ReadyPlanet.com


สอบซ๋อม Workshop ปลดล๊อกกรรม ส+อา 3-4 พ.ย.55


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เรามีกิจกรรม รับบารมี 3 ร่มโพธิ์ศรี

+

ปลดล๊อกกรรม

+

เพื่ออยู่ในยุคพระศรีอาริย์

ในชาตินี้ กัน

 

แต่พวกเรา

ไม่ยอมปลด ไม่ยอมรับ

วิธีการปลด

ที่เบื้องบนประทานมาให้

 

พวกเราเชื่อว่า

ปัญญาเราดีกว่า เหนือกว่า

ปัญญาพระศรีอาริย์

จึงไม่มีผู้ใด

เคารพบัญชาสวรรค์

เพื่อปลดล๊อกกรรมให้ทุกอย่าง

 

พวกเรา

พอใจที่จะทุกข์

ที่จะเจ็บ ที่จะจนกันต่อไป

 

กิจกรรมครั้งนี้

จึงเป็น

บทเรียนราคาแพง

เพื่อมาให้สติพวกเรา

ทั้ง

1.คนรับสนองบัญชาสวรรค์

(เข้มแข็ง มุ่งมั่นทำตามคำสั่งเท่านั้น)

2.คนปฎิบัติตามรหัสลับ

ปลดล๊อกกรรม

(ต้องโง่ ไม่อวดเก่ง อวดฉลาด)

 

ล้วนแต่

อ่อนแอ....อวดเก่ง

เชื่อมั่นในตัวเอง

เชื่อปัญญา และ วิธีคิดตัวเอง

 

ซึ่ง

ภัยพิบัติ

ก็มาแล้ว ไม่รู้ว่า

ท่านจะเปิดโอกาสให้พวกเรา

ได้แก้ตัวกันอีกหรือไม่

จะทันหรือไม่

กับ

 

กิจกรรมสวรรค์

ที่ท่านมีรันนิ่งมาให้ตลอด

แต่พวกเรา

ไม่รับมุก ไม่ทำ ไม่เอะใจ

สั่งอะไรก็เงียบ

ไม่ทำ

 

มัวแต่หมกมุ่น

กับสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี

 

ต่อไปนี้

อ.อุบล ก็ต้อง

พิจารณาตัวเองเหมือนกัน

ว่า

ควรมอบหมาย

บัญชาสวรรค์ผ่านใครต่อ

หรือว่า

ควรรับสนองบัญชาด้วยตัวเอง

 

แต่

ถ้าให้ อ.อุบล

ต้องลงมือทำเองทุกขั้นตอน

ก็อาจจะช้าหน่อย

เพราะ

ต้องทำหลายอย่าง

 

อาจจะเลยภัยพิบัติ

กว่าจะสนองบัญชาได้ครบสูตร

เพราะ

ยังมีอีกหลายรหัสลับ

ที่ได้รับมา

 

แค่

เพิ่งเริ่มเผย

ก็สอบตกกันหมดแล้ว

 

สงสัย

ต้องรอให้ฉลาม

ไอ้เข้ ขึ้นมาว่ายน้ำให้ดู

อย่างที่เมกาวันนี้ก่อน

ถึงจะเชื่อ

อย่างไม่มีเงื่อนไข

 

ดังนั้น

สัปดาห์นี้

อ.อุบล ก็ขอท่าน

ให้พวกเราแก้ตัวกันใหม่

แต่

ท่านจะว่าอย่างไร

สุดแล้วแต่จะทรงวินิจฉัย

 

สิ่งที่ท่านย้ำมาตอนนี้

คือ

ให้เฟ้นหาคนที่

โง่ๆ

มาสนองบัญชา

เอาแบบไม่มีอัตตา

ไม่มีสมอง

สั่งอะไร ทำตามได้หมด

เรียกว่า

เอาอย่าง อ.อุบล นี่แหละ

ท่านว่าอย่างนั้นนะ

 

คนฉลาดๆ

คนเก่งๆ มีประสบการณ์เยอะ

ท่านบอก ไม่เอา

สนองบัญชาสวรรค์ไม่ได้

 

สั่งอะไร

มันไปเปลี่ยนแปลงกันหมด

ถึงวันนั้น มันก็พากัน

ตาย

กันทั้งหมด

 

สรุปว่า

ท่านจะให้เหลือรอด

แต่คนโง่ๆ

 

ดังนั้น

สัปดาห์นี้

ใครที่รู้ตัวว่าโง่

ชนิดที่ทำตามได้ทุกอย่าง

จะไม่คิดเอง

จะไม่มีข้อโต้แย้ง

ค่อยมาร่วมกิจกรรมนะ

 

ถ้าฉลาด

ให้อยู่บ้าน หรือ ไปที่อื่น

นะจ๊ะ

 

เชิญคนโง่

มาแสดงตัว แสดงความโง่

เข้าร่วมกิจกรรม

ได้เลยจ้า

 

หรือคนฉลาด

ก็แสดงความเห็นกระทู้นี้ได้

แต่ห้ามมาร่วมกิจกรรม

จ้า

เพราะ

ครั้งนี้ จะบอกวิธี

หนีตาย

อย่างโง่ๆให้อีก



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-30 13:24:19


<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความคิดเห็นที่ 101 (1638717)

     ขอมาเหลา ธรรมทาน กิจกรรม วันเสาร์อาทิตย์ ที่ 3-4 พ.ย. 2555 ด้วยคนครับ แต่ล่ะคนนี่เขียนธรรมทาน ใส่ความรู้สึกอ่านแล้ว เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ซึงธรรมทานอาทิตย์นี้ ได้รับแลัว รู้สึกรอยหยัก ในสมองเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แอบประทับใจคำว่า รอบหยัก เลยขอละเมิดลิขสิทธิ์ นิดนึง 

     ช่วงวันเสาร์ การสอบซ่อม ในครั้งนี้ เริ่มทำงาน 9 โมง พักเที่ยงและจบเวลา 6 โมง แต่ล่ะคนนี่ อึดกันสุดๆ สงสัยจะต้องทำตัว ให้บอบบาง หนังหนา หน้าด้าน เพื่อให้ช่วยร่างกายและจิตใจเข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ ไม่ว่าจะทางโลก และทางธรรม

     พอมาถึงบ้านสวนท่านก็คอยดูการบ้านธรรมทาน ที่พวกเรามาส่ง ใครไม่เอามาส่งระวังเจอ ไม้เรียว ฟังแล้วความรู้สึกเหมือนกับเราเป็นเด็กนักเรียน ถึงแม้ตอนนี้ จะเป็นเด็กโข่งก็เถอะ ท่านเป็นครูที่เมตตาสูงมาก แต่ใคร ดื้อ ซน ก็ต้อง เมตตาเตือนบ้างแต่ก็เพื่อให้เราพัฒนาตัวเอง 

     ช่วงที่พวกเราทำงานก่อสร้าง หลังใหม่ เห็นท่านอาจารย์อุบล ยกพัดลม มาให้ลูกหลาน แบบว่า ประทับใจมากๆ เลยครับ คือ "ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอ ครู ที่ มีหัวใจเกินครู" ขนาดนี้มาก่อนเลยครับ

     พอได้รับกำลังใจก็มีพลังใจ ใส่กับงานอย่างสุดแรงเกิดเลย คิดว่าหลายๆคนที่ไม่ได้มาพบท่านอาจารย์ คงไม่รู้หรอกว่าท่านเป็นอย่างไร แต่ที่ผมสัมผัส พบเจอ มาตลอด มันเป็นความรู้สึกที่หลายๆคนก็คงเหมือนกัน คือ ประทับใจมาก ครับ

     พูดถึงเรื่องทำบุญแรงกาย นี่ก็เหมือนเราต้องต่อสู้กับ ความเหนื่อย ความขี้เกียจ ความร้อน ต่างๆ อีกทั้งเจ้ากรรมนายเวรที่มาทดสอบเราก่อนจะทิ้งทวน ต้องคิดอยู่เสมอๆ เลยครับ ว่า ต้องสู้ ใส่เต็มแรง จะได้ปลดล๊อคกรรมได้จริงๆ

     กลุ่มที่ผมทำบุญ ในรอบนี้ก็มี พี่อ้อย ป้าเตือน คุณก้อย และน้องพจน์ครับ หัวหน้ากลุ่มก็มีวิธี เรียกลูกค้า อย่างพี่อ้อย ก็จะมาเลย เอ้า ใครอยากรวย มาทางนี้เลย แต่ละคนเวลาเปลี่ยนฐาน ก็มีช้าบ้าง บางทีงานยังค้างๆอยู่ก็แบบ อีกนิดน่ะ อีกนิดน่ะ จนทำให้ล่าช้า แต่ ป้าเตือนเรานี่สิ ไวจนเด็กๆ อายไปเลยทีเดียว

     ทำงานกันจนครบเวลา 6 โมงเย็น รอรายงานผล กลุ่มพี่อ้อยก็ได้เทคนิดใหม่ เรื่องจี้สามร่มโพธิ์ศรี เรื่องมีอยู่ว่า คุณก้อยมาเล่าให้ฟังว่า ไปดูจี้ที่น้องมะเหมี่ยวเลี่ยมมาว่าเป็นยังไง ก็หายป่วยได้เลย ตอนนี้ จี้รุ่นสามร่มโพธิ์ศรี แค่มอง หรืออยู่ใกล้ๆก็หายได้ ใครที่ยังใช้วิธีเดิม ๆ ถือว่าตกเทรนด์สุดๆ และอีกอย่าง ช่วงนี้พยายาม อย่าถอดจี้นะครับ ใส่ไว้ตลอดเพราะหลายๆมิติเริ่มเปิด แล้วเพื่อความปลอดภัยครับ

     ซึ่งพี่บุญตา ก็ออกมาเล่าประสบการณ์ขนหัวลุก เรื่องผีๆ มาให้ทุกคนได้ฟัง เรื่องมีอยู่ว่า ลูกพี่บุญตา โดนผีหลอก มานอนข้่างๆ เพื่อนหลายๆคนในห้องก็ไม่เชื่อ แต่สุดท้าย ทุกๆคนก็โดนจัดเต็ม กันหมด เฮ้อ นี่แหละหนา เขาว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ไม่รู้ตอนนี้ ทรงผมลูกพี่บุญตา เป็นไงบ้าง สุดท้ายพี่บุญตา ก็เลย บอกรหัส อ.อุบลช่วยด้วยไป 

     เรื่องแบบนี้พูดไปก็หาว่าโม้แน่ๆ ส่วนการรายงาน หลายๆคนก็อาการดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ส่วนของผมนั้นอาการเป็นหวัด น้ำมูกไหล ตอนโดนแดด ทำงานไป 2 ชั่วโมงก็หายแบบไม่ต้องทานยาเลย

     ระหว่างที่ทำก็สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์ไปด้วย อันนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ + รหัส อ.อุบลช่วยด้วย (จริงๆเขารู้กันหมดแล้วล่ะ - -") ทั้งหมดนี้ ด้วยบารมีพระศรีอาริย์ และสิงศักดิ์สิทธิ์แน่ๆครับเพราะสวนทางกับหลักการแพทย์ คือ คนที่เป็นหวัด น้ำมูกไหล แต่ไปทำงานโดนแดด แล้วหาย มันแปลกไหมล่ะ 

เก็บตกธรรมทาน ที่ฟังแล้วประทับใจ ไ้ด้ข้อคิดครับ

  ความเป็นผู้นำและจิตสาธารณะ

     คนที่จะเป็นผู้นำนั้น ต้องเป้นผู้ที่มีจิตสาธารณะ เห็นอะไรที่ควรทำก็ทำเลยไม่นิ่งดูดาย และการเป็นผู้นำ ก็ต้องมี"การวางแผน จ่ายงาน สอนงาน หมั่นตรวจตรางาน"

     อาจารย์พันธฺ์ งานแปลงเกษตร จะ"สอนงาน"แบบละเอียดยิบ เลย แต่ละคนที่มาก็ได้ความรู้ ปัญญา ไปด้วย อาจารย์ำพันธ์ สอนผมขุดดินเมื่อก่อน ใช้แต่แรง ไม่แบบแผน แปลงก็เลยไม่สวนหน้าดิน ไม่เท่ากัน แต่ อาจารย์พันธ์บอกว่า ทำช้าไม่เป็นไร แต่ทำให้ถูกต้อง เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาแก้อีก

     พี่เหมี่ยว ตรงนี้เป็นกลุ่มที่หลายๆคนอยากไปอยู่ เพราะส่วนใหญ่จะหายกันเยอะมากๆ เพราะพี่เหมี่ยวจะ วางแผนงาน บอกก่อนว่า ต้องทองคาถา+รหัสก่อนนะ แล้วก็จ่ายงาน ส่วนพี่อ้อยก็เช่นกันวางแผนและจ่ายงาน ว่าใครจะอยู่ตำแหน่งไหน ทำอะไร ส่วนงานของพี่เหมี่ยวพี่อ้อย จะเป็นพวกงาน ตกแต่งสถานที่ ทำความสะอาด เลยไม่ต้องกำกับ เหมือนงานเกษตรเท่าไหร่ แต่ เห็นแวว ผู้นำ หลายๆ ท่านเลยทีเดียว งานนี้ เพศ และ ไซส์ ไม่เกี่ยว อยู่ที่ ใจ ล้วนๆ 

     ในกิจกรรมครั้งนี้ก็มีการคอมเม้นต์ จากพี่ธนาด้วย ชอบมากๆ วิธีการนี้ เพื่อจะได้เป็นข้อแก้ไข ของแต่ละท่าน ในครั้งต่อไป งานนี้ ขอบอกว่า มีการปรับปรุงจากครั้งที่แล้วอย่าเห็นได้ชัด

    สุดท้ายก็คือ วลีเด็ด จากท่านอาจารย์อุบล พูดถึง เรื่องจิตสาธารณะก็คือ ผู้นำนั้น ก็เปรียบเสมือน ก๊อก ที่เปิดน้ำ ไหลลงมา คือเรียกว่า เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ ส่วน ผู้รับนั้นก็เหมือน ชาม ที่รองรับน้ำ ถ้ามัวแต่ รับๆๆๆ ก็ไม่วันที่เป็นผู้นำ ก็คงเป็นได้แค่ผู้ตาม ฟังแล้วก็เข้าใจง่ายๆเลยครับ เหมือนมือผู้ให้ ที่จะอยู่ข้างบนเสมอๆ ส่วนผู้รับก็แบมือ อยู่ข้างล่าง 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 19:24:47


ความคิดเห็นที่ 102 (1638718)
อาทิตย์นี้ท่านอาจารย์ได้อัพเกรดวิธีการใช้จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี คือ emotion
 
เราสามารถช่วยคนที่อยู่ห่างไกลจากเราได้ โดยให้เรากำจี้ แล้วให้พูดออกเสียงรหัส อ. อุบลช่วยด้วย ขอให้เขาหายเจ็บป่วยได้

คนที่มีจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มีคนอยู่ใกล้ ก็สามารถหายจากอาการเจ็บป่วยได้ อันนี้ก้อยขอเล่าประสบการณ์ตรงแบบสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เองค่ะ หลังจากจบกิจกรรมภาคสนาม workshop ในตอนเย็น ก้อยมีอาการปวดเอวขึ้นมาและตอนนั้นไม่มีจี้  บังเอิญน้องมะเหมี่ยวเดินตามหลังมา ก้อยก็บ่นว่าทำงานมาทั้งวันไม่เป็นอะไร ทำไมมาปวดเอวตอนนี้ 
 
ก้อยขอดูจี้ของน้องมะเหมี่ยว แต่ไม่ได้คิดจะบำบัด แค่ดูว่าใส่กรอบมาแบบไหน อาการที่ปวดที่หายทันทีโดยไม่รู้ตัว เรา 2 คน ต่างก็แปลกใจ
 
จนได้ทราบจากท่านอาจารย์ว่า คนที่มีจี้นี้ ใครอยู่ใกล้ก็สามารถหายจากอาการป่วยได้ โอ้ว-ว้าววว!! สวดยอดดดด อันนี้ขอ confirm ค่ะ 
emotion
เรียกได้ว่า แต่ละอาทิตย์นี้ มีอะไรใหม่ ๆ มาตลอด ๆ เลย ประมาณว่า "ถ้าคุณไม่ได้ไป...พรุ่งนี้คุณจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง" อิอิอิ
 
...ว้รุ่นี้ล่ต่น๊ค๊...
 
emotion 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 19:28:49


ความคิดเห็นที่ 103 (1638720)

     ได้อ่านธรรมทานหลายๆ ท่านแล้ว ต้องขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ  แต่สี่งที่เห็นได้ชัดค่ะว่า Work Shop แต่ละครั้งยิ่งเข้มข้น ในการฝึกเป็นผู้นำ วิเคราะห์ แก้ปัญหา ประเมินผลงาน และทำให้เราได้คิดอีกหลายๆ อย่างก่อนเตรียมตัวเข้าสู่ยุคใหม่    อัญอ่านแล้วได้ข้อคิดว่า

  - การที่เราไปสถานที่ของใครก็ตาม ถ้าเราเอาใจใส่ รักษา รัก..  คิดว่าจะดูแลเอาใจใส่  เสมือนหนึ่งเป็นบ้านของเราเอง   พวกเราคงไม่ได้สร้างปัญหาให้กับท่าน อ.อุบล ที่เราเคารพท่าน  อย่างที่ผ่านมา  ฟังแล้วสะเทือนใจมากๆ  ที่ท่าน อ.อุบล ต้องมาคอยตามกวาด เก็บ เช็ด แก้ปัญหา  ทั้งๆ ที่ท่านอุตสาห์เมตตาใจดีให้พวกเรา ได้เข้าไปสร้างบุญในบ้านสถานที่ส่วนตัวของท่าน     แต่สิ่งที่เราบางคนตอบแทนท่านคือ  ได้บุญสมใจหวังแล้ว     ก็ทิ้งปัญหาภาระไว้ข้างหลัง ซึ่งจุดนี้ทำให้หลายท่านอาจกลายเป็นสร้างบาปมากกว่าได้บุญที่จะได้รบ

     - อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้แล้วไม่ได้เก็บทำความสะอาด ทำให้อายุการใช้งานน้อยลง ทำให้เกิดการเสื่อม สึกหรอ    แต่ถ้าเรารักษา ถนอมการใช้งานอุปกรณ์เพื่อให้คนอื่นๆ ได้มีโอกาสมาสร้างบุญต่อในวันหน้า    เราก็คงจะได้บุญมากกว่าที่เราไม่ได้ถนอมรักษา (เพราะอุปกรณ์ไม่ใช่ของเรา   ของบ้านสวนต่างหาก หรือเปล่า)ถึงของเราก็ไม่เคยรักษาอย่างนี้มาก่อน  ตอนนี้เราคงได้นิสัยดีๆ จากบ้านสวนไปใช้ที่บ้านแล้วนะคะ ว่า    ควรมีการเก็บ ล้าง เช็ด อุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้เพื่อสร้างบุญได้ทันที )

       - การทำความสะอาดภาชนะล้างจาน  คลับคล้ายจัจำได้ว่า ค่าย 13  ท่าน อ.อุบลได้บอกวิธีขั้นตอนการล้างภาชนะได้อย่างน่าสนใจมากค่ะว่า  

      1. ล้างเศษอาหารที่ติดภาชนะโดยใส่ตะแกรงที่มี   เพื่อไม่ให้เศษอาหารลงไปอุดตันในท่อระบายน้ำ   อีกทั้งเพื่อไม่ให้เกิดการเพาะเชื้อโรคให้เกิดขึ้นได้ และหากใครที่ชอบเทเศษอาหารลงท่ออ่างล้าง   ก็จะทำให้มีปัญหาที่ต้องเป็นโรคต่างๆ  เพราะคุณสร้างเหตุเพาะเชื้อโรคไว้อย่างนี้ คุณต้องพร้อมที่จะได้รับเชื้อเหล่านี้

      2. หยดน้ำยาล้างจานใส่ฟองน้ำ 1- 2 หยด     ล้างให้สะอาด  โดยให้เปิดน้ำใหลแรงแบบ  พอดีๆ  ไม่แรงเกินไป(สิ้นเปลืองน้ำ)  ไม่ใหลช้าเกินไป (ไม่สะอาดซักที ช้า-เสียเวลา  คนยืนรอคิวล้าง ซะนานเลย )         ช่วงล้างภาชนะก็ล้างฟองน้ำไปในตัว จะได้ถูภาชนะให้สะอาดได้ด้วยฟองน้ำ  แต่ที่ผ่านมาที่อัญเป็น และเห็นบางท่าน ยังทำผิดคือ ล้างฟองน้ำต่างหาก  แล้วมาล้างภาชนะทีหลัง (เปลืองน้ำ 2 รอบ)  แต่ถ้าล้างฟองน้ำพร้อมภาชนะก็จะได้สะอาดขึ้น ทีเดียวสะอาด 2 อย่าง 

   การล้างภาชนะ บางท่านเปิดน้ำแรงมากๆ เห็นแล้วเสียดายน้ำแทน ท่าน อ.อุบล เพราะถ้าวันหนึ่งภัยพิบัติมาถึง  เราคงต้องใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด และให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า  (คงเพราะเราคิดว่า ไม่ใช่น้ำบ้านเรา อีกน่ะแหละ  จึงไม่เสียดายใช้ๆ ไป)

   - ไฟห้องน้ำเห็นบางท่านคงลืมปิด      อาจเพราะเคยชินที่บ้าน หรือ รีบ  แต่อย่างไรก็ตาม สถานที่นี้เราต้องมีสติมากๆ ถ้าทำผิดพลาดบ่อย ๆ อาจต้องได้รับการเตือนเหนาะๆ  บ้าง  (น้ำ-ไฟ  ไม่ได้จ่ายใช้ฟรี เลยไม่ใส่ใจ)

  - เคยสร้างบุญด้วยการผูกเหล็ก สังเกตุเห็นว่า   เข้าใจว่าหลายท่านอยากได้บุญ  แต่ไม่ได้สอบถามคนที่ทำอยู่ก่อนว่าทำอย่างไร  ทำไปตามความคิดที่เข้าใจ       เพราะเห็นบางท่านผูกผิด ๆ ถูกๆ  ลวดเสียเยอะแยะเลยค่ะ   พอเสร็จงานได้เก็บลวดที่เสียได้เกือบครึ่งกระป๋อง  คนตัดเหล็กก็ตัดเอา ตัดเอา ส่งให้คนดัด  คนดัด ๆ แล้วก็ไม่มีการเทียบว่าที่ดัด  ไซด์เท่ากันหรือไม่ ทีทั้งพอดี  ใหญ่ไป  ใช้ไม่ได้ เสียของต้องเอาไปทำอย่างอี่นแทน (ของสงฆ์เสียด้วยซี)   อัญคิดว่าเบื้องบนท่านคงเห็นปัญหาแบบนี้จึงได้ให้มี Work Shop  นี้ ส่วนหนึ่งคงเพื่อฝึกให้เราเป็นคน หัดวางแผน เตรียมขั้นตอน ทำงานเป็นระบบ ใช้สติพิจารณาให้งานออกมาดี  ทำแล้วมีการประเมินผล ถ้าหากอาการหาย 100% แสดงว่าเราทำงานมีประสิทธิภาพ  มีสติ และสมาธิ แก้ปัญหาได้ถูกจุด แต่ถ้าใครยังปลดล๊อกได้ไม่หมด จะได้เอะใจว่า  ที่เราทำงานไปนั้น ยังขาดตกบกพร่องอะไรหรือไม่  กลับไปจึงต้องประสบปัญหาเดียวกับที่เราได้เพิกเฉย หรือละเลย  สุดยอดค่ะ  ทำงานแบบมีสติ และปัญญาพิจารณา ออกมาได้สุดยอดอย่างนี้นี่เอง  ต้องเอาไปใช้ในขีวิตประจำวันซะแล้ว  จากที่เคยชอบทำแบบถูกใจมาตลอด

     3. การทำความดีให้ทำทันที ทำต่อเนื่อง ทำให้มากขึ้น และทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องรอให้ใครบอก(ต้องมีจิตอาสา)   ให้คิดว่าเวลาเราอยากให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเรา       เราจะให้ท่านช่วยแบบทันทีทันใด  หรือใจเย็นๆ รอจังหวะก่อน     ทีเราทำความชั่วนี้ไม่เห็นต้องใตร่ตรอง ปรึกษาใครเลย ถนัดนัก   แถมยังสามารถทำได้ตลอดเวลา  ทั้งมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม  เฮ้ออันนี่ว่าเข้าตัวเองเต็มๆ เลยค่ะ 

       จากนี้ไปคิดว่า  ลูกบ้านสวนคงมีภาวะผู้นำที่คับแก้ว   และมีความเป็นผู้นำจิตสาธารณะ  เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และรักผู้อื่นได้อย่างไม่มีเงื่อนไข นะคะ

        รู้สึกมั๊ยคะว่า ลูกๆ บ้านสวนกำลังได้รับการ โคลนนิ่ง วิธีการ แนวปฏิบัติ (ยกเว้นบารมีเทียบไม่ได้ค่ะ)        จากท่านผู้นำอย่างเข้มข้น   เพื่อกระจายกำลังช่วยเหลือผู้คน และแบ่งเบาภาระท่าน อ.อุบล  นึกถึงคำพูด ท่าน ดร.อาจองบอกต่อไป ท่าน อ.อุบลจะมีผู้ช่วย แต่ว่าจะให้โคลนนิ่งเหมือนท่าน อ.อุบล 100%  ไม่ได้อยู่แล้ว ในจักรวาลนี้ ไม่มีใครเหมือน    ส่วนพวกเราขอแค่โคลนนิ่งวิธีการ  การช่วยเหลือผู้คน  เดินตามคำสอนท่าน อ.อุบลอย่างไม่หลงทางไปเป็นลูกควาย ก็ถือว่าเป็นบุญในชีวิตแล้วค่ะ

        เริ่มเชื่อแล้วค่ะ ว่าต่อไปลูกบ้านสวนตัวจริง จะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้อย่างที่ท่าน อ.อุบล  ได้เคยทำมา หากได้เราปฏิบัติตามคำสอนท่าน อ.อุบลอย่างคนโง่ๆ ไม่สงสัย  และต้องทำตัวให้ขลังด้วยการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา  ด้วยหรือเปล่าน้อ 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 19:34:33


ความคิดเห็นที่ 104 (1638722)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานจากทุกๆท่านด้วยค่ะ แต่ละท่านเข้ามาเขียนธรรมทานกันได้อย่างรวดเร็วจริงๆเลยค่ะ ส่วนเราช้าอีกตามเคย แฮ่ะๆๆ

ขอเริ่มธรรมทานเสาร์-อาทิตย์ ที่ 3-4 พ.ย.ที่ผ่านมาเลยนะคะ

เช้าวันเสาร์เรามีนัดกันสองโมงเช้า ฮ่าๆๆ มาถึงสองโมงกับสิบนาที เกินเวลาไปสิบนาที แต่ก็ยังมาเข้าร่วมประชุมได้ทันติดโผลผู้ที่มาตรงเวลา 33 คน แต่ในใจก็รู้ดีว่าตัวเราไม่ตรงต่อเวลาอยู่ดีอ่ะค่ะ ท่านอาจารย์ได้สอนพวกเราว่า อันที่จริงไม่ใช่แค่ให้เราเป็นคนที่มาตรงเวลา แต่ควรเป็นคนที่ต้องมาก่อนเวลาเสมอ เหมือนอย่างการเข้าประชุม เราทุกคนควรจะต้องเข้าห้องประชุมก่อนท่านอาจารย์หรือก่อนประธานหรือหัวหน้าการประชุมเสมอ และต้องทำให้ติดเป็นนิสัยประจำตัวด้วยจ้าา

หลังจากนั้นก็ได้แบ่งกลุ่มเพื่อทำเวิร์คช๊อปกัน สัปดาห์นี้ทุกคนได้แก้ตัวใหม่จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยทุกคนได้ทำกิจกรรมกันครบทุกฐาน อ้อยกเว้นหัวหน้ากลุ่มค่ะ ที่อาจจะไม่ได้ครบทุกฐานแต่ก็ได้สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปยังฐานอื่นๆด้วยเช่นกัน เอาเป็นว่างานนี้คงจะไม่ทำให้เหล่าบรรดาหัวหน้าเกิดอาการน้อยใจก็แล้วกันค่ะ เท่าที่สังเกตุดู จะเห็นว่าทุกๆท่านจะตั้งใจ+ตั้งหน้า+ตั้งตา โกยบุญกันสุดฤทธิ์เลยค่ะ ทำกันชนิดที่ว่าฉันจะไม่ยอมปล่อยเวลาให้เสียไปโดยป่าวประโยชน์กันเลย สงสัยกลัวจะตามกันไม่ทันเรื่องความสวยอ่ะค่ะ อิอิ กลุ่มพจน์เองมีทั้งหมด 5 คน มีพี่อ้อยเป็นหัวหน้ากลุ่ม+พี่เอิ้น+พี่ก้อย+น้องพจน์+ป้าเตือน และทุกครั้งที่มีการเป่านกหวีดบอกหมดเวลา บรรดาวัยละอ่อนอย่างพวกเราก็จะมีอาการลีลานิดหน่อยก่อนเปลี่ยนฐานและจะหันมามองหาป้าเตือนเพื่อเช็คดูสมาชิกว่าครบอ่ะป่าว และแล้วป้าเตือนก็หายตัวทุกครั้ง พวกเราก็กลัวว่าป้าเตือนจะหลงฐาน แต่ปรากฏป้าเตือนไปถึงฐานที่ตั้งใหม่ก่อนบรรดาเด็กๆอย่างพวกเราตาหลอดดและทุกครั้งเลยอ่ะ ขอบอกอ้ายอายค่ะ และยังสงสัยอยู่ค่ะว่า ป้าเตือนรู้ได้งัยว่าฐานต่อไปเราจะไปไหนกัน เพราะโพยก็อยู่ที่พจน์ ขนาดคนอื่นๆหรือตัวพจน์เองยังต้องดูทุกครั้งเลยว่าเราจะไปไหนกันต่อ งานนี้ขอยกนิ้วให้ป้าเตือนเลยค่ะ สุดยอดจริงๆ ตอนนี้ขอบอกว่า ไม่ว่าจะเด็กอย่างน้องกระต่าย น้องบัว หรือ สว.หลายๆท่าน วัยรุ่นอย่างพวกเราประมาทไม่ได้แล้วนะคะ ขอบอกจ้า

และหลังจากเสร็จกิจกรรม ก็ได้คุยกับป้าเตือนค่ะ ว่าเป็นจะไดพร่อง ป้าเตือนบอกว่าวันนี้มีแฮงทำงานทั้งวัน ไม่เหนื่อยเลย แรงไม่ตกว่างั้นเถอะ แล้วยังทำงานต่างๆได้คล่องตัวขึ้น เร็วขึ้น ฟังคำสั่งแล้วเข้าใจสามารถทำตามได้ทันที ฮ่าฮาฮา เหมือนกันเลย พจน์เองก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยเหนื่อย คือมีแรงฮึดทำงานอย่างกระตือรือร้นได้ตลอดทั้งวัน ทั้งที่นอนมาน้อย อันนี้มีเคล็ดที่ไม่ลับค่ะ ก็ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย+ขอบารมีพระศรีอาริย์+ท่องคาถาพระศรีอาริย์นั่นเองจ้า สืบเนื่องมาจากความโง่จากสัปดาห์ก่อนที่ยกปูนหนักอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นๆเบาทุกคนเพราะเขาใช้รหัสกันแต่เราดันลืม 555 แล้วก็ยังรู้สึกว่าทำอะไรๆได้เร็วขึ้น เพราะปกติจะเป็นคนทำอะไรช้ามาก และรู้สึกว่าเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้น เช่น ฟังอ.พันสอนเรื่องการถากหญ้า ก็สามารถทำตามได้อย่างถูกต้องในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆว่าเราอาจจะกำลังฉลาดขึ้นก็เป็นได้ อันนี้ไม่รู้ว่าจะเข้าข้างตัวเองมากไปหรือป่าวเนอะ และอีกอาการที่หายก็คืออาการปวดหัวค่ะ แบบว่าเป็นพวกชอบคิดลบ คิดไม่ดีกับคนอื่น ทั้งยังเคยขายเหล้า ส่งเสริม ยินดีเวลามีคนดื่มอีก ก็เลยทำให้ต้องมาปวดหัวเช่นนี้ค่ะ อ้อไม่ใช่ปวดหัวอย่างเดียวนะคะ ยังโง่อีกด้วยจ้า

ส่วนพี่อ้อยอาการสายตาสั้น ดีขึ้น 50% ค่ะ พี่เอิ้นก็หายจากอาการหวัด ภูมิแพ้ แบบว่า 100% เลย ส่วนพี่ก้อยมีอาการปวดเอว แต่และแล้วก็หายได้ 100% ในเวลาไม่ถึง 5 นาที เพราะอะไรน่ะหรอค่ะ ก็พี่ก้อยเป็นพวกชอบถ้ำมองอ่ะค่ะ แต่เผอิญว่าดันไปถ้ำมองจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรีของคนอื่นเข้า เลยเกิดอาการ อ้าวว!ฉันหายปวดเอวแล้วนี่ หายแบบว่าไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเลยอ่ะค่ะ แหมพึ่งจะเห็นข้อดีของพวกชอบถ้ำมองก็งานนี้ล่ะค่ะ เพราะดันไปมองสิ่งที่ควรมองนั่นเอง 555

วันอาทิตย์ก็แบ่งกลุ่มกันอีกเช่นเคย แต่เป็นคนละกลุ่มกับเมื่อวานค่ะ แต่ละวันแต่ละสัปดาห์ทำให้เราได้ทำงานร่วมกับหลายๆท่าน โดยแทบจะไม่ซ้ำกันเลย ทำให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนเรามากันบ่อย เราเห็นและรู้จักหลายๆคน แต่บางคนเราก็ไม่เคยคุยด้วย เพราะไม่มีเรื่องจะคุย แต่พอเราได้ทำงานร่วมกัน เราจะช่วยกัน ทำให้รู้สึกรักกันมากขึ้น สามัคคีกันมากขึ้น ดูแลห่วงใยกัน มันช่างเป็นความรู้สึกที่ว่า หายากจากสังคมภายนอกจริงๆ แต่ความรู้สึกแบบนี้กลับหาได้ง้ายง่าย จากบ้านสวนฯจ้า 

สรุปผลงานสัปดาห์นี้ ทุกคนต่างชื่นมื่น พอใจกับผลงานของตัวเอง ที่ต่างก็มั่นใจว่า พวกเราสามารถปลดล็อกกรรมกันได้จ้า และสัปดาห์ต่อไปพวกเราก็คงจะได้พบกับปัญหาใหม่ คือ ปัญหาที่ว่า ทุกคนจะเป็นโรคอัลไซเมอร์กันหมด แล้วจะถามกันว่า ฉันจะเขียนปัญหาอะไรดีล่ะ นึกปัญหาของตัวเองไม่ออกแล้วอ่ะ หรืออาจจะกลายเป็นคน อยากมีปัญหาหาหาอ่ะจ๊ะ แต่ไม่มีน่าจะดีกว่าค่ะ อิอิ

 

 คำสอนจากท่านอาจารย์

ภาวะความเป็นผู้นำ

ผู้นำ คือ ผู้ให้

ผู้ตาม คือ ผู้รับ

และผู้ให้ จะเป็นผู้ที่อยู่สูง

หรืออยู่เหนือกว่า ผู้รับเสมอค่ะ

เปรียบเสมือนก๊อกน้ำ ที่เปรียบได้กับผู้ให้

ที่ต้องอยู่สูงกว่าภาชนะที่รองรับน้ำ

ที่เปรียบได้กับผู้รับเสมอจ้า

ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณบารมีขององค์พระศรีอาริย์ บารมีของท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่เมตตาลูกหลานให้ได้มีโอกาสแก้ตัว ปลดล็อกกรรมได้ใหม่ในสัปดาห์นี้ พร้อมทั้งช่วยเหลือคนที่ยังจนแต่มีความประพฤติดี(นิดหน่อย)ให้ได้มีโอกาสปลดล็อก ให้ได้มีทางออกจากทุกๆปัญหา และที่สำคัญต้องขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มงคลและคุณท็อปด้วยค่ะ ที่ท่านทั้งสองยอมให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาในบ้านของท่าน เพื่อช่วยพวกเราให้ได้พ้นทุกข์ ขอน้อมกราบขอบพระคุณค่ะ กราบ กราบ กราบ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 19:37:04


ความคิดเห็นที่ 105 (1638728)

ขออนุโมทนบุญกับธรรมทานของทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ

ทำให้ชาวเกาะได้รับรู้ข่าวสารอย่างรวดเร็วค่ะ

คนที่มีจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มีคนอยู่ใกล้ ก็สามารถหายจากอาการเจ็บป่วยได้ อันนี้
 

จนได้ทราบจากท่านอาจารย์ว่า คนที่มีจี้นี้ ใครอยู่ใกล้ก็สามารถหายจากอาการป่วยได้ สุดยอดเลยค่ะ  .โอ้ว-ว้าววว!! สวดยอดดดด อันนี้ขอ confirm ค่ะ

เห็นด้วยค่ะวันนี้ไปส่งลูกที่โรงเรียนเจอคุณยายท่านหนึ่งเดินสวนกัน อยู่ ๆ คุณยายก็บอกว่าปวดขามาก ได้ให้คุณยายมองจี้ และได้แจกธรรมทานยังไม่ทันได้สอบถามอาการคุณยายยิ้มและเดินจากไป บอกว่ายายรีบไปก่อนนะเอกสารนี้ยายเอาไปอ่านตอนกลางคืนแต่ดูแล้วเหมือนคุณยายเดินคล่องขึ้นค่ะ

สุดท้ายก็คือ วลีเด็ด จากท่านอาจารย์อุบล พูดถึง เรื่องจิตสาธารณะก็คือ ผู้นำนั้น ก็เปรียบเสมือน ก๊อก ที่เปิดน้ำ ไหลลงมา คือเรียกว่า เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ ส่วน ผู้รับนั้นก็เหมือน ชาม ที่รองรับน้ำ ถ้ามัวแต่ รับๆๆๆ ก็ไม่วันที่เป็นผู้นำ ก็คงเป็นได้แค่ผู้ตาม ฟังแล้วก็เข้าใจง่ายๆเลยครับ เหมือนมือผู้ให้ ที่จะอยู่ข้างบนเสมอๆ ส่วนผู้รับก็แบมือ อยู่ข้างล่าง

 

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับเปรียบเสมือนก๊อกน้ำ เห็นภาพชัดเจนเลยค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 20:07:25


ความคิดเห็นที่ 106 (1638736)

สัปดาห์นี้กระต่ายมาเขียนช้า

ขอยอมรับว่ายังมีความขี้เกียจอยู่ค่ะ

ว้าาาา..เดี่ยวจะต้องสปีดตัวเองให้มากขึ้นมากขึ้นเเล้ว

::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

สัปดาห์นี้ต่ายก็ทำงานในครัวเหมือนเดิมจ้า

ต่ายก็ยังเป็นลูกมือป้าแมวเหมือนเดิม555

รับประกัน!!ค่ะว่างานในครัวอาจจะดูจิ๊บๆหมูๆ

เเต่พอลองมาทำเเล้วมันไม่ง่ายนะคะอิอิ

ตอนทำอาหารที่บ้านเราก็ทำกินไม่กี่คน

โอ้โห้วเเต่นี่กี่คนล้าาเนี่ย

ต้องผัดทีละเยอะๆหลายๆรอบ

นับถือป้าแมวจริงจริงค้าาาา>/////<

เเต่งานบริการน้ำดื่ม

กระต่ายก็ยังทำได้ไม่ดีอยู่ดี

เพราะบางทีผู้ใหญ่ก็ต้องเดินมาบอกว่าน้ำหมด

สัปดาห์นี้ถือว่างานก็ดีขึ้นในระดับนึง

เเต่ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพอยู่ดี^^

ต้องพัฒนาต้องสู้เห้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ด.ญ. ยุพินดา วรรณรักษ์ ( น้องกระต่าย) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 21:01:26


ความคิดเห็นที่ 107 (1638746)

กระผมนายปิยะวัฒน์  วงษ์สมบูรณ์  กราบขอขมาท่านอาจารย์ที่ไปลงทะเบียนช้า  และ ไม่ได้เอาบัตรประชาชน ไปใส่ไว้ที่ช่องรับบัตร  ขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดด้วยครับ    

   และขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์  ที่ได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยครับ  ชีวิตของผมค่อย ๆ ดีขึ้น เรื่อย ๆ ครับ  มีความหวังว่าสักวันหนึ่งชีวิตจะดีกว่าที่เป็นอยู่  สำนึกในพระคุณของอาจารย์ตั้งแต่กิจกรรมปิดขุมนรก  ที่ได้ทำให้จิตใจของกระผมที่ร้อน  ให้เย็นลง  เหมือนขึ้นมาจากนรก เลยครับ   ทำให้เหมือนเป็นคนใหม่  ตั้งตนใหม่ สร้างความดีต่อไปครับ   

   ในกิจกรรมการปลดล็อคกรรมในครั้งนี้กระผมได้เป็นโรคปวดหัวเข่า  และทำงานลำบากมาก  เนื่องจากผมได้ผิดศีลข้อสาม มาอย่างมากมาย ครับ   ดูเว็ปลามก  การได้สัมผัส   การใช้ความคิดจินตนาการ

การพูดคุยเกี้ยวพาราสี   ทำให้ได้รู้จักกับผู้หญิงหนึ่งคน  เกือบจะมีอะไรกัน  แต่เหมือนมีสิ่งดลใจไม่ให้ทำอย่างนั้น   ชีวิตก็ใช้ไปเรื่อย ๆ ทำงานช่วยน้องสาว อยู่ ๆก็มีความรู้สึกว่าเบื่อหน่าย คิดถึงบ้านสวน มาเปิดดูเว็ปที่ท่านอาจารย์จัดกิจกรรมในการปลดล็อคหนี้กรรม  เข้าสู่ยุคพระศรีอารย์  ก็รู้สึกอยากมา  พอจะมาบ้านสวนพีระมิด ก็โทรไปบอกเขาว่าจะไปบ้านสวนพีระมิด   พูดกันไปพูดกันมา เขาก็เลยบอกเลิกผมไปครับ  และผมก็ได้มาบ้านสวนพีระมิด มาทำงานตามกิจกรรมที่กำหนดให้ทำ   อาการปวดเข่าก็ค่อย ๆ หายไป  เหลือเพียง 80 เปอร์เซ็นต์   กลับมาบ้านก็จะตั้งใจทำให้ได้ในการรักษาศีล เพื่อให้หายขาดต่อไปครับ  

ในการไปบ้านสวนพีระมิด ทุกครั้งกระผมอาจจะมีกายกรรม วจีกรรมมโนกรรมใดที่คิดไม่ดีต่อท่านอาจารย์  ต่อเพื่อนพี่น้องบ้านสวน  ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด  ผมขอกราบขอขมามา  ณ ที่นี้ด้วยครับ 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปิยะวัฒน์ วงษ์สมบูรณ์ (openworld8-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 22:08:00


ความคิดเห็นที่ 108 (1638747)

สวัสดีสมาชิกที่เคารพและแขกผู้มีเกรียติทุกท่านครับ...555+ ต้องบอกก่อนนะครับว่าตอนนี้ผมไม่ธรรมดาแล้วนะครับ ผมมีตำแหน่งนะครับ ท่านอาจารย์ได้แต่งตั้งให้ผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงขาดปัญญาแห่งบ้านสวนเรียบร้อยแล้วครับ เพราะรู้สึกว่าส่วนใหญ่สมาชิกที่อยู่กลุ่มผมตอนแรกก็จะบำบัดด้วยปํญหาอื่นๆ เจ็บป่วยบ้าง หนี้สินบ้าง แต่พอเห็นหัวหน้ากลุ่มปัญหาหลักคือขาดปัญญาสุดๆๆ ทีนี้สมาชิกช้าอยู่ไม่ได้แล้วก็พากันขาดปํญญาไปกันหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งน้องวินมากี่อาทิตย์ก็มีแต่ปัญหาสิวๆ แต่พอได้มาอยู่กลุ่มผมเท่านั้นแหละ น้องวินมีปัญหาทั้งสิว ทั้งขาดปํญญา สงสัยว่าผมจะต้องตั้งกลุ่มworkshopเอาคนที่มีปัญหาขาดปัญญามารวมกัน แล้วมาระดมสมองสร้างปัญญากันดีกว่าครับ

ทีนี้ผมขอเล่าเรื่องอุปกรณ์รูปท่านอาจารย์ที่หลายๆท่านได้เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ล่ะกันนะครับ

มีคุณลุงท่านหนึ่งซึ่งมีปัญหางอเข่าไม่ได้มา4ปี คุณลุงมาหาผมด้วยอาการตื่นเต้นหลังจากที่คนแถวบ้านคุณลุงมาบำบัดแล้วหายกลับไปคุยอวดและเต้นโชว์ให้คุณลุงดู คุณลุงบอก ลุงอยากหายบ้าง ลุงทุกข์มา4ปี นั่งคุกเข่าก็ไม่ได้ เวลานั่งต้องเหยียดขาตรงตลอดเข่างอไม่ได้เลย ผมเลยบำบัดด้วยการให้คุณลุงสารภาพกับจี้องค์เทพสฟิงซ์ อาการคุณลุงดีขึ้นมากครับแค่นั้นคุณลุงก็ดีใจแล้วครับ หลังจากนั้นผ่านไป3วันคุณลุงกลับมาหาผมอีกครั้ง แล้วมาบอกกับผมว่าลุงไม่สบายใจลุงจะมาจ่ายค่าครู (ผมงงเลยครับ ลุงไปรักษาที่ไหนมาเนี้ยมีค่าครูด้วย) ผมจึงบอกคุณลุงไปว่าไม่มีเก็บค่าครูครับ ขอเพียงแค่คุณลุงรักษาศีล5ก็พอแล้วครับ ทีนี้ผ่านไปอีก2วัน คุณลุงกลับมาใหม่อีกครับ คุณลุงมาบอกว่าอยู่บ้านลุงนั่งคิดนอนคิดถึงแต่ อ.อุบล ทั้งที่ลุงไม่เคยเจอและไม่เคยเห็นท่านอาจารย์ ลุงมีศรัทธาลุงอยากมีของอะไรที่เกี่ยวกับ อ.อุบลติดตัวไว้ ผมก็จะแนะนำจี้ให้คุณลุง แต่เกรงว่าถ้าบอกราคาไปแล้วเดี๋ยวคุณลุงจะหงายท้อง คุณพจน์จึงบอกผมว่าเรามีอุปกรณ์รูปท่านอาจารย์ให้คุณลุงบูชาไปสิ อืมจริงซินะบูชาเพียง100บาทแต่อานุภาพนี้เกินราคาและราคานี้คุณลุงบูชาได้แน่นอน ทีนี้ผมจึงนำอุปกรณ์ให้คุณลุงทดสอบพุทธคุณก่อนว่าคุณลุงจะคุณลุงได้บูชาหรือไม่ เพียงแค่คุณลุงได้ถืออุปกรณ์รูปท่านอาจารย์คุณลุงดีใจมากครับ ยิ้มมีความสุข คุณลุงจึงมองที่รูปท่านอาจารย์แล้วลุกนั่งงอเข่าขึ้นๆลงๆอยู่หลายรอบมากครับ จนคุณลุงบอกว่าอาการที่งอเข่าไม่ได้มานาน ตอนนี้ดีขึ้นมากถึง95% ผมก็แปลกใจว่าเอ๊ะปกติอุปกรณ์นี้จะต้องใช้สารภาพบาปเท่านั้นแต่นี้แค่มองที่รูปท่านอาจารย์อาการก็ดีขึ้นถึง95% อย่างไม่น่าเชื่อครับ ทีนี้คุณลุงดีใจมาก ยกอุปกรณ์รูปท่านอาจารย์ไหว้ท่วมหัวเลยครับ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ครับที่มอบสิ่งล้ำค่ามาช่วยผู้คนที่มีกำลังทรัพย์น้อย แต่อานุภาพต้องบอกเลยครับว่าคุ้มค่าเกินราคาอย่างมากครับ และผมพูดกับท่านอาจารย์ว่าวันที่เกิดภัยพิบัติผมเห็นมีแต่สิ่งนี้ที่จะช่วยผู้คนได้ครับ ท่านอาจารย์เมตตาบอกว่า ให้เอาอุปกรณ์นี้ไปช่วยคนนะ โอ้ววว...ผมพบหนทางที่จะช่วยผู้คนให้ปลอดภัยได้อีกแล้วครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 22:09:16


ความคิดเห็นที่ 109 (1638749)

วันเสาร์เช้ามีนัดรวมพลคนกันเองตอน 8 โมงเช้า

เจี๊ยบไปถึงตอน 7.30 น. เช้านี้ คุณธนาได้แต่งตั้งหัวหน้ากลุ่มแล้ว ส่วนลูกทีมใครใคร่อยู่กลุ่มไหน ก็วิ่งงูกินหางหาแม่งูเอาเอง เจี๊ยบได้อยู่กลุ่มพี่เหมี่ยว เรามีสมาชิกรวมกัน 6ชีวิต คือพี่เหมี่ยว เจี๊ยบ น้องลิน คุณโคเอ๊ยคุณโฆ คุณวิ น้องจาว(จารุวรรณ) ฐานในการทำงานวันนี้มี 6 ฐาน ก่อนทำพี่เหมี่ยวก็บอกให้เราอาราธนาพระศรีอารย์ขอบำบัดโรคอะไรก็ว่าไป จากนั้นก็ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย และท่องคาถาพระศรีอารย์ตลอดเวลา

เราเิ่ริ่มทำงานจากฐานแรก คือหน้าบ้านสวน ทำความสะอาด รดน้ำต้นไม้ ตกแต่งต้นไม้หน้าบ้านสวน ซึ่งน้องอัญเป็นเจ้าที่ดูแลอยู่ (รับรองว่าเขียนไม่ผิด เจ้าที่ค่ะไม่ใช่เจ้าหน้าที่) เราหากรรไกรตัดหญ้ามาตัดหญ้าหน้าบ้านสวน ซึ่งเริ่มยาวแหละ เหมาะสำหรับการเล็มมากเลยค่ะ เพราะกรรไกรตัดหญ้าไม่ค่อยคมเลยต้องค่อยๆเล็มไป แต่เล็มไม่หมดหรอกนะคะ เพราะหญ้าไม่คอยอ่่อน อ้าวไปไหนแล้วเนี่ย

เราได้มีสมาธิจากการตัดหญ้านี้แหละค่ะเพราะความที่กรรไกรไม่คม เราต้องมีสมาธิในการตัด อย่ารวบหญ้าเยอะ เพราะจะตัดไม่ขาด แต่ถ้าเรากะหญ้าพอดี กรรไกรตัดหญ้าก็จะทำงานได้ดีตัดหญ้าได้ขาดหมด น่านว่าแล้ว เราก็ได้คติธรรมขึ้นมาทันที ว่าต้องเดินทางสายกลาง อย่าเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ถ้ามากไปก็เกินพอดี ถ้าน้อยไปก็ขาดไป ถ้าพอดีก็.......โป๊เช๊ะ

ต่อมาฐาน 2  เราก็ลิ่วไปที่ห้องน้ำเก่า หาคุณอ้อยและพี่เหมี่ยวที่ยืนยิ้มสยามรออยู่ ตรงนี้เรามีอีกกลุ่มมาร่วมสมทบทำงานที่เดียวกัน ทำให้มีกำลังพลเยอะขึ้น เลยแบ่งงานกันทำ ตั้งแต่เคลียกระถางต้นไม้ใต้ต้นมะม่วง ตัดหญ้าหน้าห้องน้ำ ตัดหญ้าในสวนหลังบ้านของท่านอาจารย์ และล้างห้องน้ำ เจี๊ยบไปช่วยยกกระถาง แล้ววิ่่งไปล้างห้องน้า กำลังพลล้างห้องน้ำมี 3-4 คน แป๊ปเดียวเราก็เสร็จงาน ทุกคนมุ่งมั่นมาก อยากให้งานออกมาดี

แล้วไปฐาน 3 ทุกฐานที่หมดเวลาจะได้ยินปรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากหนุ่มน้อย ดช.อมรที่เป่าจนคอเกร็ง ที่ฐานที่ 3 ได้งานถูกใจโก๋เป็นแถวคืองานก่อสร้าง ช่วยลุงบุญเทคานปูน ที่นี่เราก็ต้องทำงานแข่งกับเวลาที่มีให้แค่ 1 ชั่วโมง แต่บ่ยั่นค่ะ 1 ชม.ก็มีค่า ลุยกันสู้ตายค่ะ แป็บเดียวเองมาอีกแล้ว ปรี๊ดดดดดดดดดดดด เจ้านกหวีดร้องซะสดุ้ง เฮ้อ! วิ่ง อ้าวได้เวลากินข้าว ไม่ต้องไปแล้ว กินข้าวก่อน

ขออุโมทนาบุญกับคุณเต้ หนุ่มตัวใหญ่ใจดีของเราที่ซื้อไอติมมาทำบุญทั้ง 2 วัน พวกเราแต่ละคนก็กลัวเจ้าภาพจะเสียใจ จัดเต็มคนละ2-3 อัน เล่นเอาเจ้าภาพยิ้มกว้างๆๆๆ

ช่วงบ่ายไปที่เตาเผาขยะเก่า จากนั้นก็กลับมาก่อสร้างที่เดิม เที่ยวนี้จัดเต็มจัดหนักเลย เพราะเป็นคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ เลยรับตำแหน่งโกยหินกับขนหินซะ ค่อยสมตำแหน่งหน่อย อยู่ตรงนี้หอบรับทานค่ะ เพราะคุณอมรผสมปูนเร็วมาก โม่แล้วโม่อีก คนยกทรายยกหินก็ต้องยกหินใ้ห้ทัั่นกับเวลา จึงเป็นงานที่ค่อนข้างหนักที่ต้องใช้กำลังใจสูงมากกกกกกกค่ะ

แต่ก็สู้ตายค่ะ อ้าว ปรี๊ดดดดดอีกแล้ว ไปแล้วค่ะ

มานี้เลย แปลงเกษตร ตอนนี้บ่าย 2 โมงเอง โหหหห แดดหนอแดด เจี๊ยบเริ่มขุดแปลงผัก ก็ต้องเรียนรู้วิธีทำแปลง สับลงไปให้เป็นรูปสามเหลี่ยมพีระมิดควำ่ แล้วยกดินขึ้นมา อาจารย์พันธ์สอนให้เราทำให้ถูกต้อง ทำไปช้าๆ อย่าสักแต่ว่าทำให้พ้นๆไป ต้องพิถีพิถันในการทำแปลง ปากอาจารย์พันก็บ่นไป เจี๊ยบพีระมิดหัวแหลมนะ เอ๊าอย่ายกดินให้สูง ให้เสมอดูด้วยนะ เห็นไหมค่ะว่าอาจารย์ดูแลลูกศิษย์ดีแค่ไหนเนี๊ย 

สุดท้ายก็มาจบที่ก่อสร้าง(อีกแล้วค่ะ) แหมของชอบ ได้ไปยกหินอีก แต่ครั้งนี้ไม่เหนื่อยเพราะลุงบุญใช้คนเทปูนน้อย เลยนำกำลังมารวมกันที่ยกหินและยกทรายค่ะ

ขอราตรีสลบก่อนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 22:14:38


ความคิดเห็นที่ 110 (1638750)

 

ธรรมทาน วันปลดล็อคกรรม ครั้งที่ 2 ตอนสอบซ่อม เขียนโดย จิ๋ม ชัชวลี
                วันเสาร์ที่ 3 พย. จิ๋มมาไม่ทันกัน เขาแบ่งกลุ่มกันไปแล้ว จึงได้ไปร่วมกลุ่มกับน้องเบส ที่ทำงานก่อสร้างอยู่ ทำการตัก หิน ตักทราย เพื่อส่งให้คุณอมร กะ น้องก๊อต ผสมปูน ก็เป็นงานหนักเหมือนกัน ร้อนด้วย แต่ก็ไม่มากเหมือนคราวแรกเลย จำได้ว่าอาทิตย์ก่อนนั้น แดดร้อน แล้วเราก็ใส่หมวกมาตักหิน ทรายกัน แต่วันนี้มีเต้นท์ด้วย ท่านอาจารย์อุบลเมตตาเราจังเลย ทำไปสักพัก เหงื่อตกเหมือนกัน แต่สักพักมีลมเย็นอะไร วูบ ๆ มา ตายจริง ไม่ทันดู ขนหิน ขนทราย มีพัดลมด้วย บอกอาจารย์นีว่า ทำไม ไฮโซ จัง ทำงานกรรมกรแต่มีพัดลมด้วย จิ๋มก็หัวเราะขำออกมา แต่ก็มานึกว่า จะใครเสียอีกเล่า ท่านอาจารย์อุบลของเรา ท่านมีจิตใจละเอียดอ่อน ห่วงใยพวกเรา สารพัด หาพัดลมมาให้อีก แต่จิ๋มสังเกต ได้ว่าพัดลมตัวนี้จะเย็นกว่าปกติ คิดดูสิ พวกเราอยู่ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยง แต่เปิดพัดลม กลับเย็นเหมือนแอร์วูบ ๆ มา พัดลมตัวนี้คงมีพลังพีระมิดแน่เลย ถึงได้เย็นชื่นใจอย่างนี้ กราบขอบคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล และคุณท๊อป ที่เมตตาพวกเรา
 
งูเทวดา มาขอบุญ อาจารย์อุบล เขียนโดย จิ๋ม ชัชวลี
                สัปดาห์ที่แล้วเป็นวันออกพรรษา มีข่าวนักท่องเที่ยวไปชมบั้งไป พญานาคกัน ที่บ้านสวนพีระมิดก็ไม่ได้น้อยหน้าเช่นกัน มีคนเจองูเยอะ เช่น น้องมิ้ม เจองูสีทองที่ศาลาไม้ไผ่เก่า เป็นต้น จำได้ว่าพอเจองู แล้วไปเล่าให้ท่านอาจารย์อุบลฟัง ท่านอาจารย์ก็จะแผ่บุญให้ ทำนองเดียวกันลุงเบิ้มใช้รถแมคโครขุดดินอยู่ เจองู ประมาณ 6 ตัว แต่ละตัวก็มีสีสันสวยงาม เช่น สีเหลืองสลับดำ   สีขาวใส สีทอง เป็นตัน งูเหล่านี้มา ทำให้ลุงเบิ้มต้องทำงูเหล่านี้ขาดไป เพราะต้องขุดดิน เดือดร้อนถึงท่านอาจารย์อุบล ต้องเข้ามาช่วยแผ่บุญให้ และอาจารย์ได้มายืนคุมอยู่ใกล้ ๆ ท่านอ.อุบล เล่าว่า ตอนที่ท่านมายืนคุมอยู่ ท่านก็แผ่บุญไปให้ ในวันนั้น ลุงเบิ้ม ก็ขุดดิน และทำงานอย่างสบาย เพราะไม่เจองูอีก ท่าน อ,อุบล ได้เล่าว่าที่จริงงูเหล่านี้ไม่ใช่งูจริงหรอก แต่เป็นเทวดา ที่เป็นบริวารของท้าววิรุฬปักษ์ ซึ่งอยากได้บุญจาก อ.อุบล ท่านจึงต้องหากุศโลบายในการออกมาให้ลูกบ้านสวนได้เห็น และอาจารย์อุบล ก็ได้มาแผ่บุญให้ 
                นี่แหละ คนดีมีศีล เขาเรียกว่ากลิ่นแห่งศีลนั้นหอมตลบอบอวลใครๆ ก็อยากเข้าใกล้เพื่อมาขอส่วนบุญ แม้แต่เทวดายังอยากเข้าใกล้ ต้องหาวิธีแยบยล พวกเรามนุษย์เดินดิน ลูกบ้านสวน มีบุญเหลือเกินที่ได้มาเป็นศิษย์และได้รับใช้ท่าน
จิ๋ม ชัชวลี
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 22:17:16


ความคิดเห็นที่ 111 (1638751)

ประสบการณ์ทำงานในกิจกรรมการปลดล็อคกรรมครั้งที่ 2 by Jum
ต้องกราบขอขมาอ. อุบล และคุณ ธนา ที่ไปสายมากๆ ตั้ง 11 โมง
วันนั้นดูมีอุปสรรคมากมาย รวมทั้งไม่ได้อ่านกติกาโดยละเอียด แต่พอไปถึง คุณธนาก็ให้เข้ากลุ่มโดยแยกกันกับจิ๋ม โดยเริ่มไปช่วยคุณป้อมทำรั้ว พบเพื่อนในกลุ่มคนรู้จักทั้งนั้น เช่นคุณตุ๊ก (บุญภิบาล) คุณศรี คุณทัศนีย์ ป้าสุเพ็ญพร มีน้องวิน สังข์ทองของเราด้วย การเอาไม้ไผ่เก่ามาทำหลัก แล้วมัดให้แน่น แถมยังมีตาข่ายลวดคลุมทับ เป็นการใช้ทรัพยากรที่ชาญฉลาด คุ้มค่ามาก คุณป้อมอัธยาศัยดี ลูกทีมจึงตั้งใจกันดี ตนเองผูกได้นิดหน่อย ก็มาช่วยเขาขนเศษไม้ไปเผาก่อนจึงไปทานข้าว

สำหรับ sheet ธรรมทาน จุ๋มได้เตรียมต้นฉบับ ส่ง อจ. แต่ยังไม่ได้ copy 50 ชุด พอวันอาทิตย์จะไป copy ก็ทำต้นฉบับหายอีก  ต้องขอขมาท่านอาจารย์ที่ผิดกฎอีกนั่นแหละ

ช่วงบ่ายได้ทำปูนในส่วนขนหินทราย ตอนโกยสบาย แต่ตอนยก ต้องหาคู่มาช่วย เพราะยกคนเดียวล้ามากๆ ต่อจากนั้นได้มีโอกาสเปลี่ยนฐานไปรดน้ำต้นไม้หลังบ้านอาจารย์ และตัดหญ้าที่ปิรามิดข้างๆ บ้านอาจารย์

เปลี่ยนฐานใหม่จึงได้ปืนไปจัดห้องเก็บของบนชั้นสองของโรงทาน ตนเองเห็นเข้าก็ขนออกอย่างเดียว แล้วจัดใหม่หมด คุณเหมี่ยว หัวหน้ากลุ่มเธอก็น่ารักดี ไม่ได้กะเกณฑ์อะไรมาก ปล่อยพวกเราทำตามธรรมชาติ จุ๋ม น้องวิน คุณตุ๊ก อยุ่กองขน มีแม่บ้านอาชีพ อบ่างคุณศรี คุณทัศนีย์จัดระเบียบ พอส่งของวางเข้าที่ก็เสร็จในเวลาอันสั้น ตอนเห็นของครั้งแรกยังท้อเลย พอช่วยกันเร็วๆ ก็ไม่นาน

ฐานสุดท้ายได้ไปจัดวางม้าหินบริเวณที่จอดรถ มีคุณอ้อย บอกงานต่างๆให้ ตนเองไปยกจังหวะไม่ดีหินสะบัดมาโดน คุณอ้อยเรียกอจ อุบลมาช่วยก่อนเพื่อน แล้วตนเองจึงเรียกตาม มองเห็อจ อยู่ไม่ไกลนัก เลบไปขอให้อจ.เป่าเพี้ยงให้ดีกว่า ตอนเดินมาหา อจ. ทำไมความปวดทวีขึ้นจนเห็นดาวเลย พอมาให้อาจารย์บอกว่าหายเจ็บนะ ก็ค่อยๆเบา อจ.ถามว่าขี้เกียจเขียนธรรมทานใช่ไหม ตนเองยอมรับว่าเขียนน้อย อจ.ถามทำนองว่าจะปรับปรุงตัวไหม ถ้ารับปากได้จะหาย ตนเองรีบรับทันทีเพราะปวด และจะทำให้ได้อย่างสุดความสามารถ ตามปัญญาน้อยนิด 

ในที่สุดเสด็จพ่อท้าวเวชสุวรรณท่านเมตตามาเตือนจริงๆเพราะไม่ค่อยปรับปรุงตัวนั่นเอง
กราบอจ.อุบล และเทวดาของท่านที่มาช่วย แผลมีเลือดซิบๆแต่แห้งเร็วมากๆ
Jum

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 22:24:12


ความคิดเห็นที่ 112 (1638753)

             สัปดาห์นี้ผมวิ่งดึงรถเข็นนำปูนมาเทด้านในวิ่งขึ้นลงอยู่ 5 เที่ยว หอบครับ ไม่ได้ถือ เอ้ยไม่ใช่หอบหายใจไม่ทันยืนพิงเสาเต็นต์ โอ๊ยจะเป็นลม พอผมพูดว่าอาจารย์อุบลช่วยด้วย ยังไม่ทันจบคำ อาการหอบหายใจเต้นเข้าออกแบบ บี้ เดอะสตาร์ ก็หยุดปั๊บเลย เป็นอะไรที่สุดยอดผมเองเวลาจะลากรถปูนขึ้นลงก็อาจารย์อุบลช่วยด้วยตลอดเลย        จากวันนี้ที่เหนื่อยเร็วเพราะตื่นตี 2 ขับรถมาบ้านสวนให้ทันปฐมนิเทศ ส่งการบ้าน มีเวลาทำการบ้านแค่ครึ่งวันเรื่องอะไรดีนะ คิด คิด ลอกคนอื่นดีกว่า แต่คิดแล้วท่านอาจารย์บอกให้เขียนเรื่องของตัวเองออกมา เพื่อเป็นธรรมทานใครอ่านแล้วจะได้ไม่ไปทำให้เกิดกรรมแบบนี้อีก รวบรวมเลยครับรวมสมาธิระลึกชาติชั่วของตัวเองออกมาเป็นตัวอักษร ตั้งแต่เรื่องจำความได้จนถึงเรื่องที่เกือบจะจำไม่ได้ เขียนไปคิดไปตรงประเด็นท่านอาจารย์ใหมน้ออ ยิ่งปัญญาน้อยอยู่ด้วย งานภาคกลางคืนสรุป workshop ท่านอาจารย์ได้ให้กำลังใจ ว่าธรรมทานของผมเขียนดีน่าติดตาม นายแน่มากตีแผ่เรื่องชั่วตัวเอง เป็นหนังยาว พร้อมกดไลท์ให้ และมีของคุณอ้อย ที่เขียนดีน่าติดตาม ของคุณแมวก็ดีมีหน้าปกสวยงาม น่าเปิดอ่าน ส่วนของท่านอื่น ๆก็ดีแต่บางท่านพิมพิ์ตัวเล็กไปทำให้อ่านยาก จะเป็นธรรมทานที่ไม่ค่อยมีใครอยากอ่าน ส่วนตัวหนังสือในเวปถ้าใช้สีที่อ่านแล้วรู้สึกแสบตา ผู้คนก็จะข้ามไปไม่อ่าน ไม่สนใจ จะเกิดบุญน้อยครับ

    กราบขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชี้แนะให้คำแนะนำในการเขียนธรรมทานเพื่อพัฒนายิ่งขึ้นไป

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 22:31:04


ความคิดเห็นที่ 113 (1638754)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆธรรมทานด้วยนะคะ

เสาร์นี้(3พย.55) รู้สึกสำนึกและคิดได้จริงๆเสียทีว่าวันเวลาไม่คอยใคร จะทำอะไรตามเวลาเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้ซะแล้ว เราต้องแข่งกับเวลาและให้ทันเวลา มิฉะนั้นจะเสียโอกาสดีๆ อย่างเช้าวันนี้มาถึงบ้านสวนสายไม่ทันเวลาที่กำหนดว่าให้ถึง8โมงเช้าเพื่อลงทะเบียนและปฐมนิเทศ ผู้นำกลุ่มต้องมาบอกเราซ้ำอีกว่าต้องทำอะไรทำให้คนส่วนใหญ่ต้องมาเสียเวลารอคนส่วนน้อยแทนที่จะเริ่มกิจกรรมไปได้เลย

เริ่มการทำงานเป็นกลุ่มโดยให้เลือกว่าจะอยู่กับหัวหน้ากลุ่มคนไหนไม่ได้แบ่งตามปัญหาการเจ็บป่วยหรือการงาน การเงิน เหมือนที่ผ่านมาเพราะทุกปัญหาจะได้รับการบำบัดอยู่แล้วเพราะแต่ละคนจะได้เวียนเปลี่ยนฐานการทำงานครบทุกฐาน จุดที่ได้ทำ มีงานก่อสร้างอาคารที่สร้างใหม่ ซ่อมรั้ว ตกแต่ง ทำความสะอาดลานจอดรถด้านหลังวิหารไม้ไผ่ หน้าองค์พีระมิดโรงทาน และงานเกษตร กลุ่มหนึ่งมี 4-5 คน ให้อยู่ทำงานฐานละชั่วโมง สลับกันให้ครบทุกฐาน มีที่งานก่อสร้างที่เวียนซ้ำ

ความประทับใจ:การแบ่งกลุ่มและเวียนทำให้ครบทุกฐานแบบนี้ในความคิดของตัวเองนั้นว่าดีมากเลยเพราะทำให้ได้ปริมาณงานมาก คนและงานกระจายไม่กระจุกอยู่จุดใดจุดหนึ่ง ที่สำคัญทำให้เราเกิดความกระตือรือร้น ตื่นตัวอยู่เสมอ เร่งรีบทำงานแข่งกับเวลาเพื่อให้ได้ผลงานออกมาให้มากที่สุดตลอดระยะเวลา 1 ชม.ที่อยู่จุดนั้น อย่างไงก็ต้องฝากผลงานไว้ให้กลุ่มที่มาต่อได้เห็นไว้บ้าง

ในหนึ่งวันได้ทำงานคุ้มกับเวลาก็วันนี้แหละ ถึงจะเหนื่อยบ้างแต่จะเป็นบางฐานอย่างงานก่อสร้างที่ต้องยกบุ้งกี๋ทราย ช่วยดึงรถเข็นที่ใส่ปูน เทปูน แดดร้อนบ้าง แต่ได้ลมเย็นจากพัดลม บางฐานงานเบา อยู่ในร่ม สลับกันหลายบรรยากาศเวลาผ่านไปเร็วมาก ไม่ได้รอให้ถึงเวลา แต่จะทำให้ทันเวลา ทำให้รู้สึกว่า เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาทีมันมีค่าจริงๆ

สิ่งที่ได้จากการได้เวียนทำงานทุกๆฐานนั้นทำให้เราได้ผ่านการฝึกและมีประสบการณ์ทำงานหลายอย่างมากเลย ถึงจะไม่ชำนาญแต่ก็พอทำได้บ้าง ฝึกความอดทน ได้ฝึกสมาธิในขณะทำงาน เพราะจิตใจต้องจดจ่ออยู่กับงาน ไม่มีเวลามาคิดฟุ้งซ่านยิ่งเวลาเหลือน้อยเท่าไร ทำให้เราเห็นคุณค่าของเวลามากขึ้น 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญานี ถือธรรม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 22:34:39


ความคิดเห็นที่ 114 (1638760)

วันนี้มาเขียนธรรมทานช้าไปหน่อย พอดีไปยืนแจกธรรมทานของพี่น้องบ้านสวนฯที่เอามาส่งในสัปดาห์นี้ ในขณะที่แจกอยู่นั้น ทำให้เรารู้ตัวเองเรยว่า ยังห่างไกลความดี รู้สึกว่ามันอาย มันเขิ้นๆ กลัวเขามองว่าเราบ้า ยังมีอัตตาสูงอยู่มาก อ้าว เข้าเรื่องกันดีกว่า

อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ พวกเราไปสอบซ่อมกัน เท่าทีผมมอง ผมคิดว่า ส่วนใหญ่ก็สอบผ่านกันน่ะครับ แต่สำหรับตัวผม ประเมินตัวเองแล้ว คิดว่ายังไม่ผ่าน โดยเฉพาะ บทบาทการเป็นหัวหน้ากลุ่ม ทียังทำหน้าที่ยังไม่ได้เรื่อง เช่น การกระจายงาน ให้กับลูกทีม การจัดสรรงานให้เหมาะสมกับแต่ละคน รวมถึงการวางแผนติดตามงาน ที่มอบหมายให้ลูกทีมแต่ละคนทำนั้น ยังทำได้ไม่ดีครับ แต่คราวหน้า ถ้ามีโอกาส จะพยายามปรับปรุงตัวใหม่ครับ
ช่วงกิจกรรมวันเสาร์
กลุ่มของผม ได้รับมอบหมายให้ซ่อมรั้วบริเวณด้านตรงห้องน้ำด้านหน้าจนถึงแนวบริเวณ ด้านหลังวิหารไม้ไผ่ครับ ตอนแรกประเมินงานคร่าวว่าไม่น่ายาก แต่พอลงมือทำแล้ว ไม่หมูเรยครับ เพราะมีปัจจัยอื่นหลายอย่าง เช่น สมาชิกทีเวียนมาในแต่ละกลุ่ม เป็น หญิงล้วนบ้าง สวบ้าง ก็เรยจัดคนยากเหมือนกันครับ ขั้นตอนที่ทำก็คือ ตรวจแนวรั้วเก่า ว่าบริเวณใดชำรุด เพื่อวางแผนการซ่อมครับ เสร็จแล้วเริ่มรื้อแนวรั้วเก่าออกครับ ตัดไปไผ่ ออกเป็นท่อนเพื่อทำเป็นเสา ขุดหลุมปักไม้ไผ่ ทำรั้ว ผูกรั้วใหม่ แล้วจบด้วยการนำตาข่ายเหล็กทำเป็นรั้ว อีกชั้นนึงครับ
สมาชิกของกลุ่มผมมีกันอยู่ 7 คนครับ ผมขอรายงานและสรุปอาการเจ็บป่วย ก่อนและหลังการทำกิจกรรมดังนี้ครับ โดยภาพรวม มีหาย 100%  2 คน อาการดีขึ้น 3 คน และ ไม่ดีขึ้นเรยและติดตามผล 2 คนครับ
1.พีตุ๊ก บุญภิบาล หาย100% อาการปวดส้นเท้า สายตายาวดีขึ้น 60%
2.พี่ด๊อกเตอร์จุ๋ม อาการเจ็บคอ หาย100% แต่ยังมีอาการไออยู่บ้าง
3. ป้าทวาย คนนี้มาจากนครสรรค์ มากับน้องชิมครับ ป้ามีอาการ ปวดเท้าและชา ทั้ง 2 ข้างและปวดทั่วตัว ตั้งแต่คอ บ่า เอว ลงมาจนถึงเข่า ป้าบอกว่า มันเป็นๆหายๆ อยู่อย่างนี้ตลอดวัน พอหายแป๊ปนึงก็กลับมาเป็น ป้าก็เรยบอกว่า รวมๆแล้วดีขึ้น 30% แล้วท่านอาจารย์ก็เมตตา ไต่สวนกรรมต่อให้ และเป็นความโชคดีของป้าด้วยคือ ป้าสารภาพออกมาหมดเปลือกเรย ป้าบอกว่า ป้าเคยทำแท้งมา 2 ครั้ง เคยฆ่าสัตว์ต่างๆมา หลังจากท่านอาจารย์ ไต่สวนเสร็จ นำอุทิศบุญ ปรากฏว่าป้าหายเรย 100% ผมปลื้มแทนคุณป้าด้วยจริงๆ
ช่วงกินข้ากลางวันได้มีโอกาสนั่งกินข้าวกับป้า ก็เรยคุยกัน ผมบอกบอกกับป้าว่า ป้า หายได้ ก็กลับเป็นใหม่ได้น่ะ อย่ากลับไปทำอีกล่ะ อ่อ อย่าลืมรักษาศีลด้วยน่ะ ป้าบอกว่า โอ้ย ป้ารักษาศีลอยู่เป็นประจำ นั่งสมาธิด้วย เรยถามป้า ป้า แล้วยังเล่นหวยอยู่ไหมครับ ป้าตอบก็เล่นบ้าง นานๆที ผมนั่งงง เอ้ แล้วป้าบอกว่ารักษาศีล นี่มันยังไง ก็เรยอธิบายกันไป
4.น้องวิน คนนี้เป็นสิว แผลอักเสบ อาการดีขึ้น 60-80% น้องวินเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อน เคยไปล้อ คนๆไว้ ซึ่งเป็นสิวเต็มหน้าเรย น้องวินล้อว่า นั่นหน้าหรือโรงเพาะสิวน่ะ จนในที่สุดตนเองมาเป็นซะเอง
5.น้องปอ ปวดเอวหาย 100%  ขาลายดีขึ้น 30%
6.พี่ภิญญลักษณ์ สายตายาว ท่านนี้ไม่หายครับ ไม่ดีขึ้น ต้องติดตามผลกันอีกทีครับ
7.พี่ทัศนีย์ มีการอาการปวดนิ้วมือ ครับ ท่านนี้ก็ไม่หาย ไม่ดีขึ้นเช่นกันครับ อาจารย์ท่านเสริมช่วงท้ายว่า ส่วนนึงที่ยังไม่หายหรือดีขึ้น เพราะไม่เขียนธรรมทาน ซึ่งเป็นบุญใหญ่
ผมมีข้อสังเกตด้วยครับ ว่าในช่วงกิจกรรม ในฐานที่ผมรับผิดชอบนั้น เครื่องการจัดเก็บดูแลรักษา เครื่องมือที่ใช้นั้น ยังมีคนส่วนใหญ่ที่ยังละเรย ผมเองต้องเดินเก็บอุปกรณ์ อยู่หลายกลุ่ม และเท่าที่สังเกต ส่วนใหญ่นั้นก็ ไม่หายจากอาการเจ็บป่วย จำนวนมากพอสมควร ซึ่งผมคิดว่า นี่ คงเป็นส่วนนึง ที่ทำให้ สมาชิกทั้งหลาย ยังไม่พ้นทุกข์
เดี๋ยวมาต่อน่ะครับ...     
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 00:06:51


ความคิดเห็นที่ 115 (1638762)

                           สัปดาห์นี้ มีพวกเรามาสอบซ่อมกันกว่า 50 ชีวิตคร้าา แบ่งกันได้ 8 กลุ่ม  กิจกรรมก็ ปรับโฉมใหม่ ถูกจายจิงจิง ^___^  รู้สึกว่าเราได้ทำงานเยอะ และ เกิดงานเยอะมาก เพราะมีการย้ายฐานหมุนเวียนทุกๆ1ชั่วโมง.. รู้สึกว่าเราได้ทำอะไรเยอะขึ้น ไม่ทำเฉพาะอยู่อย่างใดอย่างหนึ่ง แบบนี้อีกหน่อยบ้านสวนจะสวยมากขึ้นมากขึ้นทุกสัปดาห์ เหมือนกับคนที่ไปช่วยกันร่วมบุญผิวกายขาวขึ้น หน้าก็ขาวใส สวยกันเป็นแถวแถว ตั้งแต่รุ่นคุณสาวน้อย กันเรยที่เดียวค่ะ ฝ้า กระ จาง ลง โดยไม่ต้องพึ่งมือหมอ อิอิ....อันนี้หนูลินคอนเฟิร์ม เจ้าค่ะ เพราะ ฝ้ากระที่แก้มหายไปถึง 50 % เจ้าคร้า ดีจายยมาก มาก และอาการปวดแขนก็หาย  100 % เรยละค่ะ  มีไฮไลท์เด็ดเด็ด หลายท่านเลย

 

 

 

 

 

 


 

 

เริ่มจากคุณป้าที่มากะน้องชิมค่ะ คุณป้าอายุ ก้อ ขึ้นเลข 7 นำหน้าแล้วนะค่ะ ขายผัดไทย ปกติขายวันละ 5-6 กิโล (เส้นก๋วยเตี๋ยว) ขายตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง เที่ยงคืนค่ะ แต่พอใช้รหัส "อาจารย์ อุบล ช่วยด้วย"  ผัดไปพูดไป  เวลาไม่มีลูกค้า ก็เรียก "อาจารย์ อุบล ช่วยด้วย" ทำให้ขายได้ถึง 10 กิโล ต่อวัน แถมขายหมดตั้งแต่ 4 ทุ่มด้วย ค่ะ รหัสนี้ มันสุดยอดด เจงเจงงคร้าา นอกจากนี้คุณป้ายังมีอาการบวมและปวดที่ข้อเท้าขวาด้วยค่ะ แต่หลังจากคุณป้าเข้าฐานทำงานอย่างทุ่มเท ปรากฏว่า อาการปวดหายเป็นปลิดทิ้งเรยละค่ะ แถมหน้าตายังดู ผ่องใสอีกด้วย  (ท่านอาจารย์แนะนำอีกว่า ถ้าป้ากลับไปแล้วขายผัดไทยเจนะ ป้าจะขายดีแบบเทน้ำเทท่าเรยละ)​ 

คุณป้าท่านต่อมาที่เรียกว่าเด็ดอีกแล้วคร้าา  ก็คือ คุณป้ามาจากนครสวรรค์อีกเช่นกัน คุณป้ามีอาการปวดตั้งแต่หัว คอ บ่า ไหล่ เท้าชา มีอาการคล้ายจะเป็นอัมพาตเรยละค่ะ คุณป้าสามารถปลดล๊อคกรรมได้หมดซะงั้น สาเหตุก้อเพราะคุณป้า มีจิตใจสู้ และมุ่งมั่นที่จะทำบุญแรงกายอย่างเต็มที่ค่ะ  เหนื่อยก้อ บอกว่า อดทน อีกนิดนึง จนผ่านจุดที่เหนื่อยมาก ไปได้ อยากรู้ไหมค่ะ คุณป้าทำกรรมอะไรมา แต่น แต่น แต้นนน....  สาเหตุก็คือ คุณป้าชอบบนด้วย "หัวหมู" คร้าา เรียกว่า ไม่ว่าจะบนอะไรก้อต้องเป็น หัวหมูเท่านั้น ลินฟังแล้วนึกถึงคลิปโรงฆ่าสัตว์ที่พี่ธนานำมาให้ดูเลยละค่ะ เข้าใจเลยว่าทำไม่คุณป้าถึงได้เจ็บปวด ทรมานขนาดนี้ เพราะกว่าน้องหมูจะตาย เค้าเครียดเค้า ทรมานขนาดไหน... (TooT) เค้าจึงแค้นกับคนที่สั่งฆ่าเค้านั่นเองค่ะ.... 

ท่านต่อมาก็คงจะเป็นคุณจอย ค่ะ ที่ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ระยะสุดท้าย แต่กลับทำงานหนักได้ อย่างน่าอัศจรรย์ใจ แบบอึด ทน สู้ ไม่เหนื่อยเลย ทั้งที่ คุณหมอก็สั่งห้าม และคนที่เป็นถึงระยะนี้ ก็จะไม่มีแรงเลยละค่ะ คุณจอยบอกตอนอยู่บ้านยังเดินไปตักข้าวหลังบ้าน ยังหอบ แหก แต่มาบ้านสวน กลับลุยงาน หนัก ยกหิน ยกทราย ได้อย่างสบาย สบาย  ลินขอเอาใจช่วย ขอให้คุณจอยเอาชนะโรคนี้ให้ได้นะค่ะ

 

 


 

วันนี้ขอฝากไว้แค่นี้ก่อนนะคร้าา   กู๊ดไนท์ หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ ก่อนนะคร้า ^_____^ 


ผู้แสดงความคิดเห็น ลิน (อลินนันท์ อัครวิชนนท์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 00:31:07


ความคิดเห็นที่ 116 (1638767)

 

  

น่าชื่นใจนะครับ

หายไปแว๊บบบบบบ เดียว พี่ ๆ น้อง ๆ เข้ามาเขียนธรรมทานกันอุ่นหนาฝาคั่ง

 

ผมขอเล่าถึงสิ่งที่ได้รับ

จากการทำ

workshop ของวันเสาร์นะครับ

ฐานแรกสุดที่กลุ่มผม คือกลุ่มที่ 7

งานก็คือ

การตกแต่งทำความสะอาดด้านหน้าสุด

บริเวณฝั่งซ้ายเมื่อเดินออกไปจากบ้านสวนฯ

 

ก็นำอุปกรณ์ไปตัดหญ้ากัน

ด้วยความรีบร้อนก็เลยไม่ได้ดูก่อนว่า

กรรไกรตัดหญ้าไม่คม

จึงตัดหญ้ากันไม่ได้มาก

 

หลังจากเลิกฐานแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจ

นำไปให้ฐานซ่อมบำรุงจัดการให้คม

ไม่ได้มีความรับผิดชอบเลย

สมควรแล้วที่ปลดล็อคกรรมได้ไม่หมด

 

นอกจากนี้ต้นไม้ที่ตกแต่งบริเวณ

น้ำตกจำลองก็ถูกฝนชะจนดินหลุดไปมาก

แถมยังขาดการดูแลรดน้ำ

จึงไม่งามเท่าที่ควร

ทั้งที่เป็นหน้าตาของบ้านสวนฯ

ซึ่งน่าจะมีการดูแลเป็นพิเศษ

 

อาจจะต้องมีการเปลี่ยนต้นไม้บ้าง

เหมือนการจัดสถานที่ตามห้าง

ที่ปรับเปลี่ยนและตกแต่งให้สวยงามเสมอ

 

นอกจากนี้เศษหญ้าเศษใบไม้

ก็เรี่ยราดบริเวณกระเบื้องสีแดงที่ปูพื้น

ทั้งที่เป็นเศษ ๆ ที่กวาดออกได้

และเป็นเศษที่เป็นคราบติดที่กระเบื้อง

แถมตามรอยแยกและขอบของกระเบื้อง

ก็มีหญ้าขึ้นเยอะ

ถ้าปล่อยไว้

คงจะรกมากในอนาคตอันใกล้

 

ซึ่งตอนที่ทำงานผมไม่ทันได้สังเกต

เพราะมัวแต่ตัดหญ้าและไปต่อสายยาง

เพื่อรดน้ำต้นไม้

แต่ช่วงก่อนเที่ยงที่ไปช่วยคุณป้อม

และคุณเก่งทำรั้วตาข่ายข้างบ้าน

ที่นอกรั้วของบ้านสวนฯ

ตอนที่ผมเดินผ่านขากลับหลังเสร็จงาน

ก็เห็นปัญหาดังกล่าว

ก็ได้แต่นำไม้กวาดไปจัดการ

ยังไม่ได้ถอนหญ้าเลย

ซึ่งผมว่าอาทิตย์ที่จะถึงนี้

น่าจะมีการจัดการในเรื่องนี้

แต่ต้องระวังหนามต้นอากาเว่นะครับ

เพราะแทงเจ็บมาก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 00:55:56


ความคิดเห็นที่ 117 (1638768)

ไหน ๆ ก็พูดถึงการขึงรั้วตาข่าย

ที่ฐานของคุณป้อม

ก็ปรากฏว่า มีการเกณฑ์คนไปขุดลอกกัน

จนเหลือแค่ผมกับคุณป้อมสองคนเท่านั้น

ซึ่งผมก็ช่วยคุณป้อมได้ไม่มาก

เพราะรั้วสูงกว่าผมมาก

เวลาที่สอดลวดพันรั้วต้องเขย่งเสมอ

ทำให้งานช้า ก็ เกิดมาเตี้ยนี่นา 

(โชคดีที่ต่อมาได้คุณเก่งมาช่วยอีกคน)

 

คุณธนาเองยังชอบแซวผมประจำ

ว่าคุกเข่าทำงานอยู่รึเปล่า

ล้างจานในโรงครัวถึงไม๊

คลานขึ้นรถพี่สมจิตบ้างล่ะ

ไว้ผมจะไปถามเคล็ดลับ

จากคุณธนาที่สูงชะลูดมาก

แถมยังหน้าตาดีอีกด้วย

ว่ามีเคล็ดลับอย่างไร

ถึงได้สูงโปร่งอย่างนี้ จะได้ไปทำบ้างนะครับ

 

พูดถึงปัญหาเรื่องการจัดคน

ก็ขอพูดถึงตอนที่ผมไปทำงานก่อสร้าง

ที่เกิดเหตุการณ์คล้ายกันกับฐานคุณป้อม

คือ มีคนไปช่วยเทปูนหลายคนมาก

แต่คนที่ตักทราย ตักปูน

ช่วยยกมีน้อย

จนผมต้องไปเรียกน้องลินมาช่วย

ซึ่งต้องขอขอบคุณน้องลินด้วยนะครับ

ป่านนี้คงได้อานิสงส์ฝ้าหาย

ได้บุญวิหารทาน

แล้วยังได้อานิสงส์ลดน้ำหนักไปในตัว

อีกหลายขีด ด้วยจิตอาสาครั้งนี้ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 00:58:22


ความคิดเห็นที่ 118 (1638769)

มีอีกอย่างที่อยากจะบอกกัน

คือ การนำขยะ ของเหลือใช้

เศษใบไม้ ท่อนไม้ กิ่งไม้ต่าง ๆ

ไปเผาในบ่อ

ขอให้ทิ้งลงในบริเวณตรงกลางหลุม

อย่าเทจากรถลงใกล้ ๆ ขอบหลุมนะครับ

และเทให้กระจายกัน

ไม่ใช่เททับที่เดียวกันจนมาถึงขอบ

 

ซึ่งจะทำให้ไฟลุกไหม้มาถึงข้างบน

เป็นอันตรายหากลมแรงกระพือโหม

เปลวไฟอาจลอยไปติดบริเวณอื่น

 

หากเทไปทิ้งตรงกลางไม่ไหว

ก็สามารถใช้มือนี่ล่ะโยน

หรืออย่าเข็นรถมาคนเดียว

จะได้ช่วยกันเข็นเทได้

 

งานไม่จำเป็นต้องเร็ว

จนไม่เรียบร้อย คนอื่นต้องมาแก้ต่อ

แต่ขอให้ทำด้วยความรอบคอบ

ด้วยความตั้งใจ

อุปสรรคได้หมดไปครับ

ไม่ใช่แก้ปัญหาเก่า

แต่กลับสร้างปัญหาใหม่อีกครับ

  

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 01:08:03


ความคิดเห็นที่ 119 (1638771)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆธรรมทานและขอบคุณทุกๆท่านที่

สละเวลามาเขียนทำให้ชาวเกาะอย่างหนึ่งได้รับรู้ข้อมูลไปด้วย

ชอบข้อคิดเรื่องการเป็นผู้นำมากจริงๆคะ

"การเป็นผู้นำคือผู้ที่ให้มากกว่ารับ"

ทำไมก่อนหน้าถึงคิดไม่ได้ก็ไม่รู้...คนขาดปัญญาแท้ๆ

เมื่อย้อนกลับมาดูตนเองกับตำแหน่งงานในชีวิตประจำวันว่าเราเป็นผู้ให้หรือผู้รับมากกว่ากัน...

เฮ้อ!  ที่ผ่านมารับอย่างเดียวเลยคะ


เดี๋ยวนี้เวลาอ่านธรรมทานจะรู้สึกสนุกขึ้น

มีความรู้สึกคล้อยตามมากขึ้น ขอเสริมนิดหนึ่งนะค

ไม่รู้ว่าหนึ่งเริ่มจะเป็น สว.กับเขาหรือเปล่าแต่

ถ้ามีการปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น

และมีการจัดหน้า เว้นวรรคจะยิ่งทำให้อ่านสบายตามากขึ้นคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 01:32:13


ความคิดเห็นที่ 120 (1638774)

 ขอเล่าธรรมทานในวันอาทิตย์ต่อนะค่ะ

วันอาทิตย์ช่วงเช้าได้ไปที่แปลงเกษตร ไปที่แปลงข่า ถากหญ้าได้สัก5-6จึก

เห็นจะได้ก็ต้องรีบไปเข้าประชุมแบ่งกลุ่มทำงาน เพราะแปดโมงแล้วต้อง

ตรงเวลาค่ะ  แล้วตัวเองก็มาที่แปลงเกษตรสายด้วย เลยได้ทำงานน้อยเลย

ได้เวลาประชุมแบ่งกลุ่ม โดยการแบ่งก็ให้จัดการจัดเอาเองว่าจะอยุ่กับใคร

แล้วให้คนที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ามาเลือกเอาเองว่าจะอยู่กับลูกทีมไหนค่ะ

เหมียวได้หัวหน้าเป็นพี่อมร ฮ่าาพี่อมรจะสอนก่อนเลยว่าการทำงานต้องทำ

อย่างไร เรามีวิธียังไง และต้องคอยสังเกตุอาการของเพื่อนร่วมทีมด้วย

เพราะหัวหน้าไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา หัวหน้าต้องประจำฐานตลอด

ส่วนลูกทีมก็จะหมุนเวียนผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา 1ชั่วโมงเปลี่ยนฐานครั้ง

สมาชิกภายในกลุ่มที่เหมียวอยู่ต่างคนต่างขยัน ตั้งหน้าตั้งตาเก็บบุญกันอย่าง

เต็มที่เลยค่ะ  ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยเลย ทำให้มองย้อนดูตัวเราว่า ทำไมเน้อ

เราก็อายุน้อยกว่าคนอื่นเค้าแต่ทำไม เรี่ยวแรงไม่ค่อยจะมีแฮะ

ตอนช่วงแรงจะมีแรงมากหน่อยแต่หลังชั่วโมงแรกไป  เริ่มแระ รู้สึกมึนๆ

ไม่มีแรงเอาซะเลย แต่ก็พยายามฝืนจนถึงที่สุด มีนั่งพักบ้าง  กินน้ำบ้าง

แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวค่ะ  พอมาเขาฐานงานเกษตร ว้าวๆๆ

ได้รับหน้าทีขุดดิน แถมขุดก็ไม่เป็น ไม่มีหน้าดินอีก จับจอบก็ผิด

ยกจอบก็ผิด ท่ายืนก็ผิด แรงยกจอบก็ไม่มี อาจารย์พันธ์บอกว่า

งานเกษตรต้องใช้ปัญหามาก ทำช้าไม่เป็นรัย แต่ต้องออกมาถูกต้อง

ตามแบบฉบับ ต้องทำตามคำสั่งของผู้นำ ไม่ใช่ผู้นำบอกวิธีนี้ แต่ไปทำวิธีอื่น

เพราะเห็นว่าวิธีของผู้นำ ตัวเองไม่ชอบ  ไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียในอนาคต

อ่าเอาแล้วสิเรา ขุดก็ช้าแถมผิดอีก รู้เลยว่า ยากจัง ทำไมมันยากเพียงนี้

ขุดดินมันยากมากที่จะทำให้ถูก เจ็บใจตัวเองว่าทำไมแค่ขุดดินแค่นี้ถึง

ไม่มีปัญญาเอาซะเลย เรื่องอื่นก็ปัญญาน้อยอยู่แล้ว มาเจองานกษตรเข้าอีก

ปัญญามันห้ายหมดเลย เรื่องนี้ถือว่าเหมียวต้องขอแก้ตัวใหม่คราวหน้านะค่ะ

อาจารย์พันธ์  จะพยายามให้เต็มที่กว่านี้ค่ะ จะใช้ปัญญาอันน้อยนิดให้เป็น

ประโยชน์ที่สุดค่ะ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนฐานไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาบ่ายสอง

เป็นอันเสร็จสิ้นการเปลี่ยนฐาน จากนั่นก็มานั่งสรุปกิจกรรมกันค่ะ

คุณจอยมาจากระยอง คนนี้อึดมาก สู้งานหนักแต่แพ้งานเบา เอ๊ะแปลกแฮะ

คุณจอยบอกว่า งานหนักมาเมื่อไหร่มีแรงเมื่อนั้น แต่งานเบาๆเล็กน้อยๆจะ

อ่อนเพลียขึ้นมาทันที เอ๊รึว่าเจ้ากรรมนายเวรอยากได้บุญเยอะๆรึเปล่าเนี้ย

ไม่ยอมรับบุญงานเบาๆเลยแฮะ  อ้อลืมบอกไปค่ะคุณจอยมีอาการอ่อนเพลีย

ขาบวมหาย70%ค่ะ  คุณทัศน์ก็ทำงานหนักทำงานเก่งขยันไม่ยอม

ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์เลย แต่กลับมีอาการใหม่เกืดขึ้นมาอีกคือปวดนิ้วมือ

จากอาการของเดิมที่ปวดหลังก็ยังไม่ดีขึ้นอีก สงสัยว้าอาจจะเป็นกรรมหนักมาก 

คุณอมร ก็ปัญหาการเงิน อันนี้ต้องรอติดตามตอนต่อไปค่ะ  

คุณหนิงเนี้ยผมหงอกตั้งแต่วันรุ่นเลย อยากหายมักมาก ทำไงดีเน้อ แฮะๆ

ปัญหาอื่นก็จะเป็นการเงิน หนี้สิน  ปัญหาเหล่านี้ก็ต้องติดตามตอนต่อไปเองค่ะ

น้องณัฐ ปัญหาเรื่องที่เรียนต่อ การเรียน สมาธิ แผลถลอก นิ้วซ้น

แล้วก็ที่สำคัญปัญหาความรัก ว้าวววน้องณัฐอกหักรักคุด แอบรักใคร

รึเปล่าเนี้ย อิอิ ปัญหาเหล่านี้ก็ต้องติดตามตอนต่อไปกันค่ะ

ส่วนตัวเหมียวเอง  มีแต่ปวดเข่าตอนเริ่มทำงาน

และก็หายสนิทตั้งแต่งานไม่เสร็จ มีแต่อาการอ่อนเพลียมากกว่าค่ะ

อ้อลืมไปเลยแล้วก็เสมหะที่คอ ดีขึ้น50% ฮ่าอันนี้ กรรมเถียงพ่อแม่เก่งที่หนึ่ง

นิทา พูดไร้สาระ สารพัด ขอใหได้พูดก็พอใจแล้ว ค่ะ

สรุปแล้ว workshopวันอาทิตย์นี้ ฟังจากหลายๆกลุ่มผลโดยรวม

เป็นที่น่าพอใจมากค่ะ มีเพียงบางท่านเท่านั้นที่ยังไม่มีผลอะไรปรากฏ

ให้เห็นชัดเจนค่ะ ขอปิดกิจกรรมวันอาทิตย์ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะง่วงไม่ไหวแย้วววว

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 02:40:17


ความคิดเห็นที่ 121 (1638788)

 อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ

กระทู้นี้เรตติ้งพุ่งกระฉูดสุดๆ

อ่านแล้วก็พลอยมีความสุข + อิ่มบุญไปด้วยเลย

ทำเอาชาวเกาะอย่างเราตามอ่านจะไม่ทันอยู่แล้ว อิอิ

********************

รบกวนคุณปิยะวัฒน์ คห.ที่ 107 

ช่วยแก้ไขคอมเม้นแล้วติ๊กช่องไม่ต้องการให้แสดงอีเมลด้วยค่ะ

***********************************

ขอบคุณคำตอบจากพี่ชนิดา และ  คุณนราธิปด้วยค่ะ

แบบว่าลาพักร้อนนานไปหน่อย เลยตกข่าว อิอิ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 05:33:23


ความคิดเห็นที่ 122 (1638794)

รู้สึกว่าพี่น้องบ้านสวนฯหลายๆคน

จะฝึกนอนดึกกันได้

มากขึ้นเรื่อยๆเลยนะคะ

 

ดีค่ะ เพราะชนิดาเคยอ่าน

คำเตือนเรื่องภัยพิบัติบ่อยๆ

ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เค้าแนะนำก็คือ

พยายามฝึกให้เป็นคนที่

นอนไม่เป็นเวลาให้ได้ ก็จะดี

(อ้าว..ฟังดูแปลกๆเนอะ)

 

แต่จริงค่ะ เพราะคงจะเกี่ยวกับโลกกลับขั้ว

กลับเวลาอะไรประมาณนี้มั้งคะ

 

และที่สำคัญช่วงภัยพิบัติ

เราอาจจะ ต้องระวังตัวทั้งกลางวัน กลางคืน

 

หรืออาจจะต้องเดินทางยาวนาน

ทั้งกลางวันกลางคืน

 

ฉะนั้น ถ้าเราไม่ฝึกความอึด

เอาชนะความง่วง

ช่วงเวลาวิกฤติเช่นนั้น

อาจจะเพิ่มความทรมานให้เราได้..

 

ขออภัยแอบออกนอกเรื่องไปนี๊ดนึง

แต่ฝึกๆกันไว้ ก็ดีค่ะ

..........................

ขอบคุณธรรมทานจากทุกๆท่านเลยนะคะ

ว่าแต่สิงห์ป้อม เค้าไม่ธรรมดาน๊า

แบบว่า มีการเพิ่มมิติ

ในการเขียนธรรมทาน

ประเมินบทบาทการเป็นผู้นำ

ของตัวเองให้พวกเราได้อ่านซะด้วย

 

นี่คิดเอง หรือว่ามีการประเมินผล

จากคนอื่นมาแล้วจ๊ะ...สิงห์ป้อม 

 

ส่วนพี่โฆ(ษิต) ก็ทำงานไป

ประเมินผลงานไป

แล้วก็มองหาปัญหาที่สมควรแก้ไขไปด้วย

 

ดีค่ะถ้าทุกๆคน ช่วยๆกันคิด

ช่วยๆกันมองหา

แนวทางที่จะทำให้งานทุกอย่าง

พัฒนาไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ก็จะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายนะคะ

 

ว่าแต่ คุณก๊อต

ทำไมถึงได้รับตำแหน่ง

รัฐมนตรีประจำกระทรวง

"ขาดปัญญา" ไปได้หนอ..

 

 

และรู้สึกว่า ผู้ำนำ

ที่ลูกทีมส่วนใหญ่โหวตให้เป็น

"ผู้นำดีเด่นแห่งปี"

ก็คือ คุณอ้อย และ เจ๊เหมี่ยวนะคะ

 

เพราะมีการวางแผนการทำงาน

และการจ่ายงานให้ลูกทีมไว้อย่างลงตัว

 

และที่สำคัญเน้นและย้ำ

ส่วนที่สำคัญที่สุดเสมอ

คือ ให้ท่องคาถาพระศรีอาริย์

และ รหัส"อ.อุบลช่วยด้วย"

ให้ได้ตลอดเวลา รับรองว่า หายทุกโรค .. 

 

 

แล้วก็ขอบคุณหนูก้อย

และหนูมะเหมี่ยว ด้วยนะคะ

 

ที่เป็นผู้ค้นพบ เทคนิคใหม่

ในการช่วยเหลือคนอื่น

ด้วยจี้สามร่มโพธ์ศรี

เพราะ อัพเกรดสุดๆ

เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ๆ ก็หายได้แล้ว สาธุ

 

แบบนี้เจ้าของจี้ไปที่ไหน ใครๆก็รัก

และ พร้อมต้อนรับเสมอเลยนะคะเนี่ย...

 

และสงสัยพวกเราจะต้องหัดทำตัวใหม่

ให้เป็นหนุ่ม สาวสังคม

ออกไปพบเจอผู้คนให้ได้มากๆนะคะ...เนี่ย

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 08:11:10


ความคิดเห็นที่ 123 (1638810)

ได้มีโอกาสไปสอบซ่อมกับลูกบ้านสวนทุกคนในอาทิตย์ที่ผ่านมาพร้อมครอบครัวทั้งพ่อและแม่
อาจารย์ท่านเมตตาครอบครัวของปอมาก ขอบพระคุณค่ะ


เหอ เหอ...แต่ก็เกือบไปนะคะ เรื่องปอกะแม่ไปก่อนตั้งแต่วันพุธ พ่อไม่กล้ามาเพราะกลัวผิดกฎดูไม่ครบ 9 ตอน
กลัวทำตามกฎไม่ได้ทั้งหมด (และแล้วก็เกิดขึ้นค่ะ พ่อใช้ฟองน้ำล้างจานแล้วบีบฟองออกไม่หมด ปอพลาดเอง
ที่ไม่ไ้ด้บอกพ่อให้ละเอียด ><" ครั้งต่อไปจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกค่ะ)


อาจารย์ท่านเมตตาถามไถ่การเดินทาง เล่าให้ฟังว่าพ่อมาแต่นอนอยู่ห้องด้วยเหตุที่บอกไป อาจารย์ท่านเมตตาบอกว่า
"มาถึงแดนบุญแล้ว ไปตามมา อาจารย์อนุญาต" น้ำตาพาลคลอหน่วยตา รีบพรืดออกจากโรงทานตามพ่อทันที
แต่...ยังโง่อยู่อีก พูดไปพ่อก็ยังกลัว เลยกลับเข้ามาพร้อมน้ำตาไหล และบอกอาจารย์ว่าพ่อไม่กล้ามา อาจารย์บอก
เมตตาสอนคนโง่มากคนนี้ว่า "ทำไมไม่ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ล๊า" คราวนี้ทั้งแม่ทั้งลูก ขอทั้งสมเด็จองค์ปฐม
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระศรีอาริย์ที่อ.อุบลอาราธนา และอ.อุบล ช่วยยยยยด้วยยยยยย


แม่โทรไป "พี่มาเถอะนะ อาจารย์ท่านเมตตาแล้วนะ" "ครับเด๋วพี่ไป" ซะงั้น ง๊ายยยยยยยย ง่ายยยยย แต่ปอโง่เอง
เดินเข้ามากราบอาจารย์ โง่แล้วโง่อีกแท้หนอเราแม่ลูก


วันเสาร์ทำกิจกรรมสนุกสาน แต่ยอมรับเห๊อะ เหนื่อยแหะ อาการปวดหลังที่มีอ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตอนเข้าฐานที่ 2 ก่อสร้าง
แต่ตกม้าตายด้วยฐานสุดท้ายการขุดหน้าดิน แอร่กๆ กลับมาเกือบเท่าเก่า...เงิ้บบบบบบบ ไปเลย ไม่แปลกใจเท่าไหร่ค่ะ เพราะ
ตอนอยู่บ้านพ่อขอให้ช่วยขุดทางน้ำไล่น้ำลงทางระบาย ไม่เคยช่วย ถางหญ้าไม่เคยทำ ไม่เอาหรอกพ่อร้อน เหนื่อยจะตาย
มือด้านจะทำไงล่ะ...หน้าตาก็แย่ รูปร่างก็ย้วย มือด้านอีกก็แย่ซิ... ปล่อยให้พ่อทำคนเดียว ลูกทรพีชัดๆ เจอเต็มๆเลยค่ะ งานเกษตร
จกดินไปแต่ละที นึกหน้าพ่อลอยมาจับใจ


งานฐานอื่นๆในวันเสาร์ได้ไปทาสีโรงครัวกับพี่เหมี่ยว รื้อของที่วางไว้ข้างเสาออก และทาสีลงไป หมดเวลาก่อนสีจะแห้ง
เลยไม่ได้เก็บเข้าที เก็บแค่อุปกรณ์มาวางเฉยๆ และนี่คงเป็นสาเหตุให้ไม่สามารถปลดล็อกกรรมได้ 100% เหมือนคนอื่นเค้า


คืนวันเสาร์ แสนประทับใจ ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ ตอนรายงานกิจกรรม ทั้งพ่อและแม่ได้ออกไปรายงานกันก่อน
พ่อทั้งเจ้าชู้ ทั้งกินเหล้า สูบบุหรีมาก่อนแต่งงานอย่างโชกโชน แต่พอแต่งงาน ก็เหลือมโนกรรมในศีลข้อ 3 เลยทำให้ปวดหลัง
พ่อเลิกบุหรี่นานมากแล้ว แต่เหล้าก่อนยังมีบ้าง แต่ไม่บ่อยนัก พ่อร่วมกิจกรรมกับคนอื่นทั้งวัน ปกติจะต้องพัก และนอนกลางวัน
ด้วยภาวะเบาหวานคือเพลี๊ยยย เพลีย แต่นี่พ่อทำเยอะกว่าที่เราแม่ลูกคิดไว้มาก แอบกังวลเบาๆ ว่าไหวมั้ยนะ ตอนเย็นเดินเหม่อ
ไปอาบน้ำ อาจารย์ยืนอยู่พักบันไดวิหารองปฐม แล้วเรียก "ปอ ... ((พร้อมหัวเราะในอาการมึนเหม่อ อิอิ มองหาอ.มงคลว่าอยู่มั้ย
เด๋วเสร็จธุระจะได้มาบูชาจี้เพิ่มน่ะค่)) พ่อไหวนี่ ไม่เห็นเพลียเลย อาจารย์บอกว่า ถ้าเหนื่อยก็ไปพัก ไปนอนได้
แต่พ่อบอกอาจารย์ว่าไหว กลับมาถามพ่อเป็นไง พ่อตอบว่าอาจารย์ท่านดูแลดี อาหารอร่อย (อันนี้ยกให้แม่ครัวผู้ใจดีทุกท่านคร๊า  ^_^)
คอยถามพ่อตลอด ไหวมั้ย พักได้น๊า พ่อแปลกใจตัวเองเหมือนกัน แน่นอนเราแม่ลูกแปลกใจยกกำลัง 2 ค่ะงานนี้


แม่ - ปวดหลังเพราะด่าลูกผัว ใช้พ่อทำงาน ทำร้ายพ่อ ตีลูก อาจารย์เมตตาบอกให้ขอขมา และขอโทษลูก
พวกเราไม่โกรธแม่หรอกค่ะ เพราะเราทั้งคู่เองก็รู้ตัวว่า เพราะเราทำให้แม่ต้องจู้จี้ ขี้บ่น ที่ไม่มีงานทำทุกวันนี้ก็เพราะทำตัวไม่ไดี
กับแม่ กวนบาทาตลอด ในบรรดาพี่น้อง ดูเหมือนแม่และทุกคนจะบอกว่าปอเป็นคนกวนทีน อยู่คนเดียวนี้แหล่ะ (เอ่อ...แต่คนน้ำตาไหล
กลับไม่ใช่แม่นะคะ แม่แค่ซึมๆ แต่พี่น้อย จากอุดร น้ำตาไหลเลยทีเดียว พี่แกบอกว่า นึกถึงลูกตัวเอง อนุโมทนาในจิตใจอ่อนโยน
ของพี่น้อยนะคะ) พอเสร็จกิจกรรม กอดกันกลม ด้วยความตื่นตัน หมื่นแสนล้านดีใจ อธิบายไม่ได้ว่าปอดีใจแค่ไหน
ที่อาจารย์เมตตาครอบครัวเราขนาดนี้ ขอบคุณอย่างไรก็ไม่หมด ณ ตอนนี้คงทำได้แค่ปฏิบัติตามคำสอนของผู้นำที่ยิ่งใหญ่อย่างอาจารย์
ให้ได้ดีที่สุดค่ะ


** สรุปวันเสาร์ ปอเป็นคนถือตารางของกลุ่ม และดูช่วงเวลาผิด ทำให้ทุกคนเสียเวลา ผิดพลาด คือเดินไปฐานเกษตรก่อน จริงๆ
ต้องก่อสร้างแล้วไปเกษตร ทำให้พี่ธนาต้องไปตามถึงแปลงเกษตร งานฐานก่อสร้างก็เดินช้าเพราะกลุ่มเรา ความผิดพลาดทั้งหมด
ปอเองที่ดูไม่ดี ขาดความละเอียดรอบคอบ จะพยามไม่มีอีกคร๊าบบบบบบ เอ่อ...เห็ดย่างอร่ิอย น้ำจิ้ม แซ่บเว่ออออร์ ขอบคุณพี่แมวค่ะ
แหะๆ แอบแวะเรื่องกินหน่อย


กิจกรรมวันอาทิตย์
ผูกลวด ซ่อมรั้ว เก็บอุปกรณ์ ทำให้เห็นว่าเราต้องดูและ ประหยัด ช่วยดูแลเหมือนทุกอย่างเป็นของเราเอง อย่าคิดว่า เด๋วอาจารย์จ่าย
บ้านของอาจารย์นี่ ไม่ได้เลย อุปกรณ์แปลงเกษตรบางชิ้นผุพังเพราะไม่ได้รับการดูแล คือล้างก่อนเก็บ แยกเป็นหมวดหมู่
จะช่วยได้เยอะมาก ได้อยู่กลุ่มเดียวป้าเตือน อาจารย์นีย์ โห ยอดหญิงมากกกก ป้าเตือนเดินไว ถึงฐานก่อนคนอื่นเสมอ ก่อนเปลี่ยน
ฐานก็จะช่วยกันดูเีื่รื่องเก็บอุปกรณ์เสมอ ส่วนอ.นีย์ ครั้งนี้จับจอบขุดแปลงผักกะเค้าด้วย โอ้ววววว แรงเหลือล้นจริงๆค่ะ ทุกคนทำงาน
เต็มที่ ก่อนลงแปลงเกษตรในตอนเที่ยงวัน พี่ธนาวนมาดู ตรงกลุ่มแปลงเกษตรมีหลายคนเป็นน้องใหม่ รวมถึงปอด้วย พี่ธนาก็อธิบาย
ให้ทำงานให้เหงื่อออก เพื่อขับเซลล์ดำออก และรับพลังงงานปราณ / มโนธาตุ จากบ้านสวนให้เต็มทีเพราะเหนื่อยเราก็จะสูดอากาศหรือ
ออกซิเจนเข้าไป เพื่อเปลี่ยนเอาพลังงานดีเข้าไปแทนทีของไม่ดี เลยจกจอบกันใหญ่เลย 555 ขอบคุณคร๊าบ


รายงานกลุ่มตอนบ่ายวันอาทิตย์ คนโง่อย่างปอ เพ้อเจ้อ อีกอาจารย์ท่านถามว่าเป็นไงดีขึ้นหรือยังหลัง ดีขึ้น แต่ทำไม๊ ทำไม ไม่บอกอาจารย์
ว่าขอให้หายเน๊าะ ดันบอกว่าจะชดใช้เจ้ากรรมนายเวรต่อไป โสน้าน่า แหล่ะล่ะ


ขอบคุณพี่แมวนะคะ ที่เป็นธุระในการลงธรรมทานให้ สาธุ
กราบ ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ อ.อุบล และครอบครัว ที่เมตตาครอบครัวเราค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 09:09:36


ความคิดเห็นที่ 124 (1638813)

ธรมทานวันเสาร์

วันนี้ไปถึงบ้านสวนฯ ตอน 8.05 น.ทันแบ่งกลุ่มพอดี

ผมได้ประจำอยู่ฐานก่อสร้าง ร่วมกับพี่อมร คุณก็อต

พี่ตาโต๊ะ ปล่อยให้ลูกทีมไปผจญภัยด้วยตัวเอง

ตามสไตร์ผม จนโดนลูกทีมแซวบ่อยๆ

ฐานก่อสร้างวันนี้ก็เทปูนฐานวิหาร 3 ชั้น

ทุกคนก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่  ประทับใจป้าคนหนึ่ง

ชื่อ คุณป้าชลอ ที่คุณชิมพามาจากนครสวรรค์

ดูแกเงียบๆ อายุก็ 70 กว่าแล้ว

เห็นแกตักทรายอยู่คนเดียว ไม่พูดไม่จา ไม่สนใจว่าจะมีคนมา

ช่วยหรือเปล่า  ก้มหน้าก้มตาตักทรายจนหมดชั่วโมง

   ดูจากสภาพร่างกายไม่น่าจะทำได้ขนาดนี้ใจแกสู้จริง ๆ

เวลาใกล้ 5 โมงเย็นต่างคนหมดแรงตามๆกัน

ตอนกลางคืนก่อนที่รายงานการทำworkshop 

คุณธนาก็ได้ให้แต่ละกลุ่ม จุดไฟโดยใช้ไฟแช็ค

กลุ่มผมก็ได้เอาไม้ไผ่แห้งมาถูกัน

3 คนสลับกันถู จนเหงื่อพลั๊ก แต่มีแค่ควันลอยขึ้นมา

แต่ไม่เห็นสะเก็ดไฟสักที ถูกันหมดแรงไฟก็ยังไม่ติด

ต้องยอมแพ้ จุดไฟไม่สำเร็จ

แต่ก็มีกลุ่มของน้องณัท ที่จุดติดอยู่กลุ่มเดียว

ต้องยอมรับว่าน้องเขามีปัญญา ใช้แท่งแม็กนีเซียม

ถูกันแค่ครั้งสองครั้งก็จุดไฟติดแล้ว ไฮเทคมากๆ

กลุ่มผมมีสมาชิก 8 คน

ขอยกตัวอย่าง กรณีของคุณเก่ง ปิยะวัฒน์

ที่มีอาการปวดเข่า หลังทำกิจกรรม ดีขึ้น 80 %

พี่ตัวเล็ก ปวดหลังอาการดีขึ้นหลังจากที่ออกแรงเลื้อยไม้

ดร.จิ๋ม ปวดหลังอาการดีขึ้น

ส่วนคนที่มีปํญหาการเงิน ก็จะรายงานผลให้ทราบตอนต่อไป

................................. 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 09:29:56


ความคิดเห็นที่ 125 (1638830)

ธรรมทานวันอาทิตย์

วันนี้ผมได้ประจำอยู่ฐาน ซ่อมเครื่องมือ ซ่อมรั้ว

ทำงานคู่กับคุณป้อม งานผมก็มีแค่ซ่อมจอบ คราด

อุปกรณ์ ต่างที่มันใช้ไม่ได้ แต่ว่าปํญหาที่เจอคือ

ปลั๊กพ่วง สายไฟ หยิบมา 2 เส้นใช้ไม่ได้เลย

กว่าจะซ่อมเสร็จลงมือทำงานก็เกือบๆชั่วโมง

จอบส่วนมากจะไม่คม ลิ่มหลุด ต้องอาศัยผู้อาวุโส

อย่างคุณ มงคล พ่อน้องปอ  เป็นคนซ่อม และคอยแนะนำ

เพราะมีประสบการณ์โดยตรง เช่นเรื่องจอบงอ ต้องดัด

จะใช้ค้อนทุบไม่ได้  เพราะเหล็กที่ใช้ทำจอบมีสปริงในตัว

เวลาใช้ค้อนทุบก็จะกระเด้ง ขอบคุณนะครับที่แนะนำ

ที่เก็บอุปรณ์ต่างๆก็ได้แบ่งล็อกเป็นหมวดหมุ่

จะได้ไม่วางปะปนกัน

บ่าย 2 ก็มาสรุปผลกัน วันนี้ กลุ่มผมมี 6 คน

1. พี่ตุ๊ก บุญภิบาล ฮาครับฮา ฟังวีรกรรมของแก 

แล้วต้องบอกว่า อึ้ง ทึ่ง เสียว ให้เจ้าตัวมาเหลาดีกว่า

รับรองว่า โหด มันส์ ฮา  พี่ตุ๊กมีอาการคัน

หลังจากจบกิจกรรม อาการดีขึ้น 50 %

แต่ตอนผมออกไปรายงาน อาการคันยิ่งมากกว่าเดิม

คัน และมี ผื่นขึ้นมองเห็นอย่างชัดเจน

สาเหตุมาจากอะไร รอเจ้าตัวมาเหลาดีกว่า

ไม่กล้าเหลา  เสียวแทน

2. คุณพ่อน้องปอ มีอาการปวดหลัง ปวดขา หาย 100 %

3.คุณเก่ง ปิยะวัฒน์ จากปากช่องมา 

ปวดเข่า ดีขึ้น 80 % สายตาสั้นไม่ดีขึ้น

4. คุณ นัน อิศวร จิตแว๊บ มีปัญหาการเงิน

ต้องติดตามผลตอนต่อไป

5. ป้าชลอ จากนครสวรรค์ ปวดหลัง มีน้ำตาไหล

ดีขึ้น 80 %

6. ตัวผม มีอาการเพลีย  พอทำงานก็ไม่รู้หายตอนไหน

ทำงานได้เป็นปกติ

สุดท้ายคุณธนา ก็ได้ประเมินหัวหน้าแต่ละกลุ่ม

ดีมากเลยครับ ผมก็ยังขาดปํญญา

ยังขาดภาวะการเป็นผู้นำที่ดี

ก็จะนำคอมเมนต์ต่างๆไปปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น

หรือคนอื่นมีอะไรแนะนำก็ไม่ต้องเกรงใจนะครับ

เช่นเรื่องหน้าตา

ต้องปรับปรุงอีกเยอะไหมครับอ้าย..อิอิ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 10:38:49


ความคิดเห็นที่ 126 (1638832)

    ชาวเกาะอย่างเราก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ

เพราะตามอ่านธรรมทานไม่ทัน

นั่งอ่านไม่ได้  ต้องวิ่งอ่านค่ะ 

ขอพักเหนื่อย  ทานน้ำแป๊บบบบ  นะคะ

    กลับมาแล้วค่ะ  ขอบคุณกับธรรมทานจากทุกท่าน

สิ่งที่ท่านได้เล่ามา  สามารถนำมาปรับใช้

ในชีวิตประจำวันได้ทั้งหมดเลย

เช่น  สอนให้เรารู้จักคิดวางแผนก่อนทำงาน

ขณะทำก็ต้องสังเกตุด้วยว่า มีข้อผิดพลาดตรงไหนบ้าง

สอนให้เรารู้จักประหยัด  นำของเก่ามาใช้ให้เป็นประโยชน์

ไม่นิ่งดูดาย  และทุกครั้ง  ก่อนเก็บอุปกรณ์

ต้องล้างทำความสะอาดก่อนเก็บข้าวของเข้าที่

       จะนำสิ่งเหล่านี้  มาปฏิวัติตัวเองค่ะ

 

คุณธนาเองยังชอบแซวผมประจำ

ว่าคุกเข่าทำงานอยู่รึเปล่า

ล้างจานในโรงครัวถึงไม๊

คลานขึ้นรถพี่สมจิตบ้างล่ะ

ไว้ผมจะไปถามเคล็ดลับ

จากคุณธนาที่สูงชะลูดมาก

แถมยังหน้าตาดีอีกด้วย

ว่ามีเคล็ดลับอย่างไร

ถึงได้สูงโปร่งอย่างนี้ จะได้ไปทำบ้างนะครับ

    คุณโฆษิตค่ะ  ถ้าได้เคล็ดลับ

จากคุณธนาแล้ว  อย่าลืมนำมาเผยแพร่

ด้วยนะคะ  อยากสูงโปร่งเหมือนพ่อใหญ่

เช่นกันค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 11:06:34


ความคิดเห็นที่ 127 (1638833)

ภาพรวมที่เห็น

จากการสอบซ่อมสัปดาห์นี้

คือ

เกือบทุกคน

เอ หรือว่า จะทุกคน ก็ไม่ทราบนะ

มีหน้าตา ผิวพรรณ วรรณะ

ที่ผุดผ่อง งดงาม ผุดผาด จนประหลาดใจ

มองไปทางไหน เห็นแต่คนสวยขึ้น

สาวขึ้น สาวขึ้น หนุ่มขึ้น

ผ่องใสขึ้น

ผิวเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

 

ทั้งที่พวกเรา

ก็เจอแดดกันจังๆ

 

ตามหลักวิชาการ

มันต้องดำ ต้องเป็นฝ้า เป็นกระ

แต่นี่ดันสวนทางกับหลักวิชาการ

หน้าตากลับขาวนวลเนียน

ผ่องใส

 

นี่ยังไม่รวม

อาการเจ็บป่วยที่หาย 100 %

ที่ดีขึ้นกันมากมาย

จนกลายเป็น

ชิน

กันเสียแล้ว

ซึ่งปกติถ้ารักษาทางโลก

กินยา ผ่าตัดแล้ว ดีขึ้นหน่อยหนึ่ง

ถือว่า ดี มากแล้ว

 

แต่นี่

วันเดียว ชั่วโมงเดียว

บางคนไม่ถึงนาที นับเป็นวินาที

ดีขึ้นมากมาย หายทั้งหมด

 

ถ้าหาย 50 ถือว่าน้อย

ถ้าหาย 100 ถือว่าปกติธรรมดา

 

นี่แสดงว่า

เราเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์

แล้วจริงๆ เพราะยุคของพระองค์

จะมีแต่คนสวย หล่อ

สุขภาพพี ไม่มีคนเจ็บ ไม่มีคนจน

จะมีแต่คนจิตใจสูง มีเมตตา

 

ถ้าใครคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี

พลังงานลบในตัวเอง

จะทำลายตัวเอง

ไปเอง

 

สาธุ

 

การชุบตัว

ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า

เสียแล้ว แต่เริ่มส่อเค้าว่า

บุญแรงกาย

บ้านสวนพีระมิด

จะเป็น

แผนการชุบตัว

ให้แต่ละคน เป็นหนุ่ม สาว

แข็งแรง ราวคนอายุ 20 กันจริง

เสียแล้ว

 

ให้ทุกคน

ส่องกระจก ถ่ายรูปตัวเองไว้

ก่อนไปร่วมกิจกรรม

ชุบกาย

ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้

กันด้วยนะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 11:14:01


ความคิดเห็นที่ 128 (1638839)

 ภาพรวมที่เห็น

จากการสอบซ่อมสัปดาห์นี้

คือ

เกือบทุกคน

เอ หรือว่า จะทุกคน ก็ไม่ทราบนะ

มีหน้าตา ผิวพรรณ วรรณะ

ที่ผุดผ่อง งดงาม ผุดผาด จนประหลาดใจ

มองไปทางไหน เห็นแต่คนสวยขึ้น

สาวขึ้น สาวขึ้น หนุ่มขึ้น

ผ่องใสขึ้น

*********

จริงๆค่ะ อาจารย์ มองหน้าตัวเองทีไร

ในกระจกก็ดูเมือนมัน ผ่องใส ขึ้นเลยค่ะ

 ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่า?

  แต่พอมาเห็นท่านอาจารย์ เขียนแบบนี้แล้ว

ค่อยมั่นใจขึ้นมาจริงๆ  เสียแล้วซิ!    

ด้วยสายตายาวที่มองเห็นชัดขึ้น50%ค่ะ!

 กราบ   กราบ  กราบ

*********

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 12:01:39


ความคิดเห็นที่ 129 (1638849)

 กิจกรรมเสาร์- อาทิตย์(3-4พย.55)

                      เป็นกิจกรรมสอบซ่อมของลูกบ้านสวนฯ          

           โดยที่กิจกรรมของเรา  ได้เิ่ริ่มรวมกลุ่มกันตั้งแต่ 8.00น.ญาติธรรม          

ก็ได้รวมกลุ่ม  ทะยอยมาสร้างบุญกันเรื่อยๆในระหว่างนั้นพวกที่มากันตั้งแต่      

 เย็นวันศุกร์แล้ว  หลังจากที่ได้ไปร่วมกิจกรรม   ยามเช้ากันแล้ว  ที่แปลง  

 เกษตรก็ทะยอยกันมารับประทานอาหารเช้ากันไป โดยที่มีคุณธนา สุดหล่อ!  

ให้คำแนะนำพร้อมแจกใบงานให้เขียน ชื่อ เพื่อเข้าร่วมทำกิจกรรม  workshop

 กัน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา  9.00น. แต่ละกลุ่มจะมีสมาชิกประมาณ 6คน  มีฐาน

แต่ละฐานที่ต้องเปลี่ยนทุก1ชม.  ซึ่งทุกคนเข้าใจดีและพร้อมที่   จะเข้าร่วม

กิจกรรมกัน โดยที่ตัวเองมีปัญหาที่ต้องการบำบัดคือ สายตายาว มีน้ำหนักเกิน

และงานกลุ่มที่ได้รับมอบหมายงานแรกคือ งานก่อสร้างโดยมีคุณ  อมร  เป็น

หัวหน้าทีม  จึงได้มาช่วยเป็นสายพานส่งปูน และตักทราย  ต่อมาก็ได้ทำความ

สะอาดด้านหลังบ้านอ.อุบลฯบริเวณโรงห็ดเก่า จัดเก็บกระถางต้นไม้  รื้อต้นไม้

และปลูกซ่อมเสริมต้นไม้บางต้นที่อาการไม่ค่อยดี  ให้มีสภาพดีขึ้นกว่าเดิม    

เช่น  ต้นมะพร้าวและต้นไม้บางต้น ก็ใส่กระถางและเติมดินใว้เพื่อ รอปลูกใน  

เวลาที่เหมาะสมต่อไป  ต่อจากนั้นก็ไปช่วยเก็บทำความสะอาดบริเวณรั้วหลัง

วิหารกัน.   หลังจากที่พวกเรารับประทานอาหาร กลางวันกันแล้ว  ก็ไปต่อกัน    

ที่แปลงเกษตร  ได้รับมอบหมายให้ตัดกิ่งต้นพริก  ที่ตายแล้วให้เป็นกิ่ง เล็กๆ  

เป็นท่อนๆ  ยาว  ประมาณ  3  นิ้ว ใส่ในแปลงมะเขือยาว (ในแปลงที่ตัดแต่ง      

กื่งแล้ว)วางให้ทั่วแปลง  เพื่อเป็นเศษวัสดุใช้ในการคลุมดิน  ซึ่งนานไปกิ่ง

ไม้พวกนี้ก็จะผุและ กลายเป็น  ปุ๋ยต่อไป  ต่อจากนั้นก็กลับไปที่งานก่อสร้าง

อีกและฐานสุดท้าย  ในวันนนี้ก็คือ   ทำความสะอาดบริเวณด้านข้างที่มีต้น

แก้วมังกรอยู่ช่วยกันตัดแต่งหญ้าบริเวณดังกล่าวให้ดูเรียบและสวยงาม ก็จบ

กิจกรรมในวันนี้   ซึ่งจากการ สังเกตุพบว่า  ทุกคนมีความสุขในการเข้าร่วมกิจกรรม  เห็นผลงานแล้วพอใจ ในสิ่งที่ทำกัน  หายจากอาการเจ็บป่วย  

เช่น  คุณวรภพรัชต์  (ปวดขา)  สมาชิกในกลุ่ม  หาย  100%  1คน  ภายใน        

เวลา  3 ชม.และ คุณอิศวร  ปวดหลัง  ดีขึ้นไป 30% ส่วน คนอื่นๆต้องรอ    

ติดตามผล   จะเห็นว่า  นี่ก็เป็นเพราะด้วยบารมีพระศรีอาริย์ฯที่ท่านอ.อุบลฯ

อัญเชิญมาและรหัส  อ.อุบลฯช่วยด้วย  ที่พวกเรา ได้พูดและท่องกันตลอด  

เวลาที่สร้างบุญกัน/  (มีตอนต่อไปค่ะ.........)

                                       สาธุ   สาธุ  สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 13:10:11


ความคิดเห็นที่ 130 (1638851)

เกือบทุกคน

เอ หรือว่า จะทุกคน ก็ไม่ทราบนะ

มีหน้าตา ผิวพรรณ วรรณะ

ที่ผุดผ่อง งดงาม ผุดผาด จนประหลาดใจ

มองไปทางไหน เห็นแต่คนสวยขึ้น

สาวขึ้น สาวขึ้น หนุ่มขึ้น

ผ่องใสขึ้น

*********

จริงๆค่ะ  เห็นหลายคน สิว-ฝ้า  กระ จุดด่างดํา

ดูจางลง ขาวขึ้น ใสเด้ง กันจนเห็นได้ชัด เป็นแถวเลยยคร้าา

อร อยู่ในครัวก็ได้รับอานิสงค์

ด้วยเหมือนกัลค่ะ พอกลับมาถึงบ้าน ส่องกระจก เอ!!

รู้สึกว่า หน้าขาว ใสขึ้น มีสิวที่อักเสบอยู่ ก็แห้งลง ฝ้าก็จางลงด้วยค่ะ

กราบขอบพระคุณ พระศรีอาริย์ ที่เมตตาลูกหลาน ให้ได้สัมผัสสิ่งมหัศจรรย์และ ปาฎิหารย์ใน ทุกๆเรื่อง

พระองค์ทรงแสดง ให้ลูกหลานได้รู้ว่าบุญความดี ที่บริสุทธิ์ครบตามที่ท่าน อาจารย์ เคยบอกและสอน พวกเรามานั้น

มีอานุภาพ มากมาย ชุบกาย  ก็ได้ด้วย

 สู๊ดดดยอดดจริงๆๆ

สาธุ

กราบ กราบ กราบ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 13:15:43


ความคิดเห็นที่ 131 (1638861)

 นี่แสดงว่า

เราเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์

แล้วจริงๆ เพราะยุคของพระองค์

จะมีแต่คนสวย หล่อ

สุขภาพพี ไม่มีคนเจ็บ ไม่มีคนจน

จะมีแต่คนจิตใจสูง มีเมตตา

 

กราบอนุโมทนาค่ะ

สัปดาห์ที่ผ่านมา ขนาดยังไม่ชุบกาย

ก็สวย หล่อ ใส ปิ๊ง กันทู๊กคน

จะเขียนปัญหาขอความเมตตา

จากพระศรีอาริย์ ก็ต้องนั่งนึกเสียนานว่า

เอ๊..เรายังมีปัญหาไรอยู่บ้างน้า

เดี๋ยวนี้ลูกบ้านสวน เป็นเด็ก ไม่มีปัญหาแว้ว

สัปดาห์นี้ ชุบกาย

ว้าว ๆ เทือบอดใจรอแทบไม่ไหวจริง ๆ

ถ้าใครคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี

พลังงานลบในตัวเอง

จะทำลายตัวเอง

ไปเอง

 

ถูกต้องที่สุดเลยค่ะ

เมื่อวานมีเรื่องชวนให้หงุดหงิดหัวใจ

คิดฟุ้งซ่าน ทั้งเรื่องที่ทำงาน และ เรื่องส่วนตัว

จนทำให้ มีอาการเวียนหัวอย่างมาก

ที่แท้ ก็เพราะตัวเรานี่เองที่ทำร้ายตัวเอง

คิดไม่ดี จนทำให้ตัวเองต้องป่วย

กราบขอบพระคุณ ท่าน อ.อุบล ที่เมตตาชี้แนะค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 14:04:43


ความคิดเห็นที่ 132 (1638873)
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 14:44:09


ความคิดเห็นที่ 133 (1638877)

ต้องบอกก่อนนะครับว่าตอนนี้ผมไม่ธรรมดาแล้วนะครับ ผมมีตำแหน่งนะครับ ท่านอาจารย์ได้แต่งตั้งให้ผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงขาดปัญญาแห่งบ้านสวนเรียบร้อยแล้วครับ 

++++++++++++++

 ท่านรัฐมนตรีก๊อต แห่งกระทรวงขาดปัญญา

พี่ขอสมัคร ตำแหน่งเลขา ฯ นะจ๊ะ 

เพราะมีปัญญาน้อย ไม่ด้อยไปกว่าท่านรัฐมนตรีแน่นอน

 สัปดาห์นี้ ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม

ดูแลจัดด้านหน้าทางเข้าบ้านสวน ฯ ทั้งซ้ายและขวา

ตกแต่ง ตัดหญ้า เก็บกวาดใบไม้ 

จากนั้นก็ทำหน้าบ้านท่านอาจารย์ ก็ตัดหญ้า

ตกแต่งและ รดน้ำต้นไม้ กวาดใบไม้ เช่นกัน

บริเวณห้องห้องเก่า

ก็ตกแต่ง ปลูก ต้นไม้เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย

ตัดหญ้าบริเวณด้านหลังน้องน้ำออก และ

ลอกท่อน้ำข้างบ้าน ท่านอาจารย์ 

และด้านหลังวิหาร ก็จัดแต่งต้นไม้ โดยต้องนำต้นแก้วมังกรออก

เพื่อปลูกใหม่และทำเสา (แต่เวลาไม่พอ)

ซึ่่งโดยภาพรวมทุกๆท่าน   มีความมุ่งมั่นตั้งใจ กันแทบทุกคน

จะมีบางท่านเท่านั้น ที่ยังไม่เต็มที่กับงาน กลัวเดือด กลัวดำ อยู่

อาทิตย์นี้ต้องขอชื่นชม คุณป้าชะลอ  เจ้าของร้านขายผัดไทย

คนป้าต้องยืนขายผัดไทยตั้งแต่เย็นจนถึง เที่ยงคืน

ข้อเท้าทั้ง 2 จะ ปวดและบวม แต่หลังจากทำ work shop

ตกแต่งด้านหลังวิหาร ฯ เสร็จ อาการบวมที่ข้อเท้า

ลดลงอย่างเห็นได้ชัดดีขึ้น 40% ส่วนอาการปวดนั้นหายไป เลย 

คุณกรรณิการ์ (ติ๋ม) น้องใหม่เพิ่งมาครั้้งแรก

มีอาการเหนื่อยง่าย และ ปวดขา ตกแต่งทางเข้าด้านขวา ไม่ถึงครึ่ง ชั่วโมง 

อาการเหนื่อยง่ายดีขึ้น 50% รู้สึกตัวโล่งเบาสบาย

คุณจอยที่เป็นโรคไตวายระยะสุดท้าย แต่ทำงานทุกอย่างเหมือนคนปกติ

และอาทิตย์นี้ก็ดีขึ้นแรงขึ้นกว่าครั้งก่อน หน้าตาดูมีเลือดฝาดขึ้นด้วย

ดีใจกับคุณจอยด้วยนะคะ ส่วนอานิสงที่เห็นชัดเจน

คืออาทิตย์นี้ ทุก ๆ คน หน้าใสวิ้ง อย่างเห็นได้ชัด


ซึ่งจากการประเมินตัวเอง (และจากพี่ธนาด้วย) ก็ยังไม่ผ่านค่ะ

ยังไม่สามารถเป็นผู้นำที่ดีได้เนื่องจาก

เพราะยังไม่สามารถแบ่งงาน และ กระจายงาน

และที่สำคัญชอบทำงานแทนลูกทีม

ขอขอบคุณท่าน อ.อุบลและพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่าน

ที่ได้มอบโอกาสฝึกภาวะความเป็นผู้นำกับอัญ

และจะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ในโอกาสต่อ ๆ ไปค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 15:05:33


ความคิดเห็นที่ 134 (1638880)

ปั้นมือเพื่อบำบัดมือ

เสาร์-อาทิตย์ที่ ๓-๔ พ.ย. ๕๕ 

จากการสังเกตุตอนนี้การแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อหมุนเวียนกันทำงาน

ในแต่ละฐานกำลังคึกคัก

ได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจมากกว่าอาทิตย์ที่แล้ว

ทุกคนมีความตั้งใจรับผิดชอบหน้าที่และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

เพราะเข้าใจดีแล้วว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนท่านมีวัตถุประสงค์อย่างไร

ท่านต้องการให้ลูกหลานทุกคนได้ปลดล๊อคกรรม

ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ยิ่งมีความศรัทธาเต็มร้อย

โอกาสที่จะปลดล๊อคกรรมให้หมดก็มีมากขึ้นด้วย

ซึ่งจากการสังเกตุการณ์หลายกลุ่มทำได้ดีมาก

โดยเฉพาะกลุ่มที่มีผู้นำอย่างคุณเหมี่ยวและคุณอ้อย

มีแต่คนอยากจะเข้ากลุ่มด้วย

ได้ผู้นำที่เข้มแข็งลูกทีมก็ได้รับความสำเร็จตามไปด้วยครับ

โดยรวมแล้วทำได้ดีและมีประสิทธิภาพทุกกลุ่ม

ต่อไปนี้ไม่ต้องเป็นห่วงลูกบ้านสวนแล้วครับ

ทำเป็นหมดทุกอย่างสากกระเบือยันเรือรบ

แต่ที่ยังไม่สำเร็จตอนนี้คือการจุดไฟด้วยวัสดุรอบๆตัวโดยไม่ใช้ตัวช่วย

แต่ละกลุ่มฝนไม้ไผ่กันจนร้อนจี่  มีแต่กลิ่นความร้อนไฟยังไม่ติดครับ

เล่นเอาแต่ละคนเหงื่อท่วมตัวหลังจากที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ

ใจร้ายจริงๆนะพ่อใหญ่ธนา

ส่วนผมไม่มีกลุ่มเป็นอิสระต้องแจมๆกับกลุ่มงานครัวของคุณแมว

จริงๆแล้วผมอยากจะไปจอยตามกลุ่มและฐานต่างๆ ด้วย  

เพราะยังมีกรรมอีกแยะเยอะที่ยังไม่ได้ปลดล๊อค

แต่ผมมีภาระกิจค้างอยู่ที่จะต้องปั้นมือ

ท่านท้าวเวสสุวรรณและท้าวมเหสักข์

ที่บริเวณทางเข้าด้านหน้าบ้านสวนพีระมิด 

เพื่อให้ออกมาสวยงามในสไตล์บ้านสวนฯ

ผมจึงต้องขออนุญาตท่านอาจารย์อุบล

ปรับเปลี่ยนมือและท่าทางของท่านทั้งสองจักหน่อย

โดยท่านท้าวเวสสุวรรณอยู่ในเครื่องทรงเทวดา

ในมือขวาถือกระบอง  มือซ้ายถือจักร 

ส่วนท่านท้าวมเหสักข์ให้ท่านถือบัญชีสำหรับจดรายชื่อผู้ที่ทำความดี

เหตุที่ผมต้องมาปั้นมือและแขนของท่านทั้งสอง

ก็เพราะผมเคยใช้มือทั้งสองข้างทำสิ่งที่ไม่ดีมา

เช่นขโมยเงินพ่อแม่ญาติพี่น้องในสมัยเด็กๆ

หยิบของผู้อื่นโดยเค้าไม่อนุญาต

เอาวัสดุอุปกรณ์คุรุภัณฑ์ของหลวงของราชการมาใชเป็นของตัวเอง

ติดหนี้แผ่นดินใช้กันไม่หมดเลยครับ

ในขณะที่ปั้นมือก็จะมีอาการปวดมือตลอดเวลา

จนถึงขั้นเกร็งไปทั้งมือก็เคยเป็นครับ

แต่พอเสร็จงานอาทิตย์นี้อาการปวดมือหายร้อยเปอร์เซ็นต์

ถือว่าเหตุเกิดที่มือผมก็ต้องใช้มือนี่แหละครับแก้ปัญหา

งานยังไม่เสร็จแต่ท่านคงจะให้เครดิตให้หายปวดก่อน

จะได้มีกำลังใจในการสร้างสรรค์งานต่อไป

นอกจากนี้ต้องยืนทำงานกลางแดดที่ร้อนจัด

มันช่างขัดแย้งกับงานที่ทำอย่างมากคืองานที่ทำต้องใช้ฝีมือและสมาธิ

รีบร้อนไม่ได้แต่ความร้อนก็จี้หน้าจี้หลังตลอดเวลา

ฝึกความอดทนครับทำกรรมเอาไว้เยอะเวลาจะใช้คืน

ก็ต้องมีแถมโปรโมชั่นความลำบากมากหน่อยจะได้ปลดล๊อคกรรมได้

ถ้าเทียบกับความผิดที่เคยล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพุทธปทีปนาน ๑ ปี

เท้าผมบวมอยู่ ๒๕ ปี  และต้องทำงานสร้างสมเด็จองค์ปฐม

เพื่อปลดล๊อคกรรมถึง๖-๗ เดือน

เท้าจึงยุบได้เมื่อตอนเดือนตุลาที่ผ่านมานี่เอง

กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอครับหลีกหนีไม่ได้

ผมรู้สึกซาบซึ้งและดีใจครับที่ได้รับโอกาสให้ปลดล๊อคกรรมในชาตินี้

และได้เห็นเท้าตัวเองแฟบลงอีกครั้งในรอบยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา

เป็นความเมตตากรุณาจากท่านอาจารย์อุบล

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ครับ

กราบขอบพระคุณต่อทุกท่านครับที่ได้ให้โอกาสที่ดีแก่ผมในครั้งนี้

สาธุ สาธุ สาธุ  

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 15:13:03


ความคิดเห็นที่ 135 (1638881)

ขอกราบแสดงความเสียใจ

กับท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

ที่ต้องสูญเสีย คุณตาสำเภา

อันเป็นที่เคารพรักยิ่ง

คุณตาไปกลับบ้านนิพพานแล้ว

ขอบุญทั้งหมดที่ได้ทำมาอุทิศให้คุณตาค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 15:14:16


ความคิดเห็นที่ 136 (1638889)

ผมและครอบครัวภิรมย์รักษ์

ขอแสดงความเสียใจกับอาจารย์อุบลและครอบครัวด้วยครับ

กับการจากไป

ของ

คุณตาสำเภา

ขออุทิศบุญให้แก่คุณตาสำเภา

จงไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นๆ  ไปด้วยเถิด

หลับให้สบายนะครับ

ตุณตาสำเภา

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 15:27:16


ความคิดเห็นที่ 137 (1638901)

อนุโมทนาสาธุกับธรรมทานของพี่ๆบ้านสวนพีระมิดทุกท่านนะครับ  ที่ตั้งใจทำกิจกรรมต่างๆ  จนประสบผลสำเร็จได้ด้วยดี  เพราะเชื่อฟังผู้นำ  และทำตามอย่างไม่สงสัยจึงทำให้ผลออกมาดีเช่นนี้ครับ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 16:10:15


ความคิดเห็นที่ 138 (1638924)

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 3 พ.ย.55

      ครั้งนี้คุณธนานัดแต่เช้า รวมพล 8 โมงเช้า แต่พวกเราส่วนใหญ่ก็ไปกันทัน ตอนนี้พวกเราต้องทำตามผู้นำกันให้ได้ เพราะที่ผ่านมาไม่เชื่อผู้นำ ก็เลยปลดล็อคกรรมไม่สำเร็จเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว และไม่อยากให้ท่านอาจาร์ย์ต้องหนักใจกับพวกควายโง่ ๆ อย่างเรา ซึ่งโง่อย่างเดียวก็จะผ่าน แต่นี้โง่แต่อวดฉลาด ก็เลยต้องมาสอบซ่อมกันอาทิตย์นี้อีก

     วันเสาร์นี้ทำงานแต่ละฐานประมาณ ฐานละ 1 ช.ม. และก็เวียนมาเรื่อย ๆ ไม่จำเจ ไม่เหนื่อยมาก แต่ได้ครบทุกหลักสูตร และพวกเราก็ทำงานกันอย่างเต็มที่จริงๆ

     วันนี้ท่านอาจารย์ให้เราลองจุดไฟ โดยไม่ใช้ไม้ขีด ทุกกลุ่มพยายามกันอย่างเต็มที่ บอกว่าเหนื่อยกว่าทำงานwork shop อีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ท่านอ.อุบลบอกว่าให้ใช้กสิณไฟช่วย แต่พวกเราก็ทำไม่ได้ ถือว่ายังไม่ผ่านค่ะ

    เกิดเหตุการณ์จริงก็คงจะอดข้าวตาย แต่ถ้าถึงวันนั้นจริง ๆ แหม่มก็คิดว่าจะลองกินหญ้าแบบวัว แบบควาย ก็ดีนะคะ วัว ควาย กินมาทั้งชีวิตก็ยังไม่ตาย แถมร่างกายก็ยังแข็งแรงอีกด้วย จะมีใครกินเป็นเพื่อนแหม่มบ้างมั้ยคะ

    ผลการสรุปการทำwork shop ที่ผ่านมา แหม่มขอรายงานในส่วนของแหม่มนะคะ เห็นเพื่อนรายงานกันหมดแล้ว (วันอาทิตย์ไม่อยู่ ไปรับต้นกล้า) ก็เลยไม่ได้ร่วมกิจกรรม กลัวว่าจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องเหมือนกันนะน้องก้อย

   แหม่มจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเงิน ก็จะได้ไปอยู่ในฐานก่อสร้างวิหาร และจะได้ทำตรงนี้มากเป็นพิเศษที่ผ่านมา

    ปรากฎว่าปีนี้แหม่มได้เลื่อนเงินเดือน 2 ขั้น ซึ่งจริง ๆ ไม่มีชื่อนะคะ เพราะรู้มาก่อนแล้วว่าปีนี้เป็นคิวของใคร และหัวหน้าให้เสนอชื่อแค่คนเดียว ซึ่งไม่ใช่แหม่ม ตอนใบรับเงินเดือนออกมา โอ้...อะไรที่เราไม่คาดคิดมันก็เป็นไปได้จริง ๆ บุญที่ท่านอ.อุบลบอกให้ผลจริงอย่างเหลือเชื่อค่ะ

    และน้องชายก็มาบอกว่าให้ไปทำงานพิเศษที่คลินิค เป็นผู้ช่วยหมอ แต่ว่าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ แหม่มก็เลยยังไม่ได้รับปาก เพราะตอนนี้อยากจะเร่งสร้างบุญก่อนค่ะ

   ขอบอกว่าการทำwork shop แบบนี้ มันwork  สุด ๆ เลยค่ะ ทุกคนต่างได้อานิสงส์กันถ้วนหน้า ตอนนี้ท่านอ.สั่งอะไรมา ต้องบอกว่า หนูทำได้ค่ะ หนูจะทำตามทุกอย่างค่ะ

  

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 17:02:02


ความคิดเห็นที่ 139 (1638938)

อาทิตย์นี้้(4พย.55)

   กลุ่มเราก็มี คุณ สิงห์ป้อม เป็นหัวหน้าทีม อาการที่ต้องการบำบัดคือ

สายตายาว มีน้ำหนักส่วนเกิน ในกลุ่มมี 5 คน น้องปอ ป้าเตือน คุณครูปุ๊ เอิ้น

และอ.นี หลังจากที่่ทุกคนได้รับมอบหมายงาน เพื่อไปตามฐานต่างๆแล้ว ซึ่งฐาน

แรกที่ได้รับมอบหมายคือ นำตาข่ายมาผูกติดกับไม้ไผ่ ทำเป็นรั้วและยึดติดโดย

ใช้ลวดมัดให้แน่นและเรียบเพื่อความสวยงาม หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่ฐานก่อสร้าง

ไปที่กองทรายตักทราย จนได้เวลา 1ชม.ก็เปลี่ยนฐานไปแปลงเกษตร ซึงเป็น

ฐานแห่งปัญญาและการเงิน ได้รับมอบหมายให้ไห้ไปขุดแปลงดินคู่กับน้อง ตุลย์

ซึ่งได้ขุดอยู่ก่อนแล้ว ด้วยความคล่องแคล่ว ถูกต้องและสอนเราได้ด้วย..สุดยอด

เร้ยๆๆ! ก็ได้ขุดคู่ไปกับน้องเขาได้ประมาณ 1เมตรยังไม่หมดแปลงเลย คุณมงคล

ก็มาช่วยต่อให้แหม!...เกือบไม่รอด ก็เลยได้เปลี่ยนงานใหม่ เก็บดอกแห้งเมล็ด

ดอกชมจันทร์ เพื่อใว้เตรียมเพาะต่อไปจนหมดเวลา 1 ชม.จากฐานนี้ ก็ได้เวลา

รับประทานอาหารกลางวัน  เดินมาตามทางก็พบว่าท่านอ.อุบลฯกำลังทักทายอยู่  

กับกลุ่มที่เดินมาหน้าก่อนเราแล้ว และตอนนี้ก็มาถึงเราพอดี........

     ท่านอ.อุบลฯทักว่า...... เป็นยังไงบ้างคนนี้ ดื้อตาใสเชียว บอกอะไร                

ก็ยิ้้มอย่างเดียว ไม่อยากหลุดกรรมหรือไง?     โถ...!อาจารย์ขา....ใครว่า.....

ไม่อยากหลุด   หยากหลุดมากเลยค่ะแต่เพราะลูก  ยังโง่และปัญญาน้อยค่ะ......

จึงทำให้แปลคำสั่งอาจารย์ผิดไป    

       ลูกต้องกราบ   ขอประทานอภัย ด้วยและขอแก้ตัวใหม่ในคราวหน้าจะ

พยายามปฎิบัติตามคำสั่งให้ดี  ที่สุดและรอบคอบมากว่านี้ค่ะ/ ........

        หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว   พวกเราก็รีบปฎิบัติงาน          

กันต่ออีก 1 ชม.       ที่บริเวณด้านหลังเรือนไม้ไผ่     ทำความสะอาด

 

 

เก็บเศษเหล็ก และเศษไม้แยก  ที่ผุก็นำไปเผาพร้อมกับเศษ วัสดุอื่นๆและทำความ

 

 

สะอาดทั้งหมดจนโล่งสะอาดตาได้ประมาณ 70%   ก็หมดเวลาพอดี แล้วทุกคนก็      

 

 

เตรียมตัวเข้าห้องประชุมกัน/........

 

 

                 .ผลของกิจกรรมฐานต่างๆที่เราเข้าร่วมกิจกรรมนั้น  ทุกคนมีความพอใจ

 

 

และตั้งใจทำงานกันอย่างมาก ซึ่งท่านอ.อุบลฯเคยบอกว่า เป็นวิธีการ  ทำสมาธิที่ดี

 

 

มากเลยค่ะ เพราะทุกคนไม่มีเวลาที่จะคิดนอกเรื่องเลย คิดแต่เรื่องงานอย่างเดียว....

 

 

                   กราบขอบพระคุณบารมีพระศร๊อาริย์ฯที่ท่านอ.อุบลฯเป็นผู้อัญเชิญมา

 

 

และรหัสอ.อุบลฯช่วยด้วยและท่านอ.อุบลฯและครอบครัวมากๆเลยค่ะ.......

 

 

          .        และผลในการทำกิจกรรมครั้งนี้ทำให้มีสายตายาวลดลงไป50%

 

 

                  ส่วนน้ำหนักส่วนที่เกินต้องติดตามผลต่อไปค่ะ/

 

                                          กราบ  กราบ  กราบ  

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 17:58:16


ความคิดเห็นที่ 140 (1638957)

 กิจกรรมที่บ้านสวนฯ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา

อาทิตย์นี้นจะเป็นอาทิตย์ของการทำ workshop  ซึ่งก็เป็นอาทิตย์ ที่มีความแตกต่างอีกเช่นเคย  มีงาน workshop ที่หลากหลายต่างๆ workshop แต่ละฐานก็จะเป็นฐานที่หมุนเวียนกันไป 1 ชั่วโมง เปลี่ยนฐานนึง   แต่ละฐานก็จะมีงานที่แตกต่างกัน  มีทั้งการก่อสร้าง  ทำการเกษตร  ทำความสะอาดละตกตางสถานที่  ซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหาย  ส่วนตัวผมเองคิดว่า  การที่ได้ทำงานที่ต่างกันนั้น  ทำให้พวกเราได้เรียนรู้ถึงสิ่งใหม่ๆ  ได้เรียนสิ่งใหม่  สิ่งที่เราอาจจะไม่เคยได้ทำมาก่อน  และที่สำคัญ ทำให้พวกเราได้ปลดกรรมทุกรูปแบบ  ที่ก่อกวนเรา  เพราะว่าบางครั้งที่,กบ้านสวนฯทำงานกันเมื่อก่อนนั้น  พวกเราส่วนใหญ่จะทำงานที่เหมือนเดิมทั้งวัน  คนที่ก่อสร้างก็ก่อสร้างทั้งวัน  คนที่ทำงานเกษตรก็ทำงานเกษตรกันทั้งวัน  ซึ่งผลกรรมที่เราทำงานนั้นเราก็จะได้  แต่ในบางปัญหา เช่น ปัญหาผิวพรรณ เราอาจจะปลดกรรมส่วนนั้นได้น้อย 

            อาทิตย์นี้ยังเป็นอาทิตย์ที่ท่านอาจารย์ได้ฝึกให้ลูกบ้านสวนฯบางท่านที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม  ได้แสดงความสามารถของแต่ละท่าน  บริหารงานกลุ่ม  ซึ่งเมื่อตอนที่มีการรายงานกลุ่มนั้น  เราแต่ละคนก็ได้เห็นถึงข้อดีของแต่ละท่าน  และข้อเสียที่ควรปรับปรุง  ซึ่งสำหรับผมนั้นมีประโยชน์มากๆครับ  เนื่องจากอีกไม่นานถ้าผมมีโอกาสเข้าค่ายของโครงการจิตอาสาที่สมัครไป โดยเข้าค่ายเพื่อที่จะได้รับการประเมิณและคัดเลือกคนเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ข้อดีและข้อเสียเหล่านั้นจะมีประโยชน์ต่อผมอย่างมากในการที่จะนำสิ่งที่ได้ในกิจกรรมธรรมทานที่ผ่านมานำไปประยุกต์ใช้  เพื่อให้เกิดประโยชน์   เช่น  หัวหน้ากลุ่มบางคนนั้นให้ความสำคัญกับงานที่ตนเองรับมอบหมายแต่อาจจะละเลยเรื่องของสมาชิกในกลุ่ม  จัดสรรคนทำงานไม่ดี  บางคนว่าง บางคนมีงานล้น  หรือบางครั้ง หัวหน้าในกลุ่มกลับเป็นผู้ลงมือทำซะเอง  โดยที่ไม่ได้ให้สมาชิกกลุ่มมีส่วนรวมเท่าที่ควร  หรือบางครั้งหัวหน้ากลุ่มเป็นคนเงียบๆ จึงทำงานอย่างเดียวไม่ได้มอบหมายงาน 

              ส่วนในการรายงงานของกลุ่มต่างๆนั้น  ก็จะมีทั้งผู้คนที่หาย 100 % และผู้คนที่ดีขึ้น  ซึ่งท่านอ.อุบลก็ได้เมตตาบอกไว้ว่า  จะหาย 100 % ได้อย่างไร  ถ้าไม่ยอมเขียนธรรมทาน  ซึ่งการเขียนธรรมทานเป็นสิ่งที่ท่านย้ำนักย้ำหนา  เนื่องจากเมื่อก่อนไม่ค่อยทำกัน  แต่ว่าเดี่ยวนี้ถ้าทางจะแข่งกันเขียนอย่างมากมาย  รวมถึงยังมีธรรมทานของท่านต่างๆที่มาร่วมกิจกรรม  ได้พิมพ์ธรรมทานของตนมา  แล้วถ่ายเอกสาร  เพื่อให้ลูกบ้านสวนฯที่มาร่วมกิจกรรมในอาทิตย์นั้นได้น้ำกลับไปคนละชุด  เพื่อที่จะได้น้ำธรรมทานที่ตนเองชอบ  ไปถ่ายเอกสารแจกจ่ายให้ผู้อื่น  ถือว่าเป็นการเผยแพร่ธรรมทานของแต่ละท่านไปได้กว้างครับ  หลังจากนั้นก็คงจะอยู่ที่พวกเราลูกบ้านสวนฯที่จะเลือกธรรมทานชุดไหน  และให้ใครแล้ว 

             การมาบ้านสวนฯอาทิตย์นี้ของผม  จึงได้ทั้งประโยชน์   ทั้งบุญ  และธรรมทาน  อย่างมากมาย  ที่ผมสามารถนำปรับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้   ทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น  สิ่งที่ดี  สิ่งที่ไม่สมควรเอาอย่าง  ที่เราได้รับรู้  และเห็นผลของมัน   ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว  รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่บ้านสวนฯทุกๆ พระองค์  ที่ได้มอบโอกาสอันยากที่จะหาได้  เมตตาลูกๆ ทุกคนอย่างหาสุดไม่ได้   ขอกราบขอบพระคุณมากๆ ครับ        

ผู้แสดงความคิดเห็น ณภัทร ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 18:54:36


ความคิดเห็นที่ 141 (1638983)

มาต่อค่ะ

ค่ำคืนวันเสาร์ ท่านอาจารย์ให้ฝึกจุดไฟด้วยการไม่ใช้ไม้ขีดและไฟแช๊ก แต่ละกลุ่มก็ต้องไปหาวัสดุที่คิดว่าจะทำให้จุดไฟติดได้ มาทำกัน

แต่เอ้! ทำไมใจตรงกันทุกกลุ่ม ต่างก็เอาไม้ไผ่มาสีกันเพื่อให้เกิดประกายไฟ แต่ด้วยความที่ชีวิตนี้เป็นคุณหนู ลูกท่านเจ้าคุณมาตลอด เลยไม่มีกลุ่มไหนที่จะสามารถสีไม้ไผ่ให้เกิดประกายไฟ ได้แต่ไม้ไผ่มีความร้อน หอมกลิ่นข้าวหลามเท่านั้น ทั้งๆที่เราใช้กสินไฟกันแทบตาถลน คนที่สีไม้ไผ่ก็สีซะหัวสั่นหัวคลอน แต่ก็ไม่สำเร็จค่ะ

ถ้าเิกิดภัยพิบัติขึ้นเมื่อไร คงต้องกินข้าวลิงกันหละ แล้วไม่รู้ว่าจะมีข้าวลิงให้กินหรือเปล่า

ช่วงตอนกลางคืนก็มีปาร์ตี้บาร์บีคิวเห็ดด้วยน้ำจิ้มสุดอร่อยของแม่ครัวเอกเช่นเคยค่ะ แต่ละกลุ่มก็จะออกมารายงานผลในการทำงาน workshop แต่ได้แค่ 4 กลุ่มก็เที่ยงคืนแล้ว ท่านอาจารย์ก็เลยให้แยกย้ายกันไปหามุมสงบของตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 20:48:50


ความคิดเห็นที่ 142 (1639009)

ขอเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Workshop ครับ

ทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์

ผมได้ทำงานหมุนเวียนไปตามฐานต่าง ๆ

นอกจากจะได้ทำงานใหม่ ๆ

 ได้รับความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มเติมแล้ว

 

สิ่งที่ผมประทับใจ ก็คือ

การดูแลจากหัวหน้าทีม

ที่เป็นทั้งครูและพี่เลี้ยงคอยสอนงานให้

พี่เหมี่ยว ที่มีการทำความเข้าใจ

ทั้ังเรื่องการทำงานและการอธิษฐาน

ขอบารมีแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยเหลือ

คอยแจ้งเตือนเรื่องการทำงานเสมอ

คุณอ้อยที่รับฟังความคิดเห็นในการทำงาน

ลงมือช่วยเหลือด้วยตนเองโดยไม่เหน็ดเหนื่อย

พี่อมรที่สอนเรื่องการผสมปูน

การดัดและตัดเหล็กแบบเป็นกันเอง

คุณป้อมที่ให้คำแนะนำเรื่องการทำรั้ว

น้องอัญที่ให้คำแนะนำเรื่องการตกแต่ง

ลุงบุญที่มีคำแนะนำอย่างใจเย็น

และมีรอยยิ้มเสมอ

และอาจารย์พันธ์

ที่สอนทั้งความรู้ ธรรมะ และให้ปัญญา

ในการทำการเกษตร

พูดไปก็เหมือนเชียร์กันเอง(อีกแล้ว)

ซึ่งทุกท่านล้วนเป็นผู้ให้

และมีจิตสาธารณะด้วยกันทั้งสิ้น

 

ในวันอาทิตย์ก็ได้มีการสรุป

ผลงานของหัวหน้าทีมด้วย

เพื่อปรับปรุงความเป็นผู้นำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป

ซึ่งหัวหน้ากลุ่มดีเด่น

ที่เปรียบเสมือนนักขายมือทองประจำสัปดาห์

ได้แก่ พี่เหมี่ยว และคุณอ้อย

ที่สามารถขายความสุขจากการปลดล็อคกรรม

ให้แก่ลูกทีมได้เป็นอย่างมาก

ส่วนใหญ่หายหรืออาการดีขึ้น 80%

 

สำหรับอาการโดยรวมของผม

ทั้งการเจ็บต้นคอ แขน หลัง ขาขวา

รวมทั้งอาการหวัดคัดจมูกและปวดหัว

อาการโดยรวมก็หายไปประมาณ 80%

ที่หายไม่หมดก็เพราะทำงานไม่เรียบร้อย

ตามที่เคยบอกไปแล้ว

แต่ที่สำคัญ คือ

ผมชอบสาระแนเรื่องของคนอื่น

ที่ท่านอาจารย์บอกว่า

ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด

ซึ่งผมน้อมรับและยอมรับว่าเป็นความจริง

ทุกประการครับ

ผมกราบขอขมาท่านอาจารย์เป็นอย่างสูง

ที่เมตตาแนะนำ

จะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นครับ

 

ส่วนปัญหาเรื่องสภาพคล่องและขาดปัญญา

คงต้องติดตามผลกันต่อไป

ผมจะรายงานให้ทราบภายในพ.ย. 55 นี้ครับ

 

ท่านอาจารย์ได้บอกว่า

ท่านจะไม่ทิ้งใคร

จะช่วย ฉุด ดึงให้ไปด้วยกัน

แต่หากท่านใดฉุดไม่ไหวแล้ว

ท่านก็ต้องปล่อยเพราะท่านยังต้อง

ช่วยเหลือคนอื่น ๆ อีก

 

สุดท้ายนี้ผมขอกราบขอบพระคุณ

สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

ท่านอาจารย์อุบล

ท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อป

เป็นอย่างสูง

ที่เมตตาช่วยผมปลดล็อคกรรมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-06 23:38:31


ความคิดเห็นที่ 143 (1639035)

 กิจกรรมสอบซ่อม เสาร์-อาทิตย์(3-4 พ.ย 55)

คุณธนาได้นัดรวมกลุ่มเวลา 8.00 น ต้องขออภัยด้วยค่ะ

ที่ตัวเองไปถึงช้าตอน 9.27 นาที ออกบ้านช้าเพราะลูกชาย

ไม่สบายเป็นใข้หวัดใหญ่หลังจากกลับเข้าค่ายลูกเสือในคืนวันศุกร์

ใข้สูงมาก จึงได้ขอบารมจากจี้เงิน-ทอง และอุปกรณ์ และขอรวม

พลังของจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรีและรหัสจักวาล อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้

ไข้ลดและอาหารปวดดดีขึ้นด้วย  ปรากฎว่าความร้อนได้ลดลง

เกือนทันที อาการปวดเมื่อนคลายลงนิดหน่อย แต่ยังปวดหัว

อยู่เหมือนเดิมจึงให้กินยาแล้วนอนและภาวนา

อ.อุบลช่วยด้วย เกือนตี 2 เช็คดูอาการตัวร้อนลดลงอีก

อาการปวดเมื่อยคลายลง แต่ยังปวดหัวยังไม่ดีเท่าไหร่

จึงได้ให้ทานยาอีกครั้งหนึ่ง จนเช้าอาการได้ดีขี้นมาก

จึงได้ใช้รหัส"อุบลช่วยด้วย"ขอให้หายไวๆ

ก่อนเดินทางมาบ้านสวนฯ

 

ถึงบ้านสวนจึงได้ร่วมกลุ่มกับคุณป้อมไปทำงานเก็บกวาด

กิ่งไม้ ต้นไม้ที่รกออก ตัดรั้วไม้ไผ่ให้ตรงกัน ถางหญ้าตามแนว

รั้วด้านหลังศาลาบ้านไม้ใผ่จรดห้องน้ำ ซักพักคุณป้อมให้ไป

ยกเอาไม้ใผ่เพื่อมาปรับปรุงรั้วใหม่ จึงช่วยกันกับคุณ เพ็ญ

ได้ 20 ท่อนทันเวลาที่ได้เปลี่ยนฐานกันพอดีค่ะ จากนั้น

จึงมาต่อที่ฐานการก่อสร้าง เพื่อเทปูนคานวิหาร ได้เทปูน

ยกปูน มาวางเตรียนรอไว้ผสมกับคุณยาย คนหนึ่ง

สู้ไม่ยอมถอยเหมือนกัน  คุณธนาจึงให้ไปช่วยงานครัว

มีน้องกระต่าย น้องบัว และตัวฉันทนาเป็นผู้ช่วย เอาละสิ

จะได้แอบดูเคล็ดลับคุณแมวซะที อิ  อิ  ทำไมถึงได้ทำเก่ง

อร่อย และ ดูดีไปซะทุกอย่าง ก็ได้ความรู้หลายเรื่องเหมือนกัน

จะได้ไปลองทำที่บ้านดูมั้ง  ที่แน่ๆ ทำนำ้จิ้ม สูตรคุณแมว

ก็สอบตกซะแล้ว หน้าตา รสชาติ เหมือนหน้าคนทำเลย 555

พอวันอาทิตย์มีคุณอรมาช่วย และเป็นเจ้าภาพก๊วยเตี๋ยว ฝีมือ

ไม่แพ้กันเลยส่วนน้องบัว น้องกระต่ายก็ได้รับความรู้จากน้าแมว

อย่างเช่น วิธีตัดแตงโม ให้ดูสวยงาม

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 01:58:55


ความคิดเห็นที่ 144 (1639037)

 สรุปธรรมทานวันเสาร์-อาทิตย์ ปลดล็อคกรรม

กลุ่มงานครัว มีคุณแมว มีปัญาเนื้องอก  คุณบุญตา สมาธิสั้น ขี้ลืม

 น้องบัว ขอเรื่องมีสมาธิและปัญญาในการเรียน  ซึ่งต้องรอติดตามผล

น้องกระต่าย หัวเข่าช้ำจากการหกล้ม อาการดีขึ้น 80% ใน 2-3 ชม

ฉันทนา มีปัญหาสายตาเอียง พร่ามัว วันเสาร์ ความพร่ามัวดีขึ้น 50 %

รู้สึกสบายตาเวลาจ้องทำงาน วันอาทิตย์รู้สึกมีความชัดจากเดิมขึ้นอีก 20%

ในขณะที่มีการรายงานผลของกลุ่มกันอยู่ จากปัญหาผิวพรรณที่มีอยู่

เป็น ฝ้า กระ ทั้งหน้าและแขน มีน้องเอิ้นและพี่จุ๋มทักว่าหน้าดีขึ้น

ก็รู้สึกดีใจค่ะ พอกลับถึงบ้าน ส่องกระจกดู ว้าว?! ณุ้สึกดีใจขึ้นเยอะเชียว

ฝ้าที่เป็นรอยดำลึกๆ ตรงแ้มลงมาทางมุมปากจางลงไปตั้งเยอะ

และหน้าก็ดูผ่องขึ้นมากเลย ส่วนคุณอรก็ได้ผิพรรณไปเต็มๆ ฝ้าหาย

หน้าใส ดีขึ้นมากแล้วค่ะ คนสุดท้าย อ.อภิชัย  ที่มาร่วมกลุ่มยังมีอาการ

ปวดมืออยู่ในวันเสาร์ พอวันอาทิตย์ หายปวดแล้วครับ  สาธุ..


กลุ่มอื่นๆ มีน้องปอได้พาพ่อและแม่มาสร้างบุญด้วย พ่อน้องปอเป็นเบาหวานมา

20 ปี มาออกแรงยกหิน ยกปูน ถางหญ้า พรวนดิน ก็รรู้สึกร่างกายแข็งแรง สดชื่น 

ไม่ง่วง ไม่เพลีย ธรมดาต้องนอนกลางวัน 3 ครั้ง ก็กลับทำงานได้ และหายปวดขา

ใน 3 ชมส่วนอาการปวดหลังยังเหลืออยู่สารภาพว่่าผิดศีลข้อ 3 ทำไห้ดีขึ้น 70%

แต่หลังจากที่ได้แต่งงานแล้วก็ไม่ได้ทำผิดทางกายอีก แต่ทางวาจาและใจ

ยังมีอยู่ ไม่ได้ลงมือทำแต่ปากก็เกี้ยวพาราสี ใจก็คิดไปด้วย อ.ได้ซักไปซักมา

ก็คิดหลายคน แทบจะทุกคนเลยหลังจากยอมรับอาการปวดหลังหาย 100% 

และทำให้น้องคนหนึ่งมี่มีอาการปวดหลังอยู่ หลังจาก workshop  ดีขึ้น 30%

ได้หายปวดไปด้วย ส่วนน้องปอ หายปวดเอว 100% และขาลายดีขึ้น

เอาไว้มาต่อนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 02:38:31


ความคิดเห็นที่ 145 (1639043)

 ธรรมทานของคุณเบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

*************************

อนุโมทนาทุกท่านด้วยนะคะ

ที่มีพละกำลังที่เข้มแข็ง

เข้ามาเขียนธรรมทานได้รวดเร็วดังใจ

สำหรับตัวเองก็แพ้มาร !!!!!! อีกตามเคย

(ความขี้เกียจ ง่วงนอน ผลัดวันประกันพรุ่ง)

มารตัวบักเอบบบบ...ที่อยู่ในตัวเรานี่แหละ

ช่างรักกันจริงๆ ไปไหนไปด้วย

ทำโน่นก็ไม่ไหว นี่ก็เหนื่อย

ปล่อยให้เขาดีใจแบบสุดๆไปก่อน

-------

เช้าวันเสาร์ก็รีบเดินทางไปบ้านสวนฯ

มีความสุขที่ซู๊ดเลยยยยยค่ะ

วันนี้เดินทางไปพร้อมพี่ตุ๊ก... แต่เอขาดใครไปอีกคนน๊า

อนุโมทนากับพี่ตุ๊ก กะ น้องหนึ่งด้วยจ้าที่เป็นสะพานบุ

เวลาเดินทางไปบ้านสวนฯ ไม่เคยลำบากเลยสักครั้ง

เราเดินทางถึงบ้านสวนฯ แปดโมงกว่า

เข้าห้องเรียนสาย สอบตก(ครั้งที่ 1)

สัปดาห์นี้มีคนมาเข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ 60 คน

การเข้าร่วมกิจกรรม ต้องตรงต่อเวลา

วันนี้พี่ธนาให้แบ่งกลุ่ม ทำworkshop กลุ่มละ 6-7 คน

มีหัวหน้าและเลขากลุ่ม

ดูแลลูกทีมให้ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ

และเมื่อได้เวลาย้ายฐานการทำกิจกรรมให้รีบเปลี่ยนทันที

การมาสร้างบุญครั้งนี้ แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา

คือทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมจะ ได้ร่วมสร้างบุญทุกอย่าง

การเปลี่ยนฐานนั้นก็ต้องรีบเร่ง เปลี่ยนทันที

เพราะเวลาเดินเร็วมาก เผลอแป๊บเดียวหมดเวลาแล้ว

กิจกรรมเสาร์-อาทิตย์นี้มีหลายอย่าง

เช่นงานก่อสร้างวิหาร งานเกษตร งานครัว งานซ่อมแซม

เป็นต้น ซึ่งแต่ละงานมีความละเอียดของงานต่างกัน

ดังนั้นก่อนเริ่มลงมือ ต้องมีการชี้แจง แบ่งงาน

ว่าใครทำส่วนไหน และต้องรับงานต่อให้ถูกต้อง

ผลที่ได้จะออกมาดีเช่นกัน

และทั้งหมดนี้คือการปลดล็อคกรรม ของแต่ละคน

ระหว่างที่ร่วมทำกิจกรรมต่างๆนั้น

ให้มีสติอยู่กับงานที่ทำตรงหน้า

พร้อมกับใช้รหัสอ.อุบล ช่วยด้วย ขอให้หายจากอาการ.....

และภาวนาคาถาพระศรีอาริย์

สำหรับตัวเองก็ทำผิดศีลมาทั้ง ข้อ อีกทั้งกระทำกรรมหนักด้วย

จึงมิได้หวังว่าจะหายจากโรค

แต่ทำให้เต็มกำลังที่สุด ถึงแม้จะร้อนสุดๆ เหนื่อยสุดๆ

โดยเฉพาะที่แปลงเกษตร อ.พันได้มอบหมายให้ดายหญ้า

การดายหญ้าวันนี้ รู้สึกเหนื่อยมากกว่างานก่อสร้างเสียอีก

คนขี้เกียจ สันหลังยาว ใช้จอบขยันทำงาน

แล้วใครจะเหนื่อยมากกว่ากัน

แต่ก็ทนทำ จนรู้สึกถึงความกดดันออกที่หน้า

รู้สึกว่ามีเลือดมาสูบฉีดบริเวณหน้าอย่างมาก

วันนี้ได้สร้างวิหาร รอบ ดายหญ้าในแปลงเกษตร

ตัดหญ้าหน้าบ้านสวนฯ ทำแนวกันรั้วด้านข้าง

ทำความสะอาดห้องน้ำ และบริเวณหน้าห้องน้ำหลังเก่า

ขนกิ่งไม้มากองที่เดียวกัน

ระหว่างทำกิจกรรมก็มีการสำรวจตัวเองเป็นระยะ

แต่ก็มาสรุปผลในช่วงเย็น

ปรากฏว่าปัญหารอยดำ สิวอักเสบดูดีขึ้น 60 %

โอ๊ะเป็นไปได้งัย รักษามาตั้งนานไม่หาย

ใจก็โทษแต่ลูกชาย(สุนัขตัวโปรด) ที่บ้านทำให้เราเป็นสิว

มองสามีก็ไม่เห็นเป็นสิวเลย ดังนั้นก็ตัวเราชัวร์ๆๆ

ปัญหาหูอื้อ ยังไม่ดีขึ้น

ปํญหาการเงิน การงาน จะรายงานต่อไป

##  ยังไม่จบค่ะ ##

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 05:24:53


ความคิดเห็นที่ 146 (1639047)

การชุบตัว

ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า

เสียแล้ว แต่เริ่มส่อเค้าว่า

บุญแรงกาย

บ้านสวนพีระมิด

จะเป็น

แผนการชุบตัว

ให้แต่ละคน เป็นหนุ่ม สาว

แข็งแรง ราวคนอายุ 20 กันจริง

เสียแล้ว

......................

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

ที่เมตตามาเฉลยว่า

ที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

เพราะบุญแรงกายบ้านสวนฯ ไม่ธรรมดา

สามารถปลดล็อคได้ทุกกรรม

หายเจ็บ หายจน หายทุกข์

มีแต่ความสุข แถมยังดูอ่อนวัย หน้าใสเด้ง

 

เสมือนหนึ่งว่า แต่ละท่าน ได้มาชุบใจให้ใส

ชุบกายให้สวย หล่อ กันถ้วนหน้า

 

ฉะนั้น ท่านใดได้รับอานิสงค์

เรื่องการชุบกายกันชัดๆแล้ว

ได้โปรดมาแสดงตัวกันให้ครบๆด้วยนะคะ

 

ชาวเกาะจะได้ตั้งจิต

ร่วมอนุโมทนาอย่างตั้งใจ

เผื่อจะได้รับอาินิุสงค์ สวย ใส

ไร้กังวลอย่างทุกๆท่านบ้าง

 

ณ ตอนนี้เท่าที่ทราบชัวร์ๆแล้ว

ก็มีคุณแม่น้องซิม คุณอร และอ.นี

 

ชนิดาขอแสดงความยินดี

ในทุกๆบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

................................................

เมื่อก่อนก็เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ

พระอริยสงฆ์ ที่ว่า

ส่วนใหญ่หน้าตาจะ"หยุด"ร่วงโรยตามวัย

ตั้งแต่วันที่บรรลุธรรมขั้นสูงสุด

อะไรประมาณนี้นะคะ

 

บางรูปวัยจริงๆ เจ็ดสิบ

แต่ดูแล้วนึกว่า อายุ 30-40ปี

 

ส่วนท่านอาจารย์ของพวกเรา

ดูยังไงๆ ก็ประมาณสามสิบ

 

ฮึ่ม สงสัยท่านอาจารย์

จะผ่านการชุบกาย

มายี่สิบกว่าปีแล้วนะคะเนี่ย...

..............................................

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

 

ว่าแต่ พ่อใหญ่ธนา

แซวเพ่โฆ(ษิต)ซะลืม(ดู)ตัว เลยน๊า

เพราะที่แซวเค้าไปแต่ละอย่างน่ะ

มันไปกองแป๊กอยู่ตรงหน้า

พ่อใหญ่ธนาหม๊ดเลย ฮ่า ฮ่า

 

สงสัยพวกเรา ต้องลงขันกัน

ถอยกระจกใบใหญ่ๆให้พ่อใหญ่ธนา

ได้่ส่องมองเห็นตัวเอง ได้ทั้งตัวแล้วเนี่ย อิอิ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 06:21:35


ความคิดเห็นที่ 147 (1639050)

 

ธรรมทาน วันปลดล็อคกรรม ครั้งที่ 2 ตอนสอบซ่อม เขียนโดย จิ๋ม ชัชวลี
                วันอาทิตย์ ที่ 4 พย. ก่อนกลับบ้าน มีธรรมทาน น่าสนใจ ที่เกี่ยวกับการผิดศีลข้อ 3 ของ เหล่าบรรดาวัยรุ่น หน้าตาดี ของบ้านสวน ได้แก่ คุณชิม และ คุณตุลย์ ที่น่าเล่าสู่กันฟัง เพื่อจะเป็นอุทธาหรณ์ แก่เด็กวัยรุ่นที่รักสนุก
ขอเรื่องน้องชิมก่อน เขาเคยเล่าให้พวกเราฟังมาบ้างแล้วว่า เขามีอาการที่เข่า คือ เจ็บตรงกระดูกเข่า และเวลานั่นยอง ๆ ขึ้นลงจะได้ยินเสียง กึก ๆ คล้ายกระดูกลั่น เคยสารภาพว่า ได้ฟันเด็ก ในร้านคาราโอเกะ พอสารภาพก็ดีขึ้น หายไปแต่กลับมาก็เป็นอีก มาวันนี้ก็บอกว่าจำนวนที่ ฟันเด็ก ไม่ใช่ 1 คนอย่างที่บอก แต่เป็น 3 คน นอกจากนี้ยังบอกเพิ่มเติมว่า มีที่ร้าน สปา ด้วย หลังจากสารภาพ ก็ลองนั่ง ๆ ยอง ๆ ขึ้นลงอีกครั้ง ก็ดีขึ้นแต่ยังไม่หาย (ที่น่าชมเชยในความกล้าหาญของน้องชิม คือ กล้าสารภาพกับสาธารณชน และ คุณแม่ของตัวเองที่มาด้วย แม่ก็เพิ่งรู้วันนี้เหมือนกัน)   เขาจึงบอกว่าเขาเคยมีมโนกรรมคิดไม่ดีกับอาจารย์ คือ อยากเตะอาจารย์อุบลอีก อาจารย์บอกว่า รสนิยมดีนะ อยากเตะอาจารย์ พวกเราก็ฮากันตรึม อาจารย์ได้เมตตาบอกว่า น้องชิมเป็นสาวกของพระเทวทัต เลยมักจะมีบาปทางความคิด ให้ลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัตเสีย เขาก็อธิษฐานขอลาออก และขอเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าแทน อาจารย์บอกว่า บุญของน้องชิมยังไม่พอ ต้องรอก่อน ให้ทำบุญอีก แล้วค่อยมาดูผลเพิ่มเติมกัน
                ส่วนน้องตุลย์ เป็นน้องใหม่ หน้าตาดี และขยันขันแข็ง มีกรรมก็คือ เรียนไม่จบ เนื่องจากชอบฉีกหนังสือในห้องสมุด กรรมอันนี้ทำให้น้องเรียนไม่เก่ง แถมยังเจ้าชู้มากอีกด้วย
                สรุปก็คือ การเป็นวัยรุ่น อย่ามัวแต่คึกคะนอง ทำลายผู้หญิง หรือไม่ตั้งใจเรียน กรรมนี้มีผลเสมอ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าเลย ต้องตั้งใจให้ดีอย่าให้ผิดศีลอีกนะคะ พี่จิ๋ม ขอเป็นกำลังใจให้น้องทั้งสอง ตั้งหน้าทำความดีต่อไป ลบล้างความผิด ที่แล้วก็แล้วไป
 
จิ๋ม ชัชวลี
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 07:08:44


ความคิดเห็นที่ 148 (1639082)

         ขอรายงานกิจกรรมวันที่ 3 - 4 พ ย. 5 5 ครับ  

             ทั้งสองวันนี้กระผมได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม6                    และประจำฐานเกษตร  ผมมีความฅั้งใจที่จะสอนให้ลูกบ้านสวนฯ

ปลูกผักเป็น จึงได้กำหนดข้อปฎิบัติเป็นทักษะ 10 ประการ คือ 

 1) ถากหญ้าเป็น 2)  ขุดดินเป็น   3 )  แฅ่ง แปลงเป็น     4) ทำปุ๋ยเป็น   

5)  คลุมหญ้าเป็น   6)  รดปุ๋ยเป็น  7)  เพาะเมล็ดผักเป็น  

          8)  รดน้ำผักเป็น    9)  ดูแลแปลงผักเป็น   10)  เก็บผักเป็น .                 

 ดังนั้นกิจกรรม เสาร์ – อาทิฅย์ นี้  ผมจึงเริ่มทักษะ  ถากหญ้า

และขุดดิน โดยเริ่มจากให้ผู้ชายขุดดินเป็น  แต่บางกลุ่มผู้หญิงก็ขอขุดดิน

ด้วยผลปรากฏว่า  ทุกคนมีความ ฅั้งใจมาก  จึงมีทั้ง ผู้ที่ทำฅามได้และ

ไม่ได้ ผมจึง  บอกว่า    ฐานนี้   จะได้ทั้ง   ปัญญา  การเงินและการงาน   

โดยสมมุติว่า   ถ้าท่านจ้างคนมาทำงานแล้วเขาไม่ทำตาม  ท่านจะจ้างเขา 

ไหม    ผล  ปรากฏว่า ได้ผล ทุกคนตั้งใจทำกันมากขึ้น   จึงได้แนะนำต่อไปว่า

ให้เขาตั้งใจทำอย่างช้าๆ    แต่ให้ถูกต้องดีกว่าทำเร็วแล้วทำผิด    ต้องมาทำ      

แก้ไขใหม่ ก็ได้บุคคลที่น่าชมเชยและมีความพยามมาก คือ คุณ ก้อยกับคุณเอิ้น 

คุณก้อย สอบผ่านเป็นคนแรก ต่อมาคุณเอิ้นก็ทำได้  ส่วนคุณพ่อน้องปอ  ขุดดินแปลงแรกก็มีแต่หินมากทำให้ขุดลำบาก   จึงบอกให้พยายามต่อสู้อุปสรรค์ไป  

  โดยใช้มุมจอบขุดแล้วเก็บหินออกให้หมด   ผลปรากฏว่า  ก็ทำได้สำเร็จ ครับ  

             ส่วนการถากหญ้านั้น   ทุกคนก็พยามทำได้ถูกต้อง  ผ่านทักษะได้              

ต่อจากนั้นได้ทดสอบ     การถ่ายทอด   โดยให้ น้องตุลย์(น้องใหม่)  นำไป          

สอน อ.นี ขุดดินก็ทำได้สำเร็จ   ต่อไปลูกบ้านสวนฯก็จะเป็น   ผู้นำเกษฅร

 ได้กันทุกคน .                              

            ในส่วนตัวผมเองคิดว่า  จริงๆแล้ว “  งานเกษตรไม่ยาก  เพียงแฅ่ไม่รู้ "  

 สำหรับ ผลการ บำบัดของ กลุ่มที่  6 ทั้ง  2 วันนี้  หาย 80 - 90%  แต่พอมา

รายงานผล กับท่านอ.อุบลฯท่านก็ช่วยปลดล๊อคกรรมให้และสารภาพบาปต่อ

 อีกทำให้ หาย100% หมดเลยครับ/

                                               *************

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 10:59:44


ความคิดเห็นที่ 149 (1639094)

มาเล่าต่ออีกนิสนะครับ

( เทวดาอยากได้บุญ )
กิจกรรมบุญสัปดาห์นี้ หน้าที่หลักของกลุ่มผมคือซ่อมแนวรั้วครับ คือมีเหตุการณ์ ก็คือ พวกเราต้องขุดหลุมทำเสารั้วใหม่ครับ ตอนนั้นผมก็เป็นคนนึงที่ขุดหลุมด้วย มีอยู่หลุมนึง ซึ่งอยู่ใกล้จอมปลวก ผมก็ขุดไปตามปรกติครับ เนื่องจากดินมันอ่อน ผมก็เรยออกแรงเต็มที่ กะว่าขุดสัก4-5 จึ๊ก ก็คงเสร็จล่ะหลุมนี้ พอขุดไปจึ๊กที่ 2 เท่านั้น ผมเห็นงู อยู่ในหลุม คือ บังเอิญ ตรงที่ผมขุดนั้นเป็นโพลงพอดี เห็นงูกำลังเลือยอยู่ในโพลงพอดี เรียกว่า ผมใช้จอบสับไปที่หลังงูตัวนั้นเต็มครับ งูตัวนั้นค่อย เลื้อยหนีไปอย่างช้าๆ ตอนนั้นตกใจเหมือนกัน กลัวมันตาย เพราะผมใส่เต็มแรงเหมือนกัน แต่มาสังเกตุดูตอนเขาเลื้อย จึงเห็นว่าตัวไม่ขาด แต่มีเลือดไหลออกมา ผมก็เรยอุทิศบุญให้เขา ขออโหสิกรรม พอเจอท่านอาจารย์ ก็เข้าไปเรียนท่าน ท่านบอกว่าให้อุทิศบุญ แล้วไปขอขมาท้าวมหาราชทั้ง4 เพราะเป็นบริวารของท่าน ผมก็ทำตามที่บอกท่านบอก พองานเสร็จก็มารู้สึกปวดหลัง ในใจตอนนั้น คิดเรย ว่างูตัวนั้นที่เราทำเขาแล้วแน่ๆเรย เออ..ลืมบอกไป งูตัวนั้นสีออกเหลืองๆ ครับ ผมไม่รู้จักว่างูอะไร
พอตอนออกมาสรุปกิจกรรม ผมก็เรียนท่านอาจารย์ว่า ตอนนี้ปวดหลัง และผมมั่นใจว่า เขาต้องอยากได้บุญอาจารย์แน่ๆ จึงมาแสดงอาการ อาจารย์ท่านเรยอุทิศบุญของอาจารย์ให้งูตัวนั้น เชื่อไหมครับ อาจารย์ยังไม่ทันจะกล่าวเสร็จ อาการปวดหลังของผมหายไปแบบ100เปอร์เซ็นต์ ทันทีเรยครับ สาธุ แหม..งูตัวนี้นี่ โชคดี จริงๆ   
ไม่เพียงแต่ผมครับ ที่เจองูและฆ่ามันวันนี้ ยังมีลุงเบิ้ม อีกคนนึงที่เจอ ลุงเบิ้มเล่าว่า ลุงใช้รถแม๊กโครขุดดิน ขุดไปตรงไหนก็เจอแต่งู ลุงสังเกตุว่า ตรงไหนที่อยู่ใกล้จอมปลวก ตรงนั้นจะมีงู สงสัยงูเจ้าที่ งูที่ลุงเบิ้มเจอ เป็นงูตัวสีขาว อีกตัวสีใส ลุงบอกเกิดมาเพิ่งไม่เคยเห็น ลุงทำขาดสองท่อนเรยครับ ลุงก็เรยไปเรียนท่านอาจารย์ เพราะผิดปรกติแล้ว พออาจารย์ ท่านก็กำกับคอยบอกลุงเบิ้ม และอุทิศบุญให้ หลังจากนั้น ลุงเบิ้มก็ไม่เจองูอีกครับ
อาจารย์บอกว่า ที่จริง ที่ผมและลุงเบิ้มเจอนั้น ความจริงเขาไม่ใช่งูหรอก เขาเป็นเทวดา แต่ที่เขามาให้เห็น มาสร้างสถานการณ์แบบนี้ก็เพราะ เขาอยากได้บุญ ผมฮาเรยครับ โห..ขนาดเทวดา ยังอยากได้บุญ นี่ต้องลงทุนสูงเหมือนกันน่ะเนี่ย กว่าจะได้บุญ สุดท้ายเราถึงได้เข้าใจ ว่าเป็นอย่างนี้นี่เอง โล่งอก คิดว่าฆ่างูตายซะแร้ว...
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 11:52:49


ความคิดเห็นที่ 150 (1639105)

ขอขอบคุณและร่วมอนุโมทนาบุญ สำหรับธรรมทานของทุกท่าน

ที่ร่วมกันบรรยายและแสดงความคิดเห็น บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านสวน

แม้ระยะนี้ด้วยความจำเป็นต้องสังกัดกลุ่มชาวเกาะ..เกาะกอดเว็ปบ้านสวนไปก่อน

แต่เมื่อได้อ่านธรรมทานจากลูกหลานบ้านสวนทุกครั้ง

ใจได้สัมผัสถึง ความดีและบุญกุศล ที่ทุกท่านได้ร่วมกันสร้างเพื่อถวายแด่องค์ 3 ร่มโพธิ์ศรี

และนับวัน นานวัน รับรู้ได้ว่าลูกหลานบ้านสวนทุกท่าน มีกำลังใจแข็งแกร่งขึ้น พร้อมเปลี่ยนแปลงปรับปรุงและพัฒนาตนเอง มากขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้ ด้วยความรู้สำนึกในพระคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกพระองค์ ตลอดจนท่าน อ.อุบล และครอบครัวศุภาเดชภรณ์ ที่เมตตากรุณาให้พวกเรา ได้รู้จัก ได้สัมผัส ได้เป็นส่วนหนึ่งของ บ้านสวนพีระมิด

.......................

ลูกกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน และท่าน อ. อุบล พร้อมด้วยครอบครัวศุภาเดชาำภรณ์ ที่เมตตาให้โอกาสแก่มวลมนุษย์ได้หลุดพ้นจากความทุกข์ และพบทางไปสู่สุขสงบแห่งแดนนิพพาน

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 12:36:09


ความคิดเห็นที่ 151 (1639106)

 ธรรมทานสอบซ่อม-ปลดล๊อคกรรม (ต่อนะคะ)

ป้าปู๊    สายตาพร่ามัว ความ่ดัน ปวดท้อง  อาการดีขึ้น 80%

หลังจากที่ได้ทำกิจกรรมกลุ่ม ส่วนเบาหวาน รอการติดตามผล  

เพราะเคยเลี้ยงหมูขาย เป็นเด็กล้างไพ่ เดินไปในที่อโคจร บ่อน 

ไปหาแฟน และได้เสียกันตั้งแต่มัธยม-มหาลัย เดินกระทืบเ้ท้า

ตีหมา แมว ตีงูตาย  ด่าแม่ หลังจากสารภาพอาการหาย 100%

คุณนงลักษณ์์ (แม่่น้องปอ)  หลังจากออกแรงทำ  workshop  อาการปวดหลัง

เรื้อรังหายไป 50% เคยทำร้ายสามี ตีลูก ขี้โมโห อารมณ์ร้าย จึงได้ขอโทษลูก+

สามี อาการก็ดีขึ้น 80 % ที่ยังเหลืออยู่เพราะยังไม่ได้ขอโทษลูกอีก 2คน แต่

อาการปวดเมื่อยตามตัวไม่หายจึงสารภาพต่อว่าชอบใช้สามีทำงาน หาย 100%

คุณจอย   ได้มาบ้านสวนครั้งนี้เป้นครั้งที่ 2 มีอาการไตวายเรื้อรัง จุกหลังแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกได้มาร่วมกิจกรรมออกแรงกาย

มีการเปลี่ยนฐานทุก 1 ชม แรกๆ รู้สึกทำไม่ไหว จึงฮึดสู้ รวบรวมกำลังใจทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มหายใจได้สะดวกขึ้น รู้สึกโล่ง ไม่อึดอัด

มีแรงทำงานจากที่เคยทำงานไม่ได้แม้แต่เดินไปตักข้าวที่หลังบ้านก็เหนื่อย แม่ต้องมาทำให้  จากการมาครั้งแรกอาการดีขึ้น หลังจาก

ได้ใช้ รหัส" อ.อุบลช่วยด้วย"  และ ท่องคาถา "พระศรีอาริย์"  สารภาพว่าเป็นคนขี้โมโห ใจร้อน ปากจัด ตอนที่ได้ทำธุรกิจสปาอยู่ 

ได้เคยด่าลูกค้าคนหนึ่งว่า มีหน้าอัปลักษณ์ไม่พอ แต่จิตใจยังอัปลักษณ์อีก  จึงทำให้ตัวเองมาป่วย จนหน้าบวม ต้องไปฟอกไตอาทิตย์

ละ 2 วัน จากที่ตัวเองเคยมีหน้าตาดี ผิวพรรณดี ก็จะดำคล้ำ ผิวแห้ง จนผิวที่แขนจะเป็นคราบขาว ๆ หน้าจะมีรอยคล้ำเป็นสีเขียว สีม่วง

ทั้งที่ปากและที่่ดา  พอมาครั้งนี้หน้าตาดูสดชื่นและขาวขึ้น ไม่มีรอยเขียวๆ ม่วงๆ ผิวที่แขนก็ปกติไม่รอยคราบขาวๆแล้ว

คุณแหล่น   ปวดเมื่อยตัว ปวดไหล่ซ้าย หลังจากถางหญ้า ตัดหญ้าแล้ว มาทำงานเทปูน ก่อสร้าง อาการหาย 100%

คุณน้อย     เป็นหวัดเรืื้อรัง หายได้ 100% ส่วนภูมิแพ้ได้ 80%  และปัญหาหนี้สินก็เกิดจากการโกงชาติ โกงแผ่นดิน เขียนบิลนำ้มันเท็จ

ซิกแซก เรื่องขอย้ายที่ทำงานเพื่อที่จะได้ออกมาจากวงการนี้ แต่หากไม่ได้ย้ายก็อย่าเสียใจ  เพราะเบื้องบนคงจะได้กำหนดให้คุณน้อย

ได้ทำหน้าที่นี้เพื่อขัดขวางหรือทำให้วงการคิดโกงนี้ได้ยุติลง

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 12:36:48


ความคิดเห็นที่ 152 (1639143)

 คุณป้อม  อาการโรคหัวใจ หาย 100% ได้ทำการตกแต่ง ซ่อม แนวรั้วใหม่ รู้สึกสดชื่นขึ้น  ไม่มีอาการระแวงของโรคหัวใจ เข็มแข็งขึ้น ระหว่าง

ทำงานขุดหลุมเสาได้สับจอบลงเจาะกลางหลังงูแต่ยังไม่ตาย  ทำให้มีอาการปวดหลัง ได้ทำการขอขมาท้าวมหาราชทั้ง 4และอุทิศบุญแล้ว 

ก็ยังไม่หายจนกระทั่งอ.ได้ส่งบุญของท่านให้ จึงหายปวด อาจารย์บอกว่าเป็นงูจำลองที่เทวดาได้ออกมาแสดงให้เ็ห็นว่าถ้าเราได้ทำลายเขา

แล้ว ก็ควรจะทำ่อย่างไร  เพราะเทวดาเขาก็อยากจะได้บุญเพิ่มเพื่อย้ายภพภูมิให้สูงขึ้น  เหมือนกับลุงเบิ้มที่ได้ใช้แม็คโครขุดตักดินอยู่เจองู มี 4

ตัวมี สีขาวใส  สีทองใส  สีลายขาวเหลืองยาว  และสีลายขาวตัด  ตัวงูขาดทํ้ง 4 ตัวเลย ลงเบิ้มได้ขอขมาและอาจารย์ได้มาอุทิศบุญให้

อาจารย์บอกว่าเป็นงูจำแลงที่มาให้เรา่ชดใช้กรรม เวลาที่ลุงเบิ้มขุดดินอาจารย์ก็จะมายืมคุมเพื่อบอกกล่าวให้ท้าวมหาราชทั้ง 4 ได้ย้ายบริวาร

ของท่านไปก่อนคุณป้อมได้สรุปงานในส่วนที่ตัวเองรับผิอชอบอยู่ ว่าเวลาทำงานเสร็จกันแล้ว ก็จะไม่ดูแลเครื่องมือ วางทิ้งไว้ต้องตามเก็บ

ทำให้หายไม่เต็ม100% และ การจัดการงานก็ยังไม่ดีพอเพราะจะลงไปลุยงานเองแทนที่จะสั่ง กำกับ ดูแลเพื่อให้ได้งานเสร็จตามเป้าหมาย

ด้วยความเกรงใจไม่กล้าที่จะสั่งให้เต็มที่ ทำให้งานออกมาไม่ตรงเป้าหมาย 

คุณตุ๊ก   เป็นผื่นคัน หาย100% สายตายาวดีขึ้น 60% หลังสารภาพว่าได้ขโมย

ดินของหลวง ผลไม้ เงินสามี และฉีกเิงินของสามี ตีลูก งู หมา ตีหัวสามีเล่น 

ซักพักอาการคันได้กลับมาใหม่ เพราะชอบดูผู้ชายใส่ผ้าขาวม้าขึ้นบันได 

และอีก......ที่เรียกต่อมฮากันทุกคนคงต้องให้เจ้าตัวเฉลย

พี่จิ๋ม   เป็นไข้ มีไอเล็กน้อย หลังจากที่ได้ทำงานอาการดีขึ้น 70%

น้องวิน   หน้าเป้นแผลจากสิว ที่หายแล้วพอกลับบ้าน ก็กลับมาเป็นอีก

เนื่องจากได้คิดลบ คิดไม่ดีกับรุนพี่คนหนึ่งที่เป็นสิวว่าหน้าหรือโรงเพาะสิวกันแน่

คุณพรเพ็ญ   เส้นตึงทั้งตัว ปวดกระดูก เท้าชา เดินไม่ไหว จึงได้ขอ รหัส

"อ.อุบลช่วยด้วย"  จึงสามารถทำงานได้ สารภาพ เคยทำแท้ง เหยียบแมวตาย 

ทุบหัวปลา ขโมยเงิน สั่งหัวหมูไหว้เยอะมาก เพราะชอบบนหัวหมูไม่ว่าจะทำอะไร

หลังจากอุทิศบุญแล้วหายยังคงเหลือเส้นตึงตรงหลังคอ 2 เส้น จึงได้อุทิศบุญให้

กับ ลูก ที่ได้ทำแท้ง เส้นตึงตรงคอก็ได้หายไปเหลืออยู่อีกนิดหน่อยเกิดจากความ

คิดที่ไม่ดี อาจารย์จึงให้อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทุกคน อาการหายได้ 100%

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 14:57:25


ความคิดเห็นที่ 153 (1639215)

ธรรมทานของวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย.55

ในวันอาทิตย์นี้คุณธนาแบ่งกลุ่ม workshop กลุ่มละประมาณ 6-7 คน มีทั้งหมด 8 กลุ่ม มีฐานรวม 4 ฐาน ดังนั้นฐานแต่ละฐานก็จะทำงานร่วมกัน 2 กลุ่ม เจี๊ยบอยู่กลุ่มพี่เหมี่ยว ซึ่งเรามีกันทั้งหมด 7 ชีวิต คือพี่เหมี่ยว เจี๊ยบ คุณโฆ น้องลิน คุณน้อย แม่น้องชิม และน้องมาร์ค 

ตอนเช้า 9.00 น เริ่มสตาร์ททำงานกัน กลุ่มเราเริ่มที่แปลงเกษตรก่อนเลย แหมโชคดีจังแดดไม่ร้อน อาจารย์พันธ์จัดงานเหมือนเมื่อวันเสาร์ เพราะแปลงที่จะปลูกผักยังทำไม่เสร็จ ต้องมาทำต่อวันอาทิตย์ แต่วันนี้แต่ละฐานมีกลุ่มทำงาน 2 กลุ่มจึงมีคนทำงานเยอะกว่าเมื่อวาน มีผู้ชายหลายคน เจี๊ยบเลยขอดายหญ้าแทน ส่วนงานขุดยกให้หนุ่มๆ แหมๆๆ นึกว่างานดายหญ้าจะหมู เพราะเคยมาดายหญ้าบ่อยๆ ที่ไหนได้ อาจารย์พันธ์จี้ตาหลอด เจี๊ยบดายหญ้าต้องเดินถอยหลังนะ ถากๆเอาเฉพาะโคนหญ้าเท่านั้น ไม่ต้องติดดินขึ้นมาด้วย หญ้าที่ดายแล้วกองสุมไว้สูงๆนะ อย่ากองแบนๆ ให้กองสูงๆ  จำได้โหม้ดเลย เวลาเหนื่อยให้ทนอีกหน่อย อย่าเพิ่งพัก ทนอีกหน่อยแล้วจะได้ปลดล็อคกรรมได้ ทำเอาเจี๊ยบซึ่งดายหญ้าจนเหงื่อแตกพลั่กๆๆ ทั้งๆที่แดดยังไม่ร้อนเท่าไร เลยไม่กล้าพัก กลัวว่าจะปลดไม่ออก สุดท้ายเหลืออีก 5 นาทีจะหมดชั่วโมง เลยต้องพักยกให้น้ำ

ต่อจากนั้นไปหาพี่เหมี่ยวและคุณอ้อย ซึ่งรวมกันเพื่อเคลียด้านหลังของวิหารไม้ไผ่ ซึ่งเป็นสถานที่รวมทุกสิ่งที่ไม่ใช้แล้ว มากองมาโยนอยู่ด้านหลังวิหารนี้ ทั้งเหล็กใหญ่ เหล็กเส้น เศษกระื้เบื้อง สายไฟ โอ๊ย สารพัด เราช่วยกันเคลีย แบ่งหน้าที่กันไป คนไหนยกเหล็ก คนไหนเข็นขยะ คนไหนรื้อขยะ เศษเหล็กอันไหนที่ใช้ได้ ท่านอาจารย์ก็ให้เก็บไว้ใต้รางน้ำที่นำมาตั้งเป็นที่นั่งรอบต้นมะม่วง ทุกอย่างต้องใช้ได้สารพัดประโยชน์ ความคิดของท่านอาจารย์แจ๋วจริงๆค่ะ

  จากนั้นก็ไปลอกคูระบายน้ำตรงทางที่จะไปแปลงเกษตร ซึ่งรกไปด้วยหญ้าที่ขึ้นในคูระบายน้ำเต็มไปหมด เราต้องใช้เคียวมาเกี่ยวหญ้าที่อยู่ในคู และหญ้าที่ขึ้นรอบๆคูระบายน้ำออกให้หมด แล้วหาคราดมาคราดดึงหญ้าที่ปากคูระบายน้ำ แล้วให้อีกคนใช้เคียวตัดโคนหญ้าที่ดึงรั้งนั้น ซึ่งการทำงานแบบนี้ ทำให้ได้เนื้องานมากขึ้น แถมยังทำให้การทำงานเร็วมากขึ้น ไม่ถึงชั่วโมงเราก็ลอกคูระบายน้ำเสร็จ  เยี่ยมค่ะ

ช่วงบ่ายทำที่ฐานก่อสร้าง แต่วันนี้ไม่ค่อยมีงาน เพราะวันเสาร์พวกเราลุยเทคานกันเสร็จหมดเลย วันนี้ลุงบุญกำลังจะทำแบบเสา เลยไม่มีงานก่อสร้างทำ เลยวิ่งไปช่วยคุณอ้อยรื้อขยะที่ด้านหลังวิหารไม่ไผ่แทน สุดท้ายขยะกองมหึมานี้ ก็โดนสังหารจนหมดสิ้น

จากนั้นก็ปิดฐาน ต่างก็รีบไปอาบน้ำ มาสุมหัวนั่งทำการบ้านกันว่าแต่ละคนที่ขอบำบัดมีอาการอย่างไรบ้าง

สำหรับเจี๊ยบทั้งของวันเสาร์และวันอาทิตย์นั้น อาการเข่าดำ หนา (หน้าก็ด้าน) ดีขึ้นตามลำดับ ส่วนสายตานั้นดีขึ้น 20 % ฝ้า กระ ดีขึ้น 70 %   แต่ขอบอกค่ะ หน้านี้ใสปิ๊งๆๆเลยค่ะ แล้วไม่ใช่เจี๊ยบคนเดียวนะคะที่หน้าใส แทบจะทุกคนเลยค่ะ แม้กระทั่งคุณจอยที่เป็นโรคไต ตอนมาวันแรกหน้าดำ จนเขียวอมม่วง ปากก็ดำคล้ำ ผ่านไป 2 วันเท่านั้น หน้ามีสีชมพูอองตองแทรกมาให้เห็น แถมปากก็เริ่มมีสีชมพูเช่นกันค่ะ สาธุ นี่เป็นเพราะพระบารมีของพระพุทธองค์โดยมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นที่สุด พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และบารมีของพระศรีอารย์ที่ท่านอาจารย์อุบลอัญเชิญมา จึงทำให้เกิดอนุสาสนีย์ปาฏิหารย์แบบนี้ ทั้งๆที่เราก็ทำงานตากแดดทั้ง 2 วัน แต่หน้ากลับใสปิ๊งๆๆ ผิวก็ขาวขึ้น นักวิทยาศาสตร์พลิกตำราตอบไม่ได้แน่ค่ะ

 จากนั้นก็เข้าห้องประชุมเพื่อสรุปการทำงาน หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มก็    สรุบผลการบำบัดของทุกคนในกลุ่ม ซึ่งทุกกลุ่มมีผลงานดีกันทั้งนั้นสามารถบำบัดอาการได้ดีขึ้นเกิน 50%-80% กันทั้งนั้นเลย ประสบความสำเร็จค่ะ เพราะเราทำตามท่านผู้นำ ไม่แตกฝูง ไม่ดื้อรั้น ไม่ใช้ความคิดของตัวเอง ไม่อวดเก่ง และสุดท้ายถ้อยคำของท่านอาจารย์ที่โดนใจมาก

เราจะไม่ทิ้งกัน เราจะฉุด ลาก ถูไปด้วยกัน  ยกเว้นว่าไม่ไหวก็จำเป็นต้องปล่อย เพื่ิอไปช่วยคนอื่นที่ช่วยได้

คำๆนี้ซึ้งงงงงงงงงงงมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 21:49:45


ความคิดเห็นที่ 154 (1639217)

กิจกรรมบุญปลดล็อคกกรรมในครั้งนี้ ถือว่าประสบผลสำเร็จมาก

หลังจากที่พวกเราได้เรียนรู้จากความผิดพลาด

โง่แล้วยังอวดฉลาด

ไม่ทำตามบัญชาสวรรค์

มาอาทิตย์นี้ทุกคนกระตือรือร้น

กระฉับกระเฉง

  เริ่มเป็นงาน

เริ่มปรับปรุงเรื่องการตรงต่อเวลา

ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยเลยทีเดียว

เรียนรู้ที่จะฟังผู้นำ

แม้แต่ตัวผู้นำก็ได้เรียนรู้เยอะมาก

ว่าบทบาทผู้นำ

นั้นต้องเสียสละ 

ต้องวางแผนที่ดี

 

เพราะบางฐานให้เวลา 1-2 ชั่วโมงต้องเสร็จ

แต่บางทีลูกทีม

ไม่รู้รายละเอียดพวกนี้ 

คิดว่าเดี๋ยวมีกลุ่มอื่นมาต่อ 

ดังนั้นทำให้บางครั้งอ้อยเองอาจจะ

ดูเหมือนเผด็จการบ้าง 

เพราะกลัวงานไม่เสร็จ

  เวลารับงานที่ฐาน 

อ้อยจะนึกเป็นภาพว่า

ภาพที่เราต้องการเห็นเมื่อจบกิจกรรมคืออะไร  เช่น ฐานแรกงานทำความสะอาด

หน้าห้องน้ำเก่า 

อ้อยจะเห็นภาพว่ามองไปหญ้าต้องเรียบ   กระถางต้นไม้

รอบต้นมะม่วงใหญ่ต้องย้ายหมด 

 เพราะฐานนี้จัดมาหลายกลุ่มหลายรอบแล้ว

  แต่ดูไม่แตกต่างเลย 

ทำแล้วเหมือนไม่ทำ 

  ซึ่งลูกทีมบางคนอาจจะได้ยิน

อ้อยพูดบ่อยๆว่า 

ทำแล้วต้องเห็นความแตกต่าง 

Before amd After ต้องต่างกัน

ต่างในทางดีขึ้น สวยงามขึ้น เป็นระเบียบขึ้น

ซึ่งจะเห็นว่าสิ่งที่พวกเรา

ผิดพลาด

จะเกี่ยวกับเรื่องขาดความช่างสังเกต

ความละเอียดอ่อน

ไม่เปิดตามองดูรอบๆตัว

เช่น

พี่อมรสังเกตว่า

งานผสมปูนเทคาน

พี่อมรจะจ่ายงาน มีคนยกหิน ยกทราย

คอยเข็นรถปูนผสมเสร็จไปที่คาน 

คนตักปูน เป็นต้น 

ช่วงแรกของงานจะเป็นงานยกหิน ยกทราย

ซึ่งหนักมาก 

แต่คนที่ทำหน้าที่อื่นที่ยัง

ไม่มีงานของตัวเองก็ยืนเฉย 

ไม่มาช่วยหิน ทรายก่อน  ดูไม่มีน้ำใจ

ไม่รู้จักมองดูรอบๆตัวว่า 

ตอนนี้เราสามารถช่วยงานตรงไหนได้บ้างหรือเปล่า

อ้อยเคยเจอช่วงที่ผสมปูนเทคาน

พื้นอาทิตย์ที่เราผสมปูนถึง 88 ลูก

ตอนนั้นอ้อยอยู่

แถวยกหิน ทราย ปูน

แต่วันนั้นปวดท้องประจำเดือนนิดหน่อย

และเป็นวันแรกซึ่งจะเสียเลือดค่อนข้างเยอะ  เวลายกปูนหนัก 50 กิโลกับพี่อมร 

ยังกลัวมดลูกจะหลุดเลย 555

พอพักกลางวันเหนื่อยมาก

จนไม่ทานข้าวก่อนแต่รีบไปนอน

ในพีระมิดองค์ใหญ่

ชาร์ตพลัง

  ซึ่งทุกคนทักว่าหน้าซีดมาก 

พอช่วงบ่าย พวกพี่เหมี่ยว

คุณธนาให้ไปเป็นสายพาน ลำเลียงปูนที่ผสม อยู่ในร่ม จะได้ไม่เหนื่อยมาก

คุณธนามองเห็นปัญหาว่า ขนหิน ทรายปูนนั้นงานหนักมาก

จึงให้คนที่ทำสายพานมาตลอดไปเปลี่ยนบ้าง

มีบางคนไปช่วยพักหนึ่ง

แล้วก็เปลี่ยนกลับมา

บอกว่าเหนื่อย

หนักมากจริงๆ

ต่อมาอีกซักพักแทบไม่มีใครสลับ

ไปเปลี่ยนหิน ทราย ปูน อีกเลย

ตัวเองอาการดีขึ้นแล้ว

เลยออกไปประจำที่ หิน ดิน ทรายอีกรอบ

  ตอนนั้นขนาด ดร.จุ๋ม

ยังเป็นลมเลย

อ้อยก็นึกในใจว่า

ทำไมคนที่เคยสลับมาตรงนี้

และรู้ว่ามันหนักมาก 

ถึงไม่ยอมกลับมาสลับช่วยกันนะ

ยิ่งเรารู้ว่ามันหนัก เหนื่อย

เราควรยิ่งต้องอาสามาเปลี่ยนให้เร็วขึ้น หรือบ่อยขึ้น

แต่อ้อยเห็นน้ำใจคนแค่ไม่กี่คนเช่น

พี่เจี๊ยบ พี่สมจิต พี่จุ๋ม พี่จิ๋ม คุณจั๋ม

พี่เหมี่ยว คุณธนา และคนอื่นๆ

จากที่สังเกตนะคะ

งานทุกหน้าที่เหนื่อยหนักหมด

แต่บางครั้งตรงสายพานลำเลียงถังปูน

มักจะมีคนเยอะไปอยู่ตรงนั้น

และเป็นจุดที่ไม่ค่อยใช้ปัญญาในการทำงาน

ยืนเบียดกันจนแทบจะขี่กันอยู่แล้ว

ก็ทู้ซี้ยืนอยู่นั่น

แทนที่จะมองดูรอบๆ

ออกไปทำงานช่วยตำแหน่งอื่นบ้าง

อันนี้ขอติงนิดนึง  ถ้าไม่รักกันจริงไม่บอกหรอกนะ อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 22:15:19


ความคิดเห็นที่ 155 (1639233)

 ท่านที่มีจิตอาสาจะเห็นได้ชัด

ทุกอย่างที่เห็นก็พร้อมจะช่วยเหลือ

ไม่นิ่งดูดาย ที่จะหยิบ จะจับ

ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

ยิ่งการที่เข้ามาบ้านสวน ซึ่งเป็นบ้านส่วนตัว

ของท่านอาจารย์อุบล

ท่านเมตราให้เข้ามาสร้างบุญสร้างกุศล

เราเป็นผู้มาอาศัยใบบุญ สะพานบุญ

เห็นตรงใหนเลอะ สกปรก ไม่งามตา

หยิบจับทำให้สะอาดได้เลย

ไม่ต้องรอให้เจ้าของบอกกล่าว

ให้พิจารณาเอา

ยกเว้นสิ่งที่เห็นว่าสิ่งนั้นมีมูลค่า

ทำไปไม่ถามก่อน

จะทำให้เกิดความเสียหายได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 00:17:42


ความคิดเห็นที่ 156 (1639241)

ขอเล่าบ้างนะค่ะ

ถึงบ้านสวนแต่เช้าวันเสาร์เวลาประมาณ 8โมงเช้าเศษๆๆ ด้วยความเมตตาจากคุณอดิศักดิ์และ น้องเอิ้นโทรแจ้งข่าวว่า ต้องเข้าบ้านสวนให้ใด้ก่อน 8โมงเช้านะ ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาก็แอบคิดในใจว่าทำไมต้องเช้าขนาดนั้น เราอยู่ตั้งไกล รถทีอนุเสาวรีย์ออกเที่ยวแรกหกโมงสิบห้า จะทันป่าวหนอ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้ไปทันเวลาด้ายเทอด ที่สุดก็ทันจนใด้

อีกอย่างคิดว่าก็เราไม่ใด้เข้าบ้านสวนตั้งเกือบเดือนแล้วต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆๆเลย 

พอมาถึงเห็นคุณธนาเรียกประชุม แบ่งกลุ่มทำงาน มีคนมาทันเวลาประมาณ สามสิบกว่าคนที่ทันเวลานัดหมาย เราติดหนึ่งในนั้น เลยถึงบางอ้อ

พอแบ่งกลุ่มทำงานใด้ร่วมกลุ่มกับคุณอดิศักดิ์มีสมาชิกทั้งหมด 8คน มีคุณตัวเล็ก ดร จิ๋ม น้องเบส คุณเก่ง คุณพิชัย คุณเต้ และภา

เริ่มฐานเเรกที่แปลงผัก อาจารย์พัน เมตตาสอนให้ใช้จอบให้เป็น จะใด้ไม่เหนื่อยง่ายแล้วคุณภาพงานออกมาใด้ดีด้วย  อ้าวแค่จับจอบเราก็ไม่ผ่านแล้ว มือข้างซ้ายจับด้ามจอบไว้ข้างลำตัว  มือขวาเป็นตัวบังคับถางหญ้า เป็นงานที่ร้อนแดดใด้เหงือมากใด้ความอดทนและใด้ปัญญาด้วย

มาฐานที่สอง คุณป้อมให้ตกแต่งรั๊ว แบกใม้ใผ่มาเลื่อยทำรั๊ว ขุดหลุมลงเสา คุณป้อมขุดเจองู จนหลังงูใด้รับบาดเจ็บมีเลือดใหล ลักษนะของงูเป็นสีทองเลือยช้าๆๆตัวเท่าแขนของภา เป็นงูที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวตที่มีลักษนะของสีทองสวยขนาดนี้ เลยรีบใช้ระหัสอาจาร์อุบล ช่วยด้วย ขอให้เลือดที่หลังงูหยุดไหลไม่รู้สึกเจ็บปวดไดๆๆเลย  แล้วเบิกบุญทานศีลภาวนาอุทิศบุญให้ทันที

หลังจากนั้นมาฐานที่สาม ก่อสร้าง ยืนส่งปูนรู้สึกปวดหลังมากๆก้มแทบไม่ใด้ พี่ๆที่ยืนอยู่ข้างเห็นเราท่าไม่ดีเลยบอกวิธีส่งปูน ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะปวดน้อยที่สุด แล้วภาก็คิดว่าเจ้ากรรมนายเวรคงอยากใด้บุญแน่ๆๆเลย เราคงทำบาปไว้กับงูเยอะท่านคงอยากใด้บุญ และเล่าเรื่องที่เราเจองูหลังสีทองจากฐานสองให้เพื่อนฟัง แค่นั้นเเหละอาการปวดหลังก็หายทันที แบบร้อยเปอร์เซนต์

มาทราบทีหลังจากท่านอาจารย์ว่างูที่เห็นนั้นคือเทวดาแปลงตัวมา ต้องการบุญจากท่านอาจารย์เพื่อย้ายภพภูมให้สูงขึ้นยิ่งๆๆขึ้นไป 

มาที่ฐานพี่เหมียว ทำความสะอาดโรงอาหารชั้นที่1 ทาสีตรงเคาร์เตอร์ เช็ดถ้วยชาม แล้วขึ้นไปที่ชั้นสามทำความสะอาด เก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ ที่สำคัญใด้ความรู้เรื่องเก็บข้าวสารโดยภูมปัญญาไทย ไม่ให้มอดมันกัดกินข้าวโดยการใส่พริกแห้งเพียงเล็กน้อยไปที่ถุงข้าวสารแล้วมัดปากถุง เพียงเท่านี้เราก็สามารถกันมอดกินข้าวสารใด้เเล้ว

ต่อมาที่ฐานคุณอ้อย จัดตกแต่งสวนที่ลานจอดรถหลังวิหารเก่า เกลี่ยพื้นที่รอบๆๆต้นไม้ให้เรียบก่อนวางม้านั่ง เป็นงานหนักมากที่จะต้องข่นหินอ่อน มีภา ดร จิ๋ม น้องเบสเป็นเข็นรถลาก มีพีชัย พี่ตัวเล็ก คุณเก่งเป็นคนยกของ มีคุณอ้อยคอยบอกว่าคอยจัดวางอย่างไรให้ใด้สวยงาม

สรุปการทำงานแบบเเบ่งกลุ่มใด้งานเยอะ มีคุณภาพ ใด้ปัญญา ใด้ความอดทน ใด้เพื่อนร่วมงาน ใด้ระดมสมอง มีวิธีคิด มีความสุขกับการทำงานใด้น้ำใจจากเพื่อนร่วมงาน ที่สำคัญใด้บุญด้วยค่ะ

พอตกกลางคืนมีการจุดไฟแบบธรรมชาติโดยการเอาใม้ที่แห้งๆๆมาถูกันเพื่อให้เกิดไฟ ถึงไฟมันไม่ติดก็เห็นความตั้งใจของทุกๆๆคน เห็นพี่ชัย คุณอดิศักดิ์ถูจนเหงือหยดเป็นน้ำ แถมคุณอดิศักดิ์ถูจนใด้เลือดยังไม่ท้อเลย เห็นความตั้งใจของทีมงานและทุกๆๆคนแล้วมีความสุขจริงๆๆทุกคนมี่แต่ยิ้มแย้มแจ่มใสหาที่ใหนไม่ใด้อีกแล้วนอกจากที่บ้านสวนค่ะ

สรุปผลจากการทำงานใด้ดังนี้ค่ะ

พี่ตัวเล็ก เจ็บหลัง หลังจากทำงาน อาการหาย100%

ดร จิ๋มเจ็บคอ หลังจากทำงาน อาการดีขึ้น 50%

ภา มีฝ้าที่โหนกแก้ม หลังจากทำงาน ฝ้าจางลง 70%

น้องเบส ปวดเหงือก หลังจากทำงาน อาการดีขึ้น 50%

คุณเก่ง ปวดเข่า ปวดเอว หลังจากทำงานอาการดีขึ้น 80%

คุณพิชัย ปวดศีรษะ หลังจากทำงาน หาย100%

คุณเต้ ปวดต้นคอหลังจากทำงาน หาย100%




ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 00:48:59


ความคิดเห็นที่ 157 (1639244)

 

กิจกรรมเสาร์-อาทิตย์ที่ 3-4 พ.ย.55(สอบซ่อมปลดล็อคกรรม)
    เช้าวันเสาร์เดินทางถึงบ้านสวน 8.30 น.(รอถ่ายเอกสาร) ขอโทษที่มาสายค่ จะปรับปรุงตัวเองจัดสรรเวลาใหม่ค่ะ คุณธนากำลังแบ่งกลุ่มทำ work shop เช่นอาทิตย์ก่อนกลุ่มละ 5 คน ทั้งหมด 6 ฐานให้ทุกคนเปลี่ยนฐานทุกๆ 1 ชม. ฐานแรกไปทำงานก่อสร้างที่วิหาร3ชั้น  รับผิดชอบตักโกยหิน ทรายใส่บุ้งกี๋แล้วยกไปกองให้แผนกผสมปูนสลับกับตักปูน เทปูนใส่คาน แม้งานจะหนักแค่ไหนไม่มีใครยอมแพ้  ทุกคนสู้ๆๆ  ตั้งหน้าตั้งตาตัก โกย เท อย่างเดียวท่องคาถาพระศรีอาริย์ด้วย เร่งสร้างบุญเต็มพิกัด  ขอโกยบุญก่อนเรื่องอื่นไว้ทีหลัง รู้สึกว่าเป็นวัฒนธรรมของลูกบ้านสวนแล้วซิ (ฮิฮิ)   สิ่งที่ทำให้ทุกคนซาบซึ้ง ปลื้มใจและตื่นตันใจที่สุดคือความเมตตาของอาจารย์ที่ให้กับลูกบ้านสวน  ท่านคอยห่วงใย  ดูแลสาระทุกข์สุกดิบทุกๆเรื่อง  ทำงานก่อสร้างแดดร้อนท่านก็จัดหาเต๊นมากางให้เพื่อให้ร่มเงากันแดด   อากาศร้อนอบอ้าวก็จัดหาพัดลมมาตั้งกลางแจ้งเปิดลมเย็นๆพ้ดให้ทุกคนคลายร้อนขณะทำงาน  จัดหาน้ำดื่มเย็นๆให้  ทำให้เรารู้สึกผิดและละอายใจมากที่ไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระงานอาจารย์แถมยังคอยสร้างปัญหาใหม่ให้ไม่รู้จบ  อาจารย์ก็ไม่เคยถือโกรธและยังเพียรพยายามสั่งสอนให้ทุกคนละชั่ว ทำดี พัฒนายกจิตให้สูงขึ้นตลอดเวลาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ลูกควายขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ
     เสร็จจากฐานก่อสร้างไปต่อที่แปลงเกษตร  อ.พันธ์ให้ถากหญ้ารอบๆถังหมักปุ๋ยเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับเปลี่ยนถ่ายปุ๋ย  วิธีถากหญ้าต้องจับจอบให้มั่น ยืนถ่างขาให้ถนัด ตัวตรง ใช้จอบถากหญ้าระหว่างหว่างขาไปเรื่อยๆต้องถากถอยหลัง ห้ามเดินหน้า เป็นฐานที่ต้องใช้ปัญญาสูง ดูเหมือนง่ายแต่ทำยาก ครบ 1 ชม.ก็ย้ายฐานไปซ่อมแซมรั้วริมวิหารไม้ไผ่  เอาไม้ไผ่วางตามแนวนอนกะระยะห่างให้เหมาะสมแล้วจึงมัดด้วยเชือกปอพันระหว่างเสากับไม้ไผ่กลับไปกลับมาให้แน่นหลายๆรอบจึงผูกด้วยเงื้อนตาย ฐานนี้เป็นฐานสุดท้ายของภาคเช้าก่อนพักทานอาหารเที่ยง
     ช่วงบ่ายเริ่มฐานแรกบริเวณหน้าห้องน้ำเก่า เป็นการตัดหญ้าบริเวณต้นโมกหน้าบ้านอาจารย์ตลอดแนว  การใช้กรรไกรตัดหญ้าต้องใช้สมาธิและปัญญาไม่แพ้งานเกษตรเช่นกัน  เวลาตัดต้องวางกรรไกรให้ขนานกับพื้นหญ้าให้ติดโคนหญ้าให้มากที่สุดและต้องคอยระวังไม่ให้โดนโคนต้นไม้และก้อนหินตามพื้น  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับต้นไม้และกรรไกร  หลังจากเก็บเศษหญ้าไปไว้ที่แปลงเกษตร  เสียงนกหวีดดังก็เลื่อนฐานไป ที่โรงทานชั้นสอง มีการรื้อของต่างๆตามห้องออกมาไว้นอกห้องก่อน   หลังกวาดฝุ่นทำความสะอาดพื้นแล้วจึงจัดของต่างๆให้เข้าที่   จัดแยกเป็นหมวดหมู่ตามชนิดของของกินของใช้ ระหว่างกวาดพื้นฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้องอย่างกับหมอกควันแต่ไม่มีใครไอจามเลย   ขอบพระคุณบารมีพระศรีอาริย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาอ.อุบลค่ะ   ฐานสุดท้ายพบกันที่ลานจอดรถข้างวิหาร  ช่วยกันยกท่อระบายน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ทำด้วยปูนและฝาปิดมาตกแต่งเป็นเก้าอี้นั่งรอบๆโคนต้นมะม่วง   ตัดต้นไม้ต้นหญ้ารอบๆกระท่อมและเก็บกวาดจนเตียน   รู้สึกภูมิใจว่ามือที่เคยฆ่าสัตว์ทำบาปมาเยอะเเยะได้มีส่วนสร้างบุญตกแต่งสถานที่จนแลดูสะอาด สวยงามน่าเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจไม่น้อยทีเดียว  สาธุ
   ส่วนกิจกรรมวันอาทิตย์แบ่งกลุ่มทำกิจกรรมกลุ่มๆละ 5 คน ทำงาน 4 ฐานๆละ 1 ชม.เช่นเดิม มีงานก่อสร้างที่วิหาร 3 ชั้น  ถากหญ้าที่แปลงเกษตร เก็บรื้อเศษไม้เศษเหล็กที่กองอยู่หลังวิหารไม้ไผ่   ลอกคูน้ำและปรับระดับดินเพื่อวางท่อระบายน้ำพร้อมขนฝาท่อมาปิดท่อระบายน้ำ    วันนี้อยู่กลุ่มเดียวกับคุณจอยซึ่งป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ต้องล้างไตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง สภาพก่อนทำงานปากและเล็บซีดขาวจนเห็นได้ชัด  ดูหน้าตาบวมเล็กน้อย  มีอาการอ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม  แต่พอทำงานหนักๆกลับมีพลังขึ้นมาทันที ถ้าทำงานเบาๆจะไม่มีแรงซึ่งสวนทางกับวงการแพทย์โดยสิ้นเชิง หลังเสร็จงานอาการคุณจอยดีขึ้น ปากและเล็บมีสีชมพูขึ้น ขาบวมดีขึ้น 70%
      ผลสรุปโดยรวมการปลดล็อกกรรมสัปดาห์นี้ประสบความสำเร็จ80-100% ปัญหาที่ค้างคาอยู่น่าจะเกิดจากยังไม่เต็มที่กับงาน เพราะเห็นบางคนชอบชวนคุย ไม่ท่องคาถาพระศรีอาริย์ ขาดความละเอียดรอบคอบในการทำงาน ลืมเก็บเครื่องมือ ไม่ใช้ของอย่างประหยัด ส่วนตัวเองอาการปวดหลังและนิ้วมือไม่ดีขึ้นเพราะเขียนธรรมธานน้อยและใช้มือสองข้างนี้ฆ่าสัตว์เยอะโดยเฉพาะเป็นสัตว์ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามจึงเป็นกรรมหนักที่ต้องชดใช้กรรมต่อไป
ผู้แสดงความคิดเห็น ทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 01:53:28


ความคิดเห็นที่ 158 (1639249)

 กิจกรรมวันเสาร์ของกลุ่มที่ 1

        ฐานที่ 1 งานก่อสร้าง งานผสมปูนเทคาน มี 3 กลุ่มที่รับผิดชอบงานร่วมกันในฐานนี้ มีสมาชิกกลุ่มจำนวน 6 คน มีคุณตาโต๊ะ มาประจำฐาน และลุงบุญ-ลุงเบิ้ม อีกคนรวมคนทั้งหมด 21 คน งานขับเคลื่อนได้แม้ว่างานจะมากคนน้อย แต่สามารถทำงานได้ปริมาณมาก  ช่วงเก้าโมงถึงเที่ยงผสมปูนได้ราว 25 โม่ ถือว่าได้งานอยู่ในระดับที่ดี

        การหมุนเวียนของกลุ่มอื่นๆ มายังฐานนี้ ทำให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมก่อสร้างบุญแรงกายสร้างวิหารทาน กันทุกคนอย่างครบถ้วนการกระจายงานมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เช่น ตักทราย ตักหิน เข็นรถนำปูนผสมไปเท  ตักปูนลงแบบคาน ที่น่าชมเชยกับทุกกุล่มที่มาเข้าฐานนี้ภาคเช้า จะเร่งมือและออกแรงอย่างเต็มที่ ช่วยเหลือกัน ดูเหมือนคนเหลืองานเลย แต่เป็นการไม่นิ่งดูดาย ช่วยเหลืองาน โดยไม่ปล่อยให้ตนเองว่าง ทำให้งานรวดเร็ว

        ผมสังเกตเห็นว่า การสับเปลี่ยนฐานละหนึ่งชั่วโมง ทำให้ไม่เหนื่อยไม่ต้องหยุดพัก ไม่ได้หมายถึงห้ามหยุดพักนะครับ ทุกคนยืนระยะเวลาทำงานได้ถึงเวลาก็ได้สับเปลี่ยน คือเวลาพัก ไปในตัว หัวหน้าประจำฐานก็ได้พักช่วงเปลี่ยนฐานทำให้ไม่เหนื่อยมาก

งานที่หน้าโม่ ใส่หิน ปูน ทราย ลงโม่ ถือว่าหนักสุด ใช้วิธีการสับเปลี่ยนกัน ผสมเสร็จ สองกระสอบ สับเปลี่ยนกัน ทำให้งานไม่หนักมาก ทุกคนก็สมารถทำได้โดยจับคู่กันช่วยกันยกปูนใส่โม่ และควบคุมปริมาณน้ำไม่ให้พาน้ำปูนไหลทิ้งออกจากปากโม่ ซึ่งเป็นการสูญเสียปูนโดยเปล่าประโยชน์ ต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ ใช้ของอย่างประหยัด จะได้ไม่ติดหนี้สงฆ์

ภาคบ่าย เทปูนต่ออีก 35 โม่ ทุกคนสู้งาน แม้แดดจะร้อน ดูเหมือนว่าทุกคนจะอ่อนแรงลง เห็นได้ชัดลง ทุกคนมีกำลังใจที่ดี มีเป้าหมายบุญอยากนำบุญอุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวรของตนเอง อยากหายจากโรค อยากปลดเปลื้องบรรเทาทุกข์ อยากรับการแก้ไขสภาพคล่องทางการเงิน หนี้สิน ดูทุกคนจะท่องคาถาขณะทำงานแทบทุกคน

กลุ่มที่ 1 ขอรายงานผลการเปลี่ยนที่ขอรับความเมตตาบำบัดตามปัญหาของแต่และคนดังนี้

1.นายอมร  ศิริมาศกูล     ขอรับบำบัดด้วยปัญหา สายตายาว ผมมั่นใจจนพิสูจน์ได้ด้วยตนเองว่า สายตายาวสามารถบำบัดได้ หลังเลิกงานรู้สึกว่า การมองสว่างขึ้น มองไกลออกไปไม่พร่ามัว ดีขึ้น 70 %

2.คุณมณีรัตน์ นาคธนนันท์ ขอรับบำบัดด้วยปัญหาสายตายาว  หลังเสร็จงาน ดีขึ้น 60%

3.คุณกันสิณี อัครวิชนนท์   ขอรับบำบัดด้วยปัญหา สายตายาว และน้ำหนักเกิน      สายตายาวดีขึ้น 70% ส่วนน้ำหนักเกินรอรายงานผล

4.คุณอิศวร  ม่วงกลาง    ขอรับบำบัดด้วยปัญหา ปวดกระดูกสันหลัง ดีขึ้น 15 % ขณะรายงานได้นับการบำบัดเพิ่มโดยสารภาพกรรมเพิ่ม ทำให้ดีขึ้นอีก 85%

5. คุณวรภพรัชต์  จินดาพล ขอรับบำบัดด้วยปัญหา ปวดหลัง ปวดเข่า เบาหวาน     ปวดเข่าหาย 100% ปวดหลังดีขึ้น 80% อาการเบาหวานต้องรอผลจากแพทย์ อาการปวดหลัง เมื่อสารภาพกรรมที่ผิดศีลข้อสาม ทำให้หาย 100%

6.คุณนพวรรณ  ใจตรง    ขอรับบำบัดด้วยปัญหา การเงินหนี้สิน รอดูผลการเปลี่ยนแปลง จะรายงานภายหลัง

จะเห็นว่าอาการเจ็บป่วยแม้ว่าจะยังไม่หาย เนื่องจากสาเหตุ ยังไม่ได้อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร กำลังบุญที่ทำยังไม่พอ จิตใจ ความคิดขณะทำกิจกรรมอาจมีความอยากหายมากว่าอยากให้ แต่ทุกคนก็ได้รับความเมตตาจากอ.อุบล ช่วยหาเหตุให้ จนสามารถดับเหตุได้ แล้วหาย100% นับเป็นความเมตตาที่อ.อุบล ปรารถนาจะให้ทุกคนพ้นทุกข์จริงๆ อย่างเสมอภาค

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 03:26:22


ความคิดเห็นที่ 159 (1639250)

 กิจกรรมวันอาทิตย์

ผมขอบรรยายภาพรวมของกิจกรรมและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมนะครับ

ผมยังคงอยู่ที่ฐานงานก่อสร้าง ต้องเทคานที่เหลือให้เสร็จ มีการปรับลดจำนวนคนในฐานเหลือ สองกลุ่ม  คนน้อยลง มีการสลับฐานเหมือนเดิมแต่ก็สามารถทำได้จนเสร็จก่อนเที่ยง เท่าที่สังเกตดูที่ผ่านมา คนน้อยไม่ใช่ปัญหาใหญ่นักสำหรับการทำงานที่บ้านสวน ลูกบ้านสวนทำได้ทุกอย่างเลย

มีสิ่งที่อยากให้มีการแก้ไขคือ ทุกคนต้องรู้จักสังเกต หรือถามว่างานจะเริ่มตรงไหน อะไรก่อน เพราะว่า การเปลี่ยนฐาน การเข้าฐานไม่พร้อมกันฟังคำสั่งงานไม่พร้อมกัน ทำให้เก้เก้กังกัง ไม่รู้จะทำอะไร  บางทีเมื่อรับมอบหมายงานแล้ว ยังไม่ถึงคิวงานที่ต้องทำ ควรมีจิตสาธารณะช่วยเหลือผู้อื่นที่ทำก่อน จะถึงคิวงานของตัวเอง จะเห็นลักษณะนี้มากแทบทุกกลุ่ม คือคอยงานนั่นเอง เวลาที่คอยงานสามารถทำอย่างอื่นได้โดยไม่ปล่อยเวลาให้เสียไป  

ความสามารถในการทำงานและการมีจิตสาธารณะที่จะต้องนำมาใช้และฝึกฝนตนเอง คนที่มาบ้านสวนส่วนใหญ่แล้ว ไม่เคยทำงานก่อสร้างมาก่อน แต่ก็สามารถเรียนรู้ฝึกหัด และทำได้ เป็นอย่างดี เพราะมีใจมาก่อน ส่วนคนที่ทำงานแบบเสียดายแรงไม่เต็มที่ กลัวเหนื่อย ไม่ระมัดระวังทำให้งานเสียหาย ไม่ประหยัดอุปกรณ์ แทนที่จะหายเจ็บหายป่วยหายจน ปัญหายังอยู่เหมือนเดิมไม่คลี่คลาย แถมเป็นหนี้สงฆ์อีกต่างหาก อันนี้เราต้องใส่ใจนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 03:30:25


ความคิดเห็นที่ 160 (1639252)

 ผมต้องขอบคุณ คุณธนา ที่ได้ประเมินหน้ากลุ่ม ในภาวะความเป็นผู้นำ

ผมใช้แรง ใช้ความสามารถเฉพาะตัวอย่างเดียว มุ่งที่งานให้สำเร็จอย่างเดียว ไม่ได้ใช้ปัญญา ในการบริหารจัดการกลุ่ม

การทำงานเป็นทีม ผู้นำจะต้องใส่ใจทีมงาน ที่ผ่านมาผมไม่มีวิธีการกระจายงาน ลำดับงานก่อนหลัง  อธิบายแจกแจงงาน แบ่งงานให้เหมาะสมกันจำนวนคน จำนวนงาน ให้สมาชิกในกลุ่มสลับหมุนเวียนการทำหน้าที่ให้ครบทุกหน้าที่ โดยให้เน้นการทำงานเป็นทีม  หาวิธีให้ทุกคนแสดงความสามารถออกมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีการติดตามผลงานจบแล้วก็จบเลย  

เป็นความจริงครับ ผมทำหน้าที่เป็นผู้นำได้ไม่สมบูรณ์ จะต้องมีการแก้ไขและปรับปรุงอย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้จักตัวเอง  ฝึกการใช้ปัญญาในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ฝึกการเป็นผู้นำรับคำสั่งมาปฏิบัติ เพราะความสำเร็จ และประสิทธิภาพของงานก็อยู่ที่ผู้นำครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 03:37:04


ความคิดเห็นที่ 161 (1639259)

ขอกราบแสดงความเสียใจ

กับท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

ที่ต้องสูญเสีย คุณตาสำเภา

อันเป็นที่เคารพรักยิ่ง

น้อยขอเบิกผลบุญทั้งหมดที่ได้ทำมาอุทิศให้คุณตาค่ะ

น้อยขอส่งคุณตาขึ้นรถทิพย์ไปพระนิพพานค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 04:43:09


ความคิดเห็นที่ 162 (1639261)

 Work Shop 3 - 4 พ.ย 55

สอบซ่อมอาทิตย์นี้สุดคุ้มม๊ากค่ะ

เป็นบททดสอบที่ยากขึ้น เข้มข้นมากขึ้น

ฐานที่น้อยได้เข้าประจำการสอบซ่อมมีดังนี้

ฐาน 1 : ก่อสร้างอาคาร 3 ชั้น

ฐาน 2 : ตกแต่งหน้าบ้านสวนพีระมิด

ฐาน 3 : ห้องน้ำใหม่

ฐาน 4 : ก่อสร้างอาคาร 3 ชั้น

ฐาน 5 : ทำความสะอาดบริเวณแปลงผัก

ฐาน 6 : ก่อสร้างอาคาร 3 ชั้น

ฐาน 7 : งานเกษตร

ฐาน 8 : ซ่อมแซมรั้ว

เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น.

เป็นฐานที่เข้มข้นมากเข้าปฏิบัติการถึงฐานที่ 8 มีการสลับ

เปลี่ยนฐานทุก ๆ 1 ชม. อันดับแรกที่น้อยเจอคือ

กำลังใจ

เราต้องอาศัยกำลังใจในการทำงานบุญจริงๆ

เพราะการสอบซ่อมคราวนี้น้อยก็คิดว่าเราต้องสอบให้ผ่านให้ได้

เมื่อเข้าประจำการแต่ละฐานต้องมีความอดทน

หลังจากโง่แล้วอวดฉลาด

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง

ทำงานไปด้วยภาวนาคาถาพระศรีอาริย์เมตไตรไปด้วย

บางช่วงก็ลืมท่องเมื่อนึกได้ก็ดึงกลับมาท่องใหม่

โอ้โห้ยากจริงๆทั้งทำงานทั้งภาวนา

ท่านอ.อุบลช่างฉลาดสุดยอด

เป็นการปฏิบัติสมาธิแบบลืมตาจริงๆ

การเข้าฐานแต่ฐานนั้นต้องอาศัยกำลังใจ อาศัยความอดทน

ความสามัคคี ความเสียสละกันจริงๆ แต่ละคนก็สู้

ต่างก็พยายามจะแก้ศูนย์ในสัปดาห์นี้ให้ได้

น้อยได้เจอฐานก่อสร้างเวียนมาถึงสามครั้ง

โอ้โห้ฐานนี้สุดย๊อดทำให้เราต้องใช้ปัญญา ใช้ความอดทนม๊าก

ทำให้ตัวเราได้ดึงเอากำลังใจออกมาสู้กับงานให้เต็มที

ผลที่ได้สุดคุ้มจริงๆค่ะร่างกายเหนื่อยมากถึงขนาดได้นั่งพัก

พักดื่มน้ำให้หายเหนื่อยสักพักแล้วลุกขึ้นสู้ต่อ

ทำให้เราได้ปัญญาว่าถึงเราเหนื่อยเราก็ไม่ท้อต่องานข้างหน้า

ต่ออุปสรรคข้างหน้า

ผลที่ได้รับทำให้ร่างกายได้เหนื่อยเต็มที แล้วรู้สึกสบายตัว

ถึงเหนื่อยก็สบายใจมีความสุขมากค่ะ

การสอบซ่อมคราวนี้

สุดคุ้มม๊ากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 04:50:02


ความคิดเห็นที่ 163 (1639264)

(นำเสนอโดยนายพิชัย  ภูกิ่งพลอย)

การที่ผมได้ทำบุญสร้างวิหารทานเพื่อปลดล๊อกกรรม การงาน

การเงิน พอกลับมาถึงบ้านเหมือนลูกค้าเพิ่มมากขึ้นพอเปิด

โทรศัพท์เท่านั้นแหละมีลูกค้ามาโทรศัพท์สั่งของมากมายและ

ลูกค้าที่โทร.มาสั่งของก็พูดกับเพราะมากจนผมรู้สึกแปลกใจ

ลูกค้ารายเก่าๆก็กลับคืนมาสั่งของ คุยดีด้วย และยังง้อสินค้า

เราด้วยผมวิเคราะห์ผลบุญแล้ว 100% จริงๆครับ

ตอนที่ท่านอ.อุบลมีกิจกรรม Work shop

เรื่องที่ว่าถ้ามีคนมาหลบลู่ท่านอ.อุบล ชาติ ศาสนา

พระมหากษัตริย์ จะทำอย่างไร เพราะตอนนี้ผมก็เจอกับตัวเอง

และแล้วผมก็ได้เจอมารตัวเป็นๆจริงๆครับได้บุคคลคนหนึ่ง

ก็เลยถามเขาไปว่าคุณเป็นลูกเป็นหลานพระพุทธเจ้าไหม

เขาตอบชัดเจนเล้ยว่าไม่ใช่

โอโฮ้ผมคิดไปว่าวันนี้เจอมารตัวจริงแล้ว แล้วเราจะคุยธรรมะ

พุทธเจ้ากับเขาอย่างไรหนอ ผมจึงพูดแหย่ๆว่าคุณรู้ไหมศีล5

มีอะไรบ้าง ผมก็ตัวอย่างว่าศีลข้อสองลักทรัพย์ผลกรรมที่ได้รับ

จะเป็นเช่นไร เขาก็สวนมาทันควันว่าที่ลักทรัพย์พระพุทธเจ้าก็ทำ

เป็นตัวอย่าง เช่น ตอนเสี่ยงทายก็ขโมยดอกบัวพี่สาวมา

เสี่ยงทายตายแล้ว ผมจะทำอย่างไรดีเนี้ยะยิ่งพูด เขาก็ยิ่งจะ

หลบหลู่พระศาสดาเข้าไปอีกทำให้ผมหยุดพูดไปชั่วขณะ

ผมจึงได้อธิบายว่าการหลบลู่พระพุทธเจ้านั้นได้รับเคราะห์กรรม

อย่างไรบ้าง เช่น ได้มีคนหลบลู่ท่านอ.อุบล พูดได้ไม่นาน

ลูกชายก็ป่วยเป็นมะเร็งและอีกคนหนึ่งก็เป็นมะเร็งอีกเหมือนกัน

แต่เสียชีวิตแล้ว เมื่อเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็หยุดพูด แต่ก็ไม่

รู้สึกว่าใจเขาคิดอย่างไรจะติดตามต่อไป

วันที่ 31 ต.ค 55 ลุงได้นำไข่ไก่มาส่งที่บ้านและลุงได้เล่าอาการ

ปวดขาให้ฟังผมก็เล้ยให้หาสาเหตุลุงจึงบอกว่าคงเกิดจากเหตุ

หักขากบมามากผมจึงให้ลุง

ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยพร้อมมองมาที่จี้ที่ห้อยที่คอของผม

อาการของลุงดีขึ้นทันที 50%จนกลับไปถึงบ้านอาการดีขึ้น

เป็นลำดับจากนั้นเมื่อผมเห็นว่าการใช้วิธีนี้ได้ผม ผมก็ได้มี

โอกาสเอารถไปปะยางจึงได้โอกาสเพื่อจะช่วยคนอื่นอีกได้บ้าง

เปิดประเด็นคุยธรรมะพระพุทธเจ้ากับคนอื่นก่อน

เมื่อเขาสนใจประเด็นของเราก็เข้าประเด็นถามถึงว่าเขามี

อาการเจ็บป่วยที่ร่างกายส่วนใดหรือไม่

เหมือนเคสนี้มีอาการปวดเอว

จึงให้เขาใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยพร้อมมองจี้3ร่มโพธิ์ศรี

และแล้วเขาก็ได้รับพลังงานที่ดีบางอย่างทั้งที่ผมไม่ได้คุยถึง

คุณสมบัติที่ดีของจี้เขาก็คะยันคะยออยากบูชาจี้ให้ได้

ผมจึงได้บอกให้ดูรายการคุยไปแจกไปพอแฟนเขาซึ่งเป็น

ช่างซ่อมรถได้ยินว่าภรรยาตัวเองจะถือศีลเท่านั้นแหละเริ่ม

โมโหทันทีเขาตะโกนด่าผมอย่างรุนแรงว่า

ให้ผมมาช่วยแฟนเขามาหลอกหลวงแฟนเขาไปในทางที่ไม่ดี

พร้อมไล่ผมให้ออกจากร้านเขาทันที

เราอุตส่าห์มีเมตตาเขามาช่วยเหลือภรรยาที่ปวดเอว

แต่ผลที่ได้รับ

คือความเข้มแข็งของเรา เราไม่ใจร้อนเหมือนเมื่อก่อน

ผมจึงได้เข้าใจว่ากว่าที่อ.อุบลจะสอนคนได้

เป็นร้อยเป็นพันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

ผมจึงจะท้อไม่ได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 05:52:56


ความคิดเห็นที่ 164 (1639268)

(นำเสนอโดยคุณพิชัย  ภูกิ่งพลอย)

โปรดอ่านเรื่องจริงไม่อิงนิยายของนายพิชัย  ภูกิ่งพลอยสักนิด

แต่กระนั้นหลังจากผมเจ็บป่วยได้เข้าโรงพยาบาลหลังออกจาก

โรงพยาบาลแล้วทางหัวหน้างานก็ให้ผมทำงานสบายขึ้นจนทำ

ให้ผมเริ่มเหลิงเริ่มโกงเวลาทำงาน เข้าทำงานไม่เต็มที

ขายเหล้า ขายเบียร์ ปล่อยเงินกู้ รับของโจรมาขาย โดยที่ซื้อ

กางเกงที่เขาขโมยมาจากโรงงานถูกๆมาขายในราคาแพงๆ

แต่สุดท้าย

ก็ไม่มีเงิน

เพราะถูกหัวหน้างานโกงเราบ้างเรื่องทำร้าอาหารถูกแก๊ส

กระป๋องระเบิดใส่หน้าเกือบตาบอดและถูกตะขอเหล็ก

เหวี่ยงใส่หัวคิ้วเกือบถูกตาบอกอีกตอนนั้นได้แต่อาศัย

บารมีพ่อแม่และหลวงพ่อทองคำคุ้มกะลาหัวขอโทษนะครับ

ที่พูดคำหยาบจนสุดท้ายจึงได้กลับเมืองไทยได้มาพบรัก

กับภรรยาคนปัจจุบันคือแม่น้องบอส น้องไข่ตุ๋น จนได้มาทำ

อาชีพ ขายไข่ เลี้ยงไก่ไข่ ทำไร่ ทำนา เลี้ยงวัวนม และ

ออกรถอัดฟางข้าวและผลกรรมที่ได้ก่อไว้ข้างต้น

ทำให้ผมถูกคนขโมยข้าวของต่างๆในบ้านของผมมีลูกสองคน

ก็ไม่มีใครซื่อสัตว์กับผมและที่แย่ไปกว่านั้นภรรยาผมได้

ถูกโจรปล้นระหว่างทางกลับบ้านแต่เคราะห์ดีที่ไม่เป็นอะไร

นี้ละหนอผลกรรมที่ผมเคยขโมยของคนอื่น โกงเวลาเขา

จากนั้นธุรกิจผมเริ่มแย่ทรุงลงเรื่อยๆเพราะจากการที่เราทำ

เกินกำลังของเราเริ่มมีหนี้สินทะเลาะกับแฟนเกือบทุกวัน

ตีลูกพร้อมบอกเลิกกันกับแฟนชีวิตสับสนวุ่นวายมาก

จนทำให้มีวันหนึ่งช่วงประมาณต้นเดือนเม.ย55 น้องสาว

ได้ใช้อุบายให้ผมขับรถให้เพื่อไปส่งที่บ้านสวนพีระมิด

พอไปถึงก็มีเหตุให้ลูกชายวิ่งลงจากรถไปฉี่ใส่พีระมิด

ที่หน้าบ้านท่านอ.อุบลโดยท่านอ.อุบลได้ตักเตือนผ่านมา

ทางน้องสาวว่าที่ลูกฉี่ไม่เป็นที่เป็นทางนั้นก็เพราะพ่อฉำฉ่อน

โอโฮ้ตำใจผมทันทีเลยเพราะผมหมกหมุ่นในเรื่องกามารมย์

เป็นอย่างมากทั้งที่มีภรรยาจิตก็ชอบจะคิดไปกับสาวๆหลายคน

เพราะผมเป็นพ่อค้าที่ไม่เคยบวชกายบวชใจสักที

พอผมได้ยินคำพูดท่านอาจารย์อย่างนั้นผมก็เริ่มสำรวจ

ตัวเองก็เริ่มรู้ว่าตัวเองทำบาปมามากสิ่งแรกที่ทำได้คือ

หยุดกินเหล้า กินเบียร์ ทันที ได้ประมาณ 3 อาทิตย์

ก็มาทานมังสวิรัติ ศึกษาธรรมะโดยผ่านคำสอนของท่าน

อ.อุบลผ่านทางโทรทัศน์รายการคุยไปแจกไป

ว่าสิ่งไหนเป็นบาปทำอย่างไรได้บุญผมก็เริ่มรู้และลดลงทุกอย่าง

ยกเว้นศีลข้อสามมันหนักมากสำหรับผม

นี่แหลหนอเขาว่าไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดย๊าก

และทุกวันนี้ถึงแม้ผมจะเข้าบ้านสวนพีระมิดไม่ได้

ผมก็จะขอติดตามคำสอนของท่านอ.อุบล

เพื่อนำมาขัดเกลาความโง่เขลาของผม

ถึงเดี๋ยวนี้มีคนบอกว่าผมงมงาย บ้าก็ตาม ผมจะไม่

สนใจเพราะผมทำบาปมามากจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 06:58:43


ความคิดเห็นที่ 165 (1639270)

 เพราะอานิสงส์ผลบุญที่กลับไป

บ้านสวนพีระมิด

เพื่อสอบซ่อม

ทำให้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้นค่ะ

เหตุที่น้อยได้ก่อกรรมทำเข็ญโดยทำผิดศีลมาทุกข้อ

ทำให้ชีวิตต้องประสบปัญหา

ทั้งการงาน การเงิน สุขภาพ ชีวิตคู่ ครอบครัว

ผลกรรมได้รับแล้ว ทุกข์ทรมานตายทั้งเป็นแล้ว

ตัวอย่างนี้ช่างเหมือนกับการเราไม่เชื่อฟัง

คำสั่งสอนพระพุทธเจ้าเราใช้ชีวิตแบบฉลาดๆ

โง่แล้วอวดฉลาด

เหมือนตัวอย่างชีวิตที่ผ่านมา

เข้าร่วมทำบุญบ้านสวนฯก็อวดฉลาดแต่โง่

ก็เลยปลดล๊อกกรรมไม่ได้

แต่สัปดาห์นี้รู้แล้วค่ะว่าเพราะโง่อวดฉลาดไม่เชื่อคำสั่ง

ครูบาอาจารย์คือท่านอ.อุบล ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ดื้อ

ไม่ทำตามท่านว่าทำอย่างไรชีวิตถึงจะปลดล๊อกกรรมได้

ไม่ทำตามท่านเมตตาบอก

ก็เล้ยได้ลงสอบซ่อมค่ะ

และแล้วท่าน.อุบลมีเมตตา

ให้ลงสอบซ่อม

ผลที่ได้รับชีวิตดีขึ้นเกือบทุกๆด้านค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล อ.มงคล คุณท๊อป

พระองค์ปฐม พระศรีอาริย์ ท่าวเวสสุวรรณ บารมีพระเจ้าอยู่หัว

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ในบ้านสวนพีระมิดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 07:12:55


ความคิดเห็นที่ 166 (1639287)

มาอาทิตย์นี้ทุกคนกระตือรือร้น

กระฉับกระเฉง

  เริ่มเป็นงาน

เริ่มปรับปรุงเรื่องการตรงต่อเวลา

ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยเลยทีเดียว

เรียนรู้ที่จะฟังผู้นำ

แม้แต่ตัวผู้นำก็ได้เรียนรู้เยอะมาก

ว่าบทบาทผู้นำ

นั้นต้องเสียสละ 

ต้องวางแผนที่ดี

 

เพราะบางฐานให้เวลา 1-2 ชั่วโมงต้องเสร็จ

แต่บางทีลูกทีม

ไม่รู้รายละเอียดพวกนี้ 

คิดว่าเดี๋ยวมีกลุ่มอื่นมาต่อ 

ดังนั้นทำให้บางครั้งอ้อยเองอาจจะ

ดูเหมือนเผด็จการบ้าง 

เพราะกลัวงานไม่เสร็จ

  เวลารับงานที่ฐาน 

อ้อยจะนึกเป็นภาพว่า

ภาพที่เราต้องการเห็นเมื่อจบกิจกรรมคืออะไร  เช่น ฐานแรกงานทำความสะอาด

หน้าห้องน้ำเก่า 

อ้อยจะเห็นภาพว่ามองไปหญ้าต้องเรียบ   กระถางต้นไม้

รอบต้นมะม่วงใหญ่ต้องย้ายหมด 

 เพราะฐานนี้จัดมาหลายกลุ่มหลายรอบแล้ว

  แต่ดูไม่แตกต่างเลย 

ทำแล้วเหมือนไม่ทำ 

  ซึ่งลูกทีมบางคนอาจจะได้ยิน

อ้อยพูดบ่อยๆว่า 

ทำแล้วต้องเห็นความแตกต่าง 

Before amd After ต้องต่างกัน

ต่างในทางดีขึ้น สวยงามขึ้น เป็นระเบียบขึ้น

............................

ขอบคุณนะคะคุณอ้อย

ที่มาสะท้อนภาพของการเป็นผู้นำที่ดีนั้น

ควรคิด

และ

ควรทำอย่างไร


ซึ่งเคล็ดลับ ก็คือ การเป็นผู้นำที่ดี

ต้องสร้างภาพในหัวไว้อย่างชัดเจนว่า

ต้องการให้ผลงานออกมาเป็นแบบใด

แล้วค่อยวางแผนและแจกแจงงานลูกทีม

พร้อมทั้งคอยดูแล

และกำกับอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน


ซึ่งจริงๆธรรมทานของคุณอ้อย

ก็ได้สะท้อนภาพ

ของการเป็นทั้งผู้ำนำ

และลูกทีมที่ดี เลยนะคะ


ใครที่รู้ตัวว่า่ ยังพลาดตรงไหน

ก็ลองอ่านและพยายาม

ปรับปรุงแก้ไขตัวเองนะคะ

 

เพราะเคล็ดลับเหล่านี้

คงจะมีประโยชน์มากๆ

กับการทำงาน

ทั้งในและนอกบ้านสวนฯเลย

......................

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 08:55:50


ความคิดเห็นที่ 167 (1639364)

 เสาร์-อาทิตย์ที่ 3-4 พ.ย.

ได้มีโอกาสร่วมปลดล็อคกรรมกับญาติธรรมหลายๆท่าน

ในวันเสาร์ได้อยู่กลุ่มที่ 3 มีคุณป้อมเป็นหัวหน้ากลุ่ม

คุณป้อมแนะนำให้ท่องคาถาพระศรีอาริย์พร้อมให้ใช้รหัสอุบลช่วยด้วยในระหว่างทำงาน

วันนั้นได้ลงงานฐานก่อสร้างกัน 3 รอบ

สงสัยจะเป็นพวกกรรมหนักๆทั้งนั้น

ก่อนหมดชั่วโมงแรก

ลุงบุญขอให้กลุ่มใหม่มาแตะมือก่อน

แล้วกลุ่มเดิมค่อยไปนะ

ไม่งั้นลุงจะขาดมือ ...... จริงด้วยค่ะ


ตอนบ่ายๆที่ฐานนี้ได้กลิ่นหอมๆโชยมา

หนุ่มก็อตวิ่งไปออกหาที่มาซะรอบ แต่ยังไงๆก็ไม่เจอ

ป้าหวายชาว (นคร) สวรรค์เลยบอกว่าเป็นกลิ่นหอมดอกไม้

เบื้องบนประทานมาให้คนทำงานเหนื่อยๆได้ชื่นใจ

ถามป้าว่า ป้าเคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่เล่ามางั้นหรือ

ป้าบอกว่า ป้าคิดเอาเองจ้ะ 555


แปลงเกษตร ฐานแห่งปัญญา

อาจารย์พันสอนให้ใช้จอบขยันถากหญ้า

เน้นความถูกต้อง

ออกแรงจากมือข้างที่ถนัด

อีกมือจับด้ามจอบไม่ต้องออกแรง

ยืนให้ถนัด แล้วค่อยๆถากถอยหลัง

จะทำให้ถากหญ้าได้สวยหน้าดินไม่ถูกจิกลงไป

 

จัดระเบียบชั้น 2 ห้องพลาสติก+เบ็ดเตล็ด

กว่าจะลงตัวเล่นเอาคุณทัศน์ปิดๆเปิดถุงซะหลายรอบ

แต่พวกเราก็ได้เห็ดและไชโป้วลงมาฝากแม่ครัวอีกด้วย

ใกล้จะเสร็จกระต่ายน้อยก็เอาไอติมขึ้นมาแจก

ชื่นใจ หายเหนื่อยมีเรี่ยวแรงกลับมาอีกทีค่

 

ชั่วโมงสุดท้ายมาช่วยคุณอ้อยตกแต่ง

จัดที่นั่งพักผ่อนด้วยรางระบายน้ำ

บริเวณลานจอดรถด้านใน

มีคุณอ้อยกำกับจังหวะการยก การวาง

ตอนนี้เรี่ยวแรงเริ่มถดถอยกัน

พี่จุ๋มก็เลยได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 14:49:56


ความคิดเห็นที่ 168 (1639382)

 ผลการบำบัดวันนี้ยังต้องติดตาม

แปลกใจตรงที่พอเขียนรายงานเสร็จแล้วเดินมาส่งคุณป้อม

รู้สึกเจ็บส้นเท้าขึ้นมาทันที ต้องเดินกระเผลกๆ

คุณป้อมว่า เจ้ากรรมเค้ามาเตือนครับ

อีกอย่าง อาการเหนื่อยที่เหนื่อยมาทั้งวัน (เพิ่งมาเก็ททีหลังว่าคืออาการใจสั่น) เอ ทำไมเราไม่หายเหนื่อยซะที

จนธรรมทานรอบค่ำจบลง หัวใจถึงกลับมาเต้นตามปกติ

 

วันอาทิตย์ก็เลยขอบำบัดเรื่อง เจ็บส้นเท้าและใจสั่น (กลัวจะกลับมาอีก)

ที่ฐานก่อสร้างได้ตกลงกับน้องเหมียวว่า

ตอนยกหินขึ้นเรียงบนโต๊ะ

เราจะเซฟแรงกันหน่อย

ก่อนยกต้องมองแล้วจัดมุมให้ได้พอดีวาง

ต้องไม่ไปหมุนและขยับบนโต๊ะสูงๆ

ไม่งั้น มันจะกินแรงมากๆๆๆ

 

รอบบ่ายปรับระดับวางท่อระบายน้ำ

ลุงเบิ้มให้ไอเดียว่า ปลายน้ำต้องต่ำกว่า

สาวน้อยๆก็เลยพากันขุดลอกไล่ให้หนาขึ้นไปเรื่อยๆๆๆ

 

ผลการบำบัดวันนี้

อาการใจสั่นไม่มีอาการเลย

อาการเจ็บส้นเท้า ยังเป็นๆหายๆ ณ วันนี้ที่เขียนธรรมทานก็หายไปแล้ว และสายตายาวดีขึ้น 30%

อนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมบุญและธรรมทานจากทุกๆท่านค่

กราบอนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์และครอบครัวที่เมตตาลูกหลานมาโดยตลอดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 16:54:02


ความคิดเห็นที่ 169 (1639447)

ขอมารายงานผลการสอบซ่อมปลดล็อกกรรมค่ะ

ปัญหาที่ยังคงต้องติดตามผลของพจน์เอง ก็จะมีขาดปัญญา ปัญหาเรื่องหนี้สิน ปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งตอนสรุปผลได้เขียนไว้ว่าจะรายงานผลทางเว็ปไซด์วันที่ 30 พ.ย.55 แต่พอดีว่าเห็นผลก่อน เลยขอมาเขียนรายงายผลก่อนเลยค่ะ

คือเรื่องมันมีอยู่ว่าหลังจากกลับจากบ้านสวนฯวันอาทิตย์ วันจันทร์คุณสามีก็พาคุณพ่อไปหาหมอในกรุงเทพฯ กลับมาถึงก็มืด ยังไม่ได้คุยกัน พอวันอังคารอยู่ๆพจน์ก็ถามคุณสามีเรื่อง การคืนภาษีรถคันแรกว่าจะได้คืนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วเขาจะคืนให้ยังไง แบบว่าให้ทีเดียวหมดเลยหนึ่งแสนบาท หรือทยอยให้เป็นปี ปีละกี่หมื่นอะไรประมาณนี้ เพราะพึ่งทำเรื่องไปได้ไม่กี่เดือน ก็ยังคิดว่าปีนี้คงไม่ได้แน่ เพราะนโยบายรัฐจะเป็นอะไรที่ช้ามาก แถมคนที่ทำเรื่องก่อนเราก็ยังไม่เห็นเขาได้กันเลย พอพูดจบคุณสามีบอกว่า ได้คืนแล้ว พจน์ก็งงเลย ถามว่าอ้าวแล้วได้คืนเมื่อไหร่ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย แล้วเขาคืนให้เท่าไหร่ คุณสามีบอกว่า เขาโอนคืนให้หมดเลย หนึ่งแสนบาท โอนมาให้เมื่อวานนี้ (วันจันทร์) พจน์เองงงมาก ได้แต่พูดว่าอ้าวหรอ แบบงงๆ คือมันไม่ได้คาดคิดมาก่อนในเรื่องนี้ แบบว่าดีใจมากเลยค่ะ พอกลับมาปุ๊บ แค่วันเดียวเห็นผลเลยอ่ะ รวดเร็วแบบติดจรวดจริงๆเลยค่ะ ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 30 พ.ย.เลย แบบว่ายังอึ้งอยู่เลยค่ะ แถมเมื่อวันจันทร์คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า ไปหาหมอเพื่อเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ใช้เวลาตั้งแต่เข้าไปยื่นบัตร รอตรวจ จนตรวจเสร็จ แค่ 30 นาที ทั้งที่คนมารอเยอะมาก พอไปถึงหมอก็เรียกเลย ทั้งที่ทุกๆครั้งจะใช้เวลาไม่เคยต่ำกว่า 1.30 ชั่วโมง พจน์ก็เลยบอกพ่อว่าสงสัยคุณก็อตเล่นของ เพราะไม่อยากรอนาน แต่คุณก็อตบอกว่าป่าว แต่พจน์ก็ยังรู้สึกว่านี่เป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วย ทำให้ทุกอย่าง สะดวกสบาย รวดเร็วไปหมด โอ้วว้าวบุญบ้านสวนฯถ้าใครไม่เจอกับตัวก็อาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกมหัศจรรย์นี้แน่ๆ ทั้งที่เคยได้รับความเมตตามานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งก็ยังอัศจรรย์ใจอยู่ดีค่ะ ทั้งดีใจทั้งปราบปลื้มใจ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ทรงเมตตาช่วยเหลือลูกและครอบครัว อะไรๆก็เกิดขึ้นได้จริงๆค่ะ

ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณสมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา องค์พระศรีอารย์ องค์พระเจ้าอยู่หัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป ที่เมตตาช่วยลูกและครอบครัวให้ปลดล็อกกรรมต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ ขอน้อมกราบขอบพระคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ สาธุ กราบ กราบ กราบ 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 01:00:18


ความคิดเห็นที่ 170 (1639487)

เก็บตก 3-4 พ.ย.

สอบซ่อมหนนี้ ทุกคนตั้งใจทำงานและรักษาเวลาเป็นอย่างดี

แม้ว่าแรงจะแผ่วตอนท้ายชั่วโมง

แต่พอเริ่มชั่วโมงใหม่-งานใหม่ดูจะมีเรี่ยวมีแรงกันทันที


การจัดกลุ่มย่อยทำให้ได้มีโอกาสซักถามทำความเข้าใจจากผู้ที่รู้กว่ามากขึ้น


จิตสาธารณะ ทำได้ทุกที่ ไม่ต้องรอเวลาไม่ต้องรองานมาตรงหน้าแล้วค่อยทำ อย่างตอนทานข้าวท่านอาจารย์จะคอยสอดส่องลูกหลานอย่างทั่วถึง ท่านจะปรับพัดลมให้กระจายทั่วถึงกันทุกโต๊ะ แต่พวกเราที่มานั่งกันก่อน ไม่ได้ดูเล้ย พัดลมตัวนั้นส่องมาที่โต๊ะเราเท่านั้น ไม่สาดส่ายไปที่อื่นด้วย เป็นไปด้ายย

นอกจาก ลานธรรม ที่เป็นที่พักผ่อนตอนกลางวัน กลางคืนใช้เป็นที่สนทนาธรรม ท่านอาจารย์ได้จัดมุมพักผ่อนเพิ่มขึ้นมาอีก บริเวณลานจอดรถด้านใน อาทิตย์ที่แล้วแม้จะยังไม่สมบูรณ์พวกเราหลายคนก็ได้ใช้บริการกันไปแล้วแหละ ก้อมันมีชีวิตชีวาไม่แพ้ลานธรรม ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 09:50:31


ความคิดเห็นที่ 171 (1639517)

 อาทิตย์ที่  3-4  พ.ย. 55

       กิจกรรมในวันเสาร์- อาทิตย์ นี้ เหมี่ยวมีความรู้สึกว่าเข้มข้นมากเพราะว่าเหมี่ยวจะเป็นหัวหน้าทีมของแต่ละกลุ่มจะได้ย้ายฐานทุกๆ 1 ช.ม. ซึ่งทุกวันอาทิตย์ หัวหน้าทีมจะอยู่ที่เดิม ตื่นเต้นดี ได้ย้ายไปตรงนั้นตรงนี้ ทำให้เราได้รู้ว่า แต่ละที่ แต่ละจุดเราจะต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง

9.00 น. - 10.00 น.

       ช่วงนี้ ทำความสะอาดล้างห้องน้ำเก่าทั้ง 10 ห้อง ลูกทีมทั้งหมด 4 คน รวมหัวหน้าด้วยเป็น 5 คน ก็ทำความสะอาดล้างห้องน้ำขัดข้างฝาทุกด้าน ล้างโถส้วม เปลี่ยนน้ำล้างถังน้ำเสร็จแล้วทุกคนก็ช่วยกันทำความสะอาดรอบๆห้องน้ำ เสร็จภายใน 1 ช.ม.

10.00 น. -11.00 น.

       เปลี่ยนสถานที่พร้อมเปลี่ยนลูกทีม ไปทำความสะอาดห้องน้ำหลังใหม่ มีทั้งหมด 10 ห้อง ก็ใช้วิธีเดียวกันทุกประการ เวลาก็ยังเหลืออีกก็ได้ช่วยกันขึ้นไปกวาดชั้นบนของห้องน้ำใหม่ จัดข้าวของที่กองไม่เป็นระเบียบเข้าทีให้เรียบร้อย เสร็จภายใน 1 ช.ม.

11.00 น. - 12.00 น.

       เหมี่ยวก็เปลี่ยนฐานมาอยู่ในโรงทาน คือช่วยกันทำความสะอาด เก็บ กวาด เช็ดถู บริเวณที่สกปรกทั้งหมด

12.00 น. - 13.00 น.

       ช่วงนี้ทุกคนได้หยุดพักรับประทานอาหารกลางวัน วันนี้คุณแมวแกงฟักทอง ให้พวกเราได้กินกันพร้อมทั้งผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้ ขอขอบคุณแม่ครัวทุกคนนะจ๊ะ

13.00 น. - 14.00 น.

       เหมี่ยวได้ทาสีกันในครัวเพราะเสาที่ยังไม่ได้ทาสีก็จะมีอยู่ ทำซ้ำให้มันหนาขึ้นแล้วก็ทาข้างฝาด้วย 1 ด้าน เป็นอันว่าสำเร็จ

14.00น. - 15.00 น.

       ช่วงนี้พาลูกทีมไปเก็บของชั้น 2 ของวิหารเก็บของที่วางไม่เป็นระเบียบออกมาหมดแล้วเก็บกวาดขี้ฝุ่นออกมา เสร็จแล้วก็เอาของแต่ละชนิดเข้าที่ให้เป็นหมวดหมู่ เพราะเวลาคนที่เขาขึ้นไปหาของที่ต้องกาสรใช้ก็จะหาได้ง่ายขึ้น

15.00 น. - 1600 น.

       นำลูกทีมทำความสะอาดเก็บของใต้ถุนเวลาการแสดง

16.00 น. - 17.00 น.

       นำลูกทีมทำความสะอาดและเก็บข้าวของใต้วิหารหลังใหม่

กิจกรรมในวันอาทิตย์ 9.00 - 10.00 น. ทำความสะอาดวิหารชั้นบนและทำความสะอาดองค์พระ ซึ่งจะมีขี้ฝุ่นและขี้นกที่เกาะอยู่บนหลังคาขี้มาใส่องค์ท่าน เหมี่ยวก็เลยให้น้องเอิ้น ปีนขึ้นไปทำความสะอาดเพราะน้องเอิ้นเป็นผู้ชายคนเดียวน้องเอิ้นจะได้มีผิวสวย ส่วนพื้นและทำซอกทุกมุมก็จะมีป้าเตือน เหมี่ยว น้องพจน์และน้องก้อย ช่วยกัน จนกระทั่งสะอาดตา เวลาผ่านไปเร็วมาก เสร็จภายใน 1 ช.ม. ต้องเปลี่ยนฐาน

10.00 น. - 11.00 น. ช่วงนี้เปลี่ยนคนมาตรงพีระมิดหลังเก่าและหลังใหม่ ชั่วโมงนี้มี 2 ทีม คือเหมี่ยวกับคุณอ้อย เหมี่ยวเลยคุยกันกับคุณอ้อยว่าเราไม่ต้องแยกกันหรอกนะคุณอ้อย เรามาทำด้วยกันเลย เรามาช่วยกันทำคือ คนขุดดินก็ขุด คนกวาดก็กวาด คนถูก็ถู ทั้งข้างนอกและข้างใน ขององค์พีระมิด ทำอย่างนี้จะเร็วทุกคนไม่ต้องคอยกันต่างคนต่างทำได้เลย แล้วสะอาดด้วย 1 ช.ม. ทำได้เสร็จ

11.00 น. - 12.00 น. ตอนนี้จะย้ายฐานมาที่หลังวิหารไม้ไผ่ ตรงนั้นจะมีเศษไม้เศษเหล็กที่มีอายุมากเพราะกองอยู่นานเกือบ 2 ปี ไม้ต่างๆ ก็ผุ ต้องนำออกทั้งหมด เพราะเป็นที่อยู่ของมดแดง มดดำ มดง่าม สารพัดมด ยังมีตะขาบตัวใหญ่ๆ หอยทากตัวอ่อนๆ ไส้เดือนตัวโต เยอะแยะมากมายอยู่ในกองไม้นั้น พวกเรานำไม้ผุๆ ไปเผาไฟหมด เอากระเบื้องที่ไม่ใช้ไปทำกันรั้วที่เป็นช่องเพื่อที่ไม่ให้พวก หมก แมว ที่อื่นรอดเข้ามา เวลาช่างเลยมา 1 ช.ม. แต่ก็ไม่เสร็จ ก็เลยหยุดพักเที่ยงก่อน

12.00 น. - 13.00 น. พักกินข้าวเที่ยงวันนี้ คุณอรทำก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงโดยฝีมือของคุณแมว คุณอร คุณฉันทนาน้องกระต่าย แล้วก็น้องบัว ฝีมือสุดยอดมากเลย อร่อยกว่าร้านขายก๋วยเตี๋ยวของร้านซะอีก

13.00 น. - 14.00 น. เริ่มงานต่อชั่วโมงสุดท้ายของการทำกิจกรรมในวันอาทิตย์ก็คือต่อจากที่เดิมคือหลังวิหารไม้ไผ่ทำค้างไว้ยังไม่สำเร็จ พวกเราก็มาทำต่อกันจนเสร็จภายใน 1 ช.ม.

       แล้วทุกฐานก็ได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำพร้อมที่จะเข้าวิหารเพื่อสรุปกิจกรรมที่ทำมาพร้อมทั้งขอบารมีพระศรีอาริย์

       การมาสร้างบุญด้วยแรงกาย เป็นบุญที่บริสุทธิ์ 3-4 อาทิตย์นี้เหมี่ยวใช้แรงกายอย่างเต็มที่และสม่ำเสมอ อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรโดยขอบารมี พระศรีอาริย์รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย มือของเหมี่ยวจะดูดีขึ้นมากๆ บางครั้งเหมี่ยวคงให้บุญไม่ถูกจุด ก็เลยไม่หายขาดสักที แต่มาอาทิตย์นี้ได้เขียนธรรมทานเล่าความชั่วของตัวเองที่เอามือ 2 ข้างนี้ไปทำอะไรมาบ้างเจ้ากรรมนายเวรต้องชอบใจแน่ๆ เลย มือดีขึ้นอีกแต่ก็ยังมีร่องรอยอยู่แต่ก็เป็นธรรมดาแหล่ะนะ เหมี่ยวว่าน่าพอใจกับบุญที่เจ้ากรรมนายเวรเขาได้รับนะจ๊ะ เมื่อรับแล้วก็ขึ้นสวรรค์ไปเลยนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุนีย์ ศิริมาศกูล (นู๋เหมี่ยว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 12:08:38


ความคิดเห็นที่ 172 (1639548)

 

อนุโมทนาบุญกับทุกๆธรรมทานค่ะ

ธรรมทานสอบซ่อม

ปลดล็อคกรรม 3-4 พ.ย.2555

วันเสาร์ที่ 3 พ.ย.

        เช้าวันนี้ทุกอย่างรีบเร่งไปหมด เป็นเพราะชะล่าใจไม่รีบลงมือเขียนธรรมทาน ตามที่อ.อุบลกำชับ ให้ทุกคนเร่งบุญธรรมทาน เขียนและถ่ายเอกสารมาวางให้ทุกคนได้อ่าน ทำให้ต้องเร่งมือทำต้นฉบับจนเสร็จกินเวลาเข้าไปเช้ามืด 03.30 น. ตื่นสายซะแล้วเรา  06.30 น. สายแล้วๆๆ

        คุณธนานัดหมาย รวมพล 08.00 น. มาถึงบ้านสวน  08.30 น. เกือบไม่ได้สอบซ่อม แต่ก็พลาด ไม่ได้ถ่ายเอกสารธรรมทาน

        เริ่มกิจกรรมฐาน ก่อสร้าง  โกยหิน โกยทรายแข่งกับเวลา โอกาสและเวลาสร้างบุญแรงกายในบ้านสวนฯ มีน้อยมาก ทำได้ไม่เท่าไรก็ได้ยินเสียงเป่านกหวีดปรี๊ดๆๆๆ

        ต่อจากนั้น ฐานนี้ทำความสะอาดบริเวณห้องน้ำด้านหลัง เร่งตัดหญ้า เก็บกวาดเศษหญ้า เศษใบไม้กันใหญ่ เพราะหมดจากกลุ่มนี้ผ่านไปแล้วจะไม่มีกลุ่มอื่นมาทำต่อค่ะ เดี๋ยวไม่สวย ต้องสะอาดๆๆๆ

        ต่อด้วยงานเกษตร อ.พันธ์ สอนวิธีถากหญ้า ทำยังไงดินเรียบหญ้าขาด สวยงาม ฐานนี้ใช้ปัญญาอีกแล้ว ใช่ว่าใช้แต่บึกบึน สมองก็ต้องใช้มือที่ถนัด การวางจอบขยันต้องได้มุมองศา งานเดิน คนก็ไม่เหนื่อยค่ะ อากาศวันนี้เหมือนจะทดสอบความอดทนด้วยค่ะ

        มาทำแนวรั้วกันเถอะ ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ให้ โปร่งโล่ง สำหรับฝังไม้ไผ่ทำแนวรั้วเพิ่มจากแนวรั้วลวดหนาม จ๊ะเอ๋กับน้องบุ้งเป็นระยะ แต่ไม่มีผื่นคันจ้า

กลับมาฐานสวนหย่อมแนวต้นแก้ว ฝั่งลานจอดรถ ฐานนี้ตามเก็บงาน ได้เคี่ยวเป็นอาวุธ ตะกุยหญ้า เผลอแผบเดียวได้หญ้ากองหยอมๆ หนุกหนาน จริงๆ เวลาสนุกช่างสั้นหลาย ปรี๊ดๆๆๆๆ

        สลับมาฐานจัดเก็บใต้วิหาร คุณเหมี่ยว นำทีมได้แผงเหล็ก เสริมแนวรั้ว จัดเก็บไม้ ที่สำคัญการจัดระเบียบเก็บให้เรียบร้อยนั้น ทำให้เจอของใช้ เช่น บุ้งกี๋ รองเท้าบูท ฯลฯ สภาพดีหลายชิ้นหลายคู่ ทำให้นึกถึงตัวเอง ชอบซื้อ แต่เก็บไม่ถูกที่ บางทีหาไม่เจอก็ต้องซื้อใหม่ เสียเงินอีกแล้ว เรื่องนี้ทำให้หนิงรู้ถึงข้อเสียของตัวเอง ที่ต้องรีบปรับปรุงอย่างด่วนถึงด่วนที่สุด ที่ทำให้เป็นส่วนหนึ่งในการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เสียเงินเพราะไม่รู้จักจัดระเบียบการเงิน+ชีวิตค่ะ

        กิจกรรมรอบค่ำ จุดไฟไม่ใช้ไฟแช๊ค ไม้ขีดไฟ แต่ละกลุ่มถูไม้ไผ่กันซะเหงื่อหยดติ๋งๆๆ แต่มีเฮก็ตรงกลุ่มคุณอมร ไฟลุกแล้วดับ (มีตัวช่วยไฟถึงติด)

        รอบดึกมีบาบีคิวเห็ด อารมณ์หมึกย่างมังฯจริงๆค่ะ อาหย่อย

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 14:47:33


ความคิดเห็นที่ 173 (1639553)

   กิจกรรม เสาร์ที่ 3-อาทิตย์ที่4 พ.ย 55 นี้จัดเต็มเวลาขึ้นช่วยให้เราได้ทำบุญแรงกายได้ครบทุกฐานและได้วนมาทำซ้ำอีกครั้ง

    ปัญหาที่บำบัดอาทิตย์นี้ เรื่องปัญหาผิวพรรณ สิว ฝ้า หน้าหมองคล้ำ โรคไวรัสตับอักเสบ บี การเงิน การงาน หนี้สิน ขาดสภาพคล่อง

   เสาร์นี้ เริ่มงานที่ด้านซ้ายทางเข้าบ้านสวน ตัดหญ้า ตากแดด เหงื่อไหลออกเป็นเม็ด แล้วย้ายฐานมาจัดเก็บบริเวณหน้าห้องน้ำ ยกกระถางแอบข้าง เพื่อให้พื้นที่ดูสะอาดตา พรวนดิน เอาวัชพืชออก ทำความสะอาดอ่างล้างหน้า ขัดพื้นหน้าห้องน้ำ ระหว่างทำงานจะมีเพื่อนๆคอยมาดูหน้า และบอกว่าหน้าดีขึ้น ฝ้าจางลง  โอ้โห ไม่น่าเชื่อเป็นไปได้ด้วยหรือ ไม่กล้าดูหน้าตัวเอง กลัว

    ย้ายมางานก่อสร้าง ช่วยกันเทปูน ทั้งหนักทั้งเหนื่อย เหงื่อไหล สู้ตายค้า...และยังได้วนมาทำอีกรอบในช่วงบ่าย  เพื่อเทปูนต่อ และเปลี่ยนมาโกยหิน ยกหินผสมปูน เพื่อให้ได้งานที่หลากหลายขึ้น เปลี่ยนหน้าที่กันทำบ้าง 

   ส่วนฐานทำความสะอาด-ตกแต่ง ให้มาทำงานขนเศษท่อนไม้ใหญ่และเล็กที่ลุงเบิ้มใช้รถโกยไว้ใต้ต้นไม้เป็นกองสูง ทยอยขนไปทิ้งข้างรั้วกัน เก็บเศษไม้แห้งที่หลงเหลืออยู่พื้นดินไปทิ้งต่อ

   งานที่แปลงเกษตร อ.พันธ์สอนให้ถากหญ้าที่แปลง พยายามทำให้ได้แข่งกับอากาศร้อนช่วงบ่าย แม้ได้งานไม่มากเพราะค่อยๆทำไป อ.พันธ์ให้ตั้งใจทำ ไม่ต้องเร็ว ขอให้งานออกมาดี ไม่ต้องห่วงว่าจะเสร็จ ดีกว่ารีบทำเสร็จเร็วแต่งานออกมาไม่ดี

   งานซ่อมรั้ว ใช้เชือกมัดไม้ไผ่ผูกติดกันเป็นแนวยาว ทำเป้นแนวรั้ว ซึ่งเราต้องหาวิธีผูกกันเอาเอง เพื่อให้ไม้ไผ่ยึดติดกันและต้องแน่น ดูสวยงาม เรียบร้อย

   งานวันนี้พวกเราส่วนใหญ่จะกระตือรือล้นในเวลาเปลี่ยนฐานกันมาก เพราะแต่ละฐานใช้เวลา ประมาณฐานละชั่วโมง ได้เวลาเปลี่ยนในกลุ่มก็ช่วยกันเรียก  สิวฝ้าตามใบหน้าก็ช่วยกันดู ช่วยกันสังเกตุ  ปรากฏว่า แค่วันแรก เพื่อนๆช่วยกันดูพากันบอกว่าฝ้าจางลงมาก จริงหรือเนี่ย! 

    ระหว่างทำงานท่องคาถาพระศรีอาริย์ด้วยค่ะ แม้ว่าก่อนมาบ้านสวนจะพักผ่อนน้อยแต่ก็มีแรงทำงาน ไม่ค่อยเหนื่อย

    รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ วันนี้เริ่มงานซ่อมรั้วต่อเนื่องจากเมื่อวาน เตรียมผูกตาข่ายลวดยึดติดกับแนวรั้วไม้ไผ่ที่ทำไว้แล้ว โดยใช้ลวดผูกยึดติดเข้าด้วยกัน 

    งานก่อสร้าง เทปูน โกยหิน ยกหินผสมปูนต่อ

    งานเกษตร ถากหญ้า รู้สึกว่าทำคล่องขี้นกว่าเมื่อวาน

    งานทำความสะอาดด้านหลังวิหารไม้ไผ่ ช่วยกันเก็บเศษเหล็กไปรวมกัน เก็บเศษไม้ของผุผังขนไปทิ้งที่บ่อเพื่อเผา ต้องระวังมดและแมลงต่างๆ

   งานทั้งสองวันนี้จะเห็นได้ว่า พวกเราจะช่วยเก็บอุปกรณ์ต่างๆ คอยดูระวังไม่ให้หลงเหลือ เก็บทำความสะอาดอุปกรณ์เข้าที่ให้เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาย้ายฐานก็รีบช่วยกันเรียก คอยช่วยกันสังเกตุดู สอบถาม ถึงความเปลี่ยนแปลง หลังจากเสร็จงาน เพื่อนๆก็ช่วยกันดูหน้าบอกว่าหน้าดีขึ้นมากทีเดียว ฝ้าจางลง ไม่อยากจะเชื่อเลย  นี่คงเป็นเพราะทำบุญแรงกายแน่ๆ โดยเฉพาะงานทำความสะอาด ส่งผลถึงผิวพรรณจริงๆอย่างเห็นได้ชัดเจน ถึงจะไม่หายร้อยเปอร์เซนต์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความโกรธที่ยังเป็นอยู่ ซึ่งถ้าละความโกรธได้ หน้าจะต้องดีกว่านี้แน่ๆ และโรคไวรัสตับอักเสบ บี  ต้องติดตามผลจากการตรวจเลือด แต่บุญแรงกายที่บ้านสวน งานก่อสร้าง งานเกษตรเป็นงานที่ต้องออกแรงมาก แต่ก็มีแรงทำงานตลอด ไม่ค่อยเหนื่อยง่าย อดทนต่องานที่ทำได้

    ส่วนการเงิน การงาน หนี้สิน ขาดสภาพคล่องต้องติดตามผลค่ะ

   

   

         

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 15:23:28


ความคิดเห็นที่ 174 (1640003)

 กิจกรรมปลดล๊อคกรรมวันที่3-4/11/2555

วันที่3/11/2555

   ได้ไปถึงบ้านสวนสายเกือบๆสิบโมงแน๊ะด้วยที่ไม่ได้สอบถามผู้ใดว่ามีการรวมพลแบ่งกลุ่มแบ่งงานตอนแป็ดโมงเช้า ช่างเป็น***เหลือเกินไม่รู้อะไรเลยและยังเขียนธรรมทานช้าด้วยครับ

   ฐานแรก ที่ได้เริ่มงานคือฐานหัวหน้าป้อมในการซ่อมรั้ว ช่วยกันตัดต้นไม้บริเวณแนวรั้วออกเพื่อที่จะขุดหลุมปักเสา สักพักคุณป้อมได้ให้ไปช่วยตัดไม้ไผ่เพื่อที่จะมาทำเสารั้ว ซึ่งการทำงานในการตัดไม้ไผ่นี่เองทำให้ผมได้รู้สึกว่าอาการปวดเอวได้หายไป ทั้งๆที่ปวดจากการยกหัวเตียงมาเป็นอาทิตย์ อาจจะเป็นเพราะว่าได้ไปมองจี้พีระมิดรุ่3โพธิ์ศรีที่ญาติธรรมคนอื่นใส่อยู่นั่นเอง และที่ฐานนี้คุณป้อมก็ได้ขุดหลุมแล้วไปเจองูและทำให้งูท่านี้ได้รับบาดแผลที่หลัง แต่ที่น่าประหลาดใจนั่นก็คืองูท่านนี้สีเหลืองเข้ม พอเรียนถามท่านอาจารย์ก็ได้รับความกระจ่างว่า เป็นงูที่ต้องการเลื่อนชั้นภูมิก็เลยสร้างเหตุนั่นเอง

  ฐานที่สอง เป็นฐานก่อสร้างที่มีหัวหน้าฐานคือคุณอมร เป็นฐานที่ใช้แรงมากๆ หน้าที่ของผมก็คือตักหินและโกยหินเพื่อส่งให้คุณก๊อตและท่านอมรผสมลงในโม่หินนั่นเอง ฐานนี้เป็นฐานที่ต้องอดทนมากพราะอากาศร้อน แต่ก็ได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลให้เอาพัดลมพลังพีระมิดมาเปิดให้ ก็เลยได้รับความเย็นที่สุดกรุณาจากท่าน จากฐานนี้ทำให้ได้ฝึกความอดทนจากความร้อนและงานหนัก

   พักเที่ยงทานข้าว 12.00-13.00 น

   ฐานที่สาม ได้ไปทำการตัดหญ้าที่หลังบ้านท่านอาจารย์ ที่ฐานนี้มีคุณอัญเป็นหัวหน้าฐาน ก็ได้ฝึกการเป็นคนละเอียดว่าอะไรคือคุณวัชพืชอะไรคือพันธ์ไม้ที่ควรปลูกต่อไป แลที่ฐานนี้นี่เองก็ได้เสนอท่านหัวหน้าฐานว่าสมควรจะดึงหญ้าที่อยู่ในท้องร่องออกเพราะสนามเตียนแล้ว ขาดแต่ท้องร่องที่หญ้ายังรกอยู่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆในกลุ่ม งานก็เสร็จเป็นเวลาอันรวดเร็วต่อจากนั้นก็ไปช่วยกันจัดต้นไม้บริเวณใต้ต้นส้มโอ ก็เอาต้นคริสมาสมาปลูกในกระถางและนำไปวางในที่สวยงาม รวมทั้งต้นไม้ที่ดูรกก็เอาไปให้ท่านอ.พันธ์ไว้ทำอย่างอื่นต่อ

  ฐานที่สี่ ได้มีหัวหน้าฐานคือคุณอ้อยคือการจัดที่นั่งบริเวณใต้ต้นมะม่วง โดยเอาร่องน้ำและฝาปิดมาจัดวางให้เป็ระเบียบต่อกันเป็นทรงเหลี่ยม เพื่อเอาไว้นั่งพักผ่อนกันฐานนี้ก็จะได้จากการที่มีความสามัคคีในการร่วมออกแรงในการยก ต้องมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่เช่นนั้นจะเหนื่อยมากจากการฉุดแรงเพื่อนนั่นเอง

  ฐานที่ห้า ก็ได้กลับไปที่ฐานแห่งความอดทนอีกครั้งนั่นก็คือ ฐานก่อสร้าง ก็ไปโกยหินอีกครั้ง ถึงจะเหนื่อยเมื่อใช้ รหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วย ก็ทำให้มีแรงขึ้นมาอีกครั้งเหมือนกับว่าถ้าเราอดทนต่อสิ่งที่หนักมากๆ ถ้าเราอดทนได้เราก็จะข้ามความหนักน่วงนั้นไปได้นั่นเอง ก็เป็นฐานสุดท้ายในวันนี้นั่นเอง

   หลังจากนั้นก็อาบน้ำทานข้าวรอฟังธรรมทานในตอนกลางคืน และยังมีปาร์ตี้เห็ดย่างด้วย

วันที่4/11/2555

  ก็แอบไปช่วยท่านอาจารย์พันธ์ ทำแปลงเษตรตรงนี้นี่เองทำให้รู้ว่าการทำเกษตรไม่ยากถ้าเรามีความเข้าใจกับธรรมชาติ กำลังขุดแปลงเกษตรอยู่ดี ก็มีเสียงนกร้องช่วยชีวิตนั่นก็คือ นกหวีดนั่นเองแหมเสียดายจริงที่ทำแปลงเกษตรไม่เสร็จ

  ก็ไปทานข้าวเช้าและแบ่งกลุ่มใหม่ พร้อมทั้งชี้แจงตารางว่ากลุ่มใดทำอะไรก่อนหน้าหลัง

  ฐานที่หนึ่ง เป็นฐานที่เกี่ยวกับการปักกวาดเช็ดถูองค์พีระมิดบริเวณด้าหน้าทั้งองค์เล็กและองค์ใหญ่ เนื้อหาของงานก็ทำความสะอาดคือบริเวณรอบและภายในพีระมิดนั่นเอง เป็นฐานที่ทำให้เราได้รู้ว่าต้องละเอียดรอบคอบพร้อมสะอาดด้วย แต่ที่ทำให้ทุกคนสดุดนั่นก็คือที่พีระมิดองค็เล็กองค์ที่เก้า มีปลวกรังใหญ่มากต้องใช้เสียบแทงและงัดออก แต่ก็ทำไม่เสร็จเพราะหมดเวลาพอดีนั่นเอง

  ฐานที่สอง เป็นฐานที่ต้องไปทำความสะอาดในโรงทาน และจัดข้าวของที่ชั้นสองวิหารหลังใหม่ ก็ได้เห็นข้าวของที่ยังไม่เข้าที่หลายๆอย่างก็นำทีมโดยพี่เหมียว ฐานนี้ก็ได้สอนเรื่องการมีความสะอาดและความมีระเบียบวินัยนั่นเอง

  ฐานที่สาม เป็นฐานที่ต้องไปทำความสะอาดที่ท้องร่องบริเวณหน้าบ้านร้างนั่นเอง ดูเหมือนง่ายแต่ที่ได้หญ้ารกมากและเกี่ยวพันกันต้องใช้ทั้งคราดทั้งเคียวคนหนึ่งดึงคนหนึ่งตัด อีกคนก็ขนหญ้าไปไว้ให้อาจารย์พันธ์อีกนั่นเอง บานนี้ทำบ่งบอกถึงการสามัคคีนั่นเอง

  ฐานที่สี่ เป็นฐานที่ต้องบอกว่าต้องอดทนอีกนั่นก็คือ ฐานก่อสร้างนั่นเอง แต่วันนี้ไม่ได้โกยหินแล้วเปลี่ยนมาเป็นลากรถขนหินผสมแล้วจากถังโม่นั่นเอง ตอนแรกก็นึกว่าหมูแต่ที่ไหนได้แค่เข็นรถแทบแย่ถ้าไม่มีคนแนะวิถีให้สรุปแล้วว่างานทุกอย่างไม่มีง่ายเลยแต่การยากง่ายขึ้นอยู่กับเนื้องานนั่นเอง เป็นกลุ่มที่ปิดฐานนี้เพราะว่าเทปูนเสร็จสิ้นพอดี

 พักเที่ยงทานข้าว 12.00-13.00 น

 ฐานที่ห้า เป็นฐานที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าฐานอื่นนั่นคือ ฐานเกษตรนั่นเอง ท่านไม้ให้ขุดแปลงผักแต่ให้มาดูการหมักวัชพืช คือการนำวัชพืชและน้ำไปหมักไว้ในถังไว้ 15 วัน แล้วนำน้ำที่ได้ไปแยกไว้เพื่อนำไปรดต้นไม้หรือพืชที่เราปลูก ส่วนวัชพืชที่ผ่านการหมักก็ให้เก็บไว้แล้วนำไปคลุมหน้าดินต่อไป เพื่อที่ว่าเวลาเรารดน้ำที่ผ่านจากการหมักไปรดแล้วจะเก็บความชื้นได้ดีกว่าไม่ทำให้หน้าดินแห้งนั่นเอง

 ฐานที่หก  หลังจากนั้นก็เก็บอุปกรณ์อาบน้ำรอการสรุปการทำกิจกรรมนั่นเอง มีการรายงานผลจากอาการที่เจ็บป่วยหลังหลังจากทำกิจกรรมว่าดีขึ้นหรือหายเต็มร้อยหรือไม่ จากที่ได้ฟังการสรุปการทำกิจกรรมทำให้ทุกๆกลุ่มมีผลเกิน 50 เปอร์เซนต์ขึ้นไปถือว่าประสบความสำเร็จนั่นเอง

  ข้อดีการทำกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้ทุกคนมีการตื่นตัวในการเปลี่ยนบรรยากาศ และก่อนการทำกิจกรรมทุกๆฐานก็จะมีการอารธนาบารมีพระศรีอาริย์ที่อาจารย์อุบลเป็นผู้อันเชิญตลอด ทำให้มีสมาธิในการทำงาน ตรงจุดนี้ทำให้ผมนำไปใช้ในการทำงานที่บริษัทด้วยครับ

   ขอขอบคุณพระศรีอาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ทั้งในและนอกบ้านสวน ท่านอาจารย์อุบล ลูกขอมอบบุญที่ได้สร้างในกิจกรรมครั้งนี้และทุกๆบุญที่เคยทำมาแก่เทวดาประจำตัวท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคลและคุณท๊อป รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทั้งหมดเลยขอรับ สาธุๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์เดช ชาวไทย/ตัวเล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 23:28:04



<< ก่อนหน้า 1 [2]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.