่

เช่น พีแมว พี่ธนา อ.พันธ์ ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม ฯลฯ

ทางเดียวที่เราจะหนีมารได้ คือเดินตามท่านอาจารย์เพียงอย่างเดียว

อย่าลังเลสงสัยในสิ่งที่ท่านให้ทำ

ห้ามแวะซ้าย แวะขวา ออกนอกทางเด็ดขาด

แล้วหนทางที่เราจะพบความสุขก็อยู่แค่เอื้อมเท่านั้นเอง

กราบ กราบ กราบ

---------------

โดยคุณเบ็ญจากาญจน์(วิ)  ศุภศิริวัฒนา

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 21:37:21


ความคิดเห็นที่ 340 (1635298)

 ขออนุญาตนำธรรมทานของคุณทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล มาโพสน์แทนค่ะ

เสาร์ที่ 13 ต.ค. ท่านอาจารย์ให้แบ่งกลุ่มทำ work shop กลุ่มละ  5 คน โดยให้แต่ละคนเลือกปัญหาที่ตรงกับตัวเอง  มีทั้งปัญหาผิวพรรณ   ปัญหาผิวพรรณและเจ็บป่วยอื่นๆ   ปัญหาการงานและการเงิน  ปัญหาการเงินและเจ็บป่วย  ปัญหาเจ็บป่วยและขาดปัญญา   ปัญหาการงาน การเงิน เจ็บป่วยและทุกปัญหา  ปัญหาแต่ละข้อ  อาจารย์จัดให้ทำกิจกรรมที่แตกต่างกันและให้ทุกคนท่องคาถาพระศรีอาริย์ขณะทำงาน  เพี่อขอบารมีท่านช่วยให้บุญที่กำลังทำรักษาอาการให้หายทันที
     
กลุ่มที่ตัวเองอยู่คือปัญหาผิวพรรณและเจ็บป่วยอื่นๆ  ให้ไปจัดตกแต่งบริเวณห้องน้ำด้านหลังบ้านสวน  ทั้งห้องน้ำนอก ใน และทั่วบริเวณทั้งด้านหลัง  ทางเข้า  หลัง  ทำความสะอาดให้เอี่ยม  เพราะปัญหาดังกล่าวเกิดจากการไม่ชอบจัดตกแต่งความสวย มีระเบียบและสะอาด  ไม่มีจิตคิดขจัดปัญหา  หรือสิ่งที่ไม่เจริญหู  เจริญตา
    
ในกลุ่มเราแบ่งหน้าที่กันทำ  คุณสมจิตและคุณธนัญญาล้างขัดห้องน้ำ  ทัศนีย์และคุณวีรดาเก็บกวาดล้างทำความสะอาดรอบห้องน้ำด้านนอก ด้านหลัง ด้านข้าง  ถางหญ้า  ขัดพื้นหน้าห้องน้ำ  คุณธนัญญาและคุณอาชวินช่วยเก็บของรอบห้องน้ำให้เข้าที่  
       
อาการเจ็บป่วยของกลุ่มที่เปลี่ยนแปลง คือ
 1.
คุณสมจิต คันที่แขนมา 6-7 ปี ระหว่างทำงานคันที่แขนมากขึ้น แต่เมื่อ 1   
     ชม.ผ่านไป ก็หายจากอาการคัน 
 2.
ทัศนีย์เอง ช่วงเช้าถางหญ้าที่แปลงเกษตร  ปวดหลัง  มีอาการหน้ามืด วูบ 
    บ่อย   ตั้งแต่เริ่มทำงานอาการหน้ามืด วูบหายไป  แต่ยังมีอาการปวดหลัง
 3. 
คุณธนัญญา  ปวดหัวจนคลี่นไส้มาก   หลังเสร็จงานหายเป็นปกติ
 4.
คุณอาชวิน  ปวดหัว  หลังเสร็จงานไปล้างห้องน้ำ  อาการดีขี้น 70 %
 5.
คุณวีรดา  ปวดหัวนิดหน่อย  ตอนทำงานก็หายไปเลย
     
ช่วงทำงานได้เกิดอุบัติเหตุกับคุณธนัญญา โดนไฟดูดที่แขน แขนบวมตึงและชา คุณแหม่มใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย และช่วยบำบัดด้วยจี้  วางจี้ตรงแขนที่บวม  และขอบารมีพระศรีอารย์  นึกถึงอ.อุบลเพื่อเพิ่มพลังให้จี้  แขนก็ยุบลงทันที ท่านอาจารย์เมตตาบอกกรรมเพราะไม่เขียนธรรมทาน  จึงได้รับผลแบบนี้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 23:01:23


ความคิดเห็นที่ 341 (1635299)

 ขออนุญาตนำธรรมทานของคุณทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล มาโพสน์แทนค่ะ (ต่อค่ะ)

 กิจกรรมของ กลุ่ม 2 เช้าอาทิตย์ 14 ต.ค. 55     
   โจทย์ คือ ถ้าเราเจอพายุ ฝนตกหนัก มีน้ำมากระทันหัน ท่วมขึ้นสูงเหมือนภาพเหตุการณ์จริงที่ดูคลิปคืนวันเสาร์( สุนามิที่ญี่ปุ่น ตอนที่มีบางกลุ่มหนีมาอยู่บนภูเขา แล้วเห็นเหตุการณ์ที่สึนามิทำลายบ้านเรือน ตึก รถ อาคาต่างๆโดยไม่มีสิ่งใดต้านทาน) เราจะทำอย่างไร อยู่บ้าน หรือหนี วิธ๊หนี ทำอย่างไร และจะใช้ความรู้ที่ได้รับมาจากบ้านสวนฯ  ตลอดจนรหัส วัตถุมงคลช่วยอย่างไร  เอาตามความจริงว่าในกลุ่มมีอะไรอยู่กับตัวบ้างเวลานี้
  
ตอบ  เราทั้งกลุ่มใช้ชีวิตอยู่ในเมือง  ถ้ามองเห็นสึนามิมาแต่ไกล  เราเลือกหนีค่ะ  หนีขึ้นที่สูง  โดยทุกคนคิดวางแผนไว้ว่า ถ้าอยู่บ้านเราจะวิ่งไปไหน  ถ้าอยู่ที่ทำงานจะวิ่งไปไหน  ส่วนตัวเองคิดไว้ว่าถ้าอยู่บ้าน  จะวิ่งขึ้นตึกชั้น ถ้าอยู่ที่ทำงาน  จะวิ่งขึ้นตึกผู้ป่วยชั้น 12  ในกลุ่มได้สรุปขั้นตอนปฎิบัติไว้ดังนี้  คือ
 1.
ต้องมีสติ   ไม่แตกตื่นกับภัยที่กำลังมาให้พูดว่า " อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้ น้ำหยุด และพวกเรารอดปลอดภัย " 
 2.
เป่านกหวีด  เพื่อเรียกสติคนที่แตกตื่น  แล้วตะโกนว่า  " ใครอยากรอดให้ทำ ตาม บอกให้ทุกคนวิ่งขึ้นที่สูง  ระหว่างวิ่งพูดว่า  " อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้ น้ำหยุด แล้วก็ออกวิ่งทันที  โดยเราต้องนำพูดรหัสไปเรื่อยๆ
 3.
พอขึ้นมาอยู่ที่สูง   บอกให้ทุกคนพูดตาม" ขอบารมีพระศรีอาริย์ ที่ท่านอ.อุบลอาราธนาบารมีมา รวมกับบุญกุศลท่าน อ.อุบล รวมกับจี้องค์สฟริงซ์ของลูกบ้านสวนฯทุกคน ขอให้น้ำหยุด และพวกเรารอดปลอดภัยด้วยเทอญ "ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าน้ำจะหยุด หรือเปลี่ยนไปทางอื่นแน่นอน  จากตัวอย่าง เรี่องปฎิหารย์ที่เกิดขึ้นในบ้านสวนมากมาย
 4.
หลังเหตุการณ์สงบ  จะมีคนบาดเจ็บ  พิการ   ก่อนเริ่มบำบัดให้ทุกคนพูด ตาม (เน้นพลังสามัคคี) " ขอบารมีองค์พระศรีอาริย์ที่ท่าน อ.อุบลได้อาราธนาบารมีมา รวมกับบุญ ของท่าน อ.อุบล  รวมกับจี้องค์สฟริงซ์ของลูกบ้านสวนฯทุกคน ขอให้ทุก คนที่บาดเจ็บและพิการหายฉับพลันมันทีด้วยเทอญ "นี่คือขั้นตอนที่กลุ่ม  2 ช่วยกันคิดและสรุปได้ค่ะ  

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 23:04:58


ความคิดเห็นที่ 342 (1635307)

                                                                                       ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

__________________

เหมียวคิดว่าที่พี่ป้อมเป็นแบบนี้เนื่องจากว่า พี่ป้อมเหมือนกำลังลังเลสงสัยไม่มีความมั่นคงกับสถานที่สองที่คือที่บ้านสวนกับที่ที่พี่ป้อมไปฝึกจิตอรหันต์ เพราะก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลสอน ท่านสอนให้ลงปฏิบัติจริงแล้วเห็นผลได้จริง แสดงว่าพี่ป้อมต้องมีความลังเลสงสัยหรือจิตใจไม่มั่นคงต่อบ้านสวน ถ้าไม่เช่นนั้นคงไม่ดิ้นรนไปหาอาจารย์นู๋นี้เผื่อให้ตัวเองบรรลุผล เรื่องแบบนี้ต้องมองย้อนที่ตัวเรามากกว่าค่ะว่าเราปฏิบัติตามที่อาจารย์ได้สอนรึเปล่า ไม่จำเป็นต้องเสาะแสวงหาที่อื่นที่ใด แม้ว่าที่นั้นใครจะว่าดีขนาดไหนถ้าตัวเรายังไม่มั่นคงในสิ่งที่อาจารย์สอนยังไม่เชื่อฟังและปฏิบัติตาม ถึงยังไม่ก็คงไม่บรรลุผลค่ะ พี่ป้อมสู้ๆนะค่ะทุกสิ่งทุกอย่างมีทางออกเสมอค่ะ ถ้าเราพร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุงมัน ก็จะผ่านไปได้ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 00:19:27


ความคิดเห็นที่ 343 (1635330)

 ไงสิงห์ป้อมก็ส่งเสียงหน่อย

ว่าใช่เธอจริงๆรึเปล่า ที่ตั้งคำถามนี้

               ********************************************

คำถามพี่ชนิดานี่ฮอตจริงๆนะคะ 555555+

เชื่อว่าใครๆก็คงอยากรู้ว่าใช่พี่ป้อมจริงๆไหม

เพราะคำถามแบบนี้ ไม่มีใครเค้าถามกันรึป่าวค่ะ ฮ่าๆ

อีกอย่างในความรู้สึกญ การที่ครูบาอาจารย์ของเรา

จะสำเร็จถึงขั้นไหนแล้ว ท่านไม่มีทางมาบอกใครหรอกค่ะ

ว่าท่านได้ระดับนั้นแล้วนะ ระดับนี้แล้วนะ

เพราะท่านคงคิดไตร่ตรองมาแล้วละ ว่าคนที่เขาทำได้จริง

ไม่จำเป็นต้องพูด แต่ให้เราสังเกตดูเอาเอง

เปรียบเสมือนเวลามีคนทำความดีแหละค่ะ

ถ้าใครมาบอกเราว่าเค้าเป็นคนดีมาก ทำดีมามากนะ

เรายังรู้สึกไม่ชอบเลย แถมยังจะคิดกลับไปอีกว่า

คนดีที่ไหนจะมาบอกคนอื่นว่าตัวเองดีอย่างโน้น อย่างนี้

แต่ถ้าเราอยู่ใกล้ๆใครแล้วเค้าทำโดยที่ไม่พูด ไม่ต้องป่าวประกาศบอกใคร

หากเราอยู่ใกล้ๆเค้า ไม่จำเป็นที่เค้าจะต้องบอกเราเลยค่ะ

สิ่งที่เค้าทำมันจะบ่งบอกเราเอง และเราก็จะรู้สึกได้เองเช่นกัน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 03:50:27


ความคิดเห็นที่ 344 (1635335)

บอกตามตรงว่า"อึ้งสุดๆเลย"

ที่คำถามนี้เป็นคำถาม

จากสิงห์ป้อม ตัวจริงเสียงจริง

 

สงสัยจะมี"สิ่ง"ดลใจ

ให้สิงห์ป้อมมาถามเนอะ

 

ซึ่งชนิดาก็มั่นใจว่า

คำถาม"เขลาๆ"แบบนี้

ท่านอาจารย์คงจะมีคำตอบ

ที่มา"เสริมปัญญา"

ให้ผู้ถามและผู้อ่านอย่างเราๆ ได้แน่ๆ

 

แต่ว่า ชนิดาก็ยัง งง อยู่ดี

ว่า สิงห์ป้อมจะอยากรู้ไปทำไม

ว่าท่านอาจารย์สำเร็จขั้นไหนแล้ว

และปลุกเสกให้จี้มีพลังได้อย่างไร

 

เพราะลูกบ้านสวนฯตัวจริง

คงจะรู้กันแน่นอนว่า

วัตถุมงคลบ้านสวนฯทุกชนิด

ไม่เคยมีพิธีกรรมปลุกเสก

ให้ยุ่งยากเสียเวลาเลย

 

แต่อานุภาพนั้นเป็นไปตาม

ที่ท่านอาจารย์แจ้งไว้ล่วงหน้าทุกประการ

 

ซึ่งพวกเราทุกคนก็ได้พิสูจน์

ตามแนวทางวิทยาศาสตร์

จนเป็นที่ยอมรับ

เพราะได้เห็นและได้สัมผัส

ด้วยตัวเองมาแล้วทั้งสิ้น 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 05:58:31


ความคิดเห็นที่ 345 (1635350)

ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

***************

จากที่ได้อ่านมาคิดว่าสิ่งที่สำคัญคือ

จุดยืนของจิตใจที่ยังไม่มั่นคง

ของคุณป้อมเองประกอบกับ

คุณป้อมได้รับทราบว่าค่าย 13

คุณป้อมถูกคัดออก แต่ด้วยความ

ประสงค์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงทำให้

คุณแมวพิมพ์ลงทำให้คุณได้เข้าค่าย

13 และได้พบกับผู้..ที่ทำให้คุณป้อม

จะเปลี่ยนจุดยืนจากบ้านสวน

ไปสู่จุดอื่นที่ทำให้เกือบตาย

ปกติลูกบ้านสวนจะรู้ว่าถ้าโดนอาจารย์

ตำหนิ..นั้นคือการเตือนให้ปรับปรุง

เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิด

อย่างเช่นน้องเบส ขอโทษที่ยกตัวอย่าง

ที่ถูกห้ามเข้าบ้านสวน 3 เดือน

แต่ตอนหลังปรับปรุง

เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและขออนุญาต

เข้าบ้านสวน  เบสก็ได้รับความเมตตา

อยากตัวป้าปุ๊เองก็เคยถูกตำหนิ

เรื่องทำงานไม่อึดไม่ทนแต่ป้าก็

พยายามทำงานที่ตนเองคิดว่าทำไหว

จนอาการเจ็บป่วยไม่หายขาด

เมื่อค่าย 13 ป้าสู้เป็นไงเป็นกันก็จะ

ทำงานต่อ อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร

ที่ทำให้เจ็บป่วยและสารภาพบาป

และขอบารมีพระศรีอริยเมตไตรย์

ที่ท่านอาจารย์อาราธนาขอให้ทำงานต่อ

จนเสร็จและบอกปัญหาที่เป็น

ก็สามารถทำงานได้จนเสร็จ

รู้สึกได้ก้าวข้ามขึ้นบันไดได้อีกขั้น

ป้าขอให้กำลังใจคุณป้อมก้าวข้าม

บันไดขั้นนี้ให้ได้ หาจุดยืนที่มั่นคงได้นะ

สำหรับป้าขอเป็นลูกควาย

ของบ้านสวนไปตลอดชีวิตค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 09:21:41


ความคิดเห็นที่ 346 (1635360)

     อึ้งสุดๆเหมือนกัน กับคำถามของสิงห์ป้อม

เท่าที่ทราบมา พระที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบและปฎิบัติจริง ท่านก็ไม่ได้ประกาศตนว่าเป็นพระอะไร 

  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านสอนกรรมฐาน 40 กอง กสิน 10 ได้ แสดงว่าท่านศึกษา ลงมือปฎิบัติ เห็นผลจริงแล้วทั้งสิ้น จึงนำมาสอนลูกศิษย์ได้

  หลวงพ่อ ท่านก็ไม่ได้ประกาศตนว่าเป็นพระอะไรหรือบอกใคร รู้แต่ว่าท่านสอนให้เป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ พิสูจน์ว่านิพพานมีจริง นรก สวรรค์ มีจริง

  สิ่งที่ท่านนำมาสอนลูกศิษย์นั้น ก็เป็นผลที่ท่านปฎิบัติ ได้ผลแล้วทั้งสิ้นและลูกศิษย์ของท่านก็ปฎิบัติได้ผลจริงมามากต่อมาก บางสิ่งก็เป็นสิ่งที่รู้เองเฉพาะตน ไม่มีใครอยากออกมาประกาศตนหรอกเพราะท่านสอนให้ดูตนเองว่าเรายัง เลว อยู่ ไม่ได้มองว่า เรายัง ดี อยู่ 

  ถ้าเรายังลังเลสงสัยในครูบาอาจารย์ ทำไมไม่พิจารณาในสิ่งที่ท่านสอน

 เราก็จะรู้เองว่า อาจารย์เป็นพระอะไร ทำไมต้องให้ท่านบอก ทั้งๆที่สิ่งที่ท่านสอนหลักวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ได้เลย

 แล้วคนที่มาบ้านสวนหาอาจารย์ได้ประโยชน์อย่างไร แล้วทำไมไม่คิดจะทำอะไรให้อาจารย์ ตอบแทนกลับคืนไปบ้าง มากันตั้งนาน ยังหาอะไรไม่เจอแม้แต่ตัวเอง ที่อาจารย์สอนมาก็มาก สอนตัวเองและนำไปสอนหรือช่วยเหลือผู้อื่นต่อได้ไหม

    เหมือนคนที่ทำงานอยากได้เงินเดือนเยอะๆ แต่ไม่ได้คิดว่าตัวเองทำอะไรให้กับบริษัทบ้าง

   เคยได้ยินครูลิลลี่(ครูสอนภาษาไทยที่เป็นสาวประเภท 2) พูดว่า "ให้มองสิ่งที่ครูสอน อย่ามองสิ่งที่ครูเป็น"  

   แล้วยังจะอยากรู้อยู่อีกไหมว่า อาจารย์เป็นพระอะไร ปลุกเสกจี้ยังไง รู้แล้วจะหายทุกข์ไหมจ๊ะ

                                       เด็กหลังห้อง

                                   (ส่งการบ้านช้า แต่ก็ส่งค่ะ) 

 

 

  

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 10:59:23


ความคิดเห็นที่ 347 (1635382)

 

เมื่อได้อ่านคำถามของคุณสิงห์ป้อม แล้วรู้สึกตกใจ และ อึ้งเหมือนกันคะ

แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทุกคนมีสิทธิ์ คิดได้

แต่โดยส่วนตัวแล้วบ้านสวนพีระมิด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีความอัศจรรย์ เกิดขึ้นให้เราได้เห็นกับตาตลอด

ซึ่งเราสามารถพิสูจน์ได้ จึงทำให้หนูมั่นใจในตัวท่านอ.อุบลและ สถานที่ (บ้านสวนพีระมิด)

และเท่าที่รู้มาผู้ปฏิบัติธรรมของแท้ ที่ได้ฌาญหรือสำเร็จถึงขั้น .......ก็ตาม

ท่านจะไม่เปิดเผยสิ่งที่ท่านได้ และ สิ่งที่ท่านเป็น เช่นคำพูดที่ว่า

" ของดีของจริงไม่อวด  ของอวดไม่จริง "  แต่ท่านอาจาร์ยมักพูดเสมอว่าเราควรเลือกทำบุญกับเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์

แล้วผลของบุญจะส่งผลเร็ว  และสิ่งที่ท่านอาจาร์ยสอน และเตือนพวกเรามันคือเรื่องจริงที่จะเกิดกับเราทั้งสิ้น

ในเมื่อเรามีครูบาอาจาร์ยที่ให้เราพิสูจน์ทางวิทยาศารตได้ ไม่ว่าจะเป็นคำสอนและ วัตถุมงคลทุกชนิดทุกชิ้น

ตั้งแต่หนูรู้จักบ้านสวน และได้เข้ามาทำบุญแรงกาย ปัจจัย และสิ่งของ ทำให้ชีวิตหนูดีขึ้นทุกด้านคะ

ไม่ว่าจะเรื่องการค้าและครอบครัว คะ

หนูขอกราบขอบพระคุณ องค์พระศรีอาริยะเมตตรัยที่อ.อุบลอาราธนามาสถิตที่บ้านสวนพีระมิด

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ท่านที่สถิตในบ้านสวนฯ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ท่านที่ปกปักรักษาอ.อุบล

และกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลและครอบครัวที่เมตตา ช่วยลูกๆทุกคนให้พ้นทุกข์ ทุกด้านเจ้าคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปวันรัตน์ ปณัตถ์บุณย์ภวัต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 12:47:06


ความคิดเห็นที่ 348 (1635412)

 อนูโมทนา สำหรับธรรมทานที่ทุกท่านได้มาบอกมาเล่าด้วยค่ะ

ซึ่งกรณีศึกษาครั้งนี้ของคุณสิงห์ป้อม คุณเอิ้น หรือคุณป้าพลังบวก

ทำให้เราต้องหันมามองตัวเอง

ว่าเราได้เรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้า

ซึ่ง อ. อุบล ท่านได้นำมาถ่ายทอดให้ง่าย แสนง่ายในการปฎิบัติ

แล้วซึมลึกเข้าไปในใจเราหรือไม่

เราได้นำไปปฏิบัติหรือไม่ หรือว่าปฏิบัติแต่ปาก

ฟังคำสอนที่บ้านสวน พอกลับก็เอาไว้ที่บ้านสวนเหมือนเดิม

พอนั่งหน้าจอ ก็เข้ามาอ่าน ๆ จบแล้วก็เอาไว้ในคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม ไม่เคยเอาใส่ในใจเลย

หรือเมื่อเห็นที่ไหนมีผลประโยชน์ ก็หวังแต่เข้าไปแสวงหาและกอบโกย

พอได้สมหวังก็สะบัดก้นหนี ไม่คิดจะสำนึกบุญคุณของใครเลย

เล็กมีเพื่อนคนหนึ่ง ลูกสาวเธอเป็นมะเร็งที่จอประสาทตาทั้งสองข้าง

ปัจจุบันนี้โดนควักตาออกไปแล้วไปทั้ง 2 ข้าง และมีข้างหนึ่งเนื้อมะเร็งกำลังก่อตัวขึ้นมาใหม่

ซึ่งได้รับทราบความทุกข์ของคนเป็นแม่ที่มีลูกป่วย มีอาการแขวนบนเส้นด้าย ตลอดมา

ซึ่งเคยได้บอกเรื่องบ้านสวน และรหัส อ.อุบลช่วยด้วย แต่เธอไม่สนใจ

แต่ที่จะเล่าฟัง ก็คือ พี่เขาได้เล่าให้ฟังเรื่องว่าพาลูกไปรักษาหมอสมุนไพรท่านหนึ่ง

ซึ่งมีคนรอคิววันนึงเป็นพันคน พี่เขาได้คิวที่เท่าไหร่ก็ไม่ได้ถาม แต่พี่เขาบอก เขาก็ได้อุ้มลูก

เข้าไปหาหมอท่านนี้เลยโดยไม่สนใจใคร แล้วก็ไปร้องขอความเห็นใจ เล่าอาการโรคใ้้ห้หมอฟัง

ซึ่งเล็กคิดว่าพี่เขาต้องแซงคิวคนอื่นเข้าไป เพื่อจะได้รักษาก่อนไม่ต้องรอนาน

และยาแก้ปวดที่ได้รับมามีจำนวนจำกัด

น้องสาวของเธอก็สวมรอยเอาโรคเบาหวานของแม่ ไปรักษา เพื่อเอายามาให้หลาน ซึ่งความจริงเป็นโรคเอดส์

เล็กก็บอกว่าระวังนะมันผิดศีล  เธอก็บอกว่าพอหลานได้ยารักษาเฉพาะโรคก็ไม่ต้องแล้ว

และก่อนที่จะไปรักษากับหมอสมุนไพร ก็ไปรักษากับพระท่านหนึ่ง แต่ก็ไม่หาย แล้วพี่เขาก็พูดขึ้นมาก็ไม่อยากโทษท่านนะ

ซึ่งเล็กก็คิดว่า จะโทษอะไรพระท่านหรือ ซึ่งความเป็นจริงน่าจะคิดว่าเป็นเวรกรรมของเราของลูกที่ทำมานะ ซึ่งพูดแบบนี้มัน

แสดงถึงความอกตัญญู

ส่วนเรื่องแซงคิวคนอื่น เืพื่อให้เราได้ประโยชน์ก่อนใคร หรือหาคนรู้จักแล้วก็ขอพ่วงเขาเพื่อจะให้เราได้เร็วขึ้น  

หรือพอเริ่มรู้จักเจ้าหน้าที่ก็เริ่้มซื้อของไปฝากเพื่อความสะดวก รวดเร็ว  มันก็เหมือนเราสร้างกรรมเพิ่มมากขึ้น

แล้วคนที่มาก่อนหน้าเราหล่ะ เขาไม่มีเงิน ไม่มีเส้นสายก็นั่งรอคนมาหลังแซงเราไป



 

ผู้แสดงความคิดเห็น เยาวลักษณ์ เกิดมีทรัพย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 16:53:42


ความคิดเห็นที่ 349 (1635416)

      ของดี บ่ดัง (ไม่ดัง)  ของดัง บ่ดี(ไม่ดี) เข้าข่ายว่า ถ้าใครก็ตามบอกว่าตนเองเป็นคนดี    แสดงว่าคนนั้นยัง เป็นคนเลว  เพราะคนดีเขาจะไม่มีการประกาศตัวเองว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้  แม้แต่พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านยังไม่เคยอวดอ้างเลยว่า สำเร็จระดับไหน ขั้นอะไร แต่ท่านจะเน้นสอนแนวทางปฏิบัติให้ทราบว่า  ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์   ท่านปฏิบัติอย่างไรจึงได้รับผลจากการปฏิบัติเช่นนั้น  แต่น้อยคนนักที่จะนำมาปฏิบัติตาม บ้างหาว่าช้า ชอบเป็นอยากในสิ่งที่เห็นผลเลย อยากมีอิทธิฤทธิ์  

แต่ไม่ได้มองตัวเองว่าสร้างเหตุไว้หรือเปล่า รอแต่ผลอย่างเดียว ไม่ได้ดูตัวเองว่า      ศีลบริสุทธิ์ไหม  ทานทำทุกวันหรือเปล่า  ปฏิบัติทำสมาธิภาวนาหรือไม่  แทนที่จะค้นคว้าหาสาเหตุแห่งทุกข์ที่ทำให้เราหลงอยู่ในวัฎฎะสงสาร หลงภพชาติ เพื่อหาทางกำจัดกิเลสต่อไป  ทำไมตัวเองถึงได้โง่มาตลอดนะ

ยัยอัญเอ้ย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 18:59:47


ความคิดเห็นที่ 350 (1635417)

 ขออนุญาตนำธรรมทานของคุณทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล มาโพสน์แทนค่ะ 

ท่านคิดว่า

เหตุ

อันทำให้พ่อสิงห์ป้อม

ต้องเป็นขนาดนี้

เกิดจากอะไร

**********

     เกิดจากความไม่สำนึกบุญคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และผู้มีพระคุณ  ไม่มั่นคง  ไม่ยึดมั่นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า   ไม่จริงใจ   ผิดสัจจะ    ไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์   สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงละวางความช่วยเหลือทำให้โรคหัวใจที่เคยหายแล้วกลับมาเป็นอีก

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 19:05:51


ความคิดเห็นที่ 351 (1635440)

อาจารย์อุบลช่วยด้วย!ค้า

อนุโมทนากับทุกๆท่านกับทุกธรรมทานในการทำworkshopที่นำมาเล่าและเหลาสู่กันฟัง สำหลับคนที่ไม่ได้ไปได้มีโอกาสได้อ่านได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่บ้านสวน ขอบคูณพ่อใหญ่ธนาที่เป็นห่วงคนที่ไม่ได้ไป สมแล้วที่ไดเป็นพ่อใหญ่ เพราะคอยเป็นห่วงลูกบ้านเสมอๆ

ปัญญาน้อยจริงจริ้ง ไม่รู้ไปอยู่ใหนมาถึงไม่รู้อาไรกะเขาเล้ยสักอย่างเดียว วันนี้หลายคนพูดอาไรเราไม่เข้าใจ งงงงง โอขอบารมีพระศรีอาริย์ช่วยให้ลูกมีปัญญารู้เท่าทันคนอี่นๆเค้าด้วยเถอะพระพูทธเจ้าข้า กลับมาเลยมาอ่านสะ อ้อ มันเป็นอย่างนี้นี่เองโอ้หนอ (กรรมของสัตว์)

ไม่ได้เชียนถึงนางฟ้าของเราอีกแระ อ่านจนหมดเวลากว่าจะเข้าใจ เฮ้อ ก็คนมันปํญญาน้อยเน้อ พรุ่งนี้จะตื่นมาเขียนแต่เช้าเลย แต่ขอหลังกลับมาจากไส่บาตรก่อนนะค่ะนางฟ้าขา

ขอบคูณทุกเหตุการที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงภูมิปัญญาของตัวเอง ว่ามีแค่หางอึ่งอย่างที่พระเดชพระคูณหลวงพ่อฤาษีท่านบอก ขอบคูณเทวดาที่รักษาชีวิตที่ทำให้เราได้ทารู้จัก อ.อุบลและบ้านสวนพีระมิด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจนมณีรัตน์ นาคชยานันท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 23:00:02


ความคิดเห็นที่ 352 (1635448)

  กิจกรรม 14 ต.ค 55 กลุ่ม 1 กลับมารายงานต่อ

1.ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่อากาศหนาว ฝนตกไฟดับ ไม่มีไฟแช็ค ไม้ขีด เราจะก่อไฟอย่างไร      ให้ทำจริง

       ขอเพิ่มเติมจาก อ.พันธ์ ค่ะ เนื่องจากกลุ่มเราไม่สามารถจุดไฟติดได้ มีแต่ควันออกมาเป็นบางช่วงจึงไปค้นหาวิธีจุดไฟจากหนังฝรั่งแนวๆติดเกาะ จาก youtube เรื่อง cast away แสดงโดย ทอม แฮ้งค์ ดูในช่วง I have made fire! 

    ซึ่งแสดงการจุดไฟโดยใช้ไม้ที่แตกเป็นร่อง เอาเศษน่าจะเป็นฝอยมะพร้าว มาเป็นเชื้อไฟไว้ในร่องไม้ แล้วใช้ไม้ปลายแหลมถูบนแผ่นไม้ ให้เสียดสีกันจนเกิดความร้อน ไปโดนเชื้อไฟ จนไฟติดขึ้นมา

   ขอเพิ่มเติมอีกหน่อยค่ะ ถ้าหากว่าเราไม่สามารถหาวัสดุใดๆได้เลย เท่าที่ทราบมาว่า การใช้กสินไฟ จะช่วยให้เราอบอุ่นได้ และมีแสงสว่าง คงต้องไปศึกษาเรื่องกสินไฟไว้ ยังทำไม่ได้ค่ะ

   ส่วนการติดไฟอย่างในหนัง ยังไม่ได้ทดลองทำจริงด้วยตัวเอง ไว้จะรายงานผลต่อไปค่ะ

   

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 00:10:43


ความคิดเห็นที่ 353 (1635450)

 

 

กลุ่มนี้ คุณแหล๋นรายงาน คุณพล และใครอีกเชิญด่วนจ้า

กลุ่ม 8 ขอรายงานดังต่อไปนี้ค่ะ

1)  ในภาพรวมบุคคลเหล่านี้จะพยายามทุกวิถีทางที่จะใช้วิธีสร้างภาพให้ลูกบ้านสวนฯ เห็นว่าตนนั้นวิเศษกว่า เก่งกว่า เจ๋งกว่า มหัศจรรย์กว่าท่านอ.อุบลของพวกเราอย่างชนิดชั่วข้ามคืน เพื่อสร้างความประทับใจแบบฉับพลันทันที เพื่อให้ได้ความยอมรับนับถือ... รอปฏิบัติการขั้นถัดไป ...จากนั้น

2) เริ่มยุทธการการเข้าหา ตีสนิท หรือทาบทาม 2 กลุ่มเป้าหมายแรกคือ 1) ผู้นำ เผื่อจะลากออกได้เป็นกลุ่มก้อนหลายคนดี ทำทีเป็นเผยข้อมูลลับเฉพาะ ใหม่ๆ ชักชวนไปร่วมกิจกรรมที่อื่นๆ ซึ่งจัดตรงกับของบ้านสวน เอาให้กลับมาต่อที่บ้านสวนไม่ติด และ2) แบบเจาะคนที่อ่อนแอ ให้ข้อมูลเท็จบ้าง จริงบ้าง ประมาณว่าทำให้งงงงไปก่อน แล้วหาทางเลือกอื่นมาเสียบ เพื่อให้สำเร็จเคี๊ยะออกได้อีก

3)  สร้างบรรยากาศความแตกแยก ร้าวฉานในหม่ลูกบ้านสวนฯ ที่เหลือให้สามัคคีกันไม่ติดเลยที่เดียว ผลัดกันเสี้ยมคนนี้บ้าง คนโน้นบ้างจะได้แตกคอกันไวไว จะได้ไม่อยากมาบ้านสวนฯอีก  วิธีนี้ก็เปรียบเสมือน การโจมตีร่างกายมนุษย์ของไวรัส เซลของร่างกายมนุษย์ ภูมิคุ้มกันมนุษย์จะได้ค่อยๆอ่อนแอลง และ เชื้อโรคอะไร เพื่อก็ง่ายต่อการจะรับเชื้อ และติดโรคอะไรก็ได้

4) พวกเราลูกบ้านสวนฯ ในสถานการณ์ล่อแหลมเช่นนี้ ต้องหมั่นใช้รหัสสวรรค์ อ.อุบลช่วยด้วย” ทุกขณะจิต เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ เค้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงในเร็ววัน จากนั้นลูกบ้านสวน โดยต้องตระหนักรู้ให้เข้าใจว่า นี้ก็คือหนึ่งในภัยที่คุกคามความมั่นคง ต่อบ้านสวนฯ ต่อท่านอ.อุบล ต่อสามร่มโพธิศรี และต่อประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเรา จึงจำเป็นต้องระวังระไว คอยสังเกตุพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดหากจับพิรุธได้ให้รีบเล่าสู่กันฟัง ประกาศให้รู้กันให้ทั่ว

การตอบโต้ คือ

1) แบบแรงงงง.1..ประกาศให้สังคม ผู้คนในแวดวงใกล้ชิดรู้โดยทั่วกัน โดยวาจา และโดยการเขียนธรรมทานใน website เมื่อรู้และดูออก จะได้ระมัดระวังให้จงหนัก

2)  แบบ แรงงงง ..2..บอกเขาไปเลยตรงๆว่าเราไม่สนใจ ไม่เห็นด้วย โปรดอย่าเสียเวลากับเรา ไปเสียเถิด

3) แบบเบาะๆ.....ไม่คบหาสมาคม ไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยเดี่ยวเขาก็ไม่กล้ามาบ้านสวนเองค่ะ 

 

 

ขออนุญาติมาต่อพรุ่งนี้เจ้าค่ะ

ลูกกราบแทบเท้าขออภัยท่านอ.อุบลเจ้าค่ะ ที่มาเขียนช้าาาา เหลือเกิน ก็เนื่องด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา ประมาท ขี้เกียจ และไม่กระตือรือร้น และกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาเตือน และเมตตาให้โอกาสอีกครั้ง บัดนี้ลูกสำนึกแล้วเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบเจ้าค่ะ


อาจินต์ ภิรมย์รักษ์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 01:18:04


ความคิดเห็นที่ 354 (1635456)

วันนี้ได้มีเวลาตามอ่านกระทู้นี้

ได้เห็นการทำงานกันแบบเป็นทีม Workshop 

ของลูกบ้านสวนแต่ละกลุ่มแล้ว

รู้สึกว่าเป็นการเตรียมตัว เตรียมใจ 

และมีแนวทางการแก้ไข การปฏิบัติตน

ในเรื่องของการอยู่กันเป็นกลุ่ม และเมื่อเวลาที่ภัยพิบัติมาถึง

ได้ดีมากๆค่ะ ได้อ่านของแต่ละทีมแล้วก็รู้สึกมีประโยชน์

และเอามาใช้ได้ในชีวิตจริง จริงๆ

ลูกบ้านสวนคงต้องเป็นผู้นำและสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้

ในภายภาคหน้า

จึงต้องฝึกทั้งทฤษฏีและปฎิบัติอย่างจริงจัง

อ่านแล้วชอบวิธีคิดและปฏิบัติมากๆค่ะ

***************************

และดีใจกับ ดร.จิ๋ม ด้วยจริงๆค่ะ

หนูก็เชื่อมั่นว่าสักวัน ดร.จิ๋มจะต้องหายแน่ๆ

เพราะที่ผ่านมา ดร.จิ๋ม ได้ทำบุญโดยเต็มกำลังมาโดยตลอด

ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ยิ่งเวลาได้อยู่ใกล้ๆดร.จิ๋ม

รู้สึกว่าท่านเป็นคนที่มีจิตใจดี มีเมตตา อยู่ใกล้ๆแล้ว

รู้สึกสบายใจมากๆค่ะ

ดีใจจด้วยจริงๆค่ะ 

**********************************

อ่านเรื่องป้าอุ๊แล้วรู้สึกว่าเบื้องบนท่าน

จัดเพื่อมาทดลอง ทดสอบจิตใจลูกบ้านสวนจริงๆค่ะ

เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเรา

และทำให้เรารู้จุดอ่อนของตัวเองมากยิ่งขึ้น

เมื่อใดที่มีคนแอบแฝงตัวเข้ามา

เมื่อน้ันก็จะทำให้ลูกบ้านสวนแกร่งขึ้น 

และรู้วิธีกลยุทธ์ จับจุดของพวกมารแฝงตัวได้ดีขึ้นกว่าเดิมทุกครั้ง

แถมยังเพิ่มความสามัคคีให้พวกเรามากขึ้นด้วย

มันมีทั้งผลดีและผลเสียมาโดยตลอด


แต่อ่านจากที่ป้าอุ๊แกเล่า ก็รู้สึกว่า

ทำไมแกยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนผู้คุม 3 โลกงั้นแหละ

สร้างภาพซะดูดีเลย

ถ้าป้าอุ๊คือผู้ที่จะมาเพิ่มพลังงานบวกให้กับบ้านสวน

หนูว่าป้าเค้าควรที่จะเพิ่มพลังงานบวกให้กับตัวเองก่อนนะคะ

แขนที่ปวดมาหลายปี ทำให้หายก่อนเถอะค่ะ

เอาให้รอดก่อน แล้วค่อยคิดที่จะมาเพิ่มพลังบวกให้บ้านสวน


ถ้าป้าแกคิดว่า แกนี่แหละ คือผู้ที่จะมาช่วยเพิ่มพลังงานบวก

ในมุมมองของหนู คนแบบนั้นจะต้องมีพลังงานบวกในตัวเยอะมากๆ

ต้องเยอะพอๆกับอ.แม่ หรือจะต้องมีมากกว่า

แต่แขนยังให้อ.แม่ช่วยรักษา

หนูว่าที่ป้าแกบอกว่าบ้านสวนมีพลังบวกไม่ถึง 20 % นี่

น่าจะเป็นตัวแกเองซะมากกว่านะคะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 03:35:29


ความคิดเห็นที่ 355 (1635496)

กระผมนายผดุง สุดจิตต์

ขอแสดงความคิดเห็นจากเหตุการคุณป้าอุ๊ ครับ

ขอขอบคุณป้าอุ๊ที่ทำให้ได้แง่คิดอะไรหลายอย่าง

และผมสังเกตุดูจากหน้าป้าอุ๊จากการหนั่งโต๊ะทานอาหารเดียวกันรู้สึกคุณป้าโบ๊ะครีมซะหนาเตอะ เหมือนใส่หน้ากาก เลยทำให้หน้าเด็ก

แต่ผมเปรียบเทียบกับใบหน้าท่านอาจารย์อุบลท่านไม่ได้พอกอะไรท่านก็สวยและหน้าอ่อนกว่าวัย

โดยเฉพาะเคยเห็นตอนท่านจารย์ไม่ได้แต่หน้าใบหน้าท่านอาจารย์สวยใสมากเลยครับ

ทำให้เราต้องรู้จักดูคนให้ดูที่จิตใจ จู่มีคนมาบอกว่าสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้มาโน้มน้าวจิตใจเรา ทั้งที่เรากำลังฟังอาจารย์อุบลอยู่

ป้าอุ๊มาเพื่อทำสอบสภาพจิตใจลูกบ้านสวนหรือปล่าวครับมาแจกเบอร์โทรเพื่อหาเหยื่อเพราะเห็นเค้าประกาศว่าใครอยากปรึกษาให้โทรหาได้แต่บังเอิญผมไม่สนใจครับ เพราะจะมีใครที่จะให้ปัญญาผมได้มากกว่าอาจารย์อุบล ไม่มีอีกแล้วครับ  ไม่มีใครที่จะช่วยผมได้ในยามผมมีปัญญานอกจากอาจารย์อุบลครับ ผมมีปัญญาหารเงินก็อาจารย์อุบลเท่านั้นช่วยผมได้ ทุกครั้งที่ผมมีปัญหาสุขภาพ ก็อาจารยอุบลเท่านั้นครับ  ไม่มีที่ไหนอีกแล้วครับทำได้แบบนี้ ผมมาบ้านสวนเพราะผมรัก เคารพอาจาย์อุบลเท่านั้น  ไม่ขอแสวงหาที่อื่นอีกแล้วครับ ที่สำคัญที่สุดอาจารย์อุบลสอนธรรมได้ตรงแม่นยำ ไม่มีผิดเพี้ยนจากพระไตรปิฏกเลยครับและกระชับเข้าใจง่าย ผมขอตามอาจารย์อุบลครับ  (ต่อให้อ้างว่ามีคนที่สามารถคุยด้วยแม้ครั้งเดียวนิพพานได้ผมไม่เชื่อครับ คนที่อ้างนั้นสอนตรงตามพระไตรปิฎก หรือทำได้เหมือนท่านจารย์หรือปล่าวครับแต่ถ้าทำได้ก็ขออนุโมทนาครับ แต่ส่วนตัวผมขอตามอาจารย์อุบลเท่านั้นครับอย่างไรก็ชัวร์ที่สุดครับ)

และคุณป้าอุ๊เข้ามาทำตัวเนียน ๆ หน้าใสๆ  ดูน่าเชื่อถือเพื่อมาปั่นป่วนเบี่ยงเบียนความสนใจของพวกเรา 

และทำให้เราแตกความสามัคคีหรือปล่าวครับ  และที่สำคัญทำให้ได้ทดสอบสภาพจิตใจว่าแข้มแข็งมั่นคงแค่ไหนครับ

ผมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลครับที่ได้ให้ปํญญาแก่ผมครับอย่างมากครับ และอาจารย์อุบลได้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตผม ได้เติมเต็มชีวิตผมให้สมบูรณ์ที่สุดมีความสุขที่สุดครับ

ผดุง สุดจิตต์

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 10:12:43


ความคิดเห็นที่ 356 (1635527)

เรื่องป้าอุ๊นี้ ทำให้ขวัญทราบว่าตัวเองบกพร่องมาก เพราะไม่ได้ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องการใช้หลักกาลามสูตร เพราะก่อนทราบคำพูดการกระทำของแกจากพี่ป้อม พี่เอิ้น พี่ธนา ขวัญเชื่อป้าอุ๊ไปแล้ว คิดตามเหตุตามผลของตัวเอง ที่ได้เห็นการกระทำหลายๆอย่างของป้าอุ๊ตอนค่าย 13 แล้วสรุปว่าน่าเชื่อถือ

ทั้งรูปร่างหน้าตาที่ดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งคิดเอาเองว่าเพราะทำความดีมามากรวมถึงการกระทำเบื้องหลังเพื่อปกป้องท่านอาจารย์ บ้านสวน จากที่แกเล่าตอนวันค่าย

นอกจากนี้ แกพูดอะไรขวัญก็เชื่อสนิทใจไปหมด เพราะเห็นว่าท่านอาจารย์เชิญให้ออกมาพูดข้างหน้า และให้นั่งโซฟาหน้าเวที อีกทั้งยังมีประวัติว่ามีชื่อเสียงในเว็บพลังจิตเรื่องให้ความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติและอื่นๆ เรื่องนี้ขวัญเพิ่งมาทราบและเชื่อจากธรรมทานในเว็บบ้านสวน ก็เหมือนกับเชื่อตามคำเล่าลือ แล้วก็สรุปจากรูปลักษณ์ที่ดูน่าเชื่อถือว่า ท่านนี้คงจะมีหน้าที่ในยุคใหม่แน่ๆ

ป้าอุ๊เป็นแขกคนสำคัญจริงๆสำหรับค่าย 13 เพราะทำให้ขวัญเห็นว่าตัวเองโง่งมงายมากแค่ไหน ได้พิจารณาตัวเอง ทำให้ตั้งใจที่จะปรับปรุงตัวเอง ใช้หลักกาลามสูตรในชีวิตประจำวัน ไม่เชื่อหมดเปลือกจนกว่าได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ที่สำคัญ ทำให้รู้ว่าเรื่องแค่นี้ตัวเองยังไม่ใช้หลักกาลามสูตร  แล้วจะพบพระศรีอาริย์ท่านได้อย่างไร

*******************

การที่พี่ป้อมมีอาการเกือบตาย จากที่ขวัญเห็นการกระทำของพี่ คิดว่าเป็นเพราะกรรมรวมตัวจากการที่พี่ป้อมไม่รักบ้านสวนจริง ไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยสามร่มโพธิ์ศรีอย่างเต็มที่ และจับปลาสองมือ ที่ไหนที่เขาว่าดี ก็ทำตาม เช่นเรื่องฝึกจิตตามกระทู้นั้นในเว็บพลังจิต

ขอบคุณทุกธรรมทานนะคะ ประเด็นเรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่จะทำให้เราก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็งกว่าเดิม เพื่อพระนิพพานค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 13:59:55


ความคิดเห็นที่ 357 (1635612)

 พวกเรา

มาช่วยกันคิด ช่วยกันวิเคราะห์

กันหน่อยซี ว่าทำไม

ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้

เพียงการสวมจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์

 

ในจี้นี้

มีสิ่งใด อันเป็นสิ่งมหัศจรรย์

เป็นพลัง อาณุภาพ

จากอะไร พระองค์ใด หรือ

อื่นใด จึงทำให้คนพิการ เจ็บป่วยมานาน

ที่หมอบอกว่า รักษาไม่ได้แล้ว

กลับหายได้ ในพริบตา

***

 

หนูก็เช่นกันเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจในพลังอานุภาพของจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี นี้เกิดจากบารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ บารมีพระศรีอาริยเมตไตรย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ทั่วมหาอนันตจักรวาล และทีสถิตย์อยู่ในทุกอนูของบ้านสวนพีระมิดค่ะ ที่ท่านมีพระเมตตามาช่วยขจัดปัดเป่าปลดเปลื้องความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงให้กับผู้ที่ใฝ่ดี ปรารถนาดี และมุ่งปฏิบัติเพื่อได้เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์ เพราะท่านอาจารย์เมตตาสอนว่าจะเป็นยุคที่จะไม่มีคนที่ทุกข์ เจ็บป่วย พิการ หรือยากจน โดยเฉพาะกับผู้ที่ตั้งสัจจะว่าจะร่วมปกป้อง กอบกู้ สามร่มโพธิ์ศรีด้วยความจริงใจ กล้าหาญ และเสียสละ ผู้ที่รักษาศีลอย่างมั่นคง ทำความดี ละความชั่ว และช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วยจิตใจหวังดีอย่างแท้จริงค่ะ

 

 

อาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 22:25:23


ความคิดเห็นที่ 358 (1635614)

 เนื่องจาก ลูกบ้านสวนบางคน สร้างพลังงานไม่ดีทำให้สถานที่ดีแสดงปาฎิหาริยืได้ไม่เต็มที่ จากที่คุยพลังงานในบ้านสวนตอนนี้ มีไม่ถึง 20 เปอร์เซนต์จาก พี่เค้าก็บอกว่า ได้รับสื่อมาว่า ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องช่วยให้บ้านสวน ในใจก็แอบคิดว่าอย่างเราเนี่ยนะ เป็นคนที่ไม่มีอะไรโดดเด่น ดี เลย แุึถมชอบคิดลบอีก

 

*********************************

หนูคิดหวาดเสียวแทนเจ้าของความคิดอันที่อาจหาญ ปรามาส จาบจ้วงบ้านสวนพีระมิด ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ เสียเหลือเกิน แถมยังยกตนข่มท่านซะอีก ป่านฉะนี้ คุณพี่คนนั้นจะประสบชะตากรรมอย่างไรไม่อาจรู้ได้เลยนะเจ้าคะท่านอาจารย์  แต่อย่างไรเสียก็ต้องขอบคุณที่เขาลงทุนใช้ตัวเองเป็นธรรมทานที่ชัดเจนในเคสที่เนียนๆอย่างนี้ (แต่ยังเนียนไม่พอ)  ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เค้า เราจะทราบถึงความแตกต่างระหว่างสี ขาว เทา ดำ  

อาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 22:43:06


ความคิดเห็นที่ 359 (1635619)

 ตอนที่ มีคนบอกว่าสถานที่บ้านสวนมีพลังงานบวกไม่ถึง

20 เปอร์เซ็นต์ เลยทำให้แสดงปาฏิหาริย์ได้ไม่มาก

หนูขออนุญาตแสดงความคิดเห็นดังนี้ค่ะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

หนูสังเกตว่า คุณป้าคนนี้เขาพึ่งมาบ้านสวนฯเป็นครั้งแรก แต่อาจหารกล้าวิพากษ์วิจารณ์ว่า

บ้านสวนพีระมิดมีพลังลบ และตัวเองจะมาแก้ไขปัญหา เป็นการเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น

เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยนะคะ ทั้งๆที่ต่อหน้าท่านอ.อุบลกับทุกคนๆ กล่าวชื่นชมจนพวกเราเป็นปลื้ม เกือบจะลอย แต่ทำไมถึงกลับตาลปัดเป็นอย่างนี้ ไปได้หล่ะคะ หรือว่าคุณป้าจะมาทดสอบความหนักแน่นของพวกเราหรือเปล่าคะ

หนูคิดว่า"พลัง" ที่เปลื่ยนให้คนเป็นคนดี

"พลัง"ที่ทำให้คนเลิกกินเนื้อสัตว เลิกเบียดเบียนผู้อื่น

"พลัง"ที่ช่วยขจัดปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัย ความเจ็บป่วย อุปสรรค ความยากจน ความพิการ และ

"พลัง"ที่ที่เต็มเปื่ยมไปด้วยพระพุทธคุณสามารถคุ้มครองเราให้ปลอดภัยตลอดเวลา

นี่หรือคะพลังลบของคุณป้า ทำไมมันดีอย่างนี้ บัวไม่เข้าใจเลยจริงๆ 

 

กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 23:25:30


ความคิดเห็นที่ 360 (1635663)

พวกเรา

มาช่วยกันคิด ช่วยกันวิเคราะห์

กันหน่อยซี ว่าทำไม

ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้

เพียงการสวมจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์

 

ในจี้นี้

มีสิ่งใด อันเป็นสิ่งมหัศจรรย์

เป็นพลัง อาณุภาพ

จากอะไร พระองค์ใด หรือ

อื่นใด จึงทำให้คนพิการ เจ็บป่วยมานาน

ที่หมอบอกว่า รักษาไม่ได้แล้ว

กลับหายได้ ในพริบตา

***

กราบเรียน อ.อุบล ค่ะ

ขอแสดงความยินดี กับ ดร.จิ๋ม และทุกคน ด้วยนะค่ะ ในความคิดเห็นของวิวคิดว่าสาเหตุที่เกิดสิ่งมหัศจรรย์ ดังนี้

1. ผลจากกรรมดีของ ดร.จิ๋มค่ะ

วิว สังเกตดู ดร.จิ๋ม มีความตั้งใจทำบุญ

ทุกบุญโดยเต็มกำลังความสามารถ

และเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่าน อ.อุบล

พลังบุญอันบริสุทธิ์ที่ไม่แอบแฝง

ผลประโยชน์ ทำให้เกิดบุญรวมตัว

ส่งผลให้ ดร.จิ๋ม เดินได้ตรงเป็นปกติ

ซึ่งวิวชื่นชมท่านอยู่ในใจอยู่เสมอว่า

ท่านเป็นคนดีจริง ๆ ทำบุญทุกอย่าง

ทั้งงานหนักงานเบา ทั้งแรงกายและ

ทำบุญด้วยเงินอีกเป็นจำนวนมากมาย

แต่ท่านไม่เคยประกาศบอกใคร ๆ เลย

วิวเคยคิดว่าสักวันหนึ่ง 

ดร.จิ๋ม ต้องหายจากโรคนี้คนแรกของโลก

โดยใช้วิธีของพระพุทธผ่านท่าน อ.อุบล

ขออนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

 

2. คิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการให้ทุกคน

พิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่อง

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ถ้าดับเหตุได้ผลก็ดับ"

และพิสูจน์บารมีของพระศรีอาริย์ว่า

"พระศรีอาริย์นั้นมีอยู่จริง" สามารถสัมผัส

บารมีท่านได้

*******************

เรื่องป้าอุ๊

***

ตอนแรกที่ ท่าน อ.อุบล ได้พูดเรื่องป้าอุ๊

และเห็นป้าอุ๊ ก็รู้สึกชื่นชมยินดีด้วย

แต่ไม่มีความรู้สึกว่าอยากไปคุย

กับป้าอุ๊เลย รู้สึกดีใจด้วยที่บ้านสวนฯ

ได้คนดี ๆ เข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งคน

แต่พอมาอ่านเรื่องราวทั้งหมด

ทำให้คิดได้ว่า คนที่ไปหลงคารม

ป้าอุ๊ นั้นคงจะขาดสติไปชั่วระยะ

เวลาหนึ่งรึป่าวค่ะ และลืมหลัก

กาลามสูตร ที่ท่าน อ.อุบล คอย

พูด เตือน และพร่ำสอนอยู่ตลอดเวลา

เราต้องจำให้ขึ้นใจอยู่เสมอ

ว่าอย่าเชื่อทุกสิ่งโดยไม่ได้พิสูจน์

และเราควรจะฟังมากกว่าพูด

ฟังแล้วเอามาคิดวิเคราะห์ว่า

สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่

 

เรื่องของป้าอุ๊นั้น มาเร็วเคลมเร็วจริง ๆ ค่ะ

 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณป้อมและคุณเอิ้น

ด้วยนะคะ บททดสอบนี้สอบไม่ผ่านค่ะ

ไว้บททดสอบเรื่องต่อไปขอให้

สอบให้ผ่านนะค่ะเอาใจช่วยค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ดาเรศ เจริญศิลป์ (วิว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 11:57:16


ความคิดเห็นที่ 361 (1635686)

 ลูกอาจินต์ ภิรมย์รักษ์ กราบขออภัยที่โพสต์ผิดหน้าจึงขออนุญาติโพสต์ใหม่ดังต่อไปนี้เจ้าค่ะท่านอาจารย์ 

ความเห็นที่ 83 (1634619)

แจ้งลบความคิดเห็น

 กราบสวัสดีท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล และคุณท็อปที่รัก และนับถือ

ต่อเนื่องจาก workshop วันอาทิตย์ที่ 7ตุลาคม 2555 ผิดค่ะและขอแก้ไขเป็น 14 ตุลาคม 2555  ด้วยยังมีโจทย์ทั่วไป อีก 2 ข้อที่มอบหมายให้ทุกกลุ่ม แต่ด้วยเวลาจำกัดจึงยังไม่ได้รายงานกัน ลูก อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ในนามของกลุ่ม 8 ที่มีสมาชิก 3 คนคือ คุณจตุพล น้องกระต่าย และตัวลูกเอง ขอกราบขออนุญาตินำเสนอให้เป็นลายลักษณ์อักษรดังต่อไปนี้ค่ะ

จากการที่ท่านอ.อุบลเมตตาให้คุณธนาฉายให้พวกเราได้ดูหลายๆคลิปภัยพิบัติที่รุนแรง มีอำนาจการทำลายล้างสูง และคลิบสยองที่คนทั่วไปไม่เคยตระหนักว่าอดีตผู่บริโภคอย่างเราๆ อย่างข้าพเจ้า จะป็นหนึ่งในส่วนที่สนับสนุนให้มีการฆ่าสัตว์อย่างโหดร้ายทารุณ หลากหลายรูปแบบ แล้วแต่จะสรรหา กระทำอย่างไร้ความเมตตา และไร้ศักดิ์ศรี  ในรูปแบบของอุตสาหกรรมเพียงเพื่อความเข้าใจว่าเป็นอาหารให้มนุษย์อย่างเอร็ดอร่อย พวกเราได้ดูด้วยกันในคืนวันเสาร์ด้วยความสลดหดหู่ และเสียใจอย่างสุดซึ้งที่หลงผิดคิดว่าเขาเกิดมาเพื่อถูกฆ่า คิดว่าเขาไม่เจ็บ และเป็นอาหารให้เรา คิดกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เคี่ยวเข็ญ และฝึกให้กินมังฯ ถ้าเราลองคิดสลับกลับกันดูถ้าเราโดนเฉกเช่นเดียวกัน เราจะเจ็บมั้ย โกรธมั้ย แค้นมั้ย แน่นอนคำตอบคือ ใช่ และมากถึงมากที่สุด คอยดูนะจะหาโอการเอาคืนสาสมกันเลยทีเดียว ดังนั้นถึงตรงนี้กระจ่างใจเลย และไม่สงสัยเลยเจ้าค่ะว่าทำใมถึงต้องมีภัยพิบัติ   โจทย์ที่ท่านอาจารย์มอบหมายคือว่าพวกเราลูกบ้านสวนจะช่วยกันหยุดยั้งภัยพิบัติได้หรือไม่ และจะบอกคนที่เรารักอ่ย่างไรให้เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแบบฉับพลันทันทีได้หรือไม่ และอย่างไร

พวกเรากลุ่ม 8 ขออนุญาติตอบรวมทั้งสองข้อว่าพวกเราเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรเทาความรุนแรงลงได้ โดย

1.1        อันดับแรกต้องให้ตระหนักรู้ก่อนว่าภัยพิบัตินี้มิใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติล้วนๆ แต่เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนโดย กฏแห่งกรรม อันเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์หมู่มาก ที่ผิด พร่องศีล ศีลขาด ศีลทะลุศีล มาตลอดเป็นหลักใหญ่ และยังปฏิบัติผิดๆสืบต่อๆกันมา ความรู้สึกที่โกรธแค้น ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ/ถูกกระทำจึงสั่งสมเป็นพลังลบดำมืดหนาแน่นมวลมมหึมามหาศาลที่มากพอที่จะขับเคลื่อนรอโอกาสที่จะเอาคืน แก้แค้นเป็นต้น

1.2        และเราก็บอกเล่าเรื่องราว และปรากฏการณ์อันแสนอัศจรรย์ของบ้านสวนพีระมิดได้รับรู้ว่ามีจริงๆนะ บารมีพระพุทธองค์ บารมีพระศรีอริยเมตไตร และสิ่งศักดิ์ทั้งหลายในจักรวาลนั้นมีจริง และสิ่งศักดิ์ทั้งหลายได้เมตตาแสดงให้โอกาสแสดงปาฏิหารย์ ให้เห็นเป็นอัศจรรย์ เป็นที่ประจักษ์ต่อลูกบ้านสวน และรวมถึงสาธารณชนมาแล้วมากมาย นับไม่ถ้วนผ่านความเมตตาของท่านอาจารย์ อุบล ว่ากฏแห่งกรรมนี้มีจริง ส่งผลต่อผู้กระทำทั้งทางตรง และทางอ้อม เพียงเราด้วยตาเนื้อของมนุษย์นี้ แสนหยาบ จึงมองไม่เห็น หนึ่งในหลายต่อหลายตัวอย่างชัดๆก็เมื่อคุณอมรพลาดถูกเสาปูนทับนิ้ว ตอนทำงานใช้แรงกาย จนนิ้วบวมเป่งกลมราวลูกปิงปอง หากแต่ได้รับความเมตตาและบารมีที่ท่านอาจารย์อุบล ขออาราธนาจากพระศรีอารียเมตไตรบำบัด รักษาให้ในแทบจะทันที อาการบวมของนิ้วก็ลด......ลง.....ฟี้...ราวกับลูกโป่งปล่อยลมกระนั้น เป็นที่อัศจรรย์ใจเรียกเสียงฮือฮาจากลูกบ้านสวนกันถ้วนหน้าเลยทีเดียว  อาจารย์ท่านได้เมตตา เฉลยต่อในภายหลังว่านี่นะ นิ้วนี่นะยังลดความบวมในทันทีได้ฉันใด ปริมาณน้ำที่ท่วมกันทั้งภาค ทั้งประเทศก็สามารถลดฮวบแห้งลงได้ทันทีฉันนั้น  ถ้าเพียงแต่ผู้ที่คิดผิดทำผิดอาจหาญปรามาส...... ทั้งทำผิดต่อบ้านเมือง โกงทรัพย์ของแผ่นดินผิดศีลข้อ 2 จะสำนึกได้ ขอขมา แสดงความเสียใจ ตั้งสัจจะว่าจะไม่ทำอีก และมุ่งมั่นทำแต่ความดีรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ก็คือการดับเหตุ เพื่อดับผลนั่นเอง  และคิดต่อให้ได้ว่าภัยพิบัตืที่จ่อคิวจะมาถล่มในไม่ช้าไม่นานนี้ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น...

1.3        เราสามารถพิสูจน์โดยแสดงให้เขาประจักษ์ เรื่องกฏแห่งกรรม โดยผ่านการบำบัดอาการใดใดที่เขามีด้วยจี้องค์เทพสฟิงค์ ว่าพระคาถาพระศรีอริยเมตไตร 99 จบขึ้นไป และที่วิเศษที่สุด เด็ดที่สุด เจ๋งที่สุด เร็วที่สุดปัจจุบันทันด่วน และทันท่วงทีที่สุดในสามโลก (ถ้าเรากล่าวทัน )  ก็คือ...... .รหัสสวรรค์ อาจารย์ อุบลช่วยด้วย นั่นเอง  ยิ่งไปกว่านั้น

1.4         ต้องบอกกล่าวเรื่องที่ได้เรียนรู้จากท่านก็คือ การที่คนเราจะรู้จัก หยุดยั้งการสร้างกรรมใหม่ รวมทั้งการหยุดการกินเนื้อสัตว์ทันที เพื่อไม่เป็นส่วนที่สนับสนุนการเบียดเบียน ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต ส่วนกรรมเก่าในอดีตก็ต้องหมั่นสำรวจ คอยจับผิดตัวเองว่าชั่วชีวิตที่ผ่านมานั้น ได้เคยทำบาป ผิดศีลอะไรมาแล้วกับใคร อย่างไรมาแล้วบ้าง ถ้าจำไม่ได้ก็ใช้รหัสสวรรค์ ขอให้นึกให้ออก เมื่อระลึกได้ก็ต้อง อย่ารอช้าให้เนิ่นนาน เพราะเจ้ากรรมนายเวรเขาเฝ้ารอโอกาสนี้มานานแสนนาน รีบขอขมาด่วนกับจี้องค์สฟิงค์ หรืออุปกรณ์สารภาพบาป  ในทันทีทันใดเลย อย่ารอเดี๋ยวจะลืม ไม่งั้นเจ้ากรรมนายเวร ยิ่งโกรธหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก ให้รีบแสดงความรู้ สำนึกในบาปนั้นๆ แสดงความเสียใจอย่างจริงจัง ตั้งสัจจะว่าจะไม่ผิดซ้ำซากอีกเป็นอันขาด ตายเป็นตาย หรืออีกนัยหนึ่งต้องรักษาสัจจะยิ่งชีพ หมั่นส่งบุญฯ บริสุทธ์ที่สร้างที่บ้านสวนฯ และแผ่เมตตาให้เจ้ากรรม นายเวรทุกๆดวงจิตดวงวิญญาณให้มากที่สุดถี่ที่สุดเท่าที่จะมีเวลา เพราะคู่กรณีมีมากมาย เส้นตายมาคอยแล้ว ด้วยหวังว่าสักวันหนึ่ง เจ้ากรรมนายเวรจะพออกพอใจ และยินดีและมีเมตตายอมรับบุญ โมทนาบุญ อโหสิกรรมให้เรา และเลิกจองกรรมได้ในที่สุด

 

ด้วยวิธีนี้ พวกเราเชื่อมั่นในสัญชาติญาณมนุษย์ว่ารักตัวกลัวตายก็จะพากันบอกต่อ ถึงแม้นว่าอาจได้ผลเพียงในคนหมู่น้อยที่ยังอาจมีเชื้อดีอยู่บ้าง ก็จะช่วยลดมวลพลังงานลบให้ไม่ใหญ่เท่าเดิม และพลังแห่งความดีก็จะหนุนนำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนท่านเมตตาสามารถช่วยขจัดปัดเป่า ปกป้องคุมครองแก่ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ภัยก็จะขับเคลื่อนได้น้อยลง ลดแสนยานุภาพ ลดอำนาจการทำลายล้างได้เพียงแค่สร้างความเสียหายในเฉพาะกลุ่มคนไม่ดีที่ดื้อด้าน เกินจะเยียวยา จำเป็นต้องถูกกำจัดไปในที่สุด

ลูกกราบขอบารมีของพระศรีอารืย์ พระพุทธองค์ ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนาทั้งหมดทั้งมวลที่ลูกได้สร้างในอดีตชาติ จวบจบปัจจุบันวันนี้ รวมกับทุกบุญที่สร้างที่บ้าวสวนพีระมิด ขอถวายแด่ องค์เทพเทวดาทุกๆพระองค์ที่รักษาท่าน อาจารย์ และท่านอาจารย์มงคล และคุณท็อบ และทุกพระองค์ที่สถิตย์ทั่งทั้งจักรวาลที่สถิตย์อยู่ ณ บ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ

กราบขอบพระคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

บันทึกโดย อาจินต์ ภิรมย์รักษ์

วันอาทิตย์ที่ 7ตุลาคม 2555 ผิดค่ะ และ ขอแก้ไขเป็น 16 ตุลาคม 2555

ผู้แสดงความคิดเห็น อาชวินท์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 01:22:37

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 14:56:38


ความคิดเห็นที่ 362 (1635699)

 หนูขอเล่าบ้างนะคะ  ในค่ำของ คืนวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม ท่าน .อุบล ได้นำวีดีโอ เกี่ยวกับ ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น และการฆ่าสัตว ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นอาหารให้แก่มนุษย์ อย่างพวกเราๆ ซึ่งโหดร้าย ทารุณ และไม่มีเมตตาเอาซะเลย บัวรู้แล้วว่าทำไมถึงต้องมีภัยพิบัติ เพราะว่าวิญญาณ์ ของสัตว์พวกนี้เขาแค้นพวกเรามากๆ เขาคงอยากเอาคืนให้เร็วที่สุดนะคะ พวกเราจึงจำเป็นจะต้อง หยุดกินเนื้อสัตว กันให้ทันทีเลยนะคะ เพื่อลดการสร้างแรงแค้นใหม่นะคะ ส่วนแรงแค้นเก่าเราก็ช่วยกันหมั่นขยันเบิกบุญบ่อยๆ ให้พวกเขา

หลังจากนั้นท่าน อาจารย์ ได้เมตตาเชิญทุกๆคน ไปทานบาร์บีคิวเห็ด มัน ฟักทอง พร้อมน้ำจิ้มแสนอร่อยสูตรป้าแมว ที่ลานสวรรค์ ด้านนอก ท่านได้กรุณา แนะนำจี้รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เบื้องบนเมตตาให้สร้าง เพื่อให้มีอนุภาพพระศรีอาริย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลมากยิ่งขึ้น ชื่อว่าจี้สฟิงข์ รุ่น 3ร่มโพธิศรี ให้ทุกๆคนได้ลองบำบัด ซึ่งบัวก็ได้ลองด้วยคะ บัวได้คล้องจี้ 3 องค์ บัวนับถึง 20 กว่าวินาทีแหนะคะ ท่านอาจารย์ บอกว่า เป็นเพราะหนูขี้เกียจ ชอบดูการตูนและไม่ค่อยเขียนธรรมทาน มหัศจรรย์ จริงๆคะบัว  หายเป็นตะคริวจริงๆด้วยคะ บัวรับทราบ และจะปรับปรุงตัวตามที่ท่านอ.อุบลเมตตาเตือน

พี่ของบัว พี่ณัฐ ณภัทร ภิรมย์รักษ์ ก็ได้ร่วมบำบัดด้วย และได้หายจากอาการตึงที่นิ้ว สามารถงอนิ้วได้ แฮ่ๆ อาจารย์ท่านได้เมตตาเฉลยว่า เพราะพี่ณัฐยังขี้เกียจไม่ค่อยเขียนธรรมทาน ท่านอาจารย์ได้เมตตาหนึ่งก็อกที่หัวพี่ณัฐ 555 ? ทีแรกพี่ณัฐเกือบไม่หาย ท่านอาจารย์เมตตาสื่อว่าเบื้องบนอาจยังไม่เชื่อใจ พี่ณัฐต้องสัจจะไว้ว่าจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น จึงจะรู้สึกว่าดีขึ้น หายตึงค่ะ

แม่แหล๋นก็รอจะรับการบำบัดเมื่อยหัวไหล่ขวา แต่... มหัศจรรย์มากนะคะที่ แม่บอกว่า... ไม่ต้องแล้ว.. แม่หายแล้ว แค่ร่วมโมทนากับทุกท่านก่อนหน้านี้ อู้หู... เจ๋งจริงนะคะเนี่ย

เคสที่หนูประทับใจมากที่สุดก็คือ ป้าเจี๊ยบ และดร.จิ๋ม ค่ะ ท่านอ.อุบล ได้ เมตตาให้ลองสวมจี้สามร่มโพธ์ศรี  ทั้งป้าเจี๊ยบที่นิ้วเริ่มหายตึง และงอได้ เกือบจะทันที ส่วนด๊อกเตอร์จิ๋มก็มหัศจรรย์ค่ะ เมื่อลองเดิน รู้สึกว่าเดินเอียงน้อยลงๆๆๆ หัวไหล่ตรงคะ ปกติแล้ว ดร.จิ๋มจะสวมรองเท้าพิเศษ ที่มีเสริมส้น ข้างนึง ก็ได้ลองถอดรองเท้าเดิน ปรากฏว่าเดินได้เท้าเปล่า เท้าแนบพื้นได้มากขึ้นจากเดิมมากค่ะ หนูเชื่อว่า อีกไม่นานก็น่าจะดีขึ้นเป็นลำดับนะคะดร.จิ๋ม หนูและทุกๆคนก็ลุ้นระทึกน่าดูเลยค่ะ ดีใจด้วยนะคะ บัวขอร่วมโมทนาสาธุ สาธุ สาธุค่ะ

 

 

กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 17:13:12


ความคิดเห็นที่ 363 (1635736)

กราบท่านอ.อุบล ที่เคารพ

              วันนี้ได้มีโอกาสอ่านธรรมทานจึงเพิ่งรู้ตัวว่าด้วยความโง่และไม่มีเวลาศึกษาให้ดีพอเพียงแต่เพราะอยากได้บุญเพราะตอนเข้าค่าย13 ท่านอ.อุบลบอกว่าการเขียนธรรมทานได้บุญมาก   ดังนั้นแต่ละวันเมื่อมีโอกาสก็อยากเชียนธรรมทาน    ด้วยเชื่อมั่นในคุณสิงห์ป้อมว่าคือคนใกล้ชิดบ้านสวนเฉกเช่นคุณธนา ตุณแมว.ฯลฯ เพราะเข้าค่ายครั้งไหนก็เจอคุณสิงห์ป้อม....  แต่เพราะลูกอาจเป็นได้แค่ฝูงควายคอยวิ่งตาม...... ลูกขอกราบ  กราบ  กราบ  ท่านอ.อบล ที่ไปเขียนสนับสนุนสิงห์ป้อม

          ในแต่ละวันเมื่อไม่ได้เขียนธรรมทานก็จะเล่าเรื่องกรณีที่รอดตายเพราะเรียก อ.อุบลช่วยด้วยให้คนฟังทุกวันค่ะ   ขณะนี้กำลังประชาสัมพันธ์บ้านสวนพีระมิดทางโทรศัพท์ให้น้าซึ่งอยู่ต่างจังหวัดเพราะถ้าน้าเชื่อแล้วคิดว่าเรื่องอ.อุบลช่วย  จะแพร่หลายอย่างมากมายเพราะน้าเป็นบุคคลมีวาทศิลป์ที่พูดอะไรออกไปคนจะเชื่อถือและศรัทธา

          วันนี้ลูกได้ช่วยให้พี่ชายรอดตายจากการใช้จี้สฟิงซ์โดยพี่ชายมีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกเมื่อเวลา 18 น.เศษ วันที่ 21 ตุลาคม 2555 ครั้งแรกบอกให้พีชายระลึกถึงบารมีของพระศรีอริย์ที่อยู่บนคอนลูก  3  องค์ + จี้อ.อุบลช่วยด้วย 1  เหรียญ แต่อาการยังไม่ดีขึ้น จึงบอกพี่ชาย ร้องเรียกอ.อุบลช่วยด้วยอาการดีขึ้นบ้างลูกเลยวิ่งขึ้นบนบ้านถอดสร้อยออกเอาเข็มกลัดเอาจึ้สฟิงซ์ 3  องค์ + จี้อ.อุบล 1 เหรียญ  แล้ววิ่งลงมาที่พี่ชายนั่งอยู่หลังรถยนต์แค่เอาเข็มกลัดที่มีจี้คล้องลงไปที่สร้อยพี่ชายแค่นั้นพี่ชายเรอออก....แล้วพูดว่ารอดตายแล้ว............อ.อุบล เจ้าขาลูกขอกราบขอบพระคุณพระบารมีของพระศรีอริย์ฯสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายในบ้านสวนพีระมิด  และกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล  อ.มงคล และขอบคุณคุณท้อป 

    กราบ  กราบ กราบ ท่านอ.อุบลด้วยความเคราพ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 22:30:49


ความคิดเห็นที่ 364 (1635741)

                      วันนี้21 ต.ค.55  ได้ดูเทป รายการคุยไปแจกไป ดูการรายงานผลจากการทำworkshop แล้วขออนโมทนากับทุกท่านที่่ได้พบกับความมหัศจรรย์หายจากอาการเจ็บรวมทั้งปัญหาผิวพรรณก็ดีขึ้นและหมดไป  แต่ที่เด็ดคือปิติจนน้ำตาไหลที่เห็นคุณจิ๋มเดินได้ปกติและมีน้ำใจที่จะซื้อสร้อยเก็บไว้และเพือใช้รักษาคนอื่นด้วย       ที่เด็ดอีกรายการหนึ่งก็คือการที่คุณอมร....หายจากติดอ่างคือเห็นได้ชัดเลยพอท่านอ.อบลให้สวมจี้และให้พูดธรรมทานเท่านั้นแหละได้ผลจริง.............คุณอมรหายติดอ่างอัศจรรย์มากมากเห็นแล้วดีใจกับคุณอมร..กราบ   ท่านอ.อุบล..........ในโลกยุคนี้ไม่มีใครดีกว่าท่านอ.อุบลหรอกค่ะ..........เชื่อมั่นและศรัทธาเดิม 100%

                       ครอบครัวของลูกประกอบด้วยพ่ออายุ 85 ปี  แม่อายุ 80 ปี มีความเชื่อมั่นท่านอ.อุบลเสมอและการไปบ้านสวนจึงไปได้เฉพาะช่วงเข้าค่ายเพราะแม่ชอบขายของจะต้องไปส่งเนื่องจากที่ขายของอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1.กม.ถ้าลูกไม่อยู่แม่จะต้องเดินไปเพราะชอบขายของมากหยุดไม่ได้  ดังนั้นทุกวันอาทิตย์เวลา15.00-17.00 น  จึงนั่งเฝ้าที่วีทุกครั้งที่มีโอกาส  มีความสุขค่ะที่ได้ดูรายการนี้

                     ลูกจะพยายามเป็นควายที่เป็นตัวจ่าฝูงและหนาเหมือนฮิปโป

                                                                    กราบ  กราบ  กราบ  ท่านอ.อุบลด้วยความเคราพ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัณณิตา นันตะโรหิต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 23:10:55


ความคิดเห็นที่ 365 (1635863)
อ่านธรรมทานและดูคลิปของ work shop วันที่ 13-14 ตุลา 55 แล้ว เข้มข้นขึ้นทุกครั้งเลยนะคร๊าบบบบ

กรรมผิวพรรณของกลุ่มพี่อ้อย ทำให้นึกย้อนดูตัวเองว่าเคยคิดทำมั่งมั้ย โดยที่ไม่ต้องรอให้ใครมาสั่ง แม้หลังใช้ห้องน้ำเสร็จ เราจะดูแล้วว่ามันไม่สกปรก แต่ก็ไม่ได้สะอาดเหมือนขัดใหม่เสมอ และเรื่องการช่วยทำความสะอาดโรงทาน ยอมรับเลยค่ะ มีน้ำหกที่พื้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยเช็ดค่ะ ณ วันนั้นมีข้ออ้างให้ตัวเองค่ะ แต่ตอนนี้รู้แล้วและจะไม่ดูดายอีกค่ะ ถ้ามีโอกาสได้ไปอีกนะคะ ?!! แม้ไม่มีโอกาสได้ไปก็ขอน้อมนำเอาคำสอนของท่านอาจารย์ไปปรับใช้กับตัวเองค่ะ 
 
 

มิน่า อายุใบหน้าพี่อ้อย สวนทางกะอายุจริงมากกกก อายเลยพี่ >///<

 
จี้รุ่น ๓ ร่มโพธิ์ศรีของบ้านสวนพีระมิดพุทธคุณล้ำเลิศมาก ยิ่งได้ดูคลิป ที่ ดร.จิ๋มเดินคล่อง ดีใจจนน้ำตาไหล พี่จิ๋มค่ะ อนุโมทนาด้วยนะคะ บุญรวมตัวกับพลังงานอนันตจักรวาล และบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดูไปสังเกตไปตามที่พี่เหมี่ยวเล่าว่าเห็นไหล่ค่อยๆ ยืดออก และพออาจารย์เมตตาให้คล้องจี้เพิ่ม เท้าที่เขย่ง ก็ดูจะเดินดีขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเดินนานขึ้น...ระยะลงเท้าก็ดูเหมือนว่า ความต่างของความยาวของขาจะลดลงเรื่อยๆ โห...ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้เสมอที่บ้านสวนฯ พิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ทุกอย่าง แต่ผลที่ได้วิทยาศาสตร์ ให้ไม่ได้นะซิบอกไห่

เคสพี่อมร ตอนแรกก็จะดูไม่ออกและไม่รู้เลยนพคร๊าบ เพราะเวลาพี่อมรขึ้นพรีเซนต์ หรือเล่าธรรมทานก็เข้าใจว่าเพราะประหม่ามาตลอด ไม่คิดว่าเป็นประสาทสั่งงานไม่สัมพันธ์กัน แต่พอนั่งดูไปเรื่อยๆ ความเปลี่ยนแปลงเห็นชัดเจนนะคร๊าบบบบ สังเกตเห็นชัดๆตอนที่เล่าธรรมทานคนเจ็บมือ ที่พี่อมรลุกมาเดินเลียนแบบนั่นล่ะคร๊าบ อิ อิ ได้ยินเสียงพี่แมวแซวว่า "ปร๋อ" เชียวนะ อนุโมทนาด้วยนะคร๊าบพี่ น้ำตาแห่งความสุขของพี่เหมี่ยว คริ คริ 

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว เจ้าภาพกิจกรรม และลูกบ้านสวนทุกท่าน ที่มีเมตตาสอนเสมอคร๊าบบบบ

อภาธินี จินดาพล 

***ก่อนเขียนมีไข้ตัวร้อน พอเขียนเสร็จเหงื่อออกซึมๆ เหมือนสร่างไข้ค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 19:25:21


ความคิดเห็นที่ 366 (1635927)

คุณอมร

แกไม่ได้ประหม่าหรอกค่ะ

น้องปอ

แต่แกพูดไม่ได้เอาเฉยๆเลย

 

อย่างร้องเพลงฉ่อยนะ

อยู่ๆ แกก็หยุดร้องเฉยเลย

เลยได้ฮากัน

แต่ที่จริง แกบอก

แกเครียดมาก

ไม่ได้เป็นมุก เป็นแม๊ก อะไรทั้งนั้น

ปากแกพูดไม่ทันความคิด

จริง จริ๊ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 00:16:14


ความคิดเห็นที่ 367 (1636006)

หลังจากอ่านธรรมทาน ในตอนแรกแอบจิตตกเบาๆ ถึงแม้จะไม่ได่ไปยุ่งเกี่ยวอะไร


แต่สุดท้ายแล้ว (ในความคิดส่วนตัว) เชื่อในสิ่งที่เห็นและพิสูจน์ได้ด้วยตา และให้แน่วแน่ และศรัทธาด้วยใจ สำคัญสุด ณ ตอนนี้คือความกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณคร๊าบ


ขอขอบคุณในความเมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่บ้านสวน และท่านอาจารย์ ที่มีเมตตาบอกสอนเรา รวมถึงทุกคำแนะนำของ"ลูกบ้านสวนผู้ที่มีจิตเข้มแข็ง แน่วแน่ในศรัทธาคร๊าบ"

**นอกเรื่องหรือไม่ทราบ ค่าย 13 วันเสาร์ ปอมีโอกาสช่วยท่านอาจารย์จัดสวนสวรรค์หน้าห้องพักใหม่อยู่นั้น คุณคนนั้นเข้ามาคุยกับอาจารย์ ปอพยามเดินออกมาห่างแล้ว แต่ยังคงเดินไปหยิบส่งของให้ท่านอาจารย์เป็นระยะ และได้ยินบทสนทนา ที่คุณคนนั้นบอกกับท่านอาจารย์ว่า

"ป้า_รับพลังงานลบ และรู้สึกว่า ค่ายนี้มีมารมาด้วย" ได้ยินแบบนั้น ยอมรับว่าอยากรู้ แต่ก็ไม่ได้อยู่ฟังต่อ เดินออกมาห่างๆเลยคร๊าบ เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องรู้ ทำงานส่วนอื่นต่อ และรอให้ท่านอาจารย์เรียกเมื่อจะให้ช่วยหยิบจับดีกว่า และคิดว่าถ้าเป็นเรื่องที่สมควรรู้อาจารย์ท่านก็คงเมตตาพวกเราได้รู้เช่นกันคร๊าบ


ขอบคุณพี่แมวเป็นธุระลงโพสต์ให้ระหว่างรอ ระบบยืนยันการสมัครสมาชิก และคำแนะนำดีๆ ตลอดนะคะ ^^


อภาธินี จินดาพล

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 10:09:23


ความคิดเห็นที่ 368 (1636046)

 

**นอกเรื่องหรือไม่ทราบ ค่าย 13 วันเสาร์ ปอมีโอกาสช่วยท่านอาจารย์จัดสวนสวรรค์หน้าห้องพักใหม่อยู่นั้น คุณคนนั้นเข้ามาคุยกับอาจารย์ ปอพยามเดินออกมาห่างแล้ว แต่ยังคงเดินไปหยิบส่งของให้ท่านอาจารย์เป็นระยะ และได้ยินบทสนทนา ที่คุณคนนั้นบอกกับท่านอาจารย์ว่า

"ป้า_รับพลังงานลบ และรู้สึกว่า ค่ายนี้มีมารมาด้วย" ได้ยินแบบนั้น ยอมรับว่าอยากรู้ แต่ก็ไม่ได้อยู่ฟังต่อ เดินออกมาห่างๆเลย

**********************************

แสดงว่าที่ป้าอุ๊ได้รับสัมผัสจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เริ่มจะมีความแม่นยำแล้วละ

เพียงแต่ว่าป้าอุ๊ ไม่รู้ตัวว่า

มาร ที่สัมผัสได้

อาจจะเป็นตัวเองหรือเปล่า

ถ้าป้าอุ๊เลิกส่งจิตออกนอก  เปลี่ยนกลับมามองข้างในจิตใจ และความคิดตัวเอง

อาจจะมองภาพได้ชัดว่า

จริงๆตัวเรามีสถานะเป็นอะไร

ระหว่างผู้ส่งพลังงานบวก

หรือ

พวกหลงผิด

หรือ

มาร

ถ้าป้าอุ๊เข้ามาอ่านธรรมทานที่พวกเราได้ feedback เรื่องของแก

แล้วตั้งจิตเป็นกลาง

อย่าเพิ่งอคติ

อย่าพึ่งโกรธ

อาจจะได้อะไรดีๆกลับไป

แล้วอาจจะอยากกลับมาขอบคุณพวกเราทุกคนก็ได้

เพราะบ้านสวนฯมีวัฒนธรรม

การแสดงความเห็น ต่อสิ่งที่เห็น

สิ่งที่รู้สึก

อย่างตรงไปตรงมา

อย่าลืมว่า

พวกเราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย

กับป้าอุ๊

เราพูด เขียนในสิ่งที่เห็น

แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด

ก็มาอธิบายได้

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 14:19:39


ความคิดเห็นที่ 369 (1636168)

 

มาช่วยกันคิด ช่วยกันวิเคราะห์
กันหน่อยซี ว่าทำไม
ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้
เพียงการสวมจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์
 
ในจี้นี้
มีสิ่งใด อันเป็นสิ่งมหัศจรรย์
เป็นพลัง อาณุภาพ
จากอะไร พระองค์ใด หรือ
อื่นใด จึงทำให้คนพิการ เจ็บป่วยมานาน
ที่หมอบอกว่า รักษาไม่ได้แล้ว
กลับหายได้ ในพริบตา
……………………………………
หนูคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจาก
 
1.   บุญที่ดร.จิ๋มร่วมทั้งแรงกายปัจจัยสิ่งของ หนึ่งส่วน และลูกบ้านสวนทุกคนรวมใจอยากให้ดร.จิ๋มหาย
2.   เจ้ากรรมนายเวรให้อภัย
3.   พลังงานของจี้ 3 รุ่มโพธิ์ศรี 3 องค์ เพราะในจี้รุ่นสามร่มโพธิ์ศรีมีพลังงานของความรัก+เมตตา+ความสามัคคี จากอนันตจักรวาล และเพื่อให้ทุกคนช่วยกันรักษา 3 ร่มโพธิ์ศรี ไว้ เพราะ ศาสนาและโลกจะสงบสุขจะคงอยู่ได้ก็ต้องช่วยกันรักษา 3 ร่มโพธิ์ศรี ทุกคนต้องมีความรัก ความเมตตาต่อกัน และรวมพลังกัน
4.   และที่สำคัญที่สุดคือบุญความดีที่มีอยู่ในบ้านสวนพีระมิด และผู้อัญเชิญบารมี (ท่านอ.อุบล)ทั้งหมดมาที่จี้ มีความบริสุทธิ์ และต้องการให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
 
ผู้แสดงความคิดเห็น สุรดา ศรีสุข(นก) 
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 00:08:53


ความคิดเห็นที่ 370 (1636172)

 เพราะบ้านสวนฯมีวัฒนธรรม

การแสดงความเห็น ต่อสิ่งที่เห็น

สิ่งที่รู้สึก

อย่างตรงไปตรงมา

อย่าลืมว่า

พวกเราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย

กับป้าอุ๊

เราพูด เขียนในสิ่งที่เห็น

แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด

ก็มาอธิบายได้

+++++++++++++++++++++++

ถูกต้องถ้าป้าอุ๊ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเราเขียน

ก็ควรมีคำอธิบายในเรื่องต่าง ๆ

รวมทั้งการเข้าบ้านสวนเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่

การที่เป็นคนกว้างขวางเป็นแอดมินหลายเวป

คงไม่ใครหรือที่ไหนที่จะกล้าเป็นกระจกส่อง

เพราะสังคมของการแสดงความเห็น

แบบตรงไปตรงมาแบบนี้ ไม่มีที่ไหนแน่ ๆ

จะมีแต่พวกปากปราศัย น้ำใจเชือดคอ มากกว่า

ป้าอุ๊จึงไม่ควรพลาดโอกาสสำคัญชีวิต

ที่จะไตร่ตรองให้ดีว่า

ตัวเองเข้าไปปรับเพิ่มพลังงานบวก 

หรือว่าไป ช่วยดึงพลังงานลบในที่นั้น ๆ ออกกันแน่ 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 00:35:03


ความคิดเห็นที่ 371 (1636182)

 เพราะบ้านสวนฯมีวัฒนธรรม

การแสดงความเห็น ต่อสิ่งที่เห็น

สิ่งที่รู้สึก

อย่างตรงไปตรงมา

อย่าลืมว่า

พวกเราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย

กับป้าอุ๊

เราพูด เขียนในสิ่งที่เห็น

แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด

ก็มาอธิบายได้

+++++++++++++++++++++++

 

แต่ละคนก็คนจะต้องเจอบททดสอบการเป็นลูกบ้านสวน

ถ้าเป็นลูกบ้านสวนตัวจริงเสียงจริง

ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะต้องผ่านบททดสอบอันนี้ไปให้ได้

เพราะมันเป็นเรื่องของกำลังใจ

และในชีวิตคนๆหนึ่งคงจะไม่เคยมีใครที่ไม่เคยทำสิ่งผิดพลาดมาในชีวิต

 

งานนี้ป้าอุ๊คงจะต้องพิสูจน์ตนเองแล้วว่

การมาของป้านั้นเพื่อมาเป็นธรรมทานให้ลูกบ้านสวนเกิดปัญญา

หรือ

ว่านอกจากจะมาเพื่อให้เกิดปัญญาแล้วป้ายังจะมาเป็นลูกบ้านสวนตัวจริงเสียงจริงด้วย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 05:02:31


ความคิดเห็นที่ 372 (1636258)

(โดยนายพิชัย  ภูกิ่งพลอย) 

เพราะบารมีท่านอ.อุบล

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในบ้านสวนพีระมิด

ที่ทำให้ผมเป็นคนดีได้

แต่ก่อนผมจะเป็นเอาแต่ใจตัวเองชอบดื่มเหล้าเบียร์ชอบดุลูก ตีลูก ดุเมีย

เคยคิดอยู่ตลอดว่าอยากให้ลูกเป็นคนดีสอนลูกตลอดว่าอย่าดื่มเหล้าสูบ

บุหรี่ใจเย็นก็พูดได้ไม่เต็มปากลูกเมียเขาก็ไม่ฟังเราเคารพเราผมพูดอะไร

ก็เถียงแม้แต่สุนัขที่เลี้ยงไว้ก็ชอบขโมยไก่มากิน แต่เดี๋ยวนี้หลังจากผมหัก

ดิบเลิกทุกอย่าง ตั้งใจรักษาศีล5ตลอดชีวิต ทานมังสวิรัติ ก็ทำให้ผมใจเย็น

ลงกว่าเดิมมาก แต่ก่อนลูกและเมียพูดอะไรก็ไม่เคยฟัง แต่เดี๋ยวนี้ลูกก็ฟัง

เราทำตามเราแม้แต่สุนัขที่เลี้ยงไว้ แมวที่เลี้ยงไว้ก็มาทานมังสวิรัติกับผม

ด้วยจึงพอสรุปได้ว่า สังคมที่เราอยู่ทุกวันนี้ ถ้าผู้นำทำดี บริวารและลูกน้อง

ก็ทำดีกับเราด้วย ถ้าทำชั่วเขาก็ทำชั่วกับเราด้วยจึงขอขอบคุณท่านอ.อุบล

ที่ให้ธรรมะวิธีการปราบมารในใจกับผมด้วยอย่างสุดซึ้งขอรับ...

และอีกเรื่องธรรมะข้อหนึ่งที่อ.อุบลเมตตาเรื่องที่ว่าใครมีปัญหาเรื่องเงิน

และสุขภาพก็ให้มาทำงานก่อสร้างหลังจากทำWork shop วันที่ 13 - 14

ตุลาคม 55 แล้วพอมาถึงที่บ้านผมก็เริ่มทำงาน โดยแต่ก่อนจะจ้างคนมา

ช่วยงานเป็นประจำแต่ตอนนี้ผมทำเองโดยมีลูกชาย 2 คน คนหนึ่งอายุ

4 ขวบ  อีกคนอายุ 10 ขวบ แต่ก่อนการทำงานในครอบครัวจะต่างคนต่าง

ทำ และปัจจุบันทั้งภรรยาและลูกกลับมาช่วยงานในบ้านกันทุกคนทั้งลูก

และภรรยาช่วยด้วยความตั้งใจ การทำงานไม่ทะเลาะกันเหมือนแต่ก่อน

รูัสึกภายในครอบครัวมีความสุขมากขึ้น นี่แหละหนออานิสงส์ของ

วิหารทาน บุญได้รับผลเร็วทำให้เราเกิดปัญญา การเงินเริ่มมีสภาพคล่อง

มากยิ่งขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 12:50:20


ความคิดเห็นที่ 373 (1636266)

               รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

มีญาติผมคนหนึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของผมคือผมและน้องสาวเคย

พูดเรื่องใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย ตอนแรกเขาก็ได้แต่ฟังเฉยๆ

แต่อยู่มาวันหนึ่งลูกชายของเขาที่ไปทำงานที่พัทยาได้ถูก

ตำรวจจับติดคดี 5 คดี การประกันตัวตำรวจจะเอา 5 หมื่น

แม่ที่อยู่บ้านรู้ข่าวไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่มีเงินจึงนึกขึ้น

ได้ว่าผมและน้อยเคยบอกรหัสอ.อุบลช่วยด้วย

ป้าก็เลยลองใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยแต่ในใจก็

นึกว่าท่านอ.อุบลจะได้ยินสิ่งเราขอหรือไม่หนอ

ศีล 5 และเป็นลูกศิษย์ก็ยังไม่ได้เป็น แต่ถึงอย่างไรก็จะลองใช้

รหัสอ.อุบลลองดู และแล้วรหัสอ.อุบลช่วยด้วยก็ช่วยคุณป้า

ได้จริ๊งๆๆๆๆๆ  โดยที่ตำรวจคิดค่าปรับแค่ 5,000 บาท

จากเงิน 50,000 บาท เหลือ 5,000 บาท

และคดีอย่างอื่นก็หลุดหมดสรุปแล้วไม่มีความผิดหลังจากป้า

ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย น้อยได้ชวนป้ามาดูรายการคุยไป

แจกไปที่บ้านป้าดูแล้วก็ประทับเกิดความศรัทธา

แต่ปัญหาไม่กล้ารักษาศีล5 มีแต่จะให้ลูกสาวเป็นคนทำ

ลูกสาวได้ดูรายการคุยไปแจกไปเกิดศรัทธาจึงตั้งใจรักษาศีล

ห้าและทานมังสวิรัติ แต่เรื่องร้ายที่ป้าเจอคือป้าไม่พูดเรื่องการ

ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยที่ได้ผลแล้ว พ่อของป้าจึงป่วยหนักม๊าก

ป่วยเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคเก๊า วันที่ 17ต.ค55

ผมได้เอารหัสอ.อุบลช่วยด้วยไปให้คนป่วยใช้ผมก็หวังว่าสุด

แล้วแต่บุญของลุงที่จะศรัทธาแล้วอยากใช้

รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

ถือว่าเราบอกเล่าด้วยความตั้งใจแล้ว

(รายงานข่าวโดยนายพิชัย  ภูกิ่งพลอย)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 13:30:55


ความคิดเห็นที่ 374 (1637104)

     ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ อุบล และคุณแมว (ปวีณา แค้มป์) เป็นอย่างมาก ที่เล่าเติมเต็ม เรื่องของ แพม ค่ะ 

     ขอเล่าเพิ่มเติมนะคะ ในขณะที่คุยกับคุณแมว เรื่องขออนุญาตไปบ้านสวนนั้น มันร้องขึ้นมาเอง พยายามจะเตือนตัวเองและคุมสติอยู่พักใหญ่ จึงสามารถ หยุดร้องได้  

     อยากบอกเพื่อนๆ ว่า จริง ๆแล้วแพม โอนเงินร่วมทำบุญ สร้างพระเพื่อชำระหนี้แผ่นดิน  โทรฝากข้อความเสียง และขออนุญาตไปบ้านสวนก่อนหน้านี้แล้ว 3 วัน เพียงแต่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากท่านอาจารย์อุบลเฉยๆ (อยากจะบอกว่าทำตามกฎทุกอย่างไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์ใด ๆ)

    พยายาม โทรทุกเบอร์ที่มีอยู่ในหน้าเวป จนหมดหวังคิดว่า คงไม่ได้ไปแล้ว  จนได้พูดสายกับท่านอาจารย์อุบลโดยตรงคืนก่อนวันสุดท้ายที่จะบินกลับอเมริกา 

     พอเจอหน้าอาจารย์เท่านั้นอารมณ์ทุกอย่างมันประดังเข้ามา จำอาจารย์ได้ตั้งแต่แว๊บแรกที่เห็น  วิ่งเข้าไปกราบที่ตักอาจารย์ ร้องไห้โฮ ๆ เหมือนจะเป็นจะตาย อยู่นานมาก จนอาจารย์บอกให้ไปลงทะเบียน จึงได้สติกลับมา

     ที่อยากไปทำบุญที่บ้านสวนก็เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับคุณแม่ที่เพิ่งจะถึงแก่กรรม ไม่ได้ไปเพื่อขอรักษาโรคที่เป็นเลย จริงๆ แล้วไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คนไปหาอาจารย์เพื่อรักษาโรค

     เมื่อมาพิจารณาดูแล้วคิดว่า ตัวเองไปเพราะศรัทธาบริสุทธุิ์ และนับถือ เชื่อมั่นในตัวอาจารย์จริง ๆ จึงเกิดผลแบบฉับพลันทันที ไม่เคยคิดสงสัยในตัวอาจารย์แม้แต่น้อย ยิ่งเข้าไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนยิ่งมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกเป็นร้อยเท่าพันเท่า 

      อยากจะบอกเพื่อน ๆ อีกว่า ในขณะที่ทำงาน แพม อธิษฐานจิตอุทิศบุญกุศลให้กับคุณแม่ คุณพ่อ และเจ้ากรรมนายเวร  สลับกับท่องคาถาพระศรีอาริย์ ไปเรื่อยๆ ไม่ได้อธิษฐานให้ตัวเองเลยแม้แต่น้อย เพราะคิดว่าเรามีเวลาน้อย อยากทำบุญให้คุณแม่มากที่สุด บางขณะนึกถึงคุณพ่อด้วยก็อุทิศให้ท่านเหมือนกัน

       ช่วงที่เริ่มขัดหิน แรก ๆ ทำกับคุณเหมี่ยวอยู่สองคน ก็คิดในใจว่าจะเสร็จทันห้าโมงเย็นไหมน้อ แต่พอทำไปๆ ก็มีเพื่อนมาช่วยทำอีกสองคน จนเป็นเกือบสิบกว่าคน

แพมก็ทักทายปราศัย ถามไถ่เพื่อน ๆ แค่ช่วงแรก ๆ หลังจากนั้น สมาธิจดจ่ออยู่กับงานตลอด ไม่คุยใครเลย สวดคาถาพระศรีอาริย์ และอุทิศบุญเป็นระยะ ๆ จนไปพักดื่มน้ำ

      ส่วนเรื่องผลการทำบุญแรงกายได้เล่าไปแล้วจะไม่ขอเล่าอีกค่ะ ขอกราบขอบพระคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอาจารย์ของท่านอาจารย์อุบลทุกองค์ ท่านท้าวทั้งสี่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบ้านสวนฯ เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์อบลที่ได้ให้โอกาสแพมได้ทำบุญอันบริสุทธฺุิ์นี้และได้หายจากโรคที่เป็นมานานกว่าสิบปี  

 

ขณะนี้โรคก็ทะยอยหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่รอยโรคที่หน้าผากยังคงหายร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม  ถ้าวันใดหายหมดทั้งตัวร้อยเปอร์เซ็นต์ จะเขียนมาเล่าอีกค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-28 21:10:12


ความคิดเห็นที่ 375 (1637148)

 อนุโมทนากับคุณแพมด้วยนะคะ

มาด้วยศรัทธาที่บริสุทธิ์ ไม่ลังเล ไม่สงสงสัย

ผลบุญจึงเกิดฉับพลันทันที

บวกกับบารมีพระศรีอาริย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

ที่สำคัญมีแม่ทัพที่ดี จึงเกิดปาฏิหาริย์เช่นนี้ค่า

เห็นคุณแพมเล่ามาแล้วชักอยากเห็น Before-After จังค่ะ

อยากให้ถ่ายรูปเก็บไว้แล้วนำมาเปรียบเทียบเป็นระยะๆ

เพื่อเป็นธรรมทานให้กับพวกเราจังเลยค่ะ แหะๆ

เพราะเคสของคุณแพมเท่าที่อ่านดู

ถือว่าเป็นเคสที่เห็นผลลัพธ์

และการเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ

ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้านะค๊า

แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ

อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-29 04:30:10


ความคิดเห็นที่ 376 (1637153)

แต่เคสของคุณแพม ปัญจกานต์

ถือว่าเป็นเคสที่ชวน"อึ้ง"จริงๆนะคะ

 

เพราะว่าโรคสะเก็ดเงิน

ขนาดรักษากับหมอดีๆ

ยังไม่หายขาดเลย

แถมต้องใช้เวลานานแสนนานอีกต่างหาก

 

แต่คุณแพมมาสร้างบุญเพียงไม่กี่ชั่วโมง

แต่รอยโรคที่หน้าผากหายไปเลย

นับว่า อัศจรรย์มากๆ

 

ซึ่งเหตุผล ชนิดาก็คิดว่า

น่าจะเป็นอย่างที่น้องหญิง

วิเคราะห์เช่นกันค่ะ

 

พอจิตเปิดไว้เต็มร้อย พลังบุญ พลังศรัทธา

ก็เข้าไปเยียวยาเต็มที่

แถมเจ้ากรรมนายเวร

ก็ร่วมอนุโมทนาอีก

ก็เลย หายทันที สาธุ 

 

อนุโมทนากับธรรมทานด้วยค่ะ

..............................

อนุโมทนากับชีวิตที่เปลี่ยนแปลง

ไปในทางที่ดีขึ้นกับคุณ พิชัย ด้วยนะคะ

เพราะคุณหันมารักษาศีลห้าอย่างเคร่งครัด

และตั้งใจเผยแผ่รหัสวิเศษเสมอ

จึงได้รับผลบุญที่ชัดเจนมากๆอีกท่านหนึง

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-29 06:31:59



<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.