ReadyPlanet.com


ส+อา 27-28 ต.ค.55 รับพระบารมี 3 ร่มโพธิ์ศรี+ปลดล๊อกกรรม เพื่ออยู่ในยุคพระศรีอาริย์ชาตินี้


สัปดาห์นี้

เสาร์+อาทิตย์ 27-28 ต.ค.55

 

เราจะมีกิจกรร

รับพระบารมี 3 ร่มโพธิ์ศรีกัน

เพื่อเตรียมความพร้อม

ทั้ง

ร่างกาย + จิตใจ

ที่จะอยู่ในยุคของ

พระศรีอาริย์......ในชาตินี้

ซึ่งพระองค์ จะทรงเสด็จมา

ปลดล๊อกกรรมให้

มวลมนุษย์

ที่เชื่อมั่น และ ศรัทธาพระองค์

นำผู้คนเข้าสู่นิพพาน

ในชาตินี้

 

ใครสงสัย หรือ ไม่สงสัย

แต่

ประสงค์จะเข้ารับ

พระบารมี 3 ร่มโพธิ์ศรี

ก็ขอเชิญมาแสดงตัวได้เลยจ้า



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-22 22:12:24


<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4]

ความคิดเห็นที่ 301 (1637892)

ขอเล่าต่อกิจกรรมวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม55

คราวที่แล้วได้เล่าถึงสมาชิกในกลุ่มที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณอย่างป้าพร ป้าทองดี คุณแหล๋น หลังจากทำกิจกรรมสร้างบุญด้วยแรงกายด้วยการทำความสะอาดตกแต่งลานจอดรถด้านหลังให้สวยงาม อาการคันที่เป็นอยู่หายเป็นปกติ ส่วนพี่แป้นฝ้าจางลงหน้าขาวผ่องขึ้นจนถูกแซวว่าแอบไปทาแป้งมา

ส่วนตัวเองนั้นมีกรรมจากโทสะ เป็นฝ้าที่หน้าเป็นปื้นดำๆ ซึ่งเป็นมานานมาก หลายปี รักษา ดีขึ้นมาบ้างแล้วก็เป็นมากขึ้นอีกสลับกันอยู่อย่างนี้ หลังทำกิจกรรมวันนี้ ก็ดีขึ้นบ้าง คุณแหล๋นช่วยดูบอกว่าหน้าดีขึ้นไม่หมองคล้ำเหมือนตอนแรก ที่ตัวเองได้รับผลน้อยกว่าคนอื่นๆ ถึงแม้จะตั้งใจทำงานแต่บางครั้งอาจไม่เต็มที่ เต็มกำลัง ไม่เชื่อฟังไม่ปฏิบัติตามผู้นำกลุ่มทุกอย่าง

อีกอย่างที่สำคัญที่ทำให้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณที่มีทั้งฝ้า สิว ผิวหน้าเหี่ยวย่นก่อนวัย เป็นเพราะตัวเองยังมีจิตที่คิดไม่ดีต่อผู้อื่นอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะกับแม่ ทั้งบ่น และติว่าแม่ที่ใช้ของแล้วไม่เก็บเข้าที่ ทำครัวสกปรกแล้วไม่เช็ด วางของไม่เป็นที่ บางครั้งไม่พูด แต่ก็คิดว่าอยู่ในใจ ทั้งๆที่ตัวเองนั้น ก็เป็นคนไม่ขยัน สกปรก และมักง่ายในบางครั้ง เห็นอะไรที่รกสกปรกในบ้าน ที่ทำงานหรือที่อื่นๆ ก็เฉยๆไม่รู้สึกอยากจะเก็บทำให้สะอาด ปล่อยให้ผ่านตาไป กับเพื่อนร่วมงานบางครั้งก็คิดว่าตำหนิการทำงานของเขา ไม่ค่อยได้มองตัวเองว่าไม่ดียิ่งกว่าเขาอีก 

จนถึงขณะนี้ โอกาสที่จะให้ปรับปรุงตัวเองนั้นเหลือน้อยเต็มที่ จะพยายามและตั้งใจที่จะไม่ทำอะไรที่จะทำร้ายตัวเองและผู้อื่นเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว 

จะปฏิบัติตามคำสอนของท่านอาจารย์อุบลคะ เลิกโกรธ เลิกจองเวร เลิกทำชั่วทุกรูปแบบ หันมาทำความดี รักษาศีล 5  สิวและฝ้าก็จะหาย

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 02:55:41


ความคิดเห็นที่ 302 (1637899)

 

กิจกรรมวันอาทิตย์ (มาเล่าต่อจ้า)

        เช้าแล้ว ตื่นขึ้นมา รีบออกจากพีระมิดมาเก็บสตางค์ใบไม้ได้อยู่หลายพันค่ะ อิอิ

        วันนี้อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ผ่านทางท่านอ.อุบลขอให้เรามีความตั้งใจ ว่าเราต้องได้เต็ม 100 % กับการสร้างบุญแรงกายค่ะ

         หลังทานเข้าเช้าคุณธนา แบ่งกลุ่มตามหัวข้อ ปัญหาที่ต้องการบำบัด วันนี้เลือก การเงิน หนี้สิน การงาน ครอบครัว อุปสรรคต่างๆ สมาชิกกลุ่ม 6 คน

             1.คุณอดิศักดิ์  2.คุณแหม่ม  3.คุณมะเหมียว

             4.คุณพจน์       5.คุณกุ้ง      6.คุณหนิง

         เริ่มด้วยฐานที่ 1 เกษตรยกร่องแปลงเผือก อ.พันธ์นำทีม+คุณอดิศักดิ์ ทำให้ดูวิธีขุดพลิกดินกลบหญ้าให้มิด ยุทธวิธีหญ้าตาย ฆ่าหญ้าเป็น แต่พอลงมือทำเองจริง งานจับปากกา จับชอร์ค กับงานจับจอบจับเสียม ไม่หมูซะแล้วแม้แต่ขุดดินถากหญ้ายังต้องใช้ฝีมือ สติปัญญา เทคนิคไม่ง่ายซักนิดเลยนะเนี่ยท้าทายความสามารถดีค่ะ

           ฐานที่2 พี่นู๋เหมี่ยว+คุณก๊อตนำทีมจัดที่จอดรถหลังวิหารไม้ไผ่ ให้สะอาดตา ปรับพื้นลานจอดรถ ขนลำไม้ไผ่ให้อยู่เป็นที่เดียวกัน แบ่งลากไปส่งเป็นช่วงๆผ่อนแรงดีค่ะ ยังไม่ทันเหนื่อย เสียงนกหวีด ปิ๊ดๆๆ ย้ายฐานจ้า

            ฐานที่ 3 คุณสิงห์ป้อม+คุณอ้อย นำทีมจัดวิหารไม้ไผ่ หนิงได้คัดแยกมวลสาร บายศรี (ใบตอง ดอกไม้ ริบบิน) ด้วยความที่ไม่รู้ และไม่ถามให้เข้าใจ เกือบสร้างกรรมใหม่ให้ตัวเองซะแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านยังให้ความปราณีลูกควายงี่เง่าคนนี้อยู่ ส่งพี่กัญญานี เดินมาสมทบแยกมวลสารด้วยอีกคน พี่เขาร้องทักขึ้นมาว่าไม้ปลายแหลมที่เสียบดอกไม้ ใบตอง ต้องแยกต่างหากไอ้เราดันเอาไปปนกับดอกไม้เสียนี่  ก็รีบทำตามช่วยกันคัดแยกไม้ออกจากใบตอง   แล้วท่านก็ส่งป้าเตือนมาเตือน อีกคนหนึ่งบอกว่า ตอนที่ป้าทำแยกมวลสาร ต้องแยกดอกไม้ต่างหาก ใบตองแกะลวดเย็บกระดาษออกให้หมด แล้วต้องคลี่ใบตองออกด้วย ส่วนไม้ปลายแหลมให้แยก อันไหนดีอยู่ก็เก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้อีกนะ หนิงขอขอบคุณทั้งพี่กัญญานี และป้าเตือน มากๆนะคะ และกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธ์ทุกๆพระองค์ด้วยค่ะที่ท่านยังให้ความเมตตาหนิงอยู่ค่ะ  

           ฐานที่ 4 ก่อสร้างวิหารทาน  สะพานถังปูน ขนลำเลียงอิฐบล็อก  หมดแล้วยืนงงอยู่ 3 วินาที คิดออก ไปเอาจอบมาเกลี่ยดินลงหลุมดีกว่า เพราะเห็นว่ามีรถเข็นลำเลียงดินมาเทลงหลุม ได้งานสร้างบุญต่อ จนถึง 15.30 ไปล้างจอบ เก็บจอบ อาบน้ำ เข้าสรุปผลกิจกรรม กลุ่มที่หนิงอยู่นี้ต้องติดตามผลกันจากรายงานหน้าเว๊ปคะ

           หลังจากเสร็จการสรุปผล  ได้ประเมินการสร้างบุญของตัวเอง ผลออกมาวันนี้ได้เต็ม 100% ค่ะ ตอนสร้างบุญได้สวดบทพระศรีอาริย์ อุทิศบุญ ได้เหงื่อเพิ่มพลังด้วยความรู้สึกที่ว่า

งานก้าวหน้า

ปัญญาบรรเจิด

ไม่ละเมิดสร้างกรรมใหม่

ขอเดินตามอ.อุบลไป

มุ่งสู่บ้านนิพพาน

 

กราบ   กราบ  กราบ 

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 03:48:44


ความคิดเห็นที่ 303 (1638016)

ขอมาเหลา กิจกรรมวันอาทิตย์ ต่อ ครับ

     หลังจากเมื่อวานที่พวกเรา สอบตก ไม่เปลี่ยนฐาน ทำให้ไม่สามารถปลดล๊อกกรรมได้อย่างเต็มที่ แฮะๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยแก้ตัวใหม่ (ปลอบใจตัวเอง)

     เริ่มด้วยช่วงเช้า กับข้าวยังไม่เสร็จ เพราะแม่ครัวเราต้องนอนดึก ไม่สิ ต้องเรียกว่า เกือบเช้ามากกว่า น่าจะประมาณ ตี 4 เกือบ ตี 5 แม่ครัวเรานี่อึดสุดๆ ไปเลย ซึ่งงานครัวก็เป็นงานที่เป็นงานที่หนัก เพราะต้องคอยเตรียมอาหาร คอยตรวจตรา อาหาร เก็บจามชาม สารพัด แต่ในระหว่างที่กำลังปรุงนั้น กลิ่นหอมๆ ก็วิ่งเข้ามายั่วน้ำลาย พวกเราเป็นระยะ ระยะ ไม่รู้ว่า มีใครแอบกลืนน้ำลายบ้างอะป่าว (ที่แน่ๆ ผมคนนึง) 

ฐานที่ 1 : ตกแต่งสถานที่ หลังวิมานไม้ไผ่

     พี่่เหมี่ยวได้พาพวกเราไปดูสถานที่ เพื่อวางแผนงานกันก่อน กลุ่มนี้ รวมพลคนโรคหนักๆ เช่น มะเร็ง เบาหวาน ติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ีพี่เหมี่ยว รู้ว่ากับข้าวยังไม่เสร็จ ก็เลยลุยงานกันเลย

     ไม่น่าเชื่อเวลาสั้นๆ แต่จัดการกองหินไปได้ตั้งครึ่ง มีกลุ่มของแปลงเกษตร มาช่วยด้วย แต่ล่ะคนนี่ ไม่มีใครปล่อยเวลา ให้สูญเปล่าเลย เห็นความหวังปลดล๊อกกรรม อยู่ รำไรๆแล้ว ทำงานไปได้ ซักระยะ ก็มีคุณลุงคนนึง ป่าวนกหวีด เรียกเราไปทานข้าว หน้าตาคล้ายๆ พี่ธนาเลย

     สังเกตุ แต่ละคนนี่ ไม่ค่อยจะดูหิวเท่าไหร่ ไปถึงห้องครัว ก็เห็นเมนู ข้าวมันไก่เจ กลิ่นน้ำซุป หอมมากๆ แต่ละคนก็ต้องรีบทานกันให้เสร็จ ภายใน 15 นาที เพื่อไปลุยงานต่อ คิดว่า มุมนี้ อีกไม่นานต้องถูกเนรมิต เป็นแดนสวรรค์ในไม่ช้า แน่นอน 

ฐานที่ 2 : แปลงเกษตรธรรมมะ

     ไปถึงฐานนี้ ก็เห็น อ.พันธ์ แต่งตัวด้วยชุดยีนส์ ตัวเก่ง ฉีกยิ้ม รอรับพวกเราอยู่ ร่วมด้วยพี่อดิศักดิ์ พอถึงที่ก็ไม่มีใครรอช้า คว้าจอบ และดูวิธีการขุดร่องแปลงเผือก

     ซึ่งก็คือ ขั้นแรกเอาบาทา เหยียบหญ้าก่อนแล้วก็ขุดพลิกดินมากลบหญ้า ไม่ต้องไปนั่งถอนแล้ว การขุดก็ส่วนในที่ใกล้ต้นเผือกก่อน แล้วก็พลิก ดินมาทับให้แบนแต๊ดแต่ ไปเลย ซึ่งก็มีเทคนิคอีกว่า ยิ่งหน้าิิดนกว้างมากเท่าไหร่  หัวเผือกก็จะใหญ่ไปด้วย

     ระหว่างที่่ขุดก็ขุดไป อ.พันธ์ ก็บรรยาย เรื่องเกษตรไปด้วยว่า ปลูกเผือกนี่ต้องปลูกให้ถูกช่วง ช่วงที่กำไรงามๆ ก็จะเป็นช่วงสารทจีน ยิ่งหัวเผือก ถ้าได้หัวใหญ่ 1 กก. จะได้โกอินเตอร์ ไปประเทศจีน ด้วย ดังนั้นก็ต้องวางแผนการปลูกก่อนว่า 6 เดือน เผือกจะโตพอเก็บขายได้ เรียกได้ว่า การเป็นเกษตรกร ถ้าไม่ใช้ปัญญา ร่วมด้วย ปลูกแล้ว อาจจะไม่ได้กำไรเท่าที่ควร ส่วนเห็ดนี่ก็ต้องเป้นคนที่ ชอบออกหากินกลางคืน คือ เก็บเห็ดก็ต้องเก็บช่วง ตีี 1 ถ้าใครคิดว่าัตัวเองไม่สามารถ เก็บเห็ดช่วงนี้ได้ ต้องปลูกอย่างอื่นแทน พอพูดว่า เป็นเกษตรกรนี่ ถ้าทำเป็นได้ทีเป็นแสน เป็นล้าน แต่ละคนนี่ ตาลุกวาวววว เลย 

     ซึ่งระหว่างคุยกันไปทำกันไป นั้น อ.พันธ์ ก็ ปุจฉา ให้พวกเราวิสัชชา ตอบ คำถามมีอยู่ว่า อะไรสำคัญที่สุดในการทำงานเกษตร แต่ละ คนก็ ตอบ ความขยันบ้าง ปัญญา บ้าง แต่ อ.พันธ์ ผิดหมดจ้ะ ที่สำคัญที่สุดก็คือ บุญ

ฐานที่ 3 วิหารทาน

     พอไปถึงแต่ละคนก็กรูกันเข้าไป ก่ออิฐบ้าง ยกปูนบ้าง ผสมปูน แต่ดูไม่หนักเท่าแปลงเกษตร เพราะมี เ้ต้นท์ ที่ท่านอาจารย์อุบล เช่ามากำบังแดดให้ลูกหลาน งานนี้ รังสียูวิ ไม่ให้มาทำร้ายผิวของเราได้ อิอิ ผมก็ช่วยกันกับพี่สิทธิ์ผสมปูน หันไป ข้างๆ มีพัดลมอีก ไฮโซมากๆ ที่อื่นไม่มีแบบนี้แน่ๆ หลังจากนั้น พวกเราก็ไปทานข้าว กันต่อ ก่อนจะแวะทานข้าวก็เห็นลังไอติม เหมือนสวรรค์ ประทาน ต้องขออนุโมทนากับคุณเต้ ด้วยครับ พอเข้้าไปทาน ก็มีแต่คนถามถึง ไอติม ถั่วดำๆ มีถึงไอติมทีไร จะต้องโดนแซวเรื่องนี้ประจำ ฮือๆ อ.อุบลช่วยด้วย

ฐานที่ 4 ทำความสะอาดวิมานไม้ไผ่

     ฐานนี้ก็ ต้อนรับโดย พี่อ้อย โชว์หน้าขาวๆ พร้อมกับรอยยิ้ม บ่งบอกความรู้สึก ว่า อยากสวย อยากหล่อ เหมือนเจ้ มาทางนี้คร่าาา  ซึ่งพวกเราก็ทำความสะอาด ตะลุย กับเ้จ้ามอด ที่แอบซุกตัวตาม ซอกไม้ไผ่ ปัดๆ แคะๆ มาทีนี่ อย่างกับ เมืองหิมะดรีมเวิร์ด หลังจาก ทำความสะอาดแล้วก็ ตามด้วยการพ่น แลกเกอร์ ซ้ำ ได้มือโปร อย่างน้องวินท์ แนะนำ กลิ่นนี่ ทำให้เรามึนได้เลย หลังจากนั้น ก็ เตรียมตัวรายงานผล ก็เก็บของเข้าที่วิมานไม้ไผ่เหมือนเดิม แต่เห็นพี่อ้อยเก็บ ลังสเปรย์ไปเก็บคนเดียว ต้องขอโทษพี่อ้อยด้วยนะครับ พี่ผมสะเพร่าไม่ได้อยู่ช่วยอุปกรณ์ จนจบกิจกรรม คราวหน้าขอแก้ตัวใหม่นะครับ  T T 

รายงานผล

แต่ละคน ก็เป็นโรคหนักแต่ไม่แสดงอาการกันเท่าไหร่ เลยยังไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเหมือนอาการอื่น แต่ ตั้งแต่มา้บ้านสวน ก็มีพัฒนาการดีขึ้นกันทุกๆ คน

     แต่ในใจก็คิดว่า คนที่เป็นโรคหนักๆ นี่ จะให้มาทำวันสองวัน แล้วหายขาดเลยคงยากเพราะ โจทย์เยอะมากๆ ซึ่งท่านอาจารย์ก็ให้พวกเราทำบุญ และแสดงธรรมทานไปด้วย เพราะเป็นบุญใหญ่ อย่างของผมนี่ติดเชื้อ hiv เพราะ ผิดศีลข้อ 3 มามากๆ เป็นพัน ตอนที่ป่วยหนักๆ นี่ก่อนเข้า รพ. ภูมิคุ้มกันประมาณ 20 (ตรวจตอนแอดมิน)แต่หมอก็บอกว่าไม่เหลือแล้ว เพราะตอนนั้นก็เกือบตายแหละครับ อันนี้ผมเพิ่งจะนึกออกครับ

     ต้องขมาท่านอาจารย์ครับ ที่ให้ข้อมูล ตกหล่นไป จนรักษาตัวมาสักระยะมาบ้านสวนก็รู้สึกแข็งแรงมากขึ้นและ หันมารักษาศีลอย่างจริงๆ จังจนตอนนี้ก็เหมือนคนปรกติ คือ ภูมิคุ้มกันประมาณ 600 กว่าๆ แต่ไม่ได้ตรวจนานละครับ ตอนนี้อาจจะเพิ่มแล้วก็ได้ คงต้องเวลาสะสมบุญต่อไป

รับบารมี 3 ร่มโพธิ์ศรี

ช่วงเวลาที่ท่านอาจารย๋อาราธณา บารมี 3 ร่มโพธิศรี ตอนนั้น มีอาการหลงเหลือ ที่คือ เป็นน้ำมูกไหลหลังจากไป ทำความสะอาดวิมานไม่ไผ่ ไม่รู้ว่าไปโดนมอดตายอีกไหม รวมกับ อาการปวดแขน ก็ หายไปครับ น้ำมูกไม่ไหลแต่ยังเหลือ คัดจมูกอีกนิดๆ ระหว่างนั้นก็ สัมผัสมีอาการตัวโยกหมุนๆ ครับ

การบ้าน

     ให้ทุกคนเตรียมซีรอกซ์ ธรรมทาน ของตัวเองหรือ ของคนอื่นที่ชื่นชอบเตรียมเก็บไว้กับตัวเเพื่อแจก อยู่เสมอๆ แจกใคร แจกหมด แจกแลก แจกแล้วเราได้บุญ ดังนั้นอย่ารอช้านะครับ และให้ทุกคนเขียนข้อเสียของตัวเองมาด้วย  

     ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิืทุกๆ พระองค์  ท่านอาจารยอุบลและครอบครัว ที่ทำให้ผมได้เห็นทางสว่างในการปลดล๊ิิิอกกรรม และวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ ขอใช้ สรรพนาม ว่า เด็กชาย อย่างพี่อมร บ้างนะครับ (หรือว่าเด็กหญิงดี )

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 13:25:35


ความคิดเห็นที่ 304 (1638094)

     กิจกรรมอาทิตย์ที่ 28 ต.ค. 55 ( ขอเหลาต่อค่ะ )
      กิจกรรมวันนี้มี 4 ฐาน คือ 1.ฐานก่อสร้าง 2.ฐานวิหารไม้ไผ่  3.ฐานแปลงเกษตร  4.ฐานลานจอดรถข้างวิหาร   ให้ทุกกลุ่มทำฐานละ 1 ชม.  มีคุณอมรเป็นหัวหน้ากลุ่ม   ปัญหาของตัวเองที่ต้องการบำบัด คือ ปวดหลังและนิ้วมือ   ก่อนเริ่มงานคุณอมรพยายามช่วยค้นหาเหตุที่ทำให้การบำบัดได้ผลน้อย   คุณอมรมีความเห็นว่าการมาทำบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนพีระมิดเพื่ออุทิศบุญให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายและขอให้อโหสิกรรมคงยาก   เพราะความแค้นที่เราทำเขาไว้เยอะ  ถูกฆ่าด้วยวิธีที่โหด***ม  อำมหิต  ทารุณ ต้องทนทุกข์ทรมาน  ความเจ็บปวด  ดิ้นทุรุนทุรายก่อนตาย  ฉะนั้นเราต้องทำแบบแลกด้วยชีวิตให้ถึงขนาดปางตาย  ไม่หวังอะไร    ทำด้วยความสำนึกผิดจริงๆเพื่อขอขมาอย่างเดียวน่าจะได้ผลกว่า   ขอบคุณคำแนะนำอันมีค่าและแง่คิดดีๆนี้ด้วยค่ะ
     ช่วงเช้าเริ่มงานที่ฐานก่อสร้างก่อน  ช่วยขนอิฐบล๊อกและตักปูนที่ผสมแล้วใส่ถังหิ้วส่งให้คนก่ออิฐ  ช่วยตักปูนใส่อิฐบล๊อกบ้าง   ทำไปท่องคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วย   ระหว่างทำคุณอมรเน้นให้ใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า   เสียของให้น้อยที่สุด    หากปูนหกหรือใส่มากไป   จะต้องตักชึ้นมาใช้ใหม่หรือตักส่วนที่เกินออก   ถ้าทุกคนทำอย่างนี้ประเทศชาติก็คงไม่ล่มจม    ภัยพิบัติก็จะไม่เกิดแน่นอน    แหม..... กำลังเพลินๆอยู่เชียว.....อ้าวๆๆ....หมดเวลาเสียแล้ว  
     ฐานที่ 2 ไปที่วิหารไม้ไผ่    ช่วยกันรื้อพื้นไม้ไผ่ออก   ขั้นแรกใช้แชลงงัดแผ่นไม้ไผ่บางส่วนออกก่อน   แล้วใช้เลื่อยมือเลื่อยกระบอกไม้ไผ่ให้ขาดตลอดแนว   จากนั้นใช้แชลงงัดพร้อมกระโดดๆๆๆๆๆ......บนแพไม้ไผ่เพื่อให้ขาดจากกัน   แล้วก็ช่วยกันยกไปเผ่าที่บ่อน้ำพีระมิด   ฐานนี้ก็เรียกเหงื่อได้พอสมควร  
    ฐานที่ 3 ไปที่แปลงเกษตร   อ.พันธ์ ให้ทุกคนดูตัวอย่างร่องเผีอกที่ทำไว้ก่อนแล้วๆให้ทุกคนใช้ปัญญาตัวเองลงมือทำเอง    ขุดกันคนละทีสองที  แฮะๆๆ.....ทำไม่ได้    อ.พันธ์ จึงสาธิตวิธีขุดร่องเผีอกให้ทุกคนดู   ขณะสอนบางคนไม่สนใจฟัง   สอนก็สอนไปฉันก็ขุดของฉันไปเลยทำให้ อ.พันธ์ ชักมีน้ำโหชึ้นมา   วิธีการคือขั้นแรกต้องเหยียบหญ้าตรงโคนต้นเผือกให้ราบก่อน  แล้วขุดดินด้านข้างมากลบโคนต้นเผือกโดยต้องพลิกดินที่มีต้นหญ้าลง   ดินที่ขุดต้องก้อนใหญ่เพื่อใช้กลบหญ้าให้ตายและเป็นปุ๋ยให้กับต้นเผือก    ดูเหมือนง่ายๆแต่ทำให้ได้ดียากจริงๆ   ฐานนี้เป็นเวลากลางวันพอดี  อากาศร้อนมากๆๆๆๆ    มีบริการผ้าเย็นจากน้องจาว   ช่วยให้คลายร้อนและสดชื่นขึ้นไม่น้อยทีเดียว   ขอบคุณน้องจาวมากๆๆๆนะค๊าๆๆๆ
    ฐานที่ 4 ไปที่ลานจอดรถข้างวิหาร  ช่วยกันขนกองปูนที่กองอยู่รอบๆต้นมะม่วงไปถมที่ลานก่อสร้าง    มีลุงเบิ้มคอยใช้รถเเม็กโครตักกองปูนใส่รถเข็นให้พวกเรา   เราก็ช่วยกันเข็นกองปูนไปถมที่ลานก่อสร้างจนหมดภายในเวลา 1 ชม.พอดิบพอดี
   
หลังเสร็จงานผลการบำบัดทุกกลุ่มได้ผล 100% เป็นส่วนใหญ่  ทุกคนไม่ค่อยเหนื่อยเวลาทำงาน  เพราะใช้เวลาไม่มากในแต่ละฐาน  พอเริ่มเหนื่อยก็ได้เวลาเปลี่ยนฐาน  ร่างกายได้พักจึงไม่เหนื่อยมากและทำงานต่อได้  เป็นการแสดงให้พวกเราเห็นว่าการทำตามผู้นำ  ไม่ขัดบัญชาสวรรค์คุณจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดแน่นอน  ส่วนอาการปวดหลังและนิ้วมือของตัวเองไม่ดีขึ้น  อาการกลับปวดมากขึ้นเป็นเพราะผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นจากการฆ่าสัตว์ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามจึงเป็นกรรมที่หนักและเขียนธรรมทานน้อย  จะพยายามปรับปรุงตัวและสร้างบุญไปเรื่อยๆเพื่อชดเชยสิ่งที่ตนเองได้ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และอุทิศบุญให้แก่วิญญาณของสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ได้ฆ่าเป็นอาหารจนกว่าชีวิตจะหาไม่ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 18:23:01


ความคิดเห็นที่ 305 (1638105)

 ผมนาย มงคล   เอื้ออัมพร

  บ้านเลขที่ 79 ม.4  ต.แม่จัน

   อ.แม่จัน   อ.เชียงราย   57110

ก่อนอื่นผมขอกราบขอบคุณแทบเท้าพระบาท

1.องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

2.องค์พระศรีอาริยเมตไตร

3.พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว พระบรมพระราชินีนารถ

4.สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลในบ้านสวนพีระมิด

5.อาจารย์แม่อุบล และครอบครัว

       ประสบการณ์ของผม นับจากการได้เข้าไปเป็นลูกบ้านสวน

คือ วันที่ 19 ตุลาคม 55  ผมยกของ

ถูกเส้นสแตนเลสแบน ได้หนีบนิ้วชี้

มีอาการเจ็บมาก และช้ำเลือด นิ้วบวม

ที่แรกก็ไม่ได้คิดอะไร คงเป็นเพราะไม่ระวัง

เวลาผ่านไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง

ผมนึกขึ้นได้ว่าถ้าเจ็บขนาดนี้

คงจะทำให้นิ้วบวมแน่ๆ

แต่แปลกมาก นิ้วกลับยุบลงไปไม่เป็นแผล 

คงเป็นเพราะ ผมได้แขวนจี้องค์สฟริงซ์ รุ่นแรก..

     และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 55

ผมไปใช้แรงกายที่บ้านสวน

ท่านอาจารย์แม่ ได้ให้ทำกิจกรรม

โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆและให้เปลี่ยนฐานไปเรื่อยๆไม่ให้ซ้ำฐานเดิม

ซึ่งผมคิดดูแล้วเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าไม่เหนื่อย ไม่เบื่อ 

สนุกกับการทำกิจกรรม

และ ผมได้อธิฐานว่าในระหว่างที่ทำกิจกรรม

คือขอให้หายจากโรคภูมิแพ้ คันผิวหนัง

และความคล่องตัวด้านการเงิน

และสามารถเห็นเป็นรูปธรรม คือการเงินของผมเริ่มดีขึ้น

มีเงินเหลือเก็บ ทั้งๆที่ เดือนตุลาคม

จะเป็นเดือนที่มีค่าใช้จ่ายมาก

คือ ค่าเทอมลูก และเงินส่งค่าประกันชีวิต

แต่ เดือนตุลาคม ที่ผ่านมานี้

ผมมีเงินเหลือเก็บ 190,000 บาท 

ส่วนอาการคันผิวหนัง

คงเหลืออาการเพียงประมาณ 5%

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 18:42:46


ความคิดเห็นที่ 306 (1638131)

และต่อไปนี้

จะถือเป็นกฏข้อหนึ่ง

ซึ่งเป็นข้อสำคัญยิ่ง

ในการที่ใคร

จะเข้าไปบ้านสวนพีระมิด

จะต้องมีธรรมทาน

ชีวิตตัวเอง

ถ่ายเอกสารเตรียมไปแจกด้วย

ทุกคน

ต้องส่ง อ.อุบล ก่อน

แล้ว อ.อุบล จะเป็นผู้ให้ทีมงาน

กลั่นกรอง และ

แจกธรรมทานของคุณเอง

ส่วนใครจะมีสำเนา

จากในเวปที่คนอื่นเขียนไปแจกด้วย

ก็ยิ่งดี แต่ยึด ของตนเอง เป็นหลัก

เริ่มสัปดาห์นี้เลย

ก็แล้วกัน

ส่งข่าว

ไปหลายๆกระทู้ด้วยนะจ๊ะ

และ

ถ้าคุยกันได้ ก็บอกกันด้วยนะ

มิฉะนั้น

หมดสิทธิ์เข้าบ้านสวน

นะจ๊ะจะบอกให้

อย่างยายแก้ว

--------------

เป็นข้อความของท่านอาจารย์ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 20:23:01


ความคิดเห็นที่ 307 (1638146)

โอ้โห

คุณเจี๊ยบ เปลี๊ยนไป๋

เขียนธรรมทานได้ดี เป็นธรรมชาติมาก

ไม่ใช้แต่สัญญา เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

อ่านแล้วมีพลังมากเลยจ๊ะ

คุณเจี๊ยบจ๋า

 

ในที่สุด

คุณเจี๊ยบก็ทำได้

เปลี่ยนได้จริงๆ และดีมากด้วย

*************************

กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์ค่ะ

เป็นเพราะท่านอาจารย์เมตตา บด บี้ ขยี้ ป้อน เป็นคนๆในคืนนั้น

ให้แต่ละคนได้รู้ถึงจุดด้อย ข้อเสียของตัวเอง

และท่านอาจารย์จะยกเจี๊ยบเป็นตัวอย่างเสมอ

ในการเขียนธรรมทานแบบสัญญา

เจี๊ยบถือเป็นความเมตตาของท่านอาจารย์เป็นที่สุด

ที่ต้องการให้เจี๊ยบเปลี่ยนตัวเองให้ได้

และเจี๊ยบก็ทำสำเร็จ

เจี๊ยบจะพัฒนาและจะตั้งใจให้มากยิ่งขึ้นค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 21:18:36


ความคิดเห็นที่ 308 (1638263)

 วันอาทิตย์(28ตค55)นี้ทำกิจกรรม workshop กันกลุ่มละ  1ชั่วโมง

       ปัญหาที่ต้องการปลดเปลืองคือ   หน้าขาวใสและลดน.น. ส่วนที่เกิน  

โดยมีคุณ กฤษณะ  สิงห์ป้อม เป็นหัวหน้าทีม มีสมาชิกลุ่ม  6 คน  ซึ่งกลุ่มของเรา

ได้มารวมกับกลุ่มคุณอ้อย  ที่วิหารไม้ไผ่เป็น2ทีม  ได้ช่วยกันขนย้ายเอกสารธรรมะ

ที่ญาติธรรมได้ร่วมกันสร้างบุญกันมาเป็นจำนวนมาก คัดแยกแส่วนที่ดีและชำรุดบ้าง

ย้ายขึ้นไปใว้บริเวณชั้นบนของห้องน้ำ ส่วนที่เสียหายก็นำไปเผาทำลาย นอกจากนั้น

ยังมีเก้าอี้ส่วนที่พร้อมใช้งาน  ก็นำไปเก็บไว้ที่ใต้เวทีการแสดงของเราส่วนตู้ และโต๊ะ

ก็นำมาเช็ดถูทำความสะอาด พร้อมที่จะใช้งานได้    ถ้าได้ซ่อมในจุดที่เสียหายไป        

หลังจากที่เรา  ได้รับประทานอาหารเช้ากันแล้ว  งานเราก็ได้เปลี่ยนฐานไปอยู่กับ        

คุณเหมี่ยวเป็นลานจอกรถใต้ต้นมะม่วง  ซึ่งมีกลุ่มที่ได้ถูกทำไปบ้างแล้ว  กลุ่มของเรา

ก็มาดำเนินการต่อไป  โดยเก็บเศษไม้ที่พวกเราได้คัดแยกไม้ที่ดีเก็บแยกไว้ส่วนไม้ที่

ผุพัง  เสียหายแล้วเราก็นำไปเผาทิ้งที่  กองเผาขยะ  จนทำให้มองแล้ว  สะอาดตาขึ้น

นอกจากนั้นยังได้มีการตัดแต่งกิ่งมะม่วงที่ยื่นออกมาระเกะระกะอีก  และมีรถแม๊คโคร

คอยช่วยอีก   ทำให้พวกเราเบาแรงไปเยาะเลย  ได้เวลาพักทานข้าวกลางวันแต่ก่อน

ที่พวกเราจะไปพักกัน ก็ได้สำรวจตัวเองว่า   ผลจากการที่เรามาทำความดีกันแล้วสิ่ง

ศักดิ์สิทธิ์ท่านได้เมตตากันมากน้อยแค่ใหน   ก็ปรากฎผลว่า  อาการหน้าขาวใสได้ผล

ไป70%  (จากการที่น้องตั๊กได้สำรวจให้ตั้งแต่แรก)  ซึ่งก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า   บารมี

พระศรีอารย์ฯท่านเมตตาทุกคนที่ทำความดีอย่างเต็มใจและตั้งใจ  โดยที่ทุกท่านก็เห็น

ผลกันจริงๆ   หลังจากทีพวกเรารับประทานอาหารกลางวันกันแล้ว  ฐานของเราก็ได้

เปลี่ยนไปที่แปลงเกษตร  ซึ่งตรงนี้ทุกคนก็ได้รับมอบหมายจากอ.พันธ์ว่า   ให้ช่วยกัน

ตกแต่งแปลงผือกให้มีฐานแปลงที่กว้างขึ้นเพื่อรองรับหัวเผือกที่กำลังจะเกิดขึ้นมาและ

ให้มีฐานกว้างกว่าเดิมและมีร่องน้ำให้น้ำขังอยู่ได้ในเวลาให้น้ำเผือกและนอกจากนั้นก็

ใช้ดินกลบหญ้าให้มิด  เพื่อหญ้าจะได้ไม่ขึ้นมาอีีก/.

       การทำworkshop  ในครั้งนี้  เราทำกันด้วยความตั้งใจทุกท่านได้รับความสุข        

ได้เปลี่ยนฐานกันภายในเวลา  1 ชม.ทำให้ไม่เหนื่อยมาก   ลูกต้องขอกราบขอบ        

พระุคุณบารมีพระศรีอาริย์ฯที่ท่านอ.อุบลฯเป็นผู้อัญเชิญมาและบารมีของจี้3ร่มโพธิ์ศรี

และ ท่านอ.อุบลฯที่นำพาพวกเราได้ทำงานกันอย่างมีความสุข  ไม่เหนื่อยมาก  ได้รับ

ผลบุญและได้ผลงานเป็นที่น่าพอใจกันทุกกลุ่มเลย/

                                             กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 12:05:24


ความคิดเห็นที่ 309 (1638358)

กิจกรรมวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2555

ช่วงเช้าก่อนเริ่มทำงานมีการแบ่งกลุ่มให้แต่คนละเลือกที่จะเข้ากลุ่มตามปัญหาที่เป็นอยู่เช่นกลุ่มที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ผิวพรรณ การงาน การเงิน ขาดปัญญา มีฐานที่ต้องทำงานอยู่ 4ฐาน ให้แต่ละกลุ่มทำงานครบ 1 ชั่วโมงแล้วเปลี่ยนฐานจนครบทุกฐานเพื่อที่จะได้สร้างบุญได้เต็มที่ช่วยให้ปลดล็อคกรรมได้ ซึ่งต่างเมื่อวันเสาร์ที่พวกเราส่วนใหญ่ไม่ยอมเปลี่ยนฐานการทำงานกัน ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งอาจารย์อุบล เพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของตัวเอง ที่ไม่เชื่อฟังอาจารย์ วันนี้จึงเลือกที่จะอยู่กลุ่มที่มีปัญหาการงาน การเงิน เน้น ขาดปัญญา
อ.พันธุ์ หัวหน้ากลุ่มซึ่งมากด้วยปัญญา(มีความรู้ความสามารถด้านการเกษตร)ได้พาพวกเราในกลุ่ม มีคุณเจน คุณแหล๋น คุณชิม พี่แป้น ไปที่แปลงเกษตร ให้ขุดดินยกร่องเผือก ก่อนทำอ.พันธุ์จะอธิบาย และสาธิตวิธีการขุดดินกลบร่องเผือกเพื่อให้หญ้าตายฆ่าหญ้าเป็น ก็ด้วยเพราะขาดปัญญานั่นแหละ (โง่แล้วอวดฉลาด) อ.พันธุ์สอนแล้วไม่เชื่อไม่ทำตามที่บอก ทำตามความคิดตัวเองว่าดีแล้ว มีข้อสงสัย อยู่เรื่อย ผลงานที่เห็นจึงป็นที่หนักใจของอ.พันธ์อย่างมากเลย(สอนแล้วไม่จำ จึงทำไม่ได้)
ครบชั่วโมงก็เปลี่ยนไปทำที่บริเวณด้านหลังของวิหารไม้ไผ่ ตรงนี้จะมีกองดิน เศษไม่ไผ่วางรกอยู่ มีน้องเหมี่ยวเป็นหัวหน้ากลุ่ม (กรรมผิวพรรณ)ก็ช่วยขนดินใส่รถเข็นไปเทที่หลุมอาคารที่กำลังสร้าง ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่แข่งกับเวลาที่มีจำกัด เหนื่อยแต่ไม่ท้อ
ฐานต่อมาที่วิหารไม้ไผ่มีคุณอ้อยเป็นหัวหน้าทีมให้ช่วยกันรื้อพื้นไม้ไผ่ชั้นล่าง ซึ่งตอนที่กลุ่มเราไปทำงานงานก็เหลือไม่มากแล้ว ก็ช่วยกันเลื่อยลำไม้ไผ่ให้ขาดแล้วยกไปเผาไฟ งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
สุดท้ายฐานงานก่อสร้างก็ไปช่วยยกกระป๋องปูน เกลี่ยดิน ช่วยเทดินลงหลุม ช่วงนี้ทำงานไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรมีล้าบ้าง เพราะอากาศร้อนอยู่กลางแดดด้วยไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงานนัก  
ช่วงบ่ายแต่ละกลุ่มรายงานผลของปัญหาอาการที่เป็นว่าเป็นอย่างไรบ้างหลังจากทำงานครบทุกฐานแล้ว คนที่มีอาการเจ็บป่วยแล้วหายร้อยเปอร์เซ็นต์ อาการดีขึ้น มีเป็นส่วนมาก คนที่ไม่ตั้งใจทำงาน ทำไม่เต็มที่ก็เห็นผลน้อย
ส่วนกลุ่มที่ขาดปัญญาอย่างตัวเองนั้น ก็ยังขาดปัญญาอยู่เพราะไม่เชื่อฟังผู้นำ ไม่ทำตามคำสั่ง ทำตัวป็นน้ำล้นแก้ว เชื่อความคิดของตัวเองว่าดีแล้ว
การที่เราจะมีปัญญาในเรื่องใดนั้นต้องเชื่อฟังผู้นำ มีความตั้งใจทำตามคำสั่งทุกขั้นตอน อย่าอวดฉลาดเกินไป ต้องเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่า ขอน้อมรับตามคำสอนของท่านอาจารย์อุบลคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 22:10:26


ความคิดเห็นที่ 310 (1638514)

 นางสาวกัลยาณี  ทิมขาวประเสริฐ

 

    การไปทำบุญบ้านสวนครั้งนี้ ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ตั๊กเคยไปเพราะตั๊กเพิ่งเคยได้ใช้แรงกายแบบแบบแก้ไขปัญหาแบบตรงจุดที่ตัวเองเป็น เป็นการปลดล็อคกรรมของแต่ละคนซึ่งจะมีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ตั๊กรู้สึกดีใจมากๆเลยค่ะที่จะได้ปลดเปลื้องความทุกข์ที่ตัวเองเป็นอยู่นั่นก็คือ "สิว" มันเป็นเรื่องที่ทำให้หนักใจและทุกข์ใจมากๆ การเป็นสิวมันไม่ได้ทำให้เราเจ็บหรือปวดตามร่างกายอะไร แต่ว่ามันสร้างความทุกข์ทางใจเป็นอย่างมากเลย 

      การทำบุญด้วยแรงกาย ก็มีการแบ่งกลุ่มตามปัญหาที่ตัวเองเป็นอยู่ ตั๊กตั้งใจอย่างมากที่จะอยู่กลุ่มพี่เหมี่ยว เพราะใครๆก็รู้สรรพคุณพี่เหมี่ยวว่าถ้าใครอยู่ด้วยเป็นต้องหายหรือดีขึ้นมากๆทุกราย แล้วในที่สุดตั๊กก็ได้อยู่กับพี่เหมี่ยวจริงๆ อิอิ พี่เหมี่ยวเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ดีมากๆเลยค่ะ คอยดูแลลูกน้องและแนะนำทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอย่างดี ทั้งให้ขอบารมีพระศรีอาริย์ ทั้งอ.อุบลช่วยด้วย ทั้งสวดมนต์ ทั้งพาอุทิศบุญ ครบทุกอย่างเลย และเมื่อเสร็จกิจกรรมต่างคนก็ต่างเช็คหน้าตาตัวเอง บ้างก็เช็คให้กันและกัน ปรากฎว่าทุกคนมีอาการดีขึ้นทั้งหมด โดยเฉพาะคุณป้านนทพร ซึีงเป็นฝ้าแผ่นหนาก็กลับกลายมาเหลือแค่บางๆ เหมือนใครเอาอะไรมาขูดๆออก ส่วนตั๊กก็สิวยุบลงรอยแดงๆก็จางลง อ้อ!! ลืมบอกไปค่ะ ก่อนที่จะทำกิจกรรมตั๊กก็เขียนปัญหาของตัวเองไปว่า เป็นสิว มีรอยแผลเป็นจุดด่างดำบนใบหน้าและเป็นภูมิแพ้ผื่นคัน แต่พี่ธนาบอกว่าปัญหาแต่ละอย่างจะถูกหารเฉลี่ยไป เหมือนเรายืมเงินเค้ามาหลายๆเจ้า เราก็ต้องเอาเงินที่เราได้มาแบ่งให้กับทุกๆคน มันก็จะได้ไม่เต็มร้อย ตั๊กก็เลยตัดภูมิแพ้ออกไปเพราะถ้าเทียบกับสิวแล้ว สิวทำให้ตั๊กทุกข์มากกว่าหลายเท่า แต่พอเสร็จกิจกรรมแล้วไม่ใช่แค่สิวที่ดีขึ้น แต่อาการคันที่เป็นอยู่ก่อนมาบ้านสวนก็หายไป ส่วนที่เป็นผื่นๆก็เริ่มแห้ง

 

นี่แค่ใช้แรงกายแค่วันเดียวเองยังเห็นผลขนาดนี้เลย แต่การทำงานวันแรกทุกคนรู้สึกเหนื่อยและล้ากันมาก เพราะว่าทำตัวรู้ดีกว่าพระพุทธเจ้าที่ไม่ยอมเปลี่ยนฐาน ไม่ยอมทำตามสิ่งที่พระองค์วางไว้ให้ ซึ่งพระองค์ท่านเมตตาต่อลูกหลานมาก ต้องการให้ลูกหลานสามารถปลดล็อกกรรมได้อย่างครอบคลุมทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะปัญหาเดียว เพราะแต่ละคนก็มีปัญหาต่างๆมากมาย แต่พวกเราต่าง"ไม่ยอม" ถือเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ตั๊กเองตอนนั้นก็คิดว่าไม่อยากเปลี่ยนเหมือนกัน เพราะฐานที่ตัวเองอยู่ สามารถปลดล็อคกรรมผิวพรรณได้ ปัญหาตั๊กมีแค่เรื่องสิวเท่านั้นเองที่มันใหญ่มาก และอีกอย่าง ฐานที่ตัวเองอยู่ คือวิหารไม้ไผ่ ได้อยู่ในร่มด้วย ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ไม่ร้อนเพราะแดด ไม่อยากเปลี่ยนเพราะกลัวดำ เห็นชัดๆว่าเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวที่สุด เพราะคนที่ต้องทำงานกลางแดดเค้าก็ต้องอยากที่จะอยูร่มบ้าง

     ต่อไปนี้ตั๊กจะปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเองให้ดีขึ้นค่ะ และกราบขอขมาองค์พระปฐม พระศรีอาริย์ ที่ลูกดื้อรั้น ไม่ยอมทำตามสิ่งที่พระองค์กำหนดมาให้เพราะเห็นว่าดีแล้วสำหรับลูกหลาน ลูกกราบขอขมาเจ้าค่ะ
วันเสาร์ขอจบแค่นี้ก่อนนะคะ
แล้วตั๊กจะมาต่อวันอาทิตย์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-04 13:19:22


ความคิดเห็นที่ 311 (1638515)

 นางสาวกัลยาณี  ทิมขาวประเสริฐ

ต่อจากวันเสาร์ค่ะ
        วันอาทิตย์พวกเราได้รับโอกาสให้ได้แก้ตัวในการปลดล็อคกรรมกันอีกครั้ง ครั้งนี้ทุกคนทำตามผู้นำทุกอย่าง บอกซ้ายไปซ้าย บอกขวาไปขวา และตั๊กก็ได้เห็นว่า สิ่งที่พระองค์ให้ทำนั้นได้ผลมากแค่ไหน การที่เราได้เปลี่ยนฐาน ทำให้เราได้รับความรู้ต่างๆมากมาย ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือในวันข้างหน้าได้ แล้วระยะเวลาที่พระองค์กำหนดมาให้นั้น ก็ช่างจะพอดีกับกำลังกายเลยค่ะ เราทำงานแต่ละฐานจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลยหรือเหนื่อยน้อยมาก (ยกเว้นงานเกษตรซึ่งทำตอนบ่ายร้อนมากมายจริงๆเลย) แล้วสิ่งที่ตั๊กได้รับการปลดล็อคกรรมนั้น ก็ได้ผลมากกว่าวันแรกอย่างเห็นได้ช้ด คือสิวบนใบหน้าแห้งงง ยุบ แล้วรอยก็จางลงมากกว่าเดิมมากเลยค่ะ เห็นผลประมาณ 80% ได้ ตั๊กรู้สึกดีใจมากๆเลยค่ะ เพราะตั๊กเขียนปัญหาไปแค่เป็นสิวอย่างเดียว แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาไม่เพียงแต่ทำให้สิวแห้ง แต่ยังทำให้รอยแผลเป็นจางลงอีกด้วย และอีกสิ่งหนึ่งซึ่งไม่เกี่ยวกับสิวคือภูมิแพ้ผื่นคัน และแผลที่เป็นที่เท้า ก็แห้งไปเลย ไม่คันเลยค่ะ

       (แต่ตอนนี้เริ่มคันมานิดนึง คงเพราะว่าตั๊กได้รับความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่รีบมาเขียนธรรมทานเพื่อเป็นการขอบคุณ ก็เลยทำให้เริ่มกลับมาคันอีกลูกกราบขอขมาค่ะที่ไม่ยอมปรับปรุงตัวเองเรื่องธรรมทาน มัวแต่อ้างนั่นนี่โน่นให้กับตัวเองอยู่เรื่อย) และผลบุญที่ได้รับอีกอย่างนึงก็คือ ตั๊กกับแม่เดินทางไปบ้านสวนวันศุกร์ ยังไม่ทันได้เข้ากิจกรรมปลดล็อคกรรมเลย แต่รายได้ที่บ้านกลับเพิ่มขึ้นมา ขายของได้ดีขึ้นตั้งแต่วันศุกร์มาแล้วค่ะ 

ลูกกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระปฐม พระศรีอาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และอ.อุบลที่เมตตาให้ลูกได้รับความสุขเสมอมา และกราบขอบพระคุณอ.มงคลและคุณท็อปที่ได้เสียสละเวลาที่ควรจะได้อยู่กับภรรยาและคุณแม่ แถมยังให้การส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือทุกๆอย่าง เพื่อช่วยลูกหลานทุกคน
กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

      ยังไม่จบนะคะ ขอเล่าวันที่เดินทางกลับบ้านแล้วเห็น UFO มาส่งหน่อยนะคะ ช่วที่ตั๊กเดินทางกลับบ้านกว่าจะถึงปากทางเข้าบ้านก็ฟ้ามืดแล้ว ตั๊กกับแม่ก็ได้ใช้รหัสขอให้มีคนแถวบ้านขับรถผ่านมาเพื่อที่เราจะได้ติดรถเค้าไปด้วย ใช้มาตลอดตั้งแต่อยู่บนรถ พอลงรถก็ไม่เห็นจะมีคนแถวบ้านขับผ่านมาเลย ตั๊กก็แปลกใจว่าทำไมถึงใช้รหัสไม่ได้ผล ยิ่งแม่ใช้ด้วยก็น่าจะยิ่งได้ผลอยู่แล้วเพราะแม่บอกคนเยอะมากกก และใช้ได้ผลตลอด ก็เลยโทรให้พี่เขยออกมารับ พอเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ก็เจอคนรู้จักผ่านมาแต่ไม่ได้ไปกับเค้าหรอกค่ะเพราะพี่เขยก็มาถึงพอดี ก็กลับกับพี่ พอถึงทางจะเข้าบ้านตั๊กห็นดวงไฟสีส้มสองดวงติดกัน ดวงหนึ่งกระพริบอีกดวงเป็นไฟไว้ตลอด ก็ชี้ให้แม่ดู แม่บอกว่าสงสัยเป็นโคมมั้ง แต่ดูแล้วก็ไม่ใช่เพราะมีไฟสองดวง ตั๊กก็คิดว้าเป็นกระสือหรือเปล่าเพราะช่วงนี้เริ่มมีข่าวผีๆมาแล้ว แต่ดูแล้วก็ไม่ใช่อีก จนต้องจอดรถดู(รถมอไซ์) ช่วยกันดูสามคนแล้วคิดว่าต้องเป็น UFO แน่ๆเลย เพราะถ้าเป็นเครื่องบินจะไม่ใช่ไฟแบบนี้แล้วจะต้องมีเสียงดังมากด้วยเพราะอยู่ไม่ไกลเลย แต่นี่เงียบบบบมากไม่มีเสียงเลยสักนิด ตั๊กก็เลยมั่นใจว่าต้องใช่ UFO มาส่งแน่ๆเลย ตั๊กก็รู้สาเหตุแล้วว่าทำไมถึงใช้รหัสไม่ได้ผลกันแล้วทำไมเราสองคนถึงไม่ได้กลับกับคนแถวบ้าน เพราะเค้าเป็นรถยนต์ ถ้านั่งไปจะทำให้มองไม่เห็น UFO 
ตั๊กกับแม่ก็ได้อุทิศบุญให้กับพวกเค้าไป 
จบแล้วค่ะ ^0^

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-04 13:20:37


ความคิดเห็นที่ 312 (1638526)

                                เราต้องเริ่มที่เราก่อน

โดยทำทันที ทำอย่างง่ายๆ

อย่างสม่ำเสมอ

อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ที่สุด

ที่ทำให้มีชัยชนะ

อุปสรรคทั้งปวงได้

คือ

ทำให้มากขึ้นตลอดไป

 

ตั้งใจไว้เลย

ถ้าทำไม่ได้

ให้มันตายไปเลย

++++++

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตามาเตือนค่ะ

ลูกจะพยายามปรับปรุงตัวเอง เอาชนะมาร ความง่วง

ความขี้เกียจ แบ่งเวลาให้เป็น

ตั้งใจไว้เลย  ถ้าทำไม่ได้ให้มันตายไปเลย

อาทิตย์นี้มิ้มสอบตกกับการเขียนธรรมทาน

เพราะไม่ได้ทำง่ายๆ ทำทันที สม่ำเสมอ มากขึ้น

ทั้งที่ได้รับการความเมตตาจากเบื้องบนด้วยการเตือนให้ไม่มีแรง

มามีแรงได้ก็ตอนได้ใช้จี้ช่วยคนนี่แหละค่ะ แรงถึงค่อยฟื้น

และยิ่งดีขึ้นเมื่อเขียนธรรมทานค่ะ ลูกจะปรับปรุงตัวค่ะ

ขอเล่าเหตุการณ์ในอาทิตย์นี้เลยนะค๊าๆๆ^__^

ในวันอาทิตย์นี้ ท่านอาจารย์ได้ออกแบบใบงาน workshop

รูปแบบใหม่ที่ละเอียดกว่าเดิมมากๆๆ เพราะท่านต้องการให้

เราหลุดเราพ้นจากทุกข์  แต่พวกเราหลายคน

ก็กลับกรอกรายละเอียดไม่ครบ ให้ขีดเครื่องหมาย ก็ไม่ขีด

ทำแค่นี้ยังทำไม่ได้แล้วจะพ้นกรรมกันได้อย่างไรละคะ  

กว่าจะได้ใบงานนี้มา ท่านอาจารย์ก็ต้องเสียเวลามานั่งออกแบบ

นำไปถ่ายเอกสารที่กรุงเทพ ก็แสนจะราคาแพง

ท่านก็กลับมาถ่ายที่บ้านนา เพราะมีราคาถูกกว่า

แรงสมอง แรงกาย แรงใจ แรงเงิน

ท่านทุ่มเทให้เรา เพื่อให้เราพ้นทุกข์ 

แค่ทำเครื่องหมาย เขียนรายละเอียดให้ครบทุกช่อง

ทำไม่ได้ก็สมควรกันแล้วละค่ะ ที่ต้องทุกข์กันต่อไป 

                                    

ในเสาร์ อาทิตย์นี้พวกเราไม่สามารถปลดล็อคกรรม

ได้ครบทุกด้านได้ไม่เต็มที่

เพราะความโง่ เชื่อความคิดตัวเอง ไม่เชื่อผู้นำ

เพราะคำสั่งที่พี่ธนาก็มาจากท่านอาจารย์ มาจากเบื้องบน

ซึ่งท่านทราบหมดว่าเราจะรอด เราจะพ้นทุกข์ได้อย่างไร

ผลงาน workshop ที่ออกมาในวันเสาร์

จึงทำให้พวกเราปลดล็อคกรรมกันไม่ได้

 ครบทุกด้าน และได้ผลไม่เต็มที่

เพราะไม่ยอมเปลี่ยนฐานอยู่ที่เดิมทั้งวัน

และยังทำให้พวกเรารู้สึกล้า ความสำเร็จของงานน้อยมากๆๆ

โดยมิ้มเองก็เป็นอีก 1 คนที่ดื้อค่ะ จะอยู่แต่ฐานกรรมผิวพรรณ

ไม่ไปฐานอื่น ทั้งที่จริงๆ ก็ยังมีความทุกข์ในชีวิตอีกหลายด้าน

กลุ่มกรรมผิวพรรณทีมิ้มอยู่ รับผิดชอบย้ายของ

และรื้อวิหารไม้ไผ่ หัวหน้าทีมคือพี่เหมี่ยว

มิ้มรู้สึกดีใจมากๆเลยค่ะที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับพี่เหมี่ยว

เป็นที่รู้กันเลยว่ากลุ่มที่พี่เหมี่ยวเป็นหัวหน้าทีมจะได้ผล

หาย 100 % หรือ เกือบ 100 % เยอะมาก

เมื่อได้อยู่ทีมเดียวกับพี่เหมี่ยวจึงได้รู้ว่า

ที่พี่เหมี่ยวพาลูกทีมหาย 100 % ก็เพราะว่า

    พี่เหมี่ยว พาพวกเราบำบัดในระบุเจาะจงที่จะบำบัด

เพื่อบุญจะได้ไม่แบ่งให้เจ้าหนี้หลายเจ้า

 มีการเช็คอาการของเราเป็นระยะ

คอยย้ำเตือน !!

 ให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย สวดคาถาพระศรีอาริย์

 อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ที่ท่านอาจารย์อุบลอาราธนา

ขอให้พวกเราหายไม่กลับมาเป็นอีก อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร

ตลอดเวลาการทำงานก็เป็นการทำงานที่ตั้งใจ

ใช้ปัญญา เก็บทุกรายละเอียดให้ดีที่สุด

และทำด้วยใจที่มีความสุข

หลังจากทำงานเสร็จหน้าของมิ้มสิวแห้ง

 รอยแดงจางลงถึง 80 % เลยค่ะ สุดยอด^__^ รู้สึกดีใจมากๆ

 ส่วนมือของพี่เหมี่ยวเนียนขึ้น ขาว นุ่มและดีขึ้นมาก

 เข่าของพี่เจี๊ยบเองก็ขาวและนุ่มขึ้น

 ฝ้าที่หน้าของพี่นนทพรก็จางลงดีขึ้นมากๆ เลยค่ะ

เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-04 14:53:30


ความคิดเห็นที่ 313 (1638530)

 ไปซักผ้า แล้วก็กลับมาเล่าต่อค๊า

หลายคนก็คงสงสัยกันว่า

เอ ... การจะหาย มาก น้อย ขึ้นอยู่กันอะไร

ทำไม บางคนหาย บางคนไม่หาย

ก็เพราะว่า

1. กำลังบุญที่เราทำมากพอมั๊ย

2. เวลาจะบำบัดถ้าเขียนขอหายหลายอย่าง

บุญก็ต้องหารให้เจ้าหนี้หลายเจ้า

มิ้มว่าบำบัดทีละอย่าง ให้เจ้าหนี้ทีละเจ้าดีกว่า^__^

ก็น่าจะเห็นผลชัดเจนในเรื่องที่ขอค่ะ

3. กำลังใจความตั้งใจทำงาน ใช้ปัญญา ผลงานออกมาดีเยี่ยม

4. ขณะทำงานไม่ทำอุปกรณ์เสียหาย หรือใช้อุปกรณ์เปลือง

ทำให้เป็นหนี้สงฆ์ บุญก็ต้องแบ่งไปชำระหนี้สงฆ์

5.ทำไปนินทาไป หรือโกรธ อิจฉา ใจไม่ดี

อานิสงส์บุญน้อย ได้บาปกลับไป

6.จิตใจผ่องใสมีความสุข ภาวนาอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ภาวนาคาถาพระศรีอาริย์

7. ทำงานแล้ว เก็บ ล้างอุปกรณ์ ดูแลความเรียบร้อย

ของสถานที่ที่เราทำ

8. อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร ( คิดเองค่ะ )

9. กตัญญูขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเขียนธรรมทานค๊า ^__^

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-04 15:28:52


ความคิดเห็นที่ 314 (1638534)

 วันอาทิตย์พวกเราเลิกดื้อ

ทำตามพระบัญชาจากเบื้องบนและท่านอาจารย์

โดยการเวียนฐาน ฐานละ 1 ชั่วโมง

ผลงานออกมาสุดยอดค่ะ

เพราะว่าพวกเราไม่เหนื่อย ตื่นเต้นตลอดเวลาที่ได้เปลี่ยนฐาน

เมื่อมาถึงแต่ละฐานก็ตั้งใจทำงานมากแข่งกับเวลาที่มีอยู่ 1 ชม.

ได้ความรู้ที่หลากหลาย

เนื้องานที่ได้ออกดีเยี่ยม และได้งานมาก

ที่สำคัญที่สุด ก็คือ ได้ปลดล๊อคกรรมได้ครบทุกด้าน

มิ้มเขียนขอบำบัดสิว รอยแผลเป็น

ผลปรากฏว่าสิวที่หน้าของมิ้มแห้งลง รอยแดงลดลง

รอยหลุมจากสิว ผิวฟูขึ้นค่ะ

กราบขอบเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อป ที่เมตตาเสียสละแรงกาย แรงใจ กำลังทรัพย์เวลา ความเป็นส่วนตัว

 ให้พวกเราได้มาสร้างบุญเพื่อพ้นทุกข์

รอดจากภัยพิบัติได้กลับบ้านนิพพานค่ะ

ลูกขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าขอเบิกบุญตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันน้อมถวายเทวดาที่คุ้มครองท่านอาจารย์อุบล

เทวดาที่คุ้มครองท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อปค่ะ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-04 15:44:56


ความคิดเห็นที่ 315 (1638552)

 ป้าทองดี ทิมขาวประเสริฐ (ป้าสาว)


      เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ต.ค 55 ได้มีโอกาสไปร่วมสร้างบุญด้วยแรงกายที่บานสวน และมีการทำกิจกรรมกลุ่มเพื่อปลดล็อคกรรม ตอนนั้นได้อยู่กลุ่มของคุณแหล๋น และกลุ่มของคุณก็อตก็มาร่วมด้วย ซึ่งในกลุ่มของคุณก็อตนั้นมีคุณจอยร่วมอยู่ด้วย คุณจอยเป็นโรคไตวายระยะสุดท้าย พวกเราได้ทำงานร่วมกัน คุณก็อตเอาใจใส่ลูกกลุ่มดีมากสอนให้คุณจอยสวดมนต์ตลอด ในระหว่างที่ทำงานอยู่นั้น คุณจอยซึ่งเป็นไตวายระยะสุดท้าย เธอบอกว่าเวลาอยู่ที่บ้านจะทำอะไรไม่ไหวเลยแม้แต่จะเดินจากหน้าบ้านไปหลังบ้านก็เกือบไม่ไหวแล้ว แต่มาทำงานที่บ้านสวนกลับทำได้เหมือนคนปกติทั่วไป คุณจอยทั้งเข็นรถไปทิ้งขยะหลายรอบมาก ทั้งหามท่อปูนหนักๆคุณจอยก็ทำได้ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ คงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่ใช่เพราะบารมีพระศรีอาริย์และความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ป้าเองก็ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนเลย นอกจากที่บ้านสวนนี้ นับว่าเป็นบุญของลูกหลานที่ได้เกิดมาพบกับอาจารย์อุบล ทำให้รู้สึกชีวิตมีคุณค่าขึ้นไม่เสียทีที่ได้เกิดมา

     ลูกกราบขอบพาะคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์และท่านอาจารย์อุบลที่เมตตาต่อลูกหลานอย่างสุดประมาณ ลูกขอถวายบุญทั้งหมดที่ได้ทำที่บ้านสวนพีระมิดให้แก่เทวดาที่รักษาตัวอาจารย์อุบลและอาจารย์อุบลค่ะ
และขออุทิศบุญนี้ให้กับพ่อสอนแม่เต่ง โคมทอง พ่อผ่องแม่พลอย ทิมขาวประเสริฐและลูกที่ทำแท้งไป สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-04 20:58:32


ความคิดเห็นที่ 316 (1638600)

จาก คห. 317

เขียนโดย ครูมิ้ม ประภาสิริ ถาวร

...............................................

 

ขอเล่าเหตุการณ์ในอาทิตย์นี้เลยนะค๊าๆๆ^__^

ในวันอาทิตย์นี้ ท่านอาจารย์ได้ออกแบบใบงาน workshop

รูปแบบใหม่ที่ละเอียดกว่าเดิมมากๆๆ เพราะท่านต้องการให้

เราหลุดเราพ้นจากทุกข์  แต่พวกเราหลายคน

ก็กลับกรอกรายละเอียดไม่ครบ ให้ขีดเครื่องหมาย ก็ไม่ขีด

ทำแค่นี้ยังทำไม่ได้แล้วจะพ้นกรรมกันได้อย่างไรละคะ  

กว่าจะได้ใบงานนี้มา ท่านอาจารย์ก็ต้องเสียเวลามานั่งออกแบบ

นำไปถ่ายเอกสารที่กรุงเทพ ก็แสนจะราคาแพง

ท่านก็กลับมาถ่ายที่บ้านนา เพราะมีราคาถูกกว่า

แรงสมอง แรงกาย แรงใจ แรงเงิน

ท่านทุ่มเทให้เรา เพื่อให้เราพ้นทุกข์ 

แค่ทำเครื่องหมาย เขียนรายละเอียดให้ครบทุกช่อง

ทำไม่ได้ก็สมควรกันแล้วละค่ะ ที่ต้องทุกข์กันต่อไป 

...................................

ยิ่งอ่าน ยิ่งเห็นว่า

ท่านอาจารย์ทุ่มเท

แรงกาย แรงทรัพย์

เพื่อผลักดันให้พวกเรา

ได้"หลุดกรรม"ทุกวิถีทางจริงๆ

 

แต่อ่านที่หนูมิ้มเขียนแล้ว

ก็น่าเศร้าใจจริงๆค่ะ

แค่เพียงให้"ติ๊ก" เครื่องหมาย

และเขียนรายละเอียดให้ครบทุกช่อง

  แค่นี้ หลายๆคนยัง"ไม่คิดที่จะทำ"เลย

.....................

ไม่แน่ว่า สัปดาห์นี้

ทุกคนคงพัฒนากันแล้วมั้ง..ครูมิ้ม

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 08:02:00


ความคิดเห็นที่ 317 (1638840)

 

นัชญ์มีเรื่องรายงานผลอัพเดพต่อค่ะ

 

ปัญหาที่นัชญ์ต้องการขอรับพระบารมีจาก องค์จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี

ข้อหนึ่งคือ ต้องการมีปัญญาในการชี้นำ พ่อ แม่ ป้า

ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง และสามารถทำได้

ผลคือ ทุกวันนี้ ทั้งสามทำตามคำแนะนำของนัชญ์

ในเรื่องที่ถูกต้องง่ายขึ้นกว่าแต่เดิมมากค่ะ

 

อีกข้อคือ  ต้องการเป็นผู้ที่งดงามและสดใส

ผลคือ อยู่ ๆ ผิวของนัชญ์ก็ลอกเป็นขุย ๆ เหมือนผลัดผิวค่ะ

นัชญ์คิดว่า ข้อนี้น่าจะเป็นผลมาจากการที่ เช้าวันอาทิตย์

นัชญ์ตื่นแต่เช้า และเดินไปตามทางเห็นขี้สุนัข อยู่กลางถนน

นัชญ์ก็เอาไม้เขี่ยไปข้างถนน

และนัชญ์ก็ได้ช่วยล้างกะทะที่แม่ครัววางไว้ที่อ่างล้าง

ตอนที่นัชญ์ล้างชามที่กินข้าวเสร็จ

คือ ไม่มีใครใช้ แต่เราทำด้วยความเต็มใจ

และก่อนกลับบ้าน  นัชญ์ก็ได้ใช้แปรงสีฟันเขี่ยเศษผงออกจาก

ท่อน้ำทิ้ง  ตอนอาบน้ำเสร็จ

เพราะไม่มีกระดาษทิชชู  ก็เลยใช้แปรงสีฟัน

เพราะจะกลับบ้านแล้ว  เราไม่ต้องใช้แปรงสีฟันแล้วค่ะ

 

 

 

อีกข้อคือ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2555

นัชญ์เพิ่มปัญหาส่วนตัวของนัชญ์ในใบที่หัวหน้ากลุ่มให้เขียนตอนเช้า

คือเรื่องการเงิน การงาน และครอบครัว

ผลคือ  นัชญ์จะได้รถปิ๊กอัพมือสอง มาใช้แทน

รถคันเก่าที่ใช้มาเกือบยี่สิบปี

และอยู่ดี ๆ ป้าก็บอกยกหนี้ที่นัชญ์ติดทั้งหมด ไม่ต้องมาใช้คืนค่ะ

 

และอีกข้อคือ นัชญ์ขอให้มีจิตใจที่สะอาดสว่างใส

ผลก็คือ  นัชญ์รู้สึกว่า

นัชญ์รักคนที่น่ารำคาญได้อย่างจริงใจมากขึ้นค่ะ

ธรรมดา ก็จะช่วยเหลือตามหน้าที่ที่พึงมีของญาติพี่น้อง

แต่ทุกวันนี้  นัชญ์รักญาติที่น่ารำคาญด้วยจิตใจที่ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ

 

และอีกข้อคือ ขจัดความโกรธที่หลงเหลืออยู่ให้ไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

ผลคือ ในขณะที่กำลังเริ่มโกรธ  ก็รู้ตัวอยู่ทุกขณะ

และก็ทำให้ความโกรธหายไปได้เร็วมาก

 

 และอีกข้อคือ ต้องการขอรับพระบารมีเพื่อให้สามารถรักษา

ศีลห้าได้อย่างละเอียดและบริสุทธิ์ทุกข้อ 

ผลก็คือ ทุกวันนี้ 

จากการที่ท่านอาจารย์ ให้ปัญญาแก่นัชญ์ว่า

นัชญ์ชอบของฟรี และเอาของที่ทำงานกลับบ้าน

ขี้เหนียวและไม่ชอบทำบุญ

ผลก็คือ  นัชญ์เลิกทำความผิดดังกล่าว

ไม่ใช้อินเตอร์เน็ตที่ทำงาน ในเรื่องส่วนตัว

ขณะนี้ ก็ใช้สิทธิ์ลาพักผ่อน  และอยู่ในร้านเกม 

เสียเงินใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อพิมพ์รายงานผล

สิ่งที่ต้องการขอรับพระบารมีจาก องค์จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี

และเมื่อกลับมาบ้าน

เวลาที่ใส่ซองทำบุญกฐิน ก็ทำบุญด้วยจิตใจที่อ่อนโยน

ปรารถนาที่จะทำบุญ  ซึ่งแต่ก่อนทำบุญใส่ซองด้วยความรู้สึกที่เฉย ๆ

 

และอีกข้อคือ ขจัดความหลงผิดที่ยังมีอยู่

ผลก็คือ  การติดละครของนัชญ์ดูเหมือนจะลดน้อยลงไป

เพราะนัชญ์ก็อยากมาร่วมกิจกรรมบ้านสวนในสัปดาห์ถัดมา

เพียงแต่ติดภารกิจการนัดกับญาติที่จะมาที่บ้าน

ก็ทำให้นัชญ์ไม่ได้มาบ้านสวน

 

และอีกข้อคือ นัชญ์ขอให้มีปัญญาในการที่จะช่วยเผยแพร่พระธรรม

ในแนวทางของท่านอาจารย์อุบล แก่บุคคลทั่วไป

ได้อย่างถูกต้องเช่นเดียวกับท่านอาจารย์

ผลก็คือ  ท่านอาจารย์ ได้มอบปัญญาให้แก่ทุกคนในการเผยแพร่

ธรรมทาน และมีข้อรายละเอียดที่ทุกคนต้องทำ

ซึ่งนัชญ์ ก็ได้มีความเข้าใจในปัญหาที่นัชญ์ต้องการคำตอบ

ชัดเจนมาก ๆ ค่ะ 

 

นัชญ์ขอสรุปผลของการเข้ารับพระบารมีจากองค์จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี

พระบารมีองค์พระศรีอาริย์

และปลดล็อกกรรม

วันที่ 27 -28 ตุลาคม 2555  ว่า

นัชญ์ ได้ผลจากสิ่งที่เขียนไปทุกข้อ 100% เต็มที่ค่ะ

 

นัชญ์คิดว่า   ผลที่นัชญ์ได้รับเป็นผลจาก

การที่นัชญ์ได้ทำตามคำแนะนำของหัวหน้ากลุ่มในการทำงานทุกอย่าง

แม้ว่านัชญ์จะเหนื่อยบ้าง หยุดบ้าง   แต่ในขณะที่ทำทุกงาน

นัชญ์ได้ทำตามที่หัวหน้าบอกคือ

อธิษฐาน อาจารย์อุบลช่วยด้วย

และขอบารมีพระศรีอาริย์ที่อาจารย์อุบลได้อาราธนามา

และสวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์ในขณะออกแรงทำงานตลอดเวลา

แม้ว่า  การที่นัชญ์ได้เข้าร่วมกิจกรรม วันที่ 27 -28 ตุลาคม 2555

ความตั้งใจในการมาบ้านสวนของนัชญ์  คือไม่ได้ตั้งใจมาเต็ม 100 %

เพราะเนื่องด้วยติดละครวันเสาร์อาทิตย์

นัชญ์คิดจะมาบ้านสวน  ในช่วงที่ให้ละครเรื่องที่ติดอวสานไปก่อน

แต่ในขณะที่เข้าร่วมกิจกรรม  ก็อธิษฐานและสวดมนต์ตลอด

ผลก็คือทำให้ นัชญ์ ได้รับพระบารมีในทุกเรื่องที่นัชญ์ปราถนาค่ะ

 

นัชญ์ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเป็นอย่างสูงค่ะ

ที่ได้เมตตาแก่นัชญ์ และบุพการีของนัชญ์ อย่างหาที่สุดมิได้

นัชญ์จะทำหน้าที่ของนัชญ์ให้ดีที่สุดค่ะ

และจะขอเป็นลูกศิษย์ที่ดีของท่านอาจารย์ตลอดไปค่ะ

 

กราบ กราบ กราบ

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 12:12:12


ความคิดเห็นที่ 318 (1639662)
ยังสงสัยว่า
ทำไมต้องขอบคุณ
อาจารย์มงคลและคุณท๊อป
สองคนนี้ไม่เห็นเกี่ยวอะไร
 
เรานี้ช่างโง่แท้จริงๆ
 
คนในครอบครัวที่ยอมสละเวลา
ยอมเสียความเป็นส่วนตัว
เสียสละเวลาของภรรยาและแม่ให้คนอื่นๆ
 
หากไม่มีจิตใจที่เมตตา
กำลังใจที่เข้มแข็งแล้วไซร้
ไหนเลยจะยอม
 
สมควรเคารพ
และกล่าวขอบคุญอย่างยิ่ง
ครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2555ที่ผ่านมานงนภัสและน้องหว่าหวาได้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนก็ลากลับบ้านกันหมดไปหาคุณแม่กัน ชุดนงนภัสยังไม่ได้กลับกันพอดีลมมาฝนตกก็ช่วยกันเก็บเก้าอี้ โต๊ะพับหันไปเห็นท่านอ.มงคล ยกตู้ลำโพงพร้อมขาสูง หน้าเวทีข้างละตู้อย่างหนักมากก็ตกใจท่านต้องเก็บทำทุกอย่างเองหรือเนี่ยท่านทำเพื่อพวกเราจริงๆ ไม่ว่าเหน็ดหน่อยขนาดไหนท่านไม่เคยปิปากเลยทั้งแดด ฝน อดนอนทุกครั้งที่พวกเราบำบัด
น้องท๊อปก็เช่นกันวัยของน้องทั่วไปก็ต้องไปสนุกกับเพื่อนฝูงแต่น้องต้องมีหน้าที่จำหน่ายวัตถุมงคลให้พวกเรามีอยู่ครั้งน้องเตรียมตัวออกไปข้างนอกเกือบจะออกไปถึงหน้าประตูรั้วมีคนขอบูชาของน้องวิ่งมาเปิดให้อีกซึ้งน้ำใจจริงๆ
ผู้แสดงความคิดเห็น นงนภัส จารุธนยศ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-10 10:56:39



<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.