ReadyPlanet.com


ทุกคนต้องเร่งบุญธรรมทาน รูปแบบใหม่ ให้เห็นผลบุญทันที


ที่ผ่านมา

เราทำบุญธรรมทานกัน

ก็ได้บุญเหมือนกัน แต่ยังน้อยอยู่

เพราะ

เราทำบุญธรรมทานกัน

ยังไม่ได้ใช้กำลังใจเต็ม+ปัญญา

 

เราทำตามๆกัน

แบบไร้ชีวิต ชีวา ไม่น่าสนใจ

 

เพราะ

ธรรมทานของเรา

ไม่ได้เข้าไปในจิตใจใคร

ไม่มีผล ดลให้ใคร สำนึกบาป

สะท้อนกรรมตัวเองได้

แบบทันทีทันใด

 

บุญ

หรือผลบุญ

จึงไม่เกิดทันทีทันใด

 

สิ่งที่ได้

ไม่ทำให้พ้นทุกข์โศก

โรคภัย และ ความลำบากยากจน

 

ดังนั้น

พระพุทธเจ้า

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

พระศรีอาริยเมตไตรย์

ท่านให้เรา

ปฎิวัติ

การทำบุญธรรมทาน

รูปแบบใหม่

 

ซึ่ง

-จะให้ผลทันทีทันใด

-ทำให้พ้นทุกข์โศกโรคภัย

-ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงิน

-ทำให้ความปรารถนาสมหวัง

ฯลฯ

 

ดังพระบัญชา

ต่อไปนี้

 

1.ให้เขียนเล่าเรื่องตัวเอง

ที่มีทุกข์ มีปัญหา มีอุปสรรค

เจ็บป่วย ด้วยโรคใด

แล้วเรามารับรู้ว่า

เกิดจาก กรรมใด ได้อย่างไร

และ

เราแก้ไขอย่างไร

ผลของการแก้ไข เป็นอย่างไร

 

หาย หรือ ดีขึ้น

เพราะอะไร ยังไม่หายเพราะอะไร

 

การเล่าเรื่องตัวเอง

เป็นบุญธรรมทานที่ได้บุญ

สูงที่สุด ไม่มีบุญใดเสมอเหมือน

เล่ากี่ครั้ง ก็ไม่ผิด ไม่บิดเบือน

ยกเว้นเจ้าตัวจะบิดเบือน

 

ในชีวิตเกิดมา

มีปัญหาตั้งหลายอย่าง

ปัญหาแต่ละอย่าง

แก้อย่างไร

อะไรเป็นสาเหตุ

เล่าให้หมด

 

การเล่าปากเปล่า

ก็ต้องทำ แต่มันจะช้า

ไม่เหมือนเล่าด้วยปากด้วย

เขียนด้วย

 

เขียนอย่างไร

จึงจะได้บุญมาก

1.เขียนใส่กระดาษ

ถ่ายเอกสารแจก

อันนี้ทำได้ทุกวัน ทุกครั้งที่นึกได้

 

ให้แจกไปเรื่อยๆ

เหมือนอาหาร ก็ต้องกินเรื่อยๆ

บุญจะส่งผลรวดเร็วมาก

 

2.เขียนในเวปไซด์บ้านสวนฯ

หรือเวปอื่น ที่ทำได้

อันนี้ บุญจะกว้างขวาง รวดเร็ว

ถ้ากระทู้ที่เขียนนั้น

เป็นกระทู้ที่อยู่ในความสนใจ

มีผู้คนได้อ่านเสมอ

 

แต่ถ้าไปเปิดกระทู้เอง

แล้วกระทู้นั้น ฮ๊อต ก็ดีไป

แต่ถ้ากระทู้ที่เปิดเอง ไม่มีคนสนใจ

บุญก็ไม่ได้ เพราะ ไม่มีคนอ่าน

กระทู้ตกไป บุญก็หยุดเดิน

 

ธรรมทาน

ที่แท้จริง ที่ได้บุญจริง

คือการให้ธรรมะ หรือ กฏแห่งกรรม

เป็นทาน

 

ซึ่งต้องพิจารณา 3 ส่วน

คือ

1.เจตนาการให้ธรรมทาน

บริสุทธิ์

อยากให้คนได้รู้ ว่าปัญหาของเรา

เกิดจากเราทำผิดพลาดอะไร

เขาอ่านแล้วจะได้นึกถึงตัวเขา

ว่าทำอย่างเรารึไม่

ถ้าทำ จะได้มีทางออก

ถ้าไม่ทำ จะได้ไม่คิดทำ หยุดคิดทำ

อันนี้เป็นเจตนาการเขียน

การเล่าธรรมทาน

ต้องเพื่อความพ้นทุกข์ของ

ผู้รับทานจากเรา

 

2.วัตถุทานบริสุทธิ์

คือ

เรื่องธรรมทานที่เราเล่า

จริงทุกอย่าง ไม่บิดเบือนใดใด

เป็นเรื่องของเรา หรือเรื่องที่

เราได้เห็น ได้รู้มากับตา ต่อหน้า

จริงๆ หรือ รับการถ่ายทอดมา

แบบเชื่อถือได้

ซึ่งข้อนี้ ให้พิจารณาให้จงหนัก

เพราะ

 

ถ้าพลาด

ขาดความบริสุทธิ์

จะทำให้ไม่ครบองค์ประกอบ

3 ส่วน

ที่ทำให้ผลของธรรมทาน

เกิดฉับพลันทันทีได้

 

3.ผู้รับทาน หรือ เนื้อนาบุญ

บริสุทธิ์

 

ในที่นี้ หมายความว่า

เราจะต้องรู้ว่า เราจะให้ธรรมทาน

กับใคร คือให้ไปแล้ว มีคนรับรู้

มีคนอ่านหรือไม่ อันนี้สำคัญ

 

แต่

ไม่ได้หมายความว่า

ให้คิดแทน ให้ระแวงว่า

เขาจะไม่อ่านเลยไม่ยอมให้

 

แต่

หมายความว่า

การให้ธรรมทาน

ต้องเจตนาให้คนรับรู้มากๆ

 

ไม่ใช่ทำธรรมทาน

แบบแก้บน ทำๆไป ใครจะอ่าน

ของเราหรือไม่ก็ช่าง

ไม่อ่านยิ่งดี เพราะเราอาย

ถ้าคิดอย่างนี้

ผิดทั้งข้อ 1 และ ข้อ 3

ผลบุญจะไม่เกิดทันทีแน่นอน

 

อย่างบางคน

ชอบคิดว่ามาสารภาพบาป

กับ อ.อุบล สองต่อสอง

แล้วจะปลดกรรม หายป่วยได้

อันนี้บอกได้เลยว่า

คิดผิด ไม่หาย แน่นอน

เพราะเงื่อนไขการหายคือ

การให้ธรรมทานต่อคนจำนวนมาก

ยิ่งมาก ยิ่งได้ผลดีมาก

 

ถ้าคนรู้น้อย ก็ได้ผลน้อย

 

จะเห็นว่า

ทำไม คุณเหมี่ยว

ถึงช่วยคนได้มาก เพราะว่า

คุณเหมี่ยว มีเจตนาบริสุทธิ์

เสียสละ อยากให้เขาพ้นทุกข์

ไม่อิจฉา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม

คนเหลี่ยมมาก ทุกข์มาก ป่วยมาก

แล้วคุณเหมี่ยวกตัญญู

จะเชิดชู ครูบาอาจารย์

อันนี้ พระพุทธเจ้าท่านถือเป็นเรื่อง

ใหญ่มาก ในการสำเร็จธรรม

ทำให้เกิดปาฎิหาริย์ได้

(เดี๋ยวจะเล่าอีกที)

และ

คุณเหมี่ยว ให้เขาขอบคุณ

ให้เขาสำนึก ให้เขารู้ ว่าเขาหาย

เพราะอะไร ไม่ใช่แค่หาย

แล้วก็แยกย้ายกันไป

รีบๆ บำบัด ทำเป้าให้ได้มากๆ

ไม่ใช่ คุณเหมี่ยวจะพิถีพิถัน

เรื่องครูของตัวเอง

และถ่ายทอดความรู้สึกของตน

และคนที่ได้รับการบำบัดชัดเจน

ไม่เหมือนบางคน

บอกเล่าไร้ชีวิต ชีวา เหมือนกับว่า

การหาย เป็นเรื่องปกติ

ที่คนหาย ไม่เอะใจ ไม่แปลกใจ

ไม่มีอารมณ์อะไรเลย

 

อันนี้

เบื้องบนถือว่า

เราทำเพื่ออวดตัวเอง

ผลบุญจึงน้อยมาก

 

เนื้อนาบุญบริสุทธิ์

สำหรับผู้รับธรรมทานก็คือ

ทำให้จิตเขาเปิด เขาสำนึก

ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีเลิศมา

แต่เราใช้ปรากฎการณ์

ทำให้เขา เปลี่ยนจิตใจ ณ บัดนั้น

เน้นย้ำให้รู้ว่าปรากฎการณ์นี้

คุณเคยเห็นมาก่อนไหม

หายทันที ดีขึ้นทันใด

แล้วบอกเขาไป ว่าเกิดจากอะไร

อันนี้ แม้จำนวนคนน้อยกว่า

แต่การขยายบุญธรรมทาน

จะมีผลต่อไปได้มากกว่า

 

ถ้าทำครบ 3 ส่วน

ให้บริสุทธิ์

อานิสงส์เกิดฉับพลันทันที

 

ไม่ต้องมาบ้านสวนก็ได้

ให้ทุกคนที่หาย

เขียนเล่าเรื่องตัวเองแจกจ่าย

ถ่ายเอกสาร บอกชื่อ สกุล

รายละเอียดที่สุด

แล้วบอกเวปไซด์บ้านสวน

บอกรหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

 

แจกไปเถอะ

ให้ดูคุณชิมเป็นตัวอย่าง

นั่นแจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ

แต่

ท่านแจกธรรมทาน

ที่เขียนเอง

บุญจะแรง จะเร็วยิ่งกว่าอีก

 

ส่วนคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ

ไม่ปิดกั้น แจกไปเลย

ถ้ามีกำลัง แจกได้ทั้ง 2 อย่าง

 

2.ถ้าต้องการ

อานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่

ยิ่งขึ้นไปอีก ก็ให้พริ้นท์

เรื่องราว

จากกระทู้ต่างๆในเวปนี้

ถ่ายเอกสารแจกจ่าย

ให้มากที่สุด

 

ยังไม่เห็นมีใคร

มาเขียนบอกเรื่องนี้เลย

 

มีแต่บอกเรื่อง การทำความดี

หรือทำบุญ ธรรมทาน

ต้องทำให้ครบ 5 ข้อ

 

1.ทำทันที

2.ทำแบบง่ายๆ

3.ทำอย่างสม่ำเสมอ

4.ทำอย่างต่อเนื่อง

5.ทำให้มากขึ้น

 

ส่วนรายละเอียด

ก็ให้ทำตามนี้ คือตามบัญชา

องค์พระปฐมฯ+พระศรีอาริย์

 

มีใครลงมือทำแล้วบ้าง

ได้ผลอย่างไร

มาเล่าถวายพระองค์บ้าง

จะได้รับอานิสงส์

ยิ่งๆขึ้นไป

 

หรือ

ใครสงสัยอะไร

ก็รีบมาถาม มาคุยกันได้

เลยจ้า

จะได้ปลดล๊อกกรรม

แม้ไม่ต้องไป

บ้านสวนพีระมิด ไงจ๊ะ

 



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-31 19:09:22


<< ก่อนหน้า 1 2 [3]

ความคิดเห็นที่ 201 (1640412)

ผมเด็กชายพอเจตน์ สุดิจิตต์ (บิ๊กซัน) อายุ 10 ขวบ

นักเรียนโรงเรียนชัยจิตต์วิทยา จังหวัดกาญจนุบรี

ผมมาบ้านสวนพีระมิดกับพ่อ และแม่ครับ ผมมาแล้วผมรักอาจารย์อุบล รักบ้านสวนพีระมิดมากครับ เวลาที่ผมได้มาทำบุญที่บ้านสวนพระมิด

ผมมีความสุขมากครับ ท่านอาจารย์อุบลได้สอนให้ผมรู้จักทำบุญ รู้จักกลัวปาบ และไม่ให้ทำปาบกรรม สอนให้ผมรู้ผลกรรมที่ผิดศิลครับท่านสอนให้ผมเลิกทานเนื้อสัตว์เพราะสงสารสัตว์และผมก็ไม่ทานเนื้อสัตว์ครับ  ปกติผมจะไม่สบายบ่อย เป็นหวัดบ่อย เป็นภูมิแพ้อาหาร แพ้อากาศหายใจไม่ค่อยสะดวก ปวดท้องบ่อย ปวดหัวบ่อย พอไม่ทานเนื้อสัตว์ผมรู้สึกว่าสุขภาพผมแข็งแร็งครับ และยิ่งได้รับบารมีพระศรีอารีย์ที่านอาจารย์อุบลอัญเชิญ ผมรู้สึกมีความสุข สุขภาพแข็งแรงมากขึ้นครับ ทุกครั้งที่ผมได้กราบทานอาจารญ์อุบล และได้เดินผ่านท่านอาจารย์อุบลผมรู้สึกมีความสุขมากเลยครับ

ผมขอสารภาพบาปครับ

ผมเคยคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบลครับ ว่าทำไมท่านอาจารย์อุบลถึงได้กางร่มครับ

ผลกรรมที่ได้รับครับ ผมไม่สบายปวดหัวมากครับพอแม่ให้ผมสารภาพปาบ เขียนธรรมทาน และได้มากราบท่านอาจารย์อุบล ผมก็หายไม่ปวดหัวอีกเลยครับ

ผมเคยคิดปรามาสพี่ธนา คิดสงสัยว่าทำไมพี่ธนาชอบเป็นพิธีการ (สงสัยโดยไม่ใช้ปัญญาครับท่านอาจารย์อุบลเมตตาบอกผมครับ)

ผมเคยคิดปรามาสป้าแมว ว่าป้าแมวดุ ทั้งที่ตัวผมเองซนมากและคิดจะขโมยขนมในโรงทานแต่ป้าแมวได้มาห้ามไว้  เคยคิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดว่าพ่อแม่ดุ และไม่รักผม คิดว่าพ่อแม่เก็บผมมาเลี้ยงเพราะจะโดนดุทุกวันครับ เคยคิดไม่ดีกับคุณยาย คิดว่าคุณยายชอบดุ คิดไม่ดีกับคุณย่า คิดว่าทำไมคุณย่าขี้เหนียวจัง คิดไม่ดีกับน้อง และคิดว่าไม่อยากมีน้อง

ผลกรรมครับ  ผมตัวร้อน และปวดหัวมาก พอสารภาพบาปและแม่เขียนธรรมทานให้ก็ดีขึ้น ผมคิดว่าถ้าป้าแมวไม่เตือนผมผมคงจะปวดหัวมากกว่านี้ หรืออาจป่วยมากกว่านี้ ผมขอขอบคุณป้าแมวมากครับผมเข้าใจแล้วทำไมป้าแมวถึงได้คอยดุผมครับ (เพราะป้าแมวไม่อยากให้ผมไม่สบายครับ)

ศิลข้อ 1 ครับ ผมเคยแกล้งแมวเอาแมวใส่ในถังน้ำครับ จนแมว   สำลักน้ำ แกลังแมว ตีหมา ตีน้อง กระทืบเท้าใส่พ่อแม่ เคยดีเพื่อน คิดอยากให้เพื่อนตาย คิดแช่งเพื่อนเนื่องจากเพื่อนชอบแกล้งผม       เคยฆ่ามด ฆ่าปลวก ฆ่าแมลง ฆ่าแมงมุม ฆ่ายุง เคยกินเนื้อสัตว์กุู้ง หอย ปู ปลา ไก่ หมู เคยกินไข่นกทา ไข่เป็ด พอท่านอาจารญ์อุบลบอกให้สงสารเค้าและได้ดูคลิบวีดีโอโรงฆ่าสัตว์ผมก็ไม่อยากทานเนื้อสัตว์ อีกเลยครับ

ศิลข้อ 2 ครับ  ผมเคยโขมยเงินพ่อแม่ และของคุณยาย หยิบของคนอื่นโดยไม่ได้ขออนุญาต เช่นกล้องของพ่อ โทรศัพท์ ดินสอ ปากกา เคยดิดอยากกินของคนอื่นแบบของฟรีครับ หรือของที่เค้าเอามาแจกครับ ไม่ช่วยพ่อแม่ประหยัดครับ ใช้ของแล้วไม่ค่อยเก็บไม่ทะนุทนอมของใช้ เล่นอิฐบ้านสวนแตก เคยเอาร้องเท้าไปลัางในห้องน้ำบ้านสวนทำให้ห้องน้ำสกปรก เคยเด็ดข้าวโพดในไร่ของคุณป้า

ศิลข้อ 3 ผมไม่เคยทำผิดศิลข้อ 3 แต่ไม่แน่ใจว่าผมเคยเห็นอวัยวะของน้อง แต่ไม่ด้คิดอะไรครับมันบังเอิญ แต่ก็ไม่ได้อยากดูครับ            ไม่แน่ใจว่าผมผอไหมครับ

ศิลข้อ 4  ผมพูดโกหกพ่อกับแม่บ่อยครับเพราะกลัวพ่อแม่ดุ หรือทำโทษครับ พูดได่ดี เถียงพ่อแม่ เถียงคุณยาย พูดไม่ดีกับน้อง พูดไม่ดีกับคุณายาย พูดไม่ดีกับเพื่อน

ศิลข้อ 5 ไม่เคยดื่มเหล้า ดื่มของเมาครับ แต่ผมชอบดื่มน้ำเปบซี่ น้ำโค้ก แม่บอกว่ามันมีคาเฟอีนทำให้ติดและนอนไม่หลับครับครับ

อบายมุข ผมชอบเล่นเกมส์ ครับ และชอบดูการ์ตูน เวลาแม่บอกให้ช่วยงานก็ขี้เกียจครับ

กรรมที่ผมได้รับครับ  ผมเป็นโรคภูมิแพ้  และไซนัสอักเสบประจำครับ แพ้อาหารทะเล แพ้อากาศ ผมปวดหัวบ่อย ปวดท้องบ่อย หอบหายใจเร็ว และจะโกรธง่าย และไม่สบายใจเลยครับโดยเฉพาะเวลาที่ผมโดนพ่อแม่ดุผมจะรู้สึกปวดหัวมากเลยครับ  ผมขอสัญญาครับผมจะไม่กลับไปทำแบบนั้นอีก

ผมรักอาจารย์อุบลมกาคำรับ ผมรักบ้านสวนพีะมิด เวลาผมมาบ้านสวนพีระมิดผมมีความสุขมากเลยครับ และไม่อยากกลับบ้านเลยครับ เวลาผมไม่สบายผมขอรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยก็จะหายครับ เวลาผมจะสอบผมใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยทำให้ผมสอบได้คะแนนดีครับ และทำให้ผมสอบอัฉริยภาพทางคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ผ่านและผมได้รับใบประกาศ ผมดีใจมากเลยครับ ทั้งที่ผมทำข้อสอบไม่ค่อยได้ ผมคิดว่าการสอบครั้งนี้เป็นเพราะอาจารย์อุบลช่วยด้วยครับ

ผมขอกราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ พระศรีอารีย์ ท่าอาจารย์มงคล พีท็อป ป้าแมว พี่ธนาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 20:50:20


ความคิดเห็นที่ 202 (1640455)

 ธรรมทานชีวิต ฉบับเผยแพร่ค่ะ         

 “ธรรมทานชีวิต” นางสาวประภาสิริ  ถาวร (มิ้ม)

ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ สร้างเหตุอย่างไรผลก็เป็นเช่นนั้น

       ชีวิตก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้รู้จักท่านอาจารย์อุบลเป็นชีวิตที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการทำผิดศีลทำให้เราต้องทุกข์ รู้เรื่องศีล หลักธรรมแต่เพียงผิวเผิน ทำบุญให้ทาน ทำสมาธิ แต่ไม่ใส่ใจในการรักษาศีล โกรธง่าย เจอมด ยุง ปลวก สัตว์เล็กสัตว์น้อยก็ฆ่า ทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ และอุปนิสัยโกรธง่าย อ่อนไหวง่าย เอาแต่ใจตัวเอง วิตกกังวล บางครั้งก็อิจฉาทำให้ข้าพเจ้ามีปัญหากรรมผิวพรรณมีสิวต้องพึ่งยารักษาสิวมาเป็นสิบปี จนในทีสุดต้องหยุดใช้ยาเพราะภูมิต้านทานลด ป่วยง่าย ใจสั่น ความดันต่ำ ตัวเหลือง ตอนนั้นรู้แล้วว่าร่างกายรับยาต่อไปไม่ไหว จึงตัดสินใจเลิก พอเลิกยาใช้ยาสิวก็กลับมาขึ้น ตอนนั้นใช้เครื่องสำอางค์สมุนไพร และเริ่มปฏิบัติธรรม โกรธน้อยลง ทำให้หน้าดีขึ้น

แต่หน้าก็กลับมาแย่มีสิวขึ้นอีกครั้งก็เมื่อข้าพเจ้า ขับรถชนคนตายและไม่สำนึกผิดด้วยใจจริงที่ตนทำให้เค้าต้องตาย  ทำให้กรรมรวมตัว ผลกรรมทำให้ข้าพเจ้าได้พบกับความทุกข์อย่างที่สุดจนปวดไปทั้งหัวใจ ทั้งปัญหาผิวพรรณที่สิวขึ้นมาเต็มหน้า ปัญหาความรักคนรักพูดทำร้ายจิตใจเราสารพัดอย่างสุดท้ายก็เลิกกัน  การเงินก็ขาดสภาพคล่อง มีปัญหากับหัวหน้างาน พยายามที่จะเขียนย้ายกลับบ้านทำทุกวิธีการก็ไม่สามารถย้ายได้  แต่มาย้ายได้ก็เมื่อข้าพเจ้าได้มาร่วมค่ายสร้างบุญใหญ่สำหรับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการฆ่า การทำแท้ง และสาบแช่งที่บ้านสวนพีระมิด  ข้าพเจ้าทำกรรมด้านการฆ่า คือ ขับรถชนคนตายจึงสมัครเข้าค่ายสร้างบุญใหญ่ในครั้งนั้น ค่ายนี้ทำให้ข้าพเจ้าสำนึกผิดด้วยใจจริง ตั้งใจที่จะสร้างบุญทุกอย่างส่งให้ผู้ตายถึงที่สุดและข้าพเจ้าก็ได้อานิสงส์บุญคือได้รับหนังสือคำสั่งย้ายไปรับราชการโรงเรียนใกล้บ้านหลังจากกลับจากค่าย 2 – 3 สัปดาห์

       ชีวิตของข้าพเจ้าเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด ได้ฟังคำสอนของท่านอาจารย์อุบลที่พิสูจน์ให้เห็นผลของการทำผิดศีล และได้รู้ว่าที่ข้าพเจ้าต้องผิดหวังกับความรัก ก็เพราะเคยไม่จริงใจเจ้าชู้คบเผื่อเลือกหลายคน เคยชอบคนที่มีแฟนแล้ว มีปัญหาการเงินก็เพราะเคยลักขโมย ชอบของฟรี เอาของคนอื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เอาของที่ทำงานกลับบ้านไปใช้ส่วนตัว เช่น แม็ก กระดาษ ทำงานส่วนตัวในเวลาราชการ  ใช้เครื่องปริ๊นที่ทำงานทำงานส่วนตัว ทำงานไม่เต็มที่กับเวลาและเงินเดือน มาสายกลับก่อน ลางานบ่อย คุยโทรศัพท์เล่นเนตซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับงาน ถวายอาหารให้พระสงฆ์แล้วถวายไม่หมดหรือไปทำบุญแล้วพระฉันแล้ว ก็นำกลับบ้านมากินเอง ทำของสงฆ์เสียหาย ไปใช้น้ำใช้ไฟกินอาหารวัด เล่นหวย ผลที่เกิดขึ้น คือ ข้าพเจ้าของหายบ่อยๆ มีเหตุต้องเสียเงินตลอดเวลา เก็บเงินไม่อยู่  ข้าพเจ้าพยายามที่จะพ้นกรรมนี้โดยขอขมากับแผ่นดิน กับสงฆ์ ร่วมบุญสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ร่วมบุญสร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน ไม่อยากได้ของใคร ถ้าไปไหนก็พยายามเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ และทำบุญกับเนื้อนาบุญบริสุทธิ์ที่มีอานิสงส์บุญมากๆ  สิ่งเกิดขึ้นกับตัวเองอีกก็คือพูดไปไม่ค่อยมีคนเชื่อ และเวลาที่คนเค้าพูดความจริงเรากับไม่เชื่อ คนโกหกเรากับเชื่อก็เพราะเคยโกหก นินทา สติปัญญาไม่ดีขี้หลงขี้ลืมก็เพราะเคยดื่มและชงเหล้าให้คนอื่นดื่ม

ข้าพเจ้าเคยดูหมิ่นศาสนาอื่นว่าไม่ดีเท่าศาสนาพุทธทำให้ชีวิตต้องพบความทุกข์ในทุกด้าน ชีวิตไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร และเคยเป็นโรคปวดหัวบ่อยก็เพราะเป็นคนคิดลบ คิดฟุ้งซ่าน เห็นภาพลามกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เคยปวดตา ตาฝ้ามองอะไรไม่ชัด เพราะเคยมองจับผิดคน  เคยดูหนังโป๊ ภาพลามก ใช้ตาค้อน เหยียด ดูถูกคนอื่น  เคยขังแมวไว้ในห้องตอนกลางคืน  เคยปวดหลังเพราะขับรถเหยียบงู หรือฆ่างูนั่นเองค่ะ เคยปวดคอไหล่ เพราะเคยสาปแช่ง สมน้ำหน้าเคยปวดเข่า เพราะเคยเดินกระทืบเท้า เคยใช้ขาแตะหมาแมว เคยใช้เท้าขัดเหรียญบาท เหยียบเหรียญบาท หันเท้าไปทางพระ เคยปวดหัวใจรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีป เพราะ ทำให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วงเสียใจกับความดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวเอง และเป็นคนที่ไม่จริงใจ คบเผื่อเลือก ทำให้คนที่เค้าจริงใจกับเราต้องเสียใจจนเกือบจะเสียอนาคตเพราะไปติดยา ผลที่เกิดขึ้นกับคือ ผู้ชายที่ข้าพเจ้ารักเค้าจริงๆ เค้ากลับทิ้งไปโดยที่ข้าพเจ้าไม่มีความผิดอะไร ทำให้ข้าพเจ้าเสียใจทุกอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนกับที่ข้าพเจ้าเคยทำให้ผู้ชายที่ข้าพเจ้าคบเผื่อเลือกต้องเสียใจ

เมื่อก่อนข้าพเจ้าเป็นโรคกระเพาะ เพราะเคยตะกละเวลาเห็นของอร่อยของดีจะรีบไปกินก่อน กลัวจะหมด มาคิดถึงตอนนี้รู้สึกอายตัวเองจริงๆ และในทุกๆเดือนก็ต้องพบกับความทุกข์เพราะปวดท้องประจำเดือนมากๆๆ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า เป็นคนเจ้าชู้คบหลายคน ไม่จริงใจ

         นับจากได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด ข้าพเจ้าก็พยายามรักษาศีล 5 เลิกนิสัยการเบียดเบียน ฆ่าทำร้ายชีวิต หันมาทานมังสวิรัติ  มีความรัก สงสาร ต่อทั้งคนและสัตว์ พยายามไม่พูดให้ร้ายใคร และใช้ผลิตพันธ์พาเมล่าซึ่งมีพลังปราณ มโนธาตุ พลังปราณจะเข้าไปสู่ร่างกายไปชดเชยปราณที่เราเสียไปจากการทำผิดศีลซึ่งทำให้เราต้องทุกข์ และพลังมโนธาตุจะไปทำให้จิตใจเราสงบ ผ่องใส มีปัญญา ข้าพเจ้าก็ไม่เคยป่วยอีกเลยมา 2 ปีแล้ว ยกเว้นมาสร้างบุญที่บ้านสวนและได้ทำผิดสร้างบาปก็ได้รับการเตือนโดยการป่วยแต่เมื่อสารภาพบาป ขอขมาสำนึกผิดก็จะหายป่วย

ชีวิตทุกวันนี้ข้าพเจ้ามีความสุขมากๆ จิตใจ สงบ เบิกบาน ใจเย็น มีความรักและเมตตา เข้มแข็ง การเงินมีสภาพคล่องขึ้น การงานก็ราบรื่นดีได้ทำงานใกล้บ้าน ผิวพรรณดีขึ้นเพราะภาวนาคาถาบูชาพระศรีอาริย์ เมตตานะ ศรีอาริยะเมตโต พุทธานะมะ สันติเกโล อนาคามิ อย่างต่อเนื่อง( ช่วงแรกสวดอย่างน้อย 99 จบ ติดต่อ 9 วัน )  รู้สึกเหมือนของเสียถูกขับออกจากร่างกาย แต่ยังคงมีสิวอยู่เพราะยังตัดความโกรธ ความอิจฉา ความเครียด วิตกกังวล ที่บางครั้งเกิดขึ้นในใจไม่ได้ตอนนี้พยายามทำให้ได้เพื่อปัญหากรรมผิวพรรณจะได้หมดไป

       นอกจากนี้ความคล่องตัวในชีวิตของข้าพเจ้าก็มีมากขึ้น สมหวังในสิ่งที่ต้องการก็ด้วยเพราะใช้รหัสจักรวาล “อาจารย์อุบลช่วยด้วย” ของที่หาย หาไม่เจอ เพียงแค่นึกอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้หาเจอ ก็ได้เจอแล้วทั้งสร้อยทองที่หาย โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือซึ่งก็ได้คืนกลับมาอย่างอัศจรรย์ ปวดท้องประจำเดือน ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือต้องการให้ผู้ใหญ่ในส่วนราชการช่วยเหลือ เพียงนึกว่า อาจารย์อุบลช่วยด้วย ข้าพเจ้าก็ได้สมหวังในสิ่งนั้น ข้าพเจ้าต้องการที่จะได้ใช้รหัสนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็เลยบอกเล่าให้บุคคลต่างๆฟัง ทำบุญถวายบุญให้เทวดาที่คุ้มครองอาจารย์อุบล เพราะถ้าไม่บอกต่อก็จะใช้รหัสนี้ได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ปรามาสพระรัตนตรัย ปรามาสในหลวง ปรามาสท่านอาจารย์อุบลก็ใช้รหัสไม่ได้ เป็นรหัสที่ยุติธรรมมากเลยค่ะ เพราะบอกมากใช้ได้ผลมาก บอกบ้างไม่บอกบ้าง ก็ใช้ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ไม่บอกก็ใช้ไม่ได้ผลเลย ลูกศิษย์ของข้าพเจ้านำรหัสนี้ไปใช้ทำให้สามารถช่วยชีวิตน้องชายได้ และค้าขายดีเพราะภาวนาขอให้อาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้ขายดีก็หมดทุกวัน เพื่อนที่กลับมาจากต่างประเทศตอนแรกไม่เชื่อแต่พอโดนผีอำ สวดคาถาอื่นไม่หาย แต่อาจารย์อุบลช่วยด้วยแล้วผีไป ก็เลยเชื่อและใช้รหัสนี้

       ความสุข ปัญญา ความเข้มแข็ง ความสมหวัง คล่องตัวในทุกเรื่อง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าก็เพราะท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ เว็บไซท์ www.baansuanpyramid.com รายการคุยไปแจกไป ช่อง 48 วันอาทิตย์เวลาบ่ายสามถึงห้าโมงเย็น ที่ท่านอาจารย์อุบลสอดแทรกธรรมพิสูจน์กฎแห่งกรรมให้เห็น ชีวิตที่เหลืออยู่ขอตั้งใจทำความดี ละเว้นจากการทำผิดศีลทั้ง 5 ข้อ ทำใจให้เบิกบานผ่องใส มีความรัก ความเมตตากับทุกคน  และขอนำชีวิตตนเองเป็นธรรมทานเพื่อไม่ให้ใครต้องพบความทุกข์เพราะทำผิดศีล

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป ที่เสียสละความสุข ความเป็นส่วนตัว เวลา ทรัพย์สิน เปิดบ้านสวนตัวของท่านให้เป็นสถานที่สอนธรรม และให้คนมาสร้างบุญให้ได้พ้นทุกข์ พบกับความสุข  

         ลูกกราบขอบพระคุณค่ะ และกราบขอบพระคุณเทวดาทีรักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ที่เมตตาให้ลูกได้สร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิดทำให้ได้รับอานิสงส์พ้นจากความทุกข์ พบความสุขค่ะ สาธุ  ลูกขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าขอเบิกบุญทุกบุญที่ได้ทำมา น้อมถวายเทวดาที่คุ้มครองท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป และคุณพ่อ คุณแม่ที่ให้กำเนิดอบรมเลี้ยงดูข้าพเจ้าให้มีชีวิตได้จนทุกวันนี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 22:49:46


ความคิดเห็นที่ 203 (1640535)

 

สาเหตุที่มารู้จักบ้านสวนพีระมิด

ข้าพเจ้านางกันต์สินี  อัครวิชนนท์ ข้าราชการบำนาญ(ครู) ซึ่งได้โอนย้ายจาก

ตำแหน่งเดิมที่ เป็น พยาบาลวิชาชีพ (วิสัญญีพยาบาล)

เนื่องจากได้รับแผ่นเสียงเพลง  จากญาติธรรมของบ้านสวนฯ มาแจกให้

เมื่อเปิดฟังแล้วรู้สึกว่าไพเราะมาก ทั้งเสียงร้อง ทำนอง และเนื้อเพลงช่างแปลกและไพเราะอย่างมากจริง ๆ

หลังจากนั้นก็มาค้นหาว่าเพลงมาจากไหน สถานที่ใด  ก็ได้รับทราบว่า 

มาจาก จังหวัดนครนายก  บ้านสวนพีระมิด และได้ศึกษาข้อมูลจาก www.baansuanpyramid.com   ดูแล้วพบว่าเป็นวิธีการที่แปลก ประกอบกับครอบครัว  ได้สร้างบุญทำสังฆทานที่ วัดท่าซุง  ของหลวงพ่อฤาษี  ลิงดำ 

มาโดยตลอดตั้งแต่ประมาณ ปี 2528  เห็นว่าบ้านสวนฯ เป็นสายเดียวกับ

หลวงพ่อจึงเดินทางมา  เพื่อสร้างบุญ   ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร ชีวิตครอบครัวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร  ราบเรียบดี  ก็ เลยอยากมาทำบุญไปเรื่อย ๆ

 ทั้งปัจจัยและแรงกาย  หลังชีวิตเกษียณอายุราชการแล้วก็อยากทำบุญให้มาก ๆ ที่สุด   แต่พอได้เข้ามาศึกษาอย่างจริงจังก็ได้พบว่า  หลายคนเขามีการสารภาพบาปกรรมที่ทำมาและพิสูจน์กฎแห่งกรรมกันด้วย  มันใช่เหรอ เราไม่เคยรู้เลย    ก็เลยย้อนมาคิดถึงตัวเองว่า  เราก็ต้องทำกรรมมาเหมือนกันแน่เลย  จึงค่อย ๆ   คิดย้อนหลังไปเรื่อย ๆ ว่าที่ผ่านมางานเราทำไมถึงทำงาน   ไม่ค่อยก้าวหน้า  ทำผลงานก็ไม่ผ่าน 2 – 3 ครั้ง  บ้านก็ถูกไฟไหม้ (บ้านทางราชการ)  ทำธุรกิจขายตรงคิดว่า   จะยึดเป็นอาชีพพิเศษของครอบครัว  ซึ่งควร จะเป็นที่มาของเงินจำนวนมากก็ใช้ไปหมดเร็วมาก  นี่เราทำกรรมอะไรหนอ !

จากการที่เห็นผู้คนมาเล่าธรรมทานและมาสารภาพกันมากมาย   ตั้งแต่การทำแท้ง ขับรถชนคน  ตีงู  ฆ่ายุง  ฆ่าปลวก  มด  ไส้เดือน กิ้งกือ  ปลา  ไก่ ฯลฯ  เขาเหล่านั้นเป็น  เจ้า  กรรมนายเวรของเราทั้งนั้น  เขามีความอาฆาต  พยาบาท  เราทั้งสิ้น  เขาสามารถจะให้เราเจ็บป่วยหรือขัดขวางในอาชีพ หรือธุรกิจอะไรของเราได้ทั้งหมด  ก็เลยมานึกย้อนถึงสมัยที่      เรารับราชการเป็นพยาบาลหน้าที่เป็นวิสัญญีพยาบาล (พยาบาลดมยาสลบ)   ผิดศิลข้อ 1   เคย  ทำให้คนไข้เสียชีวิตไปด้วยความประมาท และไม่ตั้งใจ   จำนวน 2  ราย  แต่ก็นั่นแหละ

ถ้าเรา  มาคิดทบทวน   ให้ดีในวันนั้น

รายแรก  เป็นหญิงสูงวัย   ถ้าเราดูแลเขาดีกว่านี้ ความผิดพลาด    ก็คงจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน  ด้วยความ   ที่เราคิดว่า  เราทำมาแบบนี้เหมือน ๆ กัน ฉีดยาก็เหมือน ๆ กัน ไม่เห็นมีใครเคยเป็นอะไรเลย   แล้วหมอก็จะทำแค่นิดหน่อยเอง  สุดท้ายก็ปรากฏว่า   คนไข้เมื่อฉีดยานอนหลับเข้าไป  ก็มีอาการ แพ้ยา  ชักขึ้นมาทันที  ด้วยความที่คนไข้  อายุมากแล้ว  จึงช่วยชีวิตไม่ทัน

**************

 

 

 (ขอเพิ่มข้อความไปต่อที่ค.ห.205ค่ะ)

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 10:36:17


ความคิดเห็นที่ 204 (1640547)

         ชื่อ นางสาว อลินนันท์ อัครวิชนนท์ อายุ 34 ปี จบการศึกษา ปริญญาโท ภาษา และ การสื่อสาร จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ปัจจุบันทำงานเป็นเลขานุการค่ะ

                ลินมาบ้านสวนพีระมิดมาปีกว่าแล้วค่ะตั้งแต่กุมภาพันธ์ ปี 2554 โดย เริ่มจากที่คุณพ่อคุณแม่ชักชวนให้มาเพราะปกติครอบครัวเราก็จะหมั่นไปทําบุญกันปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่ลินเด็กเด็กที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี สมัยตั้งแต่ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำยังอยู่เลยละค่ะ ตอนแรกที่มาเป็นคนทานเนื้อสัตว์ปกติค่ะ และไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถทานมังสวิรัติได้ พอมาเข้าบ่อยขึ้น ในช่วงแรกก็จะเริ่มทานมังสวิรัติ เฉพาะวันพระ เท่านั้น (บอกตามตรงคิดว่า ทำยากมากมาก  เพราะ เป็นของที่เราชอบกินทั้งน้านน 555 ) ตั้งแต่ เริ่มแรกเข้ามาท่านอาจารย์ อุบล หมั่นสอนให้ รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์โดยเริ่มจากศีลข้อแรก เลยคือ ไม่ฆ่าสัตว์​ ทั้งทางตรงและทางอ้อม 

            

เฮ้อ.....  มาถึงวันนี้  ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้แนะนำให้มาบ้านสวน ไม่ได้เจอท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์ 

                   ชีวิตของลินก่อนเข้าบ้านสวน คิดมาตลอดตลอด ว่าสัตว์ทั้งหลายพวกเค้าเกิดมาเพื่อเป็นอาหาร กินเนื้อสัตว์ทุกอย่างเท่าที่กินได้ หมู เป็ด ไก่ เนื้อวัว แพะ กบ อาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก หอยแครง ไปจนถึงหนอนรถด่วน ปู๊น ปู้น ก้อยังกินเค้า เรียกว่ามีไรน่ากิน หนูลินขอลองค่ะ รวมทั้งเครื่องในทุกอย่าง ไม่ได้เคยคิดเล๊ยยย.....ว่าพวกเค้าจะทุกข์ทรมาน แค่ไหนยังไง ก่อนเค้าจะตาย มาเป็นอาหารให้เรา นึกแต่ว่า จะกินให้อร่อยได้ยังไง ทำไงน้า เนื้อของพวกเค้าจะกินให้อร่อยได้ หมักยังไง อบยังไง ถึงจะอร่อยไม่รู้ลืม... อย่างเช่น  หอยแครงนี่ต้องมีเลือดซิบ ซิบ หวาน หวาน ถึงจะอร่อย และสัตว์ปีกที่โปรดปรานก็คงไม่พ้น เป็ดจากร้านสุกี้เจ้าดัง สั่งแบบจานเล็กกินได้คนเดียวแบบชิวชิว  
ไม่ได้ซึมซับคำสอนของท่านอาจารย์ เรื่องการผิดศึลข้อ 1 อย่างละเอียด จนซึมลึกเข้สายเลือด ป่านนี้ลินคนนี้ คงจะคงจะไม่สามารถหันกลับมากิน มังสวิรัติได้เหมือนทุกวันนี้ค่ะ ทุกทุกครั้งที่มีจิตแวบ แวบ อยากกินพวกเค้าบ้างในช่วงแรก แรก ก็เพราะได้กลิ่นหอม หอม ที่คุ้นเคย   แต่ก็จะมีสิ่งนึงที่ทำให้   ลินกลับมามีสติได้ทุกครั้งที่นึกถึงคำสอนของท่านอาจารย์อุบลค่ะ ท่านสอนว่า " พวกคุณเคยถามพวกเค้าไหม ว่าเค้าอยากจะให้พวกคุณกินหรือเปล่า แค่คุณโดนมีดบาดมือ นิดเดียวยังเจ็บเลย แล้วพวกเค้าล่ะ ทำไมไม่นึกถึงกันบ้าง ว่าเค้าจะเจ็บปวดแค่ไหน" และ " ทุกชีวิต มีสิทธิ์ ที่จะรักและหวงแหนชีวิตของตนเอง เหมือนกับพวกเราที่รักชีวิตเรา มนุษย์เราไม่มีสิทธิ์ไปชี้เป็นชี้ตาย หรือเบียดเบียนทำร้ายใครเลยแม่แต่น้อย" ซึ่งสติที่เรียกได้กลับมามันคือ ความสงสาร เวทนา พวกเค้า มองพวกเค้าที่นอนนิ่ง ถูกแขวนอยู่ในร้าน คิดถึงพวกเค้าก่อนที่เค้าจะตาย  ทำให้ลินไม่คิดที่จะกินพวกเค้อีกต่อไปค่ะ  และเมื่อวันที่ 25 เดือนมิถุนายน 2554  ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของท่านอาจารย์พอดี ลินก็เลยถือโอกาสตั้งใจที่จะทานมังสวิรัติ ตลอดชีวิต ตั้งแต่นั้นมา และได้นำคำสอนของท่านไปใช้เผยแพร่ แก่คนอื่นด้วยค่ะ
 
ลินขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลอีกคร้งค่ะ ที่ได้ให้ปัญญาแก่ลินค่ะ ลูกขอถวายบุญทุกบุญที่ลูกได้ทำมาและบุญที่ทำที่บ้านสวนพีระมิดแด่เทวดาที่ปกปักรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ รวมถึงเทวดาทุกทุกพระองค์ ที่รักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวด้วยค่ะ กราบ/กราบ/กราบ
 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลิน (อลินนันท์ อัครวิชนนท์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 11:27:28


ความคิดเห็นที่ 205 (1640555)

 ราย ที่2 เป็นเด็ก     ดมยาสลบให้แพทย์ผ่าตัดจนเกือบเสร็จแล้ว  ก็ปรากฏว่า  เลือดคนไข้เกิดอาการเปลี่ยนเป็นสีค่อนข้างคล้ำไป   เป็นอาการของการขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง  เมื่อแพทย์ได้ช่วยกันแล้ว   ก็ปรากฏว่าช่วยไม่ทัน

ทุกอย่างที่ทำถือว่า   เป็นความประมาทในหน้าที่ซึ่งถ้าเราดูแลเขาดีและรอบคอบมาก  กว่านี้คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

ข้าพเจ้าขอยอมรับผิดทุกอย่างและขอบารมีจากสมเด็จองค์ปฐมฯ  และ

พระศรีอารีย์ฯขอเบิกบุญศีลทาน  ภาวนา  จากอดีตชาติ  และบุญบ้านสวนฯ ทั้งหมด ทั้งปัจจัยและแรงกายขออุทิศบุญให้    ท่านทั้งสอง  ที่ข้าพเจ้าได้ทำ

ให้ท่านเสียชีวิตทั้งหมดและบุญที่จะสร้างต่อไปตลอดชีวิตการสร้างบุญของ

ข้าพเจ้า   ขอท่านโปรดรับโมทนา   แล้วขึ้นไปสู่ ภพภูมิที่สูงยิ่งขึ้นและสุขยิ่งขึ้นตลอดไป  และนอกจากนั้น  ยังได้ร่วมรู้เห็นจากการ  ที่ช่วยแพทย์ในการทำแท้งเพื่อการรักษา อีกเป็นจำนวนมากและ พาแมว ไปทำผ่าตัดแมวคลอดไม่ได้ 

ลูกแมวตายในท้องอีก  ขอทุกท่านโปรดรับโมทนาบุญทั้งหมดจากข้าพเจ้า

ด้วยเถิด.......    สาธุ

ศีลข้อ2   ลักเงินพ่อแม่  ขโมยฝรั่ง  มะม่วง  บ้านอื่น  เห็นแล้วมีความอยากได้

ของเขา  ชอบของฟรี  นำของใช้ทางราชการมาใช้เป็นของส่วนตัว  เช่น  กระดาษ  ปากกา  ดินสอและอุปกรณ์สำนักงานทุกอย่าง  ไปวัดก็กินอาหาร

ที่วัดและของบางอย่างก็นำกลับมาบ้านด้วย  เช่น กัน  (เพราะเขาแจกมา  ด้วย

ความไม่รู้)  เคยยืมเงินสวัสดิการฯ มาใช้  ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคนเดียว   (แต่ร่วมหาเงินมาด้วยกัน)   และยังไม่ทันได้ใช้คืน  (เพื่อนร่วมงานไม่มีใครรู้)  แต่ถูกเปลี่ยนหน้าที่เสียก่อนจึงนำไปคืนไม่ได้

ผลที่ได้รับ   มีปัญหาเรื่องเงิน ได้รับเงินมากมายแต่ก็ใช้จ่ายไปไม่มีเงินเก็บ 

คนยืมเงินก็ไม่ยอมใช้คืน  ผลัดไปเรื่อย ๆ  สุดท้ายก็ยังไม่ได้คืน  ทำธุรกิจขายตรงก็ไม่ก้าวหน้า  สุดท้าย   ต้องเลิกทำ   ทำประกันชีวิตหวังได้รับเงินก้อนใหญ่

เมื่อครบกำหนดแต่สุดท้ายก็ไม่มีเงินส่งต้องยกเลิกไปต้องสูญเสียเงินที่จ่ายไปแล้วทั้งหมด

ศีลข้อ3   มีมโนกรรมบ้างและเคยทำให้คนที่เราคุยด้วยบ่อยๆ  เข้าใจผิดคิดว่าเราชอบเขา  แต่จริงๆเราไม่ชอบ  เพราะมีตัวจริงอยู่แล้ว  ทำให้เขาเสียใจ

ผลปรากฏว่า     เป็นโรคความดัน โลหิตสูง ลูกก็พูดไม่ค่อยเชื่อฟัง  แต่หลังการมาบ้านสวนฯ  แล้วฝึกการขอขมากรรมที่ทำไปแล้วจะไม่ทำอีก  ขณะนี้หายจากโรคความดันโลหิตสูงไม่ต้องกินยา  และลูกก็พูดแล้วยอมฟัง   รู้เรื่องขึ้นมากเลย

ศีลข้อ4    พูดจาไม่ไพเราะ  เจ้าอารมณ์  พูดจาโกหก  โกหกเอาตัวรอด  พูดจาปริ้นปร้อน  กะล่อน   ตอแหล  เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

ผลปรากฏว่า   มีรูปเหงือกผิดไป  ฟันที่ไม่สวย  กระดูกงอกออกมาเป็นส่วนเกินทำให้การใส่ฟันผิดปกติ  ต้องพบแพทย์เฉพาะทางช่องปากโดยตรง

ศีลข้อ5    เคยดื่มเบียร์  และไวน์  ในเวลาไปร่วมงานสังสรรค์  และซื้อเหล้า  เบียร์  ไวน์ให้ผู้อื่นดื่มเป็นเทศการของขวัญหรือในโอกาสพิเศษ

ผลปรากฏว่า  มีความจำเสื่อม ขี้หลง  ขี้ลืม  ปัญญาน้อย  ความคิดเชื่องช้า

ลูกขอกราบขอขมาต่อสมเด็จขององค์ปฐมบรมธรรมบิดา  ในสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดไปแล้ว  ลูกยอมรับผิดทุกอย่าง  และจะไม่ขอกลับไปทำอีกแล้วต่อไป

จะประพฤติตัวอยู่ในศีล5  และอยู่ในกรรมบท 10  ตลอดไป

ขอกราบขอบพระคุณบารมีของพระศรีอารีย์  และเทวดาที่ดูแลรักษาอ.อุบลฯ  และท่านอ.อุบลฯ  และครอบครัวที่ทำให้ลูกรู้จักบ้านสวนพีระมิดและ

ได้มาสร้างบุญที่แห่งนี้ค่ะ

กราบ    กราบ    กราบ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 11:41:02


ความคิดเห็นที่ 206 (1640569)

 รู้จักบ้านสวนบ้านสวนพีระมิด/ได้รับอะไรที่มากมาย......

บ้านสวนพีระมิดเป็นสถานที่  ส่วนบุคคลเป็นบ้านพักของ  ท่าน อ.อุบล   ศุภาเดชาภรณ์  ผู้ดำเนินรายการคุยไปแจกไป  ได้ใช้สถานที่ดังกล่าว    สร้างมหาพีระมิดและสถานที่ปฏิบัติธรรมพลังพีระมิด  ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ได้เริ่มก่อตั้ง เมื่อ      วันที่   9  มกราคม  2553

ข้าพเจ้านางกันต์สินี  อัครวิชนนท์  ข้าราชการบำนาญ(ครู)จ.สระแก้ว ได้เข้ามาศึกษาธรรมะปฏิบัติจากบ้านสวนพีระมิด  แล้วได้รับอะไรที่มากมาย

สิ่งที่ได้รับคือ   1.)  ความสุขที่ได้มาสร้างบุญ  ณ  สถานที่แห่งนี้

2.)  ได้รับพลังบุญอันมหาศาล  มีจิตใจที่เข้มแข็ง  มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

3.)  ได้รับรู้ถึงการสร้างบุญด้วยแรงกาย  อันเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์และได้รับ

บุญมากไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร

4.)  ได้หายจากโรคความดันโลหิตสูง  (ซึ่งปกติต้องรับประทานยาตามแพทย์สั่งทุกวันและอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้   แต่ตอนนี้ไม่ต้องรับประทานยาเลยได้ประมาณ   1 ปี แล้ว)

5.)  รู้ว่าปัญหาที่เกิดกับเราแล้ว  เราต้อง แก้ที่เหตุ  ดับที่เหตุ  ผลก็จะดับได้  ดั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ  เหตุดับ ผลก็ดับไม่ว่าทุกข์กายหรือทุกข์ใจ

6.)  หายจากความทุกข์จากที่บุตรสาวเดินปลายเท้าบิดเข้าหากันแล้วขาก็ผิดรูปด้วย  ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุหรือไม่  เพราะเมื่อตอนเขาเป็นเด็กเล็กๆ  เราก็มีความคิดว่าจะดัดให้ขาเขาสวย  แต่ผลปรากฏว่า  ขาของเขาเดินผิดรูปไปจนอายุ  30  กว่าปี  ซึ่งเป็นความทุกข์ทรมานใจอยู่ตลอดมา  ความจริงแล้วก็เคยไปพบแพทย์มาแล้ว  ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรหรอก  มันผิดไปนิดหน่อย 

เดินให้ฝืนๆเท้าหน่อย  เดี๋ยวก็หายแต่ดูแล้วมันก็ไม่หายสักที

7.)  ได้รับผลบุญหายจากความจน  คือ  ขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอด  มาจำนวนหนึ่ง  ซึ่งก็ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นสามารถใช้เงินได้อย่างคล่องตัว  และสร้างบุญได้ต่อไป    แต่จริงๆแล้ว  ก็ได้จากการอธิษฐานจิตขอบารมีสมเด็จองค์พระปฐม ฯ (องค์ที่สร้างพระชำระ หนี้แผ่นดิน)  เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ์  และรหัสจักรวาล  อ.อุบลฯ  ช่วยด้วยนี้ละค่ะจึงสำเร็จ   ได้  ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ประกาศขายมานานเป็นปีแล้ว  แต่ไม่มีคนสนใจไปดูแล้วก็ผ่านไปขายไม่ได้สักที

8.)  ได้ความสุขจากการมีสุขภาพที่ดี  ซึ่งครั้งล่าสุดได้อธิษฐานจิตขอให้มีความคล่องตัวในการเดิน  เพราะรู้สึกว่าตัวเองเดินช้ามากกว่าคนอื่น  ถ้ารีบเดินจะปวดต้นขา  และมีอาการเหมือนตัวจะหนักมากกว่าปกติ  แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง  หลังจากได้รับบารมีจาก  3  ร่มโพธิ์ศรีจำนวน  3   องค์มาสวมใส่ตั้งแต่ตอนกลางคืน  พอรุ่งเช้ามีอาการรู้สึกตัวเบา  เดินได้คล่องตัวขึ้น  แต่ก็ยังไม่รู้สึกอะไร  พอตอนเย็นหลังเสร็จกิจกรรมแล้วเตรียมตัวกลับบ้านเดินขึ้นไปไหว้พระแล้วนั่งพับเพียบ  ซึ่งปกตินั่งไม่ค่อยได้  แต่ก็นั่งได้สะดวกพอลุกเดินก็เดิน  ได้เร็ว  ตัวเบา  เมื่อพบท่านอ.อุบลฯ  เรียนให้ท่านทราบท่านก็แสดงความดีใจด้วยอย่างมากเลยค่ะ  ลูกต้องกราบขอบพระคุณในความเมตตาจากจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรีและอาจารย์อุบลฯที่เป็นผู้สร้างวัตถุมงคลฯ  รุ่นนี้ขึ้นมาให้ลูกหลานได้รับความสุข/พ้นทุกข์  และขอให้พ้นจากภัยพิบัติด้วยเถิดค่ะ !  สาธุ...........

9.)  ได้รับผลบุญจากธรรมทานบ้านสวนฯ  ซึ่งลูกชายปกติแล้วก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องบ้านสวนฯเท่าไหร่  แต่ในช่วงหลังที่ท่านอ.อุบลฯให้ลูกบ้านสวนฯเขียน    ธรรมบ่อยๆ  เกี่ยวกับเรื่องราวที่พบเห็นและการร่วมกิจกรรมต่างๆ  ซึ่งเขาเป็น   ผู้พิมพ์ให้เรา  ทำให้เขาได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ  ของบ้านสวนฯมากขึ้น  ประกอบกับตัวเองก็คอยอธิษฐานจิต  และขอบารมีสมเด็จองค์ปฐมฯ 

บารมีพระศรีอาริย์ฯที่ท่านอ.อุบลฯได้อัญเชิญมา  และรหัส อ.อุบลฯช่วยด้วย

อยู่บ่อยๆ  ให้เขาสนใจและมีความศรัทธาในบ้านสวนฯ  ซึ่งตอนนี้เขาก็ดีขึ้นมากเลยทีเดียว  พอพูดและเล่าอะไรเกี่ยวกับบ้านสวนฯ  เขาจะฟัง  และบอกให้เขาโมทนาบุญเขาก็ยกมือไหว้ตามที่เราพูดเลยค่ะ

ท้ายนี้ลูกขอกราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา 

บารมีพระศรีอารีย์ฯ

ท่านอ.อุบลฯเป็นผู้อัญเชิญมา  บารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล  และอนันตจักรวาลรหัส อ.อุบลฯช่วยด้วย  เทวดาที่ดูแลรักษา อ.อุบลฯ  ท่านอ.อุบลฯและครอบครัวอย่างมากๆเลยค่ะ/

สาธุ    สาธุ    สาธุ

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 11:53:36


ความคิดเห็นที่ 207 (1640715)

ธรรมทานชีวิตของข้าพเจ้า นางสาววรางคณา พุฒศรี   (มะเหมียว) อายุ 23 ปี  

จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  คณะวิทยาศาสตร์

สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์      

ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ หน่วยจริยธรรมการวิจัยที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระบบคอมพิวเตอร์

  - - - - - - - - -

ขอเสนอเรื่อง ลูกที่แย่ขอแก้ตัวใหม่่

ตั้งแต่จำความได้รู้สึกว่าจะทำบาปมามากมายจนนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะกับพ่อแม่ จะชอบเถียง เถียงเพื่อเอาชนะโดยเถียงจนไม่ยอมให้ใครแทรกพูดได้เลย ครองแชมป์เถียงเป็นที่หนึ่งในบ้านค่ะ พูดง่ายๆปากจัด  ดื้อ พูดไม่รู้ฟัง พ่อแม่พูดสอนก็ทำเป็นไม่ได้ยินบ้างเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ชอบพูดจายอกย้อน ส่วนมากเรื่องที่ทะเลาะกันบ่อยๆกับพ่อแม่ ก็จะเป็นเรื่อง ตื่นสาย ไม่ช่วยงานบ้าน ขี้เกียจ ชอบนอนเป็นที่หนึ่ง ไม่พอใจเวลาพ่อแม่ชื่นชมใครว่าดีกว่าเก่งกว่า เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ส่วนมากก็จะเกิดมาจากเรื่องเหล่านี้ทั้งสิ้นทั้งคำพูดคำจาที่ไม่ไพเราะเอาเสียเลย พูดจากับผู้ใหญ่ก็ไม่มีหางเสียงบางครั้งพูดเหมือนเพื่อนเล่น เวลาโกรธเวลาโมโหขนาดเคยคิดจะให้พ่อแม่ตายก็มี โหนึกย้อนไปแล้วตัวเองเลวจริงๆค่ะ ตั้งแต่เด็กจนโตจะอยู่กับแม่พ่อกับแม่ตลอด เวลาส่วนใหญ่ก็คลุกคลีอยู่กับบ้าน กับพ่อแม่ จนทำให้ทะเลาะกันบ่อย เหมียวเองจะชอบเถียง คิดว่าตัวเองดีตัวเองถูกเสม อย่าได้มาว่าชั้นนะ ชั้นไม่ผิด ฮ่าา นั้นแหละเป็นความคิดสมัยเด็กๆจนโตก็ยังเป็นอยู่ แต่ในช่วงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ได้ ย้ายออกมาอยู่หอพักกับเพื่อน เนื่องจากเรียนที่ภูเก็ต-หาดใหญ่ บ้านเดิมอยู่ที่นราธิวาส จึงได้ห่างจากพ่อจากแม่ จึงทำให้ตอนนั้นไม่ได้อยู่คลุกคลีกันตลอด ทำให้เรารู้สึกว่าเราก็เปลี่ยนไปบ้าง จากเป็นคนที่เถียงไม่ฟังใคร ก็เริ่มดีขึ้นบ้าง มีเหตุผลขึ้น แต่ชอบหงุดหงิดแม่เวลาแม่พูดแล้วไม่ได้ดั่งใจเรา จะมีอาการหงุดหงิดบ่อยมาก เรื่องคำพูดก็เคยทำให้แม่น้ำตาไหลเหมือนกัน แต่จะไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร แต่เป็นคำพูดที่แรงมากนะค่ะที่ทำให้แม่น้ำตาไหลได้ ลูกคนนี้เลวจริงๆ หลังจากที่เหมียวเรียนอยู่ที่ภูเก็ตก็เริ่มมีการคบผู้ชาย ไปเที่ยวกลางคืนด้วยกันบ่อยมากเกือนทุกคืน แต่บ่อยครั้งที่แม่โทรหา เราจะโกหกแม่ว่า อยู่ข้างนอกกับเพื่อน อันนี้อยู่ข้างนอกจริงๆค่ะแต่ไม่ช้ายเพื่อน พอแม่ถามนู๋ถามนี้เราด้วยความเป็นห่วงก็ดันหงุดหงิดใส่แม่อีกค่ะ ตอนนั้นที่โกหกเพราะไม่รู้จะบอกแม่ยังไง ก็ต้องโกหกไปเพื่อไม่ให้แม่เป็นห่วงเรา หลังจากนั้นไม่นานก็ย้ายมาเรียนที่หาดใหญ่  ตอนนั้นตรงช่วงที่แม่ได้รู้จักบ้านสวนพีระมิดพอดี เหมียวก็เริ่มรู้อะไรหลายอย่างจากการเล่าของแม่แต่ก็เฉยๆ ยังไม่รู้อะไรมากมายไม่รู้นรกสวรรค์ และไม่นานก็ได้มีโอกาสไปที่บ้านสวนพีระมิดเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนเมษายน 2554 ไปกันทั้งครอบครัว   เหมียวได้รับรู้อะไรเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม และทั้งๆที่รู้จักบ้านสวนพีระมิดแล้ว ตัวเหมียวเองได้รู้เกี่ยวกับศีลข้อ1-5 แต่ทำไมเหมียวดันไปทำผิดศีลข้อ3อีก เดี๋ยวจะมาเล่าต่อให้ฟังนะค่ะ  

ส่วนเรื่องปากเรื่องคำพูดที่ไม่ดีปากจัดชอบเถียง ชอบนิทา ชอบโกหก ส่งผลทำให้เรารูปปากไม่สวย ริมฝีปากแห้ง เรื่องริมฝีปากแห้ง ช่วงที่อยู่หอจะแห้งมากต้องทาลิปมันตลอด เนื่องจากนิทาเพื่อนบ่อย เกือบทุกวันมีเรื่องให้เม้าให้นินทาตลอด แต่เชื่อมั้ยค่ะว่า ตอนเรียนจบกลับมาอยู่บ้าน ไม่ค่อยได้ใช้ปากในทางที่ไม่ดี ปากเรากลับเรียบเนียนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อันนี้พิสูจน์มาแล้ว แต่พอมาได้งานทำ เริ่มฟังพวกพี่ๆนินทาเจ้านายบ้าง ตัวเองเริ่มเออออบ้างอะไรบ้างรู้สึกว่าปากจะเริ่มกลับมาแห้งอีกแล้วล่ะค่ะ  ใครไม่เชื่อลองพิสูจน์ได้เลยนะค่ะ เจอมาแล้วกลับตัวเองเลยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 23:09:51


ความคิดเห็นที่ 208 (1640721)

 การเขียนธรรมทานนั้น เป็นการละชั่ว อวดฉลาด ธรรมทาน ช่วยบั่นทอนวิบากกรรมให้เบาบางลง

หนูก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เขียนธรรมทานไม่ออก และเขียนน้อย จนไม่ได้เข้าบ้านสวนเพราะไม่ได้เขียนธรรมทาน

แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วค่ะ รู้แล้วค่ะ ว่าสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลท่านสอนและชี้แนะนั้นเป็นขุมทรัพย์ที่กินไม่หมด ยิ่งเขียน ยิ่งได้ (ได้บุญ ลดกรรมและมีอริยทรัพย์ติดตัวไปทุกภพ ทุกชาติ ) หนูจะพยายามเขียนธรรมทานให้ได้มากที่สุด เท่าที่สติกำลังและปัญญาโง่ ๆ พอจะทำได้ค่ะ

สุรดา  ศรีสุข  15/11/2555

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 23:40:24


ความคิดเห็นที่ 209 (1640726)

ตอนเด็ก ๆ หลายคนคงเคยตกปลานะครับ

ผมเองก็เช่นกัน แต่อาจจะต่างจากคนอื่น ที่ผมตกบ่อยมาก

เหยื่อที่นำมาตก ก็คือ ไส้เดือนเป็น ๆ

บางทียาวไปก็เด็ดเป็นท่อน ๆ
แต่ที่นิยม คือ ปู ครับ ปูเป็น ๆ สีม่วง ๆ หรือ ปูนา
นำมาฉีกกระดองทั้งเป็น แล้วเกี่ยวเป็นเหยื่อตกปลา

ปลาที่ตกได้ ส่วนใหญ่เป็นปลาหมอ ตกได้ก็ปล่อยไป
บางทีก็เอามาขังเล่นสักพัก ไม่ได้สนใจว่าเค้ามีอะไรกินหรือไม่
ก็นำไปปล่อย แล้วก็ตกใหม่

ยังไม่รวมชอบนำผีเสื้อมาสตาฟ
โดยทับในหนังสือทั้งเป็น ๆ ด้วยความโง่ของตัวเอง

แต่รู้ไหมครับ ตั้งแต่เด็ก

ผมน่ะเป็นโรคที่ปากมาตลอด
เหงือกบวม เหงือกอักเสบ ร้อนใน เป็นแผลในปากมาตลอด
ยังไม่รวมโรคปวดหลัง ปวดสะบัก ที่ไม่หายเช่นกัน
หรือหายเป็นพักๆ ก็เป็นใหม่อีก


แต่ก่อนก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเกิดจากอะไร
นึกว่า นอนดึก เลยร้อนใน แปรงฟันไม่สะอาด
ไม่ออกกำลังกาย ยกของหนัก

แต่หลังจากได้มาที่บ้านสวนพีระมิด
จึงเพิ่งรู้ว่า มันเป็นกรรมหลาย ๆ อย่าง
ที่มารวมตัวกัน สร้างเหตุให้เราทำพฤติกรรมต่างๆ
ที่ทำให้เกิดโรค และไม่ใช่ว่าเราจะมีพฤติกรรมอย่างนั้นตลอด
รักษาหายแล้วก็เป็นใหม่ ตั้งแต่เด็กจนแก่ ก็เป็นมาตลอด
จนเป็นโรคประจำตัว ก็มันเป็นโรคกรรมนี่ครับ

ถ้ารู้ว่าความสนุก ความโง่ ความคึกคะนอง
ของตัวเองน่ะ คนอื่นเค้าไม่สนุกด้วย เค้าเจ็บ เค้าทรมาน
เค้าก็รักชีวิตเหมือนเรา แต่ต้องมาตายเพราะความสนุกของเรา
แล้วถ้าเป็นเราบ้างล่ะ เราก็คงอาฆาตพยาบาทเหมือนกัน
ก็คงเชื่อพ่อแม่ ไม่ทำอย่างนั้น ให้ตัวเองต้องมารับกรรมแบบนี้

ทุกวันนี้ จึงต้องหมั่นรักษาศีล และสร้างบุญ
โดยตั้งใจถวายในหลวง ตามแนวทางของบ้านสวนพีระมิด

หมั่นขอขมากรรมกับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายด้วยความสำนึกผิด
ขอสำนึกผิดกับทุกท่านโดยไม่มีข้อแก้ตัว เขียนธรรมทาน
บอกเล่าความชั่วของตัวเอง เพื่อให้คนอ่านเห็นผลของกฎแห่งกรรม

ธรรมทานเป็นบุญที่สูง โดยเฉพาะที่มาจากเรื่องของเรา
นอกจากเราเองได้บุญสูง เจ้ากรรมนายเวรของเราที่เราไปเล่า
เรื่องการทำร้ายเค้า ต่างก็ได้บุญไปด้วย


มีเมตตาต่อกันนะครับ เมตตาเป็นพื้นฐานของการรักษาศีล
ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ท่านถึงบอกว่า
ถ้าเรามีเมตตาต่อคนอื่น เราก็จะไม่ทำร้ายเค้า ไม่นินทาว่าร้ายเค้า
ไม่ทำร้ายร่างกายและจิตใจของใคร มีแต่ช่วยเหลือ เอื้ออาทรต่อกัน
และยินดีเมื่อเค้าได้ดี ไม่อิจฉาริษยาครับ

การที่ผมมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน
ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการตกปลาอย่างเดียวนะครับ

แต่ผมเป็นคนชอบพูดจาสองแง่สองง่าม
พูดทะลึ่งตึงตัง ชอบนินทาคนอื่น และพุูดปดก็มี
เวลาที่ต้องการแก้ตัว เวลาที่ต้องการเอาตัวรอด เวลาคึกคะนอง
ชอบวิจารณ์ ติเตียน ชอบแซว ชอบค่อนแคะคนอื่น
ไม่เว้นแม้สมณะชีพราหมณ์

เป็นตัวโจกของห้อง เวลาที่แซวคนอื่น
ใครว่า แซวอะไรมา ผมตอบกลับได้อย่างสะใจ
ไม่ต้องคิดนาน (ช่างตรงข้ามกับการคิดเรื่องงานเลยครับ)
แถมทุกคนเฮฮาปาร์ตี้ ได้ทีเรื่องต่อล้อต่อเถียงให้สนุกปาก

แต่ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ ก็ไม่ทำแบบนั้น
เพราะผิดศีลข้อ 4 ทั้งสิ้น แถมทำร้ายผู้อื่นทางวาจาอีกด้วย


เราจะรู้ได้ยังไงว่า คนที่เราไปแซว ไปล้อเล่น
เค้าไม่คิด ไม่เสียใจ ยิ่งเวลาที่โดนพูดถึงปมด้อยบ่อย ๆ

เอาชัด ๆ เลย คือ เพื่อนร่วมงานที่เป็นคนหัวล้าน
ก็โดนล้อ โดนถากถางเป็นประจำ

หลายคนคงเคยทำ ผมเองก็เคยทำ
แกล้งพูดถึงว่าเค้ารวยมีเงินเป็นล้านบ้าง
นั่งใกล้แล้วร้อน เหมือนมีดวงอาทิตย์มาส่องบ้าง
หัวล้านใจน้อยบ้าง

ถ้าเราโดนล้อแบบนี้บ้าง เราจะเป็นอย่างไร

ผมยังเคยบอกเพื่อนผู้หญิงว่า ไปล้อเค้าบ่อย
ระวังชาติหน้าเกิดมาเป็นผู้หญิงแต่หัวล้านนะ
เค้าก็ร้องว้าย ไม่เอา แต่ก็ยังไปล้อเค้าอีก

ต้องให้มาเจอกฏแห่งกรรม แบบที่ผมเจอ

คือ เราพูดลามก พูดปด พูดแก้ตัว นินทาเก่ง
บางคนเพิ่งลุกออกจากกลุ่มไปก็นินทาเค้าแล้ว

ทำให้เราไม่เป็นที่เชื่อถือ คนอื่นก็ไม่เกรงใจ
และหลายครั้งที่เค้าว่าเรากลับมา เราก็เจ็บเป็นเช่นกัน

จนเมื่อผมมาที่บ้านสวนพีระมิด
แล้วท่านอาจารย์ได้สอนให้เห็นว่า

กรรมที่เกิดจากการผิดศีลเป็นอย่างไร
จึงหันมาระมัดระวังศีลข้อที่ 4 มากขึ้น

และสำนึกกรรมที่เคยได้ทำไป

ผลคือ ในที่ทำงานเราพูดอะไร มีคนฟังมากขึ้น มีคนเชื่อถือ
โรคเหงือกและฟันมีปัญหาน้อยลง แต่ร้อนในยังมีบ้าง รูปปากดีขึ้น

เดี๋ยวนี้เวลาพูดล้อเล่น จะโดนน้องที่ทำงานเตือนเสมอว่า
รักษาศีล ไม่ใช่เหรอ เราก็คิดได้ และละอายใจด้วยครับ

การที่เราจะทำให้คนรัก คนชอบ

ไม่จำเป็นต้องพูดจาให้เค้าขำ หัวเราะ
แต่ต้องได้มาด้วยปิยะวาจา วาจาที่อ่อนหวาน

พูดจริงทำจริง รักษาคำพูด

รู้จักคิดก่อนพูด ว่าสมควรพูดหรือไม่

ควบคุมปากไม่ได้ จะควบคุมใจได้อย่างไร

 


อาจารย์อุบล ท่านสอนว่า

คนที่ชอบโกหกคนอื่น ก็จะเจอแต่คนที่โกหก เช่นกัน
คนที่ชอบด่าว่า นินทาคนอื่น ก็จะเจอคนที่ด่าว่า นินทาตัวเอง เช่นกัน
คนที่หยาบคาย พูดลามก สองแง่สองง่าม ก็จะเจอแต่คนแบบนี้เช่นกัน

อย่าเพิ่งคิดว่า แล้วเป็นไง เราก็รับมือได้
ไม่ ไม่ใช่อย่างที่คิดแน่นอน เพราะอะไรหรือครับ

ก็เพราะมันเป็น กฎแห่งกรรมที่ยุติธรรมที่สุด นั่นเอง

กรรมจะส่งผลให้เราเชื่อทุกอย่างที่เค้าพูด ทั้งที่เค้าโกหก
ลองคิดดูว่า หากเค้าเป็นคนที่เราหลงรัก หลงไว้ใจ จะเสียใจเพียงใด

คนที่ชอบนินทา ด่าว่าคนอื่น พูดจาลามก พูดจาหยาบคาย
ก็จะเจอคนที่เป็นมากกว่าตัวเองเช่นกัน ถูกนินทาว่าร้าย ถูกด่า
ถูกค่อนแคะ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย หรือลามกจกเปรตต่าง ๆ

ที่โดนกับตัวเองเต็ม ๆ บ้าง
โดนกับครอบครัวอันเป็นที่รักของเราบ้าง

มันจะเจ็บมาก แทงใจเรามาก
และนี่คือ ทุกข์ทางใจ เจ็บใจ เสียใจ
เป็นนรกในใจดี ๆ นี่เอง ที่เราได้รับตอนมีชีวิตอยู่
ผิดบ่อย ๆ จิตเราก็จะเกาะจะยึดติดกับการทำผิดศีล
หากต้องตาย แล้วเราจะไปไหน

ผมเองก็ชอบพูดเล่น พูดแซวน้องที่ทำงาน

ด้วยความคิดว่าเราซี้กัน
ทำบ่อย ๆ บางทีเผลอทำในสิ่งที่มันเป็นปมด้อย

เป็นสิ่งที่เค้าไม่อยากให้ใครรู้
บอกเราแค่คนเดียวด้วยความไว้ใจ
แต่เรากลับปากโป้งเรื่องไปแซวเล่นเค้าในที่ทำงาน

ลืมไปว่า ยิ่งสนิทกัน ยิ่งต้องเกรงใจกัน
รักษาน้ำใจกัน และยิ่งต้องรู้จักรักษาสัจจะ ที่เรารับปาก


ดังนั้น เราไม่เกรงใจเค้า คิดว่าแซวเล่น ๆ คงไม่เป็นไร
น้องเค้าก็เลยคิดแบบเดียวกัน ทำแบบเดียวกับที่เราทำบ้าง


หลายครั้งที่ถูกตอกกลับด้วยคำพูดที่รุนแรงมากกว่า
ซึ่งทำให้บางทีเราไม่พูดจากันพักใหญ่

ผมแก้ไขโดยการ ขอโทษน้องเค้า

ถึงเราจะเป็นผู้ใหญ่กว่า แต่เราก็ผิด

และเค้าก็ขอโทษผมเช่นกัน เราต่างก็ให้อภัยกัน

และระมัดระวังวาจากันมากขึ้น

ภรรยาที่ชอบด่าว่าสามีมาก

อาจารย์อุบลท่านให้สังเกตดูว่าฟันจะหัก มีปัญหาฟันเสีย

ฟันหมดปากและต้องใส่ฟันก่อนกำหนด

คนที่ผิดศีลข้อที่สี่ จะมีปัญหาของรูปปากและฟัน
ปากแหว่ง เพดานโหว่ ปากมีกลิ่นเหม็น
พูดอะไร ถีงแม้จริง คนก็ไม่เชื่อ ไม่รับฟัง
ลำบาก ไปขอความช่วยเหลือจากใคร เค้าก็คิดว่าโกหก

ระมัดระวังกันหน่อยนะครับความผิดที่เราคิดว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ
ทำบ่อย ๆ มันก็กลายเป็นความผิดที่ใหญ่ได้
และพาเราลงนรกขุมใหญ่ได้

โดยเฉพาะการโกหกบุพการี ผู้มีคุณ

คนที่ชอบนินทา ว่าร้ายคนอื่น อาจารย์อุบลท่านบอกว่า
ก็จะโดนคนอื่นนินทาว่าร้ายเหมือนกัน 99 ครั้ง โดนมากกว่า

ดังนั้น หันมารักษาศีลกันนะครับ รวมท้้งกรรมบท 10 ด้วย
และเราจะมีความสุข มีความเจริญทั้งโลกนี้และโลกหน้าครับ

มาช่วยกันรักษาศีล ศีลห้านำความสุขมาให้ครับ

สีเลนะ สุคะติง ยันติ    = ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคติ
สีเลนะ โภคะสัมปะทา = ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคะทรัพย์
สิเลนะ นิพพุติง ยันติ  = ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน
ตัสมา สีลัง วิโสทะเย  = เพราะเหตุนั้นพึงชำระศีลให้หมดจด

---------------------------------------------------------

บ้านสวนพีระมิด www.baansuanpyramid.com

รายการคุยไปแจกไป ย้ายช่องออกอากาศไปที่ ช่องสตาร์แชนแนล (ช่อง 48 MV STAR) วันอาทิตย์ เวลา 15:00-17:00 น. และออกอากาศซ้ำในคืนวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 00:00 - 02:00 (เช้าวันจันทร์)

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 00:02:03


ความคิดเห็นที่ 210 (1640752)

  วันนี้มีเรื่องตื่นเต้นมากๆๆตอนที่นำธรรมทานไปให้ลูกศิษย์ช่วยแจกค่ะ

เหตุการณ์ที่ 1

      ธรรมทานที่มิ้มแจกมิ้มก็จะแนบรหัสจักรวาลและรูปท่านอาจารย์อุบลรูปเล็กถ่ายเอกสารขาวดำ (ชุดสีแดง)ไปด้วย และได้พบกับความอัศจรรย์รูปท่านอาจารย์แม้จะถ่ายเอกสารขาวดำ  คือ มิ้มได้ใช้จี้บำบัดครูสมศักดิ์ซึ่งปวดแขน ดีขึ้น 50 % แต่เค้านึกกรรมไม่ออก มิ้มจะให้กราบรูปท่านอาจารย์อุบลก็ไม่ได้นำมาด้วย ก็เลยหยิบรูปที่ถ่ายเอกสารขาวดำที่แนบกับธรรมทานให้เค้ากราบ ปรากฏว่ายิ่งกราบยิ่งอาการดีขึ้น เรื่อยๆ จนเค้าอัศจรรย์ก็กราบต่อไป  ก็บอกว่าดีขึ้น พอดีมีโทรศัพท์จึงเดินไปคุยโทรศัพท์ คุยเสร็จครูสมศักดิ์ก็ยกแขนขึ้นงง และดีใจมาก บอกว่าแขนยกขึ้นได้แล้ว ไม่ปวดแล้ว หายหมดแล้ว  อัศจรรย์จริง อะไรกันเนี่ยแค่กราบรูป ก็หายเจ็บหายป่วย โห สุดยอด ครูสมศักดิ์นำรูปออกมาดูด้วยความดีใจ มิ้มก็ตื่นเต้นดีใจไปด้วยค่ะ ครูสมศักดิ์บอกว่าเดี๋ยวจะเอารูป(กระดาษถ่ายเอกสารขาวดำ) ไปใส่กรอบ แล้วกราบไหว้ทุกวันเลย จะได้หายป่วย โชคดี  แล้วก็จะพกไปไหนด้วย ครูสมศักดิ์ประสบเหตุการณ์นี้ก็ถึงขั้นศรัทธาท่านอาจารย์อุบลแบบมากๆๆๆๆๆ

      การแจกธรรมทานที่แนบรูปถ่ายเอกสารท่านอาจารย์อุบลไปด้วยนี่ช่วยผู้คนที่ได้รับให้หายเจ็บ หายป่วย หายทุกข์ ได้มากมายจริงๆๆค่ะ

เหตุการณ์ที่ 2

นักเรียนที่ช่วยมิ้มแจกธรรมทานเพียงแค่รับเอกสารไปและตั้งใจจะทำก็ได้อานิสงส์แล้วค่ะ

หัวหน้ากลุ่มที่ ชื่อ จาม เรียนราชภัฏกำแพงเพชร ปรากฏว่าจามโทรมาบอกด้วยความตื่นเต้นว่าได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนคณะเพื่อคัดเลือกนิสิตรับทุนจากฟ้าชายค่ะ จามและเพื่อนๆในกลุ่มตื่นเต้นศรัทธากับอานิสงส์มากๆๆ บอกว่าถ้าครูมิ้มจะทำอะไรขอร่วมด้วยทุกอย่างเลยค่ะ ขนาดเย็นมืดแล้วก็ยังช่วยกันแจกธรรมทานในราชภัฎแจกไปก็เล่ารหัส เล่าความศักดิ์สิทธิ์ของรูปให้ผู้รับได้ทราบก่อนที่จะรับ สาธุกับความตั้งใจของเด็กด้วยค้าๆๆ

หัวหน้ากลุ่มที่ ชื่อ วันทนีย์ เรียนโรงเรียนคีรีมาศพิทยาคม สุโขทัย ( โรงเรียนเก่าที่มิ้มย้ายมา ) มิ้มเอาเอกสารไปให้ เพื่อให้แจกกับนักเรียนในโรงเรียน และคนในชุมชน  ตอนเย็นหลังรับเอกสารเสร็จขับมอเตอร์ไซท์กลับบ้าน โทรมาเล่าให้มิ้มฟังด้วยความตื่นเต้นว่า อัศจรรย์มากๆเลยค่ะ ตลอดทางที่หนูขับมอเตอร์ไซท์กลับบ้าน ไม่มีเสาไฟฟ้า ปกติจะมืดเปลี่ยวตลอดเส้นทาง  แต่วันนี้ทั้งที่หนูใส่หมวกกันน็อค ทางกับสว่างจ้า ปกติเปลี่ยวไม่มีแม้รถสวน วันนี้กลับมีรถสวน แสงไฟให้เห็นเส้นทางตลอด สุนัขที่อยู่ข้างทางที่หนูไม่เห็นรถที่สวนทางส่องไฟ ให้เห็น พอไปถึงบ้านก็ตื่นเต้น รีบนำเอกสารธรรมทานไปแจกพร้อมเล่าเรื่องรหัส และความศักดิ์สิทธิ์ของรูป ป้าที่อยู่แถวนั้นศรัทธาก็ขอไปช่วยแจกอีกแรงค๊าๆๆๆ สาธุกับเด็กๆๆที่น่ารักกกกกกที่สุดค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 01:19:36


ความคิดเห็นที่ 211 (1640809)

 

ชีวิตใหม่ของ 

 นางวัชรินทร์    เกษมณี

บ้านสวนพีระมิด

 

ชื่อ  นางวัชรินทร์   เกษมณี   (ปุ๊)

อายุ  59  ปี

การศึกษา   ครุศาสตร์บัณฑิต

วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง  ราชบุรี

อาชีพ    ข้าราชการบำนาญ

ที่อยู่      จังหวัดราชบุรี

 

ก่อนที่จะได้รู้จัก

บ้านสวนพีระมิด  ชีวิตกำลังตก

อยู่จุดต่ำสุด

ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ หมดอาลัยตายอยาก

ร่างกายเจ็บป่วย  จิตอ่อนแรง

เดินเหินไม่คล่องตัว

เมื่อได้มาฟังคำสอน จาก

ท่านอาจารย์อุบล

ทางรายการคุยไปแจกไป

สุขภาพทางกาย  ดีขึ้นเป็นลำดับ

อาการปวดแขน ปวดขา ปวดเข่า

ดีขึ้น 50-60 %  จากที่ต้องนวด

อาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่ทุกข์ที่ใจ

ยังอยู่  จากที่เคยทำแท้ง

กินยาฆ่าตัวตาย  อยากฆ่าผู้บริหาร

ซึ่งไม่เคยมีใครรู้

จึงอยากมาสารภาพบาปอย่างมาก

ได้บอกความจริงกับสามี (บวชอยู่)

และ  ลูก ๆ

พระท่านบอกให้อภัย ลูก ๆ ก็บอกว่า

เรื่องผ่านมานานแล้ว แม่อย่าคิดมาก

เมื่อได้มาบ้านสวนก็ได้สารภาพบาป

รู้สึกถึงความปลอดโปร่ง  โล่งใจ

ไม่มีอะไร ต้องห่วงกังวลใจอีกแล้ว

เหมือนเอาไฟนรก  ออกจากอกที่เคย

ร้อนรุ้ม กระวนกระวายไม่มีความสุข

พอได้ไปทำบุญใช้แรงกายที่บ้านสวน

เรื่อย ๆ  อาการป่วยภายในคือ

โรคเบาหวาน ไขมันสูง ความดัน

ก็ดีขึ้นหลังจาก

ท่านอาจารย์ได้ใช้ธรรมบำบัดที่

บ้านสวนพีระมิด

ลูกกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล

ที่ได้ใช้ธรรมะของพระพุทธองค์มาสอน

ให้ลูกมีดวงตาเห็นธรรม รักษา ศีล ทาน

ภาวนา  และมีดวงจิตเปิดรับธรรมะ

จนทุกวันนี้มีความสงบสุข

พยายามเผยแพร่รหัสจักรวาล 

คาถาบูชาพระศรีอริยเมตไตย

และคู่มือผิวพรรณ  ฉบับแก้ไขการ

ชมรายการคุยไปแจกไป

และใช้จี้เทพสฟิ้งซ์ช่วยคนทั่วไป

กราบพระบาททุก ๆ พระองค์ และ

สมเด็จพระศรีอริยะที่ท่านอ.อุบลอาราธนา

มาที่บ้านสวน และเทวดาที่รักษา

อ.อุบล ที่เมตตาช่วยให้ลูกหายเจ็บ

 หายป่วยทุกโรคและมีกำลังใจที่ร่วม

รักษา 3 ร่มโพธิ์ศรีต่อไป

กราบเท้าท่านอ.อุบล และเจ้าของ

บ้านสวนทุกท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 11:32:19


ความคิดเห็นที่ 212 (1640843)

 ธรรมทานของข้าพเจ้า: เพื่อเผยแพร่ 3 พฤษจิกายน 2555

 

ลูกชื่ออาจินต์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 47ปี การศึกษาจบปริญญาตรีที่คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบัน ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ ด้านแอดมิดชั่น ที่สำนักบริการวิชาการ (AIT Extension) สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology) สำนักงานที่กรุงเทพ รู้จักบ้านสวนพีระมิด ระยะแรกๆก็แค่เข้าเข้าเวปอ่านหลายๆกระทู้ อ่านแล้วก็รู้สึกประทับใจมากๆ เพราะท่านอ.อุบลสอนธรรมแบบธรรมชาติมาก ออกแนวจริงใจ ตรงไปตรงมา ติดตลก ดุดัน หยิ่งนิดๆ ถึงลูกถึงคน มีตัวอย่างฮาๆ ออกแนวแปลกแต่จริงแทรก และใช้ภาษาน่ารักน่าอ่าน เลยติดใจ ประทับใจ คงล้นจนเก็บเอามาเล่าให้ที่บ้าน เพื่อนที่ทำงาน ให้พ่อให้แม่ฟัง สามี และลูกๆฟัง ที่เด็ดที่สุดเห็นจะเป็นกระทู้ที่ท่านอาจารย์อุบลเมตตาเล่าบทสนทนาระหว่างตัวท่าน กับท่านท้าวเวสสุวรรณ และตัวท่านกับพระพุทธองค์ ฟังแล้วโอ้โฮ... อ่านแล้วตื่นเต้นๆ ไม่ธรรมดา ก็เลยได้สมัครเป็นสมาชิกเข้าเวบเรื่อยมา

 

ลูกได้มีโอกาสไปสร้างบุญที่ได้ค้างคืน สองสามครั้งมีบุญได้เข้าค่าย 11 12และ13  ได้น้อมรับคำสอนจากท่านอาจารย์เรื่องความงดงามของธรรม คำสอนแห่งพระพุทธองค์ รู้จักต้นเหตุ และผลของกฏแห่งกรรม การผิดศีล ทั้ง 5 ข้อ มันเหลือเชื่อที่มันเป็นตัวแปรหลักที่เป็นสาเหตุ ส่งผลให้ชีวิตมนุษย์เป็นไปได้ทั้งดี และร้าย ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ส่งผลให้ยากไร้ ให้เจอแต่อุปสรรคนานา อาจารย์สอนว่าการรู้จักสำนึกผิดและ ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร และอทิศบุญบริสุทธ์ที่เราสร้างที่บ้านสวนฯ ให้เขา ไปเรื่อยๆมากๆถี่ๆจนกว่าเขาจะพอใจ การรักษาศีล5 ชนิดละเอียด การปฏิบัติ และขัดเกลาตนให้ดีพอที่จะไปนิพพาน ทำไมต้องเป็นโสดาบัน รู้จักการรักษากฏกติกา มารยาท ในสังคม ที่เราๆอาจละเลยซะจนชิน ทำไมต้องรักษาความสะอาดให้ดีที่สุด ให้ได้เรียนรู้ รู้จักจัดระเบียบชีวิต จากที่ทำอะไรแบบผิวเผิน ก็เริ่มเห็นดีเห็นงามที่จะต้องปรับปรุงปรับเปลี่ยนตัวเอง ชีวิตของลูกก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเจ้าค่ะ เริ่มขัดเกลานิสัยที่เลวๆชั่วๆที่ผิดๆมาตลอด ที่ขัดกับศีล 5ก็เปลี่ยนตัวเองแบบข้ามคืนเลยเจ้าค่ะ  แต่ก็ยังไม่ดีพอลูกจะตั้งหน้าตั้งตาจับผิดตัวเอง เพื่อปรับปรุงเอาดีให้ถึงที่สุดให้ได้ ไม่ให้เสียชาติที่อุตส่าห์ได้เกิดมาเป็นคนไทย บนแผ่นดินของพระพุทธศาสนา ภายใต้ร่มฉัตรของพ่อหลวงของคนไทยเจ้าค่ะ

ลูกได้มีโอกาสสมาทานศีล 5.ในความผิดที่ได้กระทำด้วยความโง่เขลา เบาปัญญาดังต่อไปนี้

1ศีลข้อหนึ่ง ลูกเลวที่สุดที่เคยทำแท้ง หนึ่งครั้ง ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย นับไม่ถ้วนทั้งหมด แมลง หนอน กิ้งกือ ปลาทอง ปลาหางนกยูง แมลงสาปน่าจะมากที่สุด และด้วยจี้องค์เทพสฟิงค์ที่ท่านอ.อุบลได้รับพุทธานุญาติให้สร้าง ลูกจืงได้มีโอกาสสารภาพบาปตลอดเวลาลูกดีใจมากค่ะ

2ศีลข้อสอง ลูกเลว และโง่ที่ชอบของฟรีมานาน มักถือวิสาสะใช้ข้าวของของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ เคยเขียนใบเสร็จปลอมที่ร้านขายรองเท้าของครอบคร้ว มิน่า ตอนนี้กิจการถึงได้เจ็ง เพราะโกงภาษี โกงชาติโกงแผ่นดินนี่เอง  ยังไม่พอ ลูกยังมีโกงที่ทำงานอีก มาสาย ใช้อุปกรณ์ของoffice เพื่อประโยชน์ของตัว มิน่า ข้าวของเครื่องใช้ที่เอาของเขาไปใช้ส่วนตัว ถึงได้วินาศสันตะโรเสียหายเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ที่รวมทั้งสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียด้วย ลูกได้สำนึกและสำเหนียกว่าเหตุคือทรัพย์ที่ได้มาอย่างไม่บริสุทธิ์ จึงไม่ยั่งยืน จึงถูกทำลายไปหมดสิ้นด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟเพราะเหตุนี้นี่เอง

3ศีลข้อสาม ลูกผิดข้อนี้ตรงที่นอกใจไม่ซื่อตรงต่อสามี อาจหาญไปรับไมตรี รับรักจากสามีคนอื่นที่มาตามจีบ เป็นคนต่างชาติ แฮะๆ หลงพาไปเที่ยว พาช้อบเสียทั่วกรุง เลว แถมมาแรดตอนแก่ เป็นเมียที่เลวที่สุด โชคยังดีที่ได้มีโอกาสสารภาพกับสามีสุดที่รักที่แสนจะประเสริฐ ต่อหน้าท่านอ.อุบล และหน้าพระพักตร์สิ่งศักดิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์ณ บ้านสวนพีระมิด ลูกจึงได้รับโอกาสเหมือนได้ชีวิตใหม่คืนมาเจ้าค่ะ ลูกสำนึกและสัจจะว่าจะไม่มีวันทำผิดอีกชั่วชีวิตค่ะมิน่าเจ้าค่ะ นี่เองที่ส่งผลให้ลูกชายคนที่สอง น้องวินถึงได้เคยดื้อเอาเรื่องกับแม่นักเพราะเรามันเลวเยี่ยงนี้นี่เอง ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ เข็ดแล้วเจ้าค่ะ

4ศีลข้อสี่ ลูกนี่ผิดดดด มหันต์ข้อนี้ เพราะพูดมาก พูดเพ้อเจ้อ พูดเวอร์ พูดเอาดีเข้าตัวชั่วให้ผู้อื่น พูดหยาบคายเอาตลก นินทา เรียกได้ว่าครบสูตรเลวกะล่อน ปลิ้นปล้อนตอแหล ต่อแต่นี้จะระวัง และรักษาคำพูด ให้ดีที่สุด ทุกลมหายใจค่ะ

5ศีลข้อห้า ข้อนี้เคยหลงผิดกินเหล้าไวน์แดง และยาจีนตอนหลังคลอดลูกทั้งสามคน ตามธรรมเนียมจีนค่ะ อ้อมีหมักเสต็กด้วยสาเก และบรั่นดี หนึ่ง หรือสองครั้งค่ะนอกนั้นโชคดีไม่ชอบเอาซะเลยค่ะ เหม็นมาก  อ้อ... ลูกเคยเล่นหวย เคยซื้อสลากออมสิน เคยเล่นไพ่ตอนเล็กๆ ตอนนี้ไม่ชอบ และไม่ทำเลยค่ะ

6ลูกได้เผื่อแผ่ความรักความเมตตาของท่านอาจารย์ไปถึงคุณพ่อที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ได้มอบจึ้องค์เทพสฟิงค์ พีระมิดรุ่นบวงสรวงท่านท้าวเวสสุวรรณ และป้ายชื่อเข้าค่ายให้ท่าน ทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้น สบายตัวขึ้น ปัสสาวะไม่ขัดเลยค่ะ ไปเที่ยวได้มีความสุขขึ้นมากๆเลยค่ะ ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ และครอบครัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์ณ บ้านสวนพีระมิดด้วยเจ้าค่ะ

7ลูกรู้สึกอบอุ่นใจ และปลอดภัยที่ได้รับความคุมครองจากท่านเทวดาแห่งบ้านสวนฯ และบริวารของท่านท้าวเวสสุวรรณในทุกๆที่ที่ลูกไป ตราบใดที่ลูกรักษาศีล 5 และคิด พูด ทำแต่ความดีด้วยค่ะ

8ลูกได้รับทราบ สำนึกผิด และสารภาพบาปที่เคยมีอุปนิสัยที่สกปรก ไม่มีอนามัย และเป็นอับมงคลหลายต่อหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ก็คือปัสสาวะลงที่พื้นห้องน้ำขณะอาบน้ำ เพราะจะนำมาซึ่งความเจ็บ และจน เลิ้กค่ะเลิกแล้วเจ้าค่ะ และยังได้ยกตัวอย่างของตัวเองบอกเล่าเพื่อให้ทุกท่านที่ได้รับรู้ ได้หลีกเลี่ยงจะได้ไม่ประสบเคราะห์กรรมเหมือนลูก  ยัง..ยังมีอีกมากมายที่ยังนึกไม่ออกในคราวเดียว อย่างไรก็ตามจะลูกจะได้มาสารภาพในโอกาสข้างหน้าเจ้าค่ะ

ลูกมีความหวังเต็มเปี่ยมที่จะเดินตามรอยเท้าท่านอาจารย์อุบล ปฏิบัติตามที่ท่านถ่ายทอดได้เมตตา อดทน เสียสละ ทำทุกอย่างเพื่อถ่ายทอดคำสอนธรรมแบบเป็นแก่น เป็นกระพี้ แบบเข้มข้น ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มิใช่เพียงผิวเผิน ทั้งนี้ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อท่านจะได้เมตตาช่วยลูกหลานหน่อเนื้อพระพุทธองค์ให้ ดีบริสุทธิ์พอที่จะตามท่านไปนิพพานนะเจ้าค่ะ

ลูกขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์ และครอบครัว ท่านเทพยดาอารักษ์ที่ปกปักรักษาท่านอาจารย์ อุบล และครอบครัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดด้วยเจ้าค่ะ

อาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 14:32:41


ความคิดเห็นที่ 213 (1640855)

 ธรรมทานของ นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์:เพื่อเผยแพร่ 3 พฤษจิกายน 2555

 

ลูกชื่ออาจินต์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 47ปี การศึกษาจบปริญญาตรีที่คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบัน ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ ด้านแอดมิดชั่น ที่สำนักบริการวิชาการ (AIT Extension) สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology) สำนักงานที่กรุงเทพ รู้จักบ้านสวนพีระมิด ระยะแรกๆก็แค่เข้าเข้าเวปอ่านหลายๆกระทู้ อ่านแล้วก็รู้สึกประทับใจมากๆ เพราะท่านอ.อุบลสอนธรรมแบบธรรมชาติมาก ออกแนวจริงใจ ตรงไปตรงมา ติดตลก ดุดัน หยิ่งนิดๆ ถึงลูกถึงคน มีตัวอย่างฮาๆ ออกแนวแปลกแต่จริงแทรก และใช้ภาษาน่ารักน่าอ่าน เลยติดใจ ประทับใจ คงล้นจนเก็บเอามาเล่าให้ที่บ้าน เพื่อนที่ทำงาน ให้พ่อให้แม่ฟัง สามี และลูกๆฟัง ที่เด็ดที่สุดเห็นจะเป็นกระทู้ที่ท่านอาจารย์อุบลเมตตาเล่าบทสนทนาระหว่างตัวท่าน กับท่านท้าวเวสสุวรรณ และตัวท่านกับพระพุทธองค์ ฟังแล้วโอ้โฮ... อ่านแล้วตื่นเต้นๆ ไม่ธรรมดา ก็เลยได้สมัครเป็นสมาชิกเข้าเวบเรื่อยมา

 

ลูกได้มีโอกาสไปสร้างบุญที่ได้ค้างคืน สองสามครั้งมีบุญได้เข้าค่าย 11 12และ13  ได้น้อมรับคำสอนจากท่านอาจารย์เรื่องความงดงามของธรรม คำสอนแห่งพระพุทธองค์ รู้จักต้นเหตุ และผลของกฏแห่งกรรม การผิดศีล ทั้ง 5 ข้อ มันเหลือเชื่อที่มันเป็นตัวแปรหลักที่เป็นสาเหตุ ส่งผลให้ชีวิตมนุษย์เป็นไปได้ทั้งดี และร้าย ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ส่งผลให้ยากไร้ ให้เจอแต่อุปสรรคนานา อาจารย์สอนว่าการรู้จักสำนึกผิดและ ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร และอทิศบุญบริสุทธ์ที่เราสร้างที่บ้านสวนฯ ให้เขา ไปเรื่อยๆมากๆถี่ๆจนกว่าเขาจะพอใจ การรักษาศีล5 ชนิดละเอียด การปฏิบัติ และขัดเกลาตนให้ดีพอที่จะไปนิพพาน ทำไมต้องเป็นโสดาบัน รู้จักการรักษากฏกติกา มารยาท ในสังคม ที่เราๆอาจละเลยซะจนชิน ทำไมต้องรักษาความสะอาดให้ดีที่สุด ให้ได้เรียนรู้ รู้จักจัดระเบียบชีวิต จากที่ทำอะไรแบบผิวเผิน ก็เริ่มเห็นดีเห็นงามที่จะต้องปรับปรุงปรับเปลี่ยนตัวเอง ชีวิตของลูกก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเจ้าค่ะ เริ่มขัดเกลานิสัยที่เลวๆชั่วๆที่ผิดๆมาตลอด ที่ขัดกับศีล 5ก็เปลี่ยนตัวเองแบบข้ามคืนเลยเจ้าค่ะ  แต่ก็ยังไม่ดีพอลูกจะตั้งหน้าตั้งตาจับผิดตัวเอง เพื่อปรับปรุงเอาดีให้ถึงที่สุดให้ได้ ไม่ให้เสียชาติที่อุตส่าห์ได้เกิดมาเป็นคนไทย บนแผ่นดินของพระพุทธศาสนา ภายใต้ร่มฉัตรของพ่อหลวงของคนไทยเจ้าค่ะ

ลูกได้มีโอกาสสมาทานศีล 5.ในความผิดที่ได้กระทำด้วยความโง่เขลา เบาปัญญาดังต่อไปนี้

1ศีลข้อหนึ่ง ลูกเลวที่สุดที่เคยทำแท้ง หนึ่งครั้ง ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย นับไม่ถ้วนทั้งหมด แมลง หนอน กิ้งกือ ปลาทอง ปลาหางนกยูง แมลงสาปน่าจะมากที่สุด และด้วยจี้องค์เทพสฟิงค์ที่ท่านอ.อุบลได้รับพุทธานุญาติให้สร้าง ลูกจืงได้มีโอกาสสารภาพบาปตลอดเวลาลูกดีใจมากค่ะ

2ศีลข้อสอง ลูกเลว และโง่ที่ชอบของฟรีมานาน มักถือวิสาสะใช้ข้าวของของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ เคยเขียนใบเสร็จปลอมที่ร้านขายรองเท้าของครอบคร้ว มิน่า ตอนนี้กิจการถึงได้เจ็ง เพราะโกงภาษี โกงชาติโกงแผ่นดินนี่เอง  ยังไม่พอ ลูกยังมีโกงที่ทำงานอีก มาสาย ใช้อุปกรณ์ของoffice เพื่อประโยชน์ของตัว มิน่า ข้าวของเครื่องใช้ที่เอาของเขาไปใช้ส่วนตัว ถึงได้วินาศสันตะโรเสียหายเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ที่รวมทั้งสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียด้วย ลูกได้สำนึกและสำเหนียกว่าเหตุคือทรัพย์ที่ได้มาอย่างไม่บริสุทธิ์ จึงไม่ยั่งยืน จึงถูกทำลายไปหมดสิ้นด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟเพราะเหตุนี้นี่เอง

3ศีลข้อสาม ลูกผิดข้อนี้ตรงที่นอกใจไม่ซื่อตรงต่อสามี อาจหาญไปรับไมตรี รับรักจากสามีคนอื่นที่มาตามจีบ เป็นคนต่างชาติ แฮะๆ หลงพาไปเที่ยว พาช้อบเสียทั่วกรุง เลว แถมมาแรดตอนแก่ เป็นเมียที่เลวที่สุด โชคยังดีที่ได้มีโอกาสสารภาพกับสามีสุดที่รักที่แสนจะประเสริฐ ต่อหน้าท่านอ.อุบล และหน้าพระพักตร์สิ่งศักดิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์ณ บ้านสวนพีระมิด ลูกจึงได้รับโอกาสเหมือนได้ชีวิตใหม่คืนมาเจ้าค่ะ ลูกสำนึกและสัจจะว่าจะไม่มีวันทำผิดอีกชั่วชีวิตค่ะมิน่าเจ้าค่ะ นี่เองที่ส่งผลให้ลูกชายคนที่สอง น้องวินถึงได้เคยดื้อเอาเรื่องกับแม่นักเพราะเรามันเลวเยี่ยงนี้นี่เอง ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ เข็ดแล้วเจ้าค่ะ

4ศีลข้อสี่ ลูกนี่ผิดดดด มหันต์ข้อนี้ เพราะพูดมาก พูดเพ้อเจ้อ พูดเวอร์ พูดเอาดีเข้าตัวชั่วให้ผู้อื่น พูดหยาบคายเอาตลก นินทา เรียกได้ว่าครบสูตรเลวกะล่อน ปลิ้นปล้อนตอแหล ต่อแต่นี้จะระวัง และรักษาคำพูด ให้ดีที่สุด ทุกลมหายใจค่ะ

5ศีลข้อห้า ข้อนี้เคยหลงผิดกินเหล้าไวน์แดง และยาจีนตอนหลังคลอดลูกทั้งสามคน ตามธรรมเนียมจีนค่ะ อ้อมีหมักเสต็กด้วยสาเก และบรั่นดี หนึ่ง หรือสองครั้งค่ะนอกนั้นโชคดีไม่ชอบเอาซะเลยค่ะ เหม็นมาก  อ้อ... ลูกเคยเล่นหวย เคยซื้อสลากออมสิน เคยเล่นไพ่ตอนเล็กๆ ตอนนี้ไม่ชอบ และไม่ทำเลยค่ะ

6ลูกได้เผื่อแผ่ความรักความเมตตาของท่านอาจารย์ไปถึงคุณพ่อที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ได้มอบจึ้องค์เทพสฟิงค์ พีระมิดรุ่นบวงสรวงท่านท้าวเวสสุวรรณ และป้ายชื่อเข้าค่ายให้ท่าน ทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้น สบายตัวขึ้น ปัสสาวะไม่ขัดเลยค่ะ ไปเที่ยวได้มีความสุขขึ้นมากๆเลยค่ะ ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ และครอบครัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์ณ บ้านสวนพีระมิดด้วยเจ้าค่ะ

7ลูกรู้สึกอบอุ่นใจ และปลอดภัยที่ได้รับความคุมครองจากท่านเทวดาแห่งบ้านสวนฯ และบริวารของท่านท้าวเวสสุวรรณในทุกๆที่ที่ลูกไป ตราบใดที่ลูกรักษาศีล 5 และคิด พูด ทำแต่ความดีด้วยค่ะ

8ลูกได้รับทราบ สำนึกผิด และสารภาพบาปที่เคยมีอุปนิสัยที่สกปรก ไม่มีอนามัย และเป็นอับมงคลหลายต่อหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ก็คือปัสสาวะลงที่พื้นห้องน้ำขณะอาบน้ำ เพราะจะนำมาซึ่งความเจ็บ และจน เลิ้กค่ะเลิกแล้วเจ้าค่ะ และยังได้ยกตัวอย่างของตัวเองบอกเล่าเพื่อให้ทุกท่านที่ได้รับรู้ ได้หลีกเลี่ยงจะได้ไม่ประสบเคราะห์กรรมเหมือนลูก  ยัง..ยังมีอีกมากมายที่ยังนึกไม่ออกในคราวเดียว อย่างไรก็ตามจะลูกจะได้มาสารภาพในโอกาสข้างหน้าเจ้าค่ะ

ลูกมีความหวังเต็มเปี่ยมที่จะเดินตามรอยเท้าท่านอาจารย์อุบล ปฏิบัติตามที่ท่านถ่ายทอดได้เมตตา อดทน เสียสละ ทำทุกอย่างเพื่อถ่ายทอดคำสอนธรรมแบบเป็นแก่น เป็นกระพี้ แบบเข้มข้น ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มิใช่เพียงผิวเผิน ทั้งนี้ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อท่านจะได้เมตตาช่วยลูกหลานหน่อเนื้อพระพุทธองค์ให้ ดีบริสุทธิ์พอที่จะตามท่านไปนิพพานนะเจ้าค่ะ

ลูกขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์ และครอบครัว ท่านเทพยดาอารักษ์ที่ปกปักรักษาท่านอาจารย์ อุบล และครอบครัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดด้วยเจ้าค่ะ

นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 14:58:24


ความคิดเห็นที่ 214 (1640876)

 ผมเป็นคนบ้ากามมากครับ
เที่ยวกลางคืนเป็นประจำ สังสรรค์เฮฮากับเพื่อน
กลับบ้านดึกดื่น กลับเช้าก็มี 

ผมไม่สนใจเรื่องผิดศีลข้อที่ 3
แม้จะเคยอ่านที่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน 
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ที่ผมเคารพท่านมาก ท่านบอกว่าการมีอะไรกับใคร
โดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่อนุญาตน่ะมันผิด

ก็ตะแบง เข้าข้างตัวเองไปว่า ก็เราเสียเงินซื้อบ้างล่ะ 
ไม่ได้ยื้อแย่งของใครบ้างล่ะ
เราไม่่เคยบังคับฝืนใจใคร ทุกอย่างเกิดจากความเต็มใจ

หรือ เอาน่า สักวัน เราจะรักษาศีลข้อนี้ให้ได้เต็มที่ 

มันก็เลยผิดเรื่อยมา
บาปกรรมน่ะมันลบไม่ได้

บัญชีบุญ บัญชีบาปเค้าแยกจากกัน

ทำบ่อย ๆ จนบาปน่ะชนะความดี 
กรรมก็มารวมตัว

เกิดโรคบ้าง เกิดถูกหลอกให้เสียทรัพย์ เสียใจบ้าง
เสียทรัพย์ เสียการเสียงาน เสียสุขภาพ

สำคัญที่สุด เสียความรู้สึกของครอบครัวทั้งพ่อแม่พี่น้อง
ขาดความเชื่อถือ ขาดความเคารพ 
เพราะกลับบ้านดึกดื่นเป็นประจำ กลับเช้าก็มี
คนที่บ้านเค้าเห็นเป็นประจำ พ่อแม่ก็เหนื่อยหน่าย
พี่น้องก็ระอา ไม่มีเวลาดูแลพ่อแม่ แต่มีเวลาไปเริงร่า

กับที่ทำงาน ก็มีปัญหากันเป็นระยะ ๆ

ที่พูดอะไรแล้วไม่รับฟัง
ไม่น่าเชื่อถือ ทั้งเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน

จนมาที่บ้านสวนพีระมิดนี่แหละครับ
มาเลิกได้ที่นี่ เพราะเห็นคนอื่น ๆ เค้ามาสารภาพกรรมกัน
แล้วเค้าหาย หรือมีปัญหาน้อยลง เพราะเค้าตั้งใจแก้ไขตัวเอง
เปลี่ยนแปลงจากกรรมชั่ว มาเป็นกรรมดี
ทำบุญที่สูงไว้ เช่น บุญถวายในหลวง

เพื่อให้บาปกรรมตามไม่ทัน

ได้ยินได้ฟังได้เห็นปัญหาของคนอื่น ๆ ที่มีทั้งเหมือนตัวเรา
และไม่เหมือน แต่สรุปรวม คือ มีปัญหาทั้งโรคภัย 
ทั้งครอบครัว การงาน และการเงิน 
ได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นบ่อย ๆ ปัญญามันก็เริ่มเกิดนิดหน่อย

กรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการผิดศีลข้อที่ 3
มีหล่ายอย่างนะครับ

การผิดศีลโดยเฉพาะข้อ 3 
มักจะทำให้เราผิดศีลข้ออื่น ๆ ตามมาด้วยเสมอ

โกหก หลอกลวง กินฟรี มีแฟน มีกิ๊ก ดื่มสุรา
อบายมุขต่าง ๆ รวมทั้งฆ่าคนโดยการทำแท้ง

ทำให้ทุกคนมีปัญหา มีอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิต

และแก้ไม่หายด้วย

อาจารย์อุบลท่านบอกเสมอว่า
ให้รักษาศีล และเจริญภาวนา

ถึงจะตัดเวรตัดกรรมและพบความสุขได้

ความอยากในเรื่องกามมันยังมีอยู่ครบครับ
แต่ความอยากมีความสุข ไม่อยากไปปีนต้นงิ้วมันมากกว่า

ทุกวันนี้ทำตามที่่ท่านอาจารย์บอก คือ

นำศีลเข้ามาจับ
ว่าทำแล้วผิดศีลหรือไม่ หรือที่เรารู้จักกันดีว่า 

คิดก่อนทำนั่นแหละครับ
แต่เรามาคิดถึงศีลก่อนทำอะไรไปนั่นเอง

ทุกวันนี้ ชีวิตมีความสุขขึ้น

ทำเพื่อครบครัวเพื่อพ่อแม่มากขึ้น
รับผิดชอบงานมากขึ้น ปัญหาต่าง ๆ ที่เคยมี

มันก็น้อยลง ไม่มากเหมือนแต่ก่อน

สรุปรวมก็คือ ผมได้แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ

เหตุดับ ผลก็ย่อมดับครับ

ชีวิตของคนเรา ไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรอกครับ
หลวงพ่อฯ ท่านยังเคยบอกเลยว่า

แม้แต่พระที่ท่านเข้านิพพานไปแล้ว
ก็ยังมีบาป แต่ท่านทำบุญที่สูง ตัดสังโยชน์ได้

จนไม่กลับมาเกิดอีก
บาปกรรมต่าง ๆ จึงทำอะไรท่านไม่ได้ 

หันมาเปลี่ยนแปลงกรรมกันนะครับ
หาสาเหตุให้พบ ว่าเกิดจากการทำผิดศีลข้อไหน
แล้วแก้ไข ถ้าไม่แน่ใจ ก็รักษาให้ครบทั้ง ๕ ข้อนั่นแหละครับ

ผมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสองและคุณท๊อป

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์เป็นอย่างสูง

ที่เมตตาผมและครอบครัวมาโดยตลอดครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 17:50:15


ความคิดเห็นที่ 215 (1640881)

 ผมเป็นคนบ้ากามครับ

มีเพศสัมพันธ์ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมา

หลายร้อยคนแต่ 90% เป็นผู้ชาย


เที่ยวกลางคืนเป็นประจำ สังสรรค์เฮฮากับเพื่อน
กลับบ้านดึกดื่นบ่อย กลับเช้าก็มี 

ผมไม่สนใจเรื่องผิดศีลข้อที่ 3
แม้จะเคยอ่านที่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน 
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ที่ผมเคารพท่านมาก (แต่ไม่ทำตามที่ท่านสอน) ท่านบอกว่าการมีอะไรกับใคร
โดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่อนุญาตน่ะมันผิด

ก็ตะแบง เข้าข้างตัวเองไปว่า

ก็เราเสียเงินซื้อบ้างล่ะ 
ไม่ได้ยื้อแย่งของใครบ้างล่ะ

เราไม่เคยบังคับฝืนใจใคร

ทุกอย่างเกิดจากความเต็มใจ

หรือ เอาน่า สักวัน

เราจะรักษาศีลข้อนี้ให้ได้เต็มที่ 

ก็เลยทำผิดเรื่อยมา
บาปกรรมน่ะลบไม่ได้

บัญชีบุญ บัญชีบาปเค้าแยกจากกัน

ทำบ่อย ๆ จนบาปชนะความดี 
กรรมก็มารวมตัว

เกิดโรคบ้าง เกิดถูกหลอกให้เสียทรัพย์ เสียใจบ้าง
เสียการเสียงาน เสียสุขภาพ

สำคัญที่สุด

เสียความรู้สึกของครอบครัวทั้งพ่อแม่พี่น้อง
ขาดความเชื่อถือ ขาดความเคารพ 
เพราะกลับบ้านดึกดื่นเป็นประจำ กลับเช้าก็มี
คนที่บ้านเค้าเห็นเป็นประจำ

พ่อแม่ก็เหนื่อยหน่าย
พี่น้องก็ระอา ไม่มีเวลาดูแลพ่อแม่

แต่มีเวลาไปเริงร่า

กับที่ทำงาน ก็มีปัญหากันเป็นระยะ ๆ

ที่พูดอะไรแล้วไม่รับฟัง
ไม่น่าเชื่อถือ ทั้งเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน

จนมาที่บ้านสวนพีระมิดนี่แหละครับ
มาเลิกได้ที่นี่ เพราะเห็นคนอื่น ๆ

เค้ามาสารภาพกรรมกัน
แล้วเค้าหาย หรือมีปัญหาน้อยลง

เพราะเค้าตั้งใจแก้ไขตัวเอง
เปลี่ยนแปลงจากกรรมชั่ว มาเป็นกรรมดี
ทำบุญที่สูงไว้ เช่น บุญถวายในหลวง

เพื่อให้บาปกรรมตามไม่ทัน

ได้ยินได้ฟังได้เห็นปัญหาของคนอื่น ๆ

ที่มีทั้งเหมือนตัวเรา
และไม่เหมือน แต่สรุปรวม คือ มีปัญหาทั้งโรคภัย 
ทั้งครอบครัว การงาน และการเงิน 
ได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นบ่อย ๆ

ปัญญามันก็เริ่มเกิด

กรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการผิดศีลข้อที่ 3
มีหลายอย่างนะครับ

การผิดศีลโดยเฉพาะข้อ 3 
มักจะทำให้เราผิดศีลข้ออื่น ๆ ตามมาด้วยเสมอ

โกหก หลอกลวง กินฟรี มีแฟน มีกิ๊ก ดื่มสุรา
อบายมุขต่าง ๆ รวมทั้งฆ่าคนโดยการทำแท้ง

ทำให้ทุกคนมีปัญหา มีอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิต

และแก้ไม่หายด้วย

อาจารย์อุบลท่านบอกเสมอว่า
ให้รักษาศีล และเจริญภาวนา

ถึงจะตัดเวรตัดกรรมและพบความสุขได้

ความอยากในเรื่องกามมันยังมีอยู่ครบครับ
แต่ความอยากมีความสุข

ไม่อยากไปปีนต้นงิ้วมันมากกว่า

ทุกวันนี้ทำตามที่่ท่านอาจารย์บอก

คือ นำศีลเข้ามาจับ
ว่าทำแล้วผิดศีลหรือไม่ หรือที่เรารู้จักกันดีว่า 

คิดก่อนทำนั่นแหละครับ
แต่เรามาคิดถึงศีลก่อนทำอะไรไปนั่นเอง

ทุกวันนี้ ชีวิตมีความสุขขึ้น

ทำเพื่อครบครัวเพื่อพ่อแม่มากขึ้น
รับผิดชอบงานมากขึ้น ปัญหาต่าง ๆ ที่เคยมี

ก็น้อยลง ไม่มากเหมือนแต่ก่อน

สรุปรวมก็คือ ผมได้แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ

เหตุดับ ผลก็ย่อมดับครับ

ชีวิตของคนเรา ไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรอกครับ
หลวงพ่อฯ ท่านยังเคยบอกเลยว่า

แม้แต่พระที่ท่านเข้านิพพานไปแล้ว
ก็ยังมีบาป แต่ท่านทำบุญที่สูง ตัดสังโยชน์ได้

จนไม่กลับมาเกิดอีก
บาปกรรมต่าง ๆ จึงทำอะไรท่านไม่ได้ 

หันมาเปลี่ยนแปลงกรรมกันนะครับ
หาสาเหตุให้พบ ว่าเกิดจากการทำผิดศีลข้อไหน
แล้วแก้ไข ถ้าไม่แน่ใจ

ก็รักษาให้ครบทั้ง ๕ ข้อนั่นแหละครับ

รวมกรรมบท ๑๐ ก็ยิ่งดี

ผมขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสอง

คุณท๊อป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่รักษาท่านอาจารย์และครอบครัว ที่เมตตาผมและครอบครัว

มาโดยตลอดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 18:04:57


ความคิดเห็นที่ 216 (1640901)

 เรื่องจริงไม่อิงนิยายของข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ข้าพเจ้าชื่ออาจินต์ ภิรมย์รักษ์ จบปริญญาตรีจากคณะโบราณคดี มหาวิยาลัยศิลปากรเมื่อหลายยยสิบปีมาแล้ว ปัจจุบันทำงานที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ความรู้ที่ร่ำเรียนมาดูเหมือนไม่ได้มีส่วนขัดเกลาความชั่วความเลว ที่เคยกระทำ ยังจะกิเลสหนาที่สั่งสมมานาน อีกสามปีเกือบจะครบห้าสิบปีที่ดำเนินชีวิตมาอย่างโง่ๆงงๆ ไร้ทิศทาง ไร้จุดหมาย ไม่เคยรู้เลยว่าความหมายที่แท้จริงของการได้มาเกิดเป็นคนช่างโชคดีขนาดไหน

จนมาวันที่ได้พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ก็คือวันที่โชคชะตาอนุญาติให้ได้รู้จัก ได้ค้นพบพระธรรมอันแสนบริสุทธิ์งดงามของพระพุทธองค์ ผ่านความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่าน แห่งบ้านสวนพีระมิด  โอ้โห Ajarn Ubol kha, you have turned my world upside down เอ๊ะ...ยังไง

ก็เพราะคำสอนธรรมของท่าน ที่แสนแยบยล วิธีการสอนของท่านที่แสนจะถึงลูกถึงคน ตลกแบบฉลาดๆ บางที่ก็อินโนเซนท์ ต็องๆก็มี แต่ทว่าเฉียบขาด จริงจัง เจ็บจริงอะไรจริง เต็มไปด้วยสาระแบบมหัศจรรย์ แบบอันซีนมโหฬารพันลึกล้วนๆ โอ้โห..ท่านอ.อุบลเป็นใครกันนี่... สิ่งเหล่านี้ได้เปิดโลกทรรศให้ข้าพเจ้า ไม่สิ กลับตาลปัตรเรียกได้ว่าแถมกระชากอย่างแรงเลยทีเดียว ข้าพเจ้าเริ่มรู้จักสำนึก กระตุกต่อมศีลธรรมตัวเอง อย่างปัจจุบันทันด่วน โห กลัวตกนรกเป็นที่สุด เอี้ยด...หยุดดดดด หยุดสร้างกรรมใหม่เดี๋ยวนี่... ส่วนกรรมเก่าก็ต้องด่วนจี๋..ขอขมาเจ้ากรรมนายเวรให้ถี่ที่สุด มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะดีขึ้น ก็เป็นสัญญาณว่าเจ้ากรรมนายเวรคงจะพอใจ และยอมให้อภัยเราแล้ว

ส่วนนิพพานนะหรือ.. ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ เคยแต่ได้อ่านเจอ กับตอนกรวดน้ำ คิดว่า..นิพพานเนี่ย...ไก๊ลไกลจากชีวิตเรา ชั่วชีวิตเราจะได้เจอมั๊ยน้อ... แต่ปรากฏว่าท่านอาจารย์เมตตาชี้แนะหนทางว่าคนชั่วๆอย่างเราก็อาจปรับปรุงแก้ตัวให้เป็นพระโสดาบันได้ทันท่วงที...จะได้ไปนิพพานตอนตายแล้วเนี่ยนะ..หรือไม่ก็อย่างน้อยไม่ต้องไปนรก...แค่นี้ก็..โอ้โฮ...ดีใจที่สุดในโลกแล้วล่ะสำหรับเราน่ะ

ในทันทีทันใดข้าพเจ้าเริ่มขัดเกลา เพื่อเปลี่ยนและปรับปรุงตัวเอง ท่านสอนให้ยกจิต ให้มองข้ามความต้องการของตัวเอง ให้มองประโยชน์ผู้อื่นแลส่วนรวมเป็นใหญ่ สอนให้จับทุกสิ่งด้วยศีลห้า ลองจับจากตัวเอง ก็ลองจับเลยไปถีงรอบๆตัว โอ้โฮ... เข้าใจโลกมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เหมือนมีคำเฉลยลอยมาในทุกๆความสงสัย ตัวอย่างเช่า เรื่องสิวฝ้าจุดด่างดำบนใบหน้า โอโห...พอท่านเฉลยว่าเกิดจากหลายๆปัจจัยเช่นความขี้วีน ขี้โกรธ ทำลายหรือปล่อยให้บ้านหรือสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวสกปรก รกรุงรังไร้ระเบียบ และความสวยงาม โดยเฉพาะหลักๆคือห้องครัว ห้องน้ำ นอกจากจะหน้าสิวฝ้าจุดด่างดำแล้ว ยังส่งผลให้จนไม่เลิกด้วย.. คล้ายๆกับใครมีพื้นเพ พฤติกรรม เป็นอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างก็สังเกตุได้จากใบหน้านั่นเอง.. โอ้โอแม่นเหลือเชื่อ  

ยัง.. ยังมีที่ค้นพบอีกค่ะว่าถ้าใครมีรูปลักษณ์ไม่สวยไม่หล่อ เจ็บป่วย ร่างกายบิดเบี้ยว พิกลพิการไปจากเดิม อ.อุบลสอนว่าให้รู้ไว้เลยว่าคนนั้นเคยหรือกำลังผิดศีลข้อหนึ่ง คือเบียดเบียน กลั่นแกล้ง ทำร้าย แช่ง เลยไปถึงฆ่า คน และสัตว์ มันจะฟ้องให้เห็นชัดเจนจากรูปลักษณ์ภายนอก

ใครที่ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์ หรือตนเองได้ทรัพย์มาด้วยไม่บริสุทธิ์ ทรัพย์นั้นก็จะสูญไปด้วยดินน้ำ ลม ไฟ โจร เป็นต้น

ใครที่เจ้าชู้ ผิดลูกผิดเมียผู้อื่นครอบครัวก็จะล้มเหลว ก็จะเสียการปกครอง ลูกเมียบริวารก็จะกระด้างกระเดื่อง

ถ้าใครที่ปากฟันไม่สวย ปากเหม็นก็ใช่เลยว่าเขาต้องใช้คำพูดไม่ดี ชอบด่า ชอบแช่ง พูดคำหยาบกับคนอื่น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แล้วใตนที่กินเหล้า เสพยา เล่นการพนันหวยล้อตเตอรี่ ก็จะโง่ สมองไม่ดีถูกหลอกไม่มีที่สิ้นสุด     โอ้โฮ..มหัศจรรย์กฏแห่งกรรม ที่แสนจะยุติธรรมเสียเหลือเกิน

ด้วยหลักการสอนของท่าน ราวกับข้าพเจ้า และลูกบ้านสวนพีระมิดท่านอื่นๆล้วนได้รับการติดอาวุธจรวดทางปัญญาจากท่านจากนั้นเป็นต้นมา เพราะไม่ว่าข้าพเจ้าจะประสบ พบเจอกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อะไร ดูหนังดูละคร ดูข่าวอะไรก็ตาม  เมื่อพิจารณาคิดไตร่ตรองด้วยอาวุธ ศีล สมาธิ จนเกิดเป็นสติปัญญาที่ท่านเมตตาเฝ้าเพียรสั่งสอนปลูกฝังให้ อย่างที่ข้าพเจ้าเกริ่นตั้งแต่แรก  มันแสนจะเหลือเชื่อว่า เฮ้.. เราไม่ค่อยโง่แล้ว เริ่มจะเข้าใจนิดๆแล้วล่ะว่า ทำไมเค้าถึงเป็นอย่างนี้ อ๋อก็ผิดศีลข้อนี้ ข้อนั้น ข้อโน้นนี่นา ผลมันก็จะหนีไปไหนเสีย แต่ยังไงความโง่ก็ยังไม่หมด ฮาฮา  ยังต้องขอรอรับวิชาความรู้จากท่านอาจารย์อุบลไปอีกนาน กว่าลูกฟายตัวนี้จะหายโง่ นู้นนนน อีกนาน แต่นี่แค่ขนาดเพิ่งเริ่มรู้จิ๊บๆนะ ยังสามารถไปช่วยแนะนำ ปลดทุกข์ เพื่อนๆเค้าได้อีกตั้งหลายคน ภูมิใจมากๆค่ะ

เรื่องอันซีนยังไม่หมด นอกจากนั้นท่านอาจารย์ ยังได้เมตตาให้เราได้มีตัวช่วยนั่นก็คือท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลากหลายที่ได้รับพระพุทธานุญาติจากพระพุทธองค์ให้ลูกหลานได้สารภาพบาปเสมือนอยู่ต่อหน้าท่านอาจารย์ ต่อพระพักตร์พระพุทธองค์ ต่อพระพักตร์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล ให้ลูกหลานได้หายทุกข์หายเจ็บหายจนในฉับพลันทันที ถ้าสำนึกบาปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมีข้อแม้ที่เป็นกุศโลบายอันแยบยล ที่จะดึงผู้คนเข้าธรรมว่าผู้นั้นต้องยึดมั่นตั้งมั่นอยู่ในความดีงาม มีศีลบริสุทธิ์ มีจิตอาสา มีน่ำใจ หมั่นให้ธรรมทานมีมารยาท และมุ่งมั่นจริงจังในการปกปักรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรือสามร่มโพธิ์ศรีนั่นเอง

ด้วยคุณูปการของท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่านอันใหญ่หลวงที่ท่านได้สร้างไว้กับชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไทย และคนไทยเช่นข้าพเจ้านี้เอง ข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์ และครอบครัวผู้ต่ำต้อยคงทำได้ดีที่สุดเพียงการขอก้มกราบแทบเท้าด้วยความเคารพรักและสำนึกในบุญคุญ และพระเดชพระะคุณของท่าน และครอบครัว และปวารณาว่าจะเดินตามรอยเท้าท่าน คอยเป็นตัวจักรเล็กๆปฏิบัติตามทุกอย่างที่ท่านสอนสั่ง และเป็นกำลังสนับสนุนท่านตราบเท่าชีวิตที่เหลือค่ะ

ข้าพเจ้า และครอบครัวขออาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่อัญเชิญโดยท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ขอบารมีพระพุทธองค์ ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ลูกได้สร้างมาทุกๆภพชาติ ให้ทุกๆบูญรวมตัวกัน และสำเร็จแดท่านเทวดาที่รักษาตัวท่านอ.อุบล ด้วย  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

หากท่านผู้อ่านสนใจโปรดศึกษาต่อที่www.baansuanpyramid.com ขอขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 21:37:24


ความคิดเห็นที่ 217 (1640902)

 เรื่องจริงไม่อิงนิยายของข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ข้าพเจ้าชื่ออาจินต์ ภิรมย์รักษ์ จบปริญญาตรีจากคณะโบราณคดี มหาวิยาลัยศิลปากรเมื่อหลายยยสิบปีมาแล้ว ปัจจุบันทำงานที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ความรู้ที่ร่ำเรียนมาดูเหมือนไม่ได้มีส่วนขัดเกลาความชั่วความเลว ที่เคยกระทำ ยังจะกิเลสหนาที่สั่งสมมานาน อีกสามปีเกือบจะครบห้าสิบปีที่ดำเนินชีวิตมาอย่างโง่ๆงงๆ ไร้ทิศทาง ไร้จุดหมาย ไม่เคยรู้เลยว่าความหมายที่แท้จริงของการได้มาเกิดเป็นคนช่างโชคดีขนาดไหน

จนมาวันที่ได้พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ก็คือวันที่โชคชะตาอนุญาติให้ได้รู้จัก ได้ค้นพบพระธรรมอันแสนบริสุทธิ์งดงามของพระพุทธองค์ ผ่านความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่าน แห่งบ้านสวนพีระมิด  โอ้โห Ajarn Ubol kha, you have turned my world upside down เอ๊ะ...ยังไง

ก็เพราะคำสอนธรรมของท่าน ที่แสนแยบยล วิธีการสอนของท่านที่แสนจะถึงลูกถึงคน ตลกแบบฉลาดๆ บางที่ก็อินโนเซนท์ ต็องๆก็มี แต่ทว่าเฉียบขาด จริงจัง เจ็บจริงอะไรจริง เต็มไปด้วยสาระแบบมหัศจรรย์ แบบอันซีนมโหฬารพันลึกล้วนๆ โอ้โห..ท่านอ.อุบลเป็นใครกันนี่... สิ่งเหล่านี้ได้เปิดโลกทรรศให้ข้าพเจ้า ไม่สิ กลับตาลปัตรเรียกได้ว่าแถมกระชากอย่างแรงเลยทีเดียว ข้าพเจ้าเริ่มรู้จักสำนึก กระตุกต่อมศีลธรรมตัวเอง อย่างปัจจุบันทันด่วน โห กลัวตกนรกเป็นที่สุด เอี้ยด...หยุดดดดด หยุดสร้างกรรมใหม่เดี๋ยวนี่... ส่วนกรรมเก่าก็ต้องด่วนจี๋..ขอขมาเจ้ากรรมนายเวรให้ถี่ที่สุด มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะดีขึ้น ก็เป็นสัญญาณว่าเจ้ากรรมนายเวรคงจะพอใจ และยอมให้อภัยเราแล้ว

ส่วนนิพพานนะหรือ.. ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ เคยแต่ได้อ่านเจอ กับตอนกรวดน้ำ คิดว่า..นิพพานเนี่ย...ไก๊ลไกลจากชีวิตเรา ชั่วชีวิตเราจะได้เจอมั๊ยน้อ... แต่ปรากฏว่าท่านอาจารย์เมตตาชี้แนะหนทางว่าคนชั่วๆอย่างเราก็อาจปรับปรุงแก้ตัวให้เป็นพระโสดาบันได้ทันท่วงที...จะได้ไปนิพพานตอนตายแล้วเนี่ยนะ..หรือไม่ก็อย่างน้อยไม่ต้องไปนรก...แค่นี้ก็..โอ้โฮ...ดีใจที่สุดในโลกแล้วล่ะสำหรับเราน่ะ

ในทันทีทันใดข้าพเจ้าเริ่มขัดเกลา เพื่อเปลี่ยนและปรับปรุงตัวเอง ท่านสอนให้ยกจิต ให้มองข้ามความต้องการของตัวเอง ให้มองประโยชน์ผู้อื่นแลส่วนรวมเป็นใหญ่ สอนให้จับทุกสิ่งด้วยศีลห้า ลองจับจากตัวเอง ก็ลองจับเลยไปถีงรอบๆตัว โอ้โฮ... เข้าใจโลกมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เหมือนมีคำเฉลยลอยมาในทุกๆความสงสัย ตัวอย่างเช่า เรื่องสิวฝ้าจุดด่างดำบนใบหน้า โอโห...พอท่านเฉลยว่าเกิดจากหลายๆปัจจัยเช่นความขี้วีน ขี้โกรธ ทำลายหรือปล่อยให้บ้านหรือสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวสกปรก รกรุงรังไร้ระเบียบ และความสวยงาม โดยเฉพาะหลักๆคือห้องครัว ห้องน้ำ นอกจากจะหน้าสิวฝ้าจุดด่างดำแล้ว ยังส่งผลให้จนไม่เลิกด้วย.. คล้ายๆกับใครมีพื้นเพ พฤติกรรม เป็นอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างก็สังเกตุได้จากใบหน้านั่นเอง.. โอ้โอแม่นเหลือเชื่อ  

ยัง.. ยังมีที่ค้นพบอีกค่ะว่าถ้าใครมีรูปลักษณ์ไม่สวยไม่หล่อ เจ็บป่วย ร่างกายบิดเบี้ยว พิกลพิการไปจากเดิม อ.อุบลสอนว่าให้รู้ไว้เลยว่าคนนั้นเคยหรือกำลังผิดศีลข้อหนึ่ง คือเบียดเบียน กลั่นแกล้ง ทำร้าย แช่ง เลยไปถึงฆ่า คน และสัตว์ มันจะฟ้องให้เห็นชัดเจนจากรูปลักษณ์ภายนอก

ใครที่ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์ หรือตนเองได้ทรัพย์มาด้วยไม่บริสุทธิ์ ทรัพย์นั้นก็จะสูญไปด้วยดินน้ำ ลม ไฟ โจร เป็นต้น

ใครที่เจ้าชู้ ผิดลูกผิดเมียผู้อื่นครอบครัวก็จะล้มเหลว ก็จะเสียการปกครอง ลูกเมียบริวารก็จะกระด้างกระเดื่อง

ถ้าใครที่ปากฟันไม่สวย ปากเหม็นก็ใช่เลยว่าเขาต้องใช้คำพูดไม่ดี ชอบด่า ชอบแช่ง พูดคำหยาบกับคนอื่น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แล้วใตนที่กินเหล้า เสพยา เล่นการพนันหวยล้อตเตอรี่ ก็จะโง่ สมองไม่ดีถูกหลอกไม่มีที่สิ้นสุด     โอ้โฮ..มหัศจรรย์กฏแห่งกรรม ที่แสนจะยุติธรรมเสียเหลือเกิน

ด้วยหลักการสอนของท่าน ราวกับข้าพเจ้า และลูกบ้านสวนพีระมิดท่านอื่นๆล้วนได้รับการติดอาวุธจรวดทางปัญญาจากท่านจากนั้นเป็นต้นมา เพราะไม่ว่าข้าพเจ้าจะประสบ พบเจอกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อะไร ดูหนังดูละคร ดูข่าวอะไรก็ตาม  เมื่อพิจารณาคิดไตร่ตรองด้วยอาวุธ ศีล สมาธิ จนเกิดเป็นสติปัญญาที่ท่านเมตตาเฝ้าเพียรสั่งสอนปลูกฝังให้ อย่างที่ข้าพเจ้าเกริ่นตั้งแต่แรก  มันแสนจะเหลือเชื่อว่า เฮ้.. เราไม่ค่อยโง่แล้ว เริ่มจะเข้าใจนิดๆแล้วล่ะว่า ทำไมเค้าถึงเป็นอย่างนี้ อ๋อก็ผิดศีลข้อนี้ ข้อนั้น ข้อโน้นนี่นา ผลมันก็จะหนีไปไหนเสีย แต่ยังไงความโง่ก็ยังไม่หมด ฮาฮา  ยังต้องขอรอรับวิชาความรู้จากท่านอาจารย์อุบลไปอีกนาน กว่าลูกฟายตัวนี้จะหายโง่ นู้นนนน อีกนาน แต่นี่แค่ขนาดเพิ่งเริ่มรู้จิ๊บๆนะ ยังสามารถไปช่วยแนะนำ ปลดทุกข์ เพื่อนๆเค้าได้อีกตั้งหลายคน ภูมิใจมากๆค่ะ

เรื่องอันซีนยังไม่หมด นอกจากนั้นท่านอาจารย์ ยังได้เมตตาให้เราได้มีตัวช่วยนั่นก็คือท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลากหลายที่ได้รับพระพุทธานุญาติจากพระพุทธองค์ให้ลูกหลานได้สารภาพบาปเสมือนอยู่ต่อหน้าท่านอาจารย์ ต่อพระพักตร์พระพุทธองค์ ต่อพระพักตร์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล ให้ลูกหลานได้หายทุกข์หายเจ็บหายจนในฉับพลันทันที ถ้าสำนึกบาปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมีข้อแม้ที่เป็นกุศโลบายอันแยบยล ที่จะดึงผู้คนเข้าธรรมว่าผู้นั้นต้องยึดมั่นตั้งมั่นอยู่ในความดีงาม มีศีลบริสุทธิ์ มีจิตอาสา มีน่ำใจ หมั่นให้ธรรมทานมีมารยาท และมุ่งมั่นจริงจังในการปกปักรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรือสามร่มโพธิ์ศรีนั่นเอง

ด้วยคุณูปการของท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่านอันใหญ่หลวงที่ท่านได้สร้างไว้กับชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไทย และคนไทยเช่นข้าพเจ้านี้เอง ข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์ และครอบครัวผู้ต่ำต้อยคงทำได้ดีที่สุดเพียงการขอก้มกราบแทบเท้าด้วยความเคารพรักและสำนึกในบุญคุญ และพระเดชพระะคุณของท่าน และครอบครัว และปวารณาว่าจะเดินตามรอยเท้าท่าน คอยเป็นตัวจักรเล็กๆปฏิบัติตามทุกอย่างที่ท่านสอนสั่ง และเป็นกำลังสนับสนุนท่านตราบเท่าชีวิตที่เหลือค่ะ

ข้าพเจ้า และครอบครัวขออาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่อัญเชิญโดยท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ขอบารมีพระพุทธองค์ ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ลูกได้สร้างมาทุกๆภพชาติ ให้ทุกๆบูญรวมตัวกัน และสำเร็จแดท่านเทวดาที่รักษาตัวท่านอ.อุบล ด้วย  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ - ข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

หากท่านผู้อ่านสนใจโปรดศึกษาเพิ่มเติมที่www.baansuanpyramid.com ขอขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 21:39:05


ความคิดเห็นที่ 218 (1640904)

 เรื่องจริงไม่อิงนิยายของข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ข้าพเจ้าชื่ออาจินต์ ภิรมย์รักษ์ จบปริญญาตรีจากคณะโบราณคดี มหาวิยาลัยศิลปากรเมื่อหลายยยสิบปีมาแล้ว ปัจจุบันทำงานที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ความรู้ที่ร่ำเรียนมาดูเหมือนไม่ได้มีส่วนขัดเกลาความชั่วความเลว ที่เคยกระทำ ยังจะกิเลสหนาที่สั่งสมมานาน อีกสามปีเกือบจะครบห้าสิบปีที่ดำเนินชีวิตมาอย่างโง่ๆงงๆ ไร้ทิศทาง ไร้จุดหมาย ไม่เคยรู้เลยว่าความหมายที่แท้จริงของการได้มาเกิดเป็นคนช่างโชคดีขนาดไหน

จนมาวันที่ได้พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ก็คือวันที่โชคชะตาอนุญาติให้ได้รู้จัก ได้ค้นพบพระธรรมอันแสนบริสุทธิ์งดงามของพระพุทธองค์ ผ่านความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่าน แห่งบ้านสวนพีระมิด  โอ้โห Ajarn Ubol kha, you have turned my world upside down เอ๊ะ...ยังไง

ก็เพราะคำสอนธรรมของท่าน ที่แสนแยบยล วิธีการสอนของท่านที่แสนจะถึงลูกถึงคน ตลกแบบฉลาดๆ บางที่ก็อินโนเซนท์ ต็องๆก็มี แต่ทว่าเฉียบขาด จริงจัง เจ็บจริงอะไรจริง เต็มไปด้วยสาระแบบมหัศจรรย์ แบบอันซีนมโหฬารพันลึกล้วนๆ โอ้โห..ท่านอ.อุบลเป็นใครกันนี่... สิ่งเหล่านี้ได้เปิดโลกทรรศให้ข้าพเจ้า ไม่สิ กลับตาลปัตรเรียกได้ว่าแถมกระชากอย่างแรงเลยทีเดียว ข้าพเจ้าเริ่มรู้จักสำนึก กระตุกต่อมศีลธรรมตัวเอง อย่างปัจจุบันทันด่วน โห กลัวตกนรกเป็นที่สุด เอี้ยด...หยุดดดดด หยุดสร้างกรรมใหม่เดี๋ยวนี่... ส่วนกรรมเก่าก็ต้องด่วนจี๋..ขอขมาเจ้ากรรมนายเวรให้ถี่ที่สุด มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะดีขึ้น ก็เป็นสัญญาณว่าเจ้ากรรมนายเวรคงจะพอใจ และยอมให้อภัยเราแล้ว

ส่วนนิพพานนะหรือ.. ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ เคยแต่ได้อ่านเจอ กับตอนกรวดน้ำ คิดว่า..นิพพานเนี่ย...ไก๊ลไกลจากชีวิตเรา ชั่วชีวิตเราจะได้เจอมั๊ยน้อ... แต่ปรากฏว่าท่านอาจารย์เมตตาชี้แนะหนทางว่าคนชั่วๆอย่างเราก็อาจปรับปรุงแก้ตัวให้เป็นพระโสดาบันได้ทันท่วงที...จะได้ไปนิพพานตอนตายแล้วเนี่ยนะ..หรือไม่ก็อย่างน้อยไม่ต้องไปนรก...แค่นี้ก็..โอ้โฮ...ดีใจที่สุดในโลกแล้วล่ะสำหรับเราน่ะ

ในทันทีทันใดข้าพเจ้าเริ่มขัดเกลา เพื่อเปลี่ยนและปรับปรุงตัวเอง ท่านสอนให้ยกจิต ให้มองข้ามความต้องการของตัวเอง ให้มองประโยชน์ผู้อื่นแลส่วนรวมเป็นใหญ่ สอนให้จับทุกสิ่งด้วยศีลห้า ลองจับจากตัวเอง ก็ลองจับเลยไปถีงรอบๆตัว โอ้โฮ... เข้าใจโลกมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เหมือนมีคำเฉลยลอยมาในทุกๆความสงสัย ตัวอย่างเช่า เรื่องสิวฝ้าจุดด่างดำบนใบหน้า โอโห...พอท่านเฉลยว่าเกิดจากหลายๆปัจจัยเช่นความขี้วีน ขี้โกรธ ทำลายหรือปล่อยให้บ้านหรือสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวสกปรก รกรุงรังไร้ระเบียบ และความสวยงาม โดยเฉพาะหลักๆคือห้องครัว ห้องน้ำ นอกจากจะหน้าสิวฝ้าจุดด่างดำแล้ว ยังส่งผลให้จนไม่เลิกด้วย.. คล้ายๆกับใครมีพื้นเพ พฤติกรรม เป็นอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างก็สังเกตุได้จากใบหน้านั่นเอง.. โอ้โอแม่นเหลือเชื่อ  

ยัง.. ยังมีที่ค้นพบอีกค่ะว่าถ้าใครมีรูปลักษณ์ไม่สวยไม่หล่อ เจ็บป่วย ร่างกายบิดเบี้ยว พิกลพิการไปจากเดิม อ.อุบลสอนว่าให้รู้ไว้เลยว่าคนนั้นเคยหรือกำลังผิดศีลข้อหนึ่ง คือเบียดเบียน กลั่นแกล้ง ทำร้าย แช่ง เลยไปถึงฆ่า คน และสัตว์ มันจะฟ้องให้เห็นชัดเจนจากรูปลักษณ์ภายนอก

ใครที่ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์ หรือตนเองได้ทรัพย์มาด้วยไม่บริสุทธิ์ ทรัพย์นั้นก็จะสูญไปด้วยดินน้ำ ลม ไฟ โจร เป็นต้น

ใครที่เจ้าชู้ ผิดลูกผิดเมียผู้อื่นครอบครัวก็จะล้มเหลว ก็จะเสียการปกครอง ลูกเมียบริวารก็จะกระด้างกระเดื่อง

ถ้าใครที่ปากฟันไม่สวย ปากเหม็นก็ใช่เลยว่าเขาต้องใช้คำพูดไม่ดี ชอบด่า ชอบแช่ง พูดคำหยาบกับคนอื่น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แล้วใตนที่กินเหล้า เสพยา เล่นการพนันหวยล้อตเตอรี่ ก็จะโง่ สมองไม่ดีถูกหลอกไม่มีที่สิ้นสุด     โอ้โฮ..มหัศจรรย์กฏแห่งกรรม ที่แสนจะยุติธรรมเสียเหลือเกิน

ด้วยหลักการสอนของท่าน ราวกับข้าพเจ้า และลูกบ้านสวนพีระมิดท่านอื่นๆล้วนได้รับการติดอาวุธจรวดทางปัญญาจากท่านจากนั้นเป็นต้นมา เพราะไม่ว่าข้าพเจ้าจะประสบ พบเจอกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อะไร ดูหนังดูละคร ดูข่าวอะไรก็ตาม  เมื่อพิจารณาคิดไตร่ตรองด้วยอาวุธ ศีล สมาธิ จนเกิดเป็นสติปัญญาที่ท่านเมตตาเฝ้าเพียรสั่งสอนปลูกฝังให้ อย่างที่ข้าพเจ้าเกริ่นตั้งแต่แรก  มันแสนจะเหลือเชื่อว่า เฮ้.. เราไม่ค่อยโง่แล้ว เริ่มจะเข้าใจนิดๆแล้วล่ะว่า ทำไมเค้าถึงเป็นอย่างนี้ อ๋อก็ผิดศีลข้อนี้ ข้อนั้น ข้อโน้นนี่นา ผลมันก็จะหนีไปไหนเสีย แต่ยังไงความโง่ก็ยังไม่หมด ฮาฮา  ยังต้องขอรอรับวิชาความรู้จากท่านอาจารย์อุบลไปอีกนาน กว่าลูกฟายตัวนี้จะหายโง่ นู้นนนน อีกนาน แต่นี่แค่ขนาดเพิ่งเริ่มรู้จิ๊บๆนะ ยังสามารถไปช่วยแนะนำ ปลดทุกข์ เพื่อนๆเค้าได้อีกตั้งหลายคน ภูมิใจมากๆค่ะ

เรื่องอันซีนยังไม่หมด นอกจากนั้นท่านอาจารย์ ยังได้เมตตาให้เราได้มีตัวช่วยนั่นก็คือท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลากหลายที่ได้รับพระพุทธานุญาติจากพระพุทธองค์ให้ลูกหลานได้สารภาพบาปเสมือนอยู่ต่อหน้าท่านอาจารย์ ต่อพระพักตร์พระพุทธองค์ ต่อพระพักตร์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล ให้ลูกหลานได้หายทุกข์หายเจ็บหายจนในฉับพลันทันที ถ้าสำนึกบาปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมีข้อแม้ที่เป็นกุศโลบายอันแยบยล ที่จะดึงผู้คนเข้าธรรมว่าผู้นั้นต้องยึดมั่นตั้งมั่นอยู่ในความดีงาม มีศีลบริสุทธิ์ มีจิตอาสา มีน่ำใจ หมั่นให้ธรรมทานมีมารยาท และมุ่งมั่นจริงจังในการปกปักรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรือสามร่มโพธิ์ศรีนั่นเอง

ด้วยคุณูปการของท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่านอันใหญ่หลวงที่ท่านได้สร้างไว้กับชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไทย และคนไทยเช่นข้าพเจ้านี้เอง ข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์ และครอบครัวผู้ต่ำต้อยคงทำได้ดีที่สุดเพียงการขอก้มกราบแทบเท้าด้วยความเคารพรักและสำนึกในบุญคุญ และพระเดชพระะคุณของท่าน และครอบครัว และปวารณาว่าจะเดินตามรอยเท้าท่าน คอยเป็นตัวจักรเล็กๆปฏิบัติตามทุกอย่างที่ท่านสอนสั่ง และเป็นกำลังสนับสนุนท่านตราบเท่าชีวิตที่เหลือค่ะ

ข้าพเจ้า และครอบครัวขออาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่อัญเชิญโดยท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ขอบารมีพระพุทธองค์ ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ลูกได้สร้างมาทุกๆภพชาติ ให้ทุกๆบูญรวมตัวกัน และสำเร็จแดท่านเทวดาที่รักษาตัวท่านอ.อุบล ด้วย  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

หากท่านผู้อ่านสนใจโปรดศึกษาต่อที่www.baansuanpyramid.com ขอขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 21:41:29


ความคิดเห็นที่ 219 (1640915)

 เรื่องจริงไม่อิงนิยายของข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ข้าพเจ้าชื่ออาจินต์ ภิรมย์รักษ์ จบปริญญาตรีจากคณะโบราณคดี มหาวิยาลัยศิลปากรเมื่อหลายยยสิบปีมาแล้ว ปัจจุบันทำงานที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ความรู้ที่ร่ำเรียนมาดูเหมือนไม่ได้มีส่วนขัดเกลาความชั่วความเลว ที่เคยกระทำ ยังจะกิเลสหนาที่สั่งสมมานาน อีกสามปีเกือบจะครบห้าสิบปีที่ดำเนินชีวิตมาอย่างโง่ๆงงๆ ไร้ทิศทาง ไร้จุดหมาย ไม่เคยรู้เลยว่าความหมายที่แท้จริงของการได้มาเกิดเป็นคนช่างโชคดีขนาดไหน

จนมาวันที่ได้พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ก็คือวันที่โชคชะตาอนุญาติให้ได้รู้จัก ได้ค้นพบพระธรรมอันแสนบริสุทธิ์งดงามของพระพุทธองค์ ผ่านความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่าน แห่งบ้านสวนพีระมิด  โอ้โห Ajarn Ubol kha, you have turned my world upside down เอ๊ะ...ยังไง

ก็เพราะคำสอนธรรมของท่าน ที่แสนแยบยล วิธีการสอนของท่านที่แสนจะถึงลูกถึงคน ตลกแบบฉลาดๆ บางที่ก็อินโนเซนท์ ต็องๆก็มี แต่ทว่าเฉียบขาด จริงจัง เจ็บจริงอะไรจริง เต็มไปด้วยสาระแบบมหัศจรรย์ แบบอันซีนมโหฬารพันลึกล้วนๆ โอ้โห..ท่านอ.อุบลเป็นใครกันนี่... สิ่งเหล่านี้ได้เปิดโลกทรรศให้ข้าพเจ้า ไม่สิ กลับตาลปัตรเรียกได้ว่าแถมกระชากอย่างแรงเลยทีเดียว ข้าพเจ้าเริ่มรู้จักสำนึก กระตุกต่อมศีลธรรมตัวเอง อย่างปัจจุบันทันด่วน โห กลัวตกนรกเป็นที่สุด เอี้ยด...หยุดดดดด หยุดสร้างกรรมใหม่เดี๋ยวนี่... ส่วนกรรมเก่าก็ต้องด่วนจี๋..ขอขมาเจ้ากรรมนายเวรให้ถี่ที่สุด มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะดีขึ้น ก็เป็นสัญญาณว่าเจ้ากรรมนายเวรคงจะพอใจ และยอมให้อภัยเราแล้ว

ส่วนนิพพานนะหรือ.. ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ เคยแต่ได้อ่านเจอ กับตอนกรวดน้ำ คิดว่า..นิพพานเนี่ย...ไก๊ลไกลจากชีวิตเรา ชั่วชีวิตเราจะได้เจอมั๊ยน้อ... แต่ปรากฏว่าท่านอาจารย์เมตตาชี้แนะหนทางว่าคนชั่วๆอย่างเราก็อาจปรับปรุงแก้ตัวให้เป็นพระโสดาบันได้ทันท่วงที...จะได้ไปนิพพานตอนตายแล้วเนี่ยนะ..หรือไม่ก็อย่างน้อยไม่ต้องไปนรก...แค่นี้ก็..โอ้โฮ...ดีใจที่สุดในโลกแล้วล่ะสำหรับเราน่ะ

ในทันทีทันใดข้าพเจ้าเริ่มขัดเกลา เพื่อเปลี่ยนและปรับปรุงตัวเอง ท่านสอนให้ยกจิต ให้มองข้ามความต้องการของตัวเอง ให้มองประโยชน์ผู้อื่นแลส่วนรวมเป็นใหญ่ ให้ทำทานกับเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ อานิสงค์จะเกิดฉับพลันทันที ท่านสอนให้จับทุกสิ่งด้วยศีลห้า ลองจับจากตัวเอง ก็ลองจับเลยไปถีงรอบๆตัว โอ้โฮ... เข้าใจโลกมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เหมือนมีคำเฉลยลอยมาในทุกๆความสงสัย ตัวอย่างเช่า เรื่องสิวฝ้าจุดด่างดำบนใบหน้า โอโห...พอท่านเฉลยว่าเกิดจากหลายๆปัจจัยเช่นความขี้วีน ขี้โกรธ ทำลายหรือปล่อยให้บ้านหรือสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวสกปรก รกรุงรังไร้ระเบียบ และความสวยงาม โดยเฉพาะหลักๆคือห้องครัว ห้องน้ำ นอกจากจะหน้าสิวฝ้าจุดด่างดำแล้ว ยังส่งผลให้จนไม่เลิกด้วย.. คล้ายๆกับใครมีพื้นเพ พฤติกรรม เป็นอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างก็สังเกตุได้จากใบหน้านั่นเอง.. โอ้โอแม่นเหลือเชื่อ  

ยัง.. ยังมีที่ค้นพบอีกค่ะว่าถ้าใครมีรูปลักษณ์ไม่สวยไม่หล่อ เจ็บป่วย ร่างกายบิดเบี้ยว พิกลพิการไปจากเดิม อ.อุบลสอนว่าให้รู้ไว้เลยว่าคนนั้นเคยหรือกำลังผิดศีลข้อหนึ่ง คือเบียดเบียน กลั่นแกล้ง ทำร้าย แช่ง เลยไปถึงฆ่า คน และสัตว์ มันจะฟ้องให้เห็นชัดเจนจากรูปลักษณ์ภายนอก

ใครที่ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์ หรือตนเองได้ทรัพย์มาด้วยไม่บริสุทธิ์ ทรัพย์นั้นก็จะสูญไปด้วยดินน้ำ ลม ไฟ โจร เป็นต้น

ใครที่เจ้าชู้ ผิดลูกผิดเมียผู้อื่นครอบครัวก็จะล้มเหลว ก็จะเสียการปกครอง ลูกเมียบริวารก็จะกระด้างกระเดื่อง

ถ้าใครที่ปากฟันไม่สวย ปากเหม็นก็ใช่เลยว่าเขาต้องใช้คำพูดไม่ดี ชอบด่า ชอบแช่ง พูดคำหยาบกับคนอื่น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แล้วใตนที่กินเหล้า เสพยา เล่นการพนันหวยล้อตเตอรี่ ก็จะโง่ สมองไม่ดีถูกหลอกไม่มีที่สิ้นสุด     โอ้โฮ..มหัศจรรย์กฏแห่งกรรม ที่แสนจะยุติธรรมเสียเหลือเกิน

ด้วยหลักการสอนของท่าน ราวกับข้าพเจ้า และลูกบ้านสวนพีระมิดท่านอื่นๆล้วนได้รับการติดอาวุธจรวดทางปัญญาจากท่านจากนั้นเป็นต้นมา เพราะไม่ว่าข้าพเจ้าจะประสบ พบเจอกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อะไร ดูหนังดูละคร ดูข่าวอะไรก็ตาม  เมื่อพิจารณาคิดไตร่ตรองด้วยอาวุธ ศีล สมาธิ จนเกิดเป็นสติปัญญาที่ท่านเมตตาเฝ้าเพียรสั่งสอนปลูกฝังให้ อย่างที่ข้าพเจ้าเกริ่นตั้งแต่แรก  มันแสนจะเหลือเชื่อว่า เฮ้.. เราไม่ค่อยโง่แล้ว เริ่มจะเข้าใจนิดๆแล้วล่ะว่า ทำไมเค้าถึงเป็นอย่างนี้ อ๋อก็ผิดศีลข้อนี้ ข้อนั้น ข้อโน้นนี่นา ผลมันก็จะหนีไปไหนเสีย แต่ยังไงความโง่ก็ยังไม่หมด ฮาฮา  ยังต้องขอรอรับวิชาความรู้จากท่านอาจารย์อุบลไปอีกนาน กว่าลูกฟายตัวนี้จะหายโง่ นู้นนนน อีกนาน แต่นี่แค่ขนาดเพิ่งเริ่มรู้จิ๊บๆนะ ยังสามารถไปช่วยแนะนำ ปลดทุกข์ เพื่อนๆเค้าได้อีกตั้งหลายคน ภูมิใจมากๆค่ะ

เรื่องอันซีนยังไม่หมด นอกจากนั้นท่านอาจารย์ ยังได้เมตตาให้เราได้มีตัวช่วยนั่นก็คือท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลากหลายที่ได้รับพระพุทธานุญาติจากพระพุทธองค์ให้ลูกหลานได้สารภาพบาปเสมือนอยู่ต่อหน้าท่านอาจารย์ ต่อพระพักตร์พระพุทธองค์ ต่อพระพักตร์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล ให้ลูกหลานได้หายทุกข์หายเจ็บหายจนในฉับพลันทันที ถ้าสำนึกบาปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมีข้อแม้ที่เป็นกุศโลบายอันแยบยล ที่จะดึงผู้คนเข้าธรรมว่าผู้นั้นต้องยึดมั่นตั้งมั่นอยู่ในความดีงาม มีศีลบริสุทธิ์ มีจิตอาสา มีน่ำใจ หมั่นให้ธรรมทานมีมารยาท และมุ่งมั่นจริงจังในการปกปักรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรือสามร่มโพธิ์ศรีนั่นเอง

ด้วยคุณูปการของท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่านอันใหญ่หลวงที่ท่านได้สร้างไว้กับชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไทย และคนไทยเช่นข้าพเจ้านี้เอง ข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์ และครอบครัวผู้ต่ำต้อยคงทำได้ดีที่สุดเพียงการขอก้มกราบแทบเท้าด้วยความเคารพรักและสำนึกในบุญคุญ และพระเดชพระะคุณของท่าน และครอบครัว และปวารณาว่าจะเดินตามรอยเท้าท่าน คอยเป็นตัวจักรเล็กๆปฏิบัติตามทุกอย่างที่ท่านสอนสั่ง และเป็นกำลังสนับสนุนท่านตราบเท่าชีวิตที่เหลือค่ะ

ข้าพเจ้า และครอบครัวขออาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่อัญเชิญโดยท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ขอบารมีพระพุทธองค์ ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ลูกได้สร้างมาทุกๆภพชาติ ให้ทุกๆบูญรวมตัวกัน และสำเร็จแดท่านเทวดาที่รักษาตัวท่านอ.อุบล ด้วย  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

หากท่านผู้อ่านสนใจโปรดศึกษาต่อที่www.baansuanpyramid.com ขอขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 22:09:29


ความคิดเห็นที่ 220 (1640916)

 เรื่องจริงไม่อิงนิยายของข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

ข้าพเจ้าชื่ออาจินต์ ภิรมย์รักษ์ จบปริญญาตรีจากคณะโบราณคดี มหาวิยาลัยศิลปากรเมื่อหลายยยสิบปีมาแล้ว ปัจจุบันทำงานที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ความรู้ที่ร่ำเรียนมาดูเหมือนไม่ได้มีส่วนขัดเกลาความชั่วความเลว ที่เคยกระทำ ยังจะกิเลสหนาที่สั่งสมมานาน อีกสามปีเกือบจะครบห้าสิบปีที่ดำเนินชีวิตมาอย่างโง่ๆงงๆ ไร้ทิศทาง ไร้จุดหมาย ไม่เคยรู้เลยว่าความหมายที่แท้จริงของการได้มาเกิดเป็นคนช่างโชคดีขนาดไหน

จนมาวันที่ได้พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ก็คือวันที่โชคชะตาอนุญาติให้ได้รู้จัก ได้ค้นพบพระธรรมอันแสนบริสุทธิ์งดงามของพระพุทธองค์ ผ่านความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่าน แห่งบ้านสวนพีระมิด  โอ้โห Ajarn Ubol kha, you have turned my world upside down เอ๊ะ...ยังไง

ก็เพราะคำสอนธรรมของท่าน ที่แสนแยบยล วิธีการสอนของท่านที่แสนจะถึงลูกถึงคน ตลกแบบฉลาดๆ บางที่ก็อินโนเซนท์ ต็องๆก็มี แต่ทว่าเฉียบขาด จริงจัง เจ็บจริงอะไรจริง เต็มไปด้วยสาระแบบมหัศจรรย์ แบบอันซีนมโหฬารพันลึกล้วนๆ โอ้โห..ท่านอ.อุบลเป็นใครกันนี่... สิ่งเหล่านี้ได้เปิดโลกทรรศให้ข้าพเจ้า ไม่สิ กลับตาลปัตรเรียกได้ว่าแถมกระชากอย่างแรงเลยทีเดียว ข้าพเจ้าเริ่มรู้จักสำนึก กระตุกต่อมศีลธรรมตัวเอง อย่างปัจจุบันทันด่วน โห กลัวตกนรกเป็นที่สุด เอี้ยด...หยุดดดดด หยุดสร้างกรรมใหม่เดี๋ยวนี่... ส่วนกรรมเก่าก็ต้องด่วนจี๋..ขอขมาเจ้ากรรมนายเวรให้ถี่ที่สุด มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะดีขึ้น ก็เป็นสัญญาณว่าเจ้ากรรมนายเวรคงจะพอใจ และยอมให้อภัยเราแล้ว

ส่วนนิพพานนะหรือ.. ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ เคยแต่ได้อ่านเจอ กับตอนกรวดน้ำ คิดว่า..นิพพานเนี่ย...ไก๊ลไกลจากชีวิตเรา ชั่วชีวิตเราจะได้เจอมั๊ยน้อ... แต่ปรากฏว่าท่านอาจารย์เมตตาชี้แนะหนทางว่าคนชั่วๆอย่างเราก็อาจปรับปรุงแก้ตัวให้เป็นพระโสดาบันได้ทันท่วงที...จะได้ไปนิพพานตอนตายแล้วเนี่ยนะ..หรือไม่ก็อย่างน้อยไม่ต้องไปนรก...แค่นี้ก็..โอ้โฮ...ดีใจที่สุดในโลกแล้วล่ะสำหรับเราน่ะ

ในทันทีทันใดข้าพเจ้าเริ่มขัดเกลา เพื่อเปลี่ยนและปรับปรุงตัวเอง ท่านสอนให้ยกจิต ให้มองข้ามความต้องการของตัวเอง ให้มองประโยชน์ผู้อื่นแลส่วนรวมเป็นใหญ่ ให้ทำทานกับเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ อานิสงค์จะเกิดฉับพลันทันที ท่านสอนให้จับทุกสิ่งด้วยศีลห้า ลองจับจากตัวเอง ก็ลองจับเลยไปถีงรอบๆตัว โอ้โฮ... เข้าใจโลกมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เหมือนมีคำเฉลยลอยมาในทุกๆความสงสัย ตัวอย่างเช่า เรื่องสิวฝ้าจุดด่างดำบนใบหน้า โอโห...พอท่านเฉลยว่าเกิดจากหลายๆปัจจัยเช่นความขี้วีน ขี้โกรธ ทำลายหรือปล่อยให้บ้านหรือสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวสกปรก รกรุงรังไร้ระเบียบ และความสวยงาม โดยเฉพาะหลักๆคือห้องครัว ห้องน้ำ นอกจากจะหน้าสิวฝ้าจุดด่างดำแล้ว ยังส่งผลให้จนไม่เลิกด้วย.. คล้ายๆกับใครมีพื้นเพ พฤติกรรม เป็นอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างก็สังเกตุได้จากใบหน้านั่นเอง.. โอ้โอแม่นเหลือเชื่อ  

ยัง.. ยังมีที่ค้นพบอีกค่ะว่าถ้าใครมีรูปลักษณ์ไม่สวยไม่หล่อ เจ็บป่วย ร่างกายบิดเบี้ยว พิกลพิการไปจากเดิม อ.อุบลสอนว่าให้รู้ไว้เลยว่าคนนั้นเคยหรือกำลังผิดศีลข้อหนึ่ง คือเบียดเบียน กลั่นแกล้ง ทำร้าย แช่ง เลยไปถึงฆ่า คน และสัตว์ มันจะฟ้องให้เห็นชัดเจนจากรูปลักษณ์ภายนอก

ใครที่ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์ หรือตนเองได้ทรัพย์มาด้วยไม่บริสุทธิ์ ทรัพย์นั้นก็จะสูญไปด้วยดินน้ำ ลม ไฟ โจร เป็นต้น

ใครที่เจ้าชู้ ผิดลูกผิดเมียผู้อื่นครอบครัวก็จะล้มเหลว ก็จะเสียการปกครอง ลูกเมียบริวารก็จะกระด้างกระเดื่อง

ถ้าใครที่ปากฟันไม่สวย ปากเหม็นก็ใช่เลยว่าเขาต้องใช้คำพูดไม่ดี ชอบด่า ชอบแช่ง พูดคำหยาบกับคนอื่น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แล้วใตนที่กินเหล้า เสพยา เล่นการพนันหวยล้อตเตอรี่ ก็จะโง่ สมองไม่ดีถูกหลอกไม่มีที่สิ้นสุด     โอ้โฮ..มหัศจรรย์กฏแห่งกรรม ที่แสนจะยุติธรรมเสียเหลือเกิน

ด้วยหลักการสอนของท่าน ราวกับข้าพเจ้า และลูกบ้านสวนพีระมิดท่านอื่นๆล้วนได้รับการติดอาวุธจรวดทางปัญญาจากท่านจากนั้นเป็นต้นมา เพราะไม่ว่าข้าพเจ้าจะประสบ พบเจอกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อะไร ดูหนังดูละคร ดูข่าวอะไรก็ตาม  เมื่อพิจารณาคิดไตร่ตรองด้วยอาวุธ ศีล สมาธิ จนเกิดเป็นสติปัญญาที่ท่านเมตตาเฝ้าเพียรสั่งสอนปลูกฝังให้ อย่างที่ข้าพเจ้าเกริ่นตั้งแต่แรก  มันแสนจะเหลือเชื่อว่า เฮ้.. เราไม่ค่อยโง่แล้ว เริ่มจะเข้าใจนิดๆแล้วล่ะว่า ทำไมเค้าถึงเป็นอย่างนี้ อ๋อก็ผิดศีลข้อนี้ ข้อนั้น ข้อโน้นนี่นา ผลมันก็จะหนีไปไหนเสีย แต่ยังไงความโง่ก็ยังไม่หมด ฮาฮา  ยังต้องขอรอรับวิชาความรู้จากท่านอาจารย์อุบลไปอีกนาน กว่าลูกฟายตัวนี้จะหายโง่ นู้นนนน อีกนาน แต่นี่แค่ขนาดเพิ่งเริ่มรู้จิ๊บๆนะ ยังสามารถไปช่วยแนะนำ ปลดทุกข์ เพื่อนๆเค้าได้อีกตั้งหลายคน ภูมิใจมากๆค่ะ

เรื่องอันซีนยังไม่หมด นอกจากนั้นท่านอาจารย์ ยังได้เมตตาให้เราได้มีตัวช่วยนั่นก็คือท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลากหลายที่ได้รับพระพุทธานุญาติจากพระพุทธองค์ให้ลูกหลานได้สารภาพบาปเสมือนอยู่ต่อหน้าท่านอาจารย์ ต่อพระพักตร์พระพุทธองค์ ต่อพระพักตร์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาล ให้ลูกหลานได้หายทุกข์หายเจ็บหายจนในฉับพลันทันที ถ้าสำนึกบาปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมีข้อแม้ที่เป็นกุศโลบายอันแยบยล ที่จะดึงผู้คนเข้าธรรมว่าผู้นั้นต้องยึดมั่นตั้งมั่นอยู่ในความดีงาม มีศีลบริสุทธิ์ มีจิตอาสา มีน่ำใจ หมั่นให้ธรรมทานมีมารยาท และมุ่งมั่นจริงจังในการปกปักรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรือสามร่มโพธิ์ศรีนั่นเอง

ด้วยคุณูปการของท่านอาจารย์ อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และครอบครัวของท่านอันใหญ่หลวงที่ท่านได้สร้างไว้กับชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไทย และคนไทยเช่นข้าพเจ้านี้เอง ข้าพเจ้า นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์ และครอบครัวผู้ต่ำต้อยคงทำได้ดีที่สุดเพียงการขอก้มกราบแทบเท้าด้วยความเคารพรักและสำนึกในบุญคุญ และพระเดชพระะคุณของท่าน และครอบครัว และปวารณาว่าจะเดินตามรอยเท้าท่าน คอยเป็นตัวจักรเล็กๆปฏิบัติตามทุกอย่างที่ท่านสอนสั่ง และเป็นกำลังสนับสนุนท่านตราบเท่าชีวิตที่เหลือค่ะ

ข้าพเจ้า และครอบครัวขออาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่อัญเชิญโดยท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ขอบารมีพระพุทธองค์ ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ลูกได้สร้างมาทุกๆภพชาติ ให้ทุกๆบูญรวมตัวกัน และสำเร็จแดท่านเทวดาที่รักษาตัวท่านอ.อุบล ด้วย  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่สถิตย์อยู่ณ บ้านสวนพีระมิดเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

นางอาจินต์ ภิรมย์รักษ์

หากท่านผู้อ่านสนใจโปรดศึกษาต่อที่www.baansuanpyramid.com ขอขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 22:11:29


ความคิดเห็นที่ 221 (1640919)

 เรื่องผิวผิว

แม่บอกบัวว่าให้ สวยด้วยศีล  บัวฟังแล้วงง จริงๆคะ ไม่เข้าใจเลนยว่ามันเกี่ยวกันยังไงอ่อแม่ แม่ก็ขยาย ว่าท่านอ.อุบลสอนว่า คนที่มีร่างกายที่ไม่สวยงาม หรือพิกลพิการ นั่นเป็นผลจากการกระทำที่ ผิดศีล ข้อนั้นคือ ศีลข้อ1”เจ้าคะ

พอบัวลองกลับมาย้อนนึกๆ ดูแล้วตัวเองก็ยังเป็นสิวตรงหน้าผาก อยู่เลย บัว คิด คิด คิด สำรวจตัวเองทัน  อ๋อนึกออกแล้ว เราชอบบี้มด โอ้โห..แย่จังเลยเรา แล้วนึกตำหนิตัวเอง แต่ก่อนพอเห็นขึ้นอะไรก็ราดน้ำใส่ ชอบปัดมอออกจากแขนไม่กลัวซะเล้ยว่า มันตกมาแขนหักขาหัก หัวแตกกันบ้างหรือเปล่า

มีช่วงหนึงบ้านเราเคยโดนกองทัพมดโจมตี มากันเต็มไปหมดทุกที่เลยค่ะ นั่งตรงไหนก็ โอ้ยมดกันอะแม่ จากนั้นแล้วพวกเราทุกคนก็เริ่มสำนึก เริ่มแผ่เมตตา บ้างเบิกบุญ ให้มดทุกๆตัวคะ เพียงไม่นาน เหตุอัศจรรย์ ก็เกิดขึ้นคะ ตอนนี้วางของหวานๆ ไว้บนโต๊ะก็ไม่มีอะไรมาตอมแล้วคะ ตอนนี้ในบ้านหามดไม่เจอสักตัวเลยคะ บัวมาถูกทางแล้วคะต่อไปนี้บัวจะทำดีรักษาศีล และจะบอกเพื่อนคะ ว่าถ้าอยากหน้าขาวสวยใสปิ้งๆ ก็รักษาศีลนะจ๊ะ

 

                                                                             ด.. กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 22:38:13


ความคิดเห็นที่ 222 (1640966)

กราบ กราบ กราบ ท่านอาจารย์อุบลสักล้านครั้ง

หนูอ่านกระทู้ที่อาจารย์เขียนเรื่องของหนู

รวมทั้งให้ข้อแนะนำในการเขียนธรรมทานให้ได้ผล

หนูทราบซึ้งในความเมตตาของอาจารย์มาก

ทุกตัวอักษรที่อาจารย์เขียน

มันเข้าไปกระทบถึงจิตวิญญาณของหนูเลย

ต้องอดกลั้นเป็นอย่างมากที่จะไม่ร้องไห้

เพราะถ้าสามีได้ยินไม่รู้จะบอกเขาว่ายังไง ที่สำคัญ ไม่อยากโกหกค่ะ

ที่น่าแปลกใจคืออาจารย์พูดเหมือนที่หนูรู้สึกเลย

เพราะหนูรู้สึกว่าท่านเจ้ากรรมคงไม่ปล่อยหนูง่าย ๆ

และพยายามดลจิตใจให้หนูทำกรรมหนักๆ ใหม่ ๆ อยู่บ่อย ๆ

เพื่อหนูจะได้ไม่พ้นกรรมง่าย ๆ

สิ่งที่อาจารย์พูดเป็นการยืนยันว่าที่หนูรู้สึกนั้นเป็นเรื่องจริง

ขอน้อมรับคำแนะนำที่อาจารย์ให้ช่วยพี่นัฐพร นิ่มเสน่ห์ เผยแพร่ระหัสอาจารย์อุบลนะคะ

หนูจะพยายามทำจนสุดความสามารถค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อีกล้านครั้งที่เมตตาให้คำแนะนำ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 11:02:07


ความคิดเห็นที่ 223 (1641097)

 

ข้าพเจ้าชื่อนางทองดี ทิมขาวประเสริฐ อายุ 56 ปี อาชีพเมื่อก่อนเป็นชาวนามาโดยกำเนิด แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาขายของชำมา 10 กว่าปีแล้ว
ขอเล่าเรื่องจริงที่เกิดกับตัวข้าพเจ้าเอง นับว่าข้าพเจ้ายังมีบุญหลงเหลืออยู่ จึงได้มารู้จักกับบ้านสวนพีระมิด ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ อาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ที่เตือนให้ลูกหลานเร่งทำความเพียรด้วยการเขียนธรรมทาน เพื่อความหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดของทุกคน อาจารย์อุบลเป็นผู้มีพระคุณมากจนสุดที่จะบรรยาย
ชีวิตของข้าพเจ้ามีสามีคนแรกก็ชิงสุกก่อนห่าม ภายหลังถึงได้รู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้วจึงได้เลิกกัน ระหว่างนี้ก็ท้องมาด้วย แม่ก็พาไปทำแท้ง เวลานั้นข้าพเจ้าไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษอะไรเลย ต่อมาก็มีสามีอีกคนหนึ่ง มีลูกสาวสองคน คนโตเกิดมาก็ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่พอมามีคนที่สองอายุได้ประมาณ 11-12 ปี ก็ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้คันตามผิวหนัง รักษาไม่หาย ไม่ว่าจะพาไปหาหมอที่ไหน เขาว่าดีก็ไป จนบางครั้งก็รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง แต่ก็แสวงหาต่อไป ในระหว่างสิบกว่าปีนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนทุกข์ทั้งหลายที่มี จะมารวมอยู่ในตัวข้าพเจ้าทั้งหมด แต่ก็ยังไม่รู้สึกตัวว่ากำลังรับกรรมอยู่ ต่อมาได้มีโอกาสรู้จักกับบ้านสวนพีระมิด เพราะว่าเปิดทีวีหาช่องที่เขาขายยาดีๆ ตรงกับโรค จะซื้อให้ลูกกิน เพราะซื้อมาหลายขนาดแล้วแต่ก็ไม่หาย พอดีเปิดมาเจอรายการคุยไปแจกไป เจอตอนขายเครื่องสำอางค์ ก็เปลี่ยนช่อง เพราะไม่ใช่ช่องที่เราต้องการ วันต่อมาก็เปิดเจออีก คราวนี้เจอตอนทำบุญถวายในหลวง อาจารย์ก็พูดถถึงพระพุทธเจ้า พูดถึงชาติสุดท้ายของท่าน ดูแค่นี้ก็เชื่อเลย เพราะศรัทธาพระพุทธเจ้ามาก ศรัทธาในหลวงมาก ศรัทธาผู้ที่เกิดเป็นชาติสุดท้ายมาก จึงมองเห็นความหวังที่ลูกจะหายได้ เพราะเห็นอาจารย์ไต่สวนกรรมแล้วคนนั้นก็หาย คนนี้ก็หาย อันที่จริงก็พาลูกพาครอบครัวไปปฏิบัติธรรมมาสิบกว่าปีแล้ว แต่ไม่สามารถจะทำให้ลูกหายได้ เห็นคนเขาสารภาพกรรม ถึงได้รู้ว่าตัวเองทำกรรมไว้มากมายเหลือเกิน ผิดศีลทุกข้อเลย
ศีลข้อ 1 ข้าพเจ้าเคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยมากมาย เป็นต้นว่า กุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด อึ่งอ่าง คางคก นก หนู งู ไส้เดือน ปลิง มดดำ มดแดง ยุง รังแตน ผึ้ง ตั๊กแตน จิ้งหรีด แมงดา แมงเม่า แมงป่อง แมงสาบ ตะขาบ ตะเข็บ หมัด เห็บ เหา แมงหวี่แมงวัน เหลือบลิ้น จิ้งจก แมงปอเอาไม้เสียบก้นด้วย รถด่วน ลูกน้ำ หนอน ตุ๊กแกเคยทำให้หางขาด ตีหมาตีแมว จับแมวโยนให้หมากัน ตีหมู เลี้ยงหมูขาย ตอนนั้นเป็นเด็กเคยเอายางวงรัดไข่หมาให้เน่า เคยรู้เห็นให้เขาเอาหมูไปฆ่า ไก่ด้วย เคยแก้บนด้วยหัวหมูและไก่ เคยไถนาควายตีบังคับให้มันลากไถ ตอนเป็นเด็กเคยยินดี ดีใจที่เห็นพ่อฆ่าสัตว์ต่างๆ มาให้ลูกๆกินเป็นอาหาร เป็นต้นว่า กุ้ง หอย ปู ปลา นก หนู งู กระต่าย เต่า กระรอก กระแต แย้ ตัวนิ่ม ตัวเลน ตอนเป็นเด็กก็เคยกระทืบมือแม่ แม่ให้เหยียบขาให้ก็แกล้งทำให้แม่เจ็บ เพราะรีบไปเล่นกับเพื่อน ทำไมจิตใจมันมืดบอดขนาดนี้ก็ไม่รู้
ผลกรรมที่ได้รับคือ ทุกข์ทางใจมาก เป็นโรคท้องเสียบ่อยมาสิบกว่าปี ต้องกินยาแก้ท้องเสียเป็นประจำ แต่ตอนนี้หายแล้วเพราะได้อานิสงค์จากการได้ไปสร้างบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด ตอนเป็นเด็กเคยเป็นโรคผิวหนัง มีน้ำเหลืองไหลคัน โรคนี้หายไปแล้วแต่ตอนนี้เป็นตุ่มเหมือนหอยคันกัด คันมากแต่เป็นๆหายๆ เคยปวดชาแขนขาด้านซ้าย แต่หลังจากที่ไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯก็ทำให้หายไปแล้ว เคยปวดที่ส้นเท้า เพราะเคยเหยียบเหรียญที่มีในหลวงด้วย บาปที่ทำกับแม่ด้วย แต่ตอนนี้หายแล้ว เพราะบุญจากบ้านสวนฯ เป็นความดันสูงก็เป็นๆหายๆ
ศีลข้อ 2 ตอนเป็นเด็กเคยขโมยเงินแม่ ของพี่ด้วย ไปซื้อขนมกิน เคยขโมยรวงข้าวนาคนอื่น ขโมยน้อยหน่าคนอื่น ชอบของฟรี เคยกินอาหารที่วัดและเอากลับบ้าน เคยเดินผ่านสวนที่เค้าห้ามเข้า เคยอู้งานที่ไปทำงานรายวันที่หมู่บ้าน
ผลกรรมที่ได้รับคือ เคยยากจนมาก เคยมีชีวิตที่ไม่ลาบลื่น ติดขัดทุกอย่าง แต่พอได้มารู้จักบ้านสวนพีระมิด ชีวิตก็ดีขึ้นทุกอย่าง
ศีลข้อ 3 เคยชิงสุกก่อนห่าม ผิดสามีคนอื่น ดูหนังสือโป๋ ดูหนังโป๊ เคยหมกมุ่นในกาม
ผลกรรมที่ได้รับคือ ปัสสะวะติดขัด เคยเป็นตกขาว คันตา ลูกเคยทำเรื่องให้ร้อนใจ ทุกข์ทรมานใจ
ศีลข้อ 4 เคยโกหกนินทา พูดจาส่อเสียด เพ้อเจ้อ ไร้สาระ พูดจาลามปาม เถียงผู้ใหญ่ ต่อปากต่อคำ พูดให้คนอื่นเสียใจ เคยเถียงแม่ 1 ครรั้ง
ผลกรรมที่ได้รับคือ เคยปวดฟัน ฟันเป็นแมง เจ็บคอ ลิ้นเป็นแผล ปากเปื่อยแ
ศีลข้อ 5 เคยกินเหล้ากินเบียร์ เคยขายเหล้า เบียร์ บุหรี่สิบกว่าปี เคยเลี้ยงเหล้าเขา สนับสนุนให้เขากิน เคยจัดงานบุญหลายอย่างก็เลี้ยงเหล้าเขาทุกงาน
ผลกรรมที่ได้รับคือ เป็นโรคปวดหัว ความจำไม่ดี ขาดปัญญา
และมีอีกอย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าอยากขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิดคือ
เมื่อวันที่ 26/11/2555 ข้าพเจ้าได้ไปสร้างบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด ตอนนั้นอยู่กิจกรรมกลุ่มคุณแหล๋น เกี่ยวกับปลดล็อคกรรมผิวพรรณ ทุกคนจะคุยกันถึงเรื่องหน้าขาวขึ้นนะ ดูดีขึ้นนะ หูก็ฟังเขาไป จิตหนึ่งก็คิดขึ้นมาว่า ขาวนิดเดียวเอง คนที่อยู่นอกบ้านสวนขาวกว่าอีก จิตหนึ่งก็รีบคิดต่อต้านขึ้นมาว่า อย่าคิดอย่างนั้น มันเป็นบาป แต่มันก็คิดจนได้ และหลังจากนั้นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ก็เลยนึกขอขมาในใจ แต่ก็ไม่หาย ก็ยังคงปวดอยู่ ต่อมาได้ไปอยู่กลุ่มคุณอมร เกี่ยวกับกรรมปวดหัว พอจะไปดูงานที่จะทำ ก็หายปวดหัวทันที แต่พอกลับมาอยู่บ้าน ก็ปวดอีก เป็นๆ หายๆ น้ำหนักตัวก็ลดลง รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จึงคิดว่าจะเขียนขอขมา เพียงแค่คิดที่จะเขียนเท่านั้นเอง อาการปวดก็หายจนเกือบหมด ข้าพเจ้าไม่อยากคิด แต่มันห้ามจิตไม่ได้ ข้าพเจ้าอยากขอขมาเพราะรู้สึกสำนึก ในความผิดที่คิดไม่ดี เพราะจิตใจสำนึกจริงๆของข้าพเจ้าไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ข้าพเจ้าศรัทธาในพระพุทธเจ้าและท่านอาจารย์อุบลมาก ที่เป็นเช่นนั้น เพราะกิเลสมันหนาแน่นจนเกินไปนั่นเอง
ลูกกราบขอขมาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด ที่ลูกมีจิต
แว๊บล่วงเกินทุกๆพระองค์ ขอจงงดโทษล่วงเกินนั้นด้วยเถิด ลูกจะระวังจิตระวังความคิดให้มากขึ้น สาธุ
ขอถวายบุญนี้แด่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์และท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว
ขออุทิศบุญนี้แก่ พ่อสอน แม่เต่ง โคมทอง และลูกที่ทำแท้งไป รวมถึง พ่อผ่อง แม่พลอย ทิมขาวประเสริฐ สาธุ
บ้านสวนพีระมิด
69 หมู่ 6 ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก 26110
ท่านใดสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่เว็บไซด์ www.baansuanpyramid.com
รายการคุยไปแจกไป (จานดำ)  ช่องสตาร์แชนแนล (ช่อง 48 MV STAR) วันอาทิตย์เวลา 15:00-17:00น.
ออกอากาศซ้ำในคืนวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 00:00-02:00 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น กัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ <ตั๊ก> ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-18 14:23:21


ความคิดเห็นที่ 224 (1641629)

กราบขอขมา

ท่านอาจารย์อุบล

ที่ทำให้กระทู้มีปัญหา

และขออภัยคุณมาร์คที่ทำให้

ต้องตามแก้ไข

เพราะความโง่ของตัวเอง

ที่ไปคัดลอกมาจากเวิลด์

กราบขอขมาและจะไม่ทำอีกตลอดไป

ลูกเวียนหัวบ้านหมุนมาแทบแย่

ทุเลาลงเมื่อคุณแมวเมตตาบอก

กรรมที่สร้างปัญหา

ขอบคุณ คุณแมวมากอย่าง

ที่ช่วยชีิวิตอีกครั้งหนึ่ง

กราบพระบาทขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกพระองค์ในบ้านสวนพีระมิด

ด้วยค่ะ กราบ กราบ กราบ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 17:05:14


ความคิดเห็นที่ 225 (1641771)

จากคนป่วยบ่อย กลับแข็งแรงได้โดย ไม่ต้องกินยา หาหมอ

ข้าพเจ้านางสมรัก เปล่งเจริญศิริชัย ชื่อเล่น บุ๋ม อายุ 46  ปี  จบการศึกษาปริญญาโท ปัจจุบันปฏิบัติงานตำแหน่งบรรณารักษ์ สังกัด สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

ก่อนที่จะได้มารู้จักอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด  เคยเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่เป็นประจำ ที่เป็นมากคือ อาการปวดหลัง เป็นมา  3  ปี เคยไปรักษากับหมอ หมอให้ทานยา และทำกายภาพบำบัด  เคยไปนวด  แต่ก็ยังไม่หาย เป็นมากจนบางครั้งปวดจนร้องไห้ นอนท่าไหนก็ปวด ขยับเปลี่ยนท่าแล้วก็ยังปวด เปลี่ยนที่นอน ก็ยังปวด นั่งที่ทำงานก็นั่งไม่ได้ บางครั้งที่ทำงาน ปวดมากต้องปูกระดาษที่พื้นแล้วลงไปนอนคว่ำ ให้น้องที่ทำงานกดนวดให้ ก็ยังปวด บางครั้งปวดจนเดินขาลาก

จนได้รับคำแนะนำจากอาจารย์เบญจรัตน์ สีทองสุก ให้ดูรายการคุยไปแจกไป  และดูเว็บไซต์บ้านสวนพีระมิด  แล้วได้มีโอกาสมาบ้านสวนพีระมิดครั้งแรก กับอาจารย์เบญจรัตน์ ครั้งแรกได้มาทำบุญแรงกายคือขุดดินที่บ่อน้ำพีระมิด และขุดดินในหลุมส้วม แล้วนำไปกองข้าง ๆ  ครั้งแรกก็แปลกใจมากว่าทำไมเราทำงานแบบนี้ไหว โดยตอนทำงานก็เหนื่อยอยู่บ้าง  แต่ก็ทำไหวมีแรงทำ  เพราะปกติเดินขึ้นบันได หรือเดินธรรมดา ก็เหมือนจะไม่มีแรง ยิ่งพอกลับถึงบ้านยิ่งแปลกใจว่าเราทำงานขนาดนี้ทำไมเรากลับไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ไม่เมื่อย ไม่ปวดขา แล้วก็ไม่รู้ว่าอาการปวดหลังหายไปตั้งแต่เมื่อไร  แต่ในบางครั้งยังมีอาการปวดอยู่บ้าง แต่เพียงเล็กน้อย จึงได้เล่าให้เพื่อน ๆ ที่ทำงานและหลาน ๆ  ฟัง หลังจากนั้นก็ได้ดูรายการคุยไปแจกไป โมทนาหน้าจอบ้าง อ่านคู่มือหนีกรรมผิดพรรณ ดูเว็บไซต์บ้านสวนพีระมิด  อ่านเอกสารที่อาจารย์เบญจรัตน์  รวบรวมจากเว็บไซต์บ้านสวนพีระมิด และนำมาเผยแพร่ ได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  ได้มาบ้านสวนพีระมิดเพื่อทำบุญใช้แรงกายและทำบุญอื่นๆ อีก 3 ครั้ง  รู้สึกว่าเรามีแต่สิ่งดี ๆ  เช่น เรามีสุขภาพร่างกายดีขึ้น  อารมณ์ขี้น้อยใจลดลงได้มาก การเงินคล่องตัว  ได้พบแต่กัลยาณมิตร ทำอะไรก็ได้รับความสะดวก  การงานก็ราบรื่น  ได้ทำบุญกุศลมากขึ้น  สำนึกบาปได้มากขึ้น พิจารณาตนเองได้ละเอียดขึ้น  รู้และเข้าใจในการรักษาศีลมากขึ้น รู้จักยับยั้งชั่งใจมากขึ้น
รู้สึกตนเองในเรื่องสุขภาพว่าดีขึ้นอย่างมาก ผู้คนรอบข้าง เช่นเพื่อนร่วมงาน และญาติต่างก็รู้ เพราะปกติป่วยบ่อย เช่น ปวดท้อง  ปวดฟัน ร้อนในเป็นไข้ ถ่ายท้อง ปวดเวียนศีรษะ  เป็นไข้หวัด ทำให้ลาป่วยเป็นประจำ  มีอยู่วันหนึ่งถึงเพิ่งรู้ซึ้งถึงความมหัศจรรย์อย่างลึกเข้าไปในใจเพราะไปเช็ดทำความสะอาดเตาแก็ส แล้วโดนข่วนจากขอบอลูมิเนียม  เป็นแผลนิดหน่อย  และตุ่มคันที่แขน 1 ตุ่มไม่แน่ใจว่าโดนแมลงหรือโดนอะไร ทำให้สำนึกได้ว่าที่ผ่านมาหลายเดือนนี้เราไม่เคยเป็นอะไรเลย แม้แต่แผลเล็กน้อย ตุ่มคัน  เป็นหวัด  ไอ หรือปวดขาที่เคยเป็นอยู่ประจำ ทำให้เรารู้สึกว่าเรานี้เลวมาก เราไม่ได้สำนึกขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์  และอาจารย์อุบล อย่างแท้จริง  ในสิ่งที่เราพบเจอและได้สัมผัสจึงได้กราบขอขมาและขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อรูปอาจารย์อุบล ที่อาจารย์เบญจรัตน์ มอบให้เมื่อเทศกาลปีใหม่ ลูกสำนึกแล้วว่าสิ่งนี้มหัศจรรย์ขนาดไหน ไม่ประสบด้วยตนเองจะไม่รู้ซึ้ง  ลูกมีชีวิตที่ดีขึ้นทุกด้าน เพราะได้รับพระเมตตาบารมีจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระศรีอริยเมตไตร  หลวงปู่ปาน  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด  อาจารย์อุบลและครอบครัว สาธุ สาธุ  สาธุ

ด้วยพระเมตตาบารมี ทำให้ลูกสำนึกได้ว่า ที่มีอาการป่วยบ่อย ๆ เช่น อาการปวดหลัง และอาการป่วยอื่น ๆ  เพราะเคยผิดศีลข้อ 1 คือทำกรรมดังนี้ เคยตีงู ปิดประตูโดยงูที่อยู่ในร่องประตูเหล็ก  ปิดประตูหนีบจิ้งจกตาย  ตีวัว ตีหมู ตีเตะสุนัข  เตะแมว ใช้ไม้/ก้อนหิน ขว้าง/ตี ไก่ เป็ด ห่าน  เชือดคอไก่  ใช้หนังสติ๊กยิงนก  ทุบปลา ใช้เบ็ดเกี่ยวกุ้งเป็นๆ และแมลงแกลบที่เป็น ๆ เพื่อตกปลา เคยเตะโดนกิ้งกือ  ขุดดินโดนไส้เดือนฆ่าสัตว์ และแมลงต่าง ๆ เช่น มด ยุง แมลงปอ  แมงมุม หอย  ปู  กุ้ง  และเคยล่วงเกินต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ล่วงเกินต่อพระราชวงศ์  ล่วงเกินต่อผู้มีพระคุณ เช่น ใช้เท้าเหยียบเหรียญพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขัดกับทรายให้เหรียญขาวขึ้น นอนหันเท้า ยกเท้าไปทางพระพุทธรูป  หนังสือที่มีภาพพระและพระเจ้าอยู่หัว  เหยียบและนวดหลังให้พ่อ แม่ อาม่า โดยไม่ขอขมา และทำแบบไม่ตั้งใจทำให้ ทำให้เสร็จ ๆ ไป แบบเบื่อๆ บ่นว่าเมื่อไรจะให้เลิกทำเสียที

ส่วนในเรื่อง ที่ใบหน้าเคยเป็นฝ้ากระมาก ก็ดีขึ้น เพราะสำนึกได้ว่า ตนเองเป็นคนร้ายกาจ เพราะ คิดไม่ดีและนินทาพระสงฆ์และพระราชวงศ์  เคยโกรธไม่พอใจ อาฆาตแค้น  คิดไม่ดี มีอารมณ์น้อยใจ  อิจฉาริษยา นินทาว่าร้าย   สาปแช่งคน  ด่าว่าคนและสัตว์  ทำสถานที่สาธารณะต่าง ๆ สกปรก  ใช้ห้องน้ำแล้วไม่ช่วยรักษาความสะอาด  เห็นขยะเลอะเทอะไม่ช่วยเก็บ  เช่น ที่วัด  ที่ทำงาน ที่สวนสาธารณะ เป็นต้น

แต่ตนเองยังเลวอยู่มากทำให้ใบหน้ายังมีฝ้ากระอยู่บ้าง  เพราะรู้ถึงเหตุและผลแล้ว แต่ยังไม่สามารถ ละอารมณ์โกรธ อารมณ์ไม่พอใจ การเอาแต่ใจตนเอง  การมีทิฐิมานะสูง โดยเฉพาะกับสามี  และการเป็นคนขี้เกียจ งานบ้านไม่ค่อยทำ ไม่จัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

ส่วนเรื่องที่เคยเป็นปัญหามาก คือ การเงินไม่คล่องตัว  มีผู้ยืมเงินแล้วไม่คืน ถูกขโมยเงิน มาบัดนี้สำนึกได้แล้วค่ะ เพราะผิดศีลข้อ 2   เคยนำของหลวงกลับบ้าน เช่น ปากกา กระดาษ ซอง แสตมป์  นำเงินส่วนกลางไปใช้ในเรื่องส่วนตัว เบิกเงินตามสิทธิ์ไม่ใช่ตามจริง  ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ของราชการทำงานส่วนตัว ใช้เวลาราชการในเรื่องส่วนตัว  มาทำงานสายแต่กลับก่อนเวลา   เคยนำอาหารจากวัดกลับบ้าน ใช้น้ำใช้ไฟไม่ประหยัดเมื่อไปพักตามโรงแรมเพราะคิดว่าเราเสียเงินแล้วใช้ให้คุ้ม เคยขโมยขนมจากร้านค้า  เคยชอบของฟรี  เคยเด็ดดอกไม้ ต้นไม้ และพืชผักต่างๆ และหยิบของของผู้อื่นไปใช้ไปเป็นส่วนตัว โดยไม่ได้รับอนุญาต มาบัดนี้ลูกสำนึกแล้วและตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่กระทำผิดอีก ด้วยพระเมตตาบารมีจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระศรีอริยเมตไตร  หลวงปู่ปาน  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงซ์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด  อาจารย์อุบลและครอบครัว และจากการไปร่วมทำบุญใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด  การชมบารมีพระศรีอาริย์ที่อาจารย์อุบลอัญเชิญมา   การสวดคาถาพระศรีอาริย์มากกว่าวันละ 99 จบทำให้การเงินคล่องตัวอย่างเห็นได้ชัดเจนมากต้องปฏิบัติเอง สัมผัสเองแล้วจะรู้ถึงความมหัศจรรย์ด้วยตนเอง

ลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์ และอาจารย์อุบลที่ทำให้ลูกสำนึกได้ทำให้ลูกได้รับสิ่งดี ๆ กับชีวิตทุกด้าน และลูกขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ และพระศรีอาริยเมตไตร ลูกขอเบิกบุญทาน ศีล ภาวนา ที่ได้ทำมาตั้งแต่ชาติต้นจนถึงปัจจุบัน อุทิศถวายแด่เทวดารักษาตัวอาจารย์อุบล  อาจารย์อุบลอาจารย์มงคล  และคุณท็อป ด้วยเทอญ สาธุ
(ขอขอบคุณอาจารย์เบญจรัตน์  สีทองสุก ที่คอยแนะคอยเตือน ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน มาในทางบุญกุศล และทำให้ได้พบแต่สิ่งดี ๆ รวมทั้งการติดตามผลและการเป็นธุระในการโพสธรรมทานให้)

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 11:04:00


ความคิดเห็นที่ 226 (1642312)

 สารภาพ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-24 07:11:33


ความคิดเห็นที่ 227 (1643921)

ชื่อ: นางสาววินิตา สุทธิวรา ชื่อเล่น: ก้อย

อายุ: 32 ปี

การศึกษา: ประกาศนียบีตรวิชาชีพชั้นสูง

สาขา: การตลาด จากกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย

อาชีพ: พนักงานบริษัทเอกชน

ตำแหน่ง: พนักงานขาย / บริษัท จ๊อบเซิร์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด

โทร: 085-484-9725, 088-227-5299      

ผลกรรมของการเป็น  "กิ๊ก"
(ซึ่งบางครั้งก็ไม่เกี่ยวกับรูปร่าง และหน้าตานะคะ อิอิอิ)

เริ่มจากการรู้จักผู้ชายคนหนึ่ง เขามีภรรยา และมีลูกสาวเล็ก ๆ  1 คน  เขาอยู่หมู่บ้านเดียวกับพี่ชาย เวลาไปหาพี่ชาย เขาจะอาสาไปส่งที่บ้านทุกครั้ง จนกระทั่งเริ่มชอบพอกันทั้ง ๆ ที่เราก็รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว แต่ก็ไม่สนใจ ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของลูกเมียเขา คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขามาชอบเราเอง นาน ๆ เข้า เขาเริ่มมารับส่งไปทำงาน และกลับบ้านทุกวัน และก็พาไปกินข้าว ซื้อของ ใช้เวลาอยู่กับเรามากขึ้น ตอนนั้นพอใจในชีวิตแบบนี้ ถึงจะต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ บ้าง แต่ก็สบายดี มีรถรับส่งฟรี ชอบของฟรี กินฟรี แค่นี้ก็มีความสุขพอแล้ว จนกระทั่งครอบครัวเขาเริ่มมีปัญหา เขาเริ่มที่จะขอหย่ากับภรรยาของเขา ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการของเรา เพราะที่จริงแล้วเราไม่ได้รักเขาเลย ไม่ต้องการที่จะมีครอบครัวกับเขา เราชอบความสบายที่เขามีให้มากกว่าเท่านั้น 

เราเลยตัดสินใจบอกเลิกกับเขา ทำให้เขาต้องเสียใจทุกข์ใจ โดยเราไม่ได้ทุกข์ร้อน หรือรู้สึกผิดไปกับเหตุการณ์นี้เลย

ผ่านมา 2-3 ปี ก็ได้รู้จักกับผู้ชายอีกคน คนนี้มีแฟนแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน เราเลยเสนอตัวเป็น "กิ๊ก" เขาก็ยอมรับแต่โดยดี ชีวิตเหมือนย้อนกลับไปสู่วังวนเดิม คือ มีคนคอยรับส่งฟรี กินเที่ยวฟรีทุกวัน ถึงจะต้องมีเพศสัมพันธ์กัน ก็คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหาย เพราะเขายังไม่แต่งงาน และเราก็อายุเกิน 20 ปี ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว

แค่การเป็น"กิ๊ก" แต่ต้องได้รับผลกรรมจากการผิดศีลทุกข้อ คือ

ข้อ 1 ฆ่าสัตว์: ถึงไม่ได้ลงมือฆ่า แต่ก็ขาดความเมตตา ทำให้ภรรยาและลูกเขาต้องเสียใจ
ทำให้เราไม่สมหวังในความรัก ถูกผู้ชายคนอื่นอกหัก ต้องเสียใจ ทุกข์ใจ ครอบครัวทะเลาะเบาะแว้ง

ข้อ 2 ลักทรัพย์: เพราะเราชอบของฟรี ชอบกินฟรี ใช้เล่ห์กลให้เขาเสียทรัพย์ 
ทำให้เราขาดสภาพคล่องทางการเงิน หนี้สินมากมาย

ข้อ 3 ประพฤติผิดในกาม: เป็นชู้
ทำให้ลูกน้องหลายคนที่ทำงานไม่ค่อยเชื่อฟัง นินทาใส่ร้าย คิดไม่ดีกับเรา แอบแทงข้างหลัง 

ข้อ 4 โกหก: ใช้คำพูดหว่านล้อมให้เขาเสียทรัพย์ บางครั้งพยายามพูดกดดันให้เขาทิ้งแฟนมาหาเรา
ทำให้เรามีปัญหาที่ปาก และฟันผิดรูป ฟันผุ ถูกคนหลอกลวง ไม่ค่อยมีคนเชื่อถือ

ข้อ 5 การดื่มสุรา: ทุกเย็นหลังเลิกงานจะพากันไปกินเที่ยว ทั้งเหล้า เบียร์
ทำให้ความจำเลอะเลือน หลงลืมง่าย

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว แห่งบ้านสวนพีระมิด ที่นำหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ให้ก้อยได้สำนึกและหยุดกรรมของตัวเอง และทำให้ชีวิตดีขี้นแทบทุกด้าน ครอบครัวมีความสุข มีสภาพคล่องทางการเงิน เงินเเดือนขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น มีหนทางการปลดหนี้ มีลูกน้องที่เคารพและเชื่อฟังมากขึ้น และเป็นที่รักของเจ้านาย ปัญหาสุขภาพช่องปากดีขึ้น ความจำดีขึ้น ไม่หลงลืมเหมือนเมื่อก่อนค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-07 18:32:05


ความคิดเห็นที่ 228 (1643981)

 

ข้าพเจ้าชื่อ ณัฐากาญจน์ จันทรเตมีย์ ขอสารภาพบาปค่ะ

ศีลข้อ 1

เนื่องด้วยครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ เคยทำอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงไก่ และ ฆ่าไก่ขาย ส่งตลาดและร้านค้า ข้าพเจ้าเห็นสิ่งนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว รู้สึกไม่ดีแต่เป็นอาชีพที่เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงตัวข้าพเจ้าเอง ให้การศึกษา  รวมทั้งครอบครัวเป็นเจ้ามือหวยใต้ดินแบบยี่ปั้วส่งให้เจ้ามือหวยใหญ่ต่ออีกทอด ยิ่งทำให้ผิดทั้งศีลข้อ 1 และ ผิดอบายมุขด้วย แต่ปัจจุบันคุณพ่อได้หยุดอาชีพทั้งหมดมา 10 ปี แล้ว ปัจจุบันมาทำอพาร์ทเม้นท์และบ้านให้เช่า ส่วนตัวของข้าพเจ้าเองได้ฆ่ามดเป็นจำนวนมากเนื่องด้วยทำอาหารในครัว หลังจากเช็ดกวาดเรียบร้อยแล้ว ซักพักจะมีมดจำนวนมากมา ข้าพเจ้าก็นำผ้าเปียกเช็ดแล้วนำผ้าไปล้างน้ำทันที เจตนาคือต้องการฆ่ามดเหล่านั้นจริงๆค่ะ ข้าพเจ้าเคยตีหมากลางหลังเพราะจะมากัดหมาที่เลี้ยงไว้ห้ามด้วยเสียงแล้วไม่หยุดจึงตีลงไปกลางหลังอย่างแรง ข้าพเจ้าเคยตีแม่แมวและลูกแมวเนื่องจากข้างบ้านเลี้ยงไว้แต่แม่แมวมักพาลูกมาอึ และเล่นบริเวณบ้านทำให้ข้าพเจ้าโกรธมากหาทางกำจัด วันหนึ่งลูกแมว 4-5 ตัวเดินผ่านหลังบ้านตอนเช้าจึงรีบไปคว้าลูกแมวสีดำได้ 1 ตัว ลูกแมวรู้ว่าข้าพเจ้ามาด้วยเจตนาร้ายจึงกัดที่หลังมือ ข้าพเจ้าโกรธจึงนำไม้กวาดใบไม้มาตีที่หัวและปากให้หยุดกัด แม่แมวมาช่วย ข้าพเจ้าก็นำไม้กวาดมาตีแม่แมวเข้าที่หัวและตัว  แม่แมวหนีไปข้าพเจ้ารีบนำลูกแมวใส่ถุงขยะ แล้วขับรถนำไปปล่อยที่วัด ข้าพเจ้าเลวมากมาคิดได้หลังปล่อยลูกแมวไปแล้วถ้าหากเป็นลูกเราโดนคนอื่นทำแบบนั้นคงปวดร้าวใจมาก ข้าพเจ้าสำนึกผิดแต่สายไปเสียแล้ว ทุกวันนี้เห็นแม่แมวก็พยายามขอโทษแม่แมวและนึกในใจขอโทษลูกแมว ข้าพเจ้าพยายามขับรถไปดูที่วัดแต่ไม่เจอลูกแมว ข้าพเจ้าเลวมากจริงๆ ข้าพเจ้าเคยฆ่าไก่ 1 ตัวเพราะเป็นวิชาการเกษตรที่โรงเรียน ใจไม่อยากฆ่าเลยแต่คุณครูบอกว่าต้องทำทุกคน จึงรู้สึกผิดมาก ข้าพเจ้าตียุงตายเป็นจำนวนมากทั้งด้วยมือและไม้ตียุง ข้าพเจ้าเคยฆ่าจิ้งจกที่อยู่ในบ้านและเอาไปทิ้ง ข้าพเจ้าเคยฆ่าแมลงสาป ข้าพเจ้าเคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยอื่นอีกแต่จำชนิดสัตว์เหล่านั้นไม่ได้ เคยนึกสาปแช่งให้คนอื่นตาย ให้มีอันเป็นไป ข้าพเจ้าซื้อหอยแครง หอยลายมาอาหารและใส่ลงกะทะร้อนๆทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ เพื่อเป็นอาหารและไปกินข้าวร้านอาหารทะเล ทางร้านก็ต้องจับปลา ปู หอย อาหารทะเลเหล่านั้นมาทำตามที่เราสั่งเรานี่หนอใจบาปนัก

ส่งผลให้  เงินในครอบครัวไม่มีเงินเหลือเก็บได้เงินมามีอันต้องใช้จ่ายออกไป หลังจากหยุดทั้งสองอาชีพ ครอบครัวมีความสุขขึ้น มีเงินเหลือเก็บและคุณพ่อเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมตาข้างซ้ายมองเห็นไม่ชัด คุณแม่เป็นโรคเบาหวาน และเคยเป็นมะเร็งเต้านมแต่ได้รับการรักษาให้หายแล้วแต่ต้องติดตามเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากได้ฆ่าไก่มาเป็นจำนวนมากและเล่นอบายมุขด้วย ปัจจุบันพ่อและแม่หยุดทั้งสองอาชีพแล้วแต่พ่อยังมักเล่นหวยอยู่ และสลากออกสินด้วย จะพยายามเตือนพ่อให้หยุดเล่นหวยต่อไปค่ะ ส่วนคุณแม่ขาทั้งสองข้างเดินนานๆ ไม่ได้ หากเดินบ่อยๆจะเจ็บ เพราะคุณแม่มักใช้ขาแทนมือ เปิดปิดพัดลม หยิบสิ่งของ จึงบอกแม่ให้หยุดทำและใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

เนื่องด้วยการข้าพเจ้าตีหลังหมาและแมวทำให้มีอาการปวดกลางหลัง หลังจากสารภาพบาปกับองค์จี้สฟิงซ์และใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยทำให้อาการดีขึ้นมากค่ะ ข้าพเจ้าจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ

ศิลข้อ 2

ข้าพเจ้าเคยขโมยเงินในลิ้นชักที่คุณพ่อคุณแม่เก็บจากลูกค้า ร้านค้าที่ซื้อไก่ ครั้งละ 100 บ้าง 500 บ้างแล้วนำไปซื้อของ ข้าพเจ้าเคยนำของจากที่ทำงานกลับบ้านมาเป็นของตัวเอง ใช้กระดาษคอมพิวเตอร์พิมพ์งานส่วนตัว ชอบของฟรี นำอาหารของวัดกลับบ้าน ไปร่วมงานบวช งานทำบุญที่วัดแล้วเจ้าภาพให้นำอาหารกลับ รู้สึกดีใจที่ได้อาหารกลับโดยไม่รู้เลยว่าได้ถวายวัดไปแล้ว ข้าพเจ้าเคยขโมยของในห้างสรรพสินค้าเพราะคะนองอยากได้ของโดยไม่ต้องเสียเงิน นึกได้ตอนนี้ก็สายเสียแล้ว

ส่งผลให้  ข้าพเจ้าไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน เพราะได้ขโมยเงินพ่อแม่ ผู้มีพระคุณสูงสุดในชีวิตข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าได้สารภาพผิดกับพ่อแม่ได้ขอขมา ขออภัยเมื่อไม่นานมานี้หลังจากได้อ่านธรรมทานจาก www.baansuanpyramid.com เป็นบุญของข้าพเจ้ามากที่ทำให้รู้จักอ.อุบล จะได้หยุดสร้างกรรมชั่วและหมั่นสะสมกรรมดีไปเรื่อยๆค่ะ ปัจจุบันสภาพการเงินคล่องขึ้น จิตใจโล่ง สบาย ไม่ทุกร้อนเรื่องการเงินอีก

ศีลข้อ 3

ข้าพเจ้าเคยมีกิ๊กระหว่างที่มีแฟนอยู่ เป็นกิ๊กกับรุ่นพี่ที่ทำงานโดยชอบพอกันเพราะทำงานใกล้ชิดกัน เวลาดูหนังต้องดูเรื่องเดียวกัน 2 รอบ เป็นทุกข์ตั้งแต่ได้ดูแล้วว่าทำไมต้องดูตั้ง 2 รอบ ข้าพเจ้าโชคดีที่ไม่ได้ทำผิดมีสัมพันธ์กันลึกซึ้ง แต่กับแฟนก็ไม่ได้มีสัมพันธ์กันลึกซึ้งก่อนแต่งงาน เพราะทุกครั้งที่จะทำผิดหน้าของพ่อแม่จะลอยมาอยู่ตลอดเวลา ข้าพเจ้าเคยแอบชอบพี่ที่ทำงานข้างเดียวและพี่ที่เรียนที่มหาวิทยาลัยในขณะที่มีแฟนอยู่ และ เคยชอบพอกับรุ่นน้องที่ทำงานเพราะน้องคุยเก่งและพูดภาษาอังกฤษเก่งมากจึงให้น้องช่วยฝึกด้วยการนั่งรถไปทำงานด้วยกัน จนใจเริ่มคิดแอบชอบน้อง น้องก็คงรู้สึกดีกับเรา  จนสุดท้ายน้องก็เดินทางไปทำงานเอง และ ความรู้สึกก็ค่อยๆเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกผิดต่อแฟนก็ยังมีตลอดเวลาจนปัจจุบัน

ส่งผลให้ ในเวลาต่อมาแฟนได้มีกิ๊กบ้าง แต่แฟนเล่าให้ฟังทุกอย่างเพราะแฟนบอกไม่อยากปิดบังแต่มันเจ็บจี๊ดในใจมาก รู้ได้เลยว่ากรรมที่เคยทำไว้กับแฟนได้ส่งผลแล้ว

ศีลข้อ 4

ข้าพเจ้าทำผิดบ่อยมากๆ ทั้งทางมโนกรรมและวจีกรรม ข้าพเจ้าเคยพูดจานินทา ส่อเสียด ยุแหย่ให้ทั้งเพื่อน พี่ น้อง ให้รู้สึกไม่ดีกับคนที่ข้าพเจ้าไม่ชอบ ทั้งทางคำพูดและทางสายตา เวลามีใครพูดจาที่เราไม่ชอบหากตอบโต้ไม่ได้จะค้อน ใช้สายตาจิก ด่า ต่อว่า ข้าพเจ้าพูดจายุแหย่ให้สามีไม่ชอบพฤติกรรมที่ทางพ่อ แม่ น้องพ่อ พี่พ่อ ครอบครัวสามีกระทำ บอกว่าไม่ยุติธรรม ไม่ถูกต้องที่ทำแบบนี้ พร้อมนินทาที่บ้านสามีให้เพื่อน คนรู้จัก พ่อแม่ของข้าพเจ้าฟัง ข้าพเจ้าเคยขายสินค้ามียี่ห้อแต่ไม่ใช่ของแท้หลอกลูกค้าว่าเป็นของแท้ นำเข้าจากญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ เพราะกลัวลูกค้าไม่ซื้อ ข้าพเจ้าเคยพูดและคิดไม่ดีกับราชวงศ์ วิจารณ์ในทางไม่ดี ข้าพเจ้าพูดจา ยุแหย่ ให้คนที่บ้านไม่ชอบน้องสาวซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ทำไม่ถูกใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขี้โมโห โกรธง่ายเมื่อน้องสาวไม่ทำในสิ่งที่ข้าพเจ้าบอกซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ข้าพเจ้ามีมโนกรรมไม่ดีกับน้าชายจึงมักพูดจานินทาให้น้องสาว พ่อแม่ คิดไม่ดีกับน้าชาย ข้าพเจ้าโกรธที่เพื่อนบ้านเลี้ยงแมวให้อาหารแต่ไม่รับผิดชอบให้ที่อยู่อาศัยทำให้แม่แมวและลูกแมวต้องอึ ขับถ่าย นอน ที่บ้านอื่นสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก และ นินทา ตำหนิ คุณป้าคนนั้นให้สามี ลูกๆ เพื่อนบ้านฟัง

ส่งผลให้  ข้าพเจ้า เจ็บคอบ่อยมาก สายตาสั้น มีผื่นแห้ง หากเกาเป็นแผลมีเลือดออกที่ปลายมือและที่เท้า การวิจารณ์ทำให้มีกลิ่นปาก ยิ่งคุณพ่อจะมีกลิ่นปากเพราะนินทา วิจารณ์เพื่อนบ้าน ราชวงศ์อยู่ค่ะ แต่เนื่องด้วยคุณพ่ออยู่ต่างจังหวัด หากได้เจอกันจะมีการบอกคุณพ่อบ่อยๆในเรื่องนี้ค่ะ แต่หลังจากได้แนะนำคุณพ่อเกี่ยวกับอาจารย์อุบล ให้สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน และไม่นินทาใคร เมื่อนึกได้ก็ให้หยุด ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ใส่บาตรวิรัทโยและสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน ความโกรธง่ายของข้าพเจ้าทำให้มีสิวง่าย หน้าตาไม่สวยค่ะไม่มีเพื่อนสนิทค่ะ

ศีลข้อ 5

ข้าพเจ้าเคยดื่มเบียร์ ไวน์ เหล้า ในงานสังสรรค์ ดื่มไวน์ตอนอยู่บ้าน แต่ไม่บ่อยนัก และ ปัจจุบันไม่ได้ดื่มแล้วแต่คุณพ่อชอบงานสังสรรค์เพื่อนฝูงมากซึ่งได้เตือนคุณพ่อแล้วแต่เกรงใจเพื่อน ข้าพเจ้าจะพยายามเตือนคุณพ่อต่อไปค่ะ

ส่งผลให้ ขาดสติและปวดหัว และคุณพ่อเป็นจอประสาทตาเสื่อมค่ะ

กรรมหนักยิ่งคือ ข้าพเจ้าได้เข้าค่าย 13 และอาจารย์เน้นย้ำว่าต้องไปเขียนธรรมทานและไม่ใช่เขียนแบบนิดเดียวหรือแก้บน จึงตั้งใจว่ากลับไปต้องเขียนแบบเยอะๆ ระหว่างอาจารย์บรรยาย ให้แต่ละกลุ่มต่างๆที่ขึ้นไปพูดจะตั้งใจฟังและจดเพื่อนำมาเขียนธรรมทาน และอาจารย์ได้มีบอกว่าบางสิ่งห้ามนำมาเขียน ณัฐากาญจน์ก็จดมาเลยว่าสิ่งนี้ห้ามเขียน แต่แล้วสิ่งที่ผิดพลาดก็เกิดขึ้น ณัฐากาญจน์ได้เขียนข้อความบางอย่างที่ไม่สมควรเขียนลงไปเพราะในที่ตัวเองจดมาไม่ได้บันทึกว่าเขียนไม่ได้  จึงได้เขียนข้อความนั้นและได้กดส่งข้อความนั้นไป และเมื่อได้อ่านทบทวนยังมีบางอย่างที่ต้องแก้ไขจึงกลับมาแก้ และกดส่งอีกครั้ง ปรากฏว่าข้อความที่ไม่ได้แก้หายไปด้วยอย่างน่ามหัศจรรย์ จึงได้เอะใจว่าเราได้ส่งข้อความที่ไม่สมควรไปแล้ว แต่คิดว่าไม่เป็นไรข้อความนั้นได้ถูกลบไปแล้วนี่ แต่เมื่อได้กลับไปทบทวนข้อความที่ตัวเองได้เขียนไปยังมีบางข้อความที่ไม่ควรเขียนไปจริงๆ (ตอนนี้ได้แก้ไขและลบข้อความที่ไม่สมควรเขียนแล้ว)ซึ่งด้วยอายุขนาดนี้ โต มีครอบครัวแล้วน่าจะมีความคิดได้ว่าสิ่งใดควรเขียนสิ่งใดไม่ควรเขียน คิดถึงแต่ตัวเอง โง่ อวดรู้ อวดมาก อวดเก่ง ไม่นึกถึงผลกระทบ ความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ทั้งๆที่ท่านอาจารย์ได้เตือนไว้แล้ว

ผลกรรมที่ได้รับ  กว่าจะรู้ตัวว่าได้ทำผิดมหันต์มาก ทำผิดกฏบ้านสวนที่ว่าห้ามเขียนบางอย่างที่ไม่อนุญาติให้เขียนก็ล่วงมา 2 เดือนแล้ว นับจากวันที่ 8 ตุลาคม 2555 จนถึงวันนี้วันพ่อแห่งชาติ ตอนนี้ มีความทุกข์ใจมาก ขณะคิด ใจกระวนกระวาย รู้สึกผิดมหันต์  ปวดหัว คันตามเนื้อตัว ปวดแขน ปลายนิ้วมือนิ้วเท้าแห้งเป็นแผล ปวดเข่าด้านซ้าย สำนึกผิดได้เพราะคำสอนของพี่แมวซึ่งได้โทรไปสอบถามการไปบ้านสวนวันที่ 8-9 ธันวาคม 2555 พี่แมวได้บอกเตือนสติอย่างแรงและตรงมากจนสำนึกผิดคิดได้ว่าได้ทำผิดต่ออาจารย์อุบลอย่างใหญ่หลวง หนูกราบขอขมาแทบเท้าอาจารย์อุบลที่ได้ล่วงเกินอาจารย์ ไม่ปฏิบัติตามที่อาจารย์ได้บอก ทั้งๆที่ตอนเขียนไปใน 3-4 บรรทัดนั้นตัวเองก็ไม่มั่นใจว่าเขียนได้หรือไม่ แต่เนื่องจากไม่ได้จดไว้ว่าห้ามเขียน จึงคิดว่าน่าจะเขียนได้ ซึ่งจริงๆหากไม่มั่นใจในสิ่งใดก็ไม่ควรนำมาเขียนเลย  เป็นผลให้ทุกข์ใจอย่างแสนสาหัสที่ทำผิดใหญ่หลวงต่ออาจารย์อุบลที่หนูเคารพรัก บูชาเป็นอย่างยิ่ง หนูขอโทษ ขออภัย และ กราบขอขมาอาจารย์เป็นอย่างยิ่งค่ะ ขอท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลโปรดให้อภัยให้หนูและครอบครัวหนูด้วยค่ะ เพราะหนูย้อนกลับไปอ่านทำให้ทราบว่าจะมีผลอันตรายถึงตัวหนูเองและครอบครัวหนูด้วย หนูกราบขอขมาแทบเท้าท่านอาจารย์อุบลในความโง่เขลา ความเลว อวดรู้มากของหนูด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐากาญจน์ จันทรเตมีย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-08 13:46:24


ความคิดเห็นที่ 229 (1645515)

ธรรมทานชีวิตของข้าพเจ้า นางสาววรางคณา พุฒศรี   (มะเหมียว) อายุ 23 ปี  

จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  คณะวิทยาศาสตร์

สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์      

ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ หน่วยจริยธรรมการวิจัยที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระบบคอมพิวเตอร์

  - - - - - - - - -

ขอเสนอเรื่อง มองอะไรก็ไม่ชัด

เมื่อตอนสมัยเรียนมัธยมต้น ตอนนั้นจำได้ว่า พวกคลิปโป้ มาแรงและระบาดมากๆในหมู่นักเรียน เพื่อนผู้ชายต่างก็ต้องมีโหลดเ้ก็บไว้ใน MP4 สมัยนั้นโทรศัพท์มือถือยังไม่ค่อยพัฒนาถึงขึ้นใส่ไฟล์วีดีโอได้ พอเพื่อนคนหนึ่งมี ต่างก็มารุมดูกันด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดาตามประสาเด็กๆ แต่มันก็ไม่เท่าแต่ผู้ชายเด็กๆผู้หญิงก็เป็นไปกับเค้าด้วย ตัวเหมียวเองก็รวมอยู่ในการมุงดูกับเค้าด้วยเหมือนกันค่ะ นี้เป็นจุดเริ่มต้นครั้งแรกของการดูคลิปโป้ แม้จะมุงดูแบบไม่ชัดก็ตาม ก็ถือว่าดูเหมือนกันค่ะ วีรกรรมก็ไม่ได้ดูคลิปอย่างเดียว เวลาเปิดอินเตอร์เน็ต เห็นภาพโป้ ก็ชอบดูโดยเฉพาะภาพผู้หญิงนะค่ะ ภาพผู้ชายไม่ชอบดู เวลาที่บ้านร้องเพลงคาราโอเกะ ซึ่งเพลงสมัยก่อน มิวสิกวีดีโอจะเป็น ผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำบ้าง เปลือยครึ่งตัวบ้างเราก็นั่งดูด้วยค่ะ อ้อแล้วเวลาเดินไปไหนมาไหนเวลาเห็นผู้หญิงแต่งตัวสวยๆกระโปรงสั้นๆก็ยังชอบมองไม่รู้เป็นอะไร เรื่องราวการมองสิ่งที่ไม่ควรมองทำให้มีปัญหาทางด้านสายตา ทำให้สายตาสั้น สายตาเอียง ตาสู้แสงแรงๆไม่ค่ิอยได้ เมื่อก่อนถ้าไม่ใส่แว่นตาก็จะสามารถทำนู๋ทำนี้ได้ ไปไหนมาไหน แต่เดี๋ยวนี้ ต้องใส่แว่นสายตาตลอดหรือไม่ก็คอนแทคเลนส์ตลอดค่ะ ไม่งั้นก็จะมองไม่ชัด รู้สึกขัดในมาก บางครั้งในดวงตาก็เหมือนมีจุดดำๆ ลอยอยู่ในตาเวลาเรามองออกไปค่ะ นี้คือกรรมที่ส่งผลโดยตรงกับการใช้สายตาไปในทาวที่ผิด เท่านี้ยังไม่พอตอนเด็กๆ ยังชอบทำตาค้อนใส่พ่อแม่ ใส่เพื่อนๆ เวลาใครทำอะไรให้ไม่พอใจก็จะทำตาใส่เหมือนจะติดเป็นนิสัยของเด็กในห้องตอนเรียนอยู่ชั้นประถม ชอบทำตาไม่พอใจใส่กัน อะไรประมาณนั้นค่ะ พอตอนสมัยโต พอได้รู้จักพูดคุยกับผู้ชายที่เราถูกชะตาด้วย ก็ใช้สายตาหวานใส่เค้าบ้างอะไรบ้าง เวลาซื้อของอยากให้เค้าลดราคาก็จะให้สายตาในการอ้อนวอนพ่อค้าบ้างบางครั้งนะค่ะ ตอนเด็กๆจะใช้ตาแอบมองแม่อาบน้ำด้วยค่ะ ชั่วขนาดหนักเลย อ้ออีกอย่างใช้สายตาในการเล่นเกม ตอนอยู่ชั้นประถมจะติดเกมที่เป็นเกมตลับ กลับจากโรงเรียนก็ต้องเล่น เล่นจนไม่ยอมทำการบ้าน อ่านหนังสือ มีผลทำให้การเรียนย้ำแย่ด้วยค่ะ

นี้แหละค่ะ สิ่งที่ทำผิดกับการใช้สายตาก็ส่งผลให้บางคน สายตาสั้นบ้าง สายตาเอียงบ้าง สายตายาวบ้าง สายตาไม่เท่ากันบ้าง ตาสู้แสงไม่ได้บ้าง ตาเป็นต้อบ้าง ซึ่งเป็นผลจากการใช้สายตาในทางที่ผิดทั้งสิ้นค่ะ เพราะฉะนั้นตอนนี้ทราบแล้วรู้ทางสว่างแล้วว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราล้วนมีเหตุทั้งสิ้นค่ะ จึงเลิกคิดเลิกทำพฤติกรรมที่ผิดๆ ตั้งแต่ตอนนี้เถอะค่ะ ตอนนี้ตัวเหมียวเอง ก็มองอะไรไม่ค่อยชัดด้วยเพราะสายตาสั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-14 17:11:43


ความคิดเห็นที่ 230 (1646441)

ชื่อ: นางสาววินิตา สุทธิวรา ชื่อเล่น: ก้อย

อายุ: 32 ปี

การศึกษา: ประกาศนียบีตรวิชาชีพชั้นสูง

สาขา: การตลาด จากกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย

อาชีพ: พนักงานบริษัทเอกชน

ตำแหน่ง: พนักงานขายโฆษณาบนเว็บไซต์ www.jobserve.co.th 

               / บริษัท จ๊อบเซิร์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด

โทร:  085-484-9725, 088-227-5299

คนช่างนินทา ”
 
เมื่อก่อนเป็นคนที่ชอบตำหนิติเตียน และนินทาผู้อื่นอยู่เสมอ นินทาแทบทุกคนทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อ-แม่ ญาติพี่น้อง เรียกได้ว่าแค่เพียงเดินผ่านก็ไม่รอดพ้นการนินทาของเราไปได้

บางครั้งนินทาเพราะความสนุกปาก บางครั้งเพราะอิจฉาริษยา และมองคนอื่นในแง่ลบอยู่บ่อย ๆ เช่น วิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตา การแต่งตัว กิริยาท่าทาง การกระทำของคนอื่นอยู่เสมอ ชอบเอาเรื่องส่วนตัวของเพื่อนไปเล่าให้คนอื่นฟัง บางครั้งเลยเถิดใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นอีกด้วย แต่ไม่เคยย้อนกลับมาดูตัวเองเลยว่าดีกว่าเขาตรงไหนบ้าง 
 
ผลกรรมที่ได้รับก็คือ ทำให้เรามีปัญหาที่ปาก ฟันผิดรูป ฟันผุ เป็นแผลร้อนในอยู่เสมอ ถูกคนหลอกลวง มีคนใส่ร้ายป้ายสี มีศัตรูมาก ไม่ค่อยได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากคนอื่น เรียนไม่จบ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ชีวิตไม่ค่อยมีความสุข ไม่รับความเจริญก้าวหน้าในทุก ๆ ด้าน
 
เมื่อได้รับธรรมะที่ท่านอ. อุบล จากบ้านสวนพีระมิด ได้เมตตาถ่ายทอด ทำให้ได้สำนึกผิดในเวรกรรมครั้งนี้ว่า คนที่น่าสงสารและน่าสมเพชที่สุด คือตัวเราเอง  ทั้งที่รู้เรื่องคนอื่นเขาไปหมด แต่ไม่เคยรู้เรื่องตัวเองเลย เมื่อรู้แล้ว ก็ตั้งใจหยุดกรรม และไม่สร้างเพิ่ม ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นทุกด้าน แทบจะตรงกันข้ามกับผลกรรมที่ได้รับมา ชีวิตมีความสุขขึ้นมาก

กฎแห่งกรรมแน่นอนที่สุด... 
 ...ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ สร้างเหตุไว้เช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น...จริง ๆ ค่ะ
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-21 18:14:57


ความคิดเห็นที่ 231 (1648585)

ดิฉันนางสาววินิตา สุทธิวรา อายุ 32 ปี 

การศึกษา: ประกาศนียบีตรวิชาชีพชั้นสูง
สาขา: การตลาด จากกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย
อาชีพ: พนักงานบริษัทเอกชน
ตำแหน่ง: พนักงานขาย / บริษัท จ๊อบเซิร์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด

ขอเล่าธรรมทานตัวเองของการผิดศีลข้อ 4 โกหก นินทา ปลิ้นปล้อน กระล่อน ตะกละ ตอแหลสารพัด ทำให้รูปปากและฟันไม่สวย

เมื่อก่อนเป็นคนที่ชอบตำหนิติเตียน และนินทาผู้อื่นทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้งอีกต่างหาก นินทาทุกคนทุกเรื่อง เพราะความสนุกปาก บางครั้งเพราะอิจฉาริษยา และมองคนอื่นในแง่ลบอยู่บ่อย ๆ เช่น วิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตา การแต่งตัว กิริยาท่าทาง การกระทำของคนอื่นอยู่เสมอ ชอบเอาเรื่องส่วนตัวของเพื่อนไปเล่าให้คนอื่นฟัง บางครั้งเลยเถิดใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นอีกด้วย แต่ไม่เคยย้อนกลับมาดูตัวเองเลยว่าดีกว่าเขาตรงไหนบ้าง ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อ-แม่ ญาติพี่น้อง เรียกได้ว่าแค่เพียงเดินผ่านก็ไม่รอดพ้นการนินทาของเราไปได้ 

แม้แต่ในหลวง ราชวงศ์ก็ไม่เว้น เมื่อไม่เคารพคนที่อยู่ในแบงค์(ธนบัตร) เราจะมีเงินใช้ได้อย่างไรกันล่ะ มักใช้คำพูดหลอกล่อ ปลิ้นปล้อน กระล่อน ตอแหลสารพัด 

พูดโกหกแทบทุกเรื่อง เช่น เวลาขโมยเงิน ก็จะบอกว่าไม่ได้ขโมย ทำผิดแล้วโยนความผิดให้ผู้อื่น เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องโกหก แต่ก็โกหก บางครั้งอ้างว่าโกหกเพื่อความสบายใจของผู้อื่น ใช้คำพูดที่ทำร้ายจิตใจพ่อแม่ และคนอื่น

พูดคำหยาบ ทำเป็นประจำ เถียงแม่ เวลาโกรธแม่จะเรียก ลับหลังว่า "มึง" คุยกับเพื่อน  ก็ใช้ มึง-กู-ไอ้-อี-***-สัส บ่อยมาก ชอบแช่งให้คนอื่นตาย

พูดส่อเสียด ยุแหย่คนให้แตกคอกัน เข้าใจผิดกัน ทะเลาะกัน ใส่ร้ายป้ายสีคนโน่นคนนี้ เหน็บแหนม ถากถาง เย้ยหยันให้ผู้อื่นให้เสียใจ โกรธ อับอาย ทุกข์ใจ

พูดเรื่องไร้สาระ เพ้อเจ้อ ปลิ้นปล้น กระล่อน ตอแหล ไม่เคยคิดก่อนพูด ใครพูดอะไรไม่เข้าหู ก็ต้องด่าตอบก่อน ไม่เคยสำรวจตัวเองว่าที่เขาดูมาถูกหรือไม่

ตะกละ เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด ยิ่งไม่ใช่ของ ๆ เรา ยิ่งอยากกิน อยากได้เยอะ ๆ  ยิ่งของฟรี ยิ่งชอบ 

ใช้คำพูดหว่านล้อม กดดัน ให้คนอื่นเสียทรัพย์ 

ผลกรรมที่ได้รับก็คือ จนทำให้รูปปากไม่สวย มีปัญหาในช่องปาก และลำคอ เสียงแหบ บางครั้งแหบจนพูดไม่ได้ เป็นแผลร้อนในอยู่เสมอ ฟันผุ ฟันบิดเบี้ยว คือ ฟันล่างด้านหน้ายื่นออกมาครอบฟันบน ตอนอายุ 13 ปีได้ไปรักษากับคุณหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง แต่ก็โดนคุณหมอหลอกเอาเงิน แล้วก็ไม่รักษาให้ มารู้ทีหลังว่าไม่สามารถจัดฟันได้ ต้องรักษาด้วยการตัดขากรรไกรทีละข้าง เจ็บ และเสี่ยงมาก มีค่าใช้จ่ายเป็นหลักแสน สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ ปล่อยมาจนถึงปัจจุบันเป็นการประจารความชั่วจากการผิดศีลข้อนี้ 

เวลานินทาใคร ปากจะเป็นแผลร้อนในขึ้นมาทันที และหายช้ามาก ยิ่งนินทาคนที่มีบุญมาก แผลจะใหญ่และลึกมากขึ้น บางครั้งเป็นทีละหลาย ๆ ที่ในปากพร้อมกัน เจ็บแสบมาก

ถูกคนหลอกลวง มีคนใส่ร้ายป้ายสี มีศัตรูมาก ไม่ค่อยได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากคนอื่น เรียนไม่จบ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ชีวิตไม่ค่อยมีความสุข ไม่รับความเจริญก้าวหน้าในทุก ๆ ด้าน

เมื่อได้รับธรรมะที่ท่านอ.อุบล จากบ้านสวนพีระมิด ได้เมตตาถ่ายทอด ทำให้ได้สำนึกผิดในเวรกรรมครั้งนี้ว่า คนที่น่าสงสารและน่าสมเพชที่สุด คือตัวเราเอง  ทั้งที่รู้เรื่องคนอื่นเขาไปหมด ด่าคนอื่นไปทั่ว แต่ไม่เคยรู้เรื่องของตัวเองเลย เมื่อรู้แล้ว ก็ตั้งใจหยุดกรรม และไม่สร้างเพิ่ม ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นทุกด้าน แทบจะตรงกันข้ามกับผลกรรมที่ได้รับมา ตอนนี้ชีวิตมีความสุขขึ้นมากค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-01-09 17:58:05


ความคิดเห็นที่ 232 (1676658)

 ด.ต.ภัทรพล รื่นรวย อายุ 43 ปี นิคเนม หนุ่ม,นัส

ปัจจุบันผมรับราขการตำรวจ  

 ในอดีตเคยทำผิดศีลทั้ง 5 ข้อ

 ทำให้เกิดปัญหาความทุกข์ต่างๆ

เช่น  ครอบครัวแตก ไม่ค่อยมีคนจริงใจ ไม่มีเพื่อนแท้มีเพื่อนน้อย

 มีเหตุต้องเสียทรัพย์สิน บางครั้งการงานมีอุปสรรคติดขัด

พลัดพรากจากของรัก หมาตาย แมวตาย ปลาตาย

เจ็บป่วยบ่อยๆ โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ ปวดหัว ปวดหลัง

ปวดเนื้อ เมื่อยตัว  เจ็บขา  ปัจจุบันอาการบางอย่าง ดี ขึ้น

รู้สึกสำนึกเสียใจอยากปรับปรุงตัวเอง

ตั้งใจไว้ว่าจะรักษา ศีล 5 และ กรรมบท 10 ให้บริสุทธิ์ ไปตลอด

จะไม่ทำผิดศีล 5 ข้อตั้งใจ คิดดี ทำดี พูดดี ตลอดไป

อยากทำทาน  รักษาศีล  เจริญภาวนา  ยิ่งๆขึ้นไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัทรพล. (PL_nus-at-Hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-03-10 11:38:03



<< ก่อนหน้า 1 2 [3]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.